• เรื่องเล่าจากบทความถึงการบอยคอต: เมื่อความพยายามควบคุมข้อมูลกลายเป็นสงครามกับความเป็นกลาง

    ในช่วงปลายปี 2024 ถึงต้นปี 2025 Elon Musk ได้เปิดฉากโจมตี Wikipedia อย่างเปิดเผย โดยเริ่มจากโพสต์บน X (Twitter) ที่เรียกร้องให้ผู้ติดตามกว่า 200 ล้านคน “หยุดบริจาคให้ Wokepedia” พร้อมกล่าวหาว่า Wikipedia มีอคติทางการเมือง และควร “คืนความสมดุลให้กับอำนาจการแก้ไข”

    การโจมตีนี้เกิดขึ้นหลังจาก Wikipedia อัปเดตหน้าประวัติของ Musk โดยเพิ่มเนื้อหาที่กล่าวถึงท่าทางของเขาในงานสุนทรพจน์ของ Donald Trump ซึ่งบางคนตีความว่าเป็น “ท่าทางแบบนาซี” แม้จะไม่มีการยืนยันเจตนา แต่การกล่าวถึงในบทความก็เพียงพอให้ Muskโกรธและเริ่มรณรงค์ต่อต้าน Wikipedia อย่างจริงจัง

    บทความใน Wikipedia Signpost และรายงานจาก Newsweek ระบุว่า Musk ไม่ได้โจมตี Wikipedia เพียงลำพัง แต่ร่วมมือกับนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวา เช่น Chaya Raichik (Libs of TikTok) ที่โพสต์ภาพงบประมาณของ Wikimedia Foundation พร้อมกล่าวหาว่าองค์กรใช้เงิน $50 ล้านไปกับ “diversity, equity, and inclusion” ซึ่งกลายเป็นเป้าหมายของฝ่ายขวาในสหรัฐฯ

    Jimmy Wales ผู้ก่อตั้ง Wikipedia ตอบโต้ทันที โดยโพสต์ว่า “Elon ไม่พอใจที่ Wikipedia ไม่สามารถซื้อได้” และหวังว่าการรณรงค์ของ Musk จะกระตุ้นให้คนที่เชื่อในความจริงบริจาคมากขึ้น Wales ยังย้ำว่า Wikipedia ยึดหลักความเป็นกลาง และเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ไขอย่างโปร่งใส

    ในขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น X ภายใต้การนำของ Musk กำลังลดการควบคุมเนื้อหาและเปิดทางให้ข้อมูลเท็จแพร่กระจาย Wikipedia ยังคงรักษามาตรฐานการตรวจสอบและการอ้างอิงอย่างเข้มงวด แม้จะถูกโจมตีจากหลายฝ่าย

    การโจมตี Wikipedia โดย Elon Musk
    Musk เรียกร้องให้ผู้ติดตาม “หยุดบริจาคให้ Wokepedia”
    โจมตีเนื้อหาที่กล่าวถึงท่าทางของเขาในงานของ Trump
    ร่วมมือกับนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาในการโจมตีงบประมาณของ Wikimedia

    การตอบโต้จาก Wikipedia
    Jimmy Wales ยืนยันว่า Wikipedia ไม่สามารถซื้อได้
    ย้ำหลักความเป็นกลางและการเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วม
    หวังว่าการโจมตีจะกระตุ้นให้คนที่เชื่อในความจริงบริจาคมากขึ้น

    บริบททางการเมืองและสื่อ
    Wikipedia ถูกมองว่าเป็น “ปราการสุดท้าย” ของข้อมูลที่ไม่ถูกควบคุม
    X ภายใต้ Musk ลดการควบคุมเนื้อหาและเปิดทางให้ข้อมูลเท็จ
    ความขัดแย้งสะท้อนถึงแนวโน้มการแบ่งขั้วในสื่อดิจิทัล

    ความสำคัญของ Wikipedia ในยุคข้อมูล
    เป็นแหล่งข้อมูลที่มีผู้เข้าชมหลายล้านคนต่อวัน
    ใช้ระบบอ้างอิงและการตรวจสอบจากชุมชนอาสาสมัคร
    ยังคงเป็นแหล่งข้อมูลที่ได้รับความเชื่อถือในระดับโลก

    https://www.theverge.com/cs/features/717322/wikipedia-attacks-neutrality-history-jimmy-wales
    🎙️ เรื่องเล่าจากบทความถึงการบอยคอต: เมื่อความพยายามควบคุมข้อมูลกลายเป็นสงครามกับความเป็นกลาง ในช่วงปลายปี 2024 ถึงต้นปี 2025 Elon Musk ได้เปิดฉากโจมตี Wikipedia อย่างเปิดเผย โดยเริ่มจากโพสต์บน X (Twitter) ที่เรียกร้องให้ผู้ติดตามกว่า 200 ล้านคน “หยุดบริจาคให้ Wokepedia” พร้อมกล่าวหาว่า Wikipedia มีอคติทางการเมือง และควร “คืนความสมดุลให้กับอำนาจการแก้ไข” การโจมตีนี้เกิดขึ้นหลังจาก Wikipedia อัปเดตหน้าประวัติของ Musk โดยเพิ่มเนื้อหาที่กล่าวถึงท่าทางของเขาในงานสุนทรพจน์ของ Donald Trump ซึ่งบางคนตีความว่าเป็น “ท่าทางแบบนาซี” แม้จะไม่มีการยืนยันเจตนา แต่การกล่าวถึงในบทความก็เพียงพอให้ Muskโกรธและเริ่มรณรงค์ต่อต้าน Wikipedia อย่างจริงจัง บทความใน Wikipedia Signpost และรายงานจาก Newsweek ระบุว่า Musk ไม่ได้โจมตี Wikipedia เพียงลำพัง แต่ร่วมมือกับนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวา เช่น Chaya Raichik (Libs of TikTok) ที่โพสต์ภาพงบประมาณของ Wikimedia Foundation พร้อมกล่าวหาว่าองค์กรใช้เงิน $50 ล้านไปกับ “diversity, equity, and inclusion” ซึ่งกลายเป็นเป้าหมายของฝ่ายขวาในสหรัฐฯ Jimmy Wales ผู้ก่อตั้ง Wikipedia ตอบโต้ทันที โดยโพสต์ว่า “Elon ไม่พอใจที่ Wikipedia ไม่สามารถซื้อได้” และหวังว่าการรณรงค์ของ Musk จะกระตุ้นให้คนที่เชื่อในความจริงบริจาคมากขึ้น Wales ยังย้ำว่า Wikipedia ยึดหลักความเป็นกลาง และเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ไขอย่างโปร่งใส ในขณะที่แพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น X ภายใต้การนำของ Musk กำลังลดการควบคุมเนื้อหาและเปิดทางให้ข้อมูลเท็จแพร่กระจาย Wikipedia ยังคงรักษามาตรฐานการตรวจสอบและการอ้างอิงอย่างเข้มงวด แม้จะถูกโจมตีจากหลายฝ่าย ✅ การโจมตี Wikipedia โดย Elon Musk ➡️ Musk เรียกร้องให้ผู้ติดตาม “หยุดบริจาคให้ Wokepedia” ➡️ โจมตีเนื้อหาที่กล่าวถึงท่าทางของเขาในงานของ Trump ➡️ ร่วมมือกับนักเคลื่อนไหวฝ่ายขวาในการโจมตีงบประมาณของ Wikimedia ✅ การตอบโต้จาก Wikipedia ➡️ Jimmy Wales ยืนยันว่า Wikipedia ไม่สามารถซื้อได้ ➡️ ย้ำหลักความเป็นกลางและการเปิดให้ทุกคนมีส่วนร่วม ➡️ หวังว่าการโจมตีจะกระตุ้นให้คนที่เชื่อในความจริงบริจาคมากขึ้น ✅ บริบททางการเมืองและสื่อ ➡️ Wikipedia ถูกมองว่าเป็น “ปราการสุดท้าย” ของข้อมูลที่ไม่ถูกควบคุม ➡️ X ภายใต้ Musk ลดการควบคุมเนื้อหาและเปิดทางให้ข้อมูลเท็จ ➡️ ความขัดแย้งสะท้อนถึงแนวโน้มการแบ่งขั้วในสื่อดิจิทัล ✅ ความสำคัญของ Wikipedia ในยุคข้อมูล ➡️ เป็นแหล่งข้อมูลที่มีผู้เข้าชมหลายล้านคนต่อวัน ➡️ ใช้ระบบอ้างอิงและการตรวจสอบจากชุมชนอาสาสมัคร ➡️ ยังคงเป็นแหล่งข้อมูลที่ได้รับความเชื่อถือในระดับโลก https://www.theverge.com/cs/features/717322/wikipedia-attacks-neutrality-history-jimmy-wales
    WWW.THEVERGE.COM
    Wikipedia is under attack — and how it can survive
    The site’s volunteers face threats from Trump, billionaires, and AI.
    0 Comments 0 Shares 85 Views 0 Reviews
  • 555,ถ้าประชาชนเอาจริง บอกเลยข้าราชการทั้งสระแก้วตายยกเข่ง,ปล่อยปละละเลยก็ ม.157 แล้ว สมยอมรู้เห็นเป็นใจให้เสียหายแบบเสียดินแดนโดยเจตนาให้คนเขมรครอบครองไปขับไล่ก็ ม.119แล้ว ตำรวจท้องที่ ตำรวจชายแดน ทหารกำกับดูแลพื้นที่ก็ต้องโดนด้วยตามเนื้องานรับผิดชอบตน ทั้งม.157และ ม.119ด้วยชัดเจนเอาแค่สองตัวนี้ก็ดิ้นไม่หลุดแล้วนอกจากนายใหญ่โคตรพ่อโคตรแมร่งเลวชั่วปกป้องพวกนี้,จึงต้องกำจัดนายใหญ่นี้ด้วย เป็นเจ้าเป็นเชื้อพระวงศ์หากทำผิดเสียเองให้ท้ายจนนำไปสู่ภัยเสียดินแดนไทยตนก็มิอาจเก็บไว้ พวกผิดหวังขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ลูกหลานนางสนมต่างๆในอดีตสืบทอดถึงปัจจุบันหากกระทำตนเลวชั่วก็ต้องกำจัดจริงๆ,นายใหญ่นายใหญ่นอกจากอำมาตย์ราชการใหญ่โต ก็มองไม่ออกว่าโคตรหม่อมๆชั่วเลวตรใดก็ว่า ผู้ดีโคตรเหง้าตระกูลใดสั่งมทภ.1ได้มิให้จัดการเขมรเถื่อนจนถึงปัจจุบัน ,แฝมทภ.2ทำไมจัดการได้ อดีตทหารนายพลใดที่เลวชั่วนัก,กฎหมายหมิ่นประมาทต้องยกเลิก,จะได้มีคนกล้าแฉกล้าพูดว่า อาจจะเป็นใคร น่าจะเป็นใคร โอกาสเป็นใคร สายลับคาดว่าเป็นคนชื่อนั้นนี้ เปิดออกมาก็ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องร้องหมิ่นประมาทมัน,มันไม่ผิดก็ไม่ต้องเดือดร้อน ออกมาตอบโต้ได้สาระพัดทาง,ประจานประนามด่าว่าคนที่แฉตน เอาความจริงหรือไม่จริงมาพูดได้,จากนั้นประชาชนจะประเมิน ค.ว.ย.ตามหลักเหตุผล ผูกปมไขพิสูจน์แต่ละฝ่ายว่ามีมูลความจริงขนาดไหน คนแฉมีรูปมีพยานหลักฐานโชว์บอกผ่านสื่อประชาชนอีก,ความจริงก็จะทำลายความไม่จริงลงเรื่อยๆ กำจัดคนไม่ดีในสังคมได้ตลอดเวลา หากไม่สำนึกปรับปรุงตัวก็ดับอนาถจัดการแฉขั้นเด็ดขาดไม่ไว้หน้าอับอายทั่วประเทศไทยเลย,นี้ไง กฎหมายหมิ่นประมาทจึงบัดสบมาก,ปิดปากผู้คนชาวไทยเราได้ดีล่ะ.

    ..ภาค.1ตอนนี้ ทหารภาค1.คือเครดิตตกต่ำมากจากการนำทัพบัญชาการรบลงสนามรบของแม่ทัพภาค.1 ถ้าเทียบสมรภูมิสงคราม9ทัพ99ทัพ,1ในทัพที่พ่ายแพ้สงครามดับอนาถแก้ศัตรูที่แพ้ในสนามรบกับข้าศึก ทหารตายทั้งกองทัพด้วยก็คือทัพของภาค.1นี้ล่ะ,และหากเทียบอีก1ใน9ทัพหรือ99ทัพที่No.1ในการทำศึกสงครามครั้งนี้ที่สุดยอดของทั้งกองทัพก็คือทัพของภาค.2เต็มๆเข้าตีเมืองศัตรูข้าศึกรบตลอด5วันสามารถเข้าตียึดเมืองศัตรูด้วยกว่า11เมืองพื้นที่ข้าศึกนอกจากชนะบนลานสนามรบแล้ว,ภาค.1แม้เมืองเดียวที่ไร้หัวทหารศัตรูบนสนามรบแท้ๆก็ยังเข้าตีเมืองยึดเมืองไม่ได้,อำมาตย์ราชวังยังหน้ามึนหน้าหนาหน้าด้านไม่รู้จักถูกผิด สมควร ไม่สมควร เสือกเลื่อนตำแหน่งชั้นยศให้เป็นรางวัลอีก,เสมือนแม่ทัพผู้นี้แม้ออกรบที่พ่ายแพ้สงครามบนสนามรบกลับมาก็สามารถมีตำแหน่งใหญ่โตบนอำนาจทางทหารได้ เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจนายทหารอื่นๆที่มีความสามารถมากมายกว่าแม่ทัพนายทหารนี้มาก,นี้คือการทำลายความมั่นคงทางกองทัพจากภายในชัดเจน อันตรายมาก เสมือนกรุงศรีอยุธยาล้มสลายเมืองกรุงแตกก็มาจากอำมาตย์ชั่วเลวเหล่านี้นี้เอง,เชิดชูคนกากกระจอกอ่อนแอไปเป็นคนมีอำนาจควบคุมทั้งกองทัพ ซึ่งฝีมือตนไม่มีห่าอะไรเลย รบก็แพ้ ออกสนามรบก็ยังไม่ชักดาบฆ่าทหารฝ่ายศัตรูตายสักคน,ทหารตายทั้งกองทัพจนแพ้สงครามกว่าทัพใดๆใน9ทัพ99ทัพ ,หากยังเป็นแบบนี้ อันตรายแน่นอน,เราไม่สามารถระวังภัยนั้นได้ตลอดเวลาดอก,อย่าประมาทไฟแม้เพียงก้อนเล็กน้อย.

    https://youtube.com/shorts/bM8NJBMPjuw?si=8TiqGCDlsRFHhSJI
    555,ถ้าประชาชนเอาจริง บอกเลยข้าราชการทั้งสระแก้วตายยกเข่ง,ปล่อยปละละเลยก็ ม.157 แล้ว สมยอมรู้เห็นเป็นใจให้เสียหายแบบเสียดินแดนโดยเจตนาให้คนเขมรครอบครองไปขับไล่ก็ ม.119แล้ว ตำรวจท้องที่ ตำรวจชายแดน ทหารกำกับดูแลพื้นที่ก็ต้องโดนด้วยตามเนื้องานรับผิดชอบตน ทั้งม.157และ ม.119ด้วยชัดเจนเอาแค่สองตัวนี้ก็ดิ้นไม่หลุดแล้วนอกจากนายใหญ่โคตรพ่อโคตรแมร่งเลวชั่วปกป้องพวกนี้,จึงต้องกำจัดนายใหญ่นี้ด้วย เป็นเจ้าเป็นเชื้อพระวงศ์หากทำผิดเสียเองให้ท้ายจนนำไปสู่ภัยเสียดินแดนไทยตนก็มิอาจเก็บไว้ พวกผิดหวังขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์ลูกหลานนางสนมต่างๆในอดีตสืบทอดถึงปัจจุบันหากกระทำตนเลวชั่วก็ต้องกำจัดจริงๆ,นายใหญ่นายใหญ่นอกจากอำมาตย์ราชการใหญ่โต ก็มองไม่ออกว่าโคตรหม่อมๆชั่วเลวตรใดก็ว่า ผู้ดีโคตรเหง้าตระกูลใดสั่งมทภ.1ได้มิให้จัดการเขมรเถื่อนจนถึงปัจจุบัน ,แฝมทภ.2ทำไมจัดการได้ อดีตทหารนายพลใดที่เลวชั่วนัก,กฎหมายหมิ่นประมาทต้องยกเลิก,จะได้มีคนกล้าแฉกล้าพูดว่า อาจจะเป็นใคร น่าจะเป็นใคร โอกาสเป็นใคร สายลับคาดว่าเป็นคนชื่อนั้นนี้ เปิดออกมาก็ไม่ต้องกลัวถูกฟ้องร้องหมิ่นประมาทมัน,มันไม่ผิดก็ไม่ต้องเดือดร้อน ออกมาตอบโต้ได้สาระพัดทาง,ประจานประนามด่าว่าคนที่แฉตน เอาความจริงหรือไม่จริงมาพูดได้,จากนั้นประชาชนจะประเมิน ค.ว.ย.ตามหลักเหตุผล ผูกปมไขพิสูจน์แต่ละฝ่ายว่ามีมูลความจริงขนาดไหน คนแฉมีรูปมีพยานหลักฐานโชว์บอกผ่านสื่อประชาชนอีก,ความจริงก็จะทำลายความไม่จริงลงเรื่อยๆ กำจัดคนไม่ดีในสังคมได้ตลอดเวลา หากไม่สำนึกปรับปรุงตัวก็ดับอนาถจัดการแฉขั้นเด็ดขาดไม่ไว้หน้าอับอายทั่วประเทศไทยเลย,นี้ไง กฎหมายหมิ่นประมาทจึงบัดสบมาก,ปิดปากผู้คนชาวไทยเราได้ดีล่ะ. ..ภาค.1ตอนนี้ ทหารภาค1.คือเครดิตตกต่ำมากจากการนำทัพบัญชาการรบลงสนามรบของแม่ทัพภาค.1 ถ้าเทียบสมรภูมิสงคราม9ทัพ99ทัพ,1ในทัพที่พ่ายแพ้สงครามดับอนาถแก้ศัตรูที่แพ้ในสนามรบกับข้าศึก ทหารตายทั้งกองทัพด้วยก็คือทัพของภาค.1นี้ล่ะ,และหากเทียบอีก1ใน9ทัพหรือ99ทัพที่No.1ในการทำศึกสงครามครั้งนี้ที่สุดยอดของทั้งกองทัพก็คือทัพของภาค.2เต็มๆเข้าตีเมืองศัตรูข้าศึกรบตลอด5วันสามารถเข้าตียึดเมืองศัตรูด้วยกว่า11เมืองพื้นที่ข้าศึกนอกจากชนะบนลานสนามรบแล้ว,ภาค.1แม้เมืองเดียวที่ไร้หัวทหารศัตรูบนสนามรบแท้ๆก็ยังเข้าตีเมืองยึดเมืองไม่ได้,อำมาตย์ราชวังยังหน้ามึนหน้าหนาหน้าด้านไม่รู้จักถูกผิด สมควร ไม่สมควร เสือกเลื่อนตำแหน่งชั้นยศให้เป็นรางวัลอีก,เสมือนแม่ทัพผู้นี้แม้ออกรบที่พ่ายแพ้สงครามบนสนามรบกลับมาก็สามารถมีตำแหน่งใหญ่โตบนอำนาจทางทหารได้ เป็นการทำลายขวัญและกำลังใจนายทหารอื่นๆที่มีความสามารถมากมายกว่าแม่ทัพนายทหารนี้มาก,นี้คือการทำลายความมั่นคงทางกองทัพจากภายในชัดเจน อันตรายมาก เสมือนกรุงศรีอยุธยาล้มสลายเมืองกรุงแตกก็มาจากอำมาตย์ชั่วเลวเหล่านี้นี้เอง,เชิดชูคนกากกระจอกอ่อนแอไปเป็นคนมีอำนาจควบคุมทั้งกองทัพ ซึ่งฝีมือตนไม่มีห่าอะไรเลย รบก็แพ้ ออกสนามรบก็ยังไม่ชักดาบฆ่าทหารฝ่ายศัตรูตายสักคน,ทหารตายทั้งกองทัพจนแพ้สงครามกว่าทัพใดๆใน9ทัพ99ทัพ ,หากยังเป็นแบบนี้ อันตรายแน่นอน,เราไม่สามารถระวังภัยนั้นได้ตลอดเวลาดอก,อย่าประมาทไฟแม้เพียงก้อนเล็กน้อย. https://youtube.com/shorts/bM8NJBMPjuw?si=8TiqGCDlsRFHhSJI
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • ผลของการไม่ทำความจริงให้ปรากฎ,ความจริงคือความจริง แต่คนเหล่านี้ไม่ยอมอยู่ข้างความจริง,บ้านเมืองเมื่อคนมีอำนาจปกครองและครเหล่านั้นไปมีอำนาจ เมื่อกบฎต่อความจริง ชาติบ้านเมืองก็เดินผิดทางไปด้วย,ภัยต่อบ้านเมืองแบบปัจจุบันเกิดสงครามขึ้นไทยกับเขมรก็เพราะผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจเหล่านี้ ไม่ร่วมพากันยืนอยู่บนพื้นฐานความจริง ชอบความชั่ว ยอมรับสิ่งชั่ว ส่งเสริมสนับสนุนสิ่งชั่ว ปกป้องสิ่งชั่วเลว จนประชาชนต้องเดือดร้อน ลุแก่อำนาจตนว่าสมัยนั้นใครทำอะไรตนไม่ได้ ตนใหญ่ที่สุด พูดอะไรต้องเป็นฝ่ายถูกเสนอ ชี้นกต้องเป็นนก ชี้ไม้ต้องเป็นไม้,แผ่นดินตรงจุดนี้เป็นของเขมรเป็นต้น พากันชีันำประชาชนทั้งประเทศว่านี้คือแผ่นดินเขมร วีระถูกจับบนแผ่นดินเขมรถูกต้องแล้ว ทหารเขมรจึงต้องจับกุมไป เราช่วยอะไรไม่ได้, ทั้งหมด มีเจตนายินยอมพร้อมใจให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจนด้วย,วีระถูกจับแสดงว่าแผ่นดินตรงจุดนัันคือของเขมร รัฐบาลสมัยนั้นพร้อมใจกันลงความเห็นตรงกัน มีเจตนาตรงกันจึงให้วีระต้องรับความผิด,ทั้งหมดนี้ผิด ม.119สำเร็จแล้ว เจตนาให้หมายว่าดินแดนไทยตรงจุดนั้นคือของเขมรที่รับรองพิสูจน์ชัดจากกรณี อ.วีระถูกจับ,เขมรสามารถต่อยอดใช้1:200,000ได้ในอนาคต ตามแผนก็ว่า.

    https://youtube.com/shorts/wQRQmVlr5rE?si=ePs5jboVRE8ljhLT
    ผลของการไม่ทำความจริงให้ปรากฎ,ความจริงคือความจริง แต่คนเหล่านี้ไม่ยอมอยู่ข้างความจริง,บ้านเมืองเมื่อคนมีอำนาจปกครองและครเหล่านั้นไปมีอำนาจ เมื่อกบฎต่อความจริง ชาติบ้านเมืองก็เดินผิดทางไปด้วย,ภัยต่อบ้านเมืองแบบปัจจุบันเกิดสงครามขึ้นไทยกับเขมรก็เพราะผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจเหล่านี้ ไม่ร่วมพากันยืนอยู่บนพื้นฐานความจริง ชอบความชั่ว ยอมรับสิ่งชั่ว ส่งเสริมสนับสนุนสิ่งชั่ว ปกป้องสิ่งชั่วเลว จนประชาชนต้องเดือดร้อน ลุแก่อำนาจตนว่าสมัยนั้นใครทำอะไรตนไม่ได้ ตนใหญ่ที่สุด พูดอะไรต้องเป็นฝ่ายถูกเสนอ ชี้นกต้องเป็นนก ชี้ไม้ต้องเป็นไม้,แผ่นดินตรงจุดนี้เป็นของเขมรเป็นต้น พากันชีันำประชาชนทั้งประเทศว่านี้คือแผ่นดินเขมร วีระถูกจับบนแผ่นดินเขมรถูกต้องแล้ว ทหารเขมรจึงต้องจับกุมไป เราช่วยอะไรไม่ได้, ทั้งหมด มีเจตนายินยอมพร้อมใจให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจนด้วย,วีระถูกจับแสดงว่าแผ่นดินตรงจุดนัันคือของเขมร รัฐบาลสมัยนั้นพร้อมใจกันลงความเห็นตรงกัน มีเจตนาตรงกันจึงให้วีระต้องรับความผิด,ทั้งหมดนี้ผิด ม.119สำเร็จแล้ว เจตนาให้หมายว่าดินแดนไทยตรงจุดนั้นคือของเขมรที่รับรองพิสูจน์ชัดจากกรณี อ.วีระถูกจับ,เขมรสามารถต่อยอดใช้1:200,000ได้ในอนาคต ตามแผนก็ว่า. https://youtube.com/shorts/wQRQmVlr5rE?si=ePs5jboVRE8ljhLT
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4/2568
    จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568
    ณ หอประชุมเล็ก ม.ธรรมศาตร์ท่าพระจันทร์
    บัตรราคา 300 บาท
    สามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@sondhitalk หรือคลิก https://lin.ee/Skns1k1
    ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4/2568 จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 ณ หอประชุมเล็ก ม.ธรรมศาตร์ท่าพระจันทร์ บัตรราคา 300 บาท สามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@sondhitalk หรือคลิก https://lin.ee/Skns1k1
    ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4/2568
    จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568
    ณ หอประชุมเล็ก ม.ธรรมศาตร์ท่าพระจันทร์
    บัตรราคา 300 บาท
    สามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@sondhitalk หรือคลิก https://lin.ee/Skns1k1
    Like
    Love
    5
    0 Comments 0 Shares 515 Views 0 Reviews
  • ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4/2568
    จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568
    ณ หอประชุมเล็ก ม.ธรรมศาตร์ท่าพระจันทร์
    บัตรราคา 300 บาท
    สามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@sondhitalk หรือคลิก https://lin.ee/Skns1k1
    ความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4/2568 จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน 2568 ณ หอประชุมเล็ก ม.ธรรมศาตร์ท่าพระจันทร์ บัตรราคา 300 บาท สามารถจองบัตรและสอบถามรายละเอียดได้ที่ Line@sondhitalk หรือคลิก https://lin.ee/Skns1k1
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 535 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Inbound 2025: เมื่อ AI ไม่ได้มาแทนคน แต่มาเป็นทีมร่วมงานที่ขับเคลื่อนธุรกิจ

    ในงาน HubSpot Inbound 2025 ที่จัดขึ้นที่ซานฟรานซิสโก มีการเปิดตัวเครื่องมือใหม่กว่า 200 รายการที่เน้นการสร้าง “ทีมลูกผสม” ระหว่างมนุษย์กับ AI โดยมีแนวคิดหลักคือ “The Loop”—กรอบการทำงานที่ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน: เชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมด, สร้างทีม AI, และเปิดโอกาสให้คนทำงานได้เต็มศักยภาพ

    CEO Yamini Rangan ย้ำว่า organic traffic กำลังตายลง และการตลาดต้องเปลี่ยนจากการไล่ตามคลิก ไปสู่การสร้างความไว้วางใจผ่านช่องทางใหม่ เช่น podcast, newsletter และ social ที่มีความจริงใจมากกว่า

    HubSpot เปิดตัว Data Hub, Smart CRM ที่มี “project object” สำหรับติดตามงานแบบละเอียด และ Breeze agents ที่สามารถสร้างข้อความแบบเฉพาะบุคคลในทุกช่องทางแบบ real-time

    SmartBug, Wistia, AdRoll, Cvent และ Docket ต่างก็โชว์การใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในงานของตน เช่น SmartBug สร้าง AI agent สำหรับการ onboarding และ migration, Wistia ใช้ AI ในการวิเคราะห์วิดีโอ B2B, ส่วน Docket เสนอ AI concierge ที่ช่วยตอบคำถามและเปลี่ยน traffic เป็น lead

    Anthropic ก็เข้าร่วมงาน โดย CEO Dario Amodei พูดถึง Claude ที่เคยถูกใช้ใน ransomware โดยรัฐ แต่ตอนนี้ถูกปรับให้ปลอดภัยขึ้น พร้อมเปิดตัว Claude Code ที่หวังจะเป็น “AWS ของยุค AI”

    แนวคิดหลักจาก HubSpot
    “The Loop” คือกรอบการทำงานใหม่: เชื่อมข้อมูล, สร้างทีม AI, เปิดศักยภาพคน
    เน้น “human authenticity with AI efficiency”
    เปิดตัว Data Hub, Smart CRM, Breeze agents และ NIM microservices

    การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการตลาด
    Organic traffic ลดลงอย่างต่อเนื่อง
    HubSpot หันไปลงทุนใน podcast, newsletter และ social เพื่อสร้าง trust
    ผู้บริโภคต้องการเนื้อหาที่จริงใจมากกว่าปริมาณ

    ตัวอย่างการใช้งาน AI จากพันธมิตร
    SmartBug สร้าง AI agent สำหรับการใช้งาน HubSpot แบบครบวงจร
    Wistia ใช้ AI วิเคราะห์วิดีโอและเชื่อมต่อกับ Adobe, Salesforce, Mailchimp
    AdRoll ใช้ machine learning สร้างแคมเปญโฆษณาแบบ multi-channel
    Docket เสนอ AI concierge สำหรับตอบคำถามและเปลี่ยน traffic เป็น lead
    Cvent ใช้ AI ค้นหาโรงแรมและจัดการอีเวนต์แบบครบวงจร

    มุมมองจาก Anthropic
    Claude ยังไม่ฉลาดเกินมนุษย์ แต่ใกล้เคียงระดับปริญญาตรี
    Claude Code ถูกวางเป็น “platform” สำหรับสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่
    มีการป้องกันการใช้โมเดลในทางที่ผิด เช่น ransomware

    https://www.techradar.com/pro/live/hubspot-inbound-2025-all-the-news-and-announcements-as-it-happens
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Inbound 2025: เมื่อ AI ไม่ได้มาแทนคน แต่มาเป็นทีมร่วมงานที่ขับเคลื่อนธุรกิจ ในงาน HubSpot Inbound 2025 ที่จัดขึ้นที่ซานฟรานซิสโก มีการเปิดตัวเครื่องมือใหม่กว่า 200 รายการที่เน้นการสร้าง “ทีมลูกผสม” ระหว่างมนุษย์กับ AI โดยมีแนวคิดหลักคือ “The Loop”—กรอบการทำงานที่ประกอบด้วย 3 ขั้นตอน: เชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมด, สร้างทีม AI, และเปิดโอกาสให้คนทำงานได้เต็มศักยภาพ CEO Yamini Rangan ย้ำว่า organic traffic กำลังตายลง และการตลาดต้องเปลี่ยนจากการไล่ตามคลิก ไปสู่การสร้างความไว้วางใจผ่านช่องทางใหม่ เช่น podcast, newsletter และ social ที่มีความจริงใจมากกว่า HubSpot เปิดตัว Data Hub, Smart CRM ที่มี “project object” สำหรับติดตามงานแบบละเอียด และ Breeze agents ที่สามารถสร้างข้อความแบบเฉพาะบุคคลในทุกช่องทางแบบ real-time SmartBug, Wistia, AdRoll, Cvent และ Docket ต่างก็โชว์การใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในงานของตน เช่น SmartBug สร้าง AI agent สำหรับการ onboarding และ migration, Wistia ใช้ AI ในการวิเคราะห์วิดีโอ B2B, ส่วน Docket เสนอ AI concierge ที่ช่วยตอบคำถามและเปลี่ยน traffic เป็น lead Anthropic ก็เข้าร่วมงาน โดย CEO Dario Amodei พูดถึง Claude ที่เคยถูกใช้ใน ransomware โดยรัฐ แต่ตอนนี้ถูกปรับให้ปลอดภัยขึ้น พร้อมเปิดตัว Claude Code ที่หวังจะเป็น “AWS ของยุค AI” ✅ แนวคิดหลักจาก HubSpot ➡️ “The Loop” คือกรอบการทำงานใหม่: เชื่อมข้อมูล, สร้างทีม AI, เปิดศักยภาพคน ➡️ เน้น “human authenticity with AI efficiency” ➡️ เปิดตัว Data Hub, Smart CRM, Breeze agents และ NIM microservices ✅ การเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการตลาด ➡️ Organic traffic ลดลงอย่างต่อเนื่อง ➡️ HubSpot หันไปลงทุนใน podcast, newsletter และ social เพื่อสร้าง trust ➡️ ผู้บริโภคต้องการเนื้อหาที่จริงใจมากกว่าปริมาณ ✅ ตัวอย่างการใช้งาน AI จากพันธมิตร ➡️ SmartBug สร้าง AI agent สำหรับการใช้งาน HubSpot แบบครบวงจร ➡️ Wistia ใช้ AI วิเคราะห์วิดีโอและเชื่อมต่อกับ Adobe, Salesforce, Mailchimp ➡️ AdRoll ใช้ machine learning สร้างแคมเปญโฆษณาแบบ multi-channel ➡️ Docket เสนอ AI concierge สำหรับตอบคำถามและเปลี่ยน traffic เป็น lead ➡️ Cvent ใช้ AI ค้นหาโรงแรมและจัดการอีเวนต์แบบครบวงจร ✅ มุมมองจาก Anthropic ➡️ Claude ยังไม่ฉลาดเกินมนุษย์ แต่ใกล้เคียงระดับปริญญาตรี ➡️ Claude Code ถูกวางเป็น “platform” สำหรับสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ➡️ มีการป้องกันการใช้โมเดลในทางที่ผิด เช่น ransomware https://www.techradar.com/pro/live/hubspot-inbound-2025-all-the-news-and-announcements-as-it-happens
    0 Comments 0 Shares 147 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก Mike Judge: เมื่อความฝันของการเขียนโค้ดด้วย AI กลายเป็นความผิดหวังที่มีหลักฐานรองรับ

    Mike Judge นักพัฒนาอาวุโสที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปี ได้ทดลองใช้งาน AI coding tools อย่างจริงจัง และเริ่มตั้งคำถามหลังอ่านงานวิจัยจาก METR (Model Evaluation & Threat Research) ซึ่งพบว่า นักพัฒนาที่ใช้ AI coding tools ใช้เวลานานขึ้นถึง 19% ในการทำงานจริง—ขัดแย้งกับความเชื่อที่ว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น

    Mike เริ่มทดลองด้วยตัวเอง โดยใช้วิธีสุ่มว่าจะใช้ AI หรือไม่ในแต่ละงาน และบันทึกเวลาอย่างละเอียด ผลลัพธ์คือ ไม่มีความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติ และในหลายกรณี AI ทำให้เขาช้าลงถึง 21% ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ METR

    เขาตั้งคำถามว่า ถ้า AI coding tools ทำให้คนเขียนโค้ดเร็วขึ้นจริง ทำไมเราไม่เห็น “น้ำท่วม shovelware” หรือซอฟต์แวร์จำนวนมหาศาลที่ควรจะเกิดขึ้นจาก productivity ที่เพิ่มขึ้น? เขาใช้เงินและเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก SteamDB, GitHub, Statista และ Verisign แล้วพบว่า—ไม่มีการเติบโตแบบ exponential ในการปล่อยซอฟต์แวร์ใหม่เลย

    ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีต่างพากัน rebrand เป็น “AI-first” และใช้ productivity narrative เพื่อ justify การปลดพนักงานหรือกดเงินเดือน นักพัฒนาหลายคนกลับรู้สึกกดดัน สับสน และผิดหวัง เพราะไม่สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่อุตสาหกรรมโฆษณาไว้

    ผลการทดลองของ Mike Judge
    ใช้ AI coding tools แล้วช้าลงโดยเฉลี่ย 21%
    ทดลองสุ่มใช้ AI หรือไม่ในแต่ละงาน และบันทึกเวลาอย่างละเอียด
    ผลลัพธ์ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ และไม่เห็นการเพิ่ม productivity

    ข้อมูลจาก METR Study
    นักพัฒนาใช้ AI แล้วช้าลง 19% โดยเฉลี่ยในการทำงานจริง
    ขัดแย้งกับความคาดหวังที่ว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น 20–25%
    ใช้การทดลองแบบสุ่มควบคุมกับนักพัฒนา open-source ที่มีประสบการณ์สูง

    การวิเคราะห์ข้อมูลการปล่อยซอฟต์แวร์
    ไม่มีการเพิ่มขึ้นของ shovelware หรือซอฟต์แวร์ใหม่จำนวนมาก
    ข้อมูลจาก SteamDB, GitHub, Statista และ Verisign แสดงกราฟที่ “แบน”
    ไม่มีสัญญาณของ indie boom หรือการปล่อยแอปแบบสายฟ้าแลบ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและนักพัฒนา
    บริษัทใช้ narrative AI productivity เพื่อปลดพนักงานและลดเงินเดือน
    นักพัฒนารู้สึกกดดันและสับสนจากความคาดหวังที่ไม่ตรงกับความจริง
    การเรียนรู้ prompting ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ

    https://mikelovesrobots.substack.com/p/wheres-the-shovelware-why-ai-coding
    🎙️ เรื่องเล่าจาก Mike Judge: เมื่อความฝันของการเขียนโค้ดด้วย AI กลายเป็นความผิดหวังที่มีหลักฐานรองรับ Mike Judge นักพัฒนาอาวุโสที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปี ได้ทดลองใช้งาน AI coding tools อย่างจริงจัง และเริ่มตั้งคำถามหลังอ่านงานวิจัยจาก METR (Model Evaluation & Threat Research) ซึ่งพบว่า นักพัฒนาที่ใช้ AI coding tools ใช้เวลานานขึ้นถึง 19% ในการทำงานจริง—ขัดแย้งกับความเชื่อที่ว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น Mike เริ่มทดลองด้วยตัวเอง โดยใช้วิธีสุ่มว่าจะใช้ AI หรือไม่ในแต่ละงาน และบันทึกเวลาอย่างละเอียด ผลลัพธ์คือ ไม่มีความแตกต่างที่มีนัยสำคัญทางสถิติ และในหลายกรณี AI ทำให้เขาช้าลงถึง 21% ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของ METR เขาตั้งคำถามว่า ถ้า AI coding tools ทำให้คนเขียนโค้ดเร็วขึ้นจริง ทำไมเราไม่เห็น “น้ำท่วม shovelware” หรือซอฟต์แวร์จำนวนมหาศาลที่ควรจะเกิดขึ้นจาก productivity ที่เพิ่มขึ้น? เขาใช้เงินและเวลาในการวิเคราะห์ข้อมูลจาก SteamDB, GitHub, Statista และ Verisign แล้วพบว่า—ไม่มีการเติบโตแบบ exponential ในการปล่อยซอฟต์แวร์ใหม่เลย ในขณะที่บริษัทเทคโนโลยีต่างพากัน rebrand เป็น “AI-first” และใช้ productivity narrative เพื่อ justify การปลดพนักงานหรือกดเงินเดือน นักพัฒนาหลายคนกลับรู้สึกกดดัน สับสน และผิดหวัง เพราะไม่สามารถใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามที่อุตสาหกรรมโฆษณาไว้ ✅ ผลการทดลองของ Mike Judge ➡️ ใช้ AI coding tools แล้วช้าลงโดยเฉลี่ย 21% ➡️ ทดลองสุ่มใช้ AI หรือไม่ในแต่ละงาน และบันทึกเวลาอย่างละเอียด ➡️ ผลลัพธ์ไม่แตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ และไม่เห็นการเพิ่ม productivity ✅ ข้อมูลจาก METR Study ➡️ นักพัฒนาใช้ AI แล้วช้าลง 19% โดยเฉลี่ยในการทำงานจริง ➡️ ขัดแย้งกับความคาดหวังที่ว่า AI จะช่วยให้เร็วขึ้น 20–25% ➡️ ใช้การทดลองแบบสุ่มควบคุมกับนักพัฒนา open-source ที่มีประสบการณ์สูง ✅ การวิเคราะห์ข้อมูลการปล่อยซอฟต์แวร์ ➡️ ไม่มีการเพิ่มขึ้นของ shovelware หรือซอฟต์แวร์ใหม่จำนวนมาก ➡️ ข้อมูลจาก SteamDB, GitHub, Statista และ Verisign แสดงกราฟที่ “แบน” ➡️ ไม่มีสัญญาณของ indie boom หรือการปล่อยแอปแบบสายฟ้าแลบ ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมและนักพัฒนา ➡️ บริษัทใช้ narrative AI productivity เพื่อปลดพนักงานและลดเงินเดือน ➡️ นักพัฒนารู้สึกกดดันและสับสนจากความคาดหวังที่ไม่ตรงกับความจริง ➡️ การเรียนรู้ prompting ไม่ได้เพิ่มประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ https://mikelovesrobots.substack.com/p/wheres-the-shovelware-why-ai-coding
    MIKELOVESROBOTS.SUBSTACK.COM
    Where's the Shovelware? Why AI Coding Claims Don't Add Up
    78% of developers claim AI makes them more productive. 14% say it's a 10x improvement. So where's the flood of new software? Turns out those productivity claims are bullshit.
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • กฎอัยการศึกเรากากมาก,ต้องเด็ดขาดตั้งแต่ประกาศทันที ทหารไทยเราต้องปรับแอ็คชั่น เมื่ออดีตผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ที่เรายังใช้กฎอัยการศึกกับศัตรูของชาติเราไม่จริงจัง,กฎอัยการศึกในอนาคตเราต้องเขียนใหม่แล้ว,ถ้าจะใช้ในไทยให้เรียกแบบในปัจจุบันนี้แทนคือกฎอัยการศึก,แต่ถ้าจะใช้กับศัตรูข้าศึกต้องเรียกใหม่ทันทีว่า "กฎเด็ดหัวศัตรูอธิปไตยไทย" เช่นเคสบ้านหนองจานนี้เหมาะสม ข้อที่ 1 เขมรต้องออกจากดินไทยทันที เช่นนั้นจะประหารชีวิตสถานเดียว.นี้ต้องเด็ดขาดประมาณนี้,ข้อต่อไปในอื่นๆก็เช่น มายั่วยุบนแผ่นดินไทยเขตไทย เข้ามาล้ำเกินเสาหมุดถึงว่าล้ำดินแดนไทย สามารถยิงทิ้งได้เลยทันที เป็นต้น เขมรทุกๆคนจะถูกจับดำเนินคดีร้ายแรงในเขตไทยข้อหากระทำผิดกฎเด็ดหัวศัตรูฯของไทยเรา,ไม่ใช่ของมาล่อเล่นในกฏหมายไทยได้ ท้าทายต้องรับผลของการกระทำของคนเขมรที่รุกรานไทย,นี้เข้ามาบนเขตดินแดนไทยชัดเจน,รถขี้กองทัพขี้ต้องทำงานจริงจังกับอมนุษย์เหี้ยนี้,ชาวบ้านพวกนี้คือครอบครัวทหารเขมรทั้งชุมชนตลอดริมชายแดนนี้ล่ะ 90%ครอบครัวทหารเขมรเกือบหมดมาในคราบชาวบ้านเหมือนอานม้า.

    นี้คือผลงานมทภ.1ที่ทำงานในอดีตที่ไร้ฝีมือไร้ศักยภาพไร้ประสิทธิภาพในการบัญชาการทัพแต่ต้น,ไม่สมควรมานั่งเป็นมทภ.1จากผลงานที่ผิดหูผิดตา ต่างกันเกินไปกับมทภ.2อีสานใต้,นร้คือค่าจริงความจริงใช้เนื้องานหน้างานมาพูดจริงๆ,ส่งผลกระทบให้เห็นชัดในปัจจุบัน,หาก มทภ.1ท่านนี้มีอำนาจคุมทั้งเหล่าทัพจะเป็นอันตรายต่ออธิปไตยไทยแน่นอนทันทีด้วย,บูรพาพยัคฆ์ที่ควบคุมบัญชาการทางภาค1ถือว่าบัญชาการทางทหารล้มเหลวมาก,ในสงครามครั้งที่แล้ว,ส่วนปัจจุบันคือปัจจุบัน อนาคตคืออนาคต ท่านอาจแก้มือ ทำผลงานดีเราก็ไม่อาจสามารถคาดการณ์ได้หรือมทภ.1คนใหม่มาบัญชาการอาจต่างจากคนเก่าก็ได้เพราะแม่ทัพแต่ละท่านนั้นความสามารถเฉพาะตนและบริหารบัญชาการทีมทัพอาจต่างกัน,ถึงอย่างไร แต่ละท่านก็มีปมใครมันที่มิอาจเข้าใจได้ แต่ผลกรรมที่เกิดขึ้นต้องได้รับตามค่าจริงนั้นๆไม่ว่าจะทำดีหรือทำชั่วต่อบ้านต่อเมืองตน.,และประชาชนของตน,ที่ตนมีหน้าที่,แต่ถ้าเรากำจัดคนใหญ่คนโตจบจริงๆซึ่งตัวปัญหาของแท้กว่ามทภ.1เราจะจบปัญหาบัดสบนี้ทั้งหมดทันที,ยุทธการวิธีทางทหาร เราก็มิทราบอีก บูรพาพยัคฆ์อาจคิดอ่านลึกซึ้งมาเหนือเมฆก็ได้ใครจะรู้.แต่เหี้ยค้าขายเถื่อนๆยาวนานถึงปัจจุบันจริงๆที่กูรูมากมายออกมาแฉ,นักข่าวกูรูต่างๆท่านก็อาจดับพวกเหนือเมฆนี้ก็ได้แบบวัดพระบาทน้ำพุก็ได้.,สายบูรพาพยัคฆ์ฆ่าตัวเองชัดเจน,หรือมองทางดีคิดบวกจริง บูรพาพยัคฆ์คือผู้เสียสละกระตุ้นการค้าขายทางใต้ดินอันมาก นำเงินตราเข้าออกประเทศมหาศาล ช่วยประเทศทางลับมาอย่างยาวนาน รัฐบาลเหี้ยไม่ดูแลทหารที่พิการบาดเจ็บ สายบูรพาพยัคฆ์จึงออกหาเลี้ยงชีพช่วยวงการทหารเอง หาตังซื้ออาวุธเองเพื่อปกป้องประเทศ ขูดรีดตังพลทหารเกณฑ์ทุกๆรูปแบบที่ทำได้เพราะงบประมาณมาพอดีแบบภาระกิจนั้น,ทำจริงก็โคตรน่าสนใจ,แต่เหี้ยบ้านพักนายพล นายใหญ่นายทหาร อยู่ยังกับวัง เงินทองมากมายกองไว้ในส่วนท้องตนเป็นอันมาก ฝากแบบในสิงคโปร์ก็ไม่น้อยแน่ๆ ฟอกตังถ่ายเททรัพย์สินมิใช่น้อยเช่นกันก็ว่า,จึงตีค.ว.ย.ลำบากจริงๆว่าเหี้ยพวกนี้คือทหารดีหรือทหารเลวชั่วกันแน่.

    https://youtube.com/watch?v=rWOYa1TISiE&si=OYLeAw162_MgftKX
    กฎอัยการศึกเรากากมาก,ต้องเด็ดขาดตั้งแต่ประกาศทันที ทหารไทยเราต้องปรับแอ็คชั่น เมื่ออดีตผิดพลาดสามารถแก้ไขได้ที่เรายังใช้กฎอัยการศึกกับศัตรูของชาติเราไม่จริงจัง,กฎอัยการศึกในอนาคตเราต้องเขียนใหม่แล้ว,ถ้าจะใช้ในไทยให้เรียกแบบในปัจจุบันนี้แทนคือกฎอัยการศึก,แต่ถ้าจะใช้กับศัตรูข้าศึกต้องเรียกใหม่ทันทีว่า "กฎเด็ดหัวศัตรูอธิปไตยไทย" เช่นเคสบ้านหนองจานนี้เหมาะสม ข้อที่ 1 เขมรต้องออกจากดินไทยทันที เช่นนั้นจะประหารชีวิตสถานเดียว.นี้ต้องเด็ดขาดประมาณนี้,ข้อต่อไปในอื่นๆก็เช่น มายั่วยุบนแผ่นดินไทยเขตไทย เข้ามาล้ำเกินเสาหมุดถึงว่าล้ำดินแดนไทย สามารถยิงทิ้งได้เลยทันที เป็นต้น เขมรทุกๆคนจะถูกจับดำเนินคดีร้ายแรงในเขตไทยข้อหากระทำผิดกฎเด็ดหัวศัตรูฯของไทยเรา,ไม่ใช่ของมาล่อเล่นในกฏหมายไทยได้ ท้าทายต้องรับผลของการกระทำของคนเขมรที่รุกรานไทย,นี้เข้ามาบนเขตดินแดนไทยชัดเจน,รถขี้กองทัพขี้ต้องทำงานจริงจังกับอมนุษย์เหี้ยนี้,ชาวบ้านพวกนี้คือครอบครัวทหารเขมรทั้งชุมชนตลอดริมชายแดนนี้ล่ะ 90%ครอบครัวทหารเขมรเกือบหมดมาในคราบชาวบ้านเหมือนอานม้า. นี้คือผลงานมทภ.1ที่ทำงานในอดีตที่ไร้ฝีมือไร้ศักยภาพไร้ประสิทธิภาพในการบัญชาการทัพแต่ต้น,ไม่สมควรมานั่งเป็นมทภ.1จากผลงานที่ผิดหูผิดตา ต่างกันเกินไปกับมทภ.2อีสานใต้,นร้คือค่าจริงความจริงใช้เนื้องานหน้างานมาพูดจริงๆ,ส่งผลกระทบให้เห็นชัดในปัจจุบัน,หาก มทภ.1ท่านนี้มีอำนาจคุมทั้งเหล่าทัพจะเป็นอันตรายต่ออธิปไตยไทยแน่นอนทันทีด้วย,บูรพาพยัคฆ์ที่ควบคุมบัญชาการทางภาค1ถือว่าบัญชาการทางทหารล้มเหลวมาก,ในสงครามครั้งที่แล้ว,ส่วนปัจจุบันคือปัจจุบัน อนาคตคืออนาคต ท่านอาจแก้มือ ทำผลงานดีเราก็ไม่อาจสามารถคาดการณ์ได้หรือมทภ.1คนใหม่มาบัญชาการอาจต่างจากคนเก่าก็ได้เพราะแม่ทัพแต่ละท่านนั้นความสามารถเฉพาะตนและบริหารบัญชาการทีมทัพอาจต่างกัน,ถึงอย่างไร แต่ละท่านก็มีปมใครมันที่มิอาจเข้าใจได้ แต่ผลกรรมที่เกิดขึ้นต้องได้รับตามค่าจริงนั้นๆไม่ว่าจะทำดีหรือทำชั่วต่อบ้านต่อเมืองตน.,และประชาชนของตน,ที่ตนมีหน้าที่,แต่ถ้าเรากำจัดคนใหญ่คนโตจบจริงๆซึ่งตัวปัญหาของแท้กว่ามทภ.1เราจะจบปัญหาบัดสบนี้ทั้งหมดทันที,ยุทธการวิธีทางทหาร เราก็มิทราบอีก บูรพาพยัคฆ์อาจคิดอ่านลึกซึ้งมาเหนือเมฆก็ได้ใครจะรู้.แต่เหี้ยค้าขายเถื่อนๆยาวนานถึงปัจจุบันจริงๆที่กูรูมากมายออกมาแฉ,นักข่าวกูรูต่างๆท่านก็อาจดับพวกเหนือเมฆนี้ก็ได้แบบวัดพระบาทน้ำพุก็ได้.,สายบูรพาพยัคฆ์ฆ่าตัวเองชัดเจน,หรือมองทางดีคิดบวกจริง บูรพาพยัคฆ์คือผู้เสียสละกระตุ้นการค้าขายทางใต้ดินอันมาก นำเงินตราเข้าออกประเทศมหาศาล ช่วยประเทศทางลับมาอย่างยาวนาน รัฐบาลเหี้ยไม่ดูแลทหารที่พิการบาดเจ็บ สายบูรพาพยัคฆ์จึงออกหาเลี้ยงชีพช่วยวงการทหารเอง หาตังซื้ออาวุธเองเพื่อปกป้องประเทศ ขูดรีดตังพลทหารเกณฑ์ทุกๆรูปแบบที่ทำได้เพราะงบประมาณมาพอดีแบบภาระกิจนั้น,ทำจริงก็โคตรน่าสนใจ,แต่เหี้ยบ้านพักนายพล นายใหญ่นายทหาร อยู่ยังกับวัง เงินทองมากมายกองไว้ในส่วนท้องตนเป็นอันมาก ฝากแบบในสิงคโปร์ก็ไม่น้อยแน่ๆ ฟอกตังถ่ายเททรัพย์สินมิใช่น้อยเช่นกันก็ว่า,จึงตีค.ว.ย.ลำบากจริงๆว่าเหี้ยพวกนี้คือทหารดีหรือทหารเลวชั่วกันแน่. https://youtube.com/watch?v=rWOYa1TISiE&si=OYLeAw162_MgftKX
    0 Comments 0 Shares 145 Views 0 Reviews
  • แกะรอยนักล่า ตอนที่ 1
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (1)
    อเมริกานักล่า ทำงานอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่ทำวันนี้คิดพรุ่งนี้ หรือทำวันนี้แล้วค่อย ไปทบทวนแก้ไขกันใหม่เอาปีหน้าอย่างที่เรา ๆ ทำกัน เขาวางแผนล่วงหน้าทุกเรื่องทั้งระยะใกล้ เช่น แผนงานเฉพาะกิจ หรือระยะไกล 5 ปี 10 ปี 15 ปี จนถึง 25 ปี ฯลฯ เอกสารที่เขาออกมา คำพูดของฝ่ายรัฐบาลที่พูดออกมา มีความหมาย มีความนัยทั้งสิ้น
    เราควรมาทำความรู้จักวิธีคิด วิธีวางแผนของนักล่ากันหน่อย มันอาจจะไม่ทำให้เราเข้าใจ หรือรู้จักนักล่าเต็มร้อย แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่รู้เลย เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับนักล่า โดยเฉพาะที่จะกระทบกับบ้านเราหรือไม่ เรายังพอติดตามวิเคราะห์เองได้ ดีกว่าจะแค่ฟัง อ่าน ดูเอาจากสื่อที่ถูกฟ้อกย้อมมา เช่น CNN BBC หรือข่าวใส่สีตีไข่ หรือข่าวประเภทเรื่องเล่าประจำวันของบ้านเรานั้น ซึ่งถ้างดดูได้ก็ดี เพราะยิ่งดูยิ่งทำให้เราบื้อ ครับ ถ้าเราขยัน ขวนขวาย ติดตาม ค้นคว้า ต่อไปเรื่อย ๆ เราอาจจะเห็นและเข้าใจวิธีการของนักล่าชัดเจนขึ้น และอาจสามารถช่วยให้บ้านเมืองเราพ้นจากการเป็นเหยื่อของนักล่าได้บ้าง บ้านเมืองเรากำลังมาถึงจุดสำคัญ เรากำลังพยายามให้มีการปฎิรูปประเทศ จะมีจริงหรือไม่และจะปฎิรูปได้มากน้อยแค่ไหน ปัจจัยภายนอกก็มีส่วนสำคัญ ช่วยกันดูแลบ้านเมืองของเรา คนละไม้คนละมือ
    การทำงานของนักล่า ในเรื่องการล่าเหยื่อ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีคนเดียว แต่มีหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นมันสมอง วางแผนให้นักล่าอีกเพียบ คือ
    – The National Security Council (NSC)
    ซึ่งจะมีที่ปรึกษา เรียกว่า National Security Advisor (NSA) เป็นผู้กำกับคัดท้ายที่สำคัญ และเหตุการณ์ในโลกนี้ ที่เกิดขึ้นทั้งเลวทั้งร้าย ส่วนใหญ่เป็นผลงานของไอ้ตัวร้ายที่ทำหน้าที่เป็น NSA เกือบทั้งสิ้น ตัวอย่าง (ทั้งที่เคยเล่านิทานให้ฟังแล้ว และยังไม่ได้เล่า) NSA ที่มีชื่อติดอันดับความแสบหมายเลขต้น ๆ เช่น นาย McGeorge Bundy, นาย Walt W. Restow, นาย Henry Kissinger, นาย Zbigniew Brzezinski, นาย Brent Scowcroft ฯลฯ
    นอกจากนี้ NSC จะมีหน่วยงานที่สำคัญ ที่ทำหน้าที่วางยุทธศาสตร์ คือ National Security Strategy (NSS) ถ้าอยากจะติดตามความเคลื่อนไหว และความคิดทิศทางของนักล่า ลองเริ่มต้นด้วยการอ่านรายงานของ NSS ซึ่งจะมีออกมาเป็นรายปี และบางทีก็ออกเป็นระยะ แล้วแต่ความจำเป็น รายงานนี้จะบอกอะไรเราได้พอสมควร อย่างน้อยก็เห็นทิศทางของนักล่า ซึ่งจะไปทางไหนตะวันออกหรือตะวันตกทำนองนั้น
    – เมื่อมีการวางยุทธศาสตร์ออกมาแล้ว หน่วยงานของรัฐที่ต้องทำงานประสานกัน เพื่อให้ยุทธศาสตร์นั้น เป็นความจริงประสพผลสำเร็จ ซึ่งก็จะมีทีมงานตัวเก่งตัวแสบอีกเป็นร้อยเป็นพันจัดการตามแผนการ คือ
– State Department(กระทรวงต่างประเทศ)
– Defense Department(กระทรวงกลาโหม)
– Pentagon(หน่วยงานความมั่นคงของประเทศ)
– CIA(หน่วยงานข่าวกรองของประเทศ)
    – หน่วยงานดังกล่าวข้างต้น จะรายงานต่อประธานาธิบดีและสภาสูง โดยประธานาธิบดีจะมีผู้ช่วย (ซึ่งในบางกรณี อาจจะสำคัญกว่ารองประธานาธิบดีเสียด้วยซ้ำ !) คือ Chief of Staff และ Joint Chiefs of Staff ซึ่งทำหน้าที่เลือก/กรองนโยบายต่าง ๆ เสนอต่อประธานาธิบดี
    ส่วนสภาสูง จะมีหน่วยงานที่เรียกว่า Congressional Research Service ทำหน้าที่วิเคราะห์ทุกเรื่องที่จะส่งไปให้ สภาสูงพิจารณา โดยทำเป็นรายงานการวิเคราะห์อย่างละเอียด ส่งให้ก่อนการประชุมและเป็นเอกสารเปิดเผย (ที่ปิดผมยังหาไม่ได้ครับ) ไม่ใช่ส่งแต่กระดาษหน้าเดียวเขียนไม่กี่บันทัด หรือเขียนมัน 100 หน้า มีแต่น้ำ หรือใช้วิธีเข้าไปคุกเข่ายื่นโน๊ตสั้น ๆ ระหว่างประชุมสภาแบบบ้านเราทำ
    – นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานหรือสถาบันระดับสูงของเอกชนที่มีอิทธิพล ต่อแนวทางการล่าเหยื่อของนักล่า คือ พวกที่เรียกตัวเองว่า Think Tank (ถังความคิด) แต่ส่วนใหญ่ ถังพวกนี้ไม่ได้ มีแต่ความคิด แต่เป็นตัวการชักใยสร้างบท แต่งเรื่องรวมกำกับการแสดงและจัดหาตัวผู้มีหน้าที่บริหารประเทศด้วย แม้ตำแหน่งประธานาธิบดี ก็ไม่พ้นการจัดส่งและชักใยของ Think Tank ที่มีอิทธิพลสูง เช่น
    – Council on Foreign Relations (CFR)
– The Bilderberg Group
– The Trilateral Commission
– The Centre for Strategic and International Studies (CSIS)
– The Brookings Institution
– The Rand Corporation
– The Carnegie Endowment for International Peace
– Atlantic Council
– The Asia Society
– The Group of Thirty
ฯลฯ
    พวกถังความคิดเหล่านี้ บางพวกได้รับเงินสนับสนุนจาก Washington บางพวกได้จากมูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Ford มูลนิธิ Carnegie รวมทั้งบรรดาบรรษัทข้ามชาติ ที่เป็นเครือข่ายของนักล่าและพวก NSA ที่มีอิทธิพล
    think tank ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณ ค.ศ. 1970 เป็นต้นมา ส่วนใหญ่ เป็นเครือข่าย ที่เหล่านักยุทธศาสตร์ด้านนโย บายต่างประเทศ ที่ปรึกษาความมั่นคง (NSA) เช่น นาย Henry Kissinger, นาย Zbigniew Brzezinski, นาย Brent Scowcroft, นาย Josef Nye … เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา หรือให้เด็กของตัวตั้งขึ้นมาแทบทั้งสิ้น กล่าวได้ว่า คนไม่กี่คนนี้เอง เป็นผู้มีอิทธิพลครอบงำ อเมริกามาตั้งแต่บัดนั้นถึงบัดนี้ ไม่ว่าอเมริกาจะเปลี่ยนประธานาธิบดีเป็นใคร และมาจากพรรคใด และคงไม่เป็นการเกินไปนัก ถ้าจะบอกว่าคนไม่กี่คนนี่แหละ มีอิทธิพลต่อโลกใบนี้มากเหลือเกิน !

    คนเล่านิทาน
    แกะรอยนักล่า ตอนที่ 1 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แกะรอยนักล่า” (1) อเมริกานักล่า ทำงานอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่ทำวันนี้คิดพรุ่งนี้ หรือทำวันนี้แล้วค่อย ไปทบทวนแก้ไขกันใหม่เอาปีหน้าอย่างที่เรา ๆ ทำกัน เขาวางแผนล่วงหน้าทุกเรื่องทั้งระยะใกล้ เช่น แผนงานเฉพาะกิจ หรือระยะไกล 5 ปี 10 ปี 15 ปี จนถึง 25 ปี ฯลฯ เอกสารที่เขาออกมา คำพูดของฝ่ายรัฐบาลที่พูดออกมา มีความหมาย มีความนัยทั้งสิ้น เราควรมาทำความรู้จักวิธีคิด วิธีวางแผนของนักล่ากันหน่อย มันอาจจะไม่ทำให้เราเข้าใจ หรือรู้จักนักล่าเต็มร้อย แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่รู้เลย เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับนักล่า โดยเฉพาะที่จะกระทบกับบ้านเราหรือไม่ เรายังพอติดตามวิเคราะห์เองได้ ดีกว่าจะแค่ฟัง อ่าน ดูเอาจากสื่อที่ถูกฟ้อกย้อมมา เช่น CNN BBC หรือข่าวใส่สีตีไข่ หรือข่าวประเภทเรื่องเล่าประจำวันของบ้านเรานั้น ซึ่งถ้างดดูได้ก็ดี เพราะยิ่งดูยิ่งทำให้เราบื้อ ครับ ถ้าเราขยัน ขวนขวาย ติดตาม ค้นคว้า ต่อไปเรื่อย ๆ เราอาจจะเห็นและเข้าใจวิธีการของนักล่าชัดเจนขึ้น และอาจสามารถช่วยให้บ้านเมืองเราพ้นจากการเป็นเหยื่อของนักล่าได้บ้าง บ้านเมืองเรากำลังมาถึงจุดสำคัญ เรากำลังพยายามให้มีการปฎิรูปประเทศ จะมีจริงหรือไม่และจะปฎิรูปได้มากน้อยแค่ไหน ปัจจัยภายนอกก็มีส่วนสำคัญ ช่วยกันดูแลบ้านเมืองของเรา คนละไม้คนละมือ การทำงานของนักล่า ในเรื่องการล่าเหยื่อ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประธานาธิบดีคนเดียว แต่มีหน่วยงานของรัฐที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นมันสมอง วางแผนให้นักล่าอีกเพียบ คือ – The National Security Council (NSC) ซึ่งจะมีที่ปรึกษา เรียกว่า National Security Advisor (NSA) เป็นผู้กำกับคัดท้ายที่สำคัญ และเหตุการณ์ในโลกนี้ ที่เกิดขึ้นทั้งเลวทั้งร้าย ส่วนใหญ่เป็นผลงานของไอ้ตัวร้ายที่ทำหน้าที่เป็น NSA เกือบทั้งสิ้น ตัวอย่าง (ทั้งที่เคยเล่านิทานให้ฟังแล้ว และยังไม่ได้เล่า) NSA ที่มีชื่อติดอันดับความแสบหมายเลขต้น ๆ เช่น นาย McGeorge Bundy, นาย Walt W. Restow, นาย Henry Kissinger, นาย Zbigniew Brzezinski, นาย Brent Scowcroft ฯลฯ นอกจากนี้ NSC จะมีหน่วยงานที่สำคัญ ที่ทำหน้าที่วางยุทธศาสตร์ คือ National Security Strategy (NSS) ถ้าอยากจะติดตามความเคลื่อนไหว และความคิดทิศทางของนักล่า ลองเริ่มต้นด้วยการอ่านรายงานของ NSS ซึ่งจะมีออกมาเป็นรายปี และบางทีก็ออกเป็นระยะ แล้วแต่ความจำเป็น รายงานนี้จะบอกอะไรเราได้พอสมควร อย่างน้อยก็เห็นทิศทางของนักล่า ซึ่งจะไปทางไหนตะวันออกหรือตะวันตกทำนองนั้น – เมื่อมีการวางยุทธศาสตร์ออกมาแล้ว หน่วยงานของรัฐที่ต้องทำงานประสานกัน เพื่อให้ยุทธศาสตร์นั้น เป็นความจริงประสพผลสำเร็จ ซึ่งก็จะมีทีมงานตัวเก่งตัวแสบอีกเป็นร้อยเป็นพันจัดการตามแผนการ คือ
– State Department(กระทรวงต่างประเทศ)
– Defense Department(กระทรวงกลาโหม)
– Pentagon(หน่วยงานความมั่นคงของประเทศ)
– CIA(หน่วยงานข่าวกรองของประเทศ) – หน่วยงานดังกล่าวข้างต้น จะรายงานต่อประธานาธิบดีและสภาสูง โดยประธานาธิบดีจะมีผู้ช่วย (ซึ่งในบางกรณี อาจจะสำคัญกว่ารองประธานาธิบดีเสียด้วยซ้ำ !) คือ Chief of Staff และ Joint Chiefs of Staff ซึ่งทำหน้าที่เลือก/กรองนโยบายต่าง ๆ เสนอต่อประธานาธิบดี ส่วนสภาสูง จะมีหน่วยงานที่เรียกว่า Congressional Research Service ทำหน้าที่วิเคราะห์ทุกเรื่องที่จะส่งไปให้ สภาสูงพิจารณา โดยทำเป็นรายงานการวิเคราะห์อย่างละเอียด ส่งให้ก่อนการประชุมและเป็นเอกสารเปิดเผย (ที่ปิดผมยังหาไม่ได้ครับ) ไม่ใช่ส่งแต่กระดาษหน้าเดียวเขียนไม่กี่บันทัด หรือเขียนมัน 100 หน้า มีแต่น้ำ หรือใช้วิธีเข้าไปคุกเข่ายื่นโน๊ตสั้น ๆ ระหว่างประชุมสภาแบบบ้านเราทำ – นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานหรือสถาบันระดับสูงของเอกชนที่มีอิทธิพล ต่อแนวทางการล่าเหยื่อของนักล่า คือ พวกที่เรียกตัวเองว่า Think Tank (ถังความคิด) แต่ส่วนใหญ่ ถังพวกนี้ไม่ได้ มีแต่ความคิด แต่เป็นตัวการชักใยสร้างบท แต่งเรื่องรวมกำกับการแสดงและจัดหาตัวผู้มีหน้าที่บริหารประเทศด้วย แม้ตำแหน่งประธานาธิบดี ก็ไม่พ้นการจัดส่งและชักใยของ Think Tank ที่มีอิทธิพลสูง เช่น – Council on Foreign Relations (CFR)
– The Bilderberg Group
– The Trilateral Commission
– The Centre for Strategic and International Studies (CSIS)
– The Brookings Institution
– The Rand Corporation
– The Carnegie Endowment for International Peace
– Atlantic Council
– The Asia Society
– The Group of Thirty
ฯลฯ พวกถังความคิดเหล่านี้ บางพวกได้รับเงินสนับสนุนจาก Washington บางพวกได้จากมูลนิธิ Rockefeller มูลนิธิ Ford มูลนิธิ Carnegie รวมทั้งบรรดาบรรษัทข้ามชาติ ที่เป็นเครือข่ายของนักล่าและพวก NSA ที่มีอิทธิพล think tank ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ประมาณ ค.ศ. 1970 เป็นต้นมา ส่วนใหญ่ เป็นเครือข่าย ที่เหล่านักยุทธศาสตร์ด้านนโย บายต่างประเทศ ที่ปรึกษาความมั่นคง (NSA) เช่น นาย Henry Kissinger, นาย Zbigniew Brzezinski, นาย Brent Scowcroft, นาย Josef Nye … เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นมา หรือให้เด็กของตัวตั้งขึ้นมาแทบทั้งสิ้น กล่าวได้ว่า คนไม่กี่คนนี้เอง เป็นผู้มีอิทธิพลครอบงำ อเมริกามาตั้งแต่บัดนั้นถึงบัดนี้ ไม่ว่าอเมริกาจะเปลี่ยนประธานาธิบดีเป็นใคร และมาจากพรรคใด และคงไม่เป็นการเกินไปนัก ถ้าจะบอกว่าคนไม่กี่คนนี่แหละ มีอิทธิพลต่อโลกใบนี้มากเหลือเกิน ! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • ไม่กังวล "ชัยเกษม" ชิงนายก : [THE MESSAGE]

    นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่กังวลพรรคเพื่อไทยจะส่งนายชัยเกษม นิติสิริ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มั่นใจพรรคประชาชนไม่ฉีกข้อตกลง ยืนยันหากเป็นนายกจะไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง-การฮั้ว สว. จะติดตามคดีด้วยตัวเอง ต้องแก้ไขทุกปัญหา ไม่ใช่แค่เรื่องชายแดนอย่างเดียว มีทั้งปากท้องปัญหาเศรษฐกิจ ไว้ให้ถึงวันนั้นก่อน ส่วนหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเตรียมไล่บี้นั้น เราเป็นบุคคลสาธารณะ ตั้งแต่เข้ามาในสนามการเมือง สิ่งที่เราพร้อมคือเรามีความจริง คนที่จะบี้หรืออภิปรายตีแผ่อะไร ก็ขอให้เอาความจริงมาพูด อย่าไปเสกสรรค์ปั้นแต่ง
    ไม่กังวล "ชัยเกษม" ชิงนายก : [THE MESSAGE] นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ไม่กังวลพรรคเพื่อไทยจะส่งนายชัยเกษม นิติสิริ ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี มั่นใจพรรคประชาชนไม่ฉีกข้อตกลง ยืนยันหากเป็นนายกจะไม่แทรกแซงคดีเขากระโดง-การฮั้ว สว. จะติดตามคดีด้วยตัวเอง ต้องแก้ไขทุกปัญหา ไม่ใช่แค่เรื่องชายแดนอย่างเดียว มีทั้งปากท้องปัญหาเศรษฐกิจ ไว้ให้ถึงวันนั้นก่อน ส่วนหากพรรคภูมิใจไทยได้เป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยเตรียมไล่บี้นั้น เราเป็นบุคคลสาธารณะ ตั้งแต่เข้ามาในสนามการเมือง สิ่งที่เราพร้อมคือเรามีความจริง คนที่จะบี้หรืออภิปรายตีแผ่อะไร ก็ขอให้เอาความจริงมาพูด อย่าไปเสกสรรค์ปั้นแต่ง
    0 Comments 0 Shares 327 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก #TrumpDead: เมื่อความเงียบของผู้นำกลายเป็นเชื้อเพลิงของข่าวลวง

    ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วัย 79 ปี หายไปจากสื่อและกิจกรรมสาธารณะหลายวัน ทำให้เกิดกระแสข่าวลือในโลกออนไลน์ว่าเขาป่วยหนัก หรือแม้แต่ “เสียชีวิตแล้ว” โดยมีการแชร์ภาพ, แผนที่, และวิดีโอที่ถูกบิดเบือนหรือดัดแปลงด้วย AI เพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหาเหล่านั้น

    แม้ทรัมป์จะออกมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 2 กันยายนว่า “ข่าวลือทั้งหมดเป็น fake news” และยืนยันว่า “NEVER FELT BETTER IN MY LIFE” บน Truth Social แต่ hashtag #TrumpDead ก็ยังคงถูกพูดถึงมากกว่า 104,000 ครั้ง และมียอดเข้าชมรวมกว่า 35.3 ล้านวิวบนแพลตฟอร์ม X

    ภาพที่ถูกแชร์ ได้แก่:
    - แผนที่แสดงการปิดถนนใกล้โรงพยาบาล Walter Reed ซึ่งไม่มีรายงานจริง
    - ภาพรถพยาบาลหน้าทำเนียบขาวที่จริงแล้วถ่ายตั้งแต่ปี 2023 สมัยไบเดนยังดำรงตำแหน่ง
    - ธงไว้อาลัยที่ถูกตีความว่าเป็นสัญญาณการเสียชีวิตของทรัมป์ ทั้งที่จริงแล้วเป็นคำสั่งไว้อาลัยเหยื่อกราดยิงในมินนิอาโปลิส
    - ภาพใบหน้าทรัมป์ที่ถูกซูมและปรับด้วย AI ให้เห็นรอยเหนือดวงตา ซึ่งไม่มีอยู่ในภาพต้นฉบับ

    ข่าวลวงเหล่านี้ส่วนใหญ่เริ่มต้นจากบัญชีฝั่งต่อต้านทรัมป์บน X, Bluesky และ Instagram และยังคงแพร่กระจายแม้จะมีการแถลงข่าวชี้แจงแล้ว โดยบางโพสต์ถึงขั้นอ้างว่า “ทำเนียบขาวประกาศว่าเขาเสียชีวิต” ทั้งที่ไม่เป็นความจริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/03/trump-health-misinformation-swirls-despite-denial
    🎙️ เรื่องเล่าจาก #TrumpDead: เมื่อความเงียบของผู้นำกลายเป็นเชื้อเพลิงของข่าวลวง ในช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2025 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ วัย 79 ปี หายไปจากสื่อและกิจกรรมสาธารณะหลายวัน ทำให้เกิดกระแสข่าวลือในโลกออนไลน์ว่าเขาป่วยหนัก หรือแม้แต่ “เสียชีวิตแล้ว” โดยมีการแชร์ภาพ, แผนที่, และวิดีโอที่ถูกบิดเบือนหรือดัดแปลงด้วย AI เพื่อสนับสนุนข้อกล่าวหาเหล่านั้น แม้ทรัมป์จะออกมาแถลงข่าวเมื่อวันที่ 2 กันยายนว่า “ข่าวลือทั้งหมดเป็น fake news” และยืนยันว่า “NEVER FELT BETTER IN MY LIFE” บน Truth Social แต่ hashtag #TrumpDead ก็ยังคงถูกพูดถึงมากกว่า 104,000 ครั้ง และมียอดเข้าชมรวมกว่า 35.3 ล้านวิวบนแพลตฟอร์ม X ภาพที่ถูกแชร์ ได้แก่: - แผนที่แสดงการปิดถนนใกล้โรงพยาบาล Walter Reed ซึ่งไม่มีรายงานจริง - ภาพรถพยาบาลหน้าทำเนียบขาวที่จริงแล้วถ่ายตั้งแต่ปี 2023 สมัยไบเดนยังดำรงตำแหน่ง - ธงไว้อาลัยที่ถูกตีความว่าเป็นสัญญาณการเสียชีวิตของทรัมป์ ทั้งที่จริงแล้วเป็นคำสั่งไว้อาลัยเหยื่อกราดยิงในมินนิอาโปลิส - ภาพใบหน้าทรัมป์ที่ถูกซูมและปรับด้วย AI ให้เห็นรอยเหนือดวงตา ซึ่งไม่มีอยู่ในภาพต้นฉบับ ข่าวลวงเหล่านี้ส่วนใหญ่เริ่มต้นจากบัญชีฝั่งต่อต้านทรัมป์บน X, Bluesky และ Instagram และยังคงแพร่กระจายแม้จะมีการแถลงข่าวชี้แจงแล้ว โดยบางโพสต์ถึงขั้นอ้างว่า “ทำเนียบขาวประกาศว่าเขาเสียชีวิต” ทั้งที่ไม่เป็นความจริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/03/trump-health-misinformation-swirls-despite-denial
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump health misinformation swirls despite denial
    From manipulated images to out-of-context photos, false claims that Donald Trump is seriously ill – or even dead – have swirled online, with the misinformation persisting even after the US president publicly rejected it on Sept 2.
    0 Comments 0 Shares 109 Views 0 Reviews
  • ความจริงที่ประชาชนคนไทยดีๆช่วยกันตีแผ่,แต่นักการเมืองและข้าราชการไทยในพื้นที่พยายามฝังกลบ,เรามีทหารและตำรวจในภาคตะวันออกนี้ไว้ทำไม?,คนทำอาชีพสุจริตโดยรังแกชัดเจนจากคนทำอาชีพไม่สุจริต,บ้านเมืองเสื่อมมาก,คนบ้านหนองจานและลักษณะแบบจ.สระแก้วเป็นโซนต้องรักษาหนักสุด คนไข้icuสุดๆติดหาตังจากวิถีเถื่อนๆเต็มพื้นที่ไปหมด,ขาดคือลงแดงทันที,วันไหนไม่ได้ทำกิจกรรมลักษณะนี้จะลงแดงตายแน่นอน,ไม่สามารถกลับไปทำสัมมาอาชีพใดๆได้อีก ปลูกข้าวปลูกยางปลูกมันฯปลูกอ้อย ไม่สามารถทำรายได้และเม็ดเงินเป็นกอบเป็นกำได้ขนาดนี้และใช้ระยะเวลาอันสั้นด้วย,ไม่แปลกใจคนแถวนี้มีตังมีเงินทองมากมายโดยรอบเสียเหลือเกิน,ธนาคารแถวนี้รับฝากเงินสกปรกนี้เป็นอันมากจากนั้นจึงโอนตังกันได้,ฟอกตังสาระพัดอีก,นอกจากฟอกตังมุกอื่นๆ นอกจากขนตังสดๆข้ามชายแดนไปมาด้วย ขนให้ลูกน้องนายใหญ่เพื่อเก็บซ่อนให้นายใหญ่ใช้ในวัยชราใกล้ตายหรือออกจากราชการไทยไปแล้วนั้นเอง.,ใครๆจึงอยากเป็นใหญ่เป็นราชการชั้นปกครองกันมันสามารถอยู่ในอำนาจและเหนืออำนาจควบคุมคนใต้อำนาจได้ ทั้งทำการใดๆผิดบ้างชั่วบ้างก็จะเป็นที่ยอมรับเหมือนเดิมตราบที่ตนยังมีอำนาจในราชการไทยและมีโอกาสทำลักษณะนี้แบบในบ้านหนองจานทั่วไทยได้โล่งทางด้วย,สั่งเก็บใครก็ได้ที่ขัดขวางในสาระพัดวิธีการ ทั้งเก็บสั่งฆ่าตรงๆหรือเล่นทางข้อบทกฎหมาย,เพราะตนใหญ่สุดสั่งทั่วไทยได้มีความสัมพันธ์รอบไทยทั่ว,ชาวบ้านแบบหนองจานจึงน่าสงสารมากๆ,ยุคสมัยใดๆกฎหมายว่าล้ำขนาดไหนก็เอาพวกนี้ไม่ลง จบไม่ได้ ยืนหนึ่งสร้างการค้าขายการตลาดนี้ล่ำไป,การปกครองเราเสื่อมค่าจริงๆ ทหารแม่ทัพภาค1เจ้าของพื้นที่แท้ๆยังปล่อยปละละเลยเป็นอันมากจริงๆตำรวจพื้นที่ก็ด้วย อบต.อบจ. นายอำเภอ ผู้ว่า เป็นไปด้วยกันหมด, สรรพากร พานิชย์จังหวัด กรมที่ดิน หอการค้า สมาคมนักธุรกิจ รวมความเป็นไปด้วยกันหมด,และจริงๆตำรวจกับทหารชายแดนทหารภาคคือหน้าที่ตรงของตนเต็มๆต้องจัดการแต่ก็ไม่ทำ ,บ้านเมืองเราเน่าจริงๆเน่าหลายพื้นที่ เน่าเต็มๆฝั่งภาค1อีกและตำรวจภาคพื้นที่นี้ด้วย,อ.วีระ และทนายแผ่นดินสมควรรวมตัวกันทำเพื่อประเทศ อัยการศาลจังหวัดสระแก้วต้องยื่นฟ้องข้าราชการรัฐในพื้นที่นี้ทั้งหมด.ข้อหา ม.157เลย,ตลอด ม.119ด้วยที่ทำให้อธิปไตยถูกยึดครองสูญเสียไปและบนส่วนในแผ่นดินไทย เขตแดนเข้ามาฝั่งไทยด้วย,และที่น่าเสียใจคือแม่ทัพภาค1ยังติดโผทหารรอขึ้น ผบ.ทบ.อีก,ตลอด มทภ.1รุ่นก่อนๆที่ปกครองพื้นที่ดูแลสระแก้วตลอดแนวพรมแดนก่อนมทภ1.ปัจจุบันรับตำแหน่งก็ต้องโดน ม.157 ม.119ด้วยที่สามารถส่งไม้ต่อจนไม่ปราบปรามถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยอะไรเลย,แถมส่งให้มทภ.1อีก,มทภ1.ก็นิ่งเฉยไม่ถีบเขมรอะไรแม้เคสกรณีอีสานใต้บังเกิดขึ้นเป็นจังหวะอันดีงามแต่ก็นำพาดำเนินการ,ใครที่เกี่ยวข้องสั่งมทภ.1ไม่ออกปฏิบัติการถีบเขมร ยับยั้งมทภ.1ไว้ก็เข้าข่าย ม.119,ไม่ต่างจากคลิปเสียงนายกฯอดีตนายกฯไม่ซื่อสัตย์ผิดจรรยธรรมร้านแรงนั้นด้วยเลย.,ต้องเอามาลงโทษให้ได้ แฉสิ่งที่คุยกัน มีคลิปเสียงคุยกันยิ่งดี,กสทช.ต้องมีบันทึกแน่ ทหารสายลับสามารถดักเสียงได้แน่นอน.,อย่าพากันเก็บทหารเลวไว้หนักกองทัพไทยเลย,สมควรกำจัดเถอะ.

    https://youtube.com/watch?v=ai3k6kgSSDo&si=S_-95UU8YWerUPcZ
    ความจริงที่ประชาชนคนไทยดีๆช่วยกันตีแผ่,แต่นักการเมืองและข้าราชการไทยในพื้นที่พยายามฝังกลบ,เรามีทหารและตำรวจในภาคตะวันออกนี้ไว้ทำไม?,คนทำอาชีพสุจริตโดยรังแกชัดเจนจากคนทำอาชีพไม่สุจริต,บ้านเมืองเสื่อมมาก,คนบ้านหนองจานและลักษณะแบบจ.สระแก้วเป็นโซนต้องรักษาหนักสุด คนไข้icuสุดๆติดหาตังจากวิถีเถื่อนๆเต็มพื้นที่ไปหมด,ขาดคือลงแดงทันที,วันไหนไม่ได้ทำกิจกรรมลักษณะนี้จะลงแดงตายแน่นอน,ไม่สามารถกลับไปทำสัมมาอาชีพใดๆได้อีก ปลูกข้าวปลูกยางปลูกมันฯปลูกอ้อย ไม่สามารถทำรายได้และเม็ดเงินเป็นกอบเป็นกำได้ขนาดนี้และใช้ระยะเวลาอันสั้นด้วย,ไม่แปลกใจคนแถวนี้มีตังมีเงินทองมากมายโดยรอบเสียเหลือเกิน,ธนาคารแถวนี้รับฝากเงินสกปรกนี้เป็นอันมากจากนั้นจึงโอนตังกันได้,ฟอกตังสาระพัดอีก,นอกจากฟอกตังมุกอื่นๆ นอกจากขนตังสดๆข้ามชายแดนไปมาด้วย ขนให้ลูกน้องนายใหญ่เพื่อเก็บซ่อนให้นายใหญ่ใช้ในวัยชราใกล้ตายหรือออกจากราชการไทยไปแล้วนั้นเอง.,ใครๆจึงอยากเป็นใหญ่เป็นราชการชั้นปกครองกันมันสามารถอยู่ในอำนาจและเหนืออำนาจควบคุมคนใต้อำนาจได้ ทั้งทำการใดๆผิดบ้างชั่วบ้างก็จะเป็นที่ยอมรับเหมือนเดิมตราบที่ตนยังมีอำนาจในราชการไทยและมีโอกาสทำลักษณะนี้แบบในบ้านหนองจานทั่วไทยได้โล่งทางด้วย,สั่งเก็บใครก็ได้ที่ขัดขวางในสาระพัดวิธีการ ทั้งเก็บสั่งฆ่าตรงๆหรือเล่นทางข้อบทกฎหมาย,เพราะตนใหญ่สุดสั่งทั่วไทยได้มีความสัมพันธ์รอบไทยทั่ว,ชาวบ้านแบบหนองจานจึงน่าสงสารมากๆ,ยุคสมัยใดๆกฎหมายว่าล้ำขนาดไหนก็เอาพวกนี้ไม่ลง จบไม่ได้ ยืนหนึ่งสร้างการค้าขายการตลาดนี้ล่ำไป,การปกครองเราเสื่อมค่าจริงๆ ทหารแม่ทัพภาค1เจ้าของพื้นที่แท้ๆยังปล่อยปละละเลยเป็นอันมากจริงๆตำรวจพื้นที่ก็ด้วย อบต.อบจ. นายอำเภอ ผู้ว่า เป็นไปด้วยกันหมด, สรรพากร พานิชย์จังหวัด กรมที่ดิน หอการค้า สมาคมนักธุรกิจ รวมความเป็นไปด้วยกันหมด,และจริงๆตำรวจกับทหารชายแดนทหารภาคคือหน้าที่ตรงของตนเต็มๆต้องจัดการแต่ก็ไม่ทำ ,บ้านเมืองเราเน่าจริงๆเน่าหลายพื้นที่ เน่าเต็มๆฝั่งภาค1อีกและตำรวจภาคพื้นที่นี้ด้วย,อ.วีระ และทนายแผ่นดินสมควรรวมตัวกันทำเพื่อประเทศ อัยการศาลจังหวัดสระแก้วต้องยื่นฟ้องข้าราชการรัฐในพื้นที่นี้ทั้งหมด.ข้อหา ม.157เลย,ตลอด ม.119ด้วยที่ทำให้อธิปไตยถูกยึดครองสูญเสียไปและบนส่วนในแผ่นดินไทย เขตแดนเข้ามาฝั่งไทยด้วย,และที่น่าเสียใจคือแม่ทัพภาค1ยังติดโผทหารรอขึ้น ผบ.ทบ.อีก,ตลอด มทภ.1รุ่นก่อนๆที่ปกครองพื้นที่ดูแลสระแก้วตลอดแนวพรมแดนก่อนมทภ1.ปัจจุบันรับตำแหน่งก็ต้องโดน ม.157 ม.119ด้วยที่สามารถส่งไม้ต่อจนไม่ปราบปรามถีบเขมรออกจากแผ่นดินไทยอะไรเลย,แถมส่งให้มทภ.1อีก,มทภ1.ก็นิ่งเฉยไม่ถีบเขมรอะไรแม้เคสกรณีอีสานใต้บังเกิดขึ้นเป็นจังหวะอันดีงามแต่ก็นำพาดำเนินการ,ใครที่เกี่ยวข้องสั่งมทภ.1ไม่ออกปฏิบัติการถีบเขมร ยับยั้งมทภ.1ไว้ก็เข้าข่าย ม.119,ไม่ต่างจากคลิปเสียงนายกฯอดีตนายกฯไม่ซื่อสัตย์ผิดจรรยธรรมร้านแรงนั้นด้วยเลย.,ต้องเอามาลงโทษให้ได้ แฉสิ่งที่คุยกัน มีคลิปเสียงคุยกันยิ่งดี,กสทช.ต้องมีบันทึกแน่ ทหารสายลับสามารถดักเสียงได้แน่นอน.,อย่าพากันเก็บทหารเลวไว้หนักกองทัพไทยเลย,สมควรกำจัดเถอะ. https://youtube.com/watch?v=ai3k6kgSSDo&si=S_-95UU8YWerUPcZ
    0 Comments 0 Shares 143 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก USB สีฟ้า: เมื่อสีของพอร์ตกลายเป็นภาษาลับของความเร็วและฟังก์ชัน

    ย้อนกลับไปก่อนปี 2008 ช่อง USB บนคอมพิวเตอร์มีแต่สีดำ—รองรับ USB 2.0 ที่มีความเร็วสูงสุดแค่ 480 Mbps ใช้สำหรับเมาส์ คีย์บอร์ด หรือแฟลชไดรฟ์เล็ก ๆ แต่เมื่อ USB 3.0 เปิดตัว สีฟ้าก็ถูกนำมาใช้เพื่อบอกว่า “ช่องนี้เร็วกว่า” โดยสามารถส่งข้อมูลได้ถึง 5 Gbps และรองรับการสื่อสารแบบ full-duplex คือส่งและรับข้อมูลพร้อมกันได้

    พอร์ตสีฟ้าจึงกลายเป็นจุดเด่นบนเมนบอร์ดและแล็ปท็อปที่เน้นประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับการโอนข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น external SSD, backup drive หรืออุปกรณ์วิดีโอความละเอียดสูง

    แต่ความจริงคือ “สีฟ้า” ไม่ใช่มาตรฐานที่บังคับ—USB-IF ซึ่งเป็นองค์กรที่กำหนดมาตรฐาน USB ไม่ได้กำหนดสีไว้ ทำให้แต่ละแบรนด์ใช้สีต่างกันไป เช่น Dell และ Lenovo ใช้สีฟ้าอย่างสม่ำเสมอ แต่ HP บางรุ่นใช้สีดำพร้อมสัญลักษณ์ SS (SuperSpeed) แทน

    ในอุปกรณ์เกมหรือเมนบอร์ดระดับสูง พอร์ตสีฟ้าอาจหมายถึง USB 3.2 Gen 1 แต่บางครั้งก็มีฟีเจอร์พิเศษแฝงอยู่ เช่น BIOS flashback หรือการปรับแต่งอุปกรณ์เฉพาะทาง ส่วนใน PlayStation พอร์ตสีฟ้ามักใช้สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ต้องการความเร็วสูง

    หากไม่แน่ใจว่าพอร์ตสีฟ้าทำอะไรได้บ้าง วิธีที่ดีที่สุดคือดูคู่มือหรือสเปกของอุปกรณ์ หรือสังเกตสัญลักษณ์ข้างพอร์ต เช่น SS, ตัวเลข 5/10/20 (Gbps), หรือไอคอนสายฟ้า ซึ่งบอกถึงความสามารถในการชาร์จเร็ว

    ความหมายของพอร์ต USB สีฟ้า
    มักหมายถึง USB 3.x (เช่น 3.0, 3.1, 3.2 Gen 1) ที่มีความเร็วสูง
    รองรับ full-duplex communication ส่งและรับข้อมูลพร้อมกัน
    เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการ bandwidth สูง เช่น external SSD หรือกล้อง

    ความแตกต่างระหว่างแบรนด์
    Dell และ Lenovo ใช้สีฟ้าอย่างสม่ำเสมอ
    HP ใช้ทั้งสีฟ้าและสีดำพร้อมสัญลักษณ์ SS
    Apple ไม่ใช้สี แต่ระบุในคู่มือหรือสเปกแทน

    สัญลักษณ์ที่ควรสังเกต
    SS = SuperSpeed (USB 3.x)
    ตัวเลข 5/10/20 = ความเร็วในการส่งข้อมูล (Gbps)
    ไอคอนสายฟ้า = รองรับการชาร์จเร็วหรือ Power Delivery

    การใช้งานในอุปกรณ์เฉพาะ
    เมนบอร์ดเกมมิ่งอาจใช้พอร์ตสีฟ้าสำหรับ BIOS flashback หรือการปรับแต่ง
    PlayStation ใช้พอร์ตสีฟ้าสำหรับอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอก
    Docking station และฮับมักใช้สีฟ้าเพื่อแยก USB 3.x จาก USB 2.0

    https://www.slashgear.com/1953890/blue-usb-port-what-means-uses-explained/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก USB สีฟ้า: เมื่อสีของพอร์ตกลายเป็นภาษาลับของความเร็วและฟังก์ชัน ย้อนกลับไปก่อนปี 2008 ช่อง USB บนคอมพิวเตอร์มีแต่สีดำ—รองรับ USB 2.0 ที่มีความเร็วสูงสุดแค่ 480 Mbps ใช้สำหรับเมาส์ คีย์บอร์ด หรือแฟลชไดรฟ์เล็ก ๆ แต่เมื่อ USB 3.0 เปิดตัว สีฟ้าก็ถูกนำมาใช้เพื่อบอกว่า “ช่องนี้เร็วกว่า” โดยสามารถส่งข้อมูลได้ถึง 5 Gbps และรองรับการสื่อสารแบบ full-duplex คือส่งและรับข้อมูลพร้อมกันได้ พอร์ตสีฟ้าจึงกลายเป็นจุดเด่นบนเมนบอร์ดและแล็ปท็อปที่เน้นประสิทธิภาพ โดยเฉพาะสำหรับการโอนข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น external SSD, backup drive หรืออุปกรณ์วิดีโอความละเอียดสูง แต่ความจริงคือ “สีฟ้า” ไม่ใช่มาตรฐานที่บังคับ—USB-IF ซึ่งเป็นองค์กรที่กำหนดมาตรฐาน USB ไม่ได้กำหนดสีไว้ ทำให้แต่ละแบรนด์ใช้สีต่างกันไป เช่น Dell และ Lenovo ใช้สีฟ้าอย่างสม่ำเสมอ แต่ HP บางรุ่นใช้สีดำพร้อมสัญลักษณ์ SS (SuperSpeed) แทน ในอุปกรณ์เกมหรือเมนบอร์ดระดับสูง พอร์ตสีฟ้าอาจหมายถึง USB 3.2 Gen 1 แต่บางครั้งก็มีฟีเจอร์พิเศษแฝงอยู่ เช่น BIOS flashback หรือการปรับแต่งอุปกรณ์เฉพาะทาง ส่วนใน PlayStation พอร์ตสีฟ้ามักใช้สำหรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์เก็บข้อมูลที่ต้องการความเร็วสูง หากไม่แน่ใจว่าพอร์ตสีฟ้าทำอะไรได้บ้าง วิธีที่ดีที่สุดคือดูคู่มือหรือสเปกของอุปกรณ์ หรือสังเกตสัญลักษณ์ข้างพอร์ต เช่น SS, ตัวเลข 5/10/20 (Gbps), หรือไอคอนสายฟ้า ซึ่งบอกถึงความสามารถในการชาร์จเร็ว ✅ ความหมายของพอร์ต USB สีฟ้า ➡️ มักหมายถึง USB 3.x (เช่น 3.0, 3.1, 3.2 Gen 1) ที่มีความเร็วสูง ➡️ รองรับ full-duplex communication ส่งและรับข้อมูลพร้อมกัน ➡️ เหมาะกับการใช้งานที่ต้องการ bandwidth สูง เช่น external SSD หรือกล้อง ✅ ความแตกต่างระหว่างแบรนด์ ➡️ Dell และ Lenovo ใช้สีฟ้าอย่างสม่ำเสมอ ➡️ HP ใช้ทั้งสีฟ้าและสีดำพร้อมสัญลักษณ์ SS ➡️ Apple ไม่ใช้สี แต่ระบุในคู่มือหรือสเปกแทน ✅ สัญลักษณ์ที่ควรสังเกต ➡️ SS = SuperSpeed (USB 3.x) ➡️ ตัวเลข 5/10/20 = ความเร็วในการส่งข้อมูล (Gbps) ➡️ ไอคอนสายฟ้า = รองรับการชาร์จเร็วหรือ Power Delivery ✅ การใช้งานในอุปกรณ์เฉพาะ ➡️ เมนบอร์ดเกมมิ่งอาจใช้พอร์ตสีฟ้าสำหรับ BIOS flashback หรือการปรับแต่ง ➡️ PlayStation ใช้พอร์ตสีฟ้าสำหรับอุปกรณ์เก็บข้อมูลภายนอก ➡️ Docking station และฮับมักใช้สีฟ้าเพื่อแยก USB 3.x จาก USB 2.0 https://www.slashgear.com/1953890/blue-usb-port-what-means-uses-explained/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    What Does It Mean When A USB Port Is Blue? - SlashGear
    The color of your USB port can tell you everything you need to know about what the port is capable of, so what does it mean if you have a blue USB port?
    0 Comments 0 Shares 119 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากแป้นพิมพ์: เมื่อ Return ไม่ได้แค่ “ขึ้นบรรทัดใหม่” แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนยุค

    ในจินตนาการของคนทั่วไป การเปลี่ยนจากเครื่องพิมพ์ดีดไปสู่คอมพิวเตอร์ดูเหมือนจะเรียบง่าย—แค่เอาจอและ CPU มาต่อกับแป้นพิมพ์ก็จบ แต่ความจริงนั้นซับซ้อนกว่ามาก และไม่มีปุ่มไหนสะท้อนการเปลี่ยนผ่านนี้ได้ดีเท่ากับ “Return”

    เริ่มจากเครื่องพิมพ์ดีดในยุค 1870s ที่ไม่มีแม้แต่ปุ่ม 0 หรือ 1 เพราะถูกตัดออกเพื่อลดต้นทุน ผู้ใช้ต้องพิมพ์ O แทน 0 และ l แทน 1 หรือแม้แต่ใช้ดินสอเติมสัญลักษณ์ที่ขาดหายไป การพิมพ์ซ้อนทับเพื่อสร้างสัญลักษณ์ใหม่กลายเป็นศิลปะที่เรียกว่า “concrete poetry”

    คันโยก “carriage return” คือกลไกที่พากระดาษขึ้นบรรทัดใหม่และเลื่อนหัวพิมพ์กลับไปทางซ้าย แต่เมื่อเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าเข้ามาในยุค 1940s–1950s คันโยกนี้ก็กลายเป็นปุ่ม “Return” ที่กดง่ายขึ้นถึง 425 เท่า

    จากนั้น teletypes ก็เข้ามาแทนที่ Morse code โดยใช้แป้นพิมพ์ QWERTY ส่งข้อความผ่านสายไฟ แต่การเลื่อนหัวพิมพ์กลับไปทางซ้าย (Carriage Return) ใช้เวลานานกว่าการขึ้นบรรทัดใหม่ (Line Feed) จึงต้องแยกเป็นสองรหัส—CR และ LF—ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่นักพัฒนายังเจอในทุกวันนี้

    เมื่อ word processor เข้ามาในยุค 1970s–1980s การพิมพ์กลายเป็นข้อมูลที่แก้ไขได้ การขึ้นบรรทัดใหม่จึงไม่ใช่เรื่องของกลไกอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของ “text reflow” ที่ต้องปรับอัตโนมัติเมื่อมีการแก้ไขข้อความ Return จึงกลายเป็นปุ่มที่ใช้เฉพาะการขึ้นย่อหน้า ส่วนการขึ้นบรรทัดใหม่ต้องใช้ soft return, hard return หรือแม้แต่ modifier key

    เมื่อคอมพิวเตอร์เริ่มมีหน้าจอและฟอร์มให้กรอกข้อมูล ปุ่ม Return ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Enter เพื่อสื่อถึงการ “ส่งข้อมูล” ไม่ใช่แค่ “ขึ้นบรรทัดใหม่” และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสับสนที่ยังอยู่จนถึงทุกวันนี้

    จุดกำเนิดของ Return บนเครื่องพิมพ์ดีด
    เริ่มจากคันโยกที่เลื่อนหัวพิมพ์กลับไปทางซ้ายและขึ้นบรรทัดใหม่
    กลายเป็นปุ่ม “Return” เมื่อเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าเข้ามา
    ลดแรงที่ต้องใช้ในการพิมพ์ลงอย่างมหาศาล

    การแยก CR และ LF บน teletypes
    Carriage Return (CR) เลื่อนหัวพิมพ์กลับไปทางซ้าย
    Line Feed (LF) ขึ้นบรรทัดใหม่
    ถูกแยกเป็นสองรหัสเพื่อให้ระบบทันกับความเร็วในการส่งข้อมูล

    การเปลี่ยนแปลงในยุค word processor
    Return ใช้เฉพาะการขึ้นย่อหน้า
    การขึ้นบรรทัดใหม่ต้องใช้ soft return หรือ modifier key
    เกิดแนวคิด “text reflow” ที่ปรับข้อความอัตโนมัติ

    การเปลี่ยนชื่อเป็น Enter บนคอมพิวเตอร์
    ใช้ Enter เพื่อสื่อถึงการ “ส่งข้อมูล” หรือ “ยืนยันคำสั่ง”
    IBM และ Apple เลือกใช้ชื่อแตกต่างกัน: IBM ใช้ Enter, Apple ใช้ Return
    ปุ่มเดียวกันมีความหมายต่างกันตามบริบทของซอฟต์แวร์

    ความซับซ้อนของแป้นพิมพ์ยุคใหม่
    ปุ่มเดียวอาจมีหลายหน้าที่ เช่น Return, Enter, Execute, New Line
    Modifier key เช่น Shift, Ctrl, Alt เปลี่ยนพฤติกรรมของปุ่ม
    การออกแบบแป้นพิมพ์ต้องรองรับหลายบริบทและหลายภาษา

    https://aresluna.org/the-day-return-became-enter/
    🎙️ เรื่องเล่าจากแป้นพิมพ์: เมื่อ Return ไม่ได้แค่ “ขึ้นบรรทัดใหม่” แต่เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนยุค ในจินตนาการของคนทั่วไป การเปลี่ยนจากเครื่องพิมพ์ดีดไปสู่คอมพิวเตอร์ดูเหมือนจะเรียบง่าย—แค่เอาจอและ CPU มาต่อกับแป้นพิมพ์ก็จบ แต่ความจริงนั้นซับซ้อนกว่ามาก และไม่มีปุ่มไหนสะท้อนการเปลี่ยนผ่านนี้ได้ดีเท่ากับ “Return” เริ่มจากเครื่องพิมพ์ดีดในยุค 1870s ที่ไม่มีแม้แต่ปุ่ม 0 หรือ 1 เพราะถูกตัดออกเพื่อลดต้นทุน ผู้ใช้ต้องพิมพ์ O แทน 0 และ l แทน 1 หรือแม้แต่ใช้ดินสอเติมสัญลักษณ์ที่ขาดหายไป การพิมพ์ซ้อนทับเพื่อสร้างสัญลักษณ์ใหม่กลายเป็นศิลปะที่เรียกว่า “concrete poetry” คันโยก “carriage return” คือกลไกที่พากระดาษขึ้นบรรทัดใหม่และเลื่อนหัวพิมพ์กลับไปทางซ้าย แต่เมื่อเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าเข้ามาในยุค 1940s–1950s คันโยกนี้ก็กลายเป็นปุ่ม “Return” ที่กดง่ายขึ้นถึง 425 เท่า จากนั้น teletypes ก็เข้ามาแทนที่ Morse code โดยใช้แป้นพิมพ์ QWERTY ส่งข้อความผ่านสายไฟ แต่การเลื่อนหัวพิมพ์กลับไปทางซ้าย (Carriage Return) ใช้เวลานานกว่าการขึ้นบรรทัดใหม่ (Line Feed) จึงต้องแยกเป็นสองรหัส—CR และ LF—ซึ่งกลายเป็นปัญหาที่นักพัฒนายังเจอในทุกวันนี้ เมื่อ word processor เข้ามาในยุค 1970s–1980s การพิมพ์กลายเป็นข้อมูลที่แก้ไขได้ การขึ้นบรรทัดใหม่จึงไม่ใช่เรื่องของกลไกอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของ “text reflow” ที่ต้องปรับอัตโนมัติเมื่อมีการแก้ไขข้อความ Return จึงกลายเป็นปุ่มที่ใช้เฉพาะการขึ้นย่อหน้า ส่วนการขึ้นบรรทัดใหม่ต้องใช้ soft return, hard return หรือแม้แต่ modifier key เมื่อคอมพิวเตอร์เริ่มมีหน้าจอและฟอร์มให้กรอกข้อมูล ปุ่ม Return ก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Enter เพื่อสื่อถึงการ “ส่งข้อมูล” ไม่ใช่แค่ “ขึ้นบรรทัดใหม่” และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความสับสนที่ยังอยู่จนถึงทุกวันนี้ ✅ จุดกำเนิดของ Return บนเครื่องพิมพ์ดีด ➡️ เริ่มจากคันโยกที่เลื่อนหัวพิมพ์กลับไปทางซ้ายและขึ้นบรรทัดใหม่ ➡️ กลายเป็นปุ่ม “Return” เมื่อเครื่องพิมพ์ดีดไฟฟ้าเข้ามา ➡️ ลดแรงที่ต้องใช้ในการพิมพ์ลงอย่างมหาศาล ✅ การแยก CR และ LF บน teletypes ➡️ Carriage Return (CR) เลื่อนหัวพิมพ์กลับไปทางซ้าย ➡️ Line Feed (LF) ขึ้นบรรทัดใหม่ ➡️ ถูกแยกเป็นสองรหัสเพื่อให้ระบบทันกับความเร็วในการส่งข้อมูล ✅ การเปลี่ยนแปลงในยุค word processor ➡️ Return ใช้เฉพาะการขึ้นย่อหน้า ➡️ การขึ้นบรรทัดใหม่ต้องใช้ soft return หรือ modifier key ➡️ เกิดแนวคิด “text reflow” ที่ปรับข้อความอัตโนมัติ ✅ การเปลี่ยนชื่อเป็น Enter บนคอมพิวเตอร์ ➡️ ใช้ Enter เพื่อสื่อถึงการ “ส่งข้อมูล” หรือ “ยืนยันคำสั่ง” ➡️ IBM และ Apple เลือกใช้ชื่อแตกต่างกัน: IBM ใช้ Enter, Apple ใช้ Return ➡️ ปุ่มเดียวกันมีความหมายต่างกันตามบริบทของซอฟต์แวร์ ✅ ความซับซ้อนของแป้นพิมพ์ยุคใหม่ ➡️ ปุ่มเดียวอาจมีหลายหน้าที่ เช่น Return, Enter, Execute, New Line ➡️ Modifier key เช่น Shift, Ctrl, Alt เปลี่ยนพฤติกรรมของปุ่ม ➡️ การออกแบบแป้นพิมพ์ต้องรองรับหลายบริบทและหลายภาษา https://aresluna.org/the-day-return-became-enter/
    ARESLUNA.ORG
    The day Return became Enter
    A deep dive into the convoluted and fascinating story of one of the most important keys on the keyboard
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • ความจริงมีอีกมากมาย,ทหารไทยเราฝั่งอีสานใต้สู้ตายสะเทือนสนั่นไหว,แต่มีภาคตะวันออกไม่มีสักแอะ,น่าเศร้าใจเสียใจมั้ยการปกครองไทยเรา,การเมืองไทยเราทำลายชาติไทยชัดเจนมานานแล้วจริงสมคบกับต่างชาติและเอกชนใครไม่รู้ที่มาใช้สถานที่ในไทยว่าเอกชนไทยบ้างว่าเอกชนต่างชาติบ้างจากนั้นก็ค้าขายทำกำไรบนแผ่นดินไทย ไม่รับลูกมาตรายุทธศึกใดๆกับทหารไทยปกป้องอธิปไตยชาติไทยเลย,ข้าราชการประจำก็ทุจริตด้วย ข้าราชการการเมืองทุจริตประจำอยู่แล้วปกปิดข่าวข่วยอำนวยความสะดวกช่วย,ทหารเรือฝั่งเราก็ไม่รู้ว่ามีทหารชั่วฝั่งทหารเรือกี่คนอำนวยความสะดวกให้แบบนี้ใครจะเข้าไปตรวจสอบได้ง่ายเหมือนทางบกจึงต้องมีความซื่อสัตย์อันมากอย่างเดียว,นี้จึงต้องใช้บาทคอยน์ดิจิดัลจริงๆ จะสามารถใช้ระบควอนตัมตรวจสอบเส้นทางทางเงินได้ทุกๆคน,ทหารไทยทัพเรือนายพล พลทหารคนไหนได้รับตังเข้าบัญชีผิดปกติก็สามารถตรวจสอบได้,เอกชนใดมีตังเข้าบัญชีผิดปกติก็ตรวจสอบได้,เพราะพวกนี้ทำทุจริตเพื่อตังทั้งหมด เราสามารถกันตังส่วนเกินออกทันที ยึดได้ทันทีอัตโนมัติ,นายพล นักการเมืองคนไทยไหนมีตังเข้ามือถือบัญชีควอนตัมผิดปกติก็ป๊อบอัพฝ่ายตรวจสอบอัตโนมัติ.


    https://youtube.com/watch?v=nqXqNlvO498&si=L-LKxC3tfhZJlg7e
    ความจริงมีอีกมากมาย,ทหารไทยเราฝั่งอีสานใต้สู้ตายสะเทือนสนั่นไหว,แต่มีภาคตะวันออกไม่มีสักแอะ,น่าเศร้าใจเสียใจมั้ยการปกครองไทยเรา,การเมืองไทยเราทำลายชาติไทยชัดเจนมานานแล้วจริงสมคบกับต่างชาติและเอกชนใครไม่รู้ที่มาใช้สถานที่ในไทยว่าเอกชนไทยบ้างว่าเอกชนต่างชาติบ้างจากนั้นก็ค้าขายทำกำไรบนแผ่นดินไทย ไม่รับลูกมาตรายุทธศึกใดๆกับทหารไทยปกป้องอธิปไตยชาติไทยเลย,ข้าราชการประจำก็ทุจริตด้วย ข้าราชการการเมืองทุจริตประจำอยู่แล้วปกปิดข่าวข่วยอำนวยความสะดวกช่วย,ทหารเรือฝั่งเราก็ไม่รู้ว่ามีทหารชั่วฝั่งทหารเรือกี่คนอำนวยความสะดวกให้แบบนี้ใครจะเข้าไปตรวจสอบได้ง่ายเหมือนทางบกจึงต้องมีความซื่อสัตย์อันมากอย่างเดียว,นี้จึงต้องใช้บาทคอยน์ดิจิดัลจริงๆ จะสามารถใช้ระบควอนตัมตรวจสอบเส้นทางทางเงินได้ทุกๆคน,ทหารไทยทัพเรือนายพล พลทหารคนไหนได้รับตังเข้าบัญชีผิดปกติก็สามารถตรวจสอบได้,เอกชนใดมีตังเข้าบัญชีผิดปกติก็ตรวจสอบได้,เพราะพวกนี้ทำทุจริตเพื่อตังทั้งหมด เราสามารถกันตังส่วนเกินออกทันที ยึดได้ทันทีอัตโนมัติ,นายพล นักการเมืองคนไทยไหนมีตังเข้ามือถือบัญชีควอนตัมผิดปกติก็ป๊อบอัพฝ่ายตรวจสอบอัตโนมัติ. https://youtube.com/watch?v=nqXqNlvO498&si=L-LKxC3tfhZJlg7e
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • แม่ทัพภาค2ปฏิบัติเพื่ออธิปไตยชาติ.

    แม่ทัพภาค1ไม่ปฏิบัติการถีบเขมรออกจริงจนประชาชนคนไทยเรียกร้องถึงบ้านหนองจาน,บวกประกาศกฎอัยการศึกใส่คนไทบตนอีกกว่าปะทะเขมร,เป็นวลีที่บัดสบมาก,ทหารตอนนี้ต้องถีบเขมรออกทันทีได้แล้วเพราะอัยการศึกใช้จริงแล้ว จับคนเขมรทันทีด้วยหากยังอยู่แผ่นดินไทย,เสาหมุดปักเขตแดนชัดเจนที่1:1แล้ว,ยึด1:50,000เหมือนภาค2สร้างโมเดลไว้,หากภาค1ยังร่วมอ้าง1:200,000คืออ้อมเอาmou43,44ขึ้นอ้างหรือหยุดยิง ถือว่าภาค1เป็นปฏิปักษ์เสียเองต่อความมั่นคงทางดินแดนอธิปไตยไทยตน,และจริงๆแม่ทัพภาค1ต้องถูกตัดสิทธิขึ้น5เสือด้วยหรือรอขึ้น ผบ.ทบ.สูงสุด,เพราะยุทธการ ยุทธวิธี ยุทธศาสตร์ทางทหาร การสงครามกับศัตรูถือว่าสอบตกอย่างร้ายแรง ทำเสียพื้นที่ดินแดนไทยตนเองบนเขตหน้าที่ตนเองด้วย ไร้เสียปืนสักแอะ อ.วีระ แฉอีก ยิ่งมีสมควรขึ้น ผบ.ทบ.ชัดเจน แม้ใครใหญ่ขนาดไหนสั่งตน เมื่อตนรักชาติรักแผ่นดินเอาแผ่นดินไทยมาก่อน จะเร่งรีบถีบเขมรออกไปทันทีเมื่อมีโอกาสแม้เพียงน้อยนิดก็ตาม แต่นี้เสือกเวลาโคตรมากมายกว่าจังหวะใดๆที่เคยมีมาก 24-28 ก.ค.68 มันน้อยวันที่ไหน มีนักวิชาการบ้างคนเอาอีสานใต้มาปนภาคตะวันออกให้เหมือนดูว่า ถ้าให้เวลามากกว่านี้ภาคตะวันออกจะถีบคนเขมรออกจากแผ่นดินไทยได้ทั้งหมดทันทีโน้น, อ.วีระด่าได้ชัด เสียงปืนนัดหนึ่งยังไม่เกิดเลย,บวกแฉต่อว่านายใหญ่โทรเคลียร์แล้วโน้น อย่ายิงใส่กันประมาณนั้น,จึงน่าสงสารแม่ทัพภาค2เรามาก,เสมือนภาค1เป็นปฏิปักษ์ต่ออธิปไตยตนชัดเจนรวมไอ้เหี้ยที่โทรเคลียร์กันนั้นด้วย,เรามีทหารที่ทรยศเต็มพื้นที่มากเกินไป,การจัดโผทหารนี้ไม่ชอบต่อกองทัพ เล่นพรรคเล่นพรรคไม่ต่างจากพรรคการเมือง,ภาค2สู้เป็นสู้ตายเพื่อบ้านเมือง,ภาค1ไม่สู้ห่าอะไรเลยบวก อ.วีระแฉอีก สมเหตุมาก,โผทหารต้องเอารายชื่อคนภาค1ออกทั้งหมดลดอำนาจควบคุมกองทัพภาคทันทีหรือส่วนกลางด้วย,ห้ามเดอะแก๊งภาค1มีอำนาจทางทหารทั้งหมดเพราะ เรา..ประชาชนไม่ไว้วางใจคนเดอะแก๊งภาค1ทั้งหมดในเวลานี้,ประกอบกับภาคตะวันออกถือว่าเป็นเขตอันตรายสูงสุดทันที ต้องให้แม่ทัพภาคอื่นๆกระจายกำลังผสมตนเข้ามาควบคุมอำนาจบัญชาการทั้งหมดทันที,หากเดอะแก๊งภาค1มีอำนาจในส่วนกลางแบบอ้างว่ามีกำลังภายในปฏิวัติทุกๆครั้งก็เร่งรีบสลายกำลังภายในนั้นเลย,อาจรวมหัวกับciaตลอดการปฏิวัติทุกๆครั้งในอดีตที่ผ่านมาก็ด้วยบนอำนาจสั่งการตนที่ถือมายาวนานในอดีต,
    ..เอาจริงๆนะบ้านเมืองจะรอดภัยพิบัติจริงต้องถีบเดอะแก๊งภาค1ออกจากอำนาจกองทัพทั้งหมด,ลดกำลังลง โผทหารต้องตัดคนเดอะแก๊งภาค1ออกไปทั้งหมด,ถ้าเดอะแก๊งภาค1เชื่อว่าตนบริสุทธิ์จะพิสูจน์ความจริงใจนี้ต่อประชาชน ก็จงนั่งเฉยๆโดยไร้อำนาจสักปีสองปีดูได้,ค่าจริงประชาชนคนไทยจะเข้าใจชัดเจนแน่นอน,ว่าเดอะแก๊งท่านๆไม่เป็นปฏิปักษ์จริงต่ออธิปไตนตนนั้นเสียเองจริงๆ.โผทหารใหม่สามารถนำมาคืนอำนาจบัญชาการได้และอาจใหญ่โตกว่าในอดีตที่หมายจะเป็นจะได้อีก.,เพราะเดอะแก๊งดีๆย่อมได้รับสิ่งดีๆกลับคืน,ตอบแทนคุณความดีงามนั้นคืนยิ่งกว่าเดิม.
    ..แต่ตอนนี้ยอมรับว่าเรา..ประชาชนไม่ไว้วางใจเดอะแก๊งภาค1บูรพาพยัคฆ์เลย,ผลงานบ้านหนองจานคือเครื่องพิสูจน์ตัวตนชัดแจ้งแล้ว,ชาติไทยมาก่อน ประเทศชาติไทยมาก่อนหรือผลประโยชน์ร่วมกันกับเขมรมาก่อนบนหน้าที่ของตนที่แบกไว้อย่างชัดเจนตำตาคนไทยทั้งประเทศด้วย,แต่ไร้บทลงโทษทางวินัยหรืออาญาทางทหารเลย,เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีมากๆ,แม่ทัพหนีสนามรบโทษเช่นไร,แม่ทัพปีกขวาสู้รบเอาเป็นเอาตายแต่แม่ทัพปีกซ้ายนิ่งยืนดูเฉยๆบนสนามสมรภูมิรบตลอดแนวหน้าทัพตนมีโทษสถานใด,สมควรเลื่อนยศเลื่อนเก้าอี้ตำแหน่งเป็นอันมากใช่หรือไม่,เช่นนั้นใครที่ตัดสินใจอนุญาตเสนอทั้งชื่อบรรจุตำแหน่งเลื่อนยศก็อย่าอยู่ทำหน้าที่นั้นๆเลย,กลับไปเลี้ยงหลานเถอะ,ส้นตีนยังไม่รู้ดีชั่วถูกผิดขนาดนั้น,เพราะกองทัพไทยเราไม่สมควรบัดสบแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว คนเช่นนี้หนักแผ่นดินหนักกองทัพไทยเราด้วย,อยากมีเงินมีทองมากมายก็ลาออกจากชุดทหารเถอะ อย่าเอาชาติไทยตนเองมาย่ำยี่เล่นๆแบบนี้,อย่าเอาชุดทหารอันทรงเกียรติประเทศไทยตนไปก่อชั่วทำเลวเลย.

    https://youtube.com/watch?v=ZZBuMnC_Iyo&si=N0QN7HtDa7KdCp5a
    แม่ทัพภาค2ปฏิบัติเพื่ออธิปไตยชาติ. แม่ทัพภาค1ไม่ปฏิบัติการถีบเขมรออกจริงจนประชาชนคนไทยเรียกร้องถึงบ้านหนองจาน,บวกประกาศกฎอัยการศึกใส่คนไทบตนอีกกว่าปะทะเขมร,เป็นวลีที่บัดสบมาก,ทหารตอนนี้ต้องถีบเขมรออกทันทีได้แล้วเพราะอัยการศึกใช้จริงแล้ว จับคนเขมรทันทีด้วยหากยังอยู่แผ่นดินไทย,เสาหมุดปักเขตแดนชัดเจนที่1:1แล้ว,ยึด1:50,000เหมือนภาค2สร้างโมเดลไว้,หากภาค1ยังร่วมอ้าง1:200,000คืออ้อมเอาmou43,44ขึ้นอ้างหรือหยุดยิง ถือว่าภาค1เป็นปฏิปักษ์เสียเองต่อความมั่นคงทางดินแดนอธิปไตยไทยตน,และจริงๆแม่ทัพภาค1ต้องถูกตัดสิทธิขึ้น5เสือด้วยหรือรอขึ้น ผบ.ทบ.สูงสุด,เพราะยุทธการ ยุทธวิธี ยุทธศาสตร์ทางทหาร การสงครามกับศัตรูถือว่าสอบตกอย่างร้ายแรง ทำเสียพื้นที่ดินแดนไทยตนเองบนเขตหน้าที่ตนเองด้วย ไร้เสียปืนสักแอะ อ.วีระ แฉอีก ยิ่งมีสมควรขึ้น ผบ.ทบ.ชัดเจน แม้ใครใหญ่ขนาดไหนสั่งตน เมื่อตนรักชาติรักแผ่นดินเอาแผ่นดินไทยมาก่อน จะเร่งรีบถีบเขมรออกไปทันทีเมื่อมีโอกาสแม้เพียงน้อยนิดก็ตาม แต่นี้เสือกเวลาโคตรมากมายกว่าจังหวะใดๆที่เคยมีมาก 24-28 ก.ค.68 มันน้อยวันที่ไหน มีนักวิชาการบ้างคนเอาอีสานใต้มาปนภาคตะวันออกให้เหมือนดูว่า ถ้าให้เวลามากกว่านี้ภาคตะวันออกจะถีบคนเขมรออกจากแผ่นดินไทยได้ทั้งหมดทันทีโน้น, อ.วีระด่าได้ชัด เสียงปืนนัดหนึ่งยังไม่เกิดเลย,บวกแฉต่อว่านายใหญ่โทรเคลียร์แล้วโน้น อย่ายิงใส่กันประมาณนั้น,จึงน่าสงสารแม่ทัพภาค2เรามาก,เสมือนภาค1เป็นปฏิปักษ์ต่ออธิปไตยตนชัดเจนรวมไอ้เหี้ยที่โทรเคลียร์กันนั้นด้วย,เรามีทหารที่ทรยศเต็มพื้นที่มากเกินไป,การจัดโผทหารนี้ไม่ชอบต่อกองทัพ เล่นพรรคเล่นพรรคไม่ต่างจากพรรคการเมือง,ภาค2สู้เป็นสู้ตายเพื่อบ้านเมือง,ภาค1ไม่สู้ห่าอะไรเลยบวก อ.วีระแฉอีก สมเหตุมาก,โผทหารต้องเอารายชื่อคนภาค1ออกทั้งหมดลดอำนาจควบคุมกองทัพภาคทันทีหรือส่วนกลางด้วย,ห้ามเดอะแก๊งภาค1มีอำนาจทางทหารทั้งหมดเพราะ เรา..ประชาชนไม่ไว้วางใจคนเดอะแก๊งภาค1ทั้งหมดในเวลานี้,ประกอบกับภาคตะวันออกถือว่าเป็นเขตอันตรายสูงสุดทันที ต้องให้แม่ทัพภาคอื่นๆกระจายกำลังผสมตนเข้ามาควบคุมอำนาจบัญชาการทั้งหมดทันที,หากเดอะแก๊งภาค1มีอำนาจในส่วนกลางแบบอ้างว่ามีกำลังภายในปฏิวัติทุกๆครั้งก็เร่งรีบสลายกำลังภายในนั้นเลย,อาจรวมหัวกับciaตลอดการปฏิวัติทุกๆครั้งในอดีตที่ผ่านมาก็ด้วยบนอำนาจสั่งการตนที่ถือมายาวนานในอดีต, ..เอาจริงๆนะบ้านเมืองจะรอดภัยพิบัติจริงต้องถีบเดอะแก๊งภาค1ออกจากอำนาจกองทัพทั้งหมด,ลดกำลังลง โผทหารต้องตัดคนเดอะแก๊งภาค1ออกไปทั้งหมด,ถ้าเดอะแก๊งภาค1เชื่อว่าตนบริสุทธิ์จะพิสูจน์ความจริงใจนี้ต่อประชาชน ก็จงนั่งเฉยๆโดยไร้อำนาจสักปีสองปีดูได้,ค่าจริงประชาชนคนไทยจะเข้าใจชัดเจนแน่นอน,ว่าเดอะแก๊งท่านๆไม่เป็นปฏิปักษ์จริงต่ออธิปไตนตนนั้นเสียเองจริงๆ.โผทหารใหม่สามารถนำมาคืนอำนาจบัญชาการได้และอาจใหญ่โตกว่าในอดีตที่หมายจะเป็นจะได้อีก.,เพราะเดอะแก๊งดีๆย่อมได้รับสิ่งดีๆกลับคืน,ตอบแทนคุณความดีงามนั้นคืนยิ่งกว่าเดิม. ..แต่ตอนนี้ยอมรับว่าเรา..ประชาชนไม่ไว้วางใจเดอะแก๊งภาค1บูรพาพยัคฆ์เลย,ผลงานบ้านหนองจานคือเครื่องพิสูจน์ตัวตนชัดแจ้งแล้ว,ชาติไทยมาก่อน ประเทศชาติไทยมาก่อนหรือผลประโยชน์ร่วมกันกับเขมรมาก่อนบนหน้าที่ของตนที่แบกไว้อย่างชัดเจนตำตาคนไทยทั้งประเทศด้วย,แต่ไร้บทลงโทษทางวินัยหรืออาญาทางทหารเลย,เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีมากๆ,แม่ทัพหนีสนามรบโทษเช่นไร,แม่ทัพปีกขวาสู้รบเอาเป็นเอาตายแต่แม่ทัพปีกซ้ายนิ่งยืนดูเฉยๆบนสนามสมรภูมิรบตลอดแนวหน้าทัพตนมีโทษสถานใด,สมควรเลื่อนยศเลื่อนเก้าอี้ตำแหน่งเป็นอันมากใช่หรือไม่,เช่นนั้นใครที่ตัดสินใจอนุญาตเสนอทั้งชื่อบรรจุตำแหน่งเลื่อนยศก็อย่าอยู่ทำหน้าที่นั้นๆเลย,กลับไปเลี้ยงหลานเถอะ,ส้นตีนยังไม่รู้ดีชั่วถูกผิดขนาดนั้น,เพราะกองทัพไทยเราไม่สมควรบัดสบแบบนี้ได้อีกต่อไปแล้ว คนเช่นนี้หนักแผ่นดินหนักกองทัพไทยเราด้วย,อยากมีเงินมีทองมากมายก็ลาออกจากชุดทหารเถอะ อย่าเอาชาติไทยตนเองมาย่ำยี่เล่นๆแบบนี้,อย่าเอาชุดทหารอันทรงเกียรติประเทศไทยตนไปก่อชั่วทำเลวเลย. https://youtube.com/watch?v=ZZBuMnC_Iyo&si=N0QN7HtDa7KdCp5a
    0 Comments 0 Shares 181 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด”
    ตอนที่ 2
    จะดูว่านักล่ามันใหญ่จริงไหม ดูง่าย ๆ มีชาติไหนบ้างที่สามารถตั้งฐานทัพของตัวเอง
    ไว้ในประเทศอื่นได้บ้าง เอาประเทศที่ว่าใหญ่ ๆ นะ เล็ก ๆ ไม่ต้องเสนอหน้า
    อินเดียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่แค่ไหน พลเมืองมากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับอเมริกา
    แขกก็กำลังรวย แอบสร้างอาวุธนิวเคลียร์ (เอ๊ะ ! ที่ยังงี้ทำไมไม่เห็นมีใครเสนอ ส่งหน่วยตรวจสอบจาก UN มาเลยนะ เอ้าคนอ่านนิทานลองคิดหาคำตอบกันเองบ้าง) เกือบมีฐานทัพในบ้านคนอื่น คือ Tajikistan แต่แค่เกือบแปลว่ายังไม่สำเร็จ แขกยังต้มไม่เก่งเท่านักล่า
    แล้วจีนล่ะ อาเฮียรวยจะตาย เศรษฐกิจโตพุ่งพรวดเป็นอันดับ 2 ของดวงดาวนี้ ขยายบ้านสร้างเมือง ไปเซียงไฮ้ นึกว่าไปปารีส (ฮา !) แล้วไง มีไหมฐานทัพในประเทศอื่น ของจริงยังม่ายมี ! มีแต่ข่าวว่าจะไป ตั้งที่เกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่ง แถวหมู่เกาะ
    Seychelles ในมหาสมุทรอินเดีย จิกโก๋บอกโถ ! แค่นี้ยังไม่มีปัญญา อย่ามาทำซ่ากะไอนะ !
    เอ้า ! รัสเซียของพี่ปูจอมอึด ว่าไง มีไหม ! อย่านะ ยุ่งกะจีนเรื่องนึง แต่รัสเซียของพี่ปูนี่ก็อีกเรื่องนึง ไม่จำเป็นอย่ายุ่ง สงครามเย็นน่ะ มันทำให้เหนื่อย ให้จนกันขนาดไหน ยังไม่เข็ดหรือไง ขอโทษ ! นึกว่าพี่ปูไม่มีหรือไง พี่ปูก็มีนะอยู่แถวเอเซียกลาง ฐานเล็ก ๆ 4,5 ฐาน ก็จริงอยู่ แต่ต่อไปอาจจะมีใครตาละห้อยมอง เพราะ the Great Great Game ศึกชิงน้ำมันกำลังเข้มข้นอยู่แถวนั้น
    อังกฤษล่ะ ในฐานะนักล่ารุ่นเก่าต้องรักษาฟอร์ม มีอยู่บ้างในอาฟกานิสถาน และตามเมืองขี้ข้าเก่า ของตนเองประมาณ 10 ฐาน เป็นฐานขนาดเล็กที่เยอรมันกับ Falkland ที่เหลือเป็นขนาดจ้อย ๆ
    ส่วนฝรั่งเศสก็มาฟอร์มเดี๋ยวกับอังกฤษ มีฐานเล็ก จิ๋ว ๆ ตามเมืองขี้ข้าเก่า ประมาณ
    10 ฐาน มีกำลังประจำฐานละไม่กี่ร้อยคน บางฐานมี 15 คน (ฮา !)
    ญี่ปุ่นเองมี 1 ฐานที่ Djiboutiเป็นฐานเล็กเอาไว้สู้กับโจรสลัด
    และอีกประเทศคือ ตุรกีมี 1 ฐาน อยู่ที่ไซปรัส หมดแล้วทั้งโลกนี้นะ
    เบ่งกล้ามกันได้เท่านี้ แล้วจะไปสู้อะไรกับพี่เบิ้มนักล่าหมายเลขหนึ่งได้
    แล้วพี่เบิ้มเองมีเท่าไหร่ อยู่ที่ไหนบ้าง
    รายงานของแต่ละหน่วยงานของอเมริกา บอกตัวเลขไม่เหมือนกัน (ฝรั่งก็แต่งตัวเลข
    เหมือนกันน่า แต่งเก่งด้วย มันชอบเขียนให้ดูยุ่งยาก ต้องเอาบวกมาลบมารวมและมา
    แยกใหม่ อะไรทำนองนี้ ถึงจะได้ของจริง)
    รายงานของ Pentagon ผู้ที่น่าจะมีตัวเลขครบ แต่ไม่มีวันจะบอกความจริงกับโลก
    ตัวเลขของ Pentagon เมื่อปี ค.ศ. 2010 บอกว่าอเมริกามีฐานทัพในต่างประเทศ 662 แห่งใน 38 ประเทศทั่วโลก แปลว่าของจริง ต้องมีมากกว่านั้น คำถามคือมากกว่าอีกเท่าไหร่
    ในปี ค.ศ. 1955 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบไปแล้ว 10 ปี หนังสือพิมพ์ Chicago Daily Tribune สำรวจฐานทัพของอเมริกาแถบยุโรปและแปซิฟิกและรายงานว่า ธงชาติอเมริกันปลิวไสวอยู่บนเสาใน 300 กว่า ฐานทัพที่อยู่ต่างประเทศ ประมาณ 63 ประเทศ เออ ! ปี 1955 มันเข้าไป 63 ประเทศ พอ ค.ศ. 2010 เหลือ 38 ประเทศ ! มึน !
    ปัจจุบัน สรุปจากเอกสารประกอบเกือบ 10 สถาบัน ตัวเลขที่น่าเป็นไปได้ที่สุด คือ อเมริกามีประมาณ 1,077 ฐานทัพในประมาณ 130 ประเทศทั่วโลก !
    โฆษกของ US – led International Security Assistance Force (ISAF) บอกว่าในปี ค.ศ.2010 แค่ในอาฟกานิสถานเอง มีฐานทัพอเมริกาเกือบ 400 แห่ง นี่ยังไม่นับฐานลับ ที่อเมริกามีแอบในอิรักอีกเป็น 100 แห่ง
    สำหรับฐานทัพขนาดใหญ่ของอเมริกาตามรายงานของ Pentagon บอกว่าบางแห่งมีบ้านและโรงเรียนสำหรับครอบครัวทหาร โรงแรมแบบรีสอร์ท (ใช่ ! กระทรวงกลาโหมมีได้ มีปัญหาไหม ? ) ลานเล่นสกี (ใช่ ! มีได้เช่นกัน) และสนามกอล์ฟ ทหารอเมริกาคุยว่า พวกเขามีประมาณ 172 สนามกอล์ฟ ขนาดต่าง ๆ (ใช่ ! มิได้เช่นกัน อิจฉาไหม !)
    ใหญ่เสียขนาดนี้ สยายปีกเหยี่ยวไปทั่วโลก ตอนนี้บอกจะปรับกระบวนยุทธใหม่ มุ่งชิง
    รางวัลใหญ่ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ฝ่ายวิเคราะห์ก็ต้องทำการบ้าน อย่าลืม Research and Development หน่วยงานฝ่ายวิเคราะห์และวางแผนของอเมริกา คือ ผู้ทำแผนการล่าเหยื่อนั่นเอง
    คราวนี้ใช้บริการของ Rand Corporation ซึ่งถือว่าเป็น think tank มือเก๋าของ Pentagon เรียกว่าใช้กันมานาน รู้ว่าเจ้านายต้องการให้เขียนอะไร

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ยุทธการกบกระโดด” ตอนที่ 2 จะดูว่านักล่ามันใหญ่จริงไหม ดูง่าย ๆ มีชาติไหนบ้างที่สามารถตั้งฐานทัพของตัวเอง ไว้ในประเทศอื่นได้บ้าง เอาประเทศที่ว่าใหญ่ ๆ นะ เล็ก ๆ ไม่ต้องเสนอหน้า อินเดียเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่แค่ไหน พลเมืองมากเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับอเมริกา แขกก็กำลังรวย แอบสร้างอาวุธนิวเคลียร์ (เอ๊ะ ! ที่ยังงี้ทำไมไม่เห็นมีใครเสนอ ส่งหน่วยตรวจสอบจาก UN มาเลยนะ เอ้าคนอ่านนิทานลองคิดหาคำตอบกันเองบ้าง) เกือบมีฐานทัพในบ้านคนอื่น คือ Tajikistan แต่แค่เกือบแปลว่ายังไม่สำเร็จ แขกยังต้มไม่เก่งเท่านักล่า แล้วจีนล่ะ อาเฮียรวยจะตาย เศรษฐกิจโตพุ่งพรวดเป็นอันดับ 2 ของดวงดาวนี้ ขยายบ้านสร้างเมือง ไปเซียงไฮ้ นึกว่าไปปารีส (ฮา !) แล้วไง มีไหมฐานทัพในประเทศอื่น ของจริงยังม่ายมี ! มีแต่ข่าวว่าจะไป ตั้งที่เกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่ง แถวหมู่เกาะ Seychelles ในมหาสมุทรอินเดีย จิกโก๋บอกโถ ! แค่นี้ยังไม่มีปัญญา อย่ามาทำซ่ากะไอนะ ! เอ้า ! รัสเซียของพี่ปูจอมอึด ว่าไง มีไหม ! อย่านะ ยุ่งกะจีนเรื่องนึง แต่รัสเซียของพี่ปูนี่ก็อีกเรื่องนึง ไม่จำเป็นอย่ายุ่ง สงครามเย็นน่ะ มันทำให้เหนื่อย ให้จนกันขนาดไหน ยังไม่เข็ดหรือไง ขอโทษ ! นึกว่าพี่ปูไม่มีหรือไง พี่ปูก็มีนะอยู่แถวเอเซียกลาง ฐานเล็ก ๆ 4,5 ฐาน ก็จริงอยู่ แต่ต่อไปอาจจะมีใครตาละห้อยมอง เพราะ the Great Great Game ศึกชิงน้ำมันกำลังเข้มข้นอยู่แถวนั้น อังกฤษล่ะ ในฐานะนักล่ารุ่นเก่าต้องรักษาฟอร์ม มีอยู่บ้างในอาฟกานิสถาน และตามเมืองขี้ข้าเก่า ของตนเองประมาณ 10 ฐาน เป็นฐานขนาดเล็กที่เยอรมันกับ Falkland ที่เหลือเป็นขนาดจ้อย ๆ ส่วนฝรั่งเศสก็มาฟอร์มเดี๋ยวกับอังกฤษ มีฐานเล็ก จิ๋ว ๆ ตามเมืองขี้ข้าเก่า ประมาณ 10 ฐาน มีกำลังประจำฐานละไม่กี่ร้อยคน บางฐานมี 15 คน (ฮา !) ญี่ปุ่นเองมี 1 ฐานที่ Djiboutiเป็นฐานเล็กเอาไว้สู้กับโจรสลัด และอีกประเทศคือ ตุรกีมี 1 ฐาน อยู่ที่ไซปรัส หมดแล้วทั้งโลกนี้นะ เบ่งกล้ามกันได้เท่านี้ แล้วจะไปสู้อะไรกับพี่เบิ้มนักล่าหมายเลขหนึ่งได้ แล้วพี่เบิ้มเองมีเท่าไหร่ อยู่ที่ไหนบ้าง รายงานของแต่ละหน่วยงานของอเมริกา บอกตัวเลขไม่เหมือนกัน (ฝรั่งก็แต่งตัวเลข เหมือนกันน่า แต่งเก่งด้วย มันชอบเขียนให้ดูยุ่งยาก ต้องเอาบวกมาลบมารวมและมา แยกใหม่ อะไรทำนองนี้ ถึงจะได้ของจริง) รายงานของ Pentagon ผู้ที่น่าจะมีตัวเลขครบ แต่ไม่มีวันจะบอกความจริงกับโลก ตัวเลขของ Pentagon เมื่อปี ค.ศ. 2010 บอกว่าอเมริกามีฐานทัพในต่างประเทศ 662 แห่งใน 38 ประเทศทั่วโลก แปลว่าของจริง ต้องมีมากกว่านั้น คำถามคือมากกว่าอีกเท่าไหร่ ในปี ค.ศ. 1955 หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 จบไปแล้ว 10 ปี หนังสือพิมพ์ Chicago Daily Tribune สำรวจฐานทัพของอเมริกาแถบยุโรปและแปซิฟิกและรายงานว่า ธงชาติอเมริกันปลิวไสวอยู่บนเสาใน 300 กว่า ฐานทัพที่อยู่ต่างประเทศ ประมาณ 63 ประเทศ เออ ! ปี 1955 มันเข้าไป 63 ประเทศ พอ ค.ศ. 2010 เหลือ 38 ประเทศ ! มึน ! ปัจจุบัน สรุปจากเอกสารประกอบเกือบ 10 สถาบัน ตัวเลขที่น่าเป็นไปได้ที่สุด คือ อเมริกามีประมาณ 1,077 ฐานทัพในประมาณ 130 ประเทศทั่วโลก ! โฆษกของ US – led International Security Assistance Force (ISAF) บอกว่าในปี ค.ศ.2010 แค่ในอาฟกานิสถานเอง มีฐานทัพอเมริกาเกือบ 400 แห่ง นี่ยังไม่นับฐานลับ ที่อเมริกามีแอบในอิรักอีกเป็น 100 แห่ง สำหรับฐานทัพขนาดใหญ่ของอเมริกาตามรายงานของ Pentagon บอกว่าบางแห่งมีบ้านและโรงเรียนสำหรับครอบครัวทหาร โรงแรมแบบรีสอร์ท (ใช่ ! กระทรวงกลาโหมมีได้ มีปัญหาไหม ? ) ลานเล่นสกี (ใช่ ! มีได้เช่นกัน) และสนามกอล์ฟ ทหารอเมริกาคุยว่า พวกเขามีประมาณ 172 สนามกอล์ฟ ขนาดต่าง ๆ (ใช่ ! มิได้เช่นกัน อิจฉาไหม !) ใหญ่เสียขนาดนี้ สยายปีกเหยี่ยวไปทั่วโลก ตอนนี้บอกจะปรับกระบวนยุทธใหม่ มุ่งชิง รางวัลใหญ่ในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก ฝ่ายวิเคราะห์ก็ต้องทำการบ้าน อย่าลืม Research and Development หน่วยงานฝ่ายวิเคราะห์และวางแผนของอเมริกา คือ ผู้ทำแผนการล่าเหยื่อนั่นเอง คราวนี้ใช้บริการของ Rand Corporation ซึ่งถือว่าเป็น think tank มือเก๋าของ Pentagon เรียกว่าใช้กันมานาน รู้ว่าเจ้านายต้องการให้เขียนอะไร คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • พรรคประชาชนยังไม่เคาะโหวตนายกฯ ‘พริษฐ์’ ยันข่าวลือไม่เป็นความจริง! นัดผู้บริหารพรรคตัดสินใจพรุ่งนี้
    https://www.thai-tai.tv/news/21276/
    .
    #ไทยไท #พรรคประชาชน #พริษฐ์วัชรสินธุ #ปกรณ์วุฒิอุดมพิพัฒน์สกุล #โหวตนายก #จัดตั้งรัฐบาล #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้

    พรรคประชาชนยังไม่เคาะโหวตนายกฯ ‘พริษฐ์’ ยันข่าวลือไม่เป็นความจริง! นัดผู้บริหารพรรคตัดสินใจพรุ่งนี้ https://www.thai-tai.tv/news/21276/ . #ไทยไท #พรรคประชาชน #พริษฐ์วัชรสินธุ #ปกรณ์วุฒิอุดมพิพัฒน์สกุล #โหวตนายก #จัดตั้งรัฐบาล #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews
  • ♣ ไว้ใจไม่ได้ ชนชาติจังไร แสร้งตบตา ยกเลิกแถลงสถานการณ์ชั่วคราว แต่ความจริงเพิ่มเติมกำลังพลตลอด กองทัพไทยรู้ทัน พร้อมตอบโต้
    #7ดอกจิก
    #มาลีกัมพูชา
    ♣ ไว้ใจไม่ได้ ชนชาติจังไร แสร้งตบตา ยกเลิกแถลงสถานการณ์ชั่วคราว แต่ความจริงเพิ่มเติมกำลังพลตลอด กองทัพไทยรู้ทัน พร้อมตอบโต้ #7ดอกจิก #มาลีกัมพูชา
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก NSHipster: เมื่อความไม่แน่นอนกลายเป็นชนิดข้อมูล

    ในโลกของการเขียนโปรแกรม เรามักชินกับการตัดสินใจแบบ “จริงหรือเท็จ” ผ่าน Boolean แต่ในชีวิตจริง เช่น GPS หรือเซนเซอร์ต่าง ๆ ข้อมูลที่เราได้มักจะมี “ความไม่แน่นอน” ปะปนอยู่เสมอ แล้วทำไมโค้ดเราถึงไม่สะท้อนสิ่งนั้น?

    บทความจาก NSHipster ได้หยิบแนวคิดจากงานวิจัยของ Microsoft Research และ University of Washington ที่เสนอชนิดข้อมูลใหม่ชื่อว่า Uncertain<T> ซึ่งเป็นการนำความน่าจะเป็นมาใส่ใน type system โดยตรง เช่น แทนที่จะบอกว่า “คุณถึงที่หมายแล้ว” ด้วย if statement ธรรมดา เราอาจพูดว่า “คุณถึงที่หมายแล้ว ด้วยความมั่นใจ 95%” ซึ่งสะท้อนความจริงได้มากกว่า

    แนวคิดนี้ถูกนำมาเขียนใหม่ใน Swift โดยใช้ distribution ต่าง ๆ เช่น Rayleigh, Normal, Bernoulli, Exponential และ Mixture เพื่อจำลองความไม่แน่นอนในข้อมูลจริง ตั้งแต่ GPS, ความเร็ว, ความหนาแน่นของอากาศ ไปจนถึงพฤติกรรมผู้ใช้และ latency ของ API

    นอกจากนี้ยังมีการใช้ Monte Carlo sampling เพื่อประเมินผลลัพธ์จากการสุ่มหลายพันครั้ง และใช้ Sequential Probability Ratio Testing (SPRT) เพื่อปรับจำนวน sample อัตโนมัติตามความซับซ้อนของเงื่อนไข

    แนวคิดของ Uncertain<T>
    เป็นชนิดข้อมูลที่รวมความน่าจะเป็นเข้าไปใน type system
    ใช้แทนค่าที่มีความไม่แน่นอน เช่น GPS, sensor, user behavior
    เปลี่ยนจาก true/false เป็น Uncertain<Bool> ที่มีค่า probability

    การใช้งานใน Swift
    มีการ port จาก C# มาเป็น Swift library พร้อมตัวอย่างการใช้งาน
    รองรับ distribution หลายแบบ เช่น normal, exponential, kumaraswamy
    ใช้ SPRT เพื่อปรับจำนวน sample ตามความซับซ้อนของเงื่อนไข

    ตัวอย่างการใช้งานจริง
    GPS ที่มี horizontal accuracy ถูกแปลงเป็น Uncertain<CLLocation>
    การคำนวณความเร็ว, ความต้านทานอากาศ, หรือ comfort index ใช้ค่าที่มี standard deviation
    การประเมินว่า “สามารถวิ่ง 5K ได้” ถูกคำนวณจากหลายเงื่อนไขรวมกัน

    การใช้ Monte Carlo sampling
    ใช้สุ่มหลายพันครั้งเพื่อประเมิน expected value หรือ confidence
    ตัวอย่างเช่น slot machine ที่คำนวณ expected payout จากการ spin 10,000 ครั้ง

    การวิเคราะห์สถิติ
    รองรับการคำนวณ mean, standard deviation, confidence interval
    วิเคราะห์ shape ของ distribution เช่น skewness และ kurtosis
    รองรับ entropy และ mode สำหรับข้อมูลแบบ discrete

    https://nshipster.com/uncertainty/
    🎙️ เรื่องเล่าจาก NSHipster: เมื่อความไม่แน่นอนกลายเป็นชนิดข้อมูล ในโลกของการเขียนโปรแกรม เรามักชินกับการตัดสินใจแบบ “จริงหรือเท็จ” ผ่าน Boolean แต่ในชีวิตจริง เช่น GPS หรือเซนเซอร์ต่าง ๆ ข้อมูลที่เราได้มักจะมี “ความไม่แน่นอน” ปะปนอยู่เสมอ แล้วทำไมโค้ดเราถึงไม่สะท้อนสิ่งนั้น? บทความจาก NSHipster ได้หยิบแนวคิดจากงานวิจัยของ Microsoft Research และ University of Washington ที่เสนอชนิดข้อมูลใหม่ชื่อว่า Uncertain<T> ซึ่งเป็นการนำความน่าจะเป็นมาใส่ใน type system โดยตรง เช่น แทนที่จะบอกว่า “คุณถึงที่หมายแล้ว” ด้วย if statement ธรรมดา เราอาจพูดว่า “คุณถึงที่หมายแล้ว ด้วยความมั่นใจ 95%” ซึ่งสะท้อนความจริงได้มากกว่า แนวคิดนี้ถูกนำมาเขียนใหม่ใน Swift โดยใช้ distribution ต่าง ๆ เช่น Rayleigh, Normal, Bernoulli, Exponential และ Mixture เพื่อจำลองความไม่แน่นอนในข้อมูลจริง ตั้งแต่ GPS, ความเร็ว, ความหนาแน่นของอากาศ ไปจนถึงพฤติกรรมผู้ใช้และ latency ของ API นอกจากนี้ยังมีการใช้ Monte Carlo sampling เพื่อประเมินผลลัพธ์จากการสุ่มหลายพันครั้ง และใช้ Sequential Probability Ratio Testing (SPRT) เพื่อปรับจำนวน sample อัตโนมัติตามความซับซ้อนของเงื่อนไข ✅ แนวคิดของ Uncertain<T> ➡️ เป็นชนิดข้อมูลที่รวมความน่าจะเป็นเข้าไปใน type system ➡️ ใช้แทนค่าที่มีความไม่แน่นอน เช่น GPS, sensor, user behavior ➡️ เปลี่ยนจาก true/false เป็น Uncertain<Bool> ที่มีค่า probability ✅ การใช้งานใน Swift ➡️ มีการ port จาก C# มาเป็น Swift library พร้อมตัวอย่างการใช้งาน ➡️ รองรับ distribution หลายแบบ เช่น normal, exponential, kumaraswamy ➡️ ใช้ SPRT เพื่อปรับจำนวน sample ตามความซับซ้อนของเงื่อนไข ✅ ตัวอย่างการใช้งานจริง ➡️ GPS ที่มี horizontal accuracy ถูกแปลงเป็น Uncertain<CLLocation> ➡️ การคำนวณความเร็ว, ความต้านทานอากาศ, หรือ comfort index ใช้ค่าที่มี standard deviation ➡️ การประเมินว่า “สามารถวิ่ง 5K ได้” ถูกคำนวณจากหลายเงื่อนไขรวมกัน ✅ การใช้ Monte Carlo sampling ➡️ ใช้สุ่มหลายพันครั้งเพื่อประเมิน expected value หรือ confidence ➡️ ตัวอย่างเช่น slot machine ที่คำนวณ expected payout จากการ spin 10,000 ครั้ง ✅ การวิเคราะห์สถิติ ➡️ รองรับการคำนวณ mean, standard deviation, confidence interval ➡️ วิเคราะห์ shape ของ distribution เช่น skewness และ kurtosis ➡️ รองรับ entropy และ mode สำหรับข้อมูลแบบ discrete https://nshipster.com/uncertainty/
    NSHIPSTER.COM
    Uncertain⟨T⟩
    GPS coordinates aren’t exact. Sensor readings have noise. User behavior is probabilistic. Yet we write code that pretends uncertainty doesn’t exist, forcing messy real-world data through clean Boolean logic.
    0 Comments 0 Shares 104 Views 0 Reviews
  • เปิดโปง: เรื่องโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด – พันธบัตรใบสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!

    คุณเป็นทาส โดยที่คุณไม่รู้ตัว! ใบสูติบัตรของคุณไม่ใช่แค่เอกสาร แต่มันคือพันธบัตรมูลค่าหลายล้านที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นหลักประกันหนี้สาธารณะ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่เกิด ตื่นขึ้นและเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และตกเป็นทาสได้อย่างไร! อ่านตอนนี้เลยก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง!

    สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสุดยอด – คุณถูกซื้อและขายอย่างไรตั้งแต่แรกเกิด!

    เปิดโปง: เรื่องโกหกที่ยิ่งใหญ่ที่สุด – พันธบัตรใบสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! คุณเป็นทาส โดยที่คุณไม่รู้ตัว! ใบสูติบัตรของคุณไม่ใช่แค่เอกสาร แต่มันคือพันธบัตรมูลค่าหลายล้านที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นหลักประกันหนี้สาธารณะ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่เกิด ตื่นขึ้นและเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และตกเป็นทาสได้อย่างไร! อ่านตอนนี้เลยก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง! สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสุดยอด – คุณถูกซื้อและขายอย่างไรตั้งแต่แรกเกิด!
    0 Comments 0 Shares 82 Views 0 Reviews
  • เอาจริงๆนะ งานนี้ ผบ.เหล่าทัพสูงสุดคุมทั้ง3เหล่าทัพประสานงาน จะเอาอย่างไร,ผบ.ทบ.,ผบ.ทอ.,ผบ.ทร. สำคัญหมดตอนนี้,
    ..
    ..งานนี้บอกตรงๆสถาบันการเมืองต้องประชุมกันทันทีเพื่อหลีกทางให้ฝ่ายทหารขึ้นปกครองบ้านเมือง,อีกทั้งเรา..ประชาชนต่างสามัคคีเต็มใจเพื่อนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นวิกฤติของโลกยุคนี้,คือภาวะก่อนเกิดสงครามโลก,เรา..ต้องมีผู้นำที่ยอดเยี่ยมที่สุด มีฝีมือที่สุดเท่าที่จะมีได้ มีความเชี่ยวชาญชำนาญการสาระพัดด้านที่สุด ประสานงานบริหารคนเป็นถูกกับเนื้องานหน้างานนั้นให้มากที่สุดพร้อมปรับแผนประยุกต์ใช้แก้ไขให้ทันกาลด้วย,ระดมคนเหนือมนุษย์ทั่วไทยเข้าร่วมทีมพิทักษ์ชาติไทยได้,เปิดโอกาสผู้มีความสามารถจริงคนดีคนเก่งจริงเข้ารับใช้ชาติเต็มที่,มิใช่ กพ.ผีบ้าขีดกำแพงกั้นประชาชนแบบนั้นเรื่อยมาในอดีต,แต่สุดท้ายไม่พ้นเส้นสายและอุปถัมภ์เต็มหน่วยงานสำนักงานของรัฐ.
    ..
    ..สถาบันนักการเมืองต้องหลบทางจริงๆเข้าสภาประชุมกันสะว่าจะยกตำแหน่งนายกฯนี้ให้ ผบ.เหล่าทัพดูแล.,รองนายกคือ ผบ.ทบ.,ผบ.ทอ.,ผบ.ทร.,ผบ.ตร.เป็นต้น, ภาคประชาชนแบบอาสนธิที่ยืนเคียงข้างความจริงต่อสู้กับโทนี่เหี้ยมาโดยตลอดก็เป็นทีมที่ปรึกษานายกฯเสีย ด้านเศรษฐกิจบริหารประเทศปากท้องรายได้อาชีพสัมมารายได้อาชีพประชาชน,ฝ่ายมั่นคงกับฝ่ายทำเงินทำตังนั้นเอง.
    ..เพราะทำไม มันดีกว่าถูกยึดอำนาจไง
    ..และรัฐบาลต่อแต่นี้ไปของแต่ละประเทศไม่สามารถทำตัวกากๆกระจอกๆเล่นๆแบบสมัยที่ผ่านมาเช่นเวลานี้ล่าสุดได้,ศึกสงครามใหญ่หลวงรออยู่ของจริง,ทั้งด้านมั่นคงอยู่รอดแผ่นดินประเทศชาติ ทั้งอยู่รอดปลอดภัยด้านปากท้องอาหารการกินยารักษาโรค,ศึกสงครามใหญ่ก็ของจริงด้วยระดับโลกมาแน่จากการจุดกระตุ้นด้วยมหาอำนาจทำเองซึ่งเห็นชัดเจนแล้วว่าจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้,คือสงครามโลกครั้งที่3นั้นเองอาจคือสงครามนิวเคลียร์ลามไปถึงนิวเคลียร์EMPทำลายทั่วโลกด้วยจะย้อนยุคไปสู่ยุคเก่าของจริงก็ด้วย.,การสื่อสารด้วยระบบคลื่นเก่าๆจึงสำคัญ,ยานบินเก่าๆลาดตะเวนคุ้มครองคนไทยเราจึงสำคัญ,พลังงานพื้นฐานคือบ่อน้ำมันก็ยังสำคัญนั้นเอง,อิทรอนิกส์ถูกทำลายสิ้นซากนั้นเองนอกจากระเบิดนิวเคลียร์ทำลายล้างปกติ.,แผนเตรียมการรับมือจึงไม่ธรรมดาแบบนักการเมืองปกติจะทำได้ สภาพคล่องบัญชาการต้องคล่องสูง,รวดเร็วในจังหวะที่รวดเร็ว สุขุมรอบคอบในช่วงเวลาสำคัญสติปัญญาตัดสินรับมือทั้งเชิงรับตั้งรับและเชิงรุกบุกโจมตีเด็ดขาดหากพบหารรุกรานคุกคามมิใช่กากเหี้ยแบบที่ผ่านมานั้น."ทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามเราพะนะ "
    ..สรุป ฝ่ายความมั่นคงคือทหารไทยต้องยึดอำนาจ,ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศจนสงครามโลกที่3สิ้นสุดลงจึงพิจารณาใหม่,เวลาเตรียมการรับมือเราเหลือน้อยจริงๆแล้ว,อย่าให้นักการเมืองมานำปกครองประเทศเลยในเวลานี้,ไม่มีศักยภาพพอใดๆเลยทั้งตั้งหน้าตั้งตาเพื่อมามีอำนาจในการไม่ให้ตนพ้นโทษคดีต่างๆที่ต่างพากันทำชั่วทำเลวสะสมในบ้านเมืองนี้เป็นเวลาอันยาวนานเท่านั้น หาแก่นสารเพื่อประเทศชาติเพื่อแผ่นดินไทยตนเอง เพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศไม่ได้เลย,สถาบันการเมืองล้มเหลวสิ้นซากแล้ว.
    ..
    #ยึดอำนาจเพื่อปกป้องอธิปไตยประชาชนคนไทยและแผ่นดินไทย.

    https://youtube.com/watch?v=-E-HZp4B7k8&si=lC_wPqSKjKIXsZtL
    เอาจริงๆนะ งานนี้ ผบ.เหล่าทัพสูงสุดคุมทั้ง3เหล่าทัพประสานงาน จะเอาอย่างไร,ผบ.ทบ.,ผบ.ทอ.,ผบ.ทร. สำคัญหมดตอนนี้, .. ..งานนี้บอกตรงๆสถาบันการเมืองต้องประชุมกันทันทีเพื่อหลีกทางให้ฝ่ายทหารขึ้นปกครองบ้านเมือง,อีกทั้งเรา..ประชาชนต่างสามัคคีเต็มใจเพื่อนำพาประเทศชาติให้ผ่านพ้นวิกฤติของโลกยุคนี้,คือภาวะก่อนเกิดสงครามโลก,เรา..ต้องมีผู้นำที่ยอดเยี่ยมที่สุด มีฝีมือที่สุดเท่าที่จะมีได้ มีความเชี่ยวชาญชำนาญการสาระพัดด้านที่สุด ประสานงานบริหารคนเป็นถูกกับเนื้องานหน้างานนั้นให้มากที่สุดพร้อมปรับแผนประยุกต์ใช้แก้ไขให้ทันกาลด้วย,ระดมคนเหนือมนุษย์ทั่วไทยเข้าร่วมทีมพิทักษ์ชาติไทยได้,เปิดโอกาสผู้มีความสามารถจริงคนดีคนเก่งจริงเข้ารับใช้ชาติเต็มที่,มิใช่ กพ.ผีบ้าขีดกำแพงกั้นประชาชนแบบนั้นเรื่อยมาในอดีต,แต่สุดท้ายไม่พ้นเส้นสายและอุปถัมภ์เต็มหน่วยงานสำนักงานของรัฐ. .. ..สถาบันนักการเมืองต้องหลบทางจริงๆเข้าสภาประชุมกันสะว่าจะยกตำแหน่งนายกฯนี้ให้ ผบ.เหล่าทัพดูแล.,รองนายกคือ ผบ.ทบ.,ผบ.ทอ.,ผบ.ทร.,ผบ.ตร.เป็นต้น, ภาคประชาชนแบบอาสนธิที่ยืนเคียงข้างความจริงต่อสู้กับโทนี่เหี้ยมาโดยตลอดก็เป็นทีมที่ปรึกษานายกฯเสีย ด้านเศรษฐกิจบริหารประเทศปากท้องรายได้อาชีพสัมมารายได้อาชีพประชาชน,ฝ่ายมั่นคงกับฝ่ายทำเงินทำตังนั้นเอง. ..เพราะทำไม มันดีกว่าถูกยึดอำนาจไง ..และรัฐบาลต่อแต่นี้ไปของแต่ละประเทศไม่สามารถทำตัวกากๆกระจอกๆเล่นๆแบบสมัยที่ผ่านมาเช่นเวลานี้ล่าสุดได้,ศึกสงครามใหญ่หลวงรออยู่ของจริง,ทั้งด้านมั่นคงอยู่รอดแผ่นดินประเทศชาติ ทั้งอยู่รอดปลอดภัยด้านปากท้องอาหารการกินยารักษาโรค,ศึกสงครามใหญ่ก็ของจริงด้วยระดับโลกมาแน่จากการจุดกระตุ้นด้วยมหาอำนาจทำเองซึ่งเห็นชัดเจนแล้วว่าจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้,คือสงครามโลกครั้งที่3นั้นเองอาจคือสงครามนิวเคลียร์ลามไปถึงนิวเคลียร์EMPทำลายทั่วโลกด้วยจะย้อนยุคไปสู่ยุคเก่าของจริงก็ด้วย.,การสื่อสารด้วยระบบคลื่นเก่าๆจึงสำคัญ,ยานบินเก่าๆลาดตะเวนคุ้มครองคนไทยเราจึงสำคัญ,พลังงานพื้นฐานคือบ่อน้ำมันก็ยังสำคัญนั้นเอง,อิทรอนิกส์ถูกทำลายสิ้นซากนั้นเองนอกจากระเบิดนิวเคลียร์ทำลายล้างปกติ.,แผนเตรียมการรับมือจึงไม่ธรรมดาแบบนักการเมืองปกติจะทำได้ สภาพคล่องบัญชาการต้องคล่องสูง,รวดเร็วในจังหวะที่รวดเร็ว สุขุมรอบคอบในช่วงเวลาสำคัญสติปัญญาตัดสินรับมือทั้งเชิงรับตั้งรับและเชิงรุกบุกโจมตีเด็ดขาดหากพบหารรุกรานคุกคามมิใช่กากเหี้ยแบบที่ผ่านมานั้น."ทหารไทยเป็นฝ่ายตรงข้ามเราพะนะ " ..สรุป ฝ่ายความมั่นคงคือทหารไทยต้องยึดอำนาจ,ประกาศกฎอัยการศึกทั่วประเทศจนสงครามโลกที่3สิ้นสุดลงจึงพิจารณาใหม่,เวลาเตรียมการรับมือเราเหลือน้อยจริงๆแล้ว,อย่าให้นักการเมืองมานำปกครองประเทศเลยในเวลานี้,ไม่มีศักยภาพพอใดๆเลยทั้งตั้งหน้าตั้งตาเพื่อมามีอำนาจในการไม่ให้ตนพ้นโทษคดีต่างๆที่ต่างพากันทำชั่วทำเลวสะสมในบ้านเมืองนี้เป็นเวลาอันยาวนานเท่านั้น หาแก่นสารเพื่อประเทศชาติเพื่อแผ่นดินไทยตนเอง เพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศไม่ได้เลย,สถาบันการเมืองล้มเหลวสิ้นซากแล้ว. .. #ยึดอำนาจเพื่อปกป้องอธิปไตยประชาชนคนไทยและแผ่นดินไทย. https://youtube.com/watch?v=-E-HZp4B7k8&si=lC_wPqSKjKIXsZtL
    0 Comments 0 Shares 220 Views 0 Reviews
  • 555,จัดตั้งมาเชียร์ลุงตู่หรือเปล่า ตีกินผลงานแม่ทัพภาค2ด้วย,คนเหล่านี้ไม่รับรู้ความจริงอะไรเลยเหรอ,ทั้งโซเชียลไทยเขาไม่เอาลุงตู่นะ เหตุผลอันใหญ่โตตำตาทั้งประเทศ ยุทธปืนคอ ไม่ถีบเขมรออกไปจริงตอนตนมีอำนาจเต็มมือ จนแม่ทัพภาคที่2บิ๊กกุ้งตบหน้าทั้งประเทศบอกความจริงว่า ยึดคืนพื้นที่ดินแดนจากเขมรที่เอาไปกว่าสิบปีคืนมาได้แล้วถึง11จุดพื้นที่โน้น หลังปะทะเดือนวันที่28ก.ค.68 ประชาชนกลุ่มนี้ไม่น่าจะโง่ดักดานนะ สามารถเข้าถึงความจริงด้วยตนเองหรือในกลุ่มตนได้ที่ร่วมชุมนุมกันเต้นๆอยู่นี้,สื่อก็ไม่บอกความจริงเขา บอกยายแก่ว่า แม่ทัพภาค2ยึดดินแดนอธิปไตยคืนตอนสมัยลุงตู่ไม่ทำอะไรเลยนะ ยายยังจะเอาลุงตู่เชียร์ลุงตู่อีกมั้ย,สมมุติยายด่าเขมรว่าโง่ดักดานไม่ดูข่าวคราวข่าวสารความจริงบ้าง พวกเขมรหน้าโง่เอ้ยที่ฮุนเซนปิดกั้นหูตาคนเขมรนั้น,แต่ไทยไม่ใช่นะ ฟรีข่าวสาระความจริงตรึม เรื่องของลุงตู่ยายความจริงก็ตรึม หรือทั้งคณะชุมชนนุมเต้นๆกันต้องสามารถเสรีเข้าถึงได้,แล้วยายยังเชียร์ลุงตู่ขนาดนี้ มันอันตรายในความไม่รู้โคตรๆเลยนะ อธิปไตยดินแดนและชีวิตทหารประชาชนอาจตายเปล่าเลยนะ.

    ..อับอายแทนม็อบอื่นยุคน้ำหมากจริงๆอวิชาเต็มคณะหมู่ผู้ชุมนุมและม็อบนี้ขนาดนี้เลยเหรอ ใครนำชุมนุมใครนำม็อบนี้ อันตรายมาก,อย่าเอาคนพวกนี้มาเข้าร่วมพัฒนาชาติบ้านเมืองเด็ดขาด อย่าเอาแกนนำม็อบทั้งคณะทีมงานมาร่วมเวทีคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเด็ดขาดหรืออาสนธิอย่าเอาแกนนำคณะชุมชนชุมนุมนี้มาร่วมงานเด็ดขาด,ห้ามเอามาร่วมพัฒนาชาติไทย,เพราะพวกนี้อาจทำให้มีผู้นำที่นำไปสู่การยึดครองของเขมร11พื้นที่อีกเหมือนเดิมตลอดแนวอีสานใต้รวมบ้านหนองจานด้วย.


    https://youtube.com/watch?v=P6-DZO93R2U&si=p51kxmFFrvc7J2pb
    555,จัดตั้งมาเชียร์ลุงตู่หรือเปล่า ตีกินผลงานแม่ทัพภาค2ด้วย,คนเหล่านี้ไม่รับรู้ความจริงอะไรเลยเหรอ,ทั้งโซเชียลไทยเขาไม่เอาลุงตู่นะ เหตุผลอันใหญ่โตตำตาทั้งประเทศ ยุทธปืนคอ ไม่ถีบเขมรออกไปจริงตอนตนมีอำนาจเต็มมือ จนแม่ทัพภาคที่2บิ๊กกุ้งตบหน้าทั้งประเทศบอกความจริงว่า ยึดคืนพื้นที่ดินแดนจากเขมรที่เอาไปกว่าสิบปีคืนมาได้แล้วถึง11จุดพื้นที่โน้น หลังปะทะเดือนวันที่28ก.ค.68 ประชาชนกลุ่มนี้ไม่น่าจะโง่ดักดานนะ สามารถเข้าถึงความจริงด้วยตนเองหรือในกลุ่มตนได้ที่ร่วมชุมนุมกันเต้นๆอยู่นี้,สื่อก็ไม่บอกความจริงเขา บอกยายแก่ว่า แม่ทัพภาค2ยึดดินแดนอธิปไตยคืนตอนสมัยลุงตู่ไม่ทำอะไรเลยนะ ยายยังจะเอาลุงตู่เชียร์ลุงตู่อีกมั้ย,สมมุติยายด่าเขมรว่าโง่ดักดานไม่ดูข่าวคราวข่าวสารความจริงบ้าง พวกเขมรหน้าโง่เอ้ยที่ฮุนเซนปิดกั้นหูตาคนเขมรนั้น,แต่ไทยไม่ใช่นะ ฟรีข่าวสาระความจริงตรึม เรื่องของลุงตู่ยายความจริงก็ตรึม หรือทั้งคณะชุมชนนุมเต้นๆกันต้องสามารถเสรีเข้าถึงได้,แล้วยายยังเชียร์ลุงตู่ขนาดนี้ มันอันตรายในความไม่รู้โคตรๆเลยนะ อธิปไตยดินแดนและชีวิตทหารประชาชนอาจตายเปล่าเลยนะ. ..อับอายแทนม็อบอื่นยุคน้ำหมากจริงๆอวิชาเต็มคณะหมู่ผู้ชุมนุมและม็อบนี้ขนาดนี้เลยเหรอ ใครนำชุมนุมใครนำม็อบนี้ อันตรายมาก,อย่าเอาคนพวกนี้มาเข้าร่วมพัฒนาชาติบ้านเมืองเด็ดขาด อย่าเอาแกนนำม็อบทั้งคณะทีมงานมาร่วมเวทีคณะรวมพลังแผ่นดินไทยเด็ดขาดหรืออาสนธิอย่าเอาแกนนำคณะชุมชนชุมนุมนี้มาร่วมงานเด็ดขาด,ห้ามเอามาร่วมพัฒนาชาติไทย,เพราะพวกนี้อาจทำให้มีผู้นำที่นำไปสู่การยึดครองของเขมร11พื้นที่อีกเหมือนเดิมตลอดแนวอีสานใต้รวมบ้านหนองจานด้วย. https://youtube.com/watch?v=P6-DZO93R2U&si=p51kxmFFrvc7J2pb
    0 Comments 0 Shares 214 Views 0 Reviews
  • วิกฤตการณ์การล่มสลายของโมเดล AI: วงจรป้อนกลับของข้อมูลสังเคราะห์

    ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์เชิงกำเนิด (Generative AI) กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ปรากฏการณ์ "การล่มสลายของโมเดล" (Model Collapse) ได้กลายเป็นความเสี่ยงเชิงระบบที่สำคัญยิ่ง เปรียบเสมือน "งูกินหางตัวเอง" หรือการถ่ายสำเนาภาพซ้ำๆ ที่ทำให้คุณภาพเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกซ้ำด้วยเนื้อหาที่สร้างโดย AI รุ่นก่อนหน้า ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านความหลากหลาย ความแม่นยำ และความละเอียดอ่อนของข้อมูล การสูญเสียข้อมูลส่วนหางหรือข้อมูลที่มีความถี่ต่ำอย่างเป็นระบบนี้ไม่เพียงกระทบทางเทคนิค แต่ยังขยายไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น การปนเปื้อนระบบนิเวศดิจิทัล การลดลงของความรู้มนุษย์ และการเกิด "อคติแบบ AI-ต่อ-AI" อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวทางแก้ไขแบบหลายชั้น เราสามารถบรรเทาปัญหานี้ได้ผ่านการตรวจสอบที่มาของข้อมูล การมีส่วนร่วมของมนุษย์ และการกำกับดูแลเชิงนโยบาย

    จุดกำเนิดของปัญหานี้คือวงจรป้อนกลับแบบงูกินหาง (Ouroboros) ที่ข้อมูลสังเคราะห์จาก AI เพิ่มขึ้นและปนเปื้อนข้อมูลออนไลน์ ทำให้โมเดลรุ่นใหม่ต้องใช้ข้อมูลที่เสื่อมโทรมนี้ในการฝึก สร้างภัยคุกคามเชิงระบบต่ออุตสาหกรรม AI ทั้งหมด โดยเฉพาะผู้เล่นรายใหม่ที่ยากจะเข้าถึงข้อมูลมนุษย์แท้จริง เปรียบเทียบกับการถ่ายสำเนาภาพซ้ำๆ คุณภาพข้อมูลดั้งเดิมจะลดลงจนเหลือผลลัพธ์ที่พร่ามัวและไร้ประโยชน์ แก่นปัญหาอยู่ที่วงจรป้อนกลับแบบพึ่งพาตนเอง (Autoregressive Feedback Loop) ซึ่งขยายข้อผิดพลาดจากรุ่นก่อนสะสมเรื่อยๆ กลไกการเสื่อมถอยมาจากการสุ่มเลือกข้อมูลถี่สูงและมองข้ามข้อมูลส่วนหาง เช่น ในตัวอย่างคนใส่หมวกสีน้ำเงิน 99% และสีแดง 1% โมเดลอาจสรุปว่าทุกคนใส่หมวกสีน้ำเงินเท่านั้น ทำให้ข้อมูลสีแดงหายไปในที่สุด ความผิดพลาดแบ่งเป็นสามประเภท: การประมาณค่าทางสถิติ การแสดงฟังก์ชัน และการเรียนรู้ ส่งผลให้ข้อมูลเป็นเนื้อเดียวกัน สร้าง "ห้องสะท้อนเสียงทางแนวคิด" และนำไปสู่ความรู้ลดลงในสังคม

    การล่มสลายแบ่งเป็นสองระยะ: ระยะเริ่มต้นที่สูญเสียข้อมูลส่วนหางอย่างไม่ชัดเจน แม้ประสิทธิภาพโดยรวมดูดีขึ้น แต่ความสามารถจัดการข้อมูลพิเศษลดลง และระยะสุดท้ายที่ประสิทธิภาพหายไปอย่างชัดเจน ผลลัพธ์กลายเป็นข้อความหรือภาพซ้ำซากไร้ความหมาย ปรากฏในโดเมนต่างๆ เช่น ในโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) สูญเสียหัวข้อเฉพาะกลุ่มในระยะแรก และกลายเป็นข้อความไม่เกี่ยวข้องในระยะหลัง สำหรับโมเดลสร้างภาพ ความหลากหลายลดลงอย่างละเอียดอ่อนจนกลายเป็นภาพเหมือนกันและคุณภาพต่ำ ในโมเดลอื่นๆ เช่น GMMs/VAEs สูญเสียข้อมูลส่วนหางจนสับสนในแนวคิด

    ผลกระทบขยายสู่เศรษฐกิจและสังคม โดยนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาดที่ก่อความเสียหายสูง เช่น เครื่องมือแพทย์พลาดวินิจฉัยโรคหายาก หรือธุรกิจสูญเสียลูกค้าจากคำแนะนำซ้ำซาก ในมิติสังคม ข้อมูลสังเคราะห์ที่แยกไม่ออกจากมนุษย์เพิ่มต้นทุนตรวจสอบความถูกต้อง สร้างความเหลื่อมล้ำดิจิทัลที่คนรวยได้เปรียบ ยิ่งกว่านั้น "อคติแบบ AI-ต่อ-AI" ทำให้ AI ชอบเนื้อหาจาก AI ด้วยกัน สร้าง "ภาษีเข้าประตู" ในงานคัดเลือกบุคลากรหรือทุนวิจัย บังคับให้มนุษย์ปรับงานให้ "ดูเหมือน AI" เพื่ออยู่รอด

    เพื่อแก้ไข ต้องกลับสู่แหล่งข้อมูลมนุษย์แท้จริงและผสมข้อมูลสังเคราะห์อย่างระมัดระวัง โดยใช้เครื่องมืออย่างการตรวจสอบที่มา (Provenance) การฝังลายน้ำ (Watermarking) และลายเซ็นดิจิทัลเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง มนุษย์ต้องเป็นหลักยึดผ่านระบบมนุษย์ร่วมวงจร (Human-in-the-Loop) และ Active Learning เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดและยึดโยงกับความจริง นอกจากนี้ ต้องมีกฎระเบียบอย่างกฎหมาย AI ของสหภาพยุโรป และธรรมาภิบาลภายในองค์กรเพื่อตรวจจับความเบี่ยงเบน โดยสรุปแนวทางองค์รวม: การตรวจสอบที่มาสร้างความโปร่งใสแต่ขาดมาตรฐานร่วม การผสมข้อมูลรักษาความหลากหลายแต่ต้องควบคุมสัดส่วน มนุษย์ร่วมวงจรป้องกันข้อผิดพลาดแต่ใช้ทรัพยากรสูง และธรรมาภิบาล AI บรรเทาความเสี่ยงแต่ต้องการความเข้าใจลึกซึ้ง

    สรุปแล้ว การล่มสลายของโมเดลคือจุดตัดระหว่างความสำเร็จและล้มเหลวเชิงระบบ แต่ด้วยแนวทางที่ผสมนวัตกรรม การกำกับดูแลมนุษย์ และกฎระเบียบ เราสามารถเปลี่ยนวงจรทำลายล้างนี้ให้เป็นกลไกการเรียนรู้ที่ยั่งยืน โดยมอง AI เป็นผู้สร้างร่วมที่มนุษย์ยังคงเป็นแกนหลักในการรักษาความเป็นจริง ความหลากหลาย และความสมบูรณ์ของโลกดิจิทัล

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    วิกฤตการณ์การล่มสลายของโมเดล AI: วงจรป้อนกลับของข้อมูลสังเคราะห์ 🧠 ในยุคที่ปัญญาประดิษฐ์เชิงกำเนิด (Generative AI) กำลังแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ปรากฏการณ์ "การล่มสลายของโมเดล" (Model Collapse) ได้กลายเป็นความเสี่ยงเชิงระบบที่สำคัญยิ่ง เปรียบเสมือน "งูกินหางตัวเอง" หรือการถ่ายสำเนาภาพซ้ำๆ ที่ทำให้คุณภาพเสื่อมถอยลงเรื่อยๆ ปัญหานี้เกิดขึ้นเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกซ้ำด้วยเนื้อหาที่สร้างโดย AI รุ่นก่อนหน้า ส่งผลให้ประสิทธิภาพลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านความหลากหลาย ความแม่นยำ และความละเอียดอ่อนของข้อมูล การสูญเสียข้อมูลส่วนหางหรือข้อมูลที่มีความถี่ต่ำอย่างเป็นระบบนี้ไม่เพียงกระทบทางเทคนิค แต่ยังขยายไปสู่ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม เช่น การปนเปื้อนระบบนิเวศดิจิทัล การลดลงของความรู้มนุษย์ และการเกิด "อคติแบบ AI-ต่อ-AI" อย่างไรก็ตาม ด้วยแนวทางแก้ไขแบบหลายชั้น เราสามารถบรรเทาปัญหานี้ได้ผ่านการตรวจสอบที่มาของข้อมูล การมีส่วนร่วมของมนุษย์ และการกำกับดูแลเชิงนโยบาย 🐍 จุดกำเนิดของปัญหานี้คือวงจรป้อนกลับแบบงูกินหาง (Ouroboros) ที่ข้อมูลสังเคราะห์จาก AI เพิ่มขึ้นและปนเปื้อนข้อมูลออนไลน์ ทำให้โมเดลรุ่นใหม่ต้องใช้ข้อมูลที่เสื่อมโทรมนี้ในการฝึก สร้างภัยคุกคามเชิงระบบต่ออุตสาหกรรม AI ทั้งหมด โดยเฉพาะผู้เล่นรายใหม่ที่ยากจะเข้าถึงข้อมูลมนุษย์แท้จริง 📸 เปรียบเทียบกับการถ่ายสำเนาภาพซ้ำๆ คุณภาพข้อมูลดั้งเดิมจะลดลงจนเหลือผลลัพธ์ที่พร่ามัวและไร้ประโยชน์ แก่นปัญหาอยู่ที่วงจรป้อนกลับแบบพึ่งพาตนเอง (Autoregressive Feedback Loop) ซึ่งขยายข้อผิดพลาดจากรุ่นก่อนสะสมเรื่อยๆ 📉 กลไกการเสื่อมถอยมาจากการสุ่มเลือกข้อมูลถี่สูงและมองข้ามข้อมูลส่วนหาง เช่น ในตัวอย่างคนใส่หมวกสีน้ำเงิน 99% และสีแดง 1% โมเดลอาจสรุปว่าทุกคนใส่หมวกสีน้ำเงินเท่านั้น ทำให้ข้อมูลสีแดงหายไปในที่สุด ความผิดพลาดแบ่งเป็นสามประเภท: การประมาณค่าทางสถิติ การแสดงฟังก์ชัน และการเรียนรู้ ส่งผลให้ข้อมูลเป็นเนื้อเดียวกัน สร้าง "ห้องสะท้อนเสียงทางแนวคิด" และนำไปสู่ความรู้ลดลงในสังคม 📈 การล่มสลายแบ่งเป็นสองระยะ: ระยะเริ่มต้นที่สูญเสียข้อมูลส่วนหางอย่างไม่ชัดเจน แม้ประสิทธิภาพโดยรวมดูดีขึ้น แต่ความสามารถจัดการข้อมูลพิเศษลดลง และระยะสุดท้ายที่ประสิทธิภาพหายไปอย่างชัดเจน ผลลัพธ์กลายเป็นข้อความหรือภาพซ้ำซากไร้ความหมาย ปรากฏในโดเมนต่างๆ เช่น ในโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) สูญเสียหัวข้อเฉพาะกลุ่มในระยะแรก และกลายเป็นข้อความไม่เกี่ยวข้องในระยะหลัง สำหรับโมเดลสร้างภาพ ความหลากหลายลดลงอย่างละเอียดอ่อนจนกลายเป็นภาพเหมือนกันและคุณภาพต่ำ ในโมเดลอื่นๆ เช่น GMMs/VAEs สูญเสียข้อมูลส่วนหางจนสับสนในแนวคิด 💼 ผลกระทบขยายสู่เศรษฐกิจและสังคม โดยนำไปสู่การตัดสินใจผิดพลาดที่ก่อความเสียหายสูง เช่น เครื่องมือแพทย์พลาดวินิจฉัยโรคหายาก หรือธุรกิจสูญเสียลูกค้าจากคำแนะนำซ้ำซาก 🌍 ในมิติสังคม ข้อมูลสังเคราะห์ที่แยกไม่ออกจากมนุษย์เพิ่มต้นทุนตรวจสอบความถูกต้อง สร้างความเหลื่อมล้ำดิจิทัลที่คนรวยได้เปรียบ ยิ่งกว่านั้น "อคติแบบ AI-ต่อ-AI" ทำให้ AI ชอบเนื้อหาจาก AI ด้วยกัน สร้าง "ภาษีเข้าประตู" ในงานคัดเลือกบุคลากรหรือทุนวิจัย บังคับให้มนุษย์ปรับงานให้ "ดูเหมือน AI" เพื่ออยู่รอด 🔍 เพื่อแก้ไข ต้องกลับสู่แหล่งข้อมูลมนุษย์แท้จริงและผสมข้อมูลสังเคราะห์อย่างระมัดระวัง โดยใช้เครื่องมืออย่างการตรวจสอบที่มา (Provenance) การฝังลายน้ำ (Watermarking) และลายเซ็นดิจิทัลเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง 🤝 มนุษย์ต้องเป็นหลักยึดผ่านระบบมนุษย์ร่วมวงจร (Human-in-the-Loop) และ Active Learning เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดและยึดโยงกับความจริง ⚖️ นอกจากนี้ ต้องมีกฎระเบียบอย่างกฎหมาย AI ของสหภาพยุโรป และธรรมาภิบาลภายในองค์กรเพื่อตรวจจับความเบี่ยงเบน โดยสรุปแนวทางองค์รวม: การตรวจสอบที่มาสร้างความโปร่งใสแต่ขาดมาตรฐานร่วม การผสมข้อมูลรักษาความหลากหลายแต่ต้องควบคุมสัดส่วน มนุษย์ร่วมวงจรป้องกันข้อผิดพลาดแต่ใช้ทรัพยากรสูง และธรรมาภิบาล AI บรรเทาความเสี่ยงแต่ต้องการความเข้าใจลึกซึ้ง 🚀 สรุปแล้ว การล่มสลายของโมเดลคือจุดตัดระหว่างความสำเร็จและล้มเหลวเชิงระบบ แต่ด้วยแนวทางที่ผสมนวัตกรรม การกำกับดูแลมนุษย์ และกฎระเบียบ เราสามารถเปลี่ยนวงจรทำลายล้างนี้ให้เป็นกลไกการเรียนรู้ที่ยั่งยืน โดยมอง AI เป็นผู้สร้างร่วมที่มนุษย์ยังคงเป็นแกนหลักในการรักษาความเป็นจริง ความหลากหลาย และความสมบูรณ์ของโลกดิจิทัล #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 Comments 0 Shares 195 Views 0 Reviews
  • เห็นไหมว่า ภาครัฐหลายสมัย สนแต่เรื่องตัวเอง แก้รัฐธรรมนูญ ครองอำนาจ ประชานิยมแบบแจกเงิน ผลประโยชน์ชายแดน ให้เขมรเข้ามาแล้วไม่ไล่มันกลับ อยู่จนมันเกิด มันโต มันวิ่งเล่นตรงนั้น มันก็ไม่รู้ไม่สนประวัติความจริงอะไร มันก็บอก "ของกัมพูเจียร"

    https://www.facebook.com/share/r/1FGuE34qG6/
    เห็นไหมว่า ภาครัฐหลายสมัย สนแต่เรื่องตัวเอง แก้รัฐธรรมนูญ ครองอำนาจ ประชานิยมแบบแจกเงิน ผลประโยชน์ชายแดน ให้เขมรเข้ามาแล้วไม่ไล่มันกลับ อยู่จนมันเกิด มันโต มันวิ่งเล่นตรงนั้น มันก็ไม่รู้ไม่สนประวัติความจริงอะไร มันก็บอก "ของกัมพูเจียร" https://www.facebook.com/share/r/1FGuE34qG6/
    0 Comments 0 Shares 105 Views 0 Reviews
More Results