• Apple กำลังเผชิญกับปัญหาภายในที่ส่งผลให้ Siri ล้าหลังคู่แข่งด้าน AI อย่าง OpenAI และ Google โดยมีรายงานว่า ความขัดแย้งระหว่างทีมพัฒนา และ การขาดวิสัยทัศน์ของผู้นำ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Siri ไม่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับที่แข่งขันได้

    Apple ล้มเหลวในการพัฒนา Siri ให้ทันคู่แข่ง
    - Apple ต้องเลื่อนการเปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ของ Siri เนื่องจาก ปัญหาด้านเทคนิคและการบริหารจัดการ
    - อดีตพนักงานของ Apple ระบุว่า การขาดวิสัยทัศน์และการเน้นพัฒนาเพียงฟีเจอร์เล็กๆ เป็นอุปสรรคสำคัญ

    ความขัดแย้งระหว่างทีมพัฒนา AI และวิศวกรซอฟต์แวร์
    - ทีม AI ได้รับ เงินเดือนสูงกว่า, การเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่า และมีเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นกว่า
    - ทีมวิศวกรซอฟต์แวร์รู้สึกว่า ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และมีการบันทึกหลักฐานเพื่อโยนความผิดให้ทีมอื่นหากโครงการล้มเหลว

    อดีตหัวหน้าทีม AI ของ Apple ไม่เชื่อว่า Chatbots มีประโยชน์
    - John Giannandrea เคยบอกทีมงานในปี 2022 ว่า Chatbots อย่าง ChatGPT ไม่มีประโยชน์
    - ในปี 2023 Apple สั่งห้ามวิศวกร ใช้โมเดล AI จากบริษัทอื่น แม้จะเห็นว่าเทคโนโลยีของ Apple ยังตามหลังคู่แข่ง

    Craig Federighi เข้ามากู้สถานการณ์ Siri
    - Federighi ได้สั่งให้ทีม Siri ทำทุกวิถีทางเพื่อพัฒนา AI ให้ดีขึ้น
    - Apple อาจมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทีมเพื่อแก้ไขปัญหาภายใน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/hey-siri-explain-how-internal-feuding-at-apple-left-the-company-losing-the-ai-race
    Apple กำลังเผชิญกับปัญหาภายในที่ส่งผลให้ Siri ล้าหลังคู่แข่งด้าน AI อย่าง OpenAI และ Google โดยมีรายงานว่า ความขัดแย้งระหว่างทีมพัฒนา และ การขาดวิสัยทัศน์ของผู้นำ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Siri ไม่สามารถพัฒนาไปสู่ระดับที่แข่งขันได้ ✅ Apple ล้มเหลวในการพัฒนา Siri ให้ทันคู่แข่ง - Apple ต้องเลื่อนการเปิดตัวฟีเจอร์ AI ใหม่ของ Siri เนื่องจาก ปัญหาด้านเทคนิคและการบริหารจัดการ - อดีตพนักงานของ Apple ระบุว่า การขาดวิสัยทัศน์และการเน้นพัฒนาเพียงฟีเจอร์เล็กๆ เป็นอุปสรรคสำคัญ ✅ ความขัดแย้งระหว่างทีมพัฒนา AI และวิศวกรซอฟต์แวร์ - ทีม AI ได้รับ เงินเดือนสูงกว่า, การเลื่อนตำแหน่งเร็วกว่า และมีเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นกว่า - ทีมวิศวกรซอฟต์แวร์รู้สึกว่า ไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม และมีการบันทึกหลักฐานเพื่อโยนความผิดให้ทีมอื่นหากโครงการล้มเหลว ✅ อดีตหัวหน้าทีม AI ของ Apple ไม่เชื่อว่า Chatbots มีประโยชน์ - John Giannandrea เคยบอกทีมงานในปี 2022 ว่า Chatbots อย่าง ChatGPT ไม่มีประโยชน์ - ในปี 2023 Apple สั่งห้ามวิศวกร ใช้โมเดล AI จากบริษัทอื่น แม้จะเห็นว่าเทคโนโลยีของ Apple ยังตามหลังคู่แข่ง ✅ Craig Federighi เข้ามากู้สถานการณ์ Siri - Federighi ได้สั่งให้ทีม Siri ทำทุกวิถีทางเพื่อพัฒนา AI ให้ดีขึ้น - Apple อาจมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทีมเพื่อแก้ไขปัญหาภายใน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/16/hey-siri-explain-how-internal-feuding-at-apple-left-the-company-losing-the-ai-race
    WWW.THESTAR.COM.MY
    ‘Hey Siri: Explain how internal feuding at Apple left the company losing the AI race’
    A damning expose of Apple's missteps trying upgrade Siri delivers a masterclass on how competing teams build resentment inside a company.
    0 Comments 0 Shares 439 Views 0 Reviews
  • สรงน้ำพระเจ้าใหญ่อินแปลง
    สรงน้ำพระเจ้าใหญ่อินแปลง
    0 Comments 0 Shares 130 Views 1 0 Reviews
  • รดน้ำพระพรหม ท่านเหงาเคยโด่งดัง ช่วยคนมามาก
    รดน้ำพระพรหม ท่านเหงาเคยโด่งดัง ช่วยคนมามาก
    0 Comments 0 Shares 146 Views 2 0 Reviews
  • อ่านข่าวนี้ลุงนี่ใจหาย กลัวขึ้นมาเลย

    การศึกษาใหม่จาก UC San Francisco พบว่า การใช้ CT scan อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งใหม่ถึง 103,000 รายในสหรัฐฯ ต่อปี โดยนักวิจัยเตือนว่าความเสี่ยงจากรังสีไอออไนซ์ของ CT scan อาจสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้

    CT scan อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งถึง 5% ของผู้ป่วยรายใหม่ในแต่ละปี
    - การศึกษานี้ตีพิมพ์ใน JAMA Internal Medicine และได้รับทุนสนับสนุนจาก National Institutes of Health
    - นักวิจัยพบว่า CT scan มีความเสี่ยงต่อสุขภาพเทียบเท่ากับการบริโภคแอลกอฮอล์และน้ำหนักเกิน

    จำนวนการใช้ CT scan ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก
    - ตั้งแต่ปี 2007 จำนวนการตรวจ CT scan เพิ่มขึ้น 30%
    - ในปี 2023 มีการตรวจ CT scan 93 ล้านครั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่ 103,000 รายของมะเร็งใหม่

    ผลกระทบต่อกลุ่มอายุที่แตกต่างกัน
    - ผู้ใหญ่ช่วงอายุ 50-59 ปี มีอัตราการเกิดมะเร็งจาก CT scan สูงสุด
    - เด็กที่ได้รับ CT scan มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะ ทารกที่มีโอกาสเกิดมะเร็งสูงกว่ากลุ่มอื่นถึง 10 เท่า

    ประเภทของมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับ CT scan
    - ผู้ใหญ่: มะเร็งปอด, ลำไส้ใหญ่, มะเร็งเม็ดเลือดขาว, กระเพาะปัสสาวะ และเต้านม
    - เด็ก: มะเร็งไทรอยด์, ปอด และเต้านม

    นักวิจัยแนะนำให้ลดจำนวนการใช้ CT scan ที่ไม่จำเป็น
    - CT scan ที่ใช้ตรวจ การติดเชื้อทางเดินหายใจหรืออาการปวดศีรษะโดยไม่มีอาการรุนแรง อาจไม่จำเป็น
    - ควรพิจารณาทางเลือกอื่นหรือใช้ CT scan ที่มีปริมาณรังสีต่ำกว่า

    https://www.techspot.com/news/107564-study-finds-ct-scans-could-responsible-103000-new.html
    อ่านข่าวนี้ลุงนี่ใจหาย กลัวขึ้นมาเลย การศึกษาใหม่จาก UC San Francisco พบว่า การใช้ CT scan อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งใหม่ถึง 103,000 รายในสหรัฐฯ ต่อปี โดยนักวิจัยเตือนว่าความเสี่ยงจากรังสีไอออไนซ์ของ CT scan อาจสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ ✅ CT scan อาจเป็นสาเหตุของมะเร็งถึง 5% ของผู้ป่วยรายใหม่ในแต่ละปี - การศึกษานี้ตีพิมพ์ใน JAMA Internal Medicine และได้รับทุนสนับสนุนจาก National Institutes of Health - นักวิจัยพบว่า CT scan มีความเสี่ยงต่อสุขภาพเทียบเท่ากับการบริโภคแอลกอฮอล์และน้ำหนักเกิน ✅ จำนวนการใช้ CT scan ในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมาก - ตั้งแต่ปี 2007 จำนวนการตรวจ CT scan เพิ่มขึ้น 30% - ในปี 2023 มีการตรวจ CT scan 93 ล้านครั้ง ซึ่งอาจนำไปสู่ 103,000 รายของมะเร็งใหม่ ✅ ผลกระทบต่อกลุ่มอายุที่แตกต่างกัน - ผู้ใหญ่ช่วงอายุ 50-59 ปี มีอัตราการเกิดมะเร็งจาก CT scan สูงสุด - เด็กที่ได้รับ CT scan มีความเสี่ยงสูง โดยเฉพาะ ทารกที่มีโอกาสเกิดมะเร็งสูงกว่ากลุ่มอื่นถึง 10 เท่า ✅ ประเภทของมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับ CT scan - ผู้ใหญ่: มะเร็งปอด, ลำไส้ใหญ่, มะเร็งเม็ดเลือดขาว, กระเพาะปัสสาวะ และเต้านม - เด็ก: มะเร็งไทรอยด์, ปอด และเต้านม ✅ นักวิจัยแนะนำให้ลดจำนวนการใช้ CT scan ที่ไม่จำเป็น - CT scan ที่ใช้ตรวจ การติดเชื้อทางเดินหายใจหรืออาการปวดศีรษะโดยไม่มีอาการรุนแรง อาจไม่จำเป็น - ควรพิจารณาทางเลือกอื่นหรือใช้ CT scan ที่มีปริมาณรังสีต่ำกว่า https://www.techspot.com/news/107564-study-finds-ct-scans-could-responsible-103000-new.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Study finds CT scans could be responsible for 103,000 new cancer cases in the US each year
    "CT can save lives, but its potential harms are often overlooked," said Dr. Rebecca Smith-Bindman, the study's lead author and a UCSF radiologist. Smith-Bindman, who also serves...
    0 Comments 0 Shares 319 Views 0 Reviews
  • สหภาพยุโรป (EU) ได้เริ่มใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่ โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปสหรัฐฯ ใช้ โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้ง (burner phones) และแล็ปท็อปพื้นฐาน เพื่อป้องกันการสอดแนมทางอิเล็กทรอนิกส์

    EU ให้เจ้าหน้าที่ใช้โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้งและแล็ปท็อปพื้นฐานเมื่อเดินทางไปสหรัฐฯ
    - มาตรการนี้เคยใช้กับ การเดินทางไปยังรัสเซียและจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสอดแนม
    - เจ้าหน้าที่ได้รับคำแนะนำให้ ปิดโทรศัพท์ที่ชายแดนและเก็บไว้ในปลอกป้องกันการสอดแนม

    มาตรการนี้มีผลกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมประชุม IMF และ World Bank Group
    - เจ้าหน้าที่ EU ที่เดินทางไปวอชิงตัน ดี.ซี. ในสัปดาห์หน้า จะเป็นกลุ่มแรกที่ใช้มาตรการใหม่นี้
    - คำแนะนำด้านความปลอดภัยของ EU ได้รับการอัปเดต แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด

    ความสัมพันธ์ระหว่าง EU และสหรัฐฯ ตึงเครียดมากขึ้น
    - Luuk van Middelaar จาก Brussels Institute for Geopolitics ระบุว่า "วอชิงตันไม่ใช่ปักกิ่งหรือมอสโก แต่ก็เป็นคู่แข่งที่ใช้วิธีการนอกกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง"
    - มีรายงานว่า สหรัฐฯ เคยสอดแนมโทรศัพท์ของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี Angela Merkel ในปี 2013

    สิทธิ์ของเจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ ในการตรวจสอบอุปกรณ์ของผู้เดินทาง
    - ตามรายงานของ India Today เจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ มีสิทธิ์ตรวจสอบและยึดอุปกรณ์มือถือของผู้เดินทาง
    - มีกรณีที่ผู้เดินทางถูกปฏิเสธการเข้าประเทศหลังจากเจ้าหน้าที่พบโพสต์วิจารณ์รัฐบาลทรัมป์บนโซเชียลมีเดีย

    https://www.techspot.com/news/107576-eu-provides-burner-phones-us-bound-staff-amid.html
    สหภาพยุโรป (EU) ได้เริ่มใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยใหม่ โดยให้เจ้าหน้าที่ที่เดินทางไปสหรัฐฯ ใช้ โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้ง (burner phones) และแล็ปท็อปพื้นฐาน เพื่อป้องกันการสอดแนมทางอิเล็กทรอนิกส์ ✅ EU ให้เจ้าหน้าที่ใช้โทรศัพท์แบบใช้แล้วทิ้งและแล็ปท็อปพื้นฐานเมื่อเดินทางไปสหรัฐฯ - มาตรการนี้เคยใช้กับ การเดินทางไปยังรัสเซียและจีน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการสอดแนม - เจ้าหน้าที่ได้รับคำแนะนำให้ ปิดโทรศัพท์ที่ชายแดนและเก็บไว้ในปลอกป้องกันการสอดแนม ✅ มาตรการนี้มีผลกับเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมประชุม IMF และ World Bank Group - เจ้าหน้าที่ EU ที่เดินทางไปวอชิงตัน ดี.ซี. ในสัปดาห์หน้า จะเป็นกลุ่มแรกที่ใช้มาตรการใหม่นี้ - คำแนะนำด้านความปลอดภัยของ EU ได้รับการอัปเดต แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมด ✅ ความสัมพันธ์ระหว่าง EU และสหรัฐฯ ตึงเครียดมากขึ้น - Luuk van Middelaar จาก Brussels Institute for Geopolitics ระบุว่า "วอชิงตันไม่ใช่ปักกิ่งหรือมอสโก แต่ก็เป็นคู่แข่งที่ใช้วิธีการนอกกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง" - มีรายงานว่า สหรัฐฯ เคยสอดแนมโทรศัพท์ของนายกรัฐมนตรีเยอรมนี Angela Merkel ในปี 2013 ✅ สิทธิ์ของเจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ ในการตรวจสอบอุปกรณ์ของผู้เดินทาง - ตามรายงานของ India Today เจ้าหน้าที่ชายแดนสหรัฐฯ มีสิทธิ์ตรวจสอบและยึดอุปกรณ์มือถือของผู้เดินทาง - มีกรณีที่ผู้เดินทางถูกปฏิเสธการเข้าประเทศหลังจากเจ้าหน้าที่พบโพสต์วิจารณ์รัฐบาลทรัมป์บนโซเชียลมีเดีย https://www.techspot.com/news/107576-eu-provides-burner-phones-us-bound-staff-amid.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    EU provides burner phones to officials traveling to US amid espionage concerns
    An EU official told the Financial Times, The transatlantic alliance is over.
    0 Comments 0 Shares 450 Views 0 Reviews
  • Google DeepMind ได้พัฒนา CaMeL (Capabilities for Machine Learning) ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการป้องกัน Prompt Injection โดยใช้หลักการแบ่งแยกโมเดล AI ออกเป็นส่วนต่างๆ เพื่อจำกัดความสามารถในการดำเนินการที่ไม่ปลอดภัย

    CaMeL ใช้หลักการแบ่งแยกโมเดล AI เพื่อป้องกัน Prompt Injection
    - แทนที่จะให้ AI ตรวจสอบตัวเอง CaMeL จำกัดความสามารถของโมเดล โดยใช้หลักการด้านความปลอดภัยของซอฟต์แวร์
    - แบ่งโมเดลออกเป็น P-LLM (Privileged LLM) สำหรับการดำเนินการ และ Q-LLM (Quarantined LLM) สำหรับการอ่านข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ

    P-LLM และ Q-LLM ทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันการโจมตี
    - P-LLM สามารถวางแผนการดำเนินการ เช่น การส่งอีเมล แต่ ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลดิบ
    - Q-LLM สามารถอ่านข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ แต่ ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเครื่องมือหรือหน่วยความจำ

    CaMeL ใช้ Secure Interpreter เพื่อติดตามแหล่งที่มาของข้อมูล
    - ใช้ Python เวอร์ชันพิเศษ ที่สามารถติดตามว่าข้อมูลมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่
    - หากพบว่าการดำเนินการเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่อาจเป็นอันตราย ระบบสามารถ บล็อกหรือขอให้ผู้ใช้ยืนยันก่อนดำเนินการ

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยยกย่อง CaMeL ว่าเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพ
    - Simon Willison ผู้ตั้งชื่อ Prompt Injection ในปี 2022 ระบุว่า CaMeL เป็น "แนวทางแรกที่น่าเชื่อถือ"
    - แนวทางนี้ช่วยแก้ปัญหาที่โมเดล AI มัก รวมคำสั่งของผู้ใช้และข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือไว้ในหน่วยความจำเดียวกัน

    https://www.techspot.com/news/107575-new-approach-deepmind-partitions-llms-mitigate-prompt-injection.html
    Google DeepMind ได้พัฒนา CaMeL (Capabilities for Machine Learning) ซึ่งเป็นแนวทางใหม่ในการป้องกัน Prompt Injection โดยใช้หลักการแบ่งแยกโมเดล AI ออกเป็นส่วนต่างๆ เพื่อจำกัดความสามารถในการดำเนินการที่ไม่ปลอดภัย ✅ CaMeL ใช้หลักการแบ่งแยกโมเดล AI เพื่อป้องกัน Prompt Injection - แทนที่จะให้ AI ตรวจสอบตัวเอง CaMeL จำกัดความสามารถของโมเดล โดยใช้หลักการด้านความปลอดภัยของซอฟต์แวร์ - แบ่งโมเดลออกเป็น P-LLM (Privileged LLM) สำหรับการดำเนินการ และ Q-LLM (Quarantined LLM) สำหรับการอ่านข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ ✅ P-LLM และ Q-LLM ทำงานร่วมกันเพื่อป้องกันการโจมตี - P-LLM สามารถวางแผนการดำเนินการ เช่น การส่งอีเมล แต่ ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลดิบ - Q-LLM สามารถอ่านข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ แต่ ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเครื่องมือหรือหน่วยความจำ ✅ CaMeL ใช้ Secure Interpreter เพื่อติดตามแหล่งที่มาของข้อมูล - ใช้ Python เวอร์ชันพิเศษ ที่สามารถติดตามว่าข้อมูลมาจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือหรือไม่ - หากพบว่าการดำเนินการเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่อาจเป็นอันตราย ระบบสามารถ บล็อกหรือขอให้ผู้ใช้ยืนยันก่อนดำเนินการ ✅ นักวิจัยด้านความปลอดภัยยกย่อง CaMeL ว่าเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพ - Simon Willison ผู้ตั้งชื่อ Prompt Injection ในปี 2022 ระบุว่า CaMeL เป็น "แนวทางแรกที่น่าเชื่อถือ" - แนวทางนี้ช่วยแก้ปัญหาที่โมเดล AI มัก รวมคำสั่งของผู้ใช้และข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือไว้ในหน่วยความจำเดียวกัน https://www.techspot.com/news/107575-new-approach-deepmind-partitions-llms-mitigate-prompt-injection.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New approach from DeepMind partitions LLMs to mitigate prompt injection
    Since chatbots went mainstream in 2022, a security flaw known as prompt injection has plagued artificial intelligence developers. The problem is simple: language models like ChatGPT can't...
    0 Comments 0 Shares 257 Views 0 Reviews
  • นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเวน (TU/e) ได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลแบบไร้สายด้วย แสงอินฟราเรด โดยสามารถส่งข้อมูลได้เร็วถึง 5.7 เทราบิตต่อวินาที (Tb/s) ในระยะทาง 4.6 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นอัตราการส่งข้อมูลที่เร็วที่สุดสำหรับการสื่อสารไร้สายในสภาพแวดล้อมเมือง

    นักวิจัยจาก TU/e สามารถส่งข้อมูลไร้สายด้วยความเร็ว 5.7 Tb/s
    - ใช้ แสงอินฟราเรดที่มองไม่เห็น เพื่อส่งข้อมูลระหว่าง มหาวิทยาลัย TU/e และ High Tech Campus (HTC) ในไอนด์โฮเวน
    - ถือเป็นอัตราการส่งข้อมูลที่เร็วที่สุดสำหรับการสื่อสารไร้สายในสภาพแวดล้อมเมือง

    เทคโนโลยีนี้ใช้ระบบ Free-Space Optical (FSO) Communication
    - ใช้ เสาอากาศออปติคอลขั้นสูง ที่พัฒนาโดย Aircision ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมในท้องถิ่น
    - ระบบนี้ช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้ สายเคเบิลหรือคลื่นวิทยุ

    ข้อดีของการส่งข้อมูลด้วยแสงอินฟราเรด
    - ความเร็วสูงมาก เทียบเท่ากับการส่งข้อมูลผ่านไฟเบอร์ออปติก
    - ไม่มีการรบกวนจากสัญญาณวิทยุ ทำให้สามารถใช้ร่วมกับเครือข่ายไร้สายอื่นๆ ได้

    ข้อจำกัดของเทคโนโลยีนี้
    - ต้องมี เส้นทางสายตาที่ชัดเจน ระหว่างจุดส่งและรับข้อมูล
    - มีความไวต่อ สภาพอากาศ เช่น หมอกหรือฝน ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพการส่งข้อมูล

    แนวทางการพัฒนาในอนาคต
    - นักวิจัยกำลังพัฒนา ระบบที่สามารถทำงานได้ในทุกสภาพอากาศ
    - Aircision กำลังสำรวจการใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อ เชื่อมต่อเสาสัญญาณ 5G และ 6G ในพื้นที่ที่ติดตั้งไฟเบอร์ออปติกได้ยาก

    https://www.tomshardware.com/networking/eindhoven-researchers-achieve-5-7-tb-s-data-transfer-speeds-using-highly-focused-infrared-light
    นักวิจัยจาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเวน (TU/e) ได้สร้างสถิติใหม่ในการส่งข้อมูลแบบไร้สายด้วย แสงอินฟราเรด โดยสามารถส่งข้อมูลได้เร็วถึง 5.7 เทราบิตต่อวินาที (Tb/s) ในระยะทาง 4.6 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นอัตราการส่งข้อมูลที่เร็วที่สุดสำหรับการสื่อสารไร้สายในสภาพแวดล้อมเมือง ✅ นักวิจัยจาก TU/e สามารถส่งข้อมูลไร้สายด้วยความเร็ว 5.7 Tb/s - ใช้ แสงอินฟราเรดที่มองไม่เห็น เพื่อส่งข้อมูลระหว่าง มหาวิทยาลัย TU/e และ High Tech Campus (HTC) ในไอนด์โฮเวน - ถือเป็นอัตราการส่งข้อมูลที่เร็วที่สุดสำหรับการสื่อสารไร้สายในสภาพแวดล้อมเมือง ✅ เทคโนโลยีนี้ใช้ระบบ Free-Space Optical (FSO) Communication - ใช้ เสาอากาศออปติคอลขั้นสูง ที่พัฒนาโดย Aircision ซึ่งเป็นบริษัทโทรคมนาคมในท้องถิ่น - ระบบนี้ช่วยให้สามารถส่งข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้ สายเคเบิลหรือคลื่นวิทยุ ✅ ข้อดีของการส่งข้อมูลด้วยแสงอินฟราเรด - ความเร็วสูงมาก เทียบเท่ากับการส่งข้อมูลผ่านไฟเบอร์ออปติก - ไม่มีการรบกวนจากสัญญาณวิทยุ ทำให้สามารถใช้ร่วมกับเครือข่ายไร้สายอื่นๆ ได้ ✅ ข้อจำกัดของเทคโนโลยีนี้ - ต้องมี เส้นทางสายตาที่ชัดเจน ระหว่างจุดส่งและรับข้อมูล - มีความไวต่อ สภาพอากาศ เช่น หมอกหรือฝน ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพการส่งข้อมูล ✅ แนวทางการพัฒนาในอนาคต - นักวิจัยกำลังพัฒนา ระบบที่สามารถทำงานได้ในทุกสภาพอากาศ - Aircision กำลังสำรวจการใช้เทคโนโลยีนี้เพื่อ เชื่อมต่อเสาสัญญาณ 5G และ 6G ในพื้นที่ที่ติดตั้งไฟเบอร์ออปติกได้ยาก https://www.tomshardware.com/networking/eindhoven-researchers-achieve-5-7-tb-s-data-transfer-speeds-using-highly-focused-infrared-light
    0 Comments 0 Shares 471 Views 0 Reviews
  • การทดสอบความทนทานของ SSD ที่ไม่ได้เสียบไฟเป็นเวลานาน พบว่ามี การสูญเสียข้อมูลและประสิทธิภาพลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยนักวิจัยเตือนว่าการเก็บข้อมูลสำคัญบน SSD ที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานอาจเสี่ยงต่อการสูญหาย

    SSD ที่ไม่ได้เสียบไฟเป็นเวลานานอาจสูญเสียข้อมูล
    - การทดสอบพบว่า SSD ที่ถูกใช้งานหนักมีไฟล์เสียหายและประสิทธิภาพลดลง
    - SSD ที่ไม่ได้ใช้งานเลยยังคงมีข้อมูลครบถ้วน แต่มี ข้อผิดพลาดที่ต้องใช้ระบบแก้ไขข้อมูลอัตโนมัติ (ECC) มากขึ้น

    SSD ที่ถูกใช้งานหนักมีอัตราการสูญเสียข้อมูลสูงกว่า
    - SSD ที่ผ่านการเขียนข้อมูล 280 เทราไบต์ มีไฟล์เสียหายและใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลนานขึ้นถึง 4 เท่า
    - พบว่ามี เซกเตอร์เสียหายและประสิทธิภาพลดลงอย่างชัดเจน

    การทดสอบใช้ SSD รุ่น Leven JS-600 ขนาด 128GB
    - SSD เหล่านี้มีอายุการใช้งานที่ระบุไว้ที่ 60 เทราไบต์ของข้อมูลที่เขียน
    - การทดสอบใช้ 100GB ของข้อมูลแบบสุ่ม และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลหลังจากปล่อย SSD ไว้โดยไม่เสียบไฟ

    ข้อสรุปจากการทดสอบ
    - SSD ที่ไม่ได้ใช้งานเลยยังคงมีข้อมูลครบถ้วน แต่มี ข้อผิดพลาดที่ต้องใช้ ECC แก้ไขมากขึ้น
    - SSD ที่ถูกใช้งานหนักมี ไฟล์เสียหายและประสิทธิภาพลดลงอย่างมาก

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/unpowered-ssd-endurance-investigation-finds-severe-data-loss-and-performance-issues-reminds-us-of-the-importance-of-refreshing-backups
    การทดสอบความทนทานของ SSD ที่ไม่ได้เสียบไฟเป็นเวลานาน พบว่ามี การสูญเสียข้อมูลและประสิทธิภาพลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยนักวิจัยเตือนว่าการเก็บข้อมูลสำคัญบน SSD ที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานานอาจเสี่ยงต่อการสูญหาย ✅ SSD ที่ไม่ได้เสียบไฟเป็นเวลานานอาจสูญเสียข้อมูล - การทดสอบพบว่า SSD ที่ถูกใช้งานหนักมีไฟล์เสียหายและประสิทธิภาพลดลง - SSD ที่ไม่ได้ใช้งานเลยยังคงมีข้อมูลครบถ้วน แต่มี ข้อผิดพลาดที่ต้องใช้ระบบแก้ไขข้อมูลอัตโนมัติ (ECC) มากขึ้น ✅ SSD ที่ถูกใช้งานหนักมีอัตราการสูญเสียข้อมูลสูงกว่า - SSD ที่ผ่านการเขียนข้อมูล 280 เทราไบต์ มีไฟล์เสียหายและใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลนานขึ้นถึง 4 เท่า - พบว่ามี เซกเตอร์เสียหายและประสิทธิภาพลดลงอย่างชัดเจน ✅ การทดสอบใช้ SSD รุ่น Leven JS-600 ขนาด 128GB - SSD เหล่านี้มีอายุการใช้งานที่ระบุไว้ที่ 60 เทราไบต์ของข้อมูลที่เขียน - การทดสอบใช้ 100GB ของข้อมูลแบบสุ่ม และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลหลังจากปล่อย SSD ไว้โดยไม่เสียบไฟ ✅ ข้อสรุปจากการทดสอบ - SSD ที่ไม่ได้ใช้งานเลยยังคงมีข้อมูลครบถ้วน แต่มี ข้อผิดพลาดที่ต้องใช้ ECC แก้ไขมากขึ้น - SSD ที่ถูกใช้งานหนักมี ไฟล์เสียหายและประสิทธิภาพลดลงอย่างมาก https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/unpowered-ssd-endurance-investigation-finds-severe-data-loss-and-performance-issues-reminds-us-of-the-importance-of-refreshing-backups
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Unpowered SSD endurance investigation finds severe data loss and performance issues
    YouTuber SSD tests reveals problems all round on two-year-old TLC drives.
    0 Comments 0 Shares 182 Views 0 Reviews
  • สหรัฐฯ ได้ออกข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการส่งออกชิป AI ไปยังจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อ AMD และ Nvidia โดย AMD คาดว่าจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์ จากสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อที่ได้รับผลกระทบ

    สหรัฐฯ ออกข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการส่งออกชิป AI ไปยังจีน
    - ข้อจำกัดนี้มีผลกับ AMD MI308 และ Nvidia H20 ซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตก่อนส่งออก
    - รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อ รักษาความเป็นผู้นำด้าน AI และป้องกันจีนจากการพัฒนาเทคโนโลยีที่เหนือกว่า

    AMD คาดว่าจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์
    - ค่าใช้จ่ายนี้รวมถึง สินค้าคงคลัง, คำสั่งซื้อที่ได้รับผลกระทบ และการตั้งสำรองทางบัญชี
    - Nvidia ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยคาดว่าจะต้อง ตัดจำหน่ายสินค้าคงคลังมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์

    ข้อจำกัดนี้ทำให้บริษัทจีนหาทางนำเข้าชิปผ่านประเทศที่สาม
    - มีรายงานว่าธุรกิจจีนใช้ ตัวกลางในมาเลเซีย, เวียดนาม และไต้หวัน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัด
    - สิงคโปร์และมาเลเซียกำลังพยายาม ลดการรั่วไหลของชิป AI ไปยังจีน แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามาตรการเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพเพียงใด

    รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติ
    - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่ามาตรการนี้เป็นไปตาม คำสั่งของประธานาธิบดี เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-takes-usd800m-haircut-as-us-govt-cuts-off-chinas-ai-gpu-supply
    สหรัฐฯ ได้ออกข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการส่งออกชิป AI ไปยังจีน ซึ่งส่งผลกระทบต่อ AMD และ Nvidia โดย AMD คาดว่าจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์ จากสินค้าคงคลังและคำสั่งซื้อที่ได้รับผลกระทบ ✅ สหรัฐฯ ออกข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการส่งออกชิป AI ไปยังจีน - ข้อจำกัดนี้มีผลกับ AMD MI308 และ Nvidia H20 ซึ่งต้องได้รับใบอนุญาตก่อนส่งออก - รัฐบาลสหรัฐฯ ระบุว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อ รักษาความเป็นผู้นำด้าน AI และป้องกันจีนจากการพัฒนาเทคโนโลยีที่เหนือกว่า ✅ AMD คาดว่าจะต้องรับภาระค่าใช้จ่ายสูงถึง 800 ล้านดอลลาร์ - ค่าใช้จ่ายนี้รวมถึง สินค้าคงคลัง, คำสั่งซื้อที่ได้รับผลกระทบ และการตั้งสำรองทางบัญชี - Nvidia ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน โดยคาดว่าจะต้อง ตัดจำหน่ายสินค้าคงคลังมูลค่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ ✅ ข้อจำกัดนี้ทำให้บริษัทจีนหาทางนำเข้าชิปผ่านประเทศที่สาม - มีรายงานว่าธุรกิจจีนใช้ ตัวกลางในมาเลเซีย, เวียดนาม และไต้หวัน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัด - สิงคโปร์และมาเลเซียกำลังพยายาม ลดการรั่วไหลของชิป AI ไปยังจีน แต่ยังไม่แน่ชัดว่ามาตรการเหล่านี้จะมีประสิทธิภาพเพียงใด ✅ รัฐบาลสหรัฐฯ ยืนยันว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่ามาตรการนี้เป็นไปตาม คำสั่งของประธานาธิบดี เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/amd-takes-usd800m-haircut-as-us-govt-cuts-off-chinas-ai-gpu-supply
    0 Comments 0 Shares 301 Views 0 Reviews
  • Intel กำลังผลักดันการใช้ High-NA EUV lithography ในการผลิตชิป โดยติดตั้งเครื่องมือใหม่และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ต้นทุนสูงและข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาจทำให้การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมล่าช้า

    Intel ติดตั้งเครื่อง High-NA EUV และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง
    - บริษัทได้ติดตั้ง ASML Twinscan EXE:5000 และพัฒนา reticles, optical proximity correction (OPC) และ photomasks
    - มีการประมวลผล 30,000 wafers เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี

    ต้นทุนของ High-NA EUV สูงกว่าระบบเดิม
    - เครื่องมือแต่ละเครื่องมีราคาประมาณ $380 - $400 ล้าน ซึ่งสูงกว่ารุ่น Low-NA EUV
    - การใช้ High-NA EUV มีค่าใช้จ่ายต่อการผลิตสูงกว่าถึง 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับ Low-NA EUV

    Intel ใช้ High-NA EUV ในกระบวนการผลิต 14A (1.4nm-class)
    - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดจำนวนขั้นตอนจาก 30 ขั้นตอนเหลือเพียง 1 ขั้นตอน ในบางชั้นของชิป
    - ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า คุณภาพของ High-NA EUV เทียบเท่ากับเทคนิคเดิม

    ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานและการผลิต
    - ขนาดของ exposure field เล็กลง ทำให้ต้องใช้ การซ้อนภาพ (stitched fields) ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพ
    - Intel เสนอให้ใช้ photomask ขนาดใหญ่ขึ้น (6×12 นิ้วแทน 6×6 นิ้ว) เพื่อแก้ปัญหานี้

    แนวโน้มของการนำ High-NA EUV มาใช้ในอุตสาหกรรม
    - Intel คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้ในวงกว้างเมื่อ กระบวนการผลิตต้องการ triple หรือ quadruple patterning
    - อาจต้องรอจนถึง 1.0nm-class generation เพื่อให้ต้นทุนและโครงสร้างพื้นฐานพร้อม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-has-championed-high-na-euv-chipmaking-tools-but-costs-and-other-limitations-could-delay-industry-wide-adoption-report
    Intel กำลังผลักดันการใช้ High-NA EUV lithography ในการผลิตชิป โดยติดตั้งเครื่องมือใหม่และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ต้นทุนสูงและข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาจทำให้การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมล่าช้า ✅ Intel ติดตั้งเครื่อง High-NA EUV และพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง - บริษัทได้ติดตั้ง ASML Twinscan EXE:5000 และพัฒนา reticles, optical proximity correction (OPC) และ photomasks - มีการประมวลผล 30,000 wafers เพื่อทดสอบความเป็นไปได้ของเทคโนโลยี ✅ ต้นทุนของ High-NA EUV สูงกว่าระบบเดิม - เครื่องมือแต่ละเครื่องมีราคาประมาณ $380 - $400 ล้าน ซึ่งสูงกว่ารุ่น Low-NA EUV - การใช้ High-NA EUV มีค่าใช้จ่ายต่อการผลิตสูงกว่าถึง 2.5 เท่า เมื่อเทียบกับ Low-NA EUV ✅ Intel ใช้ High-NA EUV ในกระบวนการผลิต 14A (1.4nm-class) - เทคโนโลยีนี้ช่วยลดจำนวนขั้นตอนจาก 30 ขั้นตอนเหลือเพียง 1 ขั้นตอน ในบางชั้นของชิป - ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่า คุณภาพของ High-NA EUV เทียบเท่ากับเทคนิคเดิม ✅ ข้อจำกัดด้านโครงสร้างพื้นฐานและการผลิต - ขนาดของ exposure field เล็กลง ทำให้ต้องใช้ การซ้อนภาพ (stitched fields) ซึ่งอาจลดประสิทธิภาพ - Intel เสนอให้ใช้ photomask ขนาดใหญ่ขึ้น (6×12 นิ้วแทน 6×6 นิ้ว) เพื่อแก้ปัญหานี้ ✅ แนวโน้มของการนำ High-NA EUV มาใช้ในอุตสาหกรรม - Intel คาดว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้ในวงกว้างเมื่อ กระบวนการผลิตต้องการ triple หรือ quadruple patterning - อาจต้องรอจนถึง 1.0nm-class generation เพื่อให้ต้นทุนและโครงสร้างพื้นฐานพร้อม https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-has-championed-high-na-euv-chipmaking-tools-but-costs-and-other-limitations-could-delay-industry-wide-adoption-report
    0 Comments 0 Shares 325 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 97 Views 3 0 Reviews
  • ลุงโทนี่กลับมาดรามาอีกครั้ง ใส่โต๊ปขายหมูหัน อาจไม่ได้หลุดพลาด แต่คือสูตร เพราะทุกคำด่าคือยอดวิว

    #ใส่โต๊ปขายหมูหัน #ขายหมูหัน #ลุงโทนี่ขายหมูหัน #ศรัทธาถูกใช้เป็นไวรัล #ศาสนาอิสลาม #ลุงโทนี่ #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    ลุงโทนี่กลับมาดรามาอีกครั้ง ใส่โต๊ปขายหมูหัน อาจไม่ได้หลุดพลาด แต่คือสูตร เพราะทุกคำด่าคือยอดวิว #ใส่โต๊ปขายหมูหัน #ขายหมูหัน #ลุงโทนี่ขายหมูหัน #ศรัทธาถูกใช้เป็นไวรัล #ศาสนาอิสลาม #ลุงโทนี่ #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Love
    14
    0 Comments 0 Shares 1836 Views 38 0 Reviews
  • ลัทธิอื่นไม่รู้จักเรื่องอัตตวาทุปาทาน
    ลำดับสัทธรรมที่: 186

    เนื้อความ: -ลัทธิอื่นไม่รู้จักเรื่องอัตตวาทุปาทาน
    ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่างเหล่านี้. สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ ๑. กามุปาทาน ความถือมั่นในกาม ; ๒. ทิฏฐุปาทาน ความถือมั่น
    ในทิฏฐิ ; ๓. สีลัพพตุปาทาน ความถือมั่นในศีลพรต ; ๔. อัตตวาทุปาทาน ความถือมั่นในวาทะว่าตน.
    ภิกษุ ท. ! มีสมณพราหมณ์บางพวก ซึ่งปฏิญาณตัวว่า เป็นผู้กล่าวการรอบรู้ซึ่งอุปาทานทั้งปวง, แต่สมณพราหมณ์เหล่านั้น หาได้บัญญัติการรอบรู้ซึ่งอุปาทานทั้งปวงโดยชอบไม่ คือ เขาบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งกามุปาทาน แต่ไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งทิฏฐุปาทาน ไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งสีลัพพตุปาทาน และไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอัตตวาทุปาทาน. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะว่าสมณพราหมณ์เหล่านั้น ย่อมไม่รู้จักฐานะ (อุปาทาน) ทั้งสาม (นอกนั้น) เหล่านี้ ตามที่เป็นจริง เพราะเหตุนั้น สมณพราหมณ์เหล่านั้น ทั้งที่ปฏิญาณตัวว่าเป็นผู้กล่าวการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวง ก็หาได้บัญญัติการรอบรู้ซึ่งอุปาทานทั้งปวงโดยชอบไม่ คือเขาบัญญัติได้แต่การรอบรู้ซึ่งกามุปาทาน, แต่ไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งทิฏฐุปาทาน ไม่บัญญัติการรอบรู้ซึ่งสีลัพพตุปาทาน และไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอัตตวาทุปาทาน.
    ภิกษุ ท. ! มีสมณพราหมณ์อีกบางพวก ซึ่งปฏิญาณตัวว่า เป็นผู้กล่าวการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวง, แต่สมณพราหมณ์เหล่านั้น หาได้บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวงโดยชอบไม่ คือ เขาบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งกามุปาทาน และบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งทิฏฐุปาทาน, แต่ไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งสีลัพพตุปาทาน และไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอัตตวาทุปาทาน. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะว่า สมณพราหมณ์เหล่านั้น ย่อมไม่รู้จักฐานะ (อุปาทาน) ทั้งสอง (นอกนั้น) เหล่านี้ ตามที่เป็นจริง เพราะเหตุนั้น สมณพราหมณ์เหล่านั้น ทั้งที่ปฏิญาณตัวว่า เป็นผู้กล่าวการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวง ก็หาได้
    บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวงโดยชอบไม่ คือ เขาบัญญัติได้แต่การรอบรู้ซึ่งกามุปาทาน และบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งทิฏฐุปาทาน, แต่ไม่อาจบัญญัติการรอบรู้ ซึ่งสีลัพพตุปาทาน และไม่อาจบัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอัตตวาทุปาทาน.
    ภิกษุ ท. ! มีสมณพราหมณ์อีกบางพวก ซึ่งปฏิญาณตัวว่า เป็นผู้กล่าวการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวง, แต่สมณพราหมณ์เหล่านั้น หาได้บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวงโดยชอบไม่ คือ เขาบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งกามุปาทาน, บัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่ง ทิฏฐุปาทาน, และบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่ง สีลัพพตุปาทาน ; แต่ไม่อาจบัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอัตตวาทุปาทาน. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะว่า สมณพราหมณ์เหล่านั้น ย่อมไม่รู้จักฐานะ (อุปาทาน) หนึ่งอันนี้ ตามที่เป็นจริง เพราะเหตุนั้น สมณพราหมณ์เหล่านั้นทั้งที่ปฏิญาณตัวว่า เป็นผู้กล่าวการรอบรู้ซึ่งอุปาทานทั้งปวง ก็หาได้บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวง โดยชอบไม่ คือ เขาบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งกามุปาทาน, บัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งทิฏฐุปาทาน, และบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งสีลัพพตุปาทาน ; แต่ไม่อาจบัญญัติการรอบรู้ซึ่งอัตตาวาทุปาทาน แล.


    #ทุกข์ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงพระสุตตันตปิฎกไทย: - มู. ม. 12/132/156.
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/thaiBook.php?volume=12&pages=92

    อ้างอิงพระสุตันตปิฎกบาลี: - มู. ม. ๑๒/๑๓๒/๑๕๖.
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/paliBook.php?volume=12&pages=132

    ค้นหาพุทธพจน์: https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/

    ฟังเสียงอ่าน: https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=186
    ลัทธิอื่นไม่รู้จักเรื่องอัตตวาทุปาทาน ลำดับสัทธรรมที่: 186 เนื้อความ: -ลัทธิอื่นไม่รู้จักเรื่องอัตตวาทุปาทาน ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่างเหล่านี้. สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ ๑. กามุปาทาน ความถือมั่นในกาม ; ๒. ทิฏฐุปาทาน ความถือมั่น ในทิฏฐิ ; ๓. สีลัพพตุปาทาน ความถือมั่นในศีลพรต ; ๔. อัตตวาทุปาทาน ความถือมั่นในวาทะว่าตน. ภิกษุ ท. ! มีสมณพราหมณ์บางพวก ซึ่งปฏิญาณตัวว่า เป็นผู้กล่าวการรอบรู้ซึ่งอุปาทานทั้งปวง, แต่สมณพราหมณ์เหล่านั้น หาได้บัญญัติการรอบรู้ซึ่งอุปาทานทั้งปวงโดยชอบไม่ คือ เขาบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งกามุปาทาน แต่ไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งทิฏฐุปาทาน ไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งสีลัพพตุปาทาน และไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอัตตวาทุปาทาน. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะว่าสมณพราหมณ์เหล่านั้น ย่อมไม่รู้จักฐานะ (อุปาทาน) ทั้งสาม (นอกนั้น) เหล่านี้ ตามที่เป็นจริง เพราะเหตุนั้น สมณพราหมณ์เหล่านั้น ทั้งที่ปฏิญาณตัวว่าเป็นผู้กล่าวการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวง ก็หาได้บัญญัติการรอบรู้ซึ่งอุปาทานทั้งปวงโดยชอบไม่ คือเขาบัญญัติได้แต่การรอบรู้ซึ่งกามุปาทาน, แต่ไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งทิฏฐุปาทาน ไม่บัญญัติการรอบรู้ซึ่งสีลัพพตุปาทาน และไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอัตตวาทุปาทาน. ภิกษุ ท. ! มีสมณพราหมณ์อีกบางพวก ซึ่งปฏิญาณตัวว่า เป็นผู้กล่าวการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวง, แต่สมณพราหมณ์เหล่านั้น หาได้บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวงโดยชอบไม่ คือ เขาบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งกามุปาทาน และบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งทิฏฐุปาทาน, แต่ไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งสีลัพพตุปาทาน และไม่บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอัตตวาทุปาทาน. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะว่า สมณพราหมณ์เหล่านั้น ย่อมไม่รู้จักฐานะ (อุปาทาน) ทั้งสอง (นอกนั้น) เหล่านี้ ตามที่เป็นจริง เพราะเหตุนั้น สมณพราหมณ์เหล่านั้น ทั้งที่ปฏิญาณตัวว่า เป็นผู้กล่าวการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวง ก็หาได้ บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวงโดยชอบไม่ คือ เขาบัญญัติได้แต่การรอบรู้ซึ่งกามุปาทาน และบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งทิฏฐุปาทาน, แต่ไม่อาจบัญญัติการรอบรู้ ซึ่งสีลัพพตุปาทาน และไม่อาจบัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอัตตวาทุปาทาน. ภิกษุ ท. ! มีสมณพราหมณ์อีกบางพวก ซึ่งปฏิญาณตัวว่า เป็นผู้กล่าวการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวง, แต่สมณพราหมณ์เหล่านั้น หาได้บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวงโดยชอบไม่ คือ เขาบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งกามุปาทาน, บัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่ง ทิฏฐุปาทาน, และบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่ง สีลัพพตุปาทาน ; แต่ไม่อาจบัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอัตตวาทุปาทาน. ข้อนั้นเพราะเหตุไร ? เพราะว่า สมณพราหมณ์เหล่านั้น ย่อมไม่รู้จักฐานะ (อุปาทาน) หนึ่งอันนี้ ตามที่เป็นจริง เพราะเหตุนั้น สมณพราหมณ์เหล่านั้นทั้งที่ปฏิญาณตัวว่า เป็นผู้กล่าวการรอบรู้ซึ่งอุปาทานทั้งปวง ก็หาได้บัญญัติการรอบรู้ ซึ่งอุปาทานทั้งปวง โดยชอบไม่ คือ เขาบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งกามุปาทาน, บัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งทิฏฐุปาทาน, และบัญญัติได้แต่การรอบรู้ ซึ่งสีลัพพตุปาทาน ; แต่ไม่อาจบัญญัติการรอบรู้ซึ่งอัตตาวาทุปาทาน แล. #ทุกข์ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงพระสุตตันตปิฎกไทย: - มู. ม. 12/132/156. https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/thaiBook.php?volume=12&pages=92 อ้างอิงพระสุตันตปิฎกบาลี: - มู. ม. ๑๒/๑๓๒/๑๕๖. https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/paliBook.php?volume=12&pages=132 ค้นหาพุทธพจน์: https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/ ฟังเสียงอ่าน: https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=186
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    พระสุตตันตปิฎกไทย: 12/92/156 สุตตันตปิฎก มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์
    สุตันตปิฎกไทย รวบรวมคำสอนและหลักธรรมจากพระพุทธเจ้า เพื่อการศึกษาและการปฏิบัติธรรมที่นำไปสู่มรรคผลนิพพานอย่างถูกต้อง
    0 Comments 0 Shares 261 Views 0 Reviews
  • HighPoint Technologies ได้เปิดตัว PCIe Gen 5 และ Gen 4 x16 adapters ที่ใช้ MCIO (Mini Cool Edge IO) และ SlimSAS (Serial Attached SCSI) connectors เพื่อเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อของ GPU และ NVMe SSD ในระบบที่มีข้อจำกัดด้าน PCIe lanes

    HighPoint เปิดตัว PCIe Gen 5 และ Gen 4 x16 adapters เพื่อเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อ
    - อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้สามารถ แบ่ง PCIe x16 slot ออกเป็นหลายช่องทางความเร็วสูง
    - รองรับ MCIO x4 และ SlimSAS x4 channels ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อ NVMe SSDs และ GPUs ได้หลายตัว

    Rocket 1628A และ Rocket 1528D เป็นรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานระดับสูง
    - Rocket 1628A รองรับ PCIe Gen 5 x16 และเหมาะสำหรับ AI workloads และระบบที่ใช้ GPU หนัก
    - Rocket 1528D รองรับ PCIe Gen 4 x16 และเหมาะสำหรับ ระบบที่ยังไม่ได้อัปเกรดเป็น Gen 5

    MCIO connectors เป็นมาตรฐานใหม่ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อ PCIe มีความหนาแน่นสูงขึ้น
    - ออกแบบมาเพื่อ รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและระบบเดสก์ท็อปประสิทธิภาพสูง
    - ลดการสูญเสียสัญญาณและเพิ่มความเสถียรในการเชื่อมต่อ

    HighPoint เคยเปิดตัว SSD7540 RAID card ที่รองรับ NVMe SSDs ถึง 8 ตัว
    - อุปกรณ์นี้สามารถ ส่งข้อมูลได้เร็วถึง 56 GB/s
    - Rocket 1628A และ 1528D สืบทอดแนวคิดนี้โดยเพิ่มความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ

    การเปิดตัวและแนวโน้มของตลาด
    - HighPoint จะวางจำหน่ายอุปกรณ์เหล่านี้ผ่าน ช่องทางจัดจำหน่ายของบริษัท
    - เมื่อ PCIe Gen 5 motherboard และ processors เริ่มแพร่หลาย อุปกรณ์เหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/new-pcie-adapters-turn-your-x16-slot-into-a-clown-car-of-gpu-and-ssd-connectivity
    HighPoint Technologies ได้เปิดตัว PCIe Gen 5 และ Gen 4 x16 adapters ที่ใช้ MCIO (Mini Cool Edge IO) และ SlimSAS (Serial Attached SCSI) connectors เพื่อเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อของ GPU และ NVMe SSD ในระบบที่มีข้อจำกัดด้าน PCIe lanes ✅ HighPoint เปิดตัว PCIe Gen 5 และ Gen 4 x16 adapters เพื่อเพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อ - อุปกรณ์เหล่านี้ช่วยให้สามารถ แบ่ง PCIe x16 slot ออกเป็นหลายช่องทางความเร็วสูง - รองรับ MCIO x4 และ SlimSAS x4 channels ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อ NVMe SSDs และ GPUs ได้หลายตัว ✅ Rocket 1628A และ Rocket 1528D เป็นรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานระดับสูง - Rocket 1628A รองรับ PCIe Gen 5 x16 และเหมาะสำหรับ AI workloads และระบบที่ใช้ GPU หนัก - Rocket 1528D รองรับ PCIe Gen 4 x16 และเหมาะสำหรับ ระบบที่ยังไม่ได้อัปเกรดเป็น Gen 5 ✅ MCIO connectors เป็นมาตรฐานใหม่ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อ PCIe มีความหนาแน่นสูงขึ้น - ออกแบบมาเพื่อ รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและระบบเดสก์ท็อปประสิทธิภาพสูง - ลดการสูญเสียสัญญาณและเพิ่มความเสถียรในการเชื่อมต่อ ✅ HighPoint เคยเปิดตัว SSD7540 RAID card ที่รองรับ NVMe SSDs ถึง 8 ตัว - อุปกรณ์นี้สามารถ ส่งข้อมูลได้เร็วถึง 56 GB/s - Rocket 1628A และ 1528D สืบทอดแนวคิดนี้โดยเพิ่มความยืดหยุ่นในการเชื่อมต่อ ✅ การเปิดตัวและแนวโน้มของตลาด - HighPoint จะวางจำหน่ายอุปกรณ์เหล่านี้ผ่าน ช่องทางจัดจำหน่ายของบริษัท - เมื่อ PCIe Gen 5 motherboard และ processors เริ่มแพร่หลาย อุปกรณ์เหล่านี้จะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/new-pcie-adapters-turn-your-x16-slot-into-a-clown-car-of-gpu-and-ssd-connectivity
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    New PCIe adapters turn your x16 slot into a clown car of GPU and SSD connectivity
    High-bandwidth connectivity for enterprise and enthusiast platforms alike
    0 Comments 0 Shares 354 Views 0 Reviews
  • Xiaomi ได้จัดตั้ง แผนกแพลตฟอร์มชิป ใหม่ภายใต้ฝ่ายพัฒนาสมาร์ทโฟน โดยมี Qin Muyun อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Qualcomm เป็นหัวหน้าทีม ซึ่งคาดว่าแผนกนี้จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา ชิปเซ็ต "Xuanjie" ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Xiaomi

    Xiaomi ตั้งแผนกแพลตฟอร์มชิปใหม่เพื่อพัฒนาชิปเซ็ตของตนเอง
    - แผนกนี้อยู่ภายใต้ ฝ่ายพัฒนาสมาร์ทโฟน ของบริษัท
    - คาดว่า Xiaomi กำลังพัฒนา ชิปเซ็ต "Xuanjie" ซึ่งอาจเป็นชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่

    Qin Muyun อดีตผู้บริหาร Qualcomm เป็นหัวหน้าทีม
    - Muyun เคยดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Qualcomm
    - เขาจะรายงานตรงต่อ Lei Jun CEO ของ Xiaomi

    Xiaomi มีประสบการณ์ด้านการออกแบบชิปในหลายด้าน
    - บริษัทเคยพัฒนาชิปเซ็ต Pengpai/Surge S1 ในปี 2017
    - มีความเชี่ยวชาญด้าน การถ่ายภาพ, การชาร์จเร็ว, การจัดการพลังงาน, การสื่อสาร และการแสดงผล

    มีข่าวลือว่า Xiaomi อาจลดขนาดกระบวนการผลิตจาก 3nm เป็น 4nm
    - นักวิเคราะห์คาดว่า ชิปเซ็ตใหม่ของ Xiaomi อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Snapdragon 8 รุ่นแรก

    https://www.techpowerup.com/335567/xiaomi-reportedly-forms-new-in-house-chip-department-headed-by-former-qualcomm-marketing-director
    Xiaomi ได้จัดตั้ง แผนกแพลตฟอร์มชิป ใหม่ภายใต้ฝ่ายพัฒนาสมาร์ทโฟน โดยมี Qin Muyun อดีตผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Qualcomm เป็นหัวหน้าทีม ซึ่งคาดว่าแผนกนี้จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา ชิปเซ็ต "Xuanjie" ที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Xiaomi ✅ Xiaomi ตั้งแผนกแพลตฟอร์มชิปใหม่เพื่อพัฒนาชิปเซ็ตของตนเอง - แผนกนี้อยู่ภายใต้ ฝ่ายพัฒนาสมาร์ทโฟน ของบริษัท - คาดว่า Xiaomi กำลังพัฒนา ชิปเซ็ต "Xuanjie" ซึ่งอาจเป็นชิปเซ็ตสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ✅ Qin Muyun อดีตผู้บริหาร Qualcomm เป็นหัวหน้าทีม - Muyun เคยดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Qualcomm - เขาจะรายงานตรงต่อ Lei Jun CEO ของ Xiaomi ✅ Xiaomi มีประสบการณ์ด้านการออกแบบชิปในหลายด้าน - บริษัทเคยพัฒนาชิปเซ็ต Pengpai/Surge S1 ในปี 2017 - มีความเชี่ยวชาญด้าน การถ่ายภาพ, การชาร์จเร็ว, การจัดการพลังงาน, การสื่อสาร และการแสดงผล ✅ มีข่าวลือว่า Xiaomi อาจลดขนาดกระบวนการผลิตจาก 3nm เป็น 4nm - นักวิเคราะห์คาดว่า ชิปเซ็ตใหม่ของ Xiaomi อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Snapdragon 8 รุ่นแรก https://www.techpowerup.com/335567/xiaomi-reportedly-forms-new-in-house-chip-department-headed-by-former-qualcomm-marketing-director
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Xiaomi Reportedly Forms New In-house Chip Department; Headed by Former Qualcomm Marketing Director
    Last year, leakers posited that Xiaomi engineers were working on proprietary new-generation mobile chipset. The giant Chinese technology company has produced proprietary SoC designs in the past—most notably 2017's Pengpai/Surge S1 (blink, and you missed it)—but has largely relied on a wide swatch of...
    0 Comments 0 Shares 226 Views 0 Reviews
  • Huawei Ascend 910C ซึ่งเป็น AI Accelerator รุ่นใหม่ของ Huawei ถูกพบว่าใช้ ชิ้นส่วนจากต่างประเทศ โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า ชิปเซ็ตหลักของ Ascend 910C ผลิตโดย TSMC ด้วยกระบวนการ 7 นาโนเมตร แม้ว่าจะมีการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ

    Huawei Ascend 910C ใช้ชิ้นส่วนจากต่างประเทศ แม้จะถูกคว่ำบาตร
    - นักวิเคราะห์พบว่า ชิปเซ็ตหลักของ Ascend 910C ผลิตโดย TSMC ด้วยกระบวนการ 7 นาโนเมตร
    - Huawei สามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดโดย ซื้อเวเฟอร์จาก TSMC ผ่านบริษัทตัวกลาง Sophgo

    SMIC อาจมีส่วนร่วมในการผลิตบางส่วน
    - แม้ว่า SMIC จะมี กระบวนการผลิต 7 นาโนเมตร แต่ส่วนใหญ่ของ Ascend 910C ยังคงใช้ เวเฟอร์จาก TSMC
    - Huawei อาจกำลังพัฒนา กระบวนการผลิต 5 นาโนเมตร กับ SMIC แต่ยังไม่พร้อมสำหรับการผลิตจำนวนมาก

    Ascend 910C มีประสิทธิภาพต่ำกว่า NVIDIA GB200
    - นักวิเคราะห์ระบุว่า Ascend 910C ล้าหลัง NVIDIA GB200 "Blackwell" AI GPU
    - อย่างไรก็ตาม Huawei ยังคงพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเพื่อแข่งขันในตลาด AI

    Huawei ใช้เทคนิคหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการส่งออก
    - มีรายงานว่า Huawei ยังคงได้รับเวเฟอร์จาก TSMC ผ่านบริษัทตัวกลางอื่นๆ
    - นักวิเคราะห์ไม่สามารถยืนยันได้ว่าการส่งเวเฟอร์ผ่านบริษัทตัวกลางยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่

    https://www.techpowerup.com/335570/report-suggests-huawei-ascend-910c-ai-accelerators-utilization-of-foreign-parts-investigators-find-7-nm-tsmc-dies
    Huawei Ascend 910C ซึ่งเป็น AI Accelerator รุ่นใหม่ของ Huawei ถูกพบว่าใช้ ชิ้นส่วนจากต่างประเทศ โดยนักวิเคราะห์ระบุว่า ชิปเซ็ตหลักของ Ascend 910C ผลิตโดย TSMC ด้วยกระบวนการ 7 นาโนเมตร แม้ว่าจะมีการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ✅ Huawei Ascend 910C ใช้ชิ้นส่วนจากต่างประเทศ แม้จะถูกคว่ำบาตร - นักวิเคราะห์พบว่า ชิปเซ็ตหลักของ Ascend 910C ผลิตโดย TSMC ด้วยกระบวนการ 7 นาโนเมตร - Huawei สามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดโดย ซื้อเวเฟอร์จาก TSMC ผ่านบริษัทตัวกลาง Sophgo ✅ SMIC อาจมีส่วนร่วมในการผลิตบางส่วน - แม้ว่า SMIC จะมี กระบวนการผลิต 7 นาโนเมตร แต่ส่วนใหญ่ของ Ascend 910C ยังคงใช้ เวเฟอร์จาก TSMC - Huawei อาจกำลังพัฒนา กระบวนการผลิต 5 นาโนเมตร กับ SMIC แต่ยังไม่พร้อมสำหรับการผลิตจำนวนมาก ✅ Ascend 910C มีประสิทธิภาพต่ำกว่า NVIDIA GB200 - นักวิเคราะห์ระบุว่า Ascend 910C ล้าหลัง NVIDIA GB200 "Blackwell" AI GPU - อย่างไรก็ตาม Huawei ยังคงพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเพื่อแข่งขันในตลาด AI ✅ Huawei ใช้เทคนิคหลีกเลี่ยงข้อจำกัดการส่งออก - มีรายงานว่า Huawei ยังคงได้รับเวเฟอร์จาก TSMC ผ่านบริษัทตัวกลางอื่นๆ - นักวิเคราะห์ไม่สามารถยืนยันได้ว่าการส่งเวเฟอร์ผ่านบริษัทตัวกลางยังคงดำเนินต่อไปหรือไม่ https://www.techpowerup.com/335570/report-suggests-huawei-ascend-910c-ai-accelerators-utilization-of-foreign-parts-investigators-find-7-nm-tsmc-dies
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Report Suggests Huawei Ascend 910C AI Accelerator's Utilization of Foreign Parts; Investigators Find 7 nm TSMC Dies
    Earlier today, TechPowerUp covered the alleged performance prowess of Huawei's CloudMatrix 384 system super node. According to SemiAnalysis opinion, the system's Ascend 910C AI accelerators are a generation behind—in terms of chip performance—when compared to NVIDIA's GB200 "Blackwell" AI GPU design...
    0 Comments 0 Shares 195 Views 0 Reviews
  • Notion ได้เปิดตัว Notion Mail ซึ่งเป็นแอปอีเมลที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้จัดการอีเมลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    Notion Mail ใช้ AI เพื่อช่วยจัดการอีเมล
    - ระบบสามารถ จัดเรียง, ติดป้ายกำกับ และกรองอีเมล ตามความสำคัญของผู้ใช้
    - ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ AI จัดลำดับความสำคัญของอีเมล เช่น อีเมลเกี่ยวกับการจ้างงานสำหรับฝ่ายสรรหาบุคลากร

    อินเทอร์เฟซของ Notion Mail สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้ใช้
    - ผู้ใช้สามารถ สร้างมุมมองแบบกำหนดเอง เพื่อให้โฟกัสกับอีเมลที่สำคัญ
    - หมวดหมู่เช่น โปรโมชั่น, ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า และการเดินทาง ช่วยให้การจัดการอีเมลเป็นระเบียบมากขึ้น

    Notion Mail มีฟีเจอร์ Snippets เพื่อช่วยให้การเขียนอีเมลเร็วขึ้น
    - ผู้ใช้สามารถ บันทึกเทมเพลตอีเมล และให้ AI ช่วยเขียนข้อความเปิด, คำตอบ และอื่นๆ
    - ฟีเจอร์นี้ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการตอบอีเมลที่มีเนื้อหาคล้ายกัน

    Notion Mail เชื่อมต่อกับ Notion Calendar เพื่อช่วยจัดตารางเวลาการประชุม
    - ผู้ส่งสามารถ แชร์ช่วงเวลาที่ว่าง เพื่อให้การนัดหมายเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

    Notion Mail เปิดให้ใช้งานฟรี
    - รวมอยู่ใน แพ็กเกจฟรีของ Notion ซึ่งมี Notion Calendar และการเชื่อมต่อกับ Slack และ GitHub
    - รองรับ Gmail

    https://www.techradar.com/pro/notion-launches-ai-powered-email-app-to-give-busy-users-a-productivity-boost
    Notion ได้เปิดตัว Notion Mail ซึ่งเป็นแอปอีเมลที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้จัดการอีเมลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ Notion Mail ใช้ AI เพื่อช่วยจัดการอีเมล - ระบบสามารถ จัดเรียง, ติดป้ายกำกับ และกรองอีเมล ตามความสำคัญของผู้ใช้ - ผู้ใช้สามารถตั้งค่าให้ AI จัดลำดับความสำคัญของอีเมล เช่น อีเมลเกี่ยวกับการจ้างงานสำหรับฝ่ายสรรหาบุคลากร ✅ อินเทอร์เฟซของ Notion Mail สามารถปรับเปลี่ยนตามความต้องการของผู้ใช้ - ผู้ใช้สามารถ สร้างมุมมองแบบกำหนดเอง เพื่อให้โฟกัสกับอีเมลที่สำคัญ - หมวดหมู่เช่น โปรโมชั่น, ฝ่ายสนับสนุนลูกค้า และการเดินทาง ช่วยให้การจัดการอีเมลเป็นระเบียบมากขึ้น ✅ Notion Mail มีฟีเจอร์ Snippets เพื่อช่วยให้การเขียนอีเมลเร็วขึ้น - ผู้ใช้สามารถ บันทึกเทมเพลตอีเมล และให้ AI ช่วยเขียนข้อความเปิด, คำตอบ และอื่นๆ - ฟีเจอร์นี้ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการตอบอีเมลที่มีเนื้อหาคล้ายกัน ✅ Notion Mail เชื่อมต่อกับ Notion Calendar เพื่อช่วยจัดตารางเวลาการประชุม - ผู้ส่งสามารถ แชร์ช่วงเวลาที่ว่าง เพื่อให้การนัดหมายเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ✅ Notion Mail เปิดให้ใช้งานฟรี - รวมอยู่ใน แพ็กเกจฟรีของ Notion ซึ่งมี Notion Calendar และการเชื่อมต่อกับ Slack และ GitHub - รองรับ Gmail https://www.techradar.com/pro/notion-launches-ai-powered-email-app-to-give-busy-users-a-productivity-boost
    0 Comments 0 Shares 441 Views 0 Reviews
  • ทีมเทคโนโลยีป้องกันประเทศของ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (Pentagon) กำลังลาออกทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ โดยมีรายงานว่าการลาออกนี้เกิดจากแรงกดดันจาก Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งเป็นโครงการที่นำโดย Elon Musk

    ทีม Defense Digital Service (DSS) กำลังลาออกทั้งหมด
    - DSS เป็นหน่วยงานที่ช่วยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในกระทรวงกลาโหม
    - มีบทบาทสำคัญในการ พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการถอนกำลังจากอัฟกานิสถานและการช่วยเหลือยูเครน

    DOGE เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทีม DSS ลาออก
    - DOGE เป็นโครงการที่มุ่งเน้น การปรับปรุงประสิทธิภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ
    - เจ้าหน้าที่ DSS ระบุว่า พวกเขาถูกกดดันจนต้องลาออก

    DSS จะหยุดดำเนินงานภายในเดือนพฤษภาคม 2025
    - หน่วยงานนี้มีพนักงาน 14 คน โดย 11 คนจะลาออกภายในเดือนเมษายน
    - ผู้อำนวยการ DSS Jennifer Hay จะลาออกภายในวันที่ 1 พฤษภาคม

    หน้าที่ของ DSS จะถูกโอนไปยัง Chief Digital and Artificial Intelligence Office
    - ยังไม่มีความชัดเจนว่า การเปลี่ยนผ่านจะใช้เวลานานแค่ไหน
    - อาจทำให้ Pentagon มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

    DOGE เคยปิดโครงการด้านเทคโนโลยีอื่นๆ มาก่อน
    - โครงการ US Digital Service และ 18F ก็ถูกยกเลิกภายใต้ DOGE เช่นกัน

    https://www.techradar.com/pro/security/the-entire-pentagon-defense-technology-is-resigning-putting-us-at-huge-risk-of-cyberattacks
    ทีมเทคโนโลยีป้องกันประเทศของ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (Pentagon) กำลังลาออกทั้งหมด ซึ่งอาจทำให้สหรัฐฯ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีทางไซเบอร์ โดยมีรายงานว่าการลาออกนี้เกิดจากแรงกดดันจาก Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งเป็นโครงการที่นำโดย Elon Musk ✅ ทีม Defense Digital Service (DSS) กำลังลาออกทั้งหมด - DSS เป็นหน่วยงานที่ช่วยนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในกระทรวงกลาโหม - มีบทบาทสำคัญในการ พัฒนาเทคโนโลยีสำหรับการถอนกำลังจากอัฟกานิสถานและการช่วยเหลือยูเครน ✅ DOGE เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ทีม DSS ลาออก - DOGE เป็นโครงการที่มุ่งเน้น การปรับปรุงประสิทธิภาพของรัฐบาลสหรัฐฯ - เจ้าหน้าที่ DSS ระบุว่า พวกเขาถูกกดดันจนต้องลาออก ✅ DSS จะหยุดดำเนินงานภายในเดือนพฤษภาคม 2025 - หน่วยงานนี้มีพนักงาน 14 คน โดย 11 คนจะลาออกภายในเดือนเมษายน - ผู้อำนวยการ DSS Jennifer Hay จะลาออกภายในวันที่ 1 พฤษภาคม ✅ หน้าที่ของ DSS จะถูกโอนไปยัง Chief Digital and Artificial Intelligence Office - ยังไม่มีความชัดเจนว่า การเปลี่ยนผ่านจะใช้เวลานานแค่ไหน - อาจทำให้ Pentagon มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ✅ DOGE เคยปิดโครงการด้านเทคโนโลยีอื่นๆ มาก่อน - โครงการ US Digital Service และ 18F ก็ถูกยกเลิกภายใต้ DOGE เช่นกัน https://www.techradar.com/pro/security/the-entire-pentagon-defense-technology-is-resigning-putting-us-at-huge-risk-of-cyberattacks
    0 Comments 0 Shares 328 Views 0 Reviews
  • ในปี 2024 บอท (Bots) คิดเป็น 51% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่บอทมีสัดส่วนมากกว่าผู้ใช้จริง โดยรายงานจาก Imperva ระบุว่า บอทที่เป็นอันตราย (Bad Bots) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวและค้าปลีก

    บอทคิดเป็น 51% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปี 2024
    - รายงานจาก Imperva ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่บอทมีสัดส่วนมากกว่าผู้ใช้จริง
    - การเพิ่มขึ้นของบอทส่วนหนึ่งมาจาก AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM)

    อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือการท่องเที่ยวและค้าปลีก
    - บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 41% ของปริมาณการใช้งานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
    - ในอุตสาหกรรมค้าปลีก บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 59% ของปริมาณการใช้งาน

    ByteSpider Bot เป็นตัวการสำคัญของการโจมตีที่ใช้ AI
    - ByteSpider Bot คิดเป็น 54% ของการโจมตีที่ใช้ AI
    - บอทอื่นๆ ที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่ AppleBot (26%), ClaudeBot (13%) และ ChatGPT User Bot (6%)

    บอทที่เป็นอันตรายกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
    - ในปี 2023 บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 32% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต
    - ในปี 2024 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 37% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 6

    บอทที่มีประโยชน์ยังคงมีบทบาทสำคัญ
    - บอทที่ใช้ในการ จัดทำดัชนีเว็บไซต์, ตรวจสอบประสิทธิภาพ, โพสต์บนโซเชียลมีเดีย และรวบรวมข้อมูล ยังคงมีความจำเป็น

    https://www.techradar.com/pro/security/bots-now-account-for-over-half-of-all-internet-traffic
    ในปี 2024 บอท (Bots) คิดเป็น 51% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบทศวรรษที่บอทมีสัดส่วนมากกว่าผู้ใช้จริง โดยรายงานจาก Imperva ระบุว่า บอทที่เป็นอันตราย (Bad Bots) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ เช่น การท่องเที่ยวและค้าปลีก ✅ บอทคิดเป็น 51% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ตในปี 2024 - รายงานจาก Imperva ระบุว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปีที่บอทมีสัดส่วนมากกว่าผู้ใช้จริง - การเพิ่มขึ้นของบอทส่วนหนึ่งมาจาก AI และโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ✅ อุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือการท่องเที่ยวและค้าปลีก - บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 41% ของปริมาณการใช้งานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว - ในอุตสาหกรรมค้าปลีก บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 59% ของปริมาณการใช้งาน ✅ ByteSpider Bot เป็นตัวการสำคัญของการโจมตีที่ใช้ AI - ByteSpider Bot คิดเป็น 54% ของการโจมตีที่ใช้ AI - บอทอื่นๆ ที่มีบทบาทสำคัญ ได้แก่ AppleBot (26%), ClaudeBot (13%) และ ChatGPT User Bot (6%) ✅ บอทที่เป็นอันตรายกำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง - ในปี 2023 บอทที่เป็นอันตรายคิดเป็น 32% ของปริมาณการใช้งานอินเทอร์เน็ต - ในปี 2024 ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นเป็น 37% ซึ่งเป็นการเติบโตต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ✅ บอทที่มีประโยชน์ยังคงมีบทบาทสำคัญ - บอทที่ใช้ในการ จัดทำดัชนีเว็บไซต์, ตรวจสอบประสิทธิภาพ, โพสต์บนโซเชียลมีเดีย และรวบรวมข้อมูล ยังคงมีความจำเป็น https://www.techradar.com/pro/security/bots-now-account-for-over-half-of-all-internet-traffic
    0 Comments 0 Shares 259 Views 0 Reviews
  • Intel กำลังเตรียมเปิดตัว Bartlett Lake-S ซึ่งเป็นซีพียูเดสก์ท็อปที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับ AI workloads, media processing และ AI analytics โดยล่าสุดมีการเพิ่มการรองรับใน Linux และแอปพลิเคชันอื่นๆ ซึ่งบ่งบอกว่าอาจมีการเปิดตัวเร็วๆ นี้

    Intel เพิ่มการรองรับ Bartlett Lake-S ใน Linux และแอปพลิเคชันอื่นๆ
    - มีการเพิ่ม "one-liner" patch ใน Linux kernel ซึ่งบ่งบอกว่า Intel อาจเปิดตัวซีพียูนี้เร็วๆ นี้
    - MSI overclocker Toppc ยืนยันว่า Bartlett Lake-S ได้รับการรองรับใน AIDA64 patch ล่าสุด

    Bartlett Lake-S อาจเปิดตัวสำหรับตลาดผู้บริโภค
    - เดิมที Intel วางแผนให้ซีพียูนี้ใช้ใน อุตสาหกรรมและ IoT เท่านั้น
    - อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่า Intel อาจเปิดตัว รุ่นสำหรับผู้บริโภค เนื่องจาก Arrow Lake-S มีประสิทธิภาพที่น่าผิดหวังในตลาดเดสก์ท็อป

    Bartlett Lake-S ใช้สถาปัตยกรรมแบบ P-Core ทั้งหมด
    - มีรุ่น Core 9 (12 P-Cores), Core 7 (10 P-Cores) และ Core 5 (8 P-Cores)
    - ไม่มีรุ่น Core 3 เนื่องจากซีพียูนี้มุ่งเน้นไปที่ตลาดที่ต้องการประสิทธิภาพสูง

    รองรับแพลตฟอร์ม LGA 1700 และเมนบอร์ด 600/700-series
    - ผู้ใช้สามารถ อัปเกรดเป็น Bartlett Lake-S ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ด
    - ช่วยให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงขึ้น

    https://wccftech.com/intels-bartlett-lake-s-desktop-cpus-might-be-pretty-near-to-launch/
    Intel กำลังเตรียมเปิดตัว Bartlett Lake-S ซึ่งเป็นซีพียูเดสก์ท็อปที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับ AI workloads, media processing และ AI analytics โดยล่าสุดมีการเพิ่มการรองรับใน Linux และแอปพลิเคชันอื่นๆ ซึ่งบ่งบอกว่าอาจมีการเปิดตัวเร็วๆ นี้ ✅ Intel เพิ่มการรองรับ Bartlett Lake-S ใน Linux และแอปพลิเคชันอื่นๆ - มีการเพิ่ม "one-liner" patch ใน Linux kernel ซึ่งบ่งบอกว่า Intel อาจเปิดตัวซีพียูนี้เร็วๆ นี้ - MSI overclocker Toppc ยืนยันว่า Bartlett Lake-S ได้รับการรองรับใน AIDA64 patch ล่าสุด ✅ Bartlett Lake-S อาจเปิดตัวสำหรับตลาดผู้บริโภค - เดิมที Intel วางแผนให้ซีพียูนี้ใช้ใน อุตสาหกรรมและ IoT เท่านั้น - อย่างไรก็ตาม มีความเป็นไปได้ว่า Intel อาจเปิดตัว รุ่นสำหรับผู้บริโภค เนื่องจาก Arrow Lake-S มีประสิทธิภาพที่น่าผิดหวังในตลาดเดสก์ท็อป ✅ Bartlett Lake-S ใช้สถาปัตยกรรมแบบ P-Core ทั้งหมด - มีรุ่น Core 9 (12 P-Cores), Core 7 (10 P-Cores) และ Core 5 (8 P-Cores) - ไม่มีรุ่น Core 3 เนื่องจากซีพียูนี้มุ่งเน้นไปที่ตลาดที่ต้องการประสิทธิภาพสูง ✅ รองรับแพลตฟอร์ม LGA 1700 และเมนบอร์ด 600/700-series - ผู้ใช้สามารถ อัปเกรดเป็น Bartlett Lake-S ได้โดยไม่ต้องเปลี่ยนเมนบอร์ด - ช่วยให้การเปลี่ยนผ่านเป็นไปอย่างราบรื่นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงขึ้น https://wccftech.com/intels-bartlett-lake-s-desktop-cpus-might-be-pretty-near-to-launch/
    WCCFTECH.COM
    Intel's Bartlett Lake-S Desktop CPUs Might Be Pretty Near To Launch, Now Gaining Support In Linux and Other Applications
    Intel's Bartlett Lake-S desktop CPUs might be nearing launch, as the architecture starts to receive support on Linux and other applications.
    0 Comments 0 Shares 194 Views 0 Reviews
  • เมื่ออำนาจของทักษิณถูกท้าทาย

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000036082
    เมื่ออำนาจของทักษิณถูกท้าทาย บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000036082
    MGRONLINE.COM
    เมื่ออำนาจของทักษิณถูกท้าทาย
    ผมไม่เชื่อว่ากฎหมายกาสิโน ที่เรียกอย่างทางการว่า ร่างพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรนั้น จะสามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะทักษิณจะไม่กล้าท้าทายต่อกระแสสังคม และปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาลที่ไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้
    0 Comments 1 Shares 671 Views 0 Reviews
  • นึกถึงบุญ นึกถึงพุทโธ นึกถึงพระพุทธเจ้า จิตให้ระลึกถึงตลอด
    นึกถึงบุญ นึกถึงพุทโธ นึกถึงพระพุทธเจ้า จิตให้ระลึกถึงตลอด
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหาทางปิดสถานทูตและสถานกงสุลในต่างแดนเกือบ 30 แห่ง ในขณะที่พวกเขาเล็งเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการปรากฎตัวทางการทูตในต่างประเทศ ตามรายงานของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น อ้างอิงเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000036084

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังหาทางปิดสถานทูตและสถานกงสุลในต่างแดนเกือบ 30 แห่ง ในขณะที่พวกเขาเล็งเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านการปรากฎตัวทางการทูตในต่างประเทศ ตามรายงานของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น อ้างอิงเอกสารภายในของกระทรวงการต่างประเทศอเมริกา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000036084 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    Yay
    13
    3 Comments 0 Shares 1643 Views 0 Reviews
  • อัญเชิญ/นิมนต์พระแก้วบุษราคัม แห่รอบเมือง
    อัญเชิญ/นิมนต์พระแก้วบุษราคัม แห่รอบเมือง
    0 Comments 0 Shares 132 Views 1 0 Reviews
  • อินโดนีเซียออกมาปฏิเสธเมื่อวันอังคาร (15 เม.ย.) รายงานข่าวที่ปรากฎอยู่ในสิ่งตีพิมพ์ของ เจนส์ ซึ่งระบุว่ารัสเซียได้ขอตั้งฐานเครื่องบินทหารของตนที่ปาปัว จังหวัดที่อยู่สุดทิศตะวันออกของแดนอิเหนา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000036080

    #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อินโดนีเซียออกมาปฏิเสธเมื่อวันอังคาร (15 เม.ย.) รายงานข่าวที่ปรากฎอยู่ในสิ่งตีพิมพ์ของ เจนส์ ซึ่งระบุว่ารัสเซียได้ขอตั้งฐานเครื่องบินทหารของตนที่ปาปัว จังหวัดที่อยู่สุดทิศตะวันออกของแดนอิเหนา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000036080 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    13
    0 Comments 0 Shares 1684 Views 0 Reviews