• ทัวร์เกาหลี เที่ยวโซล
    เดินทาง มิ.ย. - ก.ค. 69 7,999

    🗓 จำนวนวัน 5 วัน 3 คืน
    ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์
    พักโรงแรม

    AURORA MEDIA SHOW
    เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ทัวร์เกาหลี เที่ยวโซล 🇰🇷 🗓️ เดินทาง มิ.ย. - ก.ค. 69 😍 7,999 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 5 วัน 3 คืน ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 AURORA MEDIA SHOW 📍 เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ทัวร์เกาหลี เที่ยวโซล
    เดินทาง มิ.ย. - ก.ค. 69 5,999

    🗓 จำนวนวัน 4 วัน 2 คืน
    ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์
    พักโรงแรม

    AURORA MEDIA SHOW
    เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ทัวร์เกาหลี เที่ยวโซล 🇰🇷 🗓️ เดินทาง มิ.ย. - ก.ค. 69 😍 5,999 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 4 วัน 2 คืน ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 AURORA MEDIA SHOW 📍 เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ทัวร์เกาหลี เที่ยวโซล
    เดินทาง มิ.ย. - ก.ค. 69 10,999

    🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน
    ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์
    พักโรงแรม

    AURORA MEDIA SHOW
    เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ทัวร์เกาหลี เที่ยวโซล 🇰🇷 🗓️ เดินทาง มิ.ย. - ก.ค. 69 😍 10,999 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 6 วัน 4 คืน ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 AURORA MEDIA SHOW 📍 เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ใหม่ใน ImageMagick: PSX TIM Integer Overflow

    ImageMagick ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สยอดนิยมสำหรับการจัดการภาพ ถูกค้นพบว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงในตัวแปลไฟล์ PSX TIM ที่ใช้ในยุคเครื่อง PlayStation รุ่นแรก ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-66628 โดยมีคะแนนความรุนแรงสูง (CVSS 7.5) เนื่องจากสามารถทำให้เกิดการอ่านข้อมูลหน่วยความจำที่ไม่ควรเข้าถึงได้บนระบบ 32-bit

    กลไกการโจมตีและผลกระทบ
    สาเหตุเกิดจากการคำนวณขนาดภาพที่ผิดพลาดในฟังก์ชัน ReadTIMImage ซึ่งใช้สูตร image_size = 2 * width * height โดยไม่ตรวจสอบการ overflow หากผู้โจมตีสร้างไฟล์ TIM ที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ เช่น 65535 x 65535 โปรแกรมจะจัดสรรหน่วยความจำผิดพลาด ทำให้เกิดการอ่านข้อมูลเกินขอบเขต (Out-of-Bounds Read) ซึ่งอาจเปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน, คีย์เข้ารหัส หรือ session data

    การแก้ไขและข้อแนะนำ
    ทีมพัฒนาได้แก้ไขปัญหาใน ImageMagick เวอร์ชัน 7.1.2-10 โดยเพิ่มการตรวจสอบ overflow เพื่อป้องกันการ wraparound ของค่าคำนวณ ผู้ดูแลระบบที่ยังใช้เวอร์ชันก่อนหน้า (≤ 7.1.2-9) โดยเฉพาะบนเซิร์ฟเวอร์ 32-bit และอุปกรณ์ IoT ควรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

    มุมมองเพิ่มเติมจากโลกไซเบอร์
    แม้ไฟล์ PSX TIM จะเป็นฟอร์แมตเก่าจากยุคเกมคอนโซล แต่การที่มันยังถูกสนับสนุนในซอฟต์แวร์สมัยใหม่สะท้อนถึงความเสี่ยงจาก legacy formats ที่อาจถูกนำมาใช้โจมตีในปัจจุบัน นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า การสนับสนุนฟอร์แมตที่ไม่จำเป็นควรถูกจำกัด และควรมีการตรวจสอบโค้ดอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาศัยไฟล์เก่าเหล่านี้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ CVE-2025-66628 ใน ImageMagick
    เกิดจากการประมวลผลไฟล์ PSX TIM ที่มีค่า width/height เกินขอบเขต
    ทำให้เกิดการจัดสรรหน่วยความจำผิดพลาดและอ่านข้อมูลเกินขอบเขต

    ผลกระทบ
    ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและคีย์เข้ารหัส
    กระทบระบบ 32-bit และอุปกรณ์ IoT ที่ยังใช้งานเวอร์ชันเก่า

    การแก้ไข
    ปัญหาถูกแก้ในเวอร์ชัน 7.1.2-10 โดยเพิ่มการตรวจสอบ overflow
    ผู้ดูแลระบบควรอัปเดตทันทีเพื่อความปลอดภัย

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    หากยังใช้เวอร์ชัน ≤ 7.1.2-9 มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตี
    การสนับสนุนไฟล์ legacy format อาจเปิดช่องให้เกิดการโจมตีในอนาคต

    https://securityonline.info/imagemagick-flaw-risks-arbitrary-memory-disclosure-via-psx-tim-file-integer-overflow-on-32-bit-systems/
    🖼️ ช่องโหว่ใหม่ใน ImageMagick: PSX TIM Integer Overflow ImageMagick ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สยอดนิยมสำหรับการจัดการภาพ ถูกค้นพบว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงในตัวแปลไฟล์ PSX TIM ที่ใช้ในยุคเครื่อง PlayStation รุ่นแรก ช่องโหว่นี้ถูกระบุว่า CVE-2025-66628 โดยมีคะแนนความรุนแรงสูง (CVSS 7.5) เนื่องจากสามารถทำให้เกิดการอ่านข้อมูลหน่วยความจำที่ไม่ควรเข้าถึงได้บนระบบ 32-bit ⚙️ กลไกการโจมตีและผลกระทบ สาเหตุเกิดจากการคำนวณขนาดภาพที่ผิดพลาดในฟังก์ชัน ReadTIMImage ซึ่งใช้สูตร image_size = 2 * width * height โดยไม่ตรวจสอบการ overflow หากผู้โจมตีสร้างไฟล์ TIM ที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ เช่น 65535 x 65535 โปรแกรมจะจัดสรรหน่วยความจำผิดพลาด ทำให้เกิดการอ่านข้อมูลเกินขอบเขต (Out-of-Bounds Read) ซึ่งอาจเปิดเผยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่าน, คีย์เข้ารหัส หรือ session data 🔒 การแก้ไขและข้อแนะนำ ทีมพัฒนาได้แก้ไขปัญหาใน ImageMagick เวอร์ชัน 7.1.2-10 โดยเพิ่มการตรวจสอบ overflow เพื่อป้องกันการ wraparound ของค่าคำนวณ ผู้ดูแลระบบที่ยังใช้เวอร์ชันก่อนหน้า (≤ 7.1.2-9) โดยเฉพาะบนเซิร์ฟเวอร์ 32-bit และอุปกรณ์ IoT ควรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต 🌐 มุมมองเพิ่มเติมจากโลกไซเบอร์ แม้ไฟล์ PSX TIM จะเป็นฟอร์แมตเก่าจากยุคเกมคอนโซล แต่การที่มันยังถูกสนับสนุนในซอฟต์แวร์สมัยใหม่สะท้อนถึงความเสี่ยงจาก legacy formats ที่อาจถูกนำมาใช้โจมตีในปัจจุบัน นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า การสนับสนุนฟอร์แมตที่ไม่จำเป็นควรถูกจำกัด และควรมีการตรวจสอบโค้ดอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาศัยไฟล์เก่าเหล่านี้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-66628 ใน ImageMagick ➡️ เกิดจากการประมวลผลไฟล์ PSX TIM ที่มีค่า width/height เกินขอบเขต ➡️ ทำให้เกิดการจัดสรรหน่วยความจำผิดพลาดและอ่านข้อมูลเกินขอบเขต ✅ ผลกระทบ ➡️ ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและคีย์เข้ารหัส ➡️ กระทบระบบ 32-bit และอุปกรณ์ IoT ที่ยังใช้งานเวอร์ชันเก่า ✅ การแก้ไข ➡️ ปัญหาถูกแก้ในเวอร์ชัน 7.1.2-10 โดยเพิ่มการตรวจสอบ overflow ➡️ ผู้ดูแลระบบควรอัปเดตทันทีเพื่อความปลอดภัย ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ หากยังใช้เวอร์ชัน ≤ 7.1.2-9 มีความเสี่ยงสูงต่อการถูกโจมตี ⛔ การสนับสนุนไฟล์ legacy format อาจเปิดช่องให้เกิดการโจมตีในอนาคต https://securityonline.info/imagemagick-flaw-risks-arbitrary-memory-disclosure-via-psx-tim-file-integer-overflow-on-32-bit-systems/
    SECURITYONLINE.INFO
    ImageMagick Flaw Risks Arbitrary Memory Disclosure via PSX TIM File Integer Overflow on 32-bit Systems
    A High-severity (CVSS 7.5) flaw in ImageMagick's PSX TIM parser allows Arbitrary Memory Disclosure on 32-bit systems via an integer overflow. Patch immediately to v7.1.2-10.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • Aircela: น้ำมันเบนซินจากอากาศ

    บริษัท Aircela จากนิวยอร์กกำลังสร้างนวัตกรรมที่ดูเหมือนฝัน คือเครื่องจักรที่สามารถดึง คาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ แล้วเปลี่ยนเป็น น้ำมันเบนซินปลอดฟอสซิล เครื่องนี้มีขนาดประมาณ 6 ฟุตสูง และ 3 ฟุตกว้าง ใช้สารละลายน้ำผสมโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ในการจับ CO₂ ก่อนจะแยกน้ำเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน แล้วนำไฮโดรเจนกับ CO₂ มาสร้างเป็นเมทานอล และสุดท้ายแปรสภาพเป็นน้ำมันเบนซินที่ไม่มีสารพิษอย่างกำมะถันหรือโลหะหนัก

    ประสิทธิภาพและการทำงาน
    เครื่อง Aircela สามารถจับ CO₂ ได้ราว 10 กิโลกรัมต่อวัน และผลิตน้ำมันเบนซินได้ประมาณ 1 แกลลอนต่อวัน โดยมีถังเก็บเชื้อเพลิงได้ถึง 17 แกลลอน ซึ่งหมายความว่าต้องใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ในการผลิตน้ำมันเต็มถังสำหรับรถยนต์ทั่วไป แม้จะยังไม่เร็วพอสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเชื้อเพลิงสะอาด

    ผลกระทบและความเป็นไปได้
    หากเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันฟอสซิล และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมาก จุดเด่นคือสามารถติดตั้งได้ทั้งในบ้านหรือพื้นที่ห่างไกลที่เข้าถึงน้ำมันเชื้อเพลิงยาก คล้ายกับการใช้ แผงโซลาร์เซลล์แบบโมดูลาร์ ที่สามารถเชื่อมต่อหลายเครื่องเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต

    แผนการในอนาคต
    Aircela ตั้งเป้าที่จะเปิดตัวเชิงพาณิชย์ในปี 2026 และหวังให้เชื้อเพลิงที่ผลิตได้มีราคาสมเหตุสมผลใกล้เคียงกับน้ำมันเบนซินทั่วไป หากสำเร็จ จะเป็นการปฏิวัติวงการพลังงานและการเดินทาง โดยเฉพาะในยุคที่โลกกำลังมองหาทางออกจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศ

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Aircela พัฒนาเครื่องผลิตน้ำมันเบนซินจากอากาศ น้ำ และคาร์บอน
    เครื่องจับ CO₂ ได้ 10 กก./วัน ผลิตน้ำมัน 1 แกลลอน/วัน
    ถังเก็บได้ 17 แกลลอน ใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ในการผลิตเต็มถัง

    ผลกระทบ
    ลดการพึ่งพาน้ำมันฟอสซิล
    ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
    ใช้งานได้ทั้งบ้านและพื้นที่ห่างไกล

    อนาคต
    ตั้งเป้าเปิดตัวเชิงพาณิชย์ในปี 2026
    ราคาน้ำมันสะอาดใกล้เคียงกับน้ำมันทั่วไป

    คำเตือน
    ปริมาณการผลิตยังน้อย ไม่เหมาะกับการใช้งานจริงในตอนนี้
    ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้เชื้อเพลิงเต็มถัง
    ยังไม่เปิดเผยต้นทุนเครื่องและราคาน้ำมันที่ผลิตได้

    https://www.slashgear.com/2048896/ev-alternative-clean-fuel-aircela-gas-from-air-water-carbon/
    🌱 Aircela: น้ำมันเบนซินจากอากาศ บริษัท Aircela จากนิวยอร์กกำลังสร้างนวัตกรรมที่ดูเหมือนฝัน คือเครื่องจักรที่สามารถดึง คาร์บอนไดออกไซด์จากอากาศ แล้วเปลี่ยนเป็น น้ำมันเบนซินปลอดฟอสซิล เครื่องนี้มีขนาดประมาณ 6 ฟุตสูง และ 3 ฟุตกว้าง ใช้สารละลายน้ำผสมโพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ในการจับ CO₂ ก่อนจะแยกน้ำเป็นไฮโดรเจนและออกซิเจน แล้วนำไฮโดรเจนกับ CO₂ มาสร้างเป็นเมทานอล และสุดท้ายแปรสภาพเป็นน้ำมันเบนซินที่ไม่มีสารพิษอย่างกำมะถันหรือโลหะหนัก ⚙️ ประสิทธิภาพและการทำงาน เครื่อง Aircela สามารถจับ CO₂ ได้ราว 10 กิโลกรัมต่อวัน และผลิตน้ำมันเบนซินได้ประมาณ 1 แกลลอนต่อวัน โดยมีถังเก็บเชื้อเพลิงได้ถึง 17 แกลลอน ซึ่งหมายความว่าต้องใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ในการผลิตน้ำมันเต็มถังสำหรับรถยนต์ทั่วไป แม้จะยังไม่เร็วพอสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ แต่ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเชื้อเพลิงสะอาด 🌐 ผลกระทบและความเป็นไปได้ หากเทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาจช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันฟอสซิล และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมาก จุดเด่นคือสามารถติดตั้งได้ทั้งในบ้านหรือพื้นที่ห่างไกลที่เข้าถึงน้ำมันเชื้อเพลิงยาก คล้ายกับการใช้ แผงโซลาร์เซลล์แบบโมดูลาร์ ที่สามารถเชื่อมต่อหลายเครื่องเข้าด้วยกันเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต 🔮 แผนการในอนาคต Aircela ตั้งเป้าที่จะเปิดตัวเชิงพาณิชย์ในปี 2026 และหวังให้เชื้อเพลิงที่ผลิตได้มีราคาสมเหตุสมผลใกล้เคียงกับน้ำมันเบนซินทั่วไป หากสำเร็จ จะเป็นการปฏิวัติวงการพลังงานและการเดินทาง โดยเฉพาะในยุคที่โลกกำลังมองหาทางออกจากวิกฤติสภาพภูมิอากาศ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Aircela พัฒนาเครื่องผลิตน้ำมันเบนซินจากอากาศ น้ำ และคาร์บอน ➡️ เครื่องจับ CO₂ ได้ 10 กก./วัน ผลิตน้ำมัน 1 แกลลอน/วัน ➡️ ถังเก็บได้ 17 แกลลอน ใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ในการผลิตเต็มถัง ✅ ผลกระทบ ➡️ ลดการพึ่งพาน้ำมันฟอสซิล ➡️ ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ➡️ ใช้งานได้ทั้งบ้านและพื้นที่ห่างไกล ✅ อนาคต ➡️ ตั้งเป้าเปิดตัวเชิงพาณิชย์ในปี 2026 ➡️ ราคาน้ำมันสะอาดใกล้เคียงกับน้ำมันทั่วไป ‼️ คำเตือน ⛔ ปริมาณการผลิตยังน้อย ไม่เหมาะกับการใช้งานจริงในตอนนี้ ⛔ ต้องใช้เวลานานกว่าจะได้เชื้อเพลิงเต็มถัง ⛔ ยังไม่เปิดเผยต้นทุนเครื่องและราคาน้ำมันที่ผลิตได้ https://www.slashgear.com/2048896/ev-alternative-clean-fuel-aircela-gas-from-air-water-carbon/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Ambitious Startup Says Its Machine Can Make Gasoline Out Of Thin Air - SlashGear
    A New York-based company called Aircela says its machine is able to capture 10 kilograms of CO2 and convert it into one gallon of gasoline each day.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลยุทธ์ใหม่ของ Intel

    Intel วางแผนจะหันไปเน้นการผลิต ASIC สำหรับงาน inference และการใช้งานเฉพาะทาง แทนที่จะทุ่มแข่งขันกับ Nvidia และ AMD ในตลาด GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI ที่ใช้ทรัพยากรมหาศาล กลยุทธ์นี้คล้ายกับ Broadcom ที่ประสบความสำเร็จในการสร้าง ASIC สำหรับลูกค้ารายใหญ่ เช่น Google และ Meta

    ลดการพึ่งพาตลาด GPU Training
    ตลาด GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ถูกครอบครองโดย Nvidia ที่มี CUDA ecosystem และ H100/H200 GPUs ที่ทรงพลัง Intel มองว่าการแข่งขันตรงนี้เป็นเรื่องยาก จึงเลือกที่จะเน้นไปที่ การใช้งานจริง (inference) ซึ่งมีตลาดกว้างและต้องการโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า

    การใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่
    Intel มีจุดแข็งในด้าน Foundry Services และ Packaging ซึ่งสามารถนำมาใช้สร้าง ASIC ที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าได้โดยตรง กลยุทธ์นี้ช่วยให้ Intel สามารถสร้างรายได้จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ โดยไม่ต้องลงทุนมหาศาลเพื่อแข่งขันในตลาด GPU training ที่มีต้นทุนสูง

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    หาก Intel เดินหน้ากลยุทธ์นี้จริง จะทำให้ตลาด AI มีความหลากหลายมากขึ้น โดยมีผู้เล่นที่เน้น ASIC สำหรับงานเฉพาะทาง ควบคู่ไปกับ GPU ของ Nvidia และ AMD ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับองค์กรที่ต้องการโซลูชัน AI ที่เหมาะสมกับงานของตน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    กลยุทธ์ใหม่ของ Intel
    เน้น ASIC สำหรับงาน inference
    คล้ายกับ Broadcom ที่ทำสำเร็จในตลาด

    ลดการพึ่งพาตลาด GPU Training
    Nvidia ครองตลาด GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI
    Intel หันไปเน้นตลาดที่กว้างกว่าและคุ้มค่ากว่า

    ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่
    Foundry Services และ Packaging เป็นจุดแข็ง
    สร้างรายได้โดยไม่ต้องแข่งขันตรงกับ Nvidia

    ผลกระทบเชิงบวก
    เพิ่มความหลากหลายในตลาด AI
    ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับองค์กร

    คำเตือนและข้อจำกัด
    ตลาด ASIC ยังต้องพิสูจน์ความสามารถในการแข่งขันระยะยาว
    หากไม่สามารถสร้าง ecosystem ที่แข็งแรง อาจเสียเปรียบต่อ Nvidia

    https://wccftech.com/intel-ai-strategy-will-favor-a-broadcom-like-asic-model-over-the-training-hype/
    🏭 กลยุทธ์ใหม่ของ Intel Intel วางแผนจะหันไปเน้นการผลิต ASIC สำหรับงาน inference และการใช้งานเฉพาะทาง แทนที่จะทุ่มแข่งขันกับ Nvidia และ AMD ในตลาด GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI ที่ใช้ทรัพยากรมหาศาล กลยุทธ์นี้คล้ายกับ Broadcom ที่ประสบความสำเร็จในการสร้าง ASIC สำหรับลูกค้ารายใหญ่ เช่น Google และ Meta ⚡ ลดการพึ่งพาตลาด GPU Training ตลาด GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ถูกครอบครองโดย Nvidia ที่มี CUDA ecosystem และ H100/H200 GPUs ที่ทรงพลัง Intel มองว่าการแข่งขันตรงนี้เป็นเรื่องยาก จึงเลือกที่จะเน้นไปที่ การใช้งานจริง (inference) ซึ่งมีตลาดกว้างและต้องการโซลูชันที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า 🔧 การใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ Intel มีจุดแข็งในด้าน Foundry Services และ Packaging ซึ่งสามารถนำมาใช้สร้าง ASIC ที่ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าได้โดยตรง กลยุทธ์นี้ช่วยให้ Intel สามารถสร้างรายได้จากโครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ โดยไม่ต้องลงทุนมหาศาลเพื่อแข่งขันในตลาด GPU training ที่มีต้นทุนสูง 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI หาก Intel เดินหน้ากลยุทธ์นี้จริง จะทำให้ตลาด AI มีความหลากหลายมากขึ้น โดยมีผู้เล่นที่เน้น ASIC สำหรับงานเฉพาะทาง ควบคู่ไปกับ GPU ของ Nvidia และ AMD ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับองค์กรที่ต้องการโซลูชัน AI ที่เหมาะสมกับงานของตน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ กลยุทธ์ใหม่ของ Intel ➡️ เน้น ASIC สำหรับงาน inference ➡️ คล้ายกับ Broadcom ที่ทำสำเร็จในตลาด ✅ ลดการพึ่งพาตลาด GPU Training ➡️ Nvidia ครองตลาด GPU สำหรับการฝึกโมเดล AI ➡️ Intel หันไปเน้นตลาดที่กว้างกว่าและคุ้มค่ากว่า ✅ ใช้โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่ ➡️ Foundry Services และ Packaging เป็นจุดแข็ง ➡️ สร้างรายได้โดยไม่ต้องแข่งขันตรงกับ Nvidia ✅ ผลกระทบเชิงบวก ➡️ เพิ่มความหลากหลายในตลาด AI ➡️ ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับองค์กร ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ ตลาด ASIC ยังต้องพิสูจน์ความสามารถในการแข่งขันระยะยาว ⛔ หากไม่สามารถสร้าง ecosystem ที่แข็งแรง อาจเสียเปรียบต่อ Nvidia https://wccftech.com/intel-ai-strategy-will-favor-a-broadcom-like-asic-model-over-the-training-hype/
    WCCFTECH.COM
    Intel’s AI Strategy Will Favor a “Broadcom-Like” ASIC Model Over the Training Hype, Offering Customers Foundry & Packaging Services
    Intel's AI plans have been under uncertainity, but it appears that the firm is expected to target two main segments: ASICs and edge AI.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • Rivian เปิดตัวชิป RAP1 และแพลตฟอร์ม ACM3

    Rivian ประกาศเปิดตัว Rivian Autonomy Processor (RAP1) ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบเอง ใช้สถาปัตยกรรม Armv9 พร้อม 14 คอร์ Cortex-A720AE ผลิตบนเทคโนโลยี 5nm จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อผ่าน RivLink ที่สามารถขยายกำลังประมวลผลโดยเพิ่มชิปอื่นเข้ามาได้ RAP1 ถูกนำมาใช้ใน Autonomy Compute Module 3 (ACM3) ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์สำหรับการขับขี่อัตโนมัติ

    จุดแข็งเหนือ Tesla: รองรับ LiDAR
    ACM3 สามารถประมวลผลได้ถึง 1,800 TOPS ของการ inference แบบ INT8 และรองรับการประมวลผลภาพจากกล้องถึง 5 พันล้านพิกเซลต่อวินาที ที่สำคัญคือ Rivian เลือกที่จะรองรับ LiDAR ซึ่ง Tesla ปฏิเสธการใช้ โดย Rivian มองว่า LiDAR จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับสภาพแวดล้อม และจะถูกนำมาใช้ในรถรุ่น R2 ที่จะเปิดตัวปี 2026

    ฟีเจอร์เสริม: Universal Hands Free และ Autonomy+
    สำหรับรถรุ่น R1 รุ่นที่สอง Rivian จะเพิ่มระบบ Universal Hands Free (UHF) ซึ่งเป็นผู้ช่วยขับขี่ที่ทำงานได้บนถนนกว่า 3.5 ล้านไมล์ในสหรัฐฯ และแคนาดา ไม่จำกัดเฉพาะทางด่วน นอกจากนี้ยังมีบริการ Autonomy+ ที่คิดค่าบริการแบบครั้งเดียว $2,500 หรือสมัครสมาชิก $49.99 ต่อเดือน โดย Rivian ย้ำว่าเป็นระบบช่วยเพิ่มความปลอดภัย ไม่ใช่การขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ

    กลยุทธ์และอนาคต
    Rivian ยังพัฒนา Large Driving Model (LDM) ซึ่งเป็นโมเดล AI สำหรับการขับขี่ คล้ายกับ LLM ของ chatbot แต่ปรับใช้กับการตัดสินใจบนท้องถนน บริษัทตั้งเป้าไปสู่ Level 4 Autonomous Driving ในอนาคต และอาจขายเทคโนโลยีนี้ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นด้วย ถือเป็นการขยายธุรกิจจากการผลิตรถยนต์ไปสู่การขายโซลูชันเทคโนโลยี

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่
    RAP1: ชิป Armv9, 14 คอร์, 5nm
    ACM3: รองรับ 1,800 TOPS, 5 พันล้านพิกเซล/วินาที

    จุดแข็งเหนือคู่แข่ง
    รองรับ LiDAR ซึ่ง Tesla ไม่ใช้
    เตรียมใช้ในรถ R2 ปี 2026

    ฟีเจอร์เสริม
    Universal Hands Free (UHF) ครอบคลุมถนน 3.5 ล้านไมล์
    Autonomy+ บริการเสริม $2,500 หรือ $49.99/เดือน

    กลยุทธ์อนาคต
    พัฒนา Large Driving Model (LDM)
    ตั้งเป้า Level 4 Autonomous Driving

    คำเตือนและข้อจำกัด
    Autonomy+ ไม่ใช่ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    เทคโนโลยี LiDAR และ ACM3 ยังอยู่ระหว่างการทดสอบและ validation

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/rivian-unveils-its-own-in-house-rap1-ai-chip-and-acm3-self-driving-platform-automaker-one-ups-tesla-with-lidar-support
    🚗 Rivian เปิดตัวชิป RAP1 และแพลตฟอร์ม ACM3 Rivian ประกาศเปิดตัว Rivian Autonomy Processor (RAP1) ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบเอง ใช้สถาปัตยกรรม Armv9 พร้อม 14 คอร์ Cortex-A720AE ผลิตบนเทคโนโลยี 5nm จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อผ่าน RivLink ที่สามารถขยายกำลังประมวลผลโดยเพิ่มชิปอื่นเข้ามาได้ RAP1 ถูกนำมาใช้ใน Autonomy Compute Module 3 (ACM3) ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์สำหรับการขับขี่อัตโนมัติ 🛰️ จุดแข็งเหนือ Tesla: รองรับ LiDAR ACM3 สามารถประมวลผลได้ถึง 1,800 TOPS ของการ inference แบบ INT8 และรองรับการประมวลผลภาพจากกล้องถึง 5 พันล้านพิกเซลต่อวินาที ที่สำคัญคือ Rivian เลือกที่จะรองรับ LiDAR ซึ่ง Tesla ปฏิเสธการใช้ โดย Rivian มองว่า LiDAR จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับสภาพแวดล้อม และจะถูกนำมาใช้ในรถรุ่น R2 ที่จะเปิดตัวปี 2026 💡 ฟีเจอร์เสริม: Universal Hands Free และ Autonomy+ สำหรับรถรุ่น R1 รุ่นที่สอง Rivian จะเพิ่มระบบ Universal Hands Free (UHF) ซึ่งเป็นผู้ช่วยขับขี่ที่ทำงานได้บนถนนกว่า 3.5 ล้านไมล์ในสหรัฐฯ และแคนาดา ไม่จำกัดเฉพาะทางด่วน นอกจากนี้ยังมีบริการ Autonomy+ ที่คิดค่าบริการแบบครั้งเดียว $2,500 หรือสมัครสมาชิก $49.99 ต่อเดือน โดย Rivian ย้ำว่าเป็นระบบช่วยเพิ่มความปลอดภัย ไม่ใช่การขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ 🌐 กลยุทธ์และอนาคต Rivian ยังพัฒนา Large Driving Model (LDM) ซึ่งเป็นโมเดล AI สำหรับการขับขี่ คล้ายกับ LLM ของ chatbot แต่ปรับใช้กับการตัดสินใจบนท้องถนน บริษัทตั้งเป้าไปสู่ Level 4 Autonomous Driving ในอนาคต และอาจขายเทคโนโลยีนี้ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นด้วย ถือเป็นการขยายธุรกิจจากการผลิตรถยนต์ไปสู่การขายโซลูชันเทคโนโลยี 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ➡️ RAP1: ชิป Armv9, 14 คอร์, 5nm ➡️ ACM3: รองรับ 1,800 TOPS, 5 พันล้านพิกเซล/วินาที ✅ จุดแข็งเหนือคู่แข่ง ➡️ รองรับ LiDAR ซึ่ง Tesla ไม่ใช้ ➡️ เตรียมใช้ในรถ R2 ปี 2026 ✅ ฟีเจอร์เสริม ➡️ Universal Hands Free (UHF) ครอบคลุมถนน 3.5 ล้านไมล์ ➡️ Autonomy+ บริการเสริม $2,500 หรือ $49.99/เดือน ✅ กลยุทธ์อนาคต ➡️ พัฒนา Large Driving Model (LDM) ➡️ ตั้งเป้า Level 4 Autonomous Driving ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ Autonomy+ ไม่ใช่ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ⛔ เทคโนโลยี LiDAR และ ACM3 ยังอยู่ระหว่างการทดสอบและ validation https://www.tomshardware.com/tech-industry/rivian-unveils-its-own-in-house-rap1-ai-chip-and-acm3-self-driving-platform-automaker-one-ups-tesla-with-lidar-support
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nintendo Switch 2 เจอวิกฤติหน่วยความจำ

    ราคาชิปหน่วยความจำที่ใช้ใน Nintendo Switch 2 พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะ RAM ขนาด 12 GB ที่เพิ่มขึ้นถึง 41% ในไตรมาสเดียว และ NAND flash ที่เพิ่มขึ้นอีก 8% ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทันที หุ้นของ Nintendo ร่วงลงกว่า 4.7% และมูลค่าตลาดหายไปกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่ากำไรจากการขายเครื่องอาจลดลงจนบางตลาดขายแทบไม่มีกำไร

    ตลาดโลก DRAM และ NAND กำลังร้อนแรง
    ข้อมูลจากนักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาด DRAM และ NAND ทั่วโลกกำลังขาดแคลน เนื่องจากความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI ที่เพิ่มขึ้นมหาศาล ทำให้ราคาสัญญาซื้อขาย DRAM และ NAND ขยับขึ้นต่อเนื่อง 15–30% ในหลายเซกเมนต์ ขณะเดียวกันการผลิต DRAM รุ่นเก่าลดลง เพราะผู้ผลิตหันไปลงทุนใน HBM และ DDR5 ที่ทำกำไรสูงกว่า ส่งผลให้สินค้ารุ่นที่ยังใช้ DDR4 หรือ LPDDR4X ขาดตลาดหนัก

    ผลกระทบต่อกำไรและกลยุทธ์ Nintendo
    Nintendo ยอมรับว่า Switch 2 มี margin ต่ำกว่า Switch รุ่นแรก เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้นจากจอภาพที่ดีขึ้น, ชิปใหม่ที่รองรับ 4K และหน่วยความจำที่แพงขึ้น แม้ยอดขายเปิดตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่กำไรต่อเครื่องลดลงอย่างชัดเจน บริษัทจึงพยายามชดเชยด้วยการขายเกมและคอนเทนต์เสริม ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักที่มี margin สูงกว่า

    แนวโน้มปี 2026 และคำเตือน
    นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาหน่วยความจำจะยังคงสูงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026 เนื่องจากผู้ผลิตยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตใหม่ และความต้องการจาก AI ยังคงรุนแรง ผู้บริโภคอาจต้องเจอกับราคาคอนโซลและอุปกรณ์เสริมที่แพงขึ้น รวมถึง microSD card ที่จำเป็นต่อการเล่นเกมก็มีแนวโน้มขาดตลาดและแพงขึ้นเช่นกัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ราคาหน่วยความจำพุ่งสูง
    RAM ขนาด 12 GB เพิ่มขึ้น 41%
    NAND flash เพิ่มขึ้น 8%

    ผลกระทบต่อ Nintendo
    หุ้นร่วง 4.7% มูลค่าตลาดหายไป 14 พันล้านดอลลาร์
    กำไรต่อเครื่อง Switch 2 ต่ำกว่ารุ่นแรก

    ตลาดโลกหน่วยความจำ
    DRAM และ NAND ขาดแคลนจากความต้องการ AI
    ผู้ผลิตหันไปผลิต HBM และ DDR5 มากขึ้น

    กลยุทธ์ Nintendo
    เน้นรายได้จากเกมและคอนเทนต์เสริม
    ใช้โปรโมชั่น เช่น bundle Mario Kart World

    คำเตือนต่อผู้บริโภค
    ราคาคอนโซลและอุปกรณ์เสริมอาจแพงขึ้น
    microSD card มีแนวโน้มขาดตลาดและจำเป็นต่อการเล่นเกม

    https://www.tomshardware.com/video-games/nintendo/nintendo-switch-2-ram-prices-rise-41-percent-nand-flash-up-8-percent-console-giant-shares-nosedive-in-face-of-increased-cost-warnings
    🎮 Nintendo Switch 2 เจอวิกฤติหน่วยความจำ ราคาชิปหน่วยความจำที่ใช้ใน Nintendo Switch 2 พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก โดยเฉพาะ RAM ขนาด 12 GB ที่เพิ่มขึ้นถึง 41% ในไตรมาสเดียว และ NAND flash ที่เพิ่มขึ้นอีก 8% ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นทันที หุ้นของ Nintendo ร่วงลงกว่า 4.7% และมูลค่าตลาดหายไปกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่ากำไรจากการขายเครื่องอาจลดลงจนบางตลาดขายแทบไม่มีกำไร 💾 ตลาดโลก DRAM และ NAND กำลังร้อนแรง ข้อมูลจากนักวิเคราะห์ชี้ว่า ตลาด DRAM และ NAND ทั่วโลกกำลังขาดแคลน เนื่องจากความต้องการจากศูนย์ข้อมูล AI ที่เพิ่มขึ้นมหาศาล ทำให้ราคาสัญญาซื้อขาย DRAM และ NAND ขยับขึ้นต่อเนื่อง 15–30% ในหลายเซกเมนต์ ขณะเดียวกันการผลิต DRAM รุ่นเก่าลดลง เพราะผู้ผลิตหันไปลงทุนใน HBM และ DDR5 ที่ทำกำไรสูงกว่า ส่งผลให้สินค้ารุ่นที่ยังใช้ DDR4 หรือ LPDDR4X ขาดตลาดหนัก 📉 ผลกระทบต่อกำไรและกลยุทธ์ Nintendo Nintendo ยอมรับว่า Switch 2 มี margin ต่ำกว่า Switch รุ่นแรก เนื่องจากต้นทุนสูงขึ้นจากจอภาพที่ดีขึ้น, ชิปใหม่ที่รองรับ 4K และหน่วยความจำที่แพงขึ้น แม้ยอดขายเปิดตัวสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แต่กำไรต่อเครื่องลดลงอย่างชัดเจน บริษัทจึงพยายามชดเชยด้วยการขายเกมและคอนเทนต์เสริม ซึ่งเป็นแหล่งรายได้หลักที่มี margin สูงกว่า 🌐 แนวโน้มปี 2026 และคำเตือน นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาหน่วยความจำจะยังคงสูงต่อเนื่องไปจนถึงปี 2026 เนื่องจากผู้ผลิตยังไม่เพิ่มกำลังการผลิตใหม่ และความต้องการจาก AI ยังคงรุนแรง ผู้บริโภคอาจต้องเจอกับราคาคอนโซลและอุปกรณ์เสริมที่แพงขึ้น รวมถึง microSD card ที่จำเป็นต่อการเล่นเกมก็มีแนวโน้มขาดตลาดและแพงขึ้นเช่นกัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ราคาหน่วยความจำพุ่งสูง ➡️ RAM ขนาด 12 GB เพิ่มขึ้น 41% ➡️ NAND flash เพิ่มขึ้น 8% ✅ ผลกระทบต่อ Nintendo ➡️ หุ้นร่วง 4.7% มูลค่าตลาดหายไป 14 พันล้านดอลลาร์ ➡️ กำไรต่อเครื่อง Switch 2 ต่ำกว่ารุ่นแรก ✅ ตลาดโลกหน่วยความจำ ➡️ DRAM และ NAND ขาดแคลนจากความต้องการ AI ➡️ ผู้ผลิตหันไปผลิต HBM และ DDR5 มากขึ้น ✅ กลยุทธ์ Nintendo ➡️ เน้นรายได้จากเกมและคอนเทนต์เสริม ➡️ ใช้โปรโมชั่น เช่น bundle Mario Kart World ‼️ คำเตือนต่อผู้บริโภค ⛔ ราคาคอนโซลและอุปกรณ์เสริมอาจแพงขึ้น ⛔ microSD card มีแนวโน้มขาดตลาดและจำเป็นต่อการเล่นเกม https://www.tomshardware.com/video-games/nintendo/nintendo-switch-2-ram-prices-rise-41-percent-nand-flash-up-8-percent-console-giant-shares-nosedive-in-face-of-increased-cost-warnings
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกฤตราคา RAM: จาก 117 ดอลลาร์สู่กว่า 800 ดอลลาร์

    รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า Trident Z5 Neo RGB DDR5-6000 C30 32GB ที่เคยขายเพียง 117 ดอลลาร์ ตอนนี้ราคาขึ้นไปถึง 429 ดอลลาร์ในร้านค้าปกติ และถูกนำไปขายบน eBay ในราคา 836 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาจริงถึง 7 เท่า การปรับขึ้นนี้เกิดจากความต้องการหน่วยความจำมหาศาลในศูนย์ข้อมูล AI ที่ทำให้ผู้ผลิตอย่าง Samsung, SK Hynix และ Micron หันไปผลิต RAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์แทนตลาดผู้บริโภค

    Scalpers และการเก็งกำไร
    นอกจากผู้ผลิตแล้ว scalpers ก็เข้ามาเก็งกำไร โดยซื้อ RAM จากร้านค้าปกติแล้วนำไปขายต่อในราคาสูง ตัวอย่างเช่น Vengeance DDR5-5200 C38 192GB ที่เคยมีราคา 649 ดอลลาร์ ตอนนี้ถูกตั้งราคาขายใหม่ถึง 2,201 ดอลลาร์ และแม้แต่บน eBay ก็ยังมีการตั้งราคาสูงถึง 1,949 ดอลลาร์ การเก็งกำไรนี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล

    ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ผลิต
    บริษัทประกอบคอมพิวเตอร์อย่าง CyberPowerPC และ Maingear ต้องปรับราคาพีซีขึ้นตามต้นทุน ขณะที่ OEM อย่าง Dell และ Lenovo ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้ Lenovo จะมีสต็อกเพียงพอจนถึงปี 2026 แต่ผู้ผลิตรายอื่นต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Micron ยังประกาศปิดสายการผลิต RAM สำหรับผู้บริโภค (Crucial) เพื่อหันไปโฟกัสตลาดองค์กรโดยตรง

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยี
    การขาดแคลน RAM ไม่ได้กระทบแค่ผู้ใช้พีซี แต่ยังรวมถึง คอนโซลเกมและ Raspberry Pi ที่ต้องปรับราคาขึ้นเช่นกัน นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจต้องรอจนกว่า “ฟองสบู่ AI” จะคลี่คลาย ราคาถึงจะกลับมาเป็นปกติ แต่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

    สรุปสาระสำคัญ
    ราคาชุด RAM พุ่งสูงกว่า 7 เท่า
    Trident Z5 Neo จาก 117 ดอลลาร์เป็น 836 ดอลลาร์บน eBay

    ผู้ผลิตหันไปผลิต RAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์
    ตลาดผู้บริโภคถูกลดความสำคัญ

    Scalpers เก็งกำไรบน eBay
    Vengeance DDR5-5200 จาก 649 ดอลลาร์เป็น 1,949 ดอลลาร์

    ธุรกิจคอมพิวเตอร์และ OEM ได้รับผลกระทบ
    CyberPowerPC, Maingear, Dell ต้องปรับราคาสูงขึ้น

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ทั่วไป
    ไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล

    ฟองสบู่ AI อาจทำให้ตลาดผันผวน
    ราคาจะกลับมาปกติได้ก็ต่อเมื่อความต้องการลดลง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/ram-scalping-takes-hold-on-ebay-some-kits-selling-for-more-than-usd2-000-price-gouged-kits-fetch-7x-their-original-value-adding-almost-double-the-markup-on-already-inflated-prices
    💻 วิกฤตราคา RAM: จาก 117 ดอลลาร์สู่กว่า 800 ดอลลาร์ รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า Trident Z5 Neo RGB DDR5-6000 C30 32GB ที่เคยขายเพียง 117 ดอลลาร์ ตอนนี้ราคาขึ้นไปถึง 429 ดอลลาร์ในร้านค้าปกติ และถูกนำไปขายบน eBay ในราคา 836 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาจริงถึง 7 เท่า การปรับขึ้นนี้เกิดจากความต้องการหน่วยความจำมหาศาลในศูนย์ข้อมูล AI ที่ทำให้ผู้ผลิตอย่าง Samsung, SK Hynix และ Micron หันไปผลิต RAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์แทนตลาดผู้บริโภค 📈 Scalpers และการเก็งกำไร นอกจากผู้ผลิตแล้ว scalpers ก็เข้ามาเก็งกำไร โดยซื้อ RAM จากร้านค้าปกติแล้วนำไปขายต่อในราคาสูง ตัวอย่างเช่น Vengeance DDR5-5200 C38 192GB ที่เคยมีราคา 649 ดอลลาร์ ตอนนี้ถูกตั้งราคาขายใหม่ถึง 2,201 ดอลลาร์ และแม้แต่บน eBay ก็ยังมีการตั้งราคาสูงถึง 1,949 ดอลลาร์ การเก็งกำไรนี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล 🏭 ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ผลิต บริษัทประกอบคอมพิวเตอร์อย่าง CyberPowerPC และ Maingear ต้องปรับราคาพีซีขึ้นตามต้นทุน ขณะที่ OEM อย่าง Dell และ Lenovo ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้ Lenovo จะมีสต็อกเพียงพอจนถึงปี 2026 แต่ผู้ผลิตรายอื่นต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Micron ยังประกาศปิดสายการผลิต RAM สำหรับผู้บริโภค (Crucial) เพื่อหันไปโฟกัสตลาดองค์กรโดยตรง 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยี การขาดแคลน RAM ไม่ได้กระทบแค่ผู้ใช้พีซี แต่ยังรวมถึง คอนโซลเกมและ Raspberry Pi ที่ต้องปรับราคาขึ้นเช่นกัน นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจต้องรอจนกว่า “ฟองสบู่ AI” จะคลี่คลาย ราคาถึงจะกลับมาเป็นปกติ แต่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ราคาชุด RAM พุ่งสูงกว่า 7 เท่า ➡️ Trident Z5 Neo จาก 117 ดอลลาร์เป็น 836 ดอลลาร์บน eBay ✅ ผู้ผลิตหันไปผลิต RAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ➡️ ตลาดผู้บริโภคถูกลดความสำคัญ ✅ Scalpers เก็งกำไรบน eBay ➡️ Vengeance DDR5-5200 จาก 649 ดอลลาร์เป็น 1,949 ดอลลาร์ ✅ ธุรกิจคอมพิวเตอร์และ OEM ได้รับผลกระทบ ➡️ CyberPowerPC, Maingear, Dell ต้องปรับราคาสูงขึ้น ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล ‼️ ฟองสบู่ AI อาจทำให้ตลาดผันผวน ⛔ ราคาจะกลับมาปกติได้ก็ต่อเมื่อความต้องการลดลง https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/ram-scalping-takes-hold-on-ebay-some-kits-selling-for-more-than-usd2-000-price-gouged-kits-fetch-7x-their-original-value-adding-almost-double-the-markup-on-already-inflated-prices
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • PeerTube: แพลตฟอร์มวิดีโอแบบกระจายศูนย์

    PeerTube ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกแทนแพลตฟอร์มวิดีโอเชิงพาณิชย์ โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ decentralized ที่ผู้ใช้สามารถโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ของตนเองและเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย ทำให้ลดการพึ่งพาบริษัทใหญ่และเพิ่มความเป็นอิสระในการเผยแพร่เนื้อหา

    การใช้งานจริงในองค์กรและสถาบัน
    แพลตฟอร์มนี้ถูกนำไปใช้โดย กระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส (มีคลิปกว่า 100,000 วิดีโอ), สภาวิจัยแห่งชาติอิตาลี, มหาวิทยาลัยและสถาบันศิลปะในเยอรมนี รวมถึงโครงการโอเพ่นซอร์สชื่อดังอย่าง Blender และ Debian สิ่งนี้สะท้อนว่า PeerTube ไม่ได้เป็นเพียงโครงการทดลอง แต่ถูกใช้จริงในระดับองค์กรและชุมชนโลก

    จุดแข็งด้านโอเพ่นซอร์สและความปลอดภัย
    PeerTube ใช้สัญญาอนุญาต AGPL-3.0 และมีการตรวจสอบตามมาตรฐาน DPG เช่น ความเป็นอิสระของแพลตฟอร์ม, การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล, และการจัดการเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม จุดนี้ทำให้ PeerTube เป็นโซลูชันที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความมั่นใจด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

    ความหมายต่อระบบนิเวศดิจิทัล
    การที่ PeerTube ได้รับการรับรองเป็น Digital Public Good หมายถึงการยอมรับว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีคุณค่าต่อสาธารณะ สามารถช่วยให้ประเทศและองค์กรต่าง ๆ มีทางเลือกในการสร้างแพลตฟอร์มวิดีโอที่ไม่ขึ้นกับบริษัทเชิงพาณิชย์ และสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียม

    สรุปสาระสำคัญ
    PeerTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอแบบ decentralized
    ผู้ใช้สามารถโฮสต์เซิร์ฟเวอร์เองและเชื่อมต่อเป็นเครือข่าย

    ใช้งานจริงโดยองค์กรระดับโลก
    เช่น กระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส, สภาวิจัยแห่งชาติอิตาลี, Blender, Debian

    ได้รับการรับรองเป็น Digital Public Good (DPG) ปี 2025
    ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัย, ความโปร่งใส, และการปกป้องข้อมูล

    ใช้สัญญาอนุญาต AGPL-3.0
    เปิดให้ตรวจสอบและพัฒนาได้อย่างอิสระ

    หากไม่มีการอัปเดตต่อเนื่อง อาจเสี่ยงต่อช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    การละเลยการบำรุงรักษาอาจทำให้ระบบไม่เสถียร

    การโฮสต์ PeerTube ต้องใช้ทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์และการจัดการที่เหมาะสม
    หากขาดการดูแล อาจทำให้ประสบการณ์ผู้ใช้ไม่ดี

    https://www.digitalpublicgoods.net/r/peertube
    🎥 PeerTube: แพลตฟอร์มวิดีโอแบบกระจายศูนย์ PeerTube ถูกออกแบบมาเพื่อเป็นทางเลือกแทนแพลตฟอร์มวิดีโอเชิงพาณิชย์ โดยใช้สถาปัตยกรรมแบบ decentralized ที่ผู้ใช้สามารถโฮสต์เซิร์ฟเวอร์ของตนเองและเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย ทำให้ลดการพึ่งพาบริษัทใหญ่และเพิ่มความเป็นอิสระในการเผยแพร่เนื้อหา 🌍 การใช้งานจริงในองค์กรและสถาบัน แพลตฟอร์มนี้ถูกนำไปใช้โดย กระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส (มีคลิปกว่า 100,000 วิดีโอ), สภาวิจัยแห่งชาติอิตาลี, มหาวิทยาลัยและสถาบันศิลปะในเยอรมนี รวมถึงโครงการโอเพ่นซอร์สชื่อดังอย่าง Blender และ Debian สิ่งนี้สะท้อนว่า PeerTube ไม่ได้เป็นเพียงโครงการทดลอง แต่ถูกใช้จริงในระดับองค์กรและชุมชนโลก 🔐 จุดแข็งด้านโอเพ่นซอร์สและความปลอดภัย PeerTube ใช้สัญญาอนุญาต AGPL-3.0 และมีการตรวจสอบตามมาตรฐาน DPG เช่น ความเป็นอิสระของแพลตฟอร์ม, การปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล, และการจัดการเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม จุดนี้ทำให้ PeerTube เป็นโซลูชันที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการความมั่นใจด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว 📈 ความหมายต่อระบบนิเวศดิจิทัล การที่ PeerTube ได้รับการรับรองเป็น Digital Public Good หมายถึงการยอมรับว่าเป็นโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีคุณค่าต่อสาธารณะ สามารถช่วยให้ประเทศและองค์กรต่าง ๆ มีทางเลือกในการสร้างแพลตฟอร์มวิดีโอที่ไม่ขึ้นกับบริษัทเชิงพาณิชย์ และสนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลอย่างเท่าเทียม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ PeerTube เป็นแพลตฟอร์มวิดีโอแบบ decentralized ➡️ ผู้ใช้สามารถโฮสต์เซิร์ฟเวอร์เองและเชื่อมต่อเป็นเครือข่าย ✅ ใช้งานจริงโดยองค์กรระดับโลก ➡️ เช่น กระทรวงศึกษาธิการฝรั่งเศส, สภาวิจัยแห่งชาติอิตาลี, Blender, Debian ✅ ได้รับการรับรองเป็น Digital Public Good (DPG) ปี 2025 ➡️ ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัย, ความโปร่งใส, และการปกป้องข้อมูล ✅ ใช้สัญญาอนุญาต AGPL-3.0 ➡️ เปิดให้ตรวจสอบและพัฒนาได้อย่างอิสระ ‼️ หากไม่มีการอัปเดตต่อเนื่อง อาจเสี่ยงต่อช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ⛔ การละเลยการบำรุงรักษาอาจทำให้ระบบไม่เสถียร ‼️ การโฮสต์ PeerTube ต้องใช้ทรัพยากรเซิร์ฟเวอร์และการจัดการที่เหมาะสม ⛔ หากขาดการดูแล อาจทำให้ประสบการณ์ผู้ใช้ไม่ดี https://www.digitalpublicgoods.net/r/peertube
    WWW.DIGITALPUBLICGOODS.NET
    PeerTube
    PeerTube is a tool for hosting, managing, and sharing videos or live streams.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • “5 แกดเจ็ตสุดร้อนแรงที่โลกจับตามองในปี 2026”

    บทความนี้พูดถึง 5 แกดเจ็ตที่ถูกคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 ได้แก่ Steam Machine, Steam Frame VR Headset, iPhone Fold, AYN Odin 3, และ Retroid Pocket 6 ซึ่งแต่ละตัวมีจุดเด่นและความคาดหวังสูงจากทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักเล่นเกม

    Steam Machine และ Steam Controller
    Valve เตรียมเปิดตัว Steam Machine รุ่นใหม่ ในไตรมาสแรกปี 2026 ตัวเครื่องเป็นทรงสี่เหลี่ยมเล็ก (ถูกเรียกเล่น ๆ ว่า GabeCube) ใช้ระบบ SteamOS แทน Windows รองรับการเล่นเกม AAA ที่ 4K 60fps (ผ่าน FSR Upscaling) มีรุ่น 512GB และ 2TB จุดเด่นคือขนาดเล็ก ใช้งานได้ทั้งเป็นคอนโซลในห้องนั่งเล่นหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องราคา (คาด $600–$800) และประสิทธิภาพจริงเมื่อเทียบกับคอนโซล.

    Steam Frame VR Headset
    Valve ยังเปิดตัว Steam Frame ซึ่งเป็น VR Headset รุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยี 6GHz Wireless Adapter ที่ให้ประสบการณ์ไร้สายแต่ใกล้เคียงการเชื่อมต่อแบบสาย และมี Foveated Streaming ที่เรนเดอร์ภาพเฉพาะจุดที่สายตามอง ทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่เสียคุณภาพภาพรวม ใช้ชิป ARM64 Snapdragon SoC พร้อม FEX Translation Layer ที่อาจเปิดประตูให้ PC Gaming บนสถาปัตยกรรม ARM64 เช่น Android และ macOS.

    iPhone Fold
    Apple ถูกคาดว่าจะเปิดตัว iPhone Fold ในเดือนกันยายน 2026 โดยมีดีไซน์แบบ Book-Fold ขนาด 7.8 นิ้ว (หรือรุ่น Max 8.3 นิ้ว) พร้อมจอด้านนอก 5.5 นิ้วและกล้องหลัก 48MP จุดเด่นคือความบางเพียง 4.5 มม. เมื่อกางออก และการใช้ Liquid-Metal Hinge ที่อาจทำให้ iPhone Fold เป็นรุ่นแรกที่ “ไร้รอยพับ” ราคาคาดว่าจะเกิน $2,000.

    AYN Odin 3
    ตลาดเครื่องเล่นเกมพกพา Android กำลังเติบโต และ AYN Odin 3 ที่จะเปิดตัวมกราคม 2026 เป็นที่จับตามองมากที่สุด ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite (3nm), จอ OLED 120Hz, แบต 8,000 mAh และมีระบบระบายความร้อนด้วยพัดลม รองรับการเล่นเกม Emulator ตั้งแต่ N64 ถึง PS3 และยังสามารถเล่นเกม PC AAA อย่าง The Witcher 3 ได้ที่ 40fps ผ่าน GameHub ราคาเริ่มต้น $329.

    Retroid Pocket 6
    สำหรับผู้ที่มองหาตัวเลือกที่ถูกกว่า Retroid Pocket 6 เปิดตัวพร้อมกันในมกราคม 2026 ใช้ Snapdragon 8 Gen 2, RAM สูงสุด 12GB, จอ AMOLED 5.5 นิ้ว 1080p และแบต 6,000 mAh ราคาถูกกว่า Odin 3 มาก ($229–$279) แม้ประสิทธิภาพต่ำกว่า แต่ยังสามารถเล่นเกม AAA รุ่นเก่าได้ดี เช่น Skyrim 75fps และ Tomb Raider 60fps.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    Steam Machine (Q1 2026)
    SteamOS, ขนาดเล็ก, รองรับ 4K 60fps (FSR Upscaling)
    ราคา $600–$800, ยังมีข้อกังวลเรื่องประสิทธิภาพ

    Steam Frame VR Headset
    6GHz Wireless Adapter, Foveated Streaming
    ใช้ ARM64 Snapdragon SoC + FEX Translation

    iPhone Fold (Sep 2026)
    Book-Fold 7.8 นิ้ว, รุ่น Max 8.3 นิ้ว
    Liquid-Metal Hinge, บางเพียง 4.5 มม., ราคา > $2,000

    AYN Odin 3 (Jan 2026)
    Snapdragon 8 Elite, OLED 120Hz, แบต 8,000 mAh
    ราคาเริ่มต้น $329, รองรับ Emulator และ PC Gaming

    Retroid Pocket 6 (Jan 2026)
    Snapdragon 8 Gen 2, RAM 8–12GB, AMOLED 1080p
    ราคา $229–$279, เหมาะกับเกม AAA รุ่นเก่าและ Emulator

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้
    Steam Machine อาจไม่ถึง 60fps จริงในเกม AAA
    iPhone Fold ราคาสูงเกิน $2,000 และอาจเข้าถึงยาก
    Odin 3 ยังมีปัญหา Driver Support บางเกมไม่รันได้ดี

    https://www.slashgear.com/2047164/gadgets-2026-most-anticipated-expected-to-release/
    🎮 “5 แกดเจ็ตสุดร้อนแรงที่โลกจับตามองในปี 2026” บทความนี้พูดถึง 5 แกดเจ็ตที่ถูกคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2026 ได้แก่ Steam Machine, Steam Frame VR Headset, iPhone Fold, AYN Odin 3, และ Retroid Pocket 6 ซึ่งแต่ละตัวมีจุดเด่นและความคาดหวังสูงจากทั้งผู้ใช้ทั่วไปและนักเล่นเกม 🖥️ Steam Machine และ Steam Controller Valve เตรียมเปิดตัว Steam Machine รุ่นใหม่ ในไตรมาสแรกปี 2026 ตัวเครื่องเป็นทรงสี่เหลี่ยมเล็ก (ถูกเรียกเล่น ๆ ว่า GabeCube) ใช้ระบบ SteamOS แทน Windows รองรับการเล่นเกม AAA ที่ 4K 60fps (ผ่าน FSR Upscaling) มีรุ่น 512GB และ 2TB จุดเด่นคือขนาดเล็ก ใช้งานได้ทั้งเป็นคอนโซลในห้องนั่งเล่นหรือคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องราคา (คาด $600–$800) และประสิทธิภาพจริงเมื่อเทียบกับคอนโซล. 🕶️ Steam Frame VR Headset Valve ยังเปิดตัว Steam Frame ซึ่งเป็น VR Headset รุ่นใหม่ ใช้เทคโนโลยี 6GHz Wireless Adapter ที่ให้ประสบการณ์ไร้สายแต่ใกล้เคียงการเชื่อมต่อแบบสาย และมี Foveated Streaming ที่เรนเดอร์ภาพเฉพาะจุดที่สายตามอง ทำให้ประสิทธิภาพสูงขึ้นโดยไม่เสียคุณภาพภาพรวม ใช้ชิป ARM64 Snapdragon SoC พร้อม FEX Translation Layer ที่อาจเปิดประตูให้ PC Gaming บนสถาปัตยกรรม ARM64 เช่น Android และ macOS. 📱 iPhone Fold Apple ถูกคาดว่าจะเปิดตัว iPhone Fold ในเดือนกันยายน 2026 โดยมีดีไซน์แบบ Book-Fold ขนาด 7.8 นิ้ว (หรือรุ่น Max 8.3 นิ้ว) พร้อมจอด้านนอก 5.5 นิ้วและกล้องหลัก 48MP จุดเด่นคือความบางเพียง 4.5 มม. เมื่อกางออก และการใช้ Liquid-Metal Hinge ที่อาจทำให้ iPhone Fold เป็นรุ่นแรกที่ “ไร้รอยพับ” ราคาคาดว่าจะเกิน $2,000. 🎮 AYN Odin 3 ตลาดเครื่องเล่นเกมพกพา Android กำลังเติบโต และ AYN Odin 3 ที่จะเปิดตัวมกราคม 2026 เป็นที่จับตามองมากที่สุด ใช้ชิป Snapdragon 8 Elite (3nm), จอ OLED 120Hz, แบต 8,000 mAh และมีระบบระบายความร้อนด้วยพัดลม รองรับการเล่นเกม Emulator ตั้งแต่ N64 ถึง PS3 และยังสามารถเล่นเกม PC AAA อย่าง The Witcher 3 ได้ที่ 40fps ผ่าน GameHub ราคาเริ่มต้น $329. 🎮 Retroid Pocket 6 สำหรับผู้ที่มองหาตัวเลือกที่ถูกกว่า Retroid Pocket 6 เปิดตัวพร้อมกันในมกราคม 2026 ใช้ Snapdragon 8 Gen 2, RAM สูงสุด 12GB, จอ AMOLED 5.5 นิ้ว 1080p และแบต 6,000 mAh ราคาถูกกว่า Odin 3 มาก ($229–$279) แม้ประสิทธิภาพต่ำกว่า แต่ยังสามารถเล่นเกม AAA รุ่นเก่าได้ดี เช่น Skyrim 75fps และ Tomb Raider 60fps. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ Steam Machine (Q1 2026) ➡️ SteamOS, ขนาดเล็ก, รองรับ 4K 60fps (FSR Upscaling) ➡️ ราคา $600–$800, ยังมีข้อกังวลเรื่องประสิทธิภาพ ✅ Steam Frame VR Headset ➡️ 6GHz Wireless Adapter, Foveated Streaming ➡️ ใช้ ARM64 Snapdragon SoC + FEX Translation ✅ iPhone Fold (Sep 2026) ➡️ Book-Fold 7.8 นิ้ว, รุ่น Max 8.3 นิ้ว ➡️ Liquid-Metal Hinge, บางเพียง 4.5 มม., ราคา > $2,000 ✅ AYN Odin 3 (Jan 2026) ➡️ Snapdragon 8 Elite, OLED 120Hz, แบต 8,000 mAh ➡️ ราคาเริ่มต้น $329, รองรับ Emulator และ PC Gaming ✅ Retroid Pocket 6 (Jan 2026) ➡️ Snapdragon 8 Gen 2, RAM 8–12GB, AMOLED 1080p ➡️ ราคา $229–$279, เหมาะกับเกม AAA รุ่นเก่าและ Emulator ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้ ⛔ Steam Machine อาจไม่ถึง 60fps จริงในเกม AAA ⛔ iPhone Fold ราคาสูงเกิน $2,000 และอาจเข้าถึงยาก ⛔ Odin 3 ยังมีปัญหา Driver Support บางเกมไม่รันได้ดี https://www.slashgear.com/2047164/gadgets-2026-most-anticipated-expected-to-release/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Of The Most Anticipated Gadgets Expected To Release In 2026 - SlashGear
    Tech in 2026 might not be as dull as it looks. From Valve’s hardware push to Apple’s foldable iPhone, these upcoming releases actually feel worth tracking.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Steam Client Beta ถูก backport ให้ Windows 7/8 ใช้งานได้อีกครั้ง"

    นักพัฒนาชื่อ Eazy Black ได้ทำการ backport Steam Client Beta รุ่นวันที่ 4 ธันวาคม 2025 ให้สามารถทำงานบน Windows 7 SP1 และ Windows 8.x แบบ 64-bit ได้ . แม้ Valve จะหยุดสนับสนุน Windows 7/8 อย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปี 2024 แต่โครงการนี้ช่วยให้ผู้ใช้เครื่องเก่ายังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Steam ได้ .

    เงื่อนไขการใช้งาน
    เพื่อให้ backport ทำงานได้ ผู้ใช้จำเป็นต้องติดตั้ง Windows Updates บางตัว เช่น KB976932, KB2999226 และ KB4474419 . หากระบบไม่ได้อัปเดตอย่างน้อยตามนี้ อาจทำให้ Steam Client ไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง . ตัวติดตั้งมีขนาดประมาณ 230MB และถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ชุมชน w7revived.chefkiss.dev รวมถึงมีลิงก์สำรองจากผู้พัฒนา .

    ความเสี่ยงและข้อจำกัด
    แม้ backport จะช่วยให้ผู้ใช้ยังเล่นเกมได้ แต่ก็ถือเป็น โซลูชันที่ไม่เป็นทางการ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ต้องรับผิดชอบต่อปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเอง . Valve เองก็ยืนยันว่า Windows 7 และ 8 มีผู้ใช้งานเหลือเพียง 0.05% ตามผลสำรวจล่าสุด และกำลังจะหมดทางเลือกในอนาคตเมื่อ Steam ปรับปรุงระบบใหม่ ๆ ที่ไม่สามารถ backport ได้อีก .

    มุมมองต่อชุมชนเกม
    การที่ยังมีคนพยายามทำ backport แสดงให้เห็นถึง ความรักและความผูกพันของชุมชนเกมเมอร์กับระบบเก่า . แม้ Windows 11 จะถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่ก็ยังกลายเป็นระบบหลักของผู้ใช้ Steam กว่า 69% แล้ว . การพัฒนา backport จึงเป็นเหมือนการยืดอายุให้ผู้ใช้ที่ยังไม่พร้อมอัปเกรดได้มีเวลาเพิ่มอีกเล็กน้อย .

    สรุปสาระสำคัญ
    Steam Client Beta ถูก backport
    ใช้งานได้บน Windows 7 SP1 และ Windows 8.x 64-bit

    เงื่อนไขการติดตั้ง
    ต้องอัปเดต Windows ด้วย KB976932, KB2999226, KB4474419

    การเผยแพร่
    ตัวติดตั้ง 230MB มีให้ดาวน์โหลดจาก w7revived.chefkiss.dev

    สถานการณ์ผู้ใช้
    Windows 7 มีผู้ใช้เหลือเพียง 0.05% บน Steam

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    Backport เป็นโซลูชันไม่เป็นทางการ ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเอง

    คำเตือนด้านอนาคต
    Steam อาจออกฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่สามารถ backport ได้อีก

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/latest-steam-client-beta-backport-keeps-windows-7-and-windows-8-gaming-pcs-on-life-support-unofficial-solution-gives-a-lifeline-to-legacy-users
    🎮 "Steam Client Beta ถูก backport ให้ Windows 7/8 ใช้งานได้อีกครั้ง" นักพัฒนาชื่อ Eazy Black ได้ทำการ backport Steam Client Beta รุ่นวันที่ 4 ธันวาคม 2025 ให้สามารถทำงานบน Windows 7 SP1 และ Windows 8.x แบบ 64-bit ได้ . แม้ Valve จะหยุดสนับสนุน Windows 7/8 อย่างเป็นทางการตั้งแต่ต้นปี 2024 แต่โครงการนี้ช่วยให้ผู้ใช้เครื่องเก่ายังสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ของ Steam ได้ . ⚡ เงื่อนไขการใช้งาน เพื่อให้ backport ทำงานได้ ผู้ใช้จำเป็นต้องติดตั้ง Windows Updates บางตัว เช่น KB976932, KB2999226 และ KB4474419 . หากระบบไม่ได้อัปเดตอย่างน้อยตามนี้ อาจทำให้ Steam Client ไม่สามารถทำงานได้อย่างถูกต้อง . ตัวติดตั้งมีขนาดประมาณ 230MB และถูกเผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ชุมชน w7revived.chefkiss.dev รวมถึงมีลิงก์สำรองจากผู้พัฒนา . 🛡️ ความเสี่ยงและข้อจำกัด แม้ backport จะช่วยให้ผู้ใช้ยังเล่นเกมได้ แต่ก็ถือเป็น โซลูชันที่ไม่เป็นทางการ ซึ่งหมายความว่าผู้ใช้ต้องรับผิดชอบต่อปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเอง . Valve เองก็ยืนยันว่า Windows 7 และ 8 มีผู้ใช้งานเหลือเพียง 0.05% ตามผลสำรวจล่าสุด และกำลังจะหมดทางเลือกในอนาคตเมื่อ Steam ปรับปรุงระบบใหม่ ๆ ที่ไม่สามารถ backport ได้อีก . 🌍 มุมมองต่อชุมชนเกม การที่ยังมีคนพยายามทำ backport แสดงให้เห็นถึง ความรักและความผูกพันของชุมชนเกมเมอร์กับระบบเก่า . แม้ Windows 11 จะถูกวิจารณ์อย่างหนัก แต่ก็ยังกลายเป็นระบบหลักของผู้ใช้ Steam กว่า 69% แล้ว . การพัฒนา backport จึงเป็นเหมือนการยืดอายุให้ผู้ใช้ที่ยังไม่พร้อมอัปเกรดได้มีเวลาเพิ่มอีกเล็กน้อย . 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Steam Client Beta ถูก backport ➡️ ใช้งานได้บน Windows 7 SP1 และ Windows 8.x 64-bit ✅ เงื่อนไขการติดตั้ง ➡️ ต้องอัปเดต Windows ด้วย KB976932, KB2999226, KB4474419 ✅ การเผยแพร่ ➡️ ตัวติดตั้ง 230MB มีให้ดาวน์โหลดจาก w7revived.chefkiss.dev ✅ สถานการณ์ผู้ใช้ ➡️ Windows 7 มีผู้ใช้เหลือเพียง 0.05% บน Steam ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ Backport เป็นโซลูชันไม่เป็นทางการ ผู้ใช้ต้องรับผิดชอบเอง ‼️ คำเตือนด้านอนาคต ⛔ Steam อาจออกฟีเจอร์ใหม่ที่ไม่สามารถ backport ได้อีก https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/latest-steam-client-beta-backport-keeps-windows-7-and-windows-8-gaming-pcs-on-life-support-unofficial-solution-gives-a-lifeline-to-legacy-users
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคาในปี 2026

    รายงานจาก Office 365 IT Pros ระบุว่า Microsoft จะปรับขึ้นราคา Microsoft 365 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 เป็นต้นไป โดยการปรับครั้งนี้ครอบคลุมทั้ง Enterprise Plans และ Business Plans ซึ่งสะท้อนถึงต้นทุนการพัฒนาและการลงทุนใน AI ที่ Microsoft กำลังผลักดันเข้าสู่ผลิตภัณฑ์.

    รายละเอียดการปรับราคา

    Enterprise Plans (E3/E5) จะมีการปรับขึ้นราคาต่อผู้ใช้ต่อเดือน โดยเฉพาะ E5 ที่เป็นแผนพรีเมียมจะขึ้นมากที่สุด เนื่องจากรวมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง.
    Business Plans (Business Standard/Business Premium) ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้จะไม่มากเท่า Enterprise แต่ก็สะท้อนถึงการเพิ่มมูลค่าจากการรวมฟีเจอร์ AI Copilot และเครื่องมืออัตโนมัติ.

    Microsoft ให้เหตุผลว่า การปรับราคาครั้งนี้เป็นการสะท้อนถึง การลงทุนใน AI, ความปลอดภัย, และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ที่เพิ่มขึ้น.

    บทบาทของ AI Copilot ในการขึ้นราคา
    หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการรวม Copilot เข้ากับ Microsoft 365 ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ AI เพื่อช่วยงานเอกสาร, อีเมล, การประชุม และการวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Microsoft มองว่า Copilot เป็น “game changer” ที่ทำให้ซอฟต์แวร์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ต้องปรับราคา.

    ผลกระทบต่อองค์กรและผู้ใช้
    การปรับราคานี้อาจทำให้ องค์กรขนาดใหญ่ต้องทบทวนงบประมาณ IT และบางธุรกิจ SMB อาจต้องพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น Google Workspace หรือโซลูชัน open-source อย่าง Nextcloud แต่ในอีกด้านหนึ่ง การลงทุนใน Microsoft 365 ที่มี Copilot อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนแรงงานในระยะยาว.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Microsoft 365 จะขึ้นราคาในเดือนกรกฎาคม 2026
    ครอบคลุมทั้ง Enterprise Plans และ Business Plans
    Enterprise E5 ขึ้นราคามากที่สุด

    เหตุผลในการปรับราคา
    การลงทุนใน AI Copilot
    การเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการวิเคราะห์ข้อมูล
    การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์

    บทบาทของ AI Copilot
    เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในเอกสาร, อีเมล, การประชุม
    เป็นตัวผลักดันหลักที่ทำให้ Microsoft มองว่าซอฟต์แวร์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น

    คำเตือนต่อองค์กรและผู้ใช้
    องค์กรต้องเตรียมงบประมาณ IT ให้สอดคล้องกับการปรับราคา
    ธุรกิจ SMB อาจต้องพิจารณาทางเลือกอื่นที่คุ้มค่ากว่า
    การไม่ปรับตัวกับ AI อาจทำให้เสียเปรียบด้านประสิทธิภาพ

    https://office365itpros.com/2025/12/08/microsoft-365-pricing-increase/
    💰 Microsoft 365 เตรียมขึ้นราคาในปี 2026 รายงานจาก Office 365 IT Pros ระบุว่า Microsoft จะปรับขึ้นราคา Microsoft 365 ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2026 เป็นต้นไป โดยการปรับครั้งนี้ครอบคลุมทั้ง Enterprise Plans และ Business Plans ซึ่งสะท้อนถึงต้นทุนการพัฒนาและการลงทุนใน AI ที่ Microsoft กำลังผลักดันเข้าสู่ผลิตภัณฑ์. 📊 รายละเอียดการปรับราคา 💵 Enterprise Plans (E3/E5) จะมีการปรับขึ้นราคาต่อผู้ใช้ต่อเดือน โดยเฉพาะ E5 ที่เป็นแผนพรีเมียมจะขึ้นมากที่สุด เนื่องจากรวมฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง. 💵 Business Plans (Business Standard/Business Premium) ก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้จะไม่มากเท่า Enterprise แต่ก็สะท้อนถึงการเพิ่มมูลค่าจากการรวมฟีเจอร์ AI Copilot และเครื่องมืออัตโนมัติ. 💠 Microsoft ให้เหตุผลว่า การปรับราคาครั้งนี้เป็นการสะท้อนถึง การลงทุนใน AI, ความปลอดภัย, และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ที่เพิ่มขึ้น. 🤖 บทบาทของ AI Copilot ในการขึ้นราคา หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือการรวม Copilot เข้ากับ Microsoft 365 ซึ่งทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ AI เพื่อช่วยงานเอกสาร, อีเมล, การประชุม และการวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Microsoft มองว่า Copilot เป็น “game changer” ที่ทำให้ซอฟต์แวร์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น และเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ต้องปรับราคา. ⚠️ ผลกระทบต่อองค์กรและผู้ใช้ การปรับราคานี้อาจทำให้ องค์กรขนาดใหญ่ต้องทบทวนงบประมาณ IT และบางธุรกิจ SMB อาจต้องพิจารณาทางเลือกอื่น เช่น Google Workspace หรือโซลูชัน open-source อย่าง Nextcloud แต่ในอีกด้านหนึ่ง การลงทุนใน Microsoft 365 ที่มี Copilot อาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนแรงงานในระยะยาว. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Microsoft 365 จะขึ้นราคาในเดือนกรกฎาคม 2026 ➡️ ครอบคลุมทั้ง Enterprise Plans และ Business Plans ➡️ Enterprise E5 ขึ้นราคามากที่สุด ✅ เหตุผลในการปรับราคา ➡️ การลงทุนใน AI Copilot ➡️ การเพิ่มฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและการวิเคราะห์ข้อมูล ➡️ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ ✅ บทบาทของ AI Copilot ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในเอกสาร, อีเมล, การประชุม ➡️ เป็นตัวผลักดันหลักที่ทำให้ Microsoft มองว่าซอฟต์แวร์มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ‼️ คำเตือนต่อองค์กรและผู้ใช้ ⛔ องค์กรต้องเตรียมงบประมาณ IT ให้สอดคล้องกับการปรับราคา ⛔ ธุรกิจ SMB อาจต้องพิจารณาทางเลือกอื่นที่คุ้มค่ากว่า ⛔ การไม่ปรับตัวกับ AI อาจทำให้เสียเปรียบด้านประสิทธิภาพ https://office365itpros.com/2025/12/08/microsoft-365-pricing-increase/
    OFFICE365ITPROS.COM
    Microsoft Increases Office 365 and Microsoft 365 License Prices
    Customers will see their bills increase from July 1, 2026 when Microsoft 365 pricing increases go into effect, adding up to $3/month for licenses.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • Valve Steam Machine: ราคาที่ทำให้แฟน ๆ กังวล

    Valve เปิดตัว Steam Machine ซึ่งเป็นพีซีขนาดเล็กที่ใช้ระบบปฏิบัติการ SteamOS โดยหวังว่าจะเป็นอีกทางเลือกสำหรับการเล่นเกมบนเดสก์ท็อป แต่สิ่งที่สร้างความกังวลคือเรื่อง ราคา ที่ Valve ยืนยันว่าจะตั้งราคาแบบ “พีซี” ไม่ใช่ “คอนโซล”

    ราคาแพงเกินไปสำหรับคอนโซล แต่ไม่แรงพอสำหรับพีซี
    Pierre-Loup Griffais นักพัฒนาของ Valve กล่าวว่าราคาจะอยู่ในช่วงเดียวกับการประกอบพีซีที่มีสเปกใกล้เคียง ซึ่งหมายความว่า Steam Machine อาจมีราคา 600–800 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไป แม้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ PS5 รุ่นพื้นฐาน แต่ราคากลับสูงกว่าแม้เทียบกับ PS5 Pro ที่แพงกว่า

    ความท้าทายของ Valve
    ตลาดฮาร์ดแวร์พีซีกำลังเผชิญกับราคาชิ้นส่วนที่สูงขึ้นจากความต้องการในอุตสาหกรรม AI ทำให้การผลิต Steam Machine ยิ่งยากขึ้นไปอีก แม้จะถูกออกแบบให้เป็นพีซี แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะนำไปใช้แทนคอนโซลในห้องนั่งเล่น ซึ่งอาจทำให้กลุ่มเป้าหมายหลักคือ เกมเมอร์คอนโซล รู้สึกว่าราคาไม่คุ้มค่า

    กลุ่มผู้ใช้ที่ Valve อาจพลาด
    เกมเมอร์คอนโซล: ต้องการเครื่องเล่นราคาสมเหตุสมผล แต่ Steam Machine แพงเกินไป

    เกมเมอร์พีซีสายฮาร์ดคอร์: มักมีเครื่องแรงอยู่แล้ว จึงไม่สนใจฮาร์ดแวร์ที่ด้อยกว่า

    ผู้ใช้ทั่วไป: SteamOS และ Steam เองก็สามารถใช้งานบนพีซีหรือ Linux ได้ฟรี ทำให้ Steam Machine ไม่ได้มีจุดขายที่ชัดเจน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Valve เปิดตัว Steam Machine
    ใช้ SteamOS บนพีซีขนาดเล็ก
    ตั้งราคาแบบพีซี ไม่ใช่คอนโซล

    ราคาและสเปก
    คาดการณ์ 600–800 ดอลลาร์
    ประสิทธิภาพใกล้เคียง PS5 รุ่นพื้นฐาน แต่แพงกว่า PS5 Pro

    ความเสี่ยงต่อการตลาด
    แพงเกินไปสำหรับผู้เล่นคอนโซล
    ไม่แรงพอสำหรับผู้ใช้พีซีสายฮาร์ดคอร์

    ปัจจัยภายนอก
    ราคาชิ้นส่วนพีซีสูงขึ้นจากอุตสาหกรรม AI
    SteamOS และ Steam มีให้ใช้ฟรี ทำให้เครื่องไม่โดดเด่น

    https://www.slashgear.com/2044546/valve-steam-machine-pricing-console-or-computer/
    🎮 Valve Steam Machine: ราคาที่ทำให้แฟน ๆ กังวล Valve เปิดตัว Steam Machine ซึ่งเป็นพีซีขนาดเล็กที่ใช้ระบบปฏิบัติการ SteamOS โดยหวังว่าจะเป็นอีกทางเลือกสำหรับการเล่นเกมบนเดสก์ท็อป แต่สิ่งที่สร้างความกังวลคือเรื่อง ราคา ที่ Valve ยืนยันว่าจะตั้งราคาแบบ “พีซี” ไม่ใช่ “คอนโซล” 💰 ราคาแพงเกินไปสำหรับคอนโซล แต่ไม่แรงพอสำหรับพีซี Pierre-Loup Griffais นักพัฒนาของ Valve กล่าวว่าราคาจะอยู่ในช่วงเดียวกับการประกอบพีซีที่มีสเปกใกล้เคียง ซึ่งหมายความว่า Steam Machine อาจมีราคา 600–800 ดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นไป แม้ประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ PS5 รุ่นพื้นฐาน แต่ราคากลับสูงกว่าแม้เทียบกับ PS5 Pro ที่แพงกว่า ⚠️ ความท้าทายของ Valve ตลาดฮาร์ดแวร์พีซีกำลังเผชิญกับราคาชิ้นส่วนที่สูงขึ้นจากความต้องการในอุตสาหกรรม AI ทำให้การผลิต Steam Machine ยิ่งยากขึ้นไปอีก แม้จะถูกออกแบบให้เป็นพีซี แต่ผู้ใช้ส่วนใหญ่จะนำไปใช้แทนคอนโซลในห้องนั่งเล่น ซึ่งอาจทำให้กลุ่มเป้าหมายหลักคือ เกมเมอร์คอนโซล รู้สึกว่าราคาไม่คุ้มค่า 🕹️ กลุ่มผู้ใช้ที่ Valve อาจพลาด เกมเมอร์คอนโซล: ต้องการเครื่องเล่นราคาสมเหตุสมผล แต่ Steam Machine แพงเกินไป เกมเมอร์พีซีสายฮาร์ดคอร์: มักมีเครื่องแรงอยู่แล้ว จึงไม่สนใจฮาร์ดแวร์ที่ด้อยกว่า ผู้ใช้ทั่วไป: SteamOS และ Steam เองก็สามารถใช้งานบนพีซีหรือ Linux ได้ฟรี ทำให้ Steam Machine ไม่ได้มีจุดขายที่ชัดเจน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Valve เปิดตัว Steam Machine ➡️ ใช้ SteamOS บนพีซีขนาดเล็ก ➡️ ตั้งราคาแบบพีซี ไม่ใช่คอนโซล ✅ ราคาและสเปก ➡️ คาดการณ์ 600–800 ดอลลาร์ ➡️ ประสิทธิภาพใกล้เคียง PS5 รุ่นพื้นฐาน แต่แพงกว่า PS5 Pro ‼️ ความเสี่ยงต่อการตลาด ⛔ แพงเกินไปสำหรับผู้เล่นคอนโซล ⛔ ไม่แรงพอสำหรับผู้ใช้พีซีสายฮาร์ดคอร์ ‼️ ปัจจัยภายนอก ⛔ ราคาชิ้นส่วนพีซีสูงขึ้นจากอุตสาหกรรม AI ⛔ SteamOS และ Steam มีให้ใช้ฟรี ทำให้เครื่องไม่โดดเด่น https://www.slashgear.com/2044546/valve-steam-machine-pricing-console-or-computer/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Valve Confirms What Everyone Feared About The Steam Machine's Pricing - SlashGear
    Valve confirms the Steam Machine won't be subsidized like a console. Pierre-Loup Griffais states pricing will match the cost of building a similar PC.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุชายกัมพูชาราว 15–20 คนรุมทำร้ายชายไทย 4 คนในร้านคาราโอเกะย่านมกโพ ประเทศเกาหลีใต้ คาดปมความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชาทำให้ไม่พอใจ , ล่าสุดสถานทูตฯ โซลประกาศเตือนคนไทยหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชนกัมพูชาในเวลากลางคืน
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000117901
    .
    #News1live #News1 #เกาหลีใต้ #สถานทูตโซล #ชายแดนไทยกัมพูชา
    เกิดเหตุชายกัมพูชาราว 15–20 คนรุมทำร้ายชายไทย 4 คนในร้านคาราโอเกะย่านมกโพ ประเทศเกาหลีใต้ คาดปมความขัดแย้งชายแดนไทย–กัมพูชาทำให้ไม่พอใจ , ล่าสุดสถานทูตฯ โซลประกาศเตือนคนไทยหลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชนกัมพูชาในเวลากลางคืน . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000117901 . #News1live #News1 #เกาหลีใต้ #สถานทูตโซล #ชายแดนไทยกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251207 #TechRadar

    US Security Agency เตือนเลิกใช้ VPN ส่วนตัวบนมือถือ
    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ หรือ CISA ออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” โดยเฉพาะบน iPhone และ Android เพราะแทนที่จะช่วยป้องกัน กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่เคยอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะถูกย้ายไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ซึ่งหลายเจ้าไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีพอ บางรายถึงขั้นเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาในแอปฟรี ๆ อีกด้วย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการเลือก VPN ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเลือกเจ้าใหญ่ที่มีการตรวจสอบนโยบาย “no-logs” และใช้มาตรฐานเข้ารหัสที่แข็งแรง เช่น OpenVPN หรือ WireGuard รวมถึงฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch และ DNS leak protection เพื่อความปลอดภัยจริง ๆ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns

    งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์
    ผลสำรวจจาก Cisco ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ คนอายุต่ำกว่า 35 ปีส่วนใหญ่ใช้ AI อย่างจริงจังและมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่คนอายุเกิน 45 ปีครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าปฏิเสธ outright ขณะเดียวกันประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก กลับเป็นผู้นำในการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ต่างจากยุโรปที่ยังมีความไม่มั่นใจและกฎระเบียบเข้มงวดที่ทำให้การใช้งานช้าลง งานวิจัยนี้สะท้อนว่าการสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ “Generation AI” ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ
    https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful

    EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI บน WhatsApp
    คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta ว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่งด้าน AI chatbot โดยห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเผยแพร่ผ่าน WhatsApp หากบริการหลักคือ AI ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอน chatbot ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว EU กังวลว่า Meta ใช้อำนาจตลาดเพื่อดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบผิดจริง Meta อาจโดนปรับสูงถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ การสอบสวนนี้สะท้อนความเข้มงวดของยุโรปในการป้องกันการผูกขาดและรักษาสนามแข่งขันที่เป็นธรรมในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy

    ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 (CVE-2025-55182) ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์แม้จะมีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ทันที โดยกระทบหลายเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router และ Vite ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน เพราะนักวิจัยยืนยันว่าการโจมตี “เกิดขึ้นแน่นอน” และมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% เนื่องจาก React ถูกใช้ในเว็บใหญ่ทั่วโลก เช่น Facebook, Netflix และ Airbnb ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างมาก
    https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now

    Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินคริปโตมูลค่า 700 ล้าน
    Europol ร่วมกับตำรวจหลายประเทศยุโรปเข้าจับกุมเครือข่ายฟอกเงินและหลอกลงทุนคริปโตที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ ปฏิบัติการนี้แบ่งเป็นสองเฟส เริ่มจากการบุกค้นในไซปรัส เยอรมนี และสเปน ยึดเงินสด คริปโต และทรัพย์สินหรู รวมกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน เครือข่ายนี้ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและคอลเซ็นเตอร์กดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังใช้โฆษณาหลอกลวงบนโซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งถึงขั้นใช้ deepfake คนดังอย่าง Elon Musk หรือ Donald Trump เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ การทลายครั้งนี้ถือเป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรมหลอกลวงคริปโตที่กำลังระบาดหนักในยุโรป
    https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million

    ปี 2025 สมาร์ทโฟนกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง (ไม่ใช่เพราะ AI)
    หลายคนบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มน่าเบื่อ แต่ปี 2025 กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจโดยไม่เกี่ยวกับ AI เลย อย่างแรกคือการมาของ แบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่ทำให้มือถือชาร์จเร็วขึ้นและใช้งานได้นานกว่าเดิม ต่อมาคือ การเชื่อมต่อดาวเทียม ที่เริ่มกลายเป็นมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย อีกทั้งยังมี การออกแบบใหม่ที่บางและทนทานกว่า รวมถึง จอพับที่พัฒนาไปอีกขั้น จนใช้งานจริงได้สะดวกขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่มือถือกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งกระแส AI
    https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai

    OpenAI ชนะ Google, Meta และ Grok ในทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ AI
    การแข่งขันโป๊กเกอร์ที่จัดขึ้นโดยใช้แต่ AI เป็นผู้เล่น ปรากฏว่า OpenAI สามารถเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง Google, Meta และ Grok ได้สำเร็จ การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการทดสอบความสามารถของ AI ในการวางกลยุทธ์ การอ่านสถานการณ์ และการตัดสินใจในสภาพที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์สะท้อนว่า AI ของ OpenAI มีความเหนือชั้นในด้านการปรับตัวและการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือการวิจัย
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai-beats-google-meta-and-grok-in-all-ai-poker-tournament

    Surfshark เตือน แอปแชร์ไฟล์ฟรีเสี่ยงเปิดข้อมูลให้คนอื่นเห็น
    รายงานใหม่จาก Surfshark ระบุว่าแอปแชร์ไฟล์ฟรีจำนวนมากมีช่องโหว่ที่ทำให้การดาวน์โหลดของผู้ใช้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือมัลแวร์เข้ามาได้ ปัญหานี้เกิดจากการที่หลายแอปไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อหรือไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ผู้ใช้ที่คิดว่า “ฟรีและสะดวก” อาจต้องแลกด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คำแนะนำคือควรเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียง มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end และหลีกเลี่ยงการแชร์ไฟล์สำคัญผ่านแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/think-before-you-click-most-free-file-sharing-apps-expose-your-downloads-to-security-risks-warns-surfshark

    ราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงเพราะขาดแคลนหน่วยความจำ
    ตอนนี้โลกเทคโนโลยีกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะหน่วยความจำ DRAM และ HBM ถูกเบี่ยงไปผลิตเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ AI ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปขาดตลาด ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างแรง ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Dell, Lenovo, HP และ HPE เตรียมขึ้นราคาประมาณ 15% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ 5% สำหรับ PC ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็อาจต้องเจอราคาที่สูงขึ้นเมื่อซื้อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ สถานการณ์นี้สะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดฮาร์ดแวร์อย่างชัดเจน
    https://www.techradar.com/pro/the-bad-news-continues-server-prices-set-to-rise-in-latest-blow-to-hardware-budgets

    Spotify Wrapped 2025 เผยวิธีคำนวณจริง
    หลายคนสงสัยว่าทำไมสรุปการฟังเพลงปลายปีของ Spotify ถึงดูแปลกไปบ้าง ล่าสุด Spotify ออกมาอธิบายแล้วว่าแต่ละหมวดใช้วิธีคำนวณต่างกัน เช่น เพลงยอดนิยมวัดจากจำนวนครั้งที่ฟัง แต่สำหรับอัลบั้มจะดูว่าฟังครบหลายเพลงและกระจายการฟังอย่างไร นอกจากนี้ข้อมูลจะเก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึงพฤศจิกายน ไม่ใช่ครบทั้งปี และยังรวมการฟังแบบออฟไลน์ด้วย ฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Listening Age” ที่เดาอายุจากแนวเพลงก็ทำให้หลายคนงง แต่จริงๆ มันสะท้อนพฤติกรรมการฟังที่เปลี่ยนไปตลอดปี
    https://www.techradar.com/audio/spotify/your-spotify-wrapped-2025-data-isnt-wrong-the-streaming-giant-just-revealed-all-about-how-its-calculated

    หนี้เทคนิค Windows ที่องค์กรยังไม่แก้
    แม้ Windows 10 จะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่หลายองค์กรยังคงใช้ต่อ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “หนี้เทคนิค” ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การสำรวจพบว่า 9 ใน 10 บริษัทเจอปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่จริงจังกับการแก้ไขในปีหน้า เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายสูง ความซับซ้อนของระบบ และความกลัวว่าจะทำให้ระบบล่ม หลายองค์กรเลือกที่จะเลื่อนการแก้ไขออกไปจนกว่าจะเกิดปัญหา ทั้งที่จริงๆ การแก้ทีละขั้นตอนและใช้เครื่องมือเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเปิดทางให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่า
    https://www.techradar.com/pro/why-are-companies-not-tackling-their-windows-technical-debt

    Huawei Pura X พลิกนิยามมือถือฝาพับ
    Huawei เปิดตัว Pura X ที่ทำให้คนมองมือถือฝาพับต่างออกไป จากเดิมที่แบรนด์อื่นเน้นทำให้มือถือใหญ่พับเล็กลง แต่ Huawei กลับทำให้มันกลายเป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดพกพา หน้าจอหลักสัดส่วน 16:10 ขนาด 6.3 นิ้ว ใช้งานดูหนังหรือทำงานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีหน้าจอด้านหน้า 3.5 นิ้วพร้อมกล้องสามตัว รวมถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่คู่แข่งยังไม่มี จุดเด่นนี้ทำให้มันเป็นมือถือฝาพับที่มีกล้องดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งาน Google และการวางขายที่จำกัด แต่ก็ถือเป็นการออกแบบที่ท้าทายให้คู่แข่งต้องคิดใหม่
    https://www.techradar.com/phones/huawei-phones/i-tried-huaweis-strange-pura-x-foldable-and-its-made-me-rethink-every-other-flip-phone

    โพลเลือกจอยเกมโปรดที่ผลลัพธ์ชวนงง
    TechRadar เคยทำโพลถามผู้อ่านว่าจอยเกมที่ชอบที่สุดคือรุ่นไหน ผลออกมาน่าตกใจเพราะ “Steam Controller” ของ Valve ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องดีไซน์แปลก กลับได้คะแนนสูงสุด 15% แซงหน้า Xbox 360 Controller ที่ได้ 13% และ DualSense Edge ของ PlayStation ที่ได้ 11% หลายคนเชื่อว่าผลนี้อาจเพราะแฟน Steam เข้ามาโหวตเยอะ หรือบางคนอาจโหวตแบบขำๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็สะท้อนว่าความชอบของผู้เล่นเกมนั้นหลากหลายและไม่จำเป็นต้องตรงกับมาตรฐานตลาดเสมอไป
    https://www.techradar.com/gaming/you-told-me-your-favorite-controller-ever-and-i-dont-believe-you

    ชิป AI จากจีน Cambricon เตรียมผลิตเพิ่มสามเท่า
    Cambricon บริษัทชิปจากจีนประกาศแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ถึงสามเท่าในปีหน้า เพื่อแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia และ Huawei แต่ก็ต้องเจอความท้าทายใหญ่จากการผลิตที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรด้านการผลิตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าจีนกำลังผลักดันอุตสาหกรรมชิป AI อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้พึ่งพาต่างชาติ
    https://www.techradar.com/pro/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel

    Windows 11 ยังไม่สามารถแทนที่ Windows 10 ได้
    แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่สถิติการใช้งานยังชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมหาศาลยังคงอยู่กับ Windows 10 โดยเฉพาะในองค์กรและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิม เหตุผลหลักคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดที่สูง ทำให้ Windows 10 ยังคงครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นในหลายตลาด และกลายเป็นความท้าทายที่ Microsoft ต้องหาทางแก้
    https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular

    5 สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาต้องคำนึงเพื่อให้งานไม่หลุดราง
    ในยุคที่การพัฒนาโปรแกรมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความซับซ้อน การจะทำให้งาน “อยู่บนราง” ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดให้เสร็จ แต่ต้องมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดว่า “เสร็จ” หมายถึงอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายขอบเขตงานโดยไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกจริงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังต้องมีระบบติดตามงานที่โปร่งใส มีการวัดผลที่เน้นคุณค่า ไม่ใช่แค่ชั่วโมงที่ใช้ไป ทีมต้องรู้จักประเมินกำลังคนและทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานเกินกำลัง และสุดท้ายคือการบริหารความเสี่ยง พร้อมสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดราง
    https://www.techradar.com/pro/5-essential-considerations-for-developers-to-stay-on-track

    รีวิวจอ InnoCN 27 นิ้ว GA27W1Q 4K
    จอภาพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยขนาด 27 นิ้วและความละเอียด 4K ทำให้ภาพคมชัด เหมาะทั้งงานกราฟิกและการดูหนัง จุดเด่นคือการให้สีที่แม่นยำและมุมมองกว้าง แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องความสว่างที่อาจไม่สูงเท่าจอระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาจอ 4K ในงบประมาณที่ไม่แรง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก
    https://www.techradar.com/computing/innocn-27-ga27w1q-4k-monitor-review

    แอมป์/DAC ขนาดเล็กที่แทนชุดเครื่องเสียงได้
    นี่คืออุปกรณ์ที่รวมแอมป์และ DAC ไว้ในตัวเดียว ขนาดเล็กจนสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้สบาย แต่ให้พลังเสียงที่สามารถแทนชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเครื่องเสียงและอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์หลายชิ้น จุดแข็งคือการเชื่อมต่อที่หลากหลายและเสียงที่ใสสะอาด ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่มีพื้นที่จำกัด
    https://www.techradar.com/audio/dacs/this-super-compact-budget-desktop-amp-dac-can-replace-a-mini-hi-fi-stack-and-its-perfect-for-budding-audiophiles

    ข่าวลือ Samsung Galaxy S26 และชิป Exynos 2600
    มีการหลุดข้อมูลจาก One UI 8.5 ที่อาจเผยให้เห็นดีไซน์ของ Galaxy S26 ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับข่าวลือเรื่องชิป Exynos 2600 ที่อาจถูกนำมาใช้ จุดสนใจคือการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวนี้ก็ทำให้แฟน ๆ Samsung ตื่นเต้นและจับตามองว่าจะออกมาในรูปแบบใด
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-may-have-leaked-the-galaxy-s26-design-through-one-ui-8-5-and-another-exynos-2600-rumor-has-emerged

    รีวิว TerraMaster F2-425 NAS
    อุปกรณ์ NAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในบ้านหรือสำนักงานเล็ก ๆ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการสำรองข้อมูลหรือแชร์ไฟล์ภายในทีม แม้จะไม่หรูหราเท่า NAS ระดับองค์กร แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในด้านราคาและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง
    https://www.techradar.com/computing/terramaster-f2-425-nas-review

    ต่อ Mac Mini เข้ากับไดรฟ์เทป LTO-10 ขนาด 30TB

    นี่คือการเชื่อมต่อที่น่าสนใจมาก เพราะทำให้ Mac Mini สามารถใช้งานไดรฟ์เทป LTO-10 ที่มีความจุถึง 30TB ได้ โดยความเร็วที่ได้ใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่ากับใหม่ที่ลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลในราคาที่คุ้มค่า และยังได้ความเร็วที่ไม่แพ้การใช้ดิสก์สมัยใหม่
    https://www.techradar.com/pro/you-can-now-buy-a-30tb-tape-drive-and-connect-it-to-your-apple-mac-mini-and-its-almost-as-fast-as-an-ssd

    Samsung Galaxy Z Trifold กำลังมา – iPhone Fold ต้องรีบแล้ว
    ข่าวลือบอกว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Trifold ซึ่งเป็นมือถือพับสามทบ ทำให้ Apple ที่มีข่าวลือเรื่อง iPhone Fold ต้องเร่งเครื่องออกสู่ตลาด หากช้าเกินไปอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน จุดเด่นของ Trifold คือการขยายหน้าจอได้ใหญ่ขึ้นเหมือนแท็บเล็ต แต่ยังพับเก็บได้เหมือนมือถือธรรมดา ทำให้เป็นที่จับตามองในวงการสมาร์ทโฟน
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/with-the-samsung-galaxy-z-trifold-on-the-way-apples-rumored-iphone-fold-needs-to-hit-shelves-soon

    Bose Smart Soundbar vs Sony Bravia Theater Bar 6
    การเปรียบเทียบซาวด์บาร์สองรุ่นนี้เน้นไปที่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ทั้งคู่รองรับ Bose Smart Soundbar มีชื่อเสียงเรื่องเสียงที่สมดุลและดีไซน์เรียบหรู ส่วน Sony Bravia Theater Bar 6 โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่กระจายรอบทิศทางได้สมจริงกว่า การเลือกขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการความเรียบง่ายและคุณภาพเสียงที่มั่นคง หรืออยากได้ประสบการณ์เสียงโอบล้อมเต็มรูปแบบ
    https://www.techradar.com/televisions/soundbars/bose-smart-soundbar-vs-sony-bravia-theater-bar-6-which-dolby-atmos-soundbar-is-right-for-you

    ลืมกล้อง ลืม AI – สิ่งที่คนอยากได้จริงคือแบตมือถือที่อึดกว่า
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแค่กล้องหรือชิปใหม่ แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทุกวันนี้มือถือเต็มไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้าแบตหมดไวก็ไร้ประโยชน์ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากที่สุดในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/forget-cameras-ai-and-chip-upgrades-you-really-want-better-phone-battery-life

      ดีล Netflix กับ Warner Bros. หมายถึงอะไรสำหรับผู้ชม
    การจับมือกันครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง ทั้งเรื่องราคาที่อาจปรับขึ้น และการเข้าถึงคอนเทนต์ที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการรวมคอนเทนต์ แต่ก็ต้องเตรียมใจรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดีลนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่ไม่มีใครยอมแพ้
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/streaming/netflix/what-does-the-netflix-and-warner-bros-deal-mean-for-you-heres-what-experts-say-about-price-hikes-and-more
    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251207 #TechRadar 📱🔒 US Security Agency เตือนเลิกใช้ VPN ส่วนตัวบนมือถือ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ หรือ CISA ออกคำเตือนแรงว่า “อย่าใช้ VPN ส่วนตัว” โดยเฉพาะบน iPhone และ Android เพราะแทนที่จะช่วยป้องกัน กลับเพิ่มความเสี่ยงให้ผู้ใช้มากขึ้น เนื่องจากข้อมูลที่เคยอยู่กับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตจะถูกย้ายไปอยู่กับผู้ให้บริการ VPN ซึ่งหลายเจ้าไม่มีมาตรการความปลอดภัยที่ดีพอ บางรายถึงขั้นเก็บข้อมูลหรือแฝงมัลแวร์มาในแอปฟรี ๆ อีกด้วย คำเตือนนี้สะท้อนว่าการเลือก VPN ไม่ใช่เรื่องเล็ก ต้องเลือกเจ้าใหญ่ที่มีการตรวจสอบนโยบาย “no-logs” และใช้มาตรฐานเข้ารหัสที่แข็งแรง เช่น OpenVPN หรือ WireGuard รวมถึงฟีเจอร์เสริมอย่าง kill switch และ DNS leak protection เพื่อความปลอดภัยจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/us-security-agency-urges-android-and-iphone-users-to-stop-using-personal-vpns 👵👩‍💻 งานวิจัยใหม่เผย คนรุ่นใหญ่ไม่ค่อยเห็นว่า AI มีประโยชน์ ผลสำรวจจาก Cisco ชี้ให้เห็นความแตกต่างชัดเจนระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นใหญ่ คนอายุต่ำกว่า 35 ปีส่วนใหญ่ใช้ AI อย่างจริงจังและมองว่ามีประโยชน์ต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน แต่คนอายุเกิน 45 ปีครึ่งหนึ่งไม่เคยใช้ AI เลย โดยเฉพาะกลุ่มอายุ 55 ปีขึ้นไปที่บอกว่าไม่คุ้นเคยมากกว่าปฏิเสธ outright ขณะเดียวกันประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ เช่น อินเดีย บราซิล และเม็กซิโก กลับเป็นผู้นำในการใช้ AI อย่างแพร่หลาย ต่างจากยุโรปที่ยังมีความไม่มั่นใจและกฎระเบียบเข้มงวดที่ทำให้การใช้งานช้าลง งานวิจัยนี้สะท้อนว่าการสร้างทักษะดิจิทัลให้ทุกวัยเป็นเรื่องสำคัญ เพื่อให้ “Generation AI” ครอบคลุมทุกคนจริง ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/new-research-reveals-older-users-less-likely-to-find-ai-useful ⚖️📲 EU เปิดการสอบสวน Meta เรื่องนโยบาย AI บน WhatsApp คณะกรรมาธิการยุโรปเริ่มการสอบสวนเชิงลึกต่อ Meta ว่านโยบายใหม่ของ WhatsApp อาจกีดกันคู่แข่งด้าน AI chatbot โดยห้ามไม่ให้ผู้ให้บริการ AI รายอื่นเผยแพร่ผ่าน WhatsApp หากบริการหลักคือ AI ซึ่งทำให้ผู้เล่นรายใหญ่อย่าง OpenAI และ Microsoft ต้องถอน chatbot ออกจากแพลตฟอร์มแล้ว EU กังวลว่า Meta ใช้อำนาจตลาดเพื่อดัน Meta AI ของตัวเองและปิดกั้นนวัตกรรม หากพบผิดจริง Meta อาจโดนปรับสูงถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์ การสอบสวนนี้สะท้อนความเข้มงวดของยุโรปในการป้องกันการผูกขาดและรักษาสนามแข่งขันที่เป็นธรรมในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-launches-antitrust-investigation-into-metas-whatsapp-ai-access-policy ⚠️💻 ช่องโหว่ React ระดับวิกฤติ เสี่ยงถูกโจมตีทันที นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 (CVE-2025-55182) ช่องโหว่นี้เปิดทางให้แฮกเกอร์แม้จะมีทักษะต่ำก็สามารถรันโค้ดอันตรายจากระยะไกลได้ทันที โดยกระทบหลายเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง Next.js, React Router และ Vite ทีม React ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 19.0.1, 19.1.2 และ 19.2.1 พร้อมเตือนให้ผู้ใช้รีบอัปเดตโดยด่วน เพราะนักวิจัยยืนยันว่าการโจมตี “เกิดขึ้นแน่นอน” และมีโอกาสสำเร็จเกือบ 100% เนื่องจาก React ถูกใช้ในเว็บใหญ่ทั่วโลก เช่น Facebook, Netflix และ Airbnb ทำให้พื้นที่เสี่ยงกว้างมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/experts-warn-this-worst-case-scenario-react-vulnerability-could-soon-be-exploited-so-patch-now 💰🕵️ Europol ทลายเครือข่ายฟอกเงินคริปโตมูลค่า 700 ล้าน Europol ร่วมกับตำรวจหลายประเทศยุโรปเข้าจับกุมเครือข่ายฟอกเงินและหลอกลงทุนคริปโตที่มีมูลค่ากว่า 700 ล้านดอลลาร์ ปฏิบัติการนี้แบ่งเป็นสองเฟส เริ่มจากการบุกค้นในไซปรัส เยอรมนี และสเปน ยึดเงินสด คริปโต และทรัพย์สินหรู รวมกว่า 1.7 ล้านดอลลาร์ พร้อมจับกุมผู้ต้องสงสัย 9 คน เครือข่ายนี้ใช้แพลตฟอร์มลงทุนปลอมและคอลเซ็นเตอร์กดดันเหยื่อให้ลงทุนเพิ่ม อีกทั้งยังใช้โฆษณาหลอกลวงบนโซเชียลมีเดีย โดยบางครั้งถึงขั้นใช้ deepfake คนดังอย่าง Elon Musk หรือ Donald Trump เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ การทลายครั้งนี้ถือเป็นการตัดเส้นเลือดใหญ่ของอุตสาหกรรมหลอกลวงคริปโตที่กำลังระบาดหนักในยุโรป 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-takes-down-crypto-and-laundering-network-worth-700-million 📱📡 ปี 2025 สมาร์ทโฟนกลับมาน่าตื่นเต้นอีกครั้ง (ไม่ใช่เพราะ AI) หลายคนบ่นว่าโทรศัพท์มือถือเริ่มน่าเบื่อ แต่ปี 2025 กลับมีการเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจโดยไม่เกี่ยวกับ AI เลย อย่างแรกคือการมาของ แบตเตอรี่โซลิดสเตต ที่ทำให้มือถือชาร์จเร็วขึ้นและใช้งานได้นานกว่าเดิม ต่อมาคือ การเชื่อมต่อดาวเทียม ที่เริ่มกลายเป็นมาตรฐาน ทำให้ผู้ใช้สามารถติดต่อได้แม้ไม่มีสัญญาณเครือข่าย อีกทั้งยังมี การออกแบบใหม่ที่บางและทนทานกว่า รวมถึง จอพับที่พัฒนาไปอีกขั้น จนใช้งานจริงได้สะดวกขึ้น ทั้งหมดนี้ทำให้ปี 2025 เป็นปีที่มือถือกลับมามีเสน่ห์อีกครั้งโดยไม่ต้องพึ่งกระแส AI 🔗 https://www.techradar.com/phones/think-phones-are-boring-here-are-4-reasons-why-2025-was-a-big-year-for-smartphones-and-none-of-them-are-ai 🎲🤖 OpenAI ชนะ Google, Meta และ Grok ในทัวร์นาเมนต์โป๊กเกอร์ AI การแข่งขันโป๊กเกอร์ที่จัดขึ้นโดยใช้แต่ AI เป็นผู้เล่น ปรากฏว่า OpenAI สามารถเอาชนะคู่แข่งรายใหญ่ทั้ง Google, Meta และ Grok ได้สำเร็จ การแข่งขันนี้ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นการทดสอบความสามารถของ AI ในการวางกลยุทธ์ การอ่านสถานการณ์ และการตัดสินใจในสภาพที่ไม่แน่นอน ผลลัพธ์สะท้อนว่า AI ของ OpenAI มีความเหนือชั้นในด้านการปรับตัวและการคิดเชิงกลยุทธ์ ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญต่อการนำไปใช้ในโลกจริง ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การเงิน หรือการวิจัย 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai-beats-google-meta-and-grok-in-all-ai-poker-tournament ⚠️📂 Surfshark เตือน แอปแชร์ไฟล์ฟรีเสี่ยงเปิดข้อมูลให้คนอื่นเห็น รายงานใหม่จาก Surfshark ระบุว่าแอปแชร์ไฟล์ฟรีจำนวนมากมีช่องโหว่ที่ทำให้การดาวน์โหลดของผู้ใช้ถูกเปิดเผยต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจนำไปสู่การขโมยข้อมูลหรือมัลแวร์เข้ามาได้ ปัญหานี้เกิดจากการที่หลายแอปไม่ได้เข้ารหัสการเชื่อมต่อหรือไม่มีมาตรการป้องกันที่ดีพอ ผู้ใช้ที่คิดว่า “ฟรีและสะดวก” อาจต้องแลกด้วยความเสี่ยงด้านความปลอดภัย คำแนะนำคือควรเลือกใช้บริการที่มีชื่อเสียง มีการเข้ารหัสแบบ end-to-end และหลีกเลี่ยงการแชร์ไฟล์สำคัญผ่านแอปที่ไม่น่าเชื่อถือ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/think-before-you-click-most-free-file-sharing-apps-expose-your-downloads-to-security-risks-warns-surfshark 🖥️ ราคาคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์พุ่งสูงเพราะขาดแคลนหน่วยความจำ ตอนนี้โลกเทคโนโลยีกำลังเจอปัญหาใหญ่ เพราะหน่วยความจำ DRAM และ HBM ถูกเบี่ยงไปผลิตเพื่อรองรับเซิร์ฟเวอร์ AI ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ทั่วไปขาดตลาด ราคาจึงพุ่งขึ้นอย่างแรง ผู้ผลิตรายใหญ่ทั้ง Dell, Lenovo, HP และ HPE เตรียมขึ้นราคาประมาณ 15% สำหรับเซิร์ฟเวอร์ และ 5% สำหรับ PC ส่วนผู้ใช้ทั่วไปก็อาจต้องเจอราคาที่สูงขึ้นเมื่อซื้อแล็ปท็อปหรืออุปกรณ์ใหม่ๆ สถานการณ์นี้สะท้อนว่า AI กำลังเปลี่ยนทิศทางตลาดฮาร์ดแวร์อย่างชัดเจน 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-bad-news-continues-server-prices-set-to-rise-in-latest-blow-to-hardware-budgets 🎵 Spotify Wrapped 2025 เผยวิธีคำนวณจริง หลายคนสงสัยว่าทำไมสรุปการฟังเพลงปลายปีของ Spotify ถึงดูแปลกไปบ้าง ล่าสุด Spotify ออกมาอธิบายแล้วว่าแต่ละหมวดใช้วิธีคำนวณต่างกัน เช่น เพลงยอดนิยมวัดจากจำนวนครั้งที่ฟัง แต่สำหรับอัลบั้มจะดูว่าฟังครบหลายเพลงและกระจายการฟังอย่างไร นอกจากนี้ข้อมูลจะเก็บตั้งแต่ 1 มกราคมถึงพฤศจิกายน ไม่ใช่ครบทั้งปี และยังรวมการฟังแบบออฟไลน์ด้วย ฟีเจอร์ใหม่อย่าง “Listening Age” ที่เดาอายุจากแนวเพลงก็ทำให้หลายคนงง แต่จริงๆ มันสะท้อนพฤติกรรมการฟังที่เปลี่ยนไปตลอดปี 🔗 https://www.techradar.com/audio/spotify/your-spotify-wrapped-2025-data-isnt-wrong-the-streaming-giant-just-revealed-all-about-how-its-calculated 🪟 หนี้เทคนิค Windows ที่องค์กรยังไม่แก้ แม้ Windows 10 จะหมดการสนับสนุนไปแล้ว แต่หลายองค์กรยังคงใช้ต่อ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “หนี้เทคนิค” ซึ่งเสี่ยงต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพ การสำรวจพบว่า 9 ใน 10 บริษัทเจอปัญหานี้ แต่มีเพียง 14% ที่จริงจังกับการแก้ไขในปีหน้า เหตุผลหลักคือค่าใช้จ่ายสูง ความซับซ้อนของระบบ และความกลัวว่าจะทำให้ระบบล่ม หลายองค์กรเลือกที่จะเลื่อนการแก้ไขออกไปจนกว่าจะเกิดปัญหา ทั้งที่จริงๆ การแก้ทีละขั้นตอนและใช้เครื่องมือเฉพาะทางจะช่วยลดความเสี่ยงและเปิดทางให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ดีกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-are-companies-not-tackling-their-windows-technical-debt 📱 Huawei Pura X พลิกนิยามมือถือฝาพับ Huawei เปิดตัว Pura X ที่ทำให้คนมองมือถือฝาพับต่างออกไป จากเดิมที่แบรนด์อื่นเน้นทำให้มือถือใหญ่พับเล็กลง แต่ Huawei กลับทำให้มันกลายเป็นเหมือนแท็บเล็ตขนาดพกพา หน้าจอหลักสัดส่วน 16:10 ขนาด 6.3 นิ้ว ใช้งานดูหนังหรือทำงานได้สะดวกขึ้น อีกทั้งยังมีหน้าจอด้านหน้า 3.5 นิ้วพร้อมกล้องสามตัว รวมถึงเลนส์เทเลโฟโต้ที่คู่แข่งยังไม่มี จุดเด่นนี้ทำให้มันเป็นมือถือฝาพับที่มีกล้องดีที่สุดในตลาดตอนนี้ แม้จะมีข้อจำกัดเรื่องการใช้งาน Google และการวางขายที่จำกัด แต่ก็ถือเป็นการออกแบบที่ท้าทายให้คู่แข่งต้องคิดใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/phones/huawei-phones/i-tried-huaweis-strange-pura-x-foldable-and-its-made-me-rethink-every-other-flip-phone 🎮 โพลเลือกจอยเกมโปรดที่ผลลัพธ์ชวนงง TechRadar เคยทำโพลถามผู้อ่านว่าจอยเกมที่ชอบที่สุดคือรุ่นไหน ผลออกมาน่าตกใจเพราะ “Steam Controller” ของ Valve ที่เคยถูกวิจารณ์เรื่องดีไซน์แปลก กลับได้คะแนนสูงสุด 15% แซงหน้า Xbox 360 Controller ที่ได้ 13% และ DualSense Edge ของ PlayStation ที่ได้ 11% หลายคนเชื่อว่าผลนี้อาจเพราะแฟน Steam เข้ามาโหวตเยอะ หรือบางคนอาจโหวตแบบขำๆ แต่ไม่ว่าอย่างไร มันก็สะท้อนว่าความชอบของผู้เล่นเกมนั้นหลากหลายและไม่จำเป็นต้องตรงกับมาตรฐานตลาดเสมอไป 🔗 https://www.techradar.com/gaming/you-told-me-your-favorite-controller-ever-and-i-dont-believe-you ⚙️ ชิป AI จากจีน Cambricon เตรียมผลิตเพิ่มสามเท่า Cambricon บริษัทชิปจากจีนประกาศแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตชิป AI ถึงสามเท่าในปีหน้า เพื่อแข่งกับยักษ์ใหญ่อย่าง Nvidia และ Huawei แต่ก็ต้องเจอความท้าทายใหญ่จากการผลิตที่ซับซ้อนและต้นทุนสูง โดยเฉพาะการหาพันธมิตรด้านการผลิตที่สามารถรองรับเทคโนโลยีขั้นสูงได้ ความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าจีนกำลังผลักดันอุตสาหกรรมชิป AI อย่างจริงจังเพื่อไม่ให้พึ่งพาต่างชาติ 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-chinese-chip-giant-is-boosting-production-to-try-and-take-on-nvidia-but-how-will-huawei-feel 🪟 Windows 11 ยังไม่สามารถแทนที่ Windows 10 ได้ แม้ Microsoft จะพยายามผลักดัน Windows 11 แต่สถิติการใช้งานยังชี้ว่าผู้ใช้จำนวนมหาศาลยังคงอยู่กับ Windows 10 โดยเฉพาะในองค์กรและเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่เดิม เหตุผลหลักคือความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการอัปเกรดที่สูง ทำให้ Windows 10 ยังคงครองความนิยมอย่างเหนียวแน่นในหลายตลาด และกลายเป็นความท้าทายที่ Microsoft ต้องหาทางแก้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/windows-11-still-cant-topple-its-older-siblings-usage-stats-show-windows-10-remains-mind-boggingly-popular 🚀 5 สิ่งสำคัญที่นักพัฒนาต้องคำนึงเพื่อให้งานไม่หลุดราง ในยุคที่การพัฒนาโปรแกรมเต็มไปด้วยความเร่งรีบและความซับซ้อน การจะทำให้งาน “อยู่บนราง” ไม่ใช่แค่เขียนโค้ดให้เสร็จ แต่ต้องมีการวางเป้าหมายที่ชัดเจน กำหนดว่า “เสร็จ” หมายถึงอะไร เพื่อหลีกเลี่ยงการขยายขอบเขตงานโดยไม่จำเป็น การจัดตารางเวลาที่ปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะโลกจริงเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน นอกจากนี้ยังต้องมีระบบติดตามงานที่โปร่งใส มีการวัดผลที่เน้นคุณค่า ไม่ใช่แค่ชั่วโมงที่ใช้ไป ทีมต้องรู้จักประเมินกำลังคนและทรัพยากร เพื่อไม่ให้เกิดการทำงานเกินกำลัง และสุดท้ายคือการบริหารความเสี่ยง พร้อมสื่อสารกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมา ทั้งหมดนี้ช่วยให้ทีมพัฒนาไปถึงเป้าหมายได้อย่างมั่นคงและไม่หลุดราง 🔗 https://www.techradar.com/pro/5-essential-considerations-for-developers-to-stay-on-track 🖥️ รีวิวจอ InnoCN 27 นิ้ว GA27W1Q 4K จอภาพรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความละเอียดสูงในราคาที่จับต้องได้ ด้วยขนาด 27 นิ้วและความละเอียด 4K ทำให้ภาพคมชัด เหมาะทั้งงานกราฟิกและการดูหนัง จุดเด่นคือการให้สีที่แม่นยำและมุมมองกว้าง แต่ก็มีข้อสังเกตเรื่องความสว่างที่อาจไม่สูงเท่าจอระดับพรีเมียม อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มองหาจอ 4K ในงบประมาณที่ไม่แรง นี่ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/innocn-27-ga27w1q-4k-monitor-review 🎶 แอมป์/DAC ขนาดเล็กที่แทนชุดเครื่องเสียงได้ นี่คืออุปกรณ์ที่รวมแอมป์และ DAC ไว้ในตัวเดียว ขนาดเล็กจนสามารถวางบนโต๊ะทำงานได้สบาย แต่ให้พลังเสียงที่สามารถแทนชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ได้เลย เหมาะสำหรับคนที่เริ่มเข้าสู่วงการเครื่องเสียงและอยากได้คุณภาพเสียงที่ดีโดยไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์หลายชิ้น จุดแข็งคือการเชื่อมต่อที่หลากหลายและเสียงที่ใสสะอาด ทำให้เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์คนรักเสียงเพลงที่มีพื้นที่จำกัด 🔗 https://www.techradar.com/audio/dacs/this-super-compact-budget-desktop-amp-dac-can-replace-a-mini-hi-fi-stack-and-its-perfect-for-budding-audiophiles 📱 ข่าวลือ Samsung Galaxy S26 และชิป Exynos 2600 มีการหลุดข้อมูลจาก One UI 8.5 ที่อาจเผยให้เห็นดีไซน์ของ Galaxy S26 ซึ่งคาดว่าจะมีการปรับโฉมใหม่ พร้อมกับข่าวลือเรื่องชิป Exynos 2600 ที่อาจถูกนำมาใช้ จุดสนใจคือการพัฒนาให้เครื่องมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและดีไซน์ที่ทันสมัยกว่าเดิม แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่กระแสข่าวนี้ก็ทำให้แฟน ๆ Samsung ตื่นเต้นและจับตามองว่าจะออกมาในรูปแบบใด 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/samsung-may-have-leaked-the-galaxy-s26-design-through-one-ui-8-5-and-another-exynos-2600-rumor-has-emerged 💾 รีวิว TerraMaster F2-425 NAS อุปกรณ์ NAS รุ่นนี้ถูกออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากในบ้านหรือสำนักงานเล็ก ๆ จุดเด่นคือการรองรับการทำงานที่รวดเร็วและมีฟีเจอร์ที่เหมาะกับการสำรองข้อมูลหรือแชร์ไฟล์ภายในทีม แม้จะไม่หรูหราเท่า NAS ระดับองค์กร แต่ก็ถือว่ามีความคุ้มค่าในด้านราคาและประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อถือได้โดยไม่ต้องลงทุนสูง 🔗 https://www.techradar.com/computing/terramaster-f2-425-nas-review 💽 ต่อ Mac Mini เข้ากับไดรฟ์เทป LTO-10 ขนาด 30TB นี่คือการเชื่อมต่อที่น่าสนใจมาก เพราะทำให้ Mac Mini สามารถใช้งานไดรฟ์เทป LTO-10 ที่มีความจุถึง 30TB ได้ โดยความเร็วที่ได้ใกล้เคียงกับ SSD เลยทีเดียว ถือเป็นการผสมผสานเทคโนโลยีเก่ากับใหม่ที่ลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาลในราคาที่คุ้มค่า และยังได้ความเร็วที่ไม่แพ้การใช้ดิสก์สมัยใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/you-can-now-buy-a-30tb-tape-drive-and-connect-it-to-your-apple-mac-mini-and-its-almost-as-fast-as-an-ssd 📱📖 Samsung Galaxy Z Trifold กำลังมา – iPhone Fold ต้องรีบแล้ว ข่าวลือบอกว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy Z Trifold ซึ่งเป็นมือถือพับสามทบ ทำให้ Apple ที่มีข่าวลือเรื่อง iPhone Fold ต้องเร่งเครื่องออกสู่ตลาด หากช้าเกินไปอาจเสียโอกาสในการแข่งขัน จุดเด่นของ Trifold คือการขยายหน้าจอได้ใหญ่ขึ้นเหมือนแท็บเล็ต แต่ยังพับเก็บได้เหมือนมือถือธรรมดา ทำให้เป็นที่จับตามองในวงการสมาร์ทโฟน 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/with-the-samsung-galaxy-z-trifold-on-the-way-apples-rumored-iphone-fold-needs-to-hit-shelves-soon 🔊 Bose Smart Soundbar vs Sony Bravia Theater Bar 6 การเปรียบเทียบซาวด์บาร์สองรุ่นนี้เน้นไปที่ระบบเสียง Dolby Atmos ที่ทั้งคู่รองรับ Bose Smart Soundbar มีชื่อเสียงเรื่องเสียงที่สมดุลและดีไซน์เรียบหรู ส่วน Sony Bravia Theater Bar 6 โดดเด่นด้วยพลังเสียงที่กระจายรอบทิศทางได้สมจริงกว่า การเลือกขึ้นอยู่กับว่าผู้ใช้ต้องการความเรียบง่ายและคุณภาพเสียงที่มั่นคง หรืออยากได้ประสบการณ์เสียงโอบล้อมเต็มรูปแบบ 🔗 https://www.techradar.com/televisions/soundbars/bose-smart-soundbar-vs-sony-bravia-theater-bar-6-which-dolby-atmos-soundbar-is-right-for-you 🔋 ลืมกล้อง ลืม AI – สิ่งที่คนอยากได้จริงคือแบตมือถือที่อึดกว่า บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ไม่ได้สนใจแค่กล้องหรือชิปใหม่ แต่สิ่งที่ต้องการจริง ๆ คือแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ทุกวันนี้มือถือเต็มไปด้วยฟีเจอร์ล้ำ ๆ แต่ถ้าแบตหมดไวก็ไร้ประโยชน์ การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งที่ผู้ใช้คาดหวังมากที่สุดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-cameras-ai-and-chip-upgrades-you-really-want-better-phone-battery-life 🎬  ดีล Netflix กับ Warner Bros. หมายถึงอะไรสำหรับผู้ชม การจับมือกันครั้งนี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสตรีมมิ่ง ทั้งเรื่องราคาที่อาจปรับขึ้น และการเข้าถึงคอนเทนต์ที่กว้างขึ้น ผู้เชี่ยวชาญมองว่าผู้ใช้จะได้ประโยชน์จากการรวมคอนเทนต์ แต่ก็ต้องเตรียมใจรับกับค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ดีลนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดสตรีมมิ่งที่ไม่มีใครยอมแพ้ ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/what-does-the-netflix-and-warner-bros-deal-mean-for-you-heres-what-experts-say-about-price-hikes-and-more
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 825 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arm ตั้งศูนย์ฝึกอบรมชิปในเกาหลีใต้

    เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 SoftBank Group และ Arm Holdings ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ เพื่อจัดตั้ง Chip Design School ในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของเกาหลีใต้

    ความร่วมมือระดับรัฐบาลและเอกชน
    การลงนามครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการพบปะของประธานาธิบดี Lee Jae Myung และ Masayoshi Son ซีอีโอของ SoftBank ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล รัฐบาลเกาหลีใต้หวังว่าความร่วมมือกับ Arm จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุคที่ความต้องการชิป AI และชิปประสิทธิภาพสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและบุคลากร
    ศูนย์ฝึกอบรมนี้จะเป็นแหล่งบ่มเพาะนักออกแบบชิปและนักวิจัยรุ่นใหม่ ช่วยลดการพึ่งพาต่างประเทศ และสร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพด้าน AI และฮาร์ดแวร์ในเกาหลีใต้เติบโตได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมความมั่นคงทางเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในตลาดเซมิคอนดักเตอร์

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    แม้โครงการนี้จะเป็นโอกาสสำคัญ แต่ก็มีความท้าทาย เช่น การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะสูง การลงทุนที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก และการแข่งขันจากประเทศอื่น ๆ เช่น ไต้หวันและจีน หากไม่สามารถสร้างระบบนิเวศที่แข็งแรงพอ เกาหลีใต้อาจยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าชิปขั้นสูงจากต่างประเทศ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SoftBank และ Arm ลงนามตั้งศูนย์ฝึกอบรมชิปในเกาหลีใต้
    เป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI

    ความร่วมมือระดับสูงระหว่างรัฐบาลและเอกชน
    ประธานาธิบดี Lee Jae Myung พบ Masayoshi Son เพื่อผลักดันโครงการ

    ผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมและบุคลากร
    สร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพและลดการพึ่งพาต่างประเทศ

    คำเตือนและความท้าทาย
    การขาดบุคลากรที่มีทักษะสูงอาจทำให้โครงการเดินหน้าได้ช้า
    การแข่งขันจากจีนและไต้หวันยังคงเป็นแรงกดดันต่อเกาหลีใต้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/05/softbank039s-arm-plans-to-set-up-chip-training-facility-in-south-korea
    🏭 Arm ตั้งศูนย์ฝึกอบรมชิปในเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2025 SoftBank Group และ Arm Holdings ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับกระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ เพื่อจัดตั้ง Chip Design School ในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ของเกาหลีใต้ 🤝 ความร่วมมือระดับรัฐบาลและเอกชน การลงนามครั้งนี้เกิดขึ้นระหว่างการพบปะของประธานาธิบดี Lee Jae Myung และ Masayoshi Son ซีอีโอของ SoftBank ที่ทำเนียบประธานาธิบดีในกรุงโซล รัฐบาลเกาหลีใต้หวังว่าความร่วมมือกับ Arm จะช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศในตลาดโลก โดยเฉพาะในยุคที่ความต้องการชิป AI และชิปประสิทธิภาพสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 📈 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและบุคลากร ศูนย์ฝึกอบรมนี้จะเป็นแหล่งบ่มเพาะนักออกแบบชิปและนักวิจัยรุ่นใหม่ ช่วยลดการพึ่งพาต่างประเทศ และสร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพด้าน AI และฮาร์ดแวร์ในเกาหลีใต้เติบโตได้รวดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมความมั่นคงทางเทคโนโลยีในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งกำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือดในตลาดเซมิคอนดักเตอร์ ⚠️ ความท้าทายและข้อควรระวัง แม้โครงการนี้จะเป็นโอกาสสำคัญ แต่ก็มีความท้าทาย เช่น การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะสูง การลงทุนที่ต้องใช้เงินจำนวนมาก และการแข่งขันจากประเทศอื่น ๆ เช่น ไต้หวันและจีน หากไม่สามารถสร้างระบบนิเวศที่แข็งแรงพอ เกาหลีใต้อาจยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าชิปขั้นสูงจากต่างประเทศ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SoftBank และ Arm ลงนามตั้งศูนย์ฝึกอบรมชิปในเกาหลีใต้ ➡️ เป้าหมายเพื่อพัฒนาทักษะบุคลากรด้านเซมิคอนดักเตอร์และ AI ✅ ความร่วมมือระดับสูงระหว่างรัฐบาลและเอกชน ➡️ ประธานาธิบดี Lee Jae Myung พบ Masayoshi Son เพื่อผลักดันโครงการ ✅ ผลกระทบเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมและบุคลากร ➡️ สร้างโอกาสให้สตาร์ทอัพและลดการพึ่งพาต่างประเทศ ‼️ คำเตือนและความท้าทาย ⛔ การขาดบุคลากรที่มีทักษะสูงอาจทำให้โครงการเดินหน้าได้ช้า ⛔ การแข่งขันจากจีนและไต้หวันยังคงเป็นแรงกดดันต่อเกาหลีใต้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/05/softbank039s-arm-plans-to-set-up-chip-training-facility-in-south-korea
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SoftBank's Arm plans to set up chip training facility in South Korea
    SEOUL, Dec 5 (Reuters) - South Korea's industry ministry and SoftBank's chip unit, Arm Holdings, have signed an agreement to strengthen the country's semiconductor and Artificial Intelligence sectors, a presidential policy adviser said on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251205 #securityonline

    Google ทดลองให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ แต่กลับทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน
    Google กำลังทดสอบระบบที่ให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ในบริการ Google Discover โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นและกดเข้าไปอ่าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะหลายครั้งหัวข้อที่ AI เขียนขึ้นมาเกิดการบิดเบือนความหมายเดิมจนทำให้เข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับเครื่องเกม Steam Machine ที่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ AI กลับเขียนหัวข้อว่า “Steam Machine price revealed” ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยให้ AI เขียนหัวข้อข่าวโดยไม่มีการควบคุม อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงกระทบต่อจำนวนคนที่คลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง แม้ Google จะบอกว่าทดลองกับผู้ใช้เพียงส่วนน้อย แต่สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มเห็นผลกระทบต่อทราฟฟิกของตนแล้ว
    https://securityonline.info/misleading-ai-headlines-google-discover-testing-rewrites-that-distort-news-facts

    AWS ดันชิป Trainium สร้างรายได้หลายพันล้าน ท้าชน NVIDIA
    Amazon ผ่าน AWS กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดชิป AI ที่ NVIDIA ครองอยู่ ด้วยการพัฒนา Trainium ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ระดับหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว โดยรุ่น Trainium2 ถูกใช้งานมากกว่า 100,000 บริษัท และผลิตไปแล้วกว่า 1 ล้านชิป จุดเด่นคือราคาถูกกว่า GPU ของ NVIDIA แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะ Anthropic ที่ใช้ชิป Trainium2 กว่า 500,000 ตัวในการสร้างโมเดลใหม่ของ Claude ล่าสุด AWS เปิดตัว Trainium3 ที่แรงขึ้น 4 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมแผนพัฒนา Trainium4 ที่สามารถทำงานร่วมกับ GPU ของ NVIDIA ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการแข่งตรง ๆ ไปสู่การสร้างระบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่า
    https://securityonline.info/aws-trainium-chip-business-hits-multi-billion-revenue-challenging-nvidias-pricing

    Meta ดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับตำนานจาก Apple มาสร้างสตูดิโอใหม่
    Mark Zuckerberg ประกาศว่า Meta ได้ดึง Alan Dye อดีตหัวหน้าฝ่าย Human Interface Design ของ Apple มานำทีม Creative Studio ใหม่ใน Reality Labs Alan Dye เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสำคัญของ Apple เช่น Apple Watch, iPhone X และ Vision Pro การเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการยกระดับงานดีไซน์ของ Meta ให้มีความโดดเด่นและผสมผสานระหว่างแฟชั่น เทคโนโลยี และ AI โดย Dye จะทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ที่มีทั้ง Billy Sorrentino และ Joshua To เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Meta การดึงตัวบุคลากรจาก Apple ครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่กำลังแย่งชิงอนาคตของอุปกรณ์ AI และสมาร์ทแกดเจ็ต
    https://securityonline.info/design-wars-meta-hires-apple-veteran-alan-dye-to-lead-new-reality-labs-creative-studio

    ปฏิบัติการ DUPEHIKE: มัลแวร์เจาะฝ่าย HR ของรัสเซีย
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบเจาะจงที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation DUPEHIKE โดยกลุ่มแฮกเกอร์ใช้วิธีส่งอีเมลหลอกล่อพนักงานฝ่ายบุคคลและเงินเดือน ด้วยไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารโบนัสสิ้นปี แต่แท้จริงแล้วเป็นไฟล์ลัด (LNK) ที่เมื่อเปิดขึ้นจะไปดาวน์โหลดมัลแวร์ชื่อ DUPERUNNER ผ่าน PowerShell ทำงานเบื้องหลังอย่างแนบเนียน มัลแวร์นี้สามารถฉีดโค้ดเข้าไปในโปรเซสที่ใช้บ่อย เช่น explorer.exe หรือ notepad.exe เพื่อให้ฝังตัวถาวร และสุดท้ายจะติดตั้ง Adaptix C2 ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมจากระยะไกล เป้าหมายคือการสอดแนมและควบคุมระบบขององค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ
    https://securityonline.info/operation-dupehike-hits-russian-hr-bonus-lure-delivers-duperunner-and-adaptix-c2-via-process-injection

    ช่องโหว่ Splunk บน Windows เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์
    Splunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง พบช่องโหว่ร้ายแรงสองรายการ (CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387) ที่ทำให้การติดตั้งบน Windows กำหนดสิทธิ์ไฟล์ผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ หากแฮกเกอร์ได้สิทธิ์ผู้ใช้ระดับต่ำ ก็สามารถแก้ไขไฟล์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันไว้ได้ทันที ทาง Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว
    https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows

    ช่องโหว่ Cacti เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจากระยะไกล
    Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับทำกราฟเครือข่าย พบช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-66399) ที่เกี่ยวกับการจัดการค่า SNMP Community String หากผู้ใช้ใส่ค่าที่มีตัวอักษรพิเศษหรือบรรทัดใหม่ ระบบจะไม่กรองออก ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เมื่อระบบนำค่าเหล่านี้ไปใช้กับเครื่องมือ SNMP ภายนอก คำสั่งที่ถูกแทรกก็จะถูกรันทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 1.2.29 และแนะนำให้อัปเดตทันที
    https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection

    กลุ่ม Calisto APT รัสเซียโจมตี NGO ด้วยฟิชชิ่งแบบใหม่
    กลุ่มแฮกเกอร์ Calisto ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย ได้พุ่งเป้าโจมตีองค์กร Reporters Without Borders (RSF) โดยใช้เทคนิคฟิชชิ่งที่ซับซ้อน พวกเขาส่งอีเมลแสร้งเป็นคนรู้จัก พร้อมไฟล์ที่ “หายไป” หรือไฟล์ที่เปิดไม่ได้ เพื่อให้เหยื่อขอไฟล์ใหม่ เมื่อเหยื่อตอบกลับก็จะได้รับลิงก์ไปยังไฟล์ที่แท้จริงซึ่งเป็นมัลแวร์ ฟิชชิ่งนี้ยังใช้เทคนิค AiTM (Adversary-in-the-Middle) เพื่อดักข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัส 2FA แบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่เจาะจง NGO ที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและเสรีภาพสื่อโดยตรง
    https://securityonline.info/russian-calisto-apt-targets-reporters-without-borders-with-custom-aitm-phishing-and-missing-file-lure

    NVIDIA Triton Server พบช่องโหว่ DoS ร้ายแรง
    NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Triton Inference Server ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการรันโมเดล AI พบช่องโหว่สองรายการ (CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดรูปแบบหรือใหญ่เกินไปจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ ผลคือบริการ AI inference จะหยุดทำงานทันที ซึ่งอาจกระทบต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการประมวลผลขนาดใหญ่ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน r25.10 เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption

    Patchwork APT ใช้ StreamSpy Trojan ซ่อนคำสั่งใน WebSocket
    กลุ่มแฮกเกอร์ Patchwork APT ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ StreamSpy Trojan ที่มีความสามารถในการซ่อนคำสั่งควบคุม (C2) ภายในทราฟฟิก WebSocket ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนเป็นการใช้งานเว็บตามปกติ เทคนิคนี้ช่วยให้การสอดแนมดำเนินไปโดยไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ และยังสามารถดึงข้อมูลหรือสั่งการเครื่องเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการพัฒนาแนวทางโจมตีที่เน้นความลับและการพรางตัวสูง
    https://securityonline.info/patchwork-apt-deploys-streamspy-trojan-hiding-c2-commands-in-websocket-traffic-for-stealth-espionage

    ความต้องการ AI ลดลง Microsoft ปรับลดโควตายอดขาย
    มีรายงานว่า Microsoft ได้ปรับลดโควตายอดขายของทีม Enterprise AI ลงมากถึง 50% เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ในระดับองค์กรไม่เติบโตตามที่คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากลูกค้าหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในโซลูชัน AI ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและความไม่แน่ใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง การปรับลดนี้สะท้อนถึงความท้าทายของตลาด AI ที่แม้จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่การนำไปใช้จริงในองค์กรยังต้องใช้เวลาและการพิสูจน์คุณค่า
    https://securityonline.info/ai-demand-struggles-microsoft-slashes-enterprise-ai-sales-quotas-by-up-to-50

    Telegram เตรียมใช้ Passkey แทน SMS สำหรับการล็อกอิน
    Telegram กำลังพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ โดยจะใช้ Passkey Authentication แทนการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการดักข้อความ ระบบ Passkey จะทำงานร่วมกับมาตรฐาน FIDO2 และ WebAuthn ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วยการยืนยันจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือ เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งาน Telegram ปลอดภัยขึ้นและลดการพึ่งพา SMS ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย
    https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login

    SpyCloud เผยผู้ใช้บริษัทเสี่ยงฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ 3 เท่า
    ข้อมูลจาก SpyCloud ระบุว่าผู้ใช้ในองค์กรมีโอกาสถูกโจมตีด้วยฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ถึง 3 เท่า โดยการโจมตีฟิชชิ่งมักใช้วิธีหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ซึ่งง่ายต่อการดำเนินการและได้ผลเร็วกว่า การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและการใช้ระบบตรวจจับฟิชชิ่งมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
    https://securityonline.info/spycloud-data-shows-corporate-users-3x-more-likely-to-be-targeted-by-phishing-than-by-malware

    อินเดียยกเลิกบังคับใช้แอป Sanchar Saathi หลังถูกต่อต้าน
    รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกข้อบังคับที่ให้ประชาชนต้องใช้แอป Sanchar Saathi ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวง หลังจากประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพดิจิทัล การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป และเป็นการปรับท่าทีของรัฐบาลต่อการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/policy-u-turn-india-drops-mandatory-sanchar-saathi-app-after-fierce-opposition
    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251205 #securityonline 📰 Google ทดลองให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ แต่กลับทำให้ข้อมูลผิดเพี้ยน Google กำลังทดสอบระบบที่ให้ AI เขียนหัวข้อข่าวใหม่ในบริการ Google Discover โดยตั้งใจให้ผู้ใช้เข้าใจเนื้อหาได้เร็วขึ้นและกดเข้าไปอ่าน แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง เพราะหลายครั้งหัวข้อที่ AI เขียนขึ้นมาเกิดการบิดเบือนความหมายเดิมจนทำให้เข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ข่าวเกี่ยวกับเครื่องเกม Steam Machine ที่ยังไม่เปิดเผยราคา แต่ AI กลับเขียนหัวข้อว่า “Steam Machine price revealed” ซึ่งผิดไปจากข้อเท็จจริงอย่างสิ้นเชิง เรื่องนี้ทำให้หลายฝ่ายกังวลว่า หากปล่อยให้ AI เขียนหัวข้อข่าวโดยไม่มีการควบคุม อาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดและลดความน่าเชื่อถือของสื่อ รวมถึงกระทบต่อจำนวนคนที่คลิกเข้าไปอ่านเนื้อหาจริง แม้ Google จะบอกว่าทดลองกับผู้ใช้เพียงส่วนน้อย แต่สำนักข่าวหลายแห่งก็เริ่มเห็นผลกระทบต่อทราฟฟิกของตนแล้ว 🔗 https://securityonline.info/misleading-ai-headlines-google-discover-testing-rewrites-that-distort-news-facts 💻 AWS ดันชิป Trainium สร้างรายได้หลายพันล้าน ท้าชน NVIDIA Amazon ผ่าน AWS กำลังสร้างแรงสั่นสะเทือนในตลาดชิป AI ที่ NVIDIA ครองอยู่ ด้วยการพัฒนา Trainium ซึ่งตอนนี้ทำรายได้ระดับหลายพันล้านดอลลาร์แล้ว โดยรุ่น Trainium2 ถูกใช้งานมากกว่า 100,000 บริษัท และผลิตไปแล้วกว่า 1 ล้านชิป จุดเด่นคือราคาถูกกว่า GPU ของ NVIDIA แต่ยังคงให้ประสิทธิภาพสูง ทำให้หลายองค์กรเลือกใช้ โดยเฉพาะ Anthropic ที่ใช้ชิป Trainium2 กว่า 500,000 ตัวในการสร้างโมเดลใหม่ของ Claude ล่าสุด AWS เปิดตัว Trainium3 ที่แรงขึ้น 4 เท่าและประหยัดพลังงานมากขึ้น พร้อมแผนพัฒนา Trainium4 ที่สามารถทำงานร่วมกับ GPU ของ NVIDIA ได้อย่างลื่นไหล ถือเป็นการเปลี่ยนกลยุทธ์จากการแข่งตรง ๆ ไปสู่การสร้างระบบไฮบริดที่ยืดหยุ่นกว่า 🔗 https://securityonline.info/aws-trainium-chip-business-hits-multi-billion-revenue-challenging-nvidias-pricing 🎨 Meta ดึงตัวดีไซน์เนอร์ระดับตำนานจาก Apple มาสร้างสตูดิโอใหม่ Mark Zuckerberg ประกาศว่า Meta ได้ดึง Alan Dye อดีตหัวหน้าฝ่าย Human Interface Design ของ Apple มานำทีม Creative Studio ใหม่ใน Reality Labs Alan Dye เป็นคนที่อยู่เบื้องหลังงานออกแบบสำคัญของ Apple เช่น Apple Watch, iPhone X และ Vision Pro การเข้ามาของเขาถูกมองว่าเป็นการยกระดับงานดีไซน์ของ Meta ให้มีความโดดเด่นและผสมผสานระหว่างแฟชั่น เทคโนโลยี และ AI โดย Dye จะทำงานร่วมกับทีมดีไซน์ที่มีทั้ง Billy Sorrentino และ Joshua To เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นสัญลักษณ์ใหม่ของ Meta การดึงตัวบุคลากรจาก Apple ครั้งนี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่างสองยักษ์ใหญ่ที่กำลังแย่งชิงอนาคตของอุปกรณ์ AI และสมาร์ทแกดเจ็ต 🔗 https://securityonline.info/design-wars-meta-hires-apple-veteran-alan-dye-to-lead-new-reality-labs-creative-studio 🕵️‍♂️ ปฏิบัติการ DUPEHIKE: มัลแวร์เจาะฝ่าย HR ของรัสเซีย เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบเจาะจงที่ถูกตั้งชื่อว่า Operation DUPEHIKE โดยกลุ่มแฮกเกอร์ใช้วิธีส่งอีเมลหลอกล่อพนักงานฝ่ายบุคคลและเงินเดือน ด้วยไฟล์ที่ดูเหมือนเอกสารโบนัสสิ้นปี แต่แท้จริงแล้วเป็นไฟล์ลัด (LNK) ที่เมื่อเปิดขึ้นจะไปดาวน์โหลดมัลแวร์ชื่อ DUPERUNNER ผ่าน PowerShell ทำงานเบื้องหลังอย่างแนบเนียน มัลแวร์นี้สามารถฉีดโค้ดเข้าไปในโปรเซสที่ใช้บ่อย เช่น explorer.exe หรือ notepad.exe เพื่อให้ฝังตัวถาวร และสุดท้ายจะติดตั้ง Adaptix C2 ซึ่งเป็นเครื่องมือควบคุมจากระยะไกล เป้าหมายคือการสอดแนมและควบคุมระบบขององค์กรที่ตกเป็นเหยื่อ 🔗 https://securityonline.info/operation-dupehike-hits-russian-hr-bonus-lure-delivers-duperunner-and-adaptix-c2-via-process-injection ⚠️ ช่องโหว่ Splunk บน Windows เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์ Splunk ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลชื่อดัง พบช่องโหว่ร้ายแรงสองรายการ (CVE-2025-20386 และ CVE-2025-20387) ที่ทำให้การติดตั้งบน Windows กำหนดสิทธิ์ไฟล์ผิดพลาด เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่ไม่ใช่แอดมินเข้าถึงไฟล์และโฟลเดอร์สำคัญได้ หากแฮกเกอร์ได้สิทธิ์ผู้ใช้ระดับต่ำ ก็สามารถแก้ไขไฟล์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรจะถูกป้องกันไว้ได้ทันที ทาง Splunk ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อปิดช่องโหว่โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/high-severity-splunk-flaw-allows-local-privilege-escalation-via-incorrect-file-permissions-on-windows 🖥️ ช่องโหว่ Cacti เสี่ยงถูกสั่งรันโค้ดจากระยะไกล Cacti ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สสำหรับทำกราฟเครือข่าย พบช่องโหว่ร้ายแรง (CVE-2025-66399) ที่เกี่ยวกับการจัดการค่า SNMP Community String หากผู้ใช้ใส่ค่าที่มีตัวอักษรพิเศษหรือบรรทัดใหม่ ระบบจะไม่กรองออก ทำให้แฮกเกอร์สามารถแทรกคำสั่งอันตรายเข้าไปได้ เมื่อระบบนำค่าเหล่านี้ไปใช้กับเครื่องมือ SNMP ภายนอก คำสั่งที่ถูกแทรกก็จะถูกรันทันที ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเซิร์ฟเวอร์ได้เต็มรูปแบบ ทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 1.2.29 และแนะนำให้อัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/high-severity-cacti-flaw-cve-2025-66399-risks-remote-code-execution-via-snmp-community-string-injection 🎯 กลุ่ม Calisto APT รัสเซียโจมตี NGO ด้วยฟิชชิ่งแบบใหม่ กลุ่มแฮกเกอร์ Calisto ที่เชื่อมโยงกับหน่วยงานความมั่นคงรัสเซีย ได้พุ่งเป้าโจมตีองค์กร Reporters Without Borders (RSF) โดยใช้เทคนิคฟิชชิ่งที่ซับซ้อน พวกเขาส่งอีเมลแสร้งเป็นคนรู้จัก พร้อมไฟล์ที่ “หายไป” หรือไฟล์ที่เปิดไม่ได้ เพื่อให้เหยื่อขอไฟล์ใหม่ เมื่อเหยื่อตอบกลับก็จะได้รับลิงก์ไปยังไฟล์ที่แท้จริงซึ่งเป็นมัลแวร์ ฟิชชิ่งนี้ยังใช้เทคนิค AiTM (Adversary-in-the-Middle) เพื่อดักข้อมูลการเข้าสู่ระบบและรหัส 2FA แบบเรียลไทม์ ถือเป็นการโจมตีที่เจาะจง NGO ที่เกี่ยวข้องกับยูเครนและเสรีภาพสื่อโดยตรง 🔗 https://securityonline.info/russian-calisto-apt-targets-reporters-without-borders-with-custom-aitm-phishing-and-missing-file-lure 🤖 NVIDIA Triton Server พบช่องโหว่ DoS ร้ายแรง NVIDIA ได้ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับ Triton Inference Server ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการรันโมเดล AI พบช่องโหว่สองรายการ (CVE-2025-33211 และ CVE-2025-33201) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งข้อมูลที่ผิดรูปแบบหรือใหญ่เกินไปจนทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มได้ ผลคือบริการ AI inference จะหยุดทำงานทันที ซึ่งอาจกระทบต่อองค์กรที่พึ่งพา AI ในการประมวลผลขนาดใหญ่ NVIDIA ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว และแนะนำให้ผู้ใช้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน r25.10 เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/nvidia-triton-server-patches-two-high-severity-dos-flaws-risking-critical-ai-inference-disruption 🕶️ Patchwork APT ใช้ StreamSpy Trojan ซ่อนคำสั่งใน WebSocket กลุ่มแฮกเกอร์ Patchwork APT ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ StreamSpy Trojan ที่มีความสามารถในการซ่อนคำสั่งควบคุม (C2) ภายในทราฟฟิก WebSocket ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนเป็นการใช้งานเว็บตามปกติ เทคนิคนี้ช่วยให้การสอดแนมดำเนินไปโดยไม่ถูกตรวจจับง่าย ๆ และยังสามารถดึงข้อมูลหรือสั่งการเครื่องเหยื่อได้อย่างต่อเนื่อง ถือเป็นการพัฒนาแนวทางโจมตีที่เน้นความลับและการพรางตัวสูง 🔗 https://securityonline.info/patchwork-apt-deploys-streamspy-trojan-hiding-c2-commands-in-websocket-traffic-for-stealth-espionage 📉 ความต้องการ AI ลดลง Microsoft ปรับลดโควตายอดขาย มีรายงานว่า Microsoft ได้ปรับลดโควตายอดขายของทีม Enterprise AI ลงมากถึง 50% เนื่องจากความต้องการใช้งาน AI ในระดับองค์กรไม่เติบโตตามที่คาดไว้ สาเหตุหลักมาจากลูกค้าหลายรายยังลังเลที่จะลงทุนในโซลูชัน AI ขนาดใหญ่ ทั้งเรื่องค่าใช้จ่ายและความไม่แน่ใจในผลลัพธ์ที่แท้จริง การปรับลดนี้สะท้อนถึงความท้าทายของตลาด AI ที่แม้จะถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง แต่การนำไปใช้จริงในองค์กรยังต้องใช้เวลาและการพิสูจน์คุณค่า 🔗 https://securityonline.info/ai-demand-struggles-microsoft-slashes-enterprise-ai-sales-quotas-by-up-to-50 🔐 Telegram เตรียมใช้ Passkey แทน SMS สำหรับการล็อกอิน Telegram กำลังพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนแบบใหม่ โดยจะใช้ Passkey Authentication แทนการส่งรหัสผ่านทาง SMS เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงจากการดักข้อความ ระบบ Passkey จะทำงานร่วมกับมาตรฐาน FIDO2 และ WebAuthn ทำให้ผู้ใช้สามารถล็อกอินได้ด้วยการยืนยันจากอุปกรณ์ที่เชื่อถือ เช่น ลายนิ้วมือหรือ Face ID การเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยให้การใช้งาน Telegram ปลอดภัยขึ้นและลดการพึ่งพา SMS ที่มีช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/no-more-sms-telegram-is-developing-passkey-authentication-for-secure-login 🎣 SpyCloud เผยผู้ใช้บริษัทเสี่ยงฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ 3 เท่า ข้อมูลจาก SpyCloud ระบุว่าผู้ใช้ในองค์กรมีโอกาสถูกโจมตีด้วยฟิชชิ่งมากกว่ามัลแวร์ถึง 3 เท่า โดยการโจมตีฟิชชิ่งมักใช้วิธีหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลเข้าสู่ระบบหรือคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ซึ่งง่ายต่อการดำเนินการและได้ผลเร็วกว่า การศึกษานี้ชี้ให้เห็นว่าบริษัทต่าง ๆ ควรให้ความสำคัญกับการฝึกอบรมพนักงานและการใช้ระบบตรวจจับฟิชชิ่งมากขึ้น เพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและการเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต 🔗 https://securityonline.info/spycloud-data-shows-corporate-users-3x-more-likely-to-be-targeted-by-phishing-than-by-malware 🇮🇳 อินเดียยกเลิกบังคับใช้แอป Sanchar Saathi หลังถูกต่อต้าน รัฐบาลอินเดียประกาศยกเลิกข้อบังคับที่ให้ประชาชนต้องใช้แอป Sanchar Saathi ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อช่วยตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ที่ถูกหลอกลวง หลังจากประชาชนและองค์กรต่าง ๆ ออกมาคัดค้านอย่างหนัก โดยมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและเสรีภาพดิจิทัล การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงแรงกดดันจากสังคมที่ไม่ยอมรับการควบคุมที่เข้มงวดเกินไป และเป็นการปรับท่าทีของรัฐบาลต่อการใช้งานเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคล ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/policy-u-turn-india-drops-mandatory-sanchar-saathi-app-after-fierce-opposition
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 682 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Valve เปิดวิสัยทัศน์ – เกม PC สู่โลก Arm ผ่าน SteamOS"

    Valve กำลังพัฒนาโครงการที่ทำให้ เกม Windows บน PC สามารถรันได้บนอุปกรณ์ Arm โดยไม่ต้องรอให้ผู้พัฒนาเกมทำการพอร์ตเอง เทคโนโลยีนี้ใช้การผสมผสานระหว่าง Proton (ชั้นความเข้ากันได้ Windows-to-Linux) และ FEX Emulator (แปลงสถาปัตยกรรม x86 เป็น Arm) ซึ่งช่วยให้เกมที่สร้างขึ้นสำหรับ Windows สามารถทำงานบน Linux และ Arm ได้อย่างราบรื่น

    Pierre-Loup Griffais จาก Valve อธิบายว่าเป้าหมายคือการทำให้ SteamOS และ Steam Machine ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เครื่องคอนโซล แต่สามารถขยายไปสู่ สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก Arm ได้ในอนาคต ตัวอย่างเช่น เกมดังอย่าง Hollow Knight: Silksong แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android แต่สามารถเล่นได้แล้วบนมือถือ Samsung Galaxy ผ่านเทคโนโลยีใหม่นี้

    Valve ยังเปิดตัวชื่ออย่างเป็นทางการของเลเยอร์ความเข้ากันได้สำหรับ Android คือ Lepton พร้อมโลโก้รูปกบ ซึ่งสะท้อนความตั้งใจที่จะสร้าง ecosystem ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และนักพัฒนา โดย Lepton จะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเกม PC ให้เข้าถึงผู้ใช้มือถือหลายพันล้านคนทั่วโลก

    แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ Valve ยืนยันว่าจะไม่ อุดหนุนราคาของ Steam Machine เพื่อแข่งขันกับคอนโซลรายใหญ่ เน้นการสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งอาจเป็นการวางรากฐานให้เกม PC กลายเป็น “แพลตฟอร์มไร้พรมแดน” ที่สามารถเล่นได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Valve ใช้ Proton + FEX Emulator เพื่อรันเกม Windows บน Arm
    เกม Hollow Knight: Silksong เล่นได้บนมือถือ Samsung Galaxy แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android
    เปิดตัว Lepton เป็น compatibility layer สำหรับ Android พร้อมโลโก้กบ
    Valve จะไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    ตลาดสมาร์ทโฟน Arm มีผู้ใช้งานมากกว่า 6 พันล้านเครื่องทั่วโลก
    การเล่นเกม PC บนมือถืออาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เล่นและตลาดเกมพกพา
    นักพัฒนาหลายรายเริ่มสนใจการใช้ Proton และ Emulator เพื่อขยายฐานผู้เล่น

    คำเตือนจากข่าว
    การรันเกม PC บนมือถืออาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพและแบตเตอรี่
    หากไม่มีการสนับสนุนจากนักพัฒนา อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ในบางเกม
    การไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine อาจทำให้แข่งขันกับคอนโซลยากขึ้น

    https://www.theverge.com/report/820656/valve-interview-arm-gaming-steamos-pierre-loup-griffais
    🎮 "Valve เปิดวิสัยทัศน์ – เกม PC สู่โลก Arm ผ่าน SteamOS" Valve กำลังพัฒนาโครงการที่ทำให้ เกม Windows บน PC สามารถรันได้บนอุปกรณ์ Arm โดยไม่ต้องรอให้ผู้พัฒนาเกมทำการพอร์ตเอง เทคโนโลยีนี้ใช้การผสมผสานระหว่าง Proton (ชั้นความเข้ากันได้ Windows-to-Linux) และ FEX Emulator (แปลงสถาปัตยกรรม x86 เป็น Arm) ซึ่งช่วยให้เกมที่สร้างขึ้นสำหรับ Windows สามารถทำงานบน Linux และ Arm ได้อย่างราบรื่น Pierre-Loup Griffais จาก Valve อธิบายว่าเป้าหมายคือการทำให้ SteamOS และ Steam Machine ไม่ได้จำกัดอยู่แค่เครื่องคอนโซล แต่สามารถขยายไปสู่ สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต และโน้ตบุ๊ก Arm ได้ในอนาคต ตัวอย่างเช่น เกมดังอย่าง Hollow Knight: Silksong แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android แต่สามารถเล่นได้แล้วบนมือถือ Samsung Galaxy ผ่านเทคโนโลยีใหม่นี้ Valve ยังเปิดตัวชื่ออย่างเป็นทางการของเลเยอร์ความเข้ากันได้สำหรับ Android คือ Lepton พร้อมโลโก้รูปกบ ซึ่งสะท้อนความตั้งใจที่จะสร้าง ecosystem ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้และนักพัฒนา โดย Lepton จะเป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันเกม PC ให้เข้าถึงผู้ใช้มือถือหลายพันล้านคนทั่วโลก แม้จะเป็นก้าวสำคัญ แต่ Valve ยืนยันว่าจะไม่ อุดหนุนราคาของ Steam Machine เพื่อแข่งขันกับคอนโซลรายใหญ่ เน้นการสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างและยืดหยุ่นมากกว่า ซึ่งอาจเป็นการวางรากฐานให้เกม PC กลายเป็น “แพลตฟอร์มไร้พรมแดน” ที่สามารถเล่นได้ทุกที่ ทุกอุปกรณ์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Valve ใช้ Proton + FEX Emulator เพื่อรันเกม Windows บน Arm ➡️ เกม Hollow Knight: Silksong เล่นได้บนมือถือ Samsung Galaxy แม้ไม่มีเวอร์ชัน Android ➡️ เปิดตัว Lepton เป็น compatibility layer สำหรับ Android พร้อมโลโก้กบ ➡️ Valve จะไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ ตลาดสมาร์ทโฟน Arm มีผู้ใช้งานมากกว่า 6 พันล้านเครื่องทั่วโลก ➡️ การเล่นเกม PC บนมือถืออาจเปลี่ยนพฤติกรรมผู้เล่นและตลาดเกมพกพา ➡️ นักพัฒนาหลายรายเริ่มสนใจการใช้ Proton และ Emulator เพื่อขยายฐานผู้เล่น ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ การรันเกม PC บนมือถืออาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพและแบตเตอรี่ ⛔ หากไม่มีการสนับสนุนจากนักพัฒนา อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้ในบางเกม ⛔ การไม่อุดหนุนราคาของ Steam Machine อาจทำให้แข่งขันกับคอนโซลยากขึ้น https://www.theverge.com/report/820656/valve-interview-arm-gaming-steamos-pierre-loup-griffais
    WWW.THEVERGE.COM
    Steam Machine today, Steam Phones tomorrow
    The Steam Frame is a Trojan horse carrying Arm’s gaming future.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft

    บทความนี้เล่าถึง 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ตั้งแต่การเปิดตัว Windows 95, การเข้าสู่ตลาดเกมด้วย Xbox, ความล้มเหลวของ Zune, ไปจนถึงการซื้อกิจการใหญ่ ๆ อย่าง Skype, LinkedIn และ Minecraft รวมถึงการเปิดตัวบริการสำคัญอย่าง Azure และ Teams

    12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ตามลำดับเวลา:
    1975 – ก่อตั้ง Microsoft Bill Gates และ Paul Allen ก่อตั้งบริษัทเพื่อพัฒนา software ให้กับ Altair 8800
    1985 – เปิดตัว Windows รุ่นแรก แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จมาก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ Windows
    1995 – เปิดตัว Windows 95 จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใช้งานง่ายขึ้นและแพร่หลายทั่วโลก
    2001 – เปิดตัว Xbox รุ่นแรก Microsoft เข้าสู่ตลาดเกมคอนโซลและกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ Sony และ Nintendo
    2006 – เปิดตัว Zune พยายามแข่งขันกับ iPod แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และยุติในปี 2011
    2008 – เปิดตัว Azure Cloud Services ก้าวเข้าสู่ตลาดคลาวด์ ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการอันดับสองรองจาก AWS
    2009 – เปิดตัว Bing กลายเป็นเครื่องมือค้นหาหลักของ Microsoft และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    2010 – เปิดตัว Windows Phone ความพยายามเข้าสู่ตลาดมือถือ แต่ไม่สามารถแข่งขันกับ iOS และ Android ได้
    2011 – ซื้อกิจการ Skype ขยายเข้าสู่ตลาด VoIP และการสื่อสารออนไลน์
    2012 – เปิดตัว Surface Tablet รุ่นแรก เข้าสู่ตลาดแท็บเล็ต แข่งขันกับ Apple iPad
    2014 – ซื้อกิจการ Minecraft (Mojang) เสริมความแข็งแกร่งในตลาดเกม ด้วยเกมยอดนิยมระดับโลก
    2016 – ซื้อกิจการ LinkedIn ขยายเข้าสู่ตลาดเครือข่ายมืออาชีพ มูลค่าการซื้อกว่า $26.2 พันล้าน

    จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่: Windows 95
    Microsoft เริ่มต้นในปี 1975 แต่การเปิดตัว Windows 95 ในปี 1995 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้าถึงผู้ใช้ทั่วไปได้ง่ายขึ้น ระบบปฏิบัติการนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมและอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องมีความรู้เชิงลึกด้านการเขียนโค้ด ถือเป็นการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ในยุคนั้น

    การเข้าสู่ตลาดเกม: Xbox
    ในปี 2001 Microsoft เปิดตัว Xbox รุ่นแรก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ Nintendo และ Sony การมาพร้อมระบบดิสก์และความสามารถในการเล่น DVD ทำให้ Xbox ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และต่อยอดไปสู่ Xbox 360, Xbox One และ Xbox Series X|S ที่ยังคงเป็นหนึ่งในคอนโซลเกมหลักของโลก

    ความล้มเหลวและบทเรียน: Zune และ Windows Phone
    ปี 2006 Microsoft เปิดตัว Zune เพื่อต่อกรกับ iPod แต่ไม่ประสบความสำเร็จและถูกยุติในปี 2011 อย่างไรก็ตาม บทเรียนจาก Zune ถูกนำไปใช้พัฒนา Windows Phone ที่เปิดตัวในปี 2010 แม้ Windows Phone จะถูกยุติในปี 2017 แต่ก็ทำให้ Microsoft ได้เรียนรู้ว่าตลาดมือถือไม่ใช่จุดแข็งของบริษัท

    การขยายสู่บริการคลาวด์และซอฟต์แวร์
    ปี 2008 Microsoft เปิดตัว Azure Cloud Services ซึ่งปัจจุบันครองตลาดคลาวด์เป็นอันดับสองรองจาก AWS และในปี 2009 เปิดตัว Bing ที่ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือค้นหาหลักของโลก นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Outlook.com (2013) และการเปิดตัว Teams (2017) ที่กลายเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารสำคัญในองค์กรทั่วโลก

    การซื้อกิจการครั้งใหญ่
    Microsoft ใช้กลยุทธ์การซื้อกิจการเพื่อขยายธุรกิจ เช่น:
    Skype (2011) เพื่อเข้าสู่ตลาด VoIP
    Minecraft (2014) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดเกม
    LinkedIn (2016) เพื่อครองตลาดเครือข่ายมืออาชีพ

    ทั้งหมดนี้ช่วยให้ Microsoft ขยายอิทธิพลไปสู่หลายอุตสาหกรรมและสร้างรายได้มหาศาล

    https://www.slashgear.com/1718888/most-important-moments-microsoft-history/
    💻 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft บทความนี้เล่าถึง 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ตั้งแต่การเปิดตัว Windows 95, การเข้าสู่ตลาดเกมด้วย Xbox, ความล้มเหลวของ Zune, ไปจนถึงการซื้อกิจการใหญ่ ๆ อย่าง Skype, LinkedIn และ Minecraft รวมถึงการเปิดตัวบริการสำคัญอย่าง Azure และ Teams 📆 12 เหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์ของ Microsoft ตามลำดับเวลา: 1975 – ก่อตั้ง Microsoft Bill Gates และ Paul Allen ก่อตั้งบริษัทเพื่อพัฒนา software ให้กับ Altair 8800 1985 – เปิดตัว Windows รุ่นแรก แม้จะยังไม่ประสบความสำเร็จมาก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของระบบปฏิบัติการ Windows 1995 – เปิดตัว Windows 95 จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลใช้งานง่ายขึ้นและแพร่หลายทั่วโลก 2001 – เปิดตัว Xbox รุ่นแรก Microsoft เข้าสู่ตลาดเกมคอนโซลและกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ Sony และ Nintendo 2006 – เปิดตัว Zune พยายามแข่งขันกับ iPod แต่ไม่ประสบความสำเร็จ และยุติในปี 2011 2008 – เปิดตัว Azure Cloud Services ก้าวเข้าสู่ตลาดคลาวด์ ปัจจุบันเป็นผู้ให้บริการอันดับสองรองจาก AWS 2009 – เปิดตัว Bing กลายเป็นเครื่องมือค้นหาหลักของ Microsoft และยังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 2010 – เปิดตัว Windows Phone ความพยายามเข้าสู่ตลาดมือถือ แต่ไม่สามารถแข่งขันกับ iOS และ Android ได้ 2011 – ซื้อกิจการ Skype ขยายเข้าสู่ตลาด VoIP และการสื่อสารออนไลน์ 2012 – เปิดตัว Surface Tablet รุ่นแรก เข้าสู่ตลาดแท็บเล็ต แข่งขันกับ Apple iPad 2014 – ซื้อกิจการ Minecraft (Mojang) เสริมความแข็งแกร่งในตลาดเกม ด้วยเกมยอดนิยมระดับโลก 2016 – ซื้อกิจการ LinkedIn ขยายเข้าสู่ตลาดเครือข่ายมืออาชีพ มูลค่าการซื้อกว่า $26.2 พันล้าน 💻 จุดเปลี่ยนครั้งใหญ่: Windows 95 Microsoft เริ่มต้นในปี 1975 แต่การเปิดตัว Windows 95 ในปี 1995 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลเข้าถึงผู้ใช้ทั่วไปได้ง่ายขึ้น ระบบปฏิบัติการนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานโปรแกรมและอินเทอร์เน็ตได้โดยไม่ต้องมีความรู้เชิงลึกด้านการเขียนโค้ด ถือเป็นการปฏิวัติวงการคอมพิวเตอร์ในยุคนั้น 🎮 การเข้าสู่ตลาดเกม: Xbox ในปี 2001 Microsoft เปิดตัว Xbox รุ่นแรก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ Nintendo และ Sony การมาพร้อมระบบดิสก์และความสามารถในการเล่น DVD ทำให้ Xbox ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และต่อยอดไปสู่ Xbox 360, Xbox One และ Xbox Series X|S ที่ยังคงเป็นหนึ่งในคอนโซลเกมหลักของโลก 📱 ความล้มเหลวและบทเรียน: Zune และ Windows Phone ปี 2006 Microsoft เปิดตัว Zune เพื่อต่อกรกับ iPod แต่ไม่ประสบความสำเร็จและถูกยุติในปี 2011 อย่างไรก็ตาม บทเรียนจาก Zune ถูกนำไปใช้พัฒนา Windows Phone ที่เปิดตัวในปี 2010 แม้ Windows Phone จะถูกยุติในปี 2017 แต่ก็ทำให้ Microsoft ได้เรียนรู้ว่าตลาดมือถือไม่ใช่จุดแข็งของบริษัท ☁️ การขยายสู่บริการคลาวด์และซอฟต์แวร์ ปี 2008 Microsoft เปิดตัว Azure Cloud Services ซึ่งปัจจุบันครองตลาดคลาวด์เป็นอันดับสองรองจาก AWS และในปี 2009 เปิดตัว Bing ที่ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือค้นหาหลักของโลก นอกจากนี้ยังมีการพัฒนา Outlook.com (2013) และการเปิดตัว Teams (2017) ที่กลายเป็นแพลตฟอร์มสื่อสารสำคัญในองค์กรทั่วโลก 🛒 การซื้อกิจการครั้งใหญ่ Microsoft ใช้กลยุทธ์การซื้อกิจการเพื่อขยายธุรกิจ เช่น: 💠 Skype (2011) เพื่อเข้าสู่ตลาด VoIP 💠 Minecraft (2014) เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในตลาดเกม 💠 LinkedIn (2016) เพื่อครองตลาดเครือข่ายมืออาชีพ ทั้งหมดนี้ช่วยให้ Microsoft ขยายอิทธิพลไปสู่หลายอุตสาหกรรมและสร้างรายได้มหาศาล https://www.slashgear.com/1718888/most-important-moments-microsoft-history/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    12 Of The Most Important Moments In Microsoft's History - SlashGear
    Microsoft has been a major player in the tech industry for decades. Over those years, it's had a lot of big milestones moments, for better and for worse.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • Privatim ประกาศ บริการคลาวด์จากสหรัฐฯ ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย

    เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 Privatim ซึ่งเป็นการประชุมของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลสวิตเซอร์แลนด์ ได้ออกมติเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลทบทวนการใช้บริการคลาวด์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญ มติระบุว่า การส่งออกข้อมูลไปยังผู้ให้บริการ SaaS ระดับโลกถือว่าไม่เหมาะสมในหลายกรณี และเน้นย้ำว่าหน่วยงานสาธารณะมีความรับผิดชอบพิเศษในการปกป้องข้อมูลประชาชน

    ปัญหาที่พบในบริการคลาวด์ต่างประเทศ
    Privatim ระบุ 5 ปัญหาหลัก ที่ทำให้บริการคลาวด์จากสหรัฐฯ ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ได้แก่:
    1️⃣ ขาดการเข้ารหัสแบบ end-to-end ที่แท้จริง
    2️⃣ ความโปร่งใสไม่เพียงพอในการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนด
    3️⃣ สูญเสียการควบคุมข้อมูลอย่างมีนัยสำคัญ
    4️⃣ ความไม่แน่นอนทางกฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลที่มีข้อผูกพันด้านความลับ
    5️⃣ กฎหมาย US CLOUD Act ที่อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลได้ไม่ว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้ที่ใด

    แนวทางแก้ไขที่เสนอ
    Privatim เสนอว่า หากหน่วยงานจำเป็นต้องใช้บริการ SaaS ระหว่างประเทศ ควรทำการ เข้ารหัสข้อมูลด้วยตนเอง และห้ามผู้ให้บริการเข้าถึงกุญแจเข้ารหัส ซึ่งข้อกำหนดนี้ทำให้บริการคลาวด์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่สามารถตอบโจทย์ได้ และผลักดันให้เกิดการพิจารณา การทำ Self-Hosting หรือการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ควบคุมได้เองมากขึ้น

    มุมมองเพิ่มเติม
    การประกาศนี้สะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นในยุโรปเกี่ยวกับการพึ่งพาบริการคลาวด์จากสหรัฐฯ ซึ่งอาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและอธิปไตยทางดิจิทัล หลายฝ่ายมองว่าเป็นสัญญาณให้รัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ หันมาใช้ โครงสร้างพื้นฐานท้องถิ่น หรือโซลูชันโอเพ่นซอร์สที่สามารถควบคุมได้มากกว่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การประกาศของ Privatim
    เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐทบทวนการใช้คลาวด์ต่างประเทศ
    เน้นความรับผิดชอบต่อข้อมูลประชาชน

    ปัญหาที่พบในบริการคลาวด์สหรัฐฯ
    ไม่มีการเข้ารหัส end-to-end
    ขาดความโปร่งใสในการตรวจสอบ
    สูญเสียการควบคุมข้อมูล
    ความไม่แน่นอนทางกฎหมาย
    US CLOUD Act เปิดช่องให้เข้าถึงข้อมูล

    แนวทางแก้ไขที่เสนอ
    หน่วยงานต้องเข้ารหัสข้อมูลเอง
    ผู้ให้บริการห้ามเข้าถึงกุญแจเข้ารหัส

    คำเตือนต่อผู้ใช้และหน่วยงานรัฐ
    หากยังใช้บริการคลาวด์ต่างประเทศโดยไม่เข้ารหัส ข้อมูลเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึง
    การพึ่งพา hyperscalers อาจกระทบต่ออธิปไตยทางดิจิทัล
    หน่วยงานที่ไม่อัปเดตแนวทางอาจละเมิดข้อกำหนดด้านความปลอดภัย

    https://itsfoss.com/news/privatim-declares-international-cloud-unsuitable/
    🛡️ Privatim ประกาศ บริการคลาวด์จากสหรัฐฯ ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 Privatim ซึ่งเป็นการประชุมของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลสวิตเซอร์แลนด์ ได้ออกมติเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลทบทวนการใช้บริการคลาวด์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญ มติระบุว่า การส่งออกข้อมูลไปยังผู้ให้บริการ SaaS ระดับโลกถือว่าไม่เหมาะสมในหลายกรณี และเน้นย้ำว่าหน่วยงานสาธารณะมีความรับผิดชอบพิเศษในการปกป้องข้อมูลประชาชน ⚙️ ปัญหาที่พบในบริการคลาวด์ต่างประเทศ Privatim ระบุ 5 ปัญหาหลัก ที่ทำให้บริการคลาวด์จากสหรัฐฯ ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ได้แก่: 1️⃣ ขาดการเข้ารหัสแบบ end-to-end ที่แท้จริง 2️⃣ ความโปร่งใสไม่เพียงพอในการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนด 3️⃣ สูญเสียการควบคุมข้อมูลอย่างมีนัยสำคัญ 4️⃣ ความไม่แน่นอนทางกฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลที่มีข้อผูกพันด้านความลับ 5️⃣ กฎหมาย US CLOUD Act ที่อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลได้ไม่ว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้ที่ใด 🔒 แนวทางแก้ไขที่เสนอ Privatim เสนอว่า หากหน่วยงานจำเป็นต้องใช้บริการ SaaS ระหว่างประเทศ ควรทำการ เข้ารหัสข้อมูลด้วยตนเอง และห้ามผู้ให้บริการเข้าถึงกุญแจเข้ารหัส ซึ่งข้อกำหนดนี้ทำให้บริการคลาวด์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่สามารถตอบโจทย์ได้ และผลักดันให้เกิดการพิจารณา การทำ Self-Hosting หรือการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ควบคุมได้เองมากขึ้น 🌐 มุมมองเพิ่มเติม การประกาศนี้สะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นในยุโรปเกี่ยวกับการพึ่งพาบริการคลาวด์จากสหรัฐฯ ซึ่งอาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและอธิปไตยทางดิจิทัล หลายฝ่ายมองว่าเป็นสัญญาณให้รัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ หันมาใช้ โครงสร้างพื้นฐานท้องถิ่น หรือโซลูชันโอเพ่นซอร์สที่สามารถควบคุมได้มากกว่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การประกาศของ Privatim ➡️ เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐทบทวนการใช้คลาวด์ต่างประเทศ ➡️ เน้นความรับผิดชอบต่อข้อมูลประชาชน ✅ ปัญหาที่พบในบริการคลาวด์สหรัฐฯ ➡️ ไม่มีการเข้ารหัส end-to-end ➡️ ขาดความโปร่งใสในการตรวจสอบ ➡️ สูญเสียการควบคุมข้อมูล ➡️ ความไม่แน่นอนทางกฎหมาย ➡️ US CLOUD Act เปิดช่องให้เข้าถึงข้อมูล ✅ แนวทางแก้ไขที่เสนอ ➡️ หน่วยงานต้องเข้ารหัสข้อมูลเอง ➡️ ผู้ให้บริการห้ามเข้าถึงกุญแจเข้ารหัส ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้และหน่วยงานรัฐ ⛔ หากยังใช้บริการคลาวด์ต่างประเทศโดยไม่เข้ารหัส ข้อมูลเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึง ⛔ การพึ่งพา hyperscalers อาจกระทบต่ออธิปไตยทางดิจิทัล ⛔ หน่วยงานที่ไม่อัปเดตแนวทางอาจละเมิดข้อกำหนดด้านความปลอดภัย https://itsfoss.com/news/privatim-declares-international-cloud-unsuitable/
    ITSFOSS.COM
    Swiss Data Protection Group Says US Cloud Giants Can't Meet Privacy Standards
    Lack of end-to-end encryption makes international cloud services unsuitable, privatim says.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Samsung เปิดตัว Galaxy Z TriFold – มือถือพับสามตอนรุ่นแรก”

    Samsung Electronics เปิดตัว Galaxy Z TriFold ที่กรุงโซล โดยเป็นสมาร์ตโฟนพับได้แบบสามตอน (สองบานพับ) ซึ่งสามารถกางออกเป็นหน้าจอขนาด 10 นิ้ว ให้ประสบการณ์เหมือนแท็บเล็ต และสามารถรันแอปได้หลายตัวพร้อมกัน จุดเด่นคือการใช้ DeX mode ที่ปรับแต่งใหม่ ทำให้เครื่องสามารถทำงานเหมือนเดสก์ท็อปได้โดยตรงบนหน้าจอใหญ่

    TriFold จะเริ่มวางขายในเกาหลีใต้วันที่ 12 ธันวาคม 2025 ด้วยราคา 3.59 ล้านวอน (ประมาณ 2,450 ดอลลาร์สหรัฐ / 10,120 ริงกิต) และจะขยายไปยังตลาดสหรัฐ จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และ UAE โดยยังไม่ประกาศราคาในสหรัฐ ขณะที่ Apple คาดว่าจะเปิดตัว iPhone พับได้รุ่นแรกในปี 2026 แบบ “book-style” คล้าย Galaxy Z Fold 7

    แม้ตลาดมือถือพับได้ยังมีสัดส่วนเพียง 2.5% ของตลาดสมาร์ตโฟนทั้งหมด แต่ Samsung ครองส่วนแบ่งถึง 64% และการเปิดตัว TriFold ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี โดยมีคู่แข่งอย่าง Huawei ที่เปิดตัว Mate XT และ Mate XTs มาก่อน แต่ยังขาดความเข้ากันได้กับแอป Android ที่ Samsung มีความได้เปรียบ

    Samsung ยังเน้นความทนทาน โดยปรับปรุงบานพับ โครงอะลูมิเนียม และหน้าจอ พร้อมเสนอส่วนลด 50% สำหรับการซ่อมหน้าจอหากเกิดความเสียหาย นอกจากนี้ยังใส่แบตเตอรี่ขนาด 5,600 mAh ซึ่งใหญ่ที่สุดในมือถือพับของ Samsung ให้ใช้งานวิดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 17 ชั่วโมง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    คุณสมบัติ Galaxy Z TriFold
    มือถือพับสามตอน (สองบานพับ)
    หน้าจอ 10 นิ้ว ใช้งานหลายแอปพร้อมกัน
    DeX mode ทำงานเหมือนเดสก์ท็อป

    การวางจำหน่าย
    เปิดตัวที่โซล 3 ธ.ค. 2025
    เริ่มขายในเกาหลีใต้ 12 ธ.ค. ราคา 3.59 ล้านวอน (~2,450 USD)
    ขยายไปสหรัฐ จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และ UAE

    สถานการณ์ตลาด
    ตลาดมือถือพับได้มีสัดส่วน 2.5% ของตลาดรวม
    Samsung ครอง 64% ของตลาด foldable
    Huawei Mate XT แข่งในจีน แต่ขาดความเข้ากันได้กับ Android apps

    ข้อควรระวัง
    มือถือพับได้ยังเป็นตลาดเล็กและราคาแพง
    ความทนทานยังเป็นข้อกังวล แม้ Samsung ปรับปรุงบานพับและโครงสร้าง
    Apple เตรียมเปิดตัว iPhone พับได้ในปี 2026 อาจเปลี่ยนการแข่งขัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/03/samsung-debuts-first-trifold-phone-ahead-of-folding-iphone
    📱 “Samsung เปิดตัว Galaxy Z TriFold – มือถือพับสามตอนรุ่นแรก” Samsung Electronics เปิดตัว Galaxy Z TriFold ที่กรุงโซล โดยเป็นสมาร์ตโฟนพับได้แบบสามตอน (สองบานพับ) ซึ่งสามารถกางออกเป็นหน้าจอขนาด 10 นิ้ว ให้ประสบการณ์เหมือนแท็บเล็ต และสามารถรันแอปได้หลายตัวพร้อมกัน จุดเด่นคือการใช้ DeX mode ที่ปรับแต่งใหม่ ทำให้เครื่องสามารถทำงานเหมือนเดสก์ท็อปได้โดยตรงบนหน้าจอใหญ่ TriFold จะเริ่มวางขายในเกาหลีใต้วันที่ 12 ธันวาคม 2025 ด้วยราคา 3.59 ล้านวอน (ประมาณ 2,450 ดอลลาร์สหรัฐ / 10,120 ริงกิต) และจะขยายไปยังตลาดสหรัฐ จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และ UAE โดยยังไม่ประกาศราคาในสหรัฐ ขณะที่ Apple คาดว่าจะเปิดตัว iPhone พับได้รุ่นแรกในปี 2026 แบบ “book-style” คล้าย Galaxy Z Fold 7 แม้ตลาดมือถือพับได้ยังมีสัดส่วนเพียง 2.5% ของตลาดสมาร์ตโฟนทั้งหมด แต่ Samsung ครองส่วนแบ่งถึง 64% และการเปิดตัว TriFold ถือเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี โดยมีคู่แข่งอย่าง Huawei ที่เปิดตัว Mate XT และ Mate XTs มาก่อน แต่ยังขาดความเข้ากันได้กับแอป Android ที่ Samsung มีความได้เปรียบ Samsung ยังเน้นความทนทาน โดยปรับปรุงบานพับ โครงอะลูมิเนียม และหน้าจอ พร้อมเสนอส่วนลด 50% สำหรับการซ่อมหน้าจอหากเกิดความเสียหาย นอกจากนี้ยังใส่แบตเตอรี่ขนาด 5,600 mAh ซึ่งใหญ่ที่สุดในมือถือพับของ Samsung ให้ใช้งานวิดีโอต่อเนื่องได้นานถึง 17 ชั่วโมง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ คุณสมบัติ Galaxy Z TriFold ➡️ มือถือพับสามตอน (สองบานพับ) ➡️ หน้าจอ 10 นิ้ว ใช้งานหลายแอปพร้อมกัน ➡️ DeX mode ทำงานเหมือนเดสก์ท็อป ✅ การวางจำหน่าย ➡️ เปิดตัวที่โซล 3 ธ.ค. 2025 ➡️ เริ่มขายในเกาหลีใต้ 12 ธ.ค. ราคา 3.59 ล้านวอน (~2,450 USD) ➡️ ขยายไปสหรัฐ จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ และ UAE ✅ สถานการณ์ตลาด ➡️ ตลาดมือถือพับได้มีสัดส่วน 2.5% ของตลาดรวม ➡️ Samsung ครอง 64% ของตลาด foldable ➡️ Huawei Mate XT แข่งในจีน แต่ขาดความเข้ากันได้กับ Android apps ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ มือถือพับได้ยังเป็นตลาดเล็กและราคาแพง ⛔ ความทนทานยังเป็นข้อกังวล แม้ Samsung ปรับปรุงบานพับและโครงสร้าง ⛔ Apple เตรียมเปิดตัว iPhone พับได้ในปี 2026 อาจเปลี่ยนการแข่งขัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/03/samsung-debuts-first-trifold-phone-ahead-of-folding-iphone
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Samsung debuts first trifold phone ahead of folding iPhone
    To preempt concerns about potential breakage, Samsung said it has refined the phone's hinges, aluminum frame and display technology to improve long-term durability.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI Security – โอกาสและความเสี่ยงในยุค Shadow AI”

    องค์กรทั่วโลกกำลังเร่งนำ AI มาใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ตั้งแต่การตรวจจับภัยคุกคาม การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการสร้างรายงานอัตโนมัติ ข้อดีคือช่วยลดเวลาในการตอบสนองต่อเหตุการณ์และลดต้นทุนจากการโจมตีได้อย่างมหาศาล เช่น รายงานของ IBM ระบุว่าองค์กรที่ใช้ AI อย่างจริงจังสามารถลดเวลาการฟื้นตัวจากการโจมตีได้ถึง 80 วัน และประหยัดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยกว่า 1.9 ล้านดอลลาร์

    อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหม่ที่เรียกว่า “Shadow AI” กำลังกลายเป็นภัยเงียบในองค์กร พนักงานจำนวนมากนำเครื่องมือ AI มาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากฝ่าย IT ทำให้ข้อมูลสำคัญถูกป้อนเข้าสู่แพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับการควบคุม ส่งผลให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและเพิ่มค่าใช้จ่ายจากการรั่วไหลของข้อมูล เช่น มีการประเมินว่าความเสียหายจาก Shadow AI อาจสูงถึง 670,000 ดอลลาร์ต่อเหตุการณ์

    นอกจากนี้ แนวโน้มปี 2025–2026 ยังชี้ว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือป้องกัน แต่ถูกใช้โดยผู้โจมตีเช่นกัน ทั้งการสร้าง Deepfake เพื่อหลอกลวง การทำฟิชชิ่งที่ซับซ้อนขึ้น และการสร้างมัลแวร์ที่เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ทำให้เกิด “แข่งอาวุธไซเบอร์” ระหว่างฝ่ายป้องกันและฝ่ายโจมตีที่ใช้ AI ทั้งคู่

    สิ่งที่ CISO และผู้บริหารควรถามก่อนเลือกใช้โซลูชัน AI คือ ความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้ ระดับการกำกับดูแล และความสามารถของผู้ขายในการป้องกันข้อมูล รวมถึงการวางมาตรการตรวจจับ Shadow AI และการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยที่เข้มแข็ง เพื่อให้การใช้ AI เป็นพลังบวก ไม่ใช่ช่องโหว่ใหม่ที่ยากควบคุม

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การใช้ AI ในการป้องกันภัยไซเบอร์
    ลดเวลาในการฟื้นตัวจากการโจมตีได้ถึง 80 วัน
    ประหยัดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยกว่า 1.9 ล้านดอลลาร์
    ใช้ในงานตรวจจับภัยคุกคาม, วิเคราะห์ข้อมูล, สร้างรายงานอัตโนมัติ

    แนวโน้มการใช้ AI ในองค์กร
    Vendor และ Startup แข่งกันนำ AI มาใส่ในโซลูชัน
    ใช้ Generative AI ในการสร้างรายงานและช่วย Threat Hunting
    AI Agent เริ่มถูกใช้ในงาน Malware Analysis และ Code Interpretation

    ความเสี่ยงจาก Shadow AI
    พนักงานใช้เครื่องมือ AI โดยไม่ได้รับอนุญาต
    ข้อมูลสำคัญถูกป้อนเข้าสู่แพลตฟอร์มที่ไม่ได้ควบคุม
    เพิ่มค่าใช้จ่ายจากการรั่วไหลของข้อมูลเฉลี่ย 670,000 ดอลลาร์

    การโจมตีที่ใช้ AI
    Deepfake และฟิชชิ่งที่ซับซ้อนขึ้น
    มัลแวร์ที่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อหลบการตรวจจับ
    การโจมตีแบบอัตโนมัติที่เร็วและยากต่อการรับมือ

    https://www.csoonline.com/article/4094763/key-questions-cisos-must-ask-before-adopting-ai-enabled-cyber-solutions.html
    🛡️ “AI Security – โอกาสและความเสี่ยงในยุค Shadow AI” องค์กรทั่วโลกกำลังเร่งนำ AI มาใช้เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ตั้งแต่การตรวจจับภัยคุกคาม การวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการสร้างรายงานอัตโนมัติ ข้อดีคือช่วยลดเวลาในการตอบสนองต่อเหตุการณ์และลดต้นทุนจากการโจมตีได้อย่างมหาศาล เช่น รายงานของ IBM ระบุว่าองค์กรที่ใช้ AI อย่างจริงจังสามารถลดเวลาการฟื้นตัวจากการโจมตีได้ถึง 80 วัน และประหยัดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยกว่า 1.9 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหม่ที่เรียกว่า “Shadow AI” กำลังกลายเป็นภัยเงียบในองค์กร พนักงานจำนวนมากนำเครื่องมือ AI มาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตจากฝ่าย IT ทำให้ข้อมูลสำคัญถูกป้อนเข้าสู่แพลตฟอร์มที่ไม่ได้รับการควบคุม ส่งผลให้เกิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัยและเพิ่มค่าใช้จ่ายจากการรั่วไหลของข้อมูล เช่น มีการประเมินว่าความเสียหายจาก Shadow AI อาจสูงถึง 670,000 ดอลลาร์ต่อเหตุการณ์ นอกจากนี้ แนวโน้มปี 2025–2026 ยังชี้ว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือป้องกัน แต่ถูกใช้โดยผู้โจมตีเช่นกัน ทั้งการสร้าง Deepfake เพื่อหลอกลวง การทำฟิชชิ่งที่ซับซ้อนขึ้น และการสร้างมัลแวร์ที่เปลี่ยนแปลงตัวเองได้ ทำให้เกิด “แข่งอาวุธไซเบอร์” ระหว่างฝ่ายป้องกันและฝ่ายโจมตีที่ใช้ AI ทั้งคู่ สิ่งที่ CISO และผู้บริหารควรถามก่อนเลือกใช้โซลูชัน AI คือ ความเสี่ยงที่องค์กรยอมรับได้ ระดับการกำกับดูแล และความสามารถของผู้ขายในการป้องกันข้อมูล รวมถึงการวางมาตรการตรวจจับ Shadow AI และการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยที่เข้มแข็ง เพื่อให้การใช้ AI เป็นพลังบวก ไม่ใช่ช่องโหว่ใหม่ที่ยากควบคุม 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การใช้ AI ในการป้องกันภัยไซเบอร์ ➡️ ลดเวลาในการฟื้นตัวจากการโจมตีได้ถึง 80 วัน ➡️ ประหยัดค่าใช้จ่ายเฉลี่ยกว่า 1.9 ล้านดอลลาร์ ➡️ ใช้ในงานตรวจจับภัยคุกคาม, วิเคราะห์ข้อมูล, สร้างรายงานอัตโนมัติ ✅ แนวโน้มการใช้ AI ในองค์กร ➡️ Vendor และ Startup แข่งกันนำ AI มาใส่ในโซลูชัน ➡️ ใช้ Generative AI ในการสร้างรายงานและช่วย Threat Hunting ➡️ AI Agent เริ่มถูกใช้ในงาน Malware Analysis และ Code Interpretation ‼️ ความเสี่ยงจาก Shadow AI ⛔ พนักงานใช้เครื่องมือ AI โดยไม่ได้รับอนุญาต ⛔ ข้อมูลสำคัญถูกป้อนเข้าสู่แพลตฟอร์มที่ไม่ได้ควบคุม ⛔ เพิ่มค่าใช้จ่ายจากการรั่วไหลของข้อมูลเฉลี่ย 670,000 ดอลลาร์ ‼️ การโจมตีที่ใช้ AI ⛔ Deepfake และฟิชชิ่งที่ซับซ้อนขึ้น ⛔ มัลแวร์ที่เปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อหลบการตรวจจับ ⛔ การโจมตีแบบอัตโนมัติที่เร็วและยากต่อการรับมือ https://www.csoonline.com/article/4094763/key-questions-cisos-must-ask-before-adopting-ai-enabled-cyber-solutions.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Key questions CISOs must ask before adopting AI-enabled cyber solutions
    From assessing your organizational risk tolerance to vetting the vendor’s long-term viability, AI-powered capabilities present complexities and nuances that require a deep commitment to determining fit.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยวโซล เกาหลี ซอรัคซาน อิสระ 1 วัน เริ่ม 8,999
    เดินทาง มี.ค. / พ.ค. 69

    🗓 จำนวนวัน 5 วัน 3 คืน
    ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์
    พักโรงแรม

    ชิงช้าสวรรค์
    ซอรัคซาน
    ห้องสมุดสตาร์ฟิล
    เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยวโซล เกาหลี ซอรัคซาน อิสระ 1 วัน 🇰🇷 เริ่ม 8,999 🔥🔥 🗓️ เดินทาง มี.ค. / พ.ค. 69 😍 🗓 จำนวนวัน 5 วัน 3 คืน ✈ BX แอร์ปูซาน / LJ จินแอร์ / 7Cเจจูแอร์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 ชิงช้าสวรรค์ 📍 ซอรัคซาน 📍 ห้องสมุดสตาร์ฟิล 📍 เที่ยวกรุงโซลแบบอิสระด้วยตัวเอง รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เกาหลี #ทัวร์โซล #korea #seoul #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 521 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 🖧 TSMC เปิดตัวโซลูชัน Optical Connectivity สำหรับชิป AI รุ่นใหม่

    ที่งาน TSMC European OIP Forum ล่าสุด บริษัท Alchip และ Ayar Labs ได้ร่วมกันสาธิตโซลูชันเชื่อมต่อแบบ Optical I/O ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม COUPE (Compact Universal Photonic Engine) ของ TSMC ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI รุ่นใหม่ โซลูชันนี้สามารถส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 100 Tb/s ต่อหนึ่งตัวเร่งความเร็ว (accelerator) และรองรับการเชื่อมต่อกับชิปอื่น ๆ ผ่านมาตรฐาน UCIe interface

    สิ่งที่น่าสนใจคือ โซลูชันนี้ช่วยให้บริษัทขนาดเล็กที่ไม่มีทรัพยากรในการพัฒนา subsystem ด้าน optical เอง สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีระดับสูงได้ โดยใช้โมดูลที่พร้อมใช้งานจาก Alchip และ Ayar Labs ทำให้ลดต้นทุนการลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์ และยังสามารถขยายระบบได้ในระดับ rack-scale หรือ multi-rack-scale เพื่อเชื่อมต่อชิปจำนวนมหาศาลให้ทำงานเหมือนเป็นโปรเซสเซอร์เดียว

    ในเชิงเทคนิค โซลูชันนี้ประกอบด้วย สาม chiplets ได้แก่ ตัว protocol converter ของ Alchip, ตัว EIC (electrical interface die) และตัว PIC (photonic integrated circuit) ของ Ayar Labs ที่ใช้สถาปัตยกรรม microring พร้อมตัวเชื่อมต่อไฟเบอร์แบบถอดได้ รองรับทั้ง PAM4 CWDM และ DWDM ซึ่งให้ latency ต่ำและอัตราความผิดพลาดของข้อมูล (BER) ที่ดีมาก

    นอกจากการเชื่อมต่อระหว่างชิปแล้ว ทีมพัฒนายังมองว่าโซลูชันนี้สามารถนำไปใช้เป็น memory extender ได้ด้วย โดย reference design ที่นำเสนอมีการรวม accelerator dies, HBM stacks และ optical engines บน substrate เดียว ทำให้เกิดการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานต่ำ ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา AI accelerators ในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    โซลูชัน Optical I/O จาก TSMC, Alchip และ Ayar Labs
    รองรับ bandwidth สูงสุด 100 Tb/s ต่อ accelerator
    ใช้มาตรฐาน UCIe interface เชื่อมต่อกับชิปอื่น ๆ

    ช่วยให้บริษัทขนาดเล็กเข้าถึงเทคโนโลยี optical connectivity ได้ง่ายขึ้น
    ลดต้นทุนการลงทุน subsystem optical หลายสิบล้านดอลลาร์
    สามารถขยายระบบได้ทั้ง rack-scale และ multi-rack-scale

    โครงสร้างสาม chiplets ที่ทำงานร่วมกัน
    Protocol converter รองรับ UCIe และ proprietary protocols
    PIC ของ Ayar Labs ใช้ microring architecture พร้อม fiber connector

    การใช้งานที่หลากหลาย
    เชื่อมต่อ XPU-to-XPU, XPU-to-switch และ switch-to-switch
    สามารถใช้เป็น memory extender ได้

    ความท้าทายและข้อควรระวัง
    การผลิตและบูรณาการ subsystem optical ต้องการความแม่นยำสูง
    หาก latency หรือ BER ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน อาจกระทบต่อประสิทธิภาพ AI accelerators
    การขยายระบบในระดับ multi-rack-scale อาจเพิ่มความซับซ้อนในการจัดการพลังงานและความเสถียร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/industrys-first-tsmc-coupe-based-optical-connectivity-solution-for-next-gen-ai-chips-displayed-alchip-and-ayar-labs-show-future-silicon-photonics-device
    🖧 TSMC เปิดตัวโซลูชัน Optical Connectivity สำหรับชิป AI รุ่นใหม่ ที่งาน TSMC European OIP Forum ล่าสุด บริษัท Alchip และ Ayar Labs ได้ร่วมกันสาธิตโซลูชันเชื่อมต่อแบบ Optical I/O ที่สร้างบนแพลตฟอร์ม COUPE (Compact Universal Photonic Engine) ของ TSMC ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการประมวลผล AI รุ่นใหม่ โซลูชันนี้สามารถส่งข้อมูลได้สูงสุดถึง 100 Tb/s ต่อหนึ่งตัวเร่งความเร็ว (accelerator) และรองรับการเชื่อมต่อกับชิปอื่น ๆ ผ่านมาตรฐาน UCIe interface สิ่งที่น่าสนใจคือ โซลูชันนี้ช่วยให้บริษัทขนาดเล็กที่ไม่มีทรัพยากรในการพัฒนา subsystem ด้าน optical เอง สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีระดับสูงได้ โดยใช้โมดูลที่พร้อมใช้งานจาก Alchip และ Ayar Labs ทำให้ลดต้นทุนการลงทุนหลายสิบล้านดอลลาร์ และยังสามารถขยายระบบได้ในระดับ rack-scale หรือ multi-rack-scale เพื่อเชื่อมต่อชิปจำนวนมหาศาลให้ทำงานเหมือนเป็นโปรเซสเซอร์เดียว ในเชิงเทคนิค โซลูชันนี้ประกอบด้วย สาม chiplets ได้แก่ ตัว protocol converter ของ Alchip, ตัว EIC (electrical interface die) และตัว PIC (photonic integrated circuit) ของ Ayar Labs ที่ใช้สถาปัตยกรรม microring พร้อมตัวเชื่อมต่อไฟเบอร์แบบถอดได้ รองรับทั้ง PAM4 CWDM และ DWDM ซึ่งให้ latency ต่ำและอัตราความผิดพลาดของข้อมูล (BER) ที่ดีมาก นอกจากการเชื่อมต่อระหว่างชิปแล้ว ทีมพัฒนายังมองว่าโซลูชันนี้สามารถนำไปใช้เป็น memory extender ได้ด้วย โดย reference design ที่นำเสนอมีการรวม accelerator dies, HBM stacks และ optical engines บน substrate เดียว ทำให้เกิดการเชื่อมต่อที่มีประสิทธิภาพสูงและใช้พลังงานต่ำ ซึ่งอาจเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนา AI accelerators ในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ โซลูชัน Optical I/O จาก TSMC, Alchip และ Ayar Labs ➡️ รองรับ bandwidth สูงสุด 100 Tb/s ต่อ accelerator ➡️ ใช้มาตรฐาน UCIe interface เชื่อมต่อกับชิปอื่น ๆ ✅ ช่วยให้บริษัทขนาดเล็กเข้าถึงเทคโนโลยี optical connectivity ได้ง่ายขึ้น ➡️ ลดต้นทุนการลงทุน subsystem optical หลายสิบล้านดอลลาร์ ➡️ สามารถขยายระบบได้ทั้ง rack-scale และ multi-rack-scale ✅ โครงสร้างสาม chiplets ที่ทำงานร่วมกัน ➡️ Protocol converter รองรับ UCIe และ proprietary protocols ➡️ PIC ของ Ayar Labs ใช้ microring architecture พร้อม fiber connector ✅ การใช้งานที่หลากหลาย ➡️ เชื่อมต่อ XPU-to-XPU, XPU-to-switch และ switch-to-switch ➡️ สามารถใช้เป็น memory extender ได้ ‼️ ความท้าทายและข้อควรระวัง ⛔ การผลิตและบูรณาการ subsystem optical ต้องการความแม่นยำสูง ⛔ หาก latency หรือ BER ไม่เป็นไปตามมาตรฐาน อาจกระทบต่อประสิทธิภาพ AI accelerators ⛔ การขยายระบบในระดับ multi-rack-scale อาจเพิ่มความซับซ้อนในการจัดการพลังงานและความเสถียร https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/industrys-first-tsmc-coupe-based-optical-connectivity-solution-for-next-gen-ai-chips-displayed-alchip-and-ayar-labs-show-future-silicon-photonics-device
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts