• #วันตรุษจีน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามความเชื่อของชาวจีน เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและโชคลาภ ชาวจีนจะทำการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรให้ได้รับความคุ้มครอง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มารวมตัวกัน ฉลองเทศกาล และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี

    Advertisement

    Play Video
    ชาวจีนมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้



    สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 2568
    ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ
    วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า "วันซาจั๊บ" โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย จะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้

    นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร และเกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไปและเมื่อไหว้เสร็จก็ต้องจุดประทัด จากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป
    รวมญาติกินเกี๊ยว
    สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งประการของวันตรุษจีน คือ เป็นวันนัดรวมญาติ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ

    ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ "วันชิวอิก" (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ "เงิน" ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง
    กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี
    ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี
    ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ"
    "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ
    ห้ามกวาดบ้าน
    ในวันขึ้นปีใหม่ของจีนจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึง "วันชิวสี่" (วันชิวสี่ คือ วันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน โดยปกติ จะแบ่งเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และวันชิวสี่) เพราะถ้ากวาดบ้านในวันปีใหม่จะถือว่าเป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป

    ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ก่อนจะเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ เพื่อที่ว่าพอวันปีใหม่มาถึงก็จะงดทำความสะอาดบ้านนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากบ้านใครสกปรกมากจนทนไม่ไหวก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการกวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้านแทนได้
    ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่
    เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ท่านใดไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ โดยแหล่งใหญ่ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง

    ส่วนคำอวยพรที่นิยมเขียน ประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ "ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง" จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก

    แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน
    ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส
    ในวันมงคลเช่นนี้ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ "สีแดง" หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง
    ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่
    ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล
    รับอั่งเปา
    วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอยวันนี้มาตลอด เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุง จากผู้ใหญ่เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ
    ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต



    นอกจากในวันซาจั๊บแล้ว ในวันชิวอิกนี้ก็ยังต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของคุณและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต

    เมื่อรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไปแล้ว มาดูข้อห้าม! ที่ห้ามทำในวันมงคลอย่างวันตรุษจีนกันบ้าง

    สิ่งที่ไม่ควรทําในวันตรุษจีน 2568
    ห้ามสระผมหรือตัดผม
    เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป
    ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ
    คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี
    ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์
    ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ
    ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน
    คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน
    ห้ามใส่ชุดขาวดำ
    เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี
    ห้ามให้ยืมเงิน
    คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี
    ห้ามทำของแตก
    เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
    ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
    คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี"
    ห้ามร้องไห้
    คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี
    ห้ามใช้ของมีคม
    ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย
    ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น
    คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย
    อ่านเพิ่มเติม

    วันตรุษจีน ประวัติ และความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
    คำอวยพรวันตรุษจีน
    ตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว วันที่เท่าไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
    #วันตรุษจีน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามความเชื่อของชาวจีน เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและโชคลาภ ชาวจีนจะทำการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรให้ได้รับความคุ้มครอง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มารวมตัวกัน ฉลองเทศกาล และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี Advertisement Play Video ชาวจีนมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้ สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 2568 ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า "วันซาจั๊บ" โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย จะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้ นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร และเกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไปและเมื่อไหว้เสร็จก็ต้องจุดประทัด จากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป รวมญาติกินเกี๊ยว สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งประการของวันตรุษจีน คือ เป็นวันนัดรวมญาติ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ "วันชิวอิก" (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ "เงิน" ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ ห้ามกวาดบ้าน ในวันขึ้นปีใหม่ของจีนจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึง "วันชิวสี่" (วันชิวสี่ คือ วันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน โดยปกติ จะแบ่งเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และวันชิวสี่) เพราะถ้ากวาดบ้านในวันปีใหม่จะถือว่าเป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ก่อนจะเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ เพื่อที่ว่าพอวันปีใหม่มาถึงก็จะงดทำความสะอาดบ้านนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากบ้านใครสกปรกมากจนทนไม่ไหวก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการกวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้านแทนได้ ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่ เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ท่านใดไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ โดยแหล่งใหญ่ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง ส่วนคำอวยพรที่นิยมเขียน ประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ "ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง" จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส ในวันมงคลเช่นนี้ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ "สีแดง" หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่ ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล รับอั่งเปา วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอยวันนี้มาตลอด เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุง จากผู้ใหญ่เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากในวันซาจั๊บแล้ว ในวันชิวอิกนี้ก็ยังต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของคุณและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต เมื่อรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไปแล้ว มาดูข้อห้าม! ที่ห้ามทำในวันมงคลอย่างวันตรุษจีนกันบ้าง สิ่งที่ไม่ควรทําในวันตรุษจีน 2568 ห้ามสระผมหรือตัดผม เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์ ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน ห้ามใส่ชุดขาวดำ เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี ห้ามให้ยืมเงิน คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี ห้ามทำของแตก เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี" ห้ามร้องไห้ คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี ห้ามใช้ของมีคม ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย อ่านเพิ่มเติม วันตรุษจีน ประวัติ และความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน คำอวยพรวันตรุษจีน ตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว วันที่เท่าไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • #วันตรุษจีน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามความเชื่อของชาวจีน เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและโชคลาภ ชาวจีนจะทำการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรให้ได้รับความคุ้มครอง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มารวมตัวกัน ฉลองเทศกาล และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี

    Advertisement

    Play Video
    ชาวจีนมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้



    สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 2568
    ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ
    วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า "วันซาจั๊บ" โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย จะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้

    นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร และเกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไปและเมื่อไหว้เสร็จก็ต้องจุดประทัด จากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป
    รวมญาติกินเกี๊ยว
    สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งประการของวันตรุษจีน คือ เป็นวันนัดรวมญาติ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ

    ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ "วันชิวอิก" (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ "เงิน" ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง
    กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี
    ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี
    ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ"
    "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ
    ห้ามกวาดบ้าน
    ในวันขึ้นปีใหม่ของจีนจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึง "วันชิวสี่" (วันชิวสี่ คือ วันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน โดยปกติ จะแบ่งเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และวันชิวสี่) เพราะถ้ากวาดบ้านในวันปีใหม่จะถือว่าเป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป

    ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ก่อนจะเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ เพื่อที่ว่าพอวันปีใหม่มาถึงก็จะงดทำความสะอาดบ้านนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากบ้านใครสกปรกมากจนทนไม่ไหวก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการกวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้านแทนได้
    ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่
    เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ท่านใดไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ โดยแหล่งใหญ่ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง

    ส่วนคำอวยพรที่นิยมเขียน ประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ "ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง" จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก

    แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน
    ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส
    ในวันมงคลเช่นนี้ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ "สีแดง" หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง
    ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่
    ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล
    รับอั่งเปา
    วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอยวันนี้มาตลอด เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุง จากผู้ใหญ่เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ
    ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต



    นอกจากในวันซาจั๊บแล้ว ในวันชิวอิกนี้ก็ยังต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของคุณและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต

    เมื่อรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไปแล้ว มาดูข้อห้าม! ที่ห้ามทำในวันมงคลอย่างวันตรุษจีนกันบ้าง

    สิ่งที่ไม่ควรทําในวันตรุษจีน 2568
    ห้ามสระผมหรือตัดผม
    เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป
    ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ
    คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี
    ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์
    ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ
    ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน
    คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน
    ห้ามใส่ชุดขาวดำ
    เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี
    ห้ามให้ยืมเงิน
    คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี
    ห้ามทำของแตก
    เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
    ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
    คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี"
    ห้ามร้องไห้
    คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี
    ห้ามใช้ของมีคม
    ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย
    ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น
    คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย
    อ่านเพิ่มเติม

    วันตรุษจีน ประวัติ และความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
    คำอวยพรวันตรุษจีน
    ตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว วันที่เท่าไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
    #วันตรุษจีน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามความเชื่อของชาวจีน เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและโชคลาภ ชาวจีนจะทำการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรให้ได้รับความคุ้มครอง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มารวมตัวกัน ฉลองเทศกาล และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี Advertisement Play Video ชาวจีนมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้ สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 2568 ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า "วันซาจั๊บ" โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย จะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้ นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร และเกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไปและเมื่อไหว้เสร็จก็ต้องจุดประทัด จากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป รวมญาติกินเกี๊ยว สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งประการของวันตรุษจีน คือ เป็นวันนัดรวมญาติ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ "วันชิวอิก" (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ "เงิน" ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ ห้ามกวาดบ้าน ในวันขึ้นปีใหม่ของจีนจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึง "วันชิวสี่" (วันชิวสี่ คือ วันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน โดยปกติ จะแบ่งเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และวันชิวสี่) เพราะถ้ากวาดบ้านในวันปีใหม่จะถือว่าเป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ก่อนจะเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ เพื่อที่ว่าพอวันปีใหม่มาถึงก็จะงดทำความสะอาดบ้านนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากบ้านใครสกปรกมากจนทนไม่ไหวก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการกวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้านแทนได้ ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่ เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ท่านใดไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ โดยแหล่งใหญ่ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง ส่วนคำอวยพรที่นิยมเขียน ประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ "ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง" จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส ในวันมงคลเช่นนี้ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ "สีแดง" หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่ ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล รับอั่งเปา วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอยวันนี้มาตลอด เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุง จากผู้ใหญ่เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากในวันซาจั๊บแล้ว ในวันชิวอิกนี้ก็ยังต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของคุณและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต เมื่อรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไปแล้ว มาดูข้อห้าม! ที่ห้ามทำในวันมงคลอย่างวันตรุษจีนกันบ้าง สิ่งที่ไม่ควรทําในวันตรุษจีน 2568 ห้ามสระผมหรือตัดผม เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์ ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน ห้ามใส่ชุดขาวดำ เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี ห้ามให้ยืมเงิน คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี ห้ามทำของแตก เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี" ห้ามร้องไห้ คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี ห้ามใช้ของมีคม ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย อ่านเพิ่มเติม วันตรุษจีน ประวัติ และความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน คำอวยพรวันตรุษจีน ตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว วันที่เท่าไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • #วันตรุษจีน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามความเชื่อของชาวจีน เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและโชคลาภ ชาวจีนจะทำการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรให้ได้รับความคุ้มครอง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มารวมตัวกัน ฉลองเทศกาล และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี

    Advertisement

    Play Video
    ชาวจีนมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้



    สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 2568
    ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ
    วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า "วันซาจั๊บ" โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย จะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้

    นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร และเกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไปและเมื่อไหว้เสร็จก็ต้องจุดประทัด จากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป
    รวมญาติกินเกี๊ยว
    สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งประการของวันตรุษจีน คือ เป็นวันนัดรวมญาติ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ

    ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ "วันชิวอิก" (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ "เงิน" ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง
    กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี
    ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี
    ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ"
    "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ
    ห้ามกวาดบ้าน
    ในวันขึ้นปีใหม่ของจีนจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึง "วันชิวสี่" (วันชิวสี่ คือ วันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน โดยปกติ จะแบ่งเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และวันชิวสี่) เพราะถ้ากวาดบ้านในวันปีใหม่จะถือว่าเป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป

    ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ก่อนจะเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ เพื่อที่ว่าพอวันปีใหม่มาถึงก็จะงดทำความสะอาดบ้านนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากบ้านใครสกปรกมากจนทนไม่ไหวก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการกวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้านแทนได้
    ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่
    เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ท่านใดไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ โดยแหล่งใหญ่ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง

    ส่วนคำอวยพรที่นิยมเขียน ประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ "ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง" จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก

    แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน
    ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส
    ในวันมงคลเช่นนี้ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ "สีแดง" หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง
    ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่
    ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล
    รับอั่งเปา
    วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอยวันนี้มาตลอด เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุง จากผู้ใหญ่เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ
    ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต



    นอกจากในวันซาจั๊บแล้ว ในวันชิวอิกนี้ก็ยังต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของคุณและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต

    เมื่อรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไปแล้ว มาดูข้อห้าม! ที่ห้ามทำในวันมงคลอย่างวันตรุษจีนกันบ้าง

    สิ่งที่ไม่ควรทําในวันตรุษจีน 2568
    ห้ามสระผมหรือตัดผม
    เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป
    ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ
    คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี
    ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์
    ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ
    ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน
    คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน
    ห้ามใส่ชุดขาวดำ
    เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี
    ห้ามให้ยืมเงิน
    คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี
    ห้ามทำของแตก
    เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น
    ห้ามซื้อรองเท้าใหม่
    คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี"
    ห้ามร้องไห้
    คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี
    ห้ามใช้ของมีคม
    ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย
    ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น
    คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย
    อ่านเพิ่มเติม

    วันตรุษจีน ประวัติ และความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
    คำอวยพรวันตรุษจีน
    ตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว วันที่เท่าไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
    #วันตรุษจีน เป็นการเริ่มต้นปีใหม่ตามความเชื่อของชาวจีน เป็นการก้าวเข้าสู่ช่วงเวลาใหม่ที่เต็มไปด้วยความหวังและโชคลาภ ชาวจีนจะทำการไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีและขอพรให้ได้รับความคุ้มครอง เป็นโอกาสดีที่สมาชิกในครอบครัวจะได้มารวมตัวกัน ฉลองเทศกาล และเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดี Advertisement Play Video ชาวจีนมีความเชื่อมากมายเกี่ยวกับสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำในช่วงเทศกาลตรุษจีน มีดังนี้ สิ่งที่ควรทำในวันตรุษจีน 2568 ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ วันที่ชาวจีนต้องไว้เจ้านั้นเราเรียกว่า "วันซาจั๊บ" โดยมักจะทำในช่วงเช้าหลังจากที่ไหว้เจ้าในบ้าน คือ ตีจูเอี๊ยะและไหว้บรรพบุรุษ แล้วในตอนเที่ยงจึงไหว้ผีไม่มีญาติ โดยของไหว้จะมีทั้งอาหารคาว เช่น เป็ด ไก่ รวมถึงอาหารหวานด้วย จะมากหรือจะน้อย ก็ขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้ นอกจากนี้ก็ยังต้องมีเครื่องกระป๋อง ข้าวสาร และเกลือ เพื่อให้ผีไม่มีญาติได้นำออกไปและเมื่อไหว้เสร็จก็ต้องจุดประทัด จากนั้นจึงเอาข้าวสารมาผสมกับเกลือแล้วนำมาโปรยเพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีให้หมดไป รวมญาติกินเกี๊ยว สิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งประการของวันตรุษจีน คือ เป็นวันนัดรวมญาติ เพราะถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ทุกคนในครอบครัวจะต้องเดินทางมาร่วมโต๊ะกินเกี๊ยวด้วยกันในวันซาจั๊บ ซึ่งถือเป็นมื้อสุดท้ายก่อนจะถึงวันปีใหม่หรือ "วันชิวอิก" (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน คือ วันชิวอิก) และเหตุที่ต้องเป็น "เกี๊ยว" ก็เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือนกับ "เงิน" ของจีน จึงแฝงความหมายเป็นนัยว่าให้มั่งมีเงินทองนั่นเอง กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี ในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่ของชาวจีน) คนจีนจะกินเจเป็นอาหารมื้อแรก ซึ่งถือว่าเป็นมื้ออาหารแรกของปี โดยมีเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" เป็นเทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ จึงมักจะมีการทำพิธีรับเทพซึ่งเปรียบได้กับการทำพิธีรับโชคลาภ โดยทั่วไปมักจะทำพิธีในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืนไปจนถึงตีหนึ่งของวันซาจั๊บ ห้ามกวาดบ้าน ในวันขึ้นปีใหม่ของจีนจะไม่มีการกวาดบ้านจนกว่าจะถึง "วันชิวสี่" (วันชิวสี่ คือ วันที่สี่ของเทศกาลตรุษจีน โดยปกติ จะแบ่งเป็น วันจ่าย วันไหว้ วันเที่ยว และวันชิวสี่) เพราะถ้ากวาดบ้านในวันปีใหม่จะถือว่าเป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป ดังนั้น ส่วนใหญ่แล้วมักจะมีการทำความสะอาดบ้าน ปัดกวาดหยากไย่ครั้งใหญ่ก่อนจะเข้าสู่วันขึ้นปีใหม่ เพื่อที่ว่าพอวันปีใหม่มาถึงก็จะงดทำความสะอาดบ้านนั่นเอง แต่อย่างไรก็ดีหากบ้านใครสกปรกมากจนทนไม่ไหวก็สามารถแก้เคล็ดได้ด้วยการกวาดจากหน้าบ้านเข้าไปในบ้านแทนได้ ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่ เมื่อก่อนคนจีนที่พอมีความรู้จะเขียน "ตุ๊ยเลี้ยง" เอง โดยใช้หมึกดำหรือสีทองเขียนคำอวยพรลงบนกระดาษสีแดง ท่านใดไม่มีความรู้ด้านภาษาจีน ก็สามารถไปจ้างมืออาชีพเขียนให้ได้ โดยแหล่งใหญ่ก็อยู่ในย่านไชน่าทาวน์ หรือ เยาวราชนั่นเอง ส่วนคำอวยพรที่นิยมเขียน ประกอบด้วยตัวอักษร 7 ตัว เขียนเป็นคำกลอน โดยมากจะอวยพรให้ "ทำมาค้าขึ้น หรือ ให้มั่งมีเงินทอง" จากนั้นจะนำมาติดตามสองข้างประตูบ้าน และต้องมีอีก 1 แผ่นสำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" ซึ่งมีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้ ชาวจีนยังนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย ที่เรียกว่า "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีนที่มักติดบริเวณประตูหน้าบ้าน ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส ในวันมงคลเช่นนี้ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าจะทำให้มีแต่สิ่งดีๆ สิ่งใหม่ๆ เข้ามาในปีใหม่นี้ด้วย โดยการเลือกเสื้อสีสดก็เปรียบได้กับความสว่างสดใสและความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ซึ่งสีที่เป็นที่นิยมที่สุด ก็คือ "สีแดง" หมายถึง ความมงคล มั่งคั่ง ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่ ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก (วันแรกของปีใหม่จีน) คือ ทุกคนจะต้องนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ โดยผู้ใหญ่ซึ่งเป็นเจ้าบ้านเองก็จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้รวมถึงลูกสมอจีนเอารอรับแขกอยู่แล้ว และเมื่อมีผู้มาอวยพรพร้อมกับส้ม 4 ผล เจ้าบ้านก็จะรับส้มมา 2 ผล พร้อมกับนำส้มในบ้านตนเองไปวางคืนให้กับแขก 2 ผล รับอั่งเปา วันตรุษจีนถือเป็นอีกวันสำหรับเด็กๆ ที่ต่างตั้งตารอคอยวันนี้มาตลอด เพราะเป็นวันที่จะได้รับซองแดงใส่เงินขวัญถุง จากผู้ใหญ่เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยมารยาทก่อนจะรับซองแดงต้องอย่าลืมกล่าวคำว่า "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้" เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ก่อนเสมอ ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต นอกจากในวันซาจั๊บแล้ว ในวันชิวอิกนี้ก็ยังต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยดลบันดาลให้ชีวิตของคุณและครอบครัวประสบแต่ความสุข ความเจริญในชีวิต เมื่อรู้ถึงสิ่งที่ควรปฏิบัติกันไปแล้ว มาดูข้อห้าม! ที่ห้ามทำในวันมงคลอย่างวันตรุษจีนกันบ้าง สิ่งที่ไม่ควรทําในวันตรุษจีน 2568 ห้ามสระผมหรือตัดผม เนื่องจากคำว่า "ผม" พ้องเสียงและพ้องรูปกับคำว่า "มั่งคั่ง" ดังนั้น การสระหรือตัดผมในวันตรุษจีน มีความหมายว่า การนำความมั่งคั่งออกไป ห้ามพูดคำหยาบและทะเลาะ คนจีนจะงดพูดคำหยาบและสิ่งที่ไม่ดี รวมถึงพูดเรื่องความตายหรือผี เพราะเชื่อว่า และจะนำความโชคร้ายมาให้ทั้งปี ห้ามกินโจ๊กและเนื้อสัตว์ ในสมัยก่อนคนจนมักจะกินโจ๊กในตอนเช้า ดังนั้น การกินโจ๊กในตอนเช้าของวันตรุษจีน เหมือนกับการขัดขวางความร่ำรวย ขัดลาภ ขัดโชคจึงไม่ควรกินโจ๊กในเช้าของวันตรุษจีน ตลอดจนรวมถึงไม่กินเนื้อสัตว์ด้วยเนื่องจากเชื่อว่า เทพเจ้าที่ลงมาในตอนเช้าของวันตรุษจีนนั้นจะกินแต่มังสวิรัติ ห้ามซักผ้าในวันตรุษจีน คนจีนเชื่อว่า เทพเจ้าแห่งน้ำ เกิดในวันตรุษจีน ดังนั้น การซักผ้าในวันตรุษจีนเปรียบเสมือนการลบหลู่ท่าน ห้ามใส่ชุดขาวดำ เสื้อผ้าที่เป็นสีขาวดำ เป็นสัญลักษณ์ของความตาย ดังนั้นการใส่เสื้อผ้าสีขาวดำ หมายถึง ลางร้าย โดยคนจีนจะนิยมใส่เสื้อผ้าสีแดง เพราะเชื่อว่า สีแดง คือ สีแห่งความโชคดี ห้ามให้ยืมเงิน คนจีนเชื่อว่า การยืมเงินในวันนี้ จะทำให้ทั้งปีมีคนเข้ามาขอยืมเงินตลอด และถ้าใครที่ติดเงินใคร ควรที่จะคืนเงินก่อนวันตรุษจีน เพราะเชื่อว่า จะมีหนี้สินตลอดปี ห้ามทำของแตก เพราะเชื่อว่า เป็นลางร้ายถึงครอบครัวจะแตกแยก หรือมีคนเสียชีวิตในครอบครัว หากทำของแตกโดยไม่ได้ตั้งใจ มีวิธีการแก้เคล็ดโดยการพูดว่า "luo di ka hua" ที่แปลว่า ดอกไม้จะเบ่งบานเมื่อตกลงสู่พื้น ห้ามซื้อรองเท้าใหม่ คนจีนจะไม่ซื้อรองเท้าใหม่ในเดือนแรกของวันตรุษจีน เพราะคำว่า รองเท้า ในภาษาจีนออกเสียงว่า Hai มีเสียงคล้ายกับการถอนหายใจ จึงเชื่อว่า เป็น "สัญญาณของการเริ่มต้นปีที่ไม่ดี" ห้ามร้องไห้ คนจีนเชื่อว่า จะทำให้พบกับเรื่องไม่ดี และเสียใจทั้งปี ห้ามใช้ของมีคม ชาวจีนเชื่อว่า การใช้ของมีคมตัดสิ่งของ คือ การตัดโชคดีไปด้วย ห้ามเข้าไปในห้องนอนคนอื่น คนจีนเชื่อการเข้าห้องนอนผู้อื่นในวันตรุษจีน ถือเป็นโชคร้าย อ่านเพิ่มเติม วันตรุษจีน ประวัติ และความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน คำอวยพรวันตรุษจีน ตรุษจีน 2568 วันไหว้ วันจ่าย วันเที่ยว วันที่เท่าไร ห้ามทำอะไรบ้าง?
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจี๊ยะเจ กาน่าฉ่าย

    กาน่าฉ่ายสูตรต้นตำรับ มีรสชาติกลมกล่อม ไม่เหมือนใคร ลองกินแล้วจะติดใจครับ

    🟡 ราคาขาย (ยังไม่รวมค่าส่งนะคะ)
    1. กาน่าฉ่าย 500 กรัม(ครึ่งโล) ราคา 130.-/กระปุก
    2. กาน่าฉ่าย 150 กรัม ราคา 45.-/กระปุก (พิเศษ 3 กระปุก 120.-)

    สนใจสั่งซื้อได้เลยนะคะ ❤️
    📍ทักทาง Inbox
    📍Line ID : jiajayvegan หรือ 0824427829

    #jiajayvegan #เจี๊ยะเจกาน่าฉ่าย #เจี๊ยะเจ #กาน่าฉ่าย #vegan #vegetarian #มังสวิรัติ #อาหารเจ #กินเจ #อร่อย #ผัก #รักสุขภาพ #ครอบครัว #ทำอะไรกินดี #กินอะไรดี #ทุกวัย #เทศกาลกินเจ #เทศกาลตรุษจีน #อาหารสุขภาพ
    เจี๊ยะเจ กาน่าฉ่าย กาน่าฉ่ายสูตรต้นตำรับ มีรสชาติกลมกล่อม ไม่เหมือนใคร ลองกินแล้วจะติดใจครับ 🟡 ราคาขาย (ยังไม่รวมค่าส่งนะคะ) 1. กาน่าฉ่าย 500 กรัม(ครึ่งโล) ราคา 130.-/กระปุก 2. กาน่าฉ่าย 150 กรัม ราคา 45.-/กระปุก (พิเศษ 3 กระปุก 120.-) สนใจสั่งซื้อได้เลยนะคะ ❤️ 📍ทักทาง Inbox 📍Line ID : jiajayvegan หรือ 0824427829 #jiajayvegan #เจี๊ยะเจกาน่าฉ่าย #เจี๊ยะเจ #กาน่าฉ่าย #vegan #vegetarian #มังสวิรัติ #อาหารเจ #กินเจ #อร่อย #ผัก #รักสุขภาพ #ครอบครัว #ทำอะไรกินดี #กินอะไรดี #ทุกวัย #เทศกาลกินเจ #เทศกาลตรุษจีน #อาหารสุขภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🥰ultimate plant โปรตีน ซุปเปอร์ฟู้ด ซองเดียวประโยชน์ครบแน่น
    ✨โปรตีนสูง
    ✨ไขมันต่ำ
    ✨แคลน้อย
    🍹อร่อยรสช็อกโกแลตเข้มข้นแบบพรีเมี่ยมที่นำเข้าจากฝรั่งเศส
    🍹มีพรีไบโอติก
    🎉คนกินเจทานได้
    🎉คนแพ้นมวัวทำได้เพราะเป็นโปรตีนจากพืชนะคะแนะนำเลยค่ะ
    🥰พิกัด👇
    https://s.shopee.co.th/2AzNZC1oZj

    #nola #โนล่า #โปรตีนพืช
    🥰ultimate plant โปรตีน ซุปเปอร์ฟู้ด ซองเดียวประโยชน์ครบแน่น ✨โปรตีนสูง ✨ไขมันต่ำ ✨แคลน้อย 🍹อร่อยรสช็อกโกแลตเข้มข้นแบบพรีเมี่ยมที่นำเข้าจากฝรั่งเศส 🍹มีพรีไบโอติก 🎉คนกินเจทานได้ 🎉คนแพ้นมวัวทำได้เพราะเป็นโปรตีนจากพืชนะคะแนะนำเลยค่ะ 🥰พิกัด👇 https://s.shopee.co.th/2AzNZC1oZj #nola #โนล่า #โปรตีนพืช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 184 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 🥰ultimate plant โปรตีน ซุปเปอร์ฟู้ด ซองเดียวประโยชน์ครบแน่น
    ✨โปรตีนสูง
    ✨ไขมันต่ำ
    ✨แคลน้อย
    🍹อร่อยรสช็อกโกแลตเข้มข้นแบบพรีเมี่ยมที่นำเข้าจากฝรั่งเศส
    🍹มีพรีไบโอติก
    🎉คนกินเจทานได้
    🎉คนแพ้นมวัวทำได้เพราะเป็นโปรตีนจากพืชนะคะแนะนำเลยค่ะ
    🥰พิกัด👇
    https://s.shopee.co.th/2AzNZC1oZj

    #nola #โนล่า #โปรตีนพืช
    🥰ultimate plant โปรตีน ซุปเปอร์ฟู้ด ซองเดียวประโยชน์ครบแน่น ✨โปรตีนสูง ✨ไขมันต่ำ ✨แคลน้อย 🍹อร่อยรสช็อกโกแลตเข้มข้นแบบพรีเมี่ยมที่นำเข้าจากฝรั่งเศส 🍹มีพรีไบโอติก 🎉คนกินเจทานได้ 🎉คนแพ้นมวัวทำได้เพราะเป็นโปรตีนจากพืชนะคะแนะนำเลยค่ะ 🥰พิกัด👇 https://s.shopee.co.th/2AzNZC1oZj #nola #โนล่า #โปรตีนพืช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 🥰ultimate plant โปรตีน ซุปเปอร์ฟู้ด ซองเดียวประโยชน์ครบแน่น
    ✨โปรตีนสูง
    ✨ไขมันต่ำ
    ✨แคลน้อย
    🍹อร่อยรสช็อกโกแลตเข้มข้นแบบพรีเมี่ยมที่นำเข้าจากฝรั่งเศส
    🍹มีพรีไบโอติก
    🎉คนกินเจทานได้
    🎉คนแพ้นมวัวทำได้เพราะเป็นโปรตีนจากพืชนะคะแนะนำเลยค่ะ
    🥰พิกัด👇
    https://s.shopee.co.th/2AzNZC1oZj

    #nola #โนล่า #โปรตีนพืช
    🥰ultimate plant โปรตีน ซุปเปอร์ฟู้ด ซองเดียวประโยชน์ครบแน่น ✨โปรตีนสูง ✨ไขมันต่ำ ✨แคลน้อย 🍹อร่อยรสช็อกโกแลตเข้มข้นแบบพรีเมี่ยมที่นำเข้าจากฝรั่งเศส 🍹มีพรีไบโอติก 🎉คนกินเจทานได้ 🎉คนแพ้นมวัวทำได้เพราะเป็นโปรตีนจากพืชนะคะแนะนำเลยค่ะ 🥰พิกัด👇 https://s.shopee.co.th/2AzNZC1oZj #nola #โนล่า #โปรตีนพืช
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • บุคคลเปราะบาง เหยื่อคอนเทนต์

    การเสียชีวิตของนายธนาคาร คันธี หรือแบงค์ เลสเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์วัย 27 ปี เมื่อเวลา 03.40 น. วันที่ 26 ธ.ค. 2567 หลังรับคำท้าดื่มสุรา 350 มิลลิลิตรแบบรวดเดียวหมดแบน เพื่อแลกกับเงิน 30,000 บาท แล้วเกิดพิษแอลกอฮอล์เฉียบพลัน ภายในงานเลี้ยงร้านออมสินการเกษตร ของนายเอกชาติ มีพร้อม หรือเอ็ม เอกชาติ ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งวันเกิดเหตุ แบงค์ เลสเตอร์ มากับนายธีระวัฒน์ ศรีรอด หรือเบิร์ด วันว่างๆ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง

    ที่น่าเศร้าก็คือ ครั้งหนึ่งแบงค์ เลสเตอร์ เคยโพสต์ข้อความว่า "ชีวิตคนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ ผมยอมโดนแกล้ง ยอมโดนดูถูก เพื่อแลกกับเงินมาจุนเจือครอบครัว" พร้อมกับคลิปที่ตัวเองโดนแกล้งเอาแตงโมมาลูบหน้าบนช่องติ๊กต็อกเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 สังคมไทยเริ่มตื่นรู้กับพฤติกรรมที่เรียกว่าสวนสัตว์มนุษย์ (Human Zoo) ยุคนี้หมายถึงการนำบุคคลเปราะบางมากลั่นแกล้งแล้วผลิตคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง แลกกับชื่อเสียงในวงการและรายได้ที่ตามมา

    ที่ผ่านมามีวีดีโอคลิปที่แบงค์ เลสเตอร์ ถูกอินฟลูเอนเซอร์บางคนกลั่นแกล้งเพื่อความสนุกในรูปแบบต่างๆ ทั้งการทำร้ายร่างกายหรือปะทะด้วยสิ่งของ การบังคับให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินเจลหล่อลื่นที่ใช้ในการเพศสัมพันธ์ การนำปัสสาวะผสมเบียร์แล้วหลอกให้ดื่ม ต่างกรรมต่างวาระ แม้จะอ้างได้ว่าแบงค์ เลสเตอร์ ยินยอม แต่เป็นการยินยอมในลักษณะทำเพื่อเงิน ถูกบังคับทางอ้อมเพราะเป็นบุคคลเปราะบาง

    ที่น่าเศร้าก็คือ ยังมีคนที่เสพคอนเทนต์แบบนี้ เคยเหยียดบุคคลเปราะบาง เคยกดถูกใจ กดไลค์กดแชร์เพราะตลกขบขัน สะใจ ให้ความบันเทิงสนุกสนาน ไร้การกลั่นกรอง ปราศจากความรับผิดชอบ หนำซ้ำอัลกอริทึม (Algorithm) ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้อินฟลูเอนเซอร์ผู้กระทำมีชื่อเสียงขึ้นมา โซเชียลมีเดียตะวันตกแทบทุกค่าย ล้วนคัดเลือกคอนเทนต์เฉพาะสิ่งที่ผู้ใช้งานสนใจ หรืออยากรู้อยากเห็น แล้วระบบจะปรับจูนให้ ในขณะที่คอนเทนต์ดีๆ ถ้าไม่ใช้เงินซื้อจำนวนมากก็แทบถูกปิดกั้น

    เมื่อยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดวิว ทำให้อินฟลูเอนเซอร์บางคนหิวกระหาย ทำอะไรก็ได้เพื่อให้มีคนดู แต่ลืมความเป็นมนุษย์ จึงเกิดเหตุสลดขึ้นถึงขั้นพรากชีวิตไป แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้เลิกสนับสนุนอินฟลูเอนเซอร์ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อเยาวชนและสังคม หันมาสนับสนุนคนทำคอนเทนต์ดีๆ แต่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไม่ดันให้ หนำซ้ำสังคมไทยเป็นพวกมือถือสากปากถือศีล ปากบอกว่าไม่แต่ใจถลำลึก วันเวลาผ่านไปเมื่อมีเหตุการณ์ใหม่เข้ามา สุดท้ายเรื่องนี้ก็ถูกลืมจากสังคม จางหายไปกับสายลมเช่นเคย

    #Newskit
    บุคคลเปราะบาง เหยื่อคอนเทนต์ การเสียชีวิตของนายธนาคาร คันธี หรือแบงค์ เลสเตอร์ อินฟลูเอนเซอร์วัย 27 ปี เมื่อเวลา 03.40 น. วันที่ 26 ธ.ค. 2567 หลังรับคำท้าดื่มสุรา 350 มิลลิลิตรแบบรวดเดียวหมดแบน เพื่อแลกกับเงิน 30,000 บาท แล้วเกิดพิษแอลกอฮอล์เฉียบพลัน ภายในงานเลี้ยงร้านออมสินการเกษตร ของนายเอกชาติ มีพร้อม หรือเอ็ม เอกชาติ ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ต.ทุ่งเบญจา อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี ซึ่งวันเกิดเหตุ แบงค์ เลสเตอร์ มากับนายธีระวัฒน์ ศรีรอด หรือเบิร์ด วันว่างๆ อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ที่น่าเศร้าก็คือ ครั้งหนึ่งแบงค์ เลสเตอร์ เคยโพสต์ข้อความว่า "ชีวิตคนเราไม่สามารถเลือกเกิดได้ ผมยอมโดนแกล้ง ยอมโดนดูถูก เพื่อแลกกับเงินมาจุนเจือครอบครัว" พร้อมกับคลิปที่ตัวเองโดนแกล้งเอาแตงโมมาลูบหน้าบนช่องติ๊กต็อกเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2566 สังคมไทยเริ่มตื่นรู้กับพฤติกรรมที่เรียกว่าสวนสัตว์มนุษย์ (Human Zoo) ยุคนี้หมายถึงการนำบุคคลเปราะบางมากลั่นแกล้งแล้วผลิตคอนเทนต์เพื่อความบันเทิง แลกกับชื่อเสียงในวงการและรายได้ที่ตามมา ที่ผ่านมามีวีดีโอคลิปที่แบงค์ เลสเตอร์ ถูกอินฟลูเอนเซอร์บางคนกลั่นแกล้งเพื่อความสนุกในรูปแบบต่างๆ ทั้งการทำร้ายร่างกายหรือปะทะด้วยสิ่งของ การบังคับให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กินเจลหล่อลื่นที่ใช้ในการเพศสัมพันธ์ การนำปัสสาวะผสมเบียร์แล้วหลอกให้ดื่ม ต่างกรรมต่างวาระ แม้จะอ้างได้ว่าแบงค์ เลสเตอร์ ยินยอม แต่เป็นการยินยอมในลักษณะทำเพื่อเงิน ถูกบังคับทางอ้อมเพราะเป็นบุคคลเปราะบาง ที่น่าเศร้าก็คือ ยังมีคนที่เสพคอนเทนต์แบบนี้ เคยเหยียดบุคคลเปราะบาง เคยกดถูกใจ กดไลค์กดแชร์เพราะตลกขบขัน สะใจ ให้ความบันเทิงสนุกสนาน ไร้การกลั่นกรอง ปราศจากความรับผิดชอบ หนำซ้ำอัลกอริทึม (Algorithm) ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่างๆ ทำให้อินฟลูเอนเซอร์ผู้กระทำมีชื่อเสียงขึ้นมา โซเชียลมีเดียตะวันตกแทบทุกค่าย ล้วนคัดเลือกคอนเทนต์เฉพาะสิ่งที่ผู้ใช้งานสนใจ หรืออยากรู้อยากเห็น แล้วระบบจะปรับจูนให้ ในขณะที่คอนเทนต์ดีๆ ถ้าไม่ใช้เงินซื้อจำนวนมากก็แทบถูกปิดกั้น เมื่อยอดไลค์ ยอดแชร์ ยอดวิว ทำให้อินฟลูเอนเซอร์บางคนหิวกระหาย ทำอะไรก็ได้เพื่อให้มีคนดู แต่ลืมความเป็นมนุษย์ จึงเกิดเหตุสลดขึ้นถึงขั้นพรากชีวิตไป แม้จะมีเสียงเรียกร้องให้เลิกสนับสนุนอินฟลูเอนเซอร์ที่ไร้ความรับผิดชอบต่อเยาวชนและสังคม หันมาสนับสนุนคนทำคอนเทนต์ดีๆ แต่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไม่ดันให้ หนำซ้ำสังคมไทยเป็นพวกมือถือสากปากถือศีล ปากบอกว่าไม่แต่ใจถลำลึก วันเวลาผ่านไปเมื่อมีเหตุการณ์ใหม่เข้ามา สุดท้ายเรื่องนี้ก็ถูกลืมจากสังคม จางหายไปกับสายลมเช่นเคย #Newskit
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 642 มุมมอง 0 รีวิว
  • "The Chinese Revolution"

    ฉันเป็นชาวจีน(รุ่นใหม่) ที่อุตส่าห์ตะแบง ข้ามน้ำ ข้ามทะเล..ไปเรียนหนังสือกลับมา เริ่มมีเหตุผล(มากขึ้น) สได้ก่อการปฏิวัติกับครอบครัว โดยไม่ยอมเซ่นไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ ด้วยสุราและเนื้อสัตว์...แต่ยังคงเซ่นไหว้ตามพิธีดั้งเดิม ด้วยพืชผัก ผลไม้ ไม่จุดธูป ไม่จุดเทียน แต่ใช้เทียนและธูปไฟฟ้า โอนเงินทองไปสู่ปรภพด้วยบริการทางออนไลน์ เป็นผลสำเร็จมาแล้วหลายครอบครัว

    เป็นที่ทราบโดยชัดเจนว่า #มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ซึ่งสามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์

    1) ชนิดของฟัน
    ธรรมชาติสร้างฟันมนุษย์เป็นฟันซี่เรียงแถว สำหรับกัด บด เคี้ยว #แตกต่างจากสัตว์กินเนื้อที่มีเขี้ยวสำหรับการฉีก ล่าเหยื่อ

    2) ความเป็นกรด-ด่างของน้ำลาย
    มนุษย์มีน้ำลายที่เป็นด่างสำหรับย่อยแป้งและเซลลูโลสจากพืช #ต่างจากน้ำลายสัตว์กินเนื้อที่เป็นกรด สัตว์กินเนื้อไม่ได้ล่าเหยื่อทุกวัน การล่าแต่ละครั้งสามารถกินได้หลายวัน น้ำลายที่เป็นกรดธรรมชาติประทานมาให้เพื่อใช้ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์จากบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้(ล่าเหยื่อ) และใช้ในการย่อยเนื้อสัตว์ที่บูดเน่า.

    3) ชนิดของกรดในกระเพาะอาหาร
    มนุษย์มีน้ำย่อยที่เป็นกรดอ่อน สำหรับการย่อยเซลลูโลสและแป้งในกลุ่มอะมีโลส และมีปริมาณน้ำย่อย(น้อย)ไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์
    #ต่างจากน้ำย่อยในกระเพาะสัตว์กินเนื้อ ที่เป็นเอ็มไซม์เพ็พซินและทริปซิน เป็นกรดอย่างแรงกว่า20เท่าและมีปริมาณมากกว่าน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของมนุษย์ 5เท่า สำหรับการย่อยเนื้อสัตว์และกระดูกโดยเฉพาะ

    4) สัดส่วนความยาวของลำไส้ ต่อ ความยาวลำตัว
    (ความยาวลำตัว=ความยาวปากถึงรูตูด)

    มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ธรรมชาติจึงออกแบบให้มีลำไส้ยาว 7-10เท่าของความยาวลำตัว เพื่อดูดซึมสารอาหารจากพืชได้สำเร็จใน 4-6ชั่วโมง หากมนุษย์กินเนื้อสัตว์ กระเพาะไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้หมด ต่อจากนั้น..เป็นหน้าที่ของลำไส้ใช้เวลาย่อยและดูดซึมเนื้อสัตว์ 48-72ชั่วโมง ทำให้เกิดการบูดเน่า เกิดสารพิษ และจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ แก๊สที่มีพิษ ซึ่งทำให้บั่นทอนสุขภาพ อายุสั้นด้วยโรคต่างๆและโรคมะเร็ง

    #ต่างจากลำไส้สัตว์กินเนื้อที่มีความยาวไม่เกิน3เท่าของความยาวลำตัว กิน ย่อย ถ่ายรวดเร็วไม่มีปัญหาเรื่องความเป็นพิษในลำไส้.

    ครอบครัว..ให้ความเข้าใจและหันมากินผัก ผลไม้ ทำให้มีสุขภาพที่ดี มีอายุยืน(อายุขัยวัฒนา) กันทุกๆคน เมื่อจากโลกนี้ไปก็จะไปมีชิวิตนิรันดร์ในสายคริสต์ก็ไปอยู่บนสวรรค์กับพระผู้เป็นเจ้า สายพุทธศาสนาจะเข้าสู่โหมดนิพพาน(Nirvana)ได้ไม่ยากนัก เมื่อถือศีล(บริสุทธิ์)ย่อมเกิดสมาธิได้ไม่ยากนักเพราะไม่มีความพยาบาทอาฆาตแค้นจากชีวิตสัตว์มารบกวน จึงเกิดแสงสว่างแห่งปัญญานำไปตามทางสายเอกเข้าสู่นิพพานดับสูญ..ไม่ต้องเป็นสัมภเวสี ทนทุกข์ทรมาน เร่ร่อน ขอส่วนบุญตามสถานที่ต่างๆ หรือ วนเวียน ว่าย ตาย เกิด..อยู่เช่นนี้ ไม่เบื่อ บ้างหรือ?

    พระพุทธเจ้า ห้ามกินเนื้อสัตว์(อกัปปิยมังสะ) 10 ชนิด
    #และสัตว์ที่กินได้ต้องไม่เป็น ปวัตตมังสะ(ฆ่าเพื่อตน) และไม่เป็นอุททิสมังสะ(ฆ่าเพื่อผู้อื่น) หมายความว่า #เป็นสัตว์ที่ตายเองไม่ใช่สัตว์ทื่ถูกฆ่า จึงจะกินได้.

    ***แปลเป็นไทยว่า "สัตว์ที่ตายเอง ไม่ใช่สัตว์ที่ถูกฆ่า"
    ดังนั้น..การกินเนื้อสัตว์ ผิดทั้งพระและโยม นะจ๊ะ(ชาวพุทธ)

    สัตว์..มันก็คิดได้ คิดเป็น มนุษย์ลากมันเข้าหลักประหาร สัตว์มันรู้ มันรักตัว กลัวตาย มันร้องไห้ ดิ้นรน ไม่สงสารมันบ้างหรือไร?

    สัตว์มันมองดูมนุษย์เซ่นไหว้ เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ
    ตรุษจีน สาร์ทจีน..ฆ่าพวกกูไหว้เจ้า --->ได้บุญ
    พอปลายปีเทศกาลกินเจ..ไม่ฆ่าพวกกู-->ได้บุญ
    อย่าให้สัตว์พูดว่า "ตกลงพวกมึง จะเอายังงัยกับชีวิตของพวกมึง" !!!

    อมตะวาจา ของ Yeo MING กล่าวว่า
    "When the buying stops, the killing can too"
    อาจแปลได้ว่า "ผู้กินเนื้อสัตว์..คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า" เช่นเดียวกัน ค่ะ
    .
    .
    Pachäree Wõng
    November20,2024
    Sausalito, California.
    "The Chinese Revolution" ฉันเป็นชาวจีน(รุ่นใหม่) ที่อุตส่าห์ตะแบง ข้ามน้ำ ข้ามทะเล..ไปเรียนหนังสือกลับมา เริ่มมีเหตุผล(มากขึ้น) สได้ก่อการปฏิวัติกับครอบครัว โดยไม่ยอมเซ่นไหว้เจ้าและบรรพบุรุษ ด้วยสุราและเนื้อสัตว์...แต่ยังคงเซ่นไหว้ตามพิธีดั้งเดิม ด้วยพืชผัก ผลไม้ ไม่จุดธูป ไม่จุดเทียน แต่ใช้เทียนและธูปไฟฟ้า โอนเงินทองไปสู่ปรภพด้วยบริการทางออนไลน์ เป็นผลสำเร็จมาแล้วหลายครอบครัว เป็นที่ทราบโดยชัดเจนว่า #มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ซึ่งสามารถพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ 1) ชนิดของฟัน ธรรมชาติสร้างฟันมนุษย์เป็นฟันซี่เรียงแถว สำหรับกัด บด เคี้ยว #แตกต่างจากสัตว์กินเนื้อที่มีเขี้ยวสำหรับการฉีก ล่าเหยื่อ 2) ความเป็นกรด-ด่างของน้ำลาย มนุษย์มีน้ำลายที่เป็นด่างสำหรับย่อยแป้งและเซลลูโลสจากพืช #ต่างจากน้ำลายสัตว์กินเนื้อที่เป็นกรด สัตว์กินเนื้อไม่ได้ล่าเหยื่อทุกวัน การล่าแต่ละครั้งสามารถกินได้หลายวัน น้ำลายที่เป็นกรดธรรมชาติประทานมาให้เพื่อใช้ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์จากบาดแผลที่เกิดจากการต่อสู้(ล่าเหยื่อ) และใช้ในการย่อยเนื้อสัตว์ที่บูดเน่า. 3) ชนิดของกรดในกระเพาะอาหาร มนุษย์มีน้ำย่อยที่เป็นกรดอ่อน สำหรับการย่อยเซลลูโลสและแป้งในกลุ่มอะมีโลส และมีปริมาณน้ำย่อย(น้อย)ไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ #ต่างจากน้ำย่อยในกระเพาะสัตว์กินเนื้อ ที่เป็นเอ็มไซม์เพ็พซินและทริปซิน เป็นกรดอย่างแรงกว่า20เท่าและมีปริมาณมากกว่าน้ำย่อยในกระเพาะอาหารของมนุษย์ 5เท่า สำหรับการย่อยเนื้อสัตว์และกระดูกโดยเฉพาะ 4) สัดส่วนความยาวของลำไส้ ต่อ ความยาวลำตัว (ความยาวลำตัว=ความยาวปากถึงรูตูด) มนุษย์เป็นสัตว์กินพืช ธรรมชาติจึงออกแบบให้มีลำไส้ยาว 7-10เท่าของความยาวลำตัว เพื่อดูดซึมสารอาหารจากพืชได้สำเร็จใน 4-6ชั่วโมง หากมนุษย์กินเนื้อสัตว์ กระเพาะไม่สามารถย่อยเนื้อสัตว์ได้หมด ต่อจากนั้น..เป็นหน้าที่ของลำไส้ใช้เวลาย่อยและดูดซึมเนื้อสัตว์ 48-72ชั่วโมง ทำให้เกิดการบูดเน่า เกิดสารพิษ และจุลินทรีย์ที่เป็นโทษ แก๊สที่มีพิษ ซึ่งทำให้บั่นทอนสุขภาพ อายุสั้นด้วยโรคต่างๆและโรคมะเร็ง #ต่างจากลำไส้สัตว์กินเนื้อที่มีความยาวไม่เกิน3เท่าของความยาวลำตัว กิน ย่อย ถ่ายรวดเร็วไม่มีปัญหาเรื่องความเป็นพิษในลำไส้. ครอบครัว..ให้ความเข้าใจและหันมากินผัก ผลไม้ ทำให้มีสุขภาพที่ดี มีอายุยืน(อายุขัยวัฒนา) กันทุกๆคน เมื่อจากโลกนี้ไปก็จะไปมีชิวิตนิรันดร์ในสายคริสต์ก็ไปอยู่บนสวรรค์กับพระผู้เป็นเจ้า สายพุทธศาสนาจะเข้าสู่โหมดนิพพาน(Nirvana)ได้ไม่ยากนัก เมื่อถือศีล(บริสุทธิ์)ย่อมเกิดสมาธิได้ไม่ยากนักเพราะไม่มีความพยาบาทอาฆาตแค้นจากชีวิตสัตว์มารบกวน จึงเกิดแสงสว่างแห่งปัญญานำไปตามทางสายเอกเข้าสู่นิพพานดับสูญ..ไม่ต้องเป็นสัมภเวสี ทนทุกข์ทรมาน เร่ร่อน ขอส่วนบุญตามสถานที่ต่างๆ หรือ วนเวียน ว่าย ตาย เกิด..อยู่เช่นนี้ ไม่เบื่อ บ้างหรือ? พระพุทธเจ้า ห้ามกินเนื้อสัตว์(อกัปปิยมังสะ) 10 ชนิด #และสัตว์ที่กินได้ต้องไม่เป็น ปวัตตมังสะ(ฆ่าเพื่อตน) และไม่เป็นอุททิสมังสะ(ฆ่าเพื่อผู้อื่น) หมายความว่า #เป็นสัตว์ที่ตายเองไม่ใช่สัตว์ทื่ถูกฆ่า จึงจะกินได้. ***แปลเป็นไทยว่า "สัตว์ที่ตายเอง ไม่ใช่สัตว์ที่ถูกฆ่า" ดังนั้น..การกินเนื้อสัตว์ ผิดทั้งพระและโยม นะจ๊ะ(ชาวพุทธ) สัตว์..มันก็คิดได้ คิดเป็น มนุษย์ลากมันเข้าหลักประหาร สัตว์มันรู้ มันรักตัว กลัวตาย มันร้องไห้ ดิ้นรน ไม่สงสารมันบ้างหรือไร? สัตว์มันมองดูมนุษย์เซ่นไหว้ เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ ตรุษจีน สาร์ทจีน..ฆ่าพวกกูไหว้เจ้า --->ได้บุญ พอปลายปีเทศกาลกินเจ..ไม่ฆ่าพวกกู-->ได้บุญ อย่าให้สัตว์พูดว่า "ตกลงพวกมึง จะเอายังงัยกับชีวิตของพวกมึง" !!! อมตะวาจา ของ Yeo MING กล่าวว่า "When the buying stops, the killing can too" อาจแปลได้ว่า "ผู้กินเนื้อสัตว์..คือหุ้นส่วนร่วมฆ่า" เช่นเดียวกัน ค่ะ . . Pachäree Wõng November20,2024 Sausalito, California.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 901 มุมมอง 0 รีวิว
  • เห็นข่าวองุ่นพันธุ์หนึ่งที่นำเข้าจากต่างประเทศ ตรวจพบมีสารตกค้างมากถึง 50 ชนิด
    90% นำเข้าจากจีน ที่เหลือไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้

    ช่วงที่เกิดเหตุกลุ่มฮามาสถล่มอิสราเอล แรงงานชาวไทยต้องกลับประเทศ ลูกค้าคนหนึ่งเล่าว่า น้องชายของเธอก็เคยไปทำงานที่อิสราเอลเหมือนกัน ไปได้ปีกว่าก็กลับไทย ทั้งกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงสงกรานต์ และถือโอกาสหาหมอด้วย เนื่องจากเหนื่อยง่าย ป่วยบ่อย และค่ารักษาที่นั่นแพง
    เมื่อน้องชายของเธอเอ็กซเรย์ปอดแล้วพบว่า ปอดหายไปหนึ่งข้าง นั่นเกิดจากการทำงาน น้องชายเธอเล่าให้เธอฟัง ที่นั่นใช้ยาตั้งแต่เพาะเมล็ดพันธุ์ แช่เมล็ดด้วยน้ำยาอะไรสักอย่าง พอพืชเริ่มโตก็ต้องพ่นยาเป็นประจำ เพราะพื้นที่เพาะปลูกแห้งแล้ง ต้องต่อสู้กับธรรมชาติอย่างหนัก จึงจำเป็นต้องฉีดพ่น ทั้งยาฆ่าแมลง ฮอร์โมนบำรุง ขณะที่ทำงานไม่มีเครื่องมือป้องกันสารพิษ หากอยากได้ต้องซื้อเอง แต่แพงมาก เหล่าคนงานไม่ค่อยมีใครกล้ากินพืชที่เพาะปลูก เพราะกลัวสารพิษ
    ถึงแม้ระยะเวลาที่ไปทำงานแค่ปีกว่า สามารถชดใช้คืนค่าตั๋ว ค่าเดินทาง และซื้อบ้าน ซื้อรถได้ครบที่ต้องการ แต่น้องชายก็มีอายุไม่ยืน หลังจากรักษาอยู่หลายเดือนน้องชายเธอก็จากไป ภรรยาน้องชายเสียใจมาก รำพันว่าไม่คุ้มเลยที่เอาชีวิตไปเสี่ยง

    ตอนฉันยังเด็ก ฉันก็ลูกชาวสวนผักคนหนึ่ง ถ้าผักเริ่มมีแมลงก่อกวน จะฉีดพ่นยาทันที ถึงแม้อีกสองวันจะต้องตัดขายแล้วก็ต้องทำ ผักที่ใบสวยย่อมราคาดีกว่าผักที่แคะแกร็น ใบเป็นรู หรือแหว่ง แต่นั่นไม่ได้แปลว่า ผักที่ใบเป็นรู มีรอยแทะแหว่งจะไม่โดนฉีดพ่นยา นั่นน่ะยิ่งหนักใหญ่เลย แต่เมื่อทำได้ดีที่สุดแค่นั้น ก็ต้องขายไปแบบนั้น ถูกกดราคาเช่นนั้นไป อย่าคิดว่าผักมีตำหนิ คือผักที่ปลูกธรรมชาติ ปลอดสารพิษเสมอไป

    แล้วเกี่ยวอะไรกับองุ่น
    ๑. การปลูกพืชผลเชิงพานิชย์ ต้องใช้สารเคมีอยู่แล้ว ถึงแม้ประเทศที่เจริญแล้ว มีเทคโนโลยีล้ำหน้าแล้วก็ยังต้องใช้
    ๒. ถ้า 90% มาจากจีน แล้วที่เหลือไม่สามารถระบุได้ เป็นไปได้หรือ ของนำเข้าจากต่างประเทศมีหรือจะระบุแหล่งที่มาไม่ได้ รู้แต่ไม่บอก หรือบอกไม่ได้มากกว่า และนั่นก็หมายความว่า ใครๆ เขาก็ใช้กัน
    ๓. ขณะที่นำเข้ามาต้องมีการสุ่มตรวจก่อนไม่หรือ แต่นี่กระจายลงมาถึงมือแม่ค้าแล้วค่อยออกข่าวเตือน ดูเหมือนหวังดี แต่จริงๆ กำลังช่วยเหลือผู้ที่นำเข้ามาอยู่หรือไม่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขาดทุน แต่องุ่นบนแผงแม่ค้าเน่าหมด เพราะขายไม่ได้
    ๔. นี่คือข่าวประเภท ดิสเครดิต ใช่หรือไม่ จีนโดนไปเต็มๆ

    ช่วงก่อนเข้าเทศกาลกินเจ มีญาติผู้ใหญ่มาเยี่ยมเยือน เอาองุ่นพันธุ์นี้มาฝากด้วย ตั้งหนึ่งลังแน่ะ ฉันไม่ใช่คนชอบกินองุ่น ยังว่ามันอร่อย หวาน กรอบดีจัง แล้วก็ยังอยู่ดี ไม่มีโรคภัยอะไรด้วย

    เห็นข่าวองุ่นพันธุ์หนึ่งที่นำเข้าจากต่างประเทศ ตรวจพบมีสารตกค้างมากถึง 50 ชนิด 90% นำเข้าจากจีน ที่เหลือไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ ช่วงที่เกิดเหตุกลุ่มฮามาสถล่มอิสราเอล แรงงานชาวไทยต้องกลับประเทศ ลูกค้าคนหนึ่งเล่าว่า น้องชายของเธอก็เคยไปทำงานที่อิสราเอลเหมือนกัน ไปได้ปีกว่าก็กลับไทย ทั้งกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงสงกรานต์ และถือโอกาสหาหมอด้วย เนื่องจากเหนื่อยง่าย ป่วยบ่อย และค่ารักษาที่นั่นแพง เมื่อน้องชายของเธอเอ็กซเรย์ปอดแล้วพบว่า ปอดหายไปหนึ่งข้าง นั่นเกิดจากการทำงาน น้องชายเธอเล่าให้เธอฟัง ที่นั่นใช้ยาตั้งแต่เพาะเมล็ดพันธุ์ แช่เมล็ดด้วยน้ำยาอะไรสักอย่าง พอพืชเริ่มโตก็ต้องพ่นยาเป็นประจำ เพราะพื้นที่เพาะปลูกแห้งแล้ง ต้องต่อสู้กับธรรมชาติอย่างหนัก จึงจำเป็นต้องฉีดพ่น ทั้งยาฆ่าแมลง ฮอร์โมนบำรุง ขณะที่ทำงานไม่มีเครื่องมือป้องกันสารพิษ หากอยากได้ต้องซื้อเอง แต่แพงมาก เหล่าคนงานไม่ค่อยมีใครกล้ากินพืชที่เพาะปลูก เพราะกลัวสารพิษ ถึงแม้ระยะเวลาที่ไปทำงานแค่ปีกว่า สามารถชดใช้คืนค่าตั๋ว ค่าเดินทาง และซื้อบ้าน ซื้อรถได้ครบที่ต้องการ แต่น้องชายก็มีอายุไม่ยืน หลังจากรักษาอยู่หลายเดือนน้องชายเธอก็จากไป ภรรยาน้องชายเสียใจมาก รำพันว่าไม่คุ้มเลยที่เอาชีวิตไปเสี่ยง ตอนฉันยังเด็ก ฉันก็ลูกชาวสวนผักคนหนึ่ง ถ้าผักเริ่มมีแมลงก่อกวน จะฉีดพ่นยาทันที ถึงแม้อีกสองวันจะต้องตัดขายแล้วก็ต้องทำ ผักที่ใบสวยย่อมราคาดีกว่าผักที่แคะแกร็น ใบเป็นรู หรือแหว่ง แต่นั่นไม่ได้แปลว่า ผักที่ใบเป็นรู มีรอยแทะแหว่งจะไม่โดนฉีดพ่นยา นั่นน่ะยิ่งหนักใหญ่เลย แต่เมื่อทำได้ดีที่สุดแค่นั้น ก็ต้องขายไปแบบนั้น ถูกกดราคาเช่นนั้นไป อย่าคิดว่าผักมีตำหนิ คือผักที่ปลูกธรรมชาติ ปลอดสารพิษเสมอไป แล้วเกี่ยวอะไรกับองุ่น ๑. การปลูกพืชผลเชิงพานิชย์ ต้องใช้สารเคมีอยู่แล้ว ถึงแม้ประเทศที่เจริญแล้ว มีเทคโนโลยีล้ำหน้าแล้วก็ยังต้องใช้ ๒. ถ้า 90% มาจากจีน แล้วที่เหลือไม่สามารถระบุได้ เป็นไปได้หรือ ของนำเข้าจากต่างประเทศมีหรือจะระบุแหล่งที่มาไม่ได้ รู้แต่ไม่บอก หรือบอกไม่ได้มากกว่า และนั่นก็หมายความว่า ใครๆ เขาก็ใช้กัน ๓. ขณะที่นำเข้ามาต้องมีการสุ่มตรวจก่อนไม่หรือ แต่นี่กระจายลงมาถึงมือแม่ค้าแล้วค่อยออกข่าวเตือน ดูเหมือนหวังดี แต่จริงๆ กำลังช่วยเหลือผู้ที่นำเข้ามาอยู่หรือไม่ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องขาดทุน แต่องุ่นบนแผงแม่ค้าเน่าหมด เพราะขายไม่ได้ ๔. นี่คือข่าวประเภท ดิสเครดิต ใช่หรือไม่ จีนโดนไปเต็มๆ ช่วงก่อนเข้าเทศกาลกินเจ มีญาติผู้ใหญ่มาเยี่ยมเยือน เอาองุ่นพันธุ์นี้มาฝากด้วย ตั้งหนึ่งลังแน่ะ ฉันไม่ใช่คนชอบกินองุ่น ยังว่ามันอร่อย หวาน กรอบดีจัง แล้วก็ยังอยู่ดี ไม่มีโรคภัยอะไรด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมไม่อยากเป็นแบบพี่เค้านะครับ บางทีผมคงออกหน้าในรายการพี่หนุ่มคงไม่ได้เพราะไม่อยากให้ใครมารู้จักผม กลับคนมาขุดผมไม่ใช่อะไร และผมไม่อยากทำงานในสภาวะที่ เยี่ยงทาส และ ยิ่งกว่าทาส จนเกินไป และผมไม่อยากเป็นภาระพี่กันจอมพลังและพี่หนุมกรรชัยเพราะเรื่องแบบนี้ ผมโดนยึดเงินเดือน และโดนควบคุมการใช้เงิน เพราะข้ออ้างที่ว่ากลัวผมจะใช้จ่ายฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย คือไม่เข้าใจผมแล้วใช้ข้ออ้างลวงๆเพื่อควบคุมการใช้จ่ายของผมเพื่ออะไร อยากจะกักขังผมไม่ให้ผมออกนอกลู่นอกทางในแบบที่ผมต้องการแล้วได้เงินดี แต่กลับให้ผมหัดใช้ชีวิตเยี่ยงทาส จะมากเกินไปแล้วนะ ผมจะทะเลาะกับผู้ว่าจ้างจะตายอยู่แล้วจะต้องมาทะเลาะกับคนรอบข้างอีก ตอนกินเจเกือบจะเจแตกเพราะยังเลิกคิดเรื่องนี้ไม่ได้ แต่แค่ไม่ระบายมันออกมาในนี้ แต่บางทีอยากออกรายการคล้ายๆโหนกระแสในช่อง News1 สักวันหนึ่ง เพราะผมเจอเรื่องที่ไม่เป็นธรรมกับผมและความไฝ่ฝันของผมมานานแล้วครับ และกลับถูกตอบแทนด้วยสิ่งที่ Toxic ทั้งกาย วาจา ใจ หลังจากที่ทำเพื่อคนรอบข้างแทบตาย พอกันที ชีวิตทาสในรูปลูกจ้าง ปากบอกว่าทำไปเพราะรัก แต่จิตใจอยากให้ผมเผชิญกับความลำบากเกินความสามารถที่จะตั้งรับ บอกตรงๆ ขอยืนด้วยขาตัวเองดีกว่า โดนบังคับย้ายทะเบียนบ้านเพื่อมาทำงานและให้คนรอบข้างเก็บกั๊กเงินเดือนไว้ และควบคุมการใช้จ่าย การกินของผม แบบนี้ผมผุทั้งกาย วาจา ใจพอดี ผมคงต้องเสียตัวตนในอีกไม่นานนี้เพราะเรื่องแค่นี้ ผมขอทำใจให้สงบและผ่านเรื่องนี้ด้วยกัน พรุ่งนี้จะทวงด้วยเหตุผลที่พอจะฟังได้ ถ้าเขาไม่ฟัง ผมขอแยกทาง จบ ครับ
    ผมไม่อยากเป็นแบบพี่เค้านะครับ บางทีผมคงออกหน้าในรายการพี่หนุ่มคงไม่ได้เพราะไม่อยากให้ใครมารู้จักผม กลับคนมาขุดผมไม่ใช่อะไร และผมไม่อยากทำงานในสภาวะที่ เยี่ยงทาส และ ยิ่งกว่าทาส จนเกินไป และผมไม่อยากเป็นภาระพี่กันจอมพลังและพี่หนุมกรรชัยเพราะเรื่องแบบนี้ ผมโดนยึดเงินเดือน และโดนควบคุมการใช้เงิน เพราะข้ออ้างที่ว่ากลัวผมจะใช้จ่ายฟุ่มเฟือย สุรุ่ยสุร่าย คือไม่เข้าใจผมแล้วใช้ข้ออ้างลวงๆเพื่อควบคุมการใช้จ่ายของผมเพื่ออะไร อยากจะกักขังผมไม่ให้ผมออกนอกลู่นอกทางในแบบที่ผมต้องการแล้วได้เงินดี แต่กลับให้ผมหัดใช้ชีวิตเยี่ยงทาส จะมากเกินไปแล้วนะ ผมจะทะเลาะกับผู้ว่าจ้างจะตายอยู่แล้วจะต้องมาทะเลาะกับคนรอบข้างอีก ตอนกินเจเกือบจะเจแตกเพราะยังเลิกคิดเรื่องนี้ไม่ได้ แต่แค่ไม่ระบายมันออกมาในนี้ แต่บางทีอยากออกรายการคล้ายๆโหนกระแสในช่อง News1 สักวันหนึ่ง เพราะผมเจอเรื่องที่ไม่เป็นธรรมกับผมและความไฝ่ฝันของผมมานานแล้วครับ และกลับถูกตอบแทนด้วยสิ่งที่ Toxic ทั้งกาย วาจา ใจ หลังจากที่ทำเพื่อคนรอบข้างแทบตาย พอกันที ชีวิตทาสในรูปลูกจ้าง ปากบอกว่าทำไปเพราะรัก แต่จิตใจอยากให้ผมเผชิญกับความลำบากเกินความสามารถที่จะตั้งรับ บอกตรงๆ ขอยืนด้วยขาตัวเองดีกว่า โดนบังคับย้ายทะเบียนบ้านเพื่อมาทำงานและให้คนรอบข้างเก็บกั๊กเงินเดือนไว้ และควบคุมการใช้จ่าย การกินของผม แบบนี้ผมผุทั้งกาย วาจา ใจพอดี ผมคงต้องเสียตัวตนในอีกไม่นานนี้เพราะเรื่องแค่นี้ ผมขอทำใจให้สงบและผ่านเรื่องนี้ด้วยกัน พรุ่งนี้จะทวงด้วยเหตุผลที่พอจะฟังได้ ถ้าเขาไม่ฟัง ผมขอแยกทาง จบ ครับ
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 522 มุมมอง 0 รีวิว
  • สยบดราม่ามหาดไทย ผู้ว่าฯต้องมารับ รมต. แค่เฉพาะเรื่องงาน
    .
    กลายเป็นประเด็นให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรสำหรับถ้อยแถลงของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระหว่างมอบนโยบายของผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมีตอนหนึ่งที่ระบุว่า "การขับเคลื่อนงานทั้งหมดนี้ จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นกลไกที่สำคัญ ท่านคือพ่อเมือง เปรียบเสมือนหัวหน้าครอบครัวของทุกคน ความเป็นพ่อเมือง กราบเรียนว่า หาวันหยุดไม่ได้ เราเลือกมาทางนี้แล้ว หาวันหยุดไม่ได้ วันนี้หยุด รัฐมนตรีมาไม่มารับ ไม่ได้ มท.1 ไป ท่านต้องมารับ อันนี้เปิดอกกันเลย มท.2-3-4 ก็เช่นกัน เราไม่ให้เกียรติกันเอง แล้วใครจะให้เกียรติเรา"
    .
    “ถ้าถามว่า ถ้าไป พวกผมก็คิดว่า 4 คน พวกผมก็มีวุฒิภาวะเพียงพอว่า ไหว้เจ้า กินเจ ไปสายมู แก้บน อย่างนี้ท่านไม่ต้องมา ผมก็คงไม่บอกให้ท่านมา แต่ถ้าไปในหน้าที่ราชการ ถ้า มท.ไปในพื้นที่ท่านแล้วผู้ว่าฯไม่มาเนี่ย ถามว่า มท.คนนั้น อึดอัดใจไหม อึดอัดแน่นอน เปิดอกกันเลย ต่อให้ท่านเอง ท่านรู้ว่า มท.มาในพื้นที่ท่าน แล้วท่านไม่มาเนี่ย ลั้นลาไหม ท่านสบายใจไหม ผมว่าท่านไม่ แก้ไขได้นิดเดียว ถ้าเขามาทำงาน ก็ไปทำงานกับเขา แค่นั้นเอง ไม่มีปัญหาเรื่องอื่นเลย จะได้ไม่ต้องถามว่า ไปยังไง ตั๋วเครื่องบินเต็มไหม ลาคนนี้แล้วไม่ลาคนนี้ สีข้างถลอกหมดแล้ว ไม่มีประโยชน์ อะไรที่กลัดผิดเม็ดแรก ก็ผิดไปหมด มันไม่ได้เกิดจากข้อเท็จจริง ความเป็นจริง” ท่าทีขึงขังจากเจ้ากระทรวงมหาดไทย
    .
    งานนี้ก่อให้เกิดกระแสพอสมควร โดยเฉพาะการตั้งข้อสังเกตเป็นการใช้อำนาจทางการเมืองกดฝ่ายข้าราชการประจำหรือไม่ จนทำให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย ต้องชี้แจงว่า เจตนาของการแถลงดังกล่าว คือ การเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการต้องมาทำงานร่วมกัน และไม่ได้กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมาคอยต้อนรับตลอด แต่กำชับเฉพาะในส่วนที่เป็นการทำงานเท่านั้น เนื่องจากเวลารัฐมนตรีลงพื้นที่ย่อมต้องมาพร้อมกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการไปให้ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อลดขั้นตอนในการทำงาน
    .
    "งานของเราคือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ต้องเร็ว พูดแล้วต้องเข้าใจ ไม่ใช่มานั่งบอกต่อๆกัน รัฐมนตรี บอกรองผู้ว่าฯ ให้ไปบอกผู้ว่าฯ แล้วเมื่อไรประชาชนจะได้รับการช่วยเหลือ นอกจากนั้น การทำงานที่เป็นเอกภาพ มีรัฐมนตรี มีผู้ว่าฯ ทำให้ประชาชนเห็นแล้ว เกิดความเชื่อมั่น เราต้องเป็นขวัญกำลังใจให้ประชาชน ไม่ใช่ว่ากระโดดไปคนละทิศละทาง แล้วประชาชนจะเอาอะไรมาเชื่อมั่นเรา" โฆษกกระทรวงมหาดไทย อธิบาย
    ..............
    Sondhi X
    สยบดราม่ามหาดไทย ผู้ว่าฯต้องมารับ รมต. แค่เฉพาะเรื่องงาน . กลายเป็นประเด็นให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์พอสมควรสำหรับถ้อยแถลงของนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ระหว่างมอบนโยบายของผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 โดยมีตอนหนึ่งที่ระบุว่า "การขับเคลื่อนงานทั้งหมดนี้ จะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นกลไกที่สำคัญ ท่านคือพ่อเมือง เปรียบเสมือนหัวหน้าครอบครัวของทุกคน ความเป็นพ่อเมือง กราบเรียนว่า หาวันหยุดไม่ได้ เราเลือกมาทางนี้แล้ว หาวันหยุดไม่ได้ วันนี้หยุด รัฐมนตรีมาไม่มารับ ไม่ได้ มท.1 ไป ท่านต้องมารับ อันนี้เปิดอกกันเลย มท.2-3-4 ก็เช่นกัน เราไม่ให้เกียรติกันเอง แล้วใครจะให้เกียรติเรา" . “ถ้าถามว่า ถ้าไป พวกผมก็คิดว่า 4 คน พวกผมก็มีวุฒิภาวะเพียงพอว่า ไหว้เจ้า กินเจ ไปสายมู แก้บน อย่างนี้ท่านไม่ต้องมา ผมก็คงไม่บอกให้ท่านมา แต่ถ้าไปในหน้าที่ราชการ ถ้า มท.ไปในพื้นที่ท่านแล้วผู้ว่าฯไม่มาเนี่ย ถามว่า มท.คนนั้น อึดอัดใจไหม อึดอัดแน่นอน เปิดอกกันเลย ต่อให้ท่านเอง ท่านรู้ว่า มท.มาในพื้นที่ท่าน แล้วท่านไม่มาเนี่ย ลั้นลาไหม ท่านสบายใจไหม ผมว่าท่านไม่ แก้ไขได้นิดเดียว ถ้าเขามาทำงาน ก็ไปทำงานกับเขา แค่นั้นเอง ไม่มีปัญหาเรื่องอื่นเลย จะได้ไม่ต้องถามว่า ไปยังไง ตั๋วเครื่องบินเต็มไหม ลาคนนี้แล้วไม่ลาคนนี้ สีข้างถลอกหมดแล้ว ไม่มีประโยชน์ อะไรที่กลัดผิดเม็ดแรก ก็ผิดไปหมด มันไม่ได้เกิดจากข้อเท็จจริง ความเป็นจริง” ท่าทีขึงขังจากเจ้ากระทรวงมหาดไทย . งานนี้ก่อให้เกิดกระแสพอสมควร โดยเฉพาะการตั้งข้อสังเกตเป็นการใช้อำนาจทางการเมืองกดฝ่ายข้าราชการประจำหรือไม่ จนทำให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย ต้องชี้แจงว่า เจตนาของการแถลงดังกล่าว คือ การเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการต้องมาทำงานร่วมกัน และไม่ได้กำหนดให้ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องมาคอยต้อนรับตลอด แต่กำชับเฉพาะในส่วนที่เป็นการทำงานเท่านั้น เนื่องจากเวลารัฐมนตรีลงพื้นที่ย่อมต้องมาพร้อมกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการไปให้ถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อลดขั้นตอนในการทำงาน . "งานของเราคือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ต้องเร็ว พูดแล้วต้องเข้าใจ ไม่ใช่มานั่งบอกต่อๆกัน รัฐมนตรี บอกรองผู้ว่าฯ ให้ไปบอกผู้ว่าฯ แล้วเมื่อไรประชาชนจะได้รับการช่วยเหลือ นอกจากนั้น การทำงานที่เป็นเอกภาพ มีรัฐมนตรี มีผู้ว่าฯ ทำให้ประชาชนเห็นแล้ว เกิดความเชื่อมั่น เราต้องเป็นขวัญกำลังใจให้ประชาชน ไม่ใช่ว่ากระโดดไปคนละทิศละทาง แล้วประชาชนจะเอาอะไรมาเชื่อมั่นเรา" โฆษกกระทรวงมหาดไทย อธิบาย .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1056 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กินเจตะกั่วป่า2567 อิ้วเก้งรอบเมืองเก่าตะกั่วป่า (แห่พระใหญ่6ค่ำ)
    #กินเจ #กินผัก #กินเจตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า #กินเจ2567 #กินผัก2567 #กินผักตะกั่วป่า2567 #Thaitimes
    YouTube: https://youtu.be/5k-yGaFvEik?si=o1JQFz1jSUIzwyDJ
    #กินเจตะกั่วป่า2567 อิ้วเก้งรอบเมืองเก่าตะกั่วป่า (แห่พระใหญ่6ค่ำ) #กินเจ #กินผัก #กินเจตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า #กินเจ2567 #กินผัก2567 #กินผักตะกั่วป่า2567 #Thaitimes YouTube: https://youtu.be/5k-yGaFvEik?si=o1JQFz1jSUIzwyDJ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 615 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กินเจตะกั่วป่า2567 แห่พระจีนรอบตลาดย่านยาว ตะกั่วป่า ศาลเจ้ากู่ใช่ตึ๋ง โรงพระตลาดเหนือ
    #กินเจ #กินผัก #กินเจตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า #กินผัก2567 #กินเจ2567 #Thaitimes
    YouTube: https://youtu.be/lGT4sI9jakE?si=eZjkFxkLGEUkqrxI
    #กินเจตะกั่วป่า2567 แห่พระจีนรอบตลาดย่านยาว ตะกั่วป่า ศาลเจ้ากู่ใช่ตึ๋ง โรงพระตลาดเหนือ #กินเจ #กินผัก #กินเจตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า #กินผัก2567 #กินเจ2567 #Thaitimes YouTube: https://youtu.be/lGT4sI9jakE?si=eZjkFxkLGEUkqrxI
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 0 รีวิว
  • #พรุ่งนี้วันพระ
    #thaitimes
    #ผัดมะเขือยาว
    #อาหารเจ
    #กินเจ
    #พรุ่งนี้วันพระ #thaitimes #ผัดมะเขือยาว #อาหารเจ #กินเจ
    Like
    Love
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • กินเจ 2567 อิ่มบุญ ได้สุขภาพ ✨
    ✅ สปาฟู้ด วัตถุดิบที่ใช้แทนเนื้อสัตว์ นำมาประกอบอาหาร รสชาติดี ได้โปรตีนและสุขภาพ
    ✅ แยมอิ่มใจ ไม่ใส่น้ำตาล สารกันเสีย สารเติมแต่งแต่อย่างใด กระบวนการใช้ผลไม้ล้วน จึงมั่นใจว่าทานแล้วได้แต่เนื้อและความหวานของผลไม้
    ✅ข้าวไรซ์เบอร์รี่อบกรอบ ตรา ข้าวอบกรอบสยาม ด้วยตัวข้าวจากไรช์เบอร์รี่ และธัญพืช ไม่เหนียว เคี้ยวเพลิน อร่อยได้สุขภาพ
    ✅ ไชโป้วหวาน ตรา แม่ตังกวย อร่อยโดยไม่ต้องปรุง ด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ สะอาด มีความหวานกรอบ ปรุงกับอะไรก็อร่อย รสชาติกลมกล่อม
    ✅เกลือชมพู หิมาลายัน เป็นเกลือที่มีรสชาติกลมกล่อม และมีแร่ธาตุที่จำเป็นกับร่างกายมาก เหมาะกับนำมาปรุงรสให้ได้ความกลมกล่อมและได้สุขภาพ
    🛒สนใจสั่งซื้อ Inbox ได้เลยค่า^^
    พอดี คอลเซ็นเตอร์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00-20:00 น. โทร 02-6335353
    line official : @linepordee
    website : pordee.com
    #กินเจ #งดเนื้อสัตว์ #เทศกาลกินเจ2567 #ทำบุญ #สุขภาพ #อาหารเจ #รีวิว #พอดีโปรดักส์ #พอดีส่งสุขภาพดีให้คุณถึงบ้าน #คุณสั่งเราส่ง
    กินเจ 2567 อิ่มบุญ ได้สุขภาพ ✨ ✅ สปาฟู้ด วัตถุดิบที่ใช้แทนเนื้อสัตว์ นำมาประกอบอาหาร รสชาติดี ได้โปรตีนและสุขภาพ ✅ แยมอิ่มใจ ไม่ใส่น้ำตาล สารกันเสีย สารเติมแต่งแต่อย่างใด กระบวนการใช้ผลไม้ล้วน จึงมั่นใจว่าทานแล้วได้แต่เนื้อและความหวานของผลไม้ ✅ข้าวไรซ์เบอร์รี่อบกรอบ ตรา ข้าวอบกรอบสยาม ด้วยตัวข้าวจากไรช์เบอร์รี่ และธัญพืช ไม่เหนียว เคี้ยวเพลิน อร่อยได้สุขภาพ ✅ ไชโป้วหวาน ตรา แม่ตังกวย อร่อยโดยไม่ต้องปรุง ด้วยวัตถุดิบที่สดใหม่ สะอาด มีความหวานกรอบ ปรุงกับอะไรก็อร่อย รสชาติกลมกล่อม ✅เกลือชมพู หิมาลายัน เป็นเกลือที่มีรสชาติกลมกล่อม และมีแร่ธาตุที่จำเป็นกับร่างกายมาก เหมาะกับนำมาปรุงรสให้ได้ความกลมกล่อมและได้สุขภาพ 🛒สนใจสั่งซื้อ Inbox ได้เลยค่า^^ พอดี คอลเซ็นเตอร์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00-20:00 น. โทร 02-6335353 line official : @linepordee website : pordee.com #กินเจ #งดเนื้อสัตว์ #เทศกาลกินเจ2567 #ทำบุญ #สุขภาพ #อาหารเจ #รีวิว #พอดีโปรดักส์ #พอดีส่งสุขภาพดีให้คุณถึงบ้าน #คุณสั่งเราส่ง
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 585 มุมมอง 0 รีวิว
  • เตรียมเชือดตำรวจ นำขบวนรถวีไอพี ครองถนนมอเตอร์เวย์
    .
    เมื่อปี 2566 เคยเกิดกรณีตำรวจไทยบริการเป็นรถนำขบวนให้กับนักท่องเที่ยวจีนจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนทำให้ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเวลานั้น แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรง และดำเนินคดีอาญากับตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 นาย ซึ่งปัจจุบันเรื่องดังกล่าวได้เงียบหายไปแล้ว แต่ตอนนี้ได้เกิดกรณีใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว ภายหลังมีคลิปเหตุการณ์บนถนนมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ซึ่งมาจากการเผยแพร่ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ขณะพบตำรวจขี่มอเตอร์ไซค์ปิดขบวนประกบให้กับขบวนรถหรูซูเปอร์คาร์ โดยไม่ยินยอมให้ประชาชนคนอื่นๆขับรถผ่านไปได้
    .
    จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำซากนั้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ระบุว่า พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงได้รายงานเบื้องต้นแล้ว จึงได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว หากพบว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน
    .
    ทั้งนี้ มีรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับการตรวจสอบกรณีดังกล่าวว่า ตำรวจทางหลวงนำรถขบวนรถหรูดังกล่าวโดยใช้เส้นทางถนนมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา เพื่อไปงานเดินเดิ่นโคราช เทศกาลกินเจ ชมรถหรู ดูดนตรี ที่นครราชสีมา โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชั้นประทวนเป็นผู้นำขบวนและไม่ได้มีการแจ้งไปยังต้นสังกัด จึงได้สั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมพิจารณาโทษฑัณฑ์
    .
    อย่างไรก็ตาม ได้มีการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยให้มาช่วยราชการที่ ศปก.สถานีตำรวจทางหลวง 1 พร้อมกับตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อลงโทษทางวินัยต่อไป
    ..............
    Sondhi X
    เตรียมเชือดตำรวจ นำขบวนรถวีไอพี ครองถนนมอเตอร์เวย์ . เมื่อปี 2566 เคยเกิดกรณีตำรวจไทยบริการเป็นรถนำขบวนให้กับนักท่องเที่ยวจีนจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จนทำให้ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติในเวลานั้น แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรง และดำเนินคดีอาญากับตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 4 นาย ซึ่งปัจจุบันเรื่องดังกล่าวได้เงียบหายไปแล้ว แต่ตอนนี้ได้เกิดกรณีใหม่ขึ้นมาอีกแล้ว ภายหลังมีคลิปเหตุการณ์บนถนนมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา ซึ่งมาจากการเผยแพร่ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ขณะพบตำรวจขี่มอเตอร์ไซค์ปิดขบวนประกบให้กับขบวนรถหรูซูเปอร์คาร์ โดยไม่ยินยอมให้ประชาชนคนอื่นๆขับรถผ่านไปได้ . จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำซากนั้น พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ระบุว่า พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผู้บังคับการตำรวจทางหลวงได้รายงานเบื้องต้นแล้ว จึงได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว หากพบว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน . ทั้งนี้ มีรายงานเบื้องต้นเกี่ยวกับการตรวจสอบกรณีดังกล่าวว่า ตำรวจทางหลวงนำรถขบวนรถหรูดังกล่าวโดยใช้เส้นทางถนนมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา เพื่อไปงานเดินเดิ่นโคราช เทศกาลกินเจ ชมรถหรู ดูดนตรี ที่นครราชสีมา โดยพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชั้นประทวนเป็นผู้นำขบวนและไม่ได้มีการแจ้งไปยังต้นสังกัด จึงได้สั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมพิจารณาโทษฑัณฑ์ . อย่างไรก็ตาม ได้มีการสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยให้มาช่วยราชการที่ ศปก.สถานีตำรวจทางหลวง 1 พร้อมกับตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อลงโทษทางวินัยต่อไป .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1077 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กินเจตะกั่วป่า2567 บรรยากาศ 4ค่ำ พระจีนออกแห่ตลาดย่านยาว ตะกั่วป่า โรงพระตลาดใต้
    #กินเจตะกั่วป่า #กินเจ #กินเจ2567 #กินผักตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า2567 #กินผัก #Thaitimes
    YouTube: https://youtu.be/X_vvU2KxV6g?si=1mp3l_VMxhec0gPc
    #กินเจตะกั่วป่า2567 บรรยากาศ 4ค่ำ พระจีนออกแห่ตลาดย่านยาว ตะกั่วป่า โรงพระตลาดใต้ #กินเจตะกั่วป่า #กินเจ #กินเจ2567 #กินผักตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า2567 #กินผัก #Thaitimes YouTube: https://youtu.be/X_vvU2KxV6g?si=1mp3l_VMxhec0gPc
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 847 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยข้อมูล
    น้ำท่วมไทยปี 2567 นี้ คาดราคาผัก ข้าว และ ผลไม้
    ในไตรมาส 4/2567

    🚩แนวโน้ม ราคาผัก ยังปรับตัวสูงขึ้น ประมาณ 8%
    (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน) จากสถานการณ์
    น้ำท่วมเกือบทุกภาค ทำให้ผลผลิตเสียหาย
    รวมทั้ง เดือน ตุลาคม เป็นเทศกาลกินเจ ส่งผลให้
    ราคาผักปรับตัวสูงขึ้น

    🚩ส่วนราคาข้าว ปรับตัวลดลง -10% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน)
    จากปัจจัยอินเดียกลับมาส่งออกข้าวอีกครั้ง

    🚩ในขณะที่ราคาผลไม้ ปรับตัวลดลง -5% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน)
    จากปัจจัยฤดูกาล

    ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ราคาผักข้าวผลไม้ #thaitimes
    💥💥ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยข้อมูล น้ำท่วมไทยปี 2567 นี้ คาดราคาผัก ข้าว และ ผลไม้ ในไตรมาส 4/2567 🚩แนวโน้ม ราคาผัก ยังปรับตัวสูงขึ้น ประมาณ 8% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน) จากสถานการณ์ น้ำท่วมเกือบทุกภาค ทำให้ผลผลิตเสียหาย รวมทั้ง เดือน ตุลาคม เป็นเทศกาลกินเจ ส่งผลให้ ราคาผักปรับตัวสูงขึ้น 🚩ส่วนราคาข้าว ปรับตัวลดลง -10% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน) จากปัจจัยอินเดียกลับมาส่งออกข้าวอีกครั้ง 🚩ในขณะที่ราคาผลไม้ ปรับตัวลดลง -5% (เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกัน) จากปัจจัยฤดูกาล ที่มา : ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #หุ้นติดดอย #การลงทุน #ราคาผักข้าวผลไม้ #thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 845 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กินเจตะกั่วป่า2567 โก้ยห่าน (ข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์) คืน 3 ค่ำ อ๊ามเหนือ, อ๊ามใต้
    #กินเจ #กินเจตะกั่วป่า #กินผัก #กินผักตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า2567 #กินเจ2567 #Thaitimes
    YouTube: https://youtu.be/-AoxSUu0CF0?si=4eMSlnbcy6SbrzxD
    #กินเจตะกั่วป่า2567 โก้ยห่าน (ข้ามสะพานสะเดาะเคราะห์) คืน 3 ค่ำ อ๊ามเหนือ, อ๊ามใต้ #กินเจ #กินเจตะกั่วป่า #กินผัก #กินผักตะกั่วป่า #กินผักตะกั่วป่า2567 #กินเจ2567 #Thaitimes YouTube: https://youtu.be/-AoxSUu0CF0?si=4eMSlnbcy6SbrzxD
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 937 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยำผลไม้ มื้อเย็นควรเลี่ยงอาหารหนัก

    #มื้อเย็น
    #กินเจ
    #ยำผลไม้
    #thaitimes
    ยำผลไม้ มื้อเย็นควรเลี่ยงอาหารหนัก #มื้อเย็น #กินเจ #ยำผลไม้ #thaitimes
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 831 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimes
    #กลอน
    #บทกวี
    #ท่านจันทร์
    #รักธรรมะ
    #กินเจ

    บทกวีโดยท่านจันทร์
    #thaitimes #กลอน #บทกวี #ท่านจันทร์ #รักธรรมะ #กินเจ บทกวีโดยท่านจันทร์
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 883 มุมมอง 0 รีวิว
  • มื้อเช้าคือมื้อสำคัญที่สุดของวัน ขอเชิญชวนทุกคนกินเจในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กัน

    ข้าวอบธัญพืช ซุปใสใส่แครอต และเครื่องเคียงแตงกวาดองกับสับปะรด

    #มื้อเช้า
    #อาหารเจ
    #อาหารชุด
    #กินเจ
    #เทศกาลเจ
    #thaitimes

    มื้อเช้าคือมื้อสำคัญที่สุดของวัน ขอเชิญชวนทุกคนกินเจในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์กัน ข้าวอบธัญพืช ซุปใสใส่แครอต และเครื่องเคียงแตงกวาดองกับสับปะรด #มื้อเช้า #อาหารเจ #อาหารชุด #กินเจ #เทศกาลเจ #thaitimes
    Like
    Yay
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 895 มุมมอง 0 รีวิว
  • #กินเจ
    #เสวนา
    #thaitimes
    #หมอวิชัย
    #กินเจ #เสวนา #thaitimes #หมอวิชัย
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 819 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimes
    #กลอน
    #บทกวี
    #กินเจ
    #รักธรรมะ
    #ท่านจันทร์
    #thaitimes #กลอน #บทกวี #กินเจ #รักธรรมะ #ท่านจันทร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 862 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts