• แกะรอยเก่า ตอนที่ 6
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 6
    แล้วนาย Kenneth ก็ตกลงจะทำงานช่วงสั้นเฉพาะกิจให้นาย Donovan ใน office of the Co-Ordination (OCI) ซึ่งนาย Donovan ตั้งขึ้น (สงสัยเพราะตกลงราคาค่าจ้างยังไม่เป็นที่พอใจกัน อดีตมิชชั่นนารี ต่อรองกับอดีตนักกฏหมาย ผลก็น่าจะพอเดากันออก)

นาย Donovan เคยไปรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เก่งกล้าสามารถมาก จนได้สมญาว่า “Wild Bill Donovan” เขาเชื่อว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิดขึ้นแน่ และอเมริกาจะต้องเกี่ยวข้องด้วย (ทำไมนาย Donovan ถึงเชื่อเช่นนั้น เอ! หรือนาย Donovan จะเกี่ยวกับ CFR จริง !) แต่ตอนนั้นไม่มีใครในอเมริการู้จักคู่รบของอเมริกาเลย เขาจึงเตือนประธานาธิบดี Roosevelt ให้เตรียมตั้งหน่วยงานข่าวกรอง เพื่อหาข้อมูลและข่าวเกี่ยวกับญี่ปุ่นและประเทศแถบอินโดจีนเอาไว้
    เมื่อประธานาธิบดี Roosevelt เห็นชอบด้วย นาย Donovan จึงตั้งหน่วยงานชื่อ Office of the Co-Ordination of Information (OCI) ขึ้น ซึ่งต่อมาเมื่ออเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เต็มตัว OCI ได้เปลี่ยนเป็น Office of Strategic Services (OSS) ภายใต้การดูแลของนาย Donovan เช่นเดิม
    เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง OSS ได้ถูกยกเลิกและเปลี่ยนเป็น Central for Intelligence Agency (CIA) แทน นอกเหนือจากนาย Donovan ผู้ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิด OSS และ CIA แล้ว นาย Kenneth บอกว่า เขาก็ถูกนับว่าเป็น “รุ่นก่อตั้ง” ของหน่วยงานข่าวกรอง OSS ด้วยเช่นกัน (นาย Kenneth นี่ ไม่ใช่แค่เป็นนักฉวยโอกาส แต่เป็นคนชี้ไม้อีกด้วย คุณสมบัติแบบนี้ถ้าเบื่อเป็นมิชชั่นนารี น่าจะไปทำงานประเภทเล่าข่าวเช้านี้ บางคนอาจตกอันดับ)
    นาย Kenneth ให้เหตุผลว่า ที่อเมริกาไม่เคยมีหน่วยงานข่าวกรองของตนเอง เกี่ยวกับต่างประเทศมากนัก เพราะก่อนหน้านั้น อเมริกามีนโยบายสันโดษ (isolation) ไม่ยุ่งกับประเทศอื่นมาตั้งแต่ประมาณ ค.ศ.1930 ต้นๆ โดยเฉพาะไม่ร่วมทำสงครามด้วย และถ้าอยากจะได้ข้อมูลเชิงลึกอะไร อเมริกาก็จะอาศัยถามเพื่อนรัก ร่วมก๊วน 3 เกลอหัวแข็ง คือ อังกฤษ และฝรั่งเศส ซึ่งข้อมูลของทั้ง 2 ประเทศ ส่วนมากก็จะเกี่ยวกับประเทศอาณานิคมของเขา (อเมริกาเปลี่ยนจากนโยบายสันโดษ เป็นนักค้าสงครามเมื่อประมาณ ค.ศ.1945 ตามแรงผลัก แรงดันของกลุ่ม CFR ที่ควบคุมนโยบายการต่างประเทศของอเมริกา ผ่านคนของ CFR อีกต่อหนึ่ง!)
    การบ้านที่นาย Donovan มอบให้นาย Kenneth ทำคือ ทำรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ดีร้ายขนาดไหน ใครคุมใคร ใครได้เปรียบเสีบเปรียบ ใครมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร ใส่มาให้หมด สิว ไฝ ฝ้า อยู่ตรงไหนอย่าลืมบอก รวมทั้งฝรั่งเศสไอ้จั๊กกะแร้เหม็นเขียวด้วย คนแถบอินโดจีนเขามองเจ้านี่อย่างไร เขายังอยากจะไปซบจั๊กกะแร้เหม็นอยู่อีกไหม แล้วอย่าลืมรายงานเรื่องคนไทยกับพี่ยุ่นด้วยล่ะ หลังถูกพี่ยุ่นเอารถถังมาวิ่งรอบเมืองกรุงเทพแทนรถเมล์แล้วน่ะ คนไทยทำยังไง เอาดอกไม้ไปให้พี่ยุ่น หรือเอาประทัดไปไล่ ความสัมพันธ์ของไทยกับญี่ปุ่นนี้ จะเป็นตัววัดผลแพ้ชนะของการรบในภูมิภาคนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญของพี่เบิ้ม รายงานผิดเดี๋ยวได้กลับไปอยู่เมืองตรังแน่
    อีกรายงานหนึ่งที่นาย Kenneth ต้องทำคือวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของอังกฤษกับลูกหาบเช่น พม่า รวมทั้ง มาลายู และสิงคโปร์ จะได้เอาไปตรวจสอบได้ว่าอังกฤษมิตรรัก บอกความจริงกับอเมริกามากน้อยแค่ไหน ถึงจะสัมพันธ์ชิดมิตรใกล้ก็เถอะ ไว้ใจกันได้ที่ไหน เรื่องของผลประโยชน์! ข้อมูลเหล่านี้ช่วยทำให้อเมริกาวางยุทธศาสตร์การรบของอเมริกา ในช่วงสงครามโลกและที่สำคัญคือช่วงหลังสงครามโลกเป็นอย่างดี
    ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างที่ญี่ปุ่นบุกเมืองไทย เมืองไทยเองก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายรัฐบาล จอมพล ป. เจ้าของนโยบายใส่หมวกแล้วชาติเจริญ เป็นนายกรัฐมนตรีที่แสดงตัวเข้ากับฝ่ายญี่ปุ่น ถึงขนาดประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกา เอาใจญี่ปุ่นกันจนออกนอกหน้า ขณะที่คนไทยอีกพวกหนึ่งคือพวกเสรีไทย ที่ก่อตั้งขึ้นโดยคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ (อังกฤษและอเมริกา) และอยู่ในประเทศไทย เข้ากับฝรั่งทั้งอังกฤษและอเมริกาแบบออกนอกหน้าพอกัน ประกาศไม่เห็นด้วยกับการเข้าพวกกับญี่ปุ่นของจอมพล ป. นายปรีดี พนมยงค์ เป็นหัวหน้าเสรีไทยที่อยู่ในประเทศไทย เมื่อรัฐบาลไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกา หลังจากเกิดเหตุการณ์ Pearl Harbor มรว. เสนีย์ ปราโมช ซึ่งขณะนั้นเป็นฑูตไทยประจำที่อเมริกาแต่มาธุระที่เมืองไทย รีบบินกลับไปอเมริกา เพื่อไปบอกอเมริกาว่าการประกาศสงครามของไทยต่ออเมริกาและอังกฤษนั้น เราคนไทยไม่เกี่ยวนะ ไม่ใช่ความต้องการของพวกเรา เราไม่เอ้า ไม่เอาญี่ปุ่น เราเอาพวกท่าน คนไทยขอให้พวกท่านเข้าใจและช่วยเหลือพวกเราด้วย
    ในตอนนั้นนาย Donovan ได้ตั้งหน่วยงานขึ้นมาอีกหน่วย ชื่อ Office of War Information (OWI) ทางอเมริกาจึงตกลงให้ มรว. เสนีย์ ทำการออกอากาศเป็นภาษาไทยจากอเมริกา ผ่านหน่วยงานของ OWI ประกาศเจตนารมณ์ของเสรีไทย ให้คนไทยทางเมืองไทยทราบ วิทยุเสรีไทยที่ออกอากาศเป็นภาษาไทยนี้ มีนาย Kenneth เป็นผู้ประสานงาน นาย Kenneth บอกว่าอเมริกาให้เขาคอยเฝ้าดูว่าฝ่ายไทยจะพูดจาออกอากาศตรง กับที่แจ้งไว้กับอเมริกาหรือไม่ (แสดงถึงความเชื่อใจกันอย่างเต็มที่เลย !) ในเมื่อเขาเป็นคนอเมริกันคนเดียวตอนน้ัน ที่อยู่ตรงนั้น ที่รู้ภาษาไทย จึงรับหน้าที่ประสานงานกับเสรีไทย จึงเป็นเหตุให้นาย Kenneth จึงยังทำงานกับรัฐบาลอเมริกาต่อไป (และเข้าใจว่า คงต่อรองเรื่องค่าจ้างกันจนเป็นที่ถูกใจ นาย Kenneth แล้ว)
    นาย Kenneth เล่าว่า ช่วงที่สงครามโลกกำลังเข้มข้นอยู่แถวอินโดจีน ประเทศอาณานิคม เช่น มาลายู สิงคโปร์ คิดว่าอังกฤษจะช่วยรบกับญี่ปุ่นให้ แต่อันที่จริงแล้ว นายเชอร์ซิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่เคยมีเจตนาเช่นนั้นเลย นายเชอร์ซิลพร้อมที่จะทิ้งอาณานิคมของตนให้สู้ไปลำพัง สมันน้อยก็จำตรงนี้ไว้นะ ชอบเชื่อฝรั่งอั่งม้ออยู่เรื่อย เขาบอกอะไรก็เชื่อ ท้ายที่สุดเขาก็ต้องเห็นประโยชน์ของเขามากกว่า เรานึกว่าเขาจะอุ้มกระเตงเราไปตลอดหรือไง หมดประโยชน์เขาก็โยนทิ้ง เฮ้อ! บอกเท่าไหร่ไม่เคยเชื่อ บูชาคุณพ่อฝรั่งกันเหลือเกิน

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 6 แล้วนาย Kenneth ก็ตกลงจะทำงานช่วงสั้นเฉพาะกิจให้นาย Donovan ใน office of the Co-Ordination (OCI) ซึ่งนาย Donovan ตั้งขึ้น (สงสัยเพราะตกลงราคาค่าจ้างยังไม่เป็นที่พอใจกัน อดีตมิชชั่นนารี ต่อรองกับอดีตนักกฏหมาย ผลก็น่าจะพอเดากันออก)

นาย Donovan เคยไปรบสมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 เก่งกล้าสามารถมาก จนได้สมญาว่า “Wild Bill Donovan” เขาเชื่อว่าสงครามโลกครั้งที่ 2 จะเกิดขึ้นแน่ และอเมริกาจะต้องเกี่ยวข้องด้วย (ทำไมนาย Donovan ถึงเชื่อเช่นนั้น เอ! หรือนาย Donovan จะเกี่ยวกับ CFR จริง !) แต่ตอนนั้นไม่มีใครในอเมริการู้จักคู่รบของอเมริกาเลย เขาจึงเตือนประธานาธิบดี Roosevelt ให้เตรียมตั้งหน่วยงานข่าวกรอง เพื่อหาข้อมูลและข่าวเกี่ยวกับญี่ปุ่นและประเทศแถบอินโดจีนเอาไว้ เมื่อประธานาธิบดี Roosevelt เห็นชอบด้วย นาย Donovan จึงตั้งหน่วยงานชื่อ Office of the Co-Ordination of Information (OCI) ขึ้น ซึ่งต่อมาเมื่ออเมริกาเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 เต็มตัว OCI ได้เปลี่ยนเป็น Office of Strategic Services (OSS) ภายใต้การดูแลของนาย Donovan เช่นเดิม เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง OSS ได้ถูกยกเลิกและเปลี่ยนเป็น Central for Intelligence Agency (CIA) แทน นอกเหนือจากนาย Donovan ผู้ซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิด OSS และ CIA แล้ว นาย Kenneth บอกว่า เขาก็ถูกนับว่าเป็น “รุ่นก่อตั้ง” ของหน่วยงานข่าวกรอง OSS ด้วยเช่นกัน (นาย Kenneth นี่ ไม่ใช่แค่เป็นนักฉวยโอกาส แต่เป็นคนชี้ไม้อีกด้วย คุณสมบัติแบบนี้ถ้าเบื่อเป็นมิชชั่นนารี น่าจะไปทำงานประเภทเล่าข่าวเช้านี้ บางคนอาจตกอันดับ) นาย Kenneth ให้เหตุผลว่า ที่อเมริกาไม่เคยมีหน่วยงานข่าวกรองของตนเอง เกี่ยวกับต่างประเทศมากนัก เพราะก่อนหน้านั้น อเมริกามีนโยบายสันโดษ (isolation) ไม่ยุ่งกับประเทศอื่นมาตั้งแต่ประมาณ ค.ศ.1930 ต้นๆ โดยเฉพาะไม่ร่วมทำสงครามด้วย และถ้าอยากจะได้ข้อมูลเชิงลึกอะไร อเมริกาก็จะอาศัยถามเพื่อนรัก ร่วมก๊วน 3 เกลอหัวแข็ง คือ อังกฤษ และฝรั่งเศส ซึ่งข้อมูลของทั้ง 2 ประเทศ ส่วนมากก็จะเกี่ยวกับประเทศอาณานิคมของเขา (อเมริกาเปลี่ยนจากนโยบายสันโดษ เป็นนักค้าสงครามเมื่อประมาณ ค.ศ.1945 ตามแรงผลัก แรงดันของกลุ่ม CFR ที่ควบคุมนโยบายการต่างประเทศของอเมริกา ผ่านคนของ CFR อีกต่อหนึ่ง!) การบ้านที่นาย Donovan มอบให้นาย Kenneth ทำคือ ทำรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ดีร้ายขนาดไหน ใครคุมใคร ใครได้เปรียบเสีบเปรียบ ใครมีจุดอ่อนจุดแข็งอย่างไร ใส่มาให้หมด สิว ไฝ ฝ้า อยู่ตรงไหนอย่าลืมบอก รวมทั้งฝรั่งเศสไอ้จั๊กกะแร้เหม็นเขียวด้วย คนแถบอินโดจีนเขามองเจ้านี่อย่างไร เขายังอยากจะไปซบจั๊กกะแร้เหม็นอยู่อีกไหม แล้วอย่าลืมรายงานเรื่องคนไทยกับพี่ยุ่นด้วยล่ะ หลังถูกพี่ยุ่นเอารถถังมาวิ่งรอบเมืองกรุงเทพแทนรถเมล์แล้วน่ะ คนไทยทำยังไง เอาดอกไม้ไปให้พี่ยุ่น หรือเอาประทัดไปไล่ ความสัมพันธ์ของไทยกับญี่ปุ่นนี้ จะเป็นตัววัดผลแพ้ชนะของการรบในภูมิภาคนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญของพี่เบิ้ม รายงานผิดเดี๋ยวได้กลับไปอยู่เมืองตรังแน่ อีกรายงานหนึ่งที่นาย Kenneth ต้องทำคือวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของอังกฤษกับลูกหาบเช่น พม่า รวมทั้ง มาลายู และสิงคโปร์ จะได้เอาไปตรวจสอบได้ว่าอังกฤษมิตรรัก บอกความจริงกับอเมริกามากน้อยแค่ไหน ถึงจะสัมพันธ์ชิดมิตรใกล้ก็เถอะ ไว้ใจกันได้ที่ไหน เรื่องของผลประโยชน์! ข้อมูลเหล่านี้ช่วยทำให้อเมริกาวางยุทธศาสตร์การรบของอเมริกา ในช่วงสงครามโลกและที่สำคัญคือช่วงหลังสงครามโลกเป็นอย่างดี ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ระหว่างที่ญี่ปุ่นบุกเมืองไทย เมืองไทยเองก็แบ่งเป็น 2 ฝ่าย คือฝ่ายรัฐบาล จอมพล ป. เจ้าของนโยบายใส่หมวกแล้วชาติเจริญ เป็นนายกรัฐมนตรีที่แสดงตัวเข้ากับฝ่ายญี่ปุ่น ถึงขนาดประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกา เอาใจญี่ปุ่นกันจนออกนอกหน้า ขณะที่คนไทยอีกพวกหนึ่งคือพวกเสรีไทย ที่ก่อตั้งขึ้นโดยคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ (อังกฤษและอเมริกา) และอยู่ในประเทศไทย เข้ากับฝรั่งทั้งอังกฤษและอเมริกาแบบออกนอกหน้าพอกัน ประกาศไม่เห็นด้วยกับการเข้าพวกกับญี่ปุ่นของจอมพล ป. นายปรีดี พนมยงค์ เป็นหัวหน้าเสรีไทยที่อยู่ในประเทศไทย เมื่อรัฐบาลไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกา หลังจากเกิดเหตุการณ์ Pearl Harbor มรว. เสนีย์ ปราโมช ซึ่งขณะนั้นเป็นฑูตไทยประจำที่อเมริกาแต่มาธุระที่เมืองไทย รีบบินกลับไปอเมริกา เพื่อไปบอกอเมริกาว่าการประกาศสงครามของไทยต่ออเมริกาและอังกฤษนั้น เราคนไทยไม่เกี่ยวนะ ไม่ใช่ความต้องการของพวกเรา เราไม่เอ้า ไม่เอาญี่ปุ่น เราเอาพวกท่าน คนไทยขอให้พวกท่านเข้าใจและช่วยเหลือพวกเราด้วย ในตอนนั้นนาย Donovan ได้ตั้งหน่วยงานขึ้นมาอีกหน่วย ชื่อ Office of War Information (OWI) ทางอเมริกาจึงตกลงให้ มรว. เสนีย์ ทำการออกอากาศเป็นภาษาไทยจากอเมริกา ผ่านหน่วยงานของ OWI ประกาศเจตนารมณ์ของเสรีไทย ให้คนไทยทางเมืองไทยทราบ วิทยุเสรีไทยที่ออกอากาศเป็นภาษาไทยนี้ มีนาย Kenneth เป็นผู้ประสานงาน นาย Kenneth บอกว่าอเมริกาให้เขาคอยเฝ้าดูว่าฝ่ายไทยจะพูดจาออกอากาศตรง กับที่แจ้งไว้กับอเมริกาหรือไม่ (แสดงถึงความเชื่อใจกันอย่างเต็มที่เลย !) ในเมื่อเขาเป็นคนอเมริกันคนเดียวตอนน้ัน ที่อยู่ตรงนั้น ที่รู้ภาษาไทย จึงรับหน้าที่ประสานงานกับเสรีไทย จึงเป็นเหตุให้นาย Kenneth จึงยังทำงานกับรัฐบาลอเมริกาต่อไป (และเข้าใจว่า คงต่อรองเรื่องค่าจ้างกันจนเป็นที่ถูกใจ นาย Kenneth แล้ว) นาย Kenneth เล่าว่า ช่วงที่สงครามโลกกำลังเข้มข้นอยู่แถวอินโดจีน ประเทศอาณานิคม เช่น มาลายู สิงคโปร์ คิดว่าอังกฤษจะช่วยรบกับญี่ปุ่นให้ แต่อันที่จริงแล้ว นายเชอร์ซิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ไม่เคยมีเจตนาเช่นนั้นเลย นายเชอร์ซิลพร้อมที่จะทิ้งอาณานิคมของตนให้สู้ไปลำพัง สมันน้อยก็จำตรงนี้ไว้นะ ชอบเชื่อฝรั่งอั่งม้ออยู่เรื่อย เขาบอกอะไรก็เชื่อ ท้ายที่สุดเขาก็ต้องเห็นประโยชน์ของเขามากกว่า เรานึกว่าเขาจะอุ้มกระเตงเราไปตลอดหรือไง หมดประโยชน์เขาก็โยนทิ้ง เฮ้อ! บอกเท่าไหร่ไม่เคยเชื่อ บูชาคุณพ่อฝรั่งกันเหลือเกิน คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 4
    ระหว่างที่อยู่นครศรีธรรมราช นาย Kenneth อยู่กับสังคมชาวมิชชั่นนารี ซึ่งมีภาระกิจต่างๆ กัน ท่านสาธุคุณ E. P Dunlap ผู้ซึ่งชาวมิชชั่นนารีชื่นชมมากกว่าเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าถึงกษัตริย์ไทย เพราะพระเจ้าอยู่หัวทรงรัชกาลที่ 7 ให้ความสนิทสนมด้วย ถึงกับทรงนับว่าเป็นเพื่อน นอกจากนี้ยังมีท่านสาธุคุณ Frank L. Snyder กับครอบครัว ซึ่งครอบครัวนี้เดิมอยู่บางกอก นาย Snyder ทำหน้าที่ดูแลการเงินของพวกมิชชั่นนารี ซึ่งแน่นอนคนคุมเงินยอมมีอำนาจ นาย Snyder เข้าไปร่วมวงกับพวกคนจีน และรวมกันตั้งโบสถ์คริสเตียนร่วมกับคนจีน ต่อมาก็สร้างตึกให้กับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน วันหนึ่งนาย Snyder เขียนจดหมายไปถึงใครคนหนึ่งในอเมริกา ในจดหมายด่ารัฐบาลไทยเสียไม่เหลือ นาย Snyder คงไม่รู้ว่ารัฐบาลไทยก็ทำการตรวจสอบเป็นเหมือนกัน รัฐบาลไทยจึงมีคำสั่งให้นายSnyder เป็นบุคคลต้องห้าม Personna non grata และให้ออกนอกประเทศไป ต่อมาทางมิชชั่นนารีขอร้องรัฐบาลไทยยินยอมให้นาย Snyder กลับมาอยู่เมืองไทย แต่ไปอยู่ไกลหูไกลตา รัฐบาลไทยก็ยอม ทางคณะมิชชั่นนารีจึงส่งนาย Snyder มาประจำอยู่นครศรีธรรมราช สรุปว่า รัฐบาลไทยนี้ใจอ่อน มองแต่เสื้อคลุมเครื่องแบบไม่ไส่ใจเนื้อในของผู้ใส่ และนครศรีธรรมราชนี่น่าจะเป็นชุมทางสำคัญ !
    ระหว่างที่อยู่ที่นครศรีธรรมราช วันหนึ่งประมาณปี ค.ศ. 1929 หรือ 1930 นาง Margaret ไปเยี่ยมคุณหมอ Edwin Bruce Mcdaniel ซึ่งอยู่อีกฝากหนึ่งของนครศรีธรรมราช คุณหมอยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้ นาง Margaret ชื่อ “The English Governess at the Siamese Court” เขาบอกกับนาง Margaret ว่า หนังสือเล่มนี้ต้องห้ามนะ คนไทยไม่ชอบ แต่เอาไปอ่านเถอะ หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Anna Leonowens เป็นสำนวนวิกตอเรียนในยุค ค.ศ. 1860 สำหรับหลายๆ คน อาจเป็นหนังสือที่น่าเบื่อ อ่านแล้วง่วง เหมือนกินยานอนหลับ แต่สำหรับนาง Margaret กลับตรงกันข้าม มันเหมือนนางกินยาอีเข้าไปแทน นางเพลิดเพลินกับหนังสือจนอ่านแบบรวดเดียวจบ ลืมวันเวลาไปเลย คงนึกว่าตัวเองเป็นนาง Anna ?!
    ต่อมาคุณหมอ Edwin ก็ยื่นหนังสือให้นาง Margaret อีกเล่ม ชื่อ Romance of the Harem (คุณหมอนี่ช่างสะสมหนังสือ “ต้องห้าม” เสียจริง พวกมิชชั่นนารีนี่ถ้าจะชอบการผจญ “ภัย”)หนังสือทั้ง 2 เล่มนี้ ติดอยูในใจของนาง Margaret มาตลอด จนเมื่อกลับมาที่อเมริกา นางตั้งใจจะหาหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้ให้ได้ และตั้งใจจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับ Anna นาย Kenneth สาธยายชื่นชมเมียว่าเป็นคนช่างเขียน ช่างจดช่างจำ ละเอียดละออ เขียนอะไรก็ไพเราะไปหมด ไม่ว่าเขียนหนังสือธรรมดาหรือเขียนเป็นโคลง (น่าจะปลื้มเมียมากเอาการ) เขาพยายามหนุนให้เมียเขียนหนังสือ โดยเฉพาะเรื่อง Anna นี้อยู่ตลอดเวลา
    แล้ววันหนึ่งขณะที่เดินเข้าไป ในร้านหนังสือที่เมือง Chicago นาง Margaret ก็ไปเจอหนังสือชื่อ “English Governess” ในราคาถูกมาก หลังจากนั้นก็ไปเจอหนังสือ Harem อยู่ในกองหนังสือที่ขายแบบเลหลัง นาง Margaret บอกว่าแบบนี้แล้ว ฉันคงจะต้องเขียนหนังสือเรื่อง Anna แล้วละ ยังกับสวรรค์ประทาน ทำนองนั้น
    ระหว่างที่ประจำอยู่ที่ตรัง นาย Kenneth บอกว่าเขาต้องเดินทางตลอดเวลา เพื่อไปเยี่ยมและไปสอนศาสนาตามมิชชั่นนารีต่างๆ ที่มีอยู่หลายจังหวัดทางภาคใต้ วันหนึ่งเขาต้องเดินทางโดยเรือไปจากชุมพร แล่นเรือออกไปในเวลากลางคืน เรือแล่นไปสักพัก รู้สึกเรือแล่นได้ช้าลง และเครื่องยนต์ทำท่าจะไปไม่รอด ทะเลกลายเป็นสีดำ และเมื่อมองไปทางฝั่งและยอดคลื่น เขาเห็นแสงเรืองของฟอสฟอรัสสว่างไสวเต็มไปหมด มันเป็นภาพที่นาย Kenneth บอกว่าไม่มีวันจะลืม เรือแล่นไปบนทะเลสีดำ ด้านซ้ายมองเห็นประภาคารอยู่ไกลๆ ฟองน้ำแตกตามรอยเรือแล่น สว่างด้วยแสงฟอสฟอรัส และทั้งทะเลเหมือนประกายเพชรระยิบระยับ เขารู้สึกเหมือนเรือแล่นอยู่บนฟองน้ำมัน ทะเลทั้งผืนเหมือนเต็มไปด้วย น้ำมัน !
    ไม่กี่ปีต่อมา ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันในอ่าวไทย ก็เป็นข้อมูลที่อเมริกาให้ความสนใจยิ่ง ถึงขนาดเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เสร็จสิ้นลง ขณะที่อังกฤษกำลังฉวยโอกาส จากการที่ไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกาตามญี่ปุ่น อังกฤษกะเล่นงานไทยกลับอย่างเจ็บแสบ ด้วยการยื่นข้อเรียกร้อง 21 ข้อ อเมริกากลับบอกไม่ติดใจ และเข้ามาช่วยไทยเจรจาอังกฤษ เรียกว่าอ้าแขนมาปกป้องไทยแลนด์สมันน้อย อย่างพี่เบิ้มใจดี ดีจนเหลือเชื่อ ขณะเดียวกันก็เสนอความช่วยเหลือแก่ไทยหลังสงครามโลก สมัยจอมพล ป. คนใส่หมวกแล้วชาติเจริญ เป็นนายกรัฐมนตรี

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
ตอนที่ 4 ระหว่างที่อยู่นครศรีธรรมราช นาย Kenneth อยู่กับสังคมชาวมิชชั่นนารี ซึ่งมีภาระกิจต่างๆ กัน ท่านสาธุคุณ E. P Dunlap ผู้ซึ่งชาวมิชชั่นนารีชื่นชมมากกว่าเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าถึงกษัตริย์ไทย เพราะพระเจ้าอยู่หัวทรงรัชกาลที่ 7 ให้ความสนิทสนมด้วย ถึงกับทรงนับว่าเป็นเพื่อน นอกจากนี้ยังมีท่านสาธุคุณ Frank L. Snyder กับครอบครัว ซึ่งครอบครัวนี้เดิมอยู่บางกอก นาย Snyder ทำหน้าที่ดูแลการเงินของพวกมิชชั่นนารี ซึ่งแน่นอนคนคุมเงินยอมมีอำนาจ นาย Snyder เข้าไปร่วมวงกับพวกคนจีน และรวมกันตั้งโบสถ์คริสเตียนร่วมกับคนจีน ต่อมาก็สร้างตึกให้กับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน วันหนึ่งนาย Snyder เขียนจดหมายไปถึงใครคนหนึ่งในอเมริกา ในจดหมายด่ารัฐบาลไทยเสียไม่เหลือ นาย Snyder คงไม่รู้ว่ารัฐบาลไทยก็ทำการตรวจสอบเป็นเหมือนกัน รัฐบาลไทยจึงมีคำสั่งให้นายSnyder เป็นบุคคลต้องห้าม Personna non grata และให้ออกนอกประเทศไป ต่อมาทางมิชชั่นนารีขอร้องรัฐบาลไทยยินยอมให้นาย Snyder กลับมาอยู่เมืองไทย แต่ไปอยู่ไกลหูไกลตา รัฐบาลไทยก็ยอม ทางคณะมิชชั่นนารีจึงส่งนาย Snyder มาประจำอยู่นครศรีธรรมราช สรุปว่า รัฐบาลไทยนี้ใจอ่อน มองแต่เสื้อคลุมเครื่องแบบไม่ไส่ใจเนื้อในของผู้ใส่ และนครศรีธรรมราชนี่น่าจะเป็นชุมทางสำคัญ ! ระหว่างที่อยู่ที่นครศรีธรรมราช วันหนึ่งประมาณปี ค.ศ. 1929 หรือ 1930 นาง Margaret ไปเยี่ยมคุณหมอ Edwin Bruce Mcdaniel ซึ่งอยู่อีกฝากหนึ่งของนครศรีธรรมราช คุณหมอยื่นหนังสือเล่มหนึ่งให้ นาง Margaret ชื่อ “The English Governess at the Siamese Court” เขาบอกกับนาง Margaret ว่า หนังสือเล่มนี้ต้องห้ามนะ คนไทยไม่ชอบ แต่เอาไปอ่านเถอะ หนังสือเล่มนี้เขียนโดย Anna Leonowens เป็นสำนวนวิกตอเรียนในยุค ค.ศ. 1860 สำหรับหลายๆ คน อาจเป็นหนังสือที่น่าเบื่อ อ่านแล้วง่วง เหมือนกินยานอนหลับ แต่สำหรับนาง Margaret กลับตรงกันข้าม มันเหมือนนางกินยาอีเข้าไปแทน นางเพลิดเพลินกับหนังสือจนอ่านแบบรวดเดียวจบ ลืมวันเวลาไปเลย คงนึกว่าตัวเองเป็นนาง Anna ?! ต่อมาคุณหมอ Edwin ก็ยื่นหนังสือให้นาง Margaret อีกเล่ม ชื่อ Romance of the Harem (คุณหมอนี่ช่างสะสมหนังสือ “ต้องห้าม” เสียจริง พวกมิชชั่นนารีนี่ถ้าจะชอบการผจญ “ภัย”)หนังสือทั้ง 2 เล่มนี้ ติดอยูในใจของนาง Margaret มาตลอด จนเมื่อกลับมาที่อเมริกา นางตั้งใจจะหาหนังสือทั้ง 2 เล่มนี้ให้ได้ และตั้งใจจะเขียนเรื่องเกี่ยวกับ Anna นาย Kenneth สาธยายชื่นชมเมียว่าเป็นคนช่างเขียน ช่างจดช่างจำ ละเอียดละออ เขียนอะไรก็ไพเราะไปหมด ไม่ว่าเขียนหนังสือธรรมดาหรือเขียนเป็นโคลง (น่าจะปลื้มเมียมากเอาการ) เขาพยายามหนุนให้เมียเขียนหนังสือ โดยเฉพาะเรื่อง Anna นี้อยู่ตลอดเวลา แล้ววันหนึ่งขณะที่เดินเข้าไป ในร้านหนังสือที่เมือง Chicago นาง Margaret ก็ไปเจอหนังสือชื่อ “English Governess” ในราคาถูกมาก หลังจากนั้นก็ไปเจอหนังสือ Harem อยู่ในกองหนังสือที่ขายแบบเลหลัง นาง Margaret บอกว่าแบบนี้แล้ว ฉันคงจะต้องเขียนหนังสือเรื่อง Anna แล้วละ ยังกับสวรรค์ประทาน ทำนองนั้น ระหว่างที่ประจำอยู่ที่ตรัง นาย Kenneth บอกว่าเขาต้องเดินทางตลอดเวลา เพื่อไปเยี่ยมและไปสอนศาสนาตามมิชชั่นนารีต่างๆ ที่มีอยู่หลายจังหวัดทางภาคใต้ วันหนึ่งเขาต้องเดินทางโดยเรือไปจากชุมพร แล่นเรือออกไปในเวลากลางคืน เรือแล่นไปสักพัก รู้สึกเรือแล่นได้ช้าลง และเครื่องยนต์ทำท่าจะไปไม่รอด ทะเลกลายเป็นสีดำ และเมื่อมองไปทางฝั่งและยอดคลื่น เขาเห็นแสงเรืองของฟอสฟอรัสสว่างไสวเต็มไปหมด มันเป็นภาพที่นาย Kenneth บอกว่าไม่มีวันจะลืม เรือแล่นไปบนทะเลสีดำ ด้านซ้ายมองเห็นประภาคารอยู่ไกลๆ ฟองน้ำแตกตามรอยเรือแล่น สว่างด้วยแสงฟอสฟอรัส และทั้งทะเลเหมือนประกายเพชรระยิบระยับ เขารู้สึกเหมือนเรือแล่นอยู่บนฟองน้ำมัน ทะเลทั้งผืนเหมือนเต็มไปด้วย น้ำมัน ! ไม่กี่ปีต่อมา ข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันในอ่าวไทย ก็เป็นข้อมูลที่อเมริกาให้ความสนใจยิ่ง ถึงขนาดเมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 เสร็จสิ้นลง ขณะที่อังกฤษกำลังฉวยโอกาส จากการที่ไทยประกาศสงครามกับอังกฤษและอเมริกาตามญี่ปุ่น อังกฤษกะเล่นงานไทยกลับอย่างเจ็บแสบ ด้วยการยื่นข้อเรียกร้อง 21 ข้อ อเมริกากลับบอกไม่ติดใจ และเข้ามาช่วยไทยเจรจาอังกฤษ เรียกว่าอ้าแขนมาปกป้องไทยแลนด์สมันน้อย อย่างพี่เบิ้มใจดี ดีจนเหลือเชื่อ ขณะเดียวกันก็เสนอความช่วยเหลือแก่ไทยหลังสงครามโลก สมัยจอมพล ป. คนใส่หมวกแล้วชาติเจริญ เป็นนายกรัฐมนตรี คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • แกะรอยเก่า ตอนที่ 3

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า”
    ตอนที่ 3
    หลังจากอยู่กรุงเทพฯได้ 1 ปี นาย Kenneth และครอบครัว ก็ถูกให้ย้ายไปประจำที่นครศรีธรรมราช เขาอยู่ที่นั่น 1 ปี จากนั้นก็ย้ายมาประจำที่ตรัง รวมๆ แล้ว เขาอยู่แถวภาคใต้ของไทย ประมาณเกือบ 10 ปี ตอนที่อยู่ที่นครศรีธรรมราช เขาอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงเรียนสตรี ซึ่งเป็นของพวกมิชชั่นนารี ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นที่พระราชทานจากกรมพระยาดำรงราชานุภาพ แต่เมื่อมาอยู่ตรัง เขามีบ้านแยกต่างหากจากโรงเรียน ระหว่างที่เขาอยู่ตรังเขาเดินทาง ไปทั่ว ขึ้นมาจนทับสะแก (คือหัวหินในปัจจุบัน) และลงใต้ไปถึงแหลมมาลายู เขาบอกว่าในภาคใต้ของไทย มีคนจีนอาศัยอยู่มาก และส่วนมากเป็นพวกใช้แรงงาน หรือขายของชำ บ้างก็เปิดร้านค้าเล็กๆ ในตลาด ครอบครัวเขามีคนรับใช้และคนทำอาหารเป็นชาวจีน เขาจึงหัดพูดภาษาจีนกับคนรับใช้ทุกวัน
    จากการที่เขาคุยกับคนรับใช้ชาวจีน เขารู้ว่าคนจีนเหล่านั้นไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ ไม่มีโรงเรียนของคนจีน เขาจึงพยายามให้ทางคณะมิชชั่นนารีช่วยจัดตั้งโรงเรียนให้คนจีน โดยเอาครูมาจากกรุงเทพฯ สิงคโปร์ ปีนัง ส่วนค่าก่อสร้างเขาก็ขอรับบริจาคบ้างจากคนในจังหวัด เขาสามารถสร้างใด้ถึง 4 โรงเรียน การคลุกคลีกับคนจีน ทำให้เขาพูดภาษาจีนแต้จิ๋วได้และเทศน์เป็นภาษาจีนได้อีกด้วย การสอนภาษาของ นาย Kenneth ขยายไปตั้งแต่คอขอดกระจนถึงชายแดนมาลายู และทำให้เขาต้องเดินทางแถบนั้นบ่อยมาก โดยรถไฟ เกวียน ช้าง เรือข้ามฝั่ง เรือเล็กตามคลอง รวมทั้งที่จักรยาน และการเดินเท้าของตนเอง และเพื่อให้มีการติดต่อระหว่างสังคมไทยและจีน ซึ่งอยู่ห่างไกลกัน นาย Kenneth ลงทุนพิมพ์จดหมายเหตุรายเดือน เป็นภาษาไทยและจีน เพื่อให้คนเหล่านั้นได้ข้อมูลและข่าว (ตามที่เขาเขียน !) ต้องนับถือผู้ที่เลือกถิ่นที่ทำงานให้นาย Kenneth จริงๆ ภาคใต้น่าสนใจหลายอย่าง รวมทั้งภูมิศาสตร์ที่มีพื้นที่ยาวตลอดไป ตามอ่าวไทยของไทยจนไปถึงเขตแดนมลายู
    นาย Kenneth และครอบครัว ย้ายกลับไปอเมริกาใน ค.ศ. 1937 โดยอ้างว่า เบื่อที่จะเป็น มิชชั่นนารีแล้ว เพราะรายได้ไม่พอ (หรือภาระกิจสำเร็จได้ตามเป้า เลยเก็บฉากขนของกลับบ้านซะเฉยๆ งั้นแหละ !?) เมื่อเขากลับ เขาหอบหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่ออกเป็นงวด ที่เกี่ยวกับเมืองไทยที่เขาเก็บสะสมไว้ ตลอด 10 ปีที่อยู่เมืองกลับไปด้วย รวมทั้งแผนที่ของเมืองไทยแสดงอาณาบริเวณต่างๆ ทั่วประเทศอย่างละเอียด ยังไม่หมดยังหอบเอาหนังสือจากห้องสมุดของไทย ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เท่าที่ตัวเองจะหาได้กลับไปด้วย ที่สำคัญ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย เมื่อปี ค.ศ. 1932 (พ.ศ. 2475) นาย Kenneth บอกว่าเป็นช่วงเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ไทย เขาเก็บเอกสารในช่วง 5 ปี ระหว่างนั้นไว้หมด โดยตั้งใจจะเขียนหนังสือ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย (นับว่าเป็นมิชชั่นนารี “ตัวอย่าง” จริงๆ ตกลงจะมาเผยแพร่ศาสนาหรือมาทำอะไรกันแน่)
    วันหนึ่งหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ.2475 ขณะที่เขาเริ่มเขียนหนังสือ เรื่อง Siam in Transition เขายังอยู่ที่ตรังกับครอบครัว มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสนิทของนายปรีดี พนมยงค์ ตอนเป็นผู้สำเร็จราชการ เกิดอยากจะแต่งงานในโบสถ์คริสเตียน กับสาวตรังซึ่งเป็นคริสเตียน นายคนสนิทนี้ก็มาหา นาย Kenneth เพื่อขออนุญาตนาย Kenneth ให้คู่บ่าวสาวได้แต่งงานและทำพิธีในโบสถ์ นาย Kenneth ดีใจจนบอกไม่ถูก เห็นโอกาสทองลอยอยู่ข้างหน้า เขาบอกกับนายคนสนิทว่า ได้สิ ถ้าคุณหาเอกสารมาให้ผมชิ้นหนึ่ง เอกสารนั้นคือบทความเค้าโครงเศรษฐกิจ ฉบับที่นายปรีดีเขียน เพื่อจะนำมาใช้กับประเทศไทย หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงไม่เห็นด้วย ทรงเห็นว่านายปรีดีมีแนวความคิดเช่นลัทธิคอมมิวนิสม์ ต่อมาเอกสารนั้นก็ถูกเก็บ เป็นเอกสารต้องห้าม ไม่มีใครได้เห็นอีก (นาย Kenneth นี่ต้องนับว่าเป็นนักฉวยโอกาสตัวยงจริงๆ) คงจะเป็นเพราะกำลังหน้ามืดอยากแต่งงานเต็มแก่ นายคนสนิทลงทุนไปเอาเอกสารมาให้นาย Kenneth รวมทั้งแถมรายงานการประชุมคณะอภิรัฐมนตรี ซึ่งระบุว่านายปรีดี เป็นคอมมิวนิสต์และที่ประชุมเห็นว่านายปรีดี ควรลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ
    ภายหลังเมื่อนาย Kenneth ได้เขียนหนังสือ Siam in Transition เขาได้นำเอกสารทั้ง 2 ชิ้นมาแนบท้ายหนังสือไว้ด้วย แต่หนังสือนี้ถูกห้ามขายในประเทศไทย
    หลังจากเขาได้เอกสารนี้มาไม่นาน พระองค์เจ้าธานีฯ (นาย Kenneth เขียนชื่อไว้เช่นนั้น) ทรงทราบข่าวที่นาย Kenneth ได้เอกสารนี้มา ท่านสนใจมากถึงขนาดลงทุนเดินทางจากกรุงเทพมาหานาย Kenneth ที่ตรัง เพื่อขออ่านเอกสารทั้ง 2 ชิ้น (แสดงว่าเอกสาร 2 ชิ้นนี้ต้องมีความสำคัญมากสำหรับ การเมืองของไทย แล้วมิชชั่นนารี ซึ่งไม่น่าจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองบ้านเรา ทำไมถึงให้ความสนใจจนลืมมรรยาท ถึงกับใช้วิธีการฉวยโอกาสอย่างคนไม่มีระดับถึงขนาดนี้!?) นาย Kenneth รู้ว่าเอกสารนี้ต้องห้าม เขาเลยเอาไปซ่อนไว้ในกองหนังสือพิมพ์ในห้องส้วมของเขาและ พระองค์เจ้าธานีฯ ก็ต้องไปนั่งอ่านเอกสาร โดยล็อคตัวเองอยู่ในส้วมของนาย Kenneth !
    หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เจ้านายหลายพระองค์ รวมทั้งกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ต้องเสด็จลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ กรมพระยาดำรงฯเสด็จไปอยู่ปีนัง เมื่อนาย Kenneth และครอบครัวจะกลับอเมริกา เขาเดินทางไปเยี่ยมท่านที่ปีนัง เขาอ้างว่าเป็นการเยี่ยมในฐานะเพื่อนเก่า ระหว่างคุยกัน เขาถามกรมพระยาดำรงฯ ว่าท่านจะยินยอมให้เขานำหนังสือที่ท่านทรงสะสมไว้ มอบให้แก่มหาวิทยาลัยในอเมริกาหรือไม่ เพราะกรมพระยาดำรงฯ ท่านเป็นเสนาบดีกระทรวงศึกษาฯ อยู่ช่วงหนึ่ง และท่านได้รับมอบหมายจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ให้ทรงจัดตั้งหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งกรมพระยาดำรงฯก็จัดตั้งเรียบร้อย โดยหนังสือทุกเล่มที่อยู่ในหอสมุด ท่านก็จะมีอีกชุดหนึ่งเก็บไว้ที่ท่านเอง รวมทั้งหนังสือที่ท่านทรงสะสม เอง ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วรรณคดี ศาสนา ฯลฯ ของไทยและเอเซียตะวันออก มีทั้งเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส กรมพระยาดำรงฯ ตอบว่าท่านเสียดายที่หนังสือนั้นจะไม่มีใครสนใจอีกต่อไป แต่ถ้ามีมหาวิทยาลัยที่สนใจ มีคนได้ศึกษาและมีคนอย่างนาย Kenneth ดูแลท่านก็ยินดีที่จะยกให้
    แล้วนาย Kenneth ก็นำรายชื่อหนังสือประมาณ 600 เล่ม ของกรมพระยาดำรงกลับอเมริกาไปด้วย โดยเขาอ้างว่า เขาจะนำไปจัดทำห้องสมุดไทยหรือเอเซียตะวันออก ที่มหาวิทยาลัยดังๆ ในอเมริกา ค่าเดินทางไปปีนังนี่มันคงไม่ใช่ราคาถูกๆ แต่คงจะเป็นการลงทุนที่เกินคุ้มหลายร้อยเท่า เมื่อเทียบกับรายชื่อหนังสือ 600 เล่ม ที่นาย Kenneth จะเอาไป อ้างว่าเป็นของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ อดีตเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยของเมืองไทยที่จะมอบให้นาย Kenneth ที่จะได้มาโดยการ “กล่อม” ซึ่งต่อมาเขาได้นำไปใช้ประโยชน์ให้แก่ตัวเองและสร้างประโยชน์ให้แก่อเมริกาอย่างมหาศาล ในการใช้เป็นต้นแบบเครื่องมือการล่าชนิดหนึ่ง!
    (หมายเหตุคนเล่านิทาน : เข้าใจว่า กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่านคงกำลังเศร้าพระทัย จากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และจากการที่คณะราษฎร์แสดงความไม่ประสงค์ดีต่อท่าน จนท่านถึงกับต้องเสด็จไปประทับอยู่ปีนัง ท่านเป็นนักประวัติศาสตร์ สนใจศึกษาหาความรู้ ทรงเก็บสะสมหนังสือเกี่ยวกับเมืองไทยไว้แยะ เมื่อคณะราษฎร์ทำการปฏิวัติ เปลี่ยนการปกครอง ซึ่งอาจจะกระทบถึงวัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งหลักสูตรการศึกษา ฯลฯ หนังสือต่างๆ เหล่านั้น คณะราษฎร์อาจไม่เห็นประโยชน์อีกต่อไป เมื่อนาย Kenneth เข้าไปขอในจังหวะนั้น ก็ไม่น่าแปลกใจที่ท่านจะคล้อยตาม !)

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยเก่า ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยเก่า” ตอนที่ 3 หลังจากอยู่กรุงเทพฯได้ 1 ปี นาย Kenneth และครอบครัว ก็ถูกให้ย้ายไปประจำที่นครศรีธรรมราช เขาอยู่ที่นั่น 1 ปี จากนั้นก็ย้ายมาประจำที่ตรัง รวมๆ แล้ว เขาอยู่แถวภาคใต้ของไทย ประมาณเกือบ 10 ปี ตอนที่อยู่ที่นครศรีธรรมราช เขาอาศัยอยู่ในบริเวณเดียวกับโรงเรียนสตรี ซึ่งเป็นของพวกมิชชั่นนารี ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นที่พระราชทานจากกรมพระยาดำรงราชานุภาพ แต่เมื่อมาอยู่ตรัง เขามีบ้านแยกต่างหากจากโรงเรียน ระหว่างที่เขาอยู่ตรังเขาเดินทาง ไปทั่ว ขึ้นมาจนทับสะแก (คือหัวหินในปัจจุบัน) และลงใต้ไปถึงแหลมมาลายู เขาบอกว่าในภาคใต้ของไทย มีคนจีนอาศัยอยู่มาก และส่วนมากเป็นพวกใช้แรงงาน หรือขายของชำ บ้างก็เปิดร้านค้าเล็กๆ ในตลาด ครอบครัวเขามีคนรับใช้และคนทำอาหารเป็นชาวจีน เขาจึงหัดพูดภาษาจีนกับคนรับใช้ทุกวัน จากการที่เขาคุยกับคนรับใช้ชาวจีน เขารู้ว่าคนจีนเหล่านั้นไม่มีโอกาสเรียนหนังสือ ไม่มีโรงเรียนของคนจีน เขาจึงพยายามให้ทางคณะมิชชั่นนารีช่วยจัดตั้งโรงเรียนให้คนจีน โดยเอาครูมาจากกรุงเทพฯ สิงคโปร์ ปีนัง ส่วนค่าก่อสร้างเขาก็ขอรับบริจาคบ้างจากคนในจังหวัด เขาสามารถสร้างใด้ถึง 4 โรงเรียน การคลุกคลีกับคนจีน ทำให้เขาพูดภาษาจีนแต้จิ๋วได้และเทศน์เป็นภาษาจีนได้อีกด้วย การสอนภาษาของ นาย Kenneth ขยายไปตั้งแต่คอขอดกระจนถึงชายแดนมาลายู และทำให้เขาต้องเดินทางแถบนั้นบ่อยมาก โดยรถไฟ เกวียน ช้าง เรือข้ามฝั่ง เรือเล็กตามคลอง รวมทั้งที่จักรยาน และการเดินเท้าของตนเอง และเพื่อให้มีการติดต่อระหว่างสังคมไทยและจีน ซึ่งอยู่ห่างไกลกัน นาย Kenneth ลงทุนพิมพ์จดหมายเหตุรายเดือน เป็นภาษาไทยและจีน เพื่อให้คนเหล่านั้นได้ข้อมูลและข่าว (ตามที่เขาเขียน !) ต้องนับถือผู้ที่เลือกถิ่นที่ทำงานให้นาย Kenneth จริงๆ ภาคใต้น่าสนใจหลายอย่าง รวมทั้งภูมิศาสตร์ที่มีพื้นที่ยาวตลอดไป ตามอ่าวไทยของไทยจนไปถึงเขตแดนมลายู นาย Kenneth และครอบครัว ย้ายกลับไปอเมริกาใน ค.ศ. 1937 โดยอ้างว่า เบื่อที่จะเป็น มิชชั่นนารีแล้ว เพราะรายได้ไม่พอ (หรือภาระกิจสำเร็จได้ตามเป้า เลยเก็บฉากขนของกลับบ้านซะเฉยๆ งั้นแหละ !?) เมื่อเขากลับ เขาหอบหนังสือพิมพ์และนิตยสารที่ออกเป็นงวด ที่เกี่ยวกับเมืองไทยที่เขาเก็บสะสมไว้ ตลอด 10 ปีที่อยู่เมืองกลับไปด้วย รวมทั้งแผนที่ของเมืองไทยแสดงอาณาบริเวณต่างๆ ทั่วประเทศอย่างละเอียด ยังไม่หมดยังหอบเอาหนังสือจากห้องสมุดของไทย ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เท่าที่ตัวเองจะหาได้กลับไปด้วย ที่สำคัญ เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย เมื่อปี ค.ศ. 1932 (พ.ศ. 2475) นาย Kenneth บอกว่าเป็นช่วงเหตุการณ์สำคัญของประวัติศาสตร์ไทย เขาเก็บเอกสารในช่วง 5 ปี ระหว่างนั้นไว้หมด โดยตั้งใจจะเขียนหนังสือ เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงการปกครองของไทย (นับว่าเป็นมิชชั่นนารี “ตัวอย่าง” จริงๆ ตกลงจะมาเผยแพร่ศาสนาหรือมาทำอะไรกันแน่) วันหนึ่งหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองเมื่อ พ.ศ.2475 ขณะที่เขาเริ่มเขียนหนังสือ เรื่อง Siam in Transition เขายังอยู่ที่ตรังกับครอบครัว มีผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคนสนิทของนายปรีดี พนมยงค์ ตอนเป็นผู้สำเร็จราชการ เกิดอยากจะแต่งงานในโบสถ์คริสเตียน กับสาวตรังซึ่งเป็นคริสเตียน นายคนสนิทนี้ก็มาหา นาย Kenneth เพื่อขออนุญาตนาย Kenneth ให้คู่บ่าวสาวได้แต่งงานและทำพิธีในโบสถ์ นาย Kenneth ดีใจจนบอกไม่ถูก เห็นโอกาสทองลอยอยู่ข้างหน้า เขาบอกกับนายคนสนิทว่า ได้สิ ถ้าคุณหาเอกสารมาให้ผมชิ้นหนึ่ง เอกสารนั้นคือบทความเค้าโครงเศรษฐกิจ ฉบับที่นายปรีดีเขียน เพื่อจะนำมาใช้กับประเทศไทย หลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง แต่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ทรงไม่เห็นด้วย ทรงเห็นว่านายปรีดีมีแนวความคิดเช่นลัทธิคอมมิวนิสม์ ต่อมาเอกสารนั้นก็ถูกเก็บ เป็นเอกสารต้องห้าม ไม่มีใครได้เห็นอีก (นาย Kenneth นี่ต้องนับว่าเป็นนักฉวยโอกาสตัวยงจริงๆ) คงจะเป็นเพราะกำลังหน้ามืดอยากแต่งงานเต็มแก่ นายคนสนิทลงทุนไปเอาเอกสารมาให้นาย Kenneth รวมทั้งแถมรายงานการประชุมคณะอภิรัฐมนตรี ซึ่งระบุว่านายปรีดี เป็นคอมมิวนิสต์และที่ประชุมเห็นว่านายปรีดี ควรลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ ภายหลังเมื่อนาย Kenneth ได้เขียนหนังสือ Siam in Transition เขาได้นำเอกสารทั้ง 2 ชิ้นมาแนบท้ายหนังสือไว้ด้วย แต่หนังสือนี้ถูกห้ามขายในประเทศไทย หลังจากเขาได้เอกสารนี้มาไม่นาน พระองค์เจ้าธานีฯ (นาย Kenneth เขียนชื่อไว้เช่นนั้น) ทรงทราบข่าวที่นาย Kenneth ได้เอกสารนี้มา ท่านสนใจมากถึงขนาดลงทุนเดินทางจากกรุงเทพมาหานาย Kenneth ที่ตรัง เพื่อขออ่านเอกสารทั้ง 2 ชิ้น (แสดงว่าเอกสาร 2 ชิ้นนี้ต้องมีความสำคัญมากสำหรับ การเมืองของไทย แล้วมิชชั่นนารี ซึ่งไม่น่าจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองบ้านเรา ทำไมถึงให้ความสนใจจนลืมมรรยาท ถึงกับใช้วิธีการฉวยโอกาสอย่างคนไม่มีระดับถึงขนาดนี้!?) นาย Kenneth รู้ว่าเอกสารนี้ต้องห้าม เขาเลยเอาไปซ่อนไว้ในกองหนังสือพิมพ์ในห้องส้วมของเขาและ พระองค์เจ้าธานีฯ ก็ต้องไปนั่งอ่านเอกสาร โดยล็อคตัวเองอยู่ในส้วมของนาย Kenneth ! หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง เจ้านายหลายพระองค์ รวมทั้งกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ต้องเสด็จลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ กรมพระยาดำรงฯเสด็จไปอยู่ปีนัง เมื่อนาย Kenneth และครอบครัวจะกลับอเมริกา เขาเดินทางไปเยี่ยมท่านที่ปีนัง เขาอ้างว่าเป็นการเยี่ยมในฐานะเพื่อนเก่า ระหว่างคุยกัน เขาถามกรมพระยาดำรงฯ ว่าท่านจะยินยอมให้เขานำหนังสือที่ท่านทรงสะสมไว้ มอบให้แก่มหาวิทยาลัยในอเมริกาหรือไม่ เพราะกรมพระยาดำรงฯ ท่านเป็นเสนาบดีกระทรวงศึกษาฯ อยู่ช่วงหนึ่ง และท่านได้รับมอบหมายจากพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ให้ทรงจัดตั้งหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งกรมพระยาดำรงฯก็จัดตั้งเรียบร้อย โดยหนังสือทุกเล่มที่อยู่ในหอสมุด ท่านก็จะมีอีกชุดหนึ่งเก็บไว้ที่ท่านเอง รวมทั้งหนังสือที่ท่านทรงสะสม เอง ที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วรรณคดี ศาสนา ฯลฯ ของไทยและเอเซียตะวันออก มีทั้งเป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษและฝรั่งเศส กรมพระยาดำรงฯ ตอบว่าท่านเสียดายที่หนังสือนั้นจะไม่มีใครสนใจอีกต่อไป แต่ถ้ามีมหาวิทยาลัยที่สนใจ มีคนได้ศึกษาและมีคนอย่างนาย Kenneth ดูแลท่านก็ยินดีที่จะยกให้ แล้วนาย Kenneth ก็นำรายชื่อหนังสือประมาณ 600 เล่ม ของกรมพระยาดำรงกลับอเมริกาไปด้วย โดยเขาอ้างว่า เขาจะนำไปจัดทำห้องสมุดไทยหรือเอเซียตะวันออก ที่มหาวิทยาลัยดังๆ ในอเมริกา ค่าเดินทางไปปีนังนี่มันคงไม่ใช่ราคาถูกๆ แต่คงจะเป็นการลงทุนที่เกินคุ้มหลายร้อยเท่า เมื่อเทียบกับรายชื่อหนังสือ 600 เล่ม ที่นาย Kenneth จะเอาไป อ้างว่าเป็นของกรมพระยาดำรงราชานุภาพ อดีตเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยของเมืองไทยที่จะมอบให้นาย Kenneth ที่จะได้มาโดยการ “กล่อม” ซึ่งต่อมาเขาได้นำไปใช้ประโยชน์ให้แก่ตัวเองและสร้างประโยชน์ให้แก่อเมริกาอย่างมหาศาล ในการใช้เป็นต้นแบบเครื่องมือการล่าชนิดหนึ่ง! (หมายเหตุคนเล่านิทาน : เข้าใจว่า กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ท่านคงกำลังเศร้าพระทัย จากการเปลี่ยนแปลงการปกครอง และจากการที่คณะราษฎร์แสดงความไม่ประสงค์ดีต่อท่าน จนท่านถึงกับต้องเสด็จไปประทับอยู่ปีนัง ท่านเป็นนักประวัติศาสตร์ สนใจศึกษาหาความรู้ ทรงเก็บสะสมหนังสือเกี่ยวกับเมืองไทยไว้แยะ เมื่อคณะราษฎร์ทำการปฏิวัติ เปลี่ยนการปกครอง ซึ่งอาจจะกระทบถึงวัฒนธรรมประเพณี รวมทั้งหลักสูตรการศึกษา ฯลฯ หนังสือต่างๆ เหล่านั้น คณะราษฎร์อาจไม่เห็นประโยชน์อีกต่อไป เมื่อนาย Kenneth เข้าไปขอในจังหวะนั้น ก็ไม่น่าแปลกใจที่ท่านจะคล้อยตาม !) คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • ข้าวมันไก่เมืองตรัง #ตลาดเพชรอารีบางปู #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #กิน #อร่อย #อาหาร #eat #food #streetfood #thaifood #delicious #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute #TruthFromThailand
    ข้าวมันไก่เมืองตรัง #ตลาดเพชรอารีบางปู #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #อร่อยบอกต่อ #กิน #อร่อย #อาหาร #eat #food #streetfood #thaifood #delicious #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute #TruthFromThailand
    0 Comments 0 Shares 306 Views 0 0 Reviews
  • พระสังกัจจายน์พระอาจารย์พล วัดเขาห้วยแห้ง จ.ตรัง
    พระสังกัจจายน์ เนื้อผงพุทธคุณ พระอาจารย์พล วัดเขาห้วยแห้ง จ.ตรัง //พระดีพิธีใหญ่ พระเกจิขลังแห่งเมืองตรัง // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พุทธคุณเป็นเลิศในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง โภคทรัพย์ เจริญรุ่งเรืองไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า แคล้วคลาดการเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ปราศจากภยันตรายต่างๆ >>

    ** "พระอาจารย์พล เตชพโล" เพชรเม็ดงามที่ซ่อนอยู่ในถ้ำ เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาห้วยแห้ง เกจิเมืองตรังสายเขาอ้อ เจ้าคณะตำบลห้วยยอด เจ้าอาวาสวัดเขาห้วยแห้ง ท่านเคยศึกษาในตำราตักศิลาเขาอ้อกับ"พ่อท่านคล้อย" วัดภูเขาทอง จ.พัทลุง หนึ่งในศิษย์ยุคแรกๆของสายเขาอ้อ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระสังกัจจายน์พระอาจารย์พล วัดเขาห้วยแห้ง จ.ตรัง พระสังกัจจายน์ เนื้อผงพุทธคุณ พระอาจารย์พล วัดเขาห้วยแห้ง จ.ตรัง //พระดีพิธีใหญ่ พระเกจิขลังแห่งเมืองตรัง // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พุทธคุณเป็นเลิศในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขายเจริญรุ่งเรือง โภคทรัพย์ เจริญรุ่งเรืองไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย โชคลาภ เรียกทรัพย์หนุนดวง อยู่ยงคงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า แคล้วคลาดการเดินทางแคล้วคลาดปลอดภัย ปราศจากภยันตรายต่างๆ >> ** "พระอาจารย์พล เตชพโล" เพชรเม็ดงามที่ซ่อนอยู่ในถ้ำ เป็นเจ้าอาวาสวัดเขาห้วยแห้ง เกจิเมืองตรังสายเขาอ้อ เจ้าคณะตำบลห้วยยอด เจ้าอาวาสวัดเขาห้วยแห้ง ท่านเคยศึกษาในตำราตักศิลาเขาอ้อกับ"พ่อท่านคล้อย" วัดภูเขาทอง จ.พัทลุง หนึ่งในศิษย์ยุคแรกๆของสายเขาอ้อ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • เหรียญหลวงตาจันทร์ รุ่น1 วัดไทรงาม จังหวัดตรัง ปี2538
    เหรียญหลวงตาจันทร์ รุ่น1 วัดไทรงาม จังหวัดตรัง ปี2538 // พระดีพิธีขลัง !! หลวงตาจันทร์ ได้รับการยกย่อง ให้เป็นสุดยอดเกจิอาจารย์แห่งเมืองตรัง //พระสถาพสวยมาก พระสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม โชคลาภ จะป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เสนียดจัญไร เสริมโชคลาภ ค้าขายเจริญรุ่งเรือง เงินทองไหลมา เทมา >>

    ** หลวงตาจันทร์ เป็นเกจิอาจารย์ดังพระที่ศักดิ์สิทธิ์ และเคร่งด้านกรรมฐาน เป็นพระที่ได้รับการยกย่องจากชาวบ้านเรื่องว่ัตถุมงคล หลวงตาจันทร์ เป็นพระที่สมัยก่อนไม่ต้องมีการนิมนต์ เมื่อมีพิธีกรรม ในหมู่บ้าน หลวงตาจันทร์ทราบข่าว จะไปทันที และเป็นพระที่ไม่เคยนั่งรถทุกชนิด ที่ชาวบ้านไปรับหรือนิมนต์ และเป็นพระที่ไม่สวมรองเท้า เมื่อท่านมรณภาพแล้ว ชาวบ้านได้ไปพบเงินจำนวนมากในกุฎิของท่าน และนำเงินมาตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษา โดยให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แก่โรงเรียนวัดไทรงามและโรงเรียนเทศบาล บ้านนาตาล่วง มาจนถึงทุกวันนี ปัจจุบันมีการทำเหรียญบูชา หลวงตาจันทร์ จนได้รับการยกย่อง ให้เป็นสุดยอดเกจิอาจารย์แห่งเมืองตรัง >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงตาจันทร์ รุ่น1 วัดไทรงาม จังหวัดตรัง ปี2538 เหรียญหลวงตาจันทร์ รุ่น1 วัดไทรงาม จังหวัดตรัง ปี2538 // พระดีพิธีขลัง !! หลวงตาจันทร์ ได้รับการยกย่อง ให้เป็นสุดยอดเกจิอาจารย์แห่งเมืองตรัง //พระสถาพสวยมาก พระสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย เมตตามหานิยม โชคลาภ จะป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เสนียดจัญไร เสริมโชคลาภ ค้าขายเจริญรุ่งเรือง เงินทองไหลมา เทมา >> ** หลวงตาจันทร์ เป็นเกจิอาจารย์ดังพระที่ศักดิ์สิทธิ์ และเคร่งด้านกรรมฐาน เป็นพระที่ได้รับการยกย่องจากชาวบ้านเรื่องว่ัตถุมงคล หลวงตาจันทร์ เป็นพระที่สมัยก่อนไม่ต้องมีการนิมนต์ เมื่อมีพิธีกรรม ในหมู่บ้าน หลวงตาจันทร์ทราบข่าว จะไปทันที และเป็นพระที่ไม่เคยนั่งรถทุกชนิด ที่ชาวบ้านไปรับหรือนิมนต์ และเป็นพระที่ไม่สวมรองเท้า เมื่อท่านมรณภาพแล้ว ชาวบ้านได้ไปพบเงินจำนวนมากในกุฎิของท่าน และนำเงินมาตั้งมูลนิธิเพื่อการศึกษา โดยให้ทุนการศึกษาแก่นักเรียนที่เรียนดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ แก่โรงเรียนวัดไทรงามและโรงเรียนเทศบาล บ้านนาตาล่วง มาจนถึงทุกวันนี ปัจจุบันมีการทำเหรียญบูชา หลวงตาจันทร์ จนได้รับการยกย่อง ให้เป็นสุดยอดเกจิอาจารย์แห่งเมืองตรัง >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
  • ไร้กังวล! 'ชัยชนะ' ยัน 'สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ' ยังภักดีประชาธิปัตย์ แม้ 'เนวิน-พิพัฒน์' ร่วมแสดงยินดี
    https://www.thai-tai.tv/news/20445/
    .
    #ชัยชนะเดชเดโช #ประชาธิปัตย์ #เนวินชิดชอบ #ภูมิใจไทย #สุณัฐชาโล่สถาพรพิพิธ #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #ตรัง

    ไร้กังวล! 'ชัยชนะ' ยัน 'สุณัฐชา โล่สถาพรพิพิธ' ยังภักดีประชาธิปัตย์ แม้ 'เนวิน-พิพัฒน์' ร่วมแสดงยินดี https://www.thai-tai.tv/news/20445/ . #ชัยชนะเดชเดโช #ประชาธิปัตย์ #เนวินชิดชอบ #ภูมิใจไทย #สุณัฐชาโล่สถาพรพิพิธ #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #ตรัง
    0 Comments 0 Shares 249 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากห้องวิจัย: แบตเตอรี่กัมมันตรังสีที่อาจไม่ต้องชาร์จอีกเลย

    ทีมนักวิจัยจาก Daegu Gyeongbuk Institute of Science and Technology (DGIST) นำโดยศาสตราจารย์ Su-Il In ได้พัฒนาแบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่เรียกว่า “Perovskite Betavoltaic Cell” (PBC) ซึ่งใช้พลังงานจากการสลายตัวของคาร์บอน-14 (Carbon-14) เพื่อผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องนานหลายสิบปี โดยไม่ต้องชาร์จ

    แบตเตอรี่ชนิดนี้ใช้อนุภาคคาร์บอน-14 ร่วมกับ quantum dots เป็นขั้วไฟฟ้า และเคลือบด้วยฟิล์ม perovskite ที่เสริมความเสถียรด้วยสารเติมแต่งคลอรีนสองชนิด (MACl และ CsCl) เพื่อเพิ่มการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนถึง 56,000 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน

    แม้จะยังมีประสิทธิภาพต่ำกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไป แต่การออกแบบให้มีคาร์บอน-14 ทั้งขั้วบวกและลบช่วยเพิ่มการแผ่รังสีเบต้าและลดการสูญเสียพลังงาน ทำให้สามารถใช้งานได้นานหลายร้อยปี เหมาะกับอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานต่ำแต่ต่อเนื่อง เช่น pacemaker, โดรน, probe อวกาศ หรืออุปกรณ์ในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว

    ทีมนักวิจัยจาก DGIST พัฒนาแบตเตอรี่แบบ betavoltaic โดยใช้ perovskite
    เป็นการรวม perovskite กับแหล่งพลังงานกัมมันตรังสีเป็นครั้งแรก

    ใช้คาร์บอน-14 ซึ่งปล่อยรังสีเบต้าอย่างปลอดภัย
    ไม่ทะลุผิวหนังและสามารถป้องกันได้ด้วยอะลูมิเนียม

    ฟิล์ม perovskite เสริมด้วย MACl และ CsCl เพื่อเพิ่มความเสถียร
    เพิ่ม electron mobility ได้ถึง 56,000 เท่า

    ใช้ titanium dioxide ร่วมกับ dye ที่ผ่านการบำบัดด้วยกรดซิตริก
    เกิดปฏิกิริยา avalanche ของอิเล็กตรอนเมื่อโดนรังสีเบต้า

    ประสิทธิภาพการแปลงพลังงานเพิ่มจาก 0.48% เป็น 2.86%
    แม้ยังต่ำ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีนี้

    คาร์บอน-14 เป็นผลพลอยได้จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
    ราคาถูก หาง่าย และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

    มีแผนพัฒนาเพื่อใช้ในอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น pacemaker, โดรน, probe อวกาศ
    “พลังงานนิวเคลียร์ในอุปกรณ์ขนาดเท่านิ้ว” ตามคำกล่าวของศาสตราจารย์ In

    ประสิทธิภาพยังต่ำกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไป
    ต้องปรับปรุงรูปทรงของตัวปล่อยรังสีและตัวดูดซับเพิ่มเติม

    การใช้สารกัมมันตรังสีแม้ปลอดภัย ต้องผ่านการรับรองด้านชีวภาพ
    โดยเฉพาะหากนำไปใช้ในอุปกรณ์ทางการแพทย์

    การผลิตและใช้งานในเชิงพาณิชย์ยังอยู่ในขั้นต้น
    ต้องการการพัฒนาเพิ่มเติมก่อนนำไปใช้จริง

    การจัดการคาร์บอน-14 ต้องมีระบบควบคุมที่เข้มงวด
    แม้จะปลอดภัย แต่ยังเป็นสารกัมมันตรังสีที่ต้องดูแลอย่างรอบคอบ

    https://www.neowin.net/news/this-amazing-new-battery-has-life-so-long-you-may-never-have-to-recharge/
    🎙️ เรื่องเล่าจากห้องวิจัย: แบตเตอรี่กัมมันตรังสีที่อาจไม่ต้องชาร์จอีกเลย ทีมนักวิจัยจาก Daegu Gyeongbuk Institute of Science and Technology (DGIST) นำโดยศาสตราจารย์ Su-Il In ได้พัฒนาแบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่เรียกว่า “Perovskite Betavoltaic Cell” (PBC) ซึ่งใช้พลังงานจากการสลายตัวของคาร์บอน-14 (Carbon-14) เพื่อผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องนานหลายสิบปี โดยไม่ต้องชาร์จ แบตเตอรี่ชนิดนี้ใช้อนุภาคคาร์บอน-14 ร่วมกับ quantum dots เป็นขั้วไฟฟ้า และเคลือบด้วยฟิล์ม perovskite ที่เสริมความเสถียรด้วยสารเติมแต่งคลอรีนสองชนิด (MACl และ CsCl) เพื่อเพิ่มการเคลื่อนที่ของอิเล็กตรอนถึง 56,000 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อน แม้จะยังมีประสิทธิภาพต่ำกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไป แต่การออกแบบให้มีคาร์บอน-14 ทั้งขั้วบวกและลบช่วยเพิ่มการแผ่รังสีเบต้าและลดการสูญเสียพลังงาน ทำให้สามารถใช้งานได้นานหลายร้อยปี เหมาะกับอุปกรณ์ที่ต้องการพลังงานต่ำแต่ต่อเนื่อง เช่น pacemaker, โดรน, probe อวกาศ หรืออุปกรณ์ในสภาพแวดล้อมสุดขั้ว ✅ ทีมนักวิจัยจาก DGIST พัฒนาแบตเตอรี่แบบ betavoltaic โดยใช้ perovskite ➡️ เป็นการรวม perovskite กับแหล่งพลังงานกัมมันตรังสีเป็นครั้งแรก ✅ ใช้คาร์บอน-14 ซึ่งปล่อยรังสีเบต้าอย่างปลอดภัย ➡️ ไม่ทะลุผิวหนังและสามารถป้องกันได้ด้วยอะลูมิเนียม ✅ ฟิล์ม perovskite เสริมด้วย MACl และ CsCl เพื่อเพิ่มความเสถียร ➡️ เพิ่ม electron mobility ได้ถึง 56,000 เท่า ✅ ใช้ titanium dioxide ร่วมกับ dye ที่ผ่านการบำบัดด้วยกรดซิตริก ➡️ เกิดปฏิกิริยา avalanche ของอิเล็กตรอนเมื่อโดนรังสีเบต้า ✅ ประสิทธิภาพการแปลงพลังงานเพิ่มจาก 0.48% เป็น 2.86% ➡️ แม้ยังต่ำ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญของเทคโนโลยีนี้ ✅ คาร์บอน-14 เป็นผลพลอยได้จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ➡️ ราคาถูก หาง่าย และสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ✅ มีแผนพัฒนาเพื่อใช้ในอุปกรณ์ขนาดเล็ก เช่น pacemaker, โดรน, probe อวกาศ ➡️ “พลังงานนิวเคลียร์ในอุปกรณ์ขนาดเท่านิ้ว” ตามคำกล่าวของศาสตราจารย์ In ‼️ ประสิทธิภาพยังต่ำกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทั่วไป ⛔ ต้องปรับปรุงรูปทรงของตัวปล่อยรังสีและตัวดูดซับเพิ่มเติม ‼️ การใช้สารกัมมันตรังสีแม้ปลอดภัย ต้องผ่านการรับรองด้านชีวภาพ ⛔ โดยเฉพาะหากนำไปใช้ในอุปกรณ์ทางการแพทย์ ‼️ การผลิตและใช้งานในเชิงพาณิชย์ยังอยู่ในขั้นต้น ⛔ ต้องการการพัฒนาเพิ่มเติมก่อนนำไปใช้จริง ‼️ การจัดการคาร์บอน-14 ต้องมีระบบควบคุมที่เข้มงวด ⛔ แม้จะปลอดภัย แต่ยังเป็นสารกัมมันตรังสีที่ต้องดูแลอย่างรอบคอบ https://www.neowin.net/news/this-amazing-new-battery-has-life-so-long-you-may-never-have-to-recharge/
    WWW.NEOWIN.NET
    This amazing new battery has life so long you may never have to recharge
    Radiocarbon and perovskite unite in a compact nuclear battery promising safe, almost ever-lasting power for extreme environments and miniature tech applications.
    0 Comments 0 Shares 321 Views 0 Reviews
  • สกู๊ตเปิดเส้นทางใหม่ สิงคโปร์-โกตาบารู

    สกู๊ต (Scoot) สายการบินราคาประหยัดในเครือสิงคโปร์แอร์ไลน์ เตรียมกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางสิงคโปร์-โกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ด้วยเครื่องบิน Embraer E190-E2 สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน ทุกวันศุกร์และวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 2568 เป็นต้นไป ได้แก่ ขาไป เที่ยวบินที่ TR460 ออกจากสิงคโปร์ 20.40 น. ถึงโกตาบารู 21.55 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 15 นาที และขากลับ TR461 ออกจากโกตาบารู 22.30 น. ถึงสิงคโปร์ 23.55 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 25 นาที

    โกตาบารู เมืองหลวงของรัฐกลันตัน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีย มีท่าอากาศยานสุลต่านอิสมาอิล เปตรา (KBR) ห่างจากด่านเป็งกาลันกูโบ ตรงข้าม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 37 กิโลเมตร และด่านรันเตาปันจัน ตรงข้าม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส 50 กิโลเมตร เปิดใช้อาคารผู้โดยสารหลังใหม่เมื่อ 1 พ.ค. 2567 มีเที่ยวบินให้บริการวันละกว่า 30 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 1.5 ล้านคนต่อปี กำลังขยายอาคารผู้โดยสารและรันเวย์เพื่อรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 4 ล้านคนต่อปี

    ก่อนหน้านี้สกู๊ตเคยเปิดเส้นทางสิงคโปร์-โกตาบารู เมื่อปี 2562 ด้วยความถี่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ แต่ได้ยกเลิกไป การเปิดเส้นทางบินใหม่ดังกล่าว จะทำให้สกู๊ตมีเที่ยวบินรวมกัน 115 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยัง 12 เมืองในมาเลเซีย

    นอกจากนี้ สกู๊ตเตรียมเปิดเส้นทางสิงคโปร์-ดานัง และสิงคโปร์-ญาจาง ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานชางงีมีเครือข่ายเส้นทางบินครอบคลุมกว่า 170 เมือง อีกทั้งสกู๊ตมีแผนเปิดเส้นทางใหม่ไปยังเมดาน ลาบวน ประเทศอินโดนีเซีย และโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางไปยังคลาร์ก ดาเวา มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย หาดใหญ่ ประเทศไทย และเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย เพื่อรองรับความต้องการเดินทางทางอากาศที่เพิ่มมากขึ้น

    สำหรับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ปัจจุบันมีท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีเที่ยวบินไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยสายการบินสกู๊ตเป็นประจำทุกวัน 1 เที่ยวบิน และมีไฟล์ตดึกทุกวันจันทร์ ศุกร์ และอาทิตย์ อีก 1 เที่ยวบิน จึงเป็นไปได้ว่าสกู๊ตต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวไปยังเมืองโกตาบารู ชมสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม และหมู่เกาะเปอร์เฮนเทียน (Pulau Perhentian) แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและดำน้ำยอดนิยมในรัฐตรังกานูมากกว่า ซึ่งจากสนามบินโกตาบารู เดินทางด้วยรถยนต์ไปอีก 60 กิโลเมตร จะถึงท่าเรือกัวลาบูซุต (Kuala Besut) แล้วต่อด้วยเรือเฟอร์รี่เพื่อไปยังเกาะดังกล่าว

    #Newskit
    สกู๊ตเปิดเส้นทางใหม่ สิงคโปร์-โกตาบารู สกู๊ต (Scoot) สายการบินราคาประหยัดในเครือสิงคโปร์แอร์ไลน์ เตรียมกลับมาเปิดให้บริการเส้นทางสิงคโปร์-โกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย ด้วยเครื่องบิน Embraer E190-E2 สัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน ทุกวันศุกร์และวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 ต.ค. 2568 เป็นต้นไป ได้แก่ ขาไป เที่ยวบินที่ TR460 ออกจากสิงคโปร์ 20.40 น. ถึงโกตาบารู 21.55 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 15 นาที และขากลับ TR461 ออกจากโกตาบารู 22.30 น. ถึงสิงคโปร์ 23.55 น. ใช้เวลาเดินทาง 1 ชั่วโมง 25 นาที โกตาบารู เมืองหลวงของรัฐกลันตัน ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของมาเลเซีย มีท่าอากาศยานสุลต่านอิสมาอิล เปตรา (KBR) ห่างจากด่านเป็งกาลันกูโบ ตรงข้าม อ.ตากใบ จ.นราธิวาส 37 กิโลเมตร และด่านรันเตาปันจัน ตรงข้าม อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส 50 กิโลเมตร เปิดใช้อาคารผู้โดยสารหลังใหม่เมื่อ 1 พ.ค. 2567 มีเที่ยวบินให้บริการวันละกว่า 30 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารใช้บริการมากกว่า 1.5 ล้านคนต่อปี กำลังขยายอาคารผู้โดยสารและรันเวย์เพื่อรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 4 ล้านคนต่อปี ก่อนหน้านี้สกู๊ตเคยเปิดเส้นทางสิงคโปร์-โกตาบารู เมื่อปี 2562 ด้วยความถี่ 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ แต่ได้ยกเลิกไป การเปิดเส้นทางบินใหม่ดังกล่าว จะทำให้สกู๊ตมีเที่ยวบินรวมกัน 115 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ไปยัง 12 เมืองในมาเลเซีย นอกจากนี้ สกู๊ตเตรียมเปิดเส้นทางสิงคโปร์-ดานัง และสิงคโปร์-ญาจาง ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะทำให้ท่าอากาศยานชางงีมีเครือข่ายเส้นทางบินครอบคลุมกว่า 170 เมือง อีกทั้งสกู๊ตมีแผนเปิดเส้นทางใหม่ไปยังเมดาน ลาบวน ประเทศอินโดนีเซีย และโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น รวมทั้งปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางไปยังคลาร์ก ดาเวา มะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ จาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย หาดใหญ่ ประเทศไทย และเพิร์ธ ประเทศออสเตรเลีย เพื่อรองรับความต้องการเดินทางทางอากาศที่เพิ่มมากขึ้น สำหรับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ปัจจุบันมีท่าอากาศยานหาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งมีเที่ยวบินไปยังประเทศสิงคโปร์ โดยสายการบินสกู๊ตเป็นประจำทุกวัน 1 เที่ยวบิน และมีไฟล์ตดึกทุกวันจันทร์ ศุกร์ และอาทิตย์ อีก 1 เที่ยวบิน จึงเป็นไปได้ว่าสกู๊ตต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวไปยังเมืองโกตาบารู ชมสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม และหมู่เกาะเปอร์เฮนเทียน (Pulau Perhentian) แหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและดำน้ำยอดนิยมในรัฐตรังกานูมากกว่า ซึ่งจากสนามบินโกตาบารู เดินทางด้วยรถยนต์ไปอีก 60 กิโลเมตร จะถึงท่าเรือกัวลาบูซุต (Kuala Besut) แล้วต่อด้วยเรือเฟอร์รี่เพื่อไปยังเกาะดังกล่าว #Newskit
    0 Comments 0 Shares 595 Views 0 Reviews
  • เหรียญพระพุทธชินราช วัดห้วยยอด จ.ตรัง ปี2538
    เหรียญพระพุทธชินราช วัดห้วยยอด ตำบลห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จ.ตรัง ปี2538 // พระดีพิธีใหญ่ มีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกมากมายหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม ทำให้เป็นที่รักแก่คนทั่วไป แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันคุณไสย ภูตผีปีศาจ และสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และส่งเสริมความสำเร็จในด้านต่างๆ นำความสุข ความเจริญ และความสำเร็จมาสู่ชีวิต >>

    ** วัดห้วยยอด เดิมชื่อวัดนครราษฎร์ศรัทธาธรรม ชาวบ้านเรียกว่า วัดใหม่ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๔๘ โดยหลวงนครกิจบำรุง นายอำเภอเขาขาว วัดห้วยยอดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ได้รับรางวัลวัดพัฒนาตัวอย่าง ในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ภายในศาลาการเปรียญ มีรูปเหมือนหลวงพ่อแดงซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั่วไป เจ้าอาวาสรูปแรกคือพระนุ่น ปัจจุบันมี พระครูพิพัฒนานุยุต เป็นเจ้าอาวาส >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระพุทธชินราช วัดห้วยยอด จ.ตรัง ปี2538 เหรียญพระพุทธชินราช วัดห้วยยอด ตำบลห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จ.ตรัง ปี2538 // พระดีพิธีใหญ่ มีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกมากมายหลายท่าน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านเมตตามหานิยม ทำให้เป็นที่รักแก่คนทั่วไป แคล้วคลาดปลอดภัย ป้องกันคุณไสย ภูตผีปีศาจ และสิ่งชั่วร้ายต่างๆ และส่งเสริมความสำเร็จในด้านต่างๆ นำความสุข ความเจริญ และความสำเร็จมาสู่ชีวิต >> ** วัดห้วยยอด เดิมชื่อวัดนครราษฎร์ศรัทธาธรรม ชาวบ้านเรียกว่า วัดใหม่ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๔๘ โดยหลวงนครกิจบำรุง นายอำเภอเขาขาว วัดห้วยยอดได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ ๙ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ได้รับรางวัลวัดพัฒนาตัวอย่าง ในปี พ.ศ. ๒๕๑๕ ภายในศาลาการเปรียญ มีรูปเหมือนหลวงพ่อแดงซึ่งเป็นที่เคารพบูชาของประชาชนทั่วไป เจ้าอาวาสรูปแรกคือพระนุ่น ปัจจุบันมี พระครูพิพัฒนานุยุต เป็นเจ้าอาวาส >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 320 Views 0 Reviews
  • ..
    ..ตำรวจอาเชียนสากลและตำรวจเอเชียสากลตั้งถือกำหนดในไทยจริงๆนะ,คือทหารอาเชียน ทหารเอเชียนี้ล่ะ เพื่อปฏิบัติตรวจค้นจับกุมสิ่งไม่ดีลักษณะนี้นี้เอง,จะมาแค่แบนแค่ขับออกไม่ได้หรอก,เหยื่อมากมายรอการช่วยเหลือจากทหารเอเชียอาเชียนสากลอยู่เพื่อปฏิบัติพิเศษฉุกเฉินนั้นเอง,ตึกมากมายในเขมรปิดตายแน่นหนา แน่นอนอาชญากรรมโลกต้องอยู่ตรงนั้น สามารถวางแผนจัดการได้ทันทีในทหารชุดพิเศษสากลนี้,เชิงรุกต้องมีชัดเจน มิใช่ในโต๊ะห้องแอร์,การค้ามนุษย์ระดับชาติในเขมรโดยมีรัฐบาลเขมรอำนวยการพิทักษ์ปกป้องแล้วเช่นนั้นจะมีเดอะแก๊งพวกนี้ได้อย่างไรเต็มประเทศ,เอเชียอาเชียนต้องมีมาตราการสากลลงมติจับกุมรัฐบาลฮุนเซนทันทีฐานเป็นภัยอาชญากรรมมนุษย์ทั่วโลกมิใช่ภาคเนื้องานจริงไม่มีแอ็คชั่นช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์อะไร,เน็คสายเคเบิลบริเวณอาเชียนทั่วทะเลสมุทรเราต้องระงับสัญญาณเน็ตในเขมรทันที,บวกstarlinkเน็ตดาวเทียมของทุกๆค่ายทั่วโลกด้วย,หากกิจการไหนที่ให้บริการสัญญาณเน็ตผ่านดาวเทียมแก่เขมร,ขุดมาแฉเลย แสดงว่าสมคบคิดเป็นต้นเหตุก่ออาชญากรรมต่อโลกด้วยเพราะให้บริการเน็ตดาวเทียมแก่เขมรซึ่งแน่นอนมันใช้แน่นอน พม่ามันยังใช้บริการของstarlinkเลย,แฉให้ชาวโลกรับรู้ด้วยว่ากิจการให้บริการสายดาวเทียมเน็ตดาวเทียมนี้ก็ร่วมกิจกรรมก่ออาชญากรรมสนับสนุนให้การค้่มนุษย์ของเดอะแก๊งในเขมรทำการได้สำเร็จด้วย,ทหารไทยเรามีเครื่องมือตรวสอบเน็ตดาวเทียมแน่นอนตลอดประเทศอาเชียนและเอเชียเราด้วย,แม้เราไทยตัดเน็ตมัน เน็ตดาวเทียมคือทางเลือกหนึ่งแน่นอน,มาเลย์ยังสามารถใช้ดาวเทียมมาเลย์ตรวจสอบสารพิษในชั้นบรรยากาศไทยได้เลยว่า หลังนาซ่ามาเยือนและขึ้นบินมันโปร่งสารพิษสารโลหะก่อมะเร็งอะไรบ้างหรือกัมมันตรังสีนิวเคลียร์โน้นว่ามีเท่านั้นเท่านี้กี่%,ประเทศอาเชียนเราต้องไม่นิ่งดูดายกำจัดเขมร,เพราะเหยื่อค้ามนุษย์นั้นๆก็มาจากคนเอเชียอาเชียนเราเป็นส่วนใหญ่ตลอดถึงทั่วโลก,ตึกทุกๆตึกในเขมรที่สร้างก็ไม่ต่างจากพม่า มีเหยื่อค้ามนุษย์เต็มตรึมทุกๆตึกทั่วเขมรแน่นอน,รัฐบาลเขมรต้องถูกจับกุมลงโทษทางสากลเร่งด่วนด้วยเช่นกันเพราะเหยื่อจากทั่วโลกในเขมรมิอาจรอได้.
    ..https://youtu.be/C3BHrTaloa8?si=d2rdlYMe0P2fo0fU
    .. ..ตำรวจอาเชียนสากลและตำรวจเอเชียสากลตั้งถือกำหนดในไทยจริงๆนะ,คือทหารอาเชียน ทหารเอเชียนี้ล่ะ เพื่อปฏิบัติตรวจค้นจับกุมสิ่งไม่ดีลักษณะนี้นี้เอง,จะมาแค่แบนแค่ขับออกไม่ได้หรอก,เหยื่อมากมายรอการช่วยเหลือจากทหารเอเชียอาเชียนสากลอยู่เพื่อปฏิบัติพิเศษฉุกเฉินนั้นเอง,ตึกมากมายในเขมรปิดตายแน่นหนา แน่นอนอาชญากรรมโลกต้องอยู่ตรงนั้น สามารถวางแผนจัดการได้ทันทีในทหารชุดพิเศษสากลนี้,เชิงรุกต้องมีชัดเจน มิใช่ในโต๊ะห้องแอร์,การค้ามนุษย์ระดับชาติในเขมรโดยมีรัฐบาลเขมรอำนวยการพิทักษ์ปกป้องแล้วเช่นนั้นจะมีเดอะแก๊งพวกนี้ได้อย่างไรเต็มประเทศ,เอเชียอาเชียนต้องมีมาตราการสากลลงมติจับกุมรัฐบาลฮุนเซนทันทีฐานเป็นภัยอาชญากรรมมนุษย์ทั่วโลกมิใช่ภาคเนื้องานจริงไม่มีแอ็คชั่นช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์อะไร,เน็คสายเคเบิลบริเวณอาเชียนทั่วทะเลสมุทรเราต้องระงับสัญญาณเน็ตในเขมรทันที,บวกstarlinkเน็ตดาวเทียมของทุกๆค่ายทั่วโลกด้วย,หากกิจการไหนที่ให้บริการสัญญาณเน็ตผ่านดาวเทียมแก่เขมร,ขุดมาแฉเลย แสดงว่าสมคบคิดเป็นต้นเหตุก่ออาชญากรรมต่อโลกด้วยเพราะให้บริการเน็ตดาวเทียมแก่เขมรซึ่งแน่นอนมันใช้แน่นอน พม่ามันยังใช้บริการของstarlinkเลย,แฉให้ชาวโลกรับรู้ด้วยว่ากิจการให้บริการสายดาวเทียมเน็ตดาวเทียมนี้ก็ร่วมกิจกรรมก่ออาชญากรรมสนับสนุนให้การค้่มนุษย์ของเดอะแก๊งในเขมรทำการได้สำเร็จด้วย,ทหารไทยเรามีเครื่องมือตรวสอบเน็ตดาวเทียมแน่นอนตลอดประเทศอาเชียนและเอเชียเราด้วย,แม้เราไทยตัดเน็ตมัน เน็ตดาวเทียมคือทางเลือกหนึ่งแน่นอน,มาเลย์ยังสามารถใช้ดาวเทียมมาเลย์ตรวจสอบสารพิษในชั้นบรรยากาศไทยได้เลยว่า หลังนาซ่ามาเยือนและขึ้นบินมันโปร่งสารพิษสารโลหะก่อมะเร็งอะไรบ้างหรือกัมมันตรังสีนิวเคลียร์โน้นว่ามีเท่านั้นเท่านี้กี่%,ประเทศอาเชียนเราต้องไม่นิ่งดูดายกำจัดเขมร,เพราะเหยื่อค้ามนุษย์นั้นๆก็มาจากคนเอเชียอาเชียนเราเป็นส่วนใหญ่ตลอดถึงทั่วโลก,ตึกทุกๆตึกในเขมรที่สร้างก็ไม่ต่างจากพม่า มีเหยื่อค้ามนุษย์เต็มตรึมทุกๆตึกทั่วเขมรแน่นอน,รัฐบาลเขมรต้องถูกจับกุมลงโทษทางสากลเร่งด่วนด้วยเช่นกันเพราะเหยื่อจากทั่วโลกในเขมรมิอาจรอได้. ..https://youtu.be/C3BHrTaloa8?si=d2rdlYMe0P2fo0fU
    0 Comments 0 Shares 394 Views 0 Reviews
  • เหรียญชนะมาร วัดนิโครธาราม จ.ตรัง ปี2556
    เหรียญชนะมารหลัง มหายันต์ เนื้อนวะโละ วัดนิโครธาราม (วัดกุฎิใน) จ.ตรัง ปี2556 // พระดีพิธีใหญ๋ สร้างน้อย หายากก //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> พระแท้ ดูง่าย @"รับประกันพระแท้ตลอดชีพ"

    ** พุทธคุณเข้มขลัง มหาอำนาจ ผู้คนเกรงขาม เลื่อนยศตำแหน่ง เมตตามหานิยม ผู้คนอยากเข้าหา ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง ฐานะมั่นคง >>

    ** วัดนิโครธาราม (วัดกุฎิใน) เป็นสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่นประจำจังหวัดตรัง เนื่องจากมีรั้วรอบขอบชิดโดยรอบ และมีการแบ่งพื้นที่เป็นเขตปฏิบัติธรรมไว้อย่างชัดเจน โดยมีศาลาปฏิบัติธรรมเป็นอาคาร 2 ชั้น ซึ่งสามารถจุคนได้ชั้นละ 300 คน บริเวณชั้นล่างใช้เป็นที่สำหรับอบรมและบรรยายธรรม รวมทั้งเป็นพื้นที่ปฏิบัติธรรม ส่วนชั้นบนใช้สำหรับเป็นที่พัก โดยมีมุ้ง กรด และที่นอน เตรียมให้แก่ผู้เข้ามาปฏิบัติธรรม ซึ่งมีทั้งส่วน ที่เป็นห้องพักเล็ก และเป็นห้องโถงใหญ่กลางศาลา ในส่วนของห้องน้ำมีตั้งอยู่หลายแห่งทั่วบริเวณ แต่ที่พึ่งจะสร้างแล้วเสร็จก็คือ ห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกหญิงชาย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากเทศบาลนครตรัง มีการสร้างลานธรรม และอาคารอบรมจากดิน ท่ามกลางธรรมชาติดั้งเดิม ภายในส่วนพื้นที่ป่าของวัด เพื่อให้บุคคลเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติและตนเองได้มากขึ้น >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญชนะมาร วัดนิโครธาราม จ.ตรัง ปี2556 เหรียญชนะมารหลัง มหายันต์ เนื้อนวะโละ วัดนิโครธาราม (วัดกุฎิใน) จ.ตรัง ปี2556 // พระดีพิธีใหญ๋ สร้างน้อย หายากก //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ >> พระแท้ ดูง่าย @"รับประกันพระแท้ตลอดชีพ" ** พุทธคุณเข้มขลัง มหาอำนาจ ผู้คนเกรงขาม เลื่อนยศตำแหน่ง เมตตามหานิยม ผู้คนอยากเข้าหา ส่งเสริมความเจริญรุ่งเรือง ฐานะมั่นคง >> ** วัดนิโครธาราม (วัดกุฎิใน) เป็นสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่นประจำจังหวัดตรัง เนื่องจากมีรั้วรอบขอบชิดโดยรอบ และมีการแบ่งพื้นที่เป็นเขตปฏิบัติธรรมไว้อย่างชัดเจน โดยมีศาลาปฏิบัติธรรมเป็นอาคาร 2 ชั้น ซึ่งสามารถจุคนได้ชั้นละ 300 คน บริเวณชั้นล่างใช้เป็นที่สำหรับอบรมและบรรยายธรรม รวมทั้งเป็นพื้นที่ปฏิบัติธรรม ส่วนชั้นบนใช้สำหรับเป็นที่พัก โดยมีมุ้ง กรด และที่นอน เตรียมให้แก่ผู้เข้ามาปฏิบัติธรรม ซึ่งมีทั้งส่วน ที่เป็นห้องพักเล็ก และเป็นห้องโถงใหญ่กลางศาลา ในส่วนของห้องน้ำมีตั้งอยู่หลายแห่งทั่วบริเวณ แต่ที่พึ่งจะสร้างแล้วเสร็จก็คือ ห้องน้ำและห้องอาบน้ำแยกหญิงชาย โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากเทศบาลนครตรัง มีการสร้างลานธรรม และอาคารอบรมจากดิน ท่ามกลางธรรมชาติดั้งเดิม ภายในส่วนพื้นที่ป่าของวัด เพื่อให้บุคคลเรียนรู้ที่จะอยู่กับธรรมชาติและตนเองได้มากขึ้น >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 302 Views 0 Reviews
  • #####.....พิเศษแบบนี้..... มีแค่.....3.....เหรียญ.....ในโลก.....#####

    *****.....ตอกโค๊ดนะโม.....9.....โค๊ด.....พ่อท่านลาภ.....วัดเขากอบ.....จ.ตรัง.....จารมือยันต์.....นะเศรษฐี.....ทุกเหรียญ.....*****

    *****.....รุ่น.....มั่ง...มี...ศรี...สุข.....ปี.....2555.....วัดพระธาตุ.....จ.นครศรีธรรมราช.....*****

    *****.....รับประกันพระแท้ตลอดชีพ.....จัดส่ง EMS ฟรี.....*****

    *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....*****

    #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #เหรียญพระธาตุ
    #####.....พิเศษแบบนี้..... มีแค่.....3.....เหรียญ.....ในโลก.....##### *****.....ตอกโค๊ดนะโม.....9.....โค๊ด.....พ่อท่านลาภ.....วัดเขากอบ.....จ.ตรัง.....จารมือยันต์.....นะเศรษฐี.....ทุกเหรียญ.....***** *****.....รุ่น.....มั่ง...มี...ศรี...สุข.....ปี.....2555.....วัดพระธาตุ.....จ.นครศรีธรรมราช.....***** *****.....รับประกันพระแท้ตลอดชีพ.....จัดส่ง EMS ฟรี.....***** *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....***** #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #เหรียญพระธาตุ
    0 Comments 0 Shares 261 Views 0 Reviews
  • *****.....ชื่อดี.....มีมงคล.....พ่อท่าน...ลาภ...วัดเขากอบ.....จ.ตรัง.....*****

    *****.....เหรียญหล่อจอบ...( นำฤกษ์ในพิธี ).....*****

    *****.....เนื้อตะกั่ว.....หลังจารมือ.....ยันต์นะเศรษฐี.....*****

    *****.....สร้าง.....300.....เหรียญ.....กะไหล่ทอง.....ลงยาแดง.....หลังยันต์บรมครู.....*****

    *****.....สร้าง.....300.....เหรียญ.....กะไหล่ทอง.....ลงยาแดง.....หลังยันต์นะเศรษฐี.....*****

    *****.....รุ่น.....ลาภ...เงิน...ล้าน.....ปี.....2556.....*****

    *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....*****

    #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #พ่อท่านลาภ #วัดเขากอบ#จังหวัด ตรัง #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    *****.....ชื่อดี.....มีมงคล.....พ่อท่าน...ลาภ...วัดเขากอบ.....จ.ตรัง.....***** *****.....เหรียญหล่อจอบ...( นำฤกษ์ในพิธี ).....***** *****.....เนื้อตะกั่ว.....หลังจารมือ.....ยันต์นะเศรษฐี.....***** *****.....สร้าง.....300.....เหรียญ.....กะไหล่ทอง.....ลงยาแดง.....หลังยันต์บรมครู.....***** *****.....สร้าง.....300.....เหรียญ.....กะไหล่ทอง.....ลงยาแดง.....หลังยันต์นะเศรษฐี.....***** *****.....รุ่น.....ลาภ...เงิน...ล้าน.....ปี.....2556.....***** *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....***** #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #พ่อท่านลาภ #วัดเขากอบ#จังหวัด ตรัง #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ
    0 Comments 0 Shares 246 Views 0 Reviews
  • หลวงปู่ทวดหลังยันต์นูน วัดควนวิเศษ จ.ตรัง ปี2506
    หลวงปู่ทวดหลังยันต์นูน พิมพ์ใหญ่ (เนื้อกิมจ้อ) วัดควนวิเศษ จ.ตรัง ปี2506 //พระดีพิธีใหญ๋ อ.ทิม วัดช้างให้และสุดยอดคณาจารย์ร่วมปลุกเสก ผสมว่านเก่าหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ ปี2497 จำนวนมาก //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //

    ** พุทธคุณดีครบทุกด้าน แคล้วคลาดปลอดภัย สุดยอดแห่งนิรันตราย มหาอุด เมตตาหานิยม มหาโภคทรัพย์ เงินไหลมา เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัยมีโชคมีลาภ อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >>

    ** อมตะวาจา ของพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ได้กล่าวว่า **
    “พระเครื่องเนื้อว่านหลวงปู่ทวด ชุดวัดควนวิเศษ ถ้าผู้ใดไม่อาจหาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ไว้คุ้มครองได้ ก็ขอให้ใช้พระเครื่องหลวงพ่อทวด ที่สร้างที่วัดควนวิเศษ แทนกันได้อย่างแน่นอนที่สุด” >>

    ** หลวงปู่ทวด วัดควนวิเศษ มีพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ถูกต้อง ตามตำราโบราณ มีเกจิอาจารย์มาเข้าร่วมพิธีปลุกเสกกันหลายสาย สายวัดระฆัง หลวงปู่นาคเป็นประธานเททองและพุทธาภิเษก สายหลวงพ่อทวด มีอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ สายเขาอ้อ มีอาจารย์คง วัดบ้านสวน อาจารย์หมุนวัดเขาแดงออก พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลาและท่านอาจารย์พระครูกาแก้ว วัดอินทราวาส จังหวัด พัทลุง พระพุทธธรรมธาดา วัดสุวรรณวิชัย นอกจากนั้นยังมีพระครูไพศาลพัฒนกิจ (อาจารย์รอด)วัดประดู่พัฒนาราม นครศรีธรรมราช,พระครูพิศาลวิหารธรรม วัดวังตะวันตก นครศรีธรรมราช,พระครูโอภาส วุฒิคุณ(หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด), พระครูสถิตธรรมโสภณ(อาจารย์คลิ้ง วัดศรีสุรรรณาราม) จังหวัดตรัง, พระราชสารโสภณ วัดตันตยาภิรมณ์ เจ้าคณะจังหวัดตรังพระเครื่อง วัดควนวิเศษ โดยเฉพาะ หลวงปู่ทวด ซึ่งพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ได้กล่าวเป็นอมตะวาจา ใว้ว่า “พระเครื่องเนื้อว่านหลวงปู่ทวด ชุดวัดควนวิเศษๆแท้ ผู้ใดไม่อาจหาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ไว้คุ้มครองได้ ก็ขอให้ใช้พระเครื่องหลวงปู่ทวด ที่สร้างที่วัดควนวิเศษ แทนกันได้อย่างแน่นอนที่สุด >>


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงปู่ทวดหลังยันต์นูน วัดควนวิเศษ จ.ตรัง ปี2506 หลวงปู่ทวดหลังยันต์นูน พิมพ์ใหญ่ (เนื้อกิมจ้อ) วัดควนวิเศษ จ.ตรัง ปี2506 //พระดีพิธีใหญ๋ อ.ทิม วัดช้างให้และสุดยอดคณาจารย์ร่วมปลุกเสก ผสมว่านเก่าหลวงพ่อทวดวัดช้างให้ ปี2497 จำนวนมาก //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // ** พุทธคุณดีครบทุกด้าน แคล้วคลาดปลอดภัย สุดยอดแห่งนิรันตราย มหาอุด เมตตาหานิยม มหาโภคทรัพย์ เงินไหลมา เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัยมีโชคมีลาภ อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >> ** อมตะวาจา ของพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ได้กล่าวว่า ** “พระเครื่องเนื้อว่านหลวงปู่ทวด ชุดวัดควนวิเศษ ถ้าผู้ใดไม่อาจหาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ไว้คุ้มครองได้ ก็ขอให้ใช้พระเครื่องหลวงพ่อทวด ที่สร้างที่วัดควนวิเศษ แทนกันได้อย่างแน่นอนที่สุด” >> ** หลวงปู่ทวด วัดควนวิเศษ มีพิธีพุทธาภิเษกที่ยิ่งใหญ่ถูกต้อง ตามตำราโบราณ มีเกจิอาจารย์มาเข้าร่วมพิธีปลุกเสกกันหลายสาย สายวัดระฆัง หลวงปู่นาคเป็นประธานเททองและพุทธาภิเษก สายหลวงพ่อทวด มีอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ สายเขาอ้อ มีอาจารย์คง วัดบ้านสวน อาจารย์หมุนวัดเขาแดงออก พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลาและท่านอาจารย์พระครูกาแก้ว วัดอินทราวาส จังหวัด พัทลุง พระพุทธธรรมธาดา วัดสุวรรณวิชัย นอกจากนั้นยังมีพระครูไพศาลพัฒนกิจ (อาจารย์รอด)วัดประดู่พัฒนาราม นครศรีธรรมราช,พระครูพิศาลวิหารธรรม วัดวังตะวันตก นครศรีธรรมราช,พระครูโอภาส วุฒิคุณ(หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด), พระครูสถิตธรรมโสภณ(อาจารย์คลิ้ง วัดศรีสุรรรณาราม) จังหวัดตรัง, พระราชสารโสภณ วัดตันตยาภิรมณ์ เจ้าคณะจังหวัดตรังพระเครื่อง วัดควนวิเศษ โดยเฉพาะ หลวงปู่ทวด ซึ่งพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ได้กล่าวเป็นอมตะวาจา ใว้ว่า “พระเครื่องเนื้อว่านหลวงปู่ทวด ชุดวัดควนวิเศษๆแท้ ผู้ใดไม่อาจหาหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ ไว้คุ้มครองได้ ก็ขอให้ใช้พระเครื่องหลวงปู่ทวด ที่สร้างที่วัดควนวิเศษ แทนกันได้อย่างแน่นอนที่สุด >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 325 Views 0 Reviews
  • *****.....เนื้อนวะ.....(กรรมการ).....สร้าง.....199.....องค์.....*****

    #####.....สืบสานตำนานวิชา...พญาเสือนอนกิน...ขุมทรัพย์วิชาสำนักเขาอ้อ...โดย...อาจารย์ประสูติ ปิยธมฺโม... ศิษย์...หลวงปู่แสง ธมฺมสโร...อริยสงฆ์แห่ง...วัดถ้ำพระพุทธโกษีย์ (ในเตา) อ.ห้วยยอด จ.ตรัง.....#####

    *****.....ตามตำราดั้งเดิมของ...วิชาพญาเสือนอนกิน...สำนักเขาอ้อ...ซึ่ง...หลวงปู่แสง ธมฺมสโร...ได้สืบทอดวิชานี้มาจาก.....พระอาจารย์ทองเฒ่า...แห่งสำนักตักศิลาเขาอ้อ.....ในระหว่างที่ท่านได้มาจำพรรษา...ที่...วัดในเตา... หลวงปู่แสง...ได้ถ่ายทอดวิชาให้กับ...พระอาจารย์ประสูติ ปิยธมฺโม...หลายวิชาด้วยกัน...ซึ่งวิชาที่ได้ถ่ายทอดนั้น...ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับ...เครื่องรางของขลัง...ดีเด่นทางด้าน...เมตตา...มหานิยม...มหาเสน่ห์...โชคลาภ...อุดมโชค...โภคทรัพย์...ค้าขาย...กำบังอำพราง...ให้แคล้วคลาดปลอดภัย.....*****

    *****.....แต่มีวิชาหนึ่ง...ที่...หลวงปู่แสง...นั้นเน้นมากๆๆๆ คือ.....วิชาพญาเสือนอนกิน.....พระอาจารย์ประสูติ.....ได้เล่าให้ฟังว่า...ก่อนจะสอนวิชาให้กับ....ท่านเองนั้น...หลวงปู่แสง...กล่าวไว้ว่า...วิชาพญาเสือ...ทุกอย่างทุกวิชา...อย่าไปเรียน...ไม่ว่าจะเป็น...มหาอุตฆ์...คงกะพัน...มหาอำนาจ...แต่มีวิชาหนึ่งซึ่งเป็นต้นตำหรับ...ของสายวิชาเขาอ้อ คือ...วิชาเสือนอนกิน.....
    หลวงปู่แสง...บอกว่าเป็นวิชาเสือเฒ่า...ซึ่งเป็น...พญาเสือ...โดยมีบริวารมากมาย...มาคอยดูแล...ปกป้องคุ้มครอง...ตลอดจนหาอาหาร...ทุกอย่างไม่ให้ขาดแคลน.....*****

    *****.....ฉะนั้น.....วิชาเสือนอนกิน.....หลวงปู่แสง...กล่าวว่า...เป็นวิชาที่สามารถทำให้...โชคลาภ...เงินทอง...เข้ามาหาเราแบบง่ายๆ...หรืออาจเข้ามาแบบแปลกๆ...ไม่ได้คาดคิดไว้ล่วงหน้า...ว่าจะได้..และ...ช่วยในเรื่องของการ...ทำมาหากิน...คล่องตัว...ไม่ขัดสน...หรือติดขัด...นอกจาก...จะดีเด่นทางโภคทรัพย์แล้ว...ยังดีเด่นทางด้านมหาอำนาจ...แคล้วคลาด...คงกะพัน...ของสำนักเขาอ้อ...อีกด้วย...ซึ่งขณะนี้...คาดว่าน่าจะเป็น ...องค์เดียว...เท่านั้น...ที่ได้สืบทอด.....วิชาพญาเสือนอนกิน.....ขุมทรัพย์วิชาของสำนักตักศิลาเขาอ้อ... จ.พัทลุง คือ...อาจารย์ประสูติ ปิยธมฺโม...วัดในเตา.....*****

    #####.....ไอดี ไลน์.....oak_999.....หรือโทร.....089-471-5666.....#####

    #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....เนื้อนวะ.....(กรรมการ).....สร้าง.....199.....องค์.....***** #####.....สืบสานตำนานวิชา...พญาเสือนอนกิน...ขุมทรัพย์วิชาสำนักเขาอ้อ...โดย...อาจารย์ประสูติ ปิยธมฺโม... ศิษย์...หลวงปู่แสง ธมฺมสโร...อริยสงฆ์แห่ง...วัดถ้ำพระพุทธโกษีย์ (ในเตา) อ.ห้วยยอด จ.ตรัง.....##### *****.....ตามตำราดั้งเดิมของ...วิชาพญาเสือนอนกิน...สำนักเขาอ้อ...ซึ่ง...หลวงปู่แสง ธมฺมสโร...ได้สืบทอดวิชานี้มาจาก.....พระอาจารย์ทองเฒ่า...แห่งสำนักตักศิลาเขาอ้อ.....ในระหว่างที่ท่านได้มาจำพรรษา...ที่...วัดในเตา... หลวงปู่แสง...ได้ถ่ายทอดวิชาให้กับ...พระอาจารย์ประสูติ ปิยธมฺโม...หลายวิชาด้วยกัน...ซึ่งวิชาที่ได้ถ่ายทอดนั้น...ส่วนใหญ่จะเกี่ยวกับ...เครื่องรางของขลัง...ดีเด่นทางด้าน...เมตตา...มหานิยม...มหาเสน่ห์...โชคลาภ...อุดมโชค...โภคทรัพย์...ค้าขาย...กำบังอำพราง...ให้แคล้วคลาดปลอดภัย.....***** *****.....แต่มีวิชาหนึ่ง...ที่...หลวงปู่แสง...นั้นเน้นมากๆๆๆ คือ.....วิชาพญาเสือนอนกิน.....พระอาจารย์ประสูติ.....ได้เล่าให้ฟังว่า...ก่อนจะสอนวิชาให้กับ....ท่านเองนั้น...หลวงปู่แสง...กล่าวไว้ว่า...วิชาพญาเสือ...ทุกอย่างทุกวิชา...อย่าไปเรียน...ไม่ว่าจะเป็น...มหาอุตฆ์...คงกะพัน...มหาอำนาจ...แต่มีวิชาหนึ่งซึ่งเป็นต้นตำหรับ...ของสายวิชาเขาอ้อ คือ...วิชาเสือนอนกิน..... หลวงปู่แสง...บอกว่าเป็นวิชาเสือเฒ่า...ซึ่งเป็น...พญาเสือ...โดยมีบริวารมากมาย...มาคอยดูแล...ปกป้องคุ้มครอง...ตลอดจนหาอาหาร...ทุกอย่างไม่ให้ขาดแคลน.....***** *****.....ฉะนั้น.....วิชาเสือนอนกิน.....หลวงปู่แสง...กล่าวว่า...เป็นวิชาที่สามารถทำให้...โชคลาภ...เงินทอง...เข้ามาหาเราแบบง่ายๆ...หรืออาจเข้ามาแบบแปลกๆ...ไม่ได้คาดคิดไว้ล่วงหน้า...ว่าจะได้..และ...ช่วยในเรื่องของการ...ทำมาหากิน...คล่องตัว...ไม่ขัดสน...หรือติดขัด...นอกจาก...จะดีเด่นทางโภคทรัพย์แล้ว...ยังดีเด่นทางด้านมหาอำนาจ...แคล้วคลาด...คงกะพัน...ของสำนักเขาอ้อ...อีกด้วย...ซึ่งขณะนี้...คาดว่าน่าจะเป็น ...องค์เดียว...เท่านั้น...ที่ได้สืบทอด.....วิชาพญาเสือนอนกิน.....ขุมทรัพย์วิชาของสำนักตักศิลาเขาอ้อ... จ.พัทลุง คือ...อาจารย์ประสูติ ปิยธมฺโม...วัดในเตา.....***** #####.....ไอดี ไลน์.....oak_999.....หรือโทร.....089-471-5666.....##### #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 Comments 0 Shares 395 Views 0 Reviews
  • 清水祖師 ตัน ผ่อ เจ่ว พระหมอ รุ่นแรก ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ยะลา
    清水祖師 ตัน ผ่อ เจ่ว พระหมอ รุ่นแรก เนื้อว่านกดมือโบราณ "ฝังเพชรหน้าทั่ง" ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ยะลา // พระดีพิธีใหญ่ หลวงตาแดง อาจารย์นอง อาจารย์ทอง พ่อท่านฉิ้น พ่อท่านสิงห์ พ่อท่านเขียว ร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ด้านมั่งมีโภคทรัพย์ แคล้วคลาด คุ้มภัย มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรให้ ปราศจากความเจ็บไข้,ความเจ็บป่วย และ ภยันตรายทั้งปวง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง เมตตามหานิยมอีกด้วย >>

    ** พระดีพิธีใหญ่ เกจิปลุกเสก อาทิ หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว พ่อท่านทอง วัดสำเภาเชย พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ร่วมปลุกเสก ** ประวัติในเมืองไทยได้มีการบันทึกไว้เกี่ยวกับการบูชาและไหว้พระหมอมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 หรือก่อนหน้านั้นนานมาแล้ว และที่เรารู้จักกันดีคือศาลเจ้แม่ลิ้มกอเหนี่ยว จ.ปัตตานี ที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และองค์พระหมอ (พระเซ๋าซูกง) และยังมีอีกหลสยที่ที่คนไทยเชื้อสายจีนนับถือและให้การเคารพท่านมาก ทั้งที่ พังงา กระบี่ สตูล ยะลา ปัตตานี ตรัง ภูเก็ต...ฯลฯ >>

    * พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    清水祖師 ตัน ผ่อ เจ่ว พระหมอ รุ่นแรก ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ยะลา 清水祖師 ตัน ผ่อ เจ่ว พระหมอ รุ่นแรก เนื้อว่านกดมือโบราณ "ฝังเพชรหน้าทั่ง" ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ยะลา // พระดีพิธีใหญ่ หลวงตาแดง อาจารย์นอง อาจารย์ทอง พ่อท่านฉิ้น พ่อท่านสิงห์ พ่อท่านเขียว ร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ด้านมั่งมีโภคทรัพย์ แคล้วคลาด คุ้มภัย มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรให้ ปราศจากความเจ็บไข้,ความเจ็บป่วย และ ภยันตรายทั้งปวง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง เมตตามหานิยมอีกด้วย >> ** พระดีพิธีใหญ่ เกจิปลุกเสก อาทิ หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว พ่อท่านทอง วัดสำเภาเชย พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ ร่วมปลุกเสก ** ประวัติในเมืองไทยได้มีการบันทึกไว้เกี่ยวกับการบูชาและไหว้พระหมอมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 หรือก่อนหน้านั้นนานมาแล้ว และที่เรารู้จักกันดีคือศาลเจ้แม่ลิ้มกอเหนี่ยว จ.ปัตตานี ที่ประดิษฐานองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว และองค์พระหมอ (พระเซ๋าซูกง) และยังมีอีกหลสยที่ที่คนไทยเชื้อสายจีนนับถือและให้การเคารพท่านมาก ทั้งที่ พังงา กระบี่ สตูล ยะลา ปัตตานี ตรัง ภูเก็ต...ฯลฯ >> * พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 398 Views 0 Reviews
  • เบรกรถทัวร์ 2 ชั้น ห้ามใช้ 7 เส้นทางลาดชัน

    ในวันที่ 1 มิ.ย. กรมการขนส่งทางบกออกมาตรการห้ามรถบัส 2 ชั้นที่เป็นรถประจำทาง เดินรถบนเส้นทางที่มีความลาดชัน 7 เส้นทางทั่วประเทศ ทำให้เริ่มมีผู้ประกอบการรถทัวร์บางรายประกาศเปลี่ยนเส้นทางชั่วคราว ส่งผลทำให้ผู้โดยสารใช้เวลาในการเดินทางมากขึ้นกว่าเดิม

    บริษัท เพชรประเสริฐ จำกัด เปลี่ยนเส้นทางเดินรถ สาย 876 เชียงใหม่-นครพนม และ เชียงใหม่-บึงกาฬ จากจังหวัดพิษณุโลก เดิมเลี้ยวซ้ายที่แยกบ้านแยง อ.นครไทย แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 2013 ไปออก อ.ด่านซ้าย จ.เลย เปลี่ยนเป็นตรงไปตามถนนพิษณุโลก-หล่มสัก จอดรับผู้โดยสารที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 21 และ 2014 ไป อ.ด่านซ้าย จ.เลย ทำให้ใช้ระยะทางเพิ่มจากเดิมประมาณ 50 กิโลเมตร

    บริษัท นครชัยขนส่ง จำกัด เปลี่ยนเส้นทางเดินรถสาย 824 เลย-พัทยา-ระยอง จากจังหวัดฉะเชิงเทรา เดิมใช้ถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี-ปักธงชัย-นครราชสีมา เปลี่ยนเป็นใช้ทางหลวงหมายเลข 3200 (ฉะเชิงเทรา-บางน้ำเปรี้ยว) ต่อด้วยถนนสายบางน้ำเปรี้ยว-องครักษ์ ถึง อ.องครักษ์ จ.นครนายก เลี้ยวขวาไปตามถนนรังสิต-นครนายก เลี้ยวเข้า อ.บ้านนา แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 3222 (บ้านนา-องครักษ์) ไปออก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ก่อนใช้ถนนมิตรภาพไป จ.นครราชสีมา

    แต่เส้นทางที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ช่วงเขาพับผ้า ตรัง-พัทลุง ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัดฝั่งอันดามัน เช่น ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง ไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่จะเป็นรถทัวร์ รถเช่าเหมา ที่มีมาตรการออกมาเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ห้องพัก ต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และเตรียมนัดชุมนุมใหญ่บนเส้นทางเขาพับผ้าในวันที่ 4 มิ.ย.นี้

    สำหรับ 7 เส้นทางที่กรมการขนส่งทางบก ห้ามรถบัส 2 ชั้นเดินรถขนส่งผู้โดยสาร ได้แก่

    1. ทางหลวงหมายเลข 118 (ถนนเชียงใหม่-เชียงราย) ช่วงเชียงใหม่-ดอยนางแก้ว จ.เชียงใหม่
    2. ทางหลวงหมายเลข 103 (ถนนแพร่–ลำปาง สายเก่า) ช่วงแม่ยางฮ่อ-แม่ตีบ จ.แพร่
    3. ทางหลวงหมายเลข 1256 (ถนนลอยฟ้า) ช่วงป้ว-อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน
    4. ทางหลวงหมายเลข 2013 ช่วงบ่อโพธิ์-โคกงาม จ.เลย
    5. ทางหลวงหมายเลข 2331 (ถนนภูทับเบิก-ภูหินร่องกล้า) ช่วงโจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.เพชรบูรณ์
    6. ทางหลวงหมายเลข 304 (ถนนกบินทร์บุรี-ปักธงชัย) ช่วงสี่แยกกบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว จ.ปราจีนบุรี
    7. ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ช่วงเขาพับผ้า ตรัง–พัทลุง จ.พัทลุง

    #Newskit
    เบรกรถทัวร์ 2 ชั้น ห้ามใช้ 7 เส้นทางลาดชัน ในวันที่ 1 มิ.ย. กรมการขนส่งทางบกออกมาตรการห้ามรถบัส 2 ชั้นที่เป็นรถประจำทาง เดินรถบนเส้นทางที่มีความลาดชัน 7 เส้นทางทั่วประเทศ ทำให้เริ่มมีผู้ประกอบการรถทัวร์บางรายประกาศเปลี่ยนเส้นทางชั่วคราว ส่งผลทำให้ผู้โดยสารใช้เวลาในการเดินทางมากขึ้นกว่าเดิม บริษัท เพชรประเสริฐ จำกัด เปลี่ยนเส้นทางเดินรถ สาย 876 เชียงใหม่-นครพนม และ เชียงใหม่-บึงกาฬ จากจังหวัดพิษณุโลก เดิมเลี้ยวซ้ายที่แยกบ้านแยง อ.นครไทย แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 2013 ไปออก อ.ด่านซ้าย จ.เลย เปลี่ยนเป็นตรงไปตามถนนพิษณุโลก-หล่มสัก จอดรับผู้โดยสารที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 21 และ 2014 ไป อ.ด่านซ้าย จ.เลย ทำให้ใช้ระยะทางเพิ่มจากเดิมประมาณ 50 กิโลเมตร บริษัท นครชัยขนส่ง จำกัด เปลี่ยนเส้นทางเดินรถสาย 824 เลย-พัทยา-ระยอง จากจังหวัดฉะเชิงเทรา เดิมใช้ถนนสาย 304 ฉะเชิงเทรา-กบินทร์บุรี-ปักธงชัย-นครราชสีมา เปลี่ยนเป็นใช้ทางหลวงหมายเลข 3200 (ฉะเชิงเทรา-บางน้ำเปรี้ยว) ต่อด้วยถนนสายบางน้ำเปรี้ยว-องครักษ์ ถึง อ.องครักษ์ จ.นครนายก เลี้ยวขวาไปตามถนนรังสิต-นครนายก เลี้ยวเข้า อ.บ้านนา แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 3222 (บ้านนา-องครักษ์) ไปออก อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ก่อนใช้ถนนมิตรภาพไป จ.นครราชสีมา แต่เส้นทางที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ช่วงเขาพับผ้า ตรัง-พัทลุง ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมระหว่างจังหวัดฝั่งอันดามัน เช่น ระนอง ภูเก็ต พังงา กระบี่ ตรัง ไปยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่จะเป็นรถทัวร์ รถเช่าเหมา ที่มีมาตรการออกมาเมื่อวันที่ 11 เม.ย. ทำให้ผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ห้องพัก ต่างได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และเตรียมนัดชุมนุมใหญ่บนเส้นทางเขาพับผ้าในวันที่ 4 มิ.ย.นี้ สำหรับ 7 เส้นทางที่กรมการขนส่งทางบก ห้ามรถบัส 2 ชั้นเดินรถขนส่งผู้โดยสาร ได้แก่ 1. ทางหลวงหมายเลข 118 (ถนนเชียงใหม่-เชียงราย) ช่วงเชียงใหม่-ดอยนางแก้ว จ.เชียงใหม่ 2. ทางหลวงหมายเลข 103 (ถนนแพร่–ลำปาง สายเก่า) ช่วงแม่ยางฮ่อ-แม่ตีบ จ.แพร่ 3. ทางหลวงหมายเลข 1256 (ถนนลอยฟ้า) ช่วงป้ว-อุทยานแห่งชาติดอยภูคา จ.น่าน 4. ทางหลวงหมายเลข 2013 ช่วงบ่อโพธิ์-โคกงาม จ.เลย 5. ทางหลวงหมายเลข 2331 (ถนนภูทับเบิก-ภูหินร่องกล้า) ช่วงโจ๊ะโหวะ-อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จ.เพชรบูรณ์ 6. ทางหลวงหมายเลข 304 (ถนนกบินทร์บุรี-ปักธงชัย) ช่วงสี่แยกกบินทร์บุรี-วังน้ำเขียว จ.ปราจีนบุรี 7. ทางหลวงหมายเลข 4 (ถนนเพชรเกษม) ช่วงเขาพับผ้า ตรัง–พัทลุง จ.พัทลุง #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 920 Views 0 Reviews
  • CERN ทดสอบการขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นครั้งแรก

    นักวิจัยจาก CERN (European Organization for Nuclear Research) ได้ทำการทดลอง ขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยใช้ อุปกรณ์กักเก็บพิเศษที่ไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาปฏิสสารนอกห้องทดลอง

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการทดลองขนส่งปฏิสสาร
    ปฏิสสารเป็นอนุภาคที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกับสสารปกติ
    - พบได้จาก การชนกันของรังสีคอสมิกหรือการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี

    CERN เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งบนโลกที่สามารถผลิตปฏิสสารได้เป็นประจำ
    - ใช้ เครื่องเร่งอนุภาคพลังงานสูงเพื่อสร้างปฏิสสารจากการชนกันของอนุภาค

    นักวิจัยพัฒนาอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารขนาด 2 เมตร
    - สามารถ กักเก็บอนุภาคปฏิสสารได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก

    ทดลองขนส่งอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร
    - หลังจากเดินทาง นักวิจัยยืนยันว่าอนุภาคปฏิสสารยังคงอยู่ในอุปกรณ์

    การทดลองนี้พิสูจน์ว่าปฏิสสารสามารถขนส่งไปยังห้องทดลองภายนอกได้
    - อาจช่วยให้ สามารถศึกษาปฏิสสารได้แม่นยำขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีการรบกวนน้อยกว่า

    CERN เตรียมส่งปฏิสสารไปยังมหาวิทยาลัย Heinrich Heine ในเยอรมนี
    - อนุภาคจะเดินทาง เป็นระยะทาง 800 กิโลเมตรเพื่อการทดลองเพิ่มเติม

    https://www.techspot.com/news/108031-cern-researchers-took-few-antimatter-particles-walk-unprecedented.html
    CERN ทดสอบการขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นครั้งแรก นักวิจัยจาก CERN (European Organization for Nuclear Research) ได้ทำการทดลอง ขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยใช้ อุปกรณ์กักเก็บพิเศษที่ไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาปฏิสสารนอกห้องทดลอง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการทดลองขนส่งปฏิสสาร ✅ ปฏิสสารเป็นอนุภาคที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกับสสารปกติ - พบได้จาก การชนกันของรังสีคอสมิกหรือการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี ✅ CERN เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งบนโลกที่สามารถผลิตปฏิสสารได้เป็นประจำ - ใช้ เครื่องเร่งอนุภาคพลังงานสูงเพื่อสร้างปฏิสสารจากการชนกันของอนุภาค ✅ นักวิจัยพัฒนาอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารขนาด 2 เมตร - สามารถ กักเก็บอนุภาคปฏิสสารได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก ✅ ทดลองขนส่งอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร - หลังจากเดินทาง นักวิจัยยืนยันว่าอนุภาคปฏิสสารยังคงอยู่ในอุปกรณ์ ✅ การทดลองนี้พิสูจน์ว่าปฏิสสารสามารถขนส่งไปยังห้องทดลองภายนอกได้ - อาจช่วยให้ สามารถศึกษาปฏิสสารได้แม่นยำขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีการรบกวนน้อยกว่า ✅ CERN เตรียมส่งปฏิสสารไปยังมหาวิทยาลัย Heinrich Heine ในเยอรมนี - อนุภาคจะเดินทาง เป็นระยะทาง 800 กิโลเมตรเพื่อการทดลองเพิ่มเติม https://www.techspot.com/news/108031-cern-researchers-took-few-antimatter-particles-walk-unprecedented.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    CERN researchers took a few antimatter particles for a walk in an unprecedented transportation test
    The European Organization for Nuclear Research, better known as CERN, is one of the few places on Earth capable of routinely producing antimatter from high-energy collisions with...
    0 Comments 0 Shares 265 Views 0 Reviews
  • #งานผ้าใบ #ตรัง #โรงไม้ #บจก.เอเซียแปซิฟิคพาราวู้ด
    #งานผ้าใบ #อยุทยา #ร้านบ้านพ่อ #บ้านพ่อ
    #งานผ้าใบ #ท้ายเหมือง #พังงา
    ขายผ้าใบและอะไหล่ พร้อมบริการให้คำปรึกษาฟรี!
    หากคุณมีช่างเหล็กอยู่แล้ว บอกเลยว่าคุ้มมาก!
    โทร: 062-2437689 (คุณสมชาย เปี่ยมชล)
    Line ID: rotozon
    คุณสามารถมี หลังคาผ้าใบสวย ๆ กันแดดกันฝน ได้ในราคาประหยัด
    เหมาะสำหรับ
    ต่อเติมหน้าร้าน / หลังบ้าน
    กันแดด กันฝน
    คลุมสระน้ำ
    ร้านอาหาร คาเฟ่
    โกดัง โรงไม้
    ถ้ามีช่างเหล็กยิ่งประหยัด ซึ่งลูกค้าสามารถขึ้นโครงเองได้ เรายินดีให้คำปรึกษาเพียงสั่งตัดผ้าและซื้ออะไรจากทางเรา
    062437689 คุณสมชาย เปี่ยมชล
    If you have an Iron man, it's even more cost-effective, as customers can build the frame themselves. We are happy to provide consultation; you just need to order the fabric and purchase materials from us.
    Contact: 0622437689, Mr. Somchai Piomchon."
    #ผ้าใบโครงหลังคาเลื่อนแบบมือหมุน #ผ้าใบกันแดด #ผ้าใบกันฝน
    #ผ้าใบชักรอก #ผ้าใบแบบใส #ผ้าใบค้ำยัน #โครงกันสาด #pabaithai
    #ผ้าใบก้ามปูแบบมือหมุน #ผ้าใบก้ามปูแบบมอเตอร์รีโมท #Parachute tent
    #ผ้าใบโครงหลังคาเลื่อนระบบมอเตอร์รีโมท #ผ้าใบไทย #โรโตซอน #rotozon
    #งานผ้าใบ #ตรัง #โรงไม้ #บจก.เอเซียแปซิฟิคพาราวู้ด #งานผ้าใบ #อยุทยา #ร้านบ้านพ่อ #บ้านพ่อ #งานผ้าใบ #ท้ายเหมือง #พังงา ขายผ้าใบและอะไหล่ พร้อมบริการให้คำปรึกษาฟรี! หากคุณมีช่างเหล็กอยู่แล้ว บอกเลยว่าคุ้มมาก! โทร: 062-2437689 (คุณสมชาย เปี่ยมชล) Line ID: rotozon คุณสามารถมี หลังคาผ้าใบสวย ๆ กันแดดกันฝน ได้ในราคาประหยัด เหมาะสำหรับ ต่อเติมหน้าร้าน / หลังบ้าน กันแดด กันฝน คลุมสระน้ำ ร้านอาหาร คาเฟ่ โกดัง โรงไม้ ถ้ามีช่างเหล็กยิ่งประหยัด ซึ่งลูกค้าสามารถขึ้นโครงเองได้ เรายินดีให้คำปรึกษาเพียงสั่งตัดผ้าและซื้ออะไรจากทางเรา 062437689 คุณสมชาย เปี่ยมชล If you have an Iron man, it's even more cost-effective, as customers can build the frame themselves. We are happy to provide consultation; you just need to order the fabric and purchase materials from us. Contact: 0622437689, Mr. Somchai Piomchon." #ผ้าใบโครงหลังคาเลื่อนแบบมือหมุน #ผ้าใบกันแดด #ผ้าใบกันฝน #ผ้าใบชักรอก #ผ้าใบแบบใส #ผ้าใบค้ำยัน #โครงกันสาด #pabaithai #ผ้าใบก้ามปูแบบมือหมุน #ผ้าใบก้ามปูแบบมอเตอร์รีโมท #Parachute tent #ผ้าใบโครงหลังคาเลื่อนระบบมอเตอร์รีโมท #ผ้าใบไทย #โรโตซอน #rotozon
    0 Comments 0 Shares 953 Views 0 0 Reviews
  • ..deep stateโลก มันมีมุกมากมายจริงๆเพื่อหาทางลดประชากรโลกเนาะ,ญี่ปุ่นยังพอเชื่อถือด้านความปลอดภัยจริงๆจังๆได้,ขนาดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นแท้ๆญี่ปุ่นยังเอาใจใส่ทุกๆมิติต่อประชาชนเขาและพื้นที่บริเวณโดยรอบ,
    ..ด้วยศักยภาพประเทศพม่าในเวลานี้ ไม่พร้อมอะไรเลยในหลายๆด้าน ผีบ้ารัสเชียก็หมายยึดครองพม่าจริงๆมามุกเข้ายึดครองพื้นที่จนได้, แผ่นดินไหวมาอีก,อาจดับอนาถทั้งอาเชียนแน่,สารพิษลงทะเลมาถึงไทยถึงมาเลย์สิงคโปร์อินโดฯแน่นอน รวมถึงทะเลอินเดียทั้งหมดล่ะ,นึกเล่นๆนิวเคลียร์ระเบิดที่พม่า ซวยที่ไทยแน่นอน รัศมีการระเบิดบวกกัมมันตรังสีอีกตรึมพัดมาตามลมตามอากาศ,ทำลายแหล่งอาหารคนอาเชียนแบบไทยคือหัวใจหลักของโลกอีก,บ้าบอจริงๆนะ ลาว เวียดนาม เขมรสร้างด้วย แค่ปัจจุบันควันโรงงานปกติๆทั่วรอบข้างเราปล่อยควันพิษตรึมที่ดูผ่านดาวเทียมในสถานะพิษก็เหี้ยอยู่แล้ว ไม่รวมควันพิษจากจีนพัดมาถึงไทยอีกตรึม, ตัวเร่งในการระเบิดด้วยอาวุธนิวเคลียร์ประจำอาเชียนเราอย่างเป็นทางการมาแล้วหรือนี้.

    ..https://youtube.com/watch?v=WgaER5fdvKs&si=4p4qVxSiOHj2cdjN
    ..deep stateโลก มันมีมุกมากมายจริงๆเพื่อหาทางลดประชากรโลกเนาะ,ญี่ปุ่นยังพอเชื่อถือด้านความปลอดภัยจริงๆจังๆได้,ขนาดแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นแท้ๆญี่ปุ่นยังเอาใจใส่ทุกๆมิติต่อประชาชนเขาและพื้นที่บริเวณโดยรอบ, ..ด้วยศักยภาพประเทศพม่าในเวลานี้ ไม่พร้อมอะไรเลยในหลายๆด้าน ผีบ้ารัสเชียก็หมายยึดครองพม่าจริงๆมามุกเข้ายึดครองพื้นที่จนได้, แผ่นดินไหวมาอีก,อาจดับอนาถทั้งอาเชียนแน่,สารพิษลงทะเลมาถึงไทยถึงมาเลย์สิงคโปร์อินโดฯแน่นอน รวมถึงทะเลอินเดียทั้งหมดล่ะ,นึกเล่นๆนิวเคลียร์ระเบิดที่พม่า ซวยที่ไทยแน่นอน รัศมีการระเบิดบวกกัมมันตรังสีอีกตรึมพัดมาตามลมตามอากาศ,ทำลายแหล่งอาหารคนอาเชียนแบบไทยคือหัวใจหลักของโลกอีก,บ้าบอจริงๆนะ ลาว เวียดนาม เขมรสร้างด้วย แค่ปัจจุบันควันโรงงานปกติๆทั่วรอบข้างเราปล่อยควันพิษตรึมที่ดูผ่านดาวเทียมในสถานะพิษก็เหี้ยอยู่แล้ว ไม่รวมควันพิษจากจีนพัดมาถึงไทยอีกตรึม, ตัวเร่งในการระเบิดด้วยอาวุธนิวเคลียร์ประจำอาเชียนเราอย่างเป็นทางการมาแล้วหรือนี้. ..https://youtube.com/watch?v=WgaER5fdvKs&si=4p4qVxSiOHj2cdjN
    0 Comments 0 Shares 401 Views 0 Reviews
  • รถบรรทุกหินพุ่งชน คร่า 9 ชีวิตตำรวจมาเลย์ฯ

    โศกนาฎกรรมบนท้องถนนที่คร่าชีวิตตำรวจมาเลเซียครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อรถบรรทุกของตำรวจ หน่วยกองกำลังสำรองแห่งสหพันธรัฐมาเลเซีย (The Federal Reserve Unit หรือ FRU) ประสบอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุกหินกรวด เหตุเกิดเมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 13 พ.ค. บนถนนสายชิคุส-สุไหงลำปำ เมืองเตลุก อินตาน รัฐเปรัก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรมาเลเซีย เป็นเหตุให้ตำรวจหน่วย FRU เสียชีวิต 9 นาย บาดเจ็บอีก 9 นาย รักษาตัวที่โรงพยาบาลเตลุก อินตาน รัฐเปรัก

    ก่อนเกิดเหตุตำรวจหน่วย FRU เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจดูแลความเรียบร้อยในพิธีชิตรา ปูร์นามิ ในเมืองเตลุก อินตาน กำลังจะเดินทางกลับที่ตั้งในเมืองอิโปห์ โดยมีรถบรรทุก 7 คันเป็นยานพาหนะ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถบรรทุกหินกรวดที่ระบบบังคับเลี้ยวขัดข้อง พุ่งชนรถบรรทุกคันที่ 5 ซึ่งมีตำรวจทั้งหมด 18 นาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว โดยพบว่ารถบรรทุกหินคันดังกล่าวไม่ได้บำรุงรักษารถ และจากการสืบสวนของตำรวจรัฐเปรัก พบว่าคนขับรถบรรทุกหินกรวดวัย 45 ปี มีประวัติอาชญากรรม 6 ครั้ง รวมทั้งความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และมีหมายคดีจราจรค้างอยู่หลายฉบับ

    สำหรับตำรวจที่เสียชีวิตจะได้รับค่าชดเชยเยียวยาตั้งแต่ 58,000 ถึง 269,700 ริงกิต (ประมาณ 449,000 ถึง 2,000,000 บาท) ผ่านกองทุนสวัสดิการต่างๆ ซึ่งศพของตำรวจทั้ง 9 นาย หลังชันสูตรแล้วจะประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม โดยจะมีพิธีฝังศพที่หน่วยบัญชาการตำรวจกำลังสำรองแห่งสหพันธรัฐที่ 5 (FRU No.5) สุไหงเซนัม เมืองอิโปห์

    ตำรวจหน่วยกองกำลังสำรองของมาเลเซีย (FRU) เป็นหน่วยตำรวจที่ทำหน้าที่ควบคุมฝูงชนและตอบสนองเหตุฉุกเฉินพิเศษ ขึ้นตรงสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย และกระทรวงมหาดไทย มีลักษณะกึ่งทหาร สามารถส่งกำลังไปได้ทุกแห่งเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินหรือความไม่สงบในประเทศ มีบทบาทหลักได้แก่ สลายการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ปราบปรามจลาจล และปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ เช่น อุทกภัย เพลิงไหม้ ดินถล่ม เครื่องบินตก เป็นต้น

    ตำรวจหน่วยดังกล่าวมีหมวกเบเร่ต์สีแดงเป็นสัญลักษณ์ ปัจจุบันมีหน่วยบัญชาการของตำรวจ FRU จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ 2 แห่ง (No.1 และ No.4) ยะโฮร์บาห์รู (No.2) ปีนัง (No.3) เมืองอิโปห์ รัฐเปรัก (No.5) กัวลาตรังกานู (No.6) เมืองเซเรมบัน รัฐเนกรีเซมบีลัน (No.7) และยังมีหน่วยเฉพาะได้แก่ กองกำลังสตรี หน่วยตำรวจม้า (Mounted Unit) และศูนย์ฝึกอบรม FRU ในเมืองอิโปห์ รัฐเปรัก โดยมีกำลังพลรวมกันประมาณ 2,400 นาย

    #Newskit
    รถบรรทุกหินพุ่งชน คร่า 9 ชีวิตตำรวจมาเลย์ฯ โศกนาฎกรรมบนท้องถนนที่คร่าชีวิตตำรวจมาเลเซียครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อรถบรรทุกของตำรวจ หน่วยกองกำลังสำรองแห่งสหพันธรัฐมาเลเซีย (The Federal Reserve Unit หรือ FRU) ประสบอุบัติเหตุชนกับรถบรรทุกหินกรวด เหตุเกิดเมื่อเวลา 08.50 น. วันที่ 13 พ.ค. บนถนนสายชิคุส-สุไหงลำปำ เมืองเตลุก อินตาน รัฐเปรัก ทางตะวันตกเฉียงเหนือของคาบสมุทรมาเลเซีย เป็นเหตุให้ตำรวจหน่วย FRU เสียชีวิต 9 นาย บาดเจ็บอีก 9 นาย รักษาตัวที่โรงพยาบาลเตลุก อินตาน รัฐเปรัก ก่อนเกิดเหตุตำรวจหน่วย FRU เพิ่งเสร็จสิ้นภารกิจดูแลความเรียบร้อยในพิธีชิตรา ปูร์นามิ ในเมืองเตลุก อินตาน กำลังจะเดินทางกลับที่ตั้งในเมืองอิโปห์ โดยมีรถบรรทุก 7 คันเป็นยานพาหนะ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถบรรทุกหินกรวดที่ระบบบังคับเลี้ยวขัดข้อง พุ่งชนรถบรรทุกคันที่ 5 ซึ่งมีตำรวจทั้งหมด 18 นาย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว โดยพบว่ารถบรรทุกหินคันดังกล่าวไม่ได้บำรุงรักษารถ และจากการสืบสวนของตำรวจรัฐเปรัก พบว่าคนขับรถบรรทุกหินกรวดวัย 45 ปี มีประวัติอาชญากรรม 6 ครั้ง รวมทั้งความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และมีหมายคดีจราจรค้างอยู่หลายฉบับ สำหรับตำรวจที่เสียชีวิตจะได้รับค่าชดเชยเยียวยาตั้งแต่ 58,000 ถึง 269,700 ริงกิต (ประมาณ 449,000 ถึง 2,000,000 บาท) ผ่านกองทุนสวัสดิการต่างๆ ซึ่งศพของตำรวจทั้ง 9 นาย หลังชันสูตรแล้วจะประกอบพิธีทางศาสนาอิสลาม โดยจะมีพิธีฝังศพที่หน่วยบัญชาการตำรวจกำลังสำรองแห่งสหพันธรัฐที่ 5 (FRU No.5) สุไหงเซนัม เมืองอิโปห์ ตำรวจหน่วยกองกำลังสำรองของมาเลเซีย (FRU) เป็นหน่วยตำรวจที่ทำหน้าที่ควบคุมฝูงชนและตอบสนองเหตุฉุกเฉินพิเศษ ขึ้นตรงสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาเลเซีย และกระทรวงมหาดไทย มีลักษณะกึ่งทหาร สามารถส่งกำลังไปได้ทุกแห่งเพื่อรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินหรือความไม่สงบในประเทศ มีบทบาทหลักได้แก่ สลายการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ปราบปรามจลาจล และปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับความสงบเรียบร้อยของสาธารณะ เช่น อุทกภัย เพลิงไหม้ ดินถล่ม เครื่องบินตก เป็นต้น ตำรวจหน่วยดังกล่าวมีหมวกเบเร่ต์สีแดงเป็นสัญลักษณ์ ปัจจุบันมีหน่วยบัญชาการของตำรวจ FRU จำนวน 10 แห่ง ได้แก่ ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ 2 แห่ง (No.1 และ No.4) ยะโฮร์บาห์รู (No.2) ปีนัง (No.3) เมืองอิโปห์ รัฐเปรัก (No.5) กัวลาตรังกานู (No.6) เมืองเซเรมบัน รัฐเนกรีเซมบีลัน (No.7) และยังมีหน่วยเฉพาะได้แก่ กองกำลังสตรี หน่วยตำรวจม้า (Mounted Unit) และศูนย์ฝึกอบรม FRU ในเมืองอิโปห์ รัฐเปรัก โดยมีกำลังพลรวมกันประมาณ 2,400 นาย #Newskit
    0 Comments 0 Shares 602 Views 0 Reviews
  • ตะกรุดเมตตา พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี
    ตะกรุดเมตตา พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี //ขนาดความยาว 2.5 นิ้ว // พระดีพิธีใหญ่ จัดสร้างจำนวนน้อยมากครับ ของขลังที่ใช้เสริมเสน่ห์ เมตตาค้าขาย โชคลาภ // สถาพสวยมาก สถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอ จะเด่นด้านเมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ ใครบูชา นะจังงัง หลงไหล ประสบตวามสำเร็จ เสน่ห์เมตตามหานิยม เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก >>

    ** พ่อแก่เจ้าแสง วัดประเวศน์ภูผา (บ้านตรัง) พระบริสุทธิ์สงฆ์ผู้อาวุโสที่สุดแห่งสามจังหวัดชายแดนใต้ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ท่านแสงท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของพ่อท่านหวาน วัดลานควา ตลอดถึงท่านเป็นพระสหายกับพ่อท่านแดง วัดบูรพาราม ยอดพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณอีกรูปหนึ่งของเมืองปัตตานี พ่อแก่เจ้าแสง ท่านยังสืบทอดสายวิชา อาคมขลังมาจากครูบาอาจารย์ต่างๆมากมายหลายองค์ท่านสืบทอดวิชา”นะปถมัง”และ”นะปัดตลอด”มาจากสุดยอดพระเถราจารย์แห่งเมืองปัตตานีนามพ่อท่านจันทร์ทอง วัดตะเคียนทอง เทพเจ้าแห่งยะหริ่ง ท่านศึกษาเล่าเรียนวิชามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง องค์อุปัชฌาย์ ของท่านมาอย่างเจนจบครบถ้วน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    ตะกรุดเมตตา พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี ตะกรุดเมตตา พ่อแก่เจ้าแสง วัดบ้านตรัง จ.ปัตตานี //ขนาดความยาว 2.5 นิ้ว // พระดีพิธีใหญ่ จัดสร้างจำนวนน้อยมากครับ ของขลังที่ใช้เสริมเสน่ห์ เมตตาค้าขาย โชคลาภ // สถาพสวยมาก สถาพสมบูรณ์ หายากก จัดสร้างน้อยครับ พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอ จะเด่นด้านเมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ ใครบูชา นะจังงัง หลงไหล ประสบตวามสำเร็จ เสน่ห์เมตตามหานิยม เมตตาค้าขายดี เจรจาค้าขายดี ทำการสิ่งใดย่อมมีกำไร มีผลงอกเงยเสมอนัก >> ** พ่อแก่เจ้าแสง วัดประเวศน์ภูผา (บ้านตรัง) พระบริสุทธิ์สงฆ์ผู้อาวุโสที่สุดแห่งสามจังหวัดชายแดนใต้ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส ท่านแสงท่านเป็นศิษย์ผู้พี่ของพ่อท่านหวาน วัดลานควา ตลอดถึงท่านเป็นพระสหายกับพ่อท่านแดง วัดบูรพาราม ยอดพระเถราจารย์ผู้ทรงคุณอีกรูปหนึ่งของเมืองปัตตานี พ่อแก่เจ้าแสง ท่านยังสืบทอดสายวิชา อาคมขลังมาจากครูบาอาจารย์ต่างๆมากมายหลายองค์ท่านสืบทอดวิชา”นะปถมัง”และ”นะปัดตลอด”มาจากสุดยอดพระเถราจารย์แห่งเมืองปัตตานีนามพ่อท่านจันทร์ทอง วัดตะเคียนทอง เทพเจ้าแห่งยะหริ่ง ท่านศึกษาเล่าเรียนวิชามาจากพ่อท่านจันทร์ทอง องค์อุปัชฌาย์ ของท่านมาอย่างเจนจบครบถ้วน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 470 Views 0 Reviews
  • “ปัตตานีไม่ใช่ดินแดนที่ถูกยึด”
    เปิดหลักฐานสยามและอังกฤษที่ยืนยันอธิปไตยของไทย

    #อัษฎางค์ยมนาค

    การเมืองของประวัติศาสตร์ และมายาคติแห่งการ “สูญเสียดินแดน”

    เมื่อ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำผู้ทรงอิทธิพลของมาเลเซีย โพสต์ข้อความเรียกร้องความเห็นใจต่อ “การสูญเสียดินแดนของชาวมลายู” โดยมีนัยว่าพรมแดนปัจจุบันของมาเลเซียถูกจำกัด เพราะดินแดนบางส่วนตกเป็นของประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย วาทกรรมนี้จึงถูกปล่อยออกมาในลักษณะที่ปลุกอารมณ์ผู้คน และสร้างภาพลวงตาว่าชาวมลายูเคยถูก “ยึดครอง”

    แต่หากไม่ใช้ปัญญาแยกแยะระหว่างวาทกรรมกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ก็ย่อมตกเป็นเหยื่อของ “มายาคติแห่งการถูกกดขี่” ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับแนวคิดแบ่งแยกดินแดนที่ยังคุกรุ่น

    ประเทศไทยไม่เคย “ยึด” ดินแดนจากมาเลเซีย เพราะ “มาเลเซีย” ยังไม่ปรากฏในฐานะรัฐชาติในช่วงเวลานั้น ดินแดนที่เรียกว่า มลายา หรือ คาบสมุทรมลายู ในอดีต ประกอบด้วยรัฐสุลต่านอิสระหลายแห่ง รวมถึง ปัตตานี ซึ่งยอมรับอธิปไตยของสยามในฐานะ “รัฐบรรณาการ” มาตั้งแต่สมัยอยุธยา

    ในบรรดาหัวเมืองมลายูที่เคยขึ้นกับไทย ได้แก่ ไทรบุรี กะลันตัน ตรังกานู และปัตตานี ซึ่งอังกฤษเองก็รับรองอย่างเป็นทางการใน “สัญญาเบอร์นี” (พ.ศ. 2369) ว่าเมืองเหล่านี้เป็นดินแดนภายใต้อำนาจของกรุงเทพฯ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อจักรวรรดิอังกฤษขยายอิทธิพลในภูมิภาค หลังชัยชนะเหนือจีนและพม่า ไทยซึ่งเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่ตกเป็นอาณานิคม จึงต้องยอมแลกดินแดนบางส่วนเพื่อรักษาเอกราชโดยรวม

    ผลก็คือ ไทยต้องเสีย ไทรบุรี กะลันตัน และตรังกานู ไปให้อังกฤษ ซึ่งต่อมาถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย แต่ ปัตตานี ยังคงอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทยจนถึงปัจจุบัน

    เพื่อคลี่คลายความเข้าใจผิด และตั้งหลักให้กับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ บทความนี้จึงขอนำเสนอหลักฐานจาก พระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 5 พระนิพนธ์โดย สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พร้อมอ้างอิงเอกสารของอังกฤษ เพื่อให้ข้อเท็จจริงได้ยืนเคียงข้างวาทกรรมร่วมสมัยอย่างมีศักดิ์ศรี

    อ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่
    www.atsadang.com/?p=5503
    #อัษฎางค์ดอทคอม
    “ปัตตานีไม่ใช่ดินแดนที่ถูกยึด” เปิดหลักฐานสยามและอังกฤษที่ยืนยันอธิปไตยของไทย #อัษฎางค์ยมนาค การเมืองของประวัติศาสตร์ และมายาคติแห่งการ “สูญเสียดินแดน” เมื่อ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำผู้ทรงอิทธิพลของมาเลเซีย โพสต์ข้อความเรียกร้องความเห็นใจต่อ “การสูญเสียดินแดนของชาวมลายู” โดยมีนัยว่าพรมแดนปัจจุบันของมาเลเซียถูกจำกัด เพราะดินแดนบางส่วนตกเป็นของประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย วาทกรรมนี้จึงถูกปล่อยออกมาในลักษณะที่ปลุกอารมณ์ผู้คน และสร้างภาพลวงตาว่าชาวมลายูเคยถูก “ยึดครอง” แต่หากไม่ใช้ปัญญาแยกแยะระหว่างวาทกรรมกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ก็ย่อมตกเป็นเหยื่อของ “มายาคติแห่งการถูกกดขี่” ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับแนวคิดแบ่งแยกดินแดนที่ยังคุกรุ่น ประเทศไทยไม่เคย “ยึด” ดินแดนจากมาเลเซีย เพราะ “มาเลเซีย” ยังไม่ปรากฏในฐานะรัฐชาติในช่วงเวลานั้น ดินแดนที่เรียกว่า มลายา หรือ คาบสมุทรมลายู ในอดีต ประกอบด้วยรัฐสุลต่านอิสระหลายแห่ง รวมถึง ปัตตานี ซึ่งยอมรับอธิปไตยของสยามในฐานะ “รัฐบรรณาการ” มาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในบรรดาหัวเมืองมลายูที่เคยขึ้นกับไทย ได้แก่ ไทรบุรี กะลันตัน ตรังกานู และปัตตานี ซึ่งอังกฤษเองก็รับรองอย่างเป็นทางการใน “สัญญาเบอร์นี” (พ.ศ. 2369) ว่าเมืองเหล่านี้เป็นดินแดนภายใต้อำนาจของกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม เมื่อจักรวรรดิอังกฤษขยายอิทธิพลในภูมิภาค หลังชัยชนะเหนือจีนและพม่า ไทยซึ่งเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่ตกเป็นอาณานิคม จึงต้องยอมแลกดินแดนบางส่วนเพื่อรักษาเอกราชโดยรวม ผลก็คือ ไทยต้องเสีย ไทรบุรี กะลันตัน และตรังกานู ไปให้อังกฤษ ซึ่งต่อมาถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย แต่ ปัตตานี ยังคงอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทยจนถึงปัจจุบัน เพื่อคลี่คลายความเข้าใจผิด และตั้งหลักให้กับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ บทความนี้จึงขอนำเสนอหลักฐานจาก พระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 5 พระนิพนธ์โดย สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พร้อมอ้างอิงเอกสารของอังกฤษ เพื่อให้ข้อเท็จจริงได้ยืนเคียงข้างวาทกรรมร่วมสมัยอย่างมีศักดิ์ศรี อ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่ www.atsadang.com/?p=5503 #อัษฎางค์ดอทคอม
    0 Comments 0 Shares 580 Views 0 Reviews
  • พระชัยวัฒน์ 4 มุมเมือง พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา
    พระชัยวัฒน์ 4 มุมเมือง (พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ) ใต้ฐานตอก1โค๊ต หน้าใหญ่ นิยม พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ปี2511 // พระดีพิธีใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อองค์พระพุทธรูป และพระชัยวัฒน์ พระมีประสบการณ์มาก // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาด กันตัว กันสรรพอันตราย มีโชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>

    พิธีพุทธาภิเษก โดยมีพระเกจิอาจารย์ 9 รูป ที่นั่งปรกปลุกเสกคือ 1.พระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา พัทลุง 2.หลวงพ่อหมุน ยสโร วัดเขาแดงตะวันออก พัทลุง 3.หลวงพ่อเล็ก วัดประดู่เรียง พัทลุง 4.หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ พัทลุง 5.หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก พัทุลุง 6.พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช 7.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช 8.หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน นครศรีธรรมราช 9.หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ นครศรีธรรมราช ส่วนพระเกจิอีก 9 รูป ที่สวดเจริญพุทธมนต์ คือ 1.พระครูพิพัฒน์สิริธรคง วัดบ้านสวน พัทลุง 2.หลวงพ่อแก้ว วัดโคกโดน พัทลุง 3.พระราชโสภณ ช้วน วัดตันตยาภิรม ตรัง 4.พระครูศรัทธานุรักษ์ วัน วัดปากพยูน พัทลุง 5.พระครูโอภาสวุฒิคุณ แสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง 6.หลวงพ่อแก่น วัดทุ่งหล่อ นครศรีธรรมราช 7.หลวงพ่อพุ่ม วัดน้ำผุดใต้ ตรัง8.หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ้งเฟื้อ นครศรีธรรมราช 9.พระครูการาม พลับ วัดชายคลอง พัทลุง .. >>


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระชัยวัฒน์ 4 มุมเมือง พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา พระชัยวัฒน์ 4 มุมเมือง (พระพุทธนิรโรคันตรายชัยวัฒน์จตุรทิศ) ใต้ฐานตอก1โค๊ต หน้าใหญ่ นิยม พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา ปี2511 // พระดีพิธีใหญ่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทรงเททองหล่อองค์พระพุทธรูป และพระชัยวัฒน์ พระมีประสบการณ์มาก // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // ** พุทธคุณ แคล้วคลาด กันตัว กันสรรพอันตราย มีโชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >> พิธีพุทธาภิเษก โดยมีพระเกจิอาจารย์ 9 รูป ที่นั่งปรกปลุกเสกคือ 1.พระอาจารย์นำ ชินวโร วัดดอนศาลา พัทลุง 2.หลวงพ่อหมุน ยสโร วัดเขาแดงตะวันออก พัทลุง 3.หลวงพ่อเล็ก วัดประดู่เรียง พัทลุง 4.หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ พัทลุง 5.หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก พัทุลุง 6.พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช 7.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช 8.หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน นครศรีธรรมราช 9.หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำเหนือ นครศรีธรรมราช ส่วนพระเกจิอีก 9 รูป ที่สวดเจริญพุทธมนต์ คือ 1.พระครูพิพัฒน์สิริธรคง วัดบ้านสวน พัทลุง 2.หลวงพ่อแก้ว วัดโคกโดน พัทลุง 3.พระราชโสภณ ช้วน วัดตันตยาภิรม ตรัง 4.พระครูศรัทธานุรักษ์ วัน วัดปากพยูน พัทลุง 5.พระครูโอภาสวุฒิคุณ แสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง 6.หลวงพ่อแก่น วัดทุ่งหล่อ นครศรีธรรมราช 7.หลวงพ่อพุ่ม วัดน้ำผุดใต้ ตรัง8.หลวงพ่อจันทร์ วัดทุ้งเฟื้อ นครศรีธรรมราช 9.พระครูการาม พลับ วัดชายคลอง พัทลุง .. >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 440 Views 0 Reviews
More Results