• https://youtube.com/shorts/A6MS8k3P530?si=Wo7jJSsYqO5BywrD
    https://youtube.com/shorts/A6MS8k3P530?si=Wo7jJSsYqO5BywrD
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/2e4i1yyKiFs?si=dDcsq3z7x2pfdLFD
    https://youtu.be/2e4i1yyKiFs?si=dDcsq3z7x2pfdLFD
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงศึกษาว่าการที่บุคคลเป็นทุกข์เพราะยึดถือสิ่งที่ยึดถือไม่ได้
    สัทธรรมลำดับที่ : 224
    ชื่อบทธรรม :- ทุกข์เพราะยึดถือสิ่งที่ยึดถือไม่ได้
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=224
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ทุกข์เพราะยึดถือสิ่งที่ยึดถือไม่ได้
    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนแม่น้ำ ซึ่งมีกำเนิดแต่ภูเขา
    ไหลไปทางต่ำสิ้นระยะไกล มีกระแสเชี่ยวจัด.
    ถ้าหากหญ้ากาสะก็ตาม หญ้ากุสะก็ตาม หญ้าปัพพชะก็ตาม หญ้าวีรณะก็ตาม
    หรือต้นไม้ก็ตาม เกิดอยู่ที่ฝั่งทั้งสองของแม่น้ำนั้นไซร้,
    หญ้าหรือต้นไม้เหล่านั้น ก็จะพึงย้อยลงปกฝั่งทั้งสองของแม่น้ำนั้น.
    บุรุษผู้หนึ่ง ถูกกระแสแห่งแม่น้ำนั้นพัดมา
    ถ้าจะจับหญ้ากาสะก็ตาม หญ้ากุสะก็ตาม หญ้าปัพพชะก็ตาม หญ้าวีรณะก็ตาม
    หรือต้นไม้ก็ตาม สิ่งเหล่านั้นก็จะพึงขาดหลุดไป (เพราะกระแสเชี่ยวจัดของแม่น้ำ).
    บุรุษผู้นั้นย่อมถึงการพินาศ เพราะการทำเช่นนั้น, อุปมานี้ฉันใด ;
    --ภิกษุ ท. ! อุปไมยก็ฉันนั้น คือ #บุถุชน
    ผู้ไม่ได้ยินได้ฟัง ไม่ได้เห็นเหล่าพระอริยเจ้า
    ไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยเจ้า ไม่ถูกแนะนำในธรรมของพระอริยเจ้า,
    http://etipitaka.com/read/pali/17/168/?keywords=อริยธมฺมสฺส
    ไม่ได้เห็นเหล่าสัตบุรุษ ไม่ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ไม่ถูกแนะนำในธรรมของสัตบุรุษ

    +--บุถุชน ย่อม
    ตามเห็นพร้อม (คือเห็นดิ่งอยู่เป็นประจำ) ซึ่งรูป โดยความเป็นตน
    หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีรูป
    หรือตามเห็นพร้อมซึ่งรูป ว่ามีอยู่ในตน
    หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีอยู่ในรูป,
    รูปนั้นย่อมแตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง ;
    +--บุถุชนนั้น ย่อม
    ตามเห็นพร้อม ซึ่งเวทนา โดยความเป็นตน
    หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีเวทนา
    หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งเวทนา ว่ามีอยู่ในตน
    หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีอยู่ในเวทนา,
    เวทนานั้นย่อมแตกสลาย แก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง ;
    +--บุถุชนนั้น ย่อม
    ตามเห็นพร้อม ซึ่งสัญญา โดยความเป็นตน
    หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีสัญญา
    หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งสัญญา ว่ามีอยู่ในตน
    หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีอยู่ในสัญญา,
    สัญญานั้นย่อมแตกสลาย แก่เขา, เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง ;
    +--บุถุชนนั้น ย่อม
    ตามเห็นพร้อม ซึ่งสังขาร ทั้งหลาย โดยความเป็นตน
    หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีสังขาร
    หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งสังขารทั้งหลาย ว่ามีอยู่ในตน
    หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีอยู่ในสังขารทั้งหลาย,
    สังขารทั้งหลายเหล่านั้น ย่อมแตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง ;
    +--บุถุชนนั้น ย่อม
    ตามเห็นพร้อม ซึ่งวิญญาณ โดยความเป็นตน
    หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีวิญญาณ
    หรือตามเห็นพร้อมซึ่งวิญญาณ ว่ามีอยู่ในตน
    หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีอยู่ในวิญญาณ,
    วิญญาณนั้น ย่อมแตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ
    แล.

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/132/237.
    http://etipitaka.com/read/thai/17/132/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๖๘/๒๓๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/17/168/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93%E0%B9%97
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=224
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15&id=224
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15
    ลำดับสาธยายธรรม : 15 ฟังเสียง
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_15.mp3
    อริยสาวกพึงศึกษาว่าการที่บุคคลเป็นทุกข์เพราะยึดถือสิ่งที่ยึดถือไม่ได้ สัทธรรมลำดับที่ : 224 ชื่อบทธรรม :- ทุกข์เพราะยึดถือสิ่งที่ยึดถือไม่ได้ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=224 เนื้อความทั้งหมด :- --ทุกข์เพราะยึดถือสิ่งที่ยึดถือไม่ได้ --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนแม่น้ำ ซึ่งมีกำเนิดแต่ภูเขา ไหลไปทางต่ำสิ้นระยะไกล มีกระแสเชี่ยวจัด. ถ้าหากหญ้ากาสะก็ตาม หญ้ากุสะก็ตาม หญ้าปัพพชะก็ตาม หญ้าวีรณะก็ตาม หรือต้นไม้ก็ตาม เกิดอยู่ที่ฝั่งทั้งสองของแม่น้ำนั้นไซร้, หญ้าหรือต้นไม้เหล่านั้น ก็จะพึงย้อยลงปกฝั่งทั้งสองของแม่น้ำนั้น. บุรุษผู้หนึ่ง ถูกกระแสแห่งแม่น้ำนั้นพัดมา ถ้าจะจับหญ้ากาสะก็ตาม หญ้ากุสะก็ตาม หญ้าปัพพชะก็ตาม หญ้าวีรณะก็ตาม หรือต้นไม้ก็ตาม สิ่งเหล่านั้นก็จะพึงขาดหลุดไป (เพราะกระแสเชี่ยวจัดของแม่น้ำ). บุรุษผู้นั้นย่อมถึงการพินาศ เพราะการทำเช่นนั้น, อุปมานี้ฉันใด ; --ภิกษุ ท. ! อุปไมยก็ฉันนั้น คือ #บุถุชน ผู้ไม่ได้ยินได้ฟัง ไม่ได้เห็นเหล่าพระอริยเจ้า ไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยเจ้า ไม่ถูกแนะนำในธรรมของพระอริยเจ้า, http://etipitaka.com/read/pali/17/168/?keywords=อริยธมฺมสฺส ไม่ได้เห็นเหล่าสัตบุรุษ ไม่ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ไม่ถูกแนะนำในธรรมของสัตบุรุษ +--บุถุชน ย่อม ตามเห็นพร้อม (คือเห็นดิ่งอยู่เป็นประจำ) ซึ่งรูป โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีรูป หรือตามเห็นพร้อมซึ่งรูป ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีอยู่ในรูป, รูปนั้นย่อมแตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง ; +--บุถุชนนั้น ย่อม ตามเห็นพร้อม ซึ่งเวทนา โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีเวทนา หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งเวทนา ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีอยู่ในเวทนา, เวทนานั้นย่อมแตกสลาย แก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง ; +--บุถุชนนั้น ย่อม ตามเห็นพร้อม ซึ่งสัญญา โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีสัญญา หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งสัญญา ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีอยู่ในสัญญา, สัญญานั้นย่อมแตกสลาย แก่เขา, เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง ; +--บุถุชนนั้น ย่อม ตามเห็นพร้อม ซึ่งสังขาร ทั้งหลาย โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีสังขาร หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งสังขารทั้งหลาย ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีอยู่ในสังขารทั้งหลาย, สังขารทั้งหลายเหล่านั้น ย่อมแตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง ; +--บุถุชนนั้น ย่อม ตามเห็นพร้อม ซึ่งวิญญาณ โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีวิญญาณ หรือตามเห็นพร้อมซึ่งวิญญาณ ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีอยู่ในวิญญาณ, วิญญาณนั้น ย่อมแตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ แล. #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/132/237. http://etipitaka.com/read/thai/17/132/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๖๘/๒๓๗. http://etipitaka.com/read/pali/17/168/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%93%E0%B9%97 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=224 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15&id=224 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15 ลำดับสาธยายธรรม : 15 ฟังเสียง http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_15.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ทุกข์เพราะยึดถือสิ่งที่ยึดถือไม่ได้
    -ทุกข์เพราะยึดถือสิ่งที่ยึดถือไม่ได้ ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนแม่น้ำ ซึ่งมีกำเนิดแต่ภูเขา ไหลไปทางต่ำสิ้นระยะไกล มีกระแสเชี่ยวจัด. ถ้าหากหญ้ากาสะก็ตาม หญ้ากุสะก็ตาม หญ้าปัพพชะก็ตาม หญ้าวีรณะก็ตาม หรือต้นไม้ก็ตาม เกิดอยู่ที่ฝั่งทั้งสองของแม่น้ำนั้นไซร้, หญ้าหรือต้นไม้เหล่านั้น ก็จะพึงย้อยลงปกฝั่งทั้งสองของแม่น้ำนั้น. บุรุษผู้หนึ่ง ถูกกระแสแห่งแม่น้ำนั้นพัดมา ถ้าจะจับหญ้ากาสะก็ตาม หญ้ากุสะก็ตาม หญ้าปัพพชะก็ตาม หญ้าวีรณะก็ตาม หรือต้นไม้ก็ตาม สิ่งเหล่านั้นก็จะพึงขาดหลุดไป (เพราะกระแสเชี่ยวจัดของแม่น้ำ). บุรุษผู้นั้นย่อมถึงการพินาศ เพราะการทำเช่นนั้น, อุปมานี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! อุปไมยก็ฉันนั้น คือ บุถุชน ผู้ไม่ได้ยินได้ฟัง ไม่ได้เห็นเหล่าพระอริยเจ้า ไม่ฉลาดในธรรมของพระอริยเจ้า ไม่ถูกแนะนำในธรรมของพระอริยเจ้า, ไม่ได้เห็นเหล่าสัตบุรุษ ไม่ฉลาดในธรรมของสัตบุรุษ ไม่ถูกแนะนำในธรรมของสัตบุรุษ ย่อม ตามเห็นพร้อม (คือเห็นดิ่งอยู่เป็นประจำ) ซึ่งรูป โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีรูป หรือตามเห็นพร้อมซึ่งรูป ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีอยู่ในรูป, รูปนั้นย่อม แตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง ; บุถุชนนั้น ย่อม ตามเห็นพร้อม ซึ่งเวทนา โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีเวทนา หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งเวทนา ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีอยู่ในเวทนา, เวทนานั้นย่อมแตกสลาย แก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง ; บุถุชนนั้น ย่อม ตามเห็นพร้อม ซึ่งสัญญา โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีสัญญา หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งสัญญา ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีอยู่ในสัญญา, สัญญานั้นย่อมแตกสลาย แก่เขา, เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง ; บุถุชนนั้น ย่อม ตามเห็นพร้อม ซึ่งสังขาร ทั้งหลาย โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีสังขาร หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งสังขารทั้งหลาย ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีอยู่ในสังขารทั้งหลาย, สังขารทั้งหลายเหล่านั้น ย่อมแตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ บ้าง ; บุถุชนนั้น ย่อม ตามเห็นพร้อม ซึ่งวิญญาณ โดยความเป็นตน หรือตามเห็นพร้อม ซึ่งตน ว่ามีวิญญาณ หรือตามเห็นพร้อมซึ่งวิญญาณ ว่ามีอยู่ในตน หรือตามเห็นพร้อมซึ่งตน ว่ามีอยู่ในวิญญาณ, วิญญาณนั้น ย่อมแตกสลายแก่เขา เขาย่อมถึงการพินาศ เพราะข้อนั้นเป็นเหตุ แล.
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงศึกษาว่าทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต
    สัทธรรมลำดับที่ : 225
    ชื่อบทธรรม :- ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=225
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต(ไม่มีบุคคลผู้ทุกข์)
    --กัสสปะ ! เมื่อบุคคลมีความสำคัญมั่นหมายมาแต่ต้น ว่า
    “ผู้นั้นกระทำผู้นั้นเสวย (ผล)” ดังนี้​ เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า
    “ความทุกข์เป็นสิ่งที่บุคคลกระทำเอง” ดังนี้
    : นั้นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) สัสสตะ (ทิฏฐิที่ถือว่าเที่ยง).
    http://etipitaka.com/read/pali/16/24/?keywords=สสฺสต

    --กัสสปะ ! เมื่อบุคคลถูกเวทนากระทบให้มีความสำคัญมั่นหมายว่า
    “ผู้อื่นกระทำ ผู้อื่นเสวย (ผล)” ดังนี้เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า
    “ความทุกข์ เป็นสิ่งที่บุคคลอื่นกระทำให้” ดังนี้
    : นั่นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) อุจเฉทะ (ทิฏฐิที่ถือว่าขาดสูญ).
    http://etipitaka.com/read/pali/16/25/?keywords=อุจฺเฉทํ

    --กัสสะปะ ! ตถาคต ย่อม แสดงธรรมโดยสายกลาง
    ไม่เข้าไปหาส่วนสุดทั้งสองนั้น คือ ตถาคตย่อมแสดงดังนี้ว่า
    “เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย ;
    เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ;
    ....ฯลฯ....ฯลฯ....ฯลฯ....
    เพราะมีชาติเป็นปัจจัย,
    ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน
    : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.
    เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือแห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว,
    จึงมีความดับแห่งสังขาร; เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ;
    .... ฯลฯ.... ฯลฯ....ฯลฯ....
    เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล,
    ชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น
    : #ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.”
    http://etipitaka.com/read/pali/16/25/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+นิโรโธ
    ดังนี้.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/18/50.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/18/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒๔/๕๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/24/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=225
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15&id=225
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15
    ลำดับสาธยายธรรม : 15 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_15.mp3
    อริยสาวกพึงศึกษาว่าทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต สัทธรรมลำดับที่ : 225 ชื่อบทธรรม :- ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=225 เนื้อความทั้งหมด :- --ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต(ไม่มีบุคคลผู้ทุกข์) --กัสสปะ ! เมื่อบุคคลมีความสำคัญมั่นหมายมาแต่ต้น ว่า “ผู้นั้นกระทำผู้นั้นเสวย (ผล)” ดังนี้​ เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า “ความทุกข์เป็นสิ่งที่บุคคลกระทำเอง” ดังนี้ : นั้นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) สัสสตะ (ทิฏฐิที่ถือว่าเที่ยง). http://etipitaka.com/read/pali/16/24/?keywords=สสฺสต --กัสสปะ ! เมื่อบุคคลถูกเวทนากระทบให้มีความสำคัญมั่นหมายว่า “ผู้อื่นกระทำ ผู้อื่นเสวย (ผล)” ดังนี้เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า “ความทุกข์ เป็นสิ่งที่บุคคลอื่นกระทำให้” ดังนี้ : นั่นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) อุจเฉทะ (ทิฏฐิที่ถือว่าขาดสูญ). http://etipitaka.com/read/pali/16/25/?keywords=อุจฺเฉทํ --กัสสะปะ ! ตถาคต ย่อม แสดงธรรมโดยสายกลาง ไม่เข้าไปหาส่วนสุดทั้งสองนั้น คือ ตถาคตย่อมแสดงดังนี้ว่า “เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย ; เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ; ....ฯลฯ....ฯลฯ....ฯลฯ.... เพราะมีชาติเป็นปัจจัย, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือแห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว, จึงมีความดับแห่งสังขาร; เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ; .... ฯลฯ.... ฯลฯ....ฯลฯ.... เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล, ชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : #ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.” http://etipitaka.com/read/pali/16/25/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+นิโรโธ ดังนี้.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/18/50. http://etipitaka.com/read/thai/16/18/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒๔/๕๐. http://etipitaka.com/read/pali/16/24/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=225 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15&id=225 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15 ลำดับสาธยายธรรม : 15 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_15.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต
    -ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต (ไม่มีบุคคลผู้ทุกข์) กัสสปะ ! เมื่อบุคคลมีความสำคัญมั่นหมายมาแต่ต้น ว่า “ผู้นั้นกระทำผู้นั้นเสวย (ผล)” ดังนี้เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า “ความทุกข์เป็นสิ่งที่บุคคลกระทำเอง” ดังนี้ : นั้นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) สัสสตะ (ทิฏฐิที่ถือว่าเที่ยง). กัสสปะ ! เมื่อบุคคลถูกเวทนากระทบให้มีความสำคัญมั่นหมายว่า “ผู้อื่นกระทำ ผู้อื่นเสวย (ผล)” ดังนี้เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า “ความทุกข์ เป็นสิ่งที่บุคคลอื่นกระทำให้” ดังนี้ : นั่นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) อุจเฉทะ (ทิฏฐิที่ถือว่าขาดสูญ). กัสสะปะ ! ตถาคต ย่อม แสดงธรรมโดยสายกลาง ไม่เข้าไปหาส่วนสุดทั้งสองนั้น คือ ตถาคตย่อมแสดงดังนี้ว่า “เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย ; เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ; ....ฯลฯ....ฯลฯ....ฯลฯ.... เพราะมีชาติเป็นปัจจัย, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือแห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว, จึงมีความดับแห่งสังขาร; เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ;.... ฯลฯ.... ฯลฯ....ฯลฯ....เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล, ชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.” ดังนี้.
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงศึกษาว่าทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต
    สัทธรรมลำดับที่ : 225
    ชื่อบทธรรม :- ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=225
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต(ไม่มีบุคคลผู้ทุกข์)
    --กัสสปะ ! เมื่อบุคคลมีความสำคัญมั่นหมายมาแต่ต้น ว่า
    “ผู้นั้นกระทำผู้นั้นเสวย (ผล)” ดังนี้​ เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า
    “ความทุกข์เป็นสิ่งที่บุคคลกระทำเอง” ดังนี้
    : นั้นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) สัสสตะ (ทิฏฐิที่ถือว่าเที่ยง).
    http://etipitaka.com/read/pali/16/24/?keywords=สสฺสต

    --กัสสปะ ! เมื่อบุคคลถูกเวทนากระทบให้มีความสำคัญมั่นหมายว่า
    “ผู้อื่นกระทำ ผู้อื่นเสวย (ผล)” ดังนี้เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า
    “ความทุกข์ เป็นสิ่งที่บุคคลอื่นกระทำให้” ดังนี้
    : นั่นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) อุจเฉทะ (ทิฏฐิที่ถือว่าขาดสูญ).
    http://etipitaka.com/read/pali/16/25/?keywords=อุจฺเฉทํ

    --กัสสะปะ ! ตถาคต ย่อม แสดงธรรมโดยสายกลาง
    ไม่เข้าไปหาส่วนสุดทั้งสองนั้น คือ ตถาคตย่อมแสดงดังนี้ว่า
    “เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย ;
    เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ;
    ....ฯลฯ....ฯลฯ....ฯลฯ....
    เพราะมีชาติเป็นปัจจัย,
    ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน
    : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.
    เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือแห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว,
    จึงมีความดับแห่งสังขาร; เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ;
    .... ฯลฯ.... ฯลฯ....ฯลฯ....
    เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล,
    ชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น
    : #ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.”
    http://etipitaka.com/read/pali/16/25/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+นิโรโธ
    ดังนี้.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/18/50.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/18/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒๔/๕๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/24/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=225
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15&id=225
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15
    ลำดับสาธยายธรรม : 15 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_15.mp3
    อริยสาวกพึงศึกษาว่าทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต สัทธรรมลำดับที่ : 225 ชื่อบทธรรม :- ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=225 เนื้อความทั้งหมด :- --ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต(ไม่มีบุคคลผู้ทุกข์) --กัสสปะ ! เมื่อบุคคลมีความสำคัญมั่นหมายมาแต่ต้น ว่า “ผู้นั้นกระทำผู้นั้นเสวย (ผล)” ดังนี้​ เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า “ความทุกข์เป็นสิ่งที่บุคคลกระทำเอง” ดังนี้ : นั้นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) สัสสตะ (ทิฏฐิที่ถือว่าเที่ยง). http://etipitaka.com/read/pali/16/24/?keywords=สสฺสต --กัสสปะ ! เมื่อบุคคลถูกเวทนากระทบให้มีความสำคัญมั่นหมายว่า “ผู้อื่นกระทำ ผู้อื่นเสวย (ผล)” ดังนี้เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า “ความทุกข์ เป็นสิ่งที่บุคคลอื่นกระทำให้” ดังนี้ : นั่นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) อุจเฉทะ (ทิฏฐิที่ถือว่าขาดสูญ). http://etipitaka.com/read/pali/16/25/?keywords=อุจฺเฉทํ --กัสสะปะ ! ตถาคต ย่อม แสดงธรรมโดยสายกลาง ไม่เข้าไปหาส่วนสุดทั้งสองนั้น คือ ตถาคตย่อมแสดงดังนี้ว่า “เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย ; เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ; ....ฯลฯ....ฯลฯ....ฯลฯ.... เพราะมีชาติเป็นปัจจัย, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือแห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว, จึงมีความดับแห่งสังขาร; เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ; .... ฯลฯ.... ฯลฯ....ฯลฯ.... เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล, ชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : #ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.” http://etipitaka.com/read/pali/16/25/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+นิโรโธ ดังนี้.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/18/50. http://etipitaka.com/read/thai/16/18/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒๔/๕๐. http://etipitaka.com/read/pali/16/24/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=225 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15&id=225 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=15 ลำดับสาธยายธรรม : 15 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_15.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต
    -ทุกข์คือกระแสการปรุงแต่งทางจิต (ไม่มีบุคคลผู้ทุกข์) กัสสปะ ! เมื่อบุคคลมีความสำคัญมั่นหมายมาแต่ต้น ว่า “ผู้นั้นกระทำผู้นั้นเสวย (ผล)” ดังนี้เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า “ความทุกข์เป็นสิ่งที่บุคคลกระทำเอง” ดังนี้ : นั้นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) สัสสตะ (ทิฏฐิที่ถือว่าเที่ยง). กัสสปะ ! เมื่อบุคคลถูกเวทนากระทบให้มีความสำคัญมั่นหมายว่า “ผู้อื่นกระทำ ผู้อื่นเสวย (ผล)” ดังนี้เสียแล้ว เขามีวาทะ (คือลัทธิยืนยันอยู่) ว่า “ความทุกข์ เป็นสิ่งที่บุคคลอื่นกระทำให้” ดังนี้ : นั่นย่อมแล่นไปสู่ (คลองแห่ง) อุจเฉทะ (ทิฏฐิที่ถือว่าขาดสูญ). กัสสะปะ ! ตถาคต ย่อม แสดงธรรมโดยสายกลาง ไม่เข้าไปหาส่วนสุดทั้งสองนั้น คือ ตถาคตย่อมแสดงดังนี้ว่า “เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขารทั้งหลาย ; เพราะมีสังขารเป็นปัจจัย จึงมีวิญญาณ ; ....ฯลฯ....ฯลฯ....ฯลฯ.... เพราะมีชาติเป็นปัจจัย, ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงเกิดขึ้นครบถ้วน : ความเกิดขึ้นพร้อมแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้. เพราะความจางคลายดับไปโดยไม่เหลือแห่งอวิชชานั้นนั่นเทียว, จึงมีความดับแห่งสังขาร; เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ;.... ฯลฯ.... ฯลฯ....ฯลฯ....เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล, ชรามรณะโสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้.” ดังนี้.
    0 Comments 0 Shares 30 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าลักษณะของความดับแห่งทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 619
    ชื่อบทธรรม :- ลักษณะของความดับแห่งทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=619
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ลักษณะของความดับแห่งทุกข์
    --ผัคคุนะ ! เพราะความจางคลายดับไปไม่เหลือแห่งผัสสายตนะทั้งหลายหกประการ
    (สฬายตนะ)​นั้นนั่นแหละ จึงมีความดับแห่งผัสสะ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/16/17/?keywords=ผสฺสายตนานํ
    เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา ;
    เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ;
    เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ;
    เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ;
    เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ;
    เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น
    : #ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้แล.-
    http://etipitaka.com/read/pali/16/17/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+นิโรโธ

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/12/37.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/12/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๑๗/๓๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/17/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=619
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=619
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42
    ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าลักษณะของความดับแห่งทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 619 ชื่อบทธรรม :- ลักษณะของความดับแห่งทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=619 เนื้อความทั้งหมด :- --ลักษณะของความดับแห่งทุกข์ --ผัคคุนะ ! เพราะความจางคลายดับไปไม่เหลือแห่งผัสสายตนะทั้งหลายหกประการ (สฬายตนะ)​นั้นนั่นแหละ จึงมีความดับแห่งผัสสะ ; http://etipitaka.com/read/pali/16/17/?keywords=ผสฺสายตนานํ เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา ; เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ; เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : #ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้แล.- http://etipitaka.com/read/pali/16/17/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+นิโรโธ #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/12/37. http://etipitaka.com/read/thai/16/12/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๑๗/๓๗. http://etipitaka.com/read/pali/16/17/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%97 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=619 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=619 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42 ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ลักษณะของความดับแห่งทุกข์
    -ลักษณะของความดับแห่งทุกข์ ผัคคุนะ ! เพราะความจางคลายดับไปไม่เหลือแห่งผัสสายตนะทั้งหลายหกประการนั้นนั่นแหละ จึงมีความดับแห่งผัสสะ ; เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา ; เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ; เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะ โทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมี ด้วยอาการอย่างนี้แล.
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อัฏฐังคิกมรรคช่วยระงับทั้งภัยที่แม่ลูกก็ช่วยกันไม่ได้
    สัทธรรมลำดับที่ : 987
    ชื่อบทธรรม :- อัฏฐังคิกมรรคช่วยระงับภัยที่แม่ลูกก็ช่วยกันไม่ได้
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=987
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อัฏฐังคิกมรรคช่วยระงับภัยที่แม่ลูกก็ช่วยกันไม่ได้
    --ภิกษุ ท. ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ
    ย่อมกล่าวภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ (อมาตาปุตฺติกภย) ว่ามีอยู่ ๓ อย่าง.
    สามอย่างคือ มีสมัยที่ไฟไหม้ใหญ่ตั้งขึ้น ไหม้หมู่บ้าน ไหม้นิคม ไหม้นคร.
    ในสมัยนั้น มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้),
    บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้).
    +--ภิกษุ ท. ! บุถุชนไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้ว่าเป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่หนึ่ง.
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก คือมีสมัยที่มหาเมฆตั้งขึ้น เกิดน้ำท่วมใหญ่ พัดพาไปทั้งหมู่บ้าน ทั้งนิคม ทั้งนคร.
    ในสมัยนั้น มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้),
    บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้).
    +--ภิกษุ ท. ! บุถุชนไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้ว่าเป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่สอง.
    --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก คือมีสมัยที่มีภัยคือการกำเริบ (กบฏ) มาจากป่า ประชาชนขึ้นยานมีล้อ หนีกระจัดกระจายไป.
    เมื่อภัยอย่างนี้เกิดขึ้น สมัยนั้น มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้),
    บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้).
    +--ภิกษุ ท. ! บุถุชนไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้ว่า เป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่สาม.
    --ภิกษุ ท. ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมกล่าวภัยที่มารดาและบุตร ช่วยกันไม่ได้ ว่ามีอยู่ ๓ อย่าง เหล่านี้.

    --ภิกษุ ท. ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ
    กล่าวสมาตาปุตติกภัย (ภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันได้) แท้ๆ ๓ อย่างนี้
    ว่าเป็น อมาตาปุตติกภัย (ภัยที่มาดาและบุตรช่วยกันไม่ได้) ไปเสีย.
    --ภิกษุ ท. ! ภัย ๓ อย่าง ที่มารดาและบุตรช่วยกันได้นั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
    สามอย่าง คือ
    สมัยที่ไฟไหม้ใหญ่ เป็นอย่างหนึ่ง,
    สมัยที่น้ำท่วมใหญ่ เป็นอย่างที่สอง,
    สมัยที่หนีโจรขบถ เป็นอย่างที่สาม;
    เหล่านี้บางคราวมารดาและบุตรก็ช่วยกันและกันได้
    แต่บุถุชนผู้ไม่มีการสดับมากล่าว ว่าเป็นภัยที่มารดาและบุตรก็ช่วยกันไม่ได้ไปเสียทั้งหมด.

    --ภิกษุ ท. ! ภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ (โดยแท้จริง) ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่.
    สามอย่าง คือ
    ภัยเกิดจากความแก่ (ชราภยํ),
    ภัยเกิดจากความเจ็บไข้ (พฺยาธิภยํ),
    ภัยเกิดจากความตาย (มรณภยํ).

    --ภิกษุ ท. ! มารดาไม่ได้ตามปรารถนากะบุตรผู้แก่อยู่ อย่างนี้ว่า
    เราแก่เองเถิด บุตรของเราอย่าแก่เลย ;
    หรือบุตรก็ไม่ได้ตามปรารถนากะมารดาผู้แก่อยู่ อย่างนี้ว่า
    เราแก่เองเถิด มารดาอย่าแก่เลย ดังนี้.
    มารดาก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า เราเจ็บไข้เองเถิด บุตรของเราอย่าเจ็บไข้เลย ;
    หรือบุตรก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่าเราเจ็บไข้เองเถิด มารดาของเราอย่าเจ็บไข้เลย
    ดังนี้.
    มารดาก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า เราตายเองเถิด บุตรของเราอย่าตายเลย ;
    หรือบุตรก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า เราตายเองเถิด มารดาของเราอย่าตายเลย
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แลเป็นภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ ๓ อย่าง.

    --ภิกษุ ท. ! หนทางมีอยู่ ปฏิปทามีอยู่ ย่อมเป็นไปเพื่อเลิกละ ก้าวล่วงเสีย
    ซึ่งภัยทั้งที่เป็น #สมาตาปุตติกภัย และ #อมาตาปุตติกภัย อย่างละสามๆ เหล่านั้น.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/231/?keywords=อมาตาปุตฺติกานํ

    --ภิกษุ ท. ! หนทางหรือปฏิปทานั้น เป็นอย่างไรเล่า ? นั่นคือ
    #อริยอัฏฐังคิกมรรคนั่นเอง ได้แก่
    สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
    สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
    สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ.
    --ภิกษุ ท. ! นี้แหละหนทาง นี้แหละปฏิปทา เป็นไปเพื่อเลิกละ ก้าวล่วงเสียซึ่งภัย
    ทั้งที่เป็น สมาตาปุตติกภัยและอมาตาปุตติกภัยอย่างละสามๆ เหล่านั้น.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. 20/170-173/502.
    http://etipitaka.com/read/thai/20/170/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. ๒๐/๒๒๘-๒๓๑/๕๐๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/228/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%92
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=987
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84&id=987
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84
    ลำดับสาธยายธรรม : 84 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_84.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อัฏฐังคิกมรรคช่วยระงับทั้งภัยที่แม่ลูกก็ช่วยกันไม่ได้ สัทธรรมลำดับที่ : 987 ชื่อบทธรรม :- อัฏฐังคิกมรรคช่วยระงับภัยที่แม่ลูกก็ช่วยกันไม่ได้ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=987 เนื้อความทั้งหมด :- --อัฏฐังคิกมรรคช่วยระงับภัยที่แม่ลูกก็ช่วยกันไม่ได้ --ภิกษุ ท. ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมกล่าวภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ (อมาตาปุตฺติกภย) ว่ามีอยู่ ๓ อย่าง. สามอย่างคือ มีสมัยที่ไฟไหม้ใหญ่ตั้งขึ้น ไหม้หมู่บ้าน ไหม้นิคม ไหม้นคร. ในสมัยนั้น มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้), บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้). +--ภิกษุ ท. ! บุถุชนไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้ว่าเป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่หนึ่ง. --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก คือมีสมัยที่มหาเมฆตั้งขึ้น เกิดน้ำท่วมใหญ่ พัดพาไปทั้งหมู่บ้าน ทั้งนิคม ทั้งนคร. ในสมัยนั้น มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้), บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้). +--ภิกษุ ท. ! บุถุชนไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้ว่าเป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่สอง. --ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก คือมีสมัยที่มีภัยคือการกำเริบ (กบฏ) มาจากป่า ประชาชนขึ้นยานมีล้อ หนีกระจัดกระจายไป. เมื่อภัยอย่างนี้เกิดขึ้น สมัยนั้น มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้), บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้). +--ภิกษุ ท. ! บุถุชนไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้ว่า เป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่สาม. --ภิกษุ ท. ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมกล่าวภัยที่มารดาและบุตร ช่วยกันไม่ได้ ว่ามีอยู่ ๓ อย่าง เหล่านี้. --ภิกษุ ท. ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ กล่าวสมาตาปุตติกภัย (ภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันได้) แท้ๆ ๓ อย่างนี้ ว่าเป็น อมาตาปุตติกภัย (ภัยที่มาดาและบุตรช่วยกันไม่ได้) ไปเสีย. --ภิกษุ ท. ! ภัย ๓ อย่าง ที่มารดาและบุตรช่วยกันได้นั้น เป็นอย่างไรเล่า ? สามอย่าง คือ สมัยที่ไฟไหม้ใหญ่ เป็นอย่างหนึ่ง, สมัยที่น้ำท่วมใหญ่ เป็นอย่างที่สอง, สมัยที่หนีโจรขบถ เป็นอย่างที่สาม; เหล่านี้บางคราวมารดาและบุตรก็ช่วยกันและกันได้ แต่บุถุชนผู้ไม่มีการสดับมากล่าว ว่าเป็นภัยที่มารดาและบุตรก็ช่วยกันไม่ได้ไปเสียทั้งหมด. --ภิกษุ ท. ! ภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ (โดยแท้จริง) ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง คือ ภัยเกิดจากความแก่ (ชราภยํ), ภัยเกิดจากความเจ็บไข้ (พฺยาธิภยํ), ภัยเกิดจากความตาย (มรณภยํ). --ภิกษุ ท. ! มารดาไม่ได้ตามปรารถนากะบุตรผู้แก่อยู่ อย่างนี้ว่า เราแก่เองเถิด บุตรของเราอย่าแก่เลย ; หรือบุตรก็ไม่ได้ตามปรารถนากะมารดาผู้แก่อยู่ อย่างนี้ว่า เราแก่เองเถิด มารดาอย่าแก่เลย ดังนี้. มารดาก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า เราเจ็บไข้เองเถิด บุตรของเราอย่าเจ็บไข้เลย ; หรือบุตรก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่าเราเจ็บไข้เองเถิด มารดาของเราอย่าเจ็บไข้เลย ดังนี้. มารดาก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า เราตายเองเถิด บุตรของเราอย่าตายเลย ; หรือบุตรก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า เราตายเองเถิด มารดาของเราอย่าตายเลย ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แลเป็นภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ ๓ อย่าง. --ภิกษุ ท. ! หนทางมีอยู่ ปฏิปทามีอยู่ ย่อมเป็นไปเพื่อเลิกละ ก้าวล่วงเสีย ซึ่งภัยทั้งที่เป็น #สมาตาปุตติกภัย และ #อมาตาปุตติกภัย อย่างละสามๆ เหล่านั้น. http://etipitaka.com/read/pali/20/231/?keywords=อมาตาปุตฺติกานํ --ภิกษุ ท. ! หนทางหรือปฏิปทานั้น เป็นอย่างไรเล่า ? นั่นคือ #อริยอัฏฐังคิกมรรคนั่นเอง ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. --ภิกษุ ท. ! นี้แหละหนทาง นี้แหละปฏิปทา เป็นไปเพื่อเลิกละ ก้าวล่วงเสียซึ่งภัย ทั้งที่เป็น สมาตาปุตติกภัยและอมาตาปุตติกภัยอย่างละสามๆ เหล่านั้น.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. 20/170-173/502. http://etipitaka.com/read/thai/20/170/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. ๒๐/๒๒๘-๒๓๑/๕๐๒. http://etipitaka.com/read/pali/20/228/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%90%E0%B9%92 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=987 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84&id=987 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84 ลำดับสาธยายธรรม : 84 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_84.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อัฏฐังคิกมรรคช่วยระงับภัยที่แม่ลูกก็ช่วยกันไม่ได้
    -(ข้อความทั้งหมดนี้ ในบาลีประสงค์จะให้แยกเป็นสูตรๆ เป็นเรื่องๆ ตามความแตกต่าง แห่งกิริยาอาการ เช่นการรู้ยิ่ง ก็สูตรหนึ่ง; และแยกตามชื่อของกิเลสที่ต้องละ กิเลส ชื่อหนึ่ง ก็สูตรหนึ่ง เช่นรู้ยิ่งซึ่งราคะเป็นต้น ก็สูตรหนึ่ง; รวมกันเป็น ๑๗๐ สูตร คือมีกิริยาอาการสิบ มีชื่อกิเลสที่ต้องละสิบเจ็ดชื่อ คูณกันเข้าเป็น ๑๗๐ ในที่นี้นำมาทำเป็นสูตรเดียว เพื่อง่ายแก่การศึกษาและประหยัดเวลา). อัฏฐังคิกมรรคช่วยระงับภัยที่แม่ลูกก็ช่วยกันไม่ได้ ภิกษุ ท. ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมกล่าวภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ (อมาตาปุตฺติกภย) ว่ามีอยู่ ๓ อย่าง. สามอย่างคือ มีสมัยที่ไฟไหม้ใหญ่ตั้งขึ้น ไหม้หมู่บ้าน ไหม้นิคม ไหม้นคร. ในสมัยนั้น มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้), บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้). ภิกษุ ท. ! บุถุชนไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้ว่าเป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่หนึ่ง. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก คือมีสมัยที่มหาเมฆตั้งขึ้น เกิดน้ำท่วมใหญ่ พัดพาไปทั้งหมู่บ้าน ทั้งนิคม ทั้งนคร. ในสมัยนั้น มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้), บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้). ภิกษุ ท. ! บุถุชนไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้ว่าเป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่สอง. ภิกษุ ท. ! ข้ออื่นยังมีอีก คือมีสมัยที่มีภัยคือการกำเริบ (กบฏ) มาจากป่า ประชาชนขึ้นยานมีล้อ หนีกระจัดกระจายไป. เมื่อภัยอย่างนี้เกิดขึ้น สมัยนั้น มารดาไม่ได้บุตร (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้), บุตรก็ไม่ได้มารดา (เป็นผู้ช่วยเหลืออะไรได้). ภิกษุ ท. ! บุถุชนไม่มีการสดับ ย่อมเรียกภัยนี้ว่า เป็นอมาตาปุตติกภัย อย่างที่สาม. ภิกษุ ท. ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ย่อมกล่าวภัยที่มารดาและบุตร ช่วยกันไม่ได้ ว่ามีอยู่ ๓ อย่าง เหล่านี้. ภิกษุ ท. ! บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ กล่าวสมาตาปุตติกภัย (ภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันได้) แท้ๆ ๓ อย่างนี้ ว่าเป็น อมาตาปุตติกภัย (ภัยที่มาดาและบุตรช่วยกันไม่ได้) ไปเสีย. ภิกษุ ท. ! ภัย ๓ อย่าง ที่มารดาและบุตรช่วยกันได้นั้น เป็นอย่างไรเล่า ? สามอย่าง คือ สมัยที่ไฟไหม้ใหญ่ เป็นอย่างหนึ่ง, สมัยที่น้ำท่วมใหญ่ เป็นอย่างที่สอง, สมัยที่หนีโจรขบถ เป็นอย่างที่สาม; เหล่านี้บางคราวมารดาและบุตรก็ช่วยกันและกันได้ แต่บุถุชนผู้ไม่มีการสดับมากล่าว ว่าเป็นภัยที่มารดาและบุตรก็ช่วยกันไม่ได้ไปเสียทั้งหมด. ภิกษุ ท. ! ภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ (โดยแท้จริง) ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง คือ ภัยเกิดจากความแก่ (ชราภยํ), ภัยเกิดจากความเจ็บไข้ (พฺยาธิภยํ), ภัยเกิดจากความตาย (มรณภยํ). ภิกษุ ท. ! มารดาไม่ได้ตามปรารถนากะบุตรผู้แก่อยู่ อย่างนี้ว่า เราแก่เองเถิด บุตรของเราอย่าแก่เลย ; หรือบุตรก็ไม่ได้ตามปรารถนากะมารดาผู้แก่อยู่ อย่างนี้ว่า เราแก่เองเถิด มารดาอย่าแก่เลย ดังนี้. มารดาก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า เราเจ็บไข้เองเถิด บุตรของเราอย่าเจ็บไข้เลย ; หรือบุตรก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่าเราเจ็บไข้เองเถิด มารดาของเราอย่าเจ็บไข้เลย ดังนี้. มารดาก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า เราตายเองเถิด บุตรของเราอย่าตายเลย ; หรือบุตรก็ไม่ได้ตามปรารถนาว่า เราตายเองเถิด มารดาของเราอย่าตายเลย ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แลเป็นภัยที่มารดาและบุตรช่วยกันไม่ได้ ๓ อย่าง. ภิกษุ ท. ! หนทางมีอยู่ ปฏิปทามีอยู่ ย่อมเป็นไปเพื่อเลิกละ ก้าวล่วงเสีย ซึ่งภัยทั้งที่เป็นสมาตาปุตติกภัยและอมาตาปุตติกภัยอย่างละสามๆ เหล่านั้น. ภิกษุ ท. ! หนทางหรือปฏิปทานั้น เป็นอย่างไรเล่า ? นั่นคือ อริยอัฏฐังคิกมรรคนั่นเอง ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ. ภิกษุ ท. ! นี้แหละหนทาง นี้แหละปฏิปทา เป็นไปเพื่อเลิกละ ก้าวล่วงเสีย ซึ่งภัยทั้งที่เป็น สมาตาปุตติกภัยและอมาตาปุตติกภัยอย่างละสามๆ เหล่านั้น.
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 9 Views 0 Reviews
  • สายลม...ไม่ได้หายไป...
    Cr.Wiwan Boonya
    สายลม...ไม่ได้หายไป... Cr.Wiwan Boonya
    0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • คติธรรมจากวันวิสาขบูชา อาทิตย์ที่ ๑๑ พฤษภาคม พ. ศ ๒๕๖๘ 🪷 ว.วชิรเมธี . ฝึกเจริญสติให้เป็นนิสัย
    คติธรรมจากวันวิสาขบูชา อาทิตย์ที่ ๑๑ พฤษภาคม พ. ศ ๒๕๖๘ 🪷 ว.วชิรเมธี . ฝึกเจริญสติให้เป็นนิสัย
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 0 Reviews
  • Good morning Sunday ❤️😊
    Hope you have a great weekend 👍💯😊
    Good morning Sunday ❤️😊 Hope you have a great weekend 👍💯😊
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/azYQxy4OssA?si=BFykjOVJ1fLv7W2K
    https://youtu.be/azYQxy4OssA?si=BFykjOVJ1fLv7W2K
    0 Comments 0 Shares 12 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/gEp5tstMLAY?si=gNh1gYCFtnSqa-6b
    https://youtu.be/gEp5tstMLAY?si=gNh1gYCFtnSqa-6b
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • “จะร้ายกลับ หรือจะเริ่มปลอดภัย?”

    โลกนี้เต็มไปด้วยคนครึ่งดีครึ่งร้าย
    แม้โจรโฉด ยังมีมุมนุ่มละมุนให้ลูกเมีย
    แม้ผู้ก่อการร้าย ยังอ่อนโยนกับเพื่อนพวกพ้อง

    หากคุณเห็นแต่ด้านร้ายของผู้คน
    ใจคุณจะค่อยๆ เปลี่ยนแนวคิดเป็นว่า

    > “ถ้าไม่เป็นเสือ ก็จะกลายเป็นเหยื่อ!”
    และเมื่อโดนใครขย้ำ ก็อยากขย้ำกลับ
    บางทียังเผลอขย้ำคนอื่นต่อด้วย

    ---

    ความดี…ไม่ใช่หลักประกันว่าจะไม่โดนร้าย

    แม้คุณดีเท่าพระพุทธเจ้า
    ก็ยังมีพระเทวทัตตามจองเวร
    แม้คุณมีเมตตาเต็มเปี่ยม
    ก็ยังเจอนางจิญจมาณวิกาปรักปรำให้แหลก

    เพราะแม้ท่านผู้ตื่นแล้ว
    ยังต้องใช้กรรมจากชาติปางก่อน
    ซึ่งในชาติที่หลงผิด…ท่านก็เคยฆ่า เคยแย่ง เคยลบหลู่ เช่นเดียวกับเราที่ย่อมเคยพลาดในภพเก่าไม่ต่างกัน

    ---

    **ชาติที่ดีที่สุด…ไม่ใช่ชาติที่ไม่มีคนเลว

    แต่คือชาติที่เราไม่เลวตาม**

    หากเข้าใจว่า

    > “ทุกการร้ายที่เจอ คือภาพสะท้อนของกรรมเก่า”
    ใจจะไม่สะดุ้งจนเกินไป
    ไม่โกรธจนเสียศักดิ์ศรีทางจิต

    แต่จะเปลี่ยนจาก “ผู้รับภัย”
    เป็น “ผู้สร้างเขตปลอดภัย” แห่งแรกของโลก
    เริ่มจาก...

    – การรักษาศีล เพื่อจำกัดอันตรายจากตัวเอง
    – การให้ทาน เพื่อบรรเทาทุกข์ และคลายแรงจูงใจที่ชักให้คนทำชั่ว

    ---

    **ใจที่รักษาศีลและให้ทานอยู่เป็นนิตย์

    จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยแห่งแรกให้โลกได้พัก**

    คุณจะรู้สึกว่าชีวิตตัวเองยังมีค่า
    เพราะเห็นชัดว่าความดีที่ทำ…ให้ผลได้จริง
    แม้โลกยังมีเรื่องร้ายรอบตัว
    แต่ใจจะไม่ระแวงจนกลายเป็นภัยเสียเอง

    ---

    > ถ้าคุณเจอความร้ายของใครบางคน
    จงเชื่อมั่นว่า คุณเลือกได้
    ว่าจะ “ร้ายกลับ” หรือ “เริ่มปลอดภัย”
    และทางที่ปลอดภัยที่สุดในโลก
    เริ่มจากใจที่ “ไม่เอาคืน” นั่นเอง
    “จะร้ายกลับ หรือจะเริ่มปลอดภัย?” โลกนี้เต็มไปด้วยคนครึ่งดีครึ่งร้าย แม้โจรโฉด ยังมีมุมนุ่มละมุนให้ลูกเมีย แม้ผู้ก่อการร้าย ยังอ่อนโยนกับเพื่อนพวกพ้อง หากคุณเห็นแต่ด้านร้ายของผู้คน ใจคุณจะค่อยๆ เปลี่ยนแนวคิดเป็นว่า > “ถ้าไม่เป็นเสือ ก็จะกลายเป็นเหยื่อ!” และเมื่อโดนใครขย้ำ ก็อยากขย้ำกลับ บางทียังเผลอขย้ำคนอื่นต่อด้วย --- ความดี…ไม่ใช่หลักประกันว่าจะไม่โดนร้าย แม้คุณดีเท่าพระพุทธเจ้า ก็ยังมีพระเทวทัตตามจองเวร แม้คุณมีเมตตาเต็มเปี่ยม ก็ยังเจอนางจิญจมาณวิกาปรักปรำให้แหลก เพราะแม้ท่านผู้ตื่นแล้ว ยังต้องใช้กรรมจากชาติปางก่อน ซึ่งในชาติที่หลงผิด…ท่านก็เคยฆ่า เคยแย่ง เคยลบหลู่ เช่นเดียวกับเราที่ย่อมเคยพลาดในภพเก่าไม่ต่างกัน --- **ชาติที่ดีที่สุด…ไม่ใช่ชาติที่ไม่มีคนเลว แต่คือชาติที่เราไม่เลวตาม** หากเข้าใจว่า > “ทุกการร้ายที่เจอ คือภาพสะท้อนของกรรมเก่า” ใจจะไม่สะดุ้งจนเกินไป ไม่โกรธจนเสียศักดิ์ศรีทางจิต แต่จะเปลี่ยนจาก “ผู้รับภัย” เป็น “ผู้สร้างเขตปลอดภัย” แห่งแรกของโลก เริ่มจาก... – การรักษาศีล เพื่อจำกัดอันตรายจากตัวเอง – การให้ทาน เพื่อบรรเทาทุกข์ และคลายแรงจูงใจที่ชักให้คนทำชั่ว --- **ใจที่รักษาศีลและให้ทานอยู่เป็นนิตย์ จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยแห่งแรกให้โลกได้พัก** คุณจะรู้สึกว่าชีวิตตัวเองยังมีค่า เพราะเห็นชัดว่าความดีที่ทำ…ให้ผลได้จริง แม้โลกยังมีเรื่องร้ายรอบตัว แต่ใจจะไม่ระแวงจนกลายเป็นภัยเสียเอง --- > ถ้าคุณเจอความร้ายของใครบางคน จงเชื่อมั่นว่า คุณเลือกได้ ว่าจะ “ร้ายกลับ” หรือ “เริ่มปลอดภัย” และทางที่ปลอดภัยที่สุดในโลก เริ่มจากใจที่ “ไม่เอาคืน” นั่นเอง
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • https://youtu.be/61WMsRJXloI?si=Cy81Mo4SdR6uK75r
    https://youtu.be/61WMsRJXloI?si=Cy81Mo4SdR6uK75r
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/live/1WmpP6PYrpQ?si=wTCc3f03gKKaYu-6
    https://www.youtube.com/live/1WmpP6PYrpQ?si=wTCc3f03gKKaYu-6
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • FENGSHUI DAILY
    อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว
    สีเสริมดวง เสริมความเฮง
    ทิศมงคล เวลามงคล
    อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่
    วันจันทร์ที่ 12 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2568
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    FENGSHUI DAILY อัพเดตทุกวัน ที่นี่ที่เดียว สีเสริมดวง เสริมความเฮง ทิศมงคล เวลามงคล อย่าลืมดูกัน เมื่อเริ่มวันใหม่ วันจันทร์ที่ 12 เดือนพฤษภาคม พ.ศ.2568 ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 Reviews
  • แนวคิดทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกันใช้กับการลงทุนได้อย่างไร ?
    แนวคิดทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกันใช้กับการลงทุนได้อย่างไร ?
    0 Comments 0 Shares 7 Views 0 0 Reviews
  • https://youtu.be/ertzHlB-YS0?si=twu42Jw-reaXxwxZ
    https://youtu.be/ertzHlB-YS0?si=twu42Jw-reaXxwxZ
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • “Brake” vs. “Break”: Halt Everything And Learn The Difference

    Let’s hit the brakes and take a quick break to break down the difference between brake and break. We’ll answer all your questions, including:

    - Did we just use all of those words correctly?
    - What’s the difference between break and brake?
    - Is it break down or brake down?
    - Is it a break pedal or a brake pedal?

    In this article, we’ll cover multiple meanings of these two words, including their most common uses as both verbs and nouns as well as their use in several common phrases.

    Quick summary

    The verb break is the one used in the context of something being broken or divided into pieces or fragments. It’s also commonly used to refer to a rest period, which is the sense used in the phrase take a break. The noun brake is the one that refers to the device used to slow down vehicles like cars (in which it’s called the brake pedal) and bikes. As a verb, it means to use a brake to slow down or stop.

    break vs. brake

    The word break has many, many different meanings as both a noun and a verb. As a verb, break commonly means “to become or cause to be broken” (as in Please don’t break that lamp) or “to become or cause to be divided into pieces or fragments” (as in I’ll break it into two pieces so you can each have one).

    Break is an irregular verb: the past tense is broke and the past participle is broken. The continuous form is breaking.

    As a noun, break can refer to an instance of something being broken (as in Luckily it was a clean break) or the spot at which it has been broken (as in You can see the break in the glass right there). It also commonly refers to a pause from working or exertion (as in It’s almost time for a break). It has many other meanings, including the ones used in expressions like Make a break for it! and This is your big break!

    The word brake can also be used as a noun or a verb, but both usually relate to the same thing: slowing down or stopping a vehicle or a machine. The noun brake refers to the device that’s used to do this. In cars, this is sometimes called the brake pedal. In this sense, brake is often used in the plural, as in Hit the brakes! As a verb, brake most often means to slow or stop something using brakes, as in You should brake when you’re going down the hill.

    The past tense and past participle of brake is braked and the continuous form is braking.

    Looking for more? Review all the verb tenses here.

    The word break is used in many different common phrases such as break down, break off, break up, break in, and break out (and related noun phrases like breakdown and outbreak). The word brake is often used in figurative expressions related to slowing down or stopping something, as in Let’s hit the brakes for a moment and think about this.

    While break and brake aren’t commonly used in the same contexts, things could possibly get confusing when dealing with mechanical failures, such as when a vehicle’s brakes happen to … break.

    Take a brake? Or break?

    The commonly used phrase meaning “to take a pause from doing something” is take a break. This idiomatic expression uses the sense of break meaning “a brief rest.” This same sense is used in common phrases such as lunch break, coffee break, and snack break.

    breaking vs. braking

    Breaking is the continuous form of all of the many different senses of the verb break, including both literal ones (as in I keep breaking dishes) and more figurative ones (as in They’re breaking the rules).

    Braking is the continuous form of brake, as in You should be braking when you round the curves or Engineers are trained to start braking the train well before it reaches the station.

    Examples of brake and break used in a sentence

    Let’s break things down by looking at different examples of how we use break and brake in a sentence.

    - I used the hammer carefully so that I wouldn’t break the window.
    - The water was rushing in through the break in the wall.
    - He managed to brake the truck just in time.
    - The mechanic fixed a small flaw in the roller coaster’s brakes.
    - She didn’t intend to break the rules—she just needed to take a break. So let’s hit the brakes on any punishment.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    “Brake” vs. “Break”: Halt Everything And Learn The Difference Let’s hit the brakes and take a quick break to break down the difference between brake and break. We’ll answer all your questions, including: - Did we just use all of those words correctly? - What’s the difference between break and brake? - Is it break down or brake down? - Is it a break pedal or a brake pedal? In this article, we’ll cover multiple meanings of these two words, including their most common uses as both verbs and nouns as well as their use in several common phrases. Quick summary The verb break is the one used in the context of something being broken or divided into pieces or fragments. It’s also commonly used to refer to a rest period, which is the sense used in the phrase take a break. The noun brake is the one that refers to the device used to slow down vehicles like cars (in which it’s called the brake pedal) and bikes. As a verb, it means to use a brake to slow down or stop. break vs. brake The word break has many, many different meanings as both a noun and a verb. As a verb, break commonly means “to become or cause to be broken” (as in Please don’t break that lamp) or “to become or cause to be divided into pieces or fragments” (as in I’ll break it into two pieces so you can each have one). Break is an irregular verb: the past tense is broke and the past participle is broken. The continuous form is breaking. As a noun, break can refer to an instance of something being broken (as in Luckily it was a clean break) or the spot at which it has been broken (as in You can see the break in the glass right there). It also commonly refers to a pause from working or exertion (as in It’s almost time for a break). It has many other meanings, including the ones used in expressions like Make a break for it! and This is your big break! The word brake can also be used as a noun or a verb, but both usually relate to the same thing: slowing down or stopping a vehicle or a machine. The noun brake refers to the device that’s used to do this. In cars, this is sometimes called the brake pedal. In this sense, brake is often used in the plural, as in Hit the brakes! As a verb, brake most often means to slow or stop something using brakes, as in You should brake when you’re going down the hill. The past tense and past participle of brake is braked and the continuous form is braking. Looking for more? Review all the verb tenses here. The word break is used in many different common phrases such as break down, break off, break up, break in, and break out (and related noun phrases like breakdown and outbreak). The word brake is often used in figurative expressions related to slowing down or stopping something, as in Let’s hit the brakes for a moment and think about this. While break and brake aren’t commonly used in the same contexts, things could possibly get confusing when dealing with mechanical failures, such as when a vehicle’s brakes happen to … break. Take a brake? Or break? The commonly used phrase meaning “to take a pause from doing something” is take a break. This idiomatic expression uses the sense of break meaning “a brief rest.” This same sense is used in common phrases such as lunch break, coffee break, and snack break. breaking vs. braking Breaking is the continuous form of all of the many different senses of the verb break, including both literal ones (as in I keep breaking dishes) and more figurative ones (as in They’re breaking the rules). Braking is the continuous form of brake, as in You should be braking when you round the curves or Engineers are trained to start braking the train well before it reaches the station. Examples of brake and break used in a sentence Let’s break things down by looking at different examples of how we use break and brake in a sentence. - I used the hammer carefully so that I wouldn’t break the window. - The water was rushing in through the break in the wall. - He managed to brake the truck just in time. - The mechanic fixed a small flaw in the roller coaster’s brakes. - She didn’t intend to break the rules—she just needed to take a break. So let’s hit the brakes on any punishment. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • 🙏วันนี้วันวิสาขบูชาถวายสังฆทาน ณ วัดหนองพิมาน ( 2 ชุด) อ.โคกสำโรง ลพบุรี ให้กับ✅ คุณพรภินันท์(อุ๊) เสรีมโนพัฒน์ Ca, USA. 🖤 เพื่ออุทิศให้
    บิดานายหยู เทพอารักษ์ 🖤
    👉 ข้าว ต้มเกี่ยมฉ่ายหมู 1 ชุด
    👉 น้ำดื่ม ดอกไม้ ธูปเทียน
    🙏 ขอเชิญกัลยาณมิตรทุกท่านโมทนาบุญร่วมกันนะครับ#padthaiinter#รับถวายสังฆทานออนไลน์
    🙏วันนี้วันวิสาขบูชาถวายสังฆทาน ณ วัดหนองพิมาน ( 2 ชุด) อ.โคกสำโรง ลพบุรี ให้กับ✅ คุณพรภินันท์(อุ๊) เสรีมโนพัฒน์ Ca, USA. 🖤 เพื่ออุทิศให้ บิดานายหยู เทพอารักษ์ 🖤 👉 ข้าว ต้มเกี่ยมฉ่ายหมู 1 ชุด 👉 น้ำดื่ม ดอกไม้ ธูปเทียน 🙏 ขอเชิญกัลยาณมิตรทุกท่านโมทนาบุญร่วมกันนะครับ#padthaiinter#รับถวายสังฆทานออนไลน์
    0 Comments 0 Shares 11 Views 0 0 Reviews
  • วลาดิมีร์ ปูตินปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิง 30 วันจากฝ่ายตะวันตก และเรียกร้องให้เริ่มการเจรจาโดยตรงอีกครั้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่อิสตันบูลในวันที่ 15 พฤษภาคมแทน

    ประเด็นที่น่าสนใจบางส่วนของแถลงการณ์:
    👉รัสเซียเสนอให้กลับมาเจรจาโดยตรงอีกครั้ง โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆระหว่างมีการเจรจา ในวันที่ 15 พฤษภาคม ที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี

    👉(สื่อรายงานว่า "การเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไข" หมายถึง แม้การเจรจาจะเกิดขึ้น แต่การสู้รบอาจดำเนินต่อไป ปูตินไม่ได้หมายถึงการยอมเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไขในการเจรจาแต่อย่างใด เนื่องจากที่ผ่านมายูเครนมักใช้โอกาสในการเจรจา โดยเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเพื่อเติมอาวุธ)

    👉รัสเซียพร้อมสำหรับการเจรจาอย่างจริงจังกับยูเครนเพื่อแก้ไขสาเหตุหลักของความขัดแย้ง

    👉รัสเซียไม่เคยปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการเจรจากับยูเครน

    👉การเจรจาอย่างจริงจังกับยูเครน คือการกำจัดสาเหตุหลักของความขัดแย้ง

    👉เงื่อนไขของรัสเซียอยู่บนโต๊ะแล้ว การตัดสินใจขึ้นอยู่กับเคียฟและเจ้านายพวกเขา

    👉ผู้ที่แสวงหาสันติภาพอย่างแท้จริงไม่ควรเพิกเฉยต่อข้อเสนอการเจรจาของรัสเซีย

    👉แม้ว่าที่ผ่านมารัสเซียได้เสนอข้อตกลงหยุดยิงหลายครั้ง แต่ทั้งหมดถูกละเมิดโดยระบอบเคียฟ

    👉แม้ในช่วงเวลาหยุดยิงที่ประกาศไว้เนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะ ยูเครนก็ยังเปิดฉากโจมตีดินแดนของรัสเซียเป็นวงกว้าง

    👉“ตั้งแต่วันที่ 8–10 พฤษภาคม ยูเครนละเมิดการหยุดยิงมากกว่า 5,000 ครั้ง โดยใช้โดรน 524 ลำ ขีปนาวุธจากฝ่ายตะวันตก และโดรนผิวน้ำไร้คนขับ 45 ลำ” ปูตินกล่าว

    👉ปูตินกล่าวว่า เขาจะหารือกับเออร์โดกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดการเจรจากับยูเครนในอิสตันบูล

    👉ปูตินไม่ลืมในการกล่าวขอบคุณรัฐบาลทรัมป์สำหรับความพยายามไกล่เกลี่ยในการแก้ไขความขัดแย้งในยูเครน

    👉ปูตินขอบคุณผู้บัญชาการเกาหลีเหนือ โดยกล่าวว่ากองกำลังของเปียงยางมีบทบาทสำคัญในการปลดปล่อยภูมิภาคเคิร์สก์


    วิดีโอแถลงการณ์ของปูติน ความยาว 18 นาที
    วลาดิมีร์ ปูตินปฏิเสธข้อเสนอหยุดยิง 30 วันจากฝ่ายตะวันตก และเรียกร้องให้เริ่มการเจรจาโดยตรงอีกครั้งระหว่างรัสเซียและยูเครนที่อิสตันบูลในวันที่ 15 พฤษภาคมแทน ประเด็นที่น่าสนใจบางส่วนของแถลงการณ์: 👉รัสเซียเสนอให้กลับมาเจรจาโดยตรงอีกครั้ง โดยไม่มีเงื่อนไขใดๆระหว่างมีการเจรจา ในวันที่ 15 พฤษภาคม ที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี 👉(สื่อรายงานว่า "การเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไข" หมายถึง แม้การเจรจาจะเกิดขึ้น แต่การสู้รบอาจดำเนินต่อไป ปูตินไม่ได้หมายถึงการยอมเจรจาโดยไม่มีเงื่อนไขในการเจรจาแต่อย่างใด เนื่องจากที่ผ่านมายูเครนมักใช้โอกาสในการเจรจา โดยเรียกร้องให้มีการหยุดยิงเพื่อเติมอาวุธ) 👉รัสเซียพร้อมสำหรับการเจรจาอย่างจริงจังกับยูเครนเพื่อแก้ไขสาเหตุหลักของความขัดแย้ง 👉รัสเซียไม่เคยปฏิเสธที่จะเข้าร่วมการเจรจากับยูเครน 👉การเจรจาอย่างจริงจังกับยูเครน คือการกำจัดสาเหตุหลักของความขัดแย้ง 👉เงื่อนไขของรัสเซียอยู่บนโต๊ะแล้ว การตัดสินใจขึ้นอยู่กับเคียฟและเจ้านายพวกเขา 👉ผู้ที่แสวงหาสันติภาพอย่างแท้จริงไม่ควรเพิกเฉยต่อข้อเสนอการเจรจาของรัสเซีย 👉แม้ว่าที่ผ่านมารัสเซียได้เสนอข้อตกลงหยุดยิงหลายครั้ง แต่ทั้งหมดถูกละเมิดโดยระบอบเคียฟ 👉แม้ในช่วงเวลาหยุดยิงที่ประกาศไว้เนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปีแห่งชัยชนะ ยูเครนก็ยังเปิดฉากโจมตีดินแดนของรัสเซียเป็นวงกว้าง 👉“ตั้งแต่วันที่ 8–10 พฤษภาคม ยูเครนละเมิดการหยุดยิงมากกว่า 5,000 ครั้ง โดยใช้โดรน 524 ลำ ขีปนาวุธจากฝ่ายตะวันตก และโดรนผิวน้ำไร้คนขับ 45 ลำ” ปูตินกล่าว 👉ปูตินกล่าวว่า เขาจะหารือกับเออร์โดกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดการเจรจากับยูเครนในอิสตันบูล 👉ปูตินไม่ลืมในการกล่าวขอบคุณรัฐบาลทรัมป์สำหรับความพยายามไกล่เกลี่ยในการแก้ไขความขัดแย้งในยูเครน 👉ปูตินขอบคุณผู้บัญชาการเกาหลีเหนือ โดยกล่าวว่ากองกำลังของเปียงยางมีบทบาทสำคัญในการปลดปล่อยภูมิภาคเคิร์สก์ วิดีโอแถลงการณ์ของปูติน ความยาว 18 นาที
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 24 Views 14 0 Reviews