• วัฏจักรกรรมแห่งสังสารวัฏ – ขาขึ้นและขาลง
    ---

    1. สังสารวัฏมีรอบขึ้นและรอบลง

    ไม่มีใครขึ้นสวรรค์ตลอดกาล

    ไม่มีใครตกนรกชั่วนิรันดร์

    ทุกชีวิตเวียนว่ายด้วยบุญและบาป

    ---

    2. เครื่องหมายของ ‘รอบขาขึ้น’

    ความกตัญญูรู้คุณ คือ “ภูมิสัตบุรุษ”

    รู้คุณพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ

    แม้เกิดมาต่ำต้อย แต่ใจสูง → สร้างกุศลได้ไม่จำกัด

    บาปเก่ากลายเป็นแรงส่งให้ทำดี → ชีวิตเชิดหัวขึ้น

    ---

    3. เครื่องหมายของ ‘รอบขาลง’

    ความหลอกลวง (มุสาวาท) คือ “ต้นทางแห่งบาปใหญ่”

    แม้เกิดมาพร้อมพรั่ง แต่หากโกหกโดยไม่ละอาย

    จะสามารถทำบาปอื่นๆ ได้ทั้งหมดโดยไม่มีขอบเขต

    บุญเก่าถูกใช้ไปกับความฉลาดแบบเจ้าเล่ห์

    ผลคือ → ชีวิตถูกบิดเบือน, ถูกหลอกซ้ำ, ตกต่ำ

    ---

    4. วิบากกรรมของคนหลอกลวง

    กรรมหนัก: ไปอบายภูมิ

    กรรมเบา: กลับมาเกิดแต่ถูกใส่ร้าย, หูเบา, หลงเชื่อง่าย

    ใช้กรรมเก่าที่ดี “มาสร้างบาปใหม่” สร้างอนาคตที่แย่ลง
    ---

    5. สาระสำคัญ
    กรรมดีในอดีตไม่ใช่เครื่องคุ้มกันถาวร
    ถ้าใช้กรรมเก่าอย่างผิดทาง
    ก็กลายเป็นปุ๋ยเร่งบาปให้สุกเร็วกว่าเดิม

    ---

    บทสรุป:
    วัฏจักรแห่งกรรมมีจริง
    ขาขึ้นเริ่มที่ “กตัญญู”
    ขาลงเริ่มที่ “หลอกลวง”
    เลือกฝึกใจให้เป็นทางบุญหรือทางบาปในวันนี้
    เพื่อชี้ทางพรุ่งนี้ว่าจะ "เชิดหน้า" หรือ "ก้มหน้า"
    วัฏจักรกรรมแห่งสังสารวัฏ – ขาขึ้นและขาลง --- 1. สังสารวัฏมีรอบขึ้นและรอบลง ไม่มีใครขึ้นสวรรค์ตลอดกาล ไม่มีใครตกนรกชั่วนิรันดร์ ทุกชีวิตเวียนว่ายด้วยบุญและบาป --- 2. เครื่องหมายของ ‘รอบขาขึ้น’ ความกตัญญูรู้คุณ คือ “ภูมิสัตบุรุษ” รู้คุณพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ แม้เกิดมาต่ำต้อย แต่ใจสูง → สร้างกุศลได้ไม่จำกัด บาปเก่ากลายเป็นแรงส่งให้ทำดี → ชีวิตเชิดหัวขึ้น --- 3. เครื่องหมายของ ‘รอบขาลง’ ความหลอกลวง (มุสาวาท) คือ “ต้นทางแห่งบาปใหญ่” แม้เกิดมาพร้อมพรั่ง แต่หากโกหกโดยไม่ละอาย จะสามารถทำบาปอื่นๆ ได้ทั้งหมดโดยไม่มีขอบเขต บุญเก่าถูกใช้ไปกับความฉลาดแบบเจ้าเล่ห์ ผลคือ → ชีวิตถูกบิดเบือน, ถูกหลอกซ้ำ, ตกต่ำ --- 4. วิบากกรรมของคนหลอกลวง กรรมหนัก: ไปอบายภูมิ กรรมเบา: กลับมาเกิดแต่ถูกใส่ร้าย, หูเบา, หลงเชื่อง่าย ใช้กรรมเก่าที่ดี “มาสร้างบาปใหม่” สร้างอนาคตที่แย่ลง --- 5. สาระสำคัญ กรรมดีในอดีตไม่ใช่เครื่องคุ้มกันถาวร ถ้าใช้กรรมเก่าอย่างผิดทาง ก็กลายเป็นปุ๋ยเร่งบาปให้สุกเร็วกว่าเดิม --- บทสรุป: วัฏจักรแห่งกรรมมีจริง ขาขึ้นเริ่มที่ “กตัญญู” ขาลงเริ่มที่ “หลอกลวง” เลือกฝึกใจให้เป็นทางบุญหรือทางบาปในวันนี้ เพื่อชี้ทางพรุ่งนี้ว่าจะ "เชิดหน้า" หรือ "ก้มหน้า"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเปิดเผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ บรรดาสมาชิกของกลุ่ม BRICS ได้มีการพูดคุยหารือกันเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ และแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อความตึงเครียดทางการค้า พร้อมเรียกร้องความเป็นหนึ่งเดียวกันในการปกป้องสภาพแวดล้อมทางการค้า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035592

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    จีนเปิดเผยเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ บรรดาสมาชิกของกลุ่ม BRICS ได้มีการพูดคุยหารือกันเกี่ยวกับมาตรการรีดภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯ และแสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อความตึงเครียดทางการค้า พร้อมเรียกร้องความเป็นหนึ่งเดียวกันในการปกป้องสภาพแวดล้อมทางการค้า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035592 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1455 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ควรมีประเทศไหนหลบหลีกกฎหมายระหว่างประเทศ อ้างสิทธิ์สำรวจทรัพยกรใต้ทะเลลึก จากคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนในวันจันทร์(14เม.ย.) ความเห็นซึ่งมีขึ้นตามหลังรายงานข่าวที่ระบุว่าสหัฐฯมีแผนรกักตุนก้อนแร่โลหะจากใต้ทะเลลึก (deep-sea metals) ในมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อลดทอนอิทธิพลของจีนในห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุและแรร์เอิร์ธ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035594

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ไม่ควรมีประเทศไหนหลบหลีกกฎหมายระหว่างประเทศ อ้างสิทธิ์สำรวจทรัพยกรใต้ทะเลลึก จากคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศจีนในวันจันทร์(14เม.ย.) ความเห็นซึ่งมีขึ้นตามหลังรายงานข่าวที่ระบุว่าสหัฐฯมีแผนรกักตุนก้อนแร่โลหะจากใต้ทะเลลึก (deep-sea metals) ในมหาสมุทรแปซิฟิก เพื่อลดทอนอิทธิพลของจีนในห่วงโซ่อุปทานแร่ธาตุและแรร์เอิร์ธ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000035594 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1498 มุมมอง 0 รีวิว
  • Happy Songkran 2025
    Happy Songkran 2025
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • “แรงดึงดูดสูง” จะไม่แสดงออกมากเกินควร คำพูดของพวกเขาฟังดูถ่อมตัวเช่นเดียวกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ คนที่มีเสน่ห์มากที่สุดไม่ใช่คนที่ดูหรูหราที่สุด คนเหล่านี้มีแรงดึงดูดแต่ก็ยังแฝงไปด้วยความสุขุมเสมอเสน่ห์จะเพิ่มพูนขึ้นเมื่อคุณซื่อสัตย์กับตัวเองและผู้อื่น เมื่อคุณยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นโดยไม่หันไปสวมบทบาทที่ไม่เหมาะกับตัวตนที่แท้จริงของคุณ

    บุคลิกที่ดูมีเสน่ห์ดึงดูดมีหลายรูปแบบและเราแต่ละคนสามารถเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดได้ตราบใดที่เราเป็นตัวของตัวเองใน ทุก ๆ สถานการณ์เช่นเดียวกับแมว

    แผ่เสน่ห์และแรงดึงดูดของคุณออกมา โดยเป็นตัวคุณที่จริงใจ สุขุม ไม่เติมแต่ง และเป็นตัวเองอย่างแท้จริง

    จากหนังสือ #HowToLiveLikeYourCat
    “แรงดึงดูดสูง” จะไม่แสดงออกมากเกินควร คำพูดของพวกเขาฟังดูถ่อมตัวเช่นเดียวกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ คนที่มีเสน่ห์มากที่สุดไม่ใช่คนที่ดูหรูหราที่สุด คนเหล่านี้มีแรงดึงดูดแต่ก็ยังแฝงไปด้วยความสุขุมเสมอเสน่ห์จะเพิ่มพูนขึ้นเมื่อคุณซื่อสัตย์กับตัวเองและผู้อื่น เมื่อคุณยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นโดยไม่หันไปสวมบทบาทที่ไม่เหมาะกับตัวตนที่แท้จริงของคุณ บุคลิกที่ดูมีเสน่ห์ดึงดูดมีหลายรูปแบบและเราแต่ละคนสามารถเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดได้ตราบใดที่เราเป็นตัวของตัวเองใน ทุก ๆ สถานการณ์เช่นเดียวกับแมว แผ่เสน่ห์และแรงดึงดูดของคุณออกมา โดยเป็นตัวคุณที่จริงใจ สุขุม ไม่เติมแต่ง และเป็นตัวเองอย่างแท้จริง จากหนังสือ #HowToLiveLikeYourCat
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงความก้าวหน้าของ Quantum Computing ที่ Google กำลังพัฒนาเพื่อสร้างประโยชน์ในด้านสุขภาพ พลังงาน และเทคโนโลยีแบตเตอรี่

    เนื่องในวัน World Quantum Day Google ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสามประโยชน์หลักที่ Quantum Computing จะช่วยให้เกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่ การค้นพบยาใหม่, การพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น, และ การออกแบบเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชัน

    ✅ Quantum Computing กับการค้นพบยาใหม่
    - ช่วยจำลองโครงสร้างโมเลกุลของยาได้แม่นยำขึ้น
    - Google ร่วมมือกับ Boehringer Ingelheim เพื่อศึกษาการจำลองเอนไซม์ Cytochrome P450

    ✅ Quantum Computing กับแบตเตอรี่
    - ช่วยออกแบบวัสดุใหม่สำหรับแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - Google ร่วมมือกับ BASF เพื่อศึกษาการจำลอง Lithium Nickel Oxide (LNO)

    ✅ Quantum Computing กับพลังงานฟิวชัน
    - ช่วยออกแบบเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - Google ร่วมมือกับ Sandia National Laboratories เพื่อพัฒนาอัลกอริธึมสำหรับจำลองกระบวนการฟิวชัน

    ℹ️ ข้อจำกัดของ Quantum Computing
    - เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา
    - การสร้าง Quantum Computer ที่มีความเสถียรและใช้งานได้จริงยังเป็นความท้าทาย

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - Quantum Computing อาจเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยา พลังงาน และเทคโนโลยีแบตเตอรี่
    - บริษัทที่ไม่สามารถปรับตัวได้อาจเสียเปรียบในการแข่งขัน

    https://www.neowin.net/news/googles-quantum-computing-efforts-to-give-you-better-health-and-unlimited-electricity/
    ข่าวนี้เล่าถึงความก้าวหน้าของ Quantum Computing ที่ Google กำลังพัฒนาเพื่อสร้างประโยชน์ในด้านสุขภาพ พลังงาน และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ เนื่องในวัน World Quantum Day Google ได้เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสามประโยชน์หลักที่ Quantum Computing จะช่วยให้เกิดขึ้นในอนาคต ได้แก่ การค้นพบยาใหม่, การพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น, และ การออกแบบเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชัน ✅ Quantum Computing กับการค้นพบยาใหม่ - ช่วยจำลองโครงสร้างโมเลกุลของยาได้แม่นยำขึ้น - Google ร่วมมือกับ Boehringer Ingelheim เพื่อศึกษาการจำลองเอนไซม์ Cytochrome P450 ✅ Quantum Computing กับแบตเตอรี่ - ช่วยออกแบบวัสดุใหม่สำหรับแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - Google ร่วมมือกับ BASF เพื่อศึกษาการจำลอง Lithium Nickel Oxide (LNO) ✅ Quantum Computing กับพลังงานฟิวชัน - ช่วยออกแบบเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - Google ร่วมมือกับ Sandia National Laboratories เพื่อพัฒนาอัลกอริธึมสำหรับจำลองกระบวนการฟิวชัน ℹ️ ข้อจำกัดของ Quantum Computing - เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและต้องใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา - การสร้าง Quantum Computer ที่มีความเสถียรและใช้งานได้จริงยังเป็นความท้าทาย ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - Quantum Computing อาจเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมยา พลังงาน และเทคโนโลยีแบตเตอรี่ - บริษัทที่ไม่สามารถปรับตัวได้อาจเสียเปรียบในการแข่งขัน https://www.neowin.net/news/googles-quantum-computing-efforts-to-give-you-better-health-and-unlimited-electricity/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google's quantum computing efforts to give you better health and unlimited electricity
    For World Quantum Day, Google has outlined some of the big potential benefits quantum computers could deliver from the 2030s. Here are Google's picks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการอัปเดต Google Docs ที่เพิ่มการรองรับ 14 ภาษาโปรแกรมใหม่ ในฟีเจอร์ Code Blocks ซึ่งช่วยให้การแสดงผลโค้ดมีความชัดเจนและอ่านง่ายขึ้น

    Google เปิดตัวฟีเจอร์ Smart Canvas ในปี 2022 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดรูปแบบและแสดงโค้ดในเอกสารได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องคัดลอกโค้ดไปวางและปรับแต่งเอง การอัปเดตล่าสุดนี้ช่วยให้รองรับภาษาโปรแกรมเพิ่มเติม เช่น C#, Go, Kotlin, PHP, Rust, TypeScript, HTML, CSS, XML, JSON, Protobuf, Textproto, SQL และ Bash/Shell

    ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักพัฒนา API, เอกสารซอฟต์แวร์, และ บทเรียนการเขียนโค้ด เนื่องจากช่วยให้สามารถแสดงตัวอย่างโค้ดได้อย่างเป็นระเบียบและเข้าใจง่าย

    นอกจากนี้ Google Docs ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การแทรกเทมเพลตปฏิทิน, @-mentions, ร่างอีเมล, AI summaries, และ ระบบติดตามโครงการ

    ✅ การอัปเดต Code Blocks ใน Google Docs
    - เพิ่มการรองรับ 14 ภาษาโปรแกรมใหม่
    - ช่วยให้การแสดงผลโค้ดมีความชัดเจนและอ่านง่ายขึ้น

    ✅ ฟีเจอร์ Smart Canvas
    - เปิดตัวในปี 2022 เพื่อช่วยจัดรูปแบบและแสดงโค้ดในเอกสาร
    - ลดขั้นตอนการคัดลอกและปรับแต่งโค้ดเอง

    ✅ ภาษาที่รองรับใน Code Blocks
    - C#, Go, Kotlin, PHP, Rust, TypeScript, HTML, CSS, XML, JSON, Protobuf, Textproto, SQL และ Bash/Shell

    ✅ ฟีเจอร์อื่นๆ ใน Google Docs
    - การแทรกเทมเพลตปฏิทิน, @-mentions, ร่างอีเมล, AI summaries
    - ระบบติดตามโครงการ เช่น Review Tracking, Team Directory, Content Launch Tracker

    ℹ️ ข้อจำกัดของฟีเจอร์ Code Blocks
    - ผู้ดูแลระบบ Workspace Admins ไม่มีสิทธิ์ควบคุมฟีเจอร์นี้
    - การอัปเดตจะถูกทยอยเปิดให้ใช้งานในบางระดับของ Google Workspace

    ℹ️ ผลกระทบต่อการทำงานร่วมกัน
    - การเพิ่มภาษาโปรแกรมใหม่ช่วยให้การทำงานร่วมกันของนักพัฒนามีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวสำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับฟีเจอร์นี้

    https://www.neowin.net/news/google-docs-adds-14-new-programming-languages-to-code-blocks/
    ข่าวนี้เล่าถึงการอัปเดต Google Docs ที่เพิ่มการรองรับ 14 ภาษาโปรแกรมใหม่ ในฟีเจอร์ Code Blocks ซึ่งช่วยให้การแสดงผลโค้ดมีความชัดเจนและอ่านง่ายขึ้น Google เปิดตัวฟีเจอร์ Smart Canvas ในปี 2022 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดรูปแบบและแสดงโค้ดในเอกสารได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องคัดลอกโค้ดไปวางและปรับแต่งเอง การอัปเดตล่าสุดนี้ช่วยให้รองรับภาษาโปรแกรมเพิ่มเติม เช่น C#, Go, Kotlin, PHP, Rust, TypeScript, HTML, CSS, XML, JSON, Protobuf, Textproto, SQL และ Bash/Shell ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างมากสำหรับนักพัฒนา API, เอกสารซอฟต์แวร์, และ บทเรียนการเขียนโค้ด เนื่องจากช่วยให้สามารถแสดงตัวอย่างโค้ดได้อย่างเป็นระเบียบและเข้าใจง่าย นอกจากนี้ Google Docs ยังมีฟีเจอร์อื่นๆ ที่ช่วยให้การทำงานร่วมกันมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การแทรกเทมเพลตปฏิทิน, @-mentions, ร่างอีเมล, AI summaries, และ ระบบติดตามโครงการ ✅ การอัปเดต Code Blocks ใน Google Docs - เพิ่มการรองรับ 14 ภาษาโปรแกรมใหม่ - ช่วยให้การแสดงผลโค้ดมีความชัดเจนและอ่านง่ายขึ้น ✅ ฟีเจอร์ Smart Canvas - เปิดตัวในปี 2022 เพื่อช่วยจัดรูปแบบและแสดงโค้ดในเอกสาร - ลดขั้นตอนการคัดลอกและปรับแต่งโค้ดเอง ✅ ภาษาที่รองรับใน Code Blocks - C#, Go, Kotlin, PHP, Rust, TypeScript, HTML, CSS, XML, JSON, Protobuf, Textproto, SQL และ Bash/Shell ✅ ฟีเจอร์อื่นๆ ใน Google Docs - การแทรกเทมเพลตปฏิทิน, @-mentions, ร่างอีเมล, AI summaries - ระบบติดตามโครงการ เช่น Review Tracking, Team Directory, Content Launch Tracker ℹ️ ข้อจำกัดของฟีเจอร์ Code Blocks - ผู้ดูแลระบบ Workspace Admins ไม่มีสิทธิ์ควบคุมฟีเจอร์นี้ - การอัปเดตจะถูกทยอยเปิดให้ใช้งานในบางระดับของ Google Workspace ℹ️ ผลกระทบต่อการทำงานร่วมกัน - การเพิ่มภาษาโปรแกรมใหม่ช่วยให้การทำงานร่วมกันของนักพัฒนามีประสิทธิภาพมากขึ้น - อาจต้องใช้เวลาในการปรับตัวสำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่คุ้นเคยกับฟีเจอร์นี้ https://www.neowin.net/news/google-docs-adds-14-new-programming-languages-to-code-blocks/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Docs adds 14 new programming languages to code blocks
    Google's latest update to the Google Docs code blocks feature brings support for more than a dozen new programming languages.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple กำลังปรับกลยุทธ์ในการพัฒนา AI โดยเปลี่ยนจากการใช้ข้อมูลสังเคราะห์เพียงอย่างเดียว มาเป็นการตรวจสอบข้อมูลจริงจากอีเมลที่อยู่บนอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยตรง โดยไม่ส่งข้อมูลกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Apple วิธีนี้ช่วยให้ AI สามารถปรับปรุงความแม่นยำในการสรุปข้อความและแนะนำการเขียนได้ดีขึ้น

    Apple อธิบายว่า ข้อมูลสังเคราะห์ ที่ใช้ในการฝึก AI นั้นมีข้อจำกัด เพราะแม้จะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว แต่ก็อาจไม่สะท้อนรูปแบบการสื่อสารของผู้ใช้จริง ส่งผลให้ AI ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ เช่น Siri ที่ยังมีข้อผิดพลาดในการตอบคำถาม และระบบแจ้งเตือนที่ไม่แม่นยำ

    เพื่อแก้ไขปัญหานี้ Apple จะเริ่มใช้ระบบใหม่ใน iOS 18.5, iPadOS 18.5 และ macOS 15.5 ที่ช่วยให้ AI สามารถตรวจสอบอีเมลของผู้ใช้โดยไม่ต้องเก็บข้อมูลไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การสรุปข้อความ, การแนะนำการเขียน, Image Playground, และ Memories Creation

    นอกจากนี้ Apple ยังใช้ Differential Privacy เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของผู้ใช้โดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การปรับปรุงการสร้าง Genmoji โดยดูจากคำขอที่คล้ายกันของผู้ใช้หลายคน

    ✅ แนวทางใหม่ของ Apple ในการฝึก AI
    - ใช้ข้อมูลจากอีเมลของผู้ใช้โดยตรง โดยไม่ส่งข้อมูลกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์
    - ช่วยปรับปรุงความแม่นยำในการสรุปข้อความและแนะนำการเขียน

    ✅ ข้อจำกัดของข้อมูลสังเคราะห์
    - แม้จะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว แต่ไม่สะท้อนรูปแบบการสื่อสารของผู้ใช้จริง
    - ส่งผลให้ Siri และระบบแจ้งเตือนทำงานได้ไม่สมบูรณ์

    ✅ การอัปเดตใน iOS 18.5, iPadOS 18.5 และ macOS 15.5
    - ระบบใหม่ช่วยให้ AI ตรวจสอบอีเมลของผู้ใช้โดยไม่ต้องเก็บข้อมูลไว้ที่เซิร์ฟเวอร์
    - ปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การสรุปข้อความ, Image Playground, และ Memories Creation

    ✅ การใช้ Differential Privacy
    - วิเคราะห์แนวโน้มของผู้ใช้โดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
    - ปรับปรุงการสร้าง Genmoji โดยดูจากคำขอที่คล้ายกันของผู้ใช้หลายคน

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว
    - แม้ Apple จะเน้นความเป็นส่วนตัว แต่การใช้ข้อมูลจากอีเมลอาจทำให้เกิดข้อกังวล
    - ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ผ่าน Device Analytics และ Product Improvement Settings

    ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด AI
    - Apple พยายามไล่ตาม OpenAI, Microsoft และ Google ในการพัฒนา AI
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยให้ Apple Intelligence แข่งขันได้ดีขึ้น

    https://www.neowin.net/news/apple-wants-to-train-ai-on-your-emails-in-a-way-that-protects-your-privacy/
    Apple กำลังปรับกลยุทธ์ในการพัฒนา AI โดยเปลี่ยนจากการใช้ข้อมูลสังเคราะห์เพียงอย่างเดียว มาเป็นการตรวจสอบข้อมูลจริงจากอีเมลที่อยู่บนอุปกรณ์ของผู้ใช้โดยตรง โดยไม่ส่งข้อมูลกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Apple วิธีนี้ช่วยให้ AI สามารถปรับปรุงความแม่นยำในการสรุปข้อความและแนะนำการเขียนได้ดีขึ้น Apple อธิบายว่า ข้อมูลสังเคราะห์ ที่ใช้ในการฝึก AI นั้นมีข้อจำกัด เพราะแม้จะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว แต่ก็อาจไม่สะท้อนรูปแบบการสื่อสารของผู้ใช้จริง ส่งผลให้ AI ทำงานได้ไม่สมบูรณ์ เช่น Siri ที่ยังมีข้อผิดพลาดในการตอบคำถาม และระบบแจ้งเตือนที่ไม่แม่นยำ เพื่อแก้ไขปัญหานี้ Apple จะเริ่มใช้ระบบใหม่ใน iOS 18.5, iPadOS 18.5 และ macOS 15.5 ที่ช่วยให้ AI สามารถตรวจสอบอีเมลของผู้ใช้โดยไม่ต้องเก็บข้อมูลไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ ซึ่งจะช่วยปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การสรุปข้อความ, การแนะนำการเขียน, Image Playground, และ Memories Creation นอกจากนี้ Apple ยังใช้ Differential Privacy เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของผู้ใช้โดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล เช่น การปรับปรุงการสร้าง Genmoji โดยดูจากคำขอที่คล้ายกันของผู้ใช้หลายคน ✅ แนวทางใหม่ของ Apple ในการฝึก AI - ใช้ข้อมูลจากอีเมลของผู้ใช้โดยตรง โดยไม่ส่งข้อมูลกลับไปยังเซิร์ฟเวอร์ - ช่วยปรับปรุงความแม่นยำในการสรุปข้อความและแนะนำการเขียน ✅ ข้อจำกัดของข้อมูลสังเคราะห์ - แม้จะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัว แต่ไม่สะท้อนรูปแบบการสื่อสารของผู้ใช้จริง - ส่งผลให้ Siri และระบบแจ้งเตือนทำงานได้ไม่สมบูรณ์ ✅ การอัปเดตใน iOS 18.5, iPadOS 18.5 และ macOS 15.5 - ระบบใหม่ช่วยให้ AI ตรวจสอบอีเมลของผู้ใช้โดยไม่ต้องเก็บข้อมูลไว้ที่เซิร์ฟเวอร์ - ปรับปรุงฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การสรุปข้อความ, Image Playground, และ Memories Creation ✅ การใช้ Differential Privacy - วิเคราะห์แนวโน้มของผู้ใช้โดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล - ปรับปรุงการสร้าง Genmoji โดยดูจากคำขอที่คล้ายกันของผู้ใช้หลายคน ℹ️ ความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว - แม้ Apple จะเน้นความเป็นส่วนตัว แต่การใช้ข้อมูลจากอีเมลอาจทำให้เกิดข้อกังวล - ผู้ใช้ต้องเลือกเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ผ่าน Device Analytics และ Product Improvement Settings ℹ️ ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด AI - Apple พยายามไล่ตาม OpenAI, Microsoft และ Google ในการพัฒนา AI - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจช่วยให้ Apple Intelligence แข่งขันได้ดีขึ้น https://www.neowin.net/news/apple-wants-to-train-ai-on-your-emails-in-a-way-that-protects-your-privacy/
    WWW.NEOWIN.NET
    Apple wants to train AI on your emails in a way that protects your privacy
    Apple has lagged behind in AI, but now it's using user data to improve its models while "protecting privacy."
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการขยายการรองรับ Windows on Arm runners ใน GitHub Actions สำหรับ ทุก public repository ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของ Microsoft ในการสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม Arm

    ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2022 Microsoft เปิดตัว self-hosted runners สำหรับ Windows on Arm ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ที่ใช้ Arm-based Windows ได้โดยไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง จากนั้นในปี 2024 GitHub ได้เปิดตัว public beta สำหรับ Arm-based Linux และ Windows runners และในเดือนกันยายน 2024 ฟีเจอร์นี้ก็ได้รับการเปิดให้ใช้งานทั่วไป

    ล่าสุด Microsoft ได้ประกาศขยายการรองรับ Windows on Arm runners ไปยัง ทุก public repository รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้ Arm runners ได้โดยไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม

    Windows on Arm กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะจากนักพัฒนา เนื่องจาก Microsoft ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm

    ✅ การขยายการรองรับ Windows on Arm runners
    - Microsoft เปิดให้ใช้งาน Windows on Arm runners ในทุก public repository
    - รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier

    ✅ ประโยชน์ของการใช้ Arm runners
    - ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บน Arm-based Windows ได้ง่ายขึ้น
    - ไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง

    ✅ การลงทุนของ Microsoft ใน Windows on Arm
    - Microsoft ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm
    - Windows on Arm ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักพัฒนา

    ℹ️ ข้อจำกัดของ Windows on Arm runners
    - นักพัฒนาอาจต้องปรับแต่ง workflow เพื่อรองรับ Arm architecture
    - การใช้งานบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์เท่ากับแพลตฟอร์ม x86

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์
    - การขยายการรองรับ Arm อาจช่วยให้แพลตฟอร์มนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น
    - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสถาปัตยกรรม

    https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-windows-on-arm-runner-support-to-github-actions-for-all-public-repositories/
    ข่าวนี้เล่าถึงการขยายการรองรับ Windows on Arm runners ใน GitHub Actions สำหรับ ทุก public repository ซึ่งเป็นก้าวสำคัญของ Microsoft ในการสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม Arm ย้อนกลับไปในเดือนกันยายน 2022 Microsoft เปิดตัว self-hosted runners สำหรับ Windows on Arm ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์ที่ใช้ Arm-based Windows ได้โดยไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง จากนั้นในปี 2024 GitHub ได้เปิดตัว public beta สำหรับ Arm-based Linux และ Windows runners และในเดือนกันยายน 2024 ฟีเจอร์นี้ก็ได้รับการเปิดให้ใช้งานทั่วไป ล่าสุด Microsoft ได้ประกาศขยายการรองรับ Windows on Arm runners ไปยัง ทุก public repository รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถใช้ Arm runners ได้โดยไม่ต้องมีโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม Windows on Arm กำลังได้รับความสนใจมากขึ้น โดยเฉพาะจากนักพัฒนา เนื่องจาก Microsoft ได้ลงทุนอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm ✅ การขยายการรองรับ Windows on Arm runners - Microsoft เปิดให้ใช้งาน Windows on Arm runners ในทุก public repository - รวมถึงบัญชีที่ใช้ GitHub Free tier ✅ ประโยชน์ของการใช้ Arm runners - ช่วยให้นักพัฒนาสามารถทดสอบและสร้างซอฟต์แวร์บน Arm-based Windows ได้ง่ายขึ้น - ไม่ต้องตั้งค่าโครงสร้างพื้นฐานเอง ✅ การลงทุนของ Microsoft ใน Windows on Arm - Microsoft ปรับปรุงเครื่องมือสำหรับ Copilot+ PCs ที่ใช้ชิป Qualcomm - Windows on Arm ได้รับความสนใจมากขึ้นจากนักพัฒนา ℹ️ ข้อจำกัดของ Windows on Arm runners - นักพัฒนาอาจต้องปรับแต่ง workflow เพื่อรองรับ Arm architecture - การใช้งานบางอย่างอาจยังไม่สมบูรณ์เท่ากับแพลตฟอร์ม x86 ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ - การขยายการรองรับ Arm อาจช่วยให้แพลตฟอร์มนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสถาปัตยกรรม https://www.neowin.net/news/microsoft-brings-windows-on-arm-runner-support-to-github-actions-for-all-public-repositories/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft brings Windows on Arm runner support to GitHub Actions for all public repositories
    Developers can now finally integrate Windows on Arm runners into their CI workflows across all public GitHub repositories.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไปกันต่อ งานประเพณีสงการนต์ ใน อ.ศรีราชา 2568
    17-18 เม.ย. งานประเพณีแห่พญายม สงกรานต์บางพระ
    18 เม.ย. ประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ และ สงกรานต์เกาะสีชัง
    19-21 เม.ย. งานสงกรานต์ศรีมหาราชา และ ประเพณีกองข้าว
    กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8
    ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9
    สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    ไปกันต่อ งานประเพณีสงการนต์ ใน อ.ศรีราชา 2568 17-18 เม.ย. งานประเพณีแห่พญายม สงกรานต์บางพระ 18 เม.ย. ประเพณีอุ้มสาวลงน้ำ และ สงกรานต์เกาะสีชัง 19-21 เม.ย. งานสงกรานต์ศรีมหาราชา และ ประเพณีกองข้าว กาแฟ ชา ไข่ลวก ไฮ้ หมวย https://goo.gl/maps/rf3UG3QF3pHTPSAz8 ร้าน เจ กาแฟโบราณ https://goo.gl/maps/H7rqh7TzoHMXZHeh9 สั่งออนไลน์ ลิงค์อยู่ในช่องแสดงความคิดเห็น
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงแนวทางที่ CISOs (Chief Information Security Officers) ควรใช้ในการสื่อสารกับคณะกรรมการบริษัท เพื่อให้สามารถนำเสนอข้อมูลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ

    ✅ แนวทางการสื่อสารของ CISOs กับคณะกรรมการ
    - แปลความเสี่ยงทางไซเบอร์ให้เป็นภาษาธุรกิจ
    - หาพันธมิตรในคณะกรรมการเพื่อช่วยปรับปรุงการนำเสนอ

    ✅ การพัฒนาเอกสารช่วยให้คณะกรรมการเข้าใจข้อมูล
    - เอกสารอธิบายคำศัพท์ด้านความปลอดภัย
    - เอกสารแนวทางการปฏิบัติตามมาตรฐาน

    ✅ การศึกษาประวัติของสมาชิกคณะกรรมการ
    - เข้าใจมุมมองและความคาดหวังของคณะกรรมการ
    - ปรับการนำเสนอให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท

    ℹ️ ข้อจำกัดของการสื่อสารด้านความปลอดภัย
    - คณะกรรมการบางคนอาจไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี
    - การนำเสนอข้อมูลที่ซับซ้อนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด

    ℹ️ ผลกระทบต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการ
    - หากข้อมูลด้านความปลอดภัยไม่ถูกนำเสนออย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุน
    - การขาดความเข้าใจด้านไซเบอร์อาจทำให้คณะกรรมการมองข้ามความเสี่ยงที่สำคัญ

    https://www.csoonline.com/article/3953098/what-boards-want-and-dont-want-to-hear-from-cybersecurity-leaders.html
    ข่าวนี้เล่าถึงแนวทางที่ CISOs (Chief Information Security Officers) ควรใช้ในการสื่อสารกับคณะกรรมการบริษัท เพื่อให้สามารถนำเสนอข้อมูลด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับเป้าหมายทางธุรกิจ ✅ แนวทางการสื่อสารของ CISOs กับคณะกรรมการ - แปลความเสี่ยงทางไซเบอร์ให้เป็นภาษาธุรกิจ - หาพันธมิตรในคณะกรรมการเพื่อช่วยปรับปรุงการนำเสนอ ✅ การพัฒนาเอกสารช่วยให้คณะกรรมการเข้าใจข้อมูล - เอกสารอธิบายคำศัพท์ด้านความปลอดภัย - เอกสารแนวทางการปฏิบัติตามมาตรฐาน ✅ การศึกษาประวัติของสมาชิกคณะกรรมการ - เข้าใจมุมมองและความคาดหวังของคณะกรรมการ - ปรับการนำเสนอให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัท ℹ️ ข้อจำกัดของการสื่อสารด้านความปลอดภัย - คณะกรรมการบางคนอาจไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยี - การนำเสนอข้อมูลที่ซับซ้อนอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด ℹ️ ผลกระทบต่อการตัดสินใจของคณะกรรมการ - หากข้อมูลด้านความปลอดภัยไม่ถูกนำเสนออย่างเหมาะสม อาจส่งผลต่อการตัดสินใจลงทุน - การขาดความเข้าใจด้านไซเบอร์อาจทำให้คณะกรรมการมองข้ามความเสี่ยงที่สำคัญ https://www.csoonline.com/article/3953098/what-boards-want-and-dont-want-to-hear-from-cybersecurity-leaders.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    What boards want and don’t want to hear from cybersecurity leaders
    To get through to board members, cybersecurity leaders need to not only learn the language of business but how to translate cyber risk in a way board members can make sense of.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึง ภัยคุกคามจากแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ ที่แฝงตัวเข้ามาในบริษัทต่างๆ ทั่วโลกผ่านการสมัครงานในตำแหน่ง IT โดยใช้ ข้อมูลปลอมและเทคโนโลยี Deepfake เพื่อหลอกลวงนายจ้าง

    ✅ กลยุทธ์ของแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ
    - ใช้ข้อมูลปลอม เช่น ชื่อและเอกสารของพลเมืองสหรัฐฯ
    - ใช้ Deepfake เพื่อปลอมแปลงใบหน้าระหว่างสัมภาษณ์งาน

    ✅ ภัยคุกคามต่อบริษัทต่างๆ
    - แฮกเกอร์ไม่ได้โจมตีระบบโดยตรง แต่ใช้สิทธิ์การเข้าถึงของพนักงาน
    - กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตือนถึงภัยคุกคามนี้ตั้งแต่ปี 2022

    ✅ ตัวอย่างเหตุการณ์จริง
    - Christina Chapman ช่วยให้แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และสมัครงานในบริษัทกว่า 300 แห่ง
    - Oleksandr Didenko ขายบัญชีปลอมให้แฮกเกอร์เพื่อใช้สมัครงาน

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยขององค์กร
    - แฮกเกอร์สามารถใช้สิทธิ์ของพนักงานเพื่อเปิดทางให้กับการโจมตีไซเบอร์
    - บริษัทที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลพนักงานอย่างละเอียดอาจตกเป็นเป้าหมาย

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับการป้องกัน
    - ตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครงานอย่างละเอียด รวมถึงการสัมภาษณ์แบบวิดีโอ
    - ใช้ระบบตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวด เช่น การตรวจสอบเอกสารและที่อยู่

    https://www.csoonline.com/article/3497138/how-not-to-hire-a-north-korean-it-spy.html
    ข่าวนี้เล่าถึง ภัยคุกคามจากแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ ที่แฝงตัวเข้ามาในบริษัทต่างๆ ทั่วโลกผ่านการสมัครงานในตำแหน่ง IT โดยใช้ ข้อมูลปลอมและเทคโนโลยี Deepfake เพื่อหลอกลวงนายจ้าง ✅ กลยุทธ์ของแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ - ใช้ข้อมูลปลอม เช่น ชื่อและเอกสารของพลเมืองสหรัฐฯ - ใช้ Deepfake เพื่อปลอมแปลงใบหน้าระหว่างสัมภาษณ์งาน ✅ ภัยคุกคามต่อบริษัทต่างๆ - แฮกเกอร์ไม่ได้โจมตีระบบโดยตรง แต่ใช้สิทธิ์การเข้าถึงของพนักงาน - กระทรวงการคลังสหรัฐฯ เตือนถึงภัยคุกคามนี้ตั้งแต่ปี 2022 ✅ ตัวอย่างเหตุการณ์จริง - Christina Chapman ช่วยให้แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็นพลเมืองสหรัฐฯ และสมัครงานในบริษัทกว่า 300 แห่ง - Oleksandr Didenko ขายบัญชีปลอมให้แฮกเกอร์เพื่อใช้สมัครงาน ℹ️ ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยขององค์กร - แฮกเกอร์สามารถใช้สิทธิ์ของพนักงานเพื่อเปิดทางให้กับการโจมตีไซเบอร์ - บริษัทที่ไม่ตรวจสอบข้อมูลพนักงานอย่างละเอียดอาจตกเป็นเป้าหมาย ℹ️ คำแนะนำสำหรับการป้องกัน - ตรวจสอบข้อมูลผู้สมัครงานอย่างละเอียด รวมถึงการสัมภาษณ์แบบวิดีโอ - ใช้ระบบตรวจสอบตัวตนที่เข้มงวด เช่น การตรวจสอบเอกสารและที่อยู่ https://www.csoonline.com/article/3497138/how-not-to-hire-a-north-korean-it-spy.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How not to hire a North Korean IT spy
    CISOs are urged to carry out tighter vetting of new hires to ward off potential ‘moles’ — who are increasingly finding their way onto company payrolls and into their IT systems.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึง ภัยคุกคามไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Slopsquatting ซึ่งเกิดจาก AI hallucinations หรือข้อผิดพลาดของโมเดล AI ที่แนะนำแพ็กเกจซอฟต์แวร์ที่ไม่มีอยู่จริง

    ✅ Slopsquatting คืออะไร?
    Slopsquatting เป็นเทคนิคที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อสร้างแพ็กเกจซอฟต์แวร์ปลอม โดยอาศัยข้อผิดพลาดของ Generative AI ที่แนะนำแพ็กเกจที่ไม่มีอยู่จริงให้กับนักพัฒนา เมื่อ AI เช่น GPT-4, CodeLlama หรือ DeepSeek แนะนำแพ็กเกจที่ไม่มีอยู่จริง แฮกเกอร์สามารถลงทะเบียนชื่อแพ็กเกจนั้นและใส่โค้ดอันตรายเข้าไป

    นักวิจัยจาก University of Texas at San Antonio, Virginia Tech และ University of Oklahoma พบว่า 19.7% ของแพ็กเกจที่ AI แนะนำเป็นแพ็กเกจปลอม โดยเฉพาะโมเดล CodeLlama ที่มีอัตราการแนะนำแพ็กเกจปลอมสูงถึง 33% ขณะที่ GPT-4 Turbo มีอัตราการแนะนำแพ็กเกจปลอมต่ำสุดที่ 3.59%

    ✅ ผลกระทบของ Slopsquatting
    ภัยคุกคามนี้อันตรายเพราะแพ็กเกจปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมักมีชื่อคล้ายกับแพ็กเกจจริง ทำให้นักพัฒนาอาจติดตั้งโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยพบว่า 43% ของแพ็กเกจปลอมที่ถูกแนะนำซ้ำกันในการทดสอบ 10 ครั้ง ซึ่งหมายความว่า AI มีแนวโน้มที่จะแนะนำแพ็กเกจปลอมเดิมซ้ำๆ

    ✅ มาตรการป้องกัน
    นักวิจัยแนะนำให้ นักพัฒนาใช้เครื่องมือสแกนแพ็กเกจก่อนนำไปใช้งาน และหลีกเลี่ยงการติดตั้งแพ็กเกจที่ไม่มีการตรวจสอบความถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับ การลดเวลาทดสอบโมเดล AI ซึ่งอาจทำให้ AI มีแนวโน้มเกิดข้อผิดพลาดมากขึ้น

    https://www.csoonline.com/article/3961304/ai-hallucinations-lead-to-new-cyber-threat-slopsquatting.html
    ข่าวนี้เล่าถึง ภัยคุกคามไซเบอร์รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า Slopsquatting ซึ่งเกิดจาก AI hallucinations หรือข้อผิดพลาดของโมเดล AI ที่แนะนำแพ็กเกจซอฟต์แวร์ที่ไม่มีอยู่จริง ✅ Slopsquatting คืออะไร? Slopsquatting เป็นเทคนิคที่แฮกเกอร์ใช้เพื่อสร้างแพ็กเกจซอฟต์แวร์ปลอม โดยอาศัยข้อผิดพลาดของ Generative AI ที่แนะนำแพ็กเกจที่ไม่มีอยู่จริงให้กับนักพัฒนา เมื่อ AI เช่น GPT-4, CodeLlama หรือ DeepSeek แนะนำแพ็กเกจที่ไม่มีอยู่จริง แฮกเกอร์สามารถลงทะเบียนชื่อแพ็กเกจนั้นและใส่โค้ดอันตรายเข้าไป นักวิจัยจาก University of Texas at San Antonio, Virginia Tech และ University of Oklahoma พบว่า 19.7% ของแพ็กเกจที่ AI แนะนำเป็นแพ็กเกจปลอม โดยเฉพาะโมเดล CodeLlama ที่มีอัตราการแนะนำแพ็กเกจปลอมสูงถึง 33% ขณะที่ GPT-4 Turbo มีอัตราการแนะนำแพ็กเกจปลอมต่ำสุดที่ 3.59% ✅ ผลกระทบของ Slopsquatting ภัยคุกคามนี้อันตรายเพราะแพ็กเกจปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมักมีชื่อคล้ายกับแพ็กเกจจริง ทำให้นักพัฒนาอาจติดตั้งโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยพบว่า 43% ของแพ็กเกจปลอมที่ถูกแนะนำซ้ำกันในการทดสอบ 10 ครั้ง ซึ่งหมายความว่า AI มีแนวโน้มที่จะแนะนำแพ็กเกจปลอมเดิมซ้ำๆ ✅ มาตรการป้องกัน นักวิจัยแนะนำให้ นักพัฒนาใช้เครื่องมือสแกนแพ็กเกจก่อนนำไปใช้งาน และหลีกเลี่ยงการติดตั้งแพ็กเกจที่ไม่มีการตรวจสอบความถูกต้อง นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับ การลดเวลาทดสอบโมเดล AI ซึ่งอาจทำให้ AI มีแนวโน้มเกิดข้อผิดพลาดมากขึ้น https://www.csoonline.com/article/3961304/ai-hallucinations-lead-to-new-cyber-threat-slopsquatting.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    AI hallucinations lead to a new cyber threat: Slopsquatting
    Attackers can weaponize and distribute a large number of packages recommended by AI models that don’t really exist.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • Onsemi ยกเลิกข้อเสนอซื้อกิจการ Allegro MicroSystems มูลค่า 6.9 พันล้านดอลลาร์ หลังจากการเจรจายืดเยื้อหลายเดือน

    ✅ Onsemi ยกเลิกข้อเสนอซื้อ Allegro MicroSystems
    - ข้อเสนอ $35.10 ต่อหุ้น ถูก Allegro ปฏิเสธ
    - CEO ของ Onsemi ระบุว่า Allegro ไม่เต็มใจเจรจา

    ✅ ผลกระทบต่อหุ้นของทั้งสองบริษัท
    - หุ้นของ Allegro ลดลง 12.5% หลังประกาศยกเลิกดีล
    - หุ้นของ Onsemi เพิ่มขึ้น 1%

    ✅ แผนปรับโครงสร้างของ Onsemi
    - ลดพนักงาน 2,400 ตำแหน่ง เพื่อควบคุมต้นทุน
    - มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์

    ℹ️ ความเสี่ยงจากการยกเลิกดีล
    - Onsemi อาจพลาดโอกาสขยายตลาดในอุตสาหกรรมยานยนต์
    - Allegro อาจเผชิญแรงกดดันจากนักลงทุนหลังหุ้นร่วง

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิป
    - การแข่งขันในตลาดชิปสำหรับยานยนต์อาจเข้มข้นขึ้น
    - บริษัทอื่นอาจพยายามเข้าซื้อ Allegro ในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/15/onsemi-shelves-69-billion-offer-to-buy-allegro-microsystems
    Onsemi ยกเลิกข้อเสนอซื้อกิจการ Allegro MicroSystems มูลค่า 6.9 พันล้านดอลลาร์ หลังจากการเจรจายืดเยื้อหลายเดือน ✅ Onsemi ยกเลิกข้อเสนอซื้อ Allegro MicroSystems - ข้อเสนอ $35.10 ต่อหุ้น ถูก Allegro ปฏิเสธ - CEO ของ Onsemi ระบุว่า Allegro ไม่เต็มใจเจรจา ✅ ผลกระทบต่อหุ้นของทั้งสองบริษัท - หุ้นของ Allegro ลดลง 12.5% หลังประกาศยกเลิกดีล - หุ้นของ Onsemi เพิ่มขึ้น 1% ✅ แผนปรับโครงสร้างของ Onsemi - ลดพนักงาน 2,400 ตำแหน่ง เพื่อควบคุมต้นทุน - มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ ℹ️ ความเสี่ยงจากการยกเลิกดีล - Onsemi อาจพลาดโอกาสขยายตลาดในอุตสาหกรรมยานยนต์ - Allegro อาจเผชิญแรงกดดันจากนักลงทุนหลังหุ้นร่วง ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิป - การแข่งขันในตลาดชิปสำหรับยานยนต์อาจเข้มข้นขึ้น - บริษัทอื่นอาจพยายามเข้าซื้อ Allegro ในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/15/onsemi-shelves-69-billion-offer-to-buy-allegro-microsystems
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Onsemi shelves $6.9 billion offer to buy Allegro MicroSystems
    (Reuters) -U.S. chipmaker Onsemi scrapped its $6.9 billion offer for smaller rival Allegro MicroSystems on Monday, ending a months-long pursuit that sought to capitalize on a market downturn to boost its footprint in the automotive industry.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ได้ประกาศว่าจะนำข้อมูลจากโพสต์สาธารณะและการโต้ตอบกับ AI มาฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ในสหภาพยุโรป (EU) หลังจากเผชิญกับความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและกฎระเบียบคุ้มครองข้อมูลที่เข้มงวดในภูมิภาคนี้ การเปิดตัวเทคโนโลยี AI ในยุโรปล่าช้าไปจากแผนเดิม เนื่องจากข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล

    Meta ให้ความมั่นใจกับผู้ใช้ใน EU ว่าจะมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับข้อมูลที่บริษัทใช้ รวมถึงช่องทางให้ผู้ใช้แสดงความคัดค้านต่อการนำข้อมูลของตนมาใช้ในการฝึก AI อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เป็นข้อความส่วนตัวและข้อมูลจากบัญชีของผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจะไม่ถูกนำมาใช้

    การตัดสินใจของ Meta เกิดขึ้นหลังจากเผชิญกับแรงกดดันจากคณะกรรมาธิการยุโรป และกลุ่มสิทธิด้านความเป็นส่วนตัว เช่น NOYB ที่เรียกร้องให้มีการจำกัดการใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียในการฝึก AI นอกจากนี้ Meta ยังถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลของไอร์แลนด์ ซึ่งเคยสั่งให้บริษัทชะลอแผนดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/15/meta-to-use-public-posts-ai-interactions-to-train-models-in-eu
    Meta บริษัทแม่ของ Facebook และ Instagram ได้ประกาศว่าจะนำข้อมูลจากโพสต์สาธารณะและการโต้ตอบกับ AI มาฝึกโมเดลปัญญาประดิษฐ์ในสหภาพยุโรป (EU) หลังจากเผชิญกับความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวและกฎระเบียบคุ้มครองข้อมูลที่เข้มงวดในภูมิภาคนี้ การเปิดตัวเทคโนโลยี AI ในยุโรปล่าช้าไปจากแผนเดิม เนื่องจากข้อกำหนดของหน่วยงานกำกับดูแล Meta ให้ความมั่นใจกับผู้ใช้ใน EU ว่าจะมีการแจ้งเตือนเกี่ยวกับข้อมูลที่บริษัทใช้ รวมถึงช่องทางให้ผู้ใช้แสดงความคัดค้านต่อการนำข้อมูลของตนมาใช้ในการฝึก AI อย่างไรก็ตาม ข้อมูลที่เป็นข้อความส่วนตัวและข้อมูลจากบัญชีของผู้ใช้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีจะไม่ถูกนำมาใช้ การตัดสินใจของ Meta เกิดขึ้นหลังจากเผชิญกับแรงกดดันจากคณะกรรมาธิการยุโรป และกลุ่มสิทธิด้านความเป็นส่วนตัว เช่น NOYB ที่เรียกร้องให้มีการจำกัดการใช้ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียในการฝึก AI นอกจากนี้ Meta ยังถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลของไอร์แลนด์ ซึ่งเคยสั่งให้บริษัทชะลอแผนดังกล่าวเมื่อปีที่แล้ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/15/meta-to-use-public-posts-ai-interactions-to-train-models-in-eu
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta to use public posts, AI interactions to train models in EU
    (Reuters) -Meta Platforms said on Monday it would use interactions that users have with its AI, as well as public posts and comments shared by adults across its platforms, to train its artificial intelligence models in the European Union.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI ได้เปิดตัว GPT-4.1 ซึ่งเป็นโมเดล AI ใหม่ที่มีการปรับปรุงด้าน การเขียนโค้ด, การทำตามคำสั่ง และการเข้าใจบริบทที่ยาวขึ้น โดยสามารถรองรับ 1 ล้านโทเค็น และมีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า

    🤖 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GPT-4.1
    ✅ GPT-4.1 มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า
    - มีความสามารถในการ เข้าใจบริบทที่ยาวขึ้น และรองรับ 1 ล้านโทเค็น
    - มีการปรับปรุงด้าน การเขียนโค้ด โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่า GPT-4o ถึง 21% และ GPT-4.5 ถึง 27%

    ✅ การพัฒนาโมเดลย่อย
    - OpenAI เปิดตัว GPT-4.1 mini และ GPT-4.1 nano ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่มีขนาดเล็กลง
    - โมเดลเหล่านี้มีต้นทุนต่ำกว่า GPT-4.5 แต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูง

    ✅ การใช้งานผ่าน API เท่านั้น
    - GPT-4.1 และรุ่นย่อยสามารถใช้งานได้ผ่าน OpenAI API
    - OpenAI จะปิดการใช้งาน GPT-4.5 preview ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจาก GPT-4.1 มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า

    ✅ การตอบสนองของนักพัฒนา
    - CEO Sam Altman ระบุว่าโมเดลใหม่นี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักพัฒนา
    - OpenAI มุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ในโลกจริง

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    - การเปิดตัว GPT-4.1 อาจส่งผลต่อการแข่งขันในตลาด AI โดยเฉพาะกับ Google Gemini และ Anthropic Claude
    - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับโมเดลใหม่

    ℹ️ ความท้าทายด้านต้นทุนและการเข้าถึง
    - แม้ GPT-4.1 จะมีต้นทุนต่ำกว่า GPT-4.5 แต่ยังต้องติดตามว่า ราคาการใช้งาน API จะเป็นอย่างไร
    - ผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องรอการเปิดตัวในแพลตฟอร์มอื่น เช่น ChatGPT

    ℹ️ แนวโน้มของ AI ที่รองรับบริบทยาวขึ้น
    - การรองรับ 1 ล้านโทเค็น อาจช่วยให้ AI สามารถทำงานที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การวิเคราะห์เอกสารขนาดใหญ่
    - อาจมีการพัฒนาโมเดลที่สามารถรองรับบริบทที่ยาวขึ้นในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/15/openai-launches-new-gpt-41-models-with-improved-coding-long-context-comprehension
    OpenAI ได้เปิดตัว GPT-4.1 ซึ่งเป็นโมเดล AI ใหม่ที่มีการปรับปรุงด้าน การเขียนโค้ด, การทำตามคำสั่ง และการเข้าใจบริบทที่ยาวขึ้น โดยสามารถรองรับ 1 ล้านโทเค็น และมีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า 🤖 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ GPT-4.1 ✅ GPT-4.1 มีประสิทธิภาพสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า - มีความสามารถในการ เข้าใจบริบทที่ยาวขึ้น และรองรับ 1 ล้านโทเค็น - มีการปรับปรุงด้าน การเขียนโค้ด โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่า GPT-4o ถึง 21% และ GPT-4.5 ถึง 27% ✅ การพัฒนาโมเดลย่อย - OpenAI เปิดตัว GPT-4.1 mini และ GPT-4.1 nano ซึ่งเป็นเวอร์ชันที่มีขนาดเล็กลง - โมเดลเหล่านี้มีต้นทุนต่ำกว่า GPT-4.5 แต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูง ✅ การใช้งานผ่าน API เท่านั้น - GPT-4.1 และรุ่นย่อยสามารถใช้งานได้ผ่าน OpenAI API - OpenAI จะปิดการใช้งาน GPT-4.5 preview ในเดือนกรกฎาคม เนื่องจาก GPT-4.1 มีประสิทธิภาพที่ดีกว่า ✅ การตอบสนองของนักพัฒนา - CEO Sam Altman ระบุว่าโมเดลใหม่นี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักพัฒนา - OpenAI มุ่งเน้นการพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ในโลกจริง ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI - การเปิดตัว GPT-4.1 อาจส่งผลต่อการแข่งขันในตลาด AI โดยเฉพาะกับ Google Gemini และ Anthropic Claude - นักพัฒนาอาจต้องปรับตัวให้เข้ากับโมเดลใหม่ ℹ️ ความท้าทายด้านต้นทุนและการเข้าถึง - แม้ GPT-4.1 จะมีต้นทุนต่ำกว่า GPT-4.5 แต่ยังต้องติดตามว่า ราคาการใช้งาน API จะเป็นอย่างไร - ผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องรอการเปิดตัวในแพลตฟอร์มอื่น เช่น ChatGPT ℹ️ แนวโน้มของ AI ที่รองรับบริบทยาวขึ้น - การรองรับ 1 ล้านโทเค็น อาจช่วยให้ AI สามารถทำงานที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การวิเคราะห์เอกสารขนาดใหญ่ - อาจมีการพัฒนาโมเดลที่สามารถรองรับบริบทที่ยาวขึ้นในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/15/openai-launches-new-gpt-41-models-with-improved-coding-long-context-comprehension
    WWW.THESTAR.COM.MY
    OpenAI launches new GPT-4.1 models with improved coding, long context comprehension
    (Reuters) - OpenAI on Monday launched its new AI model GPT-4.1, along with smaller versions GPT-4.1 mini and GPT-4.1 nano, touting major improvements in coding, instruction following, and long context comprehension.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ
    #พายไก่
    #กาแฟยามเช้าหอมกรุ่นอยู่เสมอ #พายไก่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนได้ระงับการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การบิน และการป้องกันประเทศ การตัดสินใจนี้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก โดยเฉพาะบริษัทในสหรัฐอเมริกา ที่อาจประสบกับการขาดแคลนวัตถุดิบสำคัญ

    ✅ จีนระงับการส่งออกแร่หายากและแม่เหล็ก
    - การส่งออกถูกจำกัดตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2025
    - จีนกำลังร่างกรอบกฎหมายใหม่ในการออกใบอนุญาตส่งออก
    - มาตรการนี้มีผลกระทบต่อบริษัทในหลายอุตสาหกรรม

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการป้องกันประเทศ
    - แร่หายากใช้ในการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า โดรน หุ่นยนต์ และขีปนาวุธ
    - การขาดแคลนส่งผลต่ออุตสาหกรรมอเมริกัน โดยเฉพาะผู้รับเหมาด้านกลาโหม

    ✅ การตอบสนองของบริษัทต่างประเทศ
    - บางบริษัทเตรียมรับมือกับปัญหานี้โดยสะสมสต็อกแร่ไว้ล่วงหน้า
    - การผลิตแร่หายากนอกประเทศจีน เช่น ในสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเยอรมนี ยังไม่สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้

    ✅ จีนครองตลาดแร่หายากของโลก
    - จีนผลิตแร่หายากหนัก 99% ของปริมาณทั้งหมดในปี 2023
    - กระบวนการสกัดมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูง

    ⚠️ ข้อมูลเสริมที่ควรระวัง
    ℹ️ ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก
    - การขาดแคลนแร่หายากอาจทำให้ต้นทุนผลิตภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น
    - บริษัทที่พึ่งพาวัสดุจากจีนต้องหาทางเลือกใหม่ เช่น หันไปใช้วัสดุทดแทน

    ℹ️ ข้อกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์
    - การระงับส่งออกครั้งนี้อาจเป็นยุทธศาสตร์ตอบโต้ทางการค้ากับสหรัฐฯ
    - อาจเกิดความตึงเครียดระหว่างประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคแร่หายาก

    ℹ️ อนาคตของอุตสาหกรรมแร่หายาก
    - อาจมีการพัฒนาเทคโนโลยีการรีไซเคิลแม่เหล็กหายากมากขึ้น
    - ประเทศอื่นอาจเร่งพัฒนากำลังการผลิตเพื่อกระจายความเสี่ยง

    https://www.techspot.com/news/107534-china-halts-exports-rare-earth-exports-sparking-fears.html
    จีนได้ระงับการส่งออกแร่หายาก ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การบิน และการป้องกันประเทศ การตัดสินใจนี้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก โดยเฉพาะบริษัทในสหรัฐอเมริกา ที่อาจประสบกับการขาดแคลนวัตถุดิบสำคัญ ✅ จีนระงับการส่งออกแร่หายากและแม่เหล็ก - การส่งออกถูกจำกัดตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2025 - จีนกำลังร่างกรอบกฎหมายใหม่ในการออกใบอนุญาตส่งออก - มาตรการนี้มีผลกระทบต่อบริษัทในหลายอุตสาหกรรม ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการป้องกันประเทศ - แร่หายากใช้ในการผลิตมอเตอร์ไฟฟ้า โดรน หุ่นยนต์ และขีปนาวุธ - การขาดแคลนส่งผลต่ออุตสาหกรรมอเมริกัน โดยเฉพาะผู้รับเหมาด้านกลาโหม ✅ การตอบสนองของบริษัทต่างประเทศ - บางบริษัทเตรียมรับมือกับปัญหานี้โดยสะสมสต็อกแร่ไว้ล่วงหน้า - การผลิตแร่หายากนอกประเทศจีน เช่น ในสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเยอรมนี ยังไม่สามารถรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นได้ ✅ จีนครองตลาดแร่หายากของโลก - จีนผลิตแร่หายากหนัก 99% ของปริมาณทั้งหมดในปี 2023 - กระบวนการสกัดมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมสูง ⚠️ ข้อมูลเสริมที่ควรระวัง ℹ️ ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานทั่วโลก - การขาดแคลนแร่หายากอาจทำให้ต้นทุนผลิตภัณฑ์เพิ่มสูงขึ้น - บริษัทที่พึ่งพาวัสดุจากจีนต้องหาทางเลือกใหม่ เช่น หันไปใช้วัสดุทดแทน ℹ️ ข้อกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ - การระงับส่งออกครั้งนี้อาจเป็นยุทธศาสตร์ตอบโต้ทางการค้ากับสหรัฐฯ - อาจเกิดความตึงเครียดระหว่างประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคแร่หายาก ℹ️ อนาคตของอุตสาหกรรมแร่หายาก - อาจมีการพัฒนาเทคโนโลยีการรีไซเคิลแม่เหล็กหายากมากขึ้น - ประเทศอื่นอาจเร่งพัฒนากำลังการผลิตเพื่อกระจายความเสี่ยง https://www.techspot.com/news/107534-china-halts-exports-rare-earth-exports-sparking-fears.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    China halts rare earth exports, sparking fears of shortages in critical industries
    The suspension comes as Beijing drafts a new regulatory framework for issuing export licenses, a process expected to restrict access to these vital materials for specific companies,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ Syntis Bio ได้พัฒนาเม็ดยาลดน้ำหนักที่สามารถเลียนแบบผลของการผ่าตัดลดกระเพาะอาหาร (gastric bypass) โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดจริง ยานี้มีศักยภาพในการช่วยลดความหิว คงมวลกล้ามเนื้อ และส่งเสริมการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน

    ✅ SYNT-101: เม็ดยาที่เลียนแบบผลของการผ่าตัดลดกระเพาะอาหาร
    - ยาทำงานโดยเคลือบลำไส้เล็กชั่วคราว ช่วยเปลี่ยนเส้นทางดูดซึมสารอาหาร
    - เคลือบนี้ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนความอิ่ม (GLP-1) ตามธรรมชาติของร่างกาย
    - ยานี้ต่างจากยา GLP-1 แบบฉีด เช่น Ozempic และ Wegovy ที่อาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน

    ✅ ผลการทดลองเบื้องต้น
    - การทดลองในสัตว์แสดงให้เห็นว่า สามารถลดน้ำหนัก 1% ต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 6 สัปดาห์
    - การทดลองในมนุษย์ระยะเริ่มต้น ผู้เข้าร่วม 9 คน ไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง
    - ตรวจเลือดพบการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่สนับสนุนการลดน้ำหนัก

    ✅ เทคโนโลยีเบื้องหลัง
    - พัฒนาโดยนักวิจัยจาก MIT ซึ่งร่วมก่อตั้ง Syntis Bio
    - ใช้สารเคมีที่มีปฏิสัมพันธ์กับเอนไซม์ในลำไส้เล็กเพื่อสร้างสารเคลือบที่ปลอดภัย

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง
    - แม้ทดลองแรกจะไม่พบผลข้างเคียง แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจมีอาการท้องอืดหรือปวดท้อง
    - ต้องมีการทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่เพิ่มเติม

    ℹ️ เปรียบเทียบกับยา GLP-1 ในตลาดปัจจุบัน
    - ยา GLP-1 มีข้อดีในประสิทธิภาพ แต่มีราคาสูง และอาจทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ
    - SYNT-101 อาจเป็นตัวเลือกใหม่ที่ปลอดภัยขึ้น แต่ต้องรอผลการทดลองระยะยาว

    ℹ️ แนวโน้มการนำไปใช้จริง
    - Syntis Bio เตรียมยื่นขออนุญาตทดลองทางคลินิกจาก FDA
    - หากผ่านการรับรอง อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาโรคอ้วน

    https://www.techspot.com/news/107527-biotech-firm-creates-weight-loss-pill-mimics-effects.html
    บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ Syntis Bio ได้พัฒนาเม็ดยาลดน้ำหนักที่สามารถเลียนแบบผลของการผ่าตัดลดกระเพาะอาหาร (gastric bypass) โดยไม่ต้องพึ่งพาการผ่าตัดจริง ยานี้มีศักยภาพในการช่วยลดความหิว คงมวลกล้ามเนื้อ และส่งเสริมการลดน้ำหนักอย่างยั่งยืน ✅ SYNT-101: เม็ดยาที่เลียนแบบผลของการผ่าตัดลดกระเพาะอาหาร - ยาทำงานโดยเคลือบลำไส้เล็กชั่วคราว ช่วยเปลี่ยนเส้นทางดูดซึมสารอาหาร - เคลือบนี้ช่วยกระตุ้นฮอร์โมนความอิ่ม (GLP-1) ตามธรรมชาติของร่างกาย - ยานี้ต่างจากยา GLP-1 แบบฉีด เช่น Ozempic และ Wegovy ที่อาจมีผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ✅ ผลการทดลองเบื้องต้น - การทดลองในสัตว์แสดงให้เห็นว่า สามารถลดน้ำหนัก 1% ต่อสัปดาห์ เป็นเวลา 6 สัปดาห์ - การทดลองในมนุษย์ระยะเริ่มต้น ผู้เข้าร่วม 9 คน ไม่พบผลข้างเคียงร้ายแรง - ตรวจเลือดพบการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่สนับสนุนการลดน้ำหนัก ✅ เทคโนโลยีเบื้องหลัง - พัฒนาโดยนักวิจัยจาก MIT ซึ่งร่วมก่อตั้ง Syntis Bio - ใช้สารเคมีที่มีปฏิสัมพันธ์กับเอนไซม์ในลำไส้เล็กเพื่อสร้างสารเคลือบที่ปลอดภัย ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ข้อกังวลเรื่องผลข้างเคียง - แม้ทดลองแรกจะไม่พบผลข้างเคียง แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจมีอาการท้องอืดหรือปวดท้อง - ต้องมีการทดลองทางคลินิกขนาดใหญ่เพิ่มเติม ℹ️ เปรียบเทียบกับยา GLP-1 ในตลาดปัจจุบัน - ยา GLP-1 มีข้อดีในประสิทธิภาพ แต่มีราคาสูง และอาจทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ - SYNT-101 อาจเป็นตัวเลือกใหม่ที่ปลอดภัยขึ้น แต่ต้องรอผลการทดลองระยะยาว ℹ️ แนวโน้มการนำไปใช้จริง - Syntis Bio เตรียมยื่นขออนุญาตทดลองทางคลินิกจาก FDA - หากผ่านการรับรอง อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับการรักษาโรคอ้วน https://www.techspot.com/news/107527-biotech-firm-creates-weight-loss-pill-mimics-effects.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Biotech firm creates weight loss pill that mimics the effects of gastric bypass surgery
    SYNT-101 offers a novel approach to weight loss by temporarily altering nutrient absorption in the small intestine. Unlike GLP-1 drugs, which are administered via injection and often...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้ประกาศย้ายฐานการผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ไปยังสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการผลิตภายในประเทศเพื่อรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ

    ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ
    - Nvidia จะผลิตและทดสอบชิป Blackwell และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ในโรงงานที่รัฐแอริโซนาและเท็กซัส
    - โรงงานผลิตครอบคลุมพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางฟุต และเริ่มดำเนินการแล้ว
    - คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากภายใน 12-15 เดือนข้างหน้า

    ✅ ความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่
    - TSMC จะผลิตชิป Blackwell ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา
    - Foxconn และ Wistron จะดูแลการประกอบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในรัฐเท็กซัส
    - Amkor และ SPIL จะรับผิดชอบด้านบรรจุภัณฑ์และการทดสอบชิปในแอริโซนา

    ✅ เป้าหมายการลงทุนและผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    - Nvidia วางแผนลงทุนสูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ภายใน 4 ปีข้างหน้า
    - การผลิตในสหรัฐฯ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานและลดความเสี่ยงจากข้อจำกัดทางการค้า

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - การย้ายฐานผลิตอาจส่งผลต่อซัพพลายเชนของบริษัทที่พึ่งพาการผลิตในเอเชีย
    - อาจเกิดความท้าทายด้านต้นทุนและการจัดหาวัตถุดิบสำหรับการผลิตในสหรัฐฯ

    ℹ️ ข้อกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์
    - การตัดสินใจของ Nvidia อาจเป็นผลจากแรงกดดันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
    - อดีตประธานาธิบดีทรัมป์เคยเตือน TSMC ว่าอาจเผชิญภาษีนำเข้าสูงถึง 100% หากไม่ตั้งโรงงานในสหรัฐฯ

    ℹ️ อนาคตของอุตสาหกรรม AI และซูเปอร์คอมพิวเตอร์
    - Nvidia วางแผนสร้าง "AI factories" หรือศูนย์ข้อมูลเฉพาะสำหรับงาน AI ซึ่งจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอนาคต
    - บริษัทจะใช้แพลตฟอร์ม Omniverse เพื่อสร้างแบบจำลองดิจิทัลของโรงงาน และใช้หุ่นยนต์ Isaac GR00T ในกระบวนการผลิต

    https://www.techspot.com/news/107542-nvidia-shifts-ai-supercomputer-production-us-first-time.html
    Nvidia ได้ประกาศย้ายฐานการผลิตซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ไปยังสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มอุตสาหกรรมที่มุ่งเน้นการผลิตภายในประเทศเพื่อรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังสหรัฐฯ - Nvidia จะผลิตและทดสอบชิป Blackwell และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ในโรงงานที่รัฐแอริโซนาและเท็กซัส - โรงงานผลิตครอบคลุมพื้นที่กว่า 1 ล้านตารางฟุต และเริ่มดำเนินการแล้ว - คาดว่าจะเริ่มการผลิตจำนวนมากภายใน 12-15 เดือนข้างหน้า ✅ ความร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรายใหญ่ - TSMC จะผลิตชิป Blackwell ในเมืองฟีนิกซ์ รัฐแอริโซนา - Foxconn และ Wistron จะดูแลการประกอบซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในรัฐเท็กซัส - Amkor และ SPIL จะรับผิดชอบด้านบรรจุภัณฑ์และการทดสอบชิปในแอริโซนา ✅ เป้าหมายการลงทุนและผลกระทบต่ออุตสาหกรรม - Nvidia วางแผนลงทุนสูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ในโครงสร้างพื้นฐาน AI ภายใน 4 ปีข้างหน้า - การผลิตในสหรัฐฯ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานและลดความเสี่ยงจากข้อจำกัดทางการค้า ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - การย้ายฐานผลิตอาจส่งผลต่อซัพพลายเชนของบริษัทที่พึ่งพาการผลิตในเอเชีย - อาจเกิดความท้าทายด้านต้นทุนและการจัดหาวัตถุดิบสำหรับการผลิตในสหรัฐฯ ℹ️ ข้อกังวลด้านภูมิรัฐศาสตร์ - การตัดสินใจของ Nvidia อาจเป็นผลจากแรงกดดันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน - อดีตประธานาธิบดีทรัมป์เคยเตือน TSMC ว่าอาจเผชิญภาษีนำเข้าสูงถึง 100% หากไม่ตั้งโรงงานในสหรัฐฯ ℹ️ อนาคตของอุตสาหกรรม AI และซูเปอร์คอมพิวเตอร์ - Nvidia วางแผนสร้าง "AI factories" หรือศูนย์ข้อมูลเฉพาะสำหรับงาน AI ซึ่งจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอนาคต - บริษัทจะใช้แพลตฟอร์ม Omniverse เพื่อสร้างแบบจำลองดิจิทัลของโรงงาน และใช้หุ่นยนต์ Isaac GR00T ในกระบวนการผลิต https://www.techspot.com/news/107542-nvidia-shifts-ai-supercomputer-production-us-first-time.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Nvidia shifts AI supercomputer production to the US for the first time
    The project spans more than a million square feet of manufacturing space, with operations already underway. Nvidia's Blackwell chips are being produced at TSMC facilities in Phoenix,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเยอรมนีกำลังวางแผนจัดตั้ง "ซูเปอร์กระทรวงไฮเทค" เพื่อส่งเสริมการวิจัยและเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ นักวิจัยจากสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายงบประมาณของรัฐบาลทรัมป์เข้ามาทำงานในยุโรป

    ✅ การจัดตั้งกระทรวงไฮเทคใหม่
    - กระทรวงใหม่นี้จะดูแลด้าน ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ควอนตัมคอมพิวติ้ง, เทคโนโลยีชีวภาพ, การพัฒนาชิป และพลังงานฟิวชัน
    - มีแผนแยกงานวิจัยออกจากกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - เป้าหมายสำคัญคือการสร้าง เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่ใช้งานได้จริง ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญของพลังงานสะอาด

    ✅ การเพิ่มงบประมาณสนับสนุนการวิจัย
    - รัฐบาลเยอรมนีให้คำมั่นว่าจะเพิ่มงบประมาณสนับสนุนองค์กรวิจัย ปีละ 3% จนถึงปี 2030
    - นโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้เยอรมนีเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลก

    ✅ โครงการ "1000 Minds" ดึงดูดนักวิจัยจากสหรัฐฯ
    - เยอรมนีเตรียมเปิดโครงการ "1000 Minds" เพื่อดึงดูดนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจากทั่วโลก โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ
    - นักวิจัยในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับ การตัดงบประมาณครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของนักวิทยาศาสตร์ในหลายสาขา
    - มีรายงานว่าบางหน่วยงาน เช่น NOAA (National Oceanic and Atmospheric Administration) ต้องลดงบประมาณจนถึงขั้นให้ นักวิจัยทำงานด้านอื่น เช่น ทำความสะอาดห้องน้ำ

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อสหรัฐฯ และการแข่งขันด้านเทคโนโลยี
    - การดึงนักวิจัยจากสหรัฐฯ อาจทำให้เกิด การสูญเสียบุคลากรสำคัญ ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของอเมริกา
    - อาจส่งผลต่อการแข่งขันด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูง ระหว่างยุโรปและสหรัฐฯ

    ℹ️ ความท้าทายในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชัน
    - แม้จะมีเป้าหมายสร้างเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่ใช้งานได้จริง แต่เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง และต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล
    - การพัฒนาอาจใช้เวลาหลายสิบปี ก่อนที่จะสามารถนำมาใช้ในระดับอุตสาหกรรมได้

    ℹ️ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมวิจัยโลก
    - หากเยอรมนีประสบความสำเร็จ อาจทำให้ยุโรปกลายเป็น ศูนย์กลางวิจัยระดับโลก แทนที่สหรัฐฯ
    - ประเทศอื่นๆ อาจต้องปรับนโยบายเพื่อแข่งขันกับเยอรมนีในการดึงดูดนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์

    https://www.techspot.com/news/107547-germany-new-government-planning-super-high-tech-ministry.html
    รัฐบาลเยอรมนีกำลังวางแผนจัดตั้ง "ซูเปอร์กระทรวงไฮเทค" เพื่อส่งเสริมการวิจัยและเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ นักวิจัยจากสหรัฐฯ ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายงบประมาณของรัฐบาลทรัมป์เข้ามาทำงานในยุโรป ✅ การจัดตั้งกระทรวงไฮเทคใหม่ - กระทรวงใหม่นี้จะดูแลด้าน ปัญญาประดิษฐ์ (AI), ควอนตัมคอมพิวติ้ง, เทคโนโลยีชีวภาพ, การพัฒนาชิป และพลังงานฟิวชัน - มีแผนแยกงานวิจัยออกจากกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อให้การบริหารจัดการมีประสิทธิภาพมากขึ้น - เป้าหมายสำคัญคือการสร้าง เครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่ใช้งานได้จริง ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญของพลังงานสะอาด ✅ การเพิ่มงบประมาณสนับสนุนการวิจัย - รัฐบาลเยอรมนีให้คำมั่นว่าจะเพิ่มงบประมาณสนับสนุนองค์กรวิจัย ปีละ 3% จนถึงปี 2030 - นโยบายนี้มีเป้าหมายเพื่อทำให้เยอรมนีเป็นศูนย์กลางนวัตกรรมระดับโลก ✅ โครงการ "1000 Minds" ดึงดูดนักวิจัยจากสหรัฐฯ - เยอรมนีเตรียมเปิดโครงการ "1000 Minds" เพื่อดึงดูดนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจากทั่วโลก โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ - นักวิจัยในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับ การตัดงบประมาณครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของนักวิทยาศาสตร์ในหลายสาขา - มีรายงานว่าบางหน่วยงาน เช่น NOAA (National Oceanic and Atmospheric Administration) ต้องลดงบประมาณจนถึงขั้นให้ นักวิจัยทำงานด้านอื่น เช่น ทำความสะอาดห้องน้ำ ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อสหรัฐฯ และการแข่งขันด้านเทคโนโลยี - การดึงนักวิจัยจากสหรัฐฯ อาจทำให้เกิด การสูญเสียบุคลากรสำคัญ ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของอเมริกา - อาจส่งผลต่อการแข่งขันด้าน AI และเทคโนโลยีขั้นสูง ระหว่างยุโรปและสหรัฐฯ ℹ️ ความท้าทายในการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชัน - แม้จะมีเป้าหมายสร้างเครื่องปฏิกรณ์ฟิวชันที่ใช้งานได้จริง แต่เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง และต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล - การพัฒนาอาจใช้เวลาหลายสิบปี ก่อนที่จะสามารถนำมาใช้ในระดับอุตสาหกรรมได้ ℹ️ แนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมวิจัยโลก - หากเยอรมนีประสบความสำเร็จ อาจทำให้ยุโรปกลายเป็น ศูนย์กลางวิจัยระดับโลก แทนที่สหรัฐฯ - ประเทศอื่นๆ อาจต้องปรับนโยบายเพื่อแข่งขันกับเยอรมนีในการดึงดูดนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ https://www.techspot.com/news/107547-germany-new-government-planning-super-high-tech-ministry.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New German "super-ministry" hopes to lure US researchers with cutting-edge science agenda
    Germany's three largest political parties have agreed to form a new government, uniting the center-right Christian Democrats and Christian Social Union with the center-left Social Democrats. While...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Monash ได้พัฒนา เทคโนโลยีกรองน้ำแบบใหม่ ที่สามารถกำจัดสารเคมีตกค้างที่เรียกว่า PFAS ซึ่งเป็นสารที่มีความทนทานสูงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เทคโนโลยีนี้ใช้ กราฟีนออกไซด์ ร่วมกับ เบต้าไซโคลเด็กซ์ทริน ซึ่งเป็นโมเลกุลน้ำตาลที่สามารถดักจับสารเคมีได้

    ✅ การใช้กราฟีนออกไซด์ร่วมกับเบต้าไซโคลเด็กซ์ทริน
    - กราฟีนออกไซด์ถูกพัฒนาให้มีโครงสร้างนาโนที่สามารถดักจับสาร PFAS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - เบต้าไซโคลเด็กซ์ทรินทำหน้าที่เป็น กรงโมเลกุล ที่ช่วยกักเก็บสารเคมีอันตราย

    ✅ ประสิทธิภาพในการกำจัดสารเคมีตกค้าง
    - สามารถกำจัด PFAS ขนาดเล็ก ที่มักเล็ดลอดผ่านระบบกรองทั่วไป
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้กระบวนการกรองน้ำมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง

    ✅ การนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรม
    - ใช้เทคนิค Shear Alignment Printing เพื่อผลิตแผ่นกรองขนาดใหญ่
    - สามารถนำไปใช้ใน โรงงานบำบัดน้ำเสีย, โรงงานอุตสาหกรรม และระบบกรองน้ำประปา

    ✅ ความร่วมมือในการพัฒนา
    - โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Monash University, Clean TeQ Water และ NematiQ
    - มีเป้าหมายพัฒนา ระบบกรองน้ำที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับสารปนเปื้อนชนิดต่างๆ

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    - แม้เทคโนโลยีนี้จะช่วยกำจัดสารเคมีตกค้าง แต่ต้องมีการศึกษาผลกระทบต่อระบบนิเวศเพิ่มเติม
    - การกำจัด PFAS ที่ถูกดักจับต้องใช้กระบวนการที่ปลอดภัยเพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนซ้ำ

    ℹ️ ความท้าทายในการนำไปใช้จริง
    - แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจว่า สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อม
    - อาจต้องใช้เงินลงทุนสูงในการติดตั้งระบบกรองน้ำแบบใหม่นี้ในระดับอุตสาหกรรม

    ℹ️ แนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีกรองน้ำ
    - นักวิจัยกำลังพัฒนา ระบบกรองน้ำที่สามารถกำจัดสารปนเปื้อนอื่นๆ เช่น ยา, สารกำจัดศัตรูพืช และโลหะหนัก
    - อาจมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ใน ระบบกรองน้ำสำหรับพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำสะอาด

    https://www.techspot.com/news/107545-breakthrough-water-filter-eliminates-forever-chemicals-using-modified.html
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Monash ได้พัฒนา เทคโนโลยีกรองน้ำแบบใหม่ ที่สามารถกำจัดสารเคมีตกค้างที่เรียกว่า PFAS ซึ่งเป็นสารที่มีความทนทานสูงและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เทคโนโลยีนี้ใช้ กราฟีนออกไซด์ ร่วมกับ เบต้าไซโคลเด็กซ์ทริน ซึ่งเป็นโมเลกุลน้ำตาลที่สามารถดักจับสารเคมีได้ ✅ การใช้กราฟีนออกไซด์ร่วมกับเบต้าไซโคลเด็กซ์ทริน - กราฟีนออกไซด์ถูกพัฒนาให้มีโครงสร้างนาโนที่สามารถดักจับสาร PFAS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - เบต้าไซโคลเด็กซ์ทรินทำหน้าที่เป็น กรงโมเลกุล ที่ช่วยกักเก็บสารเคมีอันตราย ✅ ประสิทธิภาพในการกำจัดสารเคมีตกค้าง - สามารถกำจัด PFAS ขนาดเล็ก ที่มักเล็ดลอดผ่านระบบกรองทั่วไป - เทคโนโลยีนี้ช่วยให้กระบวนการกรองน้ำมีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง ✅ การนำไปใช้ในระดับอุตสาหกรรม - ใช้เทคนิค Shear Alignment Printing เพื่อผลิตแผ่นกรองขนาดใหญ่ - สามารถนำไปใช้ใน โรงงานบำบัดน้ำเสีย, โรงงานอุตสาหกรรม และระบบกรองน้ำประปา ✅ ความร่วมมือในการพัฒนา - โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก Monash University, Clean TeQ Water และ NematiQ - มีเป้าหมายพัฒนา ระบบกรองน้ำที่สามารถปรับแต่งให้เหมาะกับสารปนเปื้อนชนิดต่างๆ ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - แม้เทคโนโลยีนี้จะช่วยกำจัดสารเคมีตกค้าง แต่ต้องมีการศึกษาผลกระทบต่อระบบนิเวศเพิ่มเติม - การกำจัด PFAS ที่ถูกดักจับต้องใช้กระบวนการที่ปลอดภัยเพื่อไม่ให้เกิดการปนเปื้อนซ้ำ ℹ️ ความท้าทายในการนำไปใช้จริง - แม้จะมีศักยภาพสูง แต่ต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้มั่นใจว่า สามารถใช้งานได้ในทุกสภาพแวดล้อม - อาจต้องใช้เงินลงทุนสูงในการติดตั้งระบบกรองน้ำแบบใหม่นี้ในระดับอุตสาหกรรม ℹ️ แนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีกรองน้ำ - นักวิจัยกำลังพัฒนา ระบบกรองน้ำที่สามารถกำจัดสารปนเปื้อนอื่นๆ เช่น ยา, สารกำจัดศัตรูพืช และโลหะหนัก - อาจมีการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ใน ระบบกรองน้ำสำหรับพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำสะอาด https://www.techspot.com/news/107545-breakthrough-water-filter-eliminates-forever-chemicals-using-modified.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Breakthrough water filter eliminates forever chemicals using modified graphene oxide
    Researchers at Monash University have introduced a new water filtration technology that could shift the fight against PFAS – chemicals known for their environmental persistence and health...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้ปรับโครงสร้าง ROCm toolkit โดยแยกส่วน ROCm AMDGPU drivers ออกมาเป็น Instinct driver ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน GPU สำหรับศูนย์ข้อมูล

    ✅ การแยก ROCm toolkit ออกเป็นสองส่วน
    - ROCm 6.4 แบ่งออกเป็น Instinct Driver และ ROCm Toolkit
    - Instinct Driver จะเป็นชุดไดรเวอร์ที่รองรับ GPU สำหรับศูนย์ข้อมูลโดยเฉพาะ
    - ROCm Toolkit จะดูแลทุกอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับไดรเวอร์โดยตรง

    ✅ ข้อดีของการเปลี่ยนแปลงนี้
    - เพิ่มความยืดหยุ่นในการอัปเดตไดรเวอร์ โดยไม่ต้องเปลี่ยนเวอร์ชันของ ROCm Toolkit
    - ลดความซับซ้อนในการติดตั้งและจัดการสิทธิ์ของผู้ใช้
    - เพิ่มระยะเวลาการสนับสนุนไดรเวอร์จาก 6 เดือนเป็น 12 เดือน

    ✅ การพัฒนาในอนาคต
    - AMD วางแผนเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น การติดตั้งแบบลดขนาด เพื่อลด footprint ของไดรเวอร์
    - อาจมีการพัฒนาไดรเวอร์ที่เน้นความเสถียรระยะยาวสำหรับศูนย์ข้อมูล

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไป
    - ROCm Toolkit จะยังคงรองรับ GPU สำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่การแยกไดรเวอร์อาจทำให้การติดตั้งซับซ้อนขึ้น
    - ผู้ใช้ที่ต้องการใช้ amdgpu จาก Linux kernel อาจต้องปรับการตั้งค่าใหม่

    ℹ️ ความสับสนเรื่องเวอร์ชันไดรเวอร์
    - AMD ยืนยันว่า เวอร์ชันของ Instinct Driver จะไม่เปลี่ยนแปลง แม้ ROCm Toolkit จะอัปเดต
    - อาจเกิดความสับสนในการเลือกเวอร์ชันที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน

    ℹ️ แนวโน้มของ ROCm และการสนับสนุน GPU รุ่นใหม่
    - AMD ยังไม่ได้ประกาศการรองรับ RDNA 4 ใน ROCm Toolkit
    - ผู้ใช้ต้องติดตามการอัปเดตเพื่อดูว่า GPU รุ่นใหม่จะได้รับการสนับสนุนเมื่อใด

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-splits-rocm-toolkit-into-two-parts-rocm-amdgpu-drivers-get-their-own-branch-under-instinct-datacenter-gpu-moniker
    AMD ได้ปรับโครงสร้าง ROCm toolkit โดยแยกส่วน ROCm AMDGPU drivers ออกมาเป็น Instinct driver ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งาน GPU สำหรับศูนย์ข้อมูล ✅ การแยก ROCm toolkit ออกเป็นสองส่วน - ROCm 6.4 แบ่งออกเป็น Instinct Driver และ ROCm Toolkit - Instinct Driver จะเป็นชุดไดรเวอร์ที่รองรับ GPU สำหรับศูนย์ข้อมูลโดยเฉพาะ - ROCm Toolkit จะดูแลทุกอย่างที่ไม่เกี่ยวข้องกับไดรเวอร์โดยตรง ✅ ข้อดีของการเปลี่ยนแปลงนี้ - เพิ่มความยืดหยุ่นในการอัปเดตไดรเวอร์ โดยไม่ต้องเปลี่ยนเวอร์ชันของ ROCm Toolkit - ลดความซับซ้อนในการติดตั้งและจัดการสิทธิ์ของผู้ใช้ - เพิ่มระยะเวลาการสนับสนุนไดรเวอร์จาก 6 เดือนเป็น 12 เดือน ✅ การพัฒนาในอนาคต - AMD วางแผนเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ เช่น การติดตั้งแบบลดขนาด เพื่อลด footprint ของไดรเวอร์ - อาจมีการพัฒนาไดรเวอร์ที่เน้นความเสถียรระยะยาวสำหรับศูนย์ข้อมูล ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อผู้ใช้ทั่วไป - ROCm Toolkit จะยังคงรองรับ GPU สำหรับผู้ใช้ทั่วไป แต่การแยกไดรเวอร์อาจทำให้การติดตั้งซับซ้อนขึ้น - ผู้ใช้ที่ต้องการใช้ amdgpu จาก Linux kernel อาจต้องปรับการตั้งค่าใหม่ ℹ️ ความสับสนเรื่องเวอร์ชันไดรเวอร์ - AMD ยืนยันว่า เวอร์ชันของ Instinct Driver จะไม่เปลี่ยนแปลง แม้ ROCm Toolkit จะอัปเดต - อาจเกิดความสับสนในการเลือกเวอร์ชันที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน ℹ️ แนวโน้มของ ROCm และการสนับสนุน GPU รุ่นใหม่ - AMD ยังไม่ได้ประกาศการรองรับ RDNA 4 ใน ROCm Toolkit - ผู้ใช้ต้องติดตามการอัปเดตเพื่อดูว่า GPU รุ่นใหม่จะได้รับการสนับสนุนเมื่อใด https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-splits-rocm-toolkit-into-two-parts-rocm-amdgpu-drivers-get-their-own-branch-under-instinct-datacenter-gpu-moniker
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD splits ROCm toolkit into two parts – ROCm AMDGPU drivers get their own branch under Instinct datacenter GPU moniker
    AMD's datacenter-focused Instinct GPUs get their own-branded Linux GPU drivers that support significantly more versions of the ROCm toolkit.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก Argonne National Laboratory ได้พัฒนา PRO-AID ซึ่งเป็นระบบ AI ที่ช่วยตรวจสอบและบริหารจัดการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ PRO-AID: ระบบ AI สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
    - ใช้ AI ในการตรวจสอบสถานะของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบเรียลไทม์
    - สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและแจ้งเตือนปัญหาที่อาจเกิดขึ้น
    - ช่วยให้โรงไฟฟ้าสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้

    ✅ การนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมนิวเคลียร์
    - PRO-AID สามารถช่วยออกแบบและปรับปรุงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งใหม่และเก่า
    - ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางคณิตศาสตร์เพื่อให้เห็นภาพรวมของการทำงานของโรงไฟฟ้า

    ✅ ผลกระทบต่อบุคลากรในอุตสาหกรรม
    - ระบบสามารถช่วยลดภาระงานของพนักงาน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ต้องตรวจสอบข้อมูลจำนวนมาก
    - อาจช่วยลดความจำเป็นในการจ้างงานใหม่เมื่อพนักงานเกษียณ

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ความเสี่ยงของการใช้ AI ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
    - แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างเข้มงวด
    - อาจเกิดข้อผิดพลาดหากระบบ AI ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม

    ℹ️ ผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรม
    - การนำ AI มาใช้แทนพนักงานบางตำแหน่ง อาจส่งผลต่อการจ้างงานในอนาคต
    - ต้องมีการวางแผนเพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่

    ℹ️ แนวโน้มการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมพลังงาน
    - อาจมีการนำ AI มาใช้ในโรงไฟฟ้าประเภทอื่น เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน
    - เทคโนโลยี AI อาจช่วยให้การบริหารจัดการพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/government-funded-ai-tool-developed-to-help-monitor-and-manage-nuclear-reactors
    นักวิจัยจาก Argonne National Laboratory ได้พัฒนา PRO-AID ซึ่งเป็นระบบ AI ที่ช่วยตรวจสอบและบริหารจัดการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เทคโนโลยีนี้สามารถช่วยให้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ PRO-AID: ระบบ AI สำหรับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ - ใช้ AI ในการตรวจสอบสถานะของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์แบบเรียลไทม์ - สามารถวิเคราะห์ข้อมูลและแจ้งเตือนปัญหาที่อาจเกิดขึ้น - ช่วยให้โรงไฟฟ้าสามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ ✅ การนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมนิวเคลียร์ - PRO-AID สามารถช่วยออกแบบและปรับปรุงโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งใหม่และเก่า - ใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางคณิตศาสตร์เพื่อให้เห็นภาพรวมของการทำงานของโรงไฟฟ้า ✅ ผลกระทบต่อบุคลากรในอุตสาหกรรม - ระบบสามารถช่วยลดภาระงานของพนักงาน โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ต้องตรวจสอบข้อมูลจำนวนมาก - อาจช่วยลดความจำเป็นในการจ้างงานใหม่เมื่อพนักงานเกษียณ ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ความเสี่ยงของการใช้ AI ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ - แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างเข้มงวด - อาจเกิดข้อผิดพลาดหากระบบ AI ไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ℹ️ ผลกระทบต่อแรงงานในอุตสาหกรรม - การนำ AI มาใช้แทนพนักงานบางตำแหน่ง อาจส่งผลต่อการจ้างงานในอนาคต - ต้องมีการวางแผนเพื่อให้พนักงานสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ ℹ️ แนวโน้มการพัฒนา AI ในอุตสาหกรรมพลังงาน - อาจมีการนำ AI มาใช้ในโรงไฟฟ้าประเภทอื่น เช่น โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน - เทคโนโลยี AI อาจช่วยให้การบริหารจัดการพลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/government-funded-ai-tool-developed-to-help-monitor-and-manage-nuclear-reactors
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้ขายหุ้น 51% ของธุรกิจ FPGA Altera ให้กับ Silver Lake ในมูลค่า 4.46 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการปรับโครงสร้างธุรกิจและเพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน

    ✅ Intel ขายหุ้นส่วนใหญ่ของ Altera ให้ Silver Lake
    - การขายหุ้นครั้งนี้ทำให้ Altera กลายเป็น บริษัท FPGA อิสระที่ใหญ่ที่สุดในโลก
    - Intel ยังคงถือหุ้น 49% และจะได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตของ Altera

    ✅ เป้าหมายของ Altera หลังแยกตัว
    - มุ่งเน้นการพัฒนา FPGA สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์, การบิน, การสื่อสาร และ AI
    - ขยายตลาดไปยัง แพลตฟอร์มคลาวด์, ระบบ Edge และเครือข่ายไร้สายยุคใหม่

    ✅ ผลกระทบต่อ Intel
    - ลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน และมุ่งเน้นธุรกิจหลัก เช่น CPU, GPU และการผลิตชิป
    - ปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน

    ✅ การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของ Altera
    - Raghib Hussain จะเข้ารับตำแหน่ง CEO ของ Altera ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2025
    - เขาเคยเป็นประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ Marvell และมีประสบการณ์ในบริษัทชั้นนำ เช่น Cisco และ Cadence

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม FPGA
    - Altera อาจต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจาก Xilinx (AMD) และ Lattice Semiconductor
    - ต้องติดตามว่า Altera จะสามารถขยายตลาดได้เร็วแค่ไหนหลังแยกตัว

    ℹ️ แนวโน้มของ Intel หลังขายหุ้น Altera
    - Intel อาจใช้เงินจากดีลนี้เพื่อ ลงทุนในธุรกิจชิปและโรงงานผลิต
    - ต้องจับตาว่า Intel จะปรับกลยุทธ์อย่างไรเพื่อแข่งขันกับ TSMC และ Samsung

    ℹ️ ความท้าทายด้านการบริหารจัดการ
    - Silver Lake ต้องวางแผนให้ Altera เติบโตอย่างมั่นคง โดยไม่กระทบต่อความสัมพันธ์กับ Intel
    - ต้องดูว่า Altera จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด FPGA ได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-sells-51-percent-of-altera-fpga-business-to-silver-lake-for-usd4-46-billion
    Intel ได้ขายหุ้น 51% ของธุรกิจ FPGA Altera ให้กับ Silver Lake ในมูลค่า 4.46 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการปรับโครงสร้างธุรกิจและเพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน ✅ Intel ขายหุ้นส่วนใหญ่ของ Altera ให้ Silver Lake - การขายหุ้นครั้งนี้ทำให้ Altera กลายเป็น บริษัท FPGA อิสระที่ใหญ่ที่สุดในโลก - Intel ยังคงถือหุ้น 49% และจะได้รับผลประโยชน์จากการเติบโตของ Altera ✅ เป้าหมายของ Altera หลังแยกตัว - มุ่งเน้นการพัฒนา FPGA สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์, การบิน, การสื่อสาร และ AI - ขยายตลาดไปยัง แพลตฟอร์มคลาวด์, ระบบ Edge และเครือข่ายไร้สายยุคใหม่ ✅ ผลกระทบต่อ Intel - ลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน และมุ่งเน้นธุรกิจหลัก เช่น CPU, GPU และการผลิตชิป - ปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ✅ การเปลี่ยนแปลงผู้บริหารของ Altera - Raghib Hussain จะเข้ารับตำแหน่ง CEO ของ Altera ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 2025 - เขาเคยเป็นประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีของ Marvell และมีประสบการณ์ในบริษัทชั้นนำ เช่น Cisco และ Cadence ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม FPGA - Altera อาจต้องเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงจาก Xilinx (AMD) และ Lattice Semiconductor - ต้องติดตามว่า Altera จะสามารถขยายตลาดได้เร็วแค่ไหนหลังแยกตัว ℹ️ แนวโน้มของ Intel หลังขายหุ้น Altera - Intel อาจใช้เงินจากดีลนี้เพื่อ ลงทุนในธุรกิจชิปและโรงงานผลิต - ต้องจับตาว่า Intel จะปรับกลยุทธ์อย่างไรเพื่อแข่งขันกับ TSMC และ Samsung ℹ️ ความท้าทายด้านการบริหารจัดการ - Silver Lake ต้องวางแผนให้ Altera เติบโตอย่างมั่นคง โดยไม่กระทบต่อความสัมพันธ์กับ Intel - ต้องดูว่า Altera จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำในตลาด FPGA ได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-sells-51-percent-of-altera-fpga-business-to-silver-lake-for-usd4-46-billion
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว