• "จินตนาการ: ความจริงของเด็ก และบทเรียนของผู้ใหญ่"เมื่อเราย้อนคิดถึงวัยเด็ก เราทุกคนล้วนเคยใช้จินตนาการเป็นที่หลบภัยในวันที่ความจริงไม่เป็นดั่งใจ สิ่งนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของเด็ก แต่ยังสะท้อนความจริงของมนุษย์ทุกช่วงวัย เมื่อเราปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่ได้มา จินตนาการจะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยปลอบประโลมใจ เป็นที่พักพิงชั่วคราว หรือในบางครั้งก็อาจยืดเยื้อจนกลายเป็นความจริงที่เราหลอกตัวเองว่า "เป็นไปได้"---จินตนาการในวัยเด็ก: ความรักที่ขาดหายในช่วงวัยเด็ก หากเด็กไม่ได้รับความรักหรือความสนใจเพียงพอจากพ่อแม่ พวกเขามักสร้าง "พ่อแม่ในจินตนาการ" ขึ้นมา พ่อแม่ที่ใจดี อบอุ่น รักใคร่ และพร้อมมอบทุกสิ่งให้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่รักพ่อแม่ตัวจริง แต่เพราะพวกเขากำลังหาทางเติมเต็มความว่างเปล่าในใจจินตนาการเหล่านี้ช่วยเด็กจัดการกับความรู้สึกขาดหายแต่เมื่อเวลาผ่านไป จินตนาการที่ยืดเยื้ออาจทำให้พวกเขาปฏิเสธความจริง และเชื่อว่า "ไม่มีใครในโลกเข้าใจหรือรักพวกเขาจริงๆ"---จินตนาการในวัยผู้ใหญ่: ความฝันหรือการหลีกหนี?จินตนาการไม่ใช่เรื่องของเด็กเท่านั้น ผู้ใหญ่เองก็ใช้มันเป็นเครื่องมือหลีกหนีความจริง เช่น การจินตนาการว่าร่ำรวย การได้ใช้ชีวิตในแบบที่ปรารถนา หรือแม้กระทั่งการคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่กว่าความจริงที่เป็นอยู่ความฝันและความหวังเป็นสิ่งดี หากใช้เพื่อสร้างแรงผลักดันแต่เมื่อจินตนาการกลายเป็น "หลุมหลบภัย" มันอาจหยุดยั้งเราไม่ให้เผชิญและแก้ไขปัญหาที่แท้จริง---บทเรียนสำหรับพ่อแม่: การสร้างจักรวาลเดียวกันกับลูกพ่อแม่ที่มัวแต่หมกมุ่นกับความต้องการของตนเอง หรืออ้างว่า "ทำเพื่ออนาคตของลูก" แต่กลับละเลยการใส่ใจในปัจจุบัน อาจกำลังสร้างกำแพงระหว่างตัวเองกับลูกการปล่อยให้ลูกต้องจมอยู่ในจินตนาการเพียงลำพัง อาจทำให้พวกเขาโตขึ้นมาโดยขาดความผูกพันกับความจริงในทางกลับกัน หากพ่อแม่สร้างจินตนาการร่วมกับลูก เช่น การอ่านนิทาน การพูดคุย และการเล่นร่วมกัน จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น---ความสำคัญของการรู้จักกันและกันการรู้จักลูกอย่างแท้จริงตั้งแต่พวกเขาเกิด คือการป้องกันปัญหาความสัมพันธ์ในอนาคตลูกที่ได้รับความสนใจและการยอมรับจากพ่อแม่จะรู้สึกว่า "พวกเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลก"พ่อแม่ที่เข้าใจลูก จะมองเห็นความต้องการและปัญหาที่แท้จริงของลูก---ข้อคิดสำหรับพ่อแม่1. ใส่ใจในปัจจุบัน: อย่ามองข้ามความต้องการเล็กๆ น้อยๆ ของลูก เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน2. สร้างจินตนาการร่วมกัน: ใช้เวลาอ่านนิทานหรือพูดคุยกับลูก เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่า "พ่อแม่เข้าใจพวกเขา"3. อย่าปล่อยให้จินตนาการกลายเป็นหลุมหลบภัย: ช่วยให้ลูกเผชิญกับความจริงอย่างมั่นคง---"จินตนาการอาจเติมเต็มความว่างเปล่าในใจได้ชั่วคราว แต่ความรักและความเข้าใจจากพ่อแม่เท่านั้น ที่สามารถเติมเต็มชีวิตลูกได้อย่างแท้จริง"
    "จินตนาการ: ความจริงของเด็ก และบทเรียนของผู้ใหญ่"เมื่อเราย้อนคิดถึงวัยเด็ก เราทุกคนล้วนเคยใช้จินตนาการเป็นที่หลบภัยในวันที่ความจริงไม่เป็นดั่งใจ สิ่งนี้ไม่ใช่เพียงเรื่องของเด็ก แต่ยังสะท้อนความจริงของมนุษย์ทุกช่วงวัย เมื่อเราปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่ได้มา จินตนาการจะกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยปลอบประโลมใจ เป็นที่พักพิงชั่วคราว หรือในบางครั้งก็อาจยืดเยื้อจนกลายเป็นความจริงที่เราหลอกตัวเองว่า "เป็นไปได้"---จินตนาการในวัยเด็ก: ความรักที่ขาดหายในช่วงวัยเด็ก หากเด็กไม่ได้รับความรักหรือความสนใจเพียงพอจากพ่อแม่ พวกเขามักสร้าง "พ่อแม่ในจินตนาการ" ขึ้นมา พ่อแม่ที่ใจดี อบอุ่น รักใคร่ และพร้อมมอบทุกสิ่งให้ ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่รักพ่อแม่ตัวจริง แต่เพราะพวกเขากำลังหาทางเติมเต็มความว่างเปล่าในใจจินตนาการเหล่านี้ช่วยเด็กจัดการกับความรู้สึกขาดหายแต่เมื่อเวลาผ่านไป จินตนาการที่ยืดเยื้ออาจทำให้พวกเขาปฏิเสธความจริง และเชื่อว่า "ไม่มีใครในโลกเข้าใจหรือรักพวกเขาจริงๆ"---จินตนาการในวัยผู้ใหญ่: ความฝันหรือการหลีกหนี?จินตนาการไม่ใช่เรื่องของเด็กเท่านั้น ผู้ใหญ่เองก็ใช้มันเป็นเครื่องมือหลีกหนีความจริง เช่น การจินตนาการว่าร่ำรวย การได้ใช้ชีวิตในแบบที่ปรารถนา หรือแม้กระทั่งการคิดว่าตนเองยิ่งใหญ่กว่าความจริงที่เป็นอยู่ความฝันและความหวังเป็นสิ่งดี หากใช้เพื่อสร้างแรงผลักดันแต่เมื่อจินตนาการกลายเป็น "หลุมหลบภัย" มันอาจหยุดยั้งเราไม่ให้เผชิญและแก้ไขปัญหาที่แท้จริง---บทเรียนสำหรับพ่อแม่: การสร้างจักรวาลเดียวกันกับลูกพ่อแม่ที่มัวแต่หมกมุ่นกับความต้องการของตนเอง หรืออ้างว่า "ทำเพื่ออนาคตของลูก" แต่กลับละเลยการใส่ใจในปัจจุบัน อาจกำลังสร้างกำแพงระหว่างตัวเองกับลูกการปล่อยให้ลูกต้องจมอยู่ในจินตนาการเพียงลำพัง อาจทำให้พวกเขาโตขึ้นมาโดยขาดความผูกพันกับความจริงในทางกลับกัน หากพ่อแม่สร้างจินตนาการร่วมกับลูก เช่น การอ่านนิทาน การพูดคุย และการเล่นร่วมกัน จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น---ความสำคัญของการรู้จักกันและกันการรู้จักลูกอย่างแท้จริงตั้งแต่พวกเขาเกิด คือการป้องกันปัญหาความสัมพันธ์ในอนาคตลูกที่ได้รับความสนใจและการยอมรับจากพ่อแม่จะรู้สึกว่า "พวกเขาไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลก"พ่อแม่ที่เข้าใจลูก จะมองเห็นความต้องการและปัญหาที่แท้จริงของลูก---ข้อคิดสำหรับพ่อแม่1. ใส่ใจในปัจจุบัน: อย่ามองข้ามความต้องการเล็กๆ น้อยๆ ของลูก เพราะมันคือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ที่ยั่งยืน2. สร้างจินตนาการร่วมกัน: ใช้เวลาอ่านนิทานหรือพูดคุยกับลูก เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่า "พ่อแม่เข้าใจพวกเขา"3. อย่าปล่อยให้จินตนาการกลายเป็นหลุมหลบภัย: ช่วยให้ลูกเผชิญกับความจริงอย่างมั่นคง---"จินตนาการอาจเติมเต็มความว่างเปล่าในใจได้ชั่วคราว แต่ความรักและความเข้าใจจากพ่อแม่เท่านั้น ที่สามารถเติมเต็มชีวิตลูกได้อย่างแท้จริง"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เข้าไปข้างในได้เจอกันคงอบอุ่นมากนะครับ
    คนรักกัน เจอกันข้างใน
    อบอุ่นที่สุดแล้ว สามทานายเซเลป
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    #เข้าไปข้างในได้เจอกันคงอบอุ่นมากนะครับ คนรักกัน เจอกันข้างใน อบอุ่นที่สุดแล้ว สามทานายเซเลป #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • #นาฬิกาชีวิต จังหวะเวลาที่กำหนดสุขภาพ
    ทุกวัน..จะชอบเขียนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ ละเว้นการเบียดเบียนตามหลักพุทธศาสนา คือ ถือศีลข้อที่๑(บริสุทธิ์) ทำให้เลือดในร่างกายไม่เป็นกรด ปัญหาเรื่องกระดูกพรุนไม่เกิด และมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระทางราชการ หรือ ต้องสูญเสียเงินทองมากมายเมื่อเข้าสู่วัยชรา.
    วันนี้..ที่บ้านมีพะโล้ฟองเต้าหู้ กับ ผักกาดจอ หม้อใหญ่ๆ เป็นอาหารหลัก ทำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คงกินได้หลายวัน
    วันนี้จึงไม่โม้เรื่องอาหาร เพราะเคยเขียนเผยแพร่แล้ว
    วันนี้พูดเรื่องสำคัญ..มากเท่ากับเรื่องอาหาร คือ
    วินัย ของ การทำงานในร่างกาย ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ ถูกที่ ถูกเวลา ตลอดเวลา ๒๔ชั่วโมง ก็ สำคัญมาก ซึ่งวันนี้ จะนำเสนอให้ทราบ ดังนี้
    เหตุผลตามธรรมชาติ
    #ทำไมต้องนอนสามทุ่มตื่นตีสาม?
    ต้องดื่มน้ำหลังตื่นนอน ขับถ่ายของเสีย กินอาหารให้ตรงเวลา
    #ทำไมเวลาเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงเช้า(ห้ามนอน..เด็ดขาด)
    บ่ายโมงถึงบ่ายสามไม่ควรกินอาหาร
    #บ่ายสามถึงห้าโมงเย็นเป็นเวลาออกกำลังกาย
    --->สามทุ่ม(ต้อง)เข้านอน(ห่มผ้า)ให้อบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น
    #สี่ทุ่มถึงตีสามคือเวลาของฮอร์โมนเมลาโทนิน(หลั่ง)
    --->ต้อง(ห่มผ้า)นอนหลับให้สนิท และ ปิดไฟให้มืด
    จึงจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาว 120 ปี
    #นาฬิกาชีวิต คือ การดูแลรักษาสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ให้มีสุขภาพที่ดีอายุยืนนาน ตามศาสตร์การแพทย์จีน อายุรเวทของอินเดีย และอียิปต์โบราณได้ค้นพบ และบันทึกตรงกันว่า
    #อวัยวะในร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ #อวัยวะตัน --->หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ และไต #อวัยวะกลวง --->กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบความร้อนในร่างกาย
    ทั้งหมดรวมได้ 12 อวัยวะ ควบคุมการไหลเวียนด้วยพลังชีวิตที่เรียกว่า.. “ #ลมปราณ” หมุนเวียนเป็นวัฏจักรทุก 2 ชั่วโมง ตามลำดับ
    ดังนั้นใน 1วัน=12อวัยวะX2ชั่วโมง จึงเท่ากับ 24ชั่วโมง (พอดีเป๊ะ)
    นี่แหละ คือ วัฏจักรของการทำงาน(ตามปกติ)ของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกว่า #นาฬิกาชีวิต นั่นเอง ค่ะ
    #ตารางการเดินลมปราณในแต่ละวัน จึงเป็นการดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ..”นาฬิกาชีวิต” ได้ดังนี้...
    เวลา 01.00-03.00น. ควรเป็นเวลาของ #ตับ มีหน้าที่เป็นโรงงานกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นในช่วงเวลานี้ร่างกาย #ควรนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ตับได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายหากไม่หลับในช่วงนี้จะทำให้สะสมพิษทำให้เกิดอาการเพลีย เหนื่อยง่าย
    โรคต่างที่เกิดจากพิษสารเคมีสะสมจะทำให้ป่วยง่าย+เรื้อรัง-ตายอย่างเวทนาและทุกข์ทรมาน นะคะ(ขอ บอก)
    เวลา 03.00-05.00น. #ควรตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก..ลึกๆ ช้าๆ..สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย ทำให้สุขภาพปอดและร่างกายโดยรวมจะดีไปด้วย
    #การดื่มน้ำอุ่นในช่วงนี้และการซิทอัป--->จะกระตุ้น(เร่ง)การทำงานของลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำงานในช่วงต่อไป..
    เวลา 05.00-07.00น. เป็นช่วงเวลาของ #การทำงานลำไส้ใหญ่ บีบรัดตัวได้ดีที่สุด เป็นเวลาขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับไป สะสมสารพิษ สะสม ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เวลา 05.45-06.00น.เป็นเวลาที่ดีที่สุด ของ #การฝึกสมาธิ เพราะในขณะที่ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ&แปรงฟัน..เสร็จ ปลอดโปร่ง..#โล่งทั้งกายและใจไม่มีเรื่องเครียด เรื่องงานมากวนใจ ฝึกนั่งสมาธิในช่วงนี้(ทุกวัน)สามารถเข้าถึงสมาธิได้สำเร็จ(ง่าย)มาก..ค่ะ
    เวลา 07.00-09.00น. คือช่วงเวลาของ #กระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้าเป็นมื้อหลักที่มีสารอาหารอย่างครบถ้วน หากไม่กินมื้อเช้า(มื้อสำคัญ)จะเป็นโรคกระเพาะอย่างรวดเร็ว และสะสมเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในระยะยาว
    เวลา 09.00-011.00น. เป็นเวลาของ #ม้าม ควบคุมเม็ดเลือดขาว กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ดังนั้นผู้ที่นอนในช่วงนี้จะส่งผลให้ม้ามอ่อนแอ มี #ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ติดเชื้อเป็นโรคต่างๆได้ง่าย
    เวลา 11.00-13.00น. ช่วงพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาของ #หัวใจ ควรพักผ่อน..สบายๆ งดน้ำชา กาแฟ หลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ทำงานหนักเกิน ส่งผลให้หัวใจวายได้อย่างง่ายๆ ในช่วงเวลาเที่ยง จ๊ะ
    เวลา 13.00-15.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ลำไส้เล็ก ในช่วงนี้ร่างกายส่งพลังงานทั้งหมดไปยังลำไส้เล็กเพื่อการดูดซึม #การกินอาหารในช่วงนี้จะไปขัดขวางโอกาสทองของระบบดูดซีมที่ต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วงนี้สมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีที่สุดในรอบวัน
    เวลา 15.00-17.00น. เวลาของ #กระเพาะปัสสาวะ และการขับเหงื่อ #จึงควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ เหมาะกับการอบซาวน่าเพื่อให้เหงื่อออก สำหรับหนุ่มสาวที่ทำงานในช่วงนี้ ก็สามารถใช้ท่าการออกกำลังกายในสำนักงาน หรือเดินไป-มา ขึ้น-ลงบันได เพื่อส่งเสริมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้..เช่นกัน
    เวลา 17.00-19.00น. #ช่วงเวลาของไต มีหน้าที่รักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย โดยกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเหงื่อ #เวลาช่วงนี้จึงควรทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง ไม่หลับ เป็นช่วงCool Down หรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากการออกกำลังกายอย่างหนัก..ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
    เวลา 19.00-21.00น. ช่วงนี้เป็นเวลาที่ #เยื่อหุ้มหัวใจ..บางที่สุด จึงควรระวังอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจ โกรธ เสียใจ การที่ทำให้ตื่นตัวมากๆส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจฉีกขาดได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงควรปิดโทรศัพท์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ
    เวลา 21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ระบบความร้อนในร่างกาย ซึ่งตามธรรมชาติ..ในช่วงเวลานี้อากาศเริ่มเย็น ร่างกายคนเราต้องสร้างความร้อนขึ้น จึงไม่ควรอาบน้ำหรือดื่มน้ำเย็น และควรเข้านอนในช่วงเวลานี้ ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนเพื่อส่งเสริมการทำงานของถุงน้ำดีในเวลาถัดไป.
    เวลา 23.00-01.00น. เวลาของ #ถุงน้ำดี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำ อวัยวะต่างๆจะดึงน้ำจากถุงน้ำดี..แล้วนำไปใช้ หากน้ำในถุงน้ำดีข้นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติได้ #หากไม่นอนในช่วงนี้จะเกิดถุงไขมันใต้ตา และไขมันพอกตับ
    .
    .
    เจริญธรรม สำนึกดี
    Pachäree Wõng
    November21, 2024
    Sausalito, California.
    #นาฬิกาชีวิต จังหวะเวลาที่กำหนดสุขภาพ ทุกวัน..จะชอบเขียนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ ละเว้นการเบียดเบียนตามหลักพุทธศาสนา คือ ถือศีลข้อที่๑(บริสุทธิ์) ทำให้เลือดในร่างกายไม่เป็นกรด ปัญหาเรื่องกระดูกพรุนไม่เกิด และมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระทางราชการ หรือ ต้องสูญเสียเงินทองมากมายเมื่อเข้าสู่วัยชรา. วันนี้..ที่บ้านมีพะโล้ฟองเต้าหู้ กับ ผักกาดจอ หม้อใหญ่ๆ เป็นอาหารหลัก ทำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คงกินได้หลายวัน วันนี้จึงไม่โม้เรื่องอาหาร เพราะเคยเขียนเผยแพร่แล้ว วันนี้พูดเรื่องสำคัญ..มากเท่ากับเรื่องอาหาร คือ วินัย ของ การทำงานในร่างกาย ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ ถูกที่ ถูกเวลา ตลอดเวลา ๒๔ชั่วโมง ก็ สำคัญมาก ซึ่งวันนี้ จะนำเสนอให้ทราบ ดังนี้ เหตุผลตามธรรมชาติ #ทำไมต้องนอนสามทุ่มตื่นตีสาม? ต้องดื่มน้ำหลังตื่นนอน ขับถ่ายของเสีย กินอาหารให้ตรงเวลา #ทำไมเวลาเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงเช้า(ห้ามนอน..เด็ดขาด) บ่ายโมงถึงบ่ายสามไม่ควรกินอาหาร #บ่ายสามถึงห้าโมงเย็นเป็นเวลาออกกำลังกาย --->สามทุ่ม(ต้อง)เข้านอน(ห่มผ้า)ให้อบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น #สี่ทุ่มถึงตีสามคือเวลาของฮอร์โมนเมลาโทนิน(หลั่ง) --->ต้อง(ห่มผ้า)นอนหลับให้สนิท และ ปิดไฟให้มืด จึงจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาว 120 ปี #นาฬิกาชีวิต คือ การดูแลรักษาสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ให้มีสุขภาพที่ดีอายุยืนนาน ตามศาสตร์การแพทย์จีน อายุรเวทของอินเดีย และอียิปต์โบราณได้ค้นพบ และบันทึกตรงกันว่า #อวัยวะในร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ #อวัยวะตัน --->หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ และไต #อวัยวะกลวง --->กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบความร้อนในร่างกาย ทั้งหมดรวมได้ 12 อวัยวะ ควบคุมการไหลเวียนด้วยพลังชีวิตที่เรียกว่า.. “ #ลมปราณ” หมุนเวียนเป็นวัฏจักรทุก 2 ชั่วโมง ตามลำดับ ดังนั้นใน 1วัน=12อวัยวะX2ชั่วโมง จึงเท่ากับ 24ชั่วโมง (พอดีเป๊ะ) นี่แหละ คือ วัฏจักรของการทำงาน(ตามปกติ)ของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกว่า #นาฬิกาชีวิต นั่นเอง ค่ะ #ตารางการเดินลมปราณในแต่ละวัน จึงเป็นการดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ..”นาฬิกาชีวิต” ได้ดังนี้... เวลา 01.00-03.00น. ควรเป็นเวลาของ #ตับ มีหน้าที่เป็นโรงงานกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นในช่วงเวลานี้ร่างกาย #ควรนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ตับได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายหากไม่หลับในช่วงนี้จะทำให้สะสมพิษทำให้เกิดอาการเพลีย เหนื่อยง่าย โรคต่างที่เกิดจากพิษสารเคมีสะสมจะทำให้ป่วยง่าย+เรื้อรัง-ตายอย่างเวทนาและทุกข์ทรมาน นะคะ(ขอ บอก) เวลา 03.00-05.00น. #ควรตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก..ลึกๆ ช้าๆ..สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย ทำให้สุขภาพปอดและร่างกายโดยรวมจะดีไปด้วย #การดื่มน้ำอุ่นในช่วงนี้และการซิทอัป--->จะกระตุ้น(เร่ง)การทำงานของลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำงานในช่วงต่อไป.. เวลา 05.00-07.00น. เป็นช่วงเวลาของ #การทำงานลำไส้ใหญ่ บีบรัดตัวได้ดีที่สุด เป็นเวลาขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับไป สะสมสารพิษ สะสม ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เวลา 05.45-06.00น.เป็นเวลาที่ดีที่สุด ของ #การฝึกสมาธิ เพราะในขณะที่ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ&แปรงฟัน..เสร็จ ปลอดโปร่ง..#โล่งทั้งกายและใจไม่มีเรื่องเครียด เรื่องงานมากวนใจ ฝึกนั่งสมาธิในช่วงนี้(ทุกวัน)สามารถเข้าถึงสมาธิได้สำเร็จ(ง่าย)มาก..ค่ะ เวลา 07.00-09.00น. คือช่วงเวลาของ #กระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้าเป็นมื้อหลักที่มีสารอาหารอย่างครบถ้วน หากไม่กินมื้อเช้า(มื้อสำคัญ)จะเป็นโรคกระเพาะอย่างรวดเร็ว และสะสมเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในระยะยาว เวลา 09.00-011.00น. เป็นเวลาของ #ม้าม ควบคุมเม็ดเลือดขาว กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ดังนั้นผู้ที่นอนในช่วงนี้จะส่งผลให้ม้ามอ่อนแอ มี #ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ติดเชื้อเป็นโรคต่างๆได้ง่าย เวลา 11.00-13.00น. ช่วงพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาของ #หัวใจ ควรพักผ่อน..สบายๆ งดน้ำชา กาแฟ หลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ทำงานหนักเกิน ส่งผลให้หัวใจวายได้อย่างง่ายๆ ในช่วงเวลาเที่ยง จ๊ะ เวลา 13.00-15.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ลำไส้เล็ก ในช่วงนี้ร่างกายส่งพลังงานทั้งหมดไปยังลำไส้เล็กเพื่อการดูดซึม #การกินอาหารในช่วงนี้จะไปขัดขวางโอกาสทองของระบบดูดซีมที่ต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วงนี้สมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีที่สุดในรอบวัน เวลา 15.00-17.00น. เวลาของ #กระเพาะปัสสาวะ และการขับเหงื่อ #จึงควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ เหมาะกับการอบซาวน่าเพื่อให้เหงื่อออก สำหรับหนุ่มสาวที่ทำงานในช่วงนี้ ก็สามารถใช้ท่าการออกกำลังกายในสำนักงาน หรือเดินไป-มา ขึ้น-ลงบันได เพื่อส่งเสริมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้..เช่นกัน เวลา 17.00-19.00น. #ช่วงเวลาของไต มีหน้าที่รักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย โดยกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเหงื่อ #เวลาช่วงนี้จึงควรทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง ไม่หลับ เป็นช่วงCool Down หรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากการออกกำลังกายอย่างหนัก..ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เวลา 19.00-21.00น. ช่วงนี้เป็นเวลาที่ #เยื่อหุ้มหัวใจ..บางที่สุด จึงควรระวังอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจ โกรธ เสียใจ การที่ทำให้ตื่นตัวมากๆส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจฉีกขาดได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงควรปิดโทรศัพท์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ เวลา 21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ระบบความร้อนในร่างกาย ซึ่งตามธรรมชาติ..ในช่วงเวลานี้อากาศเริ่มเย็น ร่างกายคนเราต้องสร้างความร้อนขึ้น จึงไม่ควรอาบน้ำหรือดื่มน้ำเย็น และควรเข้านอนในช่วงเวลานี้ ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนเพื่อส่งเสริมการทำงานของถุงน้ำดีในเวลาถัดไป. เวลา 23.00-01.00น. เวลาของ #ถุงน้ำดี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำ อวัยวะต่างๆจะดึงน้ำจากถุงน้ำดี..แล้วนำไปใช้ หากน้ำในถุงน้ำดีข้นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติได้ #หากไม่นอนในช่วงนี้จะเกิดถุงไขมันใต้ตา และไขมันพอกตับ . . เจริญธรรม สำนึกดี Pachäree Wõng November21, 2024 Sausalito, California.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 631 มุมมอง 0 รีวิว
  • พร้อมแล้วสำหรับเทศกาลคริตมาสอารีย์ 𝐂𝐥𝐚𝐲 𝐁𝐚𝐧𝐠𝐤𝐨𝐤 ความสดชื่นที่รายล้อมไปด้วยวิวธรรมชาติ ที่จัดธีม
    ให้ทุกคนมาสัมผัสกับเทศกาลความอบอุ่น และอาหารแสนอร่อย ตามคอนเซ็ปต์ทุกอย่างเกิดจากดิน ชูเรื่องวัตถุดิบจากท้องทะเล ไอเดียในการครีเอทเมนู อาหารแบบเรียบง่าย สไตล์โฮมเมด เพื่อคงรสชาติของวัตถุดิบตามธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด

    📍 Clay Bangkok
    ⏰ 11:00-22:00 (เปิดทุกวัน)
    🅿️ มีที่จอดรถ

    #ร้านอาหารบรรยากาศดี #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    พร้อมแล้วสำหรับเทศกาลคริตมาสอารีย์ 𝐂𝐥𝐚𝐲 𝐁𝐚𝐧𝐠𝐤𝐨𝐤 ความสดชื่นที่รายล้อมไปด้วยวิวธรรมชาติ ที่จัดธีม ให้ทุกคนมาสัมผัสกับเทศกาลความอบอุ่น และอาหารแสนอร่อย ตามคอนเซ็ปต์ทุกอย่างเกิดจากดิน ชูเรื่องวัตถุดิบจากท้องทะเล ไอเดียในการครีเอทเมนู อาหารแบบเรียบง่าย สไตล์โฮมเมด เพื่อคงรสชาติของวัตถุดิบตามธรรมชาติไว้ให้มากที่สุด 📍 Clay Bangkok ⏰ 11:00-22:00 (เปิดทุกวัน) 🅿️ มีที่จอดรถ #ร้านอาหารบรรยากาศดี #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 1 รีวิว
  • ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าหิวแสง เพราะแท้จริงแล้ว แสงสว่างนั้นส่องออกมาเองจากภายใน จากความใสซื่อบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา และความน่ารักอันเป็นธรรมชาติ เพียงแค่เรามีหัวใจที่จริงใจ ยิ้มให้กับโลกอย่างอบอุ่น แสงแห่งความสุขก็จะส่องสว่างโดยไม่ต้องพยายาม

    ถาวร บุญญวรรณ
    #MoodengMoodeng
    #innerradiancetarot
    #เพลงใหม่GMM

    There's no need to chase after the spotlight, for true light shines from within. It radiates from pure innocence, sincerity, and a natural charm. With a heart full of warmth and a genuine smile for the world, the light of happiness will shine effortlessly.

    Thaworn Boonyawan
    ไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าหิวแสง เพราะแท้จริงแล้ว แสงสว่างนั้นส่องออกมาเองจากภายใน จากความใสซื่อบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา และความน่ารักอันเป็นธรรมชาติ เพียงแค่เรามีหัวใจที่จริงใจ ยิ้มให้กับโลกอย่างอบอุ่น แสงแห่งความสุขก็จะส่องสว่างโดยไม่ต้องพยายาม ถาวร บุญญวรรณ #MoodengMoodeng #innerradiancetarot #เพลงใหม่GMM There's no need to chase after the spotlight, for true light shines from within. It radiates from pure innocence, sincerity, and a natural charm. With a heart full of warmth and a genuine smile for the world, the light of happiness will shine effortlessly. Thaworn Boonyawan
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ ทำการเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ทางเหนือของโปแลนด์ ความเคลื่อนไหวที่ทางวอร์ซอหาทางสร้างความอุ่นใจแก่พลเมืองว่านาโตการันตีความปลอดภัยของพวกเขา ท่ามกลางความหวั่นวิตก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา
    .
    ฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเรดซิโคโว ใกล้ชายฝั่งบอลติก ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ทศวรรษ 2000 และวอร์ซอระบุว่ามันแสดงให้เห็นว่าความเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างโปแลนด์กับวอชิงตันยังคงเหนียวแน่น ไม่ว่าใครจะอยู่ในทำเนียบขาวก็ตาม
    .
    "มันใช้เวลาพักใหญ่ แต่โครงการก่อสร้างนี้พิสูจน์ถึงความแน่วแน่ในเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ" ราโดสลอว์ ซิคอร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ กล่าวในวิดีโอที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์
    .
    ประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดา ของโปแลนด์ ผู้นำหัวอนุรักษนิยมซึ่งเน้นย้ำความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับทรัมป์ เข้าร่วมในพิธีเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่ด้วย ในขณะที่วังเครมลินเรียกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นความพยายามควบคุมรัสเซีย ด้วยการเคลื่อนย้ายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของอเมริกาเข้ามาใกล้ชายแดนของพวกเขา
    .
    ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน กล่าวว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน คัดค้านแผนการต่างๆ สำหรับฐานขีปนาวุธแห่งนี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 2000 ครั้งที่ จอร์จ ดับเบิลยู.บุช เป็นประธานาธิบดี
    .
    โฆษกรายนี้บอกว่า ปูติน เคยเน้นย้ำในช่วงเวลาดังกล่าว ว่าสหรัฐฯ กำลังโกหก ที่อ้างว่ามันมีจุดประสงค์เพื่อสกัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะยิงขีปนาวุธเข้ามา "มันเป็นการยืนยันว่าประธานาธิบดีพูดถูก พวกเขายังคงเดินหน้าแผนการนี้ นี่คือโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำสมัยของอเมริกาบนดินแดนยุโรป ที่หันหน้าเข้าหาเขตแดนของเรา" เปสคอฟกล่าว "มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความพยายามควบคุมแสนยานุภาพทางทหารของเรา และแน่นอนว่ามันจะนำมาซึ่้งการใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อรับประกันความเท่าเทียม"
    .
    อย่างไรก็ตาม เปสคอฟ ไม่ได้ระบุว่ารัสเซียจะใช้มาตรการใดในการตอบโต้
    .
    การเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในโปแลนด์ มีขึ้นหลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ที่มีต่อนาโตในอดีต ได้ก่อความไม่สบายใจแก่รัฐสมาชิกบางส่วน โดยเขาเคยประกาศกร้าวว่าอเมริกาภายใต้การบริหารงานของเขา จะไม่ปกป้องประเทศต่างๆ ที่ไม่ใช้จ่ายในด้านกลาโหมอย่างเพียงพอ
    .
    กระนั้นก็ตาม โปแลนด์ บอกว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ
    .
    ฐานทัพของสหรัฐฯ ในเมืองเรดซิโคโว เป็นส่วนหนึ่งของโล่ป้องกันขีปนาวุธอย่างครอบคลุมของนาโต ที่ได้รับสมญานามว่า "Aegis Ashore" ซึ่งพันธมิตรทหารแห่งนี้อวดอ้างว่าสามารถสกัดขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปจนถึงพิสัยปานกลางที่พุ่งเข้ามาได้
    .
    มอสโกเคยตราหน้าฐานทัพแห่งนี้ว่าเป็นภัยคุกคาม ย้อนกลับไปในปี 2007 ตั้งแต่ช่วงที่มันยังอยู่ในขั้นของการวางแผน อย่างไรก็ตาม นาโตอ้างว่าโล่ดังกล่าวมีไว้เพื่อจุดประสงค์ป้องกันตนเองแต่เพียงอย่างเดียว
    .
    แหล่งข่าวด้านการทหารบอกกับรอยเตอร์ว่า ด้วยการติดตั้งระบบนี้ในโปแลนด์ เวลานี้นาโตไม่ใช่แค่สามารถใช้มันสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากตะวันออกกลางเท่านั้น แต่มันยังมีระบบเรดาร์ที่จำเป็นที่้สามารถเปลี่ยนทิศทางเข้าสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากรัสเซียด้วยเช่นกัน
    .
    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์ระบุในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่าจำเป็นต้องขยายขอบเขตโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้เพิ่มเติม ซึ่งทางวอร์ซอจะมีการพูดคุยหารือกับนาโตและสหรัฐฯ อีกครั้ง
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานว่า มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดี ดูดา และนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ ในกรุงวอร์ซอ หลังจากพิธีเปิดฐานทัพในวันพุธ (13 พ.ย.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109494
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯ ทำการเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ทางเหนือของโปแลนด์ ความเคลื่อนไหวที่ทางวอร์ซอหาทางสร้างความอุ่นใจแก่พลเมืองว่านาโตการันตีความปลอดภัยของพวกเขา ท่ามกลางความหวั่นวิตก หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา . ฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งนี้ ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเรดซิโคโว ใกล้ชายฝั่งบอลติก ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ทศวรรษ 2000 และวอร์ซอระบุว่ามันแสดงให้เห็นว่าความเป็นพันธมิตรทางทหารระหว่างโปแลนด์กับวอชิงตันยังคงเหนียวแน่น ไม่ว่าใครจะอยู่ในทำเนียบขาวก็ตาม . "มันใช้เวลาพักใหญ่ แต่โครงการก่อสร้างนี้พิสูจน์ถึงความแน่วแน่ในเชิงยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ" ราโดสลอว์ ซิคอร์สกี รัฐมนตรีต่างประเทศโปแลนด์ กล่าวในวิดีโอที่โพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ . ประธานาธิบดีอันด์แซย์ ดูดา ของโปแลนด์ ผู้นำหัวอนุรักษนิยมซึ่งเน้นย้ำความสัมพันธ์อันอบอุ่นกับทรัมป์ เข้าร่วมในพิธีเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่ด้วย ในขณะที่วังเครมลินเรียกความเคลื่อนไหวครั้งนี้ว่าเป็นความพยายามควบคุมรัสเซีย ด้วยการเคลื่อนย้ายโครงสร้างพื้นฐานทางทหารของอเมริกาเข้ามาใกล้ชายแดนของพวกเขา . ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน กล่าวว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน คัดค้านแผนการต่างๆ สำหรับฐานขีปนาวุธแห่งนี้ ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 2000 ครั้งที่ จอร์จ ดับเบิลยู.บุช เป็นประธานาธิบดี . โฆษกรายนี้บอกว่า ปูติน เคยเน้นย้ำในช่วงเวลาดังกล่าว ว่าสหรัฐฯ กำลังโกหก ที่อ้างว่ามันมีจุดประสงค์เพื่อสกัดความเป็นไปได้ที่อิหร่านจะยิงขีปนาวุธเข้ามา "มันเป็นการยืนยันว่าประธานาธิบดีพูดถูก พวกเขายังคงเดินหน้าแผนการนี้ นี่คือโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำสมัยของอเมริกาบนดินแดนยุโรป ที่หันหน้าเข้าหาเขตแดนของเรา" เปสคอฟกล่าว "มันไม่มีอะไรมากไปกว่าความพยายามควบคุมแสนยานุภาพทางทหารของเรา และแน่นอนว่ามันจะนำมาซึ่้งการใช้มาตรการที่เหมาะสม เพื่อรับประกันความเท่าเทียม" . อย่างไรก็ตาม เปสคอฟ ไม่ได้ระบุว่ารัสเซียจะใช้มาตรการใดในการตอบโต้ . การเปิดฐานป้องกันภัยทางอากาศแห่งใหม่อย่างเป็นทางการในโปแลนด์ มีขึ้นหลังจากทรัมป์ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ของทรัมป์ที่มีต่อนาโตในอดีต ได้ก่อความไม่สบายใจแก่รัฐสมาชิกบางส่วน โดยเขาเคยประกาศกร้าวว่าอเมริกาภายใต้การบริหารงานของเขา จะไม่ปกป้องประเทศต่างๆ ที่ไม่ใช้จ่ายในด้านกลาโหมอย่างเพียงพอ . กระนั้นก็ตาม โปแลนด์ บอกว่าไม่มีอะไรให้ต้องกังวล เนื่องจากพวกเขาเป็นผู้ใช้จ่ายงบประมาณด้านกลาโหมรายใหญ่ที่สุดรายหนึ่งของพันธมิตรทหารแห่งนี้ เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจ . ฐานทัพของสหรัฐฯ ในเมืองเรดซิโคโว เป็นส่วนหนึ่งของโล่ป้องกันขีปนาวุธอย่างครอบคลุมของนาโต ที่ได้รับสมญานามว่า "Aegis Ashore" ซึ่งพันธมิตรทหารแห่งนี้อวดอ้างว่าสามารถสกัดขีปนาวุธพิสัยใกล้ไปจนถึงพิสัยปานกลางที่พุ่งเข้ามาได้ . มอสโกเคยตราหน้าฐานทัพแห่งนี้ว่าเป็นภัยคุกคาม ย้อนกลับไปในปี 2007 ตั้งแต่ช่วงที่มันยังอยู่ในขั้นของการวางแผน อย่างไรก็ตาม นาโตอ้างว่าโล่ดังกล่าวมีไว้เพื่อจุดประสงค์ป้องกันตนเองแต่เพียงอย่างเดียว . แหล่งข่าวด้านการทหารบอกกับรอยเตอร์ว่า ด้วยการติดตั้งระบบนี้ในโปแลนด์ เวลานี้นาโตไม่ใช่แค่สามารถใช้มันสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากตะวันออกกลางเท่านั้น แต่มันยังมีระบบเรดาร์ที่จำเป็นที่้สามารถเปลี่ยนทิศทางเข้าสกัดขีปนาวุธที่ยิงออกมาจากรัสเซียด้วยเช่นกัน . รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของโปแลนด์ระบุในวันจันทร์ (11 พ.ย.) ว่าจำเป็นต้องขยายขอบเขตโล่ป้องกันขีปนาวุธนี้เพิ่มเติม ซึ่งทางวอร์ซอจะมีการพูดคุยหารือกับนาโตและสหรัฐฯ อีกครั้ง . ทั้งนี้ มีรายงานว่า มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต ได้พบปะหารือกับประธานาธิบดี ดูดา และนายกรัฐมนตรีโดนัลด์ ทัสก์ ของโปแลนด์ ในกรุงวอร์ซอ หลังจากพิธีเปิดฐานทัพในวันพุธ (13 พ.ย.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000109494 .............. Sondhi X
    Like
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1030 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำถามว่า "รักแท้หรือรักเทียม? " เป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยและอยากหาคำตอบให้กับตนเอง ความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้สามารถสังเกตได้จากความยั่งยืนของความรู้สึก และจากวิธีที่เราปฏิบัติต่อกันในระยะยาวในความสัมพันธ์ที่มั่นคงและแท้จริง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนที่คุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่แค่ความพิศวาสที่ผ่านไปชั่วขณะ หรือความรู้สึกวูบๆ วาบๆ แต่เป็นความรู้สึกที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัว เป็นความสัมพันธ์ที่ยังคงอยู่แม้ในวันที่เราไม่ได้พบกันบ่อยหรือไม่มีเหตุปัจจัยภายนอกมารองรับ หากคนรักของเราสามารถเข้ากับครอบครัวได้อย่างเป็นธรรมชาติและทำให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่าความสัมพันธ์นี้อาจเป็นรักแท้ รักแท้จึงไม่ใช่เพียงแค่ความพิเศษเฉพาะคนสองคน แต่คือการสร้างความอบอุ่นและผูกพันที่มั่นคง เหมือนที่เราอยากมาพึ่งพิงครอบครัวยามเหนื่อยล้าและอยากหาความสบายใจจากคนที่รักและเข้าใจเราอย่างแท้จริงท้ายที่สุด รักแท้ไม่ใช่สิ่งที่เราจะหามาด้วยความรู้สึกชั่ววูบ แต่เป็นสิ่งที่เราจะเห็นได้จากความเป็นคนในครอบครัว ที่มาจากความเข้าใจและถนอมน้ำใจกันแม้ในวันที่ทุกอย่างไม่ง่าย ความยั่งยืนของรักแท้คือการรู้จักสร้างและดูแลความสัมพันธ์ให้คงทนด้วยความจริงใจและการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
    คำถามว่า "รักแท้หรือรักเทียม? " เป็นสิ่งที่หลายคนสงสัยและอยากหาคำตอบให้กับตนเอง ความแตกต่างระหว่างสองสิ่งนี้สามารถสังเกตได้จากความยั่งยืนของความรู้สึก และจากวิธีที่เราปฏิบัติต่อกันในระยะยาวในความสัมพันธ์ที่มั่นคงและแท้จริง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนั้นไม่เพียงแต่เป็นเพื่อนที่คุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่แค่ความพิศวาสที่ผ่านไปชั่วขณะ หรือความรู้สึกวูบๆ วาบๆ แต่เป็นความรู้สึกที่เปรียบเสมือนคนในครอบครัว เป็นความสัมพันธ์ที่ยังคงอยู่แม้ในวันที่เราไม่ได้พบกันบ่อยหรือไม่มีเหตุปัจจัยภายนอกมารองรับ หากคนรักของเราสามารถเข้ากับครอบครัวได้อย่างเป็นธรรมชาติและทำให้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว นั่นเป็นสัญญาณที่ดีว่าความสัมพันธ์นี้อาจเป็นรักแท้ รักแท้จึงไม่ใช่เพียงแค่ความพิเศษเฉพาะคนสองคน แต่คือการสร้างความอบอุ่นและผูกพันที่มั่นคง เหมือนที่เราอยากมาพึ่งพิงครอบครัวยามเหนื่อยล้าและอยากหาความสบายใจจากคนที่รักและเข้าใจเราอย่างแท้จริงท้ายที่สุด รักแท้ไม่ใช่สิ่งที่เราจะหามาด้วยความรู้สึกชั่ววูบ แต่เป็นสิ่งที่เราจะเห็นได้จากความเป็นคนในครอบครัว ที่มาจากความเข้าใจและถนอมน้ำใจกันแม้ในวันที่ทุกอย่างไม่ง่าย ความยั่งยืนของรักแท้คือการรู้จักสร้างและดูแลความสัมพันธ์ให้คงทนด้วยความจริงใจและการเกื้อกูลซึ่งกันและกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงใหม่ยังฮอต นักท่องเที่ยวต่างชาติค้นหาที่พัก Airbnb เพิ่ม 30% รับเทศกาลลอยกระทงนักท่องเที่ยวชาวจีน แห่เที่ยวเชียงใหม่มากที่สุดในปี 67 ยอดจองที่พัก Airbnb พุ่งเกือบ 70% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 66 คนไทยแรงไม่แผ่วจองที่พักในเชียงใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 30% ด้านนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น อินเดีย และเกาหลี เติบโตต่อเนื่อง ช่วงครึ่งปีแรกของปี 67

    ข้อมูลล่าสุดจาก Airbnb พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงให้ความสนใจในการเดินทางไปเชียงใหม่สูงอย่างต่อเนื่องหลังเหตุการณ์น้ำท่วมล่าสุดในภาคเหนือของไทย คนในท้องถิ่นและโฮสต์ Airbnb ต่างพร้อมต้อนรับนักเดินทางทั่วโลกด้วยการบริการที่อบอุ่นเป็นเอกลักษณ์ของไทย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/business/detail/9670000109170

    #MGROnline #เชียงใหม่ #นักท่องเที่ยวต่างชาติ #ที่พัก #Airbnb
    เชียงใหม่ยังฮอต นักท่องเที่ยวต่างชาติค้นหาที่พัก Airbnb เพิ่ม 30% รับเทศกาลลอยกระทงนักท่องเที่ยวชาวจีน แห่เที่ยวเชียงใหม่มากที่สุดในปี 67 ยอดจองที่พัก Airbnb พุ่งเกือบ 70% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 66 คนไทยแรงไม่แผ่วจองที่พักในเชียงใหม่เพิ่มขึ้นเกือบ 30% ด้านนักท่องเที่ยวญี่ปุ่น อินเดีย และเกาหลี เติบโตต่อเนื่อง ช่วงครึ่งปีแรกของปี 67 • ข้อมูลล่าสุดจาก Airbnb พบว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงให้ความสนใจในการเดินทางไปเชียงใหม่สูงอย่างต่อเนื่องหลังเหตุการณ์น้ำท่วมล่าสุดในภาคเหนือของไทย คนในท้องถิ่นและโฮสต์ Airbnb ต่างพร้อมต้อนรับนักเดินทางทั่วโลกด้วยการบริการที่อบอุ่นเป็นเอกลักษณ์ของไทย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9670000109170 • #MGROnline #เชียงใหม่ #นักท่องเที่ยวต่างชาติ #ที่พัก #Airbnb
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สวนปารุจก์ ไทย ควิซีน” ร้านอาหารไทย ที่นำเสนอศิลปะวรรณคดีไทย ในคอนเซปต์สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นร้านอาหารไทยที่ผสมผสานความเป็นไทยโบราณและไทยปัจจุบันเข้าด้วยกัน เมนูแนะนำ “เซตแสร้งว่ากุ้งแม่น้ำ” “ห่อหมกมะพร้าวอ่อนเสิร์ฟคู่กับน้ำมะพร้าว” “ชมสวนปารุจก์” กินคู่กับ “ข้าว “ที่ทางร้านปลูกเอง ได้ข้าวใหม่ทุก ๆ จาน การตกแต่งร้านจะเน้นสีเขียวทอง ให้อารมณ์อบอุ่น Luxury แต่ยังคงแทรกความเป็นไทยได้อย่างลงตัว

    #อาหารไทยดั้งเดิม #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    “สวนปารุจก์ ไทย ควิซีน” ร้านอาหารไทย ที่นำเสนอศิลปะวรรณคดีไทย ในคอนเซปต์สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นร้านอาหารไทยที่ผสมผสานความเป็นไทยโบราณและไทยปัจจุบันเข้าด้วยกัน เมนูแนะนำ “เซตแสร้งว่ากุ้งแม่น้ำ” “ห่อหมกมะพร้าวอ่อนเสิร์ฟคู่กับน้ำมะพร้าว” “ชมสวนปารุจก์” กินคู่กับ “ข้าว “ที่ทางร้านปลูกเอง ได้ข้าวใหม่ทุก ๆ จาน การตกแต่งร้านจะเน้นสีเขียวทอง ให้อารมณ์อบอุ่น Luxury แต่ยังคงแทรกความเป็นไทยได้อย่างลงตัว #อาหารไทยดั้งเดิม #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 570 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนจะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ บนพื้นฐานของความเคารพกันและกัน จากคำยืนยันของกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกร หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา แต่พวกนักยุทธศสตร์เตือนว่าปักกิ่งต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเจ็บปวดจากการถูกมหาอำนาจคู่อริแห่งนี้เล่นงานในประเด็นการค้า เทคโนโลยีและความมั่นคง
    .
    "นโยบายของเราที่มีต่อสหรัฐฯ มีความคงเส้นคงวา ไม่เปลี่ยนแปลง" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างแถลงสรุปประจำวันในกรุงปักกิ่ง เมื่อถูกถามว่าการหวนคืนสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์ จะส่งผลประทบอย่างไรต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
    .
    "เราจะยังคงมองและจัดการความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ สอดคล้องกับหลักการของการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และร่วมมือกันแบบที่เป็นฝ่ายชนะทั้งคู่(วิน-วิน)" เธอกล่าว
    .
    อย่างไรก็ตามพวกนักยุทธศาสตร์จีน คาดหมายว่าปักกิ่งอาจต้องเจอกับวาทกรรมที่เผ็ดร้อนมากกว่าเดิมและเป็นไปได้ว่าจะโดนมาตรการรีดภาษีที่หนักหน่วงจากทรัมป์ แม้บางส่วนเชื่อว่านโยบายต่างประเทศของทรัมป์ ที่ค่อนข้างจะโน้มเอียงไปทางลัทธิโดดเดี่ยว (Isolationism) อาจเปิดช่องว่างให้ปักกิ่งแผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วโลกเช่นกัน
    .
    "ปักกิ่งคาดหมายว่าการชิงชัยจะเป็นไปอย่างคู่คี่สูสีในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ และแม้ชัยชนะของทรัมป์ ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่จีนชื่นชอบและก่อความกังวลต่างๆนานา แต่มันก็ไม่ได้ผิดคาดไปโดยสิ้นเชิง" ถง จ้าว เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสแห่งมูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ ( CEIP ) ให้ความเห็น
    .
    "มีความเป็นไปได้ว่าผู้นำจีนจะมุ่งมั่นคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ที่แสดงออกถึงความเป็นมิตรที่อบอุ่นและจริงใจกับทรัมป์ แต่ขณะเดียวกันก็จะพยายามอย่างเข้มข้นในความพยายามฉายภาพพลานุภาพและความเข้มแข็งของจีน" เขากล่าว
    .
    ต้า เหว่ย ผู้อำนวยการศูนย์ความมั่นคงและยุทธศาตร์ระหว่างประเทศ แห่งมหาวิทยาลัยชิงหวาในกรุงปักกิ่ง บอกว่า "ชัยชนะของทรัมป์ อาจก่อความท้าทายค่อนข้างใหญ่หลวงต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อ้างอิงจากนโยบายต่างๆที่เขาเสนอระหว่างการหาเสียง และการกระทำต่างๆนานาของเขาครั้งที่ดำรงตำแหน่งสมัยก่อน"
    .
    "สืบเนื่องจากทรัมป์ เป็นคนคาดเดาได้ยากมากๆ ผมคิดว่ามันจะเป็นเรื่องยากสำหรับจีน ที่จะบอกได้ว่ามีแผนอย่างเต็มขึ้นสำหรับรับมือเมื่อ ทรัมป์ ก้าวเข้าสู่อำนาจ นอกจากนี้แล้วมันยังขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลของทรัมป์จะนำนโยบายใดบ้างมาใช้" เขากล่าว
    .
    ทรัมป์ เคยเสนอรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเกินกว่า 60% และยุติสถานะของจีน ในด้านชาติที่ได้รับอนุเคราะห์สูงสุดทางการค้า(most-favoured-nation trading status) ขณะที่พวกนักวิเคราะห์มองว่าแนวโน้มของสงครามการค้าที่อาจโหมกระพืออีกรอบ อาจก่อแรงสั่นสะเทือนความเป็นผู้นำของจีน
    .
    จีน ขายสินค้าให้แก่สหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ากว่า 400,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และขายส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ต่างๆที่อเมริกาซื้อจากประเทศอื่นๆ คิดเป็นมูลค่าอีกหลานแสนล้านดอลลาร์เช่นกัน
    .
    "ปักกิ่งมีความกังวลโดยเฉพาะเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการคืนชีพสงครามการค้าภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปัจจุบันนี้จีนกำลังเผชิญความท้าทายหนักหน่วงเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ" จ้าวกล่าว
    .
    "จีนคาดหมายเช่นกันว่า ทรัมป์ จะเร่งรัดแยกตัวห่วงโซ่อุปทาน (Decoupling) ระหว่างสหรัฐฯและจีน ความเคลื่อนไหวที่อาจคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และส่งผลกระทบทางอ้อมต่อเสถียรภาพทางสังคมและการเมืองของประเทศ" เขาระบุ
    .
    "ในการตอบโต้ มีความเป็นไปได้ว่าจีนจะยกระดับผลักดันการพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจและเทคโนโนโลยีมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็อาจรู้สึกเหมือนถึงกดดันให้ต้องยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆอย่างเช่นรัสเซีย ให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000107153
    ..............
    Sondhi X
    จีนจะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ บนพื้นฐานของความเคารพกันและกัน จากคำยืนยันของกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกร หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา แต่พวกนักยุทธศสตร์เตือนว่าปักกิ่งต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเจ็บปวดจากการถูกมหาอำนาจคู่อริแห่งนี้เล่นงานในประเด็นการค้า เทคโนโลยีและความมั่นคง . "นโยบายของเราที่มีต่อสหรัฐฯ มีความคงเส้นคงวา ไม่เปลี่ยนแปลง" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างแถลงสรุปประจำวันในกรุงปักกิ่ง เมื่อถูกถามว่าการหวนคืนสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์ จะส่งผลประทบอย่างไรต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ . "เราจะยังคงมองและจัดการความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ สอดคล้องกับหลักการของการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และร่วมมือกันแบบที่เป็นฝ่ายชนะทั้งคู่(วิน-วิน)" เธอกล่าว . อย่างไรก็ตามพวกนักยุทธศาสตร์จีน คาดหมายว่าปักกิ่งอาจต้องเจอกับวาทกรรมที่เผ็ดร้อนมากกว่าเดิมและเป็นไปได้ว่าจะโดนมาตรการรีดภาษีที่หนักหน่วงจากทรัมป์ แม้บางส่วนเชื่อว่านโยบายต่างประเทศของทรัมป์ ที่ค่อนข้างจะโน้มเอียงไปทางลัทธิโดดเดี่ยว (Isolationism) อาจเปิดช่องว่างให้ปักกิ่งแผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วโลกเช่นกัน . "ปักกิ่งคาดหมายว่าการชิงชัยจะเป็นไปอย่างคู่คี่สูสีในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ และแม้ชัยชนะของทรัมป์ ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่จีนชื่นชอบและก่อความกังวลต่างๆนานา แต่มันก็ไม่ได้ผิดคาดไปโดยสิ้นเชิง" ถง จ้าว เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสแห่งมูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ ( CEIP ) ให้ความเห็น . "มีความเป็นไปได้ว่าผู้นำจีนจะมุ่งมั่นคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ที่แสดงออกถึงความเป็นมิตรที่อบอุ่นและจริงใจกับทรัมป์ แต่ขณะเดียวกันก็จะพยายามอย่างเข้มข้นในความพยายามฉายภาพพลานุภาพและความเข้มแข็งของจีน" เขากล่าว . ต้า เหว่ย ผู้อำนวยการศูนย์ความมั่นคงและยุทธศาตร์ระหว่างประเทศ แห่งมหาวิทยาลัยชิงหวาในกรุงปักกิ่ง บอกว่า "ชัยชนะของทรัมป์ อาจก่อความท้าทายค่อนข้างใหญ่หลวงต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อ้างอิงจากนโยบายต่างๆที่เขาเสนอระหว่างการหาเสียง และการกระทำต่างๆนานาของเขาครั้งที่ดำรงตำแหน่งสมัยก่อน" . "สืบเนื่องจากทรัมป์ เป็นคนคาดเดาได้ยากมากๆ ผมคิดว่ามันจะเป็นเรื่องยากสำหรับจีน ที่จะบอกได้ว่ามีแผนอย่างเต็มขึ้นสำหรับรับมือเมื่อ ทรัมป์ ก้าวเข้าสู่อำนาจ นอกจากนี้แล้วมันยังขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลของทรัมป์จะนำนโยบายใดบ้างมาใช้" เขากล่าว . ทรัมป์ เคยเสนอรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเกินกว่า 60% และยุติสถานะของจีน ในด้านชาติที่ได้รับอนุเคราะห์สูงสุดทางการค้า(most-favoured-nation trading status) ขณะที่พวกนักวิเคราะห์มองว่าแนวโน้มของสงครามการค้าที่อาจโหมกระพืออีกรอบ อาจก่อแรงสั่นสะเทือนความเป็นผู้นำของจีน . จีน ขายสินค้าให้แก่สหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ากว่า 400,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และขายส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ต่างๆที่อเมริกาซื้อจากประเทศอื่นๆ คิดเป็นมูลค่าอีกหลานแสนล้านดอลลาร์เช่นกัน . "ปักกิ่งมีความกังวลโดยเฉพาะเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการคืนชีพสงครามการค้าภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปัจจุบันนี้จีนกำลังเผชิญความท้าทายหนักหน่วงเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ" จ้าวกล่าว . "จีนคาดหมายเช่นกันว่า ทรัมป์ จะเร่งรัดแยกตัวห่วงโซ่อุปทาน (Decoupling) ระหว่างสหรัฐฯและจีน ความเคลื่อนไหวที่อาจคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และส่งผลกระทบทางอ้อมต่อเสถียรภาพทางสังคมและการเมืองของประเทศ" เขาระบุ . "ในการตอบโต้ มีความเป็นไปได้ว่าจีนจะยกระดับผลักดันการพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจและเทคโนโนโลยีมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็อาจรู้สึกเหมือนถึงกดดันให้ต้องยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆอย่างเช่นรัสเซีย ให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000107153 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1355 มุมมอง 1 รีวิว
  • จากความรักในการทำอาหารของคุณแม่ สู่การถ่ายทอดรสชาติอาหารต้นตำรับของภูเก็ตออกมาให้ทุกคนได้สัมผัส” นิยามเมื่อครั้งยังเป็นเด็กของ คุณคิม ธีระศักดิ์ ผลงาม เจ้าของร้าน ตู้กับข้าว อีกหนึ่งตัวแทนความอร่อยของจังหวัดภูเก็ต พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยบรรยากาศอบอุ่นเหมือนครอบครัว และได้สัมผัสรสชาติดั้งเดิมของอาหารพื้นเมืองที่หาทานยาก

    แม้จะเปิดมานาน 3 ปีแล้ว แต่ ตู้กับข้าว ก็ยังคงพัฒนาการตกแต่งอยู่เรื่อยมา บนพื้นฐานของโครงสร้างสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปรตุกีส เอกลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองภูเก็ตที่หลายคนคุ้นตา โดยดีไซน์ตึกเก่าอายุ 114 ปี ให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น อีกทั้งยังมีดนตรีสดที่จะมาให้ความเพลิดเพลินทุกวันในเวลา 19.00 - 20.00 น. และ 20.30 - 21.30 น. พร้อมต้อนรับชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ โดยชั้นล่างสามารถรองรับได้ 150 คน ส่วนด้านบนรองรับได้ 180 คน


    #อาหารอร่อย #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    จากความรักในการทำอาหารของคุณแม่ สู่การถ่ายทอดรสชาติอาหารต้นตำรับของภูเก็ตออกมาให้ทุกคนได้สัมผัส” นิยามเมื่อครั้งยังเป็นเด็กของ คุณคิม ธีระศักดิ์ ผลงาม เจ้าของร้าน ตู้กับข้าว อีกหนึ่งตัวแทนความอร่อยของจังหวัดภูเก็ต พร้อมต้อนรับทุกคนด้วยบรรยากาศอบอุ่นเหมือนครอบครัว และได้สัมผัสรสชาติดั้งเดิมของอาหารพื้นเมืองที่หาทานยาก แม้จะเปิดมานาน 3 ปีแล้ว แต่ ตู้กับข้าว ก็ยังคงพัฒนาการตกแต่งอยู่เรื่อยมา บนพื้นฐานของโครงสร้างสถาปัตยกรรมสไตล์ชิโนโปรตุกีส เอกลักษณ์อันโดดเด่นของเมืองภูเก็ตที่หลายคนคุ้นตา โดยดีไซน์ตึกเก่าอายุ 114 ปี ให้ดูร่วมสมัยมากขึ้น อีกทั้งยังมีดนตรีสดที่จะมาให้ความเพลิดเพลินทุกวันในเวลา 19.00 - 20.00 น. และ 20.30 - 21.30 น. พร้อมต้อนรับชาวภูเก็ตและนักท่องเที่ยวทั้งกลุ่มเล็กและกลุ่มใหญ่ โดยชั้นล่างสามารถรองรับได้ 150 คน ส่วนด้านบนรองรับได้ 180 คน #อาหารอร่อย #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกฤตหนาวนี้โหดสุด ยูเครนเสี่ยงนั่งหนาวในความมืด 20 ชั่วโมงต่อวัน

    โรงไฟฟ้าถูกถล่มราบ ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ห้องเทอร์ไบน์ขนาดสองสนามฟุตบอลพังยับเยิน นี่คือภาพที่ Dmytro วัย 41 ปี เห็นหลังการโจมตีของรัสเซีย "น้ำตาไหลเลย" เขาบอก ก่อนที่คนงาน 700 คนจะเร่งซ่อมแซมอย่างสุดชีวิต

    แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้น... รัสเซียถล่มโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานจนยูเครนสูญเสียกำลังผลิตไฟฟ้าไปครึ่งหนึ่ง ต้องพึ่งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ไร้การป้องกันจากขีปนาวุธ และไม่มีเวลาพอจะติดตั้งระบบป้องกันก่อนหน้าหนาว

    "ผมกังวลมาก" Oleksandr Kharchenko ที่ปรึกษารัฐบาลด้านพลังงานบอก หากรัสเซียถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และอากาศหนาวจัด ยูเครนจะเผชิญไฟดับนาน 20 ชั่วโมงต่อวัน นั่นหมายถึงบ้านไร้ความอบอุ่น โรงงานผลิตอาวุธหยุดชะงัก และผู้คนต้องอพยพหนีหนาว

    สถานการณ์ย่ำแย่ขึ้นเมื่อผู้ค้าตะวันตกไม่กล้าเก็บก๊าซสำรองในยูเครนเพราะกลัวการโจมตี และไม่มีใครรู้ว่าอากาศจะหนาวแค่ไหน แต่หากอุณหภูมิต่ำกว่า -10 องศา และรัสเซียถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ ยูเครนก็อาจต้องนั่งหนาวในความมืดนานถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน

    "คนจะทิ้งยูเครนไปลี้ภัยในยุโรปมากขึ้น" Viktoriya Gryb สมาชิกสภาผู้แทนฯ กล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับว่า "ผู้คนจะตายในบ้านตัวเอง เพราะรัสเซียทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน"


    https://web.facebook.com/groups/194174770388504/posts/362257713580208/
    วิกฤตหนาวนี้โหดสุด ยูเครนเสี่ยงนั่งหนาวในความมืด 20 ชั่วโมงต่อวัน โรงไฟฟ้าถูกถล่มราบ ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย ห้องเทอร์ไบน์ขนาดสองสนามฟุตบอลพังยับเยิน นี่คือภาพที่ Dmytro วัย 41 ปี เห็นหลังการโจมตีของรัสเซีย "น้ำตาไหลเลย" เขาบอก ก่อนที่คนงาน 700 คนจะเร่งซ่อมแซมอย่างสุดชีวิต แต่นั่นเป็นแค่จุดเริ่มต้น... รัสเซียถล่มโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานจนยูเครนสูญเสียกำลังผลิตไฟฟ้าไปครึ่งหนึ่ง ต้องพึ่งโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ไร้การป้องกันจากขีปนาวุธ และไม่มีเวลาพอจะติดตั้งระบบป้องกันก่อนหน้าหนาว "ผมกังวลมาก" Oleksandr Kharchenko ที่ปรึกษารัฐบาลด้านพลังงานบอก หากรัสเซียถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์และอากาศหนาวจัด ยูเครนจะเผชิญไฟดับนาน 20 ชั่วโมงต่อวัน นั่นหมายถึงบ้านไร้ความอบอุ่น โรงงานผลิตอาวุธหยุดชะงัก และผู้คนต้องอพยพหนีหนาว สถานการณ์ย่ำแย่ขึ้นเมื่อผู้ค้าตะวันตกไม่กล้าเก็บก๊าซสำรองในยูเครนเพราะกลัวการโจมตี และไม่มีใครรู้ว่าอากาศจะหนาวแค่ไหน แต่หากอุณหภูมิต่ำกว่า -10 องศา และรัสเซียถล่มโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ได้ ยูเครนก็อาจต้องนั่งหนาวในความมืดนานถึง 20 ชั่วโมงต่อวัน "คนจะทิ้งยูเครนไปลี้ภัยในยุโรปมากขึ้น" Viktoriya Gryb สมาชิกสภาผู้แทนฯ กล่าว ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับว่า "ผู้คนจะตายในบ้านตัวเอง เพราะรัสเซียทำลายโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน" https://web.facebook.com/groups/194174770388504/posts/362257713580208/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดี ไมอา ซานดู หญิงแกร่งสามารถชนะเลือกรอบ 2 ตั้งประธานาธิบดีมอลโดวาวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ฝ่ามรสุมมอสโกแทรกแซงเลือกตั้ง ชนะไป 54.35% มีชัยเหนือคู่แข่ง อเล็กซานเดอร์ สตอยอาโนโกล (Alexandr Stoianoglo) จากพรรคโซเชียลลิสต์โปรรัสเซีย ผู้นำตะวันตกสุดดีใจแห่ร่วมแสดงความยินดีปูหนทางเข้าสู่ EU
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้ (4 พ.ย.) ว่า หลังนับไปแล้ว 98% พบว่าอดีตที่ปรึกษาเวิลด์แบงก์ ประธานาธิบดีหญิง ไมอา ซานดู (Maia Sandu) ได้คะแนน 54.35% คณะกรรมการการเลือกตั้มอลโดวาประกาศ
    .
    เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่จะนำมอลโดวาไปสู่การเข้าสู่สหภาพยุโรปได้หรือไม่ ท่ามกลางขวากหนามอย่างรัสเซียที่ถูกกล่าวหาว่ายื่นมาเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในป่วนเลือกตั้ง
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา แบร์บ็อค (Annalena Baerbock) ตามรายงานวันจันทร์ (4) ของเดอะการ์เดียน อังกฤษ ได้กล่าวประณามมอสโกพยายามขัดขวางผู้มีสิทธิเลือกตั้งมอลโดวาในต่างแดนออกเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ การซื้อเสียง ควบคุม ขู่วางระเบิดคูหาเลือกตั้งหลายแห่งในเยอรมนี รวม แฟรงก์เฟิร์ต ฮัมบูร์ก และกรุงเบอร์ลิน
    .
    อย่างไรก็ตาม รัสเซียที่ออกมาประณามผลเลือกตั้งมอลโดวานี รอยเตอร์ชี้ว่า วุฒิสมาชิกรัสเซียใกล้ชิดปูติน อันเดร คลีชาส (Andrei Klishas) ออกมาโจมตีวันจันทร์ (4) เลียนวาทะทรัมป์อ้างว่า มอลโดวา “นำเข้าเสียงเลือกตั้งต่างแดน” เพื่อช่วยให้ประธานาธิบดีโปรตะวันตก ไมอา ซานดู ชนะคู่แข่ง
    .
    ตำรวจมอลโดวาแถลงในเดือนที่ผ่านมาว่า นักธุรกิจมอลโดวาที่หลบหนีคดีโปรรัสเซีย อีลาน ชอร์ (Ilan Shor) แอบเป็นท่อน้ำเลี้ยงส่งเงิน 24 ล้านดอลลาร์เมื่อตุลาคมจ่ายให้ผู้มีสิทธิออกเสียงมอลโดวาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีมอลโดวา และการลงประชามติครั้งสำคัญเข้าร่วมสหภาพยุโรป
    .
    รอยเตอร์ชี้ว่า ชัยชนะของประธานาธิบดีไมดูที่พยายามอย่างหนักในการผลักดันให้มอลโดวาหลุดออกจากวงโคจรรัสเซียและเข้าร่วมสหภาพยุโรปถูกมองจากบรรดาผู้สนับสนุนว่า การชนะเลือกตั้งเป็นเสมือนประชามติในการนำมอลโดวาอดีตเคยอยู่ภายใต้อดีตสหภาพโซเวียตเข้าสู่ EU
    .
    การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตาใกล้ชิดในบรัสเซลส์ 1 สัปดาห์หลังพรรคโปรเครมลิน พรรคความฝันจอร์เจีย GD (Georgian Dream) ชนะเลือกตั้งและทำให้วิตกกันว่า รัฐบาลจอร์เจียชุดใหม่จะยุติกระบวนการพาประเทศยูเรเชียแห่งนี้เดินหน้าเข้าสหภาพยุโรป
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า สตอยอาโนโกล ในระหว่างหาเสียงประกาศว่า เขาสนับสนุนการเข้าสู่ EU แต่เขาต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับรัสเซียเช่นกัน แต่ซานดูชี้ว่า เขาเป็นเสมือนม้าไม้เมืองทรอยทำเพื่อผลประโยชน์ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แต่ สตอยอาโนโกล ปฏิเสธ
    .
    มอลโดวากลายเป็นจุดสนใจหลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกยูเครนเมื่อปี 2022
    .
    บรรดาผู้นำตะวันตกทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ สหภาพยุโรป และยูเครนต่างร่วมแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีซานดู
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน แถลงการณ์แสดงความยินดีได้ชี้ว่า รัสเซียล้มเหลวในการแทรกแซงการเลือกตั้งมอลโดวา
    .
    ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เดวิด แลมมี (David Lammy) แถลงแสดงความยินดี พร้อมชี้ว่า อังกฤษยังคงเดินหน้าสนับสนุนการปฏิรูปทางประชาธิปไตยมอลโดวาหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดี
    .
    หัวหน้านโยบายสหภาพยุโรป โจเซฟ บอร์เรลล์ แสดงความยินดีอย่างอบอุ่นต่อความสำเร็จประธานาธิบดี ไมอา ซานดู ที่สามารถชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ
    .
    และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แสดงความยินและพร้อมกันนั้นยังประกาศความยึดมั่นต่อข้อผูกพันของยูเครนในการทำงานร่วมกันต่อเป้าหมายร่วมเพื่อเข้าสู่ความเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปให้สำเร็จ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106362
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดี ไมอา ซานดู หญิงแกร่งสามารถชนะเลือกรอบ 2 ตั้งประธานาธิบดีมอลโดวาวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ฝ่ามรสุมมอสโกแทรกแซงเลือกตั้ง ชนะไป 54.35% มีชัยเหนือคู่แข่ง อเล็กซานเดอร์ สตอยอาโนโกล (Alexandr Stoianoglo) จากพรรคโซเชียลลิสต์โปรรัสเซีย ผู้นำตะวันตกสุดดีใจแห่ร่วมแสดงความยินดีปูหนทางเข้าสู่ EU . รอยเตอร์รายงานวันนี้ (4 พ.ย.) ว่า หลังนับไปแล้ว 98% พบว่าอดีตที่ปรึกษาเวิลด์แบงก์ ประธานาธิบดีหญิง ไมอา ซานดู (Maia Sandu) ได้คะแนน 54.35% คณะกรรมการการเลือกตั้มอลโดวาประกาศ . เป็นการเลือกตั้งครั้งสำคัญที่จะนำมอลโดวาไปสู่การเข้าสู่สหภาพยุโรปได้หรือไม่ ท่ามกลางขวากหนามอย่างรัสเซียที่ถูกกล่าวหาว่ายื่นมาเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในป่วนเลือกตั้ง . รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา แบร์บ็อค (Annalena Baerbock) ตามรายงานวันจันทร์ (4) ของเดอะการ์เดียน อังกฤษ ได้กล่าวประณามมอสโกพยายามขัดขวางผู้มีสิทธิเลือกตั้งมอลโดวาในต่างแดนออกเสียงเลือกตั้ง ได้แก่ การซื้อเสียง ควบคุม ขู่วางระเบิดคูหาเลือกตั้งหลายแห่งในเยอรมนี รวม แฟรงก์เฟิร์ต ฮัมบูร์ก และกรุงเบอร์ลิน . อย่างไรก็ตาม รัสเซียที่ออกมาประณามผลเลือกตั้งมอลโดวานี รอยเตอร์ชี้ว่า วุฒิสมาชิกรัสเซียใกล้ชิดปูติน อันเดร คลีชาส (Andrei Klishas) ออกมาโจมตีวันจันทร์ (4) เลียนวาทะทรัมป์อ้างว่า มอลโดวา “นำเข้าเสียงเลือกตั้งต่างแดน” เพื่อช่วยให้ประธานาธิบดีโปรตะวันตก ไมอา ซานดู ชนะคู่แข่ง . ตำรวจมอลโดวาแถลงในเดือนที่ผ่านมาว่า นักธุรกิจมอลโดวาที่หลบหนีคดีโปรรัสเซีย อีลาน ชอร์ (Ilan Shor) แอบเป็นท่อน้ำเลี้ยงส่งเงิน 24 ล้านดอลลาร์เมื่อตุลาคมจ่ายให้ผู้มีสิทธิออกเสียงมอลโดวาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีมอลโดวา และการลงประชามติครั้งสำคัญเข้าร่วมสหภาพยุโรป . รอยเตอร์ชี้ว่า ชัยชนะของประธานาธิบดีไมดูที่พยายามอย่างหนักในการผลักดันให้มอลโดวาหลุดออกจากวงโคจรรัสเซียและเข้าร่วมสหภาพยุโรปถูกมองจากบรรดาผู้สนับสนุนว่า การชนะเลือกตั้งเป็นเสมือนประชามติในการนำมอลโดวาอดีตเคยอยู่ภายใต้อดีตสหภาพโซเวียตเข้าสู่ EU . การเลือกตั้งครั้งนี้ถูกจับตาใกล้ชิดในบรัสเซลส์ 1 สัปดาห์หลังพรรคโปรเครมลิน พรรคความฝันจอร์เจีย GD (Georgian Dream) ชนะเลือกตั้งและทำให้วิตกกันว่า รัฐบาลจอร์เจียชุดใหม่จะยุติกระบวนการพาประเทศยูเรเชียแห่งนี้เดินหน้าเข้าสหภาพยุโรป . รอยเตอร์รายงานว่า สตอยอาโนโกล ในระหว่างหาเสียงประกาศว่า เขาสนับสนุนการเข้าสู่ EU แต่เขาต้องการพัฒนาความสัมพันธ์กับรัสเซียเช่นกัน แต่ซานดูชี้ว่า เขาเป็นเสมือนม้าไม้เมืองทรอยทำเพื่อผลประโยชน์ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แต่ สตอยอาโนโกล ปฏิเสธ . มอลโดวากลายเป็นจุดสนใจหลังรัสเซียส่งกำลังทหารบุกยูเครนเมื่อปี 2022 . บรรดาผู้นำตะวันตกทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ สหภาพยุโรป และยูเครนต่างร่วมแสดงความยินดีต่อประธานาธิบดีซานดู . รอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน แถลงการณ์แสดงความยินดีได้ชี้ว่า รัสเซียล้มเหลวในการแทรกแซงการเลือกตั้งมอลโดวา . ขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ เดวิด แลมมี (David Lammy) แถลงแสดงความยินดี พร้อมชี้ว่า อังกฤษยังคงเดินหน้าสนับสนุนการปฏิรูปทางประชาธิปไตยมอลโดวาหลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งประธานาธิบดี . หัวหน้านโยบายสหภาพยุโรป โจเซฟ บอร์เรลล์ แสดงความยินดีอย่างอบอุ่นต่อความสำเร็จประธานาธิบดี ไมอา ซานดู ที่สามารถชนะเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 2 ได้สำเร็จ . และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แสดงความยินและพร้อมกันนั้นยังประกาศความยึดมั่นต่อข้อผูกพันของยูเครนในการทำงานร่วมกันต่อเป้าหมายร่วมเพื่อเข้าสู่ความเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปให้สำเร็จ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106362 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1162 มุมมอง 0 รีวิว
  • น้ำใจเป็นสิ่งที่สร้างความชุ่มชื่นให้ทั้งผู้ให้และผู้รับ และมันยังเป็นสิ่งที่ทำนายถึงทิศทางของชีวิตรักได้อย่างดี เมื่อเราแบ่งปันน้ำใจให้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าหรือคนในครอบครัว จิตใจเราจะอบอุ่นและพร้อมที่จะแบ่งปันความอบอุ่นนั้นกับคนรักในอนาคตด้วย

    1. น้ำใจต่อคนแปลกหน้า – การให้อภัยและการไม่ยึดติดในความขัดแย้งช่วยสร้างความยืดหยุ่นในความสัมพันธ์ แม้ในเวลาที่ทะเลาะกันกับคนรัก น้ำใจนี้จะทำให้เราไม่ติดใจเรื่องเล็กน้อย ไม่ยึดถือความผิดของกันและกันจนเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้ความสัมพันธ์คงอยู่ในบรรยากาศที่เบาสบายและไม่หนักหน่วง

    2. น้ำใจต่อคนในครอบครัว – การแบ่งปันและสนับสนุนกันในครอบครัวเป็นพื้นฐานของความเสียสละและการอยู่ร่วมกันได้อย่างมั่นคง หากเคยมีน้ำใจกับคนในครอบครัว การสร้างประสบการณ์ที่ดีและการแบ่งปันสิ่งดีๆ ก็จะเป็นธรรมชาติที่นำมาใช้ในความสัมพันธ์กับคนรัก เมื่อเราพร้อมจะแบ่งปันความสุขและช่วยเหลือกัน ความสัมพันธ์นั้นก็จะแข็งแรงและยืนยาว

    น้ำใจไม่ได้เป็นเพียงแค่การให้กับผู้อื่น แต่ยังสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ภายในจิตใจของเรา เมื่อเราสร้างและสะสมต้นทุนของน้ำใจไว้ เราก็จะมีความชุ่มเย็นนั้นเก็บไว้ใช้ในยามที่ชีวิตรักต้องการ หากเราไม่เคยสะสมน้ำใจ และไม่เคยเห็นคุณค่าของมัน ชีวิตรักก็อาจเผชิญความแห้งแล้งและขาดความชุ่มเย็นในยามที่เราต้องการที่สุด

    น้ำใจเป็นสิ่งที่สร้างความชุ่มชื่นให้ทั้งผู้ให้และผู้รับ และมันยังเป็นสิ่งที่ทำนายถึงทิศทางของชีวิตรักได้อย่างดี เมื่อเราแบ่งปันน้ำใจให้คนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นคนแปลกหน้าหรือคนในครอบครัว จิตใจเราจะอบอุ่นและพร้อมที่จะแบ่งปันความอบอุ่นนั้นกับคนรักในอนาคตด้วย 1. น้ำใจต่อคนแปลกหน้า – การให้อภัยและการไม่ยึดติดในความขัดแย้งช่วยสร้างความยืดหยุ่นในความสัมพันธ์ แม้ในเวลาที่ทะเลาะกันกับคนรัก น้ำใจนี้จะทำให้เราไม่ติดใจเรื่องเล็กน้อย ไม่ยึดถือความผิดของกันและกันจนเป็นปัญหาใหญ่ ซึ่งจะช่วยให้ความสัมพันธ์คงอยู่ในบรรยากาศที่เบาสบายและไม่หนักหน่วง 2. น้ำใจต่อคนในครอบครัว – การแบ่งปันและสนับสนุนกันในครอบครัวเป็นพื้นฐานของความเสียสละและการอยู่ร่วมกันได้อย่างมั่นคง หากเคยมีน้ำใจกับคนในครอบครัว การสร้างประสบการณ์ที่ดีและการแบ่งปันสิ่งดีๆ ก็จะเป็นธรรมชาติที่นำมาใช้ในความสัมพันธ์กับคนรัก เมื่อเราพร้อมจะแบ่งปันความสุขและช่วยเหลือกัน ความสัมพันธ์นั้นก็จะแข็งแรงและยืนยาว น้ำใจไม่ได้เป็นเพียงแค่การให้กับผู้อื่น แต่ยังสะท้อนถึงความอุดมสมบูรณ์ภายในจิตใจของเรา เมื่อเราสร้างและสะสมต้นทุนของน้ำใจไว้ เราก็จะมีความชุ่มเย็นนั้นเก็บไว้ใช้ในยามที่ชีวิตรักต้องการ หากเราไม่เคยสะสมน้ำใจ และไม่เคยเห็นคุณค่าของมัน ชีวิตรักก็อาจเผชิญความแห้งแล้งและขาดความชุ่มเย็นในยามที่เราต้องการที่สุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันสุขของครอบครัวเรา ❤️ ไปเที่ยวทุ่งนา
    วันนี้พาลูก กับคุณภรรยาไปเดินตลาดใกล้ๆบ้าน
    ได้ของกลับบ้านเพียบ จะทำกับข้าวอร่อยๆ ให้ลูกได้กินกันเต็มที่เลย
    #ครอบครัวอบอุ่น #ชีวิตติดดิน #ตลาดลาว
    #ไทยปนลาว
    วันสุขของครอบครัวเรา ❤️ ไปเที่ยวทุ่งนา วันนี้พาลูก กับคุณภรรยาไปเดินตลาดใกล้ๆบ้าน ได้ของกลับบ้านเพียบ จะทำกับข้าวอร่อยๆ ให้ลูกได้กินกันเต็มที่เลย #ครอบครัวอบอุ่น #ชีวิตติดดิน #ตลาดลาว #ไทยปนลาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับคนบ้านพระอาทิตย์
    ชื่อก็บอก ว่าพระอาทิตย์
    ไม่ใช่แค่แสงสว่าง ไม่ใช่แค่อบอุ่น ไม่ใช่แค่ให้ชีวิต
    อย่าลืมว่านอกจากแสงนั้น
    มันร้อนนะครับ พระอาทิตย์เนี่ย
    เล่นกับใครไม่เล่น มาเล่นกับคนบ้านพระอาทิตย์ ชื่อก็บอก ว่าพระอาทิตย์ ไม่ใช่แค่แสงสว่าง ไม่ใช่แค่อบอุ่น ไม่ใช่แค่ให้ชีวิต อย่าลืมว่านอกจากแสงนั้น มันร้อนนะครับ พระอาทิตย์เนี่ย
    Like
    Wow
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 41 0 รีวิว
  • รายงานอากาศที่ภูเก็ต มีเมฆมากในตอนเช้าอากาศอบอุ่น ยังมีลมตะวันตกเคลื่อนตัวช้า🥰🥰🥰
    รายงานอากาศที่ภูเก็ต มีเมฆมากในตอนเช้าอากาศอบอุ่น ยังมีลมตะวันตกเคลื่อนตัวช้า🥰🥰🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ของว่างที่เฝ้ารอกับคำขออย่างสุดท้าย

    ความหมายของการมีชีวิตคืออะไร หนังสือเล่มนี้จะเป็นเล่มหนึ่งที่พาคุณไปเที่ยวชมและร่วมเรียนรู้ไปกับการแสวงหาความสำคัญของการอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ของใครอีกหลายคนในสภาวะที่ร่างกายกำลังอ่อนแอ ด้วยโรคร้ายกัดกินจนใกล้วาระสุดท้าย ก่อนลมหายใจจะดับลง

    สนพ.piccolo พิมพ์ครั้งแรกในญี่ปุ่นปี 2019
    ฉบับแปลไทย เม.ย.2567
    โอกาวะ อิโตะ เขียน
    ธนพล ศักดิ์สมุทรานันท์ แปล
    223 หน้า 285 บาท

    ตลอดทั้งเล่มเต็มไปด้วยความอบอวลของความรักระหว่างมนุษย์ที่มีต่อมนุษย์ด้วยกัน รวมไปถึงมนุษย์ที่มีต่อสัตว์และสัตว์เองก็แสดงตอบต่อด้วยความซื่อตรง

    เนื้อหากล่าวถึงหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า อูมิโนะ ชิสุกุ ซึ่งมีวัย 33 ปี ชีวิตที่ผ่านมาของเธออ่อนโยนต่อคนรอบข้างมาโดยตลอดตั้งแต่ยังเด็ก โดยเฉพาะพ่อบุญธรรมที่รับเลี้ยงเธอซึ่งสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เล็ก แม้จะไม่ใช่บุพการีที่ให้กำเนิด แต่มอบความรักดูแลเอาใจใส่อย่างดี ทว่าวันหนึ่งเมื่อเธอพบว่าตนมีโรคร้ายเกาะกิน แม้นจะพยายามรักษา ต่อสู้ด้วยตนเองหลังแยกมาอยู่คนเดียว แต่สุดท้ายบั้นปลายชีวิต ต้องทำใจยอมรับความจริงว่ามีเวลาเหลืออยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน ไม่อยากให้พ่อต้องเดือดร้อนและเศร้าใจเพราะทราบความจริง จึงเลือกที่จะไม่บอกแล้วตระเตรียมแผนล่วงหน้าสำหรับรับมือกับความตายที่กำลังย่างกรายมาถึง ด้วยการตัดสินใจเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ที่สถานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ที่เกาะเลมอนซึ่งรายล้อมด้วยทะเลเงียบสงบและงดงาม เต็มไปด้วยธรรมชาติและอากาศอันสดชื่นบริสุทธิ์ มีไร่องุ่น กับท้องฟ้าสีครามและท้องทะเลสีน้ำเงินที่เธอชอบและใฝ่ฝัน เป็นสถานที่เธอเลือกเพราะคิดว่าเหมาะสมตรงกับรสนิยมความชอบของตนมากที่สุด

    ชื่อของสถานที่ดังกล่าวคือบ้านพักสิงโต เปรียบได้กับดินแดนสุขาวดีที่มีเทวดานางฟ้าคอยให้การต้อนรับดูแลด้วยหัวใจ โดยเฉพาะเจ้าของสถานที่สาวซึ่งมีนามว่ามาดอนน่า เป็นหญิงมหัศจรรย์ที่มีน้ำใจงาม มีความเชี่ยวชาญในด้านการดูแลทั้งทางด้านร่างกายที่เจ็บไข้ของผู้ป่วย และเยียวยาด้านจิตใจไปพร้อมกัน

    ณ สถานที่แห่งนี้เอง ในบ้านพักบนเกาะห่างไกล ที่ซึ่งชิสุกุไม่เคยคาดฝันว่าจะได้พบกับความรักอีกครั้ง กับชายหนุ่มน่ารัก สุภาพและวัยใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังอดตะลึงไปกับห้องพักส่วนตัวที่แสนสบายท่ามกลางบรรยากาศราวสรวงสวรรค์ เธอได้เรียนรู้ว่าไม่ใช่เฉพาะตัวเองเท่านั้นที่ประสบกับภาวะทุกข์โศกจากโรคภัยที่กำลังจะพรากลมหายใจอันหวงแหนให้หลุดลอยไป แต่ยังมีเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกหลายคนทั้งชายหญิง วัยเด็กหรือแม้กระทั่งวัยสูงอายุ แต่ละคนล้วนมีอาการทรมานที่ไม่น้อยไปกว่าเธอ บางคนเป็นมากกว่าด้วย

    ชิสุกุได้สัมผัสกับมิตรภาพและวิญญาณภายในของเพื่อนต่างวัย ที่ตอนแรกเธอพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่คบคุ้นด้วย ยังมีเจ้าสุนัขแสนรู้น่ารักเพศเมียอีกตัวหนึ่งเล่า ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยชุบชูหัวใจอันอ่อนล้าของหญิงสาว ให้ยอมเปิดใจและคลายวงล้อมของป้อมปราการที่ขังตัวเองจากทุกคนลงได้ หมาตัวนี้มีชื่อว่า รกกะ เจ้าของเดิมเคยมาพำนักอยู่ที่บ้านสิงโตเมื่อนานมาแล้ว และหลังจากเธอคนนั้นจากไป ทุกคนก้ช่วยกันดูแลรกกะต่อมา

    จนกระทั่ง รกกะ ได้พบกับชิสุกุ ทั้งคู่ถูกชะตากันตั้งแต่วันแรกที่ได้พบ หลังจากนั้นก็อยู่ด้วยกันตลอด รกกะเป็นเสมือนตู้ยาเคลื่อนที่ซึ่งช่วยให้ชิสุกุต่อสู้กับความเจ็บปวดโดยยังสามารถปรากฏรอยยิ้มอยู่ได้

    สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้มาพักที่นี่ทุกคนต่างเฝ้ารอที่จะให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆ นั่นคือการได้มีกิจกรรมกินของว่างร่วมกันในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ เพียงหนึ่งครั้งในรอบเจ็ดวัน โดยทุกคนมีสิทธิเท่ากันคนละ1เสียง ที่สามารถเขียนใส่กระดาษเพื่อบอกเล่าถึงขนมที่ตนชื่นชอบและอยากกินมากที่สุดเป็นครั้งสุดท้าย แล้วคำขอเหล่านั้นจะถูกจับฉลากขึ้นมาหนึ่งใบ คำขอของใครก็ตามที่โชคดี แม่ครัวจะแกะสูตรแล้วทำออกมาให้เหมือนหรือใกล้เคียงที่สุด เพื่อจะเสิร์ฟให้กับทุกคนได้ชิมกัน

    อย่างไรก็ตาม วันที่ต้องจากลาย่อมบ่ายหน้ามาถึงเพื่อนแต่ละคน ในห้วงเวลาเช่นนั้น ทั้งเขาหรือเธอรวมทั้งชิสุกุเอง มีวิธีรับมือระหว่างเผชิญหน้ากับความเสื่อมสลายของสังขาร ที่ค่อย ๆ ทรุดโทรมและดับสิ้นไปทีละน้อยอย่างไร นี่คือสิ่งที่ผู้อ่านจะได้ร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกันกับตัวละครในเรื่อง

    ถ้าคุณเคยประทับใจมาแล้วกับ ร้านเครื่องเขียนนั้นใต้ต้นสึบากิ นี่คืออีกเล่มหนึ่งที่น่าลองหามาอ่านครับ โดยเฉพาะคนที่กำลังเผชิญกับความเจ็บป่วยอยู่ หรือแม้ผู้ดูแลคนป่วยเอง แต่ถึงแม้จะไม่ได้ป่วยเลย แต่การได้ทำความเข้าใจกับเรื่องราวเหล่านี้ก็ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ผู้เขียนบรรยายอย่างค่อยเป็นค่อยไป เปิดเผยเรื่องราวทีละน้อย แล้วไต่ระดับไปอย่างช้า ๆ อารมณ์ของเรื่องไม่ใช่จะมีแต่เปลี่ยวเหงา โศกเศร้า ทดท้อ เจ็บแค้น และสิ้นหวังเพียงเท่านั้น แต่ยังมีความเบิกบานหรรษา อิ่มเอม อบอุ่น เปี่ยมหวัง ให้อภัย สงบสุข คละเคล้าจนกลายเป็นส่วนผสมที่น่าศึกษา มีความละมุนละไมไปพร้อม ๆ กับการได้เห็นถึงความจริงอันเป็นสัจธรรมของชีวิต

    เพราะความเจ็บป่วยนั้นเกิดมีได้กับคนทุกคน แต่มีไม่กี่คนเท่านัั้นจะทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างดี และจัดวางภาระทุกอย่างให้อยู่ถูกที่ถูกทาง ในขณะที่เตรียมพร้อมจะปล่อยวางร่างกายนี้ ซึ่งตนหวงแหนประหนึ่งคือสมบัติของเราจริง ๆ ยามเมื่อเวลานั้นมาถึง

    #thaitimes
    #หนังสือน่าอ่าน
    #นิยายแปล
    #นิยายญี่ปุ่น
    #ผู้ป่วยระยะสุดท้าย
    #เตรียมตัวตาย
    #การดูแลผู้ป่วย
    #หนังสือดี
    #ของว่างที่เฝ้ารอกับคำขออย่างสุดท้าย ความหมายของการมีชีวิตคืออะไร หนังสือเล่มนี้จะเป็นเล่มหนึ่งที่พาคุณไปเที่ยวชมและร่วมเรียนรู้ไปกับการแสวงหาความสำคัญของการอยากมีชีวิตอยู่ต่อไป ของใครอีกหลายคนในสภาวะที่ร่างกายกำลังอ่อนแอ ด้วยโรคร้ายกัดกินจนใกล้วาระสุดท้าย ก่อนลมหายใจจะดับลง สนพ.piccolo พิมพ์ครั้งแรกในญี่ปุ่นปี 2019 ฉบับแปลไทย เม.ย.2567 โอกาวะ อิโตะ เขียน ธนพล ศักดิ์สมุทรานันท์ แปล 223 หน้า 285 บาท ตลอดทั้งเล่มเต็มไปด้วยความอบอวลของความรักระหว่างมนุษย์ที่มีต่อมนุษย์ด้วยกัน รวมไปถึงมนุษย์ที่มีต่อสัตว์และสัตว์เองก็แสดงตอบต่อด้วยความซื่อตรง เนื้อหากล่าวถึงหญิงสาวคนหนึ่งนามว่า อูมิโนะ ชิสุกุ ซึ่งมีวัย 33 ปี ชีวิตที่ผ่านมาของเธออ่อนโยนต่อคนรอบข้างมาโดยตลอดตั้งแต่ยังเด็ก โดยเฉพาะพ่อบุญธรรมที่รับเลี้ยงเธอซึ่งสูญเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่เล็ก แม้จะไม่ใช่บุพการีที่ให้กำเนิด แต่มอบความรักดูแลเอาใจใส่อย่างดี ทว่าวันหนึ่งเมื่อเธอพบว่าตนมีโรคร้ายเกาะกิน แม้นจะพยายามรักษา ต่อสู้ด้วยตนเองหลังแยกมาอยู่คนเดียว แต่สุดท้ายบั้นปลายชีวิต ต้องทำใจยอมรับความจริงว่ามีเวลาเหลืออยู่บนโลกนี้ได้อีกไม่นาน ไม่อยากให้พ่อต้องเดือดร้อนและเศร้าใจเพราะทราบความจริง จึงเลือกที่จะไม่บอกแล้วตระเตรียมแผนล่วงหน้าสำหรับรับมือกับความตายที่กำลังย่างกรายมาถึง ด้วยการตัดสินใจเดินทางไปใช้ชีวิตอยู่ที่สถานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ที่เกาะเลมอนซึ่งรายล้อมด้วยทะเลเงียบสงบและงดงาม เต็มไปด้วยธรรมชาติและอากาศอันสดชื่นบริสุทธิ์ มีไร่องุ่น กับท้องฟ้าสีครามและท้องทะเลสีน้ำเงินที่เธอชอบและใฝ่ฝัน เป็นสถานที่เธอเลือกเพราะคิดว่าเหมาะสมตรงกับรสนิยมความชอบของตนมากที่สุด ชื่อของสถานที่ดังกล่าวคือบ้านพักสิงโต เปรียบได้กับดินแดนสุขาวดีที่มีเทวดานางฟ้าคอยให้การต้อนรับดูแลด้วยหัวใจ โดยเฉพาะเจ้าของสถานที่สาวซึ่งมีนามว่ามาดอนน่า เป็นหญิงมหัศจรรย์ที่มีน้ำใจงาม มีความเชี่ยวชาญในด้านการดูแลทั้งทางด้านร่างกายที่เจ็บไข้ของผู้ป่วย และเยียวยาด้านจิตใจไปพร้อมกัน ณ สถานที่แห่งนี้เอง ในบ้านพักบนเกาะห่างไกล ที่ซึ่งชิสุกุไม่เคยคาดฝันว่าจะได้พบกับความรักอีกครั้ง กับชายหนุ่มน่ารัก สุภาพและวัยใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ยังอดตะลึงไปกับห้องพักส่วนตัวที่แสนสบายท่ามกลางบรรยากาศราวสรวงสวรรค์ เธอได้เรียนรู้ว่าไม่ใช่เฉพาะตัวเองเท่านั้นที่ประสบกับภาวะทุกข์โศกจากโรคภัยที่กำลังจะพรากลมหายใจอันหวงแหนให้หลุดลอยไป แต่ยังมีเพื่อนร่วมชะตากรรมอีกหลายคนทั้งชายหญิง วัยเด็กหรือแม้กระทั่งวัยสูงอายุ แต่ละคนล้วนมีอาการทรมานที่ไม่น้อยไปกว่าเธอ บางคนเป็นมากกว่าด้วย ชิสุกุได้สัมผัสกับมิตรภาพและวิญญาณภายในของเพื่อนต่างวัย ที่ตอนแรกเธอพยายามหลีกเลี่ยงที่จะไม่คบคุ้นด้วย ยังมีเจ้าสุนัขแสนรู้น่ารักเพศเมียอีกตัวหนึ่งเล่า ที่มีบทบาทสำคัญอย่างมากในการช่วยชุบชูหัวใจอันอ่อนล้าของหญิงสาว ให้ยอมเปิดใจและคลายวงล้อมของป้อมปราการที่ขังตัวเองจากทุกคนลงได้ หมาตัวนี้มีชื่อว่า รกกะ เจ้าของเดิมเคยมาพำนักอยู่ที่บ้านสิงโตเมื่อนานมาแล้ว และหลังจากเธอคนนั้นจากไป ทุกคนก้ช่วยกันดูแลรกกะต่อมา จนกระทั่ง รกกะ ได้พบกับชิสุกุ ทั้งคู่ถูกชะตากันตั้งแต่วันแรกที่ได้พบ หลังจากนั้นก็อยู่ด้วยกันตลอด รกกะเป็นเสมือนตู้ยาเคลื่อนที่ซึ่งช่วยให้ชิสุกุต่อสู้กับความเจ็บปวดโดยยังสามารถปรากฏรอยยิ้มอยู่ได้ สิ่งหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้มาพักที่นี่ทุกคนต่างเฝ้ารอที่จะให้ถึงวันนั้นเร็ว ๆ นั่นคือการได้มีกิจกรรมกินของว่างร่วมกันในทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ เพียงหนึ่งครั้งในรอบเจ็ดวัน โดยทุกคนมีสิทธิเท่ากันคนละ1เสียง ที่สามารถเขียนใส่กระดาษเพื่อบอกเล่าถึงขนมที่ตนชื่นชอบและอยากกินมากที่สุดเป็นครั้งสุดท้าย แล้วคำขอเหล่านั้นจะถูกจับฉลากขึ้นมาหนึ่งใบ คำขอของใครก็ตามที่โชคดี แม่ครัวจะแกะสูตรแล้วทำออกมาให้เหมือนหรือใกล้เคียงที่สุด เพื่อจะเสิร์ฟให้กับทุกคนได้ชิมกัน อย่างไรก็ตาม วันที่ต้องจากลาย่อมบ่ายหน้ามาถึงเพื่อนแต่ละคน ในห้วงเวลาเช่นนั้น ทั้งเขาหรือเธอรวมทั้งชิสุกุเอง มีวิธีรับมือระหว่างเผชิญหน้ากับความเสื่อมสลายของสังขาร ที่ค่อย ๆ ทรุดโทรมและดับสิ้นไปทีละน้อยอย่างไร นี่คือสิ่งที่ผู้อ่านจะได้ร่วมเรียนรู้ไปพร้อมกันกับตัวละครในเรื่อง ถ้าคุณเคยประทับใจมาแล้วกับ ร้านเครื่องเขียนนั้นใต้ต้นสึบากิ นี่คืออีกเล่มหนึ่งที่น่าลองหามาอ่านครับ โดยเฉพาะคนที่กำลังเผชิญกับความเจ็บป่วยอยู่ หรือแม้ผู้ดูแลคนป่วยเอง แต่ถึงแม้จะไม่ได้ป่วยเลย แต่การได้ทำความเข้าใจกับเรื่องราวเหล่านี้ก็ถือเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ผู้เขียนบรรยายอย่างค่อยเป็นค่อยไป เปิดเผยเรื่องราวทีละน้อย แล้วไต่ระดับไปอย่างช้า ๆ อารมณ์ของเรื่องไม่ใช่จะมีแต่เปลี่ยวเหงา โศกเศร้า ทดท้อ เจ็บแค้น และสิ้นหวังเพียงเท่านั้น แต่ยังมีความเบิกบานหรรษา อิ่มเอม อบอุ่น เปี่ยมหวัง ให้อภัย สงบสุข คละเคล้าจนกลายเป็นส่วนผสมที่น่าศึกษา มีความละมุนละไมไปพร้อม ๆ กับการได้เห็นถึงความจริงอันเป็นสัจธรรมของชีวิต เพราะความเจ็บป่วยนั้นเกิดมีได้กับคนทุกคน แต่มีไม่กี่คนเท่านัั้นจะทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างดี และจัดวางภาระทุกอย่างให้อยู่ถูกที่ถูกทาง ในขณะที่เตรียมพร้อมจะปล่อยวางร่างกายนี้ ซึ่งตนหวงแหนประหนึ่งคือสมบัติของเราจริง ๆ ยามเมื่อเวลานั้นมาถึง #thaitimes #หนังสือน่าอ่าน #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #ผู้ป่วยระยะสุดท้าย #เตรียมตัวตาย #การดูแลผู้ป่วย #หนังสือดี
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อเราตกอยู่ในความทุกข์เพราะความรักที่เจือด้วยราคะ ความยึดมั่นของจิตใจจะทำให้เกิดทุกข์และความเสียใจอย่างหนักหน่วง การปรับจิตใจจากรักที่เต็มไปด้วยการยึดติด มาเป็นรักที่เมตตา ปราศจากการยึด จะช่วยให้เราปล่อยวางและคลายทุกข์ได้

    การเปลี่ยนอาการอกหักให้กลายเป็นโอกาสในการเจริญสตินั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ วิธีที่คุณสามารถใช้ได้ตามแนวทางพุทธศาสนามีดังนี้:

    1. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยกุศลจิต: การสวดมนต์เป็นการเชื่อมต่อกับความดีและความเป็นสิริมงคล การเริ่มต้นวันด้วยบทสวด เช่น อิติปิโส จะช่วยปรับจิตใจให้อยู่ในทางกุศล และช่วยให้เกิดความรู้สึกเบาสบายมากขึ้น


    2. หลีกเลี่ยงการจมอยู่กับความทุกข์: เมื่อมีอารมณ์เศร้าเข้ามา อย่าปล่อยตัวให้จมอยู่กับความเศร้านั้นนาน รีบหาทางทำสิ่งที่กระตุ้นความกระตือรือร้นทันที การเคลื่อนไหวร่างกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังและสมาธิ จะช่วยลดความเศร้าและเพิ่มความสดชื่นได้


    3. เฝ้าสังเกตใจตัวเอง: เมื่อเกิดความถวิลหาหรือคิดถึงสิ่งที่ทำให้เจ็บปวด ให้สำรวจดูว่าอารมณ์นั้นรุนแรงเพียงใด การเห็นความรุนแรงนั้นจะทำให้คุณรู้ว่ามันค่อยๆ เลือนลง และจะไม่ดึงดูดจิตใจเท่าเดิม


    4. หากิจกรรมที่ทำให้มีความสุข: หลีกเลี่ยงการเลี้ยงอารมณ์เศร้าด้วยการฟังเพลงเศร้า ควรหากิจกรรมที่ใช้พลังงานและสมาธิ เช่น การออกกำลังกาย หรือกีฬาที่ต้องโต้ตอบรวดเร็ว จะช่วยให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขออกมาแทน


    5. ช่วยเหลือผู้อื่น: การหันมาช่วยเหลือผู้อื่น เช่น เด็กหรือผู้สูงอายุ จะช่วยให้คุณรู้สึกอบอุ่นใจ และลดความรู้สึกเหงาได้ การมองเห็นความต้องการของผู้อื่นจะทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่าและเติมเต็มในทางจิตใจ


    6. เจริญสติ: เมื่อรู้สึกดีขึ้น อย่าหยุดที่แค่ความรู้สึกดีนั้น แต่ใช้โอกาสนี้ในการเจริญสติ เห็นว่าจิตใจไม่เที่ยงแท้ มีขึ้นมีลง เมื่อรู้ทันความไม่เที่ยงของจิตใจ ก็จะลดความยึดติดกับความรัก และมุ่งเน้นไปที่ความวิเวกทางใจที่สงบและเป็นอิสระมากขึ้น



    ทุกวิธีการนี้จะช่วยให้คุณผ่านพ้นความทุกข์และมุ่งสู่ความสงบภายในอย่างยั่งยืน

    เมื่อเราตกอยู่ในความทุกข์เพราะความรักที่เจือด้วยราคะ ความยึดมั่นของจิตใจจะทำให้เกิดทุกข์และความเสียใจอย่างหนักหน่วง การปรับจิตใจจากรักที่เต็มไปด้วยการยึดติด มาเป็นรักที่เมตตา ปราศจากการยึด จะช่วยให้เราปล่อยวางและคลายทุกข์ได้ การเปลี่ยนอาการอกหักให้กลายเป็นโอกาสในการเจริญสตินั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ วิธีที่คุณสามารถใช้ได้ตามแนวทางพุทธศาสนามีดังนี้: 1. เริ่มต้นวันใหม่ด้วยกุศลจิต: การสวดมนต์เป็นการเชื่อมต่อกับความดีและความเป็นสิริมงคล การเริ่มต้นวันด้วยบทสวด เช่น อิติปิโส จะช่วยปรับจิตใจให้อยู่ในทางกุศล และช่วยให้เกิดความรู้สึกเบาสบายมากขึ้น 2. หลีกเลี่ยงการจมอยู่กับความทุกข์: เมื่อมีอารมณ์เศร้าเข้ามา อย่าปล่อยตัวให้จมอยู่กับความเศร้านั้นนาน รีบหาทางทำสิ่งที่กระตุ้นความกระตือรือร้นทันที การเคลื่อนไหวร่างกายหรือทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังและสมาธิ จะช่วยลดความเศร้าและเพิ่มความสดชื่นได้ 3. เฝ้าสังเกตใจตัวเอง: เมื่อเกิดความถวิลหาหรือคิดถึงสิ่งที่ทำให้เจ็บปวด ให้สำรวจดูว่าอารมณ์นั้นรุนแรงเพียงใด การเห็นความรุนแรงนั้นจะทำให้คุณรู้ว่ามันค่อยๆ เลือนลง และจะไม่ดึงดูดจิตใจเท่าเดิม 4. หากิจกรรมที่ทำให้มีความสุข: หลีกเลี่ยงการเลี้ยงอารมณ์เศร้าด้วยการฟังเพลงเศร้า ควรหากิจกรรมที่ใช้พลังงานและสมาธิ เช่น การออกกำลังกาย หรือกีฬาที่ต้องโต้ตอบรวดเร็ว จะช่วยให้สมองหลั่งสารแห่งความสุขออกมาแทน 5. ช่วยเหลือผู้อื่น: การหันมาช่วยเหลือผู้อื่น เช่น เด็กหรือผู้สูงอายุ จะช่วยให้คุณรู้สึกอบอุ่นใจ และลดความรู้สึกเหงาได้ การมองเห็นความต้องการของผู้อื่นจะทำให้คุณรู้สึกมีคุณค่าและเติมเต็มในทางจิตใจ 6. เจริญสติ: เมื่อรู้สึกดีขึ้น อย่าหยุดที่แค่ความรู้สึกดีนั้น แต่ใช้โอกาสนี้ในการเจริญสติ เห็นว่าจิตใจไม่เที่ยงแท้ มีขึ้นมีลง เมื่อรู้ทันความไม่เที่ยงของจิตใจ ก็จะลดความยึดติดกับความรัก และมุ่งเน้นไปที่ความวิเวกทางใจที่สงบและเป็นอิสระมากขึ้น ทุกวิธีการนี้จะช่วยให้คุณผ่านพ้นความทุกข์และมุ่งสู่ความสงบภายในอย่างยั่งยืน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • PengYou Cuisine & Specialty Bar (เผิงโหย่ว) ร้านอาหารจีนสไตล์โมเดิร์น ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว รวมไปถึงกลุ่มเพื่อน ทางร้านตั้งใจที่จะสร้างพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นตัวแทนของช่วงเวลาของมิตรภาพระหว่างเพื่อน ครอบครัว หรือคนใกล้ชิด ตัวร้านบรรยากาศดีมาก ภายในร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นมีความหรูหรา แต่ยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่น บริเวณร้านแบ่งออกเป็น ไดนิ่งโซน (Dining Zone), ห้องส่วนตัว (VIP room), เลานจ์และบาร์ ซึ่งทางร้านมีการออกแบบพื้นที่ให้เหมาะสมกับความชอบที่แตกต่างกันของคนในครอบครัว ให้สามารถมาบรรจบกันที่ PengYou

    พิกัด
    สาขา พระราม 9 : https://maps.app.goo.gl/1Q9updbDMwKw5MvJ9
    สาขา โครงการ Earth เอกมัย : https://maps.app.goo.gl/ifQ9u3YvH3AAkfba6
    ร้านเปิดบริการ
    สาขา พระราม 9 : วันอาทิตย์ - พฤหัสบดี 11.00 - 22.00 น. / วันศุกร์ - เสาร์ 11.00 - 23.00 น. (ปิดวันอังคาร)
    สาขา โครงการ Earth เอกมัย : 11.00 - 22.00 น.
    โทร
    สาขา พระราม 9 : 06-1161-1682
    สาขา โครงการ Earth เอกมัย : 08-8924-2626

    #อาหารจีน #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    PengYou Cuisine & Specialty Bar (เผิงโหย่ว) ร้านอาหารจีนสไตล์โมเดิร์น ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว รวมไปถึงกลุ่มเพื่อน ทางร้านตั้งใจที่จะสร้างพื้นที่แห่งนี้ให้เป็นตัวแทนของช่วงเวลาของมิตรภาพระหว่างเพื่อน ครอบครัว หรือคนใกล้ชิด ตัวร้านบรรยากาศดีมาก ภายในร้านตกแต่งสไตล์โมเดิร์นมีความหรูหรา แต่ยังให้ความรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่น บริเวณร้านแบ่งออกเป็น ไดนิ่งโซน (Dining Zone), ห้องส่วนตัว (VIP room), เลานจ์และบาร์ ซึ่งทางร้านมีการออกแบบพื้นที่ให้เหมาะสมกับความชอบที่แตกต่างกันของคนในครอบครัว ให้สามารถมาบรรจบกันที่ PengYou พิกัด สาขา พระราม 9 : https://maps.app.goo.gl/1Q9updbDMwKw5MvJ9 สาขา โครงการ Earth เอกมัย : https://maps.app.goo.gl/ifQ9u3YvH3AAkfba6 ร้านเปิดบริการ สาขา พระราม 9 : วันอาทิตย์ - พฤหัสบดี 11.00 - 22.00 น. / วันศุกร์ - เสาร์ 11.00 - 23.00 น. (ปิดวันอังคาร) สาขา โครงการ Earth เอกมัย : 11.00 - 22.00 น. โทร สาขา พระราม 9 : 06-1161-1682 สาขา โครงการ Earth เอกมัย : 08-8924-2626 #อาหารจีน #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ สิงคโปร์ บินโลว์คอสต์กลับบ้าน

    กลายเป็นเรื่องฮือฮาของชาวสิงคโปร์ เมื่อ ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. ด้วยสายการบินสกู๊ต (Scoot) โลว์คอสต์แอร์ไลน์ของกลุ่มสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TR351 ออกจากท่าอากาศยานวัตไต เวลา 12.55 น. ถึงท่าอากาศยานชางงี เวลา 17.05 น.

    เที่ยวบินดังกล่าว มีคณะทัวร์ผู้สูงอายุชาวสิงคโปร์กว่า 40 คน เพิ่งกลับจากการท่องเที่ยวในประเทศลาว เมื่อพบเห็นนายหว่องก็ความแปลกใจและตื่นเต้น วีดีโอคลิปของผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ (CNA) ของสิงคโปร์ เผยให้เห็นนายหว่องขึ้นไปบนเครื่องบิน ได้รับเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ นายหว่องจึงโบกมือทักทายด้วยรอยยิ้มแล้วนั่งลงบนที่นั่ง 1C ซึ่งอยู่หน้าสุด

    เมื่อกลับถึงประเทศสิงคโปร์ นายหว่องได้โพสต์วีดีโอคลิป พร้อมข้อความระบุว่า "เมื่อกลับจากลาว รู้สึกเหมือนอยู่บ้านเมื่อขึ้นเครื่องบิน ขอบคุณทุกคนสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น" โดยเป็นภาพที่ผู้โดยสารต่างส่งเสียงเชียร์และปรบมือบนเครื่องบิน ซึ่งผู้สนับสนุนนายหว่องต่างชื่นชมในความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนติดดิน แทนที่จะนั่งเครื่องบินส่วนตัวหรือเที่ยวบินชั้นธุรกิจ

    อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินจากสิงคโปร์ไปเวียงจันทน์ มีเพียงสายการบินสกู๊ต ให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ถ้าจะนั่งแบบฟลูเซอร์วิสต้องไปต่อเครื่องที่กรุงเทพฯ ซึ่งนายหว่องเปิดเผยว่า จะเพิ่มเป็น 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2567 โดยชาวสิงคโปร์จำนวนมากนิยมเดินทางไปยังหลวงพระบาง รวมทั้งมายังประเทศลาวเพื่อทำงานพัฒนาชุมชนและงานอาสาสมัคร

    ด้านสื่อฝ่ายต่อต้านรัฐบาลสิงคโปร์อย่าง ดิออนไลน์ซิตีเซน (TOC) ที่ย้ายไปตั้งสำนักงานที่ไต้หวัน วิจารณ์ว่าการกลับบ้านของนายหว่องมีอะไรน่าตื่นเต้น แทนที่การหารือระดับภูมิภาคเกี่ยวกับการทูต การค้า และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สมควรได้รับความสนใจมากกว่า และกังวลว่ากรณีนี้จะถูกใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าเข้าถึงได้และเป็นกันเอง การดึงดูดความสนใจเที่ยวบินราคาประหยัด ย้ำให้เห็นถึงพลังในการกำหนดวาระทางการเมือง แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาค่าครองชีพและเศรษฐกิจของประเทศ

    สำหรับลอว์เรนซ์ หว่อง วัย 51 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของสิงคโปร์ รับตำแหน่งต่อจากนายลี เซียนลุง ที่ดำรงตำแหน่งมานานถึง 20 ปี เคยเป็นนักเศรษฐศาสตร์ อดีตข้าราชการ และประธานกรรมการบริหารของธนาคารกลางแห่งสิงคโปร์ (MAS) มีผลงานโดดเด่นในด้านการเป็นประธานร่วมของคณะทำงานของรัฐบาลเพื่อต่อสู้โรคระบาดโควิด-19

    #Newskit #LawrenceWong #Scoot
    นายกฯ สิงคโปร์ บินโลว์คอสต์กลับบ้าน กลายเป็นเรื่องฮือฮาของชาวสิงคโปร์ เมื่อ ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เดินทางกลับจากการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่นครหลวงเวียงจันทน์ ประเทศลาว เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ต.ค. ด้วยสายการบินสกู๊ต (Scoot) โลว์คอสต์แอร์ไลน์ของกลุ่มสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ TR351 ออกจากท่าอากาศยานวัตไต เวลา 12.55 น. ถึงท่าอากาศยานชางงี เวลา 17.05 น. เที่ยวบินดังกล่าว มีคณะทัวร์ผู้สูงอายุชาวสิงคโปร์กว่า 40 คน เพิ่งกลับจากการท่องเที่ยวในประเทศลาว เมื่อพบเห็นนายหว่องก็ความแปลกใจและตื่นเต้น วีดีโอคลิปของผู้สื่อข่าวสำนักข่าวซีเอ็นเอ (CNA) ของสิงคโปร์ เผยให้เห็นนายหว่องขึ้นไปบนเครื่องบิน ได้รับเสียงปรบมือและเสียงเชียร์ นายหว่องจึงโบกมือทักทายด้วยรอยยิ้มแล้วนั่งลงบนที่นั่ง 1C ซึ่งอยู่หน้าสุด เมื่อกลับถึงประเทศสิงคโปร์ นายหว่องได้โพสต์วีดีโอคลิป พร้อมข้อความระบุว่า "เมื่อกลับจากลาว รู้สึกเหมือนอยู่บ้านเมื่อขึ้นเครื่องบิน ขอบคุณทุกคนสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น" โดยเป็นภาพที่ผู้โดยสารต่างส่งเสียงเชียร์และปรบมือบนเครื่องบิน ซึ่งผู้สนับสนุนนายหว่องต่างชื่นชมในความอ่อนน้อมถ่อมตน เป็นคนติดดิน แทนที่จะนั่งเครื่องบินส่วนตัวหรือเที่ยวบินชั้นธุรกิจ อย่างไรก็ตาม เที่ยวบินจากสิงคโปร์ไปเวียงจันทน์ มีเพียงสายการบินสกู๊ต ให้บริการสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน ถ้าจะนั่งแบบฟลูเซอร์วิสต้องไปต่อเครื่องที่กรุงเทพฯ ซึ่งนายหว่องเปิดเผยว่า จะเพิ่มเป็น 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2567 โดยชาวสิงคโปร์จำนวนมากนิยมเดินทางไปยังหลวงพระบาง รวมทั้งมายังประเทศลาวเพื่อทำงานพัฒนาชุมชนและงานอาสาสมัคร ด้านสื่อฝ่ายต่อต้านรัฐบาลสิงคโปร์อย่าง ดิออนไลน์ซิตีเซน (TOC) ที่ย้ายไปตั้งสำนักงานที่ไต้หวัน วิจารณ์ว่าการกลับบ้านของนายหว่องมีอะไรน่าตื่นเต้น แทนที่การหารือระดับภูมิภาคเกี่ยวกับการทูต การค้า และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ สมควรได้รับความสนใจมากกว่า และกังวลว่ากรณีนี้จะถูกใช้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ว่าเข้าถึงได้และเป็นกันเอง การดึงดูดความสนใจเที่ยวบินราคาประหยัด ย้ำให้เห็นถึงพลังในการกำหนดวาระทางการเมือง แต่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาค่าครองชีพและเศรษฐกิจของประเทศ สำหรับลอว์เรนซ์ หว่อง วัย 51 ปี เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของสิงคโปร์ รับตำแหน่งต่อจากนายลี เซียนลุง ที่ดำรงตำแหน่งมานานถึง 20 ปี เคยเป็นนักเศรษฐศาสตร์ อดีตข้าราชการ และประธานกรรมการบริหารของธนาคารกลางแห่งสิงคโปร์ (MAS) มีผลงานโดดเด่นในด้านการเป็นประธานร่วมของคณะทำงานของรัฐบาลเพื่อต่อสู้โรคระบาดโควิด-19 #Newskit #LawrenceWong #Scoot
    Like
    Love
    Yay
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 515 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2024.06.29 📸 IU HEREH WORLD TOUR IN BANGKOK

    บันทึกไว้ว่า ครั้งหนึ่งผมได้ไปฟังพี่ลี่ (IU) ร้องเพลงสด ๆ ครั้งแรกตลอดการเป็นยูแอนา 5 ปีของผม (นับจากวันที่ฉายละคร Hotel Del Luna โดนนายหญิงจางตกเข้าด้อมยูแอนาก็เรื่องนี้แหละ🥰)
    จากวันที่ผมได้ไปดูคอนเสิร์ต Golden Hour (ในโรงหนังนะ) ทำให้ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากและเกิดความคิดที่ว่า ถ้าวันนึงผมได้ไปลองสัมผัสบรรยากาศคอนเสิร์ตพี่ลี่แบบจริง ๆ จะรู้สึกประทับใจมากแค่ไหน ต้องหาโอกาสไปเจอพี่ลี่ให้ได้ และวันนั้นก็มาถึง...
    ครั้งนี้ผมก็ได้ไปฟังพี่ลี่ร้องเพลงสด ๆ ในฮอลล์แล้ว บอกเลยว่า เป็นคอนเสิร์ตที่โคตรเต็มอิ่ม อิ่มอกอิ่มใจ ประทับใจ อบอุ่นมาก ๆ สนุกทุกช่วงจริง ๆ พี่ลี่ตัวจริงคือสวยมาก น่ารักสุด ๆ ร้องเพลงโคตรเพราะ หูเคลือบทองคำเรียบร้อย แถมพี่ลี่ก็พูดไทยค่อนข้างเยอะเลย เก่งมาก ๆ แต่พูดไทยอย่างเดียวคงไม่พอ พี่ลี่เลยจัดเพลงไทยให้ 1 เพลง คือเพลง "รักแรก" ของ "นนท์ ธนน" ซึ่งเป็นเพลงโปรดที่ผมชอบมาก ๆ ด้วย เซอร์ไพรส์สุด ๆ แต่ก่อนถึงวันคอนเสิร์ต ผมก็ลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าพี่ลี่มีร้องเพลงไทย ก็คงอยากให้ร้องเพลงรักแรกมากที่สุด มันคงจะเป็นอะไรที่เพราะน่าดูเลยแหละ แล้วถึงวันคอนเสิร์ต พี่ลี่ก็ร้องเพลงนี้จริง ๆ สำหรับผมคือเซอร์ไพรส์คูณสองไปเลย💖
    นอกจากพี่ลี่จะสวย น่ารัก ใจดี เฟรนลี่ ร้องเพราะ พี่ลี่ก็ยังคอยส่งพลังบวกให้กับยูแอนาทุกคนรวมถึงผมด้วย แล้วยูแอนาเองก็ส่งพลังบวกกลับไปให้พี่ลี่เช่นกัน
    เรียกว่า คอนเสิร์ตนี้ คุ้มค่า สมการรอคอยจริง ๆ หลังจากที่ต้องรอพี่ลี่กลับมาไทยถึง 5 ปี และครั้งนี้ผมกับพี่ลี่ เราก็ได้เจอกันแล้ว
    ผมก็เป็นยูแอนาคนนึงที่อาจจะเป็นเหมือนหลายคน ไม่ได้ฟังหมดทุกเพลง ไม่ได้ตามดูละครทุกเรื่อง แต่ผมชอบพี่ลี่ในความเป็นพี่ลี่ ทุกครั้งที่ได้ฟังเพลงของพี่ลี่ ก็เหมือนได้ชาร์ตแบตไปในตัวด้วย มีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป😊
    สุดท้ายนี้ ขอบคุณพี่ลี่ที่มาเล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย ถ้ามีโอกาสครั้งหน้า ผมก็พร้อมที่จะกลับไปหาพี่อีก และหลังจากนี้ก็จะติดตามผลงานของพี่ลี่ต่อไปเรื่อย ๆ แน่นอน💝
    ไว้เจอกันใหม่นะครับ🥰

    #HEREH_WORLD_TOUR_IN_BKK
    2024.06.29 📸 IU HEREH WORLD TOUR IN BANGKOK บันทึกไว้ว่า ครั้งหนึ่งผมได้ไปฟังพี่ลี่ (IU) ร้องเพลงสด ๆ ครั้งแรกตลอดการเป็นยูแอนา 5 ปีของผม (นับจากวันที่ฉายละคร Hotel Del Luna โดนนายหญิงจางตกเข้าด้อมยูแอนาก็เรื่องนี้แหละ🥰) จากวันที่ผมได้ไปดูคอนเสิร์ต Golden Hour (ในโรงหนังนะ) ทำให้ผมรู้สึกประทับใจเป็นอย่างมากและเกิดความคิดที่ว่า ถ้าวันนึงผมได้ไปลองสัมผัสบรรยากาศคอนเสิร์ตพี่ลี่แบบจริง ๆ จะรู้สึกประทับใจมากแค่ไหน ต้องหาโอกาสไปเจอพี่ลี่ให้ได้ และวันนั้นก็มาถึง... ครั้งนี้ผมก็ได้ไปฟังพี่ลี่ร้องเพลงสด ๆ ในฮอลล์แล้ว บอกเลยว่า เป็นคอนเสิร์ตที่โคตรเต็มอิ่ม อิ่มอกอิ่มใจ ประทับใจ อบอุ่นมาก ๆ สนุกทุกช่วงจริง ๆ พี่ลี่ตัวจริงคือสวยมาก น่ารักสุด ๆ ร้องเพลงโคตรเพราะ หูเคลือบทองคำเรียบร้อย แถมพี่ลี่ก็พูดไทยค่อนข้างเยอะเลย เก่งมาก ๆ แต่พูดไทยอย่างเดียวคงไม่พอ พี่ลี่เลยจัดเพลงไทยให้ 1 เพลง คือเพลง "รักแรก" ของ "นนท์ ธนน" ซึ่งเป็นเพลงโปรดที่ผมชอบมาก ๆ ด้วย เซอร์ไพรส์สุด ๆ แต่ก่อนถึงวันคอนเสิร์ต ผมก็ลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าพี่ลี่มีร้องเพลงไทย ก็คงอยากให้ร้องเพลงรักแรกมากที่สุด มันคงจะเป็นอะไรที่เพราะน่าดูเลยแหละ แล้วถึงวันคอนเสิร์ต พี่ลี่ก็ร้องเพลงนี้จริง ๆ สำหรับผมคือเซอร์ไพรส์คูณสองไปเลย💖 นอกจากพี่ลี่จะสวย น่ารัก ใจดี เฟรนลี่ ร้องเพราะ พี่ลี่ก็ยังคอยส่งพลังบวกให้กับยูแอนาทุกคนรวมถึงผมด้วย แล้วยูแอนาเองก็ส่งพลังบวกกลับไปให้พี่ลี่เช่นกัน เรียกว่า คอนเสิร์ตนี้ คุ้มค่า สมการรอคอยจริง ๆ หลังจากที่ต้องรอพี่ลี่กลับมาไทยถึง 5 ปี และครั้งนี้ผมกับพี่ลี่ เราก็ได้เจอกันแล้ว ผมก็เป็นยูแอนาคนนึงที่อาจจะเป็นเหมือนหลายคน ไม่ได้ฟังหมดทุกเพลง ไม่ได้ตามดูละครทุกเรื่อง แต่ผมชอบพี่ลี่ในความเป็นพี่ลี่ ทุกครั้งที่ได้ฟังเพลงของพี่ลี่ ก็เหมือนได้ชาร์ตแบตไปในตัวด้วย มีกำลังใจในการใช้ชีวิตต่อไป😊 สุดท้ายนี้ ขอบคุณพี่ลี่ที่มาเล่นคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย ถ้ามีโอกาสครั้งหน้า ผมก็พร้อมที่จะกลับไปหาพี่อีก และหลังจากนี้ก็จะติดตามผลงานของพี่ลี่ต่อไปเรื่อย ๆ แน่นอน💝 ไว้เจอกันใหม่นะครับ🥰 #HEREH_WORLD_TOUR_IN_BKK
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=UruCLtO92OQ
    นิทานเรื่องหมูน้อย 3 ตัว ตอนที่ 1
    (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้)
    แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากนิทานเรื่องหมูน้อย 3 ตัว ตอนที่ 1
    มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ

    #listeningtest #listening #englishtest

    Part one ตอน 1

    Once upon a time there were three little pigs, who left their mummy and daddy. All summer long, they roamed through the woods and over the plains, playing games and having fun. None were happier than the three little pigs, and they easily made friends with everyone. Wherever they went, they were given a warm welcome, but as summer drew to a close, they realized that folk were going back to their usual jobs, and preparing for winter. Autumn came and it began to rain. The three little pigs started to feel they needed a real home. Sadly they knew that the fun was over now and they must work like the others, or they'd be left in the cold and rain, for they had no home to stay. They talked about what to do. Each had to decide himself to build his home. The laziest little pig said he'd build a straw hut because it was very easy.

    กาลครั้งหนึ่งมีหมูน้อยสามตัวซึ่งได้เดินทางจากพ่อแม่ของพวกเขา ตลอดทั้งฤดูร้อนพวกเขาได้ท่องเที่ยวไปยังป่าและบนทุ่งกว้างหลายต่อหลายแห่งมีการเล่นเกมส์กันสนุกสนานทีเดียว ไม่มีผู้ใดที่มีความสุขไปกว่าหมูน้อยสามตัวนี้และพวกเขาผูกมิตรกับทุกคนได้อย่างง่ายดาย ที่ไหนก็ตามที่พวกเขาไป พวกเขาได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น แต่พอเมื่อฤดูร้อนได้ใกล้จะสิ้นสุดลง พวกเขาเข้าใจดีว่า ฝูงชนต่างก็กำลังกลับไปทำงานตามปกติของพวกเขา และเพื่อเตรียมตัวสำหรับฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วงได้มาถึงและฝนก็เริ่มตก หมูน้อยเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาจำเป็นต้องการบ้านที่แท้จริงสักหลัง พวกเขารู้อย่างเศร้าๆ ว่าความสนุกสนานได้หมดลงเดี๋ยวนี้แล้ว และพวกเขาต้องไปทำงานเหมือนคนอื่น ๆ หรือไม่ก็ต้องถูกทิ้งอยู่ในที่หนาวเย็นและฝนตกเพราะพวกเขาไม่มีบ้านที่จะอยู่ พวกเขาจึงได้คุยเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ แต่ละตัวต้องตัดสินใจด้วยตัวเองที่จะสร้างบ้านของเขา หมูตัวน้อยที่ขี้เกียจที่สุดพูดว่าเขาอยากสร้างกระท่อมฟางสักหลังเพราะมันง่ายมาก

    Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้)
    little (ลิท'เทิล) คำคุณศัพท์ แปลว่า เล็ก,น้อย
    left (เลฟทฺ) คำกริยาช่องที่ 2 ของ leave (ลีฟว) {leave, left, left, leaving, leaves} แปลว่า จากไป
    mummy (มัม'มี) คำนาม แปลว่า คุณแม่
    daddy (แดด'ดี) คำนาม แปลว่า คุณพ่อ
    summer (ซัม'เมอะ) คำนาม แปลว่า ฤดูร้อน
    roamed คำกริยาช่องที่ 2 ของ roam (โรม) {roam, roamed, roamed} แปลว่า ท่องเที่ยว
    woods (วูดซ) คำนาม แปลว่า ป่าไม้
    plains คำนามพหูพจน์ของ plain (เพลน) แปลว่า ทุ่งกว้าง
    games คำนามพหูพจน์ของ game (เกม) แปลว่า เกม
    fun (ฟัน) คำนามแปลว่า ความสนุกสนาน
    happier ขั้นกว่าของ happy (แฮพ'พี) คำคุณศัพท์ แปลว่า มีความสุข
    easily (อี'ซีลี) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า อย่างง่ายดาย
    friends (เฟรนดฺ) คำนาม แปลว่า เพื่อน
    wherever (แวร์เอฟ'เวอะ) คำกริยาวิเศษณ์แปลว่า ที่ไหนก็ตาม
    given (กิฟ'เวิน) คำกริยาช่องที่ 3 ของ give (กิฟว) {give, gave, given, giving, gives} แปลว่า ให้
    warm (วอร์ม) คำคุณศัพท์ แปลว่า อบอุ่น
    welcome (เวล'คัม) คำนาม แปลว่า การต้อนรับ
    drew (ดรู) คำกริยาช่องที่ 2 ของ draw (ดรอ) {draw, drew, drawn, drawing, draws} แปลว่า ใกล้เข้ามา
    close (โคลส) คำนาม แปลว่า สิ้นสุด
    realized คำกริยาช่องที่ 2 ของ realize (รี'อะไลซ) {realize, realized, realized}แปลว่า เข้าใจ
    folk (โฟล์ค) คำนาม แปลว่า ฝูงชน
    usual (ยู'ชวล) คำคุณศัพท์ แปลว่า ตามปกติ
    jobs คำนามพหูพจน์ของ job (จอบ) แปลว่า งาน
    preparing คำเติม ing ของ prepare (พรีแพร์') แปลว่า เตรียมตัว
    winter (วิน'เทอะ) คำนาม แปลว่า ฤดูหนาว
    autumn (ออ'ทัมน์) คำนาม แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง
    began (บิแกน') คำกริยาช่องที่ 2 ของ begin (บิกิน') {begin, began, begun, beginning, begins} แปลว่า เริ่ม
    rain (เรน) คำกริยา แปลว่า ฝนตก
    started คำกริยาช่องที่ 2 ของ start (สทาร์ท) {start, started, started}แปลว่า เริ่ม, เริ่มต้น
    feel (ฟีล) คำกริยา แปลว่า รู้สึก
    needed คำกริยาช่องที่ 2 ของ need (นีด) {need, needed, needed, needing, needs} แปลว่า จำเป็น
    real (เรียล) คำคุณศัพท์ แปลว่า แท้,จริง
    home (โฮม) คำนาม แปลว่า บ้าน
    knew (นิว) คำกริยาช่องที่ 2 ของ know (โน) {know, knew, known, knowing, knows} แปลว่า รู้
    over (โอ'เวอะ) คำคุณศัพท์ แปลว่า จบสิ้นลง
    now (เนา) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า เดี๋ยวนี้ ตอนนี้
    work (เวิร์ค) คำกริยา แปลว่า ทำงาน
    like (ไลคฺ) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า เหมือนกับ
    cold โคลดฺ) คำนาม แปลว่าหนาว
    decide (ดิไซดฺ') คำกริยา แปลว่า ตัดสินใจ
    build (บิลดฺ) คำกริยา แปลว่า สร้าง
    laziest ขั้นสุดของ lazy (เล'ซิ) คำคุณศัพท์ แปลว่า ขี้เกียจ
    straw (สทรอ) คำนาม แปลว่า ฟาง
    hut (ฮัท) คำนาม แปลว่า กระท่อม
    https://www.youtube.com/watch?v=UruCLtO92OQ นิทานเรื่องหมูน้อย 3 ตัว ตอนที่ 1 (คลิกอ่านเพิ่มเติม เพื่ออ่านบทสนทนาภาษาอังกฤษและไทย และคำศัพท์น่ารู้) แบบทดสอบการฟังภาษาอังกฤษ จากนิทานเรื่องหมูน้อย 3 ตัว ตอนที่ 1 มีคำถาม 5 ข้อหลังฟังเสร็จ เพื่อทดสอบการฟังภาษาอังกฤษของคุณ #listeningtest #listening #englishtest Part one ตอน 1 Once upon a time there were three little pigs, who left their mummy and daddy. All summer long, they roamed through the woods and over the plains, playing games and having fun. None were happier than the three little pigs, and they easily made friends with everyone. Wherever they went, they were given a warm welcome, but as summer drew to a close, they realized that folk were going back to their usual jobs, and preparing for winter. Autumn came and it began to rain. The three little pigs started to feel they needed a real home. Sadly they knew that the fun was over now and they must work like the others, or they'd be left in the cold and rain, for they had no home to stay. They talked about what to do. Each had to decide himself to build his home. The laziest little pig said he'd build a straw hut because it was very easy. กาลครั้งหนึ่งมีหมูน้อยสามตัวซึ่งได้เดินทางจากพ่อแม่ของพวกเขา ตลอดทั้งฤดูร้อนพวกเขาได้ท่องเที่ยวไปยังป่าและบนทุ่งกว้างหลายต่อหลายแห่งมีการเล่นเกมส์กันสนุกสนานทีเดียว ไม่มีผู้ใดที่มีความสุขไปกว่าหมูน้อยสามตัวนี้และพวกเขาผูกมิตรกับทุกคนได้อย่างง่ายดาย ที่ไหนก็ตามที่พวกเขาไป พวกเขาได้รับการต้อนรับที่อบอุ่น แต่พอเมื่อฤดูร้อนได้ใกล้จะสิ้นสุดลง พวกเขาเข้าใจดีว่า ฝูงชนต่างก็กำลังกลับไปทำงานตามปกติของพวกเขา และเพื่อเตรียมตัวสำหรับฤดูหนาว ฤดูใบไม้ร่วงได้มาถึงและฝนก็เริ่มตก หมูน้อยเริ่มรู้สึกว่าพวกเขาจำเป็นต้องการบ้านที่แท้จริงสักหลัง พวกเขารู้อย่างเศร้าๆ ว่าความสนุกสนานได้หมดลงเดี๋ยวนี้แล้ว และพวกเขาต้องไปทำงานเหมือนคนอื่น ๆ หรือไม่ก็ต้องถูกทิ้งอยู่ในที่หนาวเย็นและฝนตกเพราะพวกเขาไม่มีบ้านที่จะอยู่ พวกเขาจึงได้คุยเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ แต่ละตัวต้องตัดสินใจด้วยตัวเองที่จะสร้างบ้านของเขา หมูตัวน้อยที่ขี้เกียจที่สุดพูดว่าเขาอยากสร้างกระท่อมฟางสักหลังเพราะมันง่ายมาก Vocabulary (คำศัพท์น่ารู้) little (ลิท'เทิล) คำคุณศัพท์ แปลว่า เล็ก,น้อย left (เลฟทฺ) คำกริยาช่องที่ 2 ของ leave (ลีฟว) {leave, left, left, leaving, leaves} แปลว่า จากไป mummy (มัม'มี) คำนาม แปลว่า คุณแม่ daddy (แดด'ดี) คำนาม แปลว่า คุณพ่อ summer (ซัม'เมอะ) คำนาม แปลว่า ฤดูร้อน roamed คำกริยาช่องที่ 2 ของ roam (โรม) {roam, roamed, roamed} แปลว่า ท่องเที่ยว woods (วูดซ) คำนาม แปลว่า ป่าไม้ plains คำนามพหูพจน์ของ plain (เพลน) แปลว่า ทุ่งกว้าง games คำนามพหูพจน์ของ game (เกม) แปลว่า เกม fun (ฟัน) คำนามแปลว่า ความสนุกสนาน happier ขั้นกว่าของ happy (แฮพ'พี) คำคุณศัพท์ แปลว่า มีความสุข easily (อี'ซีลี) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า อย่างง่ายดาย friends (เฟรนดฺ) คำนาม แปลว่า เพื่อน wherever (แวร์เอฟ'เวอะ) คำกริยาวิเศษณ์แปลว่า ที่ไหนก็ตาม given (กิฟ'เวิน) คำกริยาช่องที่ 3 ของ give (กิฟว) {give, gave, given, giving, gives} แปลว่า ให้ warm (วอร์ม) คำคุณศัพท์ แปลว่า อบอุ่น welcome (เวล'คัม) คำนาม แปลว่า การต้อนรับ drew (ดรู) คำกริยาช่องที่ 2 ของ draw (ดรอ) {draw, drew, drawn, drawing, draws} แปลว่า ใกล้เข้ามา close (โคลส) คำนาม แปลว่า สิ้นสุด realized คำกริยาช่องที่ 2 ของ realize (รี'อะไลซ) {realize, realized, realized}แปลว่า เข้าใจ folk (โฟล์ค) คำนาม แปลว่า ฝูงชน usual (ยู'ชวล) คำคุณศัพท์ แปลว่า ตามปกติ jobs คำนามพหูพจน์ของ job (จอบ) แปลว่า งาน preparing คำเติม ing ของ prepare (พรีแพร์') แปลว่า เตรียมตัว winter (วิน'เทอะ) คำนาม แปลว่า ฤดูหนาว autumn (ออ'ทัมน์) คำนาม แปลว่า ฤดูใบไม้ร่วง began (บิแกน') คำกริยาช่องที่ 2 ของ begin (บิกิน') {begin, began, begun, beginning, begins} แปลว่า เริ่ม rain (เรน) คำกริยา แปลว่า ฝนตก started คำกริยาช่องที่ 2 ของ start (สทาร์ท) {start, started, started}แปลว่า เริ่ม, เริ่มต้น feel (ฟีล) คำกริยา แปลว่า รู้สึก needed คำกริยาช่องที่ 2 ของ need (นีด) {need, needed, needed, needing, needs} แปลว่า จำเป็น real (เรียล) คำคุณศัพท์ แปลว่า แท้,จริง home (โฮม) คำนาม แปลว่า บ้าน knew (นิว) คำกริยาช่องที่ 2 ของ know (โน) {know, knew, known, knowing, knows} แปลว่า รู้ over (โอ'เวอะ) คำคุณศัพท์ แปลว่า จบสิ้นลง now (เนา) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า เดี๋ยวนี้ ตอนนี้ work (เวิร์ค) คำกริยา แปลว่า ทำงาน like (ไลคฺ) คำกริยาวิเศษณ์ แปลว่า เหมือนกับ cold โคลดฺ) คำนาม แปลว่าหนาว decide (ดิไซดฺ') คำกริยา แปลว่า ตัดสินใจ build (บิลดฺ) คำกริยา แปลว่า สร้าง laziest ขั้นสุดของ lazy (เล'ซิ) คำคุณศัพท์ แปลว่า ขี้เกียจ straw (สทรอ) คำนาม แปลว่า ฟาง hut (ฮัท) คำนาม แปลว่า กระท่อม
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัมผัสการเดินทางสุดพิเศษกับเรือสำราญ Costa Serena ที่มาพร้อมกับบรรยากาศสไตล์อิตาเลียนอันอบอุ่น เพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศและกิจกรรมหลากหลายสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สปา และความบันเทิงเต็มรูปแบบ
    หรือการแสดงบนเวทีสุดอลังการ ให้คุณได้พักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสุขและความบันเทิง

    ออกเดินทางไปกับเรือสำราญที่มอบความสะดวกสบายและการผจญภัยอย่างลงตัว
    พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการจองล่วงหน้า!

    รายละเอียดเรือสำราญและห้องพัก
    https://cruisedomain.com/costa-serena-9th.php

    ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    ☎️: 0 2116 9696 (Auto)

    #Costa #CostaCruise #CostaSerena #เรือCostaSerena #เรือสำราญ #ล่องเรือสำราญ #แพ็คเกจเรือสำราญ #แหลมฉบัง #LaemChabang #เวียดนาม #Vietnam #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    สัมผัสการเดินทางสุดพิเศษกับเรือสำราญ Costa Serena ที่มาพร้อมกับบรรยากาศสไตล์อิตาเลียนอันอบอุ่น เพลิดเพลินกับอาหารรสเลิศและกิจกรรมหลากหลายสำหรับทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ สปา และความบันเทิงเต็มรูปแบบ หรือการแสดงบนเวทีสุดอลังการ ให้คุณได้พักผ่อนและเพลิดเพลินไปกับการเดินทางที่เต็มไปด้วยความสุขและความบันเทิง ออกเดินทางไปกับเรือสำราญที่มอบความสะดวกสบายและการผจญภัยอย่างลงตัว พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับการจองล่วงหน้า! รายละเอียดเรือสำราญและห้องพัก https://cruisedomain.com/costa-serena-9th.php ✅ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #Costa #CostaCruise #CostaSerena #เรือCostaSerena #เรือสำราญ #ล่องเรือสำราญ #แพ็คเกจเรือสำราญ #แหลมฉบัง #LaemChabang #เวียดนาม #Vietnam #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1567 มุมมอง 412 0 รีวิว
  • #อุรณสวัสดิ์แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง
    วันนี้พี่คิงส์จะวิเคราะห์อาการของโจมณฑนี
    ภาพนี้โจถ่ายไว้นานแล้ว นั่นหมายความว่าปัจจุบันสภาพจะยิ่งกว่า
    ที่แฟนเพจเห็นในภาพนะครับ
    จากปัจจัยเหล่านี้
    1. ครอบครัวในวัยเด็กไม่ค่อยอบอุ่น และมีความชิงชังชายฝังลึก เพราะโตมาแบบไม่มีพ่อ เป็นปมในใจ มีความอิจทุกครั้งที่เห็นเด็กคนอื่นมีพ่อ
    2. ทำตัวสร้างปัญหา ด้วยการไม่ตั้งใจเล่าเรียนให้จบแม้กระทั่งม.ปลาย
    3. เนระคุณพ่อเลี้ยง นอกจากเสียเงินส่งคววายเรียน ไม่จบม.ปลาย ก็ยังอุตส่าห์กัดฟัน พาไปเรียนพาณิชย์ แต่ก็ไม่เอาอ่าว
    4. นางมีแฟนนะ แต่นางปิดเพื่อนๆทุกคน จนวันที่ผัวเท เพื่อนๆก็ยังไม่เคยเห็นหน้าว่าผลัววนางคือคนไหน
    5. เห็นหน้าเหี่ยวๆแบบนี้ กามใหญ่ๆแบบนี้ สมัยสาวๆก็ถือว่า พอใช้ได้ พูดเก่งแต่ไม่รู้จริงซักเรื่อง สมัยมีคนพลาดพาบินไปถ่ายรายการตปท. ปรากฏ ทุกคนรู้สึกนางแปลกๆ อยู่ดีๆก็หัวเราะ เหมือนมีอาการหลุดตั้งแต่สมัยนางสาวๆ เพื่อนในวงการจึงแทบไม่มีใครคบ ทุกวันนี้ถึงหาพวกกากๆมาเป็นเพื่อน
    6. นางเฉบติดดราม่า นางป๋วยจิต และอาการเหล่านี้ ทางการผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ที่พี่คิงส์ไปสอบถามข้อมูล เค้ายืนยันว่าไม่มีทางที่จะดีขึ้น มีแค่ใช้Yaในการบรรเทา และยิ่งเอาตัวเองไปหมกมุ่นกับเรื่องดราม่าบ่อยๆ ถี่ๆ มันจะยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ โดยภายนอก อาจสังเกตุไม่ชัด แต่ถ้าสังเกตุหลังการพูดคุย จะเห็นชัดเจนว่า เริ่มมีการพูดในลักษณะไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง เช่น การเคารพ การรัก การเทิดทูนคนใดแบบที่เหนือกว่าความเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา การจินตนาการว่า คนอายุสามสิบกว่า ผ่านชีวิตแบบโชกโชน ลำยอง ซกมก คือเทพีที่งดงามราวเทพธิดาจุติ คนอาการนี้ คิดได้ แต่ที่หนักกว่าคือคนธรรมดาที่ฟังแล้วเชื่อ ต้องรีบไปเช็คละเอียดด่วนว่า ท่านได้รับการบ่มเพาะทางจิตให้กลายเป็นแบบเดียวกับที่โจเป็นหรือไม่ สังเกตุว่า ใน 24 ชม. คุณนึกถึงกามิน นึกถึงโจ กี่เปอร์เซ็น คุณนึกถึงครอบครัวที่แท้จริง งานของคุณ และชีวิตส่วนตัวของคุณ กี่เปอร์เซ็น ถ้าคุณพบว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่เวลาไหนของกิจวัตร คุณก็รู้สึกว่า เรื่องกามิน เป็นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นของความใส่ใจทั้งหมด พี่คิงส์แนะเลยนะครับ ต้องไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านจิตด่วน ก่อนที่จะถลำเกินแก้ เพราะช่วงแรกๆ ยังแก้ได้นะครับ เหมือนเป็นลักษณะโรรคจิตแบบเสมือน แต่อย่างโจมณฑนี มันมาจากสมองแล้วส่งผลไปถึงภาวะจิต แต่ถ้าคุณเฉบติดดราม่าแบบที่โจกล่อมทุกวัน ตลอด มันจะเกิดเคมีในสมองที่จะทำให้คนจม ดิ่ง และมูฟออนไม่ได้ตลอดไป อันนี้พี่คิงส์ห่วงจริงนะครับ
    7. จากโหงวเฮ้งของโจ คิ้วที่ห่าง บ่งบอกถึงสติ ปัญญา จึงไม่แปลก ที่ไม่ว่าโจมณฑนี จะพยายามทำธุรกิจอะไร ก็ไม่พบว่าประสบความสำเร็จ เรื่องนี้โจเป็นคนพูดด้วยตัวเอง เพราะโจขาดความรู้ในระบบ ไม่ได้จบการเงิน ไม่ได้จบเศรษฐศาสตร์ ไม่ได้จบ บัญชี แต่อาศัยการจำจากคนอื่นมาพูด ซึ่งอาจจะตบตาคนที่ไอคิว ค่อนข้างเตี้ยๆได้ แต่ถ้าคนที่มีความรู้จริงๆ จะจับได้ว่า โจ กับข้อมูลที่เอามาพูด ไม่ว่าเรื่องการเงิน หรือเรื่องวิชาการใดๆ ไม่ได้มีความลึกซึ้ง และขาดการปะติดปะต่อกับหลักการพื้นฐานในเรื่องนั้นๆ
    8. โจ ปัจจุบัน อายุก็ไม่น้อยแล้ว แต่สังเกตุมั๊ย เรื่องของ ตต. จริงๆ เป็นเรื่องของวัยรุ่น ของรุ่นน้องๆเค้ามาสนุกกัน กามิน ชาลี วัยยังพอได้ ที่เราได้ดูสองคนในโลกตต แต่คนที่มีอายุส่วนใหญ่ เค้าก็เป็นคนดู ความน่ารักอะไรก็ว่าไป แต่โจ กระโดดเข้าไปเต็มตัว แบบคลั่ง ถ้าแฟนคลับฝั่งกามินตัดอคติกับพี่คิงส์ไปนะ แล้วลองนึกให้ดีว่า คนวัยอย่างโจ มาเวิ่นอะไรในโลกตต. แล้วโจ ไม่มีครอบครัวเหรอ ไม่มีสถาบันครอบครัวเหมือนแฟนคลับของเค้าเหรอ ไม่มีภาระหน้าที่่ที่ต้องไปทำเหรอ แต่กลับหมกมุ่น อยู่กับการท้าทายเพจคิงส์ และพอโดนจัดการ ก็ไปทำเป็นหมาเศร้าเล่าไปเรื่อยเฉบติดดราม่าให้ฉ่ำในเพจตัวเอง แล้วรุ่นน้องๆก็ไม่รู้ประสา เอาข้อความจากคนอย่างโจ ไปทำภาพอินโฟไปโพสในตต.อีก น้องๆรู้มั๊ย อิโจ มันป๋วยจิตขั้นแรงนะ
    ถึงโจนะ
    หน้าของโจ มันบอกถึงสภาวะจิตและสมอง ตอนนี้ มันไม่ดีแล้วนะโจ มันเบี้ยว ไม่สมดุลไปทั้งหน้าแล้ว ตาก็เริ่มไม่เท่ากัน ถ้าโจไม่ถอย กลับมาโลกแห่งความเป็นจริง โจจะพูดกับใครไม่รู้เรื่องในเวลาอันใกล้นี้
    ทุกอย่าง มันจะพังเพราะโจจริงๆ
    ถ้าโจไม่ท้าทายเพจคิงส์ฯ ป่านนี้ คนไทยหรือทุยไทยก็ยังไม่รู้หรอก
    ว่าโจ ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ โจก็ยังต้มทุยได้อีกเยอะ
    โรงเรียนทิพย์ หลักสูตรมโน ก็ยังต้มทุยได้อีกมาก
    แต่เมื่อโจท้าทายเพจคิงส์ฯ โจถึงต้องตกอยู่ในสภาพนี้
    อย่าโทษใคร โจ ต้องโทษตัวโจเอง
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    #อุรณสวัสดิ์แฟนเพจคิงส์โพธิ์แดง วันนี้พี่คิงส์จะวิเคราะห์อาการของโจมณฑนี ภาพนี้โจถ่ายไว้นานแล้ว นั่นหมายความว่าปัจจุบันสภาพจะยิ่งกว่า ที่แฟนเพจเห็นในภาพนะครับ จากปัจจัยเหล่านี้ 1. ครอบครัวในวัยเด็กไม่ค่อยอบอุ่น และมีความชิงชังชายฝังลึก เพราะโตมาแบบไม่มีพ่อ เป็นปมในใจ มีความอิจทุกครั้งที่เห็นเด็กคนอื่นมีพ่อ 2. ทำตัวสร้างปัญหา ด้วยการไม่ตั้งใจเล่าเรียนให้จบแม้กระทั่งม.ปลาย 3. เนระคุณพ่อเลี้ยง นอกจากเสียเงินส่งคววายเรียน ไม่จบม.ปลาย ก็ยังอุตส่าห์กัดฟัน พาไปเรียนพาณิชย์ แต่ก็ไม่เอาอ่าว 4. นางมีแฟนนะ แต่นางปิดเพื่อนๆทุกคน จนวันที่ผัวเท เพื่อนๆก็ยังไม่เคยเห็นหน้าว่าผลัววนางคือคนไหน 5. เห็นหน้าเหี่ยวๆแบบนี้ กามใหญ่ๆแบบนี้ สมัยสาวๆก็ถือว่า พอใช้ได้ พูดเก่งแต่ไม่รู้จริงซักเรื่อง สมัยมีคนพลาดพาบินไปถ่ายรายการตปท. ปรากฏ ทุกคนรู้สึกนางแปลกๆ อยู่ดีๆก็หัวเราะ เหมือนมีอาการหลุดตั้งแต่สมัยนางสาวๆ เพื่อนในวงการจึงแทบไม่มีใครคบ ทุกวันนี้ถึงหาพวกกากๆมาเป็นเพื่อน 6. นางเฉบติดดราม่า นางป๋วยจิต และอาการเหล่านี้ ทางการผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ที่พี่คิงส์ไปสอบถามข้อมูล เค้ายืนยันว่าไม่มีทางที่จะดีขึ้น มีแค่ใช้Yaในการบรรเทา และยิ่งเอาตัวเองไปหมกมุ่นกับเรื่องดราม่าบ่อยๆ ถี่ๆ มันจะยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ โดยภายนอก อาจสังเกตุไม่ชัด แต่ถ้าสังเกตุหลังการพูดคุย จะเห็นชัดเจนว่า เริ่มมีการพูดในลักษณะไม่ได้อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง เช่น การเคารพ การรัก การเทิดทูนคนใดแบบที่เหนือกว่าความเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดา การจินตนาการว่า คนอายุสามสิบกว่า ผ่านชีวิตแบบโชกโชน ลำยอง ซกมก คือเทพีที่งดงามราวเทพธิดาจุติ คนอาการนี้ คิดได้ แต่ที่หนักกว่าคือคนธรรมดาที่ฟังแล้วเชื่อ ต้องรีบไปเช็คละเอียดด่วนว่า ท่านได้รับการบ่มเพาะทางจิตให้กลายเป็นแบบเดียวกับที่โจเป็นหรือไม่ สังเกตุว่า ใน 24 ชม. คุณนึกถึงกามิน นึกถึงโจ กี่เปอร์เซ็น คุณนึกถึงครอบครัวที่แท้จริง งานของคุณ และชีวิตส่วนตัวของคุณ กี่เปอร์เซ็น ถ้าคุณพบว่า ไม่ว่าคุณจะอยู่เวลาไหนของกิจวัตร คุณก็รู้สึกว่า เรื่องกามิน เป็นมากกว่า 50 เปอร์เซ็นของความใส่ใจทั้งหมด พี่คิงส์แนะเลยนะครับ ต้องไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านจิตด่วน ก่อนที่จะถลำเกินแก้ เพราะช่วงแรกๆ ยังแก้ได้นะครับ เหมือนเป็นลักษณะโรรคจิตแบบเสมือน แต่อย่างโจมณฑนี มันมาจากสมองแล้วส่งผลไปถึงภาวะจิต แต่ถ้าคุณเฉบติดดราม่าแบบที่โจกล่อมทุกวัน ตลอด มันจะเกิดเคมีในสมองที่จะทำให้คนจม ดิ่ง และมูฟออนไม่ได้ตลอดไป อันนี้พี่คิงส์ห่วงจริงนะครับ 7. จากโหงวเฮ้งของโจ คิ้วที่ห่าง บ่งบอกถึงสติ ปัญญา จึงไม่แปลก ที่ไม่ว่าโจมณฑนี จะพยายามทำธุรกิจอะไร ก็ไม่พบว่าประสบความสำเร็จ เรื่องนี้โจเป็นคนพูดด้วยตัวเอง เพราะโจขาดความรู้ในระบบ ไม่ได้จบการเงิน ไม่ได้จบเศรษฐศาสตร์ ไม่ได้จบ บัญชี แต่อาศัยการจำจากคนอื่นมาพูด ซึ่งอาจจะตบตาคนที่ไอคิว ค่อนข้างเตี้ยๆได้ แต่ถ้าคนที่มีความรู้จริงๆ จะจับได้ว่า โจ กับข้อมูลที่เอามาพูด ไม่ว่าเรื่องการเงิน หรือเรื่องวิชาการใดๆ ไม่ได้มีความลึกซึ้ง และขาดการปะติดปะต่อกับหลักการพื้นฐานในเรื่องนั้นๆ 8. โจ ปัจจุบัน อายุก็ไม่น้อยแล้ว แต่สังเกตุมั๊ย เรื่องของ ตต. จริงๆ เป็นเรื่องของวัยรุ่น ของรุ่นน้องๆเค้ามาสนุกกัน กามิน ชาลี วัยยังพอได้ ที่เราได้ดูสองคนในโลกตต แต่คนที่มีอายุส่วนใหญ่ เค้าก็เป็นคนดู ความน่ารักอะไรก็ว่าไป แต่โจ กระโดดเข้าไปเต็มตัว แบบคลั่ง ถ้าแฟนคลับฝั่งกามินตัดอคติกับพี่คิงส์ไปนะ แล้วลองนึกให้ดีว่า คนวัยอย่างโจ มาเวิ่นอะไรในโลกตต. แล้วโจ ไม่มีครอบครัวเหรอ ไม่มีสถาบันครอบครัวเหมือนแฟนคลับของเค้าเหรอ ไม่มีภาระหน้าที่่ที่ต้องไปทำเหรอ แต่กลับหมกมุ่น อยู่กับการท้าทายเพจคิงส์ และพอโดนจัดการ ก็ไปทำเป็นหมาเศร้าเล่าไปเรื่อยเฉบติดดราม่าให้ฉ่ำในเพจตัวเอง แล้วรุ่นน้องๆก็ไม่รู้ประสา เอาข้อความจากคนอย่างโจ ไปทำภาพอินโฟไปโพสในตต.อีก น้องๆรู้มั๊ย อิโจ มันป๋วยจิตขั้นแรงนะ ถึงโจนะ หน้าของโจ มันบอกถึงสภาวะจิตและสมอง ตอนนี้ มันไม่ดีแล้วนะโจ มันเบี้ยว ไม่สมดุลไปทั้งหน้าแล้ว ตาก็เริ่มไม่เท่ากัน ถ้าโจไม่ถอย กลับมาโลกแห่งความเป็นจริง โจจะพูดกับใครไม่รู้เรื่องในเวลาอันใกล้นี้ ทุกอย่าง มันจะพังเพราะโจจริงๆ ถ้าโจไม่ท้าทายเพจคิงส์ฯ ป่านนี้ คนไทยหรือทุยไทยก็ยังไม่รู้หรอก ว่าโจ ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญ โจก็ยังต้มทุยได้อีกเยอะ โรงเรียนทิพย์ หลักสูตรมโน ก็ยังต้มทุยได้อีกมาก แต่เมื่อโจท้าทายเพจคิงส์ฯ โจถึงต้องตกอยู่ในสภาพนี้ อย่าโทษใคร โจ ต้องโทษตัวโจเอง #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดง -สำรอง 2
    Like
    Wow
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1328 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts