• การจัดการทางการเงิน
    ตอนที่ 5.
    เปลี่ยนเป้าหมายให้ถึงเส้นชัยด้วย Smart Goal
    หลายคน… ไม่ใช่ไม่มีความฝัน แต่ปัญหาคือมีความฝันแต่ยังไปไม่ถึงฝันสักที ไม่ว่าจะฝันว่าอยากมีบ้านไม้ มีรถใหม่ เรียนต่อ ใช้เงินเยอะทั้งนั้นเลย เงินอาจไม่ได้สำคัญที่สุดในชีวิต แต่ทุกอย่างที่สำคัญในชีวิตล้วนใช้เงินทั้งนั้น ถ้าอยากทำฝันให้เป็นจริงต้องเปลี่ยนความฝันให้เป็นเป้าหมายก่อน หลายคนประเมินการตั้งเป้าหมายที่ต่ำมาก มีงานวิจัยเด็กที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายซึ่งแน่นอนทุกคนล้วนเก่งมากๆแต่ผลที่ออกมาน่าตกใจมากครับ
    .
    ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่า
    เด็กรุ่นแรก 80% ไม่เป้าหมาย กลุ่มที่ สอง 13% มีเป้าหมายแต่ไม่ได้เขียน กลุ่มสุดท้ายมีเพียง 3% ที่มีเป้าหมายอย่างชัดเจนและเขียนมันออกมา แล้วทีมวิจัยก็ติดตามเด็กกลุ่มนี้ไปอีกหลายปี และได้พบว่าในเด็กกลุ่มสุดท้ายที่มีเพียง 3 เปอร์เซ็นนั้นจะมีรายได้มากกว่าเด็ก สอง กลุ่มที่เหลืออีก 97% ร่วมกัน แถมมากกว่าถึง 10 เท่าตัวด้วย
    .
    การไม่มีเป้าหมายเหมือนการยิงธนูโดยไม่มีเป้า เป้าหมายไม่ชัดเจนก็เหมือนการปาลูกดอกออกไปให้โดนผนังซึ่งมันกว้างเหลือเกิน แบบนี้คุณจะไปหาท่าไหน ท่าไหนก็ได้ปลาแบบไม่ตั้งใจก็ยังโดน แต่ถ้าเป้าหมายคือ Blue eyes กลางเป้าเลยนะคุณจะปาแบบไหน คุณจะตั้งใจมากเล็งแล้วเล็งอีกมีสมาธิและนิ่งมากๆ เห็นไหมว่าเป้าหมายสำคัญมากๆจงเขียนมันออกมา
    .
    มาดูกันต่อครับว่าแล้วเราต้องเขียนเป้าหมายอย่างไรจึงจะทำให้มันกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ การเขียนเป้าหมายให้ได้ผลจะต้องเป็นแบบเป้าหมายที่เรียกว่า Smart Goal ซึ่งประกอบด้วย 5 สิ่งดังนี้
    S = Specific หรือการเจาะจง ยกตัวอย่างเช่น อยากรวย อยากดูแลพ่อแม่อย่างดี เป็นเป้าหมายที่ไม่ชัดเจนเลยเท่าไหร่คือรวย ให้พ่อแม่เดือนละเท่าไหร่จึงจะถือว่าดูแลอย่างดี ต้องตั้งเป้าหมายว่ามี Passive Income เดือนละ 300,000 บาทตอนอายุ 50 ให้เงินพ่อแม่เดือนละ 50,000 บาทภายในปี xxx นี่คือตัวอย่างของเป้าหมายที่ชัดเจน
    .
    อยากมีความรู้การเงินเพิ่ม แบบนี้ไม่ใช่เป้าหมายที่ดีเพราะไม่เจาะจง แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าฉันจะอ่านหนังสือการเงินเพิ่มเดือนละ หนึ่ง เล่ม เพื่อที่ 3 ารถมีรายได้ที่ดีเพิ่มขึ้น อย่างนี้เป็นเป้าหมายที่ดีเพราะเจาะจงและชัดเจน
    .
    ทำไมเป้าหมายที่เจาะจงจึงสำคัญ พอหากเป้าหมายไม่เจาะจงการกระทำก็จะไม่เจาะจงในทางกลับกัน ถ้าเป้าหมายของเราเจาะจงเราจะเจาะจงการกระทำตาม จึงทำให้ไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้
    .
    M = Measurable วัดผลได้
    ใช่ตัวอย่างเดิมเลยนะครับ ถ้าเราตั้งเป้าหมายที่ดีเราจะรู้เลยว่ารายได้ที่เราต้องการเพิ่มคือปีละ 500,000 บาท เราก็ 3 ารถวัดผลได้เลยว่าเราต้องทำเดือนละเท่าไหร่แล้วตอนนี้ได้เท่าไหร่แล้ว
    .
    เราต้องการอ่านหนังสือการเงินเพิ่มเดือนละ หนึ่ง เล่มดังนั้นต้องอ่านวันละกี่หน้าแล้วตอนนี้อ่านได้กี่หน้าแล้ว ตามที่วางแผนไว้หรือยัง ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วเท่ากับว่าควรอ่านจบไปครึ่งเล่ม แบบนี้คือวัดผลได้ ถ้าเราตั้งเป้าหมายที่วัดผลไม่ได้ไม่มีค่าเลยเพราะจะไม่ทราบความก้าวหน้าของเราเลย
    .
    A = Achievable หรือรู้ว่าต้องทำอย่างไร
    มีวิธีการลงมือทำอย่างชัดเจน มีวิธีการที่จะไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ ไม่ใช่จินตนาการไปว่าเดี๋ยวมันคงเกิดขึ้นสักวัน เช่น ตั้งเป้าหมายว่าฉันจะผอม แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะผอมได้อย่างไร อย่างนี้ไม่ใช่เป้าหมายที่ดี
    ตั้งเป้าหมายว่าจะอ่านหนังสือการเงินก่อนนอนวันละ 10 หน้า จะสร้างรายได้เพิ่มเดือนละ 5000 บาท จากการลงทุนในกองทุนรวมอย่างนี้เป็นต้น
    .
    R = Relevant หรือสอดคล้องกับเป้าหมายใหญ่
    เป้าหมายที่ดีต้องท้าทาย แต่ต้องเป็นไปได้ด้วยนะครับ ถ้าเราจะตั้งเป้าหมายว่าฉันจะอ่านหนังสือวันละเล่ม ทั้งๆที่ไม่เคยจับหนังสือมาเลยตั้งแต่เรียนจบ แบบนี้ก็คงจะเป็นไปได้ยากมันฝืนตัวเองจนเกินไป ถ้าวันนี้ได้รับเงินเดือนเดือนละ 20,000 บาทแล้วตั้งเป้าหมายว่าจะลงทุนเดือนละแสน แบบนี้คือมันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าจะลงทุนเดือนละ 2000 บาทแบบนี้เป็นเป้าหมายที่ดีเพราะเป็นไปได้
    .
    T = Time-bound หรือมีกรอบเวลาที่ชัดเจน
    ยกตัวอย่างว่าอย่าอ่านหนังสือ 10 เล่ม อย่างนี้ไม่รู้เลยว่าต้องครบเมื่อไหร่ แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าต้องอ่านหนังสือ 10 เล่มภายใน หนึ่ง ปีแบบนี้คือเป้าหมายที่ดีเพราะมีกรอบเวลาที่ชัดเจน
    ถ้าคุณบอกว่าอย่างมีพอร์ตร้อยลล้านแต่ไม่รู้เมื่อไหร่แบบนี้คือการตั้งเป้าหมายที่ไม่ดี แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าจะ DCA ทุกเดือน เดือนละ 7000 บาทได้รับผลตอบแทนปีละ 10% เป็นเวลา 10 ปีอย่างนี้เป็นต้นจึงเป็นเป้าหมายที่ดีมีกรอบเวลาชัดเจน ซึ่งมีผลต่อความสำเร็จมากๆเลยนะครับ
    .
    #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    การจัดการทางการเงิน ตอนที่ 5. เปลี่ยนเป้าหมายให้ถึงเส้นชัยด้วย Smart Goal หลายคน… ไม่ใช่ไม่มีความฝัน แต่ปัญหาคือมีความฝันแต่ยังไปไม่ถึงฝันสักที ไม่ว่าจะฝันว่าอยากมีบ้านไม้ มีรถใหม่ เรียนต่อ ใช้เงินเยอะทั้งนั้นเลย เงินอาจไม่ได้สำคัญที่สุดในชีวิต แต่ทุกอย่างที่สำคัญในชีวิตล้วนใช้เงินทั้งนั้น ถ้าอยากทำฝันให้เป็นจริงต้องเปลี่ยนความฝันให้เป็นเป้าหมายก่อน หลายคนประเมินการตั้งเป้าหมายที่ต่ำมาก มีงานวิจัยเด็กที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัย เกี่ยวกับการตั้งเป้าหมายซึ่งแน่นอนทุกคนล้วนเก่งมากๆแต่ผลที่ออกมาน่าตกใจมากครับ . ข้อมูลจากงานวิจัยพบว่า เด็กรุ่นแรก 80% ไม่เป้าหมาย กลุ่มที่ สอง 13% มีเป้าหมายแต่ไม่ได้เขียน กลุ่มสุดท้ายมีเพียง 3% ที่มีเป้าหมายอย่างชัดเจนและเขียนมันออกมา แล้วทีมวิจัยก็ติดตามเด็กกลุ่มนี้ไปอีกหลายปี และได้พบว่าในเด็กกลุ่มสุดท้ายที่มีเพียง 3 เปอร์เซ็นนั้นจะมีรายได้มากกว่าเด็ก สอง กลุ่มที่เหลืออีก 97% ร่วมกัน แถมมากกว่าถึง 10 เท่าตัวด้วย . การไม่มีเป้าหมายเหมือนการยิงธนูโดยไม่มีเป้า เป้าหมายไม่ชัดเจนก็เหมือนการปาลูกดอกออกไปให้โดนผนังซึ่งมันกว้างเหลือเกิน แบบนี้คุณจะไปหาท่าไหน ท่าไหนก็ได้ปลาแบบไม่ตั้งใจก็ยังโดน แต่ถ้าเป้าหมายคือ Blue eyes กลางเป้าเลยนะคุณจะปาแบบไหน คุณจะตั้งใจมากเล็งแล้วเล็งอีกมีสมาธิและนิ่งมากๆ เห็นไหมว่าเป้าหมายสำคัญมากๆจงเขียนมันออกมา . มาดูกันต่อครับว่าแล้วเราต้องเขียนเป้าหมายอย่างไรจึงจะทำให้มันกลายเป็นความจริงขึ้นมาได้ การเขียนเป้าหมายให้ได้ผลจะต้องเป็นแบบเป้าหมายที่เรียกว่า Smart Goal ซึ่งประกอบด้วย 5 สิ่งดังนี้ S = Specific หรือการเจาะจง ยกตัวอย่างเช่น อยากรวย อยากดูแลพ่อแม่อย่างดี เป็นเป้าหมายที่ไม่ชัดเจนเลยเท่าไหร่คือรวย ให้พ่อแม่เดือนละเท่าไหร่จึงจะถือว่าดูแลอย่างดี ต้องตั้งเป้าหมายว่ามี Passive Income เดือนละ 300,000 บาทตอนอายุ 50 ให้เงินพ่อแม่เดือนละ 50,000 บาทภายในปี xxx นี่คือตัวอย่างของเป้าหมายที่ชัดเจน . อยากมีความรู้การเงินเพิ่ม แบบนี้ไม่ใช่เป้าหมายที่ดีเพราะไม่เจาะจง แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าฉันจะอ่านหนังสือการเงินเพิ่มเดือนละ หนึ่ง เล่ม เพื่อที่ 3 ารถมีรายได้ที่ดีเพิ่มขึ้น อย่างนี้เป็นเป้าหมายที่ดีเพราะเจาะจงและชัดเจน . ทำไมเป้าหมายที่เจาะจงจึงสำคัญ พอหากเป้าหมายไม่เจาะจงการกระทำก็จะไม่เจาะจงในทางกลับกัน ถ้าเป้าหมายของเราเจาะจงเราจะเจาะจงการกระทำตาม จึงทำให้ไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้ . M = Measurable วัดผลได้ ใช่ตัวอย่างเดิมเลยนะครับ ถ้าเราตั้งเป้าหมายที่ดีเราจะรู้เลยว่ารายได้ที่เราต้องการเพิ่มคือปีละ 500,000 บาท เราก็ 3 ารถวัดผลได้เลยว่าเราต้องทำเดือนละเท่าไหร่แล้วตอนนี้ได้เท่าไหร่แล้ว . เราต้องการอ่านหนังสือการเงินเพิ่มเดือนละ หนึ่ง เล่มดังนั้นต้องอ่านวันละกี่หน้าแล้วตอนนี้อ่านได้กี่หน้าแล้ว ตามที่วางแผนไว้หรือยัง ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วเท่ากับว่าควรอ่านจบไปครึ่งเล่ม แบบนี้คือวัดผลได้ ถ้าเราตั้งเป้าหมายที่วัดผลไม่ได้ไม่มีค่าเลยเพราะจะไม่ทราบความก้าวหน้าของเราเลย . A = Achievable หรือรู้ว่าต้องทำอย่างไร มีวิธีการลงมือทำอย่างชัดเจน มีวิธีการที่จะไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ได้ ไม่ใช่จินตนาการไปว่าเดี๋ยวมันคงเกิดขึ้นสักวัน เช่น ตั้งเป้าหมายว่าฉันจะผอม แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าจะผอมได้อย่างไร อย่างนี้ไม่ใช่เป้าหมายที่ดี ตั้งเป้าหมายว่าจะอ่านหนังสือการเงินก่อนนอนวันละ 10 หน้า จะสร้างรายได้เพิ่มเดือนละ 5000 บาท จากการลงทุนในกองทุนรวมอย่างนี้เป็นต้น . R = Relevant หรือสอดคล้องกับเป้าหมายใหญ่ เป้าหมายที่ดีต้องท้าทาย แต่ต้องเป็นไปได้ด้วยนะครับ ถ้าเราจะตั้งเป้าหมายว่าฉันจะอ่านหนังสือวันละเล่ม ทั้งๆที่ไม่เคยจับหนังสือมาเลยตั้งแต่เรียนจบ แบบนี้ก็คงจะเป็นไปได้ยากมันฝืนตัวเองจนเกินไป ถ้าวันนี้ได้รับเงินเดือนเดือนละ 20,000 บาทแล้วตั้งเป้าหมายว่าจะลงทุนเดือนละแสน แบบนี้คือมันเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าจะลงทุนเดือนละ 2000 บาทแบบนี้เป็นเป้าหมายที่ดีเพราะเป็นไปได้ . T = Time-bound หรือมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ยกตัวอย่างว่าอย่าอ่านหนังสือ 10 เล่ม อย่างนี้ไม่รู้เลยว่าต้องครบเมื่อไหร่ แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าต้องอ่านหนังสือ 10 เล่มภายใน หนึ่ง ปีแบบนี้คือเป้าหมายที่ดีเพราะมีกรอบเวลาที่ชัดเจน ถ้าคุณบอกว่าอย่างมีพอร์ตร้อยลล้านแต่ไม่รู้เมื่อไหร่แบบนี้คือการตั้งเป้าหมายที่ไม่ดี แต่ถ้าตั้งเป้าหมายว่าจะ DCA ทุกเดือน เดือนละ 7000 บาทได้รับผลตอบแทนปีละ 10% เป็นเวลา 10 ปีอย่างนี้เป็นต้นจึงเป็นเป้าหมายที่ดีมีกรอบเวลาชัดเจน ซึ่งมีผลต่อความสำเร็จมากๆเลยนะครับ . #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 2 Views 0 Reviews
  • 🔥🔥วันนี้แอดมินเพจหุ้นติดดอย จะพาเพื่อนๆ
    มาดูลักษณะของธุรกิจที่มีแนวโน้ม
    จะเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ (Ponze scheme)

    ซึ่งเป็นรูปแบบการลงทุน ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
    และมักจะมีลักษณะเฉพาะ ที่ทำให้นักลงทุนหลงเชื่อ
    และเข้าร่วมลงทุน โดยมีจุดสังเกต
    อยู่ 5 ลักษณะดังต่อไปนี้ คือ

    🚩1. การรับประกันผลตอบแทนสูง
    ให้สังเกตว่า ธุรกิจใดๆ ที่มักชักจูง ชักชวนผู้คน
    ด้วยการกล่าวอ้าง การให้ผลตอบแทนสูงๆเกินจริง
    ในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่มีความชัดเจนในการ
    ดำเนินธุรกิจ การขายสินค้า และวิธีการสร้างรายได้
    มีแนวโน้มจะเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่

    🚩2. การจ่ายผลตอบแทนจากเงินของนักลงทุนใหม่
    ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักจะมีโมเดลธุรกิจคล้ายๆกัน
    นั่นคือ ให้สมาชิกเดิม ไปชักชวน ชักจูง สมาชิกใหม่
    ให้มาสมัครมากๆ โดยให้สมาชิกใหม่ซื้อสินค้า
    ตามจำนวนที่ตกลง และให้สมาชิกใหม่ ไปหา
    สมาชิกของตนมาสมัครเป็นทอดๆ ไปเรื่อยๆ

    🚩3. การขาดความโปร่งใส
    ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักขากความชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการ
    ในการดำเนินะธุรกิจ หรือ แหล่งที่มาของรายได้
    ส่วนใหญ่มักเกิดจากการโฆษณาชวนเชื่อ
    และกล่าวอ้างเกินจริง อวดอ้างความร่ำรวย
    จากธุรกิจ แต่จริงๆแล้ว ไม่มีที่มาของรายได้
    รวมทั้งสมาชิก ไม่สามารถตรวจสอบงบการเงิน
    และผลการดำเนินงานได้

    🚩4. การสร้างแรงจูงใจในการชักชวนคนอื่น
    ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักให้ค่าตอบแทน หรือค่า
    คอมมิชชั่น หรือ โบนัสให้กับผู้ที่สามารถชักชวน
    ชักจูง โน้มน้าวคนอื่นๆ ให้มาสมัครเป็นสมาชิกใหม่ได้

    🚩5. การใช้กลยุทธ์การตลาดที่ดึงดูด
    ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักใช้โฆษณา หรือ การตลาด
    ที่ดึงดูดใจ เช่น การกล่าวอวดอ้างต่างๆ
    เพื่อสร้างความมั่นใจ โชว์บ้าน โชว์รถ โชว์เงิน
    โชว์ทอง โชว์การไปเที่ยวต่างๆ เพื่อดึงดูดสมาชิกใหม่
    หรือ การใช้บุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา เซเล็ปต่างๆ
    เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และชักจูง โน้มน้าว
    สมาชิกใหม่ได้ง่าย

    💥ทั้ง 5 ลักษณะนี้เป็นเพียง จุดสังเกตของธุรกิจแชร์ลูกโซ่
    เท่านั้น ดังนั้นผู้จะเข้าลงทุน หรือร่วมลงทุนในธุรกิจใดๆ
    ควรศึกษาข้อมูลของธุรกิจนั้นๆ อย่างละเอียดรอบครอบ
    และถี่ถ้วน โดยไม่ใช้ความโลภ ในการเข้าไปลงทุน
    เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเงินลงทุน และปัญหา
    ทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน
    #5ลักษณะธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่
    #thaitimes
    🔥🔥วันนี้แอดมินเพจหุ้นติดดอย จะพาเพื่อนๆ มาดูลักษณะของธุรกิจที่มีแนวโน้ม จะเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ (Ponze scheme) ซึ่งเป็นรูปแบบการลงทุน ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และมักจะมีลักษณะเฉพาะ ที่ทำให้นักลงทุนหลงเชื่อ และเข้าร่วมลงทุน โดยมีจุดสังเกต อยู่ 5 ลักษณะดังต่อไปนี้ คือ 🚩1. การรับประกันผลตอบแทนสูง ให้สังเกตว่า ธุรกิจใดๆ ที่มักชักจูง ชักชวนผู้คน ด้วยการกล่าวอ้าง การให้ผลตอบแทนสูงๆเกินจริง ในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่มีความชัดเจนในการ ดำเนินธุรกิจ การขายสินค้า และวิธีการสร้างรายได้ มีแนวโน้มจะเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ 🚩2. การจ่ายผลตอบแทนจากเงินของนักลงทุนใหม่ ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักจะมีโมเดลธุรกิจคล้ายๆกัน นั่นคือ ให้สมาชิกเดิม ไปชักชวน ชักจูง สมาชิกใหม่ ให้มาสมัครมากๆ โดยให้สมาชิกใหม่ซื้อสินค้า ตามจำนวนที่ตกลง และให้สมาชิกใหม่ ไปหา สมาชิกของตนมาสมัครเป็นทอดๆ ไปเรื่อยๆ 🚩3. การขาดความโปร่งใส ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักขากความชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการ ในการดำเนินะธุรกิจ หรือ แหล่งที่มาของรายได้ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการโฆษณาชวนเชื่อ และกล่าวอ้างเกินจริง อวดอ้างความร่ำรวย จากธุรกิจ แต่จริงๆแล้ว ไม่มีที่มาของรายได้ รวมทั้งสมาชิก ไม่สามารถตรวจสอบงบการเงิน และผลการดำเนินงานได้ 🚩4. การสร้างแรงจูงใจในการชักชวนคนอื่น ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักให้ค่าตอบแทน หรือค่า คอมมิชชั่น หรือ โบนัสให้กับผู้ที่สามารถชักชวน ชักจูง โน้มน้าวคนอื่นๆ ให้มาสมัครเป็นสมาชิกใหม่ได้ 🚩5. การใช้กลยุทธ์การตลาดที่ดึงดูด ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักใช้โฆษณา หรือ การตลาด ที่ดึงดูดใจ เช่น การกล่าวอวดอ้างต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ โชว์บ้าน โชว์รถ โชว์เงิน โชว์ทอง โชว์การไปเที่ยวต่างๆ เพื่อดึงดูดสมาชิกใหม่ หรือ การใช้บุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา เซเล็ปต่างๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และชักจูง โน้มน้าว สมาชิกใหม่ได้ง่าย 💥ทั้ง 5 ลักษณะนี้เป็นเพียง จุดสังเกตของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ เท่านั้น ดังนั้นผู้จะเข้าลงทุน หรือร่วมลงทุนในธุรกิจใดๆ ควรศึกษาข้อมูลของธุรกิจนั้นๆ อย่างละเอียดรอบครอบ และถี่ถ้วน โดยไม่ใช้ความโลภ ในการเข้าไปลงทุน เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเงินลงทุน และปัญหา ทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต #หุ้นติดดอย #การลงทุน #5ลักษณะธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 7 Views 3 0 Reviews
  • 🔥🔥วันนี้แอดมินเพจหุ้นติดดอย จะพาเพื่อนๆ
    มาดูลักษณะของธุรกิจที่มีแนวโน้ม
    จะเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ (Ponze scheme)

    ซึ่งเป็นรูปแบบการลงทุน ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย
    และมักจะมีลักษณะเฉพาะ ที่ทำให้นักลงทุนหลงเชื่อ
    และเข้าร่วมลงทุน โดยมีจุดสังเกต
    อยู่ 5 ลักษณะดังต่อไปนี้ คือ

    🚩1. การรับประกันผลตอบแทนสูง
    ให้สังเกตว่า ธุรกิจใดๆ ที่มักชักจูง ชักชวนผู้คน
    ด้วยการกล่าวอ้าง การให้ผลตอบแทนสูงๆเกินจริง
    ในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่มีความชัดเจนในการ
    ดำเนินธุรกิจ การขายสินค้า และวิธีการสร้างรายได้
    มีแนวโน้มจะเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่

    🚩2. การจ่ายผลตอบแทนจากเงินของนักลงทุนใหม่
    ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักจะมีโมเดลธุรกิจคล้ายๆกัน
    นั่นคือ ให้สมาชิกเดิม ไปชักชวน ชักจูง สมาชิกใหม่
    ให้มาสมัครมากๆ โดยให้สมาชิกใหม่ซื้อสินค้า
    ตามจำนวนที่ตกลง และให้สมาชิกใหม่ ไปหา
    สมาชิกของตนมาสมัครเป็นทอดๆ ไปเรื่อยๆ

    🚩3. การขาดความโปร่งใส
    ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักขากความชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการ
    ในการดำเนินธุรกิจ หรือ แหล่งที่มาของรายได้
    ส่วนใหญ่มักเกิดจากการโฆษณาชวนเชื่อ
    และกล่าวอ้างเกินจริง อวดอ้างความร่ำรวย
    จากธุรกิจ แต่จริงๆแล้ว ไม่มีที่มาของรายได้
    รวมทั้งสมาชิก ไม่สามารถตรวจสอบงบการเงิน
    และผลการดำเนินงานได้

    🚩4. การสร้างแรงจูงใจในการชักชวนคนอื่น
    ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักให้ค่าตอบแทน หรือค่า
    คอมมิชชั่น หรือ โบนัสให้กับผู้ที่สามารถชักชวน
    ชักจูง โน้มน้าวคนอื่นๆ ให้มาสมัครเป็นสมาชิกใหม่ได้

    🚩5. การใช้กลยุทธ์การตลาดที่ดึงดูด
    ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักใช้โฆษณา หรือ การตลาด
    ที่ดึงดูดใจ เช่น การกล่าวอวดอ้างต่างๆ
    เพื่อสร้างความมั่นใจ โชว์บ้าน โชว์รถ โชว์เงิน
    โชว์ทอง โชว์การไปเที่ยวต่างๆ เพื่อดึงดูดสมาชิกใหม่
    หรือ การใช้บุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา เซเล็ปต่างๆ
    เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และชักจูง โน้มน้าว
    สมาชิกใหม่ได้ง่าย

    💥ทั้ง 5 ลักษณะนี้เป็นเพียง จุดสังเกตของธุรกิจแชร์ลูกโซ่
    เท่านั้น ดังนั้นผู้จะเข้าลงทุน หรือร่วมลงทุนในธุรกิจใดๆ
    ควรศึกษาข้อมูลของธุรกิจนั้นๆ อย่างละเอียดรอบครอบ
    และถี่ถ้วน โดยไม่ใช้ความโลภ ในการเข้าไปลงทุน
    เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเงินลงทุน และปัญหา
    ทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน
    #5ลักษณะธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่
    #thaitimes
    🔥🔥วันนี้แอดมินเพจหุ้นติดดอย จะพาเพื่อนๆ มาดูลักษณะของธุรกิจที่มีแนวโน้ม จะเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ (Ponze scheme) ซึ่งเป็นรูปแบบการลงทุน ที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และมักจะมีลักษณะเฉพาะ ที่ทำให้นักลงทุนหลงเชื่อ และเข้าร่วมลงทุน โดยมีจุดสังเกต อยู่ 5 ลักษณะดังต่อไปนี้ คือ 🚩1. การรับประกันผลตอบแทนสูง ให้สังเกตว่า ธุรกิจใดๆ ที่มักชักจูง ชักชวนผู้คน ด้วยการกล่าวอ้าง การให้ผลตอบแทนสูงๆเกินจริง ในระยะเวลาอันสั้น โดยไม่มีความชัดเจนในการ ดำเนินธุรกิจ การขายสินค้า และวิธีการสร้างรายได้ มีแนวโน้มจะเป็นธุรกิจแชร์ลูกโซ่ 🚩2. การจ่ายผลตอบแทนจากเงินของนักลงทุนใหม่ ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักจะมีโมเดลธุรกิจคล้ายๆกัน นั่นคือ ให้สมาชิกเดิม ไปชักชวน ชักจูง สมาชิกใหม่ ให้มาสมัครมากๆ โดยให้สมาชิกใหม่ซื้อสินค้า ตามจำนวนที่ตกลง และให้สมาชิกใหม่ ไปหา สมาชิกของตนมาสมัครเป็นทอดๆ ไปเรื่อยๆ 🚩3. การขาดความโปร่งใส ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักขากความชัดเจนเกี่ยวกับวิธีการ ในการดำเนินธุรกิจ หรือ แหล่งที่มาของรายได้ ส่วนใหญ่มักเกิดจากการโฆษณาชวนเชื่อ และกล่าวอ้างเกินจริง อวดอ้างความร่ำรวย จากธุรกิจ แต่จริงๆแล้ว ไม่มีที่มาของรายได้ รวมทั้งสมาชิก ไม่สามารถตรวจสอบงบการเงิน และผลการดำเนินงานได้ 🚩4. การสร้างแรงจูงใจในการชักชวนคนอื่น ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักให้ค่าตอบแทน หรือค่า คอมมิชชั่น หรือ โบนัสให้กับผู้ที่สามารถชักชวน ชักจูง โน้มน้าวคนอื่นๆ ให้มาสมัครเป็นสมาชิกใหม่ได้ 🚩5. การใช้กลยุทธ์การตลาดที่ดึงดูด ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ มักใช้โฆษณา หรือ การตลาด ที่ดึงดูดใจ เช่น การกล่าวอวดอ้างต่างๆ เพื่อสร้างความมั่นใจ โชว์บ้าน โชว์รถ โชว์เงิน โชว์ทอง โชว์การไปเที่ยวต่างๆ เพื่อดึงดูดสมาชิกใหม่ หรือ การใช้บุคคลที่มีชื่อเสียง เช่น ดารา เซเล็ปต่างๆ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และชักจูง โน้มน้าว สมาชิกใหม่ได้ง่าย 💥ทั้ง 5 ลักษณะนี้เป็นเพียง จุดสังเกตของธุรกิจแชร์ลูกโซ่ เท่านั้น ดังนั้นผู้จะเข้าลงทุน หรือร่วมลงทุนในธุรกิจใดๆ ควรศึกษาข้อมูลของธุรกิจนั้นๆ อย่างละเอียดรอบครอบ และถี่ถ้วน โดยไม่ใช้ความโลภ ในการเข้าไปลงทุน เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียเงินลงทุน และปัญหา ทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต #หุ้นติดดอย #การลงทุน #5ลักษณะธุรกิจที่เข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่ #thaitimes
    0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • ร้านก้อยก๋วยเตี๋ยวคลองไซตามะ😁(ไทรตามาก) #สมุทรปราการ #อาหาร #กิน #หิว #food #thaitimes #กินง่ายริมทาง #kaiaminute
    ร้านก้อยก๋วยเตี๋ยวคลองไซตามะ😁(ไทรตามาก) #สมุทรปราการ #อาหาร #กิน #หิว #food #thaitimes #กินง่ายริมทาง #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 20 Views 31 0 Reviews
  • ร้านก้อยก๋วยเตี๋ยวคลองไซตามะ😁(ไทรตามาก) #สมุทรปราการ #อาหารไทย #กิน #หิว #อร่อย #พาชิม #อร่อย #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #กินง่ายริมทาง #food #thaitimes #kaiaminute
    ร้านก้อยก๋วยเตี๋ยวคลองไซตามะ😁(ไทรตามาก) #สมุทรปราการ #อาหารไทย #กิน #หิว #อร่อย #พาชิม #อร่อย #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #กินง่ายริมทาง #food #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 20 Views 21 0 Reviews
  • ร้านก้อยก๋วยเตี๋ยวคลองไซตามะ😁(ไทรตามาก) #สมุทรปราการ #อาหารไทย #กิน #หิว #อร่อย #พาชิม #อร่อย #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #ร้านดีบอกต่อ #กินง่ายริมทาง #food #thaitimes #kaiaminute
    ร้านก้อยก๋วยเตี๋ยวคลองไซตามะ😁(ไทรตามาก) #สมุทรปราการ #อาหารไทย #กิน #หิว #อร่อย #พาชิม #อร่อย #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #ร้านดีบอกต่อ #กินง่ายริมทาง #food #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 20 Views 15 0 Reviews
  • ร้านก้อยก๋วยเตี๋ยวคลองไซตามะ😁(ไทรตามาก) #สมุทรปราการ #อาหารไทย #กิน #หิว #อร่อย #พาชิม #อร่อย #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #ร้านดีบอกต่อ #กินง่ายริมทาง #food #thaitimes #kaiaminute
    ร้านก้อยก๋วยเตี๋ยวคลองไซตามะ😁(ไทรตามาก) #สมุทรปราการ #อาหารไทย #กิน #หิว #อร่อย #พาชิม #อร่อย #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #ร้านดีบอกต่อ #กินง่ายริมทาง #food #thaitimes #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 21 Views 17 0 Reviews
  • เมื่อเราเป็นมนุษย์ที่ประเสริฐ ดีงาม แล้วจะลดตัวลงมาโกงคนกิน ต้มตุ๋นคนกิน นั่นจิตใจต่ำช้ากว่าสัตว์..
    เมื่อเราเป็นมนุษย์ที่ประเสริฐ ดีงาม แล้วจะลดตัวลงมาโกงคนกิน ต้มตุ๋นคนกิน นั่นจิตใจต่ำช้ากว่าสัตว์..
    0 Comments 0 Shares 2 Views 0 Reviews
  • 12/10/67

    "ใบบัวบก" กับผลข้างเคียง และความเสี่ยงที่ไม่มีใครเคยบอก

    บัวบก (ภาษาอังกฤษ: Gotu Kola หรือ Centella asiatica ) เป็นสมุนไพรที่มีชื่อเสียงในเรื่องสรรพคุณมากมาย หลายคนเชื่อว่าบัวบกสามารถช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ การคิด และช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ดียิ่งขึ้น

    นอกจากนี้ ยังมีข้อสันนิษฐานว่าบัวบกอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสรรพคุณของบัวบกยังคงมีอยู่อย่างจำกัด หลายคนอาจรับรู้ถึงประโยชน์ของบัวบก แต่อาจไม่ค่อยมีใครรับรู้ถึงผลข้างเคียงของบัวบกว่ามีอะไรบ้าง

    บัวบกกับผลข้างเคียง และความเสี่ยงที่ไม่มีใครเคยบอก
    การใช้บัวบกอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ในบางราย เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง หรือเวียนหัว เพื่อลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงเหล่านี้ ควรเริ่มต้นด้วยการใช้บัวบกในปริมาณน้อย ๆ และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างช้า ๆ การใช้บัวบกเป็นประจำติดต่อกันไม่ควรเกิน 2-6 สัปดาห์ต่อครั้ง ควรหยุดพักการใช้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนกลับมาใช้ใหม่

    สำหรับการใช้บัวบกแบบทาภายนอก อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังได้ ดังนั้นจึงควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้โดยทาบัวบกในบริเวณผิวหนังเล็ก ๆ และสังเกตอาการแพ้เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง

     อย่าใช้บัวบกหากคุณ
    * กำลังตั้งครรภ์
    * กำลังให้นมบุตร
    * มีโรคตับอักเสบหรือโรคตับอื่น ๆ
    * มีกำหนดการผ่าตัดภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า
    * มีอายุต่ำกว่า 18 ปี
    * มีประวัติเป็นมะเร็งผิวหนัง

    พูดคุยกับแพทย์ของคุณก่อนใช้บัวบกหากคุณ
    * มีโรคตับ
    * มีโรคเบาหวาน
    * มีคอเลสเตอรอลสูง
    * กำลังรับประทานยา เช่น ยาระงับประสาท เพื่อการนอนหลับหรือวิตกกังวล
    * กำลังใช้ยาขับปัสสาวะ

    cr:sanook
    12/10/67 "ใบบัวบก" กับผลข้างเคียง และความเสี่ยงที่ไม่มีใครเคยบอก บัวบก (ภาษาอังกฤษ: Gotu Kola หรือ Centella asiatica ) เป็นสมุนไพรที่มีชื่อเสียงในเรื่องสรรพคุณมากมาย หลายคนเชื่อว่าบัวบกสามารถช่วยบำรุงสมอง เสริมสร้างความจำ การคิด และช่วยให้ระบบประสาททำงานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีข้อสันนิษฐานว่าบัวบกอาจมีประโยชน์ต่อสุขภาพในด้านอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสรรพคุณของบัวบกยังคงมีอยู่อย่างจำกัด หลายคนอาจรับรู้ถึงประโยชน์ของบัวบก แต่อาจไม่ค่อยมีใครรับรู้ถึงผลข้างเคียงของบัวบกว่ามีอะไรบ้าง บัวบกกับผลข้างเคียง และความเสี่ยงที่ไม่มีใครเคยบอก การใช้บัวบกอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงได้ในบางราย เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้อง หรือเวียนหัว เพื่อลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงเหล่านี้ ควรเริ่มต้นด้วยการใช้บัวบกในปริมาณน้อย ๆ และค่อย ๆ เพิ่มปริมาณขึ้นอย่างช้า ๆ การใช้บัวบกเป็นประจำติดต่อกันไม่ควรเกิน 2-6 สัปดาห์ต่อครั้ง ควรหยุดพักการใช้เป็นเวลา 2 สัปดาห์ก่อนกลับมาใช้ใหม่ สำหรับการใช้บัวบกแบบทาภายนอก อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองผิวหนังได้ ดังนั้นจึงควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้โดยทาบัวบกในบริเวณผิวหนังเล็ก ๆ และสังเกตอาการแพ้เป็นเวลา 24-48 ชั่วโมง  อย่าใช้บัวบกหากคุณ * กำลังตั้งครรภ์ * กำลังให้นมบุตร * มีโรคตับอักเสบหรือโรคตับอื่น ๆ * มีกำหนดการผ่าตัดภายในสองสัปดาห์ข้างหน้า * มีอายุต่ำกว่า 18 ปี * มีประวัติเป็นมะเร็งผิวหนัง พูดคุยกับแพทย์ของคุณก่อนใช้บัวบกหากคุณ * มีโรคตับ * มีโรคเบาหวาน * มีคอเลสเตอรอลสูง * กำลังรับประทานยา เช่น ยาระงับประสาท เพื่อการนอนหลับหรือวิตกกังวล * กำลังใช้ยาขับปัสสาวะ cr:sanook
    0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 'ปราโมทย์ ไม้กลัด' ดึงสติคนกทม.-ปริมณฑล ไม่ต้องกังวลปัญหาน้ำท่วม***
    "เดี๋ยวนี้ร่องมรสุมร่นลงไปสู่ภาคใต้ตอนบนแล้ว จึงแน่ใจว่า ภาคเหนือ ภาคกลาง น่าจะไม่มีน้ำจากฝนตกลงมาเพิ่มให้ต้องกังวลเหมือนแต่ก่อน..เราจึงหมดห่วงเรื่องน้ำจากฝนตกมากๆได้
    เรื่องน้ำทะเลหนุนสูง กทม. นนทบุรี ปทุมธานี นั้นบ้านเรือนด้านนอกคันป้องกันน้ำท่วม จะได้รับผลกระทบพอควรตอนน้ำทะเลหนุนสูงวันละไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง จากนั้นน้ำก็ไหลลงสู่อ่าวไทยตามปกติ
    ดังนั้น ปัจจัยเรื่องน้ำทะเลหนุนนี้ ชาว กทม.และปริมณฑลซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งย่อมมีประสบการณ์จัดการเรื่องนี้ได้แน่นอน
    ท้ายที่สุดนี้ หวังว่าข้อมูล และเรื่องราว ที่ผมนำเสนอทั้งหมด จะเป็นประโยชน์สร้างความตระหนักรู้กับเหตุการณ์ที่ผู้คนทั้งหลายให้ความสนใจและเกาะติดอยู่ ณ ช่วงเวลานี้...
    หวังอย่างยิ่งว่าทุกท่านคงจะคลายความวิตกกังวลได้ไม่มากก็น้อย"

    https://www.thaipost.net/x-cite-news/670576/
    'ปราโมทย์ ไม้กลัด' ดึงสติคนกทม.-ปริมณฑล ไม่ต้องกังวลปัญหาน้ำท่วม*** "เดี๋ยวนี้ร่องมรสุมร่นลงไปสู่ภาคใต้ตอนบนแล้ว จึงแน่ใจว่า ภาคเหนือ ภาคกลาง น่าจะไม่มีน้ำจากฝนตกลงมาเพิ่มให้ต้องกังวลเหมือนแต่ก่อน..เราจึงหมดห่วงเรื่องน้ำจากฝนตกมากๆได้ เรื่องน้ำทะเลหนุนสูง กทม. นนทบุรี ปทุมธานี นั้นบ้านเรือนด้านนอกคันป้องกันน้ำท่วม จะได้รับผลกระทบพอควรตอนน้ำทะเลหนุนสูงวันละไม่เกิน 2-3 ชั่วโมง จากนั้นน้ำก็ไหลลงสู่อ่าวไทยตามปกติ ดังนั้น ปัจจัยเรื่องน้ำทะเลหนุนนี้ ชาว กทม.และปริมณฑลซึ่งตั้งบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งย่อมมีประสบการณ์จัดการเรื่องนี้ได้แน่นอน ท้ายที่สุดนี้ หวังว่าข้อมูล และเรื่องราว ที่ผมนำเสนอทั้งหมด จะเป็นประโยชน์สร้างความตระหนักรู้กับเหตุการณ์ที่ผู้คนทั้งหลายให้ความสนใจและเกาะติดอยู่ ณ ช่วงเวลานี้... หวังอย่างยิ่งว่าทุกท่านคงจะคลายความวิตกกังวลได้ไม่มากก็น้อย" https://www.thaipost.net/x-cite-news/670576/
    WWW.THAIPOST.NET
    'ปราโมทย์ ไม้กลัด' ดึงสติคนกทม.-ปริมณฑล ไม่ต้องกังวลปัญหาน้ำท่วม
    อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน และอดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า ติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา มาตลอดจนถึงวันนี้ 8 ตุลาคม
    0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • ภิกษุสงฆ์เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาได้หรือไม่

    ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่
    สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย
    ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกัน
    บ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธี
    บวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยา
    ถ่ายโทษเบื้องบน ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา
    ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล
    แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    พระไตรปิฎก ฉบับหลวง – สีลขันธวรรค . ที .๙/๖๖/๑๒๐

    อธิบายเพิ่มเติม

    โดยเฉพาะในเรื่องของหมอดู หรือว่าเรื่องอื่น ๆ ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้คำว่า หากินด้วยเดรัจฉานวิชา ถือว่าไม่ใช่สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเสกน้ำมนต์ พ่นน้ำหมาก สร้างวัตถุมงคล ทำนายทายทักอะไรก็ดี จัดอยู่ในประเภทนี้ทั้งนั้น แล้วถ้าท่านทั้งหลายถามว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น แล้ววัดท่าขนุนยังสร้างวัตถุมงคลไปทำอะไร ?” ก็ขอตอบว่า “เพราะว่ากูไม่โง่..!”

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านใช้คำว่า หากินด้วยเดรัจฉานวิชา แปลว่า ทำเป็นอาชีพ ในเมื่อเราไม่ทำเป็นอาชีพ ก็ไม่ได้หากินด้วยเดรัจฉานวิชา เพราะฉะนั้น..ไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็ต้องพิจารณาให้ชัดเจน เพราะว่าสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้นั้น พระองค์ท่านทำไปก็เพื่อความบริสุทธิ์ผุดผ่อง น่าเลื่อมใสของพระพุทธศาสนา เผื่อว่าจะฉลาดขึ้น…! อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่า เลี้ยงชีวิตด้วยวิธีการนั้น ๆ สำหรับท่านที่ไม่ได้เลี้ยงชีวิตด้วยวิธีการนั้น ๆ แต่ทำเพื่อสงเคราะห์ญาติโยมก็ทำไปสิครับ..!

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
    ภิกษุสงฆ์เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาได้หรือไม่ ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่ สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกัน บ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธี บวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยา ถ่ายโทษเบื้องบน ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง. พระไตรปิฎก ฉบับหลวง – สีลขันธวรรค . ที .๙/๖๖/๑๒๐ อธิบายเพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องของหมอดู หรือว่าเรื่องอื่น ๆ ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้คำว่า หากินด้วยเดรัจฉานวิชา ถือว่าไม่ใช่สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเสกน้ำมนต์ พ่นน้ำหมาก สร้างวัตถุมงคล ทำนายทายทักอะไรก็ดี จัดอยู่ในประเภทนี้ทั้งนั้น แล้วถ้าท่านทั้งหลายถามว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น แล้ววัดท่าขนุนยังสร้างวัตถุมงคลไปทำอะไร ?” ก็ขอตอบว่า “เพราะว่ากูไม่โง่..!” องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านใช้คำว่า หากินด้วยเดรัจฉานวิชา แปลว่า ทำเป็นอาชีพ ในเมื่อเราไม่ทำเป็นอาชีพ ก็ไม่ได้หากินด้วยเดรัจฉานวิชา เพราะฉะนั้น..ไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็ต้องพิจารณาให้ชัดเจน เพราะว่าสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้นั้น พระองค์ท่านทำไปก็เพื่อความบริสุทธิ์ผุดผ่อง น่าเลื่อมใสของพระพุทธศาสนา เผื่อว่าจะฉลาดขึ้น…! อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่า เลี้ยงชีวิตด้วยวิธีการนั้น ๆ สำหรับท่านที่ไม่ได้เลี้ยงชีวิตด้วยวิธีการนั้น ๆ แต่ทำเพื่อสงเคราะห์ญาติโยมก็ทำไปสิครับ..! พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • " ในขณะที่เนทันยาฮูด ออกมาประกาศแบบปากกล้าขาสั่นว่าจะโจมตีเอาคืนอีหร่านอย่างแน่นอนแต่กระแสอพยบหนีออกจากอิสราเอลกลับเพิ่มขึ้นทถวัน "

    เทลอาวีฟ กังวลเกี่ยวกับการอพยพย้ายถิ่นแบบย้อนกลับที่เพิ่มมากขึ้น

    ผลการวิจัยที่ดำเนินการในพื้นที่ที่ถูกยึดครองบ่งชี้ว่า การอพยพแบบย้อนกลับทวีความรุนแรงขึ้นในภูมิภาคนี้

    สื่อภาษาฮีบรูรายงานว่าผลการสำรวจที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยไซออนิสต์แห่งแควนตาร์ ระบุว่าหนึ่งในสี่ของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่ถูกยึดครอง ตั้งใจที่จะออกจากพื้นที่นี้ในปีที่ผ่านมา

    ในเรื่องนี้ “เครือข่ายไซออนิสต์คาน” รายงานว่าจำนวนการอพยพแบบย้อนกลับในดินแดนที่ถูกยึดครองเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการพายุอัลอักซอ และจำนวนผู้ที่ออกจากดินแดนที่ถูกยึดครองนั้นเกินจำนวนผู้ที่อพยพมายังภูมิภาคนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา

    หนังสือพิมพ์ฮีบรู Ha'aretz ยอมรับเมื่อวานนี้ว่า ชาวยิวไซออนิสต์ 2,190 คนได้หลบหนีออกจากดินแดนที่ถูกยึดครองในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ในรายงานต่อเนื่องนี้ มีการระบุว่าชาวยิวไซออนิสต์ดังกล่าวไม่ตั้งใจที่จะกลับไปยังดินแดนที่ถูกยึดครองอีกแล้ว และจะตั้งถิ่นฐานในประเทศเนเธอร์แลนด์

    นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพายุอัลอักซอเพื่อต่อต้านระบอบไซออนิสต์ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา จำนวนการอพยพย้อนกลับจากดินแดนที่ถูกยึดครองได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และแม้แต่บริษัทไซออนิสต์ก็ยังย้ายสำนักงานของตนไปนอกภูมิภาคนี้

    ความเสื่อมโทรมของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการขาดความมั่นคงในดินแดนที่ถูกยึดครองเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สำคัญที่สุดสำหรับการอพยพของชาวไซออนิสต์ออกไปจากภูมิภาคนี้
    " ในขณะที่เนทันยาฮูด ออกมาประกาศแบบปากกล้าขาสั่นว่าจะโจมตีเอาคืนอีหร่านอย่างแน่นอนแต่กระแสอพยบหนีออกจากอิสราเอลกลับเพิ่มขึ้นทถวัน " เทลอาวีฟ กังวลเกี่ยวกับการอพยพย้ายถิ่นแบบย้อนกลับที่เพิ่มมากขึ้น ผลการวิจัยที่ดำเนินการในพื้นที่ที่ถูกยึดครองบ่งชี้ว่า การอพยพแบบย้อนกลับทวีความรุนแรงขึ้นในภูมิภาคนี้ สื่อภาษาฮีบรูรายงานว่าผลการสำรวจที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยไซออนิสต์แห่งแควนตาร์ ระบุว่าหนึ่งในสี่ของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ที่ถูกยึดครอง ตั้งใจที่จะออกจากพื้นที่นี้ในปีที่ผ่านมา ในเรื่องนี้ “เครือข่ายไซออนิสต์คาน” รายงานว่าจำนวนการอพยพแบบย้อนกลับในดินแดนที่ถูกยึดครองเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนก่อนที่จะเริ่มปฏิบัติการพายุอัลอักซอ และจำนวนผู้ที่ออกจากดินแดนที่ถูกยึดครองนั้นเกินจำนวนผู้ที่อพยพมายังภูมิภาคนี้ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ฮีบรู Ha'aretz ยอมรับเมื่อวานนี้ว่า ชาวยิวไซออนิสต์ 2,190 คนได้หลบหนีออกจากดินแดนที่ถูกยึดครองในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ในรายงานต่อเนื่องนี้ มีการระบุว่าชาวยิวไซออนิสต์ดังกล่าวไม่ตั้งใจที่จะกลับไปยังดินแดนที่ถูกยึดครองอีกแล้ว และจะตั้งถิ่นฐานในประเทศเนเธอร์แลนด์ นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการพายุอัลอักซอเพื่อต่อต้านระบอบไซออนิสต์ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา จำนวนการอพยพย้อนกลับจากดินแดนที่ถูกยึดครองได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และแม้แต่บริษัทไซออนิสต์ก็ยังย้ายสำนักงานของตนไปนอกภูมิภาคนี้ ความเสื่อมโทรมของสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการขาดความมั่นคงในดินแดนที่ถูกยึดครองเป็นหนึ่งในเหตุผลที่สำคัญที่สุดสำหรับการอพยพของชาวไซออนิสต์ออกไปจากภูมิภาคนี้
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • ภิกษุสงฆ์เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาได้หรือไม่

    ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่
    สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย
    ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกัน
    บ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธี
    บวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยา
    ถ่ายโทษเบื้องบน ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา
    ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล
    แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง.

    พระไตรปิฎก ฉบับหลวง – สีลขันธวรรค . ที .๙/๖๖/๑๒๐

    อธิบายเพิ่มเติม

    โดยเฉพาะในเรื่องของหมอดู หรือว่าเรื่องอื่น ๆ ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้คำว่า หากินด้วยเดรัจฉานวิชา ถือว่าไม่ใช่สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเสกน้ำมนต์ พ่นน้ำหมาก สร้างวัตถุมงคล ทำนายทายทักอะไรก็ดี จัดอยู่ในประเภทนี้ทั้งนั้น แล้วถ้าท่านทั้งหลายถามว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น แล้ววัดท่าขนุนยังสร้างวัตถุมงคลไปทำอะไร ?” ก็ขอตอบว่า “เพราะว่ากูไม่โง่..!”

    องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านใช้คำว่า หากินด้วยเดรัจฉานวิชา แปลว่า ทำเป็นอาชีพ ในเมื่อเราไม่ทำเป็นอาชีพ ก็ไม่ได้หากินด้วยเดรัจฉานวิชา เพราะฉะนั้น..ไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็ต้องพิจารณาให้ชัดเจน เพราะว่าสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้นั้น พระองค์ท่านทำไปก็เพื่อความบริสุทธิ์ผุดผ่อง น่าเลื่อมใสของพระพุทธศาสนา เผื่อว่าจะฉลาดขึ้น…! อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่า เลี้ยงชีวิตด้วยวิธีการนั้น ๆ สำหรับท่านที่ไม่ได้เลี้ยงชีวิตด้วยวิธีการนั้น ๆ แต่ทำเพื่อสงเคราะห์ญาติโยมก็ทำไปสิครับ..!

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
    ภิกษุสงฆ์เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพด้วยเดรัจฉานวิชาได้หรือไม่ ภิกษุเว้นขาดจากการเลี้ยงชีพ โดยทางผิดด้วยติรัจฉานวิชา เช่นอย่างที่ สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขาให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย ติรัจฉานวิชา เห็นปานนี้ คือ ทำพิธีบนบาน ทำพิธีแก้บน ร่ายมนต์ขับผี สอนมนต์ป้องกัน บ้านเรือน ทำกะเทยให้กลับเป็นชาย ทำชายให้กลายเป็นกะเทย ทำพิธีปลูกเรือน ทำพิธี บวงสรวงพื้นที่ พ่นน้ำมนต์ รดน้ำมนต์ ทำพิธีบูชาไฟ ปรุงยาสำรอก ปรุงยาถ่าย ปรุงยา ถ่ายโทษเบื้องบน ปรุงยาถ่ายโทษเบื้องล่าง ปรุงยาแก้ปวดศีรษะ หุงน้ำมันหยอดหู ปรุงยาตา ปรุงยานัตถุ์ ปรุงยาทากัด ปรุงยาทาสมาน ป้ายยาตา ทำการผ่าตัด รักษาเด็ก ใส่ยา ชะแผล แม้ข้อนี้ก็เป็นศีลของเธอประการหนึ่ง. พระไตรปิฎก ฉบับหลวง – สีลขันธวรรค . ที .๙/๖๖/๑๒๐ อธิบายเพิ่มเติม โดยเฉพาะในเรื่องของหมอดู หรือว่าเรื่องอื่น ๆ ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใช้คำว่า หากินด้วยเดรัจฉานวิชา ถือว่าไม่ใช่สาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ว่าจะเป็นเสกน้ำมนต์ พ่นน้ำหมาก สร้างวัตถุมงคล ทำนายทายทักอะไรก็ดี จัดอยู่ในประเภทนี้ทั้งนั้น แล้วถ้าท่านทั้งหลายถามว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนั้น แล้ววัดท่าขนุนยังสร้างวัตถุมงคลไปทำอะไร ?” ก็ขอตอบว่า “เพราะว่ากูไม่โง่..!” องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านใช้คำว่า หากินด้วยเดรัจฉานวิชา แปลว่า ทำเป็นอาชีพ ในเมื่อเราไม่ทำเป็นอาชีพ ก็ไม่ได้หากินด้วยเดรัจฉานวิชา เพราะฉะนั้น..ไม่ว่าเราจะทำอะไร ก็ต้องพิจารณาให้ชัดเจน เพราะว่าสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้นั้น พระองค์ท่านทำไปก็เพื่อความบริสุทธิ์ผุดผ่อง น่าเลื่อมใสของพระพุทธศาสนา เผื่อว่าจะฉลาดขึ้น…! อย่าลืมว่าพระพุทธเจ้าตรัสว่า เลี้ยงชีวิตด้วยวิธีการนั้น ๆ สำหรับท่านที่ไม่ได้เลี้ยงชีวิตด้วยวิธีการนั้น ๆ แต่ทำเพื่อสงเคราะห์ญาติโยมก็ทำไปสิครับ..! พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
    0 Comments 1 Shares 27 Views 0 Reviews
  • พรุ่งนี้บริษัทดังเตรียมปลดป้ายโฆษณา THE ICON GROUP ทั้งหมด เริ่ม 11-12 ต.ค. หลังจากรองโฆษกตร. เผยไม่เกิน 48 ชม. ออกหมายจับ เหล่า ‘บอสบริษัทดัง’ แน่นอน

    11 ตุลาคม 2567-รายงานข่าว เพจดัง อีซ้อขยี้ข่าว ได้โพสต์ข้อความว่า บริษัทดังจะปลดป้ายทั้งหมด ภายในวันพรุ่งนี้ โดยกำหนดงานรื้อภาพสินค้า THE ICON GROUP จำนวน 19 ป้าย ตามเมล์แจ้งเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม โดยมีกำหนดรื้อภาพตั้งแต่วันที่ 10-12 ตุลาคม 2024

    ทั้งนี้การสั่งปลดป้ายทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นหลังจาก พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าภายใน 48 ชั่วโมงจะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างแน่นอน หลังจากที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปอท.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานกันร่วมกันรวบรวมหลักฐานของผู้เสียหายรวมตัวกันนำหลักฐานการร่วมลงทุนจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์หลายชนิดกับบริษัทมายื่นเรื่องร้องเรียน ให้ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ตรวจสอบว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เข้าข่ายกระทำความผิดฉ้อโกงตามกฏหมายหรือไม่ และตั้งข้อสงสัยว่าธุรกิจตลาดตรงหรือแชร์ลูกโซ่

    ต่อมากองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้ทำหนังสือถึง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รายงานคดี ดิไอคอน กรุ๊ป หลังจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดี

    #Thaitimes
    พรุ่งนี้บริษัทดังเตรียมปลดป้ายโฆษณา THE ICON GROUP ทั้งหมด เริ่ม 11-12 ต.ค. หลังจากรองโฆษกตร. เผยไม่เกิน 48 ชม. ออกหมายจับ เหล่า ‘บอสบริษัทดัง’ แน่นอน 11 ตุลาคม 2567-รายงานข่าว เพจดัง อีซ้อขยี้ข่าว ได้โพสต์ข้อความว่า บริษัทดังจะปลดป้ายทั้งหมด ภายในวันพรุ่งนี้ โดยกำหนดงานรื้อภาพสินค้า THE ICON GROUP จำนวน 19 ป้าย ตามเมล์แจ้งเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม โดยมีกำหนดรื้อภาพตั้งแต่วันที่ 10-12 ตุลาคม 2024 ทั้งนี้การสั่งปลดป้ายทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นหลังจาก พ.ต.อ.อุเทน นุ้ยพิน รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์ยืนยันว่าภายใน 48 ชั่วโมงจะมีการออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างแน่นอน หลังจากที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปอท.) และสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานกันร่วมกันรวบรวมหลักฐานของผู้เสียหายรวมตัวกันนำหลักฐานการร่วมลงทุนจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์หลายชนิดกับบริษัทมายื่นเรื่องร้องเรียน ให้ตำรวจกองบังคับการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ปคบ.) ตรวจสอบว่าบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เข้าข่ายกระทำความผิดฉ้อโกงตามกฏหมายหรือไม่ และตั้งข้อสงสัยว่าธุรกิจตลาดตรงหรือแชร์ลูกโซ่ ต่อมากองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้ทำหนังสือถึง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) รายงานคดี ดิไอคอน กรุ๊ป หลังจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดี #Thaitimes
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
  • ปฐมบท..บอสพอล The Icon

    พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ

    ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์

    หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท

    ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ

    พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย

    พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก)

    จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน..

    ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ

    คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global
    👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal

    ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ

    ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง

    เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท

    แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan
    👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/

    ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้

    เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้

    จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน

    และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558
    👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/

    เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน

    เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด

    เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ

    พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse

    และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค

    เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“

    ---------

    โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย

    โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี"

    โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา

    -----------

    ลูกค้าของพอล..

    ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง

    เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง)

    โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ

    และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี

    และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี

    การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV

    นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว

    รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก

    โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า

    ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที

    พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น

    พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น

    คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง

    พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่

    เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

    แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท

    89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน)

    มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ

    เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว

    ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว

    คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย

    เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon

    และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM

    เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ

    และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย
    ---------

    ยุคทองของ..บอสพอล The Icon

    เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง

    เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว

    แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป

    เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้

    The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล

    ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น

    แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด

    ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto

    ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ

    หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ

    คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม

    เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน

    พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ

    และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา

    และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร

    กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย

    เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย

    กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย

    แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ
    -----------

    ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลในฐานแชร์ลูกโซ่ได้เลย

    จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยากเพราะไปผิดทางไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู

    เพราะเคสแบบนี้มันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า

    การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน”และตัวแทนไม่ใช่ผู้บริโภค สคบ.จึงไม่มีอำนาจ“

    หรือเคยมีผู้บริโภคได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ

    จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้

    เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย

    ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง #และสินค้ามีคุณภาพ ตรงจุดนี้คือกุญแจดอกเดียวที่จะไขเข้าไปถึงตัวพอลได้นั่นคือ..สินค้าไม่ตรงปรก

    พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง

    เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ

    แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั

    ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป

    โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ

    หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้..

    พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน

    ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.?

    ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที

    เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย

    บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง

    พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ

    สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ..

    การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง

    ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร

    ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว

    คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว

    หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ

    เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว

    แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่

    บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ

    พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

    บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้

    จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว

    อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ

    สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship

    คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป

    กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต

    มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย
    ----------

    ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้

    1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ

    2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer

    3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20%

    เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง

    พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้

    4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย

    ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด"

    ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด

    ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส.

    น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣

    เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง

    สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง

    ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100%

    ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.?

    นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก

    #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊

    ep.1
    👉 https://www.facebook.com/share/p/YgaYdxzS5FirmYa2/?mibextid=WC7FNe

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน

    ปฐมบท..บอสพอล The Icon พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์ หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก) จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน.. ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global 👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan 👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/ ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้ เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้ จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558 👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/ เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“ --------- โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี" โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา ----------- ลูกค้าของพอล.. ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง) โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่ เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท 89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน) มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย --------- ยุคทองของ..บอสพอล The Icon เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้ The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ ----------- ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลในฐานแชร์ลูกโซ่ได้เลย จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยากเพราะไปผิดทางไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู เพราะเคสแบบนี้มันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน”และตัวแทนไม่ใช่ผู้บริโภค สคบ.จึงไม่มีอำนาจ“ หรือเคยมีผู้บริโภคได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้ เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง #และสินค้ามีคุณภาพ ตรงจุดนี้คือกุญแจดอกเดียวที่จะไขเข้าไปถึงตัวพอลได้นั่นคือ..สินค้าไม่ตรงปรก พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้.. พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.? ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ.. การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่ บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้ จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย ---------- ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้ 1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ 2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer 3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20% เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้ 4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด" ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส. น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣 เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100% ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.? นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊ ep.1 👉 https://www.facebook.com/share/p/YgaYdxzS5FirmYa2/?mibextid=WC7FNe สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    0 Comments 0 Shares 24 Views 0 Reviews
  • 11-10-67/01 : หมี CNN / "หมีตะนอย" EP19 ตอน "SECRET WEAPON" ไม่ต้องซ่อนกันอีกแล้ว งัดออกมาโชว์เลย ลวกเพ่! กลัวจุงเบย? หลังเหี้ยมะกันสัญญาจะอุ้มอียิวระยำสลัดหมาจนตัวตาย เป็นไปตามแผนขั้วใหม่ รอกระดิกตรีนเชือด งานนี้ ต้องเอาให้อับอายไปทั่วโลก ประกาศศักดากันให้ชัดไปเลย ว่า ไอ้ที่มรึงเห่าหอนมาแรมปี แม่ง "โคตรกระจอก" เตรียมตายคาตรีนโลกได้เลย! เพราะอาหรับเค้าลงแขกอียิว ใครมาช่วย อาหรับจะช่วยกระทืบซ้ำ ชัดน่ะ? ข่าวไม่ลับดอกน่ะ ไม่แปลกที่จีนแอบส่งหน่วยเฉพาะกิจเข้าไปในเลบานอน ใครบอกล่ะว่ามีแต่จีน? แม่งมากันหมดโลกเลยมั้ง? ทั้งแอฟริกา โสมแดง จีน รัสเซีย อิหร่าน อิรัก ซีเรีย เค้าเข้าไปวางระบบ เตรียมการนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะเริ่ม เพราะอ่านขาด ว่ามรึงต้องมาทางนี้แน่! อิหร่านสอนเชิง ต่อให้มรึงยิงมิสไซส์มา 1000 ลูก กูก็เอาอยู่ เพราะยังมีอะไรอีกเยอะ ที่มรึงยังไม่รู้? บอกตรง เหี้ยมันรู้ตัวว่า สู้ยังไงก็แพ้ เพราะทั้งโลกสามัคคีลงแขกเหี้ยกันหมดแล้ว เหลือแค่มรึงกับอียิวเนี่ยแหละ EU มันถอยแล้ว ไปไม่สุด! มรึงจะสู้ยังไง เมื่ออาวุธ NATO ถูกรัสเซีย อิหร่าน จีน โสมแดง ถอดรหัสออกจนหมดเกลี้ยง รู้ไส้รู้พุงหมดเปลือก เอาไปโชว์โง่อยู่ที่มอสโคว์! คลังแสงมรึงหมดเกลี้ยง กำลังพลเหลือน้อยลงทุกที เกณฑ์เท่าไหร่ เข้ามาในพื้นที่ ไม่เกิน 2 สัปดาห์ กลับบ้านเก่าหมด สภาพ! ล่าสุด อีหุ่นเชิดปธน.ไต้หวัน ประกาศกร้าวไม่รวมชาติจีน กูเห็นมาเยอะแล้ว ปากดี ตายคาที่ทุกตัว! แค่เล่นตามบท เคาะกะลาขอตังค์ ขออาวุธ? จีนไม่สนใจ อยากตายห่าวันไหนบอก 24 ชม. ก็เหลือแล้ว? เพราะต่างรู้กันดีว่า หน้าฉาก เหี้ยสั่งได้แต่ผู้นำหุ่นเชิด แต่หลังฉาก อำนาจสั่งการ เป็นของพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งหมอบกับจีนไปนานแล้ว ก็แค่ "ละครหลอกควายเปื่อยตุ๋นน้ำแดง" ข้ามวิกแป๊บ : ไม่ต้องดิ้น! ไม่ต้องแถ นั่งแท่นผู้บริหาร มรึงจะเห่าเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อ? ชื่อมันอยู่เต็มตา ตอนเปิดตัว กระสันจะมีเอี่ยว ตอนถูกเช็คบิล แพแตก หนีหางจุกตูดกันหมด แล้วเงินที่ไปหลอกแดร๊กควายไทยบัดซบเนี่ย "หมดไปแล้วรึจ๊ะ?" ด้านเพ่ตั๊ก ซีโร่ ผิดก็คือผิด ลูกผู้ชายตัวจริงซะอย่าง รับผิดชอบไม่มีเงื่อนไข ลุ้นเหยื่อรอด ไม่งั้นยาวแน่! ส่วนเรื่องเมาแล้วขับ รอผลตรวจ วิบากกรรมมีกันทุกคน อยู่ที่มีสติ รับมือกับมันยังไง? กลับมาที่กลกามเวทีโลกต่อ : น่าฉงน โดรนมหาเทพรัสเซีย S-70 เกิดขัดข้อง ขณะลาดตระเวนกับ SU-57 ไม่รีรอ รัสเซียสั่งจัดการยิงทิ้งทันที เพื่อไม่ให้ไปตกอยู่ในมือข้าศึก คำถามคือ "มรึงเล่นเหี้ยอะไรกันเนี่ย?" แผนสับขาหลอกมาอีก หรือไม่ตั้งใจกันแน่? S-70 คือโดรนดักจับเครื่องบินสเตลท์ GEN 5 ได้อย่างแม่นยำ หลบซ่อนตัวที่ไหนไม่รอดสายตาไปได้? S-70 มีแบบทั้งมีคนขับและไร้คนขับ เข้าใจว่านำมาเพื่อทดสอบอะไรบางอย่าง แต่เกิดผิดพลาด เลยทำลายทิ้งทันที เด็ดขาดคือรัสเซีย S-70 เมื่อดักจับสัญญานเครื่องบินสเตลท์ได้ ก็สามารถนำร่องได้เช่นกัน? นี่คือตัวตึง ที่จะมาชี้เป้า ระบุพิกัดตำแหน่งขีปนาวุธนิวเคลียร์อ่ะเป่า? หากถูกแจมสัญญานดาวเทียม เรื่องนี้ ไม่นานก็มีคำตอบแน่ ว่ามันผิดพลาด หรือตั้งใจทำ เพราะกล้องจับภาพได้ง่ายดายมาก เหมือนตั้งใจให้ถ่ายซะ
    งั้น ถึงได้บอกไงล่ะว่า "มรึงเล่นเหี้ยอะไรกันเนี่ย?" ปกติ การปฎิบัติภาระกิจใดของรัสเซียก็ตาม มักจะเก็บเป็นความลับเสมอ แต่งวดนี้ เด่นชัด ไปป่ะ?

    ปล.อีเหลี่ยมขี้แตก! หมากเด็ด ธีรยุทธ ยิงรัว โดนทุกดอก ใครชง ใครตบ ใครส่งเข้าประกวด ไม่ต้องถาม? หลักฐานทุกเม็ด ครบทุกชิ้นถึงมือศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ส่อดึงกลับ ย้อนเข้าคุก ขัดพระบรมราชโองการชัด! โมฆะพระราชทานอภัยลดโทษ เหตุยื่นเสนอเป็นเท็จ ทุกอย่างที่กูเคยบอก เงายมราชมาตามเอาหัวมรึงแล้วไงล่ะ? เผ่นสิจ๊ะ น่ะจ๊ะ มันจะไปยากอะไร แค่มรึงจ่ายครบจบที่เดียว! คืนมาให้หมด พร้อมดอกเบี้ยแผ่นดิน แล้วไสหัวไปซะ เดี๋ยวค่อยส่งมือเก็บไปตามล่าหัวต่อไป ที่มาว่า อีเหลี่ยมชาติหมาพยายามกระตุ้นเกมส์การเมืองใหม่ ต่อรอง อีเนวินบอกชัด มันจบแล้วครับนาย! ลืมตามาดูโลกความเป็นจริงบ้าง "แค่ใต้ตรีนวัง" กองทัพเริ่มจัดขบวนใหม่ แข็งแกร่งกว่าเก่า เบ็ดเสร็จเด็ดขาดขึ้นเยอะ ศาลทำหน้าที่ฉลุย ไม่มีใครมาขัดแข้งขัดขาได้อีก ฝีมือเสธ.แดงเค้า กวาดทางสะดวกโยธิน ปูทางกฎหมายศักดิ์สิทธิ์กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนละครปาหี่ศรีธนญชัย ทนดูอีกไม่นานดอก ศาลฟันเมื่อไหร่ เข้าคุกทั้งกะปิ เพราะทุกคดีมันพ่วงกันหมด มัดตราสังข์รอไว้แล้ว! ช่วงนี้โปรดสังเกตุ ทุนเหี้ยห่าซาตาน ที่เคยหลอกแดร๊กเงินชาวบ้าน ถูกชำระแค้นหมด ใครทำชั่ว ใคร 18 มงกุฎ ถูกลากเข้าคุกหมด ทุกอย่างไม่มีบังเอิญ แค่ใบสั่ง มันมาตามนัดเท่านั้นเอง! เอาอีกากีมาล้างทุนสีเทา(บีบคอ บีบไข่ จนดิ้นไม่หลุด) แล้วเอาอีเขียวมาเหยียบหัวอีกากีอีกที เหี้ยขนาดไหน ก็ไปไม่รอด เมื่อเขียวเค้าสั่งมา! เหลืองอย่าเพิ่งออก แดงอย่าเพิ่งรีบเข้า ดอกนี้ เค้าเรียก "เชือดลูกเหี้ยให้พ่อเหี้ยมันดู" การเมืองส้นตรีนใกล้จบ อีแดงจะเอาเงิน(ภาษีประชากรควาย) ฟาดอีควายไทยบัดซบต่อ เงินไม่ใช่ของกูเหรอ? แล้วที่มรึงต้องใช้น้ำมันแพง สินค้าขึ้นราคาไม่มีลง ค่าไฟ ค่าน้ำ ชนชั้นกลางแบกภาษีไปตั้งเท่าไหร่ มรึงไม่รู้สึก เพราะมรึงไม่ได้จ่ายไงล่ะ? จะเอาท่าเดียว แดร๊กส้นตรีนมวลมหาประชาชนไทยมุย? เมือความเบื่อหน่ายมันล้นทะลัก การเปลี่ยนแปลงจึงก่อเกิด นี่คือจุดที่ทหารเค้ารอเล่นอยู่ น้ำท่วมใครช่วยมรึงได้จริง? ทหารทั้งนั้น วังทั้งนั้น ของพระราชทานทั้งนั้น มันเป็นแบบนี้มากี่ยุค กี่สมัยแล้ว เลิกแกล้งโง่ซักที! จะมีพรรคการเมือง นักการเมืองไปทำไม? เสนียดจัญไรแผ่นดินทั้งนั้น โลกเค้าไม่แคร์ปชต. กันแล้ว เพราะมันแดร๊กไม่ได้ จะหิวตายกันหมดแล้ว ไปแหกตาดูอเมริกา ยุโรป ตอนนี้สิ? จ่ายหนัก จ่ายอ่วม มีแต่จ่าย เพราะใครกันล่ะ?

    หมี CNN(ใจร่มๆ เวลาเหี้ยจะตายหมู่ สัญญานมันจะแรงแบบนี้แหละ เพราะเสียงโหยหวลมันจะดังไปไกลมาก ดิ้นทุรนทุรายกันใหญ่ เกมส์โลกไม่พ้นมินิคุ๊กกี้ชาเขียว เกมส์ไทยไม่พ้นส้นตรีนบู๊ทเบอร์ 10 ภาพมันชัด ภาพมันฟ้อง สงครามมันแค่ปัจจัยเสริม ปากท้องคือหนทางสู่ชัยชนะ ใครเลี้ยงโลกได้ ทำให้โลกอิ่มได้ นั่นคือจ้าวโลกคนใหม่ ส่วนข่าวที่อีแขกภาระตะจะขายข้าวขาว สะเทือนอาเซียนนั่น นั่นคือกลไกตลาด อย่าไปกลัว สุดท้ายมันวัดกันที่คุณภาพข้าว และชื่อเสียงที่โด่งดังกันมานาน ยังไงข้าว ปลา อาหาร คือของจริง มีเท่าไหร่ ก็ไม่พอขายดอก หากยิ่งสงครามมาเต็ม อีแขกก็ต้องเก็บสแปร์เอาไว้เช่นกัน เพราะทางฝั่งปากีฯ เริ่มส่งสัญญานปลดแอกเหี้ยยิวกันหมดแล้ว อีบังคลาเทศที่เพิ่งจะถูกม็อบปฎิวัติไป กำลังจะเก็บกวาดในไม่ช้านี้ ความวุ่นวายทั่วโลกจะก่อเกิด ใครมีข้าวในมือ ยิ่งกว่าทองคำ อย่าปล่อย ตามตามเทตามตลาดตอนนี้ เพราะมันคือเกมส์ดึงเชงเค้า)
    11 ตุลาคม 67
    11.53 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172862253941620845
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    11-10-67/01 : หมี CNN / "หมีตะนอย" EP19 ตอน "SECRET WEAPON" ไม่ต้องซ่อนกันอีกแล้ว งัดออกมาโชว์เลย ลวกเพ่! กลัวจุงเบย? หลังเหี้ยมะกันสัญญาจะอุ้มอียิวระยำสลัดหมาจนตัวตาย เป็นไปตามแผนขั้วใหม่ รอกระดิกตรีนเชือด งานนี้ ต้องเอาให้อับอายไปทั่วโลก ประกาศศักดากันให้ชัดไปเลย ว่า ไอ้ที่มรึงเห่าหอนมาแรมปี แม่ง "โคตรกระจอก" เตรียมตายคาตรีนโลกได้เลย! เพราะอาหรับเค้าลงแขกอียิว ใครมาช่วย อาหรับจะช่วยกระทืบซ้ำ ชัดน่ะ? ข่าวไม่ลับดอกน่ะ ไม่แปลกที่จีนแอบส่งหน่วยเฉพาะกิจเข้าไปในเลบานอน ใครบอกล่ะว่ามีแต่จีน? แม่งมากันหมดโลกเลยมั้ง? ทั้งแอฟริกา โสมแดง จีน รัสเซีย อิหร่าน อิรัก ซีเรีย เค้าเข้าไปวางระบบ เตรียมการนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งจะเริ่ม เพราะอ่านขาด ว่ามรึงต้องมาทางนี้แน่! อิหร่านสอนเชิง ต่อให้มรึงยิงมิสไซส์มา 1000 ลูก กูก็เอาอยู่ เพราะยังมีอะไรอีกเยอะ ที่มรึงยังไม่รู้? บอกตรง เหี้ยมันรู้ตัวว่า สู้ยังไงก็แพ้ เพราะทั้งโลกสามัคคีลงแขกเหี้ยกันหมดแล้ว เหลือแค่มรึงกับอียิวเนี่ยแหละ EU มันถอยแล้ว ไปไม่สุด! มรึงจะสู้ยังไง เมื่ออาวุธ NATO ถูกรัสเซีย อิหร่าน จีน โสมแดง ถอดรหัสออกจนหมดเกลี้ยง รู้ไส้รู้พุงหมดเปลือก เอาไปโชว์โง่อยู่ที่มอสโคว์! คลังแสงมรึงหมดเกลี้ยง กำลังพลเหลือน้อยลงทุกที เกณฑ์เท่าไหร่ เข้ามาในพื้นที่ ไม่เกิน 2 สัปดาห์ กลับบ้านเก่าหมด สภาพ! ล่าสุด อีหุ่นเชิดปธน.ไต้หวัน ประกาศกร้าวไม่รวมชาติจีน กูเห็นมาเยอะแล้ว ปากดี ตายคาที่ทุกตัว! แค่เล่นตามบท เคาะกะลาขอตังค์ ขออาวุธ? จีนไม่สนใจ อยากตายห่าวันไหนบอก 24 ชม. ก็เหลือแล้ว? เพราะต่างรู้กันดีว่า หน้าฉาก เหี้ยสั่งได้แต่ผู้นำหุ่นเชิด แต่หลังฉาก อำนาจสั่งการ เป็นของพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งหมอบกับจีนไปนานแล้ว ก็แค่ "ละครหลอกควายเปื่อยตุ๋นน้ำแดง" ข้ามวิกแป๊บ : ไม่ต้องดิ้น! ไม่ต้องแถ นั่งแท่นผู้บริหาร มรึงจะเห่าเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อ? ชื่อมันอยู่เต็มตา ตอนเปิดตัว กระสันจะมีเอี่ยว ตอนถูกเช็คบิล แพแตก หนีหางจุกตูดกันหมด แล้วเงินที่ไปหลอกแดร๊กควายไทยบัดซบเนี่ย "หมดไปแล้วรึจ๊ะ?" ด้านเพ่ตั๊ก ซีโร่ ผิดก็คือผิด ลูกผู้ชายตัวจริงซะอย่าง รับผิดชอบไม่มีเงื่อนไข ลุ้นเหยื่อรอด ไม่งั้นยาวแน่! ส่วนเรื่องเมาแล้วขับ รอผลตรวจ วิบากกรรมมีกันทุกคน อยู่ที่มีสติ รับมือกับมันยังไง? กลับมาที่กลกามเวทีโลกต่อ : น่าฉงน โดรนมหาเทพรัสเซีย S-70 เกิดขัดข้อง ขณะลาดตระเวนกับ SU-57 ไม่รีรอ รัสเซียสั่งจัดการยิงทิ้งทันที เพื่อไม่ให้ไปตกอยู่ในมือข้าศึก คำถามคือ "มรึงเล่นเหี้ยอะไรกันเนี่ย?" แผนสับขาหลอกมาอีก หรือไม่ตั้งใจกันแน่? S-70 คือโดรนดักจับเครื่องบินสเตลท์ GEN 5 ได้อย่างแม่นยำ หลบซ่อนตัวที่ไหนไม่รอดสายตาไปได้? S-70 มีแบบทั้งมีคนขับและไร้คนขับ เข้าใจว่านำมาเพื่อทดสอบอะไรบางอย่าง แต่เกิดผิดพลาด เลยทำลายทิ้งทันที เด็ดขาดคือรัสเซีย S-70 เมื่อดักจับสัญญานเครื่องบินสเตลท์ได้ ก็สามารถนำร่องได้เช่นกัน? นี่คือตัวตึง ที่จะมาชี้เป้า ระบุพิกัดตำแหน่งขีปนาวุธนิวเคลียร์อ่ะเป่า? หากถูกแจมสัญญานดาวเทียม เรื่องนี้ ไม่นานก็มีคำตอบแน่ ว่ามันผิดพลาด หรือตั้งใจทำ เพราะกล้องจับภาพได้ง่ายดายมาก เหมือนตั้งใจให้ถ่ายซะ งั้น ถึงได้บอกไงล่ะว่า "มรึงเล่นเหี้ยอะไรกันเนี่ย?" ปกติ การปฎิบัติภาระกิจใดของรัสเซียก็ตาม มักจะเก็บเป็นความลับเสมอ แต่งวดนี้ เด่นชัด ไปป่ะ? ปล.อีเหลี่ยมขี้แตก! หมากเด็ด ธีรยุทธ ยิงรัว โดนทุกดอก ใครชง ใครตบ ใครส่งเข้าประกวด ไม่ต้องถาม? หลักฐานทุกเม็ด ครบทุกชิ้นถึงมือศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ส่อดึงกลับ ย้อนเข้าคุก ขัดพระบรมราชโองการชัด! โมฆะพระราชทานอภัยลดโทษ เหตุยื่นเสนอเป็นเท็จ ทุกอย่างที่กูเคยบอก เงายมราชมาตามเอาหัวมรึงแล้วไงล่ะ? เผ่นสิจ๊ะ น่ะจ๊ะ มันจะไปยากอะไร แค่มรึงจ่ายครบจบที่เดียว! คืนมาให้หมด พร้อมดอกเบี้ยแผ่นดิน แล้วไสหัวไปซะ เดี๋ยวค่อยส่งมือเก็บไปตามล่าหัวต่อไป ที่มาว่า อีเหลี่ยมชาติหมาพยายามกระตุ้นเกมส์การเมืองใหม่ ต่อรอง อีเนวินบอกชัด มันจบแล้วครับนาย! ลืมตามาดูโลกความเป็นจริงบ้าง "แค่ใต้ตรีนวัง" กองทัพเริ่มจัดขบวนใหม่ แข็งแกร่งกว่าเก่า เบ็ดเสร็จเด็ดขาดขึ้นเยอะ ศาลทำหน้าที่ฉลุย ไม่มีใครมาขัดแข้งขัดขาได้อีก ฝีมือเสธ.แดงเค้า กวาดทางสะดวกโยธิน ปูทางกฎหมายศักดิ์สิทธิ์กลับมาอย่างยิ่งใหญ่ ส่วนละครปาหี่ศรีธนญชัย ทนดูอีกไม่นานดอก ศาลฟันเมื่อไหร่ เข้าคุกทั้งกะปิ เพราะทุกคดีมันพ่วงกันหมด มัดตราสังข์รอไว้แล้ว! ช่วงนี้โปรดสังเกตุ ทุนเหี้ยห่าซาตาน ที่เคยหลอกแดร๊กเงินชาวบ้าน ถูกชำระแค้นหมด ใครทำชั่ว ใคร 18 มงกุฎ ถูกลากเข้าคุกหมด ทุกอย่างไม่มีบังเอิญ แค่ใบสั่ง มันมาตามนัดเท่านั้นเอง! เอาอีกากีมาล้างทุนสีเทา(บีบคอ บีบไข่ จนดิ้นไม่หลุด) แล้วเอาอีเขียวมาเหยียบหัวอีกากีอีกที เหี้ยขนาดไหน ก็ไปไม่รอด เมื่อเขียวเค้าสั่งมา! เหลืองอย่าเพิ่งออก แดงอย่าเพิ่งรีบเข้า ดอกนี้ เค้าเรียก "เชือดลูกเหี้ยให้พ่อเหี้ยมันดู" การเมืองส้นตรีนใกล้จบ อีแดงจะเอาเงิน(ภาษีประชากรควาย) ฟาดอีควายไทยบัดซบต่อ เงินไม่ใช่ของกูเหรอ? แล้วที่มรึงต้องใช้น้ำมันแพง สินค้าขึ้นราคาไม่มีลง ค่าไฟ ค่าน้ำ ชนชั้นกลางแบกภาษีไปตั้งเท่าไหร่ มรึงไม่รู้สึก เพราะมรึงไม่ได้จ่ายไงล่ะ? จะเอาท่าเดียว แดร๊กส้นตรีนมวลมหาประชาชนไทยมุย? เมือความเบื่อหน่ายมันล้นทะลัก การเปลี่ยนแปลงจึงก่อเกิด นี่คือจุดที่ทหารเค้ารอเล่นอยู่ น้ำท่วมใครช่วยมรึงได้จริง? ทหารทั้งนั้น วังทั้งนั้น ของพระราชทานทั้งนั้น มันเป็นแบบนี้มากี่ยุค กี่สมัยแล้ว เลิกแกล้งโง่ซักที! จะมีพรรคการเมือง นักการเมืองไปทำไม? เสนียดจัญไรแผ่นดินทั้งนั้น โลกเค้าไม่แคร์ปชต. กันแล้ว เพราะมันแดร๊กไม่ได้ จะหิวตายกันหมดแล้ว ไปแหกตาดูอเมริกา ยุโรป ตอนนี้สิ? จ่ายหนัก จ่ายอ่วม มีแต่จ่าย เพราะใครกันล่ะ? หมี CNN(ใจร่มๆ เวลาเหี้ยจะตายหมู่ สัญญานมันจะแรงแบบนี้แหละ เพราะเสียงโหยหวลมันจะดังไปไกลมาก ดิ้นทุรนทุรายกันใหญ่ เกมส์โลกไม่พ้นมินิคุ๊กกี้ชาเขียว เกมส์ไทยไม่พ้นส้นตรีนบู๊ทเบอร์ 10 ภาพมันชัด ภาพมันฟ้อง สงครามมันแค่ปัจจัยเสริม ปากท้องคือหนทางสู่ชัยชนะ ใครเลี้ยงโลกได้ ทำให้โลกอิ่มได้ นั่นคือจ้าวโลกคนใหม่ ส่วนข่าวที่อีแขกภาระตะจะขายข้าวขาว สะเทือนอาเซียนนั่น นั่นคือกลไกตลาด อย่าไปกลัว สุดท้ายมันวัดกันที่คุณภาพข้าว และชื่อเสียงที่โด่งดังกันมานาน ยังไงข้าว ปลา อาหาร คือของจริง มีเท่าไหร่ ก็ไม่พอขายดอก หากยิ่งสงครามมาเต็ม อีแขกก็ต้องเก็บสแปร์เอาไว้เช่นกัน เพราะทางฝั่งปากีฯ เริ่มส่งสัญญานปลดแอกเหี้ยยิวกันหมดแล้ว อีบังคลาเทศที่เพิ่งจะถูกม็อบปฎิวัติไป กำลังจะเก็บกวาดในไม่ช้านี้ ความวุ่นวายทั่วโลกจะก่อเกิด ใครมีข้าวในมือ ยิ่งกว่าทองคำ อย่าปล่อย ตามตามเทตามตลาดตอนนี้ เพราะมันคือเกมส์ดึงเชงเค้า) 11 ตุลาคม 67 11.53 น. https://linevoom.line.me/post/1172862253941620845 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • คนปกติมี sense อยู่แล้วว่า ดารา หล่อ สวย เพราะกรรมพันธุ์เค้าดี อาหารการกินตั้งแต่เด็ก จนโต มันไม่ได้หล่อสวย ออร่าขาวใส เพราะอาหารเสริมใดๆหรอก และอาหารเสริม ที่ไหนจะมีคุณภาพสู้ แบรนด์ระดับโลกใน Fortune 500 ได้

    ธุรกิจอาหารเสริมส่วนใหญ่ก็ OEM จ้างผลิตราคาถูก ขายราคาแพงเอากำไรอยู่แล้ว

    คนปกติใครก็รู้ และ แม้แต่เรื่องศัลยกรรม ไม่มีแพทย์ที่ไหน ออกแบบใบหน้าเราได้ดีเท่า ธรรมชาติ/พระเจ้า อยู่แล้ว หลายคนที่ทำประสบปัญหามากมายในระยะยาว

    มนุษย์ก็แค่สร้างเรื่องราวต่างๆขึ้นมา ทุกอย่างคือเราเชื่อใคร

    แม้แต่ระบบการศึกษา เศรษฐกิจ และสังคม ในทุกวันนี้ อาจเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงทั้งหมดก็ได้

    การมีชีวิตรอด และอยู่ในโลกอย่างมีความสุข อาจไม่ได้ต้องทำ ต้องเป็นแบบทุกวันนี้ ก็ได้
    คนปกติมี sense อยู่แล้วว่า ดารา หล่อ สวย เพราะกรรมพันธุ์เค้าดี อาหารการกินตั้งแต่เด็ก จนโต มันไม่ได้หล่อสวย ออร่าขาวใส เพราะอาหารเสริมใดๆหรอก และอาหารเสริม ที่ไหนจะมีคุณภาพสู้ แบรนด์ระดับโลกใน Fortune 500 ได้ ธุรกิจอาหารเสริมส่วนใหญ่ก็ OEM จ้างผลิตราคาถูก ขายราคาแพงเอากำไรอยู่แล้ว คนปกติใครก็รู้ และ แม้แต่เรื่องศัลยกรรม ไม่มีแพทย์ที่ไหน ออกแบบใบหน้าเราได้ดีเท่า ธรรมชาติ/พระเจ้า อยู่แล้ว หลายคนที่ทำประสบปัญหามากมายในระยะยาว มนุษย์ก็แค่สร้างเรื่องราวต่างๆขึ้นมา ทุกอย่างคือเราเชื่อใคร แม้แต่ระบบการศึกษา เศรษฐกิจ และสังคม ในทุกวันนี้ อาจเป็นเรื่องโกหกหลอกลวงทั้งหมดก็ได้ การมีชีวิตรอด และอยู่ในโลกอย่างมีความสุข อาจไม่ได้ต้องทำ ต้องเป็นแบบทุกวันนี้ ก็ได้
    0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • เด็จพี่ ยื่น ป.ป.ช.ฟันบิ๊กป้อม กินหรู-อยู่สบาย (11/10/67) #news1 #เด็จพี่ #บิ๊กป้อม #ป.ป.ช.
    เด็จพี่ ยื่น ป.ป.ช.ฟันบิ๊กป้อม กินหรู-อยู่สบาย (11/10/67) #news1 #เด็จพี่ #บิ๊กป้อม #ป.ป.ช.
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 970 Views 359 0 Reviews
  • 11/10/67

    เจ้าสาวของผม“

    เจ้าบ่าวนั้นยืนรออยู่บนเวที แล้วพิธีกรของงานแต่งงานก็ประกาศขึ้น

    “ก่อนจะเปิดตัวเจ้าสาว ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเธอเป็นหนึ่งในลูกสาวแฝดสามของคุณแม่คุณพ่อ แล้วทั้งสามสาวก็มีใบหน้าเหมือนกันเหลือเกิน เจ้าสาวจึงขออนุญาตเล่นเกมสนุก ๆ กับเจ้าบ่าวสักหนึ่งเกม“

    เจ้าบ่าวได้ฟังจึงหันรีหันขวางค่าที่ไม่รู้ว่าจะมีการเล่นเกมอะไรบนเวทีกันด้วย

    “ฝาแฝดสามสาวจะแต่งชุดเจ้าสาวเหมือนกันออกมา“ พิธีกรกล่าวต่อ ”ทีนี้ คุณเจ้าบ่าวต้องเลือกให้ถูกว่าคนไหนคือเจ้าสาวของคุณเจ้าบ่าว“

    เสียงฮือฮาของแขกดังไปทั่วห้องจัดงาน
    “เจ้าสาวฝากมาบอกด้วยว่า ถ้าคุณเจ้าบ่าวรักฉันจริง ต้องเลือกอย่าให้ผิดตัวนะ” พิธีกรพูดเลียนแบบเสียงผู้หญิง แขกหลายคนหัวเราะขัน

    พูดจบ ดนตรีก็ดังขึ้น แล้วหญิงสาวสวยสามคนก็เดินออกมาในชุดเจ้าสาวสีขาวที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ผู้คนส่งเสียงฮือฮา

    “เป็นผม ผมยอมแพ้ครับ อะไรจะเหมือนกันขนาดนี้“ พิธีกรพูดเย้า

    เจ้าบ่าวหน้านิ่วคิ้วขมวดมองไปที่สาวในชุดเจ้าสาวทั้งสามคน รอยไฝฝ้าที่เป็นจุดสังเกตที่เจ้าบ่าวเคยใช้มองแฝดสามคนนี้ก็ใช้ไม่ได้เสียแล้ว เพราะเธอทั้งสามแต่งหน้าลบจุดสังเกตนั้นไปหมด

    “เอาล่ะสิครับคุณเจ้าบ่าว จะหาเจอไหมครับเจ้าสาวของตัวเอง ถ้าหาไม่เจอก็ยกมือยอมแพ้แล้วก็เพิ่มสินสอดอีกสองเท่า ดีไหมครับ” พิธีกรเย้าต่อ ญาติ ๆ ของฝั่งเจ้าสาวตบมือถูกใจ

    “เพิ่มสินสอด ๆ ๆ ๆ” เสียงเชียร์เริ่มดังขึ้น แขกผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างหน้ายิ้มสนุกกับเกมนี้ไปด้วย หันหน้ามาชี้ทายกันว่าคนไหนคือเจ้าสาวตัวจริง

    ในที่สุดเจ้าบ่าวก็โบกมือให้ทุกคนหยุด เขาขอไมโครโฟนจากพิธีกร
    “ต่อให้แต่งตัวเหมือนกันอย่างไร ผมก็จำเจ้าสาวของผมได้ครับ“

    สาวสวยสามคนในชุดเจ้าสาวยิ้มขึ้นพร้อมกัน

    ”ผมรู้จักเจ้าสาวของผมดี ผมรู้ว่าเธอเป็นคนตื่นเต้นง่าย ยิ่งวันสำคัญที่สุดในชีวิตของเราสองคนวันนี้ ผมรู้ว่าเธอตื่นเต้นมากแค่ไหน“

    คนในห้องจัดงานเงียบฟังเจ้าบ่าว

    “เธอคงตื่นเต้นจนเธอทาลิปสติกมากเกินไป เพราะมันเลยเข้าไปโดนฟันของเธอจนมีสีเหมือนลิปสติกแล้ว“ เจ้าบ่าวยิ้มกว้าง

    จบคำพูด สองสาวในชุดเจ้าสาวก็รีบหันไปมองหน้าสาวอีกคนทันที และเจ้าสาวคนนั้นก็รีบยิงฟันให้อีกสองคนนั้นดู

    ไม่เลยไม่มีสีของลิปสติกเปรอะฟันเธอแต่อย่างใด
    “ผมรู้แล้วครับ ว่าเจ้าสาวของผมคนไหน” เจ้าบ่าวยิ้มกว้างกว่าเดิม

    พิธีกรหัวเราะลั่น แล้วก็ตบมือนำทุกคนชื่นชมความฉลาดเฉลียวของเจ้าบ่าว

    ความสุขอบอวลไปทั่วงาน


    Cr ประภาส ชลศรานนท์


    11/10/67 เจ้าสาวของผม“ เจ้าบ่าวนั้นยืนรออยู่บนเวที แล้วพิธีกรของงานแต่งงานก็ประกาศขึ้น “ก่อนจะเปิดตัวเจ้าสาว ซึ่งเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าเธอเป็นหนึ่งในลูกสาวแฝดสามของคุณแม่คุณพ่อ แล้วทั้งสามสาวก็มีใบหน้าเหมือนกันเหลือเกิน เจ้าสาวจึงขออนุญาตเล่นเกมสนุก ๆ กับเจ้าบ่าวสักหนึ่งเกม“ เจ้าบ่าวได้ฟังจึงหันรีหันขวางค่าที่ไม่รู้ว่าจะมีการเล่นเกมอะไรบนเวทีกันด้วย “ฝาแฝดสามสาวจะแต่งชุดเจ้าสาวเหมือนกันออกมา“ พิธีกรกล่าวต่อ ”ทีนี้ คุณเจ้าบ่าวต้องเลือกให้ถูกว่าคนไหนคือเจ้าสาวของคุณเจ้าบ่าว“ เสียงฮือฮาของแขกดังไปทั่วห้องจัดงาน “เจ้าสาวฝากมาบอกด้วยว่า ถ้าคุณเจ้าบ่าวรักฉันจริง ต้องเลือกอย่าให้ผิดตัวนะ” พิธีกรพูดเลียนแบบเสียงผู้หญิง แขกหลายคนหัวเราะขัน พูดจบ ดนตรีก็ดังขึ้น แล้วหญิงสาวสวยสามคนก็เดินออกมาในชุดเจ้าสาวสีขาวที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้ว ผู้คนส่งเสียงฮือฮา “เป็นผม ผมยอมแพ้ครับ อะไรจะเหมือนกันขนาดนี้“ พิธีกรพูดเย้า เจ้าบ่าวหน้านิ่วคิ้วขมวดมองไปที่สาวในชุดเจ้าสาวทั้งสามคน รอยไฝฝ้าที่เป็นจุดสังเกตที่เจ้าบ่าวเคยใช้มองแฝดสามคนนี้ก็ใช้ไม่ได้เสียแล้ว เพราะเธอทั้งสามแต่งหน้าลบจุดสังเกตนั้นไปหมด “เอาล่ะสิครับคุณเจ้าบ่าว จะหาเจอไหมครับเจ้าสาวของตัวเอง ถ้าหาไม่เจอก็ยกมือยอมแพ้แล้วก็เพิ่มสินสอดอีกสองเท่า ดีไหมครับ” พิธีกรเย้าต่อ ญาติ ๆ ของฝั่งเจ้าสาวตบมือถูกใจ “เพิ่มสินสอด ๆ ๆ ๆ” เสียงเชียร์เริ่มดังขึ้น แขกผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างหน้ายิ้มสนุกกับเกมนี้ไปด้วย หันหน้ามาชี้ทายกันว่าคนไหนคือเจ้าสาวตัวจริง ในที่สุดเจ้าบ่าวก็โบกมือให้ทุกคนหยุด เขาขอไมโครโฟนจากพิธีกร “ต่อให้แต่งตัวเหมือนกันอย่างไร ผมก็จำเจ้าสาวของผมได้ครับ“ สาวสวยสามคนในชุดเจ้าสาวยิ้มขึ้นพร้อมกัน ”ผมรู้จักเจ้าสาวของผมดี ผมรู้ว่าเธอเป็นคนตื่นเต้นง่าย ยิ่งวันสำคัญที่สุดในชีวิตของเราสองคนวันนี้ ผมรู้ว่าเธอตื่นเต้นมากแค่ไหน“ คนในห้องจัดงานเงียบฟังเจ้าบ่าว “เธอคงตื่นเต้นจนเธอทาลิปสติกมากเกินไป เพราะมันเลยเข้าไปโดนฟันของเธอจนมีสีเหมือนลิปสติกแล้ว“ เจ้าบ่าวยิ้มกว้าง จบคำพูด สองสาวในชุดเจ้าสาวก็รีบหันไปมองหน้าสาวอีกคนทันที และเจ้าสาวคนนั้นก็รีบยิงฟันให้อีกสองคนนั้นดู ไม่เลยไม่มีสีของลิปสติกเปรอะฟันเธอแต่อย่างใด “ผมรู้แล้วครับ ว่าเจ้าสาวของผมคนไหน” เจ้าบ่าวยิ้มกว้างกว่าเดิม พิธีกรหัวเราะลั่น แล้วก็ตบมือนำทุกคนชื่นชมความฉลาดเฉลียวของเจ้าบ่าว ความสุขอบอวลไปทั่วงาน … Cr ประภาส ชลศรานนท์
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • สังคมกำลังแสวงหาความจริงดราม่าปางช้างป้าไส้เดือน จู่ๆ ดันมีเพจสันดา.นหมา หากินกับหมา โดดมาร่วมวง สุดท้ายจึงถูกช้างเหยียบตุยกลายเป็นประจานตัวเองซะนี่ ต่อไปจะยืนไถเงิ.นคนตามห้าง ระวังโดน "ไอ้ช้าง Yes"
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง2
    สังคมกำลังแสวงหาความจริงดราม่าปางช้างป้าไส้เดือน จู่ๆ ดันมีเพจสันดา.นหมา หากินกับหมา โดดมาร่วมวง สุดท้ายจึงถูกช้างเหยียบตุยกลายเป็นประจานตัวเองซะนี่ ต่อไปจะยืนไถเงิ.นคนตามห้าง ระวังโดน "ไอ้ช้าง Yes" #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง2
    Like
    6
    0 Comments 2 Shares 314 Views 0 Reviews
  • 11/10/67

    ความทรงจำของฉัน
    ( ตอนที่ 2 )
    " ตะล่ะแม่ "

    ปี พ.ศ. 2510...คืนหนึ่ง ที่ ร.พ. แม่สอด จว.ตาก

    ฉัน เป็นแพทย์เวร ถูกปลุก ประมาณ ตี 2 ด้วยเจ้าหน้าที่เวรชาย ยืนเรียกฉัน อยู่หน้าบ้านพักแพทย์ ว่า
    มีผู้หญิงจะคลอดลูก..

    ฉัน ไปที่ห้องคลอด ซึ่งเป็นห้องไม้สัก อยู่ท้ายเรือนผู้ป่วยหญิง ไม่มี Air Condition มีแต่ประตูหน้าต่างที่มีบ้านบังตากันไว้ เท่านั้น...

    ในห้องคลอด มีผู้หญิงนอนปวดท้องคลอด และ พยาบาล ยืนอยู่ข้างๆ
    ฉัน คอยดูอยู่สักพีกหนึ่ง เห็นหัวเด็ก เริ่มโผล่ออกมา พอให้เห็นผมบนหัว นิดหน่อย
    ฉัน จึงเริ่มทำคลอดไปตามปกติ เพราะเป็น Normal Labor
    เด็กออกมา เป็นเพศหญิง
    ฉัน ตัดสายสะดือ แล้วส่งเด็ก ให้พยาบาลดูแลต่อไป
    ฉันรอ รกที่จะลอกออกตามมา แต่เอะใจว่า ทำไมท้องแม่ยังไม่ยุบ
    จึงเอามือคลำดู...
    อ้าว.!..มีเด็กอีกหนึงคน..โชคดึจังมี ลูกแฝด

    แฝดผู้น้อง จะออก ท่าก้น ( เป็นธรรมชาติ ที่เด็กแฝดสอง จะนอนกลับหัวกลับหาง ในมดลูกแม่ เพื่อใช้พื้นที่อยู่ด้วยกันได้ )

    ดังนั้น แฝดคนที่ 2 จะออก ท่าก้น
    กว่าเด็กคนที่ 2 จะเคลื่อนตัวลงมาถึงปากช่องคลอด ต้องใข้เวลาพอสมควร..จึงต้อง รอ รอ...

    ฉัน นั่งรอ..แล้วเพิ่งนึกได้ ว่า มีผู้หญิงสาวสวยคนหนี่ง นั่งอยู่หน้าห้องคลอด
    จึงถามพยาบาล ว่า เธอคือใคร
    พยาบาล ตอบว่า เป็น น้องสาว ของผู้มาคลอด
    ฉัน จึงให้พยาบาล ไปเชิญเธอเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนพี่สาว ในห้องคลอด ( มาถึงตอนนี้ คงไม่มีใครเชื่อว่า ฉันให้ไปเชิญเข้ามาทำไม..ฮา )

    ระหว่างนั่งรอ ได้รู้ประวัตืของผู้มาคลอดบุตร เป็น มอญ..สามี เป็นพะม่า อพยพทั้ครอบครัว มาอยู่ทีแม่สอด หลายปีแล้ว..
    มิน่าล่ะ น้องสาวจึงสวยระดับนางงาม..เธอพูดไทยไม่ได้ พูดถาษาอังกฤษ ก็ไม่ได้
    ฉัน จึงได้แต่นั่งมอง เพลินตา เพลินใจ เท่านั้นเอง..

    ไม่นานเกินรอ..เท้าน้อยๆของเด็ก โผล่แผลมๆมาให้เห็น

    การทำคลอด เด็กท่าก้น เริ่มต้น ณ.บัดนั้น

    ฉัน ตั้งจิตสงบ นึกถึงครูบาอาจารย์ ที่สอนฉันมา ใหัค่อยๆทำไปทีละขั้นตอน
    ...ค่อยๆดึงขาเด็กออกทั้ง 2 ข้าง
    ...จับเด็กให้อยู่ในท่าตะแคงข้าง ค่อยๆดึงตัวเด็กลงล่าง เพื่อใหัตะโพกบนออก..แล้วก็ยกตัวเด็กขึ้นสูง เพื่อใหัตะโพกล่างออก
    ...พลิกตัวเด็ก กลับมาท่านอนคว่ำ แล้วค่อยๆดึงเด็กออกมา จนถึงบริเวณรักแร้
    ...ใช้มือล้วงแขนเด็กออกมาทั้ง 2 ข้าง ( ต้องระวัง เด็กแขนหักได้ )
    ... พลิกตัวเด็กกลับมาในท่าตะแคง เพื่อเอาใหล่บนออก และ ตามด้วยใหล่ล่างออกมา เหลือแต่หัว
    ...พลิกตัวเด็กนอนคว่ำอยู่บนแขนขวา ค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปในปากเด็ก เพื่อดึงหน้าเด็กให้ก้มลงเล็กน้อย..ในเวลาเดียวกัน ใชัมือซ้ายช่วยปรับมุมที่ ท้ายทอยเด็ก แล้วค่อยๆดึงเด็กออกมา
    Happy New Born
    เป็นเพศหญิง ฉันตัดสายสะดือ แล้วส่งให้พยาบาลดูแลต่อ
    เมื่อ รก ลองออกมาหมด มดลูกหดตัวดี ฉันก๊สำรวจ รก พบว่า มี 1 รก และ 2 สายสะดือ
    นั่นคือ แฝดเหมือน ( Identical Twins )

    เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฉันจึงกลับไปนอน

    หนึ่งเดือนผ่านไป พ่อและแม่ เด็กแฝดมาหา ขอให้ฉันตั้งชื่อลูกสาวแฝด เพื่อเป็นศิริมงคล

    ฉัน ตั้งชื่อ
    คนแรก ชื่อ จันทรา
    คนน้อง ชื่อ กุสุมา

    พ่อและแม่เด็ก พูดไทยไม่ได้ ถามฉันเป็นภาษาอังกฤษ ถึงความหมายของชื่อ
    ฉัน อธิบายว่า เป็นชื่อของเจ้าหญิงแสนสวยพะม่า ในนิยายชื่อ ผู้ชนะสิบทิศ ของไทย
    จันทรา คือ เจ้าหญิงเมือง ตองอู
    กุสุมา คือ เจ้าหญิงเมือง แปร
    พ่อแลแม่เด็ก ไม่เข้าใจ แต่ก็พอใจชื่อที่ฉันตั้งให้

    ระหว่างที่ฉันอยู่ ร.พ.แม่สอด ถ้าเด็กแฝดไม่สะบาย พี่เลี้ยงเด็ก จะพามาหาฉันทุกครั้ง
    วันหนึ่ง พี่เลี้ยงเด็กแฝด พูดกับฉันว่า " หนู รู้แล้วว่าทำไมคุณหมอ ตั้งชื่อน้อง ว่า จันทรา กุสุมา "
    ฉันถามว่า " รู้ได้อย่างไร "
    พี่เลี้ยงเด็กแฝดตอบว่า " เมื่อคืน หนูไปดูหนังเรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ ที่โรงหนังแม่สอด ).....( ฮา )

    อีก 12 ปี ต่อมา หลังจากฉันย้ายจาก ร.พ.แม่สอด แล้ว ฉันไปแมสอดอีกครั้ง ได้ถามหา เด็กแฝดคู่นั้น
    พ่อและแม่เด็ก พามาหา
    ฉันดีใจ ที่ได้เห็นเด็กแข็งแรง และเริ่มมีแววสวย
    จึงเรียกเด็ก 2 คน มาหาชิดตัวเพื่อจะถ่ายรูป
    เด็กทั้ง 2 คน ชะงัก ไม่กล้าเข้ามาหา
    จนกระทั่งพ่อเด็ก ส่งภาษาพะม่า กับเด็กทั้งสอง
    เด็ก 2 คน จึงเดินยิ้มเข้ามาหา ยืนซ้ายขวาฉัน ถ่ายรูปด้วยกันเป็นที่ระลึก

    จันทรา-กสุมา เรียนที่ แม่สอด และมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ โรงเรียน เซนต์ฟรัง ซิลซาเวียร์ คอนแวนด์
    หลังจากนั้น ก็ไม่ทราบข่าวคราว
    ได้พบกันอีก เมื่อ ฉันไปกับ วปรอ.355 ที่แม่สอด
    ทั้งสองคน เป็นเจ้าของร้านพลอย ใหญ่โตในตลาดแม่สอด ร้านชื่อ จันทรา
    ต่อมา ก็พบกันอีก ที่แม่สอด ในฐานะประธานแต่งงานให้ จันทรา
    กูสุมา แต่งงานในเวลาต่อมา

    และพบครั้งสุดท้าย ที่ กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข ในขณะที่ฉัน เป็น อธิบดี
    จบบัดนี้ พ.ศ.2564 ยังไม่เคยพบแฝดคู่นี้อีกเลย...

    ก่อนจบ ขอย้อนกลับไปตอนที่ จันทรา-กุสุมา อยู่โรงเรียน เซนต์ฟรัง เป็นเวลาเดียวกันที่ฉันอยู่ โรงพยาบาลราชวิถึ
    ตะละแม่จันทรา และ ตะละแม่กุสุมา มาหาฉัน ที่ โรงพยาบาลราชวิถึ ในชุดนักเรียน เซนต์ฟรัง
    ทั้งสอง ดูค่อนข้างสวย แจ่มใส..เราได้พูดคุยถามทุกข์สุขกัน..

    มีคำถามหนึ่ง ที่ฉันถาม จันทรา-กุสุมาว่า
    " ชื่อที่ตั้งให้ มีปัญหาหรือไม่ ในวันเวลาที่ผ่านมา "

    ทั้งสองคน ตอบว่า " มีค่ะ ใครๆชอบถามบ่อยๆว่า เจด็จ อยู่ไหน "

    ฉันถามกลับไปว่า " แล้ว จเด็จ อยู่ไหนล่ะ "

    สิ่งไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น
    ตะละแม่ทั้งสอง ยกมือขึ้นพรัอมกัน ชี้มาที่ฉัน และพูดพร้อมกัน ว่า " จเด็จ อยู่นี่ไง ".....ฮา ฮาฮา


    11/10/67 ความทรงจำของฉัน ( ตอนที่ 2 ) " ตะล่ะแม่ " ปี พ.ศ. 2510...คืนหนึ่ง ที่ ร.พ. แม่สอด จว.ตาก ฉัน เป็นแพทย์เวร ถูกปลุก ประมาณ ตี 2 ด้วยเจ้าหน้าที่เวรชาย ยืนเรียกฉัน อยู่หน้าบ้านพักแพทย์ ว่า มีผู้หญิงจะคลอดลูก.. ฉัน ไปที่ห้องคลอด ซึ่งเป็นห้องไม้สัก อยู่ท้ายเรือนผู้ป่วยหญิง ไม่มี Air Condition มีแต่ประตูหน้าต่างที่มีบ้านบังตากันไว้ เท่านั้น... ในห้องคลอด มีผู้หญิงนอนปวดท้องคลอด และ พยาบาล ยืนอยู่ข้างๆ ฉัน คอยดูอยู่สักพีกหนึ่ง เห็นหัวเด็ก เริ่มโผล่ออกมา พอให้เห็นผมบนหัว นิดหน่อย ฉัน จึงเริ่มทำคลอดไปตามปกติ เพราะเป็น Normal Labor เด็กออกมา เป็นเพศหญิง ฉัน ตัดสายสะดือ แล้วส่งเด็ก ให้พยาบาลดูแลต่อไป ฉันรอ รกที่จะลอกออกตามมา แต่เอะใจว่า ทำไมท้องแม่ยังไม่ยุบ จึงเอามือคลำดู... อ้าว.!..มีเด็กอีกหนึงคน..โชคดึจังมี ลูกแฝด แฝดผู้น้อง จะออก ท่าก้น ( เป็นธรรมชาติ ที่เด็กแฝดสอง จะนอนกลับหัวกลับหาง ในมดลูกแม่ เพื่อใช้พื้นที่อยู่ด้วยกันได้ ) ดังนั้น แฝดคนที่ 2 จะออก ท่าก้น กว่าเด็กคนที่ 2 จะเคลื่อนตัวลงมาถึงปากช่องคลอด ต้องใข้เวลาพอสมควร..จึงต้อง รอ รอ... ฉัน นั่งรอ..แล้วเพิ่งนึกได้ ว่า มีผู้หญิงสาวสวยคนหนี่ง นั่งอยู่หน้าห้องคลอด จึงถามพยาบาล ว่า เธอคือใคร พยาบาล ตอบว่า เป็น น้องสาว ของผู้มาคลอด ฉัน จึงให้พยาบาล ไปเชิญเธอเข้ามาอยู่เป็นเพื่อนพี่สาว ในห้องคลอด ( มาถึงตอนนี้ คงไม่มีใครเชื่อว่า ฉันให้ไปเชิญเข้ามาทำไม..ฮา ) ระหว่างนั่งรอ ได้รู้ประวัตืของผู้มาคลอดบุตร เป็น มอญ..สามี เป็นพะม่า อพยพทั้ครอบครัว มาอยู่ทีแม่สอด หลายปีแล้ว.. มิน่าล่ะ น้องสาวจึงสวยระดับนางงาม..เธอพูดไทยไม่ได้ พูดถาษาอังกฤษ ก็ไม่ได้ ฉัน จึงได้แต่นั่งมอง เพลินตา เพลินใจ เท่านั้นเอง.. ไม่นานเกินรอ..เท้าน้อยๆของเด็ก โผล่แผลมๆมาให้เห็น การทำคลอด เด็กท่าก้น เริ่มต้น ณ.บัดนั้น ฉัน ตั้งจิตสงบ นึกถึงครูบาอาจารย์ ที่สอนฉันมา ใหัค่อยๆทำไปทีละขั้นตอน ...ค่อยๆดึงขาเด็กออกทั้ง 2 ข้าง ...จับเด็กให้อยู่ในท่าตะแคงข้าง ค่อยๆดึงตัวเด็กลงล่าง เพื่อใหัตะโพกบนออก..แล้วก็ยกตัวเด็กขึ้นสูง เพื่อใหัตะโพกล่างออก ...พลิกตัวเด็ก กลับมาท่านอนคว่ำ แล้วค่อยๆดึงเด็กออกมา จนถึงบริเวณรักแร้ ...ใช้มือล้วงแขนเด็กออกมาทั้ง 2 ข้าง ( ต้องระวัง เด็กแขนหักได้ ) ... พลิกตัวเด็กกลับมาในท่าตะแคง เพื่อเอาใหล่บนออก และ ตามด้วยใหล่ล่างออกมา เหลือแต่หัว ...พลิกตัวเด็กนอนคว่ำอยู่บนแขนขวา ค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปในปากเด็ก เพื่อดึงหน้าเด็กให้ก้มลงเล็กน้อย..ในเวลาเดียวกัน ใชัมือซ้ายช่วยปรับมุมที่ ท้ายทอยเด็ก แล้วค่อยๆดึงเด็กออกมา Happy New Born เป็นเพศหญิง ฉันตัดสายสะดือ แล้วส่งให้พยาบาลดูแลต่อ เมื่อ รก ลองออกมาหมด มดลูกหดตัวดี ฉันก๊สำรวจ รก พบว่า มี 1 รก และ 2 สายสะดือ นั่นคือ แฝดเหมือน ( Identical Twins ) เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ฉันจึงกลับไปนอน หนึ่งเดือนผ่านไป พ่อและแม่ เด็กแฝดมาหา ขอให้ฉันตั้งชื่อลูกสาวแฝด เพื่อเป็นศิริมงคล ฉัน ตั้งชื่อ คนแรก ชื่อ จันทรา คนน้อง ชื่อ กุสุมา พ่อและแม่เด็ก พูดไทยไม่ได้ ถามฉันเป็นภาษาอังกฤษ ถึงความหมายของชื่อ ฉัน อธิบายว่า เป็นชื่อของเจ้าหญิงแสนสวยพะม่า ในนิยายชื่อ ผู้ชนะสิบทิศ ของไทย จันทรา คือ เจ้าหญิงเมือง ตองอู กุสุมา คือ เจ้าหญิงเมือง แปร พ่อแลแม่เด็ก ไม่เข้าใจ แต่ก็พอใจชื่อที่ฉันตั้งให้ ระหว่างที่ฉันอยู่ ร.พ.แม่สอด ถ้าเด็กแฝดไม่สะบาย พี่เลี้ยงเด็ก จะพามาหาฉันทุกครั้ง วันหนึ่ง พี่เลี้ยงเด็กแฝด พูดกับฉันว่า " หนู รู้แล้วว่าทำไมคุณหมอ ตั้งชื่อน้อง ว่า จันทรา กุสุมา " ฉันถามว่า " รู้ได้อย่างไร " พี่เลี้ยงเด็กแฝดตอบว่า " เมื่อคืน หนูไปดูหนังเรื่อง ผู้ชนะสิบทิศ ที่โรงหนังแม่สอด ).....( ฮา ) อีก 12 ปี ต่อมา หลังจากฉันย้ายจาก ร.พ.แม่สอด แล้ว ฉันไปแมสอดอีกครั้ง ได้ถามหา เด็กแฝดคู่นั้น พ่อและแม่เด็ก พามาหา ฉันดีใจ ที่ได้เห็นเด็กแข็งแรง และเริ่มมีแววสวย จึงเรียกเด็ก 2 คน มาหาชิดตัวเพื่อจะถ่ายรูป เด็กทั้ง 2 คน ชะงัก ไม่กล้าเข้ามาหา จนกระทั่งพ่อเด็ก ส่งภาษาพะม่า กับเด็กทั้งสอง เด็ก 2 คน จึงเดินยิ้มเข้ามาหา ยืนซ้ายขวาฉัน ถ่ายรูปด้วยกันเป็นที่ระลึก จันทรา-กสุมา เรียนที่ แม่สอด และมาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ โรงเรียน เซนต์ฟรัง ซิลซาเวียร์ คอนแวนด์ หลังจากนั้น ก็ไม่ทราบข่าวคราว ได้พบกันอีก เมื่อ ฉันไปกับ วปรอ.355 ที่แม่สอด ทั้งสองคน เป็นเจ้าของร้านพลอย ใหญ่โตในตลาดแม่สอด ร้านชื่อ จันทรา ต่อมา ก็พบกันอีก ที่แม่สอด ในฐานะประธานแต่งงานให้ จันทรา กูสุมา แต่งงานในเวลาต่อมา และพบครั้งสุดท้าย ที่ กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข ในขณะที่ฉัน เป็น อธิบดี จบบัดนี้ พ.ศ.2564 ยังไม่เคยพบแฝดคู่นี้อีกเลย... ก่อนจบ ขอย้อนกลับไปตอนที่ จันทรา-กุสุมา อยู่โรงเรียน เซนต์ฟรัง เป็นเวลาเดียวกันที่ฉันอยู่ โรงพยาบาลราชวิถึ ตะละแม่จันทรา และ ตะละแม่กุสุมา มาหาฉัน ที่ โรงพยาบาลราชวิถึ ในชุดนักเรียน เซนต์ฟรัง ทั้งสอง ดูค่อนข้างสวย แจ่มใส..เราได้พูดคุยถามทุกข์สุขกัน.. มีคำถามหนึ่ง ที่ฉันถาม จันทรา-กุสุมาว่า " ชื่อที่ตั้งให้ มีปัญหาหรือไม่ ในวันเวลาที่ผ่านมา " ทั้งสองคน ตอบว่า " มีค่ะ ใครๆชอบถามบ่อยๆว่า เจด็จ อยู่ไหน " ฉันถามกลับไปว่า " แล้ว จเด็จ อยู่ไหนล่ะ " สิ่งไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น ตะละแม่ทั้งสอง ยกมือขึ้นพรัอมกัน ชี้มาที่ฉัน และพูดพร้อมกัน ว่า " จเด็จ อยู่นี่ไง ".....ฮา ฮาฮา
    0 Comments 0 Shares 26 Views 0 Reviews
  • สวัสดีวันศุกร์
    กินข้าวไข่ดาว
    สวัสดีวันศุกร์ กินข้าวไข่ดาว
    0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • การจัดการทางการเงิน

    ตอนที่ 4.
    ความมั่งคั่งวัดกันที่เวลา - มาดูกันว่าคุณมั่งคั่งแค่ไหนนี่คือสูตรคำนวณ ความมั่งคั่งจะเท่ากับเงินเก็บของคุณหารด้วยค่าใช้จ่ายต่อเดือนของคุณ ยกตัวอย่างเช่นคุณมีเงินเก็บ 100,000 บาท ค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท 100,000/20,000 = 5 แปลว่าคุณมีความมั่งคั่ง 5 เดือนครับ
    .
    ลองทายกันดูสิครับว่าคนรวยเขามั่งคั่งกันเท่าไหร่ หนึ่ง ปี สอง ปี 5 ปี 10 ปี คำตอบคือ อินฟินิตี้ คือตลอดไปเป็นไป ไปได้อย่างไรมาดูกัน รายได้ส่วนมากของคนรวยเป็น passive income เป็นรายได้ที่มาจากทรัพย์สินและถ้ามันมากกว่าการใช้จ่ายแปลว่าเขาจะมั่งคั่งตลอดไปครับ
    .
    ยกตัวอย่างเช่นถ้าคน หนึ่ง มี passive income เดือนละ หนึ่ง ล้านบาทจากเงินปันผล จากดอกเบี้ย จากค่าเช่าร่วมกันนะครับ เดือนละ หนึ่ง ล้านบาท แต่ว่าค่าใช้จ่ายเขาคือ 500,000 บาท เขาจะอยู่ได้นานแค่ไหนครับ คำตอบคือตลอดไป
    .
    Active income คือรายได้ที่เกิดจากการทำงานหากไม่ทำงานก็ไม่เกิดรายได้เช่น ค่าจ้าง เงินเดือนค่าคอมมิชชั่น รายได้จากการเปิดร้านค้า
    Passive income คือรายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินเช่น ค่าเช่า 5 ลิขสิทธิ์ เงินปันผล
    .
    ดอกเบี้ยตอนนี้ทุกคนคงเห็นความสำคัญของการลงทุนแล้วนะครับ แต่ก่อนที่เราจะไปคุยกันเรื่องของการลงทุน ผมมีคำถามครับ
    เป้าหมายการลงทุนของคุณคืออะไร
    คุณต้องการเท่าไหร่
    และอยากได้เมื่อไร ตอบได้ทันทีหรือเปล่า ขอแสดงความยินดีกับคนที่ตอบได้ทันทีนะครับคุณมีเป้าหมายชัดเจนดีแล้ว แต่ถ้าใครยังตอบไม่ได้ไม่เป็นไรครับเราตั้งเป้าหมายกันตอนนี้เลย ทำไมเราต้องตั้งเป้าหมายหลายคนรู้สึกเบื่อคำนี้แล้ว อย่าเบื่อเลยครับ เพราะเป้าหมายคือความชัดเจนคือคำตอบว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไร เราต้องการนำรายได้จากการลงทุนไปทำอะไรกันแน่ เมื่อรู้แล้วเราจะนำไปออกแบบวิธีการและเลือกเครื่องมือที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างถูกต้อง
    ดังนั้นตอนนี้เรามาตั้งเป้าหมายกันก่อน ถ้าเป้าหมายคุณชัดที่เหลือก็ชัด เราต้องออกแบบเป้าหมายกันอย่างชัดเจนอย่างละเอียดเลยครับหลายคนบอกว่าเป้าหมายคืออยากรวย ถ้าตอบแบบนี้ไม่พอนะครับ ต้องถามต่อว่าคำว่ารวยนั้นคือเท่าไหร่ เพราะคำว่ารวยของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนมี หนึ่ง ล้านคือรวย บางคนบอกต้องมีร้อยล้านถึงจะรวย บางคนบอกว่ามีเพียงพอกับการใช้ชีวิตอย่างสบายๆ แค่นี้ก็รวยแล้ว เห็นไหมว่าไม่เท่ากัน ถ้าเราไม่รู้คำตอบที่ชัดเจนเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรารวยแล้ว
    .
    ดังนั้นเราต้องมีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน ชัดแจ๋วละเอียดเลยนะครับ เพราะการที่ไม่มีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน ก็เหมือนการยิงธนูโดยไม่มีปลายทางซึ่งไม่มีทางโดนอะไรเลยใช่ไหมครับ และต้องขอบอกอีกด้วยว่าไม่มีเป้าหมายแบบไหนที่ดีที่สุด มีแต่เป้าหมายที่ตอบโจทย์คุณที่สุด
    .
    ดังนั้นไม่ต้องถามผมว่าต้องตั้งเป้าหมายแบบไหนถึงจะดีเพราะคำถามนี้คุณต้องถามตัวคุณเองแล้วฟังคำตอบจากตัวคุณเองด้วยครับ และเป้าหมายของคุณไม่จำเป็นต้องเหมือนของคนอื่นนะครับ ถ้าตอนนี้ยังไม่ได้วางเป้าหมายเอาไว้เลยและคิดไม่ออกเลยว่าจะวางเป้าหมายอย่างไรด้วย ผมมีตัวอย่างการตั้งเป้าหมายมาฝาก ลองอ่านแล้วพิจารณาแล้วเลือกหรือจะนำมาปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของตัวเองดูครับ
    1. เงินเก็บที่เพียงพอ – จนทำให้สามารถเกษียณได้ เป้าหมายนี้เป็นเป้าหมายที่คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ต้องการ ถ้าคุณตั้งเป้าหมายข้อนี้คุณต้องตอบคำถามตัวเองว่าคุณจะเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่ และคาดว่าจะเสียชีวิตตอนอายุเท่าไหร่ เราต้องคิดเรื่องนี้ไว้เพื่อวางแผนการเงินให้ชัดเจน แค่คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามนั้นจริงๆนะ เมื่อเราได้ตัวเลขอายุที่ต้องการเกษียณ และตัวเลขอายุขัยโดยประมาณ เราก็จะนำมาคำนวณตัวเลขง่ายๆเพื่อหาเป้าหมายในการลงทุนกัน
    ยกตัวอย่าง ถ้าคุณจะเกษียณตอนอายุ 60 ปีที่แล้วคาดว่าจะเสียชีวิตตอนอายุ 90 ปี ลบเลขง่ายๆก็ใช้ชีวิตต 30 ปีหรือ 360 เดือนใช่ไหมครับ
    .
    สิ่งที่ต้องมาคิดกันต่อคือ 30 ปีที่เหลืออยู่นั้น ต้องการใช้เงินเดือนละเท่าไหร่เพื่อจะนำมาคำนวณหาเงินเก็บที่จะต้องมีก่อนวันเกษียณ
    ยกตัวอย่างเช่น
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 25,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 25,000 x 12 x 30 = 9 ล้านบาท
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 50,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 50,000 x 12 x 30 = 18 ล้านบาท
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 100,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 100,000 x 12 x 30 = 36 ล้านบาท
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 200,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 200,000 x 12 x 30 = 72 ล้านบาท
    ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 500,000 บาท
    ก็ต้องมีเงินเก็บ 500,000 x 12 x 30 = 180 ล้านบาท
    อย่างนี้เป็นต้น อย่าลืมด้วยว่าตัวเลขนี้ยังไม่รวมเงินเฟ้อนะครับ เก็บไว้ไหมครับ
    .
    2. มีอิสรภาพทางการเงิน – คือการที่มีรายได้จาก passive income มากกว่าค่าใช้จ่ายนั่นเองครับ รายได้จาก passive income คืออะไร ต้องอธิบายก่อนว่ารายได้ของเราถูกแบ่งออกเป็น สอง ประเภทใหญ่ๆคือ active และ Passive income
    Active Income คือรายได้จากการทำงานที่ใช้แรงหรือเวลาของเราไปแลกกับรายได้ประเภทนี้มา เช่นค่าแรงเงินเดือนค่าคอมมิชชั่นเมื่อทำก็เกินรายได้แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่เกิดรายได้
    Passive income คือรายได้ที่มาจากทรัพย์สินที่สร้างรายได้ต่อเนื่องกลับมาให้เราเช่น บ้านให้เช่า อพาร์ทเม้นท์ ค่าลิขสิทธ์ดอกเบี้ยเงินฝากปันผล
    .
    รายได้จาก Passive income ควรมีเท่าไหร่ เราวัดได้จาก Wealth Ratio หรืออัตราส่วนความมั่งคั่งซึ่งยิ่งมากยิ่งดีมีวิธีการคำนวณดังนี้
    .
    อัตราส่วนความมั่งคั่ง = รายได้จากทรัพย์สิน/ค่าใช้จ่ายเช่น ถ้ามีรายจ่าย 50,000 บาท และมี Passive income 50,000 บาท
    อัตราส่วนความมั่งคั่งคือ 50,000/50,000 = 1
    หรือถ้ามีรายจ่าย 100,000 บาท และมี passive income 500,000 บาท
    อัตราส่วนความมั่งคั่งคือ 500,000/100,000 = 5
    จะเห็นได้ว่ายิ่งมีอัตราส่วนความมั่งคั่งที่ยิ่งมากก็ยิ่งดีนะครับ ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งไร้ความกังวลเท่านั้น
    .
    3. Generational Wealth เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลัง
    เป้าหมายข้อนี้เหมือนเป้าหมายของผมครับ เราอาจตั้งเป้าหมายทางการเงินเป็นการสร้างแล้วส่งมอบต่อให้คนรุ่นหลังได้ ไม่ว่าจะเป็นลูก ล้าน องค์กรการกุศลหรือสาธารณประโยชน์ก็ได้ ถ้าคุณอยากจะส่งรายได้ต่อให้ผู้อื่นคุณจะต้องส่งต่อ Productive Asset หรือทรัพย์สินที่ผลิตเงินได้เช่นอสังหา ปล่อยเช่า หุ้นปันผล กองทุน ETF และส่งต่อความรู้ทางด้านการเงินด้วยนะครับ เพราะถ้าให้แค่เงินไม่ให้ความรู้ไม่ว่าจะมีมากเท่าไหร่ไม่นานก็หมด ต้องส่งทั้ง Mindset และ Skillset ให้เขา ความจริงแล้วแค่ให้ความรู้ทางด้านการเงินที่ถูกต้อง โดยที่ไม่ต้องให้ทรัพย์สิน ไม่ให้รายได้ เค้าก็ 3 ารถหาเงินเองได้ สร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองได้แล้ว แต่ถ้าให้ทรัพย์สินไปด้วยก็ยิ่งก็ยอดเยี่ยม
    .
    4. เป้าหมายแบบอื่นๆ - ได้อีกมากมายที่คุณ 3 ารถออกแบบขึ้นมาตามความต้องการของตัวเอง แต่ขั้นต่ำข้อ หนึ่ง ต้องทำให้ได้เท่าไม่ได้จะลำบากเลยนะครับแถมยังจะเป็นภาระให้คนอื่นด้วย ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างการวางเป้าหมายทางการลงทุนเพื่อให้คุณชัดเจนว่าต้องการอะไรจากการลงทุน ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร คุณต้องสร้าง แผนการและค้นหาวิธีการค้นหาเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายนั้นได้แล้วตั้งแต่วันนี้
    .
    เป้าหมายที่ไร้ซึ่งแผนการเป็นแค่ความฝัน – เหมือนเรามีเป้าหมายการเดินทางจากกรุงเทพฯจะไปเชียงใหม่เราจะขึ้นเครื่องบินไปก็ได้นั่งรถโดยสารไปก็ได้ขับรถไปเองก็ได้โบกรถไปก็ได้ใช่ไหม การเงินก็เช่นกัน เมื่อรู้เป้าหมายชัดเจนแล้ว เราก็ต้องมาวางแผนกันว่าจะไปถึงเป้าหมายทางการลงทุนนั้นด้วยเครื่องมืออะไร ซึ่งเครื่องมือที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั้นผมเตรียมมาให้ทั้งหมดแล้ว ค่อยๆอ่านทำความเข้าใจและเลือกเครื่องมือไปใช้ตามเป้าหมายของคุณ ไม่มีที่ดีกว่าหรือแย่กว่า และไม่มีเครื่องมือที่ผิดหรือถูกนะครับมีแต่คำตอบที่ตอบโจทย์คุณ ดังนั้นตอนนี้ลองเขียนเป้าหมายออกมาให้ชัดเจนก่อน โดยยังไม่ต้องกังวลถึงวิธีการ เพราะวิธีการนั้นมากมายและไม่ต้องไปหาที่ไหนผมรวบรวมมาให้ทั้งหมดแล้วครับ ไปเรียนรู้ต่อได้เลย
    .
    #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    การจัดการทางการเงิน ตอนที่ 4. ความมั่งคั่งวัดกันที่เวลา - มาดูกันว่าคุณมั่งคั่งแค่ไหนนี่คือสูตรคำนวณ ความมั่งคั่งจะเท่ากับเงินเก็บของคุณหารด้วยค่าใช้จ่ายต่อเดือนของคุณ ยกตัวอย่างเช่นคุณมีเงินเก็บ 100,000 บาท ค่าใช้จ่ายเดือนละ 20,000 บาท 100,000/20,000 = 5 แปลว่าคุณมีความมั่งคั่ง 5 เดือนครับ . ลองทายกันดูสิครับว่าคนรวยเขามั่งคั่งกันเท่าไหร่ หนึ่ง ปี สอง ปี 5 ปี 10 ปี คำตอบคือ อินฟินิตี้ คือตลอดไปเป็นไป ไปได้อย่างไรมาดูกัน รายได้ส่วนมากของคนรวยเป็น passive income เป็นรายได้ที่มาจากทรัพย์สินและถ้ามันมากกว่าการใช้จ่ายแปลว่าเขาจะมั่งคั่งตลอดไปครับ . ยกตัวอย่างเช่นถ้าคน หนึ่ง มี passive income เดือนละ หนึ่ง ล้านบาทจากเงินปันผล จากดอกเบี้ย จากค่าเช่าร่วมกันนะครับ เดือนละ หนึ่ง ล้านบาท แต่ว่าค่าใช้จ่ายเขาคือ 500,000 บาท เขาจะอยู่ได้นานแค่ไหนครับ คำตอบคือตลอดไป . Active income คือรายได้ที่เกิดจากการทำงานหากไม่ทำงานก็ไม่เกิดรายได้เช่น ค่าจ้าง เงินเดือนค่าคอมมิชชั่น รายได้จากการเปิดร้านค้า Passive income คือรายได้ที่เกิดจากทรัพย์สินเช่น ค่าเช่า 5 ลิขสิทธิ์ เงินปันผล . ดอกเบี้ยตอนนี้ทุกคนคงเห็นความสำคัญของการลงทุนแล้วนะครับ แต่ก่อนที่เราจะไปคุยกันเรื่องของการลงทุน ผมมีคำถามครับ เป้าหมายการลงทุนของคุณคืออะไร คุณต้องการเท่าไหร่ และอยากได้เมื่อไร ตอบได้ทันทีหรือเปล่า ขอแสดงความยินดีกับคนที่ตอบได้ทันทีนะครับคุณมีเป้าหมายชัดเจนดีแล้ว แต่ถ้าใครยังตอบไม่ได้ไม่เป็นไรครับเราตั้งเป้าหมายกันตอนนี้เลย ทำไมเราต้องตั้งเป้าหมายหลายคนรู้สึกเบื่อคำนี้แล้ว อย่าเบื่อเลยครับ เพราะเป้าหมายคือความชัดเจนคือคำตอบว่าจริงๆแล้วเราต้องการอะไร เราต้องการนำรายได้จากการลงทุนไปทำอะไรกันแน่ เมื่อรู้แล้วเราจะนำไปออกแบบวิธีการและเลือกเครื่องมือที่จะพาเราไปถึงเป้าหมายนั้นได้อย่างถูกต้อง ดังนั้นตอนนี้เรามาตั้งเป้าหมายกันก่อน ถ้าเป้าหมายคุณชัดที่เหลือก็ชัด เราต้องออกแบบเป้าหมายกันอย่างชัดเจนอย่างละเอียดเลยครับหลายคนบอกว่าเป้าหมายคืออยากรวย ถ้าตอบแบบนี้ไม่พอนะครับ ต้องถามต่อว่าคำว่ารวยนั้นคือเท่าไหร่ เพราะคำว่ารวยของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนมี หนึ่ง ล้านคือรวย บางคนบอกต้องมีร้อยล้านถึงจะรวย บางคนบอกว่ามีเพียงพอกับการใช้ชีวิตอย่างสบายๆ แค่นี้ก็รวยแล้ว เห็นไหมว่าไม่เท่ากัน ถ้าเราไม่รู้คำตอบที่ชัดเจนเราจะรู้ได้อย่างไรว่าเรารวยแล้ว . ดังนั้นเราต้องมีเป้าหมายทางการเงินที่ชัดเจน ชัดแจ๋วละเอียดเลยนะครับ เพราะการที่ไม่มีเป้าหมายการลงทุนที่ชัดเจน ก็เหมือนการยิงธนูโดยไม่มีปลายทางซึ่งไม่มีทางโดนอะไรเลยใช่ไหมครับ และต้องขอบอกอีกด้วยว่าไม่มีเป้าหมายแบบไหนที่ดีที่สุด มีแต่เป้าหมายที่ตอบโจทย์คุณที่สุด . ดังนั้นไม่ต้องถามผมว่าต้องตั้งเป้าหมายแบบไหนถึงจะดีเพราะคำถามนี้คุณต้องถามตัวคุณเองแล้วฟังคำตอบจากตัวคุณเองด้วยครับ และเป้าหมายของคุณไม่จำเป็นต้องเหมือนของคนอื่นนะครับ ถ้าตอนนี้ยังไม่ได้วางเป้าหมายเอาไว้เลยและคิดไม่ออกเลยว่าจะวางเป้าหมายอย่างไรด้วย ผมมีตัวอย่างการตั้งเป้าหมายมาฝาก ลองอ่านแล้วพิจารณาแล้วเลือกหรือจะนำมาปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของตัวเองดูครับ 1. เงินเก็บที่เพียงพอ – จนทำให้สามารถเกษียณได้ เป้าหมายนี้เป็นเป้าหมายที่คนส่วนใหญ่บนโลกนี้ต้องการ ถ้าคุณตั้งเป้าหมายข้อนี้คุณต้องตอบคำถามตัวเองว่าคุณจะเกษียณเมื่ออายุเท่าไหร่ และคาดว่าจะเสียชีวิตตอนอายุเท่าไหร่ เราต้องคิดเรื่องนี้ไว้เพื่อวางแผนการเงินให้ชัดเจน แค่คาดการณ์เอาไว้ล่วงหน้าไม่จำเป็นต้องเป็นไปตามนั้นจริงๆนะ เมื่อเราได้ตัวเลขอายุที่ต้องการเกษียณ และตัวเลขอายุขัยโดยประมาณ เราก็จะนำมาคำนวณตัวเลขง่ายๆเพื่อหาเป้าหมายในการลงทุนกัน ยกตัวอย่าง ถ้าคุณจะเกษียณตอนอายุ 60 ปีที่แล้วคาดว่าจะเสียชีวิตตอนอายุ 90 ปี ลบเลขง่ายๆก็ใช้ชีวิตต 30 ปีหรือ 360 เดือนใช่ไหมครับ . สิ่งที่ต้องมาคิดกันต่อคือ 30 ปีที่เหลืออยู่นั้น ต้องการใช้เงินเดือนละเท่าไหร่เพื่อจะนำมาคำนวณหาเงินเก็บที่จะต้องมีก่อนวันเกษียณ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 25,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 25,000 x 12 x 30 = 9 ล้านบาท ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 50,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 50,000 x 12 x 30 = 18 ล้านบาท ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 100,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 100,000 x 12 x 30 = 36 ล้านบาท ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 200,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 200,000 x 12 x 30 = 72 ล้านบาท ถ้าต้องการใช้เงินเดือนละ 500,000 บาท ก็ต้องมีเงินเก็บ 500,000 x 12 x 30 = 180 ล้านบาท อย่างนี้เป็นต้น อย่าลืมด้วยว่าตัวเลขนี้ยังไม่รวมเงินเฟ้อนะครับ เก็บไว้ไหมครับ . 2. มีอิสรภาพทางการเงิน – คือการที่มีรายได้จาก passive income มากกว่าค่าใช้จ่ายนั่นเองครับ รายได้จาก passive income คืออะไร ต้องอธิบายก่อนว่ารายได้ของเราถูกแบ่งออกเป็น สอง ประเภทใหญ่ๆคือ active และ Passive income Active Income คือรายได้จากการทำงานที่ใช้แรงหรือเวลาของเราไปแลกกับรายได้ประเภทนี้มา เช่นค่าแรงเงินเดือนค่าคอมมิชชั่นเมื่อทำก็เกินรายได้แต่ถ้าไม่ทำก็ไม่เกิดรายได้ Passive income คือรายได้ที่มาจากทรัพย์สินที่สร้างรายได้ต่อเนื่องกลับมาให้เราเช่น บ้านให้เช่า อพาร์ทเม้นท์ ค่าลิขสิทธ์ดอกเบี้ยเงินฝากปันผล . รายได้จาก Passive income ควรมีเท่าไหร่ เราวัดได้จาก Wealth Ratio หรืออัตราส่วนความมั่งคั่งซึ่งยิ่งมากยิ่งดีมีวิธีการคำนวณดังนี้ . อัตราส่วนความมั่งคั่ง = รายได้จากทรัพย์สิน/ค่าใช้จ่ายเช่น ถ้ามีรายจ่าย 50,000 บาท และมี Passive income 50,000 บาท อัตราส่วนความมั่งคั่งคือ 50,000/50,000 = 1 หรือถ้ามีรายจ่าย 100,000 บาท และมี passive income 500,000 บาท อัตราส่วนความมั่งคั่งคือ 500,000/100,000 = 5 จะเห็นได้ว่ายิ่งมีอัตราส่วนความมั่งคั่งที่ยิ่งมากก็ยิ่งดีนะครับ ยิ่งมากเท่าไหร่ก็ยิ่งไร้ความกังวลเท่านั้น . 3. Generational Wealth เพื่อส่งต่อให้คนรุ่นหลัง เป้าหมายข้อนี้เหมือนเป้าหมายของผมครับ เราอาจตั้งเป้าหมายทางการเงินเป็นการสร้างแล้วส่งมอบต่อให้คนรุ่นหลังได้ ไม่ว่าจะเป็นลูก ล้าน องค์กรการกุศลหรือสาธารณประโยชน์ก็ได้ ถ้าคุณอยากจะส่งรายได้ต่อให้ผู้อื่นคุณจะต้องส่งต่อ Productive Asset หรือทรัพย์สินที่ผลิตเงินได้เช่นอสังหา ปล่อยเช่า หุ้นปันผล กองทุน ETF และส่งต่อความรู้ทางด้านการเงินด้วยนะครับ เพราะถ้าให้แค่เงินไม่ให้ความรู้ไม่ว่าจะมีมากเท่าไหร่ไม่นานก็หมด ต้องส่งทั้ง Mindset และ Skillset ให้เขา ความจริงแล้วแค่ให้ความรู้ทางด้านการเงินที่ถูกต้อง โดยที่ไม่ต้องให้ทรัพย์สิน ไม่ให้รายได้ เค้าก็ 3 ารถหาเงินเองได้ สร้างความมั่งคั่งให้ตัวเองได้แล้ว แต่ถ้าให้ทรัพย์สินไปด้วยก็ยิ่งก็ยอดเยี่ยม . 4. เป้าหมายแบบอื่นๆ - ได้อีกมากมายที่คุณ 3 ารถออกแบบขึ้นมาตามความต้องการของตัวเอง แต่ขั้นต่ำข้อ หนึ่ง ต้องทำให้ได้เท่าไม่ได้จะลำบากเลยนะครับแถมยังจะเป็นภาระให้คนอื่นด้วย ทั้งหมดนี้คือตัวอย่างการวางเป้าหมายทางการลงทุนเพื่อให้คุณชัดเจนว่าต้องการอะไรจากการลงทุน ไม่ว่าเป้าหมายของคุณคืออะไร คุณต้องสร้าง แผนการและค้นหาวิธีการค้นหาเครื่องมือที่จะช่วยให้คุณไปถึงเป้าหมายนั้นได้แล้วตั้งแต่วันนี้ . เป้าหมายที่ไร้ซึ่งแผนการเป็นแค่ความฝัน – เหมือนเรามีเป้าหมายการเดินทางจากกรุงเทพฯจะไปเชียงใหม่เราจะขึ้นเครื่องบินไปก็ได้นั่งรถโดยสารไปก็ได้ขับรถไปเองก็ได้โบกรถไปก็ได้ใช่ไหม การเงินก็เช่นกัน เมื่อรู้เป้าหมายชัดเจนแล้ว เราก็ต้องมาวางแผนกันว่าจะไปถึงเป้าหมายทางการลงทุนนั้นด้วยเครื่องมืออะไร ซึ่งเครื่องมือที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั้นผมเตรียมมาให้ทั้งหมดแล้ว ค่อยๆอ่านทำความเข้าใจและเลือกเครื่องมือไปใช้ตามเป้าหมายของคุณ ไม่มีที่ดีกว่าหรือแย่กว่า และไม่มีเครื่องมือที่ผิดหรือถูกนะครับมีแต่คำตอบที่ตอบโจทย์คุณ ดังนั้นตอนนี้ลองเขียนเป้าหมายออกมาให้ชัดเจนก่อน โดยยังไม่ต้องกังวลถึงวิธีการ เพราะวิธีการนั้นมากมายและไม่ต้องไปหาที่ไหนผมรวบรวมมาให้ทั้งหมดแล้วครับ ไปเรียนรู้ต่อได้เลย . #สอนการลงทุน #สอนเล่นหุ้น #การลงทุน #หุ้น #ตลาดหุ้น #สอนฟรี #กลุ่มคนเล่นหุ้น #เรียนการลงทุน #เรียนหุ้น #พื้นฐานหุ้น #พื้นฐานการลงทุน #การเงิน #การธนาคาร
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
  • ดอกพิกุล +ดอกมะลิ+ผิวส้มซ่า+ผิวมะกรูด บดผสมรวมสมุนไพรอื่น เอามาอัดเป็นเม็ด อม เพิ่มพลังงาน สะดวกเวลากิน พกพา ไม่ยุ่งยาก ส่วน แบบผง ยังมี เหมือนเดิม
    ดอกพิกุล +ดอกมะลิ+ผิวส้มซ่า+ผิวมะกรูด บดผสมรวมสมุนไพรอื่น เอามาอัดเป็นเม็ด อม เพิ่มพลังงาน สะดวกเวลากิน พกพา ไม่ยุ่งยาก ส่วน แบบผง ยังมี เหมือนเดิม
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 28 Views 0 Reviews
  • บาป 18 ประการ คนตื่นธรรม
    กรณีคนตื่นธรรม สอนธรรมออนไลน์ในสื่อโซเชียล มีลักษณะการใช้คำพูดหยาบคาย ด้อยค่าด่ากราด ไม่ประนีประนอมเพื่อให้คนเข้าถึงธรรมะที่แท้จริง ตื่นรู้จากอวิชชา เดรัจฉานวิชา ปลุกเสก ได้สร้างบาป 18 ประการขึ้น คือในการสอนธรรม มีข้อผิดพลาดที่เป็นปัญหาควรต้องพิจารณาและปรับปรุง เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพุทธสาสนา และสร้างสัทธรรมปฏิรูปขึ้นแก่ชาวพุทธ เป็นบาปใหญ่หลวง

    1. ใช้วจีทุจริต ไม่เป็นสัมมาวาจา ไม่เป็นวาจาสุภาษิต (ตามแนวทางมรรค ๘)
    มีการใช้คำพูดด่า ดูถูก กดข่มผู้ฟัง เช่น มึงมันโง่ ไอ้ปัญญาอ่อน มึงปัญญาอ่อนไง โดยกล่าวอ้างว่า ธรรมแท้ไม่มีประนีประนอม ในหลักของมรรคมีองค์ ๘ ครอบคลุมอยู่ในทุกเรื่องของการกระทำ จึงจะถือว่าเป็นการปฏิบัติตามคำสอนในพระพุทธศาสนา การสอนโดยใช้วาจาไม่เป็นสัมมาวาจานั้น เป็นวจีทุจริต เป็นบาป ผิดหลักมรรคมีองค์ ๘

    2. สอนขัดแย้งกันเอง ยกธรรมตีธรรม เพราะไม่รอบรู้ไม่เข้าใจหลักเหตุผล มักจะเอาธรรมข้อใดข้อหนึ่งยกขึ้นมา ตีธรรมะข้ออื่นในชุดธรรมเดียวกัน หรือชุดอื่น เพื่อสร้างภาพว่าตนรู้ทั่วถึงธรรมวินัยดี อันไหนธรรมแท้ ธรรมถูก เช่น การกล่าวว่าการรู้อดีต รู้อนาคต ไม่ได้ทำให้เข้าใจปัจจุบัน ไม่มีประโยชน์
    ถือเป็นดูหมิ่นด้อยค่า คำสอน วิชชา 3 มี ปุพเพนิวาสนุสสติญาณ จุตูปปาตญาณ อาสวักขยญาณ โดยคำลักษณะนี้เป็นการบอกว่า ญาณ 2 อย่างข้างต้นไม่มีความสำคัญ ในขณะที่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ การระลึกรู้อดีตชาติของพระพุทธเจ้า ได้เป็นการประจักษ์แจ้งการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์ ทำให้รู้จุตูปปาตญาณ รู้ผลของการกระทำกรรม และนำสู่อาสวักขยญาณ ปัญญารู้ทำอาสวะกิเลสให้หมดสิ้นได้ และข้อธรรมอื่นก็คล้ายกัน ไม่รู้จักเหตุผล พุทธเจ้าแสดงธรรมเป็นชุดเหตุผล เป็นลำดับ

    3. พุทธคุณไม่มีอยู่จริง นอกจากพระบริสุทธิคุณ ปัญญาคุณ มหากรุณาคุณ
    ความจริงคุณของพระพุทธเจ้ามีหลายประการ ทั้งนวหรคุณ 9 อย่าง อะระหํ(เป็นพระอรหันต์) สัมมาสัมพุทโธ(ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง) วิชชาจรณสัมปันโน (เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ) เป็นต้น พุทธานุภาพที่เกิดจากอานุภาพบารมีที่สั่งสมแสดงออกอำนวยผล ในหลายลักษณะ ให้เกิดความสวัสดีแก่ผู้นับถือบูชา เช่น การปกป้องคุ้มครองพระภิกษุที่ไปปฏิบัติอยู่ในสถานที่ห่างไกล มักจะปูลาดอาสนะไว้ เมื่อมีภัย หรือเกิดอกุศลวิตก หวาดกลัว เพียงระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระองค์จะเสด็จมาปลอบ สอนธรรม ทำให้พระภิกษุไม่หวาดกลัวที่จะเดินทางไปอยู่ในที่ไกลๆ เพราะพลังแห่งพุทธะคุ้มครอง แม้ในยุคปัจจุบันพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ก็ยังมีพลังพุทธคุณหรือพุทธานุภาพปกป้องคุ้มครองชาวพุทธอยู่ ความเชื่อเหล่านี้จะมีผลได้ต้องปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงธรรมระดับหนึ่งจึงจะสามารถพิสูจน์ได้ การเห็นสุดโต่งปฏิเสธความมีอยู่แห่งพุทธานุภาพจึงเป็นความเห็นผิด อันร้ายแรงอย่างหนึ่ง

    4.พระเครื่องไม่มีพุทธคุณ เป็นความเห็นผิด พุทธเจ้าประทานบทพระปริตรหลายวาระหลายบท เพื่อป้องกัน เพื่อรักษา ไม่เบียดเบียน อยู่สำราญ ของพระภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา พุทธานุภาพหรือเขตอำนาจแห่งพุทธเจ้าแผ่ไปใน 3 เรื่อง คือ
    1)ชาติเขต แผ่ไปในหมื่นจักรวาล
    2)อาณาเขต คือ พุทธมนต์ หรือปริตร แผ่ไปในแสนโกฏิจักรวาล
    3)วิสัยเขต แผ่ไปไม่มีขอบเขต
    พุทธคุณหรือพุทธานุภาพ เกิดจากการสวดสาธยายมนต์ มีอำนาจแผ่ไปในแสนโกฏิจักรวาล ช่วยขจัดปัดเป่าอุปัทวันตราย โรคภัย เสนียดจัญไรต่างๆ ได้ มีการสืบทอดคำสอนมาช้านาน
    ดังข้อความว่า
    "ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะจงเล่าเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะ จงทรงจำมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะไว้ ภิกษุทั้งหลาย มนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะนี้ ประกอบด้วยประโยชน์ เพื่อคุ้มครอง เพื่อรักษา เพื่อไม่เบียดเบียน เพื่ออยู่สำราญของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย”
    ข้อความนี้แสดงให้เห็นว่า บทปริตร หรือบทพุทธมนต์ มีพลังอำนาจ คุ้มครองป้องกันรักษา พระพุทธเจ้าจึงให้สวดสาธยาย และเมื่อนำมาใช้ในการสร้างพระพุทธรูป พระเครื่องต่างๆ ย่อมมีคุณตามที่พระพุทธเจ้าตรัส
    คำพูดปฏิเสธพุทธคุณ พุทธรูป สิ่งเคารพทางศาสนา ที่สืบทอดคติความเชื่อจารีตมาช้านานนับพันปี จึงเป็นการบ่อนทำลายความศรัทธาที่มีต่อ พระพุทธเจ้า สิ่งแทนพุทธเจ้า หรือคำสอนที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ไม่ให้ผู้คนมีศรัทธา โดยยกคำสอนเรื่องอริยสัจ มาด้อยค่าคำสอนว่าด้วยเรื่องศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า จึงเป็นการทำลายศาสนา ไปพร้อมกัน อนาคตเด็กยุคใหม่เสพคำสอนนี้ จะไม่นับถือไม่ไหว้พระพุทธเจ้าและไม่เห็นความสำคัญ คุณค่าของพุทธรูปที่สร้างไว้ในฐานะเครื่องยึดเหนี่ยวที่เป็นรูปธรรมนำสุ่พุทธเจ้า รวมทั้งไม่เชื่อในพระพุทธเจ้า

    5. มิจฉาทิฐิ 10 สอนการบูชาที่ไร้ผล สายลัทธิวัดนา สอนไม่ให้กราบไหว้บูชาพระพุทธรูป องค์แทนพุทธเจ้าสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพุทธเจ้า เป็นจารีตนิยมที่ถือมาช้านาน เชื่อมโยงคำสอนในพระไตรปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ ปีตวิมานวัตถุ
    “ติฏฺฐนฺเต นิพฺพุเต จาปิ, สเม จิตฺเต สมํ ผลํ;
    เจโตปณิธิเหตุ หิ, สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคตึ.
    "พระพุทธเจ้า จะทรงพระชนม์อยู่ หรือแม้จะนิพพานไปแล้วก็ตาม
    ถ้าจิตเสมอกัน ผลก็เสมอกัน สัตว์ทั้งหลายไปสู่สวรรค์ เพราะความเลื่อมใสตั้งมั่นแห่งจิตใจ
    การสอนไม่ให้ไหว้พุทธรูป นับเป็นมิจฉาทิฐิ ข้อที่ ๒ นัตถิ ยิตถัง และข้อที่ ๑๐ พระพุทธเจ้าไม่มีอยู่จริง ในชุดคำสอน มิจฉาทิฐิ ๑๐ ประการ เป็นการสร้างบาปทำลายคำสอน ความศรัทธาที่ชาวพุทธมีต่อพระพุทธเจ้า โดยอ้างว่าให้ยึดคำสอนสูงสุด อริยสัจสี่ เพื่อพ้นทุกข์

    6. คุณไสย ไสยเวทย์ ไม่มี. การปฏิเสธคำสอน ในเรื่องคุณไสย์ วิชาอาคม มนต์ มีพลังอำนาจอยู่จริง หรือไม่ เมื่อไม่สามารถหาคำตอบหรือพิสูจน์ได้ ก็ควรพิจารณาจากหลักฐานในพระไตรปิฎก มีที่ใดบ้าง ข้อความพุทธพจน์วินัยบัญญัติ ดังเรื่องต่อไปนี้
    ๑) พระภิกษุถูกผีสิง อมนุษย์สิง กินเลือดสด เนื้อสด ทรงอนุญาตให้พระภิกษุฉันเลือดและเนื้อสดได้ เพื่อเป็นเภสัช เมื่อฉันแล้วอมนุษย์จะออกไป แสดงให้เห็นว่าบทบัญญัติทางพระวินัย พระพุทธเจ้ายอมรับว่ามีผีหรืออมนุษย์สามารถสิงสู่คนได้ พระภิกษุถูกอมนุษย์สิงได้ และวิธีการรักษา ในครั้งนั้นตามอาการ คือเมื่ออมนุษย์มาสิงเพื่อกินเนื้อสด เลือดสด(ปอบ) ก็อนุญาตให้พระภิกษุกินได้ และไม่ถือว่าต้องอาบัติอะไร เพราะคนที่กิน ไม่ใช่พระ แต่เป็นอมนุษย์ หลักฐานนี้ยอมรับการมีอยู่ การสิงร่างคน ของอมนุษย์ เป็นความรู้ที่ควรต้องมี ไม่ปฏิเสธว่า ผี อมนุษย์ ไม่มี ไสยเวทย์ ไม่มี
    เรื่องเนื้อดิบและเลือดสด
    "อมนุษย์เคี้ยวกินเนื้อดิบและดื่มเลือดสด เพราะเหตุนั้น ภิกษุจึงชื่อว่าไม่ได้เคี้ยวกินเนื้อดิบและดื่มเลือดสดนั้น. อมนุษย์ ครั้นเคี้ยวกินและดื่มแล้วได้ออกไป เพราะเหตุนั้น พระธรรมสังคาหกาจารย์จึงกล่าวว่า อาพาธเกิดแต่อมนุษย์นั้นของเธอย่อมระงับ."
    วินัยปิฎก มหาวรรค ๕/๒๖๔๔๙.
    https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=5&siri=8

    ๒) เรื่องภิกษุโดนยาแฝดดื่มน้ำที่ละลายจากดินติดผาลไถ
    สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธโดนยาแฝด ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบพระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ดื่มน้ำที่เขาละลายดิน รอยไถติดผาล”
    (วินัยปิฎกมหาวรรค. ๕/๒๖๙/๖๑.)

    วิธีการรักษาโรคต่างๆ มีปรากฏอยู่ในตุวฏกสุตตนิทเทสขุททกนิกาย มหานิเทศ ได้กล่าวถึงวิธีการบำบัดโรคไว้ 5 อย่างด้วยกัน คือ
    (๑) การบำบัดด้วยการเสกเป่า (๒) การบำบัดด้วย (๓) การผ่าตัด (๔) การบำบัดด้วยยา (๕) การรักษาที่เกี่ยวข้องกับทางภูตผีหรือไสยศาสตร์ และการบำบัดโรคเด็ก (กุมารเวช)

    7.ปฏิเสธการสวดมนต์ สาธยายมนต์ พระปริตร ว่าไม่มีคุณค่า ไม่ได้ช่วยอะไร
    เป็นการปฏิเสธคำของพระพุทธเจ้า ที่อนุญาตให้พุทธบริษัท ๔ เรียน และสวดสาธยายปริตร ดังข้อความว่า "ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะจงเล่าเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะ จงทรงจำมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะไว้ ภิกษุทั้งหลาย มนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะนี้ ประกอบด้วยประโยชน์เพื่อคุ้มครอง เพื่อรักษา เพื่อไม่เบียดเบียน เพื่ออยู่สำราญของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย”
    (ที.มหา. ๑๑/๒๙๕/๒๖๔.)

    8. เรียนไม่ถึง ตีความเอง ไม่ศึกษาเครื่องมือการศึกษาพระไตรปิฎก คือไวยากรณ์ภาษาบาลี คนตื่นธรรมเป็นศิษย์สำนักวัดนาจึงใช้ทิฏฐิของตน อัตโนมัติ ตัดสินธรรมตามชอบใจ ซึ่งเป็นหลักสำคัญที่สำนักนี้ใช้การตีความแบบนี้มาช้านาน
    โดยใช้หลักการยึดเอาพระไตรปิฎกเฉพาะบางส่วน ที่เห็นว่าเป็นคำพุทธวจนะแท้ จากพระโอษฐ์ โดยใช้ตรรกะง่ายๆ หาข้อความในพระสูตรที่มีคำว่า "ภิกฺขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย" เป็นต้น
    จึงจะเชื่อว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ส่วนคำสอนอื่นที่ไม่มีข้อความตรัสแบบนี้ จะตีความว่าไม่ใช่คำสอน เป็นคำแต่งเติม แต่งใหม่จึงมีส่วนคำสอนที่ถูกสำนักนี้ตัดออกไป เช่น เรื่องสวดปริตร หรือสิกบท 150 ข้อ การตัดสินความเป็นพุทธพจน์แท้ แบบนี้นับเป็นการตีความผิดพลาดอย่างมาก ได้สร้างบาปใหญ่ให้เกิดในสังฆมณฑลมา 20 กว่าปี ศิษย์สำนักนี้เผยแผ่ธรรม ตามการตีความแบบนี้จึงได้เกิด วิวาทะ ปะทะกับชาวพุทธส่วนใหญ่ ถกเถียงกันเรื่อง เดรัจฉานวิชา การทำน้ำมนต์ ปลุกเสก สิกขาบทวินัย ทำให้เกิดความแตกแยก ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ปัญหา ยังคงเป็นปัญหาจนทุกวันนี้ คนตื่นธรรมถือเป็นผลผลิตของวัดนาที่ได้สร้างบาปให้แก่พุทธสาสนา ด้วยการศึกษาเอง ตีความเอง ข่มชาวพุทธ

    9.ศึกษาธรรมวินัยเอง ไม่มีครูอาจารย์ผู้สอน ทำให้ตีความธรรมวินัยผิดพลาด ขัดแย้งกับคำสอนหลายเรื่อง เป็นมิจฉาทิฐิ ในการเล่าเรียนธรรมพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติวิธีการศึกษาพระธรรมวินัยไว้ในสัทธิวิหาริกวัตรว่า
    “อุปชฺฌาเยน, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริโก สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ อุทฺเทเสน ปริปุจฺฉาย โอวาเทน อนุสาสนิยา.
    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุปัชฌาย์ ต้องสงเคราะห์ อนุเคราะห์ สัทธิวิหาริก(พระลูกศิษย์) ด้วยอุทเทส(พระบาลี) ปริปุจฉา(การทวนสอบอรรถกถา) โอวาท และอนุสาสนีย์
    วินัยปิฎก มหาวรรค.๔/๖๗/๘๘
    https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=4&siri=20
    หลักการนี้ย้ำชัดว่า ในการศึกษาคำสอน ต้องทำอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ที่รอบรู้ในพระธรรมวินัย ไม่สามารถศึกษาเองได้ คนตื่นธรรมหรือสำนักวัดนา ใช้วิธีการอ่านศึกษาธรรมเอง จึงได้เกิดความเห็นผิดขึ้นหลายประการ เรื่องการตีความคำสอนผิดพลาด

    10.ขาดคุณสมบัติของผู้สอนธรรม ๗ ประการ ที่จำเป็นของผู้สอนธรรม ตามพุทธพจน์ที่ตรัสไว้ในอังคุตรนิกาย สัตตกนิบาตว่า
    “ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม;
    คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา, โน จฏฺาเน นิโยชโก .
    ๑. เป็นที่รักเป็นที่พอใจ ๒. เป็นที่เคารพ ๓. เป็นที่ยกย่อง
    ๔. เป็นนักพูด ๕. เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ ๖. เป็นผู้พูดถ้อยคำลึกซึ้งได้
    ๗. ไม่ชักนำในอฐานะ
    ภิกษุทั้งหลาย มิตรประกอบด้วยองค์ ๗ ประการนี้แล เป็นผู้ควรเสพ ควรคบ
    ควรเข้าไปนั่งใกล้ แม้จะถูกขับไล่ก็ตาม
    อธิบายความ
    1.ปิโย เป็นที่รักเป็นที่พอใจ ในที่นี้หมายถึงมีลักษณะแห่งกัลยาณมิตร ๘ ประการ คือ (๑) มีศรัทธา คือ เชื่อการตรัสรู้ของพระตถาคต เชื่อกรรมและผลของกรรม (๒) มีศีล คือ เป็นที่รัก เป็นที่เคารพ เป็นที่นับถือของสัตว์ทั้งหลาย (๓) มีสุตะ คือ กล่าวถ้อยคำที่ลึกซึ้งที่สัมปยุตด้วยสัจจะและปฏิจจสมุปบาท (๔) มีจาคะ คือปรารถนาน้อย สันโดษ ชอบสงัด ไม่คลุกคลีด้วยหมู่ (๕) มีความเพียร คือ ปรารภความเพียรในการปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลแก่ตนและเกื้อกูลแก่ผู้อื่น (๖) มีสติ คือ มีสติตั้งมั่น (๗) มีสมาธิ คือ มีจิตตั้งมั่นไม่ฟุ้งซ่าน(๘) มีปัญญา คือ รู้อย่างไม่วิปริต ใช้สติพิจารณาคติแห่งกุศลธรรมและอกุศลธรรม รู้สิ่งที่เกื้อกูลและสิ่งไม่เกื้อกูลแห่งสัตว์ทั้งหลายด้วยปัญญาตามความเป็นจริง มีจิตเป็นหนึ่งในอารมณ์นั้นด้วยสมาธิ เว้นสิ่งที่ไม่เกื้อกูล ประกอบสิ่งที่เกื้อกูลด้วยความเพียร (องฺ.สตฺตก.ฏีกา ๓/๓๗-๔๓/๒๐๓)
    2.ครุ เป็นที่เคารพ สูงส่งหนักแน่นดุจหินผา
    3.ภาวนีโย เป็นที่ยกย่อง น่าเจริญใจ
    4.วัตตา เป็นนักพูด(ผู้สอน) หมายถึงเป็นผู้ฉลาดในการใช้คำพูด (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๗/๑๗๙)
    5. วจนักขโม อดทนต่อถ้อยคำ หมายถึงปฏิบัติตามโอวาทที่ท่านให้แล้ว (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๗/๑๗๙)
    6. คัมภีรัญ จะ กถัง กัตตา ถ้อยคำลึกซึ้ง หมายถึงเรื่องเกี่ยวกับฌาน วิปัสสนา มรรค ผล และนิพพาน (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๗/๑๗๙)
    7. โน จัฏฐาเน นิโยชะโก ไม่ชักนำในอฐานะ หมายถึงป้องกันไม่ให้ทำในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล มีคติเป็นทุกข์ แต่ชักชวนให้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลมีคติเป็นสุข (เทียบ องฺ.สตฺตก.ฏีกา ๓/๓๗/๒๐๓)

    11. ไม่จำแนกแยกแยะ ให้ชัดเจน เหมาะรวม เช่น การสวดมนต์ เจริญพุทธมนต์ ปริตร การอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคล กับเดรัจฉานวิชา เอามายำรวมกัน เป็นของที่ห้าม

    12.ไม่ให้บูชานับถือ สิ่งอื่นนอกเหนือจากพระรัตนตรัย หรือคำสอน บูชาเทวดา ยมยักษ์ ต่างๆ
    ในรายละเอียดเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าแสดงอานิสงส์ของการบูชาเจดีย์ ที่เป็นเหตุแห่งความเจริญไว้ ในมหาปรินิพพานสูตร ตอนราชอปริหานิยธรรม ทีฆนิกาย มหาวรรค ข้อที่ ๖ ว่า
    “อานนท์ เธอได้ยินไหมว่า ‘พวกเจ้าวัชชี สักการะ เคารพ นับถือ บูชา
    เจดีย์ในแคว้นวัชชีของชาววัชชี ทั้งในเมืองและนอกเมือง และไม่ละเลยการบูชาอันชอบธรรม ที่เคยให้เคยกระทำต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป”
    “อานนท์ พวกเจ้าวัชชีพึงหวังได้แต่ความเจริญอย่างเดียว ไม่มีความเสื่อมเลยตราบเท่าที่พวกเจ้าวัชชียังสักการะ เคารพ นับถือ บูชาเจดีย์ในแคว้นวัชชีของชาววัชชีทั้งในเมืองและนอกเมือง และไม่ละเลยการบูชาอันชอบธรรมที่เคยให้เคยกระทำ ต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป”
    (ที.มหา.10/134/78.)
    https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=10&siri=3
    คำว่า เจดีย์ ที่ชาววัชชีบูชา หมายถึง ต้นไม้ใหญ่ ที่มียักษ์สิงสถิตย์ ยักษ์เป็นเทวดาชั้นจาตุม ยกฺข ภาษาบาลีแปลว่า ผู้ที่เขาบูชา เมื่อบุคคลบูชาต้นไม้ใหญ่ หรือยักษ์ ย่อมมีความเจริญ ยักษ์คือเทวดาย่อมปกปักษ์รักษา สอดคล้องกับคำสอนเรื่อง เทวตานุสสติ ในพระพุทธศาสนา ไม่ขัดแย้งกัน
    ย่อมเป็นหลักการยืนยันว่า พระพุทธเจ้ายอมรับว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังอำนาจอำนวยผลให้ผู้คนนับถือบูชา การบูชาเทวดา หรือต้นไม้ใหญ่ ก็มีผลนำความเจริญมาสู่ได้ เป็นหลักการย่อยในหลักการใหญ่ ที่ควรต้องรู้รอบและลึกชัดเจน จึงจะเข้าใจเรื่องนี้

    13. ไม่เข้าใจตัวบทพยัญชนะ ความหมายคำ
    ติรัจฉานวิชชา การสวดปริตร การใช้อิทธิปาฏิหาริย์ที่อนุญาต
    ติรจฺฉานวิชฺชา(อิต.) วิชาขวาง, วิชาขวาง ทางไปนิพพาน, ติรัจฉานวิชา คือความรู้ที่ไร้สาระ ความรู้ที่ไม่เป็นประโยชน์ วิชาที่ไม่ทำตนให้พ้นจากทุกข์ซึ่งพระพุทธเจ้า ทรงห้ามมิให้ภิกษุ - สามเณรศึกษา เช่น วิชาทำเสน่ห์ยาแฝดเป็นต้น.

    14. ไม่เข้าใจ แยกไม่ออกระหว่างการสวดปริตร กับการทำเดรัจฉานวิชา
    ทำให้ โจมตีพระที่สวดปริตร ทำน้ำมนต์ ปลุกเสก ในขณะที่เรื่องการทำวัตถุมงคล พุทธพานิชย์มีรายละเอียดหลายส่วน ต้องพิจารณาว่าพระสงฆ์รูปใดเข้าไปเกี่ยวข้องในลักษณะใดบ้าง ผิดพระวินัยข้อใด การสร้างพระพุทธรูป การสวดปริตร ปลุกเสก ไม่ได้ผิดหลักคำสอนทั้งในส่วนวินัยบัญญัติ หรือสัมมาอาชีวะแต่อย่างใด ส่วนการทำพานิชย์ที่เกี่ยวข้องเป็นหน้าที่ของฆราวาสดำเนินการด้วยมุ่งประโยชน์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสร้างถาวรวัตถุ ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ไม่ใช่การหลอกลวงตามพระวินัย

    15. ไม่มีคารวธรรม คุณธรรม ศึกษาแบบลวกๆ ไม่เคารพในสิกขา การศึกษา ทำให้เข้าใจไม่ถูกต้อง นำสุ่การตีความธรรมวินัยผิด
    การศึกษาธรรมต้องมีความเคารพในสิกขา คือการศึกษาด้วยความเคารพ ข้อใดไม่เข้าใจก็ต้องไปสอบถาม กับอาจารย์ผู้รู้ จนเกิดความเข้าใจ การไม่แสวงหา ไม่ใฝ่หาผู้รู้มาสอบทานความรู้ที่ตนมีจึงเป็นการศึกษาโดยไม่เคารพในพระธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องความเข้าใจไม่ถูกต้อง และเป็นปัญหาชาวพุทธเมื่อนำไปเผยแผ่
    (มี ต่อ 16-18)

    อย่าร่วมกันสร้างบาปให้กับพระพุทธศาสนา คำสอนในพระไตรปิฎกมีความลึกซึ้ง ต้องศึกษาอย่างเคารพ ระมัดระวัง อย่างเป็นระบบ มีกระบวนการ และชาวพุทธควรยึดหลักการในพระไตรปิฎก ไม่สนับสนุนกลุ่มคนที่ทำลายคำสอนด้วยการสอนผิด
    บาป 18 ประการ คนตื่นธรรม กรณีคนตื่นธรรม สอนธรรมออนไลน์ในสื่อโซเชียล มีลักษณะการใช้คำพูดหยาบคาย ด้อยค่าด่ากราด ไม่ประนีประนอมเพื่อให้คนเข้าถึงธรรมะที่แท้จริง ตื่นรู้จากอวิชชา เดรัจฉานวิชา ปลุกเสก ได้สร้างบาป 18 ประการขึ้น คือในการสอนธรรม มีข้อผิดพลาดที่เป็นปัญหาควรต้องพิจารณาและปรับปรุง เพราะกระทบต่อภาพลักษณ์ของพุทธสาสนา และสร้างสัทธรรมปฏิรูปขึ้นแก่ชาวพุทธ เป็นบาปใหญ่หลวง 1. ใช้วจีทุจริต ไม่เป็นสัมมาวาจา ไม่เป็นวาจาสุภาษิต (ตามแนวทางมรรค ๘) มีการใช้คำพูดด่า ดูถูก กดข่มผู้ฟัง เช่น มึงมันโง่ ไอ้ปัญญาอ่อน มึงปัญญาอ่อนไง โดยกล่าวอ้างว่า ธรรมแท้ไม่มีประนีประนอม ในหลักของมรรคมีองค์ ๘ ครอบคลุมอยู่ในทุกเรื่องของการกระทำ จึงจะถือว่าเป็นการปฏิบัติตามคำสอนในพระพุทธศาสนา การสอนโดยใช้วาจาไม่เป็นสัมมาวาจานั้น เป็นวจีทุจริต เป็นบาป ผิดหลักมรรคมีองค์ ๘ 2. สอนขัดแย้งกันเอง ยกธรรมตีธรรม เพราะไม่รอบรู้ไม่เข้าใจหลักเหตุผล มักจะเอาธรรมข้อใดข้อหนึ่งยกขึ้นมา ตีธรรมะข้ออื่นในชุดธรรมเดียวกัน หรือชุดอื่น เพื่อสร้างภาพว่าตนรู้ทั่วถึงธรรมวินัยดี อันไหนธรรมแท้ ธรรมถูก เช่น การกล่าวว่าการรู้อดีต รู้อนาคต ไม่ได้ทำให้เข้าใจปัจจุบัน ไม่มีประโยชน์ ถือเป็นดูหมิ่นด้อยค่า คำสอน วิชชา 3 มี ปุพเพนิวาสนุสสติญาณ จุตูปปาตญาณ อาสวักขยญาณ โดยคำลักษณะนี้เป็นการบอกว่า ญาณ 2 อย่างข้างต้นไม่มีความสำคัญ ในขณะที่ปุพเพนิวาสานุสสติญาณ การระลึกรู้อดีตชาติของพระพุทธเจ้า ได้เป็นการประจักษ์แจ้งการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏฏ์ ทำให้รู้จุตูปปาตญาณ รู้ผลของการกระทำกรรม และนำสู่อาสวักขยญาณ ปัญญารู้ทำอาสวะกิเลสให้หมดสิ้นได้ และข้อธรรมอื่นก็คล้ายกัน ไม่รู้จักเหตุผล พุทธเจ้าแสดงธรรมเป็นชุดเหตุผล เป็นลำดับ 3. พุทธคุณไม่มีอยู่จริง นอกจากพระบริสุทธิคุณ ปัญญาคุณ มหากรุณาคุณ ความจริงคุณของพระพุทธเจ้ามีหลายประการ ทั้งนวหรคุณ 9 อย่าง อะระหํ(เป็นพระอรหันต์) สัมมาสัมพุทโธ(ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง) วิชชาจรณสัมปันโน (เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ) เป็นต้น พุทธานุภาพที่เกิดจากอานุภาพบารมีที่สั่งสมแสดงออกอำนวยผล ในหลายลักษณะ ให้เกิดความสวัสดีแก่ผู้นับถือบูชา เช่น การปกป้องคุ้มครองพระภิกษุที่ไปปฏิบัติอยู่ในสถานที่ห่างไกล มักจะปูลาดอาสนะไว้ เมื่อมีภัย หรือเกิดอกุศลวิตก หวาดกลัว เพียงระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระองค์จะเสด็จมาปลอบ สอนธรรม ทำให้พระภิกษุไม่หวาดกลัวที่จะเดินทางไปอยู่ในที่ไกลๆ เพราะพลังแห่งพุทธะคุ้มครอง แม้ในยุคปัจจุบันพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว ก็ยังมีพลังพุทธคุณหรือพุทธานุภาพปกป้องคุ้มครองชาวพุทธอยู่ ความเชื่อเหล่านี้จะมีผลได้ต้องปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงธรรมระดับหนึ่งจึงจะสามารถพิสูจน์ได้ การเห็นสุดโต่งปฏิเสธความมีอยู่แห่งพุทธานุภาพจึงเป็นความเห็นผิด อันร้ายแรงอย่างหนึ่ง 4.พระเครื่องไม่มีพุทธคุณ เป็นความเห็นผิด พุทธเจ้าประทานบทพระปริตรหลายวาระหลายบท เพื่อป้องกัน เพื่อรักษา ไม่เบียดเบียน อยู่สำราญ ของพระภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกา พุทธานุภาพหรือเขตอำนาจแห่งพุทธเจ้าแผ่ไปใน 3 เรื่อง คือ 1)ชาติเขต แผ่ไปในหมื่นจักรวาล 2)อาณาเขต คือ พุทธมนต์ หรือปริตร แผ่ไปในแสนโกฏิจักรวาล 3)วิสัยเขต แผ่ไปไม่มีขอบเขต พุทธคุณหรือพุทธานุภาพ เกิดจากการสวดสาธยายมนต์ มีอำนาจแผ่ไปในแสนโกฏิจักรวาล ช่วยขจัดปัดเป่าอุปัทวันตราย โรคภัย เสนียดจัญไรต่างๆ ได้ มีการสืบทอดคำสอนมาช้านาน ดังข้อความว่า "ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะจงเล่าเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะ จงทรงจำมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะไว้ ภิกษุทั้งหลาย มนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะนี้ ประกอบด้วยประโยชน์ เพื่อคุ้มครอง เพื่อรักษา เพื่อไม่เบียดเบียน เพื่ออยู่สำราญของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย” ข้อความนี้แสดงให้เห็นว่า บทปริตร หรือบทพุทธมนต์ มีพลังอำนาจ คุ้มครองป้องกันรักษา พระพุทธเจ้าจึงให้สวดสาธยาย และเมื่อนำมาใช้ในการสร้างพระพุทธรูป พระเครื่องต่างๆ ย่อมมีคุณตามที่พระพุทธเจ้าตรัส คำพูดปฏิเสธพุทธคุณ พุทธรูป สิ่งเคารพทางศาสนา ที่สืบทอดคติความเชื่อจารีตมาช้านานนับพันปี จึงเป็นการบ่อนทำลายความศรัทธาที่มีต่อ พระพุทธเจ้า สิ่งแทนพุทธเจ้า หรือคำสอนที่เกี่ยวกับพระพุทธเจ้า ไม่ให้ผู้คนมีศรัทธา โดยยกคำสอนเรื่องอริยสัจ มาด้อยค่าคำสอนว่าด้วยเรื่องศรัทธาต่อพระพุทธเจ้า จึงเป็นการทำลายศาสนา ไปพร้อมกัน อนาคตเด็กยุคใหม่เสพคำสอนนี้ จะไม่นับถือไม่ไหว้พระพุทธเจ้าและไม่เห็นความสำคัญ คุณค่าของพุทธรูปที่สร้างไว้ในฐานะเครื่องยึดเหนี่ยวที่เป็นรูปธรรมนำสุ่พุทธเจ้า รวมทั้งไม่เชื่อในพระพุทธเจ้า 5. มิจฉาทิฐิ 10 สอนการบูชาที่ไร้ผล สายลัทธิวัดนา สอนไม่ให้กราบไหว้บูชาพระพุทธรูป องค์แทนพุทธเจ้าสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพุทธเจ้า เป็นจารีตนิยมที่ถือมาช้านาน เชื่อมโยงคำสอนในพระไตรปิฎก ขุททกนิกาย วิมานวัตถุ ปีตวิมานวัตถุ “ติฏฺฐนฺเต นิพฺพุเต จาปิ, สเม จิตฺเต สมํ ผลํ; เจโตปณิธิเหตุ หิ, สตฺตา คจฺฉนฺติ สุคฺคตึ. "พระพุทธเจ้า จะทรงพระชนม์อยู่ หรือแม้จะนิพพานไปแล้วก็ตาม ถ้าจิตเสมอกัน ผลก็เสมอกัน สัตว์ทั้งหลายไปสู่สวรรค์ เพราะความเลื่อมใสตั้งมั่นแห่งจิตใจ การสอนไม่ให้ไหว้พุทธรูป นับเป็นมิจฉาทิฐิ ข้อที่ ๒ นัตถิ ยิตถัง และข้อที่ ๑๐ พระพุทธเจ้าไม่มีอยู่จริง ในชุดคำสอน มิจฉาทิฐิ ๑๐ ประการ เป็นการสร้างบาปทำลายคำสอน ความศรัทธาที่ชาวพุทธมีต่อพระพุทธเจ้า โดยอ้างว่าให้ยึดคำสอนสูงสุด อริยสัจสี่ เพื่อพ้นทุกข์ 6. คุณไสย ไสยเวทย์ ไม่มี. การปฏิเสธคำสอน ในเรื่องคุณไสย์ วิชาอาคม มนต์ มีพลังอำนาจอยู่จริง หรือไม่ เมื่อไม่สามารถหาคำตอบหรือพิสูจน์ได้ ก็ควรพิจารณาจากหลักฐานในพระไตรปิฎก มีที่ใดบ้าง ข้อความพุทธพจน์วินัยบัญญัติ ดังเรื่องต่อไปนี้ ๑) พระภิกษุถูกผีสิง อมนุษย์สิง กินเลือดสด เนื้อสด ทรงอนุญาตให้พระภิกษุฉันเลือดและเนื้อสดได้ เพื่อเป็นเภสัช เมื่อฉันแล้วอมนุษย์จะออกไป แสดงให้เห็นว่าบทบัญญัติทางพระวินัย พระพุทธเจ้ายอมรับว่ามีผีหรืออมนุษย์สามารถสิงสู่คนได้ พระภิกษุถูกอมนุษย์สิงได้ และวิธีการรักษา ในครั้งนั้นตามอาการ คือเมื่ออมนุษย์มาสิงเพื่อกินเนื้อสด เลือดสด(ปอบ) ก็อนุญาตให้พระภิกษุกินได้ และไม่ถือว่าต้องอาบัติอะไร เพราะคนที่กิน ไม่ใช่พระ แต่เป็นอมนุษย์ หลักฐานนี้ยอมรับการมีอยู่ การสิงร่างคน ของอมนุษย์ เป็นความรู้ที่ควรต้องมี ไม่ปฏิเสธว่า ผี อมนุษย์ ไม่มี ไสยเวทย์ ไม่มี เรื่องเนื้อดิบและเลือดสด "อมนุษย์เคี้ยวกินเนื้อดิบและดื่มเลือดสด เพราะเหตุนั้น ภิกษุจึงชื่อว่าไม่ได้เคี้ยวกินเนื้อดิบและดื่มเลือดสดนั้น. อมนุษย์ ครั้นเคี้ยวกินและดื่มแล้วได้ออกไป เพราะเหตุนั้น พระธรรมสังคาหกาจารย์จึงกล่าวว่า อาพาธเกิดแต่อมนุษย์นั้นของเธอย่อมระงับ." วินัยปิฎก มหาวรรค ๕/๒๖๔๔๙. https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=5&siri=8 ๒) เรื่องภิกษุโดนยาแฝดดื่มน้ำที่ละลายจากดินติดผาลไถ สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งอาพาธโดนยาแฝด ภิกษุทั้งหลายจึงนำเรื่องนี้ ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบพระผู้มีพระภาครับสั่งว่า “ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ดื่มน้ำที่เขาละลายดิน รอยไถติดผาล” (วินัยปิฎกมหาวรรค. ๕/๒๖๙/๖๑.) วิธีการรักษาโรคต่างๆ มีปรากฏอยู่ในตุวฏกสุตตนิทเทสขุททกนิกาย มหานิเทศ ได้กล่าวถึงวิธีการบำบัดโรคไว้ 5 อย่างด้วยกัน คือ (๑) การบำบัดด้วยการเสกเป่า (๒) การบำบัดด้วย (๓) การผ่าตัด (๔) การบำบัดด้วยยา (๕) การรักษาที่เกี่ยวข้องกับทางภูตผีหรือไสยศาสตร์ และการบำบัดโรคเด็ก (กุมารเวช) 7.ปฏิเสธการสวดมนต์ สาธยายมนต์ พระปริตร ว่าไม่มีคุณค่า ไม่ได้ช่วยอะไร เป็นการปฏิเสธคำของพระพุทธเจ้า ที่อนุญาตให้พุทธบริษัท ๔ เรียน และสวดสาธยายปริตร ดังข้อความว่า "ภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะจงเล่าเรียนมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะ จงทรงจำมนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะไว้ ภิกษุทั้งหลาย มนต์เครื่องรักษาชื่ออาฏานาฏิยะนี้ ประกอบด้วยประโยชน์เพื่อคุ้มครอง เพื่อรักษา เพื่อไม่เบียดเบียน เพื่ออยู่สำราญของภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก อุบาสิกาทั้งหลาย” (ที.มหา. ๑๑/๒๙๕/๒๖๔.) 8. เรียนไม่ถึง ตีความเอง ไม่ศึกษาเครื่องมือการศึกษาพระไตรปิฎก คือไวยากรณ์ภาษาบาลี คนตื่นธรรมเป็นศิษย์สำนักวัดนาจึงใช้ทิฏฐิของตน อัตโนมัติ ตัดสินธรรมตามชอบใจ ซึ่งเป็นหลักสำคัญที่สำนักนี้ใช้การตีความแบบนี้มาช้านาน โดยใช้หลักการยึดเอาพระไตรปิฎกเฉพาะบางส่วน ที่เห็นว่าเป็นคำพุทธวจนะแท้ จากพระโอษฐ์ โดยใช้ตรรกะง่ายๆ หาข้อความในพระสูตรที่มีคำว่า "ภิกฺขเว ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย" เป็นต้น จึงจะเชื่อว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ส่วนคำสอนอื่นที่ไม่มีข้อความตรัสแบบนี้ จะตีความว่าไม่ใช่คำสอน เป็นคำแต่งเติม แต่งใหม่จึงมีส่วนคำสอนที่ถูกสำนักนี้ตัดออกไป เช่น เรื่องสวดปริตร หรือสิกบท 150 ข้อ การตัดสินความเป็นพุทธพจน์แท้ แบบนี้นับเป็นการตีความผิดพลาดอย่างมาก ได้สร้างบาปใหญ่ให้เกิดในสังฆมณฑลมา 20 กว่าปี ศิษย์สำนักนี้เผยแผ่ธรรม ตามการตีความแบบนี้จึงได้เกิด วิวาทะ ปะทะกับชาวพุทธส่วนใหญ่ ถกเถียงกันเรื่อง เดรัจฉานวิชา การทำน้ำมนต์ ปลุกเสก สิกขาบทวินัย ทำให้เกิดความแตกแยก ไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาแก้ปัญหา ยังคงเป็นปัญหาจนทุกวันนี้ คนตื่นธรรมถือเป็นผลผลิตของวัดนาที่ได้สร้างบาปให้แก่พุทธสาสนา ด้วยการศึกษาเอง ตีความเอง ข่มชาวพุทธ 9.ศึกษาธรรมวินัยเอง ไม่มีครูอาจารย์ผู้สอน ทำให้ตีความธรรมวินัยผิดพลาด ขัดแย้งกับคำสอนหลายเรื่อง เป็นมิจฉาทิฐิ ในการเล่าเรียนธรรมพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติวิธีการศึกษาพระธรรมวินัยไว้ในสัทธิวิหาริกวัตรว่า “อุปชฺฌาเยน, ภิกฺขเว, สทฺธิวิหาริโก สงฺคเหตพฺโพ อนุคฺคเหตพฺโพ อุทฺเทเสน ปริปุจฺฉาย โอวาเทน อนุสาสนิยา. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุปัชฌาย์ ต้องสงเคราะห์ อนุเคราะห์ สัทธิวิหาริก(พระลูกศิษย์) ด้วยอุทเทส(พระบาลี) ปริปุจฉา(การทวนสอบอรรถกถา) โอวาท และอนุสาสนีย์ วินัยปิฎก มหาวรรค.๔/๖๗/๘๘ https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=4&siri=20 หลักการนี้ย้ำชัดว่า ในการศึกษาคำสอน ต้องทำอยู่ภายใต้การดูแลของผู้เชี่ยวชาญ ที่รอบรู้ในพระธรรมวินัย ไม่สามารถศึกษาเองได้ คนตื่นธรรมหรือสำนักวัดนา ใช้วิธีการอ่านศึกษาธรรมเอง จึงได้เกิดความเห็นผิดขึ้นหลายประการ เรื่องการตีความคำสอนผิดพลาด 10.ขาดคุณสมบัติของผู้สอนธรรม ๗ ประการ ที่จำเป็นของผู้สอนธรรม ตามพุทธพจน์ที่ตรัสไว้ในอังคุตรนิกาย สัตตกนิบาตว่า “ปิโย ครุ ภาวนีโย, วตฺตา จ วจนกฺขโม; คมฺภีรญฺจ กถํ กตฺตา, โน จฏฺาเน นิโยชโก . ๑. เป็นที่รักเป็นที่พอใจ ๒. เป็นที่เคารพ ๓. เป็นที่ยกย่อง ๔. เป็นนักพูด ๕. เป็นผู้อดทนต่อถ้อยคำ ๖. เป็นผู้พูดถ้อยคำลึกซึ้งได้ ๗. ไม่ชักนำในอฐานะ ภิกษุทั้งหลาย มิตรประกอบด้วยองค์ ๗ ประการนี้แล เป็นผู้ควรเสพ ควรคบ ควรเข้าไปนั่งใกล้ แม้จะถูกขับไล่ก็ตาม อธิบายความ 1.ปิโย เป็นที่รักเป็นที่พอใจ ในที่นี้หมายถึงมีลักษณะแห่งกัลยาณมิตร ๘ ประการ คือ (๑) มีศรัทธา คือ เชื่อการตรัสรู้ของพระตถาคต เชื่อกรรมและผลของกรรม (๒) มีศีล คือ เป็นที่รัก เป็นที่เคารพ เป็นที่นับถือของสัตว์ทั้งหลาย (๓) มีสุตะ คือ กล่าวถ้อยคำที่ลึกซึ้งที่สัมปยุตด้วยสัจจะและปฏิจจสมุปบาท (๔) มีจาคะ คือปรารถนาน้อย สันโดษ ชอบสงัด ไม่คลุกคลีด้วยหมู่ (๕) มีความเพียร คือ ปรารภความเพียรในการปฏิบัติเพื่อเกื้อกูลแก่ตนและเกื้อกูลแก่ผู้อื่น (๖) มีสติ คือ มีสติตั้งมั่น (๗) มีสมาธิ คือ มีจิตตั้งมั่นไม่ฟุ้งซ่าน(๘) มีปัญญา คือ รู้อย่างไม่วิปริต ใช้สติพิจารณาคติแห่งกุศลธรรมและอกุศลธรรม รู้สิ่งที่เกื้อกูลและสิ่งไม่เกื้อกูลแห่งสัตว์ทั้งหลายด้วยปัญญาตามความเป็นจริง มีจิตเป็นหนึ่งในอารมณ์นั้นด้วยสมาธิ เว้นสิ่งที่ไม่เกื้อกูล ประกอบสิ่งที่เกื้อกูลด้วยความเพียร (องฺ.สตฺตก.ฏีกา ๓/๓๗-๔๓/๒๐๓) 2.ครุ เป็นที่เคารพ สูงส่งหนักแน่นดุจหินผา 3.ภาวนีโย เป็นที่ยกย่อง น่าเจริญใจ 4.วัตตา เป็นนักพูด(ผู้สอน) หมายถึงเป็นผู้ฉลาดในการใช้คำพูด (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๗/๑๗๙) 5. วจนักขโม อดทนต่อถ้อยคำ หมายถึงปฏิบัติตามโอวาทที่ท่านให้แล้ว (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๗/๑๗๙) 6. คัมภีรัญ จะ กถัง กัตตา ถ้อยคำลึกซึ้ง หมายถึงเรื่องเกี่ยวกับฌาน วิปัสสนา มรรค ผล และนิพพาน (องฺ.สตฺตก.อ. ๓/๓๗/๑๗๙) 7. โน จัฏฐาเน นิโยชะโก ไม่ชักนำในอฐานะ หมายถึงป้องกันไม่ให้ทำในสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล มีคติเป็นทุกข์ แต่ชักชวนให้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลมีคติเป็นสุข (เทียบ องฺ.สตฺตก.ฏีกา ๓/๓๗/๒๐๓) 11. ไม่จำแนกแยกแยะ ให้ชัดเจน เหมาะรวม เช่น การสวดมนต์ เจริญพุทธมนต์ ปริตร การอธิษฐานจิตปลุกเสกพระเครื่องวัตถุมงคล กับเดรัจฉานวิชา เอามายำรวมกัน เป็นของที่ห้าม 12.ไม่ให้บูชานับถือ สิ่งอื่นนอกเหนือจากพระรัตนตรัย หรือคำสอน บูชาเทวดา ยมยักษ์ ต่างๆ ในรายละเอียดเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าแสดงอานิสงส์ของการบูชาเจดีย์ ที่เป็นเหตุแห่งความเจริญไว้ ในมหาปรินิพพานสูตร ตอนราชอปริหานิยธรรม ทีฆนิกาย มหาวรรค ข้อที่ ๖ ว่า “อานนท์ เธอได้ยินไหมว่า ‘พวกเจ้าวัชชี สักการะ เคารพ นับถือ บูชา เจดีย์ในแคว้นวัชชีของชาววัชชี ทั้งในเมืองและนอกเมือง และไม่ละเลยการบูชาอันชอบธรรม ที่เคยให้เคยกระทำต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป” “อานนท์ พวกเจ้าวัชชีพึงหวังได้แต่ความเจริญอย่างเดียว ไม่มีความเสื่อมเลยตราบเท่าที่พวกเจ้าวัชชียังสักการะ เคารพ นับถือ บูชาเจดีย์ในแคว้นวัชชีของชาววัชชีทั้งในเมืองและนอกเมือง และไม่ละเลยการบูชาอันชอบธรรมที่เคยให้เคยกระทำ ต่อเจดีย์เหล่านั้นให้เสื่อมสูญไป” (ที.มหา.10/134/78.) https://84000.org/tipitaka/read/m_siri.php?B=10&siri=3 คำว่า เจดีย์ ที่ชาววัชชีบูชา หมายถึง ต้นไม้ใหญ่ ที่มียักษ์สิงสถิตย์ ยักษ์เป็นเทวดาชั้นจาตุม ยกฺข ภาษาบาลีแปลว่า ผู้ที่เขาบูชา เมื่อบุคคลบูชาต้นไม้ใหญ่ หรือยักษ์ ย่อมมีความเจริญ ยักษ์คือเทวดาย่อมปกปักษ์รักษา สอดคล้องกับคำสอนเรื่อง เทวตานุสสติ ในพระพุทธศาสนา ไม่ขัดแย้งกัน ย่อมเป็นหลักการยืนยันว่า พระพุทธเจ้ายอมรับว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีพลังอำนาจอำนวยผลให้ผู้คนนับถือบูชา การบูชาเทวดา หรือต้นไม้ใหญ่ ก็มีผลนำความเจริญมาสู่ได้ เป็นหลักการย่อยในหลักการใหญ่ ที่ควรต้องรู้รอบและลึกชัดเจน จึงจะเข้าใจเรื่องนี้ 13. ไม่เข้าใจตัวบทพยัญชนะ ความหมายคำ ติรัจฉานวิชชา การสวดปริตร การใช้อิทธิปาฏิหาริย์ที่อนุญาต ติรจฺฉานวิชฺชา(อิต.) วิชาขวาง, วิชาขวาง ทางไปนิพพาน, ติรัจฉานวิชา คือความรู้ที่ไร้สาระ ความรู้ที่ไม่เป็นประโยชน์ วิชาที่ไม่ทำตนให้พ้นจากทุกข์ซึ่งพระพุทธเจ้า ทรงห้ามมิให้ภิกษุ - สามเณรศึกษา เช่น วิชาทำเสน่ห์ยาแฝดเป็นต้น. 14. ไม่เข้าใจ แยกไม่ออกระหว่างการสวดปริตร กับการทำเดรัจฉานวิชา ทำให้ โจมตีพระที่สวดปริตร ทำน้ำมนต์ ปลุกเสก ในขณะที่เรื่องการทำวัตถุมงคล พุทธพานิชย์มีรายละเอียดหลายส่วน ต้องพิจารณาว่าพระสงฆ์รูปใดเข้าไปเกี่ยวข้องในลักษณะใดบ้าง ผิดพระวินัยข้อใด การสร้างพระพุทธรูป การสวดปริตร ปลุกเสก ไม่ได้ผิดหลักคำสอนทั้งในส่วนวินัยบัญญัติ หรือสัมมาอาชีวะแต่อย่างใด ส่วนการทำพานิชย์ที่เกี่ยวข้องเป็นหน้าที่ของฆราวาสดำเนินการด้วยมุ่งประโยชน์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสร้างถาวรวัตถุ ก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ไม่ใช่การหลอกลวงตามพระวินัย 15. ไม่มีคารวธรรม คุณธรรม ศึกษาแบบลวกๆ ไม่เคารพในสิกขา การศึกษา ทำให้เข้าใจไม่ถูกต้อง นำสุ่การตีความธรรมวินัยผิด การศึกษาธรรมต้องมีความเคารพในสิกขา คือการศึกษาด้วยความเคารพ ข้อใดไม่เข้าใจก็ต้องไปสอบถาม กับอาจารย์ผู้รู้ จนเกิดความเข้าใจ การไม่แสวงหา ไม่ใฝ่หาผู้รู้มาสอบทานความรู้ที่ตนมีจึงเป็นการศึกษาโดยไม่เคารพในพระธรรม ซึ่งจะก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องความเข้าใจไม่ถูกต้อง และเป็นปัญหาชาวพุทธเมื่อนำไปเผยแผ่ (มี ต่อ 16-18) อย่าร่วมกันสร้างบาปให้กับพระพุทธศาสนา คำสอนในพระไตรปิฎกมีความลึกซึ้ง ต้องศึกษาอย่างเคารพ ระมัดระวัง อย่างเป็นระบบ มีกระบวนการ และชาวพุทธควรยึดหลักการในพระไตรปิฎก ไม่สนับสนุนกลุ่มคนที่ทำลายคำสอนด้วยการสอนผิด
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • “ประวัติศาสตร์ของเราในการมีส่วนร่วมกับฝรั่งเศสและกับตะวันตกโดยทั่วไปไม่ได้ทำให้เราพอใจเลย ... เราบอกกับตัวเองว่า หากตอนนี้มีพันธมิตรที่เราอยากติดต่อด้วย, นั่นก็คือรัสเซีย” – นายกรัฐมนตรีบูร์กินาฟาโซ
    .
    ‘Our history of engagement with the French and with the West in general has not brought us satisfaction ... We said to ourselves that if there is now a partner we want to reach out to, it is Russia.’ – Burkina Faso’s PM

    More: https://www.rt.com/africa/605479-burkina-faso-western-ties-dissatisfaction/
    .
    6:40 PM · Oct 10, 2024 · 11.9K Views
    https://x.com/RT_com/status/1844342111807975450
    “ประวัติศาสตร์ของเราในการมีส่วนร่วมกับฝรั่งเศสและกับตะวันตกโดยทั่วไปไม่ได้ทำให้เราพอใจเลย ... เราบอกกับตัวเองว่า หากตอนนี้มีพันธมิตรที่เราอยากติดต่อด้วย, นั่นก็คือรัสเซีย” – นายกรัฐมนตรีบูร์กินาฟาโซ . ‘Our history of engagement with the French and with the West in general has not brought us satisfaction ... We said to ourselves that if there is now a partner we want to reach out to, it is Russia.’ – Burkina Faso’s PM More: https://www.rt.com/africa/605479-burkina-faso-western-ties-dissatisfaction/ . 6:40 PM · Oct 10, 2024 · 11.9K Views https://x.com/RT_com/status/1844342111807975450
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • สุขภาพ สำคัญที่สุดของการเข้าสู่..นิพพาน


    เริ่มในเรื่องการกิน การออกกำลังกายยืด+เหยียด การพักผ่อน-นอนหลับ รองลงมา คือ การเลือกอ่านหนังสือ-ทำความเข้าใจ ฝึกสมาธิ สร้างปัญญา

    ดังนั้น..กระดุมเม็ดแรก ต้องเข้าใจว่า ธรรมชาติสร้างมนุษย์ให้เป็นสัตว์กินพืช หรือ กินเนื้อสัตว์ เลือกผิด..ชีวิตเปลี่ยน(ทันที)

    กลัดกระดุมถูกต้อง ก็จะเข้าทาง สู่สมาธิได้ง่าย เจริญธรรมอบ่างถูกต้อง จะพบปัญญาญาณ ที่จะเข้าสู่นิพพานได้ไม่ยากนัก

    แต่ว่า..ก่อนเข้านิพพาน ท่านให้ละทิ้งทุกสิ่งที่มี เท่าที่เรียนรู้มา ไม่มีขอบเขต ไม่มีกฎ ไม่มีเกณฑ์...มีแต่ความว่างเปล่า
    .
    .
    เจริญธรรม สำนึกดี

    พัชรี ว่องไววิทย์
    October10, 2024
    Sausalito, CA94965
    สุขภาพ สำคัญที่สุดของการเข้าสู่..นิพพาน เริ่มในเรื่องการกิน การออกกำลังกายยืด+เหยียด การพักผ่อน-นอนหลับ รองลงมา คือ การเลือกอ่านหนังสือ-ทำความเข้าใจ ฝึกสมาธิ สร้างปัญญา ดังนั้น..กระดุมเม็ดแรก ต้องเข้าใจว่า ธรรมชาติสร้างมนุษย์ให้เป็นสัตว์กินพืช หรือ กินเนื้อสัตว์ เลือกผิด..ชีวิตเปลี่ยน(ทันที) กลัดกระดุมถูกต้อง ก็จะเข้าทาง สู่สมาธิได้ง่าย เจริญธรรมอบ่างถูกต้อง จะพบปัญญาญาณ ที่จะเข้าสู่นิพพานได้ไม่ยากนัก แต่ว่า..ก่อนเข้านิพพาน ท่านให้ละทิ้งทุกสิ่งที่มี เท่าที่เรียนรู้มา ไม่มีขอบเขต ไม่มีกฎ ไม่มีเกณฑ์...มีแต่ความว่างเปล่า . . เจริญธรรม สำนึกดี พัชรี ว่องไววิทย์ October10, 2024 Sausalito, CA94965
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • มรสุมดิไอคอนฯ เอาผิดยากแต่แบรนด์พัง

    การออกมาเปิดประเด็นบริษัทธุรกิจขายตรงของนายกรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง ชัดเจนว่าเป็น บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทำให้มีผู้เสียหายที่เคยร่วมทำธุรกิจรวมตัวกันไปแจ้งความกับตำรวจอย่างน้อย 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มที่มาจากมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ของนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ 2. กลุ่มที่มาจากทีมงานทนายคลายทุกข์ ของนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และกลุ่มที่มาจากศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ (ศคอ.) และ 3. ศูนย์ข่าวต้านโกง นำโดย น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์

    แม้ว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. แต่งตั้ง พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้ควบคุมดูแลคดี แต่การทำคดีดูเหมือนว่าเป็นไปได้ยาก เพราะผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความจริงมีน้อยเกินไป ทนายเดชา ระบุว่า มีผู้เสียหายแจ้งความกับตำรวจ บก.ปคบ. เพียง 91 ราย ต้องมีผู้เสียหายตั้งแต่ 200 คนขึ้นไปจึงเพียงพอดำเนินคดี ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้จากผู้เสียหายที่สอบไปแล้ว 80 ปาก รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 31 ล้านบาท

    จุดเริ่มต้นของจุดจบ มาจากช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี 2563 ที่ประชาชนต่างขาดรายได้จากมาตรการล็อกดาวน์ กระทั่งได้พบเห็นโฆษณาคอร์สเรียนออนไลน์ 97, 98, 99 บาท เกี่ยวกับการตลาดบนโซเชียลมีเดีย เมื่อมีคนหลงเชื่อเข้าไปเรียนจะพบว่ามีการขายฝันถึงความร่ำรวย ก่อนโน้มน้าวให้เปิดบิลซื้อสินค้าไปขาย และลงโฆษณาบนโซเชียลฯ ที่เรียกว่ายิงแอด ที่ผ่านมาดิไอคอนกรุ๊ปมีรายได้รวมจากเดิมประมาณ 378 ล้านบาท แต่ปี 2564 ก้าวกระโดดถึง 4,950 ล้านบาท กำไรสุทธิ 813 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นจึงลดลงมา แม้จะใช้งบ 500 ล้านบาทซื้อบิลบอร์ดโฆษณา แต่สินค้าก็ยังไม่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป

    ส่วนลูกข่ายสต็อกสินค้า ทีแรกขายได้ แต่หลังๆ กลับขายไม่ได้ แม้จะยิงแอดไปเท่าไหร่ก็ตาม นอกจากสินค้าไม่เป็นที่รู้จักแล้ว ยังแพงกว่าท้องตลาด ทำให้ลูกข่ายต้องเปลี่ยนมาเป็นตามหาลูกข่ายที่เรียกว่า นักเรียนใหม่ เพื่อให้ได้เงิน กลายเป็นวงจรอุบาทว์ที่นำไปสู่ปรากฎการณ์ฝีแตกในวันนี้ แม้ว่าบอสพอล รวมทั้งดารานักแสดงที่เกี่ยวข้อง ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหา แต่แบรนด์ดิไอคอนในวันนี้ก็ติดลบในสายตาของผู้คนในสังคม เช่นเดียวกับดารานักแสดงที่เกี่ยวข้อง ที่ลูกข่ายหรือแฟนคลับเคยไว้เนื้อเชื่อใจเพราะชื่อเสียง ก็เกิดแผลในใจ ถึงขั้นเลิกติดตามผลงาน

    #Newskit #ดิไอคอนกรุ๊ป #THEiCON
    มรสุมดิไอคอนฯ เอาผิดยากแต่แบรนด์พัง การออกมาเปิดประเด็นบริษัทธุรกิจขายตรงของนายกรรชัย กำเนิดพลอย พิธีกรชื่อดัง ชัดเจนว่าเป็น บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ซึ่งมีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือบอสพอล เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทำให้มีผู้เสียหายที่เคยร่วมทำธุรกิจรวมตัวกันไปแจ้งความกับตำรวจอย่างน้อย 3 กลุ่ม ได้แก่ 1. กลุ่มที่มาจากมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ของนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ 2. กลุ่มที่มาจากทีมงานทนายคลายทุกข์ ของนายเดชา กิตติวิทยานันท์ และกลุ่มที่มาจากศูนย์ประสานงานส่งเสริมเครือข่ายออนไลน์ (ศคอ.) และ 3. ศูนย์ข่าวต้านโกง นำโดย น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ แม้ว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทน ผบ.ตร. แต่งตั้ง พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้ควบคุมดูแลคดี แต่การทำคดีดูเหมือนว่าเป็นไปได้ยาก เพราะผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความจริงมีน้อยเกินไป ทนายเดชา ระบุว่า มีผู้เสียหายแจ้งความกับตำรวจ บก.ปคบ. เพียง 91 ราย ต้องมีผู้เสียหายตั้งแต่ 200 คนขึ้นไปจึงเพียงพอดำเนินคดี ขณะที่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ข้อมูลเบื้องต้นที่ได้จากผู้เสียหายที่สอบไปแล้ว 80 ปาก รวมมูลค่าความเสียหายประมาณ 31 ล้านบาท จุดเริ่มต้นของจุดจบ มาจากช่วงสถานการณ์โควิด-19 เมื่อปี 2563 ที่ประชาชนต่างขาดรายได้จากมาตรการล็อกดาวน์ กระทั่งได้พบเห็นโฆษณาคอร์สเรียนออนไลน์ 97, 98, 99 บาท เกี่ยวกับการตลาดบนโซเชียลมีเดีย เมื่อมีคนหลงเชื่อเข้าไปเรียนจะพบว่ามีการขายฝันถึงความร่ำรวย ก่อนโน้มน้าวให้เปิดบิลซื้อสินค้าไปขาย และลงโฆษณาบนโซเชียลฯ ที่เรียกว่ายิงแอด ที่ผ่านมาดิไอคอนกรุ๊ปมีรายได้รวมจากเดิมประมาณ 378 ล้านบาท แต่ปี 2564 ก้าวกระโดดถึง 4,950 ล้านบาท กำไรสุทธิ 813 ล้านบาท แต่หลังจากนั้นจึงลดลงมา แม้จะใช้งบ 500 ล้านบาทซื้อบิลบอร์ดโฆษณา แต่สินค้าก็ยังไม่เป็นที่รู้จักโดยทั่วไป ส่วนลูกข่ายสต็อกสินค้า ทีแรกขายได้ แต่หลังๆ กลับขายไม่ได้ แม้จะยิงแอดไปเท่าไหร่ก็ตาม นอกจากสินค้าไม่เป็นที่รู้จักแล้ว ยังแพงกว่าท้องตลาด ทำให้ลูกข่ายต้องเปลี่ยนมาเป็นตามหาลูกข่ายที่เรียกว่า นักเรียนใหม่ เพื่อให้ได้เงิน กลายเป็นวงจรอุบาทว์ที่นำไปสู่ปรากฎการณ์ฝีแตกในวันนี้ แม้ว่าบอสพอล รวมทั้งดารานักแสดงที่เกี่ยวข้อง ยังเป็นผู้ถูกกล่าวหา แต่แบรนด์ดิไอคอนในวันนี้ก็ติดลบในสายตาของผู้คนในสังคม เช่นเดียวกับดารานักแสดงที่เกี่ยวข้อง ที่ลูกข่ายหรือแฟนคลับเคยไว้เนื้อเชื่อใจเพราะชื่อเสียง ก็เกิดแผลในใจ ถึงขั้นเลิกติดตามผลงาน #Newskit #ดิไอคอนกรุ๊ป #THEiCON
    Like
    Angry
    8
    0 Comments 0 Shares 202 Views 0 Reviews
  • 10/10/67

    “อันตรายแบบไม่คาด
    คิดกับการเงยศรีษะ
    และก้มตัวลง”

    ศ.ดร.วิชัย อึงพินิจพงศ์
    ผู้เชี่ยวชาญด้านกาย
    ภาพบำบัด มข. แนะนำ เตือน สว.ควรตระหนักจากข้อมูล ของ
    Cr: Surakhuang Asavanich ดังนี้:-
    ————————
    เขียนเตือนตัวเอง…และเตือนเพื่อนๆผู้
    สูงวัยอีกครั้ง…เพราะ คนแก่มักขี้ลืม…จึงต้องเตือนอีก…เพราะเพื่อนเสร็จไปอีก 2 ราย

    ~ เพื่อนผู้สูงวัย…ท่านหนึ่ง เป็นนายพลเอก…เกษียณมาได้ 10 ปีเศษ…ออกรอบเล่นกอล์ฟบ่อย…เล่นเทนนิสด้วย…ถือว่า เป็นผู้สูงวัยที่สุขภาพดี…ยังเตะปี๊บดัง…แม้แก่แล้ว…ก็ยังท่องเที่ยวไปทุกย่านน้ำ……
    ~ จึงประมาท…หลอดไฟที่บ้านดับ…จึงลุกไปเปลี่ยนหลอดไฟที่เพดานเอง …ขึ้นยืนบนเก้าอี้ไม้ 4 ขาที่แข็งแรง… เพื่อจะเปลี่ยนหลอดไฟ…
    ~ แต่… แต่ ในช่วงแหงนหน้าเงยขึ้นมองหลอดไฟ…ปรากฏว่า…แหงนมากไปหน่อย …กระดูกที่ก้านคอ …ไปกดทับเส้นเลือด …ที่ไปเลี้ยงสมอง…… ปรากฏว่า… ล้มตกเก้าอี้ลงมา… เพราะ เลือดไปเลี้ยงสมอง ขาดตอนไปในช่วงนั้น …ตอนนี้ได้แต่นอนอัมพาตไม่รู้ตัว ……อันตรายเหลือเกิน สำหรับการแหงนคอผิดท่า……ของผู้สูงวัย…… เลยนำมาเตือนอีกครั้ง…… จะได้ระวังตัวกันให้มากขึ้น…ในช่วงแหงนหน้าสอยผลไม้…ก็เฉกเช่นเดียวกัน…แก่แล้ว…ห้ามประมาทนะจ๊ะ…ลูกหลานจะลำบาก

    ~ เพื่อนอีกคน……ผิดท่า……ในการก้มและเงย ……ปกติ เขาจะเปิดพัดลมตั้งพื้นด้วยเท้า……ในวันเกิดเหตุ……แทนการใช้เท้าเปิดพัดลม…… วันนั้น……กลับมีมารยาท…ก้มลงใช้มือเปิดพัดลม ……พอก้มกดเปิดเสร็จ ……ตอนเงยหน้าขึ้นมา…ผิดท่าอย่างไรไม่รู้……ขาเกิดไม่มีแรงทั้ง 2 ข้าง ……ล้มทั้งยืน ……ตอนนี้…ยังต้องทำกายภาพบำบัดอยู่…จะลุกจะเดินทรมานมาก … เดินตัวแข็งทื่อ ……เพราะฉะนั้น…… เพื่อนๆ ที่เข้าสู่ช่วงสูงวัยแล้ว…เวลาจะก้มจะเงย ……ต้องระวังตัวให้มากขึ้น…จะทำแบบที่เคยทำในช่วงที่มีอายุยังไม่มากไม่ได้…ต้องทำอะไรให้ช้าลงด้วยความระมัดระวังที่มากขึ้น

    ~ อนึ่ง ในเวลาหันหน้าไปด้านข้าง……โดยเฉพาะในรถ……ก็ต้องพยายามหันตัวไปด้วย……ยกก้นขยับตัวสักหน่อย…อย่าหันแต่ศีรษะ……แม้เคยทำได้ตลอดมา…แต่ ต้องไม่ลืมว่า…สังขารมีความเสื่อมลงไปทุกวัน…ต้องยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม…เพราะทั้งหมด……ที่ยกตัวอย่างมา…เป็นท่าที่มีอันตรายต่อระบบหลอดเลือด…ของทุกคน ที่เป็นผู้สูงวัยนะ…หากประมาท…เพื่อนอาจเป็นอัมพฤกษ์/อัมพาตได้ง่ายๆนะ…จึงขอเตือนมาอีกครั้ง
    10/10/67 “อันตรายแบบไม่คาด คิดกับการเงยศรีษะ และก้มตัวลง” ศ.ดร.วิชัย อึงพินิจพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านกาย ภาพบำบัด มข. แนะนำ เตือน สว.ควรตระหนักจากข้อมูล ของ Cr: Surakhuang Asavanich ดังนี้:- ———————— เขียนเตือนตัวเอง…และเตือนเพื่อนๆผู้ สูงวัยอีกครั้ง…เพราะ คนแก่มักขี้ลืม…จึงต้องเตือนอีก…เพราะเพื่อนเสร็จไปอีก 2 ราย ~ เพื่อนผู้สูงวัย…ท่านหนึ่ง เป็นนายพลเอก…เกษียณมาได้ 10 ปีเศษ…ออกรอบเล่นกอล์ฟบ่อย…เล่นเทนนิสด้วย…ถือว่า เป็นผู้สูงวัยที่สุขภาพดี…ยังเตะปี๊บดัง…แม้แก่แล้ว…ก็ยังท่องเที่ยวไปทุกย่านน้ำ…… ~ จึงประมาท…หลอดไฟที่บ้านดับ…จึงลุกไปเปลี่ยนหลอดไฟที่เพดานเอง …ขึ้นยืนบนเก้าอี้ไม้ 4 ขาที่แข็งแรง… เพื่อจะเปลี่ยนหลอดไฟ… ~ แต่… แต่ ในช่วงแหงนหน้าเงยขึ้นมองหลอดไฟ…ปรากฏว่า…แหงนมากไปหน่อย …กระดูกที่ก้านคอ …ไปกดทับเส้นเลือด …ที่ไปเลี้ยงสมอง…… ปรากฏว่า… ล้มตกเก้าอี้ลงมา… เพราะ เลือดไปเลี้ยงสมอง ขาดตอนไปในช่วงนั้น …ตอนนี้ได้แต่นอนอัมพาตไม่รู้ตัว ……อันตรายเหลือเกิน สำหรับการแหงนคอผิดท่า……ของผู้สูงวัย…… เลยนำมาเตือนอีกครั้ง…… จะได้ระวังตัวกันให้มากขึ้น…ในช่วงแหงนหน้าสอยผลไม้…ก็เฉกเช่นเดียวกัน…แก่แล้ว…ห้ามประมาทนะจ๊ะ…ลูกหลานจะลำบาก ~ เพื่อนอีกคน……ผิดท่า……ในการก้มและเงย ……ปกติ เขาจะเปิดพัดลมตั้งพื้นด้วยเท้า……ในวันเกิดเหตุ……แทนการใช้เท้าเปิดพัดลม…… วันนั้น……กลับมีมารยาท…ก้มลงใช้มือเปิดพัดลม ……พอก้มกดเปิดเสร็จ ……ตอนเงยหน้าขึ้นมา…ผิดท่าอย่างไรไม่รู้……ขาเกิดไม่มีแรงทั้ง 2 ข้าง ……ล้มทั้งยืน ……ตอนนี้…ยังต้องทำกายภาพบำบัดอยู่…จะลุกจะเดินทรมานมาก … เดินตัวแข็งทื่อ ……เพราะฉะนั้น…… เพื่อนๆ ที่เข้าสู่ช่วงสูงวัยแล้ว…เวลาจะก้มจะเงย ……ต้องระวังตัวให้มากขึ้น…จะทำแบบที่เคยทำในช่วงที่มีอายุยังไม่มากไม่ได้…ต้องทำอะไรให้ช้าลงด้วยความระมัดระวังที่มากขึ้น ~ อนึ่ง ในเวลาหันหน้าไปด้านข้าง……โดยเฉพาะในรถ……ก็ต้องพยายามหันตัวไปด้วย……ยกก้นขยับตัวสักหน่อย…อย่าหันแต่ศีรษะ……แม้เคยทำได้ตลอดมา…แต่ ต้องไม่ลืมว่า…สังขารมีความเสื่อมลงไปทุกวัน…ต้องยังความไม่ประมาทให้ถึงพร้อม…เพราะทั้งหมด……ที่ยกตัวอย่างมา…เป็นท่าที่มีอันตรายต่อระบบหลอดเลือด…ของทุกคน ที่เป็นผู้สูงวัยนะ…หากประมาท…เพื่อนอาจเป็นอัมพฤกษ์/อัมพาตได้ง่ายๆนะ…จึงขอเตือนมาอีกครั้ง
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • อาชีพที่รวยไวที่สุด หากินกับ ความโลภ ความเชื่อ ความไม่รู้..ของมนุษย์...เพราะ.คนประเภทเหล่านี้ มีมากเหลือเกิน..
    อาชีพที่รวยไวที่สุด หากินกับ ความโลภ ความเชื่อ ความไม่รู้..ของมนุษย์...เพราะ.คนประเภทเหล่านี้ มีมากเหลือเกิน..
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • 10-10-67/01 : หมี CNN / "เล่าสู่กันฟัง" EP.10 ตอน "NEW WAVE COMING" ยอดสะสมรถอียุ่นปี่ในไทย ลดหวบยับ กว่า 30% ทำไมน่ะรึ? อ้างจีนขยี้ตลาดรถไทย โปรดแหกตาดูทุกปัจจัย รถน้ำมัน ใครจ่ายไหว? ไฮบริคแค่แก้ขัด ระยะยาวจะไปต่อยังไงมิทราบ? เพราะ EV มันไป 1000 กม. แล้ว โคตรพ่อง โคตรแม่ง ขับวันละ 1000 ถึงมุย? เค้ารอให้ทุกอย่างเสถียรก่อน ยังไง EV คืออนาคต ทุกชาติต่างรู้ดี? มรึงหลอกแดร๊กควายไทยมากว่าครึ่งศตวรรษ ดัดแปลงรถกะบะ เสริมแต่งหน่อย ปักป้าย 1.7 ล้าน แม้แต่ควายยังอึ้ง? เจอ BYD มาทีเดียวขาย 700000 ควายถึงจะตื่น? ยุคนี้ น้ำมันแพง เศรษฐกิจต่ำตม รถเกินล้านใครจะซื้อ? ที่มาว่า DEALER ทั่วไทย ย้ายค่าย ปิดกิจการ หันไปขาย EV ดีกว่าค่ายอียุ่นปี่ ใครตายห่าก่อน ตัวแทนอะไหล่ยนต์ไงล่ะ รถสันดาปไปก่อนใครเพื่อน? มันถึงเวลาที่โลกจะเปลี่ยน รับการเปลี่ยนแปลงให้ดีดี รถ EV แค่ปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง ยังมีนวตกรรมอีกมาก ที่กำลังจะเข้ามา? สื่อเสี้ยมตีข่าวจีนตีตลาดไทยยับ โยนบาปให้จีน แต่ผู้บริโภคควายไทยได้ตื่น อะไรที่ถูกและดี แล้วมรึงจะจ่ายแพงกว่าทำไม? รถสันดาปใช้กันมาเป็นศตวรรษแล้ว มรึงจะยังใช้กันต่ออีก 100 ปี เหรอ? ปัจจัยยอดสั่งรถลดลงฮวบ มันมีหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ EV เป็นเหตุ คนสรรหาสิ่งที่ดีกว่า ถูกกว่า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ตลาดรถมือสองจะตายเอา เพราะที่ผ่านมา กินส่วนต่างไว้เยอะ งวดนี้ คนไม่ต้องซื้อมือสองใช้ หันไปจ่ายมือ 1 ป้ายแดงได้เลย 400000 ก็มีให้เลือก ผลประโยชน์ผู้บริโภคเต็มตรีน ก็ต้องปรับตัวกันไปตามเศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนแปลงที่จะตามมา? กูบอกเลย อีกหน่อย ในเวลาอันสั้น โดรนส่งสินค้า โดรน TAXI มาแน่ แล้วมรึงจะช็อค! เวลาแสงทำงาน ยามเปลี่ยนแปลงผลัดใบโลก มันมักจะเกิดแรงต่อต้านเสมอ สำหรับช่วงแรก แต่พอนานวัน ทุกความสะดวกสบายมากขึ้น ประหยัดกว่า ลดมลพิษได้ดีกว่า พลังงานสะอาดมาเต็มตรีน ใครจะไม่เอา? กลับมาสู่โลกสาย HARD CORE กันต่อ : 300 ลูกพร้อมกัน สาแก่ใจอีช้อยเฮซบอเลาะห์เค้าแหละ เละเป็นโจ๊กตามเคย เห่าเก่งแต่ในสื่อหลอกควาย โลกจริง ตายอย่างกะหมาข้างถนน? ซาเฟด แหล่งอุตสาหกรรมทางทหารอียิว แตกกระจุย ที่ใดมีคลังแสง ที่นั่นคือขุมนรก? ระบบป้องกัยภัยแห้วแดร๊กตามเคย มันใช้จริงได้ที่ไหนกันล่ะ? หมายังรู้! ส่งผลให้อาวุธขาดแคลนทันที เมื่อโรงงานผลิตหายวับ มรึงจะรอรับบริจาคจากใครได้อีก? แม่งไม่เหลือเหี้ยอะไรอีกแล้ว หมดตูดกันทั้งกะปิ? อาหรับกำลังจะทำอะไร? ชี้ให้โลกเห็นว่า ลงแขกยิวสบายตรีน ท้าทายอเมริกาให้เข้ามาช่วย จะได้ตายห่าทีเดียว ที่มาว่าทำไม บินทิ้งระเบิดเหี้ยมะกันหันหลังควับ ไม่ตรงต่อไปถล่มเป้าหมายโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน เพราะถูกล็อคเป้าไงจ๊ะ? "คุณหลอกดาวอีกแย้ว" ล่อให้เข้าไปตายห่าสิน่ะ ลงข่าวหน้า 1 บินทิ้งระเบิดตายคาตรีนไฮเปอร์โซนิค แล้วกูจะยังขายเหี้ยอะไรหลอกควายได้อีกล่ะ? อิหร่านมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400/S-350s ถามคำเดียว ยังจะเหลือลำไหนรอดได้อีก? หลังอิหร่านเพิ่งจะทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดิน สะเทือนไปถึงอเมริกา นกรู้กันทั่ว มาดิมรึง? หายไปทั้งเยรูซาเล๋มฝั่งตะวันตก เหี้ยมันเองก็รู้ ว่าไม่มีเครื่องบินลำไหนที่จะผ่าน S-400 รัสเซียได้เลย? ไม่ต้องถามถึง S-500 นั่นมันระดับจักรวาล ยิงดาวเทียมร่วงสบายตรีน เอาไว้ใช้กับสงคราม "STAR WARS" เท่านั้น อียิวมันจนแต้มแล้ว แค่ยื้อเวลาตา่ยให้ช้าลงเท่านั้นเอง แต่เฮซบอเลาะห์บอก กูไม่ว่างรอนานขนาดนั้น เลยจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบทันที NON STOP ฆ่าอย่างเมามันส์ ตายแค่ 10 สื่อตีหลอกควาย เอาที่มรึงสบายใจ ดีออก? ข้ามวิกแป๊บ : ไอ้สัส! เวลาหาแดร๊ก เอาแต่เงิน เสนอหน้ารับงานเพี๊ยบ รอจะถูกเฉ่ง ถูกเชือด หนีหางจุกตูดกันหมด ไอ้อี ดาราทั้งหลาย ที่หลอกแดร๊กคนไทย หวังแค่เศษเงิน แต่ไม่ห่วงทรัพย์สินและชีวิตคนไทยด้วยกัน ถามว่ามรึงรู้มั้ยว่าจะต้องไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ หรือสิ้นค้า ห้างร้านอะไร? สัญญาเค้ามี เจตนาเค้าชัด อีตำหนวดสาวไส้ยาวอยู่แล้ว เพราะกะจะหลอกฟันหนัก อยากรอด ต้องจ่ายคุ้ม จบเกมส์ นี่ไง อีกา(กาลกิณี)กี ตัวจริง เสียงจริง สรุปแผ่นดินนี้ มีอีตำหนวดเป็นโจรแทนซะงั้น ต่อไปคงได้เห็น "โรบินฮู๊ดไทยแลนด์" ที่ออกมาไล่ล่า แฉความเหี้ยของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองซะเอง หลายคนเชื่อ "แผ่นดินนี้ จ่ายหนัก รอดทุกคดี" กูไม่เถียงหากเป็นในกลียุค มันเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อแสงทำงาน วาระสุดท้ายของกลียุคจะหมดไป สิ่งสกปรกจะอยู่ต่อไปไม่ได้อีก การชำระล้างจะตามมา การฆ่าเชื้อชั่วมีแน่ ไม่ต้องห่วง? กลับมาดูเหี้ยตายโหงตายห่ากันต่อ : โดนหนักต่อเนื่อง สนามบิน ท่าเรือ ศูนย์บัญชาการ คลังแสง สถานีสื่อสาร ศูนย์กำลังพลสำรอง แม้แต่เส้นทางลำเลียง โดนหมด! แล้วมรึงล่ะ ทำลายเหี้ยอะไรได้บ้าง? มีแต่ข่าวโจมตีท่าเรือ บ้านเรือน แต่หาได้ทำลายอำนาจแสนยานุภาพฝ่ายตรงข้ามได้เลย เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มรึงเข้าถึงไงล่ะ? สงครามยุคใหม่มันแข่งกันที่ไฮเปอร์โซนิค รัสเซีย-จีน -อิหร่าน-โสมแดง ตีโจทย์แตกเมื่อ 20 ปีก่อนแล้ว ถึงได้มีวันนี้ วันที่ ขั้วใหม่มี ไฮเปอร์โซนิค เป็น 10 ล้านลูก มรึงฟังไม่ผิดดอก ฟังให้ชัดๆ อีกครั้ง จากปากณัชชาน่ะว่า "10000000 ลูก" ไม่ต้องถาม ใครผลิต? ตอนนี้รวยเละเทะ นับเงินล้นทะลักคลัง! แค่ยอดสั่งจองจากอาหรับ ก็แทบรอคิวไปอีก 2 ปี ใครว่ากูจนฟ่ะเนี่ย? JOHN KIM จน จริงดิ? ควายเชื่อ แต่คนขำก๊าก! อะไรน่ะ บุกมาเป็นสัปดาห์แล้ว ไม่คืบหน้าไปไหนเลย ระเหยไปในอากาศเพี๊ยบ ไหนว่ายึดเฮซบอเลาะห์ได้ไงล่ะ อ้าว..หนังคนละม้วน แล้วไอ้ที่นอนตายพะงสาบพะงาบนับร้อย พรมแดนเลบานอนเนี่ย? หมาไอ้อีตัวไหนกันฟ่ะ ผมทองก็มี ผมดำก็เยอะ NATO ทั้งนั้น ควายได้ใจกูจริง! สรุปคือเหี้ยนอนฝันว่ากำลังจะชนะ? อยากไปปลุกมันเชียว ให้มันฝันต่อไป ลืมตาอีกที ตายห่า..หมดแผ่นดิน! โลกเบาขึ้นไปอีกเยอะ?

    ปล.มหากาพย์เรือดำน้ำไทย ใครระบุไปในสัญญาว่าต้องใช้เครื่องยนต์อินทรีเหล็กเท่านั้น? อีเบียร์ไม่ยอมส่งอะไหล่และชิ้นส่วนประกอบให้ เพราะคว่ำบาตรจีนจากคำสั่ง NATO ทำให้ไม่มีนายพลกองทัพเรือหน้าไหน ยอมเสี่ยงตายเพื่อปลดแอกประเทศ? คำตอบมีอยู่ในตัวมันเอง "แผนกั๊ก" ศรีธนญชัยเล่นแร่แปรวิญญานอีกแล้ว หาแดร๊กก็เรื่อง ยุทธศาสตร์ก็เรื่อง แค่เปลี่ยนเครื่องยนต์คือจบทันที แล้วจะได้มีปัญหากับ NATO ต่อไงล่ะ? จีนเองก็รู้ว่า ไทยคิดยังไง? ท่าเรือดำน้ำที่สร้างไป แต่ไม่มีเรือดำน้ำ ใครคิด? 7000 ล้านเอาไปโยนทิ้งลงทะเลอีกตามเคย? นี่ไง เกมส์การเมืองโลก แต่ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 10 นาที เราจะมีโปรไฟไหม้ ซื้อ 1 แถม 3 ตามมาทันที จุดจบของมหากาพย์เรือดำน้ำนี้ จะปิดฉากลงเพราะผบ.ทร.คนล่าสุดเนี่ยแหละ บีบครม.แก้ไขสัญญาบัดซบ? ดอกนี้ "ตายเป็นตาย" ถึงว่า เกมส์โลกกำหนดเกมส์ไทย ไม่สิ ทั้งโลกมากกว่า? โลกไม่จบ ไทยอย่าหวังว่าจะจบ? เชื่อมั่นในพระบารมี อะไรที่มืดแปดด้าน จะถูกปลดล็อคเอง เชื่อกูดิ? จีน รัสเซีย ถ่วงดุลกัน แต่ตอนนี้ ต้องฆ่าเหี้ยให้ตายห่าก่อนเท่านั้น? กูบอกไปแล้วน่ะ ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยน? หากมรึงสังเกตุ และคิดรอบด้านให้ดีดี มีอะไรที่กำลังรอเราอยู่ เราปรับเพื่อสิ่งนั้นไงล่ะ? อีเหี้ยมะกันเละเทะ ฟลอริด้าสยอง เฮอริเคน "มิลตัน" ระดับ 5 ตามมาล้างสิ่งสกปรกโสมมจ๊ะ ประชากรควายโลกเยอะเกินไป เอาออกไปบ้าง! อย่ามามั่วว่าเป็นฝีมือจีน ใช้ควอนตั่ม ดาวเทียม ก่อคลื่นสึนามิ เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่โดน พายุ สีนามิ ไฟป่า โรงงานไฟฟ้าดับสนิท(อันนี้ฝีมือไซเบอร์รัสเซีย CONFIRM) เหี้ยยังจะต้องโดนอีกเยอะ สวรรค์ลงโทษไงล่ะ เกิดเป็นคนดีดีไม่ชอบ อยากจะเป็นควายกันให้หมดโลก ถึงเวลาสวรรค์กำหนเอง ใครที่มีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติและโลก จงอยู่ต่อไป ส่วนพวกไร้ประโยชน์ก็ตายห่าตามกันไป จบน่ะ! โลกคัดสรรไว้ดีแล้ว ข่าวฮาแตก! อีแม่บ้านขะแมร์ แห่สาปแช่งอีฮุนเซน อยากจะครองแผ่นดินเบ็ดเสร็จ ถูกขับอัปเปหิ เนรเทศออกนอกประเทศ เมื่ออำนาจมันผูกขาด ก็ต้องเล่นด้วยคาถา อาคม สาปแช่งกันไปเลย ของเค้าแรงน่ะ จะบอกให้? อีฮุนเซน อยู่ได้อีกไม่นานดอก ไม่มีอะไรยั้งยืน ความดี/ชั่ว จะถูกตัดสินในไม่ช้านี้ อีขะแมร์ที่ไปไม่สุด เพราะบาปกรรม มันทำไว้เยอะ เวลาชดใช้ สวรรค์ ถึงได้ไม่ปราณี และเพ่ไทย จะไม่ลดตัวไปยุ่งละครปาหี่อีขะแมร์เด็ดขาด ใครที่ปวดตับ ปวดหัว กับโซเชี่ยลเสี้ยมไทย-ขะแมร์ รายวัน กูถามจริง มรึงจะเสียเวลาไปสนใจสิ่งที่ไม่มีตัวตนทำไม? มันคู่ควรจะมาท้าดวลเราเหรอ? คนละระดับ ไม่ได้บูลลี่ธรรมดา แต่โคตรจะบูลลี่ เลยจ๊ะ ชัดเจนน่ะ กูรำคาญ! ใครขี้ลืมก็หลบไป แต่กูจำได้ดี ว่ามันเคยทำเหี้ยอะไรเอาไว้กับแผ่นดินพ่อกู อย่าไปให้ราคา เพราะมันไม่มีราคา? ไม่แปลกใจดอก อิหร่าน ผ่านร่าง กฎหมายขยายนิวเคลียร์ ชัดพอมั้ย? ผู้นำคนใหม่มา ทำงานเร็วฟ้าผ่าทันที โปรยิวไงล่ะ อียิวถึงได้ตายโหงตายห่าเกลื่อนในสัปดาห์เดียว บ้านไม่มี ลงใต้ดิน มุดถ้ำกันหมด! ดูผลลัพธ์ ดูการกระทำ อย่าดูแค่เค้าเล่าว่า? แล้วจะฉลาดขึ้น? สงครามข่าวสารมันมีเอาไว้หลอกควาย หากไม่อยากเป็นควาย จงใช้สติ ปัญญา คิดให้ดีดี อะไรที่มันไม่ใช่ ย่อมรู้อยู่แก่ใจ? อย่าเชื่อแค่ตาเห็น หูฟัง แต่ใช้สมองคิดก่อนว่า ใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้? แผนสับขาหลอกมีหลายชั้น ไม่มีใครเดาได้ถูกหมดดอก ไม่งั้น มันจะเรียกว่าแผนซ้อนแผนเหรอ? ดูข้อเท็จจริง ดูสิ่งที่มีอยู่จริง จะไม่หลงทาง? ขั้วใหม่ชนะไปนานแล้ว เค้าแค่รอเวลา ชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แบบไม่ต้องสูญเสียเกินความจำเป็น นี่แหละ ผู้นำโลกคนใหม่ของพวกเราชาวโลก!

    หมี CNN(สิ่งดีดีกำลังจะเข้ามา ดังนั้น อย่ากังวล หากเชื้อชั่วมันแผลงฤทธิ์ นั่นแหละดี เชื้อชั่วไม่โผล่ จะรักษายังไง? ต้องเชียร์ให้มันออกลาย โชว์เหี้ยให้สุดติ่งกระดิ่งเหี้ยกันไปเลย ยิ่งแรงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจบเร็วมากเท่านั้น อย่ากลัวเหี้ย มรึงคือลูกเทวดา จะกลัวเหี้ยไปทำไม? ไอ้อีจัญไรที่เสพอาจม หลอกแดร๊กคนในชาติมาช้านาน ถึงเวลาชดใช้ สภาพอย่างหมาจนตรอก อีเหลี่ยมชั่วหมดมุกแล้ว ยิ่งดิ่น ยิ่งหนีไม่หลุด จ่ายอย่างเดียวคือจบ จบแค่ที่นี่ ออกนอกแผ่นดินเมื่อไหร่ มีคนตามจบชีวิตมรึงอีกเยอะ คงหลับลงดอกน่ะ)
    10 ตุลาคม 67
    11.33 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172853488038405740
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    10-10-67/01 : หมี CNN / "เล่าสู่กันฟัง" EP.10 ตอน "NEW WAVE COMING" ยอดสะสมรถอียุ่นปี่ในไทย ลดหวบยับ กว่า 30% ทำไมน่ะรึ? อ้างจีนขยี้ตลาดรถไทย โปรดแหกตาดูทุกปัจจัย รถน้ำมัน ใครจ่ายไหว? ไฮบริคแค่แก้ขัด ระยะยาวจะไปต่อยังไงมิทราบ? เพราะ EV มันไป 1000 กม. แล้ว โคตรพ่อง โคตรแม่ง ขับวันละ 1000 ถึงมุย? เค้ารอให้ทุกอย่างเสถียรก่อน ยังไง EV คืออนาคต ทุกชาติต่างรู้ดี? มรึงหลอกแดร๊กควายไทยมากว่าครึ่งศตวรรษ ดัดแปลงรถกะบะ เสริมแต่งหน่อย ปักป้าย 1.7 ล้าน แม้แต่ควายยังอึ้ง? เจอ BYD มาทีเดียวขาย 700000 ควายถึงจะตื่น? ยุคนี้ น้ำมันแพง เศรษฐกิจต่ำตม รถเกินล้านใครจะซื้อ? ที่มาว่า DEALER ทั่วไทย ย้ายค่าย ปิดกิจการ หันไปขาย EV ดีกว่าค่ายอียุ่นปี่ ใครตายห่าก่อน ตัวแทนอะไหล่ยนต์ไงล่ะ รถสันดาปไปก่อนใครเพื่อน? มันถึงเวลาที่โลกจะเปลี่ยน รับการเปลี่ยนแปลงให้ดีดี รถ EV แค่ปลายยอดภูเขาน้ำแข็ง ยังมีนวตกรรมอีกมาก ที่กำลังจะเข้ามา? สื่อเสี้ยมตีข่าวจีนตีตลาดไทยยับ โยนบาปให้จีน แต่ผู้บริโภคควายไทยได้ตื่น อะไรที่ถูกและดี แล้วมรึงจะจ่ายแพงกว่าทำไม? รถสันดาปใช้กันมาเป็นศตวรรษแล้ว มรึงจะยังใช้กันต่ออีก 100 ปี เหรอ? ปัจจัยยอดสั่งรถลดลงฮวบ มันมีหลายปัจจัย ไม่ใช่แค่ EV เป็นเหตุ คนสรรหาสิ่งที่ดีกว่า ถูกกว่า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย ตลาดรถมือสองจะตายเอา เพราะที่ผ่านมา กินส่วนต่างไว้เยอะ งวดนี้ คนไม่ต้องซื้อมือสองใช้ หันไปจ่ายมือ 1 ป้ายแดงได้เลย 400000 ก็มีให้เลือก ผลประโยชน์ผู้บริโภคเต็มตรีน ก็ต้องปรับตัวกันไปตามเศรษฐกิจโลก และการเปลี่ยนแปลงที่จะตามมา? กูบอกเลย อีกหน่อย ในเวลาอันสั้น โดรนส่งสินค้า โดรน TAXI มาแน่ แล้วมรึงจะช็อค! เวลาแสงทำงาน ยามเปลี่ยนแปลงผลัดใบโลก มันมักจะเกิดแรงต่อต้านเสมอ สำหรับช่วงแรก แต่พอนานวัน ทุกความสะดวกสบายมากขึ้น ประหยัดกว่า ลดมลพิษได้ดีกว่า พลังงานสะอาดมาเต็มตรีน ใครจะไม่เอา? กลับมาสู่โลกสาย HARD CORE กันต่อ : 300 ลูกพร้อมกัน สาแก่ใจอีช้อยเฮซบอเลาะห์เค้าแหละ เละเป็นโจ๊กตามเคย เห่าเก่งแต่ในสื่อหลอกควาย โลกจริง ตายอย่างกะหมาข้างถนน? ซาเฟด แหล่งอุตสาหกรรมทางทหารอียิว แตกกระจุย ที่ใดมีคลังแสง ที่นั่นคือขุมนรก? ระบบป้องกัยภัยแห้วแดร๊กตามเคย มันใช้จริงได้ที่ไหนกันล่ะ? หมายังรู้! ส่งผลให้อาวุธขาดแคลนทันที เมื่อโรงงานผลิตหายวับ มรึงจะรอรับบริจาคจากใครได้อีก? แม่งไม่เหลือเหี้ยอะไรอีกแล้ว หมดตูดกันทั้งกะปิ? อาหรับกำลังจะทำอะไร? ชี้ให้โลกเห็นว่า ลงแขกยิวสบายตรีน ท้าทายอเมริกาให้เข้ามาช่วย จะได้ตายห่าทีเดียว ที่มาว่าทำไม บินทิ้งระเบิดเหี้ยมะกันหันหลังควับ ไม่ตรงต่อไปถล่มเป้าหมายโรงงานนิวเคลียร์อิหร่าน เพราะถูกล็อคเป้าไงจ๊ะ? "คุณหลอกดาวอีกแย้ว" ล่อให้เข้าไปตายห่าสิน่ะ ลงข่าวหน้า 1 บินทิ้งระเบิดตายคาตรีนไฮเปอร์โซนิค แล้วกูจะยังขายเหี้ยอะไรหลอกควายได้อีกล่ะ? อิหร่านมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-400/S-350s ถามคำเดียว ยังจะเหลือลำไหนรอดได้อีก? หลังอิหร่านเพิ่งจะทดสอบนิวเคลียร์ใต้ดิน สะเทือนไปถึงอเมริกา นกรู้กันทั่ว มาดิมรึง? หายไปทั้งเยรูซาเล๋มฝั่งตะวันตก เหี้ยมันเองก็รู้ ว่าไม่มีเครื่องบินลำไหนที่จะผ่าน S-400 รัสเซียได้เลย? ไม่ต้องถามถึง S-500 นั่นมันระดับจักรวาล ยิงดาวเทียมร่วงสบายตรีน เอาไว้ใช้กับสงคราม "STAR WARS" เท่านั้น อียิวมันจนแต้มแล้ว แค่ยื้อเวลาตา่ยให้ช้าลงเท่านั้นเอง แต่เฮซบอเลาะห์บอก กูไม่ว่างรอนานขนาดนั้น เลยจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบทันที NON STOP ฆ่าอย่างเมามันส์ ตายแค่ 10 สื่อตีหลอกควาย เอาที่มรึงสบายใจ ดีออก? ข้ามวิกแป๊บ : ไอ้สัส! เวลาหาแดร๊ก เอาแต่เงิน เสนอหน้ารับงานเพี๊ยบ รอจะถูกเฉ่ง ถูกเชือด หนีหางจุกตูดกันหมด ไอ้อี ดาราทั้งหลาย ที่หลอกแดร๊กคนไทย หวังแค่เศษเงิน แต่ไม่ห่วงทรัพย์สินและชีวิตคนไทยด้วยกัน ถามว่ามรึงรู้มั้ยว่าจะต้องไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้ผลิตภัณฑ์ หรือสิ้นค้า ห้างร้านอะไร? สัญญาเค้ามี เจตนาเค้าชัด อีตำหนวดสาวไส้ยาวอยู่แล้ว เพราะกะจะหลอกฟันหนัก อยากรอด ต้องจ่ายคุ้ม จบเกมส์ นี่ไง อีกา(กาลกิณี)กี ตัวจริง เสียงจริง สรุปแผ่นดินนี้ มีอีตำหนวดเป็นโจรแทนซะงั้น ต่อไปคงได้เห็น "โรบินฮู๊ดไทยแลนด์" ที่ออกมาไล่ล่า แฉความเหี้ยของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองซะเอง หลายคนเชื่อ "แผ่นดินนี้ จ่ายหนัก รอดทุกคดี" กูไม่เถียงหากเป็นในกลียุค มันเป็นเช่นนั้น แต่เมื่อแสงทำงาน วาระสุดท้ายของกลียุคจะหมดไป สิ่งสกปรกจะอยู่ต่อไปไม่ได้อีก การชำระล้างจะตามมา การฆ่าเชื้อชั่วมีแน่ ไม่ต้องห่วง? กลับมาดูเหี้ยตายโหงตายห่ากันต่อ : โดนหนักต่อเนื่อง สนามบิน ท่าเรือ ศูนย์บัญชาการ คลังแสง สถานีสื่อสาร ศูนย์กำลังพลสำรอง แม้แต่เส้นทางลำเลียง โดนหมด! แล้วมรึงล่ะ ทำลายเหี้ยอะไรได้บ้าง? มีแต่ข่าวโจมตีท่าเรือ บ้านเรือน แต่หาได้ทำลายอำนาจแสนยานุภาพฝ่ายตรงข้ามได้เลย เพราะเค้าไม่อนุญาตให้มรึงเข้าถึงไงล่ะ? สงครามยุคใหม่มันแข่งกันที่ไฮเปอร์โซนิค รัสเซีย-จีน -อิหร่าน-โสมแดง ตีโจทย์แตกเมื่อ 20 ปีก่อนแล้ว ถึงได้มีวันนี้ วันที่ ขั้วใหม่มี ไฮเปอร์โซนิค เป็น 10 ล้านลูก มรึงฟังไม่ผิดดอก ฟังให้ชัดๆ อีกครั้ง จากปากณัชชาน่ะว่า "10000000 ลูก" ไม่ต้องถาม ใครผลิต? ตอนนี้รวยเละเทะ นับเงินล้นทะลักคลัง! แค่ยอดสั่งจองจากอาหรับ ก็แทบรอคิวไปอีก 2 ปี ใครว่ากูจนฟ่ะเนี่ย? JOHN KIM จน จริงดิ? ควายเชื่อ แต่คนขำก๊าก! อะไรน่ะ บุกมาเป็นสัปดาห์แล้ว ไม่คืบหน้าไปไหนเลย ระเหยไปในอากาศเพี๊ยบ ไหนว่ายึดเฮซบอเลาะห์ได้ไงล่ะ อ้าว..หนังคนละม้วน แล้วไอ้ที่นอนตายพะงสาบพะงาบนับร้อย พรมแดนเลบานอนเนี่ย? หมาไอ้อีตัวไหนกันฟ่ะ ผมทองก็มี ผมดำก็เยอะ NATO ทั้งนั้น ควายได้ใจกูจริง! สรุปคือเหี้ยนอนฝันว่ากำลังจะชนะ? อยากไปปลุกมันเชียว ให้มันฝันต่อไป ลืมตาอีกที ตายห่า..หมดแผ่นดิน! โลกเบาขึ้นไปอีกเยอะ? ปล.มหากาพย์เรือดำน้ำไทย ใครระบุไปในสัญญาว่าต้องใช้เครื่องยนต์อินทรีเหล็กเท่านั้น? อีเบียร์ไม่ยอมส่งอะไหล่และชิ้นส่วนประกอบให้ เพราะคว่ำบาตรจีนจากคำสั่ง NATO ทำให้ไม่มีนายพลกองทัพเรือหน้าไหน ยอมเสี่ยงตายเพื่อปลดแอกประเทศ? คำตอบมีอยู่ในตัวมันเอง "แผนกั๊ก" ศรีธนญชัยเล่นแร่แปรวิญญานอีกแล้ว หาแดร๊กก็เรื่อง ยุทธศาสตร์ก็เรื่อง แค่เปลี่ยนเครื่องยนต์คือจบทันที แล้วจะได้มีปัญหากับ NATO ต่อไงล่ะ? จีนเองก็รู้ว่า ไทยคิดยังไง? ท่าเรือดำน้ำที่สร้างไป แต่ไม่มีเรือดำน้ำ ใครคิด? 7000 ล้านเอาไปโยนทิ้งลงทะเลอีกตามเคย? นี่ไง เกมส์การเมืองโลก แต่ช้าก่อน หากคุณโทรหาเราภายใน 10 นาที เราจะมีโปรไฟไหม้ ซื้อ 1 แถม 3 ตามมาทันที จุดจบของมหากาพย์เรือดำน้ำนี้ จะปิดฉากลงเพราะผบ.ทร.คนล่าสุดเนี่ยแหละ บีบครม.แก้ไขสัญญาบัดซบ? ดอกนี้ "ตายเป็นตาย" ถึงว่า เกมส์โลกกำหนดเกมส์ไทย ไม่สิ ทั้งโลกมากกว่า? โลกไม่จบ ไทยอย่าหวังว่าจะจบ? เชื่อมั่นในพระบารมี อะไรที่มืดแปดด้าน จะถูกปลดล็อคเอง เชื่อกูดิ? จีน รัสเซีย ถ่วงดุลกัน แต่ตอนนี้ ต้องฆ่าเหี้ยให้ตายห่าก่อนเท่านั้น? กูบอกไปแล้วน่ะ ทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยน? หากมรึงสังเกตุ และคิดรอบด้านให้ดีดี มีอะไรที่กำลังรอเราอยู่ เราปรับเพื่อสิ่งนั้นไงล่ะ? อีเหี้ยมะกันเละเทะ ฟลอริด้าสยอง เฮอริเคน "มิลตัน" ระดับ 5 ตามมาล้างสิ่งสกปรกโสมมจ๊ะ ประชากรควายโลกเยอะเกินไป เอาออกไปบ้าง! อย่ามามั่วว่าเป็นฝีมือจีน ใช้ควอนตั่ม ดาวเทียม ก่อคลื่นสึนามิ เพราะมันไม่ใช่ครั้งแรกที่โดน พายุ สีนามิ ไฟป่า โรงงานไฟฟ้าดับสนิท(อันนี้ฝีมือไซเบอร์รัสเซีย CONFIRM) เหี้ยยังจะต้องโดนอีกเยอะ สวรรค์ลงโทษไงล่ะ เกิดเป็นคนดีดีไม่ชอบ อยากจะเป็นควายกันให้หมดโลก ถึงเวลาสวรรค์กำหนเอง ใครที่มีประโยชน์ต่อมวลมนุษยชาติและโลก จงอยู่ต่อไป ส่วนพวกไร้ประโยชน์ก็ตายห่าตามกันไป จบน่ะ! โลกคัดสรรไว้ดีแล้ว ข่าวฮาแตก! อีแม่บ้านขะแมร์ แห่สาปแช่งอีฮุนเซน อยากจะครองแผ่นดินเบ็ดเสร็จ ถูกขับอัปเปหิ เนรเทศออกนอกประเทศ เมื่ออำนาจมันผูกขาด ก็ต้องเล่นด้วยคาถา อาคม สาปแช่งกันไปเลย ของเค้าแรงน่ะ จะบอกให้? อีฮุนเซน อยู่ได้อีกไม่นานดอก ไม่มีอะไรยั้งยืน ความดี/ชั่ว จะถูกตัดสินในไม่ช้านี้ อีขะแมร์ที่ไปไม่สุด เพราะบาปกรรม มันทำไว้เยอะ เวลาชดใช้ สวรรค์ ถึงได้ไม่ปราณี และเพ่ไทย จะไม่ลดตัวไปยุ่งละครปาหี่อีขะแมร์เด็ดขาด ใครที่ปวดตับ ปวดหัว กับโซเชี่ยลเสี้ยมไทย-ขะแมร์ รายวัน กูถามจริง มรึงจะเสียเวลาไปสนใจสิ่งที่ไม่มีตัวตนทำไม? มันคู่ควรจะมาท้าดวลเราเหรอ? คนละระดับ ไม่ได้บูลลี่ธรรมดา แต่โคตรจะบูลลี่ เลยจ๊ะ ชัดเจนน่ะ กูรำคาญ! ใครขี้ลืมก็หลบไป แต่กูจำได้ดี ว่ามันเคยทำเหี้ยอะไรเอาไว้กับแผ่นดินพ่อกู อย่าไปให้ราคา เพราะมันไม่มีราคา? ไม่แปลกใจดอก อิหร่าน ผ่านร่าง กฎหมายขยายนิวเคลียร์ ชัดพอมั้ย? ผู้นำคนใหม่มา ทำงานเร็วฟ้าผ่าทันที โปรยิวไงล่ะ อียิวถึงได้ตายโหงตายห่าเกลื่อนในสัปดาห์เดียว บ้านไม่มี ลงใต้ดิน มุดถ้ำกันหมด! ดูผลลัพธ์ ดูการกระทำ อย่าดูแค่เค้าเล่าว่า? แล้วจะฉลาดขึ้น? สงครามข่าวสารมันมีเอาไว้หลอกควาย หากไม่อยากเป็นควาย จงใช้สติ ปัญญา คิดให้ดีดี อะไรที่มันไม่ใช่ ย่อมรู้อยู่แก่ใจ? อย่าเชื่อแค่ตาเห็น หูฟัง แต่ใช้สมองคิดก่อนว่า ใครได้ประโยชน์จากเรื่องนี้? แผนสับขาหลอกมีหลายชั้น ไม่มีใครเดาได้ถูกหมดดอก ไม่งั้น มันจะเรียกว่าแผนซ้อนแผนเหรอ? ดูข้อเท็จจริง ดูสิ่งที่มีอยู่จริง จะไม่หลงทาง? ขั้วใหม่ชนะไปนานแล้ว เค้าแค่รอเวลา ชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แบบไม่ต้องสูญเสียเกินความจำเป็น นี่แหละ ผู้นำโลกคนใหม่ของพวกเราชาวโลก! หมี CNN(สิ่งดีดีกำลังจะเข้ามา ดังนั้น อย่ากังวล หากเชื้อชั่วมันแผลงฤทธิ์ นั่นแหละดี เชื้อชั่วไม่โผล่ จะรักษายังไง? ต้องเชียร์ให้มันออกลาย โชว์เหี้ยให้สุดติ่งกระดิ่งเหี้ยกันไปเลย ยิ่งแรงมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งจบเร็วมากเท่านั้น อย่ากลัวเหี้ย มรึงคือลูกเทวดา จะกลัวเหี้ยไปทำไม? ไอ้อีจัญไรที่เสพอาจม หลอกแดร๊กคนในชาติมาช้านาน ถึงเวลาชดใช้ สภาพอย่างหมาจนตรอก อีเหลี่ยมชั่วหมดมุกแล้ว ยิ่งดิ่น ยิ่งหนีไม่หลุด จ่ายอย่างเดียวคือจบ จบแค่ที่นี่ ออกนอกแผ่นดินเมื่อไหร่ มีคนตามจบชีวิตมรึงอีกเยอะ คงหลับลงดอกน่ะ) 10 ตุลาคม 67 11.33 น. https://linevoom.line.me/post/1172853488038405740 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • สักครู่ดูคลิป อ.คนดัง...ออกมาพูดว่า พุทธคุณพระเครื่อง ถ้ามีจริง ต้องใช้ได้กับทุกคนสิ....เอาประสบการณ์ของผู้เขียนเอง. และพบเจอกับมหาเศรษญีเมืองไทย นักเลง โจร ก็มากมาย....
    ..ผู้เขียน ขับรถ หลับใน ครั้งแรก รถกำลังจะขึ้นเกาะกลาง..มีคนกระชากตัวอย่างแรง จนตื่น หักพวงมาลัยทัน....
    ..ครั้งที่ 2 หลับเช่นเคย 6 โมงเช้า เพิ่งเลิกดื่ม...อยู่บนทางด่วน..รถเองแถไป..กำลังจะพุงลงทางด่วน...เช่นเคย มีคนกระขากจนตื่น...หักพวงมาลัยกลับทัน..และรถข้างๆที่หักไปหาเขาก็หลบเราทันด้วย...
    ....2 ครั้งนี้ พระองค์เดียวกัน คือ หลวงปู่ทวด...
    ..อีกครั้งนึง เราทำธุรกิจ แล้วมีศัตรู...ปกติทุกเช้า จะออกจากบ้าน 9.00 น. คือ รอให้รถหายติดก่อน....วันนั้นก็เช่นเคย...มีลางสังหรณ์ว่า อย่าเพิ่งออกไป...ก็กลับมากินกาแฟ อ่านหนังสือ อะไรไปเรื่อยจนถึง 10.30 น. ....พอเปิดรั้ว..เห็นก้นบุหรี่จำนวนมาก..เลยเดินไปถามบ้านตรงข้ามว่า ใครมายืนสูบและทิ้งตรงนี้ ...ได้คำตอบว่า มีคนแต่งกายเหมือนทหาร..ครึ่งท่อน 3 คน..เดินวนไปมา .ตั้งนานแล้ว..เพิ่งไปเมื้อสักครู่....ก็อ่อเลย..คือ จะมาดักอุ้มเราแน่...
    ..ตอนนั้น ห้อย เสือเผ่น ปี 17 หลวงพ่อสุดวัดกาหลง เดี๋ยวๆเลย.
    ,...ต่อ Ep 2
    สักครู่ดูคลิป อ.คนดัง...ออกมาพูดว่า พุทธคุณพระเครื่อง ถ้ามีจริง ต้องใช้ได้กับทุกคนสิ....เอาประสบการณ์ของผู้เขียนเอง. และพบเจอกับมหาเศรษญีเมืองไทย นักเลง โจร ก็มากมาย.... ..ผู้เขียน ขับรถ หลับใน ครั้งแรก รถกำลังจะขึ้นเกาะกลาง..มีคนกระชากตัวอย่างแรง จนตื่น หักพวงมาลัยทัน.... ..ครั้งที่ 2 หลับเช่นเคย 6 โมงเช้า เพิ่งเลิกดื่ม...อยู่บนทางด่วน..รถเองแถไป..กำลังจะพุงลงทางด่วน...เช่นเคย มีคนกระขากจนตื่น...หักพวงมาลัยกลับทัน..และรถข้างๆที่หักไปหาเขาก็หลบเราทันด้วย... ....2 ครั้งนี้ พระองค์เดียวกัน คือ หลวงปู่ทวด... ..อีกครั้งนึง เราทำธุรกิจ แล้วมีศัตรู...ปกติทุกเช้า จะออกจากบ้าน 9.00 น. คือ รอให้รถหายติดก่อน....วันนั้นก็เช่นเคย...มีลางสังหรณ์ว่า อย่าเพิ่งออกไป...ก็กลับมากินกาแฟ อ่านหนังสือ อะไรไปเรื่อยจนถึง 10.30 น. ....พอเปิดรั้ว..เห็นก้นบุหรี่จำนวนมาก..เลยเดินไปถามบ้านตรงข้ามว่า ใครมายืนสูบและทิ้งตรงนี้ ...ได้คำตอบว่า มีคนแต่งกายเหมือนทหาร..ครึ่งท่อน 3 คน..เดินวนไปมา .ตั้งนานแล้ว..เพิ่งไปเมื้อสักครู่....ก็อ่อเลย..คือ จะมาดักอุ้มเราแน่... ..ตอนนั้น ห้อย เสือเผ่น ปี 17 หลวงพ่อสุดวัดกาหลง เดี๋ยวๆเลย. ,...ต่อ Ep 2
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • 😾แม้แต่แมวยังรู้สึกถึงความมากเกินไปของเซเลนสกี

    ในฐานะผู้นำในการล่าหนูของสำนักงานคณะรัฐมนตรีที่ ๑๐ Downing Street ตั้งแต่ปี ๒๐๑๑, แลร์รีใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นกับนายกรัฐมนตรี ๖ คน

    ทันทีที่เซเลนสกีก้าวผ่านธรณีประตูเข้าไปในบ้านเพื่อพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์, เจ้าแมวก็รู้โดยสัญชาตญาณและไม่ยอมเข้าใกล้แขกที่ไม่พึงประสงค์
    .
    😾EVEN THE CAT HAS A BELLYFUL OF ZELENSKY

    As the chief mouser to the Cabinet Office at 10 Downing Street since 2011, Larry has dwelled at the premise with six prime ministers.

    As soon as Zelensky crossed the threshold into the house for talks with UK Prime Minister Keir Starmer, the feline instinctively knew better and gave a wide berth to the unwelcome guest.
    .
    5:38 PM · Oct 10, 2024 · 6,407 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1844326734818066869
    😾แม้แต่แมวยังรู้สึกถึงความมากเกินไปของเซเลนสกี ในฐานะผู้นำในการล่าหนูของสำนักงานคณะรัฐมนตรีที่ ๑๐ Downing Street ตั้งแต่ปี ๒๐๑๑, แลร์รีใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นกับนายกรัฐมนตรี ๖ คน ทันทีที่เซเลนสกีก้าวผ่านธรณีประตูเข้าไปในบ้านเพื่อพูดคุยกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษ เคียร์ สตาร์เมอร์, เจ้าแมวก็รู้โดยสัญชาตญาณและไม่ยอมเข้าใกล้แขกที่ไม่พึงประสงค์ . 😾EVEN THE CAT HAS A BELLYFUL OF ZELENSKY As the chief mouser to the Cabinet Office at 10 Downing Street since 2011, Larry has dwelled at the premise with six prime ministers. As soon as Zelensky crossed the threshold into the house for talks with UK Prime Minister Keir Starmer, the feline instinctively knew better and gave a wide berth to the unwelcome guest. . 5:38 PM · Oct 10, 2024 · 6,407 Views https://x.com/SputnikInt/status/1844326734818066869
    Haha
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 128 Views 50 0 Reviews
  • เชื้.อร้.ายทักษิณ
    กัดกิน-บ่อ.นทำล.าย..ทุกหย่อมหญ้า
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    เชื้.อร้.ายทักษิณ กัดกิน-บ่อ.นทำล.าย..ทุกหย่อมหญ้า #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    7
    0 Comments 1 Shares 478 Views 255 0 Reviews
  • ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรโบราณ แบริ่ง11 #หิว #กิน #พาชิม #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #แนะนำร้านอาหาร #ก๋วยเตี๋ยว #อาหารไทย #food #thaitimes #กินง่ายริมทาง #kaiaminute
    ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูสูตรโบราณ แบริ่ง11 #หิว #กิน #พาชิม #อร่อยบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #แนะนำร้านอาหาร #ก๋วยเตี๋ยว #อาหารไทย #food #thaitimes #กินง่ายริมทาง #kaiaminute
    0 Comments 0 Shares 406 Views 106 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/watch?v=bEqHt23aT74

    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากนิทานเรื่องเจ้าหนูเห็นมังกร ตอนที่ 2
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #listeningtest #listening #englishtest

    Part two ตอน 2

    "It is not true. You are a liar. It cannot be true." said Tom the mouse.
    "A dragon is a legendary animal. It cannot exist really." said Miss P the mouse.
    "That mountain is far from here. To reach the pond beyond that mountain it takes five days' walking at least.
    Did you really walk to get there?" said Hisao the other mouse.
    "I did not walk. I went there roller skating. It took only three days." answered Popy.
    "I really saw him. A dragon was rising up to the heaven." Popy insisted upon, but no one believed him.
    "It is a lie. You are a liar. Let him get in a blue house."

    “มันไม่จริง เจ้าโกหก มันไม่สามารถเป็นจริงได้” ทอมผู้เป็นหนูตัวหนึ่งพูด
    “มังกรมันเป็นสัตว์ในนิยาย มันไม่สามารถมีอยู่จริง ๆ ได้” นางสาวพีหนูตัวหนึ่งพูด
    “ภูเขานั้นมันก็อยู่ไกลจากที่นี่ เพื่อที่จะไปถึงสระน้ำทางโน้นเลยภูเขาเขานั้นไป มันต้องกินเวลา
    อย่างน้อย 5 วันในการที่จะเดินไป
    เจ้าได้ใช้เวลาเดินไปที่นั่นจริง ๆ หรือ?” ไฮเสาหนูอีกตัวพูด
    “ผมไม่ได้เดินไป ผมได้ไปที่นั่นโดยใช้สเก็ตกลิ้งไป ใช้เวลาเพียง 3 วันเท่านั้น เจ้าหนูโพปี้พูด
    “ผมได้เห็นมังกรจริง ๆ มังกรตัวหนึ่งกำลังขึ้นไปบนสวรรค์” เจ้าหนูโพปี้ยืนยันคำพูดอย่างมั่นใจ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขา
    “มันโกหก เจ้าเป็นคนโกหก เอาเขาไปอยู่ในบ้านสีฟ้าซะ”

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)

    true (ทรู) คำคุณศัพท์ แปลว่า จริง
    liar (ไล'อาร์) คำนาม แปลว่า โกหก
    Tom (ทอม) คำนาม ชื่อหนูตัวหนึ่ง
    legendary (เลจ'เจินเดอรี) คำคุณศัพท์ แปลว่า นิยาย
    animal (แอน' นิเมิล) คำนาม แปลว่า สัตว์
    exist (เอคซิสทฺ') คำกริยา แปลว่า มีอยู่
    really (เรียล'ลิ) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า จริง
    Miss (มิส) คำนาม แปลว่า นางสาว
    reach (รีชฺ) คำกริยา แปลว่า มาถึง
    at least (แอด ลีสทฺ) วลี แปลว่า อย่างน้อยที่สุด
    Hisao (ไฮเสา) คำนาม ชื่อหนูตัวหนึ่ง
    other (อัธ'เธอะ) คำคุณศัพท์ แปลว่า อีกตัว
    roller (โรล'เลอะ) คำนาม แปลว่า กลิ้ง
    skating (สเคท) คำนาม แปลว่า สเก็ต
    took (ทุค) คำกริยาช่องที่ 2 ของ take (เทค) แปลว่า ได้ใช้
    saw (ซอ) คำกริยาช่องที่ 2 ของ see (ซี) แปลว่า ได้เห็น
    rising up คำเติม ing ของ rise up (ไรซ อัฟ) แปลว่า กำลังขึ้นไป
    heaven (เฮฟ'เวิน) คำนาม แปลว่า สวรรค์
    insisted คำกริยาช่องที่ 2 ของ insist (อินซิสทฺ') แปลว่า ยืนยัน
    believed คำกริยาช่องที่ 2 ของ believe (บิลิฟว') แปลว่า เชื่อ
    lie (ไล) คำนาม แปลว่า โกหก
    https://www.youtube.com/watch?v=bEqHt23aT74 แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากนิทานเรื่องเจ้าหนูเห็นมังกร ตอนที่ 2 มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #listeningtest #listening #englishtest Part two ตอน 2 "It is not true. You are a liar. It cannot be true." said Tom the mouse. "A dragon is a legendary animal. It cannot exist really." said Miss P the mouse. "That mountain is far from here. To reach the pond beyond that mountain it takes five days' walking at least. Did you really walk to get there?" said Hisao the other mouse. "I did not walk. I went there roller skating. It took only three days." answered Popy. "I really saw him. A dragon was rising up to the heaven." Popy insisted upon, but no one believed him. "It is a lie. You are a liar. Let him get in a blue house." “มันไม่จริง เจ้าโกหก มันไม่สามารถเป็นจริงได้” ทอมผู้เป็นหนูตัวหนึ่งพูด “มังกรมันเป็นสัตว์ในนิยาย มันไม่สามารถมีอยู่จริง ๆ ได้” นางสาวพีหนูตัวหนึ่งพูด “ภูเขานั้นมันก็อยู่ไกลจากที่นี่ เพื่อที่จะไปถึงสระน้ำทางโน้นเลยภูเขาเขานั้นไป มันต้องกินเวลา อย่างน้อย 5 วันในการที่จะเดินไป เจ้าได้ใช้เวลาเดินไปที่นั่นจริง ๆ หรือ?” ไฮเสาหนูอีกตัวพูด “ผมไม่ได้เดินไป ผมได้ไปที่นั่นโดยใช้สเก็ตกลิ้งไป ใช้เวลาเพียง 3 วันเท่านั้น เจ้าหนูโพปี้พูด “ผมได้เห็นมังกรจริง ๆ มังกรตัวหนึ่งกำลังขึ้นไปบนสวรรค์” เจ้าหนูโพปี้ยืนยันคำพูดอย่างมั่นใจ แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขา “มันโกหก เจ้าเป็นคนโกหก เอาเขาไปอยู่ในบ้านสีฟ้าซะ” Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) true (ทรู) คำคุณศัพท์ แปลว่า จริง liar (ไล'อาร์) คำนาม แปลว่า โกหก Tom (ทอม) คำนาม ชื่อหนูตัวหนึ่ง legendary (เลจ'เจินเดอรี) คำคุณศัพท์ แปลว่า นิยาย animal (แอน' นิเมิล) คำนาม แปลว่า สัตว์ exist (เอคซิสทฺ') คำกริยา แปลว่า มีอยู่ really (เรียล'ลิ) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า จริง Miss (มิส) คำนาม แปลว่า นางสาว reach (รีชฺ) คำกริยา แปลว่า มาถึง at least (แอด ลีสทฺ) วลี แปลว่า อย่างน้อยที่สุด Hisao (ไฮเสา) คำนาม ชื่อหนูตัวหนึ่ง other (อัธ'เธอะ) คำคุณศัพท์ แปลว่า อีกตัว roller (โรล'เลอะ) คำนาม แปลว่า กลิ้ง skating (สเคท) คำนาม แปลว่า สเก็ต took (ทุค) คำกริยาช่องที่ 2 ของ take (เทค) แปลว่า ได้ใช้ saw (ซอ) คำกริยาช่องที่ 2 ของ see (ซี) แปลว่า ได้เห็น rising up คำเติม ing ของ rise up (ไรซ อัฟ) แปลว่า กำลังขึ้นไป heaven (เฮฟ'เวิน) คำนาม แปลว่า สวรรค์ insisted คำกริยาช่องที่ 2 ของ insist (อินซิสทฺ') แปลว่า ยืนยัน believed คำกริยาช่องที่ 2 ของ believe (บิลิฟว') แปลว่า เชื่อ lie (ไล) คำนาม แปลว่า โกหก
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • ผบ.ตร.ลั่นไม่เกินสัปดาห์หน้าแจ้งข้อหา-ออกหมายจับคดีดิไอคอน (10/10/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ออกหมายจับคดีดิไอคอน #สอบปากคำคดีดิไอคอน #ธุรกิจหลอกร่วมลงทุนดิไอคอน
    ผบ.ตร.ลั่นไม่เกินสัปดาห์หน้าแจ้งข้อหา-ออกหมายจับคดีดิไอคอน (10/10/67) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ออกหมายจับคดีดิไอคอน #สอบปากคำคดีดิไอคอน #ธุรกิจหลอกร่วมลงทุนดิไอคอน
    Like
    11
    0 Comments 0 Shares 1491 Views 399 0 Reviews
  • #ป้ามลปิษ กำลังจะก้าวสู่การเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน
    ความอิ๊บอ๋ายกำลังจะบังเกิด
    ปกติ คิงส์โพธิ์ดำ จะไม่ขวางความเจริญก้าวหน้าของใคร แต่ ป้ามลปิษนี่ รับไม่ล่ายเจงๆ
    มาดูวีรกรรมของป้า แล้วค่อยตอบพี่คิงส์ว่า ไหวมั๊ย
    - ป้าสมัยดำรงค์ตำแหน่งที่มีอำนาจในกลต. ถูกร้องเรียนว่าปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่อยู่ในหลักธรรมภิบาล ทำให้พนักงานที่มีความสามารถ จำใจลาออกเป็นจำนวนมาก ถึง200 คน และที่ยังอยู่ ก็ก้มหน้าทำงานให้รอดไปวันๆ
    วีรกรรมที่สอง
    - ยัยป้า แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง และแต่งตั้งที่ปรึกษา ที่มีผลการประเมินระดับต่ำ จนทำให้เกิดค่านิยมใหม่ โดยใครที่อยากได้ตำแหน่งหลังเกษียณเพียงแค่ทำดีกับอินังป้า ก็ได้ตำแหน่งเติบโต
    - ยายป้า แต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษา มีมากกว่า 10 ตำแหน่ง และเงินเดือนสูงหลักแสนไม่มีขอบเขตงานที่ชัดเจนและบรรดาที่ปรึกษา ทำหน้าที่เกินขอบเขต โดยการให้เข้ามาตัดสินใจและร่วมแคนดิเดตกับบอร์ดบริหารปัจจุบัน ทำให้การทำงานยากขึ้นและประสิทธิภาพลดลง
    - พนักงานคนใดที่ทำให้ ป้ามลปิ๊ษไม่พอใจ จะถูกกลั่นแกล้ง ข่มขู่ โยกย้าย มากสุดถึงขั้นสอบสวน
    - ยัง ยังไม่พอ บุคคลใดที่ไม่ยอมให้นังป้าต่อวาระตำแหน่งได้โดยอัติโนมัติ ป้าจะกลั่นแกล้งเกลียดชังอย่างหนัก จนทนไม่ไหวแพ้บายไปเอง
    - และยายป้ายังไม่สนใจเวล่ำเวลา ชอบตั้งคำถาม สั่งงานผ่านทางออนไลน์และไม่พิจารณาความเหมาะสมของเวลา และต้องการคำตอบทันที ทำให้พนักงานหวาดกลัว และสละเวลาส่วนตัวมาตอบคำถามโดยไม่สมัครใจ ถึงขั้นเคยสั่งให้ผู้บริหาร ชี้แจงว่า เวลา6โมงเย็นถึง 7 โมงเช้า ทำอะไรบ้าง ซึ่งนั่นคือเวลาส่วนตัวหลังเลิกงาน เช๊ดดดด
    - งานไหนที่อิป้าได้รับมอบหมายแต่ไม่เสร็จ ป้า จะโบ้ยไปที่ ผู้บริหารชุดเก่า ซึ่งอิป้า ทำงานมาถึงปีที่ 4 ก็ยังคงพูดเหมือนเดิม
    - ยายป้ามลปิษ มีปัญหา เรื่องงบประมาณ จ่ายเงินเดือนที่ปรึกษาหลักแสน และมีการตั้งงบประมาณพานักข่าวเดินทางไปดูงานที่สิงคโปร์ หลักล้านบาท และจ้างพนักงานชั่วคราว 100 คน งบ 20 ล้านบาท เพียงเพื่อเอาหน้าและสร้างบารมี
    - ยังไม่พอ ป้ายังข่มขู่บอร์ดบริหาร และพนักงาน โดยป้าขอดูคะแนนการประเมินของตัวเอง จากบอร์ดแต่ละคน หากบอร์ดคนใดให้คะแนนต่ำ ก็โดนเล่นเป็นรายตัว
    - อิป้าไม่ยอมที่จะให้ใครมีผลงานเด่นกว่าตัวเอง แต่ขณะอิป้าติดมือถือหนักมาก แม้กระทั่งขณะประชุมบอร์ดบริหาร หากใครตั้งคำถามแล้วอิป้าตอบไม่ได้ จะเหวี่ยงวีนทันที
    - ที่ถึงกับช็อตฟิวพี่คิงส์คือ ยายป้าที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารในกลต. แต่ดันขาดความรู้เรื่องตลาดหุ้น ไม่เข้าใจตลาดลงทุนเชิงลึก ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ ความเชื่อมโยงของตลาดทุนกับการเงิน และเมื่อถูกถามคำถามและตอบไม่ได้ จะโทษคนรองข้างทั้งหมด หรืออ้างว่า ไม่ต้องการให้คำตอบ
    โอ้ว มาย ก๊อด คนแบบนี้หรือ ที่จะได้รับการเชิดชู ให้มาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ที่ต้องเชื่อมโยงระหว่างประชาชนที่มีข้อพิพาทกับหน่วยงานรัฐ เป็นผู้ดูแลทุกข์สุขของประชาชน หน่วยงานอันทรงเกียรติ กำลังจะมีบุคคลมาบริหารอันเป็นที่น่ารังเกียจในเชิงประจักษ์ จะสร้างความด่างพร้อยให้กับหน่วยงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา อย่างน่าเสียดาย
    คงต้องให้รัฐบาล กลับไปหาข้อมูล เพื่อทบทวนพิจารณาใหม่อีกครั้ง หรือหาใครที่ดีกว่านี้ได้อีกแล้วจริงหรือ สำหรับการดำรงค์ตำแหน่งอันทรงเกียรติ และมีการเชื่อมโยงกับประชาชน ฝากให้คิดและพิจารณา เพราะที่น่าอัวคือปัจจุบันแกดำรงค์ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี อูยยยย เสียวซี๊ดดดดด
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #ป้ามลปิษ กำลังจะก้าวสู่การเป็นผู้ตรวจการแผ่นดิน ความอิ๊บอ๋ายกำลังจะบังเกิด ปกติ คิงส์โพธิ์ดำ จะไม่ขวางความเจริญก้าวหน้าของใคร แต่ ป้ามลปิษนี่ รับไม่ล่ายเจงๆ มาดูวีรกรรมของป้า แล้วค่อยตอบพี่คิงส์ว่า ไหวมั๊ย - ป้าสมัยดำรงค์ตำแหน่งที่มีอำนาจในกลต. ถูกร้องเรียนว่าปกครองผู้ใต้บังคับบัญชาโดยไม่อยู่ในหลักธรรมภิบาล ทำให้พนักงานที่มีความสามารถ จำใจลาออกเป็นจำนวนมาก ถึง200 คน และที่ยังอยู่ ก็ก้มหน้าทำงานให้รอดไปวันๆ วีรกรรมที่สอง - ยัยป้า แต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง และแต่งตั้งที่ปรึกษา ที่มีผลการประเมินระดับต่ำ จนทำให้เกิดค่านิยมใหม่ โดยใครที่อยากได้ตำแหน่งหลังเกษียณเพียงแค่ทำดีกับอินังป้า ก็ได้ตำแหน่งเติบโต - ยายป้า แต่งตั้งตำแหน่งที่ปรึกษา มีมากกว่า 10 ตำแหน่ง และเงินเดือนสูงหลักแสนไม่มีขอบเขตงานที่ชัดเจนและบรรดาที่ปรึกษา ทำหน้าที่เกินขอบเขต โดยการให้เข้ามาตัดสินใจและร่วมแคนดิเดตกับบอร์ดบริหารปัจจุบัน ทำให้การทำงานยากขึ้นและประสิทธิภาพลดลง - พนักงานคนใดที่ทำให้ ป้ามลปิ๊ษไม่พอใจ จะถูกกลั่นแกล้ง ข่มขู่ โยกย้าย มากสุดถึงขั้นสอบสวน - ยัง ยังไม่พอ บุคคลใดที่ไม่ยอมให้นังป้าต่อวาระตำแหน่งได้โดยอัติโนมัติ ป้าจะกลั่นแกล้งเกลียดชังอย่างหนัก จนทนไม่ไหวแพ้บายไปเอง - และยายป้ายังไม่สนใจเวล่ำเวลา ชอบตั้งคำถาม สั่งงานผ่านทางออนไลน์และไม่พิจารณาความเหมาะสมของเวลา และต้องการคำตอบทันที ทำให้พนักงานหวาดกลัว และสละเวลาส่วนตัวมาตอบคำถามโดยไม่สมัครใจ ถึงขั้นเคยสั่งให้ผู้บริหาร ชี้แจงว่า เวลา6โมงเย็นถึง 7 โมงเช้า ทำอะไรบ้าง ซึ่งนั่นคือเวลาส่วนตัวหลังเลิกงาน เช๊ดดดด - งานไหนที่อิป้าได้รับมอบหมายแต่ไม่เสร็จ ป้า จะโบ้ยไปที่ ผู้บริหารชุดเก่า ซึ่งอิป้า ทำงานมาถึงปีที่ 4 ก็ยังคงพูดเหมือนเดิม - ยายป้ามลปิษ มีปัญหา เรื่องงบประมาณ จ่ายเงินเดือนที่ปรึกษาหลักแสน และมีการตั้งงบประมาณพานักข่าวเดินทางไปดูงานที่สิงคโปร์ หลักล้านบาท และจ้างพนักงานชั่วคราว 100 คน งบ 20 ล้านบาท เพียงเพื่อเอาหน้าและสร้างบารมี - ยังไม่พอ ป้ายังข่มขู่บอร์ดบริหาร และพนักงาน โดยป้าขอดูคะแนนการประเมินของตัวเอง จากบอร์ดแต่ละคน หากบอร์ดคนใดให้คะแนนต่ำ ก็โดนเล่นเป็นรายตัว - อิป้าไม่ยอมที่จะให้ใครมีผลงานเด่นกว่าตัวเอง แต่ขณะอิป้าติดมือถือหนักมาก แม้กระทั่งขณะประชุมบอร์ดบริหาร หากใครตั้งคำถามแล้วอิป้าตอบไม่ได้ จะเหวี่ยงวีนทันที - ที่ถึงกับช็อตฟิวพี่คิงส์คือ ยายป้าที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารในกลต. แต่ดันขาดความรู้เรื่องตลาดหุ้น ไม่เข้าใจตลาดลงทุนเชิงลึก ไม่เข้าใจความสัมพันธ์ ความเชื่อมโยงของตลาดทุนกับการเงิน และเมื่อถูกถามคำถามและตอบไม่ได้ จะโทษคนรองข้างทั้งหมด หรืออ้างว่า ไม่ต้องการให้คำตอบ โอ้ว มาย ก๊อด คนแบบนี้หรือ ที่จะได้รับการเชิดชู ให้มาดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา ที่ต้องเชื่อมโยงระหว่างประชาชนที่มีข้อพิพาทกับหน่วยงานรัฐ เป็นผู้ดูแลทุกข์สุขของประชาชน หน่วยงานอันทรงเกียรติ กำลังจะมีบุคคลมาบริหารอันเป็นที่น่ารังเกียจในเชิงประจักษ์ จะสร้างความด่างพร้อยให้กับหน่วยงานผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา อย่างน่าเสียดาย คงต้องให้รัฐบาล กลับไปหาข้อมูล เพื่อทบทวนพิจารณาใหม่อีกครั้ง หรือหาใครที่ดีกว่านี้ได้อีกแล้วจริงหรือ สำหรับการดำรงค์ตำแหน่งอันทรงเกียรติ และมีการเชื่อมโยงกับประชาชน ฝากให้คิดและพิจารณา เพราะที่น่าอัวคือปัจจุบันแกดำรงค์ตำแหน่ง ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี อูยยยย เสียวซี๊ดดดดด #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • #ได้เวลาล้างบางสตม
    โจ๊ก แม้จะกลายเป็นข้าวต้มเละ จากแมวเก้าชีวิต แต่ใช้ไปหมดไม่เหลือ สิ้นภาพการกลับมายิ่งใหญ่อย่างที่ใฝ่ฝัน แม้จะมีพ่อบุญธรรม อย่างเสรีพิสทธิ์ ช่วยปูทาง พาลัดเลาะกฏกติกา เลี่ยงอย่างไร ก็ไม่สามารถกู้ลมหายใจในวงการสีกากีของโจ๊ก กลับมาได้
    แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง ยังไม่จางหาย ที่คล้ายกับเป็นทายาทอสูร หากย้อนกลับไป สมัยโจ๊ก เรืองอำนาจ ได้ใช้หน่วยงาน สตม.ในการเป็นแหล่งรายได้มหาศาล ทั้งจากการรีดทรัพย์จากกลุ่มทุนจีน และแรงงานที่เป็นต่างด้าว ที่เป็นกลุ่มที่อยู่ในกำกับดูแลของสตม. เอื้อให้ต่างด้าว อยู่ในประเทศไทย อย่างไม่ถูกต้อง เป็นปฐมบทแห่งความร่ำรวย ที่โจ๊กสร้างแบบแผนไว้อย่างมั่นคง
    แม้โจ๊กจากไปแบบไม่หวนกลับ ผู้รับช่วงต่อ ชื่อในวงการตร. เรียกว่า แม่นดำ ซึงถามถึงความซั่วก็กินกันไม่ลงกับโจ๊กเลยแม้แต่น้อย หรืออาจจะเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะนอกเหนือจากการเรียกรับเก็บแบบรายเดือน กับต่างด้าวที่ไม่ได้ขออนุญาต เดือนละ 500 ต่อหัว ซึ่งมีจำนวนนับล้านคนในปัจจุบัน หรือถ้าขาดการต่อการขออนุญาตที่เข้ามาอย่างถูกกฏหมาย กลุ่มนี้ หลายพันบ.ต่อหัวต่อเดือน ซึ่งยอดรวมมหาศาลนี้ ก็ยังไม่ทำให้เม่นดำอิ่มได้
    ยังคงดำเนินต่อ ไปยังส่วยบ่ออน สถานบันเทิง ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตนเองเลยแม้แต่น้อย
    ปัจจุบัน เม่นดำ มีความทะเยอทะยาน วิ่งเต้นเข้าสู่ตำแหน่งในระดับ ผู้บัญชาการ สตม. เพราะยังเชื่อว่าเส้นสายที่โจ๊กได้วางไว้ ตนจะสามารถเข้ามาแทนได้อย่างเต็มรูปแบบ บ้างก็อ้างว่า แม่นดำ เป็นเด็กในคาถาของลุง ส่วนลุงไหน ไม่รู้ว ไม่รู้วจริงๆ
    คิงส์โพธิ์ดำ พินิจพิเคราะห์แล้วว่า ถ้าจะถึงเวลาอันสมควร ในการล้างบางกลุ่มอำนาจ ที่มีบริบทเป็นทายาทอสูร ต่อจากโจ๊ก มิเช่นนั้น คนไทย ก็ไม่ต่างจากการหนี้เสือ ปะตะกวด เจ้าของกิจการแทนที่จะได้การอำนวยความสะดวก จากสตม. ให้แรงงานของตนสามารถนำเข้าสู่ระบบ ให้ถูกต้อง กลับกลายเป็นต้องตกอยู่ในสภาวะถูกรีด ไถ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยังไม่รวมถึง สวัสดภาพของคนไทย ที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนต่างด้าวที่ไม่มีประวัติใดๆ แต่อยู่ได้จากการจ่ายส่วย ทำให้ต้องถามถึงความปลอดภัยของตนและคนในครอบครัว
    เป็นโจทย์สำคัญ ให้รัฐบาลอิ๊ง 1 โดยเฉพาะ เสี่ยหนู มท.1 ที่มีความตั้งใจจริงในการล้างบาง ความตำบอลที่เกิดขึ้นในสตม.หรือไม่
    เพราะหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คนไทย จะต้องพบกับแม่นดำแทนมารดำ ที่พร้อมต้อนรับเงินสีเทา และแผ่ขยายอำนาจจนสะเทือนทั้งประเทศยิ่งกว่าสุรเชษฐ์ หักพาลก็เป็นได้
    #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    #ได้เวลาล้างบางสตม โจ๊ก แม้จะกลายเป็นข้าวต้มเละ จากแมวเก้าชีวิต แต่ใช้ไปหมดไม่เหลือ สิ้นภาพการกลับมายิ่งใหญ่อย่างที่ใฝ่ฝัน แม้จะมีพ่อบุญธรรม อย่างเสรีพิสทธิ์ ช่วยปูทาง พาลัดเลาะกฏกติกา เลี่ยงอย่างไร ก็ไม่สามารถกู้ลมหายใจในวงการสีกากีของโจ๊ก กลับมาได้ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วง ยังไม่จางหาย ที่คล้ายกับเป็นทายาทอสูร หากย้อนกลับไป สมัยโจ๊ก เรืองอำนาจ ได้ใช้หน่วยงาน สตม.ในการเป็นแหล่งรายได้มหาศาล ทั้งจากการรีดทรัพย์จากกลุ่มทุนจีน และแรงงานที่เป็นต่างด้าว ที่เป็นกลุ่มที่อยู่ในกำกับดูแลของสตม. เอื้อให้ต่างด้าว อยู่ในประเทศไทย อย่างไม่ถูกต้อง เป็นปฐมบทแห่งความร่ำรวย ที่โจ๊กสร้างแบบแผนไว้อย่างมั่นคง แม้โจ๊กจากไปแบบไม่หวนกลับ ผู้รับช่วงต่อ ชื่อในวงการตร. เรียกว่า แม่นดำ ซึงถามถึงความซั่วก็กินกันไม่ลงกับโจ๊กเลยแม้แต่น้อย หรืออาจจะเหนือกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะนอกเหนือจากการเรียกรับเก็บแบบรายเดือน กับต่างด้าวที่ไม่ได้ขออนุญาต เดือนละ 500 ต่อหัว ซึ่งมีจำนวนนับล้านคนในปัจจุบัน หรือถ้าขาดการต่อการขออนุญาตที่เข้ามาอย่างถูกกฏหมาย กลุ่มนี้ หลายพันบ.ต่อหัวต่อเดือน ซึ่งยอดรวมมหาศาลนี้ ก็ยังไม่ทำให้เม่นดำอิ่มได้ ยังคงดำเนินต่อ ไปยังส่วยบ่ออน สถานบันเทิง ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานของตนเองเลยแม้แต่น้อย ปัจจุบัน เม่นดำ มีความทะเยอทะยาน วิ่งเต้นเข้าสู่ตำแหน่งในระดับ ผู้บัญชาการ สตม. เพราะยังเชื่อว่าเส้นสายที่โจ๊กได้วางไว้ ตนจะสามารถเข้ามาแทนได้อย่างเต็มรูปแบบ บ้างก็อ้างว่า แม่นดำ เป็นเด็กในคาถาของลุง ส่วนลุงไหน ไม่รู้ว ไม่รู้วจริงๆ คิงส์โพธิ์ดำ พินิจพิเคราะห์แล้วว่า ถ้าจะถึงเวลาอันสมควร ในการล้างบางกลุ่มอำนาจ ที่มีบริบทเป็นทายาทอสูร ต่อจากโจ๊ก มิเช่นนั้น คนไทย ก็ไม่ต่างจากการหนี้เสือ ปะตะกวด เจ้าของกิจการแทนที่จะได้การอำนวยความสะดวก จากสตม. ให้แรงงานของตนสามารถนำเข้าสู่ระบบ ให้ถูกต้อง กลับกลายเป็นต้องตกอยู่ในสภาวะถูกรีด ไถ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ยังไม่รวมถึง สวัสดภาพของคนไทย ที่ต้องอยู่ท่ามกลางคนต่างด้าวที่ไม่มีประวัติใดๆ แต่อยู่ได้จากการจ่ายส่วย ทำให้ต้องถามถึงความปลอดภัยของตนและคนในครอบครัว เป็นโจทย์สำคัญ ให้รัฐบาลอิ๊ง 1 โดยเฉพาะ เสี่ยหนู มท.1 ที่มีความตั้งใจจริงในการล้างบาง ความตำบอลที่เกิดขึ้นในสตม.หรือไม่ เพราะหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คนไทย จะต้องพบกับแม่นดำแทนมารดำ ที่พร้อมต้อนรับเงินสีเทา และแผ่ขยายอำนาจจนสะเทือนทั้งประเทศยิ่งกว่าสุรเชษฐ์ หักพาลก็เป็นได้ #คิงส์โพธิ์ดำ รายงาน
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 Reviews
  • #ดิไอคอน
    กับความลับอันดำมืดที่อยู่กับคนไทยมายาวนาน
    ด้วยพรีเซ็นเตอร์ระดับแนวหน้า นักแสดงดารานักร้องกับทุกวงการ
    การทำงานแบบดาวกระจาย สร้างความหวังให้กับคนที่ไม่มีทางออก
    อยากได้โอกาสใหม่ๆ แต่ก็ไม่พ้นบ่วงแห่งระบบเครือข่าย
    ที่เหมือนขูดโลหิตจากตัวปู ที่ไม่มีที่จะให้
    ด้วยการโปรว่า มีคอซสอนทำตาหลาดออไนลน์
    ทำให้มีคนหลงตามเข้าไป แต่ถูกปิดท้ายด้วยการชวนเข้าเครือข่าย
    พวกนี้ ทำกันเป็นจริงเป็นจังมาก แต่ ของไม่แท้ก็คือของไม่แท้
    งบดุลจากกำไรปีละพันกว่าล้าน จากยอดขายสี่พันกว่าล้าน
    ปัจจุบันเหลือเพียงหลักหน่วยล้านเท่านั้น
    คนที่ไม่มีจะกินอยู่แล้ว ที่หลงเข้าสู่วงการ
    ถูกชวนเข้ามาดูความสำเร็จจัดงานอลังการ แต่ต้องมีตั๋วเข้า
    ใช้เบี้ยงหลักหมื่น เอาง่ายๆ แค่ค่าจัดก็กำำไรแล้ว
    แล้วก็ทำเสมือนลัทติ๊ พูดเหมือนๆกัน เป็นเหมือนการซะกดจิต
    ไม่มีตังค์ลงทุน ก็ต้องไปหยิบยืม หรือต้องไปกู๊หนี้ยืมสินมา
    ด้วยองค์ประกอบแห่งแสงสีเสียง และมีตัวแม่ทีมที่พูดเก่งมาก
    พูดซ้ำๆ เป็นกลุ่มย่อย โดยใช้การประชุมกลุ่ม
    เวลาโปรว่ามีคอสสอนออนไลน์ ก็จะ 99 บ อะไรแบบนี้
    และในกลุ่ม ก็จะมีหน้าม๊าคอยนำทางให้สมาชิกใหม่
    รู้ว่าต้องพูดอะไร ทำอะไร
    เรื่องนี้ แฟนคลับพี่หนุ่ม ได้ส่งกำลังใจ
    พร้อมข้อมูลแบบนัวๆ เพื่อให้เครือข่ายนี้ได้รับการเปิดหน้า
    ซึ่งที่ผ่านมา พิธีกรชื่อดังอีกคน ชื่อย่อ ก. ก็ออกหน้าเต็มตัว
    และเป็นไอค่อนของความสำเร็จ โดยคนที่ไม่สำเร็จ
    ด้วยขาดพื้นฐานด้านคอนเนคชั่น ตามไอค่อน และไอดอล
    ก็เป็นอันเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปตามๆกัน ถ้าพี่หนุ่ม เดินเครื่องเรื่องนี้
    ก็ต้องยอมรับว่า มีผลกระทบ กับพิธีกรชื่อ ก. อย่างแน่นอน
    คงต้องตามเรื่องนี้กันอีกยาวๆ ระหว่าง บรรดาแม่ทีม หน้าม๊า
    กับผู้ที่เดือดรอ้น ใครจะมีประมาณและพละกำลังที่มากกว่ากัน
    พี่คิงส์โพธิ์ดำรู้อย่างเดียวว่า เวลานี พิธีกรชื่อดัง ชื่อย่อ ก.
    ก็กำลังหนาวๆร้อนๆเช่นกัน
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #ดิไอคอน กับความลับอันดำมืดที่อยู่กับคนไทยมายาวนาน ด้วยพรีเซ็นเตอร์ระดับแนวหน้า นักแสดงดารานักร้องกับทุกวงการ การทำงานแบบดาวกระจาย สร้างความหวังให้กับคนที่ไม่มีทางออก อยากได้โอกาสใหม่ๆ แต่ก็ไม่พ้นบ่วงแห่งระบบเครือข่าย ที่เหมือนขูดโลหิตจากตัวปู ที่ไม่มีที่จะให้ ด้วยการโปรว่า มีคอซสอนทำตาหลาดออไนลน์ ทำให้มีคนหลงตามเข้าไป แต่ถูกปิดท้ายด้วยการชวนเข้าเครือข่าย พวกนี้ ทำกันเป็นจริงเป็นจังมาก แต่ ของไม่แท้ก็คือของไม่แท้ งบดุลจากกำไรปีละพันกว่าล้าน จากยอดขายสี่พันกว่าล้าน ปัจจุบันเหลือเพียงหลักหน่วยล้านเท่านั้น คนที่ไม่มีจะกินอยู่แล้ว ที่หลงเข้าสู่วงการ ถูกชวนเข้ามาดูความสำเร็จจัดงานอลังการ แต่ต้องมีตั๋วเข้า ใช้เบี้ยงหลักหมื่น เอาง่ายๆ แค่ค่าจัดก็กำำไรแล้ว แล้วก็ทำเสมือนลัทติ๊ พูดเหมือนๆกัน เป็นเหมือนการซะกดจิต ไม่มีตังค์ลงทุน ก็ต้องไปหยิบยืม หรือต้องไปกู๊หนี้ยืมสินมา ด้วยองค์ประกอบแห่งแสงสีเสียง และมีตัวแม่ทีมที่พูดเก่งมาก พูดซ้ำๆ เป็นกลุ่มย่อย โดยใช้การประชุมกลุ่ม เวลาโปรว่ามีคอสสอนออนไลน์ ก็จะ 99 บ อะไรแบบนี้ และในกลุ่ม ก็จะมีหน้าม๊าคอยนำทางให้สมาชิกใหม่ รู้ว่าต้องพูดอะไร ทำอะไร เรื่องนี้ แฟนคลับพี่หนุ่ม ได้ส่งกำลังใจ พร้อมข้อมูลแบบนัวๆ เพื่อให้เครือข่ายนี้ได้รับการเปิดหน้า ซึ่งที่ผ่านมา พิธีกรชื่อดังอีกคน ชื่อย่อ ก. ก็ออกหน้าเต็มตัว และเป็นไอค่อนของความสำเร็จ โดยคนที่ไม่สำเร็จ ด้วยขาดพื้นฐานด้านคอนเนคชั่น ตามไอค่อน และไอดอล ก็เป็นอันเจ็บเนื้อเจ็บตัวไปตามๆกัน ถ้าพี่หนุ่ม เดินเครื่องเรื่องนี้ ก็ต้องยอมรับว่า มีผลกระทบ กับพิธีกรชื่อ ก. อย่างแน่นอน คงต้องตามเรื่องนี้กันอีกยาวๆ ระหว่าง บรรดาแม่ทีม หน้าม๊า กับผู้ที่เดือดรอ้น ใครจะมีประมาณและพละกำลังที่มากกว่ากัน พี่คิงส์โพธิ์ดำรู้อย่างเดียวว่า เวลานี พิธีกรชื่อดัง ชื่อย่อ ก. ก็กำลังหนาวๆร้อนๆเช่นกัน #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ผู้กำกับ | ช้างเรื่องเยอะ!
    #ช้างเรื่องเยอะ #ลุงช้างหญ่าย #ก๋วยเตี๋ยวเนื้อผู้กำกับ #ก๋วยเตี๋ยวเนื้อมิสุ #ก๋วยเตี๋ยวเนื้อรามคำแหง118 #กินเที่ยวกับtiktok @uncle Changyai

    พิกัด

    https://maps.app.goo.gl/23DkCuj9uj7P3DuYA
    ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ผู้กำกับ | ช้างเรื่องเยอะ! #ช้างเรื่องเยอะ #ลุงช้างหญ่าย #ก๋วยเตี๋ยวเนื้อผู้กำกับ #ก๋วยเตี๋ยวเนื้อมิสุ #ก๋วยเตี๋ยวเนื้อรามคำแหง118 #กินเที่ยวกับtiktok @uncle Changyai พิกัด https://maps.app.goo.gl/23DkCuj9uj7P3DuYA
    0 Comments 0 Shares 93 Views 29 0 Reviews
  • อย่ามัวเครียดกับเรื่องบางเรื่องมากเกินไป จนลืมให้เวลากับตัวเองบ้างนะครับ🙂🙂🙂
    อย่ามัวเครียดกับเรื่องบางเรื่องมากเกินไป จนลืมให้เวลากับตัวเองบ้างนะครับ🙂🙂🙂
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • ดอลลาร์สหรัฐจะเสื่อมค่าลง ถึงแม้จะพยายามก่อสงครามและโรคระบาดก็ตาม / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    สถานการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในปัญหาความไม่เชื่อมั่นต่อ ดอลลาร์สหรัฐ มี 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.การพิมพ์แบงค์ก่อหนี้ไม่หยุดและไม่สามารถชำระหนี้ได้ และ 2. การยึดทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย ทำให้ทั่วโลกกำลังหาสินทรัพย์อย่างอื่น

    อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงจุดที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถใช้นโยบายดอกเบี้ยสูงได้ต่อไป ก็ยิ่งทำให้เงินทั่วโลกเทขายพันธบัตรและเงินดอลลาร์หันไปลงทุนสินทรัพย์อย่างอื่น โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชีย (ซึ่งแปลงเป็นเงินสกุลอื่น) คริปโตเคอเรนซี่ และทองคำ ประเทศใดไม่ทันระวังตัว หลงเพลินกับดัชนีราคาหุ้นที่สูงขึ้น ก็อาจจะได้รับผลกระทบทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเสื่อมค่าลงด้วยเพราะดอลลาร์ที่ท่วมในทุนสำรองระหว่างประเทศกำลังเสื่อมค่าลงเช่นกั

    ด้วยเหตุผลนี้ธนาคารกลางของหลายประเทศที่มีเงินทุนไหลเข้าจำนวนมาก ก็มีแนวโน้มจะซื้อทองคำมากขึ้น เพื่อรักษามูลค่าของทุนสำรองระหว่างประเทศให้มั่นคง กว่าการมีสินทรัพย์ที่มีเงินดอลลาร์มากเกินไป

    ด้วยเหตุผลนี้ทองคำมีแนวโน้มจะมีราคาสูงขึ้นต่อไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอเมริกา

    ดังนั้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ช่วยทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับความเสียหาย อีกทั้งต้องสั่งซื้อวัคซีนและยารักษาโรคในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐจากอเมริกา และยุโรป

    การก่อหนี้สาธารณอันมหาศาลเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 ในการหาซื้อยา วัคซีน เวชภัณฑ์ รวมถึงการเยียวยาความเสียหายทางเศรษฐกิจ ทำให้หลายประเทศต่อก่อหนี้เพิ่มมากขึ้น บางประเทศที่ขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่แล้ว ก็ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF มากขึ้น

    และการที่ประเทศที่ได้รับความเสียหายจากสงครามหรือโรคระบาดที่ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศมากขึ้น ก็คือการรักษาความต้องการเงินดอลลาร์ให้ยังคงอยู่ต่อไป และต้องถูกแลกมาด้วยการสูบทรัพยากรจากประเทศลูกหนี้เหล่านั้นให้มาชดใช้หนี้ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาและยุโรป

    และนี่คือเหตุผลสำคัญที่กระทรวงกลาโหมต้องออกมาปล่อยข่าวปลอมในการใส่ร้ายและทำลายวัคซีนจากจีน เพื่อต้องการสูบความมั่งคั่งจากทั่วโลกให้มาเพิ่งเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อไป

    อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงจุดที่นโยบายดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะดำรงได้ต่อไป จึงถูกสถานการณ์ทางเศรษฐกิจบีบคั้นให้ลดอัตราดอกเบี้ยและมีแนวโน้มจะลดลงไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าทำให้เศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาเดินหน้าต่อไป

    แต่การลดดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ก็แลกกลับมาด้วยเงินทุนไหลออกจากดอลลาร์สหรัฐอย่างรวดเร็ว ไปสู่สินทรัพย์อื่นที่ปลอดภัยมากกว่าอย่างรวดเร็ว ทั้งทองคำ เงินดิจิตอลคริปโตเคอเรนซี่ หุ้นในประเทศในเอเชีย

    ส่งผลทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มจะเสื่อมค่าลงเรื่อยๆ

    เมื่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาดอลลาร์อย่างสันติวิธีได้ ประชาคมโลกจึงมีความเสี่ยงที่จะได้เห็นปรากฏการณ์เร่งทำสงครามให้บานปลายมากขึ้น หรืออาจมีความเสี่ยงการก่อโรคระบาดใหม่ได้มากขึ้น

    เพราะการก่อสงครามของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ได้ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญความเสี่ยงในการสูญเสียในสมรภูมิสงครามโดยตรง ทำให้หลายประเทศต้องซื้ออาวุธสงครามด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น

    และการปฏิบัติการด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ต่อสู้กันนั้น ก็ย่อมทำให้ต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น ดังนั้นน้ำมันที่เพิ่มมูลค่ามากขึ้น ย่อมทำให้สหรัฐอเมริกาได้รับประโยชน์ทำกำไรมากขึ้น และรักษาเงินดอลลาร์ได้มากขึ้นเช่นกัน เพราะทำให้สหรัฐอเมริการมีรายได้มาช่วยชำระหนี้มากขึ้น

    ยังไม่นับความเสี่ยงประเทศคู่กรณีกับสหรัฐอเมริกา ก็อาจจะถูกประเทศสหรัฐอเมริกาชักดาบ ไม่ต้องชำระหนี้พันธบัตรสหรัฐ และยึดทุนสำรองระหว่างประเทศมาชดใช้หนี้ให้สหรัฐอเมริการหรือให้มาซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐอเมริกาได้ด้วย

    กรณีศึกษาที่ชัดเจนว่าฝ่ายรักษาเงินดอลลาร์ที่ได้ทำลายการขนส่งก๊าซของรัสเซียในยุโรปก็ดี การมีเป้าหมายทำลายบ่อน้ำมันหรือโรงกลั่นน้ำมันของอิหร่านก็ดี มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการทำลายปิโตรเลียมของชาติอื่นๆ ที่จะไม่ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายน้ำมัน(ปิโตรดอลลาร์) เพื่อหวังจะทำให้ปิโตรเลียมที่ค้าขายด้วยดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นที่จะครองสัดส่วนหลักของโลกได้ต่อไป ซึ่งเป็นวิธีดิ้นเฮือกสุดท้ายที่มีความเสี่ยงสูง เป็นการเดิมพันเพื่อรักษาเงินดอลลาร์เอาไว้ให้ได้

    นั่นหมายความว่า “ราคาน้ำมัน” มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นต่อไปด้วย

    ดังนั้นลักษณะสงครามโลก หรือหากจะมีสงครามโรคเพื่อรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีแนวโน้มที่จะเป็นไปในลักษณะ “จำกัดพื้นที่” และ “ยืดเยื้อ”ไม่ให้เป็นสงครามที่มีผลกระทบต่อแผ่นดินของสหรัฐอเมริกา

    แต่ก็ใช่ว่าแนวทางรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่ไม่ใช่แนวทางสันติวิธีแบบนี้จะทำได้ตามอำเภอใจ เพราะประเทศคู่กรณีอย่างจีน รัสเซีย ที่มีสมาชิก BRICS เข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ที่กำลังลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐให้ลดน้อยลง

    จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่าน อินเดีย ซึ่งกำลังทยอยลดการถือครองสินทรัพย์ที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่างมีอาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยี ที่ไม่เพียงจะไม่แพ้สหรัฐอเมริกาและยุโรปเท่านั้น แต่ยังอาจจะเหนือกว่าสหรัฐอเมริกาแล้วด้วย

    ดังนั้นการทำสงครามแบบ “จำกัดพื้นที่” และ “ยืดเยื้อ” อาจถูกโต้กลับด้วยแสนยานุภาพทำให้สงครามสิ้นสุดลงได้เช่นกัน

    ในขณะที่การทำสงครามโรคระบาดก็อาจจะไม่ง่ายอีกเช่นกัน เพราะหลังจากการเกิดโรคระบาดโควิด-19 เริ่มทำให้หลายประเทศได้ตระหนักถึงความเสียหายรอบด้าน และมีการเตรียมความพร้อมมากขึ้น ทั้งยารักษาโรค การพึ่งพาตัวเองได้สมุนไพร การเร่งรัดงานวิจัย หรือแม้กระทั่งการผลิตวัคซีน

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนได้ถ่วงอำนาจทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก ด้วยการปล่อยกู้และลงทุนอันมหาศาลให้กับหลายประเทศที่ติดหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ อีกทั้งยังขยายบทบาทการพึ่งพาทางเศรษฐกิจให้กับหลายประเทศทั่วโลกมากกว่าสหรัฐอเมริกา และทำให้ความจำเป็นในการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐอเมริกาลดลงไปด้วย และยังลงทุนก่อสร้างไปในธุรกิจพลังงาน และเหมืองแร่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสินทรัพย์ที่เป็นตัวเปลี่ยนเทคโนโลยีของจีน ที่เหนือกว่าการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ

    จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น แนวโน้มดอลลาร์สหรัฐจะไม่สามารถรักษามูลค่าต่อไปได้ ต่อให้ปั่นกระแสข่าวการทำสงคราม การขึ้นภาษีกีดกันทางการค้า ต่างก็มีข้อจำกัดด้วยแสนยานุภาพของประเทศมหาอำนาจคู่กรณี

    ในสถานการณ์เช่นนี้ประเทศไทยจะต้องคำนึงถึงเรื่องดังต่อไปนี้

    1.ความมั่นคงในทุนสำรองระหว่างประเทศที่จะต้องปรับเปลี่ยนสัดส่วนของสินทรัพย์ให้ทันพลวัตต่อเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    2.ต้องมีการบริหารจัดการรักษา “เสถียรภาพ” ค่าเงินบาทไม่ให้เกิดการ “ผันผวน” ผิดปกติเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มเดียวกัน ควบคู่ไปกับการพิจารณาเรื่องเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ กับความสามารถในการแข่งขันในเวทีการส่งออกและการนำเข้าระหว่างประเทศ

    3.ต้องบริหารจัดการให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานเพื่อการพึ่งพาตัวเอง ในภาวะสงครามทั่วโลก โดยเฉพาะการส่งเสริมโซลาร์เซลล์ และรถไฟฟ้าทั่วไทยอย่างจริงจัง

    4.ต้องเร่งสร้างความมั่นคงทางอาหารให้พึ่งพาตัวเองได้ ในภาวะสงครามทั่วโลก

    5.ต้องเร่งสร้างความมั่นคงทางยาด้านสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตัวเอง ในภาวะสงครามทั่วโลก

    แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นรัฐบาลได้ตระหนักหรือมีวิสัยทัศน์กับปัญหาเหล่านี้เลย

    คงเหลือแต่ประชาชนเท่านั้นที่ได้อ่านบทความนี้ต้องเริ่มแสวงหาแนวทางการพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น ทั้งการพึ่งพาตัวเองด้านพลังงาน อาหาร และสมุนไพร หรือปรัชญาพระราชทานเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9

    ด้วยความปรารถนาดี
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    10 ตุลาคม 2567
    ดอลลาร์สหรัฐจะเสื่อมค่าลง ถึงแม้จะพยายามก่อสงครามและโรคระบาดก็ตาม / ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ สถานการณ์ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในปัญหาความไม่เชื่อมั่นต่อ ดอลลาร์สหรัฐ มี 2 เรื่องสำคัญ คือ 1.การพิมพ์แบงค์ก่อหนี้ไม่หยุดและไม่สามารถชำระหนี้ได้ และ 2. การยึดทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซีย ทำให้ทั่วโลกกำลังหาสินทรัพย์อย่างอื่น อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงจุดที่ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถใช้นโยบายดอกเบี้ยสูงได้ต่อไป ก็ยิ่งทำให้เงินทั่วโลกเทขายพันธบัตรและเงินดอลลาร์หันไปลงทุนสินทรัพย์อย่างอื่น โดยเฉพาะตลาดหุ้นในเอเชีย (ซึ่งแปลงเป็นเงินสกุลอื่น) คริปโตเคอเรนซี่ และทองคำ ประเทศใดไม่ทันระวังตัว หลงเพลินกับดัชนีราคาหุ้นที่สูงขึ้น ก็อาจจะได้รับผลกระทบทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศเสื่อมค่าลงด้วยเพราะดอลลาร์ที่ท่วมในทุนสำรองระหว่างประเทศกำลังเสื่อมค่าลงเช่นกั ด้วยเหตุผลนี้ธนาคารกลางของหลายประเทศที่มีเงินทุนไหลเข้าจำนวนมาก ก็มีแนวโน้มจะซื้อทองคำมากขึ้น เพื่อรักษามูลค่าของทุนสำรองระหว่างประเทศให้มั่นคง กว่าการมีสินทรัพย์ที่มีเงินดอลลาร์มากเกินไป ด้วยเหตุผลนี้ทองคำมีแนวโน้มจะมีราคาสูงขึ้นต่อไปเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ดังนั้นในรอบหลายปีที่ผ่านมา การระบาดของโรคโควิด-19 ได้ช่วยทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกได้รับความเสียหาย อีกทั้งต้องสั่งซื้อวัคซีนและยารักษาโรคในรูปของเงินดอลลาร์สหรัฐจากอเมริกา และยุโรป การก่อหนี้สาธารณอันมหาศาลเพื่อรับมือกับโรคโควิด-19 ในการหาซื้อยา วัคซีน เวชภัณฑ์ รวมถึงการเยียวยาความเสียหายทางเศรษฐกิจ ทำให้หลายประเทศต่อก่อหนี้เพิ่มมากขึ้น บางประเทศที่ขาดดุลการค้าและดุลบัญชีเดินสะพัดอยู่แล้ว ก็ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF มากขึ้น และการที่ประเทศที่ได้รับความเสียหายจากสงครามหรือโรคระบาดที่ต้องกู้เงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศมากขึ้น ก็คือการรักษาความต้องการเงินดอลลาร์ให้ยังคงอยู่ต่อไป และต้องถูกแลกมาด้วยการสูบทรัพยากรจากประเทศลูกหนี้เหล่านั้นให้มาชดใช้หนี้ด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาและยุโรป และนี่คือเหตุผลสำคัญที่กระทรวงกลาโหมต้องออกมาปล่อยข่าวปลอมในการใส่ร้ายและทำลายวัคซีนจากจีน เพื่อต้องการสูบความมั่งคั่งจากทั่วโลกให้มาเพิ่งเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาต่อไป อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงจุดที่นโยบายดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะดำรงได้ต่อไป จึงถูกสถานการณ์ทางเศรษฐกิจบีบคั้นให้ลดอัตราดอกเบี้ยและมีแนวโน้มจะลดลงไปเรื่อยๆ โดยหวังว่าทำให้เศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาเดินหน้าต่อไป แต่การลดดอกเบี้ยธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ก็แลกกลับมาด้วยเงินทุนไหลออกจากดอลลาร์สหรัฐอย่างรวดเร็ว ไปสู่สินทรัพย์อื่นที่ปลอดภัยมากกว่าอย่างรวดเร็ว ทั้งทองคำ เงินดิจิตอลคริปโตเคอเรนซี่ หุ้นในประเทศในเอเชีย ส่งผลทำให้ดัชนีเงินดอลลาร์สหรัฐมีแนวโน้มจะเสื่อมค่าลงเรื่อยๆ เมื่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยสูงของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาไม่สามารถจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรักษาดอลลาร์อย่างสันติวิธีได้ ประชาคมโลกจึงมีความเสี่ยงที่จะได้เห็นปรากฏการณ์เร่งทำสงครามให้บานปลายมากขึ้น หรืออาจมีความเสี่ยงการก่อโรคระบาดใหม่ได้มากขึ้น เพราะการก่อสงครามของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ไม่ได้ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องเผชิญความเสี่ยงในการสูญเสียในสมรภูมิสงครามโดยตรง ทำให้หลายประเทศต้องซื้ออาวุธสงครามด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น และการปฏิบัติการด้วยอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ต่อสู้กันนั้น ก็ย่อมทำให้ต้องการใช้น้ำมันมากขึ้น ดังนั้นน้ำมันที่เพิ่มมูลค่ามากขึ้น ย่อมทำให้สหรัฐอเมริกาได้รับประโยชน์ทำกำไรมากขึ้น และรักษาเงินดอลลาร์ได้มากขึ้นเช่นกัน เพราะทำให้สหรัฐอเมริการมีรายได้มาช่วยชำระหนี้มากขึ้น ยังไม่นับความเสี่ยงประเทศคู่กรณีกับสหรัฐอเมริกา ก็อาจจะถูกประเทศสหรัฐอเมริกาชักดาบ ไม่ต้องชำระหนี้พันธบัตรสหรัฐ และยึดทุนสำรองระหว่างประเทศมาชดใช้หนี้ให้สหรัฐอเมริการหรือให้มาซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของสหรัฐอเมริกาได้ด้วย กรณีศึกษาที่ชัดเจนว่าฝ่ายรักษาเงินดอลลาร์ที่ได้ทำลายการขนส่งก๊าซของรัสเซียในยุโรปก็ดี การมีเป้าหมายทำลายบ่อน้ำมันหรือโรงกลั่นน้ำมันของอิหร่านก็ดี มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการทำลายปิโตรเลียมของชาติอื่นๆ ที่จะไม่ใช้เงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายน้ำมัน(ปิโตรดอลลาร์) เพื่อหวังจะทำให้ปิโตรเลียมที่ค้าขายด้วยดอลลาร์สหรัฐเท่านั้นที่จะครองสัดส่วนหลักของโลกได้ต่อไป ซึ่งเป็นวิธีดิ้นเฮือกสุดท้ายที่มีความเสี่ยงสูง เป็นการเดิมพันเพื่อรักษาเงินดอลลาร์เอาไว้ให้ได้ นั่นหมายความว่า “ราคาน้ำมัน” มีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นต่อไปด้วย ดังนั้นลักษณะสงครามโลก หรือหากจะมีสงครามโรคเพื่อรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐนั้น มีแนวโน้มที่จะเป็นไปในลักษณะ “จำกัดพื้นที่” และ “ยืดเยื้อ”ไม่ให้เป็นสงครามที่มีผลกระทบต่อแผ่นดินของสหรัฐอเมริกา แต่ก็ใช่ว่าแนวทางรักษาเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่ไม่ใช่แนวทางสันติวิธีแบบนี้จะทำได้ตามอำเภอใจ เพราะประเทศคู่กรณีอย่างจีน รัสเซีย ที่มีสมาชิก BRICS เข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ ที่กำลังลดการถือครองเงินดอลลาร์สหรัฐให้ลดน้อยลง จีน รัสเซีย เกาหลีเหนือ อิหร่าน อินเดีย ซึ่งกำลังทยอยลดการถือครองสินทรัพย์ที่เป็นเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่างมีอาวุธยุทโธปกรณ์ และเทคโนโลยี ที่ไม่เพียงจะไม่แพ้สหรัฐอเมริกาและยุโรปเท่านั้น แต่ยังอาจจะเหนือกว่าสหรัฐอเมริกาแล้วด้วย ดังนั้นการทำสงครามแบบ “จำกัดพื้นที่” และ “ยืดเยื้อ” อาจถูกโต้กลับด้วยแสนยานุภาพทำให้สงครามสิ้นสุดลงได้เช่นกัน ในขณะที่การทำสงครามโรคระบาดก็อาจจะไม่ง่ายอีกเช่นกัน เพราะหลังจากการเกิดโรคระบาดโควิด-19 เริ่มทำให้หลายประเทศได้ตระหนักถึงความเสียหายรอบด้าน และมีการเตรียมความพร้อมมากขึ้น ทั้งยารักษาโรค การพึ่งพาตัวเองได้สมุนไพร การเร่งรัดงานวิจัย หรือแม้กระทั่งการผลิตวัคซีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศจีนได้ถ่วงอำนาจทางเศรษฐกิจไปทั่วโลก ด้วยการปล่อยกู้และลงทุนอันมหาศาลให้กับหลายประเทศที่ติดหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ อีกทั้งยังขยายบทบาทการพึ่งพาทางเศรษฐกิจให้กับหลายประเทศทั่วโลกมากกว่าสหรัฐอเมริกา และทำให้ความจำเป็นในการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐอเมริกาลดลงไปด้วย และยังลงทุนก่อสร้างไปในธุรกิจพลังงาน และเหมืองแร่ ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสินทรัพย์ที่เป็นตัวเปลี่ยนเทคโนโลยีของจีน ที่เหนือกว่าการพึ่งพาเงินดอลลาร์สหรัฐ จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้น แนวโน้มดอลลาร์สหรัฐจะไม่สามารถรักษามูลค่าต่อไปได้ ต่อให้ปั่นกระแสข่าวการทำสงคราม การขึ้นภาษีกีดกันทางการค้า ต่างก็มีข้อจำกัดด้วยแสนยานุภาพของประเทศมหาอำนาจคู่กรณี ในสถานการณ์เช่นนี้ประเทศไทยจะต้องคำนึงถึงเรื่องดังต่อไปนี้ 1.ความมั่นคงในทุนสำรองระหว่างประเทศที่จะต้องปรับเปลี่ยนสัดส่วนของสินทรัพย์ให้ทันพลวัตต่อเงินดอลลาร์สหรัฐอเมริกาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 2.ต้องมีการบริหารจัดการรักษา “เสถียรภาพ” ค่าเงินบาทไม่ให้เกิดการ “ผันผวน” ผิดปกติเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มเดียวกัน ควบคู่ไปกับการพิจารณาเรื่องเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ กับความสามารถในการแข่งขันในเวทีการส่งออกและการนำเข้าระหว่างประเทศ 3.ต้องบริหารจัดการให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานเพื่อการพึ่งพาตัวเอง ในภาวะสงครามทั่วโลก โดยเฉพาะการส่งเสริมโซลาร์เซลล์ และรถไฟฟ้าทั่วไทยอย่างจริงจัง 4.ต้องเร่งสร้างความมั่นคงทางอาหารให้พึ่งพาตัวเองได้ ในภาวะสงครามทั่วโลก 5.ต้องเร่งสร้างความมั่นคงทางยาด้านสมุนไพรเพื่อการพึ่งพาตัวเอง ในภาวะสงครามทั่วโลก แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่เห็นรัฐบาลได้ตระหนักหรือมีวิสัยทัศน์กับปัญหาเหล่านี้เลย คงเหลือแต่ประชาชนเท่านั้นที่ได้อ่านบทความนี้ต้องเริ่มแสวงหาแนวทางการพึ่งพาตัวเองให้มากขึ้น ทั้งการพึ่งพาตัวเองด้านพลังงาน อาหาร และสมุนไพร หรือปรัชญาพระราชทานเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ด้วยความปรารถนาดี ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 10 ตุลาคม 2567
    Like
    Love
    45
    1 Comments 5 Shares 401 Views 1 Reviews
  • FB Page เหยื่อ V.2 เขียนดีมาก ครบถ้วน จึงขอยกมานำเสนอแบบเต็มๆ
    ...............
    ปฐมบท..บอสพอล The Icon

    พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ

    ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์

    หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท

    ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ

    พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย

    พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก)

    จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน..

    ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ

    คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global
    👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal

    ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ

    ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง

    เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท

    แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan
    👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/

    ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้

    เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้

    จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน

    และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558
    👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/

    เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน

    เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด

    เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ

    พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse

    และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค

    เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“

    ---------

    โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย

    โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี"

    โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา

    -----------

    ลูกค้าของพอล..

    ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง

    เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง)

    โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ

    และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี

    และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี

    การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV

    นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว

    รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก

    โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า

    ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที

    พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น

    พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น

    คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง

    พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่

    เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

    แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท

    89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน)

    มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ

    เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว

    ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว

    คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย

    เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon

    และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM

    เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ

    และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย
    ---------

    ยุคทองของ..บอสพอล The Icon

    เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง

    เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว

    แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป

    เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้

    The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล

    ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น

    แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด

    ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto

    ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ

    หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ

    คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม

    เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน

    พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ

    และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา

    และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร

    กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย

    เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย

    กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย

    แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ
    -----------

    ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลได้เลย

    จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยาก ไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู

    เพราะเคสแบบนีัมันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน”

    หรือเคยมีใครได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ

    จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้

    เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง

    พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง

    เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ

    แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั

    ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป

    โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ

    หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้..

    พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน

    ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.?

    ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที

    เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย

    บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง

    พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ

    สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ..

    การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง

    ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร

    ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว

    คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว

    หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ

    เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว

    แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่

    บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ

    พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา

    บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้

    จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว

    อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ

    สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship

    คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป

    กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต

    มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย
    ----------

    ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้

    1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ

    2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer

    3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20%

    เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง

    พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้

    4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย

    ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด"

    ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด

    ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส.

    น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣

    เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง

    สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง

    ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100%

    ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.?

    นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก

    #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน
    .
    Cr : FB เหยื่อ V.2
    FB Page เหยื่อ V.2 เขียนดีมาก ครบถ้วน จึงขอยกมานำเสนอแบบเต็มๆ ............... ปฐมบท..บอสพอล The Icon พอล..คือชื่อของเด็กหนุ่มที่เริ่มต้นก็ค้าขายของที่บ้าน จนกระทั่งยุคที่ Facebook Ads เริ่มให้บริการ ตอนนั้นคนยังไม่สนใจการยิงแอด ค่าแอดในการทำโฆษณาเรียกว่าเอาคนได้ที่โหล่มาทำแอดก็ยังกำไร เพราะต้นทุนต่อค่าโฆษณาอยู่ที่คลิกละ 5 สตางค์ หรือพูดง่ายๆ จ่ายเงินให้เกิดการคลิกเข้ามา 20 ครั้ง เสียเงินแค่ 1 บาท ดังนั้นถ้าใครอยู่ในยุคตื่นแอดช่วงแรกเรียกว่ากอบโกยชนิดที่ซื้อบ้าน ซื้อรถ ซื้อที่ดิน กันได้เลยจริงๆนั่นแหละ พ.ศ. 2556 คือยุคเริ่มต้นเมื่อ Facebook ประกาศให้มีการแสดงโฆษณาได้บนประเทศไทย พอล..จึงหัดยิงแอดออนไลน์ขายสินค้าของตัวเองจนชำนาญจึงเกิดเป็นพอลผู้ทำการตลาดออนไลน์เก่งมาก (ไม่เก่งได้ไงก็ค่าโฆษณามันยังถูกมาก) จะท้าวความให้อ่าน จะได้รู้ว่าทำไมพอลถึงเก่งและหัวใสแยบยลได้อย่างที่เห็นทุกวันนี้ เราจะพาเพื่อนๆแฟนเพจ นั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปดูเรื่องราวของเขากัน.. ผู้ที่ปั้นพอลให้เก่งอย่างทุกวันนี้ เขามีชื่อว่าคุณ ธเนตรการกล่าวถึงคนนี้เขาไม่ได้เป็นคนทำผิดบาปอะไรนะ เขาเป็นนักการตลาด MLM ที่เก่งที่สุดในไทยระดับต้นๆ คุณ ธเนตร ได้สมัครเข้าไปทำการตลาดกับ Jeunesse Global 👉 https://www.facebook.com/JeunesseGlobal ซึ่งเป็นบริษัทขายตรงทั่วๆไปเหมือนแอมเวย์ กิฟฟารีนซึ่งไม่ได้ผิดกฎหมายในประเทศไทย แต่มันมีจุดหนึ่งที่น่าสนใจ ก็คือการตลาดยุคนั้นมีกฎห้ามนำสินค้ามาโพสต์ขายออนไลน์ เพื่อเลี่ยงการตัดราคาและเลี่ยงการที่สมาชิกไม่ซื้อสินค้าผ่านบริษัทโดยตรง เรียกว่าใครโพสต์ขายหรือชวนคนออนไลน์ จะโดนตัดรหัสทิ้งทันทีเพราะเป็นการทำผิดกฏบริษัท แต่..มีนักการตลาดชาวมาเลเซียคนหนึ่ง ชื่อว่า Patric Chan 👉 https://www.facebook.com/patricchanlive/ ได้ไปดีลกับ Jeunesse ว่า จะขอพัฒนาระบบชวนคนออนไลน์ได้ไหม โดยให้เหตุผลว่า..จะสามารถทำสปอนเซอร์ข้ามประเทศได้ จะทำให้ Jeunesse มีสมาชิกทั่วโลกได้ เช่น.เราทำอยู่ที่ไทย เราอาจจะมี Down line อยู่ที่เคนย่า ลาว ไต้หวัน ได้หมด นั่นเป็นไอเดียที่ Jeunesse ตอบตกลงให้ Patric Chan ทำได้ จึงเกิดเป็นระบบชวนคนออนไลน์ ตอนนั้นแค่ชวนสมัครสมาชิกนะ การสั่งซื้อสินค้าก็ยังคงสั่งผ่านหน้าเวบไซต์ Jeunesse อยู่ดีไม่มีอะไรซับซ้อน และคุณ ธเนตร ก็ได้ไปเรียนกับ Patric Chan ตอนที่เขามาเปิดสัมมนาที่ไทยในปี 2558 👉 https://www.facebook.com/passivewealthTH/ เมื่อคุณ ธเนตร ได้เรียนรู้ระบบชวนคนออนไลน์แล้วประจวบกับการที่พอลมาสมัครเป็น Downline ของธเนตร ก็เหมือนจับเอาเสือสองตัวมาตีคู่กัน เกิดเป็นพลังต่อสู้มหาศาล คนหนึ่งเก่งเรื่องสคริปต์ชวนคน คนหนึ่งเก่งเรื่องยิงแอด ทีนี้แหละความรวยจึงบังเกิด เกิดเป็นยอดขายพันล้านของ ธเนตร เกิดยอดขายร้อยล้านของพอล จนทั้งสองคนได้ไปออกรายการต่างๆ พอลได้ไปออกรายการตีสิบ จนได้นามสกุลมาต่อท้ายชื่อว่า“พอล ตีสิบ” ใครๆก็เรียกเขาแบบนั้นระหว่างที่เขายังคงทำ Jeunesse และตลอดเวลา พอลก็ได้เรียนรู้กลยุทธการทำการตลาดแบบ MLM จากธเนตร จนแตกฉานยิ่งกว่าจบเปรียญธรรม 9 ประโยค เมื่อพอลรู้แจ้ง เห็นจริงแล้ว ก็กางปีกโบยบินแยกตัวออกมาจาก ธเนตร มาตั้งบริษัท และทำแบรนด์ชื่อว่า“ The Icon“ --------- โดยช่วงแรกทำสินค้าพวกกาแฟ และ คอลลาเจน เพราะสองอย่างนี้พอลศึกษาแล้วว่าจะทำการตลาดชวนคนได้ง่าย เพราะเป็นสินค้าที่คนทั่วไปเข้าถึงได้ง่าย โดยพอลได้วางระบบชวนคนไว้โดยให้ผลตอบแทนเป็นการ "เที่ยวฟรี" และทำโปรโมชั่นเปิดบิลสมัครสมาชิก "เที่ยวฟรี" โดยจัดการเที่ยวเน้นไปที่ทะเล พัทยา เพราะดีลค่าโรงแรมได้ถูก พอลฉลาดโดยไม่ได้ดีลโรงแรมห้าดาวอะไร เน้นโรงแรม 3 ดาวก็พอแล้ว โดยมีการจองห้องประชุมไว้ทำสัมมนา ----------- ลูกค้าของพอล.. ช่วงแรกเขามุ่งเน้นไปที่คนอยากเที่ยวและอยากมีเพื่อนฝูงไปด้วย นั่นก็คือ คนที่เกษียณแล้ว หรือคนแก่นั่นเอง เค้ารู้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายนี้แหละจะผลักดันให้บริษัทเขาอยู่รอดได้ในช่วงแรก ด้วยการจัดทัวร์เที่ยวกินฟรี (ค่าเดินทางออกเอง) โดยการเปิดบิลซื้อสินค้า ช่วงแรกจะมีระดับไม่เยอะ จะมีแบบเปิดคนเดียว เที่ยวคนเดียว และเปิดมากหน่อย ชวนเพื่อนมาเที่ยวได้ฟรี 1 คน 2 คน 3 คน ไล่ไปเรื่อยๆ และด้วยหลักการนี้เอง คนแก่จึงตอบรับข้อเสนอของเขาง่าย เพราะนอกจากจะได้สินค้ามากินและใช้แล้วก็ยังได้เที่ยวฟรี และคนแก่ส่วนมากมักจะไม่อยากไปเที่ยวคนเดียว จึงเปิดบิลที่ชวนเพื่อนได้ 2 คนขึ้นไป และก็เป็นการชวนเพื่อนมาเที่ยวฟรี การเที่ยวก็ไม่ได้มีอะไรมากมาย ก็คือชวนเพื่อนไปเที่ยวทะเล หลังกินอาหารเช้าแล้ว วันถัดมาก็จะเป็น Event กลางคืน ได้พบกับคนดังที่ออก TV นั่นคือบอสพอล ตีสิบ โดยพอลจะมาหลังจากทุกคนถึงแล้ว 1 วันเสมอ เพื่อมาปรากฎตัวบนเวที แล้วก็จะขอบคุณสมาชิกทุกคนที่มาเที่ยว รวมไปถึงชักชวนให้คนที่มาเที่ยวกับเพื่อน สมัครสมาชิกเพื่อซื้อสินค้าและสามารถชวนเพื่อนในทริปหน้ากันได้อีก โดยคนชวนก็ไม่ใช่ใคร ก็ใช้เพื่อนชวนเพื่อนมันก็ง่ายสิ่คนแก่ขี้เหงายังไงก็ดีกว่ารอลูกหลานพาเที่ยว ฉันไปเที่ยวกับเพื่อนสนุกกว่า ทำให้การเปิดบิลซ้ำ การเปิดบิลใหม่ จึงเกิดขึ้นตามแผนการตลาดอันแยบยลของพอลและด้วยวิธีนี้ทำให้ปีแรก บริษัทของพอลมีกำไรเติบโตทันที พอล..เริ่มซื้อรถ Super Car ก่อนเลยเพื่อเริ่มเข้าสู่“โหมดความรวย”เพื่อวางแผนกระเถิ่บไปหาลูกค้าที่มีความฝัน..อยากรวยตามแบบคนอื่น พอล..เปลี่ยนการตลาดจากคนแก่ มาเจาะคนที่อยากเกษียณก่อนกำหนด คือ เป้าหมายพวกอายุ 35 ขึ้นไปที่ฝันอยากมีรถหรู กระเป๋าแบรนด์เนม..เหมือนคนอื่น คนเรามีความฝันนั้นดี “แต่ต้องไม่ลืมนึกถึงความจริง”ที่ว่า บางครั้งความฝันมันก็เป็นได้แค่ความฝัน..ที่ไม่มีวันเป็นความจริง พอล..ใช้คอร์สสอนออนไลน์สอนการทำตลาดขายของซึ่งยุคนั้นค่าโฆษณายังไม่แพง แต่ก็เริ่มขยับจากระดับ 10 สตางค์ มาเป็นคลิกละ 50 สตางค์แล้ว แต่มันก็ยังได้ผลอยู่ เพราะจ่ายค่าโฆษณาไป 1,000 บาท ก็สามารถชวนคนได้ถึง 2000 คลิก ตีไปว่าสนใจ 1% ก็ยังมีคนทักมา 20 คน คอร์สก็เป็นการเตรียม Material ต่างๆเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว แค่ทุกคนแบกโน้ตบุ๊กของตัวเองมาก็สามารถตั้งโฆษณาได้เลย ทุกคนจะตั้งโฆษณาขายสินค้าและชวนคนเข้าทีม ซึ่งตั้งไว้ที่ 89 บาท 89 บาท นั่นคือค่าเฉลี่ยที่พอลคำนวณแล้วว่าใช้เทคนิค OPM (Other People Money) แบบนี้ตัวเองก็ไม่ต้องยิงแอดเองแล้ว (จากเดิมตอนชวนคนแก่ต้องยิงแอดเอง และสอนทีมงาน) มาคราวนี้พอลได้พัฒนา ระบบการสอน เริ่มมีการตั้งแม่ทีมเพื่อศึกษาวิธีการสอนให้เป็นครู โดยทุกคนก็เอา 89 บาทค่าเรียน ใส่เข้าไปในโฆษณานั่นแหละ เท่ากับพอลก็จะได้ Facebook Ads Account มหาศาลโดยที่ตัวเองไม่ต้องเสียเวลาสมัครและไม่ต้องกลัวโดนแบนโฆษณาเพราะถึงโดนก็ไม่ใช่สิ่งที่ตัวเองต้องเหนื่อยลงไปควบคุมเองแล้ว ด้วยแผนการตลาดแบบใหม่ ทำให้พอลเติบโตแบบก้าวกระโดด ยอดขายพุ่งไปหลายร้อยล้านทันที เพราะมีการวางเกมเรื่องเปิดบิลไว้แล้ว อย่างที่เห็นในข่าว คนมาอย่างน้อยก็ต้องเสียค่าสมัคร member หลัก 2-5 พัน และถ้าแม่ทีมเก่งก็จะต้อนให้ไปเปิดบิลดีลเลอร์ได้เลย 250,000 เพื่อให้เที่ยวฟรีได้เกือบ 10 ครั้ง แถมยังได้โควต้าชวนคนมาเที่ยวด้วย เรียกว่าอัดโปรโมชั่นกันแบบจุกๆ เพื่อทำให้คนได้เห็นว่ามาเรียนที่นี่นอกจากจะขายได้แล้ว ยังได้เที่ยวด้วย ทำให้เกิดกระแสบูมไปที่ The Icon และด้วยการที่พอลศึกษาข้อกฏหมายกับทนายส่วนตัวมาเป็นอย่างดี รวมถึงได้ความรู้จากอาจารย์ตัวเองมา เขาจึงเลี่ยงวลี..ไม่ได้ทำ MLM เพราะรู้ว่าถ้าชวนทำ MLM คนจะไม่มา เขาจึงเรียกระบบของบริษัทตัวเองว่าระบบตัวแทน เพื่อให้คนไม่รู้สึกต่อต้านกับสิ่งที่เขาทำ และพอลได้ขออนุญาตการทำการตลาด ที่เรียกว่าตลาดขายตรง ไว้แล้ว บริษัทจึงสามารถดำเนินการได้ โดยไม่มีความผิด และด้วยเทคนิคนี้ทำให้พอล ก้าวเข้าสู่ยอดขายหลายร้อยล้านได้อย่างง่ายดาย --------- ยุคทองของ..บอสพอล The Icon เมื่อโควิดหมดไปประเทศเปิด คนก็เริ่มหางานทำ นั่นจึงเกิดเป็นยอดขาย 4,949,496,994 มีกำไรสุทธิ 813 ล้านบาทเศษ ในปี 2564 นั่นเอง เพราะคนแห่มาทำออนไลน์กันเนื่องจากยังคงกลัวโควิดอยู่แต่ก็ต้องทำมาหากินแล้ว ทีนี้ก็แบกตัวเองมาเรียนเพราะอยากมีอาชีพมีรายได้มาเลี้ยงครอบครัว แต่..พอมาเรียนแล้วได้เจอกับนักพูดสร้างแรงบันดาลใจ เจอคนขับรถสปอร์ต ใส่แบรนด์เนม ความคิดที่อยากจะมีอาชีพที่มีแค่รายได้มาจุนเจือครอบครัวมันเปลี่ยนไป เริ่มมีความฝัน อยากสำเร็จ อยากรวย เพราะเห็นจากภาพความสำเร็จของระบบที่พอลได้ออกแบบเอาไว้ The Icon บูมสุดๆก่อให้เกิดกระแสหลั่งไหลเข้ามาเรียนมากขึ้น ชวนกันมากขึ้น เปิดบิลกันมากขึ้น เที่ยวกันให้สะใจ ทีมงานบอสพอลโพสต์ภาพการกินเที่ยวเต็มโซเชียล ภาพถ่ายเหล่านั้นมันดูเหมือนเป็นอนาคตที่สดใสสำหรับทุกคนจริงๆ ดึงดูดคนให้เข้าเรียนเพิ่มขึ้น แต่พอคนมาเยอะ มันก็ตรงกับหลัก Supply/Demand เมื่อคนขายมากกว่าคนซื้อและทุกคนแห่กันไปโฆษณาบน Facebook ความฉิบหายจึงบังเกิด ค่าโฆษณาพุ่งกระฉูดเพราะทุกคนก็ต้องการ Placement บน Platform ไม่ว่าจะจุดไหนก็จะ Bid ราคากันแบบ Auto ทีนี้ AI ของ Facebook ก็ลากราคาต่อคลิกไปสูงถึง 10 บาท ทีนี้เริ่มไม่มีกำไรละ หลายคนเริ่มเจ๊ง หลายคนสต็อกเริ่มล้น..สินค้าติดมือ หลายคนเริ่มสู้กับค่าโฆษณาไม่ไหว เพราะยิงแอดไปซ้ำกับคนเดิม ระบบชวนคนทุกบริษัทมันมีข้อเสียตรงนี้แหละคือทำไปสักพักจะมีรหัสซ้ำ คำว่ารหัสซ้ำ แปลง่ายๆก็คือทักไปหาคนที่เป็นสมาชิกของ The Icon อยู่แล้ว ดังนั้นการชวนคนจึงไม่ง่ายเหมือนเดิม เริ่มเจอหน้าซ้ำ เริ่มเจอคนระดับรากหญ้า เป็นแม่ค้าผักบ้างล่ะ เป็น รปภ.บ้างล่ะ ทำให้ยอดขายปีถัดมาตกลงเหลือ 3 พันกว่าล้าน พอล..ต้องการต่ออายุธุรกิจของตัวเองให้เดินหน้าต่อเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้าจึงเริ่มหา #ลมใต้ปีก มาช่วยพยุงธุรกิจ และรู้ๆกันอยู่ว่าลมใต้ปีกชั้นดีก็คือ..ดารา และดาราคนแรกๆเลยก็คือ กันต์ ซึ่งแรกๆกันต์ไม่ได้เข้ามาในฐานะพรีเซ็นเตอร์อีกตางหาก ลองไปสืบค้นกันเอาเองว่าตอนแรกเข้ามาในฐานะอะไร กันต์ เข้ามาก่อนแต่มายืนถือสินค้าชิ้นแรกหลังพวกดาราคนอื่น เพราะเพื่อส่งเสริมให้บริษัทมันดูน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น พอลจึงแต่งตั้งกันต์ให้เป็น CMO ซะเลย เพราะจะได้การันตีว่าบริษัทฉันน่ะมันสะอาดโปร่งใสนะฉันไม่โกงหรอก เห็นไหมว่า..พิธีกรระดับประเทศยังมาทำงานร่วมกับฉันเลย กันต์ และดาราอีกขโยงหนึ่งทำให้ใครๆก็เชื่อมั่นใน The Icon ชวนเปิดบิลหลักแสนก็ใจอ่อนไม่ต้องหวั่นไหวเพราะมีดาราการันตรี มีดาราพารวย แน่นอนว่าช่วงนี้ค่าโฆษณาแพงแล้วนะ แต่มีดารามาการันตี แล้วกำไรมีไหม ก็มีระดับปริ่มๆ แต่บางคนก็เริ่มเจ๊งตั้งแต่เริ่มทำ ----------- ดังที่กล่าวมาข้างบน👆จะเห็นได้ว่าไม่มีเหลี่ยมไหนที่จะตั้งข้อกล่าวหาให้เอาผิดพอลในชั้นศาลได้เลย จะตั้งข้อกล่าวหาพอลยังยาก ไอ้ที่เย้วๆตั้งธงว่าแชร์ลูกโซ่นี่พอลยิ้มอ่อนเอามือลูบปากคิดในใจ..เสร็จกู เพราะเคสแบบนีัมันต้องเริ่มที่ สคบ.ก่อนเลย แต่ด้วยเหตุผลของกฎหมาย สคบ.ก็จะตีความว่า การขายสินค้าของพอล..“ไม่ได้ขายต่อไปยังมือผู้บริโภคโดยตรง แต่จำหน่ายไปที่ตัวแทน” หรือเคยมีใครได้รับสินค้าจากมือบอสพอลโดยตรงบ้างไหมล่ะ.? ถ้าไม่มีก็ตรงตามที่ สคบ.ตีความเอาไว้นั่นแหละ จึงทำให้ทุกคนที่เคยร้องเรียนไปยัง สคบ.ได้รับคำตอบกลับมาเหมือนกันหมดคือ สคบ.ทำอะไรไม่ได้ เพราะพอลได้ศึกษาข้อกฏหมายเอาไว้แล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลย ยกเว้นการการันตีว่าแอดต้องปัง พอล..เริ่มปรับแผนการตลาด ตั้งสำนักงานใหม่ที่รามอินทรา มีรถหรูจอดที่ด้านหน้าเพื่อให้คนมาถ่ายกับรถแล้วก็ไปโพสต์และยิงโฆษณาแทนตนเอง เริ่มให้คนสร้างภาพว่าทำแล้วรวย แทนที่จะกลายเป็นเที่ยว ไม่เอาแล้วล่ะ กูเน้นทำแล้วรวย แล้วก็คงคอนเซ็ปต์ขยันผิดที่ 10 ปีก็ไม่รวย อยากรวยต้องมาทำกับกูนี่มา ถถถ แต่เมื่อคนเริ่มตื่นรู้ ค่าโฆษณาแพง การจะชวนไปต่อในระดับลึกๆทำได้ยาก หลายคนจึงยอมเจ็บแค่นี้แล้วถอยออกมาหาเงินทางอื่นมาใช้หนีั ทำให้ปีถัดมา ยอดขายตกเหลือ พันแปดร้อยล้าน หายไปเกือบ 40% ทีนี้บอสพอลก็คงทำได้แค่ยื้อเวลาของธุรกิจตัวเองต่อไป โดยการจ้างดารามามากขึ้น ผลิตสินค้าออกมามากขึ้น เพื่อให้การเปิดบิลมัน rotate ไปยังสินค้า SKU ใหม่ๆ หลังจากนั้นจึงเป็นความวิบัติที่แท้.. พอล..ไม่ได้ควบคุมทิศทางบริษัทตัวเองให้ดี รู้ทั้งรู้แต่ยังปล่อยให้ทำ ก็คือแม่ทีม เริ่มกลายร่างสถาปนาตัวเองเป็นโค้ช เก่งระดับประเทศกันทุกคน ทุกคนขับรถสปอร์ตกันหมดเลย แล้วรถของใครล่ะ.? ก็รถของบอสพอลแทบทุกคันเลยแหละ การตลาดมันจึงกลายเป็นการหลอกลวงผู้คนด้วยโพรไฟล์จอมปลอมทันที เพราะรถก็ไม่ใช่ของตัวเอง แต่มาโม้ว่าเป็นของตัวเองเพื่อให้คนอื่นหลงเชื่อว่าทำธุรกิจร่วมกับ The Icon แล้วรวย บอสพอลก็ทราบดีเลยนะว่าทำแบบนี้มันคือการหลอกลวง แต่พอลก็รู้ว่าตัวเองไม่ต้องรับผิดชอบ เพราะเกิดอะไรขึ้นคนที่จะรับกรรมก็แม่ทีมไง ไม่ใช่ตัวเอง พอล..ก็หลับตาข้างเดียวปล่อยให้แม่ทีมทำไปตามอำเภอใจ จนมาถึงปัจจุบันที่ทุกคนโหวกเหวกโวยวายนั่นแหละ สิ่งที่ควรตระหนักคิด ตื่นให้รู้เอาไว้เลยคือ.. การยิงแอดขายของออนไลน์มันตายไป 3 ปีแล้วคือหลังปี 2564 ไม่มีใครยิงแอดในระบบตัวแทนไม่ว่าบริษัทใหนแล้วอยู่รอดสักราย นี่คือความจริง ไม่ได้พูดถึงแค่ The Icon นะ เราขอพูดถึงทุกๆบริษัท ทุกๆสินค้าเลย เหตุผลก็คือค่าโฆษณามันแพงกว่า Margin ของกำไร ดังนั้นคนที่จะอยู่ได้คือ“เจ้าของสินค้าเท่านั้น” ผลิตเอง ยิงเอง โปรโมทเอง ถึงจะอยู่รอด ระบบตัวแทน ระบบออนไลน์มันตายไปตั้งแต่ปี 2564 แล้ว คนมันถึงหนีตายไปยิงแอด shopee , lazada กันไงล่ะ เพราะ Facebook มันอยู่ไม่ได้แล้ว แล้วปีนี้ 2567 shopee , lazada ก็เริ่มจะอยู่ไม่ได้แล้ว หลายคนจึงไปยิง Tiktok แล้วอีกไม่นานพวกคุณก็จะอยู่ไม่ได้อีกนั่นแหละเพราะมันจะลูปเดิม เหมือนกับ Platform อื่นๆ เพราะค่าโฆษณาบน Platform เมื่อแพงแล้วมันจะไม่มีวันลดลง นี่คือกฎแห่งการตลาดง่ายๆ คุณลองไปท่อง Supply/Demand ก็จบแล้ว แต่บอสพอลมันพยายามยืดชีวิตด้วยการ rotate บอสจำแลงที่จ้างดาราไปเรื่อยๆ เพื่อให้ FC ทุกระดับทุกวัยยังคงกรี๊ดกับธุรกิจของบอสอยู่ บอสพอล ถึงไปเลือกพี่โดมยุค 90 มาหาลูกค้าระดับแก่ เลือกมีน มาหาลูกค้าระดับ 30+ ทุกคนก็มีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ พี่แซมก็เช่นกัน เป็นถึงดารานักการเมืองยังลงมาทำธุรกิจนี้เลย ความน่าเชื่อถือแบบนี้พอลซื้อและยื้อมันไปเรื่อยๆตลอด 3 ปีที่ผ่านมา บริษัท the icon ใช้วิธีไม่จ่ายค่าคอมมิชชั่นเป็นเงิน แต่จ่ายเป็นทริปท่องเที่ยวแทน แล้วถ้าใครไม่อยากไปเที่ยว สามารถขายสิทธิ์ไปเที่ยว แลกเป็นเงินกลับไปได้ จึงเลี่ยงการจ่ายค่าคอมไปได้เยอะ เพราะไปฟันกำไรตอนจัดทริปทัวร์ปุ๊บปั๊บอีก เรียกว่าไปปารีสแต่ได้นั่งรถโฉบหอไอเฟล หรือได้พักตากอากาศที่โรงแรมสามสี่ดาว อย่างน้อยก็ได้เที่ยวโว๊ยยยยยยย ส่วนสินค้าขายไม่ออกแกะแดกแม่งให้หมด อส. ถถถ สินค้าที่บอกว่าสต็อกไว้ในโกดัง 100% น่ะ เวลาพวกคุณไปเบิกจริงๆ จะเบิกไม่ได้ 100% นะ เพราะมันจะเป็น Dropship คือต้องขายได้ บริษัทถึงจะส่งให้ ไม่เน้นให้เบิกกลับไปเก็บที่บ้าน เพราะเปิดบิลดีลเลอร์ต้องรอรอบผลิตของ 2 เดือนเป็นต้นไป กว่าจะได้ของครบต้องรอไปเรื่อยๆจนกว่าของจะเข้า ธุรกิจนี้ไ่ม่มีใครโง่ผลิตของมากองไว้ให้หมดอายุหรอก ได้ออเดอร์ค่อยสั่งผลิต มันเลยมีช่องว่างให้บอสพอลเอาเงินไปหมุนได้ ได้ข่าวแว่วๆว่าบอสพอลเอาเงินไปลงเทรดด้วย กำไรอู้ฟู่ รวยคนเดียวอีกตามเคย ---------- ดังนั้นบทสรุปของธุรกิจ The Icon เราจะขอบอกให้ชื่นใจดังนี้ 1. พอลคนเดียวที่รวยและรอด เพราะว่าพอลส่งภาษีเที่ยงตรง 100% เป็นลูกรักสรรพากรเลยแหละ นั่นเพราะพอลเรียนรู้จากคุณ ธเนตร ว่าเรื่องนี้ห้่ามพลาด สรรพากรไม่ใช่เพื่อนเล่นมึงนะพอลนะ 2. คอร์สขายออนไลน์เรียนราคาถูก ไม่มีอยู่จริง เพราะสุดท้ายพวกคุณจะโดน up sale จะไปเรียนคอร์สระดับ Advance ต้องเป็น Member จะร่ำรวยเงินล้านต้องทุ่ม Dealer 3. โฆษณาของทุกคนปังหมด เพราะมันมีแม่ทีมที่มี Facebook Account อวตารคอยไปคอมเมนต์สั่งซื้อ แต่มีการซื้อจริงไม่ถีง 20% เพราะตอนการันตี การันตีว่าแอดจะปัง แต่คุณปิดการขายไม่ได้เพราะคุณสนทนาขายให้กับแอคผี มันจะไปมียอดซื้อได้ไง พอคุณปิดไม่ได้ทีนี้ความซวยก็เกิดที่ตัวคุณเอง พวก Downline ทั้งหลายก็รับกรรมไป หลายคนโดนหลอกว่าจะทำทั้งทีต้องทำแบบ 7-11 เปิดแม่งหลายสาขาเลย ลงเป็นล้านไรงี้ 4. ไม่อยากตุยอย่าเข้าไปทำ หนีได้หนีไป หนีให้สุดชีวิต เพราะมันคือยุคบรรลัยของธุรกิจ The I con ที่ตัวพอลเองเห็นอยู่แท้ๆว่ามันบรรลัย ที่ยังหลับหูหลับตาปล่อยให้มันเป็นดั่งระเบิดเวลาที่มันใกล้จะระเบิดแล้ว ก็เพราะความมั่นใจอย่างเดียวเลยที่พอลคิดในใจก็คือ "กูจะไม่โดนคดีอะไรเลย กูขาวสะอาด" ทีนี้พวกคุณเข้าใจหรือยังว่าการจะไปด่าพอลมันก็เถียงคอเป็นเอ็น เพราะมันดูใสสะอาด ขาวจั๊วะเลยแหละยิ่งกว่าบรีส จะเห็นแต่แม่ทีมนั่นแหละที่เป็นคนผิด ดังนั้นบทจบของละครเรื่องนี้ก็จะไปลงกับแม่ทีมทั้งหลายที่ออกมาเซฟบอสพอลกันให้ลึ่ม ถ้าเรารู้จักจะถามว่า..มึงเซฟตัวเองก่อนไหม มึงไปเซฟ Downline มึงโน่น🤣 อส. น้ำกำลังจะท่วมถีงหลังคาบริษัทแล้ว แม่ทีมกำลังอลหม่าน แต่บอสพอลแม่งนอนดูละครคุณธรรมชิลล์ๆ🤣 เพราะพอลนั้นได้ต่อเรือโนอาร์เตรียมรับสถานการณ์รอไว้ตั้งแต่วันที่ก่อตั้งบริษัทแล้ว ใสสะอาดจนกฏหมายยากที่จะเอื้อมถึง สุดท้าย..พอลกับวงศ์วานคนสนิทเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเรือโนอาร์รอดตุยจากการถูกน้ำท่วม รอให้น้ำลดก็กลับมาในฐานะคนที่กฏหมายเอื้อมไม่ถีง ว่างๆจะเขียนลงลึกให้อ่านว่าทำไมกฏหมายถีงจะเอื้อมไปไม่ถึงบอสพอล เดี๋ยวคอยดูดาราที่เคยไปร่วมวงต่างก็จะออกมายืนยันว่าบริษัทถูกกฏหมาย 100% ซึ่งมันก็เป็นความจริงนะ แต่มันเป็นความจริงตามที่กฏหมายตราเอาไว้ว่าทำแบบพอลนั้นไม่ผิด แต่ทางธรรมพอลจะผิดในผิดซ้อนผิดเจตนาทำผิด..ไม่งงนะ.? นี่แค่บริษัทแรกนะ ยังมีต่อคิวอีก 4 บริษัท ที่อ่านเรื่องราวแล้วพวกคุณจะอึ้งและมันส์ยิ่งกว่าซีรีย์ เสียอีก #พี่ติ่งกระบือบิน ก็อย่าขึ้นทัวร์มาเซฟบอสพอลที่นี่นะครับนะ ผมนี่เขียนช่วยยืนยันเลยนะว่าบอสพอลจะรอดคุก..โอเค๊ สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน . Cr : FB เหยื่อ V.2
    Like
    12
    1 Comments 1 Shares 236 Views 1 Reviews
  • ♣ ไพบูลย์ - สามารถ พปชร.ไร้น้ำยา ตกต่ำถึงขั้นต้องเอาภารกิจร้องศาลฯ สั่งเพื่อไทยมาหากิน โม้คำโตว่าเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบเพื่อไทย แต่กลับกลายเป็นจุดจบพลังประชารัฐ
    #7ดอกจิก
    ♣ ไพบูลย์ - สามารถ พปชร.ไร้น้ำยา ตกต่ำถึงขั้นต้องเอาภารกิจร้องศาลฯ สั่งเพื่อไทยมาหากิน โม้คำโตว่าเป็นจุดเริ่มต้นของจุดจบเพื่อไทย แต่กลับกลายเป็นจุดจบพลังประชารัฐ #7ดอกจิก
    Like
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • 10 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวคมชัดลึกเปิดธุรกิจ กันต์ กันตถาวร
    -บริษัท กันต์พลอยแอนด์เดอะเบบี๋ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2564 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจด้านความบันเทิง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
    -บริษัท ของกันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2565 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจ ให้บริการพิธีกรและงานโชว์ทั่วไป นักร้อง นักแสดง ตลอดจนการแสดงตามที่สาธารณะต่างๆ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
    -บริษัท คนกันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2563 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจให้บริการพิธีกรเเละงานโชว์ทั่วไป นักร้อง นักเเสดง ตลอดจนตการเเสดงตามที่สาธารณะต่างๆ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
    -บริษัท กันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2555 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท
    -บริษัท กรีนเอทเกรดเอ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2562 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท

    นอกจากนี้แล้ว กันต์ กันตถาวร เคยมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาลรับรักษาคนไข้ และผู้ป่วย ภายใต้ชื่อบริษัท สกินบุฟเฟ่ต์ คลินิก จำกัด ซึ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2556 ปัจจุบันมีสถานะเป็นเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2559

    #Thaitimes
    10 ตุลาคม 2567- รายงานข่าวคมชัดลึกเปิดธุรกิจ กันต์ กันตถาวร -บริษัท กันต์พลอยแอนด์เดอะเบบี๋ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2564 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจด้านความบันเทิง ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท -บริษัท ของกันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2565 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจ ให้บริการพิธีกรและงานโชว์ทั่วไป นักร้อง นักแสดง ตลอดจนการแสดงตามที่สาธารณะต่างๆ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท -บริษัท คนกันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2563 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจให้บริการพิธีกรเเละงานโชว์ทั่วไป นักร้อง นักเเสดง ตลอดจนตการเเสดงตามที่สาธารณะต่างๆ ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท -บริษัท กันต์เอง จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 14 ส.ค. 2555 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริม ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท -บริษัท กรีนเอทเกรดเอ จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2562 โดยมีรายชื่อนายกันต์ กันตถาวร เป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท ดำเนินธุรกิจการผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภค ปัจจุบันทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท นอกจากนี้แล้ว กันต์ กันตถาวร เคยมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาลรับรักษาคนไข้ และผู้ป่วย ภายใต้ชื่อบริษัท สกินบุฟเฟ่ต์ คลินิก จำกัด ซึ่งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2556 ปัจจุบันมีสถานะเป็นเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 2559 #Thaitimes
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 418 Views 0 Reviews
  • ♣อดีตผู้สมัคร สส. ตั้งแต่ยุคก้าวไกล-ประชาชนและ คณะทำงานพรรคใน จ.ราชบุรี พร้อมใจกันลาออกจากสมาชิก เพราะสุดทนกับการทำงานที่ใช้ประชาชนและประชาธิปไตยมาบังหน้าหากิน
    #7ดอกจิก
    ♣อดีตผู้สมัคร สส. ตั้งแต่ยุคก้าวไกล-ประชาชนและ คณะทำงานพรรคใน จ.ราชบุรี พร้อมใจกันลาออกจากสมาชิก เพราะสุดทนกับการทำงานที่ใช้ประชาชนและประชาธิปไตยมาบังหน้าหากิน #7ดอกจิก
    Like
    Haha
    7
    0 Comments 0 Shares 112 Views 0 Reviews
  • ⭐️อานิสงส์ถวายข้าวเพื่อบูชาพระ

    ผู้ถาม : “ถวายข้าวพระพุทธรูป กับ ถวายข้าวพระสงฆ์ อย่างไหนมีอานิสงส์มากกว่ากันคะ.?”

    หลวงพ่อ : “การถวายข้าวพระพุทธรูป ถ้าเป็นเจตนาเพื่อเป็นพุทธบูชาจริง ก็เป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ตั้งใจถวายพระสงฆ์และตั้งใจถวายจริงๆ เป็นวัตถุทานด้วย เป็นสังฆานุสสติกรรมฐานด้วย

    แต่อย่าลืมนะว่า ถวายแก่พระพุทธเจ้ามีอานิสงส์มากกว่าถวายพระสงฆ์เยอะ แต่ว่าเวลานี้ถ้าไม่ถวายพระสงฆ์ เกิดไปชาติหน้าอดข้าว เดี๋ยวหนูเกิดไปชาติหน้า ถ้าพูดเขาไม่ให้กิน ต้องนั่งเฉยๆ เดี๋ยวเขาก็ให้กิน”

    ผู้ถาม : (หัวเราะ)

    หลวงพ่อ : “ถวายพระพุทธเจ้าเป็นพุทธบูชาเฉยๆ ยังไม่ถือเป็นทาน เราจะมีทรัพย์สิน มีเสื้อสวม มีผ้านุ่ง มีบ้านอยู่ นั่นเป็นอานิสงส์ของทาน การให้ ถ้าเราบูชาพระพุทธเจ้า จัดเป็นพุทธบูชาเฉยๆ นึกถึงความดีท่าน ไม่ถือว่าเป็นทาน อานิสงส์ได้คนละอย่าง

    “พุทธบูชา มหาเตชะวันโต” การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชมีอำนาจมาก นั่นหมายความว่า ถ้าเกิดเป็นเทวดาหรือพรหม มีรัศมีกายสว่างไสวมาก เทวดาหรือพรหมนี่เขาไม่ดูเครื่องแต่งตัว เขาดูแสงสว่างออกจากกาย

    “ธัมมบูชา มหาปัญโญ” การบูชาพระธรรม มีปัญญามาก คือใคร่ครวญในพระธรรมจนเกิดปัญญา จิตเป็นสมาธิ

    “สังฆบูชา มหาโภคะวะโห” สงเคราะห์พระสงฆ์ เกิดไปรวยมาก เพราะเราใช้วัตถุเป็นเครื่องหมาย

    อานิสงส์ต่านกัน แต่ต้องทำ 3 อย่าง ไม่งั้นหลวงพ่ออด”

    ผู้ถาม : (หัวเราะ)

    📚จาก : หนังสือ หลวงพ่อ ตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่มที่ ๔ หน้า ๓๘ โดย ⭐️หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร) วัดจันทาราม(ท่าซุง) อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี
    ✨เพจ:คำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

    🖊️พิมพ์ธรรมทาน นภา อิน
    ⭐️อานิสงส์ถวายข้าวเพื่อบูชาพระ ผู้ถาม : “ถวายข้าวพระพุทธรูป กับ ถวายข้าวพระสงฆ์ อย่างไหนมีอานิสงส์มากกว่ากันคะ.?” หลวงพ่อ : “การถวายข้าวพระพุทธรูป ถ้าเป็นเจตนาเพื่อเป็นพุทธบูชาจริง ก็เป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน ตั้งใจถวายพระสงฆ์และตั้งใจถวายจริงๆ เป็นวัตถุทานด้วย เป็นสังฆานุสสติกรรมฐานด้วย แต่อย่าลืมนะว่า ถวายแก่พระพุทธเจ้ามีอานิสงส์มากกว่าถวายพระสงฆ์เยอะ แต่ว่าเวลานี้ถ้าไม่ถวายพระสงฆ์ เกิดไปชาติหน้าอดข้าว เดี๋ยวหนูเกิดไปชาติหน้า ถ้าพูดเขาไม่ให้กิน ต้องนั่งเฉยๆ เดี๋ยวเขาก็ให้กิน” ผู้ถาม : (หัวเราะ) หลวงพ่อ : “ถวายพระพุทธเจ้าเป็นพุทธบูชาเฉยๆ ยังไม่ถือเป็นทาน เราจะมีทรัพย์สิน มีเสื้อสวม มีผ้านุ่ง มีบ้านอยู่ นั่นเป็นอานิสงส์ของทาน การให้ ถ้าเราบูชาพระพุทธเจ้า จัดเป็นพุทธบูชาเฉยๆ นึกถึงความดีท่าน ไม่ถือว่าเป็นทาน อานิสงส์ได้คนละอย่าง “พุทธบูชา มหาเตชะวันโต” การบูชาพระพุทธเจ้ามีเดชมีอำนาจมาก นั่นหมายความว่า ถ้าเกิดเป็นเทวดาหรือพรหม มีรัศมีกายสว่างไสวมาก เทวดาหรือพรหมนี่เขาไม่ดูเครื่องแต่งตัว เขาดูแสงสว่างออกจากกาย “ธัมมบูชา มหาปัญโญ” การบูชาพระธรรม มีปัญญามาก คือใคร่ครวญในพระธรรมจนเกิดปัญญา จิตเป็นสมาธิ “สังฆบูชา มหาโภคะวะโห” สงเคราะห์พระสงฆ์ เกิดไปรวยมาก เพราะเราใช้วัตถุเป็นเครื่องหมาย อานิสงส์ต่านกัน แต่ต้องทำ 3 อย่าง ไม่งั้นหลวงพ่ออด” ผู้ถาม : (หัวเราะ) 📚จาก : หนังสือ หลวงพ่อ ตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่มที่ ๔ หน้า ๓๘ โดย ⭐️หลวงพ่อพระราชพรหมยาน (พระมหาวีระ ถาวโร) วัดจันทาราม(ท่าซุง) อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ✨เพจ:คำสอนหลวงพ่อพระราชพรหมยาน 🖊️พิมพ์ธรรมทาน นภา อิน
    0 Comments 1 Shares 50 Views 0 Reviews
  • ความพ่ายแพ้ของยูเครนจะเป็นตัวแทนแห่งชัยชนะของยุโรปทั้งมวล จากความเห็นของ เอ็มมานูเอล ทอดด์ นักประวัติศาสตร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ คอร์เรีย ดิ โบโลญญา สื่อมวลชนอิตาลี
    .
    ท็อดด์ เน้นย้ำว่าเขาไม่ได้เป็นผู้สนับสนุนตัวเป้งของรัสเซีย แต่เขามองว่าหากรัสเซียพ่ายแพ้ในศึกความขัดแย้งกับยูเครน มันจะกลายเป็นการทำให้ยุโรป ต้องนอบน้อมอเมริกาต่อไปอีกนานนับศตวรรษ
    .
    นักประวัติศาสตร์ นักมานุษยวิทยาและนักรัฐศาสตร์รายนี้ ระบว่ายุโรปเสมือนเป็นตัวแทนของสหรัฐฯในโลกตะวันตก และมักเป็นคนต้องชดใช้ผลกระทบต่างๆมาตลอด เขาอ้างระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ณ เวลานี้ สืบเนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสู้รบในยูเครน แต่ชี้ว่าผลลัพธ์ของสงคราม จะเป็นตัวตัดสินชะตาของยุโรป
    .
    "ผมเชื่อว่า ถ้าสหรัฐฯพ่ายแพ้ นาโตจะสลายตัวและยุโรปจะได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ" ทอดด์ ให้สัมภาษณ์กับ คอร์เรีย ดิ โบโลญญา เน้นย้ำคำกล่าวอ้างที่ว่ารัสเซียอาจลงมือโจมตีทางทหารเล่นงานยุโรปตะวันตก หลังวางฐานที่มั่นตามแถบแม่น้ำนีเปอร์ ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้
    .
    "รัสเซียจะไม่มีทั้งหนทางหรือความปรารถนาขยายเขตแดน คืนสถานะชายแดนสู่ยุคก่อนหน้าคอมมิวนิสต์รัสเซีย มีความอคติและอาการหวาดกลัวต่อรัสเซียเลยเถิดจนเกินไปในโลกตะวันตก มีนิยายเรื่องเล่าเกี่ยวกับความปรารถนาของรัสเซีย ในการขยายเขตแดนในยุโรป มันเป็นเรื่องที่น่าขัน สำหรับนักประวัติศาสตร์ที่จริงจังรายหนึ่งๆ" เขากล่าว
    .
    ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บรรดาผู้นำตะวันตกจำนวนหนึ่ง แสดงความกังวลว่าหากปล่อยให้รัสเซียเอาชนะยูคเรน ท้ายที่สุดแล้วมอสโกจะเล็งเป้าหมายไปที่ประเทศยุโรปอื่นๆเป็นลำดับต่อไป
    .
    ยิ่งไปกว่านั้น มอสโกเน้นย้ำว่าไม่มีความตั้งใจโจมตีประเทศไหนๆ ครั้งที่บรรลุเป้าหมายต่างๆในยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ปฏิเสธคำพูดที่ว่ารัสเซียเป็นภัยคุกคาม ระบุมันเป็นเรื่อง "ไร้สาระ" ที่บรรดารัฐบาลตะวันตกพยายามแผ่ลามความหวาดกลัวแก่พลเมืองยุโรป เพื่อขูดรีดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากประชาชนในแต่ละประเทศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000096672
    ..............
    Sondhi X
    ความพ่ายแพ้ของยูเครนจะเป็นตัวแทนแห่งชัยชนะของยุโรปทั้งมวล จากความเห็นของ เอ็มมานูเอล ทอดด์ นักประวัติศาสตร์ชื่อดังชาวฝรั่งเศส ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ คอร์เรีย ดิ โบโลญญา สื่อมวลชนอิตาลี . ท็อดด์ เน้นย้ำว่าเขาไม่ได้เป็นผู้สนับสนุนตัวเป้งของรัสเซีย แต่เขามองว่าหากรัสเซียพ่ายแพ้ในศึกความขัดแย้งกับยูเครน มันจะกลายเป็นการทำให้ยุโรป ต้องนอบน้อมอเมริกาต่อไปอีกนานนับศตวรรษ . นักประวัติศาสตร์ นักมานุษยวิทยาและนักรัฐศาสตร์รายนี้ ระบว่ายุโรปเสมือนเป็นตัวแทนของสหรัฐฯในโลกตะวันตก และมักเป็นคนต้องชดใช้ผลกระทบต่างๆมาตลอด เขาอ้างระหว่างให้สัมภาษณ์ว่า ข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ ณ เวลานี้ สืบเนื่องจากยังอยู่ระหว่างการสู้รบในยูเครน แต่ชี้ว่าผลลัพธ์ของสงคราม จะเป็นตัวตัดสินชะตาของยุโรป . "ผมเชื่อว่า ถ้าสหรัฐฯพ่ายแพ้ นาโตจะสลายตัวและยุโรปจะได้รับการปลดปล่อยเป็นอิสระ" ทอดด์ ให้สัมภาษณ์กับ คอร์เรีย ดิ โบโลญญา เน้นย้ำคำกล่าวอ้างที่ว่ารัสเซียอาจลงมือโจมตีทางทหารเล่นงานยุโรปตะวันตก หลังวางฐานที่มั่นตามแถบแม่น้ำนีเปอร์ ไม่น่าจะมีความเป็นไปได้ . "รัสเซียจะไม่มีทั้งหนทางหรือความปรารถนาขยายเขตแดน คืนสถานะชายแดนสู่ยุคก่อนหน้าคอมมิวนิสต์รัสเซีย มีความอคติและอาการหวาดกลัวต่อรัสเซียเลยเถิดจนเกินไปในโลกตะวันตก มีนิยายเรื่องเล่าเกี่ยวกับความปรารถนาของรัสเซีย ในการขยายเขตแดนในยุโรป มันเป็นเรื่องที่น่าขัน สำหรับนักประวัติศาสตร์ที่จริงจังรายหนึ่งๆ" เขากล่าว . ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บรรดาผู้นำตะวันตกจำนวนหนึ่ง แสดงความกังวลว่าหากปล่อยให้รัสเซียเอาชนะยูคเรน ท้ายที่สุดแล้วมอสโกจะเล็งเป้าหมายไปที่ประเทศยุโรปอื่นๆเป็นลำดับต่อไป . ยิ่งไปกว่านั้น มอสโกเน้นย้ำว่าไม่มีความตั้งใจโจมตีประเทศไหนๆ ครั้งที่บรรลุเป้าหมายต่างๆในยูเครน ขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ปฏิเสธคำพูดที่ว่ารัสเซียเป็นภัยคุกคาม ระบุมันเป็นเรื่อง "ไร้สาระ" ที่บรรดารัฐบาลตะวันตกพยายามแผ่ลามความหวาดกลัวแก่พลเมืองยุโรป เพื่อขูดรีดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากประชาชนในแต่ละประเทศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000096672 .............. Sondhi X
    Like
    9
    0 Comments 0 Shares 845 Views 0 Reviews
  • ดารามีแต่ได้ เจ้าของบริษัทมีแต่รวย คนซวยคือชาวบ้านกว่า 15 ล้านคน

    กรณีศึกษาความเลวของการใช้คอร์สการตลาดออนไลน์กับกลลวงที่มองไม่เห็น ซึ่งปรากฏบทความที่น่าสนใจเป็นวิทยาทานจากโซเชียลออนไลน์ เนื้อหาระบุว่า

    “ถ้าจะเริ่มเล่นเรื่องที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ได้มีแค่บริษัทเดียวที่ใช้หลักการเดียวกัน

    แต่ยังมีรายใหญ่ๆอีก 5 บริษัท เพียงแต่มีบริษัทหนึ่งที่ใช้บริการ“ลมใต้ปีก”คนที่เป็นดารามากที่สุด

    1 ใน 5 บริษัท มีเพียง 1 บริษัทที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ไม่ได้ทำแบบ MLM แต่ใช้วิธีทำแบบเปิดตัวแทน เหมือนธุรกิจตัวแทนทั่วๆไป ส่วนอีก 4 บริษัทนั้นทำแบบ MLM

    เพราะการทำ MLM จะต้องซื้อ license ต่อจากบริษัทคนอื่นมา ซึ่ง สคบ.จะอนุมัติยาก แต่ทั้ง 5 บริษัทนั้นก็ทำหลักการเดียวกัน

    คือ..ยิงแอด-สอนทำการตลาดออนไลน์ ราคาค่าเรียน 98 , 99 , 199 บาท

    #คิดค่าเรียนให้ถูกๆ เพื่อล่อคนให้หลงคิดเอาเองว่า “ทดลองสมัครเรียนดูก็ไม่เสียหายนี่นา เงินแค่นี้เอง“

    เมื่อเราไปสมัครเรียนแล้วบทเรียนแรกที่จะได้รับคำสอนมาคือให้เราตั้งโฆษณาชวนคน โดยให้เราไปถ่ายภาพถือสินค้าแล้วยิ้มอ่อน (คนที่ชวนเราว่ายังไงก็ทำตามเขาเพราะเราทำไม่เป็นนี่)

    แล้วมาตั้งแอดชวนคนเพื่อขายของ เท่ากับงบการตลาดถูกดึงจากบัตรเครดิต/เดบิต ของผู้เรียนเอง ใช้ FB Ads Account ของผู้เรียน

    การทำให้ด้วยเทคนิคนี้ บริษัทสามารถขึ้นแอดได้ ด้วยจำนวน Account มหาศาล แต่ไม่ได้ใช้เงินบริษัทเลย

    เมื่อมีคนทักมา เราจะไม่มีสินค้า ต้นสายคนชวนจะเอาสินค้ามาขายให้เรา 1 ชิ้น เพราะเราต้องมีสินค้าไปคุยกับคนที่ทักมาไง

    ซึ่งคนที่ทักมาหาเราเนี่ย ก็จะมีทั้งลูกค้าจริงๆและ”อวตารเสมือนจริง“ของบริษัททักมาหาเรา ซึ่งเราก็จะคิดเอาเองว่าสินค้ามันขายได้ มันขายง่าย

    บางรายจะโดนล่อให้เปิด member เลย เพราะบริษัทจะตั้งเรตค่าคอมให้เลยที่ 2,500 - 5,000 ถ้าใครมีเงินเยอะก็จะเปิดดีลเลอร์เลย 250,0000 บาท

    ทุกรายที่มาขายสินค้าจะไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องจดทะเบียนกับ สคบ. เป็นธุรกิจตลาดขายตรง #อันนี้มันจึงเป็นความผิดข้อแรก

    การเปิด 250,000 บาทมันจะได้ refund 50% เท่ากับเปิดราคานี้เราจะต้องมีกำไร 50% ที่ยังไม่รวมค่าแอด

    เช่น.สินค้าราคา 2,500 บาท เราเปิดดีลเลอร์แล้วจะได้สินค้ามา 100 ชิ้น ราคารวม 250,000 บาทแล้วบริษัทจะต้องจ่ายคืนเปนค่าคอมให้เรา 50% = 125,000 บาท

    ราคาที่เราต้องจ่ายจริงมันควรจะอยู่ที่ 125,000 บาทแต่บริษัทมันให้เราจ่าย 250,000 บาท งงกันไหม.?

    จะอธิบายให้พอเข้าใจแบบคร่าวๆก่อนนะ พวกคุณจะได้รู้ว่าทำไมเจ้าของรวยเวอร์แต่คนอื่นไม่มีใครรวยแถมเป็นหนี้

    สมมติว่า..

    สินค้าราคา 2000 บาท เวลาเราเข้าไปซื้อ จะโดนผลัก vat 7% มาให้ในราคาซื้อเต็ม เท่ากับโดนแล้ว 140 บาทที่เราต้องจ่ายค่า vat

    หลังจากนั้น บริษัทจะต้องจ่ายคืนให้ 50% ก็คือจะจ่าย 1,000 บาท แต่ทีนี้ บริษัทก็จะหักภาษีอีก 3% เป็นค่าภาษีที่บริษัทต้องส่ง

    สรุปได้เงินจริง 970 บาท ตอนที่คืนมา แล้วตัวเองยังถูกไปคำนวณภาษีรายได้อีก เพราะถือเป็นรายได้เข้ามา

    กลายเป็นไปซื้อของเขา มีรายได้ 50% ผลักภาษีกลับเข้าตัวโดนหัก 7% โดน 3% จากค่าคอมครึ่งนึง = 1.5%

    7+1.5+50%(ค่าของ) margin หน้าตักโดนไปแล้ว 58.5% ยังไม่รวมค่ายิงแอดที่ต้องเสียเอง สมมติเสีย 20% ของสินค้า เท่ากับ 78.5% แล้วกำไรเหลือ 12.5%

    แล้วก็ไปตายตรงที่ต้องเสียภาษีค่าคอมมิชชั่น และ ภาษีที่ได้จากการขายของราคาเต็ม 2,000 คือโดนสองต่อแบบจุกๆ

    นี่ยังไม่รวมตอนที่ไปขายของ ถ้าขายในนาม บริษัทก็ต้องขายในราคา 2,000 บาท จะไปบวก vat 7% ก็ไม่ได้ แปลว่าผลัก vat 7% เข้าตัวเองอีก

    ของที่เอามาขายก็แนวเดิมๆ คอลลาเจน กาแฟ ของทั่วๆไป ที่ต้นทุนราคาถูกๆ

    เกมนี้มันเป็นเกมที่ลูกข่ายไม่มีวันรวย ไม่มีวันชนะ มีแต่ความหวังว่าจะรวย และตอนนี้ยิงแอด โดนบวก 7% อีกนะ

    แล้วก็อีกกลยยุทธของบริษัทคือขอการันตรีว่า..“สินค้าต้องขายดีต้องมีคนทัก”

    แต่ความจริงคือบริษัทเขาได้เตรียมหน้าม้า Facebook Account ปลอมไว้แล้ว นักเรียนส่งการบ้านเป็นแอดที่ทำ เขาจะส่งหน้าม้าไปคอมเมนต์ สนใจค่ะ สนใจครับ

    แต่ทักไปแล้วเงียบเป็นป่าช้า

    ทีนี้บริษัทเขาก็จะรอดตัวจากการสอนยิงแอดเพราะว่ามันดูปังไง เพราะมีหน้าม้าทักเยอะ แต่ตัวแทนปิดการขายไม่ได้เอง บริษัทจึงไม่ต้องรับผิดชอบตรงนี้

    นั่นคือ 1 ในหลายๆเหตุผลที่คนนั่งจมกับสินค้า เพราะมันเป็นกลลวงแบบครบวงจร ดิ้นหนีตายได้ทางเดียวคือ "หาเหยื่อคนใหม่" มารับสินค้าจากตัวเองไป

    หาได้ 100 คนถึงจะรอดจากหนี้ 250,000 บาท ไม่มีใครรวยหรอก เพราะเสีย vat 7% 2 รอบ Margin 14% เข้าไปแล้ว มันเป็นกลลวงที่คนส่วนหนึ่งมองไม่เห็น

    เจ้าของบริษัทสบาย เป็นเสือนอนกิน ต้นทุนขายสินค้าก็ไม่มี มีแค่งบสร้างแบรนด์ซึ่งตัวเองได้กำไรคนเดียว

    และตัวเองก็ไม่ต้องทำอะไรปล่อยให้ระบบทำงาน เอาเงินที่ได้มาจากเหยื่อจ่ายภาษีให้ถูกต้อง ทำตัวบริษัทให้ใสสะอาดจนกฏหมายเอื้อมมาไม่ถึง

    ถ้าถามว่าบริษัทได้กำไรปีละเท่าไหร่..บริษัทนี้จ่ายภาษีปีละ 200 กว่าล้านบาท กำไรปีละเท่าไหร่คงคิดเองได้นะ เพราะต้นทุนสินค้า 5%

    และที่มันน่าเศร้าจริงๆคือ เงินกำไรรวมกับเงินที่เสียภาษี มันเป็นเงินของชาวบ้าน ทุกบาท ทุกสตางค์

    เกมนี้จะมีคนถูกฟ้องกันไม่น้อย เพราะจะเอาผิดเจ้าของบริษัทไม่ง่าย เพราะฉลาดสุดๆทำชีวิตตัวเองได้ใสสะอาดสัสๆ ทั้งๆที่โคตรสกปรก

    แล้วคนที่ไปเป็นพยาน คนที่ไปร้องที่นั่นที่นี่ เท่าที่เห็นในข่าว ไม่มีคนที่รู้ข้อมูลเชิงลึกของบริษัทแบบจริงๆแม้แต่คนเดียว

    แค่ลองถามผู้กล้าที่ออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเองเหล่านั้นว่า มีใครรู้จักตัวการร่วมของบริษัทสักคนไหม ขอเดาว่าไม่มีใครรู้จักผู้ร่วมขบวนการหรอก

    เพราะทุกคนที่เป็นเหยื่อจะนึกถึงแต่หน้าดารากับเจ้าของบริษัทแล้วก็สมัครเข้าร่วมเลย ดังนั้นก็จะเล่นได้แค่แม่ข่ายในข้อหา..ไม่มีใบอนุญาต

    จากการตรวจสอบ ณ ปัจจุบันนี้ ณ นาทีนี้มีคนตกเป็นเหยื่อกลลวงที่มองไม่เห็นแบบนี้มีมากกว่า 15 ล้านคน

    ดารามีแต่ได้ เจ้าของบริษัทมีแต่รวย คนซวยคือชาวบ้านกว่า 15 ล้านคน

    และถ้ามีผู้กล้าออกมาเล่นเรื่องนี้แบบสุดซอย จะช่วยผู้คนให้ตื่นรู้ได้อย่างน้อยๆ 5 ล้านคน ดังนั้นเราขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนเลยที่ออกมาเล่นเรื่องนี้
    ---------

    เอาจริงๆตอนแรกเขียนระบุชื่อบุคคล ชื่อบริษัททั้ง 5 เขียนอธิบายเจาะลึกเอาไว้ละเอียดยิบตามสไตล์เพจเรา

    เรื่องนี้แหล่งข่าวเราเก็บข้อมูลมา 10 กว่าปีแล้ว และเราแอบมั่นใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครรู้ลึกเท่าแหล่งข่าวเราก็แล้วกันล่ะ

    แต่เราตัดรายละเอียดออกไป เพราะเบื่อมากๆที่จะรบกับพวก #ติ่งกระบือบิน ทึ่พ่ะโง่ชนิดวัวตุยทุยล้มเลย อส.🤣 ปล่อยให้มันเป็นเหยื่อต่อไปสักพัก

    ไอ้ฉิบหาย 😆 แล้วยังไม่ต้องมาดิ้นนะ เพราะยังไม่ได้เอ่ยชื่อบริษัท ถถถ

    สวัสดี
    @ไร้เงา แต่เร้าตรีน”
    ภาพจากออนไลน์

    #Thaitimes
    ดารามีแต่ได้ เจ้าของบริษัทมีแต่รวย คนซวยคือชาวบ้านกว่า 15 ล้านคน กรณีศึกษาความเลวของการใช้คอร์สการตลาดออนไลน์กับกลลวงที่มองไม่เห็น ซึ่งปรากฏบทความที่น่าสนใจเป็นวิทยาทานจากโซเชียลออนไลน์ เนื้อหาระบุว่า “ถ้าจะเริ่มเล่นเรื่องที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ เราต้องเข้าใจก่อนว่ามันไม่ได้มีแค่บริษัทเดียวที่ใช้หลักการเดียวกัน แต่ยังมีรายใหญ่ๆอีก 5 บริษัท เพียงแต่มีบริษัทหนึ่งที่ใช้บริการ“ลมใต้ปีก”คนที่เป็นดารามากที่สุด 1 ใน 5 บริษัท มีเพียง 1 บริษัทที่เป็นกระแสอยู่ตอนนี้ไม่ได้ทำแบบ MLM แต่ใช้วิธีทำแบบเปิดตัวแทน เหมือนธุรกิจตัวแทนทั่วๆไป ส่วนอีก 4 บริษัทนั้นทำแบบ MLM เพราะการทำ MLM จะต้องซื้อ license ต่อจากบริษัทคนอื่นมา ซึ่ง สคบ.จะอนุมัติยาก แต่ทั้ง 5 บริษัทนั้นก็ทำหลักการเดียวกัน คือ..ยิงแอด-สอนทำการตลาดออนไลน์ ราคาค่าเรียน 98 , 99 , 199 บาท #คิดค่าเรียนให้ถูกๆ เพื่อล่อคนให้หลงคิดเอาเองว่า “ทดลองสมัครเรียนดูก็ไม่เสียหายนี่นา เงินแค่นี้เอง“ เมื่อเราไปสมัครเรียนแล้วบทเรียนแรกที่จะได้รับคำสอนมาคือให้เราตั้งโฆษณาชวนคน โดยให้เราไปถ่ายภาพถือสินค้าแล้วยิ้มอ่อน (คนที่ชวนเราว่ายังไงก็ทำตามเขาเพราะเราทำไม่เป็นนี่) แล้วมาตั้งแอดชวนคนเพื่อขายของ เท่ากับงบการตลาดถูกดึงจากบัตรเครดิต/เดบิต ของผู้เรียนเอง ใช้ FB Ads Account ของผู้เรียน การทำให้ด้วยเทคนิคนี้ บริษัทสามารถขึ้นแอดได้ ด้วยจำนวน Account มหาศาล แต่ไม่ได้ใช้เงินบริษัทเลย เมื่อมีคนทักมา เราจะไม่มีสินค้า ต้นสายคนชวนจะเอาสินค้ามาขายให้เรา 1 ชิ้น เพราะเราต้องมีสินค้าไปคุยกับคนที่ทักมาไง ซึ่งคนที่ทักมาหาเราเนี่ย ก็จะมีทั้งลูกค้าจริงๆและ”อวตารเสมือนจริง“ของบริษัททักมาหาเรา ซึ่งเราก็จะคิดเอาเองว่าสินค้ามันขายได้ มันขายง่าย บางรายจะโดนล่อให้เปิด member เลย เพราะบริษัทจะตั้งเรตค่าคอมให้เลยที่ 2,500 - 5,000 ถ้าใครมีเงินเยอะก็จะเปิดดีลเลอร์เลย 250,0000 บาท ทุกรายที่มาขายสินค้าจะไม่รู้เลยว่าตัวเองต้องจดทะเบียนกับ สคบ. เป็นธุรกิจตลาดขายตรง #อันนี้มันจึงเป็นความผิดข้อแรก การเปิด 250,000 บาทมันจะได้ refund 50% เท่ากับเปิดราคานี้เราจะต้องมีกำไร 50% ที่ยังไม่รวมค่าแอด เช่น.สินค้าราคา 2,500 บาท เราเปิดดีลเลอร์แล้วจะได้สินค้ามา 100 ชิ้น ราคารวม 250,000 บาทแล้วบริษัทจะต้องจ่ายคืนเปนค่าคอมให้เรา 50% = 125,000 บาท ราคาที่เราต้องจ่ายจริงมันควรจะอยู่ที่ 125,000 บาทแต่บริษัทมันให้เราจ่าย 250,000 บาท งงกันไหม.? จะอธิบายให้พอเข้าใจแบบคร่าวๆก่อนนะ พวกคุณจะได้รู้ว่าทำไมเจ้าของรวยเวอร์แต่คนอื่นไม่มีใครรวยแถมเป็นหนี้ สมมติว่า.. สินค้าราคา 2000 บาท เวลาเราเข้าไปซื้อ จะโดนผลัก vat 7% มาให้ในราคาซื้อเต็ม เท่ากับโดนแล้ว 140 บาทที่เราต้องจ่ายค่า vat หลังจากนั้น บริษัทจะต้องจ่ายคืนให้ 50% ก็คือจะจ่าย 1,000 บาท แต่ทีนี้ บริษัทก็จะหักภาษีอีก 3% เป็นค่าภาษีที่บริษัทต้องส่ง สรุปได้เงินจริง 970 บาท ตอนที่คืนมา แล้วตัวเองยังถูกไปคำนวณภาษีรายได้อีก เพราะถือเป็นรายได้เข้ามา กลายเป็นไปซื้อของเขา มีรายได้ 50% ผลักภาษีกลับเข้าตัวโดนหัก 7% โดน 3% จากค่าคอมครึ่งนึง = 1.5% 7+1.5+50%(ค่าของ) margin หน้าตักโดนไปแล้ว 58.5% ยังไม่รวมค่ายิงแอดที่ต้องเสียเอง สมมติเสีย 20% ของสินค้า เท่ากับ 78.5% แล้วกำไรเหลือ 12.5% แล้วก็ไปตายตรงที่ต้องเสียภาษีค่าคอมมิชชั่น และ ภาษีที่ได้จากการขายของราคาเต็ม 2,000 คือโดนสองต่อแบบจุกๆ นี่ยังไม่รวมตอนที่ไปขายของ ถ้าขายในนาม บริษัทก็ต้องขายในราคา 2,000 บาท จะไปบวก vat 7% ก็ไม่ได้ แปลว่าผลัก vat 7% เข้าตัวเองอีก ของที่เอามาขายก็แนวเดิมๆ คอลลาเจน กาแฟ ของทั่วๆไป ที่ต้นทุนราคาถูกๆ เกมนี้มันเป็นเกมที่ลูกข่ายไม่มีวันรวย ไม่มีวันชนะ มีแต่ความหวังว่าจะรวย และตอนนี้ยิงแอด โดนบวก 7% อีกนะ แล้วก็อีกกลยยุทธของบริษัทคือขอการันตรีว่า..“สินค้าต้องขายดีต้องมีคนทัก” แต่ความจริงคือบริษัทเขาได้เตรียมหน้าม้า Facebook Account ปลอมไว้แล้ว นักเรียนส่งการบ้านเป็นแอดที่ทำ เขาจะส่งหน้าม้าไปคอมเมนต์ สนใจค่ะ สนใจครับ แต่ทักไปแล้วเงียบเป็นป่าช้า ทีนี้บริษัทเขาก็จะรอดตัวจากการสอนยิงแอดเพราะว่ามันดูปังไง เพราะมีหน้าม้าทักเยอะ แต่ตัวแทนปิดการขายไม่ได้เอง บริษัทจึงไม่ต้องรับผิดชอบตรงนี้ นั่นคือ 1 ในหลายๆเหตุผลที่คนนั่งจมกับสินค้า เพราะมันเป็นกลลวงแบบครบวงจร ดิ้นหนีตายได้ทางเดียวคือ "หาเหยื่อคนใหม่" มารับสินค้าจากตัวเองไป หาได้ 100 คนถึงจะรอดจากหนี้ 250,000 บาท ไม่มีใครรวยหรอก เพราะเสีย vat 7% 2 รอบ Margin 14% เข้าไปแล้ว มันเป็นกลลวงที่คนส่วนหนึ่งมองไม่เห็น เจ้าของบริษัทสบาย เป็นเสือนอนกิน ต้นทุนขายสินค้าก็ไม่มี มีแค่งบสร้างแบรนด์ซึ่งตัวเองได้กำไรคนเดียว และตัวเองก็ไม่ต้องทำอะไรปล่อยให้ระบบทำงาน เอาเงินที่ได้มาจากเหยื่อจ่ายภาษีให้ถูกต้อง ทำตัวบริษัทให้ใสสะอาดจนกฏหมายเอื้อมมาไม่ถึง ถ้าถามว่าบริษัทได้กำไรปีละเท่าไหร่..บริษัทนี้จ่ายภาษีปีละ 200 กว่าล้านบาท กำไรปีละเท่าไหร่คงคิดเองได้นะ เพราะต้นทุนสินค้า 5% และที่มันน่าเศร้าจริงๆคือ เงินกำไรรวมกับเงินที่เสียภาษี มันเป็นเงินของชาวบ้าน ทุกบาท ทุกสตางค์ เกมนี้จะมีคนถูกฟ้องกันไม่น้อย เพราะจะเอาผิดเจ้าของบริษัทไม่ง่าย เพราะฉลาดสุดๆทำชีวิตตัวเองได้ใสสะอาดสัสๆ ทั้งๆที่โคตรสกปรก แล้วคนที่ไปเป็นพยาน คนที่ไปร้องที่นั่นที่นี่ เท่าที่เห็นในข่าว ไม่มีคนที่รู้ข้อมูลเชิงลึกของบริษัทแบบจริงๆแม้แต่คนเดียว แค่ลองถามผู้กล้าที่ออกมาปกป้องสิทธิ์ของตัวเองเหล่านั้นว่า มีใครรู้จักตัวการร่วมของบริษัทสักคนไหม ขอเดาว่าไม่มีใครรู้จักผู้ร่วมขบวนการหรอก เพราะทุกคนที่เป็นเหยื่อจะนึกถึงแต่หน้าดารากับเจ้าของบริษัทแล้วก็สมัครเข้าร่วมเลย ดังนั้นก็จะเล่นได้แค่แม่ข่ายในข้อหา..ไม่มีใบอนุญาต จากการตรวจสอบ ณ ปัจจุบันนี้ ณ นาทีนี้มีคนตกเป็นเหยื่อกลลวงที่มองไม่เห็นแบบนี้มีมากกว่า 15 ล้านคน ดารามีแต่ได้ เจ้าของบริษัทมีแต่รวย คนซวยคือชาวบ้านกว่า 15 ล้านคน และถ้ามีผู้กล้าออกมาเล่นเรื่องนี้แบบสุดซอย จะช่วยผู้คนให้ตื่นรู้ได้อย่างน้อยๆ 5 ล้านคน ดังนั้นเราขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนเลยที่ออกมาเล่นเรื่องนี้ --------- เอาจริงๆตอนแรกเขียนระบุชื่อบุคคล ชื่อบริษัททั้ง 5 เขียนอธิบายเจาะลึกเอาไว้ละเอียดยิบตามสไตล์เพจเรา เรื่องนี้แหล่งข่าวเราเก็บข้อมูลมา 10 กว่าปีแล้ว และเราแอบมั่นใจว่าเรื่องแบบนี้ไม่มีใครรู้ลึกเท่าแหล่งข่าวเราก็แล้วกันล่ะ แต่เราตัดรายละเอียดออกไป เพราะเบื่อมากๆที่จะรบกับพวก #ติ่งกระบือบิน ทึ่พ่ะโง่ชนิดวัวตุยทุยล้มเลย อส.🤣 ปล่อยให้มันเป็นเหยื่อต่อไปสักพัก ไอ้ฉิบหาย 😆 แล้วยังไม่ต้องมาดิ้นนะ เพราะยังไม่ได้เอ่ยชื่อบริษัท ถถถ สวัสดี @ไร้เงา แต่เร้าตรีน” ภาพจากออนไลน์ #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    6
    1 Comments 2 Shares 455 Views 0 Reviews
More Results