• 🚀 Utran เปิดตัว PCIe 5.0 Host Card รองรับ 28 M.2 SSDs พร้อมความเร็ว 109GB/s
    Utran Technology ได้เปิดตัว PCIe 5.0 Host Card รุ่นใหม่ ที่สามารถ รองรับ SSD M.2 ได้ถึง 28 ตัว โดยให้ ความเร็วในการอ่านสูงสุด 109GB/s และความจุรวม 224TB

    การ์ดนี้ ใช้ Broadcom AtlasII PEX89144 switch เพื่อจัดการ แบนด์วิดท์ภายในและการเชื่อมต่อ โดยมี สองรุ่นให้เลือก ได้แก่ HM-5281A และ HM-5282A

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - PCIe 5.0 Host Card รองรับ SSD M.2 ได้ถึง 28 ตัว
    - ให้ความเร็วในการอ่านสูงสุด 109GB/s และความจุรวม 224TB
    - ใช้ Broadcom AtlasII PEX89144 switch เพื่อจัดการแบนด์วิดท์
    - รุ่น HM-5281A ใช้ PCIe Gen5 x16 link เดียว ส่วน HM-5282A ใช้สอง x16 links
    - รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, Windows Server และ Linux

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC
    PCIe 5.0 Host Card เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น AI และ HPC แต่ อาจเกินความจำเป็นสำหรับการใช้งานทั่วไป

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การ์ดนี้ไม่มีระบบป้องกันไฟดับในระดับการ์ด ต้องใช้ SSD ที่มีระบบป้องกันของตัวเอง
    - แม้ว่าจะรองรับ hot plug แต่ตัวการ์ดเองไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ขณะใช้งาน
    - ต้องติดตามว่าตลาดจะตอบรับผลิตภัณฑ์นี้อย่างไร เนื่องจากมีความเร็วสูงเกินความต้องการของผู้ใช้ทั่วไป
    - การใช้พัดลมแรงดันสูงและหม้อน้ำอาจทำให้เกิดเสียงรบกวนในสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่ศูนย์ข้อมูล

    🚀 อนาคตของ PCIe 5.0 Host Card
    Utran เตรียมเริ่มจัดส่ง PCIe 5.0 Host Card ในช่วงฤดูร้อนปี 2025 และ ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะพัฒนาโซลูชันที่คล้ายกันหรือไม่

    https://www.techradar.com/pro/gpu-like-internal-card-combines-28-m-2-ssds-to-offer-up-to-109gb-s-read-speed-and-224tb-storage-but-i-struggle-to-see-any-real-use-for-it
    🚀 Utran เปิดตัว PCIe 5.0 Host Card รองรับ 28 M.2 SSDs พร้อมความเร็ว 109GB/s Utran Technology ได้เปิดตัว PCIe 5.0 Host Card รุ่นใหม่ ที่สามารถ รองรับ SSD M.2 ได้ถึง 28 ตัว โดยให้ ความเร็วในการอ่านสูงสุด 109GB/s และความจุรวม 224TB การ์ดนี้ ใช้ Broadcom AtlasII PEX89144 switch เพื่อจัดการ แบนด์วิดท์ภายในและการเชื่อมต่อ โดยมี สองรุ่นให้เลือก ได้แก่ HM-5281A และ HM-5282A ✅ ข้อมูลจากข่าว - PCIe 5.0 Host Card รองรับ SSD M.2 ได้ถึง 28 ตัว - ให้ความเร็วในการอ่านสูงสุด 109GB/s และความจุรวม 224TB - ใช้ Broadcom AtlasII PEX89144 switch เพื่อจัดการแบนด์วิดท์ - รุ่น HM-5281A ใช้ PCIe Gen5 x16 link เดียว ส่วน HM-5282A ใช้สอง x16 links - รองรับระบบปฏิบัติการ Windows, Windows Server และ Linux 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC PCIe 5.0 Host Card เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเร็วสูง เช่น AI และ HPC แต่ อาจเกินความจำเป็นสำหรับการใช้งานทั่วไป ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การ์ดนี้ไม่มีระบบป้องกันไฟดับในระดับการ์ด ต้องใช้ SSD ที่มีระบบป้องกันของตัวเอง - แม้ว่าจะรองรับ hot plug แต่ตัวการ์ดเองไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ขณะใช้งาน - ต้องติดตามว่าตลาดจะตอบรับผลิตภัณฑ์นี้อย่างไร เนื่องจากมีความเร็วสูงเกินความต้องการของผู้ใช้ทั่วไป - การใช้พัดลมแรงดันสูงและหม้อน้ำอาจทำให้เกิดเสียงรบกวนในสภาพแวดล้อมที่ไม่ใช่ศูนย์ข้อมูล 🚀 อนาคตของ PCIe 5.0 Host Card Utran เตรียมเริ่มจัดส่ง PCIe 5.0 Host Card ในช่วงฤดูร้อนปี 2025 และ ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะพัฒนาโซลูชันที่คล้ายกันหรือไม่ https://www.techradar.com/pro/gpu-like-internal-card-combines-28-m-2-ssds-to-offer-up-to-109gb-s-read-speed-and-224tb-storage-but-i-struggle-to-see-any-real-use-for-it
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔗 PCI-SIG เปิดตัวมาตรฐาน PCIe-over-Fiber สำหรับการเชื่อมต่อแบบออปติคอล
    PCI-SIG ได้ประกาศ มาตรฐาน PCIe-over-Fiber ซึ่งเป็น โซลูชันการเชื่อมต่อแบบออปติคอลที่ใช้ PCIe Retimer เพื่อช่วยให้ สามารถขยายระยะการเชื่อมต่อและลดข้อจำกัดของสายทองแดง

    มาตรฐานใหม่นี้ เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่าง Switch, Root-Complex และ Endpoint โดยใช้ เทคโนโลยี Optical Aware Retimer

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - PCI-SIG เปิดตัว Optical Aware Retimer ECN สำหรับ PCIe 6.4 และ PCIe 7.0
    - ช่วยให้สามารถใช้เทคโนโลยีออปติคอลร่วมกับ PCIe ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - ขยายระยะการเชื่อมต่อระหว่าง racks และ pods ในศูนย์ข้อมูล
    - รองรับการ multiplexing และ data mapping ระหว่างสัญญาณไฟฟ้าและออปติคอล
    - ช่วยให้สามารถออกแบบระบบที่กะทัดรัดกว่าการใช้สายทองแดง

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซิร์ฟเวอร์และ AI
    PCIe-over-Fiber จะช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถรองรับแอปพลิเคชันที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง เช่น AI/ML และ Cloud Computing

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การเปลี่ยนไปใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคอลอาจต้องใช้ฮาร์ดแวร์ใหม่
    - ต้องติดตามว่า PCIe-over-Fiber จะสามารถเข้าสู่ตลาดเซิร์ฟเวอร์และ HPC ได้เร็วแค่ไหน
    - การบำรุงรักษาและติดตั้งสายไฟเบอร์ออปติกอาจมีต้นทุนสูงกว่าสายทองแดง
    - ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคทั่วไปหรือไม่

    🚀 อนาคตของ PCIe และการเชื่อมต่อแบบออปติคอล
    PCI-SIG กำลังผลักดันให้ PCIe-over-Fiber กลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล โดย อาจช่วยให้สามารถขยายแบนด์วิดท์และลดข้อจำกัดของสายทองแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.techpowerup.com/337962/pci-sig-announces-pcie-optical-interconnect-solution-pcie-over-fiber
    🔗 PCI-SIG เปิดตัวมาตรฐาน PCIe-over-Fiber สำหรับการเชื่อมต่อแบบออปติคอล PCI-SIG ได้ประกาศ มาตรฐาน PCIe-over-Fiber ซึ่งเป็น โซลูชันการเชื่อมต่อแบบออปติคอลที่ใช้ PCIe Retimer เพื่อช่วยให้ สามารถขยายระยะการเชื่อมต่อและลดข้อจำกัดของสายทองแดง มาตรฐานใหม่นี้ เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อระหว่าง Switch, Root-Complex และ Endpoint โดยใช้ เทคโนโลยี Optical Aware Retimer ✅ ข้อมูลจากข่าว - PCI-SIG เปิดตัว Optical Aware Retimer ECN สำหรับ PCIe 6.4 และ PCIe 7.0 - ช่วยให้สามารถใช้เทคโนโลยีออปติคอลร่วมกับ PCIe ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - ขยายระยะการเชื่อมต่อระหว่าง racks และ pods ในศูนย์ข้อมูล - รองรับการ multiplexing และ data mapping ระหว่างสัญญาณไฟฟ้าและออปติคอล - ช่วยให้สามารถออกแบบระบบที่กะทัดรัดกว่าการใช้สายทองแดง 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซิร์ฟเวอร์และ AI PCIe-over-Fiber จะช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถรองรับแอปพลิเคชันที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง เช่น AI/ML และ Cloud Computing ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การเปลี่ยนไปใช้การเชื่อมต่อแบบออปติคอลอาจต้องใช้ฮาร์ดแวร์ใหม่ - ต้องติดตามว่า PCIe-over-Fiber จะสามารถเข้าสู่ตลาดเซิร์ฟเวอร์และ HPC ได้เร็วแค่ไหน - การบำรุงรักษาและติดตั้งสายไฟเบอร์ออปติกอาจมีต้นทุนสูงกว่าสายทองแดง - ต้องรอดูว่าเทคโนโลยีนี้จะถูกนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภคทั่วไปหรือไม่ 🚀 อนาคตของ PCIe และการเชื่อมต่อแบบออปติคอล PCI-SIG กำลังผลักดันให้ PCIe-over-Fiber กลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล โดย อาจช่วยให้สามารถขยายแบนด์วิดท์และลดข้อจำกัดของสายทองแดงได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.techpowerup.com/337962/pci-sig-announces-pcie-optical-interconnect-solution-pcie-over-fiber
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    PCI-SIG Announces PCIe Optical Interconnect Solution: PCIe-over-Fiber
    PCI-SIG today announced a new optical interconnect specification revision to enable higher PCI Express (PCIe) technology performance. The Optical Aware Retimer Engineering Change Notice (ECN) amends the PCIe 6.4 specification and the new PCIe 7.0 specification to include a PCIe retimer-based solutio...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡ อนาคตของซูเปอร์คอมพิวเตอร์: พลังงานจะเป็นปัจจัยสำคัญกว่าประสิทธิภาพ
    Mark Papermaster, CTO ของ AMD เน้นย้ำว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอนาคตจะต้องให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพด้านพลังงานมากกว่าความเร็วในการประมวลผล โดยอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับ ความท้าทายด้านการใช้พลังงานและระบบระบายความร้อน

    Papermaster ชี้ให้เห็นว่าความต้องการด้าน AI และการคำนวณประสิทธิภาพสูง (HPC) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ ข้อจำกัดด้านพลังงานและแบนด์วิดท์หน่วยความจำกำลังกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - AMD CTO ระบุว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ต้องให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพด้านพลังงานมากกว่าความเร็ว
    - การใช้พลังงานของ AI data centers อาจสูงถึงหลายร้อยเมกะวัตต์
    - หน่วยความจำต้องเพิ่มแบนด์วิดท์เป็นสองเท่าทุกสองปีเพื่อรองรับความต้องการของ AI
    - AMD กำลังพัฒนา Instinct MI355X ซึ่งให้ประสิทธิภาพ inference สูงกว่ารุ่นก่อนถึง 35 เท่า
    - เทคโนโลยี Ultra Ethernet อาจช่วยลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC
    Papermaster เตือนว่าการใช้พลังงานของ accelerators อาจสูงถึง 1,600W ภายในปี 2026 และอาจแตะ 2,000W ในอนาคต ทำให้ อุตสาหกรรมต้องพัฒนาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานมากขึ้น

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้พลังงานของ AI data centers อาจเพิ่มขึ้นจนต้องใช้พลังงานระดับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
    - AMD ยอมรับว่าการพัฒนา 2nm chip มีต้นทุนสูงมาก และต้องใช้เครื่องมือที่เป็นกรรมสิทธิ์
    - Nvidia กำลังเปิด NVLink ให้ผู้ผลิตรายอื่นเพื่อแข่งขันกับ Ultra Ethernet
    - ต้องติดตามว่า RISC-V จะสามารถพัฒนาไปถึงระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้หรือไม่

    🚀 อนาคตของซูเปอร์คอมพิวเตอร์
    Papermaster มองว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอนาคตจะต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับงานที่หลากหลาย โดย โมเดลการสร้างแบบโมดูลาร์ เช่น Jupiter อาจเป็นแนวทางที่ช่วยให้สามารถปรับแต่งระบบได้ดีขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108283-amd-cto-foresees-smarter-greener-more-flexible-era.html
    ⚡ อนาคตของซูเปอร์คอมพิวเตอร์: พลังงานจะเป็นปัจจัยสำคัญกว่าประสิทธิภาพ Mark Papermaster, CTO ของ AMD เน้นย้ำว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอนาคตจะต้องให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพด้านพลังงานมากกว่าความเร็วในการประมวลผล โดยอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับ ความท้าทายด้านการใช้พลังงานและระบบระบายความร้อน Papermaster ชี้ให้เห็นว่าความต้องการด้าน AI และการคำนวณประสิทธิภาพสูง (HPC) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ ข้อจำกัดด้านพลังงานและแบนด์วิดท์หน่วยความจำกำลังกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว - AMD CTO ระบุว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ต้องให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพด้านพลังงานมากกว่าความเร็ว - การใช้พลังงานของ AI data centers อาจสูงถึงหลายร้อยเมกะวัตต์ - หน่วยความจำต้องเพิ่มแบนด์วิดท์เป็นสองเท่าทุกสองปีเพื่อรองรับความต้องการของ AI - AMD กำลังพัฒนา Instinct MI355X ซึ่งให้ประสิทธิภาพ inference สูงกว่ารุ่นก่อนถึง 35 เท่า - เทคโนโลยี Ultra Ethernet อาจช่วยลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC Papermaster เตือนว่าการใช้พลังงานของ accelerators อาจสูงถึง 1,600W ภายในปี 2026 และอาจแตะ 2,000W ในอนาคต ทำให้ อุตสาหกรรมต้องพัฒนาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานมากขึ้น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้พลังงานของ AI data centers อาจเพิ่มขึ้นจนต้องใช้พลังงานระดับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ - AMD ยอมรับว่าการพัฒนา 2nm chip มีต้นทุนสูงมาก และต้องใช้เครื่องมือที่เป็นกรรมสิทธิ์ - Nvidia กำลังเปิด NVLink ให้ผู้ผลิตรายอื่นเพื่อแข่งขันกับ Ultra Ethernet - ต้องติดตามว่า RISC-V จะสามารถพัฒนาไปถึงระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้หรือไม่ 🚀 อนาคตของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Papermaster มองว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอนาคตจะต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับงานที่หลากหลาย โดย โมเดลการสร้างแบบโมดูลาร์ เช่น Jupiter อาจเป็นแนวทางที่ช่วยให้สามารถปรับแต่งระบบได้ดีขึ้น https://www.techspot.com/news/108283-amd-cto-foresees-smarter-greener-more-flexible-era.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD CTO: power constraints, not compute, will shape tomorrow's supercomputers
    Papermaster began by highlighting the continued surge in demand for high-performance computing, driven primarily by artificial intelligence. He pointed to the emergence of new systems in Germany...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡ AMD เปิดตัว Instinct MI355X: GPU สำหรับ AI และ HPC ที่ใช้พลังงานสูงถึง 1,400W
    AMD ได้เปิดตัว Instinct MI355X ซึ่งเป็น GPU สำหรับ AI และ HPC ที่ใช้สถาปัตยกรรม CDNA 4 โดยมี ประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก แต่ใช้พลังงานสูงถึง 1,400W ซึ่งเป็น เกือบสองเท่าของรุ่นก่อนหน้า MI325X

    GPU รุ่นนี้ รองรับ FP4 และ FP6 precision formats ซึ่งช่วยให้ สามารถประมวลผล AI inference ได้เร็วขึ้น และมี หน่วยความจำ HBM3E ขนาด 288GB พร้อมแบนด์วิดท์สูงถึง 8 TB/s

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Instinct MI355X ใช้สถาปัตยกรรม CDNA 4 และรองรับ FP4/FP6 precision formats
    - มีหน่วยความจำ HBM3E ขนาด 288GB พร้อมแบนด์วิดท์ 8 TB/s
    - ประสิทธิภาพ FP4/FP6 สูงถึง 20.1 PFLOPS ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า MI325X อย่างมาก
    - ออกแบบมาสำหรับระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว แต่บางองค์กรอาจใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ
    - เปรียบเทียบกับ Nvidia B300 (Blackwell Ultra) ซึ่งมี FP4 performance สูงสุดที่ 15 PFLOPS

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC
    AMD เชื่อว่า การพัฒนา AI accelerators จะช่วยให้สามารถสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ Zettascale ได้ภายในทศวรรษหน้า แต่ต้องแลกมาด้วย การใช้พลังงานที่สูงขึ้นอย่างมาก

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - Instinct MI355X ใช้พลังงานสูงถึง 1,400W ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับศูนย์ข้อมูลที่ต้องการลดการใช้พลังงาน
    - AMD คาดการณ์ว่า GPU รุ่นต่อไปอาจใช้พลังงานสูงถึง 1,600W ในปี 2026 และ 2,000W ในปี 2030
    - Nvidia กำลังพัฒนา Rubin Ultra GPUs ที่อาจใช้พลังงานสูงถึง 3,600W
    - ต้องติดตามว่าอุตสาหกรรมจะสามารถพัฒนาโซลูชันที่ช่วยลดการใช้พลังงานของ AI accelerators ได้หรือไม่

    🚀 อนาคตของ AI accelerators
    แม้ว่าการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้น แต่การพัฒนา AI accelerators และระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อาจช่วยให้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้โดยใช้พลังงานน้อยลงในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amds-instinct-mi355x-accelerator-will-consume-1-400-watts
    ⚡ AMD เปิดตัว Instinct MI355X: GPU สำหรับ AI และ HPC ที่ใช้พลังงานสูงถึง 1,400W AMD ได้เปิดตัว Instinct MI355X ซึ่งเป็น GPU สำหรับ AI และ HPC ที่ใช้สถาปัตยกรรม CDNA 4 โดยมี ประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมาก แต่ใช้พลังงานสูงถึง 1,400W ซึ่งเป็น เกือบสองเท่าของรุ่นก่อนหน้า MI325X GPU รุ่นนี้ รองรับ FP4 และ FP6 precision formats ซึ่งช่วยให้ สามารถประมวลผล AI inference ได้เร็วขึ้น และมี หน่วยความจำ HBM3E ขนาด 288GB พร้อมแบนด์วิดท์สูงถึง 8 TB/s ✅ ข้อมูลจากข่าว - Instinct MI355X ใช้สถาปัตยกรรม CDNA 4 และรองรับ FP4/FP6 precision formats - มีหน่วยความจำ HBM3E ขนาด 288GB พร้อมแบนด์วิดท์ 8 TB/s - ประสิทธิภาพ FP4/FP6 สูงถึง 20.1 PFLOPS ซึ่งสูงกว่ารุ่นก่อนหน้า MI325X อย่างมาก - ออกแบบมาสำหรับระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว แต่บางองค์กรอาจใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศ - เปรียบเทียบกับ Nvidia B300 (Blackwell Ultra) ซึ่งมี FP4 performance สูงสุดที่ 15 PFLOPS 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC AMD เชื่อว่า การพัฒนา AI accelerators จะช่วยให้สามารถสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ Zettascale ได้ภายในทศวรรษหน้า แต่ต้องแลกมาด้วย การใช้พลังงานที่สูงขึ้นอย่างมาก ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - Instinct MI355X ใช้พลังงานสูงถึง 1,400W ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับศูนย์ข้อมูลที่ต้องการลดการใช้พลังงาน - AMD คาดการณ์ว่า GPU รุ่นต่อไปอาจใช้พลังงานสูงถึง 1,600W ในปี 2026 และ 2,000W ในปี 2030 - Nvidia กำลังพัฒนา Rubin Ultra GPUs ที่อาจใช้พลังงานสูงถึง 3,600W - ต้องติดตามว่าอุตสาหกรรมจะสามารถพัฒนาโซลูชันที่ช่วยลดการใช้พลังงานของ AI accelerators ได้หรือไม่ 🚀 อนาคตของ AI accelerators แม้ว่าการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้น แต่การพัฒนา AI accelerators และระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อาจช่วยให้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้โดยใช้พลังงานน้อยลงในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amds-instinct-mi355x-accelerator-will-consume-1-400-watts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ Zettascale อาจต้องใช้พลังงานเทียบเท่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
    AMD ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ แนวโน้มการใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอนาคต โดยคาดการณ์ว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ Zettascale จะต้องใช้พลังงานถึง 500 เมกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับ การใช้ไฟฟ้าของบ้าน 375,000 หลัง

    AMD ระบุว่า หน่วยความจำและระบบระบายความร้อนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น เนื่องจาก AI accelerators ต้องการแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้นและระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - AMD คาดการณ์ว่า Zettascale supercomputers จะต้องใช้พลังงานถึง 500 เมกะวัตต์
    - กราฟแสดงแนวโน้มการใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2035
    - การพัฒนา AI accelerators มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก 2.2 ปี
    - FP128 และ FP64 ให้ความแม่นยำสูง แต่ FP16 และ FP8 มีประโยชน์สำหรับบางงาน
    - Nvidia B200 มี TDP 1,000W และ AMD MI355X มี TDP 1,400W

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และพลังงาน
    รัฐบาลสหรัฐฯ และบริษัทเทคโนโลยี กำลังลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์และฟิวชัน เพื่อรองรับ ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นของศูนย์ข้อมูล AI

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์อาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2035
    - ต้องติดตามว่าการลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์จะสามารถรองรับความต้องการของศูนย์ข้อมูล AI ได้หรือไม่
    - บริษัทเทคโนโลยีต้องพัฒนาโซลูชันที่ช่วยลดการใช้พลังงานของ AI accelerators
    - ต้องรอดูว่า Nvidia และ AMD จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ AI accelerators โดยไม่เพิ่มการใช้พลังงานมากเกินไป

    แม้ว่าการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้น แต่การพัฒนา AI accelerators และระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อาจช่วยให้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้โดยใช้พลังงานน้อยลงในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-says-zettascale-supercomputers-will-need-half-a-gigawatt-to-operate-enough-for-375-000-homes
    ⚡ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ Zettascale อาจต้องใช้พลังงานเทียบเท่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ AMD ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ แนวโน้มการใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอนาคต โดยคาดการณ์ว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ Zettascale จะต้องใช้พลังงานถึง 500 เมกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับ การใช้ไฟฟ้าของบ้าน 375,000 หลัง AMD ระบุว่า หน่วยความจำและระบบระบายความร้อนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น เนื่องจาก AI accelerators ต้องการแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้นและระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ ข้อมูลจากข่าว - AMD คาดการณ์ว่า Zettascale supercomputers จะต้องใช้พลังงานถึง 500 เมกะวัตต์ - กราฟแสดงแนวโน้มการใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2035 - การพัฒนา AI accelerators มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก 2.2 ปี - FP128 และ FP64 ให้ความแม่นยำสูง แต่ FP16 และ FP8 มีประโยชน์สำหรับบางงาน - Nvidia B200 มี TDP 1,000W และ AMD MI355X มี TDP 1,400W 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และพลังงาน รัฐบาลสหรัฐฯ และบริษัทเทคโนโลยี กำลังลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์และฟิวชัน เพื่อรองรับ ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นของศูนย์ข้อมูล AI ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์อาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2035 - ต้องติดตามว่าการลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์จะสามารถรองรับความต้องการของศูนย์ข้อมูล AI ได้หรือไม่ - บริษัทเทคโนโลยีต้องพัฒนาโซลูชันที่ช่วยลดการใช้พลังงานของ AI accelerators - ต้องรอดูว่า Nvidia และ AMD จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ AI accelerators โดยไม่เพิ่มการใช้พลังงานมากเกินไป แม้ว่าการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้น แต่การพัฒนา AI accelerators และระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อาจช่วยให้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้โดยใช้พลังงานน้อยลงในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-says-zettascale-supercomputers-will-need-half-a-gigawatt-to-operate-enough-for-375-000-homes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌐 Cisco ปรับกลยุทธ์สู่ Hybrid AI รองรับการประมวลผลทั้งบนคลาวด์และในองค์กร
    Cisco ได้ประกาศ ขยายโซลูชัน AI ไปยังระบบภายในองค์กร โดยเน้น Hybrid AI ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถ ใช้ทั้งคลาวด์และศูนย์ข้อมูลภายใน เพื่อรองรับ AI workloads

    Cisco มองว่า ข้อมูลที่มีค่าที่สุดขององค์กรยังคงอยู่ภายในระบบของบริษัท และ การนำ AI workloads ไปประมวลผลภายในองค์กรช่วยลดความล่าช้าและเพิ่มความปลอดภัย

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Cisco เปิดตัวโซลูชัน Hybrid AI รองรับการประมวลผลทั้งบนคลาวด์และในองค์กร
    - เปิดตัวฮาร์ดแวร์ใหม่ เช่น C9000 series switches และ 8000 series routers ที่รองรับ AI workloads
    - เปิดตัว Cisco AI Pods ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Nvidia Blackwell RTX Pro 6000 GPU
    - Webex AI Agent ช่วยให้การสื่อสารและการสนับสนุนลูกค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - Cisco เปิดตัว Deep Network Model ซึ่งเป็น LLM ที่ฝึกจากข้อมูลเครือข่ายของ Cisco

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และเครือข่าย
    Cisco กำลัง แข่งขันกับผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ โดยเน้น การนำ AI ไปใช้ในองค์กรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดต้นทุน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้ Hybrid AI จะช่วยลดความล่าช้า แต่ต้องลงทุนในฮาร์ดแวร์และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม
    - Cisco ต้องแข่งขันกับผู้ให้บริการคลาวด์ เช่น AWS และ Google Cloud ที่มีโซลูชัน AI ที่แข็งแกร่ง
    - ต้องติดตามว่าองค์กรจะยอมรับแนวทาง Hybrid AI มากน้อยแค่ไหน
    - การใช้ AI ในองค์กรต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเพื่อป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์

    https://www.techspot.com/news/108259-cloud-not-enough-cisco-embraces-shift-toward-hybrid.html
    🌐 Cisco ปรับกลยุทธ์สู่ Hybrid AI รองรับการประมวลผลทั้งบนคลาวด์และในองค์กร Cisco ได้ประกาศ ขยายโซลูชัน AI ไปยังระบบภายในองค์กร โดยเน้น Hybrid AI ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถ ใช้ทั้งคลาวด์และศูนย์ข้อมูลภายใน เพื่อรองรับ AI workloads Cisco มองว่า ข้อมูลที่มีค่าที่สุดขององค์กรยังคงอยู่ภายในระบบของบริษัท และ การนำ AI workloads ไปประมวลผลภายในองค์กรช่วยลดความล่าช้าและเพิ่มความปลอดภัย ✅ ข้อมูลจากข่าว - Cisco เปิดตัวโซลูชัน Hybrid AI รองรับการประมวลผลทั้งบนคลาวด์และในองค์กร - เปิดตัวฮาร์ดแวร์ใหม่ เช่น C9000 series switches และ 8000 series routers ที่รองรับ AI workloads - เปิดตัว Cisco AI Pods ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ Nvidia Blackwell RTX Pro 6000 GPU - Webex AI Agent ช่วยให้การสื่อสารและการสนับสนุนลูกค้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น - Cisco เปิดตัว Deep Network Model ซึ่งเป็น LLM ที่ฝึกจากข้อมูลเครือข่ายของ Cisco 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และเครือข่าย Cisco กำลัง แข่งขันกับผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ โดยเน้น การนำ AI ไปใช้ในองค์กรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดต้นทุน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้ Hybrid AI จะช่วยลดความล่าช้า แต่ต้องลงทุนในฮาร์ดแวร์และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม - Cisco ต้องแข่งขันกับผู้ให้บริการคลาวด์ เช่น AWS และ Google Cloud ที่มีโซลูชัน AI ที่แข็งแกร่ง - ต้องติดตามว่าองค์กรจะยอมรับแนวทาง Hybrid AI มากน้อยแค่ไหน - การใช้ AI ในองค์กรต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดเพื่อป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ https://www.techspot.com/news/108259-cloud-not-enough-cisco-embraces-shift-toward-hybrid.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The cloud is not enough: Cisco embraces the shift toward Hybrid AI workloads
    From new AI-optimized, on-premises-focused routers and switches delivered through the company's traditional networking hardware business, to AI-enhanced versions of their communications, collaboration, and customer support software platforms,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอ๊าา⁉️ AI แพ้ เกม Atari 2600 ⁉️

    ♟️ ChatGPT พ่ายแพ้ให้กับ Atari 2600 ในเกมหมากรุกระดับเริ่มต้น
    ในเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ChatGPT 4o ของ OpenAI แพ้ให้กับเกม Atari Chess ซึ่งรันบน Atari 2600 คอนโซลเกมยุค 1977 ที่มี ความเร็วเพียง 1.19 MHz โดย Robert Jr. Caruso ผู้เชี่ยวชาญด้าน Citrix Architecture ได้ทดสอบและพบว่า AI ของ OpenAI ไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งที่มีอายุเกือบ 50 ปีได้

    🔍 เหตุผลที่ ChatGPT พ่ายแพ้
    Caruso พบว่า Atari Chess คิดล่วงหน้าเพียง 1-2 ท่า ซึ่งแตกต่างจาก AI สมัยใหม่ที่สามารถ คำนวณหลายล้านท่าต่อวินาที อย่างไรก็ตาม ChatGPT ทำผิดพลาดซ้ำ ๆ จนต้องยอมแพ้ แม้ว่า Caruso จะช่วยปรับไอคอนหมากรุกให้ชัดเจนขึ้น

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ChatGPT 4o แพ้ให้กับ Atari Chess ในระดับเริ่มต้น
    - Atari 2600 ใช้ MOS Technology 6507 CPU ที่มีความเร็วเพียง 1.19 MHz
    - Atari Chess คิดล่วงหน้าเพียง 1-2 ท่า แต่ยังสามารถเอาชนะ ChatGPT ได้
    - Caruso ปรับไอคอนหมากรุกให้ชัดเจนขึ้น แต่ ChatGPT ยังทำผิดพลาดซ้ำ ๆ
    - ChatGPT สัญญาว่าจะเรียนรู้จากความผิดพลาด แต่ยังคงแพ้ต่อเนื่อง

    🔥 ความหมายของเหตุการณ์นี้ต่อ AI และการเล่นหมากรุก
    แม้ว่า AI จะสามารถ คำนวณได้เร็วกว่า แต่ การเล่นหมากรุกต้องอาศัยกลยุทธ์และการตัดสินใจที่แม่นยำ ซึ่ง Atari Chess แม้จะเก่า แต่ยังสามารถเอาชนะ AI ที่ทันสมัยได้

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - AI อาจไม่สามารถเข้าใจกลยุทธ์ของเกมที่มีข้อจำกัดด้านการคำนวณแบบดั้งเดิม
    - แม้ว่า AI จะสามารถคำนวณได้เร็ว แต่การตัดสินใจที่ผิดพลาดอาจทำให้แพ้ได้
    - ต้องติดตามว่า OpenAI จะปรับปรุง ChatGPT ให้สามารถเล่นหมากรุกได้ดีขึ้นหรือไม่
    - เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า AI ยังมีข้อจำกัดในการเข้าใจเกมที่มีตรรกะเฉพาะตัว

    🚀 ผลกระทบต่อการพัฒนา AI
    การพ่ายแพ้ของ ChatGPT อาจเป็นบทเรียนสำคัญในการพัฒนา AI ให้เข้าใจกลยุทธ์มากขึ้น และ อาจนำไปสู่การปรับปรุงโมเดล AI ให้สามารถเล่นเกมที่มีตรรกะเฉพาะตัวได้ดีขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chatgpt-got-absolutely-wrecked-by-atari-2600-in-beginners-chess-match-openais-newest-model-bamboozled-by-1970s-logic
    เอ๊าา⁉️ AI แพ้ เกม Atari 2600 ⁉️ ♟️ ChatGPT พ่ายแพ้ให้กับ Atari 2600 ในเกมหมากรุกระดับเริ่มต้น ในเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ChatGPT 4o ของ OpenAI แพ้ให้กับเกม Atari Chess ซึ่งรันบน Atari 2600 คอนโซลเกมยุค 1977 ที่มี ความเร็วเพียง 1.19 MHz โดย Robert Jr. Caruso ผู้เชี่ยวชาญด้าน Citrix Architecture ได้ทดสอบและพบว่า AI ของ OpenAI ไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งที่มีอายุเกือบ 50 ปีได้ 🔍 เหตุผลที่ ChatGPT พ่ายแพ้ Caruso พบว่า Atari Chess คิดล่วงหน้าเพียง 1-2 ท่า ซึ่งแตกต่างจาก AI สมัยใหม่ที่สามารถ คำนวณหลายล้านท่าต่อวินาที อย่างไรก็ตาม ChatGPT ทำผิดพลาดซ้ำ ๆ จนต้องยอมแพ้ แม้ว่า Caruso จะช่วยปรับไอคอนหมากรุกให้ชัดเจนขึ้น ✅ ข้อมูลจากข่าว - ChatGPT 4o แพ้ให้กับ Atari Chess ในระดับเริ่มต้น - Atari 2600 ใช้ MOS Technology 6507 CPU ที่มีความเร็วเพียง 1.19 MHz - Atari Chess คิดล่วงหน้าเพียง 1-2 ท่า แต่ยังสามารถเอาชนะ ChatGPT ได้ - Caruso ปรับไอคอนหมากรุกให้ชัดเจนขึ้น แต่ ChatGPT ยังทำผิดพลาดซ้ำ ๆ - ChatGPT สัญญาว่าจะเรียนรู้จากความผิดพลาด แต่ยังคงแพ้ต่อเนื่อง 🔥 ความหมายของเหตุการณ์นี้ต่อ AI และการเล่นหมากรุก แม้ว่า AI จะสามารถ คำนวณได้เร็วกว่า แต่ การเล่นหมากรุกต้องอาศัยกลยุทธ์และการตัดสินใจที่แม่นยำ ซึ่ง Atari Chess แม้จะเก่า แต่ยังสามารถเอาชนะ AI ที่ทันสมัยได้ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - AI อาจไม่สามารถเข้าใจกลยุทธ์ของเกมที่มีข้อจำกัดด้านการคำนวณแบบดั้งเดิม - แม้ว่า AI จะสามารถคำนวณได้เร็ว แต่การตัดสินใจที่ผิดพลาดอาจทำให้แพ้ได้ - ต้องติดตามว่า OpenAI จะปรับปรุง ChatGPT ให้สามารถเล่นหมากรุกได้ดีขึ้นหรือไม่ - เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า AI ยังมีข้อจำกัดในการเข้าใจเกมที่มีตรรกะเฉพาะตัว 🚀 ผลกระทบต่อการพัฒนา AI การพ่ายแพ้ของ ChatGPT อาจเป็นบทเรียนสำคัญในการพัฒนา AI ให้เข้าใจกลยุทธ์มากขึ้น และ อาจนำไปสู่การปรับปรุงโมเดล AI ให้สามารถเล่นเกมที่มีตรรกะเฉพาะตัวได้ดีขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/chatgpt-got-absolutely-wrecked-by-atari-2600-in-beginners-chess-match-openais-newest-model-bamboozled-by-1970s-logic
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    ChatGPT 'got absolutely wrecked' by Atari 2600 in beginner's chess match — OpenAI's newest model bamboozled by 1970s logic
    OpenAI's latest and greatest AI model was outclassed by the 1.19 MHz near 50-year-old console gaming legend.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ

    วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ณ VARIETY HALL THE MALL KORAT #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมกิจกรรม โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ จัดพาเหรด Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทุกหน่วยงาน

    พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 500 คน ในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน นำขบวนโดย ศิลปิน BOY BAND ขวัญใจวัยรุ่น วง ZOLAR ที่จะมาสร้างสีสันภายในขบวน
    นอกจากนั้นวันนี้ยังพบกับ ยุวเฟิร์น-นางสาวยุวภรณ์ ทรงงาม คอนเทนครีเอเตอร์และรองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ,ทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี SUT CHEERLEADER CLUB , MISS QUEEN AND MISS TEEN M PLUS, แฟลตม็อบ, วงโปงลางโรงเรียนบุญวัฒนา และการแสดง COVER DANCE BY GUN SQUAD แชมป์รางวัลชนะเลิศระดับโลก WINNER K-POP COVER DANCE FESTIVAL ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีร่วมเดินขบวนพาเหรด มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” ซึ่งความหมาย "ธงสีรุ้ง" สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในแต่ละสีนั้นหมายถึง สีชมพู (Hot Pink) หมายถึง เรื่องเพศ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า (Turquoise) หมายถึง เวทมนต์ สีน้ำเงินม่วง หมายถึง ความสามัคคี สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณอันแน่วแน่
    และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3

    PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” และในวันที่ 8 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ณ VARIETY HALL THE MALL KORAT #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมกิจกรรม โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ จัดพาเหรด Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทุกหน่วยงาน พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 500 คน ในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน นำขบวนโดย ศิลปิน BOY BAND ขวัญใจวัยรุ่น วง ZOLAR ที่จะมาสร้างสีสันภายในขบวน นอกจากนั้นวันนี้ยังพบกับ ยุวเฟิร์น-นางสาวยุวภรณ์ ทรงงาม คอนเทนครีเอเตอร์และรองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ,ทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี SUT CHEERLEADER CLUB , MISS QUEEN AND MISS TEEN M PLUS, แฟลตม็อบ, วงโปงลางโรงเรียนบุญวัฒนา และการแสดง COVER DANCE BY GUN SQUAD แชมป์รางวัลชนะเลิศระดับโลก WINNER K-POP COVER DANCE FESTIVAL ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีร่วมเดินขบวนพาเหรด มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” ซึ่งความหมาย "ธงสีรุ้ง" สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในแต่ละสีนั้นหมายถึง สีชมพู (Hot Pink) หมายถึง เรื่องเพศ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า (Turquoise) หมายถึง เวทมนต์ สีน้ำเงินม่วง หมายถึง ความสามัคคี สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณอันแน่วแน่ และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” และในวันที่ 8 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ

    วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ณ VARIETY HALL THE MALL KORAT #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมกิจกรรม โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ จัดพาเหรด Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทุกหน่วยงาน

    พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 500 คน ในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน นำขบวนโดย ศิลปิน BOY BAND ขวัญใจวัยรุ่น วง ZOLAR ที่จะมาสร้างสีสันภายในขบวน
    นอกจากนั้นวันนี้ยังพบกับ ยุวเฟิร์น-นางสาวยุวภรณ์ ทรงงาม คอนเทนครีเอเตอร์และรองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ,ทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี SUT CHEERLEADER CLUB , MISS QUEEN AND MISS TEEN M PLUS, แฟลตม็อบ, วงโปงลางโรงเรียนบุญวัฒนา และการแสดง COVER DANCE BY GUN SQUAD แชมป์รางวัลชนะเลิศระดับโลก WINNER K-POP COVER DANCE FESTIVAL ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีร่วมเดินขบวนพาเหรด มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” ซึ่งความหมาย "ธงสีรุ้ง" สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในแต่ละสีนั้นหมายถึง สีชมพู (Hot Pink) หมายถึง เรื่องเพศ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า (Turquoise) หมายถึง เวทมนต์ สีน้ำเงินม่วง หมายถึง ความสามัคคี สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณอันแน่วแน่
    และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3

    PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” และในวันที่ 8 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย

    #นายกหน่อย #อบจโคราช
    #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช
    #prkoratpao
    โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ วันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ณ VARIETY HALL THE MALL KORAT #นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายก อบจ.นครราชสีมา ร่วมกิจกรรม โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ จัดพาเหรด Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช โดยได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทุกหน่วยงาน พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00 น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 500 คน ในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน นำขบวนโดย ศิลปิน BOY BAND ขวัญใจวัยรุ่น วง ZOLAR ที่จะมาสร้างสีสันภายในขบวน นอกจากนั้นวันนี้ยังพบกับ ยุวเฟิร์น-นางสาวยุวภรณ์ ทรงงาม คอนเทนครีเอเตอร์และรองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ,ทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี SUT CHEERLEADER CLUB , MISS QUEEN AND MISS TEEN M PLUS, แฟลตม็อบ, วงโปงลางโรงเรียนบุญวัฒนา และการแสดง COVER DANCE BY GUN SQUAD แชมป์รางวัลชนะเลิศระดับโลก WINNER K-POP COVER DANCE FESTIVAL ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีร่วมเดินขบวนพาเหรด มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” ซึ่งความหมาย "ธงสีรุ้ง" สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในแต่ละสีนั้นหมายถึง สีชมพู (Hot Pink) หมายถึง เรื่องเพศ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า (Turquoise) หมายถึง เวทมนต์ สีน้ำเงินม่วง หมายถึง ความสามัคคี สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณอันแน่วแน่ และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” และในวันที่ 8 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย #นายกหน่อย #อบจโคราช #สร้างคนสร้างเศรษฐกิจสร้างเมืองโคราช #prkoratpao
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔍 Netsh.exe: เครื่องมือเครือข่ายที่ถูกใช้ในโจมตีไซเบอร์
    รายงานล่าสุดจาก Bitdefender GravityZone เผยว่า 84% ของการโจมตีไซเบอร์ระดับสูง ใช้ เครื่องมือที่มีอยู่ใน Windows เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ โดย netsh.exe ซึ่งเป็น เครื่องมือจัดการเครือข่ายผ่าน Command Line ถูกใช้ใน หนึ่งในสามของการโจมตีที่สำคัญ

    นอกจาก netsh.exe แล้ว PowerShell และ WMIC ก็เป็นเครื่องมือที่ถูกใช้บ่อยในการโจมตีไซเบอร์ โดย PowerShell พบใน 73% ของอุปกรณ์ที่ถูกโจมตี แม้ว่าจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานปกติของผู้ดูแลระบบ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - 84% ของการโจมตีไซเบอร์ระดับสูงใช้เครื่องมือที่มีอยู่ใน Windows
    - netsh.exe ถูกใช้ในหนึ่งในสามของการโจมตีที่สำคัญ
    - PowerShell พบใน 73% ของอุปกรณ์ที่ถูกโจมตี
    - WMIC ซึ่งถูกยกเลิกโดย Microsoft ยังคงถูกใช้ในการโจมตี
    - Bitdefender พัฒนา PHASR เพื่อป้องกันการใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการโจมตี

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - เครื่องมือเหล่านี้มีอยู่ในทุกระบบ Windows ทำให้การตรวจจับการโจมตียากขึ้น
    - PowerShell ถูกใช้โดยแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามโดยไม่มีอินเทอร์เฟซที่มองเห็นได้
    - WMIC แม้จะถูกยกเลิก แต่ยังคงถูกใช้ในการโจมตีไซเบอร์
    - ต้องติดตามว่าการพัฒนา PHASR จะช่วยลดการโจมตีได้จริงหรือไม่

    Bitdefender แนะนำให้ ผู้ใช้และองค์กรตรวจสอบการใช้เครื่องมือเหล่านี้ในระบบของตน และ ใช้โซลูชันความปลอดภัยที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติ

    https://www.techradar.com/pro/security/cybercriminals-love-this-little-known-microsoft-tool-a-lot-but-not-as-much-as-this-cli-utility-for-network-management
    🔍 Netsh.exe: เครื่องมือเครือข่ายที่ถูกใช้ในโจมตีไซเบอร์ รายงานล่าสุดจาก Bitdefender GravityZone เผยว่า 84% ของการโจมตีไซเบอร์ระดับสูง ใช้ เครื่องมือที่มีอยู่ใน Windows เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ โดย netsh.exe ซึ่งเป็น เครื่องมือจัดการเครือข่ายผ่าน Command Line ถูกใช้ใน หนึ่งในสามของการโจมตีที่สำคัญ นอกจาก netsh.exe แล้ว PowerShell และ WMIC ก็เป็นเครื่องมือที่ถูกใช้บ่อยในการโจมตีไซเบอร์ โดย PowerShell พบใน 73% ของอุปกรณ์ที่ถูกโจมตี แม้ว่าจะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานปกติของผู้ดูแลระบบ ✅ ข้อมูลจากข่าว - 84% ของการโจมตีไซเบอร์ระดับสูงใช้เครื่องมือที่มีอยู่ใน Windows - netsh.exe ถูกใช้ในหนึ่งในสามของการโจมตีที่สำคัญ - PowerShell พบใน 73% ของอุปกรณ์ที่ถูกโจมตี - WMIC ซึ่งถูกยกเลิกโดย Microsoft ยังคงถูกใช้ในการโจมตี - Bitdefender พัฒนา PHASR เพื่อป้องกันการใช้เครื่องมือเหล่านี้ในการโจมตี ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - เครื่องมือเหล่านี้มีอยู่ในทุกระบบ Windows ทำให้การตรวจจับการโจมตียากขึ้น - PowerShell ถูกใช้โดยแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามโดยไม่มีอินเทอร์เฟซที่มองเห็นได้ - WMIC แม้จะถูกยกเลิก แต่ยังคงถูกใช้ในการโจมตีไซเบอร์ - ต้องติดตามว่าการพัฒนา PHASR จะช่วยลดการโจมตีได้จริงหรือไม่ Bitdefender แนะนำให้ ผู้ใช้และองค์กรตรวจสอบการใช้เครื่องมือเหล่านี้ในระบบของตน และ ใช้โซลูชันความปลอดภัยที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมที่ผิดปกติ https://www.techradar.com/pro/security/cybercriminals-love-this-little-known-microsoft-tool-a-lot-but-not-as-much-as-this-cli-utility-for-network-management
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ
    จัดพาเหรด Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE”
    7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช

    ในเดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIA+ ทั่วโลก เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH อย่างยิ่งใหญ่ทั่วศูนย์การค้าและห้างฯ ทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง
    “เดอะมอลล์โคราช” จัดไพรด์คาร์นิวาลสุดยิ่งใหญ่ กับงาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน
    “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช โดย เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH ทั่วศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศ ทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน
    ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 500 คน ในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน นำขบวนโดย ศิลปิน BOY BAND ขวัญใจวัยรุ่น วง ZOLAR ที่จะมาสร้างสีสันภายในขบวน และได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชน จังหวัดนครราชสีมา เขต 1-3, นางสาววรวรรณ ปราณีตพลกรัง รองผอ. ททท. สนง.นครราชสีมา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทุกหน่วยงาน รวมไปถึงและนายพงศ์ภีระ พัฐภีระพงศ์ ผอ.มูลนิธิเอ็มพลัส และคณะเอ็มพลัส นครราชสีมา โดยมีนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด คณะผู้บริหารและพนักงานเดอะมอลล์โคราช ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
    เพื่อร่วมแสดงความภาคภูมิใจและยืนหยัดในความเท่าเทียมและความหลากหลาย นอกจากนั้นวันนี้ยังพบกับ ยุวเฟิร์น-นางสาวยุวภรณ์ ทรงงาม คอนเทนครีเอเตอร์และรองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ,ทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี SUT CHEERLEADER CLUB , MISS QUEEN AND MISS TEEN M PLUS, แฟลตม็อบ, วงโปงลางโรงเรียนบุญวัฒนา และการแสดง COVER DANCE BY GUN SQUAD แชมป์รางวัลชนะเลิศระดับโลก WINNER K-POP COVER DANCE FESTIVAL ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีร่วมเดินขบวนพาเหรด
    มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” ซึ่งความหมาย "ธงสีรุ้ง" สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในแต่ละสีนั้นหมายถึง สีชมพู (Hot Pink) หมายถึง เรื่องเพศ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา
    สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า (Turquoise) หมายถึง เวทมนต์ สีน้ำเงินม่วง หมายถึง ความสามัคคี สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณอันแน่วแน่
    และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3
    “เดอะมอลล์ กรุ๊ป มองว่า PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” นางสาววรลักษณ์ กล่าวปิดท้าย
    8 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งงานนี้ เดอะมอลลโคราช ร่วมกับ มูลนิธิ M PLUS นครราชสีมา ได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นนั่นเอง
    โคราชจุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ ฉลองเดือนแห่งความภาคภูมิใจ จัดพาเหรด Carnival สุดยิ่งใหญ่ งาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช ในเดือนแห่งความภาคภูมิใจของชาว LGBTQIA+ ทั่วโลก เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH อย่างยิ่งใหญ่ทั่วศูนย์การค้าและห้างฯ ทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง “เดอะมอลล์โคราช” จัดไพรด์คาร์นิวาลสุดยิ่งใหญ่ กับงาน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” 7-8 มิ.ย.2568 ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช พบขบวนพาเหรดสีรุ้งแห่งความหลากหลายที่ยิ่งใหญ่ ร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน เฉลิมฉลองความเท่าเทียมตลอดเดือนมิถุนายน “THE MALL KORAT THE HEART OF PRIDE” จุดไฟพลังชาว LGBTQIA+ ทุกเจนฯ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน ภายใต้คอนเซปต์ THE CENTER OF LOVE | PEACE | EQUALITY ศูนย์กลางความเท่าเทียมและความภาคภูมิใจของคนโคราช โดย เดอะมอลล์ กรุ๊ป เดินหน้าตอกย้ำจุดยืน “LGBTQIA+ Friendly Destination” ผ่านแคมเปญใหญ่ “THE MALL LIFESTORE: THE HEART OF PRIDE” ร่วมฉลอง PRIDE MONTH ทั่วศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าทุกสาขา หนุนเศรษฐกิจสีรุ้ง สนับสนุนความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการอยู่ร่วมกันอย่างมีศักดิ์ศรี การเปิดใจและมีความเข้าใจต่อกันทุกเพศ ทุกวัยอย่างลึกซึ้งร่วมเฉลิมฉลองความเป็นตัวตนที่ภาคภูมิใจไปพร้อมกัน ไฮไลต์สำคัญของกิจกรรมปีนึ้ ในวันที่ 7 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 13.00น.เป็นต้นไป พบขบวนพาเหรด “Pride Carnival” สุดยิ่งใหญ่ สร้างพื้นที่แห่งความเท่าเทียม ซึ่งร่วมกับภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชน LGBTQIA+ ทุกเจนฯ กว่า 500 คน ในจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียง ร่วมเดินขบวนพาเหรดด้วยหัวใจเดียวกัน นำขบวนโดย ศิลปิน BOY BAND ขวัญใจวัยรุ่น วง ZOLAR ที่จะมาสร้างสีสันภายในขบวน และได้รับเกียรติจาก นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วยคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาชน จังหวัดนครราชสีมา เขต 1-3, นางสาววรวรรณ ปราณีตพลกรัง รองผอ. ททท. สนง.นครราชสีมา คณะผู้บริหารจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ทุกหน่วยงาน รวมไปถึงและนายพงศ์ภีระ พัฐภีระพงศ์ ผอ.มูลนิธิเอ็มพลัส และคณะเอ็มพลัส นครราชสีมา โดยมีนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด คณะผู้บริหารและพนักงานเดอะมอลล์โคราช ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น เพื่อร่วมแสดงความภาคภูมิใจและยืนหยัดในความเท่าเทียมและความหลากหลาย นอกจากนั้นวันนี้ยังพบกับ ยุวเฟิร์น-นางสาวยุวภรณ์ ทรงงาม คอนเทนครีเอเตอร์และรองอันดับ 5 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ,ทีมเชียร์ลีดเดอร์มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี SUT CHEERLEADER CLUB , MISS QUEEN AND MISS TEEN M PLUS, แฟลตม็อบ, วงโปงลางโรงเรียนบุญวัฒนา และการแสดง COVER DANCE BY GUN SQUAD แชมป์รางวัลชนะเลิศระดับโลก WINNER K-POP COVER DANCE FESTIVAL ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีร่วมเดินขบวนพาเหรด มีรูปแบบขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน ได้แก่ We All Love “รัก” ในทุกสิ่ง, We All Understanding เรียนรู้อย่าง “เข้าใจ”, We All Dignity พร้อมด้วย “ศักดิ์ศรี” และ We All Equality ยึดมั่นในความเสมอภาค “เท่าเทียม” โดยกิจกรรมยกระดับงานนี้ให้เป็นเทศกาลระดับเมืองของโคราชที่สะท้อนหัวใจของ “ความรัก ความเข้าใจ และความเท่าเทียม” ซึ่งความหมาย "ธงสีรุ้ง" สัญลักษณ์ของการต่อสู้เพื่อความเท่าเทียม ในแต่ละสีนั้นหมายถึง สีชมพู (Hot Pink) หมายถึง เรื่องเพศ สีแดง หมายถึง ชีวิต สีส้ม หมายถึง การเยียวยา สีเหลือง หมายถึง แสงอาทิตย์ที่ส่องสว่าง สีเขียว หมายถึง ธรรมชาติ สีฟ้า (Turquoise) หมายถึง เวทมนต์ สีน้ำเงินม่วง หมายถึง ความสามัคคี สีม่วง หมายถึง จิตวิญญาณอันแน่วแน่ และเวลา 16.00 น. สนุกสุขมันส์กับฟรีมินิคอนเสิร์ตจาก ZOLAR ณ วาไรตี้ ฮอลล์ ชั้น 3 “เดอะมอลล์ กรุ๊ป มองว่า PRIDE ไม่ใช่แค่เทศกาล แต่เป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมที่จะขับเคลื่อนไทยสู่การเป็นจุดหมายปลายทางแห่งความหลากหลายระดับโลก” นางสาววรลักษณ์ กล่าวปิดท้าย 8 มิ.ย.2568 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. พบการประกวด MISS QUEEN M PLUS นครราชสีมา ชิงเงินรางวัลและ Gift Voucher มูลค่าร่วมกว่า 300,000 บาท สมัครฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งงานนี้ เดอะมอลลโคราช ร่วมกับ มูลนิธิ M PLUS นครราชสีมา ได้ร่วมกันจัดงานนี้ขึ้นนั่นเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 ยกระดับการผลิตของคุณด้วยเครื่องบดแห้ง PULVERIZER 30B! 🚀
    คุณกำลังมองหาโซลูชันเพื่อ เพิ่มมูลค่าให้วัตถุดิบ และขยายไลน์การผลิตใช่ไหม?
    โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการ บดน้ำตาลทรายขาว ให้เป็นน้ำตาลไอซิ่ง หรือน้ำตาลผงละเอียด!

    เครื่องบดแห้ง Pulverizer 30B ของเราสามารถปรับใช้เพื่อบด น้ำตาลทรายขาว ให้ได้ขนาดอนุภาคที่สม่ำเสมอตามที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลไอซิ่งสำหรับเบเกอรี่ หรือน้ำตาลผงสำหรับอุตสาหกรรมอื่น ๆ
    ฟันตี 3 แบบ เลือกได้ตามใจ: สำหรับการบดน้ำตาลทรายขาว เราสามารถแนะนำฟันตีที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด:
    Pin Mill: เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับการบดน้ำตาลทรายขาวให้เป็นผงละเอียดมาก หรือน้ำตาลไอซิ่ง เนื่องจากออกแบบมาเพื่อการบดที่ให้ความละเอียดสูง
    Hammer Mill: อาจใช้สำหรับการบดน้ำตาลทรายขาวให้มีความละเอียดปานกลาง หรือใช้เป็นขั้นตอนแรกในการลดขนาดก่อนจะบดละเอียดด้วย Pin Mill

    ควบคุมความละเอียดได้แม่นยำ: สามารถปรับเปลี่ยนตะแกรงให้เหมาะสมกับขนาดอนุภาคของน้ำตาลผงที่คุณต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและตรงตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของคุณ

    มาตรฐานระดับโลก: มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยด้วยมาตรฐาน ยุโรป CE และรองรับระบบ GMP, HACCP ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร

    ทดลองบดก่อนตัดสินใจ: ไม่ต้องเสี่ยง! นำวัตถุดิบของคุณ (น้ำตาลทรายขาว) มาทดลองบดกับเครื่องจริงได้เลย (กรุณาแจ้งล่วงหน้า) เพื่อให้คุณมั่นใจในประสิทธิภาพและผลลัพธ์

    เปลี่ยนน้ำตาลทรายขาวให้เป็นน้ำตาลผงคุณภาพสูง สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างไม่จำกัด!

    📞 สนใจสอบถามเพิ่มเติม หรือนัดทดลองบดน้ำตาลทรายขาว?
    ติดต่อเราได้เลย!

    โทร: 081-318-9098, 02-2153515-9
    อีเมล: yonghahheng@gmail.com, sales@yoryonghahheng.com
    แวะมาเยี่ยมชม: สำนักงานของเราตั้งอยู่ตรงข้ามจุฬาซอย 34 ถนนบรรทัดทอง (พระราม 6) ใกล้หัวลำโพง
    เลือกคุณภาพ เลือก BONNY – เครื่องจักรที่ตอบโจทย์ทุกความสำเร็จของคุณ!


    #เครื่องบด #เครื่องบดแห้ง #Pulverizer #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องจักรโรงงาน #บดน้ำตาล #น้ำตาลไอซิ่ง #น้ำตาลผง #อุตสาหกรรมเบเกอรี่ #วัตถุดิบอาหาร #เครื่องจักรอาหาร #โรงงานผลิต #SMEไทย #เพิ่มมูลค่า #GMP #HACCP #มาตรฐานCE #BONNY #ยย่งฮะเฮง #บดผง #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #เทคโนโลยีการผลิต #เครื่องจักรคุณภาพ #การลงทุน #ธุรกิจอาหาร #นวัตกรรม #เครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร #FoodProcessing #SugarGrinding
    🚀 ยกระดับการผลิตของคุณด้วยเครื่องบดแห้ง PULVERIZER 30B! 🚀 คุณกำลังมองหาโซลูชันเพื่อ เพิ่มมูลค่าให้วัตถุดิบ และขยายไลน์การผลิตใช่ไหม? โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการ บดน้ำตาลทรายขาว ให้เป็นน้ำตาลไอซิ่ง หรือน้ำตาลผงละเอียด! เครื่องบดแห้ง Pulverizer 30B ของเราสามารถปรับใช้เพื่อบด น้ำตาลทรายขาว ให้ได้ขนาดอนุภาคที่สม่ำเสมอตามที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นน้ำตาลไอซิ่งสำหรับเบเกอรี่ หรือน้ำตาลผงสำหรับอุตสาหกรรมอื่น ๆ ฟันตี 3 แบบ เลือกได้ตามใจ: สำหรับการบดน้ำตาลทรายขาว เราสามารถแนะนำฟันตีที่เหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด: Pin Mill: เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุดสำหรับการบดน้ำตาลทรายขาวให้เป็นผงละเอียดมาก หรือน้ำตาลไอซิ่ง เนื่องจากออกแบบมาเพื่อการบดที่ให้ความละเอียดสูง Hammer Mill: อาจใช้สำหรับการบดน้ำตาลทรายขาวให้มีความละเอียดปานกลาง หรือใช้เป็นขั้นตอนแรกในการลดขนาดก่อนจะบดละเอียดด้วย Pin Mill ควบคุมความละเอียดได้แม่นยำ: สามารถปรับเปลี่ยนตะแกรงให้เหมาะสมกับขนาดอนุภาคของน้ำตาลผงที่คุณต้องการ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สม่ำเสมอและตรงตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์ของคุณ มาตรฐานระดับโลก: มั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยด้วยมาตรฐาน ยุโรป CE และรองรับระบบ GMP, HACCP ซึ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร ทดลองบดก่อนตัดสินใจ: ไม่ต้องเสี่ยง! นำวัตถุดิบของคุณ (น้ำตาลทรายขาว) มาทดลองบดกับเครื่องจริงได้เลย (กรุณาแจ้งล่วงหน้า) เพื่อให้คุณมั่นใจในประสิทธิภาพและผลลัพธ์ เปลี่ยนน้ำตาลทรายขาวให้เป็นน้ำตาลผงคุณภาพสูง สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ได้อย่างไม่จำกัด! 📞 สนใจสอบถามเพิ่มเติม หรือนัดทดลองบดน้ำตาลทรายขาว? ติดต่อเราได้เลย! โทร: 081-318-9098, 02-2153515-9 อีเมล: yonghahheng@gmail.com, sales@yoryonghahheng.com แวะมาเยี่ยมชม: สำนักงานของเราตั้งอยู่ตรงข้ามจุฬาซอย 34 ถนนบรรทัดทอง (พระราม 6) ใกล้หัวลำโพง เลือกคุณภาพ เลือก BONNY – เครื่องจักรที่ตอบโจทย์ทุกความสำเร็จของคุณ! #เครื่องบด #เครื่องบดแห้ง #Pulverizer #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องจักรโรงงาน #บดน้ำตาล #น้ำตาลไอซิ่ง #น้ำตาลผง #อุตสาหกรรมเบเกอรี่ #วัตถุดิบอาหาร #เครื่องจักรอาหาร #โรงงานผลิต #SMEไทย #เพิ่มมูลค่า #GMP #HACCP #มาตรฐานCE #BONNY #ยย่งฮะเฮง #บดผง #เครื่องจักรอุตสาหกรรม #เทคโนโลยีการผลิต #เครื่องจักรคุณภาพ #การลงทุน #ธุรกิจอาหาร #นวัตกรรม #เครื่องจักรอุตสาหกรรมอาหาร #FoodProcessing #SugarGrinding
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💳 Google Wallet ยกเลิกการรองรับ PayPal สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ
    Google ได้ประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2025 เป็นต้นไป ผู้ใช้ Google Wallet ในสหรัฐฯ จะไม่สามารถใช้ PayPal เป็นวิธีการชำระเงินได้อีกต่อไป โดยบัญชี PayPal ที่เชื่อมต่อกับ Wallet จะถูกลบออกโดยอัตโนมัติ

    แม้ว่า Google จะไม่ได้ให้เหตุผลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการยกเลิกการรองรับ PayPal แต่มีการคาดการณ์ว่า PayPal อาจเป็นฝ่ายยุติการสนับสนุน Google Wallet ในสหรัฐฯ เพื่อมุ่งเน้นไปที่ โซลูชันการชำระเงินของตนเอง

    PayPal เปิดตัวการรองรับ Google Wallet ครั้งแรกในปี 2017 เมื่อ Wallet ยังใช้ชื่อ Android Pay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ Android มีความยืดหยุ่นในการชำระเงินมากขึ้น อย่างไรก็ตาม PayPal อาจต้องการลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม และผลักดันให้ผู้ใช้หันไปใช้ แอป PayPal โดยตรง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Google Wallet จะหยุดรองรับ PayPal ในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2025
    - บัญชี PayPal ที่เชื่อมต่อกับ Wallet จะถูกลบออกโดยอัตโนมัติ
    - Google Wallet ยังคงรองรับบัตรเดบิตที่มีตราสินค้า PayPal ในสหรัฐฯ
    - PayPal จะยังคงเป็นวิธีการชำระเงินที่รองรับใน Google Wallet สำหรับผู้ใช้ในเยอรมนี
    - หลังวันที่ 13 มิถุนายน ผู้ใช้ต้องตรวจสอบธุรกรรม PayPal ผ่านเว็บไซต์หรือแอป PayPal แทน

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ผู้ใช้ Google Wallet ในสหรัฐฯ ต้องเพิ่มบัตรเครดิตหรือเดบิตเพื่อใช้บริการต่อไป
    - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่พึ่งพา PayPal ผ่าน Google Wallet
    - PayPal อาจกำลังพัฒนาโซลูชันการชำระเงินของตนเองเพื่อลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มอื่น
    - ต้องติดตามว่า Google จะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินในอนาคตหรือไม่

    การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ ผู้ใช้ Google Wallet ในสหรัฐฯ ต้องปรับตัวโดยเพิ่มบัตรเครดิตหรือเดบิตเป็นวิธีการชำระเงินหลัก ขณะที่ ธุรกิจที่พึ่งพา PayPal ผ่าน Google Wallet อาจต้องหาทางเลือกใหม่ในการรับชำระเงิน

    https://www.techspot.com/news/108166-google-wallet-removes-paypal-payment-option-us-users.html
    💳 Google Wallet ยกเลิกการรองรับ PayPal สำหรับผู้ใช้ในสหรัฐฯ Google ได้ประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2025 เป็นต้นไป ผู้ใช้ Google Wallet ในสหรัฐฯ จะไม่สามารถใช้ PayPal เป็นวิธีการชำระเงินได้อีกต่อไป โดยบัญชี PayPal ที่เชื่อมต่อกับ Wallet จะถูกลบออกโดยอัตโนมัติ แม้ว่า Google จะไม่ได้ให้เหตุผลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับการยกเลิกการรองรับ PayPal แต่มีการคาดการณ์ว่า PayPal อาจเป็นฝ่ายยุติการสนับสนุน Google Wallet ในสหรัฐฯ เพื่อมุ่งเน้นไปที่ โซลูชันการชำระเงินของตนเอง PayPal เปิดตัวการรองรับ Google Wallet ครั้งแรกในปี 2017 เมื่อ Wallet ยังใช้ชื่อ Android Pay ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ Android มีความยืดหยุ่นในการชำระเงินมากขึ้น อย่างไรก็ตาม PayPal อาจต้องการลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มของบุคคลที่สาม และผลักดันให้ผู้ใช้หันไปใช้ แอป PayPal โดยตรง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Google Wallet จะหยุดรองรับ PayPal ในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2025 - บัญชี PayPal ที่เชื่อมต่อกับ Wallet จะถูกลบออกโดยอัตโนมัติ - Google Wallet ยังคงรองรับบัตรเดบิตที่มีตราสินค้า PayPal ในสหรัฐฯ - PayPal จะยังคงเป็นวิธีการชำระเงินที่รองรับใน Google Wallet สำหรับผู้ใช้ในเยอรมนี - หลังวันที่ 13 มิถุนายน ผู้ใช้ต้องตรวจสอบธุรกรรม PayPal ผ่านเว็บไซต์หรือแอป PayPal แทน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ผู้ใช้ Google Wallet ในสหรัฐฯ ต้องเพิ่มบัตรเครดิตหรือเดบิตเพื่อใช้บริการต่อไป - การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่พึ่งพา PayPal ผ่าน Google Wallet - PayPal อาจกำลังพัฒนาโซลูชันการชำระเงินของตนเองเพื่อลดการพึ่งพาแพลตฟอร์มอื่น - ต้องติดตามว่า Google จะมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินในอนาคตหรือไม่ การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ ผู้ใช้ Google Wallet ในสหรัฐฯ ต้องปรับตัวโดยเพิ่มบัตรเครดิตหรือเดบิตเป็นวิธีการชำระเงินหลัก ขณะที่ ธุรกิจที่พึ่งพา PayPal ผ่าน Google Wallet อาจต้องหาทางเลือกใหม่ในการรับชำระเงิน https://www.techspot.com/news/108166-google-wallet-removes-paypal-payment-option-us-users.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google Wallet removes PayPal as a payment option for US users
    The move will likely inconvenience many dedicated Wallet users, but it isn't entirely unexpected. Google started blocking US users from linking their PayPal accounts with Wallet on...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🛡️ AI-powered “Repeaters”: เทคนิคใหม่ของอาชญากรไซเบอร์
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก AU10TIX ได้ค้นพบกลยุทธ์ใหม่ที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ในการเจาะระบบของ ธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโต โดยใช้ AI-powered Repeaters ซึ่งเป็น ตัวตนดิจิทัลปลอมที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจจับ

    Repeaters ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีทันที แต่จะ ทดสอบระบบป้องกันขององค์กร โดยใช้ ตัวตนดิจิทัลที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนใบหน้า, แก้ไขหมายเลขเอกสาร หรือปรับพื้นหลังของภาพ

    เมื่อระบบตรวจสอบแต่ละตัวตนแยกกัน จะไม่สามารถตรวจจับความผิดปกติได้ ทำให้ Repeaters สามารถ ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) และการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์ ได้อย่างง่ายดาย

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Repeaters เป็นตัวตนดิจิทัลปลอมที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อทดสอบระบบป้องกันขององค์กร
    - ใช้เทคนิค deepfake เพื่อเปลี่ยนใบหน้า, หมายเลขเอกสาร และพื้นหลังของภาพ
    - สามารถหลบเลี่ยงระบบตรวจสอบไบโอเมตริกซ์และ KYC ได้อย่างง่ายดาย
    - AU10TIX เปิดตัว “consortium validation” เพื่อให้หลายองค์กรแชร์ข้อมูลและตรวจจับ Repeaters ได้ดีขึ้น
    - ระบบใหม่ช่วยให้สามารถตรวจจับตัวตนที่ถูกใช้ซ้ำในหลายแพลตฟอร์มได้แบบเรียลไทม์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ระบบตรวจสอบตัวตนแบบดั้งเดิมอาจไม่สามารถรับมือกับ Repeaters ได้
    - อาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ Repeaters เพื่อเจาะระบบของธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโต
    - ต้องมีการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใช้ในหลายแพลตฟอร์มเพื่อป้องกันการโจมตีแบบเงียบ
    - ไม่มีโซลูชันใดที่สามารถป้องกัน Repeaters ได้ 100% ต้องใช้การตรวจสอบแบบหลายชั้น

    Repeaters แสดงให้เห็นว่า AI กำลังถูกใช้เพื่อพัฒนาเทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อนมากขึ้น องค์กรต้อง ปรับปรุงระบบตรวจสอบตัวตนให้สามารถตรวจจับตัวตนที่ถูกใช้ซ้ำ และ ใช้การตรวจสอบแบบพฤติกรรมเพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต

    https://www.techradar.com/pro/security/cybercriminals-are-deploying-deepfake-sentinels-to-test-detection-systems-of-businesses-heres-what-you-need-to-know
    🛡️ AI-powered “Repeaters”: เทคนิคใหม่ของอาชญากรไซเบอร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก AU10TIX ได้ค้นพบกลยุทธ์ใหม่ที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ในการเจาะระบบของ ธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโต โดยใช้ AI-powered Repeaters ซึ่งเป็น ตัวตนดิจิทัลปลอมที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เพื่อหลบเลี่ยงระบบตรวจจับ Repeaters ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อโจมตีทันที แต่จะ ทดสอบระบบป้องกันขององค์กร โดยใช้ ตัวตนดิจิทัลที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนใบหน้า, แก้ไขหมายเลขเอกสาร หรือปรับพื้นหลังของภาพ เมื่อระบบตรวจสอบแต่ละตัวตนแยกกัน จะไม่สามารถตรวจจับความผิดปกติได้ ทำให้ Repeaters สามารถ ผ่านกระบวนการยืนยันตัวตน (KYC) และการตรวจสอบไบโอเมตริกซ์ ได้อย่างง่ายดาย ✅ ข้อมูลจากข่าว - Repeaters เป็นตัวตนดิจิทัลปลอมที่ถูกปรับแต่งเล็กน้อยเพื่อทดสอบระบบป้องกันขององค์กร - ใช้เทคนิค deepfake เพื่อเปลี่ยนใบหน้า, หมายเลขเอกสาร และพื้นหลังของภาพ - สามารถหลบเลี่ยงระบบตรวจสอบไบโอเมตริกซ์และ KYC ได้อย่างง่ายดาย - AU10TIX เปิดตัว “consortium validation” เพื่อให้หลายองค์กรแชร์ข้อมูลและตรวจจับ Repeaters ได้ดีขึ้น - ระบบใหม่ช่วยให้สามารถตรวจจับตัวตนที่ถูกใช้ซ้ำในหลายแพลตฟอร์มได้แบบเรียลไทม์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ระบบตรวจสอบตัวตนแบบดั้งเดิมอาจไม่สามารถรับมือกับ Repeaters ได้ - อาชญากรไซเบอร์สามารถใช้ Repeaters เพื่อเจาะระบบของธนาคารและแพลตฟอร์มคริปโต - ต้องมีการตรวจสอบพฤติกรรมของผู้ใช้ในหลายแพลตฟอร์มเพื่อป้องกันการโจมตีแบบเงียบ - ไม่มีโซลูชันใดที่สามารถป้องกัน Repeaters ได้ 100% ต้องใช้การตรวจสอบแบบหลายชั้น Repeaters แสดงให้เห็นว่า AI กำลังถูกใช้เพื่อพัฒนาเทคนิคการโจมตีที่ซับซ้อนมากขึ้น องค์กรต้อง ปรับปรุงระบบตรวจสอบตัวตนให้สามารถตรวจจับตัวตนที่ถูกใช้ซ้ำ และ ใช้การตรวจสอบแบบพฤติกรรมเพื่อป้องกันการโจมตีในอนาคต https://www.techradar.com/pro/security/cybercriminals-are-deploying-deepfake-sentinels-to-test-detection-systems-of-businesses-heres-what-you-need-to-know
    WWW.TECHRADAR.COM
    This sneaky fraud tactic uses deepfakes to outsmart your favorite digital services
    Repeaters are used to test your system’s defense before large-scale attack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🏆 เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแห่งอนาคต: 360TB Silica Storage
    เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ด้วย 5D optical storage media จาก Sphotonix ซึ่งสามารถบันทึกข้อมูลได้ถึง 360TB บนแผ่นแก้วขนาด 5 นิ้ว และมีอายุการใช้งานที่อาจยาวนานถึง พันล้านปี

    Sphotonix ใช้ FemtoEtch ซึ่งเป็นเทคโนโลยี เลเซอร์นาโน ในการสร้างโครงสร้าง 5D บนแผ่นแก้ว ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างหนาแน่นและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง

    เทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากหลังจากถูกนำไปใช้ใน Mission Impossible: The Final Reckoning ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ออกฉายในปี 2025

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Sphotonix เปิดตัว 5D optical storage media ที่สามารถบันทึกข้อมูลได้ถึง 360TB บนแผ่นแก้วขนาด 5 นิ้ว
    - ใช้เทคโนโลยี FemtoEtch ซึ่งเป็นเลเซอร์นาโนเพื่อสร้างโครงสร้าง 5D
    - สามารถเก็บข้อมูลได้นานถึงพันล้านปี และทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
    - ถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์ Mission Impossible: The Final Reckoning
    - เทคโนโลยีนี้อาจเป็นทางเลือกใหม่แทน LTO tape และ HDD สำหรับการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีความจุสูง แต่ยังต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้งานในระดับอุตสาหกรรม
    - ต้องติดตามว่าผู้ให้บริการคลาวด์และศูนย์ข้อมูลจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จริงเมื่อใด
    - การผลิตแผ่นแก้วที่มีความแม่นยำสูงอาจมีต้นทุนสูงในช่วงแรก
    - ต้องมีการพัฒนาโซลูชันการอ่านข้อมูลที่สามารถรองรับความหนาแน่นของข้อมูลระดับนี้

    เทคโนโลยี 5D optical storage อาจเป็นก้าวสำคัญในการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว โดยเฉพาะในยุคที่ AI และ Big Data ต้องการพื้นที่จัดเก็บมหาศาล อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่

    https://www.techradar.com/pro/mission-impossible-the-final-reckoning-gets-surprise-guest-appearance-a-revolutionary-360tb-silica-storage-media
    🏆 เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลแห่งอนาคต: 360TB Silica Storage เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ด้วย 5D optical storage media จาก Sphotonix ซึ่งสามารถบันทึกข้อมูลได้ถึง 360TB บนแผ่นแก้วขนาด 5 นิ้ว และมีอายุการใช้งานที่อาจยาวนานถึง พันล้านปี Sphotonix ใช้ FemtoEtch ซึ่งเป็นเทคโนโลยี เลเซอร์นาโน ในการสร้างโครงสร้าง 5D บนแผ่นแก้ว ทำให้สามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างหนาแน่นและทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง เทคโนโลยีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากหลังจากถูกนำไปใช้ใน Mission Impossible: The Final Reckoning ซึ่งเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่ออกฉายในปี 2025 ✅ ข้อมูลจากข่าว - Sphotonix เปิดตัว 5D optical storage media ที่สามารถบันทึกข้อมูลได้ถึง 360TB บนแผ่นแก้วขนาด 5 นิ้ว - ใช้เทคโนโลยี FemtoEtch ซึ่งเป็นเลเซอร์นาโนเพื่อสร้างโครงสร้าง 5D - สามารถเก็บข้อมูลได้นานถึงพันล้านปี และทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่รุนแรง - ถูกนำไปใช้ในภาพยนตร์ Mission Impossible: The Final Reckoning - เทคโนโลยีนี้อาจเป็นทางเลือกใหม่แทน LTO tape และ HDD สำหรับการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีความจุสูง แต่ยังต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถใช้งานในระดับอุตสาหกรรม - ต้องติดตามว่าผู้ให้บริการคลาวด์และศูนย์ข้อมูลจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จริงเมื่อใด - การผลิตแผ่นแก้วที่มีความแม่นยำสูงอาจมีต้นทุนสูงในช่วงแรก - ต้องมีการพัฒนาโซลูชันการอ่านข้อมูลที่สามารถรองรับความหนาแน่นของข้อมูลระดับนี้ เทคโนโลยี 5D optical storage อาจเป็นก้าวสำคัญในการจัดเก็บข้อมูลระยะยาว โดยเฉพาะในยุคที่ AI และ Big Data ต้องการพื้นที่จัดเก็บมหาศาล อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่ https://www.techradar.com/pro/mission-impossible-the-final-reckoning-gets-surprise-guest-appearance-a-revolutionary-360tb-silica-storage-media
    WWW.TECHRADAR.COM
    ‘Mission: Impossible – The Final Reckoning’ gets surprise guest appearance: a revolutionary 360TB silica storage media
    DOGE didn’t say what the new media was only to referring to them as “modern digital records”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'พีระพันธุ์' เข้าสภาฯ ถกงบ 69 แจงเหตุไม่มาวันแรก ติดภารกิจไปจีนจัดหาระบบโซลาร์ ให้ ปชช.เข้าถึงง่าย-ปรับใช้กับเกษตรได้
    https://www.thai-tai.tv/news/19093/
    'พีระพันธุ์' เข้าสภาฯ ถกงบ 69 แจงเหตุไม่มาวันแรก ติดภารกิจไปจีนจัดหาระบบโซลาร์ ให้ ปชช.เข้าถึงง่าย-ปรับใช้กับเกษตรได้ https://www.thai-tai.tv/news/19093/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 HighPoint RocketStor 8631CW: กล่อง eGPU ที่ให้พลัง RTX 5090 แบบไร้ข้อจำกัด

    HighPoint ได้เปิดตัว RocketStor 8631CW ซึ่งเป็น กล่อง eGPU ที่รองรับ PCIe Gen5 x16 โดยสามารถเชื่อมต่อกับ กราฟิกการ์ดระดับเดสก์ท็อป ผ่านสาย CopprLink CDFP ความยาว 1 เมตร

    RocketStor 8631CW ใช้ Rocket 1634D host interface card ซึ่งมี Broadcom PEX 89048 switch เพื่อรักษาการเชื่อมต่อ Gen5 x16 ที่มี ความเร็วสูงสุด 64GB/s

    ตัวกล่อง รองรับ GPU แบบ dual-slot และ triple-slot จาก Nvidia, AMD และ Intel โดยสามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 600W พร้อมระบบ ระบายความร้อนแบบ dual-fan และ การตรวจสอบพลังงานแบบเรียลไทม์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - RocketStor 8631CW รองรับ PCIe Gen5 x16 และให้ความเร็วสูงสุด 64GB/s
    - ใช้สาย CopprLink CDFP ความยาว 1 เมตรเพื่อเชื่อมต่อกับ GPU
    - รองรับ GPU จาก Nvidia, AMD และ Intel แบบ dual-slot และ triple-slot
    - สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 600W พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ dual-fan
    - ไม่มีไดรเวอร์หรือซอฟต์แวร์เพิ่มเติม—เสียบแล้วใช้งานได้ทันที

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ราคาสูงถึง $1,999 ซึ่งอาจไม่คุ้มค่าสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    - ต้องมี PCIe slot ในระบบเพื่อใช้งาน Rocket 1634D host interface card
    - อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกและพกพาได้ง่าย
    - ตลาด eGPU กำลังเปลี่ยนแปลง และอาจมีตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าในอนาคต

    RocketStor 8631CW เป็นโซลูชันที่น่าสนใจสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการพลัง GPU ระดับเดสก์ท็อปบนแล็ปท็อป อย่างไรก็ตาม ราคาสูงและข้อจำกัดด้านการเชื่อมต่อ อาจทำให้ผู้ใช้ต้องพิจารณาทางเลือกอื่น

    https://www.techradar.com/pro/want-to-carry-an-nvidia-geforce-rtx-5090-to-your-laptop-heres-an-egpu-chassis-that-should-do-the-trick-and-it-aint-cheap
    🚀 HighPoint RocketStor 8631CW: กล่อง eGPU ที่ให้พลัง RTX 5090 แบบไร้ข้อจำกัด HighPoint ได้เปิดตัว RocketStor 8631CW ซึ่งเป็น กล่อง eGPU ที่รองรับ PCIe Gen5 x16 โดยสามารถเชื่อมต่อกับ กราฟิกการ์ดระดับเดสก์ท็อป ผ่านสาย CopprLink CDFP ความยาว 1 เมตร RocketStor 8631CW ใช้ Rocket 1634D host interface card ซึ่งมี Broadcom PEX 89048 switch เพื่อรักษาการเชื่อมต่อ Gen5 x16 ที่มี ความเร็วสูงสุด 64GB/s ตัวกล่อง รองรับ GPU แบบ dual-slot และ triple-slot จาก Nvidia, AMD และ Intel โดยสามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 600W พร้อมระบบ ระบายความร้อนแบบ dual-fan และ การตรวจสอบพลังงานแบบเรียลไทม์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - RocketStor 8631CW รองรับ PCIe Gen5 x16 และให้ความเร็วสูงสุด 64GB/s - ใช้สาย CopprLink CDFP ความยาว 1 เมตรเพื่อเชื่อมต่อกับ GPU - รองรับ GPU จาก Nvidia, AMD และ Intel แบบ dual-slot และ triple-slot - สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 600W พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ dual-fan - ไม่มีไดรเวอร์หรือซอฟต์แวร์เพิ่มเติม—เสียบแล้วใช้งานได้ทันที ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ราคาสูงถึง $1,999 ซึ่งอาจไม่คุ้มค่าสำหรับผู้ใช้ทั่วไป - ต้องมี PCIe slot ในระบบเพื่อใช้งาน Rocket 1634D host interface card - อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกและพกพาได้ง่าย - ตลาด eGPU กำลังเปลี่ยนแปลง และอาจมีตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าในอนาคต RocketStor 8631CW เป็นโซลูชันที่น่าสนใจสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการพลัง GPU ระดับเดสก์ท็อปบนแล็ปท็อป อย่างไรก็ตาม ราคาสูงและข้อจำกัดด้านการเชื่อมต่อ อาจทำให้ผู้ใช้ต้องพิจารณาทางเลือกอื่น https://www.techradar.com/pro/want-to-carry-an-nvidia-geforce-rtx-5090-to-your-laptop-heres-an-egpu-chassis-that-should-do-the-trick-and-it-aint-cheap
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 Molex เปิดตัวโซลูชันสายเคเบิล PCIe 7.0 รองรับความเร็ว 128 GT/s
    Molex ได้เปิดตัว Genesis cable and connector solution สำหรับ PCIe 7.0 ที่สามารถรองรับความเร็ว 128 GT/s ที่ระยะ 1 เมตร โดยออกแบบมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของ PCB traces ในการส่งสัญญาณความเร็วสูง

    Genesis ใช้ SFF TA-1040 connector ซึ่งช่วยให้สามารถรองรับการใช้งานในอุตสาหกรรมได้อย่างกว้างขวางเมื่อ PCIe 7.0 เริ่มถูกนำมาใช้ โดย Molex ได้ทำการทดสอบ signal integrity และพบว่า loss อยู่ที่ -3.4 dB ที่ 250 มม. และ -9.2 dB ที่ 1000 มม. ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

    นอกจากนี้ Genesis ยังใช้ 29 AWG low-loss microwave coax cables เพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพสัญญาณได้ดีแม้ในระยะทางที่ยาวขึ้น

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Molex เปิดตัว Genesis cable สำหรับ PCIe 7.0 รองรับความเร็ว 128 GT/s ที่ระยะ 1 เมตร
    - ใช้ SFF TA-1040 connector เพื่อรองรับการใช้งานในอุตสาหกรรม
    - ทดสอบ signal integrity พบว่า loss อยู่ที่ -3.4 dB ที่ 250 มม. และ -9.2 dB ที่ 1000 มม.
    - ใช้ 29 AWG low-loss microwave coax cables เพื่อรักษาคุณภาพสัญญาณ
    - Molex วางแผนเปิดตัว x8 connector ในเดือนพฤษภาคม 2025 และ x16 ในเดือนกรกฎาคม 2025

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - PCIe 7.0 ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา และอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการนำมาใช้งานจริง
    - Genesis cable อาจมีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับ PCB traces แบบเดิม
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นจะนำโซลูชันนี้ไปใช้หรือไม่
    - PCIe 7.0 อาจเริ่มถูกนำมาใช้ในศูนย์ข้อมูลช่วงปลายทศวรรษ 2020 หรือต้นทศวรรษ 2030

    Genesis cable ของ Molex อาจช่วยให้ PCIe 7.0 สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในศูนย์ข้อมูลที่ต้องการ การส่งข้อมูลความเร็วสูงในระยะทางที่ไกลขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นจะนำโซลูชันนี้ไปใช้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/molex-demonstrates-pcie-7-0-cabling-solution-128-gt-s-at-1-meter
    🚀 Molex เปิดตัวโซลูชันสายเคเบิล PCIe 7.0 รองรับความเร็ว 128 GT/s Molex ได้เปิดตัว Genesis cable and connector solution สำหรับ PCIe 7.0 ที่สามารถรองรับความเร็ว 128 GT/s ที่ระยะ 1 เมตร โดยออกแบบมาเพื่อแก้ไขข้อจำกัดของ PCB traces ในการส่งสัญญาณความเร็วสูง Genesis ใช้ SFF TA-1040 connector ซึ่งช่วยให้สามารถรองรับการใช้งานในอุตสาหกรรมได้อย่างกว้างขวางเมื่อ PCIe 7.0 เริ่มถูกนำมาใช้ โดย Molex ได้ทำการทดสอบ signal integrity และพบว่า loss อยู่ที่ -3.4 dB ที่ 250 มม. และ -9.2 dB ที่ 1000 มม. ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ นอกจากนี้ Genesis ยังใช้ 29 AWG low-loss microwave coax cables เพื่อให้สามารถรักษาคุณภาพสัญญาณได้ดีแม้ในระยะทางที่ยาวขึ้น ✅ ข้อมูลจากข่าว - Molex เปิดตัว Genesis cable สำหรับ PCIe 7.0 รองรับความเร็ว 128 GT/s ที่ระยะ 1 เมตร - ใช้ SFF TA-1040 connector เพื่อรองรับการใช้งานในอุตสาหกรรม - ทดสอบ signal integrity พบว่า loss อยู่ที่ -3.4 dB ที่ 250 มม. และ -9.2 dB ที่ 1000 มม. - ใช้ 29 AWG low-loss microwave coax cables เพื่อรักษาคุณภาพสัญญาณ - Molex วางแผนเปิดตัว x8 connector ในเดือนพฤษภาคม 2025 และ x16 ในเดือนกรกฎาคม 2025 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - PCIe 7.0 ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนา และอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการนำมาใช้งานจริง - Genesis cable อาจมีต้นทุนสูงเมื่อเทียบกับ PCB traces แบบเดิม - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นจะนำโซลูชันนี้ไปใช้หรือไม่ - PCIe 7.0 อาจเริ่มถูกนำมาใช้ในศูนย์ข้อมูลช่วงปลายทศวรรษ 2020 หรือต้นทศวรรษ 2030 Genesis cable ของ Molex อาจช่วยให้ PCIe 7.0 สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในศูนย์ข้อมูลที่ต้องการ การส่งข้อมูลความเร็วสูงในระยะทางที่ไกลขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตฮาร์ดแวร์รายอื่นจะนำโซลูชันนี้ไปใช้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/molex-demonstrates-pcie-7-0-cabling-solution-128-gt-s-at-1-meter
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 181 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💾 SSD รูปแบบใหม่ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 1,000,000 GB

    อุตสาหกรรมจัดเก็บข้อมูลกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ด้วย E2 SSD ซึ่งเป็นรูปแบบ SSD ที่สามารถรองรับความจุสูงสุดถึง 1 เพตะไบต์ (1,000,000 GB) โดยถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างระหว่าง HDD ความจุสูง และ SSD ประสิทธิภาพสูง

    E2 SSD ได้รับการพัฒนาโดย Storage Networking Industry Association (SNIA) และ Open Compute Project (OCP) โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับ "warm data" ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต้องการความหนาแน่นสูงและต้นทุนต่ำ

    อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาสำหรับ เซิร์ฟเวอร์ขนาด 2U และสามารถรองรับ 40 ไดรฟ์ในหนึ่งเซิร์ฟเวอร์ ทำให้เซิร์ฟเวอร์เดียวสามารถมีความจุสูงถึง 40 เพตะไบต์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - E2 SSD สามารถรองรับความจุสูงสุดถึง 1 เพตะไบต์ (1,000,000 GB)
    - พัฒนาโดย SNIA และ OCP เพื่อรองรับ "warm data"
    - ออกแบบมาสำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาด 2U และสามารถรองรับ 40 ไดรฟ์ในหนึ่งเซิร์ฟเวอร์
    - ใช้มาตรฐาน EDSFF และเชื่อมต่อผ่าน PCIe 6.0 x4 หรือดีกว่า
    - Micron เป็นหนึ่งในผู้ผลิตหลักของ E2 SSD

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - E2 SSD มีการใช้พลังงานสูงถึง 80 วัตต์ต่อไดรฟ์ ซึ่งอาจเป็นปัญหาด้านความร้อน
    - ต้องมีการพัฒนาโซลูชันระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากอาจไม่สามารถใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศได้
    - ความเร็วของ E2 SSD อยู่ที่ 8-10 MB/s ต่อเทราไบต์ ซึ่งเน้นความจุมากกว่าประสิทธิภาพ
    - ยังต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมก่อนที่จะนำไปใช้งานในเซิร์ฟเวอร์จริง

    E2 SSD อาจเป็นทางออกสำหรับ ศูนย์ข้อมูลที่ต้องการความจุสูงในราคาที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพัฒนาโซลูชันระบายความร้อนที่เหมาะสม และ ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/a-new-ssd-form-factor-can-house-a-staggering-1-000-000-gb-of-storage-e2-drives-could-store-11-000-4k-movies-with-80w-power-draw
    💾 SSD รูปแบบใหม่ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ถึง 1,000,000 GB อุตสาหกรรมจัดเก็บข้อมูลกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ด้วย E2 SSD ซึ่งเป็นรูปแบบ SSD ที่สามารถรองรับความจุสูงสุดถึง 1 เพตะไบต์ (1,000,000 GB) โดยถูกออกแบบมาเพื่อเติมเต็มช่องว่างระหว่าง HDD ความจุสูง และ SSD ประสิทธิภาพสูง E2 SSD ได้รับการพัฒนาโดย Storage Networking Industry Association (SNIA) และ Open Compute Project (OCP) โดยมีเป้าหมายเพื่อรองรับ "warm data" ซึ่งเป็นข้อมูลที่ต้องการความหนาแน่นสูงและต้นทุนต่ำ อุปกรณ์นี้ถูกออกแบบมาสำหรับ เซิร์ฟเวอร์ขนาด 2U และสามารถรองรับ 40 ไดรฟ์ในหนึ่งเซิร์ฟเวอร์ ทำให้เซิร์ฟเวอร์เดียวสามารถมีความจุสูงถึง 40 เพตะไบต์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - E2 SSD สามารถรองรับความจุสูงสุดถึง 1 เพตะไบต์ (1,000,000 GB) - พัฒนาโดย SNIA และ OCP เพื่อรองรับ "warm data" - ออกแบบมาสำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาด 2U และสามารถรองรับ 40 ไดรฟ์ในหนึ่งเซิร์ฟเวอร์ - ใช้มาตรฐาน EDSFF และเชื่อมต่อผ่าน PCIe 6.0 x4 หรือดีกว่า - Micron เป็นหนึ่งในผู้ผลิตหลักของ E2 SSD ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - E2 SSD มีการใช้พลังงานสูงถึง 80 วัตต์ต่อไดรฟ์ ซึ่งอาจเป็นปัญหาด้านความร้อน - ต้องมีการพัฒนาโซลูชันระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากอาจไม่สามารถใช้ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศได้ - ความเร็วของ E2 SSD อยู่ที่ 8-10 MB/s ต่อเทราไบต์ ซึ่งเน้นความจุมากกว่าประสิทธิภาพ - ยังต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมก่อนที่จะนำไปใช้งานในเซิร์ฟเวอร์จริง E2 SSD อาจเป็นทางออกสำหรับ ศูนย์ข้อมูลที่ต้องการความจุสูงในราคาที่คุ้มค่า อย่างไรก็ตาม ต้องมีการพัฒนาโซลูชันระบายความร้อนที่เหมาะสม และ ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/ssds/a-new-ssd-form-factor-can-house-a-staggering-1-000-000-gb-of-storage-e2-drives-could-store-11-000-4k-movies-with-80w-power-draw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💰 Meliuz เปิดขายหุ้นเพื่อซื้อ Bitcoin
    บริษัทฟินเทค Meliuz จากบราซิลได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin โดยมีการกำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025

    Meliuz เป็นบริษัทที่ให้บริการ แคชแบ็กและโซลูชันทางการเงิน ในบราซิล และการลงทุนใน Bitcoin ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงแนวโน้มของบริษัทฟินเทคที่หันมาใช้ สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงิน

    นอกจากนี้ การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก ซึ่งหมายความว่าบริษัทอาจสามารถระดมทุนได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Meliuz ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin
    - กำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025
    - การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก
    - มูลค่าการเสนอขายหุ้นเริ่มต้นอยู่ที่ 150 ล้านเรียลบราซิล (ประมาณ 26.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
    - อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 5.6704 เรียลบราซิล

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การลงทุนใน Bitcoin มีความผันผวนสูง และอาจส่งผลต่อมูลค่าของหุ้น Meliuz
    - ต้องติดตามว่าการเสนอขายหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากน้อยเพียงใด
    - ตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในหลายประเทศ
    - Meliuz อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล

    การที่ Meliuz หันมาลงทุนใน Bitcoin อาจเป็นสัญญาณว่า บริษัทฟินเทคในละตินอเมริกากำลังให้ความสนใจสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/brazil039s-meliuz-launches-share-offering-for-bitcoin-purchase
    💰 Meliuz เปิดขายหุ้นเพื่อซื้อ Bitcoin บริษัทฟินเทค Meliuz จากบราซิลได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin โดยมีการกำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025 Meliuz เป็นบริษัทที่ให้บริการ แคชแบ็กและโซลูชันทางการเงิน ในบราซิล และการลงทุนใน Bitcoin ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงแนวโน้มของบริษัทฟินเทคที่หันมาใช้ สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงิน นอกจากนี้ การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก ซึ่งหมายความว่าบริษัทอาจสามารถระดมทุนได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Meliuz ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin - กำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025 - การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก - มูลค่าการเสนอขายหุ้นเริ่มต้นอยู่ที่ 150 ล้านเรียลบราซิล (ประมาณ 26.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) - อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 5.6704 เรียลบราซิล ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การลงทุนใน Bitcoin มีความผันผวนสูง และอาจส่งผลต่อมูลค่าของหุ้น Meliuz - ต้องติดตามว่าการเสนอขายหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากน้อยเพียงใด - ตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในหลายประเทศ - Meliuz อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล การที่ Meliuz หันมาลงทุนใน Bitcoin อาจเป็นสัญญาณว่า บริษัทฟินเทคในละตินอเมริกากำลังให้ความสนใจสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/brazil039s-meliuz-launches-share-offering-for-bitcoin-purchase
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Brazil's Meliuz launches share offering for bitcoin purchase
    SAO PAULO (Reuters) - Brazilian fintech Meliuz said it has filed for a primary offering of shares with the aim of raising funds for the acquisition of bitcoin, with pricing scheduled for June 12.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔍 Jumpbox: อุปกรณ์ที่อาจมาแทน VPN สำหรับธุรกิจ
    บริษัท Remote.It ได้เปิดตัว Jumpbox ซึ่งเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องใช้ VPN โดย Jumpbox ถูกออกแบบมาให้เป็นโซลูชัน plug-and-play ที่ไม่ต้องตั้งค่าเครือข่ายเพิ่มเติม

    🕵️‍♂️ จุดเด่นของ Jumpbox
    Jumpbox ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถ ควบคุมและตรวจสอบเครือข่ายหลายเครือข่ายพร้อมกัน โดยไม่ต้องพึ่งพา VPN ซึ่งมักมีข้อจำกัด เช่น ต้องมีการตั้งค่าที่ซับซ้อน และอาจมีจุดอ่อนด้านความปลอดภัย

    อุปกรณ์นี้มาพร้อมกับ 2 USB 2.0 ports, 2 USB 3.0 ports, 1 Gigabit Ethernet port, 1 HDMI และ 3.5mm audio jack รวมถึงรองรับ Wi-Fi 6, 5G, Bluetooth และ Starlink

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Jumpbox เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายจากระยะไกลโดยไม่ต้องใช้ VPN
    - Remote.It พัฒนา Jumpbox ร่วมกับ Embedded Works เพื่อให้เป็นโซลูชันที่ง่ายต่อการใช้งาน
    - Jumpbox มาพร้อมกับ Remote.It software และสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ผ่านเครือข่ายเซลลูลาร์
    - อุปกรณ์นี้มีราคา $99.99 และมาพร้อมกับ Remote.It Business Plan เป็นเวลา 1 ปี
    - Jumpbox มีฟีเจอร์ Zero Trust เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - VPN ยังคงเป็นที่นิยมในตลาด และ Jumpbox อาจไม่สามารถแทนที่ VPN ได้ทั้งหมด
    - Jumpbox ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นโซลูชัน Zero Trust Network Access (ZTNA) อย่างเป็นทางการ
    - ต้องรอดูว่าธุรกิจจะยอมรับ Jumpbox แทน VPN หรือไม่
    - การใช้เครือข่ายเซลลูลาร์อาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและค่าใช้จ่าย

    🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครือข่าย
    Jumpbox อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับธุรกิจที่ต้องการ ลดความยุ่งยากในการตั้งค่า VPN และเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าตลาดจะตอบรับเทคโนโลยีนี้อย่างไร และว่ามันจะสามารถแทนที่ VPN ได้จริงหรือไม่

    https://www.techradar.com/pro/vpns-are-fragile-and-limited-startup-wants-to-replace-business-virtual-private-networks-with-physical-plug-and-play-device
    🔍 Jumpbox: อุปกรณ์ที่อาจมาแทน VPN สำหรับธุรกิจ บริษัท Remote.It ได้เปิดตัว Jumpbox ซึ่งเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายจากระยะไกลได้โดยไม่ต้องใช้ VPN โดย Jumpbox ถูกออกแบบมาให้เป็นโซลูชัน plug-and-play ที่ไม่ต้องตั้งค่าเครือข่ายเพิ่มเติม 🕵️‍♂️ จุดเด่นของ Jumpbox Jumpbox ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถ ควบคุมและตรวจสอบเครือข่ายหลายเครือข่ายพร้อมกัน โดยไม่ต้องพึ่งพา VPN ซึ่งมักมีข้อจำกัด เช่น ต้องมีการตั้งค่าที่ซับซ้อน และอาจมีจุดอ่อนด้านความปลอดภัย อุปกรณ์นี้มาพร้อมกับ 2 USB 2.0 ports, 2 USB 3.0 ports, 1 Gigabit Ethernet port, 1 HDMI และ 3.5mm audio jack รวมถึงรองรับ Wi-Fi 6, 5G, Bluetooth และ Starlink ✅ ข้อมูลจากข่าว - Jumpbox เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้สามารถเข้าถึงเครือข่ายจากระยะไกลโดยไม่ต้องใช้ VPN - Remote.It พัฒนา Jumpbox ร่วมกับ Embedded Works เพื่อให้เป็นโซลูชันที่ง่ายต่อการใช้งาน - Jumpbox มาพร้อมกับ Remote.It software และสามารถเข้าถึงอุปกรณ์ผ่านเครือข่ายเซลลูลาร์ - อุปกรณ์นี้มีราคา $99.99 และมาพร้อมกับ Remote.It Business Plan เป็นเวลา 1 ปี - Jumpbox มีฟีเจอร์ Zero Trust เช่น การเข้ารหัสข้อมูลและการควบคุมอุปกรณ์จากระยะไกล ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - VPN ยังคงเป็นที่นิยมในตลาด และ Jumpbox อาจไม่สามารถแทนที่ VPN ได้ทั้งหมด - Jumpbox ยังไม่ได้รับการยืนยันว่าเป็นโซลูชัน Zero Trust Network Access (ZTNA) อย่างเป็นทางการ - ต้องรอดูว่าธุรกิจจะยอมรับ Jumpbox แทน VPN หรือไม่ - การใช้เครือข่ายเซลลูลาร์อาจมีข้อจำกัดด้านความเร็วและค่าใช้จ่าย 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเครือข่าย Jumpbox อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับธุรกิจที่ต้องการ ลดความยุ่งยากในการตั้งค่า VPN และเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงเครือข่าย อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าตลาดจะตอบรับเทคโนโลยีนี้อย่างไร และว่ามันจะสามารถแทนที่ VPN ได้จริงหรือไม่ https://www.techradar.com/pro/vpns-are-fragile-and-limited-startup-wants-to-replace-business-virtual-private-networks-with-physical-plug-and-play-device
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • ❄️ เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่สำหรับ SSD
    xMEMS ได้เปิดตัว µCooling fan-on-a-chip ซึ่งเป็นโซลูชันระบายความร้อนแบบแอคทีฟที่สามารถลดอุณหภูมิของ SSD ได้ถึง 20% โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดปัญหา thermal throttling และเพิ่มประสิทธิภาพของ SSD ให้ทำงานได้เร็วขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น

    SSD เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความเร็วสูง แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น NAND flash และ controller ICs อาจเกิดการ thermal throttling ทำให้ความเร็วลดลง เทคโนโลยี µCooling ของ xMEMS จะช่วยแก้ปัญหานี้โดยติดตั้ง ระบบระบายความร้อนขนาดเล็ก ลงบน SSD โดยตรง

    นอกจากนี้ xMEMS ยังขยายการใช้งาน µCooling ไปยัง AI data servers และ optical transceivers ที่ต้องการการระบายความร้อนในพื้นที่จำกัด

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - xMEMS เปิดตัว µCooling fan-on-a-chip สำหรับ SSD
    - ลดอุณหภูมิ SSD ได้ถึง 20% และลด thermal resistance ลง 25-30%
    - ช่วยลดปัญหา thermal throttling ทำให้ SSD ทำงานได้เร็วขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น
    - สามารถนำไปใช้กับ E3.S SSDs และ NVMe M.2 SSDs
    - ขยายการใช้งานไปยัง AI data servers และ optical transceivers

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และต้องรอดูผลการใช้งานจริง
    - การติดตั้งระบบระบายความร้อนบน SSD อาจเพิ่มต้นทุนการผลิต
    - ต้องรอดูว่าผู้ผลิต SSD รายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่
    - การระบายความร้อนแบบแอคทีฟอาจมีข้อจำกัดด้านพลังงานและความทนทาน

    🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม SSD
    หากเทคโนโลยี µCooling สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจช่วยให้ SSD ในศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์พกพามีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลดปัญหาความร้อนที่ส่งผลต่อความเร็วในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่ และผลกระทบต่อราคาของ SSD ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/xmems-fan-on-a-chip-cooling-can-reduce-ssd-temperatures-by-up-to-20-percent
    ❄️ เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่สำหรับ SSD xMEMS ได้เปิดตัว µCooling fan-on-a-chip ซึ่งเป็นโซลูชันระบายความร้อนแบบแอคทีฟที่สามารถลดอุณหภูมิของ SSD ได้ถึง 20% โดยเทคโนโลยีนี้จะช่วยลดปัญหา thermal throttling และเพิ่มประสิทธิภาพของ SSD ให้ทำงานได้เร็วขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น SSD เป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความเร็วสูง แต่เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น NAND flash และ controller ICs อาจเกิดการ thermal throttling ทำให้ความเร็วลดลง เทคโนโลยี µCooling ของ xMEMS จะช่วยแก้ปัญหานี้โดยติดตั้ง ระบบระบายความร้อนขนาดเล็ก ลงบน SSD โดยตรง นอกจากนี้ xMEMS ยังขยายการใช้งาน µCooling ไปยัง AI data servers และ optical transceivers ที่ต้องการการระบายความร้อนในพื้นที่จำกัด ✅ ข้อมูลจากข่าว - xMEMS เปิดตัว µCooling fan-on-a-chip สำหรับ SSD - ลดอุณหภูมิ SSD ได้ถึง 20% และลด thermal resistance ลง 25-30% - ช่วยลดปัญหา thermal throttling ทำให้ SSD ทำงานได้เร็วขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น - สามารถนำไปใช้กับ E3.S SSDs และ NVMe M.2 SSDs - ขยายการใช้งานไปยัง AI data servers และ optical transceivers ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - เทคโนโลยีนี้ยังอยู่ในช่วงต้นของการพัฒนา และต้องรอดูผลการใช้งานจริง - การติดตั้งระบบระบายความร้อนบน SSD อาจเพิ่มต้นทุนการผลิต - ต้องรอดูว่าผู้ผลิต SSD รายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่ - การระบายความร้อนแบบแอคทีฟอาจมีข้อจำกัดด้านพลังงานและความทนทาน 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม SSD หากเทคโนโลยี µCooling สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาจช่วยให้ SSD ในศูนย์ข้อมูลและอุปกรณ์พกพามีประสิทธิภาพสูงขึ้น และลดปัญหาความร้อนที่ส่งผลต่อความเร็วในการทำงาน อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้หรือไม่ และผลกระทบต่อราคาของ SSD ในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/air-cooling/xmems-fan-on-a-chip-cooling-can-reduce-ssd-temperatures-by-up-to-20-percent
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    xMEMS' fan-on-a-chip cooling can reduce SSD temperatures by up to 20%
    This cooling solution will reduce the temperatures of your SSDs and make them run faster for longer.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 166 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☀️ พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศ: ก้าวใหม่ของเทคโนโลยี
    นักวิจัยจาก Japan Space Systems (JSS) ประสบความสำเร็จในการส่งพลังงานแบบไร้สายจากเครื่องบินไปยังเสาอากาศบนพื้นดิน ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่อาจนำไปสู่การส่งพลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศมายังโลก

    แนวคิดการส่งพลังงานจากอวกาศไม่ใช่เรื่องใหม่ Caltech เคยทดลองส่งพลังงานจากวงโคจรต่ำมายังพื้นโลกในปี 2023 และบริษัทสตาร์ทอัพในแคลิฟอร์เนียเคยเสนอแนวคิดใช้ดาวเทียมติดกระจกสะท้อนแสงอาทิตย์เพื่อผลิตพลังงาน

    ข้อดีของแผงโซลาร์เซลล์ในอวกาศคือ สามารถผลิตพลังงานได้มากกว่าบนโลกหลายเท่า เนื่องจากไม่มีชั้นบรรยากาศมาขวางกั้น และสามารถส่งพลังงานมายังโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - JSS ประสบความสำเร็จในการส่งพลังงานแบบไร้สายจากเครื่องบินไปยังพื้นดิน
    - พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ในอวกาศสามารถผลิตได้มากกว่าบนโลกหลายเท่า
    - การส่งพลังงานผ่านไมโครเวฟสูญเสียพลังงานเพียง 5% เมื่อผ่านชั้นบรรยากาศ
    - ระบบสามารถส่งพลังงานมายังโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมง
    - JSS วางแผนส่งพลังงานจากดาวเทียมที่อยู่ห่างจากโลก 36,000 กิโลเมตร

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การแปลงพลังงานไปเป็นไมโครเวฟและกลับมาเป็นไฟฟ้าสูญเสียพลังงานจำนวนมาก
    - ดาวเทียมต้องเผชิญกับอันตรายจากอุกกาบาตขนาดเล็กและเศษซากอวกาศ
    - บางคนกังวลว่าเครื่องส่งพลังงานไมโครเวฟอาจถูกใช้เป็นอาวุธ
    - ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติมเพื่อให้ระบบนี้สามารถใช้งานได้จริง

    🌍 ผลกระทบต่ออนาคตของพลังงาน
    หากเทคโนโลยีนี้สามารถใช้งานได้จริง อาจช่วยลดการใช้พลังงานจากฟอสซิลและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการพัฒนาและทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าระบบนี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    https://www.techspot.com/news/108097-beaming-solar-power-space-closer-reality-after-breakthrough.html
    ☀️ พลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศ: ก้าวใหม่ของเทคโนโลยี นักวิจัยจาก Japan Space Systems (JSS) ประสบความสำเร็จในการส่งพลังงานแบบไร้สายจากเครื่องบินไปยังเสาอากาศบนพื้นดิน ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่อาจนำไปสู่การส่งพลังงานแสงอาทิตย์จากอวกาศมายังโลก แนวคิดการส่งพลังงานจากอวกาศไม่ใช่เรื่องใหม่ Caltech เคยทดลองส่งพลังงานจากวงโคจรต่ำมายังพื้นโลกในปี 2023 และบริษัทสตาร์ทอัพในแคลิฟอร์เนียเคยเสนอแนวคิดใช้ดาวเทียมติดกระจกสะท้อนแสงอาทิตย์เพื่อผลิตพลังงาน ข้อดีของแผงโซลาร์เซลล์ในอวกาศคือ สามารถผลิตพลังงานได้มากกว่าบนโลกหลายเท่า เนื่องจากไม่มีชั้นบรรยากาศมาขวางกั้น และสามารถส่งพลังงานมายังโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมง ✅ ข้อมูลจากข่าว - JSS ประสบความสำเร็จในการส่งพลังงานแบบไร้สายจากเครื่องบินไปยังพื้นดิน - พลังงานจากแผงโซลาร์เซลล์ในอวกาศสามารถผลิตได้มากกว่าบนโลกหลายเท่า - การส่งพลังงานผ่านไมโครเวฟสูญเสียพลังงานเพียง 5% เมื่อผ่านชั้นบรรยากาศ - ระบบสามารถส่งพลังงานมายังโลกได้ตลอด 24 ชั่วโมง - JSS วางแผนส่งพลังงานจากดาวเทียมที่อยู่ห่างจากโลก 36,000 กิโลเมตร ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การแปลงพลังงานไปเป็นไมโครเวฟและกลับมาเป็นไฟฟ้าสูญเสียพลังงานจำนวนมาก - ดาวเทียมต้องเผชิญกับอันตรายจากอุกกาบาตขนาดเล็กและเศษซากอวกาศ - บางคนกังวลว่าเครื่องส่งพลังงานไมโครเวฟอาจถูกใช้เป็นอาวุธ - ต้องมีการพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเติมเพื่อให้ระบบนี้สามารถใช้งานได้จริง 🌍 ผลกระทบต่ออนาคตของพลังงาน หากเทคโนโลยีนี้สามารถใช้งานได้จริง อาจช่วยลดการใช้พลังงานจากฟอสซิลและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อย่างไรก็ตาม ยังต้องมีการพัฒนาและทดสอบเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าระบบนี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ https://www.techspot.com/news/108097-beaming-solar-power-space-closer-reality-after-breakthrough.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Beaming solar power from space is closer to reality after breakthrough Japanese test
    Researchers from Japan Space Systems (JSS) recently beamed energy wirelessly from a speeding jet to antennae on the ground. The successful experiment confirms the viability of numerous...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • "พีระพันธุ์" ลุยจีน! เร่งดันโซล่าร์ราคาถูกให้คนไทย ใช้ไฟถูก-ลดค่าครองชีพ
    https://www.thai-tai.tv/news/19048/
    "พีระพันธุ์" ลุยจีน! เร่งดันโซล่าร์ราคาถูกให้คนไทย ใช้ไฟถูก-ลดค่าครองชีพ https://www.thai-tai.tv/news/19048/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • มทร.อีสาน จัดประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE
    .
    วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมแคนา 1 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี (อาคาร 19) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา มทร.อีสาน จัดการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง ระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดยมี รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวต้อนรับ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานการประชุมฯ, นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) พร้อมคณะ, นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน พร้อมคณะ, นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด พร้อมคณะ, คุณธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายบุญส่ง สุทธิโตคร ผู้อำนวยการสำนักช่าง สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา, ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, คุณไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, คุณอาทิตย์ ชามขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด, นายจำนงค์ แสงเงิน หัวหน้ากองจัดการเดินรถเขต 2, คุณบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, คุณขจร ศิวรังสรรค์ รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมระบบราง, คุณวัฒนา สมานจิตร อุปนายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย, ดร.สุรวุฒิ เชิดชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชิดชัยคอร์ปอเรชั่น จำกัด
    .
    โดยในการประชุมครั้งนี้ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิชิต คำภาหล้า คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง ได้ร่วมกัน นำเสนอจุดประสงค์ของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ และนำเสนอศูนย์ความร่วมมือทางวิชาการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE และทางด้าน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) โดย นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) ได้นำเสนอจุดเด่นทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์ระบบขนส่ง DRT และรถไฟฟ้ารางเบา รวมถึงแนวคิดความร่วมมือด้านการบริหารจัดการตลอดวงจรชีวิตของขบวนรถไฟ จากนั้น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ได้กล่าวถึง ภาพรวมของสถาบัน NIRT จุดแข็งของหลักสูตร และแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยระบบรางจีน–ไทย (NIRT สาขาต่างประเทศ) โดย นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน ทั้งนี้ นอกจากจะร่วมประชุมหารือด้านความร่วมมือระหว่างกันแล้วยังได้มี การการหารือการเตรียมความพร้อมรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (International Horticultural Expo) และ แผนรถไฟฟ้ารางเบาในประเทศไทย ซึ่ง บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดย นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด ยังได้นำเสนอ เรื่อง การวางแผนผลักดันจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นจังหวัดหลักด้านอุตสาหกรรมระบบราง โดยอาศัยโอกาสความร่วมมือจากทั้ง 4 ฝ่าย และการดำเนินโครงการระบบ DRT สำหรับมหกรรมพืชสวนโลกอีกด้วย
    .
    นอกจากนี้ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้ให้เกียรติเป็นประธานมอบป้ายสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE แก่ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC), สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT), บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด
    .
    ภายหลังการประชุม นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “ในนามของจังหวัดนครราชสีมา รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ภายใต้การนำของ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้จัดการประชุมปรึกษาหารือในวันนี้ ซึ่งเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ก่อให้เกิดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในระดับประเทศและนานาชาติ ทั้งยังได้ริเริ่มสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา พันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการประกาศเจตจำนงมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบขนส่งทางราง เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม และพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมระบบราง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง จนได้ร่วมมือกันในการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะในด้านระบบคมนาคมขนส่ง การมีสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบรางในพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของจังหวัดและภูมิภาค ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน”
    .
    ด้าน รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เปิดเผยว่า "สำหรับการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการ และพิธีส่งมอบป้ายการจัดตั้ง สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ในวันนี้ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ต้องขอขอบคุณจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ให้ความสำคัญกับ มทร.อีสาน เสมอมา ในความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และภาควิจัย ทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านระบบรางให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล"
    .
    "ทั้งนี้ การที่ มทร.อีสาน ได้พันธมิตรในการร่วมพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV เช่น บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงแบบครบวงจร ด้านการขนส่งทางราง เช่น บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. หรือ CRRC เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางราง และเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์รถไฟของจีน และสถาบันที่ผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพด้านเทคโนโลยีและการจัดการระบบราง เช่น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนในของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและมีระดับการพัฒนาระบบรถไฟสูงที่สุดในประเทศจีน ดังนั้น การจัดตั้ง “สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE” แห่งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัย การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติต่อไป" รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวเพิ่มเติม
    มทร.อีสาน จัดประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือ ด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE . วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 เวลา 13.00 น. ณ ห้องประชุมแคนา 1 ชั้น 3 อาคารสำนักงานอธิการบดี (อาคาร 19) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จังหวัดนครราชสีมา มทร.อีสาน จัดการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการและการส่งมอบป้ายการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง ระหว่าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดยมี รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวต้อนรับ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ประธานการประชุมฯ, นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) พร้อมคณะ, นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน พร้อมคณะ, นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด พร้อมคณะ, คุณธนากร ประพฤทธิพงษ์ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา, นายบุญส่ง สุทธิโตคร ผู้อำนวยการสำนักช่าง สำนักงานเทศบาลนครนครราชสีมา, ดร.ธีรพงศ์ คณาศักดิ์ รองประธานฝ่ายบริหารและสื่อสารองค์กร หอการค้าจังหวัดนครราชสีมา, คุณไพสิทธิ์ ปิติทรงสวัสดิ์ ประธานกิตติมศักดิ์ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา, คุณอาทิตย์ ชามขุนทด ผู้อำนวยการกลุ่มงานยุทธศาสตร์และข้อมูลเพื่อการพัฒนาจังหวัด, นายจำนงค์ แสงเงิน หัวหน้ากองจัดการเดินรถเขต 2, คุณบัญชา กันหาสินธุ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา, คุณขจร ศิวรังสรรค์ รองกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าหน่วยธุรกิจเทคโนโลยีและวิศวกรรมระบบราง, คุณวัฒนา สมานจิตร อุปนายกสมาคมวิศวกรรมระบบขนส่งทางรางไทย, ดร.สุรวุฒิ เชิดชัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท เชิดชัยคอร์ปอเรชั่น จำกัด . โดยในการประชุมครั้งนี้ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.อภิชิต คำภาหล้า คณบดีคณะระบบรางและการขนส่ง ได้ร่วมกัน นำเสนอจุดประสงค์ของความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยฯ และนำเสนอศูนย์ความร่วมมือทางวิชาการด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE และทางด้าน บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) โดย นายเฮ้อไจ้เฉียน กรรมการผู้จัดการ บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC) ได้นำเสนอจุดเด่นทางเทคนิคของผลิตภัณฑ์ระบบขนส่ง DRT และรถไฟฟ้ารางเบา รวมถึงแนวคิดความร่วมมือด้านการบริหารจัดการตลอดวงจรชีวิตของขบวนรถไฟ จากนั้น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ได้กล่าวถึง ภาพรวมของสถาบัน NIRT จุดแข็งของหลักสูตร และแนวทางการจัดตั้งวิทยาลัยระบบรางจีน–ไทย (NIRT สาขาต่างประเทศ) โดย นายฉ๋าว กั๋วฮ๋ง รองอธิการบดีสถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ประเทศจีน ทั้งนี้ นอกจากจะร่วมประชุมหารือด้านความร่วมมือระหว่างกันแล้วยังได้มี การการหารือการเตรียมความพร้อมรองรับการเป็นเจ้าภาพการจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (International Horticultural Expo) และ แผนรถไฟฟ้ารางเบาในประเทศไทย ซึ่ง บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด โดย นายฮว๋าง หย๋ง เจี๋ย ประธานบริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด ยังได้นำเสนอ เรื่อง การวางแผนผลักดันจังหวัดนครราชสีมาให้เป็นจังหวัดหลักด้านอุตสาหกรรมระบบราง โดยอาศัยโอกาสความร่วมมือจากทั้ง 4 ฝ่าย และการดำเนินโครงการระบบ DRT สำหรับมหกรรมพืชสวนโลกอีกด้วย . นอกจากนี้ นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ยังได้ให้เกียรติเป็นประธานมอบป้ายสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE แก่ทั้ง 4 หน่วยงาน ได้แก่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน, บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. (CRRC), สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT), บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด . ภายหลังการประชุม นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า “ในนามของจังหวัดนครราชสีมา รู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ภายใต้การนำของ รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้จัดการประชุมปรึกษาหารือในวันนี้ ซึ่งเป็นเวทีแห่งการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์ที่มีคุณค่า ก่อให้เกิดแนวทางความร่วมมือที่เป็นรูปธรรม และนำไปสู่การพัฒนาต่อยอดในระดับประเทศและนานาชาติ ทั้งยังได้ริเริ่มสานสัมพันธ์อันดีระหว่าง ภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษา พันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีการประกาศเจตจำนงมุ่งมั่นในการร่วมพัฒนาด้านเทคโนโลยีและระบบขนส่งทางราง เพื่อเป็นศูนย์กลางด้านการวิจัย พัฒนาองค์ความรู้ สร้างนวัตกรรม และพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมระบบราง ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติและเป้าหมายการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง จนได้ร่วมมือกันในการจัดตั้งสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ขึ้น ทั้งนี้ จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะศูนย์กลางของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยเฉพาะในด้านระบบคมนาคมขนส่ง การมีสถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบรางในพื้นที่ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการยกระดับขีดความสามารถของจังหวัดและภูมิภาค ให้สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน” . ด้าน รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ได้เปิดเผยว่า "สำหรับการประชุมปรึกษาหารือความร่วมมือทางวิชาการ และพิธีส่งมอบป้ายการจัดตั้ง สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE ในวันนี้ เกิดขึ้นจากการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ต้องขอขอบคุณจังหวัดนครราชสีมาที่ได้ให้ความสำคัญกับ มทร.อีสาน เสมอมา ในความร่วมมือระหว่างภาคการศึกษา ภาคอุตสาหกรรม และภาควิจัย ทั้งในและต่างประเทศในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านระบบรางให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคใหม่ ความร่วมมือดังกล่าวไม่เพียงแต่จะเป็นประโยชน์ต่อมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานเท่านั้น หากแต่ยังมีบทบาทสำคัญในการยกระดับอุตสาหกรรมระบบรางของประเทศไทยให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล" . "ทั้งนี้ การที่ มทร.อีสาน ได้พันธมิตรในการร่วมพัฒนาประเทศ ทั้งด้านเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า EV เช่น บริษัท CHELOVE International Education Group จำกัด เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฝึกอบรมเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า และเป็นผู้นำในการให้บริการโซลูชันเทคโนโลยีขั้นสูงแบบครบวงจร ด้านการขนส่งทางราง เช่น บริษัท Nanjing Puzhen Co., Ltd. หรือ CRRC เป็นบริษัทชั้นนำของประเทศจีนที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิจัยและการผลิตอุปกรณ์ขนส่งทางราง และเป็นหนึ่งในบริษัทขนาดใหญ่ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์รถไฟของจีน และสถาบันที่ผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพด้านเทคโนโลยีและการจัดการระบบราง เช่น สถาบันอาชีวศึกษาเทคโนโลยีรถไฟหนานจิง (NIRT) ซึ่งเป็นวิทยาลัยที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ตอนในของสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจเจริญรุ่งเรืองและมีระดับการพัฒนาระบบรถไฟสูงที่สุดในประเทศจีน ดังนั้น การจัดตั้ง “สถาบันความร่วมมือด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบราง RMUTI–CRRC–NIRT–CHELOVE” แห่งนี้ จะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนงานวิจัย การพัฒนาบุคลากร การถ่ายทอดเทคโนโลยี และการสร้างนวัตกรรมที่สามารถนำไปใช้ได้จริงในภาคอุตสาหกรรม ตลอดจนส่งเสริมให้นักศึกษาได้มีโอกาสเรียนรู้และฝึกประสบการณ์จากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติต่อไป" รศ.ดร.โฆษิต ศรีภูธร อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กล่าวเพิ่มเติม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 497 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts