• มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้าง อนาคตเด็กไทย มอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี 2568 แก่เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
    .
    วันนี้ (วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และคณะกรรมการฯ ร่วมในพิธีมอบเงินสนับสนุนการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2568 ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 จำนวน 1,500 ทุนๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,000,000 บาท (สามล้านบาทถ้วน) เพื่อช่วยเหลือให้เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสเท่าเทียม สามารถศึกษาเล่าเรียนต่อโดยไม่ต้องยุติการศึกษาเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ และเติบโตสร้างอนาคตตามความมุ่งหวังของตนเองและครอบครัวต่อไป โดยมีเยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
    .
    นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เปิดเผยว่า โครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยการมอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่ได้ช่วยเหลือเสริมสร้างชีวิตให้อนาคตแก่เด็กไทยมากว่า 50 ปี โดยในปีพ.ศ. 2568 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดสรรงบประมาณเพื่อมอบ เงินสนับสนุนการศึกษาและทุนส่งเสริมการศึกษา เป็นจำนวนเงินกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาในระดับต่างๆ ได้แก่ เงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ทุนการศึกษาต่อเนื่องในทุกระดับชั้น ทุนการศึกษาทุกระดับปีสุดท้าย และทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้าง อนาคตเด็กไทย มอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี 2568 แก่เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ . วันนี้ (วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และคณะกรรมการฯ ร่วมในพิธีมอบเงินสนับสนุนการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2568 ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 จำนวน 1,500 ทุนๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,000,000 บาท (สามล้านบาทถ้วน) เพื่อช่วยเหลือให้เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสเท่าเทียม สามารถศึกษาเล่าเรียนต่อโดยไม่ต้องยุติการศึกษาเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ และเติบโตสร้างอนาคตตามความมุ่งหวังของตนเองและครอบครัวต่อไป โดยมีเยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ . นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เปิดเผยว่า โครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยการมอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่ได้ช่วยเหลือเสริมสร้างชีวิตให้อนาคตแก่เด็กไทยมากว่า 50 ปี โดยในปีพ.ศ. 2568 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดสรรงบประมาณเพื่อมอบ เงินสนับสนุนการศึกษาและทุนส่งเสริมการศึกษา เป็นจำนวนเงินกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาในระดับต่างๆ ได้แก่ เงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ทุนการศึกษาต่อเนื่องในทุกระดับชั้น ทุนการศึกษาทุกระดับปีสุดท้าย และทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 789 มุมมอง 0 รีวิว
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้าง อนาคตเด็กไทย มอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี 2568 แก่เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
    .
    วันนี้ (วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และคณะกรรมการฯ ร่วมในพิธีมอบเงินสนับสนุนการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2568 ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 จำนวน 1,500 ทุนๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,000,000 บาท (สามล้านบาทถ้วน) เพื่อช่วยเหลือให้เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสเท่าเทียม สามารถศึกษาเล่าเรียนต่อโดยไม่ต้องยุติการศึกษาเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ และเติบโตสร้างอนาคตตามความมุ่งหวังของตนเองและครอบครัวต่อไป โดยมีเยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ
    .
    นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เปิดเผยว่า โครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยการมอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่ได้ช่วยเหลือเสริมสร้างชีวิตให้อนาคตแก่เด็กไทยมากว่า 50 ปี โดยในปีพ.ศ. 2568 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดสรรงบประมาณเพื่อมอบ เงินสนับสนุนการศึกษาและทุนส่งเสริมการศึกษา เป็นจำนวนเงินกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาในระดับต่างๆ ได้แก่ เงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ทุนการศึกษาต่อเนื่องในทุกระดับชั้น ทุนการศึกษาทุกระดับปีสุดท้าย และทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้าง อนาคตเด็กไทย มอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี 2568 แก่เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ณ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ . วันนี้ (วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 น.) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ที่ปรึกษาประธานกรรมการ นายสัก กอแสงเรือง รองประธานกรรมการ นายวิชิต ชินวงศ์วรกุล รองประธานกรรมการ นางศิริกุล โอภาสวงศ์ กรรมการและเลขาธิการ และคณะกรรมการฯ ร่วมในพิธีมอบเงินสนับสนุนการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2568 ให้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงปีที่ 6 จำนวน 1,500 ทุนๆ ละ 2,000 บาท รวมเป็นจำนวนทั้งสิ้น 3,000,000 บาท (สามล้านบาทถ้วน) เพื่อช่วยเหลือให้เยาวชนที่ประพฤติดีแต่ขาดแคลนทุนทรัพย์ได้มีโอกาสเท่าเทียม สามารถศึกษาเล่าเรียนต่อโดยไม่ต้องยุติการศึกษาเพราะขาดแคลนทุนทรัพย์ และเติบโตสร้างอนาคตตามความมุ่งหวังของตนเองและครอบครัวต่อไป โดยมีเยาวชน และผู้แทนจากสถาบันการศึกษา เป็นผู้รับมอบ ณ ห้องประชุมชั้น 2 อาคาร 2 มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ . นายวิเชียร เตชะไพบูลย์ ประธานกรรมการมูลนิธิฯ เปิดเผยว่า โครงการ “ป่อเต็กตึ๊ง เสริมสร้างอนาคตเด็กไทย ด้วยการมอบเงินสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งที่ได้ช่วยเหลือเสริมสร้างชีวิตให้อนาคตแก่เด็กไทยมากว่า 50 ปี โดยในปีพ.ศ. 2568 นี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งได้จัดสรรงบประมาณเพื่อมอบ เงินสนับสนุนการศึกษาและทุนส่งเสริมการศึกษา เป็นจำนวนเงินกว่า 20 ล้านบาท เพื่อเป็นทุนการศึกษาในระดับต่างๆ ได้แก่ เงินสนับสนุนทุนการศึกษาระดับชั้นประถมศึกษา ทุนการศึกษาต่อเนื่องในทุกระดับชั้น ทุนการศึกษาทุกระดับปีสุดท้าย และทุนการศึกษาสำหรับนักเรียนในถิ่นทุรกันดาร . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปีที่ผ่านมา มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ชนชั้น และศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาคุณภาพชีวิตอีกในหลาย ๆ ทาง รวมถึงสนับสนุนด้านการศึกษา เพื่อให้เป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนอย่างครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ภายใต้ปณิธานมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง “ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดต่อสอบถาม ตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ** มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต **
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 735 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทย-กัมพูชา ยังไม่ทันรบ แต่กลับพบผู้เสียชีวิต และผู้เสียผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทา
    #7ดอกจิก
    ♣️ ไทย-กัมพูชา ยังไม่ทันรบ แต่กลับพบผู้เสียชีวิต และผู้เสียผลประโยชน์จากธุรกิจสีเทา #7ดอกจิก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • #สายธารน้ำใจจากเดอะมอลล์โคราชสู่กำลังพลแนวหน้า

    9 มิ.ย.68 เวลา 10.30 น. เดอะมอลล์โคราช รวมพลังส่งต่อกำลังใจให้ทหารแนวชายแดนไทย - กัมพูชา โดย นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด เป็นตัวแทนในนามเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้มอบสิ่งของจำเป็น อาหารแห้งและน้ำดื่มจำนวนมาก เพื่อช่วยเสริมภารกิจและนำไปแจกจ่ายให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งได้รับเกียรติจาก พันเอก วีระวัฒน์ ท้าวพิมพ์ เสธ.พล.ร.3 เป็นผู้รับมอบ ณ กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา

    ขอเชิญร่วมกันส่งกำลังใจจากแนวหลังสู่กำลังพลแนวหน้า
    โดยเดอะมอลล์โคราชจะเป็นตัวแทนส่งต่อกองทัพภาคที่ 2

    ซึ่งประชาชนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบกำลังใจ นำสิ่งของส่งต่อความช่วยเหลือ ได้ที่ ห้องพักคอย จุดประตูทางเข้าชั้น 1 (ด้านหลังร้านล่าเหม่ย หม่าล่า) ตั้งแต่วันที่ 9-30 มิ.ย.68
    #สายธารน้ำใจจากเดอะมอลล์โคราชสู่กำลังพลแนวหน้า 9 มิ.ย.68 เวลา 10.30 น. เดอะมอลล์โคราช รวมพลังส่งต่อกำลังใจให้ทหารแนวชายแดนไทย - กัมพูชา โดย นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด เป็นตัวแทนในนามเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้มอบสิ่งของจำเป็น อาหารแห้งและน้ำดื่มจำนวนมาก เพื่อช่วยเสริมภารกิจและนำไปแจกจ่ายให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งได้รับเกียรติจาก พันเอก วีระวัฒน์ ท้าวพิมพ์ เสธ.พล.ร.3 เป็นผู้รับมอบ ณ กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา ขอเชิญร่วมกันส่งกำลังใจจากแนวหลังสู่กำลังพลแนวหน้า โดยเดอะมอลล์โคราชจะเป็นตัวแทนส่งต่อกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งประชาชนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบกำลังใจ นำสิ่งของส่งต่อความช่วยเหลือ ได้ที่ ห้องพักคอย จุดประตูทางเข้าชั้น 1 (ด้านหลังร้านล่าเหม่ย หม่าล่า) ตั้งแต่วันที่ 9-30 มิ.ย.68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 516 มุมมอง 0 รีวิว
  • #สายธารน้ำใจจากเดอะมอลล์โคราชสู่กำลังพลแนวหน้า

    9 มิ.ย.68 เวลา 10.30 น. เดอะมอลล์โคราช รวมพลังส่งต่อกำลังใจให้ทหารแนวชายแดนไทย - กัมพูชา โดย นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด เป็นตัวแทนในนามเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้มอบสิ่งของจำเป็น อาหารแห้งและน้ำดื่มจำนวนมาก เพื่อช่วยเสริมภารกิจและนำไปแจกจ่ายให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งได้รับเกียรติจาก พันเอก วีระวัฒน์ ท้าวพิมพ์ เสธ.พล.ร.3 เป็นผู้รับมอบ ณ กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา

    ขอเชิญร่วมกันส่งกำลังใจจากแนวหลังสู่กำลังพลแนวหน้า
    โดยเดอะมอลล์โคราชจะเป็นตัวแทนส่งต่อกองทัพภาคที่ 2

    ซึ่งประชาชนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบกำลังใจ นำสิ่งของส่งต่อความช่วยเหลือ ได้ที่ ห้องพักคอย จุดประตูทางเข้าชั้น1 (ด้านหลังร้านล่าเหม่ย หม่าล่า) ตั้งแต่วันที่ 9-30 มิ.ย.68
    #สายธารน้ำใจจากเดอะมอลล์โคราชสู่กำลังพลแนวหน้า 9 มิ.ย.68 เวลา 10.30 น. เดอะมอลล์โคราช รวมพลังส่งต่อกำลังใจให้ทหารแนวชายแดนไทย - กัมพูชา โดย นายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด เป็นตัวแทนในนามเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้มอบสิ่งของจำเป็น อาหารแห้งและน้ำดื่มจำนวนมาก เพื่อช่วยเสริมภารกิจและนำไปแจกจ่ายให้กับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ดูแลความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งได้รับเกียรติจาก พันเอก วีระวัฒน์ ท้าวพิมพ์ เสธ.พล.ร.3 เป็นผู้รับมอบ ณ กองบัญชาการกองพลทหารราบที่ 3 ค่ายสุรนารี จ.นครราชสีมา ขอเชิญร่วมกันส่งกำลังใจจากแนวหลังสู่กำลังพลแนวหน้า โดยเดอะมอลล์โคราชจะเป็นตัวแทนส่งต่อกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งประชาชนสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบกำลังใจ นำสิ่งของส่งต่อความช่วยเหลือ ได้ที่ ห้องพักคอย จุดประตูทางเข้าชั้น1 (ด้านหลังร้านล่าเหม่ย หม่าล่า) ตั้งแต่วันที่ 9-30 มิ.ย.68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 388 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เผย การที่กัมพูชาปรับการวางกำลังสู่แนวเดิม ปี 2567 มีหลายปัจจัยทำให้สำเร็จ ระดับแม่ทัพมีการประสานงานตลอด โดยฝ่ายไทยส่ง พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ก็ออกมาในสถานการณ์ที่ดีเป็นไปตามข้อตกลงที่ไทยขอ โดยทูตทหารไทยในกัมพูชาได้ประสานงานขับเคลื่อน ที่สำคัญคือระดับกรมทั้งหมดพูดคุยกันมาต่อเนื่อง ซึ่งมาตรการที่ไทยทำเป็นส่วนเสริมสำคัญที่ทำให้การพูดคุยเกิดข้อสรุปได้ง่าย ส่วนการปรับกำลังก็กลับไปเหมือนปี 2567 คูเลตก็กลบแล้ว ส่วนการปิดด่านให้ดูตามความเป็นจริง ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 2 แม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.กองกำลังป้องหันชายแดนจันทบุรีและตราด จะค่อยๆ จากเบาไปหาหนัก
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เผย การที่กัมพูชาปรับการวางกำลังสู่แนวเดิม ปี 2567 มีหลายปัจจัยทำให้สำเร็จ ระดับแม่ทัพมีการประสานงานตลอด โดยฝ่ายไทยส่ง พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 ก็ออกมาในสถานการณ์ที่ดีเป็นไปตามข้อตกลงที่ไทยขอ โดยทูตทหารไทยในกัมพูชาได้ประสานงานขับเคลื่อน ที่สำคัญคือระดับกรมทั้งหมดพูดคุยกันมาต่อเนื่อง ซึ่งมาตรการที่ไทยทำเป็นส่วนเสริมสำคัญที่ทำให้การพูดคุยเกิดข้อสรุปได้ง่าย ส่วนการปรับกำลังก็กลับไปเหมือนปี 2567 คูเลตก็กลบแล้ว ส่วนการปิดด่านให้ดูตามความเป็นจริง ได้พูดคุยกับผู้บัญชาการทหารบก แม่ทัพภาคที่ 2 แม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.กองกำลังป้องหันชายแดนจันทบุรีและตราด จะค่อยๆ จากเบาไปหาหนัก
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 759 มุมมอง 34 0 รีวิว

  • มีรัฐบาลดีๆที่ไหนที่อยากเจรจากับชาติที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของโลกที่รัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเขมร
    มีรัฐบาลดีๆที่ไหนที่อยากเจรจากับชาติที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของโลกที่รัฐบาลมีส่วนเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมข้ามชาติอย่างเขมร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถอดบทเรียน 'ไทย-เขมร''แพทองธาร' กับราคาที่ต้องจ่ายเตรียมรับแรงกระแทก : ข่าวลึกปมลับ 09/06/68
    ถอดบทเรียน 'ไทย-เขมร''แพทองธาร' กับราคาที่ต้องจ่ายเตรียมรับแรงกระแทก : ข่าวลึกปมลับ 09/06/68
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 397 มุมมอง 2 1 รีวิว
  • คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติให้ดําเนินการตรวจสอบเชิงลึก ข้าราชการหญิงระดับ ผอ.ในสํานักงาน ป.ป.ช.มีสามีเป็นเจ้าของเงิยสด 12 ล้าน เข้าข่ายแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จหตือปกปิดทรัพย์สินหรือไม่ หลังตรวจสอบเบื้องต้นยื่นบัญชีล่าสุด ก.ค.67 ไม่พบในรายการ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000054023

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติให้ดําเนินการตรวจสอบเชิงลึก ข้าราชการหญิงระดับ ผอ.ในสํานักงาน ป.ป.ช.มีสามีเป็นเจ้าของเงิยสด 12 ล้าน เข้าข่ายแจ้งบัญชีทรัพย์สินเท็จหตือปกปิดทรัพย์สินหรือไม่ หลังตรวจสอบเบื้องต้นยื่นบัญชีล่าสุด ก.ค.67 ไม่พบในรายการ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000054023 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 551 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภัยร้าย 'ส่งด่วน'ไม่ได้เป็นคนสั่งของแต่อาจรับกรรมแทน : ถอนหมุดข่าว 09/06/68
    ภัยร้าย 'ส่งด่วน'ไม่ได้เป็นคนสั่งของแต่อาจรับกรรมแทน : ถอนหมุดข่าว 09/06/68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 3 0 รีวิว
  • ..เขมรถ้าปิด,ไม่ง้อของไทย,แน่จริงปิดเลยมันว่า,ไทยจะขายสินค้าให้เขมรไม่ได้,ทำเงินบนแผ่นดินเขมรไม่ได้มันว่า,พี่น้องไทยเอ้ยว่าไง!!!,ทหารไทยเราเอ้ยว่าไง!!!,ทั้งหมดคือเหลี่ยมมันแน่ๆทำทีกลบคลองกลบคูรบ,เขมรมันตลบตอแหลไม่ซื่อทุกๆกรณี,ปิดด่านทั้งหมดตลอดพรมแดนสัก20ปีระยะสัันดูก่อนคงน่าสนใจ,ตัดน้ำตัดน้ำมันตัดไฟฟ้าต่อเนื่อง,ตัดเน็ตตัดสายเคเบิลเชื่อมถึงเขมรทั้งหมดทำระบบเน็ตประตูเดียวซิงเกลเก็ตเวย์ก็ว่า,ตัดทุกๆipและuserที่เป็นของคนเขมร,ปิดบัญชีธนาคารทั้งหมดที่เป็นของเขมรในประเทศทั้งแบบออฟไลน์เดินมาสาขาและออนไลน์ทั้งหมดแบบไอแบงค์กิ้งอีแบงค์กิ้ง,ปิดบัญชีคริปโตฯโทเคนทั้งหมดที่เป็นของคนเขมรหากมาเปิดบัญชีบนอธิปไตยแอปไทยคืออายัดยึดทั้งหมดก็ว่าตลอดจนเครื่องขุดเหมืองคริปโตฯออนไลน์ออฟไลน์ทั้งหมดหากมีอยู่ในดินแดนไทย,มีอุปกรณ์ตัดคลื่นความถี่คลื่นวิทยุคลื่นมือถือคลื่นเน็ตจะไวไฟทั้งหมดตลอดแนวพรมแดนไทยเรา,ห้ามคลื่นจากฝั่งเขมรปรากฎสัญญาณใดๆในฝั่งไทยและยากแก่การทำชั่วของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากฝั่งเขมรซึ่งนอกจากยกเลิกซิมมือถือของไทยทั้งหมดที่คนสัญชาติเขมรจดมะเบียนเปิดทะเบียนเพื่อขอใช้คลื่นภายในราชอาณาจักรไทย,คลื่นเน็ตคลื่นมือถือของไทยทั้งหมดห้ามคนเขมรใช้และคำสั่งทางทหารตัดตอนตัดการให้บริการผ่านซิมของมือถือค่ายของไทยและจดทะเบียนตั้งเป็นบริษัทในไทยทั้งหมดที่ให้บริการสัญญาณมือถือ,นี้คืออธิปไตยด้านใช้ข้อมูลสื่อสารไทยด้วย หากใจขลาดไม่เด็ดขาดตัดสินใจกระทำเช่นนี้จริง,เขมรจะใช้ซิมคนไทยซิมมือถือของไทยกระทำการทางชั่วสาระพัดทางได้ทั้งติดต่อสื่อสารส่งข่าวเป็นไส้ศึกภายในส่งออกไปประเทศเขมรเป็นอันง่าย ปลอกกล้วยเข้าปากมัน,เมื่อมันคือภัยคุกคามอธิปไตยถึงหน้ามึนขนาดนี้เราต้องไม่ถอนกำลังใดๆ,บอกมันตอนแรกให้ถอนมันหน้ามึนขนาดไหนเผาศาลาตรีมุขอีก,ทหารไทยเราต้องสั่งสอนมันให้สุดซอย,หมดยุคระยำของเขมรแบบเดิมๆแบบนี้แล้วคือกวาดล้างและกำจัดภัยคุกคามใดๆต่ออธิปไตยเราให้หมดรากหมดเหง้าหมดโคน,เหมือนผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาลเลวรุ่นน้ำหมากนั้นล่ะ,เราเบื่อหน่ายแบบนั้นๆก็ด้วย,เดี๋ยวก็มาเนรคุณทรยศก่อโกลาหลเราคุกคามเราไม่หยุดหย่อนอีก,เราต้องสุดซอยจริงๆในเวลาจังหวะนี้ ,เขมรคือภัยของอาเชียนภัยของเอเชียภัยของโลกเป็นฮับสาระพัดศูนย์รวมความเลวชั่วจากทั่วโลกไปแล้วโดยเฉพาะจีนเทาและชาติเทาๆอื่นๆที่ย้ายฐานไปเขมรตั้งฐานทำชั่วในประเทศนี้แทนประเทศโคตรพ่อโคตรแมร่งมันที่สร้างภาพว่าเป็นประเทศดีงามก็ว่า,หรือนัยยะพื้นๆเขมรคือแหล่งค้ามนุษย์ของโลกในทางลับนั้นเองที่อีลิทปักเป็นอีกสถานที่หนึ่งบนโลกก็ว่า,แบนเขมรห้ามเข้าประเทศไทยแบบทรัมป์แบน12ชาติพลเมืองอย่างเป็นทางการเลย,คนไทยห้ามเข้าไปประเทศเขมรทุกๆกรณี,คว่ำบาตรเขมรทุกๆกรณีทั้งหมดก็ว่า,เพราะมันหมายคุกคามอธิปไตยดินแดนเราชัดเจน รุกรามอยากได้อ่าวไทยเราชัดเจนด้วยในทรัพยากรมีค่ามากมายมหาศาลนั้นบนนัยยะการรุกรานปัจจุบันทั้งหมด,จึงต้องสุดซอยจริงๆ,เรามันยุคน้ำหมากแล้วนะจะมาเลอะเทอะไม่เด็ดขาดไม่ได้,ต้องทำเพื่อคนไทยรุ่นหลังเราให้มีภูมิกันไว้ถึง5,000ปีก็เอาถึงอีกพันสองพันปีก็ดี,ถึงสองสามร้อยปีก็ใช้ได้จนเชื่อว่าคนรุ่นหลังเราเมื่อจังหวะเวลานั้นมาถึงเข้าอาจทำได้สุดยอดสร้างภูมิยิ่งกว่าเรา,หรือกวาดล้างคนเนรคุณทรยศแบบคนเขมรสิ้นซากก็ได้หรืออดีตทหารกษัตริย์หรือกษัตริย์ชัยวรมันที่7กวาดล้างเขมรทรยศเนรคุณท่านสิ้นซากแทนก็ว่าคือเกิดใหม่ มิใช่แค่ทหารเอก5นายพลเกิดใหม่มาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เขมรทรยศเนรคุณกลุ่มของชัยวรมันที่8ลูกหลานเขาก็ว่าแบบในอดีตใกล้ๆที่ผ่านมานั้น,
    ..ทหารพระราชาเราจัดการเด็ดขาดให้สุดซอยเลย,รวมถึงรัฐบาลสมคบคิดกับเขมรด้วยเป็นมิตรสหายที่ดีเหลือเกินมุ่งเจรจาอย่างเดียว,มาตรการอื่นใดคิดอ่านเหี้ยไม่เป็นห่าอะไร ขาดคุณสมบัติเป็นรัฐบาลสิ้นเชิง,สมควรลาออกทัังคณะ,ยุบสภาไป,หรือรอยึดอำนาจรัฐประหารก็ได้.

    https://youtube.com/shorts/ManMkF25sak?si=zErw5IgjSZ0Bp-d3
    ..เขมรถ้าปิด,ไม่ง้อของไทย,แน่จริงปิดเลยมันว่า,ไทยจะขายสินค้าให้เขมรไม่ได้,ทำเงินบนแผ่นดินเขมรไม่ได้มันว่า,พี่น้องไทยเอ้ยว่าไง!!!,ทหารไทยเราเอ้ยว่าไง!!!,ทั้งหมดคือเหลี่ยมมันแน่ๆทำทีกลบคลองกลบคูรบ,เขมรมันตลบตอแหลไม่ซื่อทุกๆกรณี,ปิดด่านทั้งหมดตลอดพรมแดนสัก20ปีระยะสัันดูก่อนคงน่าสนใจ,ตัดน้ำตัดน้ำมันตัดไฟฟ้าต่อเนื่อง,ตัดเน็ตตัดสายเคเบิลเชื่อมถึงเขมรทั้งหมดทำระบบเน็ตประตูเดียวซิงเกลเก็ตเวย์ก็ว่า,ตัดทุกๆipและuserที่เป็นของคนเขมร,ปิดบัญชีธนาคารทั้งหมดที่เป็นของเขมรในประเทศทั้งแบบออฟไลน์เดินมาสาขาและออนไลน์ทั้งหมดแบบไอแบงค์กิ้งอีแบงค์กิ้ง,ปิดบัญชีคริปโตฯโทเคนทั้งหมดที่เป็นของคนเขมรหากมาเปิดบัญชีบนอธิปไตยแอปไทยคืออายัดยึดทั้งหมดก็ว่าตลอดจนเครื่องขุดเหมืองคริปโตฯออนไลน์ออฟไลน์ทั้งหมดหากมีอยู่ในดินแดนไทย,มีอุปกรณ์ตัดคลื่นความถี่คลื่นวิทยุคลื่นมือถือคลื่นเน็ตจะไวไฟทั้งหมดตลอดแนวพรมแดนไทยเรา,ห้ามคลื่นจากฝั่งเขมรปรากฎสัญญาณใดๆในฝั่งไทยและยากแก่การทำชั่วของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากฝั่งเขมรซึ่งนอกจากยกเลิกซิมมือถือของไทยทั้งหมดที่คนสัญชาติเขมรจดมะเบียนเปิดทะเบียนเพื่อขอใช้คลื่นภายในราชอาณาจักรไทย,คลื่นเน็ตคลื่นมือถือของไทยทั้งหมดห้ามคนเขมรใช้และคำสั่งทางทหารตัดตอนตัดการให้บริการผ่านซิมของมือถือค่ายของไทยและจดทะเบียนตั้งเป็นบริษัทในไทยทั้งหมดที่ให้บริการสัญญาณมือถือ,นี้คืออธิปไตยด้านใช้ข้อมูลสื่อสารไทยด้วย หากใจขลาดไม่เด็ดขาดตัดสินใจกระทำเช่นนี้จริง,เขมรจะใช้ซิมคนไทยซิมมือถือของไทยกระทำการทางชั่วสาระพัดทางได้ทั้งติดต่อสื่อสารส่งข่าวเป็นไส้ศึกภายในส่งออกไปประเทศเขมรเป็นอันง่าย ปลอกกล้วยเข้าปากมัน,เมื่อมันคือภัยคุกคามอธิปไตยถึงหน้ามึนขนาดนี้เราต้องไม่ถอนกำลังใดๆ,บอกมันตอนแรกให้ถอนมันหน้ามึนขนาดไหนเผาศาลาตรีมุขอีก,ทหารไทยเราต้องสั่งสอนมันให้สุดซอย,หมดยุคระยำของเขมรแบบเดิมๆแบบนี้แล้วคือกวาดล้างและกำจัดภัยคุกคามใดๆต่ออธิปไตยเราให้หมดรากหมดเหง้าหมดโคน,เหมือนผู้ชุมนุมประท้วงรัฐบาลเลวรุ่นน้ำหมากนั้นล่ะ,เราเบื่อหน่ายแบบนั้นๆก็ด้วย,เดี๋ยวก็มาเนรคุณทรยศก่อโกลาหลเราคุกคามเราไม่หยุดหย่อนอีก,เราต้องสุดซอยจริงๆในเวลาจังหวะนี้ ,เขมรคือภัยของอาเชียนภัยของเอเชียภัยของโลกเป็นฮับสาระพัดศูนย์รวมความเลวชั่วจากทั่วโลกไปแล้วโดยเฉพาะจีนเทาและชาติเทาๆอื่นๆที่ย้ายฐานไปเขมรตั้งฐานทำชั่วในประเทศนี้แทนประเทศโคตรพ่อโคตรแมร่งมันที่สร้างภาพว่าเป็นประเทศดีงามก็ว่า,หรือนัยยะพื้นๆเขมรคือแหล่งค้ามนุษย์ของโลกในทางลับนั้นเองที่อีลิทปักเป็นอีกสถานที่หนึ่งบนโลกก็ว่า,แบนเขมรห้ามเข้าประเทศไทยแบบทรัมป์แบน12ชาติพลเมืองอย่างเป็นทางการเลย,คนไทยห้ามเข้าไปประเทศเขมรทุกๆกรณี,คว่ำบาตรเขมรทุกๆกรณีทั้งหมดก็ว่า,เพราะมันหมายคุกคามอธิปไตยดินแดนเราชัดเจน รุกรามอยากได้อ่าวไทยเราชัดเจนด้วยในทรัพยากรมีค่ามากมายมหาศาลนั้นบนนัยยะการรุกรานปัจจุบันทั้งหมด,จึงต้องสุดซอยจริงๆ,เรามันยุคน้ำหมากแล้วนะจะมาเลอะเทอะไม่เด็ดขาดไม่ได้,ต้องทำเพื่อคนไทยรุ่นหลังเราให้มีภูมิกันไว้ถึง5,000ปีก็เอาถึงอีกพันสองพันปีก็ดี,ถึงสองสามร้อยปีก็ใช้ได้จนเชื่อว่าคนรุ่นหลังเราเมื่อจังหวะเวลานั้นมาถึงเข้าอาจทำได้สุดยอดสร้างภูมิยิ่งกว่าเรา,หรือกวาดล้างคนเนรคุณทรยศแบบคนเขมรสิ้นซากก็ได้หรืออดีตทหารกษัตริย์หรือกษัตริย์ชัยวรมันที่7กวาดล้างเขมรทรยศเนรคุณท่านสิ้นซากแทนก็ว่าคือเกิดใหม่ มิใช่แค่ทหารเอก5นายพลเกิดใหม่มาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เขมรทรยศเนรคุณกลุ่มของชัยวรมันที่8ลูกหลานเขาก็ว่าแบบในอดีตใกล้ๆที่ผ่านมานั้น, ..ทหารพระราชาเราจัดการเด็ดขาดให้สุดซอยเลย,รวมถึงรัฐบาลสมคบคิดกับเขมรด้วยเป็นมิตรสหายที่ดีเหลือเกินมุ่งเจรจาอย่างเดียว,มาตรการอื่นใดคิดอ่านเหี้ยไม่เป็นห่าอะไร ขาดคุณสมบัติเป็นรัฐบาลสิ้นเชิง,สมควรลาออกทัังคณะ,ยุบสภาไป,หรือรอยึดอำนาจรัฐประหารก็ได้. https://youtube.com/shorts/ManMkF25sak?si=zErw5IgjSZ0Bp-d3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 657 มุมมอง 0 รีวิว
  • ระเบิดความมันส์ครั้งยิ่งใหญ่! Red Bull Dance Your Style Thailand 2025 รอบชิงแชมป์ระดับประเทศ ณ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดย สเตฟานโนส คูคาส คว้าแชมป์ระดับประเทศเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน
    ระเบิดความมันส์ครั้งยิ่งใหญ่! Red Bull Dance Your Style Thailand 2025 รอบชิงแชมป์ระดับประเทศ ณ สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดย สเตฟานโนส คูคาส คว้าแชมป์ระดับประเทศเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 657 มุมมอง 30 0 รีวิว
  • ..คำสั่งกฎอัยการทางทหารไทยประกาศคว่ำบาตรเขมรทุกๆด้านทุกๆกรณีก่อนก็ได้,เราจะเริ่มเห็นความบันเทิงภ่ยในเขมรกัดกันเองทันที,ไทยเราจะไม่สูญเสียอะไร,
    ..ใช้กฎอัยการศึกเรียกฑูตไทยกลับประเทศ,ถีบฑูตเขมรออกจากไทย,ผลักดันแรงงานเขมรและคนเขมรทั้งหมดออกจากไทยภายใน48ชม.,ปิดบัญชีธนาคารของคนเขมรที่ใช้บริการธนาคารของไทยหรือที่ตั้งสาขาสำนักใหญ่หรือสำนักงานสาขาที่ประกอบกิจการทางเงินบนดินแดนอธิปไตยไทยทั้งหมด,ห้ามคนเขมรโอนตังออกนอกประเทศไทยหรือไปเขมรทุกๆบัญชีทุกๆกรณีทั้งหมด,บัญชีใดฝ่าฝืนโอนไปประเทศเขมรจับติดคุกทุกๆกรณี,คริปโตฯโทเคนตังดิจิดัลทั้งหมดก็เช่นเดียวกัน,ระงับและอายัดเงินกระแสการเงินไปเขมรทั้งหมดจากประเทศไทย,เป็นกรณีเร่งด่วนปฏิบัติแรกทันที,นี้แค่พื้นๆก่อนๆ แค่คว่ำบาตรเขมรก่อนในทุกๆด้าน อย่าสนใจชีวิตคนเขมรตลอดพรมแดนทั้งหมด,มันคือความมั่นคงของประเทศแล้ว เขมรคือภัยความมั่นคงของไทยและอาเชียน,โลภละโมบในสิ่งที่มิใช่ของตน.,ต้องทำให้เขมรล้มละลายโดยแค่ไทยเราประกาศคว่ำบาตรอย่างเป็นทางการทั้งหมดและทุกๆกรณีก่อน,ส่วนมาตราการทางทหารมันรู้ผลแล้ว,ทหารพระราชาต้องถีบต้องยึดอำนาจรัฐบาลนี้ก่อน,จึงจะดำเนินสายตราบปราบเล่นสาระพัดยุทธวิธีได้เต็มที่,อำนาจเด็ดขาดต้องอยู่ในมือทหารพร้อมสั่งการทุกๆเรื่องได้หมด,ไร้ความเกรงใจสิ่งชั่วเลวใดๆด้วย,คนเนรคุณทรยศประเทศไทยคุกคามประเทศไทยต้องไม่มีที่ยืนบนแผ่นดินไทยและต้องแพ้ประเทศไทยหรือประเทศไทยเข้าทำลายกำจัดขั้นเด็ดขาดทันที.
    ..คำสั่งกฎอัยการทางทหารไทยประกาศคว่ำบาตรเขมรทุกๆด้านทุกๆกรณีก่อนก็ได้,เราจะเริ่มเห็นความบันเทิงภ่ยในเขมรกัดกันเองทันที,ไทยเราจะไม่สูญเสียอะไร, ..ใช้กฎอัยการศึกเรียกฑูตไทยกลับประเทศ,ถีบฑูตเขมรออกจากไทย,ผลักดันแรงงานเขมรและคนเขมรทั้งหมดออกจากไทยภายใน48ชม.,ปิดบัญชีธนาคารของคนเขมรที่ใช้บริการธนาคารของไทยหรือที่ตั้งสาขาสำนักใหญ่หรือสำนักงานสาขาที่ประกอบกิจการทางเงินบนดินแดนอธิปไตยไทยทั้งหมด,ห้ามคนเขมรโอนตังออกนอกประเทศไทยหรือไปเขมรทุกๆบัญชีทุกๆกรณีทั้งหมด,บัญชีใดฝ่าฝืนโอนไปประเทศเขมรจับติดคุกทุกๆกรณี,คริปโตฯโทเคนตังดิจิดัลทั้งหมดก็เช่นเดียวกัน,ระงับและอายัดเงินกระแสการเงินไปเขมรทั้งหมดจากประเทศไทย,เป็นกรณีเร่งด่วนปฏิบัติแรกทันที,นี้แค่พื้นๆก่อนๆ แค่คว่ำบาตรเขมรก่อนในทุกๆด้าน อย่าสนใจชีวิตคนเขมรตลอดพรมแดนทั้งหมด,มันคือความมั่นคงของประเทศแล้ว เขมรคือภัยความมั่นคงของไทยและอาเชียน,โลภละโมบในสิ่งที่มิใช่ของตน.,ต้องทำให้เขมรล้มละลายโดยแค่ไทยเราประกาศคว่ำบาตรอย่างเป็นทางการทั้งหมดและทุกๆกรณีก่อน,ส่วนมาตราการทางทหารมันรู้ผลแล้ว,ทหารพระราชาต้องถีบต้องยึดอำนาจรัฐบาลนี้ก่อน,จึงจะดำเนินสายตราบปราบเล่นสาระพัดยุทธวิธีได้เต็มที่,อำนาจเด็ดขาดต้องอยู่ในมือทหารพร้อมสั่งการทุกๆเรื่องได้หมด,ไร้ความเกรงใจสิ่งชั่วเลวใดๆด้วย,คนเนรคุณทรยศประเทศไทยคุกคามประเทศไทยต้องไม่มีที่ยืนบนแผ่นดินไทยและต้องแพ้ประเทศไทยหรือประเทศไทยเข้าทำลายกำจัดขั้นเด็ดขาดทันที.
    กระทรวงกลาโหมกัมพูชาออกแถลงการณ์ยืนยันไม่มีการถอนทหารออกจากพื้นที่อธิปไตยกัมพูชา การปรับกำลังมีจุดประสงค์เพื่อเตรียมพร้อมปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนเท่านั้น ขอเพื่อร่วมชาติและนักข่าวใช้ข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000053922

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/XgxfFvTDZWM?si=AdFEolttAUSQBz9p
    https://youtu.be/XgxfFvTDZWM?si=AdFEolttAUSQBz9p
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้คุยต่อเรื่องเกี่ยวกับองครักษ์เสื้อแพรตามคำขอจากเพื่อนเพจ
    ความมีอยู่ว่า
    ...แขนของถงอวี่ถูกจินเซี่ยขวางไว้ สีหน้าจึงเครียดขึ้น “ข้าบอกกล่าวต่อเจ้า มันผู้นี้เป็นคนที่องครักษ์เสื้อแพรต้องการ ผู้ใดตั้งใจขัดขวางเหนี่ยวรั้ง นับเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เจ้ามีอำนาจขัดขวาง?”...
    - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ
    (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    เวลาดูละครเรามักจะเห็นภาพขององครักษ์เสื้อแพรที่มีอำนาจสูง อยากทำอะไรก็ได้ เป็นอย่างนั้นจริงหรือ? วันนี้เราคุยเรื่องหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพร

    ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักองค์รักษ์เสื้อแพรโดยคร่าว มันเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นโดยปฐมกษัตริย์จูหยวนจางแห่งราชวงศ์หมิงเมื่อประมาณปีค.ศ. 1368 เป็นการรวมสองหน่วยงานเข้าด้วยกันคือ ‘ชิงจวินตูเว่ยฝู่’ (亲军都尉府) คือหน่วยราชองครักษ์และ ‘อี๋หลวนซือ’ (仪鸾司) ที่รับผิดชอบงานขบวนราชพิธี ก่อนที่จะมาเป็นที่รู้จักในนาม ‘จิ่นอีเว่ย’ หรือองครักษ์เสื้อแพรที่เรารู้จักกันดี

    สองชื่อนี้บ่งบอกถึงสองหน้าที่หลักเมื่อตอนก่อตั้งหน่วยงาน ซึ่งก็คือเป็นราชองรักษ์ และยามที่ฮ่องเต้เสด็จไปยังที่ต่างๆ (ดูจากรูป ในชุดมัจฉาบินสีแดง) พวกเขาเป็นทั้งผู้ดูแลพิธีการและความถูกต้องของขบวนเสด็จและเป็นผู้ตามเสด็จ

    เพราะได้รับความไว้วางพระทัยและเพราะฮ่องเต้ในเกือบทุกรัชสมัยมีความระแวงสูง ต่อมาจึงมีการขยายขอบเขตหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพรให้รวมถึงสอดแนมและสืบสวนขุนนาง ขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ไม่ผ่านกรมกระทรวงใด มีคุกหลวงใต้อาณัติ จึงเป็นที่มาของหน้าที่สืบสวนสอบสวนที่เราเห็นในนิยายหลายเรื่อง

    แต่จริงๆ แล้วองครักษ์เสื้อแพรไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างที่เห็นจากภาพลักษณ์ในละคร

    จากข้อมูลในบันทึกเกร็ดประวัติศาสตร์รัชสมัยองค์ว่านลี่ (万历野获编) การจับกุมคนต้องมีหมายจับที่ออกตามพระราชโองการของฮ่องเต้เท่านั้น การเสนอให้ออกหมายจับต้องผ่านการลงนามเห็นชอบโดยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองสืบสวนสอบสวนซึ่งเป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง และหมายจับต้องระบุชื่อคนที่จะจับอย่างชัดเจน หนึ่งหมายจับต่อหนึ่งคน และหากต้องนำจับนอกพื้นที่ยังต้องมีการประทับตราจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเช่นกันเพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร นอกจากนี้การลงทัณฑ์นักโทษก็ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตก่อน เพียงแต่มีอิสระในวิธีและรูปแบบการสอบสวน (เป็นที่ล่ำลือว่าคุกหลวงในอาณัติขององครักษ์เสื้อแพรมีวิธีการที่โหดร้ายที่สุด)

    หน่วยงานนี้มีฐานประจำการอยู่ในเมืองหลวงเท่านั้น หากมีคดีที่ต้องติดตามนอกเมืองหลวงต้องมีคำสั่งปฏิบัติงานนอกพื้นที่ มีการขออนุมัติและเบิกค่าใช้จ่ายล่วงหน้าชัดเจน แต่โดยปกติจะว่าจ้างคนหาข่าวในพื้นที่ต่างๆ ไม่ต้องทำเองทั้งหมด

    ดังนั้น สำหรับหน่วยงานที่มีคนหลายหมื่น (ในบางยุคสมัยมีเจ้าหน้าที่รวมเกือบหกหมื่นคน) โดยปกติจึงมีคนมากกว่างานหลักที่กล่าวมาข้างต้น เลยต้องมีงานอย่างอื่นทำนอกเหนือจากสามหน้าที่หลักที่กล่าวมาแล้ว ทั้งหน้าที่ประจำและงานสัพเพเหระตามแต่ฮ่องเต้จะมีพระบัญชา เท่าที่อ่านเจอมีดังนี้
     หาข่าวสารในช่วงสงคราม: อันนี้เป็นการเฉพาะกิจ เคยถูกใช้เป็นหน่วยสอดแนมให้กองทัพ
     เฝ้าประตูวัง: รับผิดชอบดูแลเฉพาะประตูหลักของวังหลวงหรือที่เรียกว่า ‘อู่เหมิน’ (คือประตูที่ใช้โดยฮ่องเต้เท่านั้น หรือเฉพาะคนที่ได้รับพระบรมราชานุญาตในโอกาสพิเศษ) ถือว่าเป็นหน่วยราชองครักษ์ที่มี ‘หน้าตา’ กว่าราชองครักษ์กองอื่น
     ดูแลความสะอาด: อันนี้แปลก แต่เนื่องจากมีระดับชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้เป็นขุนนางติดยศเป็นจำนวนมากและไม่มีหน้าที่ลาดตระเวน จึงถูกใช้ดูแลความสะอาดของเมืองหลวง เช่นกวาดถนนและคูน้ำต่างๆ ฯลฯ
     เลี้ยงช้าง: อันนี้ยิ่งแปลก แต่ในสมัยโบราณมีการใช้ช้างในขบวนราชพิธี ตัวอย่างจาก “หมิงสื่อ /明史” หรือบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง มีพูดถึงขบวนเสด็จราชพิธีบวงสรวงว่าที่มีเสือและช้างเดินนำ การดูแลทำความสะอาดและเลี้ยงช้างเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพร

    ขออภัยหากข้อมูลข้างต้นลดทอนภาพลักษณ์อันหน้าเกรงขามของเหล่าองครักษ์เสื้อแพร

    และด้วยหน้าที่ที่หลากหลายขององครักษ์เสื้อแพร Storyฯ เลยอยากจะเตือนความทรงจำของเพื่อนเพจถึงบทความที่ Storyฯ เคยเขียนไปก่อนหน้านี้ว่า ไม่ใช่องครักษ์เสื้อแพรทุกคนที่ใส่ชุดมัจฉาบินและติดดาบซิ่วชุนได้ เนื่องจากทั้งสองสิ่งเป็นของพระราชทานสำหรับขุนนางติดยศเท่านั้น

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://k.sina.cn/article_1229799315_494d3f9300100l3br.html

    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.52shijing.com/zgls/123948.html
    http://www.360doc.com/content/17/1108/21/18848094_702172237.shtml
    https://ppfocus.com/sg/0/hi2ce1da4.html
    http://www.manyanu.com/new/c67503edffe34e4eb5fa46ac96bc834e

    #ใต้เท้าลู่ #องครักษ์เสื้อแพร #จิ่นอีเว่ย #ราชวงศ์หมิง #ประวัติศาสตร์จีน
    วันนี้คุยต่อเรื่องเกี่ยวกับองครักษ์เสื้อแพรตามคำขอจากเพื่อนเพจ ความมีอยู่ว่า ...แขนของถงอวี่ถูกจินเซี่ยขวางไว้ สีหน้าจึงเครียดขึ้น “ข้าบอกกล่าวต่อเจ้า มันผู้นี้เป็นคนที่องครักษ์เสื้อแพรต้องการ ผู้ใดตั้งใจขัดขวางเหนี่ยวรั้ง นับเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด เจ้ามีอำนาจขัดขวาง?”... - จากเรื่อง <เบื้องล่างของเสื้อแพร> ผู้แต่ง หลานเส้อซือ (หมายเหตุ ละครเรื่องยอดองค์รักษ์เสื้อแพรดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) เวลาดูละครเรามักจะเห็นภาพขององครักษ์เสื้อแพรที่มีอำนาจสูง อยากทำอะไรก็ได้ เป็นอย่างนั้นจริงหรือ? วันนี้เราคุยเรื่องหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพร ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักองค์รักษ์เสื้อแพรโดยคร่าว มันเป็นหน่วยงานที่ก่อตั้งขึ้นโดยปฐมกษัตริย์จูหยวนจางแห่งราชวงศ์หมิงเมื่อประมาณปีค.ศ. 1368 เป็นการรวมสองหน่วยงานเข้าด้วยกันคือ ‘ชิงจวินตูเว่ยฝู่’ (亲军都尉府) คือหน่วยราชองครักษ์และ ‘อี๋หลวนซือ’ (仪鸾司) ที่รับผิดชอบงานขบวนราชพิธี ก่อนที่จะมาเป็นที่รู้จักในนาม ‘จิ่นอีเว่ย’ หรือองครักษ์เสื้อแพรที่เรารู้จักกันดี สองชื่อนี้บ่งบอกถึงสองหน้าที่หลักเมื่อตอนก่อตั้งหน่วยงาน ซึ่งก็คือเป็นราชองรักษ์ และยามที่ฮ่องเต้เสด็จไปยังที่ต่างๆ (ดูจากรูป ในชุดมัจฉาบินสีแดง) พวกเขาเป็นทั้งผู้ดูแลพิธีการและความถูกต้องของขบวนเสด็จและเป็นผู้ตามเสด็จ เพราะได้รับความไว้วางพระทัยและเพราะฮ่องเต้ในเกือบทุกรัชสมัยมีความระแวงสูง ต่อมาจึงมีการขยายขอบเขตหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพรให้รวมถึงสอดแนมและสืบสวนขุนนาง ขึ้นตรงต่อองค์ฮ่องเต้ไม่ผ่านกรมกระทรวงใด มีคุกหลวงใต้อาณัติ จึงเป็นที่มาของหน้าที่สืบสวนสอบสวนที่เราเห็นในนิยายหลายเรื่อง แต่จริงๆ แล้วองครักษ์เสื้อแพรไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้อย่างที่เห็นจากภาพลักษณ์ในละคร จากข้อมูลในบันทึกเกร็ดประวัติศาสตร์รัชสมัยองค์ว่านลี่ (万历野获编) การจับกุมคนต้องมีหมายจับที่ออกตามพระราชโองการของฮ่องเต้เท่านั้น การเสนอให้ออกหมายจับต้องผ่านการลงนามเห็นชอบโดยผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองสืบสวนสอบสวนซึ่งเป็นอีกหน่วยงานหนึ่ง และหมายจับต้องระบุชื่อคนที่จะจับอย่างชัดเจน หนึ่งหมายจับต่อหนึ่งคน และหากต้องนำจับนอกพื้นที่ยังต้องมีการประทับตราจากหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องเช่นกันเพื่อป้องกันการปลอมแปลงเอกสาร นอกจากนี้การลงทัณฑ์นักโทษก็ต้องได้รับพระบรมราชานุญาตก่อน เพียงแต่มีอิสระในวิธีและรูปแบบการสอบสวน (เป็นที่ล่ำลือว่าคุกหลวงในอาณัติขององครักษ์เสื้อแพรมีวิธีการที่โหดร้ายที่สุด) หน่วยงานนี้มีฐานประจำการอยู่ในเมืองหลวงเท่านั้น หากมีคดีที่ต้องติดตามนอกเมืองหลวงต้องมีคำสั่งปฏิบัติงานนอกพื้นที่ มีการขออนุมัติและเบิกค่าใช้จ่ายล่วงหน้าชัดเจน แต่โดยปกติจะว่าจ้างคนหาข่าวในพื้นที่ต่างๆ ไม่ต้องทำเองทั้งหมด ดังนั้น สำหรับหน่วยงานที่มีคนหลายหมื่น (ในบางยุคสมัยมีเจ้าหน้าที่รวมเกือบหกหมื่นคน) โดยปกติจึงมีคนมากกว่างานหลักที่กล่าวมาข้างต้น เลยต้องมีงานอย่างอื่นทำนอกเหนือจากสามหน้าที่หลักที่กล่าวมาแล้ว ทั้งหน้าที่ประจำและงานสัพเพเหระตามแต่ฮ่องเต้จะมีพระบัญชา เท่าที่อ่านเจอมีดังนี้  หาข่าวสารในช่วงสงคราม: อันนี้เป็นการเฉพาะกิจ เคยถูกใช้เป็นหน่วยสอดแนมให้กองทัพ  เฝ้าประตูวัง: รับผิดชอบดูแลเฉพาะประตูหลักของวังหลวงหรือที่เรียกว่า ‘อู่เหมิน’ (คือประตูที่ใช้โดยฮ่องเต้เท่านั้น หรือเฉพาะคนที่ได้รับพระบรมราชานุญาตในโอกาสพิเศษ) ถือว่าเป็นหน่วยราชองครักษ์ที่มี ‘หน้าตา’ กว่าราชองครักษ์กองอื่น  ดูแลความสะอาด: อันนี้แปลก แต่เนื่องจากมีระดับชั้นผู้น้อยที่ไม่ได้เป็นขุนนางติดยศเป็นจำนวนมากและไม่มีหน้าที่ลาดตระเวน จึงถูกใช้ดูแลความสะอาดของเมืองหลวง เช่นกวาดถนนและคูน้ำต่างๆ ฯลฯ  เลี้ยงช้าง: อันนี้ยิ่งแปลก แต่ในสมัยโบราณมีการใช้ช้างในขบวนราชพิธี ตัวอย่างจาก “หมิงสื่อ /明史” หรือบันทึกประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิง มีพูดถึงขบวนเสด็จราชพิธีบวงสรวงว่าที่มีเสือและช้างเดินนำ การดูแลทำความสะอาดและเลี้ยงช้างเป็นอีกหนึ่งหน้าที่ขององครักษ์เสื้อแพร ขออภัยหากข้อมูลข้างต้นลดทอนภาพลักษณ์อันหน้าเกรงขามของเหล่าองครักษ์เสื้อแพร และด้วยหน้าที่ที่หลากหลายขององครักษ์เสื้อแพร Storyฯ เลยอยากจะเตือนความทรงจำของเพื่อนเพจถึงบทความที่ Storyฯ เคยเขียนไปก่อนหน้านี้ว่า ไม่ใช่องครักษ์เสื้อแพรทุกคนที่ใส่ชุดมัจฉาบินและติดดาบซิ่วชุนได้ เนื่องจากทั้งสองสิ่งเป็นของพระราชทานสำหรับขุนนางติดยศเท่านั้น (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://k.sina.cn/article_1229799315_494d3f9300100l3br.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.52shijing.com/zgls/123948.html http://www.360doc.com/content/17/1108/21/18848094_702172237.shtml https://ppfocus.com/sg/0/hi2ce1da4.html http://www.manyanu.com/new/c67503edffe34e4eb5fa46ac96bc834e #ใต้เท้าลู่ #องครักษ์เสื้อแพร #จิ่นอีเว่ย #ราชวงศ์หมิง #ประวัติศาสตร์จีน
    同样是锦衣卫造型,朱亚文“厂里厂气”,任嘉伦却赞苏断腿
    近期的古装剧一部接着一部,不知大家注意了没有,有两部戏都是以明朝为背景的。这两部戏就是汤唯、朱亚文主演的《大明风华》以及谭松韵、任嘉伦主演的《锦衣之下》。而且剧
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 821 มุมมอง 0 รีวิว
  • พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เผยถึงการเจรจากับทหารกัมพูชา เพื่อลดความตึงเครียดพื้นที่ช่องบก ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นชอบปรับการวางกำลังไปสู่แนวเดิม ปี 2567 ลดการเผชิญหน้า กลบคูเลตกลับสู่สภาพเดิม คุยกันอย่างลูกผู้ชาย ไม่เสียเลือดเนื้อ ไม่เสียความสัมพันธ์ ไม่เสียเศรษฐกิจ ชนะโดยไม่ต้องรบ มอง วันนี้คลี่คลาย แต่ต้องคิดว่าวันหน้าจะยังไงต่อ เตรียมการรองรับวันข้างหน้าอย่างเป็นระบบ อย่าปล่อยเวลาไปเสียเปล่า ปัญหาข้างหน้าอาจแก้ไม่ได้ง่ายเหมือนวันนี้ สถานการณ์เปลี่ยน คนเปลี่ยน วิธีการเปลี่ยน

    -พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ
    -แค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
    -คนไทยติดหรูใช้เกินตัว
    -ดึงดันขึ้นศาลโลก
    พลตรี ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เผยถึงการเจรจากับทหารกัมพูชา เพื่อลดความตึงเครียดพื้นที่ช่องบก ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นชอบปรับการวางกำลังไปสู่แนวเดิม ปี 2567 ลดการเผชิญหน้า กลบคูเลตกลับสู่สภาพเดิม คุยกันอย่างลูกผู้ชาย ไม่เสียเลือดเนื้อ ไม่เสียความสัมพันธ์ ไม่เสียเศรษฐกิจ ชนะโดยไม่ต้องรบ มอง วันนี้คลี่คลาย แต่ต้องคิดว่าวันหน้าจะยังไงต่อ เตรียมการรองรับวันข้างหน้าอย่างเป็นระบบ อย่าปล่อยเวลาไปเสียเปล่า ปัญหาข้างหน้าอาจแก้ไม่ได้ง่ายเหมือนวันนี้ สถานการณ์เปลี่ยน คนเปลี่ยน วิธีการเปลี่ยน -พื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ -แค่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า -คนไทยติดหรูใช้เกินตัว -ดึงดันขึ้นศาลโลก
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 770 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=owMvvXsI870&t=718s
    https://www.youtube.com/watch?v=owMvvXsI870&t=718s
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=LqSTXSfVYMw
    https://www.youtube.com/watch?v=LqSTXSfVYMw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ล้วนรักชีวิตดิ้นรนสุดจนกำลังหมด ภาพจากวันใดปีใดไม่ทราบหวังว่าคงปลอดภัยนะ
    ล้วนรักชีวิตดิ้นรนสุดจนกำลังหมด ภาพจากวันใดปีใดไม่ทราบหวังว่าคงปลอดภัยนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 0 รีวิว

  • ..เติบหนึ่ง!!!555
    https://youtube.com/shorts/i4dpxQfH17U?si=_ZQx3WcPlktHwPCc
    ..เติบหนึ่ง!!!555 https://youtube.com/shorts/i4dpxQfH17U?si=_ZQx3WcPlktHwPCc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/A5XsP8ypLCk?si=ZV9D4C6HxtUFPK6p
    https://youtu.be/A5XsP8ypLCk?si=ZV9D4C6HxtUFPK6p
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 0 รีวิว