• นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง”

    ตอนที่ 3 Emperor Bush !?

    George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ

    เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย
    นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม

    นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย

    Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ

    และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด
    คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO

    ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า !

    เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด

    คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง!

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 มิย. 2557
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หักหน้า หักหลัง” ตอนที่ 3 Emperor Bush !? George Herbert Walker Bush เป็นพวกคนรวย มาจากครอบครัวที่ทำมาหากินแถว New England ซึ่งเคยค้าขายกับอาณาจักร Reich ของ Hitler มาแล้ว และมาคบและค้า น้ำมันกับตระกูล Rockefeller เขาบอกกับคนสนิทว่า “เราชนะแล้ว” เหมือนเวลาแข่งขัน Super Bowl แล้วทีมที่ตัวเชียร์ชนะนั่นแหละ ชนะแบบนั้น ฮึกเหิมแบบนั้น มันรู้สึกว่ายิ่งใหญ่เหลือประมาณ ขนาดมีคนตั้งข้อสังเกตว่า ประธานาธิบดีอเมริกา ในยุค 1990 โดยเฉพาะนาย Bush คนนี้ เวลาจะเดินทางไปต่างประเทศ ขบวนใหญ่โตเหมือนองค์จักรพรรดิเสด็จ ฝ่ายความมั่นคงที่ยกทีมไปคุ้มกัน ดูเหมือนจะมากกว่าพลเมืองของประเทศที่ นาย Bush ไปปรากฎตัวเยี่ยมเสียอีก อเมริกากำลังฉาบตัวเองให้มีภาพเป็น ผู้ครองโลก ไม่ต่างกับสมัยนโปเลียน ตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิ โอ้โห ! เล่นกันเองแรงเหมือนกันนะพวกนักล่า สมันน้อยคิดในใจ เปล่าหรอก คนที่พูดไม่ใช่ใครอื่น เจ้าของหัวสมองที่อเมริกาบอกยอด แสนรู้ นาย Zbigniew Brzezinski เจ้าเก่านั่นเอง เขาไม่ได้พูดในฐานะคนนอก แต่พูดในฐานะคนใน และไม่ใช่ในธรรมดา แต่ในฐานะนายท้ายเรืออเมริกา ชื่อเขาไม่เคยหลุดจากการเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีมาเลย ไล่มาตั้งแต่สมัยแรกคือนาย Jimmy Carter จนเดี๋ยวนี้อายุ 90 แล้ว ยังเป็นที่ปรึกษาให้นาย Obama ด้วย นาย Brzezinski เป็นลูกศิษย์เอกของครูใหญ่ด้าน ภูมิศาสตร์การเมืองชาวอังกฤษ คือ Sir Halford Mackinder ซึ่งบอกว่าการแสดงความกร่างของการเป็นจักรวรรดิ มันก็คือบทสุดท้ายของการเป็นจักรวรรดิ ความกร่างนั่นแหละที่ทำให้จักรภพอังกฤษ ถึงจุดจบในศตรรษที่ 19 เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 เริ่ม นาย Brzezinski ยังบอกอีกว่า ไอ้ความอวดดี กดขี่และความกร่างของวอชิงตัน ในศตวรรษต่อมานี่แหละ จะทำลายอเมริกาเอง จากการที่เป็นผู้มีอำนาจใหญ่สุดหนึ่งเดียว หรือการเป็นจักรวรรดิอเมริกา แต่นาย Brzezinski นั่นเองแหละ ที่เป็นคนติดเครื่องให้อเมริกาเป็นจักรวรรดิ นักล่าหมายเลขหนึ่งครองโลก แต่เขาเตือนว่าอเมริกาจะต้องระมัดระวัง แม้ว่าจะเอาเสื้อคลุมประชาธิปไตยมาพรางตัวเองแล้วก็ตาม ก็จะต้องรักษามิตรเพื่องานใหญ่ข้างหน้า งานใหญ่นี้คือ การควบคุม Eurasia เขาไม่ได้โต้แย้งการจะเป็นจักรวรรดิอเมริกา เขาเพียงแต่เห็นต่างในวิธีการจะไปให้ถึงจุดหมาย Brzezinski บอกว่าเราจะไปให้ถึงจุดหมายของการเป็นจักรวรรดิอเมริกา เราต้องมีกองทัพของอเมริกาอยู่ที่ทั่วโลก วางกองกำลังไว้ทุกทวีป ครอบคลุมทุกมหาสมุทร เพิ่มการปะทะหรือการต่อสู้ในทุกที่ แบบนี้จะมีใครมาเทียบรัศมีกับอเมริกาได้ ไม่ว่าในทางการเมืองหรือกองทัพ และที่อเมริกาวางกองกำลังไว้แห่งหนึ่งก็คือ บริเวณพื้นที่ผืนเล็ก ๆ อยู่ในเอเซียกลาง ซึ่งเคยเป็นของสหภาพโซเวียต ที่ชื่อ Republic of Georgia นั่นแหละ ตั้งแต่ประมาณปี ค.ศ. 2003 เป็นต้นมา รัฐบาลอเมริกัน โดยคุณพ่อ Bush ได้ให้การสนับสนุนด้านกองกำลังแก่ Georgia รวมทั้งให้คำปรึกษา เป็นพี่เลี้ยง ให้กับรัฐเล็กๆ ที่ได้ประกาศตัวเป็นอิสระจากสหภาพโซเวียต ในปี 1990 มาตลอด คงจะเป็นการยาก ที่จะให้ใครเข้าใจเหตุการณ์ใน Georgia ในปี ค.ศ. 2008 ถ้าไม่ย้อนไปดูพฤติกรรมของอเม ริกา หลัง ค.ศ. 1990 เป็นต้นมา สมัยรัฐบาลคุณพ่อ Bush เขาหักหลังรัสเซียโดยให้ NATO ขยายตัวมาทางตะวันออก มาถึงคุณลูก Bush ก็มาสานต่อด้วยการกดดันสหภาพยุโรปและรัฐบาลของยุโรปตะวันตก ให้รับ Georgia และ Ukraine สองประเทศที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพ โซเวียตเข้าไปอยู่ในอ้อมอกของ NATO ต้นปี ค.ศ. 2007 อเมริกาประกาศว่า อเมริกามีแผนที่จะสร้างฐานยิงจรวด และสถานีเรดาร์ ใน 2 ประเทศที่เคยอยู่ใน Warsaw Pact และบัดนี้เป็นสมาชิกของ NATO คือ Poland และ Czech นาย Bush อ้างว่าอเมริกาต้องทำเพื่อป้องกันตัวเอง จากการโจมตีของประเทศที่พูดกันไม่รู้เรื่องเช่น Iran ข้ออ้างนี้ ถูกรัสเซียสวนกลับว่าไม่ใช่เป็นการป้องกันตัวหรอกเพื่อน แต่เป็นการแสดงการรุกคืบ เพื่อโชว์กำลังอำนาจด้านการทหารให้ Moscow ดูมากกว่า ! เดือน ก.พ. 2007 คุณพี่ปูติน ในฐานะประธานาธิบดีของรัสเซีย ได้พูดในที่ประชุมเกี่ยวกับความมั่นคงระหว่างประเทศที่ Munich Germany ว่า วันนี้ไม่ขอพูดภาษานักการฑูต แต่ขอถามกันตรง ๆ ว่าNATO ตั้งใจจะก่อความยั่วยุ ให้เกิดความไม่ไว้วางใจกัน ระหว่างสมาชิกหรือยังไง ถามจริง ๆ เถอะ เป้าหมาย (ของการยั่วยุของ) NATO อยู่ที่ใคร และคำมั่นของบรรดาคู่สัญญาฝ่ายตะวันตก หลังเลิก Warsaw Pact นั้น มันหายไปไหนหมด คุณพี่ปูตินอาจจะไม่ใช่ประเภท “nice guy” แต่ที่แน่นอน คุณพี่ปูไม่ใช่คนโง่และขี้ขลาด เมื่อถึงเวลาที่จะต้องปกป้องผลประโยชน์ของชาวรัสเซีย กลิ่นของสงครามเย็นเริ่มโชยอีกครั้ง! สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 มิย. 2557
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • “คิดช้าไม่ใช่ข้อเสีย — เมื่อการประมวลผลช้ากลายเป็นจุดแข็งของนักวิทยาศาสตร์สายลึก”

    บทความจาก Casual Physics Enjoyer ได้เปิดเผยมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “คนคิดช้า” หรือผู้ที่มี processing time ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย โดยผู้เขียนซึ่งเป็นนักวิจัยสายฟิสิกส์เชิงทฤษฎี ยอมรับว่าเขาไม่ใช่คนหัวไว ไม่เก่งตอบคำถามเร็ว ไม่คล่องแคล่วในบทสนทนา และมักรู้สึกด้อยเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนคิดเร็ว เช่น ห้องแล็บหรือวงสนทนาในงานวิจัย

    แต่แทนที่จะพยายามเปลี่ยนตัวเองให้คิดเร็วขึ้น เขาเลือกที่จะ “โอบรับ” สไตล์การคิดของตัวเอง และพบว่ามันมีข้อดีที่ไม่คาดคิด เช่น การคิดเชิงกลยุทธ์ การทำงานที่ต้องใช้ความอดทน และการเขียนที่ต้องใช้เวลาเรียบเรียงอย่างละเอียด ซึ่งเหมาะกับงานวิจัยระยะยาวและการพัฒนาไอเดียที่ซับซ้อน

    เขายกตัวอย่างจากชีวิตจริง เช่น การเล่นวอลเลย์บอลที่ต้องตัดสินใจเร็วซึ่งเขาทำได้ไม่ดี หรือการสอบสัมภาษณ์ที่ต้องตอบคำถามเร็ว ๆ ซึ่งเขาต้องฝึกหนักล่วงหน้าเพื่อให้ผ่านได้ แต่เมื่อกลับสู่สภาวะปกติ เขาก็กลับไปเป็นคนคิดช้าเหมือนเดิม

    สิ่งที่เปลี่ยนความคิดของเขาคือการสังเกตว่า คนคิดเร็วและคนคิดช้าในแวดวงเดียวกันมีระดับความสำเร็จใกล้เคียงกัน และคนคิดช้ามักมี “กลไกชดเชย” เช่น การวางแผนล่วงหน้า การเขียนเพื่อสื่อสารแทนการพูด และการใช้เวลาไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง ซึ่งกลายเป็นจุดแข็งในงานวิจัยที่ต้องการความละเอียดและความอดทน

    เขายังอ้างถึง Katalin Karikó ผู้พัฒนา mRNA vaccine ว่าเป็นตัวอย่างของนักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ความคิดแบบช้าและเป็นระบบในการทำงาน และพบว่าการคิดช้าอาจเหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำมากกว่าความเร็ว

    ข้อมูลสำคัญจากบทความ
    ผู้เขียนยอมรับว่าตนมี processing time ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย — ไม่ใช่คนหัวไว
    เคยรู้สึกด้อยเมื่ออยู่ในแวดวงที่เต็มไปด้วยคนคิดเร็ว เช่น ห้องแล็บหรือวงวิจัย
    เลือกโอบรับสไตล์การคิดของตัวเองแทนการฝืนเปลี่ยน
    พบว่าการคิดช้าเหมาะกับงานที่ต้องใช้ความอดทน เช่น วิจัย ฟิสิกส์ทฤษฎี และการเขียน

    ตัวอย่างการชดเชยและข้อดีของการคิดช้า
    ใช้การเขียนแทนการพูดเพื่อสื่อสารความคิดอย่างมีโครงสร้าง
    ใช้เวลาไตร่ตรองไอเดียอย่างลึกซึ้ง — เหมาะกับงานวิจัยระยะยาว
    เลือกงานที่ไม่ต้องตัดสินใจเร็ว เช่น ปั่นจักรยาน วิ่ง หรือทำงานเดี่ยว
    สังเกตว่าคนคิดช้าและคนคิดเร็วมีระดับความสำเร็จใกล้เคียงกัน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    งานวิจัยจาก Caltech พบว่ามนุษย์ประมวลผลข้อมูลได้เพียง 10 bits/วินาที — ช้ากว่าที่คิดมาก
    สมองมี “คอขวด” ทางการประมวลผล แม้รับข้อมูลจากตาและหูได้มหาศาล
    การคิดช้าอาจเป็นผลจากวิวัฒนาการที่เน้นความแม่นยำมากกว่าความเร็ว
    การทำงานแบบ deep work และการเขียนเชิงวิเคราะห์เหมาะกับคนคิดช้า

    https://chillphysicsenjoyer.substack.com/p/youre-a-slow-thinker-now-what
    🐢 “คิดช้าไม่ใช่ข้อเสีย — เมื่อการประมวลผลช้ากลายเป็นจุดแข็งของนักวิทยาศาสตร์สายลึก” บทความจาก Casual Physics Enjoyer ได้เปิดเผยมุมมองที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “คนคิดช้า” หรือผู้ที่มี processing time ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย โดยผู้เขียนซึ่งเป็นนักวิจัยสายฟิสิกส์เชิงทฤษฎี ยอมรับว่าเขาไม่ใช่คนหัวไว ไม่เก่งตอบคำถามเร็ว ไม่คล่องแคล่วในบทสนทนา และมักรู้สึกด้อยเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยคนคิดเร็ว เช่น ห้องแล็บหรือวงสนทนาในงานวิจัย แต่แทนที่จะพยายามเปลี่ยนตัวเองให้คิดเร็วขึ้น เขาเลือกที่จะ “โอบรับ” สไตล์การคิดของตัวเอง และพบว่ามันมีข้อดีที่ไม่คาดคิด เช่น การคิดเชิงกลยุทธ์ การทำงานที่ต้องใช้ความอดทน และการเขียนที่ต้องใช้เวลาเรียบเรียงอย่างละเอียด ซึ่งเหมาะกับงานวิจัยระยะยาวและการพัฒนาไอเดียที่ซับซ้อน เขายกตัวอย่างจากชีวิตจริง เช่น การเล่นวอลเลย์บอลที่ต้องตัดสินใจเร็วซึ่งเขาทำได้ไม่ดี หรือการสอบสัมภาษณ์ที่ต้องตอบคำถามเร็ว ๆ ซึ่งเขาต้องฝึกหนักล่วงหน้าเพื่อให้ผ่านได้ แต่เมื่อกลับสู่สภาวะปกติ เขาก็กลับไปเป็นคนคิดช้าเหมือนเดิม สิ่งที่เปลี่ยนความคิดของเขาคือการสังเกตว่า คนคิดเร็วและคนคิดช้าในแวดวงเดียวกันมีระดับความสำเร็จใกล้เคียงกัน และคนคิดช้ามักมี “กลไกชดเชย” เช่น การวางแผนล่วงหน้า การเขียนเพื่อสื่อสารแทนการพูด และการใช้เวลาไตร่ตรองอย่างลึกซึ้ง ซึ่งกลายเป็นจุดแข็งในงานวิจัยที่ต้องการความละเอียดและความอดทน เขายังอ้างถึง Katalin Karikó ผู้พัฒนา mRNA vaccine ว่าเป็นตัวอย่างของนักวิทยาศาสตร์ที่ใช้ความคิดแบบช้าและเป็นระบบในการทำงาน และพบว่าการคิดช้าอาจเหมาะกับงานที่ต้องการความแม่นยำมากกว่าความเร็ว ✅ ข้อมูลสำคัญจากบทความ ➡️ ผู้เขียนยอมรับว่าตนมี processing time ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย — ไม่ใช่คนหัวไว ➡️ เคยรู้สึกด้อยเมื่ออยู่ในแวดวงที่เต็มไปด้วยคนคิดเร็ว เช่น ห้องแล็บหรือวงวิจัย ➡️ เลือกโอบรับสไตล์การคิดของตัวเองแทนการฝืนเปลี่ยน ➡️ พบว่าการคิดช้าเหมาะกับงานที่ต้องใช้ความอดทน เช่น วิจัย ฟิสิกส์ทฤษฎี และการเขียน ✅ ตัวอย่างการชดเชยและข้อดีของการคิดช้า ➡️ ใช้การเขียนแทนการพูดเพื่อสื่อสารความคิดอย่างมีโครงสร้าง ➡️ ใช้เวลาไตร่ตรองไอเดียอย่างลึกซึ้ง — เหมาะกับงานวิจัยระยะยาว ➡️ เลือกงานที่ไม่ต้องตัดสินใจเร็ว เช่น ปั่นจักรยาน วิ่ง หรือทำงานเดี่ยว ➡️ สังเกตว่าคนคิดช้าและคนคิดเร็วมีระดับความสำเร็จใกล้เคียงกัน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ งานวิจัยจาก Caltech พบว่ามนุษย์ประมวลผลข้อมูลได้เพียง 10 bits/วินาที — ช้ากว่าที่คิดมาก ➡️ สมองมี “คอขวด” ทางการประมวลผล แม้รับข้อมูลจากตาและหูได้มหาศาล ➡️ การคิดช้าอาจเป็นผลจากวิวัฒนาการที่เน้นความแม่นยำมากกว่าความเร็ว ➡️ การทำงานแบบ deep work และการเขียนเชิงวิเคราะห์เหมาะกับคนคิดช้า https://chillphysicsenjoyer.substack.com/p/youre-a-slow-thinker-now-what
    CHILLPHYSICSENJOYER.SUBSTACK.COM
    You're a Slow Thinker. Now what?
    Figuring out how to lean in to my thinking style
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • “คิดลบซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น — งานวิจัยจากจีนชี้ชัด ความเครียดทางใจส่งผลต่อความจำและการตัดสินใจในผู้สูงอายุ”

    ในยุคที่ผู้สูงอายุเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและสังคม งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแพทย์จีนแห่งหูเป่ย (Hubei University of Chinese Medicine) ได้เปิดเผยความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่าง “การคิดลบซ้ำ ๆ” หรือ Repetitive Negative Thinking (RNT) กับการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางปัญญาในผู้สูงอายุ

    การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 424 คน อายุ 60 ปีขึ้นไปในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้แบบสอบถาม Perseverative Thinking Questionnaire (PTQ) เพื่อวัดระดับการคิดลบ และใช้แบบทดสอบ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) เพื่อประเมินความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจ

    ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่มีคะแนน RNT สูง (กลุ่ม Q3 และ Q4) มีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะควบคุมปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ การศึกษา และโรคประจำตัวแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ความสัมพันธ์นี้ยิ่งชัดเจน

    นักวิจัยอธิบายว่า การคิดลบซ้ำ ๆ เช่น การกังวลเรื่องอนาคต หรือการครุ่นคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด จะกระตุ้นระบบความเครียดในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์

    นอกจากนี้ยังมีแนวคิด “หนี้สมอง” (Cognitive Debt) ที่อธิบายว่า การใช้ทรัพยากรสมองไปกับความคิดลบอย่างต่อเนื่อง จะลดความสามารถในการจดจำและตัดสินใจในระยะยาว

    ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย
    ศึกษาในผู้สูงอายุ 424 คนในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
    ใช้แบบสอบถาม PTQ วัดระดับการคิดลบ และ MoCA วัดความสามารถทางสมอง
    ผู้ที่มี RNT สูงมีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำ
    ความสัมพันธ์ชัดเจนในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป

    กลไกที่อธิบายผลกระทบ
    การคิดลบซ้ำ ๆ กระตุ้นระบบความเครียด ทำให้คอร์ติซอลสูงขึ้น
    เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมโปรตีนอะไมลอยด์และเทา
    แนวคิด “หนี้สมอง” อธิบายว่าความคิดลบใช้ทรัพยากรสมองจนหมด
    ส่งผลต่อความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจในระยะยาว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    งานวิจัยจาก UCL พบว่า RNT เชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะ 4 ปี
    RNT เป็นอาการร่วมในโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคนอนไม่หลับ
    การลด RNT ด้วย CBT, mindfulness และกิจกรรมทางสังคมช่วยป้องกันสมองเสื่อม
    การตรวจสอบ RNT ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุ

    https://bmcpsychiatry.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12888-025-06815-2
    🧠 “คิดลบซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น — งานวิจัยจากจีนชี้ชัด ความเครียดทางใจส่งผลต่อความจำและการตัดสินใจในผู้สูงอายุ” ในยุคที่ผู้สูงอายุเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและสังคม งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแพทย์จีนแห่งหูเป่ย (Hubei University of Chinese Medicine) ได้เปิดเผยความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่าง “การคิดลบซ้ำ ๆ” หรือ Repetitive Negative Thinking (RNT) กับการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางปัญญาในผู้สูงอายุ การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 424 คน อายุ 60 ปีขึ้นไปในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้แบบสอบถาม Perseverative Thinking Questionnaire (PTQ) เพื่อวัดระดับการคิดลบ และใช้แบบทดสอบ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) เพื่อประเมินความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจ ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่มีคะแนน RNT สูง (กลุ่ม Q3 และ Q4) มีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะควบคุมปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ การศึกษา และโรคประจำตัวแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ความสัมพันธ์นี้ยิ่งชัดเจน นักวิจัยอธิบายว่า การคิดลบซ้ำ ๆ เช่น การกังวลเรื่องอนาคต หรือการครุ่นคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด จะกระตุ้นระบบความเครียดในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ยังมีแนวคิด “หนี้สมอง” (Cognitive Debt) ที่อธิบายว่า การใช้ทรัพยากรสมองไปกับความคิดลบอย่างต่อเนื่อง จะลดความสามารถในการจดจำและตัดสินใจในระยะยาว ✅ ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย ➡️ ศึกษาในผู้สูงอายุ 424 คนในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ➡️ ใช้แบบสอบถาม PTQ วัดระดับการคิดลบ และ MoCA วัดความสามารถทางสมอง ➡️ ผู้ที่มี RNT สูงมีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำ ➡️ ความสัมพันธ์ชัดเจนในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ✅ กลไกที่อธิบายผลกระทบ ➡️ การคิดลบซ้ำ ๆ กระตุ้นระบบความเครียด ทำให้คอร์ติซอลสูงขึ้น ➡️ เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ➡️ แนวคิด “หนี้สมอง” อธิบายว่าความคิดลบใช้ทรัพยากรสมองจนหมด ➡️ ส่งผลต่อความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจในระยะยาว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ งานวิจัยจาก UCL พบว่า RNT เชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะ 4 ปี ➡️ RNT เป็นอาการร่วมในโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคนอนไม่หลับ ➡️ การลด RNT ด้วย CBT, mindfulness และกิจกรรมทางสังคมช่วยป้องกันสมองเสื่อม ➡️ การตรวจสอบ RNT ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุ https://bmcpsychiatry.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12888-025-06815-2
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • คนไทยเราจริงๆระดับมันสมองไม่แพ้ใครในโลกนะ,เอาง่ายๆ มวยไทย กับกังฟูจีนที่อวดโชว์ไทยว่าสุดยอดเหนือการต่อสู้คนไทย เอาเข้าจริงแบบไม่หักแม่ไม้อาวุธเข่าศอกเราออก แบบจัดเต็มเหมือนกังฟู ,จีนก็จีนเถอะหลับตั้งแต่ยกแรกกันเลย, ศักยภาพคนไทยจึงไม่ธรรมดานะ,แต่นักการเมืองเราชั่ว ข้าราชการเราเลวมีมากเกินไป ไปนั่งในตำแหน่งหัวหน้ามากเกินไปจึงชั่วเลวเป็นอันมากซวยคือการพัฒนาการบุคคลในชาติเราเสื่อมถอยลง,เช่นมีบ่อน้ำมันเต็มประเทศก็ไปยกให้อเมริกาให้ฝรั่งให้ต่างชาติมากมายเสีย ,ทำเองขายเองลงทุนเอง ค่อยๆทำค่อยๆสร้าง จ้างบริษัทต่างชาติอื่นมาทำให้ เนื้อปิโตรเลียมก็เป็นของไทย ขายเอง จ่ายค่าจ้างไปเหลือเก็บกว่าสิบล้านล้านบาทต่อปี,มีตังมาพัฒนาบุคลากรคนไทย ส่งเสริมองค์เรียนรู้คนไทยต่อยอดนวัตกรรมด้วยเงินทุนเราเองมหาศาล ทำสิบๆปีตั้งแต่ปี2523ขุดจริงขายจริง2525-2530 นับจากปี30ถึงปี68ก็38ปีๆละเฉลี่ยต่ำๆคือ5ล้านล้านบาทก็เป็นเงินคือ190ล้านล้านบาท เงินน้อยๆที่ไหนเข้าคลังหลวงของประเทศ ไม่รวมบ่อทองคำ เพชรพลอยแร่ธาตุต่างๆอีกตรึม,นี้คือกระบวนการขายชาติขายบ้านขายเมืองขายวัตถุดิบพัฒนาชาติให้เจริญรุ่งเรืองชัดเจน,
    ..ขุดคลองคอดกระ ทำแลนด์บริดจ์เงินทุนเราเหลือล้นที่จะสร้างจะทำ,นี้คือการปกครองที่เลวที่ชั่วของจริงถึงปัจจุบันและไม่ยอมแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดห่าเหวอะไรจริง,สัญญาปีศาจซาตานนี้ต้องเผาไฟทิ้งโมฆะทันที,ยุคฝรั่งเอาเปรียบ ต่างชาติต่างประเทศเอาเปรียบชิงได้เปรียบรังแกชาติอื่นต้องจบไปได้แล้ว.,ยุคล่าอาณานิคมยังจบไป,ยุคปล้นชิงแย่งชิงทรัพยากรชาติอื่นอย่างเอารัดเอาเปรียบผ่านสัญญาชั่วเลวนี้ต้องจบไปด้วยเช่นกัน.

    ..เยาวชนไทย ครูบาอาจารย์คนไทยเราไม่กากนะ,อาจเชื่อมจิตติดต่อนวัตกรรมต่างดาวแลกเปลี่ยนกันได้,ที่ล้ำๆไปอีก,หรือระบบโหลดองค์รู้สาระพัดผ่านคนเขากะลาประมาณนั้น,อยากรู้อะไรก็รู้หมด บางคนรู้วงจรชีวิตเขาคนอื่นโน้น ทำนั้นทำนี้มาผืดถูกชั่วเลวรู้หมดแต่เขาไปพูด,ภูมิจักรวาลสายมูกายมนุษย์ธรรมดา มิใช่สายบรรลุธรรมนิพพานนักบวชก็ว่า,ไทยเราถ้าจะทำอะไรไม่แพ้ใครหรอก,อยากเกิดก็เปิดมา ประมาณนั้น,อนาคตเพื่อปกป้องตนเอง เราอาจเริ่มผลิตยานรบอวกาศจริงจังด้วย ปืนลำแสงผ่านดาวเทียม ระเบิดEMPทำลายวงจรAIทั้งหมดนั้นเอง.,ซึ่งใช้ระเบิดโดรนศัตรูก็ได้,ลำแสงระเบิดEMPก็ว่า,ความถี่พิเศษมีพลังงานทำลายล้างด้วยในตัวผ่านคลื่น.



    https://youtube.com/watch?v=iYwyhs2m40k&si=dHKjVDFF_1s7CdTG
    คนไทยเราจริงๆระดับมันสมองไม่แพ้ใครในโลกนะ,เอาง่ายๆ มวยไทย กับกังฟูจีนที่อวดโชว์ไทยว่าสุดยอดเหนือการต่อสู้คนไทย เอาเข้าจริงแบบไม่หักแม่ไม้อาวุธเข่าศอกเราออก แบบจัดเต็มเหมือนกังฟู ,จีนก็จีนเถอะหลับตั้งแต่ยกแรกกันเลย, ศักยภาพคนไทยจึงไม่ธรรมดานะ,แต่นักการเมืองเราชั่ว ข้าราชการเราเลวมีมากเกินไป ไปนั่งในตำแหน่งหัวหน้ามากเกินไปจึงชั่วเลวเป็นอันมากซวยคือการพัฒนาการบุคคลในชาติเราเสื่อมถอยลง,เช่นมีบ่อน้ำมันเต็มประเทศก็ไปยกให้อเมริกาให้ฝรั่งให้ต่างชาติมากมายเสีย ,ทำเองขายเองลงทุนเอง ค่อยๆทำค่อยๆสร้าง จ้างบริษัทต่างชาติอื่นมาทำให้ เนื้อปิโตรเลียมก็เป็นของไทย ขายเอง จ่ายค่าจ้างไปเหลือเก็บกว่าสิบล้านล้านบาทต่อปี,มีตังมาพัฒนาบุคลากรคนไทย ส่งเสริมองค์เรียนรู้คนไทยต่อยอดนวัตกรรมด้วยเงินทุนเราเองมหาศาล ทำสิบๆปีตั้งแต่ปี2523ขุดจริงขายจริง2525-2530 นับจากปี30ถึงปี68ก็38ปีๆละเฉลี่ยต่ำๆคือ5ล้านล้านบาทก็เป็นเงินคือ190ล้านล้านบาท เงินน้อยๆที่ไหนเข้าคลังหลวงของประเทศ ไม่รวมบ่อทองคำ เพชรพลอยแร่ธาตุต่างๆอีกตรึม,นี้คือกระบวนการขายชาติขายบ้านขายเมืองขายวัตถุดิบพัฒนาชาติให้เจริญรุ่งเรืองชัดเจน, ..ขุดคลองคอดกระ ทำแลนด์บริดจ์เงินทุนเราเหลือล้นที่จะสร้างจะทำ,นี้คือการปกครองที่เลวที่ชั่วของจริงถึงปัจจุบันและไม่ยอมแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดห่าเหวอะไรจริง,สัญญาปีศาจซาตานนี้ต้องเผาไฟทิ้งโมฆะทันที,ยุคฝรั่งเอาเปรียบ ต่างชาติต่างประเทศเอาเปรียบชิงได้เปรียบรังแกชาติอื่นต้องจบไปได้แล้ว.,ยุคล่าอาณานิคมยังจบไป,ยุคปล้นชิงแย่งชิงทรัพยากรชาติอื่นอย่างเอารัดเอาเปรียบผ่านสัญญาชั่วเลวนี้ต้องจบไปด้วยเช่นกัน. ..เยาวชนไทย ครูบาอาจารย์คนไทยเราไม่กากนะ,อาจเชื่อมจิตติดต่อนวัตกรรมต่างดาวแลกเปลี่ยนกันได้,ที่ล้ำๆไปอีก,หรือระบบโหลดองค์รู้สาระพัดผ่านคนเขากะลาประมาณนั้น,อยากรู้อะไรก็รู้หมด บางคนรู้วงจรชีวิตเขาคนอื่นโน้น ทำนั้นทำนี้มาผืดถูกชั่วเลวรู้หมดแต่เขาไปพูด,ภูมิจักรวาลสายมูกายมนุษย์ธรรมดา มิใช่สายบรรลุธรรมนิพพานนักบวชก็ว่า,ไทยเราถ้าจะทำอะไรไม่แพ้ใครหรอก,อยากเกิดก็เปิดมา ประมาณนั้น,อนาคตเพื่อปกป้องตนเอง เราอาจเริ่มผลิตยานรบอวกาศจริงจังด้วย ปืนลำแสงผ่านดาวเทียม ระเบิดEMPทำลายวงจรAIทั้งหมดนั้นเอง.,ซึ่งใช้ระเบิดโดรนศัตรูก็ได้,ลำแสงระเบิดEMPก็ว่า,ความถี่พิเศษมีพลังงานทำลายล้างด้วยในตัวผ่านคลื่น. https://youtube.com/watch?v=iYwyhs2m40k&si=dHKjVDFF_1s7CdTG
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 12 – ชีวิตในคอก (ตอนจบ)
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 12 : ชีวิตในคอก (ตอนจบ)
    แล้วเขาสร้าง engineering consent นี้กันอย่างไร จะสร้างคอกล้อมคนยาวไปทั่วโลก มันต้องเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อม คอกมันจะได้มั่นคง เดี๋ยวจะแหกกันง่ายๆ
    ประมาณปี ค.ศ.1889 ตระกูล Rockefeller ได้ตั้งมหาวิทยาลัย Chicago ขึ้น โดยเจรจาให้นาย Federic T. Gates ซึ่งเป็นนักวิชาการ และเป็นสาธุคุณของ Baptist Church มาเป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัย และคิดโครงการที่จะนำวิธีสร้างความเชื่อความศรัทธาที่ใช้ในการเผยแพร่ศาสนา มาปรับใช้ในการเผยแพร่กิจกรรมทางสังคม เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ พูดง่ายๆก็คือใช้วิธีที่หมอสอนศาสนาใช้ในการเผยแพร่ศาสนา เปลี่ยนเป็นเผยแพร่ลัทธิใหม่ของนักล่า ( CFR !?) การจัดระเบียบสังคมใหม่นั่นแหละ เฉียบแหลมจริงๆความคิดของพวกเขา
    ปี ค.ศ.1892 มหาวิทยาลัย Chicago ก็ตั้งแผนก Sociology Department สังคมวิทยาขึ้นเป็นแห่งแรกในโลก แผนกสังคมวิทยานี้ ได้สร้างนักส้งคมวิทยาที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับรุ่นแรกๆคือ George Horbert Mead และ W.I. Thomas ทั้งสองคนนี้เป็นบรมครูในการศึกษา วิธี ควบคุมสังคม Social Control นอกจากนี้มหาวิทยาลัย Chicago ยังออกวารสาร The American Journal of Sociology ในช่วงปี ค.ศ.1915-1940 แผนกสังคมวิทยาของมหาวิทยาลัยนี้โดดเด่นมาก ได้ผลิตหลักสูตร แนวความคิดเกี่ยวกับการศึกษาและควบคุมพฤติกรรมสังคมอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับและใช้แพร่หลายในมหาวิทยาลัยต่างๆ ถือเป็นตัวจักรสำคัญที่สุดในการสร้างคอกล้อมความคิดและพฤติกรรมสังคม
    ระหว่างที่มหาวิทยาลัย Chicago เดินหน้าขยายหลักสูตรในแผนกสังคมวิทยา มูลนิธิ Rockefeller ก็ให้เงินทุนสนับสนุนแก่มหาวิทยาลัย Yale เพื่อตั้ง Yale Institute of Human Relations (HR) ประมาณปี ค.ศ.1929 เพื่อสร้างหลักสูตรต่อเนื่องในการดูแลสังคม เพื่อให้สังคมเข้าใจในสิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในสังคม ( การจัดระเบียบโลกใหม่ การเปลี่ยนตัวเองจากสังคมแบบสันโดษของอเมริกา เป็นสังคมโลก ) ว่ามันเป็นอย่างไร นำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ประเทศและคนอเมริกันและประชาคมโลกขนาดไหน
    แม้จะคิดหลักสูตรการศึกษาใหม่ๆ สร้างตำรา พิมพ์หนังสือ แจกสิ่งพิมพ์ แต่สิ่งเหล่านี้ไปไม่ได้เร็ว ถ้าไม่มีเครื่องมือสำคัญอีกอย่างมาช่วย มันต้องมีสื่อมีกระบอกเสียง ค.ศ.1930 Princeton Radio Project ก็เกิดขึ้นภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิ Rockefeller (อย่างเคย !) เขาไปเอานาย Frank Stanton ซึ่งเดิมทำงานอยู่ในวงการโฆษณา มาทำการวิเคราะห์รายการวิทยุว่า คนชอบฟังวิทยุรายการใด เพราะอะไร และจะทำให้คนชอบรายการใด ได้อย่างไร (ทำให้นึกถึงการทำข่าวบ้านเราประเภทเล่าข่าว ที่ชาวโลกสวยติดใจนั่งฟังกันอ้าปากหวอ เชื่อฟังแบบต้องมนต์ ทำเอาหัวกลวงกันเป็นแถวๆ)
    หลังจากควบคุมสื่อทางวิทยุแล้ว พวกพี่เลี้ยงนักล่าก็เข้าไป ซื้อบริษัทสร้างหนังใหญ่ ในหนังสือ Money Behind the Screen ระบุว่า ประมาณปี ค.ศ.1930 บริษัทสร้างหนังใหญ่ๆสมัยนั้นเช่น Paramount, Warner, 20th Century Fox, MGM, United Artist, Universal, Columbia, และ R.K.O. ถูกถือหุ้นหรืออยู่ในอิทธิพลของกลุ่มทุนใหญ่เช่น Rockefeller, Morgan รวมทั้ง Lehman Brother จากนั้นกลุ่มทุนใหญ่ๆ ก็เข้าไปครอบงำสื่อทางด้านสิ่งพิมพ์ และโทรทัศน์ต่อไป ประมาณปี ค.ศ.1990 เป็นต้นมา สื่อยักษ์ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ล้วนตกอยู่ในมือกลุ่มทุนใหญ่นี้เกือบทั้งหมด
    ด้วยการวางแผนทางด้านระบบการศึกษา การใช้กระบวนการย้อมความคิดของสังคม ผ่านมูลนิธิที่อ้างว่าทำเพื่อมนุษยชาติ การโฆษณาชวนเชื่อ การประชาสัมพันธ์ การโฆษณา การตลาด และใช้สื่อทุกรูปแบบ เพื่อสร้างให้เป็นจักรวรรดิอเมริกา นักล่าผู้ครองโลกรุ่นใหม่ เพื่อสร้างระเบียบโลกใหม่โดยการ สร้างวงล้อมอุบาทว์ที่ใช้ระบบ และรูปแบบที่ดูเหมือนซับซ้อน หลอกให้เราเป็นเหยื่อ โดยการฟอกย้อมความคิดเรา ให้เราเห็นดีเห็นงามกับระบบและรูปแบบใหม่นั้น จนทำให้ทัศนคติของเราที่มีต่อ ความเชื่อในคุณธรรม คุณค่าของสังคม ความผูกพันต่อแผ่นดินเกิด ความภูมิใจในประเทศชาติและประวัติศาสตร์ชาติของตน การเห็นคุณค่าของสถาบันและศาสนา ฯลฯ หลายๆอย่างถูกบิดเบือนไปจนเกือบหมดสิ้น นี่ยังไม่นับรสนิยมความชอบด้านวัฒนธรรม และระดับของศีลธรรม ที่เปลี่ยนไปเพราะถูกฟอกย้อมความคิดนั้น มันเป็นเรื่องน่าเศร้า น่าสลดใจอย่างยิ่ง
    อ่านนิทานมาถึงตรงนี้ คงตัดสินใจกันได้เอง ตกลงอเมริกาเป็นพี่เบิ้มผู้พิทักษ์โลกสวยที่เราจำเป็นต้องคอยจูบมือ ให้เขาตบหัวลูบหลัง สั่งให้ยิ้มให้กลิ้งตามใจเขา หรือเห็นเขาเป็นนักล่าโคตรเหี้ยมที่เราต้องทำความรู้จักกันให้ดี และระวังตัวรักษาบ้านรักษาเมืองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา หากยังตัดสินใจไม่ได้ ยังไม่อยากเชื่อ ไม่เชื่อเอาเลย ก็อย่าพึ่งโยนนิทานนี้ทิ้งไปจากสมอง ไปลองคิดต่อ ศึกษาต่อกันเองบ้าง บ้านเมืองนี้ก็ของเราทุกคน คนเล่านิทานทำหน้าที่พลเมืองอาสา ค้นคว้าหาเอกสารข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง เพียงหวังให้นำไปคิด ทำความเข้าใจ ช่วยให้บ้านเมืองเราหลุดพ้นจากการเป็นเหยื่อ หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ มาช่วยกันแหกคอกเถอะครับ
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 12 – ชีวิตในคอก (ตอนจบ) นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 12 : ชีวิตในคอก (ตอนจบ) แล้วเขาสร้าง engineering consent นี้กันอย่างไร จะสร้างคอกล้อมคนยาวไปทั่วโลก มันต้องเตรียมเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อม คอกมันจะได้มั่นคง เดี๋ยวจะแหกกันง่ายๆ ประมาณปี ค.ศ.1889 ตระกูล Rockefeller ได้ตั้งมหาวิทยาลัย Chicago ขึ้น โดยเจรจาให้นาย Federic T. Gates ซึ่งเป็นนักวิชาการ และเป็นสาธุคุณของ Baptist Church มาเป็นผู้บริหารมหาวิทยาลัย และคิดโครงการที่จะนำวิธีสร้างความเชื่อความศรัทธาที่ใช้ในการเผยแพร่ศาสนา มาปรับใช้ในการเผยแพร่กิจกรรมทางสังคม เพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติ พูดง่ายๆก็คือใช้วิธีที่หมอสอนศาสนาใช้ในการเผยแพร่ศาสนา เปลี่ยนเป็นเผยแพร่ลัทธิใหม่ของนักล่า ( CFR !?) การจัดระเบียบสังคมใหม่นั่นแหละ เฉียบแหลมจริงๆความคิดของพวกเขา ปี ค.ศ.1892 มหาวิทยาลัย Chicago ก็ตั้งแผนก Sociology Department สังคมวิทยาขึ้นเป็นแห่งแรกในโลก แผนกสังคมวิทยานี้ ได้สร้างนักส้งคมวิทยาที่มีชื่อเสียง และเป็นที่ยอมรับรุ่นแรกๆคือ George Horbert Mead และ W.I. Thomas ทั้งสองคนนี้เป็นบรมครูในการศึกษา วิธี ควบคุมสังคม Social Control นอกจากนี้มหาวิทยาลัย Chicago ยังออกวารสาร The American Journal of Sociology ในช่วงปี ค.ศ.1915-1940 แผนกสังคมวิทยาของมหาวิทยาลัยนี้โดดเด่นมาก ได้ผลิตหลักสูตร แนวความคิดเกี่ยวกับการศึกษาและควบคุมพฤติกรรมสังคมอย่างต่อเนื่อง เป็นที่ยอมรับและใช้แพร่หลายในมหาวิทยาลัยต่างๆ ถือเป็นตัวจักรสำคัญที่สุดในการสร้างคอกล้อมความคิดและพฤติกรรมสังคม ระหว่างที่มหาวิทยาลัย Chicago เดินหน้าขยายหลักสูตรในแผนกสังคมวิทยา มูลนิธิ Rockefeller ก็ให้เงินทุนสนับสนุนแก่มหาวิทยาลัย Yale เพื่อตั้ง Yale Institute of Human Relations (HR) ประมาณปี ค.ศ.1929 เพื่อสร้างหลักสูตรต่อเนื่องในการดูแลสังคม เพื่อให้สังคมเข้าใจในสิ่งใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในสังคม ( การจัดระเบียบโลกใหม่ การเปลี่ยนตัวเองจากสังคมแบบสันโดษของอเมริกา เป็นสังคมโลก ) ว่ามันเป็นอย่างไร นำความเจริญก้าวหน้ามาสู่ประเทศและคนอเมริกันและประชาคมโลกขนาดไหน แม้จะคิดหลักสูตรการศึกษาใหม่ๆ สร้างตำรา พิมพ์หนังสือ แจกสิ่งพิมพ์ แต่สิ่งเหล่านี้ไปไม่ได้เร็ว ถ้าไม่มีเครื่องมือสำคัญอีกอย่างมาช่วย มันต้องมีสื่อมีกระบอกเสียง ค.ศ.1930 Princeton Radio Project ก็เกิดขึ้นภายใต้การสนับสนุนของมูลนิธิ Rockefeller (อย่างเคย !) เขาไปเอานาย Frank Stanton ซึ่งเดิมทำงานอยู่ในวงการโฆษณา มาทำการวิเคราะห์รายการวิทยุว่า คนชอบฟังวิทยุรายการใด เพราะอะไร และจะทำให้คนชอบรายการใด ได้อย่างไร (ทำให้นึกถึงการทำข่าวบ้านเราประเภทเล่าข่าว ที่ชาวโลกสวยติดใจนั่งฟังกันอ้าปากหวอ เชื่อฟังแบบต้องมนต์ ทำเอาหัวกลวงกันเป็นแถวๆ) หลังจากควบคุมสื่อทางวิทยุแล้ว พวกพี่เลี้ยงนักล่าก็เข้าไป ซื้อบริษัทสร้างหนังใหญ่ ในหนังสือ Money Behind the Screen ระบุว่า ประมาณปี ค.ศ.1930 บริษัทสร้างหนังใหญ่ๆสมัยนั้นเช่น Paramount, Warner, 20th Century Fox, MGM, United Artist, Universal, Columbia, และ R.K.O. ถูกถือหุ้นหรืออยู่ในอิทธิพลของกลุ่มทุนใหญ่เช่น Rockefeller, Morgan รวมทั้ง Lehman Brother จากนั้นกลุ่มทุนใหญ่ๆ ก็เข้าไปครอบงำสื่อทางด้านสิ่งพิมพ์ และโทรทัศน์ต่อไป ประมาณปี ค.ศ.1990 เป็นต้นมา สื่อยักษ์ไม่ว่าจะเป็น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ล้วนตกอยู่ในมือกลุ่มทุนใหญ่นี้เกือบทั้งหมด ด้วยการวางแผนทางด้านระบบการศึกษา การใช้กระบวนการย้อมความคิดของสังคม ผ่านมูลนิธิที่อ้างว่าทำเพื่อมนุษยชาติ การโฆษณาชวนเชื่อ การประชาสัมพันธ์ การโฆษณา การตลาด และใช้สื่อทุกรูปแบบ เพื่อสร้างให้เป็นจักรวรรดิอเมริกา นักล่าผู้ครองโลกรุ่นใหม่ เพื่อสร้างระเบียบโลกใหม่โดยการ สร้างวงล้อมอุบาทว์ที่ใช้ระบบ และรูปแบบที่ดูเหมือนซับซ้อน หลอกให้เราเป็นเหยื่อ โดยการฟอกย้อมความคิดเรา ให้เราเห็นดีเห็นงามกับระบบและรูปแบบใหม่นั้น จนทำให้ทัศนคติของเราที่มีต่อ ความเชื่อในคุณธรรม คุณค่าของสังคม ความผูกพันต่อแผ่นดินเกิด ความภูมิใจในประเทศชาติและประวัติศาสตร์ชาติของตน การเห็นคุณค่าของสถาบันและศาสนา ฯลฯ หลายๆอย่างถูกบิดเบือนไปจนเกือบหมดสิ้น นี่ยังไม่นับรสนิยมความชอบด้านวัฒนธรรม และระดับของศีลธรรม ที่เปลี่ยนไปเพราะถูกฟอกย้อมความคิดนั้น มันเป็นเรื่องน่าเศร้า น่าสลดใจอย่างยิ่ง อ่านนิทานมาถึงตรงนี้ คงตัดสินใจกันได้เอง ตกลงอเมริกาเป็นพี่เบิ้มผู้พิทักษ์โลกสวยที่เราจำเป็นต้องคอยจูบมือ ให้เขาตบหัวลูบหลัง สั่งให้ยิ้มให้กลิ้งตามใจเขา หรือเห็นเขาเป็นนักล่าโคตรเหี้ยมที่เราต้องทำความรู้จักกันให้ดี และระวังตัวรักษาบ้านรักษาเมืองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา หากยังตัดสินใจไม่ได้ ยังไม่อยากเชื่อ ไม่เชื่อเอาเลย ก็อย่าพึ่งโยนนิทานนี้ทิ้งไปจากสมอง ไปลองคิดต่อ ศึกษาต่อกันเองบ้าง บ้านเมืองนี้ก็ของเราทุกคน คนเล่านิทานทำหน้าที่พลเมืองอาสา ค้นคว้าหาเอกสารข้อมูลมาเล่าสู่กันฟัง เพียงหวังให้นำไปคิด ทำความเข้าใจ ช่วยให้บ้านเมืองเราหลุดพ้นจากการเป็นเหยื่อ หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ มาช่วยกันแหกคอกเถอะครับ คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 167 Views 0 Reviews
  • แหกคอก ตอนที่ 7 – ถังความคิด
    ทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ”
    ตอนที่ 7 : ถังความคิด
    แม้เศรษฐกิจจะอยู่ในกำมือพวกนายทุนใหญ่แล้วก็ตาม แต่พวกเขาบอกว่าแค่อยู่ในมือเรา มันไม่อยู่นาน (พวกนี้คิดรอบคอบ) เราต้องสร้างพรรคพวก ต้องทำให้สังคม โดยเฉพาะสังคมในระดับสูง เห็นคล้อยตามเราด้วย ประเภทเราว่าไงเขาต้องว่าตามกัน มันจะได้คุม (หลอก) กัน ง่ายๆ หน่อย แล้วจะทำให้พวกคนในสังคมระดับสูงเขาเห็นพ้องด้วยได้อย่างไรล่ะ คนพวกนี้ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่จะให้เรียกให้มาประชุมคงไม่ง่ายนักหรอก พวกเขาหยิ่งยะโสเล่นตัวกันจะตาย แต่จะให้เดินสายไปคุยด้วยทีละราย กว่าจะรู้เรื่องเห็นพ้องกันหมด พวกตูก็แก่ตายหมด ไม่ได้ครองโลกกันเสียที !
    นายทุนใหญ่ ทั้งหลายจึงสรุปว่า อย่ากระนั้นเลย พวกเราควรมอบให้ใครมันไปช่วยคิดช่วยทำให้เราดีกว่านะ รวยแล้ว อย่าต้องลงมือลงแรงเองหมด ใช้ให้ผีมันโม่แป้งแทนก็แล้วกัน แล้วพวกเขาก็ตั้งสถาบันประเภทนักคิด (think tank มาแล้ว) เพื่อให้มีหน้าที่จัดการคิด การชี้นำสังคม วิธีล้อมคอกพวกคนรวย (อื่นๆ) คนในสังคมชั้นสูงจากทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ สื่อ และแม้แต่พวกคุณทหาร เข้ามารับความเข้าใจ และควบคุมความคิดของบุคคลเหล่า นั้น ให้เป็นไปในทิศทางเดียว กับที่นายทุนใหญ่ต้องการ เข้าใจไหม มันเป็นการย้อมความคิด โดยคนถูกย้อมไม่รู้ตัว ว่ากำลังถูกย้อมสมอง ย้อมความคิด เป็นไปไม่ได้น่ะ ไม่มีทางหรอก ไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะทำอะไรแบบ นั้น พวกโลกสวยคงกำลังคิดในใจ ฮา มันเป็นวิธีที่เฉียบมาก จูงจมูกคนรวย หรือคนมีอำนาจ หรือนักวิชาการด้วยกัน นี่ถือว่าสุดยอดจริงๆ หรือว่ามันก็ไม่ยากเกิน คนรวย คนมีอำนาจ นักวิชาการ ใช่ว่าจะฉลาดเสมอไป ฮา อีกหน
    ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 กลุ่มนักวิชาการชาวอเมริกัน ได้รับมอบหมายให้วาดภาพสถานการณ์ ให้ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ฟังเกี่ยวกับทางเลือกต่างๆ ของอเมริกา ในกรณีที่สงครามโลกจบและ Kaiser และจักรวรรดิเยอรมันหล่นจากบัลลังก์ นักวิชาการกลุ่มนี้เรียกว่ากลุ่ม The Inquiry เวลาวาดภาพให้ประธานาธิบดีฟัง เขามีวิธี เขาใช้วิธีเล่าผ่านคนสนิทที่ประธานาธิบดีเชื่อใจอย่างมาก (จำวิธีนี้กันไว้นะครับ เขาใช้กันทั้งนั้น ปากก็บอกผมไม่เคยเจรจา ไม่เคยพูด แต่ให้คนสนิทเป็นคนพูด ไม่ได้โกหกนี่หว่า !) นายคนสนิท ชื่อ พันเอก Edward M. House นี้สำคัญมาก เป็นผู้เดินสาส์นลับของประธานาธิบดี กับฝ่ายยุโรป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี ค.ศ.1914 จนถึงช่วงที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนด้วยในช่วง ค.ศ.1917 ปากก็บอกว่าฉันสันโดษ Isolist แต่ส่งคนเดินสาส์น จนซ่นร้องเท้าสึกไปหลายคู่ นักการเมืองก็เป็นยังงี้ทั้งนั้น และไม่ว่าพันธุ์เทศ พันธุ์ไทย ปากก็พูดไปอย่าง แล้วก็ไปทำอีก 3 อย่าง คนละเรื่องกัน ท่านนายพันเอก House นี้ เป็นคนสำคัญในการผลักและดันให้ประธานาธิบดี Wilson เห็นชอบในการที่อเมริกาจัดตั้งระบบ Federal Reserve (ตกลงคุณ House นี้ เป็นพวกใครกันแน่ !)
    กลุ่ม The Enquiry นี้เอง เป็นผู้ปูทางการสร้าง the Council on Foreign Relations (CFR) CFR เป็น think tank ถังความคิด ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในอเมริกาตั้งแต่เริ่มตั้งจนถึงปัจจุบัน
    เดือนพฤษภาคม ค.ศ.1919 กลุ่มนักวิชาการและนักการฑูตจากอังกฤษและอเมริกา รวมทั้งกลุ่ม The Inquiry นั่งสุมหัววางแผนกันที่โรงแรม the Majestic ในปารีส เพื่อที่จะร่วมกันตั้งสถาบันเกี่ยวกับกิจการระหว่างประเทศ โดยมีสาขาหนึ่งที่ London และอีกสาขาหนึ่งที่ New York เมื่อบรรดาพวกไปสุมหัวกลับมาถึง New York ก็รายงานผลการคุย ให้กับนักการเงินและนักกฏหมายที่ New York (นายทุนตัวจริง !) ฟัง ทุกคนไชโยโห่ตบมือเป่าปากกับข้อสรุปที่ตกลงกันมา แน่นอนคนที่ดีใจที่สุดคงไม่ใครเกิน นาย Cecil Rhodes นักล่ารุ่นเก๋า ที่แค่ซ่อนเขี้ยวของตัวเองให้มิดชิด นักล่ารุ่นกะเตาะ ก็นึกว่านักล่ารุ่นเก๋าเขี้ยวหลุดหมดปากไปแล้ว แหม ! หลอกง่ายจัง นึกว่าเด็กรุ่นใหม่ ฉลาดกว่ารุ่นโบราณ ! แต่ในที่สุดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน มันคงแปร่งหูเกินกว่าคนอังกฤษจะทนฟังได้ สถาบันนักชักใย CFR เลยเปลี่ยนแผนแยกตัวเป็น 2 แขนง แต่มาจากตอเดียวกัน ต่างคนต่างไปตั้งกลุ่มของพวกตัวเอง อังกฤษกลุ่มหนึ่ง อเมริกากลุ่มหนึ่ง แต่ยังจับมือกอดแขนจิกหัวกันไว้ ยังไงก็ต้องร่วมมือใกล้ชิด ก็คิดจะครองโลกด้วยกัน
    The Milner Group ของก๊วนนาย Cecil Rhodes รับบทเป็นตัวตั้งตัวตีในการตั้ง Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ถังความคิด think tank สัญชาติอังกฤษ ในปี ค.ศ.1919 ส่วนกลุ่ม The Inquiry ก็รับมอบหน้าที่ไปตั้ง Council of Foreign Relations think tank สัญชาติอเมริกัน ในปี ค.ศ.1921
    นอกจากนี้ ยังมีองค์กรลับที่มีแนวคิดเดียวกับ Milner Group ทยอยเกิดขึ้นอีกในหลายๆ ประเทศ เขาเรียกกลุ่มพวกนี้ว่าพวกโต๊ะ กลม เอามาจากอัศวินโต๊ะกลม Knights of the Round Table สมัย King Arthur ของอังกฤษนั่นแหละ Round Table Groups ในบรรดาพวกโต๊ะกลม โต๊ะใหญ่ในกลุ่มนี้ก็คือ Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ที่ลดหลั่นลงมาก็มี โต๊ะกลม Canada, Australia, New Zealand, South Africa และ India จักรภพอังกฤษถึงล่มก็ยังไม่สลาย ดึงเอาลูกกะเป๋งเก่า ตามมาเข้าขบวนตั้งโต๊ะกลมด้วย กลุ่มโต๊ะกลมนี้ ก็คือ กลุ่มถังความคิด (think tank) นานาชาติรุ่นแรก ซึ่งยังดำเนินการอย่างแข็งขัน และมีอิทธิพลในแต่ละประเทศของตัว จนถึงทุกวันนี้ ในฐานะเป็นรุ่นใหญ่มีชื่อเสียงอยู่ในอันดับต้นมาตลอด รักษาตำแหน่งไว้ไม่เคยปล่อยให้ตกอันดับ
    ส่วนถังความคิดรุ่นใหญ่ในอเมริกา ที่ได้รับความนิยมตาม CFR มาติดๆ ก็มี Brookings Institution, Carnegie Endowment for International Peace, RAND Corporation, Heritage Foundation, Woodrow Wilson International Centre for Scholars, the Centre for Strategic and International Studies และ American Enterprise Institute (นักอ่านนิทานท่านใด ที่อยากรู้วิธีคิด หรืออยากรู้ว่านักล่ากำลังคิดทำอะไรอยู่ อยากติดตามด้วยตัวเองก็ค้นได้จากอากู กดชื่อตัวถัง พวกนี้แหละครับ มีเรื่องให้อ่านเพียบเลย)
    สำหรับถังความคิดที่ไม่ได้สังกัดกับอเมริกา ก็จะมี Chatham House เป็นถังหมายเลขหนึ่งของอังกฤษ เป็นที่นับหน้าถือตา มีอิทธิพล ทำนองเดียวกับ CFR, the International Institute for Strategic Studies in the UK, the German Council on Foreign Relation, the Adam Smith Institute in the UK, the Fraser Institute ใน Canada, the European Council on Foreign Relations, the International Crisis Group in Belgium และ Canadian Institute of International Affairs
    คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    แหกคอก ตอนที่ 7 – ถังความคิด ทานเรื่องจริง เรื่อง ” แหกคอก ” ตอนที่ 7 : ถังความคิด แม้เศรษฐกิจจะอยู่ในกำมือพวกนายทุนใหญ่แล้วก็ตาม แต่พวกเขาบอกว่าแค่อยู่ในมือเรา มันไม่อยู่นาน (พวกนี้คิดรอบคอบ) เราต้องสร้างพรรคพวก ต้องทำให้สังคม โดยเฉพาะสังคมในระดับสูง เห็นคล้อยตามเราด้วย ประเภทเราว่าไงเขาต้องว่าตามกัน มันจะได้คุม (หลอก) กัน ง่ายๆ หน่อย แล้วจะทำให้พวกคนในสังคมระดับสูงเขาเห็นพ้องด้วยได้อย่างไรล่ะ คนพวกนี้ถึงแม้จะมีจำนวนไม่มาก แต่จะให้เรียกให้มาประชุมคงไม่ง่ายนักหรอก พวกเขาหยิ่งยะโสเล่นตัวกันจะตาย แต่จะให้เดินสายไปคุยด้วยทีละราย กว่าจะรู้เรื่องเห็นพ้องกันหมด พวกตูก็แก่ตายหมด ไม่ได้ครองโลกกันเสียที ! นายทุนใหญ่ ทั้งหลายจึงสรุปว่า อย่ากระนั้นเลย พวกเราควรมอบให้ใครมันไปช่วยคิดช่วยทำให้เราดีกว่านะ รวยแล้ว อย่าต้องลงมือลงแรงเองหมด ใช้ให้ผีมันโม่แป้งแทนก็แล้วกัน แล้วพวกเขาก็ตั้งสถาบันประเภทนักคิด (think tank มาแล้ว) เพื่อให้มีหน้าที่จัดการคิด การชี้นำสังคม วิธีล้อมคอกพวกคนรวย (อื่นๆ) คนในสังคมชั้นสูงจากทุกวงการ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ สื่อ และแม้แต่พวกคุณทหาร เข้ามารับความเข้าใจ และควบคุมความคิดของบุคคลเหล่า นั้น ให้เป็นไปในทิศทางเดียว กับที่นายทุนใหญ่ต้องการ เข้าใจไหม มันเป็นการย้อมความคิด โดยคนถูกย้อมไม่รู้ตัว ว่ากำลังถูกย้อมสมอง ย้อมความคิด เป็นไปไม่ได้น่ะ ไม่มีทางหรอก ไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะทำอะไรแบบ นั้น พวกโลกสวยคงกำลังคิดในใจ ฮา มันเป็นวิธีที่เฉียบมาก จูงจมูกคนรวย หรือคนมีอำนาจ หรือนักวิชาการด้วยกัน นี่ถือว่าสุดยอดจริงๆ หรือว่ามันก็ไม่ยากเกิน คนรวย คนมีอำนาจ นักวิชาการ ใช่ว่าจะฉลาดเสมอไป ฮา อีกหน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 กลุ่มนักวิชาการชาวอเมริกัน ได้รับมอบหมายให้วาดภาพสถานการณ์ ให้ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ฟังเกี่ยวกับทางเลือกต่างๆ ของอเมริกา ในกรณีที่สงครามโลกจบและ Kaiser และจักรวรรดิเยอรมันหล่นจากบัลลังก์ นักวิชาการกลุ่มนี้เรียกว่ากลุ่ม The Inquiry เวลาวาดภาพให้ประธานาธิบดีฟัง เขามีวิธี เขาใช้วิธีเล่าผ่านคนสนิทที่ประธานาธิบดีเชื่อใจอย่างมาก (จำวิธีนี้กันไว้นะครับ เขาใช้กันทั้งนั้น ปากก็บอกผมไม่เคยเจรจา ไม่เคยพูด แต่ให้คนสนิทเป็นคนพูด ไม่ได้โกหกนี่หว่า !) นายคนสนิท ชื่อ พันเอก Edward M. House นี้สำคัญมาก เป็นผู้เดินสาส์นลับของประธานาธิบดี กับฝ่ายยุโรป ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 ปี ค.ศ.1914 จนถึงช่วงที่อเมริกาเข้าไปมีส่วนด้วยในช่วง ค.ศ.1917 ปากก็บอกว่าฉันสันโดษ Isolist แต่ส่งคนเดินสาส์น จนซ่นร้องเท้าสึกไปหลายคู่ นักการเมืองก็เป็นยังงี้ทั้งนั้น และไม่ว่าพันธุ์เทศ พันธุ์ไทย ปากก็พูดไปอย่าง แล้วก็ไปทำอีก 3 อย่าง คนละเรื่องกัน ท่านนายพันเอก House นี้ เป็นคนสำคัญในการผลักและดันให้ประธานาธิบดี Wilson เห็นชอบในการที่อเมริกาจัดตั้งระบบ Federal Reserve (ตกลงคุณ House นี้ เป็นพวกใครกันแน่ !) กลุ่ม The Enquiry นี้เอง เป็นผู้ปูทางการสร้าง the Council on Foreign Relations (CFR) CFR เป็น think tank ถังความคิด ที่ทรงอิทธิพลสูงสุดในอเมริกาตั้งแต่เริ่มตั้งจนถึงปัจจุบัน เดือนพฤษภาคม ค.ศ.1919 กลุ่มนักวิชาการและนักการฑูตจากอังกฤษและอเมริกา รวมทั้งกลุ่ม The Inquiry นั่งสุมหัววางแผนกันที่โรงแรม the Majestic ในปารีส เพื่อที่จะร่วมกันตั้งสถาบันเกี่ยวกับกิจการระหว่างประเทศ โดยมีสาขาหนึ่งที่ London และอีกสาขาหนึ่งที่ New York เมื่อบรรดาพวกไปสุมหัวกลับมาถึง New York ก็รายงานผลการคุย ให้กับนักการเงินและนักกฏหมายที่ New York (นายทุนตัวจริง !) ฟัง ทุกคนไชโยโห่ตบมือเป่าปากกับข้อสรุปที่ตกลงกันมา แน่นอนคนที่ดีใจที่สุดคงไม่ใครเกิน นาย Cecil Rhodes นักล่ารุ่นเก๋า ที่แค่ซ่อนเขี้ยวของตัวเองให้มิดชิด นักล่ารุ่นกะเตาะ ก็นึกว่านักล่ารุ่นเก๋าเขี้ยวหลุดหมดปากไปแล้ว แหม ! หลอกง่ายจัง นึกว่าเด็กรุ่นใหม่ ฉลาดกว่ารุ่นโบราณ ! แต่ในที่สุดภาษาอังกฤษสำเนียงอเมริกัน มันคงแปร่งหูเกินกว่าคนอังกฤษจะทนฟังได้ สถาบันนักชักใย CFR เลยเปลี่ยนแผนแยกตัวเป็น 2 แขนง แต่มาจากตอเดียวกัน ต่างคนต่างไปตั้งกลุ่มของพวกตัวเอง อังกฤษกลุ่มหนึ่ง อเมริกากลุ่มหนึ่ง แต่ยังจับมือกอดแขนจิกหัวกันไว้ ยังไงก็ต้องร่วมมือใกล้ชิด ก็คิดจะครองโลกด้วยกัน The Milner Group ของก๊วนนาย Cecil Rhodes รับบทเป็นตัวตั้งตัวตีในการตั้ง Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ถังความคิด think tank สัญชาติอังกฤษ ในปี ค.ศ.1919 ส่วนกลุ่ม The Inquiry ก็รับมอบหน้าที่ไปตั้ง Council of Foreign Relations think tank สัญชาติอเมริกัน ในปี ค.ศ.1921 นอกจากนี้ ยังมีองค์กรลับที่มีแนวคิดเดียวกับ Milner Group ทยอยเกิดขึ้นอีกในหลายๆ ประเทศ เขาเรียกกลุ่มพวกนี้ว่าพวกโต๊ะ กลม เอามาจากอัศวินโต๊ะกลม Knights of the Round Table สมัย King Arthur ของอังกฤษนั่นแหละ Round Table Groups ในบรรดาพวกโต๊ะกลม โต๊ะใหญ่ในกลุ่มนี้ก็คือ Royal Institute of International Affairs (Chatham House) ที่ลดหลั่นลงมาก็มี โต๊ะกลม Canada, Australia, New Zealand, South Africa และ India จักรภพอังกฤษถึงล่มก็ยังไม่สลาย ดึงเอาลูกกะเป๋งเก่า ตามมาเข้าขบวนตั้งโต๊ะกลมด้วย กลุ่มโต๊ะกลมนี้ ก็คือ กลุ่มถังความคิด (think tank) นานาชาติรุ่นแรก ซึ่งยังดำเนินการอย่างแข็งขัน และมีอิทธิพลในแต่ละประเทศของตัว จนถึงทุกวันนี้ ในฐานะเป็นรุ่นใหญ่มีชื่อเสียงอยู่ในอันดับต้นมาตลอด รักษาตำแหน่งไว้ไม่เคยปล่อยให้ตกอันดับ ส่วนถังความคิดรุ่นใหญ่ในอเมริกา ที่ได้รับความนิยมตาม CFR มาติดๆ ก็มี Brookings Institution, Carnegie Endowment for International Peace, RAND Corporation, Heritage Foundation, Woodrow Wilson International Centre for Scholars, the Centre for Strategic and International Studies และ American Enterprise Institute (นักอ่านนิทานท่านใด ที่อยากรู้วิธีคิด หรืออยากรู้ว่านักล่ากำลังคิดทำอะไรอยู่ อยากติดตามด้วยตัวเองก็ค้นได้จากอากู กดชื่อตัวถัง พวกนี้แหละครับ มีเรื่องให้อ่านเพียบเลย) สำหรับถังความคิดที่ไม่ได้สังกัดกับอเมริกา ก็จะมี Chatham House เป็นถังหมายเลขหนึ่งของอังกฤษ เป็นที่นับหน้าถือตา มีอิทธิพล ทำนองเดียวกับ CFR, the International Institute for Strategic Studies in the UK, the German Council on Foreign Relation, the Adam Smith Institute in the UK, the Fraser Institute ใน Canada, the European Council on Foreign Relations, the International Crisis Group in Belgium และ Canadian Institute of International Affairs คนเล่านิทาน
30 พค. 57
    0 Comments 0 Shares 186 Views 0 Reviews
  • ว่าแล้วแปลก ขึ้นข่าวโชว์ผิดปกติ,มทภ.2 จะถ่านรูปค้ำประกันรุ่นพี่ที่สายสัมพันธ์ดีในฝั่งมันบ่อนในเขมรจริงเหรอ,มีคนตระกูลชินด้วย,มาทั้งแก๊งครบสูตร,
    ..โดรนถ้าจะทำจริง รัฐบาลเราตั้งโรงงานโดรนเองเลย ควบคุมการสร้างเองโดยกองทัพทหารไทย,แบ่งเป็นโดรนภาคประชาชนและภาคทหาร ประชาชนร่วมบริจาคได้ตลอดเวลาเข้ากองทุนโดรนแห่งชาติโดยมีมทภ.2เป็นประธาน ค้ำประกันโดยบิ๊งกุ้งแม้เกษียณราชการไปก็สามารถนั่งเป็นประธานด้านความมั่นคงที่กองทุนโดรนแห่งชาติได้ สามารถขับเคลื่อนยุทธการกองทัพไทยรอบด้านจากโดรน ,ยิงขีปนาวุธโดยโดรน,อากาศยานปืนกลโดรน,ปืนลำแสงโดรน, สถานนีต่อต้านโดรนแต่ละตำบลหมู่บ้าน 80,000หมู่บ้านเบื้องต้นรัศมีปกป้องหมู่บ้านเมื่อโดรนศัตรูรุกรานคือยิงได้ไกล5-10กม.ทั้งแนวราบและแนวดิ่ง,หอคอยต่อต้านโดรนประจำหมู่บ้านทั่วประเทศ,ยิงเครื่องบินรบกวนคลื่นอิเล็กทรอนิกส์ได้นั้นเอง,เพราะอนาคตโดรนนี้จะอันตรายมาก,ต่างชาติมีโดรนAIจิ๋วแล้ว,ใครดูthe matrixก็โดรนเครื่องจักรกลแบบนี้ล่ะ,สามารถล็อคพิกัดเป้าหมายมนุษย์ได้ ถูกตัวมนุษย์ระเบิดตัวเองเลย โดรนพลีชีพขนาดจิ๋ว,สามารถระเบิดกลางสมองเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ,ใหญ่กว่าฝาเอ็มร้อยนิดหน่อยแค่นั้น,ยิ่งมนุษย์ฉีดกราฟีนเข้าตัวจากวัคซีนโควิด มันกดปุ่มอาจบินมาระเบิดสมองเราทันทีแต่ละคนได้สบายๆ,กราฟีนบอกพิกัดชี้พิกัดเป้าหมายให้โดรนพลีชีพจิ๋วนี้นั้นเอง.,กองทุนโดรนแห่งชาติจึงสำคัญมาในยุคนี้,เพราะแต่ละหมู่บ้านสามารถปกป้องโดรนศัตรูทุกๆรูปแบบได้ อาจกดปุ่มระเบิดEMPประจำหมู่บ้านตนทำลายโดรนนั้นได้,หรือคล้ายๆเครื่องปิดสัญญาณคลื่นมือถือนั้นล่ะ,แต่นี้ทำลายวงจรAIของทุกๆโดรนที่บินเข้ามาหมู่บ้านเราได้เลยนั่นเองหรือเปิดกำแพงคลื่นป้องกันโดรนตลอดเวลาก็ได้,เราจึงต้องตั้งศูนย์พัฒนาต่อต้านโดรนศัตรูไปด้วยในกองทุนโดรนแห่งชาตินี้,คนไทยจึงสามารถร่วมบริจาคช่วยกันได้ตลอดเวลา ยอดบริจาคก็สามารถแจ้งเป็นสาธารณะ ใช้อะไรไปทางไหนก็สามารถบอกได้หมด,ส่วนลงรายละเอียดอาจไม่จำเป็นเพราะคือความมั่นคงของชาติศัตรูจะรู้,กองทุนโดรนแห่งชาติ สามารถผลิตอาวุธขีปนาวุธประจำโดรนเราได้อีก,แบบกระสุนไม่จำกัด ลูกขีปนาวุธไม่จำกัด มีแบบโดรนเจ็ต บินไกลบินเร็วข้ามทวีปก็ได้,เช่นโดรนเราบินไกลถึงอาหรับ ยิงขีปนาวุธออกจากโดรน ขีปนาวุธพุงไปอีกถึงฝรั่งเศสเป็นต้น หรือโดรนเราบินไปถึงทวีปแอฟริกาใจกลาง จากนั้นขีปนาวุธจากโดรนส่งตัวไปถึง DCอเมริกันก็ว่า,หรือโดรนเจ๊ตเราบินเลยญี่ปุ่นไป ส่งขีปนาวุธจากโดรนบินต่อไปอีกถึง50รัฐของอเมริกาก็ได้เป็นต้น,คือศักยภาพเราสามารถทำได้อยู่แล้ว แต่เราจะเป็นไปทางนั้นมั้ย แต่เราสร้างทำผลิตเพื่อปกป้องตนเองได้,สำคัญคือต้องร่วมกันกำจัดคนหนักแผ่นดินประจำประเทศไทยเรากันจริงๆจังๆแค่นั้น.ชาติจะไร้ไส้ศึกทันที.,ความมั่นคงทางอธิปไตยไทยเราจะแข็งแกร่งในตัวมันเองด้วย,แบบจะไม่มีของปลอม วัตถุดิบปลอมๆมาผสมในเพชรกล้าแห่งแผ่นดินประเทศไทยเราเลย,มีแต่เพชรเพียวๆใจเพชรเต็มประเทศไทย ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดๆเราร่วมรวมเป็นหนึ่งเดียวนั้นเอง.,คือคนไทย คือคนของแผ่นดินไทยร่วมกัน.

    https://youtube.com/watch?v=Ocsr2SRqi_I&si=eW9D-U9fOzi6TnM4
    ว่าแล้วแปลก ขึ้นข่าวโชว์ผิดปกติ,มทภ.2 จะถ่านรูปค้ำประกันรุ่นพี่ที่สายสัมพันธ์ดีในฝั่งมันบ่อนในเขมรจริงเหรอ,มีคนตระกูลชินด้วย,มาทั้งแก๊งครบสูตร, ..โดรนถ้าจะทำจริง รัฐบาลเราตั้งโรงงานโดรนเองเลย ควบคุมการสร้างเองโดยกองทัพทหารไทย,แบ่งเป็นโดรนภาคประชาชนและภาคทหาร ประชาชนร่วมบริจาคได้ตลอดเวลาเข้ากองทุนโดรนแห่งชาติโดยมีมทภ.2เป็นประธาน ค้ำประกันโดยบิ๊งกุ้งแม้เกษียณราชการไปก็สามารถนั่งเป็นประธานด้านความมั่นคงที่กองทุนโดรนแห่งชาติได้ สามารถขับเคลื่อนยุทธการกองทัพไทยรอบด้านจากโดรน ,ยิงขีปนาวุธโดยโดรน,อากาศยานปืนกลโดรน,ปืนลำแสงโดรน, สถานนีต่อต้านโดรนแต่ละตำบลหมู่บ้าน 80,000หมู่บ้านเบื้องต้นรัศมีปกป้องหมู่บ้านเมื่อโดรนศัตรูรุกรานคือยิงได้ไกล5-10กม.ทั้งแนวราบและแนวดิ่ง,หอคอยต่อต้านโดรนประจำหมู่บ้านทั่วประเทศ,ยิงเครื่องบินรบกวนคลื่นอิเล็กทรอนิกส์ได้นั้นเอง,เพราะอนาคตโดรนนี้จะอันตรายมาก,ต่างชาติมีโดรนAIจิ๋วแล้ว,ใครดูthe matrixก็โดรนเครื่องจักรกลแบบนี้ล่ะ,สามารถล็อคพิกัดเป้าหมายมนุษย์ได้ ถูกตัวมนุษย์ระเบิดตัวเองเลย โดรนพลีชีพขนาดจิ๋ว,สามารถระเบิดกลางสมองเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ,ใหญ่กว่าฝาเอ็มร้อยนิดหน่อยแค่นั้น,ยิ่งมนุษย์ฉีดกราฟีนเข้าตัวจากวัคซีนโควิด มันกดปุ่มอาจบินมาระเบิดสมองเราทันทีแต่ละคนได้สบายๆ,กราฟีนบอกพิกัดชี้พิกัดเป้าหมายให้โดรนพลีชีพจิ๋วนี้นั้นเอง.,กองทุนโดรนแห่งชาติจึงสำคัญมาในยุคนี้,เพราะแต่ละหมู่บ้านสามารถปกป้องโดรนศัตรูทุกๆรูปแบบได้ อาจกดปุ่มระเบิดEMPประจำหมู่บ้านตนทำลายโดรนนั้นได้,หรือคล้ายๆเครื่องปิดสัญญาณคลื่นมือถือนั้นล่ะ,แต่นี้ทำลายวงจรAIของทุกๆโดรนที่บินเข้ามาหมู่บ้านเราได้เลยนั่นเองหรือเปิดกำแพงคลื่นป้องกันโดรนตลอดเวลาก็ได้,เราจึงต้องตั้งศูนย์พัฒนาต่อต้านโดรนศัตรูไปด้วยในกองทุนโดรนแห่งชาตินี้,คนไทยจึงสามารถร่วมบริจาคช่วยกันได้ตลอดเวลา ยอดบริจาคก็สามารถแจ้งเป็นสาธารณะ ใช้อะไรไปทางไหนก็สามารถบอกได้หมด,ส่วนลงรายละเอียดอาจไม่จำเป็นเพราะคือความมั่นคงของชาติศัตรูจะรู้,กองทุนโดรนแห่งชาติ สามารถผลิตอาวุธขีปนาวุธประจำโดรนเราได้อีก,แบบกระสุนไม่จำกัด ลูกขีปนาวุธไม่จำกัด มีแบบโดรนเจ็ต บินไกลบินเร็วข้ามทวีปก็ได้,เช่นโดรนเราบินไกลถึงอาหรับ ยิงขีปนาวุธออกจากโดรน ขีปนาวุธพุงไปอีกถึงฝรั่งเศสเป็นต้น หรือโดรนเราบินไปถึงทวีปแอฟริกาใจกลาง จากนั้นขีปนาวุธจากโดรนส่งตัวไปถึง DCอเมริกันก็ว่า,หรือโดรนเจ๊ตเราบินเลยญี่ปุ่นไป ส่งขีปนาวุธจากโดรนบินต่อไปอีกถึง50รัฐของอเมริกาก็ได้เป็นต้น,คือศักยภาพเราสามารถทำได้อยู่แล้ว แต่เราจะเป็นไปทางนั้นมั้ย แต่เราสร้างทำผลิตเพื่อปกป้องตนเองได้,สำคัญคือต้องร่วมกันกำจัดคนหนักแผ่นดินประจำประเทศไทยเรากันจริงๆจังๆแค่นั้น.ชาติจะไร้ไส้ศึกทันที.,ความมั่นคงทางอธิปไตยไทยเราจะแข็งแกร่งในตัวมันเองด้วย,แบบจะไม่มีของปลอม วัตถุดิบปลอมๆมาผสมในเพชรกล้าแห่งแผ่นดินประเทศไทยเราเลย,มีแต่เพชรเพียวๆใจเพชรเต็มประเทศไทย ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใดๆเราร่วมรวมเป็นหนึ่งเดียวนั้นเอง.,คือคนไทย คือคนของแผ่นดินไทยร่วมกัน. https://youtube.com/watch?v=Ocsr2SRqi_I&si=eW9D-U9fOzi6TnM4
    0 Comments 0 Shares 174 Views 0 Reviews
  • ..มี อ.ปานเทพ สายลุยทางเราก็น่าสนใจมาก,ตรงจุดตรงที่คัน.
    ..ที่เหลือคือหน้างานจัดการจริงๆ
    ..จริงๆประชุมคณะครม.นัดแรกเอาเข้าที่ประชุมประกาศยกเลิกmou43,44เลยก็จบ,มันไม่ใช้สัญญาข้อตกลงสนธิใดๆ,บันทึกความเข้าใจแค่นั้น ไม่ผ่านสภาใหญ่ระดับชาติเลย,หรือนายกฯคนเดียวก็มีอำนาจเต็มพิจารณายกเลิกก็ได้,เสมือนตนเป็นแม่ทัพไทยนำทัพเอง,หากขลาดเขลาขี้ขลาดก็ยุบสภาด้วยอำนาจนายกฯตนเองเลย,เลือกตั้งใหม่ให้แม่ทัพคนใหม่มาเป็นนายกฯแล้วลงดาบตัดเองเลย.,เลอะเทอะดึงเวลาตั้งนั้นตั้งนี้ด้วย,มีเวลาถึงวันที่17ขยายถึง20ก.ย.68 ต้องยกเลิกmou43,44ทันทีตัดไฟแต่ต้นลมในนามรัฐบาลชุดนี้จริง,หากไม่ทำคือกระบวนการปาหี่,คลิปนายกฯหนูให้ข่าวเรื่องmouก็ดูท่าทีต้องการกอดไว้ชัดเจน จะไปคุยให้พ่อมันร่วมทำไม มันสามารถยกเลิกฝ่ายเดียวได้ อ.ปานเทพฯ ต้องอัดค่าจริงใส่หูใส่สมองตรงนี้ก่อนประชุมครม.เลย,ถ้านายกฯยังยืนยันไม่ยกเลิก อ้างสาระพัดบริบทความอีก,แสดงถึงความไม่จริงใจอะไรต่อประชาชนจริง,ลูกเนวินต้องแสดงท่าทีด้วย ข้อมูลตรึมก่อนพรรคตนมานั่งนายกฯเรียกร้องเพื่อไทยยกเลิกmouนี้แบบเห็นด้วยชัดเจน,ทางเร่งด่วนรวดเร็วระดับอดีตผู้หลักผู้ใหญ่ยังิอกสื่อชี้แนวทางให้ว่ายกเลิกฝ่ายเดียวได้ ท่านคือมือพระกาฬขนาดนั้นยังมีชี้แนวทางลัดให้,หากตนเองเป็นนายกฯแล้วยังไม่ยอมยกเลิก,ถือว่าตะบัตสัตย์ต่อประชาชนและสิ่งที่ตนแสดงออกผ่านสื่อเดือนสิงหานั้นชัดเจนด้วย.,ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนและอธิปไตยไทยตนชัดเจนหากยังถ่วงเวลากอดไว้.

    https://youtube.com/shorts/vnLv20Q2mtQ?si=ehREnVkeYU5BuLpE
    ..มี อ.ปานเทพ สายลุยทางเราก็น่าสนใจมาก,ตรงจุดตรงที่คัน. ..ที่เหลือคือหน้างานจัดการจริงๆ ..จริงๆประชุมคณะครม.นัดแรกเอาเข้าที่ประชุมประกาศยกเลิกmou43,44เลยก็จบ,มันไม่ใช้สัญญาข้อตกลงสนธิใดๆ,บันทึกความเข้าใจแค่นั้น ไม่ผ่านสภาใหญ่ระดับชาติเลย,หรือนายกฯคนเดียวก็มีอำนาจเต็มพิจารณายกเลิกก็ได้,เสมือนตนเป็นแม่ทัพไทยนำทัพเอง,หากขลาดเขลาขี้ขลาดก็ยุบสภาด้วยอำนาจนายกฯตนเองเลย,เลือกตั้งใหม่ให้แม่ทัพคนใหม่มาเป็นนายกฯแล้วลงดาบตัดเองเลย.,เลอะเทอะดึงเวลาตั้งนั้นตั้งนี้ด้วย,มีเวลาถึงวันที่17ขยายถึง20ก.ย.68 ต้องยกเลิกmou43,44ทันทีตัดไฟแต่ต้นลมในนามรัฐบาลชุดนี้จริง,หากไม่ทำคือกระบวนการปาหี่,คลิปนายกฯหนูให้ข่าวเรื่องmouก็ดูท่าทีต้องการกอดไว้ชัดเจน จะไปคุยให้พ่อมันร่วมทำไม มันสามารถยกเลิกฝ่ายเดียวได้ อ.ปานเทพฯ ต้องอัดค่าจริงใส่หูใส่สมองตรงนี้ก่อนประชุมครม.เลย,ถ้านายกฯยังยืนยันไม่ยกเลิก อ้างสาระพัดบริบทความอีก,แสดงถึงความไม่จริงใจอะไรต่อประชาชนจริง,ลูกเนวินต้องแสดงท่าทีด้วย ข้อมูลตรึมก่อนพรรคตนมานั่งนายกฯเรียกร้องเพื่อไทยยกเลิกmouนี้แบบเห็นด้วยชัดเจน,ทางเร่งด่วนรวดเร็วระดับอดีตผู้หลักผู้ใหญ่ยังิอกสื่อชี้แนวทางให้ว่ายกเลิกฝ่ายเดียวได้ ท่านคือมือพระกาฬขนาดนั้นยังมีชี้แนวทางลัดให้,หากตนเองเป็นนายกฯแล้วยังไม่ยอมยกเลิก,ถือว่าตะบัตสัตย์ต่อประชาชนและสิ่งที่ตนแสดงออกผ่านสื่อเดือนสิงหานั้นชัดเจนด้วย.,ไม่ซื่อสัตย์ต่อประชาชนและอธิปไตยไทยตนชัดเจนหากยังถ่วงเวลากอดไว้. https://youtube.com/shorts/vnLv20Q2mtQ?si=ehREnVkeYU5BuLpE
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • “Oboe เปิดตัวแพลตฟอร์มเรียนรู้ด้วย AI — สร้างคอร์สได้ทันทีจากแค่คำถามเดียว”

    Oboe คือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วย AI ที่เพิ่งเปิดตัวโดยผู้ร่วมก่อตั้ง Anchor ซึ่งเคยขายกิจการให้ Spotify ไปก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ให้สนุก ยืดหยุ่น และเป็นส่วนตัวมากขึ้น ผู้ใช้สามารถสร้างคอร์สเรียนรู้ได้ทันทีจากแค่การพิมพ์คำถามหรือหัวข้อที่สนใจ เช่น “ประวัติของข้าว” หรือ “วิธีออกเสียง pain au chocolat” แล้วระบบจะสร้างบทเรียนที่ประกอบด้วยบทความ เสียงพอดแคสต์ เกม และแบบทดสอบให้ทันที

    Oboe ใช้สถาปัตยกรรม AI แบบ multi-agent ที่ซับซ้อน โดยแต่ละ agent ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น สร้างโครงสร้างบทเรียน เขียนสคริปต์พอดแคสต์ ดึงภาพจริงจากอินเทอร์เน็ต และตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที ทำให้ผู้ใช้สามารถเริ่มเรียนรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ

    แพลตฟอร์มนี้มีรูปแบบการเรียนรู้ให้เลือกถึง 9 แบบ เช่น บทความเชิงลึก พอดแคสต์แบบสนทนา เกม Word Quest ที่คล้าย Wordle และแบบทดสอบที่ออกแบบให้เบาสมองและเหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน โดยไม่มีโฆษณาแทรก และมีระบบแนะนำคอร์สต่อเนื่องตามหัวข้อที่เรียนจบ

    Oboe เปิดให้สร้างคอร์สฟรีได้ 5 ครั้ง และมีแผนสมาชิกแบบเสียเงินสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างคอร์สเพิ่มถึง 30 หรือ 100 คอร์สต่อเดือน เหมาะกับทั้งผู้เรียนทั่วไปและผู้จัดการเรียนการสอนแบบโฮมสคูล

    จุดเด่นของแพลตฟอร์ม Oboe
    สร้างคอร์สเรียนรู้ได้ทันทีจากคำถามหรือหัวข้อใดก็ได้
    ใช้ AI แบบ multi-agent ที่ทำงานแบบขนานเพื่อสร้างเนื้อหาอย่างรวดเร็ว
    มีรูปแบบการเรียนรู้ให้เลือกถึง 9 แบบ เช่น บทความ เสียง เกม และแบบทดสอบ
    ไม่มีโฆษณา และมีระบบแนะนำคอร์สต่อเนื่องตามความสนใจ

    ความสามารถของระบบ AI
    agent แต่ละตัวรับผิดชอบด้านต่าง ๆ เช่น เขียนสคริปต์ ดึงภาพจริง ตรวจสอบเนื้อหา
    ใช้ภาพจริงจากอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่ภาพที่สร้างจาก AI
    ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด
    สร้างคอร์สได้ภายในไม่กี่วินาที — เหมาะกับการเรียนรู้แบบทันใจ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ผู้ก่อตั้งเคยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Spotify audiobooks
    Oboe ได้รับเงินลงทุนกว่า $4 ล้านจาก Eniac Ventures
    มีระบบพอดแคสต์แบบสนทนา 2 คน คล้าย Google NotebookLM
    เหมาะกับผู้เรียนทั่วไป นักเรียน นักวิจัย หรือผู้จัดการเรียนการสอน

    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/oboe-just-launched-its-an-ai-powered-platform-that-helps-you-learn-anything
    🎓 “Oboe เปิดตัวแพลตฟอร์มเรียนรู้ด้วย AI — สร้างคอร์สได้ทันทีจากแค่คำถามเดียว” Oboe คือแพลตฟอร์มการเรียนรู้ด้วย AI ที่เพิ่งเปิดตัวโดยผู้ร่วมก่อตั้ง Anchor ซึ่งเคยขายกิจการให้ Spotify ไปก่อนหน้านี้ โดยมีเป้าหมายในการเปลี่ยนวิธีการเรียนรู้ให้สนุก ยืดหยุ่น และเป็นส่วนตัวมากขึ้น ผู้ใช้สามารถสร้างคอร์สเรียนรู้ได้ทันทีจากแค่การพิมพ์คำถามหรือหัวข้อที่สนใจ เช่น “ประวัติของข้าว” หรือ “วิธีออกเสียง pain au chocolat” แล้วระบบจะสร้างบทเรียนที่ประกอบด้วยบทความ เสียงพอดแคสต์ เกม และแบบทดสอบให้ทันที Oboe ใช้สถาปัตยกรรม AI แบบ multi-agent ที่ซับซ้อน โดยแต่ละ agent ทำหน้าที่เฉพาะ เช่น สร้างโครงสร้างบทเรียน เขียนสคริปต์พอดแคสต์ ดึงภาพจริงจากอินเทอร์เน็ต และตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหา ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาที ทำให้ผู้ใช้สามารถเริ่มเรียนรู้ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ แพลตฟอร์มนี้มีรูปแบบการเรียนรู้ให้เลือกถึง 9 แบบ เช่น บทความเชิงลึก พอดแคสต์แบบสนทนา เกม Word Quest ที่คล้าย Wordle และแบบทดสอบที่ออกแบบให้เบาสมองและเหมาะกับผู้เรียนแต่ละคน โดยไม่มีโฆษณาแทรก และมีระบบแนะนำคอร์สต่อเนื่องตามหัวข้อที่เรียนจบ Oboe เปิดให้สร้างคอร์สฟรีได้ 5 ครั้ง และมีแผนสมาชิกแบบเสียเงินสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างคอร์สเพิ่มถึง 30 หรือ 100 คอร์สต่อเดือน เหมาะกับทั้งผู้เรียนทั่วไปและผู้จัดการเรียนการสอนแบบโฮมสคูล ✅ จุดเด่นของแพลตฟอร์ม Oboe ➡️ สร้างคอร์สเรียนรู้ได้ทันทีจากคำถามหรือหัวข้อใดก็ได้ ➡️ ใช้ AI แบบ multi-agent ที่ทำงานแบบขนานเพื่อสร้างเนื้อหาอย่างรวดเร็ว ➡️ มีรูปแบบการเรียนรู้ให้เลือกถึง 9 แบบ เช่น บทความ เสียง เกม และแบบทดสอบ ➡️ ไม่มีโฆษณา และมีระบบแนะนำคอร์สต่อเนื่องตามความสนใจ ✅ ความสามารถของระบบ AI ➡️ agent แต่ละตัวรับผิดชอบด้านต่าง ๆ เช่น เขียนสคริปต์ ดึงภาพจริง ตรวจสอบเนื้อหา ➡️ ใช้ภาพจริงจากอินเทอร์เน็ต ไม่ใช่ภาพที่สร้างจาก AI ➡️ ตรวจสอบความถูกต้องของเนื้อหาเพื่อป้องกันข้อผิดพลาด ➡️ สร้างคอร์สได้ภายในไม่กี่วินาที — เหมาะกับการเรียนรู้แบบทันใจ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ผู้ก่อตั้งเคยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา Spotify audiobooks ➡️ Oboe ได้รับเงินลงทุนกว่า $4 ล้านจาก Eniac Ventures ➡️ มีระบบพอดแคสต์แบบสนทนา 2 คน คล้าย Google NotebookLM ➡️ เหมาะกับผู้เรียนทั่วไป นักเรียน นักวิจัย หรือผู้จัดการเรียนการสอน https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/gemini/oboe-just-launched-its-an-ai-powered-platform-that-helps-you-learn-anything
    WWW.TECHRADAR.COM
    Oboe's AI makes everyday curiosity into interactive lessons.
    Choose how you learn using everything from games to podcasts
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • “Ant Group เปิดตัวหุ่นยนต์ R1 — ก้าวแรกสู่ยุค AI ที่มีร่างกาย พร้อมท้าชน Tesla และ Unitree”

    Ant Group บริษัทฟินเทคชื่อดังที่ได้รับการสนับสนุนจาก Jack Ma ได้เปิดตัวหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่นแรกของตนในชื่อ “R1” ผ่านบริษัทลูก Robbyant ในงาน Inclusion Conference ที่เซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2025 โดยถือเป็นการเข้าสู่สนามแข่งขันด้าน embodied AI อย่างเต็มตัว ซึ่งมีคู่แข่งระดับโลกอย่าง Tesla, Unitree Robotics และบริษัทสตาร์ทอัพอีกมากมาย

    หุ่นยนต์ R1 ถูกออกแบบให้มีความสามารถหลากหลาย เช่น เป็นไกด์นำเที่ยว, คัดแยกยาในร้านขายยา, ให้คำปรึกษาทางการแพทย์ และทำงานครัวพื้นฐาน โดยเน้นการพัฒนา “สมอง” มากกว่ารูปร่าง — Ant Group เชื่อว่าความฉลาดจากโมเดล AI ขนาดใหญ่จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของหุ่นยนต์ มากกว่าการออกแบบฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว

    R1 มีน้ำหนักประมาณ 110 กิโลกรัม สูงราว 1.6–1.75 เมตร เคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วไม่เกิน 1.5 เมตรต่อวินาที และมีข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้ถึง 34 จุด โดยใช้ชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์จีน เช่น Ti5 และ Galaxea AI ซึ่ง Ant Group เป็นผู้สนับสนุน

    นอกจากการเปิดตัว R1 แล้ว Ant ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโมเดลภาษา BaiLing ของตนเอง และทดลองฝึกด้วยชิปที่ผลิตในประเทศจีน เพื่อเสริมความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยี AI ของประเทศ

    จุดเด่นของหุ่นยนต์ R1 จาก Ant Group
    เปิดตัวในงาน Inclusion Conference ที่เซี่ยงไฮ้ วันที่ 11 กันยายน 2025
    พัฒนาโดย Robbyant บริษัทลูกของ Ant Group
    มีความสามารถหลากหลาย เช่น ทำงานครัว, เป็นไกด์, คัดแยกยา, ให้คำปรึกษา
    เน้นการพัฒนา “สมอง” ด้วยโมเดล AI มากกว่าการออกแบบฮาร์ดแวร์

    สเปกและการใช้งานของ R1
    น้ำหนัก 110 กิโลกรัม สูง 1.6–1.75 เมตร เคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 1.5 เมตร/วินาที
    มีข้อต่อเคลื่อนไหวได้ 34 จุด ใช้ชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์จีน
    อยู่ในขั้นตอนการผลิตและส่งมอบให้ลูกค้า เช่น พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้
    ไม่ขายเป็นเครื่องเดี่ยว แต่เป็น “โซลูชันตามสถานการณ์”

    วิสัยทัศน์ของ Ant Group
    มองหุ่นยนต์เป็นช่องทางขยายบริการดิจิทัลสู่โลกจริง เช่น การเงินและสาธารณสุข
    พัฒนาโมเดลภาษา BaiLing เพื่อใช้กับหุ่นยนต์และบริการ AI
    ทดลองฝึกโมเดลด้วยชิปที่ผลิตในจีนเพื่อลดต้นทุนและพึ่งพาต่างประเทศ
    มุ่งเน้น embodied intelligence เพื่อสร้างหุ่นยนต์ที่เข้าใจและตอบสนองมนุษย์ได้ดีขึ้น

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Tesla อยู่ระหว่างพัฒนา Optimus รุ่น 3 ที่มีความคล่องตัวสูงและราคาต่ำ
    Unitree Robotics เป็นผู้นำด้านหุ่นยนต์เคลื่อนที่ในจีน
    Nvidia สนับสนุนหลายบริษัทด้วย Jetson modules และ Isaac Sim
    ตลาด embodied AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภาคการผลิต, โลจิสติกส์ และการดูแลสุขภาพ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/11/jack-ma-backed-ants-first-humanoid-robot-sheds-light-on-its-ai-ambitions
    🤖 “Ant Group เปิดตัวหุ่นยนต์ R1 — ก้าวแรกสู่ยุค AI ที่มีร่างกาย พร้อมท้าชน Tesla และ Unitree” Ant Group บริษัทฟินเทคชื่อดังที่ได้รับการสนับสนุนจาก Jack Ma ได้เปิดตัวหุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์รุ่นแรกของตนในชื่อ “R1” ผ่านบริษัทลูก Robbyant ในงาน Inclusion Conference ที่เซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2025 โดยถือเป็นการเข้าสู่สนามแข่งขันด้าน embodied AI อย่างเต็มตัว ซึ่งมีคู่แข่งระดับโลกอย่าง Tesla, Unitree Robotics และบริษัทสตาร์ทอัพอีกมากมาย หุ่นยนต์ R1 ถูกออกแบบให้มีความสามารถหลากหลาย เช่น เป็นไกด์นำเที่ยว, คัดแยกยาในร้านขายยา, ให้คำปรึกษาทางการแพทย์ และทำงานครัวพื้นฐาน โดยเน้นการพัฒนา “สมอง” มากกว่ารูปร่าง — Ant Group เชื่อว่าความฉลาดจากโมเดล AI ขนาดใหญ่จะเป็นตัวกำหนดอนาคตของหุ่นยนต์ มากกว่าการออกแบบฮาร์ดแวร์เพียงอย่างเดียว R1 มีน้ำหนักประมาณ 110 กิโลกรัม สูงราว 1.6–1.75 เมตร เคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วไม่เกิน 1.5 เมตรต่อวินาที และมีข้อต่อที่เคลื่อนไหวได้ถึง 34 จุด โดยใช้ชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์จีน เช่น Ti5 และ Galaxea AI ซึ่ง Ant Group เป็นผู้สนับสนุน นอกจากการเปิดตัว R1 แล้ว Ant ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาโมเดลภาษา BaiLing ของตนเอง และทดลองฝึกด้วยชิปที่ผลิตในประเทศจีน เพื่อเสริมความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยี AI ของประเทศ ✅ จุดเด่นของหุ่นยนต์ R1 จาก Ant Group ➡️ เปิดตัวในงาน Inclusion Conference ที่เซี่ยงไฮ้ วันที่ 11 กันยายน 2025 ➡️ พัฒนาโดย Robbyant บริษัทลูกของ Ant Group ➡️ มีความสามารถหลากหลาย เช่น ทำงานครัว, เป็นไกด์, คัดแยกยา, ให้คำปรึกษา ➡️ เน้นการพัฒนา “สมอง” ด้วยโมเดล AI มากกว่าการออกแบบฮาร์ดแวร์ ✅ สเปกและการใช้งานของ R1 ➡️ น้ำหนัก 110 กิโลกรัม สูง 1.6–1.75 เมตร เคลื่อนที่ได้ไม่เกิน 1.5 เมตร/วินาที ➡️ มีข้อต่อเคลื่อนไหวได้ 34 จุด ใช้ชิ้นส่วนจากซัพพลายเออร์จีน ➡️ อยู่ในขั้นตอนการผลิตและส่งมอบให้ลูกค้า เช่น พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้ ➡️ ไม่ขายเป็นเครื่องเดี่ยว แต่เป็น “โซลูชันตามสถานการณ์” ✅ วิสัยทัศน์ของ Ant Group ➡️ มองหุ่นยนต์เป็นช่องทางขยายบริการดิจิทัลสู่โลกจริง เช่น การเงินและสาธารณสุข ➡️ พัฒนาโมเดลภาษา BaiLing เพื่อใช้กับหุ่นยนต์และบริการ AI ➡️ ทดลองฝึกโมเดลด้วยชิปที่ผลิตในจีนเพื่อลดต้นทุนและพึ่งพาต่างประเทศ ➡️ มุ่งเน้น embodied intelligence เพื่อสร้างหุ่นยนต์ที่เข้าใจและตอบสนองมนุษย์ได้ดีขึ้น ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Tesla อยู่ระหว่างพัฒนา Optimus รุ่น 3 ที่มีความคล่องตัวสูงและราคาต่ำ ➡️ Unitree Robotics เป็นผู้นำด้านหุ่นยนต์เคลื่อนที่ในจีน ➡️ Nvidia สนับสนุนหลายบริษัทด้วย Jetson modules และ Isaac Sim ➡️ ตลาด embodied AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภาคการผลิต, โลจิสติกส์ และการดูแลสุขภาพ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/11/jack-ma-backed-ants-first-humanoid-robot-sheds-light-on-its-ai-ambitions
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Jack Ma-backed Ant's first humanoid robot sheds light on its AI ambitions
    Jack Ma-backed Ant Group Co showcased its first humanoid robot on Sept 11, formally joining an intensifying effort by Chinese companies to compete with the US in commercialising a frontier technology.
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
  • ..อ.ปานเทพ ทำถูกต้องมาก ต้องแบบนี้ แฉชื่อประเทศที่สามอย่างตรงไปตรงมา มันกล้าสั่งมันกล้ามาบีบมากดดัน ต้องกล้าถูกคนไทยทั้งประเทศมารับรู้การกระทำของมัน
    .. เลิกปกปิดเลิกปิดบังชื่อประเทศที่สามกันอีกต่อไป แฉความจริงแบบลักษณะนี้ออกมา เรา..ประชาชนก็สามารถร่วมแก้ไขต้นเหตุของปัญหาร่วมกันได้.
    ..ญี่ปุ่นเป็นประเทศสันดานหมามาแต่ใดมาตั้งแต่ก่อการอยากใหญ่ก่อสงครามโลก
    ..ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่สามเจ้าเดียวแน่นอน แต่เมื่อแฉว่าญี่ปุ่นก็คือชาติญี่ปุ่น นักลงทุนญี่ปุ่นนี้นั้นเอง.
    ..ใจหมามาแทรกแซงอธิปไตยไทย เกาหลีเหนือสมควรยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นเลย,เกาะผีบ้าจะจมทะเลทั้งประเทศเวลาไหนก็ไม่รู้ เกาะซาตานแรปทีเลียนเสพกามทั้งเกาะเอามันส์บ้ากามสารพัดตามสันดานแรปทีเลี่ยนสัตว์เลื้อยคลาน กษัตริย์มันในอดีตก่อนระเบิดสองเกาะนางากับฮิโรชิมันก็สัตว์เลื้อยคลานขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองจนมีกฎห้ามมองหน้ากษัตริย์เกิดขึ้นเพราะหน้าตากษัตริย์คือพวกสัตว์เลื้อยคลาน ประชาชนรับรู้จะล้มล้างมัน จึงฆ่าทุกๆคนที่ไปเห็นใบหน้าพวกมัน,ใต้เกาะญี่ปุ่นคืออุโมงค์ขนาดใหญ่ยักษ์เผ่าสัตว์เลื้อยคลานแดกมนุษย์เป็นอันมาก เพาะมนุษย์โคลนมนุษย์เป็นฟาร์มใต้ดินไว้แดกเป็นจำนวนมาก.ญี่ปุ่นคือตาอเมริกาตัวพ่อ ตัวกดขี่ไทยคือญี่ปุ่นนี้ล่ะ, ฝรั่งเศสก็ตาอเมริกา,อย่าแปลกใจทำไมเราเสียมลฑลบูรพาเราคือพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณเพราะญี่ปุ่นนี้คือฝ่ายพวกมันกับฝรั่งเศสอังกฤษอเมริกา ญี่ปุ่นคือไส้ศึกตัวพ่ออีกตัว,ตัวแทนอเมริกาเป็นceoตัวแทนฝรั่งมาปกครองดูแลสายพานผลประโยชน์ของฝรั่งทั้งประเทศไทย ดูตัวอย่างที่ชัดเจนคือการผลิตรถยนต์ มันกดขี่ห้ามคนไทยสามารถผลิตมาแข่งกับมันอิสระได้,ซื้อข้าราชการนักการเมืองขายชาติไว้ทำงานทุกๆวงการให้มัน,ชาติไทยเราจึงไม่เจริญไปไหน,แถมเสื่อมศีลธรรมคู่ขนานเจริญเพียงวัตถุแค่นั้น,ง่ายๆญี่ปุ่นไม่ใช่มิตรจริงอะไรหรอก,นอมินีอีลิทdeep stateแรปทีเลี่ยนดีๆนี้ล่ะ,สังเกตุมันใช้มุกแบบอเมริกาพิมพ์แบงค์ใช้เองได้สิ,อเมริกาก็พิมพ์แบงค์ใช้เองตามอำเภอใจ,ญี่ปุ่นขี้ข้ามือขวาในฝั่งเอเชียเลยก็ได้ สันดานเดียวกับอเมริกานั้นล่ะ,สันดานนี้ดูง่ายๆคือมวยไทยไปชกที่ญี่ปุ่น มันโกงคนไทยสารพัดรูปแบบเพื่อเอาชนะนักมวยไทยเรา ยุคล่าสุดคือบัวขวาK-1มันนั้นล่ะ,เราถูกสื่อในไทยเราที่มันซื้อสื่อหลักเราด้วยเงินได้มาล้างสมองคนไทยเราให้ชอบญี่ปุ่นแบบมัน,
    ..ธาตุแท้ญี่ปุ่นมันก็สันดานเดียวกับเขมรนั้นล่ะ,
    ..คนไทยเราจึงต้องช่วยเหลือกันเองเท่านั้น,สามัคคีเราคนไทยเท่านั้นจึงจะรอดในวิกฤติยุคนี้,เรามิอาจพึงใครนอกประเทศจริงจังเป็นหลักได้,พระเจ้าสอนให้เองพึงตนเองให้ได้ก่อนนั้นถูกต้องที่สุด,
    ..ญี่ปุ่นมาแทรกแซงภัยคุกคามรุกรานไทย,สันดานไม่ต่างจากอเมริการีบมาแทรกให้ต้องหยุดยิงนั้นล่ะ มุกเดียวกัน
    ..แต่ญี่ปุ่นมาแทรกมาแซงมาแทรกแซงขัดขวางในการจัดการเขมรด้วยการบีบไทยให้ต้องเปิดด่าน,บริบทพื้นฐานเพื่ออีลิทไม่ต้องการให้ไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้เพราะถ้าจัดการเขมรเด็ดขาดได้ ภูมิภาคนี้จะสงบสุขทันที ซึ่งอีลิทdeep stateยอมรับไม่ได้จะเสียแผนทั้งหมด,ต้องทำลายกลยุทธทางสงครามของไทยด้านการแทรกแซงบีบำทยต้องเปิดด่านให้ได้โดยส่งญี่ปุ่นกล้าตายมารับบทรับงานหน้างานครั้งนี้แทนมาเลย์อเมริกาที่เล่นไปแล้ว,กำกับงานละครโดยCIAประจำภูมิภาคนี้อีกล่ะ,งานสร้างความวุ่นวายไม่สงบสุขงานสร้างความโกลาหลแตกแยกต้องCIAยุยงปลุกปั่นเสมอ,มือที่สามตัวพ่อกำกับมือที่สามสำรองอีกที.
    ..ประเทศที่สามไม่น่าจะแค่ชาติญี่ปุ่น มีอเมริกา มีฝรั่งเศส ชาติอาหรับเลว ชาติยุโรปชั่วอีกตรึม งานหลักคือสร้างความไม่สงบสุขสันติในภูมิภาคนี้ ห้ามไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้ แหล่งอาหาร เนื้อมนุษย์ค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์จะหายไปทันที อาหารดีๆเนื้อคนเนื้อเด็กๆจะหายไปทันทีจะขาดตลาดทั่วโลกในลัทธิตาเดียวแดกมนุษย์นี้ ตลอดฮับฟอกเงิน ฮับอาชญากรรมสากลข้ามชาติทำเงินในเขมรจะหายไปด้วย สแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะหายไปทันที บ่อนคาสิโน ค้ายาเถื่อน ค้าอาวุธชีวภาพตัวพ่อด้วยที่แอบซ่อนไว้อีกตรึมไม่ต่างจากฝั่งยูเครนเลยล่ะ,ใต้ดินใต้อุโมงค์ในเขมรอีกขุดไว้ขนาดใหญ่เป็นฐานจะถูกทำลายทันที,ไม่ต่างจากพวกขายชาติที่ให้อเมริกาสร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่ฐานขนาดใหญ่ที่เชียงใหม่แก่อเมริกานั้นล่ะ,ฮับรวบรวมเนื้อสดค้ามนุษย์จากฝั่งพม่าได้มากมายกันเลย ,ทะลุรถไฟฟ้าใต้เปลือกโลกใต้ดินวิ่งไปยุโรปอเมริกาความเร็วกว่า3,000กม.ถึง8,000กม.ต่อชม.อีก,
    ..สรุปญี่ปุ่นเหี้ยทำลายความมั่นคงสงบสุขในภูมิภาคเรานี้ก็ด้วย ในไทยยิ่งชัดเจน,ญี่ปุ่นใช้เวียดนามส่งสินค้าบรรทุกสินค้าไปค้าขายได้,เห็นว่าไทยปิดด่าน สามารถใช้ฐานลาว เวียดนามค้าขายแทนได้,ไม่จำเป็นใช้อ้างไทย หากมิตรสหายที่ดีจริงจะไม่ทำแบบนี้,เอาภัยรุกรานคุกคามอธิปไตยไทยที่เขมรกำลังโจมตีไทย ยิงระเบิดใส่ไทยก่อนใส่ประชาชนไทยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก่อน ใส่โรงพยาบาลไทยที่ไม่รู้ห่าอะไรด้วยเลยก่อน สายข่าวสืบทราบชัดเจนว่ามันล็อกวิถีระเยิดยิงตกของการตกได้ ความน่าจะเป็นจะถึงจะตกระเบิดได้หรือการตกถูกได้,ญี่ปุ่นทำในจังหวะนี้ผิดวิสัยผิดปกติด้วย.ไส้ศึกศัตรูคือญี่ปุ่นนี้ก็ด้วย.หากข่าวนี้จริง,ญี่ปุ่นถ้าไปตกลงเจรจาทางลับกับอเมริกากับฝรั่งเศสหากขนเสบียงอาวุธช่วยเขมรชนะไทย ญี่ปุ่นก็มีส่วนได้ทรัพยากรมีค่ามากมายกว่า20ล้านล้านบาทอาจถึง100ล้านล้านบาทในอ่าวไทยและตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมรด้วย,สถานะญี่ปุ่นกับไทยจึงดูเหมาะสมยุ่งเกี่ยวออกตัวไม่น่าเกียจแบบอเมริกาฝรั่งเศสมาเลย์เพราะอ้างการลงทุนในเขมรอ้างการค้าขายไม่ได้แบบใก้ไทยเช่นญี่ปุ่นกว่าก็ไม่ได้,ญี่ปุ่นจึงเป็นตัวเลือกการแทรกแซงหน้างานครั้งนี้ดีที่สุดเนียนๆที่สุดนิ่มนวลที่สุด,ไม่มีใครออกมากล้าแฉชื่อประเทศที่สามได้หรอก รัฐบาลนายกฯหนูปกปิดให้อย่างดีแน่นอน,สามารถแทรกแซงยุทธการยุทธวิธีการเด็ดศึกเขมรได้แน่นอน ขัดขวางทหารไทยทำลายศักยภาพทางสงครามทหารเขมรได้แน่นอน,การเปิดด่าน ชาติที่สนับสนุนเขมร ขายอาวุธให้เขมรได้ขายได้ค้าแน่นอนจากเงินมืดเงินบ่อนของเขมรจากเงินแก๊งสแกมเมอร์ในเขมรมันซื้ออาวุธซื้อเสบียงพร้อมส่งตรงเวลาตามไส้ศึกในไทยเปิดจุดผ่อนปรนเปิดด่านให้เราขนส่งกำลังพลช่วยทหารเขมรชนะไทยได้แน่นอน.,ต้องฝากประเทศที่สามแบบญี่ปุ่นแล้วนะ เราฝรั่งเศสจะล่มละลายแล้ว อเมริกาก็ด้วย ญี่ปุ่นแกก็อักเสบทางการเงินด้วยนี้,มาจัดการไทยปล้นไทยอย่างชอบธรรมแดกได้จริงไม่อับอายโลกแค่เชียร์เขมรยึด1:200,000,สั่งไส้ศึกในไทยจะเปลี่ยนใครก็กอดmou43,44,tor46ไว้ให้แน่นด้วย,รับรองว่ามือที่สามประเทศสร้างความแตกแยกวุ่นวายแทรกแซงชาตินั้นแทรกแซงชาตินี้แบบเราสบายแน่นอน.ตังมหาศาลจากไทยเลย.แกญี่ปุ่นบีบไทยเปิดด่านให้ได้ ส่งสินค้าอาวุธและเสบียงให้ทหารเขมรรบชนะไทยให้ได้ ตุนอาวุธตุนเสบียงก่อน ยอมๆตกลงรับปากลมๆใสกระดาษกับไทยก่อนนะเขมร,ชนะไทยแน่นอนจากไส้ศึกภายในประเทศไทยมันเองคนในกองทัพไทยมันเอง.

    https://youtube.com/shorts/8br86PtN-yg?si=OtkRfTsleWOCTPaP
    ..อ.ปานเทพ ทำถูกต้องมาก ต้องแบบนี้ แฉชื่อประเทศที่สามอย่างตรงไปตรงมา มันกล้าสั่งมันกล้ามาบีบมากดดัน ต้องกล้าถูกคนไทยทั้งประเทศมารับรู้การกระทำของมัน .. เลิกปกปิดเลิกปิดบังชื่อประเทศที่สามกันอีกต่อไป แฉความจริงแบบลักษณะนี้ออกมา เรา..ประชาชนก็สามารถร่วมแก้ไขต้นเหตุของปัญหาร่วมกันได้. ..ญี่ปุ่นเป็นประเทศสันดานหมามาแต่ใดมาตั้งแต่ก่อการอยากใหญ่ก่อสงครามโลก ..ญี่ปุ่นไม่ใช่ประเทศที่สามเจ้าเดียวแน่นอน แต่เมื่อแฉว่าญี่ปุ่นก็คือชาติญี่ปุ่น นักลงทุนญี่ปุ่นนี้นั้นเอง. ..ใจหมามาแทรกแซงอธิปไตยไทย เกาหลีเหนือสมควรยิงขีปนาวุธถล่มญี่ปุ่นเลย,เกาะผีบ้าจะจมทะเลทั้งประเทศเวลาไหนก็ไม่รู้ เกาะซาตานแรปทีเลียนเสพกามทั้งเกาะเอามันส์บ้ากามสารพัดตามสันดานแรปทีเลี่ยนสัตว์เลื้อยคลาน กษัตริย์มันในอดีตก่อนระเบิดสองเกาะนางากับฮิโรชิมันก็สัตว์เลื้อยคลานขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองจนมีกฎห้ามมองหน้ากษัตริย์เกิดขึ้นเพราะหน้าตากษัตริย์คือพวกสัตว์เลื้อยคลาน ประชาชนรับรู้จะล้มล้างมัน จึงฆ่าทุกๆคนที่ไปเห็นใบหน้าพวกมัน,ใต้เกาะญี่ปุ่นคืออุโมงค์ขนาดใหญ่ยักษ์เผ่าสัตว์เลื้อยคลานแดกมนุษย์เป็นอันมาก เพาะมนุษย์โคลนมนุษย์เป็นฟาร์มใต้ดินไว้แดกเป็นจำนวนมาก.ญี่ปุ่นคือตาอเมริกาตัวพ่อ ตัวกดขี่ไทยคือญี่ปุ่นนี้ล่ะ, ฝรั่งเศสก็ตาอเมริกา,อย่าแปลกใจทำไมเราเสียมลฑลบูรพาเราคือพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณเพราะญี่ปุ่นนี้คือฝ่ายพวกมันกับฝรั่งเศสอังกฤษอเมริกา ญี่ปุ่นคือไส้ศึกตัวพ่ออีกตัว,ตัวแทนอเมริกาเป็นceoตัวแทนฝรั่งมาปกครองดูแลสายพานผลประโยชน์ของฝรั่งทั้งประเทศไทย ดูตัวอย่างที่ชัดเจนคือการผลิตรถยนต์ มันกดขี่ห้ามคนไทยสามารถผลิตมาแข่งกับมันอิสระได้,ซื้อข้าราชการนักการเมืองขายชาติไว้ทำงานทุกๆวงการให้มัน,ชาติไทยเราจึงไม่เจริญไปไหน,แถมเสื่อมศีลธรรมคู่ขนานเจริญเพียงวัตถุแค่นั้น,ง่ายๆญี่ปุ่นไม่ใช่มิตรจริงอะไรหรอก,นอมินีอีลิทdeep stateแรปทีเลี่ยนดีๆนี้ล่ะ,สังเกตุมันใช้มุกแบบอเมริกาพิมพ์แบงค์ใช้เองได้สิ,อเมริกาก็พิมพ์แบงค์ใช้เองตามอำเภอใจ,ญี่ปุ่นขี้ข้ามือขวาในฝั่งเอเชียเลยก็ได้ สันดานเดียวกับอเมริกานั้นล่ะ,สันดานนี้ดูง่ายๆคือมวยไทยไปชกที่ญี่ปุ่น มันโกงคนไทยสารพัดรูปแบบเพื่อเอาชนะนักมวยไทยเรา ยุคล่าสุดคือบัวขวาK-1มันนั้นล่ะ,เราถูกสื่อในไทยเราที่มันซื้อสื่อหลักเราด้วยเงินได้มาล้างสมองคนไทยเราให้ชอบญี่ปุ่นแบบมัน, ..ธาตุแท้ญี่ปุ่นมันก็สันดานเดียวกับเขมรนั้นล่ะ, ..คนไทยเราจึงต้องช่วยเหลือกันเองเท่านั้น,สามัคคีเราคนไทยเท่านั้นจึงจะรอดในวิกฤติยุคนี้,เรามิอาจพึงใครนอกประเทศจริงจังเป็นหลักได้,พระเจ้าสอนให้เองพึงตนเองให้ได้ก่อนนั้นถูกต้องที่สุด, ..ญี่ปุ่นมาแทรกแซงภัยคุกคามรุกรานไทย,สันดานไม่ต่างจากอเมริการีบมาแทรกให้ต้องหยุดยิงนั้นล่ะ มุกเดียวกัน ..แต่ญี่ปุ่นมาแทรกมาแซงมาแทรกแซงขัดขวางในการจัดการเขมรด้วยการบีบไทยให้ต้องเปิดด่าน,บริบทพื้นฐานเพื่ออีลิทไม่ต้องการให้ไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้เพราะถ้าจัดการเขมรเด็ดขาดได้ ภูมิภาคนี้จะสงบสุขทันที ซึ่งอีลิทdeep stateยอมรับไม่ได้จะเสียแผนทั้งหมด,ต้องทำลายกลยุทธทางสงครามของไทยด้านการแทรกแซงบีบำทยต้องเปิดด่านให้ได้โดยส่งญี่ปุ่นกล้าตายมารับบทรับงานหน้างานครั้งนี้แทนมาเลย์อเมริกาที่เล่นไปแล้ว,กำกับงานละครโดยCIAประจำภูมิภาคนี้อีกล่ะ,งานสร้างความวุ่นวายไม่สงบสุขงานสร้างความโกลาหลแตกแยกต้องCIAยุยงปลุกปั่นเสมอ,มือที่สามตัวพ่อกำกับมือที่สามสำรองอีกที. ..ประเทศที่สามไม่น่าจะแค่ชาติญี่ปุ่น มีอเมริกา มีฝรั่งเศส ชาติอาหรับเลว ชาติยุโรปชั่วอีกตรึม งานหลักคือสร้างความไม่สงบสุขสันติในภูมิภาคนี้ ห้ามไทยจัดการเขมรให้เด็ดขาดได้ แหล่งอาหาร เนื้อมนุษย์ค้ามนุษย์ค้าอวัยวะมนุษย์จะหายไปทันที อาหารดีๆเนื้อคนเนื้อเด็กๆจะหายไปทันทีจะขาดตลาดทั่วโลกในลัทธิตาเดียวแดกมนุษย์นี้ ตลอดฮับฟอกเงิน ฮับอาชญากรรมสากลข้ามชาติทำเงินในเขมรจะหายไปด้วย สแกมเมอร์เดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะหายไปทันที บ่อนคาสิโน ค้ายาเถื่อน ค้าอาวุธชีวภาพตัวพ่อด้วยที่แอบซ่อนไว้อีกตรึมไม่ต่างจากฝั่งยูเครนเลยล่ะ,ใต้ดินใต้อุโมงค์ในเขมรอีกขุดไว้ขนาดใหญ่เป็นฐานจะถูกทำลายทันที,ไม่ต่างจากพวกขายชาติที่ให้อเมริกาสร้างอุโมงค์ขนาดใหญ่ฐานขนาดใหญ่ที่เชียงใหม่แก่อเมริกานั้นล่ะ,ฮับรวบรวมเนื้อสดค้ามนุษย์จากฝั่งพม่าได้มากมายกันเลย ,ทะลุรถไฟฟ้าใต้เปลือกโลกใต้ดินวิ่งไปยุโรปอเมริกาความเร็วกว่า3,000กม.ถึง8,000กม.ต่อชม.อีก, ..สรุปญี่ปุ่นเหี้ยทำลายความมั่นคงสงบสุขในภูมิภาคเรานี้ก็ด้วย ในไทยยิ่งชัดเจน,ญี่ปุ่นใช้เวียดนามส่งสินค้าบรรทุกสินค้าไปค้าขายได้,เห็นว่าไทยปิดด่าน สามารถใช้ฐานลาว เวียดนามค้าขายแทนได้,ไม่จำเป็นใช้อ้างไทย หากมิตรสหายที่ดีจริงจะไม่ทำแบบนี้,เอาภัยรุกรานคุกคามอธิปไตยไทยที่เขมรกำลังโจมตีไทย ยิงระเบิดใส่ไทยก่อนใส่ประชาชนไทยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยก่อน ใส่โรงพยาบาลไทยที่ไม่รู้ห่าอะไรด้วยเลยก่อน สายข่าวสืบทราบชัดเจนว่ามันล็อกวิถีระเยิดยิงตกของการตกได้ ความน่าจะเป็นจะถึงจะตกระเบิดได้หรือการตกถูกได้,ญี่ปุ่นทำในจังหวะนี้ผิดวิสัยผิดปกติด้วย.ไส้ศึกศัตรูคือญี่ปุ่นนี้ก็ด้วย.หากข่าวนี้จริง,ญี่ปุ่นถ้าไปตกลงเจรจาทางลับกับอเมริกากับฝรั่งเศสหากขนเสบียงอาวุธช่วยเขมรชนะไทย ญี่ปุ่นก็มีส่วนได้ทรัพยากรมีค่ามากมายกว่า20ล้านล้านบาทอาจถึง100ล้านล้านบาทในอ่าวไทยและตลอดแนวพรมแดนไทยกับเขมรด้วย,สถานะญี่ปุ่นกับไทยจึงดูเหมาะสมยุ่งเกี่ยวออกตัวไม่น่าเกียจแบบอเมริกาฝรั่งเศสมาเลย์เพราะอ้างการลงทุนในเขมรอ้างการค้าขายไม่ได้แบบใก้ไทยเช่นญี่ปุ่นกว่าก็ไม่ได้,ญี่ปุ่นจึงเป็นตัวเลือกการแทรกแซงหน้างานครั้งนี้ดีที่สุดเนียนๆที่สุดนิ่มนวลที่สุด,ไม่มีใครออกมากล้าแฉชื่อประเทศที่สามได้หรอก รัฐบาลนายกฯหนูปกปิดให้อย่างดีแน่นอน,สามารถแทรกแซงยุทธการยุทธวิธีการเด็ดศึกเขมรได้แน่นอน ขัดขวางทหารไทยทำลายศักยภาพทางสงครามทหารเขมรได้แน่นอน,การเปิดด่าน ชาติที่สนับสนุนเขมร ขายอาวุธให้เขมรได้ขายได้ค้าแน่นอนจากเงินมืดเงินบ่อนของเขมรจากเงินแก๊งสแกมเมอร์ในเขมรมันซื้ออาวุธซื้อเสบียงพร้อมส่งตรงเวลาตามไส้ศึกในไทยเปิดจุดผ่อนปรนเปิดด่านให้เราขนส่งกำลังพลช่วยทหารเขมรชนะไทยได้แน่นอน.,ต้องฝากประเทศที่สามแบบญี่ปุ่นแล้วนะ เราฝรั่งเศสจะล่มละลายแล้ว อเมริกาก็ด้วย ญี่ปุ่นแกก็อักเสบทางการเงินด้วยนี้,มาจัดการไทยปล้นไทยอย่างชอบธรรมแดกได้จริงไม่อับอายโลกแค่เชียร์เขมรยึด1:200,000,สั่งไส้ศึกในไทยจะเปลี่ยนใครก็กอดmou43,44,tor46ไว้ให้แน่นด้วย,รับรองว่ามือที่สามประเทศสร้างความแตกแยกวุ่นวายแทรกแซงชาตินั้นแทรกแซงชาตินี้แบบเราสบายแน่นอน.ตังมหาศาลจากไทยเลย.แกญี่ปุ่นบีบไทยเปิดด่านให้ได้ ส่งสินค้าอาวุธและเสบียงให้ทหารเขมรรบชนะไทยให้ได้ ตุนอาวุธตุนเสบียงก่อน ยอมๆตกลงรับปากลมๆใสกระดาษกับไทยก่อนนะเขมร,ชนะไทยแน่นอนจากไส้ศึกภายในประเทศไทยมันเองคนในกองทัพไทยมันเอง. https://youtube.com/shorts/8br86PtN-yg?si=OtkRfTsleWOCTPaP
    0 Comments 0 Shares 317 Views 0 Reviews
  • นายกฯหนู ค.ว.ยแบบไหน.ไปตั้ง,คนนี้มาเป็นรมต.,สมองมีมั้ย,ผลงานกากๆที่ผ่านมาตำตามองไม่เห็นเหรอว่าสิ้นฝีมือกากไร้ประสิทธิภาพมาก,คนของลุงตู่ก็จริง แต่ชาติต้องมาก่อน ประชาชนเจ็บซ้ำเสือกมีหน้ากระตือรือร้นเร่งเปิดด่าน มันยิงทหารเราตายมากมายบาดเจ็บเกือบพันพิการอีกตรึม เด็กๆตายคา7/11มรึงตายเกือบหมดทั้งครอบครัวเสือกทีมคณะชั่วเลวทั้งหมดนี้ที่เจรจาเสือกไม่ใส่จิตใส่ใจจดจำ ชั่วเลวทั้งคณะมาด,นายกฯหนูเหี้ยกากกระจอกจริงๆไม่จำด้วย,เสียหมามากกำลังได้คะแนนนิยมคนละครึ่งแก้ตัวว่าทำดีจริง,ตกหมาตายเพราะความโง่เขลาใช้คนเสือกไม่ดูผลงานคน,เรา..ประชาชนครไทยไม่ต้องการให้เปิดด่าน ให้ปิดด่านถาวรแบบมทภ.2พูดชัดเจนไม่มีกำหนดจนกว่าบ้านเมืองสงบสุข,สร้างรั้ว800กม.เสร็จตลอดแนวพรมแดนค่อยคุยกันหรือคนไทยเราหายโกรธคนเนรคุณคนทรยศหักหลังเขมรชาติสันดานเลวชั่วนี้,ที่เข้ามาทำงานก็ดีเป็นทหารเขมรก็ดี มันต่างคิดในใจว่าสิ่งที่มันสร้างมันมารับจ้างสร้างบนแผ่นดินไทยตึกบ้านทั้งหมดมันว่าเป็นของมันด้วยที่สร้างขึ้นมีโอกาสมีกำลังมันจะเข้ามายึดกรุงเทพฯทันที นี้คนเขมรทำงานในไทยมันคิดอย่างนี้จริง ทหารเขมรยิ่งชัดเจนด้วย,มันล้างสมองปลูกฝังคนเขมรชัดเจนจนเป็นอุดมการณ์เดียวกันแล้ว,เขมรในไทยทั้งหมดที่ก้มหัวทำงานในไทยมันแค่รอโอกาสแค่นั้น,ไส้ศึกภายในพร้อมรวมตัวกับทหารเขมรแนวหน้ามันหากรุกมาถึงกรุงเทพฯเรา.ปักธงเขมรโน้นในกลางกรุง,ทีมเจรจาคณะที่โง่เขลา ทหารที่ไปด้วยก็โง่เขลาในทั้งทีมเจรจา ไปเสือกเปิดช่องให้มันทางวาจา มันต่างห่าอะไรกับผู้ว่าฯสระแก้ว,พวกนี้ไม่มีความบริสุทธิ์ใจในอธิปไตยไทยตนเอง,นายกฯหนูสามารถถูกประชาชนกล่าวหาว่าไม่จริงใจไม่ซื่อสัตย์ต่ออธิปไตยตนได้ในทางเนื้องานที่แสดงออกจากคนของตนที่ส่งให้ไปตัดสินใจแทน,ซึ่งพูดอ้างชัดเจนว่านายกฯให้ตัดสินใจแทนได้เต็มที่,นี้คือขี้ข้า ส่งขี้ข้ามาตายแทนแม่ทัพชั่วก่อน,ไม่กระทบกระเทือนตนได้นั้นเอง.
    https://youtube.com/shorts/8bjMEPgtwZs?si=PMdhR9ggxK6QjM4R
    นายกฯหนู ค.ว.ยแบบไหน.ไปตั้ง,คนนี้มาเป็นรมต.,สมองมีมั้ย,ผลงานกากๆที่ผ่านมาตำตามองไม่เห็นเหรอว่าสิ้นฝีมือกากไร้ประสิทธิภาพมาก,คนของลุงตู่ก็จริง แต่ชาติต้องมาก่อน ประชาชนเจ็บซ้ำเสือกมีหน้ากระตือรือร้นเร่งเปิดด่าน มันยิงทหารเราตายมากมายบาดเจ็บเกือบพันพิการอีกตรึม เด็กๆตายคา7/11มรึงตายเกือบหมดทั้งครอบครัวเสือกทีมคณะชั่วเลวทั้งหมดนี้ที่เจรจาเสือกไม่ใส่จิตใส่ใจจดจำ ชั่วเลวทั้งคณะมาด,นายกฯหนูเหี้ยกากกระจอกจริงๆไม่จำด้วย,เสียหมามากกำลังได้คะแนนนิยมคนละครึ่งแก้ตัวว่าทำดีจริง,ตกหมาตายเพราะความโง่เขลาใช้คนเสือกไม่ดูผลงานคน,เรา..ประชาชนครไทยไม่ต้องการให้เปิดด่าน ให้ปิดด่านถาวรแบบมทภ.2พูดชัดเจนไม่มีกำหนดจนกว่าบ้านเมืองสงบสุข,สร้างรั้ว800กม.เสร็จตลอดแนวพรมแดนค่อยคุยกันหรือคนไทยเราหายโกรธคนเนรคุณคนทรยศหักหลังเขมรชาติสันดานเลวชั่วนี้,ที่เข้ามาทำงานก็ดีเป็นทหารเขมรก็ดี มันต่างคิดในใจว่าสิ่งที่มันสร้างมันมารับจ้างสร้างบนแผ่นดินไทยตึกบ้านทั้งหมดมันว่าเป็นของมันด้วยที่สร้างขึ้นมีโอกาสมีกำลังมันจะเข้ามายึดกรุงเทพฯทันที นี้คนเขมรทำงานในไทยมันคิดอย่างนี้จริง ทหารเขมรยิ่งชัดเจนด้วย,มันล้างสมองปลูกฝังคนเขมรชัดเจนจนเป็นอุดมการณ์เดียวกันแล้ว,เขมรในไทยทั้งหมดที่ก้มหัวทำงานในไทยมันแค่รอโอกาสแค่นั้น,ไส้ศึกภายในพร้อมรวมตัวกับทหารเขมรแนวหน้ามันหากรุกมาถึงกรุงเทพฯเรา.ปักธงเขมรโน้นในกลางกรุง,ทีมเจรจาคณะที่โง่เขลา ทหารที่ไปด้วยก็โง่เขลาในทั้งทีมเจรจา ไปเสือกเปิดช่องให้มันทางวาจา มันต่างห่าอะไรกับผู้ว่าฯสระแก้ว,พวกนี้ไม่มีความบริสุทธิ์ใจในอธิปไตยไทยตนเอง,นายกฯหนูสามารถถูกประชาชนกล่าวหาว่าไม่จริงใจไม่ซื่อสัตย์ต่ออธิปไตยตนได้ในทางเนื้องานที่แสดงออกจากคนของตนที่ส่งให้ไปตัดสินใจแทน,ซึ่งพูดอ้างชัดเจนว่านายกฯให้ตัดสินใจแทนได้เต็มที่,นี้คือขี้ข้า ส่งขี้ข้ามาตายแทนแม่ทัพชั่วก่อน,ไม่กระทบกระเทือนตนได้นั้นเอง. https://youtube.com/shorts/8bjMEPgtwZs?si=PMdhR9ggxK6QjM4R
    0 Comments 0 Shares 171 Views 0 Reviews
  • รมต.ค้ำประกันว่าจุดผ่อนปรนต่างๆแถวจันทบุรี ตราด ขนส่งสินค้าเข้าออกไป,นี้เสมือนว่าสร้างช่องสร้างรูขนส่งเสบียงสนับสนุนทั้งคนเขมรเองให้ส่งต่อไปเป็นเสบียงสนับสนุนทหารเขมรตนมายิงไทยให้ชนะให้ได้ ขุดคูก่อสร้างฐานพร้อมยึดไทยให้ได้แน่นอน คุยจะถล่มยึด ปักธงเขมรขนะไทยที่ใจกลางกรุงเทพฯโน้น,
    ..ปลด รมต.นี้ออกเถอะ หนูมีปัญหาแล้ว ไม่แหกตาดูผลงานเหี้ยที่ผ่านมาเลย,ตาลีตาเหลือกเอาแต่พูดจะเปิดด่านตลอดมา,สมควรถูกตรวจสอบทรัพย์สินทันที แบงค์ตรวจสอบเงินโอนเข้าผิดปกติกับเครือญาติลูกน้องที่เกี่ยงข้องทั้งหมดในทีมเจรจาผีบ้านี้กับเขมรด้วย เนื้องานไม่เคยประสบความสำเร็จจริงอะไร,มีแต่กระดาษและคำพูดตลอดเรื่อยมาที่ผ่านมา ไม่มีบทลงโทษเขมรที่ละเมิดใดใน13ข้อห่าอะไร ทหารไทยขาขาด รัฐบาลมรึงไทยก็จ่ายเยียวยาช่วยไทยพวกมรึงกันเอง,ทีมเจรจาส้นตีนไร้สมอง ค.ว.ย.นี้ไม่มีในสมองเลยก็ยุบทิ้งไปเถอะ,นายกฯหนูน่าจะของปลอมจริงๆมาเป็นเหี้ยทำไมนะ,ขัดขวางขัดจังหวะคนดีมีความสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองใหเด็ดขาดได้จริง,ถ้าเป็นแบบนี้ประเทศจะเสียหายกว่าชุดเดิมอีก,ภัยรอบทิศกำลังมาเสือกมาขั้นเวลาทำบ้าอะไร.

    https://youtube.com/watch?v=GCJUWxtuYVg&si=FHcfJeuEs9LQzC_Y
    รมต.ค้ำประกันว่าจุดผ่อนปรนต่างๆแถวจันทบุรี ตราด ขนส่งสินค้าเข้าออกไป,นี้เสมือนว่าสร้างช่องสร้างรูขนส่งเสบียงสนับสนุนทั้งคนเขมรเองให้ส่งต่อไปเป็นเสบียงสนับสนุนทหารเขมรตนมายิงไทยให้ชนะให้ได้ ขุดคูก่อสร้างฐานพร้อมยึดไทยให้ได้แน่นอน คุยจะถล่มยึด ปักธงเขมรขนะไทยที่ใจกลางกรุงเทพฯโน้น, ..ปลด รมต.นี้ออกเถอะ หนูมีปัญหาแล้ว ไม่แหกตาดูผลงานเหี้ยที่ผ่านมาเลย,ตาลีตาเหลือกเอาแต่พูดจะเปิดด่านตลอดมา,สมควรถูกตรวจสอบทรัพย์สินทันที แบงค์ตรวจสอบเงินโอนเข้าผิดปกติกับเครือญาติลูกน้องที่เกี่ยงข้องทั้งหมดในทีมเจรจาผีบ้านี้กับเขมรด้วย เนื้องานไม่เคยประสบความสำเร็จจริงอะไร,มีแต่กระดาษและคำพูดตลอดเรื่อยมาที่ผ่านมา ไม่มีบทลงโทษเขมรที่ละเมิดใดใน13ข้อห่าอะไร ทหารไทยขาขาด รัฐบาลมรึงไทยก็จ่ายเยียวยาช่วยไทยพวกมรึงกันเอง,ทีมเจรจาส้นตีนไร้สมอง ค.ว.ย.นี้ไม่มีในสมองเลยก็ยุบทิ้งไปเถอะ,นายกฯหนูน่าจะของปลอมจริงๆมาเป็นเหี้ยทำไมนะ,ขัดขวางขัดจังหวะคนดีมีความสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาบ้านเมืองใหเด็ดขาดได้จริง,ถ้าเป็นแบบนี้ประเทศจะเสียหายกว่าชุดเดิมอีก,ภัยรอบทิศกำลังมาเสือกมาขั้นเวลาทำบ้าอะไร. https://youtube.com/watch?v=GCJUWxtuYVg&si=FHcfJeuEs9LQzC_Y
    0 Comments 0 Shares 112 Views 0 Reviews
  • อ้างประเทศที่3,ทำไมไม่กล้าบอกชื่อประเทศที่3ควายนี้แก่ประชาชน,ประชาชนจะได้ไปถามฑูตประเทศที่3นี้,ถ้าเดือดร้อนขนาดนั้นมาค้ามาขายโคตรพ่อโคตรแมร่งมรึงทำไมในไทย,ใช้ไทยเป็นสถานที่อ้างเปิดด่านเปืดจุดผ่อนปรนวลีคำพ่อมรึงตายเหรอ,ไปใช้ลาวแทนสิ ไปเปิดบริษัทในลาวในเวียดนามโน้น,ใช้ด่านเวียดนามด่านลาวโน้น,ตรรกะส้นตีนมาก,รมต.ก็ไร้สมองไร้ความคิดความอ่าน คิดไม่เป็น,ไปเป็นรมต.มันสะ ลาออกจากรมต.เลย ,ไม่มีความสามารถยึดมั่นในยุทธการวิธีทางสงครามอะไร,เป็นผู้บัญชาการแบบไหน แต่ยึดฐานที่มั่นตนเองไม่ได้,ยึดครองฐานรบตนก็ไม่ได้,กากมาก,จะอ้างผ่อนปรนห่าเหวอะไรก็คือเปิดด่านให้สินค้าเข้าออกได้นั้นล่ะ สอดไส้อะไรก็ได้หมดในการขนไปเขมร ไอ้มือที่สามนี้ล่ะน่ากลัวส่งอาวุธก็ได้,เป็นถึง รมต.สมควรมีสมองมีวุฒิภาวะพื้นฐานว่าเวลานี้มันเส้นยาแดงชัดเจน ยังจะมีหน้าไปเปิดโอกาสทางเปิดด่านขนส่งรถบรรทุกสินค้าอีก เอกชนต่างชาติ ประเทศที่สามนี้สมควรประเทศมันมีแต่ศึกสงคราม ความไม่สงบภายในใหญ่โตบ้างนะ จนล่มสลายเลย อย่ามาใช้ไทยทำมาหาแดกเลย ไปทำมาหาแดกที่ประเทศอื่นเถอะถ้าจะตายขนาดนั้น,นี้คือข้ออ้างเพื่อช่วยเหลือเขมรเหมือนรีบเจรจาหยุดยิงนั่นเอง,ทหารพานิชย์บัดสบมาก สระแก้วก็เกินทนแล้ว ชาวบ้านเขาเห็นความชั่วเลวหมดล่ะ ปิดด่านยังลักลอบขนกันเข้าออกตรึม,
    ..ทหารภาคตะวันออกไว้ใจไม่ได้แล้วทั้งหมดหากเป็นเช่นนี้,รวมไปถึงรัฐบาลอนุทินนายกฯหนูด้วย เรา..ประชาชนกำลังลดเครดิตลงอาจติดลบแล้วตอนนี้ ไม่น่าไว้วางใจแล้ว หางงอก ลายออกชัดเจนแล้ว ,
    ..ไม่สมควรตัดสินใจแถลงบนเวทีแบบนั้น,ทรยศประชาชนคนไทยทั้งประเทศชัดเจน.รับไม่ได้ เหี้ยสันดานเขมรมันยิงคนไทยตายคา7/11นะ ตายเกือบหมดครอบครัว พวกเจรจานี้ทั้งหมดที่เป็นคนไทยพากันไปเจรจาทรยศประชาชนแบบนี้ สมควรให้ตายเกือบหมดครอบครัวทุกๆตัวแบบครอบครัวคนที่ถูกระเบิดเขมรยิงใส่7/11 โดยเฉพาะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยเรา,ไม่สำนึกสำเนียกอะไร ,น่าผิดหวังมาก ไม่สมควรเป็นคณะนำทีมเจรจาใดๆอีกต่อไป กากกระจอก ไร้ฝีมือ อ่อน ขลาดใจหมา แค่ประเทศที่3บอกก็ใจสัตว์หมาทำตามดากมัน,ไม่ยกประเทศให้มันเลย มันบอกอะไรเดี๋ยวจัดให้ เข้าข่ายอดีตนายกฯอุ๊งอิ๊งอีกคนแล้วทั้งคณะ ร่วมก่อการเป็นกระบวนการให้เสียยุทธการศึกปกป้องอธิปไตยความมั่นคงของชาติ ด้านความมั่นคงชัดเจนด้านเพราะปิดด่านไร้เปิดด่านทุกๆกรณีคือยุทธวิธีสงครามที่ชนะโดยไม่ต้องรบ,แต่ขี้หมาสมองหมาปัญญาควายทั้งคณะเจรจามีสมองไว้ตั้งบ่าใส่กระโหลกเฉยๆก็คิดอ่านเหมือนคนมีตำแหน่งใหญ่โตจริงก็ไม่ได้ สมองหมาและปัญญาอ่อนสุดๆทั้งคณะ เจตนาทำให้ศักยภาพทางทหารเขมรมีกำลังสู้รบชนะไทยชัดเจนจนอาจนำไปสู่ให้ทหารไทยเราแพ้สงคราม ทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยด้วย ผิด ม.119 ให้เสียหานเสื่อมเสียได้,คาดผลได้ว่าคนเขมรมีกำลังใจเชียร์ทหารเขมรตน ส่งข้าวปลาอาหารจากตนที่ขนส่งจากด่านไทยเข้าไปส่งต่อให้ทหารเขมรได้ จะอาวุธที่ประกอบเสร็จแล้ว ยารักษาโรคขณะยิงกันบาดเจ็บ อาหารเสบียงสามารถส่งต่อจากมือประชาชนคนทหารเขมรก็ได้อีก,นี้คือพื้นๆที่คนทั่วไปก็อ่านขาดได้ แต่คณะเจรจากากมากๆ ,ทรยศกบฎต่อประชาชนคนไทยตนเองชัดเจน นายกฯหนู ต้องถูกยึดอำนาจหากยังปล่อยแบบนี้ อย่ามาลิเกกับประชาชน,ถือว่ายุบการเจรจาทั้งหมดทันที ไร้ประสิทธิภาพ ใช้การจริงอะไรไม่ได้ เจรจาผีบ้ามาหลายรอบแล้ว ถือว่ากระจอก,ยุบไปเถอะ,ปิดด่านถาวรเหมือนเดิม ให้ทหารภาค2ควบคุมด่านตลอดพรมแดนเถอะ,ผบ.ทบ. ผบ.สส.เหล่าทัพท่านต้องสร้างความไว้วางใจให้ประชาชนให้ได้ เรา..ประชาชนหากเสื่อมศรัทธาทหารโดยภาพรวมอีก ที่กระทำย่ำยีความรู้สึกประชาชนทุกๆครั้งแบบนี้ที่ประชุมผีบ้ากันออกมาแต่ละที,ทหารไทยเราอาจไม่มีประชาชนสนับสนุนอีกต่อไป,และเบื่อหน่ายมากกับหลายๆมาตราการที่ไม่เด็ดขาดกับเขมรในภาคตะวันออกนี้ เสมือนภาพที่ออกมาทหารภาค1,คือผู้ทรยศต่ออธิปไตยไทยตนเองดีๆนี้เอง.หรือทหารบูรพาพยัคฆ์คือต้นเหตุของปัญหาพรมแดนไทยกับเขมรทั้งหมดตั้งแต่แรก.ผู้ก่อความวุ่นวายโกลาหลเองต่อแผ่นดินไทยนี้.
    ..เพราะทหารภาค2 ไม่มีปัญหาแบบทหารภาค1,ชัดเจนหนักแน่นไม่ขี้คุย ใช่ปากสร้างข้ออ้างหาคะแนนกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศแบบภาค1หรือคณะเจรจารีบเปิดแต่ด่าน เร่งรีบอ้างปากออกมาก็อยากแต่เปิดด่านตั้งแต่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งแล้ว,สายข่าวทหารดี ถ้ามีหลักฐานพวกเหี้ยนี้ทำความชั่วก็ขอให้ท่านจัดการทหารเลวชั่วนี้แทนคนไทยเรา..ประชาชนจริงๆเสียที เก็บกวาดเสียที ท่านเก็บรักษาไว้เป็นอนุสาวรีย์ไว้เชิดชูเกียรติกองทัพไทยหรือไง.



    https://youtube.com/watch?v=iFYaOFFV3lU&si=9Ehz_xkDyLizQNVW
    อ้างประเทศที่3,ทำไมไม่กล้าบอกชื่อประเทศที่3ควายนี้แก่ประชาชน,ประชาชนจะได้ไปถามฑูตประเทศที่3นี้,ถ้าเดือดร้อนขนาดนั้นมาค้ามาขายโคตรพ่อโคตรแมร่งมรึงทำไมในไทย,ใช้ไทยเป็นสถานที่อ้างเปิดด่านเปืดจุดผ่อนปรนวลีคำพ่อมรึงตายเหรอ,ไปใช้ลาวแทนสิ ไปเปิดบริษัทในลาวในเวียดนามโน้น,ใช้ด่านเวียดนามด่านลาวโน้น,ตรรกะส้นตีนมาก,รมต.ก็ไร้สมองไร้ความคิดความอ่าน คิดไม่เป็น,ไปเป็นรมต.มันสะ ลาออกจากรมต.เลย ,ไม่มีความสามารถยึดมั่นในยุทธการวิธีทางสงครามอะไร,เป็นผู้บัญชาการแบบไหน แต่ยึดฐานที่มั่นตนเองไม่ได้,ยึดครองฐานรบตนก็ไม่ได้,กากมาก,จะอ้างผ่อนปรนห่าเหวอะไรก็คือเปิดด่านให้สินค้าเข้าออกได้นั้นล่ะ สอดไส้อะไรก็ได้หมดในการขนไปเขมร ไอ้มือที่สามนี้ล่ะน่ากลัวส่งอาวุธก็ได้,เป็นถึง รมต.สมควรมีสมองมีวุฒิภาวะพื้นฐานว่าเวลานี้มันเส้นยาแดงชัดเจน ยังจะมีหน้าไปเปิดโอกาสทางเปิดด่านขนส่งรถบรรทุกสินค้าอีก เอกชนต่างชาติ ประเทศที่สามนี้สมควรประเทศมันมีแต่ศึกสงคราม ความไม่สงบภายในใหญ่โตบ้างนะ จนล่มสลายเลย อย่ามาใช้ไทยทำมาหาแดกเลย ไปทำมาหาแดกที่ประเทศอื่นเถอะถ้าจะตายขนาดนั้น,นี้คือข้ออ้างเพื่อช่วยเหลือเขมรเหมือนรีบเจรจาหยุดยิงนั่นเอง,ทหารพานิชย์บัดสบมาก สระแก้วก็เกินทนแล้ว ชาวบ้านเขาเห็นความชั่วเลวหมดล่ะ ปิดด่านยังลักลอบขนกันเข้าออกตรึม, ..ทหารภาคตะวันออกไว้ใจไม่ได้แล้วทั้งหมดหากเป็นเช่นนี้,รวมไปถึงรัฐบาลอนุทินนายกฯหนูด้วย เรา..ประชาชนกำลังลดเครดิตลงอาจติดลบแล้วตอนนี้ ไม่น่าไว้วางใจแล้ว หางงอก ลายออกชัดเจนแล้ว , ..ไม่สมควรตัดสินใจแถลงบนเวทีแบบนั้น,ทรยศประชาชนคนไทยทั้งประเทศชัดเจน.รับไม่ได้ เหี้ยสันดานเขมรมันยิงคนไทยตายคา7/11นะ ตายเกือบหมดครอบครัว พวกเจรจานี้ทั้งหมดที่เป็นคนไทยพากันไปเจรจาทรยศประชาชนแบบนี้ สมควรให้ตายเกือบหมดครอบครัวทุกๆตัวแบบครอบครัวคนที่ถูกระเบิดเขมรยิงใส่7/11 โดยเฉพาะหัวหน้าคณะเจรจาฝ่ายไทยเรา,ไม่สำนึกสำเนียกอะไร ,น่าผิดหวังมาก ไม่สมควรเป็นคณะนำทีมเจรจาใดๆอีกต่อไป กากกระจอก ไร้ฝีมือ อ่อน ขลาดใจหมา แค่ประเทศที่3บอกก็ใจสัตว์หมาทำตามดากมัน,ไม่ยกประเทศให้มันเลย มันบอกอะไรเดี๋ยวจัดให้ เข้าข่ายอดีตนายกฯอุ๊งอิ๊งอีกคนแล้วทั้งคณะ ร่วมก่อการเป็นกระบวนการให้เสียยุทธการศึกปกป้องอธิปไตยความมั่นคงของชาติ ด้านความมั่นคงชัดเจนด้านเพราะปิดด่านไร้เปิดด่านทุกๆกรณีคือยุทธวิธีสงครามที่ชนะโดยไม่ต้องรบ,แต่ขี้หมาสมองหมาปัญญาควายทั้งคณะเจรจามีสมองไว้ตั้งบ่าใส่กระโหลกเฉยๆก็คิดอ่านเหมือนคนมีตำแหน่งใหญ่โตจริงก็ไม่ได้ สมองหมาและปัญญาอ่อนสุดๆทั้งคณะ เจตนาทำให้ศักยภาพทางทหารเขมรมีกำลังสู้รบชนะไทยชัดเจนจนอาจนำไปสู่ให้ทหารไทยเราแพ้สงคราม ทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยด้วย ผิด ม.119 ให้เสียหานเสื่อมเสียได้,คาดผลได้ว่าคนเขมรมีกำลังใจเชียร์ทหารเขมรตน ส่งข้าวปลาอาหารจากตนที่ขนส่งจากด่านไทยเข้าไปส่งต่อให้ทหารเขมรได้ จะอาวุธที่ประกอบเสร็จแล้ว ยารักษาโรคขณะยิงกันบาดเจ็บ อาหารเสบียงสามารถส่งต่อจากมือประชาชนคนทหารเขมรก็ได้อีก,นี้คือพื้นๆที่คนทั่วไปก็อ่านขาดได้ แต่คณะเจรจากากมากๆ ,ทรยศกบฎต่อประชาชนคนไทยตนเองชัดเจน นายกฯหนู ต้องถูกยึดอำนาจหากยังปล่อยแบบนี้ อย่ามาลิเกกับประชาชน,ถือว่ายุบการเจรจาทั้งหมดทันที ไร้ประสิทธิภาพ ใช้การจริงอะไรไม่ได้ เจรจาผีบ้ามาหลายรอบแล้ว ถือว่ากระจอก,ยุบไปเถอะ,ปิดด่านถาวรเหมือนเดิม ให้ทหารภาค2ควบคุมด่านตลอดพรมแดนเถอะ,ผบ.ทบ. ผบ.สส.เหล่าทัพท่านต้องสร้างความไว้วางใจให้ประชาชนให้ได้ เรา..ประชาชนหากเสื่อมศรัทธาทหารโดยภาพรวมอีก ที่กระทำย่ำยีความรู้สึกประชาชนทุกๆครั้งแบบนี้ที่ประชุมผีบ้ากันออกมาแต่ละที,ทหารไทยเราอาจไม่มีประชาชนสนับสนุนอีกต่อไป,และเบื่อหน่ายมากกับหลายๆมาตราการที่ไม่เด็ดขาดกับเขมรในภาคตะวันออกนี้ เสมือนภาพที่ออกมาทหารภาค1,คือผู้ทรยศต่ออธิปไตยไทยตนเองดีๆนี้เอง.หรือทหารบูรพาพยัคฆ์คือต้นเหตุของปัญหาพรมแดนไทยกับเขมรทั้งหมดตั้งแต่แรก.ผู้ก่อความวุ่นวายโกลาหลเองต่อแผ่นดินไทยนี้. ..เพราะทหารภาค2 ไม่มีปัญหาแบบทหารภาค1,ชัดเจนหนักแน่นไม่ขี้คุย ใช่ปากสร้างข้ออ้างหาคะแนนกับประชาชนคนไทยทั้งประเทศแบบภาค1หรือคณะเจรจารีบเปิดแต่ด่าน เร่งรีบอ้างปากออกมาก็อยากแต่เปิดด่านตั้งแต่รัฐบาลอุ๊งอิ๊งแล้ว,สายข่าวทหารดี ถ้ามีหลักฐานพวกเหี้ยนี้ทำความชั่วก็ขอให้ท่านจัดการทหารเลวชั่วนี้แทนคนไทยเรา..ประชาชนจริงๆเสียที เก็บกวาดเสียที ท่านเก็บรักษาไว้เป็นอนุสาวรีย์ไว้เชิดชูเกียรติกองทัพไทยหรือไง. https://youtube.com/watch?v=iFYaOFFV3lU&si=9Ehz_xkDyLizQNVW
    0 Comments 0 Shares 230 Views 0 Reviews
  • “Neuralink ผ่าน 2,000 วันใช้งานจริง! ผู้ป่วยควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยความคิด — ก้าวใหม่ของเทคโนโลยีเชื่อมสมองกับเครื่องจักร”

    ลองจินตนาการว่าคุณสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ได้ด้วยความคิด โดยไม่ต้องขยับมือหรือพูดออกมา — นั่นคือสิ่งที่ Neuralink บริษัทของ Elon Musk กำลังทำให้เป็นจริง และล่าสุดได้ประกาศว่า มีผู้ป่วย 12 คนทั่วโลกที่ใช้อุปกรณ์ฝังสมองของบริษัทมาแล้วรวมกันกว่า 2,000 วัน หรือกว่า 15,000 ชั่วโมง

    หนึ่งในผู้ใช้ที่โด่งดังที่สุดคือ Noland Arbaugh ผู้ที่เป็นอัมพาตจากอุบัติเหตุทางน้ำในปี 2016 และได้รับการฝังชิป Neuralink ในปี 2024 หลังจากนั้นเขาสามารถเล่นวิดีโอเกม เรียนภาษา และควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยความคิดเพียงอย่างเดียว

    การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Neuralink เริ่มการทดลองทางคลินิกนอกสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก โดยฝังชิปให้ผู้ป่วยอัมพาต 2 คนในแคนาดาเมื่อปลายเดือนสิงหาคมและต้นกันยายน 2025 ที่โรงพยาบาล Toronto Western Hospital ภายใต้โครงการ CAN-PRIME ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการควบคุมอุปกรณ์ด้วยความคิด

    ผู้ป่วยทั้งสองสามารถควบคุมเคอร์เซอร์บนหน้าจอได้ภายในไม่กี่นาทีหลังการผ่าตัด โดยใช้สัญญาณจากสมองที่ถูกถอดรหัสผ่าน AI และแปลงเป็นการเคลื่อนไหวบนหน้าจอ — เป็นการข้ามขั้นตอนการเคลื่อนไหวทางกายภาพโดยสิ้นเชิง

    นอกจากแคนาดา Neuralink ยังได้รับอนุมัติจากหน่วยงานในสหราชอาณาจักรเพื่อเริ่มการทดลองทางคลินิก GB-PRIME ซึ่งจะศึกษาการใช้งานชิปในผู้ป่วยอัมพาตเช่นกัน โดยมีเป้าหมายระยะยาวในการฟื้นฟูการพูด การมองเห็น และความสามารถในการสื่อสารของผู้ป่วย

    ความคืบหน้าของ Neuralink
    มีผู้ใช้ 12 คนทั่วโลก ใช้งานรวมกันกว่า 2,000 วัน และ 15,335 ชั่วโมง
    ผู้ใช้รายแรก Noland Arbaugh สามารถเล่นเกมและเรียนภาษาได้ด้วยความคิด
    การใช้งานจริงเริ่มตั้งแต่ปี 2024 หลังได้รับอนุมัติจาก FDA

    การทดลองทางคลินิกในแคนาดา
    ฝังชิปให้ผู้ป่วยอัมพาต 2 คนที่ Toronto Western Hospital
    ผู้ป่วยสามารถควบคุมเคอร์เซอร์ได้ภายในไม่กี่นาทีหลังผ่าตัด
    ใช้ AI ถอดรหัสสัญญาณสมองและแปลงเป็นการเคลื่อนไหว
    โครงการ CAN-PRIME มุ่งเน้นความปลอดภัยและความสามารถในการใช้งานจริง

    การขยายตัวระดับโลก
    ได้รับอนุมัติจากสหราชอาณาจักรเพื่อเริ่มโครงการ GB-PRIME
    เป้าหมายคือการฟื้นฟูการสื่อสาร การมองเห็น และการเคลื่อนไหว
    มีแผนลดต้นทุนการฝังชิปให้เหลือเพียงไม่กี่พันดอลลาร์ในอนาคต
    ใช้หุ่นยนต์ผ่าตัดเฉพาะทางในการฝังอุปกรณ์

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    ผู้ป่วยในแคนาดาอายุประมาณ 30 ปี มีอาการอัมพาตจากการบาดเจ็บไขสันหลัง
    อุปกรณ์ฝังในสมองส่วนควบคุมการเคลื่อนไหว (motor cortex)
    บริษัทอื่นเช่น Synchron ก็พัฒนาเทคโนโลยี BCI เช่นกัน
    ผู้ป่วยรายแรกเคยมีปัญหาชิปหลุดหลังผ่าตัด แต่กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง

    https://wccftech.com/elon-musks-brain-chip-firm-neuralink-says-its-12-patients-have-used-chips-for-2000-days/
    🧠 “Neuralink ผ่าน 2,000 วันใช้งานจริง! ผู้ป่วยควบคุมคอมพิวเตอร์ด้วยความคิด — ก้าวใหม่ของเทคโนโลยีเชื่อมสมองกับเครื่องจักร” ลองจินตนาการว่าคุณสามารถควบคุมคอมพิวเตอร์ได้ด้วยความคิด โดยไม่ต้องขยับมือหรือพูดออกมา — นั่นคือสิ่งที่ Neuralink บริษัทของ Elon Musk กำลังทำให้เป็นจริง และล่าสุดได้ประกาศว่า มีผู้ป่วย 12 คนทั่วโลกที่ใช้อุปกรณ์ฝังสมองของบริษัทมาแล้วรวมกันกว่า 2,000 วัน หรือกว่า 15,000 ชั่วโมง หนึ่งในผู้ใช้ที่โด่งดังที่สุดคือ Noland Arbaugh ผู้ที่เป็นอัมพาตจากอุบัติเหตุทางน้ำในปี 2016 และได้รับการฝังชิป Neuralink ในปี 2024 หลังจากนั้นเขาสามารถเล่นวิดีโอเกม เรียนภาษา และควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยความคิดเพียงอย่างเดียว การประกาศครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจาก Neuralink เริ่มการทดลองทางคลินิกนอกสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก โดยฝังชิปให้ผู้ป่วยอัมพาต 2 คนในแคนาดาเมื่อปลายเดือนสิงหาคมและต้นกันยายน 2025 ที่โรงพยาบาล Toronto Western Hospital ภายใต้โครงการ CAN-PRIME ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อศึกษาความปลอดภัยและประสิทธิภาพของการควบคุมอุปกรณ์ด้วยความคิด ผู้ป่วยทั้งสองสามารถควบคุมเคอร์เซอร์บนหน้าจอได้ภายในไม่กี่นาทีหลังการผ่าตัด โดยใช้สัญญาณจากสมองที่ถูกถอดรหัสผ่าน AI และแปลงเป็นการเคลื่อนไหวบนหน้าจอ — เป็นการข้ามขั้นตอนการเคลื่อนไหวทางกายภาพโดยสิ้นเชิง นอกจากแคนาดา Neuralink ยังได้รับอนุมัติจากหน่วยงานในสหราชอาณาจักรเพื่อเริ่มการทดลองทางคลินิก GB-PRIME ซึ่งจะศึกษาการใช้งานชิปในผู้ป่วยอัมพาตเช่นกัน โดยมีเป้าหมายระยะยาวในการฟื้นฟูการพูด การมองเห็น และความสามารถในการสื่อสารของผู้ป่วย ✅ ความคืบหน้าของ Neuralink ➡️ มีผู้ใช้ 12 คนทั่วโลก ใช้งานรวมกันกว่า 2,000 วัน และ 15,335 ชั่วโมง ➡️ ผู้ใช้รายแรก Noland Arbaugh สามารถเล่นเกมและเรียนภาษาได้ด้วยความคิด ➡️ การใช้งานจริงเริ่มตั้งแต่ปี 2024 หลังได้รับอนุมัติจาก FDA ✅ การทดลองทางคลินิกในแคนาดา ➡️ ฝังชิปให้ผู้ป่วยอัมพาต 2 คนที่ Toronto Western Hospital ➡️ ผู้ป่วยสามารถควบคุมเคอร์เซอร์ได้ภายในไม่กี่นาทีหลังผ่าตัด ➡️ ใช้ AI ถอดรหัสสัญญาณสมองและแปลงเป็นการเคลื่อนไหว ➡️ โครงการ CAN-PRIME มุ่งเน้นความปลอดภัยและความสามารถในการใช้งานจริง ✅ การขยายตัวระดับโลก ➡️ ได้รับอนุมัติจากสหราชอาณาจักรเพื่อเริ่มโครงการ GB-PRIME ➡️ เป้าหมายคือการฟื้นฟูการสื่อสาร การมองเห็น และการเคลื่อนไหว ➡️ มีแผนลดต้นทุนการฝังชิปให้เหลือเพียงไม่กี่พันดอลลาร์ในอนาคต ➡️ ใช้หุ่นยนต์ผ่าตัดเฉพาะทางในการฝังอุปกรณ์ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ ผู้ป่วยในแคนาดาอายุประมาณ 30 ปี มีอาการอัมพาตจากการบาดเจ็บไขสันหลัง ➡️ อุปกรณ์ฝังในสมองส่วนควบคุมการเคลื่อนไหว (motor cortex) ➡️ บริษัทอื่นเช่น Synchron ก็พัฒนาเทคโนโลยี BCI เช่นกัน ➡️ ผู้ป่วยรายแรกเคยมีปัญหาชิปหลุดหลังผ่าตัด แต่กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง https://wccftech.com/elon-musks-brain-chip-firm-neuralink-says-its-12-patients-have-used-chips-for-2000-days/
    WCCFTECH.COM
    Elon Musk's Brain Chip Firm Neuralink Says Its 12 Patients Have Used Chips For 2,000 Days!
    Neuralink announces 12 patients using its Brain Computer Interfaces, with 15,335 hours of cumulative usage.
    0 Comments 0 Shares 157 Views 0 Reviews
  • “Alterego เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ ‘ใกล้เคียงโทรจิต’ พิมพ์ด้วยความคิด คุยเงียบๆ ได้ และแปลภาษาแบบไร้เสียง — ก้าวใหม่ของการสื่อสารมนุษย์กับ AI”

    ถ้าคุณเคยฝันถึงการสื่อสารแบบไม่ต้องพูด ไม่ต้องพิมพ์ แค่ “คิด” แล้วคำพูดก็ปรากฏ — ตอนนี้มันไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไป เพราะสตาร์ทอัพชื่อ Alterego ได้เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ที่อ้างว่าเป็น “wearable ใกล้เคียงโทรจิตตัวแรกของโลก” ที่สามารถพิมพ์ข้อความด้วยความคิด ควบคุมอุปกรณ์แบบไร้มือ และสื่อสารกับคนอื่นแบบเงียบๆ ได้

    อุปกรณ์นี้พัฒนาโดย Arnav Kapur จาก MIT Media Lab และ Max Newlon จาก Harvard Innovation Labs โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “Silent Sense” ซึ่งไม่ใช่การอ่านความคิดโดยตรง แต่เป็นการตรวจจับสัญญาณประสาทกล้ามเนื้อที่สมองส่งไปยังระบบพูด ก่อนที่เราจะเปล่งเสียงออกมา — ทำให้สามารถแปลงความตั้งใจเป็นคำสั่งหรือข้อความได้ทันที

    ในวิดีโอสาธิต Kapur ใช้อุปกรณ์นี้พิมพ์ข้อความโดยไม่แตะคีย์บอร์ด ตั้งเตือนในมือถือ และถามคำถามเกี่ยวกับภาพที่เห็นผ่านกล้องขนาดเล็กในตัวอุปกรณ์ จากนั้นเขาสื่อสารแบบเงียบๆ กับผู้ร่วมก่อตั้งผ่าน bone-conduction audio โดยไม่มีเสียงใดๆ ออกมา

    ที่น่าทึ่งคือการแปลภาษาแบบไร้เสียง — Kapur พูดภาษาอังกฤษ แล้วผู้ร่วมสนทนาที่พูดภาษาจีนเข้าใจทันทีผ่านระบบแปลในตัว ซึ่งอาจเป็นประโยชน์มหาศาลสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการพูด เช่น ALS หรือผู้พิการทางเสียง

    แม้จะดูเหมือนหลุดมาจากนิยายไซไฟ แต่ Alterego ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้ไม่อ่านความคิดลึกๆ และไม่มีการเก็บข้อมูลสมองโดยตรง ต่างจากเทคโนโลยีฝังชิปอย่าง Neuralink หรือ EMG แบบสายรัดข้อมือของ Meta — โดยเน้นความปลอดภัยและการควบคุมจากผู้ใช้เป็นหลัก

    ความสามารถของอุปกรณ์ Alterego
    พิมพ์ข้อความด้วยความคิดโดยไม่ต้องใช้คีย์บอร์ด
    สื่อสารแบบเงียบๆ กับผู้อื่นผ่าน bone-conduction audio
    ควบคุมอุปกรณ์และแอปพลิเคชันแบบไร้มือ
    ค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแบบไร้เสียง
    ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งรอบตัวผ่านกล้องในตัว
    แปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องพูดออกเสียง
    ช่วยฟื้นฟูการพูดสำหรับผู้มีปัญหาด้านเสียงหรือระบบประสาท

    เทคโนโลยีเบื้องหลัง
    ใช้การตรวจจับสัญญาณประสาทกล้ามเนื้อจากใบหน้าและลำคอ
    ไม่ใช่การอ่านคลื่นสมองหรือ EEG
    ส่งข้อมูลผ่าน bone-conduction กลับไปยังผู้ใช้
    พัฒนาโดยทีมจาก MIT และ Harvard Innovation Labs

    การใช้งานจริงในวิดีโอสาธิต
    พิมพ์ข้อความ ตั้งเตือน และถามคำถามจากภาพ
    สื่อสารแบบเงียบกับผู้ร่วมก่อตั้ง
    แปลภาษาอังกฤษ–จีนแบบไร้เสียง
    ใช้กล้องในตัวเพื่อเข้าใจสิ่งแวดล้อม

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    เทคโนโลยีนี้เคยถูกนำเสนอใน TED ปี 2019
    เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องฝังชิปหรือใช้สายรัดกล้ามเนื้อ
    เหมาะกับผู้ใช้งานในพื้นที่เสียงดัง เช่น โรงงานหรือสนามบิน
    อาจเป็นจุดเปลี่ยนของการสื่อสารมนุษย์กับ AI ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/alterego-demoes-worlds-first-near-telepathic-wearable-that-enables-typing-at-the-speed-of-thought-other-abilities-device-said-to-enable-silent-communication-with-others-control-devices-hands-free-and-restore-speech-for-impaired
    🧠 “Alterego เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ ‘ใกล้เคียงโทรจิต’ พิมพ์ด้วยความคิด คุยเงียบๆ ได้ และแปลภาษาแบบไร้เสียง — ก้าวใหม่ของการสื่อสารมนุษย์กับ AI” ถ้าคุณเคยฝันถึงการสื่อสารแบบไม่ต้องพูด ไม่ต้องพิมพ์ แค่ “คิด” แล้วคำพูดก็ปรากฏ — ตอนนี้มันไม่ใช่แค่จินตนาการอีกต่อไป เพราะสตาร์ทอัพชื่อ Alterego ได้เปิดตัวอุปกรณ์สวมใส่ที่อ้างว่าเป็น “wearable ใกล้เคียงโทรจิตตัวแรกของโลก” ที่สามารถพิมพ์ข้อความด้วยความคิด ควบคุมอุปกรณ์แบบไร้มือ และสื่อสารกับคนอื่นแบบเงียบๆ ได้ อุปกรณ์นี้พัฒนาโดย Arnav Kapur จาก MIT Media Lab และ Max Newlon จาก Harvard Innovation Labs โดยใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า “Silent Sense” ซึ่งไม่ใช่การอ่านความคิดโดยตรง แต่เป็นการตรวจจับสัญญาณประสาทกล้ามเนื้อที่สมองส่งไปยังระบบพูด ก่อนที่เราจะเปล่งเสียงออกมา — ทำให้สามารถแปลงความตั้งใจเป็นคำสั่งหรือข้อความได้ทันที ในวิดีโอสาธิต Kapur ใช้อุปกรณ์นี้พิมพ์ข้อความโดยไม่แตะคีย์บอร์ด ตั้งเตือนในมือถือ และถามคำถามเกี่ยวกับภาพที่เห็นผ่านกล้องขนาดเล็กในตัวอุปกรณ์ จากนั้นเขาสื่อสารแบบเงียบๆ กับผู้ร่วมก่อตั้งผ่าน bone-conduction audio โดยไม่มีเสียงใดๆ ออกมา ที่น่าทึ่งคือการแปลภาษาแบบไร้เสียง — Kapur พูดภาษาอังกฤษ แล้วผู้ร่วมสนทนาที่พูดภาษาจีนเข้าใจทันทีผ่านระบบแปลในตัว ซึ่งอาจเป็นประโยชน์มหาศาลสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการพูด เช่น ALS หรือผู้พิการทางเสียง แม้จะดูเหมือนหลุดมาจากนิยายไซไฟ แต่ Alterego ยืนยันว่าอุปกรณ์นี้ไม่อ่านความคิดลึกๆ และไม่มีการเก็บข้อมูลสมองโดยตรง ต่างจากเทคโนโลยีฝังชิปอย่าง Neuralink หรือ EMG แบบสายรัดข้อมือของ Meta — โดยเน้นความปลอดภัยและการควบคุมจากผู้ใช้เป็นหลัก ✅ ความสามารถของอุปกรณ์ Alterego ➡️ พิมพ์ข้อความด้วยความคิดโดยไม่ต้องใช้คีย์บอร์ด ➡️ สื่อสารแบบเงียบๆ กับผู้อื่นผ่าน bone-conduction audio ➡️ ควบคุมอุปกรณ์และแอปพลิเคชันแบบไร้มือ ➡️ ค้นหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ตแบบไร้เสียง ➡️ ถามคำถามเกี่ยวกับสิ่งรอบตัวผ่านกล้องในตัว ➡️ แปลภาษาแบบเรียลไทม์โดยไม่ต้องพูดออกเสียง ➡️ ช่วยฟื้นฟูการพูดสำหรับผู้มีปัญหาด้านเสียงหรือระบบประสาท ✅ เทคโนโลยีเบื้องหลัง ➡️ ใช้การตรวจจับสัญญาณประสาทกล้ามเนื้อจากใบหน้าและลำคอ ➡️ ไม่ใช่การอ่านคลื่นสมองหรือ EEG ➡️ ส่งข้อมูลผ่าน bone-conduction กลับไปยังผู้ใช้ ➡️ พัฒนาโดยทีมจาก MIT และ Harvard Innovation Labs ✅ การใช้งานจริงในวิดีโอสาธิต ➡️ พิมพ์ข้อความ ตั้งเตือน และถามคำถามจากภาพ ➡️ สื่อสารแบบเงียบกับผู้ร่วมก่อตั้ง ➡️ แปลภาษาอังกฤษ–จีนแบบไร้เสียง ➡️ ใช้กล้องในตัวเพื่อเข้าใจสิ่งแวดล้อม ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ เทคโนโลยีนี้เคยถูกนำเสนอใน TED ปี 2019 ➡️ เป็นทางเลือกที่ไม่ต้องฝังชิปหรือใช้สายรัดกล้ามเนื้อ ➡️ เหมาะกับผู้ใช้งานในพื้นที่เสียงดัง เช่น โรงงานหรือสนามบิน ➡️ อาจเป็นจุดเปลี่ยนของการสื่อสารมนุษย์กับ AI ในอนาคต https://www.tomshardware.com/peripherals/wearable-tech/alterego-demoes-worlds-first-near-telepathic-wearable-that-enables-typing-at-the-speed-of-thought-other-abilities-device-said-to-enable-silent-communication-with-others-control-devices-hands-free-and-restore-speech-for-impaired
    0 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
  • จากวัยเด็กถึงวันเกษียณ: การประกอบคอมพิวเตอร์ที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา

    วันวานในโลกของสายไฟและชิ้นส่วนเล็กๆ
    ในช่วงวัยรุ่นหรือวัยทำงานตอนต้น “การประกอบคอมพิวเตอร์เอง” เป็นทั้งงานอดิเรกและการผจญภัยทางเทคโนโลยี ใครที่เคยเดินหาซื้ออุปกรณ์ในย่านไอทีคงจำได้ดี ความรู้สึกตอนเลือกเมนบอร์ดที่ถูกใจหรือหาการ์ดจอที่กำลังมาแรงเหมือนการได้อาวุธชิ้นใหม่ การกลับมาบ้านพร้อมกล่องใหญ่ๆ แล้วนั่งแกะอุปกรณ์ทีละชิ้นคือความสุขที่บรรยายยาก

    เมื่อเริ่มต่อสาย วางชิ้นส่วนลงในเคส หรือขันน็อตตัวเล็กๆ หัวใจเต้นแรงไม่ต่างจากนักวิทยาศาสตร์ในห้องทดลอง ทุกครั้งที่กดปุ่มเปิดเครื่องแล้วพัดลมหมุน แสงไฟติดขึ้น นั่นคือชัยชนะเล็กๆ ที่มาพร้อมกับเสียงเฮและรอยยิ้ม ความภูมิใจในผลงานที่ทำด้วยสองมือตัวเองทำให้ค่ำคืนนั้นสดใสเป็นพิเศษ

    ความเปลี่ยนแปลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น
    แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เครื่องสำเร็จรูปที่มีให้เลือกมากมายทำให้ไม่จำเป็นต้องมานั่งต่อเองอีกต่อไป ความท้าทายที่เคยมีจึงค่อยๆ จางลง บวกกับสังขารที่ไม่เหมือนเดิม มือที่เคยคล่องแคล่วกลับสั่นเล็กน้อยเมื่อต้องหยิบน็อตจิ๋ว สายตาที่เคยชัดเจนต้องพึ่งแว่นขยาย หรือบางครั้งต้องใช้โคมไฟช่วยส่องให้เห็นรายละเอียด

    แม้จะยังสนุกอยู่ แต่ความรู้สึกกลับต่างออกไป—จากที่เคย “ตื่นเต้น” กลายเป็น “ใจเย็น” มากขึ้น บางครั้งก็รู้สึกเหนื่อยง่าย นั่งทำไม่นานก็เมื่อยหลัง ต้องพักบ่อยๆ เพื่อยืดเส้นยืดสาย สิ่งที่เปลี่ยนไม่ใช่แค่ความสนุก แต่เป็นวิธีมองกิจกรรมนี้ในฐานะงานอดิเรกที่ผ่อนคลายและไม่เร่งรีบ

    คุณค่าใหม่ที่มากับวัย
    แม้ความสนุกอาจลดลง แต่สิ่งที่ได้รับกลับลึกซึ้งกว่าเดิม ทุกครั้งที่นั่งประกอบคอมพิวเตอร์ในวันนี้ มันไม่ใช่แค่การสร้างเครื่องทำงานใหม่ แต่เป็นการทบทวนตัวเองว่า “ยังทำได้” และเป็นการใช้สมองแก้ปัญหาทีละขั้นอย่างเป็นระบบ ซึ่งถือเป็นการออกกำลังสมองที่ดีไม่แพ้การเล่นเกมฝึกความจำ

    ที่สำคัญ การประกอบคอมฯ ยังเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ ลูกหลานหลายคนมักเข้ามาช่วย แนะนำวิธีใหม่ๆ หรือหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต แล้วลงมือทำไปพร้อมกัน บรรยากาศเช่นนี้สร้างทั้งเสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และความทรงจำใหม่ๆ ที่จะเก็บไว้เล่าต่อในอนาคต

    บทเรียนจากสายไฟและน็อตตัวเล็กๆ
    การประกอบคอมพิวเตอร์ในวัยหนุ่มสาวคือ “ความท้าทายและการพิสูจน์ตัวเอง” แต่เมื่ออายุมากขึ้น มันกลายเป็น “การฝึกสมาธิและการสร้างความผูกพัน” สิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่เครื่องคอมพิวเตอร์ แต่คือความมั่นใจว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคต่อการเรียนรู้ และทุกครั้งที่ลงมือ เราได้ต่อ “ชิ้นส่วนของชีวิต” เข้าไว้ด้วยกัน

    วันนี้ความสนุกอาจไม่หวือหวาเหมือนวันเก่า แต่ความหมายกลับเติบโตขึ้นมากกว่าเดิม การได้เห็นเครื่องที่เราประกอบเองบูตขึ้นมา ยังคงเป็นสัญลักษณ์เล็กๆ ของชัยชนะ และเป็นเครื่องยืนยันว่าไม่ว่าเวลาเดินไปไกลแค่ไหน เราก็ยังมีไฟที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่เสมอ

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    จากวัยเด็กถึงวันเกษียณ: การประกอบคอมพิวเตอร์ที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา 🕒💻 🖥️ วันวานในโลกของสายไฟและชิ้นส่วนเล็กๆ ในช่วงวัยรุ่นหรือวัยทำงานตอนต้น “การประกอบคอมพิวเตอร์เอง” เป็นทั้งงานอดิเรกและการผจญภัยทางเทคโนโลยี ใครที่เคยเดินหาซื้ออุปกรณ์ในย่านไอทีคงจำได้ดี ความรู้สึกตอนเลือกเมนบอร์ดที่ถูกใจหรือหาการ์ดจอที่กำลังมาแรงเหมือนการได้อาวุธชิ้นใหม่ การกลับมาบ้านพร้อมกล่องใหญ่ๆ แล้วนั่งแกะอุปกรณ์ทีละชิ้นคือความสุขที่บรรยายยาก 🔧 เมื่อเริ่มต่อสาย วางชิ้นส่วนลงในเคส หรือขันน็อตตัวเล็กๆ หัวใจเต้นแรงไม่ต่างจากนักวิทยาศาสตร์ในห้องทดลอง ทุกครั้งที่กดปุ่มเปิดเครื่องแล้วพัดลมหมุน แสงไฟติดขึ้น นั่นคือชัยชนะเล็กๆ ที่มาพร้อมกับเสียงเฮและรอยยิ้ม ความภูมิใจในผลงานที่ทำด้วยสองมือตัวเองทำให้ค่ำคืนนั้นสดใสเป็นพิเศษ 👓 ความเปลี่ยนแปลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว เครื่องสำเร็จรูปที่มีให้เลือกมากมายทำให้ไม่จำเป็นต้องมานั่งต่อเองอีกต่อไป ความท้าทายที่เคยมีจึงค่อยๆ จางลง บวกกับสังขารที่ไม่เหมือนเดิม มือที่เคยคล่องแคล่วกลับสั่นเล็กน้อยเมื่อต้องหยิบน็อตจิ๋ว สายตาที่เคยชัดเจนต้องพึ่งแว่นขยาย หรือบางครั้งต้องใช้โคมไฟช่วยส่องให้เห็นรายละเอียด แม้จะยังสนุกอยู่ แต่ความรู้สึกกลับต่างออกไป—จากที่เคย “ตื่นเต้น” กลายเป็น “ใจเย็น” มากขึ้น บางครั้งก็รู้สึกเหนื่อยง่าย นั่งทำไม่นานก็เมื่อยหลัง ต้องพักบ่อยๆ เพื่อยืดเส้นยืดสาย สิ่งที่เปลี่ยนไม่ใช่แค่ความสนุก แต่เป็นวิธีมองกิจกรรมนี้ในฐานะงานอดิเรกที่ผ่อนคลายและไม่เร่งรีบ 🎉 คุณค่าใหม่ที่มากับวัย แม้ความสนุกอาจลดลง แต่สิ่งที่ได้รับกลับลึกซึ้งกว่าเดิม ทุกครั้งที่นั่งประกอบคอมพิวเตอร์ในวันนี้ มันไม่ใช่แค่การสร้างเครื่องทำงานใหม่ แต่เป็นการทบทวนตัวเองว่า “ยังทำได้” และเป็นการใช้สมองแก้ปัญหาทีละขั้นอย่างเป็นระบบ ซึ่งถือเป็นการออกกำลังสมองที่ดีไม่แพ้การเล่นเกมฝึกความจำ ที่สำคัญ การประกอบคอมฯ ยังเป็นสะพานเชื่อมความสัมพันธ์ ลูกหลานหลายคนมักเข้ามาช่วย แนะนำวิธีใหม่ๆ หรือหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต แล้วลงมือทำไปพร้อมกัน บรรยากาศเช่นนี้สร้างทั้งเสียงหัวเราะ ความอบอุ่น และความทรงจำใหม่ๆ ที่จะเก็บไว้เล่าต่อในอนาคต 💡 บทเรียนจากสายไฟและน็อตตัวเล็กๆ การประกอบคอมพิวเตอร์ในวัยหนุ่มสาวคือ “ความท้าทายและการพิสูจน์ตัวเอง” แต่เมื่ออายุมากขึ้น มันกลายเป็น “การฝึกสมาธิและการสร้างความผูกพัน” สิ่งที่ได้ไม่ใช่แค่เครื่องคอมพิวเตอร์ แต่คือความมั่นใจว่าอายุไม่ใช่อุปสรรคต่อการเรียนรู้ และทุกครั้งที่ลงมือ เราได้ต่อ “ชิ้นส่วนของชีวิต” เข้าไว้ด้วยกัน 🖥️ วันนี้ความสนุกอาจไม่หวือหวาเหมือนวันเก่า แต่ความหมายกลับเติบโตขึ้นมากกว่าเดิม การได้เห็นเครื่องที่เราประกอบเองบูตขึ้นมา ยังคงเป็นสัญลักษณ์เล็กๆ ของชัยชนะ และเป็นเครื่องยืนยันว่าไม่ว่าเวลาเดินไปไกลแค่ไหน เราก็ยังมีไฟที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่เสมอ #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 Comments 0 Shares 177 Views 0 Reviews
  • #ฝรั่งเศสจนล้มละลาย
    #ฝรั่งเศสจงสิ้นชาติ
    #เดอะแก๊งเอเชียนำโดยจีนรัสเชียเกาหลีเหนือทำลายฝรั่งเศสเลย

    ....ประเทศฝรั่งเศสจนถึงปัจจุบันคือภัยร้ายแรงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยและประเทศไทยเราชัดเจนจากกรณีเขาพระวิหารในปัจจุบันที่ฝรั่งเศสอยู่เบื้องหลังจริงทั้งหมดและในอดีตที่ผ่านๆมาที่พยายามยึดประเทศไทยทุกๆวิถีทางมาโดยตลอด
    ..ทั้งความพยายามเอาความรู้จริงทั้งหมดมากมายออกจากตำราเรียนเราในโรงเรียนเด็กๆเยาวชนเรามิให้รู้ความจริงทางวิชาประวัติศาสตร์บนหลักสูตรการเรียนการสอนของคนไทยถึงมหาลัยเราเยาวชนไทยเราก็ว่า ซึ่งสามารถบรรจุเป็นวิชาบังคับได้ถึงระดับมหาลัยทุกๆสาขาคณะว่าประเทศไทยเรากว่าจะเป็นไทยเหลือพื้นที่ขนาดนี้เราถูกใครกระทำชั่วใส่เราจริงบ้าง,

    ..ฝรั่งตะวันตกฝรั่งเศสอเมริกาศัตรูบ่อนทำลายประเทศไทยชัดเจนและเอเชียเราด้วยอาเชียนเราด้วย.

    ..ตัวการใหญ่โคตรๆ พวกนี้จึงต้องถูกบันทึกในการเรียนการสอนไทยเราให้รู้เห็นค่าจริงความจริงนี้ด้วย มีประเทศอะไรบ้าง? ประเภทใดด้วย? ทำไม?เพื่ออะไร?อย่างไร? เป็นต้น

    ..ฝรั่งเศสปล้นพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณเราไปจริงทั้งที่เราจ่ายตังซื้อดินแดนคืนอย่างมีลายลักษณ์อักษรแล้ว ฝรั่งเศสและอเมริกาจึงชั่วเลวที่สุมหัวกันร่วมยึดปล้นแย่งชิงพื้นที่พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ประจานตคีรีหรือเกาะกงเราไปด้วย,พวกนี้สมควรเป็นประเทศที่ล้มละลายพินาศสิ้นชาติโดยรวดเร็วในอนาคตพร้อมกับเขมรที่เป็นชาติเนรคุณทรยศหักหลังไทยหมายยึดประเทศไทยอีก,หักหลังจีนจนดังไปทั่วโลกอย่สงเปิดเผยด้วยเหยียบหน้าเหยียบหัวจีนชัดเจน,ชูอเมริกทรัมป์รางวัลโนเบลสันติภาพโน้นกอดอเมริกาทิ้งจีนแบบไร้เยื่อใยเข้าอินโดแปซิฟิกอีกโน้น.

    ..ต่างจากไทยที่คนชั่วที่อำนาจหลุดเข้ามาได้เลยทำเอง ไปเข้าไปทำเอาเองฝ่ายเดียว.รับงานมาจำกัดไทยอย่างเปิดเผยโดยตรง ออกหน้าออกตาชัดเจน เป็นจิตอาสาโคตรๆก็ว่า,เป็นตัวแทนทำงานให้deep stateตัวเต็งเพื่อจัดการไทยเราอย่างเปิดเผยแทนต่างชาติอื่นๆหน้าฝรั่งอื่นๆไม่ต้องมาเปิดเผยหน้าชกโดยตรงแบบมันฝรั่งเศสหรืออเมริกาก็ว่า,หน้างานเนื้องานที่รับมาทำของมันคือเพื่อกำจัดสถาบันกษัตริย์ไทยทุกๆวิถีทาง สามกีบชูสามนิ้ว ธนาธรปิยะบุตรเมียมันสายลับฝรั่งเศสตัวพ่อเป็นลูกตัวพ่อล้มกษัตริย์ฝรั่งเศสกะจะมาสุมหัวล้มสถาบันกษัตริย์ในไทยเราจนถูกยุบพรรค,ฝรั่งเศสโอนตังมหาศาลจ้างองค์กรอิสระมากมายหน้าฉากทำดีสวยหรูให้คนไทยดู,หลังฉากสุมหัวก่อกวนใต้ดินด้วยเม็ดเงินทุนมหาศาลไหลมาสนับสนุนล้างสมองซื้อตัวอาจารย์มหาลัยล้างสมองนักเรียนนักศึกษา ออกหลักสูตรการเรียนการศึกษาไปค่าเท็จบืดเบือนประวัติศาสตร์ หักเหมิให้คนไทยเยาวชนไทยรู้กำพืดภัยศัตรูชาติไทยต่างๆ,สร้างความโกลาหลแตกแยกวุ่นวายทุกๆวิถีทางร่วมกับCIAจนถึงปัจจุบัน,บวกหมายปล้นชิงวัตถุดิบสร้างชาติไทยเราเองไปอยู่ตลอดเวลาที่มีโอกาสหรือทำโอกาสสร้างโอกาสเองแบบเขตแดนเขมร1:200,000กะลากลงอ่าวไทย ได้บ่อน้ำมันไทยเป็นอันมากและทรัพยากรอื่นๆตีมูลค่ากว่า20ล้านล้านบาทที่ลากเส้น1:200,000จากบ้านหนองจานลงทะเลอ่าวไทยเรา.,ปล้นชิงตั้งแต่อดีตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน,ฝรั่งตะวันตกและชาติยุโรปคนของฝรั่งตะวันตกทั้งหมดต้องถีบออกจากอาเชียนถีบออกจากเอเชียเราทั้งหมดจริงๆ.อินโดฯก็อยากได้บ่อน้ำมันเขาผ่านขี้ข้ามาเลย์ ถ้าได้ก็กว่า40-50ล้านล้านบาทหรือเหรียญมิรู้,อินโดฯจึงโกลาหลโคตรๆแตกแยกวุ่นวายในเวลานี้ที่ สส.เต้นรำเยาะเย้นชาวคนอินโดฯ.
    #ฝรั่งเศสจนล้มละลาย #ฝรั่งเศสจงสิ้นชาติ #เดอะแก๊งเอเชียนำโดยจีนรัสเชียเกาหลีเหนือทำลายฝรั่งเศสเลย ....ประเทศฝรั่งเศสจนถึงปัจจุบันคือภัยร้ายแรงต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยและประเทศไทยเราชัดเจนจากกรณีเขาพระวิหารในปัจจุบันที่ฝรั่งเศสอยู่เบื้องหลังจริงทั้งหมดและในอดีตที่ผ่านๆมาที่พยายามยึดประเทศไทยทุกๆวิถีทางมาโดยตลอด ..ทั้งความพยายามเอาความรู้จริงทั้งหมดมากมายออกจากตำราเรียนเราในโรงเรียนเด็กๆเยาวชนเรามิให้รู้ความจริงทางวิชาประวัติศาสตร์บนหลักสูตรการเรียนการสอนของคนไทยถึงมหาลัยเราเยาวชนไทยเราก็ว่า ซึ่งสามารถบรรจุเป็นวิชาบังคับได้ถึงระดับมหาลัยทุกๆสาขาคณะว่าประเทศไทยเรากว่าจะเป็นไทยเหลือพื้นที่ขนาดนี้เราถูกใครกระทำชั่วใส่เราจริงบ้าง, ..ฝรั่งตะวันตกฝรั่งเศสอเมริกาศัตรูบ่อนทำลายประเทศไทยชัดเจนและเอเชียเราด้วยอาเชียนเราด้วย. ..ตัวการใหญ่โคตรๆ พวกนี้จึงต้องถูกบันทึกในการเรียนการสอนไทยเราให้รู้เห็นค่าจริงความจริงนี้ด้วย มีประเทศอะไรบ้าง? ประเภทใดด้วย? ทำไม?เพื่ออะไร?อย่างไร? เป็นต้น ..ฝรั่งเศสปล้นพระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณเราไปจริงทั้งที่เราจ่ายตังซื้อดินแดนคืนอย่างมีลายลักษณ์อักษรแล้ว ฝรั่งเศสและอเมริกาจึงชั่วเลวที่สุมหัวกันร่วมยึดปล้นแย่งชิงพื้นที่พระตะบอง เสียมราฐ ศรีโสภณ ประจานตคีรีหรือเกาะกงเราไปด้วย,พวกนี้สมควรเป็นประเทศที่ล้มละลายพินาศสิ้นชาติโดยรวดเร็วในอนาคตพร้อมกับเขมรที่เป็นชาติเนรคุณทรยศหักหลังไทยหมายยึดประเทศไทยอีก,หักหลังจีนจนดังไปทั่วโลกอย่สงเปิดเผยด้วยเหยียบหน้าเหยียบหัวจีนชัดเจน,ชูอเมริกทรัมป์รางวัลโนเบลสันติภาพโน้นกอดอเมริกาทิ้งจีนแบบไร้เยื่อใยเข้าอินโดแปซิฟิกอีกโน้น. ..ต่างจากไทยที่คนชั่วที่อำนาจหลุดเข้ามาได้เลยทำเอง ไปเข้าไปทำเอาเองฝ่ายเดียว.รับงานมาจำกัดไทยอย่างเปิดเผยโดยตรง ออกหน้าออกตาชัดเจน เป็นจิตอาสาโคตรๆก็ว่า,เป็นตัวแทนทำงานให้deep stateตัวเต็งเพื่อจัดการไทยเราอย่างเปิดเผยแทนต่างชาติอื่นๆหน้าฝรั่งอื่นๆไม่ต้องมาเปิดเผยหน้าชกโดยตรงแบบมันฝรั่งเศสหรืออเมริกาก็ว่า,หน้างานเนื้องานที่รับมาทำของมันคือเพื่อกำจัดสถาบันกษัตริย์ไทยทุกๆวิถีทาง สามกีบชูสามนิ้ว ธนาธรปิยะบุตรเมียมันสายลับฝรั่งเศสตัวพ่อเป็นลูกตัวพ่อล้มกษัตริย์ฝรั่งเศสกะจะมาสุมหัวล้มสถาบันกษัตริย์ในไทยเราจนถูกยุบพรรค,ฝรั่งเศสโอนตังมหาศาลจ้างองค์กรอิสระมากมายหน้าฉากทำดีสวยหรูให้คนไทยดู,หลังฉากสุมหัวก่อกวนใต้ดินด้วยเม็ดเงินทุนมหาศาลไหลมาสนับสนุนล้างสมองซื้อตัวอาจารย์มหาลัยล้างสมองนักเรียนนักศึกษา ออกหลักสูตรการเรียนการศึกษาไปค่าเท็จบืดเบือนประวัติศาสตร์ หักเหมิให้คนไทยเยาวชนไทยรู้กำพืดภัยศัตรูชาติไทยต่างๆ,สร้างความโกลาหลแตกแยกวุ่นวายทุกๆวิถีทางร่วมกับCIAจนถึงปัจจุบัน,บวกหมายปล้นชิงวัตถุดิบสร้างชาติไทยเราเองไปอยู่ตลอดเวลาที่มีโอกาสหรือทำโอกาสสร้างโอกาสเองแบบเขตแดนเขมร1:200,000กะลากลงอ่าวไทย ได้บ่อน้ำมันไทยเป็นอันมากและทรัพยากรอื่นๆตีมูลค่ากว่า20ล้านล้านบาทที่ลากเส้น1:200,000จากบ้านหนองจานลงทะเลอ่าวไทยเรา.,ปล้นชิงตั้งแต่อดีตเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน,ฝรั่งตะวันตกและชาติยุโรปคนของฝรั่งตะวันตกทั้งหมดต้องถีบออกจากอาเชียนถีบออกจากเอเชียเราทั้งหมดจริงๆ.อินโดฯก็อยากได้บ่อน้ำมันเขาผ่านขี้ข้ามาเลย์ ถ้าได้ก็กว่า40-50ล้านล้านบาทหรือเหรียญมิรู้,อินโดฯจึงโกลาหลโคตรๆแตกแยกวุ่นวายในเวลานี้ที่ สส.เต้นรำเยาะเย้นชาวคนอินโดฯ.
    รัฐสภาฝรั่งเศสลงมติล้มรัฐบาล หลังไม่เห็นด้วยกับแผนควบคุมหนี้สินของประเทศที่พอกพูนขึ้นเรื่อยๆ โหมกระพือวิกฤตการเมืองหนักหน่วงยิ่งขึ้น ที่กำลังก่อความอ่อนแอแก่ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของยูโรโซนแห่งนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000086123

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    0 Comments 0 Shares 270 Views 0 Reviews
  • “Getac F120: แท็บเล็ตพันธุ์แกร่งที่รัน AI ได้แรงกว่าละครหลังข่าว พร้อมลุยทุกสนามรบและงานภาคสนาม!”

    ลองนึกภาพว่าคุณต้องทำงานในพื้นที่กลางแจ้งที่เต็มไปด้วยฝุ่น น้ำ หรืออุณหภูมิสุดขั้ว แล้วต้องใช้แท็บเล็ตในการวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากโดรน หรือรันโมเดล AI เพื่อวินิจฉัยอุปกรณ์ — Getac F120 คือแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อสถานการณ์แบบนั้นโดยเฉพาะ

    Getac เปิดตัว F120 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐาน Copilot+ PC แบบเต็มตัวในรูปแบบ rugged tablet — หมายความว่ามันไม่ใช่แค่ทนทาน แต่ยังมีสมองที่ฉลาดระดับ AI ด้วย NPU ที่แรงถึง 48 TOPS (Trillion Operations Per Second) มากกว่าขั้นต่ำที่ Microsoft กำหนดไว้ที่ 40 TOPS

    ภายในใช้ชิป Intel Core Ultra 200V Series พร้อม RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD PCIe NVMe สูงสุด 2TB — เรียกได้ว่าแรงกว่าคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไปหลายรุ่น แถมยังมี Windows Hello สำหรับสแกนใบหน้า และระบบรักษาความปลอดภัยระดับ TPM 2.0

    หน้าจอขนาด 12.2 นิ้วแบบ LumiBond ให้ความสว่างสูงถึง 1,200 nits อ่านกลางแดดได้สบาย พร้อม Smart Touch ที่ใช้งานได้แม้ใส่ถุงมือ ตัวเครื่องผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ทนต่อการตกจากที่สูง 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C

    สำหรับการเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 สองช่อง และรองรับ 5G Sub-6 แบบออปชัน พร้อมแบตเตอรี่แบบ hot-swappable ที่เปลี่ยนได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง — เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาเสีย

    สเปกหลักของ Getac F120
    ใช้ Intel Core Ultra 200V Series + Intel AI Boost NPU (สูงสุด 48 TOPS)
    RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD สูงสุด 2TB PCIe NVMe
    รองรับ Windows Hello facial recognition และ TPM 2.0

    หน้าจอและความทนทาน
    หน้าจอ LumiBond ขนาด 12.2 นิ้ว ความสว่าง 1,200 nits
    รองรับ Smart Touch แม้ใส่ถุงมือ
    ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66
    ทนต่อการตกจาก 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C

    การเชื่อมต่อและการใช้งานภาคสนาม
    รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 x2
    มีออปชันสำหรับ 5G Sub-6
    ใช้แบตเตอรี่แบบ hot-swappable เพื่อการทำงานต่อเนื่อง

    การใช้งานในอุตสาหกรรม
    เหมาะกับงานด้านสาธารณูปโภค, ยานยนต์, ความปลอดภัยสาธารณะ
    รองรับการประมวลผลภาพ, การวินิจฉัย, และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์
    ออกแบบมาเพื่องานที่ “ล้มไม่ได้” เช่น ภารกิจภาคสนามหรือการกู้ภัย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Copilot+ PC ต้องมี NPU 40+ TOPS, RAM 16GB+, SSD 256GB+, และระบบ biometric
    Getac เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ rugged สำหรับภาคอุตสาหกรรม
    รุ่น F120 เริ่มต้นที่ราคา $3,079 — เน้นกลุ่มมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป

    https://www.techradar.com/pro/the-worlds-fastest-rugged-tablet-just-launched-and-its-perfect-for-those-who-want-to-work-in-challenging-environments-while-compiling-ai-code
    🛡️ “Getac F120: แท็บเล็ตพันธุ์แกร่งที่รัน AI ได้แรงกว่าละครหลังข่าว พร้อมลุยทุกสนามรบและงานภาคสนาม!” ลองนึกภาพว่าคุณต้องทำงานในพื้นที่กลางแจ้งที่เต็มไปด้วยฝุ่น น้ำ หรืออุณหภูมิสุดขั้ว แล้วต้องใช้แท็บเล็ตในการวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากโดรน หรือรันโมเดล AI เพื่อวินิจฉัยอุปกรณ์ — Getac F120 คือแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อสถานการณ์แบบนั้นโดยเฉพาะ Getac เปิดตัว F120 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐาน Copilot+ PC แบบเต็มตัวในรูปแบบ rugged tablet — หมายความว่ามันไม่ใช่แค่ทนทาน แต่ยังมีสมองที่ฉลาดระดับ AI ด้วย NPU ที่แรงถึง 48 TOPS (Trillion Operations Per Second) มากกว่าขั้นต่ำที่ Microsoft กำหนดไว้ที่ 40 TOPS ภายในใช้ชิป Intel Core Ultra 200V Series พร้อม RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD PCIe NVMe สูงสุด 2TB — เรียกได้ว่าแรงกว่าคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไปหลายรุ่น แถมยังมี Windows Hello สำหรับสแกนใบหน้า และระบบรักษาความปลอดภัยระดับ TPM 2.0 หน้าจอขนาด 12.2 นิ้วแบบ LumiBond ให้ความสว่างสูงถึง 1,200 nits อ่านกลางแดดได้สบาย พร้อม Smart Touch ที่ใช้งานได้แม้ใส่ถุงมือ ตัวเครื่องผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ทนต่อการตกจากที่สูง 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C สำหรับการเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 สองช่อง และรองรับ 5G Sub-6 แบบออปชัน พร้อมแบตเตอรี่แบบ hot-swappable ที่เปลี่ยนได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง — เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาเสีย ✅ สเปกหลักของ Getac F120 ➡️ ใช้ Intel Core Ultra 200V Series + Intel AI Boost NPU (สูงสุด 48 TOPS) ➡️ RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD สูงสุด 2TB PCIe NVMe ➡️ รองรับ Windows Hello facial recognition และ TPM 2.0 ✅ หน้าจอและความทนทาน ➡️ หน้าจอ LumiBond ขนาด 12.2 นิ้ว ความสว่าง 1,200 nits ➡️ รองรับ Smart Touch แม้ใส่ถุงมือ ➡️ ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ➡️ ทนต่อการตกจาก 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C ✅ การเชื่อมต่อและการใช้งานภาคสนาม ➡️ รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 x2 ➡️ มีออปชันสำหรับ 5G Sub-6 ➡️ ใช้แบตเตอรี่แบบ hot-swappable เพื่อการทำงานต่อเนื่อง ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรม ➡️ เหมาะกับงานด้านสาธารณูปโภค, ยานยนต์, ความปลอดภัยสาธารณะ ➡️ รองรับการประมวลผลภาพ, การวินิจฉัย, และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ➡️ ออกแบบมาเพื่องานที่ “ล้มไม่ได้” เช่น ภารกิจภาคสนามหรือการกู้ภัย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Copilot+ PC ต้องมี NPU 40+ TOPS, RAM 16GB+, SSD 256GB+, และระบบ biometric ➡️ Getac เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ rugged สำหรับภาคอุตสาหกรรม ➡️ รุ่น F120 เริ่มต้นที่ราคา $3,079 — เน้นกลุ่มมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป https://www.techradar.com/pro/the-worlds-fastest-rugged-tablet-just-launched-and-its-perfect-for-those-who-want-to-work-in-challenging-environments-while-compiling-ai-code
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากฝุ่นถึงฟันเฟืองสมอง: เมื่ออากาศสกปรกกลายเป็นตัวเร่งโรคที่เราไม่เคยคาดคิด

    งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ป่วยกว่า 56.5 ล้านคนในสหรัฐฯ และพบว่าการสัมผัสฝุ่น PM2.5 ในระยะยาวมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดภาวะสมองเสื่อมแบบ Lewy body และพาร์กินสันที่มีภาวะสมองเสื่อมร่วมด้วย โดยเฉพาะในผู้ที่มีพันธุกรรมที่โน้มเอียงต่อโรคเหล่านี้

    PM2.5 คือฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอดและกระแสเลือดได้ง่าย และในงานวิจัยนี้ นักวิทยาศาสตร์พบว่าในหนูทดลองที่ได้รับ PM2.5 ผ่านทางจมูกเป็นเวลา 10 เดือน มีการสะสมของโปรตีน α-synuclein (αSyn) ในสมอง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของโรค Lewy body dementia

    ที่น่าตกใจคือ หนูที่ได้รับ PM2.5 มีพฤติกรรมคล้ายภาวะสมองเสื่อม เช่น ความจำเสื่อมในการทดสอบเขาวงกต และการจำวัตถุใหม่ไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบว่าเนื้อสมองบริเวณ medial temporal lobe ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างและเรียกคืนความทรงจำ มีการหดตัวอย่างชัดเจน

    ทีมวิจัยยังพบว่า αSyn ไม่ได้สะสมแค่ในสมอง แต่ยังพบในลำไส้และปอดของหนูที่ได้รับ PM2.5 ซึ่งชี้ว่าอาจมีการแพร่กระจายของโปรตีนผ่าน “gut–brain axis” หรือเส้นทางลำไส้สู่สมอง ซึ่งเป็นกลไกที่เชื่อมโยงกับการเกิดโรคอัลไซเมอร์และ Lewy body dementia

    เมื่อเปรียบเทียบกับหนูที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้ไม่มีโปรตีน αSyn พบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสมองเลย ซึ่งยืนยันว่าโปรตีนนี้เป็นตัวกลางสำคัญในการเกิดโรคจากฝุ่น PM2.5

    ความเชื่อมโยงระหว่าง PM2.5 กับภาวะสมองเสื่อม
    การสัมผัส PM2.5 ระยะยาวเพิ่มความเสี่ยงต่อ Lewy body dementia และพาร์กินสันที่มีภาวะสมองเสื่อม
    ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 12% สำหรับผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล
    ผู้ที่มีพันธุกรรมโน้มเอียงจะได้รับผลกระทบชัดเจนมากกว่า

    กลไกของโรคที่พบในหนูทดลอง
    พบการสะสมของโปรตีน αSyn ในสมอง ลำไส้ และปอด
    หนูมีพฤติกรรมคล้ายภาวะสมองเสื่อม เช่น ความจำเสื่อม
    สมองบริเวณ medial temporal lobe หดตัวอย่างมีนัยสำคัญ

    การเปรียบเทียบกับหนูที่ไม่มีโปรตีน αSyn
    ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสมองหรือพฤติกรรม
    ยืนยันว่า αSyn เป็นตัวกลางสำคัญในการเกิดโรคจาก PM2.5

    การเปลี่ยนแปลงระดับยีนในสมอง
    พบการเปลี่ยนแปลงของการแสดงออกของยีนใน anterior cingulate cortex
    การเปลี่ยนแปลงนี้คล้ายกับที่พบในผู้ป่วย Lewy body dementia
    ไม่พบความคล้ายกันในผู้ป่วยพาร์กินสันที่ไม่มีภาวะสมองเสื่อม

    https://www.nature.com/articles/d41586-025-02844-9
    🎙️ เรื่องเล่าจากฝุ่นถึงฟันเฟืองสมอง: เมื่ออากาศสกปรกกลายเป็นตัวเร่งโรคที่เราไม่เคยคาดคิด งานวิจัยล่าสุดที่ตีพิมพ์ในวารสาร Science วิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ป่วยกว่า 56.5 ล้านคนในสหรัฐฯ และพบว่าการสัมผัสฝุ่น PM2.5 ในระยะยาวมีความเชื่อมโยงกับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในการเกิดภาวะสมองเสื่อมแบบ Lewy body และพาร์กินสันที่มีภาวะสมองเสื่อมร่วมด้วย โดยเฉพาะในผู้ที่มีพันธุกรรมที่โน้มเอียงต่อโรคเหล่านี้ PM2.5 คือฝุ่นขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน ซึ่งสามารถแทรกซึมเข้าสู่ปอดและกระแสเลือดได้ง่าย และในงานวิจัยนี้ นักวิทยาศาสตร์พบว่าในหนูทดลองที่ได้รับ PM2.5 ผ่านทางจมูกเป็นเวลา 10 เดือน มีการสะสมของโปรตีน α-synuclein (αSyn) ในสมอง ซึ่งเป็นตัวการสำคัญของโรค Lewy body dementia ที่น่าตกใจคือ หนูที่ได้รับ PM2.5 มีพฤติกรรมคล้ายภาวะสมองเสื่อม เช่น ความจำเสื่อมในการทดสอบเขาวงกต และการจำวัตถุใหม่ไม่ได้ นอกจากนี้ยังพบว่าเนื้อสมองบริเวณ medial temporal lobe ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสร้างและเรียกคืนความทรงจำ มีการหดตัวอย่างชัดเจน ทีมวิจัยยังพบว่า αSyn ไม่ได้สะสมแค่ในสมอง แต่ยังพบในลำไส้และปอดของหนูที่ได้รับ PM2.5 ซึ่งชี้ว่าอาจมีการแพร่กระจายของโปรตีนผ่าน “gut–brain axis” หรือเส้นทางลำไส้สู่สมอง ซึ่งเป็นกลไกที่เชื่อมโยงกับการเกิดโรคอัลไซเมอร์และ Lewy body dementia เมื่อเปรียบเทียบกับหนูที่ถูกดัดแปลงพันธุกรรมให้ไม่มีโปรตีน αSyn พบว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสมองเลย ซึ่งยืนยันว่าโปรตีนนี้เป็นตัวกลางสำคัญในการเกิดโรคจากฝุ่น PM2.5 ✅ ความเชื่อมโยงระหว่าง PM2.5 กับภาวะสมองเสื่อม ➡️ การสัมผัส PM2.5 ระยะยาวเพิ่มความเสี่ยงต่อ Lewy body dementia และพาร์กินสันที่มีภาวะสมองเสื่อม ➡️ ความเสี่ยงเพิ่มขึ้น 12% สำหรับผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ➡️ ผู้ที่มีพันธุกรรมโน้มเอียงจะได้รับผลกระทบชัดเจนมากกว่า ✅ กลไกของโรคที่พบในหนูทดลอง ➡️ พบการสะสมของโปรตีน αSyn ในสมอง ลำไส้ และปอด ➡️ หนูมีพฤติกรรมคล้ายภาวะสมองเสื่อม เช่น ความจำเสื่อม ➡️ สมองบริเวณ medial temporal lobe หดตัวอย่างมีนัยสำคัญ ✅ การเปรียบเทียบกับหนูที่ไม่มีโปรตีน αSyn ➡️ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงในสมองหรือพฤติกรรม ➡️ ยืนยันว่า αSyn เป็นตัวกลางสำคัญในการเกิดโรคจาก PM2.5 ✅ การเปลี่ยนแปลงระดับยีนในสมอง ➡️ พบการเปลี่ยนแปลงของการแสดงออกของยีนใน anterior cingulate cortex ➡️ การเปลี่ยนแปลงนี้คล้ายกับที่พบในผู้ป่วย Lewy body dementia ➡️ ไม่พบความคล้ายกันในผู้ป่วยพาร์กินสันที่ไม่มีภาวะสมองเสื่อม https://www.nature.com/articles/d41586-025-02844-9
    WWW.NATURE.COM
    Air pollution directly linked to increased dementia risk
    Long-term exposure accelerates the development of Lewy body dementia and Parkinson’s disease with dementia in people who are predisposed to the conditions.
    0 Comments 0 Shares 145 Views 0 Reviews
  • คลิปนี้ทวนย้ำได้ดีอีกรอบ,ประกาศกฎอัยการศึกนั้นดี,แต่ประชาชนไม่ไว้วางใจในกฎอัยการศึกเสียแล้วในเวลานี้,ยิ่งรายการนี้ออกมาแฉชัดเจน,ยิ่งความน่าจะเป็นที่กฎอัยการศึกไม่ได้ช่วยเรื่องผลักดันถีบคนเขมรออกไปจริง แต่ถีบคนไทยออกจากพื้นที่ดินแดนตนเพื่อไปไล่คนเขมรออกจากแผ่นดินไทยในนามของประชาชนที่หลั่งไหลจากสาระทิศมุ่งหน้าไปถีบเขมรแต่ถูกสกัดจากกฎอัยการศึกของทหารไทยตนเองฝั่งตน,ใช้มาตราการทะเลขี้ทั่วชุมชนเขมรดู มันยังจะกล้าพังรั้วเข้ามาอีกมั้ย.,มึงตั้งกระท่อมเพลิงหมาแหงนตรงไหน ทะเลขี้ส่งถึงกระท่อมหมาแหงนนั้นทันที,ปราศจากอาวุธเสียกระสุนจริงใดๆ,อย่างไปดัดจริตมีมารยาทกับพวกสันดานเขมรไร้มารยาท,ถ้ามีประจำในสมองมันจะไม่มาลุกล้ำดินแดนไทยยึดแผ่นดินไทยทำกินแทนคนไทยเนิ่นนานถึงปัจจุบันนี้.
    ..ผบ.ทบ.กำลังไม่เด็ดขาดตัดตอนปัญหา, ผบ.เหล่าทัพรู้หมดล่ะว่านายใหญ่คนนั้นคือใคร สั่งคุยปอยเปตได้ห้ามมีเสียงปืนสักแอะเด็ดขาดต่อกัน,นี้คือผบ.ทบ.ไม่จัดการนายใหญ่คนนี้จริง,การข่าวระดับผบ.ทบ.หาค่าจริงได้หมด.,การทหารต้องปฏิวัติครั้งใหญ่จริงๆ.

    https://youtube.com/watch?v=nAb2YIgohZU&si=Y00Kf6WZNd57bGa_
    https://youtube.com/watch?v=nAb2YIgohZU&si=Y00Kf6WZNd57bGa_
    คลิปนี้ทวนย้ำได้ดีอีกรอบ,ประกาศกฎอัยการศึกนั้นดี,แต่ประชาชนไม่ไว้วางใจในกฎอัยการศึกเสียแล้วในเวลานี้,ยิ่งรายการนี้ออกมาแฉชัดเจน,ยิ่งความน่าจะเป็นที่กฎอัยการศึกไม่ได้ช่วยเรื่องผลักดันถีบคนเขมรออกไปจริง แต่ถีบคนไทยออกจากพื้นที่ดินแดนตนเพื่อไปไล่คนเขมรออกจากแผ่นดินไทยในนามของประชาชนที่หลั่งไหลจากสาระทิศมุ่งหน้าไปถีบเขมรแต่ถูกสกัดจากกฎอัยการศึกของทหารไทยตนเองฝั่งตน,ใช้มาตราการทะเลขี้ทั่วชุมชนเขมรดู มันยังจะกล้าพังรั้วเข้ามาอีกมั้ย.,มึงตั้งกระท่อมเพลิงหมาแหงนตรงไหน ทะเลขี้ส่งถึงกระท่อมหมาแหงนนั้นทันที,ปราศจากอาวุธเสียกระสุนจริงใดๆ,อย่างไปดัดจริตมีมารยาทกับพวกสันดานเขมรไร้มารยาท,ถ้ามีประจำในสมองมันจะไม่มาลุกล้ำดินแดนไทยยึดแผ่นดินไทยทำกินแทนคนไทยเนิ่นนานถึงปัจจุบันนี้. ..ผบ.ทบ.กำลังไม่เด็ดขาดตัดตอนปัญหา, ผบ.เหล่าทัพรู้หมดล่ะว่านายใหญ่คนนั้นคือใคร สั่งคุยปอยเปตได้ห้ามมีเสียงปืนสักแอะเด็ดขาดต่อกัน,นี้คือผบ.ทบ.ไม่จัดการนายใหญ่คนนี้จริง,การข่าวระดับผบ.ทบ.หาค่าจริงได้หมด.,การทหารต้องปฏิวัติครั้งใหญ่จริงๆ. https://youtube.com/watch?v=nAb2YIgohZU&si=Y00Kf6WZNd57bGa_ https://youtube.com/watch?v=nAb2YIgohZU&si=Y00Kf6WZNd57bGa_
    0 Comments 0 Shares 204 Views 0 Reviews
  • น่าจะเอาไอ้เหี้ยสองตัวนี้ไปเดินรอบๆตาควายนะ,ไปสัมผัสกับระเบิดที่ทหารเขมรมันวางไว้,เหน็บแม่ทัพภาค.2ที่ทำคุณงามความดีต่อชาติบ้านเมืองแบบนี้ เสียดายมันสมองความรู้กระแดะภาษาฝรั่งอวยโชว์สกิล ,มิสมควรอย่างยิ่ง,เห็นต่างได้ แต่มันผิดและต่างจากค่าจริงเกิน,ไม่ต่างจากสันดานเขมรที่มืดบอดในจิตในใจ,ที่คนไทยเห็นๆสภาพความคิดอ่านมัน,ใครสนับสนุนช่องมัน อุดหนุนช่องมันหากไงมีสติคิดอ่านดี รู้ผิดชั่ว คนแบบใดสันดานแบบใดสมควรส่งเสริมก็พิจารณาเอานะ,พวกนี้อาจต้องตรวจสอบกระแสเงินสด ช่องทางรายได้ ธุรกิจเครือญาติมันทั้งหมด ร่ำรวยอะไรมา มาอยู่ไทย ใครส่งมาก่อกวน อเมริกาให้เงินสนับสนุนเปิดช่องแบบหลายๆช่องสื่อหลายๆองค์กรที่เป็นบ่อนทำลายไทย สร้างความแตกแยกในประเทศด้วยหรือไม่,ปากกล้าหาญแบบนี้มีใบสั่งให้ทำลายภาพลักษณ์แม่ทัพกุ้งแน่นอน,เชื่อมโยงกับเดอะแก๊งสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์มั้ย,กิจการในเครือญาติฟอกเงินจนร่ำรวยมั้ย,ฮุนเซนสั่งมาทำลายแม่ทัพกุ้งมั้ย,หาแสงแบบนี้ไม่ธรรมดา,ใครคนไทยคนไหนค้าขายซื้อขายใช้บริการตระกูลนี้ อย่าไปซื้อไปอุดหนุนมันอีกเลย,ปิดด่านปิดช่องหาแดกมัน จากนั้นเราอาจจะรู้ชัดเจนว่า มันรับตังจากใครมา เสือกไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจกิจการมีตังใช้จ่ายสบายด่าเหน็บใครเป็นว่าเล่นได้ตามใบสั่งมา,กระแสตัง,คนถ้าไม่มีตังมาเกี่ยวมันไม่กล้าหรอก.,สามารถตามเด็ดหัวคนที่อยู่เบื้องหลังได้อีก.
    ..สามารถเป็นไส้ศึกทำลายความแตกแยก ขัดขวางความสามัคคีของคนในชาติได้,คนจัญไรอัปรีย์ถือกำเนิดคู่คนดีเสนอ.
    https://youtube.com/watch?v=UOBbGa1SZ7Q&si=3o_HJ6EMMA4R4Hiw
    น่าจะเอาไอ้เหี้ยสองตัวนี้ไปเดินรอบๆตาควายนะ,ไปสัมผัสกับระเบิดที่ทหารเขมรมันวางไว้,เหน็บแม่ทัพภาค.2ที่ทำคุณงามความดีต่อชาติบ้านเมืองแบบนี้ เสียดายมันสมองความรู้กระแดะภาษาฝรั่งอวยโชว์สกิล ,มิสมควรอย่างยิ่ง,เห็นต่างได้ แต่มันผิดและต่างจากค่าจริงเกิน,ไม่ต่างจากสันดานเขมรที่มืดบอดในจิตในใจ,ที่คนไทยเห็นๆสภาพความคิดอ่านมัน,ใครสนับสนุนช่องมัน อุดหนุนช่องมันหากไงมีสติคิดอ่านดี รู้ผิดชั่ว คนแบบใดสันดานแบบใดสมควรส่งเสริมก็พิจารณาเอานะ,พวกนี้อาจต้องตรวจสอบกระแสเงินสด ช่องทางรายได้ ธุรกิจเครือญาติมันทั้งหมด ร่ำรวยอะไรมา มาอยู่ไทย ใครส่งมาก่อกวน อเมริกาให้เงินสนับสนุนเปิดช่องแบบหลายๆช่องสื่อหลายๆองค์กรที่เป็นบ่อนทำลายไทย สร้างความแตกแยกในประเทศด้วยหรือไม่,ปากกล้าหาญแบบนี้มีใบสั่งให้ทำลายภาพลักษณ์แม่ทัพกุ้งแน่นอน,เชื่อมโยงกับเดอะแก๊งสแกมเมอร์คอลเซ็นเตอร์มั้ย,กิจการในเครือญาติฟอกเงินจนร่ำรวยมั้ย,ฮุนเซนสั่งมาทำลายแม่ทัพกุ้งมั้ย,หาแสงแบบนี้ไม่ธรรมดา,ใครคนไทยคนไหนค้าขายซื้อขายใช้บริการตระกูลนี้ อย่าไปซื้อไปอุดหนุนมันอีกเลย,ปิดด่านปิดช่องหาแดกมัน จากนั้นเราอาจจะรู้ชัดเจนว่า มันรับตังจากใครมา เสือกไม่มีอาชีพ ไม่มีธุรกิจกิจการมีตังใช้จ่ายสบายด่าเหน็บใครเป็นว่าเล่นได้ตามใบสั่งมา,กระแสตัง,คนถ้าไม่มีตังมาเกี่ยวมันไม่กล้าหรอก.,สามารถตามเด็ดหัวคนที่อยู่เบื้องหลังได้อีก. ..สามารถเป็นไส้ศึกทำลายความแตกแยก ขัดขวางความสามัคคีของคนในชาติได้,คนจัญไรอัปรีย์ถือกำเนิดคู่คนดีเสนอ. https://youtube.com/watch?v=UOBbGa1SZ7Q&si=3o_HJ6EMMA4R4Hiw
    0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
  • แกะรอยนักล่า ตอนที่ 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (4)
    คุณพี่ Obama น่าจะตัดสินใจแล้ว ดูจากรายงานของคุณครู CRS บวกกับถังสมองยี่ห้อ CSIS (Council for Strategic and International Studies) ที่ออกมาเสนอเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2014 ให้มีการเจรจาและมีนายกคนกลาง เพื่อจะได้เอาสมันน้อยเข้าฉากลุยเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน
    แบบนี้คุณพี่ก็ต้องสร้างขบวนการ จัดการบ้านของสมันน้อยให้มั่นคง (Stable) 
อย่างที่คุณพี่ต้องการก่อน หนึ่งในการจัดการให้เกิดความมั่นคงในบ้านสมันน้อย
(ส่วนที่เปิดเผยได้ !) คุณพี่และสมุน ก็กลับลำประกาศหนุนให้มีการเจรจาหลังฉากและเลือกนายกฯ คนกลาง (ที่คุณพี่สนับสนุน !) ซึ่งตอนนี้ กำลังส่งเข้าประกวดกันเพียบ คุณน้านันท์ชื่อยังไม่ตกรอบ คุณพี่ ส ชื่ออีสานตัวมาจากใต้ ก็ยังแรงดี ตอนนี้มีสายอีลีตเก่าใหม่ ส่ง อาจารย์นักวิชาการ เด่นๆ มาเข้ารอบประกวดอีกเป็นกระบุง ดร. ส. ดร. อ. ดร. ป. ฯลฯ แต่เผลอ ๆ คนที่จะเข้าวินจะกลายเป็นคุณพี่ทหารของผมซะก็ไม่รู้
    เมื่อมีนายกฯ คนกลางมาแล้ว จะปฏิรูปจริงไหม จะอยู่นานเท่าไหร่ มีพรายมากระซิบ
บอกว่า เรื่องนายกฯ คนกลาง เขาว่าจะมาอยู่แค่ 6 เดือน พอหอมปากหอมคอ ให้มวลมหาประชาชนหายเหนื่อยหายเครียด ทำให้บ้านเมืองมันสงบนิ่ง ๆ ตามใบสั่งก่อน แล้วก็แก้ไขกฎหมายอะไรนิดหน่อย หลังจากนั้นก็ให้มีการเลือกตั้ง ใครมาเป็นรัฐบาล เป็น
นายกฯ น่าจะพอเดากันออก ใบสั่งเขามาแบบนั้น เรื่องปฏิรูปก็ค่อย ๆ ทำกันไปไม่ต้องรีบร้อน แบบนี้ ก็เท่ากับมวยล้มต้มคนดู มวลมหาประชาชนจะรับได้หรือ ประเมินผิดไปหน่อยหรือเปล่า
    ถ้าเป็นแบบนี้จริง เรา ๆ ก็ต้องหัดซ้อม ฝึกโวยไว้ อย่าลืม นักล่าก็ปอดแหกเป็น เผยไต๋มาแล้วว่า ถ้ามีความขัดแย้งกัน เขาจะให้เราใช้ฐานทัพเขาหรือ
    เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพยายามกันหน่อย ติดตามความเคลื่อนไหวของนักล่า นักล่ามันมาซ่าในบ้านเราเองทั้งหมดไม่ได้หรอก มันต้องมีมือ มีเท้ารับใช้ในบ้านเรา เราต้องดูให้ออก ตามให้ติด แกะรอยมันบ้าง มันไม่ได้ฉลาดกว่าเรานักหรอก มันต้องคอยถามถังสมอง
มันทุกเรื่อง ถังสมองก็เหมือนหมอดู ถูกบ้างผิดบ้าง แล้วคนไทยน่ะ อ่านง่ายเข้าใจง่ายนักหรือ จนบัดนี้สื่อฝรั่งยังไม่เข้าใจ มวลมหาประชาชนเลย มีชาติไหนบ้าง เวลาจะออกไปประท้วงต้องหอบทั้งวงดนตรี ทั้งโรงครัวไปด้วยแบบเรา มีแต่คนไทยเท่านั้นแหละ ไปถามนาย Michael Yon ที่ตามไปทำข่าวทุกเวทีดูเถิด ขนาดมีเมียไทย ยังเข้าใจแบบงู ๆ ปลา ๆ
    เห็นมาหมาด ๆ เมื่อ 2,3 วันก่อน นสพ.ไทยรัฐวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 หน้า 3 เขียนบทความพาดหัวว่า “อดัม คาเฮน ส่องวิกฤติการเมืองไทยใกล้จุดวิบาก” บทความสรุปว่า สถานการณ์เร่งให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญและเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีการปฏิรูปประเทศไทย … … โดยได้มีการแอบจัดทำอย่างเงียบ ๆ มาตั้งแต่ปี 53 โดยเครือข่าย Scenario Thailand และมีการเสวนาด้วย เมื่อปลายปี 56 เขาว่า Scenario Thailand อาจไม่ใช่ทางออกเสียทีเดียว แต่เป็นโครงการนำร่องที่มีศักยภาพ แกนนำ 2 ขั้ว ควรมีการเปิดการเจรจาอย่างลับ ๆ จะเวิร์กกว่ามาถกเถียงต่อหน้าสาธารณะชน…
    นาย Adam Kahane เป็นใคร ประวัติเขาน่าสนใจ เขาเป็นชาวแคนาดา ปริญญา 3,4 ใบ ทางด้านฟิสิกซ์ พฤติกรรมสังคมและการเจรจา เป็นผู้เริ่มโครงการ Mont Fleur Scenario Exercise ให้กับ South Africa เมื่อ Nelson Mandela พยายามให้คนผิวดำกับคนผิวขาวจับมือกันสร้างชาติ สร้างประชาธิปไตย คนอ่านนิทานจะโยงถูกไหมหนอ ว่าคนประวัติแบบนี้ใครจัดส่งมาให้ !?
    วิธีการจำลองเหตุการณ์ หรือ Scenario planning นี้ จริง ๆ แล้ว เป็นวิธีการของ Rand Corporation เป็นทฤษฎีที่ใช้สำหรับด้านการรบของทหาร (หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะจำชื่อ Rand Corporation ได้ ต้นความคิดฐานทัพใบบัว Lily Pad และการรบแบบ Special Force Operation ถ้าจำไม่ได้ช่วยกลับไปอ่านยุทธการกบกระโดดใหม่นะครับ) คนคิดทฤษฎีนี้คือนาย Herman Kahn ของ Rand ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950
    ต่อมานาย Kahn ลาออกจาก Rand Corporation และมาตั้ง Hudson Institute ซึ่งเป็นพวกถังความคิด (think tank) ที่วอชิงตันสนับสนุนให้ดูแลความมั่นคง และส่งเสริมนโยบายสำคัญ ให้กับเอกชนระดับบรรษัท หรือสถาบันข้ามชาติ สำหรับกรณี ที่บรรษัทพวกนี้มีนโยบายหลัก ที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของอ เมริกา และอาจกระทบกับชุมชน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจในต่างประเทศ ฯลฯ Hudson Institute ก็จะรับหน้าที่ดูแล แนะนำ วางแผน จัดการ ทดลอง และปฏิบัติการให้บรรลุตามเป้าหมาย ลูกค้าของเขา เช่น Shell, Cargill, Monsanto, Du Port, Dow Chemical, Sandoz, Ciba Geigy คงพอนึกออกนะครับ เช่น บริษัทน้ำมันจะวางท่อผ่านไปบนที่ชาวบ้านหรือแหล่งน้ำ ชาวบ้านประท้วงกัน ทะเลาะกัน หน่วยงานนี้ก็จะมีหน้าที่จัดการให้เรื่องเงียบ หรือบริษัทยาจะทดลองยากับมนุษย์ในโลกที่ 3 หน่วยงานนี้ก็จะจัดให้ พูดไม่อ้อมค้อม หน่วยงานนี้ก็ทำหน้าที่เหมือนพวกเสธ คนดัง ที่รับจ้าง clear เรื่องขัดแย้งทำนองนั้น แต่ไอ้นี่มันเรื่องระดับชาติหรือระดับโลก แต่วิธีการก็ไม่น่าต่างกัน
    นาย Adam Kahane เคยทำงานให้กับบริษัท Dutch Shell เป็นเวลานาน คุ้นเคยกับวิธีการสร้างภาพจำลอง Sceanario workshop/ exercise แบบนี้ ภายหลังเขาร่วมกับพรรคพวกตั้ง Reos Partners รับงานด้านนี้ (หลังจากที่นาย Kahn เสียชีวิต) ท่านผู้อ่านนิทาน พอมองเห็นภาพต่อกันได้หรือยัง เชื่อว่ารายการของนาย Adam Kahane ยังไม่จบง่าย ๆ เพราะผู้ที่นำเขาเข้ามาแสดงใน เมืองไทย ใช้ชื่อว่า Siam Intelligence เป็นถังความคิดคนไทย เป็นหน้าฉากให้ใคร เดี๋ยวก็คงโผล่มาเอง แต่เมื่อตอนเขาจัดงานเสวนา เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2556 เรื่อง Solution Talk “เราจะส่งมอบประเทศไทยแบบไหนให้ลูกหลาน” บรรดาขาใหญ่มาร่วมเป็นเหยื่อกันเพียบ ไปหาชื่ออ่านกันนะครับ
    หน่วยงานประเภท Rand Corporation, Hudson Institution นักล่ามีอยู่ในกระเป๋าเป็นร้อย นักล่ากำลังนั่งหมอบอยู่บนภู ดูจังหวะขม่ำสมันน้อยรอบใหม่ แต่รอบนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเก่า ไม่มีผีคอมมี่มาหลอน คราวก่อนมันรบกันนอกบ้านเรา คราวนี้ถ้าเราเดินหมากผิด มันเท่ากับชักศึกเข้าบ้าน กำลังนั่งเหมอ ๆ สบายอยู่ในบ้าน หันมาอีกทีบ้านอาจโดนถล่มหายไปทั้งแถบ เพราะดันไปยอมให้นักล่า มาสร้างฐานทัพใบบัวเต็มชายฝั่งไว้ให้กบกระโดด เพราะฉะนั้น ต้องมารู้จัก มาตามดู ท่าทีของนักล่ากันบ้าง
นี่มันบ้านเรานะ จะให้มันจะมาเดินกร่าง ชี้นิ้ว สั่งเราทำโน่นทำนี่ได้อย่างไร แล้วมันจะทำทุกอย่างเองไม่ได้ มันต้องเลี่ยงไปใช้ร่างทรง เพราะฉะนั้นต้องทำความรู้จัก พวกสมอง มือ เท้า ร่างทรง ของนักล่าเอาไว้ ยิ่งเป็นพวกมือเท้าร่างทรงไทย แต่ใจเป็นของฝรั่ง อย่าปล่อยให้ลอยนวลครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 มีค 57
    แกะรอยนักล่า ตอนที่ 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (4) คุณพี่ Obama น่าจะตัดสินใจแล้ว ดูจากรายงานของคุณครู CRS บวกกับถังสมองยี่ห้อ CSIS (Council for Strategic and International Studies) ที่ออกมาเสนอเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2014 ให้มีการเจรจาและมีนายกคนกลาง เพื่อจะได้เอาสมันน้อยเข้าฉากลุยเซี่ยงไฮ้ด้วยกัน แบบนี้คุณพี่ก็ต้องสร้างขบวนการ จัดการบ้านของสมันน้อยให้มั่นคง (Stable) 
อย่างที่คุณพี่ต้องการก่อน หนึ่งในการจัดการให้เกิดความมั่นคงในบ้านสมันน้อย
(ส่วนที่เปิดเผยได้ !) คุณพี่และสมุน ก็กลับลำประกาศหนุนให้มีการเจรจาหลังฉากและเลือกนายกฯ คนกลาง (ที่คุณพี่สนับสนุน !) ซึ่งตอนนี้ กำลังส่งเข้าประกวดกันเพียบ คุณน้านันท์ชื่อยังไม่ตกรอบ คุณพี่ ส ชื่ออีสานตัวมาจากใต้ ก็ยังแรงดี ตอนนี้มีสายอีลีตเก่าใหม่ ส่ง อาจารย์นักวิชาการ เด่นๆ มาเข้ารอบประกวดอีกเป็นกระบุง ดร. ส. ดร. อ. ดร. ป. ฯลฯ แต่เผลอ ๆ คนที่จะเข้าวินจะกลายเป็นคุณพี่ทหารของผมซะก็ไม่รู้ เมื่อมีนายกฯ คนกลางมาแล้ว จะปฏิรูปจริงไหม จะอยู่นานเท่าไหร่ มีพรายมากระซิบ
บอกว่า เรื่องนายกฯ คนกลาง เขาว่าจะมาอยู่แค่ 6 เดือน พอหอมปากหอมคอ ให้มวลมหาประชาชนหายเหนื่อยหายเครียด ทำให้บ้านเมืองมันสงบนิ่ง ๆ ตามใบสั่งก่อน แล้วก็แก้ไขกฎหมายอะไรนิดหน่อย หลังจากนั้นก็ให้มีการเลือกตั้ง ใครมาเป็นรัฐบาล เป็น
นายกฯ น่าจะพอเดากันออก ใบสั่งเขามาแบบนั้น เรื่องปฏิรูปก็ค่อย ๆ ทำกันไปไม่ต้องรีบร้อน แบบนี้ ก็เท่ากับมวยล้มต้มคนดู มวลมหาประชาชนจะรับได้หรือ ประเมินผิดไปหน่อยหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบนี้จริง เรา ๆ ก็ต้องหัดซ้อม ฝึกโวยไว้ อย่าลืม นักล่าก็ปอดแหกเป็น เผยไต๋มาแล้วว่า ถ้ามีความขัดแย้งกัน เขาจะให้เราใช้ฐานทัพเขาหรือ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องพยายามกันหน่อย ติดตามความเคลื่อนไหวของนักล่า นักล่ามันมาซ่าในบ้านเราเองทั้งหมดไม่ได้หรอก มันต้องมีมือ มีเท้ารับใช้ในบ้านเรา เราต้องดูให้ออก ตามให้ติด แกะรอยมันบ้าง มันไม่ได้ฉลาดกว่าเรานักหรอก มันต้องคอยถามถังสมอง
มันทุกเรื่อง ถังสมองก็เหมือนหมอดู ถูกบ้างผิดบ้าง แล้วคนไทยน่ะ อ่านง่ายเข้าใจง่ายนักหรือ จนบัดนี้สื่อฝรั่งยังไม่เข้าใจ มวลมหาประชาชนเลย มีชาติไหนบ้าง เวลาจะออกไปประท้วงต้องหอบทั้งวงดนตรี ทั้งโรงครัวไปด้วยแบบเรา มีแต่คนไทยเท่านั้นแหละ ไปถามนาย Michael Yon ที่ตามไปทำข่าวทุกเวทีดูเถิด ขนาดมีเมียไทย ยังเข้าใจแบบงู ๆ ปลา ๆ เห็นมาหมาด ๆ เมื่อ 2,3 วันก่อน นสพ.ไทยรัฐวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2557 หน้า 3 เขียนบทความพาดหัวว่า “อดัม คาเฮน ส่องวิกฤติการเมืองไทยใกล้จุดวิบาก” บทความสรุปว่า สถานการณ์เร่งให้ทุกฝ่ายให้ความสำคัญและเห็นความจำเป็นที่จะต้องมีการปฏิรูปประเทศไทย … … โดยได้มีการแอบจัดทำอย่างเงียบ ๆ มาตั้งแต่ปี 53 โดยเครือข่าย Scenario Thailand และมีการเสวนาด้วย เมื่อปลายปี 56 เขาว่า Scenario Thailand อาจไม่ใช่ทางออกเสียทีเดียว แต่เป็นโครงการนำร่องที่มีศักยภาพ แกนนำ 2 ขั้ว ควรมีการเปิดการเจรจาอย่างลับ ๆ จะเวิร์กกว่ามาถกเถียงต่อหน้าสาธารณะชน… นาย Adam Kahane เป็นใคร ประวัติเขาน่าสนใจ เขาเป็นชาวแคนาดา ปริญญา 3,4 ใบ ทางด้านฟิสิกซ์ พฤติกรรมสังคมและการเจรจา เป็นผู้เริ่มโครงการ Mont Fleur Scenario Exercise ให้กับ South Africa เมื่อ Nelson Mandela พยายามให้คนผิวดำกับคนผิวขาวจับมือกันสร้างชาติ สร้างประชาธิปไตย คนอ่านนิทานจะโยงถูกไหมหนอ ว่าคนประวัติแบบนี้ใครจัดส่งมาให้ !? วิธีการจำลองเหตุการณ์ หรือ Scenario planning นี้ จริง ๆ แล้ว เป็นวิธีการของ Rand Corporation เป็นทฤษฎีที่ใช้สำหรับด้านการรบของทหาร (หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะจำชื่อ Rand Corporation ได้ ต้นความคิดฐานทัพใบบัว Lily Pad และการรบแบบ Special Force Operation ถ้าจำไม่ได้ช่วยกลับไปอ่านยุทธการกบกระโดดใหม่นะครับ) คนคิดทฤษฎีนี้คือนาย Herman Kahn ของ Rand ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1950 ต่อมานาย Kahn ลาออกจาก Rand Corporation และมาตั้ง Hudson Institute ซึ่งเป็นพวกถังความคิด (think tank) ที่วอชิงตันสนับสนุนให้ดูแลความมั่นคง และส่งเสริมนโยบายสำคัญ ให้กับเอกชนระดับบรรษัท หรือสถาบันข้ามชาติ สำหรับกรณี ที่บรรษัทพวกนี้มีนโยบายหลัก ที่เกี่ยวพันกับผลประโยชน์ของอ เมริกา และอาจกระทบกับชุมชน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจในต่างประเทศ ฯลฯ Hudson Institute ก็จะรับหน้าที่ดูแล แนะนำ วางแผน จัดการ ทดลอง และปฏิบัติการให้บรรลุตามเป้าหมาย ลูกค้าของเขา เช่น Shell, Cargill, Monsanto, Du Port, Dow Chemical, Sandoz, Ciba Geigy คงพอนึกออกนะครับ เช่น บริษัทน้ำมันจะวางท่อผ่านไปบนที่ชาวบ้านหรือแหล่งน้ำ ชาวบ้านประท้วงกัน ทะเลาะกัน หน่วยงานนี้ก็จะมีหน้าที่จัดการให้เรื่องเงียบ หรือบริษัทยาจะทดลองยากับมนุษย์ในโลกที่ 3 หน่วยงานนี้ก็จะจัดให้ พูดไม่อ้อมค้อม หน่วยงานนี้ก็ทำหน้าที่เหมือนพวกเสธ คนดัง ที่รับจ้าง clear เรื่องขัดแย้งทำนองนั้น แต่ไอ้นี่มันเรื่องระดับชาติหรือระดับโลก แต่วิธีการก็ไม่น่าต่างกัน นาย Adam Kahane เคยทำงานให้กับบริษัท Dutch Shell เป็นเวลานาน คุ้นเคยกับวิธีการสร้างภาพจำลอง Sceanario workshop/ exercise แบบนี้ ภายหลังเขาร่วมกับพรรคพวกตั้ง Reos Partners รับงานด้านนี้ (หลังจากที่นาย Kahn เสียชีวิต) ท่านผู้อ่านนิทาน พอมองเห็นภาพต่อกันได้หรือยัง เชื่อว่ารายการของนาย Adam Kahane ยังไม่จบง่าย ๆ เพราะผู้ที่นำเขาเข้ามาแสดงใน เมืองไทย ใช้ชื่อว่า Siam Intelligence เป็นถังความคิดคนไทย เป็นหน้าฉากให้ใคร เดี๋ยวก็คงโผล่มาเอง แต่เมื่อตอนเขาจัดงานเสวนา เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2556 เรื่อง Solution Talk “เราจะส่งมอบประเทศไทยแบบไหนให้ลูกหลาน” บรรดาขาใหญ่มาร่วมเป็นเหยื่อกันเพียบ ไปหาชื่ออ่านกันนะครับ หน่วยงานประเภท Rand Corporation, Hudson Institution นักล่ามีอยู่ในกระเป๋าเป็นร้อย นักล่ากำลังนั่งหมอบอยู่บนภู ดูจังหวะขม่ำสมันน้อยรอบใหม่ แต่รอบนี้สถานการณ์ไม่เหมือนเก่า ไม่มีผีคอมมี่มาหลอน คราวก่อนมันรบกันนอกบ้านเรา คราวนี้ถ้าเราเดินหมากผิด มันเท่ากับชักศึกเข้าบ้าน กำลังนั่งเหมอ ๆ สบายอยู่ในบ้าน หันมาอีกทีบ้านอาจโดนถล่มหายไปทั้งแถบ เพราะดันไปยอมให้นักล่า มาสร้างฐานทัพใบบัวเต็มชายฝั่งไว้ให้กบกระโดด เพราะฉะนั้น ต้องมารู้จัก มาตามดู ท่าทีของนักล่ากันบ้าง
นี่มันบ้านเรานะ จะให้มันจะมาเดินกร่าง ชี้นิ้ว สั่งเราทำโน่นทำนี่ได้อย่างไร แล้วมันจะทำทุกอย่างเองไม่ได้ มันต้องเลี่ยงไปใช้ร่างทรง เพราะฉะนั้นต้องทำความรู้จัก พวกสมอง มือ เท้า ร่างทรง ของนักล่าเอาไว้ ยิ่งเป็นพวกมือเท้าร่างทรงไทย แต่ใจเป็นของฝรั่ง อย่าปล่อยให้ลอยนวลครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
13 มีค 57
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 Reviews
  • แกะรอยนักล่า ตอนที่ 3
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (3)
    คุณครูผู้ปกครอง CRS เขียนสมุดรายงานความประพฤตินักเรียนไทยแบบไม่ต้องตีความกันมาก อเมริการับไม่ได้ที่จะให้ไทยแลนด์เล่นกีฬาสีภายในกันไปตลอดชาติ มันต้องหยุดเสียที จะหยุดแบบไหน ก็แบบที่ทำให้ประเทศไทยมีความสงบมั่นคงนั่นแหละ เพราะมันเป็นความจำเป็นของนักล่า ในการจะใช้ไทย ที่มีบ้านเมืองสงบมั่นคง ร่วมขบวนทัพไปบุกบ้านอาเฮีย !

คุณครูเขียนเองนะว่า ประเทศไทยเป็นที่ชื่นชมว่า มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาตลอด จนเมื่อมีการปฏิวัติ ค.ศ. 2006 (เมื่อมีการไล่ไอ้โจรร้ายออกไป แล้วไอ้โจรร้ายมันไม่ยอมรับ ไม่ว่าผลทางกฏหมาย หรือผลทางการเมือง มันถึงได้ตีตั๋วรวนแบบตั๋วไม่มีหมดอายุ จนกว่าหมดอายุกันไปข้างหนึ่งน่ะแหละ) เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าสื่อนอกหรือคุณนายฑูต มันว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เอารายงานคุณครู CRS ของพวกมันเองนี้แหละ ส่งไปให้อ่านนะครับ ทำเป็นแผ่นโปสเตอร์ใหญ่ ติดหน้าสถาน
ฑูตมันเลยดีไหมพี่น้อง เดี๋ยวผมจะเอา link มาลง แล้วก็ช่วยกันอ่าน ช่วยกันก๊อบส่งกันไป จริง ๆ ก็หาไม่ยากอะไร กดถามอากู “Thailand : Background and US Relations” ปี ค.ศ. 2013 มันก็ขึ้นมาแล้วครับ
    นักล่ามันจะทนนั่งเกาหัวดูอยู่เฉย ๆ ได้ยังไง ประเทศนี้อยู่ในอุ้งมือมันมาตั้งกะ ค.ศ. 1954 กว่า 60 ปีมาแล้ว ของมันเคย เคยมี เคยสั่ง เคยใช้กันได้ วันดีคืนดีมีอาเฮียมายืนพุงโต แอบจับมือกับสมันน้อยอีกคน ความอิจฉาตาร้อนก็ต้องมีเป็นธรรมดา ยังมาปากแข็งทำเป็นขู่ว่า ไอไม่ให้ไทยแลนด์เล่นเป็นตัวเอกในหนังใหม่เรื่อง เมื่อคาวบอยบุก
เซียงไฮ้ “Rebalancing” พูดแบบนี้ นึกว่าสมันน้อยจะร้องไห้ฟูมฟายหรือ ขอโทษผ่านมา 60 ปีแล้ว ไม่มีคอมมี่มาขู่ให้สมันน้อยผวาแล้ว แถมตอนนี้สมันน้อยเนื้อหอม
ไม่ให้เล่นเป็นพระเอก ในเรื่องคาวบอยบุกเซียงไฮ้ สมันน้อยอาจจะเลือกไปเล่นเป็นนางเอกเรื่อง เมื่อเซียงไฮ้ถล่มแอลเอ แทนก็ได้นะ
แล้วไงล่ะ ไปเอาพวกตัวประกอบหน้าใหม่ ผักชีโรยหน้ามาเล่นแทนนะ จะให้กบกระโดดมาจากอินโดนีเซี ย หรือออสเตรเลีย ไม่มีใบบัวแถวชุมพรรองรับ กบได้จมน้ำตายเกลี้ยง เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน ก็รู้อยู่แก่ใจ จนหลุดปากบอกออกมาแล้วว่า ตำแหน่งที่ประเทศไทยตั้งอยู่มันเป็นส่วนสำคัญ (อย่างยิ่ง !) สำหรับการจะเข้าไปเล่นบทคาวบอยบุกเซียงไฮ้
    รายงานของคุณครูผู้ปกครอง CRS ออกมาปลายธันวาคม ค.ศ. 2013
shut down กรุงเทพฯ ของลุงกำนัน 9 ธันวาคม เกิดขึ้นแล้ว นักล่าเห็นแล้วว่า
มวลมหาประชาชน แม้จะร้องรำทำเพลงประกอบการประท้วงขับไล่ทุกวัน แต่ก็เอาจริง (เอะ ! หรือนักล่ามันเป็นคนช่วยส่ง ช่วยเสริม ให้เอาจริง ความสงบจะได้มาเร็ว !?!) แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ให้เห็นว่ารัฐบาลแพ้ยับเยิน บวกกับรายงานการสำรวจของ Asia Foundation ที่บอกว่าคนชั้นกลางจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้มีรายได้ สนับสนุนฝ่ายไล่รัฐบาล
    นักล่าไม่ต้องคิดมาก คุณครู CRS เขียนสารภาพออกมาแล้วว่า ไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ นำเข้าสินค้าจากอเมริกาเป็นจำนวนมาก ชนชั้นกลางคือผู้มีกำลังซื้อ จะปล่อยให้เล่นชกมวยสนามในบ้านไปเรื่อย ๆ แบบนี้ทำให้นักล่าเสียหายในสนามภูมิภาค แถมจะกระเทือนตำแหน่งแชมป์โลกเอาด้วย ไหนจะเรื่องกบจะจมน้ำเพราะไม่มีใบบัวรองรับ ไหนจะมีอาเฮียคอยคว้าสะเอวสมัน น้อยไปเดินเล่น นี่ยังมีเรื่องค้าขายอีก โอ้ พระเจ้า เศรษฐกิจไอกำลังอาการหนัก ต้องการกำลังซื้ออย่างยิ่ง แล้วพวกผักชีโรยหน้าที่ไปเจรจาไว้นะ เอาเข้าจริงจะพึ่งได้แบบ Mil to Mil อย่างคุณพี่ทหารของไทยแลนด์หรือเปล่า สิงคโปร์น่ะ ยังต้องส่งทหารมาฝึกกับคุณพี่ตู่ทุกปี เวียตนามล่ะ รบคนละแนว อาวุธยุทโธปกรณ์เขาก็ได้จากพี่ปูของรัสเซียทั้งนั้น แล้วแน่ใจหรือว่าคุณเวียตเขาจะเชื่อว่านักล่า รักจริงหวังแต่ง รบราฆ่าฟันกันจนตายเป็นเบื่อ เขาไม่ลืมง่าย ๆ หรอกน่า
    ส่วนอินโดน่ะ ตอนคุณพี่ Obama ไปตั้งให้เป็นคู่หูคนใหม่ เพราะบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่เคยอาศัยอยู่บ้านเมืองเขาอยู่เมื่อเด็ก ๆ น่ะ นักวิเคราะห์ค่ายนักล่าเอง หัวร่อกันครืน บอกว่าทดแทนบุญคุณผิดที่เสียแล้วท่าน ท่านอาจจะกำลังยื่นดาบให้ศัตรู (อ้าวตาย เรื่องนี้เขาปิดกันหรือเปล่านะ) ฟิลิปปินส์เองก็ใช่ว่าหายเคืองกัน เดี๋ยวสั่งปิดเดี๋ยวสั่งเปิดฐานทัพ ชาวบ้านเขาก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ วัน ๆ วิดน้ำทะเลออกจากบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว พายุมาแล้ว มาอีก แล้วคุณพ่ออเมริกามาช่วยอะไรบ้างล่ะ ถ้าจะให้ดีช่วยกลับไปอ่าน ยุทธการกบกระโดด อีกรอบนะครับ จะได้ประหยัดแรงงานคนแก่ ไม่ต้องเขียนซ้ำ
    เห็นได้ชัดว่า นักล่าแทบไม่มีทางเลือกหรอก อยากจะบุกเซียงไฮ้ ไม่มีไทยแลนด์เข้าฉากด้วย บอกได้คำเดียวว่าหนังจืดครับ เผลอ ๆ คนดูนอนหลับ น้ำลายไหลยึด จะลุยกับ
อาเฮียเขาทั้งที มันต้องยกทัพโยธาเป็นขบวนใหญ่ มันถึงจะสมศักดิ์ศรีนักล่า มีแต่เด็ก ๆ หรือพวกหน้าใหม่ผักชีโรยหน้าไป แต่หัวหมู่ทะลวงฟันคบกับมา 60 ปี มองหน้ารู้ใจ
ไม่เอาไปด้วย อย่างนี้ต้องส่งสามก๊กบวกตำรา ซุนวูไปให้ คุณพี่ Obama อ่านแทนฟังรายงานของ ไอ้พวกถังสมอง (think tank) พูดถึงเรื่องถังสมอง เดี๋ยวจะแถมให้ก่อนจบ ถ้าไม่ลืมซะก่อน

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยนักล่า ตอนที่ 3 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (3) คุณครูผู้ปกครอง CRS เขียนสมุดรายงานความประพฤตินักเรียนไทยแบบไม่ต้องตีความกันมาก อเมริการับไม่ได้ที่จะให้ไทยแลนด์เล่นกีฬาสีภายในกันไปตลอดชาติ มันต้องหยุดเสียที จะหยุดแบบไหน ก็แบบที่ทำให้ประเทศไทยมีความสงบมั่นคงนั่นแหละ เพราะมันเป็นความจำเป็นของนักล่า ในการจะใช้ไทย ที่มีบ้านเมืองสงบมั่นคง ร่วมขบวนทัพไปบุกบ้านอาเฮีย !

คุณครูเขียนเองนะว่า ประเทศไทยเป็นที่ชื่นชมว่า มีความมั่นคงทั้งด้านเศรษฐกิจและการเมืองมาตลอด จนเมื่อมีการปฏิวัติ ค.ศ. 2006 (เมื่อมีการไล่ไอ้โจรร้ายออกไป แล้วไอ้โจรร้ายมันไม่ยอมรับ ไม่ว่าผลทางกฏหมาย หรือผลทางการเมือง มันถึงได้ตีตั๋วรวนแบบตั๋วไม่มีหมดอายุ จนกว่าหมดอายุกันไปข้างหนึ่งน่ะแหละ) เพราะฉะนั้นต่อไปนี้ ถ้าสื่อนอกหรือคุณนายฑูต มันว่าไทยไม่เป็นประชาธิปไตย ก็เอารายงานคุณครู CRS ของพวกมันเองนี้แหละ ส่งไปให้อ่านนะครับ ทำเป็นแผ่นโปสเตอร์ใหญ่ ติดหน้าสถาน
ฑูตมันเลยดีไหมพี่น้อง เดี๋ยวผมจะเอา link มาลง แล้วก็ช่วยกันอ่าน ช่วยกันก๊อบส่งกันไป จริง ๆ ก็หาไม่ยากอะไร กดถามอากู “Thailand : Background and US Relations” ปี ค.ศ. 2013 มันก็ขึ้นมาแล้วครับ นักล่ามันจะทนนั่งเกาหัวดูอยู่เฉย ๆ ได้ยังไง ประเทศนี้อยู่ในอุ้งมือมันมาตั้งกะ ค.ศ. 1954 กว่า 60 ปีมาแล้ว ของมันเคย เคยมี เคยสั่ง เคยใช้กันได้ วันดีคืนดีมีอาเฮียมายืนพุงโต แอบจับมือกับสมันน้อยอีกคน ความอิจฉาตาร้อนก็ต้องมีเป็นธรรมดา ยังมาปากแข็งทำเป็นขู่ว่า ไอไม่ให้ไทยแลนด์เล่นเป็นตัวเอกในหนังใหม่เรื่อง เมื่อคาวบอยบุก
เซียงไฮ้ “Rebalancing” พูดแบบนี้ นึกว่าสมันน้อยจะร้องไห้ฟูมฟายหรือ ขอโทษผ่านมา 60 ปีแล้ว ไม่มีคอมมี่มาขู่ให้สมันน้อยผวาแล้ว แถมตอนนี้สมันน้อยเนื้อหอม
ไม่ให้เล่นเป็นพระเอก ในเรื่องคาวบอยบุกเซียงไฮ้ สมันน้อยอาจจะเลือกไปเล่นเป็นนางเอกเรื่อง เมื่อเซียงไฮ้ถล่มแอลเอ แทนก็ได้นะ
แล้วไงล่ะ ไปเอาพวกตัวประกอบหน้าใหม่ ผักชีโรยหน้ามาเล่นแทนนะ จะให้กบกระโดดมาจากอินโดนีเซี ย หรือออสเตรเลีย ไม่มีใบบัวแถวชุมพรรองรับ กบได้จมน้ำตายเกลี้ยง เดี๋ยวจะว่าไม่เตือน ก็รู้อยู่แก่ใจ จนหลุดปากบอกออกมาแล้วว่า ตำแหน่งที่ประเทศไทยตั้งอยู่มันเป็นส่วนสำคัญ (อย่างยิ่ง !) สำหรับการจะเข้าไปเล่นบทคาวบอยบุกเซียงไฮ้ รายงานของคุณครูผู้ปกครอง CRS ออกมาปลายธันวาคม ค.ศ. 2013
shut down กรุงเทพฯ ของลุงกำนัน 9 ธันวาคม เกิดขึ้นแล้ว นักล่าเห็นแล้วว่า
มวลมหาประชาชน แม้จะร้องรำทำเพลงประกอบการประท้วงขับไล่ทุกวัน แต่ก็เอาจริง (เอะ ! หรือนักล่ามันเป็นคนช่วยส่ง ช่วยเสริม ให้เอาจริง ความสงบจะได้มาเร็ว !?!) แต่ตอนนั้นยังไม่รู้ว่าเลือกตั้ง 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2014 ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมา ให้เห็นว่ารัฐบาลแพ้ยับเยิน บวกกับรายงานการสำรวจของ Asia Foundation ที่บอกว่าคนชั้นกลางจำนวนมาก ซึ่งเป็นผู้มีรายได้ สนับสนุนฝ่ายไล่รัฐบาล นักล่าไม่ต้องคิดมาก คุณครู CRS เขียนสารภาพออกมาแล้วว่า ไทยเป็นลูกค้ารายใหญ่ นำเข้าสินค้าจากอเมริกาเป็นจำนวนมาก ชนชั้นกลางคือผู้มีกำลังซื้อ จะปล่อยให้เล่นชกมวยสนามในบ้านไปเรื่อย ๆ แบบนี้ทำให้นักล่าเสียหายในสนามภูมิภาค แถมจะกระเทือนตำแหน่งแชมป์โลกเอาด้วย ไหนจะเรื่องกบจะจมน้ำเพราะไม่มีใบบัวรองรับ ไหนจะมีอาเฮียคอยคว้าสะเอวสมัน น้อยไปเดินเล่น นี่ยังมีเรื่องค้าขายอีก โอ้ พระเจ้า เศรษฐกิจไอกำลังอาการหนัก ต้องการกำลังซื้ออย่างยิ่ง แล้วพวกผักชีโรยหน้าที่ไปเจรจาไว้นะ เอาเข้าจริงจะพึ่งได้แบบ Mil to Mil อย่างคุณพี่ทหารของไทยแลนด์หรือเปล่า สิงคโปร์น่ะ ยังต้องส่งทหารมาฝึกกับคุณพี่ตู่ทุกปี เวียตนามล่ะ รบคนละแนว อาวุธยุทโธปกรณ์เขาก็ได้จากพี่ปูของรัสเซียทั้งนั้น แล้วแน่ใจหรือว่าคุณเวียตเขาจะเชื่อว่านักล่า รักจริงหวังแต่ง รบราฆ่าฟันกันจนตายเป็นเบื่อ เขาไม่ลืมง่าย ๆ หรอกน่า ส่วนอินโดน่ะ ตอนคุณพี่ Obama ไปตั้งให้เป็นคู่หูคนใหม่ เพราะบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่เคยอาศัยอยู่บ้านเมืองเขาอยู่เมื่อเด็ก ๆ น่ะ นักวิเคราะห์ค่ายนักล่าเอง หัวร่อกันครืน บอกว่าทดแทนบุญคุณผิดที่เสียแล้วท่าน ท่านอาจจะกำลังยื่นดาบให้ศัตรู (อ้าวตาย เรื่องนี้เขาปิดกันหรือเปล่านะ) ฟิลิปปินส์เองก็ใช่ว่าหายเคืองกัน เดี๋ยวสั่งปิดเดี๋ยวสั่งเปิดฐานทัพ ชาวบ้านเขาก็เบื่อเป็นเหมือนกันนะ วัน ๆ วิดน้ำทะเลออกจากบ้านก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว พายุมาแล้ว มาอีก แล้วคุณพ่ออเมริกามาช่วยอะไรบ้างล่ะ ถ้าจะให้ดีช่วยกลับไปอ่าน ยุทธการกบกระโดด อีกรอบนะครับ จะได้ประหยัดแรงงานคนแก่ ไม่ต้องเขียนซ้ำ เห็นได้ชัดว่า นักล่าแทบไม่มีทางเลือกหรอก อยากจะบุกเซียงไฮ้ ไม่มีไทยแลนด์เข้าฉากด้วย บอกได้คำเดียวว่าหนังจืดครับ เผลอ ๆ คนดูนอนหลับ น้ำลายไหลยึด จะลุยกับ
อาเฮียเขาทั้งที มันต้องยกทัพโยธาเป็นขบวนใหญ่ มันถึงจะสมศักดิ์ศรีนักล่า มีแต่เด็ก ๆ หรือพวกหน้าใหม่ผักชีโรยหน้าไป แต่หัวหมู่ทะลวงฟันคบกับมา 60 ปี มองหน้ารู้ใจ
ไม่เอาไปด้วย อย่างนี้ต้องส่งสามก๊กบวกตำรา ซุนวูไปให้ คุณพี่ Obama อ่านแทนฟังรายงานของ ไอ้พวกถังสมอง (think tank) พูดถึงเรื่องถังสมอง เดี๋ยวจะแถมให้ก่อนจบ ถ้าไม่ลืมซะก่อน คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 279 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากการจดจ่อ: เมื่อความสนใจที่ยาวนานทำให้โลกภายใน “บานสะพรั่ง”

    Henrik Karlsson เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามว่า ทำไมเราถึงมอง “การจดจ่อ” เป็นเรื่องเคร่งขรึม ทั้งที่จริงแล้วมันคือประสบการณ์ที่เข้มข้นและน่าหลงใหลที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิต—โดยเฉพาะเมื่อเรายอมให้ความสนใจนั้น “วนซ้ำ” และ “เบ่งบาน” ในตัวมันเอง

    เขายกตัวอย่างจากประสบการณ์ทางเพศ ที่การยืดเวลาความพึงพอใจทำให้ระบบโดพามีนในสมองถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง จนเกิดการรับรู้ที่ลึกขึ้นในร่างกาย ความรู้สึกบนผิวหนัง กลายเป็นวงจรป้อนกลับที่ทำให้เราหลุดเข้าไปในภาวะที่เหนือกว่าความคิดปกติ

    แต่ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กซ์—Henrik ขยายแนวคิดนี้ไปยังความวิตก ความสุข ความเหงา และแม้แต่การฟังดนตรีหรือดูงานศิลปะ โดยชี้ว่าเมื่อเราจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนานพอ ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะเริ่ม “ประสานกัน” และสร้างประสบการณ์ที่ลึกขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นภาวะเปลี่ยนแปลงของจิตใจ เช่น “jhana” หรือภาวะสมาธิขั้นสูงที่นักวิจัยพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของการเชื่อมต่อสมองในระดับลึก2

    เขาเล่าถึงการฟังซิมโฟนีของ Sibelius ที่ทำให้เกิดภาพยนตร์ในหัวถึงสามเรื่องในเวลาเพียง 30 นาที—เพราะดนตรีมีโครงสร้างที่พอเหมาะระหว่างความคาดเดาได้และความแปลกใหม่ ทำให้สมองสามารถ “จดจ่อ” ได้อย่างลึกและต่อเนื่อง

    Henrik สรุปว่า ความสนใจที่ยาวนานไม่ใช่แค่เครื่องมือในการทำงานหรือการเรียนรู้ แต่คือประตูสู่ภาวะจิตที่ลึกกว่า ซึ่งอาจช่วยให้เราทำความเข้าใจตัวเอง ความรู้สึก และโลกได้ในระดับที่ไม่เคยเข้าถึงมาก่อน

    ความหมายของการจดจ่ออย่างต่อเนื่อง
    เป็นภาวะที่ระบบต่าง ๆ ในร่างกายเริ่มประสานกัน
    ทำให้เกิดวงจรป้อนกลับที่เพิ่มความเข้มข้นของประสบการณ์
    สามารถนำไปสู่ภาวะเปลี่ยนแปลงของจิต เช่น jhana หรือ flow

    ตัวอย่างจากประสบการณ์จริง
    การยืดเวลาความพึงพอใจทางเพศทำให้ระบบโดพามีนถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง
    การฟังดนตรีอย่างลึกสามารถสร้างภาพและเรื่องราวในจิตใจ
    การจดจ่อกับความสุขหรือความเหงาอาจนำไปสู่ภาวะหลุดพ้นหรือการเข้าใจตัวเอง

    ข้อมูลเสริมจากงานวิจัย
    การเข้าสู่ jhana มีการเปลี่ยนแปลงของการเชื่อมต่อสมองแบบไม่เป็นคลื่น (non-oscillatory)
    การจดจ่อกับคณิตศาสตร์หรือโมเดล AI อย่างลึกสามารถสร้าง “ความใกล้ชิดทางวิจัย” ที่นำไปสู่ความเข้าใจใหม่
    ความสนใจที่ยาวนานช่วยให้ระบบภายใน “ปรับจูน” และสร้างความรู้สึกที่ลึกขึ้น

    ความเสี่ยงจากการจดจ่อกับสิ่งที่เป็นลบ
    การจดจ่อกับความวิตกอาจนำไปสู่ภาวะตื่นตระหนกหรือ panic attack
    ความคิดลบอาจวนซ้ำและขยายตัวจนควบคุมไม่ได้

    ความเปราะบางของระบบประสาท
    การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบสมองต้องใช้เวลาในการปรับตัว
    หากเปลี่ยนสิ่งที่สนใจบ่อยเกินไป ระบบภายในจะไม่สามารถประสานกันได้

    ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “การจดจ่อ”
    ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้าสู่ภาวะลึกได้ทันที ต้องอาศัยการฝึกฝน
    การจดจ่ออย่างลึกอาจทำให้หลุดจากบริบทปัจจุบัน หากไม่มีการควบคุม

    https://www.henrikkarlsson.xyz/p/attention
    🎙️ เรื่องเล่าจากการจดจ่อ: เมื่อความสนใจที่ยาวนานทำให้โลกภายใน “บานสะพรั่ง” Henrik Karlsson เริ่มต้นด้วยการตั้งคำถามว่า ทำไมเราถึงมอง “การจดจ่อ” เป็นเรื่องเคร่งขรึม ทั้งที่จริงแล้วมันคือประสบการณ์ที่เข้มข้นและน่าหลงใหลที่สุดอย่างหนึ่งในชีวิต—โดยเฉพาะเมื่อเรายอมให้ความสนใจนั้น “วนซ้ำ” และ “เบ่งบาน” ในตัวมันเอง เขายกตัวอย่างจากประสบการณ์ทางเพศ ที่การยืดเวลาความพึงพอใจทำให้ระบบโดพามีนในสมองถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง จนเกิดการรับรู้ที่ลึกขึ้นในร่างกาย ความรู้สึกบนผิวหนัง กลายเป็นวงจรป้อนกลับที่ทำให้เราหลุดเข้าไปในภาวะที่เหนือกว่าความคิดปกติ แต่ไม่ใช่แค่เรื่องเซ็กซ์—Henrik ขยายแนวคิดนี้ไปยังความวิตก ความสุข ความเหงา และแม้แต่การฟังดนตรีหรือดูงานศิลปะ โดยชี้ว่าเมื่อเราจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งนานพอ ระบบต่าง ๆ ในร่างกายจะเริ่ม “ประสานกัน” และสร้างประสบการณ์ที่ลึกขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นภาวะเปลี่ยนแปลงของจิตใจ เช่น “jhana” หรือภาวะสมาธิขั้นสูงที่นักวิจัยพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของการเชื่อมต่อสมองในระดับลึก2 เขาเล่าถึงการฟังซิมโฟนีของ Sibelius ที่ทำให้เกิดภาพยนตร์ในหัวถึงสามเรื่องในเวลาเพียง 30 นาที—เพราะดนตรีมีโครงสร้างที่พอเหมาะระหว่างความคาดเดาได้และความแปลกใหม่ ทำให้สมองสามารถ “จดจ่อ” ได้อย่างลึกและต่อเนื่อง Henrik สรุปว่า ความสนใจที่ยาวนานไม่ใช่แค่เครื่องมือในการทำงานหรือการเรียนรู้ แต่คือประตูสู่ภาวะจิตที่ลึกกว่า ซึ่งอาจช่วยให้เราทำความเข้าใจตัวเอง ความรู้สึก และโลกได้ในระดับที่ไม่เคยเข้าถึงมาก่อน ✅ ความหมายของการจดจ่ออย่างต่อเนื่อง ➡️ เป็นภาวะที่ระบบต่าง ๆ ในร่างกายเริ่มประสานกัน ➡️ ทำให้เกิดวงจรป้อนกลับที่เพิ่มความเข้มข้นของประสบการณ์ ➡️ สามารถนำไปสู่ภาวะเปลี่ยนแปลงของจิต เช่น jhana หรือ flow ✅ ตัวอย่างจากประสบการณ์จริง ➡️ การยืดเวลาความพึงพอใจทางเพศทำให้ระบบโดพามีนถูกกระตุ้นอย่างต่อเนื่อง ➡️ การฟังดนตรีอย่างลึกสามารถสร้างภาพและเรื่องราวในจิตใจ ➡️ การจดจ่อกับความสุขหรือความเหงาอาจนำไปสู่ภาวะหลุดพ้นหรือการเข้าใจตัวเอง ✅ ข้อมูลเสริมจากงานวิจัย ➡️ การเข้าสู่ jhana มีการเปลี่ยนแปลงของการเชื่อมต่อสมองแบบไม่เป็นคลื่น (non-oscillatory) ➡️ การจดจ่อกับคณิตศาสตร์หรือโมเดล AI อย่างลึกสามารถสร้าง “ความใกล้ชิดทางวิจัย” ที่นำไปสู่ความเข้าใจใหม่ ➡️ ความสนใจที่ยาวนานช่วยให้ระบบภายใน “ปรับจูน” และสร้างความรู้สึกที่ลึกขึ้น ‼️ ความเสี่ยงจากการจดจ่อกับสิ่งที่เป็นลบ ⛔ การจดจ่อกับความวิตกอาจนำไปสู่ภาวะตื่นตระหนกหรือ panic attack ⛔ ความคิดลบอาจวนซ้ำและขยายตัวจนควบคุมไม่ได้ ‼️ ความเปราะบางของระบบประสาท ⛔ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนและระบบสมองต้องใช้เวลาในการปรับตัว ⛔ หากเปลี่ยนสิ่งที่สนใจบ่อยเกินไป ระบบภายในจะไม่สามารถประสานกันได้ ‼️ ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ “การจดจ่อ” ⛔ ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้าสู่ภาวะลึกได้ทันที ต้องอาศัยการฝึกฝน ⛔ การจดจ่ออย่างลึกอาจทำให้หลุดจากบริบทปัจจุบัน หากไม่มีการควบคุม https://www.henrikkarlsson.xyz/p/attention
    WWW.HENRIKKARLSSON.XYZ
    Almost anything you give sustained attention to will begin to loop on itself and bloom
    When people talk about the value of paying attention and slowing down, they often make it sound prudish and monk-like. But we shouldn’t forget how interesting and overpoweringly pleasurable sustained attention can be.
    0 Comments 0 Shares 201 Views 0 Reviews
More Results