ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว AI กลายเป็นเครื่องมือที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างหลากหลาย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสำเร็จของคนธรรมดาที่สามารถทำเงินจาก AI ได้
เราจะยกตัวอย่างเรื่องราวความสำเร็จของ Cal AI กันครับ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Zach Yadegari และ Henry Langmack สองนักเรียนวัย 17 ปี ได้พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อ "Cal AI" ที่ใช้เทคโนโลยี GPT ในการตรวจนับแคลอรี่ แอปพลิเคชันนี้สามารถวิเคราะห์รูปภาพและสแกนบาร์โค้ดเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ด้วยความสำเร็จที่น่าทึ่ง แอปพลิเคชันนี้มีผู้ดาวน์โหลดกว่า 1 ล้านครั้งและทำรายได้ต่อปีถึง 12 ล้านดอลลาร์ จากทีมงานเพียง 17 คน
สิ่งที่ Cal AI ใช้คือสิ่งที่เราเรียกว่า "GPT Wrapper"
GPT Wrapper คือโปรแกรมที่สร้างอินเตอร์เฟซสำหรับผู้ใช้ที่นำความสามารถของ GPT มาปรับใช้ให้เหมาะสม เพื่อให้การใช้งานของ AI ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันสำหรับการเขียนบทความหรือการเรียนรู้ภาษา ซึ่งการพัฒนา GPT Wrapper นั้นช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเข้าสู่ตลาด และลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบ AI ของตนเอง
ข้อดีและข้อเสียของการพัฒนา GPT Wrapper
- ข้อดี: มีโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างไว้แล้ว, ความรวดเร็วในการเข้าสู่ตลาด, และประหยัดต้นทุนการพัฒนา
- ข้อเสีย: ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ, ความยากลำบากในการขยายตัว, และความแตกต่างที่จำกัด
แนวคิดในการสร้างธุรกิจ ด้วย GPT Wrapper:
1) การสร้างความเข้าใจในปัญหา: ค้นหาปัญหาที่ผู้คนต้องการแก้ไข และสร้างแอปที่ตอบโจทย์
2) การสร้างชุมชน: พูดคุยกับผู้ใช้ที่มีศักยภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลและความเห็นในการพัฒนาแอป
3)การตลาดและการเติบโต: สร้างชุมชนออนไลน์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และใช้แพลตฟอร์มเช่น TikTok และ Instagram เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์
สรุปคือ การสร้างแอปพลิเคชันด้วย AI ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีความเข้าใจในปัญหาและนำแนวคิดใหม่ๆ มาปรับใช้ คุณก็สามารถสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ด้วย AI เหมือนที่ Cal AI ทำ
https://www.zdnet.com/article/from-zero-to-millions-how-regular-people-are-cashing-in-on-ai/
เราจะยกตัวอย่างเรื่องราวความสำเร็จของ Cal AI กันครับ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Zach Yadegari และ Henry Langmack สองนักเรียนวัย 17 ปี ได้พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อ "Cal AI" ที่ใช้เทคโนโลยี GPT ในการตรวจนับแคลอรี่ แอปพลิเคชันนี้สามารถวิเคราะห์รูปภาพและสแกนบาร์โค้ดเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ด้วยความสำเร็จที่น่าทึ่ง แอปพลิเคชันนี้มีผู้ดาวน์โหลดกว่า 1 ล้านครั้งและทำรายได้ต่อปีถึง 12 ล้านดอลลาร์ จากทีมงานเพียง 17 คน
สิ่งที่ Cal AI ใช้คือสิ่งที่เราเรียกว่า "GPT Wrapper"
GPT Wrapper คือโปรแกรมที่สร้างอินเตอร์เฟซสำหรับผู้ใช้ที่นำความสามารถของ GPT มาปรับใช้ให้เหมาะสม เพื่อให้การใช้งานของ AI ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันสำหรับการเขียนบทความหรือการเรียนรู้ภาษา ซึ่งการพัฒนา GPT Wrapper นั้นช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเข้าสู่ตลาด และลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบ AI ของตนเอง
ข้อดีและข้อเสียของการพัฒนา GPT Wrapper
- ข้อดี: มีโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างไว้แล้ว, ความรวดเร็วในการเข้าสู่ตลาด, และประหยัดต้นทุนการพัฒนา
- ข้อเสีย: ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ, ความยากลำบากในการขยายตัว, และความแตกต่างที่จำกัด
แนวคิดในการสร้างธุรกิจ ด้วย GPT Wrapper:
1) การสร้างความเข้าใจในปัญหา: ค้นหาปัญหาที่ผู้คนต้องการแก้ไข และสร้างแอปที่ตอบโจทย์
2) การสร้างชุมชน: พูดคุยกับผู้ใช้ที่มีศักยภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลและความเห็นในการพัฒนาแอป
3)การตลาดและการเติบโต: สร้างชุมชนออนไลน์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และใช้แพลตฟอร์มเช่น TikTok และ Instagram เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์
สรุปคือ การสร้างแอปพลิเคชันด้วย AI ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีความเข้าใจในปัญหาและนำแนวคิดใหม่ๆ มาปรับใช้ คุณก็สามารถสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ด้วย AI เหมือนที่ Cal AI ทำ
https://www.zdnet.com/article/from-zero-to-millions-how-regular-people-are-cashing-in-on-ai/
ในโลกที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว AI กลายเป็นเครื่องมือที่นำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างหลากหลาย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวความสำเร็จของคนธรรมดาที่สามารถทำเงินจาก AI ได้
เราจะยกตัวอย่างเรื่องราวความสำเร็จของ Cal AI กันครับ เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ Zach Yadegari และ Henry Langmack สองนักเรียนวัย 17 ปี ได้พัฒนาแอปพลิเคชันชื่อ "Cal AI" ที่ใช้เทคโนโลยี GPT ในการตรวจนับแคลอรี่ แอปพลิเคชันนี้สามารถวิเคราะห์รูปภาพและสแกนบาร์โค้ดเพื่อความสะดวกในการใช้งาน ด้วยความสำเร็จที่น่าทึ่ง แอปพลิเคชันนี้มีผู้ดาวน์โหลดกว่า 1 ล้านครั้งและทำรายได้ต่อปีถึง 12 ล้านดอลลาร์ จากทีมงานเพียง 17 คน
สิ่งที่ Cal AI ใช้คือสิ่งที่เราเรียกว่า "GPT Wrapper"
GPT Wrapper คือโปรแกรมที่สร้างอินเตอร์เฟซสำหรับผู้ใช้ที่นำความสามารถของ GPT มาปรับใช้ให้เหมาะสม เพื่อให้การใช้งานของ AI ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น แอปพลิเคชันสำหรับการเขียนบทความหรือการเรียนรู้ภาษา ซึ่งการพัฒนา GPT Wrapper นั้นช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเข้าสู่ตลาด และลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาระบบ AI ของตนเอง
ข้อดีและข้อเสียของการพัฒนา GPT Wrapper
- ข้อดี: มีโครงสร้างพื้นฐานที่สร้างไว้แล้ว, ความรวดเร็วในการเข้าสู่ตลาด, และประหยัดต้นทุนการพัฒนา
- ข้อเสีย: ข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ, ความยากลำบากในการขยายตัว, และความแตกต่างที่จำกัด
แนวคิดในการสร้างธุรกิจ ด้วย GPT Wrapper:
1) การสร้างความเข้าใจในปัญหา: ค้นหาปัญหาที่ผู้คนต้องการแก้ไข และสร้างแอปที่ตอบโจทย์
2) การสร้างชุมชน: พูดคุยกับผู้ใช้ที่มีศักยภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลและความเห็นในการพัฒนาแอป
3)การตลาดและการเติบโต: สร้างชุมชนออนไลน์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ และใช้แพลตฟอร์มเช่น TikTok และ Instagram เพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์
สรุปคือ การสร้างแอปพลิเคชันด้วย AI ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่มีความเข้าใจในปัญหาและนำแนวคิดใหม่ๆ มาปรับใช้ คุณก็สามารถสร้างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จได้ด้วย AI เหมือนที่ Cal AI ทำ
https://www.zdnet.com/article/from-zero-to-millions-how-regular-people-are-cashing-in-on-ai/
0 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
59 มุมมอง
0 รีวิว