• อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน
    สัทธรรมลำดับที่ : 1011
    ชื่อบทธรรม :- ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1011
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลใดบุคคลหนึ่ง
    จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม เจริญกระทำให้มาก ซึ่งธรรม ๕ ประการ ;
    ผู้นั้น พึงหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้ในบรรดาผลทั้งหลายสองอย่าง
    กล่าวคือ อรหัตตผลในทิฏฐธรรม (ภพปัจจุบัน) นั่นเทียว,
    หรือว่า อนาคามิผล เมื่อยังมีอุปาทิ (เชื้อ) เหลืออยู่.

    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๕ ประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการคือ
    ภิกษุในกรณีนี้ : -
    ๑--มีสติอันตนเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในภายในนั่นเทียว
    เพื่อเกิดปัญญารู้ความ เกิดขึ้นและดับไป แห่งธรรมทั้งหลาย (อุทยตฺถคามินิยา+ปญฺญาย)​ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อุทยตฺถคามินิยา+ปญฺญาย
    ๒--มีปกติตามเห็นความไม่งามในกาย(อสุภานุปสฺสี+กาเย)​ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อสุภานุปสฺสี+กาเย
    ๓--มีความสำคัญว่า ปฏิกูลในอาหาร (อาหาเร+ปฏิกฺกูลสญฺญี)​ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อาหาเร+ปฏิกฺกูลสญฺญี
    ๔--มีความสำคัญว่า ในโลกทั้งปวงไม่มีอะไรที่น่ายินดี (สพฺพโลเก+อนภิรตสญฺญี)​ ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=สพฺพโลเก+อนภิรตสญฺญี
    ๕--มีปกติเห็นว่ ความไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวง (สพฺพสงฺขาเรสุ+อนิจฺจานุปสฺสี)​ .
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=สพฺพสงฺขาเรสุ+อนิจฺจานุปสฺสี
    --ภิกษุ ท. ! บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม
    เจริญกระทำให้มาก ซึ่งธรรม ๕ ประการเหล่านี้ ;

    +--ผู้นั้น พึงหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ในบรรดาผลทั้งหลายสองอย่าง
    กล่าวคือ #อรหัตตผลในทิฏฐธรรม (ภพปัจจุบัน--ผลานํ+อญฺญตรํ) นั่นเทียว,
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=ผลานํ+อญฺญตรํ
    หรือว่า #อนาคามิผล เมื่อยังอุปาทิเหลืออยู่ แล.-
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อนาคามิ

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/128/122.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/128/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๖๑/๑๒๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%92
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1011
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1011
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87
    ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน สัทธรรมลำดับที่ : 1011 ชื่อบทธรรม :- ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1011 เนื้อความทั้งหมด :- --ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน --ภิกษุ ท. ! บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม เจริญกระทำให้มาก ซึ่งธรรม ๕ ประการ ; ผู้นั้น พึงหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้ในบรรดาผลทั้งหลายสองอย่าง กล่าวคือ อรหัตตผลในทิฏฐธรรม (ภพปัจจุบัน) นั่นเทียว, หรือว่า อนาคามิผล เมื่อยังมีอุปาทิ (เชื้อ) เหลืออยู่. --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๕ ประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการคือ ภิกษุในกรณีนี้ : - ๑--มีสติอันตนเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในภายในนั่นเทียว เพื่อเกิดปัญญารู้ความ เกิดขึ้นและดับไป แห่งธรรมทั้งหลาย (อุทยตฺถคามินิยา+ปญฺญาย)​ ; http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อุทยตฺถคามินิยา+ปญฺญาย ๒--มีปกติตามเห็นความไม่งามในกาย(อสุภานุปสฺสี+กาเย)​ ; http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อสุภานุปสฺสี+กาเย ๓--มีความสำคัญว่า ปฏิกูลในอาหาร (อาหาเร+ปฏิกฺกูลสญฺญี)​ ; http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อาหาเร+ปฏิกฺกูลสญฺญี ๔--มีความสำคัญว่า ในโลกทั้งปวงไม่มีอะไรที่น่ายินดี (สพฺพโลเก+อนภิรตสญฺญี)​ ; http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=สพฺพโลเก+อนภิรตสญฺญี ๕--มีปกติเห็นว่ ความไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวง (สพฺพสงฺขาเรสุ+อนิจฺจานุปสฺสี)​ . http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=สพฺพสงฺขาเรสุ+อนิจฺจานุปสฺสี --ภิกษุ ท. ! บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม เจริญกระทำให้มาก ซึ่งธรรม ๕ ประการเหล่านี้ ; +--ผู้นั้น พึงหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ในบรรดาผลทั้งหลายสองอย่าง กล่าวคือ #อรหัตตผลในทิฏฐธรรม (ภพปัจจุบัน--ผลานํ+อญฺญตรํ) นั่นเทียว, http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=ผลานํ+อญฺญตรํ หรือว่า #อนาคามิผล เมื่อยังอุปาทิเหลืออยู่ แล.- http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=อนาคามิ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/128/122. http://etipitaka.com/read/thai/22/128/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๑๖๑/๑๒๒. http://etipitaka.com/read/pali/22/161/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%92 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1011 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1011 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87 ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน
    -( ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ในที่นี้ทรงแสดง สักกายะ ไว้ในฐานะเป็นสิ่งที่ตรงกัน ข้ามจาก นิพพาน, ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทั้งสองอย่างเป็นที่ตั้งแห่งความยินดีได้โดยเท่ากัน แล้วแต่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูก ). ปฏิปทาการบรรลุอรหัตต์หรืออนาคามีในภพปัจจุบัน ภิกษุ ท. ! บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม เจริญกระทำให้มาก ซึ่งธรรม ๕ ประการ ; ผู้นั้น พึงหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ในบรรดาผลทั้งหลายสองอย่าง กล่าวคือ อรหัตตผลในทิฏฐธรรม (ภพปัจจุบัน) นั่นเทียว, หรือว่า อนาคามิผล เมื่อยังมีอุปาทิ (เชื้อ) เหลืออยู่. ภิกษุ ท. ! ธรรม ๕ ประการนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ห้าประการคือ ภิกษุในกรณีนี้ : มีสติอันตนเข้าไปตั้งไว้ดีแล้วในภายในนั่นเทียว เพื่อเกิดปัญญารู้ความ เกิดขึ้นและดับไปแห่งธรรมทั้งหลาย ๑ ; มีปกติตามเห็นความไม่งามในกาย ๑ ; มีความสำคัญว่าปฏิกูลในอาหาร ๑ ; มีความสำคัญว่าในโลกทั้งปวงไม่มีอะไรที่น่ายินดี ๑ ; มีปกติเห็นความไม่เที่ยงในสังขารทั้งปวง ๑. ภิกษุ ท. ! บุคคลใดบุคคลหนึ่ง จะเป็นภิกษุหรือภิกษุณีก็ตาม เจริญกระทำให้มาก ซึ่งธรรม ๕ ประการเหล่านี้ ; ผู้นั้น พึงหวังผลอย่างใดอย่างหนึ่งได้ ในบรรดาผลทั้งหลายสองอย่าง กล่าวคือ อรหัตตผลในทิฏฐธรรม (ภพปัจจุบัน) นั่นเทียว, หรือว่า อนาคามิผล เมื่อยังอุปาทิเหลืออยู่ แล.
    0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าพอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 643
    ชื่อบทธรรม :- พอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=643
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --พอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์
    --ภิกษุ ท. !
    ผัสสะ เป็นส่วนสุดข้างหนึ่ง
    ผัสสสมุทัย เป็นส่วนสุดข้างที่สอง
    ผัสสนิโรธ มีในท่ามกลาง
    http://etipitaka.com/read/pali/22/449/?keywords=ผสฺโส
    ตัณหา #เป็นเครื่องร้อยรัดให้ติดกัน ;
    ตัณหานั่นแหละ ย่อมถักร้อยเพื่อให้เกิดขึ้นแห่งภพนั้น ๆ นั่นเทียว.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/449/?keywords=ตณฺหา

    --ภิกษุ ท. ! ด้วยความรู้เพียงเท่านี้แล
    ภิกษุชื่อว่าย่อมรู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง
    ย่อมรอบรู้ซึ่งธรรมที่ควรรอบรู้ ;
    เมื่อรู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง รอบรู้ซึ่งธรรมที่ควรรอบรู้ อยู่,
    ย่อมเป็นผู้กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ในทิฏฐธรรมเทียว.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก.อํ. 22/358/332.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/358/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก.อํ. ๒๒/๔๔๖/๓๓๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/446/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=643
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=643
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44
    ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าพอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 643 ชื่อบทธรรม :- พอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=643 เนื้อความทั้งหมด :- --พอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์ --ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นส่วนสุดข้างหนึ่ง ผัสสสมุทัย เป็นส่วนสุดข้างที่สอง ผัสสนิโรธ มีในท่ามกลาง http://etipitaka.com/read/pali/22/449/?keywords=ผสฺโส ตัณหา #เป็นเครื่องร้อยรัดให้ติดกัน ; ตัณหานั่นแหละ ย่อมถักร้อยเพื่อให้เกิดขึ้นแห่งภพนั้น ๆ นั่นเทียว. http://etipitaka.com/read/pali/22/449/?keywords=ตณฺหา --ภิกษุ ท. ! ด้วยความรู้เพียงเท่านี้แล ภิกษุชื่อว่าย่อมรู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง ย่อมรอบรู้ซึ่งธรรมที่ควรรอบรู้ ; เมื่อรู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง รอบรู้ซึ่งธรรมที่ควรรอบรู้ อยู่, ย่อมเป็นผู้กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ในทิฏฐธรรมเทียว.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ฉกฺก.อํ. 22/358/332. http://etipitaka.com/read/thai/22/358/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก.อํ. ๒๒/๔๔๖/๓๓๒. http://etipitaka.com/read/pali/22/446/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%93%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=643 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=643 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44 ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - พอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์
    -พอรู้เรื่องการร้อยรัด ก็สามารถทำที่สุดทุกข์ ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นส่วนสุดข้างหนึ่ง ผัสสสมุทัย เป็นส่วนสุดข้างที่สอง ผัสสนิโรธ มีในท่ามกลาง ตัณหา เป็นเครื่องร้อยรัดให้ติดกัน ; ตัณหานั่นแหละ ย่อมถักร้อยเพื่อให้เกิดขึ้นแห่งภพนั้น ๆ นั่นเทียว. ภิกษุ ท. !ด้วยความรู้เพียงเท่านี้แล ภิกษุชื่อว่าย่อมรู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง ย่อมรอบรู้ซึ่งธรรมที่ควรรอบรู้ ; เมื่อรู้ยิ่งซึ่งธรรมที่ควรรู้ยิ่ง รอบรู้ซึ่งธรรมที่ควรรอบรู้ อยู่, ย่อมเป็นผู้กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ในทิฏฐธรรมเทียว.
    0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • ซูมีไหวมั้ย!!!
    ส.ส.ยูเครน เรียกร้องประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ซูมี – การป้องกันกำลังพังทลาย รัสเซียเดินหน้าต่อไม่มีท่าทีจะหยุด!

    ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศปลดปล่อยแอนดรีฟกา (Andriivka) ในภูมิภาคซูมี ได้อีกหนึ่งแห่ง

    มาริอานา เบซูห์ลา ส.ส.ยูเครน เรียกร้องให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่แนวหน้าของภูมิภาคซูมีโดยทันที เธอยอมรับว่าภูมิภาคนี้ไม่มีการเตรียมพร้อมและไม่มีการป้องกัน

    นอกจากนี้ ผู้ว่าการภูมิภาคยังล้มเหลวในการบัลคับบัญชา มีการขัดแย้งและต่อสู้ทางการเมืองภายในมากมาย

    ตามที่สส.กล่าว เธอเห็นด้วยที่กองกำลังรัสเซียระบุว่าซูมีคือพื้นที่ที่อ่อนแอที่สุด

    ซูมีไหวมั้ย!!! ส.ส.ยูเครน เรียกร้องประชาชนอพยพออกจากพื้นที่ซูมี – การป้องกันกำลังพังทลาย รัสเซียเดินหน้าต่อไม่มีท่าทีจะหยุด! ขณะเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศปลดปล่อยแอนดรีฟกา (Andriivka) ในภูมิภาคซูมี ได้อีกหนึ่งแห่ง มาริอานา เบซูห์ลา ส.ส.ยูเครน เรียกร้องให้ประชาชนอพยพออกจากพื้นที่แนวหน้าของภูมิภาคซูมีโดยทันที เธอยอมรับว่าภูมิภาคนี้ไม่มีการเตรียมพร้อมและไม่มีการป้องกัน นอกจากนี้ ผู้ว่าการภูมิภาคยังล้มเหลวในการบัลคับบัญชา มีการขัดแย้งและต่อสู้ทางการเมืองภายในมากมาย ตามที่สส.กล่าว เธอเห็นด้วยที่กองกำลังรัสเซียระบุว่าซูมีคือพื้นที่ที่อ่อนแอที่สุด
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • ผ่านไปมากกว่า 48 ชั่วโมง จากเหตุการณ์โจมตีฐานทัพอากาศรัสเซียด้วยโดรนของยูเครน

    นี่คือความคิดเห็นแรกจากเจ้าหน้าที่ระดูบสูง "ดมีทรี เมดเวเดฟ" รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย:

    "ถึงทุกคนที่กังวลและรอการแก้แค้น

    เป็นเรื่องถูกต้องที่จะกังวล นั่นคือสิ่งที่คนปกติทำ การแก้แค้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะเดียวกัน อยากให้พวกเรารับรู้ไว้ด้วยว่า

    1.กองทัพของเรากำลังรุกคืบอย่างแข็งขัน และจะรุกคืบต่อไป สิ่งที่ควรระเบิดจะถูกทำลายอย่างแน่นอน และผู้ที่สมควรจะถูกกำจัดจะต้องหายไป

    2. การเจรจาในอิสตันบูลไม่จำเป็นจะต้องเกิดสันติภาพในแบบประนีประนอมภายใต้เงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ที่ใครบางคนเพียงแค่คิดขึ้นมา

    ชัยชนะที่รวดเร็วของเรา และการทำลายล้างรัฐบาลนีโอนาซีให้สิ้นซาก นี่ต่างหากคือความหมายของบันทึกความเข้าใจของรัสเซียที่เผยแพร่เมื่อวานนี้"


    ผ่านไปมากกว่า 48 ชั่วโมง จากเหตุการณ์โจมตีฐานทัพอากาศรัสเซียด้วยโดรนของยูเครน นี่คือความคิดเห็นแรกจากเจ้าหน้าที่ระดูบสูง "ดมีทรี เมดเวเดฟ" รองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย และอดีตประธานาธิบดีรัสเซีย: "ถึงทุกคนที่กังวลและรอการแก้แค้น เป็นเรื่องถูกต้องที่จะกังวล นั่นคือสิ่งที่คนปกติทำ การแก้แค้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ในขณะเดียวกัน อยากให้พวกเรารับรู้ไว้ด้วยว่า 1.กองทัพของเรากำลังรุกคืบอย่างแข็งขัน และจะรุกคืบต่อไป สิ่งที่ควรระเบิดจะถูกทำลายอย่างแน่นอน และผู้ที่สมควรจะถูกกำจัดจะต้องหายไป 2. การเจรจาในอิสตันบูลไม่จำเป็นจะต้องเกิดสันติภาพในแบบประนีประนอมภายใต้เงื่อนไขที่เป็นไปไม่ได้ที่ใครบางคนเพียงแค่คิดขึ้นมา ชัยชนะที่รวดเร็วของเรา และการทำลายล้างรัฐบาลนีโอนาซีให้สิ้นซาก นี่ต่างหากคือความหมายของบันทึกความเข้าใจของรัสเซียที่เผยแพร่เมื่อวานนี้"
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • ..การปกครองที่เสื่อมทราม,วิถีปกครองที่ล้มเหลว,ประเทศไทยต้องล้างทั้งระบบระบอบอย่างจริงจัง,ระบบราชการมาตรฐานพังทั้งระบบเพราะหัวพัง ท้ายพังแน่นอน,บวกวิถีการเลือกตั้งในนามบริบทว่า สภา.สส.สว.นายกฯ.พรรคการเมืองทั้งหมดถือว่าพังและล้มเหลวเช่นกัน,ลามไปถึงข้อกฎหมายที่สภา.สส.สว.เขียนตีตราใช้บังคับด้วยล้วนโมฆะไปด้วย,ตลอดกฎหมายของกระทรวงทบวงกรมก็เผาทิ้งทั้งหมดโดยเฉพาะกฎหมายปิโตรเลียมเป็นตัวอย่างทีีดีที่สุดของวิถีกฎหมายที่เป็นภัยคุกคามเสียเองต่อความมั่นคงของประเทศไทยและภัยตรงต่อประชาชนทุกๆคนที่กฎหมายปิโตรเลียมตีตรามีผลบังคับใช้ออกมาถึงปัจจุบัน,มันคือความล้มเหลวของวิถีการปกครอง,หากทำสงครามเสมือนว่าประเทศไทยแพ้ตั้งแต่ยังไม่ออกรบ,หรือมันถูกออกแบบมาให้แพ้ตั้งแต่เริ่ม,เหมือนวิถีชีวิตคนไทยที่ถูกออกแบบมาให้แพ้ตั้งแต่ต้นจากระบบที่ออกแบบมิใช้คนไทยชนะใครคนใดชนะในหมากอิสระแห่งสัมมาชีวิต,ตย.ง่ายๆคืออิสระภาพทางการเงิน เรียน จบเรียนทำงาน มีเงินเดือนหรือมีอาชีพสาระพัด,สุดท้ายคนไทยทั้งคนราชการ คนงานเอกชนล้วนต่างตกเป็นทาสหนี้ของระบบทาสตังทั้งประเทศ หนี้เต็มคนไทย ตังติดลบ ดิ้นรนแทบตายไม่พอจ่ายบิลจ่ายค่าใช้จ่ายภาระต่างๆรอบตัวใครมัน,วังวนในกระแสทาสหนี้ทาสตัง ไร้อิสระภาพของชีวิตไม่สามารถหลุดพ้นทาสมนุษย์เงินเดือนทาสหนี้ได้,อเมริกาเอย ญี่ปุ่นเอยหนี้ล้นประเทศพร้อมล้มละลายได้ตลอดเวลาในเวลานี้,
    ..วิถีการปกครองไทยเรามีคนทรยศเป็นผู้นำผู้ปกครองนานพอแล้ว,เราสามารถพลิกฟื้นคืนสถานะอิสระภาพไทแท้แห่งจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นมนุษย์ในเผ่าพันธุ์สไตล์ไทยเราได้,เพราะพื้นฐานเราแห่งรากเหง้าตั้งไว้ดีแล้วทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์เราก็ร่วมวางรากฐานหลักชัยไว้ดีด้วยเช่นกัน นั้นคือเรามีพระมหากษัตริย์เราเองและมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ยังเต็มตรึมกระจายเกิดขึ้นรุ่นใหม่ตลอดเวลา,แค่จบผู้นำกากๆยุคนี้ไป อนาคตอาจสดใสแน่นอน.
    ..การล้างบางทั้งหมด ทางเดียวหนทางเดียวคือทหารพระราชาเรายึดอำนาจรัฐประหารและปฏิวัติการปกครองใหม่ทั้งหมด,ยุคอวกาศมาแน่นอน,ผู้ปกครองผู้นำยังกากๆมือไม่ถึง ไร้ฝีมืออยู่มันแย่แน่นอน,ต่างดาวจะนำยานบินลงมาจอดจริงไม่กี่ปีแล้ว,เราต้องเตรียมคนไทยเราพร้อมตอนรับและรับมือการถ่ายทอดเทคโนโลยีล้ำๆนี้ได้แล้ว,ประเทศไทยเราคือฮับศูนย์กลางของพลังงานจักรวาลในยุคสมัยหน้า,ใต้แผ่นดินไทยธรรมดาที่ไหน,เราจะมาติดพวกขี้กากขี้หมูขี้หมาขี้แมวนี้ไม่ได้,ข้าราชการเลวๆชั่วๆไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ต่อระบบดีงามต้องกวาดล้างและกำจัดมิให้มีชีวิตอย่างจริงจังยิ่งดี,อำนาจและตำแหน่งชี้เป็นชี้ตายในความยุติธรรมของประชาชนมากมายมหาศาลผลกระทบแต่ทำชั่วเลวเสียเอง,ไม่สมควรมีชีวิตอยู่เป็นคน.
    ..ทหารพระราชาคือหนทางเดียว ยึดอำนาจปฏิวัติทั้งหมด,อนาคตแห่งยุคใหม่มันชี้ชะตาจุดนี้แล้ว,ถ้าไม่ทำ ทาสและพังพินาศคือสิ้นชาติไทยสิ้นประเทศไทยแบบมีแต่ชื่อจะเป็นค่าจริงทันที.,นั้นคือเราแพ้ของจริง,มันชนะและทำลายสถาบันฯเราได้จริงแห่งธรรมจักรวาลเราลงได้ด้วย,สิ้นสถาบันกษัตริย์ฝันเลยว่าจะปฏิบัติสายพุทธะเราสะดวกสบายได้,หรือมันตัดตอนทำลายคนจิตวิญญาณแห่งธรรมจักรวาลเราด้วยทั้งหมด,กษัตริย์ค้ำจุนพุทธศาสนาและของคู่กันมาด้วย,ในยุคก่อนสิ้น5,000ปีพุทธกาลนี้,และมาแพ้ในยุครุ่นเรามันอนาถใจมาก,เมื่อเทียบยุคสุโขทัยต้นเรื่องมาก.


    .https://youtube.com/shorts/bMwV_iNOTbs?si=wKz0bC_aUZP33Vyx
    ..https://youtube.com/shorts/bMwV_iNOTbs?si=wKz0bC_aUZP33Vyx
    ..การปกครองที่เสื่อมทราม,วิถีปกครองที่ล้มเหลว,ประเทศไทยต้องล้างทั้งระบบระบอบอย่างจริงจัง,ระบบราชการมาตรฐานพังทั้งระบบเพราะหัวพัง ท้ายพังแน่นอน,บวกวิถีการเลือกตั้งในนามบริบทว่า สภา.สส.สว.นายกฯ.พรรคการเมืองทั้งหมดถือว่าพังและล้มเหลวเช่นกัน,ลามไปถึงข้อกฎหมายที่สภา.สส.สว.เขียนตีตราใช้บังคับด้วยล้วนโมฆะไปด้วย,ตลอดกฎหมายของกระทรวงทบวงกรมก็เผาทิ้งทั้งหมดโดยเฉพาะกฎหมายปิโตรเลียมเป็นตัวอย่างทีีดีที่สุดของวิถีกฎหมายที่เป็นภัยคุกคามเสียเองต่อความมั่นคงของประเทศไทยและภัยตรงต่อประชาชนทุกๆคนที่กฎหมายปิโตรเลียมตีตรามีผลบังคับใช้ออกมาถึงปัจจุบัน,มันคือความล้มเหลวของวิถีการปกครอง,หากทำสงครามเสมือนว่าประเทศไทยแพ้ตั้งแต่ยังไม่ออกรบ,หรือมันถูกออกแบบมาให้แพ้ตั้งแต่เริ่ม,เหมือนวิถีชีวิตคนไทยที่ถูกออกแบบมาให้แพ้ตั้งแต่ต้นจากระบบที่ออกแบบมิใช้คนไทยชนะใครคนใดชนะในหมากอิสระแห่งสัมมาชีวิต,ตย.ง่ายๆคืออิสระภาพทางการเงิน เรียน จบเรียนทำงาน มีเงินเดือนหรือมีอาชีพสาระพัด,สุดท้ายคนไทยทั้งคนราชการ คนงานเอกชนล้วนต่างตกเป็นทาสหนี้ของระบบทาสตังทั้งประเทศ หนี้เต็มคนไทย ตังติดลบ ดิ้นรนแทบตายไม่พอจ่ายบิลจ่ายค่าใช้จ่ายภาระต่างๆรอบตัวใครมัน,วังวนในกระแสทาสหนี้ทาสตัง ไร้อิสระภาพของชีวิตไม่สามารถหลุดพ้นทาสมนุษย์เงินเดือนทาสหนี้ได้,อเมริกาเอย ญี่ปุ่นเอยหนี้ล้นประเทศพร้อมล้มละลายได้ตลอดเวลาในเวลานี้, ..วิถีการปกครองไทยเรามีคนทรยศเป็นผู้นำผู้ปกครองนานพอแล้ว,เราสามารถพลิกฟื้นคืนสถานะอิสระภาพไทแท้แห่งจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นมนุษย์ในเผ่าพันธุ์สไตล์ไทยเราได้,เพราะพื้นฐานเราแห่งรากเหง้าตั้งไว้ดีแล้วทั้งพ่อแม่ครูบาอาจารย์เราก็ร่วมวางรากฐานหลักชัยไว้ดีด้วยเช่นกัน นั้นคือเรามีพระมหากษัตริย์เราเองและมีพ่อแม่ครูบาอาจารย์ยังเต็มตรึมกระจายเกิดขึ้นรุ่นใหม่ตลอดเวลา,แค่จบผู้นำกากๆยุคนี้ไป อนาคตอาจสดใสแน่นอน. ..การล้างบางทั้งหมด ทางเดียวหนทางเดียวคือทหารพระราชาเรายึดอำนาจรัฐประหารและปฏิวัติการปกครองใหม่ทั้งหมด,ยุคอวกาศมาแน่นอน,ผู้ปกครองผู้นำยังกากๆมือไม่ถึง ไร้ฝีมืออยู่มันแย่แน่นอน,ต่างดาวจะนำยานบินลงมาจอดจริงไม่กี่ปีแล้ว,เราต้องเตรียมคนไทยเราพร้อมตอนรับและรับมือการถ่ายทอดเทคโนโลยีล้ำๆนี้ได้แล้ว,ประเทศไทยเราคือฮับศูนย์กลางของพลังงานจักรวาลในยุคสมัยหน้า,ใต้แผ่นดินไทยธรรมดาที่ไหน,เราจะมาติดพวกขี้กากขี้หมูขี้หมาขี้แมวนี้ไม่ได้,ข้าราชการเลวๆชั่วๆไม่ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ต่อระบบดีงามต้องกวาดล้างและกำจัดมิให้มีชีวิตอย่างจริงจังยิ่งดี,อำนาจและตำแหน่งชี้เป็นชี้ตายในความยุติธรรมของประชาชนมากมายมหาศาลผลกระทบแต่ทำชั่วเลวเสียเอง,ไม่สมควรมีชีวิตอยู่เป็นคน. ..ทหารพระราชาคือหนทางเดียว ยึดอำนาจปฏิวัติทั้งหมด,อนาคตแห่งยุคใหม่มันชี้ชะตาจุดนี้แล้ว,ถ้าไม่ทำ ทาสและพังพินาศคือสิ้นชาติไทยสิ้นประเทศไทยแบบมีแต่ชื่อจะเป็นค่าจริงทันที.,นั้นคือเราแพ้ของจริง,มันชนะและทำลายสถาบันฯเราได้จริงแห่งธรรมจักรวาลเราลงได้ด้วย,สิ้นสถาบันกษัตริย์ฝันเลยว่าจะปฏิบัติสายพุทธะเราสะดวกสบายได้,หรือมันตัดตอนทำลายคนจิตวิญญาณแห่งธรรมจักรวาลเราด้วยทั้งหมด,กษัตริย์ค้ำจุนพุทธศาสนาและของคู่กันมาด้วย,ในยุคก่อนสิ้น5,000ปีพุทธกาลนี้,และมาแพ้ในยุครุ่นเรามันอนาถใจมาก,เมื่อเทียบยุคสุโขทัยต้นเรื่องมาก. .https://youtube.com/shorts/bMwV_iNOTbs?si=wKz0bC_aUZP33Vyx ..https://youtube.com/shorts/bMwV_iNOTbs?si=wKz0bC_aUZP33Vyx
    0 Comments 0 Shares 44 Views 0 Reviews
  • สงครามส่งด่วน…ส่งด่วนมากกจะอร่อยด่วน ก็ต้องสั่งด่วนนะคะลูกค้า …กับโปรโมชั่นเด็ดๆ 3 ปลา 199 บาท…จัดด่วน อร่อยด่วนๆไปเลยจ้าาา#สงครามส่งด่วน #ยังmoveonไม่ได้ เอาใจคนรักปลากรอบ …โปรสุดคุ้ม 199 บาท ได้รับไปเลยจุกๆ 3 ปลา …(1) ปลาจิ๊งจั๊งไม่งา 200 กรัม (2) ปลาเกล็ดขาวสามรส 200 กรัม (3) ปลาซิวทอดกรอบ 200 กรัม…ทานกันจนไปว่ายน้ำกันเลยจ้ะ…บอกเลยราคานี้คือ คุ้ม โครต คุ้มมม 🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าโปรสุดคุ้ม 199 บาท🐟🐠 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZShv7VrrH/โปรสุดคุ้ม 199 บาท🐠🐟 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/tZCnU72มัดรวมความอร่อยย ทุกรายการสินค้าในร้านเราและสินค้าใหม่เพิ่ง เปิดตะกร้า อาหารทานเล่นยอดฮิต … กำลังเป็นที่นิยมมาก ณ จุดนี้… ถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนน…ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลย😍ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ😍🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    สงครามส่งด่วน…ส่งด่วนมากกจะอร่อยด่วน ก็ต้องสั่งด่วนนะคะลูกค้า …กับโปรโมชั่นเด็ดๆ 3 ปลา 199 บาท…จัดด่วน อร่อยด่วนๆไปเลยจ้าาา#สงครามส่งด่วน #ยังmoveonไม่ได้ เอาใจคนรักปลากรอบ …โปรสุดคุ้ม 199 บาท ได้รับไปเลยจุกๆ 3 ปลา …(1) ปลาจิ๊งจั๊งไม่งา 200 กรัม (2) ปลาเกล็ดขาวสามรส 200 กรัม (3) ปลาซิวทอดกรอบ 200 กรัม…ทานกันจนไปว่ายน้ำกันเลยจ้ะ…บอกเลยราคานี้คือ คุ้ม โครต คุ้มมม 🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าโปรสุดคุ้ม 199 บาท🐟🐠 🙂 ใน TikTok https://vt.tiktok.com/ZShv7VrrH/โปรสุดคุ้ม 199 บาท🐠🐟 🙂 ใน Shopee https://th.shp.ee/tZCnU72มัดรวมความอร่อยย ทุกรายการสินค้าในร้านเราและสินค้าใหม่เพิ่ง เปิดตะกร้า อาหารทานเล่นยอดฮิต … กำลังเป็นที่นิยมมาก ณ จุดนี้… ถามว่าอร่อยกี่โมงก่อนนน…ความอร่อยลงตัวที่ห้ามไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ส่งตรงถึงหน้าบ้าน ต้องร้านเราเลยครับ… กดสั่งซื้อในตะกร้าได้เลย😍ร้านกินจุ๊บจิ๊บ อร่อย สดใหม่ ส่งไว ได้คุณภาพ😍🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดสินค้าและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาข้างเหลือง #หอยลายอบกรอบ #ปลาข้างเหลือง #ปลาซิวทอดกรอบ #หมึกกระตอย #หมึกกะตอยตากแห้ง
    0 Comments 0 Shares 49 Views 0 0 Reviews
  • นางกวักรุ่นแรก พ่อท่านเขียว วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช ปี2511
    นางกวักรุ่นแรก เนื้อผงผสมว่าน พ่อท่านเขียว วัดหรงบน ต.บางตะพง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ปี2511 // พระดีพิธีใหญ่ ของขลังที่พ่อค้าแม่ค้านิยมนับถือมาก //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณบูชาแล้ว มีแต่ความ ร่ำรวย กวักเงิน กวักทอง เรียกเงินเรียกทองให้ไหลมาเทมา อุดมสมบูรณ์และเมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เป็นมหาเสน่ห์ใครเห็นใครรัก >>

    ** หลวงปู่เขียว อินทมุนี เป็นพระคณาจารย์ชื่อดังแห่งวัดหรงบน ก่อนที่ท่านจะมรณภาพนั้นก็สามารถบอกถึงกำหนดวันมรณภาพล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ นอกจากสังขารท่านจะไม่เน่าเปื่อยแล้วยังเผาไม่ไหม้อีก พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมสูง ประสบการณ์ด้านปกป้องคุ้มครองสูงมาก ด้านคงกระพัน มหาอุด หรือเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ถือว่า หลวงปู่เขียว วัดหรงบล เป็นสุดยอดเกจิอันดับต้นๆของภาคใต้ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    นางกวักรุ่นแรก พ่อท่านเขียว วัดหรงบน จ.นครศรีธรรมราช ปี2511 นางกวักรุ่นแรก เนื้อผงผสมว่าน พ่อท่านเขียว วัดหรงบน ต.บางตะพง อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ปี2511 // พระดีพิธีใหญ่ ของขลังที่พ่อค้าแม่ค้านิยมนับถือมาก //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณบูชาแล้ว มีแต่ความ ร่ำรวย กวักเงิน กวักทอง เรียกเงินเรียกทองให้ไหลมาเทมา อุดมสมบูรณ์และเมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เป็นมหาเสน่ห์ใครเห็นใครรัก >> ** หลวงปู่เขียว อินทมุนี เป็นพระคณาจารย์ชื่อดังแห่งวัดหรงบน ก่อนที่ท่านจะมรณภาพนั้นก็สามารถบอกถึงกำหนดวันมรณภาพล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ นอกจากสังขารท่านจะไม่เน่าเปื่อยแล้วยังเผาไม่ไหม้อีก พระเครื่องและวัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมสูง ประสบการณ์ด้านปกป้องคุ้มครองสูงมาก ด้านคงกระพัน มหาอุด หรือเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ถือว่า หลวงปู่เขียว วัดหรงบล เป็นสุดยอดเกจิอันดับต้นๆของภาคใต้ >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    2 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2025 ที่ฐานทัพอากาศ Dyagilevo ในภูมิภาค Ryazan ของรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการโจมตีจากโดรนยูเครนเมื่อหลายวันก่อน

    "จากภาพถ่ายดาวเทียม ไม่พบร่องรอยผลกระทบใดๆ จากความพยายามโจมตีของโดรนยูเครน"

    สิ่งเดียวที่มองเห็นได้คือร่องรอยของเพลิงไหม้บนพื้นหญ้าทางด้านขวาของภาพ ซึ่งอาจเป็นเศษซากของโดรนที่ถูกยิงตกหรือโจมตีพลาดเป้าหมาย

    ฐานทัพอากาศแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ:
    👉เครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95MS จำนวน 3 ลำ
    👉เครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล Tu-22 M3 จำนวน 5 ลำ
    👉เครื่องบินบรรทุกน้ำมัน Il-78M จำนวน 14 ลำ (ซึ่งอาจจะมีเครื่องบินขนส่ง Il-76 รวมอยู่ด้วย)
    👉และเครื่องบินขับไล่ Su-30SM จำนวน 2 ลำ
    ภาพถ่ายดาวเทียมล่าสุดเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2025 ที่ฐานทัพอากาศ Dyagilevo ในภูมิภาค Ryazan ของรัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายการโจมตีจากโดรนยูเครนเมื่อหลายวันก่อน "จากภาพถ่ายดาวเทียม ไม่พบร่องรอยผลกระทบใดๆ จากความพยายามโจมตีของโดรนยูเครน" สิ่งเดียวที่มองเห็นได้คือร่องรอยของเพลิงไหม้บนพื้นหญ้าทางด้านขวาของภาพ ซึ่งอาจเป็นเศษซากของโดรนที่ถูกยิงตกหรือโจมตีพลาดเป้าหมาย ฐานทัพอากาศแห่งนี้เป็นที่ตั้งของ: 👉เครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95MS จำนวน 3 ลำ 👉เครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยไกล Tu-22 M3 จำนวน 5 ลำ 👉เครื่องบินบรรทุกน้ำมัน Il-78M จำนวน 14 ลำ (ซึ่งอาจจะมีเครื่องบินขนส่ง Il-76 รวมอยู่ด้วย) 👉และเครื่องบินขับไล่ Su-30SM จำนวน 2 ลำ
    0 Comments 0 Shares 71 Views 0 Reviews
  • “ปานเทพ” เสนอรัฐบาลทำหนังสือประท้วงกัมพูชาให้ชัดเจน ป้องกันกฎหมายปิดปากซ้ำรอยประสาทพระวิหาร สนับสนุนกองทัพปกป้องประเทศถึงที่สุด แสดงจุดยืนหนักแน่นไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก และปิดด่านตอบโต้

    จากกรณีปัญหาความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งยังไม่มีข้อยุติ และทางกัมพูชาเตรียมนำเรื่องไปฟ้องศาลโลก วันนี้(3 มิ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก

    “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ว่า เมื่อรัฐบาลกัมพูชาแสดงตัวเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ฝ่ายรัฐบาลไทยควรจะต้อง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051901

    #MGROnline #ปานเทพ
    “ปานเทพ” เสนอรัฐบาลทำหนังสือประท้วงกัมพูชาให้ชัดเจน ป้องกันกฎหมายปิดปากซ้ำรอยประสาทพระวิหาร สนับสนุนกองทัพปกป้องประเทศถึงที่สุด แสดงจุดยืนหนักแน่นไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก และปิดด่านตอบโต้ • จากกรณีปัญหาความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งยังไม่มีข้อยุติ และทางกัมพูชาเตรียมนำเรื่องไปฟ้องศาลโลก วันนี้(3 มิ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก • “ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์” ว่า เมื่อรัฐบาลกัมพูชาแสดงตัวเป็นภัยคุกคามต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศชาติและประชาชนชาวไทย ฝ่ายรัฐบาลไทยควรจะต้อง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051901 • #MGROnline #ปานเทพ
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 50 Views 0 Reviews
  • รมต.กต.ถึงกรุงปารีสก่อนร่วมประชุม OECD พรุ่งนี้ เผยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้ชิด สั่งปลัด กต รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย เตรียมท่าทีสำหรับเจรจาในกรอบ JBC เร็วๆ นี้ ยันผู้นำกัมพูชาขอมติสภาส่งร้องศาลโลก เป็นสิทธิ์ ไม่กระทบคุย JBC เผยประท้วงกลับกัมพูชาแล้ว ย้ำไทยปฏิบัติตามหลักสากล ยึดหลักอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน

    เมื่อเวลา 11:00 น. วันที่ 2 มิ.ย.ตามเวลาประเทศฝรั่งเศส นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรี OECD ในระดับรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ พร้อมเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าตน และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง และได้สั่งการให้ปลัดกต.เรียกประชุมกรมกองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาท่าทีในเรื่องนี้ โดยมอบนโยบายว่าเราจะต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่เรามีทุกอย่าง ไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญที่สุด คืออยากจะเห็นนโยบายที่เราจะต้องเจรจา และหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติ ไม่นำไปสู่การขยายตัวของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนไม่อยากเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างยาวนาน สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่ใช้กำลัง จึงเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นสิ่งที่นักการทูตจำเป็นจะต้องใช้

    อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ปลัด กต. ไปคุยกับกรมกองที่เกี่ยวข้องเพื่อไปรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกฎหมาย รวมภาพถ่ายทั้งหลายเตรียมท่าทีสำหรับไปเจรจาโดยเร็วในกรอบของ JBC ซึ่งตัวนี้จะมีความสำคัญ เพราะเราสามารถเจรจาหาทางออกได้ ซึ่งจะได้หรือไม่ได้นั้นตนไม่สามารถที่จะการันตีได้ แต่ว่าเป็นกลไกสำคัญที่เรามีอยู่กับกัมพูชา ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ทั้งนี้ประเทศไทยได้ผลักดันกับทางกัมพูชา ที่จะขอให้มีการจัดการประชุม JBC โดยเร็วที่สุด ขณะนี้กัมพูชา จะต้องเป็นเจ้าภาพการประชุม แต่ตนก็ยืนยันไปด้วยว่า ถ้ากัมพูชายังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยพร้อมจัด เนื่องจากเราเห็นความสำคัญของกลไกนี้ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาใน 2 ด้าน 1. การลดความตึงเครียด ที่เกิดขึ้น และ 2. การมานั่งพูดคุยว่าเราจะกำหนด หรือหาทางแก้ไขเส้นเขตแดนระหว่างประเทศได้อย่างไร

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051893

    #MGROnline #ไทย #กัมพูชา
    รมต.กต.ถึงกรุงปารีสก่อนร่วมประชุม OECD พรุ่งนี้ เผยติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้ชิด สั่งปลัด กต รวบรวมหลักฐาน โดยเฉพาะข้อกฎหมาย เตรียมท่าทีสำหรับเจรจาในกรอบ JBC เร็วๆ นี้ ยันผู้นำกัมพูชาขอมติสภาส่งร้องศาลโลก เป็นสิทธิ์ ไม่กระทบคุย JBC เผยประท้วงกลับกัมพูชาแล้ว ย้ำไทยปฏิบัติตามหลักสากล ยึดหลักอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน • เมื่อเวลา 11:00 น. วันที่ 2 มิ.ย.ตามเวลาประเทศฝรั่งเศส นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางถึงกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อเข้าร่วมการประชุมคณะมนตรี OECD ในระดับรัฐมนตรี ในวันพรุ่งนี้ พร้อมเผยถึง สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่าตน และกระทรวงการต่างประเทศ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ต่อเนื่อง และได้สั่งการให้ปลัดกต.เรียกประชุมกรมกองที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาท่าทีในเรื่องนี้ โดยมอบนโยบายว่าเราจะต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่เรามีทุกอย่าง ไปในทิศทางเดียวกัน ที่สำคัญที่สุด คืออยากจะเห็นนโยบายที่เราจะต้องเจรจา และหาทางแก้ไขปัญหานี้อย่างสันติ ไม่นำไปสู่การขยายตัวของความขัดแย้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตนไม่อยากเห็นว่าประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันอย่างยาวนาน สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องหาทางแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ไม่ใช้กำลัง จึงเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงการต่างประเทศ เป็นสิ่งที่นักการทูตจำเป็นจะต้องใช้ • อย่างไรก็ตาม ตนได้สั่งการให้ปลัด กต. ไปคุยกับกรมกองที่เกี่ยวข้องเพื่อไปรวบรวมข้อมูลด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านกฎหมาย รวมภาพถ่ายทั้งหลายเตรียมท่าทีสำหรับไปเจรจาโดยเร็วในกรอบของ JBC ซึ่งตัวนี้จะมีความสำคัญ เพราะเราสามารถเจรจาหาทางออกได้ ซึ่งจะได้หรือไม่ได้นั้นตนไม่สามารถที่จะการันตีได้ แต่ว่าเป็นกลไกสำคัญที่เรามีอยู่กับกัมพูชา ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาอย่างสันติวิธี ทั้งนี้ประเทศไทยได้ผลักดันกับทางกัมพูชา ที่จะขอให้มีการจัดการประชุม JBC โดยเร็วที่สุด ขณะนี้กัมพูชา จะต้องเป็นเจ้าภาพการประชุม แต่ตนก็ยืนยันไปด้วยว่า ถ้ากัมพูชายังไม่มีความพร้อม ประเทศไทยพร้อมจัด เนื่องจากเราเห็นความสำคัญของกลไกนี้ ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาใน 2 ด้าน 1. การลดความตึงเครียด ที่เกิดขึ้น และ 2. การมานั่งพูดคุยว่าเราจะกำหนด หรือหาทางแก้ไขเส้นเขตแดนระหว่างประเทศได้อย่างไร • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051893 • #MGROnline #ไทย #กัมพูชา
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 70 Views 0 Reviews
  • ปีพศ.2519 ช่วงเวลาที่สงครามระหว่างทางการไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทยที่ต้องการยึดประเทศ ล้มล้างการปกครอง กำลังขึ้นถึงจุดสูงสุดของความรุนแรง มีเหตุการณ์การสู้รบรุนแรงระหว่างหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย
    .
    บ้านหมากแข้ง เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ในหุบเขาไม่ห่างจากภูหินร่องกล้า เป็นหมู่บ้านเดียวในขณะนั้นที่ไม่เข้าร่วมกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ จึงถูกโจมตีอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตจำนวนมาก ขนสดที่เฮลิคอปเตอร์ของทางการถูกยิงตก ชาวบ้านต้องอพยพหนีภัยการสู้รบ
    .
    หลังจากนั้น มีการจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติการพิเศษชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และชาวบ้านที่อาสาร่วมรบ การสู้รบดำเนินต่อไปจนกระทั่งสามารถปกป้องหมู่บ้านจากการโจมตีได้สำเร็จ ตราบจนสถานการณ์สงครามในประเทศกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลงในปีพศ. 2525
    ปัจจุบันฐานปฏิบัติการสู้รบแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษา โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้สร้างเป็นอุทยานเพื่อเป็นเกียรติแก่นายทหารผู้นำการสู้รบ
    .
    นายทหารผู้นั้น ในขณะนั้นอายุไม่ถึง 24 ปีเต็ม เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว รับราชการทหารด้วยยศร้อยเอก นำชุดคุ้มครองพิเศษสู้รบอย่างกล้าหาญจนสามารถผลักดันกองกำลังผู้ก่อการร้ายออกไปได้ ชาวบ้านสามารถพาครอบครัวกลับดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยต่อไป ไม่ต้องอพยพหนีไปไหนอีก
    .
    48 ปีผ่านไป ปัจจุบันนายทหารนายนั้นดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย เป็นพระประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี ของพสกนิกรชาวไทย
    .
    ในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯในหลวง รัชกาลที่ 10 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ปกป้องแผ่นดินไทย ปวงชนชาวไทย ต่อไปยาวนานด้วยเทอญ
    .
    - สมภพ พอดี -
    ปีพศ.2519 ช่วงเวลาที่สงครามระหว่างทางการไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์ไทยที่ต้องการยึดประเทศ ล้มล้างการปกครอง กำลังขึ้นถึงจุดสูงสุดของความรุนแรง มีเหตุการณ์การสู้รบรุนแรงระหว่างหน่วยปฏิบัติการณ์พิเศษกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ที่ฐานปฏิบัติการบ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน อ.ด่านซ้าย จ.เลย . บ้านหมากแข้ง เป็นหมู่บ้านตั้งอยู่ในหุบเขาไม่ห่างจากภูหินร่องกล้า เป็นหมู่บ้านเดียวในขณะนั้นที่ไม่เข้าร่วมกับกลุ่มคอมมิวนิสต์ จึงถูกโจมตีอย่างหนัก ทำให้เจ้าหน้าที่และชาวบ้านเสียชีวิตจำนวนมาก ขนสดที่เฮลิคอปเตอร์ของทางการถูกยิงตก ชาวบ้านต้องอพยพหนีภัยการสู้รบ . หลังจากนั้น มีการจัดตั้งกลุ่มปฏิบัติการพิเศษชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ประกอบด้วย ทหาร ตำรวจ และชาวบ้านที่อาสาร่วมรบ การสู้รบดำเนินต่อไปจนกระทั่งสามารถปกป้องหมู่บ้านจากการโจมตีได้สำเร็จ ตราบจนสถานการณ์สงครามในประเทศกับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์สิ้นสุดลงในปีพศ. 2525 ปัจจุบันฐานปฏิบัติการสู้รบแห่งนี้ได้รับการดูแลรักษา โดยกองทัพภาคที่ 3 ได้สร้างเป็นอุทยานเพื่อเป็นเกียรติแก่นายทหารผู้นำการสู้รบ . นายทหารผู้นั้น ในขณะนั้นอายุไม่ถึง 24 ปีเต็ม เป็นลูกชายคนเดียวของครอบครัว รับราชการทหารด้วยยศร้อยเอก นำชุดคุ้มครองพิเศษสู้รบอย่างกล้าหาญจนสามารถผลักดันกองกำลังผู้ก่อการร้ายออกไปได้ ชาวบ้านสามารถพาครอบครัวกลับดำรงชีวิตได้อย่างปลอดภัยต่อไป ไม่ต้องอพยพหนีไปไหนอีก . 48 ปีผ่านไป ปัจจุบันนายทหารนายนั้นดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย เป็นพระประมุขแห่งราชอาณาจักรไทย เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 แห่งราชวงศ์จักรี ของพสกนิกรชาวไทย . ในวาระวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯในหลวง รัชกาลที่ 10 ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน เป็นมิ่งขวัญ เป็นร่มโพธิ์ร่มไทร ปกป้องแผ่นดินไทย ปวงชนชาวไทย ต่อไปยาวนานด้วยเทอญ . - สมภพ พอดี -
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • ดร หน่อย ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ร่วมพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 48 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสมหามงคลวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

    วันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ที่บริเวณลานอนุสาวรีณ์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 48 รูป โดยมีพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำคณะพระภิกษุสงฆ์ร่วมรับบิณฑบาต เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเจริญพระชนมายุ 47 พรรษา ในวันที่ 3 มิถุนายน 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสอันเป็นมหามงคล ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาได้กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดยในช่วงเช้าวันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ได้มีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ในช่วงบ่ายกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สมโภชพระพุทธรูปประจำจังหวัดเฉลิมพระเกียรติ ที่วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร และในช่วงเย็นกำหนดจัดพิธีถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดี ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
    ดร หน่อย ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ร่วมพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 48 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสมหามงคลวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ที่บริเวณลานอนุสาวรีณ์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 48 รูป โดยมีพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำคณะพระภิกษุสงฆ์ร่วมรับบิณฑบาต เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเจริญพระชนมายุ 47 พรรษา ในวันที่ 3 มิถุนายน 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสอันเป็นมหามงคล ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาได้กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดยในช่วงเช้าวันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ได้มีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ในช่วงบ่ายกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สมโภชพระพุทธรูปประจำจังหวัดเฉลิมพระเกียรติ ที่วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร และในช่วงเย็นกำหนดจัดพิธีถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดี ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • ดร หน่อย ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ร่วมพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 48 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสมหามงคลวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

    วันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ที่บริเวณลานอนุสาวรีณ์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 48 รูป โดยมีพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำคณะพระภิกษุสงฆ์ร่วมรับบิณฑบาต เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเจริญพระชนมายุ 47 พรรษา ในวันที่ 3 มิถุนายน 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสอันเป็นมหามงคล ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาได้กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดยในช่วงเช้าวันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ได้มีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ในช่วงบ่ายกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สมโภชพระพุทธรูปประจำจังหวัดเฉลิมพระเกียรติ ที่วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร และในช่วงเย็นกำหนดจัดพิธีถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดี ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
    ดร หน่อย ยลดา หวังศุภกิจโกศล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ร่วมพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 48 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสมหามงคลวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ที่บริเวณลานอนุสาวรีณ์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 48 รูป โดยมีพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำคณะพระภิกษุสงฆ์ร่วมรับบิณฑบาต เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเจริญพระชนมายุ 47 พรรษา ในวันที่ 3 มิถุนายน 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสอันเป็นมหามงคล ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาได้กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดยในช่วงเช้าวันนี้ (3 มิถุนายน 2568) ได้มีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ในช่วงบ่ายกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สมโภชพระพุทธรูปประจำจังหวัดเฉลิมพระเกียรติ ที่วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร และในช่วงเย็นกำหนดจัดพิธีถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดี ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • ผู้ว่าโคราช นำ ข้าราชการ และ ประชาชน ร่วมพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 48 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสมหามงคลวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

    วันนี้ (3 มิ.ย.68) ที่บริเวณลานอนุสาวรีณ์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 48 รูป โดยมีพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำคณะพระภิกษุสงฆ์ร่วมรับบิณฑบาต เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเจริญพระชนมายุ 47 พรรษา ในวันที่ 3 มิถุนายน 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสอันเป็นมหามงคล ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาได้กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดยในช่วงเช้าวันนี้ (3 มิ.ย.68) ได้มีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ในช่วงบ่ายกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สมโภชพระพุทธรูปประจำจังหวัดเฉลิมพระเกียรติ ที่วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร และในช่วงเย็นกำหนดจัดพิธีถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดี ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
    ผู้ว่าโคราช นำ ข้าราชการ และ ประชาชน ร่วมพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 48 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสมหามงคลวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันนี้ (3 มิ.ย.68) ที่บริเวณลานอนุสาวรีณ์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 48 รูป โดยมีพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำคณะพระภิกษุสงฆ์ร่วมรับบิณฑบาต เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเจริญพระชนมายุ 47 พรรษา ในวันที่ 3 มิถุนายน 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสอันเป็นมหามงคล ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาได้กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดยในช่วงเช้าวันนี้ (3 มิ.ย.68) ได้มีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ในช่วงบ่ายกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สมโภชพระพุทธรูปประจำจังหวัดเฉลิมพระเกียรติ ที่วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร และในช่วงเย็นกำหนดจัดพิธีถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดี ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • ผู้ว่าโคราช นำ ข้าราชการ และ ประชาชนร่วมพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 48 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสมหามงคลวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี

    วันนี้ (3 มิ.ย.68) ที่บริเวณลานอนุสาวรีณ์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 48 รูป โดยมีพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำคณะพระภิกษุสงฆ์ร่วมรับบิณฑบาต เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเจริญพระชนมายุ 47 พรรษา ในวันที่ 3 มิถุนายน 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสอันเป็นมหามงคล ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาได้กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดยในช่วงเช้าวันนี้ (3 มิ.ย.68) ได้มีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ในช่วงบ่ายกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สมโภชพระพุทธรูปประจำจังหวัดเฉลิมพระเกียรติ ที่วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร และในช่วงเย็นกำหนดจัดพิธีถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดี ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
    ผู้ว่าโคราช นำ ข้าราชการ และ ประชาชนร่วมพิธีตักบาตรข้าวสารอาหารแห้งแด่พระภิกษุสงฆ์ 48 รูป เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสมหามงคลวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี วันนี้ (3 มิ.ย.68) ที่บริเวณลานอนุสาวรีณ์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา นำข้าราชการ หัวหน้าส่วนราชการ ศาล ทหาร ตำรวจ และประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ร่วมกันประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และทำบุญตักบาตรข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 48 รูป โดยมีพระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา นำคณะพระภิกษุสงฆ์ร่วมรับบิณฑบาต เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี ทรงเจริญพระชนมายุ 47 พรรษา ในวันที่ 3 มิถุนายน 2568 เพื่อเฉลิมพระเกียรติถวายเป็นพระราชกุศล ในโอกาสอันเป็นมหามงคล ทั้งนี้จังหวัดนครราชสีมาได้กำหนดจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ โดยในช่วงเช้าวันนี้ (3 มิ.ย.68) ได้มีพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ในช่วงบ่ายกำหนดจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ สมโภชพระพุทธรูปประจำจังหวัดเฉลิมพระเกียรติ ที่วัดพระนารายณ์มหาราช วรวิหาร และในช่วงเย็นกำหนดจัดพิธีถวายราชสักการะ ถวายราชสดุดี ณ บริเวณสนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา
    0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • 'กัมพูชา' จะไปศาลโลก อ้างสารพัดเหตุผล 'ภูมิธรรม' ยันไม่ปิดด่าน
    .
    สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ในเวลานี้ดูเหมือนว่าฝั่งกัมพูชาจะเล่นไม่เลิกและเริ่มจะไปกันใหญ่แล้ว ภายหลังสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกฯกัมพูชา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแจ้งผลประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติและวุฒิสภาช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ว่า มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 182 เสียง ต่อแผนการดำเนินการของ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการยื่นข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทยต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก (ICJ)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051854

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    'กัมพูชา' จะไปศาลโลก อ้างสารพัดเหตุผล 'ภูมิธรรม' ยันไม่ปิดด่าน . สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างไทยกับกัมพูชาบริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ในเวลานี้ดูเหมือนว่าฝั่งกัมพูชาจะเล่นไม่เลิกและเริ่มจะไปกันใหญ่แล้ว ภายหลังสมเด็จ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาและอดีตนายกฯกัมพูชา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กแจ้งผลประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติและวุฒิสภาช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ว่า มีมติเห็นชอบเป็นเอกฉันท์ด้วยคะแนนเสียง 182 เสียง ต่อแผนการดำเนินการของ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในการยื่นข้อพิพาทชายแดนระหว่างกัมพูชากับไทยต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ศาลโลก (ICJ) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051854 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    2 Comments 0 Shares 268 Views 0 Reviews
  • ยูเครนประกาศพร้อมดำเนินการทุกขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อบรรลุสันติภาพ ระหว่างการเจรจาหารือกับรัสเซียเป็นครั้งที่ 2 ที่เมืองอิสตันบูล ของตุรกี ในวันจันทร์ (2 มิ.ย.) หรือหนึ่งวันหลังจากที่เคียฟอวดว่า ปฏิบัติการลับใช้กองทัพโดรนโจมตีที่วางแผนมานานกว่าปีของตน สามารถทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียกว่า 40 ลำ ความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นแล้วมอสโกยังเผยว่า เกิดเหตุระเบิดสะพาน 2 แห่งในแดนหมีขาวเมื่อวันเสาร์ (31 พ.ค.) และอาทิตย์ (1) มีผู้เสียชีวิต 7 คน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051820

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ยูเครนประกาศพร้อมดำเนินการทุกขั้นตอนที่จำเป็นเพื่อบรรลุสันติภาพ ระหว่างการเจรจาหารือกับรัสเซียเป็นครั้งที่ 2 ที่เมืองอิสตันบูล ของตุรกี ในวันจันทร์ (2 มิ.ย.) หรือหนึ่งวันหลังจากที่เคียฟอวดว่า ปฏิบัติการลับใช้กองทัพโดรนโจมตีที่วางแผนมานานกว่าปีของตน สามารถทำลายเครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียกว่า 40 ลำ ความเสียหายคิดเป็นมูลค่ากว่า 7,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้นแล้วมอสโกยังเผยว่า เกิดเหตุระเบิดสะพาน 2 แห่งในแดนหมีขาวเมื่อวันเสาร์ (31 พ.ค.) และอาทิตย์ (1) มีผู้เสียชีวิต 7 คน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000051820 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 274 Views 0 Reviews
  • รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต วิเคราะห์งบประมาณ 2569: เครื่องมือพยุงอำนาจ หรือแผนพัฒนาชาติ?

    ร่างงบประมาณ 3.78 ล้านล้านของรัฐบาลแพทองธาร กำลังถูกตั้งคำถามว่าเพื่อประชาชนหรือเพื่อฐานเสียงทางการเมือง?

    การจัดทำร่าง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งมีวงเงินกว่า 3.78 ล้านล้านบาท กำลังกลายเป็นประเด็นร้อน ไม่ใช่แค่เพราะเม็ดเงินมหาศาล แต่เพราะมันสะท้อนว่า รัฐบาลบริหาร “อำนาจ” และ “ความคาดหวังของประชาชน” อย่างไร

    เมื่อมองผ่านมุม เศรษฐศาสตร์การเมือง—ซึ่งวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรภายใต้แรงจูงใจทางอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง—คำถามใหญ่คือ งบนี้ออกแบบเพื่อ “พัฒนาชาติ” หรือแค่ “พยุงอำนาจ”?

    1. จากดิจิทัลวอลเล็ต สู่ท้องถิ่น: กลยุทธ์รักษาฐานเสียง?

    รัฐบาลโยกงบกว่า 157,000 ล้านบาท จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมเปิดให้ยื่นขอใช้งบในเวลาเพียง 3 วัน

    นี่อาจไม่ใช่การกระจายงบอย่างมีแผน แต่คือการ “ป้อนงบ” ให้กับเครือข่ายการเมืองท้องถิ่น ซึ่งสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงสำคัญ

    2. กู้เงิน 8.6 แสนล้าน: ลงทุนเพื่ออนาคต หรือซื้อเวลา?

    การกู้เงินขาดดุลสูงสุดในรอบ 30 ปี สะท้อนแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความคาดหวังต่อรัฐบาลใหม่ แต่อีกด้านก็มีคำถามว่า เม็ดเงินเหล่านี้จะถูกใช้ “อย่างยั่งยืน” หรือไม่?

    การไม่มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับโครงการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า นี่คือการใช้เงินเพื่อ “ผลทางการเมืองในระยะสั้น” มากกว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจจริงจัง

    3. รัฐบาลผสม กับการจัดงบแบบแบ่งเค้ก

    การที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสม ทำให้การจัดสรรงบประมาณกลายเป็นเวทีต่อรองอำนาจ
    การจัดสรรงบจำนวนมากไปยังพื้นที่ฐานเสียง และการบริหารงบกลางแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ชี้ว่าการเมืองภายในรัฐบาลส่งผลต่อการใช้งบมากกว่าความจำเป็นของประเทศ

    4. งบปี 2569 ไม่ตอบโจทย์โลกใหม่?

    แม้รัฐบาลจะพูดถึง “Soft Power” และ การผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่งบปี 2569 กลับไม่มีทิศทางชัดเจนในเรื่อง การลงทุนด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือการพัฒนาทักษะแรงงาน

    ในโลกที่เปลี่ยนเร็ว ไทยกลับยังเดินตามโมเดล “ทุ่มงบก่อสร้าง” ที่เห็นผลง่าย แต่มักไม่ตอบโจทย์ในระยะยาว โดยเฉพาะการพัฒนาปัญญาและเพิ่มทักษะแก่ประชาชน

    5. เหลื่อมล้ำยังอยู่ งบไม่ถึงชายขอบ

    การจัดงบยังคง “กระจุกตัวในเมืองใหญ่” ขณะที่งบพัฒนาจังหวัดเล็ก ๆ หรือจังหวัดชายแดนถูกลดลง งบด้านความมั่นคงกลับเพิ่มขึ้น

    ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดการบริหารที่เน้นการ “ควบคุม” มากกว่าการ “พัฒนา” ซึ่งอาจยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำฝังรากลึกลงไปอีก

    บทสรุป: เมื่อ “งบประมาณ” กลายเป็นสนามอำนาจ

    งบประมาณปี 2569 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวเลข แต่คือกระจกสะท้อนว่า รัฐบาลกำลังใช้อำนาจเพื่อใคร และอย่างไร การกระจายงบแบบไม่ทั่วถึง การกู้เงินมหาศาลโดยไร้ทิศทางระยะยาว และการเมืองแบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึก ล้วนชี้ว่ารัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับ “เสถียรภาพทางการเมือง” มากกว่าการ “พัฒนาที่ยั่งยืน”

    หากอำนาจรัฐยังใช้งบประมาณเป็นเชือกผูกโยงฐานเสียง มากกว่าการเปิดทางให้โอกาสไหลถึงประชาชนทั้งแผ่นดิน

    ความมั่งคั่งก็จะกระจุกอยู่ในหมู่ชนชั้นนำและนักการเมืองเจ้าถิ่น ขณะที่คนส่วนใหญ่จะยังจมปลักอยู่ในทะเลแห่งความเหลื่อมล้ำ—ไร้ฝั่งฝัน ไร้เส้นทางรอด”
    รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต วิเคราะห์งบประมาณ 2569: เครื่องมือพยุงอำนาจ หรือแผนพัฒนาชาติ? ร่างงบประมาณ 3.78 ล้านล้านของรัฐบาลแพทองธาร กำลังถูกตั้งคำถามว่าเพื่อประชาชนหรือเพื่อฐานเสียงทางการเมือง? การจัดทำร่าง งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ซึ่งมีวงเงินกว่า 3.78 ล้านล้านบาท กำลังกลายเป็นประเด็นร้อน ไม่ใช่แค่เพราะเม็ดเงินมหาศาล แต่เพราะมันสะท้อนว่า รัฐบาลบริหาร “อำนาจ” และ “ความคาดหวังของประชาชน” อย่างไร เมื่อมองผ่านมุม เศรษฐศาสตร์การเมือง—ซึ่งวิเคราะห์การใช้ทรัพยากรภายใต้แรงจูงใจทางอำนาจและผลประโยชน์ทางการเมือง—คำถามใหญ่คือ งบนี้ออกแบบเพื่อ “พัฒนาชาติ” หรือแค่ “พยุงอำนาจ”? 1. จากดิจิทัลวอลเล็ต สู่ท้องถิ่น: กลยุทธ์รักษาฐานเสียง? รัฐบาลโยกงบกว่า 157,000 ล้านบาท จากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ไปสู่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) พร้อมเปิดให้ยื่นขอใช้งบในเวลาเพียง 3 วัน นี่อาจไม่ใช่การกระจายงบอย่างมีแผน แต่คือการ “ป้อนงบ” ให้กับเครือข่ายการเมืองท้องถิ่น ซึ่งสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ฐานเสียงสำคัญ 2. กู้เงิน 8.6 แสนล้าน: ลงทุนเพื่ออนาคต หรือซื้อเวลา? การกู้เงินขาดดุลสูงสุดในรอบ 30 ปี สะท้อนแรงกดดันจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และความคาดหวังต่อรัฐบาลใหม่ แต่อีกด้านก็มีคำถามว่า เม็ดเงินเหล่านี้จะถูกใช้ “อย่างยั่งยืน” หรือไม่? การไม่มีรายละเอียดชัดเจนเกี่ยวกับโครงการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนระยะยาว ยิ่งทำให้เกิดข้อกังขาว่า นี่คือการใช้เงินเพื่อ “ผลทางการเมืองในระยะสั้น” มากกว่าการปฏิรูปเศรษฐกิจจริงจัง 3. รัฐบาลผสม กับการจัดงบแบบแบ่งเค้ก การที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลผสม ทำให้การจัดสรรงบประมาณกลายเป็นเวทีต่อรองอำนาจ การจัดสรรงบจำนวนมากไปยังพื้นที่ฐานเสียง และการบริหารงบกลางแบบไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ ชี้ว่าการเมืองภายในรัฐบาลส่งผลต่อการใช้งบมากกว่าความจำเป็นของประเทศ 4. งบปี 2569 ไม่ตอบโจทย์โลกใหม่? แม้รัฐบาลจะพูดถึง “Soft Power” และ การผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่งบปี 2569 กลับไม่มีทิศทางชัดเจนในเรื่อง การลงทุนด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม หรือการพัฒนาทักษะแรงงาน ในโลกที่เปลี่ยนเร็ว ไทยกลับยังเดินตามโมเดล “ทุ่มงบก่อสร้าง” ที่เห็นผลง่าย แต่มักไม่ตอบโจทย์ในระยะยาว โดยเฉพาะการพัฒนาปัญญาและเพิ่มทักษะแก่ประชาชน 5. เหลื่อมล้ำยังอยู่ งบไม่ถึงชายขอบ การจัดงบยังคง “กระจุกตัวในเมืองใหญ่” ขณะที่งบพัฒนาจังหวัดเล็ก ๆ หรือจังหวัดชายแดนถูกลดลง งบด้านความมั่นคงกลับเพิ่มขึ้น ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดการบริหารที่เน้นการ “ควบคุม” มากกว่าการ “พัฒนา” ซึ่งอาจยิ่งทำให้ความเหลื่อมล้ำฝังรากลึกลงไปอีก บทสรุป: เมื่อ “งบประมาณ” กลายเป็นสนามอำนาจ งบประมาณปี 2569 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชุดตัวเลข แต่คือกระจกสะท้อนว่า รัฐบาลกำลังใช้อำนาจเพื่อใคร และอย่างไร การกระจายงบแบบไม่ทั่วถึง การกู้เงินมหาศาลโดยไร้ทิศทางระยะยาว และการเมืองแบบอุปถัมภ์ที่ฝังรากลึก ล้วนชี้ว่ารัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับ “เสถียรภาพทางการเมือง” มากกว่าการ “พัฒนาที่ยั่งยืน” หากอำนาจรัฐยังใช้งบประมาณเป็นเชือกผูกโยงฐานเสียง มากกว่าการเปิดทางให้โอกาสไหลถึงประชาชนทั้งแผ่นดิน ความมั่งคั่งก็จะกระจุกอยู่ในหมู่ชนชั้นนำและนักการเมืองเจ้าถิ่น ขณะที่คนส่วนใหญ่จะยังจมปลักอยู่ในทะเลแห่งความเหลื่อมล้ำ—ไร้ฝั่งฝัน ไร้เส้นทางรอด”
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • ผู้หญิงไม่อาจชดเชยความมั่นคงในการทำงานที่ผู้ชายสูญเสียไปได้ เพราะความเป็นหญิงทำให้ตำแหน่งงานของเธอไม่มั่นคงในสังคมที่กีดกันทางเพศฝังรากลึกอย่างญี่ปุ่น ประมาณร้อยละ 50 ของผู้หญิงไม่กลับเข้าสู่ตลาดงานอีกหลังจากมีลูกคนแรก” และหากกลับเข้ามาก็จะไม่ได้ รับค่าจ้างที่เป็นธรรม ความแตกต่างของค่าจ้างระหว่างผู้หญิงทำอาชีพเดียวกันในญี่ปุ่นนับว่าสูงที่สุดในโลก เรื่องนี้ญี่ปุ่นแย่ยิ่งกว่าอาเซอร์ไบจานเสียอีก” ครอบครัวของผู้หญิงจะกดดันอย่างมากเพื่อให้พวกเธออยู่บ้าน “ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนอื่นดูแลลูกๆ ขอให้ถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ค่ะ” ผู้หญิงอิสราเอลที่เคยอยู่ญี่ปุ่นมาหลายปี บอกกับผมเธอทำงานที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กเอกชนแห่งหนึ่ง “มีศูนย์รับเลี้ยงเด็กระหว่างวัน ทั้งของเอกชนและของรัฐบาล แต่ความคิดที่จะจ้างพี่เลี้ยงไว้ประจำแทบไม่มีเลย แปลว่าทันทีที่เด็กเกิด(การเป็นแม่) ก็กลายเป็น งานประจำทันที”

    จากหนังสือ #โลกาปฏิวัติ #Revolt
    ผู้หญิงไม่อาจชดเชยความมั่นคงในการทำงานที่ผู้ชายสูญเสียไปได้ เพราะความเป็นหญิงทำให้ตำแหน่งงานของเธอไม่มั่นคงในสังคมที่กีดกันทางเพศฝังรากลึกอย่างญี่ปุ่น ประมาณร้อยละ 50 ของผู้หญิงไม่กลับเข้าสู่ตลาดงานอีกหลังจากมีลูกคนแรก” และหากกลับเข้ามาก็จะไม่ได้ รับค่าจ้างที่เป็นธรรม ความแตกต่างของค่าจ้างระหว่างผู้หญิงทำอาชีพเดียวกันในญี่ปุ่นนับว่าสูงที่สุดในโลก เรื่องนี้ญี่ปุ่นแย่ยิ่งกว่าอาเซอร์ไบจานเสียอีก” ครอบครัวของผู้หญิงจะกดดันอย่างมากเพื่อให้พวกเธออยู่บ้าน “ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนอื่นดูแลลูกๆ ขอให้ถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ค่ะ” ผู้หญิงอิสราเอลที่เคยอยู่ญี่ปุ่นมาหลายปี บอกกับผมเธอทำงานที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กเอกชนแห่งหนึ่ง “มีศูนย์รับเลี้ยงเด็กระหว่างวัน ทั้งของเอกชนและของรัฐบาล แต่ความคิดที่จะจ้างพี่เลี้ยงไว้ประจำแทบไม่มีเลย แปลว่าทันทีที่เด็กเกิด(การเป็นแม่) ก็กลายเป็น งานประจำทันที” จากหนังสือ #โลกาปฏิวัติ #Revolt
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • ชัดเจน‼
    สร้อยพระศอไพลินประดับเพชร ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
    .
    วันนี้ (๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖) สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงร่วมการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ ๓ และสมเด็จพระราชินีคามิลลา แห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร
    .
    สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงสร้อยพระศอและพระกุณฑลไพลินประดับเพชร ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
    .
    “สร้อยพระศอไพลินประดับเพชร” องค์นี้ ประดับเพชรโดยไพลินสีน้ำเงินเม็ดนี้มีขนาด ๑๐๙.๕๗ กะรัต จี้ไพลินสีน้ำเงินองค์นี้ เป็นฝีมือการออกแบบและประดิษฐ์จากบริษัทอัญมณี Van Cleef & Arpels จากประเทศฝรั่งเศส เมื่อประมาณปี ๒๕๐๖
    ขอบคุณข้อมูล โบราณนานมา
    #พระราชพิธีบรมราชาภิเษก
    #เดอะแมลงตาดี
    ชัดเจน‼ สร้อยพระศอไพลินประดับเพชร ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง . วันนี้ (๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖) สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินทรงร่วมการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของสมเด็จพระเจ้าชาลส์ที่ ๓ และสมเด็จพระราชินีคามิลลา แห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ณ มหาวิหารเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร . สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงสร้อยพระศอและพระกุณฑลไพลินประดับเพชร ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง . “สร้อยพระศอไพลินประดับเพชร” องค์นี้ ประดับเพชรโดยไพลินสีน้ำเงินเม็ดนี้มีขนาด ๑๐๙.๕๗ กะรัต จี้ไพลินสีน้ำเงินองค์นี้ เป็นฝีมือการออกแบบและประดิษฐ์จากบริษัทอัญมณี Van Cleef & Arpels จากประเทศฝรั่งเศส เมื่อประมาณปี ๒๕๐๖ ขอบคุณข้อมูล โบราณนานมา #พระราชพิธีบรมราชาภิเษก #เดอะแมลงตาดี
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 39 Views 0 Reviews
  • เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า“อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาของ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอถวายพระพร ให้ทรงพระกำลังแกล้วกล้า ในอันที่พิทักษ์รักษาประเทศชาติ พระบวรพุทธศาสนา และสนองพระบรมราโชบายของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้พระราชสวามี ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์โดยพร้อมพรั่ง สมดั่งพระราชปรารถนาทุกประการ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพิสูจน์พระองค์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรทั่วหน้า และมหาชนชาวโลก ว่าทรงมั่นคงในพระราชสัตยาธิษฐาน ในอันที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชจริยวัตร พระราชกรณียกิจ และพระราชปณิธานของสมเด็จบรมบพิตร สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความจงรักภักดีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์ จึงทรงดำรงพระองค์เป็นราชนารี ผู้มีพระราชอัธยาศัยประณีต ทรงเลือกเฟ้นคุณธรรมอันแยบคายหลายสถาน เป็นแรงบันดาลพระราชหฤทัย ให้ทรงสามารถรักษาพระกายสุจริต และพระวจีสุจริต พอประมาณเหมาะสม มิมากเกินไป มิน้อยเกินไป เป็นดุลยภาวะอันสงบ สุขุม สอดคล้องกับสถานการณ์ มิทรงไว้อย่างวางพระยศ แต่ก็สดใส สมสง่า ปรากฏเป็นความชื่นบานแก่ผู้ได้เฝ้าชมพระบารมี ในที่ทุกสถานและในกาลทุกเมื่อ การที่ทรงเพียรหมั่นขยัน รอบคอบ และจัดการพระราชกิจจานุกิจ ราชการในพระองค์ ตลอดจนราชการแผ่นดินโดยเรียบร้อยเช่นนี้ ช่วยเสริมส่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระราชสวามี ผู้ทรงดำรงพระราชสถานะพระประมุขของชาติ และอัครศาสนูปถัมภก ให้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ ได้อย่างราบรื่นบริบูรณ์ สมด้วยพระพุทธานุศาสนี ที่ว่าอุฏฺฐาตา กมฺมเธยฺเยสุ อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ สุสํวิหิตกมฺมนฺโต ส ราชวสตึ วเส.แปลความว่า “ผู้หมั่นในการงาน ไม่ประมาท เป็นผู้รอบคอบ จัดการงานเรียบร้อย. จึงควรอยู่ในราชการ.” ด้วยประการฉะนี้ ด้วยเดชะแห่งสัจจวาจา และอานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัย พร้อมด้วยพระราชกุศลธรรมจริยาทุกสถาน โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญอันมงคล ของมหาชนนิกรทั่วหน้า ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ๓ มิถุนายน ๒๕๖๘ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระดำรัสถวายพระพร ความว่า“อภิลักขิตสมัยเฉลิมพระชนมพรรษาของ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่ง อาตมภาพในนามคณะสงฆ์ ขอถวายพระพร ให้ทรงพระกำลังแกล้วกล้า ในอันที่พิทักษ์รักษาประเทศชาติ พระบวรพุทธศาสนา และสนองพระบรมราโชบายของสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้พระราชสวามี ให้บรรลุผลสัมฤทธิ์โดยพร้อมพรั่ง สมดั่งพระราชปรารถนาทุกประการ สมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ทรงพิสูจน์พระองค์ให้เป็นที่ประจักษ์แก่พสกนิกรทั่วหน้า และมหาชนชาวโลก ว่าทรงมั่นคงในพระราชสัตยาธิษฐาน ในอันที่จะทรงสืบสาน รักษา และต่อยอดพระราชจริยวัตร พระราชกรณียกิจ และพระราชปณิธานของสมเด็จบรมบพิตร สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ด้วยความจงรักภักดีต่อพระบรมราชจักรีวงศ์ จึงทรงดำรงพระองค์เป็นราชนารี ผู้มีพระราชอัธยาศัยประณีต ทรงเลือกเฟ้นคุณธรรมอันแยบคายหลายสถาน เป็นแรงบันดาลพระราชหฤทัย ให้ทรงสามารถรักษาพระกายสุจริต และพระวจีสุจริต พอประมาณเหมาะสม มิมากเกินไป มิน้อยเกินไป เป็นดุลยภาวะอันสงบ สุขุม สอดคล้องกับสถานการณ์ มิทรงไว้อย่างวางพระยศ แต่ก็สดใส สมสง่า ปรากฏเป็นความชื่นบานแก่ผู้ได้เฝ้าชมพระบารมี ในที่ทุกสถานและในกาลทุกเมื่อ การที่ทรงเพียรหมั่นขยัน รอบคอบ และจัดการพระราชกิจจานุกิจ ราชการในพระองค์ ตลอดจนราชการแผ่นดินโดยเรียบร้อยเช่นนี้ ช่วยเสริมส่งพระบรมเดชานุภาพแห่งพระราชสวามี ผู้ทรงดำรงพระราชสถานะพระประมุขของชาติ และอัครศาสนูปถัมภก ให้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ ได้อย่างราบรื่นบริบูรณ์ สมด้วยพระพุทธานุศาสนี ที่ว่าอุฏฺฐาตา กมฺมเธยฺเยสุ อปฺปมตฺโต วิจกฺขโณ สุสํวิหิตกมฺมนฺโต ส ราชวสตึ วเส.แปลความว่า “ผู้หมั่นในการงาน ไม่ประมาท เป็นผู้รอบคอบ จัดการงานเรียบร้อย. จึงควรอยู่ในราชการ.” ด้วยประการฉะนี้ ด้วยเดชะแห่งสัจจวาจา และอานุภาพคุณพระศรีรัตนตรัย พร้อมด้วยพระราชกุศลธรรมจริยาทุกสถาน โปรดอภิบาลรักษาสมเด็จบรมบพิตร พระราชสมภารเจ้า สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ให้ทรงพระเจริญด้วยจตุรพิธพรชัย เสด็จสถิตเป็นมิ่งขวัญอันมงคล ของมหาชนนิกรทั่วหน้า ตลอดกาลนาน เทอญ.”
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า
    สัทธรรมลำดับที่ : 1010
    ชื่อบทธรรม :- ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1010
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า

    --ก. พวกที่ไม่ทำความเย็น
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ
    เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า.
    ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้ : -
    ๑--ไม่ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ( น นิคฺคเหตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=นิคฺคณฺห
    ๒--ไม่ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ( น ปคฺคเหตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=ปคฺคเห
    ๓--ไม่ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง ( น สมฺปหํสิตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=สมฺปหํสิ
    ๔--ไม่เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง ( น อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=อชฺฌุเปกฺขิ
    ๕--เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมทราม ( หีนาธิมุตฺติโก ) ; และ
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=หีนาธิมุตฺติโก
    ๖--เป็นผู้ยินดียิ่งใน สักกายะ ( สกฺกายาภิรโต ).
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=สกฺกายาภิรโต
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เหล่านี้แล้ว
    เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า.

    ข. พวกที่ทำความเย็น
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ
    เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า.
    ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้ : -
    ๑--ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ( นิคฺคเหตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=นิคฺคเหตพฺพํ
    ๒--ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ( ปคฺคเหตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=ปคฺคเหตพฺพํ
    ๓--ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง ( สมฺปหํสิตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=สมฺปหํสิตพฺพํ
    ๔--เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง ( อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ
    ๕--เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมประณีต ( ปณีตาธิมุตฺติโก ) ; และ
    http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=ปณีตาธิมุตฺติโก
    ๖--เป็นผู้ยินดียิ่งใน นิพพาน ( นิพฺพานาภิรโต ).
    http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=นิพฺพานาภิรโต
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการเหล่านี้แล้ว
    เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่ง #ความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า แล.-

    ( ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า
    ในที่นี้ทรงแสดง สักกายะ
    ไว้ในฐานะเป็นสิ่งที่ตรงกัน ข้ามจาก นิพพาน,
    ซึ่งแสดงให้เห็นว่า
    ทั้งสองอย่างเป็นที่ตั้งแห่งความยินดีได้โดยเท่ากัน
    แล้วแต่ว่าจะเป็น ฝ่ายผิดทาง หรือ ฝ่ายถูกทาง
    ).

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/388/356.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/388/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๘๕/๓๕๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%96
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1010
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1010
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87
    ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า สัทธรรมลำดับที่ : 1010 ชื่อบทธรรม :- ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1010 เนื้อความทั้งหมด :- --ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า --ก. พวกที่ไม่ทำความเย็น --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า. ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้ : - ๑--ไม่ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ( น นิคฺคเหตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=นิคฺคณฺห ๒--ไม่ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ( น ปคฺคเหตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=ปคฺคเห ๓--ไม่ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง ( น สมฺปหํสิตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=สมฺปหํสิ ๔--ไม่เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง ( น อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=อชฺฌุเปกฺขิ ๕--เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมทราม ( หีนาธิมุตฺติโก ) ; และ http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=หีนาธิมุตฺติโก ๖--เป็นผู้ยินดียิ่งใน สักกายะ ( สกฺกายาภิรโต ). http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=สกฺกายาภิรโต --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เหล่านี้แล้ว เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า. ข. พวกที่ทำความเย็น --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า. ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้ : - ๑--ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ( นิคฺคเหตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=นิคฺคเหตพฺพํ ๒--ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ( ปคฺคเหตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=ปคฺคเหตพฺพํ ๓--ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง ( สมฺปหํสิตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=สมฺปหํสิตพฺพํ ๔--เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง ( อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ) ; http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ๕--เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมประณีต ( ปณีตาธิมุตฺติโก ) ; และ http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=ปณีตาธิมุตฺติโก ๖--เป็นผู้ยินดียิ่งใน นิพพาน ( นิพฺพานาภิรโต ). http://etipitaka.com/read/pali/22/486/?keywords=นิพฺพานาภิรโต --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการเหล่านี้แล้ว เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่ง #ความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า แล.- ( ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ในที่นี้ทรงแสดง สักกายะ ไว้ในฐานะเป็นสิ่งที่ตรงกัน ข้ามจาก นิพพาน, ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ทั้งสองอย่างเป็นที่ตั้งแห่งความยินดีได้โดยเท่ากัน แล้วแต่ว่าจะเป็น ฝ่ายผิดทาง หรือ ฝ่ายถูกทาง ). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. 22/388/356. http://etipitaka.com/read/thai/22/388/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ฉกฺก. อํ. ๒๒/๔๘๕/๓๕๖. http://etipitaka.com/read/pali/22/485/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%96 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1010 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87&id=1010 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=87 ลำดับสาธยายธรรม : 87 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_87.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า
    -ความเย็นที่ไม่มีอะไรเย็นยิ่งไปกว่า ก. พวกที่ไม่ทำความเย็น ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า. ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ? ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้ : ไม่ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ( น นิคฺคเหตพฺพํ ) ; ไม่ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ( น ปคฺคเหตพฺพํ ) ; ไม่ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง ( น สมฺปหํสิตพฺพํ ) ; ไม่เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง ( น อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ) ; เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมทราม ( หีนาธิมุตฺติโก ) ; และ เป็นผู้ยินดียิ่งใน สักกายะ ( สกฺกายาภิรโต ). ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เหล่านี้แล้ว เป็นผู้ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า. ข. พวกที่ทำความเย็น ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการ เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่งความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า. ธรรม ๖ ประการ เหล่าไหนเล่า ? ภิกษุ ท. ! ธรรมหกประการ คือ ภิกษุในกรณีนี้ : ข่มจิตในสมัยที่ควรข่ม ( นิคฺคเหตพฺพํ ) ; ประคองจิตในสมัยที่ควรประคอง ( ปคฺคเหตพฺพํ ) ; ทำจิตให้ร่าเริงในสมัยที่ควรทำจิตให้ร่าเริง ( สมฺปหํสิตพฺพํ ) ; เข้าไปเพ่งอย่างยิ่งซึ่งจิตในสมัยที่ควรเข้าไปเพ่งอย่างยิ่ง ( อชฺฌุเปกฺขิตพฺพํ ) ; เป็นผู้มีจิตน้อมไปในธรรมประณีต ( ปณีตาธิมุตฺติโก ) ; และ เป็นผู้ยินดียิ่งใน นิพพาน ( นิพฺพานาภิรโต ). ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรม ๖ ประการเหล่านี้แล้ว เป็นผู้ควรเพื่อกระทำให้แจ้งซึ่ง ความเย็นอันไม่มีอื่นยิ่งกว่า แล.
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าจะรู้จักกิเลสข้อไหนได้ก็ต่อเมื่อทำลายกิเลสนั้นเสร็จสิ้นแล้ว
    สัทธรรมลำดับที่ : 642
    ชื่อบทธรรม :- อาสวะสิ้นไปเพราะการกำจัดสมารัมภะและอวิชชา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=642
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อาสวะสิ้นไปเพราะการกำจัดสมารัมภะและอวิชชา
    --วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ?
    คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะกายสมารัมภะ
    (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางกาย)
    http://etipitaka.com/read/pali/21/268/?keywords=กายสมา
    เป็นปัจจัยเป็นเครื่อง ทำความคับแค้นเร่าร้อน ;
    เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก กายสมารัมภะ,
    อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี.
    บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และ
    ย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย.
    หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่า (นิชฺชรา) นี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นตนเอง
    http://etipitaka.com/read/pali/21/268/?keywords=นิชฺชรา
    ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู
    พึงน้อมเข้ามาในตนเป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน.
    -​-วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ
    ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”

    --วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คือ
    อาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะวจีสมารัมภะ
    (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางวาจา)
    http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=วจีสมา
    เป็นปัจจัยเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน ;
    เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก วจีสมารัมภะ,
    อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี.
    บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย
    และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/268/?keywords=นิชฺชรา
    หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง
    ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน
    เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน.
    --วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ
    ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”

    --วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ?
    คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะมโนสมารัมภะ
    (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางใจ)
    http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=มโนสมา
    เป็นปัจจัยเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน ;
    เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก มโนสมารัมภะ,
    อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี.
    บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย
    และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=นิชฺชรา
    หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง
    ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน
    เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน.
    --วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนาจะพึงไหลไปตามบุรุษ
    ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”

    --วัปปะ ! ท่านจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร ?
    คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย
    เป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน;
    เพราะการเกิดขึ้นแห่งวิชชา เพราะความสำรอกออกเสียได้หมดซึ่ง อวิชชา,
    http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=อวิชฺชา
    อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี.
    บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย
    และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้ว กระทำให้สิ้นไปด้วย.
    หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง
    ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน
    เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน.
    --วัปปะ ! อาสวะทั้งหลาย อันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ
    ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ?
    “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”-

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/189/195.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/189/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๖๖-๒๗๑/๑๙๕.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/266/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%95
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=642
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=642
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44
    ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง..
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าจะรู้จักกิเลสข้อไหนได้ก็ต่อเมื่อทำลายกิเลสนั้นเสร็จสิ้นแล้ว สัทธรรมลำดับที่ : 642 ชื่อบทธรรม :- อาสวะสิ้นไปเพราะการกำจัดสมารัมภะและอวิชชา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=642 เนื้อความทั้งหมด :- --อาสวะสิ้นไปเพราะการกำจัดสมารัมภะและอวิชชา --วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะกายสมารัมภะ (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางกาย) http://etipitaka.com/read/pali/21/268/?keywords=กายสมา เป็นปัจจัยเป็นเครื่อง ทำความคับแค้นเร่าร้อน ; เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก กายสมารัมภะ, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และ ย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย. หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่า (นิชฺชรา) นี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นตนเอง http://etipitaka.com/read/pali/21/268/?keywords=นิชฺชรา ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตนเป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. -​-วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คือ อาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะวจีสมารัมภะ (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางวาจา) http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=วจีสมา เป็นปัจจัยเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน ; เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก วจีสมารัมภะ, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย. http://etipitaka.com/read/pali/21/268/?keywords=นิชฺชรา หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. --วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะมโนสมารัมภะ (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางใจ) http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=มโนสมา เป็นปัจจัยเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน ; เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก มโนสมารัมภะ, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย. http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=นิชฺชรา หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. --วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนาจะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” --วัปปะ ! ท่านจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย เป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน; เพราะการเกิดขึ้นแห่งวิชชา เพราะความสำรอกออกเสียได้หมดซึ่ง อวิชชา, http://etipitaka.com/read/pali/21/269/?keywords=อวิชฺชา อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้ว กระทำให้สิ้นไปด้วย. หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. --วัปปะ ! อาสวะทั้งหลาย อันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”- #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/189/195. http://etipitaka.com/read/thai/21/189/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๖๖-๒๗๑/๑๙๕. http://etipitaka.com/read/pali/21/266/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=642 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=642 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44 ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง.. http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (ข้อความนี้ เป็นหลักสำคัญอย่างยิ่งที่คนธรรมดาจะไม่นึกฝัน ว่าเราจะรู้จักสิ่งใดถึงที่สุดนั้น ก็ต่อเมื่อเราจัดการกับสิ่งนั้นตามที่ควรจะทำ ถึงที่สุดแล้ว, มิใช่ว่าพอสักว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งนั้น ก็รู้จักสิ่งนั้นโดยสมบูรณ์แล้ว. ในกรณีนี้ มีใจความสำคัญว่า จะรู้จักกิเลสข้อไหนได้ ก็ต่อเมื่อ เราทำลายกิเลสนั้นเสร็จสิ้นแล้ว). อาสวะสิ้นไปเพราะการกำจัดสมารัมภะและอวิชชา
    -(ข้อความนี้ เป็นหลักสำคัญอย่างยิ่งที่คนธรรมดาจะไม่นึกฝัน ว่าเราจะรู้จักสิ่งใดถึงที่สุดนั้น ก็ต่อเมื่อเราจัดการกับสิ่งนั้นตามที่ควรจะทำ ถึงที่สุดแล้ว, มิใช่ว่าพอสักว่าเข้าไปเกี่ยวข้องกับสิ่งนั้น ก็รู้จักสิ่งนั้นโดยสมบูรณ์แล้ว. ในกรณีนี้ มีใจความสำคัญว่า จะรู้จักกิเลสข้อไหนได้ ก็ต่อเมื่อ เราทำลายกิเลสนั้นเสร็จสิ้นแล้ว). อาสวะสิ้นไปเพราะการกำจัดสมารัมภะและอวิชชา วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะกายสมารัมภะ (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางกาย) เป็นปัจจัยเป็นเครื่อง ทำความคับแค้นเร่าร้อน ; เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก กายสมารัมภะ, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย. หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่า (นิชฺชรา) นี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นตนเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะวจีสมารัมภะ (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางวาจา) เป็นปัจจัยเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน ; เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก วจีสมารัมภะ, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย. หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” วัปปะ ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะมโนสมารัมภะ (ตัณหาปรารภการกระทำกรรมทางใจ) เป็นปัจจัยเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน ; เมื่อบุคคลเว้นขาดแล้วจาก มโนสมารัมภะ, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้วกระทำให้สิ้นไปด้วย. หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. วัปปะ ! อาสวะทั้งหลายอันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนาจะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะ ใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” วัปปะ ! ท่านจะเข้าใจความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คืออาสวะทั้งหลายเหล่าใด เกิดขึ้นเพราะอวิชชาเป็นปัจจัย เป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อน; เพราะการเกิดขึ้นแห่งวิชชา เพราะความสำรอกออกเสียได้หมดซึ่ง อวิชชา, อาสวะทั้งหลาย อันเป็นเครื่องทำความคับแค้นเร่าร้อนเหล่านั้น ย่อมไม่มี. บุคคลนั้น ย่อมไม่กระทำซึ่งกรรมใหม่ด้วย และย่อมถูกต้อง ๆ ซึ่งกรรมเก่าแล้ว กระทำให้สิ้นไปด้วย. หลักธรรมปฏิปทาอันไม่รู้จักเก่านี้ เป็นธรรมอันผู้ปฏิบัติพึงเห็นเอง ไม่ขึ้นอยู่กับเวลา ควรเรียกกันมาดู พึงน้อมเข้ามาในตน เป็นธรรมที่ผู้รู้ทั้งหลายพึงรู้ได้เฉพาะตน. วัปปะ ! อาสวะทั้งหลาย อันเป็นไปเพื่อทุกขเวทนา จะพึงไหลไปตามบุรุษ ในกาลต่อไปเบื้องหน้า เนื่องมาแต่ฐานะใดเป็นเหตุ ท่านเห็นซึ่งฐานะนั้นหรือไม่ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”-
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาวิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด
    สัทธรรมลำดับที่ : 274
    ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=274
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --วิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด
    --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงแก่พวกเธอ ถึงเรื่อง ตัณหา
    อันมีธรรมชาติ เหมือนข่ายเป็นเครื่องดักสัตว์
    มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์,
    ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้
    ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก
    นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ
    จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้.
    พวกเธอ จงฟังข้อความนั้น ทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ เราจักกล่าว
    (มนสิกโรถ ภาสิสฺสามีติ)​
    http://etipitaka.com/read/pali/21/288/?keywords=มนสิกโรถ+ภาสิสฺสามี
    บัดนี้.
    +--ครั้นภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ทูลสนองรับพระพุทธดำรัสแล้ว,
    พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้ตรัส พระพุทธวจนะ
    นี้ว่า :
    ---ภิกษุ ท. ! ตัณหานั้น เป็นอย่างไรเล่า
    จึงชื่อว่ามีธรรมชาติเหมือนข่าย เป็นเครื่องดักสัตว์
    มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์,
    ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้
    ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก
    นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ
    จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้ ?
    --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง
    ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายใน และตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง
    ที่เข้าไปจับยึดขันธ์ อันเป็นภายนอก เหล่านี้ มีอยู่.
    -----
    --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง
    ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายใน เหล่านั้น เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์ อันเป็นภายใน
    นั้นคือ เมื่อมีความนึกไปในทางที่
    ว่า “เรามี เราเป็น” ดังนี้
    ก็เกิดความนึกที่เป็นไปตามอำนาจแห่งตัณหา
    ว่า “เรามีอยู่ เป็นอยู่” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น อย่าง นี้ๆ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น อย่างนั้นๆ (คืออย่างเดียวกันกับคู่เปรียบ)” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น อย่างอื่น (คือแตกต่างตรงกันข้ามจากคู่เปรียบ)” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น ผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น ผู้เที่ยง ผู้ยั่งยืน” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงมีอยู่ พึงเป็นอยู่” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงเป็น อย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงเป็น อย่างนั้นๆ ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงเป็น อย่างอื่น” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เรา มีอยู่เป็นอยู่” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนั้นๆ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างอื่น” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักมีอยู่ จักเป็นอยู่” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักเป็น อย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักเป็น อย่างนั้นๆ” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักเป็น อย่างอื่น” ดังนี้ ๑.
    ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่า ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง
    ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายใน.
    ----
    --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา)
    ๑๘ อย่าง ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก เป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก
    คือ เมื่อมีความนึกไปในทางที่
    ว่า “เรามี เราเป็น ด้วยสิ่ง (คือขันธ์อันเป็นภายนอก) นี้” ดังนี้
    ก็เกิดความนึกที่เป็นไปตามอำนาจแห่งตัณหา
    ว่า “เรามีอยู่ เป็นอยู่ ด้วยสิ่ง (คือขันธ์อันเป็นภายนอก)นี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น อย่างอื่นด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น ผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราเป็น ผู้เที่ยง ผู้ยั่งยืน ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงมีอยู่ พึงเป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราพึงเป็น อย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เรามีอยู่ เป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักมีอยู่ จักเป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑,
    ว่า “เราจักเป็น อย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑.
    ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่า ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง
    ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก.
    --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง
    ที่เข้าไปจับยึด ขันธ์อันเป็นภายในด้วย
    และตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอกด้วย
    เหล่านี้แล เรียกว่า ตัณหาวิจริต ๓๖ อย่าง.
    --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ ตัณหาวิจริตอย่างนี้แล
    เป็นอดีต ๓๖ อย่าง,
    เป็นอนาคต ๓๖ อย่าง, และ
    ปัจจุบัน ๓๖ อย่าง,
    รวมเป็นตัณหาวิจริต ๑๐๘ อย่าง.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/290/?keywords=ตณฺหาวิจริต
    --ภิกษุ ท. ! นี่แลคือ ตัณหานั้น อันมีธรรมชาติเหมือนข่ายเป็นเครื่องดักสัตว์
    มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์,
    ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้
    ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก
    นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ
    จึงไม่ล่วงพ้น อบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้
    แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/201/199.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/201/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๘๘/๑๙๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/288/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%99
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=274
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=274
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาวิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด สัทธรรมลำดับที่ : 274 ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=274 เนื้อความทั้งหมด :- --วิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงแก่พวกเธอ ถึงเรื่อง ตัณหา อันมีธรรมชาติ เหมือนข่ายเป็นเครื่องดักสัตว์ มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์, ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้ ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้. พวกเธอ จงฟังข้อความนั้น ทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ เราจักกล่าว (มนสิกโรถ ภาสิสฺสามีติ)​ http://etipitaka.com/read/pali/21/288/?keywords=มนสิกโรถ+ภาสิสฺสามี บัดนี้. +--ครั้นภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ทูลสนองรับพระพุทธดำรัสแล้ว, พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้ตรัส พระพุทธวจนะ นี้ว่า : ---ภิกษุ ท. ! ตัณหานั้น เป็นอย่างไรเล่า จึงชื่อว่ามีธรรมชาติเหมือนข่าย เป็นเครื่องดักสัตว์ มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์, ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้ ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้ ? --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายใน และตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์ อันเป็นภายนอก เหล่านี้ มีอยู่. ----- --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายใน เหล่านั้น เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์ อันเป็นภายใน นั้นคือ เมื่อมีความนึกไปในทางที่ ว่า “เรามี เราเป็น” ดังนี้ ก็เกิดความนึกที่เป็นไปตามอำนาจแห่งตัณหา ว่า “เรามีอยู่ เป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น อย่าง นี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น อย่างนั้นๆ (คืออย่างเดียวกันกับคู่เปรียบ)” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น อย่างอื่น (คือแตกต่างตรงกันข้ามจากคู่เปรียบ)” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น ผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น ผู้เที่ยง ผู้ยั่งยืน” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงมีอยู่ พึงเป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็น อย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็น อย่างนั้นๆ ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็น อย่างอื่น” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เรา มีอยู่เป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนั้นๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างอื่น” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักมีอยู่ จักเป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็น อย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็น อย่างนั้นๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็น อย่างอื่น” ดังนี้ ๑. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่า ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายใน. ---- --ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก คือ เมื่อมีความนึกไปในทางที่ ว่า “เรามี เราเป็น ด้วยสิ่ง (คือขันธ์อันเป็นภายนอก) นี้” ดังนี้ ก็เกิดความนึกที่เป็นไปตามอำนาจแห่งตัณหา ว่า “เรามีอยู่ เป็นอยู่ ด้วยสิ่ง (คือขันธ์อันเป็นภายนอก)นี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น อย่างอื่นด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น ผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็น ผู้เที่ยง ผู้ยั่งยืน ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงมีอยู่ พึงเป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็น อย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เรามีอยู่ เป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็น อย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักมีอยู่ จักเป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็น อย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็น อย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็น อย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่า ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก. --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึด ขันธ์อันเป็นภายในด้วย และตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอกด้วย เหล่านี้แล เรียกว่า ตัณหาวิจริต ๓๖ อย่าง. --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ ตัณหาวิจริตอย่างนี้แล เป็นอดีต ๓๖ อย่าง, เป็นอนาคต ๓๖ อย่าง, และ ปัจจุบัน ๓๖ อย่าง, รวมเป็นตัณหาวิจริต ๑๐๘ อย่าง. http://etipitaka.com/read/pali/21/290/?keywords=ตณฺหาวิจริต --ภิกษุ ท. ! นี่แลคือ ตัณหานั้น อันมีธรรมชาติเหมือนข่ายเป็นเครื่องดักสัตว์ มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์, ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้ ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ จึงไม่ล่วงพ้น อบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/201/199. http://etipitaka.com/read/thai/21/201/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๘๘/๑๙๙. http://etipitaka.com/read/pali/21/288/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%99%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=274 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=274 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - วิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด
    -วิภาคแห่งภวตัณหาร้อยแปด ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงแก่พวกเธอ ถึงเรื่อง ตัณหา อันมีธรรมชาติ เหมือนข่ายเป็นเครื่องดักสัตว์ มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์, ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้ ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้. พวกเธอ จงฟังข้อความนั้น ทำในใจให้สำเร็จประโยชน์ เราจักกล่าวบัดนี้. ครั้นภิกษุทั้งหลายเหล่านั้น ทูลสนองรับพระพุทธดำรัสแล้ว, พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงได้ตรัส พระพุทธวจนะนี้ว่า : ภิกษุ ท. ! ตัณหานั้น เป็นอย่างไรเล่า จึงชื่อว่ามีธรรมชาติเหมือนข่าย เป็นเครื่องดักสัตว์ มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์, ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้ ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้ ? ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง ที่เข้าไป จับยึดขันธ์อันเป็นภายใน และตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์ อันเป็นภายนอก เหล่านี้ มีอยู่. ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายใน เหล่านั้น เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์ อันเป็นภายใน นั้นคือ เมื่อมีความนึกไปในทาง ที่ว่า “เรามี เราเป็น” ดังนี้ ก็เกิดความนึกที่เป็นไปตามอำนาจแห่งตัณหา ว่า “เรามีอยู่ เป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นอย่างนั้นๆ (คืออย่างเดียวกันกับคู่เปรียบ)” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นอย่างอื่น (คือแตกต่างตรงกันข้ามจากคู่เปรียบ)” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นผู้ไม่เที่ยงไม่ยั่งยืน” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นผู้เที่ยง ผู้ยั่งยืน” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงมีอยู่ พึงเป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็นอย่างนั้นๆ ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็นอย่างอื่น” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เรามีอยู่ เป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็นอย่างนั้นๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็นอย่างอื่น” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักมีอยู่ จักเป็นอยู่” ดังนี้ ๑, ว่า “เรา จักเป็นอย่างนี้ๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็นอย่างนั้นๆ” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็นอย่างอื่น” ดังนี้ ๑. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่า ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายใน. ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต (ความนึกที่ซ่านไปด้วยอำนาจแห่งตัณหา) ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก คือ เมื่อมีความนึกไปในทางที่ว่า “เรามี เราเป็น ด้วยสิ่ง (คือขันธ์อันเป็นภายนอก) นี้” ดังนี้ ก็เกิดความนึกที่เป็นไปตามอำนาจแห่งตัณหา ว่า “เรามีอยู่ เป็นอยู่ ด้วยสิ่ง (คือขันธ์อันเป็นภายนอก)นี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นอย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นอย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นอย่างอื่นด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นผู้ไม่เที่ยง ไม่ยั่งยืน ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราเป็นผู้เที่ยง ผู้ยั่งยืน ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงมีอยู่ พึงเป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็นอย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็นอย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราพึงเป็นอย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เรามีอยู่ เป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็นอย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็นอย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “ขอให้เราเป็นอย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักมีอยู่ จักเป็นอยู่ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็นอย่างนี้ ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็นอย่างนั้น ๆ ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑, ว่า “เราจักเป็นอย่างอื่น ด้วยสิ่งนี้” ดังนี้ ๑. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่า ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอก. ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ ตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึด ขันธ์อันเป็นภายในด้วย และตัณหาวิจริต ๑๘ อย่าง ที่เข้าไปจับยึดขันธ์อันเป็นภายนอกด้วย เหล่านี้แล เรียกว่า ตัณหาวิจริต ๓๖ อย่าง. ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ ตัณหาวิจริตอย่างนี้แล เป็นอดีต ๓๖ อย่าง, เป็นอนาคต ๓๖ อย่าง, และปัจจุบัน ๓๖ อย่าง, รวมเป็นตัณหาวิจริต ๑๐๘ อย่าง. ภิกษุ ท. ! นี่แลคือ ตัณหานั้น อันมีธรรมชาติเหมือนข่ายเป็นเครื่องดักสัตว์ มีธรรมชาติไหลนอง แผ่กว้าง เป็นเครื่องเกาะเกี่ยวของสัตว์, ซึ่งด้วยตัณหานั้นเอง สัตว์โลกนี้ ถูกปกคลุมหุ้มห่อไว้ ถูกทำให้ยุ่งเหยิงเหมือนด้ายยุ่ง ประสานกันสับสนดุจรังนก นุงนังเหมือนพงหญ้ามุญชะและปัพพชะ๑ จึงไม่ล่วงพ้นอบาย ทุคติ วินิบาต และสังสารวัฏไปได้ แล.
    0 Comments 0 Shares 72 Views 0 Reviews
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเมื่อปัจจัยแห่งภวตัณหาเป็นแห่งทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 273
    ชื่อบทธรรม :- ปัจจัยแห่งภวตัณหา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=273
    เนื้อความทั้งหมด :-ปัจจัยแห่งภวตัณหา
    --ภิกษุ ท. ! ที่สุดในเบื้องต้นของภวตัณหา ย่อมไม่ปรากฏ ;
    ก่อนแต่นี้ ภวตัณหามิได้มี ;
    แต่ว่า ภวตัณหาเพิ่งมีต่อภายหลัง.
    ภิกษุ ท. ! คำกล่าวอย่างนี้แหละเป็นคำที่ใคร ๆ ควรกล่าว
    และควรกล่าวด้วยว่า “ภวตัณหา ย่อมปรากฏ เพราะมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้ภวตัณหานั้น
    ก็เป็น ธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
    ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของภวตัณหา ?
    คำตอบพึงมีว่า “อวิชชา เป็นอาหารของภวตัณหา”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้อวิชชา
    ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
    ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของอวิชชา ?
    คำตอบพึงมีว่า “นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ เป็นอาหารของอวิชชา”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ
    ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่.
    ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของ นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ?
    คำตอบพึงมีว่า “ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ”
    ดังนี้.
    ....ฯลฯ.... .
    --ภิกษุ ท.(ทั้งหลาย) ด้วยประการดังนี้
    การไม่คบสัตบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่ฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์
    การไม่ฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีศรัทธาให้บริบูรณ์
    ความไม่มีศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายให้บริบูรณ์.
    การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์.
    ความไม่มีสติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่สำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์
    การไม่สำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมยังทุจริต ๓ ให้บริบูรณ์
    ....ฯลฯ....
    การไม่สำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้ว ย่อมทำทุจริต ๓ ประการให้บริบูรณ์ ;
    ทุจริต ๓ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำนิวรณ์ ๕ ประการให้บริบูรณ์ ;
    นิวรณ์ ๕ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำอวิชชาให้บริบูรณ์ ;
    อวิชชาบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำภวตัณหาให้บริบูรณ์.
    --ภิกษุ ท. ! #อาหารแห่งภวตัณหานี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้
    http://etipitaka.com/read/pali/24/125/?keywords=อวิชฺชา+ปริปูรา+ภวตณฺหํ
    และ บริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก.อํ.24/105/62.
    http://etipitaka.com/read/thai/24/105/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก.อํ.๒๔/๑๒๔/๖๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/124/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=273
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=273
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18
    ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเมื่อปัจจัยแห่งภวตัณหาเป็นแห่งทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 273 ชื่อบทธรรม :- ปัจจัยแห่งภวตัณหา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=273 เนื้อความทั้งหมด :-ปัจจัยแห่งภวตัณหา --ภิกษุ ท. ! ที่สุดในเบื้องต้นของภวตัณหา ย่อมไม่ปรากฏ ; ก่อนแต่นี้ ภวตัณหามิได้มี ; แต่ว่า ภวตัณหาเพิ่งมีต่อภายหลัง. ภิกษุ ท. ! คำกล่าวอย่างนี้แหละเป็นคำที่ใคร ๆ ควรกล่าว และควรกล่าวด้วยว่า “ภวตัณหา ย่อมปรากฏ เพราะมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้ภวตัณหานั้น ก็เป็น ธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของภวตัณหา ? คำตอบพึงมีว่า “อวิชชา เป็นอาหารของภวตัณหา” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้อวิชชา ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของอวิชชา ? คำตอบพึงมีว่า “นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ เป็นอาหารของอวิชชา” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของ นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ? คำตอบพึงมีว่า “ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ” ดังนี้. ....ฯลฯ.... . --ภิกษุ ท.(ทั้งหลาย) ด้วยประการดังนี้ การไม่คบสัตบุรุษที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่ฟังสัทธรรมให้บริบูรณ์ การไม่ฟังสัทธรรมที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีศรัทธาให้บริบูรณ์ ความไม่มีศรัทธาที่บริบูรณ์ ย่อมยังการทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายให้บริบูรณ์. การทำไว้ในใจโดยไม่แยบคายที่บริบูรณ์ ย่อมยังความไม่มีสติสัมปชัญญะให้บริบูรณ์. ความไม่มีสติสัมปชัญญะที่บริบูรณ์ ย่อมยังการไม่สำรวมอินทรีย์ให้บริบูรณ์ การไม่สำรวมอินทรีย์ที่บริบูรณ์ ย่อมยังทุจริต ๓ ให้บริบูรณ์ ....ฯลฯ.... การไม่สำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้ว ย่อมทำทุจริต ๓ ประการให้บริบูรณ์ ; ทุจริต ๓ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำนิวรณ์ ๕ ประการให้บริบูรณ์ ; นิวรณ์ ๕ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำอวิชชาให้บริบูรณ์ ; อวิชชาบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำภวตัณหาให้บริบูรณ์. --ภิกษุ ท. ! #อาหารแห่งภวตัณหานี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ http://etipitaka.com/read/pali/24/125/?keywords=อวิชฺชา+ปริปูรา+ภวตณฺหํ และ บริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก.อํ.24/105/62. http://etipitaka.com/read/thai/24/105/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก.อํ.๒๔/๑๒๔/๖๒. http://etipitaka.com/read/pali/24/124/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=273 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18&id=273 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=18 ลำดับสาธยายธรรม : 18 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_18.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ปัจจัยแห่งภวตัณหา
    -ปัจจัยแห่งภวตัณหา ภิกษุ ท. ! ที่สุดในเบื้องต้นของภวตัณหา ย่อมไม่ปรากฏ ; ก่อนแต่นี้ ภวตัณหามิได้มี ; แต่ว่า ภวตัณหาเพิ่งมีต่อภายหลัง. ภิกษุ ท. ! คำกล่าวอย่างนี้แหละเป็นคำที่ใคร ๆ ควรกล่าว และควรกล่าวด้วยว่า “ภวตัณหา ย่อมปรากฏ เพราะมีสิ่งนี้สิ่งนี้เป็นปัจจัย” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้ภวตัณหานั้น ก็เป็น ธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของภวตัณหา ? คำตอบพึงมีว่า “อวิชชา เป็นอาหารของภวตัณหา” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้อวิชชา ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของอวิชชา ? คำตอบพึงมีว่า “นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ เป็นอาหารของอวิชชา” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เรากล่าวว่า ถึงแม้นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ก็เป็นธรรมชาติมีอาหาร หาใช่เป็นธรรมชาติที่ไม่มีอาหารไม่. ก็อะไรเล่า เป็นอาหารของ นิวรณ์ทั้งหลาย ๕ ประการ ? คำตอบพึงมีว่า “ทุจริตทั้งหลาย ๓ ประการ” ดังนี้. ....ฯลฯ.... ....ฯลฯ.... การไม่สำรวมอินทรีย์บริบูรณ์แล้ว ย่อมทำทุจริต ๓ ประการให้บริบูรณ์ ; ทุจริต ๓ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำนิวรณ์ ๕ ประการให้บริบูรณ์ ; นิวรณ์ ๕ ประการบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำอวิชชาให้บริบูรณ์ ; อวิชชาบริบูรณ์แล้ว ย่อมทำภวตัณหาให้บริบูรณ์. ภิกษุ ท. ! อาหารแห่งภวตัณหานี้ ย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้และ บริบูรณ์แล้วด้วยอาการอย่างนี้.
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
More Results