• รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar

    นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่”
    เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้
    https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears

    “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time
    ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why

    สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN
    ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children

    อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน
    รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data

    หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน
    งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที
    https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions

    Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่
    สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา
    https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform

    กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง
    กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware

    วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ
    ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี
    https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time

    รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด
    รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech

    Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11
    ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store

    Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย
    เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
    https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia

    Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย
    แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที
    https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams

    EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware
    สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน
    https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition

    Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่
    Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce
    https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm

    พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools

    iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ
    Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย
    https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone

    AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต
    บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it

    YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย
    Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น
    https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades

    Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด
    Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง
    https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia

    แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้
    มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data

    AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก
    AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp

    Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว
    Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง
    https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition

    อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์
    ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ
    https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud

    สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI
    รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ
    https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china

    ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด
    OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is

    AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน
    รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย
    https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims

    ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง”
    OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar 📰 นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่” เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears 👥 “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why 🔒 สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children 🇮🇳 อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data ⚠️ หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions 🛡️ Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่ สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform 💻 กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware 💾 วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time 🌐 รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech 🎨 Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11 ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store 📰 Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia 🤖 Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams ⚖️ EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition 💵 Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce 🔗 https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm 🛡️ พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools 📱 iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย 🔗 https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone 🤖 AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it 📺 YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades 💻 Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia 🛡️ แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้ มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data 🖥️ AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp 💻 Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition ⚖️ อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์ ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud 🌐 สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china 🤖 ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is 🧑‍💻 AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims 🤖 ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง” OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251213 #securityonline

    Core Banking System Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Fineract
    เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยในระบบธนาคารดิจิทัล Apache Fineract ที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีช่องโหว่หลักคือ IDOR (Insecure Direct Object Reference) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนพารามิเตอร์ เช่น user ID หรือ account number เพื่อเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าคนอื่นได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ นอกจากนี้ยังพบปัญหานโยบายรหัสผ่านที่อ่อนแอ และการเก็บ server key ที่ไม่ถูกป้องกันอย่างเหมาะสม ทีม Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้อัปเกรดเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
    https://securityonline.info/core-banking-system-flaw-apache-fineract-idor-risks-authorization-bypass-customer-data-access

    React Patches Two New Flaws: ช่องโหว่ใหม่ใน React Server Components
    หลังจากที่ React เพิ่งแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงไปไม่นาน นักวิจัยก็พบช่องโหว่ใหม่อีกสองรายการ ช่องโหว่แรกคือการโจมตีแบบ DoS ที่สามารถทำให้เซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานได้ทันทีด้วยการส่ง request ที่ออกแบบมาเฉพาะ ส่วนอีกช่องโหว่หนึ่งคือการเปิดเผย source code ของ server function ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง แม้จะไม่ถึงขั้นยึดระบบได้ แต่ก็ถือว่าเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลภายใน ทีม React ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้วและแนะนำให้อัปเดตทันที
    https://securityonline.info/react-patches-two-new-flaws-risking-server-crashing-dos-and-source-code-disclosure

    Farewell, Tabs: Google เปิดตัวเบราว์เซอร์ AI ชื่อ Disco
    Google Labs กำลังทดลองเบราว์เซอร์ใหม่ชื่อ Disco ที่ใช้ AI มาช่วยจัดการแท็บและสร้าง web apps แบบโต้ตอบได้ทันที จุดเด่นคือระบบ GenTab ที่สามารถเปลี่ยนข้อมูลจากเว็บให้กลายเป็น Progressive Web Apps เช่น การสร้าง itinerary ที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้เหมือนแอปจริงๆ เบราว์เซอร์นี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบบน macOS และเปิดให้ลงชื่อเข้าร่วมใน waitlist เท่านั้น ถือเป็นการทดลองที่อาจเปลี่ยนวิธีการใช้งานเว็บในอนาคต
    https://securityonline.info/farewell-tabs-googles-experimental-disco-browser-generates-web-apps-with-ai

    YouTube TV Plans: สตรีมมิ่งกำลังกลับไปเป็นเคเบิลอีกครั้ง
    YouTube TV ประกาศว่าจะปรับรูปแบบการสมัครสมาชิกใหม่ในปี 2026 โดยเปลี่ยนจากแพ็กเกจรวมทั้งหมดเป็นการเลือก bundle ตามความสนใจ เช่น Sports, News หรือ Family & Entertainment ผู้ใช้สามารถเลือกเฉพาะหมวดที่ต้องการได้ ซึ่งอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายเพื่อคอนเทนต์ที่ไม่ดู อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่านี่คือการย้อนกลับไปสู่โมเดลเคเบิลทีวีในอดีตที่เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่ยืดหยุ่น
    https://securityonline.info/youtube-tvs-new-subscription-bundles-is-streaming-becoming-cable-all-over-again

    The “USB-C of AI”: Google เปิดตัว Managed Servers สำหรับ MCP Protocol
    Google ประกาศสนับสนุนเต็มรูปแบบต่อ MCP (Model Context Protocol) ที่ถูกเรียกว่า “USB-C ของ AI” เพราะเป็นมาตรฐานกลางที่ทำให้ AI เชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดย Google เปิดตัว managed servers ที่รองรับ MCP ทำให้ AI agents สามารถใช้งาน Google Maps, BigQuery และจัดการโครงสร้างพื้นฐานบน Cloud ได้โดยตรงโดยไม่ต้องสร้าง integration เอง นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AI สามารถทำงานเชิงปฏิบัติได้จริงและปลอดภัยมากขึ้น
    https://securityonline.info/the-usb-c-of-ai-is-here-google-launches-managed-servers-for-mcp-protocol

    The AI Super-App: Photoshop & Adobe Express รวมพลังกับ ChatGPT
    Adobe กำลังยกระดับการใช้งาน AI โดยการรวม Photoshop และ Adobe Express เข้ากับ ChatGPT ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้านการออกแบบและแก้ไขภาพได้ด้วยข้อความ เช่น การปรับแต่งรูปภาพหรือสร้างงานกราฟิกใหม่โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมแยกต่างหาก นี่คือการก้าวสู่ “AI Super-App” ที่รวมเครื่องมือสร้างสรรค์เข้ากับระบบสนทนาอัจฉริยะ เพื่อให้การทำงานด้านครีเอทีฟเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น
    https://securityonline.info/the-ai-super-app-rises-photoshop-adobe-express-integrate-into-chatgpt

    The IP Wall Falls: Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI
    Disney สร้างความฮือฮาด้วยการลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI เพื่อเปิดสิทธิ์ใช้ตัวละครกว่า 200 ตัวในระบบ AI นั่นหมายความว่า AI จะสามารถเข้าถึงและใช้ตัวละครจากจักรวาล Disney ได้อย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกบันเทิงและเทคโนโลยี ที่อาจนำไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ผสมผสานระหว่าง AI และตัวละครที่คนทั่วโลกคุ้นเคย
    https://securityonline.info/the-ip-wall-falls-disney-invests-1b-in-openai-to-license-200-characters-for-ai

    OpenAI Fights Back: เปิดตัว GPT-5.2 ท้าชน Gemini 3 Pro
    OpenAI เปิดตัว GPT-5.2 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Gemini 3 Pro ของ Google จุดเด่นคือการปรับปรุงความสามารถในการ reasoning และการทำงานร่วมกับระบบภายนอกได้ดียิ่งขึ้น GPT-5.2 ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้เชิงกลยุทธ์ของ OpenAI เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโมเดลภาษา AI ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด
    https://securityonline.info/openai-fights-back-gpt-5-2-unveiled-to-rival-googles-gemini-3-pro

    Critical React2Shell Vulnerability: ช่องโหว่ใหม่โจมตีบริการ RSC ทั่วโลก
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงชื่อ React2Shell (CVE-2025-55182) ที่กำลังถูกโจมตีเพิ่มขึ้นทั่วโลก ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อบริการที่ใช้ React Server Components (RSC) โดยผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หลายองค์กรต้องเร่งอัปเดตและติดตั้งแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายรุนแรง
    https://securityonline.info/critical-react2shell-vulnerability-cve-2025-55182-analysis-surge-in-attacks-targeting-rsc-enabled-services-worldwide
    📌🔐🟣 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟣🔐📌 #รวมข่าวIT #20251213 #securityonline 🛡️ Core Banking System Flaw: ช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Fineract เรื่องนี้เป็นการเปิดเผยช่องโหว่ความปลอดภัยในระบบธนาคารดิจิทัล Apache Fineract ที่ใช้กันทั่วโลก โดยมีช่องโหว่หลักคือ IDOR (Insecure Direct Object Reference) ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนพารามิเตอร์ เช่น user ID หรือ account number เพื่อเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าคนอื่นได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ นอกจากนี้ยังพบปัญหานโยบายรหัสผ่านที่อ่อนแอ และการเก็บ server key ที่ไม่ถูกป้องกันอย่างเหมาะสม ทีม Apache ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้ว พร้อมแนะนำให้ผู้ใช้อัปเกรดเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความปลอดภัยสูงสุด 🔗 https://securityonline.info/core-banking-system-flaw-apache-fineract-idor-risks-authorization-bypass-customer-data-access ⚠️ React Patches Two New Flaws: ช่องโหว่ใหม่ใน React Server Components หลังจากที่ React เพิ่งแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงไปไม่นาน นักวิจัยก็พบช่องโหว่ใหม่อีกสองรายการ ช่องโหว่แรกคือการโจมตีแบบ DoS ที่สามารถทำให้เซิร์ฟเวอร์หยุดทำงานได้ทันทีด้วยการส่ง request ที่ออกแบบมาเฉพาะ ส่วนอีกช่องโหว่หนึ่งคือการเปิดเผย source code ของ server function ภายใต้เงื่อนไขบางอย่าง แม้จะไม่ถึงขั้นยึดระบบได้ แต่ก็ถือว่าเสี่ยงต่อการรั่วไหลของข้อมูลภายใน ทีม React ได้ออกเวอร์ชันแก้ไขแล้วและแนะนำให้อัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/react-patches-two-new-flaws-risking-server-crashing-dos-and-source-code-disclosure 🌐 Farewell, Tabs: Google เปิดตัวเบราว์เซอร์ AI ชื่อ Disco Google Labs กำลังทดลองเบราว์เซอร์ใหม่ชื่อ Disco ที่ใช้ AI มาช่วยจัดการแท็บและสร้าง web apps แบบโต้ตอบได้ทันที จุดเด่นคือระบบ GenTab ที่สามารถเปลี่ยนข้อมูลจากเว็บให้กลายเป็น Progressive Web Apps เช่น การสร้าง itinerary ที่ผู้ใช้สามารถใช้งานได้เหมือนแอปจริงๆ เบราว์เซอร์นี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบบน macOS และเปิดให้ลงชื่อเข้าร่วมใน waitlist เท่านั้น ถือเป็นการทดลองที่อาจเปลี่ยนวิธีการใช้งานเว็บในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/farewell-tabs-googles-experimental-disco-browser-generates-web-apps-with-ai 📺 YouTube TV Plans: สตรีมมิ่งกำลังกลับไปเป็นเคเบิลอีกครั้ง YouTube TV ประกาศว่าจะปรับรูปแบบการสมัครสมาชิกใหม่ในปี 2026 โดยเปลี่ยนจากแพ็กเกจรวมทั้งหมดเป็นการเลือก bundle ตามความสนใจ เช่น Sports, News หรือ Family & Entertainment ผู้ใช้สามารถเลือกเฉพาะหมวดที่ต้องการได้ ซึ่งอาจช่วยลดค่าใช้จ่ายสำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายเพื่อคอนเทนต์ที่ไม่ดู อย่างไรก็ตาม หลายคนมองว่านี่คือการย้อนกลับไปสู่โมเดลเคเบิลทีวีในอดีตที่เคยถูกวิจารณ์ว่าไม่ยืดหยุ่น 🔗 https://securityonline.info/youtube-tvs-new-subscription-bundles-is-streaming-becoming-cable-all-over-again 🔌 The “USB-C of AI”: Google เปิดตัว Managed Servers สำหรับ MCP Protocol Google ประกาศสนับสนุนเต็มรูปแบบต่อ MCP (Model Context Protocol) ที่ถูกเรียกว่า “USB-C ของ AI” เพราะเป็นมาตรฐานกลางที่ทำให้ AI เชื่อมต่อกับบริการต่างๆ ได้ง่ายขึ้น โดย Google เปิดตัว managed servers ที่รองรับ MCP ทำให้ AI agents สามารถใช้งาน Google Maps, BigQuery และจัดการโครงสร้างพื้นฐานบน Cloud ได้โดยตรงโดยไม่ต้องสร้าง integration เอง นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ AI สามารถทำงานเชิงปฏิบัติได้จริงและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-usb-c-of-ai-is-here-google-launches-managed-servers-for-mcp-protocol 🎨 The AI Super-App: Photoshop & Adobe Express รวมพลังกับ ChatGPT Adobe กำลังยกระดับการใช้งาน AI โดยการรวม Photoshop และ Adobe Express เข้ากับ ChatGPT ทำให้ผู้ใช้สามารถสั่งงานด้านการออกแบบและแก้ไขภาพได้ด้วยข้อความ เช่น การปรับแต่งรูปภาพหรือสร้างงานกราฟิกใหม่โดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมแยกต่างหาก นี่คือการก้าวสู่ “AI Super-App” ที่รวมเครื่องมือสร้างสรรค์เข้ากับระบบสนทนาอัจฉริยะ เพื่อให้การทำงานด้านครีเอทีฟเป็นเรื่องง่ายและรวดเร็วขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-ai-super-app-rises-photoshop-adobe-express-integrate-into-chatgpt 🏰 The IP Wall Falls: Disney ลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI Disney สร้างความฮือฮาด้วยการลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI เพื่อเปิดสิทธิ์ใช้ตัวละครกว่า 200 ตัวในระบบ AI นั่นหมายความว่า AI จะสามารถเข้าถึงและใช้ตัวละครจากจักรวาล Disney ได้อย่างถูกต้องตามลิขสิทธิ์ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในโลกบันเทิงและเทคโนโลยี ที่อาจนำไปสู่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ๆ ที่ผสมผสานระหว่าง AI และตัวละครที่คนทั่วโลกคุ้นเคย 🔗 https://securityonline.info/the-ip-wall-falls-disney-invests-1b-in-openai-to-license-200-characters-for-ai 🤖 OpenAI Fights Back: เปิดตัว GPT-5.2 ท้าชน Gemini 3 Pro OpenAI เปิดตัว GPT-5.2 ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ Gemini 3 Pro ของ Google จุดเด่นคือการปรับปรุงความสามารถในการ reasoning และการทำงานร่วมกับระบบภายนอกได้ดียิ่งขึ้น GPT-5.2 ถูกมองว่าเป็นการตอบโต้เชิงกลยุทธ์ของ OpenAI เพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโมเดลภาษา AI ที่กำลังแข่งขันกันอย่างดุเดือด 🔗 https://securityonline.info/openai-fights-back-gpt-5-2-unveiled-to-rival-googles-gemini-3-pro 🚨 Critical React2Shell Vulnerability: ช่องโหว่ใหม่โจมตีบริการ RSC ทั่วโลก นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบช่องโหว่ร้ายแรงชื่อ React2Shell (CVE-2025-55182) ที่กำลังถูกโจมตีเพิ่มขึ้นทั่วโลก ช่องโหว่นี้ส่งผลกระทบต่อบริการที่ใช้ React Server Components (RSC) โดยผู้โจมตีสามารถใช้ประโยชน์จากมันเพื่อเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ทำให้หลายองค์กรต้องเร่งอัปเดตและติดตั้งแพตช์เพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจสร้างความเสียหายรุนแรง 🔗 https://securityonline.info/critical-react2shell-vulnerability-cve-2025-55182-analysis-surge-in-attacks-targeting-rsc-enabled-services-worldwide
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia H200: ความต้องการล้นตลาด

    หลังจากสหรัฐฯ อนุญาตให้ส่งออก H200 GPU ไปยังจีนภายใต้กรอบที่มีค่าธรรมเนียม 25% ความต้องการจากบริษัทใหญ่ เช่น Alibaba และ ByteDance พุ่งสูงทันที จนเกินกำลังผลิตที่ Nvidia มีอยู่ในปัจจุบัน ทำให้บริษัทต้องพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อ

    ข้อจำกัดด้านการผลิต
    แม้ H200 จะเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดในตระกูล Hopper แต่กำลังการผลิตยังจำกัด เนื่องจาก Nvidia กำลังทุ่มทรัพยากรไปที่ Blackwell GPUs และ Rubin platform ซึ่งใช้เทคโนโลยีขั้นสูงกว่าและเป็นอนาคตของบริษัท การแข่งขันด้านทรัพยากรที่โรงงาน TSMC ทำให้การเพิ่มกำลังผลิต H200 ไม่ใช่เรื่องง่าย

    ความเสี่ยงด้านนโยบายและการส่งออก
    แม้สหรัฐฯ จะเปิดไฟเขียว แต่เส้นทางการส่งออกยังไม่ชัดเจน เพราะจีนยังไม่ได้อนุมัติการนำเข้าอย่างเป็นทางการ และมีการหารือว่าจะจำกัดปริมาณการซื้อของบริษัทจีนตามสัดส่วนการใช้ชิปในประเทศ เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตท้องถิ่น ความไม่แน่นอนนี้ทำให้ Nvidia ต้องระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มกำลังผลิต

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    H200 ถือเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดที่จีนสามารถเข้าถึงได้อย่างถูกกฎหมาย โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่า H20 (รุ่นเฉพาะตลาดจีน) ถึง 2–3 เท่า ทำให้ความต้องการยังคงแรง แม้จะมีความเสี่ยงด้านนโยบาย หาก Nvidia สามารถขยายการผลิตได้ จะช่วยรักษาตลาดจีนและเสริมความแข็งแกร่งของ CUDA ecosystem ในภูมิภาค

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ความต้องการสูง
    Alibaba และ ByteDance สั่งซื้อจำนวนมาก
    ความต้องการเกินกำลังผลิตปัจจุบัน

    ข้อจำกัดการผลิต
    ทรัพยากรแข่งขันกับ Blackwell และ Rubin
    กำลังการผลิตที่ TSMC มีจำกัด

    ความเสี่ยงด้านนโยบาย
    สหรัฐฯ อนุญาตส่งออกพร้อมค่าธรรมเนียม 25%
    จีนยังไม่อนุมัติการนำเข้าอย่างเป็นทางการ

    ผลกระทบเชิงบวก
    H200 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า H20 ถึง 2–3 เท่า
    เสริมความแข็งแกร่งของ CUDA ecosystem ในจีน

    คำเตือนและข้อจำกัด
    ความไม่แน่นอนด้านนโยบายจีน-สหรัฐฯ
    การแข่งขันทรัพยากรกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Nvidia

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/nvidia-weighs-expanding-h200-production-as-demand-outstrips-supply
    ⚡ Nvidia H200: ความต้องการล้นตลาด หลังจากสหรัฐฯ อนุญาตให้ส่งออก H200 GPU ไปยังจีนภายใต้กรอบที่มีค่าธรรมเนียม 25% ความต้องการจากบริษัทใหญ่ เช่น Alibaba และ ByteDance พุ่งสูงทันที จนเกินกำลังผลิตที่ Nvidia มีอยู่ในปัจจุบัน ทำให้บริษัทต้องพิจารณาเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อ 🏭 ข้อจำกัดด้านการผลิต แม้ H200 จะเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดในตระกูล Hopper แต่กำลังการผลิตยังจำกัด เนื่องจาก Nvidia กำลังทุ่มทรัพยากรไปที่ Blackwell GPUs และ Rubin platform ซึ่งใช้เทคโนโลยีขั้นสูงกว่าและเป็นอนาคตของบริษัท การแข่งขันด้านทรัพยากรที่โรงงาน TSMC ทำให้การเพิ่มกำลังผลิต H200 ไม่ใช่เรื่องง่าย 🌐 ความเสี่ยงด้านนโยบายและการส่งออก แม้สหรัฐฯ จะเปิดไฟเขียว แต่เส้นทางการส่งออกยังไม่ชัดเจน เพราะจีนยังไม่ได้อนุมัติการนำเข้าอย่างเป็นทางการ และมีการหารือว่าจะจำกัดปริมาณการซื้อของบริษัทจีนตามสัดส่วนการใช้ชิปในประเทศ เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตท้องถิ่น ความไม่แน่นอนนี้ทำให้ Nvidia ต้องระมัดระวังในการลงทุนเพิ่มกำลังผลิต 🔮 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI H200 ถือเป็นชิปที่ทรงพลังที่สุดที่จีนสามารถเข้าถึงได้อย่างถูกกฎหมาย โดยมีประสิทธิภาพสูงกว่า H20 (รุ่นเฉพาะตลาดจีน) ถึง 2–3 เท่า ทำให้ความต้องการยังคงแรง แม้จะมีความเสี่ยงด้านนโยบาย หาก Nvidia สามารถขยายการผลิตได้ จะช่วยรักษาตลาดจีนและเสริมความแข็งแกร่งของ CUDA ecosystem ในภูมิภาค 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ความต้องการสูง ➡️ Alibaba และ ByteDance สั่งซื้อจำนวนมาก ➡️ ความต้องการเกินกำลังผลิตปัจจุบัน ✅ ข้อจำกัดการผลิต ➡️ ทรัพยากรแข่งขันกับ Blackwell และ Rubin ➡️ กำลังการผลิตที่ TSMC มีจำกัด ✅ ความเสี่ยงด้านนโยบาย ➡️ สหรัฐฯ อนุญาตส่งออกพร้อมค่าธรรมเนียม 25% ➡️ จีนยังไม่อนุมัติการนำเข้าอย่างเป็นทางการ ✅ ผลกระทบเชิงบวก ➡️ H200 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า H20 ถึง 2–3 เท่า ➡️ เสริมความแข็งแกร่งของ CUDA ecosystem ในจีน ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ ความไม่แน่นอนด้านนโยบายจีน-สหรัฐฯ ⛔ การแข่งขันทรัพยากรกับผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Nvidia https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/nvidia-weighs-expanding-h200-production-as-demand-outstrips-supply
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • Huawei Kirin 9030: ก้าวใหม่ของจีน

    Huawei เปิดตัวชิป Kirin 9030 และ Kirin 9030 Pro สำหรับสมาร์ทโฟน Mate 80 โดยใช้กระบวนการผลิต SMIC N+3 ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อจาก N+1 และ N+2 (7nm-class) จุดเด่นคือสามารถเพิ่มจำนวนคอร์ได้มากขึ้น (12–14 คอร์) โดยไม่เพิ่มการใช้พลังงานมากนัก ถือเป็นการยืนยันว่าจีนยังสามารถพัฒนากระบวนการผลิตชิปได้แม้ถูกคว่ำบาตร

    เทคโนโลยี N+3: ระหว่าง 7nm และ 5nm
    แม้ SMIC ระบุว่า N+3 เป็นก้าวสู่ 5nm แต่การวิเคราะห์จาก TechInsights และ SemiAnalysis ชี้ว่า N+3 เป็นเพียงการขยายจาก 7nm-class โดยใช้เทคนิค DUV multi-patterning และ Design Technology Co-Optimization (DTCO) ไม่ใช่การกระโดดไปสู่ 5nm จริง ๆ ทำให้ประสิทธิภาพและ yield ยังตามหลังคู่แข่งระดับโลก

    ความท้าทายด้าน yield และการผลิต
    การใช้ DUV multi-patterning หลายชั้นทำให้เกิดความเสี่ยงสูงต่อ line roughness และ defect ซึ่งอาจทำให้ yield ลดลงอย่างมากเมื่อผลิตในปริมาณมาก นี่คือข้อจำกัดสำคัญที่ทำให้ SMIC ยังไม่สามารถแข่งขันกับกระบวนการ EUV ของ TSMC และ Samsung ได้

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมจีน
    แม้ N+3 ยังไม่ใช่ 5nm-class ที่แท้จริง แต่การพัฒนาแสดงให้เห็นว่า จีนยังคงสามารถก้าวหน้าในเทคโนโลยีการผลิตชิปโดยไม่พึ่งพา EUV จากต่างประเทศ ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อความพยายามสร้างความเป็นอิสระด้านเซมิคอนดักเตอร์ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลกยังคงเป็นความท้าทายใหญ่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดตัวชิปใหม่
    Kirin 9030/9030 Pro ใช้กระบวนการ SMIC N+3
    เพิ่มจำนวนคอร์เป็น 12–14 คอร์

    เทคโนโลยี N+3
    เป็นการขยายจาก 7nm-class
    ใช้ DUV multi-patterning และ DTCO

    ความท้าทาย
    Yield ต่ำจากความซับซ้อนของ DUV
    ยังไม่เทียบเท่า 5nm-class ของ TSMC/Samsung

    ผลกระทบเชิงบวก
    แสดงให้เห็นความก้าวหน้าของจีนแม้ถูกคว่ำบาตร
    ลดการพึ่งพาเทคโนโลยี EUV ต่างประเทศ

    คำเตือนและข้อจำกัด
    N+3 ยังไม่ใช่ 5nm-class ที่แท้จริง
    Yield และประสิทธิภาพยังตามหลังคู่แข่งระดับโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/huaweis-latest-mobile-is-chinas-most-advanced-process-node-to-date-despite-using-blacklisted-chipmaker-huawei-kirin-9030-mobile-soc-made-on-smic-n-3-process-but-cant-compete-with-5nm-nodes
    📱 Huawei Kirin 9030: ก้าวใหม่ของจีน Huawei เปิดตัวชิป Kirin 9030 และ Kirin 9030 Pro สำหรับสมาร์ทโฟน Mate 80 โดยใช้กระบวนการผลิต SMIC N+3 ซึ่งเป็นการพัฒนาต่อจาก N+1 และ N+2 (7nm-class) จุดเด่นคือสามารถเพิ่มจำนวนคอร์ได้มากขึ้น (12–14 คอร์) โดยไม่เพิ่มการใช้พลังงานมากนัก ถือเป็นการยืนยันว่าจีนยังสามารถพัฒนากระบวนการผลิตชิปได้แม้ถูกคว่ำบาตร ⚙️ เทคโนโลยี N+3: ระหว่าง 7nm และ 5nm แม้ SMIC ระบุว่า N+3 เป็นก้าวสู่ 5nm แต่การวิเคราะห์จาก TechInsights และ SemiAnalysis ชี้ว่า N+3 เป็นเพียงการขยายจาก 7nm-class โดยใช้เทคนิค DUV multi-patterning และ Design Technology Co-Optimization (DTCO) ไม่ใช่การกระโดดไปสู่ 5nm จริง ๆ ทำให้ประสิทธิภาพและ yield ยังตามหลังคู่แข่งระดับโลก 🔬 ความท้าทายด้าน yield และการผลิต การใช้ DUV multi-patterning หลายชั้นทำให้เกิดความเสี่ยงสูงต่อ line roughness และ defect ซึ่งอาจทำให้ yield ลดลงอย่างมากเมื่อผลิตในปริมาณมาก นี่คือข้อจำกัดสำคัญที่ทำให้ SMIC ยังไม่สามารถแข่งขันกับกระบวนการ EUV ของ TSMC และ Samsung ได้ 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมจีน แม้ N+3 ยังไม่ใช่ 5nm-class ที่แท้จริง แต่การพัฒนาแสดงให้เห็นว่า จีนยังคงสามารถก้าวหน้าในเทคโนโลยีการผลิตชิปโดยไม่พึ่งพา EUV จากต่างประเทศ ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อความพยายามสร้างความเป็นอิสระด้านเซมิคอนดักเตอร์ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลกยังคงเป็นความท้าทายใหญ่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดตัวชิปใหม่ ➡️ Kirin 9030/9030 Pro ใช้กระบวนการ SMIC N+3 ➡️ เพิ่มจำนวนคอร์เป็น 12–14 คอร์ ✅ เทคโนโลยี N+3 ➡️ เป็นการขยายจาก 7nm-class ➡️ ใช้ DUV multi-patterning และ DTCO ✅ ความท้าทาย ➡️ Yield ต่ำจากความซับซ้อนของ DUV ➡️ ยังไม่เทียบเท่า 5nm-class ของ TSMC/Samsung ✅ ผลกระทบเชิงบวก ➡️ แสดงให้เห็นความก้าวหน้าของจีนแม้ถูกคว่ำบาตร ➡️ ลดการพึ่งพาเทคโนโลยี EUV ต่างประเทศ ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ N+3 ยังไม่ใช่ 5nm-class ที่แท้จริง ⛔ Yield และประสิทธิภาพยังตามหลังคู่แข่งระดับโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/huaweis-latest-mobile-is-chinas-most-advanced-process-node-to-date-despite-using-blacklisted-chipmaker-huawei-kirin-9030-mobile-soc-made-on-smic-n-3-process-but-cant-compete-with-5nm-nodes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • ต้นแบบ Photonic Memory Latch ที่สามารถเก็บและส่งข้อมูลด้วยแสงทั้งหมด

    นักวิจัยจาก USC และมหาวิทยาลัย Wisconsin-Madison เปิดตัวต้นแบบ Photonic Memory Latch ที่สามารถเก็บและส่งข้อมูลด้วยแสงทั้งหมด ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การสร้าง Optical Processor ที่เร็วกว่าเดิมหลายสิบเท่า แต่ยังมีข้อจำกัดด้านความหนาแน่นของชิ้นส่วน

    ทีมวิจัยได้สร้างต้นแบบ Photonic Memory Latch บนแพลตฟอร์ม GlobalFoundries Fotonix ซึ่งเป็นการผลิตเชิงพาณิชย์จริง จุดเด่นคือสามารถเขียนข้อมูลด้วยแสงและเก็บสถานะได้โดยไม่ลื่นไหล ทำงานคล้ายกับ SRAM bit แต่ทั้งหมดอยู่ในโดเมนแสง ไม่ต้องแปลงกลับไปเป็นไฟฟ้าเหมือนระบบปัจจุบัน

    ความเร็วเหนือชิปอิเล็กทรอนิกส์
    การทดสอบแสดงให้เห็นว่า ความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงถึง 20 GHz และการอ่านสามารถแตะระดับ 50–60 GHz ซึ่งเร็วกว่าหน่วยความจำอิเล็กทรอนิกส์ที่มักอยู่ที่ 2–3 GHz ถึงเกือบ 20 เท่า เทคโนโลยีนี้จึงถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการสร้าง Photonic Processor ที่ทำงานด้วยแสงทั้งหมด

    ข้อจำกัดด้านความหนาแน่น
    แม้ความเร็วสูง แต่ปัญหาคือ ขนาดของชิ้นส่วน photonic ยังใหญ่กว่าทรานซิสเตอร์ CMOS หลายระดับ ทำให้ความหนาแน่นต่ำและยังไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป อย่างไรก็ตาม นักวิจัยชี้ว่ามีโอกาสนำไปใช้ในระบบที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง เช่น Data Center และ HPC (High Performance Computing)

    ผลกระทบต่ออนาคตอุตสาหกรรม
    การสร้างต้นแบบนี้บนแพลตฟอร์มเชิงพาณิชย์อย่าง GlobalFoundries แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสามารถขยายได้จริง ไม่ใช่แค่ในห้องทดลอง หากพัฒนาได้ต่อเนื่อง Photonic Memory อาจช่วยลดปัญหาคอขวดของการแปลงข้อมูลระหว่างแสงและไฟฟ้า และเปิดทางสู่ยุคใหม่ของ Optical Computing

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การสร้างต้นแบบ
    Photonic Memory Latch บน GlobalFoundries Fotonix
    ทำงานคล้าย SRAM bit แต่ใช้แสงทั้งหมด

    ความเร็วสูง
    เขียนข้อมูลได้ถึง 20 GHz
    อ่านข้อมูลได้ถึง 50–60 GHz

    ข้อจำกัด
    ขนาดชิ้นส่วนใหญ่กว่าทรานซิสเตอร์ CMOS
    ความหนาแน่นต่ำ ยังไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป

    ผลกระทบเชิงบวก
    เหมาะกับ Data Center และ HPC
    ลดคอขวดการแปลงข้อมูลระหว่างแสงและไฟฟ้า

    คำเตือนและข้อจำกัด
    ยังไม่พร้อมสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ทั่วไป
    ต้องพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาความหนาแน่น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/usc-and-us-madison-researchers-debut-foundry-made-photonic-memory-latch
    💡 ต้นแบบ Photonic Memory Latch ที่สามารถเก็บและส่งข้อมูลด้วยแสงทั้งหมด นักวิจัยจาก USC และมหาวิทยาลัย Wisconsin-Madison เปิดตัวต้นแบบ Photonic Memory Latch ที่สามารถเก็บและส่งข้อมูลด้วยแสงทั้งหมด ถือเป็นก้าวสำคัญสู่การสร้าง Optical Processor ที่เร็วกว่าเดิมหลายสิบเท่า แต่ยังมีข้อจำกัดด้านความหนาแน่นของชิ้นส่วน ทีมวิจัยได้สร้างต้นแบบ Photonic Memory Latch บนแพลตฟอร์ม GlobalFoundries Fotonix ซึ่งเป็นการผลิตเชิงพาณิชย์จริง จุดเด่นคือสามารถเขียนข้อมูลด้วยแสงและเก็บสถานะได้โดยไม่ลื่นไหล ทำงานคล้ายกับ SRAM bit แต่ทั้งหมดอยู่ในโดเมนแสง ไม่ต้องแปลงกลับไปเป็นไฟฟ้าเหมือนระบบปัจจุบัน ⚡ ความเร็วเหนือชิปอิเล็กทรอนิกส์ การทดสอบแสดงให้เห็นว่า ความเร็วในการเขียนข้อมูลสูงถึง 20 GHz และการอ่านสามารถแตะระดับ 50–60 GHz ซึ่งเร็วกว่าหน่วยความจำอิเล็กทรอนิกส์ที่มักอยู่ที่ 2–3 GHz ถึงเกือบ 20 เท่า เทคโนโลยีนี้จึงถูกมองว่าเป็น “ชิ้นส่วนที่ขาดหายไป” ของการสร้าง Photonic Processor ที่ทำงานด้วยแสงทั้งหมด 🔧 ข้อจำกัดด้านความหนาแน่น แม้ความเร็วสูง แต่ปัญหาคือ ขนาดของชิ้นส่วน photonic ยังใหญ่กว่าทรานซิสเตอร์ CMOS หลายระดับ ทำให้ความหนาแน่นต่ำและยังไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป อย่างไรก็ตาม นักวิจัยชี้ว่ามีโอกาสนำไปใช้ในระบบที่ต้องการแบนด์วิดท์สูง เช่น Data Center และ HPC (High Performance Computing) 🌐 ผลกระทบต่ออนาคตอุตสาหกรรม การสร้างต้นแบบนี้บนแพลตฟอร์มเชิงพาณิชย์อย่าง GlobalFoundries แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีสามารถขยายได้จริง ไม่ใช่แค่ในห้องทดลอง หากพัฒนาได้ต่อเนื่อง Photonic Memory อาจช่วยลดปัญหาคอขวดของการแปลงข้อมูลระหว่างแสงและไฟฟ้า และเปิดทางสู่ยุคใหม่ของ Optical Computing 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การสร้างต้นแบบ ➡️ Photonic Memory Latch บน GlobalFoundries Fotonix ➡️ ทำงานคล้าย SRAM bit แต่ใช้แสงทั้งหมด ✅ ความเร็วสูง ➡️ เขียนข้อมูลได้ถึง 20 GHz ➡️ อ่านข้อมูลได้ถึง 50–60 GHz ✅ ข้อจำกัด ➡️ ขนาดชิ้นส่วนใหญ่กว่าทรานซิสเตอร์ CMOS ➡️ ความหนาแน่นต่ำ ยังไม่เหมาะกับการใช้งานทั่วไป ✅ ผลกระทบเชิงบวก ➡️ เหมาะกับ Data Center และ HPC ➡️ ลดคอขวดการแปลงข้อมูลระหว่างแสงและไฟฟ้า ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ ยังไม่พร้อมสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ทั่วไป ⛔ ต้องพัฒนาเทคโนโลยีเพิ่มเพื่อแก้ปัญหาความหนาแน่น https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/usc-and-us-madison-researchers-debut-foundry-made-photonic-memory-latch
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ทดสอบเครื่องมือจาก ACM Research

    Intel กำลังประเมินเครื่องมือ wet etch จาก ACM Research สำหรับใช้ในกระบวนการผลิต 14A node ที่มีแผนเปิดตัวในปี 2027 เครื่องมือประเภทนี้ใช้สารเคมีในการกัดกร่อนวัสดุเพื่อสร้างลวดลายบนเวเฟอร์ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการผลิตชิป แม้การทดสอบเครื่องมือจากหลายบริษัทเป็นเรื่องปกติ แต่กรณีนี้ถูกจับตามากเพราะ ACM มีฐานการดำเนินงานใหญ่ในจีน

    ความกังวลด้านความมั่นคง
    ACM Research มีบางหน่วยงานที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำเนื่องจากความสัมพันธ์กับบริษัทจีน เช่น SMIC, CXMT และ YMTC การที่ Intel ทดสอบเครื่องมือจากบริษัทที่มีความเสี่ยงเช่นนี้ จึงถูกมองว่าอาจสร้างปัญหาด้านความมั่นคงและการเมือง โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ กำลังเข้มงวดต่อการส่งออกเทคโนโลยีไปยังจีน

    ความเชื่อมโยงกับ Lip-Bu Tan
    Lip-Bu Tan ซึ่งเพิ่งขึ้นเป็น CEO ของ Intel เคยลงทุนใน ACM Research ผ่านกองทุน Walden International และ Walden CEL Global Fund I แม้จะเป็นการลงทุนทางอ้อมและไม่ใช่การถือหุ้นใหญ่ แต่ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า Intel อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนหากตัดสินใจใช้เครื่องมือจาก ACM

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    การทดสอบนี้สะท้อนถึงความท้าทายของ Intel ในการหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมเพื่อเร่งการผลิตชิปขั้นสูง หาก Intel เลือกใช้เครื่องมือจาก ACM จริง อาจทำให้เกิดแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตร แต่ในอีกด้านหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่า จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์โลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Intel ทดสอบเครื่องมือใหม่
    เครื่องมือ wet etch จาก ACM Research
    ใช้ในกระบวนการผลิต 14A node ปี 2027

    ความเชื่อมโยงกับผู้บริหาร
    Lip-Bu Tan เคยลงทุนใน ACM ผ่าน Walden International
    แม้ไม่ใช่การถือหุ้นใหญ่ แต่สร้างข้อสงสัยเรื่องผลประโยชน์

    ความเสี่ยงด้านความมั่นคง
    ACM มีหน่วยงานถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ
    ความสัมพันธ์กับบริษัทจีน เช่น SMIC และ YMTC

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    Intel ต้องหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมเพื่อเร่งผลิตชิปขั้นสูง
    จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การใช้เครื่องมือจาก ACM อาจสร้างแรงกดดันทางการเมือง
    ความเสี่ยงต่อความมั่นคงหากมีการพึ่งพาบริษัทที่ถูกคว่ำบาตร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-tests-chipmaking-tools-from-sanctioned-china-focused-tool-maker-report-claims-move-could-raise-political-and-national-security-concerns-firm-was-backed-by-ceo-lip-bu-tans-investment-firm
    🏭 Intel ทดสอบเครื่องมือจาก ACM Research Intel กำลังประเมินเครื่องมือ wet etch จาก ACM Research สำหรับใช้ในกระบวนการผลิต 14A node ที่มีแผนเปิดตัวในปี 2027 เครื่องมือประเภทนี้ใช้สารเคมีในการกัดกร่อนวัสดุเพื่อสร้างลวดลายบนเวเฟอร์ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการผลิตชิป แม้การทดสอบเครื่องมือจากหลายบริษัทเป็นเรื่องปกติ แต่กรณีนี้ถูกจับตามากเพราะ ACM มีฐานการดำเนินงานใหญ่ในจีน ⚠️ ความกังวลด้านความมั่นคง ACM Research มีบางหน่วยงานที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำเนื่องจากความสัมพันธ์กับบริษัทจีน เช่น SMIC, CXMT และ YMTC การที่ Intel ทดสอบเครื่องมือจากบริษัทที่มีความเสี่ยงเช่นนี้ จึงถูกมองว่าอาจสร้างปัญหาด้านความมั่นคงและการเมือง โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ กำลังเข้มงวดต่อการส่งออกเทคโนโลยีไปยังจีน 👔 ความเชื่อมโยงกับ Lip-Bu Tan Lip-Bu Tan ซึ่งเพิ่งขึ้นเป็น CEO ของ Intel เคยลงทุนใน ACM Research ผ่านกองทุน Walden International และ Walden CEL Global Fund I แม้จะเป็นการลงทุนทางอ้อมและไม่ใช่การถือหุ้นใหญ่ แต่ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า Intel อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนหากตัดสินใจใช้เครื่องมือจาก ACM 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม การทดสอบนี้สะท้อนถึงความท้าทายของ Intel ในการหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมเพื่อเร่งการผลิตชิปขั้นสูง หาก Intel เลือกใช้เครื่องมือจาก ACM จริง อาจทำให้เกิดแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตร แต่ในอีกด้านหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่า จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์โลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Intel ทดสอบเครื่องมือใหม่ ➡️ เครื่องมือ wet etch จาก ACM Research ➡️ ใช้ในกระบวนการผลิต 14A node ปี 2027 ✅ ความเชื่อมโยงกับผู้บริหาร ➡️ Lip-Bu Tan เคยลงทุนใน ACM ผ่าน Walden International ➡️ แม้ไม่ใช่การถือหุ้นใหญ่ แต่สร้างข้อสงสัยเรื่องผลประโยชน์ ✅ ความเสี่ยงด้านความมั่นคง ➡️ ACM มีหน่วยงานถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ➡️ ความสัมพันธ์กับบริษัทจีน เช่น SMIC และ YMTC ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ Intel ต้องหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมเพื่อเร่งผลิตชิปขั้นสูง ➡️ จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ การใช้เครื่องมือจาก ACM อาจสร้างแรงกดดันทางการเมือง ⛔ ความเสี่ยงต่อความมั่นคงหากมีการพึ่งพาบริษัทที่ถูกคว่ำบาตร https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-tests-chipmaking-tools-from-sanctioned-china-focused-tool-maker-report-claims-move-could-raise-political-and-national-security-concerns-firm-was-backed-by-ceo-lip-bu-tans-investment-firm
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังพิจารณาอัดฉีดเงินลงทุนสูงสุดถึง 70 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปภายในประเทศ

    รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาโครงการลงทุนใหม่ในอุตสาหกรรมชิปวงเงิน 28–70 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากดำเนินการเต็มจำนวน จะมากกว่าการลงทุนโดยตรงของสหรัฐฯ ผ่าน CHIPS Act การลงทุนนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งการออกแบบและการผลิตชิปขั้นสูง ลดการพึ่งพาซัพพลายจากต่างประเทศ และแก้ปัญหาการขาดแคลนชิปที่กระทบเศรษฐกิจโลก

    ผู้เล่นหลัก: Huawei และ Cambricon
    สองบริษัทจีนที่ถูกมองว่าเป็นผู้รับเงินทุนหลักคือ Huawei และ Cambricon ซึ่งมีบทบาทสำคัญในตลาด AI และการประมวลผลขั้นสูง Huawei มีชิป Ascend สำหรับ AI inference ส่วน Cambricon กำลังเร่งการผลิต AI chip ให้ได้ถึง 500,000 ชิ้นภายในปี 2026 ทั้งสองบริษัทถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกแทน Nvidia ในตลาดจีน

    กลยุทธ์ "Whole-Nation" ของจีน
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงผลักดันแนวทาง “Whole-Nation Approach” เพื่อสร้างความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยี โดยมีมาตรการบังคับใช้ชิปที่ผลิตในประเทศอย่างน้อย 50% ในศูนย์ข้อมูล และให้เงินอุดหนุนด้านพลังงานแก่บริษัทที่ใช้ชิปจีน แม้จะมีความพยายามบังคับใช้กับงานฝึก AI แต่หลายบริษัท เช่น DeepSeek ยังเลือกใช้ Nvidia เนื่องจากประสิทธิภาพเหนือกว่า

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก
    การลงทุนครั้งนี้อาจเปลี่ยนสมดุลของตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก หากจีนสามารถเร่งพัฒนาเทคโนโลยีได้ทันกับคู่แข่งตะวันตก อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้าน yield, ความร้อน และการล้าหลังของ process node ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ จีนจึงต้องใช้ทั้งการลงทุนและนโยบายเชิงรุกเพื่อปิดช่องว่างนี้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การลงทุนมหาศาล
    วงเงิน 28–70 พันล้านดอลลาร์
    ใหญ่กว่าการลงทุนตรงของสหรัฐฯ ผ่าน CHIPS Act

    ผู้เล่นหลัก
    Huawei: ชิป Ascend สำหรับ AI
    Cambricon: ตั้งเป้าผลิต 500,000 AI chip ภายในปี 2026

    กลยุทธ์ชาติ
    Whole-Nation Approach ผลักดันการใช้ชิปในประเทศ
    บังคับใช้ชิปจีนอย่างน้อย 50% ในศูนย์ข้อมูล

    ผลกระทบเชิงบวก
    ลดการพึ่งพาต่างชาติ
    เสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี

    ความเสี่ยงและข้อจำกัด
    ปัญหาด้าน yield และความร้อนของชิปจีน
    ประสิทธิภาพยังตามหลัง Nvidia และ AMD หลายรุ่น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-mulls-usd70-billion-domestic-chip-fabrication-injection-would-be-largest-of-any-government-semiconductor-investment-huawei-and-cambricon-among-candidates-in-push-to-compete-with-nvidia-other-u-s-firms
    💰 จีนกำลังพิจารณาอัดฉีดเงินลงทุนสูงสุดถึง 70 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปภายในประเทศ รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาโครงการลงทุนใหม่ในอุตสาหกรรมชิปวงเงิน 28–70 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากดำเนินการเต็มจำนวน จะมากกว่าการลงทุนโดยตรงของสหรัฐฯ ผ่าน CHIPS Act การลงทุนนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งการออกแบบและการผลิตชิปขั้นสูง ลดการพึ่งพาซัพพลายจากต่างประเทศ และแก้ปัญหาการขาดแคลนชิปที่กระทบเศรษฐกิจโลก 🏢 ผู้เล่นหลัก: Huawei และ Cambricon สองบริษัทจีนที่ถูกมองว่าเป็นผู้รับเงินทุนหลักคือ Huawei และ Cambricon ซึ่งมีบทบาทสำคัญในตลาด AI และการประมวลผลขั้นสูง Huawei มีชิป Ascend สำหรับ AI inference ส่วน Cambricon กำลังเร่งการผลิต AI chip ให้ได้ถึง 500,000 ชิ้นภายในปี 2026 ทั้งสองบริษัทถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกแทน Nvidia ในตลาดจีน ⚙️ กลยุทธ์ "Whole-Nation" ของจีน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงผลักดันแนวทาง “Whole-Nation Approach” เพื่อสร้างความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยี โดยมีมาตรการบังคับใช้ชิปที่ผลิตในประเทศอย่างน้อย 50% ในศูนย์ข้อมูล และให้เงินอุดหนุนด้านพลังงานแก่บริษัทที่ใช้ชิปจีน แม้จะมีความพยายามบังคับใช้กับงานฝึก AI แต่หลายบริษัท เช่น DeepSeek ยังเลือกใช้ Nvidia เนื่องจากประสิทธิภาพเหนือกว่า 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก การลงทุนครั้งนี้อาจเปลี่ยนสมดุลของตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก หากจีนสามารถเร่งพัฒนาเทคโนโลยีได้ทันกับคู่แข่งตะวันตก อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้าน yield, ความร้อน และการล้าหลังของ process node ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ จีนจึงต้องใช้ทั้งการลงทุนและนโยบายเชิงรุกเพื่อปิดช่องว่างนี้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การลงทุนมหาศาล ➡️ วงเงิน 28–70 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ใหญ่กว่าการลงทุนตรงของสหรัฐฯ ผ่าน CHIPS Act ✅ ผู้เล่นหลัก ➡️ Huawei: ชิป Ascend สำหรับ AI ➡️ Cambricon: ตั้งเป้าผลิต 500,000 AI chip ภายในปี 2026 ✅ กลยุทธ์ชาติ ➡️ Whole-Nation Approach ผลักดันการใช้ชิปในประเทศ ➡️ บังคับใช้ชิปจีนอย่างน้อย 50% ในศูนย์ข้อมูล ✅ ผลกระทบเชิงบวก ➡️ ลดการพึ่งพาต่างชาติ ➡️ เสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ‼️ ความเสี่ยงและข้อจำกัด ⛔ ปัญหาด้าน yield และความร้อนของชิปจีน ⛔ ประสิทธิภาพยังตามหลัง Nvidia และ AMD หลายรุ่น https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-mulls-usd70-billion-domestic-chip-fabrication-injection-would-be-largest-of-any-government-semiconductor-investment-huawei-and-cambricon-among-candidates-in-push-to-compete-with-nvidia-other-u-s-firms
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • Rivian เปิดตัวชิป RAP1 และแพลตฟอร์ม ACM3

    Rivian ประกาศเปิดตัว Rivian Autonomy Processor (RAP1) ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบเอง ใช้สถาปัตยกรรม Armv9 พร้อม 14 คอร์ Cortex-A720AE ผลิตบนเทคโนโลยี 5nm จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อผ่าน RivLink ที่สามารถขยายกำลังประมวลผลโดยเพิ่มชิปอื่นเข้ามาได้ RAP1 ถูกนำมาใช้ใน Autonomy Compute Module 3 (ACM3) ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์สำหรับการขับขี่อัตโนมัติ

    จุดแข็งเหนือ Tesla: รองรับ LiDAR
    ACM3 สามารถประมวลผลได้ถึง 1,800 TOPS ของการ inference แบบ INT8 และรองรับการประมวลผลภาพจากกล้องถึง 5 พันล้านพิกเซลต่อวินาที ที่สำคัญคือ Rivian เลือกที่จะรองรับ LiDAR ซึ่ง Tesla ปฏิเสธการใช้ โดย Rivian มองว่า LiDAR จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับสภาพแวดล้อม และจะถูกนำมาใช้ในรถรุ่น R2 ที่จะเปิดตัวปี 2026

    ฟีเจอร์เสริม: Universal Hands Free และ Autonomy+
    สำหรับรถรุ่น R1 รุ่นที่สอง Rivian จะเพิ่มระบบ Universal Hands Free (UHF) ซึ่งเป็นผู้ช่วยขับขี่ที่ทำงานได้บนถนนกว่า 3.5 ล้านไมล์ในสหรัฐฯ และแคนาดา ไม่จำกัดเฉพาะทางด่วน นอกจากนี้ยังมีบริการ Autonomy+ ที่คิดค่าบริการแบบครั้งเดียว $2,500 หรือสมัครสมาชิก $49.99 ต่อเดือน โดย Rivian ย้ำว่าเป็นระบบช่วยเพิ่มความปลอดภัย ไม่ใช่การขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ

    กลยุทธ์และอนาคต
    Rivian ยังพัฒนา Large Driving Model (LDM) ซึ่งเป็นโมเดล AI สำหรับการขับขี่ คล้ายกับ LLM ของ chatbot แต่ปรับใช้กับการตัดสินใจบนท้องถนน บริษัทตั้งเป้าไปสู่ Level 4 Autonomous Driving ในอนาคต และอาจขายเทคโนโลยีนี้ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นด้วย ถือเป็นการขยายธุรกิจจากการผลิตรถยนต์ไปสู่การขายโซลูชันเทคโนโลยี

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่
    RAP1: ชิป Armv9, 14 คอร์, 5nm
    ACM3: รองรับ 1,800 TOPS, 5 พันล้านพิกเซล/วินาที

    จุดแข็งเหนือคู่แข่ง
    รองรับ LiDAR ซึ่ง Tesla ไม่ใช้
    เตรียมใช้ในรถ R2 ปี 2026

    ฟีเจอร์เสริม
    Universal Hands Free (UHF) ครอบคลุมถนน 3.5 ล้านไมล์
    Autonomy+ บริการเสริม $2,500 หรือ $49.99/เดือน

    กลยุทธ์อนาคต
    พัฒนา Large Driving Model (LDM)
    ตั้งเป้า Level 4 Autonomous Driving

    คำเตือนและข้อจำกัด
    Autonomy+ ไม่ใช่ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ
    เทคโนโลยี LiDAR และ ACM3 ยังอยู่ระหว่างการทดสอบและ validation

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/rivian-unveils-its-own-in-house-rap1-ai-chip-and-acm3-self-driving-platform-automaker-one-ups-tesla-with-lidar-support
    🚗 Rivian เปิดตัวชิป RAP1 และแพลตฟอร์ม ACM3 Rivian ประกาศเปิดตัว Rivian Autonomy Processor (RAP1) ซึ่งเป็นชิปที่ออกแบบเอง ใช้สถาปัตยกรรม Armv9 พร้อม 14 คอร์ Cortex-A720AE ผลิตบนเทคโนโลยี 5nm จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อผ่าน RivLink ที่สามารถขยายกำลังประมวลผลโดยเพิ่มชิปอื่นเข้ามาได้ RAP1 ถูกนำมาใช้ใน Autonomy Compute Module 3 (ACM3) ซึ่งเป็นระบบคอมพิวเตอร์สำหรับการขับขี่อัตโนมัติ 🛰️ จุดแข็งเหนือ Tesla: รองรับ LiDAR ACM3 สามารถประมวลผลได้ถึง 1,800 TOPS ของการ inference แบบ INT8 และรองรับการประมวลผลภาพจากกล้องถึง 5 พันล้านพิกเซลต่อวินาที ที่สำคัญคือ Rivian เลือกที่จะรองรับ LiDAR ซึ่ง Tesla ปฏิเสธการใช้ โดย Rivian มองว่า LiDAR จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับสภาพแวดล้อม และจะถูกนำมาใช้ในรถรุ่น R2 ที่จะเปิดตัวปี 2026 💡 ฟีเจอร์เสริม: Universal Hands Free และ Autonomy+ สำหรับรถรุ่น R1 รุ่นที่สอง Rivian จะเพิ่มระบบ Universal Hands Free (UHF) ซึ่งเป็นผู้ช่วยขับขี่ที่ทำงานได้บนถนนกว่า 3.5 ล้านไมล์ในสหรัฐฯ และแคนาดา ไม่จำกัดเฉพาะทางด่วน นอกจากนี้ยังมีบริการ Autonomy+ ที่คิดค่าบริการแบบครั้งเดียว $2,500 หรือสมัครสมาชิก $49.99 ต่อเดือน โดย Rivian ย้ำว่าเป็นระบบช่วยเพิ่มความปลอดภัย ไม่ใช่การขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ 🌐 กลยุทธ์และอนาคต Rivian ยังพัฒนา Large Driving Model (LDM) ซึ่งเป็นโมเดล AI สำหรับการขับขี่ คล้ายกับ LLM ของ chatbot แต่ปรับใช้กับการตัดสินใจบนท้องถนน บริษัทตั้งเป้าไปสู่ Level 4 Autonomous Driving ในอนาคต และอาจขายเทคโนโลยีนี้ให้กับผู้ผลิตรถยนต์รายอื่นด้วย ถือเป็นการขยายธุรกิจจากการผลิตรถยนต์ไปสู่การขายโซลูชันเทคโนโลยี 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ ➡️ RAP1: ชิป Armv9, 14 คอร์, 5nm ➡️ ACM3: รองรับ 1,800 TOPS, 5 พันล้านพิกเซล/วินาที ✅ จุดแข็งเหนือคู่แข่ง ➡️ รองรับ LiDAR ซึ่ง Tesla ไม่ใช้ ➡️ เตรียมใช้ในรถ R2 ปี 2026 ✅ ฟีเจอร์เสริม ➡️ Universal Hands Free (UHF) ครอบคลุมถนน 3.5 ล้านไมล์ ➡️ Autonomy+ บริการเสริม $2,500 หรือ $49.99/เดือน ✅ กลยุทธ์อนาคต ➡️ พัฒนา Large Driving Model (LDM) ➡️ ตั้งเป้า Level 4 Autonomous Driving ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ Autonomy+ ไม่ใช่ระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ⛔ เทคโนโลยี LiDAR และ ACM3 ยังอยู่ระหว่างการทดสอบและ validation https://www.tomshardware.com/tech-industry/rivian-unveils-its-own-in-house-rap1-ai-chip-and-acm3-self-driving-platform-automaker-one-ups-tesla-with-lidar-support
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • การอัปเกรดโรงงาน TSMC ในญี่ปุ่น

    TSMC มีแผนจะอัปเกรด Fab 23 Phase 2 ในเมืองคุมาโมโตะ จากเดิมที่ตั้งใจผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี N6/N7 (6nm และ 7nm) ไปสู่ N4/N5 (4nm และ 5nm) ซึ่งถือว่าล้ำหน้ากว่าและใช้เทคโนโลยี EUV หลายชั้น การอัปเกรดนี้จะช่วยให้ลูกค้าในญี่ปุ่น เช่น Sony และผู้ผลิตรถยนต์ สามารถเข้าถึงชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นสำหรับ AI และอุปกรณ์อัจฉริยะ

    สัญญาณการชะลอการก่อสร้าง
    แม้มีแผนอัปเกรด แต่รายงานระบุว่า TSMC ได้ถอนเครื่องจักรหนักออกจากไซต์ก่อสร้าง และแจ้งซัพพลายเออร์ว่าจะไม่ต้องการเครื่องมือใหม่ในปี 2026 ซึ่งบ่งชี้ว่าการติดตั้งอุปกรณ์อาจล่าช้าออกไป การชะลอนี้อาจสะท้อนถึงการปรับแผนตามความต้องการของตลาดและลูกค้า

    ความง่ายในการอัปเกรด
    แม้เทคโนโลยี N4/N5 จะซับซ้อนกว่า N6/N7 แต่ อุปกรณ์ที่ใช้มีความคล้ายกันถึง 90% ทำให้การอัปเกรดไม่ใช่เรื่องยากมากนัก เพียงแต่ต้องเพิ่มเครื่อง EUV ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม การเคลื่อนไหวนี้สอดคล้องกับแนวโน้มทั่วโลกที่ผู้ผลิตชิปเร่งลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อตอบสนองความต้องการ AI และการประมวลผลที่ซับซ้อน

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมญี่ปุ่น
    การอัปเกรดโรงงานนี้จะช่วยให้ญี่ปุ่นมี การผลิตชิปขั้นสูงในประเทศ ลดการพึ่งพาต่างชาติ และสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการชิปประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม การชะลอการก่อสร้างอาจทำให้ตลาดญี่ปุ่นต้องรออีกหลายปีในการเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    แผนการอัปเกรดโรงงาน
    จาก N6/N7 ไปสู่ N4/N5
    รองรับลูกค้าในญี่ปุ่นที่ต้องการชิปขั้นสูง

    ความง่ายในการอัปเกรด
    อุปกรณ์คล้ายกันถึง 90%
    ต้องเพิ่มเครื่อง EUV ที่ใหญ่กว่า

    ผลกระทบเชิงบวก
    ญี่ปุ่นมีการผลิตชิปขั้นสูงในประเทศ
    สนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์

    ความเสี่ยงและคำเตือน
    การก่อสร้างชะลอ อาจไม่ติดตั้งเครื่องจักรใหม่จนถึงปี 2026
    ตลาดญี่ปุ่นอาจต้องรอการเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tmsc-ponders-upgrading-2nd-japan-fab-to-4nm-could-pave-the-way-for-more-advanced-chips-for-japanese-customers
    🏭 การอัปเกรดโรงงาน TSMC ในญี่ปุ่น TSMC มีแผนจะอัปเกรด Fab 23 Phase 2 ในเมืองคุมาโมโตะ จากเดิมที่ตั้งใจผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี N6/N7 (6nm และ 7nm) ไปสู่ N4/N5 (4nm และ 5nm) ซึ่งถือว่าล้ำหน้ากว่าและใช้เทคโนโลยี EUV หลายชั้น การอัปเกรดนี้จะช่วยให้ลูกค้าในญี่ปุ่น เช่น Sony และผู้ผลิตรถยนต์ สามารถเข้าถึงชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นสำหรับ AI และอุปกรณ์อัจฉริยะ ⏳ สัญญาณการชะลอการก่อสร้าง แม้มีแผนอัปเกรด แต่รายงานระบุว่า TSMC ได้ถอนเครื่องจักรหนักออกจากไซต์ก่อสร้าง และแจ้งซัพพลายเออร์ว่าจะไม่ต้องการเครื่องมือใหม่ในปี 2026 ซึ่งบ่งชี้ว่าการติดตั้งอุปกรณ์อาจล่าช้าออกไป การชะลอนี้อาจสะท้อนถึงการปรับแผนตามความต้องการของตลาดและลูกค้า 🔧 ความง่ายในการอัปเกรด แม้เทคโนโลยี N4/N5 จะซับซ้อนกว่า N6/N7 แต่ อุปกรณ์ที่ใช้มีความคล้ายกันถึง 90% ทำให้การอัปเกรดไม่ใช่เรื่องยากมากนัก เพียงแต่ต้องเพิ่มเครื่อง EUV ที่มีขนาดใหญ่กว่าเดิม การเคลื่อนไหวนี้สอดคล้องกับแนวโน้มทั่วโลกที่ผู้ผลิตชิปเร่งลงทุนในเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อตอบสนองความต้องการ AI และการประมวลผลที่ซับซ้อน 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมญี่ปุ่น การอัปเกรดโรงงานนี้จะช่วยให้ญี่ปุ่นมี การผลิตชิปขั้นสูงในประเทศ ลดการพึ่งพาต่างชาติ และสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการชิปประสิทธิภาพสูง อย่างไรก็ตาม การชะลอการก่อสร้างอาจทำให้ตลาดญี่ปุ่นต้องรออีกหลายปีในการเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ แผนการอัปเกรดโรงงาน ➡️ จาก N6/N7 ไปสู่ N4/N5 ➡️ รองรับลูกค้าในญี่ปุ่นที่ต้องการชิปขั้นสูง ✅ ความง่ายในการอัปเกรด ➡️ อุปกรณ์คล้ายกันถึง 90% ➡️ ต้องเพิ่มเครื่อง EUV ที่ใหญ่กว่า ✅ ผลกระทบเชิงบวก ➡️ ญี่ปุ่นมีการผลิตชิปขั้นสูงในประเทศ ➡️ สนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ ‼️ ความเสี่ยงและคำเตือน ⛔ การก่อสร้างชะลอ อาจไม่ติดตั้งเครื่องจักรใหม่จนถึงปี 2026 ⛔ ตลาดญี่ปุ่นอาจต้องรอการเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุด https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tmsc-ponders-upgrading-2nd-japan-fab-to-4nm-could-pave-the-way-for-more-advanced-chips-for-japanese-customers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • Strategy บริษัทสะสม Bitcoin ยังคงอยู่ใน Nasdaq 100

    รายงานจาก The Star ระบุว่า Strategy ซึ่งเป็นบริษัทที่เปลี่ยนจากซอฟต์แวร์มาเป็นการลงทุนใน Bitcoin ตั้งแต่ปี 2020 ยังคงรักษาตำแหน่งในดัชนี Nasdaq 100 ต่อไปในเดือนธันวาคม 2025 แม้ราคาหุ้นจะผันผวนตามการเคลื่อนไหวของ Bitcoin อย่างมาก.

    นักวิเคราะห์บางรายตั้งคำถามว่าโมเดลธุรกิจของ Strategy ที่เน้นการซื้อและถือครอง Bitcoin นั้นใกล้เคียงกับกองทุนลงทุนมากกว่าบริษัทเทคโนโลยีทั่วไป และมีความเสี่ยงสูงต่อความผันผวนของตลาดคริปโต. อย่างไรก็ตาม การที่ Strategy ยังคงอยู่ใน Nasdaq 100 แสดงให้เห็นถึงมูลค่าตลาดที่ยังคงแข็งแกร่ง.

    ดัชนี Nasdaq 100 มีการปรับเปลี่ยนรายชื่อบริษัท โดยบางบริษัทถูกถอดออก เช่น Biogen และ Lululemon Athletica ขณะที่บริษัทใหม่ ๆ เช่น Seagate Technology และ Western Digital ถูกเพิ่มเข้ามา แต่ Strategy ยังคงอยู่ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด.

    นอกจากนี้ MSCI ผู้จัดทำดัชนีระดับโลกยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการมีอยู่ของบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในดัชนี และจะตัดสินใจในเดือนมกราคม 2026 ว่าจะถอด Strategy และบริษัทลักษณะเดียวกันออกจากดัชนีหรือไม่.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Strategy ยังคงอยู่ใน Nasdaq 100
    เดิมเป็น MicroStrategy ก่อน pivot มาลงทุน Bitcoin
    ราคาหุ้นผันผวนตามการเคลื่อนไหวของ Bitcoin

    การปรับเปลี่ยนดัชนี Nasdaq 100
    บริษัทบางรายถูกถอดออก เช่น Biogen, Lululemon
    บริษัทใหม่ เช่น Seagate และ Western Digital ถูกเพิ่มเข้ามา

    ความกังวลจากนักวิเคราะห์และ MSCI
    โมเดลธุรกิจคล้ายกองทุนมากกว่าบริษัทเทคโนโลยี
    MSCI อาจพิจารณาถอดออกจากดัชนีในปี 2026

    ข้อควรระวังสำหรับนักลงทุน
    หุ้น Strategy มีความเสี่ยงสูงจากความผันผวนของ Bitcoin
    การเปลี่ยนแปลงดัชนีในอนาคตอาจกระทบต่อมูลค่าการลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/13/bitcoin-hoarder-company-strategy-remains-in-nasdaq-100
    💹 Strategy บริษัทสะสม Bitcoin ยังคงอยู่ใน Nasdaq 100 รายงานจาก The Star ระบุว่า Strategy ซึ่งเป็นบริษัทที่เปลี่ยนจากซอฟต์แวร์มาเป็นการลงทุนใน Bitcoin ตั้งแต่ปี 2020 ยังคงรักษาตำแหน่งในดัชนี Nasdaq 100 ต่อไปในเดือนธันวาคม 2025 แม้ราคาหุ้นจะผันผวนตามการเคลื่อนไหวของ Bitcoin อย่างมาก. นักวิเคราะห์บางรายตั้งคำถามว่าโมเดลธุรกิจของ Strategy ที่เน้นการซื้อและถือครอง Bitcoin นั้นใกล้เคียงกับกองทุนลงทุนมากกว่าบริษัทเทคโนโลยีทั่วไป และมีความเสี่ยงสูงต่อความผันผวนของตลาดคริปโต. อย่างไรก็ตาม การที่ Strategy ยังคงอยู่ใน Nasdaq 100 แสดงให้เห็นถึงมูลค่าตลาดที่ยังคงแข็งแกร่ง. ดัชนี Nasdaq 100 มีการปรับเปลี่ยนรายชื่อบริษัท โดยบางบริษัทถูกถอดออก เช่น Biogen และ Lululemon Athletica ขณะที่บริษัทใหม่ ๆ เช่น Seagate Technology และ Western Digital ถูกเพิ่มเข้ามา แต่ Strategy ยังคงอยู่ในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุด. นอกจากนี้ MSCI ผู้จัดทำดัชนีระดับโลกยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการมีอยู่ของบริษัทที่ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลในดัชนี และจะตัดสินใจในเดือนมกราคม 2026 ว่าจะถอด Strategy และบริษัทลักษณะเดียวกันออกจากดัชนีหรือไม่. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Strategy ยังคงอยู่ใน Nasdaq 100 ➡️ เดิมเป็น MicroStrategy ก่อน pivot มาลงทุน Bitcoin ➡️ ราคาหุ้นผันผวนตามการเคลื่อนไหวของ Bitcoin ✅ การปรับเปลี่ยนดัชนี Nasdaq 100 ➡️ บริษัทบางรายถูกถอดออก เช่น Biogen, Lululemon ➡️ บริษัทใหม่ เช่น Seagate และ Western Digital ถูกเพิ่มเข้ามา ✅ ความกังวลจากนักวิเคราะห์และ MSCI ➡️ โมเดลธุรกิจคล้ายกองทุนมากกว่าบริษัทเทคโนโลยี ➡️ MSCI อาจพิจารณาถอดออกจากดัชนีในปี 2026 ‼️ ข้อควรระวังสำหรับนักลงทุน ⛔ หุ้น Strategy มีความเสี่ยงสูงจากความผันผวนของ Bitcoin ⛔ การเปลี่ยนแปลงดัชนีในอนาคตอาจกระทบต่อมูลค่าการลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/13/bitcoin-hoarder-company-strategy-remains-in-nasdaq-100
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bitcoin hoarding company Strategy remains in Nasdaq 100
    Dec 12 (Reuters) - Bitcoin hoarding giant Strategy clung to its place in the Nasdaq 100 on Friday, continuing its year-long stint in the benchmark at a time where analysts have raised questions over its business model.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • “AI Slop” – คำวิจารณ์ที่ยังไร้คำนิยาม

    บทความจาก The Star ชี้ว่าแม้คำว่า AI slop จะถูกใช้แพร่หลายเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อคอนเทนต์ที่สร้างด้วย AI แต่แทบไม่มีใครให้คำจำกัดความที่ชัดเจน บางคนมองว่ามันคือ “เนื้อหาที่ผลิตซ้ำไร้คุณภาพ” เช่น spam, clickbait หรือภาพ AI ที่ดูผิดธรรมชาติ ขณะที่บางคนมองว่ามันคือ “ภัยคุกคาม” เมื่อถูกใช้สร้าง deepfake เพื่อหลอกลวงทางการเมือง.

    นักวิจารณ์บางราย เช่น Ted Gioia เปรียบ “slop art” ว่าเป็นงานที่แบนและไร้ชีวิตชีวา คล้ายกับการวิจารณ์ศิลปะใหม่ ๆ ในยุค 1950–60 ที่ถูกมองว่าไร้ค่าในตอนแรก แต่ต่อมากลับมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรม. สิ่งนี้สะท้อนว่าทุกยุคสมัยมี “ขยะ” และ “ศิลป์” ที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่.

    บทความยังยกตัวอย่างโฆษณา Coca-Cola ที่ใช้ AI สร้างภาพสัตว์ป่าเฉลิมฉลอง ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็น “AI slop” เพราะภาพมีข้อบกพร่องที่มนุษย์คงไม่ทำ แต่ในอีกด้านก็เป็นเพียงการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนและเวลา ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวง.

    สิ่งที่น่ากังวลจริง ๆ คือการใช้ AI สร้าง propaganda และ deepfake ทางการเมือง เช่นวิดีโอปลอมของ Joe Biden หรือ Donald Trump ที่ถูกเผยแพร่ในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งแม้จะถูกจับได้ว่าเป็นของปลอม แต่ก็สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ AI จะถูกใช้เพื่อบิดเบือนความจริงในระดับสังคมและการเมือง.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    คำว่า “AI slop” ถูกใช้แพร่หลายแต่ไร้นิยามชัดเจน
    บางคนมองว่าเป็น spam, clickbait, หรือภาพ AI ที่ผิดธรรมชาติ
    บางคนมองว่าเป็นภัยคุกคามเมื่อใช้สร้าง deepfake

    มุมมองจากนักวิจารณ์และสื่อ
    Ted Gioia เปรียบ slop art ว่าไร้ชีวิตชีวา คล้ายการวิจารณ์ศิลปะใหม่ในอดีต
    Scientific American ชี้ว่า “ทุกการปฏิวัติสื่อย่อมสร้างทั้งขยะและศิลป์”

    ตัวอย่างการใช้งานจริง
    โฆษณา Coca-Cola ที่ใช้ AI ถูกวิจารณ์ว่าเป็น slop แต่ไม่ได้หลอกลวง
    เพลง country ที่สร้างด้วย AI ติดอันดับ Billboard แต่ใช้สไตล์จากศิลปินจริง

    ข้อกังวลที่แท้จริง
    Deepfake ทางการเมือง เช่นวิดีโอปลอมของ Biden และ Trump
    การใช้ AI เพื่อบิดเบือนความจริงและสร้าง propaganda

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/13/opinion-everyone-complains-about-039ai-slop039-but-no-one-can-define-it
    🤖 “AI Slop” – คำวิจารณ์ที่ยังไร้คำนิยาม บทความจาก The Star ชี้ว่าแม้คำว่า AI slop จะถูกใช้แพร่หลายเพื่อแสดงความไม่พอใจต่อคอนเทนต์ที่สร้างด้วย AI แต่แทบไม่มีใครให้คำจำกัดความที่ชัดเจน บางคนมองว่ามันคือ “เนื้อหาที่ผลิตซ้ำไร้คุณภาพ” เช่น spam, clickbait หรือภาพ AI ที่ดูผิดธรรมชาติ ขณะที่บางคนมองว่ามันคือ “ภัยคุกคาม” เมื่อถูกใช้สร้าง deepfake เพื่อหลอกลวงทางการเมือง. นักวิจารณ์บางราย เช่น Ted Gioia เปรียบ “slop art” ว่าเป็นงานที่แบนและไร้ชีวิตชีวา คล้ายกับการวิจารณ์ศิลปะใหม่ ๆ ในยุค 1950–60 ที่ถูกมองว่าไร้ค่าในตอนแรก แต่ต่อมากลับมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรม. สิ่งนี้สะท้อนว่าทุกยุคสมัยมี “ขยะ” และ “ศิลป์” ที่เกิดจากเทคโนโลยีใหม่. บทความยังยกตัวอย่างโฆษณา Coca-Cola ที่ใช้ AI สร้างภาพสัตว์ป่าเฉลิมฉลอง ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าเป็น “AI slop” เพราะภาพมีข้อบกพร่องที่มนุษย์คงไม่ทำ แต่ในอีกด้านก็เป็นเพียงการใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนและเวลา ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวง. สิ่งที่น่ากังวลจริง ๆ คือการใช้ AI สร้าง propaganda และ deepfake ทางการเมือง เช่นวิดีโอปลอมของ Joe Biden หรือ Donald Trump ที่ถูกเผยแพร่ในช่วงเลือกตั้ง ซึ่งแม้จะถูกจับได้ว่าเป็นของปลอม แต่ก็สะท้อนถึงความเสี่ยงที่ AI จะถูกใช้เพื่อบิดเบือนความจริงในระดับสังคมและการเมือง. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ คำว่า “AI slop” ถูกใช้แพร่หลายแต่ไร้นิยามชัดเจน ➡️ บางคนมองว่าเป็น spam, clickbait, หรือภาพ AI ที่ผิดธรรมชาติ ➡️ บางคนมองว่าเป็นภัยคุกคามเมื่อใช้สร้าง deepfake ✅ มุมมองจากนักวิจารณ์และสื่อ ➡️ Ted Gioia เปรียบ slop art ว่าไร้ชีวิตชีวา คล้ายการวิจารณ์ศิลปะใหม่ในอดีต ➡️ Scientific American ชี้ว่า “ทุกการปฏิวัติสื่อย่อมสร้างทั้งขยะและศิลป์” ✅ ตัวอย่างการใช้งานจริง ➡️ โฆษณา Coca-Cola ที่ใช้ AI ถูกวิจารณ์ว่าเป็น slop แต่ไม่ได้หลอกลวง ➡️ เพลง country ที่สร้างด้วย AI ติดอันดับ Billboard แต่ใช้สไตล์จากศิลปินจริง ‼️ ข้อกังวลที่แท้จริง ⛔ Deepfake ทางการเมือง เช่นวิดีโอปลอมของ Biden และ Trump ⛔ การใช้ AI เพื่อบิดเบือนความจริงและสร้าง propaganda https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/13/opinion-everyone-complains-about-039ai-slop039-but-no-one-can-define-it
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: Everyone complains about 'AI slop,' but no one can define it
    The problem with this complaint is that almost no one makes the effort to define "AI slop." Is it anything produced with AI? Or any such content appearing in social media?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • Rivian เปิดตัว Custom Silicon และแพลตฟอร์ม Autonomy ใหม่

    Rivian ประกาศความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในงาน Autonomy and AI Day โดยเปิดเผยว่าได้พัฒนา custom silicon ของตัวเองเพื่อใช้ในระบบขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์และลดการพึ่งพาชิปจากผู้ผลิตรายอื่น. การพัฒนาซิลิคอนเองถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ Rivian สามารถควบคุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้อย่างใกล้ชิด.

    นอกจากนี้ Rivian ยังเผย แผนงาน LiDAR สำหรับรถรุ่น R2 ที่จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ โดย LiDAR จะถูกผสานเข้ากับกล้องและเรดาร์เพื่อสร้างระบบ perception ที่ครบถ้วนและปลอดภัยมากขึ้น. สิ่งนี้สะท้อนถึงการลงทุนอย่างจริงจังในเทคโนโลยีเซ็นเซอร์เพื่อรองรับการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ.

    อีกหนึ่งไฮไลต์คือการเปิดตัว Universal Hands-Free ซึ่งเป็นระบบช่วยขับที่สามารถใช้งานได้บนถนนหลากหลายประเภท ไม่จำกัดเฉพาะทางหลวงที่มีการทำแผนที่ไว้ล่วงหน้า. ระบบนี้จะช่วยให้ผู้ขับสามารถปล่อยมือจากพวงมาลัยได้ในสถานการณ์ที่ปลอดภัย โดยยังคงมีการตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับอยู่ตลอดเวลา.

    แพลตฟอร์ม autonomy ใหม่ยังมาพร้อมการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ต่อเนื่อง ทำให้ Rivian สามารถส่งฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้ผู้ใช้ผ่าน OTA (over-the-air updates). สิ่งนี้ทำให้รถยนต์ Rivian ไม่เพียงแต่เป็นยานพาหนะ แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาได้ตลอดอายุการใช้งาน.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Custom Silicon ของ Rivian
    พัฒนาชิปเองเพื่อรองรับระบบขับขี่อัตโนมัติ
    ลดการพึ่งพาผู้ผลิตภายนอกและเพิ่มประสิทธิภาพ

    LiDAR Roadmap สำหรับ R2
    เพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับสภาพแวดล้อม
    ผสานกับกล้องและเรดาร์เพื่อ perception ที่ครบถ้วน

    Universal Hands-Free
    ใช้งานได้บนถนนหลายประเภท ไม่จำกัดเฉพาะทางหลวง
    ตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับเพื่อความปลอดภัย

    Next-Gen Autonomy Platform
    อัปเดตซอฟต์แวร์ OTA อย่างต่อเนื่อง
    ยกระดับรถยนต์ Rivian ให้เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยี

    ข้อควรระวังและความท้าทาย
    ระบบ hands-free ยังต้องพึ่งพาการตรวจสอบผู้ขับ
    การพัฒนา LiDAR และชิปเองต้องใช้ต้นทุนสูงและเวลานาน

    https://riviantrackr.com/news/rivian-unveils-custom-silicon-r2-lidar-roadmap-universal-hands-free-and-its-next-gen-autonomy-platform/
    🚙 Rivian เปิดตัว Custom Silicon และแพลตฟอร์ม Autonomy ใหม่ Rivian ประกาศความก้าวหน้าครั้งใหญ่ในงาน Autonomy and AI Day โดยเปิดเผยว่าได้พัฒนา custom silicon ของตัวเองเพื่อใช้ในระบบขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลข้อมูลจากเซ็นเซอร์และลดการพึ่งพาชิปจากผู้ผลิตรายอื่น. การพัฒนาซิลิคอนเองถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ Rivian สามารถควบคุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ได้อย่างใกล้ชิด. นอกจากนี้ Rivian ยังเผย แผนงาน LiDAR สำหรับรถรุ่น R2 ที่จะช่วยเพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบตัวรถ โดย LiDAR จะถูกผสานเข้ากับกล้องและเรดาร์เพื่อสร้างระบบ perception ที่ครบถ้วนและปลอดภัยมากขึ้น. สิ่งนี้สะท้อนถึงการลงทุนอย่างจริงจังในเทคโนโลยีเซ็นเซอร์เพื่อรองรับการขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ. อีกหนึ่งไฮไลต์คือการเปิดตัว Universal Hands-Free ซึ่งเป็นระบบช่วยขับที่สามารถใช้งานได้บนถนนหลากหลายประเภท ไม่จำกัดเฉพาะทางหลวงที่มีการทำแผนที่ไว้ล่วงหน้า. ระบบนี้จะช่วยให้ผู้ขับสามารถปล่อยมือจากพวงมาลัยได้ในสถานการณ์ที่ปลอดภัย โดยยังคงมีการตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับอยู่ตลอดเวลา. แพลตฟอร์ม autonomy ใหม่ยังมาพร้อมการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่ต่อเนื่อง ทำให้ Rivian สามารถส่งฟีเจอร์ใหม่ ๆ ให้ผู้ใช้ผ่าน OTA (over-the-air updates). สิ่งนี้ทำให้รถยนต์ Rivian ไม่เพียงแต่เป็นยานพาหนะ แต่ยังเป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาได้ตลอดอายุการใช้งาน. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Custom Silicon ของ Rivian ➡️ พัฒนาชิปเองเพื่อรองรับระบบขับขี่อัตโนมัติ ➡️ ลดการพึ่งพาผู้ผลิตภายนอกและเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ LiDAR Roadmap สำหรับ R2 ➡️ เพิ่มความแม่นยำในการตรวจจับสภาพแวดล้อม ➡️ ผสานกับกล้องและเรดาร์เพื่อ perception ที่ครบถ้วน ✅ Universal Hands-Free ➡️ ใช้งานได้บนถนนหลายประเภท ไม่จำกัดเฉพาะทางหลวง ➡️ ตรวจสอบความพร้อมของผู้ขับเพื่อความปลอดภัย ✅ Next-Gen Autonomy Platform ➡️ อัปเดตซอฟต์แวร์ OTA อย่างต่อเนื่อง ➡️ ยกระดับรถยนต์ Rivian ให้เป็นแพลตฟอร์มเทคโนโลยี ‼️ ข้อควรระวังและความท้าทาย ⛔ ระบบ hands-free ยังต้องพึ่งพาการตรวจสอบผู้ขับ ⛔ การพัฒนา LiDAR และชิปเองต้องใช้ต้นทุนสูงและเวลานาน https://riviantrackr.com/news/rivian-unveils-custom-silicon-r2-lidar-roadmap-universal-hands-free-and-its-next-gen-autonomy-platform/
    RIVIANTRACKR.COM
    Rivian Unveils Custom Silicon, R2 LiDAR Roadmap, Universal Hands Free, and Its Next Gen Autonomy Platform
    RJ opened the first ever Autonomy and AI Day explaining why Rivian believes it is positioned to lead in this next phase of the industry. The company is leaning hard into compute, custom hardware, large scale AI systems, and a shared data foundation that touches every part of the ownership experience. Let's break it all
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • UK House of Lords พยายามห้ามเยาวชนใช้ VPN

    รายงานจาก Alec Muffett ระบุว่า สภาขุนนางแห่งสหราชอาณาจักร (UK House of Lords) กำลังพิจารณากฎหมายที่มีเป้าหมายห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN (Virtual Private Network) โดยให้เหตุผลว่าเป็นการป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย.

    อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์จำนวนมากมองว่ามาตรการนี้เป็นการ ละเมิดเสรีภาพดิจิทัล และอาจทำให้เยาวชนสูญเสียเครื่องมือสำคัญในการปกป้องความเป็นส่วนตัวออนไลน์. VPN ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเข้ารหัสการเชื่อมต่อและป้องกันการสอดส่องจากบุคคลที่สาม รวมถึงช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจำกัดทางภูมิศาสตร์.

    การห้ามใช้ VPN อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูลของเยาวชน โดยเฉพาะในยุคที่การศึกษาและการสื่อสารจำนวนมากอาศัยแพลตฟอร์มออนไลน์. นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่า กฎหมายลักษณะนี้อาจถูกใช้เป็น ข้ออ้างในการควบคุมอินเทอร์เน็ต และเปิดทางให้เกิดการเซ็นเซอร์มากขึ้น.

    นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิ์ดิจิทัลเตือนว่า หากกฎหมายนี้ผ่าน อาจเป็น แบบอย่างที่อันตราย ซึ่งประเทศอื่น ๆ อาจนำไปใช้ตาม และจะกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อเสนอจาก UK House of Lords
    ห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN
    อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยและการป้องกันเนื้อหาไม่เหมาะสม

    บทบาทของ VPN
    ช่วยเข้ารหัสการเชื่อมต่อและปกป้องความเป็นส่วนตัว
    ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจำกัดทางภูมิศาสตร์

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    เยาวชนสูญเสียเครื่องมือปกป้องข้อมูลออนไลน์
    กระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูล

    ข้อกังวลและคำเตือน
    อาจเป็นการละเมิดเสรีภาพดิจิทัลและเปิดทางให้เกิดการเซ็นเซอร์
    หากผ่านกฎหมาย อาจเป็นแบบอย่างที่ประเทศอื่นนำไปใช้ตาม

    https://alecmuffett.com/article/134925
    🛑 UK House of Lords พยายามห้ามเยาวชนใช้ VPN รายงานจาก Alec Muffett ระบุว่า สภาขุนนางแห่งสหราชอาณาจักร (UK House of Lords) กำลังพิจารณากฎหมายที่มีเป้าหมายห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN (Virtual Private Network) โดยให้เหตุผลว่าเป็นการป้องกันการเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมและการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย. อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์จำนวนมากมองว่ามาตรการนี้เป็นการ ละเมิดเสรีภาพดิจิทัล และอาจทำให้เยาวชนสูญเสียเครื่องมือสำคัญในการปกป้องความเป็นส่วนตัวออนไลน์. VPN ถือเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเข้ารหัสการเชื่อมต่อและป้องกันการสอดส่องจากบุคคลที่สาม รวมถึงช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจำกัดทางภูมิศาสตร์. การห้ามใช้ VPN อาจส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูลของเยาวชน โดยเฉพาะในยุคที่การศึกษาและการสื่อสารจำนวนมากอาศัยแพลตฟอร์มออนไลน์. นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่า กฎหมายลักษณะนี้อาจถูกใช้เป็น ข้ออ้างในการควบคุมอินเทอร์เน็ต และเปิดทางให้เกิดการเซ็นเซอร์มากขึ้น. นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิ์ดิจิทัลเตือนว่า หากกฎหมายนี้ผ่าน อาจเป็น แบบอย่างที่อันตราย ซึ่งประเทศอื่น ๆ อาจนำไปใช้ตาม และจะกระทบต่อสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อเสนอจาก UK House of Lords ➡️ ห้ามเยาวชนอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN ➡️ อ้างเหตุผลด้านความปลอดภัยและการป้องกันเนื้อหาไม่เหมาะสม ✅ บทบาทของ VPN ➡️ ช่วยเข้ารหัสการเชื่อมต่อและปกป้องความเป็นส่วนตัว ➡️ ใช้เข้าถึงข้อมูลที่ถูกจำกัดทางภูมิศาสตร์ ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ เยาวชนสูญเสียเครื่องมือปกป้องข้อมูลออนไลน์ ➡️ กระทบต่อการเรียนรู้และการเข้าถึงข้อมูล ‼️ข้อกังวลและคำเตือน ⛔ อาจเป็นการละเมิดเสรีภาพดิจิทัลและเปิดทางให้เกิดการเซ็นเซอร์ ⛔ หากผ่านกฎหมาย อาจเป็นแบบอย่างที่ประเทศอื่นนำไปใช้ตาม https://alecmuffett.com/article/134925
    ALECMUFFETT.COM
    IT GETS WORSE: UK House of Lords attempting to ban use of VPNs by anyone under 16
    This is deranged, each nation’s boomers and reactionaries attempting to outdo the others: “Action to prohibit the provision of VPN services to children in the United Kingdom” … th…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 14 มุมมอง 0 รีวิว
  • "SMIC ก้าวสู่ยุค 5 นาโนเมตรด้วย DUV"

    รายงานจาก TechInsights ยืนยันว่า Huawei Kirin 9030 SoC ถูกผลิตด้วยกระบวนการ N+3 ของ SMIC ซึ่งเป็นโหนด 5 นาโนเมตรที่ใช้เทคนิค deep ultraviolet lithography (DUV) แทน EUV ที่จีนไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะข้อจำกัดการส่งออก เทคโนโลยีนี้ถือเป็นการพัฒนาเหนือกว่าโหนด N+2 (7 นาโนเมตร) ที่เคยใช้ในชิป AI และโครงสร้างพื้นฐานของ Huawei

    เทคนิคการผลิตและข้อจำกัด
    แม้ SMIC สามารถใช้ DUV แบบหลายรอบ เช่น self-aligned quadruple patterning (SAQP) เพื่อให้ได้ความละเอียดใกล้ 35 นาโนเมตรต่อการพิมพ์ แต่ ยังมีปัญหาด้าน yield ที่สูงมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงและบางส่วนต้องลดเกรดชิปลง การใช้ DUV แทน EUV จึงเป็นการบรรลุผลทางเทคนิค แต่ยังไม่สามารถแข่งขันด้านประสิทธิภาพและต้นทุนกับผู้ผลิตรายใหญ่ที่ใช้ EUV ได้

    ความหมายต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน
    ความสำเร็จนี้สะท้อนว่า จีนสามารถเดินหน้าผลิตชิปขั้นสูงได้แม้ถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีตะวันตก ถือเป็นสัญญาณของการพึ่งพาตนเองในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ และอาจช่วยให้ Huawei และบริษัทจีนอื่น ๆ ลดการพึ่งพาต่างประเทศในด้าน AI และอุปกรณ์สื่อสาร

    ความท้าทายและอนาคต
    แม้เป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่ง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การใช้ DUV ในระดับ 5 นาโนเมตรเป็นการลงทุนที่เสี่ยงทางเศรษฐกิจ เพราะ yield ต่ำและต้นทุนสูง หากไม่สามารถพัฒนาเครื่อง EUV ในประเทศได้ จีนอาจยังคงตามหลังผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง TSMC และ Samsung ในเชิงประสิทธิภาพและความคุ้มค่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SMIC ผลิตชิป 5 นาโนเมตร (N+3) โดยใช้ DUV
    Huawei Kirin 9030 SoC เป็นตัวอย่างที่ยืนยัน

    เทคนิค SAQP และการพิมพ์หลายรอบช่วยให้บรรลุความละเอียด
    ได้ใกล้เคียง 35 นาโนเมตรต่อการพิมพ์

    ความสำเร็จสะท้อนการพึ่งพาตนเองของจีนในอุตสาหกรรมชิป
    ลดการพึ่งพาต่างประเทศในเทคโนโลยีขั้นสูง

    Yield ต่ำทำให้ต้นทุนการผลิตสูง
    ชิปบางส่วนต้องลดเกรดลง

    การใช้ DUV แทน EUV เป็นข้อจำกัดเชิงเทคนิค
    จีนยังตามหลัง TSMC และ Samsung ในด้านประสิทธิภาพ

    https://www.techpowerup.com/344000/chinese-smic-achieves-5-nm-production-on-n-3-node-without-euv-tools
    🏭 "SMIC ก้าวสู่ยุค 5 นาโนเมตรด้วย DUV" รายงานจาก TechInsights ยืนยันว่า Huawei Kirin 9030 SoC ถูกผลิตด้วยกระบวนการ N+3 ของ SMIC ซึ่งเป็นโหนด 5 นาโนเมตรที่ใช้เทคนิค deep ultraviolet lithography (DUV) แทน EUV ที่จีนไม่สามารถเข้าถึงได้เพราะข้อจำกัดการส่งออก เทคโนโลยีนี้ถือเป็นการพัฒนาเหนือกว่าโหนด N+2 (7 นาโนเมตร) ที่เคยใช้ในชิป AI และโครงสร้างพื้นฐานของ Huawei ⚙️ เทคนิคการผลิตและข้อจำกัด แม้ SMIC สามารถใช้ DUV แบบหลายรอบ เช่น self-aligned quadruple patterning (SAQP) เพื่อให้ได้ความละเอียดใกล้ 35 นาโนเมตรต่อการพิมพ์ แต่ ยังมีปัญหาด้าน yield ที่สูงมาก ทำให้ต้นทุนการผลิตสูงและบางส่วนต้องลดเกรดชิปลง การใช้ DUV แทน EUV จึงเป็นการบรรลุผลทางเทคนิค แต่ยังไม่สามารถแข่งขันด้านประสิทธิภาพและต้นทุนกับผู้ผลิตรายใหญ่ที่ใช้ EUV ได้ 🌍 ความหมายต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์จีน ความสำเร็จนี้สะท้อนว่า จีนสามารถเดินหน้าผลิตชิปขั้นสูงได้แม้ถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีตะวันตก ถือเป็นสัญญาณของการพึ่งพาตนเองในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์ และอาจช่วยให้ Huawei และบริษัทจีนอื่น ๆ ลดการพึ่งพาต่างประเทศในด้าน AI และอุปกรณ์สื่อสาร ⚠️ ความท้าทายและอนาคต แม้เป็นความก้าวหน้าที่น่าทึ่ง แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การใช้ DUV ในระดับ 5 นาโนเมตรเป็นการลงทุนที่เสี่ยงทางเศรษฐกิจ เพราะ yield ต่ำและต้นทุนสูง หากไม่สามารถพัฒนาเครื่อง EUV ในประเทศได้ จีนอาจยังคงตามหลังผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง TSMC และ Samsung ในเชิงประสิทธิภาพและความคุ้มค่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SMIC ผลิตชิป 5 นาโนเมตร (N+3) โดยใช้ DUV ➡️ Huawei Kirin 9030 SoC เป็นตัวอย่างที่ยืนยัน ✅ เทคนิค SAQP และการพิมพ์หลายรอบช่วยให้บรรลุความละเอียด ➡️ ได้ใกล้เคียง 35 นาโนเมตรต่อการพิมพ์ ✅ ความสำเร็จสะท้อนการพึ่งพาตนเองของจีนในอุตสาหกรรมชิป ➡️ ลดการพึ่งพาต่างประเทศในเทคโนโลยีขั้นสูง ‼️ Yield ต่ำทำให้ต้นทุนการผลิตสูง ⛔ ชิปบางส่วนต้องลดเกรดลง ‼️ การใช้ DUV แทน EUV เป็นข้อจำกัดเชิงเทคนิค ⛔ จีนยังตามหลัง TSMC และ Samsung ในด้านประสิทธิภาพ https://www.techpowerup.com/344000/chinese-smic-achieves-5-nm-production-on-n-3-node-without-euv-tools
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Chinese SMIC Achieves 5 nm Production on N+3 Node Without EUV Tools
    Chinese company SMIC has officially achieved volume production of its newest 5 nm-class node called SMIC N+3. This is officially China's most advanced semiconductor node produced without any extreme ultraviolet (EUV) lithography tools, relying on the deep ultraviolet (DUV) to manufacture its silicon...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251212 #TechRadar

    Adobe เปิด Photoshop ฟรีใน ChatGPT
    ตอนนี้ใครๆ ก็สามารถใช้ Photoshop ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิกเลย เพราะ Adobe ได้รวมเอา Photoshop, Express และ Acrobat เข้าไปอยู่ใน ChatGPT ให้ใช้งานฟรีทั้งหมด เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบก็จะช่วยแก้ไขภาพหรือสร้างเอกสารให้ทันที เช่น การปรับแสงสี ใส่เอฟเฟกต์ หรือแม้แต่รวมไฟล์ PDF หลายไฟล์เป็นหนึ่งเดียว จุดเด่นคือมีตัวเลือกปรับแต่งผ่านแถบควบคุม ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขได้ตามใจโดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมเต็มรูปแบบ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ ChatGPT ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างเนื้อหา แต่กลายเป็นพื้นที่ทำงานด้านการออกแบบและเอกสารครบวงจร
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/adobe-photoshop-is-now-built-into-chatgpt-for-free-and-you-dont-need-graphic-design-skills-to-use-it

    Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome
    Google ได้ปล่อยการอัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงบน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ นี่ถือเป็นครั้งที่ 8 ของปีที่บริษัทต้องแก้ Zero-Day โดยช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการหน่วยความจำใน LibANGLE ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ การอัปเดตได้ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้แล้ว และ Google ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำไปใช้ต่อ
    https://www.techradar.com/pro/security/google-releases-emergency-fix-for-yet-another-zero-day

    สายการบินรัสเซีย Aeroflot ถูกโจมตีผ่านบริษัทซอฟต์แวร์ภายนอก
    เหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ที่ทำให้สายการบิน Aeroflot ต้องหยุดบินหลายสิบเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม ถูกเปิดเผยว่าเกิดจากการโจมตีแบบ Supply Chain ผ่านบริษัท Bakka Soft ที่พัฒนาแอปและระบบให้กับสายการบิน โดยผู้โจมตีใช้ช่องโหว่ที่ไม่มีการป้องกันด้วย 2FA และติดตั้งมัลแวร์จำนวนมากในระบบ ทำให้เที่ยวบินต้องหยุดชะงักและสร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่รายงานนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก
    https://www.techradar.com/pro/security/russian-airline-hack-came-through-third-party-tech-vendor

    สวิตเซอร์แลนด์ถอยร่างกฎหมายขยายการสอดส่อง หลังถูกต้านหนัก
    รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ต้องกลับมาทบทวนร่างกฎหมายที่ต้องการขยายการสอดส่องจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น แอปแชท โซเชียลมีเดีย และ VPN หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากบริษัทเทคโนโลยีและนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ให้บริการอย่าง Proton และ Threema ชี้ว่ากฎหมายนี้จะกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและการเข้ารหัสที่ปลอดภัย แม้การถอยครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะชั่วคราว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ารัฐบาลยังคงมีความตั้งใจจะผลักดันการสอดส่องต่อไป
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/switzerland-will-revise-proposed-law-change-after-backlash-from-tech-industry

    Disney จับมือ OpenAI เปิดทางให้ Sora ใช้ตัวละครดัง
    Disney สร้างความฮือฮาด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปีร่วมกับ OpenAI เพื่อให้ Sora ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถใช้ตัวละครจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ได้ พร้อมลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI นี่ถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีครั้งใหญ่ เพราะที่ผ่านมา Disney เข้มงวดมากกับการใช้ตัวละครของตน การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ สามารถสร้างคอนเทนต์ที่มี Mickey Mouse, Elsa หรือแม้แต่ตัวละครจาก Star Wars ปรากฏในผลงาน AI ได้ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/disney-and-openai-are-set-to-open-the-vault-to-sora-yet-an-ai-mickey-feels-like-magic-lost

    Nvidia พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อติดตามชิปหลังพบการลักลอบ
    หลังจากมีการค้นพบการลักลอบขนส่งชิป Nvidia ได้ออกซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยติดตามเส้นทางการเคลื่อนไหวของชิป เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าชิปแต่ละตัวถูกส่งไปที่ใดบ้าง เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการนำชิปไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ถูกควบคุมหรือประเทศที่มีข้อจำกัดทางการค้า ถือเป็นการเสริมความปลอดภัยและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    https://www.techradar.com/pro/nvidia-develops-new-software-to-help-track-chips-following-smuggling-discovery

    Mullvad ยุติการสนับสนุน OpenVPN บนเดสก์ท็อป หันไปใช้ WireGuard แทน
    บริการ VPN ชื่อดัง Mullvad ประกาศเลิกใช้ OpenVPN บนเดสก์ท็อปทั้งหมด และบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ WireGuard ซึ่งมีความเร็วและความปลอดภัยสูงกว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเพราะ WireGuard มีโครงสร้างที่ทันสมัยและง่ายต่อการบำรุงรักษา ทำให้ Mullvad สามารถให้บริการที่เสถียรและปลอดภัยมากขึ้น แม้ผู้ใช้บางรายอาจต้องปรับตัว แต่บริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นผลดีในระยะยาว
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-retires-openvpn-support-on-desktop-pushing-all-users-to-wireguard

    ICO ปรับ LastPass 1.2 ล้านปอนด์ หลังข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล
    สำนักงานคุ้มครองข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ICO) ได้สั่งปรับ LastPass เป็นเงิน 1.2 ล้านปอนด์ จากเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้กว่า 1.6 ล้านรายถูกละเมิดในปี 2022 โดยการโจมตีเกิดจากการที่แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำรองของบริษัทผ่านบัญชีพนักงานที่ถูกเจาะ การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเป็นการเตือนให้บริษัทด้านความปลอดภัยต้องรักษามาตรฐานสูงสุด
    https://www.techradar.com/pro/security/ico-levies-gbp1-2-million-fine-against-lastpass-data-breach-compromised-info-on-1-6-million-users

    โครงสร้างพื้นฐาน HPC และ AI กำลังบรรจบกัน
    บทความนี้พูดถึงการที่โครงสร้างพื้นฐานด้าน High Performance Computing (HPC) และ AI กำลังถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น เพื่อรองรับงานที่ต้องใช้การประมวลผลมหาศาล เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก แนวโน้มนี้ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมใหม่ที่สามารถรองรับทั้งงาน HPC และ AI ได้ในระบบเดียว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน
    https://www.techradar.com/pro/hpc-and-ai-converging-infrastructures

    ค่าใช้จ่ายแฝงจากช่องว่างด้าน Cloud Sovereignty
    รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการที่หลายองค์กรยังไม่สามารถควบคุมข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์ ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงจำนวนมาก ทั้งในด้านความเสี่ยงทางกฎหมาย ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อบังคับ การขาดความเป็นอิสระในการจัดการข้อมูลทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นการกระตุ้นให้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญกับ Cloud Sovereignty มากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/quantifying-the-hidden-costs-of-cloud-sovereignty-gaps

    หุ้น Oracle ร่วงหลังเผยแผนลงทุน AI เพิ่มอีก 15 พันล้านดอลลาร์
    ราคาหุ้นของ Oracle ตกลงทันทีหลังบริษัทประกาศว่าจะเพิ่มงบลงทุนด้าน AI อีก 15 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่าการใช้จ่ายมหาศาลนี้อาจกระทบต่อผลกำไรระยะสั้น แม้บริษัทเชื่อว่าการลงทุนจะช่วยเสริมศักยภาพด้านคลาวด์และแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ได้ในอนาคต แต่ตลาดกลับตอบสนองด้วยความระมัดระวัง ทำให้หุ้นปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัด
    https://www.techradar.com/pro/oracle-shares-drop-after-usd15bn-higher-ai-spending-revealed

    แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์ของ Mimecast แจกฟิชชิ่งลิงก์นับพัน
    มีการค้นพบว่าฟีเจอร์ Secure-Link ของ Mimecast ถูกนำไปใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อส่งฟิชชิ่งอีเมลจำนวนมาก โดยฟีเจอร์ที่ควรจะช่วยป้องกันกลับถูกใช้เป็นช่องทางให้ผู้โจมตีสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลส่วนตัว การโจมตีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่แม้แต่เครื่องมือด้านความปลอดภัยก็อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-distribute-thousands-of-phishing-attacks-through-mimecasts-secure-link-feature

    OpenAI ดึงตัว CEO ของ Slack มาเป็น Chief Revenue Officer
    OpenAI ประกาศแต่งตั้ง Lidiane Jones อดีต CEO ของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการสร้างรายได้และการขยายธุรกิจ การย้ายครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะ Jones มีประสบการณ์ในการบริหารแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล และคาดว่าจะช่วยให้ OpenAI สามารถต่อยอดโมเดลธุรกิจได้อย่างมั่นคง
    https://www.techradar.com/pro/open-ai-poaches-slack-ceo-as-its-chief-revenue-officer

    ทดลองใช้ Photoshop ใน ChatGPT – ฟีเจอร์ฟรีที่ทรงพลัง
    ผู้เขียนบทความได้ลองใช้ Photoshop ที่ถูกรวมเข้ามาใน ChatGPT และพบว่ามันใช้งานง่ายมาก เพียงอัปโหลดภาพแล้วพิมพ์คำสั่ง เช่น “ทำให้ภาพเป็นขาวดำ” ระบบก็จะแสดงผลพร้อมแถบปรับความเข้มให้เลือกต่อทันที นอกจากนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น Halftone หรือ Glitch ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิก ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/i-tried-photoshop-in-chatgpt-its-an-awesome-free-ai-superpower

    Google DeepMind จับมือรัฐบาลอังกฤษเพื่อวิจัยพลังงานสะอาดและวิทยาศาสตร์
    Google DeepMind ได้ลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อพัฒนาโครงการด้านวิทยาศาสตร์และพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าที่จะใช้ AI ในการค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เชิงลึก ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงบทบาทของ AI ที่ไม่เพียงแต่ใช้ในธุรกิจ แต่ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาสำคัญระดับโลกได้
    https://www.techradar.com/pro/google-deepmind-partners-with-the-uk-government-for-science-breakthroughs-cleaner-energy

    Opera Neon เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ AI Subscription
    Opera ได้เปิดตัว Opera Neon ซึ่งเป็นบริการ AI subscription ที่มาพร้อมฟีเจอร์หลากหลายสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถเพิ่มเติมจากเบราว์เซอร์ทั่วไป ผู้เขียนบทความมองว่าบริการนี้คุ้มค่าที่จะจ่าย เพราะมันรวมเครื่องมือ AI ที่ช่วยทั้งการทำงานและความบันเทิง เช่น การสร้างคอนเทนต์ การช่วยค้นหา และการปรับแต่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ถือเป็นการยกระดับเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าเพิ่ม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neon-is-now-available-and-i-think-its-an-ai-subscription-worth-paying-for

    มือถือ Android รุ่นใหม่สำหรับคนที่คิดถึง Xperia Play และ N-Gage
    มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ยังคิดถึงเครื่องเล่นเกมมือถือยุคเก่าอย่าง Xperia Play และ Nokia N-Gage โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมปุ่มควบคุมเกมแบบจริงจัง ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างสะดวกและสนุกเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพาในอดีต ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนสมัยใหม่กับความ怀旧ของเกมเมอร์ยุคก่อน
    https://www.techradar.com/phones/android/this-new-android-phone-is-designed-for-everyone-who-misses-the-xperia-play-and-n-gage

    Microsoft ปรับปรุง Windows 11 และ Phone Link ให้ดีขึ้น
    Microsoft ได้หยุดการอัปเดตที่ทำให้ Windows 11 มีปัญหาบ่อยครั้ง และหันมาเน้นการปรับปรุงฟีเจอร์ Phone Link ให้ใช้งานร่วมกับแอป Android ได้ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกขึ้น เช่น การใช้แอป Android บน PC โดยตรง ถือเป็นการพัฒนาเพื่อให้ Windows 11 มีเสถียรภาพและตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-stops-breaking-windows-11-instead-it-just-made-phone-link-even-better-with-android-apps

    NordVPN ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากผู้ตรวจสอบอิสระอีกครั้ง
    NordVPN ได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันความปลอดภัยของระบบ และผลการตรวจสอบก็ออกมาว่าบริการยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดไว้ได้ การตรวจสอบนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่า VPN ที่พวกเขาใช้นั้นมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยจริง
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/independent-auditors-inspect-nordvpns-security-once-again-heres-what-they-found

    Android เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยชีวิต – แชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัย
    Android ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัยในกรณีฉุกเฉิน ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต โดยทีมกู้ภัยสามารถเห็นสถานการณ์จริงผ่านกล้องมือถือของผู้ประสบเหตุ ทำให้สามารถให้คำแนะนำหรือเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้โดยตรง
    https://www.techradar.com/phones/android/android-just-got-a-life-saving-upgrade-that-lets-you-share-live-video-with-emergency-rescuers-heres-how-it-works

    ข้อมูลลูกค้า 16TB รั่วไหลจากบริษัทด้านการตลาด
    มีการค้นพบการรั่วไหลของข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 16TB ซึ่งเป็นข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาลจากบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการสร้างฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยข้อมูลติดต่อและรายละเอียดเชิงธุรกิจที่อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในกรณีข้อมูลรั่วไหลที่ใหญ่ที่สุด และเป็นการเตือนให้องค์กรต้องเข้มงวดกับการจัดการข้อมูลมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/16tb-of-corporate-intelligence-data-exposed-in-one-of-the-largest-lead-generation-dataset-leaks
    📌📡🔵 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔵📡📌 #รวมข่าวIT #20251212 #TechRadar 🖌️ Adobe เปิด Photoshop ฟรีใน ChatGPT ตอนนี้ใครๆ ก็สามารถใช้ Photoshop ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิกเลย เพราะ Adobe ได้รวมเอา Photoshop, Express และ Acrobat เข้าไปอยู่ใน ChatGPT ให้ใช้งานฟรีทั้งหมด เพียงพิมพ์สิ่งที่ต้องการด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบก็จะช่วยแก้ไขภาพหรือสร้างเอกสารให้ทันที เช่น การปรับแสงสี ใส่เอฟเฟกต์ หรือแม้แต่รวมไฟล์ PDF หลายไฟล์เป็นหนึ่งเดียว จุดเด่นคือมีตัวเลือกปรับแต่งผ่านแถบควบคุม ทำให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขได้ตามใจโดยไม่ต้องเปิดโปรแกรมเต็มรูปแบบ ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ ChatGPT ไม่ใช่แค่เครื่องมือสร้างเนื้อหา แต่กลายเป็นพื้นที่ทำงานด้านการออกแบบและเอกสารครบวงจร 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/adobe-photoshop-is-now-built-into-chatgpt-for-free-and-you-dont-need-graphic-design-skills-to-use-it 🛡️ Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome Google ได้ปล่อยการอัปเดตเพื่อแก้ไขช่องโหว่ร้ายแรงบน Chrome ที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ นี่ถือเป็นครั้งที่ 8 ของปีที่บริษัทต้องแก้ Zero-Day โดยช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับการจัดการหน่วยความจำใน LibANGLE ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าควบคุมเครื่องจากระยะไกลได้ การอัปเดตได้ทยอยปล่อยให้ผู้ใช้แล้ว และ Google ยังคงไม่เปิดเผยรายละเอียดเชิงลึกเพื่อป้องกันไม่ให้แฮกเกอร์นำไปใช้ต่อ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-releases-emergency-fix-for-yet-another-zero-day ✈️ สายการบินรัสเซีย Aeroflot ถูกโจมตีผ่านบริษัทซอฟต์แวร์ภายนอก เหตุการณ์โจมตีไซเบอร์ที่ทำให้สายการบิน Aeroflot ต้องหยุดบินหลายสิบเที่ยวเมื่อเดือนกรกฎาคม ถูกเปิดเผยว่าเกิดจากการโจมตีแบบ Supply Chain ผ่านบริษัท Bakka Soft ที่พัฒนาแอปและระบบให้กับสายการบิน โดยผู้โจมตีใช้ช่องโหว่ที่ไม่มีการป้องกันด้วย 2FA และติดตั้งมัลแวร์จำนวนมากในระบบ ทำให้เที่ยวบินต้องหยุดชะงักและสร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่รายงานนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพาผู้ให้บริการภายนอก 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/russian-airline-hack-came-through-third-party-tech-vendor 🇨🇭 สวิตเซอร์แลนด์ถอยร่างกฎหมายขยายการสอดส่อง หลังถูกต้านหนัก รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์ต้องกลับมาทบทวนร่างกฎหมายที่ต้องการขยายการสอดส่องจากผู้ให้บริการโทรคมนาคมไปยังแพลตฟอร์มอื่น เช่น แอปแชท โซเชียลมีเดีย และ VPN หลังจากถูกต่อต้านอย่างหนักจากบริษัทเทคโนโลยีและนักการเมืองท้องถิ่น ผู้ให้บริการอย่าง Proton และ Threema ชี้ว่ากฎหมายนี้จะกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและการเข้ารหัสที่ปลอดภัย แม้การถอยครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะชั่วคราว แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่ารัฐบาลยังคงมีความตั้งใจจะผลักดันการสอดส่องต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/switzerland-will-revise-proposed-law-change-after-backlash-from-tech-industry 🎬 Disney จับมือ OpenAI เปิดทางให้ Sora ใช้ตัวละครดัง Disney สร้างความฮือฮาด้วยการเซ็นสัญญา 3 ปีร่วมกับ OpenAI เพื่อให้ Sora ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างวิดีโอด้วย AI สามารถใช้ตัวละครจาก Disney, Pixar, Marvel และ Star Wars ได้ พร้อมลงทุนกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI นี่ถือเป็นการเปลี่ยนท่าทีครั้งใหญ่ เพราะที่ผ่านมา Disney เข้มงวดมากกับการใช้ตัวละครของตน การร่วมมือครั้งนี้จะทำให้แฟนๆ สามารถสร้างคอนเทนต์ที่มี Mickey Mouse, Elsa หรือแม้แต่ตัวละครจาก Star Wars ปรากฏในผลงาน AI ได้ตั้งแต่ปี 2026 เป็นต้นไป 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/disney-and-openai-are-set-to-open-the-vault-to-sora-yet-an-ai-mickey-feels-like-magic-lost 💻 Nvidia พัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่เพื่อติดตามชิปหลังพบการลักลอบ หลังจากมีการค้นพบการลักลอบขนส่งชิป Nvidia ได้ออกซอฟต์แวร์ใหม่ที่ช่วยติดตามเส้นทางการเคลื่อนไหวของชิป เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ว่าชิปแต่ละตัวถูกส่งไปที่ใดบ้าง เทคโนโลยีนี้ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันการนำชิปไปใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมที่ถูกควบคุมหรือประเทศที่มีข้อจำกัดทางการค้า ถือเป็นการเสริมความปลอดภัยและความโปร่งใสในห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/nvidia-develops-new-software-to-help-track-chips-following-smuggling-discovery 🔒 Mullvad ยุติการสนับสนุน OpenVPN บนเดสก์ท็อป หันไปใช้ WireGuard แทน บริการ VPN ชื่อดัง Mullvad ประกาศเลิกใช้ OpenVPN บนเดสก์ท็อปทั้งหมด และบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนไปใช้ WireGuard ซึ่งมีความเร็วและความปลอดภัยสูงกว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นเพราะ WireGuard มีโครงสร้างที่ทันสมัยและง่ายต่อการบำรุงรักษา ทำให้ Mullvad สามารถให้บริการที่เสถียรและปลอดภัยมากขึ้น แม้ผู้ใช้บางรายอาจต้องปรับตัว แต่บริษัทเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นผลดีในระยะยาว 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/mullvad-retires-openvpn-support-on-desktop-pushing-all-users-to-wireguard 💰 ICO ปรับ LastPass 1.2 ล้านปอนด์ หลังข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล สำนักงานคุ้มครองข้อมูลของสหราชอาณาจักร (ICO) ได้สั่งปรับ LastPass เป็นเงิน 1.2 ล้านปอนด์ จากเหตุการณ์ข้อมูลผู้ใช้กว่า 1.6 ล้านรายถูกละเมิดในปี 2022 โดยการโจมตีเกิดจากการที่แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำรองของบริษัทผ่านบัญชีพนักงานที่ถูกเจาะ การปรับครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายคุ้มครองข้อมูล และเป็นการเตือนให้บริษัทด้านความปลอดภัยต้องรักษามาตรฐานสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/ico-levies-gbp1-2-million-fine-against-lastpass-data-breach-compromised-info-on-1-6-million-users ⚙️ โครงสร้างพื้นฐาน HPC และ AI กำลังบรรจบกัน บทความนี้พูดถึงการที่โครงสร้างพื้นฐานด้าน High Performance Computing (HPC) และ AI กำลังถูกพัฒนาให้ทำงานร่วมกันมากขึ้น เพื่อรองรับงานที่ต้องใช้การประมวลผลมหาศาล เช่น การวิจัยทางวิทยาศาสตร์และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก แนวโน้มนี้ทำให้เกิดสถาปัตยกรรมใหม่ที่สามารถรองรับทั้งงาน HPC และ AI ได้ในระบบเดียว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/hpc-and-ai-converging-infrastructures ☁️ ค่าใช้จ่ายแฝงจากช่องว่างด้าน Cloud Sovereignty รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการที่หลายองค์กรยังไม่สามารถควบคุมข้อมูลบนคลาวด์ได้อย่างสมบูรณ์ ก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายแฝงจำนวนมาก ทั้งในด้านความเสี่ยงทางกฎหมาย ความปลอดภัย และการปฏิบัติตามข้อบังคับ การขาดความเป็นอิสระในการจัดการข้อมูลทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเพื่อป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จึงเป็นการกระตุ้นให้หลายองค์กรหันมาให้ความสำคัญกับ Cloud Sovereignty มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/quantifying-the-hidden-costs-of-cloud-sovereignty-gaps 📉 หุ้น Oracle ร่วงหลังเผยแผนลงทุน AI เพิ่มอีก 15 พันล้านดอลลาร์ ราคาหุ้นของ Oracle ตกลงทันทีหลังบริษัทประกาศว่าจะเพิ่มงบลงทุนด้าน AI อีก 15 พันล้านดอลลาร์ นักลงทุนกังวลว่าการใช้จ่ายมหาศาลนี้อาจกระทบต่อผลกำไรระยะสั้น แม้บริษัทเชื่อว่าการลงทุนจะช่วยเสริมศักยภาพด้านคลาวด์และแข่งขันกับคู่แข่งรายใหญ่ได้ในอนาคต แต่ตลาดกลับตอบสนองด้วยความระมัดระวัง ทำให้หุ้นปรับตัวลงอย่างเห็นได้ชัด 🔗 https://www.techradar.com/pro/oracle-shares-drop-after-usd15bn-higher-ai-spending-revealed 🎣 แฮกเกอร์ใช้ฟีเจอร์ของ Mimecast แจกฟิชชิ่งลิงก์นับพัน มีการค้นพบว่าฟีเจอร์ Secure-Link ของ Mimecast ถูกนำไปใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อส่งฟิชชิ่งอีเมลจำนวนมาก โดยฟีเจอร์ที่ควรจะช่วยป้องกันกลับถูกใช้เป็นช่องทางให้ผู้โจมตีสร้างลิงก์ที่ดูเหมือนปลอดภัย ทำให้ผู้ใช้หลงเชื่อและกรอกข้อมูลส่วนตัว การโจมตีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงที่แม้แต่เครื่องมือด้านความปลอดภัยก็อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-distribute-thousands-of-phishing-attacks-through-mimecasts-secure-link-feature 👔 OpenAI ดึงตัว CEO ของ Slack มาเป็น Chief Revenue Officer OpenAI ประกาศแต่งตั้ง Lidiane Jones อดีต CEO ของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านการสร้างรายได้และการขยายธุรกิจ การย้ายครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เพราะ Jones มีประสบการณ์ในการบริหารแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้จำนวนมหาศาล และคาดว่าจะช่วยให้ OpenAI สามารถต่อยอดโมเดลธุรกิจได้อย่างมั่นคง 🔗 https://www.techradar.com/pro/open-ai-poaches-slack-ceo-as-its-chief-revenue-officer 🖼️ ทดลองใช้ Photoshop ใน ChatGPT – ฟีเจอร์ฟรีที่ทรงพลัง ผู้เขียนบทความได้ลองใช้ Photoshop ที่ถูกรวมเข้ามาใน ChatGPT และพบว่ามันใช้งานง่ายมาก เพียงอัปโหลดภาพแล้วพิมพ์คำสั่ง เช่น “ทำให้ภาพเป็นขาวดำ” ระบบก็จะแสดงผลพร้อมแถบปรับความเข้มให้เลือกต่อทันที นอกจากนี้ยังสามารถใส่เอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น Halftone หรือ Glitch ได้โดยไม่ต้องมีทักษะด้านกราฟิก ถือเป็นการยกระดับ ChatGPT ให้กลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์ที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/i-tried-photoshop-in-chatgpt-its-an-awesome-free-ai-superpower ⚡ Google DeepMind จับมือรัฐบาลอังกฤษเพื่อวิจัยพลังงานสะอาดและวิทยาศาสตร์ Google DeepMind ได้ลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อพัฒนาโครงการด้านวิทยาศาสตร์และพลังงานสะอาด โดยตั้งเป้าที่จะใช้ AI ในการค้นหาวิธีแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การผลิตพลังงานที่มีประสิทธิภาพและการวิจัยทางวิทยาศาสตร์เชิงลึก ความร่วมมือนี้สะท้อนถึงบทบาทของ AI ที่ไม่เพียงแต่ใช้ในธุรกิจ แต่ยังสามารถช่วยแก้ปัญหาสำคัญระดับโลกได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-deepmind-partners-with-the-uk-government-for-science-breakthroughs-cleaner-energy 🎨 Opera Neon เปิดตัวพร้อมฟีเจอร์ AI Subscription Opera ได้เปิดตัว Opera Neon ซึ่งเป็นบริการ AI subscription ที่มาพร้อมฟีเจอร์หลากหลายสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสามารถเพิ่มเติมจากเบราว์เซอร์ทั่วไป ผู้เขียนบทความมองว่าบริการนี้คุ้มค่าที่จะจ่าย เพราะมันรวมเครื่องมือ AI ที่ช่วยทั้งการทำงานและความบันเทิง เช่น การสร้างคอนเทนต์ การช่วยค้นหา และการปรับแต่งการใช้งานอินเทอร์เน็ตให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ถือเป็นการยกระดับเบราว์เซอร์ให้กลายเป็นแพลตฟอร์มที่มีมูลค่าเพิ่ม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/opera-neon-is-now-available-and-i-think-its-an-ai-subscription-worth-paying-for 📱 มือถือ Android รุ่นใหม่สำหรับคนที่คิดถึง Xperia Play และ N-Gage มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อคนที่ยังคิดถึงเครื่องเล่นเกมมือถือยุคเก่าอย่าง Xperia Play และ Nokia N-Gage โดยมือถือรุ่นนี้มาพร้อมปุ่มควบคุมเกมแบบจริงจัง ทำให้ผู้ใช้สามารถเล่นเกมได้อย่างสะดวกและสนุกเหมือนเครื่องเล่นเกมพกพาในอดีต ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนสมัยใหม่กับความ怀旧ของเกมเมอร์ยุคก่อน 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/this-new-android-phone-is-designed-for-everyone-who-misses-the-xperia-play-and-n-gage 🔗 Microsoft ปรับปรุง Windows 11 และ Phone Link ให้ดีขึ้น Microsoft ได้หยุดการอัปเดตที่ทำให้ Windows 11 มีปัญหาบ่อยครั้ง และหันมาเน้นการปรับปรุงฟีเจอร์ Phone Link ให้ใช้งานร่วมกับแอป Android ได้ดียิ่งขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อมือถือกับคอมพิวเตอร์ได้สะดวกขึ้น เช่น การใช้แอป Android บน PC โดยตรง ถือเป็นการพัฒนาเพื่อให้ Windows 11 มีเสถียรภาพและตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-stops-breaking-windows-11-instead-it-just-made-phone-link-even-better-with-android-apps 🔍 NordVPN ผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากผู้ตรวจสอบอิสระอีกครั้ง NordVPN ได้รับการตรวจสอบจากผู้ตรวจสอบอิสระเพื่อยืนยันความปลอดภัยของระบบ และผลการตรวจสอบก็ออกมาว่าบริการยังคงรักษามาตรฐานความปลอดภัยสูงสุดไว้ได้ การตรวจสอบนี้ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้ว่า VPN ที่พวกเขาใช้นั้นมีความน่าเชื่อถือและปลอดภัยจริง 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/independent-auditors-inspect-nordvpns-security-once-again-heres-what-they-found 🚨 Android เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ช่วยชีวิต – แชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัย Android ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์วิดีโอสดกับทีมกู้ภัยในกรณีฉุกเฉิน ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มโอกาสในการช่วยชีวิต โดยทีมกู้ภัยสามารถเห็นสถานการณ์จริงผ่านกล้องมือถือของผู้ประสบเหตุ ทำให้สามารถให้คำแนะนำหรือเข้าช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้โดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/android-just-got-a-life-saving-upgrade-that-lets-you-share-live-video-with-emergency-rescuers-heres-how-it-works 📂 ข้อมูลลูกค้า 16TB รั่วไหลจากบริษัทด้านการตลาด มีการค้นพบการรั่วไหลของข้อมูลขนาดใหญ่ถึง 16TB ซึ่งเป็นข้อมูลลูกค้าจำนวนมหาศาลจากบริษัทที่ทำธุรกิจด้านการสร้างฐานข้อมูลลูกค้า ข้อมูลที่รั่วไหลประกอบด้วยข้อมูลติดต่อและรายละเอียดเชิงธุรกิจที่อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด เหตุการณ์นี้ถือเป็นหนึ่งในกรณีข้อมูลรั่วไหลที่ใหญ่ที่สุด และเป็นการเตือนให้องค์กรต้องเข้มงวดกับการจัดการข้อมูลมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/16tb-of-corporate-intelligence-data-exposed-in-one-of-the-largest-lead-generation-dataset-leaks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251212 #securityonline


    ช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ของ WordPress
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน WordPress โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ระดับต่ำอย่าง “Subscriber” สามารถยกระดับสิทธิ์และเข้ายึดครองเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ ปัญหานี้เกิดจากฟังก์ชัน penci_update_option ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงการตั้งค่าไซต์สำคัญโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนค่า เช่น เปิดให้ใครก็สมัครสมาชิกได้ และตั้งค่าให้ผู้ใช้ใหม่เป็น “Administrator” ได้ทันที นักพัฒนาของธีมได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 8.6.9.1 โดยเพิ่มการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ที่เข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าว ผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ใช้ธีมนี้จึงควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดครอง
    https://securityonline.info/cve-2025-64188-cvss-9-8-critical-soledad-theme-flaw-lets-subscribers-take-over-wordpress-sites

    แคมเปญฟิชชิ่ง Okta SSO ปลอมตัวเป็นการแจ้งผลเงินเดือน
    ในช่วงที่พนักงานกำลังรอการประเมินผลงานสิ้นปี มีการโจมตีฟิชชิ่งที่ซับซ้อนเกิดขึ้น โดยใช้การหลอกลวงผ่านอีเมลที่ปลอมเป็นฝ่าย HR หรือระบบเงินเดือน เช่น ADP หรือ Salesforce หัวข้ออีเมลมักจะเป็น “Review Your 2026 Salary & Bonus” เพื่อกระตุ้นให้เหยื่อรีบเปิด เมื่อเหยื่อเข้าสู่หน้าเว็บปลอม ระบบฟิชชิ่งนี้จะทำงานเหมือนจริงโดยใช้ proxy เชื่อมต่อกับ Okta ขององค์กร ทำให้หน้าล็อกอินดูสมจริงยิ่งขึ้น จากนั้นสคริปต์ inject.js จะดักจับรหัสผ่านและคุกกี้ session สำคัญเพื่อยึดครองบัญชี ผู้โจมตียังใช้เทคนิคซ่อนเว็บไซต์ผ่าน Cloudflare เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ถือเป็นการโจมตีที่อันตรายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
    https://securityonline.info/sophisticated-okta-sso-phishing-bypasses-defenses-to-steal-session-tokens-with-salary-review-lures

    ValleyRAT หลุดสู่สาธารณะ กลายเป็นอาวุธไซเบอร์ในมืออาชญากร
    ValleyRAT ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือสอดแนมระดับสูง ตอนนี้กลายเป็นภัยคุกคามสาธารณะหลังตัวสร้าง (builder) ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ใครก็สามารถสร้างและปรับแต่งมัลแวร์นี้ได้เอง รายงานจาก Check Point Research ระบุว่ามีการตรวจพบการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 85% ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ ValleyRAT คือปลั๊กอิน Driver ที่ทำงานในระดับ kernel สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของ Windows 11 ได้ และยังลบไดรเวอร์ป้องกันของระบบรักษาความปลอดภัยออกไปได้ด้วย เดิมที ValleyRAT เชื่อมโยงกับกลุ่ม Silver Fox แต่เมื่อโค้ดถูกปล่อยสู่สาธารณะ การระบุแหล่งที่มาแทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
    https://securityonline.info/military-grade-valleyrat-goes-rogue-kernel-rootkit-builder-leak-triggers-massive-global-surge

    ช่องโหว่ GeoServer XXE ถูกโจมตีจริง เสี่ยงขโมยข้อมูลและสแกนระบบภายใน

    CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2025-58360 ของ GeoServer เข้าสู่รายการ Known Exploited Vulnerabilities เนื่องจากพบการโจมตีจริง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างคำสั่ง XML ที่อ้างอิงภายนอกเพื่ออ่านไฟล์ลับในเซิร์ฟเวอร์ หรือใช้เป็น SSRF เพื่อเข้าถึงระบบภายในที่ถูกไฟร์วอลล์ป้องกันอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ระบบล่มด้วยการโจมตีแบบ DoS ได้อีกด้วย CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ภายในวันที่ 1 มกราคม 2026 เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/cisa-kev-alert-geoserver-xxe-flaw-under-active-attack-risks-data-theft-internal-network-scanning

    Ransomware 01flip โจมตีโครงสร้างพื้นฐานใน APAC ด้วย Rust และ Sliver
    มีการค้นพบแรนซัมแวร์ใหม่ชื่อ “01flip” ที่ถูกเขียนด้วยภาษา Rust ทำให้สามารถโจมตีได้ทั้ง Windows และ Linux โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น ฟิลิปปินส์และไต้หวัน กลุ่มผู้โจมตีใช้วิธีเจาะระบบด้วยช่องโหว่เก่าอย่าง CVE-2019-11580 และติดตั้ง Sliver ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สสำหรับควบคุมระบบจากระยะไกล น่าสนใจว่ามีโค้ดบางส่วนที่หลีกเลี่ยงการเข้ารหัสไฟล์ที่มีนามสกุล “lockbit” ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม LockBit หรือเป็นการสร้างหลักฐานปลอม แม้จำนวนเหยื่อยังไม่มาก แต่มีการยืนยันว่ามีข้อมูลรั่วไหลไปขายในดาร์กเว็บแล้ว
    https://securityonline.info/new-01flip-ransomware-hits-apac-critical-infra-cross-platform-rust-weapon-uses-sliver-c2

    ช่องโหว่ Apache Struts 2 เสี่ยงทำเซิร์ฟเวอร์ล่ม
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Struts 2 ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กยอดนิยมสำหรับพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย Java ช่องโหว่นี้ชื่อว่า CVE-2025-66675 เกิดจากการจัดการไฟล์อัปโหลดที่ผิดพลาด ทำให้ไฟล์ชั่วคราวไม่ถูกลบออก ส่งผลให้พื้นที่ดิสก์เต็มอย่างรวดเร็ว หากถูกโจมตีซ้ำ ๆ เซิร์ฟเวอร์อาจหยุดทำงานทันที นักวิจัยแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน Struts 6.8.0 หรือ 7.1.1 และหากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตั้งโฟลเดอร์ชั่วคราวแยกไว้ หรือปิดการใช้งานฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์เพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/apache-struts-2-dos-flaw-cve-2025-66775-risks-server-crash-via-file-leak-in-multipart-request-processing

    EU ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2040
    สหภาพยุโรปประกาศข้อตกลงครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 90% เมื่อเทียบกับปี 1990 ภายในปี 2040 ถือเป็นเป้าหมายที่สูงกว่าหลายประเทศมหาอำนาจ เช่น จีน การเจรจาครั้งนี้มีทั้งเสียงคัดค้านจากบางประเทศที่กังวลเรื่องต้นทุนอุตสาหกรรม และเสียงสนับสนุนจากประเทศที่เร่งผลักดันการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ข้อตกลงนี้ยังมีการผ่อนปรน เช่น เลื่อนการเก็บภาษีคาร์บอนเชื้อเพลิงไปปี 2028 และอนุญาตให้ใช้เครดิตคาร์บอนระหว่างประเทศบางส่วน แต่โดยรวมถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ยุโรปเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050
    https://securityonline.info/eus-green-mandate-parliament-pledges-90-emissions-cut-by-2040

    Instagram เปิดฟีเจอร์ใหม่ “Your Algorithm” ให้ผู้ใช้ควบคุมฟีดได้เอง
    Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Your Algorithm” ที่ให้ผู้ใช้เห็นและปรับแต่งหัวข้อที่ระบบแนะนำในหน้า Reels ได้โดยตรง ผู้ใช้สามารถเลือกดูหัวข้อที่สนใจมากขึ้นหรือน้อยลง รวมถึงแชร์หัวข้อที่ตนสนใจไปยัง Stories ได้ ฟีเจอร์นี้ใช้ AI เป็นหลักในการปรับแต่ง และถือเป็นครั้งแรกที่ Instagram เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานของอัลกอริทึมอย่างชัดเจน แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า Meta ใช้ AI สร้างเนื้อหาที่เกินจริง แต่การเปิดฟีเจอร์นี้ก็เป็นการเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้
    https://securityonline.info/youre-in-control-instagram-launches-your-algorithm-feature-for-reels

    Qualcomm เข้าซื้อ Ventana เสริมทัพพัฒนา CPU RISC-V
    Qualcomm ประกาศเข้าซื้อกิจการ Ventana Micro Systems เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนา CPU โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม RISC-V ที่กำลังได้รับความนิยม การเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยให้ Qualcomm สามารถผสานความเชี่ยวชาญของ Ventana เข้ากับการพัฒนา CPU Oryon ของตนเอง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับ AI มากขึ้น นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของ Qualcomm ที่ต้องการลดการพึ่งพา Arm และสร้างอิสระทางเทคโนโลยีในระยะยาว
    https://securityonline.info/qualcomm-buys-ventana-to-double-down-on-risc-v-and-custom-oryon-cpu

    Intel แพ้คดีต่อต้านการผูกขาด ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร
    หลังจากต่อสู้คดีต่อต้านการผูกขาดกับสหภาพยุโรปยาวนานถึง 16 ปี Intel ก็แพ้การอุทธรณ์ครั้งล่าสุด ศาลตัดสินให้ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร จากเดิมที่เคยถูกปรับ 376 ล้านยูโร คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 โดย Intel ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่าง HP, Acer และ Lenovo เพื่อชะลอหรือหยุดการใช้ชิป AMD ถือเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยตรง แม้ Intel เคยชนะบางส่วนของคดี แต่สุดท้ายก็ยังต้องจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ ซึ่งนับเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์วงการเทคโนโลยี
    https://securityonline.info/16-year-battle-ends-intel-loses-appeal-must-pay-e237-million-eu-fine

    องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง
    ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026
    https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps

    Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล
    Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม
    https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig

    แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม
    กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล
    https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Zoom Rooms เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์
    Zoom ได้ออกแพตช์แก้ไขด่วนสำหรับ Zoom Rooms หลังพบช่องโหว่ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรเป็นความลับได้ โดยเฉพาะในเวอร์ชัน Windows ที่มีช่องโหว่ CVE-2025-67460 ซึ่งเกิดจากการป้องกันการ downgrade ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบอาจถูกบังคับให้กลับไปใช้เวอร์ชันที่ไม่ปลอดภัย ส่วนใน macOS ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-67461 ที่เสี่ยงต่อการเปิดเผยข้อมูลผ่านการจัดการไฟล์ผิดพลาด Zoom ได้ปล่อยเวอร์ชัน 6.6.0 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-zoom-rooms-flaw-risks-privilege-escalation-via-downgrade-protection-bypass

    องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง
    ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026
    https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps

    Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล
    Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม
    https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig

    แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม
    กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล
    https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes


    📌🔐🔵 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🔵🔐📌 #รวมข่าวIT #20251212 #securityonline 🛡️ ช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ของ WordPress มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในธีม Soledad ที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน WordPress โดยมีคะแนนความรุนแรง CVSS 9.8 ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ระดับต่ำอย่าง “Subscriber” สามารถยกระดับสิทธิ์และเข้ายึดครองเว็บไซต์ได้เต็มรูปแบบ ปัญหานี้เกิดจากฟังก์ชัน penci_update_option ที่เปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงการตั้งค่าไซต์สำคัญโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างเข้มงวด ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถเปลี่ยนค่า เช่น เปิดให้ใครก็สมัครสมาชิกได้ และตั้งค่าให้ผู้ใช้ใหม่เป็น “Administrator” ได้ทันที นักพัฒนาของธีมได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 8.6.9.1 โดยเพิ่มการตรวจสอบสิทธิ์ผู้ใช้ที่เข้าถึงฟังก์ชันดังกล่าว ผู้ดูแลเว็บไซต์ที่ใช้ธีมนี้จึงควรอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดครอง 🔗 https://securityonline.info/cve-2025-64188-cvss-9-8-critical-soledad-theme-flaw-lets-subscribers-take-over-wordpress-sites 🎣 แคมเปญฟิชชิ่ง Okta SSO ปลอมตัวเป็นการแจ้งผลเงินเดือน ในช่วงที่พนักงานกำลังรอการประเมินผลงานสิ้นปี มีการโจมตีฟิชชิ่งที่ซับซ้อนเกิดขึ้น โดยใช้การหลอกลวงผ่านอีเมลที่ปลอมเป็นฝ่าย HR หรือระบบเงินเดือน เช่น ADP หรือ Salesforce หัวข้ออีเมลมักจะเป็น “Review Your 2026 Salary & Bonus” เพื่อกระตุ้นให้เหยื่อรีบเปิด เมื่อเหยื่อเข้าสู่หน้าเว็บปลอม ระบบฟิชชิ่งนี้จะทำงานเหมือนจริงโดยใช้ proxy เชื่อมต่อกับ Okta ขององค์กร ทำให้หน้าล็อกอินดูสมจริงยิ่งขึ้น จากนั้นสคริปต์ inject.js จะดักจับรหัสผ่านและคุกกี้ session สำคัญเพื่อยึดครองบัญชี ผู้โจมตียังใช้เทคนิคซ่อนเว็บไซต์ผ่าน Cloudflare เพื่อเลี่ยงการตรวจจับ ถือเป็นการโจมตีที่อันตรายและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://securityonline.info/sophisticated-okta-sso-phishing-bypasses-defenses-to-steal-session-tokens-with-salary-review-lures 💻 ValleyRAT หลุดสู่สาธารณะ กลายเป็นอาวุธไซเบอร์ในมืออาชญากร ValleyRAT ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือสอดแนมระดับสูง ตอนนี้กลายเป็นภัยคุกคามสาธารณะหลังตัวสร้าง (builder) ถูกเผยแพร่สู่สาธารณะ ทำให้ใครก็สามารถสร้างและปรับแต่งมัลแวร์นี้ได้เอง รายงานจาก Check Point Research ระบุว่ามีการตรวจพบการใช้งานเพิ่มขึ้นกว่า 85% ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จุดเด่นของ ValleyRAT คือปลั๊กอิน Driver ที่ทำงานในระดับ kernel สามารถหลบเลี่ยงการป้องกันของ Windows 11 ได้ และยังลบไดรเวอร์ป้องกันของระบบรักษาความปลอดภัยออกไปได้ด้วย เดิมที ValleyRAT เชื่อมโยงกับกลุ่ม Silver Fox แต่เมื่อโค้ดถูกปล่อยสู่สาธารณะ การระบุแหล่งที่มาแทบเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป 🔗 https://securityonline.info/military-grade-valleyrat-goes-rogue-kernel-rootkit-builder-leak-triggers-massive-global-surge 🌐 ช่องโหว่ GeoServer XXE ถูกโจมตีจริง เสี่ยงขโมยข้อมูลและสแกนระบบภายใน CISA ได้เพิ่มช่องโหว่ CVE-2025-58360 ของ GeoServer เข้าสู่รายการ Known Exploited Vulnerabilities เนื่องจากพบการโจมตีจริง ช่องโหว่นี้เกิดจากการประมวลผล XML ที่ไม่ถูกกรองอย่างเหมาะสม ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างคำสั่ง XML ที่อ้างอิงภายนอกเพื่ออ่านไฟล์ลับในเซิร์ฟเวอร์ หรือใช้เป็น SSRF เพื่อเข้าถึงระบบภายในที่ถูกไฟร์วอลล์ป้องกันอยู่ นอกจากนี้ยังสามารถทำให้ระบบล่มด้วยการโจมตีแบบ DoS ได้อีกด้วย CISA กำหนดให้หน่วยงานรัฐบาลต้องอัปเดตเป็นเวอร์ชันใหม่ภายในวันที่ 1 มกราคม 2026 เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/cisa-kev-alert-geoserver-xxe-flaw-under-active-attack-risks-data-theft-internal-network-scanning 💥 Ransomware 01flip โจมตีโครงสร้างพื้นฐานใน APAC ด้วย Rust และ Sliver มีการค้นพบแรนซัมแวร์ใหม่ชื่อ “01flip” ที่ถูกเขียนด้วยภาษา Rust ทำให้สามารถโจมตีได้ทั้ง Windows และ Linux โดยมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานสำคัญในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น ฟิลิปปินส์และไต้หวัน กลุ่มผู้โจมตีใช้วิธีเจาะระบบด้วยช่องโหว่เก่าอย่าง CVE-2019-11580 และติดตั้ง Sliver ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพนซอร์สสำหรับควบคุมระบบจากระยะไกล น่าสนใจว่ามีโค้ดบางส่วนที่หลีกเลี่ยงการเข้ารหัสไฟล์ที่มีนามสกุล “lockbit” ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าอาจเชื่อมโยงกับกลุ่ม LockBit หรือเป็นการสร้างหลักฐานปลอม แม้จำนวนเหยื่อยังไม่มาก แต่มีการยืนยันว่ามีข้อมูลรั่วไหลไปขายในดาร์กเว็บแล้ว 🔗 https://securityonline.info/new-01flip-ransomware-hits-apac-critical-infra-cross-platform-rust-weapon-uses-sliver-c2 🛡️ ช่องโหว่ Apache Struts 2 เสี่ยงทำเซิร์ฟเวอร์ล่ม มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน Apache Struts 2 ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กยอดนิยมสำหรับพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย Java ช่องโหว่นี้ชื่อว่า CVE-2025-66675 เกิดจากการจัดการไฟล์อัปโหลดที่ผิดพลาด ทำให้ไฟล์ชั่วคราวไม่ถูกลบออก ส่งผลให้พื้นที่ดิสก์เต็มอย่างรวดเร็ว หากถูกโจมตีซ้ำ ๆ เซิร์ฟเวอร์อาจหยุดทำงานทันที นักวิจัยแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตเป็นเวอร์ชัน Struts 6.8.0 หรือ 7.1.1 และหากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ควรตั้งโฟลเดอร์ชั่วคราวแยกไว้ หรือปิดการใช้งานฟีเจอร์อัปโหลดไฟล์เพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/apache-struts-2-dos-flaw-cve-2025-66775-risks-server-crash-via-file-leak-in-multipart-request-processing 🌍 EU ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 90% ภายในปี 2040 สหภาพยุโรปประกาศข้อตกลงครั้งใหญ่ โดยตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงถึง 90% เมื่อเทียบกับปี 1990 ภายในปี 2040 ถือเป็นเป้าหมายที่สูงกว่าหลายประเทศมหาอำนาจ เช่น จีน การเจรจาครั้งนี้มีทั้งเสียงคัดค้านจากบางประเทศที่กังวลเรื่องต้นทุนอุตสาหกรรม และเสียงสนับสนุนจากประเทศที่เร่งผลักดันการแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ข้อตกลงนี้ยังมีการผ่อนปรน เช่น เลื่อนการเก็บภาษีคาร์บอนเชื้อเพลิงไปปี 2028 และอนุญาตให้ใช้เครดิตคาร์บอนระหว่างประเทศบางส่วน แต่โดยรวมถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้ยุโรปเดินหน้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 🔗 https://securityonline.info/eus-green-mandate-parliament-pledges-90-emissions-cut-by-2040 📱 Instagram เปิดฟีเจอร์ใหม่ “Your Algorithm” ให้ผู้ใช้ควบคุมฟีดได้เอง Instagram เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Your Algorithm” ที่ให้ผู้ใช้เห็นและปรับแต่งหัวข้อที่ระบบแนะนำในหน้า Reels ได้โดยตรง ผู้ใช้สามารถเลือกดูหัวข้อที่สนใจมากขึ้นหรือน้อยลง รวมถึงแชร์หัวข้อที่ตนสนใจไปยัง Stories ได้ ฟีเจอร์นี้ใช้ AI เป็นหลักในการปรับแต่ง และถือเป็นครั้งแรกที่ Instagram เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมการทำงานของอัลกอริทึมอย่างชัดเจน แม้จะมีเสียงวิจารณ์ว่า Meta ใช้ AI สร้างเนื้อหาที่เกินจริง แต่การเปิดฟีเจอร์นี้ก็เป็นการเพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้ 🔗 https://securityonline.info/youre-in-control-instagram-launches-your-algorithm-feature-for-reels 💻 Qualcomm เข้าซื้อ Ventana เสริมทัพพัฒนา CPU RISC-V Qualcomm ประกาศเข้าซื้อกิจการ Ventana Micro Systems เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการพัฒนา CPU โดยเฉพาะสถาปัตยกรรม RISC-V ที่กำลังได้รับความนิยม การเข้าซื้อครั้งนี้จะช่วยให้ Qualcomm สามารถผสานความเชี่ยวชาญของ Ventana เข้ากับการพัฒนา CPU Oryon ของตนเอง เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับ AI มากขึ้น นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความตั้งใจของ Qualcomm ที่ต้องการลดการพึ่งพา Arm และสร้างอิสระทางเทคโนโลยีในระยะยาว 🔗 https://securityonline.info/qualcomm-buys-ventana-to-double-down-on-risc-v-and-custom-oryon-cpu ⚖️ Intel แพ้คดีต่อต้านการผูกขาด ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร หลังจากต่อสู้คดีต่อต้านการผูกขาดกับสหภาพยุโรปยาวนานถึง 16 ปี Intel ก็แพ้การอุทธรณ์ครั้งล่าสุด ศาลตัดสินให้ต้องจ่ายค่าปรับ 237 ล้านยูโร จากเดิมที่เคยถูกปรับ 376 ล้านยูโร คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 โดย Intel ถูกกล่าวหาว่าใช้วิธีให้เงินสนับสนุนผู้ผลิตคอมพิวเตอร์อย่าง HP, Acer และ Lenovo เพื่อชะลอหรือหยุดการใช้ชิป AMD ถือเป็นการจำกัดการแข่งขันโดยตรง แม้ Intel เคยชนะบางส่วนของคดี แต่สุดท้ายก็ยังต้องจ่ายค่าปรับก้อนใหญ่ ซึ่งนับเป็นบทเรียนสำคัญในประวัติศาสตร์วงการเทคโนโลยี 🔗 https://securityonline.info/16-year-battle-ends-intel-loses-appeal-must-pay-e237-million-eu-fine 🧑‍💻 องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026 🔗 https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps 🔐 Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล 🔗 https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes 📹 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Zoom Rooms เสี่ยงถูกยกระดับสิทธิ์ Zoom ได้ออกแพตช์แก้ไขด่วนสำหรับ Zoom Rooms หลังพบช่องโหว่ที่อาจทำให้ผู้โจมตีสามารถยกระดับสิทธิ์หรือเข้าถึงข้อมูลที่ควรเป็นความลับได้ โดยเฉพาะในเวอร์ชัน Windows ที่มีช่องโหว่ CVE-2025-67460 ซึ่งเกิดจากการป้องกันการ downgrade ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ระบบอาจถูกบังคับให้กลับไปใช้เวอร์ชันที่ไม่ปลอดภัย ส่วนใน macOS ก็มีช่องโหว่ CVE-2025-67461 ที่เสี่ยงต่อการเปิดเผยข้อมูลผ่านการจัดการไฟล์ผิดพลาด Zoom ได้ปล่อยเวอร์ชัน 6.6.0 เพื่อแก้ไขทั้งหมด และแนะนำให้องค์กรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-zoom-rooms-flaw-risks-privilege-escalation-via-downgrade-protection-bypass 🧑‍💻 องค์กรเร่งปรับงบสู่การฝึกอบรมเชิงปฏิบัติจริง ในโลกที่ AI กำลังเปลี่ยนแปลงงานอย่างรวดเร็ว หลายองค์กรเจอปัญหาช่องว่างทักษะที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้การฝึกอบรมแบบเดิมที่เน้นแค่การสอบใบรับรองไม่เพียงพออีกต่อไป ตอนนี้บริษัทต่าง ๆ โดยเฉพาะในสายงานไซเบอร์ คลาวด์ และ IT operations กำลังหันมาใช้การเรียนรู้แบบลงมือทำจริง เช่น ห้องแล็บจำลอง สถานการณ์เสมือนจริง และการฝึกที่วัดผลได้ทันที เพราะสิ่งเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานพร้อมรับมือกับภัยคุกคามและงานจริงได้ตั้งแต่วันแรก ข้อมูลยังชี้ว่าการเรียนรู้เชิงปฏิบัติช่วยให้พนักงานจดจำได้มากกว่า 70% และลดเวลาเรียนรู้ลงเกือบครึ่งหนึ่ง จึงไม่แปลกที่งบประมาณปลายปีถูกเทไปในแนวทางนี้ เพื่อเตรียมทีมให้พร้อมสำหรับปี 2026 🔗 https://securityonline.info/ine-highlights-enterprise-shift-toward-hands-on-training-amid-widening-skills-gaps 🔐 Ledger จับมือ 1inch ยกระดับความปลอดภัยการจัดการทรัพย์สินดิจิทัล Ledger ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เปิดตัวระบบ Multisig ที่เน้นความปลอดภัยสูง โดยเลือก 1inch เป็นผู้ให้บริการ swap แบบเอกสิทธิ์ จุดเด่นคือการตัดปัญหา blind signing ที่เคยเป็นจุดอ่อนของการจัดการคลังสินทรัพย์บนบล็อกเชน ตอนนี้ทุกการทำธุรกรรมสามารถตรวจสอบได้ชัดเจนในรูปแบบที่มนุษย์อ่านเข้าใจ ทำให้การย้ายหรือปรับสมดุลทรัพย์สินมีความมั่นใจมากขึ้น ทั้งสองบริษัทตั้งใจสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับการจัดการ treasury ขององค์กรในโลก DeFi ที่ปลอดภัยและใช้ง่ายกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/1inch-named-exclusive-swap-provider-at-launch-for-ledger-multisig 🕵️‍♂️ แฮกเกอร์ GOLD BLADE โจมตีบริษัทแคนาดาด้วยเรซูเม่ปลอม กลุ่มแฮกเกอร์ GOLD BLADE หรือที่รู้จักในชื่อ RedCurl/RedWolf ได้หันเป้าหมายไปยังองค์กรในแคนาดา โดยใช้วิธีใหม่ที่แยบยลคือส่งเรซูเม่ปลอมผ่านแพลตฟอร์มสมัครงานที่เชื่อถือได้ เมื่อเหยื่อเปิดไฟล์ก็จะถูกติดตั้งมัลแวร์ RedLoader และตามมาด้วยการโจมตีขั้นสูง เช่น การใช้ไดรเวอร์ที่มีช่องโหว่เพื่อปิดระบบรักษาความปลอดภัย จากเดิมที่กลุ่มนี้เน้นขโมยข้อมูลเชิงธุรกิจ ตอนนี้พวกเขาเพิ่มการปล่อย ransomware เพื่อทำเงินโดยตรง ถือเป็นการผสมผสานทั้งการสอดแนมและการรีดไถในรูปแบบใหม่ที่น่ากังวล 🔗 https://securityonline.info/gold-blade-apt-hits-canadian-firms-with-byovd-edr-killer-and-ransomware-delivered-via-fake-resumes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • RAM Outlet ในญี่ปุ่นขายแพงกว่าของใหม่

    รายงานระบุว่าในญี่ปุ่นมีการขาย Crucial Pro DDR5-5600 C46 64GB (2x32GB) ที่ถูกจัดอยู่ในหมวด “Outlet” แต่กลับมีราคาสูงถึง 602 ดอลลาร์ (รวมภาษี) ทั้งที่ในสหรัฐฯ ราคาขายเพียง 507 ดอลลาร์ Outlet RAM มักหมายถึงสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ชำรุดหรือเป็นสินค้าคืน แต่ในตลาดที่ขาดแคลนหน่วยความจำ ร้านค้ากลับใช้โอกาสนี้ตั้งราคาสูงเท่าของใหม่

    สาเหตุจากการขาดแคลนหน่วยความจำ
    การขาดแคลน RAM เกิดจากความต้องการมหาศาลในยุค AI ที่ทำให้ผู้ผลิตหันไปผลิตหน่วยความจำสำหรับเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลมากกว่าตลาดผู้บริโภค ส่งผลให้สินค้าทั่วไปหายากขึ้น ราคาจึงพุ่งสูง แม้แต่สินค้าที่ควรจะถูกลงอย่าง “Outlet” ก็กลับถูกตั้งราคาสูงขึ้นแทน

    ราคาพุ่งขึ้นหลายเท่าในเวลาไม่กี่เดือน
    ก่อนเกิดวิกฤติ Crucial 64GB DDR5 เคยมีราคาเพียง 134 ดอลลาร์ แต่ปัจจุบันราคาพุ่งขึ้นกว่า 3.7 เท่า และในตลาดมือสองอย่าง eBay มีการตั้งราคาสูงถึง 1,067 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าราคาปกติถึงสองเท่า สถานการณ์นี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยี
    การขาย RAM แบบ “Outlet” ในราคาสูงสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดฮาร์ดแวร์ ที่ผู้ค้าปลีกใช้วิกฤติเป็นโอกาสในการทำกำไรสูงสุด ขณะเดียวกันการที่ Micron ประกาศถอนตัวจากตลาดผู้บริโภคก็ยิ่งทำให้สินค้าของ Crucial กลายเป็นของหายากและมีมูลค่าเชิงสะสม

    สรุปสาระสำคัญ
    Crucial DDR5-5600 64GB Outlet ในญี่ปุ่น
    ราคาสูงถึง 602 ดอลลาร์ เทียบกับ 507 ดอลลาร์ในสหรัฐฯ

    สินค้า Outlet มักเป็นของคืนหรือบรรจุภัณฑ์ชำรุด
    แต่กลับถูกตั้งราคาสูงเท่าของใหม่

    ราคาพุ่งขึ้นกว่า 3.7 เท่าในไม่กี่เดือน
    จาก 134 ดอลลาร์เป็นกว่า 500 ดอลลาร์

    ตลาดมือสองอย่าง eBay
    มีการตั้งราคาสูงถึง 1,067 ดอลลาร์

    ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
    Outlet RAM ไม่ได้ถูกลง แต่กลับแพงขึ้น

    การถอนตัวของ Micron จากตลาดผู้บริโภค
    ทำให้ Crucial กลายเป็นสินค้าที่หายากและถูกเก็งกำไร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/outlet-ram-sold-in-japan-as-new-with-huge-markups-scuffed-packaging-crucial-ddr5-5600-64gb-kit-commands-usd600-overseas-as-ai-shortage-bites
    💻 RAM Outlet ในญี่ปุ่นขายแพงกว่าของใหม่ รายงานระบุว่าในญี่ปุ่นมีการขาย Crucial Pro DDR5-5600 C46 64GB (2x32GB) ที่ถูกจัดอยู่ในหมวด “Outlet” แต่กลับมีราคาสูงถึง 602 ดอลลาร์ (รวมภาษี) ทั้งที่ในสหรัฐฯ ราคาขายเพียง 507 ดอลลาร์ Outlet RAM มักหมายถึงสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์ชำรุดหรือเป็นสินค้าคืน แต่ในตลาดที่ขาดแคลนหน่วยความจำ ร้านค้ากลับใช้โอกาสนี้ตั้งราคาสูงเท่าของใหม่ 🏭 สาเหตุจากการขาดแคลนหน่วยความจำ การขาดแคลน RAM เกิดจากความต้องการมหาศาลในยุค AI ที่ทำให้ผู้ผลิตหันไปผลิตหน่วยความจำสำหรับเซิร์ฟเวอร์และศูนย์ข้อมูลมากกว่าตลาดผู้บริโภค ส่งผลให้สินค้าทั่วไปหายากขึ้น ราคาจึงพุ่งสูง แม้แต่สินค้าที่ควรจะถูกลงอย่าง “Outlet” ก็กลับถูกตั้งราคาสูงขึ้นแทน 📉 ราคาพุ่งขึ้นหลายเท่าในเวลาไม่กี่เดือน ก่อนเกิดวิกฤติ Crucial 64GB DDR5 เคยมีราคาเพียง 134 ดอลลาร์ แต่ปัจจุบันราคาพุ่งขึ้นกว่า 3.7 เท่า และในตลาดมือสองอย่าง eBay มีการตั้งราคาสูงถึง 1,067 ดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าราคาปกติถึงสองเท่า สถานการณ์นี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยี การขาย RAM แบบ “Outlet” ในราคาสูงสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างของตลาดฮาร์ดแวร์ ที่ผู้ค้าปลีกใช้วิกฤติเป็นโอกาสในการทำกำไรสูงสุด ขณะเดียวกันการที่ Micron ประกาศถอนตัวจากตลาดผู้บริโภคก็ยิ่งทำให้สินค้าของ Crucial กลายเป็นของหายากและมีมูลค่าเชิงสะสม 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Crucial DDR5-5600 64GB Outlet ในญี่ปุ่น ➡️ ราคาสูงถึง 602 ดอลลาร์ เทียบกับ 507 ดอลลาร์ในสหรัฐฯ ✅ สินค้า Outlet มักเป็นของคืนหรือบรรจุภัณฑ์ชำรุด ➡️ แต่กลับถูกตั้งราคาสูงเท่าของใหม่ ✅ ราคาพุ่งขึ้นกว่า 3.7 เท่าในไม่กี่เดือน ➡️ จาก 134 ดอลลาร์เป็นกว่า 500 ดอลลาร์ ✅ ตลาดมือสองอย่าง eBay ➡️ มีการตั้งราคาสูงถึง 1,067 ดอลลาร์ ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้บริโภค ⛔ Outlet RAM ไม่ได้ถูกลง แต่กลับแพงขึ้น ‼️ การถอนตัวของ Micron จากตลาดผู้บริโภค ⛔ ทำให้ Crucial กลายเป็นสินค้าที่หายากและถูกเก็งกำไร https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/outlet-ram-sold-in-japan-as-new-with-huge-markups-scuffed-packaging-crucial-ddr5-5600-64gb-kit-commands-usd600-overseas-as-ai-shortage-bites
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกดดันเนเธอร์แลนด์ให้แก้ปัญหาความขัดแย้ง Nexperia

    รัฐบาลจีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์เร่งแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับบริษัท Nexperia ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของดัตช์ที่ถูกควบคุมโดย Wingtech Technology ของจีน หลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้ามาแทรกแซงเพื่อป้องกันการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทำให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญ

    การแทรกแซงของรัฐและผลกระทบ
    ในเดือนกันยายน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็นเพื่อวาง Nexperia ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ พร้อมระงับสิทธิ์การโหวตของผู้บริหารที่มาจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระแทน จีนตอบโต้ด้วยการหยุดการส่งออกชิ้นส่วนที่บรรจุในจีนกลับไปยุโรป ส่งผลให้การผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรปสะดุดทันที

    ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
    กว่า 70% ของเวเฟอร์ที่ผลิตในยุโรปโดย Nexperia ต้องถูกส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ เมื่อจีนหยุดส่งออก ทำให้เกิดการค้างสต็อกและใบแจ้งหนี้ที่ไม่ได้รับชำระจำนวนมาก ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการควบคุมบริษัทได้อย่างถาวร

    บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดด้าน ภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและยุโรป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเร่งลงทุนเพื่อสร้างโรงงานใหม่ในประเทศตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานที่เสี่ยงต่อการเมือง

    สรุปสาระสำคัญ
    จีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์แก้ปัญหา Nexperia
    หลังการแทรกแซงของรัฐทำให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุด

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็น
    ระงับสิทธิ์ผู้บริหารจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระ

    จีนตอบโต้ด้วยการหยุดส่งออกชิ้นส่วน
    กระทบการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป

    ปัจจุบันผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน
    แต่ยังไม่แก้ปัญหาการควบคุมบริษัทได้ถาวร

    ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
    70% ของเวเฟอร์ยุโรปต้องส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ

    ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์
    อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-presses-netherlands-to-resolve-nexperia-dispute-as-supply-concerns-grow
    🇨🇳 จีนกดดันเนเธอร์แลนด์ให้แก้ปัญหาความขัดแย้ง Nexperia รัฐบาลจีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์เร่งแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับบริษัท Nexperia ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของดัตช์ที่ถูกควบคุมโดย Wingtech Technology ของจีน หลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้ามาแทรกแซงเพื่อป้องกันการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทำให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญ 🏛️ การแทรกแซงของรัฐและผลกระทบ ในเดือนกันยายน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็นเพื่อวาง Nexperia ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ พร้อมระงับสิทธิ์การโหวตของผู้บริหารที่มาจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระแทน จีนตอบโต้ด้วยการหยุดการส่งออกชิ้นส่วนที่บรรจุในจีนกลับไปยุโรป ส่งผลให้การผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรปสะดุดทันที ⚡ ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก กว่า 70% ของเวเฟอร์ที่ผลิตในยุโรปโดย Nexperia ต้องถูกส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ เมื่อจีนหยุดส่งออก ทำให้เกิดการค้างสต็อกและใบแจ้งหนี้ที่ไม่ได้รับชำระจำนวนมาก ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการควบคุมบริษัทได้อย่างถาวร 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดด้าน ภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและยุโรป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเร่งลงทุนเพื่อสร้างโรงงานใหม่ในประเทศตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานที่เสี่ยงต่อการเมือง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ จีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์แก้ปัญหา Nexperia ➡️ หลังการแทรกแซงของรัฐทำให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุด ✅ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็น ➡️ ระงับสิทธิ์ผู้บริหารจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระ ✅ จีนตอบโต้ด้วยการหยุดส่งออกชิ้นส่วน ➡️ กระทบการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป ✅ ปัจจุบันผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน ➡️ แต่ยังไม่แก้ปัญหาการควบคุมบริษัทได้ถาวร ‼️ ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ⛔ 70% ของเวเฟอร์ยุโรปต้องส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ ‼️ ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-presses-netherlands-to-resolve-nexperia-dispute-as-supply-concerns-grow
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Chinese government wades into Dutch chipmaker dispute — presses Netherlands to resolve Nexperia saga as supply concerns grow
    Beijing urges the Dutch government to allow talks with Wingtech after state intervention disrupted chip flows.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel แพ้คดีผูกขาดในยุโรป ถูกปรับ 278 ล้านดอลลาร์

    Intel พยายามอุทธรณ์เพื่อยกเลิกคำตัดสินคดีผูกขาดที่ดำเนินมากว่า 16 ปี แต่ศาลทั่วไปของสหภาพยุโรป (EU General Court) ได้ตัดสินยืนตามคณะกรรมาธิการยุโรป โดยปรับเป็นเงิน 237 ล้านยูโร (278 ล้านดอลลาร์) หลังพบว่า Intel ใช้กลยุทธ์ส่วนลดและการจ่ายเงินเพื่อกีดกันคู่แข่งอย่าง AMD ระหว่างปี 2000–2008

    เส้นทางคดีที่ยืดเยื้อ
    คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 เมื่อคณะกรรมาธิการยุโรปปรับ Intel เป็นเงินกว่า 1.06 พันล้านยูโร แต่ต่อมามีการอุทธรณ์และการพิจารณาซ้ำหลายครั้ง จนกระทั่งปี 2022 ศาลได้ยกเลิกค่าปรับเดิมเนื่องจากการวิเคราะห์ไม่ครบถ้วน ก่อนจะมีการคำนวณใหม่ในปี 2023 และล่าสุดศาลทั่วไปตัดสินให้ปรับลดลงเหลือ 278 ล้านดอลลาร์

    ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด CPU
    การตัดสินครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ EU ในการรักษาความเป็นธรรมในตลาดเทคโนโลยี โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้บริษัทใหญ่ใช้อำนาจเหนือตลาดกีดกันคู่แข่ง AMD ซึ่งในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา AMD ค่อย ๆ เพิ่มส่วนแบ่งตลาดด้วยนวัตกรรม เช่น Ryzen และ EPYC ที่ทำให้การแข่งขันกลับมาสมดุลมากขึ้น

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยีและกฎหมาย
    กรณีนี้เป็นหนึ่งในหลายคดีที่ EU ใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าเพื่อควบคุมบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น การบังคับให้ Microsoft เสนอ “browser choice” หรือการปรับ Google เรื่องการจัดอันดับผลการค้นหา การตัดสินต่อ Intel จึงเป็นสัญญาณว่า EU จะยังคงเข้มงวดต่อบริษัทเทคโนโลยีที่มีอำนาจเหนือตลาด

    สรุปสาระสำคัญ
    Intel ถูกปรับ 278 ล้านดอลลาร์โดยศาลทั่วไปของ EU
    หลังพบว่ากีดกัน AMD ระหว่างปี 2000–2008

    คดีเริ่มตั้งแต่ปี 2009
    เดิมถูกปรับ 1.06 พันล้านยูโร ก่อนลดลง

    AMD ได้ประโยชน์จากการแข่งขันที่เป็นธรรม
    Ryzen และ EPYC ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาด

    ความเสี่ยงต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี
    EU อาจใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าเข้มงวดต่อไป

    ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ Intel
    ถูกมองว่าใช้อำนาจเหนือตลาดในทางที่ไม่เป็นธรรม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-fails-to-get-eu-antitrust-ruling-overturned-in-longstanding-16-year-amd-competition-case-chipmaker-sees-usd1-2-billion-fine-reduced-to-usd278-million
    ⚖️ Intel แพ้คดีผูกขาดในยุโรป ถูกปรับ 278 ล้านดอลลาร์ Intel พยายามอุทธรณ์เพื่อยกเลิกคำตัดสินคดีผูกขาดที่ดำเนินมากว่า 16 ปี แต่ศาลทั่วไปของสหภาพยุโรป (EU General Court) ได้ตัดสินยืนตามคณะกรรมาธิการยุโรป โดยปรับเป็นเงิน 237 ล้านยูโร (278 ล้านดอลลาร์) หลังพบว่า Intel ใช้กลยุทธ์ส่วนลดและการจ่ายเงินเพื่อกีดกันคู่แข่งอย่าง AMD ระหว่างปี 2000–2008 🏛️ เส้นทางคดีที่ยืดเยื้อ คดีนี้เริ่มตั้งแต่ปี 2009 เมื่อคณะกรรมาธิการยุโรปปรับ Intel เป็นเงินกว่า 1.06 พันล้านยูโร แต่ต่อมามีการอุทธรณ์และการพิจารณาซ้ำหลายครั้ง จนกระทั่งปี 2022 ศาลได้ยกเลิกค่าปรับเดิมเนื่องจากการวิเคราะห์ไม่ครบถ้วน ก่อนจะมีการคำนวณใหม่ในปี 2023 และล่าสุดศาลทั่วไปตัดสินให้ปรับลดลงเหลือ 278 ล้านดอลลาร์ 💻 ผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาด CPU การตัดสินครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ EU ในการรักษาความเป็นธรรมในตลาดเทคโนโลยี โดยเฉพาะการป้องกันไม่ให้บริษัทใหญ่ใช้อำนาจเหนือตลาดกีดกันคู่แข่ง AMD ซึ่งในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา AMD ค่อย ๆ เพิ่มส่วนแบ่งตลาดด้วยนวัตกรรม เช่น Ryzen และ EPYC ที่ทำให้การแข่งขันกลับมาสมดุลมากขึ้น 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยีและกฎหมาย กรณีนี้เป็นหนึ่งในหลายคดีที่ EU ใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าเพื่อควบคุมบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น การบังคับให้ Microsoft เสนอ “browser choice” หรือการปรับ Google เรื่องการจัดอันดับผลการค้นหา การตัดสินต่อ Intel จึงเป็นสัญญาณว่า EU จะยังคงเข้มงวดต่อบริษัทเทคโนโลยีที่มีอำนาจเหนือตลาด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Intel ถูกปรับ 278 ล้านดอลลาร์โดยศาลทั่วไปของ EU ➡️ หลังพบว่ากีดกัน AMD ระหว่างปี 2000–2008 ✅ คดีเริ่มตั้งแต่ปี 2009 ➡️ เดิมถูกปรับ 1.06 พันล้านยูโร ก่อนลดลง ✅ AMD ได้ประโยชน์จากการแข่งขันที่เป็นธรรม ➡️ Ryzen และ EPYC ช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาด ‼️ ความเสี่ยงต่อบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี ⛔ EU อาจใช้กฎหมายแข่งขันทางการค้าเข้มงวดต่อไป ‼️ ผลกระทบต่อภาพลักษณ์ Intel ⛔ ถูกมองว่าใช้อำนาจเหนือตลาดในทางที่ไม่เป็นธรรม https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-fails-to-get-eu-antitrust-ruling-overturned-in-longstanding-16-year-amd-competition-case-chipmaker-sees-usd1-2-billion-fine-reduced-to-usd278-million
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • TSMC พิจารณาอัปเกรดโรงงานที่ญี่ปุ่นสู่เทคโนโลยี 4nm

    รายงานระบุว่า TSMC กำลังพิจารณาอัปเกรดโรงงาน Fab 23 Phase 2 ในเมืองคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น จากเดิมที่วางแผนผลิตชิป 6nm และ 7nm ให้สามารถผลิตชิป N4 (4nm-class) และ N5 (5nm-class) ได้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าในญี่ปุ่นเข้าถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากขึ้น

    ความท้าทายด้านการก่อสร้างและเครื่องจักร
    แม้การอัปเกรดจะเป็นไปได้เพราะเครื่องจักรที่ใช้ใน N7/N6 และ N5/N4 มีความคล้ายกันถึง 90% แต่การผลิต N4 ต้องใช้เครื่อง EUV lithography ที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนกว่า ทำให้ต้องมีการออกแบบใหม่บางส่วน ขณะเดียวกัน TSMC ได้แจ้งซัพพลายเออร์ว่าจะไม่ต้องการเครื่องจักรใหม่ในญี่ปุ่นตลอดปี 2026 เนื่องจากการก่อสร้างล่าช้า

    สัญญาณการหยุดชะงัก
    ภาพถ่ายล่าสุดจากไซต์ก่อสร้างแสดงให้เห็นว่าเครื่องจักรหนัก เช่น เครนและรถขุด ถูกนำออกไปแล้ว และมีการแจ้งซัพพลายเออร์ว่าการทำงานจะหยุดชั่วคราว นั่นหมายความว่าโรงงานอาจไม่พร้อมติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในปีหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของโครงการ แม้จะมีแผนรองรับการผลิตขั้นสูงในอนาคต

    บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    การอัปเกรดโรงงานในญี่ปุ่นถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ กระจายการผลิตนอกไต้หวัน ของ TSMC เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะเดียวกันคู่แข่งอย่าง Rapidus ก็มีแผนสร้างโรงงาน 1.4nm ในญี่ปุ่นภายในปี 2027 ซึ่งอาจทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของการผลิตชิปขั้นสูงในเอเชีย

    สรุปสาระสำคัญ
    TSMC พิจารณาอัปเกรดโรงงาน Fab 23 Phase 2
    จาก 6nm/7nm เป็น 4nm/5nm

    เครื่องจักร N7/N6 และ N5/N4 คล้ายกันถึง 90%
    ทำให้การอัปเกรดเป็นไปได้ง่ายขึ้น

    การก่อสร้างล่าช้า
    TSMC แจ้งว่าจะไม่ต้องการเครื่องจักรใหม่ในปี 2026

    ความไม่แน่นอนของโครงการ
    การหยุดชั่วคราวและการนำเครื่องจักรออกจากไซต์

    ความท้าทายด้าน EUV lithography
    ต้องใช้เครื่องที่ใหญ่และซับซ้อนกว่า DUV

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tmsc-ponders-upgrading-2nd-japan-fab-to-4nm-could-pave-the-way-for-more-advanced-chips-for-japanese-customers
    🏭 TSMC พิจารณาอัปเกรดโรงงานที่ญี่ปุ่นสู่เทคโนโลยี 4nm รายงานระบุว่า TSMC กำลังพิจารณาอัปเกรดโรงงาน Fab 23 Phase 2 ในเมืองคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น จากเดิมที่วางแผนผลิตชิป 6nm และ 7nm ให้สามารถผลิตชิป N4 (4nm-class) และ N5 (5nm-class) ได้ ซึ่งจะทำให้ลูกค้าในญี่ปุ่นเข้าถึงเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยมากขึ้น ⚙️ ความท้าทายด้านการก่อสร้างและเครื่องจักร แม้การอัปเกรดจะเป็นไปได้เพราะเครื่องจักรที่ใช้ใน N7/N6 และ N5/N4 มีความคล้ายกันถึง 90% แต่การผลิต N4 ต้องใช้เครื่อง EUV lithography ที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนกว่า ทำให้ต้องมีการออกแบบใหม่บางส่วน ขณะเดียวกัน TSMC ได้แจ้งซัพพลายเออร์ว่าจะไม่ต้องการเครื่องจักรใหม่ในญี่ปุ่นตลอดปี 2026 เนื่องจากการก่อสร้างล่าช้า 📉 สัญญาณการหยุดชะงัก ภาพถ่ายล่าสุดจากไซต์ก่อสร้างแสดงให้เห็นว่าเครื่องจักรหนัก เช่น เครนและรถขุด ถูกนำออกไปแล้ว และมีการแจ้งซัพพลายเออร์ว่าการทำงานจะหยุดชั่วคราว นั่นหมายความว่าโรงงานอาจไม่พร้อมติดตั้งเครื่องจักรใหม่ในปีหน้า ซึ่งสะท้อนถึงความไม่แน่นอนของโครงการ แม้จะมีแผนรองรับการผลิตขั้นสูงในอนาคต 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ การอัปเกรดโรงงานในญี่ปุ่นถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ กระจายการผลิตนอกไต้หวัน ของ TSMC เพื่อลดความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ ขณะเดียวกันคู่แข่งอย่าง Rapidus ก็มีแผนสร้างโรงงาน 1.4nm ในญี่ปุ่นภายในปี 2027 ซึ่งอาจทำให้ญี่ปุ่นกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของการผลิตชิปขั้นสูงในเอเชีย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ TSMC พิจารณาอัปเกรดโรงงาน Fab 23 Phase 2 ➡️ จาก 6nm/7nm เป็น 4nm/5nm ✅ เครื่องจักร N7/N6 และ N5/N4 คล้ายกันถึง 90% ➡️ ทำให้การอัปเกรดเป็นไปได้ง่ายขึ้น ✅ การก่อสร้างล่าช้า ➡️ TSMC แจ้งว่าจะไม่ต้องการเครื่องจักรใหม่ในปี 2026 ‼️ ความไม่แน่นอนของโครงการ ⛔ การหยุดชั่วคราวและการนำเครื่องจักรออกจากไซต์ ‼️ ความท้าทายด้าน EUV lithography ⛔ ต้องใช้เครื่องที่ใหญ่และซับซ้อนกว่า DUV https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/tmsc-ponders-upgrading-2nd-japan-fab-to-4nm-could-pave-the-way-for-more-advanced-chips-for-japanese-customers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 46 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกฤตราคา RAM: จาก 117 ดอลลาร์สู่กว่า 800 ดอลลาร์

    รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า Trident Z5 Neo RGB DDR5-6000 C30 32GB ที่เคยขายเพียง 117 ดอลลาร์ ตอนนี้ราคาขึ้นไปถึง 429 ดอลลาร์ในร้านค้าปกติ และถูกนำไปขายบน eBay ในราคา 836 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาจริงถึง 7 เท่า การปรับขึ้นนี้เกิดจากความต้องการหน่วยความจำมหาศาลในศูนย์ข้อมูล AI ที่ทำให้ผู้ผลิตอย่าง Samsung, SK Hynix และ Micron หันไปผลิต RAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์แทนตลาดผู้บริโภค

    Scalpers และการเก็งกำไร
    นอกจากผู้ผลิตแล้ว scalpers ก็เข้ามาเก็งกำไร โดยซื้อ RAM จากร้านค้าปกติแล้วนำไปขายต่อในราคาสูง ตัวอย่างเช่น Vengeance DDR5-5200 C38 192GB ที่เคยมีราคา 649 ดอลลาร์ ตอนนี้ถูกตั้งราคาขายใหม่ถึง 2,201 ดอลลาร์ และแม้แต่บน eBay ก็ยังมีการตั้งราคาสูงถึง 1,949 ดอลลาร์ การเก็งกำไรนี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล

    ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ผลิต
    บริษัทประกอบคอมพิวเตอร์อย่าง CyberPowerPC และ Maingear ต้องปรับราคาพีซีขึ้นตามต้นทุน ขณะที่ OEM อย่าง Dell และ Lenovo ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้ Lenovo จะมีสต็อกเพียงพอจนถึงปี 2026 แต่ผู้ผลิตรายอื่นต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Micron ยังประกาศปิดสายการผลิต RAM สำหรับผู้บริโภค (Crucial) เพื่อหันไปโฟกัสตลาดองค์กรโดยตรง

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยี
    การขาดแคลน RAM ไม่ได้กระทบแค่ผู้ใช้พีซี แต่ยังรวมถึง คอนโซลเกมและ Raspberry Pi ที่ต้องปรับราคาขึ้นเช่นกัน นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจต้องรอจนกว่า “ฟองสบู่ AI” จะคลี่คลาย ราคาถึงจะกลับมาเป็นปกติ แต่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด

    สรุปสาระสำคัญ
    ราคาชุด RAM พุ่งสูงกว่า 7 เท่า
    Trident Z5 Neo จาก 117 ดอลลาร์เป็น 836 ดอลลาร์บน eBay

    ผู้ผลิตหันไปผลิต RAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์
    ตลาดผู้บริโภคถูกลดความสำคัญ

    Scalpers เก็งกำไรบน eBay
    Vengeance DDR5-5200 จาก 649 ดอลลาร์เป็น 1,949 ดอลลาร์

    ธุรกิจคอมพิวเตอร์และ OEM ได้รับผลกระทบ
    CyberPowerPC, Maingear, Dell ต้องปรับราคาสูงขึ้น

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ทั่วไป
    ไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล

    ฟองสบู่ AI อาจทำให้ตลาดผันผวน
    ราคาจะกลับมาปกติได้ก็ต่อเมื่อความต้องการลดลง

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/ram-scalping-takes-hold-on-ebay-some-kits-selling-for-more-than-usd2-000-price-gouged-kits-fetch-7x-their-original-value-adding-almost-double-the-markup-on-already-inflated-prices
    💻 วิกฤตราคา RAM: จาก 117 ดอลลาร์สู่กว่า 800 ดอลลาร์ รายงานจาก Tom’s Hardware ระบุว่า Trident Z5 Neo RGB DDR5-6000 C30 32GB ที่เคยขายเพียง 117 ดอลลาร์ ตอนนี้ราคาขึ้นไปถึง 429 ดอลลาร์ในร้านค้าปกติ และถูกนำไปขายบน eBay ในราคา 836 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าราคาจริงถึง 7 เท่า การปรับขึ้นนี้เกิดจากความต้องการหน่วยความจำมหาศาลในศูนย์ข้อมูล AI ที่ทำให้ผู้ผลิตอย่าง Samsung, SK Hynix และ Micron หันไปผลิต RAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์แทนตลาดผู้บริโภค 📈 Scalpers และการเก็งกำไร นอกจากผู้ผลิตแล้ว scalpers ก็เข้ามาเก็งกำไร โดยซื้อ RAM จากร้านค้าปกติแล้วนำไปขายต่อในราคาสูง ตัวอย่างเช่น Vengeance DDR5-5200 C38 192GB ที่เคยมีราคา 649 ดอลลาร์ ตอนนี้ถูกตั้งราคาขายใหม่ถึง 2,201 ดอลลาร์ และแม้แต่บน eBay ก็ยังมีการตั้งราคาสูงถึง 1,949 ดอลลาร์ การเก็งกำไรนี้ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปแทบไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล 🏭 ผลกระทบต่อธุรกิจและผู้ผลิต บริษัทประกอบคอมพิวเตอร์อย่าง CyberPowerPC และ Maingear ต้องปรับราคาพีซีขึ้นตามต้นทุน ขณะที่ OEM อย่าง Dell และ Lenovo ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แม้ Lenovo จะมีสต็อกเพียงพอจนถึงปี 2026 แต่ผู้ผลิตรายอื่นต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ Micron ยังประกาศปิดสายการผลิต RAM สำหรับผู้บริโภค (Crucial) เพื่อหันไปโฟกัสตลาดองค์กรโดยตรง 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการเทคโนโลยี การขาดแคลน RAM ไม่ได้กระทบแค่ผู้ใช้พีซี แต่ยังรวมถึง คอนโซลเกมและ Raspberry Pi ที่ต้องปรับราคาขึ้นเช่นกัน นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจต้องรอจนกว่า “ฟองสบู่ AI” จะคลี่คลาย ราคาถึงจะกลับมาเป็นปกติ แต่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าจะเกิดขึ้นเมื่อใด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ราคาชุด RAM พุ่งสูงกว่า 7 เท่า ➡️ Trident Z5 Neo จาก 117 ดอลลาร์เป็น 836 ดอลลาร์บน eBay ✅ ผู้ผลิตหันไปผลิต RAM สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ➡️ ตลาดผู้บริโภคถูกลดความสำคัญ ✅ Scalpers เก็งกำไรบน eBay ➡️ Vengeance DDR5-5200 จาก 649 ดอลลาร์เป็น 1,949 ดอลลาร์ ✅ ธุรกิจคอมพิวเตอร์และ OEM ได้รับผลกระทบ ➡️ CyberPowerPC, Maingear, Dell ต้องปรับราคาสูงขึ้น ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ทั่วไป ⛔ ไม่สามารถอัปเกรดเครื่องได้ในราคาที่สมเหตุสมผล ‼️ ฟองสบู่ AI อาจทำให้ตลาดผันผวน ⛔ ราคาจะกลับมาปกติได้ก็ต่อเมื่อความต้องการลดลง https://www.tomshardware.com/pc-components/ram/ram-scalping-takes-hold-on-ebay-some-kits-selling-for-more-than-usd2-000-price-gouged-kits-fetch-7x-their-original-value-adding-almost-double-the-markup-on-already-inflated-prices
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • ห้องทดลองใต้ดินเก็บข้อมูลสมอง 10,000 ชั่วโมงเพื่อสร้าง AI แปลงความคิดเป็นข้อความ

    บริษัทสตาร์ทอัพชื่อ Conduit ในซานฟรานซิสโกได้ดำเนินโครงการเก็บข้อมูลสมองจากผู้เข้าร่วมหลายพันคนรวมกว่า 10,000 ชั่วโมง โดยใช้ชุดอุปกรณ์สวมศีรษะที่พัฒนาขึ้นเอง เพื่อฝึกโมเดล AI ที่สามารถถอดรหัสความคิดและเปลี่ยนเป็นข้อความได้ เป้าหมายคือการจับสัญญาณสมองในช่วงเสี้ยววินาทีก่อนที่ผู้เข้าร่วมจะพูดหรือพิมพ์

    เทคโนโลยีและวิธีการเก็บข้อมูล
    Conduit ใช้การผสมผสานเซ็นเซอร์ EEG, fNIRS และอุปกรณ์ตรวจจับอื่น ๆ ในโครงสร้างที่พิมพ์ 3D เพื่อสร้าง “AI Helmet” ที่มีทั้งรุ่นสำหรับการฝึก (หนักและครอบคลุมสัญญาณมากที่สุด) และรุ่นสำหรับการใช้งานจริงในอนาคต ข้อมูลทั้งหมดถูกจัดเก็บในรูปแบบ Zarr 3 เพื่อรวมสัญญาณจากหลายเซ็นเซอร์ภายใต้ระบบเดียว

    ความท้าทายด้านคุณภาพและต้นทุน
    ในช่วงแรกทีมงานต้องปิดไฟหลักและใช้แบตเตอรี่เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวนไฟฟ้า แต่ภายหลังพบว่าการขยายขนาดข้อมูลช่วยให้โมเดลสามารถ “ทั่วไป” ได้ดีขึ้นแม้มีเสียงรบกวน ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนมากอีกต่อไป นอกจากนี้ Conduit ยังลดต้นทุนต่อชั่วโมงข้อมูลลงกว่า 40% ด้วยระบบตรวจสอบคุณภาพแบบเรียลไทม์และการจัดการห้องบันทึกหลายห้องพร้อมกัน

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการ AI และประสาทวิทยา
    การวิจัยนี้สะท้อนถึงความพยายามของวงการ AI ที่จะก้าวไปสู่ Brain-Computer Interface (BCI) ซึ่งมีศักยภาพในการช่วยผู้พิการสื่อสาร หรือแม้แต่การสร้างอินเทอร์เฟซใหม่ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าการเก็บข้อมูลสมองในระดับใหญ่เช่นนี้ต้องพิจารณาเรื่อง จริยธรรมและความเป็นส่วนตัว อย่างเข้มงวด เพราะข้อมูลสมองถือเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่สุดของมนุษย์

    สรุปสาระสำคัญ
    Conduit เก็บข้อมูลสมองกว่า 10,000 ชั่วโมง
    ใช้เพื่อฝึกโมเดล AI แปลงความคิดเป็นข้อความ

    ใช้ AI Helmet ที่รวม EEG และ fNIRS
    มีรุ่นสำหรับการฝึกและรุ่นสำหรับใช้งานจริง

    ลดต้นทุนการเก็บข้อมูลลงกว่า 40%
    ด้วยระบบตรวจสอบคุณภาพและการจัดการหลายห้อง

    ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและความเป็นส่วนตัว
    ข้อมูลสมองเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและอาจถูกใช้ผิดวัตถุประสงค์

    ความท้าทายด้านการนำไปใช้จริง
    ต้องพิจารณาความแม่นยำและผลกระทบต่อผู้เข้าร่วม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/basement-lab-produces-10000-hours-of-neural-data-for-thought-to-text-research
    🧠 ห้องทดลองใต้ดินเก็บข้อมูลสมอง 10,000 ชั่วโมงเพื่อสร้าง AI แปลงความคิดเป็นข้อความ บริษัทสตาร์ทอัพชื่อ Conduit ในซานฟรานซิสโกได้ดำเนินโครงการเก็บข้อมูลสมองจากผู้เข้าร่วมหลายพันคนรวมกว่า 10,000 ชั่วโมง โดยใช้ชุดอุปกรณ์สวมศีรษะที่พัฒนาขึ้นเอง เพื่อฝึกโมเดล AI ที่สามารถถอดรหัสความคิดและเปลี่ยนเป็นข้อความได้ เป้าหมายคือการจับสัญญาณสมองในช่วงเสี้ยววินาทีก่อนที่ผู้เข้าร่วมจะพูดหรือพิมพ์ ⚙️ เทคโนโลยีและวิธีการเก็บข้อมูล Conduit ใช้การผสมผสานเซ็นเซอร์ EEG, fNIRS และอุปกรณ์ตรวจจับอื่น ๆ ในโครงสร้างที่พิมพ์ 3D เพื่อสร้าง “AI Helmet” ที่มีทั้งรุ่นสำหรับการฝึก (หนักและครอบคลุมสัญญาณมากที่สุด) และรุ่นสำหรับการใช้งานจริงในอนาคต ข้อมูลทั้งหมดถูกจัดเก็บในรูปแบบ Zarr 3 เพื่อรวมสัญญาณจากหลายเซ็นเซอร์ภายใต้ระบบเดียว 🔋 ความท้าทายด้านคุณภาพและต้นทุน ในช่วงแรกทีมงานต้องปิดไฟหลักและใช้แบตเตอรี่เพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวนไฟฟ้า แต่ภายหลังพบว่าการขยายขนาดข้อมูลช่วยให้โมเดลสามารถ “ทั่วไป” ได้ดีขึ้นแม้มีเสียงรบกวน ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่ซับซ้อนมากอีกต่อไป นอกจากนี้ Conduit ยังลดต้นทุนต่อชั่วโมงข้อมูลลงกว่า 40% ด้วยระบบตรวจสอบคุณภาพแบบเรียลไทม์และการจัดการห้องบันทึกหลายห้องพร้อมกัน 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการ AI และประสาทวิทยา การวิจัยนี้สะท้อนถึงความพยายามของวงการ AI ที่จะก้าวไปสู่ Brain-Computer Interface (BCI) ซึ่งมีศักยภาพในการช่วยผู้พิการสื่อสาร หรือแม้แต่การสร้างอินเทอร์เฟซใหม่ระหว่างมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ อย่างไรก็ตาม นักวิจัยเตือนว่าการเก็บข้อมูลสมองในระดับใหญ่เช่นนี้ต้องพิจารณาเรื่อง จริยธรรมและความเป็นส่วนตัว อย่างเข้มงวด เพราะข้อมูลสมองถือเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนที่สุดของมนุษย์ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Conduit เก็บข้อมูลสมองกว่า 10,000 ชั่วโมง ➡️ ใช้เพื่อฝึกโมเดล AI แปลงความคิดเป็นข้อความ ✅ ใช้ AI Helmet ที่รวม EEG และ fNIRS ➡️ มีรุ่นสำหรับการฝึกและรุ่นสำหรับใช้งานจริง ✅ ลดต้นทุนการเก็บข้อมูลลงกว่า 40% ➡️ ด้วยระบบตรวจสอบคุณภาพและการจัดการหลายห้อง ‼️ ความเสี่ยงด้านจริยธรรมและความเป็นส่วนตัว ⛔ ข้อมูลสมองเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อนและอาจถูกใช้ผิดวัตถุประสงค์ ‼️ ความท้าทายด้านการนำไปใช้จริง ⛔ ต้องพิจารณาความแม่นยำและผลกระทบต่อผู้เข้าร่วม https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/basement-lab-produces-10000-hours-of-neural-data-for-thought-to-text-research
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Basement AI lab captures 10,000 hours of brain scans to train thought-to-text AI models — largest known neural dataset collected from thousands of humans over six months
    Conduit built a multimodal “AI helmet” system and a large-scale data operation to train models that decode semantic content from brain activity.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • การลงทุน AI มูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์ กำลังเจอปัญหาชิปหมดอายุเร็ว

    อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้ลงทุนกว่า 400 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้เพื่อซื้อชิป AI และสร้างศูนย์ข้อมูล แต่เริ่มมีคำถามว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะมีอายุการใช้งานสั้นเกินไปหรือไม่ ก่อนหน้านี้บริษัทคลาวด์คาดว่าชิปและเซิร์ฟเวอร์จะใช้งานได้ราว 6 ปี แต่ปัจจุบันนักวิเคราะห์เตือนว่าอาจเหลือเพียง 2–3 ปีเท่านั้น

    ความก้าวหน้าที่เร็วเกินไปของ Nvidia และคู่แข่ง
    Nvidia เปิดตัวชิป Blackwell และประกาศรุ่นใหม่ Rubin ที่จะมาในปี 2026 ซึ่งแรงกว่าเดิมถึง 7.5 เท่า ทำให้ชิปรุ่นเก่ามูลค่าลดลงถึง 85–90% ภายใน 3–4 ปี นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านความทนทาน เพราะชิป AI ทำงานที่ความร้อนสูงจนเกิดการเสียหายบ่อยขึ้น เช่น Meta พบว่าโมเดล Llama มีอัตราความล้มเหลวถึง 9% ต่อปี

    ผลกระทบต่อกำไรและการเงินของบริษัท
    หากต้องปรับอายุการใช้งานชิปให้สั้นลง บริษัทจะต้องบันทึกค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้นทันที ซึ่งกระทบต่อกำไรและความสามารถในการระดมทุน โดยเฉพาะบริษัทที่เน้น AI อย่าง Oracle และ CoreWeave ที่มีหนี้สูงและใช้ชิปเป็นหลักประกันเงินกู้ ขณะที่ยักษ์ใหญ่เช่น Amazon, Google และ Microsoft ยังพอรับมือได้เพราะมีรายได้หลากหลาย

    บริบทเพิ่มเติมจากวงการเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
    การเสื่อมราคาของชิป AI สะท้อนถึงความเสี่ยงของ ฟองสบู่การลงทุน AI ที่นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจคล้ายกับฟองสบู่ดอทคอมในอดีต หากบริษัทไม่สามารถสร้างรายได้จากการลงทุนมหาศาลนี้ ความสูญเสียอาจกระทบเศรษฐกิจวงกว้าง การแก้ปัญหาที่บางบริษัทเลือกคือการนำชิปรุ่นเก่าไปใช้กับงานที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น งานสำรองหรือการประมวลผลระดับกลาง

    สรุปสาระสำคัญ
    การลงทุน AI มูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์
    ชิปและศูนย์ข้อมูลอาจหมดอายุเร็วเกินไป

    Nvidia เปิดตัวชิปรุ่นใหม่เร็ว
    Blackwell และ Rubin ทำให้ชิปรุ่นเก่ามูลค่าลดลงเร็ว

    ปัญหาความทนทานของชิป AI
    Meta พบอัตราความล้มเหลว 9% ต่อปี

    ผลกระทบต่อบริษัท AI
    Oracle และ CoreWeave เสี่ยงสูงเพราะหนี้และใช้ชิปเป็นหลักประกัน

    ความเสี่ยงฟองสบู่การลงทุน AI
    อาจคล้ายฟองสบู่ดอทคอม กระทบเศรษฐกิจวงกว้าง

    ค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น
    ทำให้กำไรลดลงและการระดมทุนยากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/12/ai039s-us400bil-problem-are-chips-getting-old-too-fast
    💸 การลงทุน AI มูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์ กำลังเจอปัญหาชิปหมดอายุเร็ว อุตสาหกรรมเทคโนโลยีได้ลงทุนกว่า 400 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปีนี้เพื่อซื้อชิป AI และสร้างศูนย์ข้อมูล แต่เริ่มมีคำถามว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะมีอายุการใช้งานสั้นเกินไปหรือไม่ ก่อนหน้านี้บริษัทคลาวด์คาดว่าชิปและเซิร์ฟเวอร์จะใช้งานได้ราว 6 ปี แต่ปัจจุบันนักวิเคราะห์เตือนว่าอาจเหลือเพียง 2–3 ปีเท่านั้น ⚡ ความก้าวหน้าที่เร็วเกินไปของ Nvidia และคู่แข่ง Nvidia เปิดตัวชิป Blackwell และประกาศรุ่นใหม่ Rubin ที่จะมาในปี 2026 ซึ่งแรงกว่าเดิมถึง 7.5 เท่า ทำให้ชิปรุ่นเก่ามูลค่าลดลงถึง 85–90% ภายใน 3–4 ปี นอกจากนี้ยังมีปัญหาด้านความทนทาน เพราะชิป AI ทำงานที่ความร้อนสูงจนเกิดการเสียหายบ่อยขึ้น เช่น Meta พบว่าโมเดล Llama มีอัตราความล้มเหลวถึง 9% ต่อปี 📉 ผลกระทบต่อกำไรและการเงินของบริษัท หากต้องปรับอายุการใช้งานชิปให้สั้นลง บริษัทจะต้องบันทึกค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้นทันที ซึ่งกระทบต่อกำไรและความสามารถในการระดมทุน โดยเฉพาะบริษัทที่เน้น AI อย่าง Oracle และ CoreWeave ที่มีหนี้สูงและใช้ชิปเป็นหลักประกันเงินกู้ ขณะที่ยักษ์ใหญ่เช่น Amazon, Google และ Microsoft ยังพอรับมือได้เพราะมีรายได้หลากหลาย 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากวงการเศรษฐกิจและเทคโนโลยี การเสื่อมราคาของชิป AI สะท้อนถึงความเสี่ยงของ ฟองสบู่การลงทุน AI ที่นักวิเคราะห์เตือนว่าอาจคล้ายกับฟองสบู่ดอทคอมในอดีต หากบริษัทไม่สามารถสร้างรายได้จากการลงทุนมหาศาลนี้ ความสูญเสียอาจกระทบเศรษฐกิจวงกว้าง การแก้ปัญหาที่บางบริษัทเลือกคือการนำชิปรุ่นเก่าไปใช้กับงานที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพสูง เช่น งานสำรองหรือการประมวลผลระดับกลาง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การลงทุน AI มูลค่า 400 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ชิปและศูนย์ข้อมูลอาจหมดอายุเร็วเกินไป ✅ Nvidia เปิดตัวชิปรุ่นใหม่เร็ว ➡️ Blackwell และ Rubin ทำให้ชิปรุ่นเก่ามูลค่าลดลงเร็ว ✅ ปัญหาความทนทานของชิป AI ➡️ Meta พบอัตราความล้มเหลว 9% ต่อปี ✅ ผลกระทบต่อบริษัท AI ➡️ Oracle และ CoreWeave เสี่ยงสูงเพราะหนี้และใช้ชิปเป็นหลักประกัน ‼️ ความเสี่ยงฟองสบู่การลงทุน AI ⛔ อาจคล้ายฟองสบู่ดอทคอม กระทบเศรษฐกิจวงกว้าง ‼️ ค่าเสื่อมราคาที่สูงขึ้น ⛔ ทำให้กำไรลดลงและการระดมทุนยากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/12/ai039s-us400bil-problem-are-chips-getting-old-too-fast
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • การลงทุนด้าน Cybersecurity ต้องพูดภาษา “ธุรกิจ”

    ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารด้านความปลอดภัย (CISO) ไม่สามารถนำเสนอการลงทุนในระบบป้องกันเพียงแค่เชิงเทคนิคอีกต่อไป แต่ต้องเชื่อมโยงกับ เป้าหมายธุรกิจ เช่น การขยายตลาดใหม่ การเพิ่มความยืดหยุ่น และการสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น การอธิบายว่าเทคโนโลยีช่วยลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ หรือช่วยลดต้นทุนได้อย่างไร จะทำให้บอร์ดบริหารเห็นความคุ้มค่าและอนุมัติการลงทุนได้ง่ายขึ้น

    เทรนด์ Cybersecurity ปี 2025 จาก Gartner
    รายงานล่าสุดชี้ว่า Generative AI กำลังเปลี่ยนโฟกัสการป้องกันข้อมูลจากแบบ “Structured Data” ไปสู่ “Unstructured Data” เช่น ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ อีกทั้งการจัดการ Machine Identity กลายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะบัญชีเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติเพิ่มจำนวนมหาศาล หากไม่ควบคุมอาจขยายช่องโหว่ให้แฮกเกอร์โจมตีได้ง่ายขึ้น

    Quantum Computing และภัยคุกคามใหม่
    นักวิจัยเตือนว่า Quantum Computing อาจทำให้การเข้ารหัสแบบ RSA หรือ ECC ที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกถูกถอดรหัสได้ในอนาคต เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Harvest Now, Decrypt Later” คือการขโมยข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ตอนนี้ แล้วรอให้ Quantum สามารถถอดรหัสได้ในอนาคต หากไม่เตรียมใช้ Post-Quantum Cryptography องค์กรอาจสูญเสียข้อมูลสำคัญมหาศาล

    วัฒนธรรมและพฤติกรรมด้านความปลอดภัย
    องค์กรจำนวนมากเริ่มลงทุนใน Security Behavior & Culture Programs (SBCPs) เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในพนักงาน โดยผสมผสาน AI เข้ามาช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและลดเหตุการณ์ที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ คาดว่าภายในปี 2026 องค์กรที่ใช้แนวทางนี้จะลดเหตุการณ์ที่เกิดจากพนักงานได้ถึง 40%

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การลงทุนด้าน Cybersecurity ต้องเชื่อมโยงกับธุรกิจ
    ลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ เพิ่มความยืดหยุ่น และสร้างรายได้ใหม่

    Generative AI กำลังเปลี่ยนโฟกัสการป้องกันข้อมูล
    จากการป้องกันฐานข้อมูล ไปสู่การป้องกันข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ

    Machine Identity Management เป็นเรื่องเร่งด่วน
    หากไม่ควบคุม บัญชีเครื่องจักรอัตโนมัติจะขยายช่องโหว่

    Quantum Computing กำลังคุกคามการเข้ารหัสปัจจุบัน
    ต้องเตรียมใช้ Post-Quantum Cryptography เพื่อป้องกันข้อมูลระยะยาว

    การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรช่วยลดความเสี่ยง
    AI สามารถช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและลดเหตุการณ์ที่เกิดจากมนุษย์

    ความเสี่ยงจาก Quantum Computing
    “Harvest Now, Decrypt Later” อาจทำให้ข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสวันนี้ถูกเปิดเผยในอนาคต

    การใช้ AI โดยไม่ควบคุมอาจสร้างช่องโหว่ใหม่
    AI ที่ไม่ถูกกำกับอาจถูกใช้สร้าง Deepfake หรือโจมตีระบบอัตโนมัติ

    https://www.csoonline.com/article/4104472/how-to-justify-your-security-investments.html
    🛡️ การลงทุนด้าน Cybersecurity ต้องพูดภาษา “ธุรกิจ” ในยุคที่ภัยคุกคามไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารด้านความปลอดภัย (CISO) ไม่สามารถนำเสนอการลงทุนในระบบป้องกันเพียงแค่เชิงเทคนิคอีกต่อไป แต่ต้องเชื่อมโยงกับ เป้าหมายธุรกิจ เช่น การขยายตลาดใหม่ การเพิ่มความยืดหยุ่น และการสร้างมูลค่าให้ผู้ถือหุ้น การอธิบายว่าเทคโนโลยีช่วยลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ หรือช่วยลดต้นทุนได้อย่างไร จะทำให้บอร์ดบริหารเห็นความคุ้มค่าและอนุมัติการลงทุนได้ง่ายขึ้น 🤖 เทรนด์ Cybersecurity ปี 2025 จาก Gartner รายงานล่าสุดชี้ว่า Generative AI กำลังเปลี่ยนโฟกัสการป้องกันข้อมูลจากแบบ “Structured Data” ไปสู่ “Unstructured Data” เช่น ข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ อีกทั้งการจัดการ Machine Identity กลายเป็นเรื่องสำคัญ เพราะบัญชีเครื่องจักรและระบบอัตโนมัติเพิ่มจำนวนมหาศาล หากไม่ควบคุมอาจขยายช่องโหว่ให้แฮกเกอร์โจมตีได้ง่ายขึ้น ⚛️ Quantum Computing และภัยคุกคามใหม่ นักวิจัยเตือนว่า Quantum Computing อาจทำให้การเข้ารหัสแบบ RSA หรือ ECC ที่ใช้กันอยู่ทั่วโลกถูกถอดรหัสได้ในอนาคต เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Harvest Now, Decrypt Later” คือการขโมยข้อมูลที่เข้ารหัสไว้ตอนนี้ แล้วรอให้ Quantum สามารถถอดรหัสได้ในอนาคต หากไม่เตรียมใช้ Post-Quantum Cryptography องค์กรอาจสูญเสียข้อมูลสำคัญมหาศาล 🌐 วัฒนธรรมและพฤติกรรมด้านความปลอดภัย องค์กรจำนวนมากเริ่มลงทุนใน Security Behavior & Culture Programs (SBCPs) เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในพนักงาน โดยผสมผสาน AI เข้ามาช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและลดเหตุการณ์ที่เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ คาดว่าภายในปี 2026 องค์กรที่ใช้แนวทางนี้จะลดเหตุการณ์ที่เกิดจากพนักงานได้ถึง 40% 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การลงทุนด้าน Cybersecurity ต้องเชื่อมโยงกับธุรกิจ ➡️ ลดเวลาในการตอบสนองเหตุการณ์ เพิ่มความยืดหยุ่น และสร้างรายได้ใหม่ ✅ Generative AI กำลังเปลี่ยนโฟกัสการป้องกันข้อมูล ➡️ จากการป้องกันฐานข้อมูล ไปสู่การป้องกันข้อความ รูปภาพ และวิดีโอ ✅ Machine Identity Management เป็นเรื่องเร่งด่วน ➡️ หากไม่ควบคุม บัญชีเครื่องจักรอัตโนมัติจะขยายช่องโหว่ ✅ Quantum Computing กำลังคุกคามการเข้ารหัสปัจจุบัน ➡️ ต้องเตรียมใช้ Post-Quantum Cryptography เพื่อป้องกันข้อมูลระยะยาว ✅ การสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กรช่วยลดความเสี่ยง ➡️ AI สามารถช่วยตรวจสอบพฤติกรรมและลดเหตุการณ์ที่เกิดจากมนุษย์ ‼️ ความเสี่ยงจาก Quantum Computing ⛔ “Harvest Now, Decrypt Later” อาจทำให้ข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสวันนี้ถูกเปิดเผยในอนาคต ‼️ การใช้ AI โดยไม่ควบคุมอาจสร้างช่องโหว่ใหม่ ⛔ AI ที่ไม่ถูกกำกับอาจถูกใช้สร้าง Deepfake หรือโจมตีระบบอัตโนมัติ https://www.csoonline.com/article/4104472/how-to-justify-your-security-investments.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    How to justify your security investments
    Budget discussions are tiresome because cyber risks and expenses are rising in tandem. CISOs should therefore align their arguments with business objectives.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเติบโตของชิป Huawei Ascend 910C อาจเป็นเหตุผลที่สหรัฐฯ พลิกนโยบายส่งออก NVIDIA H200

    รายงานล่าสุดเผยว่า การพัฒนาของ Huawei Ascend 910C AI Accelerator ซึ่งถือเป็นรุ่นต่อยอดจาก Ascend 910 ที่เปิดตัวในปี 2019 ได้สร้างแรงกดดันต่อสหรัฐฯ จนทำให้เกิดการทบทวนและกลับคำสั่งห้ามส่งออกชิป NVIDIA H200 ไปยังจีน การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงการแข่งขันด้านเทคโนโลยี AI ที่ร้อนแรงระหว่างสองประเทศ และความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ

    ความก้าวหน้าของ Huawei Ascend 910C
    Huawei ได้พัฒนาชิป Ascend 910C ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและสามารถรองรับงาน AI ที่ซับซ้อนมากกว่าเดิม โดยมุ่งเน้นการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและการประมวลผลเชิงลึก (deep learning) ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นว่าจีนสามารถสร้างฮาร์ดแวร์ที่แข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลกได้ แม้จะเผชิญข้อจำกัดจากการคว่ำบาตร

    ผลกระทบต่อ NVIDIA และสหรัฐฯ
    ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้จำกัดการส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงไปยังจีนเพื่อควบคุมการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง แต่เมื่อ Huawei แสดงศักยภาพในการผลิตชิปที่ใกล้เคียงกับ NVIDIA การห้ามส่งออกกลับกลายเป็นการผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองเร็วขึ้น การกลับคำสั่งครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาส่วนแบ่งตลาดและอิทธิพลทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

    มิติทางภูมิรัฐศาสตร์
    การแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่ยังเกี่ยวพันกับความมั่นคงและอำนาจทางเศรษฐกิจในระดับโลก การที่จีนสามารถพัฒนาชิป AI ได้เองถือเป็นการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก และอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทานโลก ขณะที่สหรัฐฯ ต้องหาทางรักษาความได้เปรียบโดยไม่ผลักดันคู่แข่งให้แข็งแกร่งขึ้น

    สรุปสาระสำคัญ

    การพัฒนาของ Huawei Ascend 910C
    ชิป AI รุ่นใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รองรับงาน deep learning
    แสดงศักยภาพจีนในการแข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก

    ผลกระทบต่อ NVIDIA และสหรัฐฯ
    การห้ามส่งออก H200 เดิมกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้จีนพัฒนาเอง
    การกลับคำสั่งช่วยรักษาส่วนแบ่งตลาดของ NVIDIA

    มิติทางภูมิรัฐศาสตร์
    จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก
    สหรัฐฯ ต้องหากลยุทธ์ใหม่เพื่อรักษาความได้เปรียบ

    คำเตือนและความเสี่ยง
    การแข่งขันด้าน AI อาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและการเมือง
    การพัฒนาเทคโนโลยีคู่ขนานอาจทำให้เกิดการแบ่งแยกในห่วงโซ่อุปทานโลก

    https://www.techpowerup.com/343932/huawei-ascend-910c-accelerators-maturation-allegedly-spurred-nvidia-h200-export-reversal
    ⚡ การเติบโตของชิป Huawei Ascend 910C อาจเป็นเหตุผลที่สหรัฐฯ พลิกนโยบายส่งออก NVIDIA H200 รายงานล่าสุดเผยว่า การพัฒนาของ Huawei Ascend 910C AI Accelerator ซึ่งถือเป็นรุ่นต่อยอดจาก Ascend 910 ที่เปิดตัวในปี 2019 ได้สร้างแรงกดดันต่อสหรัฐฯ จนทำให้เกิดการทบทวนและกลับคำสั่งห้ามส่งออกชิป NVIDIA H200 ไปยังจีน การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงการแข่งขันด้านเทคโนโลยี AI ที่ร้อนแรงระหว่างสองประเทศ และความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ 🖥️ ความก้าวหน้าของ Huawei Ascend 910C Huawei ได้พัฒนาชิป Ascend 910C ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและสามารถรองรับงาน AI ที่ซับซ้อนมากกว่าเดิม โดยมุ่งเน้นการใช้งานในศูนย์ข้อมูลและการประมวลผลเชิงลึก (deep learning) ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นว่าจีนสามารถสร้างฮาร์ดแวร์ที่แข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลกได้ แม้จะเผชิญข้อจำกัดจากการคว่ำบาตร 🔬 ผลกระทบต่อ NVIDIA และสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้จำกัดการส่งออกชิปประสิทธิภาพสูงไปยังจีนเพื่อควบคุมการเข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูง แต่เมื่อ Huawei แสดงศักยภาพในการผลิตชิปที่ใกล้เคียงกับ NVIDIA การห้ามส่งออกกลับกลายเป็นการผลักดันให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองเร็วขึ้น การกลับคำสั่งครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาส่วนแบ่งตลาดและอิทธิพลทางเทคโนโลยีของสหรัฐฯ 🌍 มิติทางภูมิรัฐศาสตร์ การแข่งขันครั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องธุรกิจ แต่ยังเกี่ยวพันกับความมั่นคงและอำนาจทางเศรษฐกิจในระดับโลก การที่จีนสามารถพัฒนาชิป AI ได้เองถือเป็นการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก และอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในห่วงโซ่อุปทานโลก ขณะที่สหรัฐฯ ต้องหาทางรักษาความได้เปรียบโดยไม่ผลักดันคู่แข่งให้แข็งแกร่งขึ้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การพัฒนาของ Huawei Ascend 910C ➡️ ชิป AI รุ่นใหม่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น รองรับงาน deep learning ➡️ แสดงศักยภาพจีนในการแข่งขันกับผู้ผลิตระดับโลก ✅ ผลกระทบต่อ NVIDIA และสหรัฐฯ ➡️ การห้ามส่งออก H200 เดิมกลับกลายเป็นแรงผลักดันให้จีนพัฒนาเอง ➡️ การกลับคำสั่งช่วยรักษาส่วนแบ่งตลาดของ NVIDIA ✅ มิติทางภูมิรัฐศาสตร์ ➡️ จีนลดการพึ่งพาเทคโนโลยีตะวันตก ➡️ สหรัฐฯ ต้องหากลยุทธ์ใหม่เพื่อรักษาความได้เปรียบ ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ การแข่งขันด้าน AI อาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางเศรษฐกิจและการเมือง ⛔ การพัฒนาเทคโนโลยีคู่ขนานอาจทำให้เกิดการแบ่งแยกในห่วงโซ่อุปทานโลก https://www.techpowerup.com/343932/huawei-ascend-910c-accelerators-maturation-allegedly-spurred-nvidia-h200-export-reversal
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Huawei Ascend 910C Accelerator's Maturation Allegedly Spurred NVIDIA H200 Export Reversal
    Earlier this week, the US government approved exports of NVIDIA H200 data center-grade accelerators to China. This reverses a previous decision, to prevent "full fat" H200 hardware reaching Chinese shores. Team Green engineers were reportedly working on a severely reduced "H20" alternative—whispers ...
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts