• วาจาสุภาษิต คือ อะไร ? วาจาสุภาษิต หมายถึง คำพูดที่ผู้พูดได้กลั่นกรองไว้ดีแล้วด้วยใจที่ผ่องใส มิใช่สักแต่พูด อวัยวะในร่างกายของคนเรานี้ก็แปลก ตา มีหน้าที่ ดู อย่างเดียว ธรรมชาติให้มา ๒ ตา หู มีหน้าที่ ฟัง อย่างเดียว ธรรมชาติให้มา ๒ หู
    วาจาสุภาษิต คือ อะไร ? วาจาสุภาษิต หมายถึง คำพูดที่ผู้พูดได้กลั่นกรองไว้ดีแล้วด้วยใจที่ผ่องใส มิใช่สักแต่พูด อวัยวะในร่างกายของคนเรานี้ก็แปลก ตา มีหน้าที่ ดู อย่างเดียว ธรรมชาติให้มา ๒ ตา หู มีหน้าที่ ฟัง อย่างเดียว ธรรมชาติให้มา ๒ หู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถบัสพม่า ข้ามน้ำ ไม่รอด ผู้โดยสาร รอด

    In Myanmar’s Mandalay Region, a passenger bus carrying over 40 people was swept away by strong currents while crossing the flooded Sintewa Creek near Nat Saunt Village on May 26.

    Thankfully, local villagers quickly stepped in and rescued everyone on board, including children and elderly passengers, with no injuries reported.
    รถบัสพม่า ข้ามน้ำ ไม่รอด ผู้โดยสาร รอด In Myanmar’s Mandalay Region, a passenger bus carrying over 40 people was swept away by strong currents while crossing the flooded Sintewa Creek near Nat Saunt Village on May 26. Thankfully, local villagers quickly stepped in and rescued everyone on board, including children and elderly passengers, with no injuries reported.
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 454 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • อินฟลูฯ สาวทดลองเป็นต่างชาติ เรียกแท็กซี่ไปสยาม ระยะทาง 10 กิโลเมตร
    เจอเหมา-ไม่กดมิเตอร์ ราคาพุ่งสุดโหด 700 บาท
    อินฟลูฯ สาวทดลองเป็นต่างชาติ เรียกแท็กซี่ไปสยาม ระยะทาง 10 กิโลเมตร เจอเหมา-ไม่กดมิเตอร์ ราคาพุ่งสุดโหด 700 บาท
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 655 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • ♣ ยุบแน่พรรคภูมิใจไทย หลังพบหลักฐานบิ๊กเนมสุมหัววางแผน-บัญชาการ ฮั้วสว.
    #7ดอกจิก
    #พรรคภูมิใจไทย
    #บิ๊กเนม
    ♣ ยุบแน่พรรคภูมิใจไทย หลังพบหลักฐานบิ๊กเนมสุมหัววางแผน-บัญชาการ ฮั้วสว. #7ดอกจิก #พรรคภูมิใจไทย #บิ๊กเนม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 417 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • มติวุฒิสภาให้ "เพียรศักดิ์ สมบัติทอง" นั่ง กก.ป.ป.ช. ด้วยเสียงข้างมาก 138:2 เสียง ขณะที่ "ประกอบ-ประจวบ" ไปไม่ถึงฝันเหตุเสียงเห็นชอบไม่ถึงกึ่งหนึ่ง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000050869

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    มติวุฒิสภาให้ "เพียรศักดิ์ สมบัติทอง" นั่ง กก.ป.ป.ช. ด้วยเสียงข้างมาก 138:2 เสียง ขณะที่ "ประกอบ-ประจวบ" ไปไม่ถึงฝันเหตุเสียงเห็นชอบไม่ถึงกึ่งหนึ่ง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000050869 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 745 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • โฆษก ทบ.แจงกัมพูชาแถลงไม่ถอนกำลัง ไม่ได้เจาะจงว่าจุดใด ย้ำทหารกัมพูชาถอนกำลังออกจากจุดปะทะเมื่อเช้าวันที่ 28 พ.ค.แล้ว เตรียมลาดตระเวนร่วมกัน รอปักปันเขตแดนผ่านกลไกเจบีซี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000050864

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    โฆษก ทบ.แจงกัมพูชาแถลงไม่ถอนกำลัง ไม่ได้เจาะจงว่าจุดใด ย้ำทหารกัมพูชาถอนกำลังออกจากจุดปะทะเมื่อเช้าวันที่ 28 พ.ค.แล้ว เตรียมลาดตระเวนร่วมกัน รอปักปันเขตแดนผ่านกลไกเจบีซี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000050864 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 728 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กองบัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชาออกแถลงการณ์ ผลการหารือระหว่าง พล.อ.เมา โซะพัน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการกองทัพบกกัมพูชา และ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทเรื่องเขตแดน มีข้อสรุปคือ 1.แก้ไขสถานการณ์ผ่านกลไกที่มี รวมถึงบันทึกความเข้าใจ พ.ศ. 2543 ว่าด้วยการวัดและกำหนดเขตแดนทางบกกัมพูชา-ไทย 2.แก้ปัญหาทั้งหมดผ่านคณะกรรมการเขตแดนร่วม(JBC) 3.ฝ่ายกัมพูชาเรียกร้องให้เคารพในอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดง เพื่อหลีกเลี่ยงการสู้รบ และ 4.ฝ่ายกัมพูชาจะไม่ถอย และยืนหยัดโดยปราศจากอาวุธในจุดที่เกิดความขัดแย้ง เนื่องจากเป็นจุดที่ฝ่ายกัมพูชาได้ยืนหยัดมาตั้งแต่ก่อนลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการวัด และกำหนดเขตแดนทางบก ระหว่างกัมพูชาและไทย เมื่อ พ.ศ. 2543 โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องและยอมรับในทั้ง 4 ข้อข้างต้น

    -ใบเสร็จเป็นหลักฐานไม่ได้
    -งบอัดฉีดสูงเท่า 7 ตึก สตง.
    -ประชุมลับเลือก ป.ป.ช.
    -ออกหมายเรียกฮั๊ว สว. ล๊อต 5
    สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า กองบัญชาการทหารสูงสุดกัมพูชาออกแถลงการณ์ ผลการหารือระหว่าง พล.อ.เมา โซะพัน รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการกองทัพบกกัมพูชา และ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เพื่อคลี่คลายข้อพิพาทเรื่องเขตแดน มีข้อสรุปคือ 1.แก้ไขสถานการณ์ผ่านกลไกที่มี รวมถึงบันทึกความเข้าใจ พ.ศ. 2543 ว่าด้วยการวัดและกำหนดเขตแดนทางบกกัมพูชา-ไทย 2.แก้ปัญหาทั้งหมดผ่านคณะกรรมการเขตแดนร่วม(JBC) 3.ฝ่ายกัมพูชาเรียกร้องให้เคารพในอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดง เพื่อหลีกเลี่ยงการสู้รบ และ 4.ฝ่ายกัมพูชาจะไม่ถอย และยืนหยัดโดยปราศจากอาวุธในจุดที่เกิดความขัดแย้ง เนื่องจากเป็นจุดที่ฝ่ายกัมพูชาได้ยืนหยัดมาตั้งแต่ก่อนลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการวัด และกำหนดเขตแดนทางบก ระหว่างกัมพูชาและไทย เมื่อ พ.ศ. 2543 โดยทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องและยอมรับในทั้ง 4 ข้อข้างต้น -ใบเสร็จเป็นหลักฐานไม่ได้ -งบอัดฉีดสูงเท่า 7 ตึก สตง. -ประชุมลับเลือก ป.ป.ช. -ออกหมายเรียกฮั๊ว สว. ล๊อต 5
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 935 มุมมอง 37 0 รีวิว
  • แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมพร้อมนอนค้างคืนที่ฐานช่องบก ปลุกขวัญ-กำลังใจกำลังพล มอบพระหลวงปู่ทวด-เหรียญหลวงพ่อใหญ่โชคดี พร้อมปกป้องอธิปไตย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000050918

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมพร้อมนอนค้างคืนที่ฐานช่องบก ปลุกขวัญ-กำลังใจกำลังพล มอบพระหลวงปู่ทวด-เหรียญหลวงพ่อใหญ่โชคดี พร้อมปกป้องอธิปไตย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000050918 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 755 มุมมอง 1 รีวิว
  • "ทักษิณ" วิเคราะห์การเมืองทำ ภท.มีเคือง ติง มท.ยังไม่ค่อยทำเต็มที่นโยบายทำเพื่อ ปชช. เล็งยึดให้ พท.ทำบ้าง แย้ม ก.เกษตรก็เล็งไว้ บอกไม่อยากให้ ภท.ถอน แต่ควบคุมพรรคอื่นไม่ได้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000050915

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes

    "ทักษิณ" วิเคราะห์การเมืองทำ ภท.มีเคือง ติง มท.ยังไม่ค่อยทำเต็มที่นโยบายทำเพื่อ ปชช. เล็งยึดให้ พท.ทำบ้าง แย้ม ก.เกษตรก็เล็งไว้ บอกไม่อยากให้ ภท.ถอน แต่ควบคุมพรรคอื่นไม่ได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000050915 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 797 มุมมอง 0 รีวิว
  • Say goodbye to sunshine with teenage lovers
    Say goodbye to sunshine with teenage lovers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • Storyฯ ดูละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ไม่จบ แต่ได้อ่านนิยายและรู้สึกเตะตากับสิ่งที่เรียกว่า “เฉาเป้า” (朝报)
    ความมีอยู่ว่า
    ... สามวันให้หลัง จางเฉิงเจ้ายื่นหนังสือเฉาเป้าให้ข้าพเจ้า พลางเอ่ยอย่างดีใจว่า “องค์ฮ่องเต้ (กวนเจีย) ทรงมีบรมราชานุญาติให้หวางก่งเฉินกลับอิ๋งโจวแล้ว”
    หนังสือเฉาเป้าเป็นหนังสือข่าวที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานจิ้งโจ้วย่วน มีการจดบันทึกพระราชโองการล่าสุดขององค์ฮ่องเต้ รวมถึงข่าวสำคัญในพระราชวัง การปรับเปลี่ยนแต่งตั้งโยกย้ายขุนนาง ข่าวสถานการณ์ศึก เป็นต้น หลังจากมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแล้ว จิ้งโจ้วย่วนจึงจัดคัดลอกขึ้นเพื่อประกาศต่อสาธารณะชน โดยส่งมอบให้ข้าราชสำนักหน่วยงานต่างๆ ไว้อ่าน...
    - จากเรื่อง <จองจำเดียวดายในนคร> ผู้แต่ง หมี่หลานเลดี้ (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า)
    (หมายเหตุ ละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    เพื่อนเพจแฟนละครจีนโบราณต้องคุ้นเคยกับประกาศติดบอร์ดให้ชาวบ้านอ่าน เมื่อได้มาอ่านนิยายเรื่องนี้ Storyฯ จึงรู้ว่า จริงๆ แล้วจีนโบราณมีสิ่งที่คล้ายคลึงกับหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน ซึ่งก็คือ ‘เฉาเป้า’ นี้เอง

    คำว่า ‘เฉา’ ในที่นี่หมายถึงราชสำนักดังนั้น ‘เฉาเป้า’ จึงเป็นเอกสารที่สรุปย่อข่าวสารจากราชสำนัก โดยมีสาระสำคัญคือพระราชกรณียกิจของฮ่องเต้ ข่าวราชทูต และข่าวอื่นๆ ดังที่กล่าวถึงในบทความจากนิยายข้างต้น หน้าตาคล้ายคลึงกับหนังสือพิมพ์ปัจจุบันคือเป็นกระดาษหนึ่งหรือสองแผ่นพับทบเอา

    เรื่อง <วังเดียวดาย> นี้เป็นเรื่องราวในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง Storyฯ จึงเกิดความเอ๊ะว่า เฉาเป้ามีมาตั้งแต่เมื่อใด?

    ‘เฉาเป้า’ แรกปรากฏในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 202 ก่อนคริตสกาลจนถึงค.ศ. 220) เรียกว่า ‘ตี่เป้า’ (邸报) หรือ ‘ตี่เช้า’ (邸抄) เริ่มแรกเขียนบนไม้ไผ่ ต่อมาเมื่อมีการคิดค้นกระดาษแล้วก็เปลี่ยนมาเขียนบนกระดาษ

    จากนั้นมาก็มีใช้กันต่อเนื่องมาตลอดยุคสมัยราชวงศ์ถัง ซ่ง หยวน หมิงและชิง โดยวัตถุประสงค์และเนื้อหาสาระยังคล้ายคลึงเดิม การจัดทำเฉาเป้าสิ้นสุดลงเมื่อปีค.ศ. 1912 เมื่อฮ่องเต้องค์สุดท้ายของจีนทรงสละราชสมบัติ

    ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น การจัดทำตี่เป้าเป็นหน้าที่ของหน่วยงาน ‘จิ้งโจ้วกวน’ (进奏官) ซึ่งข่าวสารจากแต่ละพื้นที่จะส่งมายังขุนนางตัวแทนพื้นที่ที่ประจำอยู่ในเมืองหลวงก่อนส่งต่อให้จิ้งโจ้วกวนเป็นผู้รวมรวมและเรียบเรียงก่อนจะคัดลอกขึ้นเป็นหลายฉบับด้วยมือ แต่ระบบการจัดทำแบบนี้ต้องผ่านตัวแทนของแต่ละพื้นที่ในเมืองหลวง ทำให้เกิดความไม่สมบูรณ์ของข่าวเมื่อผ่านตัวกลางที่อาจเพิกเฉยต่อข้อมูลที่ได้รับ

    ดังนั้นในรัชสมัยของฮ่องเต้ไท่จง (ฮ่องเต้องค์ที่สองของราชวงศ์ซ่ง) จึงมีการก่อตั้งหน่วยงานจิ้งโจ้วย่วนขึ้นโดยสังกัด ‘เหมินเซี่ยเสิ่ง’ (หรือ ‘แผนกใต้ประตู’ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบราชการ ตรวจราชโองการและคำสั่งราชการ ถวายความเห็นต่อฮ่องเต้) มีคนในสังกัดตรง จึงรวบรวมข่าวจากทุกพื้นที่โดยตรง ส่วนปริมาณเนื้อหาก็เพิ่มขึ้นโดยรวมถึงบทความถวายฮ่องเต้ที่น่าสนใจ ประกาศชื่นชมหรือตกรางวัลขุนนาง ฯลฯ เดิมเป็นหนังสือประกาศรายเดือน ต่อมาจึงจัดทำเป็นรายวัน

    จิ้งโจ้วย่วนนี้มีหน้าที่รวมรวม ตรวจทานและอนุมัติบทความก่อนที่จะเผยแพร่ ซึ่งก็คือการเซ็นเซอร์โดยรัฐบาลกลางนั่นเอง อะไรบ้างที่โดนเซ็นเซอร์? มีรายละเอียดข้อพิพาทระหว่างรัฐและข่าวสารการศึกที่ลับ ข่าวเกี่ยวกับอาเพศหรือภัยพิบัติในแผ่นดิน ข่าวเกี่ยวกับวังหลังหรือเรื่องส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ และข่าวเกี่ยวกับฎีกาที่ยังไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติ

    ในสมัยซ่งนี้เริ่มมีการใช้ปั๊มพิมพ์แทนการคัดมือและเกิดสิ่งพิมพ์อีกแบบที่ฮ็อตสุดๆ ออกมาวางขาย มีชื่อเรียกว่า ‘เสี่ยวเป้า’ ซึ่งตีพิมพ์เรื่องซุบซิบที่ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์และรัฐบาลกวาดล้างไม่หมด ว่ากันว่าเรื่องบางเรื่องเพิ่งมีมติในที่ประชุมท้องพระโรง ยังไม่ได้รายงานในเฉาเป้า แต่เสี่ยวเป้าก็รายงานจนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว

    ต่อมาเมื่อถึงสมัยปลายราชวงศ์หมิงจึงใช้ระบบการจัดพิมพ์เฉาเป้าแบบฝรั่ง และเมื่อถึงสมัยปลายราชวงศ์ชิงก็มีการจัดทำเอกสารข่าวของทางการขึ้นเพิ่มอีกหนึ่งฉบับซึ่งมีข้อมูลมากขึ้น เรียกว่า ‘จิงเป้า’ (京报)

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.chinadaily.com.cn/a/202005/12/WS5eba135da310a8b241155126_4.html
    https://new.qq.com/omn/20190726/20190726A0A62F00.html
    http://history.sina.com.cn/bk/gds/2014-08-17/182397940.shtml
    http://www.xinhuanet.com/zgjx/2010-10/08/c_13546664.htm
    https://new.qq.com/omn/20201215/20201215A005FX00.html

    #วังเดียวดาย #เฉาเป้า #ตี่เป้า #เสี่ยวเป้า #จิงเป้า #หนังสือพิมพ์จีนโบราณ #จิ้งโจ้วย่วน #จิ้งโจ้วกวน #ราชวงศ์ถัง #ราชวงศ์ซ่ง
    Storyฯ ดูละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ไม่จบ แต่ได้อ่านนิยายและรู้สึกเตะตากับสิ่งที่เรียกว่า “เฉาเป้า” (朝报) ความมีอยู่ว่า ... สามวันให้หลัง จางเฉิงเจ้ายื่นหนังสือเฉาเป้าให้ข้าพเจ้า พลางเอ่ยอย่างดีใจว่า “องค์ฮ่องเต้ (กวนเจีย) ทรงมีบรมราชานุญาติให้หวางก่งเฉินกลับอิ๋งโจวแล้ว” หนังสือเฉาเป้าเป็นหนังสือข่าวที่จัดทำขึ้นโดยหน่วยงานจิ้งโจ้วย่วน มีการจดบันทึกพระราชโองการล่าสุดขององค์ฮ่องเต้ รวมถึงข่าวสำคัญในพระราชวัง การปรับเปลี่ยนแต่งตั้งโยกย้ายขุนนาง ข่าวสถานการณ์ศึก เป็นต้น หลังจากมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลแล้ว จิ้งโจ้วย่วนจึงจัดคัดลอกขึ้นเพื่อประกาศต่อสาธารณะชน โดยส่งมอบให้ข้าราชสำนักหน่วยงานต่างๆ ไว้อ่าน... - จากเรื่อง <จองจำเดียวดายในนคร> ผู้แต่ง หมี่หลานเลดี้ (แต่ Storyฯ แปลเองจ้า) (หมายเหตุ ละครเรื่อง <วังเดียวดาย> ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) เพื่อนเพจแฟนละครจีนโบราณต้องคุ้นเคยกับประกาศติดบอร์ดให้ชาวบ้านอ่าน เมื่อได้มาอ่านนิยายเรื่องนี้ Storyฯ จึงรู้ว่า จริงๆ แล้วจีนโบราณมีสิ่งที่คล้ายคลึงกับหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน ซึ่งก็คือ ‘เฉาเป้า’ นี้เอง คำว่า ‘เฉา’ ในที่นี่หมายถึงราชสำนักดังนั้น ‘เฉาเป้า’ จึงเป็นเอกสารที่สรุปย่อข่าวสารจากราชสำนัก โดยมีสาระสำคัญคือพระราชกรณียกิจของฮ่องเต้ ข่าวราชทูต และข่าวอื่นๆ ดังที่กล่าวถึงในบทความจากนิยายข้างต้น หน้าตาคล้ายคลึงกับหนังสือพิมพ์ปัจจุบันคือเป็นกระดาษหนึ่งหรือสองแผ่นพับทบเอา เรื่อง <วังเดียวดาย> นี้เป็นเรื่องราวในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง Storyฯ จึงเกิดความเอ๊ะว่า เฉาเป้ามีมาตั้งแต่เมื่อใด? ‘เฉาเป้า’ แรกปรากฏในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ประมาณปี 202 ก่อนคริตสกาลจนถึงค.ศ. 220) เรียกว่า ‘ตี่เป้า’ (邸报) หรือ ‘ตี่เช้า’ (邸抄) เริ่มแรกเขียนบนไม้ไผ่ ต่อมาเมื่อมีการคิดค้นกระดาษแล้วก็เปลี่ยนมาเขียนบนกระดาษ จากนั้นมาก็มีใช้กันต่อเนื่องมาตลอดยุคสมัยราชวงศ์ถัง ซ่ง หยวน หมิงและชิง โดยวัตถุประสงค์และเนื้อหาสาระยังคล้ายคลึงเดิม การจัดทำเฉาเป้าสิ้นสุดลงเมื่อปีค.ศ. 1912 เมื่อฮ่องเต้องค์สุดท้ายของจีนทรงสละราชสมบัติ ในสมัยราชวงศ์ถังนั้น การจัดทำตี่เป้าเป็นหน้าที่ของหน่วยงาน ‘จิ้งโจ้วกวน’ (进奏官) ซึ่งข่าวสารจากแต่ละพื้นที่จะส่งมายังขุนนางตัวแทนพื้นที่ที่ประจำอยู่ในเมืองหลวงก่อนส่งต่อให้จิ้งโจ้วกวนเป็นผู้รวมรวมและเรียบเรียงก่อนจะคัดลอกขึ้นเป็นหลายฉบับด้วยมือ แต่ระบบการจัดทำแบบนี้ต้องผ่านตัวแทนของแต่ละพื้นที่ในเมืองหลวง ทำให้เกิดความไม่สมบูรณ์ของข่าวเมื่อผ่านตัวกลางที่อาจเพิกเฉยต่อข้อมูลที่ได้รับ ดังนั้นในรัชสมัยของฮ่องเต้ไท่จง (ฮ่องเต้องค์ที่สองของราชวงศ์ซ่ง) จึงมีการก่อตั้งหน่วยงานจิ้งโจ้วย่วนขึ้นโดยสังกัด ‘เหมินเซี่ยเสิ่ง’ (หรือ ‘แผนกใต้ประตู’ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบราชการ ตรวจราชโองการและคำสั่งราชการ ถวายความเห็นต่อฮ่องเต้) มีคนในสังกัดตรง จึงรวบรวมข่าวจากทุกพื้นที่โดยตรง ส่วนปริมาณเนื้อหาก็เพิ่มขึ้นโดยรวมถึงบทความถวายฮ่องเต้ที่น่าสนใจ ประกาศชื่นชมหรือตกรางวัลขุนนาง ฯลฯ เดิมเป็นหนังสือประกาศรายเดือน ต่อมาจึงจัดทำเป็นรายวัน จิ้งโจ้วย่วนนี้มีหน้าที่รวมรวม ตรวจทานและอนุมัติบทความก่อนที่จะเผยแพร่ ซึ่งก็คือการเซ็นเซอร์โดยรัฐบาลกลางนั่นเอง อะไรบ้างที่โดนเซ็นเซอร์? มีรายละเอียดข้อพิพาทระหว่างรัฐและข่าวสารการศึกที่ลับ ข่าวเกี่ยวกับอาเพศหรือภัยพิบัติในแผ่นดิน ข่าวเกี่ยวกับวังหลังหรือเรื่องส่วนพระองค์ของฮ่องเต้ และข่าวเกี่ยวกับฎีกาที่ยังไม่ได้รับการพิจารณาอนุมัติ ในสมัยซ่งนี้เริ่มมีการใช้ปั๊มพิมพ์แทนการคัดมือและเกิดสิ่งพิมพ์อีกแบบที่ฮ็อตสุดๆ ออกมาวางขาย มีชื่อเรียกว่า ‘เสี่ยวเป้า’ ซึ่งตีพิมพ์เรื่องซุบซิบที่ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์และรัฐบาลกวาดล้างไม่หมด ว่ากันว่าเรื่องบางเรื่องเพิ่งมีมติในที่ประชุมท้องพระโรง ยังไม่ได้รายงานในเฉาเป้า แต่เสี่ยวเป้าก็รายงานจนรู้กันทั่วบ้านทั่วเมืองแล้ว ต่อมาเมื่อถึงสมัยปลายราชวงศ์หมิงจึงใช้ระบบการจัดพิมพ์เฉาเป้าแบบฝรั่ง และเมื่อถึงสมัยปลายราชวงศ์ชิงก็มีการจัดทำเอกสารข่าวของทางการขึ้นเพิ่มอีกหนึ่งฉบับซึ่งมีข้อมูลมากขึ้น เรียกว่า ‘จิงเป้า’ (京报) (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.chinadaily.com.cn/a/202005/12/WS5eba135da310a8b241155126_4.html https://new.qq.com/omn/20190726/20190726A0A62F00.html http://history.sina.com.cn/bk/gds/2014-08-17/182397940.shtml http://www.xinhuanet.com/zgjx/2010-10/08/c_13546664.htm https://new.qq.com/omn/20201215/20201215A005FX00.html #วังเดียวดาย #เฉาเป้า #ตี่เป้า #เสี่ยวเป้า #จิงเป้า #หนังสือพิมพ์จีนโบราณ #จิ้งโจ้วย่วน #จิ้งโจ้วกวน #ราชวงศ์ถัง #ราชวงศ์ซ่ง
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1140 มุมมอง 0 รีวิว
  • อินฟลูฯ สาวทดลองเป็นต่างชาติ เรียกแท็กซี่ไปสยาม ระยะทาง 10 กิโลเมตร
    เจอเหมา-ไม่กดมิเตอร์ ราคาพุ่งสุดโหด 700 บาท
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • อิสราเอล คัทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล กล่าวตอบโต้ประธานาธิบดีมาครง แห่งฝรั่งเศส หลังจากเขาประกาศที่สิงคโปร์ว่าจะยอมรับรัฐปาเลสไตน์:

    “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของการตั้งถิ่นฐานใหม่ 22 แห่ง (ในเวสต์แบงก์) กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการตอบโต้ผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และเป็นข้อความที่ชัดเจนถึงมาครงและเพื่อนๆ ของเขา .... พวกคุณก็แค่รับรู้การมีอยู่ของรัฐปาเลสไตน์บนกระดาษเท่านั้น และในที่สุดกระดาษแผ่นนั้นมันจะถูกโยนทิ้งลงในถังขยะแห่งประวัติศาสตร์ โดยไม่มีใครสนใจหรือพูดถึงมันอีก!”
    อิสราเอล คัทซ์ รัฐมนตรีกลาโหมของอิสราเอล กล่าวตอบโต้ประธานาธิบดีมาครง แห่งฝรั่งเศส หลังจากเขาประกาศที่สิงคโปร์ว่าจะยอมรับรัฐปาเลสไตน์: “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์ของการตั้งถิ่นฐานใหม่ 22 แห่ง (ในเวสต์แบงก์) กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งเป็นการตอบโต้ผู้สนับสนุนกลุ่มก่อการร้าย และเป็นข้อความที่ชัดเจนถึงมาครงและเพื่อนๆ ของเขา .... พวกคุณก็แค่รับรู้การมีอยู่ของรัฐปาเลสไตน์บนกระดาษเท่านั้น และในที่สุดกระดาษแผ่นนั้นมันจะถูกโยนทิ้งลงในถังขยะแห่งประวัติศาสตร์ โดยไม่มีใครสนใจหรือพูดถึงมันอีก!”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 436 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Worse” vs. “Worst”: Get A Better Understanding Of The Difference

    The words worse and worst are extremely useful. They are the main and often best way we can indicate that something is, well, more bad or most bad. But because they look and sound so similar, it can be easy to mix them up, especially in certain expressions.

    In this article, we’ll break down the difference between worse and worst, explain how they relate to comparative and superlative adjectives (and what those are), and clear up confusion around which word is the correct one to use in some common expressions.

    Quick summary

    Worse and worst are both forms of the word bad. Worse is what’s called the comparative form, basically meaning “more bad.” Worst is the superlative form, basically meaning “most bad.” Worse is used when making a comparison to only one other thing: Your breath is bad, but mine is worse or The situation was bad and it just got worse. Worst is used in comparisons of more than two things: Yours is bad, mine is worse, but his is the worst or That was the worst meal I’ve ever eaten.

    worse vs. worst

    Worse and worst are different words, but both are forms of the adjective bad. Worse is the comparative form and worst is the superlative form.

    A comparative adjective is typically used to compare two things. For example, My brother is bad at basketball, but honestly I’m worse.

    A superlative adjective is used to compare more than two things (as in Out of the five exam I have today, this one is going to be the worst) or state that something is the most extreme out of every possible option (as in That was the worst idea I have ever heard).

    Worse and worst are just like the words better and best, which are the comparative and superlative forms of the word good.

    In most cases, the comparative form of an adjective is made by either adding -er to the end (faster, smarter, bigger, etc.) or adding the word more or less before it (more impressive, less powerful, etc.).

    To form superlatives, it’s most common to add -est to the end of the word (fastest, smartest, biggest, etc.) or add most or least before it (most impressive, least powerful, etc.).

    Worse and worst don’t follow these rules, but you can see a remnant of the superlative ending -est at the end of worst and best, which can help you remember that they are superlatives.

    Worse is used in the expression from bad to worse, which means that something started bad and has only deteriorated in quality or condition, as in My handwriting has gone from bad to worse since I graduated high school.

    Let’s look at some other common questions people have about expressions that use worse or worst.

    Is it worse case or worst case?

    The phrase worst case is used in the two idiomatic expressions: in the worst case and worst-case scenario. Both of these phrases refer to a situation that is as bad as possible compared to any other possible situation, which is why it uses the superlative form worst.

    For example:

    - In the worst case, the beams will collapse instantly.
    - This isn’t what we expect to happen—it’s just the worst-case scenario.

    While it’s possible for the words worse and case to be paired together in a sentence (as in Jacob had a worse case of bronchitis than Melanie did), it’s not a set expression like worst case is.

    Is it if worse comes to worst or if worst comes to worst?

    There are actually two very similar versions of the expression that means “if the worst possible outcome happens”: if worse comes to worst or if worst comes to worst. However, if worst comes to worst is much more commonly used (even though it arguably makes less sense).

    Whatever form is used, the expression is usually accompanied by a proposed solution to the problem. For example:

    - If worse comes to worst and every door is locked, we’ll get in by opening a window.
    - I’m going to try to make it to the store before the storm starts, but if worst comes to worst, I’ll at least have my umbrella with me.

    Examples of worse and worst used in a sentence

    Let’s wrap things up by looking at some of the many different ways we can use worse and worst in a sentence.

    - I think the pink paint looks worse on the wall than the red paint did.
    - Out of all of us, Tom had the worst case of poison ivy.
    - Debra Deer had a worse finishing time than Charlie Cheetah, but Sam Sloth had the worst time by far.
    - My grades went from bad to worse after I missed a few classes.
    - If worst comes to worst and we miss the bus, we’ll just hail a cab.
    - It’s possible that the losses could lead to bankruptcy, but the company is doing everything it can to avoid this worst-case scenario.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    “Worse” vs. “Worst”: Get A Better Understanding Of The Difference The words worse and worst are extremely useful. They are the main and often best way we can indicate that something is, well, more bad or most bad. But because they look and sound so similar, it can be easy to mix them up, especially in certain expressions. In this article, we’ll break down the difference between worse and worst, explain how they relate to comparative and superlative adjectives (and what those are), and clear up confusion around which word is the correct one to use in some common expressions. Quick summary Worse and worst are both forms of the word bad. Worse is what’s called the comparative form, basically meaning “more bad.” Worst is the superlative form, basically meaning “most bad.” Worse is used when making a comparison to only one other thing: Your breath is bad, but mine is worse or The situation was bad and it just got worse. Worst is used in comparisons of more than two things: Yours is bad, mine is worse, but his is the worst or That was the worst meal I’ve ever eaten. worse vs. worst Worse and worst are different words, but both are forms of the adjective bad. Worse is the comparative form and worst is the superlative form. A comparative adjective is typically used to compare two things. For example, My brother is bad at basketball, but honestly I’m worse. A superlative adjective is used to compare more than two things (as in Out of the five exam I have today, this one is going to be the worst) or state that something is the most extreme out of every possible option (as in That was the worst idea I have ever heard). Worse and worst are just like the words better and best, which are the comparative and superlative forms of the word good. In most cases, the comparative form of an adjective is made by either adding -er to the end (faster, smarter, bigger, etc.) or adding the word more or less before it (more impressive, less powerful, etc.). To form superlatives, it’s most common to add -est to the end of the word (fastest, smartest, biggest, etc.) or add most or least before it (most impressive, least powerful, etc.). Worse and worst don’t follow these rules, but you can see a remnant of the superlative ending -est at the end of worst and best, which can help you remember that they are superlatives. Worse is used in the expression from bad to worse, which means that something started bad and has only deteriorated in quality or condition, as in My handwriting has gone from bad to worse since I graduated high school. Let’s look at some other common questions people have about expressions that use worse or worst. Is it worse case or worst case? The phrase worst case is used in the two idiomatic expressions: in the worst case and worst-case scenario. Both of these phrases refer to a situation that is as bad as possible compared to any other possible situation, which is why it uses the superlative form worst. For example: - In the worst case, the beams will collapse instantly. - This isn’t what we expect to happen—it’s just the worst-case scenario. While it’s possible for the words worse and case to be paired together in a sentence (as in Jacob had a worse case of bronchitis than Melanie did), it’s not a set expression like worst case is. Is it if worse comes to worst or if worst comes to worst? There are actually two very similar versions of the expression that means “if the worst possible outcome happens”: if worse comes to worst or if worst comes to worst. However, if worst comes to worst is much more commonly used (even though it arguably makes less sense). Whatever form is used, the expression is usually accompanied by a proposed solution to the problem. For example: - If worse comes to worst and every door is locked, we’ll get in by opening a window. - I’m going to try to make it to the store before the storm starts, but if worst comes to worst, I’ll at least have my umbrella with me. Examples of worse and worst used in a sentence Let’s wrap things up by looking at some of the many different ways we can use worse and worst in a sentence. - I think the pink paint looks worse on the wall than the red paint did. - Out of all of us, Tom had the worst case of poison ivy. - Debra Deer had a worse finishing time than Charlie Cheetah, but Sam Sloth had the worst time by far. - My grades went from bad to worse after I missed a few classes. - If worst comes to worst and we miss the bus, we’ll just hail a cab. - It’s possible that the losses could lead to bankruptcy, but the company is doing everything it can to avoid this worst-case scenario. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 817 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง
    ----------------------------
    สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า
    นี่เป็นคำพยากรณ์...
    .
    อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น
    .
    แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น..
    .
    ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน.
    .
    เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
    และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง
    .
    คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง.
    .
    วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า
    .
    สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง..
    .
    ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ
    .
    ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป"..
    .
    งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ.
    .
    กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย.
    .
    ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้..
    .
    แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง
    .
    แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง.
    .
    นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป!
    .
    หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง
    .
    ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค.
    .
    นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต
    นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร?
    .
    ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น..
    .
    หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้.
    .
    แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา
    .
    พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย
    มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
    จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด
    .
    ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา -
    .
    อัพเดทข้อมูลในปี 2566
    --------------------------
    - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ
    - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่
    - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก
    --------------------------
    บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง ---------------------------- สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า นี่เป็นคำพยากรณ์... . อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น . แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น.. . ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน. . เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง . คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง. . วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า . สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง.. . ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ . ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป".. . งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ. . กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย. . ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้.. . แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง . แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง. . นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป! . หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง . ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค. . นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร? . ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น.. . หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้. . แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา . พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด . ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - . อัพเดทข้อมูลในปี 2566 -------------------------- - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่ - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก --------------------------
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1269 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบบนี้ พวก หมู...ใช้หลอกคน ขยาย 3000 x ...เลอะเทอะ....เขาเอาพระเก๊เก่า...ไปให้กรรมกร คนสวน ...และอื่นๆ ..ที่ทำงานกลางแจ้งใส่แบบ ไม่เลี่ยม ..ทั้งเหงื่อ ทั้งสึก...พอหลายเดือนเข้า...ก็เอามา "ต้มหมู" ....วิธีนี้คนเล่นพระมานาน เขารู้...แต่เลิกใช้กันไปเยอะแล้ว....เพราะยุคหลัง..คนเล่น พระสวย....วิธีนี้จึงเลือนหายไป .. (แต่ก็ยังมีบ้าง)....ยุคนี้ แท้ไม่พอ...ต้องสวยด้วย....เก็บของสวย "มันเล่นตัวได้" ....ยกตัวอย่างเหรียญ พ่อกลั่น สวยแชมป์ 30 ล้าน...ถ้าสึกๆ ...เหลือ แสนเดียว....ประมาณนี้น.
    แบบนี้ พวก หมู...ใช้หลอกคน ขยาย 3000 x ...เลอะเทอะ....เขาเอาพระเก๊เก่า...ไปให้กรรมกร คนสวน ...และอื่นๆ ..ที่ทำงานกลางแจ้งใส่แบบ ไม่เลี่ยม ..ทั้งเหงื่อ ทั้งสึก...พอหลายเดือนเข้า...ก็เอามา "ต้มหมู" ....วิธีนี้คนเล่นพระมานาน เขารู้...แต่เลิกใช้กันไปเยอะแล้ว....เพราะยุคหลัง..คนเล่น พระสวย....วิธีนี้จึงเลือนหายไป .. (แต่ก็ยังมีบ้าง)....ยุคนี้ แท้ไม่พอ...ต้องสวยด้วย....เก็บของสวย "มันเล่นตัวได้" ....ยกตัวอย่างเหรียญ พ่อกลั่น สวยแชมป์ 30 ล้าน...ถ้าสึกๆ ...เหลือ แสนเดียว....ประมาณนี้น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 0 รีวิว