• A weathered building stands as a testament to time
    A weathered building stands as a testament to time
    0 Comments 0 Shares 22 Views 0 Reviews
  • เปลี่ยนกระถางกันค่ะ🌵🪴
    เปลี่ยนกระถางกันค่ะ🌵🪴
    0 Comments 0 Shares 32 Views 0 0 Reviews
  • อาภัพ .ปราศจากโชค, เคราะห์ร้าย, วาสนาน้อย, ตกอับ, ลำเค็ญ.
    อาภัพก็สร้างมันขึ้นด้วยบุญกุศล สวดมนต์ ภาวนาไป ทาน ศิล ภาวนา ทานบริจาคไป
    อาภัพ .ปราศจากโชค, เคราะห์ร้าย, วาสนาน้อย, ตกอับ, ลำเค็ญ. อาภัพก็สร้างมันขึ้นด้วยบุญกุศล สวดมนต์ ภาวนาไป ทาน ศิล ภาวนา ทานบริจาคไป
    0 Comments 0 Shares 13 Views 0 Reviews
  • นี่คือถนนเทียนฟู่ (Tianfu Avenue) ในเมืองเฉิงตู (Chengdu) มณฆลเสฉวน (Sichuan) ประเทศจีน เป็นถนนหลักทางตรงที่ยาวที่สุด โดยมีความยาว 150 กิโลเมตร
    นี่คือถนนเทียนฟู่ (Tianfu Avenue) ในเมืองเฉิงตู (Chengdu) มณฆลเสฉวน (Sichuan) ประเทศจีน เป็นถนนหลักทางตรงที่ยาวที่สุด โดยมีความยาว 150 กิโลเมตร
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • ช่วงเวลาที่เซเลนสกีพบกับทรัมป์ในพิธีศพของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส ณ  จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ กรุงโรม

    ขณะที่นักการเมืองอิตาลีต่างพากันวิจารณ์การกระทำของทั้งสอง ที่ใช้พิธีศพของประมุขแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิกมาหารือทางการเมืองที่เป็นเรื่องของตนเอง
    ช่วงเวลาที่เซเลนสกีพบกับทรัมป์ในพิธีศพของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิส ณ  จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ กรุงโรม ขณะที่นักการเมืองอิตาลีต่างพากันวิจารณ์การกระทำของทั้งสอง ที่ใช้พิธีศพของประมุขแห่งศาสนจักรโรมันคาทอลิกมาหารือทางการเมืองที่เป็นเรื่องของตนเอง
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 93 Views 9 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 39 Views 0 0 Reviews
  • ดูเหมือนเซเลนสกีเดินทางไปอิตาลี โดยมีเป้าหมายเพียงเพื่อความต้องการของตนเอง มากกว่าการเข้าร่วมพิธีศพของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสอย่างจริงใจ

    เซเลนสกีโพสต์ข้อความลงโซเชียล หลังการพบกับมาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยเรียกร้องขอขีปนาวุธป้เองกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม:

    "เราได้หารือกันถึงแนวทางที่จะนำไปสู่การหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข และความจำเป็นในการกดดันรัสเซียเพื่อให้เกิดการหยุดยิงดังกล่าว

    ผมได้สรุปผลที่ตามมาของการโจมตีของรัสเซียที่ครีวีรีห์(Kryvyi Rih) ซูมี (Sumy) และเคียฟ เพื่อปกป้องชีวิตของชาวยูเครน มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างการป้องกันทางอากาศของเรา เราหวังพึ่งการสนับสนุนจากพันธมิตรของเรา

    ผมขอขอบคุณเอ็มมานูเอลสำหรับการสนับสนุนยูเครนอย่างมั่นคง และสำหรับความพยายามทั้งหมดที่ช่วยให้ประชาชนของเราคงอยู่และนำสันติภาพมาใกล้ชิดยิ่งขึ้น"
    ดูเหมือนเซเลนสกีเดินทางไปอิตาลี โดยมีเป้าหมายเพียงเพื่อความต้องการของตนเอง มากกว่าการเข้าร่วมพิธีศพของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสอย่างจริงใจ เซเลนสกีโพสต์ข้อความลงโซเชียล หลังการพบกับมาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยเรียกร้องขอขีปนาวุธป้เองกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม: "เราได้หารือกันถึงแนวทางที่จะนำไปสู่การหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข และความจำเป็นในการกดดันรัสเซียเพื่อให้เกิดการหยุดยิงดังกล่าว ผมได้สรุปผลที่ตามมาของการโจมตีของรัสเซียที่ครีวีรีห์(Kryvyi Rih) ซูมี (Sumy) และเคียฟ เพื่อปกป้องชีวิตของชาวยูเครน มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างการป้องกันทางอากาศของเรา เราหวังพึ่งการสนับสนุนจากพันธมิตรของเรา ผมขอขอบคุณเอ็มมานูเอลสำหรับการสนับสนุนยูเครนอย่างมั่นคง และสำหรับความพยายามทั้งหมดที่ช่วยให้ประชาชนของเราคงอยู่และนำสันติภาพมาใกล้ชิดยิ่งขึ้น"
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 105 Views 12 0 Reviews
  • ซื่อสัตย์กับตัวเองมั้ย
    เมตตา....มั้ยครับ
    กรุณา มุทิตา อุเบกขา สาธุ
    ซื่อสัตย์กับตัวเองมั้ย เมตตา....มั้ยครับ กรุณา มุทิตา อุเบกขา สาธุ
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 8 Views 0 Reviews
  • Love
    1
    0 Comments 0 Shares 36 Views 0 0 Reviews
  • ลุงนี่โกรธความดื้อดึงของ Microsoft ในเรื่องนี้จริงๆ

    Microsoft ได้เริ่มย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel ไปยัง Settings app ใน Windows 11 อย่างต่อเนื่อง โดยในอัปเดตล่าสุดสำหรับ Dev และ Beta builds ได้เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ด เช่น Character Repeat Delay (ระยะเวลาที่ต้องกดปุ่มก่อนเริ่มการพิมพ์ซ้ำ) และ Character Repeat Rate (ความเร็วในการพิมพ์ซ้ำ) ซึ่งสามารถปรับได้ผ่านแถบเลื่อนใน Settings > Accessibility > Keyboard

    อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ใหม่นี้ยังถูกซ่อนอยู่ในค่าตั้งต้น และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Microsoft เนื่องจากยังไม่สมบูรณ์ เช่น ตัวเลือก Cursor Blink Rate (ความเร็วในการกระพริบของเคอร์เซอร์) ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app

    การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Microsoft ในการทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11

    ✅ การย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel
    - เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ดใน Settings app
    - ตัวเลือกใหม่ เช่น Character Repeat Delay และ Character Repeat Rate

    ✅ การปรับปรุง Settings app
    - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งคีย์บอร์ดได้ง่ายขึ้น
    - การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรวมศูนย์การตั้งค่า

    ✅ สถานะของฟีเจอร์ใหม่
    - ฟีเจอร์ยังถูกซ่อนในค่าตั้งต้นและยังไม่สมบูรณ์
    - Cursor Blink Rate ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app

    ✅ เป้าหมายของ Microsoft
    - ทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11

    https://www.neowin.net/news/microsoft-moves-more-control-panel-elements-to-the-settings-app-in-windows-11/
    ลุงนี่โกรธความดื้อดึงของ Microsoft ในเรื่องนี้จริงๆ Microsoft ได้เริ่มย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel ไปยัง Settings app ใน Windows 11 อย่างต่อเนื่อง โดยในอัปเดตล่าสุดสำหรับ Dev และ Beta builds ได้เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ด เช่น Character Repeat Delay (ระยะเวลาที่ต้องกดปุ่มก่อนเริ่มการพิมพ์ซ้ำ) และ Character Repeat Rate (ความเร็วในการพิมพ์ซ้ำ) ซึ่งสามารถปรับได้ผ่านแถบเลื่อนใน Settings > Accessibility > Keyboard อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ใหม่นี้ยังถูกซ่อนอยู่ในค่าตั้งต้น และยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการจาก Microsoft เนื่องจากยังไม่สมบูรณ์ เช่น ตัวเลือก Cursor Blink Rate (ความเร็วในการกระพริบของเคอร์เซอร์) ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ Microsoft ในการทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11 ✅ การย้ายฟีเจอร์จาก Control Panel - เพิ่มตัวเลือกการปรับแต่งคีย์บอร์ดใน Settings app - ตัวเลือกใหม่ เช่น Character Repeat Delay และ Character Repeat Rate ✅ การปรับปรุง Settings app - ฟีเจอร์ใหม่ช่วยให้ผู้ใช้งานปรับแต่งคีย์บอร์ดได้ง่ายขึ้น - การเปลี่ยนแปลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรวมศูนย์การตั้งค่า ✅ สถานะของฟีเจอร์ใหม่ - ฟีเจอร์ยังถูกซ่อนในค่าตั้งต้นและยังไม่สมบูรณ์ - Cursor Blink Rate ยังไม่ถูกย้ายมาที่ Settings app ✅ เป้าหมายของ Microsoft - ทำให้ Settings app เป็นศูนย์กลางสำหรับการตั้งค่าทั้งหมดใน Windows 11 https://www.neowin.net/news/microsoft-moves-more-control-panel-elements-to-the-settings-app-in-windows-11/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft moves more Control Panel elements to the Settings app in Windows 11
    Microsoft continues to slowly migrate Control Panel elements to the Settings app. Certain keyboard settings received a modern overhaul in the latest Windows 11 preview builds.
    0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการพิจารณาของศาลในกรณีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ต้องการให้ Google ขาย Chrome ซึ่งเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 66% การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ถูกตัดสินว่ามีการผูกขาดในตลาดการค้นหา

    Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Chrome ได้ให้การในศาล โดยยืนยันว่า Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google และมีฟีเจอร์สำคัญ เช่น การแจ้งเตือนเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ถูกละเมิด ซึ่งพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google นอกจากนี้ เธอยังระบุว่า Google ลงทุนใน Chromium ซึ่งเป็นโครงการโอเพ่นซอร์สมากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015

    DOJ ยังเรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง และห้ามการจ่ายเงินเพื่อให้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในเบราว์เซอร์อื่น เช่น Safari ของ Apple

    ✅ การตัดสินใจของ DOJ
    - DOJ ต้องการให้ Google ขาย Chrome เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด
    - เรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง

    ✅ การให้การของ Parisa Tabriz
    - Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google
    - Google ลงทุนใน Chromium มากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015

    ✅ ผลกระทบต่อ Chrome
    - Chrome มีฟีเจอร์สำคัญที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google
    - การขาย Chrome อาจทำให้ฟีเจอร์บางอย่างไม่สามารถใช้งานได้

    ✅ ความสนใจจากบริษัทอื่น
    - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome

    https://www.neowin.net/news/chrome-general-manager-tells-judge-that-only-google-can-run-chrome/
    บทความนี้กล่าวถึงการพิจารณาของศาลในกรณีที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ต้องการให้ Google ขาย Chrome ซึ่งเป็นเว็บเบราว์เซอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก โดยมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 66% การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ถูกตัดสินว่ามีการผูกขาดในตลาดการค้นหา Parisa Tabriz ผู้จัดการทั่วไปของ Chrome ได้ให้การในศาล โดยยืนยันว่า Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google และมีฟีเจอร์สำคัญ เช่น การแจ้งเตือนเกี่ยวกับรหัสผ่านที่ถูกละเมิด ซึ่งพึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google นอกจากนี้ เธอยังระบุว่า Google ลงทุนใน Chromium ซึ่งเป็นโครงการโอเพ่นซอร์สมากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015 DOJ ยังเรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง และห้ามการจ่ายเงินเพื่อให้ Google เป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้นในเบราว์เซอร์อื่น เช่น Safari ของ Apple ✅ การตัดสินใจของ DOJ - DOJ ต้องการให้ Google ขาย Chrome เพื่อแก้ไขปัญหาการผูกขาด - เรียกร้องให้ Google แบ่งปันข้อมูลที่รวบรวมกับคู่แข่ง ✅ การให้การของ Parisa Tabriz - Chrome มีการผสานรวมอย่างลึกซึ้งกับระบบของ Google - Google ลงทุนใน Chromium มากกว่า 90% ของโค้ดตั้งแต่ปี 2015 ✅ ผลกระทบต่อ Chrome - Chrome มีฟีเจอร์สำคัญที่พึ่งพาโครงสร้างพื้นฐานของ Google - การขาย Chrome อาจทำให้ฟีเจอร์บางอย่างไม่สามารถใช้งานได้ ✅ ความสนใจจากบริษัทอื่น - OpenAI, Perplexity และ Yahoo แสดงความสนใจในการซื้อ Chrome https://www.neowin.net/news/chrome-general-manager-tells-judge-that-only-google-can-run-chrome/
    WWW.NEOWIN.NET
    Chrome general manager tells Judge that only Google can run Chrome
    The General Manager of Google Chrome testified in court and insisted on the company's unmatched ability to run the Chrome browser.
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการใช้เงินของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เพื่อการล็อบบี้รัฐบาลในปี 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์และสนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ รายงานจาก OpenSecrets เผยให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Apple, Meta, Microsoft, Amazon, OpenAI, Alphabet และ Samsung ได้ลงทุนเงินจำนวนมหาศาลในกิจกรรมล็อบบี้ โดย Meta เป็นบริษัทที่ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์

    กิจกรรมล็อบบี้ของบริษัทเหล่านี้ครอบคลุมกฎหมายที่หลากหลาย เช่น กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ (Kids Online Safety Act) กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง (Protect Elections from Deceptive AI Act) และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ

    การล็อบบี้ในสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การล็อบบี้ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงในหลายประเทศ เนื่องจากอาจถูกมองว่าเป็นการทุจริต

    ✅ การใช้เงินในกิจกรรมล็อบบี้
    - Meta ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์
    - Apple ใช้เงิน 7.82 ล้านดอลลาร์ และ Microsoft ใช้เงิน 10.35 ล้านดอลลาร์

    ✅ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
    - กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ เช่น Kids Online Safety Act
    - กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง เช่น Protect Elections from Deceptive AI Act

    ✅ เป้าหมายของกิจกรรมล็อบบี้
    - ปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท
    - สนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ

    ✅ การล็อบบี้ในสหรัฐฯ
    - เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ

    https://www.neowin.net/news/here-is-how-much-us-tech-firms-spent-on-lobbying-the-us-government-in-2024/
    บทความนี้กล่าวถึงการใช้เงินของบริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐฯ เพื่อการล็อบบี้รัฐบาลในปี 2024 โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องผลประโยชน์และสนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ รายงานจาก OpenSecrets เผยให้เห็นว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Apple, Meta, Microsoft, Amazon, OpenAI, Alphabet และ Samsung ได้ลงทุนเงินจำนวนมหาศาลในกิจกรรมล็อบบี้ โดย Meta เป็นบริษัทที่ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์ กิจกรรมล็อบบี้ของบริษัทเหล่านี้ครอบคลุมกฎหมายที่หลากหลาย เช่น กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ (Kids Online Safety Act) กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง (Protect Elections from Deceptive AI Act) และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศ การล็อบบี้ในสหรัฐฯ เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ อย่างไรก็ตาม การล็อบบี้ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงในหลายประเทศ เนื่องจากอาจถูกมองว่าเป็นการทุจริต ✅ การใช้เงินในกิจกรรมล็อบบี้ - Meta ใช้เงินมากที่สุดถึง 24.43 ล้านดอลลาร์ - Apple ใช้เงิน 7.82 ล้านดอลลาร์ และ Microsoft ใช้เงิน 10.35 ล้านดอลลาร์ ✅ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง - กฎหมายปกป้องเด็กออนไลน์ เช่น Kids Online Safety Act - กฎหมายป้องกันการใช้ AI ในการหลอกลวง เช่น Protect Elections from Deceptive AI Act ✅ เป้าหมายของกิจกรรมล็อบบี้ - ปกป้องผลประโยชน์ของบริษัท - สนับสนุนกฎหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ✅ การล็อบบี้ในสหรัฐฯ - เป็นเรื่องที่ถูกกฎหมายและมีบริษัทที่ให้บริการล็อบบี้โดยเฉพาะ https://www.neowin.net/news/here-is-how-much-us-tech-firms-spent-on-lobbying-the-us-government-in-2024/
    WWW.NEOWIN.NET
    Here is how much US tech firms spent on lobbying the US government in 2024
    Tech firms in the United States spend hundreds of millions of dollars per year on lobbying efforts to protect their interests. Here is how much.
    0 Comments 0 Shares 54 Views 0 Reviews
  • รายงานจากสหประชาชาติในชื่อ World Social Report 2025 ได้เปิดเผยถึงผลกระทบของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่ส่งผลต่อสภาพการทำงานและโครงสร้างสังคม โดยแม้แต่ในประเทศที่มีรายได้สูง การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสร้างความไม่มั่นคงในงานและเพิ่มงานแบบกิ๊ก (Gig Work) ซึ่งขาดสิทธิและความมั่นคง เช่น การลาป่วยที่ได้รับค่าจ้าง ค่าแรงขั้นต่ำ และการลาคลอด

    นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในสถาบันและความไว้วางใจระหว่างบุคคล โดยข้อมูลเท็จและการบิดเบือนข้อมูลที่แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดีย เช่น WhatsApp ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในรัฐบาลและสถาบันต่างๆ รวมถึงการสร้าง "echo chambers" ที่ผู้ใช้งานจะเห็นเฉพาะข้อมูลที่ตรงกับความเชื่อของตนเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การสุดโต่ง

    เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ สหประชาชาติแนะนำให้รัฐบาลลงทุนในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ ที่อยู่อาศัย และระบบสวัสดิการสังคมที่เข้มแข็ง รวมถึงการสร้างสถาบันที่มีความโปร่งใสและรับผิดชอบมากขึ้น

    ✅ ผลกระทบต่อสภาพการทำงาน
    - การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเพิ่มงานแบบกิ๊กที่ขาดสิทธิและความมั่นคง
    - ผู้คนต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต

    ✅ ผลกระทบต่อโครงสร้างสังคม
    - ข้อมูลเท็จและการบิดเบือนข้อมูลทำลายความเชื่อมั่นในสถาบัน
    - การสร้าง echo chambers บนโซเชียลมีเดียส่งเสริมความสุดโต่ง

    ✅ ข้อเสนอแนะจากสหประชาชาติ
    - ลงทุนในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และที่อยู่อาศัย
    - สร้างสถาบันที่โปร่งใสและรับผิดชอบ

    ✅ ความสำคัญของการแก้ไขปัญหา
    - การแก้ไขปัญหานี้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในสถาบันและความร่วมมือในสังคม

    https://www.neowin.net/news/digital-transition-creating-weaker-labor-conditions-and-wrecking-social-fabric-report-says/
    รายงานจากสหประชาชาติในชื่อ World Social Report 2025 ได้เปิดเผยถึงผลกระทบของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลที่ส่งผลต่อสภาพการทำงานและโครงสร้างสังคม โดยแม้แต่ในประเทศที่มีรายได้สูง การเปลี่ยนแปลงนี้ยังสร้างความไม่มั่นคงในงานและเพิ่มงานแบบกิ๊ก (Gig Work) ซึ่งขาดสิทธิและความมั่นคง เช่น การลาป่วยที่ได้รับค่าจ้าง ค่าแรงขั้นต่ำ และการลาคลอด นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นในสถาบันและความไว้วางใจระหว่างบุคคล โดยข้อมูลเท็จและการบิดเบือนข้อมูลที่แพร่กระจายบนโซเชียลมีเดีย เช่น WhatsApp ทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจในรัฐบาลและสถาบันต่างๆ รวมถึงการสร้าง "echo chambers" ที่ผู้ใช้งานจะเห็นเฉพาะข้อมูลที่ตรงกับความเชื่อของตนเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การสุดโต่ง เพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ สหประชาชาติแนะนำให้รัฐบาลลงทุนในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ ที่อยู่อาศัย และระบบสวัสดิการสังคมที่เข้มแข็ง รวมถึงการสร้างสถาบันที่มีความโปร่งใสและรับผิดชอบมากขึ้น ✅ ผลกระทบต่อสภาพการทำงาน - การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลเพิ่มงานแบบกิ๊กที่ขาดสิทธิและความมั่นคง - ผู้คนต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อให้เพียงพอต่อการดำรงชีวิต ✅ ผลกระทบต่อโครงสร้างสังคม - ข้อมูลเท็จและการบิดเบือนข้อมูลทำลายความเชื่อมั่นในสถาบัน - การสร้าง echo chambers บนโซเชียลมีเดียส่งเสริมความสุดโต่ง ✅ ข้อเสนอแนะจากสหประชาชาติ - ลงทุนในด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และที่อยู่อาศัย - สร้างสถาบันที่โปร่งใสและรับผิดชอบ ✅ ความสำคัญของการแก้ไขปัญหา - การแก้ไขปัญหานี้ช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นในสถาบันและความร่วมมือในสังคม https://www.neowin.net/news/digital-transition-creating-weaker-labor-conditions-and-wrecking-social-fabric-report-says/
    WWW.NEOWIN.NET
    Digital transition creating weaker labor conditions and wrecking social fabric, report says
    The United Nations has published its World Social Report 2025 which lays out the damaging effects that the digital transition is having on labor rights and the fabric of society.
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok กำลังพิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในประเทศบราซิล โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้พลังงานลมที่มีอยู่มากมายในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ การลงทุนนี้จะช่วยให้บราซิลกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos ผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ท่าเรือ Pecem รัฐ Ceara โดยโครงการนี้มีแผนเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ในระยะที่สอง ซึ่งจะทำให้บราซิลเป็นฐานสำคัญสำหรับการดำเนินงานของ ByteDance ในซีกโลกตะวันตก

    Casa dos Ventos ได้ขอเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับโครงการศูนย์ข้อมูลใน Pecem แต่ถูกปฏิเสธในเบื้องต้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของบราซิลกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการนี้

    ✅ การลงทุนในบราซิล
    - ByteDance พิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในบราซิล
    - ใช้พลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ

    ✅ การเจรจากับ Casa dos Ventos
    - ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูล
    - โครงการเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์

    ✅ ความสำคัญของ Pecem
    - Pecem เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับศูนย์ข้อมูลเนื่องจากมีสถานีเชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำและพลังงานหมุนเวียน

    ✅ การตอบสนองของรัฐบาลบราซิล
    - กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/exclusive-tiktok-owner-weighs-data-center-project-in-brazil-sources-say
    ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok กำลังพิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในประเทศบราซิล โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้พลังงานลมที่มีอยู่มากมายในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ การลงทุนนี้จะช่วยให้บราซิลกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos ผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ท่าเรือ Pecem รัฐ Ceara โดยโครงการนี้มีแผนเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ในระยะที่สอง ซึ่งจะทำให้บราซิลเป็นฐานสำคัญสำหรับการดำเนินงานของ ByteDance ในซีกโลกตะวันตก Casa dos Ventos ได้ขอเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับโครงการศูนย์ข้อมูลใน Pecem แต่ถูกปฏิเสธในเบื้องต้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของบราซิลกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการนี้ ✅ การลงทุนในบราซิล - ByteDance พิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในบราซิล - ใช้พลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ✅ การเจรจากับ Casa dos Ventos - ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูล - โครงการเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ✅ ความสำคัญของ Pecem - Pecem เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับศูนย์ข้อมูลเนื่องจากมีสถานีเชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำและพลังงานหมุนเวียน ✅ การตอบสนองของรัฐบาลบราซิล - กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/exclusive-tiktok-owner-weighs-data-center-project-in-brazil-sources-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exclusive-TikTok owner weighs data center project in Brazil, sources say
    SAO PAULO/BRASILIA (Reuters) -ByteDance, the Chinese parent company of TikTok, is weighing a major investment in a data center in Brazil, three people familiar with the matter told Reuters, tapping abundant wind energy on the country's northeast coast.
    0 Comments 0 Shares 65 Views 0 Reviews
  • เกม The Darkest Files เป็นเกมที่สร้างจากเรื่องจริงในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยผู้เล่นจะรับบทเป็น Esther Katz อัยการที่ทำงานร่วมกับ Fritz Bauer อัยการสูงสุดในแฟรงก์เฟิร์ต ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่มุ่งมั่นในการสืบสวนคดีอาชญากรรมของนาซีในช่วงปี 1950 และ 1960 เกมนี้นำเสนอการสืบสวนคดีที่เกิดขึ้นจริง โดยผู้เล่นต้องค้นหาเอกสาร สัมภาษณ์พยาน และสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

    เกมนี้มีจุดเด่นที่การนำเสนอเรื่องราวผ่านกราฟิกสไตล์ graphic novel ที่มีความมืดมนและเข้มข้น ผู้เล่นจะได้สัมผัสกับความท้าทายในการแก้ปริศนาและการนำเสนอหลักฐานในศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง เกมยังสะท้อนถึงความยากลำบากในการทำงานของทีมอัยการในยุคนั้น รวมถึงการเผชิญกับการต่อต้านจากสังคม

    ✅ เนื้อเรื่องและตัวละคร
    - ผู้เล่นรับบทเป็น Esther Katz อัยการที่ทำงานร่วมกับ Fritz Bauer
    - สืบสวนคดีอาชญากรรมของนาซีที่เกิดขึ้นจริงในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

    ✅ รูปแบบการเล่น
    - ค้นหาเอกสาร สัมภาษณ์พยาน และสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับเหตุการณ์
    - นำเสนอหลักฐานในศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง

    ✅ กราฟิกและการนำเสนอ
    - ใช้กราฟิกสไตล์ graphic novel ที่มืดมนและเข้มข้น
    - สะท้อนถึงความยากลำบากในการทำงานของทีมอัยการ

    ✅ ข้อความสำคัญของเกม
    - เกมเน้นการเตือนถึงความสำคัญของการเรียนรู้จากอดีตและการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นอีก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/039the-darkest-files039-investigate-true-crimes-from-the-nazi-era
    เกม The Darkest Files เป็นเกมที่สร้างจากเรื่องจริงในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยผู้เล่นจะรับบทเป็น Esther Katz อัยการที่ทำงานร่วมกับ Fritz Bauer อัยการสูงสุดในแฟรงก์เฟิร์ต ผู้ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่มุ่งมั่นในการสืบสวนคดีอาชญากรรมของนาซีในช่วงปี 1950 และ 1960 เกมนี้นำเสนอการสืบสวนคดีที่เกิดขึ้นจริง โดยผู้เล่นต้องค้นหาเอกสาร สัมภาษณ์พยาน และสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกมนี้มีจุดเด่นที่การนำเสนอเรื่องราวผ่านกราฟิกสไตล์ graphic novel ที่มีความมืดมนและเข้มข้น ผู้เล่นจะได้สัมผัสกับความท้าทายในการแก้ปริศนาและการนำเสนอหลักฐานในศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง เกมยังสะท้อนถึงความยากลำบากในการทำงานของทีมอัยการในยุคนั้น รวมถึงการเผชิญกับการต่อต้านจากสังคม ✅ เนื้อเรื่องและตัวละคร - ผู้เล่นรับบทเป็น Esther Katz อัยการที่ทำงานร่วมกับ Fritz Bauer - สืบสวนคดีอาชญากรรมของนาซีที่เกิดขึ้นจริงในยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง ✅ รูปแบบการเล่น - ค้นหาเอกสาร สัมภาษณ์พยาน และสร้างทฤษฎีเกี่ยวกับเหตุการณ์ - นำเสนอหลักฐานในศาลเพื่อพิสูจน์ความจริง ✅ กราฟิกและการนำเสนอ - ใช้กราฟิกสไตล์ graphic novel ที่มืดมนและเข้มข้น - สะท้อนถึงความยากลำบากในการทำงานของทีมอัยการ ✅ ข้อความสำคัญของเกม - เกมเน้นการเตือนถึงความสำคัญของการเรียนรู้จากอดีตและการป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้นอีก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/039the-darkest-files039-investigate-true-crimes-from-the-nazi-era
    WWW.THESTAR.COM.MY
    'The Darkest Files': Investigate true crimes from the Nazi era
    Countless video games see players battling Nazis - but rarely are we doing the fighting not with guns, but with the law. "The Darkest Files" aims to turn the true stories of post-war legal investigations into Nazi crimes into entertaining gaming. Can it work?
    0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์แก่เยาวชนก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการรับมือกับภัยคุกคามจากแรนซัมแวร์ Matt Cooke ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์จาก Proofpoint เน้นว่าการโจมตีไซเบอร์มักเริ่มต้นจากการที่บุคคลในองค์กรถูกโจมตี และการให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับการสื่อสารที่ผิดปกติ เช่น การส่งข้อความในเวลาที่ไม่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงได้

    Cooke ยังชี้ให้เห็นว่าการจ่ายค่าไถ่ในกรณีแรนซัมแวร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตียังคงมีอยู่ และเรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรต่างๆ หยุดการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้สนับสนุนเศรษฐกิจอาชญากรรม นอกจากนี้ เขาแนะนำให้ใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของบุคคลในองค์กร เช่น การตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย

    ✅ การให้ความรู้แก่เยาวชน
    - เน้นการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน
    - สอนให้พนักงานรู้จักการสื่อสารที่ผิดปกติ เช่น การส่งข้อความในเวลาที่ไม่เหมาะสม

    ✅ การหยุดการจ่ายค่าไถ่
    - การจ่ายค่าไถ่ในกรณีแรนซัมแวร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตียังคงมีอยู่
    - เรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรหยุดการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้สนับสนุนเศรษฐกิจอาชญากรรม

    ✅ การใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง
    - ใช้ AI ในการตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย
    - AI ช่วยเพิ่มความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์

    ✅ การสนับสนุนจากรัฐบาล
    - รัฐบาลและหน่วยงานข่าวกรองพูดถึงภัยคุกคามไซเบอร์มากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/teach-young-people-about-ransomware-risks-before-they-enter-work
    บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์แก่เยาวชนก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการรับมือกับภัยคุกคามจากแรนซัมแวร์ Matt Cooke ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์จาก Proofpoint เน้นว่าการโจมตีไซเบอร์มักเริ่มต้นจากการที่บุคคลในองค์กรถูกโจมตี และการให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับการสื่อสารที่ผิดปกติ เช่น การส่งข้อความในเวลาที่ไม่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงได้ Cooke ยังชี้ให้เห็นว่าการจ่ายค่าไถ่ในกรณีแรนซัมแวร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตียังคงมีอยู่ และเรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรต่างๆ หยุดการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้สนับสนุนเศรษฐกิจอาชญากรรม นอกจากนี้ เขาแนะนำให้ใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของบุคคลในองค์กร เช่น การตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ✅ การให้ความรู้แก่เยาวชน - เน้นการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน - สอนให้พนักงานรู้จักการสื่อสารที่ผิดปกติ เช่น การส่งข้อความในเวลาที่ไม่เหมาะสม ✅ การหยุดการจ่ายค่าไถ่ - การจ่ายค่าไถ่ในกรณีแรนซัมแวร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตียังคงมีอยู่ - เรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรหยุดการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้สนับสนุนเศรษฐกิจอาชญากรรม ✅ การใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง - ใช้ AI ในการตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย - AI ช่วยเพิ่มความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ ✅ การสนับสนุนจากรัฐบาล - รัฐบาลและหน่วยงานข่าวกรองพูดถึงภัยคุกคามไซเบอร์มากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/teach-young-people-about-ransomware-risks-before-they-enter-work
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Teach young people about ransomware risks before they enter work
    Organisations out there can do a much better job of defining what normal communications look like for their employees – for example, 'Is it normal for somebody to be sending me a Teams message at four o'clock in the morning?'
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • ในยูเครน ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในสถานที่ต่างๆ เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ ร้านอาหาร และระบบรถไฟใต้ดินในกรุงเคียฟ เกิดการขัดข้องในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับธนาคารที่ดำเนินการระบบนี้ ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์ แม้ว่าในอดีตยูเครนเคยตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซีย

    แอปพลิเคชัน Diya ซึ่งให้บริการออนไลน์แก่ประชาชนก็ไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงเวลานั้น เช่นเดียวกับแอปธนาคารบางแห่งที่มีปัญหาในการทำงาน

    Oleksandr Fediyenko สมาชิกคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน ได้โพสต์วิดีโอใน Telegram โดยยืนยันว่าปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วประเทศและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์

    ✅ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น
    - ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในสถานที่ต่างๆ เกิดการขัดข้อง
    - แอปพลิเคชัน Diya และแอปธนาคารบางแห่งไม่สามารถใช้งานได้

    ✅ สาเหตุของปัญหา
    - เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร
    - ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์

    ✅ การตอบสนองของเจ้าหน้าที่
    - Oleksandr Fediyenko ยืนยันว่าปัญหาเกิดขึ้นทั่วประเทศ
    - ไม่มีการเชื่อมโยงกับการโจมตีทางไซเบอร์

    ✅ ผลกระทบต่อประชาชน
    - ประชาชนต้องใช้เงินสดแทนการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/some-electronic-payments-systems-in-ukraine-disrupted
    ในยูเครน ระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในสถานที่ต่างๆ เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ ร้านอาหาร และระบบรถไฟใต้ดินในกรุงเคียฟ เกิดการขัดข้องในวันเสาร์ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับธนาคารที่ดำเนินการระบบนี้ ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์ แม้ว่าในอดีตยูเครนเคยตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซีย แอปพลิเคชัน Diya ซึ่งให้บริการออนไลน์แก่ประชาชนก็ไม่สามารถใช้งานได้ในช่วงเวลานั้น เช่นเดียวกับแอปธนาคารบางแห่งที่มีปัญหาในการทำงาน Oleksandr Fediyenko สมาชิกคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติของยูเครน ได้โพสต์วิดีโอใน Telegram โดยยืนยันว่าปัญหานี้เกิดขึ้นทั่วประเทศและไม่ได้เกี่ยวข้องกับการโจมตีทางไซเบอร์ ✅ สถานการณ์ที่เกิดขึ้น - ระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ในสถานที่ต่างๆ เกิดการขัดข้อง - แอปพลิเคชัน Diya และแอปธนาคารบางแห่งไม่สามารถใช้งานได้ ✅ สาเหตุของปัญหา - เจ้าหน้าที่ระบุว่าเป็นปัญหาทางเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับธนาคาร - ไม่ใช่การโจมตีทางไซเบอร์ ✅ การตอบสนองของเจ้าหน้าที่ - Oleksandr Fediyenko ยืนยันว่าปัญหาเกิดขึ้นทั่วประเทศ - ไม่มีการเชื่อมโยงกับการโจมตีทางไซเบอร์ ✅ ผลกระทบต่อประชาชน - ประชาชนต้องใช้เงินสดแทนการชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/some-electronic-payments-systems-in-ukraine-disrupted
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Some electronic payments systems in Ukraine disrupted
    KYIV (Reuters) -Electronic payments systems in post offices, restaurants and the metro system were out of action in Ukraine early on Saturday, according to officials and Reuters witnesses.
    0 Comments 0 Shares 53 Views 0 Reviews
  • บทความนี้เปรียบเทียบเทคโนโลยีการอัปสเกลภาพในเกมระหว่าง AMD FSR 4 และ Nvidia DLSS 4 ที่ความละเอียด 4K โดยเน้นถึงความก้าวหน้าของ FSR 4 ซึ่งมีการปรับปรุงอย่างมากเมื่อเทียบกับ FSR 3.1 โดยเฉพาะในโหมด Performance และ Quality แม้ว่า DLSS 4 จะยังคงมีความเสถียรและรายละเอียดที่เหนือกว่าในบางกรณี แต่ FSR 4 ก็สามารถแข่งขันได้อย่างใกล้เคียงในหลายสถานการณ์

    FSR 4 มีจุดเด่นในด้านการลดปัญหาภาพเบลอและการแสดงผลที่คมชัดขึ้น โดยเฉพาะในเกมที่มีรายละเอียดสูง เช่น Spider-Man 2 และ Horizon Zero Dawn อย่างไรก็ตาม DLSS 4 ยังคงมีข้อได้เปรียบในด้านการรักษาคุณภาพของพื้นผิวและความเสถียรของภาพในโหมด Performance

    ✅ การปรับปรุงของ FSR 4
    - FSR 4 มีความคมชัดและเสถียรมากขึ้นเมื่อเทียบกับ FSR 3.1
    - โหมด Performance ของ FSR 4 สามารถใช้งานได้ดีขึ้นในความละเอียด 4K

    ✅ การเปรียบเทียบกับ DLSS 4
    - DLSS 4 ยังคงมีความเสถียรและรายละเอียดที่เหนือกว่าในบางกรณี
    - FSR 4 สามารถแข่งขันได้ใกล้เคียงในโหมด Quality

    ✅ การใช้งานในเกม
    - FSR 4 แสดงผลได้ดีในเกมที่มีรายละเอียดสูง เช่น Spider-Man 2 และ Horizon Zero Dawn
    - DLSS 4 มีความสามารถในการรักษาคุณภาพของพื้นผิวได้ดีกว่า

    ✅ ผลกระทบต่อประสิทธิภาพ
    - FSR 4 และ DLSS 4 ให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันในโหมด Quality

    https://www.techspot.com/article/2976-amd-fsr4-4k-upscaling/
    บทความนี้เปรียบเทียบเทคโนโลยีการอัปสเกลภาพในเกมระหว่าง AMD FSR 4 และ Nvidia DLSS 4 ที่ความละเอียด 4K โดยเน้นถึงความก้าวหน้าของ FSR 4 ซึ่งมีการปรับปรุงอย่างมากเมื่อเทียบกับ FSR 3.1 โดยเฉพาะในโหมด Performance และ Quality แม้ว่า DLSS 4 จะยังคงมีความเสถียรและรายละเอียดที่เหนือกว่าในบางกรณี แต่ FSR 4 ก็สามารถแข่งขันได้อย่างใกล้เคียงในหลายสถานการณ์ FSR 4 มีจุดเด่นในด้านการลดปัญหาภาพเบลอและการแสดงผลที่คมชัดขึ้น โดยเฉพาะในเกมที่มีรายละเอียดสูง เช่น Spider-Man 2 และ Horizon Zero Dawn อย่างไรก็ตาม DLSS 4 ยังคงมีข้อได้เปรียบในด้านการรักษาคุณภาพของพื้นผิวและความเสถียรของภาพในโหมด Performance ✅ การปรับปรุงของ FSR 4 - FSR 4 มีความคมชัดและเสถียรมากขึ้นเมื่อเทียบกับ FSR 3.1 - โหมด Performance ของ FSR 4 สามารถใช้งานได้ดีขึ้นในความละเอียด 4K ✅ การเปรียบเทียบกับ DLSS 4 - DLSS 4 ยังคงมีความเสถียรและรายละเอียดที่เหนือกว่าในบางกรณี - FSR 4 สามารถแข่งขันได้ใกล้เคียงในโหมด Quality ✅ การใช้งานในเกม - FSR 4 แสดงผลได้ดีในเกมที่มีรายละเอียดสูง เช่น Spider-Man 2 และ Horizon Zero Dawn - DLSS 4 มีความสามารถในการรักษาคุณภาพของพื้นผิวได้ดีกว่า ✅ ผลกระทบต่อประสิทธิภาพ - FSR 4 และ DLSS 4 ให้ประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกันในโหมด Quality https://www.techspot.com/article/2976-amd-fsr4-4k-upscaling/
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD FSR 4 vs Nvidia DLSS 4 at 4K
    After proving its mettle at 1440p, FSR 4 challenges Nvidia's DLSS 4 at 4K. In this deep dive, we test both upscalers on high-res scenes to see...
    0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • TSMC ได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีชิป AI รุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับความต้องการการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นในยุค AI และการคำนวณประสิทธิภาพสูง โดยในงาน North American Technology Symposium บริษัทได้แนะนำเทคโนโลยี CoWoS-L (Chip-on-Wafer-on-Substrate) รุ่นใหม่ ซึ่งสามารถรองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm² และรองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks

    เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้มากกว่า 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับชิปที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังมีแผนพัฒนา interposers ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 7,885 mm² ซึ่งสามารถรองรับระบบ 3D-stacked และหน่วยความจำ HBM4 ได้ถึง 12 stacks

    TSMC ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X) ที่สามารถรวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานใน AI processors ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

    ✅ เทคโนโลยี CoWoS-L รุ่นใหม่
    - รองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm²
    - รองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks

    ✅ การพัฒนา interposers ขนาดใหญ่
    - ขนาดใหญ่ถึง 7,885 mm² รองรับระบบ 3D-stacked และ HBM4

    ✅ เทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X)
    - รวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียวสำหรับ AI processors

    ✅ การจัดการพลังงานและความร้อน
    - ใช้วงจรจัดการพลังงานขั้นสูงและระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว

    https://www.techspot.com/news/107695-tsmc-unveils-plans-giant-ai-chips-meet-surging.html
    TSMC ได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีชิป AI รุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับความต้องการการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นในยุค AI และการคำนวณประสิทธิภาพสูง โดยในงาน North American Technology Symposium บริษัทได้แนะนำเทคโนโลยี CoWoS-L (Chip-on-Wafer-on-Substrate) รุ่นใหม่ ซึ่งสามารถรองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm² และรองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้มากกว่า 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับชิปที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังมีแผนพัฒนา interposers ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 7,885 mm² ซึ่งสามารถรองรับระบบ 3D-stacked และหน่วยความจำ HBM4 ได้ถึง 12 stacks TSMC ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X) ที่สามารถรวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานใน AI processors ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ✅ เทคโนโลยี CoWoS-L รุ่นใหม่ - รองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm² - รองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks ✅ การพัฒนา interposers ขนาดใหญ่ - ขนาดใหญ่ถึง 7,885 mm² รองรับระบบ 3D-stacked และ HBM4 ✅ เทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X) - รวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียวสำหรับ AI processors ✅ การจัดการพลังงานและความร้อน - ใช้วงจรจัดการพลังงานขั้นสูงและระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว https://www.techspot.com/news/107695-tsmc-unveils-plans-giant-ai-chips-meet-surging.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    TSMC unveils plans for giant AI chips to meet surging compute demands
    Today's high-end processors, especially those powering data centers and AI workloads, already rely on multi-chiplet designs to meet soaring demands for performance and memory bandwidth. TSMC's current...
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 Reviews
  • YKK บริษัทผู้ผลิตซิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดตัวต้นแบบซิปอัตโนมัติที่สามารถรูดขึ้นและลงได้เองด้วยมอเตอร์และรีโมตควบคุมแบบมีสาย โดยซิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการการเชื่อมต่อวัสดุในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น การเชื่อมผ้าหรือวัสดุอื่นๆ ในระดับความสูงที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย

    ต้นแบบซิปอัตโนมัตินี้สามารถรูดซิปขึ้นไปได้สูงถึง 5 เมตร ภายในเวลาเพียง 40 วินาที และยังสามารถเชื่อมต่อเต็นท์ที่มีความสูง 2.5 เมตร และกว้าง 4 เมตร ได้ในเวลาเพียง 50 วินาที อย่างไรก็ตาม ซิปนี้ยังคงมีขนาดใหญ่และต้องใช้พลังงานจากตัวควบคุมที่มีสาย ทำให้ยังไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในตลาดผู้บริโภคทั่วไป

    YKK ยังได้พัฒนานวัตกรรมอื่นๆ เช่น ซิปแม่เหล็กที่สามารถเชื่อมต่อและถอดออกได้ง่าย รวมถึงคลิปแม่เหล็กที่ใช้แทนกระดุมในกางเกง ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม

    ✅ การออกแบบและการใช้งาน
    - ซิปอัตโนมัติสามารถรูดขึ้นไปได้สูงถึง 5 เมตรในเวลา 40 วินาที
    - ใช้รีโมตควบคุมแบบมีสายและมอเตอร์ในการทำงาน

    ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรม
    - เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อวัสดุในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก
    - ช่วยลดความเสี่ยงในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง

    ✅ นวัตกรรมอื่นๆ ของ YKK
    - ซิปแม่เหล็กที่เชื่อมต่อและถอดออกได้ง่าย
    - คลิปแม่เหล็กที่ใช้แทนกระดุมในกางเกง

    ✅ เป้าหมายของ YKK
    - มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการในหลากหลายอุตสาหกรรม

    https://www.techspot.com/news/107692-self-propelled-zippers-have-arrived-but-theyre-not.html
    YKK บริษัทผู้ผลิตซิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดตัวต้นแบบซิปอัตโนมัติที่สามารถรูดขึ้นและลงได้เองด้วยมอเตอร์และรีโมตควบคุมแบบมีสาย โดยซิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการการเชื่อมต่อวัสดุในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น การเชื่อมผ้าหรือวัสดุอื่นๆ ในระดับความสูงที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ต้นแบบซิปอัตโนมัตินี้สามารถรูดซิปขึ้นไปได้สูงถึง 5 เมตร ภายในเวลาเพียง 40 วินาที และยังสามารถเชื่อมต่อเต็นท์ที่มีความสูง 2.5 เมตร และกว้าง 4 เมตร ได้ในเวลาเพียง 50 วินาที อย่างไรก็ตาม ซิปนี้ยังคงมีขนาดใหญ่และต้องใช้พลังงานจากตัวควบคุมที่มีสาย ทำให้ยังไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในตลาดผู้บริโภคทั่วไป YKK ยังได้พัฒนานวัตกรรมอื่นๆ เช่น ซิปแม่เหล็กที่สามารถเชื่อมต่อและถอดออกได้ง่าย รวมถึงคลิปแม่เหล็กที่ใช้แทนกระดุมในกางเกง ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ✅ การออกแบบและการใช้งาน - ซิปอัตโนมัติสามารถรูดขึ้นไปได้สูงถึง 5 เมตรในเวลา 40 วินาที - ใช้รีโมตควบคุมแบบมีสายและมอเตอร์ในการทำงาน ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรม - เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อวัสดุในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก - ช่วยลดความเสี่ยงในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง ✅ นวัตกรรมอื่นๆ ของ YKK - ซิปแม่เหล็กที่เชื่อมต่อและถอดออกได้ง่าย - คลิปแม่เหล็กที่ใช้แทนกระดุมในกางเกง ✅ เป้าหมายของ YKK - มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการในหลากหลายอุตสาหกรรม https://www.techspot.com/news/107692-self-propelled-zippers-have-arrived-but-theyre-not.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    World's largest zipper maker YKK shows off self-fastening zippers powered by motors and remote controls
    Japanese manufacturer YKK recently announced successful testing results for a prototype automatic zipper. The company suggests that it could help people fasten objects in difficult-to-reach areas.
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell ได้พัฒนาเฟรมเวิร์ก AI ที่ชื่อว่า RHyME (Retrieval for Hybrid Imitation under Mismatched Execution) ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว โดยเฟรมเวิร์กนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการสอนหุ่นยนต์ที่เคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสาธิตทีละขั้นตอน

    RHyME ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อหุ่นยนต์ดูวิดีโอการสาธิตใหม่ เช่น การวางแก้วในอ่างล้างจาน หุ่นยนต์จะค้นหาข้อมูลที่คล้ายกันในหน่วยความจำ เช่น การหยิบแก้วหรือการวางวัตถุ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบกันเพื่อทำงานใหม่ได้สำเร็จ แม้จะไม่เคยเห็นสถานการณ์นั้นมาก่อน

    การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่าหุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าหุ่นยนต์ที่ใช้วิธีการเรียนรู้แบบเดิมถึง 50% และใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที เทียบกับวิธีเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายพันชั่วโมง

    ✅ การเรียนรู้ทักษะใหม่
    - หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว
    - ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน

    ✅ การทดสอบในห้องปฏิบัติการ
    - หุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าวิธีเดิมถึง 50%
    - ใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที

    ✅ การสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ
    - โครงการได้รับการสนับสนุนจาก Google, OpenAI, สำนักงานวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ และมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ

    ✅ การนำเสนอผลงาน
    - ทีมวิจัยจะนำเสนอผลงานในงาน IEEE International Conference on Robotics and Automation

    https://www.techspot.com/news/107694-robots-use-cornell-rhyme-ai-learn-new-skills.html
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Cornell ได้พัฒนาเฟรมเวิร์ก AI ที่ชื่อว่า RHyME (Retrieval for Hybrid Imitation under Mismatched Execution) ซึ่งช่วยให้หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ได้โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว โดยเฟรมเวิร์กนี้ช่วยลดความยุ่งยากในการสอนหุ่นยนต์ที่เคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการสาธิตทีละขั้นตอน RHyME ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน เมื่อหุ่นยนต์ดูวิดีโอการสาธิตใหม่ เช่น การวางแก้วในอ่างล้างจาน หุ่นยนต์จะค้นหาข้อมูลที่คล้ายกันในหน่วยความจำ เช่น การหยิบแก้วหรือการวางวัตถุ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาประกอบกันเพื่อทำงานใหม่ได้สำเร็จ แม้จะไม่เคยเห็นสถานการณ์นั้นมาก่อน การทดสอบในห้องปฏิบัติการพบว่าหุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าหุ่นยนต์ที่ใช้วิธีการเรียนรู้แบบเดิมถึง 50% และใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที เทียบกับวิธีเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายพันชั่วโมง ✅ การเรียนรู้ทักษะใหม่ - หุ่นยนต์สามารถเรียนรู้ทักษะใหม่โดยการดูวิดีโอเพียงครั้งเดียว - ใช้หน่วยความจำที่เก็บข้อมูลการกระทำที่เคยเห็นมาก่อน ✅ การทดสอบในห้องปฏิบัติการ - หุ่นยนต์ที่ใช้ RHyME มีความสำเร็จในการทำงานสูงกว่าวิธีเดิมถึง 50% - ใช้ข้อมูลการฝึกเฉพาะหุ่นยนต์เพียง 30 นาที ✅ การสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ - โครงการได้รับการสนับสนุนจาก Google, OpenAI, สำนักงานวิจัยกองทัพเรือสหรัฐฯ และมูลนิธิวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ✅ การนำเสนอผลงาน - ทีมวิจัยจะนำเสนอผลงานในงาน IEEE International Conference on Robotics and Automation https://www.techspot.com/news/107694-robots-use-cornell-rhyme-ai-learn-new-skills.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Robots use Cornell's RHyME AI to learn new skills by watching just one video
    Researchers at Cornell University are now charting a new course with RHyME, an artificial intelligence framework that dramatically streamlines robot learning. An acronym for Retrieval for Hybrid...
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • AMD ได้เปิดตัว APU รุ่นใหม่ Ryzen 5 7533HS ซึ่งเป็นชิปที่พัฒนาจากสถาปัตยกรรม Rembrandt-R โดยมีการปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Ryzen 5 7535HS ด้วยการลดความเร็ว Boost Clock ลง 150 MHz เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัด ชิปนี้มี 6 คอร์ 12 เธรด พร้อมแคช L2 ขนาด 3MB และ L3 ขนาด 16MB รวมถึง iGPU Radeon 660M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2

    Ryzen 5 7533HS รองรับหน่วยความจำ DDR5-4800 และ LPDDR5-6400 โดยมี TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 35W ถึง 54W ชิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในแล็ปท็อปของ Lenovo เช่น ThinkBook 16 Gen 7 และ IdeaPad Slim 3/5 ซึ่งอาจเป็นการบ่งชี้ถึงความพิเศษที่ Lenovo ได้รับจาก AMD

    แม้ว่า Ryzen 5 7533HS จะไม่ได้เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด แต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาแล็ปท็อปที่มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ

    ✅ สถาปัตยกรรมและการออกแบบ
    - ใช้สถาปัตยกรรม Rembrandt-R พร้อม 6 คอร์ 12 เธรด
    - iGPU Radeon 660M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2

    ✅ การปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้า
    - ลด Boost Clock ลง 150 MHz เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัด
    - รองรับหน่วยความจำ DDR5-4800 และ LPDDR5-6400

    ✅ การใช้งานในแล็ปท็อป
    - ใช้ในแล็ปท็อปของ Lenovo เช่น ThinkBook 16 Gen 7 และ IdeaPad Slim 3/5
    - มี TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 35W ถึง 54W

    ✅ เป้าหมายของ AMD
    - มุ่งเน้นตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัดที่มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-ryzen-5-7533hs-apu-makes-its-debut-with-lenovos-budget-lineup
    AMD ได้เปิดตัว APU รุ่นใหม่ Ryzen 5 7533HS ซึ่งเป็นชิปที่พัฒนาจากสถาปัตยกรรม Rembrandt-R โดยมีการปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้าอย่าง Ryzen 5 7535HS ด้วยการลดความเร็ว Boost Clock ลง 150 MHz เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัด ชิปนี้มี 6 คอร์ 12 เธรด พร้อมแคช L2 ขนาด 3MB และ L3 ขนาด 16MB รวมถึง iGPU Radeon 660M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2 Ryzen 5 7533HS รองรับหน่วยความจำ DDR5-4800 และ LPDDR5-6400 โดยมี TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 35W ถึง 54W ชิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานในแล็ปท็อปของ Lenovo เช่น ThinkBook 16 Gen 7 และ IdeaPad Slim 3/5 ซึ่งอาจเป็นการบ่งชี้ถึงความพิเศษที่ Lenovo ได้รับจาก AMD แม้ว่า Ryzen 5 7533HS จะไม่ได้เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตลาด แต่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหาแล็ปท็อปที่มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ ✅ สถาปัตยกรรมและการออกแบบ - ใช้สถาปัตยกรรม Rembrandt-R พร้อม 6 คอร์ 12 เธรด - iGPU Radeon 660M ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 2 ✅ การปรับปรุงจากรุ่นก่อนหน้า - ลด Boost Clock ลง 150 MHz เพื่อให้เหมาะสมกับตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัด - รองรับหน่วยความจำ DDR5-4800 และ LPDDR5-6400 ✅ การใช้งานในแล็ปท็อป - ใช้ในแล็ปท็อปของ Lenovo เช่น ThinkBook 16 Gen 7 และ IdeaPad Slim 3/5 - มี TDP ที่ปรับได้ระหว่าง 35W ถึง 54W ✅ เป้าหมายของ AMD - มุ่งเน้นตลาดแล็ปท็อปราคาประหยัดที่มีความสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/amds-ryzen-5-7533hs-apu-makes-its-debut-with-lenovos-budget-lineup
    0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • Elon Musk ได้เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า Colossus ซึ่งใช้ GPU Nvidia H100 จำนวน 100,000 ตัว ในการประมวลผล AI อย่างไรก็ตาม ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้เผชิญกับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนที่ใช้ในไซต์งาน Memphis รัฐเทนเนสซี

    ในช่วงแรก Colossus ใช้พลังงานเพียง 7 MW ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งาน GPU เพียง 4% ของทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหานี้ Musk ได้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่หลายตัวเพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ไซต์งานยังคงใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนกว่า 30 ตัว ซึ่งปล่อยสารมลพิษที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืด โรคทางเดินหายใจ และมะเร็งบางชนิด

    Southern Environmental Law Center (SELC) ได้ร่วมมือกับ South Wings ในการถ่ายภาพไซต์งานด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน และพบว่ามีจุดร้อนกว่า 30 จุด ซึ่งบ่งชี้ถึงจำนวนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่

    แม้ว่า Colossus จะได้รับการอนุมัติให้ใช้พลังงาน 150 MW แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าต้องการพลังงานอย่างน้อย 155 MW เพื่อใช้งาน GPU ทั้งหมด และหาก Musk ขยายการใช้งาน GPU เป็น 200,000 ตัว จะต้องการพลังงานถึง 310 MW

    ✅ การออกแบบและการใช้งาน
    - ใช้ GPU Nvidia H100 จำนวน 100,000 ตัว
    - ต้องการพลังงานอย่างน้อย 155 MW เพื่อใช้งาน GPU ทั้งหมด

    ✅ การแก้ไขปัญหาพลังงาน
    - ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนกว่า 30 ตัวเพื่อรองรับความต้องการพลังงาน
    - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าปล่อยสารมลพิษที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืดและมะเร็ง

    ✅ การตรวจสอบจาก SELC
    - พบจุดร้อนกว่า 30 จุดในไซต์งานด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน
    - SELC กำลังยื่นคำร้องต่อ Shelby County Health Department เพื่อปฏิเสธการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

    ✅ การขยายการใช้งาน GPU
    - หากขยายการใช้งาน GPU เป็น 200,000 ตัว จะต้องการพลังงานถึง 310 MW

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/elon-musks-nvidia-powered-colossus-supercomputer-faces-pollution-allegations-from-under-reported-power-generators
    Elon Musk ได้เปิดตัวซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ชื่อว่า Colossus ซึ่งใช้ GPU Nvidia H100 จำนวน 100,000 ตัว ในการประมวลผล AI อย่างไรก็ตาม ซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้เผชิญกับข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนที่ใช้ในไซต์งาน Memphis รัฐเทนเนสซี ในช่วงแรก Colossus ใช้พลังงานเพียง 7 MW ซึ่งเพียงพอสำหรับการใช้งาน GPU เพียง 4% ของทั้งหมด เพื่อแก้ไขปัญหานี้ Musk ได้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาดใหญ่หลายตัวเพื่อรองรับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยขณะนี้ไซต์งานยังคงใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนกว่า 30 ตัว ซึ่งปล่อยสารมลพิษที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืด โรคทางเดินหายใจ และมะเร็งบางชนิด Southern Environmental Law Center (SELC) ได้ร่วมมือกับ South Wings ในการถ่ายภาพไซต์งานด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน และพบว่ามีจุดร้อนกว่า 30 จุด ซึ่งบ่งชี้ถึงจำนวนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่ใช้งานอยู่ แม้ว่า Colossus จะได้รับการอนุมัติให้ใช้พลังงาน 150 MW แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าต้องการพลังงานอย่างน้อย 155 MW เพื่อใช้งาน GPU ทั้งหมด และหาก Musk ขยายการใช้งาน GPU เป็น 200,000 ตัว จะต้องการพลังงานถึง 310 MW ✅ การออกแบบและการใช้งาน - ใช้ GPU Nvidia H100 จำนวน 100,000 ตัว - ต้องการพลังงานอย่างน้อย 155 MW เพื่อใช้งาน GPU ทั้งหมด ✅ การแก้ไขปัญหาพลังงาน - ใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าก๊าซมีเทนกว่า 30 ตัวเพื่อรองรับความต้องการพลังงาน - เครื่องกำเนิดไฟฟ้าปล่อยสารมลพิษที่เชื่อมโยงกับโรคหอบหืดและมะเร็ง ✅ การตรวจสอบจาก SELC - พบจุดร้อนกว่า 30 จุดในไซต์งานด้วยกล้องถ่ายภาพความร้อน - SELC กำลังยื่นคำร้องต่อ Shelby County Health Department เพื่อปฏิเสธการใช้งานเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ✅ การขยายการใช้งาน GPU - หากขยายการใช้งาน GPU เป็น 200,000 ตัว จะต้องการพลังงานถึง 310 MW https://www.tomshardware.com/tech-industry/supercomputers/elon-musks-nvidia-powered-colossus-supercomputer-faces-pollution-allegations-from-under-reported-power-generators
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • Intel ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า 200S Boost สำหรับชิป Arrow Lake ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบผ่านการปรับปรุงความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างหน่วยความจำและชิป อย่างไรก็ตาม การทดสอบโดย Phoronix พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้งานบนระบบ Linux

    ฟีเจอร์ 200S Boost เป็นโปรไฟล์ที่สามารถเลือกเปิดใช้งานได้ใน BIOS โดยช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างชิปและหน่วยความจำ เช่น DDR5-7200 หรือ DDR5-8000 อย่างไรก็ตาม การทดสอบพบว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนใหญ่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น ไม่ใช่จากการปรับปรุงฟีเจอร์นี้โดยตรง

    Intel ได้พยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake ผ่านการอัปเดต BIOS และ Windows Updates รวมถึงการเปิดตัวโปรแกรม IPO ในประเทศจีน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งความเร็วและพลังงานของชิปได้ภายใต้การรับประกัน

    ✅ การออกแบบและการใช้งาน
    - ฟีเจอร์ 200S Boost ช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างชิปและหน่วยความจำ
    - สามารถเลือกเปิดใช้งานได้ใน BIOS

    ✅ ผลการทดสอบ
    - การปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนใหญ่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น
    - การทดสอบบน Linux พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ

    ✅ การปรับปรุงจาก Intel
    - Intel ได้อัปเดต BIOS และ Windows Updates เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake
    - เปิดตัวโปรแกรม IPO ในประเทศจีนเพื่อปรับแต่งความเร็วและพลังงานของชิป

    ✅ เป้าหมายของ Intel
    - มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake ผ่านการปรับปรุงเทคโนโลยี

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/tests-indicate-intels-200s-boost-feature-provides-no-real-gain-for-arrow-lake-cpus-on-linux
    Intel ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ชื่อว่า 200S Boost สำหรับชิป Arrow Lake ซึ่งออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบผ่านการปรับปรุงความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างหน่วยความจำและชิป อย่างไรก็ตาม การทดสอบโดย Phoronix พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญเมื่อใช้งานบนระบบ Linux ฟีเจอร์ 200S Boost เป็นโปรไฟล์ที่สามารถเลือกเปิดใช้งานได้ใน BIOS โดยช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างชิปและหน่วยความจำ เช่น DDR5-7200 หรือ DDR5-8000 อย่างไรก็ตาม การทดสอบพบว่าการปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนใหญ่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น ไม่ใช่จากการปรับปรุงฟีเจอร์นี้โดยตรง Intel ได้พยายามปรับปรุงประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake ผ่านการอัปเดต BIOS และ Windows Updates รวมถึงการเปิดตัวโปรแกรม IPO ในประเทศจีน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถปรับแต่งความเร็วและพลังงานของชิปได้ภายใต้การรับประกัน ✅ การออกแบบและการใช้งาน - ฟีเจอร์ 200S Boost ช่วยเพิ่มความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลระหว่างชิปและหน่วยความจำ - สามารถเลือกเปิดใช้งานได้ใน BIOS ✅ ผลการทดสอบ - การปรับปรุงประสิทธิภาพส่วนใหญ่เกิดจากการใช้หน่วยความจำที่มีความเร็วสูงขึ้น - การทดสอบบน Linux พบว่าฟีเจอร์นี้ไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ✅ การปรับปรุงจาก Intel - Intel ได้อัปเดต BIOS และ Windows Updates เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake - เปิดตัวโปรแกรม IPO ในประเทศจีนเพื่อปรับแต่งความเร็วและพลังงานของชิป ✅ เป้าหมายของ Intel - มุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของชิป Arrow Lake ผ่านการปรับปรุงเทคโนโลยี https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/tests-indicate-intels-200s-boost-feature-provides-no-real-gain-for-arrow-lake-cpus-on-linux
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews