• 19 พ.ย.2567- กิจจา บุรานนท์ อดีตคอลัมนิสต์ นิตยสาร ‘ดิฉัน’ ‘พลอยแกมเพชร’ ซึ่ง อาศัยในอเมริกาค่อนชีวิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Kiccha Buranond ว่า A Fashion FAUX PAS ภาษาอังกฤษนั้นมักมีจริตจก้าน ที่จะนำภาษาฝรั่งเศสมาผสมผสาน แล้วกลายเป็นเรื่องเก๋ ทั้ง ๆ ที่บางคำมีความหมายเอียงไปทางด้านลบ เป็นต้นว่าเศรษฐีหน้าใหม่ที่เปิ่นและขี้อวด เรียกกันว่า Nouveau Riche แต่ที่เพิ่งรวยขึ้นมาแล้ววางตัวเป็น/สงบเป็นปรกติ/ไม่รุ่มร่ามเห่อความร่ำรวย ก็จะเป็น new rich กล่าวคือนูโวริชส์เป็นคำเหยียดหยามประชดประชันที่เรามีในที่นี้คือแฟชั่นโฟป้าส์ Faux นั้นแปลว่าผิดพลาดในภาษาฝรั่งเศส และจะถูกนำมาใช้ปนภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลา แต่ฟังแล้วเก๋ทีเดียว เป็นต้นว่าเฟอร์ปลอม ควรจะเรียกว่าเป็น fake fur ซึ่งฟังแล้วห่วยแตก เหมือนของถูก/ของโหล …แต่หากเรียกว่า faux fur แล้วจะกลายเป็นว่ามีคลาสขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน ทุกห้องเสื้อแฟชั่นใหญ่โตมีโฟเฟอร์ บ้างแพงกว่าเฟอร์จริง แต่หากเรียก fake fur เมื่อไหร่ …ก็จะกลายเป็นเรื่องของตลาดโบ้เบ้ทันทีฉะนั้นแฟชั่นโฟป้าส์ก็คือการแต่งกายผิด ไม่ใช่ว่าไม่สวย แต่ผิด …ที่นายกหญิงอุ้งอิ้งสวมวันสองวันนี้นอกประเทศ เป็นแฟชั่นโฟป้าส์ (pas คือการก้าวย่าง) ในระดับโลก หมายความว่าผิดที่ผิดทางขาดกาละเทศะอย่างแรง …ควรมี common sense และของหน้าที่ของความรับผิดชอบ ในการเป็นหน้าตาให้แก่ประเทศชาติ …มากกว่านี้ โดยเฉพาะทางด้านมารยาททางการแต่งกาย …การแต่งกาย มีมารยาทของมันเองเป็นอย่างมากนะครับผมดูชุดที่เธอสวมลงครื่องบินแล้วผิดหวังจัง ดูเหมือนนักทัศนาจรจีนใส่กางเกงขาสั้น/เสื้อยืดไปวัดพระแก้ว ประการแรกเธอควรให้เกียรติแก่ประเทศของเขา คนของเขาที่รุมล้อมเธอในสูท/ไทด์เป็นเรื่องเป็นราว ที่ปูพรมแดงให้เธอเดิน …นี่คือการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ของประเทศชาติ ไม่ใช่ไปตากอากาศหรือช๊อปปิ้ง กางเกงขาลุ่ย รองเท้าผ้าใบ ไม่เหมาะสมเลย กางเกงสีขาวอย่างเดียวก็ผิดกติกาเรียบร้อยแล้วหากไม่ใช่ยูนิฟอร์ม ในที่นี้เธอควรแต่งสูททึม ๆ ครึ้ม ๆ ใช้ผ้าไทยตัดให้เก๋และคลาสสิค สวมถุงน่อง รองเท้าส่นสูงที่ถูกต้อง ทำผมเป็นมวยให้เรียบร้อย กรุณาอย่าทำผมทรงหางม้า/หางลาในขณะปฏิบัติหน้าที่การงาน/นั่งประชุมระดับชาติเป็นอันขาดนะครับ เรื่องเหล่านี้ไม่ควรถูกมองข้าม คุณไปนั่งประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์นานาชาติ ไม่ใช่กำลังจะไปตีเทนนิสกับสหายที่พัทยา หน้าที่ของคุณมากับวินัย/ความศิวิไลซ/หลักสุดธรรมดาของสากลโลกที่คุณจะต้องให้เกียรติในขณะเดียวกันแฟชั่นของคุณอุ้งอิ้ง หากไม่โฟป้าส์ ก็ลักหลั่นเหลือหลาย …เหมือนเธอพยายามมากไป ที่ฝรั่งว่า She’s trying TOO HARD แล้วไปไม่ถึงไหน หลายชุดกลายเป็นว่า “ชุดใส่เธอ” แทนที่เธอจะใส่ชุดบางชุดดูผ่าน ๆ เหมือนเธอหอบโซฟาพร้อมหมอนอิงจากห้องรับแขกมาด้วย บางชุดเหมือนเธอจิ๊กผ้าม่านหน้าต่างมาโปะเป็นแขนเป็นไหล่กันลมหนาวในรถแอร์ ชุดสะไบเฉียงรัดเพียงหน้าอกนอกเสื้อนั้นดูอึดอัดจริง ๆ …ดูกวนสายตามากกว่าดีไซน์ แต่แท้จริงแล้วชุดอื่น ๆ ที่มีสีสันและสุดเว่อร์นั้น ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับดีไซน์ มันอยู่ในหมวดสนุก หมวดเก๋ หมวดเว่อร์ (ตรงกันข้ามกับคลาสสิค) ก็ดีไซน์กันเข้าไป***หากคนใส่ …ใส่ให้ถูกต้องตรงตามกาละเทศะอีกต่างหาก เป็นต้นว่าแต่งไปงานแฟนซีระบบมาร์ดีกราส์ ส่วนมากการใช้ผ้าเยอะ ๆ จะขึ้นและเด่นมากกว่ากับสาวที่หุ่นผอม เพรียว และสูง และเชื่อไหม ควรอายุมากด้วย โดยเฉพาะเหล่าแฟชั่นนิสต้าน…แต่ชุดทั้งหมดที่เห็น ไม่เหมาะสมเลยด้วยประการทั้งปวงกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสุขสันต์วันอังคารนะครับ ทุก ๆ ท่าน
    19 พ.ย.2567- กิจจา บุรานนท์ อดีตคอลัมนิสต์ นิตยสาร ‘ดิฉัน’ ‘พลอยแกมเพชร’ ซึ่ง อาศัยในอเมริกาค่อนชีวิต โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Kiccha Buranond ว่า A Fashion FAUX PAS ภาษาอังกฤษนั้นมักมีจริตจก้าน ที่จะนำภาษาฝรั่งเศสมาผสมผสาน แล้วกลายเป็นเรื่องเก๋ ทั้ง ๆ ที่บางคำมีความหมายเอียงไปทางด้านลบ เป็นต้นว่าเศรษฐีหน้าใหม่ที่เปิ่นและขี้อวด เรียกกันว่า Nouveau Riche แต่ที่เพิ่งรวยขึ้นมาแล้ววางตัวเป็น/สงบเป็นปรกติ/ไม่รุ่มร่ามเห่อความร่ำรวย ก็จะเป็น new rich กล่าวคือนูโวริชส์เป็นคำเหยียดหยามประชดประชันที่เรามีในที่นี้คือแฟชั่นโฟป้าส์ Faux นั้นแปลว่าผิดพลาดในภาษาฝรั่งเศส และจะถูกนำมาใช้ปนภาษาอังกฤษอยู่ตลอดเวลา แต่ฟังแล้วเก๋ทีเดียว เป็นต้นว่าเฟอร์ปลอม ควรจะเรียกว่าเป็น fake fur ซึ่งฟังแล้วห่วยแตก เหมือนของถูก/ของโหล …แต่หากเรียกว่า faux fur แล้วจะกลายเป็นว่ามีคลาสขึ้นมาอย่างปัจจุบันทันด่วน ทุกห้องเสื้อแฟชั่นใหญ่โตมีโฟเฟอร์ บ้างแพงกว่าเฟอร์จริง แต่หากเรียก fake fur เมื่อไหร่ …ก็จะกลายเป็นเรื่องของตลาดโบ้เบ้ทันทีฉะนั้นแฟชั่นโฟป้าส์ก็คือการแต่งกายผิด ไม่ใช่ว่าไม่สวย แต่ผิด …ที่นายกหญิงอุ้งอิ้งสวมวันสองวันนี้นอกประเทศ เป็นแฟชั่นโฟป้าส์ (pas คือการก้าวย่าง) ในระดับโลก หมายความว่าผิดที่ผิดทางขาดกาละเทศะอย่างแรง …ควรมี common sense และของหน้าที่ของความรับผิดชอบ ในการเป็นหน้าตาให้แก่ประเทศชาติ …มากกว่านี้ โดยเฉพาะทางด้านมารยาททางการแต่งกาย …การแต่งกาย มีมารยาทของมันเองเป็นอย่างมากนะครับผมดูชุดที่เธอสวมลงครื่องบินแล้วผิดหวังจัง ดูเหมือนนักทัศนาจรจีนใส่กางเกงขาสั้น/เสื้อยืดไปวัดพระแก้ว ประการแรกเธอควรให้เกียรติแก่ประเทศของเขา คนของเขาที่รุมล้อมเธอในสูท/ไทด์เป็นเรื่องเป็นราว ที่ปูพรมแดงให้เธอเดิน …นี่คือการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ของประเทศชาติ ไม่ใช่ไปตากอากาศหรือช๊อปปิ้ง กางเกงขาลุ่ย รองเท้าผ้าใบ ไม่เหมาะสมเลย กางเกงสีขาวอย่างเดียวก็ผิดกติกาเรียบร้อยแล้วหากไม่ใช่ยูนิฟอร์ม ในที่นี้เธอควรแต่งสูททึม ๆ ครึ้ม ๆ ใช้ผ้าไทยตัดให้เก๋และคลาสสิค สวมถุงน่อง รองเท้าส่นสูงที่ถูกต้อง ทำผมเป็นมวยให้เรียบร้อย กรุณาอย่าทำผมทรงหางม้า/หางลาในขณะปฏิบัติหน้าที่การงาน/นั่งประชุมระดับชาติเป็นอันขาดนะครับ เรื่องเหล่านี้ไม่ควรถูกมองข้าม คุณไปนั่งประชุมเกี่ยวกับสถานการณ์นานาชาติ ไม่ใช่กำลังจะไปตีเทนนิสกับสหายที่พัทยา หน้าที่ของคุณมากับวินัย/ความศิวิไลซ/หลักสุดธรรมดาของสากลโลกที่คุณจะต้องให้เกียรติในขณะเดียวกันแฟชั่นของคุณอุ้งอิ้ง หากไม่โฟป้าส์ ก็ลักหลั่นเหลือหลาย …เหมือนเธอพยายามมากไป ที่ฝรั่งว่า She’s trying TOO HARD แล้วไปไม่ถึงไหน หลายชุดกลายเป็นว่า “ชุดใส่เธอ” แทนที่เธอจะใส่ชุดบางชุดดูผ่าน ๆ เหมือนเธอหอบโซฟาพร้อมหมอนอิงจากห้องรับแขกมาด้วย บางชุดเหมือนเธอจิ๊กผ้าม่านหน้าต่างมาโปะเป็นแขนเป็นไหล่กันลมหนาวในรถแอร์ ชุดสะไบเฉียงรัดเพียงหน้าอกนอกเสื้อนั้นดูอึดอัดจริง ๆ …ดูกวนสายตามากกว่าดีไซน์ แต่แท้จริงแล้วชุดอื่น ๆ ที่มีสีสันและสุดเว่อร์นั้น ผมเห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งเกี่ยวกับดีไซน์ มันอยู่ในหมวดสนุก หมวดเก๋ หมวดเว่อร์ (ตรงกันข้ามกับคลาสสิค) ก็ดีไซน์กันเข้าไป***หากคนใส่ …ใส่ให้ถูกต้องตรงตามกาละเทศะอีกต่างหาก เป็นต้นว่าแต่งไปงานแฟนซีระบบมาร์ดีกราส์ ส่วนมากการใช้ผ้าเยอะ ๆ จะขึ้นและเด่นมากกว่ากับสาวที่หุ่นผอม เพรียว และสูง และเชื่อไหม ควรอายุมากด้วย โดยเฉพาะเหล่าแฟชั่นนิสต้าน…แต่ชุดทั้งหมดที่เห็น ไม่เหมาะสมเลยด้วยประการทั้งปวงกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสุขสันต์วันอังคารนะครับ ทุก ๆ ท่าน
    Like
    Haha
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตั้ง “กิตติรัตน์” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ “นายกฯอิ๊งค์” เสี่ยงหลุด ซ้ำรอยเศรษฐา.“ธีระชัย” ฟันธง “กิตติรัตน์” ขาดคุณสมบัติ ไม่สามารถนั่ง “ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ” เหตุ “ที่ปรึกษาของนายก” ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะงานที่ทำไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของนายกฯเศรษฐา และเบิกค่าใช้จ่ายจากสำนักนายกฯ เตือน นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯทั้งที่มีปัญหา เป็นเรื่องมิบังควร โป๊ะแตก ! “เสี่ยนิด” พูดเอง “โต้ง” ขาดคุณสมบัติ ด้าน “รศ.ดร.เจษฎ์” แจง หากมีผู้ร้อง “อุ๊งอิ๊งค์” อาจหลุดจากเก้าอี้นายกฯ เหมือนกรณีที่ “เศรษฐา” แต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน ลือสะพัด “เรืองไกร” เตรียมร้องเอาผิดคนเสนอชื่อ.หนึ่งในประเด็นร้อนขณะนี้ก็คือเรื่องการแต่งตั้ง “ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย” หรือประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งมีกระแสข่าวยืนยันว่าในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการตัดสินใจเลือก “โต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง” อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ตัวเต็งจากพรรคเพื่อไทย ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย ด้วยเกรงว่าจะเป็นการส่งคนจากฝั่งการเมืองเข้าไปแทรกแซงการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สำคัญยังมีการทักท้วงว่านายกิตติรัตน์ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากนายเขาเคยเป็น “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” นายเศรษฐา ทวีสิน โดยเพิ่งพ้นจากตำแหน่งมาไม่ถึง 1 ปี.แต่ทางด้าน นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ในฐานะประธานที่ทำหน้าที่คัดเลือกประธานบอร์ดและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ถือเป็นตำแหน่งทางการเมือง แต่ตำแหน่งของกิตติรัตน์คือ “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” ถือเป็นตำแหน่งส่วนตัว ซึ่งมิได้เป็นคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ.ขณะนี้สถานการณ์จึงยังอึมครึม คือเป็นการแต่งตั้งโดยไม่มีการประกาศรายชื่อ และจะเสนอรายชื่อดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับทราบ ในวันที่ 19 พ.ย. 2567 เพื่อเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป.ส่วนว่า นายกิตติรัตน์ จะขาดคุณสมบัติหรือไม่ ? และหากขาดคุณสมบัติจะมีผลอย่างไรตามมา ? คงต้องไปฟังความเห็นจากผู้รู้.อ่านเพิ่มเติม>>https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000109902.#กิตติรัตน์ณระนอง #นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ #แบงก์ชาติ
    ตั้ง “กิตติรัตน์” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ “นายกฯอิ๊งค์” เสี่ยงหลุด ซ้ำรอยเศรษฐา.“ธีระชัย” ฟันธง “กิตติรัตน์” ขาดคุณสมบัติ ไม่สามารถนั่ง “ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ” เหตุ “ที่ปรึกษาของนายก” ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะงานที่ทำไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของนายกฯเศรษฐา และเบิกค่าใช้จ่ายจากสำนักนายกฯ เตือน นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯทั้งที่มีปัญหา เป็นเรื่องมิบังควร โป๊ะแตก ! “เสี่ยนิด” พูดเอง “โต้ง” ขาดคุณสมบัติ ด้าน “รศ.ดร.เจษฎ์” แจง หากมีผู้ร้อง “อุ๊งอิ๊งค์” อาจหลุดจากเก้าอี้นายกฯ เหมือนกรณีที่ “เศรษฐา” แต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน ลือสะพัด “เรืองไกร” เตรียมร้องเอาผิดคนเสนอชื่อ.หนึ่งในประเด็นร้อนขณะนี้ก็คือเรื่องการแต่งตั้ง “ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย” หรือประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งมีกระแสข่าวยืนยันว่าในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการตัดสินใจเลือก “โต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง” อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ตัวเต็งจากพรรคเพื่อไทย ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย ด้วยเกรงว่าจะเป็นการส่งคนจากฝั่งการเมืองเข้าไปแทรกแซงการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สำคัญยังมีการทักท้วงว่านายกิตติรัตน์ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากนายเขาเคยเป็น “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” นายเศรษฐา ทวีสิน โดยเพิ่งพ้นจากตำแหน่งมาไม่ถึง 1 ปี.แต่ทางด้าน นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ในฐานะประธานที่ทำหน้าที่คัดเลือกประธานบอร์ดและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ถือเป็นตำแหน่งทางการเมือง แต่ตำแหน่งของกิตติรัตน์คือ “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” ถือเป็นตำแหน่งส่วนตัว ซึ่งมิได้เป็นคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ.ขณะนี้สถานการณ์จึงยังอึมครึม คือเป็นการแต่งตั้งโดยไม่มีการประกาศรายชื่อ และจะเสนอรายชื่อดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับทราบ ในวันที่ 19 พ.ย. 2567 เพื่อเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป.ส่วนว่า นายกิตติรัตน์ จะขาดคุณสมบัติหรือไม่ ? และหากขาดคุณสมบัติจะมีผลอย่างไรตามมา ? คงต้องไปฟังความเห็นจากผู้รู้.อ่านเพิ่มเติม>>https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000109902.#กิตติรัตน์ณระนอง #นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ #แบงก์ชาติ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน
    โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ https://www.facebook.com/surawich.verawan

    การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท.จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้”

    กำลังท้าทายกับกระแสสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นบรรทัดฐานของประเทศ เข้าใจครับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองในคดีที่การรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน แต่นัยของคำสั่งนั้นหากอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองแล้ว จะพบว่า ศาลต้องการให้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อเพิกถอนสิทธิการถือครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ผู้ถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 37 แปลงฟ้องการรถไฟฯ (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8027/2561 และ 842-876/260 ) แต่คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งศาลปกครองหมายรวมถึงแปลงอื่นที่อยู่นอกเหนือแปลงที่นำขึ้นสู่ศาลฎีกาด้วย

    แต่กรมที่ดินซึ่งตั้งกรรมการขึ้นตามคำสั่งศาลปกครองกลับมีมติว่า การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินเขากระโดงทั้งที่ศาลฎีกาชี้แล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯแม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ไม่ได้สั่งการอะไรกรมที่ดิน แต่คำถามว่า มีใครบ้างที่จะเชื่อ

    อนุทินอ้างว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองตั้งขึ้นมาก่อนที่พรรคภูมิใจไทยและตัวเองจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จุดหมายสำคัญก็คือ กรรมการชุดนี้สามารถมีมติได้ในวันที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในกระทรวงมหาดไทย และอนุทินมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีและเมื่อไม่นานมานี้อธิบดีกรมที่ดินคนหนึ่งก็ได้ชิงลาออกไป ซึ่งกล่าวขานกันว่า เพราะปมที่ดินเขากระโดงนั่นเอง

    เป็นที่รู้กันว่า ในจำนวนที่ดิน 800 กว่าแปลงในพื้นที่เขากระโดงนั้น ผู้ถือครองรายใหญ่ก็คือ ตระกูลชิดชอบ ไปถามพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในสภาฯ เพียงแต่วันนี้ พ.ต.อ.ทวีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แน่นอนถึงตอนนี้พ.ต.อ.ทวีก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกับที่เคยหวงแหนสมบัติของชาติในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน

    และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทยก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงในทางพฤตินัย จะเห็นได้ว่าในงานวันเกิดของนายเนวินนั้นข้าราชการระดับสูงที่อยู่ภายใต้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับนั้นจะต้องเข้าไปร่วมงานถึงบุรีรัมย์เพื่อแสดงตัวให้เห็น เพราะเขารู้ว่าใครคือ คนที่ให้คุณให้โทษได้ และในหมู่ข้าราชการก็รู้กันว่า การโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยนั้นคนที่มีบทบาทสำคัญคือใคร

    ก็ต้องรอดูต่อไปว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความยุติธรรมทางกฎหมายที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองอย่างไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน คำสั่งของกรมที่ดินจะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาไหม

    แต่ต้องยอมรับนะครับว่า การเล่นการเมืองอยู่หลังม่านของคนคนหนึ่งวันนี้นั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบคนที่อยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือแม้แต่เป็นผู้บริหารพรรค เพียงแต่เป็นสมาชิกของพรรคที่สามารถเตะตูดหัวหน้าพรรคได้เท่านั้น ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองอยู่หลังฉาก แต่มีอำนาจสั่งการทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคที่ข้าราชการทุกคนต้องเกรงใจและหวั่นกลัว

    มาที่เรื่อง สว.นอกจากในวันนี้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่รู้กันว่า สว.กว่า 150 คนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของใครที่เรียกว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินนั่นเอง แล้วอำนาจที่สำคัญของ สว.ก็คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งทำให้หากใครจะขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวก็จะต้องวิ่งเข้าหาเจ้าของ สว.เพื่อให้ สว.ยกมือให้ หากผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่วุฒิสภามา

    ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกและเป็นอันตรายมากหากอำนาจการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่ในอำนาจของใครบางคนหรือคนเพียงคนเดียวในทางพฤตินัย

    และหากมีการประชุมรัฐสภาคือประชุมร่วมระหว่าง สส. และ สว.เสียงของพรรคภูมิใจไทยและ สว.จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา และการดำเนินการใดที่จะต้องผ่านรัฐสภาเช่น การแก้รัฐธรรมนูญก็จะตกอยู่ภายใต้การกำกับของเจ้าของสว.ที่จะต้องการให้เป็นไปในทิศทางไหนก็ได้

    วันนี้พรรคภูมิใจไทยแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง แต่ก็มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลไปแล้ว แม้ว่า เราจะเห็นอนุทินนอบน้อมต่ออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพร้อมจะยืนเป็นวอลเปเปอร์หรือพี่เลี้ยงของอุ๊งอิ๊งค์ตลอดเวลาก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจึงขบเหลี่ยมอยู่กับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถสลัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลได้

    แล้วคอยดูว่า กรณีที่ดินเขากระโดง แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า ไม่อาจยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการของกรมที่ดินในกรณีที่ดินเขากระโดงได้ แต่ก็ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วเป็นเพียงการแสดงออกไปตามบทบาทที่ตัวเองเล่นอยู่ แต่จะรุกไล่เอาจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจนสุดทางไหม หรือเป็นเพียงการแสดงอำนาจออกมาให้เห็นเพียงเพื่อคะคานแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กันทางการเมืองเท่านั้นเอง

    อิทธิพลของคนโตแห่งบุรีรัมย์ยังสะท้อนอยู่ในองค์กรอิสระอย่าง กกต. เห็นไหมว่า เมื่อไม่นานอยู่ดีๆ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็ออกมาบอกว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกร้องเรียนในลักษณะความผิดที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกลที่ถูกศาลวินิจฉัยยุบพรรคนั้น ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลยไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นยังไม่มีบทสรุปออกมา จึงไม่ใช่เรื่องที่เลขาธิการ กกต.จะออกมาแถลงชี้นำหรือออกมาแถลงแม้หลายคนจะตั้งคำถามว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะใช้เวลานานมากก็ตาม

    วันนี้เราคงเห็นแล้วว่า สำหรับนักการเมืองแล้วระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับผลประโยชน์ของตัวเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่าในบทบาทของคนที่เข้ามาเล่นการเมือง จะมีคนกี่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง และมีกฎเกณฑ์กติกาไหนที่จะตรวจสอบนักการเมืองที่มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและพวกพ้องได้อย่างแท้จริง

    วันนี้เราคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยพรรคสีน้ำเงินจึงเล่นการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น


    ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483

    #Thaitimes
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ https://www.facebook.com/surawich.verawan การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็นที่ข้อยุติว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินของ รฟท.จึงเห็นควรยุติเรื่องในกรณีนี้” กำลังท้าทายกับกระแสสังคมและกระบวนการยุติธรรมที่เป็นบรรทัดฐานของประเทศ เข้าใจครับว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวแต่งตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองในคดีที่การรถไฟฯ ฟ้องกรมที่ดิน แต่นัยของคำสั่งนั้นหากอ่านคำพิพากษาของศาลปกครองแล้ว จะพบว่า ศาลต้องการให้ตั้งกรรมการขึ้นมาเพื่อเพิกถอนสิทธิการถือครองที่ดินตามคำพิพากษาของศาลฎีกาที่ผู้ถือครองที่ดินเขากระโดงจำนวน 37 แปลงฟ้องการรถไฟฯ (คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 8027/2561 และ 842-876/260 ) แต่คำพิพากษาศาลฎีกาชี้ชัดว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯ ซึ่งศาลปกครองหมายรวมถึงแปลงอื่นที่อยู่นอกเหนือแปลงที่นำขึ้นสู่ศาลฎีกาด้วย แต่กรมที่ดินซึ่งตั้งกรรมการขึ้นตามคำสั่งศาลปกครองกลับมีมติว่า การรถไฟฯ ไม่มีหลักฐานแสดงสิทธิในที่ดินเขากระโดงทั้งที่ศาลฎีกาชี้แล้วว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวเป็นของการรถไฟฯแม้ว่า อนุทิน ชาญวีรกูล รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย บอกว่า ไม่ได้สั่งการอะไรกรมที่ดิน แต่คำถามว่า มีใครบ้างที่จะเชื่อ อนุทินอ้างว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวที่ตั้งขึ้นตามคำสั่งของศาลปกครองตั้งขึ้นมาก่อนที่พรรคภูมิใจไทยและตัวเองจะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีมหาดไทย แต่จุดหมายสำคัญก็คือ กรรมการชุดนี้สามารถมีมติได้ในวันที่พรรคภูมิใจไทยมีอำนาจในกระทรวงมหาดไทย และอนุทินมีตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีและเมื่อไม่นานมานี้อธิบดีกรมที่ดินคนหนึ่งก็ได้ชิงลาออกไป ซึ่งกล่าวขานกันว่า เพราะปมที่ดินเขากระโดงนั่นเอง เป็นที่รู้กันว่า ในจำนวนที่ดิน 800 กว่าแปลงในพื้นที่เขากระโดงนั้น ผู้ถือครองรายใหญ่ก็คือ ตระกูลชิดชอบ ไปถามพ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ก็รู้เรื่องนี้ดีเพราะเคยอภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ในสภาฯ เพียงแต่วันนี้ พ.ต.อ.ทวีอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลเดียวกับพรรคภูมิใจไทยเท่านั้น แน่นอนถึงตอนนี้พ.ต.อ.ทวีก็ต้องการรักษาสายสัมพันธ์ของพรรคร่วมรัฐบาล ต่างกับที่เคยหวงแหนสมบัติของชาติในขณะที่เป็นฝ่ายค้าน และเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่าคนที่อยู่เบื้องหลังพรรคภูมิใจไทยก็คือนายเนวิน ชิดชอบ ที่เป็นเจ้าของพรรคตัวจริงในทางพฤตินัย จะเห็นได้ว่าในงานวันเกิดของนายเนวินนั้นข้าราชการระดับสูงที่อยู่ภายใต้กระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยกำกับนั้นจะต้องเข้าไปร่วมงานถึงบุรีรัมย์เพื่อแสดงตัวให้เห็น เพราะเขารู้ว่าใครคือ คนที่ให้คุณให้โทษได้ และในหมู่ข้าราชการก็รู้กันว่า การโยกย้ายตำแหน่งต่างๆ ในกระทรวงของพรรคภูมิใจไทยนั้นคนที่มีบทบาทสำคัญคือใคร ก็ต้องรอดูต่อไปว่า ระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความยุติธรรมทางกฎหมายที่เป็นขื่อแปของบ้านเมืองอย่างไหนจะศักดิ์สิทธิ์กว่ากัน คำสั่งของกรมที่ดินจะใหญ่กว่าคำพิพากษาของศาลฎีกาไหม แต่ต้องยอมรับนะครับว่า การเล่นการเมืองอยู่หลังม่านของคนคนหนึ่งวันนี้นั้นทำให้กระบวนการตรวจสอบคนที่อยู่ในอำนาจทางการเมืองไม่สามารถทำได้ เพราะไม่ได้มีตำแหน่งใดในรัฐบาล หรือแม้แต่เป็นผู้บริหารพรรค เพียงแต่เป็นสมาชิกของพรรคที่สามารถเตะตูดหัวหน้าพรรคได้เท่านั้น ทำให้กลายเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเมืองใช้เป็นเครื่องมือในการเล่นการเมืองอยู่หลังฉาก แต่มีอำนาจสั่งการทุกกระทรวงที่อยู่ภายใต้อำนาจของพรรคที่ข้าราชการทุกคนต้องเกรงใจและหวั่นกลัว มาที่เรื่อง สว.นอกจากในวันนี้พรรคภูมิใจไทยจะเป็นพรรคอันดับสองในสภาผู้แทนราษฎร แต่เป็นที่รู้กันว่า สว.กว่า 150 คนนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของใครที่เรียกว่ากันว่า สว.สีน้ำเงินนั่นเอง แล้วอำนาจที่สำคัญของ สว.ก็คือ การแต่งตั้งองค์กรอิสระ ไม่ว่าจะเป็น ป.ป.ช. กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฯลฯ ซึ่งทำให้หากใครจะขึ้นสู่ตำแหน่งดังกล่าวก็จะต้องวิ่งเข้าหาเจ้าของ สว.เพื่อให้ สว.ยกมือให้ หากผ่านการคัดเลือกของคณะกรรมการสรรหาเข้าสู่วุฒิสภามา ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตระหนกและเป็นอันตรายมากหากอำนาจการแต่งตั้งองค์กรอิสระอยู่ในอำนาจของใครบางคนหรือคนเพียงคนเดียวในทางพฤตินัย และหากมีการประชุมรัฐสภาคือประชุมร่วมระหว่าง สส. และ สว.เสียงของพรรคภูมิใจไทยและ สว.จะรวมกันเป็นเสียงข้างมากในรัฐสภา และการดำเนินการใดที่จะต้องผ่านรัฐสภาเช่น การแก้รัฐธรรมนูญก็จะตกอยู่ภายใต้การกำกับของเจ้าของสว.ที่จะต้องการให้เป็นไปในทิศทางไหนก็ได้ วันนี้พรรคภูมิใจไทยแม้ว่าจะเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอันดับสอง แต่ก็มีอิทธิพลเหนือพรรคเพื่อไทยที่เป็นแกนนำรัฐบาลไปแล้ว แม้ว่า เราจะเห็นอนุทินนอบน้อมต่ออุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพร้อมจะยืนเป็นวอลเปเปอร์หรือพี่เลี้ยงของอุ๊งอิ๊งค์ตลอดเวลาก็ตาม พรรคภูมิใจไทยจึงขบเหลี่ยมอยู่กับพรรคเพื่อไทยหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกัญชา เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ รวมถึงการทำประชามติเพื่อแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ว่าอย่างไรเสียพรรคเพื่อไทยก็ไม่สามารถสลัดพรรคภูมิใจไทยออกจากพรรคร่วมรัฐบาลได้ แล้วคอยดูว่า กรณีที่ดินเขากระโดง แม้ว่านายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม จากพรรคเพื่อไทยซึ่งกำกับดูแลการรถไฟแห่งประเทศไทยจะแสดงให้เห็นว่า ไม่อาจยอมรับคำสั่งของคณะกรรมการของกรมที่ดินในกรณีที่ดินเขากระโดงได้ แต่ก็ต้องดูว่า สุดท้ายแล้วเป็นเพียงการแสดงออกไปตามบทบาทที่ตัวเองเล่นอยู่ แต่จะรุกไล่เอาจริงเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศจนสุดทางไหม หรือเป็นเพียงการแสดงอำนาจออกมาให้เห็นเพียงเพื่อคะคานแลกเปลี่ยนต่อรองผลประโยชน์กันทางการเมืองเท่านั้นเอง อิทธิพลของคนโตแห่งบุรีรัมย์ยังสะท้อนอยู่ในองค์กรอิสระอย่าง กกต. เห็นไหมว่า เมื่อไม่นานอยู่ดีๆ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต.ก็ออกมาบอกว่า กรณีของพรรคภูมิใจไทยที่ถูกร้องเรียนในลักษณะความผิดที่คล้ายคลึงกับพรรคก้าวไกลที่ถูกศาลวินิจฉัยยุบพรรคนั้น ไม่ได้เป็นความผิดแห่งการยุบพรรคการเมืองเลยไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง ทั้งที่บอกว่ายังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนที่ตั้งขึ้นยังไม่มีบทสรุปออกมา จึงไม่ใช่เรื่องที่เลขาธิการ กกต.จะออกมาแถลงชี้นำหรือออกมาแถลงแม้หลายคนจะตั้งคำถามว่า การสอบสวนกรณีดังกล่าวของพรรคภูมิใจไทยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นจะใช้เวลานานมากก็ตาม วันนี้เราคงเห็นแล้วว่า สำหรับนักการเมืองแล้วระหว่างผลประโยชน์ของประเทศชาติกับผลประโยชน์ของตัวเองนั้นอย่างไหนสำคัญกว่าในบทบาทของคนที่เข้ามาเล่นการเมือง จะมีคนกี่คนที่เข้ามาเล่นการเมืองเพื่อผลประโยชน์ของชาติอย่างแท้จริง และมีกฎเกณฑ์กติกาไหนที่จะตรวจสอบนักการเมืองที่มุ่งแต่จะแสวงหาผลประโยชน์เพื่อส่วนตัวและพวกพ้องได้อย่างแท้จริง วันนี้เราคงเข้าใจแล้วว่า ทำไมพรรคภูมิใจไทยพรรคสีน้ำเงินจึงเล่นการเมืองเพื่อเป็นรัฐบาลเท่านั้น ที่มา https://mgronline.com/daily/detail/9670000109483 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    อำนาจภายใต้การเมืองสีน้ำเงิน
    การที่อธิบดีกรมที่ดินที่อยู่ภายใต้พรรคภูมิใจไทย ทำหนังสือถึงการรถไฟแห่งประเทศไทย ว่า “คณะกรรมการสอบสวนฯ มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นสมควรไม่เพิกถอนหรือแก้ไขหนังสือแสดงสิทธิในที่ดินการรถไฟฯ บริเวณแยกเขากระโดงเนื่องจาก รฟท. ไม่มีหลักฐานเป็
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 497 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนไทยในแอลเอถือป้ายไล่อุ๊งอิ๊ง (12/11/67) #news1 #คนไทยในแอลเอถือป้ายไล่อุ๊งอิ๊ง #อุ๊งอิ๊งgetout
    คนไทยในแอลเอถือป้ายไล่อุ๊งอิ๊ง (12/11/67) #news1 #คนไทยในแอลเอถือป้ายไล่อุ๊งอิ๊ง #อุ๊งอิ๊งgetout
    Like
    Haha
    Wow
    Love
    Angry
    47
    4 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1933 มุมมอง 644 2 รีวิว
  • ♣️ เครือมติโจรเอาทุกท่าน ทั้งส้มและแดง หวังกวาดรายได้หลายล้าน จากงานเสวนาใหญ่ที่มีนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ช่วยปาฐกถาพิเศษ และช่วยโน้มน้าวเงินสปอนเซอร์
    #7ดอกจิก
    ♣️ เครือมติโจรเอาทุกท่าน ทั้งส้มและแดง หวังกวาดรายได้หลายล้าน จากงานเสวนาใหญ่ที่มีนายกฯ อุ๊งอิ๊ง ช่วยปาฐกถาพิเศษ และช่วยโน้มน้าวเงินสปอนเซอร์ #7ดอกจิก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาธิปไตยคือระบอบที่ดีที่สุด กับนายกรัฐมนตรีที่ชื่ออุ๊งอิ๊งค์

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000107525
    ประชาธิปไตยคือระบอบที่ดีที่สุด กับนายกรัฐมนตรีที่ชื่ออุ๊งอิ๊งค์ บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000107525
    MGRONLINE.COM
    ประชาธิปไตยคือระบอบที่ดีที่สุด กับนายกรัฐมนตรีที่ชื่ออุ๊งอิ๊งค์
    ไม่รู้ว่าสังคมไทยมีความเห็นอย่างไรบ้างที่ได้ อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร
    Like
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 253 มุมมอง 0 รีวิว
  • รอดูฝีมือ 😏 ท่าน #นายกอุ๊งอิ๊ง กันต่อไป . . #เกาะกูด #ครอบครัวเพื่อไทย #ทักษิณ
    รอดูฝีมือ 😏 ท่าน #นายกอุ๊งอิ๊ง กันต่อไป . . #เกาะกูด #ครอบครัวเพื่อไทย #ทักษิณ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • ความรู้สติปัญญาความสามารถ กับทางเร่งจุดจบรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000105229
    ความรู้สติปัญญาความสามารถ กับทางเร่งจุดจบรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000105229
    MGRONLINE.COM
    ความรู้สติปัญญาความสามารถ กับทางเร่งจุดจบรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์
    หนึ่งความคิดสุรวิชช์ วีรวรรณจากคดีความที่รุมเร้า ทักษิณผู้พ่อ ทั้งคดีที่ศาลรัฐธรรมนูญ ป.ป.ช. กกต. แม้ว่าแต่ละคดีนั้นเรารับรู้ได้โดยพฤตินัยว่า ข้อกล่าวหาต่างๆ ล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น แต่จะหาหลักฐานมาเอาผิดได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • รอดูฝีมือ 😏 ท่าน #นายกอุ๊งอิ๊ง กันต่อไป . . #เกาะกูด #ครอบครัวเพื่อไทย #ทักษิณ #ทักษิณชินวัตร #เพื่อไทย
    รอดูฝีมือ 😏 ท่าน #นายกอุ๊งอิ๊ง กันต่อไป . . #เกาะกูด #ครอบครัวเพื่อไทย #ทักษิณ #ทักษิณชินวัตร #เพื่อไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • อัตวินิบาตของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก >> https://mgronline.com/daily/detail/9670000104809
    อัตวินิบาตของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก >> https://mgronline.com/daily/detail/9670000104809
    MGRONLINE.COM
    อัตวินิบาตของรัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์
    ในขณะที่มีคำถามว่ารัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์-แพทองธารจะมีอายุที่ยืนยาวไหม จะอยู่ได้นานไหม คำตอบนั้นก็เป็นเรื่องที่ต้องคาดเดาคาดการณ์กันว่า จะมีวิกฤตอะไรบ้างที่จะทำให้รัฐบาลชุดนี้พบจุดจบ แต่ต้องยอมรับนะครับว่า เสียงของรัฐบาลหรือมือในสภาฯ นั้
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไร้เงานายกฯอุ๊งอิ๊งร่วมประชุม BRICS 2024 : คนเคาะข่าว 23-10-67
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    : นงวดี ถนิมมาลย์ ดำเนินรายการ
    ไร้เงานายกฯอุ๊งอิ๊งร่วมประชุม BRICS 2024 : คนเคาะข่าว 23-10-67 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ : นงวดี ถนิมมาลย์ ดำเนินรายการ
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 359 0 รีวิว
  • #สามารถคนนี้นักตบมืออาชีพของแทร่วีรกรรมไม่ธรรมดอนะฮาฟ
    นังพัชผู้โป๊ะแตก กับ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช มีอะไรที่ผูกพันธ์กันพอสมควร
    แต่ เรื่องของสามารถคนนี้ ไม่ธรรมดา จากคนต๊อกต๋อย
    กลายเป็นมือขวาคู่ใจลุงป้อม เขี่ยอดีตคนใกล้ชิดผู้เป็นองครักษ์
    ขนาด เสี่ยแป้งยังต้องถอย ไปตั้งหลักกับคนชั้น 14
    ทั้งๆที่ คอยดูแลลุงอย่างดีมาตลอด
    ...ด้วยความที่เป็นดังสาริกาลิ้นทอง ที่พูดอะไร ลุงเชื่อหมด
    แม้กระทั่ง...วันที่ลุงป้อมอยู่ในภาวะหน้าสิว หน้าฝ้า เอ้ยสิ่ว หน้าขวาน
    ย้อนกลับไป วันที่ลุงป้อม ได้เรียกพรรคร่วมไปพูดคุยกัน
    โดยมีข่าวว่า พรรคส้มไม่ต่ำกว่า 40 - 70 เสียง + เพื่อไทยอีกจำนวนเหยียบร้อย จะยกมืออย่างพร้อมเพรียง เพื่อให้ลุงป้อมได้ขึ้นตำแหน่งนายก
    ตรงความมั่นใจนี้แหละ ที่ทำให้หลายคนสงสัยว่า อะไร คือที่มาของความมั่นใจในวันนั้น เพราะท้ายที่สุด อุ๊งอิ๊ง จึงได้การรับรองจากสส. พรรคร่วมอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งลุงป้อมเอง ก็เพิ่งมารู้ตัวหลังโหวต จนเป็นที่มาของการหยุมนักข่าว ที่ถามแซะลุงว่า เห็นผลโหวตหรือยัง
    ...พี่คิงส์ จะเฉลยให้ทุกท่านได้รับทราบ ณ บัดนาว
    ก็อย่างที่บอก ว่าสามารถ จากคนนอกพรรค กลายเป็นมือขวาลุง และสามารถก็ได้อาสา จะไปดึงสส.ส้ม และสส.เพื่อไทย ให้เป็นงูเห่า มายกมือหนับหนุนลุง โดย ในเพื่อไทย อ้างลุงว่าต้องเลี้ยงหัวละล้าน จำนวนกี่สิบ หรือหลักร้อยก็ว่าไป แต่ส่งถึงมือสส จริง สามารถอมไว้เอง ห้าฉิบเปอร์เซ็ง ส่วนพรรคส้ม ก็ต้องเป็นรายเดือน ตีไปหัวละแฉน สามารถก็อมไว้อีกห้าฉิบ เหมือนเดิม
    ที่น่าเจ็บจายคือ ลุงเลี้ยงมาเกือบปี เหมือนสำนวนที่ว่า ลับดาบพันวัน เพื่อใช้งานหนเดียว แต่กลายเป็น สส.พรรคส้มเอง ก็เอาไปขำขันว่า ลุงให้เงินใช้ฟฟรีรี เอาไปปาตี้กันหนุกหนาน สส.เพื่อไทยก็ขำกัน จนไปถึงหูโทนี่ โทนี่ก็ถึงกับปรี๊ดแตก ประกาศลั่นว่า จะไม่เอา พลปชร มาร่วมรัฐบาลเด็ดขวด
    ...และก็นั่นหละ วันโหวต ลุงป้อมก็ได้รับการเสนอชื่อจริง แต่คนลงคะแนนให้ลุง เท่าเห็บแมว ไอ่สามารถเอง ก็แก้ตัวต่างๆนานา ซึ่งเวลานั้น พี่คิงส์ก็ประเมินแล้ว ว่าลุงต้องถีบออก ถ้ารู้ความจริง แต่ เฮ๊ยย ลุงไม่ถีบ
    ...จนมาถึงวันนี้ กับเสียงเทวดา ที่คุยกับพอล กรณีดิไอคอน ที่อ้างว่า สามารถทำให้พอลดีดนิ้วแบบทานอส ได้ทุกอย่างในประเทศ แต่ต้องเงินถึง จนในที่สุดลุงป้อมแกก็รีบแถลง ขับสามารถออกจากสาระบบ อย่างที่เห็น
    นึกถึงคำพูดเสี่ยแป้ง ลอยมาเลยว่า
    ลุงป้อม ชอบเชื่อคนใหม่ ไม่สนใจคนเก่า สามารถคนเดียว ทำพลปชร อิ๊บอ๋ายมาได้ ถึงเพลานี้ทีเดียวเชียว สามารถ นักตบ มืออาชีพจริงๆ
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #สามารถคนนี้นักตบมืออาชีพของแทร่วีรกรรมไม่ธรรมดอนะฮาฟ นังพัชผู้โป๊ะแตก กับ สามารถ เจนชัยจิตรวนิช มีอะไรที่ผูกพันธ์กันพอสมควร แต่ เรื่องของสามารถคนนี้ ไม่ธรรมดา จากคนต๊อกต๋อย กลายเป็นมือขวาคู่ใจลุงป้อม เขี่ยอดีตคนใกล้ชิดผู้เป็นองครักษ์ ขนาด เสี่ยแป้งยังต้องถอย ไปตั้งหลักกับคนชั้น 14 ทั้งๆที่ คอยดูแลลุงอย่างดีมาตลอด ...ด้วยความที่เป็นดังสาริกาลิ้นทอง ที่พูดอะไร ลุงเชื่อหมด แม้กระทั่ง...วันที่ลุงป้อมอยู่ในภาวะหน้าสิว หน้าฝ้า เอ้ยสิ่ว หน้าขวาน ย้อนกลับไป วันที่ลุงป้อม ได้เรียกพรรคร่วมไปพูดคุยกัน โดยมีข่าวว่า พรรคส้มไม่ต่ำกว่า 40 - 70 เสียง + เพื่อไทยอีกจำนวนเหยียบร้อย จะยกมืออย่างพร้อมเพรียง เพื่อให้ลุงป้อมได้ขึ้นตำแหน่งนายก ตรงความมั่นใจนี้แหละ ที่ทำให้หลายคนสงสัยว่า อะไร คือที่มาของความมั่นใจในวันนั้น เพราะท้ายที่สุด อุ๊งอิ๊ง จึงได้การรับรองจากสส. พรรคร่วมอย่างเป็นเอกฉันท์ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งลุงป้อมเอง ก็เพิ่งมารู้ตัวหลังโหวต จนเป็นที่มาของการหยุมนักข่าว ที่ถามแซะลุงว่า เห็นผลโหวตหรือยัง ...พี่คิงส์ จะเฉลยให้ทุกท่านได้รับทราบ ณ บัดนาว ก็อย่างที่บอก ว่าสามารถ จากคนนอกพรรค กลายเป็นมือขวาลุง และสามารถก็ได้อาสา จะไปดึงสส.ส้ม และสส.เพื่อไทย ให้เป็นงูเห่า มายกมือหนับหนุนลุง โดย ในเพื่อไทย อ้างลุงว่าต้องเลี้ยงหัวละล้าน จำนวนกี่สิบ หรือหลักร้อยก็ว่าไป แต่ส่งถึงมือสส จริง สามารถอมไว้เอง ห้าฉิบเปอร์เซ็ง ส่วนพรรคส้ม ก็ต้องเป็นรายเดือน ตีไปหัวละแฉน สามารถก็อมไว้อีกห้าฉิบ เหมือนเดิม ที่น่าเจ็บจายคือ ลุงเลี้ยงมาเกือบปี เหมือนสำนวนที่ว่า ลับดาบพันวัน เพื่อใช้งานหนเดียว แต่กลายเป็น สส.พรรคส้มเอง ก็เอาไปขำขันว่า ลุงให้เงินใช้ฟฟรีรี เอาไปปาตี้กันหนุกหนาน สส.เพื่อไทยก็ขำกัน จนไปถึงหูโทนี่ โทนี่ก็ถึงกับปรี๊ดแตก ประกาศลั่นว่า จะไม่เอา พลปชร มาร่วมรัฐบาลเด็ดขวด ...และก็นั่นหละ วันโหวต ลุงป้อมก็ได้รับการเสนอชื่อจริง แต่คนลงคะแนนให้ลุง เท่าเห็บแมว ไอ่สามารถเอง ก็แก้ตัวต่างๆนานา ซึ่งเวลานั้น พี่คิงส์ก็ประเมินแล้ว ว่าลุงต้องถีบออก ถ้ารู้ความจริง แต่ เฮ๊ยย ลุงไม่ถีบ ...จนมาถึงวันนี้ กับเสียงเทวดา ที่คุยกับพอล กรณีดิไอคอน ที่อ้างว่า สามารถทำให้พอลดีดนิ้วแบบทานอส ได้ทุกอย่างในประเทศ แต่ต้องเงินถึง จนในที่สุดลุงป้อมแกก็รีบแถลง ขับสามารถออกจากสาระบบ อย่างที่เห็น นึกถึงคำพูดเสี่ยแป้ง ลอยมาเลยว่า ลุงป้อม ชอบเชื่อคนใหม่ ไม่สนใจคนเก่า สามารถคนเดียว ทำพลปชร อิ๊บอ๋ายมาได้ ถึงเพลานี้ทีเดียวเชียว สามารถ นักตบ มืออาชีพจริงๆ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Haha
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 552 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ อิ๊ง - เพื่อไทย ใส่เกียร์อาร์ ถอยเรื่องนิรโทษฯ ช่วยพ่อไว้ชั่วคราว หลังพรรคร่วมรัฐบาลไม่สนับสนุน โดยยังไม่พิจารณาร่างฯนิรโทษของพรรคประชาชน แต่จะปล่อยให้สภาฯ ได้ถกรายงานของ กทธ.ในการประชุมสมัยหน้า
    #7ดอกจิก
    #อุ๊งอิ๊ง
    ♣ อิ๊ง - เพื่อไทย ใส่เกียร์อาร์ ถอยเรื่องนิรโทษฯ ช่วยพ่อไว้ชั่วคราว หลังพรรคร่วมรัฐบาลไม่สนับสนุน โดยยังไม่พิจารณาร่างฯนิรโทษของพรรคประชาชน แต่จะปล่อยให้สภาฯ ได้ถกรายงานของ กทธ.ในการประชุมสมัยหน้า #7ดอกจิก #อุ๊งอิ๊ง
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รศ.ดร.พิชาย” ระบุคำร้องของ “ธีรยุทธ” ประเด็นนักโทษชั้น 14 ทำ “ทักษิณ-พท.” หนาว เหตุผลสอบของกรรมการสิทธิฯ ชี้ชัดแม้วไม่ได้ป่วยหนัก จนท.ส่อทุจริต-เอื้อประโยชน์ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าผิด “ทักกี้” ต้องกลับมาติดคุก รับโทษเพิ่มอีก 6 ปี นำไปสู่การยุบ “เพื่อไทย” ในฐานะผู้สั่งการ เป็นเหตุให้ “อุ๊งอิ๊ง” ถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปี หลุดเก้าอี้นายกฯ จำส่งไม้ต่อให้ “อนุทิน”

    https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000097166?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR363tkwjGLGOd-j52AEYQSL6S2Mm0HFeAfabjFNrQ8SM2MCjyMmXr7_Tt0_aem_7oS4IJoUVvcnyflZRKnozA#m2h9itryz8qo2rhs8ms

    #Thaitimes
    “รศ.ดร.พิชาย” ระบุคำร้องของ “ธีรยุทธ” ประเด็นนักโทษชั้น 14 ทำ “ทักษิณ-พท.” หนาว เหตุผลสอบของกรรมการสิทธิฯ ชี้ชัดแม้วไม่ได้ป่วยหนัก จนท.ส่อทุจริต-เอื้อประโยชน์ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าผิด “ทักกี้” ต้องกลับมาติดคุก รับโทษเพิ่มอีก 6 ปี นำไปสู่การยุบ “เพื่อไทย” ในฐานะผู้สั่งการ เป็นเหตุให้ “อุ๊งอิ๊ง” ถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปี หลุดเก้าอี้นายกฯ จำส่งไม้ต่อให้ “อนุทิน” https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000097166?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR363tkwjGLGOd-j52AEYQSL6S2Mm0HFeAfabjFNrQ8SM2MCjyMmXr7_Tt0_aem_7oS4IJoUVvcnyflZRKnozA#m2h9itryz8qo2rhs8ms #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    คำร้อง “ธีรยุทธ” อาจทำ “เพื่อไทย” ถูกยุบ “อุ๊งอิ๊ง” หลุดนายกฯ ส่ง “อนุทิน” ขึ้นแทน!
    “รศ.ดร.พิชาย”ระบุ คำร้องประเด็นนักโทษชั้น 14 ทำ“ทักษิณ-พท.”หนาว “แม้วอาจต้องกลับมาติดคุก รับโทษเพิ่มอีก 6 ปี นำไปสู่การยุบ“เพื่อไทย”ในฐานะผู้สั่งการ เป็นเหตุให้ “อุ๊งอิ๊งค์” ถูกตัดสิทธิการเมือง 10 ปี หลุดเก้าอี้นายกฯ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • อยากจะเอาใจช่วยอุ๊งอิ๊งค์แต่…

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000100017
    อยากจะเอาใจช่วยอุ๊งอิ๊งค์แต่… บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000100017
    MGRONLINE.COM
    อยากจะเอาใจช่วยอุ๊งอิ๊งค์แต่...
    การดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร นั้น เธอเดินมาตามครรลองของรัฐธรรมนูญในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขอย่างถูกต้องชอบธรรมดูสง่างาม แต่คำถามที่เธอถูกถามก็คือ ความรู้ความสามารถในการบริหารประเ
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • จัดการ ‘นิคมมลพิษ’ รอ ‘เอกนัฏ’ จะทำงานกี่โมง
    .
    เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมป้ายแดง คุณรับรู้รับทราบเรื่องปัญหานิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยางหรือยังครับ นิคมนี้กำลังสร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นพื้นที่สีเขียวจริงๆ คือมันเป็นปอดขนาดใหญ่ของชาวระยอง แล้วนิคมอุตสาหกรรมมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 8 ตำบล 20 หมู่บ้าน โรงเรียน สถานศึกษา วัดวาอาราม สำนักสงฆ์อีก 7 แห่ง รวมไปจนถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ต้องเดือดร้อนจากนิคมฯ นี้อีก 9 แห่ง
    .
    บริษัทที่อยู่ในนิคมฯ ทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นนายทุนจีน นายทุนอินเดีย นายทุนญี่ปุ่น แทบทั้งสิ้น ผมจะถามท่านกลับว่า ประชาชนแถวนั้นเขาได้ประโยชน์อะไรจากนิคมฯ จนป่านนี้ชาวบ้านทนทุกข์ทรมานกับนิคมฯนี้มา 9 ปีแล้ว พวกคุณยังนิ่งดูดายกันอยู่ได้อย่างไร
    .
    ผมจะฝากถามคำถามไปถึงคน 3 คน คนแรก คือ คุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีป้ายแดงค่าย กปปส. ลูกบุญธรรมคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ,คนที่สองที่ผมจะพูดถึง คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติที่ดันคุณเอกณัฐเป็น รมต. และคนที่สาม คุณอนุทิน ชาญวีรกูล คนที่ถูกวางตัวว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจากอุ๊งอิ๊งค์ ที่เกี่ยวข้องในมุม รมว.มหาดไทยของบรรดานักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่เอื้ออำนวยนายทุนและนักการเมืองท้องถิ่นเลวๆที่กดหัวชาวบ้าน
    .
    วันนี้ชาวบ้านเมืองระยองเขาจะล้มหายตายจากกันแล้ว แต่คุณก็ยังนิ่งเฉย ไม่มีมาตรการใดๆ ออกมา คุณลองไปเยี่ยมเขาหน่อยสิครับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ คุณสบายดีอยู่หรือเปล่า หรือว่าคุณแค่โกหกพกลมให้ชาวบ้านเขาเชื่อว่าคุณเข้ามาเพื่อตั้งใจทำงานจริงๆ แต่ผลงานคุณมันไม่ได้ออกมาในรูปแบบนี้ คนละเรื่อง
    .
    นี่ไงประชาชน แล้วคุณทำประโยชน์อะไรกับเขาได้บ้าง ผมยังไม่เห็นคุณทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว คุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ท่านผู้ชมครับ เห็นด้วยกับผมไหม เรื่องนี้
    จัดการ ‘นิคมมลพิษ’ รอ ‘เอกนัฏ’ จะทำงานกี่โมง . เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมป้ายแดง คุณรับรู้รับทราบเรื่องปัญหานิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยางหรือยังครับ นิคมนี้กำลังสร้างผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติที่เป็นพื้นที่สีเขียวจริงๆ คือมันเป็นปอดขนาดใหญ่ของชาวระยอง แล้วนิคมอุตสาหกรรมมันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ชาวบ้านในพื้นที่กว่า 8 ตำบล 20 หมู่บ้าน โรงเรียน สถานศึกษา วัดวาอาราม สำนักสงฆ์อีก 7 แห่ง รวมไปจนถึงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ต้องเดือดร้อนจากนิคมฯ นี้อีก 9 แห่ง . บริษัทที่อยู่ในนิคมฯ ทั้งหมดนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นนายทุนจีน นายทุนอินเดีย นายทุนญี่ปุ่น แทบทั้งสิ้น ผมจะถามท่านกลับว่า ประชาชนแถวนั้นเขาได้ประโยชน์อะไรจากนิคมฯ จนป่านนี้ชาวบ้านทนทุกข์ทรมานกับนิคมฯนี้มา 9 ปีแล้ว พวกคุณยังนิ่งดูดายกันอยู่ได้อย่างไร . ผมจะฝากถามคำถามไปถึงคน 3 คน คนแรก คือ คุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม รัฐมนตรีป้ายแดงค่าย กปปส. ลูกบุญธรรมคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ,คนที่สองที่ผมจะพูดถึง คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานและหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติที่ดันคุณเอกณัฐเป็น รมต. และคนที่สาม คุณอนุทิน ชาญวีรกูล คนที่ถูกวางตัวว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจากอุ๊งอิ๊งค์ ที่เกี่ยวข้องในมุม รมว.มหาดไทยของบรรดานักการเมืองท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่เอื้ออำนวยนายทุนและนักการเมืองท้องถิ่นเลวๆที่กดหัวชาวบ้าน . วันนี้ชาวบ้านเมืองระยองเขาจะล้มหายตายจากกันแล้ว แต่คุณก็ยังนิ่งเฉย ไม่มีมาตรการใดๆ ออกมา คุณลองไปเยี่ยมเขาหน่อยสิครับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ คุณสบายดีอยู่หรือเปล่า หรือว่าคุณแค่โกหกพกลมให้ชาวบ้านเขาเชื่อว่าคุณเข้ามาเพื่อตั้งใจทำงานจริงๆ แต่ผลงานคุณมันไม่ได้ออกมาในรูปแบบนี้ คนละเรื่อง . นี่ไงประชาชน แล้วคุณทำประโยชน์อะไรกับเขาได้บ้าง ผมยังไม่เห็นคุณทำอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว คุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ท่านผู้ชมครับ เห็นด้วยกับผมไหม เรื่องนี้
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 678 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวจะปวด!! : [News story]

    นายกฯ “อุ๊งอิ๊ง” พลาด โพสต์ ตำแหน่งผู้นำจีน ผิด!!..
    หัวจะปวด!! : [News story] นายกฯ “อุ๊งอิ๊ง” พลาด โพสต์ ตำแหน่งผู้นำจีน ผิด!!..
    Haha
    Sad
    Like
    Wow
    Yay
    Angry
    25
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1369 มุมมอง 659 0 รีวิว
  • อายทั้งโลก ! “อิ๊งค์” ปล่อยไก่ ไม่รู้ “หลี่เฉียง” เป็น “นายกฯจีน” 12/10/67 #นายกอุ๊งอิ๊งค์ #นายกฯจีน #หลี่เฉียง #การเมือง #รัฐบาล
    อายทั้งโลก ! “อิ๊งค์” ปล่อยไก่ ไม่รู้ “หลี่เฉียง” เป็น “นายกฯจีน” 12/10/67 #นายกอุ๊งอิ๊งค์ #นายกฯจีน #หลี่เฉียง #การเมือง #รัฐบาล
    Haha
    Like
    Wow
    13
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1224 มุมมอง 316 0 รีวิว
  • บิ๊กโจ๊ก ยังรุกหนัก ตามจี้นายกฯอุ๊งอิ๊ง สอบ ขรก.เอี่ยวเว็บพนัน
    .
    แม้ว่าในปีนี้จะเป็นในรอบหลายปีที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผบ.ตร. หลุดวงจรอำนาจ ไม่ได้มีชื่อเป็นแคนดิเดทผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ปรากฎว่ายังมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น ได้มีคำสั่งนายกฯที่ 306 / 2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียน
    .
    โดยในหนังสือดังกล่าวมีเนื้อความตอนหนึ่งว่า "ด้วยพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ได้มีหนังสือร้องเรียนลงวันที่ 21 สิงหาคม ปรากฎมีการพาดพิงข้าราชการหลายประเภท ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ภายใต้หลักธรรมาภิบาลความโปร่งใสและความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เป็นไปตามหลักนิติธรรม จึงมีคำสั่งให้คณกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามเรื่องร้องเรียน ประกอบด้วย 1.นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ประธานกรรมการ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติกรรมการ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย กรรมการ ผู้แทนกรมชลประทาน กรรมการ ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรรมการ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กรรมการ ผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการและเลขานุการ"
    .
    "คณะกรรมการ มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว แล้วรายงานนายกรัฐมนตรีภายใน 30 วัน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องไม่ก้าวล่วงหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว
    .
    จากนั้นปรากฎว่าในวันที่ 8 ตุลาคม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องขอสำเนาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและอ้างพยานบุคคลให้ถ้อยคำเกี่ยวกับการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมืองและพนักงานส่วนท้องถิ่น
    .
    โดยเนื้อความของหนังสือดังกล่าวระบุตอนหนึ่งว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง ข้าพเจ้ากราบเรียนนายกฯ ขอให้พิจารณาดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ช้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง และพนักงานส่วนท้องถิ่น กรณีพบพยานหลักฐานมีการพาดพิงบุคคลจำนวนหลายรายว่ามีพฤติการณ์รับโอนเงินจากเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งต่อมาข้าพเจ้ามีหนังสือขอให้นายกฯเร่งรัดให้มีการดำเนินการทางวินัยและอาญากับบุคคลที่ถูกพาดพิง รวมทั้งขอให้นายกฯเป็นผู้พิจารณาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการทางวินัยตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 แต่ปรากฎว่าสำนักเลขาธิการนายกฯได้มีหนังสือนำกราบเรียนนายกฯพิจารณาแล้ว มีบัญชาให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจพิจารณา พร้อมทั้งได้มีคำสั่งสำนักนายกฯ ลับ ที่ 306/2567 นั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการดำเนินการที่จะเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ อันเป็นเอกสารไม่เกี่ยวกบการวินิจฉัยพิจารณา โดยข้าพเจ้าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถูกกล่าวหาในเรื่องเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความถูกต้องโปร่งใสในการดำเนินการของนายกฯ ข้าพเจ้าจึงมีความประสงค์ ดังนี้
    .
    1.ขอสำเนาคำสั่งนายกฯ ลับ ที่ 306/2567 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียนลงวันที่ 5 กันยายน โดยลบ ตัดทอนหรือทำด้วยประการอื่นใดมิให้ปรากฎชื่อบุคคลที่อาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียนั้น
    .
    2.ขออ้างพันตำรวจโท คริษฐ์ ปริยะเกตุ เป็นพยานบุคคลเพื่อให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง และพนักงานส่วนท้องถิ่นตามคำสั่งสำนักนายกฯ เนื่องมาจากเป็นผู้ได้รับข้อมูลการเดินบัญชีของบุคคลที่เกี่ยวข้องว่ามีความสัมพันธ์กับนางสาวพิมพ์วิไล ปล้องอ่อน ผู้ถูกกล่าวหาในคดีเว็บพนันออนไลน์อย่างไร จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้เกิดความถูกต้องตามกฎหมายต่อไป
    ..............
    Sondhi X
    บิ๊กโจ๊ก ยังรุกหนัก ตามจี้นายกฯอุ๊งอิ๊ง สอบ ขรก.เอี่ยวเว็บพนัน . แม้ว่าในปีนี้จะเป็นในรอบหลายปีที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตผบ.ตร. หลุดวงจรอำนาจ ไม่ได้มีชื่อเป็นแคนดิเดทผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่ปรากฎว่ายังมีความเคลื่อนไหวที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมานายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น ได้มีคำสั่งนายกฯที่ 306 / 2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียน . โดยในหนังสือดังกล่าวมีเนื้อความตอนหนึ่งว่า "ด้วยพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ได้มีหนังสือร้องเรียนลงวันที่ 21 สิงหาคม ปรากฎมีการพาดพิงข้าราชการหลายประเภท ดังนั้น เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ภายใต้หลักธรรมาภิบาลความโปร่งใสและความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย เป็นไปตามหลักนิติธรรม จึงมีคำสั่งให้คณกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามเรื่องร้องเรียน ประกอบด้วย 1.นายพิฆเนศ ต๊ะปวง ประธานกรรมการ ผู้แทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติกรรมการ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย กรรมการ ผู้แทนกรมชลประทาน กรรมการ ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรรมการ ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กรรมการ ผู้แทนสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการและเลขานุการ" . "คณะกรรมการ มีหน้าที่และอำนาจตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว แล้วรายงานนายกรัฐมนตรีภายใน 30 วัน ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวต้องไม่ก้าวล่วงหน้าที่และอำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าว . จากนั้นปรากฎว่าในวันที่ 8 ตุลาคม พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องขอสำเนาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงและอ้างพยานบุคคลให้ถ้อยคำเกี่ยวกับการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมืองและพนักงานส่วนท้องถิ่น . โดยเนื้อความของหนังสือดังกล่าวระบุตอนหนึ่งว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง ข้าพเจ้ากราบเรียนนายกฯ ขอให้พิจารณาดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ช้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง และพนักงานส่วนท้องถิ่น กรณีพบพยานหลักฐานมีการพาดพิงบุคคลจำนวนหลายรายว่ามีพฤติการณ์รับโอนเงินจากเจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งต่อมาข้าพเจ้ามีหนังสือขอให้นายกฯเร่งรัดให้มีการดำเนินการทางวินัยและอาญากับบุคคลที่ถูกพาดพิง รวมทั้งขอให้นายกฯเป็นผู้พิจารณาสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการทางวินัยตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ.2551 แต่ปรากฎว่าสำนักเลขาธิการนายกฯได้มีหนังสือนำกราบเรียนนายกฯพิจารณาแล้ว มีบัญชาให้ส่งเรื่องให้คณะกรรมการข้าราชการตำรวจพิจารณา พร้อมทั้งได้มีคำสั่งสำนักนายกฯ ลับ ที่ 306/2567 นั้น ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นคำสั่งเกี่ยวกับการดำเนินการที่จะเป็นประโยชน์แก่สาธารณะ อันเป็นเอกสารไม่เกี่ยวกบการวินิจฉัยพิจารณา โดยข้าพเจ้าเป็นผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการถูกกล่าวหาในเรื่องเว็บพนันออนไลน์ รวมทั้งเป็นการแสดงให้เห็นถึงความถูกต้องโปร่งใสในการดำเนินการของนายกฯ ข้าพเจ้าจึงมีความประสงค์ ดังนี้ . 1.ขอสำเนาคำสั่งนายกฯ ลับ ที่ 306/2567 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามเรื่องร้องเรียนลงวันที่ 5 กันยายน โดยลบ ตัดทอนหรือทำด้วยประการอื่นใดมิให้ปรากฎชื่อบุคคลที่อาจกระทบถึงประโยชน์ได้เสียนั้น . 2.ขออ้างพันตำรวจโท คริษฐ์ ปริยะเกตุ เป็นพยานบุคคลเพื่อให้ถ้อยคำต่อคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินการกับข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง และพนักงานส่วนท้องถิ่นตามคำสั่งสำนักนายกฯ เนื่องมาจากเป็นผู้ได้รับข้อมูลการเดินบัญชีของบุคคลที่เกี่ยวข้องว่ามีความสัมพันธ์กับนางสาวพิมพ์วิไล ปล้องอ่อน ผู้ถูกกล่าวหาในคดีเว็บพนันออนไลน์อย่างไร จึงกราบเรียนมาเพื่อโปรดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ให้เกิดความถูกต้องตามกฎหมายต่อไป .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    Angry
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 789 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่างนี้มันเสียชื่อประเทศไทยไหม!!
    แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ X เขียนตำแหน่งผู้นำจีนผิดพลาดอย่างแรงว่า
    “ในระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนที่เวียงจันทน์ ดิฉันได้มีโอกาสพบกับท่าน
    ประธานาธิบดีหลี่เฉียงของจีน และได้แสดงความยินดีที่ไทยและจีนจะเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปีหน้า เป็นโอกาสที่จะยิ่งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน และ กิจกรรมอีกมากมาย ไทยและจีนเป็นมิตรที่ใกล้ชิด และมีความตั้งใจร่วมกันในการส่งเสริมความมั่นคง และความมั่งคั่งของภูมิภาค

    During the ASEAN Summits in Vientiane, I had the opportunity to meet with President Li Qiang of China and looked forward to our celebration of the 50th anniversary of the establishment of Thai-China diplomatic relations…“

    นายกฯอุ๊งอิ้งค์เขียนโดยขาดการศึกษาความรู้ว่า ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนมาสิบปีจนถึงปัจจุบันคือ สี จิ้นผิง ขณะที่นายหลี่ เฉียง เป็นนายกรัฐมนตรีจีน ที่นายกฯฟันน้ำนมไทยจับมือด้วยดังในภาพที่ปรากฏต่อสาธารณชน

    โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง..
    “President”คือประธานาธิบดี สี จิ้นผิง
    ”Prime Minister “คือ นายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง

    #Thaitimes
    อย่างนี้มันเสียชื่อประเทศไทยไหม!! แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผู้โพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ X เขียนตำแหน่งผู้นำจีนผิดพลาดอย่างแรงว่า “ในระหว่างการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนที่เวียงจันทน์ ดิฉันได้มีโอกาสพบกับท่าน ประธานาธิบดีหลี่เฉียงของจีน และได้แสดงความยินดีที่ไทยและจีนจะเฉลิมฉลองการครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปีหน้า เป็นโอกาสที่จะยิ่งส่งเสริมการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน และ กิจกรรมอีกมากมาย ไทยและจีนเป็นมิตรที่ใกล้ชิด และมีความตั้งใจร่วมกันในการส่งเสริมความมั่นคง และความมั่งคั่งของภูมิภาค During the ASEAN Summits in Vientiane, I had the opportunity to meet with President Li Qiang of China and looked forward to our celebration of the 50th anniversary of the establishment of Thai-China diplomatic relations…“ นายกฯอุ๊งอิ้งค์เขียนโดยขาดการศึกษาความรู้ว่า ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีจีนมาสิบปีจนถึงปัจจุบันคือ สี จิ้นผิง ขณะที่นายหลี่ เฉียง เป็นนายกรัฐมนตรีจีน ที่นายกฯฟันน้ำนมไทยจับมือด้วยดังในภาพที่ปรากฏต่อสาธารณชน โปรดฟังอีกครั้งหนึ่ง.. “President”คือประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ”Prime Minister “คือ นายกรัฐมนตรี หลี่ เฉียง #Thaitimes
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 570 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความหวังของประเทศไทย กับการแสดงเป็นนายกฯของอุ๊งอิ๊งค์

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000097159
    ความหวังของประเทศไทย กับการแสดงเป็นนายกฯของอุ๊งอิ๊งค์ บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000097159
    MGRONLINE.COM
    ความหวังของประเทศไทย กับการแสดงเป็นนายกฯของอุ๊งอิ๊งค์
    มีคนเริ่มตั้งคำถามว่ารัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตรจะไปไหวมั้ย
    Like
    Haha
    Sad
    Love
    Yay
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุ๊งอิ๊งค์จะรอดหรือไม่รอด

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000096665
    อุ๊งอิ๊งค์จะรอดหรือไม่รอด บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9670000096665
    MGRONLINE.COM
    อุ๊งอิ๊งค์จะรอดหรือไม่รอด
    สนธิ ลิ้มทองกุล ประกาศว่า จะติดตามการทำงานของนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร ว่าถ้าทำไม่ถูกต้องมีการฉ้อราษฎร์บังหลวง หรือยกเกาะกูดให้เขมรไปตกลงพื้นที่ทับซ้อนกับเขมรที่เท่ากับยอมรับว่าพื้นที่เกาะกูดส่วนหนึ่งเป็นของเขมร เขาจะออกมานำมวลชนลงถน
    Like
    Haha
    12
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่กังวล ปูดข่าวล้มพรรค (09/10/67) #news1 #ยุบพรรคเพื่อไทย #นายกอุ๊งอิ๊ง #ล้มรัฐบาล
    ไม่กังวล ปูดข่าวล้มพรรค (09/10/67) #news1 #ยุบพรรคเพื่อไทย #นายกอุ๊งอิ๊ง #ล้มรัฐบาล
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1161 มุมมอง 291 0 รีวิว
  • ความรู้ทางภูมิศาสตร์ใหม่!(09/10/67) #news1 #นายกอุ๊งอิ๊ง #น้ำท่วมเชียงใหม่ #ความรู้ทางภูมิศาสตร์ใหม่
    ความรู้ทางภูมิศาสตร์ใหม่!(09/10/67) #news1 #นายกอุ๊งอิ๊ง #น้ำท่วมเชียงใหม่ #ความรู้ทางภูมิศาสตร์ใหม่
    Like
    Haha
    Love
    15
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 1151 มุมมอง 396 0 รีวิว
  • สนธิไขปม “ทักษิณ” กินข้าว “เนวิน” รับมือคดี-อุ๊งอิ๊งขึ้นศาลรธน. ชงอนุทินนายกฯ คนต่อไป
    .
    วันนี้ (9 ต.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง กรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปกินข้าวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตนักโทษคดีทุจริต และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จรัญสนิทวงศ์ 69 เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ว่า เรื่องนี้ต้องโทษนายทักษิณ ตนไม่อยากพูดถึงเพราะนายทักษิณกำลังรับเวรกรรมอยู่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาวนายทักษิณจะเอาตัวรอดเปล่าไม่รู้ และนายทักษิณกำลังถูกรุกหนัก ถึงขั้นถ้าเรื่องถึงศาลและชี้ว่ามีมูล เท่ากับว่าจะต้องถูกตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประกบตลอดเวลา และมีการคาดคะเนว่านายทักษิณอาจต้องหนีออกนอกประเทศอีกครั้ง ตนไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง คนที่เกลียดนายทักษิณตั้งข้อสังเกตเยอะแยะ ตนไม่ได้เกลียดนายทักษิณ แต่ขณะนี้เขาต้องรับเวรรับกรรม และขณะนี้รับเวรกรรมอยู่อย่างมาก
    .
    ทั้งนี้ เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายทักษิณเงียบสนิทไม่ออกไปไหน มีแต่เรียกรัฐมนตรีที่ตัวเองสั่งการได้เข้าไปพบ บางกรณีไปดุด่าว่าอนุมัติโครงการบางโครงการได้อย่างไร แม้กระทั่งมีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่หลังม่านอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีคนวิ่งเต้นเข้าหาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯ ท่าอากาศยานไทย แม้กระทั่งหลายคนต้องการเลื่อนตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ปตท. ถึงขั้นโทรศัพท์ไปหาผู้บริหาร ปตท. ขอให้ซื้อโฆษณาสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีเพิ่ม ซึ่งนายทักษิณได้มอบหมายดูแล 2 กระทรวง คือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกระทรวงยุติธรรม ที่กำลังโยกย้ายแต่งตั้ง เพราะต้องดูว่าใครช่วยนายทักษิณ
    .
    นายสนธิ กล่าวว่า นายเนวินเคยสนิทสนมกับนายทักษิณ เคยเป็นมือให้นายทักษิณทำงานทุกงาน ออกมาปะฉะดะ แม้กระทั่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคยถูกนายเนวินกลั่นแกล้งตลอดเวลา เคยให้นายศุภชัย ใจสมุทร แจ้งความจับตนในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตำแหน่งสำคัญของนายเนวินหลุดออกไป เป็นทำให้นายเนวินหักหลังนายทักษิณ และจัดตั้งรัฐบาลที่ค่ายทหาร ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รมว.กลาโหม โดยนายเนวินเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ทำให้กลุ่มนายเนวินมีอำนาจขึ้นมา เส้นทางการเมืองนายทักษิณอยู่ต่างประเทศ นายเนวินกับนายอนุทินตั้งพรรคภูมิใจไทยขึ้นมา
    .
    นายสนธิเห็นว่า การที่นายเนวินและนายอนุทินกินข้าวกับนายทักษิณ เพราะเวรกรรมกำลังเข้ามาที่นายทักษิณ ทั้งกรมราชทัณฑ์กำลังจะถูกสอบ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์อาจมีส่วนร่วมกระทำความผิดด้วย แม้กระทั่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะ รมว.ยุติธรรม ที่ออกมาให้ความช่วยเหลือนายทักษิณในเรื่องชั้น 14 เพราะฉะนั้นตอนนี้กรมราชทัณฑ์เริ่มระส่ำระส่ายอย่างมาก คนที่เคยช่วยนายทักษิณเพราะหวังได้เลื่อนตำแหน่ง และหลายคนได้เลื่อนตำแหน่งเพราะการช่วยนายทักษิณ เช่น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ขึ้นตำแหน่งเต็มตัวเพราะช่วยนายทักษิณ และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ 5-6 คน ใช้วิชามารและหลักการช่วยนายทักษิณ จึงถูกนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ เคลื่อนไหวเอาผิด
    .
    ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีคนต่อว่าทำไมไม่พูดถึงนายทักษิณเลย ตนตอบว่า ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเขาแล้ว เพราะเขากำลังรับเวรกรรม มีโจทก์เต็มไปหมด ไล่ล่านายทักษิณตลอดเวลา นายทักษิณไม่รู้จะทำอย่างไรในขณะนี้ ซึ่งเรื่องร้องเรียนไปทุกช่องทาง ทั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงาน ปปช. ไปกระทั่งหน่วยงานองค์กรอิสระนั้นไม่เพิกเฉยต่อคำร้องเหล่านี้ได้ แต่ละองค์กรจึงมีการตั้งเรื่องเพื่อสืบเสาะข้อกล่าวหาที่แต่ละคนกล่าวหาทุกช่องทาง ล่าสุดได้ข่าวว่านายทักษิณกำลังจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา
    .
    ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร กำลังจะถูกดำเนินคดีถือหุ้นในบริษัท อัลไพน์ฯ มีรายงานการประชุมชัดเจน มีชื่อ น.ส.แพทองธารประชุมอยู่ด้วย และโยงไปถึง คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา น.ส.แพทองธาร หาก น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ แล้วเรื่องนี้ถูกส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าชี้ว่า น.ส.แพทองธารมีความผิด ไม่ใช่แค่ลาออกอย่างเดียว ยังถูกดำเนินคดีอาญาด้วย แต่ถ้าก่อนศาลรัฐธรรมนูญพิพากษา น.ส.แพทองธารลาออกไปก่อน คดีนี้ก็จบไป จึงเป็นที่มาของการกินข้าวครั้งนี้
    .
    "ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยได้เปรียบกว่าพรรคเพื่อไทยและทักษิณ เป็นพรรคที่คุม สว. เสียงข้างมากในวุฒิสภา ด้วยเหตุนี้ เนวินถือไพ่ตรงนี้เหนือกว่าทักษิณ ในขณะเดียวกัน ทักษิณก็ยังถือเสียง 140 เสียงของพรรคเพื่อไทยอยู่ ซึ่งถ้าเนวินต้องการให้อนุทินขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็ต้องพึ่งเสียงของทักษิณ ผมเชื่อว่าเป็นการทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ร่วมกัน และเจรจากันอย่างเงียบๆ ว่าถ้าสมมติอุ๊งอิ๊งจำเป็นต้องออก ก้าวข้าม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปได้เลย เพราะพรรคพลังประชารัฐมีเสียง สส. อยู่ 40 เสียง 20 กว่าเสียงอยู่กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เสียงของพรรคพลังประชารัฐมีจริงๆ ก็แค่ 10 กว่าเสียง ตีให้ตายชาติหน้า พล.อ.ปนระวิตร ก็เป็นนายกฯ ไม่ได้ คิวต่อไปก็เป็นอนุทิน ชาญวีรกูล ถ้าอนุทินเป็นนายกฯ แล้วไม่มีเสียงของทักษิณสนับสนุน ก็ไม่รู้จะทำยังไง นั่นคือที่มาของการกินข้าว คือการปูทางก่อน ทำความเข้าใจ ก่อนละครลิเกโรงใหญ่" นายสนธิ กล่าว
    .
    ทั้งนี้ หลายคนบอกว่าเหตุการณ์นี้จะเริ่มต้นช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2567 แต่ตนเห็นว่าอย่างเร็วที่สุดต้นปี 2568 เพราะนายทักษิณอยากให้ น.ส.แพทองธาร ลากต่อไป จนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้าย ถ้ายังอยู่ต่อต้องถูกศาลพิพากษาแน่ ถ้าลาออกตอนนี้แล้วเรื่องก็จบ ไม่มีแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญก็แทงเรื่องว่าจบ ปิดคดี เพราะคนที่ถูกกล่าวหาเป็นนายกฯ โดยมิชอบต้องลาออกแล้ว ข้อกล่าวหาก็ต้องตกไปเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ กล่าวว่า กลางเดือนนี้จะมีนายกฯ คนนอก คือนายวีรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการ ธปท. ลูกชาย พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ตนดูการเมืองเมืองไทยกว่า 50 ปีแล้วยังดูไม่ออกเลย นายดนัยก็ดูไม่ออกแต่เชื่อ ทฤษฎีนายดนัยต้องฟังหูไว้หู ตนไม่ประหลาดใจว่ากลางเดือนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ที่แน่ๆ กระบวนการไล่ล่า น.ส.แพทองธารและนายทักษิณยังคงดำเนินต่อไป
    .
    ส่วนการที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. มาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปกป้อง น.ส.แพทองธาร นั้น วันนี้กับสมัยก่อนไม่เหมือนกัน สมัยก่อนมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ร่วมรบ แต่วันนี้ นายจตุพรเป็นศัตรูกับนายทักษิณ นายณัฐวุฒิเข้ามาให้สัมภาษณ์ไป โกหกทุกเรื่อง กระทั่งโซเชียลมีเดียตัดคลิปในอดีตออกมา นายณัฐวุฒิอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ก็เอาคลิปเก่าที่เคยพูดเรื่องจำนำข้าวมาจี้นายณัฐวุฒิ สรุปแล้วเป็นนักการเมืองที่โกหกเก่งคนหนึ่ง ตนไม่เห็นว่านายณัฐวุฒิจะมาปกป้องอะไรนายกฯ ได้เลยแม้แต่นิดเดียว สรุปแล้วเดือนตุลาคมเป็นเดือนตุลาอาถรรพ์ และอาถรรพ์ถึงสิ้นปีนี้ ทั้งหมดถ้ามองย้อนหลังเป็นละคร ลิเกโรงใหญ่ ต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์แลกกัน เป็นการจับมือสองฝ่ายที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน นายทักษิณทางเลือกมีน้อยมาก เหมือนหลังชนกำแพงแล้ว
    ..............
    Sondhi X
    สนธิไขปม “ทักษิณ” กินข้าว “เนวิน” รับมือคดี-อุ๊งอิ๊งขึ้นศาลรธน. ชงอนุทินนายกฯ คนต่อไป . วันนี้ (9 ต.ค.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง กรณีที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปกินข้าวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตนักโทษคดีทุจริต และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่บ้านจันทร์ส่องหล้า จรัญสนิทวงศ์ 69 เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ว่า เรื่องนี้ต้องโทษนายทักษิณ ตนไม่อยากพูดถึงเพราะนายทักษิณกำลังรับเวรกรรมอยู่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาวนายทักษิณจะเอาตัวรอดเปล่าไม่รู้ และนายทักษิณกำลังถูกรุกหนัก ถึงขั้นถ้าเรื่องถึงศาลและชี้ว่ามีมูล เท่ากับว่าจะต้องถูกตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประกบตลอดเวลา และมีการคาดคะเนว่านายทักษิณอาจต้องหนีออกนอกประเทศอีกครั้ง ตนไม่รู้ว่าจริงหรือไม่จริง คนที่เกลียดนายทักษิณตั้งข้อสังเกตเยอะแยะ ตนไม่ได้เกลียดนายทักษิณ แต่ขณะนี้เขาต้องรับเวรรับกรรม และขณะนี้รับเวรกรรมอยู่อย่างมาก . ทั้งนี้ เมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นายทักษิณเงียบสนิทไม่ออกไปไหน มีแต่เรียกรัฐมนตรีที่ตัวเองสั่งการได้เข้าไปพบ บางกรณีไปดุด่าว่าอนุมัติโครงการบางโครงการได้อย่างไร แม้กระทั่งมีข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่หลังม่านอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีคนวิ่งเต้นเข้าหาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าฯ ท่าอากาศยานไทย แม้กระทั่งหลายคนต้องการเลื่อนตำแหน่งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ ปตท. ถึงขั้นโทรศัพท์ไปหาผู้บริหาร ปตท. ขอให้ซื้อโฆษณาสถานีโทรทัศน์เนชั่นทีวีเพิ่ม ซึ่งนายทักษิณได้มอบหมายดูแล 2 กระทรวง คือ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และกระทรวงยุติธรรม ที่กำลังโยกย้ายแต่งตั้ง เพราะต้องดูว่าใครช่วยนายทักษิณ . นายสนธิ กล่าวว่า นายเนวินเคยสนิทสนมกับนายทักษิณ เคยเป็นมือให้นายทักษิณทำงานทุกงาน ออกมาปะฉะดะ แม้กระทั่งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เคยถูกนายเนวินกลั่นแกล้งตลอดเวลา เคยให้นายศุภชัย ใจสมุทร แจ้งความจับตนในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เมื่อเปลี่ยนรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตำแหน่งสำคัญของนายเนวินหลุดออกไป เป็นทำให้นายเนวินหักหลังนายทักษิณ และจัดตั้งรัฐบาลที่ค่ายทหาร ให้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็น รมว.กลาโหม โดยนายเนวินเจรจากับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล ทำให้กลุ่มนายเนวินมีอำนาจขึ้นมา เส้นทางการเมืองนายทักษิณอยู่ต่างประเทศ นายเนวินกับนายอนุทินตั้งพรรคภูมิใจไทยขึ้นมา . นายสนธิเห็นว่า การที่นายเนวินและนายอนุทินกินข้าวกับนายทักษิณ เพราะเวรกรรมกำลังเข้ามาที่นายทักษิณ ทั้งกรมราชทัณฑ์กำลังจะถูกสอบ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์อาจมีส่วนร่วมกระทำความผิดด้วย แม้กระทั่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ในฐานะ รมว.ยุติธรรม ที่ออกมาให้ความช่วยเหลือนายทักษิณในเรื่องชั้น 14 เพราะฉะนั้นตอนนี้กรมราชทัณฑ์เริ่มระส่ำระส่ายอย่างมาก คนที่เคยช่วยนายทักษิณเพราะหวังได้เลื่อนตำแหน่ง และหลายคนได้เลื่อนตำแหน่งเพราะการช่วยนายทักษิณ เช่น อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้ขึ้นตำแหน่งเต็มตัวเพราะช่วยนายทักษิณ และเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ 5-6 คน ใช้วิชามารและหลักการช่วยนายทักษิณ จึงถูกนายจตุพร พรหมพันธุ์ และนายนิติธร ล้ำเหลือ เคลื่อนไหวเอาผิด . ทั้งนี้ ที่ผ่านมามีคนต่อว่าทำไมไม่พูดถึงนายทักษิณเลย ตนตอบว่า ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเขาแล้ว เพราะเขากำลังรับเวรกรรม มีโจทก์เต็มไปหมด ไล่ล่านายทักษิณตลอดเวลา นายทักษิณไม่รู้จะทำอย่างไรในขณะนี้ ซึ่งเรื่องร้องเรียนไปทุกช่องทาง ทั้งคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้ตรวจการแผ่นดิน สำนักงาน ปปช. ไปกระทั่งหน่วยงานองค์กรอิสระนั้นไม่เพิกเฉยต่อคำร้องเหล่านี้ได้ แต่ละองค์กรจึงมีการตั้งเรื่องเพื่อสืบเสาะข้อกล่าวหาที่แต่ละคนกล่าวหาทุกช่องทาง ล่าสุดได้ข่าวว่านายทักษิณกำลังจะถูกแจ้งข้อกล่าวหา . ขณะเดียวกัน น.ส.แพทองธาร กำลังจะถูกดำเนินคดีถือหุ้นในบริษัท อัลไพน์ฯ มีรายงานการประชุมชัดเจน มีชื่อ น.ส.แพทองธารประชุมอยู่ด้วย และโยงไปถึง คุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพชร มารดา น.ส.แพทองธาร หาก น.ส.แพทองธารเป็นนายกฯ แล้วเรื่องนี้ถูกส่งไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าชี้ว่า น.ส.แพทองธารมีความผิด ไม่ใช่แค่ลาออกอย่างเดียว ยังถูกดำเนินคดีอาญาด้วย แต่ถ้าก่อนศาลรัฐธรรมนูญพิพากษา น.ส.แพทองธารลาออกไปก่อน คดีนี้ก็จบไป จึงเป็นที่มาของการกินข้าวครั้งนี้ . "ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยได้เปรียบกว่าพรรคเพื่อไทยและทักษิณ เป็นพรรคที่คุม สว. เสียงข้างมากในวุฒิสภา ด้วยเหตุนี้ เนวินถือไพ่ตรงนี้เหนือกว่าทักษิณ ในขณะเดียวกัน ทักษิณก็ยังถือเสียง 140 เสียงของพรรคเพื่อไทยอยู่ ซึ่งถ้าเนวินต้องการให้อนุทินขึ้นมาเป็นนายกฯ ก็ต้องพึ่งเสียงของทักษิณ ผมเชื่อว่าเป็นการทำความเข้าใจถึงสถานการณ์ร่วมกัน และเจรจากันอย่างเงียบๆ ว่าถ้าสมมติอุ๊งอิ๊งจำเป็นต้องออก ก้าวข้าม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปได้เลย เพราะพรรคพลังประชารัฐมีเสียง สส. อยู่ 40 เสียง 20 กว่าเสียงอยู่กับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เสียงของพรรคพลังประชารัฐมีจริงๆ ก็แค่ 10 กว่าเสียง ตีให้ตายชาติหน้า พล.อ.ปนระวิตร ก็เป็นนายกฯ ไม่ได้ คิวต่อไปก็เป็นอนุทิน ชาญวีรกูล ถ้าอนุทินเป็นนายกฯ แล้วไม่มีเสียงของทักษิณสนับสนุน ก็ไม่รู้จะทำยังไง นั่นคือที่มาของการกินข้าว คือการปูทางก่อน ทำความเข้าใจ ก่อนละครลิเกโรงใหญ่" นายสนธิ กล่าว . ทั้งนี้ หลายคนบอกว่าเหตุการณ์นี้จะเริ่มต้นช่วงต้นเดือน ธ.ค. 2567 แต่ตนเห็นว่าอย่างเร็วที่สุดต้นปี 2568 เพราะนายทักษิณอยากให้ น.ส.แพทองธาร ลากต่อไป จนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้าย ถ้ายังอยู่ต่อต้องถูกศาลพิพากษาแน่ ถ้าลาออกตอนนี้แล้วเรื่องก็จบ ไม่มีแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญก็แทงเรื่องว่าจบ ปิดคดี เพราะคนที่ถูกกล่าวหาเป็นนายกฯ โดยมิชอบต้องลาออกแล้ว ข้อกล่าวหาก็ต้องตกไปเป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่นายดนัย เอกมหาสวัสดิ์ กล่าวว่า กลางเดือนนี้จะมีนายกฯ คนนอก คือนายวีรไท สันติประภพ อดีตผู้ว่าการ ธปท. ลูกชาย พล.ต.อ.ประทิน สันติประภพ ตนดูการเมืองเมืองไทยกว่า 50 ปีแล้วยังดูไม่ออกเลย นายดนัยก็ดูไม่ออกแต่เชื่อ ทฤษฎีนายดนัยต้องฟังหูไว้หู ตนไม่ประหลาดใจว่ากลางเดือนนี้ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ที่แน่ๆ กระบวนการไล่ล่า น.ส.แพทองธารและนายทักษิณยังคงดำเนินต่อไป . ส่วนการที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. มาเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ปกป้อง น.ส.แพทองธาร นั้น วันนี้กับสมัยก่อนไม่เหมือนกัน สมัยก่อนมีนายจตุพร พรหมพันธุ์ ร่วมรบ แต่วันนี้ นายจตุพรเป็นศัตรูกับนายทักษิณ นายณัฐวุฒิเข้ามาให้สัมภาษณ์ไป โกหกทุกเรื่อง กระทั่งโซเชียลมีเดียตัดคลิปในอดีตออกมา นายณัฐวุฒิอ้างว่าไม่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าว ก็เอาคลิปเก่าที่เคยพูดเรื่องจำนำข้าวมาจี้นายณัฐวุฒิ สรุปแล้วเป็นนักการเมืองที่โกหกเก่งคนหนึ่ง ตนไม่เห็นว่านายณัฐวุฒิจะมาปกป้องอะไรนายกฯ ได้เลยแม้แต่นิดเดียว สรุปแล้วเดือนตุลาคมเป็นเดือนตุลาอาถรรพ์ และอาถรรพ์ถึงสิ้นปีนี้ ทั้งหมดถ้ามองย้อนหลังเป็นละคร ลิเกโรงใหญ่ ต่างฝ่ายต่างมีผลประโยชน์แลกกัน เป็นการจับมือสองฝ่ายที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน นายทักษิณทางเลือกมีน้อยมาก เหมือนหลังชนกำแพงแล้ว .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Wow
    21
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 1513 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts