• “เบลเยียมเตรียมจำกัดพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ – รับมือความต้องการ AI ที่พุ่งทะยาน”

    เบลเยียมกำลังพิจารณาออกมาตรการจำกัดการใช้พลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากความต้องการด้าน AI พุ่งสูงจนทำให้โครงข่ายไฟฟ้าเริ่มตึงตัว โดยบริษัท Elia ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ เสนอให้จัดประเภทดาต้าเซ็นเตอร์เป็นกลุ่มเฉพาะ และกำหนด “เพดานการใช้พลังงาน” เพื่อป้องกันไม่ให้ภาคอุตสาหกรรมอื่นถูกเบียดออกจากระบบ

    แนวคิดนี้เกิดขึ้นเพราะดาต้าเซ็นเตอร์ที่รองรับงาน AI เช่นการฝึกโมเดลขนาดใหญ่ ต้องใช้พลังงานมหาศาลตลอดเวลา และหากไม่มีการจัดการ อาจทำให้เกิดปัญหาด้านเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าในประเทศ

    Elia เสนอให้มีการจัดสรรโควต้าพลังงานเฉพาะสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ และให้สิทธิ์ในการเข้าถึงโครงข่ายไฟฟ้าตามระดับความสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ในอนาคต

    แม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มาตรการนี้สะท้อนความกังวลของยุโรปที่ต้องการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตของเทคโนโลยีและความมั่นคงด้านพลังงาน โดยเฉพาะในยุคที่ AI กลายเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่

    แนวคิดจาก Elia ผู้ดูแลโครงข่ายไฟฟ้าเบลเยียม
    เสนอให้จัดประเภทดาต้าเซ็นเตอร์เป็นกลุ่มเฉพาะ
    กำหนดเพดานการใช้พลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์
    ป้องกันไม่ให้ภาคอุตสาหกรรมอื่นถูกเบียดออกจากระบบ
    จัดสรรโควต้าพลังงานตามระดับความสำคัญของผู้ใช้งาน

    สาเหตุของมาตรการ
    ความต้องการพลังงานจาก AI พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว
    ดาต้าเซ็นเตอร์ใช้พลังงานมหาศาลในการฝึกโมเดล
    เสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าในประเทศ
    ต้องการสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับความมั่นคงพลังงาน

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    นักลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI อาจต้องปรับแผน
    ดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่อาจต้องผ่านการอนุมัติด้านพลังงาน
    อาจมีการจัดลำดับความสำคัญของงาน AI ที่ใช้พลังงานสูง
    ภาคอุตสาหกรรมอื่นอาจได้รับพลังงานอย่างมั่นคงมากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/23/belgium-mulls-energy-limits-for-power-hungry-data-centres-as-ai-demand-surges
    ⚡ “เบลเยียมเตรียมจำกัดพลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ – รับมือความต้องการ AI ที่พุ่งทะยาน” เบลเยียมกำลังพิจารณาออกมาตรการจำกัดการใช้พลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์ หลังจากความต้องการด้าน AI พุ่งสูงจนทำให้โครงข่ายไฟฟ้าเริ่มตึงตัว โดยบริษัท Elia ซึ่งเป็นผู้ดูแลโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศ เสนอให้จัดประเภทดาต้าเซ็นเตอร์เป็นกลุ่มเฉพาะ และกำหนด “เพดานการใช้พลังงาน” เพื่อป้องกันไม่ให้ภาคอุตสาหกรรมอื่นถูกเบียดออกจากระบบ แนวคิดนี้เกิดขึ้นเพราะดาต้าเซ็นเตอร์ที่รองรับงาน AI เช่นการฝึกโมเดลขนาดใหญ่ ต้องใช้พลังงานมหาศาลตลอดเวลา และหากไม่มีการจัดการ อาจทำให้เกิดปัญหาด้านเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าในประเทศ Elia เสนอให้มีการจัดสรรโควต้าพลังงานเฉพาะสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ และให้สิทธิ์ในการเข้าถึงโครงข่ายไฟฟ้าตามระดับความสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลต่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ในอนาคต แม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่มาตรการนี้สะท้อนความกังวลของยุโรปที่ต้องการสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตของเทคโนโลยีและความมั่นคงด้านพลังงาน โดยเฉพาะในยุคที่ AI กลายเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ ✅ แนวคิดจาก Elia ผู้ดูแลโครงข่ายไฟฟ้าเบลเยียม ➡️ เสนอให้จัดประเภทดาต้าเซ็นเตอร์เป็นกลุ่มเฉพาะ ➡️ กำหนดเพดานการใช้พลังงานสำหรับดาต้าเซ็นเตอร์ ➡️ ป้องกันไม่ให้ภาคอุตสาหกรรมอื่นถูกเบียดออกจากระบบ ➡️ จัดสรรโควต้าพลังงานตามระดับความสำคัญของผู้ใช้งาน ✅ สาเหตุของมาตรการ ➡️ ความต้องการพลังงานจาก AI พุ่งสูงอย่างรวดเร็ว ➡️ ดาต้าเซ็นเตอร์ใช้พลังงานมหาศาลในการฝึกโมเดล ➡️ เสี่ยงต่อเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าในประเทศ ➡️ ต้องการสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีกับความมั่นคงพลังงาน ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ นักลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI อาจต้องปรับแผน ➡️ ดาต้าเซ็นเตอร์ใหม่อาจต้องผ่านการอนุมัติด้านพลังงาน ➡️ อาจมีการจัดลำดับความสำคัญของงาน AI ที่ใช้พลังงานสูง ➡️ ภาคอุตสาหกรรมอื่นอาจได้รับพลังงานอย่างมั่นคงมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/23/belgium-mulls-energy-limits-for-power-hungry-data-centres-as-ai-demand-surges
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Belgium mulls energy limits for power-hungry data centres as AI demand surges
    (Reuters) -Belgium's grid operator could set an electricity allocation limit on data centres to prevent other industrial users from being squeezed out, it said, following a surge in demand from the energy-intensive facilities that power AI.
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • “Airbus–Thales–Leonardo รวมพลังสร้างแชมป์ดาวเทียมยุโรป – แม้ประกาศล่าช้า แต่ดีลยังเดินหน้าเต็มสูบ”

    ยุโรปกำลังรวมพลังเพื่อท้าชน Starlink ของ Elon Musk ด้วยการควบรวมกิจการด้านการผลิตดาวเทียมระหว่างสามยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอวกาศ ได้แก่ Airbus, Thales, และ Leonardo โดยมีชื่อรหัสโครงการว่า Projet Bromo

    แม้การประกาศอย่างเป็นทางการจะล่าช้าไป 1–2 วัน เพราะทีมกฎหมายยังตรวจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ แต่แหล่งข่าวยืนยันว่า แผนควบรวมยังคงอยู่ครบ และไม่มีอุปสรรคใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ

    เป้าหมายของดีลนี้คือการรวมสินทรัพย์ด้านดาวเทียมของทั้งสามบริษัทเข้าไว้ในบริษัทโฮลดิ้งใหม่ โดยแต่ละฝ่ายจะถือหุ้นประมาณหนึ่งในสาม หลังจากมีการปรับสมดุลด้วยการชำระเงินระหว่างกัน ซึ่งโครงสร้างใหม่นี้จะใช้เวลาราว สองปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ เพราะต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

    การควบรวมครั้งนี้จะทำให้ยุโรปกลายเป็นผู้ผลิตดาวเทียม geostationary เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้า Maxar, Northrop Grumman และ Lockheed Martin โดยครองส่วนแบ่งตลาดถึงหนึ่งในสาม — แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตลาด geostationary กำลังหดตัว เพราะการเติบโตของดาวเทียมขนาดเล็กในวงโคจรต่ำ (LEO) เช่น Starlink

    แม้จะมีความขัดแย้งเล็กน้อยเรื่องการแต่งตั้ง CEO, CFO และประธานบริษัท ซึ่งเคยเป็นปัญหาในดีลยุโรปก่อนหน้านี้ แต่แหล่งข่าวระบุว่าทั้งสามฝ่ายมีความตั้งใจร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพราะต่างก็เผชิญกับ การขาดทุนและส่วนแบ่งตลาดที่ลดลง

    รายละเอียดของการควบรวม
    Airbus, Thales และ Leonardo รวมกิจการด้านดาวเทียม
    ใช้ชื่อรหัสโครงการว่า Projet Bromo
    สร้างบริษัทโฮลดิ้งใหม่ โดยแต่ละฝ่ายถือหุ้นประมาณ 1/3
    ใช้เวลาราว 2 ปีในการจัดโครงสร้างและขออนุมัติ

    เป้าหมายของดีล
    สร้างผู้ผลิตดาวเทียม geostationary เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุด
    ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 1/3
    แซงหน้า Maxar, Northrop Grumman และ Lockheed Martin
    เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ Starlink และ SpaceX

    ความท้าทายและความล่าช้า
    การประกาศดีลล่าช้าเพราะตรวจรายละเอียดทางกฎหมาย
    ยังไม่มีอุปสรรคใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ
    ความขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารยังต้องตกลงกัน
    เคยมีดีลล้มเพราะติด EU antitrust มาก่อน

    สภาพตลาดดาวเทียม
    ตลาด geostationary กำลังหดตัว
    ดาวเทียมขนาดเล็กในวงโคจรต่ำ (LEO) เติบโตเร็ว
    Starlink เป็นผู้นำในตลาด LEO broadband
    ผู้เล่นยุโรปต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/23/europe-satellite-merger-intact-as-announcement-slips-sources-say
    🛰️ “Airbus–Thales–Leonardo รวมพลังสร้างแชมป์ดาวเทียมยุโรป – แม้ประกาศล่าช้า แต่ดีลยังเดินหน้าเต็มสูบ” ยุโรปกำลังรวมพลังเพื่อท้าชน Starlink ของ Elon Musk ด้วยการควบรวมกิจการด้านการผลิตดาวเทียมระหว่างสามยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอวกาศ ได้แก่ Airbus, Thales, และ Leonardo โดยมีชื่อรหัสโครงการว่า Projet Bromo แม้การประกาศอย่างเป็นทางการจะล่าช้าไป 1–2 วัน เพราะทีมกฎหมายยังตรวจรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่ แต่แหล่งข่าวยืนยันว่า แผนควบรวมยังคงอยู่ครบ และไม่มีอุปสรรคใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ เป้าหมายของดีลนี้คือการรวมสินทรัพย์ด้านดาวเทียมของทั้งสามบริษัทเข้าไว้ในบริษัทโฮลดิ้งใหม่ โดยแต่ละฝ่ายจะถือหุ้นประมาณหนึ่งในสาม หลังจากมีการปรับสมดุลด้วยการชำระเงินระหว่างกัน ซึ่งโครงสร้างใหม่นี้จะใช้เวลาราว สองปี กว่าจะเสร็จสมบูรณ์ เพราะต้องผ่านการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล การควบรวมครั้งนี้จะทำให้ยุโรปกลายเป็นผู้ผลิตดาวเทียม geostationary เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุดในโลก แซงหน้า Maxar, Northrop Grumman และ Lockheed Martin โดยครองส่วนแบ่งตลาดถึงหนึ่งในสาม — แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตลาด geostationary กำลังหดตัว เพราะการเติบโตของดาวเทียมขนาดเล็กในวงโคจรต่ำ (LEO) เช่น Starlink แม้จะมีความขัดแย้งเล็กน้อยเรื่องการแต่งตั้ง CEO, CFO และประธานบริษัท ซึ่งเคยเป็นปัญหาในดีลยุโรปก่อนหน้านี้ แต่แหล่งข่าวระบุว่าทั้งสามฝ่ายมีความตั้งใจร่วมมือกันอย่างจริงจัง เพราะต่างก็เผชิญกับ การขาดทุนและส่วนแบ่งตลาดที่ลดลง ✅ รายละเอียดของการควบรวม ➡️ Airbus, Thales และ Leonardo รวมกิจการด้านดาวเทียม ➡️ ใช้ชื่อรหัสโครงการว่า Projet Bromo ➡️ สร้างบริษัทโฮลดิ้งใหม่ โดยแต่ละฝ่ายถือหุ้นประมาณ 1/3 ➡️ ใช้เวลาราว 2 ปีในการจัดโครงสร้างและขออนุมัติ ✅ เป้าหมายของดีล ➡️ สร้างผู้ผลิตดาวเทียม geostationary เชิงพาณิชย์รายใหญ่ที่สุด ➡️ ครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 1/3 ➡️ แซงหน้า Maxar, Northrop Grumman และ Lockheed Martin ➡️ เพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับ Starlink และ SpaceX ✅ ความท้าทายและความล่าช้า ➡️ การประกาศดีลล่าช้าเพราะตรวจรายละเอียดทางกฎหมาย ➡️ ยังไม่มีอุปสรรคใหม่ที่เป็นสาระสำคัญ ➡️ ความขัดแย้งเรื่องการแต่งตั้งผู้บริหารยังต้องตกลงกัน ➡️ เคยมีดีลล้มเพราะติด EU antitrust มาก่อน ✅ สภาพตลาดดาวเทียม ➡️ ตลาด geostationary กำลังหดตัว ➡️ ดาวเทียมขนาดเล็กในวงโคจรต่ำ (LEO) เติบโตเร็ว ➡️ Starlink เป็นผู้นำในตลาด LEO broadband ➡️ ผู้เล่นยุโรปต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/10/23/europe-satellite-merger-intact-as-announcement-slips-sources-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Europe satellite merger intact as announcement slips, sources say
    PARIS/ROME (Reuters) -Europe's aerospace giants kept investors waiting an extra day for details of a new space champion on Wednesday as lawyers and advisers pored over the smallprint, but merger plans remained intact, people familiar with the talks said.
    0 Comments 0 Shares 79 Views 0 Reviews
  • เปลี่ยนกองเศษโลหะให้เป็นเงิน! ด้วยพลังบด 20 แรงม้า!
    เครื่องเขมือบ (Two Shafts Shredder) สำหรับงานหนักโดยเฉพาะ!
    หมดปัญหาการจัดการ เศษทองเหลือง เศษเหล็ก และโลหะผสม ที่แข็งและหนาแน่น เครื่องของเราถูกออกแบบมาเพื่อ ฉีก! บด! ลดขนาด! ให้วัสดุพร้อมเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลทันที!

    สเปคเทพ จัดการโลหะได้สบาย:

    - แรงขับเคลื่อน มอเตอร์ 10 HP 2 ตัว (รวม 20 แรงม้า)
    - ความหนาใบมีด 10 mm (ทนทานต่อโลหะสูงสุด)
    ฟังก์ชันเด่น มีระบบ Reverse Function ป้องกันการติดขัดอัตโนมัติ

    คุณสมบัติพิเศษ: แรงบิดสูง ความเร็วรอบต่ำ เหมาะกับการบดวัสดุแข็ง เช่น ทองเหลือง แผ่นเหล็ก พลาสติกตัน และยาง

    👉🏻 ลงทุนครั้งเดียว สร้างกำไรจากการรีไซเคิลได้ตลอดไป! ลดต้นทุนการขนส่ง ลดพื้นที่จัดเก็บ เพิ่มราคาขายเศษโลหะ!

    สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม:
    ติดต่อ: ย.ย่งฮะเฮง (Yor Yong Hah Heng)
    • ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) กรุงเทพฯ 10330
    • เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.30-17.00 น.), เสาร์ (9.00-16.00 น.)
    • โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    • แชท: m.me/yonghahheng
    • LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9
    • เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/FpRaCMMfVvazg7HW9

    #เครื่องบดโลหะ #TwoShaftsShredder #รีไซเคิลทองเหลือง #เศษโลหะผสม #เพิ่มมูลค่าเศษเหล็ก #เครื่องย่อย #ยิ่งฮะเฮง #เครื่องบดอุตสาหกรรม #เครื่องจักรโรงงาน #เครื่องบดย่อย #Shredder #BrassRecycling #MetalScrap #เครื่องโม่ #รีไซเคิล #โรงงานรีไซเคิล #เครื่องบดเศษเหล็ก #จัดการของเสีย #ลดขนาดวัสดุ #โลหะรีไซเคิล #ทองเหลือง #เศษทองแดง #อลูมิเนียม #RecyclingSolution #WasteManagement #เครื่องบดคุณภาพสูง #เครื่องจักรหนัก #ScrapMetal #อุตสาหกรรม #เครื่องจักรกล

    ✨ เปลี่ยนกองเศษโลหะให้เป็นเงิน! ด้วยพลังบด 20 แรงม้า! ✨ 🔥 เครื่องเขมือบ (Two Shafts Shredder) สำหรับงานหนักโดยเฉพาะ! 🔥 หมดปัญหาการจัดการ เศษทองเหลือง เศษเหล็ก และโลหะผสม ที่แข็งและหนาแน่น เครื่องของเราถูกออกแบบมาเพื่อ ฉีก! บด! ลดขนาด! ให้วัสดุพร้อมเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลทันที! ⚙️ สเปคเทพ จัดการโลหะได้สบาย: - แรงขับเคลื่อน มอเตอร์ 10 HP 2 ตัว (รวม 20 แรงม้า) 💥 - ความหนาใบมีด 10 mm (ทนทานต่อโลหะสูงสุด) 🛡️ ฟังก์ชันเด่น มีระบบ Reverse Function ป้องกันการติดขัดอัตโนมัติ ✅ คุณสมบัติพิเศษ: แรงบิดสูง ความเร็วรอบต่ำ เหมาะกับการบดวัสดุแข็ง เช่น ทองเหลือง แผ่นเหล็ก พลาสติกตัน และยาง 👉🏻 ลงทุนครั้งเดียว สร้างกำไรจากการรีไซเคิลได้ตลอดไป! ลดต้นทุนการขนส่ง ลดพื้นที่จัดเก็บ เพิ่มราคาขายเศษโลหะ! 📍 สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม: ติดต่อ: ย.ย่งฮะเฮง (Yor Yong Hah Heng) • ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) กรุงเทพฯ 10330 • เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.30-17.00 น.), เสาร์ (9.00-16.00 น.) • โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 📞 • แชท: m.me/yonghahheng • LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 • เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com แผนที่: https://maps.app.goo.gl/FpRaCMMfVvazg7HW9 #เครื่องบดโลหะ #TwoShaftsShredder #รีไซเคิลทองเหลือง #เศษโลหะผสม #เพิ่มมูลค่าเศษเหล็ก #เครื่องย่อย #ยิ่งฮะเฮง #เครื่องบดอุตสาหกรรม #เครื่องจักรโรงงาน #เครื่องบดย่อย #Shredder #BrassRecycling #MetalScrap #เครื่องโม่ #รีไซเคิล #โรงงานรีไซเคิล #เครื่องบดเศษเหล็ก #จัดการของเสีย #ลดขนาดวัสดุ #โลหะรีไซเคิล #ทองเหลือง #เศษทองแดง #อลูมิเนียม #RecyclingSolution #WasteManagement #เครื่องบดคุณภาพสูง #เครื่องจักรหนัก #ScrapMetal #อุตสาหกรรม #เครื่องจักรกล
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 64 Views 0 Reviews
  • “CISA เตือนช่องโหว่ Raisecom RAX701-GC – SSH เข้า root ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน!”

    CISA ออกประกาศเตือนช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Raisecom รุ่น RAX701-GC ที่ใช้ในระบบอุตสาหกรรมและโทรคมนาคม โดยช่องโหว่นี้มีรหัสว่า CVE-2025-11534 และได้คะแนน CVSS สูงถึง 9.8 ซึ่งถือว่า “วิกฤต” เพราะเปิดให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง shell ของระบบด้วยสิทธิ์ root โดยไม่ต้องยืนยันตัวตนผ่าน SSH เลย

    ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่อุปกรณ์อนุญาตให้สร้าง session SSH ได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตน ซึ่งผิดหลักการของระบบความปลอดภัยอย่างร้ายแรง โดย CISA จัดช่องโหว่นี้ไว้ในหมวด CWE-288: Authentication Bypass Using an Alternate Path or Channel

    อุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบคือ Raisecom RAX701-GC-WP-01 ที่ใช้ firmware เวอร์ชัน P200R002C52 และ P200R002C53 ซึ่งรวมถึงเวอร์ชัน 5.5.13_20180720, 5.5.27_20190111 และ 5.5.36_20190709

    ช่องโหว่นี้ถูกค้นพบโดย HD Moore และ Tod Beardsley จาก runZero และถูกแจ้งไปยัง CISA เพื่อเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ทาง Raisecom ยังไม่ตอบรับหรือออกแพตช์ใด ๆ ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องใช้วิธีป้องกันเชิงเครือข่าย เช่น segmentation และ firewall เพื่อจำกัดการเข้าถึง

    แม้ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริง แต่ CISA เตือนว่าเนื่องจากช่องโหว่นี้สามารถใช้จากระยะไกลได้ง่าย และให้สิทธิ์สูงสุด จึงควรรีบดำเนินการป้องกันทันที

    รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-11534
    เกิดจากการ bypass authentication ใน SSH
    ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง shell ด้วยสิทธิ์ root โดยไม่ต้อง login
    ได้คะแนน CVSS v3.1 สูงถึง 9.8
    จัดอยู่ในหมวด CWE-288 โดย CISA
    ส่งผลกระทบต่อ Raisecom RAX701-GC-WP-01 firmware หลายเวอร์ชัน

    การค้นพบและการเปิดเผย
    ค้นพบโดย HD Moore และ Tod Beardsley จาก runZero
    แจ้งไปยัง CISA เพื่อเปิดเผยอย่างเป็นทางการ
    Raisecom ยังไม่ตอบรับหรือออกแพตช์ใด ๆ
    ผู้ดูแลระบบต้องใช้วิธีป้องกันเชิงเครือข่ายแทน

    แนวทางการป้องกันจาก CISA
    แยกเครือข่ายควบคุมออกจากเครือข่ายธุรกิจ
    ใช้ firewall เพื่อจำกัดการเข้าถึงจากภายนอก
    ใช้ VPN ที่ปลอดภัยและอัปเดตอยู่เสมอ
    ตรวจสอบการเชื่อมต่อ SSH ที่ไม่ได้รับอนุญาต
    เฝ้าระวังพฤติกรรมผิดปกติจากอุปกรณ์ Raisecom

    https://securityonline.info/cisa-warns-critical-raisecom-router-flaw-cve-2025-11534-cvss-9-8-allows-unauthenticated-root-ssh-access/
    🚨 “CISA เตือนช่องโหว่ Raisecom RAX701-GC – SSH เข้า root ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน!” CISA ออกประกาศเตือนช่องโหว่ร้ายแรงในเราเตอร์ Raisecom รุ่น RAX701-GC ที่ใช้ในระบบอุตสาหกรรมและโทรคมนาคม โดยช่องโหว่นี้มีรหัสว่า CVE-2025-11534 และได้คะแนน CVSS สูงถึง 9.8 ซึ่งถือว่า “วิกฤต” เพราะเปิดให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง shell ของระบบด้วยสิทธิ์ root โดยไม่ต้องยืนยันตัวตนผ่าน SSH เลย ช่องโหว่นี้เกิดจากการที่อุปกรณ์อนุญาตให้สร้าง session SSH ได้โดยไม่ต้องผ่านขั้นตอนการยืนยันตัวตน ซึ่งผิดหลักการของระบบความปลอดภัยอย่างร้ายแรง โดย CISA จัดช่องโหว่นี้ไว้ในหมวด CWE-288: Authentication Bypass Using an Alternate Path or Channel อุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบคือ Raisecom RAX701-GC-WP-01 ที่ใช้ firmware เวอร์ชัน P200R002C52 และ P200R002C53 ซึ่งรวมถึงเวอร์ชัน 5.5.13_20180720, 5.5.27_20190111 และ 5.5.36_20190709 ช่องโหว่นี้ถูกค้นพบโดย HD Moore และ Tod Beardsley จาก runZero และถูกแจ้งไปยัง CISA เพื่อเปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่ทาง Raisecom ยังไม่ตอบรับหรือออกแพตช์ใด ๆ ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องใช้วิธีป้องกันเชิงเครือข่าย เช่น segmentation และ firewall เพื่อจำกัดการเข้าถึง แม้ยังไม่มีรายงานการโจมตีจริง แต่ CISA เตือนว่าเนื่องจากช่องโหว่นี้สามารถใช้จากระยะไกลได้ง่าย และให้สิทธิ์สูงสุด จึงควรรีบดำเนินการป้องกันทันที ✅ รายละเอียดช่องโหว่ CVE-2025-11534 ➡️ เกิดจากการ bypass authentication ใน SSH ➡️ ผู้โจมตีสามารถเข้าถึง shell ด้วยสิทธิ์ root โดยไม่ต้อง login ➡️ ได้คะแนน CVSS v3.1 สูงถึง 9.8 ➡️ จัดอยู่ในหมวด CWE-288 โดย CISA ➡️ ส่งผลกระทบต่อ Raisecom RAX701-GC-WP-01 firmware หลายเวอร์ชัน ✅ การค้นพบและการเปิดเผย ➡️ ค้นพบโดย HD Moore และ Tod Beardsley จาก runZero ➡️ แจ้งไปยัง CISA เพื่อเปิดเผยอย่างเป็นทางการ ➡️ Raisecom ยังไม่ตอบรับหรือออกแพตช์ใด ๆ ➡️ ผู้ดูแลระบบต้องใช้วิธีป้องกันเชิงเครือข่ายแทน ✅ แนวทางการป้องกันจาก CISA ➡️ แยกเครือข่ายควบคุมออกจากเครือข่ายธุรกิจ ➡️ ใช้ firewall เพื่อจำกัดการเข้าถึงจากภายนอก ➡️ ใช้ VPN ที่ปลอดภัยและอัปเดตอยู่เสมอ ➡️ ตรวจสอบการเชื่อมต่อ SSH ที่ไม่ได้รับอนุญาต ➡️ เฝ้าระวังพฤติกรรมผิดปกติจากอุปกรณ์ Raisecom https://securityonline.info/cisa-warns-critical-raisecom-router-flaw-cve-2025-11534-cvss-9-8-allows-unauthenticated-root-ssh-access/
    SECURITYONLINE.INFO
    CISA Warns: Critical Raisecom Router Flaw (CVE-2025-11534, CVSS 9.8) Allows Unauthenticated Root SSH Access
    CISA issued an alert for a Critical (CVSS 9.8) Auth Bypass flaw (CVE-2025-11534) in Raisecom RAX701-GC routers, allowing unauthenticated root shell via SSH. The vendor has not yet responded with a patch.
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • “Scattered LAPSUS$ Hunters เปลี่ยนกลยุทธ์ – เปิดบริการ EaaS และล่าคนวงใน หลังแฮก Salesforce!”

    นักวิจัยจาก Unit 42 ของ Palo Alto Networks พบว่ากลุ่มแฮกเกอร์ชื่อ Scattered LAPSUS$ Hunters ซึ่งเชื่อมโยงกับ Bling Libra syndicate กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์จากการใช้ ransomware มาเป็น Extortion-as-a-Service (EaaS) คือเน้นขโมยข้อมูลแล้วเรียกค่าไถ่โดยไม่เข้ารหัสไฟล์

    หลังจากแฮก Salesforce และขโมยข้อมูลกว่า 1 พันล้านรายการ พวกเขาเริ่มรุกหนัก โดยเปิด Telegram channel ชื่อ “SLSH 6.0 part 3” เพื่อโชว์ข้อมูลที่ขโมยมา และประกาศว่า “จะไม่ปล่อยข้อมูลเพิ่ม เพราะสิ่งที่มีอยู่มันร้ายแรงเกินกว่าจะเปิดเผย”

    กลุ่มนี้ยังเปิดรับสมัคร “คนวงใน” จากบริษัทต่าง ๆ เช่น call center, gaming, SaaS, telecom และ hosting provider ในหลายประเทศ เพื่อให้พนักงานขาย credentials หรือเข้าถึงระบบภายในได้ง่ายขึ้น

    ที่น่าสนใจคือพวกเขา tease ว่ากำลังพัฒนา ransomware ตัวใหม่ชื่อ SHINYSP1D3R ซึ่งอาจเป็นแค่เครื่องมือสร้างภาพลักษณ์เพื่อดึง affiliate เข้าร่วม EaaS มากกว่าจะใช้จริง เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการเข้ารหัสไฟล์จากกลุ่มนี้เลย

    Unit 42 ยังพบว่าเว็บไซต์ data leak ของกลุ่มถูก deface และไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลยังอยู่หรือไม่ ซึ่งอาจเป็นผลจากแรงกดดันจากหน่วยงานรัฐหรือความเสี่ยงทางกฎหมาย

    กลยุทธ์ใหม่ของ Scattered LAPSUS$ Hunters
    เปลี่ยนจาก ransomware เป็น Extortion-as-a-Service (EaaS)
    ขโมยข้อมูลแล้วเรียกค่าไถ่โดยไม่เข้ารหัส
    ลดความเสี่ยงจากการถูกไล่ล่าทางกฎหมาย
    ใช้ Telegram channel เป็นช่องทางสื่อสารและโชว์ข้อมูล

    การล่าคนวงใน
    เปิดรับสมัครพนักงานจากหลายอุตสาหกรรม
    เน้น call center, gaming, SaaS, telecom และ hosting provider
    ใช้ insider access เพื่อ bypass ระบบรักษาความปลอดภัย
    คล้ายกับกลยุทธ์ของกลุ่ม Muddled Libra (Scattered Spider)

    การ tease ransomware ใหม่
    ชื่อว่า SHINYSP1D3R
    อาจเป็นแค่เครื่องมือสร้างภาพลักษณ์
    ยังไม่มีหลักฐานการเข้ารหัสไฟล์
    อาจใช้เพื่อดึง affiliate เข้าร่วม EaaS

    ความเคลื่อนไหวล่าสุด
    ข้อมูลจาก 6 องค์กรถูกปล่อยหลัง deadline
    รวมถึง PII เช่น ชื่อ, วันเกิด, เบอร์โทร, ข้อมูล frequent flyer
    เว็บไซต์ data leak ถูก deface ไม่สามารถเข้าถึงได้
    กลุ่มประกาศว่าจะไม่ปล่อยข้อมูลเพิ่ม

    https://securityonline.info/scattered-lapsus-hunters-pivot-to-eaas-launch-insider-recruitment-campaign-after-salesforce-extortion/
    🕶️ “Scattered LAPSUS$ Hunters เปลี่ยนกลยุทธ์ – เปิดบริการ EaaS และล่าคนวงใน หลังแฮก Salesforce!” นักวิจัยจาก Unit 42 ของ Palo Alto Networks พบว่ากลุ่มแฮกเกอร์ชื่อ Scattered LAPSUS$ Hunters ซึ่งเชื่อมโยงกับ Bling Libra syndicate กำลังเปลี่ยนกลยุทธ์จากการใช้ ransomware มาเป็น Extortion-as-a-Service (EaaS) คือเน้นขโมยข้อมูลแล้วเรียกค่าไถ่โดยไม่เข้ารหัสไฟล์ หลังจากแฮก Salesforce และขโมยข้อมูลกว่า 1 พันล้านรายการ พวกเขาเริ่มรุกหนัก โดยเปิด Telegram channel ชื่อ “SLSH 6.0 part 3” เพื่อโชว์ข้อมูลที่ขโมยมา และประกาศว่า “จะไม่ปล่อยข้อมูลเพิ่ม เพราะสิ่งที่มีอยู่มันร้ายแรงเกินกว่าจะเปิดเผย” กลุ่มนี้ยังเปิดรับสมัคร “คนวงใน” จากบริษัทต่าง ๆ เช่น call center, gaming, SaaS, telecom และ hosting provider ในหลายประเทศ เพื่อให้พนักงานขาย credentials หรือเข้าถึงระบบภายในได้ง่ายขึ้น ที่น่าสนใจคือพวกเขา tease ว่ากำลังพัฒนา ransomware ตัวใหม่ชื่อ SHINYSP1D3R ซึ่งอาจเป็นแค่เครื่องมือสร้างภาพลักษณ์เพื่อดึง affiliate เข้าร่วม EaaS มากกว่าจะใช้จริง เพราะจนถึงตอนนี้ยังไม่มีการเข้ารหัสไฟล์จากกลุ่มนี้เลย Unit 42 ยังพบว่าเว็บไซต์ data leak ของกลุ่มถูก deface และไม่สามารถยืนยันได้ว่าข้อมูลยังอยู่หรือไม่ ซึ่งอาจเป็นผลจากแรงกดดันจากหน่วยงานรัฐหรือความเสี่ยงทางกฎหมาย ✅ กลยุทธ์ใหม่ของ Scattered LAPSUS$ Hunters ➡️ เปลี่ยนจาก ransomware เป็น Extortion-as-a-Service (EaaS) ➡️ ขโมยข้อมูลแล้วเรียกค่าไถ่โดยไม่เข้ารหัส ➡️ ลดความเสี่ยงจากการถูกไล่ล่าทางกฎหมาย ➡️ ใช้ Telegram channel เป็นช่องทางสื่อสารและโชว์ข้อมูล ✅ การล่าคนวงใน ➡️ เปิดรับสมัครพนักงานจากหลายอุตสาหกรรม ➡️ เน้น call center, gaming, SaaS, telecom และ hosting provider ➡️ ใช้ insider access เพื่อ bypass ระบบรักษาความปลอดภัย ➡️ คล้ายกับกลยุทธ์ของกลุ่ม Muddled Libra (Scattered Spider) ✅ การ tease ransomware ใหม่ ➡️ ชื่อว่า SHINYSP1D3R ➡️ อาจเป็นแค่เครื่องมือสร้างภาพลักษณ์ ➡️ ยังไม่มีหลักฐานการเข้ารหัสไฟล์ ➡️ อาจใช้เพื่อดึง affiliate เข้าร่วม EaaS ✅ ความเคลื่อนไหวล่าสุด ➡️ ข้อมูลจาก 6 องค์กรถูกปล่อยหลัง deadline ➡️ รวมถึง PII เช่น ชื่อ, วันเกิด, เบอร์โทร, ข้อมูล frequent flyer ➡️ เว็บไซต์ data leak ถูก deface ไม่สามารถเข้าถึงได้ ➡️ กลุ่มประกาศว่าจะไม่ปล่อยข้อมูลเพิ่ม https://securityonline.info/scattered-lapsus-hunters-pivot-to-eaas-launch-insider-recruitment-campaign-after-salesforce-extortion/
    SECURITYONLINE.INFO
    Scattered LAPSUS$ Hunters Pivot to EaaS, Launch Insider Recruitment Campaign After Salesforce Extortion
    Unit 42 exposed Scattered LAPSUS$ Hunters pivoting to Extortion-as-a-Service (EaaS) after Salesforce leaks. The group is recruiting insiders and teasing SHINYSP1D3R ransomware on Telegram.
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • “แฮกเกอร์จีนใช้คีย์ ASP.NET ที่หลุด – ฝัง TOLLBOOTH Backdoor และ Rootkit บน IIS Server ทั่วโลก!”

    Elastic Security Labs และ Texas A&M University System Cybersecurity เผยการค้นพบแคมเปญโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์ที่พูดภาษาจีน ซึ่งใช้คีย์ ASP.NET ที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะในการเจาะระบบ Microsoft IIS Server ที่ตั้งค่าผิดพลาด

    แฮกเกอร์ใช้คีย์ machineKey ที่หลุดจากเอกสาร Microsoft และ StackOverflow เพื่อสร้าง payload ที่สามารถ deserialization ผ่าน ViewState ได้ ทำให้สามารถรันคำสั่งบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน

    หลังจากเจาะระบบได้แล้ว พวกเขาจะติดตั้ง backdoor ชื่อว่า TOLLBOOTH ซึ่งเป็น IIS module ที่มีความสามารถทั้ง SEO cloaking, webshell, และ command execution โดยมี webshell ซ่อนอยู่ที่ /mywebdll พร้อมรหัสผ่าน hack123456!

    TOLLBOOTH ยังสามารถแยกแยะระหว่าง bot ของ search engine กับผู้ใช้จริง เพื่อแสดงเนื้อหาหลอกลวงให้ bot เห็น (เพื่อดัน SEO) และ redirect ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย ซึ่งเป็นเทคนิคที่เรียกว่า link farm network

    หากวิธีฝัง backdoor ล้มเหลว แฮกเกอร์จะใช้เครื่องมือ Remote Monitoring & Management (RMM) ชื่อ GotoHTTP เพื่อควบคุมเครื่องผ่านเบราว์เซอร์โดยตรง

    นอกจากนี้ยังพบ rootkit ระดับ kernel ที่ชื่อว่า HIDDENDRIVER ซึ่งดัดแปลงจากโครงการโอเพ่นซอร์สชื่อ “Hidden” โดยใช้เทคนิค DKOM (Direct Kernel Object Manipulation) เพื่อซ่อน process, ไฟล์ และ registry key จากเครื่องมือวิเคราะห์ระบบ

    การโจมตีนี้ถูกจัดกลุ่มเป็น REF3927 และพบว่ามีความเชื่อมโยงกับแคมเปญที่ Microsoft และ AhnLab เคยรายงานมาก่อน โดยมีเป้าหมายเป็นเซิร์ฟเวอร์ IIS กว่า 571 เครื่องทั่วโลก ยกเว้นในประเทศจีน ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มแฮกเกอร์จีนที่มักหลีกเลี่ยงการโจมตีภายในประเทศตัวเอง

    วิธีการโจมตี
    ใช้คีย์ ASP.NET machineKey ที่ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ
    สร้าง ViewState payload เพื่อรันคำสั่งบน IIS Server
    ติดตั้ง TOLLBOOTH IIS module เป็น backdoor
    ใช้ GotoHTTP หากฝัง backdoor ไม่สำเร็จ
    ติดตั้ง rootkit HIDDENDRIVER เพื่อซ่อนการทำงาน

    ความสามารถของ TOLLBOOTH
    มี webshell ซ่อนอยู่ที่ /mywebdll พร้อมรหัสผ่าน
    รองรับการอัปโหลดไฟล์และรันคำสั่ง
    มี endpoint สำหรับ health check, debug และ clean
    มี SEO cloaking engine เพื่อหลอก bot และ redirect ผู้ใช้
    ใช้ JSON config จากเซิร์ฟเวอร์ควบคุม

    ความสามารถของ HIDDENDRIVER
    ใช้เทคนิค DKOM เพื่อซ่อน process, ไฟล์ และ registry
    มี companion app ชื่อ HIDDENCLI เขียนด้วยภาษาจีน
    ปรับปรุงจากโปรเจกต์ “Hidden” ด้วยฟีเจอร์ AMSI bypass และ whitelist process
    ซ่อนตัวจากเครื่องมืออย่าง Process Explorer ได้

    ขอบเขตของการโจมตี
    พบการติดเชื้อใน IIS Server อย่างน้อย 571 เครื่อง
    ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน โลจิสติกส์ การศึกษา
    ไม่มีเหยื่อในประเทศจีน – สะท้อนการใช้ geofencing
    พบการติดตั้งซ้ำในหลายองค์กร แสดงว่าปัญหายังไม่ถูกแก้ที่ต้นเหตุ

    https://securityonline.info/chinese-hackers-exploit-exposed-asp-net-keys-to-deploy-tollbooth-iis-backdoor-and-kernel-rootkit/
    🕳️ “แฮกเกอร์จีนใช้คีย์ ASP.NET ที่หลุด – ฝัง TOLLBOOTH Backdoor และ Rootkit บน IIS Server ทั่วโลก!” Elastic Security Labs และ Texas A&M University System Cybersecurity เผยการค้นพบแคมเปญโจมตีจากกลุ่มแฮกเกอร์ที่พูดภาษาจีน ซึ่งใช้คีย์ ASP.NET ที่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณะในการเจาะระบบ Microsoft IIS Server ที่ตั้งค่าผิดพลาด แฮกเกอร์ใช้คีย์ machineKey ที่หลุดจากเอกสาร Microsoft และ StackOverflow เพื่อสร้าง payload ที่สามารถ deserialization ผ่าน ViewState ได้ ทำให้สามารถรันคำสั่งบนเซิร์ฟเวอร์ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน หลังจากเจาะระบบได้แล้ว พวกเขาจะติดตั้ง backdoor ชื่อว่า TOLLBOOTH ซึ่งเป็น IIS module ที่มีความสามารถทั้ง SEO cloaking, webshell, และ command execution โดยมี webshell ซ่อนอยู่ที่ /mywebdll พร้อมรหัสผ่าน hack123456! TOLLBOOTH ยังสามารถแยกแยะระหว่าง bot ของ search engine กับผู้ใช้จริง เพื่อแสดงเนื้อหาหลอกลวงให้ bot เห็น (เพื่อดัน SEO) และ redirect ผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์อันตราย ซึ่งเป็นเทคนิคที่เรียกว่า link farm network หากวิธีฝัง backdoor ล้มเหลว แฮกเกอร์จะใช้เครื่องมือ Remote Monitoring & Management (RMM) ชื่อ GotoHTTP เพื่อควบคุมเครื่องผ่านเบราว์เซอร์โดยตรง นอกจากนี้ยังพบ rootkit ระดับ kernel ที่ชื่อว่า HIDDENDRIVER ซึ่งดัดแปลงจากโครงการโอเพ่นซอร์สชื่อ “Hidden” โดยใช้เทคนิค DKOM (Direct Kernel Object Manipulation) เพื่อซ่อน process, ไฟล์ และ registry key จากเครื่องมือวิเคราะห์ระบบ การโจมตีนี้ถูกจัดกลุ่มเป็น REF3927 และพบว่ามีความเชื่อมโยงกับแคมเปญที่ Microsoft และ AhnLab เคยรายงานมาก่อน โดยมีเป้าหมายเป็นเซิร์ฟเวอร์ IIS กว่า 571 เครื่องทั่วโลก ยกเว้นในประเทศจีน ซึ่งสอดคล้องกับพฤติกรรมของกลุ่มแฮกเกอร์จีนที่มักหลีกเลี่ยงการโจมตีภายในประเทศตัวเอง ✅ วิธีการโจมตี ➡️ ใช้คีย์ ASP.NET machineKey ที่ถูกเปิดเผยสู่สาธารณะ ➡️ สร้าง ViewState payload เพื่อรันคำสั่งบน IIS Server ➡️ ติดตั้ง TOLLBOOTH IIS module เป็น backdoor ➡️ ใช้ GotoHTTP หากฝัง backdoor ไม่สำเร็จ ➡️ ติดตั้ง rootkit HIDDENDRIVER เพื่อซ่อนการทำงาน ✅ ความสามารถของ TOLLBOOTH ➡️ มี webshell ซ่อนอยู่ที่ /mywebdll พร้อมรหัสผ่าน ➡️ รองรับการอัปโหลดไฟล์และรันคำสั่ง ➡️ มี endpoint สำหรับ health check, debug และ clean ➡️ มี SEO cloaking engine เพื่อหลอก bot และ redirect ผู้ใช้ ➡️ ใช้ JSON config จากเซิร์ฟเวอร์ควบคุม ✅ ความสามารถของ HIDDENDRIVER ➡️ ใช้เทคนิค DKOM เพื่อซ่อน process, ไฟล์ และ registry ➡️ มี companion app ชื่อ HIDDENCLI เขียนด้วยภาษาจีน ➡️ ปรับปรุงจากโปรเจกต์ “Hidden” ด้วยฟีเจอร์ AMSI bypass และ whitelist process ➡️ ซ่อนตัวจากเครื่องมืออย่าง Process Explorer ได้ ✅ ขอบเขตของการโจมตี ➡️ พบการติดเชื้อใน IIS Server อย่างน้อย 571 เครื่อง ➡️ ครอบคลุมหลายอุตสาหกรรม เช่น การเงิน โลจิสติกส์ การศึกษา ➡️ ไม่มีเหยื่อในประเทศจีน – สะท้อนการใช้ geofencing ➡️ พบการติดตั้งซ้ำในหลายองค์กร แสดงว่าปัญหายังไม่ถูกแก้ที่ต้นเหตุ https://securityonline.info/chinese-hackers-exploit-exposed-asp-net-keys-to-deploy-tollbooth-iis-backdoor-and-kernel-rootkit/
    SECURITYONLINE.INFO
    Chinese Hackers Exploit Exposed ASP.NET Keys to Deploy TOLLBOOTH IIS Backdoor and Kernel Rootkit
    Elastic exposed Chinese threat actors exploiting public ASP.NET machine keys to deploy TOLLBOOTH IIS backdoor and HIDDENDRIVER kernel rootkit. The malware performs stealthy SEO cloaking.
    0 Comments 0 Shares 73 Views 0 Reviews
  • ดร. สุชาริต ภักดี นักจุลชีววิทยาชื่อดัง ได้ออกแถลงการณ์ที่น่าตกตะลึง โดยระบุว่าวัคซีน mRNA เป็น "อันตรายร้ายแรงที่สุดที่มนุษยชาติเคยเผชิญ" แต่ข้อโต้แย้งล่าสุดของเขาไม่ใช่แค่เรื่องวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องถูกกฎหมายอีกด้วย

    เขาชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา นั่นคือ การที่โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ยกเลิกคำแนะนำการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีความเสี่ยง ภักดีโต้แย้งว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเกราะป้องกันทางกฎหมายที่ปกป้องผู้ผลิตวัคซีน

    นี่คือรายละเอียดสำคัญ:

    1. การล่มสลายของเกราะป้องกัน: พระราชบัญญัติความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและความพร้อมรับมือสาธารณะ (PREP) ให้ความคุ้มครองความรับผิดแก่ผู้ผลิตวัคซีน ภักดีโต้แย้งว่าการที่ยกเลิกคำแนะนำอย่างเป็นทางการสำหรับประชากรส่วนใหญ่ (ทั้งคนหนุ่มสาวและคนสุขภาพดี) ทำให้พื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการคุ้มครองนี้ "หมดไปแล้ว"

    2. การพิพากษาที่กำลังจะมาถึง: หากปราศจากเกราะป้องกันความรับผิดนี้ คดีความขนาดใหญ่ระลอกแรกในอเมริกาก็ใกล้จะเกิดขึ้น ใครก็ตามที่กล้าฉีดวัคซีนให้เด็กหรือเยาวชนที่มีสุขภาพดีโดยฝ่าฝืนคำแนะนำอย่างเป็นทางการจะถูกเปิดโปง หากเกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ช่องทางในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายก็เปิดกว้างแล้ว

    3. ภาระการพิสูจน์พลิกกลับ: นี่คือประเด็นสำคัญที่สุด ภักดีระบุว่าในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนจนเป็นอันตรายถึงชีวิต สิทธิในการกลับคืนสู่สังคมจะถูกกระตุ้น ซึ่งหมายความว่าอุตสาหกรรมยาจะถูกบังคับให้ต้องพิสูจน์ว่าวัคซีนไม่ได้ก่อให้เกิดอันตราย

    ข้อสรุปของเขาคืออะไร? "พวกเขาจะทำแบบนั้นไม่ได้"

    ดร.ภักดีไม่ได้วางตำแหน่งสิ่งนี้ไว้ในฐานะความปรารถนาที่จะให้เกิดอันตราย แต่เป็น "ความหวังอันยิ่งใหญ่ของฉัน" ซึ่งเป็นกลไกที่จะทำให้หน่วยงานที่มีอำนาจต้องรับผิดชอบและเปิดเผยความจริงในที่สุด

    ภูมิทัศน์ทางกฎหมายได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผลกระทบมีมากมายมหาศาล

    เข้าร่วม https://t.me/RogerHodkinson
    ดร. สุชาริต ภักดี นักจุลชีววิทยาชื่อดัง ได้ออกแถลงการณ์ที่น่าตกตะลึง โดยระบุว่าวัคซีน mRNA เป็น "อันตรายร้ายแรงที่สุดที่มนุษยชาติเคยเผชิญ" แต่ข้อโต้แย้งล่าสุดของเขาไม่ใช่แค่เรื่องวิทยาศาสตร์เท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องถูกกฎหมายอีกด้วย เขาชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในสหรัฐอเมริกา นั่นคือ การที่โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี จูเนียร์ ยกเลิกคำแนะนำการฉีดวัคซีนสำหรับผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีความเสี่ยง ภักดีโต้แย้งว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อเกราะป้องกันทางกฎหมายที่ปกป้องผู้ผลิตวัคซีน นี่คือรายละเอียดสำคัญ: 1. การล่มสลายของเกราะป้องกัน: พระราชบัญญัติความพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินและความพร้อมรับมือสาธารณะ (PREP) ให้ความคุ้มครองความรับผิดแก่ผู้ผลิตวัคซีน ภักดีโต้แย้งว่าการที่ยกเลิกคำแนะนำอย่างเป็นทางการสำหรับประชากรส่วนใหญ่ (ทั้งคนหนุ่มสาวและคนสุขภาพดี) ทำให้พื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการคุ้มครองนี้ "หมดไปแล้ว" 2. การพิพากษาที่กำลังจะมาถึง: หากปราศจากเกราะป้องกันความรับผิดนี้ คดีความขนาดใหญ่ระลอกแรกในอเมริกาก็ใกล้จะเกิดขึ้น ใครก็ตามที่กล้าฉีดวัคซีนให้เด็กหรือเยาวชนที่มีสุขภาพดีโดยฝ่าฝืนคำแนะนำอย่างเป็นทางการจะถูกเปิดโปง หากเกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ช่องทางในการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายก็เปิดกว้างแล้ว 3. ภาระการพิสูจน์พลิกกลับ: นี่คือประเด็นสำคัญที่สุด ภักดีระบุว่าในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนจนเป็นอันตรายถึงชีวิต สิทธิในการกลับคืนสู่สังคมจะถูกกระตุ้น ซึ่งหมายความว่าอุตสาหกรรมยาจะถูกบังคับให้ต้องพิสูจน์ว่าวัคซีนไม่ได้ก่อให้เกิดอันตราย ข้อสรุปของเขาคืออะไร? "พวกเขาจะทำแบบนั้นไม่ได้" ดร.ภักดีไม่ได้วางตำแหน่งสิ่งนี้ไว้ในฐานะความปรารถนาที่จะให้เกิดอันตราย แต่เป็น "ความหวังอันยิ่งใหญ่ของฉัน" ซึ่งเป็นกลไกที่จะทำให้หน่วยงานที่มีอำนาจต้องรับผิดชอบและเปิดเผยความจริงในที่สุด ภูมิทัศน์ทางกฎหมายได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผลกระทบมีมากมายมหาศาล เข้าร่วม 👉 https://t.me/RogerHodkinson
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • วัคซีนใหม่ๆ ที่กำลังจะออกมา จะต้องฉีดหลายๆ เข็ม
    คุณจึงต้องรู้ว่า ใครฉีดอะไรไปเท่าไหร่แล้ว หรือว่ายัง ?
    ดังนั้น คุณจึงต้องมี โครงสร้างพื้นฐาน ทางดิจิตัล ไอดี เพื่อการสาธารณสุข เผื่อว่าจะเกิด โรคระบาดใหญ่ ขึ้นอีกครั้ง

    ________________________________

    ตอนนี้เขาถูกกำหนด ให้รับผิดชอบฉนวนกาซา คุณยังไม่เห็นความเชื่อมโยง ระหว่าง Digital ID ในประเทศ กับการสังหารหมู่ทางอุตสาหกรรม ที่จำเป็นต่อการสร้าง Greater Israel ในต่างประเทศ หรอกหรือ ?

    อิสราเอลที่โหดร้ายยิ่งกว่า คือสาเหตุที่แท้จริงของโควิด นั่นคือเหตุผลที่กองทัพสหรัฐฯ ดำเนินการ (ในนามของมอสสาด) Digital ID ซึ่งมีไว้เพื่อลงโทษ ผู้ที่ประท้วงความรุนแรง สงครามในยูเครน มีไว้เพื่อผูกมัดรัสเซีย และป้องกันไม่ให้รัสเซีย เข้าข้างประชากรที่ถูกสังหาร ซึ่งเป็นที่ที่อิสราเอล ควรขยายอำนาจ

    BlackRock, Palantir ทั้งหมดนำโดยผู้สนับสนุน Greater Israel

    นั่นคือเหตุผลที่กองทัพสหรัฐฯ ดำเนิน Operation Warp Speed ​​นั่นคือเหตุผลที่อิสราเอล เป็นประเทศแรก ที่ยอมรับการฉีดวัคซีนของ Pfizer ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผน Greater Israel

    พวกเขาดำเนินการเรื่องนี้ มาตั้งแต่ปี 1948 และทั้งหมดนี้ ก็เพื่อให้เกิดผลสำเร็จด้วย Digital ID
    วัคซีนใหม่ๆ ที่กำลังจะออกมา จะต้องฉีดหลายๆ เข็ม คุณจึงต้องรู้ว่า ใครฉีดอะไรไปเท่าไหร่แล้ว หรือว่ายัง ? ดังนั้น คุณจึงต้องมี โครงสร้างพื้นฐาน ทางดิจิตัล ไอดี เพื่อการสาธารณสุข เผื่อว่าจะเกิด โรคระบาดใหญ่ ขึ้นอีกครั้ง 😳 ________________________________ ตอนนี้เขาถูกกำหนด ให้รับผิดชอบฉนวนกาซา คุณยังไม่เห็นความเชื่อมโยง ระหว่าง Digital ID ในประเทศ กับการสังหารหมู่ทางอุตสาหกรรม ที่จำเป็นต่อการสร้าง Greater Israel ในต่างประเทศ หรอกหรือ ? อิสราเอลที่โหดร้ายยิ่งกว่า คือสาเหตุที่แท้จริงของโควิด นั่นคือเหตุผลที่กองทัพสหรัฐฯ ดำเนินการ (ในนามของมอสสาด) Digital ID ซึ่งมีไว้เพื่อลงโทษ ผู้ที่ประท้วงความรุนแรง สงครามในยูเครน มีไว้เพื่อผูกมัดรัสเซีย และป้องกันไม่ให้รัสเซีย เข้าข้างประชากรที่ถูกสังหาร ซึ่งเป็นที่ที่อิสราเอล ควรขยายอำนาจ BlackRock, Palantir ทั้งหมดนำโดยผู้สนับสนุน Greater Israel นั่นคือเหตุผลที่กองทัพสหรัฐฯ ดำเนิน Operation Warp Speed ​​นั่นคือเหตุผลที่อิสราเอล เป็นประเทศแรก ที่ยอมรับการฉีดวัคซีนของ Pfizer ซึ่งทั้งหมดนี้ เป็นส่วนหนึ่งของแผน Greater Israel พวกเขาดำเนินการเรื่องนี้ มาตั้งแต่ปี 1948 และทั้งหมดนี้ ก็เพื่อให้เกิดผลสำเร็จด้วย Digital ID
    0 Comments 0 Shares 68 Views 0 Reviews
  • “เยอรมนีพบแหล่งลิเทียมมหาศาล – อาจเปลี่ยนอนาคตอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าทั้งยุโรป!”

    บริษัท Neptune Energy จากสหราชอาณาจักรประกาศการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมขนาดมหึมาในรัฐ Saxony-Anhalt ประเทศเยอรมนี โดยมีปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตประมาณ 43 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแหล่งลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมากกว่าที่อินเดียเคยค้นพบถึง 7 เท่า

    แหล่งนี้เคยเป็นพื้นที่สกัดก๊าซธรรมชาติมาก่อน และตอนนี้กำลังถูกเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Direct Lithium Extraction (DLE) ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้บ่อระเหยน้ำเกลือขนาดใหญ่ และปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าการทำเหมืองแบบเดิม

    Neptune Energy ได้ทดลองใช้ DLE กับพันธมิตรชื่อ Lilac และกำลังทดสอบกระบวนการดูดซับลิเทียมจากน้ำเกลือ ซึ่งอาจช่วยให้เยอรมนีสามารถผลิตลิเทียมได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากจีนหรือประเทศใน “ลิเทียมไทรแองเกิล” (ชิลี, อาร์เจนตินา, โบลิเวีย)

    ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันต้องนำเข้าลิเทียมจากต่างประเทศ และยังต้องพึ่งพาการแปรรูปจากจีน ทำให้ต้นทุนแบตเตอรี่สูงกว่าคู่แข่งจากจีนถึง 2 เท่า หากเยอรมนีสามารถผลิตและแปรรูปลิเทียมเองได้ จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคงทางอุตสาหกรรมอย่างมาก

    อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเหมืองและโรงงานแปรรูปต้องใช้เงินมหาศาล และยังไม่แน่ชัดว่าเยอรมนีจะสามารถแข่งขันกับจีนในด้านต้นทุนแรงงานและการผลิตได้หรือไม่

    การค้นพบแหล่งลิเทียมในเยอรมนี
    พบในรัฐ Saxony-Anhalt โดย Neptune Energy
    ปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตประมาณ 43 ล้านตัน
    ใหญ่กว่าที่อินเดียเคยค้นพบถึง 7 เท่า
    เคยเป็นพื้นที่สกัดก๊าซธรรมชาติมาก่อน

    เทคโนโลยีการสกัดลิเทียม
    ใช้ Direct Lithium Extraction (DLE) แทนการทำเหมืองหรือบ่อระเหย
    ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าและใช้เวลาน้อยกว่า
    ทดลองร่วมกับบริษัท Lilac
    กำลังทดสอบกระบวนการดูดซับจากน้ำเกลือ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม EV
    ผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันพึ่งพาลิเทียมจากจีนและลิเทียมไทรแองเกิล
    ต้นทุนแบตเตอรี่สูงกว่าคู่แข่งจากจีนถึง 2 เท่า
    หากผลิตเองได้จะลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคง
    อาจเปลี่ยนให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางใหม่ของ supply chain EV

    https://www.slashgear.com/1998530/one-of-worlds-largest-lithium-deposits-found-could-reshape-ev-future/
    🔋 “เยอรมนีพบแหล่งลิเทียมมหาศาล – อาจเปลี่ยนอนาคตอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าทั้งยุโรป!” บริษัท Neptune Energy จากสหราชอาณาจักรประกาศการค้นพบแหล่งแร่ลิเทียมขนาดมหึมาในรัฐ Saxony-Anhalt ประเทศเยอรมนี โดยมีปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตประมาณ 43 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแหล่งลิเทียมที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมากกว่าที่อินเดียเคยค้นพบถึง 7 เท่า แหล่งนี้เคยเป็นพื้นที่สกัดก๊าซธรรมชาติมาก่อน และตอนนี้กำลังถูกเปลี่ยนมาใช้เทคโนโลยีใหม่ที่เรียกว่า Direct Lithium Extraction (DLE) ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ต้องใช้บ่อระเหยน้ำเกลือขนาดใหญ่ และปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าการทำเหมืองแบบเดิม Neptune Energy ได้ทดลองใช้ DLE กับพันธมิตรชื่อ Lilac และกำลังทดสอบกระบวนการดูดซับลิเทียมจากน้ำเกลือ ซึ่งอาจช่วยให้เยอรมนีสามารถผลิตลิเทียมได้เองโดยไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากจีนหรือประเทศใน “ลิเทียมไทรแองเกิล” (ชิลี, อาร์เจนตินา, โบลิเวีย) ปัจจุบันผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันต้องนำเข้าลิเทียมจากต่างประเทศ และยังต้องพึ่งพาการแปรรูปจากจีน ทำให้ต้นทุนแบตเตอรี่สูงกว่าคู่แข่งจากจีนถึง 2 เท่า หากเยอรมนีสามารถผลิตและแปรรูปลิเทียมเองได้ จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคงทางอุตสาหกรรมอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การลงทุนในเหมืองและโรงงานแปรรูปต้องใช้เงินมหาศาล และยังไม่แน่ชัดว่าเยอรมนีจะสามารถแข่งขันกับจีนในด้านต้นทุนแรงงานและการผลิตได้หรือไม่ ✅ การค้นพบแหล่งลิเทียมในเยอรมนี ➡️ พบในรัฐ Saxony-Anhalt โดย Neptune Energy ➡️ ปริมาณลิเทียมคาร์บอเนตประมาณ 43 ล้านตัน ➡️ ใหญ่กว่าที่อินเดียเคยค้นพบถึง 7 เท่า ➡️ เคยเป็นพื้นที่สกัดก๊าซธรรมชาติมาก่อน ✅ เทคโนโลยีการสกัดลิเทียม ➡️ ใช้ Direct Lithium Extraction (DLE) แทนการทำเหมืองหรือบ่อระเหย ➡️ ปล่อยคาร์บอนน้อยกว่าและใช้เวลาน้อยกว่า ➡️ ทดลองร่วมกับบริษัท Lilac ➡️ กำลังทดสอบกระบวนการดูดซับจากน้ำเกลือ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม EV ➡️ ผู้ผลิตรถยนต์เยอรมันพึ่งพาลิเทียมจากจีนและลิเทียมไทรแองเกิล ➡️ ต้นทุนแบตเตอรี่สูงกว่าคู่แข่งจากจีนถึง 2 เท่า ➡️ หากผลิตเองได้จะลดต้นทุนและเพิ่มความมั่นคง ➡️ อาจเปลี่ยนให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางใหม่ของ supply chain EV https://www.slashgear.com/1998530/one-of-worlds-largest-lithium-deposits-found-could-reshape-ev-future/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Is One Of World's Largest Lithium Deposits, And It Could Reshape The Future Of EVs - SlashGear
    One of the world's largest lithium deposits was recently discovered outside of the triangle of South American countries that typically harbor the materials.
    0 Comments 0 Shares 84 Views 0 Reviews
  • “Stanford โชว์นวัตกรรม ‘ผ้าห่มเพชร’ ลดความร้อนทรานซิสเตอร์ได้ถึง 70°C – อนาคตของชิปยุค 1nm ใกล้เข้ามาแล้ว!”

    ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Stanford ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ในการจัดการความร้อนของทรานซิสเตอร์ ด้วยการใช้ “เพชร” เป็นวัสดุห่อหุ้มชิปโดยตรง ซึ่งสามารถลดอุณหภูมิได้ถึง 70°C ในการทดสอบจริง และถึง 90% ในการจำลองการทำงาน ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในสงครามกับความร้อนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

    เทคนิคนี้เรียกว่า “Diamond Blanket” โดยใช้เพชรแบบ polycrystalline ที่มีเม็ดใหญ่พิเศษ เติบโตโดยตรงบนพื้นผิวของทรานซิสเตอร์ที่อุณหภูมิ 400°C ซึ่งถือว่าต่ำพอที่จะไม่ทำลายชิ้นส่วน CMOS ภายในชิป ต่างจากวิธีเดิมที่ต้องใช้ความร้อนสูงถึง 1,000°C

    ความลับของความสำเร็จอยู่ที่การเติมออกซิเจนในระดับสูงระหว่างการเติบโตของเพชร ซึ่งช่วยกำจัดคาร์บอนที่ไม่ใช่เพชรออกไป ทำให้ได้ผลึกเพชรที่นำความร้อนได้ดีมาก โดยเพชรชนิดนี้นำความร้อนได้มากกว่าทองแดงถึง 6 เท่า!

    เทคนิคนี้ไม่ใช่แค่แนวคิด เพราะ DARPA หน่วยงานวิจัยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ว่าจ้าง Raytheon ให้พัฒนาเทคโนโลยีนี้ตั้งแต่ปี 2024 และตอนนี้ Stanford ก็เตรียมนำไปใช้ร่วมกับบริษัทใหญ่อย่าง TSMC, Micron และ Samsung เพื่อผลักดันสู่การผลิตจริงภายในปี 2027

    นวัตกรรม Diamond Blanket จาก Stanford
    ใช้เพชรห่อหุ้มทรานซิสเตอร์โดยตรงเพื่อลดความร้อน
    ลดอุณหภูมิได้ถึง 70°C ในการทดสอบจริง และ 90% ในการจำลอง
    ใช้เพชรแบบ polycrystalline เม็ดใหญ่พิเศษ
    เติบโตที่อุณหภูมิ 400°C ซึ่งปลอดภัยต่อ CMOS
    เติมออกซิเจนเพื่อกำจัดคาร์บอนที่ไม่ใช่เพชร
    เพชรนำความร้อนได้มากกว่าทองแดงถึง 6 เท่า
    เหมาะกับชิปแบบ 3D ที่มีปัญหาความร้อนสะสมภายใน

    การสนับสนุนและแผนการนำไปใช้
    DARPA เคยว่าจ้าง Raytheon พัฒนาเทคโนโลยีนี้ในปี 2024
    Stanford เตรียมร่วมมือกับ TSMC, Micron และ Samsung
    คาดว่าจะเริ่มใช้งานจริงในอุตสาหกรรมภายในปี 2027
    อาจเป็นทางออกก่อนเข้าสู่ยุคหลังซิลิคอน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/diamond-blanket-transistor-cooling-method-sees-incredible-success-in-testing-growing-micrometer-scale-diamond-layer-directly-on-transistors-drops-temps-by-70-c
    💎 “Stanford โชว์นวัตกรรม ‘ผ้าห่มเพชร’ ลดความร้อนทรานซิสเตอร์ได้ถึง 70°C – อนาคตของชิปยุค 1nm ใกล้เข้ามาแล้ว!” ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัย Stanford ได้พัฒนาเทคนิคใหม่ในการจัดการความร้อนของทรานซิสเตอร์ ด้วยการใช้ “เพชร” เป็นวัสดุห่อหุ้มชิปโดยตรง ซึ่งสามารถลดอุณหภูมิได้ถึง 70°C ในการทดสอบจริง และถึง 90% ในการจำลองการทำงาน ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในสงครามกับความร้อนของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เทคนิคนี้เรียกว่า “Diamond Blanket” โดยใช้เพชรแบบ polycrystalline ที่มีเม็ดใหญ่พิเศษ เติบโตโดยตรงบนพื้นผิวของทรานซิสเตอร์ที่อุณหภูมิ 400°C ซึ่งถือว่าต่ำพอที่จะไม่ทำลายชิ้นส่วน CMOS ภายในชิป ต่างจากวิธีเดิมที่ต้องใช้ความร้อนสูงถึง 1,000°C ความลับของความสำเร็จอยู่ที่การเติมออกซิเจนในระดับสูงระหว่างการเติบโตของเพชร ซึ่งช่วยกำจัดคาร์บอนที่ไม่ใช่เพชรออกไป ทำให้ได้ผลึกเพชรที่นำความร้อนได้ดีมาก โดยเพชรชนิดนี้นำความร้อนได้มากกว่าทองแดงถึง 6 เท่า! เทคนิคนี้ไม่ใช่แค่แนวคิด เพราะ DARPA หน่วยงานวิจัยของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ว่าจ้าง Raytheon ให้พัฒนาเทคโนโลยีนี้ตั้งแต่ปี 2024 และตอนนี้ Stanford ก็เตรียมนำไปใช้ร่วมกับบริษัทใหญ่อย่าง TSMC, Micron และ Samsung เพื่อผลักดันสู่การผลิตจริงภายในปี 2027 ✅ นวัตกรรม Diamond Blanket จาก Stanford ➡️ ใช้เพชรห่อหุ้มทรานซิสเตอร์โดยตรงเพื่อลดความร้อน ➡️ ลดอุณหภูมิได้ถึง 70°C ในการทดสอบจริง และ 90% ในการจำลอง ➡️ ใช้เพชรแบบ polycrystalline เม็ดใหญ่พิเศษ ➡️ เติบโตที่อุณหภูมิ 400°C ซึ่งปลอดภัยต่อ CMOS ➡️ เติมออกซิเจนเพื่อกำจัดคาร์บอนที่ไม่ใช่เพชร ➡️ เพชรนำความร้อนได้มากกว่าทองแดงถึง 6 เท่า ➡️ เหมาะกับชิปแบบ 3D ที่มีปัญหาความร้อนสะสมภายใน ✅ การสนับสนุนและแผนการนำไปใช้ ➡️ DARPA เคยว่าจ้าง Raytheon พัฒนาเทคโนโลยีนี้ในปี 2024 ➡️ Stanford เตรียมร่วมมือกับ TSMC, Micron และ Samsung ➡️ คาดว่าจะเริ่มใช้งานจริงในอุตสาหกรรมภายในปี 2027 ➡️ อาจเป็นทางออกก่อนเข้าสู่ยุคหลังซิลิคอน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/diamond-blanket-transistor-cooling-method-sees-incredible-success-in-testing-growing-micrometer-scale-diamond-layer-directly-on-transistors-drops-temps-by-70-c
    0 Comments 0 Shares 59 Views 0 Reviews
  • “ByteDance จับมือ AMD, Intel, Arm และ Google สร้างมาตรฐานใหม่ให้เฟิร์มแวร์ – เปิดตัวโครงการ openSFI”

    ใครจะคิดว่าเจ้าของ TikTok อย่าง ByteDance จะมาร่วมวงกับยักษ์ใหญ่สายฮาร์ดแวร์อย่าง AMD, Intel, Arm และ Google ในการพัฒนาเฟิร์มแวร์ระดับล่างของระบบคอมพิวเตอร์ ล่าสุดพวกเขาร่วมกันเปิดตัวโครงการชื่อว่า “openSFI” (Open Silicon Firmware Interface) ซึ่งเป็นความพยายามครั้งใหญ่ในการสร้างมาตรฐานกลางสำหรับการสื่อสารระหว่างเฟิร์มแวร์กับชิป CPU

    openSFI มีเป้าหมายเพื่อให้เฟิร์มแวร์สามารถทำงานร่วมกับชิปจากผู้ผลิตต่าง ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดใหม่ทุกครั้งที่เปลี่ยนแพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน ลดเวลาในการพัฒนา และเพิ่มความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรม

    โครงการนี้ต่อยอดจากความพยายามของ AMD ที่ชื่อว่า openSIL ซึ่งเป็นเฟิร์มแวร์แบบโอเพ่นซอร์สที่มาแทน AGESA และของ Intel ที่ชื่อว่า FSP (Firmware Support Package) โดย openSFI จะเป็นเลเยอร์กลางที่นั่งอยู่เหนือ openSIL และ FSP เพื่อให้เฟิร์มแวร์เรียกใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ได้แบบมาตรฐานเดียว

    ที่น่าสนใจคือ ByteDance เป็นบริษัทจีนเพียงรายเดียวที่เข้าร่วมโครงการนี้ ท่ามกลางบริษัทตะวันตกยักษ์ใหญ่มากมาย เช่น Microsoft, HPE, MiTAC และ Google ซึ่งถือเป็นความร่วมมือข้ามชาติที่หาได้ยากในยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นเรื่องภูมิรัฐศาสตร์

    โครงการ openSFI คืออะไร
    เป็นมาตรฐานกลางสำหรับการเชื่อมต่อระหว่างเฟิร์มแวร์กับชิป CPU
    ช่วยให้เฟิร์มแวร์ทำงานร่วมกับชิปจากหลายค่ายได้ง่ายขึ้น
    ลดต้นทุนและเวลาในการพัฒนาเฟิร์มแวร์
    เพิ่มความสามารถในการนำกลับมาใช้ซ้ำ (reusability)
    ส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์

    ความร่วมมือระดับโลก
    นำโดย AMD, Intel, Arm, Google และ ByteDance
    ByteDance เป็นบริษัทจีนเพียงรายเดียวในโครงการ
    มีบริษัทอื่นร่วมด้วย เช่น Microsoft, HPE, MiTAC
    โครงการต่อยอดจาก AMD openSIL และ Intel FSP
    openSFI จะเป็นเลเยอร์กลางที่เชื่อมทั้งสองระบบเข้าด้วยกัน

    เป้าหมายของ openSFI
    สร้าง API ที่เสถียรและเป็นมาตรฐาน
    ให้ host firmware เรียกใช้ฟังก์ชันของชิปได้แบบไม่ขึ้นกับผู้ผลิต
    ลดความซ้ำซ้อนในการพัฒนาและการตรวจสอบระบบ
    สนับสนุนการพัฒนาเฟิร์มแวร์แบบโมดูลาร์และขยายได้

    https://www.techradar.com/pro/tiktok-owner-is-collaborating-with-amd-arm-and-intel-on-making-firmware-solutions-better-bytedance-is-the-only-chinese-company-participating-in-this-major-project
    🤝 “ByteDance จับมือ AMD, Intel, Arm และ Google สร้างมาตรฐานใหม่ให้เฟิร์มแวร์ – เปิดตัวโครงการ openSFI” ใครจะคิดว่าเจ้าของ TikTok อย่าง ByteDance จะมาร่วมวงกับยักษ์ใหญ่สายฮาร์ดแวร์อย่าง AMD, Intel, Arm และ Google ในการพัฒนาเฟิร์มแวร์ระดับล่างของระบบคอมพิวเตอร์ ล่าสุดพวกเขาร่วมกันเปิดตัวโครงการชื่อว่า “openSFI” (Open Silicon Firmware Interface) ซึ่งเป็นความพยายามครั้งใหญ่ในการสร้างมาตรฐานกลางสำหรับการสื่อสารระหว่างเฟิร์มแวร์กับชิป CPU openSFI มีเป้าหมายเพื่อให้เฟิร์มแวร์สามารถทำงานร่วมกับชิปจากผู้ผลิตต่าง ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ โดยไม่ต้องเขียนโค้ดใหม่ทุกครั้งที่เปลี่ยนแพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยลดต้นทุน ลดเวลาในการพัฒนา และเพิ่มความยั่งยืนให้กับอุตสาหกรรม โครงการนี้ต่อยอดจากความพยายามของ AMD ที่ชื่อว่า openSIL ซึ่งเป็นเฟิร์มแวร์แบบโอเพ่นซอร์สที่มาแทน AGESA และของ Intel ที่ชื่อว่า FSP (Firmware Support Package) โดย openSFI จะเป็นเลเยอร์กลางที่นั่งอยู่เหนือ openSIL และ FSP เพื่อให้เฟิร์มแวร์เรียกใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ได้แบบมาตรฐานเดียว ที่น่าสนใจคือ ByteDance เป็นบริษัทจีนเพียงรายเดียวที่เข้าร่วมโครงการนี้ ท่ามกลางบริษัทตะวันตกยักษ์ใหญ่มากมาย เช่น Microsoft, HPE, MiTAC และ Google ซึ่งถือเป็นความร่วมมือข้ามชาติที่หาได้ยากในยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นเรื่องภูมิรัฐศาสตร์ ✅ โครงการ openSFI คืออะไร ➡️ เป็นมาตรฐานกลางสำหรับการเชื่อมต่อระหว่างเฟิร์มแวร์กับชิป CPU ➡️ ช่วยให้เฟิร์มแวร์ทำงานร่วมกับชิปจากหลายค่ายได้ง่ายขึ้น ➡️ ลดต้นทุนและเวลาในการพัฒนาเฟิร์มแวร์ ➡️ เพิ่มความสามารถในการนำกลับมาใช้ซ้ำ (reusability) ➡️ ส่งเสริมความยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์ ✅ ความร่วมมือระดับโลก ➡️ นำโดย AMD, Intel, Arm, Google และ ByteDance ➡️ ByteDance เป็นบริษัทจีนเพียงรายเดียวในโครงการ ➡️ มีบริษัทอื่นร่วมด้วย เช่น Microsoft, HPE, MiTAC ➡️ โครงการต่อยอดจาก AMD openSIL และ Intel FSP ➡️ openSFI จะเป็นเลเยอร์กลางที่เชื่อมทั้งสองระบบเข้าด้วยกัน ✅ เป้าหมายของ openSFI ➡️ สร้าง API ที่เสถียรและเป็นมาตรฐาน ➡️ ให้ host firmware เรียกใช้ฟังก์ชันของชิปได้แบบไม่ขึ้นกับผู้ผลิต ➡️ ลดความซ้ำซ้อนในการพัฒนาและการตรวจสอบระบบ ➡️ สนับสนุนการพัฒนาเฟิร์มแวร์แบบโมดูลาร์และขยายได้ https://www.techradar.com/pro/tiktok-owner-is-collaborating-with-amd-arm-and-intel-on-making-firmware-solutions-better-bytedance-is-the-only-chinese-company-participating-in-this-major-project
    WWW.TECHRADAR.COM
    Firmware wars take a new turn as openSFI promises to break vendor barriers
    OpenSFI layers above AMD’s openSIL and Intel’s FSP for unified function calls
    0 Comments 0 Shares 46 Views 0 Reviews
  • “TSMC ยังเหนียวแน่น! Qualcomm และ MediaTek ไม่น่าจะเปลี่ยนไปใช้ Samsung สำหรับชิป 2nm – เหตุผลทั้งเทคนิคและเวลา”

    หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวลือว่า Qualcomm กับ MediaTek อาจเปลี่ยนไปใช้ Samsung Foundry สำหรับการผลิตชิป 2nm แทน TSMC เพราะราคาที่ TSMC ตั้งไว้สูงถึง $30,000 ต่อแผ่นเวเฟอร์ ทำให้ดูเหมือนว่าทั้งสองบริษัทอาจหาทางเลือกใหม่เพื่อประหยัดต้นทุน

    แต่ล่าสุดมีรายงานจาก DigiTimes ที่อ้างแหล่งข่าวในสายการผลิตว่า “ไม่น่าเป็นไปได้” ที่ Qualcomm และ MediaTek จะเปลี่ยนไปใช้ Samsung ในเร็ว ๆ นี้ โดยมีเหตุผลหลักสองข้อคือ “เรื่องเวลา” และ “ความพร้อมของเทคโนโลยี”

    แม้ว่า MediaTek จะประกาศว่าได้ tape-out ชิป 2nm แล้วและจะเปิดตัวปลายปี 2026 แต่ไม่ได้ระบุว่าใช้โรงงานไหน ซึ่งทำให้เกิดการคาดเดาว่าอาจเป็น Samsung แต่แหล่งข่าวบอกว่า ถ้าจะใช้เทคโนโลยี GAA 2nm ของ Samsung จริง ๆ ก็ต้องรอถึงปี 2027 ถึงจะพร้อมใช้งานในเชิงพาณิชย์

    อีกประเด็นคือเรื่องของการตามให้ทัน Apple ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตชิป โดย Qualcomm และ MediaTek ไม่อยากปล่อยให้ Apple นำหน้าไปอีกหนึ่งเจเนอเรชัน จึงเลือกที่จะอยู่กับ TSMC แม้ราคาจะสูง แต่ก็ถือว่า “รับได้” เพื่อรักษาความเร็วและคุณภาพของผลิตภัณฑ์

    นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า Qualcomm เคยขอ sample ชิป 2nm จาก Samsung เพื่อทดสอบ ซึ่งอาจเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตมากกว่าการเปลี่ยนโรงงานในตอนนี้

    สถานการณ์การผลิตชิป 2nm
    TSMC ยังคงเป็นผู้ผลิตหลักของ Qualcomm และ MediaTek
    ราคาชิป 2nm จาก TSMC อยู่ที่ $30,000 ต่อเวเฟอร์
    MediaTek tape-out ชิป 2nm แล้ว เตรียมเปิดตัวปลายปี 2026
    Samsung ยังไม่พร้อมผลิตชิป 2nm GAA จนกว่าจะถึงปี 2027
    Qualcomm เคยขอ sample จาก Samsung เพื่อทดสอบ
    ทั้งสองบริษัทต้องการตามให้ทัน Apple ในด้านเทคโนโลยี
    การอยู่กับ TSMC ช่วยรักษาคุณภาพและความเร็วในการพัฒนา

    ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม
    Apple เคยใช้ TSMC N3B สำหรับ M3, M3 Pro และ M3 Max
    Tape-out ของ Apple มีต้นทุนสูงถึง $1 พันล้าน
    Snapdragon 8 Gen 3 และ Dimensity 9300 ใช้ TSMC 3nm รุ่นแรก
    Snapdragon 8 Elite Gen 5 และ Dimensity 9500 มีต้นทุนสูงขึ้น
    อาจมีการใช้ dual-sourcing ในอนาคตระหว่าง TSMC และ Samsung

    https://wccftech.com/qualcomm-and-mediatek-are-unlikely-to-switch-to-samsung-for-2nm-chip-orders/
    🔧 “TSMC ยังเหนียวแน่น! Qualcomm และ MediaTek ไม่น่าจะเปลี่ยนไปใช้ Samsung สำหรับชิป 2nm – เหตุผลทั้งเทคนิคและเวลา” หลายคนอาจเคยได้ยินข่าวลือว่า Qualcomm กับ MediaTek อาจเปลี่ยนไปใช้ Samsung Foundry สำหรับการผลิตชิป 2nm แทน TSMC เพราะราคาที่ TSMC ตั้งไว้สูงถึง $30,000 ต่อแผ่นเวเฟอร์ ทำให้ดูเหมือนว่าทั้งสองบริษัทอาจหาทางเลือกใหม่เพื่อประหยัดต้นทุน แต่ล่าสุดมีรายงานจาก DigiTimes ที่อ้างแหล่งข่าวในสายการผลิตว่า “ไม่น่าเป็นไปได้” ที่ Qualcomm และ MediaTek จะเปลี่ยนไปใช้ Samsung ในเร็ว ๆ นี้ โดยมีเหตุผลหลักสองข้อคือ “เรื่องเวลา” และ “ความพร้อมของเทคโนโลยี” แม้ว่า MediaTek จะประกาศว่าได้ tape-out ชิป 2nm แล้วและจะเปิดตัวปลายปี 2026 แต่ไม่ได้ระบุว่าใช้โรงงานไหน ซึ่งทำให้เกิดการคาดเดาว่าอาจเป็น Samsung แต่แหล่งข่าวบอกว่า ถ้าจะใช้เทคโนโลยี GAA 2nm ของ Samsung จริง ๆ ก็ต้องรอถึงปี 2027 ถึงจะพร้อมใช้งานในเชิงพาณิชย์ อีกประเด็นคือเรื่องของการตามให้ทัน Apple ซึ่งเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการผลิตชิป โดย Qualcomm และ MediaTek ไม่อยากปล่อยให้ Apple นำหน้าไปอีกหนึ่งเจเนอเรชัน จึงเลือกที่จะอยู่กับ TSMC แม้ราคาจะสูง แต่ก็ถือว่า “รับได้” เพื่อรักษาความเร็วและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า Qualcomm เคยขอ sample ชิป 2nm จาก Samsung เพื่อทดสอบ ซึ่งอาจเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตมากกว่าการเปลี่ยนโรงงานในตอนนี้ ✅ สถานการณ์การผลิตชิป 2nm ➡️ TSMC ยังคงเป็นผู้ผลิตหลักของ Qualcomm และ MediaTek ➡️ ราคาชิป 2nm จาก TSMC อยู่ที่ $30,000 ต่อเวเฟอร์ ➡️ MediaTek tape-out ชิป 2nm แล้ว เตรียมเปิดตัวปลายปี 2026 ➡️ Samsung ยังไม่พร้อมผลิตชิป 2nm GAA จนกว่าจะถึงปี 2027 ➡️ Qualcomm เคยขอ sample จาก Samsung เพื่อทดสอบ ➡️ ทั้งสองบริษัทต้องการตามให้ทัน Apple ในด้านเทคโนโลยี ➡️ การอยู่กับ TSMC ช่วยรักษาคุณภาพและความเร็วในการพัฒนา ✅ ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม ➡️ Apple เคยใช้ TSMC N3B สำหรับ M3, M3 Pro และ M3 Max ➡️ Tape-out ของ Apple มีต้นทุนสูงถึง $1 พันล้าน ➡️ Snapdragon 8 Gen 3 และ Dimensity 9300 ใช้ TSMC 3nm รุ่นแรก ➡️ Snapdragon 8 Elite Gen 5 และ Dimensity 9500 มีต้นทุนสูงขึ้น ➡️ อาจมีการใช้ dual-sourcing ในอนาคตระหว่าง TSMC และ Samsung https://wccftech.com/qualcomm-and-mediatek-are-unlikely-to-switch-to-samsung-for-2nm-chip-orders/
    WCCFTECH.COM
    Qualcomm, MediaTek Switching To Samsung Foundry For 2nm Chip Orders Seems Unlikely, Supply Chain Sources Believe That Timing Makes The Switch Impossible
    A new report says that supply chain sources are unconvinced that Qualcomm and MediaTek will begin placing 2nm chip orders with Samsung
    0 Comments 0 Shares 37 Views 0 Reviews
  • โชคดีละกัลล !!!

    “Warner Bros. Discovery ประกาศขายกิจการ! เปิดรับข้อเสนอจากหลายฝ่าย – สัญญาณเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการบันเทิง”

    Warner Bros. Discovery (WBD) บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ที่รวมเอา Warner Bros. กับ Discovery Global เข้าด้วยกันเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า “พร้อมขาย” และกำลังพิจารณาข้อเสนอจากหลายฝ่ายที่แสดงความสนใจเข้าซื้อกิจการ

    การประกาศนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระบวนการแยกตัวระหว่าง Warner Bros. และ Discovery Global ซึ่งเดิมทีวางแผนจะเสร็จสิ้นภายในกลางปี 2026 แต่ด้วยความสนใจจากภายนอกที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่คาดคิด ทำให้บอร์ดบริหารของ WBD เปิดรับทุกทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นการขายทั้งบริษัท หรือแยกขายเฉพาะบางส่วน เช่น Warner Bros. Games

    David Zaslav ซีอีโอของ WBD ยืนยันว่าการตัดสินใจนี้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และเพื่อให้บริษัทสามารถปรับตัวในยุคสื่อดิจิทัลได้ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายในการพัฒนา HBO Max ให้เติบโตทั่วโลก และฟื้นฟูสตูดิโอให้กลับมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอีกครั้ง

    แต่เบื้องหลังความเคลื่อนไหวนี้ก็มีเสียงวิจารณ์ไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องการบริหารงานของ Zaslav ที่ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาหลายอย่าง เช่น การเน้นเกมแบบ live service มากเกินไป การเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก และการปิดสตูดิโอเกมเก่าแก่ แม้จะมีเกมอย่าง Hogwarts Legacy ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงก็ตาม

    จากมุมมองภายนอก การขายกิจการครั้งนี้อาจเป็นโอกาสให้บริษัทอื่นเข้ามาปรับโครงสร้างใหม่ เช่น Sony ที่เคยมีข่าวลือว่าสนใจซื้อกิจการบางส่วนของ WBD โดยเฉพาะในส่วนของสตรีมมิ่งและสตูดิโอ

    การประกาศขายกิจการของ WBD
    WBD ประกาศเปิดรับข้อเสนอจากหลายฝ่ายที่สนใจเข้าซื้อกิจการ
    เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการแยก Warner Bros. และ Discovery Global
    พิจารณาทั้งการขายทั้งบริษัทหรือแยกขายบางส่วน
    มีแผนแยกบริษัทให้เสร็จภายในกลางปี 2026
    มีแนวคิดให้ Warner Bros. ควบรวมใหม่ และแยก Discovery Global ออกไป
    เป้าหมายเพื่อปรับตัวในยุคสื่อดิจิทัล และขยาย HBO Max
    ซีอีโอ David Zaslav ยืนยันว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น

    ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม
    มีข่าวลือว่า Sony สนใจซื้อกิจการบางส่วนของ WBD
    Hogwarts Legacy ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเชิงพาณิชย์
    ตลาดเกม triple-A มีต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ข้อวิจารณ์และคำเตือน
    การบริหารของ Zaslav ถูกวิจารณ์ว่าเน้น live service มากเกินไป
    มีการเลิกจ้างพนักงานและปิดสตูดิโอเกมเก่าแก่
    แม้มีเกมขายดี แต่ยังถูกมองว่า “ไม่พอ” ในสายตาผู้บริหาร
    การจ่ายเงินเดือนผู้บริหารสูงเกินไป อาจกระทบงบพัฒนาเกม
    การขายกิจการอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการบันเทิง

    https://wccftech.com/warner-bros-discovery-is-officially-up-for-sale/
    โชคดีละกัลล !!! 🎬 “Warner Bros. Discovery ประกาศขายกิจการ! เปิดรับข้อเสนอจากหลายฝ่าย – สัญญาณเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการบันเทิง” Warner Bros. Discovery (WBD) บริษัทสื่อยักษ์ใหญ่ที่รวมเอา Warner Bros. กับ Discovery Global เข้าด้วยกันเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ตอนนี้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า “พร้อมขาย” และกำลังพิจารณาข้อเสนอจากหลายฝ่ายที่แสดงความสนใจเข้าซื้อกิจการ การประกาศนี้เกิดขึ้นท่ามกลางกระบวนการแยกตัวระหว่าง Warner Bros. และ Discovery Global ซึ่งเดิมทีวางแผนจะเสร็จสิ้นภายในกลางปี 2026 แต่ด้วยความสนใจจากภายนอกที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่คาดคิด ทำให้บอร์ดบริหารของ WBD เปิดรับทุกทางเลือก ไม่ว่าจะเป็นการขายทั้งบริษัท หรือแยกขายเฉพาะบางส่วน เช่น Warner Bros. Games David Zaslav ซีอีโอของ WBD ยืนยันว่าการตัดสินใจนี้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น และเพื่อให้บริษัทสามารถปรับตัวในยุคสื่อดิจิทัลได้ดีขึ้น โดยมีเป้าหมายในการพัฒนา HBO Max ให้เติบโตทั่วโลก และฟื้นฟูสตูดิโอให้กลับมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอีกครั้ง แต่เบื้องหลังความเคลื่อนไหวนี้ก็มีเสียงวิจารณ์ไม่น้อย โดยเฉพาะเรื่องการบริหารงานของ Zaslav ที่ถูกมองว่าเป็นต้นเหตุของปัญหาหลายอย่าง เช่น การเน้นเกมแบบ live service มากเกินไป การเลิกจ้างพนักงานจำนวนมาก และการปิดสตูดิโอเกมเก่าแก่ แม้จะมีเกมอย่าง Hogwarts Legacy ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงก็ตาม จากมุมมองภายนอก การขายกิจการครั้งนี้อาจเป็นโอกาสให้บริษัทอื่นเข้ามาปรับโครงสร้างใหม่ เช่น Sony ที่เคยมีข่าวลือว่าสนใจซื้อกิจการบางส่วนของ WBD โดยเฉพาะในส่วนของสตรีมมิ่งและสตูดิโอ ✅ การประกาศขายกิจการของ WBD ➡️ WBD ประกาศเปิดรับข้อเสนอจากหลายฝ่ายที่สนใจเข้าซื้อกิจการ ➡️ เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการแยก Warner Bros. และ Discovery Global ➡️ พิจารณาทั้งการขายทั้งบริษัทหรือแยกขายบางส่วน ➡️ มีแผนแยกบริษัทให้เสร็จภายในกลางปี 2026 ➡️ มีแนวคิดให้ Warner Bros. ควบรวมใหม่ และแยก Discovery Global ออกไป ➡️ เป้าหมายเพื่อปรับตัวในยุคสื่อดิจิทัล และขยาย HBO Max ➡️ ซีอีโอ David Zaslav ยืนยันว่าทำเพื่อผลประโยชน์ของผู้ถือหุ้น ✅ ความเคลื่อนไหวในอุตสาหกรรม ➡️ มีข่าวลือว่า Sony สนใจซื้อกิจการบางส่วนของ WBD ➡️ Hogwarts Legacy ประสบความสำเร็จอย่างสูงในเชิงพาณิชย์ ➡️ ตลาดเกม triple-A มีต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ‼️ ข้อวิจารณ์และคำเตือน ⛔ การบริหารของ Zaslav ถูกวิจารณ์ว่าเน้น live service มากเกินไป ⛔ มีการเลิกจ้างพนักงานและปิดสตูดิโอเกมเก่าแก่ แม้มีเกมขายดี แต่ยังถูกมองว่า “ไม่พอ” ในสายตาผู้บริหาร ⛔ การจ่ายเงินเดือนผู้บริหารสูงเกินไป อาจกระทบงบพัฒนาเกม ⛔ การขายกิจการอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการบันเทิง https://wccftech.com/warner-bros-discovery-is-officially-up-for-sale/
    WCCFTECH.COM
    Warner Bros. Discovery Is Officially On Sale, Amidst the Ongoing Split Between WB and Discovery Global
    Warner Bros. Discovery has publicly declared that it is up for sale, and that it is reviewing interest "from multiple parties."
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • “Microsoft ปฏิเสธข้อกล่าวหา — ศูนย์ข้อมูลในเม็กซิโกไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาน้ำ, ไฟ และโรคระบาด” — เมื่อการขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาด 1.5 กิกะวัตต์กลายเป็นประเด็นร้อนในชุมชนท้องถิ่น

    เล่าเรื่องให้ฟัง: Microsoft ถูกกล่าวหาว่าศูนย์ข้อมูลในเมืองเกเรตาโร ประเทศเม็กซิโก ซึ่งเปิดใช้งานเมื่อปี 2024 เป็นสาเหตุของปัญหาน้ำขาดแคลน, ไฟดับบ่อย และโรคระบาดในชุมชนใกล้เคียง เช่น โรคตับอักเสบและอาการป่วยในระบบทางเดินอาหาร

    รายงานจาก New York Times ระบุว่า:

    โรงเรียนในเมือง Las Cenizas ต้องปิดชั่วคราวเพราะไม่มีน้ำใช้
    คลินิกท้องถิ่นไม่สามารถรักษาผู้ป่วยได้เพราะไฟดับ
    ชาวบ้านต้องจ่ายเงินเพื่อใช้น้ำจากรถบรรทุก
    อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายจากไฟกระชาก

    Microsoft ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดย Bowen Wallace รองประธานฝ่ายศูนย์ข้อมูลในอเมริกา ระบุว่า “ไม่มีหลักฐานว่าศูนย์ข้อมูลของเราทำให้เกิดไฟดับหรือน้ำขาดแคลน” และยืนยันว่าจะยังคงให้ความสำคัญกับความต้องการพื้นฐานของชุมชน

    บริษัทไฟฟ้าแห่งชาติของเม็กซิโกชี้ว่าไฟดับเกิดจากฟ้าผ่าและสัตว์หลงเข้าไปในระบบไฟฟ้า ไม่เกี่ยวกับการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูล

    Alejandro Sterling ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาอุตสาหกรรมของรัฐเกเรตาโรกล่าวว่า “นี่คือปัญหาที่ดี” เพราะสะท้อนถึงการเติบโตของพื้นที่ และยืนยันว่าแผนขยายศูนย์ข้อมูลในเม็กซิโกจะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1.5 กิกะวัตต์ใน 5 ปีข้างหน้า

    Microsoft ถูกกล่าวหาว่าศูนย์ข้อมูลในเม็กซิโกเป็นต้นเหตุของปัญหาท้องถิ่น
    เช่น น้ำขาดแคลน, ไฟดับ, และโรคตับอักเสบ

    ชาวบ้านในเมืองใกล้เคียงต้องจ่ายเงินใช้น้ำจากรถบรรทุก
    เพราะน้ำประปาไม่เพียงพอ

    Microsoft ปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ
    ระบุว่าไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงกับปัญหาที่เกิดขึ้น

    บริษัทไฟฟ้าแห่งชาติชี้ว่าไฟดับเกิดจากฟ้าผ่าและสัตว์
    ไม่เกี่ยวกับการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูล

    เจ้าหน้าที่รัฐมองว่าปัญหาเหล่านี้สะท้อนการเติบโตของพื้นที่
    และสนับสนุนแผนขยายศูนย์ข้อมูลอีก 1.5 กิกะวัตต์ใน 5 ปี

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/microsoft-denies-mexico-data-center-linked-to-water-shortages-local-illnesses-and-power-outages-stomach-bugs-and-even-hepatitis-reported-in-region-as-1-5-gigawatt-ai-data-center-buildout-looms
    🏗️ “Microsoft ปฏิเสธข้อกล่าวหา — ศูนย์ข้อมูลในเม็กซิโกไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหาน้ำ, ไฟ และโรคระบาด” — เมื่อการขยายโครงสร้างพื้นฐาน AI ขนาด 1.5 กิกะวัตต์กลายเป็นประเด็นร้อนในชุมชนท้องถิ่น เล่าเรื่องให้ฟัง: Microsoft ถูกกล่าวหาว่าศูนย์ข้อมูลในเมืองเกเรตาโร ประเทศเม็กซิโก ซึ่งเปิดใช้งานเมื่อปี 2024 เป็นสาเหตุของปัญหาน้ำขาดแคลน, ไฟดับบ่อย และโรคระบาดในชุมชนใกล้เคียง เช่น โรคตับอักเสบและอาการป่วยในระบบทางเดินอาหาร รายงานจาก New York Times ระบุว่า: 🎗️ โรงเรียนในเมือง Las Cenizas ต้องปิดชั่วคราวเพราะไม่มีน้ำใช้ 🎗️ คลินิกท้องถิ่นไม่สามารถรักษาผู้ป่วยได้เพราะไฟดับ 🎗️ ชาวบ้านต้องจ่ายเงินเพื่อใช้น้ำจากรถบรรทุก 🎗️ อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหายจากไฟกระชาก Microsoft ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดย Bowen Wallace รองประธานฝ่ายศูนย์ข้อมูลในอเมริกา ระบุว่า “ไม่มีหลักฐานว่าศูนย์ข้อมูลของเราทำให้เกิดไฟดับหรือน้ำขาดแคลน” และยืนยันว่าจะยังคงให้ความสำคัญกับความต้องการพื้นฐานของชุมชน บริษัทไฟฟ้าแห่งชาติของเม็กซิโกชี้ว่าไฟดับเกิดจากฟ้าผ่าและสัตว์หลงเข้าไปในระบบไฟฟ้า ไม่เกี่ยวกับการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูล Alejandro Sterling ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาอุตสาหกรรมของรัฐเกเรตาโรกล่าวว่า “นี่คือปัญหาที่ดี” เพราะสะท้อนถึงการเติบโตของพื้นที่ และยืนยันว่าแผนขยายศูนย์ข้อมูลในเม็กซิโกจะเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1.5 กิกะวัตต์ใน 5 ปีข้างหน้า ✅ Microsoft ถูกกล่าวหาว่าศูนย์ข้อมูลในเม็กซิโกเป็นต้นเหตุของปัญหาท้องถิ่น ➡️ เช่น น้ำขาดแคลน, ไฟดับ, และโรคตับอักเสบ ✅ ชาวบ้านในเมืองใกล้เคียงต้องจ่ายเงินใช้น้ำจากรถบรรทุก ➡️ เพราะน้ำประปาไม่เพียงพอ ✅ Microsoft ปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างเป็นทางการ ➡️ ระบุว่าไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงกับปัญหาที่เกิดขึ้น ✅ บริษัทไฟฟ้าแห่งชาติชี้ว่าไฟดับเกิดจากฟ้าผ่าและสัตว์ ➡️ ไม่เกี่ยวกับการใช้พลังงานของศูนย์ข้อมูล ✅ เจ้าหน้าที่รัฐมองว่าปัญหาเหล่านี้สะท้อนการเติบโตของพื้นที่ ➡️ และสนับสนุนแผนขยายศูนย์ข้อมูลอีก 1.5 กิกะวัตต์ใน 5 ปี https://www.tomshardware.com/tech-industry/microsoft-denies-mexico-data-center-linked-to-water-shortages-local-illnesses-and-power-outages-stomach-bugs-and-even-hepatitis-reported-in-region-as-1-5-gigawatt-ai-data-center-buildout-looms
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • เรื่อง ของขวัญ
    “ของขวัญ”
    (1)
    ปีใหม่นี้ เดิมทีผมตั้งใจว่าจะเขียนกลอนหน้าต่างสักบาน สองบาน ให้ท่านผู้อ่านครื้นเครงกันเล่น แต่สมองไม่แล่น ดันกลอนไม่ออก เลยได้แต่ส่งรูปช้างไทยหวงถิ่น ที่ผมแสนจะหลงรัก ประทับใจในความหวงถิ่นของช้างหนุ่มเชือกนี้ไปให้ดูแก้ขัดไปก่อน แต่อันที่จริงผมกำลังซุ่มเงียบ เขียนนิทานเรื่องลึกลับซับซ้อนอยู่ แต่มันก็ซับซ้อนเสียจนผมใช้เวลาถอดรหัสนานมาก อดใจรอหน่อยนะครับ
    ระหว่างนี้ ผมเห็นเขาส่งของขวัญกันเป็นว่าเล่น หลังจากดิ้นพล่านออกอาการสาระพัดเรื่องแบบเด็กขี้อิจฉาไปแล้ว คราวนี้ยกระดับความเข้มไปอีกหนึ่งหุน ถึงกับลงทุนส่งของขวัญจะไม่เขียนถึง เดี๋ยวคนจัดส่งของขวัญ เขาจะน้อยใจ ว่าไม่เห็นหัวเลยหรือไง เลยต้องเอาเสียหน่อย
    ผมเห็นเขาเริ่มส่งของขวัญกัน ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2557 เหตุเกิดที่ร้านกาแฟที่ออสเตรเลียก็จริง แต่เป้าหมายมุ่งไปไกลกว่านั้น ข่าวบอกว่าคนถือของขวัญเป็นชาวอิหร่านที่ขอเข้ามาอยู่ที่ออสเตรเลีย ข่าวหนึ่งบอกว่า ลี้ภัยการเมือง อีกข่าวดันบอกว่าเป็นคนบ๊อง เอะยังไง จะลี้ภัยหรือเป็นบ๊อง แต่ก็เป็นชาวอิหร่านแล้วกัน ทำไมต้องเป็นชาวอิหร่าน?
    อิหร่านเป็นแนวร่วมสำคัญยิ่งของคู่ชิงแชมป์ฝั่งรัสเซีย จีน มีความหมายมาก ทั้งด้านสถานที่ตั้งประเทศ อาวุธ ชั้นเชิง และที่สำคัญ ความพร้อมด้านจิตใจ อเมริกาพยายามทั้งบี้ ขยี้ แต่อิหร่านไม่แหลกคามือเสียที อิหร่านกลับฟื้น พร้อมพกอาวุธนิวเคลียร์ เรื่องนี้ยิ่งทำให้อเมริกาหงุดหงิด ขัดใจมากขึ้น
    อเมริกากับอิหร่าน มีการเจรจากันเรื่องให้อิหร่านหยุดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์มาหลายรอบ ในปี 2014 กำหนดการเจรจาสิ้นสุด 24 พฤศจิกายน โดยไม่มีความคืบหน้า อเมริกานินทาว่า อิหร่านเจรจาไปพัฒนาอาวุธไป ยิ่งเจรจานาน นิวเคลียร์อิหร่านคงเสร็จครบตามเป้าหมาย อิหร่านบอกงั้นเลิกเจรจาเอาไหมล่ะ ใบตองแห้งใจไม่ถึง ตกลงนัดเจอกันอีกทีเดือนธันวาคม เพื่อจะสรุปว่าจะการเจรจากันต่อไหม
    ก่อนถึงวันนัดสรุป มันก็ต้องมีการบีบบี้กันเบี้ยวเสียหน่อย ฉากที่สั่งให้เปิดแสดงง่ายๆ ก็เลยเลือกเอาแดนจิงโจ้ ที่ตอนประชุม G 20 ลบ 1 ช่วยกันแสดงบทผู้ดีรุมตีแขก ขอเปิดอีกสักฉากเป็นไรไป ไอ้พวกที่วิ่งหนีกระสุนน่ะ มันพวกเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศเราทั้งนั้น คนของเราอย่าให้มายุ่ง แต่ดันหลุดโผไปคนนึง คุณแหม่มแกวิ่งหนีไม่ทัน ใบตองแห้งคิดว่าอิหร่านจะออกมาตอบโต้ จะได้ถือโอกาสบี้กลับ แหม เดาผิดไปไกลเลยพี่โอ อิหร่านน่ะเขามีบทเรียนแยะแล้ว ไม่หลงกลง่ายๆ สู้แอบซุ่ม สร้างระเบิดต่อดีกว่า ของขวัญเลยไม่ค่อยมีคนตื่นเต้น ตีปีบซะเกือบตาย ก็ไม่เอาดาราแดนจิ้งโจ้ดังๆมาเข้าฉากนี่น้า นับรอง CNN ตีข่าวไม่เลิก
    ส่วนการเจรจา ก็เลยสรุปว่า งั้นเราเจรจาต่อไปแล้วกันนะจนถึงเดือนมีนาคม 2015 และต้องจบเรื่องภายในเดือนนิถุนาย ปี 2015
    อิหร่านหัวร่อ หึ หึ แบบนี้ก็ผลิตได้อีกหลายลูก ไอ้ที่เจ็บที่ตาย เรื่องของใบตองแห้ง เราเสี่ยนิวเคลียร์ไม่เกี่ยวด้วย
    (2)
    ของขวัญส่งชิ้นเดียวมันจะตื่นเต้นได้ยังไง ตอนนี้เหตุการณ์มันเริ่มงวดเข้ามาแล้ว อะไรๆก็ยังไม่ลงตัว สมันน้อยเดี๋ยวนี้ชักจะแข็งข้อ ไม่รู้ไปได้ยาดีมาจากไหน (สงสัยอ่านนิทานมากไป ฮา) หันไปจับมือ จูบปากกับอาเฮีย ทำท่าจะเปิดบ้านให้พวกอาเฮียรวยทองมาสร้างทางรถไฟ แบบนี้มันหยามหน้าเรา สมันน้อยก็เตรียมตัวรับมือหน่อยนะ ใบตองแห้งมันเอาคืนแน่ แต่มันจะทอดเวลา รอเราลืมเรื่องสักแป๊บ แล้วมันค่อยส่งของขวัญมาให้
    แต่ไอ้ที่เคยเดินกร่าง เข้ามาในบ้านสมันน้อยง่ายๆ แบบสมัยก่อนน่ะ ไม่แน่ว่าสมันน้อยยุคคุณพี่ตู่แกจะยอมง่ายๆ คนรอขวาง รอเสียบมีอยู่นะ คุณพี่ตู่ก็อย่าหยิบบทผิดมาเล่นแล้วกันนะครับ แล้วจะทำยังไง บอกแล้วว่าใช้เป็นฐานทัพก็เรื่องหนึ่ง แต่การส่งบำรุงกำลังพลมันก็อีกเรื่องนึง ทอดตาดูแถบนี้แล้ว จะไปเอาใครที่ไหนมาส่งบำรุงกำลังให้ ไล่มาเลย ตั้งแต่ พม่า ลาว เขมร เวียตนาม ฟิลิปปินส์ เกาหลี ญี่ปุ่น
    5 ประเทศแรก ไม่มีความพร้อมส่งทั้งด้านอาหารและพลังงาน เกาหลีพร้อม แต่ขืนไปเทียบท่าแถบนั้น ก็เท่ากับเดินเข้าปากอาเฮีย ถูกเคี้ยวอร่อยไปเท่านั้น ส่วนญี่ปุ่นอย่าไปพูดถึงเลย ของจริงน่าสงสารจนพูดไม่ออก เอาว่า ตัวเองก็จะไม่รอด แล้วจะไปส่งกำลังให้ใครได้
    แล้วเหลือใครในแถบนี้ ก็คงมีแค่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และสมันน้อย
    สิงคโปร์ไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง คงได้แค่ส่งกำลังบำรุง แบบเซ่นเจ้าไหว้ศาล ทั้งประเทศ ขนาดเล็กกว่ากรุงเทพมหา พระมหานครอมรรัตนโกสินทร์ของเราอีก หัดภูมิใจบ้านเรากันบ้างนะครับ สิงคโปร์มันมีถนนหรู หลอกให้เดินซื้อของ 2,3 ถนนเอง กับถมทะเลทำเป็นที่นั่งเล่นนั่งกิน อาหารก็ไม่ได้เศษความอร่อยของบ้านเรา ป้าอ้วนแม่ครัวบ้านผมทำอร่อยกว่า 500 เท่า เราไม่ต้องเห่อเอาเงินไปให้มันหรอก ไอ้สิงคโปร์น่ะ
    เหลือมาเลเซียที่น่าสนใจ เราถึงได้เห็นนายโอบามาไปเดินโชว์ขาตะเกียบตีกอล์ฟกับนายราจิบ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2014 ขณะที่มาเลเซียกำลังน้ำท่วมถึงคอหอย ชาวมาเลย์ด่า เรียกให้นายกกลับมาดูแลได้แล้ว(โว้ย) ผลการตีกอล์ฟไปคุยไปเป็นอย่างไรไม่ทราบ วันที่ 29 ธันวาคม เครื่องบินของสายการบินแอร์เอเซีย ติดธงชาติมาเลย์ก็หายวับไปจากจอเรดาร์ เป็นเรื่องเศร้าส่งท้ายปีเก่า
    มาเลเซีย ถึงจะเป็นลูกกระเป๋งเก่า ของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ แต่การเมืองภายในและเรื่องเชิ้อชาติศาสนา ซับซ้อน หลายพวกหลายกลุ่ม แถมเป็นถิ่นสำหรับกบดาน และทางผ่านของเหล่าเสือซ่อนรูป สารพัดสัญชาติ ไอ้นักล่าใบตองแห้งส่งพวก Contactor มาคุมเชิงอยู่หลายพันคน มาอย่างน้อย 5 ปีแล้ว นักล่าใบตองแห้งเก็งไว้ว่า ถ้าจวนตัวจริงๆ สมันน้อยกลายเป็นช้างไทยหวงถิ่นขึ้นมา นักล่าก็คงต้องจำใจใช้มาเลเซีย เป็นฐานวิ่งรอกกับฐานลับที่หมู่เกาะ Diego Garcia แต่มันคงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ก็มันชุมทางเสือแบบนั้น ไว้ใจได้หรือ ใครเป็นใคร ใครกลายพันธ์ไปแล้วบ้าง ราคาต่อรองมันสูงขึ้นเรื่อยๆ ฉะน้ั้น สมันน้อยก็ต้องรอบคอบ ระวังตัวให้มากๆ ดูเหตุการณ์มาเลเซีย และฝรั่งเศสที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ เป็นอุทาหรณ์ไว้
    (3)
    เรื่องที่ฝรั่งเศส คงมีใครอยากให้บานปลาย กลายเป็นเรื่องระหว่างยิวกับกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง จะเป็นไอซิสพันธ์แท้ กลายพันธ์ หรือ พันธ์ปลอมก็แล้วแต่ แต่เรื่องคงจบไม่ง่ายๆ
อุตส่าห์ขนชุดปราบจราจลมาจนเกลี้ยงเมือง เงื้อง่ากันมาถึงขนาดนี้แล้ว
    ต้องไม่ลืมว่า เมือต้นเดือนธันวาคม 2014 นายฟรังซัวส์ โอลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส แวะไปจอดเครื่องบินแอบคุยกับคุณพี่ปูติน ที่มาคอยอยู่สนามบินกรุงมอสโคว์ แบบไม่มีหมายกำหนดการณ์ นี่มันผู้นำประเทศมหาอำนาจนะครับ ไม่ใช่คุณๆผมๆ ที่ขับรถผ่านบ้านแล้วคิดถึง ขอเข้ามากินกาแฟคุยกันสักหน่อย ท่านผู้นำเขาทำแบบนี้ แปลว่ามันต้องเรื่องใหญ่ เรื่องอะไรผมไม่รู้ แต่คนที่น่าจะรู้เรื่องและนั่งไม่ติดมีหลายคน ตั้งแต่นายโอบามานักล่าขาตะเกียบ และไอ้จีบปาก นายเดวิด แคมารอน นายกรัฐมนตรีของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย ส่วนคุณป้าแมร์เคิลแห่งเยอรมัน ก็น่าจะอยู่ในข่ายที่หายใจไม่ทั่วท้องเหมือนกัน
    เพราะฉะนั้น ก่อนอเมริกาจะปรับยุทธศาสตร์ใหม่ จะเป็นยุทธศาสตร์รุกคืบ หรือรุกฆาตก็ตาม อเมริกาคงต้องมีส่งของขวัญ ไปถามใจเธอหน่อยกับบรรดาพันธมิตรรุ่นใหญ่ว่า ยังอยู่ดีกับพี่เบิ้มหรือเปล่าจ้ะ
    รุ่นใหญ่ที่ได้รับของขวัญเป็นรายแรก ต้อนรับปีใหม่ ก็คือฝรั่งเศส ที่แอบแวบไปจู๋จี๋กับคุณพี่ปูตินนั่นแหละ และถ้าถามกันแล้ว คำตอบไม่น่าพอใจ เราคงได้เห็นเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศสบานปลาย พอให้ยิวถือโอกาสขยับสัก 2,3 ก้าว เอาหัวรบไปจ่อ ฝ่ายตรงข้ามในตะวันออกกลาง กันไม่ให้อิหร่านขยับตัวคล่องไป และได้ดูใจตุรกีว่า ตกลงใจจะลงมาเดินบนพื้น หรืออยากไต่ลวดเล่นเสียวต่อ แต่ถ้ายิวเลยเถิด จะจ่อหัวรบเงยขึ้นไปทางเหนือแบบนั้น คงได้เห็นดอกเห็ดบานจริง
    หลายชาติไม่อยากทำสงคราม นอกจากกระเป๋ากำลังแห้งแล้ว แถมหนาวจะตายอีกด้วย ใครจะไปอยากรบ แต่เยอรมัน โดยคุณป้าแมร์เคิล เลือดยิวเก่า หัวเรือใหญ่ในยุโรปและนาโต้บอกว่า เราคงไม่คว่ำบาตรรัสเซียไม่ได้ พร้อมจับมือกับนาโต้เดินหน้าตามคำสั่งของนักล่าขาตะเกียบ
    แต่มีคำพูดรู้กันทั่วว่า ในเยอรมัน ไม่ใช่รัฐบาลเท่านั้นที่ใหญ่ Siemens บริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ ที่ผลิตตั้งแต่เครื่องบิน เรือ รถไฟฟ้า จนถึงเครื่องซักผ้า และที่เป่าผม ก็คิดว่า ตัวเองใหญ่ไม่น้อยกว่ารัฐบาล เคยมีผู้บริหารใหญ่ของ Siemens พูดว่า Siemens ก็คือเยอรมันนั่นแหละ รัฐบาลมาแล้วก็ไป แต่เราซิ อยู่คู่กับประเทศเยอรมันมาตลอด
    ไม่นานหลังจากที่ คุณพี่ปูตินผนวกไครเมียกลับมาอยู่ในอ้อมอก เมื่อต้นปีที่แล้ว นาย Joe Kaeser ซีอีโอของ Siemens เดินทางไปเยี่ยมนายปูตินที่บ้านพักนอกเมืองมอสโคว์ แล้วบอกกับนายปูตินว่า บริษัทเราทำธุรกิจกับรัสเซียมากว่า 160 ปีแล้ว เราจะไม่ปล่อยให้เรื่องไครเมีย ที่เป็นเรื่องวุ่นวายช่วงสั้นนี้ มากระทบความสัมพันธ์ของ Siemens กับรัสเซียอันยาวนานหรอก
    แบบนี้นักล่าใบตองแห้ง ก็คงยังต้องตามประกบคุณนายแมร์เคิลต่อไปอีก แต่อีกไม่นานคงได้รู้กันว่า คนเยอรมันจะได้รับของขวัญหรือไม่
    ส่วนชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ชี้นกเป็นไม้คู่กับนักล่าใบตองแห้งมาตลอด คราวนี้โผบอก เราน่าจะสร้างเรื่องให้ยิวได้ทดลองขยับหมาก ดังนั้น หลังจากความอลหม่านเกิดขึ้นในฝรั่งเศสแล้ว คงไม่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ ถ้าอังกฤษจะสั่งการรับมือเตรียมภัยขั้นสูงให้สอดคล้องกัน และอาจจะมีเหตุการณ์ทำนองเดียวกับฝรั่งเศสลามไปที่อังกฤษด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แปลว่า นักล่ากับชาวเกาะ ช่วยกันห่อของขวัญ เช็คเรทติ่ง เตรียมปรับยุทธศาสตร์ ขยับหมากรุกแน่นอน
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
11 มค. 2558
    เรื่อง ของขวัญ “ของขวัญ” (1) ปีใหม่นี้ เดิมทีผมตั้งใจว่าจะเขียนกลอนหน้าต่างสักบาน สองบาน ให้ท่านผู้อ่านครื้นเครงกันเล่น แต่สมองไม่แล่น ดันกลอนไม่ออก เลยได้แต่ส่งรูปช้างไทยหวงถิ่น ที่ผมแสนจะหลงรัก ประทับใจในความหวงถิ่นของช้างหนุ่มเชือกนี้ไปให้ดูแก้ขัดไปก่อน แต่อันที่จริงผมกำลังซุ่มเงียบ เขียนนิทานเรื่องลึกลับซับซ้อนอยู่ แต่มันก็ซับซ้อนเสียจนผมใช้เวลาถอดรหัสนานมาก อดใจรอหน่อยนะครับ ระหว่างนี้ ผมเห็นเขาส่งของขวัญกันเป็นว่าเล่น หลังจากดิ้นพล่านออกอาการสาระพัดเรื่องแบบเด็กขี้อิจฉาไปแล้ว คราวนี้ยกระดับความเข้มไปอีกหนึ่งหุน ถึงกับลงทุนส่งของขวัญจะไม่เขียนถึง เดี๋ยวคนจัดส่งของขวัญ เขาจะน้อยใจ ว่าไม่เห็นหัวเลยหรือไง เลยต้องเอาเสียหน่อย ผมเห็นเขาเริ่มส่งของขวัญกัน ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2557 เหตุเกิดที่ร้านกาแฟที่ออสเตรเลียก็จริง แต่เป้าหมายมุ่งไปไกลกว่านั้น ข่าวบอกว่าคนถือของขวัญเป็นชาวอิหร่านที่ขอเข้ามาอยู่ที่ออสเตรเลีย ข่าวหนึ่งบอกว่า ลี้ภัยการเมือง อีกข่าวดันบอกว่าเป็นคนบ๊อง เอะยังไง จะลี้ภัยหรือเป็นบ๊อง แต่ก็เป็นชาวอิหร่านแล้วกัน ทำไมต้องเป็นชาวอิหร่าน? อิหร่านเป็นแนวร่วมสำคัญยิ่งของคู่ชิงแชมป์ฝั่งรัสเซีย จีน มีความหมายมาก ทั้งด้านสถานที่ตั้งประเทศ อาวุธ ชั้นเชิง และที่สำคัญ ความพร้อมด้านจิตใจ อเมริกาพยายามทั้งบี้ ขยี้ แต่อิหร่านไม่แหลกคามือเสียที อิหร่านกลับฟื้น พร้อมพกอาวุธนิวเคลียร์ เรื่องนี้ยิ่งทำให้อเมริกาหงุดหงิด ขัดใจมากขึ้น อเมริกากับอิหร่าน มีการเจรจากันเรื่องให้อิหร่านหยุดพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์มาหลายรอบ ในปี 2014 กำหนดการเจรจาสิ้นสุด 24 พฤศจิกายน โดยไม่มีความคืบหน้า อเมริกานินทาว่า อิหร่านเจรจาไปพัฒนาอาวุธไป ยิ่งเจรจานาน นิวเคลียร์อิหร่านคงเสร็จครบตามเป้าหมาย อิหร่านบอกงั้นเลิกเจรจาเอาไหมล่ะ ใบตองแห้งใจไม่ถึง ตกลงนัดเจอกันอีกทีเดือนธันวาคม เพื่อจะสรุปว่าจะการเจรจากันต่อไหม ก่อนถึงวันนัดสรุป มันก็ต้องมีการบีบบี้กันเบี้ยวเสียหน่อย ฉากที่สั่งให้เปิดแสดงง่ายๆ ก็เลยเลือกเอาแดนจิงโจ้ ที่ตอนประชุม G 20 ลบ 1 ช่วยกันแสดงบทผู้ดีรุมตีแขก ขอเปิดอีกสักฉากเป็นไรไป ไอ้พวกที่วิ่งหนีกระสุนน่ะ มันพวกเข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศเราทั้งนั้น คนของเราอย่าให้มายุ่ง แต่ดันหลุดโผไปคนนึง คุณแหม่มแกวิ่งหนีไม่ทัน ใบตองแห้งคิดว่าอิหร่านจะออกมาตอบโต้ จะได้ถือโอกาสบี้กลับ แหม เดาผิดไปไกลเลยพี่โอ อิหร่านน่ะเขามีบทเรียนแยะแล้ว ไม่หลงกลง่ายๆ สู้แอบซุ่ม สร้างระเบิดต่อดีกว่า ของขวัญเลยไม่ค่อยมีคนตื่นเต้น ตีปีบซะเกือบตาย ก็ไม่เอาดาราแดนจิ้งโจ้ดังๆมาเข้าฉากนี่น้า นับรอง CNN ตีข่าวไม่เลิก ส่วนการเจรจา ก็เลยสรุปว่า งั้นเราเจรจาต่อไปแล้วกันนะจนถึงเดือนมีนาคม 2015 และต้องจบเรื่องภายในเดือนนิถุนาย ปี 2015 อิหร่านหัวร่อ หึ หึ แบบนี้ก็ผลิตได้อีกหลายลูก ไอ้ที่เจ็บที่ตาย เรื่องของใบตองแห้ง เราเสี่ยนิวเคลียร์ไม่เกี่ยวด้วย (2) ของขวัญส่งชิ้นเดียวมันจะตื่นเต้นได้ยังไง ตอนนี้เหตุการณ์มันเริ่มงวดเข้ามาแล้ว อะไรๆก็ยังไม่ลงตัว สมันน้อยเดี๋ยวนี้ชักจะแข็งข้อ ไม่รู้ไปได้ยาดีมาจากไหน (สงสัยอ่านนิทานมากไป ฮา) หันไปจับมือ จูบปากกับอาเฮีย ทำท่าจะเปิดบ้านให้พวกอาเฮียรวยทองมาสร้างทางรถไฟ แบบนี้มันหยามหน้าเรา สมันน้อยก็เตรียมตัวรับมือหน่อยนะ ใบตองแห้งมันเอาคืนแน่ แต่มันจะทอดเวลา รอเราลืมเรื่องสักแป๊บ แล้วมันค่อยส่งของขวัญมาให้ แต่ไอ้ที่เคยเดินกร่าง เข้ามาในบ้านสมันน้อยง่ายๆ แบบสมัยก่อนน่ะ ไม่แน่ว่าสมันน้อยยุคคุณพี่ตู่แกจะยอมง่ายๆ คนรอขวาง รอเสียบมีอยู่นะ คุณพี่ตู่ก็อย่าหยิบบทผิดมาเล่นแล้วกันนะครับ แล้วจะทำยังไง บอกแล้วว่าใช้เป็นฐานทัพก็เรื่องหนึ่ง แต่การส่งบำรุงกำลังพลมันก็อีกเรื่องนึง ทอดตาดูแถบนี้แล้ว จะไปเอาใครที่ไหนมาส่งบำรุงกำลังให้ ไล่มาเลย ตั้งแต่ พม่า ลาว เขมร เวียตนาม ฟิลิปปินส์ เกาหลี ญี่ปุ่น 5 ประเทศแรก ไม่มีความพร้อมส่งทั้งด้านอาหารและพลังงาน เกาหลีพร้อม แต่ขืนไปเทียบท่าแถบนั้น ก็เท่ากับเดินเข้าปากอาเฮีย ถูกเคี้ยวอร่อยไปเท่านั้น ส่วนญี่ปุ่นอย่าไปพูดถึงเลย ของจริงน่าสงสารจนพูดไม่ออก เอาว่า ตัวเองก็จะไม่รอด แล้วจะไปส่งกำลังให้ใครได้ แล้วเหลือใครในแถบนี้ ก็คงมีแค่ มาเลเซีย สิงคโปร์ และสมันน้อย สิงคโปร์ไม่ต้องเสียเวลาพูดถึง คงได้แค่ส่งกำลังบำรุง แบบเซ่นเจ้าไหว้ศาล ทั้งประเทศ ขนาดเล็กกว่ากรุงเทพมหา พระมหานครอมรรัตนโกสินทร์ของเราอีก หัดภูมิใจบ้านเรากันบ้างนะครับ สิงคโปร์มันมีถนนหรู หลอกให้เดินซื้อของ 2,3 ถนนเอง กับถมทะเลทำเป็นที่นั่งเล่นนั่งกิน อาหารก็ไม่ได้เศษความอร่อยของบ้านเรา ป้าอ้วนแม่ครัวบ้านผมทำอร่อยกว่า 500 เท่า เราไม่ต้องเห่อเอาเงินไปให้มันหรอก ไอ้สิงคโปร์น่ะ เหลือมาเลเซียที่น่าสนใจ เราถึงได้เห็นนายโอบามาไปเดินโชว์ขาตะเกียบตีกอล์ฟกับนายราจิบ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2014 ขณะที่มาเลเซียกำลังน้ำท่วมถึงคอหอย ชาวมาเลย์ด่า เรียกให้นายกกลับมาดูแลได้แล้ว(โว้ย) ผลการตีกอล์ฟไปคุยไปเป็นอย่างไรไม่ทราบ วันที่ 29 ธันวาคม เครื่องบินของสายการบินแอร์เอเซีย ติดธงชาติมาเลย์ก็หายวับไปจากจอเรดาร์ เป็นเรื่องเศร้าส่งท้ายปีเก่า มาเลเซีย ถึงจะเป็นลูกกระเป๋งเก่า ของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ แต่การเมืองภายในและเรื่องเชิ้อชาติศาสนา ซับซ้อน หลายพวกหลายกลุ่ม แถมเป็นถิ่นสำหรับกบดาน และทางผ่านของเหล่าเสือซ่อนรูป สารพัดสัญชาติ ไอ้นักล่าใบตองแห้งส่งพวก Contactor มาคุมเชิงอยู่หลายพันคน มาอย่างน้อย 5 ปีแล้ว นักล่าใบตองแห้งเก็งไว้ว่า ถ้าจวนตัวจริงๆ สมันน้อยกลายเป็นช้างไทยหวงถิ่นขึ้นมา นักล่าก็คงต้องจำใจใช้มาเลเซีย เป็นฐานวิ่งรอกกับฐานลับที่หมู่เกาะ Diego Garcia แต่มันคงไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก ก็มันชุมทางเสือแบบนั้น ไว้ใจได้หรือ ใครเป็นใคร ใครกลายพันธ์ไปแล้วบ้าง ราคาต่อรองมันสูงขึ้นเรื่อยๆ ฉะน้ั้น สมันน้อยก็ต้องรอบคอบ ระวังตัวให้มากๆ ดูเหตุการณ์มาเลเซีย และฝรั่งเศสที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ เป็นอุทาหรณ์ไว้ (3) เรื่องที่ฝรั่งเศส คงมีใครอยากให้บานปลาย กลายเป็นเรื่องระหว่างยิวกับกลุ่มอิสลามหัวรุนแรง จะเป็นไอซิสพันธ์แท้ กลายพันธ์ หรือ พันธ์ปลอมก็แล้วแต่ แต่เรื่องคงจบไม่ง่ายๆ
อุตส่าห์ขนชุดปราบจราจลมาจนเกลี้ยงเมือง เงื้อง่ากันมาถึงขนาดนี้แล้ว ต้องไม่ลืมว่า เมือต้นเดือนธันวาคม 2014 นายฟรังซัวส์ โอลองด์ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส แวะไปจอดเครื่องบินแอบคุยกับคุณพี่ปูติน ที่มาคอยอยู่สนามบินกรุงมอสโคว์ แบบไม่มีหมายกำหนดการณ์ นี่มันผู้นำประเทศมหาอำนาจนะครับ ไม่ใช่คุณๆผมๆ ที่ขับรถผ่านบ้านแล้วคิดถึง ขอเข้ามากินกาแฟคุยกันสักหน่อย ท่านผู้นำเขาทำแบบนี้ แปลว่ามันต้องเรื่องใหญ่ เรื่องอะไรผมไม่รู้ แต่คนที่น่าจะรู้เรื่องและนั่งไม่ติดมีหลายคน ตั้งแต่นายโอบามานักล่าขาตะเกียบ และไอ้จีบปาก นายเดวิด แคมารอน นายกรัฐมนตรีของชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อย ส่วนคุณป้าแมร์เคิลแห่งเยอรมัน ก็น่าจะอยู่ในข่ายที่หายใจไม่ทั่วท้องเหมือนกัน เพราะฉะนั้น ก่อนอเมริกาจะปรับยุทธศาสตร์ใหม่ จะเป็นยุทธศาสตร์รุกคืบ หรือรุกฆาตก็ตาม อเมริกาคงต้องมีส่งของขวัญ ไปถามใจเธอหน่อยกับบรรดาพันธมิตรรุ่นใหญ่ว่า ยังอยู่ดีกับพี่เบิ้มหรือเปล่าจ้ะ รุ่นใหญ่ที่ได้รับของขวัญเป็นรายแรก ต้อนรับปีใหม่ ก็คือฝรั่งเศส ที่แอบแวบไปจู๋จี๋กับคุณพี่ปูตินนั่นแหละ และถ้าถามกันแล้ว คำตอบไม่น่าพอใจ เราคงได้เห็นเหตุการณ์ที่ฝรั่งเศสบานปลาย พอให้ยิวถือโอกาสขยับสัก 2,3 ก้าว เอาหัวรบไปจ่อ ฝ่ายตรงข้ามในตะวันออกกลาง กันไม่ให้อิหร่านขยับตัวคล่องไป และได้ดูใจตุรกีว่า ตกลงใจจะลงมาเดินบนพื้น หรืออยากไต่ลวดเล่นเสียวต่อ แต่ถ้ายิวเลยเถิด จะจ่อหัวรบเงยขึ้นไปทางเหนือแบบนั้น คงได้เห็นดอกเห็ดบานจริง หลายชาติไม่อยากทำสงคราม นอกจากกระเป๋ากำลังแห้งแล้ว แถมหนาวจะตายอีกด้วย ใครจะไปอยากรบ แต่เยอรมัน โดยคุณป้าแมร์เคิล เลือดยิวเก่า หัวเรือใหญ่ในยุโรปและนาโต้บอกว่า เราคงไม่คว่ำบาตรรัสเซียไม่ได้ พร้อมจับมือกับนาโต้เดินหน้าตามคำสั่งของนักล่าขาตะเกียบ แต่มีคำพูดรู้กันทั่วว่า ในเยอรมัน ไม่ใช่รัฐบาลเท่านั้นที่ใหญ่ Siemens บริษัทอุตสาหกรรมใหญ่ ที่ผลิตตั้งแต่เครื่องบิน เรือ รถไฟฟ้า จนถึงเครื่องซักผ้า และที่เป่าผม ก็คิดว่า ตัวเองใหญ่ไม่น้อยกว่ารัฐบาล เคยมีผู้บริหารใหญ่ของ Siemens พูดว่า Siemens ก็คือเยอรมันนั่นแหละ รัฐบาลมาแล้วก็ไป แต่เราซิ อยู่คู่กับประเทศเยอรมันมาตลอด ไม่นานหลังจากที่ คุณพี่ปูตินผนวกไครเมียกลับมาอยู่ในอ้อมอก เมื่อต้นปีที่แล้ว นาย Joe Kaeser ซีอีโอของ Siemens เดินทางไปเยี่ยมนายปูตินที่บ้านพักนอกเมืองมอสโคว์ แล้วบอกกับนายปูตินว่า บริษัทเราทำธุรกิจกับรัสเซียมากว่า 160 ปีแล้ว เราจะไม่ปล่อยให้เรื่องไครเมีย ที่เป็นเรื่องวุ่นวายช่วงสั้นนี้ มากระทบความสัมพันธ์ของ Siemens กับรัสเซียอันยาวนานหรอก แบบนี้นักล่าใบตองแห้ง ก็คงยังต้องตามประกบคุณนายแมร์เคิลต่อไปอีก แต่อีกไม่นานคงได้รู้กันว่า คนเยอรมันจะได้รับของขวัญหรือไม่ ส่วนชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ชี้นกเป็นไม้คู่กับนักล่าใบตองแห้งมาตลอด คราวนี้โผบอก เราน่าจะสร้างเรื่องให้ยิวได้ทดลองขยับหมาก ดังนั้น หลังจากความอลหม่านเกิดขึ้นในฝรั่งเศสแล้ว คงไม่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจ ถ้าอังกฤษจะสั่งการรับมือเตรียมภัยขั้นสูงให้สอดคล้องกัน และอาจจะมีเหตุการณ์ทำนองเดียวกับฝรั่งเศสลามไปที่อังกฤษด้วย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง แปลว่า นักล่ากับชาวเกาะ ช่วยกันห่อของขวัญ เช็คเรทติ่ง เตรียมปรับยุทธศาสตร์ ขยับหมากรุกแน่นอน สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
11 มค. 2558
    0 Comments 0 Shares 222 Views 0 Reviews
  • ใหม่! เครื่องสับมะพร้าวอ่อน/มะพร้าวเนื้อหนา เป็นเส้นได้หลายแบบ! (MULTI-FUNCTIONAL VEGETABLE CUTTER)

    บอกลาความยุ่งยาก! หมดปัญหานั่งขูดมะพร้าวทีละลูก! ยกระดับงานครัวสำหรับธุรกิจอาหารของคุณด้วย เครื่องสับ/หั่นผักเอนกประสงค์ ที่แข็งแกร่งและทนทาน!

    เครื่องเดียวจบครบทุกการแปรรูป ทั้งผัก ผลไม้ และ เนื้อมะพร้าวอ่อน/มะพร้าวเนื้อหนา ให้เป็นเส้นสวยงาม สม่ำเสมอ ได้ตามต้องการ!

    สับมะพร้าวเป็นเส้นได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น:

    - แบบหั่นเส้นปกติ
    - แบบหั่นหยักฟันปลา
    - แบบหั่นท่อน/หั่นเต๋า (สำหรับทำมะพร้าวแก้ว หรือเมนูอื่นๆ)

    จุดเด่นที่ต้องมี!
    - มอเตอร์ทรงพลัง: 2 แรงม้า หั่นได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด
    - วัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง: แข็งแกร่ง ทนทาน และถูกสุขอนามัยสำหรับการแปรรูปวัตถุดิบ
    - กำลังการผลิตสูง: 130-660 กก./ชม. ประหยัดเวลา แรงงาน และเพิ่มผลผลิตได้จริง
    - ใบมีดเปลี่ยนได้: มีให้เลือกหลายแบบ เพื่อให้ได้ขนาดและรูปทรงที่หลากหลาย
    - ปรับความหนาบางได้: ปรับความหนาในการสไลด์ได้ตั้งแต่ 1-10 มม. และความกว้างซอย 1-20 มม.

    ตอบโจทย์ทุกธุรกิจอาหารที่ต้องการความรวดเร็วและคุณภาพ!

    ไม่ต้องเสียเวลาลงแรงงานคนอีกต่อไป! หั่น สับ ซอย สไลด์... วัตถุดิบได้คุณภาพสูง รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมใช้งานได้กับวัตถุดิบอื่น ๆ อีกมากมาย (มันฝรั่ง, แครอท, แตงกวา, ผักกาด...)

    สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม:

    ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
    เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.)
    แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7
    แชท: m.me/yonghahheng
    LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9
    โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098

    เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com

    อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com

    #เครื่องสับมะพร้าว #เครื่องหั่นมะพร้าว #เครื่องสไลด์ผัก #เครื่องหั่นเอนกประสงค์ #มะพร้าวอ่อน #มะพร้าวแก้ว #อุปกรณ์เบเกอรี่ #yonghahheng #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #เครื่องจักรอาหาร #ธุรกิจอาหาร #โรงงานอาหาร #ประหยัดเวลา #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #เครื่องเตรียมวัตถุดิบ #สแตนเลส #เครื่องมือทำอาหาร #มะพร้าว #เนื้อมะพร้าว #กะทิ #เมี่ยงคำ #ลอดช่อง #ไอศครีมมะพร้าว #ร้านขนมไทย #ร้านน้ำปั่น #เครื่องบดผัก #เครื่องสไลด์ผลไม้ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นแครอท #อุปกรณ์ร้านอาหาร #ครัวมืออาชีพ #วัตถุดิบคุณภาพ #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #ครัวขนาดใหญ่ #เครื่องหั่นผักอัตโนมัติ #เทคโนโลยีอาหาร
    🎉 🔥 ใหม่! เครื่องสับมะพร้าวอ่อน/มะพร้าวเนื้อหนา เป็นเส้นได้หลายแบบ! (MULTI-FUNCTIONAL VEGETABLE CUTTER) 🔥 บอกลาความยุ่งยาก! ✋ หมดปัญหานั่งขูดมะพร้าวทีละลูก! 🥥 ยกระดับงานครัวสำหรับธุรกิจอาหารของคุณด้วย เครื่องสับ/หั่นผักเอนกประสงค์ ที่แข็งแกร่งและทนทาน! 💪 เครื่องเดียวจบครบทุกการแปรรูป ทั้งผัก 🥕 ผลไม้ 🍎 และ เนื้อมะพร้าวอ่อน/มะพร้าวเนื้อหนา ให้เป็นเส้นสวยงาม สม่ำเสมอ ได้ตามต้องการ! ✨ 🌟 สับมะพร้าวเป็นเส้นได้หลากหลายรูปแบบ 🌟 ไม่ว่าจะเป็น: - แบบหั่นเส้นปกติ 🥔 - แบบหั่นหยักฟันปลา 🍟 - แบบหั่นท่อน/หั่นเต๋า 🧊 (สำหรับทำมะพร้าวแก้ว หรือเมนูอื่นๆ) 🎯 จุดเด่นที่ต้องมี! 🎯 - มอเตอร์ทรงพลัง: 2 แรงม้า หั่นได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ติดขัด 💨 - วัสดุสแตนเลสคุณภาพสูง: แข็งแกร่ง ทนทาน และถูกสุขอนามัยสำหรับการแปรรูปวัตถุดิบ 🛡️ - กำลังการผลิตสูง: 130-660 กก./ชม. ประหยัดเวลา แรงงาน และเพิ่มผลผลิตได้จริง 📈 - ใบมีดเปลี่ยนได้: มีให้เลือกหลายแบบ เพื่อให้ได้ขนาดและรูปทรงที่หลากหลาย 🔪 - ปรับความหนาบางได้: ปรับความหนาในการสไลด์ได้ตั้งแต่ 1-10 มม. และความกว้างซอย 1-20 มม.📏 🚀 ตอบโจทย์ทุกธุรกิจอาหารที่ต้องการความรวดเร็วและคุณภาพ! 💯 ไม่ต้องเสียเวลาลงแรงงานคนอีกต่อไป! หั่น สับ ซอย สไลด์... วัตถุดิบได้คุณภาพสูง รวดเร็ว และปลอดภัย พร้อมใช้งานได้กับวัตถุดิบอื่น ๆ อีกมากมาย (มันฝรั่ง, แครอท, แตงกวา, ผักกาด...) 🥒🥬 🛒 สนใจดูสินค้าจริงและสอบถามเพิ่มเติม: ที่ตั้ง: 1970-1972 ถ.บรรทัดทอง (ถ.พระราม 6) แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 📍 เวลาทำการ: จันทร์-ศุกร์ (8.00-17.00 น.), เสาร์ (8.00-16.00 น.) ⏰ แผนที่: https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 🗺️ แชท: m.me/yonghahheng 💬 LINE: @yonghahheng (มี @) หรือ คลิก https://lin.ee/5H812n9 📱 โทรศัพท์: 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 📞 เว็บไซต์: www.yoryonghahheng.com 🌐 อีเมล: sales@yoryonghahheng.com หรือ yonghahheng@gmail.com 📧 #เครื่องสับมะพร้าว #เครื่องหั่นมะพร้าว #เครื่องสไลด์ผัก #เครื่องหั่นเอนกประสงค์ #มะพร้าวอ่อน #มะพร้าวแก้ว #อุปกรณ์เบเกอรี่ #yonghahheng #เครื่องครัวอุตสาหกรรม #เครื่องจักรอาหาร #ธุรกิจอาหาร #โรงงานอาหาร #ประหยัดเวลา #ลดต้นทุน #เพิ่มผลผลิต #เครื่องเตรียมวัตถุดิบ #สแตนเลส #เครื่องมือทำอาหาร #มะพร้าว #เนื้อมะพร้าว #กะทิ #เมี่ยงคำ #ลอดช่อง #ไอศครีมมะพร้าว #ร้านขนมไทย #ร้านน้ำปั่น #เครื่องบดผัก #เครื่องสไลด์ผลไม้ #เครื่องหั่นมันฝรั่ง #เครื่องหั่นแครอท #อุปกรณ์ร้านอาหาร #ครัวมืออาชีพ #วัตถุดิบคุณภาพ #เครื่องจักรแปรรูปอาหาร #เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว #ครัวขนาดใหญ่ #เครื่องหั่นผักอัตโนมัติ #เทคโนโลยีอาหาร
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • ขอวิเคราะห์แนวโน้มและปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าแร่เงินโลกอย่างเป็นระบบ ดังนี้:

    แนวโน้มค่าแร่เงินโลก

    ปัจจัยบวก (ข้อดี)

    1. ความต้องการจากอุตสาหกรรมสีเขียว
    · แบตเตอรี่รถไฟฟ้า
    · แผงโซลาร์เซลล์ (ใช้เงินเป็นองค์ประกอบ)
    · อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่
    2. สถานะการลงทุนปลอดภัย
    · นักลงทุนมองเงินเป็น Safe Haven
    · ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก
    · การป้องกันเงินเฟ้อ
    3. อุปทานจำกัด
    · การผลิตเหมืองไม่เพียงพอต่อความต้องการ
    · ค่าใช้จ่ายในการขุดที่เพิ่มขึ้น

    ปัจจัยลบ (ข้อเสีย)

    1. ความผันผวนสูง
    · ถูกควบคุมโดยนักเก็งกำไร
    · ตอบสนองต่อข่าวเศรษฐกิจรวดเร็ว
    2. การแข่งขันจากสินทรัพย์อื่น
    · คริปโตเคอเรนซีดึงดูดนักลงทุน
    · ทองคำยังเป็นที่นิยมมากกว่า
    3. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ
    · อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น
    · ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งตัว

    คำแนะนำการลงทุน

    · ควรกระจายการลงทุน ไม่เน้นสินทรัพย์เดียว
    · ติดตามข่าวอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสีเขียว
    · ศึกษาความต้องการใช้เงินในอุตสาหกรรมใหม่ๆ

    แนวโน้มระยะยาวยังคงน่าลงทุน แต่ต้องยอมรับความผันผวนเป็นปกติ
    ขอวิเคราะห์แนวโน้มและปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าแร่เงินโลกอย่างเป็นระบบ ดังนี้: 🔮 แนวโน้มค่าแร่เงินโลก 📈 ปัจจัยบวก (ข้อดี) 1. ความต้องการจากอุตสาหกรรมสีเขียว · แบตเตอรี่รถไฟฟ้า · แผงโซลาร์เซลล์ (ใช้เงินเป็นองค์ประกอบ) · อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่ 2. สถานะการลงทุนปลอดภัย · นักลงทุนมองเงินเป็น Safe Haven · ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจโลก · การป้องกันเงินเฟ้อ 3. อุปทานจำกัด · การผลิตเหมืองไม่เพียงพอต่อความต้องการ · ค่าใช้จ่ายในการขุดที่เพิ่มขึ้น 📉 ปัจจัยลบ (ข้อเสีย) 1. ความผันผวนสูง · ถูกควบคุมโดยนักเก็งกำไร · ตอบสนองต่อข่าวเศรษฐกิจรวดเร็ว 2. การแข่งขันจากสินทรัพย์อื่น · คริปโตเคอเรนซีดึงดูดนักลงทุน · ทองคำยังเป็นที่นิยมมากกว่า 3. ปัจจัยทางเศรษฐกิจ · อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น · ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งตัว 🎯 คำแนะนำการลงทุน · ควรกระจายการลงทุน ไม่เน้นสินทรัพย์เดียว · ติดตามข่าวอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสีเขียว · ศึกษาความต้องการใช้เงินในอุตสาหกรรมใหม่ๆ แนวโน้มระยะยาวยังคงน่าลงทุน แต่ต้องยอมรับความผันผวนเป็นปกติ 👍
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • "Cerabyte เปิดตัวสื่อบันทึกข้อมูลแบบเซรามิกบนกระจก: เก็บรัฐธรรมนูญสหรัฐไว้ในวัสดุที่อยู่เหนือกาลเวลา"

    ในงาน OCP Global Summit ปี 2025 ที่ซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย บริษัท Cerabyte ได้เปิดตัวเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่ใช้วัสดุ “เซรามิกบนกระจก” ซึ่งมีความทนทานสูงและไม่ต้องใช้พลังงานในการเก็บรักษา โดยแจกตัวอย่างสื่อบันทึกที่บรรจุสำเนารัฐธรรมนูญสหรัฐให้กับผู้เข้าร่วมงานในรูปแบบกรอบโชว์สุดล้ำ

    เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการเก็บข้อมูลระยะยาวในยุคที่ข้อมูลมีปริมาณมหาศาลและต้องการความมั่นคงสูง โดย Cerabyte ชูจุดเด่นว่า “ไม่ต้องบำรุงรักษา ไม่ต้องใช้พลังงาน และไม่ต้องย้ายข้อมูลซ้ำ” ซึ่งต่างจากระบบเก็บข้อมูลทั่วไปที่ต้องเปลี่ยนสื่อทุกไม่กี่ปี

    ที่น่าทึ่งคือ ตัวอย่างสื่อบันทึกสามารถอ่านข้อมูลได้ด้วยสมาร์ทโฟนทั่วไป แสดงให้เห็นถึงความเข้าถึงง่ายของเทคโนโลยีนี้ แม้จะยังอยู่ในขั้นต้น แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การเก็บข้อมูลแบบถาวรที่ยั่งยืน

    เทคโนโลยีเซรามิกบนกระจกของ Cerabyte
    ใช้วัสดุเซรามิกบนแผ่นกระจกเพื่อบันทึกข้อมูล
    ไม่ต้องใช้พลังงานหรือการบำรุงรักษา
    ออกแบบมาเพื่อการเก็บข้อมูลถาวรและลดต้นทุนระยะยาว

    การเปิดตัวในงาน OCP Summit 2025
    แจกตัวอย่างที่บรรจุสำเนารัฐธรรมนูญสหรัฐในกรอบโชว์
    แสดงการอ่านข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนแบบเรียลไทม์
    เป็นส่วนหนึ่งของ Innovation Village ที่เน้นเทคโนโลยีแห่งอนาคต

    จุดเด่นของเทคโนโลยี
    ทนทานต่อเวลาและสภาพแวดล้อม
    ลดการปล่อยคาร์บอนจากการเก็บข้อมูล
    เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ เช่น hyperscalers และสถาบันวิจัย

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ยังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา ไม่พร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ
    ความจุยังจำกัดในระดับกิกะไบต์
    ต้องพิสูจน์ความสามารถในการผลิตในระดับอุตสาหกรรม

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:
    ความสำคัญของการเก็บข้อมูลถาวร
    ข้อมูลวิจัย, ประวัติศาสตร์, และหลักฐานทางกฎหมายต้องการสื่อที่มั่นคง
    สื่อแบบเทป, ฮาร์ดดิสก์ และ SSD มีอายุการใช้งานจำกัด

    แนวโน้มการพัฒนาในอนาคต
    การรวมเทคโนโลยีเซรามิกกับระบบ AI เพื่อจัดการข้อมูลถาวร
    การใช้วัสดุใหม่ เช่น sapphire, diamond-like carbon และ optical glass

    https://www.techradar.com/pro/own-a-piece-of-storage-history-as-cerabyte-gives-way-framed-ceramic-on-glass-media-samples-containing-copies-of-the-us-constitution
    📀 "Cerabyte เปิดตัวสื่อบันทึกข้อมูลแบบเซรามิกบนกระจก: เก็บรัฐธรรมนูญสหรัฐไว้ในวัสดุที่อยู่เหนือกาลเวลา" ในงาน OCP Global Summit ปี 2025 ที่ซานโฮเซ่ รัฐแคลิฟอร์เนีย บริษัท Cerabyte ได้เปิดตัวเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลแบบใหม่ที่ใช้วัสดุ “เซรามิกบนกระจก” ซึ่งมีความทนทานสูงและไม่ต้องใช้พลังงานในการเก็บรักษา โดยแจกตัวอย่างสื่อบันทึกที่บรรจุสำเนารัฐธรรมนูญสหรัฐให้กับผู้เข้าร่วมงานในรูปแบบกรอบโชว์สุดล้ำ เทคโนโลยีนี้ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการเก็บข้อมูลระยะยาวในยุคที่ข้อมูลมีปริมาณมหาศาลและต้องการความมั่นคงสูง โดย Cerabyte ชูจุดเด่นว่า “ไม่ต้องบำรุงรักษา ไม่ต้องใช้พลังงาน และไม่ต้องย้ายข้อมูลซ้ำ” ซึ่งต่างจากระบบเก็บข้อมูลทั่วไปที่ต้องเปลี่ยนสื่อทุกไม่กี่ปี ที่น่าทึ่งคือ ตัวอย่างสื่อบันทึกสามารถอ่านข้อมูลได้ด้วยสมาร์ทโฟนทั่วไป แสดงให้เห็นถึงความเข้าถึงง่ายของเทคโนโลยีนี้ แม้จะยังอยู่ในขั้นต้น แต่ก็ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การเก็บข้อมูลแบบถาวรที่ยั่งยืน ✅ เทคโนโลยีเซรามิกบนกระจกของ Cerabyte ➡️ ใช้วัสดุเซรามิกบนแผ่นกระจกเพื่อบันทึกข้อมูล ➡️ ไม่ต้องใช้พลังงานหรือการบำรุงรักษา ➡️ ออกแบบมาเพื่อการเก็บข้อมูลถาวรและลดต้นทุนระยะยาว ✅ การเปิดตัวในงาน OCP Summit 2025 ➡️ แจกตัวอย่างที่บรรจุสำเนารัฐธรรมนูญสหรัฐในกรอบโชว์ ➡️ แสดงการอ่านข้อมูลผ่านสมาร์ทโฟนแบบเรียลไทม์ ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของ Innovation Village ที่เน้นเทคโนโลยีแห่งอนาคต ✅ จุดเด่นของเทคโนโลยี ➡️ ทนทานต่อเวลาและสภาพแวดล้อม ➡️ ลดการปล่อยคาร์บอนจากการเก็บข้อมูล ➡️ เหมาะสำหรับองค์กรขนาดใหญ่ เช่น hyperscalers และสถาบันวิจัย ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ยังอยู่ในขั้นต้นของการพัฒนา ไม่พร้อมใช้งานเชิงพาณิชย์เต็มรูปแบบ ⛔ ความจุยังจำกัดในระดับกิกะไบต์ ⛔ ต้องพิสูจน์ความสามารถในการผลิตในระดับอุตสาหกรรม 📎 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: ✅ ความสำคัญของการเก็บข้อมูลถาวร ➡️ ข้อมูลวิจัย, ประวัติศาสตร์, และหลักฐานทางกฎหมายต้องการสื่อที่มั่นคง ➡️ สื่อแบบเทป, ฮาร์ดดิสก์ และ SSD มีอายุการใช้งานจำกัด ✅ แนวโน้มการพัฒนาในอนาคต ➡️ การรวมเทคโนโลยีเซรามิกกับระบบ AI เพื่อจัดการข้อมูลถาวร ➡️ การใช้วัสดุใหม่ เช่น sapphire, diamond-like carbon และ optical glass https://www.techradar.com/pro/own-a-piece-of-storage-history-as-cerabyte-gives-way-framed-ceramic-on-glass-media-samples-containing-copies-of-the-us-constitution
    WWW.TECHRADAR.COM
    This framed piece of glass could outlast your hard drives
    Gigabyte-scale prototypes signal early progress toward scalable, glass-based storage
    0 Comments 0 Shares 116 Views 0 Reviews
  • ไทย-ลาว มิตรภาพแน่นแฟ้น

    แม้รัฐบาลจะมีอายุการทำงานเพียงแค่ 4 เดือน และสถานการณ์ความขัดแย้งกับกัมพูชายังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง แต่การเดินทางไปเยือนประเทศลาว ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและคณะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) ในวาระครอบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบ 75 ปี ในปี 2568 แสดงให้เห็นว่าลาวยังเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่วางใจได้ ธงชาติไทยสลับกับธงชาติลาวบริเวณประตูไช แลนด์มาร์คสำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นภาพที่คนไทยและชาวลาวต่างรู้สึกเป็นบวก เพราะเป็นชาติที่คนไทยแทบไม่ต้องแปลภาษาก็สื่อสารกันง่าย เปรียบดังมองตาก็รู้ใจ

    การเดินทางมาเยือนลาวในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอนุทินลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยและลาว 1 ฉบับ ได้แก่ เอ็มโอยูระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารส่งเสริมกสิกรรมแห่ง สปป.ลาว รวมทั้งการสนับสนุนทางการเงิน 10 ล้านบาท สำหรับโครงการความร่วมมือสกัดกั้นสารตั้งต้นของการผลิตยาเสพติด ไทย-ลาว การส่งมอบเซรุ่มแก้พิษงู มูลค่า 875,000 บาท อุปกรณ์พัฒนาและฝึกอาชีพแรงงาน มูลค่า 1.49 ล้านบาท ความช่วยเหลือทางวิชาการ สำหรับงานออกแบบรายละเอียดโครงการพัฒนาระบบประปาระยะที่ 2 มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท

    นอกจากนี้ ยังยกระดับความร่วมมือกับลาวในด้านต่างๆ เพื่อเปลี่ยนแลนด์ล็อกเป็นแลนด์ลิงก์ เชื่อมโยงด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ และความร่วมมือด้านอื่นๆ เช่น การเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมช้ามชาติ ยาเสพติด ฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ โดยการตั้งศูนย์ Contact point และศูนย์ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขงโดยใช้เทคโนโลยี ตามยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) ยืนยันการจัดประชุม COOP ครั้งที่ 8 ส่งเสริมการค้าชายแดน เอสเอ็มอี ตั้งเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2570 สนับสนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ และแผนยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ไทย-ลาวอย่างครบวงจร ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ระหว่างทั้งสองประเทศ

    อีกด้านหนึ่ง ประเทศไทยและ สปป.ลาว เตรียมร่วมกันเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) จังหวัดบึงกาฬ ในช่วงปลายปี 2568 เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ระหว่างไทยกับลาวและภูมิภาคอินโดจีน ไปยังท่าเรือน้ำลึกในประเทศเวียดนาม เช่น ท่าเรือสากลลาว-เวียด หรือท่าเรือหวุงอ๋าง จังหวัดฮาติงห์ ถือเป็นทางออกสู่ทะเลที่ใกล้ที่สุดของลาว และเชื่อมต่อทางตอนใต้ของประเทศจีน

    #Newskit
    ไทย-ลาว มิตรภาพแน่นแฟ้น แม้รัฐบาลจะมีอายุการทำงานเพียงแค่ 4 เดือน และสถานการณ์ความขัดแย้งกับกัมพูชายังไม่มีทีท่าว่าจะจบลง แต่การเดินทางไปเยือนประเทศลาว ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและคณะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (16 ต.ค.) ในวาระครอบรอบการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-ลาว ครบ 75 ปี ในปี 2568 แสดงให้เห็นว่าลาวยังเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่วางใจได้ ธงชาติไทยสลับกับธงชาติลาวบริเวณประตูไช แลนด์มาร์คสำคัญของนครหลวงเวียงจันทน์ เป็นภาพที่คนไทยและชาวลาวต่างรู้สึกเป็นบวก เพราะเป็นชาติที่คนไทยแทบไม่ต้องแปลภาษาก็สื่อสารกันง่าย เปรียบดังมองตาก็รู้ใจ การเดินทางมาเยือนลาวในครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีอนุทินลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยและลาว 1 ฉบับ ได้แก่ เอ็มโอยูระหว่างธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารส่งเสริมกสิกรรมแห่ง สปป.ลาว รวมทั้งการสนับสนุนทางการเงิน 10 ล้านบาท สำหรับโครงการความร่วมมือสกัดกั้นสารตั้งต้นของการผลิตยาเสพติด ไทย-ลาว การส่งมอบเซรุ่มแก้พิษงู มูลค่า 875,000 บาท อุปกรณ์พัฒนาและฝึกอาชีพแรงงาน มูลค่า 1.49 ล้านบาท ความช่วยเหลือทางวิชาการ สำหรับงานออกแบบรายละเอียดโครงการพัฒนาระบบประปาระยะที่ 2 มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังยกระดับความร่วมมือกับลาวในด้านต่างๆ เพื่อเปลี่ยนแลนด์ล็อกเป็นแลนด์ลิงก์ เชื่อมโยงด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ และความร่วมมือด้านอื่นๆ เช่น การเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมช้ามชาติ ยาเสพติด ฉ้อโกงออนไลน์ การค้ามนุษย์ โดยการตั้งศูนย์ Contact point และศูนย์ช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ การแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขงโดยใช้เทคโนโลยี ตามยุทธศาสตร์ฟ้าใส (CLEAR Sky Strategy) ยืนยันการจัดประชุม COOP ครั้งที่ 8 ส่งเสริมการค้าชายแดน เอสเอ็มอี ตั้งเป้าหมายการค้าที่ 11,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ภายในปี 2570 สนับสนุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ก่อสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ และแผนยุทธศาสตร์ด้านโลจิสติกส์ไทย-ลาวอย่างครบวงจร ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมสีเขียว โดยเฉพาะการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์ระหว่างทั้งสองประเทศ อีกด้านหนึ่ง ประเทศไทยและ สปป.ลาว เตรียมร่วมกันเปิดสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) จังหวัดบึงกาฬ ในช่วงปลายปี 2568 เพื่อเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน ระหว่างไทยกับลาวและภูมิภาคอินโดจีน ไปยังท่าเรือน้ำลึกในประเทศเวียดนาม เช่น ท่าเรือสากลลาว-เวียด หรือท่าเรือหวุงอ๋าง จังหวัดฮาติงห์ ถือเป็นทางออกสู่ทะเลที่ใกล้ที่สุดของลาว และเชื่อมต่อทางตอนใต้ของประเทศจีน #Newskit
    1 Comments 0 Shares 180 Views 0 Reviews
  • “The Pivot: ปี 2025 จุดเปลี่ยนของอารยธรรมมนุษย์” — เมื่อ Charlie Stross มองโลกปัจจุบันผ่านเลนส์ไซไฟดิสโทเปีย และชี้ว่า ‘นี่คือปีที่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยน’

    ในบทความ “The Pivot” นักเขียนไซไฟชื่อดัง Charlie Stross สะท้อนภาพโลกในปี 2025 ว่าเป็น “จุดเปลี่ยน” ของอารยธรรมมนุษย์ คล้ายกับปี 1968 ที่เคยเป็นจุดเปลี่ยนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เขาเปรียบเทียบโลกปัจจุบันกับนิยายไซไฟยุค 70s ที่เต็มไปด้วยมหาเศรษฐีผู้แยกตัวไปอวกาศ, สงคราม, ภาวะโลกร้อน และระบบเศรษฐกิจที่ใกล้ล่มสลาย

    Stross ชี้ว่าเรากำลังอยู่ในช่วง “การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน” ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยพลังงานจากฟอสซิลกำลังถูกแทนที่ด้วยพลังงานหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว — จีนติดตั้งแผงโซลาร์ 198GW ภายใน 5 เดือน, EU มีไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเกิน 50% แล้ว และราคาพลังงานแสงอาทิตย์ถูกลงจน “ถูกเกินกว่าจะเพิกเฉย”

    เขาย้อนประวัติศาสตร์พลังงานจากยุคถ่านหิน → น้ำมัน → พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างเศรษฐกิจโลกที่ผูกกับเชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังพังทลายลงอย่างช้า ๆ และจะกลายเป็น “สินทรัพย์ไร้ค่า” (stranded assets) ภายในไม่กี่ทศวรรษ

    Stross ยังเตือนถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงนี้:
    ความไม่มั่นคงทางการเมือง
    สงครามทรัพยากร
    การล่มสลายของระบบเกษตรกรรมจากภาวะโลกร้อน
    การสิ้นสุดของกฎ “กฎของมัวร์” (Moore’s Law) ที่เคยขับเคลื่อนเทคโนโลยี
    และการล่มสลายของระบบทุนนิยมแบบเสรีนิยมใหม่ (neoliberalism)

    เขาเรียกระบบเศรษฐกิจปัจจุบันว่า “Crapitalism” — ระบบที่เน้นการรีดกำไรจากผู้ใช้และธุรกิจรายย่อย โดยไม่สนใจความยั่งยืนหรืออนาคตของโลก

    สุดท้าย Stross สรุปว่า “สิ่งนี้จะหยุดลง เพราะมันไม่สามารถดำเนินต่อไปได้” — และปี 2025 คือจุดเริ่มต้นของการหยุดนั้น

    ปี 2025 คือ “จุดเปลี่ยน” ของอารยธรรมมนุษย์
    เปรียบเทียบกับปี 1968 ในแง่ของการเปลี่ยนแปลงระบบโลก

    การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากฟอสซิลสู่พลังงานหมุนเวียนกำลังเกิดขึ้น
    จีนติดตั้งโซลาร์ 198GW ใน 5 เดือน, EU มีไฟฟ้าหมุนเวียนเกิน 50%

    ราคาพลังงานแสงอาทิตย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง
    ถูกกว่าการเผาถ่านหินในหลายกรณี

    ระบบเศรษฐกิจที่ผูกกับน้ำมันกำลังล่มสลาย
    สินทรัพย์น้ำมันจะกลายเป็น “stranded assets” ภายในไม่กี่ทศวรรษ

    ภาวะโลกร้อนส่งผลต่อการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร
    เกิด “too-hot days” ที่พืชไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้

    Moore’s Law กำลังสิ้นสุด
    ความก้าวหน้าทางคอมพิวเตอร์ชะลอตัวลง

    ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมใหม่ (neoliberalism) กำลังล่มสลาย
    ถูกแทนที่ด้วยระบบที่เน้นการรีดกำไรจากผู้ใช้และธุรกิจรายย่อย

    https://www.antipope.org/charlie/blog-static/2025/10/the-pivot-1.html
    🌍 “The Pivot: ปี 2025 จุดเปลี่ยนของอารยธรรมมนุษย์” — เมื่อ Charlie Stross มองโลกปัจจุบันผ่านเลนส์ไซไฟดิสโทเปีย และชี้ว่า ‘นี่คือปีที่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยน’ ในบทความ “The Pivot” นักเขียนไซไฟชื่อดัง Charlie Stross สะท้อนภาพโลกในปี 2025 ว่าเป็น “จุดเปลี่ยน” ของอารยธรรมมนุษย์ คล้ายกับปี 1968 ที่เคยเป็นจุดเปลี่ยนหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เขาเปรียบเทียบโลกปัจจุบันกับนิยายไซไฟยุค 70s ที่เต็มไปด้วยมหาเศรษฐีผู้แยกตัวไปอวกาศ, สงคราม, ภาวะโลกร้อน และระบบเศรษฐกิจที่ใกล้ล่มสลาย Stross ชี้ว่าเรากำลังอยู่ในช่วง “การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน” ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม โดยพลังงานจากฟอสซิลกำลังถูกแทนที่ด้วยพลังงานหมุนเวียนอย่างรวดเร็ว — จีนติดตั้งแผงโซลาร์ 198GW ภายใน 5 เดือน, EU มีไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนเกิน 50% แล้ว และราคาพลังงานแสงอาทิตย์ถูกลงจน “ถูกเกินกว่าจะเพิกเฉย” เขาย้อนประวัติศาสตร์พลังงานจากยุคถ่านหิน → น้ำมัน → พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมชี้ให้เห็นว่าโครงสร้างเศรษฐกิจโลกที่ผูกกับเชื้อเพลิงฟอสซิลกำลังพังทลายลงอย่างช้า ๆ และจะกลายเป็น “สินทรัพย์ไร้ค่า” (stranded assets) ภายในไม่กี่ทศวรรษ Stross ยังเตือนถึงผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงนี้: 🌏 ความไม่มั่นคงทางการเมือง 🌏 สงครามทรัพยากร 🌏 การล่มสลายของระบบเกษตรกรรมจากภาวะโลกร้อน 🌏 การสิ้นสุดของกฎ “กฎของมัวร์” (Moore’s Law) ที่เคยขับเคลื่อนเทคโนโลยี 🌏 และการล่มสลายของระบบทุนนิยมแบบเสรีนิยมใหม่ (neoliberalism) เขาเรียกระบบเศรษฐกิจปัจจุบันว่า “Crapitalism” — ระบบที่เน้นการรีดกำไรจากผู้ใช้และธุรกิจรายย่อย โดยไม่สนใจความยั่งยืนหรืออนาคตของโลก สุดท้าย Stross สรุปว่า “สิ่งนี้จะหยุดลง เพราะมันไม่สามารถดำเนินต่อไปได้” — และปี 2025 คือจุดเริ่มต้นของการหยุดนั้น ✅ ปี 2025 คือ “จุดเปลี่ยน” ของอารยธรรมมนุษย์ ➡️ เปรียบเทียบกับปี 1968 ในแง่ของการเปลี่ยนแปลงระบบโลก ✅ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานจากฟอสซิลสู่พลังงานหมุนเวียนกำลังเกิดขึ้น ➡️ จีนติดตั้งโซลาร์ 198GW ใน 5 เดือน, EU มีไฟฟ้าหมุนเวียนเกิน 50% ✅ ราคาพลังงานแสงอาทิตย์ลดลงอย่างต่อเนื่อง ➡️ ถูกกว่าการเผาถ่านหินในหลายกรณี ✅ ระบบเศรษฐกิจที่ผูกกับน้ำมันกำลังล่มสลาย ➡️ สินทรัพย์น้ำมันจะกลายเป็น “stranded assets” ภายในไม่กี่ทศวรรษ ✅ ภาวะโลกร้อนส่งผลต่อการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร ➡️ เกิด “too-hot days” ที่พืชไม่สามารถสังเคราะห์แสงได้ ✅ Moore’s Law กำลังสิ้นสุด ➡️ ความก้าวหน้าทางคอมพิวเตอร์ชะลอตัวลง ✅ ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมใหม่ (neoliberalism) กำลังล่มสลาย ➡️ ถูกแทนที่ด้วยระบบที่เน้นการรีดกำไรจากผู้ใช้และธุรกิจรายย่อย https://www.antipope.org/charlie/blog-static/2025/10/the-pivot-1.html
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • “NES ครบรอบ 40 ปี: คุยกับ Frank Cifaldi ผู้ก่อตั้ง Video Game History Foundation” — เมื่อคอนโซลที่ช่วยกู้วิกฤตอุตสาหกรรม กลายเป็นรากฐานของเกมยุคใหม่

    ในโอกาสครบรอบ 40 ปีของ Nintendo Entertainment System (NES), Frank Cifaldi นักประวัติศาสตร์เกมและผู้ก่อตั้ง Video Game History Foundation ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Wccftech ถึงความสำคัญของ NES ที่ไม่เพียง “กู้” อุตสาหกรรมเกมจากวิกฤตปี 1983 แต่ยัง “ควบคุม” ทิศทางของมันในระยะยาว

    ประเด็นสำคัญจากบทสัมภาษณ์:

    NES คือจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรม: หลังจากวิกฤต Video Game Crash ปี 1983 ที่ทำให้ตลาดเกมล่มสลาย NES เปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมเกมคุณภาพสูงอย่าง Super Mario Bros. ซึ่งช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ค้าปลีก

    “Nintendo” กลายเป็นคำพ้องกับ “วิดีโอเกม”: ด้วยความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงปลายยุค 80s ถึงต้น 90s เด็ก ๆ ในยุคนั้นมอง NES เป็นศูนย์กลางของความบันเทิง

    กลยุทธ์ควบคุมคุณภาพ: Nintendo ใช้ชิป “lock-out” เพื่อควบคุมเกมที่ออกบนแพลตฟอร์มของตน ป้องกันเกมคุณภาพต่ำแบบที่เคยเกิดกับ Atari ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมมาจนถึงปัจจุบัน

    เบื้องหลังการเปิดตัว NES ที่ CES 1985: Cifaldi เปิดเผยว่า Nintendo เคยเกือบเปิดตัวระบบ AVS (Advanced Video System) ที่เน้นด้านการศึกษาและเทคโนโลยีมากกว่าเกม หากเลือกเส้นทางนั้น อุตสาหกรรมอาจเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

    เกือบถูก Atari ซื้อกิจการ: มีความพยายามจาก Atari ที่จะซื้อ Nintendo ก่อนเปิดตัว NES แต่ดีลล่มไป และ Cifaldi ยอมรับว่า “เราไม่รู้แน่ชัดว่าทำไม”

    ความท้าทายในการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์เกม: ปัญหาใหญ่คือ “ความตายของผู้รู้” และ “การย้ายบ้าน” ที่ทำให้เอกสารต้นฉบับหายไป Cifaldi เรียกร้องให้ผู้คนบริจาคสิ่งของเก่าแก่ให้กับมูลนิธิ

    เกมที่นิยมหรือมีอิทธิพลสูงสุดบน NES: Super Mario Bros. ทั้งสามภาคคือเกมที่ขายดีที่สุด ส่วนเกมจากแฟรนไชส์ดังอย่าง Teenage Mutant Ninja Turtles และ Top Gun ก็ขายดีเกินคาด

    มรดกของ NES: Cifaldi มองว่า NES เปลี่ยนเกมจาก “แฟชั่น” ให้กลายเป็น “อุตสาหกรรม” และวางรากฐานให้กับแนวคิดการควบคุมแพลตฟอร์มที่ยังคงใช้มาจนถึงทุกวันนี้

    https://wccftech.com/nes-40th-anniversary-interview-with-video-game-history-foundation-founder-frank-cifald-the-console-that-saved-and-controlled-video-games/
    🎮 “NES ครบรอบ 40 ปี: คุยกับ Frank Cifaldi ผู้ก่อตั้ง Video Game History Foundation” — เมื่อคอนโซลที่ช่วยกู้วิกฤตอุตสาหกรรม กลายเป็นรากฐานของเกมยุคใหม่ ในโอกาสครบรอบ 40 ปีของ Nintendo Entertainment System (NES), Frank Cifaldi นักประวัติศาสตร์เกมและผู้ก่อตั้ง Video Game History Foundation ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ Wccftech ถึงความสำคัญของ NES ที่ไม่เพียง “กู้” อุตสาหกรรมเกมจากวิกฤตปี 1983 แต่ยัง “ควบคุม” ทิศทางของมันในระยะยาว 🔑 ประเด็นสำคัญจากบทสัมภาษณ์: 🎮 NES คือจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรม: หลังจากวิกฤต Video Game Crash ปี 1983 ที่ทำให้ตลาดเกมล่มสลาย NES เปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมเกมคุณภาพสูงอย่าง Super Mario Bros. ซึ่งช่วยฟื้นความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและผู้ค้าปลีก 🎮 “Nintendo” กลายเป็นคำพ้องกับ “วิดีโอเกม”: ด้วยความนิยมอย่างล้นหลามในช่วงปลายยุค 80s ถึงต้น 90s เด็ก ๆ ในยุคนั้นมอง NES เป็นศูนย์กลางของความบันเทิง 🎮 กลยุทธ์ควบคุมคุณภาพ: Nintendo ใช้ชิป “lock-out” เพื่อควบคุมเกมที่ออกบนแพลตฟอร์มของตน ป้องกันเกมคุณภาพต่ำแบบที่เคยเกิดกับ Atari ซึ่งกลายเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมมาจนถึงปัจจุบัน 🎮 เบื้องหลังการเปิดตัว NES ที่ CES 1985: Cifaldi เปิดเผยว่า Nintendo เคยเกือบเปิดตัวระบบ AVS (Advanced Video System) ที่เน้นด้านการศึกษาและเทคโนโลยีมากกว่าเกม หากเลือกเส้นทางนั้น อุตสาหกรรมอาจเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง 🎮 เกือบถูก Atari ซื้อกิจการ: มีความพยายามจาก Atari ที่จะซื้อ Nintendo ก่อนเปิดตัว NES แต่ดีลล่มไป และ Cifaldi ยอมรับว่า “เราไม่รู้แน่ชัดว่าทำไม” 🎮 ความท้าทายในการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์เกม: ปัญหาใหญ่คือ “ความตายของผู้รู้” และ “การย้ายบ้าน” ที่ทำให้เอกสารต้นฉบับหายไป Cifaldi เรียกร้องให้ผู้คนบริจาคสิ่งของเก่าแก่ให้กับมูลนิธิ 🎮 เกมที่นิยมหรือมีอิทธิพลสูงสุดบน NES: Super Mario Bros. ทั้งสามภาคคือเกมที่ขายดีที่สุด ส่วนเกมจากแฟรนไชส์ดังอย่าง Teenage Mutant Ninja Turtles และ Top Gun ก็ขายดีเกินคาด 🎮 มรดกของ NES: Cifaldi มองว่า NES เปลี่ยนเกมจาก “แฟชั่น” ให้กลายเป็น “อุตสาหกรรม” และวางรากฐานให้กับแนวคิดการควบคุมแพลตฟอร์มที่ยังคงใช้มาจนถึงทุกวันนี้ https://wccftech.com/nes-40th-anniversary-interview-with-video-game-history-foundation-founder-frank-cifald-the-console-that-saved-and-controlled-video-games/
    0 Comments 0 Shares 173 Views 0 Reviews
  • “NVIDIA และ TSMC ผลิตแผ่นเวเฟอร์ Blackwell ครั้งแรกในสหรัฐฯ — แต่ยังต้องส่งกลับไต้หวันเพื่อประกอบขั้นสุดท้าย”

    NVIDIA และ TSMC ประกาศความสำเร็จในการผลิตเวเฟอร์ Blackwell รุ่นแรกที่โรงงาน Fab 21 ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา โดยใช้กระบวนการผลิตแบบ 4N ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับ 4 นาโนเมตรที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับ NVIDIA

    Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA กล่าวว่านี่คือ “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์” เพราะเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ชิปสำคัญระดับโลกถูกผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการนำอุตสาหกรรมกลับคืนสู่ประเทศผ่านนโยบาย reindustrialization และ CHIPS Act

    อย่างไรก็ตาม แม้เวเฟอร์จะผลิตในสหรัฐฯ แต่ขั้นตอนการประกอบขั้นสูง (advanced packaging) ยังต้องดำเนินการที่โรงงาน TSMC ในไต้หวัน โดยใช้เทคโนโลยี CoWoS-L เพื่อเชื่อมต่อกับหน่วยความจำ HBM3E ซึ่งทำให้ชิป Blackwell B300 ที่เสร็จสมบูรณ์ยังต้องพึ่งพาการผลิตนอกประเทศ

    การผลิตในสหรัฐฯ มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และอาจหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าหากมีการบังคับใช้ในอนาคต

    TSMC และ Amkor กำลังสร้างโรงงานประกอบขั้นสูงในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในสิ้นทศวรรษนี้ เช่นเดียวกับ Micron และ SK hynix ที่กำลังลงทุนในการผลิต DRAM และ HBM packaging ในสหรัฐฯ เพื่อเสริมความมั่นคงของ supply chain

    NVIDIA และ TSMC ผลิตเวเฟอร์ Blackwell รุ่นแรกในสหรัฐฯ ที่โรงงาน Fab 21
    ใช้กระบวนการผลิต 4N ที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับ NVIDIA

    Jensen Huang ระบุว่าเป็น “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์” สำหรับอุตสาหกรรมสหรัฐฯ
    สะท้อนนโยบาย reindustrialization และ CHIPS Act

    เวเฟอร์ต้องส่งกลับไต้หวันเพื่อประกอบขั้นสูงด้วย CoWoS-L และ HBM3E
    ทำให้ชิปที่เสร็จสมบูรณ์ยังต้องพึ่งพาการผลิตนอกประเทศ

    การผลิตในสหรัฐฯ ช่วยลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์
    และอาจหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าหากมีการบังคับใช้

    TSMC และ Amkor กำลังสร้างโรงงานประกอบขั้นสูงในสหรัฐฯ
    คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในสิ้นทศวรรษ

    Micron และ SK hynix ลงทุนใน DRAM และ HBM packaging ในสหรัฐฯ
    เสริมความมั่นคงของ supply chain ด้านหน่วยความจำ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/nvidia-and-tsmc-produce-the-first-blackwell-wafer-made-in-the-u-s-chips-still-need-to-be-shipped-back-to-taiwan-to-complete-the-final-product
    🇺🇸 “NVIDIA และ TSMC ผลิตแผ่นเวเฟอร์ Blackwell ครั้งแรกในสหรัฐฯ — แต่ยังต้องส่งกลับไต้หวันเพื่อประกอบขั้นสุดท้าย” NVIDIA และ TSMC ประกาศความสำเร็จในการผลิตเวเฟอร์ Blackwell รุ่นแรกที่โรงงาน Fab 21 ในรัฐแอริโซนา สหรัฐอเมริกา โดยใช้กระบวนการผลิตแบบ 4N ซึ่งเป็นเทคโนโลยีระดับ 4 นาโนเมตรที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับ NVIDIA Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA กล่าวว่านี่คือ “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์” เพราะเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่ชิปสำคัญระดับโลกถูกผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการนำอุตสาหกรรมกลับคืนสู่ประเทศผ่านนโยบาย reindustrialization และ CHIPS Act อย่างไรก็ตาม แม้เวเฟอร์จะผลิตในสหรัฐฯ แต่ขั้นตอนการประกอบขั้นสูง (advanced packaging) ยังต้องดำเนินการที่โรงงาน TSMC ในไต้หวัน โดยใช้เทคโนโลยี CoWoS-L เพื่อเชื่อมต่อกับหน่วยความจำ HBM3E ซึ่งทำให้ชิป Blackwell B300 ที่เสร็จสมบูรณ์ยังต้องพึ่งพาการผลิตนอกประเทศ การผลิตในสหรัฐฯ มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ เพราะช่วยลดความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และอาจหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าหากมีการบังคับใช้ในอนาคต TSMC และ Amkor กำลังสร้างโรงงานประกอบขั้นสูงในสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในสิ้นทศวรรษนี้ เช่นเดียวกับ Micron และ SK hynix ที่กำลังลงทุนในการผลิต DRAM และ HBM packaging ในสหรัฐฯ เพื่อเสริมความมั่นคงของ supply chain ✅ NVIDIA และ TSMC ผลิตเวเฟอร์ Blackwell รุ่นแรกในสหรัฐฯ ที่โรงงาน Fab 21 ➡️ ใช้กระบวนการผลิต 4N ที่ปรับแต่งเฉพาะสำหรับ NVIDIA ✅ Jensen Huang ระบุว่าเป็น “ช่วงเวลาประวัติศาสตร์” สำหรับอุตสาหกรรมสหรัฐฯ ➡️ สะท้อนนโยบาย reindustrialization และ CHIPS Act ✅ เวเฟอร์ต้องส่งกลับไต้หวันเพื่อประกอบขั้นสูงด้วย CoWoS-L และ HBM3E ➡️ ทำให้ชิปที่เสร็จสมบูรณ์ยังต้องพึ่งพาการผลิตนอกประเทศ ✅ การผลิตในสหรัฐฯ ช่วยลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ➡️ และอาจหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าหากมีการบังคับใช้ ✅ TSMC และ Amkor กำลังสร้างโรงงานประกอบขั้นสูงในสหรัฐฯ ➡️ คาดว่าจะเปิดใช้งานได้ภายในสิ้นทศวรรษ ✅ Micron และ SK hynix ลงทุนใน DRAM และ HBM packaging ในสหรัฐฯ ➡️ เสริมความมั่นคงของ supply chain ด้านหน่วยความจำ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/nvidia-and-tsmc-produce-the-first-blackwell-wafer-made-in-the-u-s-chips-still-need-to-be-shipped-back-to-taiwan-to-complete-the-final-product
    0 Comments 0 Shares 161 Views 0 Reviews
  • “CAD Assistant เวอร์ชัน PC — วิวัฒนาการใหม่ของการดูโมเดล 3D แบบมืออาชีพ” — เมื่อเครื่องมือจากมือถือถูกยกระดับสู่เดสก์ท็อป พร้อมเรนเดอร์ Ray-Tracing และ Path-Tracing เต็มรูปแบบ

    CAD Assistant ซึ่งเดิมเป็นแอปดูโมเดล 3D บนมือถือที่พัฒนาโดย Open CASCADE Technology ได้ถูกนำมาปรับใช้บนแพลตฟอร์ม PC โดยใช้ Android emulator อย่าง NoxPlayer เพื่อให้วิศวกรและนักออกแบบสามารถใช้งานได้บนหน้าจอใหญ่ พร้อมประสิทธิภาพที่สูงขึ้น

    ตัวแอปรองรับไฟล์ CAD หลากหลายรูปแบบ เช่น STEP, IGES, BREP, DXF, SAT, XT รวมถึงไฟล์ mesh อย่าง STL, OBJ, glTF และ JT โดยสามารถแสดงสี, texture, ข้อมูล scalar และ PMI ได้ครบถ้วน พร้อมแถบควบคุมการแสดงผล scalar แบบ interactive

    จุดเด่นของเวอร์ชัน PC คือการรองรับ GPU Ray-Tracing และ Path-Tracing ด้วยเทคโนโลยีของ Open CASCADE ซึ่งให้ภาพเรนเดอร์ที่สมจริงระดับ photorealistic เหมาะสำหรับการตรวจสอบงานออกแบบหรือใช้ในการนำเสนอแก่ลูกค้า

    นอกจากนี้ยังมี Material Editor ที่รองรับทั้ง Blinn-Phong และ PBR (metallic-roughness) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขวัสดุจาก Bill of Materials หรือสร้างวัสดุใหม่ได้อย่างง่ายดาย

    CAD Assistant ยังเหมาะกับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์, อากาศยาน, การผลิต และการศึกษา โดยสามารถใช้ในการตรวจสอบหน้างาน, การฝึกอบรม หรือการทำงานร่วมกันระหว่างทีม

    CAD Assistant เดิมเป็นแอปมือถือจาก Open CASCADE
    ปรับใช้บน PC ผ่าน Android emulator เช่น NoxPlayer

    รองรับไฟล์ CAD หลากหลาย: STEP, IGES, BREP, DXF, SAT, XT
    รวมถึง mesh formats เช่น STL, OBJ, glTF, JT

    แสดงข้อมูล geometry, assembly, color, PMI และ scalar data
    พร้อมแถบควบคุม scalar แบบ interactive

    รองรับ GPU Ray-Tracing และ Path-Tracing บน PC
    ให้ภาพเรนเดอร์สมจริงระดับ photorealistic

    มี Material Editor รองรับ Blinn-Phong และ PBR
    แก้ไขวัสดุจาก BOM หรือสร้างใหม่ได้

    เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและการศึกษา
    ใช้ในการตรวจสอบ, ฝึกอบรม, และการนำเสนอ

    https://securityonline.info/cad-assistant-for-pc-professional-3d-cad-visualization-on-desktop/
    🧱 “CAD Assistant เวอร์ชัน PC — วิวัฒนาการใหม่ของการดูโมเดล 3D แบบมืออาชีพ” — เมื่อเครื่องมือจากมือถือถูกยกระดับสู่เดสก์ท็อป พร้อมเรนเดอร์ Ray-Tracing และ Path-Tracing เต็มรูปแบบ CAD Assistant ซึ่งเดิมเป็นแอปดูโมเดล 3D บนมือถือที่พัฒนาโดย Open CASCADE Technology ได้ถูกนำมาปรับใช้บนแพลตฟอร์ม PC โดยใช้ Android emulator อย่าง NoxPlayer เพื่อให้วิศวกรและนักออกแบบสามารถใช้งานได้บนหน้าจอใหญ่ พร้อมประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ตัวแอปรองรับไฟล์ CAD หลากหลายรูปแบบ เช่น STEP, IGES, BREP, DXF, SAT, XT รวมถึงไฟล์ mesh อย่าง STL, OBJ, glTF และ JT โดยสามารถแสดงสี, texture, ข้อมูล scalar และ PMI ได้ครบถ้วน พร้อมแถบควบคุมการแสดงผล scalar แบบ interactive จุดเด่นของเวอร์ชัน PC คือการรองรับ GPU Ray-Tracing และ Path-Tracing ด้วยเทคโนโลยีของ Open CASCADE ซึ่งให้ภาพเรนเดอร์ที่สมจริงระดับ photorealistic เหมาะสำหรับการตรวจสอบงานออกแบบหรือใช้ในการนำเสนอแก่ลูกค้า นอกจากนี้ยังมี Material Editor ที่รองรับทั้ง Blinn-Phong และ PBR (metallic-roughness) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขวัสดุจาก Bill of Materials หรือสร้างวัสดุใหม่ได้อย่างง่ายดาย CAD Assistant ยังเหมาะกับการใช้งานในภาคอุตสาหกรรม เช่น ยานยนต์, อากาศยาน, การผลิต และการศึกษา โดยสามารถใช้ในการตรวจสอบหน้างาน, การฝึกอบรม หรือการทำงานร่วมกันระหว่างทีม ✅ CAD Assistant เดิมเป็นแอปมือถือจาก Open CASCADE ➡️ ปรับใช้บน PC ผ่าน Android emulator เช่น NoxPlayer ✅ รองรับไฟล์ CAD หลากหลาย: STEP, IGES, BREP, DXF, SAT, XT ➡️ รวมถึง mesh formats เช่น STL, OBJ, glTF, JT ✅ แสดงข้อมูล geometry, assembly, color, PMI และ scalar data ➡️ พร้อมแถบควบคุม scalar แบบ interactive ✅ รองรับ GPU Ray-Tracing และ Path-Tracing บน PC ➡️ ให้ภาพเรนเดอร์สมจริงระดับ photorealistic ✅ มี Material Editor รองรับ Blinn-Phong และ PBR ➡️ แก้ไขวัสดุจาก BOM หรือสร้างใหม่ได้ ✅ เหมาะกับภาคอุตสาหกรรมและการศึกษา ➡️ ใช้ในการตรวจสอบ, ฝึกอบรม, และการนำเสนอ https://securityonline.info/cad-assistant-for-pc-professional-3d-cad-visualization-on-desktop/
    SECURITYONLINE.INFO
    CAD Assistant for PC: Professional 3D CAD Visualization on Desktop
    CAD Assistant represents a sophisticated solution for professionals who demand reliable 3D model visualization capabilities. Originally developed as
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • #สงครามและความวุ่นวายโกลาหลล้วนมีเบื้องหน้าและเบื้องหลังและมีวัตถุประสงค์จึงก่อเหตุสร้างสงครามนั้นขึ้นมา รวมถึงประเทศไทยด้วยในปัจจุบัน.

    ..ทหารไทยภาคประชาชนคือหนทางออก ทางเดียว ต้องยึดอำนาจแล้วกวาดล้างทำความสะอาดสิ่งสกปกรกภายในประเทศไทยเราก่อนจริงๆก่อนสิ้นเดือนนี้ยิ่งดี.
    ..ไทยมีธนาคารกลางคือแบงค์ชาติไทยนะ ธนาคารกลางทั่วโลกเป็นตระกูลRothschildสั่งการและปกครอง,ธนาคารพานิชย์ทั้งหมดคือสาขาย่อยบ๋อยรับใช้มัน.,จงไม่แปลกใจว่าทำไมคนไทยยากจนลงทุกๆวัน ถูกขูดรีดตลอดเวลา ไร้กองทุนเงินทุนจริงใจช่วยเหลือประชาชนจริงๆ,อำนาจรัฐ อำนาจนายกฯไม่สามารถสั่งการ เข้าปกครองควบคุมได้.,กำหนดดอกเบี้ยในอัตราต่ำให้เป็นคุณประโยชน์จริงแก่คนไทยได้,กำหนดนโยบายทางการเงินที่มิให้ต้นทุนทางการเงินคนไทยลำบาก,ประชาชนเข้าถึงและช่วยเหลือจริงทางการเงินได้,มิใช่ธนาคารประกาศผลกำไรดำเนินงานกว่าแสนล้านบาทมากมายหลายแบงค์เช่นที่ผ่านมา ในขณะที่หลายภาคส่วนอุตสาหกรรมดิ่งขาดทุนเป็นว่าเล่น.,ประชาชนเดือดร้อนทั่วประเทศจากตังขาดสภาพคล่อง,เพราะตระกูลนี้ปกครองครบคุมตังทั้งประเทศไทยไง"Rothschild"
    ..................................................

    #ในปี 2000 มี 9 ประเทศที่ไม่มีธนาคารกลางของ Rothschild

    สี่คนถูกล้มล้างไปแล้วด้วยการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองโดยอิงจากการโกหกเช่น WMD

    ขณะนี้เรากำลังอยู่ในสงครามตัวแทนของอิสราเอลกับอิหร่านและซีเรีย และกำลังจะโค่นล้มมาดูโรในเวเนซุเอลา

    ปลุกนรกให้ตื่น


    @RealLandDownUnder

    ..................................................
    #สงครามและความวุ่นวายโกลาหลล้วนมีเบื้องหน้าและเบื้องหลังและมีวัตถุประสงค์จึงก่อเหตุสร้างสงครามนั้นขึ้นมา รวมถึงประเทศไทยด้วยในปัจจุบัน. ..ทหารไทยภาคประชาชนคือหนทางออก ทางเดียว ต้องยึดอำนาจแล้วกวาดล้างทำความสะอาดสิ่งสกปกรกภายในประเทศไทยเราก่อนจริงๆก่อนสิ้นเดือนนี้ยิ่งดี. ..ไทยมีธนาคารกลางคือแบงค์ชาติไทยนะ ธนาคารกลางทั่วโลกเป็นตระกูลRothschildสั่งการและปกครอง,ธนาคารพานิชย์ทั้งหมดคือสาขาย่อยบ๋อยรับใช้มัน.,จงไม่แปลกใจว่าทำไมคนไทยยากจนลงทุกๆวัน ถูกขูดรีดตลอดเวลา ไร้กองทุนเงินทุนจริงใจช่วยเหลือประชาชนจริงๆ,อำนาจรัฐ อำนาจนายกฯไม่สามารถสั่งการ เข้าปกครองควบคุมได้.,กำหนดดอกเบี้ยในอัตราต่ำให้เป็นคุณประโยชน์จริงแก่คนไทยได้,กำหนดนโยบายทางการเงินที่มิให้ต้นทุนทางการเงินคนไทยลำบาก,ประชาชนเข้าถึงและช่วยเหลือจริงทางการเงินได้,มิใช่ธนาคารประกาศผลกำไรดำเนินงานกว่าแสนล้านบาทมากมายหลายแบงค์เช่นที่ผ่านมา ในขณะที่หลายภาคส่วนอุตสาหกรรมดิ่งขาดทุนเป็นว่าเล่น.,ประชาชนเดือดร้อนทั่วประเทศจากตังขาดสภาพคล่อง,เพราะตระกูลนี้ปกครองครบคุมตังทั้งประเทศไทยไง"Rothschild" .................................................. #ในปี 2000 มี 9 ประเทศที่ไม่มีธนาคารกลางของ Rothschild สี่คนถูกล้มล้างไปแล้วด้วยการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองโดยอิงจากการโกหกเช่น WMD ขณะนี้เรากำลังอยู่ในสงครามตัวแทนของอิสราเอลกับอิหร่านและซีเรีย และกำลังจะโค่นล้มมาดูโรในเวเนซุเอลา ปลุกนรกให้ตื่น 🇮🇹@RealLandDownUnder ..................................................
    0 Comments 0 Shares 137 Views 0 Reviews
  • “Samsung เปิดตัว HBM4E ความเร็วทะลุ 3.25 TB/s” — ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของหน่วยความจำเพื่อ AI ยุคใหม่

    Samsung ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในงาน Open Compute Project (OCP) Global Summit โดยเปิดตัวหน่วยความจำ HBM4E ที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 13 Gbps ต่อ stack และให้แบนด์วิดธ์รวมสูงสุด 3.25 TB/s ซึ่งเร็วกว่า HBM3E ถึง 2.5 เท่า

    HBM4E ไม่เพียงแค่เร็วขึ้น แต่ยังมีประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ดีกว่าเดิมถึงสองเท่า และใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 4nm ที่ Samsung สามารถควบคุมได้เองผ่านแผนก foundry ทำให้สามารถกำหนดราคาที่แข่งขันได้เพื่อดึงดูดลูกค้าอย่าง NVIDIA และ AMD

    นอกจากนี้ Samsung ยังพัฒนา HBM4 ที่มีความเร็ว pin speed สูงถึง 11 Gbps ซึ่งเหนือกว่ามาตรฐาน JEDEC และตอบสนองต่อความต้องการของ NVIDIA ที่ต้องการหน่วยความจำความเร็วสูงสำหรับสถาปัตยกรรม Rubin

    Samsung วางแผนเริ่มผลิต HBM4 และ HBM4E ในช่วงต้นปี 2026 ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรม AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งอย่าง SK hynix และ Micron กำลังเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

    ข้อมูลในข่าว
    Samsung เปิดตัว HBM4E ที่มีแบนด์วิดธ์สูงสุด 3.25 TB/s
    ความเร็ว pin speed สูงสุด 13 Gbps ต่อ stack
    เร็วกว่า HBM3E ถึง 2.5 เท่า
    ประสิทธิภาพด้านพลังงานดีกว่าเดิมถึงสองเท่า
    ใช้เทคโนโลยีการผลิต 4nm ที่ Samsung ควบคุมเอง
    ตอบสนองต่อความต้องการของ NVIDIA สำหรับสถาปัตยกรรม Rubin
    HBM4 มีความเร็ว pin speed สูงถึง 11 Gbps
    เริ่มผลิต HBM4 และ HBM4E ในช่วงต้นปี 2026
    Samsung ตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาด HBM โดยใช้กลยุทธ์ด้านราคาและเทคโนโลยี
    คู่แข่งอย่าง SK hynix และ Micron เผชิญการแข่งขันที่รุนแรง

    https://wccftech.com/samsung-hbm4e-set-to-deliver-a-significant-bandwidth/
    🚀 “Samsung เปิดตัว HBM4E ความเร็วทะลุ 3.25 TB/s” — ก้าวกระโดดครั้งใหญ่ของหน่วยความจำเพื่อ AI ยุคใหม่ Samsung ประกาศความก้าวหน้าครั้งสำคัญในงาน Open Compute Project (OCP) Global Summit โดยเปิดตัวหน่วยความจำ HBM4E ที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 13 Gbps ต่อ stack และให้แบนด์วิดธ์รวมสูงสุด 3.25 TB/s ซึ่งเร็วกว่า HBM3E ถึง 2.5 เท่า HBM4E ไม่เพียงแค่เร็วขึ้น แต่ยังมีประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ดีกว่าเดิมถึงสองเท่า และใช้เทคโนโลยีการผลิตระดับ 4nm ที่ Samsung สามารถควบคุมได้เองผ่านแผนก foundry ทำให้สามารถกำหนดราคาที่แข่งขันได้เพื่อดึงดูดลูกค้าอย่าง NVIDIA และ AMD นอกจากนี้ Samsung ยังพัฒนา HBM4 ที่มีความเร็ว pin speed สูงถึง 11 Gbps ซึ่งเหนือกว่ามาตรฐาน JEDEC และตอบสนองต่อความต้องการของ NVIDIA ที่ต้องการหน่วยความจำความเร็วสูงสำหรับสถาปัตยกรรม Rubin Samsung วางแผนเริ่มผลิต HBM4 และ HBM4E ในช่วงต้นปี 2026 ซึ่งจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในอุตสาหกรรม AI และการประมวลผลประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งอย่าง SK hynix และ Micron กำลังเผชิญการแข่งขันที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ✅ ข้อมูลในข่าว ➡️ Samsung เปิดตัว HBM4E ที่มีแบนด์วิดธ์สูงสุด 3.25 TB/s ➡️ ความเร็ว pin speed สูงสุด 13 Gbps ต่อ stack ➡️ เร็วกว่า HBM3E ถึง 2.5 เท่า ➡️ ประสิทธิภาพด้านพลังงานดีกว่าเดิมถึงสองเท่า ➡️ ใช้เทคโนโลยีการผลิต 4nm ที่ Samsung ควบคุมเอง ➡️ ตอบสนองต่อความต้องการของ NVIDIA สำหรับสถาปัตยกรรม Rubin ➡️ HBM4 มีความเร็ว pin speed สูงถึง 11 Gbps ➡️ เริ่มผลิต HBM4 และ HBM4E ในช่วงต้นปี 2026 ➡️ Samsung ตั้งเป้าเป็นผู้นำตลาด HBM โดยใช้กลยุทธ์ด้านราคาและเทคโนโลยี ➡️ คู่แข่งอย่าง SK hynix และ Micron เผชิญการแข่งขันที่รุนแรง https://wccftech.com/samsung-hbm4e-set-to-deliver-a-significant-bandwidth/
    WCCFTECH.COM
    Samsung’s HBM4E Set to Deliver 3.25 TB/s Bandwidth; Nearly 2.5× Faster Than HBM3E, Driving AI Computing to New Levels
    Samsung has become one of the first HBM manufacturers to announce progress on HBM4E at the OCP, showcasing significant upgrades.
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
More Results