Nvidia ได้เปิดตัวเทคโนโลยีเครือข่ายใหม่ที่ใช้ silicon photonics เพื่อเชื่อมต่อ GPU หลายล้านตัวในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ความเร็วสูงถึง 1.6 Tb/s ต่อพอร์ต และมีประสิทธิภาพสูงกว่าโซลูชันเดิมหลายเท่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจาก Nvidia เพียงลำพัง แต่เป็นผลจากความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม เทคโนโลยีนี้อาจเปลี่ยนโฉมระบบประมวลผล AI ในอนาคต
จุดเด่นของเทคโนโลยีใหม่:
- Spectrum-X มีพอร์ตหลากหลาย เช่น 128 พอร์ตที่ความเร็ว 800 Gb/s หรือสูงสุด 512 พอร์ตที่ 200 Gb/s.
- Quantum-X เพิ่มประสิทธิภาพเป็นสองเท่า และสามารถเพิ่มขีดความสามารถ AI ได้ถึง 5 เท่า พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่ช่วยเพิ่มความเสถียรของชิป.
ข้อได้เปรียบที่สำคัญ:
- เทคโนโลยีนี้ช่วยลดการสูญเสียพลังงานได้ถึง 3.5 เท่า เพิ่มความเสถียรของเครือข่าย 10 เท่า และสัญญาณมีคุณภาพสูงขึ้นถึง 63 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันแบบเดิม.
- รองรับการใช้งานที่ประหยัดพลังงานและสามารถเร่งกระบวนการตั้งค่าระบบได้เร็วขึ้น 1.3 เท่า.
ความร่วมมือกับพันธมิตร:
- Nvidia ใช้แพลตฟอร์ม Compact Universal Photonic Engine (COUPE) ของ TSMC ซึ่งผสานวงจรรวมทั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์และโฟโตนิกส์ไว้ด้วยกัน.
- ความร่วมมือนี้ยังรวมถึงบริษัทชั้นนำ เช่น Coherent, Corning, และ Foxconn เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคง.
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:
- การใช้ silicon photonics ในระดับใหญ่ยังซับซ้อนและต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายใหม่ แต่เทคโนโลยีนี้เป็นก้าวสำคัญในอนาคตของเครือข่าย AI.
https://www.tomshardware.com/networking/nvidias-silicon-photonics-based-1-6-tb-s-switch-platforms-enable-clusters-with-millions-of-gpus
จุดเด่นของเทคโนโลยีใหม่:
- Spectrum-X มีพอร์ตหลากหลาย เช่น 128 พอร์ตที่ความเร็ว 800 Gb/s หรือสูงสุด 512 พอร์ตที่ 200 Gb/s.
- Quantum-X เพิ่มประสิทธิภาพเป็นสองเท่า และสามารถเพิ่มขีดความสามารถ AI ได้ถึง 5 เท่า พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่ช่วยเพิ่มความเสถียรของชิป.
ข้อได้เปรียบที่สำคัญ:
- เทคโนโลยีนี้ช่วยลดการสูญเสียพลังงานได้ถึง 3.5 เท่า เพิ่มความเสถียรของเครือข่าย 10 เท่า และสัญญาณมีคุณภาพสูงขึ้นถึง 63 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันแบบเดิม.
- รองรับการใช้งานที่ประหยัดพลังงานและสามารถเร่งกระบวนการตั้งค่าระบบได้เร็วขึ้น 1.3 เท่า.
ความร่วมมือกับพันธมิตร:
- Nvidia ใช้แพลตฟอร์ม Compact Universal Photonic Engine (COUPE) ของ TSMC ซึ่งผสานวงจรรวมทั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์และโฟโตนิกส์ไว้ด้วยกัน.
- ความร่วมมือนี้ยังรวมถึงบริษัทชั้นนำ เช่น Coherent, Corning, และ Foxconn เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคง.
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:
- การใช้ silicon photonics ในระดับใหญ่ยังซับซ้อนและต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายใหม่ แต่เทคโนโลยีนี้เป็นก้าวสำคัญในอนาคตของเครือข่าย AI.
https://www.tomshardware.com/networking/nvidias-silicon-photonics-based-1-6-tb-s-switch-platforms-enable-clusters-with-millions-of-gpus
Nvidia ได้เปิดตัวเทคโนโลยีเครือข่ายใหม่ที่ใช้ silicon photonics เพื่อเชื่อมต่อ GPU หลายล้านตัวในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ ความเร็วสูงถึง 1.6 Tb/s ต่อพอร์ต และมีประสิทธิภาพสูงกว่าโซลูชันเดิมหลายเท่า ความสำเร็จนี้ไม่ได้มาจาก Nvidia เพียงลำพัง แต่เป็นผลจากความร่วมมือกับบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรม เทคโนโลยีนี้อาจเปลี่ยนโฉมระบบประมวลผล AI ในอนาคต
จุดเด่นของเทคโนโลยีใหม่:
- Spectrum-X มีพอร์ตหลากหลาย เช่น 128 พอร์ตที่ความเร็ว 800 Gb/s หรือสูงสุด 512 พอร์ตที่ 200 Gb/s.
- Quantum-X เพิ่มประสิทธิภาพเป็นสองเท่า และสามารถเพิ่มขีดความสามารถ AI ได้ถึง 5 เท่า พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำที่ช่วยเพิ่มความเสถียรของชิป.
ข้อได้เปรียบที่สำคัญ:
- เทคโนโลยีนี้ช่วยลดการสูญเสียพลังงานได้ถึง 3.5 เท่า เพิ่มความเสถียรของเครือข่าย 10 เท่า และสัญญาณมีคุณภาพสูงขึ้นถึง 63 เท่าเมื่อเทียบกับโซลูชันแบบเดิม.
- รองรับการใช้งานที่ประหยัดพลังงานและสามารถเร่งกระบวนการตั้งค่าระบบได้เร็วขึ้น 1.3 เท่า.
ความร่วมมือกับพันธมิตร:
- Nvidia ใช้แพลตฟอร์ม Compact Universal Photonic Engine (COUPE) ของ TSMC ซึ่งผสานวงจรรวมทั้งแบบอิเล็กทรอนิกส์และโฟโตนิกส์ไว้ด้วยกัน.
- ความร่วมมือนี้ยังรวมถึงบริษัทชั้นนำ เช่น Coherent, Corning, และ Foxconn เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานที่มั่นคง.
ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม:
- การใช้ silicon photonics ในระดับใหญ่ยังซับซ้อนและต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายใหม่ แต่เทคโนโลยีนี้เป็นก้าวสำคัญในอนาคตของเครือข่าย AI.
https://www.tomshardware.com/networking/nvidias-silicon-photonics-based-1-6-tb-s-switch-platforms-enable-clusters-with-millions-of-gpus
0 Comments
0 Shares
20 Views
0 Reviews