• “Kingston เตือน! ราคาหน่วยความจำพุ่ง – รีบอัปเกรดก่อนแพงกว่าเดิม”

    Cameron Crandall ผู้จัดการฝ่าย SSD ของ Kingston เปิดเผยว่า ราคาของ NAND ซึ่งคิดเป็นกว่า 90% ของต้นทุนการผลิต SSD ได้เพิ่มขึ้นถึง 246% ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2025 โดยกว่า 70% ของการปรับขึ้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 60 วัน ทำให้บริษัทต้องปรับราคาสินค้าตามต้นทุนที่สูงขึ้น

    Crandall แนะนำผู้ใช้ว่า หากกำลังวางแผนจะอัปเกรดระบบ ควรทำทันที เพราะราคาจะยังคงสูงขึ้นต่อไปในอีก 30 วัน และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีกใน 60 วันถัดมา เขาย้ำว่า “อย่ารอ” เพราะสถานการณ์ตลาดหน่วยความจำกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และไม่มีสัญญาณว่าจะลดลงในเร็ว ๆ นี้

    แม้ Sapphire จะคาดการณ์ว่าราคาหน่วยความจำ DRAM จะเริ่มทรงตัวใน 6–8 เดือน แต่ Kingston มองว่าตลาดยังอยู่ในวัฏจักรการปรับขึ้นราคา และผู้ผลิตหลายรายยังลังเลที่จะขยายสายการผลิตใหม่ เพราะกังวลว่าฟองสบู่ AI อาจแตกและทำให้เกิดการล้นตลาดในอนาคต

    สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความไม่แน่นอนของตลาดหน่วยความจำ ที่ถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการจาก AI และการกักตุนสินค้าของผู้ผลิต ทำให้ผู้บริโภคที่รออัปเกรดอาจต้องเผชิญราคาที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ราคาของ NAND เพิ่มขึ้นกว่า 246%
    70% ของการปรับขึ้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 60 วัน

    Kingston เตือนผู้ใช้ให้รีบอัปเกรด
    ราคาจะยังคงสูงขึ้นในอีก 30–60 วันข้างหน้า

    ต้นทุน SSD ขึ้นตามราคาของ NAND
    NAND คิดเป็นกว่า 90% ของต้นทุนการผลิต SSD

    ตลาดหน่วยความจำอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น
    ผู้ผลิตลังเลที่จะขยายสายการผลิตใหม่เพราะกังวลฟองสบู่ AI

    คำเตือนสำหรับผู้บริโภค
    หากรออัปเกรด อาจต้องจ่ายแพงขึ้นเรื่อย ๆ
    ราคาที่สูงอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในตลาดหน่วยความจำ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/dont-wait-if-youre-planning-to-upgrade-your-ram-or-ssd-kingston-rep-warns-says-prices-will-continue-to-go-up-nand-costs-up-246-percent
    📰 “Kingston เตือน! ราคาหน่วยความจำพุ่ง – รีบอัปเกรดก่อนแพงกว่าเดิม” Cameron Crandall ผู้จัดการฝ่าย SSD ของ Kingston เปิดเผยว่า ราคาของ NAND ซึ่งคิดเป็นกว่า 90% ของต้นทุนการผลิต SSD ได้เพิ่มขึ้นถึง 246% ตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2025 โดยกว่า 70% ของการปรับขึ้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 60 วัน ทำให้บริษัทต้องปรับราคาสินค้าตามต้นทุนที่สูงขึ้น Crandall แนะนำผู้ใช้ว่า หากกำลังวางแผนจะอัปเกรดระบบ ควรทำทันที เพราะราคาจะยังคงสูงขึ้นต่อไปในอีก 30 วัน และมีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีกใน 60 วันถัดมา เขาย้ำว่า “อย่ารอ” เพราะสถานการณ์ตลาดหน่วยความจำกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และไม่มีสัญญาณว่าจะลดลงในเร็ว ๆ นี้ แม้ Sapphire จะคาดการณ์ว่าราคาหน่วยความจำ DRAM จะเริ่มทรงตัวใน 6–8 เดือน แต่ Kingston มองว่าตลาดยังอยู่ในวัฏจักรการปรับขึ้นราคา และผู้ผลิตหลายรายยังลังเลที่จะขยายสายการผลิตใหม่ เพราะกังวลว่าฟองสบู่ AI อาจแตกและทำให้เกิดการล้นตลาดในอนาคต สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความไม่แน่นอนของตลาดหน่วยความจำ ที่ถูกขับเคลื่อนโดยความต้องการจาก AI และการกักตุนสินค้าของผู้ผลิต ทำให้ผู้บริโภคที่รออัปเกรดอาจต้องเผชิญราคาที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ราคาของ NAND เพิ่มขึ้นกว่า 246% ➡️ 70% ของการปรับขึ้นเกิดขึ้นในช่วงเวลาเพียง 60 วัน ✅ Kingston เตือนผู้ใช้ให้รีบอัปเกรด ➡️ ราคาจะยังคงสูงขึ้นในอีก 30–60 วันข้างหน้า ✅ ต้นทุน SSD ขึ้นตามราคาของ NAND ➡️ NAND คิดเป็นกว่า 90% ของต้นทุนการผลิต SSD ✅ ตลาดหน่วยความจำอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น ➡️ ผู้ผลิตลังเลที่จะขยายสายการผลิตใหม่เพราะกังวลฟองสบู่ AI ‼️ คำเตือนสำหรับผู้บริโภค ⛔ หากรออัปเกรด อาจต้องจ่ายแพงขึ้นเรื่อย ๆ ⛔ ราคาที่สูงอาจกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในตลาดหน่วยความจำ https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/dont-wait-if-youre-planning-to-upgrade-your-ram-or-ssd-kingston-rep-warns-says-prices-will-continue-to-go-up-nand-costs-up-246-percent
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Sapphire ชี้ DRAM จะเริ่มนิ่งในปีหน้า – แต่ราคาอาจยังสูงกว่าที่คาดหวัง”

    Edward Crisler ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Sapphire ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ตลาด DRAM กำลังเผชิญวิกฤตราคาพุ่งสูงจากความต้องการ AI และการกักตุนสินค้า แต่เขาเชื่อว่าภายใน 6–8 เดือน สถานการณ์จะเริ่ม “นิ่ง” อย่างไรก็ตาม ราคาที่นิ่งนั้นอาจยังคงสูงกว่าที่ผู้บริโภคคาดหวังไว้

    Crisler เปรียบเทียบวิกฤต DRAM กับความไม่แน่นอนจากสงครามภาษี โดยชี้ว่าไม่ใช่ตัวภาษีเองที่เป็นปัญหา แต่เป็นความผันผวนและความไม่สามารถคาดเดาได้ที่ทำให้ตลาดเกิดความตื่นตระหนกและราคาพุ่งสูงขึ้น เช่นเดียวกับกรณี DRAM ที่ความต้องการจาก AI ทำให้เกิดการกักตุนและผลักดันราคาสูงขึ้นหลายเท่า

    แม้จะมีคำเตือนจากผู้ผลิตรายอื่น เช่น Kingston ที่แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเกรดก่อนราคาจะสูงขึ้นไปอีก แต่ Crisler กลับแนะนำให้ผู้บริโภค “ใจเย็น” และใช้ระบบที่มีอยู่ต่อไป เพราะเชื่อว่าตลาดจะปรับตัวเองได้ในที่สุด

    อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการ “นิ่ง” ของตลาดไม่ได้หมายถึงราคาจะกลับไปถูกเหมือนเดิม แต่เป็นการเข้าสู่ระดับราคาที่สูงกว่าเดิมและคงอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่วางแผนประกอบหรืออัปเกรดเครื่องในปีหน้า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Sapphire คาด DRAM จะเริ่มนิ่งใน 6–8 เดือน
    แต่ราคาที่นิ่งอาจยังสูงกว่าที่ผู้บริโภคต้องการ

    วิกฤต DRAM คล้ายสงครามภาษี
    ปัญหาหลักคือความไม่แน่นอนและความผันผวน ไม่ใช่ตัวภาษีหรือการขาดแคลนเพียงอย่างเดียว

    คำแนะนำจาก Sapphire
    ผู้ใช้ควรใจเย็น ใช้ระบบที่มีอยู่ และไม่รีบซื้อในช่วงราคาพุ่ง

    คำเตือนจากผู้ผลิตรายอื่น
    Kingston เตือนว่าราคาจะยังคงขึ้นต่อเนื่อง และควรรีบอัปเกรดก่อนแพงกว่าเดิม

    ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
    แม้ตลาดจะนิ่ง แต่ราคาที่สูงอาจกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ของ DRAM ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/sapphire-rep-predicts-dram-prices-will-begin-to-stabilize-in-the-next-6-8-months-but-warns-it-may-not-be-the-prices-we-want-gpu-vendor-says-memory-crisis-is-similar-to-tariff-uncertainty
    📰 “Sapphire ชี้ DRAM จะเริ่มนิ่งในปีหน้า – แต่ราคาอาจยังสูงกว่าที่คาดหวัง” Edward Crisler ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของ Sapphire ให้สัมภาษณ์ว่า แม้ตลาด DRAM กำลังเผชิญวิกฤตราคาพุ่งสูงจากความต้องการ AI และการกักตุนสินค้า แต่เขาเชื่อว่าภายใน 6–8 เดือน สถานการณ์จะเริ่ม “นิ่ง” อย่างไรก็ตาม ราคาที่นิ่งนั้นอาจยังคงสูงกว่าที่ผู้บริโภคคาดหวังไว้ Crisler เปรียบเทียบวิกฤต DRAM กับความไม่แน่นอนจากสงครามภาษี โดยชี้ว่าไม่ใช่ตัวภาษีเองที่เป็นปัญหา แต่เป็นความผันผวนและความไม่สามารถคาดเดาได้ที่ทำให้ตลาดเกิดความตื่นตระหนกและราคาพุ่งสูงขึ้น เช่นเดียวกับกรณี DRAM ที่ความต้องการจาก AI ทำให้เกิดการกักตุนและผลักดันราคาสูงขึ้นหลายเท่า แม้จะมีคำเตือนจากผู้ผลิตรายอื่น เช่น Kingston ที่แนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเกรดก่อนราคาจะสูงขึ้นไปอีก แต่ Crisler กลับแนะนำให้ผู้บริโภค “ใจเย็น” และใช้ระบบที่มีอยู่ต่อไป เพราะเชื่อว่าตลาดจะปรับตัวเองได้ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการ “นิ่ง” ของตลาดไม่ได้หมายถึงราคาจะกลับไปถูกเหมือนเดิม แต่เป็นการเข้าสู่ระดับราคาที่สูงกว่าเดิมและคงอยู่ต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผู้ที่วางแผนประกอบหรืออัปเกรดเครื่องในปีหน้า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Sapphire คาด DRAM จะเริ่มนิ่งใน 6–8 เดือน ➡️ แต่ราคาที่นิ่งอาจยังสูงกว่าที่ผู้บริโภคต้องการ ✅ วิกฤต DRAM คล้ายสงครามภาษี ➡️ ปัญหาหลักคือความไม่แน่นอนและความผันผวน ไม่ใช่ตัวภาษีหรือการขาดแคลนเพียงอย่างเดียว ✅ คำแนะนำจาก Sapphire ➡️ ผู้ใช้ควรใจเย็น ใช้ระบบที่มีอยู่ และไม่รีบซื้อในช่วงราคาพุ่ง ‼️ คำเตือนจากผู้ผลิตรายอื่น ⛔ Kingston เตือนว่าราคาจะยังคงขึ้นต่อเนื่อง และควรรีบอัปเกรดก่อนแพงกว่าเดิม ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ⛔ แม้ตลาดจะนิ่ง แต่ราคาที่สูงอาจกลายเป็น “มาตรฐานใหม่” ของ DRAM ในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/sapphire-rep-predicts-dram-prices-will-begin-to-stabilize-in-the-next-6-8-months-but-warns-it-may-not-be-the-prices-we-want-gpu-vendor-says-memory-crisis-is-similar-to-tariff-uncertainty
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • เด็กป่วยมะเร็งถูกใช้เป็นเครื่องมือในแคมเปญระดมทุนปลอม

    การสืบสวนของ BBC Eye Investigations พบว่ามีการจัดทำวิดีโอปลอม โดยให้เด็กที่ป่วยมะเร็งจริงถูกบังคับให้แสดงบทบาท เช่น ถูกโกนหัว ติดสายน้ำเกลือปลอม และทำให้ร้องไห้ด้วยการใช้หัวหอมและเมนทอล เพื่อสร้างภาพความน่าสงสาร วิดีโอเหล่านี้ถูกเผยแพร่บน YouTube และเว็บไซต์ระดมทุน โดยอ้างว่าจะช่วยค่าใช้จ่ายในการรักษา

    หนึ่งในกรณีคือ คาลิล เด็กชายวัย 7 ปีจากฟิลิปปินส์ ที่ถูกถ่ายทำวิดีโอระดมทุนซึ่งระบุว่าสามารถหาเงินได้กว่า 27,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ครอบครัวกลับได้รับเพียงค่าถ่ายทำ 700 ดอลลาร์ และไม่เคยเห็นเงินบริจาคที่เหลือเลย สุดท้ายคาลิลเสียชีวิตโดยไม่ได้รับการรักษาที่ดีขึ้นตามที่สัญญาไว้

    การสืบสวนยังพบว่าเครือข่ายนี้มีการดำเนินงานในหลายประเทศ เช่น โคลอมเบีย กานา และยูเครน โดยมีบุคคลสำคัญที่เชื่อมโยงคือ เอเรซ ฮาดารี ชาวอิสราเอลที่อาศัยอยู่ในแคนาดา ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดการแคมเปญผ่านองค์กรต่าง ๆ เช่น Chance Letikva, Walls of Hope และ Saint Raphael

    สิ่งที่น่าตกใจคือเงินบริจาคจำนวนมหาศาล เช่น กว่า 700,000 ดอลลาร์ ในบางแคมเปญ ไม่เคยถึงมือครอบครัวเด็กเลย แต่ถูกอ้างว่าใช้ไปกับค่าโฆษณาและการจัดการ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการกุศลเตือนว่าค่าใช้จ่ายลักษณะนี้ไม่ควรเกิน 20% ของยอดบริจาคทั้งหมด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การสืบสวนของ BBC Eye
    พบการสร้างวิดีโอปลอมเพื่อระดมทุนจากเด็กป่วยมะเร็ง
    ใช้เทคนิคบังคับให้เด็กแสดงความทุกข์ทรมาน

    กรณีของคาลิลจากฟิลิปปินส์
    วิดีโอหาเงินได้กว่า 27,000 ดอลลาร์
    ครอบครัวได้รับเพียง 700 ดอลลาร์ และเด็กเสียชีวิต

    บุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้อง
    เอเรซ ฮาดารี ถูกเชื่อมโยงกับหลายองค์กร เช่น Chance Letikva
    มีการดำเนินงานในหลายประเทศทั่วโลก

    เงินบริจาคจำนวนมหาศาล
    บางแคมเปญระดมได้กว่า 700,000 ดอลลาร์
    เงินไม่ถึงครอบครัวเด็ก แต่ถูกอ้างว่าใช้ไปกับค่าโฆษณา

    คำเตือนสำหรับผู้บริจาค
    ตรวจสอบว่าองค์กรการกุศลมีการจดทะเบียนถูกต้อง
    ระวังการบริจาคผ่านเว็บไซต์หรือโฆษณาที่ไม่น่าเชื่อถือ

    https://www.bbc.com/news/articles/ckgz318y8elo
    📰 เด็กป่วยมะเร็งถูกใช้เป็นเครื่องมือในแคมเปญระดมทุนปลอม การสืบสวนของ BBC Eye Investigations พบว่ามีการจัดทำวิดีโอปลอม โดยให้เด็กที่ป่วยมะเร็งจริงถูกบังคับให้แสดงบทบาท เช่น ถูกโกนหัว ติดสายน้ำเกลือปลอม และทำให้ร้องไห้ด้วยการใช้หัวหอมและเมนทอล เพื่อสร้างภาพความน่าสงสาร วิดีโอเหล่านี้ถูกเผยแพร่บน YouTube และเว็บไซต์ระดมทุน โดยอ้างว่าจะช่วยค่าใช้จ่ายในการรักษา หนึ่งในกรณีคือ คาลิล เด็กชายวัย 7 ปีจากฟิลิปปินส์ ที่ถูกถ่ายทำวิดีโอระดมทุนซึ่งระบุว่าสามารถหาเงินได้กว่า 27,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ครอบครัวกลับได้รับเพียงค่าถ่ายทำ 700 ดอลลาร์ และไม่เคยเห็นเงินบริจาคที่เหลือเลย สุดท้ายคาลิลเสียชีวิตโดยไม่ได้รับการรักษาที่ดีขึ้นตามที่สัญญาไว้ การสืบสวนยังพบว่าเครือข่ายนี้มีการดำเนินงานในหลายประเทศ เช่น โคลอมเบีย กานา และยูเครน โดยมีบุคคลสำคัญที่เชื่อมโยงคือ เอเรซ ฮาดารี ชาวอิสราเอลที่อาศัยอยู่ในแคนาดา ซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดการแคมเปญผ่านองค์กรต่าง ๆ เช่น Chance Letikva, Walls of Hope และ Saint Raphael สิ่งที่น่าตกใจคือเงินบริจาคจำนวนมหาศาล เช่น กว่า 700,000 ดอลลาร์ ในบางแคมเปญ ไม่เคยถึงมือครอบครัวเด็กเลย แต่ถูกอ้างว่าใช้ไปกับค่าโฆษณาและการจัดการ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านการกุศลเตือนว่าค่าใช้จ่ายลักษณะนี้ไม่ควรเกิน 20% ของยอดบริจาคทั้งหมด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การสืบสวนของ BBC Eye ➡️ พบการสร้างวิดีโอปลอมเพื่อระดมทุนจากเด็กป่วยมะเร็ง ➡️ ใช้เทคนิคบังคับให้เด็กแสดงความทุกข์ทรมาน ✅ กรณีของคาลิลจากฟิลิปปินส์ ➡️ วิดีโอหาเงินได้กว่า 27,000 ดอลลาร์ ➡️ ครอบครัวได้รับเพียง 700 ดอลลาร์ และเด็กเสียชีวิต ✅ บุคคลและองค์กรที่เกี่ยวข้อง ➡️ เอเรซ ฮาดารี ถูกเชื่อมโยงกับหลายองค์กร เช่น Chance Letikva ➡️ มีการดำเนินงานในหลายประเทศทั่วโลก ✅ เงินบริจาคจำนวนมหาศาล ➡️ บางแคมเปญระดมได้กว่า 700,000 ดอลลาร์ ➡️ เงินไม่ถึงครอบครัวเด็ก แต่ถูกอ้างว่าใช้ไปกับค่าโฆษณา ‼️ คำเตือนสำหรับผู้บริจาค ⛔ ตรวจสอบว่าองค์กรการกุศลมีการจดทะเบียนถูกต้อง ⛔ ระวังการบริจาคผ่านเว็บไซต์หรือโฆษณาที่ไม่น่าเชื่อถือ https://www.bbc.com/news/articles/ckgz318y8elo
    WWW.BBC.COM
    Children with cancer scammed out of millions fundraised for their treatment, BBC finds
    Huge amounts appear to have been raised for seriously ill children who never received the money.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความปรารถนาของ Sapphire ที่จะมีอิสระมากขึ้นในการออกแบบการ์ดจอ

    Edward Crisler ผู้จัดการ PR ของ Sapphire กล่าวในพอดแคสต์กับ Hardware Unboxed ว่า เขาอยากให้บริษัทมีอิสระในการออกแบบการ์ดจอมากกว่านี้ ปัจจุบัน AMD และ Nvidia กำหนดข้อจำกัดด้าน power delivery, memory capacity และ voltage control ทำให้ทุกการ์ดจากผู้ผลิตต่าง ๆ มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน ความแตกต่างจึงเหลือเพียง ดีไซน์ของชุดระบายความร้อนและบริการหลังการขาย.

    ข้อจำกัดที่ทำให้ Toxic หายไป
    Crisler ระบุว่า การ์ดจอซีรีส์ Toxic ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงของ Sapphire ไม่สามารถออกมาได้ทุกเจนเนอเรชัน เนื่องจากข้อจำกัดด้านการโอเวอร์คล็อกและพลังงานที่ AMD กำหนดไว้ Toxic เคยเป็นสัญลักษณ์ของการ์ดที่แรงที่สุด แต่ในยุคปัจจุบัน headroom สำหรับการปรับแต่งถูกลดลง จนไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้มากเหมือนเดิม.

    ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ
    เขายังกล่าวถึงการใช้ 12VHPWR connector ใน RX 9070 XT Nitro+ ที่มีปัญหาเพียง 3 เคส ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการใช้ อะแดปเตอร์ 16-pin ที่ผิดพลาด ไม่ใช่ตัวการ์ดหรือ PSU ของ Sapphire เอง นี่สะท้อนว่าบริษัทให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือและการออกแบบที่ปลอดภัย.

    มุมมองต่อการตลาดและข้อมูล
    Crisler ตั้งข้อสังเกตว่า Steam Hardware Survey ไม่ได้สะท้อนตลาดจริงทั้งหมด เพราะมีเพียง 1/12 ของผู้ใช้ที่ถูกสุ่มให้ตอบ เขาเชื่อว่า AMD อาจมีส่วนแบ่งตลาดเกมจริงสูงถึง 40% ซึ่งมากกว่าตัวเลขที่มักถูกเผยแพร่.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อจำกัดจาก AMD/Nvidia
    จำกัดการโอเวอร์คล็อก, power delivery และ memory capacity
    ทำให้การ์ดจากทุกแบรนด์มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน

    ผลกระทบต่อ Toxic Series
    ไม่สามารถออกทุกเจนเนอเรชัน
    Headroom สำหรับการปรับแต่งลดลง

    ความน่าเชื่อถือของ Sapphire
    ปัญหา 12VHPWR connector เกิดจากอะแดปเตอร์ ไม่ใช่ตัวการ์ด
    Sapphire ยืนยันความปลอดภัยของการออกแบบ

    มุมมองต่อข้อมูลตลาด
    Steam Survey อาจไม่แม่นยำ
    AMD อาจมีส่วนแบ่งตลาดเกมจริงสูงถึง 40%

    ข้อควรระวัง
    การจำกัดอิสระของ AIB partners อาจทำให้ตลาดขาดนวัตกรรม
    Toxic series อาจไม่กลับมาเต็มรูปแบบหากข้อจำกัดยังคงอยู่
    การตีความข้อมูลตลาดผิดพลาดอาจทำให้บริษัทวางกลยุทธ์คลาดเคลื่อน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/sapphire-pr-manager-wishes-amd-and-nvidia-would-let-partners-run-wild-with-design-wants-freedom-to-bring-back-toxic-line-more-often
    🎨 ความปรารถนาของ Sapphire ที่จะมีอิสระมากขึ้นในการออกแบบการ์ดจอ Edward Crisler ผู้จัดการ PR ของ Sapphire กล่าวในพอดแคสต์กับ Hardware Unboxed ว่า เขาอยากให้บริษัทมีอิสระในการออกแบบการ์ดจอมากกว่านี้ ปัจจุบัน AMD และ Nvidia กำหนดข้อจำกัดด้าน power delivery, memory capacity และ voltage control ทำให้ทุกการ์ดจากผู้ผลิตต่าง ๆ มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน ความแตกต่างจึงเหลือเพียง ดีไซน์ของชุดระบายความร้อนและบริการหลังการขาย. ⚡ ข้อจำกัดที่ทำให้ Toxic หายไป Crisler ระบุว่า การ์ดจอซีรีส์ Toxic ซึ่งเป็นรุ่นเรือธงของ Sapphire ไม่สามารถออกมาได้ทุกเจนเนอเรชัน เนื่องจากข้อจำกัดด้านการโอเวอร์คล็อกและพลังงานที่ AMD กำหนดไว้ Toxic เคยเป็นสัญลักษณ์ของการ์ดที่แรงที่สุด แต่ในยุคปัจจุบัน headroom สำหรับการปรับแต่งถูกลดลง จนไม่สามารถสร้างความแตกต่างได้มากเหมือนเดิม. 🔒 ความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือ เขายังกล่าวถึงการใช้ 12VHPWR connector ใน RX 9070 XT Nitro+ ที่มีปัญหาเพียง 3 เคส ซึ่งทั้งหมดเกิดจากการใช้ อะแดปเตอร์ 16-pin ที่ผิดพลาด ไม่ใช่ตัวการ์ดหรือ PSU ของ Sapphire เอง นี่สะท้อนว่าบริษัทให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือและการออกแบบที่ปลอดภัย. 🌐 มุมมองต่อการตลาดและข้อมูล Crisler ตั้งข้อสังเกตว่า Steam Hardware Survey ไม่ได้สะท้อนตลาดจริงทั้งหมด เพราะมีเพียง 1/12 ของผู้ใช้ที่ถูกสุ่มให้ตอบ เขาเชื่อว่า AMD อาจมีส่วนแบ่งตลาดเกมจริงสูงถึง 40% ซึ่งมากกว่าตัวเลขที่มักถูกเผยแพร่. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อจำกัดจาก AMD/Nvidia ➡️ จำกัดการโอเวอร์คล็อก, power delivery และ memory capacity ➡️ ทำให้การ์ดจากทุกแบรนด์มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกัน ✅ ผลกระทบต่อ Toxic Series ➡️ ไม่สามารถออกทุกเจนเนอเรชัน ➡️ Headroom สำหรับการปรับแต่งลดลง ✅ ความน่าเชื่อถือของ Sapphire ➡️ ปัญหา 12VHPWR connector เกิดจากอะแดปเตอร์ ไม่ใช่ตัวการ์ด ➡️ Sapphire ยืนยันความปลอดภัยของการออกแบบ ✅ มุมมองต่อข้อมูลตลาด ➡️ Steam Survey อาจไม่แม่นยำ ➡️ AMD อาจมีส่วนแบ่งตลาดเกมจริงสูงถึง 40% ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การจำกัดอิสระของ AIB partners อาจทำให้ตลาดขาดนวัตกรรม ⛔ Toxic series อาจไม่กลับมาเต็มรูปแบบหากข้อจำกัดยังคงอยู่ ⛔ การตีความข้อมูลตลาดผิดพลาดอาจทำให้บริษัทวางกลยุทธ์คลาดเคลื่อน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/sapphire-pr-manager-wishes-amd-and-nvidia-would-let-partners-run-wild-with-design-wants-freedom-to-bring-back-toxic-line-more-often
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • สะพานเกอร์นีย์ ปีนัง เข้าสู่เกาะเทียมอันดามัน

    อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงบนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นายโจว คอน เยียว (Chow Kon Yeow) มุขมนตรีรัฐปีนัง เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานเกอร์นีย์ (Gurney Bridge) เชื่อมระหว่างเกาะปีนัง บริเวณวงเวียนเกอร์นีย์ ไดร์ฟ (Gurney Drive) กับอันดามันไอส์แลนด์ (Andaman Island) โครงการอสังหาริมทรัพย์บนเกาะเทียมที่ผ่านการถมทะเล ของบริษัทอีสเทิร์น แอนด์ โอเรียนทัล (E&O) เป็นสะพานขนาด 8 ช่องจราจร ความยาว 1.2 กิโลเมตร พร้อมทางเดินเท้ากว้าง 4 เมตร มูลค่าโครงการ 350 ล้านริงกิต (2,700 ล้านบาท)

    นอกจากเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คริมชายฝั่งของอ่าวเกอร์นีย์แล้ว ยังช่วยย่นเวลาเดินทางเข้าโครงการฯ จากเดิมต้องเข้าจากถนนใหญ่ (ถนนตันจง โตคง) บริเวณห้างโลตัส ตันจงปีนัง ได้เพิ่มอีกหนึ่งช่องทางไปออกย่านเกอร์นีย์ไดร์ฟ บริเวณศูนย์การค้าเกอร์นีย์พลาซ่าได้ทันที ซึ่งนายก๊ก ตั๊ก เชียง (Kok Tuck Cheong) กรรมการผู้จัดการของ E&O ตั้งใจว่าจะสร้างเมืองที่เข้าถึงได้ภายใน 15 นาที เชื่อมต่อถึงกัน และมุ่งเน้นอนาคต นับจากนี้จะพัฒนาโครงการบนเกาะ ทั้งที่อยู่อาศัยและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในระยะต่อไป ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากรัฐบาล

    นายก๊กยังกล่าวกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น บูเลทิน มูเทียรา (Buletin Mutiara) ระบุว่า โครงการนี้เริ่มต้นในปี 2533 ที่รัฐบาลมอบสิทธิ์สัมปทานในการถมทะเลทั้งหมด 960 เอเคอร์ โดยพื้นที่แรก สเตรตส์คีย์ (Straits Quay) แล้วเสร็จมาหลายปี ตามมาด้วยเฟส 2A เปิดตัวห้องชุดไปแล้ว 3,700 ยูนิต กำลังขายแก่ผู้สนใจ รวมถึงที่ดินเปล่าที่หันหน้าไปทางสเตรตส์คีย์ด้วย ส่วนเฟส 2B ยังอยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ รวมทั้งหมด 506 เอเคอร์ พื้นที่ถมทะเลบางส่วนจะถูกส่งมอบให้แก่รัฐตามข้อตกลงการพัฒนาพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีถนนด้านข้างโครงการคอนโดมิเนียมซิตี้ออฟดรีม (COD) ที่มีแผนจะสร้างสะพานไปยังถนนเกอร์นีย์ในอนาคต

    อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวปีนังอีกส่วนหนึ่งวิจารณ์ว่า โครงการนี้จะก่อให้เกิดการจราจรติดขัด ซึ่งมุขมนตรีรัฐปีนังยืนยันว่า กำลังให้ความสำคัญกับการจัดการจราจรอย่างมีความรับผิดชอบ ย้ำว่าสะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับเกาะอันดามัน บรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด ถึงกระนั้น เนื่องจากย่านเกอร์นีย์ไดร์ฟเป็นย่านศูนย์การค้า ทั้งเกอร์นีย์พลาซา เกอร์นีย์พารากอนมอลล์ แหล่งรวมสตรีทฟู้ด (Gurney Drive Hawker Center) และคอนโดมิเนียมจำนวนมาก รถติดทุกวันไม่เว้นวันหยุด ชาวปีนังจึงยังคงกังวลถึงปัญหาการจราจร จากโครงการมิกซ์ยูสมูลค่า 6 หมื่นล้านริงกิต (462,000 ล้านบาท) กันต่อไป

    #Newskit
    สะพานเกอร์นีย์ ปีนัง เข้าสู่เกาะเทียมอันดามัน อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงบนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นายโจว คอน เยียว (Chow Kon Yeow) มุขมนตรีรัฐปีนัง เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานเกอร์นีย์ (Gurney Bridge) เชื่อมระหว่างเกาะปีนัง บริเวณวงเวียนเกอร์นีย์ ไดร์ฟ (Gurney Drive) กับอันดามันไอส์แลนด์ (Andaman Island) โครงการอสังหาริมทรัพย์บนเกาะเทียมที่ผ่านการถมทะเล ของบริษัทอีสเทิร์น แอนด์ โอเรียนทัล (E&O) เป็นสะพานขนาด 8 ช่องจราจร ความยาว 1.2 กิโลเมตร พร้อมทางเดินเท้ากว้าง 4 เมตร มูลค่าโครงการ 350 ล้านริงกิต (2,700 ล้านบาท) นอกจากเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คริมชายฝั่งของอ่าวเกอร์นีย์แล้ว ยังช่วยย่นเวลาเดินทางเข้าโครงการฯ จากเดิมต้องเข้าจากถนนใหญ่ (ถนนตันจง โตคง) บริเวณห้างโลตัส ตันจงปีนัง ได้เพิ่มอีกหนึ่งช่องทางไปออกย่านเกอร์นีย์ไดร์ฟ บริเวณศูนย์การค้าเกอร์นีย์พลาซ่าได้ทันที ซึ่งนายก๊ก ตั๊ก เชียง (Kok Tuck Cheong) กรรมการผู้จัดการของ E&O ตั้งใจว่าจะสร้างเมืองที่เข้าถึงได้ภายใน 15 นาที เชื่อมต่อถึงกัน และมุ่งเน้นอนาคต นับจากนี้จะพัฒนาโครงการบนเกาะ ทั้งที่อยู่อาศัยและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในระยะต่อไป ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากรัฐบาล นายก๊กยังกล่าวกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น บูเลทิน มูเทียรา (Buletin Mutiara) ระบุว่า โครงการนี้เริ่มต้นในปี 2533 ที่รัฐบาลมอบสิทธิ์สัมปทานในการถมทะเลทั้งหมด 960 เอเคอร์ โดยพื้นที่แรก สเตรตส์คีย์ (Straits Quay) แล้วเสร็จมาหลายปี ตามมาด้วยเฟส 2A เปิดตัวห้องชุดไปแล้ว 3,700 ยูนิต กำลังขายแก่ผู้สนใจ รวมถึงที่ดินเปล่าที่หันหน้าไปทางสเตรตส์คีย์ด้วย ส่วนเฟส 2B ยังอยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ รวมทั้งหมด 506 เอเคอร์ พื้นที่ถมทะเลบางส่วนจะถูกส่งมอบให้แก่รัฐตามข้อตกลงการพัฒนาพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีถนนด้านข้างโครงการคอนโดมิเนียมซิตี้ออฟดรีม (COD) ที่มีแผนจะสร้างสะพานไปยังถนนเกอร์นีย์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวปีนังอีกส่วนหนึ่งวิจารณ์ว่า โครงการนี้จะก่อให้เกิดการจราจรติดขัด ซึ่งมุขมนตรีรัฐปีนังยืนยันว่า กำลังให้ความสำคัญกับการจัดการจราจรอย่างมีความรับผิดชอบ ย้ำว่าสะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับเกาะอันดามัน บรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด ถึงกระนั้น เนื่องจากย่านเกอร์นีย์ไดร์ฟเป็นย่านศูนย์การค้า ทั้งเกอร์นีย์พลาซา เกอร์นีย์พารากอนมอลล์ แหล่งรวมสตรีทฟู้ด (Gurney Drive Hawker Center) และคอนโดมิเนียมจำนวนมาก รถติดทุกวันไม่เว้นวันหยุด ชาวปีนังจึงยังคงกังวลถึงปัญหาการจราจร จากโครงการมิกซ์ยูสมูลค่า 6 หมื่นล้านริงกิต (462,000 ล้านบาท) กันต่อไป #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar

    นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่”
    เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้
    https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears

    “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time
    ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why

    สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN
    ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children

    อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน
    รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data

    หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน
    งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที
    https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions

    Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่
    สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา
    https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform

    กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง
    กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware

    วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ
    ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี
    https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time

    รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด
    รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech

    Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11
    ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store

    Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย
    เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
    https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia

    Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย
    แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที
    https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams

    EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware
    สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน
    https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition

    Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่
    Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce
    https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm

    พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools

    iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ
    Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย
    https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone

    AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต
    บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it

    YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย
    Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น
    https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades

    Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด
    Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง
    https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia

    แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้
    มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data

    AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก
    AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp

    Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว
    Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง
    https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition

    อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์
    ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ
    https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud

    สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI
    รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ
    https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china

    ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด
    OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is

    AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน
    รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย
    https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims

    ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง”
    OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar 📰 นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่” เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears 👥 “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why 🔒 สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children 🇮🇳 อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data ⚠️ หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions 🛡️ Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่ สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform 💻 กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware 💾 วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time 🌐 รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech 🎨 Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11 ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store 📰 Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia 🤖 Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams ⚖️ EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition 💵 Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce 🔗 https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm 🛡️ พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools 📱 iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย 🔗 https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone 🤖 AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it 📺 YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades 💻 Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia 🛡️ แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้ มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data 🖥️ AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp 💻 Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition ⚖️ อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์ ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud 🌐 สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china 🤖 ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is 🧑‍💻 AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims 🤖 ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง” OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 847 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷

    #รวมข่าวIT #20251209 #securityonline


    ช่องโหว่ Bluetooth เสี่ยงทำรถอัจฉริยะและ Wear OS ค้าง
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่อาจทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ส่งผลให้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์ Wear OS เกิดการค้างหรือหยุดทำงานได้ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในรหัส CVE-2025-48593 และมีการเผยแพร่ PoC (Proof of Concept) แล้ว ซึ่งหมายความว่ามีตัวอย่างการโจมตีที่สามารถนำไปใช้จริงได้ แม้รายงานฉบับเต็มจะเปิดให้เฉพาะผู้สนับสนุน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความเสี่ยงที่ผู้ใช้รถยนต์และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะต้องเผชิญ หากไม่ได้รับการอัปเดตแก้ไขอย่างทันท่วงที
    https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool เสี่ยงข้อมูลรั่วและระบบล่ม
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในเครื่องมือ Duc ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ใช้สำหรับตรวจสอบและแสดงผลการใช้งานดิสก์บนระบบ Linux ช่องโหว่นี้คือ CVE-2025-13654 เกิดจาก integer underflow ในฟังก์ชัน buffer_get ที่ทำให้เกิด buffer overflow ได้ หากผู้โจมตีส่งข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจง จะสามารถทำให้โปรแกรมล่ม (DoS) หรือดึงข้อมูลจากหน่วยความจำที่ไม่ควรถูกเข้าถึงได้ ปัญหานี้กระทบต่อทุกเวอร์ชันก่อน 1.4.6 และทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow

    มัลแวร์ SeedSnatcher บน Android ล่าขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้คริปโต
    มัลแวร์ใหม่ชื่อว่า “SeedSnatcher” กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใช้คริปโต โดยมันปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินชื่อ “Coin” และถูกเผยแพร่ผ่าน Telegram และโซเชียลต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง มัลแวร์จะสร้างหน้าจอหลอกเลียนแบบกระเป๋าเงินยอดนิยม เช่น MetaMask หรือ Trust Wallet เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase จากนั้นมันจะตรวจสอบคำที่กรอกด้วย wordlist ของ BIP 39 เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้อง ก่อนส่งข้อมูลไปยังผู้โจมตี นอกจากนี้ยังสามารถดักจับ SMS, ข้อมูลติดต่อ, บันทึกการโทร และสั่งการเครื่องจากระยะไกลได้ หลักฐานบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้โจมตีมีการจัดการแบบมืออาชีพและมีต้นทางจากจีนหรือผู้พูดภาษาจีน
    https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases

    Meta ปรับปรุงระบบช่วยเหลือด้วย AI Assistant และ Recovery Hub ใหม่
    Meta ยอมรับว่าระบบช่วยเหลือผู้ใช้ Facebook และ Instagram ที่ผ่านมา “ล้มเหลว” จนผู้ใช้จำนวนมากต้องหาทางแก้ไขด้วยตัวเองหรือแม้กระทั่งฟ้องร้อง ล่าสุดบริษัทประกาศเปิดตัว Support Hub ใหม่ที่รวมทุกเครื่องมือช่วยเหลือไว้ในที่เดียว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI Chat ให้ผู้ใช้สอบถามปัญหาได้ทันที อีกทั้งยังมี AI Assistant ที่ช่วยในกระบวนการกู้คืนบัญชี เช่น การตรวจจับอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย และการยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอเซลฟี่ Meta ระบุว่าการปรับปรุงนี้ทำให้อัตราการกู้คืนบัญชีที่ถูกแฮ็กในสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่มขึ้นกว่า 30% อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้เลย การเข้าถึง Support Hub ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ และการติดต่อเจ้าหน้าที่จริงยังคงต้องพึ่งบริการแบบเสียเงิน
    https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs

    EU ปรับ X €120 ล้าน ฐานละเมิด DSA ด้วยการตรวจสอบ Blue Check ที่หลอกลวง
    สหภาพยุโรปได้สั่งปรับแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เป็นเงิน 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีด้วย Blue Check ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” ระบบดังกล่าวทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าบัญชีที่จ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายนี้เป็นบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบจริง ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจสอบตัวตนอย่างเข้มงวด EU จึงมองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่โปร่งใสและเป็นการละเมิดกฎหมาย การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของ EU ในการบังคับใช้ DSA และอาจเป็นสัญญาณเตือนให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องระมัดระวังมากขึ้น
    https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification

    CastleRAT มัลแวร์ใหม่ใช้ Steam เป็นช่องทางซ่อนตัว
    มีการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อ CastleRAT ที่ถูกออกแบบมาให้แอบแฝงเข้าไปในระบบองค์กรเพื่อขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องจากระยะไกล จุดที่น่ากังวลคือเวอร์ชันที่ถูกเขียนด้วยภาษา C ซึ่งมีความสามารถซ่อนตัวได้แนบเนียนกว่าเวอร์ชัน Python และยังทำได้หลายอย่าง เช่น ดักจับการพิมพ์, แอบถ่ายหน้าจอ, ขโมยข้อมูลจาก clipboard รวมถึงการควบคุมเบราว์เซอร์โดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว ที่สำคัญ CastleRAT ยังใช้หน้า Community ของ Steam เป็นที่ซ่อนคำสั่ง ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนการใช้งานปกติ ปัจจุบันนักวิจัยได้ออกแนวทางตรวจจับเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยนี้ได้
    https://securityonline.info/sophisticated-castlerat-backdoor-uses-steam-community-pages-as-covert-c2-resolver-for-espionage

    LockBit 5.0 กลับมาอีกครั้งพร้อมความร้ายแรงกว่าเดิม
    หลังจากที่ปฏิบัติการ Cronos เคยทำให้กลุ่ม LockBit ถูกปราบไปเมื่อปี 2024 หลายคนคิดว่าภัยนี้จบแล้ว แต่ล่าสุด LockBit ได้กลับมาในเวอร์ชันใหม่ชื่อ LockBit 5.0 ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม จุดเด่นคือสามารถทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Linux และ VMware ESXi พร้อมโหมดล่องหนที่เข้ารหัสไฟล์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และโหมดลบข้อมูลถาวรที่ทำให้การกู้คืนแทบเป็นไปไม่ได้ ที่น่ากลัวคือมันยังปิดการทำงานของระบบ Event Tracing ของ Windows ทำให้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยมองไม่เห็นการโจมตี การกลับมาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มอาชญากรไซเบอร์ยังคงพัฒนาไม่หยุดและองค์กรต้องเตรียมรับมืออย่างจริงจัง
    https://securityonline.info/lockbit-5-0-resurfaces-stronger-new-variant-blinds-defenders-by-disabling-windows-etw-for-stealth-encryption

    Windows 11 เพิ่มตัวเลือกปิดเมนู AI ใน File Explorer
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่าการคลิกขวาไฟล์รูปภาพแล้วเจอเมนู AI มากมาย เช่น การค้นหาด้วย Bing หรือการแก้ไขด้วย Paint, Photos ทำให้เมนูรกและใช้งานไม่สะดวก ล่าสุด Microsoft ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ใน Build 26220.7344 ที่ให้ผู้ใช้สามารถปิดการแสดงเมนู AI ได้ทั้งหมด แม้จะยังไม่สามารถซ่อน shortcut ที่อยู่ด้านล่างเมนูได้ แต่ก็ถือเป็นการตอบรับเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ที่อยากได้เมนูที่เรียบง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในเวอร์ชันทดสอบและจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต
    https://securityonline.info/ai-clutter-solved-windows-11-adds-setting-to-disable-ai-actions-in-file-explorer-menu

    ศาลสหรัฐจำกัดสัญญา Default Search ของ Google เหลือ 1 ปี
    จากคดีฟ้องร้องผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐต่อ Google ล่าสุดผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำสั่งใหม่ที่บังคับให้สัญญาที่ Google ทำกับผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อให้บริการค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้น ต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปีเท่านั้น เดิมที Google มักทำสัญญาระยะยาว เช่น ดีลกับ Apple ที่ทำให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบน iPhone การจำกัดสัญญาเหลือปีต่อปีจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งอย่าง Bing หรือ DuckDuckGo มีสิทธิ์เข้ามาแข่งขันมากขึ้น ถือเป็นการแก้ปัญหาผูกขาดโดยไม่ต้องบังคับให้ Google แยกธุรกิจ Chrome ออกไป
    https://securityonline.info/google-antitrust-remedy-judge-limits-default-search-contracts-to-one-year-term

    INE ได้รับรางวัล G2 Winter 2026 หลายสาขา
    แพลตฟอร์มฝึกอบรมด้าน IT และ Cybersecurity อย่าง INE ได้รับการยอมรับจาก G2 ด้วยรางวัลถึง 7 หมวดหมู่ในฤดูหนาวปี 2026 ทั้งตำแหน่ง Leader และ Momentum Leader รวมถึงการเป็นผู้นำในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และเอเชียแปซิฟิก รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้ทั่วโลกที่เลือก INE เพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคนิคและความปลอดภัยไซเบอร์ หลายรีวิวชื่นชมว่าคอร์สของ INE สามารถนำไปใช้จริงในงานได้ทันที และใบรับรองจาก INE ก็ได้รับการยอมรับในวงการ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ INE ในการสร้างบุคลากรด้าน IT ที่มีคุณภาพ
    https://securityonline.info/ine-earns-g2-winter-2026-badges-across-global-markets

    SpaceX เตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งใหม่
    SpaceX กำลังวางแผนทดสอบการบินของจรวด Starship อีกครั้ง โดยครั้งนี้ตั้งเป้าให้การปล่อยและการลงจอดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่การทดสอบก่อนหน้านี้มีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว จุดเด่นของ Starship คือการออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศอย่างมหาศาล Elon Musk ยังย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดคือการใช้ Starship พามนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร การทดสอบครั้งนี้จึงถูกจับตามองจากทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้สนใจอวกาศทั่วโลก
    https://securityonline.info/spacex-prepares-next-starship-test-flight

    Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่พร้อมฟีเจอร์ AI
    Apple ได้เปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมการผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาในหลายฟังก์ชัน เช่น การปรับแต่งภาพถ่ายอัตโนมัติ, การช่วยเขียนข้อความ และการจัดการงานประจำวันด้วย Siri ที่ฉลาดขึ้น จุดขายสำคัญคือการทำงานแบบ On-device AI ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่และกล้องที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ iPhone รุ่นใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม
    https://securityonline.info/apple-launches-new-iphone-with-ai-features

    Microsoft เปิดตัว Copilot เวอร์ชันใหม่สำหรับธุรกิจ
    Microsoft ได้เปิดตัว Copilot เวอร์ชันล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผสานเข้ากับแอปพลิเคชันหลักอย่าง Word, Excel และ Teams จุดเด่นคือการใช้ AI ช่วยสรุปข้อมูล, สร้างรายงาน และตอบคำถามจากฐานข้อมูลภายในองค์กรได้ทันที ทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น Copilot ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญจะไม่รั่วไหล
    https://securityonline.info/microsoft-unveils-new-copilot-for-business

    เกมใหม่จาก Ubisoft ใช้ AI สร้างโลกเสมือนจริง
    Ubisoft ได้ประกาศเปิดตัวเกมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างโลกเสมือนจริงแบบไดนามิก ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้งที่เล่น ตัวละคร NPC สามารถตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างสมจริงและมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ นี่ถือเป็นการยกระดับวงการเกมที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนาเข้ากับพลังของ AI เพื่อสร้างโลกที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความท้าทาย
    https://securityonline.info/ubisoft-announces-ai-powered-game

    Meta เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับนักข่าว
    Meta ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักข่าวในการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขียนบทความได้รวดเร็วขึ้น เครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกันและสรุปออกมาเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้นักข่าวสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและลดเวลาในการตรวจสอบข่าวปลอม นอกจากนี้ Meta ยังย้ำว่าจะมีระบบตรวจสอบเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างข่าวปลอมเอง ถือเป็นการพยายามสร้างความเชื่อมั่นในวงการสื่อ
    https://securityonline.info/meta-launches-ai-tools-for-journalists

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks
    หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ที่ถูกโจมตีจริงในอุปกรณ์เครือข่ายสองค่ายใหญ่ คือเร้าเตอร์รุ่นเก่าของ D-Link และระบบ Array Networks ที่ใช้งานในญี่ปุ่น ช่องโหว่แรกเป็น Buffer Overflow ที่ไม่มีการอัปเดตแก้ไขเพราะอุปกรณ์หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบเปลี่ยนเครื่องใหม่ ส่วนช่องโหว่ที่สองคือการ Inject คำสั่งใน ArrayOS ซึ่งแฮกเกอร์ใช้วาง backdoor และ webshell เพื่อควบคุมระบบจากระยะไกล หน่วยงาน JPCERT ของญี่ปุ่นยืนยันว่ามีการโจมตีจริงตั้งแต่เดือนสิงหาคม และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่หรือปิดฟีเจอร์ Desktop Direct เพื่อป้องกันภัย
    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack

    Samsung พลิกฟื้นโรงงานผลิตชิป 4nm
    หลังจากเจอปัญหาผลิตชิปไม่คงที่จนเสียลูกค้ารายใหญ่ไป Samsung Foundry เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อสามารถยกระดับอัตราการผลิตชิป 4nm ให้ได้ผลสำเร็จถึง 60–70% และคว้าออเดอร์ใหญ่จากสตาร์ทอัพ AI สัญชาติอเมริกัน Tsavorite มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ สัญญานี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าซัมซุงยังมีศักยภาพแข่งขันกับ TSMC ได้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี 2nm ที่เตรียมใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy S26 อีกด้วย
    https://securityonline.info/samsung-foundry-hits-60-4nm-yield-secures-100m-ai-chip-order-from-tsavorite

    โค้ดโฆษณาในแอป ChatGPT Android จุดกระแสถกเถียง
    นักพัฒนาพบโค้ดที่ดูเหมือนระบบโฆษณาในแอป ChatGPT เวอร์ชันทดสอบบน Android ทำให้เกิดการคาดเดาว่า OpenAI อาจเตรียมใส่โฆษณาในบริการ แต่ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ OpenAI รีบออกมาปฏิเสธทันทีว่าบริษัทไม่ได้ทดสอบฟีเจอร์โฆษณาในตอนนี้ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ปิดโอกาสในอนาคต โดยย้ำว่าหากมีการนำโฆษณามาใช้จริง จะทำด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เนื่องจาก ChatGPT มีผู้ใช้งานมหาศาลกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์
    https://securityonline.info/ad-code-found-in-chatgpt-android-build-openai-denies-current-advertising-tests

    AI จับได้ GhostPenguin มัลแวร์ลินุกซ์สุดลึกลับ
    นักวิจัยจาก Trend Micro ใช้ระบบ AI ตรวจจับพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ GhostPenguin ที่ซ่อนตัวอยู่ในระบบลินุกซ์โดยไม่ถูกตรวจจับนานหลายเดือน มัลแวร์นี้เขียนด้วย C++ มีความสามารถสูงในการควบคุมเครื่องจากระยะไกลผ่านการสื่อสารแบบ UDP ที่เข้ารหัสด้วย RC5 ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ จุดเด่นคือการทำงานแบบหลายเธรด ทำให้มัลแวร์ยังคงตอบสนองแม้บางส่วนของโค้ดหยุดทำงาน การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าการใช้ AI ในการล่ามัลแวร์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ
    https://securityonline.info/ai-uncovers-ghostpenguin-undetectable-linux-backdoor-used-rc5-encrypted-udp-for-covert-c2

    Shanya Crypter เครื่องมือใหม่ของแก๊งแรนซัมแวร์
    Sophos รายงานการพบเครื่องมือใหม่ชื่อ Shanya Crypter ซึ่งเป็นบริการ “packer-as-a-service” ที่ช่วยให้กลุ่มแรนซัมแวร์สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือนี้ใช้เทคนิคซับซ้อน เช่น การซ่อนโค้ดใน DLL ของระบบ Windows และการใช้ driver ที่มีช่องโหว่เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกัน (EDR Killer) ก่อนปล่อยแรนซัมแวร์เข้ามาโจมตี ทำให้การป้องกันยากขึ้นมาก กลุ่ม Akira, Medusa และ Qilin ถูกระบุว่าเป็นผู้ใช้งานหลักของเครื่องมือนี้ และมีการแพร่กระจายไปหลายประเทศแล้ว
    https://securityonline.info/shanya-crypter-is-the-new-ransomware-toolkit-uses-kernel-driver-abuse-to-kill-edr

    Microsoft เปิดตัว Copilot+ PC
    ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Copilot+ PC ซึ่งมาพร้อมชิป Snapdragon X Elite และ X Plus ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานแบบ “AI on-device” เช่น ฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยค้นหาสิ่งที่เคยทำบนเครื่องได้เหมือนย้อนเวลา และการใช้ Copilot ในการสร้างภาพหรือข้อความได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ถือเป็นการยกระดับ Windows ให้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานประจำวัน
    https://securityonline.info/microsoft-unveils-copilot-pc-powered-by-snapdragon-x-elite-and-x-plus

    Google DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3
    DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ที่ใช้ทำนายโครงสร้างโมเลกุลและปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาได้แม่นยำยิ่งขึ้น จากเดิมที่ AlphaFold 2 สร้างความฮือฮาในการทำนายโครงสร้างโปรตีน ตอนนี้ AlphaFold 3 ก้าวไปอีกขั้นด้วยการจำลองการทำงานของ DNA, RNA และโมเลกุลขนาดเล็กที่ซับซ้อนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะช่วยเร่งการค้นคว้ายาใหม่และการวิจัยทางการแพทย์ได้อย่างมหาศาล
    https://securityonline.info/google-deepmind-launches-alphafold-3-ai-model-for-molecular-science

    SpaceX ส่งดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่
    SpaceX ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม ดาวเทียมรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและสามารถให้บริการในพื้นที่ห่างไกลได้ดีกว่าเดิม การปล่อยครั้งนี้ยังตอกย้ำความตั้งใจของ SpaceX ที่จะขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกให้ครอบคลุมทุกพื้นที่
    https://securityonline.info/spacex-launches-next-gen-starlink-satellites-for-faster-global-internet

    Sony เปิดตัว PlayStation 5 Pro
    Sony เปิดตัวเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 Pro ที่มาพร้อมประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น รองรับการเล่นเกม 8K และมีระบบ Ray Tracing ที่สมจริงกว่าเดิม จุดขายคือการใช้ชิปใหม่ที่ทำให้เฟรมเรตเสถียรขึ้นแม้ในเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ นักวิเคราะห์เชื่อว่า PS5 Pro จะช่วยดึงดูดนักเล่นเกมที่ต้องการประสบการณ์ภาพสมจริงและเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ PS5 รุ่นปัจจุบัน
    https://securityonline.info/sony-unveils-playstation-5-pro-with-8k-gaming-and-ray-tracing

    WHO เตือนการระบาดของโรคใหม่
    องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับการระบาดของโรคใหม่ที่มีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่แพร่กระจายเร็วกว่า โดยพบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศแล้ว และกำลังเร่งตรวจสอบสายพันธุ์เพื่อหาวิธีควบคุมการแพร่ระบาด WHO แนะนำให้ประเทศต่างๆ เตรียมมาตรการรับมือและเพิ่มการตรวจสอบในสนามบินและด่านชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/who-issues-warning-on-new-fast-spreading-flu-like-disease
    📌🔐🩷 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🩷🔐📌 #รวมข่าวIT #20251209 #securityonline 🔐 ช่องโหว่ Bluetooth เสี่ยงทำรถอัจฉริยะและ Wear OS ค้าง เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่อาจทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ส่งผลให้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์ Wear OS เกิดการค้างหรือหยุดทำงานได้ ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในรหัส CVE-2025-48593 และมีการเผยแพร่ PoC (Proof of Concept) แล้ว ซึ่งหมายความว่ามีตัวอย่างการโจมตีที่สามารถนำไปใช้จริงได้ แม้รายงานฉบับเต็มจะเปิดให้เฉพาะผู้สนับสนุน แต่สิ่งที่ชัดเจนคือความเสี่ยงที่ผู้ใช้รถยนต์และอุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะต้องเผชิญ หากไม่ได้รับการอัปเดตแก้ไขอย่างทันท่วงที 🔗 https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os 💻 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool เสี่ยงข้อมูลรั่วและระบบล่ม มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในเครื่องมือ Duc ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่ใช้สำหรับตรวจสอบและแสดงผลการใช้งานดิสก์บนระบบ Linux ช่องโหว่นี้คือ CVE-2025-13654 เกิดจาก integer underflow ในฟังก์ชัน buffer_get ที่ทำให้เกิด buffer overflow ได้ หากผู้โจมตีส่งข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างเจาะจง จะสามารถทำให้โปรแกรมล่ม (DoS) หรือดึงข้อมูลจากหน่วยความจำที่ไม่ควรถูกเข้าถึงได้ ปัญหานี้กระทบต่อทุกเวอร์ชันก่อน 1.4.6 และทีมพัฒนาได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow 📱 มัลแวร์ SeedSnatcher บน Android ล่าขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้คริปโต มัลแวร์ใหม่ชื่อว่า “SeedSnatcher” กำลังแพร่ระบาดในกลุ่มผู้ใช้คริปโต โดยมันปลอมตัวเป็นแอปกระเป๋าเงินชื่อ “Coin” และถูกเผยแพร่ผ่าน Telegram และโซเชียลต่าง ๆ เมื่อผู้ใช้ติดตั้ง มัลแวร์จะสร้างหน้าจอหลอกเลียนแบบกระเป๋าเงินยอดนิยม เช่น MetaMask หรือ Trust Wallet เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase จากนั้นมันจะตรวจสอบคำที่กรอกด้วย wordlist ของ BIP 39 เพื่อให้แน่ใจว่าถูกต้อง ก่อนส่งข้อมูลไปยังผู้โจมตี นอกจากนี้ยังสามารถดักจับ SMS, ข้อมูลติดต่อ, บันทึกการโทร และสั่งการเครื่องจากระยะไกลได้ หลักฐานบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้โจมตีมีการจัดการแบบมืออาชีพและมีต้นทางจากจีนหรือผู้พูดภาษาจีน 🔗 https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases 🤖 Meta ปรับปรุงระบบช่วยเหลือด้วย AI Assistant และ Recovery Hub ใหม่ Meta ยอมรับว่าระบบช่วยเหลือผู้ใช้ Facebook และ Instagram ที่ผ่านมา “ล้มเหลว” จนผู้ใช้จำนวนมากต้องหาทางแก้ไขด้วยตัวเองหรือแม้กระทั่งฟ้องร้อง ล่าสุดบริษัทประกาศเปิดตัว Support Hub ใหม่ที่รวมทุกเครื่องมือช่วยเหลือไว้ในที่เดียว พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ AI Chat ให้ผู้ใช้สอบถามปัญหาได้ทันที อีกทั้งยังมี AI Assistant ที่ช่วยในกระบวนการกู้คืนบัญชี เช่น การตรวจจับอุปกรณ์ที่ใช้บ่อย และการยืนยันตัวตนด้วยวิดีโอเซลฟี่ Meta ระบุว่าการปรับปรุงนี้ทำให้อัตราการกู้คืนบัญชีที่ถูกแฮ็กในสหรัฐฯ และแคนาดาเพิ่มขึ้นกว่า 30% อย่างไรก็ตาม หากผู้ใช้ไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้เลย การเข้าถึง Support Hub ก็ยังเป็นปัญหาอยู่ และการติดต่อเจ้าหน้าที่จริงยังคงต้องพึ่งบริการแบบเสียเงิน 🔗 https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs ⚠️ EU ปรับ X €120 ล้าน ฐานละเมิด DSA ด้วยการตรวจสอบ Blue Check ที่หลอกลวง สหภาพยุโรปได้สั่งปรับแพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) เป็นเงิน 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบบัญชีด้วย Blue Check ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” ระบบดังกล่าวทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าบัญชีที่จ่ายเงินเพื่อรับเครื่องหมายนี้เป็นบัญชีที่ได้รับการตรวจสอบจริง ทั้งที่ไม่ได้มีการตรวจสอบตัวตนอย่างเข้มงวด EU จึงมองว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่โปร่งใสและเป็นการละเมิดกฎหมาย การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของ EU ในการบังคับใช้ DSA และอาจเป็นสัญญาณเตือนให้แพลตฟอร์มอื่น ๆ ต้องระมัดระวังมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification 🏰 CastleRAT มัลแวร์ใหม่ใช้ Steam เป็นช่องทางซ่อนตัว มีการค้นพบมัลแวร์ตัวใหม่ชื่อ CastleRAT ที่ถูกออกแบบมาให้แอบแฝงเข้าไปในระบบองค์กรเพื่อขโมยข้อมูลและควบคุมเครื่องจากระยะไกล จุดที่น่ากังวลคือเวอร์ชันที่ถูกเขียนด้วยภาษา C ซึ่งมีความสามารถซ่อนตัวได้แนบเนียนกว่าเวอร์ชัน Python และยังทำได้หลายอย่าง เช่น ดักจับการพิมพ์, แอบถ่ายหน้าจอ, ขโมยข้อมูลจาก clipboard รวมถึงการควบคุมเบราว์เซอร์โดยไม่ให้ผู้ใช้รู้ตัว ที่สำคัญ CastleRAT ยังใช้หน้า Community ของ Steam เป็นที่ซ่อนคำสั่ง ทำให้การสื่อสารกับเซิร์ฟเวอร์ควบคุมดูเหมือนการใช้งานปกติ ปัจจุบันนักวิจัยได้ออกแนวทางตรวจจับเพื่อช่วยให้องค์กรสามารถป้องกันภัยนี้ได้ 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-castlerat-backdoor-uses-steam-community-pages-as-covert-c2-resolver-for-espionage 💀 LockBit 5.0 กลับมาอีกครั้งพร้อมความร้ายแรงกว่าเดิม หลังจากที่ปฏิบัติการ Cronos เคยทำให้กลุ่ม LockBit ถูกปราบไปเมื่อปี 2024 หลายคนคิดว่าภัยนี้จบแล้ว แต่ล่าสุด LockBit ได้กลับมาในเวอร์ชันใหม่ชื่อ LockBit 5.0 ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม จุดเด่นคือสามารถทำงานได้หลายแพลตฟอร์ม ทั้ง Windows, Linux และ VMware ESXi พร้อมโหมดล่องหนที่เข้ารหัสไฟล์โดยไม่ทิ้งร่องรอย และโหมดลบข้อมูลถาวรที่ทำให้การกู้คืนแทบเป็นไปไม่ได้ ที่น่ากลัวคือมันยังปิดการทำงานของระบบ Event Tracing ของ Windows ทำให้เครื่องมือรักษาความปลอดภัยมองไม่เห็นการโจมตี การกลับมาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากลุ่มอาชญากรไซเบอร์ยังคงพัฒนาไม่หยุดและองค์กรต้องเตรียมรับมืออย่างจริงจัง 🔗 https://securityonline.info/lockbit-5-0-resurfaces-stronger-new-variant-blinds-defenders-by-disabling-windows-etw-for-stealth-encryption 🖥️ Windows 11 เพิ่มตัวเลือกปิดเมนู AI ใน File Explorer ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนบ่นว่าการคลิกขวาไฟล์รูปภาพแล้วเจอเมนู AI มากมาย เช่น การค้นหาด้วย Bing หรือการแก้ไขด้วย Paint, Photos ทำให้เมนูรกและใช้งานไม่สะดวก ล่าสุด Microsoft ได้เพิ่มตัวเลือกใหม่ใน Build 26220.7344 ที่ให้ผู้ใช้สามารถปิดการแสดงเมนู AI ได้ทั้งหมด แม้จะยังไม่สามารถซ่อน shortcut ที่อยู่ด้านล่างเมนูได้ แต่ก็ถือเป็นการตอบรับเสียงเรียกร้องจากผู้ใช้ที่อยากได้เมนูที่เรียบง่ายขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังอยู่ในเวอร์ชันทดสอบและจะทยอยปล่อยให้ผู้ใช้ทั่วไปในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/ai-clutter-solved-windows-11-adds-setting-to-disable-ai-actions-in-file-explorer-menu ⚖️ ศาลสหรัฐจำกัดสัญญา Default Search ของ Google เหลือ 1 ปี จากคดีฟ้องร้องผูกขาดของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐต่อ Google ล่าสุดผู้พิพากษา Amit Mehta ได้ออกคำสั่งใหม่ที่บังคับให้สัญญาที่ Google ทำกับผู้ผลิตอุปกรณ์เพื่อให้บริการค้นหาของตนเป็นค่าเริ่มต้น ต้องมีอายุไม่เกิน 1 ปีเท่านั้น เดิมที Google มักทำสัญญาระยะยาว เช่น ดีลกับ Apple ที่ทำให้ Google Search เป็นค่าเริ่มต้นบน iPhone การจำกัดสัญญาเหลือปีต่อปีจะเปิดโอกาสให้คู่แข่งอย่าง Bing หรือ DuckDuckGo มีสิทธิ์เข้ามาแข่งขันมากขึ้น ถือเป็นการแก้ปัญหาผูกขาดโดยไม่ต้องบังคับให้ Google แยกธุรกิจ Chrome ออกไป 🔗 https://securityonline.info/google-antitrust-remedy-judge-limits-default-search-contracts-to-one-year-term 🎓 INE ได้รับรางวัล G2 Winter 2026 หลายสาขา แพลตฟอร์มฝึกอบรมด้าน IT และ Cybersecurity อย่าง INE ได้รับการยอมรับจาก G2 ด้วยรางวัลถึง 7 หมวดหมู่ในฤดูหนาวปี 2026 ทั้งตำแหน่ง Leader และ Momentum Leader รวมถึงการเป็นผู้นำในภูมิภาคยุโรป เอเชีย และเอเชียแปซิฟิก รางวัลเหล่านี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของผู้ใช้ทั่วโลกที่เลือก INE เพื่อพัฒนาทักษะด้านเทคนิคและความปลอดภัยไซเบอร์ หลายรีวิวชื่นชมว่าคอร์สของ INE สามารถนำไปใช้จริงในงานได้ทันที และใบรับรองจาก INE ก็ได้รับการยอมรับในวงการ ถือเป็นการตอกย้ำบทบาทของ INE ในการสร้างบุคลากรด้าน IT ที่มีคุณภาพ 🔗 https://securityonline.info/ine-earns-g2-winter-2026-badges-across-global-markets 🚀 SpaceX เตรียมทดสอบจรวด Starship ครั้งใหม่ SpaceX กำลังวางแผนทดสอบการบินของจรวด Starship อีกครั้ง โดยครั้งนี้ตั้งเป้าให้การปล่อยและการลงจอดเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หลังจากที่การทดสอบก่อนหน้านี้มีทั้งความสำเร็จและความล้มเหลว จุดเด่นของ Starship คือการออกแบบให้สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศอย่างมหาศาล Elon Musk ยังย้ำว่าเป้าหมายสูงสุดคือการใช้ Starship พามนุษย์ไปตั้งถิ่นฐานบนดาวอังคาร การทดสอบครั้งนี้จึงถูกจับตามองจากทั้งนักวิทยาศาสตร์และผู้สนใจอวกาศทั่วโลก 🔗 https://securityonline.info/spacex-prepares-next-starship-test-flight 📱 Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่พร้อมฟีเจอร์ AI Apple ได้เปิดตัว iPhone รุ่นล่าสุดที่มาพร้อมการผสานเทคโนโลยี AI เข้ามาในหลายฟังก์ชัน เช่น การปรับแต่งภาพถ่ายอัตโนมัติ, การช่วยเขียนข้อความ และการจัดการงานประจำวันด้วย Siri ที่ฉลาดขึ้น จุดขายสำคัญคือการทำงานแบบ On-device AI ที่ไม่ต้องส่งข้อมูลไปยังคลาวด์ ทำให้ผู้ใช้มั่นใจเรื่องความเป็นส่วนตัวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพแบตเตอรี่และกล้องที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ iPhone รุ่นใหม่นี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม 🔗 https://securityonline.info/apple-launches-new-iphone-with-ai-features 🌐 Microsoft เปิดตัว Copilot เวอร์ชันใหม่สำหรับธุรกิจ Microsoft ได้เปิดตัว Copilot เวอร์ชันล่าสุดที่ออกแบบมาเพื่อช่วยองค์กรทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยผสานเข้ากับแอปพลิเคชันหลักอย่าง Word, Excel และ Teams จุดเด่นคือการใช้ AI ช่วยสรุปข้อมูล, สร้างรายงาน และตอบคำถามจากฐานข้อมูลภายในองค์กรได้ทันที ทำให้พนักงานสามารถโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น Copilot ยังมีระบบรักษาความปลอดภัยที่สอดคล้องกับมาตรฐานองค์กร เพื่อให้มั่นใจว่าข้อมูลสำคัญจะไม่รั่วไหล 🔗 https://securityonline.info/microsoft-unveils-new-copilot-for-business 🎮 เกมใหม่จาก Ubisoft ใช้ AI สร้างโลกเสมือนจริง Ubisoft ได้ประกาศเปิดตัวเกมใหม่ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการสร้างโลกเสมือนจริงแบบไดนามิก ทำให้ผู้เล่นได้สัมผัสประสบการณ์ที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละครั้งที่เล่น ตัวละคร NPC สามารถตอบสนองต่อผู้เล่นได้อย่างสมจริงและมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตามสถานการณ์ นี่ถือเป็นการยกระดับวงการเกมที่ผสมผสานความคิดสร้างสรรค์ของนักพัฒนาเข้ากับพลังของ AI เพื่อสร้างโลกที่มีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยความท้าทาย 🔗 https://securityonline.info/ubisoft-announces-ai-powered-game 📰 Meta เปิดตัวเครื่องมือ AI สำหรับนักข่าว Meta ได้เปิดตัวเครื่องมือ AI ใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยนักข่าวในการค้นหาข้อมูล, ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเขียนบทความได้รวดเร็วขึ้น เครื่องมือนี้สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจากหลายแหล่งพร้อมกันและสรุปออกมาเป็นประเด็นสำคัญ ทำให้นักข่าวสามารถทำงานได้มีประสิทธิภาพและลดเวลาในการตรวจสอบข่าวปลอม นอกจากนี้ Meta ยังย้ำว่าจะมีระบบตรวจสอบเพื่อป้องกันการใช้ AI ในการสร้างข่าวปลอมเอง ถือเป็นการพยายามสร้างความเชื่อมั่นในวงการสื่อ 🔗 https://securityonline.info/meta-launches-ai-tools-for-journalists 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน D-Link และ Array Networks หน่วยงาน CISA ของสหรัฐฯ ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ที่ถูกโจมตีจริงในอุปกรณ์เครือข่ายสองค่ายใหญ่ คือเร้าเตอร์รุ่นเก่าของ D-Link และระบบ Array Networks ที่ใช้งานในญี่ปุ่น ช่องโหว่แรกเป็น Buffer Overflow ที่ไม่มีการอัปเดตแก้ไขเพราะอุปกรณ์หมดอายุการสนับสนุนแล้ว ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบเปลี่ยนเครื่องใหม่ ส่วนช่องโหว่ที่สองคือการ Inject คำสั่งใน ArrayOS ซึ่งแฮกเกอร์ใช้วาง backdoor และ webshell เพื่อควบคุมระบบจากระยะไกล หน่วยงาน JPCERT ของญี่ปุ่นยืนยันว่ามีการโจมตีจริงตั้งแต่เดือนสิงหาคม และแนะนำให้ผู้ดูแลรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่หรือปิดฟีเจอร์ Desktop Direct เพื่อป้องกันภัย 🔗 https://securityonline.info/cisa-kev-alert-eol-d-link-and-array-networks-command-injection-under-active-attack ⚙️ Samsung พลิกฟื้นโรงงานผลิตชิป 4nm หลังจากเจอปัญหาผลิตชิปไม่คงที่จนเสียลูกค้ารายใหญ่ไป Samsung Foundry เริ่มกลับมามีความหวังอีกครั้ง เมื่อสามารถยกระดับอัตราการผลิตชิป 4nm ให้ได้ผลสำเร็จถึง 60–70% และคว้าออเดอร์ใหญ่จากสตาร์ทอัพ AI สัญชาติอเมริกัน Tsavorite มูลค่ากว่า 100 ล้านดอลลาร์ สัญญานี้ถือเป็นหมุดหมายสำคัญที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นว่าซัมซุงยังมีศักยภาพแข่งขันกับ TSMC ได้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาเทคโนโลยี 2nm ที่เตรียมใช้ในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ Galaxy S26 อีกด้วย 🔗 https://securityonline.info/samsung-foundry-hits-60-4nm-yield-secures-100m-ai-chip-order-from-tsavorite 📱 โค้ดโฆษณาในแอป ChatGPT Android จุดกระแสถกเถียง นักพัฒนาพบโค้ดที่ดูเหมือนระบบโฆษณาในแอป ChatGPT เวอร์ชันทดสอบบน Android ทำให้เกิดการคาดเดาว่า OpenAI อาจเตรียมใส่โฆษณาในบริการ แต่ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ OpenAI รีบออกมาปฏิเสธทันทีว่าบริษัทไม่ได้ทดสอบฟีเจอร์โฆษณาในตอนนี้ อย่างไรก็ตามก็ไม่ได้ปิดโอกาสในอนาคต โดยย้ำว่าหากมีการนำโฆษณามาใช้จริง จะทำด้วยความระมัดระวังเพื่อรักษาความเชื่อมั่นของผู้ใช้ เนื่องจาก ChatGPT มีผู้ใช้งานมหาศาลกว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ 🔗 https://securityonline.info/ad-code-found-in-chatgpt-android-build-openai-denies-current-advertising-tests 🐧 AI จับได้ GhostPenguin มัลแวร์ลินุกซ์สุดลึกลับ นักวิจัยจาก Trend Micro ใช้ระบบ AI ตรวจจับพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ GhostPenguin ที่ซ่อนตัวอยู่ในระบบลินุกซ์โดยไม่ถูกตรวจจับนานหลายเดือน มัลแวร์นี้เขียนด้วย C++ มีความสามารถสูงในการควบคุมเครื่องจากระยะไกลผ่านการสื่อสารแบบ UDP ที่เข้ารหัสด้วย RC5 ทำให้ยากต่อการตรวจสอบ จุดเด่นคือการทำงานแบบหลายเธรด ทำให้มัลแวร์ยังคงตอบสนองแม้บางส่วนของโค้ดหยุดทำงาน การค้นพบนี้ตอกย้ำว่าการใช้ AI ในการล่ามัลแวร์เป็นสิ่งจำเป็นในยุคที่ภัยไซเบอร์ซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ 🔗 https://securityonline.info/ai-uncovers-ghostpenguin-undetectable-linux-backdoor-used-rc5-encrypted-udp-for-covert-c2 💻 Shanya Crypter เครื่องมือใหม่ของแก๊งแรนซัมแวร์ Sophos รายงานการพบเครื่องมือใหม่ชื่อ Shanya Crypter ซึ่งเป็นบริการ “packer-as-a-service” ที่ช่วยให้กลุ่มแรนซัมแวร์สามารถหลบเลี่ยงการตรวจจับได้อย่างมีประสิทธิภาพ เครื่องมือนี้ใช้เทคนิคซับซ้อน เช่น การซ่อนโค้ดใน DLL ของระบบ Windows และการใช้ driver ที่มีช่องโหว่เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกัน (EDR Killer) ก่อนปล่อยแรนซัมแวร์เข้ามาโจมตี ทำให้การป้องกันยากขึ้นมาก กลุ่ม Akira, Medusa และ Qilin ถูกระบุว่าเป็นผู้ใช้งานหลักของเครื่องมือนี้ และมีการแพร่กระจายไปหลายประเทศแล้ว 🔗 https://securityonline.info/shanya-crypter-is-the-new-ransomware-toolkit-uses-kernel-driver-abuse-to-kill-edr 🌐 Microsoft เปิดตัว Copilot+ PC ไมโครซอฟท์ประกาศเปิดตัวคอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ที่เรียกว่า Copilot+ PC ซึ่งมาพร้อมชิป Snapdragon X Elite และ X Plus ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับงาน AI โดยเฉพาะ จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานแบบ “AI on-device” เช่น ฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยค้นหาสิ่งที่เคยทำบนเครื่องได้เหมือนย้อนเวลา และการใช้ Copilot ในการสร้างภาพหรือข้อความได้ทันทีโดยไม่ต้องพึ่งคลาวด์ ถือเป็นการยกระดับ Windows ให้เข้าสู่ยุคใหม่ที่ AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้งานประจำวัน 🔗 https://securityonline.info/microsoft-unveils-copilot-pc-powered-by-snapdragon-x-elite-and-x-plus 🧬 Google DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 DeepMind เปิดตัว AlphaFold 3 ซึ่งเป็นเวอร์ชันใหม่ของโมเดล AI ที่ใช้ทำนายโครงสร้างโมเลกุลและปฏิสัมพันธ์ทางชีววิทยาได้แม่นยำยิ่งขึ้น จากเดิมที่ AlphaFold 2 สร้างความฮือฮาในการทำนายโครงสร้างโปรตีน ตอนนี้ AlphaFold 3 ก้าวไปอีกขั้นด้วยการจำลองการทำงานของ DNA, RNA และโมเลกุลขนาดเล็กที่ซับซ้อนมากขึ้น นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าจะช่วยเร่งการค้นคว้ายาใหม่และการวิจัยทางการแพทย์ได้อย่างมหาศาล 🔗 https://securityonline.info/google-deepmind-launches-alphafold-3-ai-model-for-molecular-science 🚀 SpaceX ส่งดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ SpaceX ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม Starlink รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เร็วกว่าเดิม ดาวเทียมรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้นและสามารถให้บริการในพื้นที่ห่างไกลได้ดีกว่าเดิม การปล่อยครั้งนี้ยังตอกย้ำความตั้งใจของ SpaceX ที่จะขยายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตทั่วโลกให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ 🔗 https://securityonline.info/spacex-launches-next-gen-starlink-satellites-for-faster-global-internet 🎮 Sony เปิดตัว PlayStation 5 Pro Sony เปิดตัวเครื่องเล่นเกม PlayStation 5 Pro ที่มาพร้อมประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น รองรับการเล่นเกม 8K และมีระบบ Ray Tracing ที่สมจริงกว่าเดิม จุดขายคือการใช้ชิปใหม่ที่ทำให้เฟรมเรตเสถียรขึ้นแม้ในเกมที่ใช้กราฟิกหนักๆ นักวิเคราะห์เชื่อว่า PS5 Pro จะช่วยดึงดูดนักเล่นเกมที่ต้องการประสบการณ์ภาพสมจริงและเป็นการต่อยอดความสำเร็จของ PS5 รุ่นปัจจุบัน 🔗 https://securityonline.info/sony-unveils-playstation-5-pro-with-8k-gaming-and-ray-tracing 🏥 WHO เตือนการระบาดของโรคใหม่ องค์การอนามัยโลก (WHO) ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับการระบาดของโรคใหม่ที่มีลักษณะคล้ายไข้หวัดใหญ่แต่แพร่กระจายเร็วกว่า โดยพบผู้ติดเชื้อในหลายประเทศแล้ว และกำลังเร่งตรวจสอบสายพันธุ์เพื่อหาวิธีควบคุมการแพร่ระบาด WHO แนะนำให้ประเทศต่างๆ เตรียมมาตรการรับมือและเพิ่มการตรวจสอบในสนามบินและด่านชายแดนเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/who-issues-warning-on-new-fast-spreading-flu-like-disease
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 773 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาราธอนขายหน้าโลก โคตรจะแมนใช้บิบผู้หญิงวิ่ง

    การจัดงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน 2025 ที่สนามหลวงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 พ.ย.) นอกจากนักวิ่งกว่า 36,000 คน จะประสบปัญหาเรื่องการจัดการด้านเส้นทางวิ่ง จุดปฐมพยาบาล ห้องน้ำ อาหารและของว่างที่ยังบกพร่อง รวมไปถึงเสื้อ Finisher ที่แจกให้กับนักวิ่ง 42.195 และ 21.1 กิโลเมตร กลับมีข้อบกพร่องในการแจก นักวิ่งบางคนเห็นแก่ตัว วนไปรับเสื้อซ้ำแล้วเอาไปขาย ทำให้นักวิ่งที่มาทีหลังจำนวนมากไม่ได้รับแจกเสื้อ ผู้จัดการแข่งขันต้องให้นักวิ่งลงชื่อเอาไว้ แล้วจะส่งอีเมลแจ้งการส่งเสื้อภายหลัง

    แต่ที่หนักที่สุดคือการที่นักวิ่งชายนำบิบ (BIB) หรือป้ายหมายเลขประจำตัวนักวิ่งของผู้หญิง ซึ่งไม่ตรงกับเพศและอายุไปวิ่ง ทำให้ผู้เข้าแข่งขันหญิงคนอื่นที่ทำตามกติกาเสียโอกาสในการเก็บสถิติและรับรางวัล เช่น นักวิ่งชายรายหนึ่ง เอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไปมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ ทำให้นักวิ่งหญิงที่ทำตามกติกาพลาดโอกาสได้รางวัลที่ 1 เพราะลำดับที่ 1 กลับไม่มารายงานตัว พอไปตรวจสอบเลขบิบย้อนหลังปรากฎว่าเป็นนักวิ่งชาย

    รายต่อมามีทั้งนักวิ่งชายเอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ นักวิ่งหญิงที่วิ่งตามกติกานอกจากพลาดโอกาสในการรับรางวัลแล้ว ในแต่ละอันดับเงินรางวัลก็แตกต่างกันอีกด้วย ภายหลังมีการแก้ไขอันดับใหม่และขยับอันดับขึ้น รายที่สาม นักวิ่งชายเอาบิบระยะ 10 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลอันดับสอง นักวิ่งหญิงอีกคนพลาดโอกาสที่จะได้รางวัลที่สูงขึ้นเช่นกัน

    ที่หนักที่สุด คือนักวิ่งชายรายหนึ่งถอดบิบออก เอาชิปที่ติดด้านหลังบิบใส่ไว้ในเสื้อ แล้ววิ่งโดยไม่ติดบิบ จนติดอันดับ 3 รุ่น Overall Thai female แล้วทำให้นักวิ่งหญิงคนอื่นเดือดร้อน เพราะมีชื่อที่ไม่คุ้น ทีแรกกรรมการอ้างว่าเช็กทุกคนว่าหญิงหรือชาย ไม่ยอมให้ดูรูปตอนเข้าเส้นชัย ภายหลังมีระบบผิดพลาดหลายรุ่นจึงยอมให้ดูรูป พบว่าเป็นผู้ชายเอาบิบผู้หญิงมาวิ่ง แล้วซ่อนบิบไว้ในเสื้อไม่เห็นอะไรเลย แต่เวลาตรงตามชื่อผู้หญิงคนที่เข้าเส้นชัย กรรมการจึงขยับผู้ที่ทำตามกติกาขึ้นมา

    หลังจากที่เรื่องนี้ถูกตีแผ่ หญิงรายหนึ่งอ้างว่าเป็นแฟนของนักวิ่งชาย ส่งข้อความข่มขู่ให้ลบโพสต์ อ้างว่าแฟนเป็นตำรวจจะดำเนินคดี แต่ภายหลังนักวิ่งคนดังกล่าวอ้างว่าแจ้งเจ้าหน้าไปที่แล้วว่าซื้อบิบต่อมา และอ้างว่าไม่ทราบ ถ้ารับบิบต่อจากคนอื่นมาแล้วต้องแกะชิปออก ขอโทษที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ คนที่ข่มขู่จึงมีน้ำเสียงอ่อนลง

    #Newskit
    มาราธอนขายหน้าโลก โคตรจะแมนใช้บิบผู้หญิงวิ่ง การจัดงานอะเมซิ่ง ไทยแลนด์ มาราธอน 2025 ที่สนามหลวงเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (30 พ.ย.) นอกจากนักวิ่งกว่า 36,000 คน จะประสบปัญหาเรื่องการจัดการด้านเส้นทางวิ่ง จุดปฐมพยาบาล ห้องน้ำ อาหารและของว่างที่ยังบกพร่อง รวมไปถึงเสื้อ Finisher ที่แจกให้กับนักวิ่ง 42.195 และ 21.1 กิโลเมตร กลับมีข้อบกพร่องในการแจก นักวิ่งบางคนเห็นแก่ตัว วนไปรับเสื้อซ้ำแล้วเอาไปขาย ทำให้นักวิ่งที่มาทีหลังจำนวนมากไม่ได้รับแจกเสื้อ ผู้จัดการแข่งขันต้องให้นักวิ่งลงชื่อเอาไว้ แล้วจะส่งอีเมลแจ้งการส่งเสื้อภายหลัง แต่ที่หนักที่สุดคือการที่นักวิ่งชายนำบิบ (BIB) หรือป้ายหมายเลขประจำตัวนักวิ่งของผู้หญิง ซึ่งไม่ตรงกับเพศและอายุไปวิ่ง ทำให้ผู้เข้าแข่งขันหญิงคนอื่นที่ทำตามกติกาเสียโอกาสในการเก็บสถิติและรับรางวัล เช่น นักวิ่งชายรายหนึ่ง เอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 60 ปีขึ้นไปมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ ทำให้นักวิ่งหญิงที่ทำตามกติกาพลาดโอกาสได้รางวัลที่ 1 เพราะลำดับที่ 1 กลับไม่มารายงานตัว พอไปตรวจสอบเลขบิบย้อนหลังปรากฎว่าเป็นนักวิ่งชาย รายต่อมามีทั้งนักวิ่งชายเอาบิบระยะ 21.1 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลหญิงอันดับ 1 ในรุ่นอายุ นักวิ่งหญิงที่วิ่งตามกติกานอกจากพลาดโอกาสในการรับรางวัลแล้ว ในแต่ละอันดับเงินรางวัลก็แตกต่างกันอีกด้วย ภายหลังมีการแก้ไขอันดับใหม่และขยับอันดับขึ้น รายที่สาม นักวิ่งชายเอาบิบระยะ 10 กิโลเมตร ของเพศหญิง รุ่นอายุ 55-59 ปีมาใส่ ติดถ้วยรางวัลอันดับสอง นักวิ่งหญิงอีกคนพลาดโอกาสที่จะได้รางวัลที่สูงขึ้นเช่นกัน ที่หนักที่สุด คือนักวิ่งชายรายหนึ่งถอดบิบออก เอาชิปที่ติดด้านหลังบิบใส่ไว้ในเสื้อ แล้ววิ่งโดยไม่ติดบิบ จนติดอันดับ 3 รุ่น Overall Thai female แล้วทำให้นักวิ่งหญิงคนอื่นเดือดร้อน เพราะมีชื่อที่ไม่คุ้น ทีแรกกรรมการอ้างว่าเช็กทุกคนว่าหญิงหรือชาย ไม่ยอมให้ดูรูปตอนเข้าเส้นชัย ภายหลังมีระบบผิดพลาดหลายรุ่นจึงยอมให้ดูรูป พบว่าเป็นผู้ชายเอาบิบผู้หญิงมาวิ่ง แล้วซ่อนบิบไว้ในเสื้อไม่เห็นอะไรเลย แต่เวลาตรงตามชื่อผู้หญิงคนที่เข้าเส้นชัย กรรมการจึงขยับผู้ที่ทำตามกติกาขึ้นมา หลังจากที่เรื่องนี้ถูกตีแผ่ หญิงรายหนึ่งอ้างว่าเป็นแฟนของนักวิ่งชาย ส่งข้อความข่มขู่ให้ลบโพสต์ อ้างว่าแฟนเป็นตำรวจจะดำเนินคดี แต่ภายหลังนักวิ่งคนดังกล่าวอ้างว่าแจ้งเจ้าหน้าไปที่แล้วว่าซื้อบิบต่อมา และอ้างว่าไม่ทราบ ถ้ารับบิบต่อจากคนอื่นมาแล้วต้องแกะชิปออก ขอโทษที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ คนที่ข่มขู่จึงมีน้ำเสียงอ่อนลง #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 20 (จบ)
    เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ
    แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้
    บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น
    เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น
    ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน
    ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก
    แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว
    ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง
    หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ
    ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน
    ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง
    แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน
    แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย
    ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ
    และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก…
    ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu
    Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ
    สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน
    นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ
    ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน
    นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่
    หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา
    ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ
    ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great
    Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว….
    (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม)

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    31 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 20 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 20 (จบ) เรื่องญี่ปุ่น ตั้งแต่การปฏิรูปประเทศ การเข้าสู่สงคราม การแพ้สงคราม เหมือนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของประเทศที่ถูกรุกราน ก็ต้องลุกขึ้นมาปฏิรูป ปรับปรุง เปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อเขา การเข้าไปทำสงคราม ก็เหมือนเป็นไปโดยธรรมชาติอีกนั่นแหละ ก็เมื่อใหญ่โตขึ้นมา จะให้อยู่เฉยไงไหว พลเมืองก็เพิ่ม ทรัพยากรก็ขาด ก็ต้องไปบุก ไปรบ ไปปล้นหาเอามาจากบ้านเมืองอื่น ใครๆก็ทำกันอย่างนี้ทั้งนั้น ทำไมญี่ปุ่นจะทำมั่งไม่ได้ ถ้าเรามองแบบนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องวิเคราะห์ วิตกวิจารณ์ โลกก็คงยังสวยเหมือนเดิม ไม่ต้องเขียนนืทานกันให้เมื่อยมือ จริงๆ เมื่อยทั้งตัวเลยครับ แต่มันเป็นไปโดยธรรมชาติ อย่างนั้นจริงหรือ หรือมันเป็น “ธรรมชาติ” ที่ถูกจัดสร้าง ให้เหมือนจริงจนดูไม่ออกว่าเป็นการสร้าง เหมือนเกือบหลายๆเรื่อง ที่ดำเนินอยู่ในโลกใบนี้เป็นเวลานาน ไม่น้อยกว่าร้อยปีมานี้ บางเรื่อง ถ้าเราดู ณ จุดใดจุดหนึ่ง หรือเหตุการณ์ใด เหตุการณ์หนึ่ง มันอาจจะมองไม่เห็น หรือเห็นไม่ชัด อาจจะต้องดูทางตรงบ้าง ทางขวางบ้าง มองหลายเหตุการณ์ เอามาประกอบการพิจารณา ดูย้อนขึ้นบ้าง ดูย้อนลงมาบ้าง จึงอาจจะพอทำให้เห็น และเข้าใจมากขึ้น เมื่อญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้สงคราม ภาพญี่ปุ่น ที่(ถูกทำให้) เห็นคือ ญี่ปุ่น ฉิบหายยับเยินจากสงคราม ทั้งด้านชีวิตผู้คน ที่โดนกินดอกเห็ดยักษ์เข้าไป และเศรษฐกิจของประเทศ จริงอยู่การทำสงครามก็ทำให้ทั้งทรัพยากร และ กระเป๋าญี่ปุ่นแห้งลงไป แต่ปรากฏว่า นักธุรกิจใหญ่ นายธนาคารของญี่ปุ่น ส่วนใหญ่ยังมีขนหน้าแข้งเต็ม กระเป๋าตุงกันทั้งนั้น แต่แอบซุกซ่อนกันอย่างมิดชิด เพราะพวกเขาร่วมเป็นนายทุน และร่วมปล้น ประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปบุกทั้งนั้น ประมาณว่า แค่รายได้จากการค้าเฮโรอีนอย่างเดียว ภายใต้การอำนวยการผลิตของกองทัพที่แมนจูเรีย และการตลาดโดยนักธุรกิจใหญ่เหล่านั้น ก็มีมูลค่าเกินกว่า 3 พันล้านเหรียญ (ในสมัยนั้น) แล้ว นี่เป็นรายได้เฉพาะที่ขายกันเอเซีย ที่อื่นยังไม่ได้รวมบัญชี หักบัญชีกัน ก่อนที่ญี่ปุ่นจะประกาศยอมแพ้ไม่กี่วัน บรรดาบริษัทการค้าธุรกิจ ธนาคาร ต่างๆเหล่านั้น ก็พากันเผาเอกสาร ทำลายหลักฐาน ตัดเชือก ตัดใย ที่จะโยงพวกเขากับกองทัพอย่างเร่งรีบ ทางการเองก็ให้ความร่วมมืออย่างดี รัฐมนตรีคลัง รีบสั่งจ่ายเงินให้กับใบเรียกเก็บเงินที่เร่งออก เพื่อให้รีบจ่ายกันก่อนอเมริกันมาถึง ร่วมมือกันน่ารักดีมาก แต่คนที่รวยมหาศาลที่สุดจากสงครามญี่ปุ่น เขาว่า คือ เจ้าพ่อยากูซ่า โคดามะ Kodama Yoshio ซึ่งตลอดเวลาที่ญี่ปุ่นเข้ายึด เข้าตี ที่ไหน เจ้าพ่อจะเป็นคนไปสำรวจเส้นทาง วางแผน ไม่ต่างกับเป็นผู้บัญชาการรบคนหนึ่ง ในที่สุดเจ้าพ่อ ก็ได้รับตำแหน่งจริงๆ โดยแม่ทัพเรือ Admiral Yonai ตั้งเจ้าพ่อให้เป็นนายพลเรือ เพื่อให้เจ้าพ่อใช้เรือรบญี่ปุ่นเดินทางไปมา ในแถบเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา ขนของที่ยึดมาได้ ใส่เรือรบจนเพียบกลับญี่ปุ่น เขาว่า นอกเหนือจากทอง และเพชรแล้ว เจ้าพ่อได้แร่ทองคำขาวไปแยะ และแยกเก็บไว้เป็นส่วนของตัว ส่วนนายพลแมค เมื่อเข้ามาทำหน้าที่ SCAP ในปี ค.ศ.1945 และได้รับใบสั่ง ให้จับหัวกะทินักธุรกิจ ที่วุ่นกับการทำสงคราม ใบสั่งบอก ให้เอามาตั้งแต่ชุดที่ไปบุกจีน ค.ศ.1937 นั่นเลยนะ เพราะมันควรจะเป็นของเรา เขาว่า ครั้งแรกเลย จับปลาใหญ่มาได้ 3 ตัว ตัวแรกคือ องค์ชาย Nashimoto อาของจักรพรรดิ แต่ดูเหมือน เป็นการ จับผิดตัว อามีหลายคน องค์ชายมีหลายคน ชื่อก็ กิกะอะไรไม่รู้ จำยากจะตาย ปลาตัวแรก เลยถูกจับฟรี หรือเป็นการขู่ ไม่แน่ใจ แต่อีก 2 ตัวที่จับได้ คนหนึ่งเป็นประธาน มิตซุบิชิ ซึ่งผลิตอาวุธให้กองทัพ อีกคนเป็นผู้จัดการใหญ่ของมิตซุย ที่ไม่ใช่ธรรมดา รากเหง้ายาวพอๆกับเกาะญี่ปุ่นเอง หลังจากการนั้นก็มีการคายความออกมา ว่า มีทองแท่งมูลค่าประมาณ 2 พันล้านเหรียญ (ในขณะนั้น) อยู่ในเรือ ที่ตั้งใจจมไว้ที่อ่าวหน้าเมืองโตเกียว เป็นทองที่ขนมาจากเกาหลีโดยเครื่องบินของกองทัพอากาศญี่ปุ่น ภายใต้การบัญชาการของผู้ที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ บรรจุไว้ในหีบทองแดง และทิ้งไว้ก้นทะเล เมื่อรู้ว่ารบไม่ชนะ ฝ่ายประสานงานของ SCAP บอกว่า จะขอกู้เอาทองขึ้นเอามาเก็บไว้ที่ธนาคารกลางของญี่ปุ่น เพื่อเอาไว้ช่วยพัฒนาประเทศญี่ปุ่น นายพลแมคบอกไม่มีปัญหา เป็นความตั้งใจของเขาอยู่แล้ว ที่จะดูแลชาวญี่ปุ่น พูดได้หล่อ …. เมื่อนายพลแมคแจ้งไปทางวอชืงตัน มีฝรั่งออกงิ้วว่า ควรส่งทองมาเก็บไว้ที่วอชิงตัน เพื่อเป็นประกันหนี้ให้กลุ่มมอร์แกน ซึ่งญี่ปุ่นยังใช้หนี้ให้ ไม่หมดมากกว่า แต่นายพลแมคไม่เปลี่ยนใจ สรุปว่า จริงๆแล้ว ทองแท่งมีทั้งหมดเท่าไหร่ก็ไม่รู้ และในที่สุดเก็บไว้ที่ไหนบ้างก็ไม่รู้ แต่น่าจะมีคนอมยิ้มพอใจ ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ไม่นานหลังจากนั้น ก็มีการปล่อยตัวท่านอา ประธานมิตซุบิชิ และผู้จัดการใหญ่มิตซุย ออกจากคุก พ้นข้อหาทั้งปวง แค่ จับปลา 3 ตัว ยังได้ผลขนาดนี้ คำสั่ง FEC-230 ก็ต้องรีบออกมาบีบจนหน้าเขียว ตามแผน แล้วเดือนธันวาคม ค.ศ.1948 SCAP ก็สั่งปล่อย นักโทษ A Class (โทษสูงสุด) 17 คน ใน 17 คน มี นาย คิชิ Kishi Nobusuke คงยังจำกัน ไอ้คนหัวแหลม ช่างคิดวิธีให้กองทัพญี่ปุ่น ที่แมนจูเรียหากินร่ำรวย และต่อมา เขาได้เป็นนายกรัฐมนตรี ของญี่ปุ่น คนต่อมาคือ โคดามะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อยากูซ่า และซาซากาวา Sasagawa Ryochi เจ้าพ่อ ยากูซ่าอีกราย ทั้ง 3 คนนี้ ต่อมา ร่วมกันตั้งพรรค รวมพรรค ซื้อนักการเมืองจากคอกอื่น มารวมอยู่ในพรรคที่พวกเขาร่วมกันสร้างคือ พรรค Liberal Democrat Party หรือ LDP และทั้ง 3 คนนี้ ก็เป็นมือที่ชักใย LDP ถึง 50 ปี หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 และนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาถึงปัจจุบัน เกือบทุกคน (90%) คือผู้ที่กลุ่ม 3 คนนี้ หรือผู้ที่สืบทอดอำนาจเขา เป็นผู้เลือก หรือ ให้ความเห็นชอบทั้งนั้น และคงไม่เกินไป ที่จะบอกว่า ด้วยวิธีการนี้ อเมริกาก็คือผู้ปกครองญี่ปุ่น ตั้งแต่วันปล่อยผีขึ้นมาจากนรกนั่นแหละ และคงพอจะทำให้เราเข้าใจว่า ทำไม นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น คนปัจจุบัน นาย ชินโซะ อาเบะ Shinzo Abe ถึงพร้อมใจรับหน้าที่แบกถาด ถ้ารู้ว่าเขาเป็นหลานตาแท้ๆ ของ นาย คิชิ คนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่นให้อเมริกาเข้า และเขาไม่ใช่หลานธรรมดา แต่เป็นหลานรัก ที่ตาเลี้ยงอย่างใกล้ชิด และตั้งใจให้สืบทอดมรดก… ยังมีอีก 3 ใน 17 คนที่ออกมาด้วย คือ Sankichi Takahashi, Shumi Okawa และ Yoshihisa Kuzu Kuzu เป็นอดีตหัวหน้าใหญ่ของสมาคมมังกรดำ Black Dragon Society รุ่นใหญ่กว่าโคดามะ สมาคมมังกรดำ เป็นสมาคมขวาจัด ทำหน้าที่พิทักษ์จักรพรรดิ ที่มีสาขาอยู่ทั่วญี่ปุ่น เน้นสร้างคนรุ่นหนุ่ม ให้มีความรักชาติและ จงรักภักดีต่อจักรพรรดิ เลือดลูกพระอาทิตย์เข้มข้น นาย Toyama Mitsuru ที่ลึกลับ และเป็นคนสนิทของราชวงศ์ และมีเครือข่ายสายลับทั่วญี่ปุ่น เป็นผู้ก่อตั้งสมาคมมังกรดำนี้ขึ้น เมื่อปี ค.ศ.1901 โตยาม่า เป็นหนึ่งในคนธรรมดาไม่กี่คน ที่เป็น แขกรับเชิญที่มีแต่พระราชวงศ์ และบุคคลชั้นสูง ในวันแต่งงานของจักรพรรดิฮิโฮิโตกับจักรพรรดินีนากาโน นายพล Takahashi ก็เป็นนายทหารใหญ่ ที่สังกัดมังกรดำ ส่วนนาย Shumi Okawa นั้น เป็นหัวหน้าสายลับ ที่ข่าวว่า สังกัดราชวงศ์เช่นกัน นายโคดามะ ภายหลัง ทำงานให้กับ CIA ของอเมริกา อย่างใกล้ชิด ผลงาน เข้าตา เมื่ออเมริกาคิดทำสงครามเกาหลี นายโคโดมะ เป็นผู้จัดกองกำลังพิเศษ ให้นายพลแมคไปรบที่เกาหลี แถมไปคุมกองกำลังด้วยตัวเอง ในฐานะผู้ชำนาญพื้นที่ หลังจากความดีความชอบเรื่องสงครามเกาหลี CIA เปลี่ยนเป็นใช้บริการของโคดามะ แบบพนักงานประจำ ไม่ใช่พนักงานชั่วคราว ในเรื่องของการปราบปรามคอมมิวนิสต์ รวมถึงในปี ค.ศ.1949 CIA ให้เขานำกำลังไปช่วย นายพลเจียง ไคเช็ค ปราบชาวฟอร์โมซา ที่เกาะไต้หวัน จนตายเกลื่อน เมื่อออกมาประท้วงการยึดเกาะของกองทัพนายพลเจียง เขาว่า การปราบคราวนั้น มันก็โหดร้ายทารุณ ไม่แพ้เหตุการณ์ที่นานกิง แต่ CIA เก็บหลักฐานจนเกลี้ยงเกลา ส่วนในการไปรบเกาหลี ในปี ค.ศ.1950 นายพลแมค หอบเอา นาย Shiro Ishii อดีตหัวหน้าหน่วย 731 อันลือชื่อ พร้อมด้วยคณะทำงานไปเกาหลีด้วย ในช่วงสงครามเกาหลี ซึ่งจนถึงขณะนี้ สงครามยังไม่จบ แค่สงบศึกกันชั่วคราว นายพลแมค ให้ทดลองปล่อย แมงมุม ตัวหมัด แมลงสาระพัด ซึ่ง ใส่เชื้อโรคไว้ ส่งให้พลเมืองฝ่ายเกาหลีเหนือ ผลปรากฎว่า เกิดโรคระบาด ไข้เหลือง ไทฟอยด์ อหิวาต์ มีชาวบ้านเจ็บป่วยล้มตายเป็นอันมาก ทำให้หลายฝ่ายชื่นชมในผลงานในที่สุด นายชิโร นี่ นอกจากไม่ถูกลงโทษ เขาว่ายังได้เงินรางวัล แลกกับสูตรลับที่อเมริกา หรือร้อกกี้ the great เอาไปเล่นต่อ ส่วนนายซาซากาวา ได้บทใหม่เป็นเจ้าพ่อ ที่ด้านหนึ่ง คุมบ่อนการพนันทั้งเกาะญี่ปุ่น รวมทั้งการแข่งเรือยนตร์ ที่ทำรายได้มหาศาลให้เขา อีกด้าน เขาเดินงานของ MRA ต่อให้กับ CIA เกี่ยวกับเกาหลีใต้ และทำไปจนถึงเรื่อง ตะวันออกกลาง และกลายเป็นเพื่อนรักของอดีตประธานาธิบดี Jimmy Carter และตัวแสบ Henry Kissinger อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศของอเมริกา ซึ่งเป็นคนรับใช้ตัวจริงถาวรของร้อกกี้ the great Dean Atchson ที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศ ที่พรรค Republican ส่งมาดูการทำงานของ SCAP ตั้งแต่ต้น เห็นการทำงานของ SCAP และการ กลับตาลปัตร ของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขารวบรวมเอกสารหลายลัง และตัดสินใจเดินทางกลับวอชิงตัน เพื่อรายงานรัฐบาลด้วยตนเอง เขาเดินทางพร้อมกับคณะทำงาน ด้วยเครื่องบินที่รัฐบาลอเมริกันจัดมาให้ เครื่องบิน เติมน้ำมันไว้เต็มถัง แต่ขณะที่เครื่องบิน บินอยู่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ระหว่างทางไปฮอนโนลูลู ผ่านเกาะ Johnston เครื่องบินเกิดน้ำมันหมดอย่างไม่น่าเชื่อ ระหว่างที่เครื่องบินดิ่งหัวลงทะเล คณะทำงานคนหนึ่งที่รอดตาย เห็น Atcheson ส่ายหน้า แล้วบอกว่า… มันคงช่วยอะไรไม่ได้แล้ว…. (ยังมีบทส่งท้าย นะครับ รออ่านหน่อย กำลังเร่งเครื่องเขียนอยู่ พบกัน พรุ่งนี้ 8 โมงเช้าเหมือนเดิม) สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 31 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 852 มุมมอง 0 รีวิว
  • Jensen Huang ผลักดันการใช้ AI ภายในองค์กร

    Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia กระตุ้นให้พนักงานใช้ AI ให้มากขึ้น โดยกล่าวกับผู้จัดการที่พยายามห้ามว่า “Are you insane?” พร้อมย้ำว่า AI จะไม่มาแทนที่งานของพนักงาน แต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และบริษัทยังคงต้องการคนเพิ่มอีกหลายพันตำแหน่ง

    ในการประชุมพนักงานหลังจาก Nvidia รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ทำสถิติสูงสุด Huang ได้กล่าวว่า ผู้จัดการที่ห้ามลูกทีมใช้ AI กำลังคิดผิด เขาย้ำว่า “ทุกงานที่สามารถทำได้ด้วย AI ควรใช้ AI” และสัญญาว่าพนักงานจะยังมีงานทำ เพราะ AI เป็นเพียงเครื่องมือเสริม ไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนที่มนุษย์ทั้งหมด

    ความกังวลและการยืนยันของซีอีโอ
    แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI จะทำให้คนตกงาน แต่ Huang ยืนยันว่า Nvidia ยังคงจ้างงานต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมาเพิ่มพนักงานกว่า 6,000 คน และยังต้องการอีกประมาณ 10,000 คน เขาเน้นว่า AI จะช่วยให้พนักงานทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่ทำให้คนหมดความจำเป็น

    แนวโน้มในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    ท่าทีของ Huang สอดคล้องกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ Microsoft ที่บังคับใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งของการประเมินพนักงาน ขณะที่ Google ก็สั่งให้วิศวกรใช้ AI ในการเขียนโค้ด และ Amazon มีพนักงานเรียกร้องให้บริษัทนำ AI coding tool มาใช้ การผลักดันนี้สะท้อนว่า AI กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในวงการเทคโนโลยี

    ความเสี่ยงและเสียงเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    แม้ Huang จะให้ความมั่นใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่า AI อาจทำให้เกิดการตกงานจำนวนมาก เช่น ซีอีโอของ Ford เคยกล่าวว่า AI อาจลบครึ่งหนึ่งของงาน white-collar ในสหรัฐฯ และการศึกษาโดย MIT ร่วมกับ Oak Ridge National Laboratory คาดว่า 11.7% ของแรงงาน อาจถูกแทนที่ด้วย AI ในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    คำพูดของ Jensen Huang
    กระตุ้นให้พนักงานใช้ AI มากขึ้น
    ย้ำว่า AI เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่สิ่งแทนที่มนุษย์

    การจ้างงานของ Nvidia
    เพิ่มพนักงานกว่า 6,000 คนในปีที่ผ่านมา
    ต้องการอีกประมาณ 10,000 คน

    แนวโน้มในอุตสาหกรรม
    Meta และ Microsoft บังคับใช้ AI ในการทำงาน
    Google และ Amazon ผลักดันการใช้ AI coding tool

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    AI อาจทำให้ครึ่งหนึ่งของงาน white-collar หายไป
    การศึกษา MIT คาดว่า 11.7% ของแรงงานเสี่ยงถูกแทนที่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidia-ceo-jensen-huang-allegedly-asks-managers-discouraging-ai-use-are-you-insane-assures-employees-their-jobs-arent-at-risk-because-of-ai
    🤖 Jensen Huang ผลักดันการใช้ AI ภายในองค์กร Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia กระตุ้นให้พนักงานใช้ AI ให้มากขึ้น โดยกล่าวกับผู้จัดการที่พยายามห้ามว่า “Are you insane?” พร้อมย้ำว่า AI จะไม่มาแทนที่งานของพนักงาน แต่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และบริษัทยังคงต้องการคนเพิ่มอีกหลายพันตำแหน่ง ในการประชุมพนักงานหลังจาก Nvidia รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ทำสถิติสูงสุด Huang ได้กล่าวว่า ผู้จัดการที่ห้ามลูกทีมใช้ AI กำลังคิดผิด เขาย้ำว่า “ทุกงานที่สามารถทำได้ด้วย AI ควรใช้ AI” และสัญญาว่าพนักงานจะยังมีงานทำ เพราะ AI เป็นเพียงเครื่องมือเสริม ไม่ใช่สิ่งที่จะมาแทนที่มนุษย์ทั้งหมด 📈 ความกังวลและการยืนยันของซีอีโอ แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI จะทำให้คนตกงาน แต่ Huang ยืนยันว่า Nvidia ยังคงจ้างงานต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมาเพิ่มพนักงานกว่า 6,000 คน และยังต้องการอีกประมาณ 10,000 คน เขาเน้นว่า AI จะช่วยให้พนักงานทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ใช่ทำให้คนหมดความจำเป็น 🌍 แนวโน้มในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ท่าทีของ Huang สอดคล้องกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ Microsoft ที่บังคับใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งของการประเมินพนักงาน ขณะที่ Google ก็สั่งให้วิศวกรใช้ AI ในการเขียนโค้ด และ Amazon มีพนักงานเรียกร้องให้บริษัทนำ AI coding tool มาใช้ การผลักดันนี้สะท้อนว่า AI กำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในวงการเทคโนโลยี ⚠️ ความเสี่ยงและเสียงเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ แม้ Huang จะให้ความมั่นใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเตือนว่า AI อาจทำให้เกิดการตกงานจำนวนมาก เช่น ซีอีโอของ Ford เคยกล่าวว่า AI อาจลบครึ่งหนึ่งของงาน white-collar ในสหรัฐฯ และการศึกษาโดย MIT ร่วมกับ Oak Ridge National Laboratory คาดว่า 11.7% ของแรงงาน อาจถูกแทนที่ด้วย AI ในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ คำพูดของ Jensen Huang ➡️ กระตุ้นให้พนักงานใช้ AI มากขึ้น ➡️ ย้ำว่า AI เป็นเครื่องมือ ไม่ใช่สิ่งแทนที่มนุษย์ ✅ การจ้างงานของ Nvidia ➡️ เพิ่มพนักงานกว่า 6,000 คนในปีที่ผ่านมา ➡️ ต้องการอีกประมาณ 10,000 คน ✅ แนวโน้มในอุตสาหกรรม ➡️ Meta และ Microsoft บังคับใช้ AI ในการทำงาน ➡️ Google และ Amazon ผลักดันการใช้ AI coding tool ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ AI อาจทำให้ครึ่งหนึ่งของงาน white-collar หายไป ⛔ การศึกษา MIT คาดว่า 11.7% ของแรงงานเสี่ยงถูกแทนที่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidia-ceo-jensen-huang-allegedly-asks-managers-discouraging-ai-use-are-you-insane-assures-employees-their-jobs-arent-at-risk-because-of-ai
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Meta ซ่อนหนี้ 27 พันล้านผ่านดีลศูนย์ข้อมูล Hyperion”

    Meta Platforms กำลังสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ชื่อ Hyperion ที่ Richland Parish, Louisiana ด้วยมูลค่าลงทุนกว่า 27 พันล้านดอลลาร์ แต่แทนที่จะบันทึกหนี้และสินทรัพย์นี้ในงบการเงินของตนเอง Meta เลือกใช้โครงสร้างร่วมทุนกับ Blue Owl Capital โดยให้บริษัทในเครือ Beignet Investor LLC ถือหุ้น 80% และ Meta ถือเพียง 20%

    แม้ Meta จะถือหุ้นส่วนน้อย แต่บริษัทกลับเป็นผู้จัดการก่อสร้างและผู้เช่าหลักของศูนย์ข้อมูลทั้งหมด พร้อมรับประกันค่าเช่าและมูลค่าทรัพย์สินในอนาคตผ่านสัญญา Residual Value Guarantee (RVG) ซึ่งทำให้โครงการนี้ยังคงผูกพันกับความเสี่ยงของ Meta อย่างเข้มข้น แม้จะไม่ปรากฏในงบการเงินโดยตรง

    การจัดโครงสร้างเช่นนี้ช่วยให้ Meta รักษาอันดับเครดิตและภาพลักษณ์ทางการเงินให้ดู “แข็งแรง” แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการใช้ช่องว่างทางบัญชีเพื่อซ่อนหนี้จริง ๆ ที่บริษัทต้องรับผิดชอบอยู่ดี หากความต้องการศูนย์ข้อมูลลดลงหรือเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ Meta อาจต้องแบกรับภาระมหาศาลที่ไม่เคยถูกเปิดเผยในงบการเงิน

    นอกจากนี้ โครงการ Hyperion ยังสะท้อนการแข่งขันด้าน AI ระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Google และ OpenAI ที่ต่างลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลทั่วโลก การที่ Meta ใช้โครงสร้างทางการเงินเช่นนี้จึงถูกจับตามองว่าเป็นทั้ง “กลยุทธ์เชิงรุก” และ “ความเสี่ยงเชิงซ่อนเร้น” ในเวลาเดียวกัน

    สรุปสาระสำคัญ
    โครงสร้างการลงทุน Hyperion
    Meta ถือหุ้น 20% แต่ Blue Owl Capital ถือ 80% ผ่าน Beignet Investor LLC
    มูลค่าโครงการรวมกว่า 27 พันล้านดอลลาร์

    บทบาทของ Meta
    Meta เป็นผู้จัดการก่อสร้างและผู้เช่าหลักของศูนย์ข้อมูล
    มีสัญญา Residual Value Guarantee เพื่อค้ำประกันมูลค่าทรัพย์สิน

    ผลต่ออันดับเครดิต
    การซ่อนหนี้ช่วยให้ Meta รักษาอันดับเครดิต A+
    ภาพลักษณ์ทางการเงินดูแข็งแรงแม้มีภาระจริง

    ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่
    หากความต้องการศูนย์ข้อมูลลดลง Meta ต้องรับภาระค่าเช่าและหนี้
    ช่องว่างทางบัญชีอาจถูกตรวจสอบหากกฎเกณฑ์เปลี่ยนแปลง

    ผลกระทบระยะยาว
    หากตลาดศูนย์ข้อมูลอิ่มตัว มูลค่าทรัพย์สินอาจต่ำกว่าที่รับประกัน
    อาจกระทบต่อเสถียรภาพการเงินของ Meta ในอนาคต

    https://stohl.substack.com/p/exclusive-credit-report-shows-meta
    🏢 “Meta ซ่อนหนี้ 27 พันล้านผ่านดีลศูนย์ข้อมูล Hyperion” Meta Platforms กำลังสร้างศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ชื่อ Hyperion ที่ Richland Parish, Louisiana ด้วยมูลค่าลงทุนกว่า 27 พันล้านดอลลาร์ แต่แทนที่จะบันทึกหนี้และสินทรัพย์นี้ในงบการเงินของตนเอง Meta เลือกใช้โครงสร้างร่วมทุนกับ Blue Owl Capital โดยให้บริษัทในเครือ Beignet Investor LLC ถือหุ้น 80% และ Meta ถือเพียง 20% แม้ Meta จะถือหุ้นส่วนน้อย แต่บริษัทกลับเป็นผู้จัดการก่อสร้างและผู้เช่าหลักของศูนย์ข้อมูลทั้งหมด พร้อมรับประกันค่าเช่าและมูลค่าทรัพย์สินในอนาคตผ่านสัญญา Residual Value Guarantee (RVG) ซึ่งทำให้โครงการนี้ยังคงผูกพันกับความเสี่ยงของ Meta อย่างเข้มข้น แม้จะไม่ปรากฏในงบการเงินโดยตรง การจัดโครงสร้างเช่นนี้ช่วยให้ Meta รักษาอันดับเครดิตและภาพลักษณ์ทางการเงินให้ดู “แข็งแรง” แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่าเป็นการใช้ช่องว่างทางบัญชีเพื่อซ่อนหนี้จริง ๆ ที่บริษัทต้องรับผิดชอบอยู่ดี หากความต้องการศูนย์ข้อมูลลดลงหรือเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจ Meta อาจต้องแบกรับภาระมหาศาลที่ไม่เคยถูกเปิดเผยในงบการเงิน นอกจากนี้ โครงการ Hyperion ยังสะท้อนการแข่งขันด้าน AI ระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น Google และ OpenAI ที่ต่างลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลทั่วโลก การที่ Meta ใช้โครงสร้างทางการเงินเช่นนี้จึงถูกจับตามองว่าเป็นทั้ง “กลยุทธ์เชิงรุก” และ “ความเสี่ยงเชิงซ่อนเร้น” ในเวลาเดียวกัน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ โครงสร้างการลงทุน Hyperion ➡️ Meta ถือหุ้น 20% แต่ Blue Owl Capital ถือ 80% ผ่าน Beignet Investor LLC ➡️ มูลค่าโครงการรวมกว่า 27 พันล้านดอลลาร์ ✅ บทบาทของ Meta ➡️ Meta เป็นผู้จัดการก่อสร้างและผู้เช่าหลักของศูนย์ข้อมูล ➡️ มีสัญญา Residual Value Guarantee เพื่อค้ำประกันมูลค่าทรัพย์สิน ✅ ผลต่ออันดับเครดิต ➡️ การซ่อนหนี้ช่วยให้ Meta รักษาอันดับเครดิต A+ ➡️ ภาพลักษณ์ทางการเงินดูแข็งแรงแม้มีภาระจริง ‼️ ความเสี่ยงที่ซ่อนอยู่ ⛔ หากความต้องการศูนย์ข้อมูลลดลง Meta ต้องรับภาระค่าเช่าและหนี้ ⛔ ช่องว่างทางบัญชีอาจถูกตรวจสอบหากกฎเกณฑ์เปลี่ยนแปลง ‼️ ผลกระทบระยะยาว ⛔ หากตลาดศูนย์ข้อมูลอิ่มตัว มูลค่าทรัพย์สินอาจต่ำกว่าที่รับประกัน ⛔ อาจกระทบต่อเสถียรภาพการเงินของ Meta ในอนาคต https://stohl.substack.com/p/exclusive-credit-report-shows-meta
    STOHL.SUBSTACK.COM
    EXCLUSIVE: Credit Report Shows Meta Keeping $27 Billion Off Its Books Through Advanced Geometry
    FSG LLC’s preliminary rating explains how a data center and selective eyesight create a perfectly legal accounting miracle.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 13
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” 

    ตอน 13
    หลังจากซุนยัดเซ็นตาย เจียงไคเช็คก็ขึ้นมาหัวหน้าใหญ่ของพรรคจีนก๊กมินตั๋ง เจียงเริ่มพองตัวใหญ่ขึ้น เขาเริ่มปราบพวกเจ้าพ่อก๊กต่างๆ แม้ ในตอนแรก เขาจะยังร่วมงานกับพรรคคอมมิวนิสต์ แต่พอถึงปี ค.ศ.1927 ทั้ง 2 ฝ่ายก็ออกอาการ มีการขบเขี้ยวใส่กันอยู่ตลอดเวลา ทำท่าว่าจะไปกันไม่รอด แล้วเจียงก็ไล่ที่ปรึกษาโซเวียตกลับบ้าน หลังจากนั้นก็เริ่มใช้กำลังและความรุนแรงคุยกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ไม่นานจีนก๊กมินตั๋งกับจีนคอมมิวนิสต์ก็แยกทางกันเดิน
    อะไร ทำให้เจียงเปลี่ยนแนวทางจนเดินทางเดียวกับจีนคอมมิวนิสต์ไม่ได้
    มาดูประวัติ และเส้นทางชีวิตของเขาหน่อย
    เจียงไคเช็ค เกิดเมื่อ ปี ค.ศ.1887 ในหมู่บ้านทางตะวันออกของจีน พ่อตายก่อน แม่เป็นคนเลี้ยงเขามา พออายุ 14 หนุ่มเจียง ก็มีเมียคนแรก พออายุ 18 ก็เดินทางไปเข้าโรงเรียนทหารที่โตเกียว เขาบอกว่า เขาชอบความมีวินัยของกองทัพญี่ปุ่น ถึงปี ค.ศ.1911 เจียง ก็กลับมาจีน และเข้าร่วมกับก๊กมินตั๋ง ได้เป็นทหารติดตามซุนยัดเซ็น แต่พอซุนยัดเซ็นลี้ภัยไปอยู่ญี่ปุ่น เขาก็ไม่ได้ตามไปด้วย
    เมื่อซุนยัดเซ็น กลับมาฟื้นก๊กมินตั๋ง เจียงก็กลับมาติดตามซุนยัดเซ็นต่อ ระหว่าง นั้นเจียงก็สร้างเครือข่ายอิทธิพลของต้วเองไปด้วย เมื่อซุนยัดเซ็นเสียชีวิต ในปี ค.ศ.1925 เจียงขึ้นมาเป็นหัวหน้าก๊กมินตั๋งแทน และในปี ค.ศ.1926 เขาก็แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ต่อมาภายหลังโด่งดัง มีอำนาจคับโลก หล่อนคือ เมย์-หลิง ซ่ง May-ling Soong ลูกสาวอีกคนหนึ่งของเศรษฐีใหญ่ ชาลี ซ่ง ที่คุ้นเคยกับซุนยัดเซ็น นั่นเอง เจียงลงทุนเข้ารีต เปลี่ยนไปนับถือคริสเตียนตามเมียไฮโซ
    ชาลี ซ่ง Charlie Soong เป็นชาวจีนที่โตมากับพวกมิชชันนารีในจีนที่ไหหลำ ทางใต้ของจีน พวกมิชชั่นนารีส่งเขาไปเรียนหนังสือที่อเมริกา หลังจากนั้น ชาลี ก็เข้ารีตเป็นคริสเตียน และเปลี่ยนชื่อเป็นฝรั่ง เมื่อชาลีเรียนมหาวิทยาลัยจบ ก็กลับมาจีน และปักหลักทำธุรกิจอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ แดนฝรั่งในจีน
    เขาเรื่มธุรกิจด้วยการพิมพ์คัมภีร์ไบเบิลขาย จนมีฐานะ และต่อมาก็ถือว่า เป็นเศรษฐีคนหนึ่ง เขามีลูกสาว 3 คน ลูกชาย 3 คน ลูกชายลูกสาว ทุกคนถูกส่งไปเรียนหนังสือที่อเมริกา ตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบ ทุกคนจบมหาวิทยาลัยชั้นดีในอเมริกา ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ดีกว่าภาษาจีน ลูกสาวคนหนึ่ง ชิง-หลิง ไปช่วยทำงานให้ซุนยัดเซ็น ในที่สุดก็รักกัน และไปอยู่กินกับซุนยัดเซ็น เมื่อซุนยัดเซ็นลี้ภัยไปอยู่ญี่ปุ่น ชิง-หลิง ก็ตามไปด้วย ซึ่งทำให้ชาลีไม่พอใจอย่างยิ่ง ถึงขนาดตัดขาดกับทั้ง 2 คน
    แต่เมื่อได้ลูกเขยชื่อเจียงไคเช็ค ชาลี ซ่ง กลับปลาบปลื้ม และทำธุรกิจร่วมกัน ไม่ใช่เฉพาะที่เซี่ยงไฮ้ แต่ขยายไปทั่ว เมื่อเจียงไคเช็คพาพรรคพวกหนีพรรคคอมมิวนิสต์ ไปอยู่ไต้หวัน และตั้งตัวเป็นประธานาธิบดี ลูกชายของ ชาลีคนหนึ่ง ชื่อ เซ-เวน Tse-ven แต่เจ้าตัวและพวกฝรั่งเรียกว่า T V ทีวี ก็ไปทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีคลังให้แก่น้องเขย และเป็นอยู่หลายสมัย เลยยิ่งรวยกันใหญ่
    จริงๆ T V ทำหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัวให้แก่ซุนยัดเซ็นมาก่อน ตั้งแต่สมัยที่ซุนยัดเซ็นปักหลักเริ่มวางแผนอยู่แถวเซี่ยงไฮ้ ในปี ค.ศ.1917 นาย ทีวี นี่จบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาด และนิยมทุกอย่างที่เกี่ยวกับอเมริกา เมื่อย้ายมาทำงานให้เขยอีกคนคือ เจียง นอกจากได้เป็นรัฐมนตรีคลังแล้ว นายทีวี ยังเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวัน และเป็นผู้ก่อตั้งสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของไต้หวัน เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นายทีวี ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างไต้หวันกับอเมริกาโดยเป็นผู้ติดต่อโดยตรงกับประธานาธิบดี Roosevelt ของอเมริกา รูปแบบคุ้นๆ จัง
    ตัวแปรสำคัญที่ทำให้เส้นทางเดินของ เจียงไคเช็ค เปลี่ยนจุดหมาย เลี้ยวออกจากที่เคยเดินไปทางเดียวกับซุนยัดเซ็น น่าจะเป็น ตระกูลซ่ง ตั้งแต่ ตัวพ่อ ลูกสาว และลูกชาย
    จากประวัติของ ชาลี ซ่ง ที่เป็นเด็กเลี้ยงของมิชชั่นนารีคริสเตียน และภายหลัง เห็นชัดว่าเป็นเด็กสร้างของอเมริกา อเมริกาจึงน่าจะเป็นผู้จัดการให้ ชาลี ซ่ง และครอบครัว มาทำหน้าที่ ทำงานคัดท้าย จนถึงครอบงำผู้ที่จะมาทำการปกครองจีน หลังจากราชวงศ์ชิงล่ม ตามแผนครอบครองจีนของอเมริกา และเพื่อให้เป็นไปตามแผน ที่ผลสรุป ของตัวแสดงยังออกมาไม่ชัด อเมริกาจึงต้องซื้อไพ่ชื่อ ซุนยัดเซน และเจียงไคเช็ค ทั้ง 2ใบ และให้มีการประกบใกล้ชิด ทั้ง 2 ใบ มันเป็นงานใหญ่ ที่ต้องใช้กันทั้งครอบครัว และอาจจะทั้งตระกูล และใช้เวลาหลายชั่วชีวิตคน อย่างที่เราจะนึกไม่ถึง นี่คือต้นแบบของหนอนใน ที่ฝรั่งใช้เอามาฝังไว้ในประเทศต่างๆ แม้ในแดนสยามก็ยังมี และยังใช้อยู่
    มันเป็นการมองการณ์ไกลของผู้สร้าง ชาลี ซ่ง และครอบครัว บวกความทะเยอทะยานของครอบครัว ชาลี ซ่ง ผสมกัน ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก ยอมเป็นขี้ข้าให้ฝรั่งใช้ในประเทศตนเอง นี่มันต้องใช้หลายอย่าง แต่ที่ไม่ใช้คือ ความรัก ความกตัญญูต่อแผ่นดินเกิดของตนเอง และความมีศักดิ์ศรีในชนชาติของตน
    ส่วนเรื่องของซุนยัดเซ็น น่าเชื่อว่า ซุนยัดเซ็นมีอุดมการณ์จริงตั้งแต่เริ่มแรก ที่ต้องการไล่ราชวงศ์ชิงที่เหลวเละและยอมฝรั่ง และไล่พวกฝรั่งให้พ้นไปจากจีน และอังกฤษเอง ก็น่าจะรู้เป้าหมายของซุนยัดเซ็นอยู่แล้ว แต่อังกฤษคงปล่อยให้ซุนยัดเซ็นเล่นไประดับหนึ่ง เพื่อไล่ราชวงศ์ชิง เพราะ ถ้าราชวงศ์ชิงร่วงไป ก็เป็นประโยชน์กับอังกฤษเช่นกัน
    ส่วนการปล่อยให้ ซุนยัดเซ็น มาอยู่ญี่ปุ่น ที่อังกฤษ รวมทั้งอเมริกา เอาตาข่ายคลุมไว้หมดแล้ว เพื่อให้เส้นสายของตน ทั้งตามดูและควบคุม ก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่เมื่อมีการปฏิวัติสำเร็จ และซุนยัดเซ็นได้รับการสนับสนุนจากประชาชนให้เป็นประธานาธิบดี และตั้งสาธารณรัฐ ฝ่ายอังกฤษจึงเห็นว่า ผิดท่า ชาวจีนสนับสนุนมากไป และน่าจะมีอเมริกามาเกี่ยวข้อง การที่อังกฤษจะไปคาบจีนกลับมา จึงอาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด มันก็เป็นแนวคิดเดียวกันกับการใช้ญี่ปุ่นรวนจีน แต่ไม่ได้ยกจีนให้ญี่ปุ่น อังกฤษปล่อย หรือ อาจจะสนับสนุนทางอ้อม ให้ซุนยัดเซ็นไล่ราชวงศ์ชิง แต่ไม่ได้หมายความว่ายกจีนให้ ซุนยัดเซ็น
    นี่คือสันดานที่แท้จริงของอังกฤษ “แค่ใช้ ไม่ใช่ ยกให้” ยวนชีไข่ จึงได้ใบสั่งให้มาเข้าฉากชั่วคราว เพราะอังกฤษยังไม่ว่างมาจัดการเอง เพราะช่วงนั้นกำลังวุ่นอยู่กับการแบ่งเค้กตะวันออกกลาง ที่ได้มาจากการทำสงครามโลก ครั้งที่ 1
    ขณะเดียวกัน ซุนยัดเซ็นจะเป็นเด็กสร้าง หรือรับใบสั่งของอเมริกา หรือไม่ ก็น่าคิด แต่ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น อเมริกาน่าจะเกาะติด และประกบซุนยัดเซ็น ไม่ต่างกับอังกฤษ หรือยิ่งกว่า อเมริกามีแต่ได้ ไม่มีเสีย ถ้าซุนยัดเซ็นโค่นราชวงศ์ชิงไปได้ ไล่อังกฤษออกจากจีน มันเป็นการเปิดทางเข้าให้อเมริกาทั้งนั้น ชาลี ซ่ง และครอบครัว จึงถูกส่งมาประกบ ไม่ให้ซุนยัดเซ็นหลุดเส้นทาง และหลุดมือ
    แต่การที่ ซุนยัดเซ็น เอง ที่เดินหมากเหมือนไม่ตามแผน เช่น การไปตกปากสัญญาจะยกสัมปทานในจีน ให้คนจีนโพ้นทะเล เป็นการชักจูงให้กลับมาอยู่ในประเทศ มาช่วยกันสร้างประเทศดีกว่าให้ฝรั่งมาเอาไป น่าจะบอกความในใจของซุนยัดเซ็นได้พอสมควร ดูๆไป ก็เหมือน ซุนยัดเซ็น เล่นละครหลอกฝรั่ง ทั้งอังกฤษ อเมริกา และอาจจะญี่ปุ่นด้วย เขาแสดงตัวว่า คบทั้ง อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เยอรมัน ทั้งคนดี คนชั่ว แต่ที่สำคัญ การมาคบกับโซเวียต นี่น่าจะเป็นเหตุใหญ่ ให้อเมริกา ที่เล่นไพ่ไว้ทั้ง 2 ใบ จึงทิ้งไพ่ เหลือเพียงใบเดียว หันมาสนับสนุน เจียงไคเช็ค ที่ชัดเจนว่าอยู่ในมืออเมริกา อย่างเต็มที่ มันเป็นรูปแบบที่อเมริกา ถนัดเล่น เล่นอย่างนี้ ทุกที่ ทุกสมัย
     
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    24 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 13 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”  ตอน 13 หลังจากซุนยัดเซ็นตาย เจียงไคเช็คก็ขึ้นมาหัวหน้าใหญ่ของพรรคจีนก๊กมินตั๋ง เจียงเริ่มพองตัวใหญ่ขึ้น เขาเริ่มปราบพวกเจ้าพ่อก๊กต่างๆ แม้ ในตอนแรก เขาจะยังร่วมงานกับพรรคคอมมิวนิสต์ แต่พอถึงปี ค.ศ.1927 ทั้ง 2 ฝ่ายก็ออกอาการ มีการขบเขี้ยวใส่กันอยู่ตลอดเวลา ทำท่าว่าจะไปกันไม่รอด แล้วเจียงก็ไล่ที่ปรึกษาโซเวียตกลับบ้าน หลังจากนั้นก็เริ่มใช้กำลังและความรุนแรงคุยกับเพื่อนร่วมอุดมการณ์ ไม่นานจีนก๊กมินตั๋งกับจีนคอมมิวนิสต์ก็แยกทางกันเดิน อะไร ทำให้เจียงเปลี่ยนแนวทางจนเดินทางเดียวกับจีนคอมมิวนิสต์ไม่ได้ มาดูประวัติ และเส้นทางชีวิตของเขาหน่อย เจียงไคเช็ค เกิดเมื่อ ปี ค.ศ.1887 ในหมู่บ้านทางตะวันออกของจีน พ่อตายก่อน แม่เป็นคนเลี้ยงเขามา พออายุ 14 หนุ่มเจียง ก็มีเมียคนแรก พออายุ 18 ก็เดินทางไปเข้าโรงเรียนทหารที่โตเกียว เขาบอกว่า เขาชอบความมีวินัยของกองทัพญี่ปุ่น ถึงปี ค.ศ.1911 เจียง ก็กลับมาจีน และเข้าร่วมกับก๊กมินตั๋ง ได้เป็นทหารติดตามซุนยัดเซ็น แต่พอซุนยัดเซ็นลี้ภัยไปอยู่ญี่ปุ่น เขาก็ไม่ได้ตามไปด้วย เมื่อซุนยัดเซ็น กลับมาฟื้นก๊กมินตั๋ง เจียงก็กลับมาติดตามซุนยัดเซ็นต่อ ระหว่าง นั้นเจียงก็สร้างเครือข่ายอิทธิพลของต้วเองไปด้วย เมื่อซุนยัดเซ็นเสียชีวิต ในปี ค.ศ.1925 เจียงขึ้นมาเป็นหัวหน้าก๊กมินตั๋งแทน และในปี ค.ศ.1926 เขาก็แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ต่อมาภายหลังโด่งดัง มีอำนาจคับโลก หล่อนคือ เมย์-หลิง ซ่ง May-ling Soong ลูกสาวอีกคนหนึ่งของเศรษฐีใหญ่ ชาลี ซ่ง ที่คุ้นเคยกับซุนยัดเซ็น นั่นเอง เจียงลงทุนเข้ารีต เปลี่ยนไปนับถือคริสเตียนตามเมียไฮโซ ชาลี ซ่ง Charlie Soong เป็นชาวจีนที่โตมากับพวกมิชชันนารีในจีนที่ไหหลำ ทางใต้ของจีน พวกมิชชั่นนารีส่งเขาไปเรียนหนังสือที่อเมริกา หลังจากนั้น ชาลี ก็เข้ารีตเป็นคริสเตียน และเปลี่ยนชื่อเป็นฝรั่ง เมื่อชาลีเรียนมหาวิทยาลัยจบ ก็กลับมาจีน และปักหลักทำธุรกิจอยู่ที่เซี่ยงไฮ้ แดนฝรั่งในจีน เขาเรื่มธุรกิจด้วยการพิมพ์คัมภีร์ไบเบิลขาย จนมีฐานะ และต่อมาก็ถือว่า เป็นเศรษฐีคนหนึ่ง เขามีลูกสาว 3 คน ลูกชาย 3 คน ลูกชายลูกสาว ทุกคนถูกส่งไปเรียนหนังสือที่อเมริกา ตั้งแต่อายุสิบกว่าขวบ ทุกคนจบมหาวิทยาลัยชั้นดีในอเมริกา ใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารได้ดีกว่าภาษาจีน ลูกสาวคนหนึ่ง ชิง-หลิง ไปช่วยทำงานให้ซุนยัดเซ็น ในที่สุดก็รักกัน และไปอยู่กินกับซุนยัดเซ็น เมื่อซุนยัดเซ็นลี้ภัยไปอยู่ญี่ปุ่น ชิง-หลิง ก็ตามไปด้วย ซึ่งทำให้ชาลีไม่พอใจอย่างยิ่ง ถึงขนาดตัดขาดกับทั้ง 2 คน แต่เมื่อได้ลูกเขยชื่อเจียงไคเช็ค ชาลี ซ่ง กลับปลาบปลื้ม และทำธุรกิจร่วมกัน ไม่ใช่เฉพาะที่เซี่ยงไฮ้ แต่ขยายไปทั่ว เมื่อเจียงไคเช็คพาพรรคพวกหนีพรรคคอมมิวนิสต์ ไปอยู่ไต้หวัน และตั้งตัวเป็นประธานาธิบดี ลูกชายของ ชาลีคนหนึ่ง ชื่อ เซ-เวน Tse-ven แต่เจ้าตัวและพวกฝรั่งเรียกว่า T V ทีวี ก็ไปทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีคลังให้แก่น้องเขย และเป็นอยู่หลายสมัย เลยยิ่งรวยกันใหญ่ จริงๆ T V ทำหน้าที่เป็นเลขาส่วนตัวให้แก่ซุนยัดเซ็นมาก่อน ตั้งแต่สมัยที่ซุนยัดเซ็นปักหลักเริ่มวางแผนอยู่แถวเซี่ยงไฮ้ ในปี ค.ศ.1917 นาย ทีวี นี่จบจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาด และนิยมทุกอย่างที่เกี่ยวกับอเมริกา เมื่อย้ายมาทำงานให้เขยอีกคนคือ เจียง นอกจากได้เป็นรัฐมนตรีคลังแล้ว นายทีวี ยังเป็นผู้ว่าการธนาคารกลางไต้หวัน และเป็นผู้ก่อตั้งสภาเศรษฐกิจแห่งชาติของไต้หวัน เมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 นายทีวี ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างไต้หวันกับอเมริกาโดยเป็นผู้ติดต่อโดยตรงกับประธานาธิบดี Roosevelt ของอเมริกา รูปแบบคุ้นๆ จัง ตัวแปรสำคัญที่ทำให้เส้นทางเดินของ เจียงไคเช็ค เปลี่ยนจุดหมาย เลี้ยวออกจากที่เคยเดินไปทางเดียวกับซุนยัดเซ็น น่าจะเป็น ตระกูลซ่ง ตั้งแต่ ตัวพ่อ ลูกสาว และลูกชาย จากประวัติของ ชาลี ซ่ง ที่เป็นเด็กเลี้ยงของมิชชั่นนารีคริสเตียน และภายหลัง เห็นชัดว่าเป็นเด็กสร้างของอเมริกา อเมริกาจึงน่าจะเป็นผู้จัดการให้ ชาลี ซ่ง และครอบครัว มาทำหน้าที่ ทำงานคัดท้าย จนถึงครอบงำผู้ที่จะมาทำการปกครองจีน หลังจากราชวงศ์ชิงล่ม ตามแผนครอบครองจีนของอเมริกา และเพื่อให้เป็นไปตามแผน ที่ผลสรุป ของตัวแสดงยังออกมาไม่ชัด อเมริกาจึงต้องซื้อไพ่ชื่อ ซุนยัดเซน และเจียงไคเช็ค ทั้ง 2ใบ และให้มีการประกบใกล้ชิด ทั้ง 2 ใบ มันเป็นงานใหญ่ ที่ต้องใช้กันทั้งครอบครัว และอาจจะทั้งตระกูล และใช้เวลาหลายชั่วชีวิตคน อย่างที่เราจะนึกไม่ถึง นี่คือต้นแบบของหนอนใน ที่ฝรั่งใช้เอามาฝังไว้ในประเทศต่างๆ แม้ในแดนสยามก็ยังมี และยังใช้อยู่ มันเป็นการมองการณ์ไกลของผู้สร้าง ชาลี ซ่ง และครอบครัว บวกความทะเยอทะยานของครอบครัว ชาลี ซ่ง ผสมกัน ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังหรอก ยอมเป็นขี้ข้าให้ฝรั่งใช้ในประเทศตนเอง นี่มันต้องใช้หลายอย่าง แต่ที่ไม่ใช้คือ ความรัก ความกตัญญูต่อแผ่นดินเกิดของตนเอง และความมีศักดิ์ศรีในชนชาติของตน ส่วนเรื่องของซุนยัดเซ็น น่าเชื่อว่า ซุนยัดเซ็นมีอุดมการณ์จริงตั้งแต่เริ่มแรก ที่ต้องการไล่ราชวงศ์ชิงที่เหลวเละและยอมฝรั่ง และไล่พวกฝรั่งให้พ้นไปจากจีน และอังกฤษเอง ก็น่าจะรู้เป้าหมายของซุนยัดเซ็นอยู่แล้ว แต่อังกฤษคงปล่อยให้ซุนยัดเซ็นเล่นไประดับหนึ่ง เพื่อไล่ราชวงศ์ชิง เพราะ ถ้าราชวงศ์ชิงร่วงไป ก็เป็นประโยชน์กับอังกฤษเช่นกัน ส่วนการปล่อยให้ ซุนยัดเซ็น มาอยู่ญี่ปุ่น ที่อังกฤษ รวมทั้งอเมริกา เอาตาข่ายคลุมไว้หมดแล้ว เพื่อให้เส้นสายของตน ทั้งตามดูและควบคุม ก็เป็นเรื่องเข้าใจได้ แต่เมื่อมีการปฏิวัติสำเร็จ และซุนยัดเซ็นได้รับการสนับสนุนจากประชาชนให้เป็นประธานาธิบดี และตั้งสาธารณรัฐ ฝ่ายอังกฤษจึงเห็นว่า ผิดท่า ชาวจีนสนับสนุนมากไป และน่าจะมีอเมริกามาเกี่ยวข้อง การที่อังกฤษจะไปคาบจีนกลับมา จึงอาจจะไม่ง่ายอย่างที่คิด มันก็เป็นแนวคิดเดียวกันกับการใช้ญี่ปุ่นรวนจีน แต่ไม่ได้ยกจีนให้ญี่ปุ่น อังกฤษปล่อย หรือ อาจจะสนับสนุนทางอ้อม ให้ซุนยัดเซ็นไล่ราชวงศ์ชิง แต่ไม่ได้หมายความว่ายกจีนให้ ซุนยัดเซ็น นี่คือสันดานที่แท้จริงของอังกฤษ “แค่ใช้ ไม่ใช่ ยกให้” ยวนชีไข่ จึงได้ใบสั่งให้มาเข้าฉากชั่วคราว เพราะอังกฤษยังไม่ว่างมาจัดการเอง เพราะช่วงนั้นกำลังวุ่นอยู่กับการแบ่งเค้กตะวันออกกลาง ที่ได้มาจากการทำสงครามโลก ครั้งที่ 1 ขณะเดียวกัน ซุนยัดเซ็นจะเป็นเด็กสร้าง หรือรับใบสั่งของอเมริกา หรือไม่ ก็น่าคิด แต่ไม่น่าจะเป็นเช่นนั้น อเมริกาน่าจะเกาะติด และประกบซุนยัดเซ็น ไม่ต่างกับอังกฤษ หรือยิ่งกว่า อเมริกามีแต่ได้ ไม่มีเสีย ถ้าซุนยัดเซ็นโค่นราชวงศ์ชิงไปได้ ไล่อังกฤษออกจากจีน มันเป็นการเปิดทางเข้าให้อเมริกาทั้งนั้น ชาลี ซ่ง และครอบครัว จึงถูกส่งมาประกบ ไม่ให้ซุนยัดเซ็นหลุดเส้นทาง และหลุดมือ แต่การที่ ซุนยัดเซ็น เอง ที่เดินหมากเหมือนไม่ตามแผน เช่น การไปตกปากสัญญาจะยกสัมปทานในจีน ให้คนจีนโพ้นทะเล เป็นการชักจูงให้กลับมาอยู่ในประเทศ มาช่วยกันสร้างประเทศดีกว่าให้ฝรั่งมาเอาไป น่าจะบอกความในใจของซุนยัดเซ็นได้พอสมควร ดูๆไป ก็เหมือน ซุนยัดเซ็น เล่นละครหลอกฝรั่ง ทั้งอังกฤษ อเมริกา และอาจจะญี่ปุ่นด้วย เขาแสดงตัวว่า คบทั้ง อเมริกา อังกฤษ ญี่ปุ่น เยอรมัน ทั้งคนดี คนชั่ว แต่ที่สำคัญ การมาคบกับโซเวียต นี่น่าจะเป็นเหตุใหญ่ ให้อเมริกา ที่เล่นไพ่ไว้ทั้ง 2 ใบ จึงทิ้งไพ่ เหลือเพียงใบเดียว หันมาสนับสนุน เจียงไคเช็ค ที่ชัดเจนว่าอยู่ในมืออเมริกา อย่างเต็มที่ มันเป็นรูปแบบที่อเมริกา ถนัดเล่น เล่นอย่างนี้ ทุกที่ ทุกสมัย   สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 24 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 616 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการ ขึ้นกล่าวบนเวที " ความจริงมีหนึ่งเดียว" ครั้งที่ 5 ปี 2568 หัวข้อ "ไทยแลนด์แดนสแกมเมอร์" ฉายภาพเมืองไทยเป็นดินแดนแห่งสแกมเมอร์ ยกความหมายคำ"สแกมเมอร์" หมายถึง การโกหกหลอกลวงเพื่อเอาผลประโยชน์เข้าหาตัวเอง สแกมเมอร์อยู่ในทุกองคาพยพของสังคมไทย
    ยกความจริงให้เห็นชัดเจน ทั้งพระสงฆ์หลอกเอาเงินประชาชน พรรคการเมืองต่างๆ ที่ล้วนไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้ตอนหาเสียง อาทิ พรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าจะปรับเงินเดือน 20,000 บาท พรรคภูมิใจไทย ที่ออกโครงการคนละครึ่ง พลัส บอกว่ารัฐบาลออกเงินให้ครึ่งหนึ่ง แต่ที่จริงเป็นเงินที่มาจากภาษีของประชาชน ไปจนถึงหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น กรมที่ดิน และตำรวจ เปิดความจริงกัมพูชาประเทศศูนย์รวมสแกมเมอร์ระดับโลก
    นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการ ขึ้นกล่าวบนเวที " ความจริงมีหนึ่งเดียว" ครั้งที่ 5 ปี 2568 หัวข้อ "ไทยแลนด์แดนสแกมเมอร์" ฉายภาพเมืองไทยเป็นดินแดนแห่งสแกมเมอร์ ยกความหมายคำ"สแกมเมอร์" หมายถึง การโกหกหลอกลวงเพื่อเอาผลประโยชน์เข้าหาตัวเอง สแกมเมอร์อยู่ในทุกองคาพยพของสังคมไทย ยกความจริงให้เห็นชัดเจน ทั้งพระสงฆ์หลอกเอาเงินประชาชน พรรคการเมืองต่างๆ ที่ล้วนไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้ตอนหาเสียง อาทิ พรรคเพื่อไทย ที่บอกว่าจะปรับเงินเดือน 20,000 บาท พรรคภูมิใจไทย ที่ออกโครงการคนละครึ่ง พลัส บอกว่ารัฐบาลออกเงินให้ครึ่งหนึ่ง แต่ที่จริงเป็นเงินที่มาจากภาษีของประชาชน ไปจนถึงหน่วยงานราชการต่างๆ เช่น กรมที่ดิน และตำรวจ เปิดความจริงกัมพูชาประเทศศูนย์รวมสแกมเมอร์ระดับโลก
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 639 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • "Valve ทำรายได้ต่อพนักงานสูงสุดในโลกเกม – เกือบ 50 ล้านดอลลาร์ต่อคน"

    รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า Valve มีพนักงานเพียงประมาณ 350 คน แต่สามารถสร้างรายได้รวมกว่า 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดย Steam แพลตฟอร์มขายเกมออนไลน์ของบริษัททำรายได้ไปแล้วกว่า 16.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.7% จากปี 2024 ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของโมเดลธุรกิจที่เน้นการกระจายเกมดิจิทัลและการหักส่วนแบ่งจากเกมยอดนิยมอย่าง Counter-Strike 2 และ Dota 2

    โครงสร้างองค์กรที่ไม่เหมือนใคร
    หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ โครงสร้างองค์กรแบบแบน (flat structure) ของ Valve ที่ไม่มีผู้จัดการหรือ C-suite executives ทุกคนทำงานร่วมกันในฐานะทีมเท่าเทียมกัน ทำให้บริษัทสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วและยืดหยุ่น นอกจากนี้ Valve ยังเป็นบริษัทเอกชนที่ไม่ต้องตอบสนองต่อผู้ถือหุ้น ทำให้สามารถนำกำไรกลับคืนสู่พนักงานได้มากขึ้น โดยมีข้อมูลรั่วไหลว่า Valve ใช้เงินกว่า 450 ล้านดอลลาร์จ่ายเงินเดือน เฉลี่ยมากกว่า 1.3 ล้านดอลลาร์ต่อคน

    ผลงานและนวัตกรรมที่สร้างชื่อ
    Valve ไม่เพียงแต่สร้างรายได้มหาศาล แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเกม เช่น
    การเปิดตัว Steam ที่ปฏิวัติการซื้อขายเกมดิจิทัล
    การสร้างเกมดังอย่าง Counter-Strike, Dota 2, Left 4 Dead
    การเปิดตัว Steam Deck (2022) ที่ช่วยฟื้นตลาดเครื่องเกมพกพา
    แผนเปิดตัว Steam Machine (2026) ที่จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ PC gaming

    เปรียบเทียบกับบริษัทอื่น
    แม้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ จะมีรายได้ต่อพนักงานสูง แต่ก็ยังไม่ใกล้เคียงกับ Valve เช่น
    McKesson (Healthcare): 8.2 ล้านดอลลาร์ต่อพนักงาน
    Apple: 2.4 ล้านดอลลาร์ต่อพนักงาน
    Meta (Facebook): 1.9 ล้านดอลลาร์ต่อพนักงาน

    Valve จึงถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    รายได้ต่อพนักงาน
    Valve ทำรายได้เฉลี่ยเกือบ 50 ล้านดอลลาร์ต่อคน
    มีพนักงานเพียง ~350 คน แต่สร้างรายได้รวมกว่า 17 พันล้านดอลลาร์

    โครงสร้างองค์กร
    ใช้โครงสร้างแบบแบน ไม่มีผู้จัดการ
    เป็นบริษัทเอกชน จึงคืนกำไรให้พนักงานมากกว่า 1.3 ล้านดอลลาร์ต่อคน

    ผลงานสำคัญ
    Steam ปฏิวัติการซื้อขายเกมดิจิทัล
    เกมดัง: Counter-Strike, Dota 2, Left 4 Dead
    Steam Deck ฟื้นตลาดเกมพกพา และ Steam Machine กำลังจะมาในปี 2026

    คำเตือนจากข้อมูลข่าว
    Valve เคยถูกวิจารณ์เรื่อง loot boxes ที่ส่งผลต่อผู้เล่น
    การพึ่งพา Steam เป็นหลักอาจทำให้บริษัทเสี่ยงหากตลาดเปลี่ยนแปลง

    https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/valve-makes-almost-usd50-million-per-employee-raking-in-more-cash-per-person-than-google-amazon-or-microsoft-gaming-giants-350-employees-on-track-to-generate-usd17-billion-this-year
    📰 "Valve ทำรายได้ต่อพนักงานสูงสุดในโลกเกม – เกือบ 50 ล้านดอลลาร์ต่อคน" รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า Valve มีพนักงานเพียงประมาณ 350 คน แต่สามารถสร้างรายได้รวมกว่า 17 พันล้านดอลลาร์ในปี 2025 โดย Steam แพลตฟอร์มขายเกมออนไลน์ของบริษัททำรายได้ไปแล้วกว่า 16.2 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 5.7% จากปี 2024 ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของโมเดลธุรกิจที่เน้นการกระจายเกมดิจิทัลและการหักส่วนแบ่งจากเกมยอดนิยมอย่าง Counter-Strike 2 และ Dota 2 💼 โครงสร้างองค์กรที่ไม่เหมือนใคร หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือ โครงสร้างองค์กรแบบแบน (flat structure) ของ Valve ที่ไม่มีผู้จัดการหรือ C-suite executives ทุกคนทำงานร่วมกันในฐานะทีมเท่าเทียมกัน ทำให้บริษัทสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วและยืดหยุ่น นอกจากนี้ Valve ยังเป็นบริษัทเอกชนที่ไม่ต้องตอบสนองต่อผู้ถือหุ้น ทำให้สามารถนำกำไรกลับคืนสู่พนักงานได้มากขึ้น โดยมีข้อมูลรั่วไหลว่า Valve ใช้เงินกว่า 450 ล้านดอลลาร์จ่ายเงินเดือน เฉลี่ยมากกว่า 1.3 ล้านดอลลาร์ต่อคน 🎮 ผลงานและนวัตกรรมที่สร้างชื่อ Valve ไม่เพียงแต่สร้างรายได้มหาศาล แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมเกม เช่น 💠 การเปิดตัว Steam ที่ปฏิวัติการซื้อขายเกมดิจิทัล 💠 การสร้างเกมดังอย่าง Counter-Strike, Dota 2, Left 4 Dead 💠 การเปิดตัว Steam Deck (2022) ที่ช่วยฟื้นตลาดเครื่องเกมพกพา 💠 แผนเปิดตัว Steam Machine (2026) ที่จะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ PC gaming 🌍 เปรียบเทียบกับบริษัทอื่น แม้บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ จะมีรายได้ต่อพนักงานสูง แต่ก็ยังไม่ใกล้เคียงกับ Valve เช่น 💠 McKesson (Healthcare): 8.2 ล้านดอลลาร์ต่อพนักงาน 💠 Apple: 2.4 ล้านดอลลาร์ต่อพนักงาน 💠 Meta (Facebook): 1.9 ล้านดอลลาร์ต่อพนักงาน Valve จึงถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในบริษัทที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดในโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ รายได้ต่อพนักงาน ➡️ Valve ทำรายได้เฉลี่ยเกือบ 50 ล้านดอลลาร์ต่อคน ➡️ มีพนักงานเพียง ~350 คน แต่สร้างรายได้รวมกว่า 17 พันล้านดอลลาร์ ✅ โครงสร้างองค์กร ➡️ ใช้โครงสร้างแบบแบน ไม่มีผู้จัดการ ➡️ เป็นบริษัทเอกชน จึงคืนกำไรให้พนักงานมากกว่า 1.3 ล้านดอลลาร์ต่อคน ✅ ผลงานสำคัญ ➡️ Steam ปฏิวัติการซื้อขายเกมดิจิทัล ➡️ เกมดัง: Counter-Strike, Dota 2, Left 4 Dead ➡️ Steam Deck ฟื้นตลาดเกมพกพา และ Steam Machine กำลังจะมาในปี 2026 ‼️ คำเตือนจากข้อมูลข่าว ⛔ Valve เคยถูกวิจารณ์เรื่อง loot boxes ที่ส่งผลต่อผู้เล่น ⛔ การพึ่งพา Steam เป็นหลักอาจทำให้บริษัทเสี่ยงหากตลาดเปลี่ยนแปลง https://www.tomshardware.com/video-games/pc-gaming/valve-makes-almost-usd50-million-per-employee-raking-in-more-cash-per-person-than-google-amazon-or-microsoft-gaming-giants-350-employees-on-track-to-generate-usd17-billion-this-year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบื้องหลังไฟร์วอลล์: ความท้าทายของผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์ที่มีความพิการ

    บทความจาก CSO Online เปิดเผยเรื่องราวของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ที่มีความพิการหรือภาวะทางระบบประสาท (neurodivergent) ซึ่งยังคงเผชิญกับอคติและอุปสรรคในที่ทำงาน แม้ว่าอุตสาหกรรมจะพูดถึงความหลากหลายและการมีส่วนร่วมมากขึ้นก็ตาม

    เรื่องราวของ Daisy Wong
    Daisy Wong หัวหน้าฝ่าย Security Awareness ที่ Medibank เล่าว่าเมื่อเริ่มต้นในสายงาน เธอถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถทางกายภาพมากกว่าประสบการณ์จริง เช่น ผู้จัดการสนใจว่าเธอสามารถ “ชงชาแล้วเดินกลับโต๊ะได้หรือไม่” มากกว่าทักษะด้านไซเบอร์ ความไม่เข้าใจนี้ทำให้เธอต้องสร้าง personal brand เพื่อพิสูจน์ตัวเอง และปัจจุบันเธอกลายเป็นผู้นำที่ผลักดันการสร้างวัฒนธรรมการเข้าถึง (Accessibility) ในองค์กร

    ประสบการณ์ของ Jacob Griffiths
    Jacob Griffiths นักวิเคราะห์ความเสี่ยงไซเบอร์ที่ Procare Cyber ต้องจัดการกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งส่งผลต่อสมาธิและพลังงาน เขาเล่าว่าการทำงานในอุตสาหกรรมที่แข่งขันสูงทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องยาก แต่โชคดีที่มีผู้จัดการที่เข้าใจและให้ความยืดหยุ่น อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าระบบทุนนิยมยังคงกดดันให้คนทำงานต้องผลิตผลงานโดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ

    จุดแข็งของ Angelina Liu
    Angelina Liu ผู้จัดการฝ่ายขายเชิงพาณิชย์ที่ SentinelOne พบว่า ADHD กลายเป็น “ซูเปอร์พาวเวอร์” ของเธอ เพราะช่วยให้คิดเร็ว มองเห็นรูปแบบที่คนอื่นอาจพลาด และปรับตัวได้ไวในสถานการณ์วิกฤติ แม้จะเคยเผชิญกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เป็นมิตร แต่เธอใช้ประสบการณ์นั้นมาเป็นแรงผลักดันในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจให้กับทีม และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้หญิงและผู้ที่มีความแตกต่างทางระบบประสาทในวงการไซเบอร์

    สรุปประเด็นสำคัญ
    อุปสรรคที่พบในอุตสาหกรรมไซเบอร์
    ผู้เชี่ยวชาญที่มีความพิการยังถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถทางกายภาพมากกว่าทักษะจริง
    การขาดความเข้าใจทำให้โอกาสความก้าวหน้าถูกจำกัด

    ตัวอย่างแรงบันดาลใจ
    Daisy Wong ใช้ personal brand สร้างความน่าเชื่อถือและผลักดัน Accessibility
    Jacob Griffiths แสดงให้เห็นความสำคัญของผู้จัดการที่มี empathy
    Angelina Liu ใช้ ADHD เป็นจุดแข็งในการทำงานและสนับสนุนทีม

    คำเตือนต่อองค์กร
    หากไม่สร้างวัฒนธรรมที่ยืดหยุ่นและปลอดภัย อาจสูญเสียบุคลากรที่มีศักยภาพสูง
    การละเลยความหลากหลายทำให้ทีมขาดมุมมองที่สำคัญต่อการแก้ปัญหาซับซ้อน

    https://www.csoonline.com/article/4089055/behind-the-firewall-the-hidden-struggles-of-cyber-professionals-with-a-disability.html
    🛡️ เบื้องหลังไฟร์วอลล์: ความท้าทายของผู้เชี่ยวชาญไซเบอร์ที่มีความพิการ บทความจาก CSO Online เปิดเผยเรื่องราวของผู้เชี่ยวชาญด้านไซเบอร์ที่มีความพิการหรือภาวะทางระบบประสาท (neurodivergent) ซึ่งยังคงเผชิญกับอคติและอุปสรรคในที่ทำงาน แม้ว่าอุตสาหกรรมจะพูดถึงความหลากหลายและการมีส่วนร่วมมากขึ้นก็ตาม 👩‍💻 เรื่องราวของ Daisy Wong Daisy Wong หัวหน้าฝ่าย Security Awareness ที่ Medibank เล่าว่าเมื่อเริ่มต้นในสายงาน เธอถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถทางกายภาพมากกว่าประสบการณ์จริง เช่น ผู้จัดการสนใจว่าเธอสามารถ “ชงชาแล้วเดินกลับโต๊ะได้หรือไม่” มากกว่าทักษะด้านไซเบอร์ ความไม่เข้าใจนี้ทำให้เธอต้องสร้าง personal brand เพื่อพิสูจน์ตัวเอง และปัจจุบันเธอกลายเป็นผู้นำที่ผลักดันการสร้างวัฒนธรรมการเข้าถึง (Accessibility) ในองค์กร 💉 ประสบการณ์ของ Jacob Griffiths Jacob Griffiths นักวิเคราะห์ความเสี่ยงไซเบอร์ที่ Procare Cyber ต้องจัดการกับโรคเบาหวานชนิดที่ 1 ซึ่งส่งผลต่อสมาธิและพลังงาน เขาเล่าว่าการทำงานในอุตสาหกรรมที่แข่งขันสูงทำให้การดูแลสุขภาพเป็นเรื่องยาก แต่โชคดีที่มีผู้จัดการที่เข้าใจและให้ความยืดหยุ่น อย่างไรก็ตาม เขาเตือนว่าระบบทุนนิยมยังคงกดดันให้คนทำงานต้องผลิตผลงานโดยไม่คำนึงถึงข้อจำกัดด้านสุขภาพ ⚡ จุดแข็งของ Angelina Liu Angelina Liu ผู้จัดการฝ่ายขายเชิงพาณิชย์ที่ SentinelOne พบว่า ADHD กลายเป็น “ซูเปอร์พาวเวอร์” ของเธอ เพราะช่วยให้คิดเร็ว มองเห็นรูปแบบที่คนอื่นอาจพลาด และปรับตัวได้ไวในสถานการณ์วิกฤติ แม้จะเคยเผชิญกับสภาพแวดล้อมการทำงานที่ไม่เป็นมิตร แต่เธอใช้ประสบการณ์นั้นมาเป็นแรงผลักดันในการสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจให้กับทีม และสนับสนุนการมีส่วนร่วมของผู้หญิงและผู้ที่มีความแตกต่างทางระบบประสาทในวงการไซเบอร์ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ อุปสรรคที่พบในอุตสาหกรรมไซเบอร์ ➡️ ผู้เชี่ยวชาญที่มีความพิการยังถูกตั้งคำถามเรื่องความสามารถทางกายภาพมากกว่าทักษะจริง ➡️ การขาดความเข้าใจทำให้โอกาสความก้าวหน้าถูกจำกัด ✅ ตัวอย่างแรงบันดาลใจ ➡️ Daisy Wong ใช้ personal brand สร้างความน่าเชื่อถือและผลักดัน Accessibility ➡️ Jacob Griffiths แสดงให้เห็นความสำคัญของผู้จัดการที่มี empathy ➡️ Angelina Liu ใช้ ADHD เป็นจุดแข็งในการทำงานและสนับสนุนทีม ‼️ คำเตือนต่อองค์กร ⛔ หากไม่สร้างวัฒนธรรมที่ยืดหยุ่นและปลอดภัย อาจสูญเสียบุคลากรที่มีศักยภาพสูง ⛔ การละเลยความหลากหลายทำให้ทีมขาดมุมมองที่สำคัญต่อการแก้ปัญหาซับซ้อน https://www.csoonline.com/article/4089055/behind-the-firewall-the-hidden-struggles-of-cyber-professionals-with-a-disability.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Behind the firewall: The hidden struggles of cyber professionals with a disability
    Three cybersecurity professionals share how they’ve navigated bias, built resilience, and found belonging in an industry still learning what true inclusion means.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 390 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: Proton Pass แอปรักษาความปลอดภัยรหัสผ่านฟรีบนมือถือ

    Proton ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านความเป็นส่วนตัวและ VPN ได้เปิดตัว Proton Pass แอปจัดการรหัสผ่านฟรีสำหรับผู้ใช้ Android และ iOS โดยออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและจัดเก็บรหัสผ่านที่แข็งแรงได้โดยไม่ต้องจำเองทั้งหมด แอปนี้รองรับการทำงานร่วมกับระบบ autofill ของ Android ทำให้การเข้าสู่ระบบเว็บไซต์และแอปต่าง ๆ สะดวกขึ้นมาก

    นอกจากการจัดการรหัสผ่านแล้ว Proton Pass ยังรองรับ passkeys ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่ช่วยลดการพึ่งพารหัสผ่านแบบเดิม แม้การย้าย passkeys จากผู้จัดการรหัสผ่านอื่นจะยุ่งยาก แต่ Proton Pass ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างใหม่สำหรับบัญชีสำคัญได้ง่ายขึ้น

    ฟีเจอร์ที่โดดเด่นอีกอย่างคือการสร้าง alias อีเมล ซึ่งเป็นอีเมลปลอมที่ยังคงส่งต่อไปยังกล่องหลักของผู้ใช้ ช่วยป้องกันการถูกสแปมและการเปิดเผยอีเมลจริง นอกจากนี้ยังสามารถเก็บข้อมูลบัตรเครดิต, Wi-Fi logins, เอกสารสำคัญ เช่น ใบขับขี่หรือพาสปอร์ต และโน้ตเข้ารหัสได้อย่างปลอดภัย

    แม้ Proton Pass จะมีเวอร์ชันฟรีที่ครอบคลุมฟีเจอร์หลัก แต่ผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) และการเก็บข้อมูลบัตรเครดิต จะต้องสมัครแพ็กเกจแบบเสียเงินในราคา $5 ต่อเดือน หรือเลือกใช้ Proton Unlimited Plan ที่รวมบริการอื่น ๆ เช่น Proton VPN และ Proton Mail

    สรุปสาระสำคัญ
    ฟีเจอร์หลักของ Proton Pass
    จัดการรหัสผ่านและ passkeys
    รองรับ autofill บน Android และ iOS
    สร้าง alias อีเมลเพื่อป้องกันสแปม

    การเก็บข้อมูลเพิ่มเติม
    บัตรเครดิต, Wi-Fi logins, เอกสารสำคัญ
    โน้ตเข้ารหัสสำหรับข้อมูลส่วนตัว

    ข้อจำกัดของเวอร์ชันฟรี
    ไม่รองรับ 2FA และการเก็บบัตรเครดิต
    จำกัด alias อีเมลสูงสุด 10 รายการ

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    ต้องย้าย passkeys ด้วยการสร้างใหม่ ไม่สามารถนำเข้าทั้งหมดได้ง่าย
    ฟีเจอร์ขั้นสูงต้องสมัครแพ็กเกจเสียเงิน

    https://www.slashgear.com/2028333/free-android-app-proton-pass-password-manager-install-on-new-phone/
    🔐 ข่าวใหญ่: Proton Pass แอปรักษาความปลอดภัยรหัสผ่านฟรีบนมือถือ Proton ซึ่งเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงด้านความเป็นส่วนตัวและ VPN ได้เปิดตัว Proton Pass แอปจัดการรหัสผ่านฟรีสำหรับผู้ใช้ Android และ iOS โดยออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างและจัดเก็บรหัสผ่านที่แข็งแรงได้โดยไม่ต้องจำเองทั้งหมด แอปนี้รองรับการทำงานร่วมกับระบบ autofill ของ Android ทำให้การเข้าสู่ระบบเว็บไซต์และแอปต่าง ๆ สะดวกขึ้นมาก นอกจากการจัดการรหัสผ่านแล้ว Proton Pass ยังรองรับ passkeys ซึ่งเป็นมาตรฐานใหม่ที่ช่วยลดการพึ่งพารหัสผ่านแบบเดิม แม้การย้าย passkeys จากผู้จัดการรหัสผ่านอื่นจะยุ่งยาก แต่ Proton Pass ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างใหม่สำหรับบัญชีสำคัญได้ง่ายขึ้น ฟีเจอร์ที่โดดเด่นอีกอย่างคือการสร้าง alias อีเมล ซึ่งเป็นอีเมลปลอมที่ยังคงส่งต่อไปยังกล่องหลักของผู้ใช้ ช่วยป้องกันการถูกสแปมและการเปิดเผยอีเมลจริง นอกจากนี้ยังสามารถเก็บข้อมูลบัตรเครดิต, Wi-Fi logins, เอกสารสำคัญ เช่น ใบขับขี่หรือพาสปอร์ต และโน้ตเข้ารหัสได้อย่างปลอดภัย แม้ Proton Pass จะมีเวอร์ชันฟรีที่ครอบคลุมฟีเจอร์หลัก แต่ผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ขั้นสูง เช่น การยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA) และการเก็บข้อมูลบัตรเครดิต จะต้องสมัครแพ็กเกจแบบเสียเงินในราคา $5 ต่อเดือน หรือเลือกใช้ Proton Unlimited Plan ที่รวมบริการอื่น ๆ เช่น Proton VPN และ Proton Mail 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ฟีเจอร์หลักของ Proton Pass ➡️ จัดการรหัสผ่านและ passkeys ➡️ รองรับ autofill บน Android และ iOS ➡️ สร้าง alias อีเมลเพื่อป้องกันสแปม ✅ การเก็บข้อมูลเพิ่มเติม ➡️ บัตรเครดิต, Wi-Fi logins, เอกสารสำคัญ ➡️ โน้ตเข้ารหัสสำหรับข้อมูลส่วนตัว ‼️ ข้อจำกัดของเวอร์ชันฟรี ⛔ ไม่รองรับ 2FA และการเก็บบัตรเครดิต ⛔ จำกัด alias อีเมลสูงสุด 10 รายการ ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ ต้องย้าย passkeys ด้วยการสร้างใหม่ ไม่สามารถนำเข้าทั้งหมดได้ง่าย ⛔ ฟีเจอร์ขั้นสูงต้องสมัครแพ็กเกจเสียเงิน https://www.slashgear.com/2028333/free-android-app-proton-pass-password-manager-install-on-new-phone/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    This Free Android Password App Should Be One Of The First Installed On Your New Phone - Here's Why - SlashGear
    Proton Pass is one of the smartest early installs on a new Android device because it offers passkeys, encrypted notes, secure autofill, and aliases.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบงก์กรุงเทพ ลงสนามทราเวลการ์ด

    ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ บัตรทราเวลธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank Travel Card) ผ่านเครือข่ายมาสเตอร์การ์ด เจาะตลาดนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศ ด้วยจุดขายไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ไม่เสียค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน (FX Rate) 2.5% ในทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ต่างประเทศ พร้อมแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศภายในบัตรได้มากถึง 11 สกุลเงินตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ หรือมีเงินบาทก็ใช้ได้กว่า 150 ประเทศทั่วโลก

    ช่วงเปิดตัวนอกจากสมัครฟรี ไม่เสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า 200 บาท ผ่านโมบายล์แบงกิ้งธนาคารกรุงเทพ ที่มีผู้ใช้งานกว่า 14.38 ล้านราย หรือแบบรับบัตรทันที (Instant Card) ผ่านสาขาธนาคารในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 150 สาขาที่ร่วมรายการแล้ว ยังมีโปรโมชันและสิทธิพิเศษที่แตกต่างจากค่ายอื่น ได้แก่ เมื่อร้านค้าในต่างประเทศและร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศทุก 1,000 บาทขึ้นไป รับเงินคืน (Cashback) 3% สูงสุด 1,500 บาท ถึง 28 ก.พ. 2569 และเมื่อมียอดใช้จ่ายสะสม 50,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิเข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษ Miracle Lounge สนามบินดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ มูลค่า 1,500 บาท ถึง 31 มี.ค. 2569

    หรือรับส่วนลดห้องรับรองพิเศษ Miracle Lounge สูงสุด 30% พร้อมผู้ติดตามสูงสุด 5 คน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ถึง 31 ธ.ค. 2569 รับความคุ้มครองประกันภัยการเดินทางต่างประเทศมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท สิทธิประโยชน์ Mastercard Flight Delay Pass เข้าใช้ห้องรับรองสนามบินกว่า 1,500 แห่งทั่วโลกเมื่อเที่ยวบินล่าช้า ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป และสิทธิประโยชน์ Mastercard Priceless Specials จากร้านค้าชั้นนำทั่วโลกตลอดปี

    นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTA) คาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ (Outbound) ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ด้วยจุดเด่นของบัตรจึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากนักเดินทางเป็นอย่างดี และมียอดสมัครใช้บริการในปีแรกไม่ต่ำกว่า 100,000 ใบ

    สำหรับการแข่งขันบัตรทราเวลการ์ดในไทยเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2561 เริ่มจากธนาคารกรุงไทย ออกบัตรกรุงไทยทราเวลการ์ด (ปัจจุบันพัฒนาเป็นบัตรเดบิต) ตามมาด้วยธนาคารไทยพาณิชย์ ออกบัตรพลาเน็ตเอสซีบี ธนาคารกสิกรไทยและยูทริปสิงคโปร์ ออกบัตรยูทริป ธนาคารกรุงศรีอยุธยาออกบัตรกรุงศรีบอร์ดดิ้งการ์ด กลุ่มแอร์เอเชียออกบัตรบิ๊กเพย์ เป็นต้น

    #Newskit
    แบงก์กรุงเทพ ลงสนามทราเวลการ์ด ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ บัตรทราเวลธนาคารกรุงเทพ (Bangkok Bank Travel Card) ผ่านเครือข่ายมาสเตอร์การ์ด เจาะตลาดนักท่องเที่ยวไทยไปต่างประเทศ ด้วยจุดขายไม่มีค่าธรรมเนียมรายปี ไม่เสียค่าความเสี่ยงจากการแปลงสกุลเงิน (FX Rate) 2.5% ในทุกการใช้จ่ายผ่านบัตรที่ต่างประเทศ พร้อมแลกเปลี่ยนสกุลเงินต่างประเทศภายในบัตรได้มากถึง 11 สกุลเงินตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ หรือมีเงินบาทก็ใช้ได้กว่า 150 ประเทศทั่วโลก ช่วงเปิดตัวนอกจากสมัครฟรี ไม่เสียค่าธรรมเนียมแรกเข้า 200 บาท ผ่านโมบายล์แบงกิ้งธนาคารกรุงเทพ ที่มีผู้ใช้งานกว่า 14.38 ล้านราย หรือแบบรับบัตรทันที (Instant Card) ผ่านสาขาธนาคารในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด 150 สาขาที่ร่วมรายการแล้ว ยังมีโปรโมชันและสิทธิพิเศษที่แตกต่างจากค่ายอื่น ได้แก่ เมื่อร้านค้าในต่างประเทศและร้านค้าออนไลน์ที่จดทะเบียนในต่างประเทศทุก 1,000 บาทขึ้นไป รับเงินคืน (Cashback) 3% สูงสุด 1,500 บาท ถึง 28 ก.พ. 2569 และเมื่อมียอดใช้จ่ายสะสม 50,000 บาทขึ้นไป รับสิทธิเข้าใช้บริการห้องรับรองพิเศษ Miracle Lounge สนามบินดอนเมือง หรือสุวรรณภูมิ มูลค่า 1,500 บาท ถึง 31 มี.ค. 2569 หรือรับส่วนลดห้องรับรองพิเศษ Miracle Lounge สูงสุด 30% พร้อมผู้ติดตามสูงสุด 5 คน ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ถึง 31 ธ.ค. 2569 รับความคุ้มครองประกันภัยการเดินทางต่างประเทศมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท สิทธิประโยชน์ Mastercard Flight Delay Pass เข้าใช้ห้องรับรองสนามบินกว่า 1,500 แห่งทั่วโลกเมื่อเที่ยวบินล่าช้า ตั้งแต่วันที่ 15 ม.ค. 2569 เป็นต้นไป และสิทธิประโยชน์ Mastercard Priceless Specials จากร้านค้าชั้นนำทั่วโลกตลอดปี นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันคนไทยนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว (TTA) คาดการณ์ว่าในปี 2568 จะมีคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศ (Outbound) ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ด้วยจุดเด่นของบัตรจึงมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากนักเดินทางเป็นอย่างดี และมียอดสมัครใช้บริการในปีแรกไม่ต่ำกว่า 100,000 ใบ สำหรับการแข่งขันบัตรทราเวลการ์ดในไทยเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2561 เริ่มจากธนาคารกรุงไทย ออกบัตรกรุงไทยทราเวลการ์ด (ปัจจุบันพัฒนาเป็นบัตรเดบิต) ตามมาด้วยธนาคารไทยพาณิชย์ ออกบัตรพลาเน็ตเอสซีบี ธนาคารกสิกรไทยและยูทริปสิงคโปร์ ออกบัตรยูทริป ธนาคารกรุงศรีอยุธยาออกบัตรกรุงศรีบอร์ดดิ้งการ์ด กลุ่มแอร์เอเชียออกบัตรบิ๊กเพย์ เป็นต้น #Newskit
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 706 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel Advanced Packaging ดึงดูดสายตา Apple และ Qualcomm

    Intel แม้จะล้าหลังในธุรกิจการผลิตชิป แต่กลับมีจุดแข็งในด้าน เทคโนโลยี Advanced Packaging โดยเฉพาะ EMIB (Embedded Multi-Die Interconnect Bridge) และ Foveros 3D Packaging ที่ช่วยเชื่อมต่อและซ้อนชิปหลายตัวในแพ็กเกจเดียว เพิ่มความหนาแน่นและประสิทธิภาพโดยไม่ต้องใช้ interposer ขนาดใหญ่แบบ CoWoS ของ TSMC

    ความสนใจจาก Apple และ Qualcomm
    ข้อมูลจากประกาศรับสมัครงานเผยว่า Apple กำลังหาวิศวกร DRAM Packaging ที่มีประสบการณ์กับ EMIB และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่น ๆ ขณะที่ Qualcomm กำลังหาผู้จัดการผลิตภัณฑ์ด้าน Data Center ที่ต้องคุ้นเคยกับ EMIB เช่นกัน นี่สะท้อนว่าทั้งสองบริษัทกำลังพิจารณา Intel เป็นพันธมิตรด้านการผลิตชิปในอนาคต

    ปัญหาคอขวดของ TSMC
    TSMC ครองตลาด Advanced Packaging มานาน แต่กำลังเจอ Supply Bottleneck จากคำสั่งซื้อจำนวนมหาศาลของ NVIDIA และ AMD ทำให้ลูกค้าใหม่ถูกจัดลำดับความสำคัญต่ำลง Intel จึงมีโอกาสใช้จุดแข็งนี้ดึงดูดบริษัทที่ต้องการความมั่นคงด้านการผลิต

    มุมมองจากอุตสาหกรรม
    แม้การประกาศรับสมัครงานไม่ได้ยืนยันการใช้เทคโนโลยี Intel อย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นสัญญาณว่าตลาดเริ่มมองหา ทางเลือกใหม่ เพื่อลดการพึ่งพา TSMC Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ยังเคยกล่าวชื่นชม Foveros ว่าเป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง ซึ่งอาจช่วยให้ Intelกลับมาแข่งขันได้ในตลาด Foundry

    สรุปสาระสำคัญ
    เทคโนโลยี Advanced Packaging ของ Intel
    EMIB: เชื่อมต่อหลายชิปโดยไม่ต้องใช้ interposer ขนาดใหญ่
    Foveros: ซ้อนชิปแบบ 3D เพิ่มความหนาแน่นและประสิทธิภาพ

    ความสนใจจาก Apple และ Qualcomm
    Apple หาวิศวกร DRAM Packaging ที่มีประสบการณ์ EMIB
    Qualcomm หาผู้จัดการผลิตภัณฑ์ Data Center ที่คุ้นเคย EMIB

    โอกาสจากปัญหาของ TSMC
    Supply Bottleneck จากคำสั่งซื้อ NVIDIA และ AMD
    ลูกค้าใหม่ถูกจัดลำดับความสำคัญต่ำลง

    มุมมองจากอุตสาหกรรม
    NVIDIA ซีอีโอชื่นชม Foveros
    ตลาดเริ่มมองหา “ทางเลือกใหม่” เพื่อลดการพึ่งพา TSMC

    ข้อควรระวัง
    การประกาศรับสมัครงานยังไม่ใช่การยืนยันการใช้จริง
    Intel ต้องพิสูจน์ความเสถียรและ Yield ของเทคโนโลยี
    การแข่งขันกับ TSMC ยังเป็นความท้าทายใหญ่

    https://wccftech.com/intel-advanced-packaging-attracts-attention-from-apple-and-qualcomm/
    🖥️ Intel Advanced Packaging ดึงดูดสายตา Apple และ Qualcomm Intel แม้จะล้าหลังในธุรกิจการผลิตชิป แต่กลับมีจุดแข็งในด้าน เทคโนโลยี Advanced Packaging โดยเฉพาะ EMIB (Embedded Multi-Die Interconnect Bridge) และ Foveros 3D Packaging ที่ช่วยเชื่อมต่อและซ้อนชิปหลายตัวในแพ็กเกจเดียว เพิ่มความหนาแน่นและประสิทธิภาพโดยไม่ต้องใช้ interposer ขนาดใหญ่แบบ CoWoS ของ TSMC 📈 ความสนใจจาก Apple และ Qualcomm ข้อมูลจากประกาศรับสมัครงานเผยว่า Apple กำลังหาวิศวกร DRAM Packaging ที่มีประสบการณ์กับ EMIB และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่น ๆ ขณะที่ Qualcomm กำลังหาผู้จัดการผลิตภัณฑ์ด้าน Data Center ที่ต้องคุ้นเคยกับ EMIB เช่นกัน นี่สะท้อนว่าทั้งสองบริษัทกำลังพิจารณา Intel เป็นพันธมิตรด้านการผลิตชิปในอนาคต ⚡ ปัญหาคอขวดของ TSMC TSMC ครองตลาด Advanced Packaging มานาน แต่กำลังเจอ Supply Bottleneck จากคำสั่งซื้อจำนวนมหาศาลของ NVIDIA และ AMD ทำให้ลูกค้าใหม่ถูกจัดลำดับความสำคัญต่ำลง Intel จึงมีโอกาสใช้จุดแข็งนี้ดึงดูดบริษัทที่ต้องการความมั่นคงด้านการผลิต 🌍 มุมมองจากอุตสาหกรรม แม้การประกาศรับสมัครงานไม่ได้ยืนยันการใช้เทคโนโลยี Intel อย่างเป็นทางการ แต่ก็เป็นสัญญาณว่าตลาดเริ่มมองหา ทางเลือกใหม่ เพื่อลดการพึ่งพา TSMC Jensen Huang ซีอีโอของ NVIDIA ยังเคยกล่าวชื่นชม Foveros ว่าเป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามอง ซึ่งอาจช่วยให้ Intelกลับมาแข่งขันได้ในตลาด Foundry 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เทคโนโลยี Advanced Packaging ของ Intel ➡️ EMIB: เชื่อมต่อหลายชิปโดยไม่ต้องใช้ interposer ขนาดใหญ่ ➡️ Foveros: ซ้อนชิปแบบ 3D เพิ่มความหนาแน่นและประสิทธิภาพ ✅ ความสนใจจาก Apple และ Qualcomm ➡️ Apple หาวิศวกร DRAM Packaging ที่มีประสบการณ์ EMIB ➡️ Qualcomm หาผู้จัดการผลิตภัณฑ์ Data Center ที่คุ้นเคย EMIB ✅ โอกาสจากปัญหาของ TSMC ➡️ Supply Bottleneck จากคำสั่งซื้อ NVIDIA และ AMD ➡️ ลูกค้าใหม่ถูกจัดลำดับความสำคัญต่ำลง ✅ มุมมองจากอุตสาหกรรม ➡️ NVIDIA ซีอีโอชื่นชม Foveros ➡️ ตลาดเริ่มมองหา “ทางเลือกใหม่” เพื่อลดการพึ่งพา TSMC ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การประกาศรับสมัครงานยังไม่ใช่การยืนยันการใช้จริง ⛔ Intel ต้องพิสูจน์ความเสถียรและ Yield ของเทคโนโลยี ⛔ การแข่งขันกับ TSMC ยังเป็นความท้าทายใหญ่ https://wccftech.com/intel-advanced-packaging-attracts-attention-from-apple-and-qualcomm/
    WCCFTECH.COM
    Intel’s ‘Advanced Packaging’ Attracts Attention From Apple and Qualcomm, Potentially Opening a New Frontier for the Foundry Business
    Intel might have been lagging behind in the chip business, but when it comes to advanced packaging, the firm has competitive options.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • Musk ปั้นซัพพลายเชนชิปในสหรัฐ: จาก PCB สู่แพ็คเกจชิปขั้นสูง

    วิสัยทัศน์ “TeraFab” ของ Elon Musk เริ่มเห็นรูปธรรม: รายงานระบุว่ากำลังพัฒนาโรงงาน Advanced Packaging แบบ FOPLP ในเท็กซัส โดยมี SpaceX เป็นผู้จัดการเริ่มต้น ผลิตคอมโพเนนต์ RF สำหรับ Starlink เป้าหมายเดินเครื่องผลิตช่วงไตรมาส 3 ปี 2026 เพื่อแก้คอขวดซัพพลายเชนในสหรัฐและยกระดับอินทิเกรชันของโมดูล RF/พาวเวอร์ให้แน่นขึ้น ลดต้นทุนและเวลานำส่ง.

    สิ่งนี้สอดคล้องกับการสร้างฐาน PCB ขนาดมหึมาใน Bastrop, Texas ที่ประกาศว่าจะเป็น “โรงงาน PCB ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ” ผลิตอุปกรณ์ Starlink มหาศาล มีแผนเพิ่มดาวเทียมและลูกค้าอีกมาก โครงสร้างพื้นฐาน PCB ทำให้การต่อยอดสู่ FOPLP เป็นธรรมชาติ ทั้งกระบวนการผลิตมีส่วนร่วมกัน และช่วยเร่งสปรินต์ดีไซน์—ผลิต สำหรับระบบดาวเทียม.

    รายงานอีกฉบับชี้ว่าไลน์ FOPLP อาจใช้แผงขนาด 700×700 มม. ซึ่งท้าทายเรื่องการแอ่น/บิด แต่หากสเกลสำเร็จจะลดต้นทุนอย่างมาก และเพิ่มความเร็วการผลิต นอกจากนี้ การผลิตในประเทศช่วยตอบโจทย์สัญญาเชิงความมั่นคงและลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ สำหรับเครือข่ายดาวเทียมที่มีการขยายตัวรวดเร็วของ SpaceX.

    ทั้งหมดตั้งอยู่บนภูมิทัศน์การผลิตที่กว้างขึ้นในเท็กซัส—ตั้งแต่ Starbase ที่เป็นฐานทดสอบ/ผลิต Starship ไปจนถึงฐานอุตสาหกรรมในหลายเมือง โครงสร้างพื้นฐานและแรงงานที่เพิ่มขึ้นช่วยโอบอุ้มแผน vertical integration ของ Musk ให้ขับเคลื่อนเร็วขึ้นในห่วงโซ่อิเล็กทรอนิกส์จาก PCB ถึงแพ็คเกจชิปขั้นสูง.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    FOPLP กำลังมา: โรงงานแพ็คเกจชิปขั้นสูงในเท็กซัส ตั้งเป้าเริ่มผลิต Q3 2026
    โฟกัสแรก: โมดูล RF/พาวเวอร์สำหรับ Starlink แบบแพ็คเกจอินทิเกรตแน่น ลดต้นทุนเวลานำส่ง

    ฐาน PCB มหึมา: Bastrop จะเป็นโรงงาน PCB ใหญ่สุดในสหรัฐ ผลิตอุปกรณ์ Starlink
    ผลกระทบ: เพิ่มความพึ่งพาตนเอง ลดการเอาท์ซอร์สเอเชีย และเร่งขยายเครือข่ายผู้ใช้

    สเกล 700×700 มม.: พยายามสเกล FOPLP บนแผงขนาดใหญ่อุตสาหกรรม
    ข้อดี: หากสำเร็จ ลดต้นทุนและเพิ่ม throughput อย่างมีนัยสำคัญ

    ระบบนิเวศเท็กซัส: โครงสร้างพื้นฐาน Starbase/โรงงานต่างๆ หนุน vertical integration
    ภาพรวม: สายการผลิตในประเทศสอดคล้องข้อกำหนดสัญญารัฐและลดเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์

    ความท้าทายเทคนิค: แผง FOPLP ใหญ่เสี่ยงการแอ่น/บิด และ yield ต่ำในช่วงแรก
    แนวทาง: ต้องลงทุนเครื่องมือ/กระบวนการควบคุมความเรียบและความแม่นยำขั้นสูง

    ไทม์ไลน์ผลิต: Q3 2026 เป็นกรอบเริ่มต้นที่อาจเลื่อนจากการติดตั้ง/ปรับจูน
    ข้อควรเฝ้าระวัง: ความพร้อมเครื่องจักร ซัพพลายเออร์ และทีมกระบวนการอาจกระทบกำลังผลิตเริ่มต้น

    https://wccftech.com/elon-musk-dramatic-chip-ambitions-have-already-started-to-play-out/
    🙎‍♂️ Musk ปั้นซัพพลายเชนชิปในสหรัฐ: จาก PCB สู่แพ็คเกจชิปขั้นสูง 🚀 วิสัยทัศน์ “TeraFab” ของ Elon Musk เริ่มเห็นรูปธรรม: รายงานระบุว่ากำลังพัฒนาโรงงาน Advanced Packaging แบบ FOPLP ในเท็กซัส โดยมี SpaceX เป็นผู้จัดการเริ่มต้น ผลิตคอมโพเนนต์ RF สำหรับ Starlink เป้าหมายเดินเครื่องผลิตช่วงไตรมาส 3 ปี 2026 เพื่อแก้คอขวดซัพพลายเชนในสหรัฐและยกระดับอินทิเกรชันของโมดูล RF/พาวเวอร์ให้แน่นขึ้น ลดต้นทุนและเวลานำส่ง. สิ่งนี้สอดคล้องกับการสร้างฐาน PCB ขนาดมหึมาใน Bastrop, Texas ที่ประกาศว่าจะเป็น “โรงงาน PCB ใหญ่ที่สุดในสหรัฐ” ผลิตอุปกรณ์ Starlink มหาศาล มีแผนเพิ่มดาวเทียมและลูกค้าอีกมาก โครงสร้างพื้นฐาน PCB ทำให้การต่อยอดสู่ FOPLP เป็นธรรมชาติ ทั้งกระบวนการผลิตมีส่วนร่วมกัน และช่วยเร่งสปรินต์ดีไซน์—ผลิต สำหรับระบบดาวเทียม. รายงานอีกฉบับชี้ว่าไลน์ FOPLP อาจใช้แผงขนาด 700×700 มม. ซึ่งท้าทายเรื่องการแอ่น/บิด แต่หากสเกลสำเร็จจะลดต้นทุนอย่างมาก และเพิ่มความเร็วการผลิต นอกจากนี้ การผลิตในประเทศช่วยตอบโจทย์สัญญาเชิงความมั่นคงและลดความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ สำหรับเครือข่ายดาวเทียมที่มีการขยายตัวรวดเร็วของ SpaceX. ทั้งหมดตั้งอยู่บนภูมิทัศน์การผลิตที่กว้างขึ้นในเท็กซัส—ตั้งแต่ Starbase ที่เป็นฐานทดสอบ/ผลิต Starship ไปจนถึงฐานอุตสาหกรรมในหลายเมือง โครงสร้างพื้นฐานและแรงงานที่เพิ่มขึ้นช่วยโอบอุ้มแผน vertical integration ของ Musk ให้ขับเคลื่อนเร็วขึ้นในห่วงโซ่อิเล็กทรอนิกส์จาก PCB ถึงแพ็คเกจชิปขั้นสูง. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ FOPLP กำลังมา: โรงงานแพ็คเกจชิปขั้นสูงในเท็กซัส ตั้งเป้าเริ่มผลิต Q3 2026 ➡️ โฟกัสแรก: โมดูล RF/พาวเวอร์สำหรับ Starlink แบบแพ็คเกจอินทิเกรตแน่น ลดต้นทุนเวลานำส่ง ✅ ฐาน PCB มหึมา: Bastrop จะเป็นโรงงาน PCB ใหญ่สุดในสหรัฐ ผลิตอุปกรณ์ Starlink ➡️ ผลกระทบ: เพิ่มความพึ่งพาตนเอง ลดการเอาท์ซอร์สเอเชีย และเร่งขยายเครือข่ายผู้ใช้ ✅ สเกล 700×700 มม.: พยายามสเกล FOPLP บนแผงขนาดใหญ่อุตสาหกรรม ➡️ ข้อดี: หากสำเร็จ ลดต้นทุนและเพิ่ม throughput อย่างมีนัยสำคัญ ✅ ระบบนิเวศเท็กซัส: โครงสร้างพื้นฐาน Starbase/โรงงานต่างๆ หนุน vertical integration ➡️ ภาพรวม: สายการผลิตในประเทศสอดคล้องข้อกำหนดสัญญารัฐและลดเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ ‼️ ความท้าทายเทคนิค: แผง FOPLP ใหญ่เสี่ยงการแอ่น/บิด และ yield ต่ำในช่วงแรก ⛔ แนวทาง: ต้องลงทุนเครื่องมือ/กระบวนการควบคุมความเรียบและความแม่นยำขั้นสูง ‼️ ไทม์ไลน์ผลิต: Q3 2026 เป็นกรอบเริ่มต้นที่อาจเลื่อนจากการติดตั้ง/ปรับจูน ⛔ ข้อควรเฝ้าระวัง: ความพร้อมเครื่องจักร ซัพพลายเออร์ และทีมกระบวนการอาจกระทบกำลังผลิตเริ่มต้น https://wccftech.com/elon-musk-dramatic-chip-ambitions-have-already-started-to-play-out/
    WCCFTECH.COM
    Elon Musk’s Dramatic Chip Ambitions Are Already Taking Shape — And the Early Signs Look Highly Optimistic
    Elon Musk's statements around building up a chip supply were seen as 'ambitious', but it appears that Tesla already has efforts in place.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 429 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลุม ตอนที่ 3 – 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หลุม”

    ตอน 3

    คุณช๊อกโกแลต ไปได้ยาโด๊ปมาจากไหนไม่ทราบแน่ แต่ต้องถอยหลังไปเล่าบางเรื่องของยูเครน เมื่อปลายปี ค.ศ.2014 เสียหน่อย เผื่อจะหาแหล่งขายยาโด๊ปเจอ

    ปลายเดือนตุลาคม 2014 คุณช๊อกโกแลต ประธานาธืบดียูเครน จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อคัดเด็กในคาถาเข้าสภาตามใจนายใหญ่ เพราะว่าสมาชิกสภาชุดที่มีอยู่ มันสั่งให้ยกมือกางแขนนอนกลิ้งยาก และกว่าจะหมดวาระ ว่าเข้าไปถึงปี 2017 โน่น ไม่ทันการแน่ ข่าวว่าการให้จัดเลือกตั้งใหม่ เป็นใบสั่งของนางเหยี่ยว Victoria Nuland เจ้าของวลีอันโด่งดัง **** the EU แห่งกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา (อ่านรายละเอียดของสาเหตุการให้ F ของนางเหยี่ยวได้ในนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง )

    เขาสั่งได้ จัดได้กันจริงๆ แล้วยูเครนก็ได้สมาชิกสภาใหม่ ที่อยู่ในแถว ภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่หน้าเก่า เด็กในกระเป๋าใส่เศษสตางค์ของนางเหยี่ยว ชื่อนาย Arseniy Yatsenyuk หนุ่มยิวหน้ามน อดีตนายกรัฐมนตรียูเครนสมัยหนึ่ง ที่นางเหยี่ยวเป็นผู้เลือกกับมือ ตัดหน้าอียู และเป็นอดีตรัฐมนตรีคลังอีกสมัย เรียกว่าเป็นตัวโปรดตัวจริงของนางเหยี่ยว ซึ่งข่าวบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงาน ชื่อ “Church of Scientology” ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรอง แขนงหนึ่งของอเมริกา อีกด้วย

    นาย Yats ไม่มาคนเดียว เขาเสนอชื่อรัฐมนตรีน่าสนใจ 3 คน

    คนแรก ชื่อ นาง Natalie Jaresko ให้เป็นรัฐมนตรีการคลัง

    คุณนาย Ja แม้จะพูดภาษายูเครนคล่องปรื้อ เพราะมาอยู่เมืองเคียฟ ( Kyiv) ต้ังแต่ปี 1992 ในฐานะเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกัน ใช่ครับสถานทูตอเมริกัน ก็คุณนายเป็นคนอเมริกัน แม้จะอ้างว่ามีรากเหง้างอกจากยูเครน แต่คุณนาย Ja ก็ถือสัญชาติอเมริกัน เรียนจบ ป โท จาก ฮาร์วาด
    ปี 1995 คุณนาย Ja ลาออกจากสถานทูต ไปคุมกองทุนชื่อ Western NIS Enterprise Fund (WNISEF) ซึ่งเป็นของรัฐบาลอเมริกัน ตั้งโดยสภาสูงของอเมริกัน และเป็นเงินทุนอุดหนุนผ่าน USAID มีขนาดเงินกองทุน จำนวน 150 ล้านเหรียญ
    นอกจากนี้ คุณนาย Ja ยังบริหารกองทุน ชื่อ Horizon Capital Associates, LLC. (ไม่รู้ขนาดของกองทุน)

    ทั้ง 2 กองทุน มีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนในธุรกิจบริการ ธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจด้านของกินของใช้ โดยจะลงทุนในบริษัทขนาดกลาง ทั้งในยูเครน เบลาลุส และมอนโดวา เรียกว่า เป็นรายการกวาดกิจการ แถบยูเครนเข้ากระเป๋า ดูๆ ก็ไม่ต่างกับการบังคับให้แปรรูปรัฐวิสากิจ แต่ยูเครนไม่ค่อยมีรัฐวิสาหกิจจะให้แปร เลยต้องใช้กองทุนเข้าไปซื้อบริษัทแบบดื้อๆ ด้านๆ ง่ายกว่าแยะ

    เมื่อคุณนาย Ja แถลงรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง คุณนายบอกว่า ทีมเราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้มีความโปร่งใส และขจัดทุจริต ฟังคุ้นหูดีไหมครับ สงสัยพวกโพยนี่ เขาอัดโรเนียวแจกทั่วโลก และไอ้พฤติกรรมที่ทำ กับคำพูดนี่ มันก็สับปรับเหมือนกันหมด

    ผู้คนสงสัย แล้วคนอเมริกันไปเป็นรัฐมนตรีที่ยูเครนได้ยังไง เขียนมั่วหรือเปล่า ไม่มั่วครับ

    1 วันก่อนการสาบานตัวเข้ารับตำแหน่ง คุณช๊อกโกแลต ก็จัดการออกสัญชาติยูเครนให้คุณนาย Ja ก็แค่นั้นเอง คุณนายก็ถือ 2 สัญชาติควบ มีปัญหาอะไรไหม

    โปรดเชื่อมั่นในความเป็นประชาธิปไตย ของอเมริกา ที่จะเข้าไปล้วง ไปขุด ไปออกเสียง สั่งการที่ไหน แม้แต่ไปอยู่ในรัฐบาลประเทศอื่น ก็ได้ในโลก เยี่ยมจังพี่ ผมไม่เคยเห็นใครตวัดได้เก่งอย่างนี้เลย เขียนชมขนาดนี้แล้วจะเลิกป่วน เพจผมไหมครับ ไอ้เรื่องทำให้เครื่องค้าง กดอะไรไม่ได้เลย สลับข้อความ ข้อความหายนี่ ฯลฯ เล่นแบบนี้มานานแล้วนะ เบื่อฉิบหายเลย ให้มันสร้างสรรกว่านี้ได้ไหมครับ

    ส่งคุณนาย Ja มาคนเดียว คงกลัวจ่ายตลาดไม่ทัน นาย Yats เลยเสนอชื่อ นาย Aviras Abromavicius นักการเงินชาวลิทัวเนีย ให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นาย Ab นี่ เป็นหุ้นส่วนและผู้จัดการกองทุน ชื่อ East Capital ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสวีเดน มีกองทุนอยู่ใน ประเทศตลาดเกิดใหม่ 25 ประเทศ ขนาดของแต่กองทุน ประมาณ 100 ล้านเหรียญขึ้นไป

    ถ้าผมเป็นชาวยูเครน ผมจะยุให้มีการอารยะขัดขืน (ฮา) ไม่จ่ายภาษีจนกว่า บรรดารัฐมนตรีต่างชาตินี่ จะออกไปให้พ้นจากคณะรัฐบาล เพราะมันเป็นการดูหมิ่นประชาชนในชาติมาก ที่เอาคนต่างชาติมาบริหารชาติตนเองน่ะ ชาวยูเครนทนได้ยังไงครับ

    แล้วคุณช๊อกโกแลต ก็ออกสัญชาติยูเครนให้ นาย Ab พร้อมๆกับ คุณนาย Ja ไม่มีปัญหากับประชาธิปไตยของยูเครน แม้แต่น้อย และไม่มีไอ้พวกใบตองแห้ง มาด่าวันละ 3 เวลาหลังอาหาร เพราะมันเป็นคนจัดมาให้ (ฮา และ โห่) ต้องการประชาธิปไตยอย่างนี้ใช่ไหม ใช่ไหม ใช่ไหม

    ยังครับ ยัง ยังไม่เป็นประชาธิปไตยพอ นาย Yats เลยไปสรรหามาอีกหนึ่ง คราวนี้ได้ชาวจอร์เจีย ชื่อ Alexander Kvitashvili เขาเป็นอดีตรัฐมนตรีสาธารณะสุข ของจอร์เจีย สมัยที่ นาย Saak, Mikheil Saakashvili เป็นประธานาธิบดี ของ จอร์เจีย ( Georgia)
    นาย Kvit นี่น่าชื่นชมที่สุด ถือว่าเป็นผู้กล้าหาญจริง เป็นคนต่างชาติ ยังไม่พอ พูดภาษายูเครนไม่ได้ ฟังไม่ออกแม้แต่คำเดียว แต่รับหน้าที่จะมาปราบการทุจริต ในวงการสาธารณสุขของยูเครน ถ้าทำงานนี้สำเร็จ ควรต้องตกรางวัล ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี แทนนาย Yats เสียเลย ถ้านางเหยี่ยว Nuland ยอม

    อ้อ ตกความไปหน่อย นายKvit นี่ก็เรียนจบ ป โทที่อเมริกา และทำงานที่ Atlanta Medical Center ในอเมริกาอยู่พักหนึ่ง ก่อนกลับมาทำงานกับ United Nations Development Program ที่จอร์เจีย และทำงานร่วมกับหลายองค์กรทางด้านสาธารณสุขของอเมริกา

    ช่างเลือกกันดีนะครับ

    ##############
    ตอน 4

    เห็นแหล่งส่งยาโด๊ปของคุณช๊อกโกแลตแวบแวบ แต่ มันยังไม่ชัดเจน

    Loli Kantor เป็นนักข่าวประเภท ทั้งถ่าย(รูป)ทั้งเล่า ชาวอิสราเอล/อเมริกัน เล่าว่า เธอเดินทางไปโปแลนด์ เมื่อปี ค.ศ.2004 เพื่อไปค้นหาด้วยตัวเอง ว่าเกิดอะไรกับครอบครัวของตัวบ้างระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2

    Kantor บอกว่า พ่อแม่ของเธอรอดตายจาก Holocaust แต่ก็เห็นชื่อปู่ยาตายาย ลุงป้า ตายเกลี้ยง ตามรายชื่อที่พวกนาซีรวบรวมไว้ เธอบอกว่า ชื่อคนตาย มีแต่ ยิว ยิว ยิว ฉันเดินไปถ่ายรูปสถานที่ฆ่าหมู่ชาวยิวทั้งหลาย ฉันถามตัวเองว่า แล้วชาวยิว ที่ยังเป็นๆอยู่ในยุโรปตะวันออกมีไหม เขาอยู่ที่ไหนกัน แล้วฉันก็พบพวกเขาที่ยูเครน หลังจากน้ันเจ้าตัวก็เทียวไปเทียวมายูเครนต่อมาอีก 8 ปี และเขียนหนังสือ ชื่อ Beyond the Forest ที่มีรูปภาพเกี่ยวกับชีวิตชาวยิวรุ่นเก่า

    ระหว่างที่ถ่ายรูปทำหนังสือ Kantor ก็ได้เห็นการเกิดใหม่ของชุมชน ชาวยิว rebirth of Jewish communities ในยูเครน Kantor ตื่นเต้น เธอกลับไปคุยกับ David Fisherman ศาสตราจารย์ชาวยิว ที่ Theological Seminary of America ซึ่งก็สอนที่มหาวิทยาลัย Kiew ของยูเครนด้วย
    ท่าน ศจ บอกว่า ตอนนี้ เหมือนเป็นช่วงเวลาของการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ของชาวยิวกับยูเครน ไม่เคยมีช่วงไหนที่ดีอย่างนี้มาก่อนเลย มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ Kantor ถ้าจะตกข่าวแยะ

    ท่าน ศจ บอกว่า มันคงมีส่วน มาจากการพุ่งเป็นพลุ ของนาย Ihor Kolomoyski มหาเศรษฐีใหญ่ชาวยิวนั่นแหละ ซึ่งได้รับเลือก ตั้งแต่ปีก่อน ให้เป็นผู้ว่าการเมือง Dnipropetrovsk (ถ้าสะกดผิดก็ขออำไพนะครับ เขียนยากชะมัด) ซึ่งเป็นเสมือนเมือง ศูนย์กลางของยูเครนเลยนะ ก่อนหน้านั้น นาย มอยสกี้ (Kolomoyski) สร้างศูนย์สันทนาการ มูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญ ขึ้นที่กลางเมือง ต้ังชื่อว่า Menorah Center (menorah คือเชิงเทียน 7 กิ่ง ที่ใช้ในพิธีของชาวยิว และเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาชาวยิว) มีของทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิว รวมทั้ง Holocaust Museum เรียกว่า เป็นศูนย์สันทนาการของชาวยิว ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้าใจไหม… อ้อ อย่างนี้นี่เอง อันนี้ผมรำพึง

    นายมอยสกี้นี่ เป็นคนพูดจาไม่อ้อมค้อม เสียงดังฟังชัด ก็ทั้งรวย ทั้งเป็นผู้ว่าฯ เราๆก็น่าจะคุ้นกับการพูดแบบนี้ของคนอย่างนี้นะครับ เขาบอกว่า เมืองนี้ ไม่มีที่ให้สำหรับพวกที่อยากไปอยู่กับรัสเซีย …เด็ดขาดจริง

    ท่าน ศจ บอก เขาพูดแบบนี้ มันเลยทำให้ภาพพจน์ของรัฐบาลใหม่ ออกกลิ่นยิวแรงไปหน่อย ไม่หน่อยหรอก ท่าน ศจ คุณประธานาธิบดี ช๊อกโกแลต เองก็เพิ่งจัดงานรำลึก 70 ปี ของ Auschwitz แถมตั้งนาย Vladimir Grossman ซึ่งเป็นชาวยิว ให้เป็นประธานสภาใหม่เอี่ยมนี่ด้วย

    Kantor ยังไม่แน่ใจ เธอไปถาม Igor Shchupak หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ Holocaust ว่า ตกลงตอนนี้ พวกยิวที่นี่มีความสุขมากเลยใช่ไหม หัวหน้า บอก ใช่แล้ว มันเป็น golden age ของชาวยิวในยูเครนเชียวล่ะ มันเป็นฝีมือเขาละ ฝีมือของนายมอยสกี้

    นายมอยสกี้ เป็นใครมาจากไหน ข่าวบอกเขารวยมาจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดในแถบนั้น เป็นเจ้าของสื่อ เจ้าของโรงแรม สาระพัด ฯลฯ แต่เรื่องรวย สำหรับบางคนมันอาจจะน่าตื่นเต้น แต่สำหรับชาวยิว เรื่องรวย คงไม่ใช่เป็นเรื่องต้องตื่นเต้น รวยและมีอำนาจต่างหาก ที่เป็นเรื่องจำเป็น เป็นสูตรบังคับ นายมอยสกี้จึงตั้งตัวเป็นมาเฟียใหญ่ประจำยูเครน ถนัดในการเก็บกวาดฝ่ายตรงกันข้าม ธุรกิจสีเทาอยู่ในมือเขาทั้งนั้น นายกเล็กของเมืองที่อยู่ฝั่งที่เชียร์รัสเซีย อีก 2 คน ที่ชาวบ้านเรียกชื่อว่า Dopa กับ Gepa ซึ่งแม้จะเป็นชาวยิวด้วยกัน แต่เมื่ออุดมการณ์ต่างกับเจ้าพ่อมอยสกี้ ผลปรากฏว่า คนหนึ่งจึงถูกยิง และอีกคนถูกจับติดคุก ยิวด้วยกัน ยังเล่นดุขนาดนี้
    เรื่องของนายมอยสกี้ ยังมีที่น่าสนใจ เกี่ยวพันกับสถานการณ์ปัจจุบันของยูเครนคือ นอกจากเป็นผู้ว่าการนครที่เป็นศูนย์กลางของยูเครน เป็นผู้ก่อตั้งสหภาพชาวยิวยุโรป (European Jewish Union) และประกาศชัดเจนว่าไม่เอารัสเซียแล้ว ยังมีข่าวว่า เขามีกองกำลังของตัวเอง จัดตั้งแบบพวกนาซีเยอรมัน (แต่ไม่เกี่ยวกับนาซีเยอรมัน) จำนวนประมาณ 2 หมื่นคน มีนโยบายชัดเจนว่า ถ้าอยู่คนละฝ่าย หรือไม่พอใจ ก็อย่าอยู่ร่วมกัน และนโยบายของเขาคือไม่เอารัสเซียแค่นั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเตรียมกองกำลังนี้ไว้ทำอะไร

    ยาโด๊ป ยี่ห้อ นาย Saak นายYats นายมอยสกี้ นี่เองหรือ ที่ทำให้ คุณช๊อกโกแลต เกิดฟิตจัด คิดขุดหลุมล่อรัสเซีย

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    14 มิ.ย. 2558
    หลุม ตอนที่ 3 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “หลุม” ตอน 3 คุณช๊อกโกแลต ไปได้ยาโด๊ปมาจากไหนไม่ทราบแน่ แต่ต้องถอยหลังไปเล่าบางเรื่องของยูเครน เมื่อปลายปี ค.ศ.2014 เสียหน่อย เผื่อจะหาแหล่งขายยาโด๊ปเจอ ปลายเดือนตุลาคม 2014 คุณช๊อกโกแลต ประธานาธืบดียูเครน จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ เพื่อคัดเด็กในคาถาเข้าสภาตามใจนายใหญ่ เพราะว่าสมาชิกสภาชุดที่มีอยู่ มันสั่งให้ยกมือกางแขนนอนกลิ้งยาก และกว่าจะหมดวาระ ว่าเข้าไปถึงปี 2017 โน่น ไม่ทันการแน่ ข่าวว่าการให้จัดเลือกตั้งใหม่ เป็นใบสั่งของนางเหยี่ยว Victoria Nuland เจ้าของวลีอันโด่งดัง Fuck the EU แห่งกระทรวงต่างประเทศของอเมริกา (อ่านรายละเอียดของสาเหตุการให้ F ของนางเหยี่ยวได้ในนิทานเรื่อง หักหน้าหักหลัง ) เขาสั่งได้ จัดได้กันจริงๆ แล้วยูเครนก็ได้สมาชิกสภาใหม่ ที่อยู่ในแถว ภายใต้การควบคุมของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ แต่หน้าเก่า เด็กในกระเป๋าใส่เศษสตางค์ของนางเหยี่ยว ชื่อนาย Arseniy Yatsenyuk หนุ่มยิวหน้ามน อดีตนายกรัฐมนตรียูเครนสมัยหนึ่ง ที่นางเหยี่ยวเป็นผู้เลือกกับมือ ตัดหน้าอียู และเป็นอดีตรัฐมนตรีคลังอีกสมัย เรียกว่าเป็นตัวโปรดตัวจริงของนางเหยี่ยว ซึ่งข่าวบอกว่า เป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของหน่วยงาน ชื่อ “Church of Scientology” ซึ่งเป็นหน่วยข่าวกรอง แขนงหนึ่งของอเมริกา อีกด้วย นาย Yats ไม่มาคนเดียว เขาเสนอชื่อรัฐมนตรีน่าสนใจ 3 คน คนแรก ชื่อ นาง Natalie Jaresko ให้เป็นรัฐมนตรีการคลัง คุณนาย Ja แม้จะพูดภาษายูเครนคล่องปรื้อ เพราะมาอยู่เมืองเคียฟ ( Kyiv) ต้ังแต่ปี 1992 ในฐานะเจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกัน ใช่ครับสถานทูตอเมริกัน ก็คุณนายเป็นคนอเมริกัน แม้จะอ้างว่ามีรากเหง้างอกจากยูเครน แต่คุณนาย Ja ก็ถือสัญชาติอเมริกัน เรียนจบ ป โท จาก ฮาร์วาด ปี 1995 คุณนาย Ja ลาออกจากสถานทูต ไปคุมกองทุนชื่อ Western NIS Enterprise Fund (WNISEF) ซึ่งเป็นของรัฐบาลอเมริกัน ตั้งโดยสภาสูงของอเมริกัน และเป็นเงินทุนอุดหนุนผ่าน USAID มีขนาดเงินกองทุน จำนวน 150 ล้านเหรียญ นอกจากนี้ คุณนาย Ja ยังบริหารกองทุน ชื่อ Horizon Capital Associates, LLC. (ไม่รู้ขนาดของกองทุน) ทั้ง 2 กองทุน มีวัตถุประสงค์ที่จะลงทุนในธุรกิจบริการ ธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจด้านของกินของใช้ โดยจะลงทุนในบริษัทขนาดกลาง ทั้งในยูเครน เบลาลุส และมอนโดวา เรียกว่า เป็นรายการกวาดกิจการ แถบยูเครนเข้ากระเป๋า ดูๆ ก็ไม่ต่างกับการบังคับให้แปรรูปรัฐวิสากิจ แต่ยูเครนไม่ค่อยมีรัฐวิสาหกิจจะให้แปร เลยต้องใช้กองทุนเข้าไปซื้อบริษัทแบบดื้อๆ ด้านๆ ง่ายกว่าแยะ เมื่อคุณนาย Ja แถลงรับตำแหน่งรัฐมนตรีคลัง คุณนายบอกว่า ทีมเราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ให้มีความโปร่งใส และขจัดทุจริต ฟังคุ้นหูดีไหมครับ สงสัยพวกโพยนี่ เขาอัดโรเนียวแจกทั่วโลก และไอ้พฤติกรรมที่ทำ กับคำพูดนี่ มันก็สับปรับเหมือนกันหมด ผู้คนสงสัย แล้วคนอเมริกันไปเป็นรัฐมนตรีที่ยูเครนได้ยังไง เขียนมั่วหรือเปล่า ไม่มั่วครับ 1 วันก่อนการสาบานตัวเข้ารับตำแหน่ง คุณช๊อกโกแลต ก็จัดการออกสัญชาติยูเครนให้คุณนาย Ja ก็แค่นั้นเอง คุณนายก็ถือ 2 สัญชาติควบ มีปัญหาอะไรไหม โปรดเชื่อมั่นในความเป็นประชาธิปไตย ของอเมริกา ที่จะเข้าไปล้วง ไปขุด ไปออกเสียง สั่งการที่ไหน แม้แต่ไปอยู่ในรัฐบาลประเทศอื่น ก็ได้ในโลก เยี่ยมจังพี่ ผมไม่เคยเห็นใครตวัดได้เก่งอย่างนี้เลย เขียนชมขนาดนี้แล้วจะเลิกป่วน เพจผมไหมครับ ไอ้เรื่องทำให้เครื่องค้าง กดอะไรไม่ได้เลย สลับข้อความ ข้อความหายนี่ ฯลฯ เล่นแบบนี้มานานแล้วนะ เบื่อฉิบหายเลย ให้มันสร้างสรรกว่านี้ได้ไหมครับ ส่งคุณนาย Ja มาคนเดียว คงกลัวจ่ายตลาดไม่ทัน นาย Yats เลยเสนอชื่อ นาย Aviras Abromavicius นักการเงินชาวลิทัวเนีย ให้มารับตำแหน่งรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ นาย Ab นี่ เป็นหุ้นส่วนและผู้จัดการกองทุน ชื่อ East Capital ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในสวีเดน มีกองทุนอยู่ใน ประเทศตลาดเกิดใหม่ 25 ประเทศ ขนาดของแต่กองทุน ประมาณ 100 ล้านเหรียญขึ้นไป ถ้าผมเป็นชาวยูเครน ผมจะยุให้มีการอารยะขัดขืน (ฮา) ไม่จ่ายภาษีจนกว่า บรรดารัฐมนตรีต่างชาตินี่ จะออกไปให้พ้นจากคณะรัฐบาล เพราะมันเป็นการดูหมิ่นประชาชนในชาติมาก ที่เอาคนต่างชาติมาบริหารชาติตนเองน่ะ ชาวยูเครนทนได้ยังไงครับ แล้วคุณช๊อกโกแลต ก็ออกสัญชาติยูเครนให้ นาย Ab พร้อมๆกับ คุณนาย Ja ไม่มีปัญหากับประชาธิปไตยของยูเครน แม้แต่น้อย และไม่มีไอ้พวกใบตองแห้ง มาด่าวันละ 3 เวลาหลังอาหาร เพราะมันเป็นคนจัดมาให้ (ฮา และ โห่) ต้องการประชาธิปไตยอย่างนี้ใช่ไหม ใช่ไหม ใช่ไหม ยังครับ ยัง ยังไม่เป็นประชาธิปไตยพอ นาย Yats เลยไปสรรหามาอีกหนึ่ง คราวนี้ได้ชาวจอร์เจีย ชื่อ Alexander Kvitashvili เขาเป็นอดีตรัฐมนตรีสาธารณะสุข ของจอร์เจีย สมัยที่ นาย Saak, Mikheil Saakashvili เป็นประธานาธิบดี ของ จอร์เจีย ( Georgia) นาย Kvit นี่น่าชื่นชมที่สุด ถือว่าเป็นผู้กล้าหาญจริง เป็นคนต่างชาติ ยังไม่พอ พูดภาษายูเครนไม่ได้ ฟังไม่ออกแม้แต่คำเดียว แต่รับหน้าที่จะมาปราบการทุจริต ในวงการสาธารณสุขของยูเครน ถ้าทำงานนี้สำเร็จ ควรต้องตกรางวัล ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี แทนนาย Yats เสียเลย ถ้านางเหยี่ยว Nuland ยอม อ้อ ตกความไปหน่อย นายKvit นี่ก็เรียนจบ ป โทที่อเมริกา และทำงานที่ Atlanta Medical Center ในอเมริกาอยู่พักหนึ่ง ก่อนกลับมาทำงานกับ United Nations Development Program ที่จอร์เจีย และทำงานร่วมกับหลายองค์กรทางด้านสาธารณสุขของอเมริกา ช่างเลือกกันดีนะครับ ############## ตอน 4 เห็นแหล่งส่งยาโด๊ปของคุณช๊อกโกแลตแวบแวบ แต่ มันยังไม่ชัดเจน Loli Kantor เป็นนักข่าวประเภท ทั้งถ่าย(รูป)ทั้งเล่า ชาวอิสราเอล/อเมริกัน เล่าว่า เธอเดินทางไปโปแลนด์ เมื่อปี ค.ศ.2004 เพื่อไปค้นหาด้วยตัวเอง ว่าเกิดอะไรกับครอบครัวของตัวบ้างระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 Kantor บอกว่า พ่อแม่ของเธอรอดตายจาก Holocaust แต่ก็เห็นชื่อปู่ยาตายาย ลุงป้า ตายเกลี้ยง ตามรายชื่อที่พวกนาซีรวบรวมไว้ เธอบอกว่า ชื่อคนตาย มีแต่ ยิว ยิว ยิว ฉันเดินไปถ่ายรูปสถานที่ฆ่าหมู่ชาวยิวทั้งหลาย ฉันถามตัวเองว่า แล้วชาวยิว ที่ยังเป็นๆอยู่ในยุโรปตะวันออกมีไหม เขาอยู่ที่ไหนกัน แล้วฉันก็พบพวกเขาที่ยูเครน หลังจากน้ันเจ้าตัวก็เทียวไปเทียวมายูเครนต่อมาอีก 8 ปี และเขียนหนังสือ ชื่อ Beyond the Forest ที่มีรูปภาพเกี่ยวกับชีวิตชาวยิวรุ่นเก่า ระหว่างที่ถ่ายรูปทำหนังสือ Kantor ก็ได้เห็นการเกิดใหม่ของชุมชน ชาวยิว rebirth of Jewish communities ในยูเครน Kantor ตื่นเต้น เธอกลับไปคุยกับ David Fisherman ศาสตราจารย์ชาวยิว ที่ Theological Seminary of America ซึ่งก็สอนที่มหาวิทยาลัย Kiew ของยูเครนด้วย ท่าน ศจ บอกว่า ตอนนี้ เหมือนเป็นช่วงเวลาของการดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ ของชาวยิวกับยูเครน ไม่เคยมีช่วงไหนที่ดีอย่างนี้มาก่อนเลย มันเกิดอะไรขึ้นล่ะ Kantor ถ้าจะตกข่าวแยะ ท่าน ศจ บอกว่า มันคงมีส่วน มาจากการพุ่งเป็นพลุ ของนาย Ihor Kolomoyski มหาเศรษฐีใหญ่ชาวยิวนั่นแหละ ซึ่งได้รับเลือก ตั้งแต่ปีก่อน ให้เป็นผู้ว่าการเมือง Dnipropetrovsk (ถ้าสะกดผิดก็ขออำไพนะครับ เขียนยากชะมัด) ซึ่งเป็นเสมือนเมือง ศูนย์กลางของยูเครนเลยนะ ก่อนหน้านั้น นาย มอยสกี้ (Kolomoyski) สร้างศูนย์สันทนาการ มูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญ ขึ้นที่กลางเมือง ต้ังชื่อว่า Menorah Center (menorah คือเชิงเทียน 7 กิ่ง ที่ใช้ในพิธีของชาวยิว และเป็นสัญลักษณ์ของศาสนาชาวยิว) มีของทุกอย่างเกี่ยวกับชาวยิว รวมทั้ง Holocaust Museum เรียกว่า เป็นศูนย์สันทนาการของชาวยิว ที่ใหญ่ที่สุดในโลก เข้าใจไหม… อ้อ อย่างนี้นี่เอง อันนี้ผมรำพึง นายมอยสกี้นี่ เป็นคนพูดจาไม่อ้อมค้อม เสียงดังฟังชัด ก็ทั้งรวย ทั้งเป็นผู้ว่าฯ เราๆก็น่าจะคุ้นกับการพูดแบบนี้ของคนอย่างนี้นะครับ เขาบอกว่า เมืองนี้ ไม่มีที่ให้สำหรับพวกที่อยากไปอยู่กับรัสเซีย …เด็ดขาดจริง ท่าน ศจ บอก เขาพูดแบบนี้ มันเลยทำให้ภาพพจน์ของรัฐบาลใหม่ ออกกลิ่นยิวแรงไปหน่อย ไม่หน่อยหรอก ท่าน ศจ คุณประธานาธิบดี ช๊อกโกแลต เองก็เพิ่งจัดงานรำลึก 70 ปี ของ Auschwitz แถมตั้งนาย Vladimir Grossman ซึ่งเป็นชาวยิว ให้เป็นประธานสภาใหม่เอี่ยมนี่ด้วย Kantor ยังไม่แน่ใจ เธอไปถาม Igor Shchupak หัวหน้าพิพิธภัณฑ์ Holocaust ว่า ตกลงตอนนี้ พวกยิวที่นี่มีความสุขมากเลยใช่ไหม หัวหน้า บอก ใช่แล้ว มันเป็น golden age ของชาวยิวในยูเครนเชียวล่ะ มันเป็นฝีมือเขาละ ฝีมือของนายมอยสกี้ นายมอยสกี้ เป็นใครมาจากไหน ข่าวบอกเขารวยมาจากการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นเจ้าของบริษัทน้ำมันใหญ่ที่สุดในแถบนั้น เป็นเจ้าของสื่อ เจ้าของโรงแรม สาระพัด ฯลฯ แต่เรื่องรวย สำหรับบางคนมันอาจจะน่าตื่นเต้น แต่สำหรับชาวยิว เรื่องรวย คงไม่ใช่เป็นเรื่องต้องตื่นเต้น รวยและมีอำนาจต่างหาก ที่เป็นเรื่องจำเป็น เป็นสูตรบังคับ นายมอยสกี้จึงตั้งตัวเป็นมาเฟียใหญ่ประจำยูเครน ถนัดในการเก็บกวาดฝ่ายตรงกันข้าม ธุรกิจสีเทาอยู่ในมือเขาทั้งนั้น นายกเล็กของเมืองที่อยู่ฝั่งที่เชียร์รัสเซีย อีก 2 คน ที่ชาวบ้านเรียกชื่อว่า Dopa กับ Gepa ซึ่งแม้จะเป็นชาวยิวด้วยกัน แต่เมื่ออุดมการณ์ต่างกับเจ้าพ่อมอยสกี้ ผลปรากฏว่า คนหนึ่งจึงถูกยิง และอีกคนถูกจับติดคุก ยิวด้วยกัน ยังเล่นดุขนาดนี้ เรื่องของนายมอยสกี้ ยังมีที่น่าสนใจ เกี่ยวพันกับสถานการณ์ปัจจุบันของยูเครนคือ นอกจากเป็นผู้ว่าการนครที่เป็นศูนย์กลางของยูเครน เป็นผู้ก่อตั้งสหภาพชาวยิวยุโรป (European Jewish Union) และประกาศชัดเจนว่าไม่เอารัสเซียแล้ว ยังมีข่าวว่า เขามีกองกำลังของตัวเอง จัดตั้งแบบพวกนาซีเยอรมัน (แต่ไม่เกี่ยวกับนาซีเยอรมัน) จำนวนประมาณ 2 หมื่นคน มีนโยบายชัดเจนว่า ถ้าอยู่คนละฝ่าย หรือไม่พอใจ ก็อย่าอยู่ร่วมกัน และนโยบายของเขาคือไม่เอารัสเซียแค่นั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเตรียมกองกำลังนี้ไว้ทำอะไร ยาโด๊ป ยี่ห้อ นาย Saak นายYats นายมอยสกี้ นี่เองหรือ ที่ทำให้ คุณช๊อกโกแลต เกิดฟิตจัด คิดขุดหลุมล่อรัสเซีย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 14 มิ.ย. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1307 มุมมอง 0 รีวิว
  • รูปหล่อหลวงพ่อบุญ รุ่นแรก วัดสาระวัน จ.ปัตตานี ปี2525
    รูปหล่อหลวงพ่อบุญ รุ่นแรก ก้นบรรจุกริ่ง (แบบเรียบ..) วัดสาระวัน จ.ปัตตานี ปี2525 // พระดีพิธีขลัง !! พระเกจิ ปลายด้ามขวาน ที่ศพแข็งเหมือนหิน พระประสบการณ์มากมาย หนึ่งในพระเครื่องของดีของปัตตานี // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครอบจักวาล แคล้วคลาดเป็นเยี่ยม มหาอุตย์ คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม โชคลาภค้าขาย เลื่อนยศตำแหน่ง ความเจริญ รุ่นเรืองก้าวหน้า พลิกชะตาร้ายให้กลายเป็นดี หนุนดวงเสริมชะตาให้เจริญรุ่งเรือง และเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง **

    ** หลวงพ่อบุญ ติสสโร เป็นพระภิกษุที่ประพฤติปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นแบบอย่างที่ดีของพระสงฆ์ และท่านทบทวนบทสวดมนต์สม่ำเสมอ โดยใช้เวลานั่งสวดมนต์หน้าพระประธานบนกุฏิหลังใหญ่ ท่านมีความตั้งใจจริง ในการอบรมสั่งสอน พระภิกษุและสามเณร ท่านจะคอยสังเกตุดูแลอย่างใกล้ชิด หากพบว่าพระภิกษุหรือสามเณร ปฏิบัติไม่ถูกต้องท่านจะเรียกมาว่ากล่าวตักเตือนทันที ตัวอย่างที่พบเห็นได้ชัดเจนเช่น พระภิกษุบวชใหม่ 3-4 รูป ลงจากกุฏิหลังใหญ่มานั่งบนกิ่งต้นทุเรียบ (มีลักษณะล้มติดพื้นดินเหมือนม้านั่ง เป็นต้นทุเรียนที่ให้ผลทุกปี) ท่านอยู่บนกุฏิหลังใหญ่มองเห็นดังนั้น ก็รีบบอกพระภิกษุทันทีว่า พระภิกษุนั่งบนกิ่งต้นทุเรียนนั้นไม่ได้ เพราะต้นไม้ทุกชนิดที่ให้ผลรับประทานได้นั้น ถ้าพระภิกษุจับต้องลำต้นกิ่งหรือส่วนอื่นๆ ของต้นไม้นั้นแล้ว เมื่อฉันท์ผลของต้นไม้นั้นก็เสมือนว่า พระภิกษุนั้นฉันท์ผลไม้ ที่ยังไม่ได้ประเคน เพราะภิกษุจับต้องก่อนแล้ว นอกจากนี้ สิ่งที่ญาติโยมพบเห็นอีกประการหนึ่งคือ ท่านจะไม่หยิบธนบัตรและเหรียญตราด้วยมือของท่านเองเมื่อเวลาจะใช้จ่ายท่านจะเรียกญาติโยมให้เป็นผู้จัดการจ่ายให้จนเป็นที่เรียบร้อย **


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อหลวงพ่อบุญ รุ่นแรก วัดสาระวัน จ.ปัตตานี ปี2525 รูปหล่อหลวงพ่อบุญ รุ่นแรก ก้นบรรจุกริ่ง (แบบเรียบ..) วัดสาระวัน จ.ปัตตานี ปี2525 // พระดีพิธีขลัง !! พระเกจิ ปลายด้ามขวาน ที่ศพแข็งเหมือนหิน พระประสบการณ์มากมาย หนึ่งในพระเครื่องของดีของปัตตานี // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครอบจักวาล แคล้วคลาดเป็นเยี่ยม มหาอุตย์ คงกระพันชาตรี เมตตามหานิยม โชคลาภค้าขาย เลื่อนยศตำแหน่ง ความเจริญ รุ่นเรืองก้าวหน้า พลิกชะตาร้ายให้กลายเป็นดี หนุนดวงเสริมชะตาให้เจริญรุ่งเรือง และเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง ** ** หลวงพ่อบุญ ติสสโร เป็นพระภิกษุที่ประพฤติปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด เป็นแบบอย่างที่ดีของพระสงฆ์ และท่านทบทวนบทสวดมนต์สม่ำเสมอ โดยใช้เวลานั่งสวดมนต์หน้าพระประธานบนกุฏิหลังใหญ่ ท่านมีความตั้งใจจริง ในการอบรมสั่งสอน พระภิกษุและสามเณร ท่านจะคอยสังเกตุดูแลอย่างใกล้ชิด หากพบว่าพระภิกษุหรือสามเณร ปฏิบัติไม่ถูกต้องท่านจะเรียกมาว่ากล่าวตักเตือนทันที ตัวอย่างที่พบเห็นได้ชัดเจนเช่น พระภิกษุบวชใหม่ 3-4 รูป ลงจากกุฏิหลังใหญ่มานั่งบนกิ่งต้นทุเรียบ (มีลักษณะล้มติดพื้นดินเหมือนม้านั่ง เป็นต้นทุเรียนที่ให้ผลทุกปี) ท่านอยู่บนกุฏิหลังใหญ่มองเห็นดังนั้น ก็รีบบอกพระภิกษุทันทีว่า พระภิกษุนั่งบนกิ่งต้นทุเรียนนั้นไม่ได้ เพราะต้นไม้ทุกชนิดที่ให้ผลรับประทานได้นั้น ถ้าพระภิกษุจับต้องลำต้นกิ่งหรือส่วนอื่นๆ ของต้นไม้นั้นแล้ว เมื่อฉันท์ผลของต้นไม้นั้นก็เสมือนว่า พระภิกษุนั้นฉันท์ผลไม้ ที่ยังไม่ได้ประเคน เพราะภิกษุจับต้องก่อนแล้ว นอกจากนี้ สิ่งที่ญาติโยมพบเห็นอีกประการหนึ่งคือ ท่านจะไม่หยิบธนบัตรและเหรียญตราด้วยมือของท่านเองเมื่อเวลาจะใช้จ่ายท่านจะเรียกญาติโยมให้เป็นผู้จัดการจ่ายให้จนเป็นที่เรียบร้อย ** ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • Klook เตรียมเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ: ก้าวใหม่ของแพลตฟอร์มท่องเที่ยวจากเอเชีย

    Klook แพลตฟอร์มจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวชื่อดังจากฮ่องกงที่ได้รับการสนับสนุนจาก SoftBank ได้ยื่นเอกสารขอเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กแล้ว โดยใช้สัญลักษณ์ “KLK” ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจสู่ระดับโลก ท่ามกลางสัญญาณฟื้นตัวของตลาด IPO สหรัฐฯ หลังจากความผันผวนจากสงครามภาษีและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ช่วยกระตุ้นความต้องการลงทุน

    การเข้าตลาดหุ้นครั้งนี้มี Goldman Sachs, Morgan Stanley และ J.P. Morgan เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนในศักยภาพของ Klook ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดท่องเที่ยวดิจิทัล

    Klook ยื่นขอ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ
    เตรียมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE)
    ใช้สัญลักษณ์ “KLK” ในการซื้อขายหุ้น

    ได้รับการสนับสนุนจาก SoftBank
    SoftBank เป็นหนึ่งในผู้ลงทุนหลักของ Klook
    การสนับสนุนนี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเงินทุนในการขยายธุรกิจ

    ตลาด IPO สหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัว
    ปัจจัยบวกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการฟื้นตัวของตลาดหุ้น
    แม้จะมีความล่าช้าจากการปิดทำการของรัฐบาล แต่ความต้องการลงทุนยังคงแข็งแกร่ง

    มีธนาคารชั้นนำเป็นผู้จัดการ IPO
    Goldman Sachs, Morgan Stanley และ J.P. Morgan เป็นผู้จัดการหลัก
    สะท้อนถึงความมั่นใจในศักยภาพของ Klook จากสถาบันการเงินระดับโลก

    คำเตือน: การลงทุนใน IPO มีความเสี่ยง
    ราคาหุ้นอาจผันผวนสูงในช่วงแรกของการเปิดตลาด
    นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลพื้นฐานของบริษัทก่อนตัดสินใจ

    อุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังเผชิญความไม่แน่นอน
    ความเสี่ยงจากโรคระบาด การเมือง และเศรษฐกิจโลกยังคงมีผลต่อธุรกิจ
    การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวอาจไม่เท่ากันในแต่ละภูมิภาค

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/11/travel-booking-platform-klook-makes-us-ipo-filing-public
    📈 Klook เตรียมเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ: ก้าวใหม่ของแพลตฟอร์มท่องเที่ยวจากเอเชีย Klook แพลตฟอร์มจองกิจกรรมและบริการท่องเที่ยวชื่อดังจากฮ่องกงที่ได้รับการสนับสนุนจาก SoftBank ได้ยื่นเอกสารขอเสนอขายหุ้น IPO ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กแล้ว โดยใช้สัญลักษณ์ “KLK” ถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจสู่ระดับโลก ท่ามกลางสัญญาณฟื้นตัวของตลาด IPO สหรัฐฯ หลังจากความผันผวนจากสงครามภาษีและการปรับลดอัตราดอกเบี้ยที่ช่วยกระตุ้นความต้องการลงทุน การเข้าตลาดหุ้นครั้งนี้มี Goldman Sachs, Morgan Stanley และ J.P. Morgan เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนในศักยภาพของ Klook ที่เติบโตอย่างรวดเร็วในตลาดท่องเที่ยวดิจิทัล ✅ Klook ยื่นขอ IPO ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ➡️ เตรียมจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ➡️ ใช้สัญลักษณ์ “KLK” ในการซื้อขายหุ้น ✅ ได้รับการสนับสนุนจาก SoftBank ➡️ SoftBank เป็นหนึ่งในผู้ลงทุนหลักของ Klook ➡️ การสนับสนุนนี้ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและเงินทุนในการขยายธุรกิจ ✅ ตลาด IPO สหรัฐฯ เริ่มฟื้นตัว ➡️ ปัจจัยบวกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและการฟื้นตัวของตลาดหุ้น ➡️ แม้จะมีความล่าช้าจากการปิดทำการของรัฐบาล แต่ความต้องการลงทุนยังคงแข็งแกร่ง ✅ มีธนาคารชั้นนำเป็นผู้จัดการ IPO ➡️ Goldman Sachs, Morgan Stanley และ J.P. Morgan เป็นผู้จัดการหลัก ➡️ สะท้อนถึงความมั่นใจในศักยภาพของ Klook จากสถาบันการเงินระดับโลก ‼️ คำเตือน: การลงทุนใน IPO มีความเสี่ยง ⛔ ราคาหุ้นอาจผันผวนสูงในช่วงแรกของการเปิดตลาด ⛔ นักลงทุนควรศึกษาข้อมูลพื้นฐานของบริษัทก่อนตัดสินใจ ‼️ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวยังเผชิญความไม่แน่นอน ⛔ ความเสี่ยงจากโรคระบาด การเมือง และเศรษฐกิจโลกยังคงมีผลต่อธุรกิจ ⛔ การฟื้นตัวของการท่องเที่ยวอาจไม่เท่ากันในแต่ละภูมิภาค https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/11/travel-booking-platform-klook-makes-us-ipo-filing-public
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Travel booking platform Klook makes US IPO filing public
    (Reuters) -SoftBank-backed Klook, an online travel booking platform, filed for an initial public offering in the United States on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • “OnePlus 15” กับการตัดสินใจไม่ใส่แม่เหล็ก: เพราะแบตใหญ่สำคัญกว่า?

    ลองจินตนาการว่าคุณกำลังถือสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด แต่ต้องแลกกับการไม่มีแม่เหล็กในตัวเครื่องสำหรับการชาร์จแบบ MagSafe เหมือน Pixel หรือ iPhone… นี่คือแนวทางที่ OnePlus เลือกเดินในรุ่นล่าสุด “OnePlus 15”

    OnePlus 15 เตรียมเปิดตัวทั่วโลกในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ พร้อมแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 7,300mAh ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า OnePlus 13 ถึง 22% และใหญ่กว่าคู่แข่งอย่าง Pixel 10 Pro XL ถึง 40% เลยทีเดียว

    แต่สิ่งที่หายไปคือ “แม่เหล็ก” ที่ใช้สำหรับการยึดติดกับแท่นชาร์จไร้สายแบบ MagSafe หรือ PixelSnap ซึ่ง Google และ Apple ใช้กันอย่างแพร่หลาย

    ทำไมถึงไม่ใส่แม่เหล็ก?
    Rudolf Xu ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ OnePlus อธิบายว่า “แม่เหล็กมันหนักเกินไป” และพื้นที่ภายในเครื่องถูกจัดสรรไว้ให้กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และขดลวดชาร์จไร้สายแล้ว หากเพิ่มแม่เหล็กเข้าไปจะต้องลดขนาดแบตลง ซึ่งขัดกับเป้าหมายของ OnePlus ที่ต้องการเป็นผู้นำด้านความอึดของแบต

    แล้วจะใช้งานกับอุปกรณ์แม่เหล็กได้ไหม?
    OnePlus มีทางออกคือ “เคสแม่เหล็ก” ที่ออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับแท่นชาร์จในรถยนต์หรือขาตั้งแบบแม่เหล็กได้ ซึ่งคล้ายกับแนวทางของ Samsung ที่ไม่ใส่ Qi2 ในตัวเครื่อง แต่ให้เคสรองรับแทน

    จุดเด่นของ OnePlus 15
    แบตเตอรี่ขนาด 7,300mAh ใหญ่ที่สุดในกลุ่มเรือธง
    รองรับชาร์จไว 120W แบบสาย และ 50W แบบไร้สาย
    ไม่มีแม่เหล็กในตัวเครื่องเพื่อรักษาน้ำหนักและพื้นที่แบตเตอรี่
    ใช้เคสแม่เหล็กเป็นทางเลือกสำหรับการใช้งานกับแท่นชาร์จ

    เหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจ
    แม่เหล็กเพิ่มน้ำหนักและกินพื้นที่ภายใน
    การตัดแม่เหล็กออกช่วยให้ใส่แบตใหญ่ขึ้น
    แนวทางเดียวกับ Samsung ที่ใช้เคสรองรับ Qi2 แทน

    เปรียบเทียบกับคู่แข่ง
    Pixel 10 Pro XL มีแบต 5,200mAh
    iPhone 17 Pro Max คาดว่ามีแบตประมาณ 5,088mAh
    OnePlus 15 เหนือกว่าด้านความจุแบตอย่างชัดเจน

    ข้อควรระวังในการใช้งาน
    ไม่มีแม่เหล็กในตัวเครื่อง อาจไม่สะดวกกับแท่นชาร์จแม่เหล็กทั่วไป
    ต้องซื้อเคสแม่เหล็กแยกต่างหาก หากต้องการใช้งานแบบ MagSafe
    น้ำหนักเครื่องอาจมากขึ้นจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่

    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/magnets-are-too-heavy-oneplus-exec-explains-why-the-oneplus-15-doesnt-have-pixel-style-magnetic-charging
    📱 “OnePlus 15” กับการตัดสินใจไม่ใส่แม่เหล็ก: เพราะแบตใหญ่สำคัญกว่า? ลองจินตนาการว่าคุณกำลังถือสมาร์ทโฟนที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดในตลาด แต่ต้องแลกกับการไม่มีแม่เหล็กในตัวเครื่องสำหรับการชาร์จแบบ MagSafe เหมือน Pixel หรือ iPhone… นี่คือแนวทางที่ OnePlus เลือกเดินในรุ่นล่าสุด “OnePlus 15” OnePlus 15 เตรียมเปิดตัวทั่วโลกในวันที่ 13 พฤศจิกายนนี้ พร้อมแบตเตอรี่ขนาดมหึมา 7,300mAh ซึ่งใหญ่กว่ารุ่นก่อนหน้า OnePlus 13 ถึง 22% และใหญ่กว่าคู่แข่งอย่าง Pixel 10 Pro XL ถึง 40% เลยทีเดียว แต่สิ่งที่หายไปคือ “แม่เหล็ก” ที่ใช้สำหรับการยึดติดกับแท่นชาร์จไร้สายแบบ MagSafe หรือ PixelSnap ซึ่ง Google และ Apple ใช้กันอย่างแพร่หลาย 🧲 ทำไมถึงไม่ใส่แม่เหล็ก? Rudolf Xu ผู้จัดการฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ OnePlus อธิบายว่า “แม่เหล็กมันหนักเกินไป” และพื้นที่ภายในเครื่องถูกจัดสรรไว้ให้กับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่และขดลวดชาร์จไร้สายแล้ว หากเพิ่มแม่เหล็กเข้าไปจะต้องลดขนาดแบตลง ซึ่งขัดกับเป้าหมายของ OnePlus ที่ต้องการเป็นผู้นำด้านความอึดของแบต 🚗 แล้วจะใช้งานกับอุปกรณ์แม่เหล็กได้ไหม? OnePlus มีทางออกคือ “เคสแม่เหล็ก” ที่ออกแบบมาให้ใช้งานร่วมกับแท่นชาร์จในรถยนต์หรือขาตั้งแบบแม่เหล็กได้ ซึ่งคล้ายกับแนวทางของ Samsung ที่ไม่ใส่ Qi2 ในตัวเครื่อง แต่ให้เคสรองรับแทน ✅ จุดเด่นของ OnePlus 15 ➡️ แบตเตอรี่ขนาด 7,300mAh ใหญ่ที่สุดในกลุ่มเรือธง ➡️ รองรับชาร์จไว 120W แบบสาย และ 50W แบบไร้สาย ➡️ ไม่มีแม่เหล็กในตัวเครื่องเพื่อรักษาน้ำหนักและพื้นที่แบตเตอรี่ ➡️ ใช้เคสแม่เหล็กเป็นทางเลือกสำหรับการใช้งานกับแท่นชาร์จ ✅ เหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจ ➡️ แม่เหล็กเพิ่มน้ำหนักและกินพื้นที่ภายใน ➡️ การตัดแม่เหล็กออกช่วยให้ใส่แบตใหญ่ขึ้น ➡️ แนวทางเดียวกับ Samsung ที่ใช้เคสรองรับ Qi2 แทน ✅ เปรียบเทียบกับคู่แข่ง ➡️ Pixel 10 Pro XL มีแบต 5,200mAh ➡️ iPhone 17 Pro Max คาดว่ามีแบตประมาณ 5,088mAh ➡️ OnePlus 15 เหนือกว่าด้านความจุแบตอย่างชัดเจน ‼️ ข้อควรระวังในการใช้งาน ⛔ ไม่มีแม่เหล็กในตัวเครื่อง อาจไม่สะดวกกับแท่นชาร์จแม่เหล็กทั่วไป ⛔ ต้องซื้อเคสแม่เหล็กแยกต่างหาก หากต้องการใช้งานแบบ MagSafe ⛔ น้ำหนักเครื่องอาจมากขึ้นจากแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/magnets-are-too-heavy-oneplus-exec-explains-why-the-oneplus-15-doesnt-have-pixel-style-magnetic-charging
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 0 รีวิว
  • ซามูไรแบกถาด ตอนที่ 5
    “ซามูไรแบกถาด”

    ตอน 5 (จบ)

    นายอาเบะ ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสมัยที่ 2 ในเดือนธันวาคม 2012 เขามาจากครอบครัวนักการเมืองขนานแท้ดั้งเดิม ท้ังพ่อและปู่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ส่วนแม่ของอาเบะ เป็นลูกสาวของนักการเมืองชื่อดังระดับประเทศ นาย Nobusuke Kishi อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วง 1957-1960 ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่สมัยนายพลโตโจที่นำการรบ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นาย Kishi เป็นผู้ต้ังพรรค Democratic Party ต่อมาพรรคนี้ไปรวมกับพรรค Liberty ของอดีตนายกรัฐมนตรี Shigaru Yoshida พรรคขวาจัด ชาตินิยม และเปลี่ยนชื่อเป็นพรรค LDP ซึ่งครองอำนาจในญี่ปุ่นอย่างยาวนาน

    นายอาเบะ นี่ เคยไปเรียนหนังสือที่ University of Southern California แต่ไม่จบ กลับมาทำงานการเมืองในญี่ปุ่นต่อ เขานับเป็นลูกหม้อของพรรค LDP ถูกวางตัวให้เป็นดาราดาวรุ่ง ในที่สุดก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมใจคนดันในช่วงปี 2005-2006 เขาดูเหมือนนิยมตะวันตก และมีจุดยืนที่แข็งกร้าวกับเกาหลีเหนือมาตลอด โดยพยายามหาทางคว่ำบาตรเกาหลีเหนือผ่านสหประชาติ และเมื่อตอนหาเสียงเลือกต้ังในปี ค.ศ.2012 เขาชูประเด็นเรื่องข้อพิพาทกับจีน และการขึ้นมาของจีนแทนที่ญี่ปุ่น ในเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจและการค้าในเอเซีย

    นับว่า สุดกร่าง CFR มีสายตายาวไกล และลึกซึ้ง การเลือกไพ่แต่ละใบของนักล่าใบตองแห้ง ดูเหมือนจะมีรูปแบบที่ชัดเจนพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบ่อน หรือสร้างรังโจรที่ประเทศใด ไม่ว่าจะหัวนอก หรือหัวใน ต้องพร้อมรับใช้จนสุดทาง และสุดตัว
    คงจำกันได้ว่า CFR นั้นเป็นผลผลิตของกลุ่มอิลิต นักการเงิน และนักธุรกิจ แองโกลอเมริกัน จาก 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ที่เป็นผู้อำนวยการสร้างสงครามโลกครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 ความใหญ่ของ CFR นั้น เกินจินตนาการของเราๆ ชาวโลกส่วนใหญ่ไม่รู้จักว่า CFR คืออะไร มีอิทธิพลแค่ไหน อิทธิพล และอำนาจของ CFR เริ่มเห็นเด่นชัดขึ้น เมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีอิทธิพลครอบงำการเมือง และรัฐบาลของอเมริกา ต้ังแต่ประมาณปี 1950 เป็นต้นมา และเมื่ออำนาจของอเมริกาครอบงำโลก ก็คงไม่เกินไปที่จะบอกว่า CFR นั้นก็มีส่วนครอบงำโลกด้วย

    (เรื่อง ของ CFR นั้น ผมเขียนเล่าไว้ในนิทาน เรื่อง “มายากลยุทธ” และ “แกะรอยนักล่า” สำหรับท่านผู้อ่าน ที่เข้ามาอ่านตอนหลังๆ ถ้าอยากเข้าใจความเป็นไปของโลกนี้ อีกมุมมอง อีกชุดของข้อมูล ลองอ่านนิทาน 2 เรื่องนี้นะครับ)

    ข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับ CFR (เปิดดูจากกูเกิลได้ครับ) คือ ก่อตั้งในปี ค.ศ.1921 มีสมาชิก เริ่มแรกประมาณ 20 คน ซึ่งเป็นชาวอังกฤษและอเมริกัน ปัจจุบันมีสมาชิกทั่วโลกประมา ณ 5 พันคน สมาชิกส่วนใหญ่ เป็นพวกฝรั่งแองโกลแซกซอน และชาวยุโรป ใน 5 พันคนนี้ ส่วนใหญ่เป็นระดับผู้นำ หัวหน้า และผู้บริหารระดับสูงของประเทศ และบรรษัทข้ามชาติ มีหลายคน เป็นประธานาธิบดีของอเมริกา หลายคน เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เป็นรัฐมนตรีกลาโหม เป็นรัฐมนตรีการคลัง เป็นผู้ว่าการธนาคารกลาง เป็นหัวหน้าซีไอเอและหลายคนเป็นพระราชวงศ์ในยุโรปและอังกฤษ ฯลฯ

    สำหรับไทยแลนด์แดนสมันน้อย เรามีคนไทยที่ถูกลาก หรือ สมัครใจ เข้าไปเกี่ยวกับ CFR โดยเป็นสมาชิกขององค์กร ชื่อ Trilatteral Commission ซึ่งเป็นองค์กรลูกของ CFR ที่ต้ังขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1973 ขณะน้ัน นาย David Rockefeller ซึ่งเป็นประธาน CFR เห็นว่า ควรจะเอานักธุรกิจชาวญี่ปุ่น เข้ามาอยู่ในความดูแลของ CFR ด้วย เลยพ่วงเอาชาวเอเซีย ลาติน และอาฟริกา ที่เข้าข่ายน่าจะเป็นประโยชน์ และมีแนวความคิด เกี่ยวกับความเป็นไปในโลกแนวทางเดียวกันกับ CFR เข้ามาร่วมด้วย
    จากเอกสารของ Trilateral Commissionเอง ปี ค.ศ.2014 ปรากฏมีรายชื่อ คนไทย เป็นสมาชิก Trilatteral Commission 4 คน คือ

    1. นายณรงค์ชัย อัครเศรณี
    2. นายสมเกียรติ ต้ังกิจวานิชย์ (ผู้อำนวยการ สถาบัน TDRI ของไทย)
    3. นางธาริษา วัฒนเกศ (อดีต ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย)
    4. นายกานต์ ตระกูลฮุน (กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปูนซิเมนต์ไทย)

    ปี ค.ศ.2015 รายชื่อ ซึ่งเปลี่ยนเมื่อเดือนเมษายน นี้เอง เหลือ 2 ชื่อ ดังนี้

    1. นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์
    2. นางธาริษา วัฒนเกศ

    ทำไมผมพูดเรื่องญี่ปุ่น นายอาเบะ และเครือข่ายของ CFR เพราะมันเกี่ยวกัน และมันเป็นตัวอย่าง ที่น่าจะทำให้เรามองเห็นภาพหลายภาพชัดเจนขึ้น

    CFR นั้น เริ่มมีคนพูดถึงกันในช่วงประมาณปี ค.ศ.1960 แต่ช่วงนั้น ข้อมูลส่วนใหญ่ของ CFR ยังไม่มีออกมาแพร่หลายมากนัก นักวิเคราะห์การเมือง และคนทั่วไป จึงมอง CFR ไปในแนวทฤษฏีสมคบคิด ซึ่งมักทำให้ที่ผู้ได้ยินเรื่อง CFR ไม่ให้น้ำหนัก ไม่ให้ความเชื่อถือ ถึงอำนาจและอิทธิพลจริงขององค์กรนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ง่ายขึ้น และลึกขึ้น มีเอกสารที่เหมือนเป็นใบเสร็จ ออกมาให้เราศึกษามากขึ้น อย่างเช่นรายงานการวิเคราะห์ของ CFR เอง ที่ออกมาให้เห็นแนวความคิดของ CFR และกลายมาเป็นนโยบายของรัฐบาลอเมริกา และการดำเนินงานของอเมริกาตามนโยบาย ที่เสนอแนะโดย CFR อย่างจริงจังในหลายส่วนของโลก จึงทำให้ผู้ที่ติดตามดูความเป็น ไปขององค์กร CFR เชื่อมากขึ้นว่า การครอบงำโลกโดย CFR ไม่ใช่เป็นเพียงทฤษฏี แต่มันเป็นของจริง อำนาจจริง อิทธิพลจริง ที่ครอบงำโลกนี้อยู่

    และถ้ามันเป็นของจริงเช่นนั้น เรื่อง Grand Stategy แผนสอยมังกร ของ CFR ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เราจะอ่านเล่น หรืออ่านแล้วก็แล้วกัน เราน่าจะต้อง อ่าน และวิเคราะห์เองต่อไปอีกด้วยว่า เมื่อญี่ปุ่น ซึ่งถูก Grand Strategy กำหนดให้มีบทบาทสำคัญ ในการสอยมังกรให้ร่วงนั้น ญี่ปุ่นเอาจริง เดินหน้าตามแผนที่ CFR กำหนดขนาดไหน และการเดินตามแผนนั้น เราคงจะพอมองเห็นได้ว่า อเมริกา กำลัง “ใช้” ญี่ปุ่น และไม่ได้ใช้ไปเดินเล่น จ่ายตลาด แต่ เป็นการ “ใช้” ให้ญี่ปุ่นไปรบแทน และอาจไปตายแทน ด้วยค่าใช้จ่ายที่อาจเป็นเงินภาษี หรือเงินกู้ของญี่ปุ่น แต่มันเป็น “ราคา” ที่ชาวญี่ปุ่นจะต้องจ่าย
    ขณะเดียวกัน ถ้าอเมริกลากเอาแดนสยาม เข้าไปร่วมขบวนการกับญี่ปุ่น ให้ช่วยกันสอยจีน เราจะถูก “ใช้” ไปรบแทน จนถึงตายแทน ร่วมกับญี่ปุ่นด้วยหรือไม่ นั่นเป็นประเด็นหนึ่ง ที่ต้องคิดกัน แต่ผมค่อนข้างเชื่อว่า ลุงตู่ของผมคงมองออก ไม่คิดเป็นคนรับใช้ต่างชาติ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ผันแปร มีการบีบไข่กัน จนต้องมีการเปลี่ยนแปลง เราก็ช่วยกันมอง ช่วยกันคิดให้ดีๆ นะครับ รูปแบบที่ไอ้นักล่ามันชอบใช้ ไพ่ที่มันชอบเล่นมีอยู่ อย่าตกหลุมมันง่ายๆอีก นั่นก็เป็นเรื่องหนึ่ง

    แต่อีกเรื่องที่น่าห่วงไม่น้อย หรืออาจจะมากกว่าคือ กรณีที่ญี่ปุ่นเดินหน้า ตาม CFR อย่างไม่หยุดนั่นแหละครับ ถ้าเกิดถึงเวลาอัน “เหมาะสม” อเมริกาสั่งให้ญี่ปุ่นเคลื่อนพล ไปปะทะจีน หรือตอนนั้นสถานการณ์ในเอเซียมันตึงเครียดได้ที่ ตามความต้องการของอเมริกาแล้ว แม้เราจะฉีกตัวออกมาจากการไปช่วยเขาแบกถาดได้ แต่ถ้าบรรดาคุณยุ่น ที่ขณะนี้ กระจายกันอยู่ในแดนสยามของเราไม่น้อย ไม่ว่าในกรุงเทพ โดยเฉพาะแถบสุขุมวิท ซึ่งใกล้จะเปลี่ยนเป็นแดนปลาดิบ แล้ว ยังมีที่ต่างจังหวัด ทางภาคเหนือ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ ภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี ศรีราชา หรือภาคใต้ เช่น ชุมพร ถ้าคุณยุ่นเขาพากันเปลี่ยนชุด หยิบเครื่องแบบทหารมาใส่ เหมือนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2484 ที่กองทหารญี่ปุ่นบุกเข้าเมือง ไทย ยกพลมาจากทางภาคใต้ของไทย มาจาก สงขลา ปัตตานี นครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ พอถึงวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2484 ชาวญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ ก็แต่งชุดทหารเดินเต็มอยู่ในกรุงเทพฯกันหมด แม้แต่หมอฟันของแม่ผม ผมได้แต่หวังว่า เหตุการณ์เช่นนั้นคงไม่เกิดขึ้นอีก

    และแม้ว่า ข้อสังเกตที่ว่า นายอาเบะอาจจะเล่นบท 2 หน้า จะเป็นซามูไรแบกถาด หรือซามูไรทิ้งถาด สิ่งที่ผมเขียนเล่ามา ผลกระทบต่อบ้านเรา ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็คงยังน่าเป็นห่วงเช่นเดิม บางส่วน บางอย่างอาจจะมีการเปลี่ยน ถ้าเขาหักหลังกันเอง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบอะไรขึ้นมา เพราะไม่น่าไว้วางใจทั้งคนใช้ให้แบกถาด และคนแบกถาด หรือจะเป็นคนทิ้งถาด
    ในชีวิตคนเรา เห็นสงครามโลกครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว สงครามโลกครั้งที่ 2 ผมยังไม่โตพอที่จะไปรบ แต่โตพอที่จะรู้เรื่องว่า บ้านเมืองเราอยู่ในสภาพบ้านพัง สาแหร่กขาดอย่างไร ครอบครัวเราส่วนใหญ่ลำบากอย่างไร และมันทิ้งอะไรไว้กับบ้านเมืองเราครอบครัวเรา ผ่านไป 70 ปี ยังจำได้ไม่ลืม

    เราชาวสยาม จะต้องตื่นรู้เสียที ไม่ใช่เขียนให้แตกตื่น แต่ต้องตื่นมารับรู้ ทันเหตุการณ์นอกบ้าน ที่จะมีผลกระทบในบ้านเราเสียบ้าง ช่วยกันปลุก ช่วยกันให้ข้อมูล ไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่รู้แล้วเอาไปหาข้อมูลต่อ ว่า ที่อ่านกันมานี้ จริงเท็จอย่างไร แล้วคิดต่อ ดีกว่าไม่รู้จะคิดอะไร มันเป็นสมัยโลกาภิวัฒน์มิใช่หรือ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็ว เปลี่ยนแปลงเร็ว อย่ามัวเพลิดเพลินอยู่แต่กับการดูละครน้ำเน่า กับข่าวย้อมสี จนลืมสนใจภัยใหญ่ ที่อาจใกล้เราเข้ามาทุกทีแล้วนะครับ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    27 พ.ค. 2558
    ซามูไรแบกถาด ตอนที่ 5 “ซามูไรแบกถาด” ตอน 5 (จบ) นายอาเบะ ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นสมัยที่ 2 ในเดือนธันวาคม 2012 เขามาจากครอบครัวนักการเมืองขนานแท้ดั้งเดิม ท้ังพ่อและปู่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น ส่วนแม่ของอาเบะ เป็นลูกสาวของนักการเมืองชื่อดังระดับประเทศ นาย Nobusuke Kishi อดีตนายกรัฐมนตรี ในช่วง 1957-1960 ซึ่งเคยเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่สมัยนายพลโตโจที่นำการรบ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 นาย Kishi เป็นผู้ต้ังพรรค Democratic Party ต่อมาพรรคนี้ไปรวมกับพรรค Liberty ของอดีตนายกรัฐมนตรี Shigaru Yoshida พรรคขวาจัด ชาตินิยม และเปลี่ยนชื่อเป็นพรรค LDP ซึ่งครองอำนาจในญี่ปุ่นอย่างยาวนาน นายอาเบะ นี่ เคยไปเรียนหนังสือที่ University of Southern California แต่ไม่จบ กลับมาทำงานการเมืองในญี่ปุ่นต่อ เขานับเป็นลูกหม้อของพรรค LDP ถูกวางตัวให้เป็นดาราดาวรุ่ง ในที่สุดก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีสมใจคนดันในช่วงปี 2005-2006 เขาดูเหมือนนิยมตะวันตก และมีจุดยืนที่แข็งกร้าวกับเกาหลีเหนือมาตลอด โดยพยายามหาทางคว่ำบาตรเกาหลีเหนือผ่านสหประชาติ และเมื่อตอนหาเสียงเลือกต้ังในปี ค.ศ.2012 เขาชูประเด็นเรื่องข้อพิพาทกับจีน และการขึ้นมาของจีนแทนที่ญี่ปุ่น ในเรื่องการเติบโตของเศรษฐกิจและการค้าในเอเซีย นับว่า สุดกร่าง CFR มีสายตายาวไกล และลึกซึ้ง การเลือกไพ่แต่ละใบของนักล่าใบตองแห้ง ดูเหมือนจะมีรูปแบบที่ชัดเจนพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบ่อน หรือสร้างรังโจรที่ประเทศใด ไม่ว่าจะหัวนอก หรือหัวใน ต้องพร้อมรับใช้จนสุดทาง และสุดตัว คงจำกันได้ว่า CFR นั้นเป็นผลผลิตของกลุ่มอิลิต นักการเงิน และนักธุรกิจ แองโกลอเมริกัน จาก 2 ฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก ที่เป็นผู้อำนวยการสร้างสงครามโลกครั้งที่ 1 และ ครั้งที่ 2 ความใหญ่ของ CFR นั้น เกินจินตนาการของเราๆ ชาวโลกส่วนใหญ่ไม่รู้จักว่า CFR คืออะไร มีอิทธิพลแค่ไหน อิทธิพล และอำนาจของ CFR เริ่มเห็นเด่นชัดขึ้น เมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยมีอิทธิพลครอบงำการเมือง และรัฐบาลของอเมริกา ต้ังแต่ประมาณปี 1950 เป็นต้นมา และเมื่ออำนาจของอเมริกาครอบงำโลก ก็คงไม่เกินไปที่จะบอกว่า CFR นั้นก็มีส่วนครอบงำโลกด้วย (เรื่อง ของ CFR นั้น ผมเขียนเล่าไว้ในนิทาน เรื่อง “มายากลยุทธ” และ “แกะรอยนักล่า” สำหรับท่านผู้อ่าน ที่เข้ามาอ่านตอนหลังๆ ถ้าอยากเข้าใจความเป็นไปของโลกนี้ อีกมุมมอง อีกชุดของข้อมูล ลองอ่านนิทาน 2 เรื่องนี้นะครับ) ข้อมูลคร่าวๆ เกี่ยวกับ CFR (เปิดดูจากกูเกิลได้ครับ) คือ ก่อตั้งในปี ค.ศ.1921 มีสมาชิก เริ่มแรกประมาณ 20 คน ซึ่งเป็นชาวอังกฤษและอเมริกัน ปัจจุบันมีสมาชิกทั่วโลกประมา ณ 5 พันคน สมาชิกส่วนใหญ่ เป็นพวกฝรั่งแองโกลแซกซอน และชาวยุโรป ใน 5 พันคนนี้ ส่วนใหญ่เป็นระดับผู้นำ หัวหน้า และผู้บริหารระดับสูงของประเทศ และบรรษัทข้ามชาติ มีหลายคน เป็นประธานาธิบดีของอเมริกา หลายคน เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ เป็นรัฐมนตรีกลาโหม เป็นรัฐมนตรีการคลัง เป็นผู้ว่าการธนาคารกลาง เป็นหัวหน้าซีไอเอและหลายคนเป็นพระราชวงศ์ในยุโรปและอังกฤษ ฯลฯ สำหรับไทยแลนด์แดนสมันน้อย เรามีคนไทยที่ถูกลาก หรือ สมัครใจ เข้าไปเกี่ยวกับ CFR โดยเป็นสมาชิกขององค์กร ชื่อ Trilatteral Commission ซึ่งเป็นองค์กรลูกของ CFR ที่ต้ังขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1973 ขณะน้ัน นาย David Rockefeller ซึ่งเป็นประธาน CFR เห็นว่า ควรจะเอานักธุรกิจชาวญี่ปุ่น เข้ามาอยู่ในความดูแลของ CFR ด้วย เลยพ่วงเอาชาวเอเซีย ลาติน และอาฟริกา ที่เข้าข่ายน่าจะเป็นประโยชน์ และมีแนวความคิด เกี่ยวกับความเป็นไปในโลกแนวทางเดียวกันกับ CFR เข้ามาร่วมด้วย จากเอกสารของ Trilateral Commissionเอง ปี ค.ศ.2014 ปรากฏมีรายชื่อ คนไทย เป็นสมาชิก Trilatteral Commission 4 คน คือ 1. นายณรงค์ชัย อัครเศรณี 2. นายสมเกียรติ ต้ังกิจวานิชย์ (ผู้อำนวยการ สถาบัน TDRI ของไทย) 3. นางธาริษา วัฒนเกศ (อดีต ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย) 4. นายกานต์ ตระกูลฮุน (กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปูนซิเมนต์ไทย) ปี ค.ศ.2015 รายชื่อ ซึ่งเปลี่ยนเมื่อเดือนเมษายน นี้เอง เหลือ 2 ชื่อ ดังนี้ 1. นายสมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ 2. นางธาริษา วัฒนเกศ ทำไมผมพูดเรื่องญี่ปุ่น นายอาเบะ และเครือข่ายของ CFR เพราะมันเกี่ยวกัน และมันเป็นตัวอย่าง ที่น่าจะทำให้เรามองเห็นภาพหลายภาพชัดเจนขึ้น CFR นั้น เริ่มมีคนพูดถึงกันในช่วงประมาณปี ค.ศ.1960 แต่ช่วงนั้น ข้อมูลส่วนใหญ่ของ CFR ยังไม่มีออกมาแพร่หลายมากนัก นักวิเคราะห์การเมือง และคนทั่วไป จึงมอง CFR ไปในแนวทฤษฏีสมคบคิด ซึ่งมักทำให้ที่ผู้ได้ยินเรื่อง CFR ไม่ให้น้ำหนัก ไม่ให้ความเชื่อถือ ถึงอำนาจและอิทธิพลจริงขององค์กรนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้การเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ง่ายขึ้น และลึกขึ้น มีเอกสารที่เหมือนเป็นใบเสร็จ ออกมาให้เราศึกษามากขึ้น อย่างเช่นรายงานการวิเคราะห์ของ CFR เอง ที่ออกมาให้เห็นแนวความคิดของ CFR และกลายมาเป็นนโยบายของรัฐบาลอเมริกา และการดำเนินงานของอเมริกาตามนโยบาย ที่เสนอแนะโดย CFR อย่างจริงจังในหลายส่วนของโลก จึงทำให้ผู้ที่ติดตามดูความเป็น ไปขององค์กร CFR เชื่อมากขึ้นว่า การครอบงำโลกโดย CFR ไม่ใช่เป็นเพียงทฤษฏี แต่มันเป็นของจริง อำนาจจริง อิทธิพลจริง ที่ครอบงำโลกนี้อยู่ และถ้ามันเป็นของจริงเช่นนั้น เรื่อง Grand Stategy แผนสอยมังกร ของ CFR ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เราจะอ่านเล่น หรืออ่านแล้วก็แล้วกัน เราน่าจะต้อง อ่าน และวิเคราะห์เองต่อไปอีกด้วยว่า เมื่อญี่ปุ่น ซึ่งถูก Grand Strategy กำหนดให้มีบทบาทสำคัญ ในการสอยมังกรให้ร่วงนั้น ญี่ปุ่นเอาจริง เดินหน้าตามแผนที่ CFR กำหนดขนาดไหน และการเดินตามแผนนั้น เราคงจะพอมองเห็นได้ว่า อเมริกา กำลัง “ใช้” ญี่ปุ่น และไม่ได้ใช้ไปเดินเล่น จ่ายตลาด แต่ เป็นการ “ใช้” ให้ญี่ปุ่นไปรบแทน และอาจไปตายแทน ด้วยค่าใช้จ่ายที่อาจเป็นเงินภาษี หรือเงินกู้ของญี่ปุ่น แต่มันเป็น “ราคา” ที่ชาวญี่ปุ่นจะต้องจ่าย ขณะเดียวกัน ถ้าอเมริกลากเอาแดนสยาม เข้าไปร่วมขบวนการกับญี่ปุ่น ให้ช่วยกันสอยจีน เราจะถูก “ใช้” ไปรบแทน จนถึงตายแทน ร่วมกับญี่ปุ่นด้วยหรือไม่ นั่นเป็นประเด็นหนึ่ง ที่ต้องคิดกัน แต่ผมค่อนข้างเชื่อว่า ลุงตู่ของผมคงมองออก ไม่คิดเป็นคนรับใช้ต่างชาติ แต่ถ้าเกิดเหตุการณ์ผันแปร มีการบีบไข่กัน จนต้องมีการเปลี่ยนแปลง เราก็ช่วยกันมอง ช่วยกันคิดให้ดีๆ นะครับ รูปแบบที่ไอ้นักล่ามันชอบใช้ ไพ่ที่มันชอบเล่นมีอยู่ อย่าตกหลุมมันง่ายๆอีก นั่นก็เป็นเรื่องหนึ่ง แต่อีกเรื่องที่น่าห่วงไม่น้อย หรืออาจจะมากกว่าคือ กรณีที่ญี่ปุ่นเดินหน้า ตาม CFR อย่างไม่หยุดนั่นแหละครับ ถ้าเกิดถึงเวลาอัน “เหมาะสม” อเมริกาสั่งให้ญี่ปุ่นเคลื่อนพล ไปปะทะจีน หรือตอนนั้นสถานการณ์ในเอเซียมันตึงเครียดได้ที่ ตามความต้องการของอเมริกาแล้ว แม้เราจะฉีกตัวออกมาจากการไปช่วยเขาแบกถาดได้ แต่ถ้าบรรดาคุณยุ่น ที่ขณะนี้ กระจายกันอยู่ในแดนสยามของเราไม่น้อย ไม่ว่าในกรุงเทพ โดยเฉพาะแถบสุขุมวิท ซึ่งใกล้จะเปลี่ยนเป็นแดนปลาดิบ แล้ว ยังมีที่ต่างจังหวัด ทางภาคเหนือ เช่น เชียงราย เชียงใหม่ ภาคตะวันออก เช่น ชลบุรี ศรีราชา หรือภาคใต้ เช่น ชุมพร ถ้าคุณยุ่นเขาพากันเปลี่ยนชุด หยิบเครื่องแบบทหารมาใส่ เหมือนสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ.2484 ที่กองทหารญี่ปุ่นบุกเข้าเมือง ไทย ยกพลมาจากทางภาคใต้ของไทย มาจาก สงขลา ปัตตานี นครศรีธรรมราช สุราษฏร์ธานี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ พอถึงวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ.2484 ชาวญี่ปุ่นในกรุงเทพฯ ก็แต่งชุดทหารเดินเต็มอยู่ในกรุงเทพฯกันหมด แม้แต่หมอฟันของแม่ผม ผมได้แต่หวังว่า เหตุการณ์เช่นนั้นคงไม่เกิดขึ้นอีก และแม้ว่า ข้อสังเกตที่ว่า นายอาเบะอาจจะเล่นบท 2 หน้า จะเป็นซามูไรแบกถาด หรือซามูไรทิ้งถาด สิ่งที่ผมเขียนเล่ามา ผลกระทบต่อบ้านเรา ก็คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็คงยังน่าเป็นห่วงเช่นเดิม บางส่วน บางอย่างอาจจะมีการเปลี่ยน ถ้าเขาหักหลังกันเอง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เราอยู่ในสถานะที่ได้เปรียบอะไรขึ้นมา เพราะไม่น่าไว้วางใจทั้งคนใช้ให้แบกถาด และคนแบกถาด หรือจะเป็นคนทิ้งถาด ในชีวิตคนเรา เห็นสงครามโลกครั้งเดียวก็เกินพอแล้ว สงครามโลกครั้งที่ 2 ผมยังไม่โตพอที่จะไปรบ แต่โตพอที่จะรู้เรื่องว่า บ้านเมืองเราอยู่ในสภาพบ้านพัง สาแหร่กขาดอย่างไร ครอบครัวเราส่วนใหญ่ลำบากอย่างไร และมันทิ้งอะไรไว้กับบ้านเมืองเราครอบครัวเรา ผ่านไป 70 ปี ยังจำได้ไม่ลืม เราชาวสยาม จะต้องตื่นรู้เสียที ไม่ใช่เขียนให้แตกตื่น แต่ต้องตื่นมารับรู้ ทันเหตุการณ์นอกบ้าน ที่จะมีผลกระทบในบ้านเราเสียบ้าง ช่วยกันปลุก ช่วยกันให้ข้อมูล ไม่จำเป็นต้องเชื่อ แต่รู้แล้วเอาไปหาข้อมูลต่อ ว่า ที่อ่านกันมานี้ จริงเท็จอย่างไร แล้วคิดต่อ ดีกว่าไม่รู้จะคิดอะไร มันเป็นสมัยโลกาภิวัฒน์มิใช่หรือ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็ว เปลี่ยนแปลงเร็ว อย่ามัวเพลิดเพลินอยู่แต่กับการดูละครน้ำเน่า กับข่าวย้อมสี จนลืมสนใจภัยใหญ่ ที่อาจใกล้เราเข้ามาทุกทีแล้วนะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 27 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1155 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนสอยมังกร ตอนที่ 4
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนสอยมังกร”

    ตอน 4

    หลังจากอ่าน Grand Strategy ไปประมาณ 25 หน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการประเมิน หรือประณาม จีน ด้วยวิธีกระทบกระแทกด่าอาเฮียกับพวก ( ซึ่งสงสัยว่าจะรวมเอาไทยแลนด์แดนสมันน้อยเข้าไปด้วย!?) เสียชอกช้ำ เป็นจ้ำไปทั้งตัวแล้ว ส่วนที่เหลือถึงจะเข้าเรื่องว่า พระเจ้านักล่าใบตองแห้ง คิดจะดำเนินการกับโลกส่วนเอเซียนี้ อย่างไรบ้าง

    สุดกร่างบอกว่า ส่วนสำคัญของอเมริกา ในการสอยมังกร คือเรื่องกองกำลัง ไม่มีใครโดยเฉพาะจีนเอง จะเกรงกลัวอเมริกา ถ้าอเมริกาไม่ปรับปรุงในเรื่องต่อไปนี้

    1. รัฐสภา ต้องยกเลิกเรื่องตัดงบการทหารแบบเหี้ยนเต้ทั้งกระดาน sequestion caps ที่ทำมา 2,3 ปีแล้ว และเปลี่ยนกลับมาเพิ่มงบด้านความมั่นคงและ ทำงานร่วมกับรัฐบาล ในการกำหนดงบประมาณด้านความมั่นคงเสียใหม่

    2. การถ่วงดุลย์เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างจีนกับอเมริกา จะต้องทำให้เกิดขึ้น เพราะเป็นความจำเป็น ในการกำหนดการท่าทีของอเมริกาในเอเซีย

    3. วอชิงตัน จะต้องรีบแสดงท่าทีทางทหาร เพื่อเป็นการต่อต้านการกำหนดเขต A2/AD ของจีน โดยเฉพาะ ในบริเวณที่อเมริกายังมีความได้เปรียบอยู่ทางด้านอาวุธ ที่อเมริกาแอบซ่อนอยู่ทั้งบนน้ำและใต้น้ำ … ข้อนี้อ่านช้าๆ และให้ความสนใจเป็นพิเศษนะครับ มันอาจจะเป็นหัวไม่ขีด ที่เขาจะใช้จุดชนวนก็ได้ ..เพราะมันแปลว่า วอชิงตันกำลังคิดใช้อาวุธตอบโต้กับจีน ในบริเวณที่จีนกำหนดเขต A2/AD ( A2/AD คืออะไร ใจเย็นนิดนะครับ เดี๋ยวจะเล่าขยายในตอนต่อไป)

    4. วอชิงตัน จะต้องย้ำถึงความมีเสรีภาพในเส้นทางการเดินเรือและการบิน รวมทั้งสิทธิพิเศษในเขตเศรษฐกิจ สำหรับด้านทหารและพลเรือน และ” ตอบโต้จีน ” อย่างเหมาะสม เมื่อเสรีภาพดังกล่าวถูกละเมิด…. นี่ก็เป็นอีกข้อ ที่เราควรให้ความสนใจ ….

    4. วอชิงตัน ควรสร้างความสามารถทางทหาร และความสามารถที่จะร่วมงานทุกรูปแบบกับพันธมิตร และหุ้นส่วนในเอเซีย รวมทั้งความช่วยเหลืออื่นๆ เพื่อให้พวกเขากำหนดเขต A2/AD กับจีนด้วย
    5. วอชิงตัน จะต้องเร่งสร้างเครือข่ายระบบสะกัดกั้นการโจมตีจากจรวด และระบบอื่นเป็นการสนับสนุนให้กับพันธมิตรในเอเซีย

    6. วอชิงตัน จะต้องเพิ่มความพยายามในการปกป้องบริเวณชั้นอวกาศของตน และพัฒนาการสื่อสารระบบคลื่นความถี่สูง

    7. วอชิงตัน จะต้องเพิ่มความถี่ของการประจำการณ์ของเรือรบ และเครื่องบินรบในบริเวณทะเลจีนใต้ และตะวันออก

    8. วอชิงตัน จะต้องเพิ่มจำนวน และระยะเวลาการฝึกของกองทัพเรือ ในบริเวณทะเลจีนใต้ และ รอบฝั่งทะเล

    ถ้าขี้เกียจอ่าน 8 ข้อข้างต้นยาวๆ ผมสรุปให้ว่า เป็นข้อเสนอของไอ้สุดกร่าง ที่จะให้อเมริกาคิดใช้อาวุธ ตอบโต้กับจีนในเขต A2/AD ของจีน รวมทั้งติดอาวุธ ให้บรรดาพันธมิตรของอเมริกาในเอเซีย เพื่อให้ทำการขัดขืน และไม่ให้ความร่วมมือกับจีน

    ข้อเสนอแบบนี้ นอกจากจะทำให้อุณหภูมิสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับจีน ร้อนระอุ หรือเย็นเป็นน้ำแข็ง อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ยังเป็นการแบ่งพวก กาหน้าประเทศในเอเซียให้ชัดว่า ใครพวกใคร ใครเป็นพวกอเมริกา ก็ยืด มีปลอกคอ มีอาวุธแจกให้ เป็นการสร้างบรรยากาศ ให้ประเทศในเอเซีย ตั้งการ์ดสูงใส่กัน ไม่ไว้ใจกัน ไม่ร่วมมือกัน ไม่ต่างกับ ที่อเมริกา ทำอยู่ในตะวันออกกลาง

    คราวนี้ ให้เอเซียเป็นสนามรบบ้าง จะได้ไม่น้อยหน้า ตะวันออกกลาง

    และเพื่อให้แน่ใจว่าเอเซีย จะได้มีโอกาสแตกคอกันจริง กัดกันเอง ตามที่อเมริกาต้องการ อเมริกาจะแบ่งหน้าที่ และแจกบทให้ พันธมิตร ลูกหาบ หรือขี้ข้า แต่ละรายดังนี้

    – ญี่ปุ่น : ซึ่งสุดกร่างบอกว่า ไม่เคยผิดหวังกับสอนง่าย สั่งให้นอนให้กลิ้งได้ของญี่ปุ่น ดังนั้น ญี่ปุ่นจะได้รับหน้าที่ใหญ่โต เป็นหัวหมู่ทลวงฟัน เป็นผู้จัดการภาค เป็นตัวแทนอเมริกา คราใดที่อเมริกาไม่ได้มาลูบหลัง ตบหัว บรรดาลูกหาบด้วยตัวเอง ให้หัวหมู่ทำหน้าที่แทน และในฐานะเป็นหัวหมู่ อเมริกาจะจัดเครื่องทรง ติดอาวุธเต็มยศ ชุดใหญ่ ให้แก่ญี่ปุ่น .. มีหวังได้ดู หนัง Pearl Habour รอบสอง

    – เกาหลีใต้ : นอกเหนือจากหน้าที่ทั่วไปแล้ว และได้พัดยศ เครื่องทรงติดอาวุธครบสูตรแล้ว เกาหลีใต้มีภาระกิจพิเศษ ที่จะต้องคิดยุทธศาสตร์ ร่วมกับ หัวหมู่ ในการกำจัดน้องคิมของผมและพรรคพวก ให้พ้นไปจากเกาหลีเหนืออย่างไม่เหลือทั้งเศษทั้งส่วน....น้องคิมครับ ถ้าลูกน้องเขารายงานน้องถึงตรงนี้ น้องก็ใจเย็นหน่อยนะครับ อย่าหุนหันใจร้อน … ใจร้อนเวลาเล็งเป้า เดี๋ยวมันไม่แม่น
    – ออสเตรเลีย : แม้จะอยู่ค่อนไปทางใต้ แต่ก็เป็นตัวเชื่อม อินโดแปซิฟิก ให้อเมริกา ที่สำคัญ มาจากโคตรเดียวกัน แองโกลแซกซอนด้วยกัน ยังไงพัดยศ ทั้งอาวุธ ทั้งทหารประจำฐานทัพ ก็ต้องส่งมาให้อุ่นใจเต็มที่ ติดเครื่องหมายพิเศษอยู่แล้ว สงสัยระบบสกัดกั้นการโจมตี คงจะเป็นรุ่นพิเศษ และติดตั้งให้รุ่นแรกๆ

    – อินเดีย : อันนี้มาแปลก อีนี่ มารวมกลุ่มกันไงเนี่ย ไม่รู้ใคร ต้มใคร แถมสุดกร่างบอกว่าอเมริกา จะต้องทำหูทวนลมเสียบ้าง ในเรื่องที่ลือกันว่า อินเดียก็มีนิวเคลียร์ แถมยังจะต้องสนับสนุนอาวุธให้อินเดียอีกด้วย เพราะอินเดียเป็นประเทศใหญ่ ที่มีเขตแดนติดกับจีนยาวเหยียด และมอบหน้าที่ให้อินเดียเป็นตำรวจน้ำ ดูแลมหาสมุทรอินเดีย อย่าให้เรือของจีนซ่าเข้ามา โดยอเมริกาจะให้ความร่วมมือ และสนับสนุนเทคโนโลยีด้านกองทัพเรือให้กับอินเดีย … รายการนี้ อีนี่ ลุงนิทาน บรรยายไม่ออกเลย เจอแขกเล่นกล คนโบราณนี่ท่านฉลาดจริงๆ

    – เอเซียอาคเณย์ : สุดกร่างบอก แถบนี้เป็นเป้าหมายการบีบของจีน ไม่ใช่แค่เรื่องปัญหาทะเลจีนเท่านั้น

    – ฟิลิปปินส์ : ลูกหาบของตาย ที่ไม่มีปัญญาจะดิ้นรนไปไหนได้ เจอแต่ใต้ฝุ่น จนหัวหมุน แบบนี้ต้องปลอบใจด้วยการเพิ่มกำลังอาวุธ ด้านกองทัพ แบบจัดเต็ม full range เพื่อไม่ให้ใครมาบุกรุกเขตแดนของลูกหาบเดนตายนี้ได้ ….ผมละสงสารประเทศนี้จริง ถูกใช้ซะโทรมไม่ฟื้นเลย เป็นตัวอย่างที่สมันน้อย ควรศึกษาไว้เป็นบทเรียน

    – อินโดนีเซีย : แม้อยู่ไกลปืน แต่ยังไงตาโอก็ต้องให้ดูแล เอ้า จัดไป ให้มีการฝึกร่วมกันให้บ่อยหน่อยแล้วกัน มีแค่นี้เองหรือ …แค่นี้จริงๆครับ แต่ไม่แปลกใจ

    – สิงคโปร์ : จัดการให้มีการยกระดับสมรรถนะ ของกองทัพอากาศ จาก F-16s เป็น F-35s ….อืม สงสัยรายการนี้ หลอกกันใช้นี่หว่า เห็นปู่ลีไปสวรรค์แล้ว ต้มลูกให้เละดีกว่า ให้อะไรไม่ให้ ดันให้เครื่องบิน สิงคโปร์น่ะ ฐานทัพอากาศยังไม่มีเลย เวลาจะฝึกบิน ยังต้องอาศัยฐานแถวบ้านเราเลย แล้ว F-35s เขาว่าขับยาก ฉ. ห. ต้องฝึกอย่างน้อย 1 ปี เครื่องทรงก็น้ำหนักมาก ร่างกายก็ต้องฟิตเปรียะ ถึงจะรับน้ำหนักไหว เออ ถ้าเจ้านายเกิดใจดี ให้มาจริง อาตี๋ผอมกระหร่อง จะขับไหวหรือ แล้วกว่าเครื่องจะมา กว่าจะฝึกเสร็จ ตอนนั้นเกาะสิงคโปร์ จะเหลืออยู่แค่ไหน ผมยังสงสัย
    – มาเลเซีย : จัดการให้มาเลเซียเข้าร่วมโครงการด้านความริเริ่มด้านความ มั่นคง และสนับสนุนให้มาเลเซีย มีส่วนร่วมในการฝึกร่วม ต่างๆ … ดูเหมือน สุดกร่างจะ ให้เข้า โครงการฝึกแยะหน่อย ท่าทาง มาเลเซียนี่ คงจะหนืดยืดยาดพิกล หรือว่า สั่งกันตรงไม่ได้ ต้องฝากชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ไปบอกกับเด็กของนายท่านเอง หรือยังมีเรื่องคาใจเคลียร์ไม่ออกค้างกันอยู่ ถูกสอยซ้ำซาก ใครมันจะอยากคุยด้วย

    – เวียตนาม : จะต้องมีการขยายการฝึกร่วมด้านกองทัพเรือ รวมทั้งฝึกด้านการบรรเทาทุกข์และภัยพิบัติ การค้นหา/การ ช่วยเหลือ โดยกองทัพเรืออเมริกา จะแวะเข้ามาใช้ท่าเรือ Cam Rahn ระยะสั้น แต่ถี่ขึ้น …. รายการนี้ น่าสนใจครับ ทำไม เน้นให้เวียตนามดูแล ด้านการบรรเทาทุกข์และภัยพิบัติ ทั้งๆที่ทหารเวียตนามนี่รบเก่งไม่เบา อ้อ ยังไม่แน่ใจว่า รัศมีของคุณพี่ปูติน จางจากเวียตนามหมดจริงหรือเปล่า หรือสาวเวียตนามยังแอบพกรูปคุณพี่ปูตินไว้ในเบื้องลึกอยู่

    – เมียนมาร์ หรือพม่า : จะมีการให้งบ IMET งบฝึกอบรมทางทหาร ที่อเมริกาเคยใช้หลอกเลี้ยงทหารไทยมา ประมาณ 60 ปี ตอนนี้ ตัดสัมพันธ์กับไทย เลยจะเอาเศษเงินที่เหลืออยู่ ไปหลอกเลี้ยงทหารพม่าแทน และพยายามที่จะดึงทหารพม่าเข้ามาร่วมการฝึกกับนานาชาติ … กำลังจะเป็นเด็กสร้างคนใหม่ เพราะเพิ่งเปิดประเทศ ทรัพยากรยังอยู่อื้อ ที่สำคัญ คุณน้าอองซาน แกชอบคบและซบฝรั่ง มากกว่าเอเซียด้วยกัน เอาเลยลูกพี่ แล้วจะได้รู้จักของจริง

    – ไต้หวัน : ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับ ไต้หวัน อย่างไม่เป็นทางการ ใกล้ชิดอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ถ้านึกเรื่อง เจียงไคเช็ค พี่น้องสามสาวตระกูลซ่ง คงพอเข้าใจสัมพันธ์พิเศษนี้ สุดกร่างบอกว่า ไต้หวัน เป็นส่วนสำคัญใน Grand Strategy กับจีน แน่นอน … คงไม่แคล้ว ใช้คนกันเอง ไปเก็บกันเอง ตามถนัด แต่ก็มีพวกที่เห็นค่าของสายพันธ์ ที่สืบทอดจากที่เดียวกันมายาวนาน แบงค์กงเต๊กใช่ว่าจะซื้อได้หมด

    เอาละครับ ผมไล่เรียงให้ทั้งหมด ที่สุดกร่าง CFR เขาเขียนถึงบทบาท ของประเทศในเอเซีย และเอเซียอาคเณย์ ที่เป็นพรรคพวกของอเมริกาทั้งหมด และมีอยู่ เพียง 4 ประเทศ ที่ เขาไม่เอ่ยถึง คือ บรูไน ลาว กัมพูชา และ ไทย

    ทำไมไม่มีชื่อ ประเทศไทย ดี หรือ ไม่ดี เขามองเราอย่างไร และเราควรจัดสถานะของตนเองไว้ที่ไหนอย่างไร ยังควรให้เขามาใช้ ฐานทัพที่อู่ตะเภา ที่เขาอ้างว่า เพื่อช่วยเหลือในการบรรเทาทุกข์ให้แก่เนปาลหรือไม่

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 พ.ค. 2558
    แผนสอยมังกร ตอนที่ 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนสอยมังกร” ตอน 4 หลังจากอ่าน Grand Strategy ไปประมาณ 25 หน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการประเมิน หรือประณาม จีน ด้วยวิธีกระทบกระแทกด่าอาเฮียกับพวก ( ซึ่งสงสัยว่าจะรวมเอาไทยแลนด์แดนสมันน้อยเข้าไปด้วย!?) เสียชอกช้ำ เป็นจ้ำไปทั้งตัวแล้ว ส่วนที่เหลือถึงจะเข้าเรื่องว่า พระเจ้านักล่าใบตองแห้ง คิดจะดำเนินการกับโลกส่วนเอเซียนี้ อย่างไรบ้าง สุดกร่างบอกว่า ส่วนสำคัญของอเมริกา ในการสอยมังกร คือเรื่องกองกำลัง ไม่มีใครโดยเฉพาะจีนเอง จะเกรงกลัวอเมริกา ถ้าอเมริกาไม่ปรับปรุงในเรื่องต่อไปนี้ 1. รัฐสภา ต้องยกเลิกเรื่องตัดงบการทหารแบบเหี้ยนเต้ทั้งกระดาน sequestion caps ที่ทำมา 2,3 ปีแล้ว และเปลี่ยนกลับมาเพิ่มงบด้านความมั่นคงและ ทำงานร่วมกับรัฐบาล ในการกำหนดงบประมาณด้านความมั่นคงเสียใหม่ 2. การถ่วงดุลย์เรื่องอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างจีนกับอเมริกา จะต้องทำให้เกิดขึ้น เพราะเป็นความจำเป็น ในการกำหนดการท่าทีของอเมริกาในเอเซีย 3. วอชิงตัน จะต้องรีบแสดงท่าทีทางทหาร เพื่อเป็นการต่อต้านการกำหนดเขต A2/AD ของจีน โดยเฉพาะ ในบริเวณที่อเมริกายังมีความได้เปรียบอยู่ทางด้านอาวุธ ที่อเมริกาแอบซ่อนอยู่ทั้งบนน้ำและใต้น้ำ … ข้อนี้อ่านช้าๆ และให้ความสนใจเป็นพิเศษนะครับ มันอาจจะเป็นหัวไม่ขีด ที่เขาจะใช้จุดชนวนก็ได้ ..เพราะมันแปลว่า วอชิงตันกำลังคิดใช้อาวุธตอบโต้กับจีน ในบริเวณที่จีนกำหนดเขต A2/AD ( A2/AD คืออะไร ใจเย็นนิดนะครับ เดี๋ยวจะเล่าขยายในตอนต่อไป) 4. วอชิงตัน จะต้องย้ำถึงความมีเสรีภาพในเส้นทางการเดินเรือและการบิน รวมทั้งสิทธิพิเศษในเขตเศรษฐกิจ สำหรับด้านทหารและพลเรือน และ” ตอบโต้จีน ” อย่างเหมาะสม เมื่อเสรีภาพดังกล่าวถูกละเมิด…. นี่ก็เป็นอีกข้อ ที่เราควรให้ความสนใจ …. 4. วอชิงตัน ควรสร้างความสามารถทางทหาร และความสามารถที่จะร่วมงานทุกรูปแบบกับพันธมิตร และหุ้นส่วนในเอเซีย รวมทั้งความช่วยเหลืออื่นๆ เพื่อให้พวกเขากำหนดเขต A2/AD กับจีนด้วย 5. วอชิงตัน จะต้องเร่งสร้างเครือข่ายระบบสะกัดกั้นการโจมตีจากจรวด และระบบอื่นเป็นการสนับสนุนให้กับพันธมิตรในเอเซีย 6. วอชิงตัน จะต้องเพิ่มความพยายามในการปกป้องบริเวณชั้นอวกาศของตน และพัฒนาการสื่อสารระบบคลื่นความถี่สูง 7. วอชิงตัน จะต้องเพิ่มความถี่ของการประจำการณ์ของเรือรบ และเครื่องบินรบในบริเวณทะเลจีนใต้ และตะวันออก 8. วอชิงตัน จะต้องเพิ่มจำนวน และระยะเวลาการฝึกของกองทัพเรือ ในบริเวณทะเลจีนใต้ และ รอบฝั่งทะเล ถ้าขี้เกียจอ่าน 8 ข้อข้างต้นยาวๆ ผมสรุปให้ว่า เป็นข้อเสนอของไอ้สุดกร่าง ที่จะให้อเมริกาคิดใช้อาวุธ ตอบโต้กับจีนในเขต A2/AD ของจีน รวมทั้งติดอาวุธ ให้บรรดาพันธมิตรของอเมริกาในเอเซีย เพื่อให้ทำการขัดขืน และไม่ให้ความร่วมมือกับจีน ข้อเสนอแบบนี้ นอกจากจะทำให้อุณหภูมิสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับจีน ร้อนระอุ หรือเย็นเป็นน้ำแข็ง อย่างใดอย่างหนึ่งแล้ว ยังเป็นการแบ่งพวก กาหน้าประเทศในเอเซียให้ชัดว่า ใครพวกใคร ใครเป็นพวกอเมริกา ก็ยืด มีปลอกคอ มีอาวุธแจกให้ เป็นการสร้างบรรยากาศ ให้ประเทศในเอเซีย ตั้งการ์ดสูงใส่กัน ไม่ไว้ใจกัน ไม่ร่วมมือกัน ไม่ต่างกับ ที่อเมริกา ทำอยู่ในตะวันออกกลาง คราวนี้ ให้เอเซียเป็นสนามรบบ้าง จะได้ไม่น้อยหน้า ตะวันออกกลาง และเพื่อให้แน่ใจว่าเอเซีย จะได้มีโอกาสแตกคอกันจริง กัดกันเอง ตามที่อเมริกาต้องการ อเมริกาจะแบ่งหน้าที่ และแจกบทให้ พันธมิตร ลูกหาบ หรือขี้ข้า แต่ละรายดังนี้ – ญี่ปุ่น : ซึ่งสุดกร่างบอกว่า ไม่เคยผิดหวังกับสอนง่าย สั่งให้นอนให้กลิ้งได้ของญี่ปุ่น ดังนั้น ญี่ปุ่นจะได้รับหน้าที่ใหญ่โต เป็นหัวหมู่ทลวงฟัน เป็นผู้จัดการภาค เป็นตัวแทนอเมริกา คราใดที่อเมริกาไม่ได้มาลูบหลัง ตบหัว บรรดาลูกหาบด้วยตัวเอง ให้หัวหมู่ทำหน้าที่แทน และในฐานะเป็นหัวหมู่ อเมริกาจะจัดเครื่องทรง ติดอาวุธเต็มยศ ชุดใหญ่ ให้แก่ญี่ปุ่น .. มีหวังได้ดู หนัง Pearl Habour รอบสอง – เกาหลีใต้ : นอกเหนือจากหน้าที่ทั่วไปแล้ว และได้พัดยศ เครื่องทรงติดอาวุธครบสูตรแล้ว เกาหลีใต้มีภาระกิจพิเศษ ที่จะต้องคิดยุทธศาสตร์ ร่วมกับ หัวหมู่ ในการกำจัดน้องคิมของผมและพรรคพวก ให้พ้นไปจากเกาหลีเหนืออย่างไม่เหลือทั้งเศษทั้งส่วน....น้องคิมครับ ถ้าลูกน้องเขารายงานน้องถึงตรงนี้ น้องก็ใจเย็นหน่อยนะครับ อย่าหุนหันใจร้อน … ใจร้อนเวลาเล็งเป้า เดี๋ยวมันไม่แม่น – ออสเตรเลีย : แม้จะอยู่ค่อนไปทางใต้ แต่ก็เป็นตัวเชื่อม อินโดแปซิฟิก ให้อเมริกา ที่สำคัญ มาจากโคตรเดียวกัน แองโกลแซกซอนด้วยกัน ยังไงพัดยศ ทั้งอาวุธ ทั้งทหารประจำฐานทัพ ก็ต้องส่งมาให้อุ่นใจเต็มที่ ติดเครื่องหมายพิเศษอยู่แล้ว สงสัยระบบสกัดกั้นการโจมตี คงจะเป็นรุ่นพิเศษ และติดตั้งให้รุ่นแรกๆ – อินเดีย : อันนี้มาแปลก อีนี่ มารวมกลุ่มกันไงเนี่ย ไม่รู้ใคร ต้มใคร แถมสุดกร่างบอกว่าอเมริกา จะต้องทำหูทวนลมเสียบ้าง ในเรื่องที่ลือกันว่า อินเดียก็มีนิวเคลียร์ แถมยังจะต้องสนับสนุนอาวุธให้อินเดียอีกด้วย เพราะอินเดียเป็นประเทศใหญ่ ที่มีเขตแดนติดกับจีนยาวเหยียด และมอบหน้าที่ให้อินเดียเป็นตำรวจน้ำ ดูแลมหาสมุทรอินเดีย อย่าให้เรือของจีนซ่าเข้ามา โดยอเมริกาจะให้ความร่วมมือ และสนับสนุนเทคโนโลยีด้านกองทัพเรือให้กับอินเดีย … รายการนี้ อีนี่ ลุงนิทาน บรรยายไม่ออกเลย เจอแขกเล่นกล คนโบราณนี่ท่านฉลาดจริงๆ – เอเซียอาคเณย์ : สุดกร่างบอก แถบนี้เป็นเป้าหมายการบีบของจีน ไม่ใช่แค่เรื่องปัญหาทะเลจีนเท่านั้น – ฟิลิปปินส์ : ลูกหาบของตาย ที่ไม่มีปัญญาจะดิ้นรนไปไหนได้ เจอแต่ใต้ฝุ่น จนหัวหมุน แบบนี้ต้องปลอบใจด้วยการเพิ่มกำลังอาวุธ ด้านกองทัพ แบบจัดเต็ม full range เพื่อไม่ให้ใครมาบุกรุกเขตแดนของลูกหาบเดนตายนี้ได้ ….ผมละสงสารประเทศนี้จริง ถูกใช้ซะโทรมไม่ฟื้นเลย เป็นตัวอย่างที่สมันน้อย ควรศึกษาไว้เป็นบทเรียน – อินโดนีเซีย : แม้อยู่ไกลปืน แต่ยังไงตาโอก็ต้องให้ดูแล เอ้า จัดไป ให้มีการฝึกร่วมกันให้บ่อยหน่อยแล้วกัน มีแค่นี้เองหรือ …แค่นี้จริงๆครับ แต่ไม่แปลกใจ – สิงคโปร์ : จัดการให้มีการยกระดับสมรรถนะ ของกองทัพอากาศ จาก F-16s เป็น F-35s ….อืม สงสัยรายการนี้ หลอกกันใช้นี่หว่า เห็นปู่ลีไปสวรรค์แล้ว ต้มลูกให้เละดีกว่า ให้อะไรไม่ให้ ดันให้เครื่องบิน สิงคโปร์น่ะ ฐานทัพอากาศยังไม่มีเลย เวลาจะฝึกบิน ยังต้องอาศัยฐานแถวบ้านเราเลย แล้ว F-35s เขาว่าขับยาก ฉ. ห. ต้องฝึกอย่างน้อย 1 ปี เครื่องทรงก็น้ำหนักมาก ร่างกายก็ต้องฟิตเปรียะ ถึงจะรับน้ำหนักไหว เออ ถ้าเจ้านายเกิดใจดี ให้มาจริง อาตี๋ผอมกระหร่อง จะขับไหวหรือ แล้วกว่าเครื่องจะมา กว่าจะฝึกเสร็จ ตอนนั้นเกาะสิงคโปร์ จะเหลืออยู่แค่ไหน ผมยังสงสัย – มาเลเซีย : จัดการให้มาเลเซียเข้าร่วมโครงการด้านความริเริ่มด้านความ มั่นคง และสนับสนุนให้มาเลเซีย มีส่วนร่วมในการฝึกร่วม ต่างๆ … ดูเหมือน สุดกร่างจะ ให้เข้า โครงการฝึกแยะหน่อย ท่าทาง มาเลเซียนี่ คงจะหนืดยืดยาดพิกล หรือว่า สั่งกันตรงไม่ได้ ต้องฝากชาวเกาะใหญ่เท่าปลายนิ้วก้อยฯ ไปบอกกับเด็กของนายท่านเอง หรือยังมีเรื่องคาใจเคลียร์ไม่ออกค้างกันอยู่ ถูกสอยซ้ำซาก ใครมันจะอยากคุยด้วย – เวียตนาม : จะต้องมีการขยายการฝึกร่วมด้านกองทัพเรือ รวมทั้งฝึกด้านการบรรเทาทุกข์และภัยพิบัติ การค้นหา/การ ช่วยเหลือ โดยกองทัพเรืออเมริกา จะแวะเข้ามาใช้ท่าเรือ Cam Rahn ระยะสั้น แต่ถี่ขึ้น …. รายการนี้ น่าสนใจครับ ทำไม เน้นให้เวียตนามดูแล ด้านการบรรเทาทุกข์และภัยพิบัติ ทั้งๆที่ทหารเวียตนามนี่รบเก่งไม่เบา อ้อ ยังไม่แน่ใจว่า รัศมีของคุณพี่ปูติน จางจากเวียตนามหมดจริงหรือเปล่า หรือสาวเวียตนามยังแอบพกรูปคุณพี่ปูตินไว้ในเบื้องลึกอยู่ – เมียนมาร์ หรือพม่า : จะมีการให้งบ IMET งบฝึกอบรมทางทหาร ที่อเมริกาเคยใช้หลอกเลี้ยงทหารไทยมา ประมาณ 60 ปี ตอนนี้ ตัดสัมพันธ์กับไทย เลยจะเอาเศษเงินที่เหลืออยู่ ไปหลอกเลี้ยงทหารพม่าแทน และพยายามที่จะดึงทหารพม่าเข้ามาร่วมการฝึกกับนานาชาติ … กำลังจะเป็นเด็กสร้างคนใหม่ เพราะเพิ่งเปิดประเทศ ทรัพยากรยังอยู่อื้อ ที่สำคัญ คุณน้าอองซาน แกชอบคบและซบฝรั่ง มากกว่าเอเซียด้วยกัน เอาเลยลูกพี่ แล้วจะได้รู้จักของจริง – ไต้หวัน : ความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับ ไต้หวัน อย่างไม่เป็นทางการ ใกล้ชิดอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ถ้านึกเรื่อง เจียงไคเช็ค พี่น้องสามสาวตระกูลซ่ง คงพอเข้าใจสัมพันธ์พิเศษนี้ สุดกร่างบอกว่า ไต้หวัน เป็นส่วนสำคัญใน Grand Strategy กับจีน แน่นอน … คงไม่แคล้ว ใช้คนกันเอง ไปเก็บกันเอง ตามถนัด แต่ก็มีพวกที่เห็นค่าของสายพันธ์ ที่สืบทอดจากที่เดียวกันมายาวนาน แบงค์กงเต๊กใช่ว่าจะซื้อได้หมด เอาละครับ ผมไล่เรียงให้ทั้งหมด ที่สุดกร่าง CFR เขาเขียนถึงบทบาท ของประเทศในเอเซีย และเอเซียอาคเณย์ ที่เป็นพรรคพวกของอเมริกาทั้งหมด และมีอยู่ เพียง 4 ประเทศ ที่ เขาไม่เอ่ยถึง คือ บรูไน ลาว กัมพูชา และ ไทย ทำไมไม่มีชื่อ ประเทศไทย ดี หรือ ไม่ดี เขามองเราอย่างไร และเราควรจัดสถานะของตนเองไว้ที่ไหนอย่างไร ยังควรให้เขามาใช้ ฐานทัพที่อู่ตะเภา ที่เขาอ้างว่า เพื่อช่วยเหลือในการบรรเทาทุกข์ให้แก่เนปาลหรือไม่ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 พ.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 936 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts