• ประกันสุขภาพไว้ อย่างน้อยหายห่วงเรื่องค่ารักษาที่ประเมินไม่ได้
    ประกันสุขภาพไว้ อย่างน้อยหายห่วงเรื่องค่ารักษาที่ประเมินไม่ได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปร 1 แถม 2 เพียง 290 ส่งฟรี จบทุกปัญหาดวงตา
    1 กระปุก มี 20 เม็ด

    ✅ ต้อลม ต้อหิน ต้อเนื้อ ต้อกระจก
    ✅ แพ้แสง แสบตา ปวดตา
    ✅ ตาล้า เยื่อตาอักเสบ
    ✅ จอประสาทตาเสื่อม วุ้นตาเสื่อม
    ✅ ตาพร่ามัว มองไม่ชัด
    ✅ เบาหวานขึ้นตา

    อย. 65-1-03662-5-0568

    ❤️โปรโมชั่นสุดคุ้ม❤️
    1 แถม 2 เพียง 290.- ส่งฟรี
    2 แถม 4 เพียง 490.- ส่งฟรี
    3 แถม 6 เพียง 690.- ส่งฟรี
    5 แถม 10 เพียง 1,100.- ส่งฟรี
    มีบริการเก็บปลายทางไม่ + เพิ่ม

    สนใจสั่งซื้อทักด่วน โปรนี้มีจำกัด

    #วิตามินสายตา #ปวดตา #แสบตา #ใช้สายตาหนัก #วิตามินสายตา #วิตามินบำรุงสายตา #ตาหยักไหย่ #ตาเสื่อม #ตาพล่า #ดูแลสายตา #ลูทีนบำรุงสายตา #ลูทีน #eyes_care #ตาต้อ #จุดดำในตา #วิตต้าพลัส #Vitta_Plus #วิตามินบํารุงสายตา
    โปร 1 แถม 2 เพียง 290 ส่งฟรี จบทุกปัญหาดวงตา 1 กระปุก มี 20 เม็ด ✅ ต้อลม ต้อหิน ต้อเนื้อ ต้อกระจก ✅ แพ้แสง แสบตา ปวดตา ✅ ตาล้า เยื่อตาอักเสบ ✅ จอประสาทตาเสื่อม วุ้นตาเสื่อม ✅ ตาพร่ามัว มองไม่ชัด ✅ เบาหวานขึ้นตา อย. 65-1-03662-5-0568 ❤️โปรโมชั่นสุดคุ้ม❤️ 1 แถม 2 เพียง 290.- ส่งฟรี 2 แถม 4 เพียง 490.- ส่งฟรี 3 แถม 6 เพียง 690.- ส่งฟรี 5 แถม 10 เพียง 1,100.- ส่งฟรี มีบริการเก็บปลายทางไม่ + เพิ่ม สนใจสั่งซื้อทักด่วน โปรนี้มีจำกัด #วิตามินสายตา #ปวดตา #แสบตา #ใช้สายตาหนัก #วิตามินสายตา #วิตามินบำรุงสายตา #ตาหยักไหย่ #ตาเสื่อม #ตาพล่า #ดูแลสายตา #ลูทีนบำรุงสายตา #ลูทีน #eyes_care #ตาต้อ #จุดดำในตา #วิตต้าพลัส #Vitta_Plus #วิตามินบํารุงสายตา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 92 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ติดจอ ติดมือถือใช้สายตาหนัก ตาพร่าตามัว แสบตา ขี้ตาเยอะ ปัญหาเหล่านี้ อย่าละเลย เพียง 2 เม็ด ก่อนนอน วิตต้าพลัส จัดโปร 1แถม2 เพียง 290.-
    จัดส่งฟรีเก็บเงินปลายทาง
    สนใจสอบถามโทร 083-526-3447

    #ใช้สายตาหนัก #ตาหยักไหย่ #จุดดำในตา #ตาพล่า #ตาเสื่อม #ปวดตา #แสบตา #ลูทีน #ลูทีนบำรุงสายตา #ดูแลสายตา #วิตามินสายตา #บำรุงสายตา #eyes_care #ตาต้อ #วิตามินบำรุงสายตา
    ติดจอ ติดมือถือใช้สายตาหนัก ตาพร่าตามัว แสบตา ขี้ตาเยอะ ปัญหาเหล่านี้ อย่าละเลย เพียง 2 เม็ด ก่อนนอน วิตต้าพลัส จัดโปร 1แถม2 เพียง 290.- จัดส่งฟรีเก็บเงินปลายทาง สนใจสอบถามโทร 083-526-3447 #ใช้สายตาหนัก #ตาหยักไหย่ #จุดดำในตา #ตาพล่า #ตาเสื่อม #ปวดตา #แสบตา #ลูทีน #ลูทีนบำรุงสายตา #ดูแลสายตา #วิตามินสายตา #บำรุงสายตา #eyes_care #ตาต้อ #วิตามินบำรุงสายตา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • อียิปต์ประณามถ้อยแถลงของเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่ชี้แนะให้สถาปนารัฐปาเลสไตน์ ในดินแดนของซาอุดีอาระเบีย ระบุเป็นความเห็น "ที่ไร้ความรับผิดชอบ" แม้ดูเหมือนว่าผู้นำยิวรายนี้จะพูดติดตลกก็ตาม
    .
    กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ระบุในถ้อยแถลงว่า แนวคิดดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง และความมั่นคงของซาอุดีอาระเบีย ถือเป็น "เส้นตายสำหรับอียิปต์"
    .
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ดูเหมือนพูดติดตลกเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ครั้งที่เขาตอบกลับผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ชาแนล 14 ที่พูดผิดเรียกเป็น "รัฐซาอุดีอาระเบีย" แทนที่จะเป็น "รัฐปาเลสไตน์"
    .
    "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮู แก้ไขคำพูดของผู้สัมภาษณ์ แต่บอกต่อว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวไปยิ้มไป ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในวอชิงตัน
    .
    ถ้อยแถลงของอียิปต์ ไม่ได้พาดพิงชื่อของเนทันยาฮูโดยตรง แต่ระบุว่าคำพูดดังกล่าว เป็นความเห็น "ที่ก้าวร้าวน่าตำหนิและละเมิดบรรทัดฐานทางการทูต"
    .
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ บ่งชี้ในช่วงกลางสัปดาห์ ว่าสหรัฐฯอาจเข้าควบคุมฉนวนกาซา ผ่านการส่งต่อมาจากอิสราเอล และสถาปนา "ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง" หลังจากโยกย้ายประชากรชาวปาเลสไตน์ไปไว้ที่ไหนสักแห่ง ในนั้นรวมถึงอียิปต์และจอร์แด สวนทางกับความคิดเห็นบรรดาชาติอาหรับ ที่ต้องการเห็นทางออกแบบ 2 รัฐคู่ขนาน ที่มีผืนแผ่นดินสำหรับชาวปาเลสไตน์อยู่เคียงข้างกับอิสราเอล
    .
    ต่อมา ทรัมป์ อ้างด้วยว่าว่าริยาด ไม่ได้เรียกร้องให้สถาปนารัฐปาเลสไตน์ เป็นเงื่อนไขสำหรับการสานสัมพันธ์อันเป็นปกติกับอิสราเอล แต่ซาอุดีอาระเบียปฏิเสธถ้อยแถลงของเขา พร้อมประกาศกร้าวว่าจะไม่สถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล หากปราศจากการก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์
    .
    ข้อเสนอใดๆที่ชี้แนะให้ชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา ดินแดนที่พวกเขาต้องการให้เป็นรัฐเอกราชไม่ว่ารูปแบบหนึ่งรูปแบบใด โหมกระพือเสียงสาปแช่งอย่างดุเดือดจากพวกผู้นำปาเลสไตน์มาหลายยุคหลายสมัย และบรรดาชาติเพื่อนบ้านอาหรับก็ต่างปฏิเสธแนวความคิดนี้มาตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มต้นขึ้น
    .
    แผนของทรัมป์ยังถูกประณามจากทั่วโลกเช่นกัน โดยพวกผู้นำโลกบอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะคุกคามเสถียรภาพในระดับภูมิภาค กระตุ้นให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันศุกร์(7ก.พ.) ดูเหมือนจะกลับลำเล็กน้อย บอกว่ายังไม่รีบดำเนินการตามแผนของเขา ในการเข้ายึดและพัฒนาฉนวนกาซา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012936
    ..............
    Sondhi X
    อียิปต์ประณามถ้อยแถลงของเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่ชี้แนะให้สถาปนารัฐปาเลสไตน์ ในดินแดนของซาอุดีอาระเบีย ระบุเป็นความเห็น "ที่ไร้ความรับผิดชอบ" แม้ดูเหมือนว่าผู้นำยิวรายนี้จะพูดติดตลกก็ตาม . กระทรวงการต่างประเทศอียิปต์ระบุในถ้อยแถลงว่า แนวคิดดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอธิปไตยของซาอุดีอาระเบียโดยตรง และความมั่นคงของซาอุดีอาระเบีย ถือเป็น "เส้นตายสำหรับอียิปต์" . เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ดูเหมือนพูดติดตลกเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ ครั้งที่เขาตอบกลับผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ชาแนล 14 ที่พูดผิดเรียกเป็น "รัฐซาอุดีอาระเบีย" แทนที่จะเป็น "รัฐปาเลสไตน์" . "รัฐปาเลสไตน์" เนทันยาฮู แก้ไขคำพูดของผู้สัมภาษณ์ แต่บอกต่อว่า "เว้นแต่เสียว่าคุณต้องการให้รัฐปาเลสไตน์อยู่ในซาอุดีอาระเบีย พวกเขามีดินแดนมากมาย" นายกรัฐมนตรีอิสราเอลกล่าวไปยิ้มไป ระหว่างการให้สัมภาษณ์ในวอชิงตัน . ถ้อยแถลงของอียิปต์ ไม่ได้พาดพิงชื่อของเนทันยาฮูโดยตรง แต่ระบุว่าคำพูดดังกล่าว เป็นความเห็น "ที่ก้าวร้าวน่าตำหนิและละเมิดบรรทัดฐานทางการทูต" . ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ บ่งชี้ในช่วงกลางสัปดาห์ ว่าสหรัฐฯอาจเข้าควบคุมฉนวนกาซา ผ่านการส่งต่อมาจากอิสราเอล และสถาปนา "ริเวียราแห่งตะวันออกกลาง" หลังจากโยกย้ายประชากรชาวปาเลสไตน์ไปไว้ที่ไหนสักแห่ง ในนั้นรวมถึงอียิปต์และจอร์แด สวนทางกับความคิดเห็นบรรดาชาติอาหรับ ที่ต้องการเห็นทางออกแบบ 2 รัฐคู่ขนาน ที่มีผืนแผ่นดินสำหรับชาวปาเลสไตน์อยู่เคียงข้างกับอิสราเอล . ต่อมา ทรัมป์ อ้างด้วยว่าว่าริยาด ไม่ได้เรียกร้องให้สถาปนารัฐปาเลสไตน์ เป็นเงื่อนไขสำหรับการสานสัมพันธ์อันเป็นปกติกับอิสราเอล แต่ซาอุดีอาระเบียปฏิเสธถ้อยแถลงของเขา พร้อมประกาศกร้าวว่าจะไม่สถาปนาความสัมพันธ์กับอิสราเอล หากปราศจากการก่อตั้งรัฐปาเลสไตน์ . ข้อเสนอใดๆที่ชี้แนะให้ชาวปาเลสไตน์ออกจากกาซา ดินแดนที่พวกเขาต้องการให้เป็นรัฐเอกราชไม่ว่ารูปแบบหนึ่งรูปแบบใด โหมกระพือเสียงสาปแช่งอย่างดุเดือดจากพวกผู้นำปาเลสไตน์มาหลายยุคหลายสมัย และบรรดาชาติเพื่อนบ้านอาหรับก็ต่างปฏิเสธแนวความคิดนี้มาตั้งแต่สงครามกาซาเริ่มต้นขึ้น . แผนของทรัมป์ยังถูกประณามจากทั่วโลกเช่นกัน โดยพวกผู้นำโลกบอกว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะคุกคามเสถียรภาพในระดับภูมิภาค กระตุ้นให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันศุกร์(7ก.พ.) ดูเหมือนจะกลับลำเล็กน้อย บอกว่ายังไม่รีบดำเนินการตามแผนของเขา ในการเข้ายึดและพัฒนาฉนวนกาซา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012936 .............. Sondhi X
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ผู้พิพากษาสหรัฐฯรายหนึ่ง ตัดสินไฟเขียวชั่วคราวให้ลูกจ้างของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ราวๆ 2,700 คน ที่ถูกรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่ง "พักงาน" ให้กลับมาทำงาน ในความเคลื่อนไหวระงับแผนการหนึ่งๆที่เล็งเป้ายุบองค์กรดังกล่าว
    .
    ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ คาร์ล นิโคลส์ ในวอชิงตัน ซึ่งถูกเสนอชื่อโดยทรัมป์ครั้งดำรงตำแหน่งสมัยแรก อนุมัติบางส่วนคำร้องจากสภาพแรงงานลูกจ้างรัฐบาลใหญ่ที่ในสหรัฐฯและสมาคมแรงงานบริการต่างชาติแห่งหนึ่ง ที่ยื่นฟ้องความพยายามของรัฐบาลในการปิด USAID
    .
    คำสั่งของนิโคล ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นการขัดขวางรัฐบาลทรัมป์จากการดำเนินการตามแผนที่สั่ง "พักงาน" ลูกจ้างของ USAID ราวๆ 2,200 คน " เริ่มตั้งแต่วันเสาร์(8ก.พ.) และคืนสถานะลูกจ้างราวๆ 500 คน ที่ถูกให้ออกจากงาน นอกจากนี้แล้วคำพิพากษาของศาลยังห้ามรัฐบาลจากการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมของ USAID ที่ประจำการอยู่นอกสหรัฐฯ
    .
    รายงานข่าวระบุว่าผู้พิพากษา นิโคลส์ จะพิจารณาคำร้องหนึ่งๆที่ขอให้ระงับแผนของทรัมป์ในระยะยาว ระหว่างกระบวนพิจารณาที่จะมีขึ้นในวันพุธ(12ก.พ.) โดยผู้พิพากษานิโคลส์ เขียนในคำสั่งว่าสหภาพแรงงานแสดงให้เห็นว่าพวกลูกจ้างจะได้รับผลกระทบอย่างที่แก้ไขไม่ได้ หากว่าศาลไม่เข้าแทรกแซง
    .
    อย่างไรก็ตามผู้พิพากษานิโคลส์ปฏิเสธคำร้องอื่นๆจากสหภาพ ที่ขอกลับมาเปิดทำการอาคารของ USAID และคืนชีพเงินทุนต่างๆสำหรับเงินช่วยเหลือและสัญญาต่างๆที่ทางองค์กรแหงนี้อนุมัติไปแล้ว
    .
    รัฐบาลของทรัมป์ระบุในหนังสือแจ้งที่ส่งถึงคนงานขององค์กรความช่วยเหลือต่างประเทศแห่งนี้เมื่อวันพฤหัสบดี(6ก.พ.) ว่าจะคงลูกจ้างที่จำเป็นของ USAID ไว้เพียง 611 ราย จากจำนวนที่มีทั้งหมดทั่วโลกมากกว่า 10,000 คน
    .
    "การลดพนักงานครั้งใหญ่ เช่นเดียวกับการปิดสำนักงาน บีบบังคับโยกย้ายบุลคลต่างๆเหล่านี้ ถือเป็นการกระทำภายใต้การใช้อำนาจบริหารที่เกินขอบเขต ละเมิดหลักการแบ่งแยกอำนาจ" คาร์ลา กิลไบรด์ ทนายความของสหภาพแรงงาน บอกกับศาลระหว่างการพิจารณาคำร้องเมื่อวันศุกร์(7ก.พ.)
    .
    เบรตต์ ชูเมต เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกระทรวงยุติธรรม ให้ปากคำกับผู้พิพากษานิโคลส์ ว่าลูกจ้างราว 2,000 คนของ USAID จะถูกพักงานภายใต้แผนการต่างๆของรัฐบาล เพิ่มเติมจาก 500 คน ที่ถูกสั่งพักงานไปก่อนหน้านี้
    .
    ทรัมป์ โพสต์ข้อความเป็นทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเองในวันศุกร์(7ก.พ.) กล่าวหา USAID ว่าคอรัปชันและฉ้อฉลในการใช้จ่ายเงิน แต่ไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ เขาบอกว่าการคอรัปชันใน USAID "อยู่ในระดับที่เคยพบเห็นมาก่อน ปิดมันซะ!"
    .
    ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ทรัมป์ ออกคำสั่งให้ระงับเงินช่วยเหลือทั้งหมดที่สหรัฐฯมอบให้แก่ต่างประเทศ เพื่อรับประกันว่ามันจะสอดคล้องกับ "นโยบายอเมริกาต้องมาก่อน" ของเขา นับตั้งแต่นั้นความยุ่งเหยิงก็ห้อมล้อม USAID ซึ่งจัดสรรเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ทั่วโลก หลายพันล้านดอลลาร์
    .
    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯออกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติการทั่วโลก หลังทรัมป์มีคำสั่งบริหาร ผลก็คือระงับเงินช่วยเหลือทั้งหมดที่มอบแก่ต่างชาติ ยกเว้นแต่ความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านอาหาร มันทำให้โครงการต่างๆของ USAID ที่ครอบคลุมถึงความช่วยเหลือปกป้องชีวิตผู้คนทั่วโลกต้องหยุดชะงัก ในความเคลื่อนไหวที่พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจทำให้ผู้คนล้มตาย
    .
    การตรวจสอบหน่วยงานแห่งนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่พันธมิตรผู้ใกล้ชิดกับทรัมป์รายนี้ เป็นหัวหอกในความพยายามของประธานาธิบดี ในการความเทอะทะในงานราชการของรัฐบาลกลาง
    .
    ในปี 2023 สหรัฐฯใช้จ่ายเงิน 72,000 ล้านดอลลาร์ บางส่วนผ่าน USAID ในด้านความช่วยเหลือต่างๆทั่วโลก ไล่ตั้งแต่สุขภาพของพวกผู้หญิงในดินแดนความขัดแย้ง ไปจนถึงการเข้าถึงน้ำสะอาด การรักษาโรคเอชไอวี/เอดส์ ความมั่นคงทางพลังงานและต่อต้านคอรัปชัน
    .
    ทั้งนี้ในปี 2024 ทาง USAID ได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่สหประชาชาติ (UN) ติดตามผลคิดเป็น 42% ของทั้งหมด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012937
    ..............
    Sondhi X
    ผู้พิพากษาสหรัฐฯรายหนึ่ง ตัดสินไฟเขียวชั่วคราวให้ลูกจ้างของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (USAID) ราวๆ 2,700 คน ที่ถูกรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่ง "พักงาน" ให้กลับมาทำงาน ในความเคลื่อนไหวระงับแผนการหนึ่งๆที่เล็งเป้ายุบองค์กรดังกล่าว . ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐฯ คาร์ล นิโคลส์ ในวอชิงตัน ซึ่งถูกเสนอชื่อโดยทรัมป์ครั้งดำรงตำแหน่งสมัยแรก อนุมัติบางส่วนคำร้องจากสภาพแรงงานลูกจ้างรัฐบาลใหญ่ที่ในสหรัฐฯและสมาคมแรงงานบริการต่างชาติแห่งหนึ่ง ที่ยื่นฟ้องความพยายามของรัฐบาลในการปิด USAID . คำสั่งของนิโคล ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ไปจนถึงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นการขัดขวางรัฐบาลทรัมป์จากการดำเนินการตามแผนที่สั่ง "พักงาน" ลูกจ้างของ USAID ราวๆ 2,200 คน " เริ่มตั้งแต่วันเสาร์(8ก.พ.) และคืนสถานะลูกจ้างราวๆ 500 คน ที่ถูกให้ออกจากงาน นอกจากนี้แล้วคำพิพากษาของศาลยังห้ามรัฐบาลจากการโยกย้ายเจ้าหน้าที่ด้านมนุษยธรรมของ USAID ที่ประจำการอยู่นอกสหรัฐฯ . รายงานข่าวระบุว่าผู้พิพากษา นิโคลส์ จะพิจารณาคำร้องหนึ่งๆที่ขอให้ระงับแผนของทรัมป์ในระยะยาว ระหว่างกระบวนพิจารณาที่จะมีขึ้นในวันพุธ(12ก.พ.) โดยผู้พิพากษานิโคลส์ เขียนในคำสั่งว่าสหภาพแรงงานแสดงให้เห็นว่าพวกลูกจ้างจะได้รับผลกระทบอย่างที่แก้ไขไม่ได้ หากว่าศาลไม่เข้าแทรกแซง . อย่างไรก็ตามผู้พิพากษานิโคลส์ปฏิเสธคำร้องอื่นๆจากสหภาพ ที่ขอกลับมาเปิดทำการอาคารของ USAID และคืนชีพเงินทุนต่างๆสำหรับเงินช่วยเหลือและสัญญาต่างๆที่ทางองค์กรแหงนี้อนุมัติไปแล้ว . รัฐบาลของทรัมป์ระบุในหนังสือแจ้งที่ส่งถึงคนงานขององค์กรความช่วยเหลือต่างประเทศแห่งนี้เมื่อวันพฤหัสบดี(6ก.พ.) ว่าจะคงลูกจ้างที่จำเป็นของ USAID ไว้เพียง 611 ราย จากจำนวนที่มีทั้งหมดทั่วโลกมากกว่า 10,000 คน . "การลดพนักงานครั้งใหญ่ เช่นเดียวกับการปิดสำนักงาน บีบบังคับโยกย้ายบุลคลต่างๆเหล่านี้ ถือเป็นการกระทำภายใต้การใช้อำนาจบริหารที่เกินขอบเขต ละเมิดหลักการแบ่งแยกอำนาจ" คาร์ลา กิลไบรด์ ทนายความของสหภาพแรงงาน บอกกับศาลระหว่างการพิจารณาคำร้องเมื่อวันศุกร์(7ก.พ.) . เบรตต์ ชูเมต เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกระทรวงยุติธรรม ให้ปากคำกับผู้พิพากษานิโคลส์ ว่าลูกจ้างราว 2,000 คนของ USAID จะถูกพักงานภายใต้แผนการต่างๆของรัฐบาล เพิ่มเติมจาก 500 คน ที่ถูกสั่งพักงานไปก่อนหน้านี้ . ทรัมป์ โพสต์ข้อความเป็นทรัสต์โซเชียล สื่อสังคมออนไลน์ของเขาเองในวันศุกร์(7ก.พ.) กล่าวหา USAID ว่าคอรัปชันและฉ้อฉลในการใช้จ่ายเงิน แต่ไม่ได้ให้หลักฐานใดๆ เขาบอกว่าการคอรัปชันใน USAID "อยู่ในระดับที่เคยพบเห็นมาก่อน ปิดมันซะ!" . ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากสาบานตนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ทรัมป์ ออกคำสั่งให้ระงับเงินช่วยเหลือทั้งหมดที่สหรัฐฯมอบให้แก่ต่างประเทศ เพื่อรับประกันว่ามันจะสอดคล้องกับ "นโยบายอเมริกาต้องมาก่อน" ของเขา นับตั้งแต่นั้นความยุ่งเหยิงก็ห้อมล้อม USAID ซึ่งจัดสรรเงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ทั่วโลก หลายพันล้านดอลลาร์ . กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯออกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติการทั่วโลก หลังทรัมป์มีคำสั่งบริหาร ผลก็คือระงับเงินช่วยเหลือทั้งหมดที่มอบแก่ต่างชาติ ยกเว้นแต่ความช่วยเหลือฉุกเฉินด้านอาหาร มันทำให้โครงการต่างๆของ USAID ที่ครอบคลุมถึงความช่วยเหลือปกป้องชีวิตผู้คนทั่วโลกต้องหยุดชะงัก ในความเคลื่อนไหวที่พวกผู้เชี่ยวชาญเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจทำให้ผู้คนล้มตาย . การตรวจสอบหน่วยงานแห่งนี้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่พันธมิตรผู้ใกล้ชิดกับทรัมป์รายนี้ เป็นหัวหอกในความพยายามของประธานาธิบดี ในการความเทอะทะในงานราชการของรัฐบาลกลาง . ในปี 2023 สหรัฐฯใช้จ่ายเงิน 72,000 ล้านดอลลาร์ บางส่วนผ่าน USAID ในด้านความช่วยเหลือต่างๆทั่วโลก ไล่ตั้งแต่สุขภาพของพวกผู้หญิงในดินแดนความขัดแย้ง ไปจนถึงการเข้าถึงน้ำสะอาด การรักษาโรคเอชไอวี/เอดส์ ความมั่นคงทางพลังงานและต่อต้านคอรัปชัน . ทั้งนี้ในปี 2024 ทาง USAID ได้ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่สหประชาชาติ (UN) ติดตามผลคิดเป็น 42% ของทั้งหมด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012937 .............. Sondhi X
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เชื่อว่าคำพูดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับการดูดกลืนแคนาดาเข้าเป็นรัฐที่ 51 "เป็นของจริง" และมันเกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านทรัพยากรทางธรรมชาติของประเทศ ตามรายงานของสื่อมวลชนอ้างอิงแหล่งข่าวในรัฐบาล
    .
    แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทรูโด แสดงความคิดเห็นดังกล่าว ระหว่างการประชุมลับกับพวกผู้นำภาคธุรกิจและแกนนำสหภาพแรงงาน เกี่ยวกับแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการตอบโต้ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ที่ขู่รีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา
    .
    ที่ผ่านมา ทรัมป์ ส่งเสียงแนะนำซ้ำๆว่า แคนาดา จะดีกว่าเดิม หากประเทศแห่งนี้ยอมกลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา
    .
    หนังสือพิมพ์โทรอนโตสตาร์ รายงานอ้างคำกล่าวของทรูโดระบุว่า "พวกเขาทราบดีเกี่ยวกับทรัพยากรของเรา สิ่งที่เรามีและพวกเขาต้องการมากๆอยากได้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้" นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวกับที่ประชุมลับ "แต่ในความคิดของทรัมป์ หนึ่งในหนทางที่ง่ายที่สุดในการทำเช่นนั้น ก็คือดูดกลืนประเทศของเรา และความคิดนี้เป็นของจริง"
    .
    แหล่งข่าวในรัฐบาล ยืนยันว่ารายงานข่าวของโทรอนโตสาตาร์ที่อ้างคำพูดดังกล่าวนั้น "ถูกต้อง"
    .
    แคนาดา ที่กำลังหาทางปัดป้องมาตรการต่างๆนานาของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าพวกเขาเป็นคู่หูที่น่าเชื่อถือ และเป็นผู้จัดหารายใหญ่ด้านน้ำมัน แร่ธาตุและทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ
    .
    ในความเห็นกับพวกผู้สื่อข่าว ทรูโดบอกก่อนหน้านี้ว่า แคนาดาอาจต้องเจอกับความท้าทายทางการเมืองในระยะยาวกับสหรัฐฯ แม้นว่าหากสามารถจัดการหลีกเลี่ยงคำขู่รีดภาษีของทรัมป์ได้ก็ตาม
    .
    ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์(3ก.พ.) เผยว่าเขาจะเลื่อนกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาออกไป 30 วัน และกับการยอมอ่อนข้อในด้านชายแดนและการจัดการดับอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามการลักลอบขนยาเฟนทานิล
    .
    ทรูโด บอกว่าความท้าทายในปัจจุบันทันด่วนของออตตาวา ก็คือการโน้มน้าวให้วอชิงตัน เชื่อว่าแคนาดาได้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว ในการต่อสู้กับกระแสไหลบ่าของยาเฟนทานิล จากข้อมูลพบว่าในบรรดายาเฟนทานิลที่ถูกยึดในสหรัฐฯนั้น มีเพียงแค่ 0.2% ที่ข้ามไปจากชายแดนแคนาดา
    .
    ทั้งนี้ ทรูโด บอกกับพวกนักธุรกิจและแกนนำสหภาพแรงงาน ในช่วงต้นของการประชุมเกี่ยวกับแนวทางสร้างความหลากหลายทางการค้าและกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่าถ้าสหรัฐฯกำหนดมาตรการรีดภาษี ทางแคนาดาก็จะตอบโต้แบบเดียวกัน แต่เป้าหมายของแคนาดาคือจะหาทางปลดมาตรการเหล่านี้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
    .
    ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาทางการค้าของทรัมป์ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ กล่าวหาแคนาดา กลายมาเป็นแหล่งต้นทางหลักของการลักลอบขนยาปลอดภาษี แต่ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งประเด็นปัญหาใหญ่ด้านวีซ่าและปล่อยให้คนที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีก่อการร้ายเดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ
    .
    ในการส่งออกภาคบริการและสินค้าทั้งหมดของแคนาดา คิดเป็นสัดส่วนถึง 75% ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ส่งผลให้พวกเขามีความอ่อนแออย่างมากต่อการคว่ำบาตรใดๆของอเมริกา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012939
    ..............
    Sondhi X
    จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา เชื่อว่าคำพูดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เกี่ยวกับการดูดกลืนแคนาดาเข้าเป็นรัฐที่ 51 "เป็นของจริง" และมันเกี่ยวข้องกับความมั่นคงด้านทรัพยากรทางธรรมชาติของประเทศ ตามรายงานของสื่อมวลชนอ้างอิงแหล่งข่าวในรัฐบาล . แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทรูโด แสดงความคิดเห็นดังกล่าว ระหว่างการประชุมลับกับพวกผู้นำภาคธุรกิจและแกนนำสหภาพแรงงาน เกี่ยวกับแนวทางที่เหมาะสมที่สุดในการตอบโต้ความเคลื่อนไหวของทรัมป์ ที่ขู่รีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดา . ที่ผ่านมา ทรัมป์ ส่งเสียงแนะนำซ้ำๆว่า แคนาดา จะดีกว่าเดิม หากประเทศแห่งนี้ยอมกลายมาเป็นรัฐที่ 51 ของอเมริกา . หนังสือพิมพ์โทรอนโตสตาร์ รายงานอ้างคำกล่าวของทรูโดระบุว่า "พวกเขาทราบดีเกี่ยวกับทรัพยากรของเรา สิ่งที่เรามีและพวกเขาต้องการมากๆอยากได้ประโยชน์จากทรัพยากรเหล่านี้" นายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวกับที่ประชุมลับ "แต่ในความคิดของทรัมป์ หนึ่งในหนทางที่ง่ายที่สุดในการทำเช่นนั้น ก็คือดูดกลืนประเทศของเรา และความคิดนี้เป็นของจริง" . แหล่งข่าวในรัฐบาล ยืนยันว่ารายงานข่าวของโทรอนโตสาตาร์ที่อ้างคำพูดดังกล่าวนั้น "ถูกต้อง" . แคนาดา ที่กำลังหาทางปัดป้องมาตรการต่างๆนานาของสหรัฐฯ เน้นย้ำว่าพวกเขาเป็นคู่หูที่น่าเชื่อถือ และเป็นผู้จัดหารายใหญ่ด้านน้ำมัน แร่ธาตุและทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ . ในความเห็นกับพวกผู้สื่อข่าว ทรูโดบอกก่อนหน้านี้ว่า แคนาดาอาจต้องเจอกับความท้าทายทางการเมืองในระยะยาวกับสหรัฐฯ แม้นว่าหากสามารถจัดการหลีกเลี่ยงคำขู่รีดภาษีของทรัมป์ได้ก็ตาม . ทรัมป์ เมื่อวันจันทร์(3ก.พ.) เผยว่าเขาจะเลื่อนกำหนดมาตรการรีดภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาออกไป 30 วัน และกับการยอมอ่อนข้อในด้านชายแดนและการจัดการดับอาชญากรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปราบปรามการลักลอบขนยาเฟนทานิล . ทรูโด บอกว่าความท้าทายในปัจจุบันทันด่วนของออตตาวา ก็คือการโน้มน้าวให้วอชิงตัน เชื่อว่าแคนาดาได้ทำทุกอย่างเท่าที่จะทำได้แล้ว ในการต่อสู้กับกระแสไหลบ่าของยาเฟนทานิล จากข้อมูลพบว่าในบรรดายาเฟนทานิลที่ถูกยึดในสหรัฐฯนั้น มีเพียงแค่ 0.2% ที่ข้ามไปจากชายแดนแคนาดา . ทั้งนี้ ทรูโด บอกกับพวกนักธุรกิจและแกนนำสหภาพแรงงาน ในช่วงต้นของการประชุมเกี่ยวกับแนวทางสร้างความหลากหลายทางการค้าและกระตุ้นเศรษฐกิจ ว่าถ้าสหรัฐฯกำหนดมาตรการรีดภาษี ทางแคนาดาก็จะตอบโต้แบบเดียวกัน แต่เป้าหมายของแคนาดาคือจะหาทางปลดมาตรการเหล่านี้อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ . ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาทางการค้าของทรัมป์ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ กล่าวหาแคนาดา กลายมาเป็นแหล่งต้นทางหลักของการลักลอบขนยาปลอดภาษี แต่ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งประเด็นปัญหาใหญ่ด้านวีซ่าและปล่อยให้คนที่มีรายชื่ออยู่ในบัญชีก่อการร้ายเดินทางเข้าสู่สหรัฐฯ . ในการส่งออกภาคบริการและสินค้าทั้งหมดของแคนาดา คิดเป็นสัดส่วนถึง 75% ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ ส่งผลให้พวกเขามีความอ่อนแออย่างมากต่อการคว่ำบาตรใดๆของอเมริกา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012939 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประณาม "เห็นแก่ตัวและคิดเข้าข้างตนเอง" ต่อข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐน ที่เสนอขอแร่แร์เอิร์ธจากยูเครน แลกกับความช่วยเหลือทางทหารจากอเมริกา ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแห่งหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์(8ก.พ.)
    .
    แรร์เอิร์ธ เป็นแร่ที่มีองค์ประกอบของธาตุเคมี 17 ชนิดในตารางธาตุ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตสมาร์ทโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ และไม่มีอะไรมาแทนที่มันได้
    .
    "ยูเครนกำลังถูกโจมตีและเรากำลังช่วยเหลือพวกเขา โดยไม่ได้ร้องขอให้จ่ายค่าตอบแทน นี่ควรเป็นจุดยืนของทุกคน" โชลซ์กล่าวผ่านสำนักข่าวอาร์เอ็นดี เมื่อถูกถามเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของทรัมป์ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ยูเครนจะให้แร่แรร์เอิร์ธเป็นการแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ
    .
    ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเคยออกมาให้คำจกกัดความข้อเรียกร้องของทรัมป์ มาแล้วรอบหนึ่งว่า "เห็นแก่ตัวมากๆ" หลังเสร็จสิ้นการประชุมซัมมิตสหภาพยุโรปในบรัสเซลส์
    .
    เขาบอกว่าทรัพยากรต่างๆของยูเครนควรถูกใช้เป็นทุนสนับสนุนทุกๆอย่างที่จำเป็นหลังจบสงคราม อย่างเช่นการฟื้นฟูและทำนุบำรุงกองทัพที่เข้มแข็ง "มันจะเป็นการเห็นแก่ตัวอย่างมาก และรับใช้แต่ผลประโยชน์ของตนเอง ในการเรียกร้องบางอย่างจากยูเครนแลกกับความช่วยเหลือ" โชลซ์ระบุ
    .
    ทรัมป์ กล่าวว่าเขาต้องการ "ความเท่าเทียม" จากยูเครน สำหรับความช่วยเหลือทางการเงินที่วอชิงตันมอบให้ และบอกว่า "เราอยากบอกกับยูเครนว่า พวกเขามีแร่แรร์เอิร์ธที่มีค่ามากๆ เรากำลังหาทางตกลงกับยูเครน ข้อตกลงที่พวกเขาจะได้รับคำรับประกันในสิ่งในเราจะมอบให้แก่พวกเขา แลกกับแร่แร์เอิร์ธของพวกเขาและสิ่งอื่นๆ"
    .
    ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกต่อว่า "เราต้องการมีความมั่นคงด้านแร่แรร์เอิร์ธ เรากำลังใส่เงินลงไปหลายแสนล้านดอลลาร์ พวกเขามีแร่แรร์เอิร์ธมหาศาล เและผมต้องการความมั่นคงด้านแร่แรร์เอิร์ธ และพวกเขามีความตั้งใจที่จะทำมัน"
    .
    ในวันศุกร์(7ก.พ.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เปิดเผยว่าวอชิงตันและเคียฟกำลังมีแผน "พบปะพูดคุยกัน" หลัง ทรัมป์ หยิบยกความเป็นไปได้ที่จะประชุมร่วมกับเขาในสัปดาห์หน้า
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ เซเลนสกี บอกว่ายูเครนพร้อมอ้าแขนต้อนรับการลงทุนจากเหล่าบริษัทสหรัฐฯในแร่แรร์เอิร์ธ หรือโลหะต่างๆที่ถูกใช้อย่างกว้างขวางในงานอิเล็กทรอนิกส์
    .
    ในแผนสันติภาพที่เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน เซเลนสกี เสนอ "ข้อตกลงพิเศษ" กับบรรดาพันธมิตรของประเทศ เปิดทางสำหรับการปกป้องร่วมกันและสำรวจร่วมกันในด้านทรัพยากรทางยุทธศาสตร์ทั้งหลาย อย่างไรก็ตามครั้งนั้น เขาไม่ได้พาดพิงอย่างเจาะจงถึงแร่แรร์เอิร์ธ โดยที่เขาอ้างถึงนั้นมีเพียง ยูเรเนียม, ไทเทเนียม, ลิเธียม, แกรไฟต์ และทรัพยากรทางยุทธศาสตร์มูลค่าสูงอื่นๆ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012938
    ..............
    Sondhi X
    โอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประณาม "เห็นแก่ตัวและคิดเข้าข้างตนเอง" ต่อข้อเรียกร้องของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐน ที่เสนอขอแร่แร์เอิร์ธจากยูเครน แลกกับความช่วยเหลือทางทหารจากอเมริกา ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแห่งหนึ่งที่เผยแพร่เมื่อวันเสาร์(8ก.พ.) . แรร์เอิร์ธ เป็นแร่ที่มีองค์ประกอบของธาตุเคมี 17 ชนิดในตารางธาตุ ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตสมาร์ทโฟน รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ และไม่มีอะไรมาแทนที่มันได้ . "ยูเครนกำลังถูกโจมตีและเรากำลังช่วยเหลือพวกเขา โดยไม่ได้ร้องขอให้จ่ายค่าตอบแทน นี่ควรเป็นจุดยืนของทุกคน" โชลซ์กล่าวผ่านสำนักข่าวอาร์เอ็นดี เมื่อถูกถามเกี่ยวกับข้อเรียกร้องของทรัมป์ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ยูเครนจะให้แร่แรร์เอิร์ธเป็นการแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือทางทหารของสหรัฐฯ . ก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเคยออกมาให้คำจกกัดความข้อเรียกร้องของทรัมป์ มาแล้วรอบหนึ่งว่า "เห็นแก่ตัวมากๆ" หลังเสร็จสิ้นการประชุมซัมมิตสหภาพยุโรปในบรัสเซลส์ . เขาบอกว่าทรัพยากรต่างๆของยูเครนควรถูกใช้เป็นทุนสนับสนุนทุกๆอย่างที่จำเป็นหลังจบสงคราม อย่างเช่นการฟื้นฟูและทำนุบำรุงกองทัพที่เข้มแข็ง "มันจะเป็นการเห็นแก่ตัวอย่างมาก และรับใช้แต่ผลประโยชน์ของตนเอง ในการเรียกร้องบางอย่างจากยูเครนแลกกับความช่วยเหลือ" โชลซ์ระบุ . ทรัมป์ กล่าวว่าเขาต้องการ "ความเท่าเทียม" จากยูเครน สำหรับความช่วยเหลือทางการเงินที่วอชิงตันมอบให้ และบอกว่า "เราอยากบอกกับยูเครนว่า พวกเขามีแร่แรร์เอิร์ธที่มีค่ามากๆ เรากำลังหาทางตกลงกับยูเครน ข้อตกลงที่พวกเขาจะได้รับคำรับประกันในสิ่งในเราจะมอบให้แก่พวกเขา แลกกับแร่แร์เอิร์ธของพวกเขาและสิ่งอื่นๆ" . ประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกต่อว่า "เราต้องการมีความมั่นคงด้านแร่แรร์เอิร์ธ เรากำลังใส่เงินลงไปหลายแสนล้านดอลลาร์ พวกเขามีแร่แรร์เอิร์ธมหาศาล เและผมต้องการความมั่นคงด้านแร่แรร์เอิร์ธ และพวกเขามีความตั้งใจที่จะทำมัน" . ในวันศุกร์(7ก.พ.) ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เปิดเผยว่าวอชิงตันและเคียฟกำลังมีแผน "พบปะพูดคุยกัน" หลัง ทรัมป์ หยิบยกความเป็นไปได้ที่จะประชุมร่วมกับเขาในสัปดาห์หน้า . ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ เซเลนสกี บอกว่ายูเครนพร้อมอ้าแขนต้อนรับการลงทุนจากเหล่าบริษัทสหรัฐฯในแร่แรร์เอิร์ธ หรือโลหะต่างๆที่ถูกใช้อย่างกว้างขวางในงานอิเล็กทรอนิกส์ . ในแผนสันติภาพที่เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน เซเลนสกี เสนอ "ข้อตกลงพิเศษ" กับบรรดาพันธมิตรของประเทศ เปิดทางสำหรับการปกป้องร่วมกันและสำรวจร่วมกันในด้านทรัพยากรทางยุทธศาสตร์ทั้งหลาย อย่างไรก็ตามครั้งนั้น เขาไม่ได้พาดพิงอย่างเจาะจงถึงแร่แรร์เอิร์ธ โดยที่เขาอ้างถึงนั้นมีเพียง ยูเรเนียม, ไทเทเนียม, ลิเธียม, แกรไฟต์ และทรัพยากรทางยุทธศาสตร์มูลค่าสูงอื่นๆ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000012938 .............. Sondhi X
    Love
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมควรตั้งเป้าหมาย ทำงานให้สนุก ?
    ทำไมควรตั้งเป้าหมาย ทำงานให้สนุก ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • หลิว จงอี้ มือปราบจีนเทา : Sondhitalk EP279 VDO
    หลิว จงอี้ มือปราบเจ้าหน้าที่ไทย กับกลุ่มอาชญากรฝ่ายจีน
    #sondhi #sondhiapp #sondhitalk #สนธิ #สนธิทอล์ค #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #sondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    หลิว จงอี้ มือปราบจีนเทา : Sondhitalk EP279 VDO หลิว จงอี้ มือปราบเจ้าหน้าที่ไทย กับกลุ่มอาชญากรฝ่ายจีน #sondhi #sondhiapp #sondhitalk #สนธิ #สนธิทอล์ค #สนธิลิ้มทองกุล #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #sondhiX #สนธิเล่าเรื่อง�
    Like
    Love
    Haha
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนและนักวิชาการทางเทคโนโลยีชาวอังกฤษ ได้เดินทางไปกับ SSD ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอย่าง iStorage DiskAshur Pro 3 และรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยจุดเด่นที่สำคัญคือการปกป้องข้อมูลทั้งจากการถูกขโมยและจากสิ่งแวดล้อมภายนอก

    ความพิเศษของ DiskAshur Pro 3:
    - ความจุหลากหลาย ตั้งแต่ 500GB จนถึง 16TB ทำให้คุณเลือกได้ตามต้องการ แต่ก็ต้องระวังราคาที่ค่อนข้างสูง
    - มีการเข้ารหัสแบบฮาร์ดแวร์ 256 บิต ที่ช่วยให้ข้อมูลบนไดร์ฟปลอดภัยเสมอ ไม่เหมือนการเข้ารหัสซอฟต์แวร์ทั่วไป และได้รับการรับรองมาตรฐาน FIPS 140-3 Level 3
    - แป้นพิมพ์ที่ใช้รหัสผ่าน 8 ถึง 64 ตัวอักษร เพื่อป้องกันผู้โจมตีไม่ให้ทราบรหัสผ่านจากร่องรอยการใช้งาน
    - มีมาตรการป้องกันการโจมตีแบบ brute-force หากพิมพ์รหัสผ่านผิด 10 ครั้งต่อเนื่อง ไดร์ฟจะล็อกและทำลายข้อมูล
    - สามารถใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB ไม่ว่าจะเป็น Windows, macOS, iPadOS, Linux, Android, ChromeOS, หรือแม้แต่เครื่องพิมพ์, เครื่องมือแพทย์, CCTV และอื่นๆ
    - ภายในจะมีชั้นเรซินที่ป้องกันไม่ให้เข้าถึงชิ้นส่วนภายในได้โดยไม่ทำลาย

    iStorage DiskAshur Pro 3 นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการการปกป้องข้อมูลอย่างแน่นหนา ทั้งจากการโจมตีทางดิจิทัลและการถูกขโมยทางกายภาพ โดยคุณสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่เก็บไว้บนไดร์ฟนี้จะอยู่ในที่ปลอดภัยเสมอ

    https://www.zdnet.com/article/i-traveled-with-one-of-the-most-secure-ssds-ever-and-never-felt-more-relaxed/
    Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนและนักวิชาการทางเทคโนโลยีชาวอังกฤษ ได้เดินทางไปกับ SSD ที่ปลอดภัยที่สุดในโลกอย่าง iStorage DiskAshur Pro 3 และรู้สึกผ่อนคลายได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน โดยจุดเด่นที่สำคัญคือการปกป้องข้อมูลทั้งจากการถูกขโมยและจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ความพิเศษของ DiskAshur Pro 3: - ความจุหลากหลาย ตั้งแต่ 500GB จนถึง 16TB ทำให้คุณเลือกได้ตามต้องการ แต่ก็ต้องระวังราคาที่ค่อนข้างสูง - มีการเข้ารหัสแบบฮาร์ดแวร์ 256 บิต ที่ช่วยให้ข้อมูลบนไดร์ฟปลอดภัยเสมอ ไม่เหมือนการเข้ารหัสซอฟต์แวร์ทั่วไป และได้รับการรับรองมาตรฐาน FIPS 140-3 Level 3 - แป้นพิมพ์ที่ใช้รหัสผ่าน 8 ถึง 64 ตัวอักษร เพื่อป้องกันผู้โจมตีไม่ให้ทราบรหัสผ่านจากร่องรอยการใช้งาน - มีมาตรการป้องกันการโจมตีแบบ brute-force หากพิมพ์รหัสผ่านผิด 10 ครั้งต่อเนื่อง ไดร์ฟจะล็อกและทำลายข้อมูล - สามารถใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ที่มีพอร์ต USB ไม่ว่าจะเป็น Windows, macOS, iPadOS, Linux, Android, ChromeOS, หรือแม้แต่เครื่องพิมพ์, เครื่องมือแพทย์, CCTV และอื่นๆ - ภายในจะมีชั้นเรซินที่ป้องกันไม่ให้เข้าถึงชิ้นส่วนภายในได้โดยไม่ทำลาย iStorage DiskAshur Pro 3 นั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการการปกป้องข้อมูลอย่างแน่นหนา ทั้งจากการโจมตีทางดิจิทัลและการถูกขโมยทางกายภาพ โดยคุณสามารถมั่นใจได้ว่าข้อมูลที่เก็บไว้บนไดร์ฟนี้จะอยู่ในที่ปลอดภัยเสมอ https://www.zdnet.com/article/i-traveled-with-one-of-the-most-secure-ssds-ever-and-never-felt-more-relaxed/
    WWW.ZDNET.COM
    I traveled with one of the most secure SSDs ever - and never felt more relaxed
    The iStorage DiskAshur Pro 3 safeguards your data from both theft and the elements.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี "Digital Twin" หรือ "คู่แฝดดิจิทัล" กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่สำคัญสำหรับธุรกิจในการปรับปรุงการดำเนินงาน และสร้างนวัตกรรมที่ล้ำสมัย

    "Digital Twin" คือ การสร้างแบบจำลองดิจิทัลของระบบหรือสภาพแวดล้อมจริง ทำให้องค์กรสามารถทดสอบการเปลี่ยนแปลงและการลงทุนได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงที่จะกระทบกระเทือนกระบวนการที่มีอยู่จริง เช่น โรงงานผลิต, ยานพาหนะ, ระบบการผลิต, และแม้แต่ห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด

    ประเภทของ Digital Twin:
    1) Entity Twin: ใช้เพื่อแสดงและปรับปรุงวัตถุที่มีอยู่จริง เช่น เครื่องจักรในโรงงาน
    2) System Twin: ใช้เพื่อทดสอบการทำงานร่วมกันของส่วนประกอบต่างๆ
    3) Process Twin: ใช้เพื่อทดสอบกระบวนการผลิตและการดำเนินงาน

    ประโยชน์ของ Digital Twin:
    - สามารถออกแบบ, ทดสอบ, และปรับปรุงการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการ โดยไม่ต้องหยุดการทำงานจริง
    - ลดเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ถึง 20%-50% และลดค่าใช้จ่าย
    - สามารถตรวจสอบและปรับปรุงการทำงานของอุปกรณ์ได้แบบเรียลไทม์
    - ช่วยในการวางแผนผังเมืองและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

    ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น:
    - การเริ่มต้นใช้งานต้องลงทุนสูง และอาจไม่เห็นผลตอบแทนทันที
    - ความซับซ้อนในการสร้างและดูแลระบบ Digital Twin
    - ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลจริงขององค์กรได้

    ตัวอย่างการใช้งานจริง:
    - Mayo Clinic: ใช้ Digital Twin เพื่อสร้างแบบจำลองผู้ป่วยเพื่อการวินิจฉัยและการรักษา
    - BMW: สร้างแบบจำลองโรงงานเพื่อปรับปรุงการผลิต
    - E.ON: ใช้ Digital Twin เพื่อเก็บข้อมูลและตรวจสอบการทำงานของระบบพลังงาน

    Digital Twin ไม่ใช่แค่แบบจำลองดิจิทัลธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือที่สามารถนำเทคโนโลยี AI, Machine Learning, และ Data Analytics มารวมกันเพื่อสร้างภาพรวมของทรัพย์สินและกระบวนการต่างๆ ภายในองค์กร ซึ่งทำให้องค์กรสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

    https://www.zdnet.com/article/digital-twins-are-optimizing-supply-chains-and-more-heres-why-enterprises-should-care/
    ในยุคที่ทุกอย่างขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและเทคโนโลยี "Digital Twin" หรือ "คู่แฝดดิจิทัล" กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่สำคัญสำหรับธุรกิจในการปรับปรุงการดำเนินงาน และสร้างนวัตกรรมที่ล้ำสมัย "Digital Twin" คือ การสร้างแบบจำลองดิจิทัลของระบบหรือสภาพแวดล้อมจริง ทำให้องค์กรสามารถทดสอบการเปลี่ยนแปลงและการลงทุนได้ โดยไม่ต้องเสี่ยงที่จะกระทบกระเทือนกระบวนการที่มีอยู่จริง เช่น โรงงานผลิต, ยานพาหนะ, ระบบการผลิต, และแม้แต่ห่วงโซ่อุปทานทั้งหมด ประเภทของ Digital Twin: 1) Entity Twin: ใช้เพื่อแสดงและปรับปรุงวัตถุที่มีอยู่จริง เช่น เครื่องจักรในโรงงาน 2) System Twin: ใช้เพื่อทดสอบการทำงานร่วมกันของส่วนประกอบต่างๆ 3) Process Twin: ใช้เพื่อทดสอบกระบวนการผลิตและการดำเนินงาน ประโยชน์ของ Digital Twin: - สามารถออกแบบ, ทดสอบ, และปรับปรุงการออกแบบผลิตภัณฑ์หรือกระบวนการ โดยไม่ต้องหยุดการทำงานจริง - ลดเวลาในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ถึง 20%-50% และลดค่าใช้จ่าย - สามารถตรวจสอบและปรับปรุงการทำงานของอุปกรณ์ได้แบบเรียลไทม์ - ช่วยในการวางแผนผังเมืองและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้น: - การเริ่มต้นใช้งานต้องลงทุนสูง และอาจไม่เห็นผลตอบแทนทันที - ความซับซ้อนในการสร้างและดูแลระบบ Digital Twin - ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลจริงขององค์กรได้ ตัวอย่างการใช้งานจริง: - Mayo Clinic: ใช้ Digital Twin เพื่อสร้างแบบจำลองผู้ป่วยเพื่อการวินิจฉัยและการรักษา - BMW: สร้างแบบจำลองโรงงานเพื่อปรับปรุงการผลิต - E.ON: ใช้ Digital Twin เพื่อเก็บข้อมูลและตรวจสอบการทำงานของระบบพลังงาน Digital Twin ไม่ใช่แค่แบบจำลองดิจิทัลธรรมดา แต่เป็นเครื่องมือที่สามารถนำเทคโนโลยี AI, Machine Learning, และ Data Analytics มารวมกันเพื่อสร้างภาพรวมของทรัพย์สินและกระบวนการต่างๆ ภายในองค์กร ซึ่งทำให้องค์กรสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน https://www.zdnet.com/article/digital-twins-are-optimizing-supply-chains-and-more-heres-why-enterprises-should-care/
    WWW.ZDNET.COM
    Digital twins are optimizing supply chains and more. Here's why enterprises should care
    Virtual modeling, analytics, and the Internet of Things have created a new way for businesses to use data to improve their operations: the digital twin.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • 0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว AI กลายเป็นเครื่องมือที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างหลากหลาย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสำเร็จของคนธรรมดาที่สามารถทำเงินจาก AI ได้

    เราจะยกตัวอย่างเรื่องราวความสำเร็จของ Cal AI กันครับ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Zach Yadegari และ Henry Langmack สองนักเรียนวัย 17 ปี ได้พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อ "Cal AI" ที่ใช้เทคโนโลยี GPT ในการตรวจนับแคลอรี่ แอปพลิเคชันนี้สามารถวิเคราะห์รูปภาพและสแกนบาร์โค้ดเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ด้วยความสำเร็จที่น่าทึ่ง แอปพลิเคชันนี้มีผู้ดาวน์โหลดกว่า 1 ล้านครั้งและทำรายได้ต่อปีถึง 12 ล้านดอลลาร์ จากทีมงานเพียง 17 คน

    สิ่งที่ Cal AI ใช้คือสิ่งที่เราเรียกว่า "GPT Wrapper"

    GPT Wrapper คือโปรแกรมที่สร้างอินเตอร์เฟซสำหรับผู้ใช้ที่นำความสามารถของ GPT มาปรับใช้ให้เหมาะสม เพื่อให้การใช้งานของ AI ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันสำหรับการเขียนบทความหรือการเรียนรู้ภาษา ซึ่งการพัฒนา GPT Wrapper นั้นช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเข้าสู่ตลาด และลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบ AI ของตนเอง

    ข้อดีและข้อเสียของการพัฒนา GPT Wrapper
    - ข้อดี: มีโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างไว้แล้ว, ความรวดเร็วในการเข้าสู่ตลาด, และประหยัดต้นทุนการพัฒนา
    - ข้อเสีย: ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ, ความยากลำบากในการขยายตัว, และความแตกต่างที่จำกัด

    แนวคิดในการสร้างธุรกิจ ด้วย GPT Wrapper:
    1) การสร้างความเข้าใจในปัญหา: ค้นหาปัญหาที่ผู้คนต้องการแก้ไข และสร้างแอปที่ตอบโจทย์
    2) การสร้างชุมชน: พูดคุยกับผู้ใช้ที่มีศักยภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลและความเห็นในการพัฒนาแอป
    3)การตลาดและการเติบโต: สร้างชุมชนออนไลน์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และใช้แพลตฟอร์มเช่น TikTok และ Instagram เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์

    สรุปคือ การสร้างแอปพลิเคชันด้วย AI ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีความเข้าใจในปัญหาและนำแนวคิดใหม่ๆ มาปรับใช้ คุณก็สามารถสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ด้วย AI เหมือนที่ Cal AI ทำ

    https://www.zdnet.com/article/from-zero-to-millions-how-regular-people-are-cashing-in-on-ai/
    ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว AI กลายเป็นเครื่องมือที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างหลากหลาย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสำเร็จของคนธรรมดาที่สามารถทำเงินจาก AI ได้ เราจะยกตัวอย่างเรื่องราวความสำเร็จของ Cal AI กันครับ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Zach Yadegari และ Henry Langmack สองนักเรียนวัย 17 ปี ได้พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อ "Cal AI" ที่ใช้เทคโนโลยี GPT ในการตรวจนับแคลอรี่ แอปพลิเคชันนี้สามารถวิเคราะห์รูปภาพและสแกนบาร์โค้ดเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ด้วยความสำเร็จที่น่าทึ่ง แอปพลิเคชันนี้มีผู้ดาวน์โหลดกว่า 1 ล้านครั้งและทำรายได้ต่อปีถึง 12 ล้านดอลลาร์ จากทีมงานเพียง 17 คน สิ่งที่ Cal AI ใช้คือสิ่งที่เราเรียกว่า "GPT Wrapper" GPT Wrapper คือโปรแกรมที่สร้างอินเตอร์เฟซสำหรับผู้ใช้ที่นำความสามารถของ GPT มาปรับใช้ให้เหมาะสม เพื่อให้การใช้งานของ AI ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันสำหรับการเขียนบทความหรือการเรียนรู้ภาษา ซึ่งการพัฒนา GPT Wrapper นั้นช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเข้าสู่ตลาด และลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบ AI ของตนเอง ข้อดีและข้อเสียของการพัฒนา GPT Wrapper - ข้อดี: มีโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างไว้แล้ว, ความรวดเร็วในการเข้าสู่ตลาด, และประหยัดต้นทุนการพัฒนา - ข้อเสีย: ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ, ความยากลำบากในการขยายตัว, และความแตกต่างที่จำกัด แนวคิดในการสร้างธุรกิจ ด้วย GPT Wrapper: 1) การสร้างความเข้าใจในปัญหา: ค้นหาปัญหาที่ผู้คนต้องการแก้ไข และสร้างแอปที่ตอบโจทย์ 2) การสร้างชุมชน: พูดคุยกับผู้ใช้ที่มีศักยภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลและความเห็นในการพัฒนาแอป 3)การตลาดและการเติบโต: สร้างชุมชนออนไลน์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และใช้แพลตฟอร์มเช่น TikTok และ Instagram เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ สรุปคือ การสร้างแอปพลิเคชันด้วย AI ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีความเข้าใจในปัญหาและนำแนวคิดใหม่ๆ มาปรับใช้ คุณก็สามารถสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ด้วย AI เหมือนที่ Cal AI ทำ https://www.zdnet.com/article/from-zero-to-millions-how-regular-people-are-cashing-in-on-ai/
    WWW.ZDNET.COM
    From zero to millions? How regular people are cashing in on AI
    Every day people are using AI in ways you wouldn't expect. You can too. Here's how
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • Europol หน่วยงานตำรวจระหว่างประเทศ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความเสี่ยงที่เกิดจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมต่อวงการการเงิน โดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมนั้นสามารถทำการคำนวณได้ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบคอมพิวเตอร์แบบไบนารีที่ใช้กันทั่วไป

    สิ่งที่สำคัญคือคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถถอดรหัสลับที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลให้ข้อมูลลูกค้าของธนาคารและการสื่อสารต่างๆ ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป รวมถึงกระบวนการยืนยันตัวตนและความไว้วางใจในลายเซ็นดิจิทัลก็จะถูกคุกคามด้วย

    การเตรียมตัวที่แนะนำจากคณะกรรมการนี้คือธนาคารควรเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการเข้ารหัสที่อาจจะเปราะบางต่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมและต้องวางแผนปรับเปลี่ยนการดำเนินการให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการเตือนว่าอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีที่เก็บรวบรวมข้อมูลที่สำคัญไว้เพื่อตั้งใจจะถอดรหัสในอนาคตเมื่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถทำได้

    เชื่อกันว่าในอีก 10-15 ปีข้างหน้า คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถถอดรหัสได้จะเริ่มออกมาใช้กันจริงๆ อย่างไรก็ตาม กฎหมายปัจจุบันของสหภาพยุโรปก็ได้ครอบคลุมเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีการออกกฎหมายใหม่เพิ่มเติม

    นอกจากนั้นยังมีการยกตัวอย่างว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2035 หน่วยงานของรัฐบาลจะต้องสามารถทนต่อความเสี่ยงจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้แล้ว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/europol-body-banks-should-prepare-for-quantum-computer-risk-now
    Europol หน่วยงานตำรวจระหว่างประเทศ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับความเสี่ยงที่เกิดจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมต่อวงการการเงิน โดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมนั้นสามารถทำการคำนวณได้ในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพมากกว่าระบบคอมพิวเตอร์แบบไบนารีที่ใช้กันทั่วไป สิ่งที่สำคัญคือคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถถอดรหัสลับที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง จะส่งผลให้ข้อมูลลูกค้าของธนาคารและการสื่อสารต่างๆ ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป รวมถึงกระบวนการยืนยันตัวตนและความไว้วางใจในลายเซ็นดิจิทัลก็จะถูกคุกคามด้วย การเตรียมตัวที่แนะนำจากคณะกรรมการนี้คือธนาคารควรเริ่มเรียนรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการเข้ารหัสที่อาจจะเปราะบางต่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมและต้องวางแผนปรับเปลี่ยนการดำเนินการให้ปลอดภัยยิ่งขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ยังมีการเตือนว่าอาจมีผู้ไม่ประสงค์ดีที่เก็บรวบรวมข้อมูลที่สำคัญไว้เพื่อตั้งใจจะถอดรหัสในอนาคตเมื่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมสามารถทำได้ เชื่อกันว่าในอีก 10-15 ปีข้างหน้า คอมพิวเตอร์ควอนตัมที่สามารถถอดรหัสได้จะเริ่มออกมาใช้กันจริงๆ อย่างไรก็ตาม กฎหมายปัจจุบันของสหภาพยุโรปก็ได้ครอบคลุมเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีการออกกฎหมายใหม่เพิ่มเติม นอกจากนั้นยังมีการยกตัวอย่างว่ารัฐบาลสหรัฐอเมริกาได้ตั้งเป้าหมายว่าในปี 2035 หน่วยงานของรัฐบาลจะต้องสามารถทนต่อความเสี่ยงจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมได้แล้ว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/europol-body-banks-should-prepare-for-quantum-computer-risk-now
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Europol body: Banks should prepare for quantum computer risk now
    AMSTERDAM (Reuters) - Europe's financial sector should start preparing now for quantum computers to be able to break some forms of encryption widely used to protect sensitive data, a Europol-led body set up to address the issue said on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้บริหารของ Alibaba ออกมาปฏิเสธรายงานที่ว่าบริษัทมีแผนจะลงทุนใน DeepSeek ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันจากประเทศจีน โดย Yan Qiao รองประธานของ Alibaba ได้โพสต์ใน WeChat ของเธอว่า ข่าวที่ว่า Alibaba จะลงทุนใน DeepSeek นั้นเป็นข่าวลวง

    เนื้อหาหลักของข่าวนี้คือ การที่มีข่าวลือในสื่อจีนว่า Alibaba จะลงทุนเงินถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน DeepSeek แต่ทาง Yan Qiao ได้ออกมาบอกว่านี่ไม่เป็นความจริง โดยกล่าวว่า Alibaba เคารพและยินดีในความสำเร็จของ DeepSeek แต่ไม่มีแผนการลงทุนแต่อย่างใด

    สาระน่าสนใจเพิ่มเติมก็คือ ความสำคัญของข่าวนี้อยู่ที่การแพร่กระจายของข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในยุคของสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งสามารถสร้างความเข้าใจผิดและนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องได้ และเราควรจะมีความรอบคอบในการรับข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการลงทุนทางการเงิน

    การที่ข่าวลือสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วในยุคนี้ทำให้เราต้องมีความรับผิดชอบในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนที่จะเชื่อหรือแบ่งปันต่อไป เพราะแม้แต่ข้อมูลจากแหล่งที่ดูน่าเชื่อถือก็อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/alibaba-exec-says-reports-that-it-plans-to-invest-in-deepseek-are-untrue---the-paper
    ผู้บริหารของ Alibaba ออกมาปฏิเสธรายงานที่ว่าบริษัทมีแผนจะลงทุนใน DeepSeek ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันจากประเทศจีน โดย Yan Qiao รองประธานของ Alibaba ได้โพสต์ใน WeChat ของเธอว่า ข่าวที่ว่า Alibaba จะลงทุนใน DeepSeek นั้นเป็นข่าวลวง เนื้อหาหลักของข่าวนี้คือ การที่มีข่าวลือในสื่อจีนว่า Alibaba จะลงทุนเงินถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐใน DeepSeek แต่ทาง Yan Qiao ได้ออกมาบอกว่านี่ไม่เป็นความจริง โดยกล่าวว่า Alibaba เคารพและยินดีในความสำเร็จของ DeepSeek แต่ไม่มีแผนการลงทุนแต่อย่างใด สาระน่าสนใจเพิ่มเติมก็คือ ความสำคัญของข่าวนี้อยู่ที่การแพร่กระจายของข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในยุคของสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งสามารถสร้างความเข้าใจผิดและนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่ถูกต้องได้ และเราควรจะมีความรอบคอบในการรับข่าวสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการลงทุนทางการเงิน การที่ข่าวลือสามารถแพร่กระจายได้อย่างรวดเร็วในยุคนี้ทำให้เราต้องมีความรับผิดชอบในการตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนที่จะเชื่อหรือแบ่งปันต่อไป เพราะแม้แต่ข้อมูลจากแหล่งที่ดูน่าเชื่อถือก็อาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/07/alibaba-exec-says-reports-that-it-plans-to-invest-in-deepseek-are-untrue---the-paper
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alibaba exec says reports that it plans to invest in DeepSeek are untrue - The Paper
    SHANGHAI (Reuters) - An Alibaba executive has denied reports that the Chinese e-commerce giant intends to invest in DeepSeek, Chinese news outlet The Paper reported on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในที่ทำงานส่งผลดีและไม่ดีต่อพนักงานต่างกลุ่มกัน นักวิจัยจาก Stanford University พบว่าพนักงานที่มีทักษะและความสามารถสูงมักจะทำงานได้แย่ลงเมื่อใช้ AI ในการช่วยทำงาน ขณะที่พนักงานที่มีความสามารถน้อยกว่าจะทำงานได้ดีขึ้นและเสร็จงานเร็วขึ้นเมื่อได้รับความช่วยเหลือจาก AI

    การศึกษานี้ยังพบว่าพนักงานที่ใช้ AI จะสามารถแก้ไขปัญหาได้มากขึ้นต่อชั่วโมง แต่คุณภาพของงานที่ทำโดยพนักงานที่มีทักษะสูงจะลดลง อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ไม่พอใจหรือลูกค้าที่โมโหกลับมีโอกาสน้อยที่จะร้องเรียนเพิ่มเติมเมื่อได้รับการบริการจาก AI แทนที่จะเป็นคนจริง

    หนึ่งในความกังวลเกี่ยวกับ AI คือมันอาจถูกนำมาใช้แทนที่คนงานในหลายงาน และไม่ใช่แค่งานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น ปี 2024 Morgan Stanley คาดการณ์ว่าการรวม AI กับหุ่นยนต์แบบ "มนุษย์" อาจทำให้คนงานฟาร์มและโรงงานหลายล้านคนต้องตกงานภายในกลางศตวรรษนี้

    นอกจากนี้ ทีมวิจัยจาก University of Oxford กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า AI เช่น ChatGPT อาจทำให้ความต้องการคนทำงานที่มีงานเขียนที่ซ้ำซ้อนน้อยลง แต่จะสร้างงานใหม่ที่ต้องใช้ทักษะที่เสริมกับ AI แทน

    ถึงแม้จะมีความกลัวเกี่ยวกับการสูญเสียงานจำนวนมาก แต่การศึกษานี้เสนอแนวคิดว่าผลกระทบของ AI จะสมดุลมากขึ้นในความเป็นจริง

    นักวิจัยยังกล่าวถึงปัญหาที่เรียกว่า "การหลงผิด" ของ AI ซึ่งหมายถึงการให้คำตอบที่ไม่ถูกต้องหรือไร้สาระตามคำถามที่ส่งเข้ามา แต่ผู้เสนอ AI เชื่อว่าเทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและอาจจะทำงานเก่งกว่ามนุษย์ในหลายๆ งานในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

    เป็นเรื่องน่าสนใจว่าในยุคที่ AI กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนี้ เราควรพิจารณาถึงการปรับตัวและการพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกของเรา อย่าลืมว่าการเปลี่ยนแปลงคือโอกาสที่ดีเสมอ!

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/08/ai-helps-some-workers-but-hinders-those-with-skill-know-how---study
    มีการศึกษาที่แสดงให้เห็นว่าการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในที่ทำงานส่งผลดีและไม่ดีต่อพนักงานต่างกลุ่มกัน นักวิจัยจาก Stanford University พบว่าพนักงานที่มีทักษะและความสามารถสูงมักจะทำงานได้แย่ลงเมื่อใช้ AI ในการช่วยทำงาน ขณะที่พนักงานที่มีความสามารถน้อยกว่าจะทำงานได้ดีขึ้นและเสร็จงานเร็วขึ้นเมื่อได้รับความช่วยเหลือจาก AI การศึกษานี้ยังพบว่าพนักงานที่ใช้ AI จะสามารถแก้ไขปัญหาได้มากขึ้นต่อชั่วโมง แต่คุณภาพของงานที่ทำโดยพนักงานที่มีทักษะสูงจะลดลง อย่างไรก็ตาม ลูกค้าที่ไม่พอใจหรือลูกค้าที่โมโหกลับมีโอกาสน้อยที่จะร้องเรียนเพิ่มเติมเมื่อได้รับการบริการจาก AI แทนที่จะเป็นคนจริง หนึ่งในความกังวลเกี่ยวกับ AI คือมันอาจถูกนำมาใช้แทนที่คนงานในหลายงาน และไม่ใช่แค่งานที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เท่านั้น ปี 2024 Morgan Stanley คาดการณ์ว่าการรวม AI กับหุ่นยนต์แบบ "มนุษย์" อาจทำให้คนงานฟาร์มและโรงงานหลายล้านคนต้องตกงานภายในกลางศตวรรษนี้ นอกจากนี้ ทีมวิจัยจาก University of Oxford กล่าวเมื่อเดือนที่แล้วว่า AI เช่น ChatGPT อาจทำให้ความต้องการคนทำงานที่มีงานเขียนที่ซ้ำซ้อนน้อยลง แต่จะสร้างงานใหม่ที่ต้องใช้ทักษะที่เสริมกับ AI แทน ถึงแม้จะมีความกลัวเกี่ยวกับการสูญเสียงานจำนวนมาก แต่การศึกษานี้เสนอแนวคิดว่าผลกระทบของ AI จะสมดุลมากขึ้นในความเป็นจริง นักวิจัยยังกล่าวถึงปัญหาที่เรียกว่า "การหลงผิด" ของ AI ซึ่งหมายถึงการให้คำตอบที่ไม่ถูกต้องหรือไร้สาระตามคำถามที่ส่งเข้ามา แต่ผู้เสนอ AI เชื่อว่าเทคโนโลยีกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วและอาจจะทำงานเก่งกว่ามนุษย์ในหลายๆ งานในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เป็นเรื่องน่าสนใจว่าในยุคที่ AI กำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วนี้ เราควรพิจารณาถึงการปรับตัวและการพัฒนาทักษะใหม่ๆ เพื่อให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในโลกของเรา อย่าลืมว่าการเปลี่ยนแปลงคือโอกาสที่ดีเสมอ! https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/08/ai-helps-some-workers-but-hinders-those-with-skill-know-how---study
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI helps some workers but hinders those with skill, know-how – study
    Experienced and productive employees who use artificial intelligence (AI) on the job often end up diminishing the quality of their work, according to researchers at Stanford University.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เกี่ยวกับการสร้างบล็อกส่วนตัวเพื่อให้มีพื้นที่และเสรีภาพในการแชร์เนื้อหาของคุณเอง ในยุคที่การใช้โซเชียลมีเดียกำลังเป็นที่นิยม หลายคนอาจสงสัยว่ายังมีความจำเป็นในการสร้างบล็อกส่วนตัวหรือไม่

    Elisabeth Winkler ผู้เขียนบทความกล่าวว่า การมีบล็อกส่วนตัวให้เสรีภาพในการออกแบบและเนื้อหาโดยไม่ถูกจำกัดโดยแนวทางของแพลตฟอร์ม คุณสามารถเผยแพร่เนื้อหาที่มีความยาวได้มากขึ้น และรวบรวมความสนใจของคุณทั้งหมดในหน้าหนึ่ง

    Insa Schniedermeier ผู้ที่เขียนบล็อกเกี่ยวกับสุขภาพสตรี ระบุว่าการมีบล็อกส่วนตัวนั้นมีคุณค่ามาก เพราะให้เสรีภาพในการออกแบบและเนื้อหาโดยไม่มีข้อจำกัด นอกจากนี้ เธอยังแนะนำว่าหากต้องการเริ่มต้นบล็อก ควรถามตัวเองด้วยคำถามเกี่ยวกับแนวคิดก่อน เช่น เรื่องที่อยากเขียน กลุ่มเป้าหมาย บล็อกที่คล้ายกันที่มีอยู่แล้ว และเวลาที่สามารถทุ่มเทให้กับการเขียนบล็อก

    Lina Wöstmann ที่ปรึกษาด้านนโยบายสื่อและแพลตฟอร์มที่ Bitkom ระบุว่าการเลือกหัวข้อที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลวของบล็อกใหม่ ควรใช้เครื่องมือค้นหาศึกษาคอนเทนต์ที่มีอยู่ และลองเขียนหัวข้อบทความคร่าวๆ เพื่อวัดว่าหัวข้อที่เลือกมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด

    การเลือกแพลตฟอร์มสำหรับการเผยแพร่บล็อกก็สำคัญ คุณสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ให้บริการฟรี เช่น Wordpress, Blogger, Tumblr หรือโฮสต์บล็อกด้วยตัวเอง แต่ต้องเตรียมตัวรับมือกับความยากลำบากทางเทคนิคและค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น

    การโปรโมตบล็อกโดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ดี เพื่อดึงดูดความสนใจมาที่เนื้อหาของคุณ Schniedermeier ยังระบุว่าการไม่ใช้โซเชียลมีเดียในการโปรโมตบล็อกเป็นการเสียโอกาส

    การมีบล็อกส่วนตัวนั้นไม่เพียงแต่ให้พื้นที่และเสรีภาพในการแชร์เนื้อหาของคุณเอง แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างเนื้อหาที่ยั่งยืนและเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งอีกด้วย!

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/08/start-your-own-blog-for-more-space-and-freedom-to-share-your-material
    ข่าวนี้เกี่ยวกับการสร้างบล็อกส่วนตัวเพื่อให้มีพื้นที่และเสรีภาพในการแชร์เนื้อหาของคุณเอง ในยุคที่การใช้โซเชียลมีเดียกำลังเป็นที่นิยม หลายคนอาจสงสัยว่ายังมีความจำเป็นในการสร้างบล็อกส่วนตัวหรือไม่ Elisabeth Winkler ผู้เขียนบทความกล่าวว่า การมีบล็อกส่วนตัวให้เสรีภาพในการออกแบบและเนื้อหาโดยไม่ถูกจำกัดโดยแนวทางของแพลตฟอร์ม คุณสามารถเผยแพร่เนื้อหาที่มีความยาวได้มากขึ้น และรวบรวมความสนใจของคุณทั้งหมดในหน้าหนึ่ง Insa Schniedermeier ผู้ที่เขียนบล็อกเกี่ยวกับสุขภาพสตรี ระบุว่าการมีบล็อกส่วนตัวนั้นมีคุณค่ามาก เพราะให้เสรีภาพในการออกแบบและเนื้อหาโดยไม่มีข้อจำกัด นอกจากนี้ เธอยังแนะนำว่าหากต้องการเริ่มต้นบล็อก ควรถามตัวเองด้วยคำถามเกี่ยวกับแนวคิดก่อน เช่น เรื่องที่อยากเขียน กลุ่มเป้าหมาย บล็อกที่คล้ายกันที่มีอยู่แล้ว และเวลาที่สามารถทุ่มเทให้กับการเขียนบล็อก Lina Wöstmann ที่ปรึกษาด้านนโยบายสื่อและแพลตฟอร์มที่ Bitkom ระบุว่าการเลือกหัวข้อที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงความล้มเหลวของบล็อกใหม่ ควรใช้เครื่องมือค้นหาศึกษาคอนเทนต์ที่มีอยู่ และลองเขียนหัวข้อบทความคร่าวๆ เพื่อวัดว่าหัวข้อที่เลือกมีศักยภาพมากน้อยเพียงใด การเลือกแพลตฟอร์มสำหรับการเผยแพร่บล็อกก็สำคัญ คุณสามารถเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ให้บริการฟรี เช่น Wordpress, Blogger, Tumblr หรือโฮสต์บล็อกด้วยตัวเอง แต่ต้องเตรียมตัวรับมือกับความยากลำบากทางเทคนิคและค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น การโปรโมตบล็อกโดยใช้โซเชียลมีเดียเป็นวิธีที่ดี เพื่อดึงดูดความสนใจมาที่เนื้อหาของคุณ Schniedermeier ยังระบุว่าการไม่ใช้โซเชียลมีเดียในการโปรโมตบล็อกเป็นการเสียโอกาส การมีบล็อกส่วนตัวนั้นไม่เพียงแต่ให้พื้นที่และเสรีภาพในการแชร์เนื้อหาของคุณเอง แต่ยังเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างเนื้อหาที่ยั่งยืนและเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายอย่างลึกซึ้งอีกด้วย! https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/08/start-your-own-blog-for-more-space-and-freedom-to-share-your-material
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Start your own blog for more space and freedom to share your material
    Open the app, select a photo from your gallery, put a filter on it, write a funny caption, and post it. Or express something in 160 characters along with a couple of smart hashtags. It only takes a few taps to share pictures or thoughts on Instagram, X, and other social media platforms.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว