• ฮามาส “ไม่ตกลง” กับข้อเสนอหยุดยิงของอิสราเอล

    อิสราเอลเสนอจะหยุดการโจมตีเป็นเวลา 6 สัปดาห์ แต่จะต้องให้ฮามาสยอมทิ้งอาวุธทั้งหมด และปล่อยตัวตัวประกันที่อีก 24 คน

    ฮามาสปฏิเสธเงื่อนไขดังกล่าว เนื่องจากข้อตกลงไม่ได้รวมถึงการยุติสงครามหรือการถอนทหารอิสราเอลออกจากฉนวนกาซา ซึ่งเป็น 2 สิ่งที่ฮามาสบอกว่าไม่สามารถต่อรองได้

    นอกจากนี้ ฮามาสต้องการข้อตกลงหยุดยิงอย่างถาวรจากที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ แต่อิสราเอลมาทำลายไปเสียก่อน

    ในขณะที่อิสราเอลยังคงปิดกั้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เช่น อาหาร เชื้อเพลิง ยารักษาโรคไม่ให้เข้าสู่ในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังขาดแคลนอย่างหนัก และโรงพยาบาลต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบจากการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่อง
    ฮามาส “ไม่ตกลง” กับข้อเสนอหยุดยิงของอิสราเอล อิสราเอลเสนอจะหยุดการโจมตีเป็นเวลา 6 สัปดาห์ แต่จะต้องให้ฮามาสยอมทิ้งอาวุธทั้งหมด และปล่อยตัวตัวประกันที่อีก 24 คน ฮามาสปฏิเสธเงื่อนไขดังกล่าว เนื่องจากข้อตกลงไม่ได้รวมถึงการยุติสงครามหรือการถอนทหารอิสราเอลออกจากฉนวนกาซา ซึ่งเป็น 2 สิ่งที่ฮามาสบอกว่าไม่สามารถต่อรองได้ นอกจากนี้ ฮามาสต้องการข้อตกลงหยุดยิงอย่างถาวรจากที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ แต่อิสราเอลมาทำลายไปเสียก่อน ในขณะที่อิสราเอลยังคงปิดกั้นความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เช่น อาหาร เชื้อเพลิง ยารักษาโรคไม่ให้เข้าสู่ในฉนวนกาซา ซึ่งเป็นสิ่งที่กำลังขาดแคลนอย่างหนัก และโรงพยาบาลต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบจากการโจมตีทางอากาศอย่างต่อเนื่อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิ่งที่น่าสนใจ:

    อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ โพสต์ข้อความ "ยูเครนตกลงหยุดยิงอย่างถาวรและไม่มีเงื่อนไข"

    และในช่วงเวลาเดียวกัน เซเลนสกี โพสต์ข้อความยืนยันมีการสนทนากับประธานาธิบดีฟินแลนด์จริง และพูดถึงข้อตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกครั้ง

    "ขณะนี้ผ่านมา 36 วันแล้วที่สหรัฐฯ เสนอให้หยุดการโจมตีทางอากาศ ทางทะเล และทางบกอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข ยูเครนยอมรับข้อเสนอนี้ทันที เมื่อกว่าหนึ่งเดือนก่อน รัสเซียยังคงเพิกเฉยต่อข้อเสนอนี้ และยังคงไม่รู้สึกถึงผลกระทบใดๆ นั่นคือปัญหาสำคัญ" ข้อความบางส่วนของเซเลนสกี

    เหตุการณ์นี้น่าสนใจตรงที่ เซเลนสกีกลับมาพูดถึงข้อตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกครั้ง หลังจากรัสเซียโจมตีอย่างหนักในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคซูมี ซึ่งส่งผลให้ทหารยูเครนกว่า 60 ราย รวมทั้งผู้บัญชาการทหารต้องเสียชีวิตในครั้งนี้

    นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทรัมป์ปฏิเสธส่งความช่วยเหลือด้านอาวุธห้กับยูเครนรวมกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ ตามรายงานที่สื่อนำเสนอ ทรัมป์สนใจการ "เจรจากับปูติน" มากกว่าที่จะส่งอาวุธให้ยูเครน
    สิ่งที่น่าสนใจ: อเล็กซานเดอร์ สตับบ์ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ โพสต์ข้อความ "ยูเครนตกลงหยุดยิงอย่างถาวรและไม่มีเงื่อนไข" และในช่วงเวลาเดียวกัน เซเลนสกี โพสต์ข้อความยืนยันมีการสนทนากับประธานาธิบดีฟินแลนด์จริง และพูดถึงข้อตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกครั้ง "ขณะนี้ผ่านมา 36 วันแล้วที่สหรัฐฯ เสนอให้หยุดการโจมตีทางอากาศ ทางทะเล และทางบกอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข ยูเครนยอมรับข้อเสนอนี้ทันที เมื่อกว่าหนึ่งเดือนก่อน รัสเซียยังคงเพิกเฉยต่อข้อเสนอนี้ และยังคงไม่รู้สึกถึงผลกระทบใดๆ นั่นคือปัญหาสำคัญ" ข้อความบางส่วนของเซเลนสกี เหตุการณ์นี้น่าสนใจตรงที่ เซเลนสกีกลับมาพูดถึงข้อตกลงหยุดยิงอย่างไม่มีเงื่อนไขอีกครั้ง หลังจากรัสเซียโจมตีอย่างหนักในหลายภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคซูมี ซึ่งส่งผลให้ทหารยูเครนกว่า 60 ราย รวมทั้งผู้บัญชาการทหารต้องเสียชีวิตในครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานข่าวเพิ่มเติมอีกว่า ทรัมป์ปฏิเสธส่งความช่วยเหลือด้านอาวุธห้กับยูเครนรวมกว่า 5 หมื่นล้านเหรียญ ตามรายงานที่สื่อนำเสนอ ทรัมป์สนใจการ "เจรจากับปูติน" มากกว่าที่จะส่งอาวุธให้ยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว

  • ตามรอยย้อนกลับ Supply Chain แร่หายากจากพม่ามหาศาลสู่จีน
    ______________________________
    23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 บริษัท China Rare Earth Group Co., Ltd. ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ จากการควบรวมของ 3 กิจการด้านอุตสาหกรรมแร่หายากในจีน China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. เป้าคือพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายาก วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี
    China Rare Earth Group อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของรัฐ-คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ที่เป็นเจ้าของของสภาแห่งรัฐ ถือหุ้นร้อยละ 31.21 China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. แต่ละบริษัทถือหุ้นร้อยละ 20.33; China Iron and Steel Research Technology Group Co., Ltd. และ Youyan Technology Group Co., Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 3.90
    ปัจจุบันจีนมีปริมาณการผลิตแร่ธาตุ หายากสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่ที่ 132,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 63 ของปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 210,000 ตัน โดยประเทศอื่น ๆ ที่มีปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากในลำดับถัดมา ได้แก่ สหรัฐฯ (26,000 ตัน) เมียนมา (22,000 ตัน) ออสเตรเลีย (21,000 ตัน) อินเดีย (3,000 ตัน) รัสเซีย (2,700 ตัน) มาดากัสการ์ (2,000 ตัน) ไทย (1,800 ตัน) บราซิล (1,000 ตัน) เวียดนาม (900 ตัน) และบุรุนดี (600 ตัน)
    ______________________________
    ระฆังกำแพงภาษีลั่นขึ้นห้วงเมษายน 2568 โดยสหรัฐอเมริกา การตอบโต้กลับของจีนเปิดหน้าชก สวนกลับทุกเม็ด รวมถึงได้ขยายการใช้ "แร่หายาก" (rare earths) เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการค้า โดยประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในอุดสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเป็นการตอบโต้ต่อมาดรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ
    สำหรับแร่หายาก 7 ชนิดได้แก่ ชามาเรียม (Samarium) แกโดลิเนียม (Gadolinium) เทอร์เมียม (Terbium) ดิสโพรเซียม (Dysprosium) ลูทีเซียม (Lutetium) สแกนเดียม (Scandium) และอิดเทรียม (Yttrium) สำหรับแร่หายากยอดนิยมอย่าง นี่โอไดเมียม (Neodymium) และ พราเชโอไดเมียม (Praseodymium) ซึ่งใช้ผลิตแม่เหล็กประสิทธิภาพสูง ยังไม่อยู่ในรายชื่อควบคุม
    หลังการรัฐประหารปี 2021 การส่งออกแร่ธาตุหายากจากพม่าไปจีนเพิ่มขึ้น 5 เท่า สูงถึง 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการการพึ่งพาจีน 90% ของการแปรรูปแร่หายากโลกอยู่ในจีน แบ่งเป็น แร่กลุ่มหายาก (Rare Earth Elements) มูลค่า: 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2025) ส่วนแบ่งการนำเข้า: กว่า 50% ของการนำเข้าแร่หายากทั้งหมดของจีน ชนิดแร่หลัก: เทอร์เบียม (Terbium) และดีสโพรเซียม (Dysprosium) ในกลุ่ม Heavy Rare Earth Elements (HREE) พื้นที่ทำเหมืองหลักที่คะฉิ่น ที่เหมือง Chipwi และ Momauk: มีบ่อแร่มากกว่า 2,700 บ่อ เมือง Panwa: แหล่งผลิตหลักภายใต้การควบคุมของ Kachin Independence Army (KIA) การขยายตัว: จำนวนไซต์ทำเหมืองเพิ่มขึ้น 40% นับตั้งแต่ปี 2021 โดยพื้นที่ KIA: เก็บภาษี 35,000 หยวน/ตัน (ประมาณ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐ)
    บริษัทจีนผู้รับซื้อหลัก คือ China Rare Earths Group (REGCC) ควบคุมการประมูลแร่กว่า 80% China Northern Rare Earth Group ผู้ประมูลแร่รายใหญ่ของโลก และ JL Mag Rare-Earth: ผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ ใช้แร่จากพม่าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และยังมีบริษัท Rising Nonferrous บริษัทที่ได้รับอนุมัติให้นำเข้าแร่หายากจากเมียนมาโดยตรง
    นอกจากนั้นก็จะมี China Nonferrous Metal Mining Group (CNMC) รับซื้อ: ทองแดง, นิกเกิล พื้นที่รับซื้อคือเหมือง Monywa ในเขตสะกาย บริษัท China Minmetals Corporation: รับซื้อ: แร่หายาก, ดีบุก, ทังสเตน Aluminum Corporation of China (CHINALCO): รับซื้อ: แร่ที่เกี่ยวข้องกับอะลูมิเนียมและโลหะผสม Yunnan Tin Company: รับซื้อ: ดีบุก เพราะเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ของจีน Pangang Group: รับซื้อ: ทังสเตน, พลวง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโลหะหนัก
    ______________________________
    การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนมีป้อนอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้จีน และแน่นอนต้องใช้ฐานของกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นตลาดหลักและบายพาสไปยังกลุ่มประเทศที่มีกำแพงภาษีสูงไม่ว่าจะเป็น
    • อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles)แร่ธาตุหายาก เช่น ดิสโพรเซียม (Dysprosium) และเทอร์เบียม (Terbium) ที่นำเข้าจากพม่าใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจีนมีความต้องการสูงมากในช่วงหลังเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV
    • อุตสาหกรรมพลังงานลม (Wind Power)แม่เหล็กถาวรที่ผลิตจากแร่ธาตุหายากเหล่านี้ยังถูกใช้ในกังหันลมเพื่อผลิตพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพลังงานทดแทนของจีน
    • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics)แร่ธาตุหายากจากพม่าถูกนำไปใช้ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ต้องการแม่เหล็กและวัสดุพิเศษ
    • อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets) บริษัทจีนใหญ่ เช่น China Southern Rare Earth ใช้แร่ธาตุจากพม่าในการผลิตแม่เหล็กถาวรที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม
    • อาวุธยุทโธปกรณ์ (Defence Industry) และอุตสาหกรรมอวกาศ และอากาศยาน (Aerospace Industry)
    สถานการณ์ความต้องการแร่ธาตุหายากงวดขึ้นเพราะนับวันแร่ธาตุเหล่านั้นย่อมลดลง ตามชื่อเพราะยิ่งหายากขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 จีนเพิ่มการนำเข้าแร่หายากจากพม่าเกิน 9 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นกว่า 70% ของแร่ธาตุหายากที่จีนใช้ทั้งหมด ซึ่งทำให้พม่าเป็นแหล่งผลิตแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดของจีนในปัจจุบัน
    ______________________________
    ความต้องการสูงและความไม่แน่นอนของซัพพลายเชน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความขัดข้องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้จีนพึ่งพาแหล่งแร่จากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะพม่าเป็นสัดส่วนถึง 70% ของวัตถุดิบที่ใช้ เนื่องจากเหมืองในจีนผลิตไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบาย
    ปัญหาจึงอยู่ที่แร่ธาตุหายากจากพม่าส่วนใหญ่ถูกขุดอย่างผิดกฎหมายและผ่านช่องทางที่ไม่โปร่งใส ทำให้บริษัทจีนที่แปรรูปแร่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ชัดเจน ส่งผลต่อความยั่งยืนและความน่าเชื่อถือของตลาด รวมถึงสร้างปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมต่อพม่าอย่างมหาศาล
    หากเจาะพื้นที่การทำเหมืองในรัฐต่าง ๆ การทำเหมืองในเมียนมามักอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมีผลต่อการส่งออกและการจัดการทรัพยากร ดังนี้:
    • รัฐคะฉิ่น (Kachin State): แร่หลัก: แร่หายาก (REEs), พลวง, ทองคำ, อิตเทรียม พื้นที่ป่าทางตอนเหนือ อุดมไปด้วยแร่หายาก แต่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมาและกองทัพปลดปล่อยคะฉิ่น (KIA) ส่วนใหญ่ทำลายสิ่งแวดล้อม น้ำกลายเป็นโคลน และสัตว์ป่าลดลง
    • รัฐฉาน (Shan State): แร่หลัก: ดีบุก, ตะกั่ว, สังกะสี, ทังสเตน,ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ เช่น เหมือง Man Maw การควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้เงินจากเหมือง สนับสนุนกองทัพ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาลเช่นกันและลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย
    • เขตสะกาย (Sagaing Region): แร่หลัก: ทองแดง, นิกเกิล, ทองคำพื้นที่ที่มีการสู้รบหนักระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลัง PDF
    • เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region): แร่หลัก: แร่หายาก, พลวง, อิตเทรียม, ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองขนาดเล็กกระจายอยู่
    • เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region): แร่หลัก: ดีบุก เป็นเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่ง
    • รัฐมอญ (Mon State): แร่หลัก: ทองแดง เป็นเหมืองขนาดเล็กถึงปานกลาง
    • รัฐกะยา (Kayah State): แร่หลัก: ตะกั่ว พื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูง
    ______________________________
    สอบทานต้นทาง-ย้อนกลับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของแร่ธาตุจากเมียนมาไปจีนมีลักษณะดังนี้ เริ่มต้นสำรวจแหล่ง แน่นอนฐานข้อมูลมีอยู่แล้วในมือรัฐบาลทหารพม่า และในกำมือเทคโนโลยีจีน ก่อนจะให้บริษัทเอกชนในแต่ละความถนัดของจีน และของพม่าเอง ขุดและแปรรูปเบื้องต้น เหมืองส่วนใหญ่ในพม่าดำเนินการโดยบริษัทท้องถิ่นหรือบริษัทจีนร่วมทุน การแปรรูปขั้นต้น (เช่น การถลุงแร่ดีบุก) มักทำในเมียนมาก่อนส่งออก ส่วนใหญ่ในพื้นที่ขัดแย้งทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน
    การขนส่ง เส้นทางหลัก: จากเหมืองในรัฐคะฉิ่นและฉานไปยังชายแดนจีน (มณฑลยูนนาน) ผ่านทางรถไฟหรือถนน เช่น เส้นทางรถไฟเจ้าผิ่ว-มูเซ บางส่วนส่งออกผ่านท่าเรือในเขตตะนาวศรีและย่างกุ้ง
    การแปรรูปขั้นสูงในจีน ปลายทางคือโรงงานแปรรูปอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง, เจียงซู, และแถบเศรษฐกิจแยงซีเกียง โดยแร่หายากถูกกลั่นเป็นโลหะบริสุทธิ์หรือสารประกอบ เช่น นีโอดิเมียมสำหรับแม่เหล็ก หรืออิตเทรียมสำหรับ LED
    สายพานอุตสาหกรรมที่ใช้งานแบ่งตามแร่ธาตุอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: แร่หายาก (REEs) และดีบุกใช้ในสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า: แร่หายาก (นีโอดิเมียม, ดิสโพรเซียม) และนิกเกิลใช้ในมอเตอร์และแบตเตอรี่ พลังงานสะอาด: ทังสเตนและพลวงใช้ในกังหันลมและแผงโซลาร์ อุตสาหกรรมทหาร: แร่หายากและพลวงใช้ในขีปนาวุธ, เรดาร์, และเลเซอร์ การก่อสร้างและเครื่องจักร: ทองแดงและสังกะสีใช้ในสายไฟและโครงสร้าง
    ความท้าทายในระบบ Supply Chain ส่วนใหญ่คือความขัดแย้งในเมียนมาอาจขัดขวางการขนส่ง จากผลประโยชน์มหาศาลเพื่อนำมาเป็นอาวุธและจุนเจือเสบียงในการรบ ขณะที่นานาชาติได้เรียกร้องให้ตรวจสอบแร่จากพื้นที่ขัดแย้ง แต่จีนเป็นประเทศเดียวที่บังคับให้แยกแร่จากเมียนมาและจีน
    ______________________________
    ล่าสุด กองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independent Organization, Kachin Independent Army- KIA) ซึ่งได้เป็นเจ้าของใหม่ของเหมืองแร่หายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน (ราว 160,000 บาท) พื้นที่แหล่งแร่หายากที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเขตปางวาและชิพเว (Pang Wa, Chi Pwi) ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งกลุ่ม KIA เข้ายึดครองในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ได้รับอนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังจีนหลังจากควบคุมพื้นที่มาได้ 6 เดือน
    สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 KIO/KIA ได้อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่น ๆ ในหนังสืออนุญาตของ KIO ยังไม่ได้รับการเปิดเผย เจ้าหน้าที่ KIA เขตปางวาให้ข้อมูลว่าKIO/KIA และรัฐบาลจีน ยังคงเจรจาเกี่ยวกับการใช้จุดผ่านแดนเดียวในการส่งออกแร่หายาก และจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายน ยังไม่มีการส่งออกอย่างเป็นทางการ
    KIA สามารถควบคุมจุดผ่านแดนทางการค้าระหว่างจีน-พม่าในรัฐคะฉิ่นทั้งหมด ได้แก่ กานปายตี Kan Pai Ti, ล่วยเจ Loi Je และปางวา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะใช้จุดผ่านแดนใดในการส่งออก หลังจากที่ KIA ควบคุมพื้นที่ปางวาและชิพเว รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด ทำให้บริษัทเหมืองแร่ส่วนใหญ่หยุดดำเนินการ มีเพียงบางบริษัทที่ยังคงขุดแร่ต่อไป เนื่องจากยังมีวัตถุดิบหลงเหลืออยู่
    รายงานของ Global Witness ระบุว่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาเริ่มขึ้นในปี 2016 โดยนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งส่งออกแร่ไปยังจีนเป็นหลัก ตามข้อมูลปัจจุบัน พม่าติดอันดับ 3 ของประเทศผู้ผลิตแร่แรร์เอิร์ท และคิดเป็น 50% ของการส่งออกแร่หายากทั่วโลก หลังจากการรัฐประหารของกองทัพพม่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาและชิพเวเพิ่มขึ้น 40% และจำนวนเหมืองแร่เพิ่มขึ้นกว่า 300 แห่ง ในปี 2566 เพียงปีเดียว มีการส่งออกแร่หายากไปยังจีนมากถึง 41,700 ตัน สร้างรายได้ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    ______________________________
    สรุปขมวดปม การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนช่วยเสริมความมั่นคงของซัพพลายเชนแร่หายากในจีน ลดภาวะขาดแคลนและสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้านความโปร่งใสและความยั่งยืนในตลาดแร่ธาตุของจีน แร่ธาตุหายากจากพม่ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงและพลังงานสะอาด ซึ่งจีนพึ่งพาการนำเข้าแร่จากพม่าเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของแร่หายากที่ใช้ในประเทศ เหมืองแร่หายากเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงแร่ทองคำ และอื่น ๆ ที่ปักหมุดขุดหลุมร่อนตระแกรง ทุกรัฐในเมียนมาก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ป่าเขา แม่น้ำ ลำธาร โดยคนงานบางรายถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างโหดร้าย หญิงคนงานถูกล่วงละเมิดทางเพศ และหลายคนได้รับอันตรายทางสุขภาพอย่างร้ายแรงจากสารเคมีที่ใช้ในเหมือง และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นรวมถึงประเทศไทย และลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน คำถามคือจีนมีส่วนสำคัญในการสร้างมลภาวะในพื้นที่ ควรจะร่วมรับผิดชอบหรือไม่ ไม่ใช่การสูบทรัพยากรในพื้นที่แต่ไม่ได้เหลียวแลผลกระทบที่จะตามมา อันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาใหญ่ให้กับจีนในอนาคต
    อ้างอิง : https://www.facebook.com/GlobalWitness/ และสำนักข่าวชายขอบ
    https://shorturl.asia/6GnqX
    ประชาไท https://prachatai.com/journal/2025/01/111942
    ______________________________

    10 อันดับแร่ธาตุที่ส่งออกจากเมียนมาไปจีน (เรียงตามมูลค่าประเมิน)
    1. แร่ดีบุก (Tin)
    o มูลค่า: สูงสุด เนื่องจากเมียนมาเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และจีนนำเข้า 95% ของหัวแร่ดีบุกจากเมียนมาในปี 2563
    o การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (บัดกรีแผงวงจร), การผลิตโลหะผสม
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน (Shan State), เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region)
    2. แร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs)
    o มูลค่า: สูง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน
    o การใช้งาน: ผลิตแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets), แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า, อุปกรณ์เลเซอร์, เซมิคอนดักเตอร์
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น (Kachin State), เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region)
    3. ทองแดง (Copper)
    o มูลค่า: สูง เนื่องจากราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งสูงหลังรัฐประหาร
    o การใช้งาน: สายไฟ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง
    o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย (Sagaing Region), รัฐมอญ (Mon State)
    4. ตะกั่ว (Lead)
    o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ใช้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
    o การใช้งาน: แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด, อุตสาหกรรมยานยนต์
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐกะยา (Kayah State)
    5. สังกะสี (Zinc)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมเคลือบโลหะ
    o การใช้งาน: การชุบกัลวาไนซ์, โลหะผสม
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, เขตย่างกุ้ง (Yangon Region)
    6. นิกเกิล (Nickel)
    o มูลค่า: ปานกลาง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
    o การใช้งาน: แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน, สแตนเลส
    o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย, รัฐฉาน
    7. พลวง (Antimony)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมทหารและพลังงาน
    o การใช้งาน: สารหน่วงไฟ, โลหะผสม, อุปกรณ์ทหาร
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์
    8. ทังสเตน (Tungsten)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความแข็งสูง
    o การใช้งาน: โลหะผสม, เครื่องมือตัด, อุปกรณ์ทหาร
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐคะฉิ่น
    9. ทองคำ (Gold)
    o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก
    o การใช้งาน: อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับ
    o พื้นที่เหมือง: เขตมัณฑะเลย์, รัฐคะฉิ่น, เขตสะกาย
    10. อิตเทรียม (Yttrium)
    o มูลค่า: ต่ำถึงปานกลาง แต่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเฉพาะ
    o การใช้งาน: สารเรืองแสงใน LED, อุปกรณ์ MRI, เซรามิก
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์
    หมายเหตุ: มูลค่าที่ระบุเป็นการประเมินจากความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานและปริมาณการส่งออก เนื่องจากไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่นอนหลังรัฐประหาร
    ______________________________
    ตามรอยย้อนกลับ Supply Chain แร่หายากจากพม่ามหาศาลสู่จีน ______________________________ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 บริษัท China Rare Earth Group Co., Ltd. ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ จากการควบรวมของ 3 กิจการด้านอุตสาหกรรมแร่หายากในจีน China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. เป้าคือพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายาก วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี China Rare Earth Group อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของรัฐ-คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ที่เป็นเจ้าของของสภาแห่งรัฐ ถือหุ้นร้อยละ 31.21 China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. แต่ละบริษัทถือหุ้นร้อยละ 20.33; China Iron and Steel Research Technology Group Co., Ltd. และ Youyan Technology Group Co., Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 3.90 ปัจจุบันจีนมีปริมาณการผลิตแร่ธาตุ หายากสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่ที่ 132,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 63 ของปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 210,000 ตัน โดยประเทศอื่น ๆ ที่มีปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากในลำดับถัดมา ได้แก่ สหรัฐฯ (26,000 ตัน) เมียนมา (22,000 ตัน) ออสเตรเลีย (21,000 ตัน) อินเดีย (3,000 ตัน) รัสเซีย (2,700 ตัน) มาดากัสการ์ (2,000 ตัน) ไทย (1,800 ตัน) บราซิล (1,000 ตัน) เวียดนาม (900 ตัน) และบุรุนดี (600 ตัน) ______________________________ ระฆังกำแพงภาษีลั่นขึ้นห้วงเมษายน 2568 โดยสหรัฐอเมริกา การตอบโต้กลับของจีนเปิดหน้าชก สวนกลับทุกเม็ด รวมถึงได้ขยายการใช้ "แร่หายาก" (rare earths) เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการค้า โดยประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในอุดสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเป็นการตอบโต้ต่อมาดรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ สำหรับแร่หายาก 7 ชนิดได้แก่ ชามาเรียม (Samarium) แกโดลิเนียม (Gadolinium) เทอร์เมียม (Terbium) ดิสโพรเซียม (Dysprosium) ลูทีเซียม (Lutetium) สแกนเดียม (Scandium) และอิดเทรียม (Yttrium) สำหรับแร่หายากยอดนิยมอย่าง นี่โอไดเมียม (Neodymium) และ พราเชโอไดเมียม (Praseodymium) ซึ่งใช้ผลิตแม่เหล็กประสิทธิภาพสูง ยังไม่อยู่ในรายชื่อควบคุม หลังการรัฐประหารปี 2021 การส่งออกแร่ธาตุหายากจากพม่าไปจีนเพิ่มขึ้น 5 เท่า สูงถึง 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการการพึ่งพาจีน 90% ของการแปรรูปแร่หายากโลกอยู่ในจีน แบ่งเป็น แร่กลุ่มหายาก (Rare Earth Elements) มูลค่า: 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2025) ส่วนแบ่งการนำเข้า: กว่า 50% ของการนำเข้าแร่หายากทั้งหมดของจีน ชนิดแร่หลัก: เทอร์เบียม (Terbium) และดีสโพรเซียม (Dysprosium) ในกลุ่ม Heavy Rare Earth Elements (HREE) พื้นที่ทำเหมืองหลักที่คะฉิ่น ที่เหมือง Chipwi และ Momauk: มีบ่อแร่มากกว่า 2,700 บ่อ เมือง Panwa: แหล่งผลิตหลักภายใต้การควบคุมของ Kachin Independence Army (KIA) การขยายตัว: จำนวนไซต์ทำเหมืองเพิ่มขึ้น 40% นับตั้งแต่ปี 2021 โดยพื้นที่ KIA: เก็บภาษี 35,000 หยวน/ตัน (ประมาณ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐ) บริษัทจีนผู้รับซื้อหลัก คือ China Rare Earths Group (REGCC) ควบคุมการประมูลแร่กว่า 80% China Northern Rare Earth Group ผู้ประมูลแร่รายใหญ่ของโลก และ JL Mag Rare-Earth: ผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ ใช้แร่จากพม่าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และยังมีบริษัท Rising Nonferrous บริษัทที่ได้รับอนุมัติให้นำเข้าแร่หายากจากเมียนมาโดยตรง นอกจากนั้นก็จะมี China Nonferrous Metal Mining Group (CNMC) รับซื้อ: ทองแดง, นิกเกิล พื้นที่รับซื้อคือเหมือง Monywa ในเขตสะกาย บริษัท China Minmetals Corporation: รับซื้อ: แร่หายาก, ดีบุก, ทังสเตน Aluminum Corporation of China (CHINALCO): รับซื้อ: แร่ที่เกี่ยวข้องกับอะลูมิเนียมและโลหะผสม Yunnan Tin Company: รับซื้อ: ดีบุก เพราะเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ของจีน Pangang Group: รับซื้อ: ทังสเตน, พลวง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโลหะหนัก ______________________________ การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนมีป้อนอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้จีน และแน่นอนต้องใช้ฐานของกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นตลาดหลักและบายพาสไปยังกลุ่มประเทศที่มีกำแพงภาษีสูงไม่ว่าจะเป็น • อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles)แร่ธาตุหายาก เช่น ดิสโพรเซียม (Dysprosium) และเทอร์เบียม (Terbium) ที่นำเข้าจากพม่าใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจีนมีความต้องการสูงมากในช่วงหลังเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV • อุตสาหกรรมพลังงานลม (Wind Power)แม่เหล็กถาวรที่ผลิตจากแร่ธาตุหายากเหล่านี้ยังถูกใช้ในกังหันลมเพื่อผลิตพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพลังงานทดแทนของจีน • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics)แร่ธาตุหายากจากพม่าถูกนำไปใช้ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ต้องการแม่เหล็กและวัสดุพิเศษ • อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets) บริษัทจีนใหญ่ เช่น China Southern Rare Earth ใช้แร่ธาตุจากพม่าในการผลิตแม่เหล็กถาวรที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม • อาวุธยุทโธปกรณ์ (Defence Industry) และอุตสาหกรรมอวกาศ และอากาศยาน (Aerospace Industry) สถานการณ์ความต้องการแร่ธาตุหายากงวดขึ้นเพราะนับวันแร่ธาตุเหล่านั้นย่อมลดลง ตามชื่อเพราะยิ่งหายากขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 จีนเพิ่มการนำเข้าแร่หายากจากพม่าเกิน 9 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นกว่า 70% ของแร่ธาตุหายากที่จีนใช้ทั้งหมด ซึ่งทำให้พม่าเป็นแหล่งผลิตแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดของจีนในปัจจุบัน ______________________________ ความต้องการสูงและความไม่แน่นอนของซัพพลายเชน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความขัดข้องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้จีนพึ่งพาแหล่งแร่จากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะพม่าเป็นสัดส่วนถึง 70% ของวัตถุดิบที่ใช้ เนื่องจากเหมืองในจีนผลิตไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบาย ปัญหาจึงอยู่ที่แร่ธาตุหายากจากพม่าส่วนใหญ่ถูกขุดอย่างผิดกฎหมายและผ่านช่องทางที่ไม่โปร่งใส ทำให้บริษัทจีนที่แปรรูปแร่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ชัดเจน ส่งผลต่อความยั่งยืนและความน่าเชื่อถือของตลาด รวมถึงสร้างปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมต่อพม่าอย่างมหาศาล หากเจาะพื้นที่การทำเหมืองในรัฐต่าง ๆ การทำเหมืองในเมียนมามักอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมีผลต่อการส่งออกและการจัดการทรัพยากร ดังนี้: • รัฐคะฉิ่น (Kachin State): แร่หลัก: แร่หายาก (REEs), พลวง, ทองคำ, อิตเทรียม พื้นที่ป่าทางตอนเหนือ อุดมไปด้วยแร่หายาก แต่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมาและกองทัพปลดปล่อยคะฉิ่น (KIA) ส่วนใหญ่ทำลายสิ่งแวดล้อม น้ำกลายเป็นโคลน และสัตว์ป่าลดลง • รัฐฉาน (Shan State): แร่หลัก: ดีบุก, ตะกั่ว, สังกะสี, ทังสเตน,ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ เช่น เหมือง Man Maw การควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้เงินจากเหมือง สนับสนุนกองทัพ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาลเช่นกันและลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย • เขตสะกาย (Sagaing Region): แร่หลัก: ทองแดง, นิกเกิล, ทองคำพื้นที่ที่มีการสู้รบหนักระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลัง PDF • เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region): แร่หลัก: แร่หายาก, พลวง, อิตเทรียม, ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองขนาดเล็กกระจายอยู่ • เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region): แร่หลัก: ดีบุก เป็นเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่ง • รัฐมอญ (Mon State): แร่หลัก: ทองแดง เป็นเหมืองขนาดเล็กถึงปานกลาง • รัฐกะยา (Kayah State): แร่หลัก: ตะกั่ว พื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูง ______________________________ สอบทานต้นทาง-ย้อนกลับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของแร่ธาตุจากเมียนมาไปจีนมีลักษณะดังนี้ เริ่มต้นสำรวจแหล่ง แน่นอนฐานข้อมูลมีอยู่แล้วในมือรัฐบาลทหารพม่า และในกำมือเทคโนโลยีจีน ก่อนจะให้บริษัทเอกชนในแต่ละความถนัดของจีน และของพม่าเอง ขุดและแปรรูปเบื้องต้น เหมืองส่วนใหญ่ในพม่าดำเนินการโดยบริษัทท้องถิ่นหรือบริษัทจีนร่วมทุน การแปรรูปขั้นต้น (เช่น การถลุงแร่ดีบุก) มักทำในเมียนมาก่อนส่งออก ส่วนใหญ่ในพื้นที่ขัดแย้งทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน การขนส่ง เส้นทางหลัก: จากเหมืองในรัฐคะฉิ่นและฉานไปยังชายแดนจีน (มณฑลยูนนาน) ผ่านทางรถไฟหรือถนน เช่น เส้นทางรถไฟเจ้าผิ่ว-มูเซ บางส่วนส่งออกผ่านท่าเรือในเขตตะนาวศรีและย่างกุ้ง การแปรรูปขั้นสูงในจีน ปลายทางคือโรงงานแปรรูปอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง, เจียงซู, และแถบเศรษฐกิจแยงซีเกียง โดยแร่หายากถูกกลั่นเป็นโลหะบริสุทธิ์หรือสารประกอบ เช่น นีโอดิเมียมสำหรับแม่เหล็ก หรืออิตเทรียมสำหรับ LED สายพานอุตสาหกรรมที่ใช้งานแบ่งตามแร่ธาตุอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: แร่หายาก (REEs) และดีบุกใช้ในสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า: แร่หายาก (นีโอดิเมียม, ดิสโพรเซียม) และนิกเกิลใช้ในมอเตอร์และแบตเตอรี่ พลังงานสะอาด: ทังสเตนและพลวงใช้ในกังหันลมและแผงโซลาร์ อุตสาหกรรมทหาร: แร่หายากและพลวงใช้ในขีปนาวุธ, เรดาร์, และเลเซอร์ การก่อสร้างและเครื่องจักร: ทองแดงและสังกะสีใช้ในสายไฟและโครงสร้าง ความท้าทายในระบบ Supply Chain ส่วนใหญ่คือความขัดแย้งในเมียนมาอาจขัดขวางการขนส่ง จากผลประโยชน์มหาศาลเพื่อนำมาเป็นอาวุธและจุนเจือเสบียงในการรบ ขณะที่นานาชาติได้เรียกร้องให้ตรวจสอบแร่จากพื้นที่ขัดแย้ง แต่จีนเป็นประเทศเดียวที่บังคับให้แยกแร่จากเมียนมาและจีน ______________________________ ล่าสุด กองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independent Organization, Kachin Independent Army- KIA) ซึ่งได้เป็นเจ้าของใหม่ของเหมืองแร่หายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน (ราว 160,000 บาท) พื้นที่แหล่งแร่หายากที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเขตปางวาและชิพเว (Pang Wa, Chi Pwi) ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งกลุ่ม KIA เข้ายึดครองในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ได้รับอนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังจีนหลังจากควบคุมพื้นที่มาได้ 6 เดือน สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 KIO/KIA ได้อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่น ๆ ในหนังสืออนุญาตของ KIO ยังไม่ได้รับการเปิดเผย เจ้าหน้าที่ KIA เขตปางวาให้ข้อมูลว่าKIO/KIA และรัฐบาลจีน ยังคงเจรจาเกี่ยวกับการใช้จุดผ่านแดนเดียวในการส่งออกแร่หายาก และจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายน ยังไม่มีการส่งออกอย่างเป็นทางการ KIA สามารถควบคุมจุดผ่านแดนทางการค้าระหว่างจีน-พม่าในรัฐคะฉิ่นทั้งหมด ได้แก่ กานปายตี Kan Pai Ti, ล่วยเจ Loi Je และปางวา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะใช้จุดผ่านแดนใดในการส่งออก หลังจากที่ KIA ควบคุมพื้นที่ปางวาและชิพเว รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด ทำให้บริษัทเหมืองแร่ส่วนใหญ่หยุดดำเนินการ มีเพียงบางบริษัทที่ยังคงขุดแร่ต่อไป เนื่องจากยังมีวัตถุดิบหลงเหลืออยู่ รายงานของ Global Witness ระบุว่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาเริ่มขึ้นในปี 2016 โดยนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งส่งออกแร่ไปยังจีนเป็นหลัก ตามข้อมูลปัจจุบัน พม่าติดอันดับ 3 ของประเทศผู้ผลิตแร่แรร์เอิร์ท และคิดเป็น 50% ของการส่งออกแร่หายากทั่วโลก หลังจากการรัฐประหารของกองทัพพม่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาและชิพเวเพิ่มขึ้น 40% และจำนวนเหมืองแร่เพิ่มขึ้นกว่า 300 แห่ง ในปี 2566 เพียงปีเดียว มีการส่งออกแร่หายากไปยังจีนมากถึง 41,700 ตัน สร้างรายได้ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ______________________________ สรุปขมวดปม การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนช่วยเสริมความมั่นคงของซัพพลายเชนแร่หายากในจีน ลดภาวะขาดแคลนและสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้านความโปร่งใสและความยั่งยืนในตลาดแร่ธาตุของจีน แร่ธาตุหายากจากพม่ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงและพลังงานสะอาด ซึ่งจีนพึ่งพาการนำเข้าแร่จากพม่าเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของแร่หายากที่ใช้ในประเทศ เหมืองแร่หายากเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงแร่ทองคำ และอื่น ๆ ที่ปักหมุดขุดหลุมร่อนตระแกรง ทุกรัฐในเมียนมาก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ป่าเขา แม่น้ำ ลำธาร โดยคนงานบางรายถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างโหดร้าย หญิงคนงานถูกล่วงละเมิดทางเพศ และหลายคนได้รับอันตรายทางสุขภาพอย่างร้ายแรงจากสารเคมีที่ใช้ในเหมือง และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นรวมถึงประเทศไทย และลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน คำถามคือจีนมีส่วนสำคัญในการสร้างมลภาวะในพื้นที่ ควรจะร่วมรับผิดชอบหรือไม่ ไม่ใช่การสูบทรัพยากรในพื้นที่แต่ไม่ได้เหลียวแลผลกระทบที่จะตามมา อันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาใหญ่ให้กับจีนในอนาคต อ้างอิง : https://www.facebook.com/GlobalWitness/ และสำนักข่าวชายขอบ https://shorturl.asia/6GnqX ประชาไท https://prachatai.com/journal/2025/01/111942 ______________________________ 10 อันดับแร่ธาตุที่ส่งออกจากเมียนมาไปจีน (เรียงตามมูลค่าประเมิน) 1. แร่ดีบุก (Tin) o มูลค่า: สูงสุด เนื่องจากเมียนมาเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และจีนนำเข้า 95% ของหัวแร่ดีบุกจากเมียนมาในปี 2563 o การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (บัดกรีแผงวงจร), การผลิตโลหะผสม o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน (Shan State), เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region) 2. แร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) o มูลค่า: สูง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน o การใช้งาน: ผลิตแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets), แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า, อุปกรณ์เลเซอร์, เซมิคอนดักเตอร์ o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น (Kachin State), เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region) 3. ทองแดง (Copper) o มูลค่า: สูง เนื่องจากราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งสูงหลังรัฐประหาร o การใช้งาน: สายไฟ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย (Sagaing Region), รัฐมอญ (Mon State) 4. ตะกั่ว (Lead) o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ใช้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ o การใช้งาน: แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด, อุตสาหกรรมยานยนต์ o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐกะยา (Kayah State) 5. สังกะสี (Zinc) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมเคลือบโลหะ o การใช้งาน: การชุบกัลวาไนซ์, โลหะผสม o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, เขตย่างกุ้ง (Yangon Region) 6. นิกเกิล (Nickel) o มูลค่า: ปานกลาง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ o การใช้งาน: แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน, สแตนเลส o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย, รัฐฉาน 7. พลวง (Antimony) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมทหารและพลังงาน o การใช้งาน: สารหน่วงไฟ, โลหะผสม, อุปกรณ์ทหาร o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์ 8. ทังสเตน (Tungsten) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความแข็งสูง o การใช้งาน: โลหะผสม, เครื่องมือตัด, อุปกรณ์ทหาร o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐคะฉิ่น 9. ทองคำ (Gold) o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก o การใช้งาน: อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับ o พื้นที่เหมือง: เขตมัณฑะเลย์, รัฐคะฉิ่น, เขตสะกาย 10. อิตเทรียม (Yttrium) o มูลค่า: ต่ำถึงปานกลาง แต่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเฉพาะ o การใช้งาน: สารเรืองแสงใน LED, อุปกรณ์ MRI, เซรามิก o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์ หมายเหตุ: มูลค่าที่ระบุเป็นการประเมินจากความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานและปริมาณการส่งออก เนื่องจากไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่นอนหลังรัฐประหาร ______________________________
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 0 รีวิว
  • Blood Gold เจาะขุมทรัพย์ใต้ภิภพเมียนมาร์ความมั่งคั่งที่มืดมนอนธการ
    .
    ใต้ภิภพเมียนมาร์ นับเป็นรัฐที่มีทรัพยากรมูลค่าสูงฝังอยู่มหาศาล ที่สามารถแปลงเป็นสินทรัพย์ในการพัฒนาประเทศได้อันดับต้น ๆ ของอาเซียน
    ทว่า รัฐสภาพแห่งนี้เหมือนถูกครอบงำ และตกอยู่ภายใต้ความลำบาก ความขัดแย้งไม่ลงรอย ในประวัติศาสตร์การเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศโดยตรง
    รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) “ยักษ์หลับแห่งเมียนมา” ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตื่นขึ้น 28 มีนาคม 2568 ที่ ขนาด 8.2 แมกนิจูด ได้ส่งพลังพาดผ่านเมืองหลวงสำคัญของพม่า ตั้งแต่มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ย่างกุ้ง ดูเหมือนว่าเมืองแห่งอารยธรรมและศูนย์กลางอำนาจ ตั้งอยู่บนหลังมังกรที่หลับ ขยับทีก็ทำให้เมืองศูนย์กลางสำคัญได้ได้ผลกระทบสูงการฟื้นตัวครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนสถานการณ์เริ่มต้นใหม่หลายรอบ หมุนวน
    โครงสร้างทางธรณีวิทยาของเมียนมาร์ค่อนข้างซับซ้อน ภูมิสัณฐานและธรณีโครงสร้างได้เป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือพื้นที่ราบสูงตะวันออก (Sino Burman Ranges) พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง (Inner Burman Tertiary Zone) ดินแดนเทือกเขาตะวันตก (Indo Burman Ranges) และ ที่ราบฝั่งยะไข่ - คะฉิ่น Rakhine (Arakan) Coastal Plain
    ชั้นหินที่มีอายุอ่อนที่สุดจะอยู่ใน พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง ไล่ถัดไปทางด้านตะวันตกของประเทศ จะเป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงที่ราบแถบยะไข่ ด้านตะวันออกของประเทศ ส่วนของ Sino Burman เป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ที่สุด มีรอยเลื่อนรัฐฉาน แนวรอยต่อเชื่อมรอยเลื่อนสะกาย
    อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในเมียนมาร์ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหลังรัฐประหารปี 2021 ซึ่งมีการขยายตัวของการทำเหมืองแร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเติบโตนี้มาพร้อมกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อน มีมูลค่าสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023
    นับว่าแร่หายากกลุ่มหนัก heavy rare earth elements: HREE คิดเป็นสัดส่วนหลักของมูลค่าการส่งออกของเมียนมาร์ โดยส่วนใหญ่ส่งไปจีนเพื่อผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับรถไฟฟ้าและกังหันลมการส่งออก อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2021 จาก 19,500 ตัน เป็น 41,700 ตัน
    แน่นอนแร่หายากกลุ่ม China Rare Earths Group (REGCC) เป็นผู้ลงทุนหลัก ควบคุมทั้งเทคโนโลยี การประมวลผล และห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้การดูแลพื้นที่ของกองทัพเมียนมาร์ (SAC) และมิลิเชียพันธมิตรควบคุมพื้นที่พิเศษ Kachin 1 และกองกำลัง Kachin Independence Army (KIA) ควบคุมพื้นที่ Momauk และแนวชายแดน
    แร่หายากเป็นแหล่งเงินสำคัญสำหรับทั้งรัฐบาลทหารและกลุ่มกบฎ แต่ 70% ของประชากรในพื้นที่ยังพึ่งพาการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ค่าแรงงานในเหมืองสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (สูงกว่าเฉลี่ยประเทศ 2 เท่า) แต่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ โรคปอด ปัญหาหายใจลำบาก โรคผิวหนัง และไตวายจากสารเคมี เช่น แอมโมเนียมซัลเฟตและออกซาลิกแอซิด
    ไม่รวมถึงมลพิษน้ำ 96% ของครัวเรือนในเขต Chipwi ไม่มีน้ำดื่มสะอาดเนื่องจากสารเคมีปนเปื้อน ดวงตาสวรรค์ได้ส่องพื้นที่การขยายตัวของเหมืองกว่า 40% ใน Kachin Special Region 1 และ Momauk ระหว่างปี 2021-2023 ที่สลายระบบนิเวศในพื้นที่ยากจะทวงคืนสภาพเดิมกลับมาในอนาคต
    อีกแร่ธาตุหนึ่งคือเหล็กที่เมียนมาร์ เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ที่แหล่ง Pong Pet ซึ่งอยู่ห่างจาก Taunggyi ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ปรากฏเป็นแหล่งเฮมาไทต์ (Hematite) และยังพบแหล่งแร่เหล็ก 393 แหล่ง ปริมาณสารองทรัพยากรแร่ประมาณ 495 ล้านตัน และพบแหล่งแร่เหล็กที่มีศักยภาพ 14 แหล่ง ในรัฐ Kachin, Mandalay, Bago, Tanintharyi และรัฐShan ได้แก่ แหล่งแร่เหล็กสำคัญพบที่รัฐ Tanintharyi บริเวณตอนเหนือของรัฐ Shan
    โดยในรัฐคะฉิ่น คือศูนย์รวมแร่ธาตุความมั่งคั่งสมบูรณ์อุตสาหกรรมเหมืองแร่ นอกจากหยกแล้วยังมีแหล่งแร่เหล็กในรัฐ Kachin มีปริมาณสารองประมาณ 223 ล้านตันที่ 50.56%Fe องค์ประกอบหลักของแร่ คือ Goethite/Limonite 75%, Hematite 15% และ Magnetite 2%
    แน่นอนเมียนมาร์เป็นผู้ผลิตหยกรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในประเทศเดียวที่ผลิตหยกเจไดต์คุณภาพสูง อุตสาหกรรมหยกมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของประเทศ โดยเมืองผะกัน (Hpakan) เป็นที่ตั้งของเหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองที่มีข่าวของเหมืองถล่ม ดินโคลนโถมทับหมู่บ้านถี่มากและต้นปี 2568 ก็ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่ซ้ำซาก สูญเสียชีวิตของผู้คนไปอย่างมาก
    Global Witness ประเมินไว้ว่ารายได้จากหยกได้เข้าพกเข้าห่อของผู้นำของเมียนมาไปแล้วราว 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา
    หากประมวลประเทศที่มีบริษัทลงทุนในเหมืองแร่ในภาพรวมในเมียนมาร์ ได้แก่
    1.) จีน: เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เมียนมาร์ โดยเฉพาะในเหมืองทองแดง (เช่น โครงการ Letpadaung, S&K, Tagaung Taung) และแร่หายาก มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น China Nonferrous Metal Mining (CNMC), Wanbao Mining Co., Ltd. รวมถึงนักลงทุนรายย่อยจากมณฑลยูนนานและเสฉวน
    2.) ไทย: มีบริษัท Myanmar-Pongpipat Co., Ltd. ร่วมลงทุนในเหมืองดีบุกและโลหะอื่น
    3.) เวียดนาม: บริษัท Simco Songda มีการลงทุนในเหมืองแร่ร่วมกับเมียนมาร์
    4.) ออสเตรเลีย: บริษัท PanAust ได้รับอนุญาตให้ศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่เหมือง Wuntho
    5.) ญี่ปุ่น: มีบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งยื่นขออนุญาตลงทุนในเหมืองแร่เมียนมาร์
    6.) สิงคโปร์: แม้จะเน้นลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน แต่ก็มีการลงทุนในเหมืองแร่บางส่วน
    7.) มาเลเซีย, เกาหลีใต้, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร: มีการลงทุนในเมียนมาร์ในหลายภาคส่วน รวมถึงเหมืองแร่ในบางโครงการ
    ในส่วนแร่ทองคำ Blood Gold บริบทไม่แตกต่างจากพื้นที่คะฉิ่น แต่รายงานจาก EarthRights International (2567) ระบุว่าในรัฐกะฉิ่นมีการขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีจุดขุดนับร้อยแห่ง ส่วนใหญ่เป็นการขุดขนาดเล็กและใช้เครื่องจักรหนัก
    ผู้สัมปทาน ก่อนการรัฐประหาร (2564): เหมืองทองคำขนาดใหญ่บางแห่ง เช่น ในเขตเบ็งเมาก์ (Bemauk), กานิ (Kani), และเคาก์ปาดอง (Kyaukpadaung) ดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างกองทัพเมียนมาร์และบริษัทต่างชาติ เช่น บริษัทจากจีนและไทย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเฉพาะเจาะจงในปัจจุบันหายาก
    พื้นที่การขุดทองคำในรัฐกะฉิ่นส่วนใหญ่ควบคุมโดย Kachin Independence Army (KIA) และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเก็บค่าธรรมเนียมจากบริษัทหรือนักขุดท้องถิ่น บริษัทจีน มีรายงานว่าได้รับสัมปทานในพื้นที่ เช่น บริเวณแม่น้ำโขงและแม่น้ำกก โดยได้รับการอนุมัติจาก United Wa State Army (UWSA) บริษัทท้องถิ่นและกองทัพเมียนมาร์: Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) ยังคงมีส่วนในเหมืองบางแห่ง
    ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ไม่มีการออกใบอนุญาตขุดอย่างเป็นทางการในหลายพื้นที่ เช่น Hpakant แต่การขุดยังดำเนินต่อไปโดยผิดกฎหมาย
    ปัจจุบันหลังจาก การรัฐประหารในปี 2564 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและกฎหมาย ส่งผลให้การขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีการควบคุม โดยเฉพาะในรัฐกะฉิ่นและสะกาย เพิ่มขึ้น 10 เท่าหลังการรัฐประหาร ซึ่งเป็นแหล่งทองคำสำคัญ เรียกว่าเกิดการขุดแบบทำลายล้าง ใช้เครื่องจักรกลหนักและการขุดในแม่น้ำในพื้นที่ และลุกลามขยายยังพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกก และแม่น้ำสายใกล้ชายแดนไทย
    แน่นอนความระส่ำระสายในพื้นที่คือการกอบโกยความมั่งคั่งในพื้นที่ที่ไม่ได้มองไกลถึงอนาคตว่าผลกระทบของผู้คน ประชาชนจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาการฟื้นตัวความอ่อนเปียกของรัฐชาติที่ถูกสูบทรัพยากรที่มีความมั่งคั่งออกไปอย่างไร้ข้อจำกัด โดยมีอำนาจภายในควบคุม กองทัพเมียนมาร์ ควบคุมเหมืองขนาดใหญ่บางแห่งเพื่อหารายได้ กลุ่มชาติพันธุ์ เช่น KIA เก็บส่วนแบ่งจากเหมืองในพื้นที่ของตน บริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน มีบทบาทในพื้นที่รัฐที่อุดมด้วยแร่ธาตุโดยเฉพาะฉาน และพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงที่สัญญาณได้ส่งผลแล้วกรณีที่แม่สาย ลุ่มแม่น้ำกก เชียงราย ที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด


    อ้างอิง :
    • โครงการ การส่งเสริมการจัดหาวัตถุดิบและการลงทุนด้านเหมืองแร่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
    https://www.bbc.com/thai/international-53264790
    • EarthRights International, Global Witness
    Blood Gold เจาะขุมทรัพย์ใต้ภิภพเมียนมาร์ความมั่งคั่งที่มืดมนอนธการ . ใต้ภิภพเมียนมาร์ นับเป็นรัฐที่มีทรัพยากรมูลค่าสูงฝังอยู่มหาศาล ที่สามารถแปลงเป็นสินทรัพย์ในการพัฒนาประเทศได้อันดับต้น ๆ ของอาเซียน ทว่า รัฐสภาพแห่งนี้เหมือนถูกครอบงำ และตกอยู่ภายใต้ความลำบาก ความขัดแย้งไม่ลงรอย ในประวัติศาสตร์การเมืองที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและการพัฒนาประเทศโดยตรง รอยเลื่อนสะกาย (Sagaing Fault) “ยักษ์หลับแห่งเมียนมา” ที่ใหญ่และสำคัญที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ตื่นขึ้น 28 มีนาคม 2568 ที่ ขนาด 8.2 แมกนิจูด ได้ส่งพลังพาดผ่านเมืองหลวงสำคัญของพม่า ตั้งแต่มัณฑะเลย์ เนปิดอว์ ย่างกุ้ง ดูเหมือนว่าเมืองแห่งอารยธรรมและศูนย์กลางอำนาจ ตั้งอยู่บนหลังมังกรที่หลับ ขยับทีก็ทำให้เมืองศูนย์กลางสำคัญได้ได้ผลกระทบสูงการฟื้นตัวครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนสถานการณ์เริ่มต้นใหม่หลายรอบ หมุนวน โครงสร้างทางธรณีวิทยาของเมียนมาร์ค่อนข้างซับซ้อน ภูมิสัณฐานและธรณีโครงสร้างได้เป็น 4 ส่วนใหญ่ๆ คือพื้นที่ราบสูงตะวันออก (Sino Burman Ranges) พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง (Inner Burman Tertiary Zone) ดินแดนเทือกเขาตะวันตก (Indo Burman Ranges) และ ที่ราบฝั่งยะไข่ - คะฉิ่น Rakhine (Arakan) Coastal Plain ชั้นหินที่มีอายุอ่อนที่สุดจะอยู่ใน พื้นที่ลุ่มต่ำตอนกลาง ไล่ถัดไปทางด้านตะวันตกของประเทศ จะเป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ขึ้นเรื่อยๆ ไปจนถึงที่ราบแถบยะไข่ ด้านตะวันออกของประเทศ ส่วนของ Sino Burman เป็นชั้นหินที่มีอายุแก่ที่สุด มีรอยเลื่อนรัฐฉาน แนวรอยต่อเชื่อมรอยเลื่อนสะกาย อุตสาหกรรมเหมืองแร่ในเมียนมาร์ มีบทบาทสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะในช่วงหลังรัฐประหารปี 2021 ซึ่งมีการขยายตัวของการทำเหมืองแร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การเติบโตนี้มาพร้อมกับผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมที่ซับซ้อน มีมูลค่าสูงถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2023 นับว่าแร่หายากกลุ่มหนัก heavy rare earth elements: HREE คิดเป็นสัดส่วนหลักของมูลค่าการส่งออกของเมียนมาร์ โดยส่วนใหญ่ส่งไปจีนเพื่อผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับรถไฟฟ้าและกังหันลมการส่งออก อัตราเติบโตเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในปี 2023 เมื่อเทียบกับปี 2021 จาก 19,500 ตัน เป็น 41,700 ตัน แน่นอนแร่หายากกลุ่ม China Rare Earths Group (REGCC) เป็นผู้ลงทุนหลัก ควบคุมทั้งเทคโนโลยี การประมวลผล และห่วงโซ่อุปทาน ภายใต้การดูแลพื้นที่ของกองทัพเมียนมาร์ (SAC) และมิลิเชียพันธมิตรควบคุมพื้นที่พิเศษ Kachin 1 และกองกำลัง Kachin Independence Army (KIA) ควบคุมพื้นที่ Momauk และแนวชายแดน แร่หายากเป็นแหล่งเงินสำคัญสำหรับทั้งรัฐบาลทหารและกลุ่มกบฎ แต่ 70% ของประชากรในพื้นที่ยังพึ่งพาการเกษตรที่ได้รับความเสียหาย ขณะที่ค่าแรงงานในเหมืองสูงถึง 600 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน (สูงกว่าเฉลี่ยประเทศ 2 เท่า) แต่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพ โรคปอด ปัญหาหายใจลำบาก โรคผิวหนัง และไตวายจากสารเคมี เช่น แอมโมเนียมซัลเฟตและออกซาลิกแอซิด ไม่รวมถึงมลพิษน้ำ 96% ของครัวเรือนในเขต Chipwi ไม่มีน้ำดื่มสะอาดเนื่องจากสารเคมีปนเปื้อน ดวงตาสวรรค์ได้ส่องพื้นที่การขยายตัวของเหมืองกว่า 40% ใน Kachin Special Region 1 และ Momauk ระหว่างปี 2021-2023 ที่สลายระบบนิเวศในพื้นที่ยากจะทวงคืนสภาพเดิมกลับมาในอนาคต อีกแร่ธาตุหนึ่งคือเหล็กที่เมียนมาร์ เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ที่แหล่ง Pong Pet ซึ่งอยู่ห่างจาก Taunggyi ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เป็นระยะทาง 10 กิโลเมตร ปรากฏเป็นแหล่งเฮมาไทต์ (Hematite) และยังพบแหล่งแร่เหล็ก 393 แหล่ง ปริมาณสารองทรัพยากรแร่ประมาณ 495 ล้านตัน และพบแหล่งแร่เหล็กที่มีศักยภาพ 14 แหล่ง ในรัฐ Kachin, Mandalay, Bago, Tanintharyi และรัฐShan ได้แก่ แหล่งแร่เหล็กสำคัญพบที่รัฐ Tanintharyi บริเวณตอนเหนือของรัฐ Shan โดยในรัฐคะฉิ่น คือศูนย์รวมแร่ธาตุความมั่งคั่งสมบูรณ์อุตสาหกรรมเหมืองแร่ นอกจากหยกแล้วยังมีแหล่งแร่เหล็กในรัฐ Kachin มีปริมาณสารองประมาณ 223 ล้านตันที่ 50.56%Fe องค์ประกอบหลักของแร่ คือ Goethite/Limonite 75%, Hematite 15% และ Magnetite 2% แน่นอนเมียนมาร์เป็นผู้ผลิตหยกรายใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในประเทศเดียวที่ผลิตหยกเจไดต์คุณภาพสูง อุตสาหกรรมหยกมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งของ GDP ของประเทศ โดยเมืองผะกัน (Hpakan) เป็นที่ตั้งของเหมืองหยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เมืองที่มีข่าวของเหมืองถล่ม ดินโคลนโถมทับหมู่บ้านถี่มากและต้นปี 2568 ก็ได้เกิดเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่ซ้ำซาก สูญเสียชีวิตของผู้คนไปอย่างมาก Global Witness ประเมินไว้ว่ารายได้จากหยกได้เข้าพกเข้าห่อของผู้นำของเมียนมาไปแล้วราว 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาสิบปีที่ผ่านมา หากประมวลประเทศที่มีบริษัทลงทุนในเหมืองแร่ในภาพรวมในเมียนมาร์ ได้แก่ 1.) จีน: เป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเหมืองแร่เมียนมาร์ โดยเฉพาะในเหมืองทองแดง (เช่น โครงการ Letpadaung, S&K, Tagaung Taung) และแร่หายาก มีทั้งบริษัทขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น China Nonferrous Metal Mining (CNMC), Wanbao Mining Co., Ltd. รวมถึงนักลงทุนรายย่อยจากมณฑลยูนนานและเสฉวน 2.) ไทย: มีบริษัท Myanmar-Pongpipat Co., Ltd. ร่วมลงทุนในเหมืองดีบุกและโลหะอื่น 3.) เวียดนาม: บริษัท Simco Songda มีการลงทุนในเหมืองแร่ร่วมกับเมียนมาร์ 4.) ออสเตรเลีย: บริษัท PanAust ได้รับอนุญาตให้ศึกษาความเป็นไปได้ในพื้นที่เหมือง Wuntho 5.) ญี่ปุ่น: มีบริษัทญี่ปุ่นบางแห่งยื่นขออนุญาตลงทุนในเหมืองแร่เมียนมาร์ 6.) สิงคโปร์: แม้จะเน้นลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์และพลังงาน แต่ก็มีการลงทุนในเหมืองแร่บางส่วน 7.) มาเลเซีย, เกาหลีใต้, เนเธอร์แลนด์, สหราชอาณาจักร: มีการลงทุนในเมียนมาร์ในหลายภาคส่วน รวมถึงเหมืองแร่ในบางโครงการ ในส่วนแร่ทองคำ Blood Gold บริบทไม่แตกต่างจากพื้นที่คะฉิ่น แต่รายงานจาก EarthRights International (2567) ระบุว่าในรัฐกะฉิ่นมีการขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีจุดขุดนับร้อยแห่ง ส่วนใหญ่เป็นการขุดขนาดเล็กและใช้เครื่องจักรหนัก ผู้สัมปทาน ก่อนการรัฐประหาร (2564): เหมืองทองคำขนาดใหญ่บางแห่ง เช่น ในเขตเบ็งเมาก์ (Bemauk), กานิ (Kani), และเคาก์ปาดอง (Kyaukpadaung) ดำเนินการโดยบริษัทร่วมทุนระหว่างกองทัพเมียนมาร์และบริษัทต่างชาติ เช่น บริษัทจากจีนและไทย อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทเฉพาะเจาะจงในปัจจุบันหายาก พื้นที่การขุดทองคำในรัฐกะฉิ่นส่วนใหญ่ควบคุมโดย Kachin Independence Army (KIA) และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งเก็บค่าธรรมเนียมจากบริษัทหรือนักขุดท้องถิ่น บริษัทจีน มีรายงานว่าได้รับสัมปทานในพื้นที่ เช่น บริเวณแม่น้ำโขงและแม่น้ำกก โดยได้รับการอนุมัติจาก United Wa State Army (UWSA) บริษัทท้องถิ่นและกองทัพเมียนมาร์: Myanmar Economic Holdings Limited (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation (MEC) ยังคงมีส่วนในเหมืองบางแห่ง ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ไม่มีการออกใบอนุญาตขุดอย่างเป็นทางการในหลายพื้นที่ เช่น Hpakant แต่การขุดยังดำเนินต่อไปโดยผิดกฎหมาย ปัจจุบันหลังจาก การรัฐประหารในปี 2564 ทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจและกฎหมาย ส่งผลให้การขุดทองคำเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีการควบคุม โดยเฉพาะในรัฐกะฉิ่นและสะกาย เพิ่มขึ้น 10 เท่าหลังการรัฐประหาร ซึ่งเป็นแหล่งทองคำสำคัญ เรียกว่าเกิดการขุดแบบทำลายล้าง ใช้เครื่องจักรกลหนักและการขุดในแม่น้ำในพื้นที่ และลุกลามขยายยังพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขง แม่น้ำกก และแม่น้ำสายใกล้ชายแดนไทย แน่นอนความระส่ำระสายในพื้นที่คือการกอบโกยความมั่งคั่งในพื้นที่ที่ไม่ได้มองไกลถึงอนาคตว่าผลกระทบของผู้คน ประชาชนจะเป็นอย่างไร ระยะเวลาการฟื้นตัวความอ่อนเปียกของรัฐชาติที่ถูกสูบทรัพยากรที่มีความมั่งคั่งออกไปอย่างไร้ข้อจำกัด โดยมีอำนาจภายในควบคุม กองทัพเมียนมาร์ ควบคุมเหมืองขนาดใหญ่บางแห่งเพื่อหารายได้ กลุ่มชาติพันธุ์ เช่น KIA เก็บส่วนแบ่งจากเหมืองในพื้นที่ของตน บริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะจากจีน มีบทบาทในพื้นที่รัฐที่อุดมด้วยแร่ธาตุโดยเฉพาะฉาน และพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงที่สัญญาณได้ส่งผลแล้วกรณีที่แม่สาย ลุ่มแม่น้ำกก เชียงราย ที่ต้องเกาะติดอย่างใกล้ชิด อ้างอิง : • โครงการ การส่งเสริมการจัดหาวัตถุดิบและการลงทุนด้านเหมืองแร่ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ • https://www.bbc.com/thai/international-53264790 • EarthRights International, Global Witness
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 476 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft ได้ลงนามในข้อตกลง การกำจัดคาร์บอน ครั้งใหญ่ โดยจะซื้อ เครดิตการกำจัดคาร์บอน 3.685 ล้านตัน จากบริษัท CO280 ภายในระยะเวลา 12 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการทำให้บริษัทมี คาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030

    ✅ Microsoft ลงนามข้อตกลงกำจัดคาร์บอน 3.685 ล้านตัน
    - โครงการจะเริ่มต้นในปี 2028 และดำเนินการเป็นเวลา 12 ปี
    - คาร์บอนจะถูกดักจับจาก โรงงานผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษ บริเวณ Gulf Coast
    - คาร์บอนที่ถูกดักจับจะถูก เก็บรักษาอย่างถาวรในชั้นหินเกลือใต้ดิน

    ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ในการกำจัดคาร์บอน
    - ใช้ เทคโนโลยีดักจับคาร์บอนแบบอะมีน (Amine-based capture technology)
    - ระบบนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมกระดาษ

    ✅ เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของ Microsoft
    - Microsoft ตั้งเป้าหมายเป็น คาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030
    - บริษัทต้องการกำจัด การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1975

    ✅ โครงการกำจัดคาร์บอนอื่นๆ ของ Microsoft
    - ซื้อเครดิต 1.5 ล้านตัน ผ่านโครงการปลูกป่าในอินเดีย
    - ซื้อเครดิต 1.6 ล้านตัน ในปานามาภายใน 30 ปี
    - ลงทุนในโครงการ Chestnut Carbon ที่นิวยอร์กเพื่อกำจัดคาร์บอน 7 ล้านตัน ภายใน 25 ปี

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    - ความต้องการพลังงานของ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ Microsoft เพิ่มขึ้น
    - ในปี 2023 Microsoft ปล่อยก๊าซเรือนกระจก 17.2 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า

    ℹ️ ความท้าทายในการกำจัดคาร์บอน
    - แม้จะมีโครงการกำจัดคาร์บอน แต่ยังไม่แน่ชัดว่า Microsoft จะสามารถบรรลุเป้าหมาย คาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030 ได้หรือไม่
    - เทคโนโลยีดักจับคาร์บอนยังต้องการการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

    ℹ️ แนวโน้มของอุตสาหกรรมกำจัดคาร์บอน
    - บริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Amazon และ Google กำลังลงทุนในโครงการกำจัดคาร์บอนเช่นกัน
    - อาจมีการพัฒนา เทคโนโลยีใหม่ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากศูนย์ข้อมูล

    https://www.techradar.com/pro/microsoft-signs-a-major-new-carbon-removal-deal-that-might-be-powered-by-paper
    Microsoft ได้ลงนามในข้อตกลง การกำจัดคาร์บอน ครั้งใหญ่ โดยจะซื้อ เครดิตการกำจัดคาร์บอน 3.685 ล้านตัน จากบริษัท CO280 ภายในระยะเวลา 12 ปี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายในการทำให้บริษัทมี คาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030 ✅ Microsoft ลงนามข้อตกลงกำจัดคาร์บอน 3.685 ล้านตัน - โครงการจะเริ่มต้นในปี 2028 และดำเนินการเป็นเวลา 12 ปี - คาร์บอนจะถูกดักจับจาก โรงงานผลิตเยื่อกระดาษและกระดาษ บริเวณ Gulf Coast - คาร์บอนที่ถูกดักจับจะถูก เก็บรักษาอย่างถาวรในชั้นหินเกลือใต้ดิน ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ในการกำจัดคาร์บอน - ใช้ เทคโนโลยีดักจับคาร์บอนแบบอะมีน (Amine-based capture technology) - ระบบนี้ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอุตสาหกรรมกระดาษ ✅ เป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของ Microsoft - Microsoft ตั้งเป้าหมายเป็น คาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030 - บริษัทต้องการกำจัด การปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดตั้งแต่ก่อตั้งในปี 1975 ✅ โครงการกำจัดคาร์บอนอื่นๆ ของ Microsoft - ซื้อเครดิต 1.5 ล้านตัน ผ่านโครงการปลูกป่าในอินเดีย - ซื้อเครดิต 1.6 ล้านตัน ในปานามาภายใน 30 ปี - ลงทุนในโครงการ Chestnut Carbon ที่นิวยอร์กเพื่อกำจัดคาร์บอน 7 ล้านตัน ภายใน 25 ปี ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี - ความต้องการพลังงานของ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของ Microsoft เพิ่มขึ้น - ในปี 2023 Microsoft ปล่อยก๊าซเรือนกระจก 17.2 ล้านตัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า ℹ️ ความท้าทายในการกำจัดคาร์บอน - แม้จะมีโครงการกำจัดคาร์บอน แต่ยังไม่แน่ชัดว่า Microsoft จะสามารถบรรลุเป้าหมาย คาร์บอนเป็นลบภายในปี 2030 ได้หรือไม่ - เทคโนโลยีดักจับคาร์บอนยังต้องการการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ℹ️ แนวโน้มของอุตสาหกรรมกำจัดคาร์บอน - บริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Amazon และ Google กำลังลงทุนในโครงการกำจัดคาร์บอนเช่นกัน - อาจมีการพัฒนา เทคโนโลยีใหม่ เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากศูนย์ข้อมูล https://www.techradar.com/pro/microsoft-signs-a-major-new-carbon-removal-deal-that-might-be-powered-by-paper
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
  • วัฏจักรกรรมแห่งสังสารวัฏ – ขาขึ้นและขาลง
    ---

    1. สังสารวัฏมีรอบขึ้นและรอบลง

    ไม่มีใครขึ้นสวรรค์ตลอดกาล

    ไม่มีใครตกนรกชั่วนิรันดร์

    ทุกชีวิตเวียนว่ายด้วยบุญและบาป

    ---

    2. เครื่องหมายของ ‘รอบขาขึ้น’

    ความกตัญญูรู้คุณ คือ “ภูมิสัตบุรุษ”

    รู้คุณพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ

    แม้เกิดมาต่ำต้อย แต่ใจสูง → สร้างกุศลได้ไม่จำกัด

    บาปเก่ากลายเป็นแรงส่งให้ทำดี → ชีวิตเชิดหัวขึ้น

    ---

    3. เครื่องหมายของ ‘รอบขาลง’

    ความหลอกลวง (มุสาวาท) คือ “ต้นทางแห่งบาปใหญ่”

    แม้เกิดมาพร้อมพรั่ง แต่หากโกหกโดยไม่ละอาย

    จะสามารถทำบาปอื่นๆ ได้ทั้งหมดโดยไม่มีขอบเขต

    บุญเก่าถูกใช้ไปกับความฉลาดแบบเจ้าเล่ห์

    ผลคือ → ชีวิตถูกบิดเบือน, ถูกหลอกซ้ำ, ตกต่ำ

    ---

    4. วิบากกรรมของคนหลอกลวง

    กรรมหนัก: ไปอบายภูมิ

    กรรมเบา: กลับมาเกิดแต่ถูกใส่ร้าย, หูเบา, หลงเชื่อง่าย

    ใช้กรรมเก่าที่ดี “มาสร้างบาปใหม่” สร้างอนาคตที่แย่ลง
    ---

    5. สาระสำคัญ
    กรรมดีในอดีตไม่ใช่เครื่องคุ้มกันถาวร
    ถ้าใช้กรรมเก่าอย่างผิดทาง
    ก็กลายเป็นปุ๋ยเร่งบาปให้สุกเร็วกว่าเดิม

    ---

    บทสรุป:
    วัฏจักรแห่งกรรมมีจริง
    ขาขึ้นเริ่มที่ “กตัญญู”
    ขาลงเริ่มที่ “หลอกลวง”
    เลือกฝึกใจให้เป็นทางบุญหรือทางบาปในวันนี้
    เพื่อชี้ทางพรุ่งนี้ว่าจะ "เชิดหน้า" หรือ "ก้มหน้า"
    วัฏจักรกรรมแห่งสังสารวัฏ – ขาขึ้นและขาลง --- 1. สังสารวัฏมีรอบขึ้นและรอบลง ไม่มีใครขึ้นสวรรค์ตลอดกาล ไม่มีใครตกนรกชั่วนิรันดร์ ทุกชีวิตเวียนว่ายด้วยบุญและบาป --- 2. เครื่องหมายของ ‘รอบขาขึ้น’ ความกตัญญูรู้คุณ คือ “ภูมิสัตบุรุษ” รู้คุณพ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ผู้มีพระคุณ แม้เกิดมาต่ำต้อย แต่ใจสูง → สร้างกุศลได้ไม่จำกัด บาปเก่ากลายเป็นแรงส่งให้ทำดี → ชีวิตเชิดหัวขึ้น --- 3. เครื่องหมายของ ‘รอบขาลง’ ความหลอกลวง (มุสาวาท) คือ “ต้นทางแห่งบาปใหญ่” แม้เกิดมาพร้อมพรั่ง แต่หากโกหกโดยไม่ละอาย จะสามารถทำบาปอื่นๆ ได้ทั้งหมดโดยไม่มีขอบเขต บุญเก่าถูกใช้ไปกับความฉลาดแบบเจ้าเล่ห์ ผลคือ → ชีวิตถูกบิดเบือน, ถูกหลอกซ้ำ, ตกต่ำ --- 4. วิบากกรรมของคนหลอกลวง กรรมหนัก: ไปอบายภูมิ กรรมเบา: กลับมาเกิดแต่ถูกใส่ร้าย, หูเบา, หลงเชื่อง่าย ใช้กรรมเก่าที่ดี “มาสร้างบาปใหม่” สร้างอนาคตที่แย่ลง --- 5. สาระสำคัญ กรรมดีในอดีตไม่ใช่เครื่องคุ้มกันถาวร ถ้าใช้กรรมเก่าอย่างผิดทาง ก็กลายเป็นปุ๋ยเร่งบาปให้สุกเร็วกว่าเดิม --- บทสรุป: วัฏจักรแห่งกรรมมีจริง ขาขึ้นเริ่มที่ “กตัญญู” ขาลงเริ่มที่ “หลอกลวง” เลือกฝึกใจให้เป็นทางบุญหรือทางบาปในวันนี้ เพื่อชี้ทางพรุ่งนี้ว่าจะ "เชิดหน้า" หรือ "ก้มหน้า"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ค่าจัดหนวด สำหรับคนที่ไม่ได้อยากไว้หนวด ผมแนะนำให้ไปกำจัดหนวดแบบถาวรครับ เพราะแค่ไม่มีหนวดภาพลักษณ์ของคุณก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง อีกทั้งการโกนหนวดทำร้ายผิวหน้าอย่างมาก เมื่อไม่ต้องโกนหนวดแล้วผิวหน้าจึงดีขึ้นด้วย ค่ากำจัดหนวดแบบถาวรอยู่ที่ประมาณ 50,000-100,000 เยน แม้ราคาจะไม่ถือว่าถูกแต่สำหรับคนทำงานที่ต้องอาศัย ภาพลักษณ์ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนนะครับ

    จากหนังสือ #จิตวิทยาสายดาร์ก
    ค่าจัดหนวด สำหรับคนที่ไม่ได้อยากไว้หนวด ผมแนะนำให้ไปกำจัดหนวดแบบถาวรครับ เพราะแค่ไม่มีหนวดภาพลักษณ์ของคุณก็จะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง อีกทั้งการโกนหนวดทำร้ายผิวหน้าอย่างมาก เมื่อไม่ต้องโกนหนวดแล้วผิวหน้าจึงดีขึ้นด้วย ค่ากำจัดหนวดแบบถาวรอยู่ที่ประมาณ 50,000-100,000 เยน แม้ราคาจะไม่ถือว่าถูกแต่สำหรับคนทำงานที่ต้องอาศัย ภาพลักษณ์ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุนนะครับ จากหนังสือ #จิตวิทยาสายดาร์ก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ส่งตัวแทน ยื่นอุทธรณ์โทษไล่ออกต่อ ก.พ.ค.ตร. ขอความเป็นธรรม คดีพัวพันเว็บพนัน หลังครบเดดไลน์วันนี้ ขณะที่ 4 ลูกน้องชิงยื่นอุทธรณ์ไปแล้วก่อนหน้า

    วันนี้ (11 เม.ย.) มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตัวแทนเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เพื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกคณะกรรมการกลั่นกรองโทษพิจารณาว่ามีความผิดวินัยร้ายแรงจากกรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยคณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ

    ต่อมา วันที่ 11มี.ค.68 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 โดยเจ้าตัวในฐานะผู้ถูกลงโทษ มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.ตร. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง ซึ่งครบกำหนดในวันนี้ (11 เม.ย.)

    ส่วนลูกน้องคนสนิท 4 นาย มีรายงานว่าได้ยื่นอุทรณ์คำร้อง ต่อ ก.พ.ค.ตร.ไปก่อนหน้านี้แล้ว ประกอบด้วย พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รองผบก.ภ.จว.สงขลา ,พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผกก.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ,ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่ (ทำหน้าที่จราจร) งานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ 1 กก.6 บก.จร. และ ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034843

    #MGROnline #คดีพัวพันเว็บพนัน #สุรเชชษฐ์
    พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ส่งตัวแทน ยื่นอุทธรณ์โทษไล่ออกต่อ ก.พ.ค.ตร. ขอความเป็นธรรม คดีพัวพันเว็บพนัน หลังครบเดดไลน์วันนี้ ขณะที่ 4 ลูกน้องชิงยื่นอุทธรณ์ไปแล้วก่อนหน้า • วันนี้ (11 เม.ย.) มีรายงานว่า พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ตัวแทนเข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) เพื่อขอความเป็นธรรม หลังถูกคณะกรรมการกลั่นกรองโทษพิจารณาว่ามีความผิดวินัยร้ายแรงจากกรณีมีส่วนเกี่ยวข้องกับการรับเงินจากเว็บไซต์พนันออนไลน์ โดยคณะกรรมการมีมติเห็นชอบให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ • ต่อมา วันที่ 11มี.ค.68 พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์เพ็ชร ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ลงนามในคำสั่งไล่ออก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ มีผลตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2567 โดยเจ้าตัวในฐานะผู้ถูกลงโทษ มีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ต่อ ก.พ.ค.ตร. ได้ภายใน 30 วันนับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง ซึ่งครบกำหนดในวันนี้ (11 เม.ย.) • ส่วนลูกน้องคนสนิท 4 นาย มีรายงานว่าได้ยื่นอุทรณ์คำร้อง ต่อ ก.พ.ค.ตร.ไปก่อนหน้านี้แล้ว ประกอบด้วย พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร รองผบก.ภ.จว.สงขลา ,พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ รองผกก.สส.สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ,ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว ผบ.หมู่ (ทำหน้าที่จราจร) งานปฏิบัติการจราจรตามโครงการพระราชดำริ 1 กก.6 บก.จร. และ ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร ผบ.หมู่ งานสายตรวจ 1 กก.1 บก.จร. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000034843 • #MGROnline #คดีพัวพันเว็บพนัน #สุรเชชษฐ์
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 246 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11-04-68/03 : หมี CNN / ผู้ใหญ่เหี้ย..พาเด็กซวย! ท่าทางอียิวมันคงเครียดแค้นอีอินทรีเหล็กอย่างหนัก กะไม่ให้เหลือลูกหลานไว้สืบพันธุ์ต่อไป ลากเด็ก เยาวชนมาตายห่าให้หมด เอาให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน? ปชต.ตอแหล จะเติบโตเต็มที่ ในพื้นที่ ที่มีควายหน้าโง่เยอะที่สุด ยิ่ง EGO แรง ขาดสติ สิ้นชาติ สูญพันธุ์ง่ายดาย มรึงฆ่ากันเองตายไม่พอ ยังจะเอาลูกหลานไปตายห่าต่ออีก ให้ภาพจำในวัยเด็ก มีแต่เรื่องปืนและการเข่นฆ่า นี่เหรอ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่มรึงอุตส่าห์ตอแหลสร้างกันมายาวนานนับศตวรรษ อะไรน่ะ สิทธิ เสรีภาพ มนุษยชน คือเรื่องเอาไว้หลอกควายหน้าโง่จ๊ะ แผ่นดินใคร ใครก็ต้องปกป้อง ไม่ใช่เอารูปแบบการปกครองชาติหมาที่อื่นมาอ้าง แล้วปล้นแผ่นดินเค้าไปทั่ว ปชต.พ่องดิ? เรื่องสร้างความตื่นตระหนก อีโง่ยุโรปมันถนัด เพราะแท้จริงแล้ว ฝรั่งขี้ขลาดกว่าเอเซียเยอะ กลัวตาย ถึงเวลาสู้ เผ่นหางจุกตูดหมด ผิดกับสายพันธุ์สลาฟ ฮั่น และอโยธยา พุ่งเข้าใส่ ใจมันได้ ตายไม่กลัว กลัวไม่ได้สู้เพื่อแผ่นดินเกิด การปลุกฝังมันต่างกัน กว่าจะเป็นแผ่นดินพ่อทุกวันนี้ได้ เราต้องแลกกับอะไรมาเยอะ เมื่อเทคโนโลยีเอเซียก้าวกระโดดแซงหน้าไอ้อีเหี้ยตะวันตก มันถึงได้เกิดการแข็งข้อแบบนี้ไงล่ะ? ใครมันจะยอมตามหลัง ไอ้อีหน้าโง่ ที่โง่ดักดาน โง่บัดซบกว่ากู 100 เท่า กันล่ะ? ที่อียุโรปเอาเด็กมาบังหน้า กูอ่านแผนออกเลย เดาไม่ยาก ถึงเวลาจริง ดันส่งเด็ก สตรี คนชรา มายื่นแถวหน้า เพื่อขู่รัสเซีย แน่จริงยิงสิฟ่ะ? รัสเซียสุภาพบุรุษพอ เปิดโจ๊ะเจรจา แล้วค่อยเก็บไอ้พวกเหี้ยอย่างมรึงกลางที่ประชุมนั่นแหละ ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน เอาแบบแม่นยำ เป๊ะเด๊ะ ลงกลางหัว กลางเป้า กลางตึกกันไปเลย ทหารจะฆ่าศัตรูที่เป็นทหาร เค้าไม่ฆ่าพลเรือน เหมือนที่พวกระยำสลัดหมาอย่างมรึงทำกันมาก่อนหน้า อีโปล อีไวกิ้ง รู้ตัว ไม่ตายคาตรีนเครมลิน ก็ตายคาตรีนวอชิงตัน แต่กูจะบอกให้ หากมรึงรู้ชะตากรรมตัวเอง ว่ายังไงก็ต้องเสียดินแดนแล้วไซร้ สู้อยู่กับผู้ที่เปิดช่องทางอยู่ร่วมกันดีกว่ามั้ย หากอยู่กับอีวอชิงตัน มรึงก็เป็นได้แค่ ขี้ข้ารองตรีนเท่านั้น! ลำดับอาหารอันโอชะจานโปรดของปูติน เริ่มที่อียูเครน ต่อ อีโปล+อี 3 เสือก ต่อ สแกนดิเนเวีย ต่อ ลอนดอน ทั้งหมดจบลงที่ท่อแก็สอาร์คติค เข้าเชื่อมยุโรป เอเซีย อาหรับ แอฟริกา ตอนนี้สิ่งที่ปูตินทำคือ ตัดแขน ตัดขา มรึงหมดเกลี้ยงแล้ว รอแค่บดขยี้ ไปเรื่อยๆ จนมรึงต้องยอมหมอบ บีบจนมรึงไม่มีจะแดร๊ก ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีอาหาร และน้ำ จะอยู่กันต่อยังไง? สุดท้ายก็ต้องจบที่โต๊ะเจรจา ด้วยการแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข กติกาใหม่โลกถึงจะก่อเกิดสำเร็จ และนั่นคือการตัดขาดยุโรปออกจากสหรัฐ อย่างเต็มตรีน ชั่วโมงนี้ เหี้ยมันจ้องหักหลังกันเองแน่ ทำชัวร์ เพราะใครดี ใครได้ ใครรอด? หมากัดกัน ภาพที่น่าสมเพช จนมรึงแทบอ๊วก

    Germany to prepare children for war – Handelsblatt หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานจากโฆษกกระทรวงว่า กระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีเสนอให้โรงเรียนเตรียมนักเรียนให้พร้อมกับวิกฤติต่างๆรวมถึงสงคราม

    ข้อเสนอต่อ “ความพร้อมของประชาชน” จากรัฐบาลยุโรปตะวันตกตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งและเริ่มเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพกับยูเครนซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา บาเออร์บ๊อกมองว่าเป็น “ทางตัน”

    ตามรายงาน การโจมตีของรัสเซียต่อประเทศนาโต้ “ในช่วง 4-7 ปี” ถือว่าเป็น “สถานการณ์ที่เป็นไปได้” ตามคำพูดของกองทัพ Bundeswehr

    เด็กนักเรียนควร “ได้รับการเตรียมพร้อมต่อเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด” การฝึกซ้อมเพื่อรับมือกับวิกฤติควรอยู่ในหลักสูตรและสิ่งของจำเป็นสำหรับเหตุฉุกเฉินควรมีอยู่ทุกบ้าน

    รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าพวกเขาอาจโจมตีประเทศนาโตัตั้งแต่ความรุนแรงจากสงครามยูเครนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องเกี่ยวกับความพร้อมของประชาชนแพร่กระจายไปทั่วยุโรปและอังกฤษในสัปดาห์ที่แล้ว

    คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำว่า ชาวยุโรปควรกักตุนสินค้าจำเป็นรวมถึงอาหารและน้ำเพื่อให้เพียงพอสำหรับ 3 วันหากเกิดเหตุฉุกเฉิน

    โปแลนด์และนอร์เวย์ย้ำถึงมาตรการสมัยสงครามเย็นอย่างที่เก็บระเบิด ป้อมหลบภัย และการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ ขณะที่สวีเดนและฟินแลนด์มีคำแนะนำให้ประชาชนต่อการตอบโต้หากประเทศถูกโจมตี

    เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ประเทศพร้อมเจรจาหยุดยิงอย่างถาวรเพื่อยุติความขัดแย้งกับยูเครนหากมีการยืนยันว่า ยูเครนจะยอมทำตาม

    ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินและประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้วหลังรัสเซียตกลงที่จะยืดเวลาการโจมตีโรงพลังงานพร้อมการลงนามต่อข้อเสนอของยูเครน อย่างไรก็ตาม รัสเซียกล่าวหายูเครนว่าละเมิดข้อตกลงแม้จะบอกว่าพวกเขาให้เกียรติรัสเซีย

    https://www.rt.com/news/615355-germany-prepare-children-war/

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    11-04-68/03 : หมี CNN / ผู้ใหญ่เหี้ย..พาเด็กซวย! ท่าทางอียิวมันคงเครียดแค้นอีอินทรีเหล็กอย่างหนัก กะไม่ให้เหลือลูกหลานไว้สืบพันธุ์ต่อไป ลากเด็ก เยาวชนมาตายห่าให้หมด เอาให้บ้านเมืองเต็มไปด้วยกลิ่นดินปืน? ปชต.ตอแหล จะเติบโตเต็มที่ ในพื้นที่ ที่มีควายหน้าโง่เยอะที่สุด ยิ่ง EGO แรง ขาดสติ สิ้นชาติ สูญพันธุ์ง่ายดาย มรึงฆ่ากันเองตายไม่พอ ยังจะเอาลูกหลานไปตายห่าต่ออีก ให้ภาพจำในวัยเด็ก มีแต่เรื่องปืนและการเข่นฆ่า นี่เหรอ ประเทศที่พัฒนาแล้ว ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่มรึงอุตส่าห์ตอแหลสร้างกันมายาวนานนับศตวรรษ อะไรน่ะ สิทธิ เสรีภาพ มนุษยชน คือเรื่องเอาไว้หลอกควายหน้าโง่จ๊ะ แผ่นดินใคร ใครก็ต้องปกป้อง ไม่ใช่เอารูปแบบการปกครองชาติหมาที่อื่นมาอ้าง แล้วปล้นแผ่นดินเค้าไปทั่ว ปชต.พ่องดิ? เรื่องสร้างความตื่นตระหนก อีโง่ยุโรปมันถนัด เพราะแท้จริงแล้ว ฝรั่งขี้ขลาดกว่าเอเซียเยอะ กลัวตาย ถึงเวลาสู้ เผ่นหางจุกตูดหมด ผิดกับสายพันธุ์สลาฟ ฮั่น และอโยธยา พุ่งเข้าใส่ ใจมันได้ ตายไม่กลัว กลัวไม่ได้สู้เพื่อแผ่นดินเกิด การปลุกฝังมันต่างกัน กว่าจะเป็นแผ่นดินพ่อทุกวันนี้ได้ เราต้องแลกกับอะไรมาเยอะ เมื่อเทคโนโลยีเอเซียก้าวกระโดดแซงหน้าไอ้อีเหี้ยตะวันตก มันถึงได้เกิดการแข็งข้อแบบนี้ไงล่ะ? ใครมันจะยอมตามหลัง ไอ้อีหน้าโง่ ที่โง่ดักดาน โง่บัดซบกว่ากู 100 เท่า กันล่ะ? ที่อียุโรปเอาเด็กมาบังหน้า กูอ่านแผนออกเลย เดาไม่ยาก ถึงเวลาจริง ดันส่งเด็ก สตรี คนชรา มายื่นแถวหน้า เพื่อขู่รัสเซีย แน่จริงยิงสิฟ่ะ? รัสเซียสุภาพบุรุษพอ เปิดโจ๊ะเจรจา แล้วค่อยเก็บไอ้พวกเหี้ยอย่างมรึงกลางที่ประชุมนั่นแหละ ชาวบ้านจะได้ไม่เดือดร้อน เอาแบบแม่นยำ เป๊ะเด๊ะ ลงกลางหัว กลางเป้า กลางตึกกันไปเลย ทหารจะฆ่าศัตรูที่เป็นทหาร เค้าไม่ฆ่าพลเรือน เหมือนที่พวกระยำสลัดหมาอย่างมรึงทำกันมาก่อนหน้า อีโปล อีไวกิ้ง รู้ตัว ไม่ตายคาตรีนเครมลิน ก็ตายคาตรีนวอชิงตัน แต่กูจะบอกให้ หากมรึงรู้ชะตากรรมตัวเอง ว่ายังไงก็ต้องเสียดินแดนแล้วไซร้ สู้อยู่กับผู้ที่เปิดช่องทางอยู่ร่วมกันดีกว่ามั้ย หากอยู่กับอีวอชิงตัน มรึงก็เป็นได้แค่ ขี้ข้ารองตรีนเท่านั้น! ลำดับอาหารอันโอชะจานโปรดของปูติน เริ่มที่อียูเครน ต่อ อีโปล+อี 3 เสือก ต่อ สแกนดิเนเวีย ต่อ ลอนดอน ทั้งหมดจบลงที่ท่อแก็สอาร์คติค เข้าเชื่อมยุโรป เอเซีย อาหรับ แอฟริกา ตอนนี้สิ่งที่ปูตินทำคือ ตัดแขน ตัดขา มรึงหมดเกลี้ยงแล้ว รอแค่บดขยี้ ไปเรื่อยๆ จนมรึงต้องยอมหมอบ บีบจนมรึงไม่มีจะแดร๊ก ไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีอาหาร และน้ำ จะอยู่กันต่อยังไง? สุดท้ายก็ต้องจบที่โต๊ะเจรจา ด้วยการแพ้สงครามอย่างไม่มีเงื่อนไข กติกาใหม่โลกถึงจะก่อเกิดสำเร็จ และนั่นคือการตัดขาดยุโรปออกจากสหรัฐ อย่างเต็มตรีน ชั่วโมงนี้ เหี้ยมันจ้องหักหลังกันเองแน่ ทำชัวร์ เพราะใครดี ใครได้ ใครรอด? หมากัดกัน ภาพที่น่าสมเพช จนมรึงแทบอ๊วก Germany to prepare children for war – Handelsblatt หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : หนังสือพิมพ์ Handelsblatt ระบุว่า เยอรมนีจะเตรียมเยาวชนให้พร้อมสำหรับสงคราม เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ Handelsblatt รายงานจากโฆษกกระทรวงว่า กระทรวงมหาดไทยของเยอรมนีเสนอให้โรงเรียนเตรียมนักเรียนให้พร้อมกับวิกฤติต่างๆรวมถึงสงคราม ข้อเสนอต่อ “ความพร้อมของประชาชน” จากรัฐบาลยุโรปตะวันตกตั้งแต่ที่ประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งและเริ่มเป็นตัวกลางในการเจรจาสันติภาพกับยูเครนซึ่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศเยอรมนี อันนาเลนา บาเออร์บ๊อกมองว่าเป็น “ทางตัน” ตามรายงาน การโจมตีของรัสเซียต่อประเทศนาโต้ “ในช่วง 4-7 ปี” ถือว่าเป็น “สถานการณ์ที่เป็นไปได้” ตามคำพูดของกองทัพ Bundeswehr เด็กนักเรียนควร “ได้รับการเตรียมพร้อมต่อเหตุการณ์ที่แย่ที่สุด” การฝึกซ้อมเพื่อรับมือกับวิกฤติควรอยู่ในหลักสูตรและสิ่งของจำเป็นสำหรับเหตุฉุกเฉินควรมีอยู่ทุกบ้าน รัสเซียปฏิเสธข้อกล่าวหาว่าพวกเขาอาจโจมตีประเทศนาโตัตั้งแต่ความรุนแรงจากสงครามยูเครนเมื่อ 3 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องเกี่ยวกับความพร้อมของประชาชนแพร่กระจายไปทั่วยุโรปและอังกฤษในสัปดาห์ที่แล้ว คณะกรรมาธิการยุโรปแนะนำว่า ชาวยุโรปควรกักตุนสินค้าจำเป็นรวมถึงอาหารและน้ำเพื่อให้เพียงพอสำหรับ 3 วันหากเกิดเหตุฉุกเฉิน โปแลนด์และนอร์เวย์ย้ำถึงมาตรการสมัยสงครามเย็นอย่างที่เก็บระเบิด ป้อมหลบภัย และการซ้อมรบทางทหารครั้งใหญ่ ขณะที่สวีเดนและฟินแลนด์มีคำแนะนำให้ประชาชนต่อการตอบโต้หากประเทศถูกโจมตี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา รัฐบาลรัสเซียระบุว่า ประเทศพร้อมเจรจาหยุดยิงอย่างถาวรเพื่อยุติความขัดแย้งกับยูเครนหากมีการยืนยันว่า ยูเครนจะยอมทำตาม ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูตินและประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์พูดคุยทางโทรศัพท์เมื่อเดือนที่แล้วหลังรัสเซียตกลงที่จะยืดเวลาการโจมตีโรงพลังงานพร้อมการลงนามต่อข้อเสนอของยูเครน อย่างไรก็ตาม รัสเซียกล่าวหายูเครนว่าละเมิดข้อตกลงแม้จะบอกว่าพวกเขาให้เกียรติรัสเซีย https://www.rt.com/news/615355-germany-prepare-children-war/ ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.RT.COM
    Germany to prepare children for war – Handelsblatt
    The newspaper has described a Russian attack on NATO territory as “a realistic scenario,” despite Moscow’s reassurances and peace talks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 411 มุมมอง 0 รีวิว
  • เห็นทุกข์ตามความจริง – เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนชีวิต
    ---

    1. ความเข้าใจเดิม:

    ทุกคนมักรู้สึกว่า “ฉันเหนื่อย” หรือ “ฉันทุกข์”

    มีความยึดมั่นว่าตัวตนเป็นผู้รับทุกข์โดยตรง

    ---

    2. มุมมองใหม่ตามพุทธศาสนา:

    > “กายใจเป็นทุกข์” ไม่ใช่ “ตัวตนเป็นทุกข์”

    เปลี่ยนจากมุมมองแบบยึดถือเป็น “ฉัน”

    มาเป็นมุมมองแบบเห็นตามความเป็นจริงว่า
    ทุกข์เป็นเพียงสภาวะ ไม่ใช่เจ้าของ

    ---

    3. วิธีฝึกให้เห็นกายใจเป็นทุกข์:

    เริ่มจากการ พิจารณาลมหายใจ
    เช่น สังเกตลมหายใจเข้าออก
    ดูว่ามีความไม่เที่ยง ไม่แน่นอน สั้นบ้าง ยาวบ้าง
    บังคับไม่ได้เลย

    แล้วต่อยอดไปเห็น

    กายเคลื่อนไหวตลอด ไม่มีท่าไหนถาวร

    ใจผันแปร อารมณ์ ความคิด ความจำ
    เปลี่ยนอยู่ตลอด ไม่มีความเที่ยง

    ---

    4. ผลที่เกิดขึ้นจากการเห็นตามจริง:

    ค่อยๆ ถอนความรู้สึกว่า “ตัวเราเป็นทุกข์”

    เหลือเพียงการเห็นว่า “กายใจนี้เป็นทุกข์”

    ใจจะเบาขึ้น ปล่อยวางง่ายขึ้น และเริ่มเข้าถึงอิสรภาพจากทุกข์

    ---

    5. ข้อสำคัญ:

    ไม่จำเป็นต้องบวช ไม่จำเป็นต้องสิ้นกิเลสทันที

    แค่เปลี่ยนมุมมอง ก็สามารถมีชีวิตที่ เบาสบายกว่าเดิม

    ไม่ใช่เพราะไม่มีทุกข์ แต่เพราะไม่ยึดว่าตนเองเป็นทุกข์อีกต่อไป

    ---

    Essence สั้นๆ:

    “เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดเที่ยงในกายใจ
    คุณจะเลิกคิดว่ามีใครทุกข์
    และเริ่มเข้าใจว่าทุกข์...เป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น”
    เห็นทุกข์ตามความจริง – เปลี่ยนมุมมอง เปลี่ยนชีวิต --- 1. ความเข้าใจเดิม: ทุกคนมักรู้สึกว่า “ฉันเหนื่อย” หรือ “ฉันทุกข์” มีความยึดมั่นว่าตัวตนเป็นผู้รับทุกข์โดยตรง --- 2. มุมมองใหม่ตามพุทธศาสนา: > “กายใจเป็นทุกข์” ไม่ใช่ “ตัวตนเป็นทุกข์” เปลี่ยนจากมุมมองแบบยึดถือเป็น “ฉัน” มาเป็นมุมมองแบบเห็นตามความเป็นจริงว่า ทุกข์เป็นเพียงสภาวะ ไม่ใช่เจ้าของ --- 3. วิธีฝึกให้เห็นกายใจเป็นทุกข์: เริ่มจากการ พิจารณาลมหายใจ เช่น สังเกตลมหายใจเข้าออก ดูว่ามีความไม่เที่ยง ไม่แน่นอน สั้นบ้าง ยาวบ้าง บังคับไม่ได้เลย แล้วต่อยอดไปเห็น กายเคลื่อนไหวตลอด ไม่มีท่าไหนถาวร ใจผันแปร อารมณ์ ความคิด ความจำ เปลี่ยนอยู่ตลอด ไม่มีความเที่ยง --- 4. ผลที่เกิดขึ้นจากการเห็นตามจริง: ค่อยๆ ถอนความรู้สึกว่า “ตัวเราเป็นทุกข์” เหลือเพียงการเห็นว่า “กายใจนี้เป็นทุกข์” ใจจะเบาขึ้น ปล่อยวางง่ายขึ้น และเริ่มเข้าถึงอิสรภาพจากทุกข์ --- 5. ข้อสำคัญ: ไม่จำเป็นต้องบวช ไม่จำเป็นต้องสิ้นกิเลสทันที แค่เปลี่ยนมุมมอง ก็สามารถมีชีวิตที่ เบาสบายกว่าเดิม ไม่ใช่เพราะไม่มีทุกข์ แต่เพราะไม่ยึดว่าตนเองเป็นทุกข์อีกต่อไป --- Essence สั้นๆ: “เมื่อเห็นว่าไม่มีสิ่งใดเที่ยงในกายใจ คุณจะเลิกคิดว่ามีใครทุกข์ และเริ่มเข้าใจว่าทุกข์...เป็นเพียงสิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นเท่านั้น”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปชช.ทวงความยุติธรรม 53 จัดกิจกรรมรำลึกเหตุสลายการชุมนุมเสื้อแดง 10 เมษา “ธิดา” ยันคนเสื้อแดงต่อสู้กับเผด็จการ ไม่ใช่เพื่อใคร ซัดเพื่อไทยยังไม่เข้าใจสังคมไทยดีพอ ลั่นไม่ร่วมขบวนการหมุนทวนกงล้อประวัติศาสตร์ ร่วมมือกลุ่มจารีตอำนาจนิยมต่ออำนาจวงจรอุบาทว์ ด้าน ‘วิโรจน์’ ชี้ต้องสร้างภูมิคุ้ม หยุดกระบวนการชั่วช้าสามานย์ ไม่ให้ทำร้านคนเจนต่อไป พร้อมเดินหน้าแก้กม.กองทัพ สกัดปกป้องอาชญากรที่เข่นฆ่า ปชช.-ต้องขึ้นศาลพลเรือน

    วันนี้(10 เม.ย. 68) คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 จัดกิจกรรม “15 ปี รำลึก เมษา-พฤษภาคม 53” โดยมี นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. นายแพทย์เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. รวมถึงตัวแทนพรรคการเมือง เช่น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน เป็นต้น เข้าร่วม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000034401

    #MGROnline #รำลึกเหตุสลายการชุมนุมเสื้อแดง
    ปชช.ทวงความยุติธรรม 53 จัดกิจกรรมรำลึกเหตุสลายการชุมนุมเสื้อแดง 10 เมษา “ธิดา” ยันคนเสื้อแดงต่อสู้กับเผด็จการ ไม่ใช่เพื่อใคร ซัดเพื่อไทยยังไม่เข้าใจสังคมไทยดีพอ ลั่นไม่ร่วมขบวนการหมุนทวนกงล้อประวัติศาสตร์ ร่วมมือกลุ่มจารีตอำนาจนิยมต่ออำนาจวงจรอุบาทว์ ด้าน ‘วิโรจน์’ ชี้ต้องสร้างภูมิคุ้ม หยุดกระบวนการชั่วช้าสามานย์ ไม่ให้ทำร้านคนเจนต่อไป พร้อมเดินหน้าแก้กม.กองทัพ สกัดปกป้องอาชญากรที่เข่นฆ่า ปชช.-ต้องขึ้นศาลพลเรือน • วันนี้(10 เม.ย. 68) คณะประชาชนทวงความยุติธรรม 2553 จัดกิจกรรม “15 ปี รำลึก เมษา-พฤษภาคม 53” โดยมี นายชัยธวัช ตุลาธน อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นางสาวพรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. นายแพทย์เหวง โตจิราการ อดีตแกนนำ นปช. รวมถึงตัวแทนพรรคการเมือง เช่น นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน เป็นต้น เข้าร่วม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9680000034401 • #MGROnline #รำลึกเหตุสลายการชุมนุมเสื้อแดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป้าหมายสูงสุดในพุทธศาสนาและบทบาทของฌานในการบรรลุมรรคผล

    ---

    1. เป้าหมายสูงสุดของพุทธศาสนา:

    > การหลุดพ้นจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง (อรหัตผล)

    มิใช่เพียงศีล สมาธิ ญาณ หรือชื่อเสียง

    แต่คือ "การไม่กลับมากำเริบของกิเลสอีก"

    ---

    2. ผู้บรรลุมรรคผลรู้ได้อย่างไรว่าได้จริง?

    รู้จาก "การสิ้นไปของความยินดีในรูปนาม"

    เปรียบเหมือนตาลยอดด้วน งอกใหม่ไม่ได้อีก

    คือ "รู้ด้วยใจ" ว่าจิตหลุดพ้นแล้วอย่างถาวร

    ---

    3. ฌานมีไว้เพื่ออะไร?

    ฌาน + ปัญญา = ใกล้นิพพาน

    เพียงฌานอย่างเดียวไม่พอ ต้องใช้เพื่อพิจารณากายใจว่า ไม่เที่ยง เป็นอนัตตา

    ---

    4. จำเป็นไหมต้องได้ฌานก่อนถึงมรรคผล?

    ไม่จำเป็นในบางกรณี

    เช่น ท่านอนาถบิณฑิก นางวิสาขา ได้โสดาภะผลจากการฟังธรรม

    แต่ต้องมีทุนบุญและปัญญาเก่ามาก

    จิตรวมเป็นหนึ่งเพียงชั่วฟังธรรมได้

    ---

    5. สำหรับคนทั่วไป การมีฌานคือทางลัด

    ฌานช่วยให้จิตรวม สงบ ห่างจากกิเลส

    ทำให้เห็นกายใจชัดขึ้น

    ง่ายต่อการพิจารณาเพื่อบรรลุธรรม

    ---

    Essence สั้น ๆ:

    ฌานเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่เป้าหมายสุดท้ายคือการ "สิ้นกิเลส" ไม่ใช่การมีฌานเอง
    ผู้บรรลุธรรมคือผู้ที่ ‘ไม่มีทางกลับไปยึดติดในรูปนามได้อีก’
    เป้าหมายสูงสุดในพุทธศาสนาและบทบาทของฌานในการบรรลุมรรคผล --- 1. เป้าหมายสูงสุดของพุทธศาสนา: > การหลุดพ้นจากกิเลสอย่างสิ้นเชิง (อรหัตผล) มิใช่เพียงศีล สมาธิ ญาณ หรือชื่อเสียง แต่คือ "การไม่กลับมากำเริบของกิเลสอีก" --- 2. ผู้บรรลุมรรคผลรู้ได้อย่างไรว่าได้จริง? รู้จาก "การสิ้นไปของความยินดีในรูปนาม" เปรียบเหมือนตาลยอดด้วน งอกใหม่ไม่ได้อีก คือ "รู้ด้วยใจ" ว่าจิตหลุดพ้นแล้วอย่างถาวร --- 3. ฌานมีไว้เพื่ออะไร? ฌาน + ปัญญา = ใกล้นิพพาน เพียงฌานอย่างเดียวไม่พอ ต้องใช้เพื่อพิจารณากายใจว่า ไม่เที่ยง เป็นอนัตตา --- 4. จำเป็นไหมต้องได้ฌานก่อนถึงมรรคผล? ไม่จำเป็นในบางกรณี เช่น ท่านอนาถบิณฑิก นางวิสาขา ได้โสดาภะผลจากการฟังธรรม แต่ต้องมีทุนบุญและปัญญาเก่ามาก จิตรวมเป็นหนึ่งเพียงชั่วฟังธรรมได้ --- 5. สำหรับคนทั่วไป การมีฌานคือทางลัด ฌานช่วยให้จิตรวม สงบ ห่างจากกิเลส ทำให้เห็นกายใจชัดขึ้น ง่ายต่อการพิจารณาเพื่อบรรลุธรรม --- Essence สั้น ๆ: ฌานเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่เป้าหมายสุดท้ายคือการ "สิ้นกิเลส" ไม่ใช่การมีฌานเอง ผู้บรรลุธรรมคือผู้ที่ ‘ไม่มีทางกลับไปยึดติดในรูปนามได้อีก’
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • General Services Administration (GSA) ของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศยุติการใช้งานเทปแม่เหล็กในระบบจัดเก็บข้อมูล โดยแปลงข้อมูลที่เคยอยู่บนเทปแม่เหล็กทั้งหมด 14,000 ม้วน ให้เป็นระบบดิจิทัลถาวร ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี แม้จะมีหลายคนแสดงความเห็นว่าเทปแม่เหล็กเป็นเทคโนโลยีที่เก่าถึง 70 ปี แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ว่ามันยังมีข้อดีหลายด้านที่เหมาะสำหรับบางการใช้งาน

    ✅ ความจุที่เหนือกว่า:
    - เทปแม่เหล็กสามารถจัดเก็บข้อมูลได้ในปริมาณมากเมื่อเทียบกับ HDD หรือ SSD และยังมี แผนพัฒนาเทคโนโลยี Linear Tape-Open (LTO) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

    ✅ ความทนทานและต้นทุนที่ต่ำ:
    - เทปมีความทนทานสูงและสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ปี นอกจากนี้ยังประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับระบบอื่น ๆ โดยเฉพาะในการใช้งานแบบ Cold Storage

    ✅ การใช้งานในยุคใหม่:
    - บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Huawei ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อรวมระบบจัดเก็บข้อมูลแบบเทปกับ AI และ Hyperscalers เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/u-s-govt-eliminates-tape-data-storage-at-the-gsa-to-save-usd1m-per-year-but-tape-isnt-dead-yet
    General Services Administration (GSA) ของรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ประกาศยุติการใช้งานเทปแม่เหล็กในระบบจัดเก็บข้อมูล โดยแปลงข้อมูลที่เคยอยู่บนเทปแม่เหล็กทั้งหมด 14,000 ม้วน ให้เป็นระบบดิจิทัลถาวร ซึ่งประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า 1 ล้านดอลลาร์ต่อปี แม้จะมีหลายคนแสดงความเห็นว่าเทปแม่เหล็กเป็นเทคโนโลยีที่เก่าถึง 70 ปี แต่ผู้เชี่ยวชาญบางคนชี้ว่ามันยังมีข้อดีหลายด้านที่เหมาะสำหรับบางการใช้งาน ✅ ความจุที่เหนือกว่า: - เทปแม่เหล็กสามารถจัดเก็บข้อมูลได้ในปริมาณมากเมื่อเทียบกับ HDD หรือ SSD และยังมี แผนพัฒนาเทคโนโลยี Linear Tape-Open (LTO) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง ✅ ความทนทานและต้นทุนที่ต่ำ: - เทปมีความทนทานสูงและสามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 30 ปี นอกจากนี้ยังประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับระบบอื่น ๆ โดยเฉพาะในการใช้งานแบบ Cold Storage ✅ การใช้งานในยุคใหม่: - บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Huawei ได้พัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพื่อรวมระบบจัดเก็บข้อมูลแบบเทปกับ AI และ Hyperscalers เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/u-s-govt-eliminates-tape-data-storage-at-the-gsa-to-save-usd1m-per-year-but-tape-isnt-dead-yet
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft Corp ได้ประกาศแผนปรับปรุง Copilot ผู้ช่วยดิจิทัล AI โดยจะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถ ปรับแต่ง Copilot ให้สอดคล้องกับความชอบและความต้องการของพวกเขา เช่น การจดจำอาหารหรือภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการสนทนาในอนาคต โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะเริ่มเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    ✅ ปรับแต่ง Copilot ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน
    - ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าให้ Copilot จำข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่เคยทำ เช่น การไปเที่ยวพักผ่อน ภาพยนตร์เรื่องโปรด หรือความชอบในอาหาร โดยสามารถเลือกเปิดปิดการจดจำข้อมูลตามความต้องการ

    ✅ AI ในแบบของคุณเอง:
    - ฟีเจอร์การปรับแต่งนี้คล้ายคลึงกับสิ่งที่คู่แข่งอย่าง Google และ OpenAI เสนอ โดย Google Gemini อ้างอิงประวัติการค้นหา และ Alexa+ จาก Amazon เชื่อมโยงกับประวัติการซื้อสินค้าและการสตรีมวิดีโอ

    ✅ ประสบการณ์ที่เหนือกว่าการสนทนาในระยะสั้น:
    - Mustafa Suleyman หัวหน้าทีม AI ของ Microsoft แสดงความเชื่อมั่นว่าการปรับแต่งนี้จะเปลี่ยนแปลงการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างถาวร โดยให้ AI ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่เข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน

    ✅ การปกป้องข้อมูลส่วนตัว:
    - Microsoft เน้นว่าผู้ใช้งานจะสามารถเลือกประเภทข้อมูลที่ AI จดจำได้ หรือแม้กระทั่ง ปิดการปรับแต่ง ได้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/microsoft-to-let-people-tailor-ai-assistant-to-their-needs
    Microsoft Corp ได้ประกาศแผนปรับปรุง Copilot ผู้ช่วยดิจิทัล AI โดยจะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถ ปรับแต่ง Copilot ให้สอดคล้องกับความชอบและความต้องการของพวกเขา เช่น การจดจำอาหารหรือภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ และใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการสนทนาในอนาคต โดยฟีเจอร์ใหม่นี้จะเริ่มเปิดตัวในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ✅ ปรับแต่ง Copilot ให้เหมาะสมกับผู้ใช้งาน - ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าให้ Copilot จำข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่เคยทำ เช่น การไปเที่ยวพักผ่อน ภาพยนตร์เรื่องโปรด หรือความชอบในอาหาร โดยสามารถเลือกเปิดปิดการจดจำข้อมูลตามความต้องการ ✅ AI ในแบบของคุณเอง: - ฟีเจอร์การปรับแต่งนี้คล้ายคลึงกับสิ่งที่คู่แข่งอย่าง Google และ OpenAI เสนอ โดย Google Gemini อ้างอิงประวัติการค้นหา และ Alexa+ จาก Amazon เชื่อมโยงกับประวัติการซื้อสินค้าและการสตรีมวิดีโอ ✅ ประสบการณ์ที่เหนือกว่าการสนทนาในระยะสั้น: - Mustafa Suleyman หัวหน้าทีม AI ของ Microsoft แสดงความเชื่อมั่นว่าการปรับแต่งนี้จะเปลี่ยนแปลงการใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างถาวร โดยให้ AI ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยที่เข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้งาน ✅ การปกป้องข้อมูลส่วนตัว: - Microsoft เน้นว่าผู้ใช้งานจะสามารถเลือกประเภทข้อมูลที่ AI จดจำได้ หรือแม้กระทั่ง ปิดการปรับแต่ง ได้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/microsoft-to-let-people-tailor-ai-assistant-to-their-needs
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft to let people tailor AI assistant to their needs
    Microsoft Corp, determined to hold its ground in artificial intelligence, will soon let consumers tailor the Copilot digital assistant to their own needs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่เกิน 2025 น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ(อย่างถาวร)

    ไม่ใช่ท่วมตามฤดูกาลแล้วแห้ง ไม่เหมือน น้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ อ.เมือง อ.สารภี จ.เชียงใหม่

    แต่..เป็น การเพิ่มมวลน้ำทะเล ทำให้มีระดับน้ำทะเลสูงขึ้นมากกว่าปกติ รุกล้ำที่ลุ่มทั้งหมดในภาคกลาง 14 จังหวัดได้รับผลกระทบอย่างหนัก..จะจมหายไป ซึ่งเป็นการขยายอาณาเขตของทะเลตามปรับตัวของธรรมชาติ



    อ้างอิง :
    1. Report: Flooded Future: Global vulnerability to sea level rise worse than previously understood
    2. Rising Seas Will Erase More Cities by 2050, New Research Shows
    3. The Projected Economic Impact of Extreme Sea-Level Rise in Seven Asian Cities in 2030
    ไม่เกิน 2025 น้ำจะท่วมกรุงเทพฯ(อย่างถาวร) ไม่ใช่ท่วมตามฤดูกาลแล้วแห้ง ไม่เหมือน น้ำท่วมที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และ อ.เมือง อ.สารภี จ.เชียงใหม่ แต่..เป็น การเพิ่มมวลน้ำทะเล ทำให้มีระดับน้ำทะเลสูงขึ้นมากกว่าปกติ รุกล้ำที่ลุ่มทั้งหมดในภาคกลาง 14 จังหวัดได้รับผลกระทบอย่างหนัก..จะจมหายไป ซึ่งเป็นการขยายอาณาเขตของทะเลตามปรับตัวของธรรมชาติ อ้างอิง : 1. Report: Flooded Future: Global vulnerability to sea level rise worse than previously understood 2. Rising Seas Will Erase More Cities by 2050, New Research Shows 3. The Projected Economic Impact of Extreme Sea-Level Rise in Seven Asian Cities in 2030
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • Copilot Vision คือฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้ผู้ช่วย AI ใน Windows ฉลาดขึ้น โดยเข้าใจบริบทแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่และแนะนำวิธีการทำงานได้ตรงจุด แม้ว่าฟีเจอร์นี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่การสาธิตที่แสดงการช่วยชี้จุดในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจเปลี่ยนวิธีการทำงานใน Windows ของเราไปอย่างถาวร

    ✅ Copilot Vision ช่วยให้งานง่ายขึ้นโดยไม่ขัดจังหวะการทำงาน
    - ผู้ใช้สามารถ เปิดใช้งาน Copilot Vision ผ่านไอคอนบนหน้าจอหรือปุ่มเฉพาะบนคีย์บอร์ด เพื่อให้ AI แสดงรายการแอปพลิเคชันที่กำลังใช้งาน
    - ความสามารถนี้ช่วยให้ Copilot เข้าใจว่าผู้ใช้กำลังทำงานอะไร และสามารถตอบคำถามหรือแนะนำได้ตรงกับบริบท เช่น การออกแบบ 3D บน Blender หรือการปรับแต่งวิดีโอบน Clipchamp

    ✅ การแสดงคำแนะนำแบบโต้ตอบในอนาคต
    - Copilot Vision ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเพิ่มฟีเจอร์ที่ แสดงลูกศรแนะนำตำแหน่งในแอปพลิเคชัน เช่น การเพิ่มการเปลี่ยนผ่านวิดีโอใน Clipchamp หรือการค้นหาเครื่องมือเฉพาะใน Photoshop
    - เทคโนโลยีใหม่นี้เปรียบเหมือน "Clippy ยุคใหม่" ที่ช่วยนำทางงานอย่างชาญฉลาด

    ✅ รองรับการใช้งานด้วยเสียงและข้อความ
    - ผู้ใช้สามารถตั้งคำถาม เช่น "จะทำให้งานออกแบบนี้ดูคลาสสิกขึ้นได้อย่างไร" หรือ "ไอคอนเพิ่มหมายเหตุอยู่ที่ไหน" โดย AI จะปรับคำตอบตามแอปและโครงการที่เปิดอยู่

    ✅ อนาคตของ Copilot Vision:
    - แม้ว่าฟีเจอร์ปัจจุบันจะสามารถระบุและเข้าใจบริบทแอปพลิเคชันได้แล้ว แต่ Microsoft กำลังพัฒนาให้ Copilot Vision ทำงานร่วมกับอินเทอร์เฟซของแอปได้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มการช่วยเหลือในรูปแบบภาพ
    - การอัปเดตที่ก้าวหน้ากว่านี้ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่ชัด แต่จากการสาธิต คาดว่าไม่นานเกินรอ

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-tried-copilot-vision-and-it-could-change-how-you-use-windows-forever
    Copilot Vision คือฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้ผู้ช่วย AI ใน Windows ฉลาดขึ้น โดยเข้าใจบริบทแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่และแนะนำวิธีการทำงานได้ตรงจุด แม้ว่าฟีเจอร์นี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา แต่การสาธิตที่แสดงการช่วยชี้จุดในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ชี้ให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจเปลี่ยนวิธีการทำงานใน Windows ของเราไปอย่างถาวร ✅ Copilot Vision ช่วยให้งานง่ายขึ้นโดยไม่ขัดจังหวะการทำงาน - ผู้ใช้สามารถ เปิดใช้งาน Copilot Vision ผ่านไอคอนบนหน้าจอหรือปุ่มเฉพาะบนคีย์บอร์ด เพื่อให้ AI แสดงรายการแอปพลิเคชันที่กำลังใช้งาน - ความสามารถนี้ช่วยให้ Copilot เข้าใจว่าผู้ใช้กำลังทำงานอะไร และสามารถตอบคำถามหรือแนะนำได้ตรงกับบริบท เช่น การออกแบบ 3D บน Blender หรือการปรับแต่งวิดีโอบน Clipchamp ✅ การแสดงคำแนะนำแบบโต้ตอบในอนาคต - Copilot Vision ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาเพื่อเพิ่มฟีเจอร์ที่ แสดงลูกศรแนะนำตำแหน่งในแอปพลิเคชัน เช่น การเพิ่มการเปลี่ยนผ่านวิดีโอใน Clipchamp หรือการค้นหาเครื่องมือเฉพาะใน Photoshop - เทคโนโลยีใหม่นี้เปรียบเหมือน "Clippy ยุคใหม่" ที่ช่วยนำทางงานอย่างชาญฉลาด ✅ รองรับการใช้งานด้วยเสียงและข้อความ - ผู้ใช้สามารถตั้งคำถาม เช่น "จะทำให้งานออกแบบนี้ดูคลาสสิกขึ้นได้อย่างไร" หรือ "ไอคอนเพิ่มหมายเหตุอยู่ที่ไหน" โดย AI จะปรับคำตอบตามแอปและโครงการที่เปิดอยู่ ✅ อนาคตของ Copilot Vision: - แม้ว่าฟีเจอร์ปัจจุบันจะสามารถระบุและเข้าใจบริบทแอปพลิเคชันได้แล้ว แต่ Microsoft กำลังพัฒนาให้ Copilot Vision ทำงานร่วมกับอินเทอร์เฟซของแอปได้ดียิ่งขึ้น และเพิ่มการช่วยเหลือในรูปแบบภาพ - การอัปเดตที่ก้าวหน้ากว่านี้ยังไม่มีกรอบเวลาที่แน่ชัด แต่จากการสาธิต คาดว่าไม่นานเกินรอ https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/i-tried-copilot-vision-and-it-could-change-how-you-use-windows-forever
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft เปิดตัว Windows 365 Link ซึ่งเป็นอุปกรณ์ Thin Client ที่ออกแบบมาเพื่อให้การเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ Windows 365 เป็นไปอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับการใช้งานในระดับองค์กร โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยและความเรียบง่ายเป็นสำคัญ

    ✅ อุปกรณ์ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการเข้าถึงคลาวด์
    - Windows 365 Link เป็นอุปกรณ์ที่ ไม่มีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลภายใน แต่ถูกออกแบบมาเพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึง Windows 365 Cloud PC จากระยะไกลได้ทันที
    - อุปกรณ์นี้สามารถ เล่นวิดีโอคุณภาพสูงในระหว่างการประชุม โดยประมวลผลบนเครื่องได้โดยตรง

    ✅ คุณสมบัติด้านความปลอดภัยสูงสุด
    - มาพร้อมเทคโนโลยี Secure Boot, Trusted Platform Module (TPM), BitLocker, และ Hypervisor Code Integrity ที่เปิดใช้งานแบบถาวรเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
    - การจัดการทำได้ผ่าน Microsoft Intune ทำให้การติดตั้งและควบคุมอุปกรณ์ Thin Client เป็นไปอย่างง่ายดาย

    ✅ ใช้งานในหลายประเทศ
    - Windows 365 Link พร้อมวางจำหน่ายแล้วใน สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, แคนาดา, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์
    - ราคาในสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ $350 โดยเน้นการใช้งานสำหรับองค์กร ไม่ใช่ผู้บริโภคทั่วไป

    ✅ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการลดความซับซ้อนของระบบ IT
    - Thin Client นี้ช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยองค์กรสามารถเลือกใช้อุปกรณ์นี้ควบคู่กับ Windows 365 Cloud PC ได้ทันที
    - นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึง Cloud PC ผ่าน เว็บเบราว์เซอร์ หรือแอป Windows โดยไม่จำเป็นต้องรีบใช้อุปกรณ์ใหม่

    https://www.techspot.com/news/107421-microsoft-350-windows-365-link-cloud-client-now.html
    Microsoft เปิดตัว Windows 365 Link ซึ่งเป็นอุปกรณ์ Thin Client ที่ออกแบบมาเพื่อให้การเชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ Windows 365 เป็นไปอย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพสูงสุด เหมาะสำหรับการใช้งานในระดับองค์กร โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยและความเรียบง่ายเป็นสำคัญ ✅ อุปกรณ์ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการเข้าถึงคลาวด์ - Windows 365 Link เป็นอุปกรณ์ที่ ไม่มีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลภายใน แต่ถูกออกแบบมาเพื่อให้พนักงานสามารถเข้าถึง Windows 365 Cloud PC จากระยะไกลได้ทันที - อุปกรณ์นี้สามารถ เล่นวิดีโอคุณภาพสูงในระหว่างการประชุม โดยประมวลผลบนเครื่องได้โดยตรง ✅ คุณสมบัติด้านความปลอดภัยสูงสุด - มาพร้อมเทคโนโลยี Secure Boot, Trusted Platform Module (TPM), BitLocker, และ Hypervisor Code Integrity ที่เปิดใช้งานแบบถาวรเพื่อเพิ่มความปลอดภัย - การจัดการทำได้ผ่าน Microsoft Intune ทำให้การติดตั้งและควบคุมอุปกรณ์ Thin Client เป็นไปอย่างง่ายดาย ✅ ใช้งานในหลายประเทศ - Windows 365 Link พร้อมวางจำหน่ายแล้วใน สหรัฐฯ, สหราชอาณาจักร, ออสเตรเลีย, แคนาดา, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และนิวซีแลนด์ - ราคาในสหรัฐฯ อยู่ที่ประมาณ $350 โดยเน้นการใช้งานสำหรับองค์กร ไม่ใช่ผู้บริโภคทั่วไป ✅ เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการลดความซับซ้อนของระบบ IT - Thin Client นี้ช่วยลดความยุ่งยากในการจัดการและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยองค์กรสามารถเลือกใช้อุปกรณ์นี้ควบคู่กับ Windows 365 Cloud PC ได้ทันที - นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึง Cloud PC ผ่าน เว็บเบราว์เซอร์ หรือแอป Windows โดยไม่จำเป็นต้องรีบใช้อุปกรณ์ใหม่ https://www.techspot.com/news/107421-microsoft-350-windows-365-link-cloud-client-now.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Microsoft's $350 Windows 365 Link cloud client is now available
    Microsoft announced the Windows 365 Link in November and is now beginning to offer the new device to customers in select markets. Link is the first custom...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกันภัย 10 บาท ถูกสุดในไทยขายเฉพาะเทศกาล

    เมื่อวันที่ 1 เม.ย. เคาน์เตอร์เซอร์วิส ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวร์รันส์) หรือ ประกันภัย 10 บาท คุ้มครอง 30 วัน รับเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 คุ้มครองอุบัติเหตุกรณีเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สูงสุด 100,000 บาท และเพิ่มอีก 100,000 บาท หากเกิดอุบัติเหตุสาธารณะ รวมทั้งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุด 5,000 บาท รับประกันภัยโดย เมืองไทยประกันชีวิต ในครั้งนี้จำกัด 300,000 สิทธิ์เท่านั้น ผู้ซื้อต้องมีอายุ 15-70 ปีบริบูรณ์ จำกัด 1 กรมธรรม์ต่อ 1 หมายเลขบัตรประชาชน

    โดยในปีนี้สมาชิก All Member ซื้อได้ผ่าน 7-App หรือเว็บไซต์ counterservice.co.th ชำระได้ทั้งบัตรเครดิต ทรูมันนี่วอลเล็ต และพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด หากซื้อประกันสำเร็จจะมี SMS และอีเมลแจ้งระยะความคุ้มครอง แต่ผู้ซื้อต้องศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขก่อนซื้อ เช่น ไม่คุ้มครองขณะอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุรา (150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป) สารเสพติดหรือยาเสพติด การจบชีวิตตัวเอง การได้รับเชื้อโรค การแท้งลูก (ยกเว้นจากอุบัติเหตุ) สงคราม อาวุธนิวเคลียร์ การก่อการร้าย ก่ออาชญากรรม และเป็นทหาร ตำรวจ หรืออาสาสมัครเข้าปฎิบัติสงครามหรือปราบปราม เป็นต้น

    นอกจากเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่จำหน่ายประกันภัย 10 บาทแล้ว ยังมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ แจกประกันภัยฟรี โดยมีความคุ้มครองคล้ายกัน เช่น ร้านอินทนิลในปั๊มบางจากแจกประกันภัยเมื่อซื้อเครื่องดื่ม เลือกได้ระหว่างประกันอุบัติเหตุหรือประกันอัคคีภัย ส่วนโออาร์แจกประกันอุบัติเหตุฟรีแก่สมาชิก Blueplus+ ผ่านแอปพลิเคชัน xplORe เป็นต้น

    ประกันภัย 10 บาท ไม่ใช่เรื่องใหม่ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 7 ปีก่อน สมัยนายสุทธิพล ทวีชัยการ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เมื่อปี 2561 (ปัจจุบันเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์) เพื่อเพิ่มทางเลือกด้วยเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยง โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ซึ่งที่ผ่านมาได้ออกผลิตภัณฑ์ประกันภัย 100 และประกันภัย 222 คุ้มครอง 1 ปี มีผู้ซื้อประกันหลักหมื่นราย

    กระทั่งออกประกันภัย 10 บาท คุ้มครอง 30 วัน ในช่วงสงกรานต์ปี 2561 สร้างสถิติใหม่เป็นประวัติศาสตร์ด้วยผู้ซื้อมากกว่า 1.32 ล้านราย นอกจากนี้ ยังได้เชื่อมโยงเข้ากับสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ เพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึงอีกด้วย กลายเป็นผลงานที่สร้างชื่อให้ คปภ. และประกันภัย 10 บาทในช่วงเทศกาลยังคงมีขายถึงปัจจุบัน

    #Newskit
    ประกันภัย 10 บาท ถูกสุดในไทยขายเฉพาะเทศกาล เมื่อวันที่ 1 เม.ย. เคาน์เตอร์เซอร์วิส ที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น จำหน่ายกรมธรรม์ประกันภัยสุขใจสงกรานต์ (ไมโครอินชัวร์รันส์) หรือ ประกันภัย 10 บาท คุ้มครอง 30 วัน รับเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 คุ้มครองอุบัติเหตุกรณีเสียชีวิต การสูญเสียมือ เท้า การสูญเสียสายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง สูงสุด 100,000 บาท และเพิ่มอีก 100,000 บาท หากเกิดอุบัติเหตุสาธารณะ รวมทั้งคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุสูงสุด 5,000 บาท รับประกันภัยโดย เมืองไทยประกันชีวิต ในครั้งนี้จำกัด 300,000 สิทธิ์เท่านั้น ผู้ซื้อต้องมีอายุ 15-70 ปีบริบูรณ์ จำกัด 1 กรมธรรม์ต่อ 1 หมายเลขบัตรประชาชน โดยในปีนี้สมาชิก All Member ซื้อได้ผ่าน 7-App หรือเว็บไซต์ counterservice.co.th ชำระได้ทั้งบัตรเครดิต ทรูมันนี่วอลเล็ต และพร้อมเพย์คิวอาร์โค้ด หากซื้อประกันสำเร็จจะมี SMS และอีเมลแจ้งระยะความคุ้มครอง แต่ผู้ซื้อต้องศึกษาข้อมูลและเงื่อนไขก่อนซื้อ เช่น ไม่คุ้มครองขณะอยู่ภายใต้ฤทธิ์สุรา (150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป) สารเสพติดหรือยาเสพติด การจบชีวิตตัวเอง การได้รับเชื้อโรค การแท้งลูก (ยกเว้นจากอุบัติเหตุ) สงคราม อาวุธนิวเคลียร์ การก่อการร้าย ก่ออาชญากรรม และเป็นทหาร ตำรวจ หรืออาสาสมัครเข้าปฎิบัติสงครามหรือปราบปราม เป็นต้น นอกจากเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่จำหน่ายประกันภัย 10 บาทแล้ว ยังมีผู้ประกอบการรายอื่นๆ แจกประกันภัยฟรี โดยมีความคุ้มครองคล้ายกัน เช่น ร้านอินทนิลในปั๊มบางจากแจกประกันภัยเมื่อซื้อเครื่องดื่ม เลือกได้ระหว่างประกันอุบัติเหตุหรือประกันอัคคีภัย ส่วนโออาร์แจกประกันอุบัติเหตุฟรีแก่สมาชิก Blueplus+ ผ่านแอปพลิเคชัน xplORe เป็นต้น ประกันภัย 10 บาท ไม่ใช่เรื่องใหม่ เกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 7 ปีก่อน สมัยนายสุทธิพล ทวีชัยการ เป็นเลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เมื่อปี 2561 (ปัจจุบันเป็นคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์) เพื่อเพิ่มทางเลือกด้วยเบี้ยประกันภัยที่เหมาะสมกับความเสี่ยง โดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ซึ่งที่ผ่านมาได้ออกผลิตภัณฑ์ประกันภัย 100 และประกันภัย 222 คุ้มครอง 1 ปี มีผู้ซื้อประกันหลักหมื่นราย กระทั่งออกประกันภัย 10 บาท คุ้มครอง 30 วัน ในช่วงสงกรานต์ปี 2561 สร้างสถิติใหม่เป็นประวัติศาสตร์ด้วยผู้ซื้อมากกว่า 1.32 ล้านราย นอกจากนี้ ยังได้เชื่อมโยงเข้ากับสินค้าอุปโภคบริโภคและบริการ เพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองอย่างทั่วถึงอีกด้วย กลายเป็นผลงานที่สร้างชื่อให้ คปภ. และประกันภัย 10 บาทในช่วงเทศกาลยังคงมีขายถึงปัจจุบัน #Newskit
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 570 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไฟเขียวบ่อนคอมเพล็กซ์ ชนวนขัดแย้งรอบใหม่

    ทันทีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และเตรียมเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาตามขั้นตอน กลุ่มผู้ชุมนุมนำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ร่วมกับเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล ประกาศยกระดับเป็นขับไล่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร พร้อมปักหลักพักค้างที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ปราศรัยตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะได้รับชัยชนะ

    นายจตุพร กล่าวปราศรัยว่า รัฐบาลแพทองธารเสมือนหนึ่งทำอะไรก็ได้ อาจมองว่าสถานการณ์การชุมนุมไม่น่ากลัวเพราะไม่มีนายทุนสนับสนุน แต่สมัยเหตุการณ์พฤษภา 35 เริ่มต้นคนจำนวนน้อยกว่านี้ เมื่อมีแกนนำมาสมทบ ขบวนการก็ใหญ่ขึ้นในพริบตา วันนี้ไม่ได้สู้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว เพราะวันข้างหน้าหากบ่อนการพนันเกิดขึ้นทั้งแผ่นดิน และพนันออนไลน์เข้ามาตามระบบ ต่อไปเงินที่มาจากบ่อนการพนันจะกำหนดอนาคตประเทศนี้ และเกิดสิ่งที่ชั่วช้าในบ้านเมือง ทั้งที่สมัยรัชกาลที่ ๕ ได้เลิกบ่อนการพนันถาวร เพราะเป็นห่วงพสกนิกรไม่อยากให้ตกเป็นทาสการพนัน เป็นผลให้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมายมากมาย

    "บอกว่าจะส่งเสริมรายได้เข้าประเทศ ต้องการเอาเงินเป็นภาษีเข้าประเทศ แต่ครอบครัวตัวเองถูกยึดทรัพย์ ตัวเองก็ถูกกล่าวหาว่าหลบเลี่ยงภาษี ประมวลกฎหมายจริยธรรมนั้นได้ลงรายละเอียดไว้มากมาย ว่าการใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อตัวเองและผู้อื่นนั้น เป็นเรื่องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะกระทำมิได้"

    ก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังประชุม ครม.ว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ไม่เท่ากับกาสิโน เพราะมีอยู่ไม่เกิน 10% ขณะที่ 90% จะเป็นฮอลล์คอนเสิร์ต อินดอร์สเตเดียมขนาดใหญ่ สวนน้ำ โรงแรม ร้านอาหาร อ้างว่าจะสร้างรายได้กว่า 119,000-238,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 5-10% ต่อปี มีการจ้างงานในประเทศเพิ่มขึ้น เกิดอาชีพใหม่ และทำให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีจากกาสิโนและธุรกิจอื่นเพื่อนำมาพัฒนาประเทศ อีกทั้งจะมีกฎหมายควบคุมเพื่อป้องกันติดการพนัน

    ส่วนที่จะต้องผ่านประชุมสภาฯ และยังมีการชุมนุมอีก จะเอาอยู่หรือไม่ เห็นว่าต้องอธิบายไปเรื่อยๆ ไม่อยากพูดว่าจัดการได้ทั้งหมด เรายินดีรับฟังความคิดเห็นทั้งหมดและพร้อมที่จะตอบ หากมีรายละเอียดอะไรที่อยากรู้เพิ่มเติมเราก็จะตอบ แล้วจะสื่อสารให้มากขึ้น ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล ได้ฝากถึงนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังให้ช่วยชี้แจงด้วย

    #Newskit
    ไฟเขียวบ่อนคอมเพล็กซ์ ชนวนขัดแย้งรอบใหม่ ทันทีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ (Entertainment Complex) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และเตรียมเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาตามขั้นตอน กลุ่มผู้ชุมนุมนำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ร่วมกับเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล ประกาศยกระดับเป็นขับไล่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร พร้อมปักหลักพักค้างที่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ ปราศรัยตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะได้รับชัยชนะ นายจตุพร กล่าวปราศรัยว่า รัฐบาลแพทองธารเสมือนหนึ่งทำอะไรก็ได้ อาจมองว่าสถานการณ์การชุมนุมไม่น่ากลัวเพราะไม่มีนายทุนสนับสนุน แต่สมัยเหตุการณ์พฤษภา 35 เริ่มต้นคนจำนวนน้อยกว่านี้ เมื่อมีแกนนำมาสมทบ ขบวนการก็ใหญ่ขึ้นในพริบตา วันนี้ไม่ได้สู้เพื่อประโยชน์ส่วนตัว เพราะวันข้างหน้าหากบ่อนการพนันเกิดขึ้นทั้งแผ่นดิน และพนันออนไลน์เข้ามาตามระบบ ต่อไปเงินที่มาจากบ่อนการพนันจะกำหนดอนาคตประเทศนี้ และเกิดสิ่งที่ชั่วช้าในบ้านเมือง ทั้งที่สมัยรัชกาลที่ ๕ ได้เลิกบ่อนการพนันถาวร เพราะเป็นห่วงพสกนิกรไม่อยากให้ตกเป็นทาสการพนัน เป็นผลให้ทำสิ่งที่ผิดกฎหมายมากมาย "บอกว่าจะส่งเสริมรายได้เข้าประเทศ ต้องการเอาเงินเป็นภาษีเข้าประเทศ แต่ครอบครัวตัวเองถูกยึดทรัพย์ ตัวเองก็ถูกกล่าวหาว่าหลบเลี่ยงภาษี ประมวลกฎหมายจริยธรรมนั้นได้ลงรายละเอียดไว้มากมาย ว่าการใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อตัวเองและผู้อื่นนั้น เป็นเรื่องของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะกระทำมิได้" ก่อนหน้านี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวหลังประชุม ครม.ว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ไม่เท่ากับกาสิโน เพราะมีอยู่ไม่เกิน 10% ขณะที่ 90% จะเป็นฮอลล์คอนเสิร์ต อินดอร์สเตเดียมขนาดใหญ่ สวนน้ำ โรงแรม ร้านอาหาร อ้างว่าจะสร้างรายได้กว่า 119,000-238,000 ล้านบาท นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเพิ่มขึ้น 5-10% ต่อปี มีการจ้างงานในประเทศเพิ่มขึ้น เกิดอาชีพใหม่ และทำให้รัฐบาลจัดเก็บภาษีจากกาสิโนและธุรกิจอื่นเพื่อนำมาพัฒนาประเทศ อีกทั้งจะมีกฎหมายควบคุมเพื่อป้องกันติดการพนัน ส่วนที่จะต้องผ่านประชุมสภาฯ และยังมีการชุมนุมอีก จะเอาอยู่หรือไม่ เห็นว่าต้องอธิบายไปเรื่อยๆ ไม่อยากพูดว่าจัดการได้ทั้งหมด เรายินดีรับฟังความคิดเห็นทั้งหมดและพร้อมที่จะตอบ หากมีรายละเอียดอะไรที่อยากรู้เพิ่มเติมเราก็จะตอบ แล้วจะสื่อสารให้มากขึ้น ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล ได้ฝากถึงนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังให้ช่วยชี้แจงด้วย #Newskit
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 705 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงราย - ตม.แม่สายเผยยังไร้วี่แววหนุ่มสิงคโปร์ ผู้ต้องสงสัยฆ่าสาวขอนแก่นคาคอนโดฯ หรูสุขุมวิท ก่อนขึ้นเชียงราย บอกด่านฯ แม่สายอนุญาตแค่คนไทย-เมียนมา เข้า-ออกช่องทางธรรมชาติ มีทหาร-จนท.เฝ้า หนียาก

    วันนี้ (27 มี.ค.) กรณีเกิดเหตุฆาตกรรม น.ส.พราวพิลาศ หญิงสาวชาวขอนแก่น อายุ 30 ปี ภายในคอนโดมิเนียมที่หรูหราย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา และทางตำรวจนครบาลได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบคนใกล้ชิดชื่อนายเดเนียล ชาวสิงคโปร์ เดินออกจากคอนโดมิเนียมด้วยทาทางเร่งรีบ ต่อมาตำรวจนครบาลระบุว่าผู้ต้องสงสัยมีการเคลื่อนไหวอยู่ที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.เชียงราย

    ล่าสุดที่จุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย ตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ยังคงมีการเดินทางเข้าออกพรมแดนโดยเป็นชาวไทยและเมียนมา ขณะที่ทางด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.เชียงราย ได้อำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าออกและตรวจสอบเอกสารบุคคลต่างๆ เพื่อตรวจสอบไม่ให้มีบุคคลต้องห้ามอย่างเข้มงวด ทั้งนี้จนถึงช่วงบ่ายวันที่ 27 ม.ค.ยังไม่พบตัวนายเดเนียลแต่อย่างใด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000029151

    #MGROnline #เชียงราย
    เชียงราย - ตม.แม่สายเผยยังไร้วี่แววหนุ่มสิงคโปร์ ผู้ต้องสงสัยฆ่าสาวขอนแก่นคาคอนโดฯ หรูสุขุมวิท ก่อนขึ้นเชียงราย บอกด่านฯ แม่สายอนุญาตแค่คนไทย-เมียนมา เข้า-ออกช่องทางธรรมชาติ มีทหาร-จนท.เฝ้า หนียาก • วันนี้ (27 มี.ค.) กรณีเกิดเหตุฆาตกรรม น.ส.พราวพิลาศ หญิงสาวชาวขอนแก่น อายุ 30 ปี ภายในคอนโดมิเนียมที่หรูหราย่านสุขุมวิท กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 25 มี.ค.ที่ผ่านมา และทางตำรวจนครบาลได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดพบคนใกล้ชิดชื่อนายเดเนียล ชาวสิงคโปร์ เดินออกจากคอนโดมิเนียมด้วยทาทางเร่งรีบ ต่อมาตำรวจนครบาลระบุว่าผู้ต้องสงสัยมีการเคลื่อนไหวอยู่ที่ชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน จ.เชียงราย • ล่าสุดที่จุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย ตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำสายแห่งที่ 1 ยังคงมีการเดินทางเข้าออกพรมแดนโดยเป็นชาวไทยและเมียนมา ขณะที่ทางด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) จ.เชียงราย ได้อำนวยความสะดวกในการเดินทางเข้าออกและตรวจสอบเอกสารบุคคลต่างๆ เพื่อตรวจสอบไม่ให้มีบุคคลต้องห้ามอย่างเข้มงวด ทั้งนี้จนถึงช่วงบ่ายวันที่ 27 ม.ค.ยังไม่พบตัวนายเดเนียลแต่อย่างใด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9680000029151 • #MGROnline #เชียงราย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 386 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้รายงานการสำรวจที่จัดขึ้นโดย Western Digital เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการสำรองข้อมูลของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล พบว่ากว่า 87% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะด้วยวิธีอัตโนมัติหรือด้วยตนเอง สาเหตุหลักที่กระตุ้นให้ผู้คนสำรองข้อมูลคือความกังวลเรื่องการสูญเสียไฟล์สำคัญ การต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่ม และการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ อย่างไรก็ตาม 63% ของผู้ตอบยังคงประสบปัญหาการสูญเสียข้อมูลจากอุบัติเหตุ เช่น การลบไฟล์โดยไม่ตั้งใจ หรือการโจมตีทางไซเบอร์

    เรื่องราวที่เน้นความสำคัญของการสำรองข้อมูล:
    - ในการผลิตภาพยนตร์เรื่อง Toy Story 2 มีการลบไฟล์แอนิเมชันส่วนใหญ่โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งถึงแม้จะมีการสำรองข้อมูลไว้ แต่ไฟล์เหล่านั้นบางส่วนก็เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ทีมงานสามารถกู้คืนไฟล์และสร้างภาพยนตร์ได้สำเร็จ.
    - อีกกรณีหนึ่งคือเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ศูนย์ข้อมูลของ OVHcloud ในปี 2021 ทำให้หลายเว็บไซต์และบริการสูญเสียข้อมูลสำคัญ ผู้ที่ใช้บริการสำรองข้อมูลเพิ่มเติมสามารถกู้คืนข้อมูลได้ แต่ผู้ที่พึ่งพาเพียงการจัดเก็บในศูนย์ข้อมูลสูญเสียข้อมูลไปอย่างถาวร.

    การสำรองข้อมูลในยุคใหม่:
    - แนวคิด 3-2-1 Backup Strategy ถูกแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งหมายถึงการเก็บข้อมูล 3 ชุดบนสื่อ 2 ประเภท และ 1 ชุดนอกสถานที่.
    - การสำรองข้อมูลแบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างคลาวด์และอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอกกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่จัดเก็บฟรีในคลาวด์.

    https://www.techspot.com/news/107304-surprisingly-87-people-back-up-their-data-but.html
    ข่าวนี้รายงานการสำรวจที่จัดขึ้นโดย Western Digital เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการสำรองข้อมูลของผู้ใช้งานในยุคดิจิทัล พบว่ากว่า 87% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีการสำรองข้อมูลอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะด้วยวิธีอัตโนมัติหรือด้วยตนเอง สาเหตุหลักที่กระตุ้นให้ผู้คนสำรองข้อมูลคือความกังวลเรื่องการสูญเสียไฟล์สำคัญ การต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลเพิ่ม และการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ อย่างไรก็ตาม 63% ของผู้ตอบยังคงประสบปัญหาการสูญเสียข้อมูลจากอุบัติเหตุ เช่น การลบไฟล์โดยไม่ตั้งใจ หรือการโจมตีทางไซเบอร์ เรื่องราวที่เน้นความสำคัญของการสำรองข้อมูล: - ในการผลิตภาพยนตร์เรื่อง Toy Story 2 มีการลบไฟล์แอนิเมชันส่วนใหญ่โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งถึงแม้จะมีการสำรองข้อมูลไว้ แต่ไฟล์เหล่านั้นบางส่วนก็เกิดความเสียหาย อย่างไรก็ตาม ทีมงานสามารถกู้คืนไฟล์และสร้างภาพยนตร์ได้สำเร็จ. - อีกกรณีหนึ่งคือเหตุการณ์ไฟไหม้ที่ศูนย์ข้อมูลของ OVHcloud ในปี 2021 ทำให้หลายเว็บไซต์และบริการสูญเสียข้อมูลสำคัญ ผู้ที่ใช้บริการสำรองข้อมูลเพิ่มเติมสามารถกู้คืนข้อมูลได้ แต่ผู้ที่พึ่งพาเพียงการจัดเก็บในศูนย์ข้อมูลสูญเสียข้อมูลไปอย่างถาวร. การสำรองข้อมูลในยุคใหม่: - แนวคิด 3-2-1 Backup Strategy ถูกแนะนำโดยผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งหมายถึงการเก็บข้อมูล 3 ชุดบนสื่อ 2 ประเภท และ 1 ชุดนอกสถานที่. - การสำรองข้อมูลแบบไฮบริดที่ผสมผสานระหว่างคลาวด์และอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอกกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่จัดเก็บฟรีในคลาวด์. https://www.techspot.com/news/107304-surprisingly-87-people-back-up-their-data-but.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Surprisingly, 87% of people back up their data, but data loss accidents persist
    Despite these efforts, data loss remains widespread: 63 percent of respondents reported losing data due to device failures, accidental deletions, or cyberattacks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เปิดตัวโครงการวีซ่าใหม่ชื่อว่า “Gold Card” มอบสิทธิการพำนักถาวรในสหรัฐฯ ให้แก่ผู้ลงทุนที่จ่ายเงิน 5 ล้านดอลลาร์ (180 ล้านบาท) รัฐมนตรีพาณิชย์ ฮาเวิร์ด ลัตนิก (Howard Lutnick) ตั้งเป้าว่าจะขายได้ถึงวันละ 1,000 ใบ ประเมินว่ามีคนทั่วโลกกว่า 37 ล้านคน ที่สามารถจ่ายได้ โดยทรัมป์ตั้งเป้าขายให้ได้ 1 ล้านใบGold Card นี้จะมาแทนที่วีซ่าลงทุน EB-5 แบบเดิม โดยผู้ถือบัตรสามารถ พำนักในสหรัฐฯ ได้อย่างไม่มีกำหนด โดยไม่จำเป็นต้องถือสัญชาติสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงภาษีทั่วโลกของสหรัฐฯลัตนิกยังกล่าวว่า หากเขาไม่ได้เป็นพลเมืองสหรัฐฯ อยู่แล้ว เขาก็จะซื้อไว้ถึง 6 ใบ เพื่อใช้เป็น “ประกันภัยชีวิต” ในยามที่โลกเกิดวิกฤติ.ที่มาhttps://www.facebook.com/share/p/16Bmi6rWLf/?mibextid=wwXIfr
    ทรัมป์เปิดตัวโครงการวีซ่าใหม่ชื่อว่า “Gold Card” มอบสิทธิการพำนักถาวรในสหรัฐฯ ให้แก่ผู้ลงทุนที่จ่ายเงิน 5 ล้านดอลลาร์ (180 ล้านบาท) รัฐมนตรีพาณิชย์ ฮาเวิร์ด ลัตนิก (Howard Lutnick) ตั้งเป้าว่าจะขายได้ถึงวันละ 1,000 ใบ ประเมินว่ามีคนทั่วโลกกว่า 37 ล้านคน ที่สามารถจ่ายได้ โดยทรัมป์ตั้งเป้าขายให้ได้ 1 ล้านใบGold Card นี้จะมาแทนที่วีซ่าลงทุน EB-5 แบบเดิม โดยผู้ถือบัตรสามารถ พำนักในสหรัฐฯ ได้อย่างไม่มีกำหนด โดยไม่จำเป็นต้องถือสัญชาติสหรัฐ ซึ่งอาจเป็นข้อได้เปรียบสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงภาษีทั่วโลกของสหรัฐฯลัตนิกยังกล่าวว่า หากเขาไม่ได้เป็นพลเมืองสหรัฐฯ อยู่แล้ว เขาก็จะซื้อไว้ถึง 6 ใบ เพื่อใช้เป็น “ประกันภัยชีวิต” ในยามที่โลกเกิดวิกฤติ.ที่มาhttps://www.facebook.com/share/p/16Bmi6rWLf/?mibextid=wwXIfr
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • มรดกบาปการเมืองไทย จากพี่สู่น้องจากน้องสู่หลาน..แจกอีกและแจกอีก เขาจะทำให้ไทยตกต่ำสุดขีน และเสียดินแดน..และสร้างคนจนถาวรเช่น เวเนซุเอลา อเมริกากลางฯ ลาก่อนรากหญ้าเขลาๆ
    มรดกบาปการเมืองไทย จากพี่สู่น้องจากน้องสู่หลาน..แจกอีกและแจกอีก เขาจะทำให้ไทยตกต่ำสุดขีน และเสียดินแดน..และสร้างคนจนถาวรเช่น เวเนซุเอลา อเมริกากลางฯ ลาก่อนรากหญ้าเขลาๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22 มีนาคม 2568-รายงานจากเพจเฟซบุ๊กSiamtownUSระบุว่าเริ่มตรวจโซเชียลมีเดีย ผู้ขอใบเขียว-สัญชาติแอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : หนึ่งในมาตรการตรวจเข้มต่างชาติที่ต้องการเข้าประเทศ หรืออยู่ในประเทศแบบถาวร คือต้องยอมให้ตรวจ “โซเชียลมีเดีย” ด้วย มีผลทั้งกับผู้ขอใบเขียว เปลี่ยนสัญชาติ รวมถึงการขอเข้าประเทศชั่วคราวด้วย กระทรวงความมั่นคงภายใน (โฮมแลนด์ฯ) ประกาศผ่านเว็บไซต์ the Federal Register เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2025 ถึงมาตรการใหม่ที่จะกระชับการตรวจสอบประวัติผู้ยื่นขอรับสวัสดิการต่างๆ ของรัฐ ตั้งแต่การยื่นขอใบเขียวจนถึงการยื่นขอเปลี่ยนสัญชาติ ให้มีความละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้นมาตรการดังกล่าวคือ “ผู้ยื่นแบบฟอร์ม ต้องให้ข้อมูลโซเชียลมีเดีย เพื่อให้รัฐตรวจสอบด้วย”รายละเอียดที่ระบุใน เดอะเฟดเดอรัล รีจีสเตอร์ บอกว่า มาตรการใหม่ ซึ่งมีขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งบริหารเลขที่ 14161 ว่าด้วยการคุ้มครองสหรัฐอเมริกา จากภัยก่อการร้ายต่างประเทศ, เพื่อความมั่นคงภายใน และความปลอดภัยของสาธารณะชน ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมาโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (U.S. Citizenship and Immigration Service – USCIS) จะเรียกเก็บข้อมูลโซเชียลมีเดีย (แต่ไม่เรียกเก็บพาสเวิร์ด) เพื่อตรวจสอบว่าผู้ยื่นแบบฟอร์มขอรับประโยชน์จาก USCIS มีความเสี่ยงใดๆ ต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยต่อสาธารณะหรือไม่มาตรการใหม่ จะมีผลกับผู้ยื่นแบบฟอร์มเกี่ยวกับอิมมิเกรชั่น 9 ประเภท คือ-N-400 (Application for Naturalization) ขอเปลี่ยนสัญชาติ-I-131 (Application for Travel Document) ขอเดินทางออกนอกประเทศ-I-192 (Application for Advance Permission to Enter as Nonimmigrant) วีซ่าชั่วคราว สำหรับคนต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง เช่น การลงทุน ศึกษาดูงาน ประชุม การปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน การเผยแผ่ศาสนา เป็นต้น-I-485 (Application for Adjustment of Status) ขอปรับสถานภาพ (ขอใบเขียว)-I-589 (Application for Asylum and for Withholding of Removal) ขอลี้ภัยหรือขอระงับการเนรเทศ-I-590 (Registration for Classification as Refugee) ขอรับการจัดประเภทเป็นผู้ลี้ภัย-I-730 (Refugee/Asylee Relative Petition) ขอให้ญาติได้รับการให้สถานะผู้ลี้ภัย-I-751 (Petition to Remove Conditions on Residence) ขอยกเลิกเงื่อนไขการพำนักอาศัย-I-829 (Petition by Investor to Remove Conditions on Permanent Resident Status) ขอจากนักลงทุน ให้ยกเลิกเงื่อนไขสถานะผู้พำนักถาวรสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฯ ประเมินว่าการกระชับมาตรการตรวจสอบฯ ครั้งนี้ มีผลกับผู้ยื่นแบบฟอร์มต่างๆ ปีละกว่า 3.5 ล้านคนอย่างไรก็ตาม หากไม่เห็นชอบกับมาตรการใหม่ของกระทรวงความมั่นคงภายในฯ สาธารณชนมีเวลา 60 วันนับจากการประกาศใน the Federal Register เพื่อยื่นคัดค้าน (ผ่านการแสดงความเห็น) ที่ https://www.regulations.gov/document/USCIS-2025-0003-0001) โดยกระทรวงความมั่นคงฯ จะทำการทบทวนความเห็นเหล่านี้อีกครั้ง ก่อนจะประกาศใช้ (หรือเพิกถอน).
    22 มีนาคม 2568-รายงานจากเพจเฟซบุ๊กSiamtownUSระบุว่าเริ่มตรวจโซเชียลมีเดีย ผู้ขอใบเขียว-สัญชาติแอลเอ (สยามทาวน์ยูเอส) : หนึ่งในมาตรการตรวจเข้มต่างชาติที่ต้องการเข้าประเทศ หรืออยู่ในประเทศแบบถาวร คือต้องยอมให้ตรวจ “โซเชียลมีเดีย” ด้วย มีผลทั้งกับผู้ขอใบเขียว เปลี่ยนสัญชาติ รวมถึงการขอเข้าประเทศชั่วคราวด้วย กระทรวงความมั่นคงภายใน (โฮมแลนด์ฯ) ประกาศผ่านเว็บไซต์ the Federal Register เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2025 ถึงมาตรการใหม่ที่จะกระชับการตรวจสอบประวัติผู้ยื่นขอรับสวัสดิการต่างๆ ของรัฐ ตั้งแต่การยื่นขอใบเขียวจนถึงการยื่นขอเปลี่ยนสัญชาติ ให้มีความละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้นมาตรการดังกล่าวคือ “ผู้ยื่นแบบฟอร์ม ต้องให้ข้อมูลโซเชียลมีเดีย เพื่อให้รัฐตรวจสอบด้วย”รายละเอียดที่ระบุใน เดอะเฟดเดอรัล รีจีสเตอร์ บอกว่า มาตรการใหม่ ซึ่งมีขึ้นเพื่อให้เป็นไปตามคำสั่งบริหารเลขที่ 14161 ว่าด้วยการคุ้มครองสหรัฐอเมริกา จากภัยก่อการร้ายต่างประเทศ, เพื่อความมั่นคงภายใน และความปลอดภัยของสาธารณะชน ซึ่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามเมื่อวันที่ 20 มกราคม ที่ผ่านมาโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและสัญชาติ (U.S. Citizenship and Immigration Service – USCIS) จะเรียกเก็บข้อมูลโซเชียลมีเดีย (แต่ไม่เรียกเก็บพาสเวิร์ด) เพื่อตรวจสอบว่าผู้ยื่นแบบฟอร์มขอรับประโยชน์จาก USCIS มีความเสี่ยงใดๆ ต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยต่อสาธารณะหรือไม่มาตรการใหม่ จะมีผลกับผู้ยื่นแบบฟอร์มเกี่ยวกับอิมมิเกรชั่น 9 ประเภท คือ-N-400 (Application for Naturalization) ขอเปลี่ยนสัญชาติ-I-131 (Application for Travel Document) ขอเดินทางออกนอกประเทศ-I-192 (Application for Advance Permission to Enter as Nonimmigrant) วีซ่าชั่วคราว สำหรับคนต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาเพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง เช่น การลงทุน ศึกษาดูงาน ประชุม การปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน การเผยแผ่ศาสนา เป็นต้น-I-485 (Application for Adjustment of Status) ขอปรับสถานภาพ (ขอใบเขียว)-I-589 (Application for Asylum and for Withholding of Removal) ขอลี้ภัยหรือขอระงับการเนรเทศ-I-590 (Registration for Classification as Refugee) ขอรับการจัดประเภทเป็นผู้ลี้ภัย-I-730 (Refugee/Asylee Relative Petition) ขอให้ญาติได้รับการให้สถานะผู้ลี้ภัย-I-751 (Petition to Remove Conditions on Residence) ขอยกเลิกเงื่อนไขการพำนักอาศัย-I-829 (Petition by Investor to Remove Conditions on Permanent Resident Status) ขอจากนักลงทุน ให้ยกเลิกเงื่อนไขสถานะผู้พำนักถาวรสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองฯ ประเมินว่าการกระชับมาตรการตรวจสอบฯ ครั้งนี้ มีผลกับผู้ยื่นแบบฟอร์มต่างๆ ปีละกว่า 3.5 ล้านคนอย่างไรก็ตาม หากไม่เห็นชอบกับมาตรการใหม่ของกระทรวงความมั่นคงภายในฯ สาธารณชนมีเวลา 60 วันนับจากการประกาศใน the Federal Register เพื่อยื่นคัดค้าน (ผ่านการแสดงความเห็น) ที่ https://www.regulations.gov/document/USCIS-2025-0003-0001) โดยกระทรวงความมั่นคงฯ จะทำการทบทวนความเห็นเหล่านี้อีกครั้ง ก่อนจะประกาศใช้ (หรือเพิกถอน).
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 644 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥 19 ปี โศกนาฏกรรมศาลท้าวมหาพรหม หนุ่มป่วยจิตบุกทุบ รุมสกรัมดับกลางราชประสงค์! 😱

    📝 ย้อนเหตุการณ์ช็อก 19 ปี ที่ผ่านมา! หนุ่มป่วยจิตบุกทุบศาลท้าวมหาพรหม ชาวบ้านรุมสกรัมจนเสียชีวิต แรงศรัทธาและแรงแค้น ปะทะกันอย่างรุนแรง!

    📚 ✨ 19 ปี ผ่านไป กับเหตุการณ์ที่ยังฝังใจคนไทย วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2549 🌙 เช้ามืดที่ราชประสงค์ เวลาตีหนึ่ง กลายเป็นเวทีของเหตุการณ์ ที่คนไทยทั้งประเทศไม่อาจลืม... เมื่อชายหนุ่มรายหนึ่ง บุกเข้าไปในศาลท้าวมหาพรหม กลางสี่แยกสำคัญ ทุบองค์พระพรหมจนแตกละเอียด ก่อนจะถูกชาวบ้านรุมทำร้าย จนเสียชีวิตต่อหน้าสายตาคนมากมาย 😢

    เรื่องราวครั้งนั้น ไม่ใช่เพียงข่าวฆาตกรรม แต่เป็นโศกนาฏกรรมที่ก่อให้เกิดคำถาม และข้อถกเถียงเกี่ยวกับศรัทธา ความเชื่อ และปัญหาทางสุขภาพจิตในสังคมไทย 📖

    🔎 เวลาประมาณตีหนึ่งของวันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2549 🚨 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งเหตุ มีชายคนหนึ่งถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต หน้าทางเข้าโรงแรมเอราวัณ จุดศูนย์กลางของศรัทธาและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ กลางกรุงเทพมหานคร 🏙️

    🎯 ชายคนดังกล่าว อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาว พับขาขึ้นมา เขามีรอยสักคำว่า "อามีน" บริเวณแผ่นหลัง พบค้อนและเหล็กเสียบร่ม ในพื้นที่ใกล้ศพ องค์ท้าวมหาพรหมถูกทุบจนแตกละเอียด เหลือแต่ฐาน 😢 ไม่มีเอกสารแสดงตัวตน พบเพียงบุหรี่ ยาเส้น ไฟแช็ก และเงิน 8 บาท
    ต่อมา

    พ่อของชายหนุ่มได้มายืนยันตัวตน ว่าผู้เคราะห์ร้ายชื่อ นายธนกร ภักดีผล อายุ 27 ปี ป่วยเป็นโรคจิตเวชมานานกว่า 6 ปี 🧠

    🛕 ศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ เป็นมากกว่าสถานที่สักการะ 😇 แต่เป็นศูนย์รวมความเชื่อของคนไทย และชาวต่างชาติที่ศรัทธาใน "องค์มหาพรหม" เทพผู้ประทานพรให้สมปรารถนาในสิ่งที่หวัง

    📌 สร้างขึ้นปี 2499 โดยบริษัทสหโรงแรมไทย และการท่องเที่ยว จำกัด เพื่อแก้เคล็ดฤกษ์ที่ไม่ดี ตามความเชื่อโหราศาสตร์ องค์พระพรหมปั้นจากปูนปลาสเตอร์ ปิดทอง โดยกรมศิลปากร กลายเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจ ผู้คนมาขอพรเรื่องความสำเร็จ ในชีวิตและการงาน 🙏

    💥 ความเชื่อกับความกลัว ปฏิกิริยาของผู้คนต่อเหตุการณ์ หลังเหตุการณ์ หน้าศาลท้าวมหาพรหม เต็มไปด้วยความเศร้าโศก และตื่นตระหนก 😭 ผู้ศรัทธาหลายคนร่ำไห้ เชื่อว่านี่คือ "ลางร้าย" ที่บอกเหตุการณ์ไม่ดี ที่จะเกิดขึ้นในบ้านเมืองไทย 🇹🇭

    นายภิญโญ พงศ์เจริญ นักโหราศาสตร์ชื่อดัง กล่าวว่า นี่เป็นสัญญาณจากฟ้าดิน ว่าเกิดสิ่งไม่เป็นมงคล ⚡

    🩺 ประเด็นปัญหาทางสังคม บทเรียนจากโศกนาฏกรรม สุขภาพจิต คือเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม! 🧠 นายธนกรป่วยเป็นโรคจิตเวชมานาน แต่ไม่มีระบบสวัสดิการที่เพียงพอ ในการดูแลรักษา พ่อต้องพาไปโรงพยาบาลถึง 4 แห่ง แต่ไม่ได้ผลถาวร 😓

    🚨 ประเด็นที่สังคมควรถาม
    - ทำไมถึงไม่มีการช่วยเหลือทันทีจากตำรวจ 191 ที่พ่อโทรแจ้งก่อนเหิดเหตุ?
    - ระบบสุขภาพจิตของไทย รองรับผู้ป่วยเรื้อรังเพียงพอหรือไม่?
    - ประชาทัณฑ์คือความยุติธรรม หรืออารมณ์ชั่ววูบ?

    🛠️ บูรณะศาลท้าวมหาพรหม เยียวยาความรู้สึกคนไทย หลังเหตุการณ์ โรงแรมเอราวัณและกรมศิลปากร เร่งบูรณะองค์ท้าวมหาพรหม 🔧 โดยใช้เทคนิคใหม่ เช่น ใยหิน ปูนเขียว แกนสเตนเลส และทองเหลืองจากสวีเดน พร้อมปิดทองใหม่ทุกจุด ✨

    📅 ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 มีพิธีบวงสรวงใหญ่ และเชิญองค์ท้าวมหาพรหม กลับประดิษฐาน ณ จุดเดิม ช่วยปลุกขวัญ และฟื้นฟูศรัทธาประชาชนอีกครั้ง 🙏

    💣 เหตุการณ์ระเบิดปี 2558 ฝันร้ายซ้ำสองที่ไม่มีใครอยากจำ วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.55 น. เกิดเหตุระเบิดกลางศาลท้าวมหาพรหมอีกครั้ง 🔥 ด้วยระเบิดทีเอ็นทีหนัก 5 กก. มีผู้เสียชีวิตทันที 16 ราย และบาดเจ็บกว่า 70 คน

    แรงระเบิดทำให้องค์มหาพรหม เสียหายอย่างหนัก ต้องบูรณะด้วยงบประมาณกว่า 70,000 บาท ภายในเวลาเพียง 9 วัน ⚒️

    📉 วิเคราะห์ผลกระทบทางสังคม ศรัทธา และความมั่นคง คำถามใหญ่ที่เกิดขึ้น 🤔 รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคง สามารถป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ได้แค่ไหน? ศรัทธายังเป็นพลังบวก หรือกำลังกลายเป็นเครื่องมือสร้างความหวาดกลัวในสังคม?

    💡 ทางออกที่ควรพิจารณา เพิ่มการดูแลผู้ป่วยจิตเวช และสร้างระบบรับมือวิกฤตสุขภาพจิต ที่มีประสิทธิภาพ เสริมความเข้มแข็งในการป้องกันเหตุอาชญากรรม ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

    📝 ศรัทธา...ยังคงอยู่ หรือเลือนหายไป? 19 ปีผ่านไป เหตุการณ์ที่ศาลท้าวมหาพรหม ยังสอนว่า "ศรัทธา" อาจเป็นทั้งพลังสร้างสรรค์ และพลังทำลายได้ ถ้าไม่รู้จักใช้มันให้ถูกที่ถูกทาง 🙏✨

    สิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้จากอดีต ไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ในรูปแบบใหม่อีกครั้ง 💔

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 210927 มี.ค. 2568

    📣 #ท้าวมหาพรหม #ศาลเอราวัณ #ศรัทธามหาชน #เหตุการณ์ราชประสงค์ #สุขภาพจิต #รุมประชาทัณฑ์ #บูรณะศาลท้าวมหาพรหม #ระเบิดราชประสงค์ #ข่าวอาชญากรรม #สังคมไทยวันนี้
    🔥 19 ปี โศกนาฏกรรมศาลท้าวมหาพรหม หนุ่มป่วยจิตบุกทุบ รุมสกรัมดับกลางราชประสงค์! 😱 📝 ย้อนเหตุการณ์ช็อก 19 ปี ที่ผ่านมา! หนุ่มป่วยจิตบุกทุบศาลท้าวมหาพรหม ชาวบ้านรุมสกรัมจนเสียชีวิต แรงศรัทธาและแรงแค้น ปะทะกันอย่างรุนแรง! 📚 ✨ 19 ปี ผ่านไป กับเหตุการณ์ที่ยังฝังใจคนไทย วันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2549 🌙 เช้ามืดที่ราชประสงค์ เวลาตีหนึ่ง กลายเป็นเวทีของเหตุการณ์ ที่คนไทยทั้งประเทศไม่อาจลืม... เมื่อชายหนุ่มรายหนึ่ง บุกเข้าไปในศาลท้าวมหาพรหม กลางสี่แยกสำคัญ ทุบองค์พระพรหมจนแตกละเอียด ก่อนจะถูกชาวบ้านรุมทำร้าย จนเสียชีวิตต่อหน้าสายตาคนมากมาย 😢 เรื่องราวครั้งนั้น ไม่ใช่เพียงข่าวฆาตกรรม แต่เป็นโศกนาฏกรรมที่ก่อให้เกิดคำถาม และข้อถกเถียงเกี่ยวกับศรัทธา ความเชื่อ และปัญหาทางสุขภาพจิตในสังคมไทย 📖 🔎 เวลาประมาณตีหนึ่งของวันอังคารที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2549 🚨 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งเหตุ มีชายคนหนึ่งถูกรุมทำร้ายจนเสียชีวิต หน้าทางเข้าโรงแรมเอราวัณ จุดศูนย์กลางของศรัทธาและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ กลางกรุงเทพมหานคร 🏙️ 🎯 ชายคนดังกล่าว อายุประมาณ 30 ปี สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขายาว พับขาขึ้นมา เขามีรอยสักคำว่า "อามีน" บริเวณแผ่นหลัง พบค้อนและเหล็กเสียบร่ม ในพื้นที่ใกล้ศพ องค์ท้าวมหาพรหมถูกทุบจนแตกละเอียด เหลือแต่ฐาน 😢 ไม่มีเอกสารแสดงตัวตน พบเพียงบุหรี่ ยาเส้น ไฟแช็ก และเงิน 8 บาท ต่อมา พ่อของชายหนุ่มได้มายืนยันตัวตน ว่าผู้เคราะห์ร้ายชื่อ นายธนกร ภักดีผล อายุ 27 ปี ป่วยเป็นโรคจิตเวชมานานกว่า 6 ปี 🧠 🛕 ศาลท้าวมหาพรหม สี่แยกราชประสงค์ เป็นมากกว่าสถานที่สักการะ 😇 แต่เป็นศูนย์รวมความเชื่อของคนไทย และชาวต่างชาติที่ศรัทธาใน "องค์มหาพรหม" เทพผู้ประทานพรให้สมปรารถนาในสิ่งที่หวัง 📌 สร้างขึ้นปี 2499 โดยบริษัทสหโรงแรมไทย และการท่องเที่ยว จำกัด เพื่อแก้เคล็ดฤกษ์ที่ไม่ดี ตามความเชื่อโหราศาสตร์ องค์พระพรหมปั้นจากปูนปลาสเตอร์ ปิดทอง โดยกรมศิลปากร กลายเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจ ผู้คนมาขอพรเรื่องความสำเร็จ ในชีวิตและการงาน 🙏 💥 ความเชื่อกับความกลัว ปฏิกิริยาของผู้คนต่อเหตุการณ์ หลังเหตุการณ์ หน้าศาลท้าวมหาพรหม เต็มไปด้วยความเศร้าโศก และตื่นตระหนก 😭 ผู้ศรัทธาหลายคนร่ำไห้ เชื่อว่านี่คือ "ลางร้าย" ที่บอกเหตุการณ์ไม่ดี ที่จะเกิดขึ้นในบ้านเมืองไทย 🇹🇭 นายภิญโญ พงศ์เจริญ นักโหราศาสตร์ชื่อดัง กล่าวว่า นี่เป็นสัญญาณจากฟ้าดิน ว่าเกิดสิ่งไม่เป็นมงคล ⚡ 🩺 ประเด็นปัญหาทางสังคม บทเรียนจากโศกนาฏกรรม สุขภาพจิต คือเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม! 🧠 นายธนกรป่วยเป็นโรคจิตเวชมานาน แต่ไม่มีระบบสวัสดิการที่เพียงพอ ในการดูแลรักษา พ่อต้องพาไปโรงพยาบาลถึง 4 แห่ง แต่ไม่ได้ผลถาวร 😓 🚨 ประเด็นที่สังคมควรถาม - ทำไมถึงไม่มีการช่วยเหลือทันทีจากตำรวจ 191 ที่พ่อโทรแจ้งก่อนเหิดเหตุ? - ระบบสุขภาพจิตของไทย รองรับผู้ป่วยเรื้อรังเพียงพอหรือไม่? - ประชาทัณฑ์คือความยุติธรรม หรืออารมณ์ชั่ววูบ? 🛠️ บูรณะศาลท้าวมหาพรหม เยียวยาความรู้สึกคนไทย หลังเหตุการณ์ โรงแรมเอราวัณและกรมศิลปากร เร่งบูรณะองค์ท้าวมหาพรหม 🔧 โดยใช้เทคนิคใหม่ เช่น ใยหิน ปูนเขียว แกนสเตนเลส และทองเหลืองจากสวีเดน พร้อมปิดทองใหม่ทุกจุด ✨ 📅 ในวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 มีพิธีบวงสรวงใหญ่ และเชิญองค์ท้าวมหาพรหม กลับประดิษฐาน ณ จุดเดิม ช่วยปลุกขวัญ และฟื้นฟูศรัทธาประชาชนอีกครั้ง 🙏 💣 เหตุการณ์ระเบิดปี 2558 ฝันร้ายซ้ำสองที่ไม่มีใครอยากจำ วันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 เวลา 18.55 น. เกิดเหตุระเบิดกลางศาลท้าวมหาพรหมอีกครั้ง 🔥 ด้วยระเบิดทีเอ็นทีหนัก 5 กก. มีผู้เสียชีวิตทันที 16 ราย และบาดเจ็บกว่า 70 คน แรงระเบิดทำให้องค์มหาพรหม เสียหายอย่างหนัก ต้องบูรณะด้วยงบประมาณกว่า 70,000 บาท ภายในเวลาเพียง 9 วัน ⚒️ 📉 วิเคราะห์ผลกระทบทางสังคม ศรัทธา และความมั่นคง คำถามใหญ่ที่เกิดขึ้น 🤔 รัฐบาลและหน่วยงานความมั่นคง สามารถป้องกันเหตุการณ์แบบนี้ได้แค่ไหน? ศรัทธายังเป็นพลังบวก หรือกำลังกลายเป็นเครื่องมือสร้างความหวาดกลัวในสังคม? 💡 ทางออกที่ควรพิจารณา เพิ่มการดูแลผู้ป่วยจิตเวช และสร้างระบบรับมือวิกฤตสุขภาพจิต ที่มีประสิทธิภาพ เสริมความเข้มแข็งในการป้องกันเหตุอาชญากรรม ที่เกี่ยวข้องกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 📝 ศรัทธา...ยังคงอยู่ หรือเลือนหายไป? 19 ปีผ่านไป เหตุการณ์ที่ศาลท้าวมหาพรหม ยังสอนว่า "ศรัทธา" อาจเป็นทั้งพลังสร้างสรรค์ และพลังทำลายได้ ถ้าไม่รู้จักใช้มันให้ถูกที่ถูกทาง 🙏✨ สิ่งสำคัญที่สุดคือการเรียนรู้จากอดีต ไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย ในรูปแบบใหม่อีกครั้ง 💔 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 210927 มี.ค. 2568 📣 #ท้าวมหาพรหม #ศาลเอราวัณ #ศรัทธามหาชน #เหตุการณ์ราชประสงค์ #สุขภาพจิต #รุมประชาทัณฑ์ #บูรณะศาลท้าวมหาพรหม #ระเบิดราชประสงค์ #ข่าวอาชญากรรม #สังคมไทยวันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 901 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts