• โปรตีนจากนมพืช 1 แถม 1 ครับ
    โปรตีนจากนมพืช 1 แถม 1 ครับ
    0 Comments 0 Shares 83 Views 0 Reviews
  • 'สหภาพโซเวียต้องเสียสละอย่างมากในสงครามโลกครั้งที่สอง'

    เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ตอบโต้คำกล่าวอ้างของทรัมป์เกี่ยวกับชัยชนะที่ "รัสเซียช่วยเหลือ" จนทำให้ "สหรัฐชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2

    เปสคอฟยังเน้นย้ำอีกว่า อเมริกาเป็นเพียงประเทศที่กอบโกยเงินทองเท่านั้น
    'สหภาพโซเวียต้องเสียสละอย่างมากในสงครามโลกครั้งที่สอง' เปสคอฟ โฆษกเครมลิน ตอบโต้คำกล่าวอ้างของทรัมป์เกี่ยวกับชัยชนะที่ "รัสเซียช่วยเหลือ" จนทำให้ "สหรัฐชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 เปสคอฟยังเน้นย้ำอีกว่า อเมริกาเป็นเพียงประเทศที่กอบโกยเงินทองเท่านั้น
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 477 Views 18 0 Reviews
  • บล็อกไขมัน เบรินไขมัน ช่วยเผาผลาญแครอรี่
    บล็อกไขมัน เบรินไขมัน ช่วยเผาผลาญแครอรี่
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 96 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 330 Views 1 0 Reviews
  • #รับงานเอกสาร

    **เช็คหมายจับ/ประวัติอาชญากรรม

    **เช็คทะเบียนราษ ดึงสำเนาบัตร ทะเบียนบ้าน

    **เช็คใบสั่ง ดึงหน้าเล่มรถ

    **เช็คประกันสังคม/สืบชื่อผู้ลงทะเบียนซิม

    **ใบป.4(เอกสารไว้คุมปืนหรือกระสุน)

    **สืบทรัพย์/บังคับคดี

    **รับซื้อหนี้เสียที่มีหลักฐานวงเงินห้าหมื่นบาทขึ้นไป

    **เร่งรัดหนี้สิน/ส่งหนังสือทวงถาม

    **ดำเนินการเกี่ยวกับนิติกรรมได้ทุกรูปแบบ ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและอนุญาติให้กระทำแทนได้.

    #โทร@ ID:Line 0956651122 #ยินดีรับใช้ครับ

    #มีค่าใช้จ่ายดำเนินการ
    #รับงานเอกสาร **เช็คหมายจับ/ประวัติอาชญากรรม **เช็คทะเบียนราษ ดึงสำเนาบัตร ทะเบียนบ้าน **เช็คใบสั่ง ดึงหน้าเล่มรถ **เช็คประกันสังคม/สืบชื่อผู้ลงทะเบียนซิม **ใบป.4(เอกสารไว้คุมปืนหรือกระสุน) **สืบทรัพย์/บังคับคดี **รับซื้อหนี้เสียที่มีหลักฐานวงเงินห้าหมื่นบาทขึ้นไป **เร่งรัดหนี้สิน/ส่งหนังสือทวงถาม **ดำเนินการเกี่ยวกับนิติกรรมได้ทุกรูปแบบ ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและอนุญาติให้กระทำแทนได้. #โทร@ ID:Line 0956651122 #ยินดีรับใช้ครับ #มีค่าใช้จ่ายดำเนินการ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 240 Views 0 Reviews
  • ดอกผักบุ้ง (สีขาว) ดอกมะเขื่อ (สีม่วง) ดอกโกศล (ที่เป็นหนามๆ)
    ดอกผักบุ้ง (สีขาว) ดอกมะเขื่อ (สีม่วง) ดอกโกศล (ที่เป็นหนามๆ)
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 47 Views 0 Reviews
  • เนทันยาฮู โพสต์ข้อความถึงอีลอน มัสก์ ซึ่งขณะนี้เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยกล่าวว่า อีลอน มัสก์ถูกใส่ร้ายว่าเป็นพวกนาซีอย่างผิดๆ และเขา "เป็นเพื่อนที่ดีของอิสราเอล"
    เนทันยาฮู โพสต์ข้อความถึงอีลอน มัสก์ ซึ่งขณะนี้เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ โดยกล่าวว่า อีลอน มัสก์ถูกใส่ร้ายว่าเป็นพวกนาซีอย่างผิดๆ และเขา "เป็นเพื่อนที่ดีของอิสราเอล"
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 217 Views 0 Reviews
  • อาหารพกพายามเดินทางไกล

    สัปดาห์ที่แล้วคุยเรื่องเสบียงอาหารของกองทัพ ก็เลยมีความสงสัยว่า แล้วประชาชนธรรมดาเวลาเดินทางไกลกินอะไรกัน? วันนี้เรามาคุยกันสั้นๆ เรื่องนี้ค่ะ

    ในสมัยนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่มีรถม้าและพักแรมกินอาหารตามโรงเตี๊ยมได้ ระยะทางก็ยาวไกล ไม่สะดวกแบกสัมภาระมาก ภาพที่เราเห็นบ่อยในซีรีส์คือสะพายห่อผ้าเดินเท้ากัน และอาหารที่พกก็คือเปี๊ยะหรือแผ่นแป้งปิ้งที่คุยกันไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid021ovimRULhAa1TBPph1nXsGVcPHbNM5ABmNwrzEahckFTPhq1zhUQ4n1aNAjDVuGNl)

    จริงๆ แล้วการทำเปี๊ยะปิ้งไม่ใช่งานง่ายนัก กว่าจะนวดแป้ง (ไม่นับชาวบ้านชนบทที่อาจต้องโม่แป้งเอง) ไหนจะต้องคอยดูไฟไม่ให้แรงเกินไป คอยพลิกแผ่นเปี๊ยะไปมา ทั้งหมดต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง อีกทั้งข้าวสาลียังแพงกว่าข้าวฟ่าง ไม่ว่าจะทำเปี๊ยะเองหรือหาซื้อ ล้วนสิ้นเปลืองทุนทรัพย์ ดังนั้น หากมีทางเลือกที่ง่ายกว่าประหยัดกว่า ย่อมเป็นที่นิยมของชาวบ้าน

    อีกทางเลือกที่ว่านี้คือ ‘ฉิ่ว’ (糗) เป็นอาหารแห้งสมัยโบราณ คิดค้นกันขึ้นเมื่อใดก็ไม่ทราบได้ แต่มีการกล่าวถึงในบันทึกพิธีการราชวงศ์โจว หรือ บันทึกโจวหลี่ว่า ‘ฉิวเอ่อร์เฝิ่นฉือ’(糗饵粉飺) คือก้อนข้าวและแผ่นแป้ง แต่จริงๆ แผ่นแป้งที่ว่านี้ไม่ใช่เปี๊ยะ ส่วนผสมมันเหมือนกันกับฉิ่ว เพียงแต่ฉิ่วหมายถึงปั้นเป็นก้อน ในขณะที่ฉือคือบี้ให้แบนเป็นแผ่น

    แล้วมันคืออะไร?

    มันคือการเอาข้าวที่นึ่งสุกแล้วมาใส่น้ำเล็กน้อยแล้วบีบหรือทุบให้เละเพื่อจะได้จับตัวกัน เสร็จแล้วปั้นเป็นก้อน (คือฉิ่ว) หรือบี้แบนเป็นแผ่น (คือฉือ) แล้วนำไปตากแห้ง แห้งแล้วก็จะหน้าตาคล้ายข้าวตังบ้านเรา ปัจจุบันของจีนเขาก็มีขนมหน้าตาคล้ายกันเรียกว่า ‘กัวปา’ (锅巴) (ดูรูปประกอบ) ซึ่งข้าวที่ว่านี้ในสมัยโบราณก่อนยุคหมิงคือข้าวฟ่างเป็นหลัก

    หน้าตาคล้าย แต่รสชาติไม่กรอบร่วนเหมือนข้าวเกรียบกัวปาปัจจุบัน เนื้อของฉิ่วก็จะแน่นๆ แข็งๆ แน่นอนว่ามันเป็นอาหารกินกันตาย ไม่ใช่กินเพื่อความจรรโลงใจ ชาวบ้านยามเดินทางไกลก็ห่อฉิ่วในผ้าบางหรือตะกร้าเล็กซุกไว้ในห่อผ้า เก็บได้นานถึงเกือบครึ่งเดือน เวลาจะกินก็คล้ายกับการกินเปี๊ยะกัวคุยที่กล่าวถึงไปในสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวคือจิ้มน้ำจิ้มให้ชุ่มและนุ่มลงแล้วค่อยกิน บางคนก็มีผักดองหรือเนื้อหมักแห้งพกมากินแกล้มด้วย หรือหากมีโอกาสได้น้ำร้อนน้ำแกงก็เอาฉิ่วจุ้ม/แช่ให้นุ่มแล้วกินก็ได้เช่นกัน นึกภาพว่าข้าวชามหนึ่งสามารถอัดเป็นก้อนได้ขนาดเล็ก ดังนั้นเห็นก้อนเล็กๆ ก็อิ่มไม่น้อย พกจากบ้านไปก็ประหยัดทรัพย์ไปได้หลายวัน

    น้ำจิ้มที่ใช้ก็พวกถั่วหมักเค็มหรือเต้าเจี้ยว ใส่เครื่องปรุงอย่างอื่นบ้าง ใส่ขิงซอยขิงสับบ้าง แต่น้ำจิ้มเป็นน้ำ เขาพกพากันอย่างไร? ง่ายๆ คือเอาไปตากแดดจนน้ำระเหย จาก ‘น้ำ’ จิ้มก็กลายเป็น ‘เปียก’ จิ้ม... คือข้นๆ เหนียวๆ เสร็จแล้วก็ห่อในกระดาษน้ำมัน พกพาได้ง่าย เวลาจะกินก็แบ่งออกมาเติมน้ำผสมให้เหลวหน่อย

    น้ำจิ้มมันเค็มจึงมักมีการตัดเค็มด้วยน้ำส้มสายชู แต่วิธีการพกน้ำส้มสายชูเป็นอะไรที่ Storyฯ ยอมรับว่าเหนือความคาดหมายของข้าพเจ้าเอง สมัยนั้นมีไหมีขวดให้ใช้บรรจุน้ำส้มสายชูได้แต่ก็ไม่สามารถพกติดตัวได้ในปริมาณมาก อีกทั้งยังส่งกลิ่นแรง (มันซึมผ่านผ้าที่จุกฝา) ดังนั้นวิธีพกคือใช้ผ้าสะอาดตัดเป็นแถบแล้วแช่ในน้ำส้มสายชู จากนั้นนำมาตากแห้ง พกเป็นผ้าไป เวลาจะกินก็ตัดผ้าชิ้นเล็กออกมาแช่ในน้ำก็จะได้รสชาติของน้ำส้มสายชูแล้ว

    และไม่ว่าจะเป็นฉิ่ว หรือน้ำจิ้ม หรือวิธีพกน้ำส้มสายชูที่กล่าวถึงข้างต้น ไม่เพียงใช้โดยชาวบ้านธรรมดา แต่ในกองทัพก็ใช้เช่นกัน Storyฯ หาไม่พบข้อมูลว่าฉิ่วหายไปจากวิถีชีวิตของชาวบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ สันนิษฐานเอาเองว่าหายไปเมื่อสารพัดชนิดของเปี๊ยะมีมากขึ้นและราคาถูกลง

    เชื่อว่าวิธีเตรียมและพกพาอาหารแห้งเหล่านี้ ของไทยเราก็น่าจะมีอะไรคล้ายคลึงที่สืบทอดเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านมาเช่นกัน แต่ Storyฯ ไม่รู้จักมากนัก ใครมีเรื่องเล่าที่ฟังมาจากผู้ใหญ่หรือคนรุ่นก่อน นำมาเล่าแบ่งปันกันด้วยนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก:
    https://www.sohu.com/a/690825754_121115947
    https://www.sohu.com/a/712914583_121338666
    https://m.fx361.com/news/2022/0630/10495172.html
    https://www.sohu.com/a/443453413_120946747
    https://www.sohu.com/a/476806140_120018480
    https://cidian.qianp.com/ci/%E7%B3%97%E9%A5%B5
    https://www.zhihu.com/question/558888787/answer/2718324984
    https://www.meishichina.com/mofang/shaobing/

    #สยบรักจอมเสเพล #กัวปา #ฉิ่ว #เสบียงแห้งโบราณ
    อาหารพกพายามเดินทางไกล สัปดาห์ที่แล้วคุยเรื่องเสบียงอาหารของกองทัพ ก็เลยมีความสงสัยว่า แล้วประชาชนธรรมดาเวลาเดินทางไกลกินอะไรกัน? วันนี้เรามาคุยกันสั้นๆ เรื่องนี้ค่ะ ในสมัยนั้น ไม่ใช่ทุกคนที่มีรถม้าและพักแรมกินอาหารตามโรงเตี๊ยมได้ ระยะทางก็ยาวไกล ไม่สะดวกแบกสัมภาระมาก ภาพที่เราเห็นบ่อยในซีรีส์คือสะพายห่อผ้าเดินเท้ากัน และอาหารที่พกก็คือเปี๊ยะหรือแผ่นแป้งปิ้งที่คุยกันไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid021ovimRULhAa1TBPph1nXsGVcPHbNM5ABmNwrzEahckFTPhq1zhUQ4n1aNAjDVuGNl) จริงๆ แล้วการทำเปี๊ยะปิ้งไม่ใช่งานง่ายนัก กว่าจะนวดแป้ง (ไม่นับชาวบ้านชนบทที่อาจต้องโม่แป้งเอง) ไหนจะต้องคอยดูไฟไม่ให้แรงเกินไป คอยพลิกแผ่นเปี๊ยะไปมา ทั้งหมดต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง อีกทั้งข้าวสาลียังแพงกว่าข้าวฟ่าง ไม่ว่าจะทำเปี๊ยะเองหรือหาซื้อ ล้วนสิ้นเปลืองทุนทรัพย์ ดังนั้น หากมีทางเลือกที่ง่ายกว่าประหยัดกว่า ย่อมเป็นที่นิยมของชาวบ้าน อีกทางเลือกที่ว่านี้คือ ‘ฉิ่ว’ (糗) เป็นอาหารแห้งสมัยโบราณ คิดค้นกันขึ้นเมื่อใดก็ไม่ทราบได้ แต่มีการกล่าวถึงในบันทึกพิธีการราชวงศ์โจว หรือ บันทึกโจวหลี่ว่า ‘ฉิวเอ่อร์เฝิ่นฉือ’(糗饵粉飺) คือก้อนข้าวและแผ่นแป้ง แต่จริงๆ แผ่นแป้งที่ว่านี้ไม่ใช่เปี๊ยะ ส่วนผสมมันเหมือนกันกับฉิ่ว เพียงแต่ฉิ่วหมายถึงปั้นเป็นก้อน ในขณะที่ฉือคือบี้ให้แบนเป็นแผ่น แล้วมันคืออะไร? มันคือการเอาข้าวที่นึ่งสุกแล้วมาใส่น้ำเล็กน้อยแล้วบีบหรือทุบให้เละเพื่อจะได้จับตัวกัน เสร็จแล้วปั้นเป็นก้อน (คือฉิ่ว) หรือบี้แบนเป็นแผ่น (คือฉือ) แล้วนำไปตากแห้ง แห้งแล้วก็จะหน้าตาคล้ายข้าวตังบ้านเรา ปัจจุบันของจีนเขาก็มีขนมหน้าตาคล้ายกันเรียกว่า ‘กัวปา’ (锅巴) (ดูรูปประกอบ) ซึ่งข้าวที่ว่านี้ในสมัยโบราณก่อนยุคหมิงคือข้าวฟ่างเป็นหลัก หน้าตาคล้าย แต่รสชาติไม่กรอบร่วนเหมือนข้าวเกรียบกัวปาปัจจุบัน เนื้อของฉิ่วก็จะแน่นๆ แข็งๆ แน่นอนว่ามันเป็นอาหารกินกันตาย ไม่ใช่กินเพื่อความจรรโลงใจ ชาวบ้านยามเดินทางไกลก็ห่อฉิ่วในผ้าบางหรือตะกร้าเล็กซุกไว้ในห่อผ้า เก็บได้นานถึงเกือบครึ่งเดือน เวลาจะกินก็คล้ายกับการกินเปี๊ยะกัวคุยที่กล่าวถึงไปในสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวคือจิ้มน้ำจิ้มให้ชุ่มและนุ่มลงแล้วค่อยกิน บางคนก็มีผักดองหรือเนื้อหมักแห้งพกมากินแกล้มด้วย หรือหากมีโอกาสได้น้ำร้อนน้ำแกงก็เอาฉิ่วจุ้ม/แช่ให้นุ่มแล้วกินก็ได้เช่นกัน นึกภาพว่าข้าวชามหนึ่งสามารถอัดเป็นก้อนได้ขนาดเล็ก ดังนั้นเห็นก้อนเล็กๆ ก็อิ่มไม่น้อย พกจากบ้านไปก็ประหยัดทรัพย์ไปได้หลายวัน น้ำจิ้มที่ใช้ก็พวกถั่วหมักเค็มหรือเต้าเจี้ยว ใส่เครื่องปรุงอย่างอื่นบ้าง ใส่ขิงซอยขิงสับบ้าง แต่น้ำจิ้มเป็นน้ำ เขาพกพากันอย่างไร? ง่ายๆ คือเอาไปตากแดดจนน้ำระเหย จาก ‘น้ำ’ จิ้มก็กลายเป็น ‘เปียก’ จิ้ม... คือข้นๆ เหนียวๆ เสร็จแล้วก็ห่อในกระดาษน้ำมัน พกพาได้ง่าย เวลาจะกินก็แบ่งออกมาเติมน้ำผสมให้เหลวหน่อย น้ำจิ้มมันเค็มจึงมักมีการตัดเค็มด้วยน้ำส้มสายชู แต่วิธีการพกน้ำส้มสายชูเป็นอะไรที่ Storyฯ ยอมรับว่าเหนือความคาดหมายของข้าพเจ้าเอง สมัยนั้นมีไหมีขวดให้ใช้บรรจุน้ำส้มสายชูได้แต่ก็ไม่สามารถพกติดตัวได้ในปริมาณมาก อีกทั้งยังส่งกลิ่นแรง (มันซึมผ่านผ้าที่จุกฝา) ดังนั้นวิธีพกคือใช้ผ้าสะอาดตัดเป็นแถบแล้วแช่ในน้ำส้มสายชู จากนั้นนำมาตากแห้ง พกเป็นผ้าไป เวลาจะกินก็ตัดผ้าชิ้นเล็กออกมาแช่ในน้ำก็จะได้รสชาติของน้ำส้มสายชูแล้ว และไม่ว่าจะเป็นฉิ่ว หรือน้ำจิ้ม หรือวิธีพกน้ำส้มสายชูที่กล่าวถึงข้างต้น ไม่เพียงใช้โดยชาวบ้านธรรมดา แต่ในกองทัพก็ใช้เช่นกัน Storyฯ หาไม่พบข้อมูลว่าฉิ่วหายไปจากวิถีชีวิตของชาวบ้านตั้งแต่เมื่อไหร่ สันนิษฐานเอาเองว่าหายไปเมื่อสารพัดชนิดของเปี๊ยะมีมากขึ้นและราคาถูกลง เชื่อว่าวิธีเตรียมและพกพาอาหารแห้งเหล่านี้ ของไทยเราก็น่าจะมีอะไรคล้ายคลึงที่สืบทอดเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านมาเช่นกัน แต่ Storyฯ ไม่รู้จักมากนัก ใครมีเรื่องเล่าที่ฟังมาจากผู้ใหญ่หรือคนรุ่นก่อน นำมาเล่าแบ่งปันกันด้วยนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลเรียบเรียงจาก: https://www.sohu.com/a/690825754_121115947 https://www.sohu.com/a/712914583_121338666 https://m.fx361.com/news/2022/0630/10495172.html https://www.sohu.com/a/443453413_120946747 https://www.sohu.com/a/476806140_120018480 https://cidian.qianp.com/ci/%E7%B3%97%E9%A5%B5 https://www.zhihu.com/question/558888787/answer/2718324984 https://www.meishichina.com/mofang/shaobing/ #สยบรักจอมเสเพล #กัวปา #ฉิ่ว #เสบียงแห้งโบราณ
    0 Comments 0 Shares 384 Views 0 Reviews
  • ประกาศชี้แจงจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ
    https://www.facebook.com/share/p/1FFpZjTvzr/

    ก่อนหน้านี้ ทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติ โพสต์เกี่ยวกับการมอบของที่ระลึกเนื่องในโอกาสวันปีใหม่ 2568 พร้อมแสดงความขอบคุณสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 (ช่อง 3 HD) ในการสื่อสารความรู้ด้านวัคซีนสู่สาธารณชนด้วยดีเสมอมา โดยมีคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวรายการเรื่องเล่าเช้านี้
    ให้การต้อนรับ

    ต่อมามีการปิดคอมเม้นต์ไปในที่สุด
    ประกาศชี้แจงจากสถาบันวัคซีนแห่งชาติ https://www.facebook.com/share/p/1FFpZjTvzr/ ก่อนหน้านี้ ทางสถาบันวัคซีนแห่งชาติ โพสต์เกี่ยวกับการมอบของที่ระลึกเนื่องในโอกาสวันปีใหม่ 2568 พร้อมแสดงความขอบคุณสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 (ช่อง 3 HD) ในการสื่อสารความรู้ด้านวัคซีนสู่สาธารณชนด้วยดีเสมอมา โดยมีคุณสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าวรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ให้การต้อนรับ ต่อมามีการปิดคอมเม้นต์ไปในที่สุด
    0 Comments 0 Shares 311 Views 0 Reviews
  • เทคนิคสร้างความประทับใจ
    เทคนิคสร้างความประทับใจ
    0 Comments 0 Shares 297 Views 1 0 Reviews
  • มีคนชอบ โพสถามหลายสิ่งในสื่อต่างๆ อยากบอกว่า คนรู้น้อยมี คนรู้มากมี..แต่คน อวดรู้ในสิ่งที่ตน ไม่รู้มีมากที่สุด ....ส่วนตัวเดือดร้อน รำคาญ เพราะคนใกล้ตัว..ไปเชื่อ ไอ้พวกหลังนี่...มาหลายต่อหลายครั้ง...
    ..มาดูความจริงกัน สิ่งที่คนถามมา เขาไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมด..และก็มีคนมา ตัดสิน..แค่รู้เรื่องราว.. บางส่วน...เข่นวันนี้...เขาปล่อยเช่า คอนโด มาโพสถามว่า คนค้างค่าเช่า 2 เดือนแล้ว..เอาไงดี...? คำตอบ ไปทางเดียวกันหมด..ล๊อค ตัดน้ำ ตัดไฟ แจ้งความ ขู่ฟ้องขับไล่....แนวนี้ทั้งหมด...!!
    🌵 ผมจึงเขียนไปว่า ..คุณคนโพส คุณรู้เีื่องราวทั้งหมด คุณควรตัดสินใจเอง...guide line ง่ายๆ ถ้าเขาเขืาคุณมา ปีกว่า สองปีขึ้นไป..แล้วตรงมาตลอด...มาปีนี้ ศก.สาหัสแค่ไหน...เอาแบบตั้งแต่เกิดมา จนอายุจะ 60 ทำมาหลายธุรกิจ..ไม่เคยเจอ..แย่ขนาดปีกว่ามานี้...เทียบปี 40 เด็กไปไปเลย...ต่อ..ถ้าเขาดี คุณควรจะ ยืดหยุ่น..และคุยกันแบบ ผู้ดี และมีไมตรีต่อกัน ..ตรงข้าม..ถ้าเพิ่งอยู่ไม่กี่เดือน..แล้ว ค้างชำระ..ก็คงอีกแบบ...
    ...และผมลงท้ายว่า ถ้าคุณ ไม่รู้จัก "ยืดหยุ่น" คุณทำธุรกิจไม่ได้...ปกครองลูกน้องก็ไม่ได้เช่นกัน...ง่ายไปคือ อย่าคิดเป็นใหญ่...แม้เพียง ในครอบครัว.
    มีคนชอบ โพสถามหลายสิ่งในสื่อต่างๆ อยากบอกว่า คนรู้น้อยมี คนรู้มากมี..แต่คน อวดรู้ในสิ่งที่ตน ไม่รู้มีมากที่สุด ....ส่วนตัวเดือดร้อน รำคาญ เพราะคนใกล้ตัว..ไปเชื่อ ไอ้พวกหลังนี่...มาหลายต่อหลายครั้ง... ..มาดูความจริงกัน สิ่งที่คนถามมา เขาไม่ได้บอกเรื่องราวทั้งหมด..และก็มีคนมา ตัดสิน..แค่รู้เรื่องราว.. บางส่วน...เข่นวันนี้...เขาปล่อยเช่า คอนโด มาโพสถามว่า คนค้างค่าเช่า 2 เดือนแล้ว..เอาไงดี...? คำตอบ ไปทางเดียวกันหมด..ล๊อค ตัดน้ำ ตัดไฟ แจ้งความ ขู่ฟ้องขับไล่....แนวนี้ทั้งหมด...!! 🌵 ผมจึงเขียนไปว่า ..คุณคนโพส คุณรู้เีื่องราวทั้งหมด คุณควรตัดสินใจเอง...guide line ง่ายๆ ถ้าเขาเขืาคุณมา ปีกว่า สองปีขึ้นไป..แล้วตรงมาตลอด...มาปีนี้ ศก.สาหัสแค่ไหน...เอาแบบตั้งแต่เกิดมา จนอายุจะ 60 ทำมาหลายธุรกิจ..ไม่เคยเจอ..แย่ขนาดปีกว่ามานี้...เทียบปี 40 เด็กไปไปเลย...ต่อ..ถ้าเขาดี คุณควรจะ ยืดหยุ่น..และคุยกันแบบ ผู้ดี และมีไมตรีต่อกัน ..ตรงข้าม..ถ้าเพิ่งอยู่ไม่กี่เดือน..แล้ว ค้างชำระ..ก็คงอีกแบบ... ...และผมลงท้ายว่า ถ้าคุณ ไม่รู้จัก "ยืดหยุ่น" คุณทำธุรกิจไม่ได้...ปกครองลูกน้องก็ไม่ได้เช่นกัน...ง่ายไปคือ อย่าคิดเป็นใหญ่...แม้เพียง ในครอบครัว.
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • ภาพการระเบิดอย่างรุนแรงบริเวณทางแยกบนทางหลวง T-0504 ระหว่างเส้นทาง Pokrovsk - Kostyantynivka

    ทางแยกนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ฝ่ายยูเครนมีความพยายามจะตอบโต้ เพื่อใช้เส้นทางนี้
    ภาพการระเบิดอย่างรุนแรงบริเวณทางแยกบนทางหลวง T-0504 ระหว่างเส้นทาง Pokrovsk - Kostyantynivka ทางแยกนี้ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของรัสเซียเมื่อสัปดาห์ก่อน แต่ฝ่ายยูเครนมีความพยายามจะตอบโต้ เพื่อใช้เส้นทางนี้
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 228 Views 0 Reviews
  • "โทรศัพท์สายที่สำคัญ!?!"

    ในระหว่างการประชุมวิดีโอทางไกลกับคณะรัฐมนตรี ประธานาธิบดีปูตินต้องขอเวลานาน 5 นาที เพื่อรับโทรศัพท์สายนี้
    เจ้าของสายโทรศัพท์นี้ จะต้องเป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อปูตินมากจริงๆ
    "โทรศัพท์สายที่สำคัญ!?!" ในระหว่างการประชุมวิดีโอทางไกลกับคณะรัฐมนตรี ประธานาธิบดีปูตินต้องขอเวลานาน 5 นาที เพื่อรับโทรศัพท์สายนี้ เจ้าของสายโทรศัพท์นี้ จะต้องเป็นบุคคลที่มีความสำคัญต่อปูตินมากจริงๆ
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 433 Views 28 0 Reviews
  • https://youtu.be/RncJKU2CDHo?si=4OtFa1m7ozeuHykE
    https://youtu.be/RncJKU2CDHo?si=4OtFa1m7ozeuHykE
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • Like
    1
    0 Comments 0 Shares 44 Views 7 0 Reviews
  • 23/1/68

    PM 2.5 หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เช็ก 4 อาการเสี่ยงระดับรุนแรง

    ฝุ่น PM2.5 ทำให้ค่าอายุเฉลี่ยของคนไทยลดลง 1.78 ปี โดยกรมอนามัย ระบุ ผลกระทบต่อสุขภาพ ในระยะสั้น ไอ จาม ระคายเคืองผิวหนัง ผื่น คัน ระคายเคืองตา แสบตา ตาแดง ส่วนผลกระทบระยะยาว ระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ เสี่ยงต่อภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หัวใจวาย ภาวะหลอดเลือดสมองตีบ ความดันโลหิตสูง ,ระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ,เบาหวาน, มะเร็งปอด ,เสี่ยงแท้ง/คลอดก่อนกำหนด ,กระทบต่อพัฒนาการ/ระบบสมองของทารกและทารกแรกคลอดผิดปกติ/น้ำหนักน้อย

    4 อาการ เสี่ยงระดับรุนแรง
    การประเมินตนเองผ่านคลินิกมลพิษออนไลน์ หากมีอาการ 1 ใน 4 รายการนี้เพียง 1 ข้อ ถือว่าอยู่ในระดับรุนแรงควรรีบปรึกษาแพทย์ ได้แก่

    แน่นหน้าอก หายใจลำบาก

    หอบ หายใจเสียงดังวี๊ด

    เจ็บหน้าอก

    เหนื่อยมากจนต้องนั่งพักหรือทำงานไม่ได้

    ฝุ่น PM 2.5 ทำร้ายเซลล์หลอดเลือด

    พญ.ฉันทนา ผดุงทศ ผอ.กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลกระทบฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ว่า ข้อมูลสะสมตั้งแต่ ต.ค.2567-ม.ค.2568 มีรายงานผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคที่เฝ้าระวังประมาณ 1 ล้านราย มากที่สุดคือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นราว 2 แสนราย เป็นต้น

    การได้รับฝุ่น PM 2.5 ต่อเนื่อง กรณีที่ป่วยอยู่แล้ว ในระยะยาวจะทำให้ป่วยรุนแรง เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือหอบหืดอยู่แล้ว แทนที่จะหายใจได้บ้างก็กลายเป็นหายใจลำบาก เพราะฝุ่นทำให้โรคไม่หายเสียที นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้รับสารเคมีตัวอื่นที่เกาะกับฝุ่น PM 2.5 เข้าสู่ร่างกายได้ด้วย ฝุ่น PM 2.5 เข้าไปได้ลึกถึงถุงลม สารเคมีที่มาจับกับฝุ่นก็ลงไปได้ลึกเท่านั้น ที่กังวลคือการก่อมะเร็งปอดในอนาคต
    “ผลกระทบจริงๆ ของฝุ่น PM 2.5 เข้าไปทำร้ายเซลล์หลอดเลือด เช่น เส้นเลือดหัวใจตีบ เนื่องจากฝุ่น PM2.5 เข้าไปทำให้ผนังเส้นเลือดไม่แข็งแรง หรือกรณีที่เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคเกี่ยวกับสมองเพราะฝุ่น PM2.5 เข้าไปทำให้เส้นเลือดสมองไม่แข็งแรง ทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย”พญ.ฉันทนากล่าว

    หากเป็นกรณีการอักเสบ เหมือนเป็นแผล ถ้าไม่มีฝุ่น PM2.5 เข้ามาทำให้เกิดการระคายเคืองอีก ก็สามารถหายได้ แต่กรณีโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืดก็จะเข้าสู่ภาวะโรคปกติ เช่น ยังต้องพ่นยาอยู่ แต่ก็ไม่ต้องพ่นเยอะเหมือนช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 แต่ในส่วนของมะเร็งอาจจะต้องดูระยะยาว ต้องติดตาม

    พญ.ฉันทนา กล่าวอีกว่า มะเร็งปอดที่มาจากฝุ่น PM2.5 ยังต้องเก็บข้อมูลในระยะยาว แต่ก็เห็นตัวอย่างในหลายๆ ประเทศแล้ว แม้แต่ในไทยก็พบมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด ทั้งที่มีประวัติคลีนมาก ก็อาจเป็นเรื่องของฝุ่นเป็นหลัก ปัจจุบันคาดการณ์จากประเทศอื่นๆ ที่ทำวิจัย ส่วนในประเทศไทย กำลังมีการศึกษาวิจัยไปข้างหน้าว่ามันจะเกิดขึ้นไหม ยังไม่นานพอที่จะทำให้เห็นว่าเกี่ยวกับฝุ่น แต่ก็พอเห็นกรณีที่มีความเป็นไปได้ว่ามาจากฝุ่น

    ปัญหาฝุ่น PM2.5 มาจาก 3 ปัจจัยหลักๆ คือ การเผาในที่โล่ง ซึ่งพบมากที่สุดในตอนนี้ ต่อมาเป็นโรงงานอุตสาหกรรม และการคมนาคมขนส่ง นอกจากฝุ่น PM 2.5 ยังมีสารพิษที่น่ากลัว และน่ากังวลที่สามารถเกาะมากับ PM2.5 คือ สารโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbon : PAHs) โดยเฉพาะการเผาไหม้ที่เกิดจากการเผายาง หรือการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ทำให้เกิดสาร PAHs เช่นกัน

    เสี่ยง โรคหัวใจ-สมองขาดเลือดเฉียบพลัน
    ขณะที่ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ให้ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ค่า PM2.5 ที่บ้านริมน้ำวัดได้สูงสุดตอนเจ็ดโมงเช้าที่ 102.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) ค่ารายชั่วโมงที่ 75 มคก./ลบ.ม. สำหรับคนทั่วไปอาจจะถึงขั้น เจ็บได้ คือ แสบจมูกและคอ ระคายเคืองตาและผิวหนัง

    แต่ถ้าขึ้นไปถึง 150 มคก./ลบ.ม. อาจตายได้ จากโรคหัวใจขาดเลือดและสมองขาดเลือดเฉียบพลัน สำหรับกลุ่มคนเปราะบาง ค่าเจ็บได้จะอยู่ที่ 37.5 มคก./ลบ.ม. จากโรคหืดและโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้กำเริบ โรคถุงลมโป่งพองกำเริบ โรคหัวใจและสมองกำเริบ ส่วนค่าที่อาจตายได้จะอยู่ที่ 75 มคก./ลบ.ม. หรือเอาง่าย ๆ คือ ครึ่งหนึ่งของคนปกติ

    มะเร็งปอดภาคเหนือสูง
    ดังที่ทราบว่าภาคเหนือมีปัญหาฝุ่น PM 2.5 มานานนับ 10 ปี การศึกษาวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) ในการเปรียบเทียบอัตราการตายของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด ตั้งแต่ปี 2553-2564 ระหว่าง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ พบว่าภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ และลำปาง มีอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดสูงที่สุด นอกจากนี้ ยังพบสัดส่วนของผู้ป่วยมะเร็งปอดในคนหนุ่มสาวของประชากรภาคเหนือสูงกว่าภาคอื่นๆ

    นอกจากนี้ งานวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มช. ยังบ่งบอกหลักฐานสนับสนุนความสัมพันธ์ของฝุ่น PM2.5 กับมะเร็ง โดยการศึกษาผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองในพื้นที่ อ.เชียงดาว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีค่า PM2.5 สูงอันดับต้นๆของจ.เชียงใหม่ โดยการขูดเซลล์บริเวณกระพุ้งแก้มของผู้ป่วยถุงลมโป่งพองไปตรวจ เปรียบเทียบกันระหว่างช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 สูงและช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 ต่ำ ผลปรากฏว่าในช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 สูง เซลล์กระพุ้งแก้มของผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลง บ่งบอกว่ายีนมีความผิดปกติ ซึ่งจะส่งผลในระยะยาว จนกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ ในอนาคต
    23/1/68 PM 2.5 หัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน เช็ก 4 อาการเสี่ยงระดับรุนแรง ฝุ่น PM2.5 ทำให้ค่าอายุเฉลี่ยของคนไทยลดลง 1.78 ปี โดยกรมอนามัย ระบุ ผลกระทบต่อสุขภาพ ในระยะสั้น ไอ จาม ระคายเคืองผิวหนัง ผื่น คัน ระคายเคืองตา แสบตา ตาแดง ส่วนผลกระทบระยะยาว ระบบหัวใจและหลอดเลือด เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ เสี่ยงต่อภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน หัวใจวาย ภาวะหลอดเลือดสมองตีบ ความดันโลหิตสูง ,ระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ,เบาหวาน, มะเร็งปอด ,เสี่ยงแท้ง/คลอดก่อนกำหนด ,กระทบต่อพัฒนาการ/ระบบสมองของทารกและทารกแรกคลอดผิดปกติ/น้ำหนักน้อย 4 อาการ เสี่ยงระดับรุนแรง การประเมินตนเองผ่านคลินิกมลพิษออนไลน์ หากมีอาการ 1 ใน 4 รายการนี้เพียง 1 ข้อ ถือว่าอยู่ในระดับรุนแรงควรรีบปรึกษาแพทย์ ได้แก่ แน่นหน้าอก หายใจลำบาก หอบ หายใจเสียงดังวี๊ด เจ็บหน้าอก เหนื่อยมากจนต้องนั่งพักหรือทำงานไม่ได้ ฝุ่น PM 2.5 ทำร้ายเซลล์หลอดเลือด พญ.ฉันทนา ผดุงทศ ผอ.กองโรคจากการประกอบอาชีพและสิ่งแวดล้อม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงผลกระทบฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ว่า ข้อมูลสะสมตั้งแต่ ต.ค.2567-ม.ค.2568 มีรายงานผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคที่เฝ้าระวังประมาณ 1 ล้านราย มากที่สุดคือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นราว 2 แสนราย เป็นต้น การได้รับฝุ่น PM 2.5 ต่อเนื่อง กรณีที่ป่วยอยู่แล้ว ในระยะยาวจะทำให้ป่วยรุนแรง เช่น ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หรือหอบหืดอยู่แล้ว แทนที่จะหายใจได้บ้างก็กลายเป็นหายใจลำบาก เพราะฝุ่นทำให้โรคไม่หายเสียที นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้รับสารเคมีตัวอื่นที่เกาะกับฝุ่น PM 2.5 เข้าสู่ร่างกายได้ด้วย ฝุ่น PM 2.5 เข้าไปได้ลึกถึงถุงลม สารเคมีที่มาจับกับฝุ่นก็ลงไปได้ลึกเท่านั้น ที่กังวลคือการก่อมะเร็งปอดในอนาคต “ผลกระทบจริงๆ ของฝุ่น PM 2.5 เข้าไปทำร้ายเซลล์หลอดเลือด เช่น เส้นเลือดหัวใจตีบ เนื่องจากฝุ่น PM2.5 เข้าไปทำให้ผนังเส้นเลือดไม่แข็งแรง หรือกรณีที่เกิดอัมพฤกษ์ อัมพาต โรคเกี่ยวกับสมองเพราะฝุ่น PM2.5 เข้าไปทำให้เส้นเลือดสมองไม่แข็งแรง ทำให้เกิดการอุดตันได้ง่าย”พญ.ฉันทนากล่าว หากเป็นกรณีการอักเสบ เหมือนเป็นแผล ถ้าไม่มีฝุ่น PM2.5 เข้ามาทำให้เกิดการระคายเคืองอีก ก็สามารถหายได้ แต่กรณีโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืดก็จะเข้าสู่ภาวะโรคปกติ เช่น ยังต้องพ่นยาอยู่ แต่ก็ไม่ต้องพ่นเยอะเหมือนช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 แต่ในส่วนของมะเร็งอาจจะต้องดูระยะยาว ต้องติดตาม พญ.ฉันทนา กล่าวอีกว่า มะเร็งปอดที่มาจากฝุ่น PM2.5 ยังต้องเก็บข้อมูลในระยะยาว แต่ก็เห็นตัวอย่างในหลายๆ ประเทศแล้ว แม้แต่ในไทยก็พบมีผู้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอด ทั้งที่มีประวัติคลีนมาก ก็อาจเป็นเรื่องของฝุ่นเป็นหลัก ปัจจุบันคาดการณ์จากประเทศอื่นๆ ที่ทำวิจัย ส่วนในประเทศไทย กำลังมีการศึกษาวิจัยไปข้างหน้าว่ามันจะเกิดขึ้นไหม ยังไม่นานพอที่จะทำให้เห็นว่าเกี่ยวกับฝุ่น แต่ก็พอเห็นกรณีที่มีความเป็นไปได้ว่ามาจากฝุ่น ปัญหาฝุ่น PM2.5 มาจาก 3 ปัจจัยหลักๆ คือ การเผาในที่โล่ง ซึ่งพบมากที่สุดในตอนนี้ ต่อมาเป็นโรงงานอุตสาหกรรม และการคมนาคมขนส่ง นอกจากฝุ่น PM 2.5 ยังมีสารพิษที่น่ากลัว และน่ากังวลที่สามารถเกาะมากับ PM2.5 คือ สารโพลีไซคลิกอะโรมาติกไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbon : PAHs) โดยเฉพาะการเผาไหม้ที่เกิดจากการเผายาง หรือการเผาไหม้ไม่สมบูรณ์ทำให้เกิดสาร PAHs เช่นกัน เสี่ยง โรคหัวใจ-สมองขาดเลือดเฉียบพลัน ขณะที่ รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ให้ข้อมูลผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ค่า PM2.5 ที่บ้านริมน้ำวัดได้สูงสุดตอนเจ็ดโมงเช้าที่ 102.9 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร(มคก./ลบ.ม.) ค่ารายชั่วโมงที่ 75 มคก./ลบ.ม. สำหรับคนทั่วไปอาจจะถึงขั้น เจ็บได้ คือ แสบจมูกและคอ ระคายเคืองตาและผิวหนัง แต่ถ้าขึ้นไปถึง 150 มคก./ลบ.ม. อาจตายได้ จากโรคหัวใจขาดเลือดและสมองขาดเลือดเฉียบพลัน สำหรับกลุ่มคนเปราะบาง ค่าเจ็บได้จะอยู่ที่ 37.5 มคก./ลบ.ม. จากโรคหืดและโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้กำเริบ โรคถุงลมโป่งพองกำเริบ โรคหัวใจและสมองกำเริบ ส่วนค่าที่อาจตายได้จะอยู่ที่ 75 มคก./ลบ.ม. หรือเอาง่าย ๆ คือ ครึ่งหนึ่งของคนปกติ มะเร็งปอดภาคเหนือสูง ดังที่ทราบว่าภาคเหนือมีปัญหาฝุ่น PM 2.5 มานานนับ 10 ปี การศึกษาวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(มช.) ในการเปรียบเทียบอัตราการตายของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอด ตั้งแต่ปี 2553-2564 ระหว่าง ภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคใต้ พบว่าภาคเหนือ โดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ และลำปาง มีอัตราการเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปอดสูงที่สุด นอกจากนี้ ยังพบสัดส่วนของผู้ป่วยมะเร็งปอดในคนหนุ่มสาวของประชากรภาคเหนือสูงกว่าภาคอื่นๆ นอกจากนี้ งานวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มช. ยังบ่งบอกหลักฐานสนับสนุนความสัมพันธ์ของฝุ่น PM2.5 กับมะเร็ง โดยการศึกษาผู้ป่วยโรคถุงลมโป่งพองในพื้นที่ อ.เชียงดาว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีค่า PM2.5 สูงอันดับต้นๆของจ.เชียงใหม่ โดยการขูดเซลล์บริเวณกระพุ้งแก้มของผู้ป่วยถุงลมโป่งพองไปตรวจ เปรียบเทียบกันระหว่างช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 สูงและช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 ต่ำ ผลปรากฏว่าในช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 สูง เซลล์กระพุ้งแก้มของผู้ป่วยมีการเปลี่ยนแปลง บ่งบอกว่ายีนมีความผิดปกติ ซึ่งจะส่งผลในระยะยาว จนกลายเป็นเซลล์มะเร็งได้ ในอนาคต
    0 Comments 0 Shares 410 Views 0 Reviews
  • อีลอนมัสก์ฉะโครงการลงทุนเอไอ5แสนล้านของทรัมป์ : คนเคาะข่าว 23-1-2025
    ดำเนินรายการโดย : อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา
    อีลอนมัสก์ฉะโครงการลงทุนเอไอ5แสนล้านของทรัมป์ : คนเคาะข่าว 23-1-2025 ดำเนินรายการโดย : อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 439 Views 27 1 Reviews
  • แตงโมตายผิดปกติคนไทยทั้งประเทศรู้แต่ตำรวจไม่รู้???งง???
    แตงโมตายผิดปกติคนไทยทั้งประเทศรู้แต่ตำรวจไม่รู้???งง???
    Like
    Love
    2
    1 Comments 0 Shares 319 Views 11 0 Reviews
  • 0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • 8 เทคนิค ดูแลผิวใต้ตาให้สวยเสมอ Nuie Look@MebyBP
    8 เทคนิค ดูแลผิวใต้ตาให้สวยเสมอ Nuie Look@MebyBP
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 326 Views 24 0 Reviews
  • https://youtu.be/q4dp0Guz_Tc?si=CP1qKiwZ6fNIF-lg
    https://youtu.be/q4dp0Guz_Tc?si=CP1qKiwZ6fNIF-lg
    0 Comments 0 Shares 36 Views 0 Reviews
  • เดินหน้าสถานีอยุธยา รถไฟความเร็วสูง

    โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ที่หยุดชะงักในบางช่วง โดยเฉพาะสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 13.30 กิโลเมตร ที่ยังก่อสร้างไม่ได้เพราะติดขัดเรื่องโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในที่สุดผู้แทนองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก องค์การยูเนสโก (UNESCO) ที่ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 19-22 ม.ค. มีข้อสรุปให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ปรับลดความสูงของหลังคาสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ไม่ให้โครงสร้างหลังคาซ้อนทับกับสถานีรถไฟอยุธยาเดิม พร้อมทั้งให้อนุรักษ์สถานีรถไฟอยุธยาเดิมไว้

    หลังจากนี้การรถไฟฯ จะรอรายงานจากยูเนสโกภายในเดือน มี.ค. ก่อนนำมาจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก (HIA) แล้วส่งรายงานให้คณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม และคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกทราบ เพื่อนำส่งรายงานให้ศูนย์มรดกโลกต่อไป ก่อนที่จะลงนามสัญญาและก่อสร้าง วงเงินลงทุน 10,325.90 ล้านบาท โดยปรับลดความสูงของสถานีจาก 37.45 เมตร เหลือ 35.45 เมตร และความสูงของสันรางจาก 19 เมตร เหลือ 17 เมตร แต่แนวสถานียังก่อสร้างบนเขตทางรถไฟ ห่างจากพื้นที่มรดกโลก 1.5 กิโลเมตร และมีแม่น้ำป่าสักคั่นอยู่เป็น Bubble Zone

    นอกจากช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ที่ยังก่อสร้างไม่ได้ในขณะนี้ ยังมีสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กิโลเมตร ที่ใช้โครงสร้างร่วมกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1-1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร และสัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร ส่วนอีก 10 สัญญากำลังก่อสร้าง โดยคาดว่าในปี 2568 จะแล้วเสร็จเพิ่มอีก 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง ระยะทาง 12.23 กิโลเมตร และสัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กิโลเมตร

    สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 251 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2560 วงเงินก่อสร้าง 179,412.21 ล้านบาท มีสถานีให้บริการ 6 สถานี ได้แก่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีดอนเมือง สถานีอยุธยา สถานีสระบุรี สถานีปากช่อง และสถานีนครราชสีมา ตามแผนล่าสุดกำหนดเปิดให้บริการในปี 2571 ส่วนโครงการช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 357 กิโลเมตร มีสถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย พร้อมสะพานข้ามแม่น้ำโขงใหม่ วงเงินลงทุน 3.4 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.)

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    เดินหน้าสถานีอยุธยา รถไฟความเร็วสูง โครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ที่หยุดชะงักในบางช่วง โดยเฉพาะสัญญาที่ 4-5 ช่วงบ้านโพ-พระแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา ระยะทาง 13.30 กิโลเมตร ที่ยังก่อสร้างไม่ได้เพราะติดขัดเรื่องโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ในที่สุดผู้แทนองค์กรที่ปรึกษาของคณะกรรมการมรดกโลก องค์การยูเนสโก (UNESCO) ที่ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 19-22 ม.ค. มีข้อสรุปให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ปรับลดความสูงของหลังคาสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ไม่ให้โครงสร้างหลังคาซ้อนทับกับสถานีรถไฟอยุธยาเดิม พร้อมทั้งให้อนุรักษ์สถานีรถไฟอยุธยาเดิมไว้ หลังจากนี้การรถไฟฯ จะรอรายงานจากยูเนสโกภายในเดือน มี.ค. ก่อนนำมาจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบต่อแหล่งมรดกโลก (HIA) แล้วส่งรายงานให้คณะอนุกรรมการมรดกโลกทางวัฒนธรรม และคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลกทราบ เพื่อนำส่งรายงานให้ศูนย์มรดกโลกต่อไป ก่อนที่จะลงนามสัญญาและก่อสร้าง วงเงินลงทุน 10,325.90 ล้านบาท โดยปรับลดความสูงของสถานีจาก 37.45 เมตร เหลือ 35.45 เมตร และความสูงของสันรางจาก 19 เมตร เหลือ 17 เมตร แต่แนวสถานียังก่อสร้างบนเขตทางรถไฟ ห่างจากพื้นที่มรดกโลก 1.5 กิโลเมตร และมีแม่น้ำป่าสักคั่นอยู่เป็น Bubble Zone นอกจากช่วงบ้านโพ-พระแก้ว ที่ยังก่อสร้างไม่ได้ในขณะนี้ ยังมีสัญญา 4-1 ช่วงบางซื่อ-ดอนเมือง ระยะทาง 15.21 กิโลเมตร ที่ใช้โครงสร้างร่วมกับรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ปัจจุบันก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 1-1 ช่วงกลางดง-ปางอโศก ระยะทาง 3.5 กิโลเมตร และสัญญาที่ 2-1 ช่วงสีคิ้ว-กุดจิก ระยะทาง 11 กิโลเมตร ส่วนอีก 10 สัญญากำลังก่อสร้าง โดยคาดว่าในปี 2568 จะแล้วเสร็จเพิ่มอีก 2 สัญญา ได้แก่ สัญญาที่ 3-2 งานอุโมงค์มวกเหล็กและลำตะคอง ระยะทาง 12.23 กิโลเมตร และสัญญาที่ 3-4 ช่วงลำตะคอง-สีคิ้ว และกุดจิก-โคกกรวด ระยะทาง 37.45 กิโลเมตร สำหรับโครงการรถไฟความเร็วสูง ช่วงกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ระยะทาง 251 กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2560 วงเงินก่อสร้าง 179,412.21 ล้านบาท มีสถานีให้บริการ 6 สถานี ได้แก่ สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ สถานีดอนเมือง สถานีอยุธยา สถานีสระบุรี สถานีปากช่อง และสถานีนครราชสีมา ตามแผนล่าสุดกำหนดเปิดให้บริการในปี 2571 ส่วนโครงการช่วงนครราชสีมา-หนองคาย ระยะทาง 357 กิโลเมตร มีสถานีบัวใหญ่ สถานีบ้านไผ่ สถานีขอนแก่น สถานีอุดรธานี และสถานีหนองคาย พร้อมสะพานข้ามแม่น้ำโขงใหม่ วงเงินลงทุน 3.4 แสนล้านบาท อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 413 Views 0 Reviews