• 52 ปี ข้อตกลงสันติภาพปารีส ปิดฉากสงครามเวียดนาม บทบาทของไทยในสงครามเย็น

    สงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุด ในศตวรรษที่ 20 ซึ่งไม่ได้เพียงแค่ แสดงถึงความขัดแย้ง ระหว่างสองขั้วอำนาจของโลก ในยุคสงครามเย็น แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบ ต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยโดยตรง การลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 นับเป็นจุดสิ้นสุดของสงครามเวียดนาม ซึ่งกินระยะเวลายาวนานถึง 18 ปี 🌏

    จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง
    สงครามเวียดนาม เริ่มต้นจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ระหว่างระบอบคอมมิวนิสต์ และเสรีนิยม ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เวียดนามเหนือ ได้รับการสนับสนุนจาก สหภาพโซเวียต และจีน ในขณะที่เวียดนามใต้ มีสหรัฐอเมริกา เป็นพันธมิตรสำคัญ

    นโยบายของสหรัฐ สกัดกั้นคอมมิวนิสต์
    สหรัฐตัดสินใจ เข้ามามีบทบาทในเวียดนาม ตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2493 ด้วยเป้าหมายในการ "หยุดยั้งการขยายตัวของคอมมิวนิสต์" (Containment Policy) โดยมองว่า หากเวียดนามเหนือ ตกอยู่ใต้อิทธิพลคอมมิวนิสต์ ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็อาจถูกครอบงำด้วยเช่นกัน หรือที่เรียกว่า "ทฤษฎีโดมิโน"

    ประเทศไทย พันธมิตรสำคัญของสหรัฐ
    ในยุคสงครามเย็น ประเทศไทย ได้กลายเป็นพันธมิตรสำคัญ ของสหรัฐอเมริกา ในการต่อสู้กับภัยคอมมิวนิสต์ เนื่องจากไทย ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ใกล้กับเวียดนามและลาว

    รัฐบาลไทยในยุคนั้น โดยเฉพาะภายใต้การนำของ "จอมพลถนอม กิตติขจร" และ "จอมพลประภาส จารุเสถียร" ให้การสนับสนุนสหรัฐเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ใช้ ฐานทัพในประเทศไทย หรือการส่งทหารไทยเข้าร่วมในสงคราม

    ฐานทัพในไทย ศูนย์กลางปฏิบัติการ
    สหรัฐได้ตั้งฐานทัพในประเทศไทยถึง 7 แห่ง ได้แก่
    - ดอนเมือง
    - นครราชสีมา
    - ตาคลี
    - อุบลราชธานี
    - อุดรธานี
    - นครพนม
    - อู่ตะเภา

    ฐานทัพเหล่านี้ เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ สำหรับการทิ้งระเบิด ในเวียดนามเหนือ และการดำเนินปฏิบัติการทางอากาศ โดยมีการประมาณว่า 80% ของการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ ในเวียดนามเหนือ มาจากฐานทัพในประเทศไทย

    ข้อตกลงสันติภาพปารีส จุดสิ้นสุดของสงคราม
    ข้อตกลงสันติภาพปารีส ที่ลงนามในวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 เป็นข้อตกลงสำคัญ ที่มีเป้าหมายเพื่อยุติสงคราม และฟื้นฟูสันติภาพในเวียดนาม ข้อตกลงนี้ลงนามระหว่าง

    - รัฐบาลสหรัฐ
    - รัฐบาลเวียดนามเหนือ
    - รัฐบาลเวียดนามใต้
    - รัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาล แห่งสาธารณรัฐเวียดนามใต้

    เนื้อหาสำคัญ ได้แก่
    - การยุติการแทรกแซงทางทหาร ของสหรัฐในเวียดนาม
    - การถอนทหารอเมริกันทั้งหมด ออกจากเวียดนาม
    - การแลกเปลี่ยนนักโทษสงคราม
    - การยอมรับสถานะของรัฐบาล เวียดนามเหนือและใต้

    ผลกระทบจากข้อตกลง
    การลงนามในข้อตกลงนี้ ส่งผลให้สหรัฐ ถอนกำลังออกจากเวียดนาม อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างเวียดนามเหนือและใต้ ยังคงดำเนินต่อไป และสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2518 เมื่อเวียดนามเหนือ เข้ายึดครองไซง่อน

    ผลกระทบนามต่อประเทศไทย
    1. ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเศรษฐกิจ
    - ความช่วยเหลือจากสหรัฐ การสนับสนุนสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม นำมาซึ่งการลงทุน ด้านโครงสร้างพื้นฐานในไทย เช่น ถนน สนามบิน และเทคโนโลยีทางการทหาร
    - ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การที่ไทยเป็นฐานทัพ นำไปสู่การเติบโตของธุรกิจในท้องถิ่น เช่น โรงแรม บาร์ และธุรกิจบริการ

    2. การสูญเสียเอกราช
    มีข้อถกเถียงว่า การที่ไทยอนุญาตให้สหรัฐ ใช้พื้นที่เป็นฐานทัพ และมีทหารจำนวนมาก ประจำอยู่ในประเทศ เป็นการละเมิด อธิปไตยของชาติ และทำให้เกิดความไม่พอใจ ในกลุ่มนักวิชาการ และนักศึกษา

    3. ผลกระทบทางสังคม
    การมีทหารอเมริกันในไทย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม เช่น การนำวัฒนธรรมตะวันตก เข้ามาในสังคมไทย ซึ่งทั้งส่งผลดี และผลเสียในระยะยาว

    สงครามเวียดนาม และบทบาทของไทยในยุคนั้นเ ป็นตัวอย่างที่สำคัญ ของการดำเนินนโยบาย ในยุคสงครามเย็น แม้จะมีผลกระทบทางลบในด้านสังคม และการสูญเสียเอกราชบางส่วน แต่การสนับสนุนสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม ก็ช่วยให้ไทยรอดพ้นจากการคุกคาม ของคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค

    การลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส เป็นการเตือนให้เราตระหนัก ถึงความสำคัญของสันติภาพ และการเจรจา เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในอนาคต

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 270827 ม.ค. 2568

    #สงครามเวียดนาม #ข้อตกลงปารีส #การเมืองโลก #สงครามเย็น #บทบาทไทยในสงคราม #ประวัติศาสตร์เอเชีย #ฐานทัพสหรัฐในไทย #การเจรจาสันติภาพ #การเมืองระหว่างประเทศ #ประวัติศาสตร์สงคราม

    🎯
    52 ปี ข้อตกลงสันติภาพปารีส ปิดฉากสงครามเวียดนาม บทบาทของไทยในสงครามเย็น สงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่สุด ในศตวรรษที่ 20 ซึ่งไม่ได้เพียงแค่ แสดงถึงความขัดแย้ง ระหว่างสองขั้วอำนาจของโลก ในยุคสงครามเย็น แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนที่ส่งผลกระทบ ต่อภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยโดยตรง การลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส เมื่อวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 นับเป็นจุดสิ้นสุดของสงครามเวียดนาม ซึ่งกินระยะเวลายาวนานถึง 18 ปี 🌏 จุดเริ่มต้นของความขัดแย้ง สงครามเวียดนาม เริ่มต้นจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ระหว่างระบอบคอมมิวนิสต์ และเสรีนิยม ในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เวียดนามเหนือ ได้รับการสนับสนุนจาก สหภาพโซเวียต และจีน ในขณะที่เวียดนามใต้ มีสหรัฐอเมริกา เป็นพันธมิตรสำคัญ นโยบายของสหรัฐ สกัดกั้นคอมมิวนิสต์ สหรัฐตัดสินใจ เข้ามามีบทบาทในเวียดนาม ตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2493 ด้วยเป้าหมายในการ "หยุดยั้งการขยายตัวของคอมมิวนิสต์" (Containment Policy) โดยมองว่า หากเวียดนามเหนือ ตกอยู่ใต้อิทธิพลคอมมิวนิสต์ ประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็อาจถูกครอบงำด้วยเช่นกัน หรือที่เรียกว่า "ทฤษฎีโดมิโน" ประเทศไทย พันธมิตรสำคัญของสหรัฐ ในยุคสงครามเย็น ประเทศไทย ได้กลายเป็นพันธมิตรสำคัญ ของสหรัฐอเมริกา ในการต่อสู้กับภัยคอมมิวนิสต์ เนื่องจากไทย ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ใกล้กับเวียดนามและลาว รัฐบาลไทยในยุคนั้น โดยเฉพาะภายใต้การนำของ "จอมพลถนอม กิตติขจร" และ "จอมพลประภาส จารุเสถียร" ให้การสนับสนุนสหรัฐเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดให้ใช้ ฐานทัพในประเทศไทย หรือการส่งทหารไทยเข้าร่วมในสงคราม ฐานทัพในไทย ศูนย์กลางปฏิบัติการ สหรัฐได้ตั้งฐานทัพในประเทศไทยถึง 7 แห่ง ได้แก่ - ดอนเมือง - นครราชสีมา - ตาคลี - อุบลราชธานี - อุดรธานี - นครพนม - อู่ตะเภา ฐานทัพเหล่านี้ เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ สำหรับการทิ้งระเบิด ในเวียดนามเหนือ และการดำเนินปฏิบัติการทางอากาศ โดยมีการประมาณว่า 80% ของการโจมตีทางอากาศของสหรัฐ ในเวียดนามเหนือ มาจากฐานทัพในประเทศไทย ข้อตกลงสันติภาพปารีส จุดสิ้นสุดของสงคราม ข้อตกลงสันติภาพปารีส ที่ลงนามในวันที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2516 เป็นข้อตกลงสำคัญ ที่มีเป้าหมายเพื่อยุติสงคราม และฟื้นฟูสันติภาพในเวียดนาม ข้อตกลงนี้ลงนามระหว่าง - รัฐบาลสหรัฐ - รัฐบาลเวียดนามเหนือ - รัฐบาลเวียดนามใต้ - รัฐบาลปฏิวัติเฉพาะกาล แห่งสาธารณรัฐเวียดนามใต้ เนื้อหาสำคัญ ได้แก่ - การยุติการแทรกแซงทางทหาร ของสหรัฐในเวียดนาม - การถอนทหารอเมริกันทั้งหมด ออกจากเวียดนาม - การแลกเปลี่ยนนักโทษสงคราม - การยอมรับสถานะของรัฐบาล เวียดนามเหนือและใต้ ผลกระทบจากข้อตกลง การลงนามในข้อตกลงนี้ ส่งผลให้สหรัฐ ถอนกำลังออกจากเวียดนาม อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม ความขัดแย้งระหว่างเวียดนามเหนือและใต้ ยังคงดำเนินต่อไป และสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2518 เมื่อเวียดนามเหนือ เข้ายึดครองไซง่อน ผลกระทบนามต่อประเทศไทย 1. ความเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และเศรษฐกิจ - ความช่วยเหลือจากสหรัฐ การสนับสนุนสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม นำมาซึ่งการลงทุน ด้านโครงสร้างพื้นฐานในไทย เช่น ถนน สนามบิน และเทคโนโลยีทางการทหาร - ผลกระทบทางเศรษฐกิจ การที่ไทยเป็นฐานทัพ นำไปสู่การเติบโตของธุรกิจในท้องถิ่น เช่น โรงแรม บาร์ และธุรกิจบริการ 2. การสูญเสียเอกราช มีข้อถกเถียงว่า การที่ไทยอนุญาตให้สหรัฐ ใช้พื้นที่เป็นฐานทัพ และมีทหารจำนวนมาก ประจำอยู่ในประเทศ เป็นการละเมิด อธิปไตยของชาติ และทำให้เกิดความไม่พอใจ ในกลุ่มนักวิชาการ และนักศึกษา 3. ผลกระทบทางสังคม การมีทหารอเมริกันในไทย ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม เช่น การนำวัฒนธรรมตะวันตก เข้ามาในสังคมไทย ซึ่งทั้งส่งผลดี และผลเสียในระยะยาว สงครามเวียดนาม และบทบาทของไทยในยุคนั้นเ ป็นตัวอย่างที่สำคัญ ของการดำเนินนโยบาย ในยุคสงครามเย็น แม้จะมีผลกระทบทางลบในด้านสังคม และการสูญเสียเอกราชบางส่วน แต่การสนับสนุนสหรัฐ ในสงครามเวียดนาม ก็ช่วยให้ไทยรอดพ้นจากการคุกคาม ของคอมมิวนิสต์ในภูมิภาค การลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส เป็นการเตือนให้เราตระหนัก ถึงความสำคัญของสันติภาพ และการเจรจา เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในอนาคต ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 270827 ม.ค. 2568 #สงครามเวียดนาม #ข้อตกลงปารีส #การเมืองโลก #สงครามเย็น #บทบาทไทยในสงคราม #ประวัติศาสตร์เอเชีย #ฐานทัพสหรัฐในไทย #การเจรจาสันติภาพ #การเมืองระหว่างประเทศ #ประวัติศาสตร์สงคราม 🎯
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายอำเภอเมืองลพบุรี ตรวจเข้มไร่อ้อย
    ป้องกันการเผา
    เกิดปัญหามลพิษทางฝุ่น Pm 2.5
    เขตอำเภอเมืองลพบุรี
    //////////////////////


    จังหวัดลพบุรี โดยอำเภอเมืองลพบุรี รณรงค์ให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ใช้รถตัดอ้อยสด เพื่อลดการเผาอ้อยก่อนตัด เป็นบ่อเกิดปัญหามลพิษทางฝุ่น Pm 2.5

    เมื่อเวลา 14.30 น ในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568
    นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี
    ภายใต้การอำนวยการของ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี
    พร้อมด้วยนางสาวพรนิภา จิกแหล่ม ลงพื้นที่ที่ปลูกอ้อย ตำบลโคกตูม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ซึ่งมีเกษตรกรปลูกอ้อย 305 ราย พื้นที่ 5,394 ไร่ ได้ดำเนินการดังนี้
    1 นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้สอบถามนางมาลี แก้วเกิด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ตำบลโคกตูม ถึงสถานการณ์การตัดอ้อยในพื้นที่ ปรากฏว่าเกษตรกรในพื้นที่ตำบลโคกตูม ส่วนใหญ่ใช้วิธีการตัดอ้อยสดเพื่อส่งโรงงาน 100% โดยใช้รถคัดอ้อยในการเก็บเกี่ยว ซึ่งมีรถตัดอ้อยในพื้นที่กว่า 10 คัน
    2. นางสาวพรนิภา จิกแหล่ม เกษตรอำเภอเมืองลพบุรี นางสาวปรียารัฐ ภูสุวรรณ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และนางสาวนิชาภา ธัมมัญจศิริ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฎิบัติการ ให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการแปลงอ้อยหลังการเก็บเกี่ยว โดยการอัดใบอ้อยเพื่อส่งโรงไฟฟ้าชีวมวล เป็นรายได้อีกทางหนึ่ง
    นายอำเภอเมืองลพบุรี ตรวจเข้มไร่อ้อย ป้องกันการเผา เกิดปัญหามลพิษทางฝุ่น Pm 2.5 เขตอำเภอเมืองลพบุรี ////////////////////// จังหวัดลพบุรี โดยอำเภอเมืองลพบุรี รณรงค์ให้เกษตรกรผู้ปลูกอ้อย ใช้รถตัดอ้อยสด เพื่อลดการเผาอ้อยก่อนตัด เป็นบ่อเกิดปัญหามลพิษทางฝุ่น Pm 2.5 เมื่อเวลา 14.30 น ในวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2568 นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ภายใต้การอำนวยการของ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนางสาวพรนิภา จิกแหล่ม ลงพื้นที่ที่ปลูกอ้อย ตำบลโคกตูม อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ซึ่งมีเกษตรกรปลูกอ้อย 305 ราย พื้นที่ 5,394 ไร่ ได้ดำเนินการดังนี้ 1 นายรัฐพล ธุระพันธ์ นายอำเภอเมืองลพบุรี ได้สอบถามนางมาลี แก้วเกิด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ตำบลโคกตูม ถึงสถานการณ์การตัดอ้อยในพื้นที่ ปรากฏว่าเกษตรกรในพื้นที่ตำบลโคกตูม ส่วนใหญ่ใช้วิธีการตัดอ้อยสดเพื่อส่งโรงงาน 100% โดยใช้รถคัดอ้อยในการเก็บเกี่ยว ซึ่งมีรถตัดอ้อยในพื้นที่กว่า 10 คัน 2. นางสาวพรนิภา จิกแหล่ม เกษตรอำเภอเมืองลพบุรี นางสาวปรียารัฐ ภูสุวรรณ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และนางสาวนิชาภา ธัมมัญจศิริ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฎิบัติการ ให้ความรู้เกี่ยวกับการบริหารจัดการแปลงอ้อยหลังการเก็บเกี่ยว โดยการอัดใบอ้อยเพื่อส่งโรงไฟฟ้าชีวมวล เป็นรายได้อีกทางหนึ่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิชาการวิเคราะห์ศึก อบจ. ศรีสะเกษ อาจถึงคราว "นายใหญ่" สิ้นมนต์ขลังการเมือง ชี้ วาทกรรมแบบเดิมๆ ไร้ผล

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000007968

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นักวิชาการวิเคราะห์ศึก อบจ. ศรีสะเกษ อาจถึงคราว "นายใหญ่" สิ้นมนต์ขลังการเมือง ชี้ วาทกรรมแบบเดิมๆ ไร้ผล อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000007968 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 998 มุมมอง 0 รีวิว
  • บันทึกโบราณ
    เป็นบันทึกโบราณที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา เป็นความเข้าใจของผู้เขียน

    นานมาแล้ว...ก่อนจะมีความทรงจำเกี่ยวกับอดีต มีเผ่าพันธุ์หนึ่งอยู่ร่วมกับอีกหลายเผ่าพันธุ์ เป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ ในทุกๆด้าน รวมทั้งจิตและวิญญาน เป็นแผ่นดินที่อยู่กันกับธรรมชาติ และปัญญาที่ดีงาม เป็นสังคมที่เป็นสังคมในอุดมคติ ที่แผ่นดินอื่นไม่มี แต่เหมือนจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีชะตากรรมที่ติดตัวมาหลายพันหลายหมื่นปีเป็นชะตากรรมหมู่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น คำว่า มีเกิดมีดับ เป็นแบบนี้วนไป

    ประเทศไทย คนไทย และคนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก็เป็นเช่นเดียวกัน เกิดและดับมาหลายครั้ง เกิดและดับ มีความพยายามที่จะรู้ให้ได้ว่าบรรพบุรุษของตัวเองเป็นใคร มาจากไหน เหมือนจะหาหลักฐานมาแสดงให้ทุกคนเห็นช่างยากเย็นเหลือเกิน

    หลักฐานที่จะรู้ให้ได้ว่าบรรพบุรุษของตัวเองเป็นใคร มาจากไหนมีหรือไม่ มีและมีมาก แต่รอยต่อประวัติศาสตร์ และการแยกเพื่อปกครองทำให้มีขบวนการที่ทำไห้หลักฐานที่มีอยู่ไม่ได้ถูกเปิดเผยอย่างถูกต้อง บางอย่างถูกบิดเบือน โดยการชี้แนะจากการศึกษาที่บิดเบือน หรือไม่รู้ไม่เข้าใจจริงจริง

    เผ่าพันธุ์โบราณที่อยู่บนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ได้ทำหลักฐาน ว่าตัวเองและญาติพื่น้องได้จากมา จากแผ่นดินเดิมอย่างไร และผู้ที่ตกค้างอยู่แผ่นดินเดิมที่จากมามีสภาพอย่างไร

    คนโบราณไม่ได้มีความคิดเช่นคนปัจจุบัน คนบนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และคนไทยในปัจจุบันพยายามตามหาว่าเผ่าพันธ์ตัวเองมาจากแผ่นดินไหน แผ่นดินอยู่ที่ใด โดยไม่รู้เลยว่าแผ่นดินของบรรพบุรุษโดนทำลายด้วยน้ำ ทิ้งวัตถุโบราณที่เสมือนบันทึกไว้มากมายบนแผ่นดินที่เรียกว่าเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

    แผ่นดินโบราณเมื่อถูกน้ำเข้าทำลาย คนที่มีสิทธิ์หนีตายไม่ใช่ผู้มีอำนาจมากสุด แต่ผู้ที่จะเสียสละทุกอย่างคือผู้มีอำนาจ

    ผู้ที่รอดคือเด็ก ผู้ปกครองที่มีความรู้ ที่จะถ่ายทอดทุกอย่างให้ลูกหลาน มีชีวิตรอดและมีความรู้ที่จะสืบทอด และถ่ายทอดเรื่องราวในอดีต ให้เด็กๆที่เมื่อโตขึ้น จะได้ทำบันทึกไว้ให้ผู้ที่ไม่รู้ รู้ว่าพวกเขามีชะตากรรมอย่างไร

    โพสต์นี้มีนำหลักฐานหลายอย่างนำมาลงให้ดู แต่มีหลักฐารแบบหนึ่งที่ถูกเรียกว่า ธรรมจักร ธรรมจักรถูกเรียกจากนักวิชาการ ด้านโบราณคดี ผิดไหม ไม่ผิดที่เรียกแบบนั้น แต่เมื่อมีการตรวจสอบกันในเวลาต่อมามีสิ่งที่อยากจะเขียนให้เห็นให้เข้าใจ

    ภายในรูปธรรมจักร ถูกทำโดยชาวทวารวดี ไม่เคยมีใครสงสัยว่ารูปคนที่อยู่บนธรรมจักรเป็นใคร ในรูปมีอัปกิริยาที่ถูกทำมาอย่างเคารพเทิดทูนบูชา ภาพที่เห็นเป็นคนมีอำนาจที่พร้อมที่จะตายบนแผ่นดินที่เป็นอาณาจักรของตัวเองอย่าสงบ ภายใต้ความสงบก็ยังมีความห่วงใยลูกหลาน และคนที่ตัวเองไว้ใจ มือวางอย่างเป็นห่วง และส่งพลังให้คนที่ไว้ใจนำลูกหลานไปสร้างอาณาจักรใหม่ให้ได้ ถึงตัวเองจะต้องตายพร้อมกับน้ำที่ทำลายแผ่นดินนั้นอีกไม่กีนาทีก็ตาม

    วัตถุโบราณที่ถูกเรียกธรรมจักร (ผังเมือง) โบราณและกลองมโหระทึกโบราณ(ผังเมือง)
    คือ...ผังเมืองโบราณที่ลูกหลานตามหากันนั้นเอง ธรรมจักรและกลองมโหระทึกโบราณมีแต่ลายน้ำที่ใช้อธิบายที่ไม่ใช่ตัวหนังสืออธิบาย

    บทความและหลักฐานโบราณ
    โดยคุณทราวิฑะ นอกกรอบ
    Fb ทราวิฑะ นอกกรอบ
    บันทึกโบราณ เป็นบันทึกโบราณที่ไม่เกี่ยวข้องกับศาสนา เป็นความเข้าใจของผู้เขียน นานมาแล้ว...ก่อนจะมีความทรงจำเกี่ยวกับอดีต มีเผ่าพันธุ์หนึ่งอยู่ร่วมกับอีกหลายเผ่าพันธุ์ เป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ ในทุกๆด้าน รวมทั้งจิตและวิญญาน เป็นแผ่นดินที่อยู่กันกับธรรมชาติ และปัญญาที่ดีงาม เป็นสังคมที่เป็นสังคมในอุดมคติ ที่แผ่นดินอื่นไม่มี แต่เหมือนจะเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีชะตากรรมที่ติดตัวมาหลายพันหลายหมื่นปีเป็นชะตากรรมหมู่ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น คำว่า มีเกิดมีดับ เป็นแบบนี้วนไป ประเทศไทย คนไทย และคนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ก็เป็นเช่นเดียวกัน เกิดและดับมาหลายครั้ง เกิดและดับ มีความพยายามที่จะรู้ให้ได้ว่าบรรพบุรุษของตัวเองเป็นใคร มาจากไหน เหมือนจะหาหลักฐานมาแสดงให้ทุกคนเห็นช่างยากเย็นเหลือเกิน หลักฐานที่จะรู้ให้ได้ว่าบรรพบุรุษของตัวเองเป็นใคร มาจากไหนมีหรือไม่ มีและมีมาก แต่รอยต่อประวัติศาสตร์ และการแยกเพื่อปกครองทำให้มีขบวนการที่ทำไห้หลักฐานที่มีอยู่ไม่ได้ถูกเปิดเผยอย่างถูกต้อง บางอย่างถูกบิดเบือน โดยการชี้แนะจากการศึกษาที่บิดเบือน หรือไม่รู้ไม่เข้าใจจริงจริง เผ่าพันธุ์โบราณที่อยู่บนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้ ได้ทำหลักฐาน ว่าตัวเองและญาติพื่น้องได้จากมา จากแผ่นดินเดิมอย่างไร และผู้ที่ตกค้างอยู่แผ่นดินเดิมที่จากมามีสภาพอย่างไร คนโบราณไม่ได้มีความคิดเช่นคนปัจจุบัน คนบนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้และคนไทยในปัจจุบันพยายามตามหาว่าเผ่าพันธ์ตัวเองมาจากแผ่นดินไหน แผ่นดินอยู่ที่ใด โดยไม่รู้เลยว่าแผ่นดินของบรรพบุรุษโดนทำลายด้วยน้ำ ทิ้งวัตถุโบราณที่เสมือนบันทึกไว้มากมายบนแผ่นดินที่เรียกว่าเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แผ่นดินโบราณเมื่อถูกน้ำเข้าทำลาย คนที่มีสิทธิ์หนีตายไม่ใช่ผู้มีอำนาจมากสุด แต่ผู้ที่จะเสียสละทุกอย่างคือผู้มีอำนาจ ผู้ที่รอดคือเด็ก ผู้ปกครองที่มีความรู้ ที่จะถ่ายทอดทุกอย่างให้ลูกหลาน มีชีวิตรอดและมีความรู้ที่จะสืบทอด และถ่ายทอดเรื่องราวในอดีต ให้เด็กๆที่เมื่อโตขึ้น จะได้ทำบันทึกไว้ให้ผู้ที่ไม่รู้ รู้ว่าพวกเขามีชะตากรรมอย่างไร โพสต์นี้มีนำหลักฐานหลายอย่างนำมาลงให้ดู แต่มีหลักฐารแบบหนึ่งที่ถูกเรียกว่า ธรรมจักร ธรรมจักรถูกเรียกจากนักวิชาการ ด้านโบราณคดี ผิดไหม ไม่ผิดที่เรียกแบบนั้น แต่เมื่อมีการตรวจสอบกันในเวลาต่อมามีสิ่งที่อยากจะเขียนให้เห็นให้เข้าใจ ภายในรูปธรรมจักร ถูกทำโดยชาวทวารวดี ไม่เคยมีใครสงสัยว่ารูปคนที่อยู่บนธรรมจักรเป็นใคร ในรูปมีอัปกิริยาที่ถูกทำมาอย่างเคารพเทิดทูนบูชา ภาพที่เห็นเป็นคนมีอำนาจที่พร้อมที่จะตายบนแผ่นดินที่เป็นอาณาจักรของตัวเองอย่าสงบ ภายใต้ความสงบก็ยังมีความห่วงใยลูกหลาน และคนที่ตัวเองไว้ใจ มือวางอย่างเป็นห่วง และส่งพลังให้คนที่ไว้ใจนำลูกหลานไปสร้างอาณาจักรใหม่ให้ได้ ถึงตัวเองจะต้องตายพร้อมกับน้ำที่ทำลายแผ่นดินนั้นอีกไม่กีนาทีก็ตาม วัตถุโบราณที่ถูกเรียกธรรมจักร (ผังเมือง) โบราณและกลองมโหระทึกโบราณ(ผังเมือง) คือ...ผังเมืองโบราณที่ลูกหลานตามหากันนั้นเอง ธรรมจักรและกลองมโหระทึกโบราณมีแต่ลายน้ำที่ใช้อธิบายที่ไม่ใช่ตัวหนังสืออธิบาย บทความและหลักฐานโบราณ โดยคุณทราวิฑะ นอกกรอบ Fb ทราวิฑะ นอกกรอบ
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความจริง มิได้สูญหายไปไหนเลย

    และแล้ว...ความจริงปรากฏเมื่อผู้เขียนได้อ่านความหมาย เพื่อให้เราเข้าใจบรรพบุรุษค่ะ
    …….

    ลายน้ำโบราณ
    ลายน้ำโบราณที่อยู่บนแผ่นหินที่ถูกสลัก และมีนักวิชาการโบราณคดีเรียกว่าธรรมจักร แต่ไม่มีการอธิบายว่าลายน้ำหรือรูปต่างต่างบนหินสลักที่เรียกว่าธรรมจักรโบราณนั้นมีจุดประสงค์อะไร

    มีลายน้ำบนวัตถุโบราณหลายชนิดที่ยังไม่มีคำอธิบาย ลายน้ำบนโบราณวัตถุที่มีอยู่บนแผ่นดินนี้เกี่ยวพันกับสาเหตุที่ ทำไมถึงหาแผ่นดินของบรรพบุรุษของคนไทยและของคนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เจอ ลายน้ำคือคำตอบ

    "ความจริงไม่ใช่ไม่มี หรือสูญหาย แต่ความจริง คนเราเจอแล้วไม่ค่อยเข้าใจเอง"

    บทความและหลักฐานโบราณ
    โดยคุณทราวิฑะ นอกกรอบ
    Fb ทราวิฑะ นอกกรอบ
    ความจริง มิได้สูญหายไปไหนเลย และแล้ว...ความจริงปรากฏเมื่อผู้เขียนได้อ่านความหมาย เพื่อให้เราเข้าใจบรรพบุรุษค่ะ ……. ลายน้ำโบราณ ลายน้ำโบราณที่อยู่บนแผ่นหินที่ถูกสลัก และมีนักวิชาการโบราณคดีเรียกว่าธรรมจักร แต่ไม่มีการอธิบายว่าลายน้ำหรือรูปต่างต่างบนหินสลักที่เรียกว่าธรรมจักรโบราณนั้นมีจุดประสงค์อะไร มีลายน้ำบนวัตถุโบราณหลายชนิดที่ยังไม่มีคำอธิบาย ลายน้ำบนโบราณวัตถุที่มีอยู่บนแผ่นดินนี้เกี่ยวพันกับสาเหตุที่ ทำไมถึงหาแผ่นดินของบรรพบุรุษของคนไทยและของคนเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ไม่เจอ ลายน้ำคือคำตอบ "ความจริงไม่ใช่ไม่มี หรือสูญหาย แต่ความจริง คนเราเจอแล้วไม่ค่อยเข้าใจเอง" บทความและหลักฐานโบราณ โดยคุณทราวิฑะ นอกกรอบ Fb ทราวิฑะ นอกกรอบ
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปะการังเจ็ดสี Unseen กองหินขาว จ.สตูล

    เอ่ยถึงจังหวัดสตูล หลายคนมักจะถึงเกาะตะรุเตา เกาะหลีเป๊ะ อาดังราวี แต่รู้หรือไม่ว่า ที่จังหวัดสตูล ยังมีทะเลอีกหนึ่งจุดที่รอนักท่องเที่ยวมาสัมผัสความงามใต้ท้องทะเลลึก ณ กองหินขาว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา

    หลายปีที่ผ่านมา ชื่อของกองหินขาว โด่งดังขึ้นมา จากโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งเหล่านักวิชาการ -นักอนุรักษ์มองว่าการก่อสร้างท่าเรือดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงกับกองหินขาว และระบบนิเวศวิทยาทางทะเลที่อยู่ล้อมรอบ ดังนั้นจึงมีการนำภาพนิ่ง - วีดีโอ ต่างๆของท้องทะเลใต้กองหินขาวและบริเวณรอบๆมานำเสนอต่อประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับรู้ ได้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ใต้ท้องทะเลแห่งนี้มีของดีล้ำค่าเพียงใด

    ผลของการออกโรงของนักวิชาการ -นักอนุรักษ์ รวมไปถึงชุมชนที่หวั่นว่าจะได้รับผลกระทบ ส่งผลให้รัฐบาลโดยกรมเจ้าท่า ได้ลงนามร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นคู่สัญญายุติโครงการศึกษาทบทวนและสำรวจออกแบบรายละเอียด (EHIA) โครงการท่าเรือน้ำลึกฯ (ปากบารา) เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562

    #ปะการัง7สี
    ปะการังเจ็ดสี Unseen กองหินขาว จ.สตูล เอ่ยถึงจังหวัดสตูล หลายคนมักจะถึงเกาะตะรุเตา เกาะหลีเป๊ะ อาดังราวี แต่รู้หรือไม่ว่า ที่จังหวัดสตูล ยังมีทะเลอีกหนึ่งจุดที่รอนักท่องเที่ยวมาสัมผัสความงามใต้ท้องทะเลลึก ณ กองหินขาว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา หลายปีที่ผ่านมา ชื่อของกองหินขาว โด่งดังขึ้นมา จากโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งเหล่านักวิชาการ -นักอนุรักษ์มองว่าการก่อสร้างท่าเรือดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงกับกองหินขาว และระบบนิเวศวิทยาทางทะเลที่อยู่ล้อมรอบ ดังนั้นจึงมีการนำภาพนิ่ง - วีดีโอ ต่างๆของท้องทะเลใต้กองหินขาวและบริเวณรอบๆมานำเสนอต่อประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับรู้ ได้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ใต้ท้องทะเลแห่งนี้มีของดีล้ำค่าเพียงใด ผลของการออกโรงของนักวิชาการ -นักอนุรักษ์ รวมไปถึงชุมชนที่หวั่นว่าจะได้รับผลกระทบ ส่งผลให้รัฐบาลโดยกรมเจ้าท่า ได้ลงนามร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นคู่สัญญายุติโครงการศึกษาทบทวนและสำรวจออกแบบรายละเอียด (EHIA) โครงการท่าเรือน้ำลึกฯ (ปากบารา) เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 #ปะการัง7สี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • เริ่มแล้ว!!
    พลเรือเอกหญิงลินดา ฟาแกน (Linda Fagan) ผู้บัญชาการหน่วยยามชายฝั่งสหรัฐอเมริกา และยังเป็นพลเรือเอกหญิงระดับสี่ดาวคนแรกของหน่วยยามชายฝั่งสหรัฐ ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่ละเลยการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยที่ชายแดนและเอาแต่เน้นนโยบายความเท่าเทียม หรือ DEI มากเกินไป
    DEI :
    D- Diversity (ความหลากหลาย)
    E- Equity (ความเท่าเทียม)
    I- Inclusion (การเปิดรับคนทุกคน)
    .
    นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอีกหลายรายที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลของไบเดน โดนไล่ออกไปแล้ว เช่น :
    - โฮเซ อันเดรส (Jose Andres) จากสภากีฬา ฟิตเนส และโภชนาการของประธานาธิบดี (President’s Council on Sports, Fitness and Nutrition)
    - พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ (Mark Milley) จากสภาที่ปรึกษาโครงสร้างพื้นฐานแห่งชาติ (the National Infrastructure Advisory Council)
    - ไบรอัน ฮุก (Brian Hook) จากสถาบันวิลสันเพื่อนักวิชาการ (the Wilson Center for Scholars)
    - คีชา แลนซ์ บอตทอมส์ (Keisha Lance Bottoms) จากสภาการส่งออกของประธานาธิบดี (the President’s Export Council)
    เริ่มแล้ว!! พลเรือเอกหญิงลินดา ฟาแกน (Linda Fagan) ผู้บัญชาการหน่วยยามชายฝั่งสหรัฐอเมริกา และยังเป็นพลเรือเอกหญิงระดับสี่ดาวคนแรกของหน่วยยามชายฝั่งสหรัฐ ถูกไล่ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากไม่ละเลยการแก้ไขปัญหาความปลอดภัยที่ชายแดนและเอาแต่เน้นนโยบายความเท่าเทียม หรือ DEI มากเกินไป DEI : D- Diversity (ความหลากหลาย) E- Equity (ความเท่าเทียม) I- Inclusion (การเปิดรับคนทุกคน) . นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวอีกหลายรายที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาลของไบเดน โดนไล่ออกไปแล้ว เช่น : - โฮเซ อันเดรส (Jose Andres) จากสภากีฬา ฟิตเนส และโภชนาการของประธานาธิบดี (President’s Council on Sports, Fitness and Nutrition) - พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ (Mark Milley) จากสภาที่ปรึกษาโครงสร้างพื้นฐานแห่งชาติ (the National Infrastructure Advisory Council) - ไบรอัน ฮุก (Brian Hook) จากสถาบันวิลสันเพื่อนักวิชาการ (the Wilson Center for Scholars) - คีชา แลนซ์ บอตทอมส์ (Keisha Lance Bottoms) จากสภาการส่งออกของประธานาธิบดี (the President’s Export Council)
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 1 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้สัตย์ปฏิญาณ ด้วยการชูมือขวาขึ้น แต่ไม่ได้วางมือซ้ายบนพระคัมภีร์ไบเบิล 2 เล่มที่ เมลาเนีย ภรรยาของเขา ยืนถืออยู่ข้างๆ ก่อประเด็นคำถามว่ามันจะส่งผลกระทบใดๆ หรือไม่ และมันเป็นการสาบานตนที่ชอบตามรัฐธรรมนูญหรือเปล่า
    .
    แม้พวกนักวิชาการออกมาแสดงความคิดเห็นว่าความพลั้งเผลอดังกล่าวไม่มีผลในทางปฏิบัติ แต่ประเด็นนี้โหมกระพือความอยากรู้บนสื่อสังคมออนไลน์ โดยกรณีที่ ทรัมป์ ไม่วางมือบนพระคัมภีร์ไบเบิล กลายเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทรัมป์ในลำดับต้นๆ ที่ถูกค้นหามากที่สุดบนกูเกิลในช่วงบ่ายวันจันทร์ (20 ม.ค.)
    .
    เฌเรมี ซูรี ศาสตราจารย์และนักวิชาการด้านประธานาธิบดี แห่งมหาวิทยาลัยเทกซัส ระบุว่าสิ่งที่ว่าที่ประธานาธิบดีใช้ให้คำสัตย์ปฏิญาณ ไม่ว่าจะเป็นพระคัมภีร์ไบเบิล เอกสารประวัติศาสตร์ หรือไม่ใช้อะไรเลย ไม่เกี่ยวข้องกับการเข้ารับอำนาจของประธานาธิบดีรายนั้นๆ
    .
    "ไม่มีอะไรในรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่าประธานาธิบดีจำเป็นต้องผูกโยงเรื่องนี้กับพระผู้เป็นเจ้าอยู่แล้ว มันเป็นการสาบานตนต่อรัฐธรรมนูญ" เขากล่าว "ผมไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวข้องใดๆ กับการสาบานตนของเขา" พร้อมบอกว่ารัฐธรรมนูญอนุญาตให้ว่าที่ประธานาธิบดีทั้งสาบานหรือยืนยันก็ได้ "บิดาผู้ก่อตั้งสหรัฐฯ เปิดกว้างสำหรับใครก็ตามที่ให้คำสัตย์ปฏิญาณ"
    .
    โฆษกของทรัมป์ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว
    .
    ตามมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ระบุไว้ว่า ว่าที่ประธานาธิบดีควรกล่าวตามหลังคำสัตย์ปฏิญาณหรือคำยืนยัน ว่า "ข้าพเจ้า (ชื่อ) ขอให้คำสาบาน (หรือยืนยัน) อย่างจริงจังว่า จะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างซื่อสัตย์ และจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อปกปักรักษา คุ้มครอง และปกป้องรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ (ขอพระเจ้าทรงโปรด)"
    .
    ทีมเปลี่ยนผ่านของทรัมป์ เผยว่าทรัมป์เลือกพระคัมภีร์ไบเบิลของ อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐฯ ในการสาบานตน ส่วนอีกเล่มเป็นพระคัมภีร์ที่มารดามอบให้เขา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006236
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ให้สัตย์ปฏิญาณ ด้วยการชูมือขวาขึ้น แต่ไม่ได้วางมือซ้ายบนพระคัมภีร์ไบเบิล 2 เล่มที่ เมลาเนีย ภรรยาของเขา ยืนถืออยู่ข้างๆ ก่อประเด็นคำถามว่ามันจะส่งผลกระทบใดๆ หรือไม่ และมันเป็นการสาบานตนที่ชอบตามรัฐธรรมนูญหรือเปล่า . แม้พวกนักวิชาการออกมาแสดงความคิดเห็นว่าความพลั้งเผลอดังกล่าวไม่มีผลในทางปฏิบัติ แต่ประเด็นนี้โหมกระพือความอยากรู้บนสื่อสังคมออนไลน์ โดยกรณีที่ ทรัมป์ ไม่วางมือบนพระคัมภีร์ไบเบิล กลายเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทรัมป์ในลำดับต้นๆ ที่ถูกค้นหามากที่สุดบนกูเกิลในช่วงบ่ายวันจันทร์ (20 ม.ค.) . เฌเรมี ซูรี ศาสตราจารย์และนักวิชาการด้านประธานาธิบดี แห่งมหาวิทยาลัยเทกซัส ระบุว่าสิ่งที่ว่าที่ประธานาธิบดีใช้ให้คำสัตย์ปฏิญาณ ไม่ว่าจะเป็นพระคัมภีร์ไบเบิล เอกสารประวัติศาสตร์ หรือไม่ใช้อะไรเลย ไม่เกี่ยวข้องกับการเข้ารับอำนาจของประธานาธิบดีรายนั้นๆ . "ไม่มีอะไรในรัฐธรรมนูญระบุไว้ว่าประธานาธิบดีจำเป็นต้องผูกโยงเรื่องนี้กับพระผู้เป็นเจ้าอยู่แล้ว มันเป็นการสาบานตนต่อรัฐธรรมนูญ" เขากล่าว "ผมไม่คิดว่ามันจะเกี่ยวข้องใดๆ กับการสาบานตนของเขา" พร้อมบอกว่ารัฐธรรมนูญอนุญาตให้ว่าที่ประธานาธิบดีทั้งสาบานหรือยืนยันก็ได้ "บิดาผู้ก่อตั้งสหรัฐฯ เปิดกว้างสำหรับใครก็ตามที่ให้คำสัตย์ปฏิญาณ" . โฆษกของทรัมป์ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องดังกล่าว . ตามมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ระบุไว้ว่า ว่าที่ประธานาธิบดีควรกล่าวตามหลังคำสัตย์ปฏิญาณหรือคำยืนยัน ว่า "ข้าพเจ้า (ชื่อ) ขอให้คำสาบาน (หรือยืนยัน) อย่างจริงจังว่า จะปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างซื่อสัตย์ และจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อปกปักรักษา คุ้มครอง และปกป้องรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ (ขอพระเจ้าทรงโปรด)" . ทีมเปลี่ยนผ่านของทรัมป์ เผยว่าทรัมป์เลือกพระคัมภีร์ไบเบิลของ อับราฮัม ลินคอล์น ประธานาธิบดีคนที่ 16 ของสหรัฐฯ ในการสาบานตน ส่วนอีกเล่มเป็นพระคัมภีร์ที่มารดามอบให้เขา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006236 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 820 มุมมอง 0 รีวิว
  • 14 ม.ค. 2568 – นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความเรื่อง “ความรับผิดชอบ”ในคดีชั้น ๑๔ โดยมีเนื้อหา ดังนี้

    จรรยาบรรณแพทย์

    ถาม ๑๕ มกราคม นี้ ถึงกำหนดที่ฝ่ายแพทย์ ทั้ง รพ.ราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ ต้องส่งเวชระเบียน ให้อนุกรรมการสอบสวนของ แพทยสภาแล้ว ขอทราบว่า แพทยสภาเขาจะไปเอาทำอะไรครับ
    ตอบ ไปตรวจว่ามีหมอคนไหน ทำผิดจรรยาบรรณ ไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่หรือไม่ เช่นรายงานเท็จ ปั้นแต่งให้ความเห็นโดยไม่ใช้วิชาชีพ อย่างนี้ถ้าพบว่ามีจริงก็ลงโทษผิดจรรยาบรรณ คือ พักใช้หรือยึดใบประกอบโรคศิลป์ ทั้งนี้ไม่ว่าหมอคนนั้นจะอยู่ในราชการหรือไม่ก็ตาม

    ถาม แล้วหมอคนที่ผิดจรรยาบรรณนั้น ไม่ติดคุกหรือครับ
    ตอบ ถ้าอยู่ในราชการ ก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ ต้องไปติดคุกเพราะกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่เป็นอีกฐานความผิดหนึ่ง

    ถาม ถ้า รพ.ตำรวจ รับทักษิณไว้ โดยไม่มีการตรวจโรคเลย แล้วหมอก็ผ่าไหล่ให้ตามคำสั่ง ผอ.เท่านั้น
    ตอบ หมอที่ผ่าก็ไม่ผิดอะไรในทางจรรยาบรรณ จะผิดก็ตรง ผอ.โรงพยาบาลที่รับนักโทษ ให้ มาอยู่อาศัยราวกับเป็นโรงแรมเท่านั้น ตรงนี้ก็เป็นเรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เช่นกัน
    ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่

    ถาม ถ้าเขาบอกแพทยสภาว่าไม่ให้เวชระเบียน เพราะผู้ป่วยไม่ยินยอม จะได้ไหม
    ตอบ ไม่ได้ครับ นี่เป็นคำสั่งเพื่อทำการตามหน้าที่ใ ที่บัญญัติไว้ในกฎหมายวิชาชีพเวชกรรม จะอ้างสิทธิคนป่วยมาหวงกันเวชระเบียนไว้ไม่ได้ กฎหมายสุขภาพชัดเจนว่า ให้ปฏิเสธได้แต่เฉพาะการขอทราบโดยอ้างสิทธิสาธารณะชน ตามกฎหมายข้อมูลข่าวสารเท่านั้น

    ถาม เห็น พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรียุติธรรม บอกว่า รพ.ตำรวจ น่าจะส่งเวชระเบียนจากหมอสิงค์โปร์ ให้แพทยสภาเขาไปซะ จะได้หมดเรื่อง
    ตอบ อย่ามั่วครับท่าน…แพทยสภาไทย เขาตรวจหมอไทยครับ ว่าตรวจสุขภาพ นช.ทักษิณ และให้ความเห็นถูกต้องไหมในกระบวนการส่งตัวและรับตัวทั้งหมดระหว่างเรือนจำ และ รพ.ตำรวจ ส่วนรายงานแพทย์จากสิงค์โปร์นั้นไม่เกี่ยวอะไรเลย

    ถาม พ.ต.อ.ทวี ยังพูดในสภาว่า ได้เคยเห็นรายงานผ่าไหล่และ ผล MRI ของ นักโทษ ในรายงานของเรือนจำด้วยตาตนเองเลยนะครับ
    ตอบ ประเด็นในคดี มันอยู่ตรงที่ว่า ป่วยหนักจน รพ.ราชทัณฑ์ รักษาไม่ได้จริงหรือไม่ เรื่องผ่าไหล่นั่นไม่เกี่ยวเลย ส่งไปนอนเล่นอยู่โรงพยาบาลตำรวจ แล้วมีผ่าไหล่แถมให้ก็ได้ ผ่าแบบนี้อยู่โรงพยาบาลวันสองวันก็กลับเรือนจำได้แล้ว มิหนำซ้ำพวกหมอเขาบอกว่า ถ้าป่วยวิกฤตแล้ว ทำMRI ก็ไม่ได้ ดมยาสลบก็ไม่ได้นะครับ

    ถาม รัฐมนตรีอาจพูดเพื่อให้ตัวเองดูสุจริตก็ได้นะครับ
    ตอบ ถ้าในรายงานจากเรือนจำ ชัดเจนว่าไม่มีการตรวจร่างกาย และไม่มีคำสั่งส่งตัวรับตัว ด้วยเหตุป่วยวิกฤตอยู่เลย ตรงนี้ก็แสดงว่า ระดับล่างทำงานบกพร่อง ละเว้นหน้าที่ชัดเจนแล้ว รายงานบกพร่องอย่างนี้ทำไมระดับบน ทั้ง อธิบดี ปลัดกระทรวง และรัฐมนตรีไม่เห็น ไม่ท้วงติง เพียงแค่นี้ผมก็ว่ามีมูลให้ ปปช.ตั้งข้อหา เจ้าหน้าที่ระดับบน เพิ่มได้แล้วครับ

    ถาม ถ้า รพ.ตำรวจและเรือนจำ ทำนิ่งเฉยไม่ส่งเวชระเบียน หรือตอบว่าไม่มี จะได้ไหม
    ตอบ ถ้าเป็นอย่างนั้น ความตามปากคำพยานบุคคล คือ พลตำรวจเอกเสรี ที่เห็นด้วยตาว่า ทักษิณไม่ป่วยจริง ก็จะมีน้ำหนักฟังเป็นที่ยุติขึ้นมาทันที จะโดน ๑๕๗ กันหมดทั้ง ผบ.เรือนจำและ ผอ.โรงพยาบาลตำรวจ
    ถาม ในมติ ปปช.เห็นว่า เจ้าหน้าที่มีมูลความผิด ถึง ๑๒ คน ครับ
    ตอบ ๑๒ คน นั้นเป็นคนที่มีชื่อเกี่ยวข้องเท่านั้น ถ้าได้เวชระเบียนมาตรวจสอบ หรือได้ปากคำจนความจริงครบถ้วน ใน ๑๒ คนนี้ก็น่าจะมีคนพ้นข้อสงสัยไปได้ ที่วันนี้โดนสงสัยกันหมดเพราะไม่ยอมให้ปากคำและเวชระเบียนใดๆเลย จริงๆนั้น มาถึงชั้นนี้ มันต้องตัวใครตัวมันกันแล้วครับ
    อำนาจศาลยุติธรรม ออกหมายจำคุกใหม่

    ถาม คำพืพากษาจำคุกมีแล้ว ออกหมายจำคุกแล้ว แล้วนักโทษถูกปล่อยไปนอนเล่นโรงพยาบาล อย่างนี้จะเอาตัวมาขังใหม่ได้ไหมครับ
    ตอบ เรื่องการบังคับตามคำพิพากษษคดีอาญานี้ มีมาตรา ๒๔๖ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาระบุว่า ถ้านักโทษป่วยและอยู่ในคุกแล้วจะมีอันตรายถึงชีวิต ก็ให้ศาลสั่งทุเลาโทษ คือไปรักษาตัวนอกเรือนจำโดยหยุดไม่นับเวลาคุมขังได้ แต่กระทรวงยุติธรรมกลับมาออกกฎกระทรวงให้อำนาจราชทัณฑ์ส่งนักโทษไปรักษานอกเรือนจำได้เองจนยาวไปเลย โดยมีการตรวจสอบของผู้บังคับบัญชาจากรายงานเป็นระยะเท่านั้นเอง
    ตรงนี้ ก็นับเป็นปัญหาทางนิติบัญญัติที่ต้องทบทวนกันให้ชัดเจนต่อไปว่าจะเอายังไงกันแน่ ที่จริงนั้นก็ควรจะให้ราชทัณฑ์ส่งตัวโดยไม่ผ่านศาลได้ เฉพาะที่เป็นการฉุกเฉินเท่านั้น แล้วค่อยให้มาขอศาลอีกทีเมื่อเกิน ๓๐ วัน ไปแล้วก็ได้

    ถาม แล้วคดี นช.ทักษิณจะทำอย่างไร เมื่อได้ส่งตัวไปแล้วโดยไม่ผ่านศาล
    ตอบ ก็ต้องถือตามกฎกระทรวงครับ แต่เงื่อนไขว่าต้องเจ็บป่วยวิกฤตถึงชีวิต ยังคงดำรงอยู่

    ถาม แล้วศาลจะมีอำนาจตรวจสอบย้อนหลังได้อย่างไรครับ ในเมื่อนักโทษเขาออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว พ้นโทษไปแล้วอย่างนี้
    ตอบ อำนาจตรวจสอบให้มีการปฏิบัติตามหมายจำคุกนั้นยังมีอยู่เสมอไป มาตรา ๒๔๖ เป็นมาตราที่ยืนยันความมีอยู๋ของอำนาจนี้ว่า ราชทัณฑ์จะเห็นหมายศาลที่ให้จำคุกเป็นกระดาษเช็ดก้นไม่ได้

    ถาม แล้วเรื่องจะไปสู่ศาล ให้ศาลตรวจสอบว่านักโทษป่วยวิกฤตจริงไหม ได้อย่างไร ใครจะร้องได้บ้างว่า นักโทษไม่ได้ติดคุกเลย
    ตอบ ก็ต้องเอานิติวิธีที่ใช้กฎหมายเทียบเคียงมาช่วยครับ โดยเทียบกับ มาตรา ๒๔๖ ดูสิครับว่ามาตรานี้ใครร้องได้บ้าง มาคดีนี้ก็น่าจะร้องได้อย่างนั้นเหมือนกัน ดูซึ่งผมว่าต้องร้องได้ทั้งราชทัณฑ์เอง หรือศาลเห็นเอง ก็ได้
    เริ่มจากรัฐมนตรียุติธรรม ถ้าพึ่งรู้ว่าผิดพลาด จะสั่งราชทัณฑ์ให้ร้องศาลก็ได้ หรือศาลจะเห็นเองก็ได้ ซึ่งวันนี้คดีนี้ก็มีข้อสงสัยถึงขั้น ปปช.สั่งมีมูลแล้ว แพทยสภาขอเวชระเบียนแล้วก็ยังเบี้ยวไม่ยอมให้ เพียงเท่านี้ก็พอให้ศาลสั่งไต่สวนได้แล้วครับ

    ถาม ศาลลงมือไต่สวนได้โดยไม่ต้องรอ ผล ปปช. หรือ แพทยสภา ใช่ไหมครับ
    ตอบ ไม่ต้องรอแน่นอนครับ โดยหลักกฎหมายนั้น เรามีแต่ห้ามองค์กรใดพิจารณาแข่งกับศาลไม่มีเลยที่ให้ศาลรอผลองค์กรอื่น และยิ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาว่าเบี้ยวคำพิพากษาศาลหรือไม่ด้วยแล้ว ศาลจะมานั่งรอเห็นตามคนอื่นไม่ได้หรอกครับ

    ถาม เห็นมีข่าวว่า ศาลส่วนหนึ่งเห็นว่าเรื่องนี้เป็นความขัดแย้งทางการเมือง ตนจึงไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยว กลายเป็น “คู่กรณี” ด้วย
    ตอบ เรื่องนี้เป็นเรื่องความยุติธรรมในบ้านเมือง ที่ประชาชนได้ยอมรับเห็นศาลเป็นเสาหลักมาสี่ชั่วคนแล้ว ถ้าวันนี้คนในสถาบันไม่รู้สำนึกในหน้าที่นี้ บ้านเมืองก็ต้องชิบหายต่อไปอีก จนในที่สุดก็หายไปหมดทั้งศาลและประชาชนบนแผ่นดินนี้
    แก้วสรร อติโพธิ
    14 ม.ค. 2568 – นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ เผยแพร่บทความเรื่อง “ความรับผิดชอบ”ในคดีชั้น ๑๔ โดยมีเนื้อหา ดังนี้ จรรยาบรรณแพทย์ ถาม ๑๕ มกราคม นี้ ถึงกำหนดที่ฝ่ายแพทย์ ทั้ง รพ.ราชทัณฑ์ และ รพ.ตำรวจ ต้องส่งเวชระเบียน ให้อนุกรรมการสอบสวนของ แพทยสภาแล้ว ขอทราบว่า แพทยสภาเขาจะไปเอาทำอะไรครับ ตอบ ไปตรวจว่ามีหมอคนไหน ทำผิดจรรยาบรรณ ไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่หรือไม่ เช่นรายงานเท็จ ปั้นแต่งให้ความเห็นโดยไม่ใช้วิชาชีพ อย่างนี้ถ้าพบว่ามีจริงก็ลงโทษผิดจรรยาบรรณ คือ พักใช้หรือยึดใบประกอบโรคศิลป์ ทั้งนี้ไม่ว่าหมอคนนั้นจะอยู่ในราชการหรือไม่ก็ตาม ถาม แล้วหมอคนที่ผิดจรรยาบรรณนั้น ไม่ติดคุกหรือครับ ตอบ ถ้าอยู่ในราชการ ก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ ต้องไปติดคุกเพราะกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่เป็นอีกฐานความผิดหนึ่ง ถาม ถ้า รพ.ตำรวจ รับทักษิณไว้ โดยไม่มีการตรวจโรคเลย แล้วหมอก็ผ่าไหล่ให้ตามคำสั่ง ผอ.เท่านั้น ตอบ หมอที่ผ่าก็ไม่ผิดอะไรในทางจรรยาบรรณ จะผิดก็ตรง ผอ.โรงพยาบาลที่รับนักโทษ ให้ มาอยู่อาศัยราวกับเป็นโรงแรมเท่านั้น ตรงนี้ก็เป็นเรื่องความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ เช่นกัน ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ ถาม ถ้าเขาบอกแพทยสภาว่าไม่ให้เวชระเบียน เพราะผู้ป่วยไม่ยินยอม จะได้ไหม ตอบ ไม่ได้ครับ นี่เป็นคำสั่งเพื่อทำการตามหน้าที่ใ ที่บัญญัติไว้ในกฎหมายวิชาชีพเวชกรรม จะอ้างสิทธิคนป่วยมาหวงกันเวชระเบียนไว้ไม่ได้ กฎหมายสุขภาพชัดเจนว่า ให้ปฏิเสธได้แต่เฉพาะการขอทราบโดยอ้างสิทธิสาธารณะชน ตามกฎหมายข้อมูลข่าวสารเท่านั้น ถาม เห็น พ.ต.อ.ทวี รัฐมนตรียุติธรรม บอกว่า รพ.ตำรวจ น่าจะส่งเวชระเบียนจากหมอสิงค์โปร์ ให้แพทยสภาเขาไปซะ จะได้หมดเรื่อง ตอบ อย่ามั่วครับท่าน…แพทยสภาไทย เขาตรวจหมอไทยครับ ว่าตรวจสุขภาพ นช.ทักษิณ และให้ความเห็นถูกต้องไหมในกระบวนการส่งตัวและรับตัวทั้งหมดระหว่างเรือนจำ และ รพ.ตำรวจ ส่วนรายงานแพทย์จากสิงค์โปร์นั้นไม่เกี่ยวอะไรเลย ถาม พ.ต.อ.ทวี ยังพูดในสภาว่า ได้เคยเห็นรายงานผ่าไหล่และ ผล MRI ของ นักโทษ ในรายงานของเรือนจำด้วยตาตนเองเลยนะครับ ตอบ ประเด็นในคดี มันอยู่ตรงที่ว่า ป่วยหนักจน รพ.ราชทัณฑ์ รักษาไม่ได้จริงหรือไม่ เรื่องผ่าไหล่นั่นไม่เกี่ยวเลย ส่งไปนอนเล่นอยู่โรงพยาบาลตำรวจ แล้วมีผ่าไหล่แถมให้ก็ได้ ผ่าแบบนี้อยู่โรงพยาบาลวันสองวันก็กลับเรือนจำได้แล้ว มิหนำซ้ำพวกหมอเขาบอกว่า ถ้าป่วยวิกฤตแล้ว ทำMRI ก็ไม่ได้ ดมยาสลบก็ไม่ได้นะครับ ถาม รัฐมนตรีอาจพูดเพื่อให้ตัวเองดูสุจริตก็ได้นะครับ ตอบ ถ้าในรายงานจากเรือนจำ ชัดเจนว่าไม่มีการตรวจร่างกาย และไม่มีคำสั่งส่งตัวรับตัว ด้วยเหตุป่วยวิกฤตอยู่เลย ตรงนี้ก็แสดงว่า ระดับล่างทำงานบกพร่อง ละเว้นหน้าที่ชัดเจนแล้ว รายงานบกพร่องอย่างนี้ทำไมระดับบน ทั้ง อธิบดี ปลัดกระทรวง และรัฐมนตรีไม่เห็น ไม่ท้วงติง เพียงแค่นี้ผมก็ว่ามีมูลให้ ปปช.ตั้งข้อหา เจ้าหน้าที่ระดับบน เพิ่มได้แล้วครับ ถาม ถ้า รพ.ตำรวจและเรือนจำ ทำนิ่งเฉยไม่ส่งเวชระเบียน หรือตอบว่าไม่มี จะได้ไหม ตอบ ถ้าเป็นอย่างนั้น ความตามปากคำพยานบุคคล คือ พลตำรวจเอกเสรี ที่เห็นด้วยตาว่า ทักษิณไม่ป่วยจริง ก็จะมีน้ำหนักฟังเป็นที่ยุติขึ้นมาทันที จะโดน ๑๕๗ กันหมดทั้ง ผบ.เรือนจำและ ผอ.โรงพยาบาลตำรวจ ถาม ในมติ ปปช.เห็นว่า เจ้าหน้าที่มีมูลความผิด ถึง ๑๒ คน ครับ ตอบ ๑๒ คน นั้นเป็นคนที่มีชื่อเกี่ยวข้องเท่านั้น ถ้าได้เวชระเบียนมาตรวจสอบ หรือได้ปากคำจนความจริงครบถ้วน ใน ๑๒ คนนี้ก็น่าจะมีคนพ้นข้อสงสัยไปได้ ที่วันนี้โดนสงสัยกันหมดเพราะไม่ยอมให้ปากคำและเวชระเบียนใดๆเลย จริงๆนั้น มาถึงชั้นนี้ มันต้องตัวใครตัวมันกันแล้วครับ อำนาจศาลยุติธรรม ออกหมายจำคุกใหม่ ถาม คำพืพากษาจำคุกมีแล้ว ออกหมายจำคุกแล้ว แล้วนักโทษถูกปล่อยไปนอนเล่นโรงพยาบาล อย่างนี้จะเอาตัวมาขังใหม่ได้ไหมครับ ตอบ เรื่องการบังคับตามคำพิพากษษคดีอาญานี้ มีมาตรา ๒๔๖ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาระบุว่า ถ้านักโทษป่วยและอยู่ในคุกแล้วจะมีอันตรายถึงชีวิต ก็ให้ศาลสั่งทุเลาโทษ คือไปรักษาตัวนอกเรือนจำโดยหยุดไม่นับเวลาคุมขังได้ แต่กระทรวงยุติธรรมกลับมาออกกฎกระทรวงให้อำนาจราชทัณฑ์ส่งนักโทษไปรักษานอกเรือนจำได้เองจนยาวไปเลย โดยมีการตรวจสอบของผู้บังคับบัญชาจากรายงานเป็นระยะเท่านั้นเอง ตรงนี้ ก็นับเป็นปัญหาทางนิติบัญญัติที่ต้องทบทวนกันให้ชัดเจนต่อไปว่าจะเอายังไงกันแน่ ที่จริงนั้นก็ควรจะให้ราชทัณฑ์ส่งตัวโดยไม่ผ่านศาลได้ เฉพาะที่เป็นการฉุกเฉินเท่านั้น แล้วค่อยให้มาขอศาลอีกทีเมื่อเกิน ๓๐ วัน ไปแล้วก็ได้ ถาม แล้วคดี นช.ทักษิณจะทำอย่างไร เมื่อได้ส่งตัวไปแล้วโดยไม่ผ่านศาล ตอบ ก็ต้องถือตามกฎกระทรวงครับ แต่เงื่อนไขว่าต้องเจ็บป่วยวิกฤตถึงชีวิต ยังคงดำรงอยู่ ถาม แล้วศาลจะมีอำนาจตรวจสอบย้อนหลังได้อย่างไรครับ ในเมื่อนักโทษเขาออกจากโรงพยาบาลไปแล้ว พ้นโทษไปแล้วอย่างนี้ ตอบ อำนาจตรวจสอบให้มีการปฏิบัติตามหมายจำคุกนั้นยังมีอยู่เสมอไป มาตรา ๒๔๖ เป็นมาตราที่ยืนยันความมีอยู๋ของอำนาจนี้ว่า ราชทัณฑ์จะเห็นหมายศาลที่ให้จำคุกเป็นกระดาษเช็ดก้นไม่ได้ ถาม แล้วเรื่องจะไปสู่ศาล ให้ศาลตรวจสอบว่านักโทษป่วยวิกฤตจริงไหม ได้อย่างไร ใครจะร้องได้บ้างว่า นักโทษไม่ได้ติดคุกเลย ตอบ ก็ต้องเอานิติวิธีที่ใช้กฎหมายเทียบเคียงมาช่วยครับ โดยเทียบกับ มาตรา ๒๔๖ ดูสิครับว่ามาตรานี้ใครร้องได้บ้าง มาคดีนี้ก็น่าจะร้องได้อย่างนั้นเหมือนกัน ดูซึ่งผมว่าต้องร้องได้ทั้งราชทัณฑ์เอง หรือศาลเห็นเอง ก็ได้ เริ่มจากรัฐมนตรียุติธรรม ถ้าพึ่งรู้ว่าผิดพลาด จะสั่งราชทัณฑ์ให้ร้องศาลก็ได้ หรือศาลจะเห็นเองก็ได้ ซึ่งวันนี้คดีนี้ก็มีข้อสงสัยถึงขั้น ปปช.สั่งมีมูลแล้ว แพทยสภาขอเวชระเบียนแล้วก็ยังเบี้ยวไม่ยอมให้ เพียงเท่านี้ก็พอให้ศาลสั่งไต่สวนได้แล้วครับ ถาม ศาลลงมือไต่สวนได้โดยไม่ต้องรอ ผล ปปช. หรือ แพทยสภา ใช่ไหมครับ ตอบ ไม่ต้องรอแน่นอนครับ โดยหลักกฎหมายนั้น เรามีแต่ห้ามองค์กรใดพิจารณาแข่งกับศาลไม่มีเลยที่ให้ศาลรอผลองค์กรอื่น และยิ่งเรื่องนี้เป็นปัญหาว่าเบี้ยวคำพิพากษาศาลหรือไม่ด้วยแล้ว ศาลจะมานั่งรอเห็นตามคนอื่นไม่ได้หรอกครับ ถาม เห็นมีข่าวว่า ศาลส่วนหนึ่งเห็นว่าเรื่องนี้เป็นความขัดแย้งทางการเมือง ตนจึงไม่อยากเข้ามายุ่งเกี่ยว กลายเป็น “คู่กรณี” ด้วย ตอบ เรื่องนี้เป็นเรื่องความยุติธรรมในบ้านเมือง ที่ประชาชนได้ยอมรับเห็นศาลเป็นเสาหลักมาสี่ชั่วคนแล้ว ถ้าวันนี้คนในสถาบันไม่รู้สำนึกในหน้าที่นี้ บ้านเมืองก็ต้องชิบหายต่อไปอีก จนในที่สุดก็หายไปหมดทั้งศาลและประชาชนบนแผ่นดินนี้ แก้วสรร อติโพธิ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว
  • #PM2จุด5

    หากถามว่า pm2.5 เกิดขึ้นมาได้อย่างไรนั้นหรือ จะขอตอบแบบสั้นๆ ว่า 'เพราะพฤติกรรมของมนุษย์จำพวกหนึ่ง' แต่หากจะเขียนแค่นี้มันก็จะดูกระไรอยู่ จึงจะขอเปิดประเด็นดังต่อไปนี้..

    ก่อนที่จะเปิดประเด็นเรื่อง pm จะขออธิบายความก่อนว่า pm มันคืออิหยัง

    PM 2.5 เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร แขวนลอยอยู่ในอากาศรวมกับไอน้ำ ควัน และก๊าซต่างๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งฝุ่นละอองชนิดนี้ถือว่าเป็นพิษต่อสุขภาพของมนุษย์ เพราะว่าเส้นผมที่มีขนาดเล็กแล้ว ไอ่ตัว PM2.5 ยังเล็กกว่าเส้นผมถึง 20 เท่า ทำให้เล็ดลอดผ่านขนจมูกเข้าสู่ปอดและหลอดเลือดได้ง่าย จึงส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว

    ซึ่งช่วงประมาณกลางฤดูหนาวจะเริ่มมีเข้าฝุ่นเข้ามาปกคลุมแต่ละพื้นที่

    และหากถามว่าอันใดเป็นเหตุ 'ทำให้เกิดฝุ่นเฉกเช่นนี้' ซึ่งจะขอตอบเลยว่า การเผาขยะบ้าง เผานาบ้าง (เพราะถ้าหญ้าเยอะ เวลาไถจะไม่ค่อยเข้า โดยเฉพาะนาหว่าน ต้นข้าวจะหนามาก
    และยิ่งเป็นนาปรัง ซึ่งหากปลูกต่อเนื่องกัน ทำให้ไม่มีเวลาให้ตอข้าวย่อยสลายเอง ฉะนั้นจึงต้องเผา) หรือควันจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ และอื่นๆอีกมากมายที่เราไม่ได้พูดถึง

    ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีภาวะโลกร้อนและเกิดฝุ่น PM 2.5 อย่างฉับพลัน

    เราลองมาวิเคราะห์การแก้ปัญหาของหน่วยงานกันอีกนิดนึง

    เทศบาลบางแห่งจะออกกฎเลยว่า "ห้ามเผาขยะหากเผาปรับหลักพัน" หรือออกป้ายรณรงค์ตามสี่แยกไฟแดง มีภาพกราฟฟิกให้ดูน่ากลัว แต่บางหนบางแห่งเขาก็ยังแอบเผากันอยู่

    เพราะฉะนั้นให้ลองพิจารณากันอีกครั้งว่า 'ควรแก้ปัญหาอย่างไร ถึงจะเหมาะสมที่สุด และไม่ให้เกิด PM 2.5 ขึ้นอีก' อาจจะพิจารณาเรื่องนี้ในที่ประชุมครม.อย่างเคร่งครัด หรือจัดเสวนาให้นักวิชาการร่วมกันพิจารณาการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง
    .
    #PM2จุด5 หากถามว่า pm2.5 เกิดขึ้นมาได้อย่างไรนั้นหรือ จะขอตอบแบบสั้นๆ ว่า 'เพราะพฤติกรรมของมนุษย์จำพวกหนึ่ง' แต่หากจะเขียนแค่นี้มันก็จะดูกระไรอยู่ จึงจะขอเปิดประเด็นดังต่อไปนี้.. ก่อนที่จะเปิดประเด็นเรื่อง pm จะขออธิบายความก่อนว่า pm มันคืออิหยัง PM 2.5 เป็นอนุภาคขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยน้อยกว่า 2.5 ไมโครเมตร แขวนลอยอยู่ในอากาศรวมกับไอน้ำ ควัน และก๊าซต่างๆ ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งฝุ่นละอองชนิดนี้ถือว่าเป็นพิษต่อสุขภาพของมนุษย์ เพราะว่าเส้นผมที่มีขนาดเล็กแล้ว ไอ่ตัว PM2.5 ยังเล็กกว่าเส้นผมถึง 20 เท่า ทำให้เล็ดลอดผ่านขนจมูกเข้าสู่ปอดและหลอดเลือดได้ง่าย จึงส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว ซึ่งช่วงประมาณกลางฤดูหนาวจะเริ่มมีเข้าฝุ่นเข้ามาปกคลุมแต่ละพื้นที่ และหากถามว่าอันใดเป็นเหตุ 'ทำให้เกิดฝุ่นเฉกเช่นนี้' ซึ่งจะขอตอบเลยว่า การเผาขยะบ้าง เผานาบ้าง (เพราะถ้าหญ้าเยอะ เวลาไถจะไม่ค่อยเข้า โดยเฉพาะนาหว่าน ต้นข้าวจะหนามาก และยิ่งเป็นนาปรัง ซึ่งหากปลูกต่อเนื่องกัน ทำให้ไม่มีเวลาให้ตอข้าวย่อยสลายเอง ฉะนั้นจึงต้องเผา) หรือควันจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ และอื่นๆอีกมากมายที่เราไม่ได้พูดถึง ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้มีภาวะโลกร้อนและเกิดฝุ่น PM 2.5 อย่างฉับพลัน เราลองมาวิเคราะห์การแก้ปัญหาของหน่วยงานกันอีกนิดนึง เทศบาลบางแห่งจะออกกฎเลยว่า "ห้ามเผาขยะหากเผาปรับหลักพัน" หรือออกป้ายรณรงค์ตามสี่แยกไฟแดง มีภาพกราฟฟิกให้ดูน่ากลัว แต่บางหนบางแห่งเขาก็ยังแอบเผากันอยู่ เพราะฉะนั้นให้ลองพิจารณากันอีกครั้งว่า 'ควรแก้ปัญหาอย่างไร ถึงจะเหมาะสมที่สุด และไม่ให้เกิด PM 2.5 ขึ้นอีก' อาจจะพิจารณาเรื่องนี้ในที่ประชุมครม.อย่างเคร่งครัด หรือจัดเสวนาให้นักวิชาการร่วมกันพิจารณาการแก้ปัญหาในเรื่องนี้อย่างจริงจัง .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • 12 มกราคม 2568-คุณหมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้เขียนบทความเรื่อง ระเบียบโลกใหม่ WEF WHO และDeep State โรคระบาดกับวัคซีน มีเนื้อหาดังนี้
    “ถึงเวลาเปิดโปงรับรู้และต่อต้าน ระเบียบโลกใหม่ ให้ มนุษย์อยู่ใต้อำนาจหนึ่งเดียว

    ระเบียบโลกใหม่ great reset โดยที่มนุษย์โลกจะไม่ได้ครอบครองอะไรเลย และสั่งให้ จงมีความสุข
    Own nothing and be happy

    รัฐบาลสหรัฐใหม่ ลุยตีโต้กลับ ระเบียบสร้างโลกหนึ่งเดียว ที่ ทุกประเทศ คนทั้งโลก ถือว่าเป็นสิ่งของ ที่ต้องทำตามคำสั่งทุกประการ ตาม world economic forum (WEF) deep state BlackRock State Street Vanguard ซึ่งก่อตั้งโดยกลุ่มอีลีท elite อภิสิทธิ์ชน ผู้ดี มหาเศรษฐี และมีเครือข่ายในบริษัทยาวัคซีนยักษ์ใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็น Pfizer Moderna GSK Sanofi และอื่นๆ

    และในการประชุมครั้งที่ 54 ที่ ดาวอส โดยมีหนังสือของการประชุมได้แจ้งรายชื่อของบริษัทที่พาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการกับ WEF ทั้งโลก (สามารถสืบค้นชื่อเหล่านี้และเป้าหมาย รายละเอียด ของ WEF ได้ ในหนังสือ) ซึ่งไม่ได้เป็นเกี่ยวกับยาเวชภัณฑ์เครื่องมือแพทย์เท่านั้นแต่ครอบคลุมความมั่นคงเศรษฐกิจสังคมและการศึกษา

    องค์การอนามัยโลก ถือเป็นหน่วยงานสำคัญส่วนหนึ่งของการจัดระเบียบโลกนี้ และผ่านเครือข่าย CDC FDA เป็นต้น ในการครอบคลุม global health care ทั้งนี้โดยยึดจุดอ่อนของประเทศต่างๆที่เคยชิน ทำตามคำสั่งของกลุ่มเหล่านี้มาตลอด รวมทั้งประเทศไทย

    WEF ได้ประกาศในวันที่ 9 มกราคม 2024 world health care initiative เปิดตัวในความริเริ่มที่จะใช้ ระบบดิจิตอล และปัญญาประดิษฐ์เพื่อหลอม ระบบดูแลสุขภาพทั้งโลก โดยที่ต้องทำ
    ตามอย่างเคร่งครัด และอีกหัวข้อที่สำคัญคือการจัดการประชากรล้นโลก โดยมีเป้าหมายให้ประชากรลดลง 10 ถึง 15% (depopulation agenda)

    WEF ได้รับการสนับสนุน และทำงานร่วมกับ Boston consulting group (BCG) ที่ทุนใหญ่ ทางการเงิน คือ จาก Bill & Melinda Gates foundation

    การต่อต้านสนธิสัญญา WHO treaty ต้องทำทันที มิฉะนั้น องค์การอนามัยโลก สามารถประกาศโรคระบาดลามโลก (อาจจะยังไม่อันตรายหรือระบาดจริง?) และสั่งให้สำรองวัคซีนสำหรับโรคใหม่และสั่งให้ฉีดทุกคนในโลกนี้ และสามารถสั่งการปิดประเทศ รวมทั้งจัดการให้มีบัตรประจำตัวดิจิตอลสุขภาพที่แสดงว่าได้รับวัคซีนหรือไม่ถ้าไม่ได้ตามที่กำหนดจะถูกจำกัดสิทธิ์รวมทั้งการเดินทางไปยังที่ต่างๆ

    ประเด็นที่กำลังพยายามให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็คือ ฝีดาษลิง ซึ่ง องค์การอนามัยโลกและผ่านทางองค์กรในรัฐบาลสหรัฐเก่า ในระยะเวลาที่ผ่านมา พยายามให้มีการฉีดวัคซีนฝีดาษลิง ทั้งๆที่ การระบาดลุกลาม และการเสียชีวิตไม่ได้กว้างขวางนัก และให้อังกฤษและสหรัฐ และสหภาพยุโรป สำรองวัคซีนฝีดาษลิง
    ความพยายามในเรื่องไข้หวัดนก H5N1 จากการวิเคราะห์สายพันธุ์ที่มีการประกาศว่าระบาดและมีการสั่งให้พัฒนาวัคซีน mRNA ไข้หวัดนก และเป้าหมายจะฉีดทั่วโลก
    กลุ่มคนไทยและแพทย์พิทักษ์สิทธิ์ รวมทั้งสมาพันธ์ชาวนาแห่งประเทศไทยมากกว่า 60,000 คนได้ลงชื่อและยื่นต่อรัฐบาลไทยไม่ให้อยู่ในสนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกนี้แล้ว
    รายงาน ที่มาและกำเนิดของไวรัสไข้หวัดนก ในปัจจุบัน The Proximal Origin of Epidemic Highly Pathogenic Avian Influenza H5N1 Clade 2.3.4.4b and Spread by Migratory water fowl วารสาร Waterfowl Poultry, Fisheries & Wildlife Sciences 2024
    • มีความเป็นไปได้ ที่อาจมีที่มา ไม่ธรรมดา ของhighly pathogenic avian influenza HPAI H5N1 clade 2.3.4.4b genotype B3.13 ที่มีการติดเชื้อข้ามจากนก มาเป็ด ไก่ วัว หมู และอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วน่าแปลกใจ
    • การวิเคราะห์ดังในรายงานดังกล่าว ทางรหัสพันธุกรรมพบว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับการสร้างไวรัสใหม่ ที่ USDA Southeast Poultry Research Laboratory (SEPRL) ใน Athens, Georgia, และ the Erasmus medical center in Rotterdam, the Netherlands

    • การตรวจพบเชื้อ HPAI H5N1 กลุ่ม 2.3.4.4b ครั้งแรกในเนเธอร์แลนด์ในปี 2020 ทำให้เกิดข้อกังวลทันที ว่าเกี่ยวกับการวิจัย สร้างไวรัสใหม่ gain of function ในช่วงก่อนหน้านี้ (Erasmus ประเทศเนเธอร์แลนด์) และสถาบันมีรายงานความสำเร็จในการสร้างไวรัสใหม่ในปี 2012 ถึงกับสร้าง ให้สามารถแพร่ทางอากาศได้
    • การวิเคราะห์ทางพันธุกรรมบ่งชี้ว่ามีจีโนไทป์B3.13 ซึ่งปรากฏในปี 2024 และเชื่อมโยงกับจีโนไทป์ B1.2 ซึ่งมีต้นกำเนิดในจอร์เจียในเดือนมกราคม 2022 หลังจากเริ่มการทดลองการ เพาะเชื้อผ่านแบบต่อเนื่อง (serial passage) กับเชื้อ H5Nx กลุ่ม 2.3.4.4 ในเป็ดแมลลาร์ดที่ SEPRL ในเอเธนส์ จอร์เจีย
    • ในเดือนเมษายน 2021 พบจีโนไทป์ B1.2 ในปลาโลมาหัวขวด
    • ในเดือนมีนาคม 2022 ในฟลอริดา ซึ่งบ่งชี้ถึงการปรับตัวใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
    • ยีน NP ของเชื้อ H5N1 กลุ่ม 2.3.4.4b (จีโนไทป์B3.13) มีแนวโน้มว่ามาจากไวรัสไข้หวัดนกชนิด A ในเป็ดแมลลาร์ด
    • การกลายพันธุ์ที่สำคัญที่พบในกรณีของมนุษย์เมื่อไม่นานนี้ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้กับการทดลองการผ่านไวรัสแบบต่อเนื่อง
    • อย่างไรก็ตามแม้ว่าไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่นี้จะสามารถปรับตัวข้ามสปีชีส์ของสัตว์และมาคนได้ “แต่ไม่พบความรุนแรง” นั่นก็คือไม่มีการแสดงอาการของโรคและการตายเช่นไวรัส ไข้หวัด นกก่อนหน้านี้
    ดังนั้นประกาศขององค์การอนามัยโลกประสานกับ CDC FDA และหน่วยงานเกษตรของสหรัฐ ที่แจ้งว่าไข้หวัดนกมีการลุกลามอย่างมากและจำเป็นต้องมีการใช้วัคซีนด่วนและสำหรับทั่วโลกด้วย
    เป็นที่น่าสังเกตว่าหลักฐานของการระบาดลุกลามนั้นเป็นการตรวจพีซีอาร์ รวมทั้งการตรวจในน้ำเสียที่ปล่อยทิ้งและพบสารพันธุกรรมเยอะขึ้น แต่ทั้งนี้ไม่ได้สะท้อนถึงความรุนแรงที่ปรากฏไม่ว่าจะเป็นในสัตว์หรือในมนุษย์เอง
    • ตัวอย่างโรคระบาดเหล่านี้รวมถึงโควิดที่ผ่านมาทำให้รัฐบาลใหม่สหรัฐ ประกาศยุติความสัมพันธ์กับองค์การอนามัยโลกโดยประธานาธิบดีใหม่ได้กล่าวปราศรัยว่าเป็นองค์กรที่ทุจริตและมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับบริษัทยาวัคซีนยักษ์ใหญ่ และถึงกับแทรกตัวเข้าไปในองค์กรที่ตั้งตรวจสอบยาและวัคซีนของสหรัฐ FDA CDC โดยจะมีการปลด และทำการรื้อองค์กรใหม่พร้อมกับประกาศสอบความเชื่อมโยงกับแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ ซึ่งได้รับผลประโยชน์ทางด้านการได้รับทุนวิจัยรวมทั้งสินบน เพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์และส่งเสริมการขายโดยให้ใช้ในประชาชนทั่วโลกผ่านการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโรคระบาด และรัฐบาลใหม่ประกาศจุดยืนต้าน deep state
    ในประเทศไทยมีคนในระดับผู้นำองค์กรเป็นสมาชิก WEF และเริ่มมีประกาศสนับสนุนแนวทางสร้างโลกหนึ่งเดียว โดยมนุษย์โลกต้องอยู่ให้ได้ภายใต้กรอบเข้มงวด อย่าง
    (ดูเหมือน)มีความสุข

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข
    และ
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต

    (เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คอลัมน์สุขภาพหรรษา วันที่ 5 และ 12 มกราคม 2025)
    12 มกราคม 2568-คุณหมอธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ได้เขียนบทความเรื่อง ระเบียบโลกใหม่ WEF WHO และDeep State โรคระบาดกับวัคซีน มีเนื้อหาดังนี้ “ถึงเวลาเปิดโปงรับรู้และต่อต้าน ระเบียบโลกใหม่ ให้ มนุษย์อยู่ใต้อำนาจหนึ่งเดียว ระเบียบโลกใหม่ great reset โดยที่มนุษย์โลกจะไม่ได้ครอบครองอะไรเลย และสั่งให้ จงมีความสุข Own nothing and be happy รัฐบาลสหรัฐใหม่ ลุยตีโต้กลับ ระเบียบสร้างโลกหนึ่งเดียว ที่ ทุกประเทศ คนทั้งโลก ถือว่าเป็นสิ่งของ ที่ต้องทำตามคำสั่งทุกประการ ตาม world economic forum (WEF) deep state BlackRock State Street Vanguard ซึ่งก่อตั้งโดยกลุ่มอีลีท elite อภิสิทธิ์ชน ผู้ดี มหาเศรษฐี และมีเครือข่ายในบริษัทยาวัคซีนยักษ์ใหญ่ของโลก ไม่ว่าจะเป็น Pfizer Moderna GSK Sanofi และอื่นๆ และในการประชุมครั้งที่ 54 ที่ ดาวอส โดยมีหนังสือของการประชุมได้แจ้งรายชื่อของบริษัทที่พาร์ทเนอร์อย่างเป็นทางการกับ WEF ทั้งโลก (สามารถสืบค้นชื่อเหล่านี้และเป้าหมาย รายละเอียด ของ WEF ได้ ในหนังสือ) ซึ่งไม่ได้เป็นเกี่ยวกับยาเวชภัณฑ์เครื่องมือแพทย์เท่านั้นแต่ครอบคลุมความมั่นคงเศรษฐกิจสังคมและการศึกษา องค์การอนามัยโลก ถือเป็นหน่วยงานสำคัญส่วนหนึ่งของการจัดระเบียบโลกนี้ และผ่านเครือข่าย CDC FDA เป็นต้น ในการครอบคลุม global health care ทั้งนี้โดยยึดจุดอ่อนของประเทศต่างๆที่เคยชิน ทำตามคำสั่งของกลุ่มเหล่านี้มาตลอด รวมทั้งประเทศไทย WEF ได้ประกาศในวันที่ 9 มกราคม 2024 world health care initiative เปิดตัวในความริเริ่มที่จะใช้ ระบบดิจิตอล และปัญญาประดิษฐ์เพื่อหลอม ระบบดูแลสุขภาพทั้งโลก โดยที่ต้องทำ ตามอย่างเคร่งครัด และอีกหัวข้อที่สำคัญคือการจัดการประชากรล้นโลก โดยมีเป้าหมายให้ประชากรลดลง 10 ถึง 15% (depopulation agenda) WEF ได้รับการสนับสนุน และทำงานร่วมกับ Boston consulting group (BCG) ที่ทุนใหญ่ ทางการเงิน คือ จาก Bill & Melinda Gates foundation การต่อต้านสนธิสัญญา WHO treaty ต้องทำทันที มิฉะนั้น องค์การอนามัยโลก สามารถประกาศโรคระบาดลามโลก (อาจจะยังไม่อันตรายหรือระบาดจริง?) และสั่งให้สำรองวัคซีนสำหรับโรคใหม่และสั่งให้ฉีดทุกคนในโลกนี้ และสามารถสั่งการปิดประเทศ รวมทั้งจัดการให้มีบัตรประจำตัวดิจิตอลสุขภาพที่แสดงว่าได้รับวัคซีนหรือไม่ถ้าไม่ได้ตามที่กำหนดจะถูกจำกัดสิทธิ์รวมทั้งการเดินทางไปยังที่ต่างๆ ประเด็นที่กำลังพยายามให้เป็นเรื่องใหญ่ ก็คือ ฝีดาษลิง ซึ่ง องค์การอนามัยโลกและผ่านทางองค์กรในรัฐบาลสหรัฐเก่า ในระยะเวลาที่ผ่านมา พยายามให้มีการฉีดวัคซีนฝีดาษลิง ทั้งๆที่ การระบาดลุกลาม และการเสียชีวิตไม่ได้กว้างขวางนัก และให้อังกฤษและสหรัฐ และสหภาพยุโรป สำรองวัคซีนฝีดาษลิง ความพยายามในเรื่องไข้หวัดนก H5N1 จากการวิเคราะห์สายพันธุ์ที่มีการประกาศว่าระบาดและมีการสั่งให้พัฒนาวัคซีน mRNA ไข้หวัดนก และเป้าหมายจะฉีดทั่วโลก กลุ่มคนไทยและแพทย์พิทักษ์สิทธิ์ รวมทั้งสมาพันธ์ชาวนาแห่งประเทศไทยมากกว่า 60,000 คนได้ลงชื่อและยื่นต่อรัฐบาลไทยไม่ให้อยู่ในสนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกนี้แล้ว รายงาน ที่มาและกำเนิดของไวรัสไข้หวัดนก ในปัจจุบัน The Proximal Origin of Epidemic Highly Pathogenic Avian Influenza H5N1 Clade 2.3.4.4b and Spread by Migratory water fowl วารสาร Waterfowl Poultry, Fisheries & Wildlife Sciences 2024 • มีความเป็นไปได้ ที่อาจมีที่มา ไม่ธรรมดา ของhighly pathogenic avian influenza HPAI H5N1 clade 2.3.4.4b genotype B3.13 ที่มีการติดเชื้อข้ามจากนก มาเป็ด ไก่ วัว หมู และอื่นๆ ได้อย่างรวดเร็วน่าแปลกใจ • การวิเคราะห์ดังในรายงานดังกล่าว ทางรหัสพันธุกรรมพบว่าอาจมีความเชื่อมโยงกับการสร้างไวรัสใหม่ ที่ USDA Southeast Poultry Research Laboratory (SEPRL) ใน Athens, Georgia, และ the Erasmus medical center in Rotterdam, the Netherlands • การตรวจพบเชื้อ HPAI H5N1 กลุ่ม 2.3.4.4b ครั้งแรกในเนเธอร์แลนด์ในปี 2020 ทำให้เกิดข้อกังวลทันที ว่าเกี่ยวกับการวิจัย สร้างไวรัสใหม่ gain of function ในช่วงก่อนหน้านี้ (Erasmus ประเทศเนเธอร์แลนด์) และสถาบันมีรายงานความสำเร็จในการสร้างไวรัสใหม่ในปี 2012 ถึงกับสร้าง ให้สามารถแพร่ทางอากาศได้ • การวิเคราะห์ทางพันธุกรรมบ่งชี้ว่ามีจีโนไทป์B3.13 ซึ่งปรากฏในปี 2024 และเชื่อมโยงกับจีโนไทป์ B1.2 ซึ่งมีต้นกำเนิดในจอร์เจียในเดือนมกราคม 2022 หลังจากเริ่มการทดลองการ เพาะเชื้อผ่านแบบต่อเนื่อง (serial passage) กับเชื้อ H5Nx กลุ่ม 2.3.4.4 ในเป็ดแมลลาร์ดที่ SEPRL ในเอเธนส์ จอร์เจีย • ในเดือนเมษายน 2021 พบจีโนไทป์ B1.2 ในปลาโลมาหัวขวด • ในเดือนมีนาคม 2022 ในฟลอริดา ซึ่งบ่งชี้ถึงการปรับตัวใหม่ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน • ยีน NP ของเชื้อ H5N1 กลุ่ม 2.3.4.4b (จีโนไทป์B3.13) มีแนวโน้มว่ามาจากไวรัสไข้หวัดนกชนิด A ในเป็ดแมลลาร์ด • การกลายพันธุ์ที่สำคัญที่พบในกรณีของมนุษย์เมื่อไม่นานนี้ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้กับการทดลองการผ่านไวรัสแบบต่อเนื่อง • อย่างไรก็ตามแม้ว่าไวรัสไข้หวัดนกสายพันธุ์ใหม่นี้จะสามารถปรับตัวข้ามสปีชีส์ของสัตว์และมาคนได้ “แต่ไม่พบความรุนแรง” นั่นก็คือไม่มีการแสดงอาการของโรคและการตายเช่นไวรัส ไข้หวัด นกก่อนหน้านี้ ดังนั้นประกาศขององค์การอนามัยโลกประสานกับ CDC FDA และหน่วยงานเกษตรของสหรัฐ ที่แจ้งว่าไข้หวัดนกมีการลุกลามอย่างมากและจำเป็นต้องมีการใช้วัคซีนด่วนและสำหรับทั่วโลกด้วย เป็นที่น่าสังเกตว่าหลักฐานของการระบาดลุกลามนั้นเป็นการตรวจพีซีอาร์ รวมทั้งการตรวจในน้ำเสียที่ปล่อยทิ้งและพบสารพันธุกรรมเยอะขึ้น แต่ทั้งนี้ไม่ได้สะท้อนถึงความรุนแรงที่ปรากฏไม่ว่าจะเป็นในสัตว์หรือในมนุษย์เอง • ตัวอย่างโรคระบาดเหล่านี้รวมถึงโควิดที่ผ่านมาทำให้รัฐบาลใหม่สหรัฐ ประกาศยุติความสัมพันธ์กับองค์การอนามัยโลกโดยประธานาธิบดีใหม่ได้กล่าวปราศรัยว่าเป็นองค์กรที่ทุจริตและมีสายสัมพันธ์เชื่อมโยงกับบริษัทยาวัคซีนยักษ์ใหญ่ และถึงกับแทรกตัวเข้าไปในองค์กรที่ตั้งตรวจสอบยาและวัคซีนของสหรัฐ FDA CDC โดยจะมีการปลด และทำการรื้อองค์กรใหม่พร้อมกับประกาศสอบความเชื่อมโยงกับแพทย์ นักวิทยาศาสตร์ นักวิชาการ ซึ่งได้รับผลประโยชน์ทางด้านการได้รับทุนวิจัยรวมทั้งสินบน เพื่อปกป้องผลิตภัณฑ์และส่งเสริมการขายโดยให้ใช้ในประชาชนทั่วโลกผ่านการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโรคระบาด และรัฐบาลใหม่ประกาศจุดยืนต้าน deep state ในประเทศไทยมีคนในระดับผู้นำองค์กรเป็นสมาชิก WEF และเริ่มมีประกาศสนับสนุนแนวทางสร้างโลกหนึ่งเดียว โดยมนุษย์โลกต้องอยู่ให้ได้ภายใต้กรอบเข้มงวด อย่าง (ดูเหมือน)มีความสุข ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และ ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต (เผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ คอลัมน์สุขภาพหรรษา วันที่ 5 และ 12 มกราคม 2025)
    Like
    Love
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 636 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ไบเดนย่องเงียบ" อนุมัติแผนการขายอาวุธ 8,000 ล้านเหรียญให้อิสราเอล

    กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งต่อรัฐสภา "อย่างไม่เป็นทางการ" ถึงข้อเสนอข้อตกลงด้านอาวุธมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์กับอิสราเอล ซึ่งจะรวมถึงอาวุธสำหรับเครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์โจมตี รวมถึงกระสุนปืนใหญ่

    แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศแจ้งต่อรัฐสภาว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อ "สนับสนุนความมั่นคงในระยะยาวของอิสราเอลโดยการจัดหาอาวุธสำคัญและความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม"

    "ประธานาธิบดีได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าอิสราเอลมีสิทธิที่จะปกป้องพลเมืองของตน สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และในการยับยั้งการรุกรานจากอิหร่านและองค์กรตัวแทนของอิหร่าน" เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าว

    การขายอาวุธครั้งนี้รวมถึงขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 AMRAAM สำหรับเครื่องบินขับไล่เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางอากาศ รวมถึงโดรน

    ยังรวมถึงกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. และขีปนาวุธ Hellfire AGM-114 สำหรับเฮลิคอปเตอร์โจมตีด้วย

    ข้อตกลงที่เสนอนี้ยังรวมถึงระเบิดขนาดเล็ก ระเบิดดัดแปลง JDAM ที่มีหัวรบขนาด 500 ปอนด์

    ในขณะที่:
    - แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    - ฮิวแมนไรท์วอทช์: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    - รายงานของสหประชาชาติ: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    - นักวิชาการด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    - ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ International Criminal Court (ICC): กำลังดำเนินคดีกับเนทันยาฮูในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    - แต่ไบเดนยังคงเดินหน้าขายอาวุธอีก 8,000 ล้านเหรียญให้อิสราเอล
    "ไบเดนย่องเงียบ" อนุมัติแผนการขายอาวุธ 8,000 ล้านเหรียญให้อิสราเอล กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งต่อรัฐสภา "อย่างไม่เป็นทางการ" ถึงข้อเสนอข้อตกลงด้านอาวุธมูลค่า 8,000 ล้านดอลลาร์กับอิสราเอล ซึ่งจะรวมถึงอาวุธสำหรับเครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์โจมตี รวมถึงกระสุนปืนใหญ่ แหล่งข่าวยังกล่าวอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศแจ้งต่อรัฐสภาว่า ข้อตกลงดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อ "สนับสนุนความมั่นคงในระยะยาวของอิสราเอลโดยการจัดหาอาวุธสำคัญและความสามารถในการป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม" "ประธานาธิบดีได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าอิสราเอลมีสิทธิที่จะปกป้องพลเมืองของตน สอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ และในการยับยั้งการรุกรานจากอิหร่านและองค์กรตัวแทนของอิหร่าน" เจ้าหน้าที่สหรัฐกล่าว การขายอาวุธครั้งนี้รวมถึงขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 AMRAAM สำหรับเครื่องบินขับไล่เพื่อป้องกันภัยคุกคามทางอากาศ รวมถึงโดรน ยังรวมถึงกระสุนปืนใหญ่ขนาด 155 มม. และขีปนาวุธ Hellfire AGM-114 สำหรับเฮลิคอปเตอร์โจมตีด้วย ข้อตกลงที่เสนอนี้ยังรวมถึงระเบิดขนาดเล็ก ระเบิดดัดแปลง JDAM ที่มีหัวรบขนาด 500 ปอนด์ ในขณะที่: - แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ - ฮิวแมนไรท์วอทช์: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ - รายงานของสหประชาชาติ: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ - นักวิชาการด้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์: รายงานว่าอิสราเอลก่ออาชญากรรมฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ - ศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ International Criminal Court (ICC): กำลังดำเนินคดีกับเนทันยาฮูในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ - แต่ไบเดนยังคงเดินหน้าขายอาวุธอีก 8,000 ล้านเหรียญให้อิสราเอล
    Sad
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องลับของสายลับ CIA | ตอนที่ 1
    โดย #อัษฎางค์ยมนาค

    การปฏิบัติการของ CIA ในการแทรกซึมเข้าไปในต่างประเทศบางครั้งอาจมีการใช้วิธีการส่งเจ้าหน้าที่ปลอมตัวเข้าไปอยู่ในชุมชนหรือองค์กรต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้อาจแฝงตัวภายใต้บทบาทที่ไม่เป็นที่สงสัย เช่น นักธุรกิจ นักวิชาการ นักข่าว หรือแม้แต่นักการทูต การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการลับ (Covert Operations) ที่มุ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองและสร้างเครือข่ายในพื้นที่เป้าหมาย

    การแทรกซึมลักษณะนี้มักถูกใช้ในสถานการณ์ที่หน่วยข่าวกรองต้องการรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประเทศหรือกลุ่มเป้าหมาย เช่น ข้อมูลทางการเมือง การทหาร หรือความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยการแฝงตัวและการปลอมตัวช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้โดยไม่เป็นที่สงสัยหรือตรวจพบจากหน่วยงานท้องถิ่น

    อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าวมักถูกเก็บเป็นความลับและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงต่อทั้งเจ้าหน้าที่และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    การที่เจ้าหน้าที่ของ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรต่างๆ โดยที่คนในองค์กรหรือประเทศนั้นๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ CIA นั้น มีสาเหตุจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งการเตรียมการ การปกปิดข้อมูล และการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานหลายฝ่าย:

    1. การปลอมเอกสารและการจัดเตรียมประวัติ (Cover Story)

    • เจ้าหน้าที่ CIA ที่ถูกส่งเข้าไปปฏิบัติการในต่างประเทศมักจะมี cover story ซึ่งเป็นเรื่องราวและเอกสารที่สนับสนุนบทบาทของพวกเขา เช่น ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ หรือนักข่าว โดยประวัติเหล่านี้มักจะถูกจัดทำอย่างละเอียด ทั้งประวัติการทำงาน การศึกษา รวมถึงการปลอมแปลงเอกสารที่แสดงว่าเขามีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานนั้นๆ

    • รัฐบาลสหรัฐฯ หรือ CIA เองอาจมีการจัดเตรียมเอกสารที่ดูถูกต้องตามกฎหมายเพื่อสนับสนุนเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ยืนยันอาชีพ การศึกษา หรือประสบการณ์ในสาขานั้นๆ ซึ่งทำให้ดูเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือสำหรับองค์กรที่รับสมัครงาน

    2. การฝึกอบรมด้านการปกปิดตัวตน (Tradecraft)

    • เจ้าหน้าที่ CIA ได้รับการฝึกฝนในเรื่องของ tradecraft ซึ่งรวมถึงการปกปิดตัวตน การแทรกซึม และการทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ลับ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งพวกเขาจะเรียนรู้วิธีการสื่อสาร การเข้าถึงข้อมูล และการปฏิบัติภารกิจโดยไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง

    3. ความร่วมมือขององค์กรหรือหน่วยงานภายในประเทศ

    • ในบางกรณี อาจมีหน่วยงานภายในประเทศหรือองค์กรที่ร่วมมือกับ CIA อย่างลับๆ เช่น หน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นหรือนักการเมืองบางกลุ่มที่ต้องการผลประโยชน์ร่วมกัน หรือสนับสนุนการปฏิบัติการของ CIA ภายในประเทศนั้นๆ

    • อย่างไรก็ตาม ในกรณีส่วนใหญ่ องค์กรที่เจ้าหน้าที่ CIA เข้าไปทำงานจะไม่รู้ว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ลับ เพราะ CIA ต้องการให้การปฏิบัติการเป็นความลับที่สุด การที่องค์กรทราบว่าเขาเป็น CIA อาจทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองหรือความเสี่ยงต่อปฏิบัติการลับนั้น

    4. ความลับและการปกปิดข้อมูล

    • การปฏิบัติการลับของ CIA มักมีการรักษาความลับอย่างสูงสุด มีการจำกัดข้อมูลที่สามารถเปิดเผย และเจ้าหน้าที่ในองค์กรที่ CIA เข้าไปฝังตัวจะไม่ได้รับข้อมูลใดๆ ที่บ่งบอกว่าเขาคือเจ้าหน้าที่ CIA ทำให้ไม่มีข้อสงสัยในตัวเขา

    สรุปคือ เจ้าหน้าที่ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรได้โดยไม่ถูกจับได้เนื่องจากการจัดเตรียมเอกสารที่เป็นมืออาชีพ การฝึกฝนในการปกปิดตัวตน และการทำงานอย่างรัดกุมของ CIA ในการทำให้การปฏิบัติการลับเหล่านี้เป็นไปอย่างแนบเนียน

    โปรดติดตามตอนต่อไป
    #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft

    ตอนที่ 2: https://www.facebook.com/share/p/Uv9bMaUp1RNBH2fj/?mibextid=WC7FNe
    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1DwX5jiJuU/
    #เรื่องลับของสายลับ CIA | ตอนที่ 1 โดย #อัษฎางค์ยมนาค การปฏิบัติการของ CIA ในการแทรกซึมเข้าไปในต่างประเทศบางครั้งอาจมีการใช้วิธีการส่งเจ้าหน้าที่ปลอมตัวเข้าไปอยู่ในชุมชนหรือองค์กรต่างๆ เพื่อรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง โดยเจ้าหน้าที่เหล่านี้อาจแฝงตัวภายใต้บทบาทที่ไม่เป็นที่สงสัย เช่น นักธุรกิจ นักวิชาการ นักข่าว หรือแม้แต่นักการทูต การดำเนินการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติการลับ (Covert Operations) ที่มุ่งเน้นการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองและสร้างเครือข่ายในพื้นที่เป้าหมาย การแทรกซึมลักษณะนี้มักถูกใช้ในสถานการณ์ที่หน่วยข่าวกรองต้องการรวบรวมข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประเทศหรือกลุ่มเป้าหมาย เช่น ข้อมูลทางการเมือง การทหาร หรือความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยการแฝงตัวและการปลอมตัวช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานได้โดยไม่เป็นที่สงสัยหรือตรวจพบจากหน่วยงานท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม วิธีการดังกล่าวมักถูกเก็บเป็นความลับและไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีความเสี่ยงสูงต่อทั้งเจ้าหน้าที่และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การที่เจ้าหน้าที่ของ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรต่างๆ โดยที่คนในองค์กรหรือประเทศนั้นๆ ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นเจ้าหน้าที่ CIA นั้น มีสาเหตุจากหลายปัจจัยที่ซับซ้อน ทั้งการเตรียมการ การปกปิดข้อมูล และการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานหลายฝ่าย: 1. การปลอมเอกสารและการจัดเตรียมประวัติ (Cover Story) • เจ้าหน้าที่ CIA ที่ถูกส่งเข้าไปปฏิบัติการในต่างประเทศมักจะมี cover story ซึ่งเป็นเรื่องราวและเอกสารที่สนับสนุนบทบาทของพวกเขา เช่น ปลอมตัวเป็นนักธุรกิจ นักวิชาการ หรือนักข่าว โดยประวัติเหล่านี้มักจะถูกจัดทำอย่างละเอียด ทั้งประวัติการทำงาน การศึกษา รวมถึงการปลอมแปลงเอกสารที่แสดงว่าเขามีคุณสมบัติหรือประสบการณ์ที่สอดคล้องกับตำแหน่งงานนั้นๆ • รัฐบาลสหรัฐฯ หรือ CIA เองอาจมีการจัดเตรียมเอกสารที่ดูถูกต้องตามกฎหมายเพื่อสนับสนุนเรื่องราวของเจ้าหน้าที่ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารที่ยืนยันอาชีพ การศึกษา หรือประสบการณ์ในสาขานั้นๆ ซึ่งทำให้ดูเป็นบุคคลที่น่าเชื่อถือสำหรับองค์กรที่รับสมัครงาน 2. การฝึกอบรมด้านการปกปิดตัวตน (Tradecraft) • เจ้าหน้าที่ CIA ได้รับการฝึกฝนในเรื่องของ tradecraft ซึ่งรวมถึงการปกปิดตัวตน การแทรกซึม และการทำงานในฐานะเจ้าหน้าที่ลับ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสามารถสังเกตเห็นพฤติกรรมที่ผิดปกติ ซึ่งพวกเขาจะเรียนรู้วิธีการสื่อสาร การเข้าถึงข้อมูล และการปฏิบัติภารกิจโดยไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริง 3. ความร่วมมือขององค์กรหรือหน่วยงานภายในประเทศ • ในบางกรณี อาจมีหน่วยงานภายในประเทศหรือองค์กรที่ร่วมมือกับ CIA อย่างลับๆ เช่น หน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นหรือนักการเมืองบางกลุ่มที่ต้องการผลประโยชน์ร่วมกัน หรือสนับสนุนการปฏิบัติการของ CIA ภายในประเทศนั้นๆ • อย่างไรก็ตาม ในกรณีส่วนใหญ่ องค์กรที่เจ้าหน้าที่ CIA เข้าไปทำงานจะไม่รู้ว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ลับ เพราะ CIA ต้องการให้การปฏิบัติการเป็นความลับที่สุด การที่องค์กรทราบว่าเขาเป็น CIA อาจทำให้เกิดปัญหาทางการเมืองหรือความเสี่ยงต่อปฏิบัติการลับนั้น 4. ความลับและการปกปิดข้อมูล • การปฏิบัติการลับของ CIA มักมีการรักษาความลับอย่างสูงสุด มีการจำกัดข้อมูลที่สามารถเปิดเผย และเจ้าหน้าที่ในองค์กรที่ CIA เข้าไปฝังตัวจะไม่ได้รับข้อมูลใดๆ ที่บ่งบอกว่าเขาคือเจ้าหน้าที่ CIA ทำให้ไม่มีข้อสงสัยในตัวเขา สรุปคือ เจ้าหน้าที่ CIA สามารถแฝงตัวในองค์กรได้โดยไม่ถูกจับได้เนื่องจากการจัดเตรียมเอกสารที่เป็นมืออาชีพ การฝึกฝนในการปกปิดตัวตน และการทำงานอย่างรัดกุมของ CIA ในการทำให้การปฏิบัติการลับเหล่านี้เป็นไปอย่างแนบเนียน โปรดติดตามตอนต่อไป #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft ตอนที่ 2: https://www.facebook.com/share/p/Uv9bMaUp1RNBH2fj/?mibextid=WC7FNe ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1DwX5jiJuU/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 383 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องลับของสายลับ
    ตอนที่ 2 CIA ในคราบอาจารย์มหาวิทยาลัย
    โดย #อัษฎางค์ยมนาค

    ความเป็นไปได้ที่ มหาวิทยาลัย หรือบุคคลภายในมหาวิทยาลัยอาจมีความเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับ CIA ในบางกรณี โดยเฉพาะหากมีการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์บางอย่าง แต่ในกรณีส่วนใหญ่ การดำเนินการของ CIA มักจะมีการปกปิดอย่างดีเพื่อให้ไม่มีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างมหาวิทยาลัยกับปฏิบัติการของ CIA เนื่องจากความเสี่ยงทางการเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    ปัจจัยที่ทำให้เป็นไปได้ว่าอาจมีคนในมหาวิทยาลัยรู้เห็นกับ CIA

    1. ในบางประเทศ หน่วยข่าวกรองท้องถิ่นหรือรัฐบาลเองอาจมีความร่วมมือกับ CIA และส่งเสริมการแฝงตัวในมหาวิทยาลัยหรือองค์กรวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง การแทรกซึม หรือการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรในท้องถิ่น

    2. มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจมีการร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือวิชาการ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงนโยบาย หรือการวิจัยในด้านที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศต้นทางของ CIA

    3. ในบางกรณีอาจมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่เป็น “สายของ CIA” หรือได้รับการสนับสนุนให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของ CIA ในการเข้ามาทำงานในมหาวิทยาลัย เช่น การสนับสนุนในการปลอมเอกสาร รับรองความถูกต้องของประวัติ หรือการแนะนำงานวิจัยที่เอื้อต่อภารกิจข่าวกรอง

    4. สร้าง “cover story” ที่น่าเชื่อถือ การมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่รู้เห็นสามารถช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ CIA ในการสร้างประวัติที่น่าเชื่อถือ เช่น การรับรองผลงานทางวิชาการ หรือสนับสนุนการวิจัยเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานภายใต้บทบาทนักวิชาการได้โดยไม่ต้องสงสัย

    ทำไมมหาวิทยาลัยหรือบุคคลบางคนอาจร่วมมือกับ CIA:

    • ผลประโยชน์ส่วนตัว: อาจมีการเสนอผลประโยชน์ทางการเงินหรือทางวิชาการให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือ CIA

    • ความร่วมมือระหว่างประเทศ: รัฐบาลหรือหน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นอาจมีข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือทำงานร่วมกับ CIA เพื่อผลประโยชน์ทางความมั่นคง

    • การสร้างชื่อเสียง: มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจยินดีต้อนรับบุคคลจากต่างประเทศหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นอาจารย์หรือนักวิจัย เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของสถาบัน

    ข้อสังเกต:

    แม้ว่าการแทรกซึมของ CIA ในมหาวิทยาลัยอาจเกิดขึ้นได้ แต่การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมาเป็นเรื่องยาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการเมืองและอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและประเทศที่เกี่ยวข้อง

    ดังนั้น ในกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า CIA อาจส่งเจ้าหน้าที่มาในบทบาทนักวิชาการและมีการรู้เห็นจากคนภายในมหาวิทยาลัยนั้น เป็นไปได้ แต่ส่วนใหญ่กระบวนการเหล่านี้จะถูกปกปิดอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเชื่อมโยงโดยตรง

    ปฏิบัติการที่ CIA ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวในบทบาทต่างๆ เช่น นักวิชาการ โดยมักมีจุดประสงค์หลักที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ

    การแสวงหาพันธมิตร เช่น ใช้โอกาสในการสร้างเครือข่ายกับบุคคลที่มีอำนาจในประเทศนั้นๆ เช่น เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักวิชาการชั้นนำ หรือผู้นำองค์กรต่างๆ นักวิชาการที่แฝงตัวอาจมีหน้าที่เผยแพร่แนวคิดหรือข้อมูลที่สนับสนุนนโยบายของสหรัฐฯ

    เจ้าหน้าที่ CIA ที่มีบทบาทในวงการสื่อหรือนักวิชาการอาจทำหน้าที่ควบคุมหรือชี้นำการอภิปรายเรื่องบางประเด็น เพื่อส่งผลต่อความเห็นของประชาชนในประเทศนั้นๆ ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ

    ที่สำคัญ ที่พบบ่อยและชัดเจนที่สุดคือ การแทรกแซงหรือสร้างอิทธิพลในเหตุการณ์ทางการเมือง โดย CIA อาจแฝงตัวเพื่อสนับสนุนหรือขัดขวางการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศเป้าหมาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง การสร้างความไม่สงบ หรือการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ

    โปรดติดตามตอนต่อไป
    #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft

    ตอนที่ 1: https://www.facebook.com/share/p/TDwfDjQV53w8dia3/?mibextid=WC7FNe
    ที่มา https://www.facebook.com/100070260068883/posts/606278728390791/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
    #เรื่องลับของสายลับ ตอนที่ 2 CIA ในคราบอาจารย์มหาวิทยาลัย โดย #อัษฎางค์ยมนาค ความเป็นไปได้ที่ มหาวิทยาลัย หรือบุคคลภายในมหาวิทยาลัยอาจมีความเกี่ยวข้องหรือรู้เห็นกับ CIA ในบางกรณี โดยเฉพาะหากมีการทำงานร่วมกันเพื่อประโยชน์บางอย่าง แต่ในกรณีส่วนใหญ่ การดำเนินการของ CIA มักจะมีการปกปิดอย่างดีเพื่อให้ไม่มีการเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างมหาวิทยาลัยกับปฏิบัติการของ CIA เนื่องจากความเสี่ยงทางการเมืองและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ปัจจัยที่ทำให้เป็นไปได้ว่าอาจมีคนในมหาวิทยาลัยรู้เห็นกับ CIA 1. ในบางประเทศ หน่วยข่าวกรองท้องถิ่นหรือรัฐบาลเองอาจมีความร่วมมือกับ CIA และส่งเสริมการแฝงตัวในมหาวิทยาลัยหรือองค์กรวิชาการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรอง การแทรกซึม หรือการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรในท้องถิ่น 2. มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจมีการร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองหรือวิชาการ เช่น การแลกเปลี่ยนข้อมูลเชิงนโยบาย หรือการวิจัยในด้านที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศต้นทางของ CIA 3. ในบางกรณีอาจมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่เป็น “สายของ CIA” หรือได้รับการสนับสนุนให้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ของ CIA ในการเข้ามาทำงานในมหาวิทยาลัย เช่น การสนับสนุนในการปลอมเอกสาร รับรองความถูกต้องของประวัติ หรือการแนะนำงานวิจัยที่เอื้อต่อภารกิจข่าวกรอง 4. สร้าง “cover story” ที่น่าเชื่อถือ การมีบุคคลภายในมหาวิทยาลัยที่รู้เห็นสามารถช่วยสนับสนุนเจ้าหน้าที่ CIA ในการสร้างประวัติที่น่าเชื่อถือ เช่น การรับรองผลงานทางวิชาการ หรือสนับสนุนการวิจัยเพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถทำงานภายใต้บทบาทนักวิชาการได้โดยไม่ต้องสงสัย ทำไมมหาวิทยาลัยหรือบุคคลบางคนอาจร่วมมือกับ CIA: • ผลประโยชน์ส่วนตัว: อาจมีการเสนอผลประโยชน์ทางการเงินหรือทางวิชาการให้แก่บุคคลที่ช่วยเหลือ CIA • ความร่วมมือระหว่างประเทศ: รัฐบาลหรือหน่วยงานข่าวกรองท้องถิ่นอาจมีข้อตกลงในการแลกเปลี่ยนข้อมูลหรือทำงานร่วมกับ CIA เพื่อผลประโยชน์ทางความมั่นคง • การสร้างชื่อเสียง: มหาวิทยาลัยบางแห่งอาจยินดีต้อนรับบุคคลจากต่างประเทศหรือองค์กรที่มีชื่อเสียงเข้ามาเป็นอาจารย์หรือนักวิจัย เพื่อเพิ่มชื่อเสียงของสถาบัน ข้อสังเกต: แม้ว่าการแทรกซึมของ CIA ในมหาวิทยาลัยอาจเกิดขึ้นได้ แต่การเปิดเผยข้อมูลเหล่านี้อย่างตรงไปตรงมาเป็นเรื่องยาก เพราะจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการเมืองและอาจสร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยและประเทศที่เกี่ยวข้อง ดังนั้น ในกรณีที่มีการตั้งข้อสงสัยว่า CIA อาจส่งเจ้าหน้าที่มาในบทบาทนักวิชาการและมีการรู้เห็นจากคนภายในมหาวิทยาลัยนั้น เป็นไปได้ แต่ส่วนใหญ่กระบวนการเหล่านี้จะถูกปกปิดอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเชื่อมโยงโดยตรง ปฏิบัติการที่ CIA ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวในบทบาทต่างๆ เช่น นักวิชาการ โดยมักมีจุดประสงค์หลักที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวมข้อมูลข่าวกรองเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ การแสวงหาพันธมิตร เช่น ใช้โอกาสในการสร้างเครือข่ายกับบุคคลที่มีอำนาจในประเทศนั้นๆ เช่น เจ้าหน้าที่รัฐบาล นักวิชาการชั้นนำ หรือผู้นำองค์กรต่างๆ นักวิชาการที่แฝงตัวอาจมีหน้าที่เผยแพร่แนวคิดหรือข้อมูลที่สนับสนุนนโยบายของสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ CIA ที่มีบทบาทในวงการสื่อหรือนักวิชาการอาจทำหน้าที่ควบคุมหรือชี้นำการอภิปรายเรื่องบางประเด็น เพื่อส่งผลต่อความเห็นของประชาชนในประเทศนั้นๆ ในลักษณะที่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐฯ ที่สำคัญ ที่พบบ่อยและชัดเจนที่สุดคือ การแทรกแซงหรือสร้างอิทธิพลในเหตุการณ์ทางการเมือง โดย CIA อาจแฝงตัวเพื่อสนับสนุนหรือขัดขวางการเคลื่อนไหวทางการเมืองในประเทศเป้าหมาย ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง การสร้างความไม่สงบ หรือการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลที่เป็นมิตรกับสหรัฐฯ โปรดติดตามตอนต่อไป #TheNewGeopoliticaalArena #ThaiGeopoliticalSheft ตอนที่ 1: https://www.facebook.com/share/p/TDwfDjQV53w8dia3/?mibextid=WC7FNe ที่มา https://www.facebook.com/100070260068883/posts/606278728390791/?mibextid=rS40aB7S9Ucbxw6v
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิชาการสายโปรอเมริกา ไม่อยากให้ไทยเข้าเป็นสมาชิก BRICS:

    เป็นความคิดเห็นของนักวิชาการสายโปรอเมริกาที่จะต้องเข้าข้างอเมริกาครับ มี ๓ ประเด็นที่ควรพิจารณา

    ๑.ปรากฎการณ์ deglobalisation ก็ดี ปรากฎการณ์ dedollarisation ก็ดี เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกระแสหลังจากการที่ผู้นำหลายชาติที่สร้างกลุ่ม BRICS ขึ้นมา โดยเฉพาะรัสเซียและจีนพัฒนาให้เกิดขึ้นโดยตรง แล้วพาชาวโลกที่เป็นสมาชิกหันไปเน้น localisation และ local currencies แทนทั้งนี้เพื่อลดการเป็นศูนย์กลางโลกของอเมริกาและอิทธิพลของกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์ที่บงการโลกใบนี้ผ่านรัฐบาลอเมริกาอย่างไม่เป็นธรรมอยู่ตลอดเวลา

    ๒.จริงอยู่แม้ว่าไทยจะได้ดุลย์การค้าจากอเมริกาและอียูบางประเทศ แต่ต้องไม่ลืมว่าอเมริกาและอียูสามารถใช้ข้ออ้างเท็จ เช่น 'การละเมิดสิทธิมนุษยชน' 'รัฐบาลไทยเผด็จการ' หรือ 'การไร้เสรีภาพสื่อ' มาเป็นมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของไทย ด้วยวิธีต่างๆ อาทิ ไม่นำเข้าอาหารทะเลจากไทย เป็นต้นได้

    ด้วยเหตุนี้ การสมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS ทำให้ประเทศไทยยังสามารถมีเอกราชในด้านนโยบายต่างประเทศและสามารถหาตลาดใหม่ๆ มารองรับ พร้อมทั้งลดผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรจากอเมริกาและอียูอย่างไม่เป็นธรรมได้

    ๓.ทรรศนคติของอาจารย์คนนี้หากรัฐบาลไทยหลงเชื่อตามจะทำให้ประเทศไทยตกเป็นทาสของอเมริกาและอียูในเชิงนโยบายไปตลอด ผลก็คือแม้จะถูกอเมริกาและอียูคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างไร ประเทศไทยก็จะต้องก้มหน้าก้มตายอมรับต่อไปโดยไม่มีทางเลือกให้นั่นเองครับ
    ---------------------------------------------------------
    อาจารย์อธิบายว่า วันนี้เรามีคำใหม่คือ “ภาวะถดถอยของโลกาภิวัตน์” หรือ “ภาวะที่โลกาภิวัตน์ถูกหยุด” (Deglobalization) ซึ่งสิ่งที่จะตามมาแน่ๆ คือผลกระทบกับ “ห่วงโซ่อุปทาน” (Supply Chain) ทั่วโลก
    โจทย์ตรงนี้อาจจะต้องคิดต่อว่า ไทยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานนี้ เราจะจัดวางตัวเองอย่างไรกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้
    การเข้าเป็นสมาชิก BRICS และ OECD ไม่ใช่ทางเลือกของไทยในช่วงที่สงครามการค้าระลอกใหม่เตรียมปะทุและโลกาภิวัตน์กำลังถดถอย เพราะตลาดของไทยไม่ได้อยู่กับจีนและรัสเซีย แต่ผลประโยชน์ของไทยในทางเศรษฐกิจอยู่กับสหรัฐและสหภาพยุโรป BRICS จึงไม่ใช่คำตอบ และไทยไม่สามารถเล่นบทแบบอินโดนีเซีย อินเดีย หรือแอฟริกาใต้ได้ เพราะไทย “มีต้นทุนต่ำ” คือสถานะทางเศรษฐกิจการเมือง (Political Economy) ของไทยบนเวทีโลกอยู่ในระดับที่ใช้เป็นข้อต่อรองได้ไม่มากนัก การเข้าร่วมกลุ่มกับโลกใต้ (Global South) อาจไม่ได้ตอบโจทย์อย่างที่คิด

    https://www.facebook.com/share/p/fVsomH5u1mcYVkPJ/



    ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    นักวิชาการสายโปรอเมริกา ไม่อยากให้ไทยเข้าเป็นสมาชิก BRICS: เป็นความคิดเห็นของนักวิชาการสายโปรอเมริกาที่จะต้องเข้าข้างอเมริกาครับ มี ๓ ประเด็นที่ควรพิจารณา ๑.ปรากฎการณ์ deglobalisation ก็ดี ปรากฎการณ์ dedollarisation ก็ดี เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกระแสหลังจากการที่ผู้นำหลายชาติที่สร้างกลุ่ม BRICS ขึ้นมา โดยเฉพาะรัสเซียและจีนพัฒนาให้เกิดขึ้นโดยตรง แล้วพาชาวโลกที่เป็นสมาชิกหันไปเน้น localisation และ local currencies แทนทั้งนี้เพื่อลดการเป็นศูนย์กลางโลกของอเมริกาและอิทธิพลของกลุ่มทุนยิวไซออนิสต์ที่บงการโลกใบนี้ผ่านรัฐบาลอเมริกาอย่างไม่เป็นธรรมอยู่ตลอดเวลา ๒.จริงอยู่แม้ว่าไทยจะได้ดุลย์การค้าจากอเมริกาและอียูบางประเทศ แต่ต้องไม่ลืมว่าอเมริกาและอียูสามารถใช้ข้ออ้างเท็จ เช่น 'การละเมิดสิทธิมนุษยชน' 'รัฐบาลไทยเผด็จการ' หรือ 'การไร้เสรีภาพสื่อ' มาเป็นมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของไทย ด้วยวิธีต่างๆ อาทิ ไม่นำเข้าอาหารทะเลจากไทย เป็นต้นได้ ด้วยเหตุนี้ การสมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม BRICS ทำให้ประเทศไทยยังสามารถมีเอกราชในด้านนโยบายต่างประเทศและสามารถหาตลาดใหม่ๆ มารองรับ พร้อมทั้งลดผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรจากอเมริกาและอียูอย่างไม่เป็นธรรมได้ ๓.ทรรศนคติของอาจารย์คนนี้หากรัฐบาลไทยหลงเชื่อตามจะทำให้ประเทศไทยตกเป็นทาสของอเมริกาและอียูในเชิงนโยบายไปตลอด ผลก็คือแม้จะถูกอเมริกาและอียูคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจอย่างไร ประเทศไทยก็จะต้องก้มหน้าก้มตายอมรับต่อไปโดยไม่มีทางเลือกให้นั่นเองครับ --------------------------------------------------------- อาจารย์อธิบายว่า วันนี้เรามีคำใหม่คือ “ภาวะถดถอยของโลกาภิวัตน์” หรือ “ภาวะที่โลกาภิวัตน์ถูกหยุด” (Deglobalization) ซึ่งสิ่งที่จะตามมาแน่ๆ คือผลกระทบกับ “ห่วงโซ่อุปทาน” (Supply Chain) ทั่วโลก โจทย์ตรงนี้อาจจะต้องคิดต่อว่า ไทยในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานนี้ เราจะจัดวางตัวเองอย่างไรกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ การเข้าเป็นสมาชิก BRICS และ OECD ไม่ใช่ทางเลือกของไทยในช่วงที่สงครามการค้าระลอกใหม่เตรียมปะทุและโลกาภิวัตน์กำลังถดถอย เพราะตลาดของไทยไม่ได้อยู่กับจีนและรัสเซีย แต่ผลประโยชน์ของไทยในทางเศรษฐกิจอยู่กับสหรัฐและสหภาพยุโรป BRICS จึงไม่ใช่คำตอบ และไทยไม่สามารถเล่นบทแบบอินโดนีเซีย อินเดีย หรือแอฟริกาใต้ได้ เพราะไทย “มีต้นทุนต่ำ” คือสถานะทางเศรษฐกิจการเมือง (Political Economy) ของไทยบนเวทีโลกอยู่ในระดับที่ใช้เป็นข้อต่อรองได้ไม่มากนัก การเข้าร่วมกลุ่มกับโลกใต้ (Global South) อาจไม่ได้ตอบโจทย์อย่างที่คิด https://www.facebook.com/share/p/fVsomH5u1mcYVkPJ/ ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 435 มุมมอง 0 รีวิว
  • “มองไทย มองโลก” ไม่มีอะไรดี เลวร้ายลง รัฐบาลทำพังแต่คนไทยเอาแต่บ่นในปี 2568
    .
    ประเทศไทยแทบจะไม่ต้องพูดอะไรเลย เพราะว่ามันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก มีแต่เลวลง สังคมกฎหมายเลวลงกรณีแตงโม กรณีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร กรณีเขากระโดง นี่คือจุดเริ่มต้นของความเสื่อมในปีหน้า ที่มันจะเสื่อมลงกว่าเก่า เศรษฐกิจก็ยังติดขัดอยู่ ทุกวันนี้ที่พรรคเพื่อไทยออกมาคุยโวโอ้อวด ผมยังไม่เคยเห็นพรรคเพื่อไทยทำอะไรเป็นการสร้างเศรษฐกิจให้ยั่งยืนเลย มีแต่เอาเงินงบประมาณมาแจกประชาชนเพื่อหวังเสียง แค่นั้นเอง
    .
    สรุปง่ายๆ พรรคเพื่อไทย กับพรรคไทยรักไทยตอนแรก ที่ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วตอนนี้ก็เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง โดยชูลูกสาวเป็นตัวปลอม เป็นหุ่นเชิดให้ นิสัยก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ลด แลก แจก แถม
    .
    ปีหน้าเมื่อมีการปรับ ครม.แล้ว ทักษิณ คงต้องเปลี่ยนตัวเอารัฐมนตรีฯ ต่างประเทศคนใหม่เข้ามาแทนที่ อาจจะเป็นนพดล ปัทมะ เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนปัจจุบันไม่กล้าตั้งคณะกรรมการ JCT ต้องเอาคนที่หน้าด้าน แล้วผมจะเตือนอย่างนะครับ ท่านเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ กรมสนธิสัญญาฯ ถ้าคุณจำเป็นจะต้องไปนั่งเป็นคณะกรรมการ ให้คุณระวังตัวไว้นะ คุณอย่าทำตามใบสั่งทางการเมืองนะว่าเขาต้องมีธงแบบนี้ คุณยอมให้เขาย้ายดีกว่า เพราะว่าในที่สุด เมื่อประเทศไทยสูญเสียดินแดน คุณจะเห็นว่านรกมันมีจริงสำหรับชีวิตอนาคตข้างหน้าของพวกคุณ
    .
    มีคนเคยถามผมว่า คุณสนธิ VAT มันจะขึ้นไหม ? แนวโน้มสูงมากจะต้องขึ้น เพราะว่ารัฐบาลมันถังแตก ตระกูลชินวัตรทำให้ประเทศไทยล่มสลายจากการจำนำข้าวไป 7 แสนล้านบาท
    .
    ภูมิรัฐศาสตร์โลกมันจะเกิดสงครามเป็นหย่อมๆอย่างที่พูดไปแล้วเมื่อปี2567 แล้วความห้าวเป้งของนายทรัมป์ ที่ต้องการจะฟาดอิหร่านร่วมกับเนทันยาฮู อิสราเอล นั้น มันจะก่อให้เกิดสงครามใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอนที่สุด
    .
    สำหรับสงครามในยูเครนจะต้องจบไม่น่าจะเกินกุมภาพันธ์-มีนาคม ผมเชื่อว่ารัสเซียคงยังจะต้องใช้ออร์เซนิกสั่งสอนยูเครนและทางตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนาโต และที่สำคัญ ทรัมป์ไม่ต้องการสงคราม ทรัมป์ต้องการจะค้าขาย เพราะฉะนั้นสงครามยูเครนน่าจะลดความร้อนแรงลง
    .
    ส่วนทะเลจีนตอนใต้ก็จะยังคงรุนแรงต่อ เพราะว่าล่าสุดติดขีปนาวุธพิสัยกลางไว้ที่เกาะฟิลิปปินส์ นายเฟอร์ดินานด์ มากอส จูเนียร์ กำลังจะเป็นเซเลนสกีทางภาคตะวันออกอีกคนหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าพูดถึงทะเลจีนตอนใต้ นั่นก็คือการที่บ้านสองบ้านตรงข้ามกัน ในซอยเดียวกัน เปิดประตูแล้วด่าโคตรพ่อโคตรแม่กัน แต่ถ้าเป็นตะวันออกกลางแล้ว มันเริ่มเอาข้าวของ เอาปืนยิงใส่บ้านซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นยูเครน ก็คือเอาของขว้างต่อกัน ซึ่งกันและกัน นี่คือภาพของโลก
    .
    ถ้าดูตามตำราโหราศาสตร์ปี 2568ตามที่อาจารย์ยิปมันบอกว่า เป็นปีที่ 3 ที่ดาวมฤตยูเข้าสู่ราศีพฤษภของโลกและดวงเมืองประเทศไทย แปลว่าดาวบาปพระเคราะห์ดวงนี้จะทำให้เกิดการพลิกผันในวงการเศรษฐกิจ การเมือง การคลัง และจะทำให้การผันผวนด้านการเงินการคลัง และเศรษฐกิจของโลก ราคาทองคำ บิทคอยน์ จะผันผวนต่อเนื่อง สิ่งที่เคยมีค่าจะกลับกลายเป็นด้อยค่า หุ้นไทยและทองไทยยังมีโอกาสขึ้นต่อไปจนกว่าดาวพฤหัสจะย้าย แต่วงการสงฆ์ วงการศึกษา นักวิชาการ องค์กรอิสระ และตุลาการ จะเกิดการพลิกผันเกินกว่าที่ทุกคนจะคาดคิด สรุปแล้ว ผมก็ให้คำทำนายเอาไว้แบบนี้ เรายังมีเวลาปีหน้าอีกปีหนึ่ง ก็ดูว่าคำทำนายของผมนั้นถูกหรือผิด
    “มองไทย มองโลก” ไม่มีอะไรดี เลวร้ายลง รัฐบาลทำพังแต่คนไทยเอาแต่บ่นในปี 2568 . ประเทศไทยแทบจะไม่ต้องพูดอะไรเลย เพราะว่ามันไม่มีอะไรดีขึ้นหรอก มีแต่เลวลง สังคมกฎหมายเลวลงกรณีแตงโม กรณีชั้น 14 ของนายทักษิณ ชินวัตร กรณีเขากระโดง นี่คือจุดเริ่มต้นของความเสื่อมในปีหน้า ที่มันจะเสื่อมลงกว่าเก่า เศรษฐกิจก็ยังติดขัดอยู่ ทุกวันนี้ที่พรรคเพื่อไทยออกมาคุยโวโอ้อวด ผมยังไม่เคยเห็นพรรคเพื่อไทยทำอะไรเป็นการสร้างเศรษฐกิจให้ยั่งยืนเลย มีแต่เอาเงินงบประมาณมาแจกประชาชนเพื่อหวังเสียง แค่นั้นเอง . สรุปง่ายๆ พรรคเพื่อไทย กับพรรคไทยรักไทยตอนแรก ที่ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วตอนนี้ก็เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง โดยชูลูกสาวเป็นตัวปลอม เป็นหุ่นเชิดให้ นิสัยก็ยังเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ลด แลก แจก แถม . ปีหน้าเมื่อมีการปรับ ครม.แล้ว ทักษิณ คงต้องเปลี่ยนตัวเอารัฐมนตรีฯ ต่างประเทศคนใหม่เข้ามาแทนที่ อาจจะเป็นนพดล ปัทมะ เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศคนปัจจุบันไม่กล้าตั้งคณะกรรมการ JCT ต้องเอาคนที่หน้าด้าน แล้วผมจะเตือนอย่างนะครับ ท่านเจ้าหน้าที่ ข้าราชการ กรมสนธิสัญญาฯ ถ้าคุณจำเป็นจะต้องไปนั่งเป็นคณะกรรมการ ให้คุณระวังตัวไว้นะ คุณอย่าทำตามใบสั่งทางการเมืองนะว่าเขาต้องมีธงแบบนี้ คุณยอมให้เขาย้ายดีกว่า เพราะว่าในที่สุด เมื่อประเทศไทยสูญเสียดินแดน คุณจะเห็นว่านรกมันมีจริงสำหรับชีวิตอนาคตข้างหน้าของพวกคุณ . มีคนเคยถามผมว่า คุณสนธิ VAT มันจะขึ้นไหม ? แนวโน้มสูงมากจะต้องขึ้น เพราะว่ารัฐบาลมันถังแตก ตระกูลชินวัตรทำให้ประเทศไทยล่มสลายจากการจำนำข้าวไป 7 แสนล้านบาท . ภูมิรัฐศาสตร์โลกมันจะเกิดสงครามเป็นหย่อมๆอย่างที่พูดไปแล้วเมื่อปี2567 แล้วความห้าวเป้งของนายทรัมป์ ที่ต้องการจะฟาดอิหร่านร่วมกับเนทันยาฮู อิสราเอล นั้น มันจะก่อให้เกิดสงครามใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอนที่สุด . สำหรับสงครามในยูเครนจะต้องจบไม่น่าจะเกินกุมภาพันธ์-มีนาคม ผมเชื่อว่ารัสเซียคงยังจะต้องใช้ออร์เซนิกสั่งสอนยูเครนและทางตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งนาโต และที่สำคัญ ทรัมป์ไม่ต้องการสงคราม ทรัมป์ต้องการจะค้าขาย เพราะฉะนั้นสงครามยูเครนน่าจะลดความร้อนแรงลง . ส่วนทะเลจีนตอนใต้ก็จะยังคงรุนแรงต่อ เพราะว่าล่าสุดติดขีปนาวุธพิสัยกลางไว้ที่เกาะฟิลิปปินส์ นายเฟอร์ดินานด์ มากอส จูเนียร์ กำลังจะเป็นเซเลนสกีทางภาคตะวันออกอีกคนหนึ่งแล้ว เพราะฉะนั้นแล้ว ถ้าพูดถึงทะเลจีนตอนใต้ นั่นก็คือการที่บ้านสองบ้านตรงข้ามกัน ในซอยเดียวกัน เปิดประตูแล้วด่าโคตรพ่อโคตรแม่กัน แต่ถ้าเป็นตะวันออกกลางแล้ว มันเริ่มเอาข้าวของ เอาปืนยิงใส่บ้านซึ่งกันและกัน ถ้าเป็นยูเครน ก็คือเอาของขว้างต่อกัน ซึ่งกันและกัน นี่คือภาพของโลก . ถ้าดูตามตำราโหราศาสตร์ปี 2568ตามที่อาจารย์ยิปมันบอกว่า เป็นปีที่ 3 ที่ดาวมฤตยูเข้าสู่ราศีพฤษภของโลกและดวงเมืองประเทศไทย แปลว่าดาวบาปพระเคราะห์ดวงนี้จะทำให้เกิดการพลิกผันในวงการเศรษฐกิจ การเมือง การคลัง และจะทำให้การผันผวนด้านการเงินการคลัง และเศรษฐกิจของโลก ราคาทองคำ บิทคอยน์ จะผันผวนต่อเนื่อง สิ่งที่เคยมีค่าจะกลับกลายเป็นด้อยค่า หุ้นไทยและทองไทยยังมีโอกาสขึ้นต่อไปจนกว่าดาวพฤหัสจะย้าย แต่วงการสงฆ์ วงการศึกษา นักวิชาการ องค์กรอิสระ และตุลาการ จะเกิดการพลิกผันเกินกว่าที่ทุกคนจะคาดคิด สรุปแล้ว ผมก็ให้คำทำนายเอาไว้แบบนี้ เรายังมีเวลาปีหน้าอีกปีหนึ่ง ก็ดูว่าคำทำนายของผมนั้นถูกหรือผิด
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 528 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22-12-67/01 : หมี CNN / หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.14

    เริ่มจากเรื่องเบาๆ ก่อน APT ในที่สุด นู๋โรเซ่ ก็ได้แจ้งเกิดกับเค้าเสียที ตั้งแต่อยู่ในวง BP แล้ว แววมี แต่ถูกบรรดาตัวแม่สะกด แม้แต่ LS เอง พอออกเดี่ยว ปล่อยของ เฉิดฉายไร้ที่ติ ถึงตาอีนู๋โรเซ่ แหม..ขาเม้าท์ยังกล้าเครมว่าเพราะบรูโน่ มาช่วยเติมสีสัน หลักการตลาดง่ายๆ มรึงจะขึ้นสู่ตลาดโลก มันต้องไปทีละขั้น หากออกเดี่ยว เร่งตัวตนของตัวเองมากจนเกินไป เวลาแป๊ก กลับมาไม่ง่ายเลย ตรงกันข้าม บรูโน่เองก็ต้องอาศัยกระแสอีนู๋ POWER PUFF GIRL อย่างโรเซ่ ช่วยกระตุ้นกระแสตัวเองด้วยเช่นกัน วินวินทั้งคู่ มันไม่ใช่ใครพึ่งใครแต่มันคือส่วนผสมที่ลงตัว ทีมงานโปรดิวเซอร์อ่านขาด บันไดสู่จักรวาลมาเวลเริ่มแล้ว สำหรับโรเซ่ สู้ต่อไป เพราะหมีชอบมวยรองจ๊ะ? กูฟังอยู่ตั้งนาน อะไรน่ะ อา ปา จา ปา เจะ อะไรเนี่ย? มันคืออะไร โถ..แปลว่า อพาร์ทเม้นต์ ในภาษาเกาหลีเค้า มันอยู่ในเกมส์เล่นในวงเหล้ากิมจิเค้า งานนี้ สมกับเป็น K-POP ไม่ทิ้งลายชาตินิยม SOFT POWER สอดแทรกเข้าไป เดินตาม LS เป๊ะเด๊ะ ชอบทั้งคู่ ไปให้สุดซอยเลยนะจ๊ะอีนู๋ POWER PUFF GIRL

    เข้าสู่โหมดโหดทันที สโลวาเกียแฉ อีเสี้ยนยา ยัดเงินขอเข้า NATO ไม่ต้องพูดให้มากความ อียิวชงให้อียูเครนเป็นเหยื่อล่อรัสเซีย อีนาโต้จะซวย หากอียูเครนเข้า เพราะต้องไปสู้กับรัสเซียตามมาตรา 5 ใช่ อียิววางหมากให้รัสเซียสู้กับยุโรปตายกันไปข้างนึง แล้วใครแพ้ ใครเหนื่อย กูค่อยออกมาเก็บผลประโยชน์ โถ..ดีออก? แผนตื้นๆ ห่วยๆ มรึงคิดว่าปูตินเลี้ยงควายรึไง ไอ้สัส? ปูติน ซ้อนแผนทันที ถึงได้ออกมาเตือน 3 ครั้ง ตั้งแต่เรื่องแดงเผยว่า อียูเครนจะเข้า NATO รู้มั้ยว่า รัสเซียมีทางให้เลือกเล่นเยอะ มีเบี้ยในกระดานให้เล่น มรึงเข้า นาโต้ ตาย ยุโรปทรุด รัสเซียได้ข้ออ้างยกกองทัพ Z เข้ายึดยุโรปกลางทันที อียิวหวังให้ฆ่าฟันเต็มเหนี่ยว แต่ช้าก่อน ยุโรปไม่ได้มีแต่ตะวันตกน่ะ ฝั่งตะวันออกจะย้ายขั้วหารัสเซียทันที ยามเมื่อ NATO ประกาศรบกับรัสเซีย แปลว่าอะไร ยุโรปเหลือครึ่งเดียว จะเอาเหี้ยอะไรไปต้านรัสเซีย ตรงกันข้าม ย้ายข้างปุ๊บ เบลารุส เซอร์เบีย ฮังการี ออสเตรีย แม้แต่เชค โครเอเซีย รวมทั้งบัลแกเรีย จะกลายเป็นฐานยิงขีปนาวุธรัสเซียทันที ใครตายก่อนกันล่ะ? ปูตินเค้าดักทางมรึงหมดเกลี้ยงแล้ว ไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม?

    ไอ้สัส! ไอ้ตัวอิจฉาโผล่ทันที? อะไรน่ะ พอข่าวดังไปทั่วโลก รัสเซียประสบความสำเร็จ "วัคซีนต้านมะเร็ง" จะเริ่มแจกจ่าย "ฟรี" ให้กับผู้ป่วยรัสเซียทั่วประเทศต้นปีหน้า ทำเอาบริษัทยาเหี้ยอียิวทั่วโลกช็อคแดร๊ก! วิธีหาแดร๊กแบบเก่าเริ่มขายไม่ออก รัสเซียแจกฟรี แต่เหี้ยตะวันตกขายเม็ดละ 100000 พ่องตาย นี่มันเสียหมาขั้นสูงสุด! ปชต.เบ่งบานไม่มีปัญญาแจกจ่ายยาเหมือนคอมมิวนิสต์ที่มรึงอ้าง อายหมามั้ย? มุกเดิม รีบส่งไอ้พวกนักวิชาการปลอม อ้างทฤษฎี อ้างหลักสูตรโคตรตอแหล มาดิสเครดิตรัสเซีย กูถามคำเดียว เค้าทำสำเร็จ เค้าแจกจ่ายคนในประเทศ ไอ้ที่มรึงเดือดร้อน เพราะมันมีข้อเปรียบเทียบชิมิ? แล้วไอ้วัคซีนเทวดามรึงล่ะ รักษาโควิทได้จริงเหรอ ถูกแฉยับมันคือยาลดภูมิคุ้มกัน ทำให้ตายห่าเร็วขึ้น พ่วงฝังชิป ไฟเซอร์อย่างหมา ถูกประจานยับทั้งในเวทีโลก และสาธารณสุขโลก นี่ไง มาตราฐานโลกปชต.ตอแหล ควายเสพเท่านั้น? เชื่อกูสิ? โลกยิ่งแห่เข้า BRICS เพราะต้องการวัคซีนต้านมะเร็งกันทั้งโลก ดอกนี้ ดอกเดียว พลิกหน้ากระดานโลกทันที ไม่ใช่ใครอื่น "MADE IN PUTIN" เทวดาโลกตัวจริง เค้าเตรียมแผนนี้รอไว้นานแล้ว มันสำเร็จมาตั้งแต่ 10 ปี ก่อนแล้ว พิสูจน์ ทดสอบ กับคนมา 10 ปี จนแน่ใจว่าทำงานได้จริง ประสิทธิภาพสูงเหี้ยๆ ไม่มีผลข้างเคียง เพราะใช้ร่างกายกระตุ้นสร้างภูมิต้านมะเร็งขึ้นมา โดยหลอกให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายผลิตสารใหม่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ สุดยอดนวตกรรมโลก รัสเซีย จีน แดร๊กเรียบวุธ เพราะไอ้อีตะวันตก มันกระจอกเกินห้ามใจ โง่ดักดานกะลาเรียกเพ่!

    เอาสิมรึง! งานงอก อัยกวยสูงสุด รื้อไม่รื้อ หลักฐานใหม่ บทพิสูจน์ตามหลักฐานเก่า ชี้ชัด อีโมถูกฆ่าตายบนบก แล้วจัดฉากมาตายในน้ำ คนบนเรือย่อมไม่เห็นอีโม หลังเวลา 20.36 น. เพราะเปลี่ยนสลับเรือไปเรียบร้อยแล้ว ที่มาว่า ทำไมต้องมีเรือไรเดอร์นำร่อง 4 ลำ เอาให้สุดซอยกันไปเลย ไม่ฟื้นคดีผีอีโม กูบอกได้คำเดียว กระบวนการยุติธรรมไทย พินาศแน่ โดยเฉพาะต้นนำ ซ่อนหลักฐาน บิดเบือนหลักฐานไม่ส่งศาล ศาลท่านทำหน้าที่ตามพยานหลักฐาน แปลว่า ที่ผ่านมา อีกกว่า 1000 คดี ย่อมจะมีซ่อนพ่วงสอดไส้คาราเมลไม่รู้จบ ศาลทำได้แค่พยานหลักฐานต่อหน้า เพราะหลักฐานจริงถูกต้นน้ำทำลายไปเรียบร้อยแล้ว แล้วจะมีขบวนการยุติธรรมไปทำไม เรื่องนี้เรื่องไม่เล็ก เชื่อหมีเหอะ หากจะล้างบางให้สิ้นจริง ช่วยภาวนาให้อัยกวยสูงสุด ไม่รื้อคดี เอาให้หมากันไปทั้งแผ่นดินไปเลย แรงต้านจะยิ่งเพิ่มขึ้น นำไปสู่ลงถนนล้างบางทั้งกรมอีกากี กรมคุก ปปช. DSI อัยกวย เอาให้สุดซอยกันไปเลยเพ่น้อง แน่จริง อย่ารื้อน่ะมรึง รับรองจบทันที หมดกันแล้วทุกอย่าง ต้อง SET 0 กันใหม่ แสงทำงานมักจะแรงเสมอ สุดขั้ว สุดโต่งกันไปเลย ดี ชั่ว ขาว ดำ ต้องเด่นชัด ไม่มีคลุมเครือ แต่กูมั่นใจ ผีอีโม ออกอาละวาดแน่ เพราะความจริงมีเพียงแค่ 1 เดียว และความจริงคือ "ไฟ" จะเผาผลาญไอ้อีที่เป็นฆาตกร ตายโหงแน่นอน ไอ้ตัวสั่ง ผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้สมคบคิด โดนหมด ไม่มีใครรอด ดีออก!

    จีนเทอีขะแมร์ปุ๊บ แม่งรีบเปิดท่าเรือให้เรือเหี้ยมะกันเข้ามาสิงสู่ทันที ประชดจีน มรึงหารู้ไม่ แผ่นดินขี้ตรีนมรึง อำนาจที่มรึงมี แค่กูไว้ชีวิตชั่วคราวเท่านั้นแหละ 100 เหี้ยมะกันก็ช่วยอะไรมรึงไม่ได้ หากกองเรือจีนยกกันหมดเต็มน่านน้ำ ที่นี่ เอเซีย ถิ่นกูไอ้สัด! อะไรน่ะ สีจิ้นผิงจะยกอีขะแมร์ให้ไทย จริงดิ? นั่นมันตอนจบ แต่ต้นเรื่อง และตอนกลาง ยังมีละครให้เล่นกันอีกเยอะ รู้ไมทำไม จีน ถึงต้องสั่ง หัวเว่ย ออกระบบ HARMONY OS เพื่อปลดปล่อยโลกออกจากไอโฟน และแอนด์ดรอย ที่เป็นเครื่องมือเหี้ย C ไงล่ะ ทุกเรื่องราวของมรึงและกู และคนทั้งโลกที่ใช้ระบบนี้ เหี้ยสอดแนม รู้ตำแหน่ง รู้ความต้องการมรึงหมด จีนทำก่อน อินเดียจะตามมา แล้วรัสเซียก็จะทำเช่นเดียวกัน จนในที่สุด ดาวเทียมทั่วโลกเป็นของขั้วใหม่เบ็ดเสร็จ ทั้งโลกจะใช้ระบบเดียวกันทั้งหมด ที่ขั้วใหม่สร้างขึ้นมา เพราะไม่ว่าการค้า หรือความมั่นคง ล้วนอยู่ในมือกลุ่ม BRICS หมดทั้งโลก ยกเว้น ไม่กี่ประเทศขี้ข้ายิว ที่ยังจะหน้าด้านอยู่กันเอง แบบยืนกระต่ายขาเดียว แยกอเมริกาเหนือออกจากโลกภายนอก อาเซียนเริ่มเกาะกลุ่ม ใครจะแหกกฎ แหกด่าน ถูกอัปเปหิชัวร์? จีนเดินแผนเขมือบไต้หวัน พ่วงอีปินส์ อีขะแมร์ หากมรึงยังเล่นไม่เลิก? ศรีธนญชัย นิ่งเสียตำลึงทอง อาจได้แผ่นดินเพิ่มแบบไม่ตั้งใจ ฟ้าประทานให้! เพราะมันเคยเป็นดินแดนสยามประเทศมาก่อนไงล่ะ ชาวอโยธยาทำไมจะไม่รู้?

    ปล.ขอพูดกับอีแม่ตัวนึง? คนเป็นแม่ หากมรึงไม่รักมันแล้ว ใยต้องส่งลูกตัวเองไปให้เค้าทรมาน ฆ่าอำมะหิต สะกดวิญญานลูกมรึงเอง มรึงมัน "แม่เหี้ยอัปรีย์จัญไร" ฆ่าก็ยอม สะกดวิญญานก็เชิญ เอาแต่เงิน ขนาดจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกตัวเอง ยังกล้าสั่งตัดพยานปากเอกออกได้ หัวใจมรึงยิ่งกว่า "สัดเดรัจฉาน" ชาติก่อนคงเป็นศัตรูแรงแค้นกันมายาวนาน ถึงได้มาเกิดคู่กันชาตินี้ เพื่อปลดปล่อยกรรม อีโมได้ปลดกรรมไปแล้ว ชดใช้กรรมแล้ว รอคิวมรึงเหอะ กูบอกเลย "นรกยังขยาด" ศีลเสมอกัน กี่ภพ กี่ชาติ ไม่ว่าจะเหี้ยซักขนาดไหน สุดท้าย ก็เวียนว่ายตายเกิด ชดใช้ไม่รู้จบ จะหยุดวังวนได้ ต้องมีสติ ปัญญา หยุดก่อกรรมใหม่ ชดใช้กรรมเก่า สร้างบุญ ทาน บารมี แบ่งปัน ช่วยเหลือ ไม่ต้องได้อย่าง "พระอรหันต์ดอกน่ะ" แค่มีจิตสำนึก รู้ ผิด ชอบ ชั่ว ดี สวรรค์ก็ปราณีมรึงแล้ว คนเหี้ยมันเยอะในกลียุค นี่คือโอกาสทองของพวกเรา ที่จะสร้างกรรมดี หยุดสร้างกรรมชั่วในกลียุค เพราะอานิสงค์มันต่างกันเยอะ ทำดีในกลียุค x2 แล้วจะรออะไรอีก เกิดมายังไงก็ต้องตาย ทำดี x2 ในกลียุค มรึงได้พุ่งไปสู่ดวงดาวแน่ ใครดวงตาเห็นธรรม จะเข้าใจที่กูบอก! เมื่อชาติต้องการ มรึงจงออกมา เมื่อแผ่นดินต้องการผู้เสียสละ อย่าเห็นแก่ตัว ต้องเกิดกี่ชาติ กว่าจะได้มีโอกาสแบบนี้ คน 2 แผ่นดินคือคนมีบุญ เพราะมรึงอยู่ทั้งในสวรรค์และนรก ในช่วงเวลาเดียวกันในภพเดียวนี้ ความกล้า ความเด็ดเดี่ยว ยึดมั่นคุณธรรม รักษาศีล ครองตนให้เป็นประโยชน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกจะคุ้มครองมรึงแน่นอน! ขอพระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คุ้มครองคนดีศรีอโยธยาทุกผู้เล่า เดินหน้าสร้างแผ่นดินทองให้สำเร็จ ดั่งคำทำนายแต่โบราณกาลด้วยเถิด สาธุ เอเมน อามีน

    ปล.2 เพิ่งตื่น ไม่รีบ ไม่ร้อน แต่ไม่ลืมเขียนบทความ 3 แยก ปากหมา ก่อนไป เย็นนี้ไม่ว่าง มีนัดกินกันที่ อา ปา จา ปา เจะ แถวบ้านเพื่อน นัดกันกินโอเลี้ยง สภาโกปี๊ ว่าวการเมืองโลก มีหมดทุกสาขาอาชีพ แม้แต่ภารโรง เลือกคบคนดี ไม่เลือกไฮโซ คุณค่าคนดี มันอยู่ที่ MIND SET ไม่ใช่เสื้อผ้า ดีออก?

    หมี CNN(สงครามอย่ากลัว นับแต่อโยธยาศรีรามเทพนครก่อเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ เหล่าวีรบุรุษ นักสู้ ผู้กล้า ต่างได้ปรากฎตัวออกมาไม่ขาดสาย คนไทย คนเก่งมีเยอะ คนรักชาติมีท่วมแผ่นดิน ขาดแค่คนกล้าที่กล้ายืนหยัดในกลียุค โอกาสที่มรึงจะปลดกรรมให้สิ้นสุดในภพนี้ มาถึงแล้ว ตายอีกกี่ชาติ ก็ไม่ได้บุญเท่าพศ.นี้ สวรรค์มาโปรดแล้ว มีโปรไฟไหม้เพิ่มให้ เร่งทำดี อย่าหยุด ไม่ต้องเหมือนใคร ทำในแบบฉบับมรึงนั่นแหละ วิธีไม่เกี่ยง ผลลัพธ์สำเร็จคือเป้าหมาย ทำดีไม่ต้องให้ใครเห็น สวรรค์เห็นเต็มตาก็พอ)
    22 ธันวาคม 67
    12.39 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง"
    https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    22-12-67/01 : หมี CNN / หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.14 เริ่มจากเรื่องเบาๆ ก่อน APT ในที่สุด นู๋โรเซ่ ก็ได้แจ้งเกิดกับเค้าเสียที ตั้งแต่อยู่ในวง BP แล้ว แววมี แต่ถูกบรรดาตัวแม่สะกด แม้แต่ LS เอง พอออกเดี่ยว ปล่อยของ เฉิดฉายไร้ที่ติ ถึงตาอีนู๋โรเซ่ แหม..ขาเม้าท์ยังกล้าเครมว่าเพราะบรูโน่ มาช่วยเติมสีสัน หลักการตลาดง่ายๆ มรึงจะขึ้นสู่ตลาดโลก มันต้องไปทีละขั้น หากออกเดี่ยว เร่งตัวตนของตัวเองมากจนเกินไป เวลาแป๊ก กลับมาไม่ง่ายเลย ตรงกันข้าม บรูโน่เองก็ต้องอาศัยกระแสอีนู๋ POWER PUFF GIRL อย่างโรเซ่ ช่วยกระตุ้นกระแสตัวเองด้วยเช่นกัน วินวินทั้งคู่ มันไม่ใช่ใครพึ่งใครแต่มันคือส่วนผสมที่ลงตัว ทีมงานโปรดิวเซอร์อ่านขาด บันไดสู่จักรวาลมาเวลเริ่มแล้ว สำหรับโรเซ่ สู้ต่อไป เพราะหมีชอบมวยรองจ๊ะ? กูฟังอยู่ตั้งนาน อะไรน่ะ อา ปา จา ปา เจะ อะไรเนี่ย? มันคืออะไร โถ..แปลว่า อพาร์ทเม้นต์ ในภาษาเกาหลีเค้า มันอยู่ในเกมส์เล่นในวงเหล้ากิมจิเค้า งานนี้ สมกับเป็น K-POP ไม่ทิ้งลายชาตินิยม SOFT POWER สอดแทรกเข้าไป เดินตาม LS เป๊ะเด๊ะ ชอบทั้งคู่ ไปให้สุดซอยเลยนะจ๊ะอีนู๋ POWER PUFF GIRL เข้าสู่โหมดโหดทันที สโลวาเกียแฉ อีเสี้ยนยา ยัดเงินขอเข้า NATO ไม่ต้องพูดให้มากความ อียิวชงให้อียูเครนเป็นเหยื่อล่อรัสเซีย อีนาโต้จะซวย หากอียูเครนเข้า เพราะต้องไปสู้กับรัสเซียตามมาตรา 5 ใช่ อียิววางหมากให้รัสเซียสู้กับยุโรปตายกันไปข้างนึง แล้วใครแพ้ ใครเหนื่อย กูค่อยออกมาเก็บผลประโยชน์ โถ..ดีออก? แผนตื้นๆ ห่วยๆ มรึงคิดว่าปูตินเลี้ยงควายรึไง ไอ้สัส? ปูติน ซ้อนแผนทันที ถึงได้ออกมาเตือน 3 ครั้ง ตั้งแต่เรื่องแดงเผยว่า อียูเครนจะเข้า NATO รู้มั้ยว่า รัสเซียมีทางให้เลือกเล่นเยอะ มีเบี้ยในกระดานให้เล่น มรึงเข้า นาโต้ ตาย ยุโรปทรุด รัสเซียได้ข้ออ้างยกกองทัพ Z เข้ายึดยุโรปกลางทันที อียิวหวังให้ฆ่าฟันเต็มเหนี่ยว แต่ช้าก่อน ยุโรปไม่ได้มีแต่ตะวันตกน่ะ ฝั่งตะวันออกจะย้ายขั้วหารัสเซียทันที ยามเมื่อ NATO ประกาศรบกับรัสเซีย แปลว่าอะไร ยุโรปเหลือครึ่งเดียว จะเอาเหี้ยอะไรไปต้านรัสเซีย ตรงกันข้าม ย้ายข้างปุ๊บ เบลารุส เซอร์เบีย ฮังการี ออสเตรีย แม้แต่เชค โครเอเซีย รวมทั้งบัลแกเรีย จะกลายเป็นฐานยิงขีปนาวุธรัสเซียทันที ใครตายก่อนกันล่ะ? ปูตินเค้าดักทางมรึงหมดเกลี้ยงแล้ว ไอ้เด็กยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม? ไอ้สัส! ไอ้ตัวอิจฉาโผล่ทันที? อะไรน่ะ พอข่าวดังไปทั่วโลก รัสเซียประสบความสำเร็จ "วัคซีนต้านมะเร็ง" จะเริ่มแจกจ่าย "ฟรี" ให้กับผู้ป่วยรัสเซียทั่วประเทศต้นปีหน้า ทำเอาบริษัทยาเหี้ยอียิวทั่วโลกช็อคแดร๊ก! วิธีหาแดร๊กแบบเก่าเริ่มขายไม่ออก รัสเซียแจกฟรี แต่เหี้ยตะวันตกขายเม็ดละ 100000 พ่องตาย นี่มันเสียหมาขั้นสูงสุด! ปชต.เบ่งบานไม่มีปัญญาแจกจ่ายยาเหมือนคอมมิวนิสต์ที่มรึงอ้าง อายหมามั้ย? มุกเดิม รีบส่งไอ้พวกนักวิชาการปลอม อ้างทฤษฎี อ้างหลักสูตรโคตรตอแหล มาดิสเครดิตรัสเซีย กูถามคำเดียว เค้าทำสำเร็จ เค้าแจกจ่ายคนในประเทศ ไอ้ที่มรึงเดือดร้อน เพราะมันมีข้อเปรียบเทียบชิมิ? แล้วไอ้วัคซีนเทวดามรึงล่ะ รักษาโควิทได้จริงเหรอ ถูกแฉยับมันคือยาลดภูมิคุ้มกัน ทำให้ตายห่าเร็วขึ้น พ่วงฝังชิป ไฟเซอร์อย่างหมา ถูกประจานยับทั้งในเวทีโลก และสาธารณสุขโลก นี่ไง มาตราฐานโลกปชต.ตอแหล ควายเสพเท่านั้น? เชื่อกูสิ? โลกยิ่งแห่เข้า BRICS เพราะต้องการวัคซีนต้านมะเร็งกันทั้งโลก ดอกนี้ ดอกเดียว พลิกหน้ากระดานโลกทันที ไม่ใช่ใครอื่น "MADE IN PUTIN" เทวดาโลกตัวจริง เค้าเตรียมแผนนี้รอไว้นานแล้ว มันสำเร็จมาตั้งแต่ 10 ปี ก่อนแล้ว พิสูจน์ ทดสอบ กับคนมา 10 ปี จนแน่ใจว่าทำงานได้จริง ประสิทธิภาพสูงเหี้ยๆ ไม่มีผลข้างเคียง เพราะใช้ร่างกายกระตุ้นสร้างภูมิต้านมะเร็งขึ้นมา โดยหลอกให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายผลิตสารใหม่ขึ้นมาโดยอัตโนมัติ สุดยอดนวตกรรมโลก รัสเซีย จีน แดร๊กเรียบวุธ เพราะไอ้อีตะวันตก มันกระจอกเกินห้ามใจ โง่ดักดานกะลาเรียกเพ่! เอาสิมรึง! งานงอก อัยกวยสูงสุด รื้อไม่รื้อ หลักฐานใหม่ บทพิสูจน์ตามหลักฐานเก่า ชี้ชัด อีโมถูกฆ่าตายบนบก แล้วจัดฉากมาตายในน้ำ คนบนเรือย่อมไม่เห็นอีโม หลังเวลา 20.36 น. เพราะเปลี่ยนสลับเรือไปเรียบร้อยแล้ว ที่มาว่า ทำไมต้องมีเรือไรเดอร์นำร่อง 4 ลำ เอาให้สุดซอยกันไปเลย ไม่ฟื้นคดีผีอีโม กูบอกได้คำเดียว กระบวนการยุติธรรมไทย พินาศแน่ โดยเฉพาะต้นนำ ซ่อนหลักฐาน บิดเบือนหลักฐานไม่ส่งศาล ศาลท่านทำหน้าที่ตามพยานหลักฐาน แปลว่า ที่ผ่านมา อีกกว่า 1000 คดี ย่อมจะมีซ่อนพ่วงสอดไส้คาราเมลไม่รู้จบ ศาลทำได้แค่พยานหลักฐานต่อหน้า เพราะหลักฐานจริงถูกต้นน้ำทำลายไปเรียบร้อยแล้ว แล้วจะมีขบวนการยุติธรรมไปทำไม เรื่องนี้เรื่องไม่เล็ก เชื่อหมีเหอะ หากจะล้างบางให้สิ้นจริง ช่วยภาวนาให้อัยกวยสูงสุด ไม่รื้อคดี เอาให้หมากันไปทั้งแผ่นดินไปเลย แรงต้านจะยิ่งเพิ่มขึ้น นำไปสู่ลงถนนล้างบางทั้งกรมอีกากี กรมคุก ปปช. DSI อัยกวย เอาให้สุดซอยกันไปเลยเพ่น้อง แน่จริง อย่ารื้อน่ะมรึง รับรองจบทันที หมดกันแล้วทุกอย่าง ต้อง SET 0 กันใหม่ แสงทำงานมักจะแรงเสมอ สุดขั้ว สุดโต่งกันไปเลย ดี ชั่ว ขาว ดำ ต้องเด่นชัด ไม่มีคลุมเครือ แต่กูมั่นใจ ผีอีโม ออกอาละวาดแน่ เพราะความจริงมีเพียงแค่ 1 เดียว และความจริงคือ "ไฟ" จะเผาผลาญไอ้อีที่เป็นฆาตกร ตายโหงแน่นอน ไอ้ตัวสั่ง ผู้อยู่เบื้องหลัง ผู้สมคบคิด โดนหมด ไม่มีใครรอด ดีออก! จีนเทอีขะแมร์ปุ๊บ แม่งรีบเปิดท่าเรือให้เรือเหี้ยมะกันเข้ามาสิงสู่ทันที ประชดจีน มรึงหารู้ไม่ แผ่นดินขี้ตรีนมรึง อำนาจที่มรึงมี แค่กูไว้ชีวิตชั่วคราวเท่านั้นแหละ 100 เหี้ยมะกันก็ช่วยอะไรมรึงไม่ได้ หากกองเรือจีนยกกันหมดเต็มน่านน้ำ ที่นี่ เอเซีย ถิ่นกูไอ้สัด! อะไรน่ะ สีจิ้นผิงจะยกอีขะแมร์ให้ไทย จริงดิ? นั่นมันตอนจบ แต่ต้นเรื่อง และตอนกลาง ยังมีละครให้เล่นกันอีกเยอะ รู้ไมทำไม จีน ถึงต้องสั่ง หัวเว่ย ออกระบบ HARMONY OS เพื่อปลดปล่อยโลกออกจากไอโฟน และแอนด์ดรอย ที่เป็นเครื่องมือเหี้ย C ไงล่ะ ทุกเรื่องราวของมรึงและกู และคนทั้งโลกที่ใช้ระบบนี้ เหี้ยสอดแนม รู้ตำแหน่ง รู้ความต้องการมรึงหมด จีนทำก่อน อินเดียจะตามมา แล้วรัสเซียก็จะทำเช่นเดียวกัน จนในที่สุด ดาวเทียมทั่วโลกเป็นของขั้วใหม่เบ็ดเสร็จ ทั้งโลกจะใช้ระบบเดียวกันทั้งหมด ที่ขั้วใหม่สร้างขึ้นมา เพราะไม่ว่าการค้า หรือความมั่นคง ล้วนอยู่ในมือกลุ่ม BRICS หมดทั้งโลก ยกเว้น ไม่กี่ประเทศขี้ข้ายิว ที่ยังจะหน้าด้านอยู่กันเอง แบบยืนกระต่ายขาเดียว แยกอเมริกาเหนือออกจากโลกภายนอก อาเซียนเริ่มเกาะกลุ่ม ใครจะแหกกฎ แหกด่าน ถูกอัปเปหิชัวร์? จีนเดินแผนเขมือบไต้หวัน พ่วงอีปินส์ อีขะแมร์ หากมรึงยังเล่นไม่เลิก? ศรีธนญชัย นิ่งเสียตำลึงทอง อาจได้แผ่นดินเพิ่มแบบไม่ตั้งใจ ฟ้าประทานให้! เพราะมันเคยเป็นดินแดนสยามประเทศมาก่อนไงล่ะ ชาวอโยธยาทำไมจะไม่รู้? ปล.ขอพูดกับอีแม่ตัวนึง? คนเป็นแม่ หากมรึงไม่รักมันแล้ว ใยต้องส่งลูกตัวเองไปให้เค้าทรมาน ฆ่าอำมะหิต สะกดวิญญานลูกมรึงเอง มรึงมัน "แม่เหี้ยอัปรีย์จัญไร" ฆ่าก็ยอม สะกดวิญญานก็เชิญ เอาแต่เงิน ขนาดจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของลูกตัวเอง ยังกล้าสั่งตัดพยานปากเอกออกได้ หัวใจมรึงยิ่งกว่า "สัดเดรัจฉาน" ชาติก่อนคงเป็นศัตรูแรงแค้นกันมายาวนาน ถึงได้มาเกิดคู่กันชาตินี้ เพื่อปลดปล่อยกรรม อีโมได้ปลดกรรมไปแล้ว ชดใช้กรรมแล้ว รอคิวมรึงเหอะ กูบอกเลย "นรกยังขยาด" ศีลเสมอกัน กี่ภพ กี่ชาติ ไม่ว่าจะเหี้ยซักขนาดไหน สุดท้าย ก็เวียนว่ายตายเกิด ชดใช้ไม่รู้จบ จะหยุดวังวนได้ ต้องมีสติ ปัญญา หยุดก่อกรรมใหม่ ชดใช้กรรมเก่า สร้างบุญ ทาน บารมี แบ่งปัน ช่วยเหลือ ไม่ต้องได้อย่าง "พระอรหันต์ดอกน่ะ" แค่มีจิตสำนึก รู้ ผิด ชอบ ชั่ว ดี สวรรค์ก็ปราณีมรึงแล้ว คนเหี้ยมันเยอะในกลียุค นี่คือโอกาสทองของพวกเรา ที่จะสร้างกรรมดี หยุดสร้างกรรมชั่วในกลียุค เพราะอานิสงค์มันต่างกันเยอะ ทำดีในกลียุค x2 แล้วจะรออะไรอีก เกิดมายังไงก็ต้องตาย ทำดี x2 ในกลียุค มรึงได้พุ่งไปสู่ดวงดาวแน่ ใครดวงตาเห็นธรรม จะเข้าใจที่กูบอก! เมื่อชาติต้องการ มรึงจงออกมา เมื่อแผ่นดินต้องการผู้เสียสละ อย่าเห็นแก่ตัว ต้องเกิดกี่ชาติ กว่าจะได้มีโอกาสแบบนี้ คน 2 แผ่นดินคือคนมีบุญ เพราะมรึงอยู่ทั้งในสวรรค์และนรก ในช่วงเวลาเดียวกันในภพเดียวนี้ ความกล้า ความเด็ดเดี่ยว ยึดมั่นคุณธรรม รักษาศีล ครองตนให้เป็นประโยชน์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกจะคุ้มครองมรึงแน่นอน! ขอพระเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คุ้มครองคนดีศรีอโยธยาทุกผู้เล่า เดินหน้าสร้างแผ่นดินทองให้สำเร็จ ดั่งคำทำนายแต่โบราณกาลด้วยเถิด สาธุ เอเมน อามีน ปล.2 เพิ่งตื่น ไม่รีบ ไม่ร้อน แต่ไม่ลืมเขียนบทความ 3 แยก ปากหมา ก่อนไป เย็นนี้ไม่ว่าง มีนัดกินกันที่ อา ปา จา ปา เจะ แถวบ้านเพื่อน นัดกันกินโอเลี้ยง สภาโกปี๊ ว่าวการเมืองโลก มีหมดทุกสาขาอาชีพ แม้แต่ภารโรง เลือกคบคนดี ไม่เลือกไฮโซ คุณค่าคนดี มันอยู่ที่ MIND SET ไม่ใช่เสื้อผ้า ดีออก? หมี CNN(สงครามอย่ากลัว นับแต่อโยธยาศรีรามเทพนครก่อเกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้ เหล่าวีรบุรุษ นักสู้ ผู้กล้า ต่างได้ปรากฎตัวออกมาไม่ขาดสาย คนไทย คนเก่งมีเยอะ คนรักชาติมีท่วมแผ่นดิน ขาดแค่คนกล้าที่กล้ายืนหยัดในกลียุค โอกาสที่มรึงจะปลดกรรมให้สิ้นสุดในภพนี้ มาถึงแล้ว ตายอีกกี่ชาติ ก็ไม่ได้บุญเท่าพศ.นี้ สวรรค์มาโปรดแล้ว มีโปรไฟไหม้เพิ่มให้ เร่งทำดี อย่าหยุด ไม่ต้องเหมือนใคร ทำในแบบฉบับมรึงนั่นแหละ วิธีไม่เกี่ยง ผลลัพธ์สำเร็จคือเป้าหมาย ทำดีไม่ต้องให้ใครเห็น สวรรค์เห็นเต็มตาก็พอ) 22 ธันวาคม 67 12.39 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** ชื่อเพจ ยังไม่ได้เปลี่ยนชื่อ รออีก 60 วัน "แสงสว่าง สิริแสงสว่าง" https://www.facebook.com/profile.php?id=100015961291594
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 785 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนไทยมาจากไหน
    หลักฐาน บรรพชนคนโบราณ คนไทยมาจากไหน นานมาแล้วมีชนชาติที่ยังไม่เรียกตัวเองว่าไทย อพยพมาจากแผ่นดินที่ เรียกว่ากุมารีกันดัม(Kumari Gundam)ชนชาตินี้อยู่บนทะเลกลางมหาสมุทรอินเดียเมื่อเกิดการปรับรอยเลื่อนแผ่นดินทำให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุ่นแรง รุนแรงขนาดน้ำท่วมโลกและเกิดสึนามิทำลายแผ่นดินที่เรียกว่าKumarikandamทำให้คนบนแผ่นดินนั้นอพยพหนีภัย ไปรอบมหาสมุทรอินเดียหนีภัยเหมือนผึ้งแตกรัง ประเทศไทยซึ่งอยู่บนขอบมหาสมุทรอินเดียก็เป็นอีกแผ่นดิน ที่ใช่แผ่นดินที่คนโบราณพวกนี้หนีภัยมา เมื่อหนีภัยมาพร้อมมวลน้ำที่เรียกว่ามหาสึนามิที่เกิดตำนานเหตการณ์น้ำท่วมโลก
    คนไทยมาจากไหนมีหลักฐานใหม Kumari Kandam หรือ Lemuria – ทวีปที่จมอยู่ในทะเล
    ครั้งหนึ่งมีดินแดนหรือทวีปในมหาสมุทรอินเดียซึ่งผู้คนอาศัยอยู่ที่นั่น อาณาเขตทางบกเรียกว่า Lemuria หรือ Kumarikkottam หรือ Kumari Kandam แผ่นดินพินาศโดยการจมน้ำในมหาสมุทรเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา เป็นการปรับแผ่นเปลือกโลกครั้งใหญ่ ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่หลายครั้ง การเกิดแผ่นดินไหวกลางมหาสมุทรครั้งนั้นทำให้เกิดสึนามิขนาดใหญ่มาก ขนาดที่ทำให้แผ่นดินจมหายลงไปในทะเลแค่วันกับคืน ทำให้เกิดตำนานน้ำท่วมโลก ตำนานแอตแลนติส
    จากภัยพิบัติครั้งนั้นทำให้มีการเขียนเรื่องแผ่นดินนี้มาตลอด เพลโตเขียนแอตแลนติส นักธรณีวิทยาหลายคนได้ทำการวิจัยและกล่าวว่าสิ่งมีชีวิตมีต้นกำเนิดมาจาก “ลีมูเรีย” นักวิชาการชาวอังกฤษ วิลเลียม สก็อตต์ เอลเลียต ยืนยันในหนังสือของเขา “The Lost Lemuria” ว่ามีอาณาเขตทางบกในมหาสมุทรอินเดียปัจจุบันและผู้คนอาศัยอยู่ที่นั่น เขายังรวมแผนที่ของ Lemuria ไว้ในหนังสือของเขาด้วย
    แต่หลักฐานอื่นก็มี นักฟื้นฟูทมิฬส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับอาณาจักรปันยันที่กล่าวถึงในงานวรรณกรรมทมิฬและสันสกฤต คำว่า "กุมารี กันดัม" ปรากฏครั้งแรกในคันดา ปูรานัม ซึ่งเป็นฉบับภาษาทมิฬของสกันดาปุราณะในศตวรรษที่ 15 ซึ่งเขียนโดยกาจิอัปปา ศิวัจฉริยรา (ค.ศ. 1350 - 1420)
    Kumari Kandam เป็นตำนานทมิฬเกี่ยวกับอารยธรรมโบราณที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดียแล้วจมลงสู่มหาสมุทร แม้ว่านักเขียนชาวทมิฬหลายคนไม่ได้ระบุวันที่ที่กุมารีกันดัมจมอยู่ใต้น้ำ แต่ใช้วลีเช่น "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว" หรือ "หลายพันปีก่อน" แต่เรื่องราวดังกล่าวสอดคล้องกับทฤษฎีการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกไม่สนับสนุนการมีอยู่ของแผ่นดินดังกล่าวภายในเวลาหลายพันปีหลัง สามารถสันนิษฐานได้ว่า Kumari Kandam กำลังมีความสัมพันธ์กับ Atlantis หรืออารยธรรมอื่น ๆ ในภายหลังระหว่าง 11,000 ถึง 12,000 ปี BP ซึ่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกันโดย Plato ที่พูดถึง Atlantis ที่ 11,600 BP ซึ่งอาจเชื่อมโยงอาณาจักร Pandyan กับ Atlantis
    มีหลักฐานอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกทำโดยลูกหลานของบรรพบุรุษของผู้ที่รอดตายมาจากมหาภัยพิบัติครั้งนั้น แต่ถูกมองข้ามและตีความเป็นเรื่องอื่นทำให้ไม่มีคำอธิบายจากหลักฐานนั้น หลักฐานที่เรามีอยู่เราคิดว่าใช่เรื่องเดียวกันก็เป็นหลักฐานจากเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่เรียกกว่า เหรียญทวารวดี เหรียญศรีเกษตร เหรียญฟูนัน เงินพดด้วงโบราณ และกลองมโหระทึกโบราณที่มีบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้
    "คำขอของ เรา คือให้นำความจริงที่แท้จริงมาทำการวิจัยโดยนักธรณีวิทยา นักวิทยาศาสตร์ และนักวิชาการ จนกว่าจะถึงเวลานั้นเราต้องรอ"
    เสียดายแทนคนไทย
    ที่มาของคนไทยไม่ได้มีในหนังสือบันทึก?
    "ขอให้คนไทยโชคดีรู้ที่มาของเผ่าพันธุ์ตัวเอง"
    ผลงานภาพ และลิขสิทธิ์ภาพ โดยเพจ : ทราวิฑะ นอกกรอบ
    คนไทยมาจากไหน หลักฐาน บรรพชนคนโบราณ คนไทยมาจากไหน นานมาแล้วมีชนชาติที่ยังไม่เรียกตัวเองว่าไทย อพยพมาจากแผ่นดินที่ เรียกว่ากุมารีกันดัม(Kumari Gundam)ชนชาตินี้อยู่บนทะเลกลางมหาสมุทรอินเดียเมื่อเกิดการปรับรอยเลื่อนแผ่นดินทำให้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุ่นแรง รุนแรงขนาดน้ำท่วมโลกและเกิดสึนามิทำลายแผ่นดินที่เรียกว่าKumarikandamทำให้คนบนแผ่นดินนั้นอพยพหนีภัย ไปรอบมหาสมุทรอินเดียหนีภัยเหมือนผึ้งแตกรัง ประเทศไทยซึ่งอยู่บนขอบมหาสมุทรอินเดียก็เป็นอีกแผ่นดิน ที่ใช่แผ่นดินที่คนโบราณพวกนี้หนีภัยมา เมื่อหนีภัยมาพร้อมมวลน้ำที่เรียกว่ามหาสึนามิที่เกิดตำนานเหตการณ์น้ำท่วมโลก คนไทยมาจากไหนมีหลักฐานใหม Kumari Kandam หรือ Lemuria – ทวีปที่จมอยู่ในทะเล ครั้งหนึ่งมีดินแดนหรือทวีปในมหาสมุทรอินเดียซึ่งผู้คนอาศัยอยู่ที่นั่น อาณาเขตทางบกเรียกว่า Lemuria หรือ Kumarikkottam หรือ Kumari Kandam แผ่นดินพินาศโดยการจมน้ำในมหาสมุทรเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงทางธรณีวิทยา เป็นการปรับแผ่นเปลือกโลกครั้งใหญ่ ทำให้เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่หลายครั้ง การเกิดแผ่นดินไหวกลางมหาสมุทรครั้งนั้นทำให้เกิดสึนามิขนาดใหญ่มาก ขนาดที่ทำให้แผ่นดินจมหายลงไปในทะเลแค่วันกับคืน ทำให้เกิดตำนานน้ำท่วมโลก ตำนานแอตแลนติส จากภัยพิบัติครั้งนั้นทำให้มีการเขียนเรื่องแผ่นดินนี้มาตลอด เพลโตเขียนแอตแลนติส นักธรณีวิทยาหลายคนได้ทำการวิจัยและกล่าวว่าสิ่งมีชีวิตมีต้นกำเนิดมาจาก “ลีมูเรีย” นักวิชาการชาวอังกฤษ วิลเลียม สก็อตต์ เอลเลียต ยืนยันในหนังสือของเขา “The Lost Lemuria” ว่ามีอาณาเขตทางบกในมหาสมุทรอินเดียปัจจุบันและผู้คนอาศัยอยู่ที่นั่น เขายังรวมแผนที่ของ Lemuria ไว้ในหนังสือของเขาด้วย แต่หลักฐานอื่นก็มี นักฟื้นฟูทมิฬส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับอาณาจักรปันยันที่กล่าวถึงในงานวรรณกรรมทมิฬและสันสกฤต คำว่า "กุมารี กันดัม" ปรากฏครั้งแรกในคันดา ปูรานัม ซึ่งเป็นฉบับภาษาทมิฬของสกันดาปุราณะในศตวรรษที่ 15 ซึ่งเขียนโดยกาจิอัปปา ศิวัจฉริยรา (ค.ศ. 1350 - 1420) Kumari Kandam เป็นตำนานทมิฬเกี่ยวกับอารยธรรมโบราณที่ตั้งอยู่ในมหาสมุทรอินเดียแล้วจมลงสู่มหาสมุทร แม้ว่านักเขียนชาวทมิฬหลายคนไม่ได้ระบุวันที่ที่กุมารีกันดัมจมอยู่ใต้น้ำ แต่ใช้วลีเช่น "กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว" หรือ "หลายพันปีก่อน" แต่เรื่องราวดังกล่าวสอดคล้องกับทฤษฎีการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลกไม่สนับสนุนการมีอยู่ของแผ่นดินดังกล่าวภายในเวลาหลายพันปีหลัง สามารถสันนิษฐานได้ว่า Kumari Kandam กำลังมีความสัมพันธ์กับ Atlantis หรืออารยธรรมอื่น ๆ ในภายหลังระหว่าง 11,000 ถึง 12,000 ปี BP ซึ่งเป็นจำนวนที่ใกล้เคียงกันโดย Plato ที่พูดถึง Atlantis ที่ 11,600 BP ซึ่งอาจเชื่อมโยงอาณาจักร Pandyan กับ Atlantis มีหลักฐานอีกเป็นจำนวนมากที่ถูกทำโดยลูกหลานของบรรพบุรุษของผู้ที่รอดตายมาจากมหาภัยพิบัติครั้งนั้น แต่ถูกมองข้ามและตีความเป็นเรื่องอื่นทำให้ไม่มีคำอธิบายจากหลักฐานนั้น หลักฐานที่เรามีอยู่เราคิดว่าใช่เรื่องเดียวกันก็เป็นหลักฐานจากเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ที่เรียกกว่า เหรียญทวารวดี เหรียญศรีเกษตร เหรียญฟูนัน เงินพดด้วงโบราณ และกลองมโหระทึกโบราณที่มีบนแผ่นดินเอเซียตะวันออกเฉียงใต้นี้ "คำขอของ เรา คือให้นำความจริงที่แท้จริงมาทำการวิจัยโดยนักธรณีวิทยา นักวิทยาศาสตร์ และนักวิชาการ จนกว่าจะถึงเวลานั้นเราต้องรอ" เสียดายแทนคนไทย ที่มาของคนไทยไม่ได้มีในหนังสือบันทึก? "ขอให้คนไทยโชคดีรู้ที่มาของเผ่าพันธุ์ตัวเอง" ผลงานภาพ และลิขสิทธิ์ภาพ โดยเพจ : ทราวิฑะ นอกกรอบ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝ่ายค้านมาเลเซียวิจารณ์หนัก "อันวาร์ อิบราฮิม" ตั้ง "ทักษิณ" เป็นที่ปรึกษาช่วงเป็นประธานอาเซียนปี 2025 ถามอาเซียนจะได้ประโยชน์จริงหรือ ซัดตั้งคนที่ถูกพิพากษาจำคุกฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ ทำไมไม่ตั้งนักการทูตหรือนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านต่างประเทศ ด้าน "ดร.มหาเธร์" งง ทำไมเลือกทักษิณ ทั้งที่มีคนอื่นมากมาย

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000121256

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ฝ่ายค้านมาเลเซียวิจารณ์หนัก "อันวาร์ อิบราฮิม" ตั้ง "ทักษิณ" เป็นที่ปรึกษาช่วงเป็นประธานอาเซียนปี 2025 ถามอาเซียนจะได้ประโยชน์จริงหรือ ซัดตั้งคนที่ถูกพิพากษาจำคุกฐานใช้อำนาจโดยมิชอบ ทำไมไม่ตั้งนักการทูตหรือนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านต่างประเทศ ด้าน "ดร.มหาเธร์" งง ทำไมเลือกทักษิณ ทั้งที่มีคนอื่นมากมาย อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000121256 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    Yay
    10
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 828 มุมมอง 0 รีวิว
  • ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 19:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย ปรากฏแสงปริศนา มีลักษณะเป็นแสงสีขาวพร่ามัว รูปร่างเป็นโคนคล้ายดาวหาง เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ พบเห็นได้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และภาคกลางตอนบนจากหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่มีการแชร์เป็นจำนวนมากในโซเชียลมีเดีย รูปพรรณสัณฐานที่ปรากฏ และเวลาที่พบเห็นสอดคล้องกับลักษณะของชิ้นส่วนจรวดตอนบน (upper stage rocket) ของจรวด Long March 5B ที่ถูกปล่อยออกจากฐานปล่อยจรวด Wenchang Satellite Launch Center บนเกาะไหหลำ ประเทศจีน ภายใต้ภารกิจ SatNet LEO Group 1ลักษณะของแสงปริศนาดังกล่าว มีสีออกขาว มีจุดสว่างหนึ่งจุดพร้อมกับโคนที่ฟุ้งออกไปเป็นวงกว้าง ดูคล้ายกับภาพถ่ายดาวหาง แต่มีความสว่างกว่าเป็นอย่างมาก อีกทั้งวัตถุดังกล่าวเคลื่อนที่ได้ โดยเคลื่อนที่ช้า ๆ เยื้องไปทางทิศเหนือ จากรูปพรรณสัณฐานเช่นนี้ สอดคล้องเป็นอย่างยิ่งกับวัตถุจำพวกชิ้นส่วนจรวดตอนบน (upper stage rocket) ที่ดับแล้ว โดยจะมีชิ้นส่วนของตัวถังเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์จรวด พร้อมกับแก๊สขับดันที่ถูกปล่อยออกมาแล้ว เคลื่อนที่ไปพร้อม ๆ กันโดยในบางครั้งตัวจรวดอาจจะยังคงมีพลาสมาที่หลงเหลืออยู่ปล่อยออกมาบ้างเล็กน้อย และส่องสว่างเรือง ๆ เป็นสีฟ้าจาง ๆ แต่หากพบเห็นในช่วงหัวค่ำ อย่างในกรณีของเมื่อค่ำวันที่ 16 ธ.ค. 67 อาจจะสะท้อนแสงอาทิตย์ปรากฏเป็นสีขาวหากจำกันได้ ประเทศไทยเราเคยพบเห็นเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกันนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ที่มีผู้พบเห็นแสงจากชิ้นส่วนจรวดตอนบนของจรวด Ariane 5 ที่บรรทุกกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ (JWST) (ตามภาพ - ใน comment)สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีจรวดเพียงลำเดียวที่ถูกปล่อยจากฐานปล่อยจรวดทั่วโลกในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 นั่นคือจรวด Long March 5B ปล่อยออกจากฐาน Wenchang Satellite Launch Center บนเกาะไหหลำ ประเทศจีน ภายใต้ภารกิจ SatNet LEO Group 1 เมื่อเวลา 17:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมงก่อนที่คนไทยจะพบเห็นแสงปริศนาดังกล่าวปกติแล้วจรวดที่ปล่อยออกจากพื้นโลก จะเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออก เพื่อใช้ประโยชน์จากทิศทางการหมุนของโลกในการลดเชื้อเพลิง ดังนั้นจรวด Long March 5B ของจีนจึงไม่ได้ผ่านเหนือน่านฟ้าประเทศไทยโดยตรงระหว่างการขึ้น อย่างไรก็ตาม ภารกิจของจรวดนี้เป็นการส่งดาวเทียมเครือข่าย (constellation satellite) เพื่อภารกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลภายใต้เครือข่าย GuoWang ของจีน ซึ่งจะต้องอาศัยแรงขับดันหลักจากจรวดตอนบนในการเดินทางไปยังวงโคจรต่ำของโลก (Low Earth Orbit) ก่อนที่ดาวเทียมจะถูกปล่อยออกไปด้วยเหตุนี้ ทำให้ภายหลังจากที่สิ้นสุดภารกิจแล้ว ชิ้นส่วนจรวดตอนบน เชื้อเพลิงบางส่วนที่ถูกขับออกมา และพลาสมาที่ถูกปล่อยทิ้งออกมาในภายหลัง ล้วนแล้วแต่จะเคลื่อนที่ต่อไปในวงโคจรต่ำของโลก ซึ่งใช้เวลาในการโคจรรอบโลกหนึ่งรอบ เพียงเวลาประมาณ 90-120 นาที ซึ่งเวลาดังกล่าวสอดคล้องกับเวลาที่พบเห็นทั้งจรวดและเชื้อเพลิงเหนือน่านฟ้าประเทศไทย หลังจากเวลาปล่อยจรวดออกจากฐานประมาณสองชั่วโมงพอดี จึงเป็นไปได้ว่าน่าจะมาจากชิ้นส่วนตอนบนของจรวด Long March 5B ของจีนซึ่งหลังจากที่จรวดและเชื้อเพลิงโคจรรอบโลกไปสักพักหนึ่ง แรงต้านจากชั้นบรรยากาศตอนบนของโลก จะทำให้ชิ้นส่วนดังกล่าวค่อย ๆ เคลื่อนที่ช้าลง จนไม่สามารถคงวงโคจรต่ำอีกต่อไปได้ ก่อนที่จะเผาไหม้หมดไปในชั้นบรรยากาศระหว่างที่ตกกลับลงมาภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลกไปในที่สุดเรียบเรียง: ดร.มติพล ตั้งมติธรรม - นักวิชาการ สดร.
    ล่าสุดทางเพจเฟซบุ๊ก NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ระบุว่า เมื่อช่วงหัวค่ำวันที่ 16 ธันวาคม 2567 เวลาประมาณ 19:00 น. ตามเวลาท้องถิ่นประเทศไทย ปรากฏแสงปริศนา มีลักษณะเป็นแสงสีขาวพร่ามัว รูปร่างเป็นโคนคล้ายดาวหาง เคลื่อนที่ไปทางทิศเหนือ พบเห็นได้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันตก และภาคกลางตอนบนจากหลักฐานภาพถ่ายและคลิปวิดีโอที่มีการแชร์เป็นจำนวนมากในโซเชียลมีเดีย รูปพรรณสัณฐานที่ปรากฏ และเวลาที่พบเห็นสอดคล้องกับลักษณะของชิ้นส่วนจรวดตอนบน (upper stage rocket) ของจรวด Long March 5B ที่ถูกปล่อยออกจากฐานปล่อยจรวด Wenchang Satellite Launch Center บนเกาะไหหลำ ประเทศจีน ภายใต้ภารกิจ SatNet LEO Group 1ลักษณะของแสงปริศนาดังกล่าว มีสีออกขาว มีจุดสว่างหนึ่งจุดพร้อมกับโคนที่ฟุ้งออกไปเป็นวงกว้าง ดูคล้ายกับภาพถ่ายดาวหาง แต่มีความสว่างกว่าเป็นอย่างมาก อีกทั้งวัตถุดังกล่าวเคลื่อนที่ได้ โดยเคลื่อนที่ช้า ๆ เยื้องไปทางทิศเหนือ จากรูปพรรณสัณฐานเช่นนี้ สอดคล้องเป็นอย่างยิ่งกับวัตถุจำพวกชิ้นส่วนจรวดตอนบน (upper stage rocket) ที่ดับแล้ว โดยจะมีชิ้นส่วนของตัวถังเชื้อเพลิงและเครื่องยนต์จรวด พร้อมกับแก๊สขับดันที่ถูกปล่อยออกมาแล้ว เคลื่อนที่ไปพร้อม ๆ กันโดยในบางครั้งตัวจรวดอาจจะยังคงมีพลาสมาที่หลงเหลืออยู่ปล่อยออกมาบ้างเล็กน้อย และส่องสว่างเรือง ๆ เป็นสีฟ้าจาง ๆ แต่หากพบเห็นในช่วงหัวค่ำ อย่างในกรณีของเมื่อค่ำวันที่ 16 ธ.ค. 67 อาจจะสะท้อนแสงอาทิตย์ปรากฏเป็นสีขาวหากจำกันได้ ประเทศไทยเราเคยพบเห็นเหตุการณ์ที่ใกล้เคียงกันนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2564 ที่มีผู้พบเห็นแสงจากชิ้นส่วนจรวดตอนบนของจรวด Ariane 5 ที่บรรทุกกล้องโทรทรรศน์อวกาศเจมส์ เว็บบ์ (JWST) (ตามภาพ - ใน comment)สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ มีจรวดเพียงลำเดียวที่ถูกปล่อยจากฐานปล่อยจรวดทั่วโลกในวันที่ 16 ธันวาคม 2567 นั่นคือจรวด Long March 5B ปล่อยออกจากฐาน Wenchang Satellite Launch Center บนเกาะไหหลำ ประเทศจีน ภายใต้ภารกิจ SatNet LEO Group 1 เมื่อเวลา 17:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมงก่อนที่คนไทยจะพบเห็นแสงปริศนาดังกล่าวปกติแล้วจรวดที่ปล่อยออกจากพื้นโลก จะเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันออก เพื่อใช้ประโยชน์จากทิศทางการหมุนของโลกในการลดเชื้อเพลิง ดังนั้นจรวด Long March 5B ของจีนจึงไม่ได้ผ่านเหนือน่านฟ้าประเทศไทยโดยตรงระหว่างการขึ้น อย่างไรก็ตาม ภารกิจของจรวดนี้เป็นการส่งดาวเทียมเครือข่าย (constellation satellite) เพื่อภารกิจให้บริการอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ห่างไกลภายใต้เครือข่าย GuoWang ของจีน ซึ่งจะต้องอาศัยแรงขับดันหลักจากจรวดตอนบนในการเดินทางไปยังวงโคจรต่ำของโลก (Low Earth Orbit) ก่อนที่ดาวเทียมจะถูกปล่อยออกไปด้วยเหตุนี้ ทำให้ภายหลังจากที่สิ้นสุดภารกิจแล้ว ชิ้นส่วนจรวดตอนบน เชื้อเพลิงบางส่วนที่ถูกขับออกมา และพลาสมาที่ถูกปล่อยทิ้งออกมาในภายหลัง ล้วนแล้วแต่จะเคลื่อนที่ต่อไปในวงโคจรต่ำของโลก ซึ่งใช้เวลาในการโคจรรอบโลกหนึ่งรอบ เพียงเวลาประมาณ 90-120 นาที ซึ่งเวลาดังกล่าวสอดคล้องกับเวลาที่พบเห็นทั้งจรวดและเชื้อเพลิงเหนือน่านฟ้าประเทศไทย หลังจากเวลาปล่อยจรวดออกจากฐานประมาณสองชั่วโมงพอดี จึงเป็นไปได้ว่าน่าจะมาจากชิ้นส่วนตอนบนของจรวด Long March 5B ของจีนซึ่งหลังจากที่จรวดและเชื้อเพลิงโคจรรอบโลกไปสักพักหนึ่ง แรงต้านจากชั้นบรรยากาศตอนบนของโลก จะทำให้ชิ้นส่วนดังกล่าวค่อย ๆ เคลื่อนที่ช้าลง จนไม่สามารถคงวงโคจรต่ำอีกต่อไปได้ ก่อนที่จะเผาไหม้หมดไปในชั้นบรรยากาศระหว่างที่ตกกลับลงมาภายใต้แรงโน้มถ่วงของโลกไปในที่สุดเรียบเรียง: ดร.มติพล ตั้งมติธรรม - นักวิชาการ สดร.
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดช่องยื่นผู้ตรวจฯ ส่งศาลฉีก MOU2544 ก่อนตัดสินใจลงถนน
    .
    ปมประเด็นปัญหาในเรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาผ่านกรณีMOU 2544 นั้น ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ และมีนักวิชาการ รวมไปถึงผู้ทรงคุณวุฒิออกมาให้ความเห็นเป็นอย่างมาก โดยนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า "MOU 2544 มีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่? กรณีที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุลและคณะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2567 ขอให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU 2544 และ JC 2544 ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯและฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตยและบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องและเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทยนั้น ผมเห็นด้วยกับเหตุผลตามหนังสือดังกล่าวทุกประการ เพราะหากรัฐบาลยังดำเนินการใดๆต่อไปตาม MOU 2544 เท่ากับเป็นการเปลี่ยนสถานภาพในหลักการสำคัญ จากการ “ปฏิเสธ”เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ละเมิดสิทธิและอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย กลายเป็น “การรับรู้” พื้นที่อ้างสิทธิเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ขีดเส้นตามอำเภอใจและไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลโดยปริยาย"
    .
    "ดังนั้นการที่รัฐบาลไทย “รับรู้” การลากเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากล แม้ว่ารัฐบาลไทยจะอ้างว่ายังคงปฏิเสธการลากเส้นของกัมพูชาดังกล่าว ประเทศไทยก็จะตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะถูกตีความได้ว่าราชอาณาจักรไทยได้ “สละสิทธิ” จุดแข็งที่สุดของเราคือการลากเส้นไหล่ทวีปตามกฎหมายสากลเพียงอย่างเดียว และกลายเป็นการยอมรับความไม่ชัดเจนของพื้นที่อาณาเขตทางทะเลว่ามีความเหลื่อมซ้อนกันอยู่ระหว่างสองประเทศ ตลอดทั้งการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีไทยในทำนองว่าหากตกลงกันไม่ได้ ก็แบ่งครึ่งกัน จึงอาจเข้าทำนองรอยเดิมกรณีปราสาทพระวิหารที่ฝ่ายไทยต้องพ่ายแพ้ด้วยเหตุผลของ “กฎหมายปิดปาก” นั่นเอง"
    .
    นายธีรภัทร์ ให้ความเห็นอีกว่า ข้อเรียกร้องของคุณสนธิและคณะให้นายกรัฐมนตรีเสนอเรื่องดังกล่าวนี้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและมีมติให้ส่ง MOU 2544และ JC 2544 ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 178 เพื่อให้ได้ข้อยุติในข้อสงสัยนี้เสียก่อนนั้น จึงเป็นข้อเรียกร้องที่มีเหตุมีผลที่รัฐบาลควรสนองตอบ และเป็นทางออกที่เป็นไปตามกติกาของบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่สนองตอบข้อเรียกร้องของคุณสนธิและคณะ ผมก็ขอเสนอต่อไปว่าคุณสนธิและคณะควรจะเสนอเรื่องดังกล่าวนี้ผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินตามมาตรา 231 ของรัฐธรรมนูญฯเพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองแล้วแต่กรณีเพื่อพิจารณาให้ได้ข้อยุติต่อไปได้ หากกระบวนการโดยสันติตามรัฐธรรมนูญฯไม่บังเกิดผลแล้ว จึงค่อยใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฯกันต่อไป
    ..............
    Sondhi X
    เปิดช่องยื่นผู้ตรวจฯ ส่งศาลฉีก MOU2544 ก่อนตัดสินใจลงถนน . ปมประเด็นปัญหาในเรื่องข้อพิพาทเกี่ยวกับเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาผ่านกรณีMOU 2544 นั้น ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่หลายฝ่ายให้ความสนใจ และมีนักวิชาการ รวมไปถึงผู้ทรงคุณวุฒิออกมาให้ความเห็นเป็นอย่างมาก โดยนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุว่า "MOU 2544 มีความชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่? กรณีที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุลและคณะทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2567 ขอให้หยุดการปฏิบัติหน้าที่กรณี MOU 2544 และ JC 2544 ซึ่งมีการดำเนินการที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระบรมราชโองการฯและฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของกฎหมาย อันเป็นการสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียเอกราช อำนาจอธิปไตย สิทธิอธิปไตยและบูรณภาพแห่งทะเลอาณาเขต เขตต่อเนื่องและเขตไหล่ทวีปของราชอาณาจักรไทยนั้น ผมเห็นด้วยกับเหตุผลตามหนังสือดังกล่าวทุกประการ เพราะหากรัฐบาลยังดำเนินการใดๆต่อไปตาม MOU 2544 เท่ากับเป็นการเปลี่ยนสถานภาพในหลักการสำคัญ จากการ “ปฏิเสธ”เส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ละเมิดสิทธิและอธิปไตยของราชอาณาจักรไทย กลายเป็น “การรับรู้” พื้นที่อ้างสิทธิเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ขีดเส้นตามอำเภอใจและไม่เป็นไปตามกฎหมายสากลโดยปริยาย" . "ดังนั้นการที่รัฐบาลไทย “รับรู้” การลากเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายสากล แม้ว่ารัฐบาลไทยจะอ้างว่ายังคงปฏิเสธการลากเส้นของกัมพูชาดังกล่าว ประเทศไทยก็จะตกอยู่ในสภาวะสุ่มเสี่ยงที่จะถูกตีความได้ว่าราชอาณาจักรไทยได้ “สละสิทธิ” จุดแข็งที่สุดของเราคือการลากเส้นไหล่ทวีปตามกฎหมายสากลเพียงอย่างเดียว และกลายเป็นการยอมรับความไม่ชัดเจนของพื้นที่อาณาเขตทางทะเลว่ามีความเหลื่อมซ้อนกันอยู่ระหว่างสองประเทศ ตลอดทั้งการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีไทยในทำนองว่าหากตกลงกันไม่ได้ ก็แบ่งครึ่งกัน จึงอาจเข้าทำนองรอยเดิมกรณีปราสาทพระวิหารที่ฝ่ายไทยต้องพ่ายแพ้ด้วยเหตุผลของ “กฎหมายปิดปาก” นั่นเอง" . นายธีรภัทร์ ให้ความเห็นอีกว่า ข้อเรียกร้องของคุณสนธิและคณะให้นายกรัฐมนตรีเสนอเรื่องดังกล่าวนี้ต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาและมีมติให้ส่ง MOU 2544และ JC 2544 ต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยว่าขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 บทบัญญัติมาตรา 1 และมาตรา 178 เพื่อให้ได้ข้อยุติในข้อสงสัยนี้เสียก่อนนั้น จึงเป็นข้อเรียกร้องที่มีเหตุมีผลที่รัฐบาลควรสนองตอบ และเป็นทางออกที่เป็นไปตามกติกาของบ้านเมือง อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลไม่สนองตอบข้อเรียกร้องของคุณสนธิและคณะ ผมก็ขอเสนอต่อไปว่าคุณสนธิและคณะควรจะเสนอเรื่องดังกล่าวนี้ผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินตามมาตรา 231 ของรัฐธรรมนูญฯเพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเสนอเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญหรือศาลปกครองแล้วแต่กรณีเพื่อพิจารณาให้ได้ข้อยุติต่อไปได้ หากกระบวนการโดยสันติตามรัฐธรรมนูญฯไม่บังเกิดผลแล้ว จึงค่อยใช้เสรีภาพในการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฯกันต่อไป .............. Sondhi X
    Like
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 990 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเด็น MOU2544 ในมุมกฎหมาย ภาคประชาชนทำอะไรได้บ้าง : คนเคาะข่าว 12-12-67
    : อ.คมสัน โพธิ์คง นักวิชาการด้านกฎหมาย
    : กิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ดำเนินรายการ
    ประเด็น MOU2544 ในมุมกฎหมาย ภาคประชาชนทำอะไรได้บ้าง : คนเคาะข่าว 12-12-67 : อ.คมสัน โพธิ์คง นักวิชาการด้านกฎหมาย : กิตติชัย ไพโรจน์ไชยกุล ดำเนินรายการ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 598 มุมมอง 7 0 รีวิว
  • เรื่องที่เขียนนี้ ฟังดูแล้วเหมือนนวนิยาย “กรุงเทพมหานครฯ คือ ศูนย์กลางสงครามจารชน ทุกชาติมีจารชนแฝงอยู่ในรูปแบบต่างๆ” แต่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูต แห่งที่แสวงหาข่าว “ย่านบาร์ที่เป็นสถานที่เปิด เช่น ถนนคนเดิน ซอยคาวบอย พัฒน์พงษ์ FCCT การสัมมนาต่างตามมหาวิทยาลัยและพื้นที่ชุมนุมทางการเมือง” เป็นต้นมีประวัติเช่นนี้มานานแล้ว “เริ่มต้นในยุคก่อนสงครามมหาเอเชียบูรพา ร่ายยาวมาจนทุกวันนี้” แม้กระทั่ง เด็กนักเรียนแลกเปลี่ยน Peace Corps บางคนเป็น CIA Trained (มาวิเคราะห์อุปนิสัยและมโนสำนึกของคนไทยที่อยู่ในระดับฐานะชนชั้นกลาง)ทุกสถานทูตจะมี “เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง (เปิดเผย) และจารชนมืออาชีพ เช่น CIA, MI 6 หรือ SIS (อังกฤษ), SVR RF (รัสเซีย) MSS (จีน) MOSSAD (อิสราเอล) เป็นต้นก่อนหน้ารัฐบาล มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช รถนั่งจารชนก็ติดป้ายรถทูต ต่อมาหลายๆ ประเทศส่งจารชนมามากมายโดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักพิธีการทูตที่กำหนดจำนวนเจ้าหน้าที่สถานทูตไว้จำนวนหนึ่งชัดเจนที่ได้รับสิทธิทางการทูตคุ้มครอง ในสมัยรัฐบาล มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จารชนเต็มเมืองและถือสิทธิ์นักการทูต นายกรัฐมนตรี มรว.คึกฤทธิ์ เห็นว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง จึงกำหนดรถราชการองค์ต่างชาติให้ใช้ป้ายสีฟ้าเพื่อแยกแยะ คณะทูตกับเจ้าหน้าที่องค์ต่างชาติต่างๆ และจารชน ซึ่งไม่ใช่ทูตและไม่มีสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครองกัมพูชาก็มีจารชนด้วยเช่นกันและครั้งหนึ่ง ๓๐ กว่าปีมาแล้วผมพบกับเลขาเอกสถานทูตเขมรและเข้าใจหน้าที่ของเขาดีว่าเขา “ต้องการอะไร The needed Intelligence Assessment”และในปี ๒๕๕๖ ก่อนการชุมนุม กปท./กองทัพธรรม เลขานุการฝ่ายการเมืองสถาทูตสหรัฐฯ ขอพบผม ๒ ครั้งและเราพบทั้ง ๒ ครั้ง “ผมก็ให้เหตุผลการชุมนุมของ กปท./กองทัพธรรมและยืนหนังสือถึงเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ชี้แจ้งยืนยันเจตนารมณ์ที่ดีเพื่อขจัดเผด็จการรัฐสภา (ช่วงนั้นเป็นยุคนางคริสตี้ Christy ซึ่งเข้าข้างฝ่ายระบอบทักษิณ)หลักการสรรหาแหล่งข่าว Human Intelligent ๑. คนมีปมด้อยหรือคิดว่าตัวเองถูกรัฐหรือสังคมเอาผิดอย่างไม่ยุติธรรมทั้งที่ตัวเองผิดเต็มประตู (อย่างที่นายทักษิณ ไปเป็นที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน) ๒. คนโลภเห็นแก่เงิน ๓. คนไร้อุดมการณ์ระบอบการเมืองของรัฐนั้นๆ ๔. คนทีความทะเยอทะยานใฝ่สูง ๕. พวกหลงตัวเองโดยเฉพาะนักวิชาการสมเด็จฮุนเซนจึงไม่ได้ลงทุนอะไรมากเลยแต่กลับได้ข่าวที่แทบจะไม่ต้อง “กรอง” เลยโดยเฉพาะ “จุดอ่อนของประเทศไทยที่หน่วยข่าวกรองไทยเราเองประเมินไว้ตามหลัก “รู้เขารู้เรา” ในนายกรัฐมนตรีรับทราบและกำหนดนโยบายแก้ไขในฐานะที่ผมเคยเป็น “ผู้ช่วยเจ้ากรมข่าวทหารอากาศ เป็น ๑ ในกลุ่มผู้วิเคราะห์ข่าวยุทธศาสตร์/ยุทธวิธีและการต่อต้านการจารกรรม (ขั้นพื้นฐาน คือ การยึดระเบียบการรักษาความปลอดภัยของชาติ ๒๕๔๔)ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้อง “ตั้งประเด็นโดยเฉพาะ ปปช.” ซึ่งสามารถตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนและหาความจริงเท่าที่จะทำได้ ว่านายทักษิณให้คำปรึกษาอะไรบ้าง ที่อาจจะเป็นการเผยความลับที่สุดของชาติ ด้วยการนำเอารายละเอียดหลักการต่างๆ ที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมีมติยกเลิก MOU44 ฉบับทรยศชาติมาวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบVachara Riddhagni
    เรื่องที่เขียนนี้ ฟังดูแล้วเหมือนนวนิยาย “กรุงเทพมหานครฯ คือ ศูนย์กลางสงครามจารชน ทุกชาติมีจารชนแฝงอยู่ในรูปแบบต่างๆ” แต่ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่สถานทูต แห่งที่แสวงหาข่าว “ย่านบาร์ที่เป็นสถานที่เปิด เช่น ถนนคนเดิน ซอยคาวบอย พัฒน์พงษ์ FCCT การสัมมนาต่างตามมหาวิทยาลัยและพื้นที่ชุมนุมทางการเมือง” เป็นต้นมีประวัติเช่นนี้มานานแล้ว “เริ่มต้นในยุคก่อนสงครามมหาเอเชียบูรพา ร่ายยาวมาจนทุกวันนี้” แม้กระทั่ง เด็กนักเรียนแลกเปลี่ยน Peace Corps บางคนเป็น CIA Trained (มาวิเคราะห์อุปนิสัยและมโนสำนึกของคนไทยที่อยู่ในระดับฐานะชนชั้นกลาง)ทุกสถานทูตจะมี “เจ้าหน้าที่ฝ่ายการเมือง (เปิดเผย) และจารชนมืออาชีพ เช่น CIA, MI 6 หรือ SIS (อังกฤษ), SVR RF (รัสเซีย) MSS (จีน) MOSSAD (อิสราเอล) เป็นต้นก่อนหน้ารัฐบาล มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช รถนั่งจารชนก็ติดป้ายรถทูต ต่อมาหลายๆ ประเทศส่งจารชนมามากมายโดยเฉพาะสหรัฐฯ ซึ่งไม่เป็นไปตามหลักพิธีการทูตที่กำหนดจำนวนเจ้าหน้าที่สถานทูตไว้จำนวนหนึ่งชัดเจนที่ได้รับสิทธิทางการทูตคุ้มครอง ในสมัยรัฐบาล มรว.คึกฤทธิ์ ปราโมช จารชนเต็มเมืองและถือสิทธิ์นักการทูต นายกรัฐมนตรี มรว.คึกฤทธิ์ เห็นว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง จึงกำหนดรถราชการองค์ต่างชาติให้ใช้ป้ายสีฟ้าเพื่อแยกแยะ คณะทูตกับเจ้าหน้าที่องค์ต่างชาติต่างๆ และจารชน ซึ่งไม่ใช่ทูตและไม่มีสิทธิ์ทางการทูตคุ้มครองกัมพูชาก็มีจารชนด้วยเช่นกันและครั้งหนึ่ง ๓๐ กว่าปีมาแล้วผมพบกับเลขาเอกสถานทูตเขมรและเข้าใจหน้าที่ของเขาดีว่าเขา “ต้องการอะไร The needed Intelligence Assessment”และในปี ๒๕๕๖ ก่อนการชุมนุม กปท./กองทัพธรรม เลขานุการฝ่ายการเมืองสถาทูตสหรัฐฯ ขอพบผม ๒ ครั้งและเราพบทั้ง ๒ ครั้ง “ผมก็ให้เหตุผลการชุมนุมของ กปท./กองทัพธรรมและยืนหนังสือถึงเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ชี้แจ้งยืนยันเจตนารมณ์ที่ดีเพื่อขจัดเผด็จการรัฐสภา (ช่วงนั้นเป็นยุคนางคริสตี้ Christy ซึ่งเข้าข้างฝ่ายระบอบทักษิณ)หลักการสรรหาแหล่งข่าว Human Intelligent ๑. คนมีปมด้อยหรือคิดว่าตัวเองถูกรัฐหรือสังคมเอาผิดอย่างไม่ยุติธรรมทั้งที่ตัวเองผิดเต็มประตู (อย่างที่นายทักษิณ ไปเป็นที่ปรึกษาสมเด็จฮุนเซน) ๒. คนโลภเห็นแก่เงิน ๓. คนไร้อุดมการณ์ระบอบการเมืองของรัฐนั้นๆ ๔. คนทีความทะเยอทะยานใฝ่สูง ๕. พวกหลงตัวเองโดยเฉพาะนักวิชาการสมเด็จฮุนเซนจึงไม่ได้ลงทุนอะไรมากเลยแต่กลับได้ข่าวที่แทบจะไม่ต้อง “กรอง” เลยโดยเฉพาะ “จุดอ่อนของประเทศไทยที่หน่วยข่าวกรองไทยเราเองประเมินไว้ตามหลัก “รู้เขารู้เรา” ในนายกรัฐมนตรีรับทราบและกำหนดนโยบายแก้ไขในฐานะที่ผมเคยเป็น “ผู้ช่วยเจ้ากรมข่าวทหารอากาศ เป็น ๑ ในกลุ่มผู้วิเคราะห์ข่าวยุทธศาสตร์/ยุทธวิธีและการต่อต้านการจารกรรม (ขั้นพื้นฐาน คือ การยึดระเบียบการรักษาความปลอดภัยของชาติ ๒๕๔๔)ดังนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงต้อง “ตั้งประเด็นโดยเฉพาะ ปปช.” ซึ่งสามารถตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนและหาความจริงเท่าที่จะทำได้ ว่านายทักษิณให้คำปรึกษาอะไรบ้าง ที่อาจจะเป็นการเผยความลับที่สุดของชาติ ด้วยการนำเอารายละเอียดหลักการต่างๆ ที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะมีมติยกเลิก MOU44 ฉบับทรยศชาติมาวิเคราะห์เชิงเปรียบเทียบVachara Riddhagni
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 426 มุมมอง 0 รีวิว
  • อาการ "สมองเน่า" คำแห่งปี ของสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด
    หมายถึง "อาการเสื่อมโทรมลงของสภาพจิตใจหรือสติปัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีสาเหตุมาจากการเสพเนื้อหาไร้สาระทางออนไลน์มากเกินไป"

    ก่อนหน้านี้ เคยมีนักวิชาการบอกว่า TV is dumbing you down ยิ่งดูทีวียิ่งโง่ แต่ตอนนี้ Internet is rotting your brain! ยิ่งไถ ยิ่งสมองเน่า!

    (ภาพจาก New York Times)
    อาการ "สมองเน่า" คำแห่งปี ของสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด หมายถึง "อาการเสื่อมโทรมลงของสภาพจิตใจหรือสติปัญญา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีสาเหตุมาจากการเสพเนื้อหาไร้สาระทางออนไลน์มากเกินไป" ก่อนหน้านี้ เคยมีนักวิชาการบอกว่า TV is dumbing you down ยิ่งดูทีวียิ่งโง่ แต่ตอนนี้ Internet is rotting your brain! ยิ่งไถ ยิ่งสมองเน่า! (ภาพจาก New York Times)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 187 มุมมอง 0 รีวิว
  • พุทธอภิวรรณ ช่อง 8 เผย นักข่าวไปสัมภาษณ์นักวิชาการเก่งๆ กรณีหมอบุญถูกออกหมายจับ ปรากฏว่าไม่สะดวก ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ กังขาแปลกมาก ทำไมคนไม่พูด หรือคุณหมอยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000112832

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    พุทธอภิวรรณ ช่อง 8 เผย นักข่าวไปสัมภาษณ์นักวิชาการเก่งๆ กรณีหมอบุญถูกออกหมายจับ ปรากฏว่าไม่สะดวก ไม่อยากยุ่งเรื่องนี้ กังขาแปลกมาก ทำไมคนไม่พูด หรือคุณหมอยังเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000112832 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    24
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2097 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts