• #ห้างสรรพสินค้า #Jelmoli #ซูริค #ปิดตัวลง🇨🇭 ใจหายเหมือนกันนะ เห็นกันมานาน แต่ไม่ค่อยได้อุดหนุน😁
    #ห้างสรรพสินค้า #Jelmoli #ซูริค #ปิดตัวลง🇨🇭 ใจหายเหมือนกันนะ เห็นกันมานาน แต่ไม่ค่อยได้อุดหนุน😁
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ห้าง #Jelmoli #ซูริค🇨🇭กำลังจะปิดตัวลงปลายปีนี้ หลังจากเปิดให้บริการมา 100 กว่าปี
    #ห้าง #Jelmoli #ซูริค🇨🇭กำลังจะปิดตัวลงปลายปีนี้ หลังจากเปิดให้บริการมา 100 กว่าปี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 60 0 รีวิว
  • ปี 12 Mini Cooper S 1.6 R56 (เครื่องตัวใหม่แล้ว Turbo N18 184 แรงม้า) จอ LCD เครื่องเสียง Harman-Kardon หลังคาแก้ว Sunroof รถสภาพสวย ไม่เคยมีอุบัติเหตุ มือเดียวออกห้างฯ ไมล์แท้ 9x,xxx km.เช็คศูนย์BMWตลอด รถออก ศูนย์ Millenniun Auto Ekamai พวงมาลัย Multifuntion️ กุญแจรีโมท กุญแจสำรองอยู่ครบ️ 6 Speed Steptonic Paddle Shift️ Cruise Control️ Park Sensor
    ราคา 555,000 บาท (ฟรีดาวน์จัดไฟแนนซ์ได้เต็มไม่ต้องใช้เงินออกรถ)

    สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์
    ☎️ 0️⃣8️⃣7️⃣7️⃣5️⃣6️⃣2️⃣2️⃣2️⃣2️⃣ May
    สนใจดูรถได้ที่ ซ.รามคำแหง 164
    #MiniCooperR56 #Mini #Cooper #R56
    ปี 12 Mini Cooper S 1.6 R56 (เครื่องตัวใหม่แล้ว Turbo N18 184 แรงม้า) จอ LCD เครื่องเสียง Harman-Kardon หลังคาแก้ว Sunroof รถสภาพสวย ไม่เคยมีอุบัติเหตุ มือเดียวออกห้างฯ ไมล์แท้ 9x,xxx km.เช็คศูนย์BMWตลอด รถออก ศูนย์ Millenniun Auto Ekamai พวงมาลัย Multifuntion️ กุญแจรีโมท กุญแจสำรองอยู่ครบ️ 6 Speed Steptonic Paddle Shift️ Cruise Control️ Park Sensor ราคา 555,000 บาท (ฟรีดาวน์จัดไฟแนนซ์ได้เต็มไม่ต้องใช้เงินออกรถ) สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ ☎️ 0️⃣8️⃣7️⃣7️⃣5️⃣6️⃣2️⃣2️⃣2️⃣2️⃣ May สนใจดูรถได้ที่ ซ.รามคำแหง 164 #MiniCooperR56 #Mini #Cooper #R56
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า (Riverside Grilled Fish & Mala) ร้านอาหารจีน เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเสิร์ฟเมนูซิกเนเจอร์ ปลาย่างกระทะร้อนสไตล์ฉงชิ่ง มีจุดเด่นอยู่ที่ซอสสูตรลับเฉพาะของร้านที่ทุกคนต้องลอง รวมถึงเมนูเด็ด หม่าล่าผัด ที่ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบได้ตามสไตล์ที่อยากทาน ตลอดจนเมนูอาหารจีนรสชาติตำรับแท้สไตล์ฉงชิ่ง-เสฉวนอีกมากมาย ให้สายอาหารจีนได้มาลิ้มลองซ้ำๆ ได้แบบไม่มีเบื่อ

    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FJouypVMvvpLFToo7
    ที่อยู่ : ชั้น 6 centralwOrld โซน beacOn
    ร้านเปิดบริการ : 10.00 - 21.00 น.

    #ร้านอาหารในห้าง #ร้านอร่อยรีวิว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า (Riverside Grilled Fish & Mala) ร้านอาหารจีน เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเสิร์ฟเมนูซิกเนเจอร์ ปลาย่างกระทะร้อนสไตล์ฉงชิ่ง มีจุดเด่นอยู่ที่ซอสสูตรลับเฉพาะของร้านที่ทุกคนต้องลอง รวมถึงเมนูเด็ด หม่าล่าผัด ที่ลูกค้าสามารถเลือกวัตถุดิบได้ตามสไตล์ที่อยากทาน ตลอดจนเมนูอาหารจีนรสชาติตำรับแท้สไตล์ฉงชิ่ง-เสฉวนอีกมากมาย ให้สายอาหารจีนได้มาลิ้มลองซ้ำๆ ได้แบบไม่มีเบื่อ พิกัด : https://maps.app.goo.gl/FJouypVMvvpLFToo7 ที่อยู่ : ชั้น 6 centralwOrld โซน beacOn ร้านเปิดบริการ : 10.00 - 21.00 น. #ร้านอาหารในห้าง #ร้านอร่อยรีวิว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 572 มุมมอง 0 รีวิว
  • TAI ER (ไท่เออร์) เป็นร้านอาหารจีนสไตล์เสฉวน ร้านดังจากเมืองจีนที่มีเมนูสุดฮิตอย่าง ต้มปลาผักกาดดอง หม่าล่าเสฉวน เมนูเด็ดที่ใครได้ทานก็ต้องติดใจ บอกเลยว่ารสชาติอร่อยจัดจ้านถึงใจ และที่ร้านยังมีเมนูอาหารอื่นๆ ให้เลือกอีกเยอะ รับรองว่าถูกใจครอบครัวสายหม่าล่าแน่นอน

    พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mgjvUfgMXsKP8ZoK8
    ที่อยู่ : ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์ โซน Atrium
    ร้านเปิดบริการ : 10.30 - 22.00 น.

    #ร้านอาหารในห้าง #ร้านอร่อยรีวิว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    TAI ER (ไท่เออร์) เป็นร้านอาหารจีนสไตล์เสฉวน ร้านดังจากเมืองจีนที่มีเมนูสุดฮิตอย่าง ต้มปลาผักกาดดอง หม่าล่าเสฉวน เมนูเด็ดที่ใครได้ทานก็ต้องติดใจ บอกเลยว่ารสชาติอร่อยจัดจ้านถึงใจ และที่ร้านยังมีเมนูอาหารอื่นๆ ให้เลือกอีกเยอะ รับรองว่าถูกใจครอบครัวสายหม่าล่าแน่นอน พิกัด : https://maps.app.goo.gl/mgjvUfgMXsKP8ZoK8 ที่อยู่ : ชั้น 7 เซ็นทรัลเวิลด์ โซน Atrium ร้านเปิดบริการ : 10.30 - 22.00 น. #ร้านอาหารในห้าง #ร้านอร่อยรีวิว #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 577 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📜ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอล: โล่ป้องกันภัยทางเทคโนโลยีขั้นสูงที่รั่วไหลเหมือนตะแกรง

    เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม, อิหร่านยิงขีปนาวุธพิสัยไกลประมาณ ๒๐๐ ลูกไปที่อิสราเอลเพื่อตอบโต้การสังหารผู้นำกลุ่มฮามาส อิสมาอิล ฮานีเยห์ และ ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ เลขาธิการกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของอิหร่าน อิหร่านอ้างว่าขีปนาวุธ ๙๐% ยิงโดนเป้าหมาย, ขณะที่เทลอาวีฟยืนกรานว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศ "ล้ำสมัย" ของพวกเขาหยุดเป้าหมายได้เกือบทั้งหมด – แม้ว่าหลักฐานบนพื้นดินจะชี้ให้เห็นเป็นอย่างอื่น ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลทำผลงานได้อย่างไรเมื่อนำไปทดสอบจริง?

    🔸ไอรอน โดม: ออกแบบมาสำหรับภัยคุกคามระยะสั้น เช่น จรวดและปืนครก โดยมีระยะยิง ๔-๗๐ กม. แต่ละชุดมีเรดาร์และเครื่องยิงที่มีเครื่องสกัดกั้น ๒๐ เครื่อง แต่จุดอ่อนของระบบนี้ต่อการโจมตีด้วยจรวดจำนวนมากนั้นถูกเปิดเผยแล้ว, และด้วยราคา ๕๐,๐๐๐ ดอลลาร์ต่อขีปนาวุธหนึ่งลูก จึงไม่เป็นมิตรกับงบประมาณสักเท่าไร

    🔸David's Sling: สร้างขึ้นเพื่อรับมือกับภัยคุกคามในระยะไกลถึง ๓๐๐ กม., โดยใช้เทคโนโลยี "โจมตีเพื่อสังหาร" แบบจลนศาสตร์เพื่อยิงขีปนาวุธพิสัยไกล แต่ขาดหัวรบระเบิดแบบแตกกระจายเพื่อยิงขีปนาวุธเมื่อเกือบพลาดเป้า และเช่นเดียวกับคู่แข่ง ระบบนี้ก็อ่อนไหวต่อการโจมตีด้วยขีปนาวุธจำนวนมาก

    🔸ระบบ Arrow ๒ และ ๓ สร้างขึ้นเพื่อหยุดยั้งขีปนาวุธพิสัยกลางและไกลที่อยู่ห่างออกไปถึง ๒,๔๐๐ กม. และสามารถยิงขีปนาวุธได้ ๑๔ ลูกในคราวเดียว แต่เมื่อท้องฟ้าวุ่นวาย, ความแม่นยำก็ลดลง และจุดบอดต่อภัยคุกคามที่เคลื่อนที่เร็วก็กลายเป็นปัญหาที่แท้จริง

    🔸ไอรอน บีม: อาวุธใหม่ที่กำลังมาแรง – แต่ยังไม่พร้อมสำหรับการใช้งาน อาวุธ Iron Beam ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นอาวุธ 'Star Wars' ที่ใช้เลเซอร์ยิงขีปนาวุธ, ยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนา ในตอนนี้, เป็นเพียงคำสัญญาบนกระดาษเท่านั้น และอิสราเอลยังคงเสี่ยงอันตรายในขณะที่รอให้เทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้งาน
    .
    📜ISRAEL'S AIR DEFENSE: A HIGH-TECH SHIELD THAT LEAKS LIKE A SIEVE

    On October 1, Iran fired around 200 ballistic missiles at Israel in retaliation for Israel’s killings of Hamas leader Ismail Haniyeh and Hezbollah secretary-general Hassan Nasrallah. Iran claims 90% hit their targets, while Tel Aviv insists their “state-of-the-art” air defense stopped most of them – although evidence on the ground suggests otherwise. How did Israel’s missile defense fare when really put to the test?

    🔸Iron Dome: Designed for short-range threats like rockets and mortars, with a range of 4-70 km. Each battery has a radar and launchers with 20 interceptors. But its weakness against mass rocket attacks has been exposed, and at $50,000 per missile it’s not exactly budget-friendly.

    🔸David's Sling: Built for longer-range threats up to 300 km, it uses kinetic "hit-to-kill" tech to shoot down ballistic missiles. But it lacks a fragmenting explosive warhead to take out missiles in a near-miss, and like its counterparts it buckles under mass missile attacks.

    🔸The Arrow 2 and 3 systems are built to stop medium and long-range missiles up to 2,400 km away and can target 14 missiles at once. But when the skies get busy, accuracy falters and their blind spots for fast-moving threats become a real problem.

    🔸Iron Beam: The new kid on the block – except it’s still not quite ready to play. Touted as a ‘Star Wars’ weapon using lasers to shoot down missiles, the Iron Beam is still in development. For now, it’s nothing more than a promise on paper and Israel remains vulnerable while waiting for this technology to come online.
    .
    10:23 PM · Oct 3, 2024 · 17.3K Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1841861573943410914
    📜ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอล: โล่ป้องกันภัยทางเทคโนโลยีขั้นสูงที่รั่วไหลเหมือนตะแกรง เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม, อิหร่านยิงขีปนาวุธพิสัยไกลประมาณ ๒๐๐ ลูกไปที่อิสราเอลเพื่อตอบโต้การสังหารผู้นำกลุ่มฮามาส อิสมาอิล ฮานีเยห์ และ ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ เลขาธิการกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ของอิหร่าน อิหร่านอ้างว่าขีปนาวุธ ๙๐% ยิงโดนเป้าหมาย, ขณะที่เทลอาวีฟยืนกรานว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศ "ล้ำสมัย" ของพวกเขาหยุดเป้าหมายได้เกือบทั้งหมด – แม้ว่าหลักฐานบนพื้นดินจะชี้ให้เห็นเป็นอย่างอื่น ระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิสราเอลทำผลงานได้อย่างไรเมื่อนำไปทดสอบจริง? 🔸ไอรอน โดม: ออกแบบมาสำหรับภัยคุกคามระยะสั้น เช่น จรวดและปืนครก โดยมีระยะยิง ๔-๗๐ กม. แต่ละชุดมีเรดาร์และเครื่องยิงที่มีเครื่องสกัดกั้น ๒๐ เครื่อง แต่จุดอ่อนของระบบนี้ต่อการโจมตีด้วยจรวดจำนวนมากนั้นถูกเปิดเผยแล้ว, และด้วยราคา ๕๐,๐๐๐ ดอลลาร์ต่อขีปนาวุธหนึ่งลูก จึงไม่เป็นมิตรกับงบประมาณสักเท่าไร 🔸David's Sling: สร้างขึ้นเพื่อรับมือกับภัยคุกคามในระยะไกลถึง ๓๐๐ กม., โดยใช้เทคโนโลยี "โจมตีเพื่อสังหาร" แบบจลนศาสตร์เพื่อยิงขีปนาวุธพิสัยไกล แต่ขาดหัวรบระเบิดแบบแตกกระจายเพื่อยิงขีปนาวุธเมื่อเกือบพลาดเป้า และเช่นเดียวกับคู่แข่ง ระบบนี้ก็อ่อนไหวต่อการโจมตีด้วยขีปนาวุธจำนวนมาก 🔸ระบบ Arrow ๒ และ ๓ สร้างขึ้นเพื่อหยุดยั้งขีปนาวุธพิสัยกลางและไกลที่อยู่ห่างออกไปถึง ๒,๔๐๐ กม. และสามารถยิงขีปนาวุธได้ ๑๔ ลูกในคราวเดียว แต่เมื่อท้องฟ้าวุ่นวาย, ความแม่นยำก็ลดลง และจุดบอดต่อภัยคุกคามที่เคลื่อนที่เร็วก็กลายเป็นปัญหาที่แท้จริง 🔸ไอรอน บีม: อาวุธใหม่ที่กำลังมาแรง – แต่ยังไม่พร้อมสำหรับการใช้งาน อาวุธ Iron Beam ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นอาวุธ 'Star Wars' ที่ใช้เลเซอร์ยิงขีปนาวุธ, ยังคงอยู่ในระหว่างการพัฒนา ในตอนนี้, เป็นเพียงคำสัญญาบนกระดาษเท่านั้น และอิสราเอลยังคงเสี่ยงอันตรายในขณะที่รอให้เทคโนโลยีนี้เข้ามาใช้งาน . 📜ISRAEL'S AIR DEFENSE: A HIGH-TECH SHIELD THAT LEAKS LIKE A SIEVE On October 1, Iran fired around 200 ballistic missiles at Israel in retaliation for Israel’s killings of Hamas leader Ismail Haniyeh and Hezbollah secretary-general Hassan Nasrallah. Iran claims 90% hit their targets, while Tel Aviv insists their “state-of-the-art” air defense stopped most of them – although evidence on the ground suggests otherwise. How did Israel’s missile defense fare when really put to the test? 🔸Iron Dome: Designed for short-range threats like rockets and mortars, with a range of 4-70 km. Each battery has a radar and launchers with 20 interceptors. But its weakness against mass rocket attacks has been exposed, and at $50,000 per missile it’s not exactly budget-friendly. 🔸David's Sling: Built for longer-range threats up to 300 km, it uses kinetic "hit-to-kill" tech to shoot down ballistic missiles. But it lacks a fragmenting explosive warhead to take out missiles in a near-miss, and like its counterparts it buckles under mass missile attacks. 🔸The Arrow 2 and 3 systems are built to stop medium and long-range missiles up to 2,400 km away and can target 14 missiles at once. But when the skies get busy, accuracy falters and their blind spots for fast-moving threats become a real problem. 🔸Iron Beam: The new kid on the block – except it’s still not quite ready to play. Touted as a ‘Star Wars’ weapon using lasers to shoot down missiles, the Iron Beam is still in development. For now, it’s nothing more than a promise on paper and Israel remains vulnerable while waiting for this technology to come online. . 10:23 PM · Oct 3, 2024 · 17.3K Views https://x.com/SputnikInt/status/1841861573943410914
    Haha
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่ผ่านมาแฟนเพจคงจะเห็นผมวิจารณ์การเสนอข่าวของสื่อตะวันตกเกี่ยวกับสงครามยูเครนอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมผิดหวังมากที่สุดจากการอ่านข่าวในสื่อตะวันตกคือหลายครั้งที่มีข่าวอิหยังวะออกมา คนเขียนหรือแหล่งข่าวนั้นกลับไม่ใช่ตาสีตาสาหรือชาวเน็ตทั่วไป แต่เป็น "ผู้เชี่ยวชาญ" ที่ถ้าเป็นภาวะปกติ คงไม่น่าเชื่อว่าจะเสนอข่าวแบบนั้นออกมา ยกตัวอย่างเช่น

    วันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 2022 พลโท Ben Hodges อดีตนายทหารสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์สื่อ Fox News บอกว่ากำลังรบของรัสเซียจะหมดเกลี้ยงภายใน 10 วัน เรื่องนี้ฟังดูยังไงก็โฆษณาชวนเชื่อชัดๆ ใช่ไหมครับ ประเด็นคือคนพูดเป็น "พลโท" กองทัพสหรัฐฯ เลยนะ

    วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2022 นาย Antony Beevor นักประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 มีผลงานหนังสือเกี่ยวกับสมรภูมิต่างๆ หลายเล่มที่ผมเองก็อ่าน เช่นหนังสือ Stalingrad, D-Day, Arnhem, Ardennes, Berlin เป็นต้น เขียนบทความลงสื่อ The Atlantic วิจารณ์ยุทธวิธีการใช้รถถังของรัสเซีย โดยนำไปเปรียบเทียบกับสงครามโลกครั้งที่ 2 อ้างว่าตอนบุกยึดเบอร์ลิน จอมพลชูคอฟก็ทำผิดพลาดแบบเดียวกัน ใช้แต่รถถังบุกเข้าเบอร์ลิน "โดยไม่มีทหารราบคุ้มกัน" ทำให้ตกเป็นเป้าของทหารเยอรมันที่ใช้อาวุธต่อสู้รถถัง Panzerfaust ผมอ่านเจอประโยคนี้อึ้งเลย ตอนบุกยึดเบอร์ลิน โซเวียตทุ่มกำลังทหารราบมากกว่า 2,500,000 นายและรถถังมากกว่า 6,000 คัน ในขณะที่ฝ่ายเยอรมัน มีทหารในเมืองแค่ 45,000 นาย โปรดฟังอีกครั้ง ในสมรภูมิเบอร์ลิน โซเวียตใช้ทหารราบ 2,500,000 นายปะทะทหารเยอรมัน 45,000 นาย น่าจะไม่มีสมรภูมิไหนที่กำลังทหารราบห่างชั้นกันขนาดนี้อีกแล้ว แล้วนาย Beevor "นักประวัติศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2" มาบิดเบือนว่าโซเวียตใช้แต่รถถังบุกเบอร์ลิน โดยไม่มีทหารราบเลยนี่คืออิหยังวะ

    วันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2023 สื่อ The Telegraph ของอังกฤษ ลงข่าวอวยรถถัง Challenger 2 ว่าเป็นรถถังเทพ ลงสนามรบเมื่อไหร่ ก็จะปราบทหารเกณฑ์รัสเซียเรียบวุธ ยูเครนชนะแน่นอน ที่น่าแปลกใจคือแหล่งข่าวของ The Telegraph ไม่ใช่เกรียนชาวเน็ตที่ไหน แต่เป็น "อดีต ผบ. รถถัง" เลยนะ

    ความจริงการใช้ "ผู้เชี่ยวชาญ" มาทำการโฆษณาชวนเชื่อไม่ใช่เรื่องใหม่เลยครับ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษก็มีหน่วยงานชื่อ Wellington House ที่รวบรวมนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ มาเขียนบทความ แผ่นพับ ใบปลิวต่างๆ เพื่อใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณวุฒิของบุคคลเหล่านั้นชักจูงให้คนหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อของอังกฤษ แต่โฆษณาชวนเชื่อของ Wellington House สมัยนั้นมีศิลปะ แนบเนียนกว่า "ผู้เชี่ยวชาญ" ในสื่อตะวันตกปัจจุบันเยอะเลย เป็นสิ่งที่ผมผิดหวังมากเลย แล้วต่อไปเราจะเชื่อข้อมูลข่าวสารจาก "พลโทกองทัพสหรัฐฯ" "นักประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2" "อดีต ผบ. รถถังอังกฤษ" เป็นต้น ได้อย่างไร ถ้าตะวันตกจะปัดฝุ่นวิธีการของ Wellington House มาใช้ใหม่ ก็ช่วยรักษาคุณภาพของต้นฉบับทีเถอะครับ

    สวัสดี

    การทูตและการทหาร
    Military and Diplomacy

    03.10.2024

    ที่ผ่านมาแฟนเพจคงจะเห็นผมวิจารณ์การเสนอข่าวของสื่อตะวันตกเกี่ยวกับสงครามยูเครนอยู่เสมอ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ผมผิดหวังมากที่สุดจากการอ่านข่าวในสื่อตะวันตกคือหลายครั้งที่มีข่าวอิหยังวะออกมา คนเขียนหรือแหล่งข่าวนั้นกลับไม่ใช่ตาสีตาสาหรือชาวเน็ตทั่วไป แต่เป็น "ผู้เชี่ยวชาญ" ที่ถ้าเป็นภาวะปกติ คงไม่น่าเชื่อว่าจะเสนอข่าวแบบนั้นออกมา ยกตัวอย่างเช่น วันที่ 14 มีนาคม ค.ศ. 2022 พลโท Ben Hodges อดีตนายทหารสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์สื่อ Fox News บอกว่ากำลังรบของรัสเซียจะหมดเกลี้ยงภายใน 10 วัน เรื่องนี้ฟังดูยังไงก็โฆษณาชวนเชื่อชัดๆ ใช่ไหมครับ ประเด็นคือคนพูดเป็น "พลโท" กองทัพสหรัฐฯ เลยนะ วันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 2022 นาย Antony Beevor นักประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2 มีผลงานหนังสือเกี่ยวกับสมรภูมิต่างๆ หลายเล่มที่ผมเองก็อ่าน เช่นหนังสือ Stalingrad, D-Day, Arnhem, Ardennes, Berlin เป็นต้น เขียนบทความลงสื่อ The Atlantic วิจารณ์ยุทธวิธีการใช้รถถังของรัสเซีย โดยนำไปเปรียบเทียบกับสงครามโลกครั้งที่ 2 อ้างว่าตอนบุกยึดเบอร์ลิน จอมพลชูคอฟก็ทำผิดพลาดแบบเดียวกัน ใช้แต่รถถังบุกเข้าเบอร์ลิน "โดยไม่มีทหารราบคุ้มกัน" ทำให้ตกเป็นเป้าของทหารเยอรมันที่ใช้อาวุธต่อสู้รถถัง Panzerfaust ผมอ่านเจอประโยคนี้อึ้งเลย ตอนบุกยึดเบอร์ลิน โซเวียตทุ่มกำลังทหารราบมากกว่า 2,500,000 นายและรถถังมากกว่า 6,000 คัน ในขณะที่ฝ่ายเยอรมัน มีทหารในเมืองแค่ 45,000 นาย โปรดฟังอีกครั้ง ในสมรภูมิเบอร์ลิน โซเวียตใช้ทหารราบ 2,500,000 นายปะทะทหารเยอรมัน 45,000 นาย น่าจะไม่มีสมรภูมิไหนที่กำลังทหารราบห่างชั้นกันขนาดนี้อีกแล้ว แล้วนาย Beevor "นักประวัติศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2" มาบิดเบือนว่าโซเวียตใช้แต่รถถังบุกเบอร์ลิน โดยไม่มีทหารราบเลยนี่คืออิหยังวะ วันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2023 สื่อ The Telegraph ของอังกฤษ ลงข่าวอวยรถถัง Challenger 2 ว่าเป็นรถถังเทพ ลงสนามรบเมื่อไหร่ ก็จะปราบทหารเกณฑ์รัสเซียเรียบวุธ ยูเครนชนะแน่นอน ที่น่าแปลกใจคือแหล่งข่าวของ The Telegraph ไม่ใช่เกรียนชาวเน็ตที่ไหน แต่เป็น "อดีต ผบ. รถถัง" เลยนะ ความจริงการใช้ "ผู้เชี่ยวชาญ" มาทำการโฆษณาชวนเชื่อไม่ใช่เรื่องใหม่เลยครับ สมัยสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษก็มีหน่วยงานชื่อ Wellington House ที่รวบรวมนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญสาขาต่างๆ มาเขียนบทความ แผ่นพับ ใบปลิวต่างๆ เพื่อใช้ในการโฆษณาชวนเชื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณวุฒิของบุคคลเหล่านั้นชักจูงให้คนหลงเชื่อโฆษณาชวนเชื่อของอังกฤษ แต่โฆษณาชวนเชื่อของ Wellington House สมัยนั้นมีศิลปะ แนบเนียนกว่า "ผู้เชี่ยวชาญ" ในสื่อตะวันตกปัจจุบันเยอะเลย เป็นสิ่งที่ผมผิดหวังมากเลย แล้วต่อไปเราจะเชื่อข้อมูลข่าวสารจาก "พลโทกองทัพสหรัฐฯ" "นักประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 2" "อดีต ผบ. รถถังอังกฤษ" เป็นต้น ได้อย่างไร ถ้าตะวันตกจะปัดฝุ่นวิธีการของ Wellington House มาใช้ใหม่ ก็ช่วยรักษาคุณภาพของต้นฉบับทีเถอะครับ สวัสดี การทูตและการทหาร Military and Diplomacy 03.10.2024
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจ ปคบ.ร่วม ป.ป.ง.ลุยตรวจค้นบ้านและบริษัทของ "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" ยึดปอร์เช่-แมคลาเรน พร้อมรถหรูยี่ห้ออื่นรวม 5 คัน เงินฝากและทรัพย์สินอื่นอีกหลายรายการ รวมเบ็ดเสร็จมูลค่ากว่า 70 ล้าน

    3 ตุลาคม 2567 -รายงานข่าวระบุว่า เวลาประมาณ 11.00 น. ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ., โดยได้บูรณาการกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ภายใต้การอำนวยการของ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ได้สั่งการให้นายวรเศรษฐ์ สุรพนานนท์ชัย ผอ.กองข่าวกรองทางการเงิน เจ้าหน้าที่ชุดตรวจต้น นำโดย พ.ต.ท.กิตติพศ คงสูงเนิน และ พ.ต.ท.กฤษณ์ พิพัฒน์พูนสิริ สว.กก1 บก.ปคบ. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) นำโดย พ.ต.ท.ประวิทย์ แช่มมั่นคง ผอ.สสง.1,น.ส.พรรณจิรา ระดมกิจ ,พ.ต.ท.บริสุทธิ์ จันทร และ น.ส.จีรญาดา สำนวนกลาง นสส.ชก. นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้น จำนวน 2 จุด ดังนี้

    1.บ้านหลังหนึ่งใน ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
    2.บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด และ บริษัท ขายทุกอย่าง บายป๋าเบียร์ จำกัด ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร
    ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ดังนี้
    1. รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น CAYENNE E-HYBRID COUPE สีส้ม จำนวน 1 คัน
    2. รถยนต์ยี่ห้อ MC LAREN สีส้ม จำนวน 1 คัน
    3. รถยนต์ยี่ห้อ LEXUS สีดำ จำนวน 1 คัน
    4. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น TR TRANSFOMER สีเหลือง ดำ จำนวน 1 คัน
    5.รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD สีขาว จำนวน 1 คัน
    6.อายัดบัญชีเงินฝาก และทรัพย์สินรายการอื่นๆ
    รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท

    พฤติการณ์ในการตรวจค้น สืบเนื่องจากกรณีมีผู้เสียหายหลายคนได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ บจก.เคทูเอ็น โกลด์ (ห้างเพชรทองเคทูเอ็น) โดยมีนายกานต์พล ฯ หรือป๋าเบียร์ กรรมการผู้มีอำนาจ กับพวก หลังผู้เสียหายหลายคนเป็นลูกค้าที่ซื้อทองรูปพรรณพร้อมของแถมผ่านการไลฟ์สดในสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมมีการอ้างว่าทองที่ขายดังกล่าว เป็นทองแท้ 99.99 % แต่เมื่อได้รับสินค้าแล้วทองเหล่านั้นไม่ตรงกับที่โฆษณาไว้ และยังเป็นทองที่ไม่ได้คุณภาพอีกด้วย ทำให้ได้รับความเสียหาย ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้ยื่นคำร้องขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ก่อนจะสามารถจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา พร้อมนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวนไปแล้วก่อนหน้านี้

    วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ได้นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรีเข้าตรวจค้น จำนวน 2 จุด พร้อมกับทำการตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการตามบัญชีของกลางข้างต้น รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท โดยเป็นการปฏิบัติการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. ตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบว่าทรัพย์สินดังกล่าวข้างต้น เป็นทรัพย์ที่เกี่ยวข้องหรือได้มาเกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือไม่

    #Thaitimes
    ตำรวจ ปคบ.ร่วม ป.ป.ง.ลุยตรวจค้นบ้านและบริษัทของ "แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์" ยึดปอร์เช่-แมคลาเรน พร้อมรถหรูยี่ห้ออื่นรวม 5 คัน เงินฝากและทรัพย์สินอื่นอีกหลายรายการ รวมเบ็ดเสร็จมูลค่ากว่า 70 ล้าน 3 ตุลาคม 2567 -รายงานข่าวระบุว่า เวลาประมาณ 11.00 น. ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ.,พ.ต.อ.อนุวัฒน์ รักษ์เจริญ รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ชัฏฐ นากแก้ว รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ., โดยได้บูรณาการกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ภายใต้การอำนวยการของ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ได้สั่งการให้นายวรเศรษฐ์ สุรพนานนท์ชัย ผอ.กองข่าวกรองทางการเงิน เจ้าหน้าที่ชุดตรวจต้น นำโดย พ.ต.ท.กิตติพศ คงสูงเนิน และ พ.ต.ท.กฤษณ์ พิพัฒน์พูนสิริ สว.กก1 บก.ปคบ. พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) นำโดย พ.ต.ท.ประวิทย์ แช่มมั่นคง ผอ.สสง.1,น.ส.พรรณจิรา ระดมกิจ ,พ.ต.ท.บริสุทธิ์ จันทร และ น.ส.จีรญาดา สำนวนกลาง นสส.ชก. นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้น จำนวน 2 จุด ดังนี้ 1.บ้านหลังหนึ่งใน ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 2.บริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด และ บริษัท ขายทุกอย่าง บายป๋าเบียร์ จำกัด ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ดังนี้ 1. รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น CAYENNE E-HYBRID COUPE สีส้ม จำนวน 1 คัน 2. รถยนต์ยี่ห้อ MC LAREN สีส้ม จำนวน 1 คัน 3. รถยนต์ยี่ห้อ LEXUS สีดำ จำนวน 1 คัน 4. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น TR TRANSFOMER สีเหลือง ดำ จำนวน 1 คัน 5.รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD สีขาว จำนวน 1 คัน 6.อายัดบัญชีเงินฝาก และทรัพย์สินรายการอื่นๆ รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท พฤติการณ์ในการตรวจค้น สืบเนื่องจากกรณีมีผู้เสียหายหลายคนได้เข้าพบพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ บจก.เคทูเอ็น โกลด์ (ห้างเพชรทองเคทูเอ็น) โดยมีนายกานต์พล ฯ หรือป๋าเบียร์ กรรมการผู้มีอำนาจ กับพวก หลังผู้เสียหายหลายคนเป็นลูกค้าที่ซื้อทองรูปพรรณพร้อมของแถมผ่านการไลฟ์สดในสื่อสังคมออนไลน์ พร้อมมีการอ้างว่าทองที่ขายดังกล่าว เป็นทองแท้ 99.99 % แต่เมื่อได้รับสินค้าแล้วทองเหล่านั้นไม่ตรงกับที่โฆษณาไว้ และยังเป็นทองที่ไม่ได้คุณภาพอีกด้วย ทำให้ได้รับความเสียหาย ต่อมาพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ปคบ. ได้รวบรวมพยานหลักฐาน และได้ยื่นคำร้องขอศาลออกหมายจับผู้ต้องหา ก่อนจะสามารถจับกุมตัวได้ในเวลาต่อมา พร้อมนำตัวผู้ต้องหา ส่งพนักงานสอบสวนไปแล้วก่อนหน้านี้ วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.ปคบ. ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ป.ป.ง.) ได้นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรีเข้าตรวจค้น จำนวน 2 จุด พร้อมกับทำการตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการตามบัญชีของกลางข้างต้น รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท โดยเป็นการปฏิบัติการร่วมกับ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ง. ตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบว่าทรัพย์สินดังกล่าวข้างต้น เป็นทรัพย์ที่เกี่ยวข้องหรือได้มาเกี่ยวกับการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือไม่ #Thaitimes
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 482 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกาะโลซิน แหล่งดำน้ำทรงคุณค่าแห่งอาณาจักรทะเลไทย

    หากใครไม่เคยรู้จักหรือเห็นภาพ “เกาะโลซิน” มาก่อน ก็คงนึกภาพไม่ออกว่าเกาะที่เป็นแหล่งดำน้ำสำคัญของไทยแห่งนี้หน้าตาเป็นอย่างไร และอาจจะจินตนาการถึงเกาะในแบบที่คุ้นตาซึ่งต้องมีชายหาด ทิวมะพร้าว เรือหางยาวจอดสวยๆซักลำ

    ความจริงแล้วเกาะโลซิน เสมือนกองหินกลางทะเลที่โผล่พ้นขึ้นมาเหนือน้ำประมาณสิบเมตรเท่านั้น สิ่งเดียวที่เห็นคือแนวหินกับประภาคารเล็กๆโดดเดี่ยวตั้งอยู่ห่างไกลจากฝั่งมากที่สุดของอ่าวไทย ระยะประมาณ 72 กิโลเมตรจากชายฝั่งจังหวัดปัตตานี
    แต่ทว่าเกาะจิ๋วแห่งนี้ มีคุณค่าต่อประเทศไทยอย่างมหาศาล เพราะตามหลักอาณาเขตน่านน้ำสากลแล้ว ทำให้ประเทศไทยมีพื้นที่จากจากเกาะโลซินออกไปอีกถึง 200 ไมล์ทะเล ซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่มิอาจประเมินค่าได้ และที่นี่ยังเป็นแหล่งดำน้ำที่อุดมสมบูรณ์มากท่สุดแห่งหนึ่งของอ่าวไทยอีกด้วย

    ใต้ผืนน้ำของเกาะโลซินมีแนวปะการังที่สมบูรณ์ เป็นบริเวณกว้าง ถ้านับแค่รอบๆเกาะก็มีพื้นที่ราว 2 สนามฟุตบอล มีฝูงปลา สัตว์ทะเลชนิดต่างๆจำนวนมาก เพราะยังไม่ค่อยถูกรบกวนจากการประมงมากนัก นักดำน้ำมีโอกาสสามารถพบฉลามวาฬได้ง่าย เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีเรือประมงทำให้ฉลามวาฬเชื่องกับนักดำน้ำ มักว่ายมาวนให้ถ่ายรูปได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีปลาโรนิน หรือปลากระเบนท้องน้ำ ที่ไม่ค่อยพบเห็นได้ง่ายจากที่อื่น



    เกาะโลซิน แหล่งดำน้ำทรงคุณค่าแห่งอาณาจักรทะเลไทย หากใครไม่เคยรู้จักหรือเห็นภาพ “เกาะโลซิน” มาก่อน ก็คงนึกภาพไม่ออกว่าเกาะที่เป็นแหล่งดำน้ำสำคัญของไทยแห่งนี้หน้าตาเป็นอย่างไร และอาจจะจินตนาการถึงเกาะในแบบที่คุ้นตาซึ่งต้องมีชายหาด ทิวมะพร้าว เรือหางยาวจอดสวยๆซักลำ ความจริงแล้วเกาะโลซิน เสมือนกองหินกลางทะเลที่โผล่พ้นขึ้นมาเหนือน้ำประมาณสิบเมตรเท่านั้น สิ่งเดียวที่เห็นคือแนวหินกับประภาคารเล็กๆโดดเดี่ยวตั้งอยู่ห่างไกลจากฝั่งมากที่สุดของอ่าวไทย ระยะประมาณ 72 กิโลเมตรจากชายฝั่งจังหวัดปัตตานี แต่ทว่าเกาะจิ๋วแห่งนี้ มีคุณค่าต่อประเทศไทยอย่างมหาศาล เพราะตามหลักอาณาเขตน่านน้ำสากลแล้ว ทำให้ประเทศไทยมีพื้นที่จากจากเกาะโลซินออกไปอีกถึง 200 ไมล์ทะเล ซึ่งเต็มไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติที่มิอาจประเมินค่าได้ และที่นี่ยังเป็นแหล่งดำน้ำที่อุดมสมบูรณ์มากท่สุดแห่งหนึ่งของอ่าวไทยอีกด้วย ใต้ผืนน้ำของเกาะโลซินมีแนวปะการังที่สมบูรณ์ เป็นบริเวณกว้าง ถ้านับแค่รอบๆเกาะก็มีพื้นที่ราว 2 สนามฟุตบอล มีฝูงปลา สัตว์ทะเลชนิดต่างๆจำนวนมาก เพราะยังไม่ค่อยถูกรบกวนจากการประมงมากนัก นักดำน้ำมีโอกาสสามารถพบฉลามวาฬได้ง่าย เพราะเป็นพื้นที่ที่ไม่ค่อยมีเรือประมงทำให้ฉลามวาฬเชื่องกับนักดำน้ำ มักว่ายมาวนให้ถ่ายรูปได้อย่างน่าประทับใจ นอกจากนี้ยังมีปลาโรนิน หรือปลากระเบนท้องน้ำ ที่ไม่ค่อยพบเห็นได้ง่ายจากที่อื่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 3 ต.ค.พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ได้นำกำลังตำรวจพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้น เป้าหมายจำนวน 2 จุด เพื่อยึดทรัพย์คดีค้าทองคำจากผู้ต้องหาได้แก่ “แม่ตั๊ก-กรกนก สุวรรณบุตร” เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมและห้างเพชรทอง เคทูเอ็น ย่านถนนหทัยราษฎร์ และนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ เรืองอร่าม ผู้เป็นสามี

    สำหรับการตรวจค้นทั้ง 2 จุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ประกอบด้วยบ้านหลังหนึ่งใน ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านพักของสองผู้ต้องหา และบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด และ บริษัท ขายทุกอย่าง บายป๋าเบียร์ จำกัด ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ

    โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย 1. รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น CAYENNE E-HYBRID COUPE สีส้ม จำนวน 1 คัน 2. รถยนต์ยี่ห้อ MCLAREN สีส้ม จำนวน 1 คัน ราคาราว 30 กว่าล้านบาท 3. รถยนต์ยี่ห้อ LEXUS สีดำ จำนวน 1 คัน 4. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น TR TRANSFOMER สีเหลือง ดำ จำนวน 1 คัน 5.รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD สีขาว จำนวน 1 คัน และ 6.อายัดบัญชีเงินฝาก และทรัพย์สินรายการอื่นๆ รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท

    @สำนักข่าวอิศรา

    https://www.isranews.org/article/isranews-short-news/132284-isranews-yudsup.html?fbclid=IwY2xjawFrRgFleHRuA2FlbQIxMQABHYolkVUrBtBkDlWZQvi93mEP3GSdKTzMDpB60j0o_Fir4oWnucCe9uzqvw_aem_c0EUIraXw_Mox4ISiNs01w
    เมื่อวันที่ 3 ต.ค.พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) ได้นำกำลังตำรวจพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้น เป้าหมายจำนวน 2 จุด เพื่อยึดทรัพย์คดีค้าทองคำจากผู้ต้องหาได้แก่ “แม่ตั๊ก-กรกนก สุวรรณบุตร” เจ้าของธุรกิจอาหารเสริมและห้างเพชรทอง เคทูเอ็น ย่านถนนหทัยราษฎร์ และนายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ เรืองอร่าม ผู้เป็นสามี สำหรับการตรวจค้นทั้ง 2 จุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ประกอบด้วยบ้านหลังหนึ่งใน ซอยรามอินทรา 65 แยก 2-4 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นบ้านพักของสองผู้ต้องหา และบริษัท เคทูเอ็น โกลด์ จำกัด และ บริษัท ขายทุกอย่าง บายป๋าเบียร์ จำกัด ถ.หทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ ประกอบด้วย 1. รถยนต์ยี่ห้อ PORSCHE รุ่น CAYENNE E-HYBRID COUPE สีส้ม จำนวน 1 คัน 2. รถยนต์ยี่ห้อ MCLAREN สีส้ม จำนวน 1 คัน ราคาราว 30 กว่าล้านบาท 3. รถยนต์ยี่ห้อ LEXUS สีดำ จำนวน 1 คัน 4. รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น TR TRANSFOMER สีเหลือง ดำ จำนวน 1 คัน 5.รถยนต์ยี่ห้อ TOYOTA รุ่น ALPHARD สีขาว จำนวน 1 คัน และ 6.อายัดบัญชีเงินฝาก และทรัพย์สินรายการอื่นๆ รวมทรัพย์สิน มูลค่ากว่า 70 ล้านบาท @สำนักข่าวอิศรา https://www.isranews.org/article/isranews-short-news/132284-isranews-yudsup.html?fbclid=IwY2xjawFrRgFleHRuA2FlbQIxMQABHYolkVUrBtBkDlWZQvi93mEP3GSdKTzMDpB60j0o_Fir4oWnucCe9uzqvw_aem_c0EUIraXw_Mox4ISiNs01w
    WWW.ISRANEWS.ORG
    ปคบ.สนธิกำลัง ปปง.เข้ายึดทรัพย์คดี 'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์' ค้าทองคำ อายัดรถ-เงินสด รวม 70ล.
    ปคบ.สนธิกำลัง ปปง.เข้ายึดทรัพย์คดี 'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์' ค้าทองคำ เบื้องต้นยึดรถหรู 30 ล้าน อายัดเงินฝาก ทรัพย์สินอื่นๆรวม 70 ล้าน
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขนมจุ๊ยก๊วย หรือขนมถ้วยของคนจีน เป็นขนมโบราณของคนจีนแคระ หาทานได้ยากมาก ร้านจุ๊ยก๊วยนี้มีอายุเกือบ 100 ปี ถ่ายทอดสู่รุ่นที่ 3 โดยใช้แป้งข้าวเจ้าสดเนื้อเนียน นึ่งด้วยถ้วยตะไลสีขาว แป้งเหนียวนุ่ม โรยหน้าด้วยหัวไช้โป๊วสับ ผัดให้หอมราดด้วยซีอิ้วที่รสชาติออกเค็มนิดหวานหน่อย และใส่พริกน้ำส้มรสชาติเปรี้ยวๆ โดยที่ร้านเปิดเป็น Delivery เท่านั้น หรือบูธออกงานตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป

    พิกัด : https://goo.gl/maps/utVJQegNPPcZmhxt5
    ที่อยู่ : ซอยเจริญกรุง 21 ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
    เปิดบริการ : ไม่ระบุ
    โทร : 08-41497845, 08-5946-1554

    #อาหารเจ #กินสาระนัวร์ #อิ่มแล้วได้บุญ #Thaitimes
    ขนมจุ๊ยก๊วย หรือขนมถ้วยของคนจีน เป็นขนมโบราณของคนจีนแคระ หาทานได้ยากมาก ร้านจุ๊ยก๊วยนี้มีอายุเกือบ 100 ปี ถ่ายทอดสู่รุ่นที่ 3 โดยใช้แป้งข้าวเจ้าสดเนื้อเนียน นึ่งด้วยถ้วยตะไลสีขาว แป้งเหนียวนุ่ม โรยหน้าด้วยหัวไช้โป๊วสับ ผัดให้หอมราดด้วยซีอิ้วที่รสชาติออกเค็มนิดหวานหน่อย และใส่พริกน้ำส้มรสชาติเปรี้ยวๆ โดยที่ร้านเปิดเป็น Delivery เท่านั้น หรือบูธออกงานตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป พิกัด : https://goo.gl/maps/utVJQegNPPcZmhxt5 ที่อยู่ : ซอยเจริญกรุง 21 ถนนเจริญกรุง เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร เปิดบริการ : ไม่ระบุ โทร : 08-41497845, 08-5946-1554 #อาหารเจ #กินสาระนัวร์ #อิ่มแล้วได้บุญ #Thaitimes
    Like
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 444 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวด่วน: ปรสิตร้ายแรงสี่ตัวที่พบในวัคซีน - มันคืออาชญากรรมแห่งศตวรรษ!

    ในเรื่องอื้อฉาวด้านสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา มีการพบปรสิตร้ายแรง 4 ชนิดในวัคซีน และไม่ใช่แค่การคาดเดาเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อเท็จจริงอีกด้วย Big Pharma ได้ทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อซ่อนมัน แต่ถามตัวเองว่า: วัคซีนมีไว้เพื่อช่วยชีวิตหรือไม่ ชีวิต ทำไมสิ่งมีชีวิตถึงตายถึงถูกฉีดเข้าไปในตัวเรา นี่เป็นเรื่องจริง และคุณไม่สามารถละสายตาจากไปได้

    ฝันร้ายถูกเปิดเผย เราได้รับแจ้งมานานหลายปีว่าวัคซีนนั้น “ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ” แต่นั่นยังไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมด หากฉันบอกคุณว่าขวดเหล่านี้มีปรสิตที่มีชีวิตซึ่งสามารถทำร้ายหรือฆ่าคุณได้ ข้างในและเมื่อฉีดเข้าไปแล้วใครจะรู้ว่ามันจะทำให้เกิดความเสียหายอะไร นี่ไม่ใช่อันตรายที่ห่างไกล

    ดร.แคร์รี มาเดจทำการทดสอบขวดวัคซีนโดยอิสระและค้นพบบางสิ่งที่น่ากลัว นั่นคือปรสิตไฮดราที่มีชีวิตพยายามหลบหนีออกจากขวด ใช่แล้ว สิ่งมีชีวิต ไม่ใช่แค่สารเคมี กำลังถูกฉีดภายใต้หน้ากากของ "การป้องกัน" เป็นเพียงหนึ่งในสี่ปรสิตที่พบ

    บทบาทของ Big Pharma ในเรื่องอื้อฉาวนี้ อย่าคิดว่านี่เป็นความผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย Big Pharma ขึ้นชื่อเรื่องการทำกำไรต่อหน้าผู้คน ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ได้รับการปกป้องจากการถูกฟ้องร้อง และมีมูลค่านับพันล้าน อันตรายที่พวกเขากำลังแพร่กระจาย คำถามไม่ใช่ว่าพวกเขาจะทำเช่นนี้หรือไม่ แต่เมื่อพวกเขามีแล้ว

    การเก็บรักษาความเย็น—เหตุผลที่แท้จริง เหตุใดขวดเหล่านี้จึงถูกเก็บไว้ที่อุณหภูมิเยือกแข็ง ไม่ใช่แค่การเก็บรักษาวัคซีนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปรสิตเหล่านี้มีชีวิตอยู่ได้ สร้างความหายนะ

    ไฮดรา วัลการิส—ปรสิตอมตะนี้เกือบจะเป็นอมตะ พร้อมด้วยความสามารถในการงอกใหม่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ลองนึกภาพสิ่งมีชีวิตภายในร่างกายของคุณที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปและขยายตัวเพิ่มขึ้นในกระแสเลือดของคุณ

    Trypanosoma Cruzi—ปรสิตนักฆ่า ปรสิตอีกชนิดหนึ่งที่พบในวัคซีนคือ Trypanosoma cruzi ซึ่งเป็นสาเหตุของโรค Chagas มันเป็นฆาตกรเงียบที่ทำลายหัวใจและระบบย่อยอาหารอย่างช้าๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

    Toxoplasma Gondii—ปรสิตควบคุมจิตใจ นักวิทยาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงเคมีในสมองของสัตว์ได้

    การปกปิด สื่อต่างนิ่งเงียบ เพราะเหตุใด? "

    สรุป: นี่คืออาชญากรรมแห่งศตวรรษ และมันก็กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ เรากำลังถูกฉีดยาด้วยสิ่งมีชีวิตร้ายแรง ทั้งหมดนี้เพื่อผลกำไร ถึงเวลาที่ต้องตื่นขึ้น อย่าปล่อยให้ปรสิตเหล่านี้เข้าครอบงำร่างกายหรือจิตใจของคุณ กลับ—ก่อนที่จะสายเกินไป

    ที่มา: WikiLeaks Secrets



    คุณได้รับคำเชิญให้เข้าร่วม "อัศวิน อัตแพทย์ ธรรมชาติฟื้นฟูเชลล์" โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้
    https://line.me/ti/g2/DwdLNww_qbNr3RAfMuSyJL0bcC0qExuoDpp_xg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    ข่าวด่วน: ปรสิตร้ายแรงสี่ตัวที่พบในวัคซีน - มันคืออาชญากรรมแห่งศตวรรษ! ในเรื่องอื้อฉาวด้านสาธารณสุขที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา มีการพบปรสิตร้ายแรง 4 ชนิดในวัคซีน และไม่ใช่แค่การคาดเดาเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อเท็จจริงอีกด้วย Big Pharma ได้ทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อซ่อนมัน แต่ถามตัวเองว่า: วัคซีนมีไว้เพื่อช่วยชีวิตหรือไม่ ชีวิต ทำไมสิ่งมีชีวิตถึงตายถึงถูกฉีดเข้าไปในตัวเรา นี่เป็นเรื่องจริง และคุณไม่สามารถละสายตาจากไปได้ ฝันร้ายถูกเปิดเผย เราได้รับแจ้งมานานหลายปีว่าวัคซีนนั้น “ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ” แต่นั่นยังไม่ใช่เรื่องราวทั้งหมด หากฉันบอกคุณว่าขวดเหล่านี้มีปรสิตที่มีชีวิตซึ่งสามารถทำร้ายหรือฆ่าคุณได้ ข้างในและเมื่อฉีดเข้าไปแล้วใครจะรู้ว่ามันจะทำให้เกิดความเสียหายอะไร นี่ไม่ใช่อันตรายที่ห่างไกล ดร.แคร์รี มาเดจทำการทดสอบขวดวัคซีนโดยอิสระและค้นพบบางสิ่งที่น่ากลัว นั่นคือปรสิตไฮดราที่มีชีวิตพยายามหลบหนีออกจากขวด ใช่แล้ว สิ่งมีชีวิต ไม่ใช่แค่สารเคมี กำลังถูกฉีดภายใต้หน้ากากของ "การป้องกัน" เป็นเพียงหนึ่งในสี่ปรสิตที่พบ บทบาทของ Big Pharma ในเรื่องอื้อฉาวนี้ อย่าคิดว่านี่เป็นความผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย Big Pharma ขึ้นชื่อเรื่องการทำกำไรต่อหน้าผู้คน ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล ได้รับการปกป้องจากการถูกฟ้องร้อง และมีมูลค่านับพันล้าน อันตรายที่พวกเขากำลังแพร่กระจาย คำถามไม่ใช่ว่าพวกเขาจะทำเช่นนี้หรือไม่ แต่เมื่อพวกเขามีแล้ว การเก็บรักษาความเย็น—เหตุผลที่แท้จริง เหตุใดขวดเหล่านี้จึงถูกเก็บไว้ที่อุณหภูมิเยือกแข็ง ไม่ใช่แค่การเก็บรักษาวัคซีนเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ปรสิตเหล่านี้มีชีวิตอยู่ได้ สร้างความหายนะ ไฮดรา วัลการิส—ปรสิตอมตะนี้เกือบจะเป็นอมตะ พร้อมด้วยความสามารถในการงอกใหม่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ลองนึกภาพสิ่งมีชีวิตภายในร่างกายของคุณที่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไปและขยายตัวเพิ่มขึ้นในกระแสเลือดของคุณ Trypanosoma Cruzi—ปรสิตนักฆ่า ปรสิตอีกชนิดหนึ่งที่พบในวัคซีนคือ Trypanosoma cruzi ซึ่งเป็นสาเหตุของโรค Chagas มันเป็นฆาตกรเงียบที่ทำลายหัวใจและระบบย่อยอาหารอย่างช้าๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Toxoplasma Gondii—ปรสิตควบคุมจิตใจ นักวิทยาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นว่ามันสามารถเปลี่ยนแปลงเคมีในสมองของสัตว์ได้ การปกปิด สื่อต่างนิ่งเงียบ เพราะเหตุใด? " สรุป: นี่คืออาชญากรรมแห่งศตวรรษ และมันก็กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ เรากำลังถูกฉีดยาด้วยสิ่งมีชีวิตร้ายแรง ทั้งหมดนี้เพื่อผลกำไร ถึงเวลาที่ต้องตื่นขึ้น อย่าปล่อยให้ปรสิตเหล่านี้เข้าครอบงำร่างกายหรือจิตใจของคุณ กลับ—ก่อนที่จะสายเกินไป ที่มา: WikiLeaks Secrets คุณได้รับคำเชิญให้เข้าร่วม "อัศวิน อัตแพทย์ ธรรมชาติฟื้นฟูเชลล์" โปรดแตะลิงก์ด้านล่างเพื่อเข้าร่วมโอเพนแชทนี้ https://line.me/ti/g2/DwdLNww_qbNr3RAfMuSyJL0bcC0qExuoDpp_xg?utm_source=invitation&utm_medium=link_copy&utm_campaign=default
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์ค รุตต์ อดีตนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ เลขาธิการคนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งสดๆร้อนๆขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต) สนับสนุนแนวคิดอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย
    .
    รุตต์ แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้เมื่อวันอังคาร(1ต.ค.) ระหว่างการแถลงข่าว ตามหลังพิธีถ่ายโอนอำนาจจาก เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตคนก่อน โดยเลขาธิการนาโตคนใหม่ สนับสนุนแนวคิดไฟเขียวให้ยูเครนทำอะไรก็ได้ตามแต่เห็นสมควร อ้างว่ามันอยู่ในขอบเขตสิทธิของเคียฟที่จะทำเช่นนั้น
    .
    "เรารู้กฎหมายระหว่างประเทศ และตามกฎหมายระหว่างประเทศ สิทธินี้ไม่ได้จบลงที่แนวชายแดน ดังนั้นมันจึงหมายความว่ายูเครนมีสิทธิป้องกันตนเองด้วยวิถีทางต่างๆ ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะโจมตีเป้าหมายโดยชอบธรรม ในดินแดนของผู้รุกราน" รุตต์กล่าว
    .
    อย่างไรก็ตามเลขาธิการคนใหม่ของนาโต โยนความรับชอบออกจากกลุ่มพันธมิตรทหารแห่งนี้ ไปยังรัฐสมาชิกแต่ละชาติ โดยเน้นย้ำว่าท้ายที่สุดแล้ว มันขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ ในการวางกรอบกฎเกณฑ์ต่างๆสำหรับเคียฟ ในเรื่องการใช้ระบบอาวุธที่พวกเขาจัดหาให้"
    .
    ความเห็นของรุตต์ มีขึ้นท่ามกลางประเด็นถกเถียงในตะวันตก ที่ว่าควรอนุญาตให้เคียฟใช้อาวุธที่ได้รับจากบรรดาผู้สนับสนุน โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติหรือไม่ ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ในประเด็นดังกล่าว
    .
    ถ้อยแถลงของ รุตต์ เจอกับปฏิกิริยาตอบสนองในแง่ลบมาจากรัสเซีย ในนั้นรวมถึง ลีโอนิด สลุตสกี หัวหน้าพรรค LDPR พรรคชาตินิยมฝ่ายขวา ที่บอกว่าความเห็นนี้เป็นการส่งสารอย่างชัดเจนว่าการเปลี่ยนตัวผู้นำของนาโต จะไม่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงใดๆในท่าทีก้าวร้าวของพวกเขา
    .
    ปัจจุบัน รัสเซีย อยู่ในกระบวนการปรับแก้หลักการการใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยการแก้ไขครั้งนี้มีเจตนารับมือกับภัยท้าทายต่างๆที่ประเทศต้องเผชิญ โดยภายใต้ข้อเสนอแก้ไขหลักการ รัสเซียจะอนุญาตให้ใช้งานอาวุธนิวเคลียร์ในการป้องปราม ในกรณีที่ถูกโจมตีโดยอาวุธทั่วไปจากประเทศหนึ่งๆที่แม้ไม่ใช่มหาอำนาจนิวเคลียร์ แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์
    .
    ท่าทีของเลขาธิการคนใหม่ของนาโต มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีนักสำหรับยูเครน พวกเขากำลังถูกรัสเซียไล่ต้อนหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ โดยในวันพุธ(2ต.ค.) กองทัพเคียฟเปิดเผยว่าจำเป็นต้องถอนกำลังออกจากเมืองวูเกิลดาร์ ทางภาคตะวันออก ความเคลื่อนไหวที่กลายเป็นหนึ่งในการรุกคืบทางดินแดนครั้งสำคัญที่สุดของรัสเซียในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
    .
    การสูญเสียเมืองเหมืองถ่านหินแห่งนี้ ก่อคำถามครอบใหม่แก่ฐานที่มั่นในการป้องกันตนเองของยูเครน ตามแนวชายแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ในขณะที่กองกำลังรัสเซียรุกคืบอย่างต่อเนื่อง ก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว
    .
    เมืองวูเกิลดาร์ ซึ่งมีประชากรราว 14,000 คนก่อนถูกรัสเซียรุกราน ตั้งอยู่ห่างจากเมืองโดเนตสก์ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 50 กิโลเมตร ขณะที่เมืองแห่งนี้ เป็นเมืองเอกของแคว้นชื่อเดียวกัน ที่รัสเซียกล่าวอ้างผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000093363
    ..................
    Sondhi X
    มาร์ค รุตต์ อดีตนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ เลขาธิการคนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งสดๆร้อนๆขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ(นาโต) สนับสนุนแนวคิดอนุญาตให้ยูเครนใช้อาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้ โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนรัสเซีย . รุตต์ แสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้เมื่อวันอังคาร(1ต.ค.) ระหว่างการแถลงข่าว ตามหลังพิธีถ่ายโอนอำนาจจาก เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตคนก่อน โดยเลขาธิการนาโตคนใหม่ สนับสนุนแนวคิดไฟเขียวให้ยูเครนทำอะไรก็ได้ตามแต่เห็นสมควร อ้างว่ามันอยู่ในขอบเขตสิทธิของเคียฟที่จะทำเช่นนั้น . "เรารู้กฎหมายระหว่างประเทศ และตามกฎหมายระหว่างประเทศ สิทธินี้ไม่ได้จบลงที่แนวชายแดน ดังนั้นมันจึงหมายความว่ายูเครนมีสิทธิป้องกันตนเองด้วยวิถีทางต่างๆ ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะโจมตีเป้าหมายโดยชอบธรรม ในดินแดนของผู้รุกราน" รุตต์กล่าว . อย่างไรก็ตามเลขาธิการคนใหม่ของนาโต โยนความรับชอบออกจากกลุ่มพันธมิตรทหารแห่งนี้ ไปยังรัฐสมาชิกแต่ละชาติ โดยเน้นย้ำว่าท้ายที่สุดแล้ว มันขึ้นอยู่กับแต่ละประเทศ ในการวางกรอบกฎเกณฑ์ต่างๆสำหรับเคียฟ ในเรื่องการใช้ระบบอาวุธที่พวกเขาจัดหาให้" . ความเห็นของรุตต์ มีขึ้นท่ามกลางประเด็นถกเถียงในตะวันตก ที่ว่าควรอนุญาตให้เคียฟใช้อาวุธที่ได้รับจากบรรดาผู้สนับสนุน โจมตีลึกเข้าไปในดินแดนของรัสเซีย ที่ได้รับการรับรองจากนานาชาติหรือไม่ ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีความเห็นเป็นเอกฉันท์ในประเด็นดังกล่าว . ถ้อยแถลงของ รุตต์ เจอกับปฏิกิริยาตอบสนองในแง่ลบมาจากรัสเซีย ในนั้นรวมถึง ลีโอนิด สลุตสกี หัวหน้าพรรค LDPR พรรคชาตินิยมฝ่ายขวา ที่บอกว่าความเห็นนี้เป็นการส่งสารอย่างชัดเจนว่าการเปลี่ยนตัวผู้นำของนาโต จะไม่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงใดๆในท่าทีก้าวร้าวของพวกเขา . ปัจจุบัน รัสเซีย อยู่ในกระบวนการปรับแก้หลักการการใช้อาวุธนิวเคลียร์ โดยการแก้ไขครั้งนี้มีเจตนารับมือกับภัยท้าทายต่างๆที่ประเทศต้องเผชิญ โดยภายใต้ข้อเสนอแก้ไขหลักการ รัสเซียจะอนุญาตให้ใช้งานอาวุธนิวเคลียร์ในการป้องปราม ในกรณีที่ถูกโจมตีโดยอาวุธทั่วไปจากประเทศหนึ่งๆที่แม้ไม่ใช่มหาอำนาจนิวเคลียร์ แต่ได้รับการสนับสนุนจากมหาอำนาจนิวเคลียร์ . ท่าทีของเลขาธิการคนใหม่ของนาโต มีขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ค่อยสู้ดีนักสำหรับยูเครน พวกเขากำลังถูกรัสเซียไล่ต้อนหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ โดยในวันพุธ(2ต.ค.) กองทัพเคียฟเปิดเผยว่าจำเป็นต้องถอนกำลังออกจากเมืองวูเกิลดาร์ ทางภาคตะวันออก ความเคลื่อนไหวที่กลายเป็นหนึ่งในการรุกคืบทางดินแดนครั้งสำคัญที่สุดของรัสเซียในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา . การสูญเสียเมืองเหมืองถ่านหินแห่งนี้ ก่อคำถามครอบใหม่แก่ฐานที่มั่นในการป้องกันตนเองของยูเครน ตามแนวชายแดนทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ในขณะที่กองกำลังรัสเซียรุกคืบอย่างต่อเนื่อง ก่อนเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว . เมืองวูเกิลดาร์ ซึ่งมีประชากรราว 14,000 คนก่อนถูกรัสเซียรุกราน ตั้งอยู่ห่างจากเมืองโดเนตสก์ ไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 50 กิโลเมตร ขณะที่เมืองแห่งนี้ เป็นเมืองเอกของแคว้นชื่อเดียวกัน ที่รัสเซียกล่าวอ้างผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000093363 .................. Sondhi X
    Like
    Sad
    Wow
    Angry
    10
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 575 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสุขใจเฮ้ลท์ตี้โฮม สระบุรี
    ตั้งอยูที่ ตำบลสร่างโศก อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี 🚗 ห่างจากตัวเมืองสระบุรี 30กม.
    🎊 ถนนพระพุทธบาท-บ้านหมอ
    🏥 ใกล้ รพ.บ้านหมอ , รพ .พระพุทธบาท
    📌แผนที่: https://maps.app.goo.gl/szRZkap1yPyxvRQQ9
    👉:ข้อมูลติดต่อ
    📞:โทร: 081-946-4048
    📲: ไลน์@ https://lin.ee/nLWzPcS
    IDไลน์ : @sj.hth
    #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสุขใจเฮลท์ตี้โฮมสระบุรี #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #สระบุรี #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสระบุรี #สโตรก #หลอดเลือดสมอง #ศูนย์ฟื้นฟู #เส้นเลือดตีบ #อัมพฤกษ์ #อัมพาต #ธาราบำบัด #เส้นเลือดตีบ #กายภาพบำบัด #กิจกรรมบำบัด
    ❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️ ดูน้อยลง
    ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสุขใจเฮ้ลท์ตี้โฮม สระบุรี ตั้งอยูที่ ตำบลสร่างโศก อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี 🚗 ห่างจากตัวเมืองสระบุรี 30กม. 🎊 ถนนพระพุทธบาท-บ้านหมอ 🏥 ใกล้ รพ.บ้านหมอ , รพ .พระพุทธบาท 📌แผนที่: https://maps.app.goo.gl/szRZkap1yPyxvRQQ9 👉:ข้อมูลติดต่อ 📞:โทร: 081-946-4048 📲: ไลน์@ https://lin.ee/nLWzPcS IDไลน์ : @sj.hth #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสุขใจเฮลท์ตี้โฮมสระบุรี #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ #สระบุรี #ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุสระบุรี #สโตรก #หลอดเลือดสมอง #ศูนย์ฟื้นฟู #เส้นเลือดตีบ #อัมพฤกษ์ #อัมพาต #ธาราบำบัด #เส้นเลือดตีบ #กายภาพบำบัด #กิจกรรมบำบัด ❤️❤️❤️❤️❤️❤️❤️ ดูน้อยลง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 17 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกี้รับสถานการณ์ในแนวรบทุกๆ ส่วนที่เผชิญหน้ากับรัสเซีย เวลานี้ อยู่ในภาวะ“ยากลำบากมากๆ ” พร้อมกับกระตุ้นกองกำลังของฝ่ายยูเครนให้สู้เต็มที่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างยึดหมู่บ้านทางตะวันออกของยูเครนได้อีกแห่ง นอกจากนั้นมอสโกยังเผยร่างงบประมาณสำหรับปีหน้าที่จะมีการเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารเกือบ 30%
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวในระหว่างการปราศรัยผ่านวิดีโอที่ทำเป็นประจำทุกคืน เมื่อคืนวันจันทร์ (30 ก.ย.) ว่า ระหว่างประชุมกับพวกผู้บังคับบัญชาทหารระดับสูง เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง เขาได้รับรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในแต่ละส่วนของแนวหน้าที่ยูเครนเผชิญหน้ากับรัสเซีย รวมทั้งสมรรถนะของยูเครนเวลานี้ ตลอดจนสมรรถนะในอนาคต และภารกิจพิเศษตางๆ ของยูเครน ซึ่งเขาพบว่าสถานการณ์อยู่ในความยากลำบากมากๆ
    .
    “ทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถทำได้ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ จะต้องทำให้บรรลุเป้าหมาย” เขากล่าว
    .
    ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองแล้วในระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ที่เซเลนสกี้อ้างถึงความจำเป็นที่จะต้องกระทำการอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ในแง่ของการปฏิบัติการทางทหาร
    .
    ก่อนหน้านี้ผู้นำยูเครนแสดงความเห็นเกี่ยวกับความจำเป็นสำหรับปฏิบัติการทางทหารอย่างรวดเร็วภายหลังพบกับโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ที่นิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (27) และในเวลาต่อมาเขาให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ว่า ทรัมป์ยืนยันว่าถ้าชนะการเลือกตั้ง จะให้การสนับสนุนเคียฟ
    .
    ทั้งนี้ เซเลนสกี้ ซึ่งได้พบกับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ในการเดินทางมาสหรัฐฯเที่ยวนี้ด้วย ได้รับคำยืนยันอย่างชัดเจนจากแฮร์ริสว่า จะยังคงสนับสนุนการทำสงครามสู้รัสเซียของยูเครนอย่างแน่วแน่ แต่ในกรณีของทรัมป์นั้น กลับเป็นที่สงสัยข้องใจกัน เนื่องจากทรัมป์เองไม่เคยแถลงเช่นนี้ นอกจากนั้นหลังพบหารือกับประธานาธิบดียูเครนแล้ว ในการไปปราศรัยหาเสียงของเขาตอนค่ำวันศุกร์ (27) นั้นเอง ทรัมป์ยังคงประกาศนโยบายเดิมของเขา นั่นคือ หากได้รับเลือกตั้ง ก็จะเร่งให้ เซเลนสกี้ กับ ปูติน เจรจาเพื่อสงบศึกในยูเครน
    .
    ระยะไม่กี่วันที่ผ่านมา พงกบล็อกเกอร์สายทหารของยูเครนรายงานว่า กองกำลังรัสเซียกำลังรุกคืบหน้าในเมืองวูห์เลดาร์ ที่ตั้งอยู่บนเขาทางตอนใต้ของแคว้นโดเนตสก์ เมืองนี้ยังคงอยู่ใต้การควบคุมของกองกำลังฝ่ายยูเครนตลอดช่วงเวลากว่า 2 ปีนับจากเกิดสงคราม
    .
    “ดีปสเตท”ซึ่งเป็นบล็อกเกอร์ยอดนิยมระบุโดยอ้างอิงรายงานของรัสเซียว่า กองกำลังรัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองดังกล่าว และทหารราบรัสเซียเคลื่อนเข้าไปในเมือง พร้อมกับชักธงรัสเซียบนตึกสูงบางแห่งทางด้านตะวันตกของเมืองนี้
    .
    นอกจากเมืองวูห์เลดาร์ กองทัพรัสเซียยังรุกคืบไปทางด้านเหนืออย่างช้าๆ มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยมีเป้าหมายยึดภูมิภาคดอนบาส ซึ่งประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ เอาไว้ทั้งหมด
    .
    ในวันจันทร์ กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่า สามารถเข้ายึดหมู่บ้านเนลิพิฟกาทางใต้ของเมืองโทเรตสก์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของพวกเขาในบริเวณดังกล่าว
    .
    ทว่า กองเสนาธิการทหารยูเครนไม่ยอมรับว่าเสียหมู่บ้านแห่งนี้ แม้ระบุว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีบริเวณดังกล่าว 10 ระลอก
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง รัสเซียได้เปิดเผยร่างงบประมาณที่ระบุว่า งบประมาณการทหารสำหรับปี 2025 จะเพิ่มขึ้นเกือบ 30% เป็น 13.5 ล้านล้านรูเบิล (145,000 ล้านดอลลาร์)
    .
    อย่างไรก็ดี ตัวเลขนี้ไม่รวมทรัพยากรอื่นๆ บางส่วนที่จัดสรรให้ปฏิบัติการทางทหารโดยตรง เช่น การใช้จ่ายที่รัสเซียระบุว่าเป็น “ความมั่นคงภายใน” และการใช้จ่ายบางรายการที่ระบุเป็นความลับสุดยอด
    .
    นอกจากนั้น หากรวมการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงจะคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของการใช้จ่ายทั้งหมดของรัฐบาลที่คาดการณ์ไว้ที่ 41.5 ล้านล้านรูเบิลในปี 2025
    .
    ระยะหลังมานี้รัสเซียเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายทางทหารถึงระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับจากยุคสหภาพโซเวียต โดยอัดฉีดให้กับขีปนาวุธและโดรนที่ใช้ทำสงครามในยูเครน และการจ่ายเงินเดือนอย่างงามให้ทหารนับแสนนายที่สู้รบในแนวหน้า
    .
    ทางด้านยูเครนถูกบีบให้ต้องเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารโดยปริยายเพื่อรับมือการรุกรานของรัสเซีย โดยในปีหน้าเคียฟเล็งจัดสรรงบประมาณกว่า 60% สำหรับการใช้จ่ายในการป้องกันประเทศและความมั่นคง คิดเป็นมูลค่า 54,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังห่างไกลมากจากงบประมาณการทหารของรัสเซียที่ 145,000 ล้านดอลลาร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000092777
    ..................
    Sondhi X
    เซเลนสกี้รับสถานการณ์ในแนวรบทุกๆ ส่วนที่เผชิญหน้ากับรัสเซีย เวลานี้ อยู่ในภาวะ“ยากลำบากมากๆ ” พร้อมกับกระตุ้นกองกำลังของฝ่ายยูเครนให้สู้เต็มที่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างยึดหมู่บ้านทางตะวันออกของยูเครนได้อีกแห่ง นอกจากนั้นมอสโกยังเผยร่างงบประมาณสำหรับปีหน้าที่จะมีการเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารเกือบ 30% . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวในระหว่างการปราศรัยผ่านวิดีโอที่ทำเป็นประจำทุกคืน เมื่อคืนวันจันทร์ (30 ก.ย.) ว่า ระหว่างประชุมกับพวกผู้บังคับบัญชาทหารระดับสูง เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง เขาได้รับรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในแต่ละส่วนของแนวหน้าที่ยูเครนเผชิญหน้ากับรัสเซีย รวมทั้งสมรรถนะของยูเครนเวลานี้ ตลอดจนสมรรถนะในอนาคต และภารกิจพิเศษตางๆ ของยูเครน ซึ่งเขาพบว่าสถานการณ์อยู่ในความยากลำบากมากๆ . “ทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถทำได้ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ จะต้องทำให้บรรลุเป้าหมาย” เขากล่าว . ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองแล้วในระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ที่เซเลนสกี้อ้างถึงความจำเป็นที่จะต้องกระทำการอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ในแง่ของการปฏิบัติการทางทหาร . ก่อนหน้านี้ผู้นำยูเครนแสดงความเห็นเกี่ยวกับความจำเป็นสำหรับปฏิบัติการทางทหารอย่างรวดเร็วภายหลังพบกับโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ที่นิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (27) และในเวลาต่อมาเขาให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ว่า ทรัมป์ยืนยันว่าถ้าชนะการเลือกตั้ง จะให้การสนับสนุนเคียฟ . ทั้งนี้ เซเลนสกี้ ซึ่งได้พบกับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ในการเดินทางมาสหรัฐฯเที่ยวนี้ด้วย ได้รับคำยืนยันอย่างชัดเจนจากแฮร์ริสว่า จะยังคงสนับสนุนการทำสงครามสู้รัสเซียของยูเครนอย่างแน่วแน่ แต่ในกรณีของทรัมป์นั้น กลับเป็นที่สงสัยข้องใจกัน เนื่องจากทรัมป์เองไม่เคยแถลงเช่นนี้ นอกจากนั้นหลังพบหารือกับประธานาธิบดียูเครนแล้ว ในการไปปราศรัยหาเสียงของเขาตอนค่ำวันศุกร์ (27) นั้นเอง ทรัมป์ยังคงประกาศนโยบายเดิมของเขา นั่นคือ หากได้รับเลือกตั้ง ก็จะเร่งให้ เซเลนสกี้ กับ ปูติน เจรจาเพื่อสงบศึกในยูเครน . ระยะไม่กี่วันที่ผ่านมา พงกบล็อกเกอร์สายทหารของยูเครนรายงานว่า กองกำลังรัสเซียกำลังรุกคืบหน้าในเมืองวูห์เลดาร์ ที่ตั้งอยู่บนเขาทางตอนใต้ของแคว้นโดเนตสก์ เมืองนี้ยังคงอยู่ใต้การควบคุมของกองกำลังฝ่ายยูเครนตลอดช่วงเวลากว่า 2 ปีนับจากเกิดสงคราม . “ดีปสเตท”ซึ่งเป็นบล็อกเกอร์ยอดนิยมระบุโดยอ้างอิงรายงานของรัสเซียว่า กองกำลังรัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองดังกล่าว และทหารราบรัสเซียเคลื่อนเข้าไปในเมือง พร้อมกับชักธงรัสเซียบนตึกสูงบางแห่งทางด้านตะวันตกของเมืองนี้ . นอกจากเมืองวูห์เลดาร์ กองทัพรัสเซียยังรุกคืบไปทางด้านเหนืออย่างช้าๆ มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยมีเป้าหมายยึดภูมิภาคดอนบาส ซึ่งประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ เอาไว้ทั้งหมด . ในวันจันทร์ กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่า สามารถเข้ายึดหมู่บ้านเนลิพิฟกาทางใต้ของเมืองโทเรตสก์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของพวกเขาในบริเวณดังกล่าว . ทว่า กองเสนาธิการทหารยูเครนไม่ยอมรับว่าเสียหมู่บ้านแห่งนี้ แม้ระบุว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีบริเวณดังกล่าว 10 ระลอก . ในอีกด้านหนึ่ง รัสเซียได้เปิดเผยร่างงบประมาณที่ระบุว่า งบประมาณการทหารสำหรับปี 2025 จะเพิ่มขึ้นเกือบ 30% เป็น 13.5 ล้านล้านรูเบิล (145,000 ล้านดอลลาร์) . อย่างไรก็ดี ตัวเลขนี้ไม่รวมทรัพยากรอื่นๆ บางส่วนที่จัดสรรให้ปฏิบัติการทางทหารโดยตรง เช่น การใช้จ่ายที่รัสเซียระบุว่าเป็น “ความมั่นคงภายใน” และการใช้จ่ายบางรายการที่ระบุเป็นความลับสุดยอด . นอกจากนั้น หากรวมการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงจะคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของการใช้จ่ายทั้งหมดของรัฐบาลที่คาดการณ์ไว้ที่ 41.5 ล้านล้านรูเบิลในปี 2025 . ระยะหลังมานี้รัสเซียเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายทางทหารถึงระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับจากยุคสหภาพโซเวียต โดยอัดฉีดให้กับขีปนาวุธและโดรนที่ใช้ทำสงครามในยูเครน และการจ่ายเงินเดือนอย่างงามให้ทหารนับแสนนายที่สู้รบในแนวหน้า . ทางด้านยูเครนถูกบีบให้ต้องเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารโดยปริยายเพื่อรับมือการรุกรานของรัสเซีย โดยในปีหน้าเคียฟเล็งจัดสรรงบประมาณกว่า 60% สำหรับการใช้จ่ายในการป้องกันประเทศและความมั่นคง คิดเป็นมูลค่า 54,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังห่างไกลมากจากงบประมาณการทหารของรัสเซียที่ 145,000 ล้านดอลลาร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000092777 .................. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 482 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอิสราเอลเตือนชาวเลบานอนหลายสิบชุมชนอพยพออกจากแนวชายแดน หลังส่งพลร่ม คอมมานโด และหน่วยยานเกราะเปิดฉากบุกภาคพื้นดินเมื่อคืนวันจันทร์ (30 ก.ย.) ท่ามกลางการเรียกร้องของนานาชาติให้หลีกเลี่ยงการปลุกปั่นให้สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลาม ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศสนับสนุนปฏิบัติการของอิสราเอลในการทำลายล้างโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ตามแนวชายแดนเลบานอน
    .
    ปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เลบานอนเกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลล็อกเป้าถล่มพื้นที่ตอนใต้ของกรุงเบรุตของเลบานอน กรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย และดินแดนฉนวนกาซา
    .
    โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า การสู้รบจะไม่ยุติลงเร็วๆ นี้ แม้การถล่มโจมตีครั้งใหญ่ในเบรุตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.) สามารถปลิดชีพ ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้แล้วก็ตาม
    .
    กองทัพอิสราเอลยังแถลงว่า กำลังทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศและหน่วยปืนใหญ่ เปิดฉากบุกภาคพื้นดินแบบกำหนดเป้าหมายที่ที่มั่นของฮิซบอลเลาะห์ในชุมชนต่างๆ ตามแนวชายแดนเลบานอน เนื่องจากที่มั่นเหล่านั้นเป็นภัยคุกคามเฉพาะหน้าต่อชุมชนชาวอิสราเอลทางเหนือของประเทศ พร้อมยืนยันว่า อิสราเอลไม่ต้องการทำสงครามกับประชาชนเลบานอน
    .
    วันอังคาร (1 ต.ค.) กองทัพอิสราเอลโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ระบุให้ชุมชน 24 แห่งทางใต้ของเลบานอนอพยพจากตอนเหนือของแม่น้ำอวาลีที่อยู่ห่างจากชายแดนราว 60 กิโลเมตร ซึ่งไกลกว่าแม่น้ำลิทานีที่เป็นเส้นกำหนดเขตกันชนระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศภายหลังสงครามในปี 2006 โดยแม่น้ำลิทานีนั้นอยู่ห่างจากชายแดนเพียง 30 กิโลเมตร
    .
    ก่อนหน้านั้นกองทัพอิสราเอลประกาศพื้นที่ทางทหารบริเวณชายแดนบางส่วนที่ติดกับเลบานอน เนื่องจากมีจรวดยิงมาจากเลบานอนไปยังเมืองอวิวิมและเมตูลาทางเหนือของอิสราเอล
    .
    ทางฝ่ายฮิซบอลเลาะห์เผยว่า ยิงปืนใหญ่โจมตีขบวนทหารของข้าศึกในเมืองเมตูลาสองครั้ง
    .
    พันธมิตรของอิหร่านตั้งแต่ฮิซบอลเลาะห์จนถึงกบฏฮูตีในเยเมน และกลุ่มติดอาวุธในอิรัก ต่างเข้าร่วมการโจมตีอิสราเอลเพื่อสนับสนุนฮามาสในสงครามกาซา จุดชนวนความกังวลว่า ความขัดแย้งอาจลุกลามกลายเป็นสงครามทั่วตะวันออกกลาง รวมทั้งดึงอเมริกาและอิหร่านเข้าไปพัวพัน
    .
    วันอังคาร กบฏฮูตีเผยว่า ส่งโดรนโจมตีที่มั่นทางทหารของอิสราเอลในเทลอาวีฟ
    .
    ขณะเดียวกัน สำนักข่าวแห่งชาติของเลบานอนรายงานว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่อค่ายเอน อัล-เฮลเวห์เมื่อวันอังคารทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน ซึ่งรวมถึงฮัสซัน มักดาห์ ลูกชายของมูนีร์ มักดาห์ หัวหน้ากลุ่มอัล-อักซอ มาร์ตีส์ บริเกดส์ในเลบานอน ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฟาตาห์ในปาเลสไตน์
    .
    รายงานสำทับว่า การโจมตีของอิสราเอลต่อชุมชนชายแดนยังทำให้สมาชิก 10 คนในครอบครัวเดียวกันเสียชีวิต ซึ่งรวมถึงเด็กอย่างน้อย 2 คน
    .
    ทางด้านสำนักข่าวซานาของทางการซีเรียรายงานว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียสามารถสกัดการโจมตี 3 ระลอกในกรุงดามัสกัส อย่างไรก็ดี มีพลเรือนเสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 9 คน และสถานีทีวีของทางการซีเรียรายงานว่า ซาฟา อาหมัด ผู้ประกาศของสถานี เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล
    .
    กองทัพอิสราเอลยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีซีเรียนับร้อยครั้ง
    .
    เช่นเดียวกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นภายหลังอิสราเอลประกาศบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เลบานอน ทว่า ก่อนหน้านี้นักรบกลุ่มนี้ประกาศว่า พร้อมรับมือหากอิสราเอลตัดสินใจเปิดฉากบุก
    .
    คืนวันจันทร์ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา เผยว่า วอชิงตันสนับสนุนการโจมตีเพื่อทำลายล้างโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ตามแนวชายแดนเลบานอน พร้อมเตือนอิหร่านจะเผชิญผลลัพธ์ร้ายแรง หากโจมตีอิสราเอลโดยตรง
    .
    ก่อนหน้านี้อิหร่านประกาศว่า อิสราเอลจะ “ย่อยยับ” จากการสังหารนาสรัลเลาะห์ อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ กระทรวงต่างประเทศแถลงว่า เตหะรานจะไม่ส่งนักรบไปเผชิญหน้ากับอิสราเอล
    .
    ทั้งนี้ แอกซิออส เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของอเมริกา รายงานโดยอ้างอิงเจ้าหน้าที่อิสราเอลสองคนที่เผยว่า การบุกภาคพื้นดินเป็นปฏิบัติการที่กำหนดเป้าหมายและจำกัดทั้งในแง่ระยะเวลาและขอบเขต รวมทั้งยืนยันว่า อิสราเอลไม่ต้องการยึดครองตอนใต้ของเลบานอน
    .
    ปฏิบัติการของอิสราเอลเกิดขึ้นท่ามกลางการเรียกร้องจากนานาชาติให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์บานปลาย สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ระบุว่า ยูเอ็นไม่เห็นด้วยกับการบุกภาคพื้นดิน
    .
    ทางด้านกองทัพเลบานอนเผยว่า ได้โยกย้ายทหารออกจากแนวชายแดนแล้ว และนายกรัฐมนตรีนาจิบ มิกาติ เรียกร้องให้ยูเอ็นและประเทศผู้บริจาคให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ต้องทิ้งถิ่นฐานหนีการโจมตีของอิสราเอล ซึ่งคาดว่ามีจำนวนถึง 1 ล้านคน
    .
    ขณะที่ฟิราสส์ อาบิอัด รัฐมนตรีสาธารณสุขเลบานอน ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คนนับจากวันที่ 17 ก.ย. ที่เกิดเหตุการณ์เพจเจอร์ของสมาชิกฮิซบอลเลาะห์ระเบิดทั่วเลบานอน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000092776
    ..................
    Sondhi X
    กองทัพอิสราเอลเตือนชาวเลบานอนหลายสิบชุมชนอพยพออกจากแนวชายแดน หลังส่งพลร่ม คอมมานโด และหน่วยยานเกราะเปิดฉากบุกภาคพื้นดินเมื่อคืนวันจันทร์ (30 ก.ย.) ท่ามกลางการเรียกร้องของนานาชาติให้หลีกเลี่ยงการปลุกปั่นให้สถานการณ์ความขัดแย้งลุกลาม ขณะที่รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศสนับสนุนปฏิบัติการของอิสราเอลในการทำลายล้างโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ตามแนวชายแดนเลบานอน . ปฏิบัติการบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เลบานอนเกิดขึ้นหลังจากอิสราเอลล็อกเป้าถล่มพื้นที่ตอนใต้ของกรุงเบรุตของเลบานอน กรุงดามัสกัส เมืองหลวงของซีเรีย และดินแดนฉนวนกาซา . โยอาฟ กัลแลนต์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่า การสู้รบจะไม่ยุติลงเร็วๆ นี้ แม้การถล่มโจมตีครั้งใหญ่ในเบรุตเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.ย.) สามารถปลิดชีพ ฮัสซัน นาสรัลเลาะห์ ผู้นำกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ได้แล้วก็ตาม . กองทัพอิสราเอลยังแถลงว่า กำลังทหารที่ได้รับการสนับสนุนจากการโจมตีทางอากาศและหน่วยปืนใหญ่ เปิดฉากบุกภาคพื้นดินแบบกำหนดเป้าหมายที่ที่มั่นของฮิซบอลเลาะห์ในชุมชนต่างๆ ตามแนวชายแดนเลบานอน เนื่องจากที่มั่นเหล่านั้นเป็นภัยคุกคามเฉพาะหน้าต่อชุมชนชาวอิสราเอลทางเหนือของประเทศ พร้อมยืนยันว่า อิสราเอลไม่ต้องการทำสงครามกับประชาชนเลบานอน . วันอังคาร (1 ต.ค.) กองทัพอิสราเอลโพสต์บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ระบุให้ชุมชน 24 แห่งทางใต้ของเลบานอนอพยพจากตอนเหนือของแม่น้ำอวาลีที่อยู่ห่างจากชายแดนราว 60 กิโลเมตร ซึ่งไกลกว่าแม่น้ำลิทานีที่เป็นเส้นกำหนดเขตกันชนระหว่างอิสราเอลกับฮิซบอลเลาะห์ที่สหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศภายหลังสงครามในปี 2006 โดยแม่น้ำลิทานีนั้นอยู่ห่างจากชายแดนเพียง 30 กิโลเมตร . ก่อนหน้านั้นกองทัพอิสราเอลประกาศพื้นที่ทางทหารบริเวณชายแดนบางส่วนที่ติดกับเลบานอน เนื่องจากมีจรวดยิงมาจากเลบานอนไปยังเมืองอวิวิมและเมตูลาทางเหนือของอิสราเอล . ทางฝ่ายฮิซบอลเลาะห์เผยว่า ยิงปืนใหญ่โจมตีขบวนทหารของข้าศึกในเมืองเมตูลาสองครั้ง . พันธมิตรของอิหร่านตั้งแต่ฮิซบอลเลาะห์จนถึงกบฏฮูตีในเยเมน และกลุ่มติดอาวุธในอิรัก ต่างเข้าร่วมการโจมตีอิสราเอลเพื่อสนับสนุนฮามาสในสงครามกาซา จุดชนวนความกังวลว่า ความขัดแย้งอาจลุกลามกลายเป็นสงครามทั่วตะวันออกกลาง รวมทั้งดึงอเมริกาและอิหร่านเข้าไปพัวพัน . วันอังคาร กบฏฮูตีเผยว่า ส่งโดรนโจมตีที่มั่นทางทหารของอิสราเอลในเทลอาวีฟ . ขณะเดียวกัน สำนักข่าวแห่งชาติของเลบานอนรายงานว่า การโจมตีทางอากาศของอิสราเอลต่อค่ายเอน อัล-เฮลเวห์เมื่อวันอังคารทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 คน ซึ่งรวมถึงฮัสซัน มักดาห์ ลูกชายของมูนีร์ มักดาห์ หัวหน้ากลุ่มอัล-อักซอ มาร์ตีส์ บริเกดส์ในเลบานอน ซึ่งเป็นกองกำลังติดอาวุธของกลุ่มฟาตาห์ในปาเลสไตน์ . รายงานสำทับว่า การโจมตีของอิสราเอลต่อชุมชนชายแดนยังทำให้สมาชิก 10 คนในครอบครัวเดียวกันเสียชีวิต ซึ่งรวมถึงเด็กอย่างน้อย 2 คน . ทางด้านสำนักข่าวซานาของทางการซีเรียรายงานว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศของซีเรียสามารถสกัดการโจมตี 3 ระลอกในกรุงดามัสกัส อย่างไรก็ดี มีพลเรือนเสียชีวิต 3 คน และบาดเจ็บ 9 คน และสถานีทีวีของทางการซีเรียรายงานว่า ซาฟา อาหมัด ผู้ประกาศของสถานี เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล . กองทัพอิสราเอลยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อิสราเอลโจมตีซีเรียนับร้อยครั้ง . เช่นเดียวกับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นภายหลังอิสราเอลประกาศบุกภาคพื้นดินเข้าสู่เลบานอน ทว่า ก่อนหน้านี้นักรบกลุ่มนี้ประกาศว่า พร้อมรับมือหากอิสราเอลตัดสินใจเปิดฉากบุก . คืนวันจันทร์ ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมอเมริกา เผยว่า วอชิงตันสนับสนุนการโจมตีเพื่อทำลายล้างโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ตามแนวชายแดนเลบานอน พร้อมเตือนอิหร่านจะเผชิญผลลัพธ์ร้ายแรง หากโจมตีอิสราเอลโดยตรง . ก่อนหน้านี้อิหร่านประกาศว่า อิสราเอลจะ “ย่อยยับ” จากการสังหารนาสรัลเลาะห์ อย่างไรก็ดี เมื่อวันจันทร์ กระทรวงต่างประเทศแถลงว่า เตหะรานจะไม่ส่งนักรบไปเผชิญหน้ากับอิสราเอล . ทั้งนี้ แอกซิออส เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของอเมริกา รายงานโดยอ้างอิงเจ้าหน้าที่อิสราเอลสองคนที่เผยว่า การบุกภาคพื้นดินเป็นปฏิบัติการที่กำหนดเป้าหมายและจำกัดทั้งในแง่ระยะเวลาและขอบเขต รวมทั้งยืนยันว่า อิสราเอลไม่ต้องการยึดครองตอนใต้ของเลบานอน . ปฏิบัติการของอิสราเอลเกิดขึ้นท่ามกลางการเรียกร้องจากนานาชาติให้ทุกฝ่ายหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์บานปลาย สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของแอนโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการยูเอ็น ระบุว่า ยูเอ็นไม่เห็นด้วยกับการบุกภาคพื้นดิน . ทางด้านกองทัพเลบานอนเผยว่า ได้โยกย้ายทหารออกจากแนวชายแดนแล้ว และนายกรัฐมนตรีนาจิบ มิกาติ เรียกร้องให้ยูเอ็นและประเทศผู้บริจาคให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ต้องทิ้งถิ่นฐานหนีการโจมตีของอิสราเอล ซึ่งคาดว่ามีจำนวนถึง 1 ล้านคน . ขณะที่ฟิราสส์ อาบิอัด รัฐมนตรีสาธารณสุขเลบานอน ระบุว่า มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 คนนับจากวันที่ 17 ก.ย. ที่เกิดเหตุการณ์เพจเจอร์ของสมาชิกฮิซบอลเลาะห์ระเบิดทั่วเลบานอน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000092776 .................. Sondhi X
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 489 มุมมอง 0 รีวิว
  • 1 ตุลาคม 2567-รายงานจากเพจเฟซบุ๊ก สายัณห์ รุจิรโมรา ชี้ประเด็น การ audit การถือครองและการตรวจคุณภาพ (assay)ของจำนวนทองคำในคลังของรัฐบาลสหรัฐที่Fort Knox ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้

    “ moneymetals
    50-Year Anniversary of the Notorious “Show Audit” of Fort Knox Gold
    การตรวจสอบปริมาณทองคำสำรองสหรัฐที่ Fort Knox เมื่อ 50 ปีก่อน เป็นเพียงทีวีโชว์ ..."show audit"

    Matthew Cortez. Sept 23, 2024

    เงินเฟ้อเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ตอนนี้กำลังกระจายไปทั่ว มันสูบความมั่งคั่งของผู้ออมเงินผ่านอำนาจซื้อของ "เงิน" ปีแล้วปีเล่า

    ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางทั่วโลก -ตั้งแต่ซาอุดิอราเบีย ยันถึงจีน และทั้งโลก- ต่างก็แข่งกันซื้อทองคำอย่างเร่งด่วน หลายประเทศเช่นพวกกลุ่ม BRICS ถึงขนาดคิดที่จะเลิกใช้ดอลลาร์ในการค้ากันแล้ว

    และเมื่อสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์เกิดความไม่แน่นอน ทั้งนักลงทุน ธุรกิจเอกชน และหน่วยงานของรัฐบาลต่างก็ถือทองคำเพื่อเป็นการปกป้องตนเองให้พ้นจากอิทธิพลจากเงินเฟ้อ

    จากรายงานที่เรารับรู้มาตลอด ทองคำรีเสิร์ฟของสหรัฐมีอยู่ 8,133 ตัน เกือบทั้งหมดนั้นเก็บรักษาที่คลังของรัฐบาลสหรัฐ (Bullion Depository) ที่ Fort Knox, Kentucky ...คลังนี้ถือเป็นสัญญลักษณ์ของสถานะอำนาจทางการเงินที่แข็งแกร่งของอเมริกาที่มีต่อทั้งโลก

    ทุนสำรองทองคำของสหรัฐนี้ไม่มีการตรวจสอบที่เชื่อถือได้มาตั้งแต่ปี 1974 ...ไม่นานหลังจากที่อเมริกาฉีกสัญญา Bretton Woods ที่ทำให้สถานะการถือครองทองคำของอเมริกาเป็นที่น่าเคลิอบแคลงสงสัย ที่จริงแล้ว การ audit ครั้งที่เกิดก่อนหน้าปี 1974 ก็ไม่น่าเชื่อถือเหมือนกัน

    นี่ก็ครบรอบ 50 ปีแล้วที่ประชาชนยังคงอยู่กับความน่าสงสัย คำถามก็ยังคงอยู่...ทองคำทั้งหมดของอเมริกา ยังอยู่มั้ย?

    ประวัติศาสตร์ของคลัง Bullion Depository ของสหรัฐที่ Kentucky

    ก่อสร้างปี 1936 เพื่อสนับสนุนคำสั่ง ปธน. ที่ 6102 (Executive Order 6102) ของปธน. รูสเวลท์ที่บังคับให้ประชาขนแลกทองคำของตนเป็นเงินกระดาษ ...คลังนี้ถูกเรียกตามสถานที่ตั้งว่า Fort Knox

    U.S. Bullion Depository แห่งนี้อยู่ใจกลางประเทศที่ห่างไกลจากชายฝั่งประเทศ เพื่อความปลอดภัยกรณีที่ถูกรุกราน

    ประตูของคลังแห่งนี้หนาถึง 21 นิ้ว ก่อสร้างด้วยเหล็กกล้าถึง 1,420 ตัน มันถูกออกแบบเป็นการเฉพาะเพื่อเก็บรักษาทองคำนับล้านๆ ออนซ์ (เป็นทองคำแท่งที่หลอมมาจากเหรียญ) ทีได้รับมาจากประชาชนสหรัฐ ตามคำสั่ง 6102 กับทองที่ยึดเข้ามาดื้อ ๆ จากประเทศในยุโรป ที่ถูกทำลายจากสงคราม

    ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีมาแล้ว ที่ประชาชนอเมริกันก็แคลงใจว่าในคลังยังมีทองคำอยู่จริงหรือ?

    ตอนนั้นมีหลายทฤษฎีที่เกี่ยวกับทองคำเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่ว ...ทฤษฎีหนึ่งที่นักฏหมายคนหนึ่งในวอชิงตันให้สัมภาษณ์สื่อ The National Tattler ว่า ทองคำมูลค่า $20,000 ล้านอันตรธานไปจากคลังของรัฐบาลแห่งนี้ ข่าวนี้แพร่ไปทั่วคองเกรสอย่างรวดเร็ว

    คนอเมริกันจำนวนมากข้องใจกับคลังแห่งนี้ คิดว่าทองคำน่าจะหมดไปแล้ว จากการถูกต่างประเทศแลกคืนตลอดหลายปีก่อนหน้านั้น

    The “Show Audit” of Fort Knox Gold in 1974 Created More Questions

    รัฐบาลแก้เกม โดยจัดให้มีการ "Show Audit" ของ Fort Knox Gold เมื่อวันที่ 23 กันยายน 1974 กระทรวงคลังเปิดห้องเก็บทองคำโชว์ แต่เปิดแค่ 1 ห้องจากทั้งหมด 15 ห้อง ให้นักการเมืองและนักข่าวเข้าชมทองคำอย่างใกล้ชิด เพื่อยืนยันว่ามันยังอยู่ ....ดูยังไง ๆ มันก็เป็นรายการทีวีโชว์ ไม่ใช่ audit ...(ผมจะแชร์ลิ้งค์ คลิปส่วนหนึ่งในคอมเมนท์ครับ)

    รายการโชว์ที่มีคลิปรวมกันประมาณสองชั่วโมง เต็มไปด้วยรอยยิ้มของนักการเมืองและนักข่าว ที่มองดูทองคำแท่งที่กองเต็มรวม..สูงถึงเพดานในห้องเก็บนั้น

    ตลอดช่วงของการเข้าชม กลับไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องของ serial# ของทองคำแต่ละแท่ง หรือผลการตรวจสอบความบริสุทธิ์ (assay) หรือแม้แต่หลักฐานความเป็นเจ้าของของรัฐบาลสหรัฐ ....(ตอนนั้นยังมีการรับฝากจากรัฐบาลต่างประเทศอยู่มาก)

    นี่เป็นรายการทีวีที่ออกอากาศปี 1974 มากกว่าจะเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือ..แสดงจำนวนทองคำของสหรัฐในคลัง

    หลายสิบปีหลังจากนั้น มันก็ยังคงอึมครึมอยู่อย่างนั้น Fed ก็ยังพิมพ์เงินต่อไป ...ธนาคารกลางทั่วโลกก็เก็บสะสมทองคำกันต่อไป ....คนอเมริกันก็ยังเซ่อ..ไม่รู้อะไรเหมือนเดิมอยู่ต่อไป

    เมื่อปี 2021 สมาชิกสภา Alex Mooney (WV - R) เสนอออกกฎหมายให้มีการ audit การถือครอง ..การตรวจคุณภาพ (assay) และจำนวนทองคำของรัฐบาลสหรัฐ ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้ ...แต่เรื่องก็เงียบไป น่าจะต้องมีการเสนออีกในปีต่อ ๆ ไป

    คลิป "show audit" ผมแปะไว้ที่คอมเมนท์ครับ

    https://www.moneymetals.com/news/2024/09/23/50-year-anniversary-of-the-notorious-show-audit-of-fort-knox-gold-003484

    #Thaitimes
    1 ตุลาคม 2567-รายงานจากเพจเฟซบุ๊ก สายัณห์ รุจิรโมรา ชี้ประเด็น การ audit การถือครองและการตรวจคุณภาพ (assay)ของจำนวนทองคำในคลังของรัฐบาลสหรัฐที่Fort Knox ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้ “ moneymetals 50-Year Anniversary of the Notorious “Show Audit” of Fort Knox Gold การตรวจสอบปริมาณทองคำสำรองสหรัฐที่ Fort Knox เมื่อ 50 ปีก่อน เป็นเพียงทีวีโชว์ ..."show audit" Matthew Cortez. Sept 23, 2024 เงินเฟ้อเป็นเรื่องคอขาดบาดตายที่ตอนนี้กำลังกระจายไปทั่ว มันสูบความมั่งคั่งของผู้ออมเงินผ่านอำนาจซื้อของ "เงิน" ปีแล้วปีเล่า ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางทั่วโลก -ตั้งแต่ซาอุดิอราเบีย ยันถึงจีน และทั้งโลก- ต่างก็แข่งกันซื้อทองคำอย่างเร่งด่วน หลายประเทศเช่นพวกกลุ่ม BRICS ถึงขนาดคิดที่จะเลิกใช้ดอลลาร์ในการค้ากันแล้ว และเมื่อสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์เกิดความไม่แน่นอน ทั้งนักลงทุน ธุรกิจเอกชน และหน่วยงานของรัฐบาลต่างก็ถือทองคำเพื่อเป็นการปกป้องตนเองให้พ้นจากอิทธิพลจากเงินเฟ้อ จากรายงานที่เรารับรู้มาตลอด ทองคำรีเสิร์ฟของสหรัฐมีอยู่ 8,133 ตัน เกือบทั้งหมดนั้นเก็บรักษาที่คลังของรัฐบาลสหรัฐ (Bullion Depository) ที่ Fort Knox, Kentucky ...คลังนี้ถือเป็นสัญญลักษณ์ของสถานะอำนาจทางการเงินที่แข็งแกร่งของอเมริกาที่มีต่อทั้งโลก ทุนสำรองทองคำของสหรัฐนี้ไม่มีการตรวจสอบที่เชื่อถือได้มาตั้งแต่ปี 1974 ...ไม่นานหลังจากที่อเมริกาฉีกสัญญา Bretton Woods ที่ทำให้สถานะการถือครองทองคำของอเมริกาเป็นที่น่าเคลิอบแคลงสงสัย ที่จริงแล้ว การ audit ครั้งที่เกิดก่อนหน้าปี 1974 ก็ไม่น่าเชื่อถือเหมือนกัน นี่ก็ครบรอบ 50 ปีแล้วที่ประชาชนยังคงอยู่กับความน่าสงสัย คำถามก็ยังคงอยู่...ทองคำทั้งหมดของอเมริกา ยังอยู่มั้ย? ประวัติศาสตร์ของคลัง Bullion Depository ของสหรัฐที่ Kentucky ก่อสร้างปี 1936 เพื่อสนับสนุนคำสั่ง ปธน. ที่ 6102 (Executive Order 6102) ของปธน. รูสเวลท์ที่บังคับให้ประชาขนแลกทองคำของตนเป็นเงินกระดาษ ...คลังนี้ถูกเรียกตามสถานที่ตั้งว่า Fort Knox U.S. Bullion Depository แห่งนี้อยู่ใจกลางประเทศที่ห่างไกลจากชายฝั่งประเทศ เพื่อความปลอดภัยกรณีที่ถูกรุกราน ประตูของคลังแห่งนี้หนาถึง 21 นิ้ว ก่อสร้างด้วยเหล็กกล้าถึง 1,420 ตัน มันถูกออกแบบเป็นการเฉพาะเพื่อเก็บรักษาทองคำนับล้านๆ ออนซ์ (เป็นทองคำแท่งที่หลอมมาจากเหรียญ) ทีได้รับมาจากประชาชนสหรัฐ ตามคำสั่ง 6102 กับทองที่ยึดเข้ามาดื้อ ๆ จากประเทศในยุโรป ที่ถูกทำลายจากสงคราม ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีมาแล้ว ที่ประชาชนอเมริกันก็แคลงใจว่าในคลังยังมีทองคำอยู่จริงหรือ? ตอนนั้นมีหลายทฤษฎีที่เกี่ยวกับทองคำเหล่านี้แพร่กระจายไปทั่ว ...ทฤษฎีหนึ่งที่นักฏหมายคนหนึ่งในวอชิงตันให้สัมภาษณ์สื่อ The National Tattler ว่า ทองคำมูลค่า $20,000 ล้านอันตรธานไปจากคลังของรัฐบาลแห่งนี้ ข่าวนี้แพร่ไปทั่วคองเกรสอย่างรวดเร็ว คนอเมริกันจำนวนมากข้องใจกับคลังแห่งนี้ คิดว่าทองคำน่าจะหมดไปแล้ว จากการถูกต่างประเทศแลกคืนตลอดหลายปีก่อนหน้านั้น The “Show Audit” of Fort Knox Gold in 1974 Created More Questions รัฐบาลแก้เกม โดยจัดให้มีการ "Show Audit" ของ Fort Knox Gold เมื่อวันที่ 23 กันยายน 1974 กระทรวงคลังเปิดห้องเก็บทองคำโชว์ แต่เปิดแค่ 1 ห้องจากทั้งหมด 15 ห้อง ให้นักการเมืองและนักข่าวเข้าชมทองคำอย่างใกล้ชิด เพื่อยืนยันว่ามันยังอยู่ ....ดูยังไง ๆ มันก็เป็นรายการทีวีโชว์ ไม่ใช่ audit ...(ผมจะแชร์ลิ้งค์ คลิปส่วนหนึ่งในคอมเมนท์ครับ) รายการโชว์ที่มีคลิปรวมกันประมาณสองชั่วโมง เต็มไปด้วยรอยยิ้มของนักการเมืองและนักข่าว ที่มองดูทองคำแท่งที่กองเต็มรวม..สูงถึงเพดานในห้องเก็บนั้น ตลอดช่วงของการเข้าชม กลับไม่มีการตรวจสอบความถูกต้องของ serial# ของทองคำแต่ละแท่ง หรือผลการตรวจสอบความบริสุทธิ์ (assay) หรือแม้แต่หลักฐานความเป็นเจ้าของของรัฐบาลสหรัฐ ....(ตอนนั้นยังมีการรับฝากจากรัฐบาลต่างประเทศอยู่มาก) นี่เป็นรายการทีวีที่ออกอากาศปี 1974 มากกว่าจะเป็นหลักฐานที่น่าเชื่อถือ..แสดงจำนวนทองคำของสหรัฐในคลัง หลายสิบปีหลังจากนั้น มันก็ยังคงอึมครึมอยู่อย่างนั้น Fed ก็ยังพิมพ์เงินต่อไป ...ธนาคารกลางทั่วโลกก็เก็บสะสมทองคำกันต่อไป ....คนอเมริกันก็ยังเซ่อ..ไม่รู้อะไรเหมือนเดิมอยู่ต่อไป เมื่อปี 2021 สมาชิกสภา Alex Mooney (WV - R) เสนอออกกฎหมายให้มีการ audit การถือครอง ..การตรวจคุณภาพ (assay) และจำนวนทองคำของรัฐบาลสหรัฐ ตลอดถึงธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับทองคำสำรองทั้งหมดนี้ ...แต่เรื่องก็เงียบไป น่าจะต้องมีการเสนออีกในปีต่อ ๆ ไป คลิป "show audit" ผมแปะไว้ที่คอมเมนท์ครับ https://www.moneymetals.com/news/2024/09/23/50-year-anniversary-of-the-notorious-show-audit-of-fort-knox-gold-003484 #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 498 มุมมอง 1 รีวิว
  • อ่านเอาเรื่อง Ep.77 : ท่อก๊าซไซบีเรีย และมองโกเลียตกกระป๋อง

    ความในตอนนี้เป็นส่วนที่ผมค้นคว้าเพิ่มเติมจากที่ผมได้ชมคลิปยูทูบรายการของคุณสนธิเรื่อง “มองโกเลียเสียค่าโง่“ ครับ

    ในเรื่อง ”มองโกเลียเสียค่าโง่“ นั้น ผมขอสรุปจากที่คุณสนธิเล่าไว้ว่า มองโกเลียซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างรัสเซียกับจีนนั้น เขามีแร่ธาตุอยู่ใต้ดินมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ”ทองแดง - copper" ครับ

    ทีนี้ก็มีบริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ-ออสเตรเลียชื่อว่า “ริโอ ทินโท“ มองเห็นว่าใต้แผ่นดินของมองโกเลียนั้น มีทองแดง, เงิน และทองคำอยู่มหาศาล จึงเข้ามาลงทุนขุดเหมืองที่นี่ในปี 2010

    ตอนแรกๆกิจการก็ไปได้ดีและเริ่มสร้างรายได้ เพราะในปี 2013 บริษัทนี้สามารถส่งทองแดงไปขายให้จีนที่อยู่ใกล้ๆได้และจีนก็ต้องการทองแดงอยู่แล้วด้วย

    แต่พอถึงปี 2018 รัฐบาลมองโกเลียซึ่งถือหุ้นในเหมืองนี้ด้วย 51% ก็สั่งให้บริษัทริโอทินโทนั้นสร้างโรงผลิตไฟฟ้าขึ้นมาใช้ในเหมืองเอง ห้ามซื้อไฟฟ้าจากฝั่งจีน ทั้งๆที่เสาส่งไฟฟ้าของจีนอยู่ห่างจากเหมืองเพียง 100 กม.เท่านั้น

    แน่นอนว่าการที่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเองจะทำให้ต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น แต่บริษัทริโอทินโทก็ยอม เพราะเห็นแก่อนาคตทางธุรกิจของตัวเอง

    แต่พอถึงช่วงปี 2023-2024 นายกรัฐมนตรีมองโกเลีย คือ นายโอยุน เออร์ดีน เริ่มได้รับคำเชิญจากรัฐบาลสหรัฐ และได้ไปพบกับนางแอนโทนี บลิงเคน (รมว.ต่างประเทศ) และนางกมลา แฮริส (รอง ปธน.สหรัฐ) หลายครั้ง

    เราไม่รู้หรอกครับว่าเขาคุยอะไรกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ นายโอยุนกลับบ้านมาประกาศว่า มองโกเลียจะหาเพื่อนบ้านใหม่ (Third neighbor) นอกเหนือไปจากจีนและรัสเซีย อันหมายถึงสหรัฐอเมริกานั่นเอง

    ว่าแล้วนายโอยุนก็นำมองโกเลียไปเข้าร่วมวงกับอเมริกาในการแบนจีนกับเขาด้วย โดยสั่งห้ามไม่ให้บริษัทเหมืองแร่ริโอทินโทขายทองแดงให้กับจีน

    ทีนี้ปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้น เพราะริโอทินโทก็บอกว่า “อ้าว…แล้วจะให้ตูขายให้ใครล่ะ? เราขุดทองแดงได้ใกล้ๆกับจีน จีนก็ซื้อเยอะ แถมมองโกเลียก็ไม่มีทางออกทะเล จะให้เราขนทองแดงออกไปขายนอกประเทศยังไงโดยไม่ผ่านจีน?”

    การณ์ในตอนนี้ก็คือ บริษัทริโอทินโทกำลังทบทวนอยู่ว่าจะเอาไงดี ดีไม่ดีอาจจะเลิกทำเหมืองที่นี่แล้วหานักลงทุนรายอื่นๆมาซื้อกิจการแทน

    คุณสนธิเล่าไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ ซึ่งผมสนใจเรื่องนี้ต่อ จึงไปค้นคว้าหาข้อมูลมาเล่าเพิ่มเติมในย่อหน้าต่อไปนี้ครับ
    .
    .
    .
    เราทราบกันดีว่า จีนนั้นเป็นประเทศที่ต้องการพลังงานมากๆ และรัสเซียก็มีก๊าซธรรมชาติสำรองใต้แผ่นดินมากมายมหาศาล โดยเฉพาะที่ใต้แผ่นดินไซบีเรียนั้นมีก๊าซอยู่ถึง 40% ของทั้งประเทศรัสเซียเลย

    ในปี 2015 ปธน.สี จิ้นผิง กับ ปธน.ปูติน จับมือและตกลงกันว่าจะสร้างท่อส่งก๊าซจากไซบีเรียวิ่งเข้ามายังจีนครับ

    ตั้งชื่อท่อก๊าซนี้ว่า “พาวเวอร์ ออฟ ไซบีเรีย“ หรือ ”ไซบีเรีย 1” โดยท่อก๊าซนี้จะสามารถส่งก๊าซให้จีนได้สูงสุด 38,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (อ่านว่า สามหมื่นแปดพันล้าน)

    แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ภาคอุตสาหกรรมของจีนเติบโตเร็วมาก ก๊าซจากท่อก๊าซไซบีเรีย 1 นั้นไม่เพียงพอเสียแล้ว เพราะเพียงในปี 2024 นี้จีนก็ต้องการก๊าซทะลุไปถึง 4 แสนล้านลบ.ม.แล้วครับ

    ในปี 2021 สองผู้นำนี้จึงมาตกลงกันอีกรอบพร้อมกับเชิญผู้นำมองโกเลียมาร่วมด้วย โดยจะสร้างท่อส่งก๊าซเพิ่มอีก 1 ท่อ ให้ชื่อว่า “ไซบีเรีย 2” ครับ

    ท่อไซบีเรีย 2 นี้มีความยาวถึง 2600 กิโลเมตร วิ่งผ่าน 3 ประเทศคือ รัสเซีย 100 กม. - มองโกเลีย 900 กม. - จีน 1600 กม.ครับ

    คุณผู้อ่านเห็นชื่อมองโกเลียก็รู้สึกตะหงิดๆใจแล้วใช่ไหมครับ
    .
    .
    .
    ตามกำหนดเดิมนั้นท่อไซบีเรีย 2 นี้จะเริ่มสร้างในปี 2024 นี้แหละครับและจะสร้างเสร็จในปี 2030 โน่น แต่เมื่อปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ท่านสี จิ้นผิงได้ไปหารือกับปูติน และระบุชัดเจนว่า

    “จีนไม่ต้องการให้ท่อก๊าซไซบีเรีย 2 วิ่งผ่านมองโกเลียอีกต่อไป”

    คาดว่าจีนกังวลอยู่ 2 ประการ

    หนึ่ง… การที่ท่อก๊าซวิ่งผ่านมองโกเลีย มองโกเลียสามารถกำหนดเก็บค่าผ่านทางได้ตามแต่ที่รัฐบาลมองโกลจะเรียก

    สอง… เมื่อมองโกเลียแสดงออกแล้วว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับจีน ท่อไซบีเรีย 2 ซึ่งถือเป็นความมั่นคงทางพลังงานของจีนจึงตกอยู่ในอันตราย

    การก่อสร้างท่อไซบีเรีย 2 จึงถูกเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ให้ไปวิ่งผ่านประเทศคาซัคสถานแทน ซึ่งเอาจริงๆแล้วทำให้การก่อสร้างง่ายกว่าผ่านมองโกเลีย

    ทีนี้ถ้าถามว่า “มองโกเลียเสียอะไรไปไหม?”

    คำตอบคือ “เสียรายได้เข้าประเทศไปแน่ๆแล้วปีละอย่างน้อย 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ยังไม่รวมค่าผ่านทางท่อก๊าซที่จะเสียเพิ่มให้อีก“

    และยังไม่รวมถึงความสัมพันธ์กับจีนที่พังทลายไป ทั้งๆที่ตัวเองต้องพึ่งพาจีนอยู่อีกมากมาย

    ส่วนส้มนั้นก็ไปหล่นใส่มือของคาซัคสถานที่อยู่ดีๆก็ได้เงินเข้าประเทศ

    สำหรับท่านที่ไม่ทราบ ก็ควรได้รู้ว่ามองโกเลียนั้นเป็นประเทศ Land locked country ครับ คือ ไม่มีทางออกทะเล โดนรัสเซียประกบอยู่บนหัว และจีนประกบอยู่ทางใต้

    ทุกวันนี้การค้าการส่งออกนำเข้าสินค้าของมองโกเลียก็อาศัยพึ่งพาถนนและท่าเรือของจีนที่เทียนจินทั้งหมด ท่าเรือนี้เป็นทางออกทะเลเดียวที่มองโกเลียมี เพราะรัสเซียไม่ให้มองโกเลียใช้ท่าเรือแล้ว

    ผู้นำมองโกลนั้น คงไม่เคยได้ยินสุภาษิตฝรั่งที่ว่า Don't bite the hands that feed you หรือ กินบนเรือน ขี้รดหลังคา

    นี่คือความโง่ของผู้นำมองโกลครับ แทนที่จะผูกมิตรกับเพื่อนบ้านที่ต้องอยู่กันไปชั่วฟ้าดินสลาย กลับไปเชื่อฟังชาติห่างไกลที่เพียงหวังจะหลอกใช้เท่านั้น

    นัทแนะ
    อ่านเอาเรื่อง Ep.77 : ท่อก๊าซไซบีเรีย และมองโกเลียตกกระป๋อง ความในตอนนี้เป็นส่วนที่ผมค้นคว้าเพิ่มเติมจากที่ผมได้ชมคลิปยูทูบรายการของคุณสนธิเรื่อง “มองโกเลียเสียค่าโง่“ ครับ ในเรื่อง ”มองโกเลียเสียค่าโง่“ นั้น ผมขอสรุปจากที่คุณสนธิเล่าไว้ว่า มองโกเลียซึ่งเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ตรงกลางระหว่างรัสเซียกับจีนนั้น เขามีแร่ธาตุอยู่ใต้ดินมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ ”ทองแดง - copper" ครับ ทีนี้ก็มีบริษัทเหมืองแร่ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ-ออสเตรเลียชื่อว่า “ริโอ ทินโท“ มองเห็นว่าใต้แผ่นดินของมองโกเลียนั้น มีทองแดง, เงิน และทองคำอยู่มหาศาล จึงเข้ามาลงทุนขุดเหมืองที่นี่ในปี 2010 ตอนแรกๆกิจการก็ไปได้ดีและเริ่มสร้างรายได้ เพราะในปี 2013 บริษัทนี้สามารถส่งทองแดงไปขายให้จีนที่อยู่ใกล้ๆได้และจีนก็ต้องการทองแดงอยู่แล้วด้วย แต่พอถึงปี 2018 รัฐบาลมองโกเลียซึ่งถือหุ้นในเหมืองนี้ด้วย 51% ก็สั่งให้บริษัทริโอทินโทนั้นสร้างโรงผลิตไฟฟ้าขึ้นมาใช้ในเหมืองเอง ห้ามซื้อไฟฟ้าจากฝั่งจีน ทั้งๆที่เสาส่งไฟฟ้าของจีนอยู่ห่างจากเหมืองเพียง 100 กม.เท่านั้น แน่นอนว่าการที่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเองจะทำให้ต้นทุนธุรกิจเพิ่มขึ้น แต่บริษัทริโอทินโทก็ยอม เพราะเห็นแก่อนาคตทางธุรกิจของตัวเอง แต่พอถึงช่วงปี 2023-2024 นายกรัฐมนตรีมองโกเลีย คือ นายโอยุน เออร์ดีน เริ่มได้รับคำเชิญจากรัฐบาลสหรัฐ และได้ไปพบกับนางแอนโทนี บลิงเคน (รมว.ต่างประเทศ) และนางกมลา แฮริส (รอง ปธน.สหรัฐ) หลายครั้ง เราไม่รู้หรอกครับว่าเขาคุยอะไรกัน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ นายโอยุนกลับบ้านมาประกาศว่า มองโกเลียจะหาเพื่อนบ้านใหม่ (Third neighbor) นอกเหนือไปจากจีนและรัสเซีย อันหมายถึงสหรัฐอเมริกานั่นเอง ว่าแล้วนายโอยุนก็นำมองโกเลียไปเข้าร่วมวงกับอเมริกาในการแบนจีนกับเขาด้วย โดยสั่งห้ามไม่ให้บริษัทเหมืองแร่ริโอทินโทขายทองแดงให้กับจีน ทีนี้ปัญหาใหญ่ก็เกิดขึ้น เพราะริโอทินโทก็บอกว่า “อ้าว…แล้วจะให้ตูขายให้ใครล่ะ? เราขุดทองแดงได้ใกล้ๆกับจีน จีนก็ซื้อเยอะ แถมมองโกเลียก็ไม่มีทางออกทะเล จะให้เราขนทองแดงออกไปขายนอกประเทศยังไงโดยไม่ผ่านจีน?” การณ์ในตอนนี้ก็คือ บริษัทริโอทินโทกำลังทบทวนอยู่ว่าจะเอาไงดี ดีไม่ดีอาจจะเลิกทำเหมืองที่นี่แล้วหานักลงทุนรายอื่นๆมาซื้อกิจการแทน คุณสนธิเล่าไว้แต่เพียงเท่านี้ครับ ซึ่งผมสนใจเรื่องนี้ต่อ จึงไปค้นคว้าหาข้อมูลมาเล่าเพิ่มเติมในย่อหน้าต่อไปนี้ครับ . . . เราทราบกันดีว่า จีนนั้นเป็นประเทศที่ต้องการพลังงานมากๆ และรัสเซียก็มีก๊าซธรรมชาติสำรองใต้แผ่นดินมากมายมหาศาล โดยเฉพาะที่ใต้แผ่นดินไซบีเรียนั้นมีก๊าซอยู่ถึง 40% ของทั้งประเทศรัสเซียเลย ในปี 2015 ปธน.สี จิ้นผิง กับ ปธน.ปูติน จับมือและตกลงกันว่าจะสร้างท่อส่งก๊าซจากไซบีเรียวิ่งเข้ามายังจีนครับ ตั้งชื่อท่อก๊าซนี้ว่า “พาวเวอร์ ออฟ ไซบีเรีย“ หรือ ”ไซบีเรีย 1” โดยท่อก๊าซนี้จะสามารถส่งก๊าซให้จีนได้สูงสุด 38,000 ล้านลูกบาศก์เมตร (อ่านว่า สามหมื่นแปดพันล้าน) แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ภาคอุตสาหกรรมของจีนเติบโตเร็วมาก ก๊าซจากท่อก๊าซไซบีเรีย 1 นั้นไม่เพียงพอเสียแล้ว เพราะเพียงในปี 2024 นี้จีนก็ต้องการก๊าซทะลุไปถึง 4 แสนล้านลบ.ม.แล้วครับ ในปี 2021 สองผู้นำนี้จึงมาตกลงกันอีกรอบพร้อมกับเชิญผู้นำมองโกเลียมาร่วมด้วย โดยจะสร้างท่อส่งก๊าซเพิ่มอีก 1 ท่อ ให้ชื่อว่า “ไซบีเรีย 2” ครับ ท่อไซบีเรีย 2 นี้มีความยาวถึง 2600 กิโลเมตร วิ่งผ่าน 3 ประเทศคือ รัสเซีย 100 กม. - มองโกเลีย 900 กม. - จีน 1600 กม.ครับ คุณผู้อ่านเห็นชื่อมองโกเลียก็รู้สึกตะหงิดๆใจแล้วใช่ไหมครับ . . . ตามกำหนดเดิมนั้นท่อไซบีเรีย 2 นี้จะเริ่มสร้างในปี 2024 นี้แหละครับและจะสร้างเสร็จในปี 2030 โน่น แต่เมื่อปรากฏว่าเมื่อไม่นานมานี้ท่านสี จิ้นผิงได้ไปหารือกับปูติน และระบุชัดเจนว่า “จีนไม่ต้องการให้ท่อก๊าซไซบีเรีย 2 วิ่งผ่านมองโกเลียอีกต่อไป” คาดว่าจีนกังวลอยู่ 2 ประการ หนึ่ง… การที่ท่อก๊าซวิ่งผ่านมองโกเลีย มองโกเลียสามารถกำหนดเก็บค่าผ่านทางได้ตามแต่ที่รัฐบาลมองโกลจะเรียก สอง… เมื่อมองโกเลียแสดงออกแล้วว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามกับจีน ท่อไซบีเรีย 2 ซึ่งถือเป็นความมั่นคงทางพลังงานของจีนจึงตกอยู่ในอันตราย การก่อสร้างท่อไซบีเรีย 2 จึงถูกเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ให้ไปวิ่งผ่านประเทศคาซัคสถานแทน ซึ่งเอาจริงๆแล้วทำให้การก่อสร้างง่ายกว่าผ่านมองโกเลีย ทีนี้ถ้าถามว่า “มองโกเลียเสียอะไรไปไหม?” คำตอบคือ “เสียรายได้เข้าประเทศไปแน่ๆแล้วปีละอย่างน้อย 30 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ยังไม่รวมค่าผ่านทางท่อก๊าซที่จะเสียเพิ่มให้อีก“ และยังไม่รวมถึงความสัมพันธ์กับจีนที่พังทลายไป ทั้งๆที่ตัวเองต้องพึ่งพาจีนอยู่อีกมากมาย ส่วนส้มนั้นก็ไปหล่นใส่มือของคาซัคสถานที่อยู่ดีๆก็ได้เงินเข้าประเทศ สำหรับท่านที่ไม่ทราบ ก็ควรได้รู้ว่ามองโกเลียนั้นเป็นประเทศ Land locked country ครับ คือ ไม่มีทางออกทะเล โดนรัสเซียประกบอยู่บนหัว และจีนประกบอยู่ทางใต้ ทุกวันนี้การค้าการส่งออกนำเข้าสินค้าของมองโกเลียก็อาศัยพึ่งพาถนนและท่าเรือของจีนที่เทียนจินทั้งหมด ท่าเรือนี้เป็นทางออกทะเลเดียวที่มองโกเลียมี เพราะรัสเซียไม่ให้มองโกเลียใช้ท่าเรือแล้ว ผู้นำมองโกลนั้น คงไม่เคยได้ยินสุภาษิตฝรั่งที่ว่า Don't bite the hands that feed you หรือ กินบนเรือน ขี้รดหลังคา นี่คือความโง่ของผู้นำมองโกลครับ แทนที่จะผูกมิตรกับเพื่อนบ้านที่ต้องอยู่กันไปชั่วฟ้าดินสลาย กลับไปเชื่อฟังชาติห่างไกลที่เพียงหวังจะหลอกใช้เท่านั้น นัทแนะ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤠#สงครามเกาหลีมีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นอย่างไร ตอน02.🤠

    😎เมื่อสงครามจบลงแล้ว😎

    นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หนทางเดินของอเมริกาดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาเข้าควบคุมยุโรปด้วยวิธีการต่างๆ และกลายเป็นประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก

    ก่อนที่สงครามเกาหลีจะปะทุขึ้น พวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและคิดว่าตนเองจะชนะ แต่เมื่อหลังจากจีนส่งทหารไป สหรัฐฯ ยังคงเพิกเฉย

    แต่สุดท้ายจีนก็เป็นผู้ชนะ

    ดังนั้นจนกระทั่งมีการลงนามข้อตกลง ตัวแทนชาวอเมริกันจึงดูเหมือนยังคงฝันอยู่

    เนื่องจากสหรัฐฯ มีจิตใจที่หนักอึ้ง พวกเขาจึงไม่พูดอะไรสักคำในระหว่างกระบวนการลงนามข้อตกลงสงบศึกทั้งหมด และสถานที่จัดงานก็เงียบสนิท

    หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลง จากนั้นก็นำข้อตกลงไปให้กับ เผิงเต๋อะไหว(彭德怀) และนายพลมาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) ชาวอเมริกันเพื่อลงนาม

    หลังจากที่จอมพลเผิงเต๋อะไหวลงนาม เขาก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจในรายงานฉบับต่อมาว่า:

    “เป็นเวลาหลายร้อยปีที่ผู้รุกรานชาวตะวันตกสามารถยึดครองประเทศได้โดยการวางปืนใหญ่เพียงไม่กี่กระบอกบนชายฝั่งทางตะวันออกนั้นได้หายไปตลอดกาล”

    มาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) คร่ำครวญว่า: เขาเป็นผู้บัญชาการคนแรกในประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ลงนามข้อตกลงสงบศึกโดยไม่ได้รับชัยชนะ

    สงครามสิ้นสุดลงแล้ว แต่ผลกระทบยังขยายวงกว้าง สงครามเกาหลีประทับเงาทางจิตวิทยาที่ร้ายแรงอย่างยิ่งทิ้งไว้ต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงกับเรียกสงครามเกาหลีว่าเป็นหลุมดำในประวัติศาสตร์อเมริกา

    หนังสือพิมพ์อเมริกันระบุว่า:

    “(จีน) ใช้อาวุธจำนวนน้อยจนน่าสมเพชและระบบการจัดหาแบบดั้งเดิมที่น่าหัวเราะ แค่สามารถยับยั้งสหรัฐอเมริกามหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกซึ่งมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ อุตสาหกรรมขั้นสูง และอาวุธล้ำสมัยจำนวนมากลงได้”

    ความรู้สึกว่าพ่ายแพ้นี้ก่อให้เกิดผลโดยตรงสองประการ ประการแรก ความรู้สึกต่อต้านจีนในสหรัฐอเมริกามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขานำเอาสาเหตุของความพ่ายแพ้ของสงครามเกาหลี ทั้งหมดนี้โยนให้กับจีน

    ในความเป็นจริงแล้วในสถานการณ์สู้รบจริงพวกเขามีความเกรงกลัวต่อจีน

    เป็นเวลาหลายปีต่อจากนั้น ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนไม่เคยมีความขัดแย้งในสนามรบโดยตรง นี่เป็นเพราะสงครามเกาหลีทำให้สหรัฐฯตระหนักว่า แม้จีนจะอ่อนแอ แต่ก็ไม่ใช่ประเทศที่สามารถรังแกได้

    ประธานเหมาเคยกล่าวไว้ว่า: ในสงครามเกาหลีครั้งหนึ่งสร้างสันติภาพมาห้าสิบปี!

    นี่ไม่ใช่คำพูดที่ว่างเปล่าไร้สาระ แต่เป็นชัยชนะที่คนรุ่นก่อนได้แลกมาด้วยเลือดเนื้อ

    😎อิทธิพลผลกระทบที่กว้างขวาง😎

    นอกจากตัวเอกที่เป็นอเมริกาแล้ว ปฏิกิริยาจากประเทศอื่นๆ ก็น่าสนใจเช่นกัน ในจำนวนประเทศทั้งหมดนี้ที่มีคุณค่ากล่าวขวัญถึง คือ ญี่ปุ่น

    ญี่ปุ่นมีความเกลียดชังอย่างรุนแรงต่อจีนมาโดยตลอด เมื่อเกิดสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ปฏิกิริยาของญี่ปุ่นคือการได้ดูรายการการแสดงดีๆ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้รับประโยชน์มากมายจากสงครามเกาหลี

    หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในสภาพที่ซบเซา สังคมทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเงาแห่งความพ่ายแพ้สงคราม และประเทศก็ตกอยู่ในสภาวะที่บิดเบี้ยว

    ในเวลาขณะนี้ชาวอเมริกันก็มาถึง แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะสามารถควบคุมญี่ปุ่นไว้ได้ และใช้เป็นหุ่นเชิดทิ้งไว้ในเอเชีย แต่ญี่ปุ่นกลับต้องมีความคิดพึ่งพาต้นไม้ใหญ่เช่นสหรัฐอเมริกา

    ญี่ปุ่นมีจิตวิทยาที่แปลกประหลาด พวกเขาประสบความสูญเสียอย่างหนักจากระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯ แต่สิ่งนี้กลับทำให้พวกเขาอยู่ใต้อำนาจของสหรัฐอเมริกาแทน

    ในทางการเมืองและเศรษฐกิจ พวกเขามีความสัมพันธ์ที่แยกไม่ออกกับสหรัฐอเมริกา จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นพยายามทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อทำให้ชาวอเมริกันพอใจ หากสหรัฐฯ ต้องการโจมตีเกาหลีเหนือและจีน ญี่ปุ่นก็จะกระตือรือร้นอย่างมาก

    เนื่องจากปัญหาที่คั่งค้างมาทางประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นจึงไม่สามารถประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือและจีนต่อสาธารณะได้ แต่เบื้องหลังได้ช่วยเหลือสหรัฐฯมากมาย

    ในปี ค.ศ. 1950 ญี่ปุ่นรับหน้าที่บำรุงรักษารถบรรทุกทหารมากกว่า 6,000 คันจากสหรัฐอเมริกา และผลิตอาวุธจำนวนมากให้กับสหรัฐอเมริกา

    ในขณะเดียวกัน ในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ดักลาส แมกอาเธอร์(Douglas MacArthur道格拉斯·麦克阿瑟) พบว่า ตัวเองขาดกำลังคน แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีกำลังทหารเพียงพอ แต่ระยะทางจากอเมริกาไปยังเอเชียนั้นห่างไหลมาก เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ญี่ปุ่นจะเดินทางไปเกาหลีเหนือได้สะดวกกว่ามาก

    ดังนั้นในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ในบรรดาเรือบรรทุกรถถังจำนวน 47 ลำที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งมา จริงๆแล้วมีเรือ 30 ลำที่ขับเคลื่อนโดยคนชาวญี่ปุ่น

    นอกจากนี้ โดยพื้นฐานแล้วสหรัฐอเมริกายังใช้ฐานทัพอากาศในญี่ปุ่นเพื่อขนส่งวัสดุและบุคลากรตลอดช่วงสงคราม

    ตามสถิติที่ไม่สมบูรณ์นัก ตลอดช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นช่วยสหรัฐฯ ในการขนส่งทหารมากกว่า 3 ล้านคนและเสบียงมากกว่า 700,000 ตัน

    ในช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นกลายเป็นฐานทัพทหารและคลังแสงของสหรัฐอเมริกา เมื่อประเทศหนึ่งเป็นผู้ทำสงครามโดยล้างผลาญใช้ทรัพยากรของประเทศอื่น แต่ญี่ปุ่นไม่รู้สึกละอายกับสิ่งนี้ แต่กลับมีความภาคภูมิใจกับสิ่งนี้

    นอกจากนี้ เศรษฐกิจของพวกเขายังได้รับการฟื้นฟูโดยการทำกำไรจากสงคราม

    ระหว่างปี ค.ศ. 1950 ถึงค.ศ. 1953 ญี่ปุ่นมีรายได้มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์จากการส่งออกอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา

    เมื่อสงครามสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1953 การส่งออกของญี่ปุ่นประมาณ 60% ถูกกำหนดไว้สำหรับสนามรบของเกาหลี

    นอกจากการส่งออกทางเศรษฐกิจแล้ว ญี่ปุ่นยังส่งคนงานจำนวนมากไปยังสนามรบเกาหลีอย่างเงียบๆ เพื่อช่วยเหลือกองทัพสหรัฐฯ ในการสู้รบ

    ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นบางคนในช่วงสงครามรุกรานจีนก็ถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อชี้แนะสหรัฐอเมริกาในการทำสงครามเชื้อโรค ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นยังได้ส่งคณะร้องเพลงและเต้นรำจำนวนมากไปยังแนวหน้าเพื่อมอบความบันเทิง และแสดงการปลอบขวัญให้กำลังใจต่อกองทัพสหรัฐฯ

    ญี่ปุ่นกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามเกาหลีได้ขจัดความเศร้าโศกภายหลังความพ่ายแพ้ของกองทัพญี่ปุ่น

    หลังจากการลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในที่สุดสหรัฐฯ ก็ระงับความร่วมมือทางเศรษฐกิจพหุภาคีกับญี่ปุ่น ในเวลานี้ญี่ปุ่นมีความมั่งคั่งเพียงพอแล้ว แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับมัน แม้จะเผชิญกับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นก็ยังอินต่อเหตุการณ์มากกว่าชาวอเมริกันอีกด้วย

    ดังคำกล่าวที่ว่า เป็นเรื่องง่ายที่จะเพลิดเพลินไปกับร่มเงาโดยมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านหลัง พวกเขามีชีวิตที่ดีได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เนื่องมาจากเหตุการณ์สงครามที่เริ่มต้นขึ้นโดยสหรัฐอเมริกา ขณะนี้สหรัฐฯ ได้ถอนทหารออกไปแล้ว ญี่ปุ่นกังวลเรื่องความอยู่รอดของตนเองมากที่สุด

    ดังนั้น ก่อนที่จะลงนามข้อตกลงสงบศึก ญี่ปุ่นจึงเตรียมการหลายประการและกระชับความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาอย่างเข้มข้นเพื่อปูทางไปสู่ความมั่งคั่งหลังสงคราม

    ในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้กระตุ้นให้ญี่ปุ่นเกิดความกลัวต่อจีนในระดับลึกลงไปถึงที่สุด

    เมื่อสงครามต่อต้านญี่ปุ่นสิ้นสุดลง ภายในประเทศญี่ปุ่นได้เกิดมีกระแสความสงสัยในตนเองเกิดขึ้นมามากมาย พวกเขาเชื่อว่ากองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นอยู่ยงคงกระพัน แต่ทำไมจีนถึงกลายเป็นผู้ชนะในเมื่อเทคโนโลยีล้าหลังมากและประเทศก็ยากจนมาก?

    แต่ตอนนี้ จีนไม่เพียงแต่เอาชนะญี่ปุ่นได้เท่านั้น แม้แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็ยังพ่ายแพ้อีกด้วย ญี่ปุ่นยิ่งเพิ่มความสงสัยในตัวเองมากขึ้น

    ต้องรู้ว่าในเวลานี้ญี่ปุ่นยังไม่สลัดรอดพ้นเงาของประเทศลัทธิรัฐเผด็จการทหาร แม้กระทั้งว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่ลัทธิรัฐเผด็จการทหารก็ยังแสดงสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป

    ดังนั้นในด้านสุดขั้วของจิตวิทยาของพวกเขาจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกาได้เลย ในหนังสือพิมพ์ ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการพูดถึงชัยชนะของจีน แต่กลับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาสาเหตุของความล้มเหลวของสหรัฐฯ

    แน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น นับตั้งแต่การลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในภาษาเขียนของญี่ปุ่น คำว่า“จวือน่า(支那)”ชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลนนี้ค่อยๆหายไป

    ในความเป็นจริง ในช่วงต้นปึ ค.ศ. 1946 สหรัฐฯ สั่งให้ญี่ปุ่นไม่ให้ใช้ คำว่า“จวือน่า(支那)”และอื่นๆชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลน

    อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกฎระเบียบอย่างเป็นทางการ คนญี่ปุ่นก็ยังคงไปตามทางของตัวเอง

    เพราะพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนความดูถูกภายในใจที่มีต่อจีนได้ และถึงกับเชื่ออย่างหยิ่งผยองว่ารัฐบาลจีนใหม่จะอยู่ได้ไม่นาน จนถึงสงครามเกาหลีทำให้พวกเขาตระหนักถึงความเป็นจริง

    สงครามครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อจีน โดยประกาศให้โลกรู้ว่าจีนกำลังผงาดขึ้น

    ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือประเทศในยุโรป พวกเขาค่อยๆ ตระหนักว่าจีนไม่ใช่คนป่วยของเอเชียตะวันออกอีกต่อไป

    ในช่วงหลายปีหลังสงครามเกาหลี แม้ว่าโลกยังคงประสบกับความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์ที่จีนเผชิญยังคงยากลำบาก ในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดเช่นนี้ สถานะระหว่างประเทศของจีนยังคงดีขึ้นทีละขั้น

    ทั้งหมดนี้แยกออกจากรากฐานที่วางไว้โดยการการช่วยเหลือเกาหลีรบต่อต้านการรุกรานของสหรัฐฯ ดังนั้น ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของสงครามเกาหลีจึงสมควรได้รับการจดจำตลอดไปโดยคนรุ่นต่อๆ ไป

    🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯

    🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    🤠#สงครามเกาหลีมีผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่นอย่างไร ตอน02.🤠 😎เมื่อสงครามจบลงแล้ว😎 นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หนทางเดินของอเมริกาดำเนินไปอย่างราบรื่น พวกเขาเข้าควบคุมยุโรปด้วยวิธีการต่างๆ และกลายเป็นประเทศที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก ก่อนที่สงครามเกาหลีจะปะทุขึ้น พวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและคิดว่าตนเองจะชนะ แต่เมื่อหลังจากจีนส่งทหารไป สหรัฐฯ ยังคงเพิกเฉย แต่สุดท้ายจีนก็เป็นผู้ชนะ ดังนั้นจนกระทั่งมีการลงนามข้อตกลง ตัวแทนชาวอเมริกันจึงดูเหมือนยังคงฝันอยู่ เนื่องจากสหรัฐฯ มีจิตใจที่หนักอึ้ง พวกเขาจึงไม่พูดอะไรสักคำในระหว่างกระบวนการลงนามข้อตกลงสงบศึกทั้งหมด และสถานที่จัดงานก็เงียบสนิท หลังจากที่ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลง จากนั้นก็นำข้อตกลงไปให้กับ เผิงเต๋อะไหว(彭德怀) และนายพลมาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) ชาวอเมริกันเพื่อลงนาม หลังจากที่จอมพลเผิงเต๋อะไหวลงนาม เขาก็กล่าวอย่างภาคภูมิใจในรายงานฉบับต่อมาว่า: “เป็นเวลาหลายร้อยปีที่ผู้รุกรานชาวตะวันตกสามารถยึดครองประเทศได้โดยการวางปืนใหญ่เพียงไม่กี่กระบอกบนชายฝั่งทางตะวันออกนั้นได้หายไปตลอดกาล” มาร์ค ดับเบิลยู. คลาร์ก(Mark W. Clark马克·克拉克) คร่ำครวญว่า: เขาเป็นผู้บัญชาการคนแรกในประวัติศาสตร์ของกองทัพสหรัฐฯ ที่ลงนามข้อตกลงสงบศึกโดยไม่ได้รับชัยชนะ สงครามสิ้นสุดลงแล้ว แต่ผลกระทบยังขยายวงกว้าง สงครามเกาหลีประทับเงาทางจิตวิทยาที่ร้ายแรงอย่างยิ่งทิ้งไว้ต่อสหรัฐอเมริกา ซึ่งถึงกับเรียกสงครามเกาหลีว่าเป็นหลุมดำในประวัติศาสตร์อเมริกา หนังสือพิมพ์อเมริกันระบุว่า: “(จีน) ใช้อาวุธจำนวนน้อยจนน่าสมเพชและระบบการจัดหาแบบดั้งเดิมที่น่าหัวเราะ แค่สามารถยับยั้งสหรัฐอเมริกามหาอำนาจอันดับหนึ่งของโลกซึ่งมีเทคโนโลยีสมัยใหม่ อุตสาหกรรมขั้นสูง และอาวุธล้ำสมัยจำนวนมากลงได้” ความรู้สึกว่าพ่ายแพ้นี้ก่อให้เกิดผลโดยตรงสองประการ ประการแรก ความรู้สึกต่อต้านจีนในสหรัฐอเมริกามีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ พวกเขานำเอาสาเหตุของความพ่ายแพ้ของสงครามเกาหลี ทั้งหมดนี้โยนให้กับจีน ในความเป็นจริงแล้วในสถานการณ์สู้รบจริงพวกเขามีความเกรงกลัวต่อจีน เป็นเวลาหลายปีต่อจากนั้น ทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนไม่เคยมีความขัดแย้งในสนามรบโดยตรง นี่เป็นเพราะสงครามเกาหลีทำให้สหรัฐฯตระหนักว่า แม้จีนจะอ่อนแอ แต่ก็ไม่ใช่ประเทศที่สามารถรังแกได้ ประธานเหมาเคยกล่าวไว้ว่า: ในสงครามเกาหลีครั้งหนึ่งสร้างสันติภาพมาห้าสิบปี! นี่ไม่ใช่คำพูดที่ว่างเปล่าไร้สาระ แต่เป็นชัยชนะที่คนรุ่นก่อนได้แลกมาด้วยเลือดเนื้อ 😎อิทธิพลผลกระทบที่กว้างขวาง😎 นอกจากตัวเอกที่เป็นอเมริกาแล้ว ปฏิกิริยาจากประเทศอื่นๆ ก็น่าสนใจเช่นกัน ในจำนวนประเทศทั้งหมดนี้ที่มีคุณค่ากล่าวขวัญถึง คือ ญี่ปุ่น ญี่ปุ่นมีความเกลียดชังอย่างรุนแรงต่อจีนมาโดยตลอด เมื่อเกิดสงครามระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ปฏิกิริยาของญี่ปุ่นคือการได้ดูรายการการแสดงดีๆ นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้รับประโยชน์มากมายจากสงครามเกาหลี หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในสภาพที่ซบเซา สังคมทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเงาแห่งความพ่ายแพ้สงคราม และประเทศก็ตกอยู่ในสภาวะที่บิดเบี้ยว ในเวลาขณะนี้ชาวอเมริกันก็มาถึง แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะสามารถควบคุมญี่ปุ่นไว้ได้ และใช้เป็นหุ่นเชิดทิ้งไว้ในเอเชีย แต่ญี่ปุ่นกลับต้องมีความคิดพึ่งพาต้นไม้ใหญ่เช่นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นมีจิตวิทยาที่แปลกประหลาด พวกเขาประสบความสูญเสียอย่างหนักจากระเบิดปรมาณูของสหรัฐฯ แต่สิ่งนี้กลับทำให้พวกเขาอยู่ใต้อำนาจของสหรัฐอเมริกาแทน ในทางการเมืองและเศรษฐกิจ พวกเขามีความสัมพันธ์ที่แยกไม่ออกกับสหรัฐอเมริกา จักรพรรดิแห่งญี่ปุ่นพยายามทุกวิถีทางที่เป็นไปได้เพื่อทำให้ชาวอเมริกันพอใจ หากสหรัฐฯ ต้องการโจมตีเกาหลีเหนือและจีน ญี่ปุ่นก็จะกระตือรือร้นอย่างมาก เนื่องจากปัญหาที่คั่งค้างมาทางประวัติศาสตร์ ญี่ปุ่นจึงไม่สามารถประกาศสงครามกับเกาหลีเหนือและจีนต่อสาธารณะได้ แต่เบื้องหลังได้ช่วยเหลือสหรัฐฯมากมาย ในปี ค.ศ. 1950 ญี่ปุ่นรับหน้าที่บำรุงรักษารถบรรทุกทหารมากกว่า 6,000 คันจากสหรัฐอเมริกา และผลิตอาวุธจำนวนมากให้กับสหรัฐอเมริกา ในขณะเดียวกัน ในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ดักลาส แมกอาเธอร์(Douglas MacArthur道格拉斯·麦克阿瑟) พบว่า ตัวเองขาดกำลังคน แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะมีกำลังทหารเพียงพอ แต่ระยะทางจากอเมริกาไปยังเอเชียนั้นห่างไหลมาก เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว ญี่ปุ่นจะเดินทางไปเกาหลีเหนือได้สะดวกกว่ามาก ดังนั้นในระหว่างการยกพลขึ้นบกที่อินช็อน(Incheon仁川) ในบรรดาเรือบรรทุกรถถังจำนวน 47 ลำที่กองทัพสหรัฐฯ ส่งมา จริงๆแล้วมีเรือ 30 ลำที่ขับเคลื่อนโดยคนชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้ โดยพื้นฐานแล้วสหรัฐอเมริกายังใช้ฐานทัพอากาศในญี่ปุ่นเพื่อขนส่งวัสดุและบุคลากรตลอดช่วงสงคราม ตามสถิติที่ไม่สมบูรณ์นัก ตลอดช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นช่วยสหรัฐฯ ในการขนส่งทหารมากกว่า 3 ล้านคนและเสบียงมากกว่า 700,000 ตัน ในช่วงสงครามเกาหลี ญี่ปุ่นกลายเป็นฐานทัพทหารและคลังแสงของสหรัฐอเมริกา เมื่อประเทศหนึ่งเป็นผู้ทำสงครามโดยล้างผลาญใช้ทรัพยากรของประเทศอื่น แต่ญี่ปุ่นไม่รู้สึกละอายกับสิ่งนี้ แต่กลับมีความภาคภูมิใจกับสิ่งนี้ นอกจากนี้ เศรษฐกิจของพวกเขายังได้รับการฟื้นฟูโดยการทำกำไรจากสงคราม ระหว่างปี ค.ศ. 1950 ถึงค.ศ. 1953 ญี่ปุ่นมีรายได้มากกว่า 3 พันล้านดอลลาร์จากการส่งออกอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา เมื่อสงครามสิ้นสุดลงในปี ค.ศ. 1953 การส่งออกของญี่ปุ่นประมาณ 60% ถูกกำหนดไว้สำหรับสนามรบของเกาหลี นอกจากการส่งออกทางเศรษฐกิจแล้ว ญี่ปุ่นยังส่งคนงานจำนวนมากไปยังสนามรบเกาหลีอย่างเงียบๆ เพื่อช่วยเหลือกองทัพสหรัฐฯ ในการสู้รบ ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นบางคนในช่วงสงครามรุกรานจีนก็ถูกส่งไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อชี้แนะสหรัฐอเมริกาในการทำสงครามเชื้อโรค ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นยังได้ส่งคณะร้องเพลงและเต้นรำจำนวนมากไปยังแนวหน้าเพื่อมอบความบันเทิง และแสดงการปลอบขวัญให้กำลังใจต่อกองทัพสหรัฐฯ ญี่ปุ่นกล่าวอย่างภาคภูมิใจว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เกิดจากสงครามเกาหลีได้ขจัดความเศร้าโศกภายหลังความพ่ายแพ้ของกองทัพญี่ปุ่น หลังจากการลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในที่สุดสหรัฐฯ ก็ระงับความร่วมมือทางเศรษฐกิจพหุภาคีกับญี่ปุ่น ในเวลานี้ญี่ปุ่นมีความมั่งคั่งเพียงพอแล้ว แต่ก็ยังเป็นเรื่องยากสำหรับพวกเขาที่จะยอมรับมัน แม้จะเผชิญกับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นก็ยังอินต่อเหตุการณ์มากกว่าชาวอเมริกันอีกด้วย ดังคำกล่าวที่ว่า เป็นเรื่องง่ายที่จะเพลิดเพลินไปกับร่มเงาโดยมีต้นไม้ใหญ่อยู่ด้านหลัง พวกเขามีชีวิตที่ดีได้เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เนื่องมาจากเหตุการณ์สงครามที่เริ่มต้นขึ้นโดยสหรัฐอเมริกา ขณะนี้สหรัฐฯ ได้ถอนทหารออกไปแล้ว ญี่ปุ่นกังวลเรื่องความอยู่รอดของตนเองมากที่สุด ดังนั้น ก่อนที่จะลงนามข้อตกลงสงบศึก ญี่ปุ่นจึงเตรียมการหลายประการและกระชับความร่วมมือกับสหรัฐอเมริกาอย่างเข้มข้นเพื่อปูทางไปสู่ความมั่งคั่งหลังสงคราม ในเวลาเดียวกัน สิ่งนี้กระตุ้นให้ญี่ปุ่นเกิดความกลัวต่อจีนในระดับลึกลงไปถึงที่สุด เมื่อสงครามต่อต้านญี่ปุ่นสิ้นสุดลง ภายในประเทศญี่ปุ่นได้เกิดมีกระแสความสงสัยในตนเองเกิดขึ้นมามากมาย พวกเขาเชื่อว่ากองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นอยู่ยงคงกระพัน แต่ทำไมจีนถึงกลายเป็นผู้ชนะในเมื่อเทคโนโลยีล้าหลังมากและประเทศก็ยากจนมาก? แต่ตอนนี้ จีนไม่เพียงแต่เอาชนะญี่ปุ่นได้เท่านั้น แม้แต่สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของโลกก็ยังพ่ายแพ้อีกด้วย ญี่ปุ่นยิ่งเพิ่มความสงสัยในตัวเองมากขึ้น ต้องรู้ว่าในเวลานี้ญี่ปุ่นยังไม่สลัดรอดพ้นเงาของประเทศลัทธิรัฐเผด็จการทหาร แม้กระทั้งว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัว แต่ลัทธิรัฐเผด็จการทหารก็ยังแสดงสัญญาณของการฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้นในด้านสุดขั้วของจิตวิทยาของพวกเขาจึงทำให้พวกเขาไม่สามารถยอมรับความพ่ายแพ้ของสหรัฐอเมริกาได้เลย ในหนังสือพิมพ์ ญี่ปุ่นหลีกเลี่ยงการพูดถึงชัยชนะของจีน แต่กลับพยายามอย่างเต็มที่เพื่อค้นหาสาเหตุของความล้มเหลวของสหรัฐฯ แน่นอนว่ามีการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอยู่บ้าง ตัวอย่างเช่น นับตั้งแต่การลงนามข้อตกลงสงบศึกในปี ค.ศ. 1953 ในภาษาเขียนของญี่ปุ่น คำว่า“จวือน่า(支那)”ชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลนนี้ค่อยๆหายไป ในความเป็นจริง ในช่วงต้นปึ ค.ศ. 1946 สหรัฐฯ สั่งให้ญี่ปุ่นไม่ให้ใช้ คำว่า“จวือน่า(支那)”และอื่นๆชื่อเรียกที่แฝงด้วยการดูถูกดูแคลน อย่างไรก็ตาม แม้จะมีกฎระเบียบอย่างเป็นทางการ คนญี่ปุ่นก็ยังคงไปตามทางของตัวเอง เพราะพวกเขาไม่สามารถเปลี่ยนความดูถูกภายในใจที่มีต่อจีนได้ และถึงกับเชื่ออย่างหยิ่งผยองว่ารัฐบาลจีนใหม่จะอยู่ได้ไม่นาน จนถึงสงครามเกาหลีทำให้พวกเขาตระหนักถึงความเป็นจริง สงครามครั้งนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษต่อจีน โดยประกาศให้โลกรู้ว่าจีนกำลังผงาดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น หรือประเทศในยุโรป พวกเขาค่อยๆ ตระหนักว่าจีนไม่ใช่คนป่วยของเอเชียตะวันออกอีกต่อไป ในช่วงหลายปีหลังสงครามเกาหลี แม้ว่าโลกยังคงประสบกับความขัดแย้งอย่างต่อเนื่อง และสถานการณ์ที่จีนเผชิญยังคงยากลำบาก ในสภาพแวดล้อมที่ตึงเครียดเช่นนี้ สถานะระหว่างประเทศของจีนยังคงดีขึ้นทีละขั้น ทั้งหมดนี้แยกออกจากรากฐานที่วางไว้โดยการการช่วยเหลือเกาหลีรบต่อต้านการรุกรานของสหรัฐฯ ดังนั้น ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของสงครามเกาหลีจึงสมควรได้รับการจดจำตลอดไปโดยคนรุ่นต่อๆ ไป 🤯โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า🤯 🥰กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ🥰
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มาตรฐานความปลอดภัยของรถบัส และแนวทางการปฏิบัติตน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น"

    จากข่าวสลดวันนี้ น่าจะต้องถอดบทเรียน และคุมกันจริงจังมากขึ้น กับรถบัส รถเมล์ รถขนส่งสาธารณะ ที่ถ้าไม่ได้มีอุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วนตามมาตรฐาน หรือเกิดมีปัญหาในการใช้งาน ก็จะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ (อย่างข่าววันนี้ ที่บอกว่าประตูฉุกเฉินเปิดไม่ได้ - ซึ่งความจริง ต้องเปิดได้ตลอดทั้งจากในรถและนอกรถ)

    เลยขอเอาบทความของ Patsornchai Tour - ภัสสรชัยทัวร์ นี้ มาสรุปให้ศึกษากันนะครับ

    - 3 สิ่งสำคัญ ที่ถือว่าเป็นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ที่รถบัสทุกคันต้องมี และผู้โดยสารทุกคน ควรสังเกตนั่นก็คือ "ถังดับเพลิง" , "ประตูฉุกเฉิน" และ "ค้อนทุบกระจก" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยบรรเทาความร้ายแรงของเหตุฉุกเฉินที่กำลังเกิดขึ้น และเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยทำผู้โดยสารออกจากห้องโดยสาร

    1. #ประตูทางออกฉุกเฉิน

    - ผู้โดยสารควรมองหาประตูรถทางออกฉุกเฉิน เพราะจะช่วยให้ออกจากตัวรถบัสได้ในขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน

    - ประตูรถทางออกฉุกเฉิน จะต้องมีสัญลักษณ์บ่งบอก หรือมีสัญลักษณ์แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งภายในและภายนอกตัวรถ ว่าเป็นตำแหน่งของประตูฉุกเฉิน

    - ถ้าเป็นประตูทางออก ที่อยู่ "ด้านท้าย" ของตัวรถ ต้องมีข้อความว่า “ทางออกฉุกเฉิน” เป็นอักษรภาษาไทย ความสูงไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตร สีแดงสะท้อนแสง ติดอยู่เหนือบริเวณที่เปิดปิดประตู หรือบริเวณขอบประตูด้านบนทางออกฉุกเฉิน ให้สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน

    - ถ้าไม่อยู่ด้านท้ายของรถ ประตูฉุกเฉินจะต้องมีขนาดทางออกไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร ความสูงไม่น้อยกว่า 120 เชนติเมตร อยู่ในตำแหน่ง "ด้านขวากลาง" ของตัวรถ หรืออาจจะค่อนไปทางท้ายรถ ตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้

    - ประตูฉุกเฉินจะต้องสามารถเปิดได้ โดยไม่ต้องใช้กุญแจหรืออุปกรณ์ใดๆ

    - ต้องเปิดได้เต็มทั้งส่วนกว้างและความสูง

    - ต้องไม่มีสิ่งติดตั้งถาวรกีดขวางทางออกนี้ เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน

    2. #ถังดับเพลิง

    - รถบัสทุกคันจะต้องมี เพื่อไว้ใช้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน เมื่อมีไฟลุกขึ้นที่บริเวณห้องโดยสาร

    - ภายในห้องโดยสารส่วนใหญ่ จะมีการติดตั้งถังดับเพลิงขนาด 2 ปอนด์ ไว้อย่างน้อย 2 ตำแหน่ง คือบริเวณ "เบาะหน้า" ใกล้คนขับ และบริเวณ "ที่นั่งด้านหลัง" หรือ "ตรงกลาง" ของห้องโดยสาร เพื่อให้สามารถหยิบให้งานได้ง่าย

    - เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้ดึงสลักล็อกที่บริเวณคันบีบออก จากนั้นให้ปลดสายฉีดออกจากตัวถึง หันปากสายฉีดไปที่ "ฐาน" กองไฟ แล้วกดคันบีบแล้วส่ายสายฉีด เพื่อให้สารที่พ่นออกมาจากถังดับเพลิง พ่นให้ทั่วทั้งกองไฟ

    - ไม่ควรฉีดไปที่เปลวไฟ เพราะเป็นการใช้แบบผิดวิธี ทำให้ไฟไม่ดับ

    - ควรยืนห่างจากกองไฟประมาณ 6-8 ฟุต เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน

    3. #ค้อนทุบกระจก

    - รถบัสทุกคันจะต้องมีค้อนทุบกระจก หรืออุปกรณ์ที่มีด้ามจับสีแดง มีหัวเหล็กลักษณะกลมๆ ยื่นออกมา

    - ส่วนมาก ติดอยู่ใกล้ๆ กระจกข้างรถ

    - มีไว้สำหรับการกรีด หรือทุบกระจก เพื่อเปิดเป็นทางออกฉุกเฉิน สามารถทุบเปิดกระจกได้เร็วกว่าของแข็งอื่นๆ

    - สามารถดึงออกจากแท่นเก็บ จากนั้น จับด้ามให้แน่น แล้วใช้ปลายแหลม "กรีด" ลงที่กระจกให้เป็นรอย แล้วใช้ปลายค้อน ทุบที่แนวกรีด กระจกก็จะแตกละเอียด

    #ข้อแนะนำอื่นสำหรับการเดินทาง

    1. เลือกเดินทางกลับบริษัทผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ มีการตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง และเป็นบริษัทที่ไม่มีประวัติ การเกิดอุบัติเหตุหนัก ซึ่งท่านสามารถเช็คได้กับกรมขนส่งทางบก

    2. บนรถบัสทุกคันจะจะต้องมีเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติอย่างน้อย 2 จุด ทุกที่นั่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารในขณะเดินทาง

    3. ในขณะเดินทาง ผู้โดยสารควรสังเกตอาการของพนักงานขับรถ ว่ามีอาการมึนเมา หาวบ่อย หรือขับรถเร็วเกินไปหรือไม่ หากพบความผิดปกติควรโทรแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จุดตรวจของกรมขนส่ง หรือบริษัทของผู้ให้บริการ

    4. หากเป็นระยะทางไกลมากกว่า 400 กิโลเมตร บริษัทผู้ให้บริการจะต้องมีพนักงานขับรถ 2 คน หรือจะต้องมีการหยุดจอดรถพักทุก 4 ชั่วโมง อย่างน้อยเป็นเวลา 30 นาที นอกจากนี้พนักงานขับรถจะต้องขับรถด้วยความสุภาพ และมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทาง เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่อาจเกิดขึ้นได้

    ภาพและข้อมูลจาก https://patsornchaitour.com/emergency-exit-on-bus/
    "มาตรฐานความปลอดภัยของรถบัส และแนวทางการปฏิบัติตน เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น" จากข่าวสลดวันนี้ น่าจะต้องถอดบทเรียน และคุมกันจริงจังมากขึ้น กับรถบัส รถเมล์ รถขนส่งสาธารณะ ที่ถ้าไม่ได้มีอุปกรณ์ความปลอดภัยครบถ้วนตามมาตรฐาน หรือเกิดมีปัญหาในการใช้งาน ก็จะทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ (อย่างข่าววันนี้ ที่บอกว่าประตูฉุกเฉินเปิดไม่ได้ - ซึ่งความจริง ต้องเปิดได้ตลอดทั้งจากในรถและนอกรถ) เลยขอเอาบทความของ Patsornchai Tour - ภัสสรชัยทัวร์ นี้ มาสรุปให้ศึกษากันนะครับ - 3 สิ่งสำคัญ ที่ถือว่าเป็นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัย ที่รถบัสทุกคันต้องมี และผู้โดยสารทุกคน ควรสังเกตนั่นก็คือ "ถังดับเพลิง" , "ประตูฉุกเฉิน" และ "ค้อนทุบกระจก" ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยบรรเทาความร้ายแรงของเหตุฉุกเฉินที่กำลังเกิดขึ้น และเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยทำผู้โดยสารออกจากห้องโดยสาร 1. #ประตูทางออกฉุกเฉิน - ผู้โดยสารควรมองหาประตูรถทางออกฉุกเฉิน เพราะจะช่วยให้ออกจากตัวรถบัสได้ในขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน - ประตูรถทางออกฉุกเฉิน จะต้องมีสัญลักษณ์บ่งบอก หรือมีสัญลักษณ์แสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน ทั้งภายในและภายนอกตัวรถ ว่าเป็นตำแหน่งของประตูฉุกเฉิน - ถ้าเป็นประตูทางออก ที่อยู่ "ด้านท้าย" ของตัวรถ ต้องมีข้อความว่า “ทางออกฉุกเฉิน” เป็นอักษรภาษาไทย ความสูงไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตร สีแดงสะท้อนแสง ติดอยู่เหนือบริเวณที่เปิดปิดประตู หรือบริเวณขอบประตูด้านบนทางออกฉุกเฉิน ให้สามารถสังเกตเห็นได้อย่างชัดเจน - ถ้าไม่อยู่ด้านท้ายของรถ ประตูฉุกเฉินจะต้องมีขนาดทางออกไม่น้อยกว่า 40 เซนติเมตร ความสูงไม่น้อยกว่า 120 เชนติเมตร อยู่ในตำแหน่ง "ด้านขวากลาง" ของตัวรถ หรืออาจจะค่อนไปทางท้ายรถ ตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ - ประตูฉุกเฉินจะต้องสามารถเปิดได้ โดยไม่ต้องใช้กุญแจหรืออุปกรณ์ใดๆ - ต้องเปิดได้เต็มทั้งส่วนกว้างและความสูง - ต้องไม่มีสิ่งติดตั้งถาวรกีดขวางทางออกนี้ เพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน 2. #ถังดับเพลิง - รถบัสทุกคันจะต้องมี เพื่อไว้ใช้ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุฉุกเฉิน เมื่อมีไฟลุกขึ้นที่บริเวณห้องโดยสาร - ภายในห้องโดยสารส่วนใหญ่ จะมีการติดตั้งถังดับเพลิงขนาด 2 ปอนด์ ไว้อย่างน้อย 2 ตำแหน่ง คือบริเวณ "เบาะหน้า" ใกล้คนขับ และบริเวณ "ที่นั่งด้านหลัง" หรือ "ตรงกลาง" ของห้องโดยสาร เพื่อให้สามารถหยิบให้งานได้ง่าย - เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ให้ดึงสลักล็อกที่บริเวณคันบีบออก จากนั้นให้ปลดสายฉีดออกจากตัวถึง หันปากสายฉีดไปที่ "ฐาน" กองไฟ แล้วกดคันบีบแล้วส่ายสายฉีด เพื่อให้สารที่พ่นออกมาจากถังดับเพลิง พ่นให้ทั่วทั้งกองไฟ - ไม่ควรฉีดไปที่เปลวไฟ เพราะเป็นการใช้แบบผิดวิธี ทำให้ไฟไม่ดับ - ควรยืนห่างจากกองไฟประมาณ 6-8 ฟุต เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน 3. #ค้อนทุบกระจก - รถบัสทุกคันจะต้องมีค้อนทุบกระจก หรืออุปกรณ์ที่มีด้ามจับสีแดง มีหัวเหล็กลักษณะกลมๆ ยื่นออกมา - ส่วนมาก ติดอยู่ใกล้ๆ กระจกข้างรถ - มีไว้สำหรับการกรีด หรือทุบกระจก เพื่อเปิดเป็นทางออกฉุกเฉิน สามารถทุบเปิดกระจกได้เร็วกว่าของแข็งอื่นๆ - สามารถดึงออกจากแท่นเก็บ จากนั้น จับด้ามให้แน่น แล้วใช้ปลายแหลม "กรีด" ลงที่กระจกให้เป็นรอย แล้วใช้ปลายค้อน ทุบที่แนวกรีด กระจกก็จะแตกละเอียด #ข้อแนะนำอื่นสำหรับการเดินทาง 1. เลือกเดินทางกลับบริษัทผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ มีการตรวจเช็คสภาพรถก่อนออกเดินทาง และเป็นบริษัทที่ไม่มีประวัติ การเกิดอุบัติเหตุหนัก ซึ่งท่านสามารถเช็คได้กับกรมขนส่งทางบก 2. บนรถบัสทุกคันจะจะต้องมีเข็มขัดนิรภัยอัตโนมัติอย่างน้อย 2 จุด ทุกที่นั่ง เพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารในขณะเดินทาง 3. ในขณะเดินทาง ผู้โดยสารควรสังเกตอาการของพนักงานขับรถ ว่ามีอาการมึนเมา หาวบ่อย หรือขับรถเร็วเกินไปหรือไม่ หากพบความผิดปกติควรโทรแจ้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจ จุดตรวจของกรมขนส่ง หรือบริษัทของผู้ให้บริการ 4. หากเป็นระยะทางไกลมากกว่า 400 กิโลเมตร บริษัทผู้ให้บริการจะต้องมีพนักงานขับรถ 2 คน หรือจะต้องมีการหยุดจอดรถพักทุก 4 ชั่วโมง อย่างน้อยเป็นเวลา 30 นาที นอกจากนี้พนักงานขับรถจะต้องขับรถด้วยความสุภาพ และมีน้ำใจต่อเพื่อนร่วมทาง เพื่อลดอุบัติเหตุบนท้องถนนที่อาจเกิดขึ้นได้ ภาพและข้อมูลจาก https://patsornchaitour.com/emergency-exit-on-bus/
    PATSORNCHAITOUR.COM
    แนะนำการปฏิบัติตัวเมื่อมีเกิดเหตุฉุกเฉินบนรถบัส ต้องทำอย่างไร? | Patsornchai Tour
    การเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุฉุกเฉิน คงเป็นเรื่องที่ไม่มีใค
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษษของนักเรียน เหตุเกิดถนนพหลโยธิน ขาเข้า หน้าห้างฯ เซียร์รังสิต ก่อนถึงอนุสรณ์สถาน เบื้องต้นมีรายงานว่า มีเด็กนักเรียนเสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000092482

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เกิดเหตุเพลิงไหม้รถบัสทัศนศึกษษของนักเรียน เหตุเกิดถนนพหลโยธิน ขาเข้า หน้าห้างฯ เซียร์รังสิต ก่อนถึงอนุสรณ์สถาน เบื้องต้นมีรายงานว่า มีเด็กนักเรียนเสียชีวิต และบาดเจ็บหลายราย อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000092482 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    Like
    Love
    Haha
    Angry
    44
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2580 มุมมอง 1 รีวิว
  • กองกำลังอิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการรุกรานอย่างจำกัดเข้าไปยังเลบานอนแล้ว จากการเปิดเผยของสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (30 ก.ย.) หลังอิสราเอลประกาศเดินหน้าสู้รบกับฮิซบอลเลาะห์ และปิดผนึกพื้นที่ชายแดน ตามหลังปฏิบัติการสังหารผู้นำพวกติดอาวุธกลุ่มนี้ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เตือนว่าการสู้รบยังไม่จบ แม้ว่าปฏิบัติการโจมตีถล่มกรุงเบรุตเมื่อวันศุกร์ (27 ก.ต.) จะปลิดชีพ ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำของฮิซบอลเลาะห์ ก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่พวกติดอาวุธกลุ่มนี้
    .
    บรรดาผู้นำโลกเรียกร้องใช้หนทางด้านการทูตลดสถานการณ์ความตึงเครียด ในนั้นรวมถึง สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่บอกว่า "เราไม่ต้องการเห็นการรุกรานทางภาคพื้นไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม"
    .
    ดูจาร์ริก เผยด้วยว่ากองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน ไม่สามารถปฏิบัติการลาดตระเวนได้อีกต่อไป เนื่องจากห่าจรวดที่ทั้ง 2 ฝ่ายยิงตอบโต้กันไปมาอย่างหนักหน่วง
    .
    แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "พวกเจ้าหน้าที่อิสราเอลแจ้งกับเราว่า ปัจจุบันพวกเขากำลังปฏิบัติการอย่างจำกัด เล็งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ใกล้ชายแดน"
    .
    นาอิม ฮัสเซม รองหัวหน้ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กล่าวระหว่างปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การตายของนัสรัลเลาะห์ ระบุว่านักรบฮิซบอลเลาะห์ "พร้อมหากอิสราเอลตัดสินใจบุกเข้ามาทางภาคพื้น"
    .
    กองทัพแห่งชาติเลบานอน ซึ่งมีแสนยานุภาพทางทหารน้อยกว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กำลังปรับเปลี่ยนฐานที่มั่นออกห่างจากชายแดนมากขึ้น เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกองทัพเปิดเผยกับเอเอฟพี
    .
    ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ชาติผู้จัดหาอาวุธรายสำคัญของอิสราเอล บ่งชี้ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (30 ก.ย.) ว่าเขาคัดค้านการรุกรานทางภาคพื้นของอิสราเอล "เราควรมีข้อตกลงหยุดยิงได้แล้วในตอนนี้"
    .
    ก่อนหน้านี้ในช่วงกลางเดือน อิสราเอลเริ่มเปิดฉากโจมตีทางอากาศนองเลือดเป็นชุดๆ เล่นงานฐานที่มั่นของฮิซบอลเลาะห์ทั่วเลบานอน และในวันศุกร์ (27 ก.ย.) ได้ทิ้งบอมบ์สังหาร นัสรัลเลาะห์ ในกรุงเบรุต
    .
    ในภาคเหนือของอิสราเอล ใกล้ชายแดนเลบานอน กัลแลนท์ บอกว่า "เราจะใช้ทุกวิถีทางที่อาจจำเป็น ทั้งทางอากาศ ทางทะเลและภาคพื้น เพื่อกอบกู้ความสงบคืนกลับมา" เขาบอกว่าการสังหารนัสรัลเลาะห์ "เป็นก้าวย่างที่สำคัญ แต่ไม่ใช่ปฏิบัติการท้ายสุด"
    .
    พวกฮิซบอลเลาะห์เริ่มปฏิบัติการโจมตีแบบไม่หนักหน่วง เล่นงานทหารอิสราเอล หนึ่งวันหลังจากพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส พันธมิตรของพวกเขาลงมือจู่โจมเล่นงานอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไปราว 1,200 ราย โหมกระพือการแก้แค้นของอิสราเอลและจุดชนวนสงครามในกาซา ปลิดชีพผู้คนไปมากกว่า 41,000 คน
    .
    การปะทะตามแนวชายแดนลุกลามบายปลายอย่างรวดเร็วในเดือนนี้ ส่งผลให้ประชาชนทั่วภูมิภาคตกอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว กังวลว่าสถานการณ์จะทวีความรุนแรงและขยายวงมากขึ้นเรื่อยๆ
    .
    อิสราเอลประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนว่ากำลังเบี่ยงโฟกัสจากกาซา มาเป็นการปกป้องชายแดนทางเหนือของประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่เลบานอนเผยว่า ปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลเล่นงานเลบานอน ได้ปลิดชีพผู้คนไปหลายร้อยรายในสัปดาห์ที่แล้ว และบีบให้ชาวบ้านราว 1 ล้านคนต้องหลบหนีออกจากบ้านเรือน
    .
    ฮิซบอลเลาะห์และพวกติดอาวุธกลุ่มอื่นๆ ยิงจรวด โดรนและขีปนาวุธบางส่วนเข้าใส่อิสราเอลในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต
    .
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวหาคู่อริอย่างอิหร่าน ซึ่งให้การสนับสนุนฮามาส ฮิซบอลเลาะห์ และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ว่ากำลังฉุดภูมิภาคแถบนี้ถลำลึกเข้าสู่สงคราม "ไม่มีที่ไหนในตะวันออกกลางที่อิสราเอลเอื้อมไม่ถึง" เขาเตือน
    .
    อิหร่าน เคยบอกว่าการสังหารนัสรัลเลาะห์ จะนำมาซึ่งการทำลายล้างอิสราเอล แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศระบุในวันจันทร์ (30 ก.ย.) ว่าอิหร่านจะไม่ได้ส่งนักรบไหนๆ ไปเผชิญหน้ากับอิสราเอล
    .
    ในวันจันทร์ (30 ก.ย.) ปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอล โดนอาคารหลังหนึ่งในกรุงเบรุต ซึ่งทางกลุ่มติดอาวุธบอกว่ามันสังหารสมาชิกของพวกเขาไป 3 ราย ทั้งนี้การโจมตีดังกล่าวถือเป็นการโจมตีย่านใจกลางเมืองหลวงของเลบานอนเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี โหมกระพือความตื่นตระหนกแก่ประชาชน
    .
    กระทรวงสาธารณสุขเลบานอน เปิดเผยว่ามีผู้คนมากกว่า 1,000 ราย ที่ถูกสังหารนับตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน ขณะที่ ฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุว่ามีชาวบ้านต้องไร้ถิ่นฐานภายในเลบานอนอีกกว่า 200,000 คน และอีกกว่า 100,000 คน หลบหนีเข้าไปยังซีเรีย ประเทศเพื่อนบ้าน
    .
    นาจิบ มากาติ นายกรัฐมนตรีเลบานอน เรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงบนพื้นฐานข้อเสนอของสหรัฐฯ-ฝรั่งเศสเมื่อเร็วๆ นี้ พร้อมเรียกร้อง "หยุดการรุกรานเลบานอนของอิสราเอล"
    .
    โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศสหภาพยุโรป กล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมฉุกเฉินของบรรดาผู้แทนทูตระดับสูงของกลุ่ม เตือนว่าการแทรกแซงทางทหารใดๆจะซ้ำเติมสถานการณ์อย่างฉับพลันและมันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ "อธิปไตยของทั้งอิสราเอลและเลบานอนจำเป็นต้องได้รับการรับประกัน"
    .
    ฌอง โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นนักการทูตระดับสูงคนแรกที่เดินทางเยือนกรุงเบรุต นับตั้งแต่อิสราเอลยกระดับโจมตีอย่างหนักหน่วง เรียกร้องในวันจันทร์ (30 ก.ย.) ร้องขออิสราเอลอดทนอดกลั้นจากการรุกรานทางภาคพื้น "ยังคงมีความหวัง แต่เหลือเวลาอีกน้อยนิด"
    .
    แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่าการทูตคือหนทางที่ดีที่สุดสำหรับภูมิภาคแถบนี้ "วอชิงตันจะยังคงเดินหน้าทำงาน เพื่อมุ่งหน้าสู่ทางออกทางการทูต สำหรับชายแดนอิสราเอล-เลบานอน และสำหรับข้อตกลงหยุดยิงในกาซาและข้อตกลงปล่อยตัวประกัน"
    .
    ในกาซา พวกผู้สื่อข่าวรายงานว่าจำนวนปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000092352
    ..................
    Sondhi X
    กองกำลังอิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการรุกรานอย่างจำกัดเข้าไปยังเลบานอนแล้ว จากการเปิดเผยของสหรัฐฯ ในวันจันทร์ (30 ก.ย.) หลังอิสราเอลประกาศเดินหน้าสู้รบกับฮิซบอลเลาะห์ และปิดผนึกพื้นที่ชายแดน ตามหลังปฏิบัติการสังหารผู้นำพวกติดอาวุธกลุ่มนี้ที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา . โยอาฟ กัลแลนท์ รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล เตือนว่าการสู้รบยังไม่จบ แม้ว่าปฏิบัติการโจมตีถล่มกรุงเบรุตเมื่อวันศุกร์ (27 ก.ต.) จะปลิดชีพ ฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำของฮิซบอลเลาะห์ ก่อความเสียหายใหญ่หลวงแก่พวกติดอาวุธกลุ่มนี้ . บรรดาผู้นำโลกเรียกร้องใช้หนทางด้านการทูตลดสถานการณ์ความตึงเครียด ในนั้นรวมถึง สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกของ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ที่บอกว่า "เราไม่ต้องการเห็นการรุกรานทางภาคพื้นไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม" . ดูจาร์ริก เผยด้วยว่ากองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติในเลบานอน ไม่สามารถปฏิบัติการลาดตระเวนได้อีกต่อไป เนื่องจากห่าจรวดที่ทั้ง 2 ฝ่ายยิงตอบโต้กันไปมาอย่างหนักหน่วง . แมตธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "พวกเจ้าหน้าที่อิสราเอลแจ้งกับเราว่า ปัจจุบันพวกเขากำลังปฏิบัติการอย่างจำกัด เล็งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานของฮิซบอลเลาะห์ใกล้ชายแดน" . นาอิม ฮัสเซม รองหัวหน้ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กล่าวระหว่างปราศรัยผ่านสถานีโทรทัศน์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่การตายของนัสรัลเลาะห์ ระบุว่านักรบฮิซบอลเลาะห์ "พร้อมหากอิสราเอลตัดสินใจบุกเข้ามาทางภาคพื้น" . กองทัพแห่งชาติเลบานอน ซึ่งมีแสนยานุภาพทางทหารน้อยกว่ากลุ่มฮิซบอลเลาะห์ กำลังปรับเปลี่ยนฐานที่มั่นออกห่างจากชายแดนมากขึ้น เจ้าหน้าที่รายหนึ่งของกองทัพเปิดเผยกับเอเอฟพี . ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ชาติผู้จัดหาอาวุธรายสำคัญของอิสราเอล บ่งชี้ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (30 ก.ย.) ว่าเขาคัดค้านการรุกรานทางภาคพื้นของอิสราเอล "เราควรมีข้อตกลงหยุดยิงได้แล้วในตอนนี้" . ก่อนหน้านี้ในช่วงกลางเดือน อิสราเอลเริ่มเปิดฉากโจมตีทางอากาศนองเลือดเป็นชุดๆ เล่นงานฐานที่มั่นของฮิซบอลเลาะห์ทั่วเลบานอน และในวันศุกร์ (27 ก.ย.) ได้ทิ้งบอมบ์สังหาร นัสรัลเลาะห์ ในกรุงเบรุต . ในภาคเหนือของอิสราเอล ใกล้ชายแดนเลบานอน กัลแลนท์ บอกว่า "เราจะใช้ทุกวิถีทางที่อาจจำเป็น ทั้งทางอากาศ ทางทะเลและภาคพื้น เพื่อกอบกู้ความสงบคืนกลับมา" เขาบอกว่าการสังหารนัสรัลเลาะห์ "เป็นก้าวย่างที่สำคัญ แต่ไม่ใช่ปฏิบัติการท้ายสุด" . พวกฮิซบอลเลาะห์เริ่มปฏิบัติการโจมตีแบบไม่หนักหน่วง เล่นงานทหารอิสราเอล หนึ่งวันหลังจากพวกนักรบปาเลสไตน์ฮามาส พันธมิตรของพวกเขาลงมือจู่โจมเล่นงานอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไปราว 1,200 ราย โหมกระพือการแก้แค้นของอิสราเอลและจุดชนวนสงครามในกาซา ปลิดชีพผู้คนไปมากกว่า 41,000 คน . การปะทะตามแนวชายแดนลุกลามบายปลายอย่างรวดเร็วในเดือนนี้ ส่งผลให้ประชาชนทั่วภูมิภาคตกอยู่ท่ามกลางความหวาดกลัว กังวลว่าสถานการณ์จะทวีความรุนแรงและขยายวงมากขึ้นเรื่อยๆ . อิสราเอลประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนว่ากำลังเบี่ยงโฟกัสจากกาซา มาเป็นการปกป้องชายแดนทางเหนือของประเทศ ขณะที่เจ้าหน้าที่เลบานอนเผยว่า ปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอลเล่นงานเลบานอน ได้ปลิดชีพผู้คนไปหลายร้อยรายในสัปดาห์ที่แล้ว และบีบให้ชาวบ้านราว 1 ล้านคนต้องหลบหนีออกจากบ้านเรือน . ฮิซบอลเลาะห์และพวกติดอาวุธกลุ่มอื่นๆ ยิงจรวด โดรนและขีปนาวุธบางส่วนเข้าใส่อิสราเอลในช่วงเวลาเดียวกัน ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บบ้าง แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต . เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล กล่าวหาคู่อริอย่างอิหร่าน ซึ่งให้การสนับสนุนฮามาส ฮิซบอลเลาะห์ และกลุ่มติดอาวุธอื่นๆ ว่ากำลังฉุดภูมิภาคแถบนี้ถลำลึกเข้าสู่สงคราม "ไม่มีที่ไหนในตะวันออกกลางที่อิสราเอลเอื้อมไม่ถึง" เขาเตือน . อิหร่าน เคยบอกว่าการสังหารนัสรัลเลาะห์ จะนำมาซึ่งการทำลายล้างอิสราเอล แต่ทางกระทรวงการต่างประเทศระบุในวันจันทร์ (30 ก.ย.) ว่าอิหร่านจะไม่ได้ส่งนักรบไหนๆ ไปเผชิญหน้ากับอิสราเอล . ในวันจันทร์ (30 ก.ย.) ปฏิบัติการโจมตีของอิสราเอล โดนอาคารหลังหนึ่งในกรุงเบรุต ซึ่งทางกลุ่มติดอาวุธบอกว่ามันสังหารสมาชิกของพวกเขาไป 3 ราย ทั้งนี้การโจมตีดังกล่าวถือเป็นการโจมตีย่านใจกลางเมืองหลวงของเลบานอนเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี โหมกระพือความตื่นตระหนกแก่ประชาชน . กระทรวงสาธารณสุขเลบานอน เปิดเผยว่ามีผู้คนมากกว่า 1,000 ราย ที่ถูกสังหารนับตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน ขณะที่ ฟิลิปโป กรันดี ข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ระบุว่ามีชาวบ้านต้องไร้ถิ่นฐานภายในเลบานอนอีกกว่า 200,000 คน และอีกกว่า 100,000 คน หลบหนีเข้าไปยังซีเรีย ประเทศเพื่อนบ้าน . นาจิบ มากาติ นายกรัฐมนตรีเลบานอน เรียกร้องข้อตกลงหยุดยิงบนพื้นฐานข้อเสนอของสหรัฐฯ-ฝรั่งเศสเมื่อเร็วๆ นี้ พร้อมเรียกร้อง "หยุดการรุกรานเลบานอนของอิสราเอล" . โจเซฟ บอร์เรล หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศสหภาพยุโรป กล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมฉุกเฉินของบรรดาผู้แทนทูตระดับสูงของกลุ่ม เตือนว่าการแทรกแซงทางทหารใดๆจะซ้ำเติมสถานการณ์อย่างฉับพลันและมันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ "อธิปไตยของทั้งอิสราเอลและเลบานอนจำเป็นต้องได้รับการรับประกัน" . ฌอง โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นนักการทูตระดับสูงคนแรกที่เดินทางเยือนกรุงเบรุต นับตั้งแต่อิสราเอลยกระดับโจมตีอย่างหนักหน่วง เรียกร้องในวันจันทร์ (30 ก.ย.) ร้องขออิสราเอลอดทนอดกลั้นจากการรุกรานทางภาคพื้น "ยังคงมีความหวัง แต่เหลือเวลาอีกน้อยนิด" . แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่าการทูตคือหนทางที่ดีที่สุดสำหรับภูมิภาคแถบนี้ "วอชิงตันจะยังคงเดินหน้าทำงาน เพื่อมุ่งหน้าสู่ทางออกทางการทูต สำหรับชายแดนอิสราเอล-เลบานอน และสำหรับข้อตกลงหยุดยิงในกาซาและข้อตกลงปล่อยตัวประกัน" . ในกาซา พวกผู้สื่อข่าวรายงานว่าจำนวนปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลลดลงอย่างมากในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000092352 .................. Sondhi X
    Like
    Sad
    10
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 561 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรียนแพทย์..ไม่ใช่ว่าจะเข้าใจ CARNIVORES-OMNIVORES-HERBIVORES

    แท้จริงแล้ว..มนุษย์กำลังอยู่บนเส้นทางของการพัฒนาจากสัตว์กินเนื้อ เข้าใกล้เป้าหมายตามธรรมชาติ คือ กินพืช100%
    (อ่านหลายๆ..เที่ยว ไม่เข้าใจให้อ่านใหม่)

    เมื่อแปลเป็นภาษาไทย ให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า

    #บนเส้น_Timeline..ปัจจุบันมนุษย์พัฒนาได้(ห่าง)ไกลมาก จากสัตว์กินเนื้อ...................อีก 1 เซนติเมตร ก็จะเป็นสัตว์กินพืช 100%

    หลักฐานที่..ชี้ชัด คือ อวัยวะและระบบการทำงานในร่างกายมนุษย์ในปัจจุบันเป็นสัตว์กินพืช เช่น น้ำลาย ฟัน กราม กระเพาะ กรดในกระเพาะ ความยาวลำไส้ มือ เล็บ ความสามารถของดวงตา ...ฯลฯ

    รายละเอียดเหล่านี้ แพทย์(ทุกท่าน)ต้องเรียนในชั้นปีที่๑ วิชากายวิภาคศาสตร์ ใช่ไหม? และน่าจะเข้าใจ

    เมื่อ..มนุษย์พัฒนามาไกลมาก กำลังเป็นสัตว์กินพืช
    แล้วทำไม???..กลับหลังหัน วิ่งกลับไปกินเนื้อสัตว์ ล่ะ ?
    .
    .
    Pachäree Wõng
    October1st, 2024
    San Francisco, CA94108
    เรียนแพทย์..ไม่ใช่ว่าจะเข้าใจ CARNIVORES-OMNIVORES-HERBIVORES แท้จริงแล้ว..มนุษย์กำลังอยู่บนเส้นทางของการพัฒนาจากสัตว์กินเนื้อ เข้าใกล้เป้าหมายตามธรรมชาติ คือ กินพืช100% (อ่านหลายๆ..เที่ยว ไม่เข้าใจให้อ่านใหม่) เมื่อแปลเป็นภาษาไทย ให้เข้าใจได้ง่ายๆ ว่า #บนเส้น_Timeline..ปัจจุบันมนุษย์พัฒนาได้(ห่าง)ไกลมาก จากสัตว์กินเนื้อ...................อีก 1 เซนติเมตร ก็จะเป็นสัตว์กินพืช 100% หลักฐานที่..ชี้ชัด คือ อวัยวะและระบบการทำงานในร่างกายมนุษย์ในปัจจุบันเป็นสัตว์กินพืช เช่น น้ำลาย ฟัน กราม กระเพาะ กรดในกระเพาะ ความยาวลำไส้ มือ เล็บ ความสามารถของดวงตา ...ฯลฯ รายละเอียดเหล่านี้ แพทย์(ทุกท่าน)ต้องเรียนในชั้นปีที่๑ วิชากายวิภาคศาสตร์ ใช่ไหม? และน่าจะเข้าใจ เมื่อ..มนุษย์พัฒนามาไกลมาก กำลังเป็นสัตว์กินพืช แล้วทำไม???..กลับหลังหัน วิ่งกลับไปกินเนื้อสัตว์ ล่ะ ? . . Pachäree Wõng October1st, 2024 San Francisco, CA94108
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋)

    นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving)
    เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน
    ความสูง: 1.57 ม.
    ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME)
    พี่น้อง: อีเลน แทง

    เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง
    ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
    เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008
    หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง
    และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014

    ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว...
    เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey

    ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》
    https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU



    ----------------------------------------------
    รวมเพลงจีน-กวางตุ้ง
    1. เพลงจีนกวางตุ้ง 光辉岁月 อ่านว่า Gwong Fai Seui Yut
    แปลว่า "วันแห่งความรุ่งโรจน์" เป็นเพลงของวง Beyond ในยุค '90
    ที่มีความหมายดีๆ.. นำมาขับร้องใหม่ ไฉไล..,มันส์ มากกว่า-เดิม ค่ะ
    https://www.youtube.com/watch?v=Y98BJoztFwM
    เพลงแนว Canto-Pop 光辉岁月 Gwong Fai Seui Yuet
    ของ วง Beyond ต้นฉบับ(เดิม) พร้อมอักษรจีน-กวางตุ้ง
    ค่อยๆอ่าน+ร้องตาม สักวันหนึ่งที่มี "วันแห่งความรุ่งโรจน์"
    https://www.youtube.com/watch?v=PrGsAMbgUh4
    เพลง Glorious Years (光辉岁月)
    https://www.youtube.com/watch?v=4Sjqt37ipcU

    2. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ ศิลปิน BEYOND
    ขับร้องโดย สุดยอดนักร้องยอดนิยมของฮ่องกง
    ในเพลง 不再猶豫 อ่านว่า Bat joi yau yu แปลว่า ไม่ลังเล
    https://www.youtube.com/watch?v=RvDjCTqoLuw
    3. เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง 一生中最爱 อ่านว่า (Yi Sheng Zhong Zui Ai)
    เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 และใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง
    "A Tale of Two Cities" ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ
    เพื่อนรักสองคนที่ตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งในเวลาเดียวกัน
    แต่ให้กันและกันด้วยความเป็นพี่น้อง และทั้งสามคนต้องพบกับ
    บททดสอบมิตรภาพและความรัก เพลงนี้เลยดูเหมือนร้อง
    เกี่ยวกับระยะห่างระหว่างเพื่อนกับคนรัก
    https://www.youtube.com/watch?v=KbZLN2X_lFU
    สุดยอด..เพลงจีนกวางตุ้ง(ชาย) ต้องยกให้ ALAN TAM
    ในบทเพลง一生中最愛. Yat Saang Jung Jeui Ngoi
    คือ เพลงที่ดีที่สุด ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ 1991- ปัจจุบัน
    https://www.youtube.com/watch?v=62ejBUq1J5o

    4. เพลงจีนกวางตุ้ง 明日話今天 หมายถึง คุยกันวันนี้..ไม่ต้องรอในวันพรุ่งนี้
    และเพลงที่ 2 奮鬥 หมายความถึง การต่อสู้
    ขับร้องโดย Jenny Tseng และ CoCo Lee จำกันได้ไหม..ล่ะ?
    https://www.youtube.com/watch?v=ZXAguTHqYnc

    5. 7 เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ 容祖兒 - Joey Yung
    นำเสนอในแบบ Medley รวดเดียวในเพลง
    อ่านออกเสียงสำเนียงกวางตุ้ง 粤拼 ➔ jyut6ping3 ได้ว่า.....
    mat6jau5 / syun2jau5 / sam1gam1ming6dai2 / zou2jau5jyu6mau4 / zeoi6fui1 / ze3gwo3 / ngo5jaa5bat1
    密友 / 損友 / 心甘命抵 / 早有預謀 / 罪魁 / 借過 / 我也不想這樣
    https://www.youtube.com/watch?v=NpC07u2NMj0
    6. เพลงรัก..ภาษากวางตุ้ง ทั้ง 20 เพลง
    สรุปเป็นการขับร้องแนวเศร้าๆของหนุ่มมองเครื่องบิน
    ที่ไม่สามารถเด็ดดอกฟ้าลงมาเชยชมได้
    ถ้าได้..จะร้องแนวมันส์ๆ สนุกสนาน กระดี๊ กระด๊า รื่นเริง หลุดโลก..
    ช่าย หมาย..ล่ะ
    https://www.youtube.com/watch?v=x1z6as3uwMY
    7. ชาวกวางตุ้ง..เป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ติดทะเลทางตอนใต้ของจีน
    ตื่นเช้าขึ้นมา..จะพบกับ "ท้องฟ้า และ ทะเล"
    มักจะแหกปากขับร้องเพลง Hoi fut tin hung ของ Beyond
    海闊天空 ให้ดัง..ไกล ถึง ดาวพระอังคาร..ไปเลย
    ช่วยกัน "แหกปาก" ร้องดังๆ..นะ คะ
    https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ
    8. เพลงอมตะ..นิรันดร์กาล และ อยู่ในใจของชาวจีนกวางตุ้ง
    คือ เพลง Naan Dak Yau Ching Yan ( 难得有情人 )
    แปลเป็นภาษาอังกฤษ Happy Are Those in Love
    ขับร้องโดย Shirley Kwan (關淑怡)
    ฉันมีความสุขมากที่ได้ฟัง และร้องคลอเคลียตามไปด้วย
    ชาวกวางตุ้ง..ทุกคนสัมผัสความสุขนี้ได้ นะคะ
    https://www.youtube.com/watch?v=lhB9uMNveXI
    9. หนึ่งใน..เพลงที่ดีที่สุดของ Joey Yung 容祖兒
    มีหลายประเทศนำไปเลียนแบบใส่เนื้อร้องใหม่
    ในเพลง 習慣失戀 แปลไทย ว่า " อกหักจนเคยชิน"
    ไพเราะ..มาก ค่ะ " Always Heartbroken "
    https://www.youtube.com/watch?v=aQmieaqmLmU
    10. เพลง..ล้านคิวเพลง《千千阙歌》ในภาษาจีนกวางตุ้ง
    ที่ทำให้ 陈慧娴 Priscilla Chan ที่กำลังจะเกษียณอำลาวงการ
    กลับทำให้เธอ..ดังระเบิดแรงกว่า..ระเบิดปรมาณู ในปี 1983
    11. 朋友 ผั่งเหย่า..ภาษาจีน(กวางตุ้ง) แปลว่า เพื่อน
    เป็นเพลงที่ใช้ภาษาพูด ฟังได้ใจความอย่างง่ายๆ
    คิดถึงความสุข..สมัยที่ได้เรียนที่นี่ในวัยเด็ก

    12. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋)
    นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving)
    เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน
    ความสูง: 1.57 ม.
    ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME)
    พี่น้อง: อีเลน แทง
    เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง
    ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
    เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008
    หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง
    และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014
    ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว...
    เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey
    ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》
    https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU
    13. สุดยอดมหากาพย์ของเพลงจีนกวางตุ้ง..ต้องเพลงนี้
    《千千阙歌》หรือ แปลว่า "เพลงล้านคิว"
    "Song of a Thousand Thousand Que"
    ต้นฉบับของเพลงนี้คือ "Yuyakiけの歌" แต่งโดย Makaiye Yasuji
    โดยนักร้องชาวญี่ปุ่นMasahiko Kondo ในปี 1988
    หลังจากที่ Priscilla Chan ประกาศว่าจะเกษียณจากวงการเพลง
    PolyGram ได้ผลิตเพลง "อำลา" เพลงนี้แหละที่ประพันธ์เพลง
    ในภาษาจีนกวางตุ้ง โดย Lin Zhenqiang
    กลับทำให้ Priscilla Chan ยิ่งโด่งดังมากยิ่งขึ้น ด้วยฝีมือของ
    Anita Mui, Blue Jeans, Polygram, Huaxing Records,
    CBS/SonyและWingo Creative
    ด้วยเพลงนี้ พริสซิลลา ชาน ได้รับรางวัล
    " My Favorite Song Award in the Music World "
    ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 2,715 เสียง
    ใน พิธีมอบรางวัล Top Music Pop Awards ในปี 1989
    https://www.youtube.com/watch?v=P9kcwRnGk5w

    14. อัลบั๊มรวมเพลงจากสวรรค์ ของ 4 ราชาเพลงดังแห่งฮ่องกง
    ♛ Andy Lau ♛Jacky Cheung ♛Li Mingi ♛Aaron Kwok
    https://www.youtube.com/watch?v=a55w198tsLo

    15. Album รวม-เพลงกวางตุ้งที่ดีที่สุด ของ Alan Tam
    https://www.youtube.com/watch?v=w5QIjqHiSp4

    16. เธอ คือ 伍珂玥 หรือ Karrie Ng เป็นชาวเมืองไท่ซาน มณฑลกวางตุ้ง. เป็นนักร้องเพลงป๊อปชาวจีน
    เป็นนักศึกษาปี 2021 ของ Jinzhong Conservatory of Music of Shenzhen University
    และเป็นแชมป์รวมของ " The Voice of China 2021 "
    เธอ คือ สุดยอด..ความภาคภูมิใจ ของ ชาวกวางตุ้งทั่วโลก
    นี่คือ อัลบั๊ม เพลงอันแสนไพเราะ จากน้ำเสียงระดับโลกของเธอ
    https://www.youtube.com/watch?v=usKqLgvf6pI

    17. เพลงจีนกวางตุ้ง ชื่อเพลง《最爱》แปลว่า.. " รักที่ซู๊ดด ด.. "
    เรียบเรียงจากบทกวี เปรียบ ท้องฟ้า สายลม ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์
    น้ำขึ้น-น้ำลง เงา สายน้ำ จินตนาการกับความรักในฝัน.
    https://www.youtube.com/watch?v=IEwzbPWB3zg

    18. ชื่อภาษาจีน(ต้วย่อ) 刘德华 คนไทย รู้จักในชื่อ “หลิว เต๋อ หัว”
    สาวๆชาวจีนกวางตุ้ง...กรี๊ด สนั่น ในนาม “เหล่า ตั๊ก หวา” (Andy Lau)
    นี่แหละจักรพรรดิแห่ง..ดาราฮ่องกง เจ้าของผลงานภาพยนตร์ฮ่องกงแนวบู๊ ตีรันฟันแทง มากกว่าครึ่ง
    สูง ยาว หล่อ ล่ำ+เสียงดี ร้องเพลงยอดนิยมเพลงเดียว นานถึง 30 ปี คือ เพลง Yat Hei Jau Gwoh Dik Yat Ji
    《一起走过的日子》แปลเป็นอังกฤษ ว่าThe Days We Spent Together
    สาวกวางตุ้ง ต้องแหกปาก ร้องคลอ..ตามไปได้(ทุกคน)
    โดยเฉพาะท่อนแรก (ร้องดังๆ..นะ)
    如何面对 曾一起走过的日子
    jyu4 ho4 min6 deoi3 cang4 jat1 hei2 zau2 gwo3 dik1 jat6 zi2
    现在剩下我独行
    jin6 zoi6 sing6 haa6 ngo5 duk6 hang4
    如何用心声一一讲你知
    jyu4 ho4 jung6 sam1 sing1/seng1 jat1 jat1 gong2 nei5 zi1
    从来没人明白我
    cung4 loi4 mut6 jan4 ming4 baak6 ngo5
    唯一你给我好日子
    wai4 jat1 nei5 kap1 ngo5 hou2 jat6 zi2
    有你有我有情有生有死有义
    jau5 nei5 jau5 ngo5 jau5 cing4 jau5 sang1/saang1 jau5 sei2 jau5 ji6
    https://www.youtube.com/watch?v=VUZ4w2NN5fQ
    19. เพลงจีนกวางตุ้งคลาสสิก ขับร้องโดย : 張學友 / Jacky Cheung
    ชื่อเพลง : 『我留著你在身邊心仍然很遠』
    แปลไทย ได้ว่า "ฉันคอยเธอเคียงข้างใจยังห่างไกล"
    หรือ แปลเป็นอังกฤษ = Let me stay by your side
    https://www.youtube.com/watch?v=WHTfF5kIz80

    20. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) Yue Ban Xiao Ye Qu
    คืนพระจันทร์เสี้ยว《月半小夜曲》
    ฝาหรั่งเรียกว่า "Half Moon Serenade"
    นักร้อง : Li Keqin, Wu Keyue และ He San
    นำมาขับร้อง แบบ Trio ในปลายปี 2021 ได้ไพเราะจับใจ(มาก)
    ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…”
    https://www.youtube.com/watch?v=MfDa59mTHes

    21. เพลงจีนกวางตุ้ง เศร้าๆ.. ขับร้องโดย 容祖兒 - Joey Yung
    ชื่อเพลง : 天窗 แปลว่า แสงจากท้องฟ้า
    ความหมายของเพลง : หญิง-ชาย ดื่มน้ำชา หลังจากอาหารมื่อหนึ่ง
    ซึ่ง ทั้งคู่นัดกันมาพบกันเพื่อบอกเลิกกัน
    ทั้งคู่ไม่ยอมเปิดเผยความจริง
    หรือ ไม่ยอม..เปิดแสงจากฟ้าให้เข้าใจกัน นั่นเอง.
    https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU

    22. เพลงเก่า..ยอดนิยม ประมาณ 30 ปี
    ภาษาจีนกวางตุ้ง ของ Jacky Cheung (張學友 / Cheung Hok-yau)
    ชื่อเพลง : 只想一生跟你走 (Ji seung yat sang gan nie jau)
    แปลว่า : ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ
    ความหมายของเพลง....พระเอกของเราได้พบกับคนที่หลงรัก
    และค้นพบว่าไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเธอคนนั้น
    สองคนนี้เลิกกัน โดยฝ่ายหญิงสะบัดกันหนีไป
    ปล่อยให้พระเอกของเรา นั่งร้องไห้เศร้าเสียใจ
    มโนว่า เธอคนนั้น..ไม่ได้จากไป
    และทุกอย่างเหมือนอยู่ในความฝัน
    (ยังเสือกถามว่า ฝ่ายหญิงทำไมไม่ฝันถึงเค้าบ้าง)
    ร้องไหัและขอให้เธออย่าลืมรักเก่าๆเงียบๆ
    เพียงลำพัง คิดว่าในชีวิตนี้ ไม่สามารถอยู่ได้
    โดยปราศจากเธอ
    ตรงกับชื่อเพลง
    "ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ 只想一生跟你走
    Only Want to Go with You in this Life
    https://www.youtube.com/watch?v=Ou3NHHS6f4c
    23. เพลงแนว Soft-Rock
    อมตะนิรันด์กาล ของ Beyond
    บทเพลงภาษาจีนกวางตุ้ง Hoi Fut Tin Hung - 海闊天空
    https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ
    24. เพลงในแนวศิลปินคู่ Duo ชาย-หญิง
    บนเวที่ Voice of China เพลงในภาษากวางตุ้ง
    ได้รับการยอมรับ จากชาวจีนทั่วทั้งประเทศ
    เพลง : คืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว
    Yue Ban Xiao Ye Qu (月半小夜曲)
    ศิลปิน : 李克勤 และ 周深
    ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…”

    25. เพลงเศร้าๆ..ภาษากวางตุ้ง ชื่อเพลง 天窗 แปลว่า แสงปลายอุโมงค์
    เป็นการเล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยอกหัก นั่งในห้องมืดๆเพียงลำพัง
    โดยมีลำแสงเล็กๆลอดช่องหน้าต่างลงมาที่เขานั่ง คิดปลงตัวเอง
    รำพึง รำพัน อย่างน่าฉงฉาน..จุงเบย
    https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU

    26. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋)
    นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving)
    https://www.facebook.com/photo/?fbid=1121627308556329&set=a.108283646557372

    -《暗裡著迷》
    - Cantonese LOVE Song "Yat Saang Jung Jeui Ngoi" 一生中最愛 [Love Of A Lifetime] - Alan Tam 譚詠麟
    - เมโลดี้..หวานๆ ในเพลง 光輝歲月 -Gwong Fai Seui Yuet
    ของวง Beyond แน่นอน
    https://www.youtube.com/watch?v=SVBC35ByZUY
    - เมโลดี้..อันแสนไพเราะ ในเพลงจีนกวางตุ้ง(อมตะ)
    天若有情. tin yeuk yau ching ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ
    - เพลงจีนกวางตุ้งยอดนิยม(ตลอดกาล)ของ Beyond ทั้ง 2 เพลง
    1) "วันแห่งความรุ่งโรจน์" [ Gwong Fai Seui Yuet ] 光輝歲月
    2) "ทะเลและท้องฟ้า" [ Hoi Fut Tin Hung ] 海闊天空
    - เพลงสำหรับเทศกาลปีใหม่ Auld Lang Syne
    ใส่เนื้อร้องเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง
    กลายเป็นเพลง (เหย่ายี่หมานโส๋ย) 友誼萬歲 = มิตรภาพที่ยืนยาว
    ขับร้องโดย "หลีหลี่รุ่ย" 李麗蕊 Sara Lee
    ฟังง่าย -ชัดถ้อย-ชัดคำ(มาก) ค่ะ
    - ศิลป และ เทคนิคในการเขียนอักษรจีน โดยใช้ "แกนร่วม"
    เขียนว่า 身体健康 แปลว่า -ร่างกาย-สุขภาพดี
    ต้องหัดเขียน เพื่อนำไปอวยพรญาติผู้ใหญ่
    (ซึ่ง..เหลือน้อย แล้ว)
    https://www.youtube.com/shorts/th4bgNYZrsI
    - เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง ประมาณว่า อกหัก..รักคุด
    ของ Joey Yuong 容祖兒
    แสนรันทดใจ ฟัง..ไป ร้องไห้..ไป
    สังเกตไหม คะ ว่า..คล้ายกับเพลงในละคอนไทย "สามีตีลังกา"
    ไม่ทราบว่า จีนลอกไทย หรือ ไทยลอกจีน
    - เพลงจีนกวางตุ้ง สำเนียง..ซ๊าม-ยับ-หวา
    แสนไพเราะ..เย็นๆ จาก #ฮัคเคน_ลี (李克勤) Hacken Lee
    เค้า..เป็นนักร้อง พิธีกรรายการโทรทัศน์ และนักแสดงชาวฮ่องกง มีผลงานตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปี 2013 เพลง "House of Cards" ของ Lee กวาดหลายรางวัลในงานประกาศรางวัลของฮ่องกง รวมถึง "เพลงที่ดีที่สุดในโลก" และ "Broadcasting Index"
    ใน Metro's Awards ในปี 2013 เขาได้รับรางวัล "Outstanding Pop Singer Award" ในงาน "Top Ten Chinese Gold Songs Awards" ของ RTHK ถึง 14 ครั้ง และสร้างสถานะที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในอุตสาหกรรมเพลงของฮ่องกงและเอเชีย.
    https://www.youtube.com/watch?v=RMH8Xv2siYM
    - สุดยอด..การประกวด 中国好声音 (Voice of China)
    เพลง(จีนกวางตุ้ง)Manjusaka= 蔓珠莎華 ของ Wu Keyue
    ไม่เพียงรักษาจิตวิญญาณแห่งการครอบงำของ Anita Mui
    แต่...ยังมีเสียงตอนจบที่คล้ายกับ Priscilla Chan มาก
    เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋) นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving) เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน ความสูง: 1.57 ม. ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME) พี่น้อง: อีเลน แทง เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008 หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014 ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว... เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》 https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU ---------------------------------------------- รวมเพลงจีน-กวางตุ้ง 1. เพลงจีนกวางตุ้ง 光辉岁月 อ่านว่า Gwong Fai Seui Yut แปลว่า "วันแห่งความรุ่งโรจน์" เป็นเพลงของวง Beyond ในยุค '90 ที่มีความหมายดีๆ.. นำมาขับร้องใหม่ ไฉไล..,มันส์ มากกว่า-เดิม ค่ะ https://www.youtube.com/watch?v=Y98BJoztFwM เพลงแนว Canto-Pop 光辉岁月 Gwong Fai Seui Yuet ของ วง Beyond ต้นฉบับ(เดิม) พร้อมอักษรจีน-กวางตุ้ง ค่อยๆอ่าน+ร้องตาม สักวันหนึ่งที่มี "วันแห่งความรุ่งโรจน์" https://www.youtube.com/watch?v=PrGsAMbgUh4 เพลง Glorious Years (光辉岁月) https://www.youtube.com/watch?v=4Sjqt37ipcU 2. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ ศิลปิน BEYOND ขับร้องโดย สุดยอดนักร้องยอดนิยมของฮ่องกง ในเพลง 不再猶豫 อ่านว่า Bat joi yau yu แปลว่า ไม่ลังเล https://www.youtube.com/watch?v=RvDjCTqoLuw 3. เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง 一生中最爱 อ่านว่า (Yi Sheng Zhong Zui Ai) เปิดตัวครั้งแรกในปี 1991 และใช้เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง "A Tale of Two Cities" ภาพยนตร์เรื่องนี้บอกเล่าเรื่องราวของ เพื่อนรักสองคนที่ตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่งในเวลาเดียวกัน แต่ให้กันและกันด้วยความเป็นพี่น้อง และทั้งสามคนต้องพบกับ บททดสอบมิตรภาพและความรัก เพลงนี้เลยดูเหมือนร้อง เกี่ยวกับระยะห่างระหว่างเพื่อนกับคนรัก https://www.youtube.com/watch?v=KbZLN2X_lFU สุดยอด..เพลงจีนกวางตุ้ง(ชาย) ต้องยกให้ ALAN TAM ในบทเพลง一生中最愛. Yat Saang Jung Jeui Ngoi คือ เพลงที่ดีที่สุด ครองตำแหน่งมาตั้งแต่ 1991- ปัจจุบัน https://www.youtube.com/watch?v=62ejBUq1J5o 4. เพลงจีนกวางตุ้ง 明日話今天 หมายถึง คุยกันวันนี้..ไม่ต้องรอในวันพรุ่งนี้ และเพลงที่ 2 奮鬥 หมายความถึง การต่อสู้ ขับร้องโดย Jenny Tseng และ CoCo Lee จำกันได้ไหม..ล่ะ? https://www.youtube.com/watch?v=ZXAguTHqYnc 5. 7 เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) ของ 容祖兒 - Joey Yung นำเสนอในแบบ Medley รวดเดียวในเพลง อ่านออกเสียงสำเนียงกวางตุ้ง 粤拼 ➔ jyut6ping3 ได้ว่า..... mat6jau5 / syun2jau5 / sam1gam1ming6dai2 / zou2jau5jyu6mau4 / zeoi6fui1 / ze3gwo3 / ngo5jaa5bat1 密友 / 損友 / 心甘命抵 / 早有預謀 / 罪魁 / 借過 / 我也不想這樣 https://www.youtube.com/watch?v=NpC07u2NMj0 6. เพลงรัก..ภาษากวางตุ้ง ทั้ง 20 เพลง สรุปเป็นการขับร้องแนวเศร้าๆของหนุ่มมองเครื่องบิน ที่ไม่สามารถเด็ดดอกฟ้าลงมาเชยชมได้ ถ้าได้..จะร้องแนวมันส์ๆ สนุกสนาน กระดี๊ กระด๊า รื่นเริง หลุดโลก.. ช่าย หมาย..ล่ะ https://www.youtube.com/watch?v=x1z6as3uwMY 7. ชาวกวางตุ้ง..เป็นชาวจีนที่อาศัยอยู่ติดทะเลทางตอนใต้ของจีน ตื่นเช้าขึ้นมา..จะพบกับ "ท้องฟ้า และ ทะเล" มักจะแหกปากขับร้องเพลง Hoi fut tin hung ของ Beyond 海闊天空 ให้ดัง..ไกล ถึง ดาวพระอังคาร..ไปเลย ช่วยกัน "แหกปาก" ร้องดังๆ..นะ คะ https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ 8. เพลงอมตะ..นิรันดร์กาล และ อยู่ในใจของชาวจีนกวางตุ้ง คือ เพลง Naan Dak Yau Ching Yan ( 难得有情人 ) แปลเป็นภาษาอังกฤษ Happy Are Those in Love ขับร้องโดย Shirley Kwan (關淑怡) ฉันมีความสุขมากที่ได้ฟัง และร้องคลอเคลียตามไปด้วย ชาวกวางตุ้ง..ทุกคนสัมผัสความสุขนี้ได้ นะคะ https://www.youtube.com/watch?v=lhB9uMNveXI 9. หนึ่งใน..เพลงที่ดีที่สุดของ Joey Yung 容祖兒 มีหลายประเทศนำไปเลียนแบบใส่เนื้อร้องใหม่ ในเพลง 習慣失戀 แปลไทย ว่า " อกหักจนเคยชิน" ไพเราะ..มาก ค่ะ " Always Heartbroken " https://www.youtube.com/watch?v=aQmieaqmLmU 10. เพลง..ล้านคิวเพลง《千千阙歌》ในภาษาจีนกวางตุ้ง ที่ทำให้ 陈慧娴 Priscilla Chan ที่กำลังจะเกษียณอำลาวงการ กลับทำให้เธอ..ดังระเบิดแรงกว่า..ระเบิดปรมาณู ในปี 1983 11. 朋友 ผั่งเหย่า..ภาษาจีน(กวางตุ้ง) แปลว่า เพื่อน เป็นเพลงที่ใช้ภาษาพูด ฟังได้ใจความอย่างง่ายๆ คิดถึงความสุข..สมัยที่ได้เรียนที่นี่ในวัยเด็ก 12. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋) นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving) เกิด: 16 สิงหาคม 2534 (อายุ 31 ปี), เซี่ยงไฮ, จีน ความสูง: 1.57 ม. ค่ายเพลง: Sony Music Entertainment (SME) พี่น้อง: อีเลน แทง เธอ เป็น นักร้องนักแต่งเพลงชาวฮ่องกง ที่ อพยพมาจากเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน เธอ..เดบิวต์ในวงการเพลงฮ่องกง ในปี 2008 หลังจากออกอัลบั้ม 3 อัลบั้มในฮ่องกง และการปรากฏตัวของเธอ(ชัดเจน)ในรายการแข่งขันร้องเพลงจีน I Am a Singer รุ่นปี 2014 ดิฉัน..สะดุด เทหัวใจ(หมดทั้งหัวใจ) ให้เธอ ไปแล้ว... เพราะเธอมี DNA ของนักร้องในดวงใจทั้งสาม คือ Christina Aguilera, Beyoncé, และ Mariah Carey ตัวอย่าง ในเพลง hei fun nei 《喜欢你》 https://www.youtube.com/watch?v=IQ1g8ShGaVU 13. สุดยอดมหากาพย์ของเพลงจีนกวางตุ้ง..ต้องเพลงนี้ 《千千阙歌》หรือ แปลว่า "เพลงล้านคิว" "Song of a Thousand Thousand Que" ต้นฉบับของเพลงนี้คือ "Yuyakiけの歌" แต่งโดย Makaiye Yasuji โดยนักร้องชาวญี่ปุ่นMasahiko Kondo ในปี 1988 หลังจากที่ Priscilla Chan ประกาศว่าจะเกษียณจากวงการเพลง PolyGram ได้ผลิตเพลง "อำลา" เพลงนี้แหละที่ประพันธ์เพลง ในภาษาจีนกวางตุ้ง โดย Lin Zhenqiang กลับทำให้ Priscilla Chan ยิ่งโด่งดังมากยิ่งขึ้น ด้วยฝีมือของ Anita Mui, Blue Jeans, Polygram, Huaxing Records, CBS/SonyและWingo Creative ด้วยเพลงนี้ พริสซิลลา ชาน ได้รับรางวัล " My Favorite Song Award in the Music World " ด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น 2,715 เสียง ใน พิธีมอบรางวัล Top Music Pop Awards ในปี 1989 https://www.youtube.com/watch?v=P9kcwRnGk5w 14. อัลบั๊มรวมเพลงจากสวรรค์ ของ 4 ราชาเพลงดังแห่งฮ่องกง ♛ Andy Lau ♛Jacky Cheung ♛Li Mingi ♛Aaron Kwok https://www.youtube.com/watch?v=a55w198tsLo 15. Album รวม-เพลงกวางตุ้งที่ดีที่สุด ของ Alan Tam https://www.youtube.com/watch?v=w5QIjqHiSp4 16. เธอ คือ 伍珂玥 หรือ Karrie Ng เป็นชาวเมืองไท่ซาน มณฑลกวางตุ้ง. เป็นนักร้องเพลงป๊อปชาวจีน เป็นนักศึกษาปี 2021 ของ Jinzhong Conservatory of Music of Shenzhen University และเป็นแชมป์รวมของ " The Voice of China 2021 " เธอ คือ สุดยอด..ความภาคภูมิใจ ของ ชาวกวางตุ้งทั่วโลก นี่คือ อัลบั๊ม เพลงอันแสนไพเราะ จากน้ำเสียงระดับโลกของเธอ https://www.youtube.com/watch?v=usKqLgvf6pI 17. เพลงจีนกวางตุ้ง ชื่อเพลง《最爱》แปลว่า.. " รักที่ซู๊ดด ด.. " เรียบเรียงจากบทกวี เปรียบ ท้องฟ้า สายลม ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ น้ำขึ้น-น้ำลง เงา สายน้ำ จินตนาการกับความรักในฝัน. https://www.youtube.com/watch?v=IEwzbPWB3zg 18. ชื่อภาษาจีน(ต้วย่อ) 刘德华 คนไทย รู้จักในชื่อ “หลิว เต๋อ หัว” สาวๆชาวจีนกวางตุ้ง...กรี๊ด สนั่น ในนาม “เหล่า ตั๊ก หวา” (Andy Lau) นี่แหละจักรพรรดิแห่ง..ดาราฮ่องกง เจ้าของผลงานภาพยนตร์ฮ่องกงแนวบู๊ ตีรันฟันแทง มากกว่าครึ่ง สูง ยาว หล่อ ล่ำ+เสียงดี ร้องเพลงยอดนิยมเพลงเดียว นานถึง 30 ปี คือ เพลง Yat Hei Jau Gwoh Dik Yat Ji 《一起走过的日子》แปลเป็นอังกฤษ ว่าThe Days We Spent Together สาวกวางตุ้ง ต้องแหกปาก ร้องคลอ..ตามไปได้(ทุกคน) โดยเฉพาะท่อนแรก (ร้องดังๆ..นะ) 如何面对 曾一起走过的日子 jyu4 ho4 min6 deoi3 cang4 jat1 hei2 zau2 gwo3 dik1 jat6 zi2 现在剩下我独行 jin6 zoi6 sing6 haa6 ngo5 duk6 hang4 如何用心声一一讲你知 jyu4 ho4 jung6 sam1 sing1/seng1 jat1 jat1 gong2 nei5 zi1 从来没人明白我 cung4 loi4 mut6 jan4 ming4 baak6 ngo5 唯一你给我好日子 wai4 jat1 nei5 kap1 ngo5 hou2 jat6 zi2 有你有我有情有生有死有义 jau5 nei5 jau5 ngo5 jau5 cing4 jau5 sang1/saang1 jau5 sei2 jau5 ji6 https://www.youtube.com/watch?v=VUZ4w2NN5fQ 19. เพลงจีนกวางตุ้งคลาสสิก ขับร้องโดย : 張學友 / Jacky Cheung ชื่อเพลง : 『我留著你在身邊心仍然很遠』 แปลไทย ได้ว่า "ฉันคอยเธอเคียงข้างใจยังห่างไกล" หรือ แปลเป็นอังกฤษ = Let me stay by your side https://www.youtube.com/watch?v=WHTfF5kIz80 20. เพลงจีนกวางตุ้ง(ยอดนิยม) Yue Ban Xiao Ye Qu คืนพระจันทร์เสี้ยว《月半小夜曲》 ฝาหรั่งเรียกว่า "Half Moon Serenade" นักร้อง : Li Keqin, Wu Keyue และ He San นำมาขับร้อง แบบ Trio ในปลายปี 2021 ได้ไพเราะจับใจ(มาก) ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…” https://www.youtube.com/watch?v=MfDa59mTHes 21. เพลงจีนกวางตุ้ง เศร้าๆ.. ขับร้องโดย 容祖兒 - Joey Yung ชื่อเพลง : 天窗 แปลว่า แสงจากท้องฟ้า ความหมายของเพลง : หญิง-ชาย ดื่มน้ำชา หลังจากอาหารมื่อหนึ่ง ซึ่ง ทั้งคู่นัดกันมาพบกันเพื่อบอกเลิกกัน ทั้งคู่ไม่ยอมเปิดเผยความจริง หรือ ไม่ยอม..เปิดแสงจากฟ้าให้เข้าใจกัน นั่นเอง. https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU 22. เพลงเก่า..ยอดนิยม ประมาณ 30 ปี ภาษาจีนกวางตุ้ง ของ Jacky Cheung (張學友 / Cheung Hok-yau) ชื่อเพลง : 只想一生跟你走 (Ji seung yat sang gan nie jau) แปลว่า : ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ ความหมายของเพลง....พระเอกของเราได้พบกับคนที่หลงรัก และค้นพบว่าไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากเธอคนนั้น สองคนนี้เลิกกัน โดยฝ่ายหญิงสะบัดกันหนีไป ปล่อยให้พระเอกของเรา นั่งร้องไห้เศร้าเสียใจ มโนว่า เธอคนนั้น..ไม่ได้จากไป และทุกอย่างเหมือนอยู่ในความฝัน (ยังเสือกถามว่า ฝ่ายหญิงทำไมไม่ฝันถึงเค้าบ้าง) ร้องไหัและขอให้เธออย่าลืมรักเก่าๆเงียบๆ เพียงลำพัง คิดว่าในชีวิตนี้ ไม่สามารถอยู่ได้ โดยปราศจากเธอ ตรงกับชื่อเพลง "ชีวิตนี้ฉันต้องการไปกับเธอ 只想一生跟你走 Only Want to Go with You in this Life https://www.youtube.com/watch?v=Ou3NHHS6f4c 23. เพลงแนว Soft-Rock อมตะนิรันด์กาล ของ Beyond บทเพลงภาษาจีนกวางตุ้ง Hoi Fut Tin Hung - 海闊天空 https://www.youtube.com/watch?v=wk9TMnbx7fQ 24. เพลงในแนวศิลปินคู่ Duo ชาย-หญิง บนเวที่ Voice of China เพลงในภาษากวางตุ้ง ได้รับการยอมรับ จากชาวจีนทั่วทั้งประเทศ เพลง : คืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว Yue Ban Xiao Ye Qu (月半小夜曲) ศิลปิน : 李克勤 และ 周深 ความหมายของเพลง บรรยายถึง ความในใจทุกจุดของ..ชายหนุ่มที่นอนไม่หลับมองท้องฟ้าในค่ำคืนพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว รำพันถึงสาวในฝัน ที่น่าจะเป็นดวงดาวที่อยู่ไกลๆ เค้าเผชิญกับความจริงที่ยอมรับไม่ได้ ความรักของเค้าจะไม่เปลี่ยนไปตามลำดับ แต่ยิ่งกระตือรือร้น ยิ่งห่วงใยกันตลอดไป…” 25. เพลงเศร้าๆ..ภาษากวางตุ้ง ชื่อเพลง 天窗 แปลว่า แสงปลายอุโมงค์ เป็นการเล่าเรื่องราวของหนุ่มน้อยอกหัก นั่งในห้องมืดๆเพียงลำพัง โดยมีลำแสงเล็กๆลอดช่องหน้าต่างลงมาที่เขานั่ง คิดปลงตัวเอง รำพึง รำพัน อย่างน่าฉงฉาน..จุงเบย https://www.youtube.com/watch?v=YnW545U1KgU 26. เติ้ง จื่อ ฉี Tang Tsz-kei (鄧紫棋) นักร้อง-นักแต่งเพลง ในชื่อ G.E.M. ( Get Everybody Moving) https://www.facebook.com/photo/?fbid=1121627308556329&set=a.108283646557372 -《暗裡著迷》 - Cantonese LOVE Song "Yat Saang Jung Jeui Ngoi" 一生中最愛 [Love Of A Lifetime] - Alan Tam 譚詠麟 - เมโลดี้..หวานๆ ในเพลง 光輝歲月 -Gwong Fai Seui Yuet ของวง Beyond แน่นอน https://www.youtube.com/watch?v=SVBC35ByZUY - เมโลดี้..อันแสนไพเราะ ในเพลงจีนกวางตุ้ง(อมตะ) 天若有情. tin yeuk yau ching ผู้หญิงข้าใครอย่าแตะ - เพลงจีนกวางตุ้งยอดนิยม(ตลอดกาล)ของ Beyond ทั้ง 2 เพลง 1) "วันแห่งความรุ่งโรจน์" [ Gwong Fai Seui Yuet ] 光輝歲月 2) "ทะเลและท้องฟ้า" [ Hoi Fut Tin Hung ] 海闊天空 - เพลงสำหรับเทศกาลปีใหม่ Auld Lang Syne ใส่เนื้อร้องเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง กลายเป็นเพลง (เหย่ายี่หมานโส๋ย) 友誼萬歲 = มิตรภาพที่ยืนยาว ขับร้องโดย "หลีหลี่รุ่ย" 李麗蕊 Sara Lee ฟังง่าย -ชัดถ้อย-ชัดคำ(มาก) ค่ะ - ศิลป และ เทคนิคในการเขียนอักษรจีน โดยใช้ "แกนร่วม" เขียนว่า 身体健康 แปลว่า -ร่างกาย-สุขภาพดี ต้องหัดเขียน เพื่อนำไปอวยพรญาติผู้ใหญ่ (ซึ่ง..เหลือน้อย แล้ว) https://www.youtube.com/shorts/th4bgNYZrsI - เพลงภาษาจีนกวางตุ้ง ประมาณว่า อกหัก..รักคุด ของ Joey Yuong 容祖兒 แสนรันทดใจ ฟัง..ไป ร้องไห้..ไป สังเกตไหม คะ ว่า..คล้ายกับเพลงในละคอนไทย "สามีตีลังกา" ไม่ทราบว่า จีนลอกไทย หรือ ไทยลอกจีน - เพลงจีนกวางตุ้ง สำเนียง..ซ๊าม-ยับ-หวา แสนไพเราะ..เย็นๆ จาก #ฮัคเคน_ลี (李克勤) Hacken Lee เค้า..เป็นนักร้อง พิธีกรรายการโทรทัศน์ และนักแสดงชาวฮ่องกง มีผลงานตั้งแต่ปี 1980 จนถึงปี 2013 เพลง "House of Cards" ของ Lee กวาดหลายรางวัลในงานประกาศรางวัลของฮ่องกง รวมถึง "เพลงที่ดีที่สุดในโลก" และ "Broadcasting Index" ใน Metro's Awards ในปี 2013 เขาได้รับรางวัล "Outstanding Pop Singer Award" ในงาน "Top Ten Chinese Gold Songs Awards" ของ RTHK ถึง 14 ครั้ง และสร้างสถานะที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในอุตสาหกรรมเพลงของฮ่องกงและเอเชีย. https://www.youtube.com/watch?v=RMH8Xv2siYM - สุดยอด..การประกวด 中国好声音 (Voice of China) เพลง(จีนกวางตุ้ง)Manjusaka= 蔓珠莎華 ของ Wu Keyue ไม่เพียงรักษาจิตวิญญาณแห่งการครอบงำของ Anita Mui แต่...ยังมีเสียงตอนจบที่คล้ายกับ Priscilla Chan มาก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ความรักของผู้หญิงเกิดวันเสาร์

    เธอเป็นคนอดทน ขยันขันแข็ง ใจแข็ง ไม่ค่อยยอมใครง่ายๆ ใครดีมาดีตอบ แต่ถ้าใครทำให้เกลียด เธอเกลียดจนตาย เป็นคนเอาอกเอาใจใครไม่เป็น ชอบโต้เถียง อะไรที่ไม่ใช่ความจริงเธอจะโต้เถียงแบบสุดๆเพื่อความถูกต้องยุติธรรม เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย เธอชอบผู้ชาย ที่มีความเป็นผู้ใหญ่ ชอบคนเก่ง ชอบคนผิวขาว และจะต้องเป็นคนที่ให้เกียรติเธอ ไว้วางใจเธอ มีความซื่อสัตย์ และต้องมีสัจจะด้วย พูดคำไหนต้องคำนั้น ความรักของเธอนั้นดูแล้วก็อาจจะไม่ได้เป็นรักที่หวานชื่น ส่วนใหญ่จะได้คนที่การเงินไม่ค่อยดี หรือได้คู่ครองที่ด้อยกว่า ทำให้เธอต้องเหนื่อยยากในการหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว เหมือนเป็นเสาหลัก ชีวิตความรักของเธอนั้น ถ้าดูแล้วอาจจะมีอุปสรรคปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะ เป็นปัญหาเรื่องการเงิน ปัญหาผู้ใหญ่ หรือบางคน มีเรื่องมือที่สามเข้ามาด้วย แต่เธอก็จะสามารถผ่านปัญหาต่างๆเหล่านั้นไปได้ เพราะเธอเป็นคนที่ฉลาด ขยัน มีไหวพริบ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง มีความสามารถในการหาเงิน และยังเป็นคนที่เงียบขรึม จนคู่ครองของเธอต้องเกรงใจ จัดว่าเป็นคนที่คุมคู่ครองตัวเองได้ มีอำนาจเหนือกว่าคู่ครอง ชีวิตคู่ของเธอนั้น ดูแล้วจะไปได้เรื่อยๆ แต่จะไม่มีความหวือหวาหรือโรแมนติกสักเท่าไหร่ จะอยู่กันแบบเพื่อนมากกว่า บางทีเรื่องเซ็กส์เรื่องเสน่หาอาจจะไม่ได้มีส่วนสำคัญมากเท่าไหร่ บางทีก็เหมือนต่างคนต่างอยู่ ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันนั่นแหละ ต่างคนต่างมีเวลาเป็นส่วนตัว มีกิจกรรมที่ต้องทำ ไม่ได้มาวุ่นวายกันมากเท่าไหร่ อยู่กันแบบเป็นผู้ใหญ่ หรือบางคนอาจจะมีดวงที่จะต้องอยู่ห่างไกลกับคู่ครองด้วย ส่วนปัญหาความรักของเธอนั้น เธอจะไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่เพราะว่าเป็นคนที่ใจแข็ง ถ้าคนรักทำให้เธอไม่มีความสุข นอกใจ ติดอบายมุข หรือทำให้เธอเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ เธอพร้อมที่จะตัดใจเลิกราได้ทันที จะว่าเป็นคนที่ใจร้ายเลือดเย็นเลยก็ว่าได้
    ----------
    #ดูดวง #ดูดวงแม่นๆ #หมอดูแม่นๆ
    #ดูดวงแบบโทรคุย #ดูดวงไพ่ยิปซี #ดูดวงจิตสัมผัส #ดูดวงทางแชท
    #ดูดวงคำถามละ 9 บาท
    สนใจดูดวง แอดไลน์ @342shvrt
    #ความรักของผู้หญิงเกิดวันเสาร์ เธอเป็นคนอดทน ขยันขันแข็ง ใจแข็ง ไม่ค่อยยอมใครง่ายๆ ใครดีมาดีตอบ แต่ถ้าใครทำให้เกลียด เธอเกลียดจนตาย เป็นคนเอาอกเอาใจใครไม่เป็น ชอบโต้เถียง อะไรที่ไม่ใช่ความจริงเธอจะโต้เถียงแบบสุดๆเพื่อความถูกต้องยุติธรรม เป็นคนกล้าได้กล้าเสีย เธอชอบผู้ชาย ที่มีความเป็นผู้ใหญ่ ชอบคนเก่ง ชอบคนผิวขาว และจะต้องเป็นคนที่ให้เกียรติเธอ ไว้วางใจเธอ มีความซื่อสัตย์ และต้องมีสัจจะด้วย พูดคำไหนต้องคำนั้น ความรักของเธอนั้นดูแล้วก็อาจจะไม่ได้เป็นรักที่หวานชื่น ส่วนใหญ่จะได้คนที่การเงินไม่ค่อยดี หรือได้คู่ครองที่ด้อยกว่า ทำให้เธอต้องเหนื่อยยากในการหาเงินเลี้ยงดูครอบครัว เหมือนเป็นเสาหลัก ชีวิตความรักของเธอนั้น ถ้าดูแล้วอาจจะมีอุปสรรคปัญหาหลายอย่าง ไม่ว่าจะ เป็นปัญหาเรื่องการเงิน ปัญหาผู้ใหญ่ หรือบางคน มีเรื่องมือที่สามเข้ามาด้วย แต่เธอก็จะสามารถผ่านปัญหาต่างๆเหล่านั้นไปได้ เพราะเธอเป็นคนที่ฉลาด ขยัน มีไหวพริบ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าเก่ง มีความสามารถในการหาเงิน และยังเป็นคนที่เงียบขรึม จนคู่ครองของเธอต้องเกรงใจ จัดว่าเป็นคนที่คุมคู่ครองตัวเองได้ มีอำนาจเหนือกว่าคู่ครอง ชีวิตคู่ของเธอนั้น ดูแล้วจะไปได้เรื่อยๆ แต่จะไม่มีความหวือหวาหรือโรแมนติกสักเท่าไหร่ จะอยู่กันแบบเพื่อนมากกว่า บางทีเรื่องเซ็กส์เรื่องเสน่หาอาจจะไม่ได้มีส่วนสำคัญมากเท่าไหร่ บางทีก็เหมือนต่างคนต่างอยู่ ไม่ค่อยมีเวลาให้กัน ทั้งๆที่อยู่ด้วยกันนั่นแหละ ต่างคนต่างมีเวลาเป็นส่วนตัว มีกิจกรรมที่ต้องทำ ไม่ได้มาวุ่นวายกันมากเท่าไหร่ อยู่กันแบบเป็นผู้ใหญ่ หรือบางคนอาจจะมีดวงที่จะต้องอยู่ห่างไกลกับคู่ครองด้วย ส่วนปัญหาความรักของเธอนั้น เธอจะไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่เพราะว่าเป็นคนที่ใจแข็ง ถ้าคนรักทำให้เธอไม่มีความสุข นอกใจ ติดอบายมุข หรือทำให้เธอเริ่มรู้สึกไม่สบายใจ เธอพร้อมที่จะตัดใจเลิกราได้ทันที จะว่าเป็นคนที่ใจร้ายเลือดเย็นเลยก็ว่าได้ ---------- #ดูดวง #ดูดวงแม่นๆ #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงแบบโทรคุย #ดูดวงไพ่ยิปซี #ดูดวงจิตสัมผัส #ดูดวงทางแชท #ดูดวงคำถามละ 9 บาท สนใจดูดวง แอดไลน์ @342shvrt
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ความรักของผู้หญิงเกิดวันพุธ

    เธอจะเป็นคนที่ดูลึกลับ บางคนอาจจะดูภายนอกเป็นคนเฉยๆ เรียบร้อย แต่ข้างในไม่เป็นแบบนั้น เป็นคนเก็บกด มีความคิดซับซ้อน มีอารมณ์ทางเพศสูง เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น มีอีโก้สูง ไม่ค่อยเชื่อฟังใครง่ายๆ เป็นคนค่อนข้างดื้อรั้น และในชีวิตอาจจะมีเรื่องทะเลาะขัดแย้งกับคนในครอบครัวแบบรุนแรง หรือบางราย อาจจะปลีกตัวไปอยู่ข้างนอก เธอมีความคิดที่ไม่เหมือนใคร ติดเพื่อน ติดเที่ยว ชอบความสนุกสนานเฮฮา บางคนอาจจะสนใจในสิ่งเร้นลับ เวทมนตร์คุณไสย ไสยศาสตร์ เรื่องลี้ลับ ความรักของเธอดูแล้วอาจจะไม่ค่อยสุขสมหวังเท่าไหร่ เหมือนจะโดนคนทอดทิ้งมามาก รักใครชอบใครก็อาจจะไม่สมหวัง หรืออาจจะถูกคนอื่นแย่งไป บางคนอาจจะต้องไปพึ่งพาเรื่องเวทมนต์คุณไสยเพื่อเรียกแฟนกลับมา ถ้าไปทางดีก็ดีไป บางคนก็อาจจะศึกษาในเรื่องของธรรมะ หาสัจธรรมของชีวิต หาหนทางหลุดพ้น สวดมนต์ภาวนา ออกบวชก็ได้ ... ดวงชะตาจะหนีไม่พ้นเรื่องเร้นลับ เรื่องเวทมนต์คุณไสย บางคนอาจจะมีซิกเซ้นส์ มีสัมผัสพิเศษ ฝันแม่น บางคนอาจจะเจ็บป่วยจากพลังงานที่มองไม่เห็น เป็นโรคที่ยากต่อการรักษาหรือเป็นโรคซึมเศร้า โรคที่เกิดจากกรรมก็เป็นไปได้ ชีวิตความรักมีโอกาสที่จะได้เจอเนื้อคู่ที่แท้จริง ซึ่งคนๆนั้นจะต้องเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยคล้ายๆกัน และอาจจะได้คู่ที่อายุห่างกันมาก เช่นอาจจะแก่กว่ามาก หรืออาจจะอ่อนกว่ามากก็เป็นไปได้ ชีวิตความรักนั้นจะดีแค่ตอนต้น อาจจะอยู่ในช่วงอายุ 22-39 แต่หลังจาก 39 ไปแล้วชีวิตรักอาจจะมีปัญหา อาจจะต่างคนต่างอยู่ หรือบางคนอยู่แบบโสดไปเลย แต่มีโอกาสว่าจะมีกิจการเป็นของตัวเอง มีเงินมีงานที่ดี หรือบางคนอาจจะมีดวงได้ไปอยู่ต่างประเทศ อยู่ต่างถิ่นต่างแดน หรือบางคนอาจจะได้คู่ครองต่างชาติก็ได้ ถ้าได้คู่ครองต่างชาติหรือต่างประเทศ ได้คู่ครองเพศเดียวกัน หรือไปอยู่ต่างถิ่นต่างแดนมีโอกาสว่าชีวิตจะสุขสบาย แต่ถ้าอยู่ที่บ้านเกิดนั้นอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ชีวิตจะลุ่มๆดอนๆ ...เธอชอบคนที่ท้าทาย หรืออาจจะทำอะไรเถื่อนๆ ไม่เหมือนใคร มีความประหลาด พิเรนทร์ ชอบลองของ ชอบอะไรที่คนปกติเขาไม่ชอบกัน เพราะเธออาจจะมีความคิดแปลกๆใหม่ๆไม่เหมือนใคร หรืออาจจะชอบแนว playboy badboy ก็เป็นไปได้ คนดีๆถอยไปเลย เพราะเธอจะไม่ชอบและอาจจะไม่มอง ชีวิตของเธอนั้นจะชอบการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงทั้งเพศเดียวกันและต่างเพศ และมีโอกาสว่าอาจจะชอบทั้งสองเพศด้วย คู่ครองของเธอนั้นอาจจะต้องดูเป็นคนที่มีหลักการ มีเหตุผล มีความเป็นผู้ใหญ่ มีโอกาสว่าจะอายุมากกว่า แต่ต้องตามใจเธอได้ทุกเรื่อง ชีวิตของเธอนั้นขึ้นอยู่กับคู่ครองคนรักจะบงการด้วย ถ้าได้คู่ครองดีก็จะดี แต่ถ้าได้คู่ครองที่ติดอบายมุขหรือทำในสิ่งที่ไม่ถูก ต้องชีวิตของเธอก็จะไปทางที่ไม่ดี
    ------------
    #ดูดวง #ดูดวงแม่นๆ #หมอดูแม่นๆ
    #ดูดวงแบบโทรคุย #ดูดวงไพ่ยิปซี #ดูดวงจิตสัมผัส #ดูดวงทางแชท
    #ดูดวงคำถามละ 9 บาท
    สนใจดูดวง แอดไลน์ @342shvrt
    #ความรักของผู้หญิงเกิดวันพุธ เธอจะเป็นคนที่ดูลึกลับ บางคนอาจจะดูภายนอกเป็นคนเฉยๆ เรียบร้อย แต่ข้างในไม่เป็นแบบนั้น เป็นคนเก็บกด มีความคิดซับซ้อน มีอารมณ์ทางเพศสูง เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น มีอีโก้สูง ไม่ค่อยเชื่อฟังใครง่ายๆ เป็นคนค่อนข้างดื้อรั้น และในชีวิตอาจจะมีเรื่องทะเลาะขัดแย้งกับคนในครอบครัวแบบรุนแรง หรือบางราย อาจจะปลีกตัวไปอยู่ข้างนอก เธอมีความคิดที่ไม่เหมือนใคร ติดเพื่อน ติดเที่ยว ชอบความสนุกสนานเฮฮา บางคนอาจจะสนใจในสิ่งเร้นลับ เวทมนตร์คุณไสย ไสยศาสตร์ เรื่องลี้ลับ ความรักของเธอดูแล้วอาจจะไม่ค่อยสุขสมหวังเท่าไหร่ เหมือนจะโดนคนทอดทิ้งมามาก รักใครชอบใครก็อาจจะไม่สมหวัง หรืออาจจะถูกคนอื่นแย่งไป บางคนอาจจะต้องไปพึ่งพาเรื่องเวทมนต์คุณไสยเพื่อเรียกแฟนกลับมา ถ้าไปทางดีก็ดีไป บางคนก็อาจจะศึกษาในเรื่องของธรรมะ หาสัจธรรมของชีวิต หาหนทางหลุดพ้น สวดมนต์ภาวนา ออกบวชก็ได้ ... ดวงชะตาจะหนีไม่พ้นเรื่องเร้นลับ เรื่องเวทมนต์คุณไสย บางคนอาจจะมีซิกเซ้นส์ มีสัมผัสพิเศษ ฝันแม่น บางคนอาจจะเจ็บป่วยจากพลังงานที่มองไม่เห็น เป็นโรคที่ยากต่อการรักษาหรือเป็นโรคซึมเศร้า โรคที่เกิดจากกรรมก็เป็นไปได้ ชีวิตความรักมีโอกาสที่จะได้เจอเนื้อคู่ที่แท้จริง ซึ่งคนๆนั้นจะต้องเป็นคนที่มีลักษณะนิสัยคล้ายๆกัน และอาจจะได้คู่ที่อายุห่างกันมาก เช่นอาจจะแก่กว่ามาก หรืออาจจะอ่อนกว่ามากก็เป็นไปได้ ชีวิตความรักนั้นจะดีแค่ตอนต้น อาจจะอยู่ในช่วงอายุ 22-39 แต่หลังจาก 39 ไปแล้วชีวิตรักอาจจะมีปัญหา อาจจะต่างคนต่างอยู่ หรือบางคนอยู่แบบโสดไปเลย แต่มีโอกาสว่าจะมีกิจการเป็นของตัวเอง มีเงินมีงานที่ดี หรือบางคนอาจจะมีดวงได้ไปอยู่ต่างประเทศ อยู่ต่างถิ่นต่างแดน หรือบางคนอาจจะได้คู่ครองต่างชาติก็ได้ ถ้าได้คู่ครองต่างชาติหรือต่างประเทศ ได้คู่ครองเพศเดียวกัน หรือไปอยู่ต่างถิ่นต่างแดนมีโอกาสว่าชีวิตจะสุขสบาย แต่ถ้าอยู่ที่บ้านเกิดนั้นอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ชีวิตจะลุ่มๆดอนๆ ...เธอชอบคนที่ท้าทาย หรืออาจจะทำอะไรเถื่อนๆ ไม่เหมือนใคร มีความประหลาด พิเรนทร์ ชอบลองของ ชอบอะไรที่คนปกติเขาไม่ชอบกัน เพราะเธออาจจะมีความคิดแปลกๆใหม่ๆไม่เหมือนใคร หรืออาจจะชอบแนว playboy badboy ก็เป็นไปได้ คนดีๆถอยไปเลย เพราะเธอจะไม่ชอบและอาจจะไม่มอง ชีวิตของเธอนั้นจะชอบการพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงทั้งเพศเดียวกันและต่างเพศ และมีโอกาสว่าอาจจะชอบทั้งสองเพศด้วย คู่ครองของเธอนั้นอาจจะต้องดูเป็นคนที่มีหลักการ มีเหตุผล มีความเป็นผู้ใหญ่ มีโอกาสว่าจะอายุมากกว่า แต่ต้องตามใจเธอได้ทุกเรื่อง ชีวิตของเธอนั้นขึ้นอยู่กับคู่ครองคนรักจะบงการด้วย ถ้าได้คู่ครองดีก็จะดี แต่ถ้าได้คู่ครองที่ติดอบายมุขหรือทำในสิ่งที่ไม่ถูก ต้องชีวิตของเธอก็จะไปทางที่ไม่ดี ------------ #ดูดวง #ดูดวงแม่นๆ #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงแบบโทรคุย #ดูดวงไพ่ยิปซี #ดูดวงจิตสัมผัส #ดูดวงทางแชท #ดูดวงคำถามละ 9 บาท สนใจดูดวง แอดไลน์ @342shvrt
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว
  • PETA จากลิงเก็บมะพร้าว ถึงหมูเด้งฮิปโปแคระ

    People for the Ethical Treatment of Animal หรือ พีต้า (PETA) องค์กรพิทักษ์สัตว์ในสหรัฐอเมริกา ออกแคมเปญแบบโลกไม่ลืม ล่าสุดจากกระแสความฮิตของหมูเด้ง ฮิปโปแคระเพศเมียในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี ที่โด่งดังไปทั่วโลก พีต้ากลับโพสต์รณรงค์ให้ช่วยกันบอยคอตสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ระบุว่า “TikTok ทำให้หมูเด้งกลายเป็นเซเลปดัง แต่ความจริงกลับไม่ได้น่ารักแบบนั้น เพราะสวนสัตว์ในประเทศไทยกำลังหาประโยชน์จากหมูเด้ง เพื่อแสวงหากำไร โดยโชว์หมูเด้งราวกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งๆ ที่บ้านของฮิปโป คือ ป่าในธรรมชาติ ขอชวนมาบอตคอต (Boycott) สวนสัตว์ที่กักขังสัตว์ป่ากัน !!”

    ปรากฎว่าชาวเน็ตไทยต่างตอบโต้พีต้า ยืนยันว่าหมูเด้งไม่ได้ถูกทรมาน แต่ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ยืนยันว่าการปกป้องสัตว์ป่าบางชนิดคือการเลี้ยงในสวนสัตว์ เพื่อความปลอดภัยจากการถูกล่าโดยมนุษย์ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชน พร้อมถามกลับว่า การเอาสัตว์ในสวนสัตว์ไปปล่อยป่า จะแน่ใจได้อย่างไรว่าสัตว์ป่าจะปลอดภัย ไม่นับรวมคอมเมนต์ในเชิงตลกขบขัน ทำนองว่าในประเทศไทยใช้กบเหลาดินสอ ใช้เป็ดล้างห้องน้ำ ใช้กระต่ายขูดมะพร้าว ซึ่งเป็นชื่อเรียกสิ่งของบางชนิด แบบชนิดที่ว่าฝรั่งไม่เข้าใจแต่คนไทยเก็ต

    ไม่ใช่ครั้งแรกที่องค์กรพิทักษ์สัตว์ กล่าวถึงประเทศไทยในทางเสื่อมเสีย ก่อนหน้านี้พีต้าเปิดประเด็นลิงเก็บมะพร้าวทางภาคใต้ของไทยทรมานสัตว์ ทั้งที่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทย และเป็นมิตรภาพต่างสายพันธุ์ระหว่างคนกับลิงที่มีความเมตตาและผูกพัน รักและเลี้ยงเหมือนลูกด้วยซ้ำ แต่พีต้ากลับเปิดเผยรายงานการสอบสวนทำนองว่า ลิงที่ถูกใช้เก็บมะพร้าวเพื่อนำมาผลิตเป็นน้ำกะทินั้นเป็นลิงเถื่อนที่ถูกพรากมาจากครอบครัว ถูกล่ามโซ่ตลอดเวลา ทำการฝึกสอนอย่างทารุณ และบังคับให้ลิงขึ้นต้นมะพร้าวเพื่อเก็บมะพร้าว ทำให้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในสหรัฐอเมริกา ยกเลิกการจำหน่ายกะทิจากประเทศไทย

    กระทั่งสำนักข่าวไทยเอนไควเออร์ (Thai Enquirer) ตั้งข้อสังเกตว่า การสอบสวนของพีต้าในประเทศไทยมีข้อบกพร่องในระเบียบวิจัย เพราะส่งชาวต่างชาติ 2 คนเข้ามาในประเทศ จงใจที่จะไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีการแสดงลิงเก็บมะพร้าว ทั้งที่ผู้ผลิตกะทิจากประเทศไทย และองค์กรต่างๆ ตรวจสอบแล้วไม่พบห่วงโซ่อุปทานใดที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานทาสกับลิง ทำให้พีต้าใช้สำนักงานกฎหมาย TILLEKE & GIBBINS ยื่นโนติสให้ลบเนื้อหาออกจากเว็บไซต์ทันที ซึ่งเป็นการฟ้องร้องเพื่อปิดปากเสรีภาพสื่อ โดยไม่คาดคิดว่าจะมาจากองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO)

    #Newskit #PETA #หมูเด้ง
    PETA จากลิงเก็บมะพร้าว ถึงหมูเด้งฮิปโปแคระ People for the Ethical Treatment of Animal หรือ พีต้า (PETA) องค์กรพิทักษ์สัตว์ในสหรัฐอเมริกา ออกแคมเปญแบบโลกไม่ลืม ล่าสุดจากกระแสความฮิตของหมูเด้ง ฮิปโปแคระเพศเมียในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี ที่โด่งดังไปทั่วโลก พีต้ากลับโพสต์รณรงค์ให้ช่วยกันบอยคอตสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ระบุว่า “TikTok ทำให้หมูเด้งกลายเป็นเซเลปดัง แต่ความจริงกลับไม่ได้น่ารักแบบนั้น เพราะสวนสัตว์ในประเทศไทยกำลังหาประโยชน์จากหมูเด้ง เพื่อแสวงหากำไร โดยโชว์หมูเด้งราวกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งๆ ที่บ้านของฮิปโป คือ ป่าในธรรมชาติ ขอชวนมาบอตคอต (Boycott) สวนสัตว์ที่กักขังสัตว์ป่ากัน !!” ปรากฎว่าชาวเน็ตไทยต่างตอบโต้พีต้า ยืนยันว่าหมูเด้งไม่ได้ถูกทรมาน แต่ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ยืนยันว่าการปกป้องสัตว์ป่าบางชนิดคือการเลี้ยงในสวนสัตว์ เพื่อความปลอดภัยจากการถูกล่าโดยมนุษย์ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชน พร้อมถามกลับว่า การเอาสัตว์ในสวนสัตว์ไปปล่อยป่า จะแน่ใจได้อย่างไรว่าสัตว์ป่าจะปลอดภัย ไม่นับรวมคอมเมนต์ในเชิงตลกขบขัน ทำนองว่าในประเทศไทยใช้กบเหลาดินสอ ใช้เป็ดล้างห้องน้ำ ใช้กระต่ายขูดมะพร้าว ซึ่งเป็นชื่อเรียกสิ่งของบางชนิด แบบชนิดที่ว่าฝรั่งไม่เข้าใจแต่คนไทยเก็ต ไม่ใช่ครั้งแรกที่องค์กรพิทักษ์สัตว์ กล่าวถึงประเทศไทยในทางเสื่อมเสีย ก่อนหน้านี้พีต้าเปิดประเด็นลิงเก็บมะพร้าวทางภาคใต้ของไทยทรมานสัตว์ ทั้งที่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทย และเป็นมิตรภาพต่างสายพันธุ์ระหว่างคนกับลิงที่มีความเมตตาและผูกพัน รักและเลี้ยงเหมือนลูกด้วยซ้ำ แต่พีต้ากลับเปิดเผยรายงานการสอบสวนทำนองว่า ลิงที่ถูกใช้เก็บมะพร้าวเพื่อนำมาผลิตเป็นน้ำกะทินั้นเป็นลิงเถื่อนที่ถูกพรากมาจากครอบครัว ถูกล่ามโซ่ตลอดเวลา ทำการฝึกสอนอย่างทารุณ และบังคับให้ลิงขึ้นต้นมะพร้าวเพื่อเก็บมะพร้าว ทำให้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในสหรัฐอเมริกา ยกเลิกการจำหน่ายกะทิจากประเทศไทย กระทั่งสำนักข่าวไทยเอนไควเออร์ (Thai Enquirer) ตั้งข้อสังเกตว่า การสอบสวนของพีต้าในประเทศไทยมีข้อบกพร่องในระเบียบวิจัย เพราะส่งชาวต่างชาติ 2 คนเข้ามาในประเทศ จงใจที่จะไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีการแสดงลิงเก็บมะพร้าว ทั้งที่ผู้ผลิตกะทิจากประเทศไทย และองค์กรต่างๆ ตรวจสอบแล้วไม่พบห่วงโซ่อุปทานใดที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานทาสกับลิง ทำให้พีต้าใช้สำนักงานกฎหมาย TILLEKE & GIBBINS ยื่นโนติสให้ลบเนื้อหาออกจากเว็บไซต์ทันที ซึ่งเป็นการฟ้องร้องเพื่อปิดปากเสรีภาพสื่อ โดยไม่คาดคิดว่าจะมาจากองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) #Newskit #PETA #หมูเด้ง
    Like
    Sad
    Angry
    Haha
    15
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 424 มุมมอง 0 รีวิว
  • (ภาพปกอยู่บนโพสต์ด้านบน)

    PETA จากลิงเก็บมะพร้าว ถึงหมูเด้งฮิปโปแคระ

    People for the Ethical Treatment of Animal หรือ พีต้า (PETA) องค์กรพิทักษ์สัตว์ในสหรัฐอเมริกา ออกแคมเปญแบบโลกไม่ลืม ล่าสุดจากกระแสความฮิตของหมูเด้ง ฮิปโปแคระเพศเมียในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี ที่โด่งดังไปทั่วโลก พีต้ากลับโพสต์รณรงค์ให้ช่วยกันบอยคอตสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ระบุว่า “TikTok ทำให้หมูเด้งกลายเป็นเซเลปดัง แต่ความจริงกลับไม่ได้น่ารักแบบนั้น เพราะสวนสัตว์ในประเทศไทยกำลังหาประโยชน์จากหมูเด้ง เพื่อแสวงหากำไร โดยโชว์หมูเด้งราวกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งๆ ที่บ้านของฮิปโป คือ ป่าในธรรมชาติ ขอชวนมาบอตคอต (Boycott) สวนสัตว์ที่กักขังสัตว์ป่ากัน !!”

    ปรากฎว่าชาวเน็ตไทยต่างตอบโต้พีต้า ยืนยันว่าหมูเด้งไม่ได้ถูกทรมาน แต่ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ยืนยันว่าการปกป้องสัตว์ป่าบางชนิดคือการเลี้ยงในสวนสัตว์ เพื่อความปลอดภัยจากการถูกล่าโดยมนุษย์ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชน พร้อมถามกลับว่า การเอาสัตว์ในสวนสัตว์ไปปล่อยป่า จะแน่ใจได้อย่างไรว่าสัตว์ป่าจะปลอดภัย ไม่นับรวมคอมเมนต์ในเชิงตลกขบขัน ทำนองว่าในประเทศไทยใช้กบเหลาดินสอ ใช้เป็ดล้างห้องน้ำ ใช้กระต่ายขูดมะพร้าว ซึ่งเป็นชื่อเรียกสิ่งของบางชนิด แบบชนิดที่ว่าฝรั่งไม่เข้าใจแต่คนไทยเก็ต

    ไม่ใช่ครั้งแรกที่องค์กรพิทักษ์สัตว์ กล่าวถึงประเทศไทยในทางเสื่อมเสีย ก่อนหน้านี้พีต้าเปิดประเด็นลิงเก็บมะพร้าวทางภาคใต้ของไทยทรมานสัตว์ ทั้งที่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทย และเป็นมิตรภาพต่างสายพันธุ์ระหว่างคนกับลิงที่มีความเมตตาและผูกพัน รักและเลี้ยงเหมือนลูกด้วยซ้ำ แต่พีต้ากลับเปิดเผยรายงานการสอบสวนทำนองว่า ลิงที่ถูกใช้เก็บมะพร้าวเพื่อนำมาผลิตเป็นน้ำกะทินั้นเป็นลิงเถื่อนที่ถูกพรากมาจากครอบครัว ถูกล่ามโซ่ตลอดเวลา ทำการฝึกสอนอย่างทารุณ และบังคับให้ลิงขึ้นต้นมะพร้าวเพื่อเก็บมะพร้าว ทำให้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในสหรัฐอเมริกา ยกเลิกการจำหน่ายกะทิจากประเทศไทย

    กระทั่งสำนักข่าวไทยเอนไควเออร์ (Thai Enquirer) ตั้งข้อสังเกตว่า การสอบสวนของพีต้าในประเทศไทยมีข้อบกพร่องในระเบียบวิจัย เพราะส่งชาวต่างชาติ 2 คนเข้ามาในประเทศ จงใจที่จะไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีการแสดงลิงเก็บมะพร้าว ทั้งที่ผู้ผลิตกะทิจากประเทศไทย และองค์กรต่างๆ ตรวจสอบแล้วไม่พบห่วงโซ่อุปทานใดที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานทาสกับลิง ทำให้พีต้าใช้สำนักงานกฎหมาย TILLEKE & GIBBINS ยื่นโนติสให้ลบเนื้อหาออกจากเว็บไซต์ทันที ซึ่งเป็นการฟ้องร้องเพื่อปิดปากเสรีภาพสื่อ โดยไม่คาดคิดว่าจะมาจากองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO)

    #Newskit #PETA #หมูเด้ง
    (ภาพปกอยู่บนโพสต์ด้านบน) PETA จากลิงเก็บมะพร้าว ถึงหมูเด้งฮิปโปแคระ People for the Ethical Treatment of Animal หรือ พีต้า (PETA) องค์กรพิทักษ์สัตว์ในสหรัฐอเมริกา ออกแคมเปญแบบโลกไม่ลืม ล่าสุดจากกระแสความฮิตของหมูเด้ง ฮิปโปแคระเพศเมียในสวนสัตว์เปิดเขาเขียว จ.ชลบุรี ที่โด่งดังไปทั่วโลก พีต้ากลับโพสต์รณรงค์ให้ช่วยกันบอยคอตสวนสัตว์เปิดเขาเขียว ระบุว่า “TikTok ทำให้หมูเด้งกลายเป็นเซเลปดัง แต่ความจริงกลับไม่ได้น่ารักแบบนั้น เพราะสวนสัตว์ในประเทศไทยกำลังหาประโยชน์จากหมูเด้ง เพื่อแสวงหากำไร โดยโชว์หมูเด้งราวกับเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งๆ ที่บ้านของฮิปโป คือ ป่าในธรรมชาติ ขอชวนมาบอตคอต (Boycott) สวนสัตว์ที่กักขังสัตว์ป่ากัน !!” ปรากฎว่าชาวเน็ตไทยต่างตอบโต้พีต้า ยืนยันว่าหมูเด้งไม่ได้ถูกทรมาน แต่ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดี ยืนยันว่าการปกป้องสัตว์ป่าบางชนิดคือการเลี้ยงในสวนสัตว์ เพื่อความปลอดภัยจากการถูกล่าโดยมนุษย์ และยังเป็นแหล่งเรียนรู้สำหรับเยาวชน พร้อมถามกลับว่า การเอาสัตว์ในสวนสัตว์ไปปล่อยป่า จะแน่ใจได้อย่างไรว่าสัตว์ป่าจะปลอดภัย ไม่นับรวมคอมเมนต์ในเชิงตลกขบขัน ทำนองว่าในประเทศไทยใช้กบเหลาดินสอ ใช้เป็ดล้างห้องน้ำ ใช้กระต่ายขูดมะพร้าว ซึ่งเป็นชื่อเรียกสิ่งของบางชนิด แบบชนิดที่ว่าฝรั่งไม่เข้าใจแต่คนไทยเก็ต ไม่ใช่ครั้งแรกที่องค์กรพิทักษ์สัตว์ กล่าวถึงประเทศไทยในทางเสื่อมเสีย ก่อนหน้านี้พีต้าเปิดประเด็นลิงเก็บมะพร้าวทางภาคใต้ของไทยทรมานสัตว์ ทั้งที่เป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทย และเป็นมิตรภาพต่างสายพันธุ์ระหว่างคนกับลิงที่มีความเมตตาและผูกพัน รักและเลี้ยงเหมือนลูกด้วยซ้ำ แต่พีต้ากลับเปิดเผยรายงานการสอบสวนทำนองว่า ลิงที่ถูกใช้เก็บมะพร้าวเพื่อนำมาผลิตเป็นน้ำกะทินั้นเป็นลิงเถื่อนที่ถูกพรากมาจากครอบครัว ถูกล่ามโซ่ตลอดเวลา ทำการฝึกสอนอย่างทารุณ และบังคับให้ลิงขึ้นต้นมะพร้าวเพื่อเก็บมะพร้าว ทำให้ห้างสรรพสินค้าชั้นนำในสหรัฐอเมริกา ยกเลิกการจำหน่ายกะทิจากประเทศไทย กระทั่งสำนักข่าวไทยเอนไควเออร์ (Thai Enquirer) ตั้งข้อสังเกตว่า การสอบสวนของพีต้าในประเทศไทยมีข้อบกพร่องในระเบียบวิจัย เพราะส่งชาวต่างชาติ 2 คนเข้ามาในประเทศ จงใจที่จะไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีการแสดงลิงเก็บมะพร้าว ทั้งที่ผู้ผลิตกะทิจากประเทศไทย และองค์กรต่างๆ ตรวจสอบแล้วไม่พบห่วงโซ่อุปทานใดที่เกี่ยวข้องกับการใช้แรงงานทาสกับลิง ทำให้พีต้าใช้สำนักงานกฎหมาย TILLEKE & GIBBINS ยื่นโนติสให้ลบเนื้อหาออกจากเว็บไซต์ทันที ซึ่งเป็นการฟ้องร้องเพื่อปิดปากเสรีภาพสื่อ โดยไม่คาดคิดว่าจะมาจากองค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) #Newskit #PETA #หมูเด้ง
    Like
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 533 มุมมอง 0 รีวิว
  • #มีอยู่หนึ่งเรื่องที่กามินพูดความจริง
    #มีอยู่หนึ่งเรื่องที่กามิจไม่ผิดที่เราต้องเปิดใจ
    พี่คิงส์ได้สืบค้นข้อมูล และดูคลิปหลายร้อยคลิป
    ได้พบในหลายวาระ ที่กามิจยอมรับว่า น้องแน็กไม่ใช่สเป็ค
    ซึ่งเรื่องนี้ เราต้องให้เครดิต ที่เหวิงพูดความจริง
    เพราะน้องแน๊กไม่ใช่อย่างที่เธอฝันไว้
    1. แน๊ก หล่อเกินไป
    2. แน๊ก สะอาดเกินไป
    3. แน๊ก อาบน้ำทั้งเช้าและก่อนนอน
    4. แน๊ก ไม่ดื่มแอล และไม่เคยเอาแอลเข้าบ้าน
    5. แน๊ก มีความจริงใจเกินไป
    6. แน๊ก มีแต่ธุรกิจและการหารายได้ที่ขาวสะอาดเกินไป
    7. แน๊ก ปฏิเสธ และขอห่างไกลจากการฟอกข้ามชาติ
    8. แน๊ก แปลงฟันทุกวัน จะไม่ยอมกินอาหารเช้าก่อนแปลงฟัน
    9. แน๊ก ไม่ชอบที่จะออกจากบ้านหลังตีสอง
    10. แน๊ก ร่างสะอาดเกินไป ไม่มีร่องรอยของการเป็น ยาคูซ่า
    ดังนั้น เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องรสนิยมของแต่ละคน
    ที่ไม่มีคำว่าผิด ถ้าเหวิง จะชอบตามไลฟ์สไตล์
    ที่ตรงข้ามกับความเป็นแน็กทุกประการ
    จึงมีเพียงการแสดง ที่แนบเนียน
    จนคนไทยหลงไปหลายเดือน
    มารู้ตัวอีกที เหวิงก็พูดเองว่ามีเอเจนซี่และมันคือการแสดง
    ตั้งแต่ก่อนมาประเทศไทย
    คนไทยก็อย่าเสียใจครับ
    จะให้คนซกมก ซั่วช้า ต..แหล ..ำส่..น ติดการพานัน
    มาชอบผู้ชายไทยดีๆที่เป็นที่รักของคนทั้งประเทศได้อย่างไร
    กามิจไม่ผิด
    แต่ถ้าแน๊ก ซั่วๆ ทำงานดาร์คๆ แดรรกแอลเป็นน้ำ สักลายระบุแก๊v เป็นระดับหัวๆ ที่สามารถดิลกับเงินดาร์คระดับบิ๊กๆได้นะ แล้วถ้ามีที่พำนักที่แดนอาทิตย์อุทัยแถวๆแหล่งปาจิงโกะด้วยนะ รับรอง ถูกจ้าย แน่นอน
    พี่คิงส์คอนเฟริ์ม
    ซึ่งคุณสมบัติที่อิเหม็นต้องการ คนที่เชียร์น้องแน๊กต้องตอบให้ได้ว่า
    คุณคิดว่า น้องแน๊ก ผู้มีคุณสมบัติทั้ง 10 ข้อ จะสามารถปรับตัวเข้าหาน้องเหม็นได้มั๊ย
    คำตอบเสียงเดียวกันคือ ไม่ได้ ถูกต้องมั๊ย
    ดังนั้นเรื่องนี้พี่คิงส์ต้องออกมาปกป้อง ยายโกะแก่ แม่ดอกเดซี่ของลุงผุ้คลั่งรัก และอ.โจผู้จบม.ต้น หวังว่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของด้อมกามิจนะครับ
    รักพี่คิงส์ไม่ต้องเยอะ รักน้อยๆแต่ให้รักนานๆ
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #มีอยู่หนึ่งเรื่องที่กามินพูดความจริง #มีอยู่หนึ่งเรื่องที่กามิจไม่ผิดที่เราต้องเปิดใจ พี่คิงส์ได้สืบค้นข้อมูล และดูคลิปหลายร้อยคลิป ได้พบในหลายวาระ ที่กามิจยอมรับว่า น้องแน็กไม่ใช่สเป็ค ซึ่งเรื่องนี้ เราต้องให้เครดิต ที่เหวิงพูดความจริง เพราะน้องแน๊กไม่ใช่อย่างที่เธอฝันไว้ 1. แน๊ก หล่อเกินไป 2. แน๊ก สะอาดเกินไป 3. แน๊ก อาบน้ำทั้งเช้าและก่อนนอน 4. แน๊ก ไม่ดื่มแอล และไม่เคยเอาแอลเข้าบ้าน 5. แน๊ก มีความจริงใจเกินไป 6. แน๊ก มีแต่ธุรกิจและการหารายได้ที่ขาวสะอาดเกินไป 7. แน๊ก ปฏิเสธ และขอห่างไกลจากการฟอกข้ามชาติ 8. แน๊ก แปลงฟันทุกวัน จะไม่ยอมกินอาหารเช้าก่อนแปลงฟัน 9. แน๊ก ไม่ชอบที่จะออกจากบ้านหลังตีสอง 10. แน๊ก ร่างสะอาดเกินไป ไม่มีร่องรอยของการเป็น ยาคูซ่า ดังนั้น เรื่องนี้มันก็เป็นเรื่องรสนิยมของแต่ละคน ที่ไม่มีคำว่าผิด ถ้าเหวิง จะชอบตามไลฟ์สไตล์ ที่ตรงข้ามกับความเป็นแน็กทุกประการ จึงมีเพียงการแสดง ที่แนบเนียน จนคนไทยหลงไปหลายเดือน มารู้ตัวอีกที เหวิงก็พูดเองว่ามีเอเจนซี่และมันคือการแสดง ตั้งแต่ก่อนมาประเทศไทย คนไทยก็อย่าเสียใจครับ จะให้คนซกมก ซั่วช้า ต..แหล ..ำส่..น ติดการพานัน มาชอบผู้ชายไทยดีๆที่เป็นที่รักของคนทั้งประเทศได้อย่างไร กามิจไม่ผิด แต่ถ้าแน๊ก ซั่วๆ ทำงานดาร์คๆ แดรรกแอลเป็นน้ำ สักลายระบุแก๊v เป็นระดับหัวๆ ที่สามารถดิลกับเงินดาร์คระดับบิ๊กๆได้นะ แล้วถ้ามีที่พำนักที่แดนอาทิตย์อุทัยแถวๆแหล่งปาจิงโกะด้วยนะ รับรอง ถูกจ้าย แน่นอน พี่คิงส์คอนเฟริ์ม ซึ่งคุณสมบัติที่อิเหม็นต้องการ คนที่เชียร์น้องแน๊กต้องตอบให้ได้ว่า คุณคิดว่า น้องแน๊ก ผู้มีคุณสมบัติทั้ง 10 ข้อ จะสามารถปรับตัวเข้าหาน้องเหม็นได้มั๊ย คำตอบเสียงเดียวกันคือ ไม่ได้ ถูกต้องมั๊ย ดังนั้นเรื่องนี้พี่คิงส์ต้องออกมาปกป้อง ยายโกะแก่ แม่ดอกเดซี่ของลุงผุ้คลั่งรัก และอ.โจผู้จบม.ต้น หวังว่าจะเป็นที่ถูกอกถูกใจของด้อมกามิจนะครับ รักพี่คิงส์ไม่ต้องเยอะ รักน้อยๆแต่ให้รักนานๆ อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 899 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชุดเซรามิกลายคราม สินค้ามีขายในห้างออนไลน์eat24mallสนใจสั่งซื้อได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้
    https://www.eat24mall.com/shop/28604/?v=75dfaed2dded&license=2949
    ชุดเซรามิกลายคราม สินค้ามีขายในห้างออนไลน์eat24mallสนใจสั่งซื้อได้ที่ลิงค์ข้างล่างนี้ https://www.eat24mall.com/shop/28604/?v=75dfaed2dded&license=2949
    WWW.EAT24MALL.COM
    ชุดเครื่องปรุง​เซรามิก​ลายคราม - EAT24MALL
    ชื่อสินค้า : ชุดเครื่องปรุง​เซรามิก​ลายคราม ขนาด : น้ำห [...]
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาแล้วววว……ติ่งขา……อาลีนาที่หนูอยากได้……รบเป็นรบ รักเป็นรักนะ พี่ปูเนี่ยยย……!!!

    ตอนสิบแปด……ประวัติศาสตร์ที่ซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ……รัสเซียทุบทุกงาน…!!!

    ในที่สุดปูตินแก้ความสงสัยให้กับทุกคน…หลังจากที่พรรคของเขาได้รับคะแนนถล่มทะลายในสภาตอนเลือกตั้งผู้แทนเข้าสภาในปลายปี ว่า…แคนดิเดทที่จะขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป คือ Dmitry Medvedev
    ส่วนตัวเขาจะไปนั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน……
    ซึ่งเป็นแผนงานที่รู้กันเพียงไม่กี่คน……
    แต่ในแวดวงข้างนอก……ไม่มีใครคาดคิดถึงเรื่องนี้ ทุกคนคิดว่า ปูตินจะต้องลงจากอำนาจ ……และ คนที่จะมาเป็นประธานาธิบดี น่าจะเป็นคนใดคนหนึ่ง เช่น Mikhail Fradkov (นายกรัฐมนตรี)

    ฝ่ายตรงข้ามเริ่มขุดคุ้ย โจมตีปูตินด้วยการลงข่าวดิสเครดิตรายวัน เช่นเมื่อ วันที่ 11 เมษายน 2008 สามอาทิตย์ก่อนที่เมดเดเวฟจะขึ้นทำพิธีสาบานตน
    หนังสือพิมพ์รายวันของมอสโคว์ ในคอลัมน์ของ Sergei Topol
    ได้กระแซะด้วยข้อความแบบซุบซิบเล็กๆเพียง 641 คำ……
    แต่มันเหมือนระเบิดลงในสนามข่าว ที่ไตเติ้ลเขียนว่า
    “The Sarkozy Syndrome” หรือ อาการโรคซาร์โกซี่ระบาด
    คือ นาย Nicholas Sarkozy คือประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่มากรัก
    เขาแต่งงาน แล้วหย่า แล้วแต่ง แล้วหย่า ที่เพิ่งหย่าไปกับภรรยาคนที่สาม ประธานาธิบดีปูตินของเรามั่นคงกับภรรยาเดียวมาตลอดการครองตำแหน่งผู้นำ……แต่เมื่อท่านจะไม่ได้เป็นประธานาธิบดีแล้ว……บางอย่างอาจเปลี่ยนไปก็ได้..”

    ข่าวนี้กระเทือนไปทั่ว ทั้งความอยากรู้ของประชาชนและคนในแวดวงการเมือง
    เพราะมันก็คือความจริง……ที่ปูตินได้หย่ากับลุดมิลาไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา……และที่เป็นรู้กันในวงในว่า เขามีแผนที่จะแต่งงานใหม่กับ Alina Kabayeva ยิมนาสติกเหรียญทองที่เป็นขวัญใจของประชาชนในเดือนมิถุนายน
    และได้เข้ามามีบทบาททางการเมืองมาตั้งแต่ปี 2002
    ในช่วงการหาเสียงของ 2007 เธอก็ยังปรากฎตัวในที่ต่างๆพร้อมๆกับกลุ่มแถวหน้าของพรรค

    ตั้งแต่ปี 2000 ที่ปูตินได้เป็นประธานาธิบดี เขาได้เก็บทุกอย่างเกี่ยวกับครอบครัวไว้เป็นความลับ
    ลูกสาวทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างส่วนตัว เงียบๆมีหน่วยอารักขาตลอดเวลา ไม่มีการออกข่าวใดๆ
    ทั้งคู่เรียนดนตรีที่ปูตินชอบ คือ ไวโอลินและเปียโน และได้ทำเพลงบรรจุซีดีให้พ่อไว้ฟัง……นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาเพลินเพลินในยามว่าง และก่อนนอน
    ลุดมิลา……ไม่เคยชอบชีวิตของการเป็นจุดสนใจ เธอทำหน้าที่ของสตรีหมายเลขหนึ่งในการเดินทางต่างประเทศกับปูติน
    แต่เมื่อกลับมาอยู่ในรัสเซีย เธอทำงานทางด้านการสอนภาษาให้กับโครงการชาวรัสเซียชนบทที่อยู่ชายแดนของประเทศที่ถูกเฉือนออกไปเมื่อโซเวียตล่มสลาย
    ทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันแบบความกลไกของครอบครัวรัสเชี่ยนทั่วไป……แต่นับวันยิ่งห่างเหิน……

    ปูตินตามที่ลุดมิลาเลยปรับทุกข์ให้เพื่อนฟัง คือ มีแอบเจ้าชู้
    เคยพานักข่าวสาวสวยไปทานอาหารกลางวันเมื่อครั้งที่เริ่มฉายแสงในการเมืองมอสโคว์
    แต่…ไม่มีใครกล้าลงในดีเทล เพราะในยุคนั้นท่านผู้นำจะต้องไม่มีเรื่องด่างพล้อยใดๆในชีวิตครอบครัว
    แต่มาถึงยุคที่เป็นข่าว……ตอนนั้นโลกเปลี่ยนไป เพราะผู้นำแต่ละคนล้วนแล้วแต่จี๊ดจ๊าด นอกจากซาร์โกซี่ แล้วยังมี
    บิล คลินตัน ตามด้วยสุดๆคือ Vaclav Havel ประธานาธิบดีแห่ง Czech Republic (ในตำแหน่ง 1993-2003) ที่พอเมียตายปุ๊บ ก็แต่งงานใหม่กับดาราแม่หม้ายที่มีบทหวือหวาโป๊เปลือยในปีต่อมาทันที แล้วเอามาปั้นแต่งให้เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชน……

    หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปของข่าวที่ร้อนแรง ปูตินได้ไปเยือนอิตาลี
    และนักข่าวอิตาเลี่ยนได้ยิงคำถามนี้ขึ้นมา ว่า จริงเท็จประการใด?
    ปูตินที่เคยปิดปากสนิทเลี่ยงที่จะไม่พูดต่อไปไม่ได้ เขาตอบว่า
    “ทุกอย่างที่คุณได้ข่าวมา ไม่ใช่ความจริง ในเรื่องที่ลูกๆผมได้ย้ายไปอยู่ที่เยอรมัน แล้วเรื่องผู้หญิง……ผมไม่ปฏิเสธว่าผมชอบผู้หญิงรัสเซีย เพราะผู้หญิงของเราเก่งกาจและสวยที่สุด..
    เรียกว่า เทียบได้กับสาวๆอิตาเลี่ยนได้เลย……”
    ตอนนี้นักข่าวสาวอิตาเลี่ยนปรบมือแบบถูกอกถูกใจ
    เขาพูดต่อไปว่า…
    “แต่ในเมื่อผมเป็นนักการเมือง ชีวิตก็เหมือนกับอยู่ในบ้านเรือนแก้ว ที่ใครๆก็มองเห็นได้ แต่มันก็ควรที่จะมีขอบเขตของ
    ความเป็นส่วนตัวบ้าง ในตรงนี้…ผมขอ……ขอมีชีวิตส่วนตัวที่เป็นอิสระเหมือนกับคนอื่นๆ…เรามาคุยเรื่องอื่นที่น่าสนใจดีกว่า เช่นสงครามในเชเชน…โอเค๊..!!!”

    ในวันเดียวกันนั้นที่เขากลับไปยังรัสเซีย…หนังสือพิมพ์เจ้ากรรมที่เป็นต้นตอข่าว ได้ประกาศปิดตัวลงเพราะสภาพคล่อง……
    แต่ไม่มีใครเชื่อว่านั่นคือสาเหตุ…!!!!

    ไม่มีใครรู้ว่า ความสัมพันธ์ของปูตินกับอาลีนานั้นลึกซึ้งขนาดไหน แต่ดูได้จากระดับที่เธอก้าวขึ้นมาจากนักยิมเหรียญทองสู่เส้นสายทางการเมืองที่รุ่งขึ้นไปทุกที ในการเข้าเป็นกรรมการบอร์ดในหลายที่ เช่นธนาคาร, สื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์
    และเป็นกำลังสำคัญในการประสานงานของกีฬาโอลิมปิคใน Sochi ที่จะมาถึง

    เมื่อ Medvedev ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี
    ปูตินก็เปรียบเสมือนเติ้งเสี่ยวผิงของจีน ที่เป็นมันสมองทั้งหมดของพรรคในช่วงห้าปีสุดท้ายของการอยู่ในตำแหน่งที่ได้พลิกผันประเทศจีนให้เจริญรุ่งเรืองอย่างที่เห็นในทุกวันนี้

    แต่ก่อนอื่น…ปูนินต้องจัดการกับเรื่องข่าวที่กวนใจก่อน โดยงานแรกของเมดเวเดพที่จะต้องทำคือ ออกกฎหมายเรื่องของการหมิ่นประมาทโดยสื่อที่ทำให้เสี่ยมเสียชื่อเสียง มีการเพิ่มโทษทั้งปรับทั้งจำขั้นสูงสุด

    ในวันที่ 7 สิงหาคม 2008 ที่ประธานาธิบดีคนใหม่หมาดๆเพียงสามอาทิตย์กำลังไปพักผ่อนล่องเรือที่ Volga River ในเขตเมือง Kazan
    ตอนตีหนึ่งของวันที่ 8 เขาได้รับโทรศัพท์ด่วนจากกลาโหมว่า
    Mikhail Saakachvili ประธานาธิบดีสาธารณรัฐ Georgia (โปรตะวันตก) ได้ส่งทหารทำการบุกพื้นที่ทางใต้ คือ South Ossetia ซึ่งอยู่ในเขตของจอร์เจียตามแผนที่ แต่ประกาศตัวเป็นเอกราชไม่ขึ้นกับจอร์เจีย เพราะโปรรัสเซีย
    รวมทั้ง เขต Abkhazia ทางฝั่งทะเลดำก็เช่นกัน ตามแผนที่ว

    เรื่องความขัดแย้งนี้เป็นมานานหลายปีแล้ว แต่มาประทุในตอนนี้เพราะ Mikhail Saakachvili (จะเรียกว่า MS) คิดว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะลงมือเพราะปูตินไม่ได้เป็นปธน. แล้ว
    และเมดเวเดพก็ไม่น่าจะมีน้ำยาอะไร……หนุ่มใสซื่อ ที่
    ฟังแต่เพลงร๊อค
    ทันที่ที่ทราบข่าว…เมดเวเดพรีบติดต่อถึงปูติน แต่เป็นช่วงที่ปูตินได้จากมอสโคว์ไปยังเบจิง เพื่อไปร่วมในงานเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน พร้อมๆกับผู้นำชาติอื่นๆเช่น บุช
    จึงยังติดต่อไม่ได้……เขาไม่กล้าที่จะตัดสินใจอะไรลงไป
    จนทางผู้บัญชาการทหารบกได้โทรมาบอกว่า ตอนนี้ค่ายทหารของเราได้ถูกโจมตีหนัก
    เขาจึงตัดสินใจตอบไปว่า…”ส่งกำลังเข้าบุกเดี๋ยวนี้…!!!”

    กองทัพรัสเซียที่รอฟังคำสั่งมาสองวัน จึงถาโถมเข้าพร้อมกันทั้งบกและอากาศเข้าตีทุกทาง…
    ข่าวได้ถึงปูตินหลังจากที่รัสเซียเคลื่อนทัพสู่จอร์เจีย
    สิ่งแรกคือ.……เขาโกรธ MS แบบหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่บังอาจใช้เวลาที่เขาเดินทางไกล……เข้าดำเนินการ
    และฉุนเมดเวเดฟที่ไม่ทำการวางแผนทำศึก สั่งบุกแบบสั้นๆ
    ปรากฏว่า กองทัพอากาศรัสเซียได้เข้าโจมตีถล่มไปถึงเขตอื่นๆในจอร์เจียเป็นวงกว้างเกินจำเป็น

    ประธานาธิบดีบุชก็ได้ข่าวการโจมตีเช่นกัน (ด้วยความยินดี เพราะอเมริกาอยู่เบื้องหลังในการนี้) รีบมากระซิบปูตินด้วยท่าทางอิ่มเอมใจว่า….เราจะอยู่เคียงข้างพวกเขา
    “พวกเขา” บุชหมายถึง จอร์เจีย……
    ที่รัสเซียรู้อยู่เต็มอกว่า อเมริกาได้อยู่เบื้องหลังของรัฐบาล MS
    มีการฝึกทหารร่วมกัน และ สัญญาในเรื่องเข้าสู่ NATO เพื่อที่จะเข้ามาแทรกแซงรัสเซีย

    แต่สิ่งที่ MS ไม่รู้ว่า การที่เอาอกเอาใจอเมริกาถึงขั้นส่งทหารไปช่วยรบในอิรักนั้น……เสียเปล่า……
    เรื่องที่ อเมริกาหรือนาโต้จะเข้ามาช่วยทำสงครามกับรัสเซียเพื่อจอร์เจียนั้น……เป็นความฝันล้วนๆ
    ในช่วงพิธีเปิดงานใน “ Bird Nest” สเตเดี้ยม……บุชและล่ามได้ขอเลื่อนตัวมานั่งใกล้ๆกับปูติน ทักทายกับตามปรกติ
    บุชเอียงหน้ามากระซิบว่า
    “ผมได้ข่าวมาว่า MS เป็นคนเลือดร้อน คราวนี้ถ้าจะเอาจริง”
    “เหรอ…งั้นก็เหมือนผมเลย เลือดร้อนเหมือนกัน ร้อนระเบิดเลย”
    “ใครบอก……นายเป็นคน “เลือดเย็น” ต่างหาก” บุชประชด……

    วันรุ่งขึ้น ปูตินบินกลับรัสเซีย แต่ไม่ใช่มอสโคว์ เขาไปที่ North Ossetia ที่กองทัพตั้งศูนย์บัญชาการอยู่ และคราวนี้คือการตัดสินใจขั้นเด็ดขาด คือ ยึดคืนดินแดนในส่วนนี้อย่างเด็ดขาด
    ทางจอร์เจียที่หวังว่า นาโต้และอเมริกาจะมาช่วย เพราะเคยได้ให้ความหวังไว้ถึงขั้นมาช่วยฝึกให้ ……ไม่เห็นมา..!!
    เลยต้องร้องขอไป.……
    สิ่งที่อเมริกาทำได้ คือ……จัดเที่ยวบินส่งทหารจอร์เจียสองพันคนที่ไปช่วยในอิรักกลับมา……และเพิ่มอาวุธแถมมาให้อีกนิดหน่อย
    และให้เที่ยวบินนั้น……รับทหารอเมริกันที่มาช่วยฝึกที่ตกค้างอยู่กลับไป.……โดยอ้างว่า……ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้ง
    กองทัพรัสเซียตีหนักไปถึงยังเมืองหลวง Tbilisi ที่ในที่สุด
    MD ต้องยอมขอเจรจาสงบศึก…
    ผลคือ จอร์เจียต้องรับรองเอกราชของสองเขต South Ossetia
    และ Abkhazia และต้องเอาโทษกับประธานาธิบดี MS
    โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซาร์โกซี่มาเป็นตัวกลางเจรจา
    ในขณะที่คน “เลือดเย็น” กำลังกัดกราม ว่า……
    “มันจะต้องถูกแขวนคอสถานเดียว”

    ซาร์โกซี่รีบค้าน…
    “อย่าถึงขึ้นเอาโทษกับ MS เลย เพราะเขาได้รับเลือกตั้งมา ประชาชนชาวโลกจะคิดอย่างไร?
    ปูตินย้อนทันทีว่า……
    “ก็แล้วไง……อเมริกายังแขวนคอซัดดัม ฮุสเซนได้เลยนี่…!!!”
    แต่ทางฝรั่งเศสได้มีลิ้นเจรจาทางการทูต ได้สยบอารมณ์ของปูตินว่า……
    “แล้วนายอยากจะให้ชื่อมีจดจำในประวัติศาสตร์แบบบุชพ่อ
    บุชลูกหรือ..?!!

    สรุปว่า ดินแดนทั้งสองส่วนนี้ เป็นเอกราชจากจอร์เจีย มีประธานาธิบดีของตัวเอง (แต่ในความสนับสนุนของรัสเซีย) รัสเซียถอนทหารออกจากพื้นที่……
    ทั้งหมดใช้เวลารบเพียง ห้าวัน……(รวมเจรจาด้วย 12 วัน คือ 1-12 สิงหาคม 2008)

    ~~เรื่องราวของจอร์เจีย คือ หนังที่ฉายซ้ำกับยูเครนในตอนนี้ และถ้าอเมริกาได้สร้างตัวอย่างว่าช่วยเหลือจริงจังกับจอร์เจียถึงขึ้นทำสงครามกับรัสเซีย……หลายคนเชื่อว่า ปูตินคงต้องคิดหนักในการยึดไครเมีย……

    ในช่วงปลายปีนั้น ทางอเมริกาได้มีประธานาธิบดีคนใหม่ คือ Barack Obama อันเป็นสิ้นสุดของบุช
    ซึ่งทางเมดเวเดฟ……ได้ออกแถลงการณ์อย่างหนักแน่นว่า
    สงครามในจอร์เจียคือผลพวงของการแทรกแซงของอเมริกาที่พยายามจะเข้ามาตั้งฐานทัพในพื้นที่รอบรัสเซีย และ มันเป็นการผลักดันที่รัสเซียจะต้องตอบโต้ด้วยการสร้างฐานนิวเคลียร์ที่ Kaliningrad

    หลังจากสงครามจอร์เจีย……เศรษฐกิจของรัสเซียบูมขึ้นมาในทุกอย่าง พลังงานราคาขึ้น ส่งออกทุกชนิดตั้งแต่โลหะ อาหารจนถึงเฟอร์นิเจอร์ จนรัสเซียได้จ่ายหนี้ได้หมด รวมทั้งมีเงินในคลังเป็นแสนๆล้าน และเงินคงคลังอีกจำนวนมหาศาล

    แต่นั่นคือ….แสงสว่างก่อนที่พายุมืดคล้ำกำลังจะเข้ามา…ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน….!!!

    Wiwanda W. Vichit
    มาแล้วววว……ติ่งขา……อาลีนาที่หนูอยากได้……รบเป็นรบ รักเป็นรักนะ พี่ปูเนี่ยยย……!!! ตอนสิบแปด……ประวัติศาสตร์ที่ซ้ำแล้วซ้ำอีกเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือ……รัสเซียทุบทุกงาน…!!! ในที่สุดปูตินแก้ความสงสัยให้กับทุกคน…หลังจากที่พรรคของเขาได้รับคะแนนถล่มทะลายในสภาตอนเลือกตั้งผู้แทนเข้าสภาในปลายปี ว่า…แคนดิเดทที่จะขึ้นเป็นประธานาธิบดีคนต่อไป คือ Dmitry Medvedev ส่วนตัวเขาจะไปนั่งในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทน…… ซึ่งเป็นแผนงานที่รู้กันเพียงไม่กี่คน…… แต่ในแวดวงข้างนอก……ไม่มีใครคาดคิดถึงเรื่องนี้ ทุกคนคิดว่า ปูตินจะต้องลงจากอำนาจ ……และ คนที่จะมาเป็นประธานาธิบดี น่าจะเป็นคนใดคนหนึ่ง เช่น Mikhail Fradkov (นายกรัฐมนตรี) ฝ่ายตรงข้ามเริ่มขุดคุ้ย โจมตีปูตินด้วยการลงข่าวดิสเครดิตรายวัน เช่นเมื่อ วันที่ 11 เมษายน 2008 สามอาทิตย์ก่อนที่เมดเดเวฟจะขึ้นทำพิธีสาบานตน หนังสือพิมพ์รายวันของมอสโคว์ ในคอลัมน์ของ Sergei Topol ได้กระแซะด้วยข้อความแบบซุบซิบเล็กๆเพียง 641 คำ…… แต่มันเหมือนระเบิดลงในสนามข่าว ที่ไตเติ้ลเขียนว่า “The Sarkozy Syndrome” หรือ อาการโรคซาร์โกซี่ระบาด คือ นาย Nicholas Sarkozy คือประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่มากรัก เขาแต่งงาน แล้วหย่า แล้วแต่ง แล้วหย่า ที่เพิ่งหย่าไปกับภรรยาคนที่สาม ประธานาธิบดีปูตินของเรามั่นคงกับภรรยาเดียวมาตลอดการครองตำแหน่งผู้นำ……แต่เมื่อท่านจะไม่ได้เป็นประธานาธิบดีแล้ว……บางอย่างอาจเปลี่ยนไปก็ได้..” ข่าวนี้กระเทือนไปทั่ว ทั้งความอยากรู้ของประชาชนและคนในแวดวงการเมือง เพราะมันก็คือความจริง……ที่ปูตินได้หย่ากับลุดมิลาไปตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา……และที่เป็นรู้กันในวงในว่า เขามีแผนที่จะแต่งงานใหม่กับ Alina Kabayeva ยิมนาสติกเหรียญทองที่เป็นขวัญใจของประชาชนในเดือนมิถุนายน และได้เข้ามามีบทบาททางการเมืองมาตั้งแต่ปี 2002 ในช่วงการหาเสียงของ 2007 เธอก็ยังปรากฎตัวในที่ต่างๆพร้อมๆกับกลุ่มแถวหน้าของพรรค ตั้งแต่ปี 2000 ที่ปูตินได้เป็นประธานาธิบดี เขาได้เก็บทุกอย่างเกี่ยวกับครอบครัวไว้เป็นความลับ ลูกสาวทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตอยู่อย่างส่วนตัว เงียบๆมีหน่วยอารักขาตลอดเวลา ไม่มีการออกข่าวใดๆ ทั้งคู่เรียนดนตรีที่ปูตินชอบ คือ ไวโอลินและเปียโน และได้ทำเพลงบรรจุซีดีให้พ่อไว้ฟัง……นั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาเพลินเพลินในยามว่าง และก่อนนอน ลุดมิลา……ไม่เคยชอบชีวิตของการเป็นจุดสนใจ เธอทำหน้าที่ของสตรีหมายเลขหนึ่งในการเดินทางต่างประเทศกับปูติน แต่เมื่อกลับมาอยู่ในรัสเซีย เธอทำงานทางด้านการสอนภาษาให้กับโครงการชาวรัสเซียชนบทที่อยู่ชายแดนของประเทศที่ถูกเฉือนออกไปเมื่อโซเวียตล่มสลาย ทั้งคู่ใช้ชีวิตด้วยกันแบบความกลไกของครอบครัวรัสเชี่ยนทั่วไป……แต่นับวันยิ่งห่างเหิน…… ปูตินตามที่ลุดมิลาเลยปรับทุกข์ให้เพื่อนฟัง คือ มีแอบเจ้าชู้ เคยพานักข่าวสาวสวยไปทานอาหารกลางวันเมื่อครั้งที่เริ่มฉายแสงในการเมืองมอสโคว์ แต่…ไม่มีใครกล้าลงในดีเทล เพราะในยุคนั้นท่านผู้นำจะต้องไม่มีเรื่องด่างพล้อยใดๆในชีวิตครอบครัว แต่มาถึงยุคที่เป็นข่าว……ตอนนั้นโลกเปลี่ยนไป เพราะผู้นำแต่ละคนล้วนแล้วแต่จี๊ดจ๊าด นอกจากซาร์โกซี่ แล้วยังมี บิล คลินตัน ตามด้วยสุดๆคือ Vaclav Havel ประธานาธิบดีแห่ง Czech Republic (ในตำแหน่ง 1993-2003) ที่พอเมียตายปุ๊บ ก็แต่งงานใหม่กับดาราแม่หม้ายที่มีบทหวือหวาโป๊เปลือยในปีต่อมาทันที แล้วเอามาปั้นแต่งให้เป็นสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่งท่ามกลางความไม่พอใจของประชาชน…… หนึ่งอาทิตย์ผ่านไปของข่าวที่ร้อนแรง ปูตินได้ไปเยือนอิตาลี และนักข่าวอิตาเลี่ยนได้ยิงคำถามนี้ขึ้นมา ว่า จริงเท็จประการใด? ปูตินที่เคยปิดปากสนิทเลี่ยงที่จะไม่พูดต่อไปไม่ได้ เขาตอบว่า “ทุกอย่างที่คุณได้ข่าวมา ไม่ใช่ความจริง ในเรื่องที่ลูกๆผมได้ย้ายไปอยู่ที่เยอรมัน แล้วเรื่องผู้หญิง……ผมไม่ปฏิเสธว่าผมชอบผู้หญิงรัสเซีย เพราะผู้หญิงของเราเก่งกาจและสวยที่สุด.. เรียกว่า เทียบได้กับสาวๆอิตาเลี่ยนได้เลย……” ตอนนี้นักข่าวสาวอิตาเลี่ยนปรบมือแบบถูกอกถูกใจ เขาพูดต่อไปว่า… “แต่ในเมื่อผมเป็นนักการเมือง ชีวิตก็เหมือนกับอยู่ในบ้านเรือนแก้ว ที่ใครๆก็มองเห็นได้ แต่มันก็ควรที่จะมีขอบเขตของ ความเป็นส่วนตัวบ้าง ในตรงนี้…ผมขอ……ขอมีชีวิตส่วนตัวที่เป็นอิสระเหมือนกับคนอื่นๆ…เรามาคุยเรื่องอื่นที่น่าสนใจดีกว่า เช่นสงครามในเชเชน…โอเค๊..!!!” ในวันเดียวกันนั้นที่เขากลับไปยังรัสเซีย…หนังสือพิมพ์เจ้ากรรมที่เป็นต้นตอข่าว ได้ประกาศปิดตัวลงเพราะสภาพคล่อง…… แต่ไม่มีใครเชื่อว่านั่นคือสาเหตุ…!!!! ไม่มีใครรู้ว่า ความสัมพันธ์ของปูตินกับอาลีนานั้นลึกซึ้งขนาดไหน แต่ดูได้จากระดับที่เธอก้าวขึ้นมาจากนักยิมเหรียญทองสู่เส้นสายทางการเมืองที่รุ่งขึ้นไปทุกที ในการเข้าเป็นกรรมการบอร์ดในหลายที่ เช่นธนาคาร, สื่อโทรทัศน์และสิ่งพิมพ์ และเป็นกำลังสำคัญในการประสานงานของกีฬาโอลิมปิคใน Sochi ที่จะมาถึง เมื่อ Medvedev ก้าวขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ปูตินก็เปรียบเสมือนเติ้งเสี่ยวผิงของจีน ที่เป็นมันสมองทั้งหมดของพรรคในช่วงห้าปีสุดท้ายของการอยู่ในตำแหน่งที่ได้พลิกผันประเทศจีนให้เจริญรุ่งเรืองอย่างที่เห็นในทุกวันนี้ แต่ก่อนอื่น…ปูนินต้องจัดการกับเรื่องข่าวที่กวนใจก่อน โดยงานแรกของเมดเวเดพที่จะต้องทำคือ ออกกฎหมายเรื่องของการหมิ่นประมาทโดยสื่อที่ทำให้เสี่ยมเสียชื่อเสียง มีการเพิ่มโทษทั้งปรับทั้งจำขั้นสูงสุด ในวันที่ 7 สิงหาคม 2008 ที่ประธานาธิบดีคนใหม่หมาดๆเพียงสามอาทิตย์กำลังไปพักผ่อนล่องเรือที่ Volga River ในเขตเมือง Kazan ตอนตีหนึ่งของวันที่ 8 เขาได้รับโทรศัพท์ด่วนจากกลาโหมว่า Mikhail Saakachvili ประธานาธิบดีสาธารณรัฐ Georgia (โปรตะวันตก) ได้ส่งทหารทำการบุกพื้นที่ทางใต้ คือ South Ossetia ซึ่งอยู่ในเขตของจอร์เจียตามแผนที่ แต่ประกาศตัวเป็นเอกราชไม่ขึ้นกับจอร์เจีย เพราะโปรรัสเซีย รวมทั้ง เขต Abkhazia ทางฝั่งทะเลดำก็เช่นกัน ตามแผนที่ว เรื่องความขัดแย้งนี้เป็นมานานหลายปีแล้ว แต่มาประทุในตอนนี้เพราะ Mikhail Saakachvili (จะเรียกว่า MS) คิดว่าเป็นโอกาสอันดีที่จะลงมือเพราะปูตินไม่ได้เป็นปธน. แล้ว และเมดเวเดพก็ไม่น่าจะมีน้ำยาอะไร……หนุ่มใสซื่อ ที่ ฟังแต่เพลงร๊อค ทันที่ที่ทราบข่าว…เมดเวเดพรีบติดต่อถึงปูติน แต่เป็นช่วงที่ปูตินได้จากมอสโคว์ไปยังเบจิง เพื่อไปร่วมในงานเปิดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน พร้อมๆกับผู้นำชาติอื่นๆเช่น บุช จึงยังติดต่อไม่ได้……เขาไม่กล้าที่จะตัดสินใจอะไรลงไป จนทางผู้บัญชาการทหารบกได้โทรมาบอกว่า ตอนนี้ค่ายทหารของเราได้ถูกโจมตีหนัก เขาจึงตัดสินใจตอบไปว่า…”ส่งกำลังเข้าบุกเดี๋ยวนี้…!!!” กองทัพรัสเซียที่รอฟังคำสั่งมาสองวัน จึงถาโถมเข้าพร้อมกันทั้งบกและอากาศเข้าตีทุกทาง… ข่าวได้ถึงปูตินหลังจากที่รัสเซียเคลื่อนทัพสู่จอร์เจีย สิ่งแรกคือ.……เขาโกรธ MS แบบหัวฟัดหัวเหวี่ยงที่บังอาจใช้เวลาที่เขาเดินทางไกล……เข้าดำเนินการ และฉุนเมดเวเดฟที่ไม่ทำการวางแผนทำศึก สั่งบุกแบบสั้นๆ ปรากฏว่า กองทัพอากาศรัสเซียได้เข้าโจมตีถล่มไปถึงเขตอื่นๆในจอร์เจียเป็นวงกว้างเกินจำเป็น ประธานาธิบดีบุชก็ได้ข่าวการโจมตีเช่นกัน (ด้วยความยินดี เพราะอเมริกาอยู่เบื้องหลังในการนี้) รีบมากระซิบปูตินด้วยท่าทางอิ่มเอมใจว่า….เราจะอยู่เคียงข้างพวกเขา “พวกเขา” บุชหมายถึง จอร์เจีย…… ที่รัสเซียรู้อยู่เต็มอกว่า อเมริกาได้อยู่เบื้องหลังของรัฐบาล MS มีการฝึกทหารร่วมกัน และ สัญญาในเรื่องเข้าสู่ NATO เพื่อที่จะเข้ามาแทรกแซงรัสเซีย แต่สิ่งที่ MS ไม่รู้ว่า การที่เอาอกเอาใจอเมริกาถึงขั้นส่งทหารไปช่วยรบในอิรักนั้น……เสียเปล่า…… เรื่องที่ อเมริกาหรือนาโต้จะเข้ามาช่วยทำสงครามกับรัสเซียเพื่อจอร์เจียนั้น……เป็นความฝันล้วนๆ ในช่วงพิธีเปิดงานใน “ Bird Nest” สเตเดี้ยม……บุชและล่ามได้ขอเลื่อนตัวมานั่งใกล้ๆกับปูติน ทักทายกับตามปรกติ บุชเอียงหน้ามากระซิบว่า “ผมได้ข่าวมาว่า MS เป็นคนเลือดร้อน คราวนี้ถ้าจะเอาจริง” “เหรอ…งั้นก็เหมือนผมเลย เลือดร้อนเหมือนกัน ร้อนระเบิดเลย” “ใครบอก……นายเป็นคน “เลือดเย็น” ต่างหาก” บุชประชด…… วันรุ่งขึ้น ปูตินบินกลับรัสเซีย แต่ไม่ใช่มอสโคว์ เขาไปที่ North Ossetia ที่กองทัพตั้งศูนย์บัญชาการอยู่ และคราวนี้คือการตัดสินใจขั้นเด็ดขาด คือ ยึดคืนดินแดนในส่วนนี้อย่างเด็ดขาด ทางจอร์เจียที่หวังว่า นาโต้และอเมริกาจะมาช่วย เพราะเคยได้ให้ความหวังไว้ถึงขั้นมาช่วยฝึกให้ ……ไม่เห็นมา..!! เลยต้องร้องขอไป.…… สิ่งที่อเมริกาทำได้ คือ……จัดเที่ยวบินส่งทหารจอร์เจียสองพันคนที่ไปช่วยในอิรักกลับมา……และเพิ่มอาวุธแถมมาให้อีกนิดหน่อย และให้เที่ยวบินนั้น……รับทหารอเมริกันที่มาช่วยฝึกที่ตกค้างอยู่กลับไป.……โดยอ้างว่า……ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้ง กองทัพรัสเซียตีหนักไปถึงยังเมืองหลวง Tbilisi ที่ในที่สุด MD ต้องยอมขอเจรจาสงบศึก… ผลคือ จอร์เจียต้องรับรองเอกราชของสองเขต South Ossetia และ Abkhazia และต้องเอาโทษกับประธานาธิบดี MS โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศส ซาร์โกซี่มาเป็นตัวกลางเจรจา ในขณะที่คน “เลือดเย็น” กำลังกัดกราม ว่า…… “มันจะต้องถูกแขวนคอสถานเดียว” ซาร์โกซี่รีบค้าน… “อย่าถึงขึ้นเอาโทษกับ MS เลย เพราะเขาได้รับเลือกตั้งมา ประชาชนชาวโลกจะคิดอย่างไร? ปูตินย้อนทันทีว่า…… “ก็แล้วไง……อเมริกายังแขวนคอซัดดัม ฮุสเซนได้เลยนี่…!!!” แต่ทางฝรั่งเศสได้มีลิ้นเจรจาทางการทูต ได้สยบอารมณ์ของปูตินว่า…… “แล้วนายอยากจะให้ชื่อมีจดจำในประวัติศาสตร์แบบบุชพ่อ บุชลูกหรือ..?!! สรุปว่า ดินแดนทั้งสองส่วนนี้ เป็นเอกราชจากจอร์เจีย มีประธานาธิบดีของตัวเอง (แต่ในความสนับสนุนของรัสเซีย) รัสเซียถอนทหารออกจากพื้นที่…… ทั้งหมดใช้เวลารบเพียง ห้าวัน……(รวมเจรจาด้วย 12 วัน คือ 1-12 สิงหาคม 2008) ~~เรื่องราวของจอร์เจีย คือ หนังที่ฉายซ้ำกับยูเครนในตอนนี้ และถ้าอเมริกาได้สร้างตัวอย่างว่าช่วยเหลือจริงจังกับจอร์เจียถึงขึ้นทำสงครามกับรัสเซีย……หลายคนเชื่อว่า ปูตินคงต้องคิดหนักในการยึดไครเมีย…… ในช่วงปลายปีนั้น ทางอเมริกาได้มีประธานาธิบดีคนใหม่ คือ Barack Obama อันเป็นสิ้นสุดของบุช ซึ่งทางเมดเวเดฟ……ได้ออกแถลงการณ์อย่างหนักแน่นว่า สงครามในจอร์เจียคือผลพวงของการแทรกแซงของอเมริกาที่พยายามจะเข้ามาตั้งฐานทัพในพื้นที่รอบรัสเซีย และ มันเป็นการผลักดันที่รัสเซียจะต้องตอบโต้ด้วยการสร้างฐานนิวเคลียร์ที่ Kaliningrad หลังจากสงครามจอร์เจีย……เศรษฐกิจของรัสเซียบูมขึ้นมาในทุกอย่าง พลังงานราคาขึ้น ส่งออกทุกชนิดตั้งแต่โลหะ อาหารจนถึงเฟอร์นิเจอร์ จนรัสเซียได้จ่ายหนี้ได้หมด รวมทั้งมีเงินในคลังเป็นแสนๆล้าน และเงินคงคลังอีกจำนวนมหาศาล แต่นั่นคือ….แสงสว่างก่อนที่พายุมืดคล้ำกำลังจะเข้ามา…ที่ไม่มีใครคาดคิดมาก่อน….!!! Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • โครงกระดูกวาฬอายุ 2,000-6,000 ปี เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ที่ตำบล อำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ภายในพื้นที่ของ ของบริษัท Bright Blu Water Corporation จำกัด จากการที่ทางบริษัทขุดบ่อแล้วไปพบเจอโครงกระดูก ปลาวาฬ ขนาดใหญ่ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวาฬโบราณ จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเจ้าของพื้นที่ ทำการขุดค้น หลังจากขุดคนในชั้นดินเหนียวโบราณ โครงกระดูกว่านที่พบเปลี่ยนสภาพ จากการแทนที่ของแร่ธาตุอื่นๆ ส่วนใหญ่มีสภาพค่อนข้างเปราะบาง จึงมีการ เร่ง สำรวจขุดค้น ตั้งแต่วันที่ 19 ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 และพบว่ามีกระดูกวาฬอีกหลายชิ้นเรียงต่อกัน โดยโครงกระดูกที่พบนี้อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 15 กิโลเมตร จากการขุดค้น พบชิ้นส่วนกระดูก หลังประมาณ 80% อันประกอบไปด้วย กระดูกส่วนหัวกระโหลกกระดูก สันหลัง กระดูกซี่โครง กระดูกส่วนลำคอ ส่วน กะโหลกขากรรไกรยังอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ได้นำไป เก็บรักษาไว้เพื่อทำการตรวจสอบหาสายพันธุ์ ว่าเป็นวาฬชนิดใด และในบริเวณนั้น ยังพบฟันฉลาม และกระเบน ชนิดต่างๆ อีก
    โครงกระดูกวาฬอายุ 2,000-6,000 ปี เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2563 ที่ตำบล อำแพง อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร ภายในพื้นที่ของ ของบริษัท Bright Blu Water Corporation จำกัด จากการที่ทางบริษัทขุดบ่อแล้วไปพบเจอโครงกระดูก ปลาวาฬ ขนาดใหญ่ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวาฬโบราณ จากนั้นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเจ้าของพื้นที่ ทำการขุดค้น หลังจากขุดคนในชั้นดินเหนียวโบราณ โครงกระดูกว่านที่พบเปลี่ยนสภาพ จากการแทนที่ของแร่ธาตุอื่นๆ ส่วนใหญ่มีสภาพค่อนข้างเปราะบาง จึงมีการ เร่ง สำรวจขุดค้น ตั้งแต่วันที่ 19 ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2563 และพบว่ามีกระดูกวาฬอีกหลายชิ้นเรียงต่อกัน โดยโครงกระดูกที่พบนี้อยู่ห่างจากชายฝั่งประมาณ 15 กิโลเมตร จากการขุดค้น พบชิ้นส่วนกระดูก หลังประมาณ 80% อันประกอบไปด้วย กระดูกส่วนหัวกระโหลกกระดูก สันหลัง กระดูกซี่โครง กระดูกส่วนลำคอ ส่วน กะโหลกขากรรไกรยังอยู่ในสภาพที่ค่อนข้างสมบูรณ์ เจ้าหน้าที่ได้นำไป เก็บรักษาไว้เพื่อทำการตรวจสอบหาสายพันธุ์ ว่าเป็นวาฬชนิดใด และในบริเวณนั้น ยังพบฟันฉลาม และกระเบน ชนิดต่างๆ อีก
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ใหม่แต่แปลก เซเว่นฯ สแกนจ่ายได้

    การเปิดทดลองชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด My Prompt QR ผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 480 สาขา หลังเฟซบุ๊ก "ผู้บริโภค" ทดสอบเมื่อเช้าวันที่ 27 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา กลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผู้บริโภค เพราะทราบกันดีว่า ร้านสะดวกซื้อที่มีสาขาอันดับ 1 ในไทย ไม่รับสแกนจ่าย แตกต่างจากร้านสะดวกซื้อรายอื่น อาทิ โลตัสโกเฟรช บิ๊กซีมินิ ซีเจเอ็กซ์เพรส ท็อปส์เดลี่ ลอว์สัน 108 เทอร์เทิล และร้านถุงเงินที่ขายของชำ สแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันธนาคารได้ตั้งนานแล้ว

    ถึงกระนั้น สาขาที่ใช้บริการได้ ห่างไกลจากจำนวนสาขารวม 14,854 แห่งทั่วประเทศ อีกทั้ง QR Code ที่สแกนจ่าย เป็นบริการ My Prompt QR ที่ให้ร้านค้าสแกนคิวอาร์โค้ดของลูกค้า รองรับเฉพาะแอปพลิเคชัน 5 ธนาคาร ได้แก่ K PLUS (ธนาคารกสิกรไทย) SCB Easy (ธนาคารไทยพาณิชย์) Krungthai NEXT (ธนาคารกรุงไทย) Bangkok Bank (ธนาคารกรุงเทพ) และ KMA (ธนาคารกรุงศรี) ซึ่งที่ผ่านมาได้นำมาใช้กับเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ 7-Eleven มาแล้ว

    น่าเสียดาย เมื่อสอบถามไปยังสำนักบริหารการสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กลับได้รับคำตอบว่า รับทราบข้อมูล "เท่าที่เห็น" ในสื่อสังคมออนไลน์ขณะนี้ เพิ่งเปิดทดลองให้บริการเท่านั้น

    ปัจจุบัน ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นนอกจากรับชำระด้วยเงินสดแล้ว ยังมีแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet และ 7-App ทั้งรูปแบบเงินในวอลเล็ต ผูกกับบัตรเครดิต บัญชี My Saving รวมทั้งรับชำระผ่านบัตรเครดิต ขั้นต่ำ 200 บาท และอี-วอลเล็ทจากต่างประเทศ 13 แอปพลิเคชันในเครือข่าย Alipay+ แต่สำหรับบัตร 7-Card หรือบัตรสมาร์ทเพิร์ส ซึ่งใช้มาตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2548 กำลังจะยกเลิกให้บริการ โดยสมาชิกบัตรสามารถใช้เงินภายในบัตรได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568

    ที่ผ่านมา เซเว่นอีเลฟเว่นเน้นทำการตลาดกับผู้ใช้งาน TrueMoney Wallet เป็นหลัก แต่ไม่มีสแกนจ่าย เมื่อเทียบกับร้านสะดวกซื้อรายอื่น โดยเฉพาะซีเจเอ็กซ์เพรส ของกลุ่มคาราบาวกรุ๊ป กว่า 1,000 สาขา พบว่ามีหลายสาขาเปิดแข่งกัน นอกจากสินค้าราคาถูกกว่าแล้ว ยังสแกนจ่ายได้ไม่มีขั้นต่ำ กลายเป็นข้อเปรียบเทียบกับเซเว่นอีเลฟเว่น ที่กลับไม่มีตรงนี้

    ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ในปี 2566 มีการโอนเงินและการชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ 19,900 ล้านครั้ง และธุรกรรมการชำระเงินผ่าน QR payment 5,700 ล้านครั้ง ซึ่งโมบายแบงกิ้งมีเจ้าตลาดหลักอย่าง K PLUS ธนาคารกสิกรไทย พบว่าในปี 2566 มีลูกค้าใช้งานมากถึง 21.7 ล้านราย และมีจำนวนธุรกรรมมากกว่า 9,600 ล้านธุรกรรม

    #Newskit #เซเว่นอีเลฟเว่น #สแกนจ่าย
    ไม่ใหม่แต่แปลก เซเว่นฯ สแกนจ่ายได้ การเปิดทดลองชำระเงินผ่านคิวอาร์โค้ด My Prompt QR ผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 480 สาขา หลังเฟซบุ๊ก "ผู้บริโภค" ทดสอบเมื่อเช้าวันที่ 27 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา กลายเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสำหรับผู้บริโภค เพราะทราบกันดีว่า ร้านสะดวกซื้อที่มีสาขาอันดับ 1 ในไทย ไม่รับสแกนจ่าย แตกต่างจากร้านสะดวกซื้อรายอื่น อาทิ โลตัสโกเฟรช บิ๊กซีมินิ ซีเจเอ็กซ์เพรส ท็อปส์เดลี่ ลอว์สัน 108 เทอร์เทิล และร้านถุงเงินที่ขายของชำ สแกนจ่ายผ่านแอปพลิเคชันธนาคารได้ตั้งนานแล้ว ถึงกระนั้น สาขาที่ใช้บริการได้ ห่างไกลจากจำนวนสาขารวม 14,854 แห่งทั่วประเทศ อีกทั้ง QR Code ที่สแกนจ่าย เป็นบริการ My Prompt QR ที่ให้ร้านค้าสแกนคิวอาร์โค้ดของลูกค้า รองรับเฉพาะแอปพลิเคชัน 5 ธนาคาร ได้แก่ K PLUS (ธนาคารกสิกรไทย) SCB Easy (ธนาคารไทยพาณิชย์) Krungthai NEXT (ธนาคารกรุงไทย) Bangkok Bank (ธนาคารกรุงเทพ) และ KMA (ธนาคารกรุงศรี) ซึ่งที่ผ่านมาได้นำมาใช้กับเครื่องจำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ 7-Eleven มาแล้ว น่าเสียดาย เมื่อสอบถามไปยังสำนักบริหารการสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กลับได้รับคำตอบว่า รับทราบข้อมูล "เท่าที่เห็น" ในสื่อสังคมออนไลน์ขณะนี้ เพิ่งเปิดทดลองให้บริการเท่านั้น ปัจจุบัน ร้านเซเว่นอีเลฟเว่นนอกจากรับชำระด้วยเงินสดแล้ว ยังมีแอปพลิเคชัน TrueMoney Wallet และ 7-App ทั้งรูปแบบเงินในวอลเล็ต ผูกกับบัตรเครดิต บัญชี My Saving รวมทั้งรับชำระผ่านบัตรเครดิต ขั้นต่ำ 200 บาท และอี-วอลเล็ทจากต่างประเทศ 13 แอปพลิเคชันในเครือข่าย Alipay+ แต่สำหรับบัตร 7-Card หรือบัตรสมาร์ทเพิร์ส ซึ่งใช้มาตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค. 2548 กำลังจะยกเลิกให้บริการ โดยสมาชิกบัตรสามารถใช้เงินภายในบัตรได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 ที่ผ่านมา เซเว่นอีเลฟเว่นเน้นทำการตลาดกับผู้ใช้งาน TrueMoney Wallet เป็นหลัก แต่ไม่มีสแกนจ่าย เมื่อเทียบกับร้านสะดวกซื้อรายอื่น โดยเฉพาะซีเจเอ็กซ์เพรส ของกลุ่มคาราบาวกรุ๊ป กว่า 1,000 สาขา พบว่ามีหลายสาขาเปิดแข่งกัน นอกจากสินค้าราคาถูกกว่าแล้ว ยังสแกนจ่ายได้ไม่มีขั้นต่ำ กลายเป็นข้อเปรียบเทียบกับเซเว่นอีเลฟเว่น ที่กลับไม่มีตรงนี้ ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย ระบุว่า ในปี 2566 มีการโอนเงินและการชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ 19,900 ล้านครั้ง และธุรกรรมการชำระเงินผ่าน QR payment 5,700 ล้านครั้ง ซึ่งโมบายแบงกิ้งมีเจ้าตลาดหลักอย่าง K PLUS ธนาคารกสิกรไทย พบว่าในปี 2566 มีลูกค้าใช้งานมากถึง 21.7 ล้านราย และมีจำนวนธุรกรรมมากกว่า 9,600 ล้านธุรกรรม #Newskit #เซเว่นอีเลฟเว่น #สแกนจ่าย
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • 27-09-67/01 : หมี CNN / "ROCK N ROLL" EP.86 ชื่อตอน "FIRST COME FIRST SERVE ไอ้สัส!" มาก่อนตายห่าก่อน เสี้ยนหนัก จัดให้ อย่าถอยสิ ดีออก? เพิ่งจะเริ่มปารี้ตี้กันอย่างเมามันส์ อียิวหางโผล่ สันดานสตรอเบอแหลไม่เลิก ดูทรงถูกลงแขกยับ ชิงเปิดโต๊ะเจรจา เชิญมรึงไปเจรจากับยมบาลก่อนก็แล้วกัน กูใส่อย่างเดียว! ยิวไม่ตายโลกไม่สงบ โลกตกผลึกแล้ว! ฮาแตก! โลกการละคร "หมูเด้ง" แซงหน้าโพลเลือกตั้งอีทรัมปป์กะอีกมลาบัดซบ ซะงั้น ควายเบื่อดูเหี้ย ดูฮิปโป มันส์กว่าสิน่ะ? เชิญมรึงเล่นละครหลอกควายไปเหอะ แผนเจรจาหยุดยิง มีแต่ควายที่เชื่อ เพราะโลกอาหรับ มุสลิม เค้าไม่มารอมรึงเห่าดอกน่ะ ฆ่าอย่างเดียว ถล่มไม่หยุด ใส่ยับ จนลืมหายใจ สู้กับอียิวเหี้ยสัดนรก ไม่มีคำว่า "พัก" ฆ่ามันจนกว่าจะหมดโลกเท่านั้น อิสราเอล สหรัฐ อังกฤษ NATO มรึงไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ต่อรอง มรึงมันแพ้ยับ ไอ้ขี้แพ้ ไอ้กระจอก ไม่มีสิทธิ์ ตั้งธงเปิดโต๊ะเจรจา สงครามจะหยุดหรือไม่ จะหยุดยิงหรือไม่ "อำนาจอยู่ที่ขั้วใหม่หมดทั้งสิ้น" ควายยังโง่ดักดานไม่เลิก! อียิวช็อค! ขั้วใหม่รู้ทัน ดักทางเกลี้ยง กดเหี้ยก่อสงครามเฉพาะจุด คุมพื้นที่ เล่นแค่ระดับภูมิภาค แผนแตกยุโรป แตกตะวันออกลาง กลายเป็นแตกเยรูซาเล็ม แตกยูเครนแทน เหตุเพราะกำลังพลในพื้นที่มีไม่พอ อาวุธไม่ถึง กระแสไม่ได้ โลกเอือมเหี้ยสุดขีด หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อเมริกาต้องขายแผ่นดินชดใช้หนี้ อังกฤษต้องแตก เพราะอีสก็อต กับอีไอร์เหนือ ไม่อยู่แบกหนี้ที่มรึงก่อ ส่วนเยรูซาเล็มกลายเป็นสุสานยิวพันธุ์สัดนรก สงครามนุ๊ก ใช้ไม่ได้จริง ได้แต่ขู่ แต่อีกฝ่ายเค้าล้ำหน้าไปไกลแล้ว ยอมรับสภาพไม่ได้ ก็ยื้อกันไปแบบนี้ เข้าทางตรีนขั้วใหม่ เพราะ "เวลา" คืออาวุธชั้นดีที่จะเปลี่ยนโลก ดูภาพให้ชัด ปูติน สีจิ้นผิง ใช้เวลา ถอดหน้ากาก เผยธาตุแท้เหี้ยจนหมดเปลือก จนโลกเทเหี้ยย้ายขั้วกันหมด ศรีธนญชัย 2024 ก็เช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ มันคือภาพเดียวกับที่โลกประสบอยู่ นี่คือการแก้เกมส์ที่ไม่ต้องเอาชีวิตคนทั้งโลกมาเป็นตัวประกัน ขั้วใหม่รอแค่ให้เหี้ยหมดหนทาง บีบให้ใช้นุ๊กก่อน เพื่อที่จะปิดบัญชียาวไป สงครามเป็นแค่เครื่องมือใช้พิสูจน์ผู้ชนะเท่านั้น แต่ผู้ชนะที่แท้จริงคือโลกตามใครต่างหาก? ดังนั้น โลกการละครที่ดูกันอยู่ อียิวเหี้ยได้ใจ อีส้มเน่า อีแดง เหี้ยได้ควาย มันก็แค่ภาพมายา บทถูกล้างบางมันจะมาเร็วกว่าที่คิด จบพศ.นี้ชัวร์! เพราะเหี้ยมันไม่เหลืออะไรจะสู้ได้อีกแล้ว หมดสภาพของจริง สุดท้าย แตกอเมริกา แตกอังกฤษ แตกเยรูซาเล็ม โลกก็กลับคืนสู่ภาวะปกติทันที แล้วสร้างโลกใหม่ขึ้นมา จับตาดูเครือข่ายโซเชี่ยลโลกที่เหี้ย C ควบคุมให้ดีดี ตอนนี้ แสงทำงานได้ผล สื่อเหี้ยตายราบคาบ โซเชี่ยลที่ปั่นเจอตอกหน้าหงาย เพราะผู้คนเริ่มรู้ทัน ส่วนควายก็ยังเป็นควายเหมือนเดิม เปลี่ยนโลกใหม่ ควายก็ยังไม่ตื่น เพราะมัน BORN TO BE กรรมเก่ามันเยอะ ผีบังตา อาร์คติคเริ่มขยับแล้ว ดูทรง ปูตินต้องการชวนเหี้ยกระจายกำลังไม่สิ้นสุด เมื่อกองกำลังมรึงถูกหั่น ถูกแบ่ง ต้องไปทำหน้าที่หลายพื้นที่ มันยังจะเหลือความแข็งแกร่งต่อมุย? นี่แหละ ที่เค้าเรียกว่า "สอนมวย" สหรัฐ อังกฤษ อิสราเอล ถังแตก หมดสภาพ เพราะดอลล่าร์ไม่ทำงาน เดินเกมส์ฆ่า ก็แพ้ยับ เดินเกมส์มั่ว ก็ถูกตบหน้าหงาย คำถามคือ "จุดจบมันอยู่ตรงไหน?" มันเริ่มไปแล้ว ตั้งแต่ BRICS ก่อตั้งสำเร็จ และโลกเทหมดหน้าตัก BRICS ฆ่าดอลล่าร์ ในขณะที่กองทัพรัสเซีย อิหร่าน จีน และชาติพันธมิตรอาหรับ มุสลิม ฆ่าตัวเหี้ย ตัวเป็นๆ เกลื่อนโลก เงินหมด ก็คือหมาไงจ๊ะ? ฝ่ายการเมืองเลบานอนหลบไป ดอกนี้ เฮซบอเลาะห์เข้าควบคุมประเทศเบ็ดเสร็จ ประกาศสงครามโดยตรงกับอิสราเอล ประกาศภาวะฉุกเฉิน ประกาศพร้อมรบเต็มอัตราศึก โดยมีขั้วใหม่ให้ตราประทับ การันตี ชนะชัวร์! รูปแบบการศึกยุคใหม่ ทำให้เหี้ยไปไม่เป็น ยังชักปินยิงแบบหนังคาวบอยอยู่ ขณะที่ขั้วใหม่เน้นส่งยมฑูตบนฟ้ามาเยี่ยม มรึงจะไปชนะเค้าได้ยังไง? ภาพรวมตอนนี้ กองกำลังนับแสนเข้าทางเลบานอน แล้วออกไปไล่ฆ่าอียิวกับขี้ข้า ยึดพื้นที่ ทะลวงด่านเพื่อเชื่อมต่อกับ 3 ฮอ เชื่อมได้เมื่อไหร่คือ "GAME OVER" อียิวถึงได้สู้ตาย แต่ฝีมือมันห่างชั้นกันมากจนเกินไป อาวุธเทียบไม่ติด กระจอกเกินห้ามใจ ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็น โลกเค้าลงแขกมรึงแล้ว จะเหลือเหรอ? ทำไมอีทรัมปป์ ถึงได้กล้าประกาศล้างเผ่าพันธุ์ยิว คำตอบคือ "หากจะขึ้นเป็น KING แล้วยิวยังอยู่ มรึงจะได้แตกแผ่นดินมั้ยล่ะ?" ตอนนี้ ชื่ออียิวเหี้ยไซออนนิสต์ขายดี เป็นเทน้ำ เทท่า แค่เอ่ยชื่อมา "พร้อมตายโหงได้ทุกเมื่อ" มีแต่คนอยากจะลงแขกมันกันทั้งโลก อีทรัมปป์มันหัวไว ถามว่ามันกลับใจเหรอ? นายทุนเหี้ยสามานย์มีเหรอจะกลับใจ? กูจะเป็น KING จบน่ะ? แสงทำงาน จี้ปมในใจให้เหี้ยกำราบเหี้ย คนดีดีไม่ต้องเปลืองแรงขยี้ อเมริกาไม่แตก อีทรัมปป์ก็ตายห่าชัวร์! โดนยัดข้อหาไป 200 กว่าคดี ต่างกรรม ต่างวาระ มรึงคิดว่าหากมันจะขึ้นเป็นผู้นำ สิ่งแรกที่มันต้องจัดการก่อนคืออะไรล่ะ? ดึงอำนาจเข้าหาตัวเอง เปลี่ยนกฎหมาย ใช้กฎกูแทนไงล่ะ? อเมริกาถูกกำหนดให้แตก โดยอีทรัมปป์นี่แหละ สวรรค์เขียนบทมาเช่นนั้น! ภายในอีทรัมปป์จัดการ ภายนอก ขั้วใหม่จัดอยู่ ชดใช้หนี้ ใครจะจ่าย เอาแผ่นดินไปล่ะกัน จบน่ะ?

    ปล.คุณยายหมุด ออกมาตบไอ้อีตระกละทั้งหลาย หน้าหงาย เงินแผ่นดิน ไม่ใช่เงินมรึง อยากจะแดร๊กกันตัวสั่น 10000 ได้ไป ชีวิตสั้นลงไปอีก 10 ปี ยมบาลจองคิวรอ สะท้อนภาพชัด คนกับควาย หมาหิว กับหมาเฝ้าบ้าน มันคนละสเปซี่จริงหนอ? อเมริกา ยุโรป จะอยู่ต่อยังไง? เมื่อมรึงจำเป็นต้องใช้พลังงาน อาหาร แหล่งแร่ สินค้าอุปโภค บริโภค อะไรที่มรึงผลิตเองไม่ได้ ต้องสั่งนำเข้า แต่เค้าไม่รับดอลล่าร์ ยูโร มรึงต้องจ่ายเป็นหยวน รูเบิล แทน นั่นคือสิ่งที่ทำให้ภาคการเงิน การธนาคาร ตายสนิท เพราะเงินที่พวกมรึงเอามาใช้ล่วงหน้ามันถูกมัดตราสังข์เอาไว้ด้วยหนี้ก้อนมหาศาล ย้อนมาดูคลังไทยกันบ้าง เงินบาทแข็งไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลก มันควรจะแข็งโป๊กมานานแล้ว เพราะความเป็นจริง คลังไทยมีเงินเก็บมหาศาล ทองคำล้นทะลักคลัง แล้วมรึงจะเอาไปเปรียบเทียบกับคลังเน่า ที่ไม่เหลือแม้แต่เศษกรวดเนี่ยน่ะ ใครกำหนดล่ะ 1 USD=35THB กติกาเหี้ยไงล่ะ แค่มรึงตื่น แล้วดูข้อเท็จจริง คลังไทยรวยกว่าคลังอเมริกาเป็น 100 เท่า ความเป็นจริงที่ถูกต้องมันควรจะเป็น 1 THB = 35USD หมายังรู้? แต่นักวิชาเกิน นักเศรษฐกิจเกิน มันแกล้งโง่ไม่รู้ซะงั้น กลัวมันฆ่าเหรอจ๊ะ? ปูติน สีจิ้นผิง ออกตัวอุ้มซะขนาดนี้ มรึงยังต้องกลัวไอ้อีหน้าไหนอีกล่ะ? กองทัพไทยไม่ใช่ขี้ตรีน ธรรมดาซะที่ไหน? หากเอาจริง เหี้ย C ในไทย ตายห่าไปหมดแล้ว แต่เพราะนี่คือ AMAZING THAILAND ศรีธนญชัย 2024 เล่นบทมีแต่ได้ ไม่มีเสียไงล่ะ จะไปงัดกับเหี้ย ต้องดูก่อนว่ามันล้มชัวร์แล้ว มรึงจะได้เห็นยามที่เหี้ยสิ้นเนื้อประดาตัว หมายังไม่แล? ฮาแตก! นี่ไงปชต.ควาย ควายชอบ ฉลองเงิน 10000 เมาปลิ้น ตกคลองเกือบสิ้นชื่อ มรึงเข้าใจยัง? เงิน 10000 อยู่กับคนใช้เป็น จะสร้าง 100000 เงิน 10000 อยู่กับควาย จะเหลือ -10000 สติไม่มี จะเอาปัญญาที่ไหนคิด? กูเห็นเต็ม 2 ตา ในซอยบ้านกูเนี่ย แม่งนั่งทะเลาะกันเองในครอบครัว คนนึงได้ คนนึงไม่ได้ คนนึงได้ก่อน อีกคนได้ทีหลัง ตีกันยับ ด่ากันเละ มรึงคอยดูเหอะ กูพูดไม่มีผิดดอก เมื่อวังวนควาย มันเอาแต่ได้ มันเห็นแก่ตัว ไม่พ้นเรื่องกิเลส ตัณหา ราคะ สนองตัวมัน ได้วันนี้ ก็หมดวันนี้ ไหนล่ะ ต่อยอด กระตุ้นเศรษฐกิจ มรึงรู้ กูก็รู้ ว่าแผนนี้มันชงมาจากเยรูซาเล็ม เป้าหมายเดียวคือ บั่นทองเสถียรภาพแผ่นดินไทย อ้าว..แล้วทหารไม่รู้เหรอ? รู้ยิ่งกว่ารู้ เค้าคำนวณ ควบคุม และมองเกมส์ตลอด กูไบ้ไปแล้วน่ะ คลังไทยมีเงินมหาศาล มากกว่าที่มรึงคิดหลาย 100 เท่า การที่จะทำให้ควายทั้งแผ่นดินตาย และตื่นขึ้นมาได้นั้น มันต้องโดนกับตัวเอง อย่ากังวล เค้ามีตัวเลขรับได้ ทั้งหมดเพื่อแลกกับดอกเดียว "เชือดเหี้ยทั้งแผ่นดิน" ยึดทรัพย์เหี้ยทั้งแผ่นดิน ล้างบางการเมืองเหี้ยทั้งแผ่นดิน เงินแสนล้าน เค้ามีไว้พร้อมแล้ว แต่ใครบอกล่ะว่า จะให้มรึงผลาญง่ายๆ ไม่อยากจะชี้โพรงให้กระรอก เงินที่แจกคือเงินภาษีประชาชน คนเซ็นต์ คนรับผิดชอบ คนอนุมัติ คนเสนอโครงการ โดนหมด ทั้งแพ่ง อาญา มรึงลองนับดูสิ ทั้งพรรคมีกี่ตัว เอามาหาร 2 แสนล้าน ขาดเหลือเท่าไหร่ ตามเก็บกับอีเหลี่ยมเหี้ย ส่วนเงินชดใช้ต้องคืน ดอกนี้ วังจะเข้ามาแบกเอง ประชากรควายมันไม่มีปัญญาเอาเงินมาคืนดอก แค่จะแดร๊กให้รอดไปวันวันยังยาก เรื่องนี้ ทหารเค้าอ่านขาดหมดนานแล้ว ระดับเกจิ กุนซือแผ่นดิน คำว่า "เสียหาย" มันมีหลายระดับ พอรับได้ พอทน ไม่กระทบกระเทือนแผ่นดินระยะยาว คนชนชั้นกลาง ปัญญาชนทั้งหลาย มรึงแบกหนี้แผ่นดินนี้มาช้านานแล้ว เพราะเป็นกลุ่มกำลังสร้างเงินช่วยแผ่นดินจริง มรึงจะได้บุญกุศลคืนแน่ กูการันตี ทำดีย่อมได้ดี ย่อมเหี้ยย่อมต้องได้เหี้ย สัจธรรมตลอดกาล INFINITY+ เชื่อมั่นในหลวงก็พอ ปัญญากูมีเท่านี้ ยังรู้ แล้วเบื้องบนเค้าวางหมากหลายชั้นกว่านั้นเยอะ มรึงคิดว่า "จะเทวดาซะแค่ไหน" ไม่มีดอก เสียเปรียบ แค่ทุกอย่างอยู่ในสายพระเนตรของพ่อท่าน ก็อุ่นใจแล้ว เชื่อกูสิ! กูพูดหลายครั้งแล้วว่า แผ่นดินนี้ คือแผ่นดินทอง มีผู้ดูแล มีคนกำกับ แถมยังมีเทวดา นางฟ้า สิงสถิตอยู่ จะกลัวเหี้ยอะไรอีก? แสงอยู่เต็มพื้นที่ สว่างไสวด้วยพระบารมี!

    หมี CNN(เกมส์สงคราม อย่าดูปลีกย่อย ให้ดูภาพใหญ่ ภาพหลัก ภาพรวม แล้วจะไม่หลงทาง เหี้ยมันสร้างประเด็นได้ทุกวันอยู่แล้ว งานถนัดมัน สงครามไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ขั้วใหม่เค้าพร้อมจริง ถึงกล้าสั่งลุย เพราะประเมินแล้วว่า "ชนะชัวร์ 100%" ระดับปูติน สีจิ้นผิง ใช่เพื่อนเล่นมรึงเหรอ? ไทยและอาเซียน รวมทั้งโลก ก็จะชนะชัวร์เช่นกัน สภาโลกมาแน่ กองทัพโลกโผล่แน่ ไปยิงกันในอวกาศต่อเลย กูชอบ กูจะไปหาเพื่อน E.T นอกโลกซะหน่อย)
    27 กย. 67
    11.30 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172741109996921670

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    27-09-67/01 : หมี CNN / "ROCK N ROLL" EP.86 ชื่อตอน "FIRST COME FIRST SERVE ไอ้สัส!" มาก่อนตายห่าก่อน เสี้ยนหนัก จัดให้ อย่าถอยสิ ดีออก? เพิ่งจะเริ่มปารี้ตี้กันอย่างเมามันส์ อียิวหางโผล่ สันดานสตรอเบอแหลไม่เลิก ดูทรงถูกลงแขกยับ ชิงเปิดโต๊ะเจรจา เชิญมรึงไปเจรจากับยมบาลก่อนก็แล้วกัน กูใส่อย่างเดียว! ยิวไม่ตายโลกไม่สงบ โลกตกผลึกแล้ว! ฮาแตก! โลกการละคร "หมูเด้ง" แซงหน้าโพลเลือกตั้งอีทรัมปป์กะอีกมลาบัดซบ ซะงั้น ควายเบื่อดูเหี้ย ดูฮิปโป มันส์กว่าสิน่ะ? เชิญมรึงเล่นละครหลอกควายไปเหอะ แผนเจรจาหยุดยิง มีแต่ควายที่เชื่อ เพราะโลกอาหรับ มุสลิม เค้าไม่มารอมรึงเห่าดอกน่ะ ฆ่าอย่างเดียว ถล่มไม่หยุด ใส่ยับ จนลืมหายใจ สู้กับอียิวเหี้ยสัดนรก ไม่มีคำว่า "พัก" ฆ่ามันจนกว่าจะหมดโลกเท่านั้น อิสราเอล สหรัฐ อังกฤษ NATO มรึงไม่ได้อยู่ในฐานะผู้ต่อรอง มรึงมันแพ้ยับ ไอ้ขี้แพ้ ไอ้กระจอก ไม่มีสิทธิ์ ตั้งธงเปิดโต๊ะเจรจา สงครามจะหยุดหรือไม่ จะหยุดยิงหรือไม่ "อำนาจอยู่ที่ขั้วใหม่หมดทั้งสิ้น" ควายยังโง่ดักดานไม่เลิก! อียิวช็อค! ขั้วใหม่รู้ทัน ดักทางเกลี้ยง กดเหี้ยก่อสงครามเฉพาะจุด คุมพื้นที่ เล่นแค่ระดับภูมิภาค แผนแตกยุโรป แตกตะวันออกลาง กลายเป็นแตกเยรูซาเล็ม แตกยูเครนแทน เหตุเพราะกำลังพลในพื้นที่มีไม่พอ อาวุธไม่ถึง กระแสไม่ได้ โลกเอือมเหี้ยสุดขีด หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อเมริกาต้องขายแผ่นดินชดใช้หนี้ อังกฤษต้องแตก เพราะอีสก็อต กับอีไอร์เหนือ ไม่อยู่แบกหนี้ที่มรึงก่อ ส่วนเยรูซาเล็มกลายเป็นสุสานยิวพันธุ์สัดนรก สงครามนุ๊ก ใช้ไม่ได้จริง ได้แต่ขู่ แต่อีกฝ่ายเค้าล้ำหน้าไปไกลแล้ว ยอมรับสภาพไม่ได้ ก็ยื้อกันไปแบบนี้ เข้าทางตรีนขั้วใหม่ เพราะ "เวลา" คืออาวุธชั้นดีที่จะเปลี่ยนโลก ดูภาพให้ชัด ปูติน สีจิ้นผิง ใช้เวลา ถอดหน้ากาก เผยธาตุแท้เหี้ยจนหมดเปลือก จนโลกเทเหี้ยย้ายขั้วกันหมด ศรีธนญชัย 2024 ก็เช่นกัน สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ มันคือภาพเดียวกับที่โลกประสบอยู่ นี่คือการแก้เกมส์ที่ไม่ต้องเอาชีวิตคนทั้งโลกมาเป็นตัวประกัน ขั้วใหม่รอแค่ให้เหี้ยหมดหนทาง บีบให้ใช้นุ๊กก่อน เพื่อที่จะปิดบัญชียาวไป สงครามเป็นแค่เครื่องมือใช้พิสูจน์ผู้ชนะเท่านั้น แต่ผู้ชนะที่แท้จริงคือโลกตามใครต่างหาก? ดังนั้น โลกการละครที่ดูกันอยู่ อียิวเหี้ยได้ใจ อีส้มเน่า อีแดง เหี้ยได้ควาย มันก็แค่ภาพมายา บทถูกล้างบางมันจะมาเร็วกว่าที่คิด จบพศ.นี้ชัวร์! เพราะเหี้ยมันไม่เหลืออะไรจะสู้ได้อีกแล้ว หมดสภาพของจริง สุดท้าย แตกอเมริกา แตกอังกฤษ แตกเยรูซาเล็ม โลกก็กลับคืนสู่ภาวะปกติทันที แล้วสร้างโลกใหม่ขึ้นมา จับตาดูเครือข่ายโซเชี่ยลโลกที่เหี้ย C ควบคุมให้ดีดี ตอนนี้ แสงทำงานได้ผล สื่อเหี้ยตายราบคาบ โซเชี่ยลที่ปั่นเจอตอกหน้าหงาย เพราะผู้คนเริ่มรู้ทัน ส่วนควายก็ยังเป็นควายเหมือนเดิม เปลี่ยนโลกใหม่ ควายก็ยังไม่ตื่น เพราะมัน BORN TO BE กรรมเก่ามันเยอะ ผีบังตา อาร์คติคเริ่มขยับแล้ว ดูทรง ปูตินต้องการชวนเหี้ยกระจายกำลังไม่สิ้นสุด เมื่อกองกำลังมรึงถูกหั่น ถูกแบ่ง ต้องไปทำหน้าที่หลายพื้นที่ มันยังจะเหลือความแข็งแกร่งต่อมุย? นี่แหละ ที่เค้าเรียกว่า "สอนมวย" สหรัฐ อังกฤษ อิสราเอล ถังแตก หมดสภาพ เพราะดอลล่าร์ไม่ทำงาน เดินเกมส์ฆ่า ก็แพ้ยับ เดินเกมส์มั่ว ก็ถูกตบหน้าหงาย คำถามคือ "จุดจบมันอยู่ตรงไหน?" มันเริ่มไปแล้ว ตั้งแต่ BRICS ก่อตั้งสำเร็จ และโลกเทหมดหน้าตัก BRICS ฆ่าดอลล่าร์ ในขณะที่กองทัพรัสเซีย อิหร่าน จีน และชาติพันธมิตรอาหรับ มุสลิม ฆ่าตัวเหี้ย ตัวเป็นๆ เกลื่อนโลก เงินหมด ก็คือหมาไงจ๊ะ? ฝ่ายการเมืองเลบานอนหลบไป ดอกนี้ เฮซบอเลาะห์เข้าควบคุมประเทศเบ็ดเสร็จ ประกาศสงครามโดยตรงกับอิสราเอล ประกาศภาวะฉุกเฉิน ประกาศพร้อมรบเต็มอัตราศึก โดยมีขั้วใหม่ให้ตราประทับ การันตี ชนะชัวร์! รูปแบบการศึกยุคใหม่ ทำให้เหี้ยไปไม่เป็น ยังชักปินยิงแบบหนังคาวบอยอยู่ ขณะที่ขั้วใหม่เน้นส่งยมฑูตบนฟ้ามาเยี่ยม มรึงจะไปชนะเค้าได้ยังไง? ภาพรวมตอนนี้ กองกำลังนับแสนเข้าทางเลบานอน แล้วออกไปไล่ฆ่าอียิวกับขี้ข้า ยึดพื้นที่ ทะลวงด่านเพื่อเชื่อมต่อกับ 3 ฮอ เชื่อมได้เมื่อไหร่คือ "GAME OVER" อียิวถึงได้สู้ตาย แต่ฝีมือมันห่างชั้นกันมากจนเกินไป อาวุธเทียบไม่ติด กระจอกเกินห้ามใจ ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เห็น โลกเค้าลงแขกมรึงแล้ว จะเหลือเหรอ? ทำไมอีทรัมปป์ ถึงได้กล้าประกาศล้างเผ่าพันธุ์ยิว คำตอบคือ "หากจะขึ้นเป็น KING แล้วยิวยังอยู่ มรึงจะได้แตกแผ่นดินมั้ยล่ะ?" ตอนนี้ ชื่ออียิวเหี้ยไซออนนิสต์ขายดี เป็นเทน้ำ เทท่า แค่เอ่ยชื่อมา "พร้อมตายโหงได้ทุกเมื่อ" มีแต่คนอยากจะลงแขกมันกันทั้งโลก อีทรัมปป์มันหัวไว ถามว่ามันกลับใจเหรอ? นายทุนเหี้ยสามานย์มีเหรอจะกลับใจ? กูจะเป็น KING จบน่ะ? แสงทำงาน จี้ปมในใจให้เหี้ยกำราบเหี้ย คนดีดีไม่ต้องเปลืองแรงขยี้ อเมริกาไม่แตก อีทรัมปป์ก็ตายห่าชัวร์! โดนยัดข้อหาไป 200 กว่าคดี ต่างกรรม ต่างวาระ มรึงคิดว่าหากมันจะขึ้นเป็นผู้นำ สิ่งแรกที่มันต้องจัดการก่อนคืออะไรล่ะ? ดึงอำนาจเข้าหาตัวเอง เปลี่ยนกฎหมาย ใช้กฎกูแทนไงล่ะ? อเมริกาถูกกำหนดให้แตก โดยอีทรัมปป์นี่แหละ สวรรค์เขียนบทมาเช่นนั้น! ภายในอีทรัมปป์จัดการ ภายนอก ขั้วใหม่จัดอยู่ ชดใช้หนี้ ใครจะจ่าย เอาแผ่นดินไปล่ะกัน จบน่ะ? ปล.คุณยายหมุด ออกมาตบไอ้อีตระกละทั้งหลาย หน้าหงาย เงินแผ่นดิน ไม่ใช่เงินมรึง อยากจะแดร๊กกันตัวสั่น 10000 ได้ไป ชีวิตสั้นลงไปอีก 10 ปี ยมบาลจองคิวรอ สะท้อนภาพชัด คนกับควาย หมาหิว กับหมาเฝ้าบ้าน มันคนละสเปซี่จริงหนอ? อเมริกา ยุโรป จะอยู่ต่อยังไง? เมื่อมรึงจำเป็นต้องใช้พลังงาน อาหาร แหล่งแร่ สินค้าอุปโภค บริโภค อะไรที่มรึงผลิตเองไม่ได้ ต้องสั่งนำเข้า แต่เค้าไม่รับดอลล่าร์ ยูโร มรึงต้องจ่ายเป็นหยวน รูเบิล แทน นั่นคือสิ่งที่ทำให้ภาคการเงิน การธนาคาร ตายสนิท เพราะเงินที่พวกมรึงเอามาใช้ล่วงหน้ามันถูกมัดตราสังข์เอาไว้ด้วยหนี้ก้อนมหาศาล ย้อนมาดูคลังไทยกันบ้าง เงินบาทแข็งไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลก มันควรจะแข็งโป๊กมานานแล้ว เพราะความเป็นจริง คลังไทยมีเงินเก็บมหาศาล ทองคำล้นทะลักคลัง แล้วมรึงจะเอาไปเปรียบเทียบกับคลังเน่า ที่ไม่เหลือแม้แต่เศษกรวดเนี่ยน่ะ ใครกำหนดล่ะ 1 USD=35THB กติกาเหี้ยไงล่ะ แค่มรึงตื่น แล้วดูข้อเท็จจริง คลังไทยรวยกว่าคลังอเมริกาเป็น 100 เท่า ความเป็นจริงที่ถูกต้องมันควรจะเป็น 1 THB = 35USD หมายังรู้? แต่นักวิชาเกิน นักเศรษฐกิจเกิน มันแกล้งโง่ไม่รู้ซะงั้น กลัวมันฆ่าเหรอจ๊ะ? ปูติน สีจิ้นผิง ออกตัวอุ้มซะขนาดนี้ มรึงยังต้องกลัวไอ้อีหน้าไหนอีกล่ะ? กองทัพไทยไม่ใช่ขี้ตรีน ธรรมดาซะที่ไหน? หากเอาจริง เหี้ย C ในไทย ตายห่าไปหมดแล้ว แต่เพราะนี่คือ AMAZING THAILAND ศรีธนญชัย 2024 เล่นบทมีแต่ได้ ไม่มีเสียไงล่ะ จะไปงัดกับเหี้ย ต้องดูก่อนว่ามันล้มชัวร์แล้ว มรึงจะได้เห็นยามที่เหี้ยสิ้นเนื้อประดาตัว หมายังไม่แล? ฮาแตก! นี่ไงปชต.ควาย ควายชอบ ฉลองเงิน 10000 เมาปลิ้น ตกคลองเกือบสิ้นชื่อ มรึงเข้าใจยัง? เงิน 10000 อยู่กับคนใช้เป็น จะสร้าง 100000 เงิน 10000 อยู่กับควาย จะเหลือ -10000 สติไม่มี จะเอาปัญญาที่ไหนคิด? กูเห็นเต็ม 2 ตา ในซอยบ้านกูเนี่ย แม่งนั่งทะเลาะกันเองในครอบครัว คนนึงได้ คนนึงไม่ได้ คนนึงได้ก่อน อีกคนได้ทีหลัง ตีกันยับ ด่ากันเละ มรึงคอยดูเหอะ กูพูดไม่มีผิดดอก เมื่อวังวนควาย มันเอาแต่ได้ มันเห็นแก่ตัว ไม่พ้นเรื่องกิเลส ตัณหา ราคะ สนองตัวมัน ได้วันนี้ ก็หมดวันนี้ ไหนล่ะ ต่อยอด กระตุ้นเศรษฐกิจ มรึงรู้ กูก็รู้ ว่าแผนนี้มันชงมาจากเยรูซาเล็ม เป้าหมายเดียวคือ บั่นทองเสถียรภาพแผ่นดินไทย อ้าว..แล้วทหารไม่รู้เหรอ? รู้ยิ่งกว่ารู้ เค้าคำนวณ ควบคุม และมองเกมส์ตลอด กูไบ้ไปแล้วน่ะ คลังไทยมีเงินมหาศาล มากกว่าที่มรึงคิดหลาย 100 เท่า การที่จะทำให้ควายทั้งแผ่นดินตาย และตื่นขึ้นมาได้นั้น มันต้องโดนกับตัวเอง อย่ากังวล เค้ามีตัวเลขรับได้ ทั้งหมดเพื่อแลกกับดอกเดียว "เชือดเหี้ยทั้งแผ่นดิน" ยึดทรัพย์เหี้ยทั้งแผ่นดิน ล้างบางการเมืองเหี้ยทั้งแผ่นดิน เงินแสนล้าน เค้ามีไว้พร้อมแล้ว แต่ใครบอกล่ะว่า จะให้มรึงผลาญง่ายๆ ไม่อยากจะชี้โพรงให้กระรอก เงินที่แจกคือเงินภาษีประชาชน คนเซ็นต์ คนรับผิดชอบ คนอนุมัติ คนเสนอโครงการ โดนหมด ทั้งแพ่ง อาญา มรึงลองนับดูสิ ทั้งพรรคมีกี่ตัว เอามาหาร 2 แสนล้าน ขาดเหลือเท่าไหร่ ตามเก็บกับอีเหลี่ยมเหี้ย ส่วนเงินชดใช้ต้องคืน ดอกนี้ วังจะเข้ามาแบกเอง ประชากรควายมันไม่มีปัญญาเอาเงินมาคืนดอก แค่จะแดร๊กให้รอดไปวันวันยังยาก เรื่องนี้ ทหารเค้าอ่านขาดหมดนานแล้ว ระดับเกจิ กุนซือแผ่นดิน คำว่า "เสียหาย" มันมีหลายระดับ พอรับได้ พอทน ไม่กระทบกระเทือนแผ่นดินระยะยาว คนชนชั้นกลาง ปัญญาชนทั้งหลาย มรึงแบกหนี้แผ่นดินนี้มาช้านานแล้ว เพราะเป็นกลุ่มกำลังสร้างเงินช่วยแผ่นดินจริง มรึงจะได้บุญกุศลคืนแน่ กูการันตี ทำดีย่อมได้ดี ย่อมเหี้ยย่อมต้องได้เหี้ย สัจธรรมตลอดกาล INFINITY+ เชื่อมั่นในหลวงก็พอ ปัญญากูมีเท่านี้ ยังรู้ แล้วเบื้องบนเค้าวางหมากหลายชั้นกว่านั้นเยอะ มรึงคิดว่า "จะเทวดาซะแค่ไหน" ไม่มีดอก เสียเปรียบ แค่ทุกอย่างอยู่ในสายพระเนตรของพ่อท่าน ก็อุ่นใจแล้ว เชื่อกูสิ! กูพูดหลายครั้งแล้วว่า แผ่นดินนี้ คือแผ่นดินทอง มีผู้ดูแล มีคนกำกับ แถมยังมีเทวดา นางฟ้า สิงสถิตอยู่ จะกลัวเหี้ยอะไรอีก? แสงอยู่เต็มพื้นที่ สว่างไสวด้วยพระบารมี! หมี CNN(เกมส์สงคราม อย่าดูปลีกย่อย ให้ดูภาพใหญ่ ภาพหลัก ภาพรวม แล้วจะไม่หลงทาง เหี้ยมันสร้างประเด็นได้ทุกวันอยู่แล้ว งานถนัดมัน สงครามไม่ใช่เรื่องล้อเล่น ขั้วใหม่เค้าพร้อมจริง ถึงกล้าสั่งลุย เพราะประเมินแล้วว่า "ชนะชัวร์ 100%" ระดับปูติน สีจิ้นผิง ใช่เพื่อนเล่นมรึงเหรอ? ไทยและอาเซียน รวมทั้งโลก ก็จะชนะชัวร์เช่นกัน สภาโลกมาแน่ กองทัพโลกโผล่แน่ ไปยิงกันในอวกาศต่อเลย กูชอบ กูจะไปหาเพื่อน E.T นอกโลกซะหน่อย) 27 กย. 67 11.30 น. https://linevoom.line.me/post/1172741109996921670 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาเลเซียเอาบ้าง งดแจกถุงพลาสติก

    ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านเพื่อสุขภาพและความงามในประเทศมาเลเซียกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ จะงดแจกถุงพลาสติดแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use plastic bags) อย่างเป็นทางการ หากลูกค้าไม่ได้นำถุงพลาสติกมาเอง สามารถหาซื้อถุงรีไซเคิลได้ที่ร้านค้า ตามแคมเปญ "Say No to Single-Use Plastics" ของกระทรวงการเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น

    นายหงา กอร์ มิง รมว.การเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า เครือข่ายร้านค้าปลีกชั้นนำบางแห่งได้เริ่มงดแจกถุงพลาสติกแล้ว แต่บัดนี้พวกเขาได้ลงนามความร่วมมือครั้งใหญ่ โดยจะเริ่มในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกได้ปีละ 200 ล้านใบ ลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด และยืดอายุการใช้งานหลุมฝังกลบขยะที่มีอยู่

    ที่ผ่านมารัฐบาลมาเลเซียต้องแบกรับต้นทุนการจัดการขยะมูลฝอยและการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ สูงกว่า 2,000 ล้านริงกิตต่อปี และกำลังดำเนินการเพื่อลดการพึ่งพาหลุมฝังกลบ ซึ่งปัจจุบันประเทศมาเลเซียมีหลุมฝังกลบขยะที่ไม่ถูกสุขอนามัย 114 แห่ง มีเพียง 22 แห่งที่ถูกสุขอนามัย ซึ่งการเปิดหลุมฝังกลบขยะและการปรับปรุงหลุมฝังกลบขยะเดิมต้องใช้ต้นทุนสูงมาก

    นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ กำลังจัดทำร่างกฎหมายจัดการผู้ที่ทิ้งขยะโดยขาดความรับผิดชอบ และจะนำเสนอต่อรัฐสภาในปี 2568 เพื่อแก้ปัญหาขยะล้นเมืองอย่างจริงจัง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ เนื่องจากยุคนี้เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย หากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวที่นี่ แล้วถ่ายคลิปลงติ๊กต็อก ชื่อเสียงของประเทศจะได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมามีการบังคับใช้กฎหมายและประสบความสำเร็จในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่ง การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด

    ร้านค้าปลีกในมาเลเซียที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย 99 Speedmart 2,533 สาขา 7-Eleven 2,400 สาขา KK Mart 808 สาขา Watsons 733 สาขา Guardian 602 สาขา emart24 65 สาขา ส่วนห้างสรรพสินค้า อาทิ กลุ่ม GCH Retail (Giant / Cold Storage / Mercato) 93 สาขา AEON 35 สาขา AEON Big 21 สาขา Mydin 78 สาขา Lotus's 68 สาขา The Store 50 สาขา TF Value Mart 45 สาขา Econsave 33 สาขา NSK Trade City 32 สาขา Lulu 5 สาขา เป็นต้น

    สำหรับประเทศไทย ภาครัฐได้ผลักดันนโยบายงดแจกถุงพลาสติกตามห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นมา แต่ก็เป็นที่วิจารณ์ว่าการจำหน่ายถุงพลาสติกแทนการแจก เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภค

    #Newskit #งดแจกถุงพลาสติก #มาเลเซีย
    มาเลเซียเอาบ้าง งดแจกถุงพลาสติก ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 เป็นต้นไป ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ ร้านขายยา และร้านเพื่อสุขภาพและความงามในประเทศมาเลเซียกว่า 8,000 แห่งทั่วประเทศ จะงดแจกถุงพลาสติดแบบใช้ครั้งเดียว (Single-use plastic bags) อย่างเป็นทางการ หากลูกค้าไม่ได้นำถุงพลาสติกมาเอง สามารถหาซื้อถุงรีไซเคิลได้ที่ร้านค้า ตามแคมเปญ "Say No to Single-Use Plastics" ของกระทรวงการเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น นายหงา กอร์ มิง รมว.การเคหะและการปกครองส่วนท้องถิ่น กล่าวว่า เครือข่ายร้านค้าปลีกชั้นนำบางแห่งได้เริ่มงดแจกถุงพลาสติกแล้ว แต่บัดนี้พวกเขาได้ลงนามความร่วมมือครั้งใหญ่ โดยจะเริ่มในสัปดาห์หน้า คาดว่าจะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกได้ปีละ 200 ล้านใบ ลดปริมาณขยะที่ต้องกำจัด และยืดอายุการใช้งานหลุมฝังกลบขยะที่มีอยู่ ที่ผ่านมารัฐบาลมาเลเซียต้องแบกรับต้นทุนการจัดการขยะมูลฝอยและการทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะ สูงกว่า 2,000 ล้านริงกิตต่อปี และกำลังดำเนินการเพื่อลดการพึ่งพาหลุมฝังกลบ ซึ่งปัจจุบันประเทศมาเลเซียมีหลุมฝังกลบขยะที่ไม่ถูกสุขอนามัย 114 แห่ง มีเพียง 22 แห่งที่ถูกสุขอนามัย ซึ่งการเปิดหลุมฝังกลบขยะและการปรับปรุงหลุมฝังกลบขยะเดิมต้องใช้ต้นทุนสูงมาก นอกจากนี้ ทางกระทรวงฯ กำลังจัดทำร่างกฎหมายจัดการผู้ที่ทิ้งขยะโดยขาดความรับผิดชอบ และจะนำเสนอต่อรัฐสภาในปี 2568 เพื่อแก้ปัญหาขยะล้นเมืองอย่างจริงจัง และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ เนื่องจากยุคนี้เป็นยุคของโซเชียลมีเดีย หากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมาเที่ยวที่นี่ แล้วถ่ายคลิปลงติ๊กต็อก ชื่อเสียงของประเทศจะได้รับผลกระทบ ที่ผ่านมามีการบังคับใช้กฎหมายและประสบความสำเร็จในประเทศที่พัฒนาแล้วหลายแห่ง การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ร้านค้าปลีกในมาเลเซียที่เข้าร่วมโครงการ ประกอบด้วย 99 Speedmart 2,533 สาขา 7-Eleven 2,400 สาขา KK Mart 808 สาขา Watsons 733 สาขา Guardian 602 สาขา emart24 65 สาขา ส่วนห้างสรรพสินค้า อาทิ กลุ่ม GCH Retail (Giant / Cold Storage / Mercato) 93 สาขา AEON 35 สาขา AEON Big 21 สาขา Mydin 78 สาขา Lotus's 68 สาขา The Store 50 สาขา TF Value Mart 45 สาขา Econsave 33 สาขา NSK Trade City 32 สาขา Lulu 5 สาขา เป็นต้น สำหรับประเทศไทย ภาครัฐได้ผลักดันนโยบายงดแจกถุงพลาสติกตามห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีก และร้านสะดวกซื้อ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2563 เป็นต้นมา แต่ก็เป็นที่วิจารณ์ว่าการจำหน่ายถุงพลาสติกแทนการแจก เป็นการผลักภาระให้ผู้บริโภค #Newskit #งดแจกถุงพลาสติก #มาเลเซีย
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 544 มุมมอง 0 รีวิว

  • "จุดหมายแห่งพุทธธรรม: การตื่นสู่ความจริงอันเป็นบรมสุข

    ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและความทุกข์ พระพุทธศาสนาได้ชี้ทางออกที่แท้จริงให้แก่มวลมนุษย์ นั่นคือ การหลุดพ้นจากความทุกข์อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของการปฏิบัติธรรม

    1. ความหลุดพ้นคือแก่นแท้
    พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า แก่นสารของการปฏิบัติธรรมคือการบรรลุถึงความหลุดพ้นทางใจที่ไม่กลับกำเริบอีก นี่คือสภาวะที่เรียกว่า 'นิพพาน'

    2. จิตนิรทุกข์คือหลักชัย
    สภาวะจิตที่ปราศจากความทุกข์โดยสิ้นเชิง ไม่หวนกลับมาเป็นทุกข์อีก คือเป้าหมายสูงสุดที่สามารถพิสูจน์ได้ในชาตินี้ ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า

    3. การแยกจิตออกจากขันธ์
    ผู้บรรลุธรรมสูงสุดจะมีจิตที่ 'พรากจากขันธ์' คือไม่ยึดมั่นถือมั่นในกายและใจว่าเป็นตัวตน ทำให้ไม่หวั่นไหวไปกับความเปลี่ยนแปลงของชีวิต

    4. ความจริงแท้ vs ความเท็จ
    ตามหลักพุทธธรรม สิ่งใดที่เสื่อมสลายได้ ถือเป็นของเท็จ ส่วนสิ่งที่ไม่เสื่อมสลาย คือนิพพาน ถือเป็นความจริงแท้

    5. การปฏิบัติเพื่อตื่นจากความฝัน
    การปฏิบัติธรรมคือการตื่นจากความฝันอันเป็นทุกข์ สู่ความจริงอันเป็นบรมสุข นี่คือเป้าหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติธรรม

    6. ความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน
    ความสุขทางโลกล้วนเป็นของชั่วคราว แต่ความสุขที่เกิดจากการหลุดพ้นเป็นความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน

    7. การเข้าถึงสัจธรรม
    ผู้บรรลุธรรมสูงสุดเท่านั้นที่จะเข้าถึงสัจธรรมอย่างแท้จริง ส่วนคนทั่วไปยังคงวนเวียนอยู่ในวังวนแห่งความเข้าใจผิด

    8. การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน
    แม้เราอาจยังไม่บรรลุถึงความหลุดพ้นขั้นสูงสุด แต่การปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวันก็สามารถนำพาเราเข้าใกล้เป้าหมายนี้ได้ทีละน้อย

    การเข้าใจจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติธรรมจะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจและทิศทางที่ชัดเจนในการดำเนินชีวิต แม้ว่าเป้าหมายสูงสุดอาจดูห่างไกล แต่ทุกย่างก้าวในการปฏิบัติล้วนนำพาเราเข้าใกล้ความจริงและความสุขที่แท้มากขึ้น

    ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจในการปฏิบัติธรรม เพื่อค่อยๆ ปลดเปลื้องความทุกข์และก้าวสู่ความสุขที่แท้จริง อันเป็นจุดหมายสูงสุดของพุทธธรรม"
    "จุดหมายแห่งพุทธธรรม: การตื่นสู่ความจริงอันเป็นบรมสุข ในโลกที่เต็มไปด้วยความวุ่นวายและความทุกข์ พระพุทธศาสนาได้ชี้ทางออกที่แท้จริงให้แก่มวลมนุษย์ นั่นคือ การหลุดพ้นจากความทุกข์อย่างสิ้นเชิง ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของการปฏิบัติธรรม 1. ความหลุดพ้นคือแก่นแท้ พระพุทธเจ้าทรงสอนว่า แก่นสารของการปฏิบัติธรรมคือการบรรลุถึงความหลุดพ้นทางใจที่ไม่กลับกำเริบอีก นี่คือสภาวะที่เรียกว่า 'นิพพาน' 2. จิตนิรทุกข์คือหลักชัย สภาวะจิตที่ปราศจากความทุกข์โดยสิ้นเชิง ไม่หวนกลับมาเป็นทุกข์อีก คือเป้าหมายสูงสุดที่สามารถพิสูจน์ได้ในชาตินี้ ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า 3. การแยกจิตออกจากขันธ์ ผู้บรรลุธรรมสูงสุดจะมีจิตที่ 'พรากจากขันธ์' คือไม่ยึดมั่นถือมั่นในกายและใจว่าเป็นตัวตน ทำให้ไม่หวั่นไหวไปกับความเปลี่ยนแปลงของชีวิต 4. ความจริงแท้ vs ความเท็จ ตามหลักพุทธธรรม สิ่งใดที่เสื่อมสลายได้ ถือเป็นของเท็จ ส่วนสิ่งที่ไม่เสื่อมสลาย คือนิพพาน ถือเป็นความจริงแท้ 5. การปฏิบัติเพื่อตื่นจากความฝัน การปฏิบัติธรรมคือการตื่นจากความฝันอันเป็นทุกข์ สู่ความจริงอันเป็นบรมสุข นี่คือเป้าหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติธรรม 6. ความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน ความสุขทางโลกล้วนเป็นของชั่วคราว แต่ความสุขที่เกิดจากการหลุดพ้นเป็นความสุขที่แท้จริงและยั่งยืน 7. การเข้าถึงสัจธรรม ผู้บรรลุธรรมสูงสุดเท่านั้นที่จะเข้าถึงสัจธรรมอย่างแท้จริง ส่วนคนทั่วไปยังคงวนเวียนอยู่ในวังวนแห่งความเข้าใจผิด 8. การปฏิบัติในชีวิตประจำวัน แม้เราอาจยังไม่บรรลุถึงความหลุดพ้นขั้นสูงสุด แต่การปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวันก็สามารถนำพาเราเข้าใกล้เป้าหมายนี้ได้ทีละน้อย การเข้าใจจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการปฏิบัติธรรมจะช่วยให้เรามีแรงบันดาลใจและทิศทางที่ชัดเจนในการดำเนินชีวิต แม้ว่าเป้าหมายสูงสุดอาจดูห่างไกล แต่ทุกย่างก้าวในการปฏิบัติล้วนนำพาเราเข้าใกล้ความจริงและความสุขที่แท้มากขึ้น ขอให้ทุกท่านมีกำลังใจในการปฏิบัติธรรม เพื่อค่อยๆ ปลดเปลื้องความทุกข์และก้าวสู่ความสุขที่แท้จริง อันเป็นจุดหมายสูงสุดของพุทธธรรม"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขายที่ดินสวยต.ท่าบุญมี​ อ.เกาะจันทร์​ จ.ชลบุรี​ ยกแปลง​ 17ไร่​ 18ล้านบาท​ โซนสีส้มครับ​ ห่างทล.331เพียง1กม.ครับ
    ขายที่ดินสวยต.ท่าบุญมี​ อ.เกาะจันทร์​ จ.ชลบุรี​ ยกแปลง​ 17ไร่​ 18ล้านบาท​ โซนสีส้มครับ​ ห่างทล.331เพียง1กม.ครับ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องนี้มีความเศร้าปนนิดนึงนะ
    หลังจากอิเหวิงกามิจได้กลับมาไลฟ์
    ซึ่งหลายคนก็ไปส่องกัน เหมือนจะได้เยอะนะ
    แต่เอาจริงๆ สามชม.ได้ยอดมาแค่นี้
    มันยังห่างไกลกับกระแสที่สร้างในX อย่างเห็นได้ชัด
    ถ้าตัดหน้าม้า คนกันเอง น่าจะได้ไม่กี่ตังค์
    พี่คิงส์ไปขุดมา ฟังแล้วยิ่งชังอิโจ กับเอเจนซี่
    มีมหาเทพสายเปย์คนหนึ่ง ที่เคยเปย์หนักๆ
    ตอนนี้ ป๋วยเป็นมาเร็ง แต่ก็ไม่วายนะ
    ตัวเองไม่เหลือแล้ว ยังไปเรี่ยรายคนรอบตัว
    เพียงเพื่อเอามาส่งของขวัญให้อิเหวิงกามิจ
    เศร้าหว่ะ ทำไม ไม่เก็บเงินไว้รักษาตัว
    นี่คือสิ่งที่แน๊กเตือนสติแฟนคลับเค้าตลอด
    แต่เอเจนซี่ กามิจ และอิโจ ไม่เคยตระหนักถึง
    ขอฉาปแซ่งให้พวกเมิง ทั้ง ขบก พบแต่ความอิ๊บอ๋าย
    ไอ่และอิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เรื่องนี้มีความเศร้าปนนิดนึงนะ หลังจากอิเหวิงกามิจได้กลับมาไลฟ์ ซึ่งหลายคนก็ไปส่องกัน เหมือนจะได้เยอะนะ แต่เอาจริงๆ สามชม.ได้ยอดมาแค่นี้ มันยังห่างไกลกับกระแสที่สร้างในX อย่างเห็นได้ชัด ถ้าตัดหน้าม้า คนกันเอง น่าจะได้ไม่กี่ตังค์ พี่คิงส์ไปขุดมา ฟังแล้วยิ่งชังอิโจ กับเอเจนซี่ มีมหาเทพสายเปย์คนหนึ่ง ที่เคยเปย์หนักๆ ตอนนี้ ป๋วยเป็นมาเร็ง แต่ก็ไม่วายนะ ตัวเองไม่เหลือแล้ว ยังไปเรี่ยรายคนรอบตัว เพียงเพื่อเอามาส่งของขวัญให้อิเหวิงกามิจ เศร้าหว่ะ ทำไม ไม่เก็บเงินไว้รักษาตัว นี่คือสิ่งที่แน๊กเตือนสติแฟนคลับเค้าตลอด แต่เอเจนซี่ กามิจ และอิโจ ไม่เคยตระหนักถึง ขอฉาปแซ่งให้พวกเมิง ทั้ง ขบก พบแต่ความอิ๊บอ๋าย ไอ่และอิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 963 มุมมอง 0 รีวิว
  • 26-09-67/01 : หมี CNN / "เล่าสู่กันฟัง" EP.9 ตอน "KILL THEM(FCUK JEWS BASTARD) ALL" ล่อกันเมามันส์ เปิดฉากแลกกันแบบลืมหายใจ เสี้ยนอยากตาย จัดให้! เฮซบอเลาะห์ถล่มใส่ฐานบัญชาการ "อีมดสัด" แตกกระจุย กลางกรุงเทลอาวีฟ ช็อคแดร๊ก! สื่อตี 40000 เข้าช่วยเลบานอน ของจริงมาเป็นแสนไอ้สัส มาจากไหนไม่รู้? เลบานอนช่วงโปรไฟไหม้ คึกคักสัด อย่างกะปลากระดี่ได้น้ำ ดาหน้ายกพลเตรียมขึ้นบก เอาส้นตรีนไปขยี้หน้าทหารยิวเหี้ยนอนตายเกลื่อน ตอนเหนือแค่ป่าช้า! หลังจีนประกาศอุ้มเลบานอนเต็มเหนี่ยว ของก็ถึงมือทันที อะไรน่ะเหรอ? "โดรน AI" MADE IN CHINA เยเมนกลัวเหงาจัด ไอ้สัส! ทะเลแดงเงียบกริบ เหี้ยมันหายหัวไปไหนหมดฟ่ะ? ขอร่วมแจมเลบานอน ส่งมือดี เพชรฆาตรัตติกาล เข้าไปช่วยซ้อมเป้า อีเหี้ยมะกันเห็นลวกเพ่ยิวขี้แตก หวังจะเข้าไปช่วย โดนลูกยาวขู่ มรึงเข้าคือตายโหง! ตอนนี้ โลกอาหรับ มุสลิม ลงแขกอียิวแล้ว ปิดช่องทางหลบหนี เปิดให้แลกซึ่งหน้าอย่างเดียว แบบนี้ อียิวก็ตายโหงตายห่าชัวร์ จะเอาเหี้ยอะไรไปสู้ได้ล่ะ? สื่อหลอกควาย ควายก็โง่บัดซบ แค่ใช้สติ ไม่ต้องเสพข่าว ยังรู้ ว่าใครได้เปรียบ เสียเปรียบยังไง? โลกน่ะมรึง! มรึงสู้กับทั้งโลกไหวเหรอ ดีออก? คำว่า "ลงแขก" ไม่ใช่เอาแค่มรึงแพ้ หรือตาย งานนี้ ใบสั่งมุสลิมทั้งโลก "เอาให้สูญพันธุ์ยิว" ยิวเหี้ยไซออนนิสต์ทั้งหลาย เชิญกลับขุมนรกตามพ่อเหี้ยลูซิเฟอร์มรึงไปซ่ะน่ะ! ถล่มฐานลับอีมดสัดได้ มรึงไม่ต้องไปหาข่าวกรองที่ไหนอีกแล้ว แบบว่ารั่วสุดขีด เกลือเป็นหนอนทั้งนั้น! ไม่ทันไร รัสเซียเพิ่งจะออกอาวุธใหม่อีกดอก เหี้ยจะอยู่ต่อไหวเหรอ? แผนปูตินหลายชั้น ก่อนเปิดยูเครน ล่อยูเครนจนคลังอาวุธเก่าสมัยโซเวียตหมดเกลี้ยง ทำให้อี NATO ต้องส่งทหารนาโต้เข้ามาประจำการ เหตุเพราะทหารยูเครน มันใช้อาวุธตะวันตกไม่เป็นน่ะสิ เมื่ออาวุธมาพร้อมกับคนใช้เป็น คำตอบคือ ตายโหงทั้งอาวุธและคนใช้ เมื่อตายไปเยอะ ก็ยิ่งแค้นจัด ส่งเพิ่มเข้ามา ส่งเติมเข้ามา ก็ถูกกับดักที่มารีโอโพสตายห่าในถ้ำใต้ดินเป็นพันตัว ลูกยาวลงหัวทุกวัน ทหารพิการทั้งกองทัพ ทั้งหมดมันคือภาพที่รัสเซียวางไว้ก่อนแล้ว นี่ไง อัจฉริยะตัวจริง! อาร์คติคระอุเดือด รัสเซียขยายฐานพื้นที่ในอาร์คติค ขยันสำรวจอลาสก้าเพิ่ม จนบินรบเหี้ยต้องตามประกบบินสำรวจรัสเซียเช้าเย็น หากวัดกันจริง ระยะห่างระหว่างสหรัฐ และรัสเซียในขั้วโลกเหนือห่างกันแค่ 4 กิโลเมตรเอง ไม่แปลก หากเหี้ยจะแตกแผ่นดิน ไม่ต้องถามว่า อลาสก้าจะยังอยู่มุย? รัสเซียปักป้ายจองคืนไว้นานแล้ว แค่จะจ่าย หรือของฟรี เท่านั้นเอง! ฐานทัพอาร์คติคของรัสเซียขยายใหญ่เพิ่มขึ้นเยอะ ผู้คนเข้าอาร์คติคมากขึ้นจากการขยายฐานนั่นเอง ส่งผลให้ความมั่นคง แข็งแกร่งของรัสเซีย ในอาร์คติคเด่นชัดยิ่งขึ้น ฐานทัพเหี้ย ในนาม NATO ทางขั้วโลกเหนือ ไม่สามารถต่อกรกับรัสเซียได้เลย เพราะแค่เรือตัดน้ำแข็งยังไม่มี ไม่พังก็ซ่อม เพราะไม่ได้ใช้นานแล้ว แต่รัสเซียผลิตเพิ่ม ใช้เยอะ ใช้ทุกวัน ภาพมันฟ้อง "อาร์คติค" เป็นของใครเบ็ดเสร็จ ไม่แปลกที่จีนเข้ามาร่วมด้วย ขอมีเอี่ยว เพราะมันคือแหล่งแก็สธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดใน 3 โลก ดังนั้น ตามรัสเซีย โลกจะไม่มีวันหมดพลังงานใช้เด็ดขาด มีเยอะ มีเกินกว่าที่มรึงจะคาดคิด สั้นๆ "กว้างใหญ่ไพศาลมโหฬารบานตะบือ" ข้ามวิกแป๊บ : ไอ้สัส! ดีใจแค่วันเดียว 25 กำลังจะไล่แจก ชาวบ้านอดอยากปากแห้ง เอาหมด ฝ่ายกฎหมายยิ้มแก้มปริ มรึงหาเรื่องไร้แผ่นดินอยู่ ไม่ทันไร ข้อกฎหมายออกมาจ่อหัวเพี๊ยบ เหี้ยมันรู้ อีนายกปลอมก็รู้ ไม่ทำแบบนี้ แล้วจะทำลายแผ่นดินไทยได้อย่างไร? กูบอกแล้วชิมิ? นโยบายไม่มีดอก รับงานอีเยรูซาเล็มมาเพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานบ้านพ่อกู ดอก 10000 คุกยังไม่พอ ยังซ้ำดาบสองด้วยขึ้นค่าแรง 400 คนไทยไม่ได้ พม่า ลาว ขะแมร์เอาไปแดร๊กหมด นี่ไง ปชต.โคตรพ่องที่พวกมรึงใฝ่ฝัน เมื่อมรึงไม่แคร์ชาติและแผ่นดิน กูก็ไม่ต้องไว้หน้าไอ้พวกเสนียดเกาะกินแผ่นดินเช่นกัน ทำไปเหอะ ทุกอย่าง เอาอีก เอาให้เหี้ยกว่านี้ เอาให้สุดโต่ง ขายชาติ แบ่งขายกันไปเลย แล้วมรึงรอดูวันที่ศาลไคฟงลงดาบน่ะมรึง หายหมดเกลี้ยง ใครจะโง่อยู่รอโดนเชือดกันล่ะ นี่คือเกมส์ "เค้าเล่นกันไว้แบบนี้" ปล่อยทหารเค้าเดินหมากของเค้าไป มรึงอย่าอิน อย่าเครียดกันมาก ไม่มีดอกน่ะ ทำเหี้ยได้ดี ทำชั่วได้ดี มันมีแต่ในการ์ตูนหลอกควายเท่านั้น โลกความจริง ทุกอย่างย่อมต้องชดใช้! ตอนนี้ มรึงควรจะเชียร์ แจกให้ครบ จบทุกขบวนความ ใครรับ ก็เตรียมถูกฟ้องเรียกเงินคืน ไม่มีจ่าย ก็ต้องชดใช้คืน ไม่ว่าทางใดก็ทางนึง เงินแจกฟรี มันมีแต่เฉพาะชาติที่เป็นง่อยเท่านั้น ไม่ทำมาหาแดร๊ก แบมือขอท่าเดียว! มรึงดูอีเมสซี่แลนด์ก็พอ ป่านนี้ ยังเป็นหนี้หัวบานกับ IMF ต้องทะยอยขายทรัพย์สินแผ่นดินเรื่อยไป งานนี้ พูดจริง คุกจริง ตายจริง เผ่นจริง ราบคาบ เบ็ดเสร็จ สงครามเค้าไม่ได้ดูกันที่วันแรก เค้าดูกันตอนจบ ถึงค่อยนับศพทหาร? ไม่ว่ามรึงจะเล่นแร่แปรวิญญาน ตอแหล แถไปเรื่อยยังไง สุดท้าย จบที่คุกเท่านั้น ปัญหาจะตามมาทันที ใครไม่ได้เงิน ใครได้ไม่ครบ ใครยังไม่ได้รับสิทธิ์ งานนี้ โดมิโน่ แอฟเฟคมาเต็ม ไม่อยากจะเดาว่าเละเทะแค่ไหน? ไปหมดเกลี้ยงทั้งอีแดง อีส้มเน่า แล้วยังจะเหลือใครอีกล่ะ? ก็เปลี่ยนรัฐธรรมนูญใหม่ พลิกฟ้าพลิกแผ่นดินกันใหม่ไงล่ะ ทุกอย่างมันเดินมาทรงนี้หมดแล้ว! รอดูดาบอาจารย์ฮันโซ ที่เสธ.แดงถือเอาไว้ให้ดีดี จะบั่นหัวไอ้เนรคุณขายชาติได้กี่ตัว? งานนี้ อาจไม่จบที่ศาล แต่ไปสุสานแทนซะก่อน?

    ปล.ดูภาพใหญ่เข้าไว้ โลกอาหรับ มุสลิม ลงแขกอียิวแล้ว รัสเซียลงแขกอี NATO แล้ว เหลือจีน โสมแดง กำลังจะลงแขกใครเอ่ย? เดาดูจิ? ด้านจีนคือทำลายรากฐานความมั่นคงด้านการเงินยิวเหี้ย จัดการกระทืบดอลล่าร์ตายคาตรีน จนเงินหยวนขึ้นมาแซงเป็นอันดับ 1 ตอนนี้ นั่นไม่ใช่เป้าหมายหลัก เพราะต้องทำให้มันกลายเป็น 0 จนโลกลืมไปว่า อดีตเคยมีดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลักของโลก ที่มาว่าทำไม จีนรุกหนักอุตสาหกรรมหนัก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ EV แหล่งแร่ พลังงาน ตลาดย่อยออนไลน์ โลจิสติค อาหาร ตลาดหุ้น ด้านการเงิน การธนาคาร แหล่งเงินทุน จีนไล่ทุบเส้นเลือดเหี้ยรายวัน นั่นคือแผนที่ขั้วใหม่เค้าวางเอาไว้ จีนเล่นบทบุ๋น รัสเซียเล่นบทบู๊ อิหร่านแฮปปี้ ได้ขย่มอียิวสัดนรกตายคาตรีนอย่างเอร็ดอร่อย โสมแดงรอเล่นบท "พระเอก" ปักธงโสมแดงบนยอดทำเนียบขาว ขยี้ปชต.หลอกแดร๊กโลกให้สิ้นซาก ช่วงนี้ จะเป็นช่วงเวลาโชว์ของหนัก อาวุธลับกันแล้ว สิ่งที่เหี้ยหนักใจที่สุดกำลังจะมา ไอ้ที่มรึงโดนมาตลอด 2 ปีกว่าเนี่ย นั่นแค่ออเดิร์ฟ ไอ้สัส! จีนยิงโชว์แล้ว ขีปนาวุธข้ามทวีป ส่งสัญญานตรงถึงวอชิงตัน อย่าห้าวเป้ง! กระจอกก็หลบไป ไอ้น้อง! อยู่ดีดี เรือเติมน้ำมันพัง เรือบรรทุกเครื่องบินจอดสนิท ถามจริงเหอะ! พิการซะขนาดนี้ ยังจะเสี้ยนตายโหงต่ออีกมุย? จะทำให้เหนื่อยไปทำไม? ไอ้อีอเมริกันควายในแผ่นดิน มันมีปัญญาจะทำอะไรมรึงได้ สร้างสตอรี่มาซะขนาดนี้ ประกาศไปเลย อเมริกาจะยกแผ่นดินให้อิสราเอลมาอยู่แทน ปรับชาวอเมริกันเป็นประชาชนชั้น 2 คือจบทันที ยิวได้แผ่นดินใหม่ มรึงไม่ต้องตายห่าสูญพันธุ์ โลกไม่ต้องการมรึง ต่างคนต่างอยู่ ที่ทำไปทั้งหมด ก็ไม่ใช่เพื่ออียิวตอแหลสลัดหมาเหรอ? ยิ่งนานวัน มรึงยิ่งจะเสียหมามากขึ้นเรื่อยๆ หมดสภาพ สุดท้ายถูกหั่น แตกยับ ตอนโซเวียตแตก ทุกอย่างยังอยู่ครบ แค่ใช้ชื่อใหม่ และปูตินตามมาเก็บกลับคืนแผ่นดินแม่ได้หมด ต่างจากอเมริกา ที่จะสูญพันธุ์ไปตลอดกาล ไม่เหลือเรื่องราวให้เล่าขานอีกต่อไป นอกจากเรื่องเหยียบดวงจันทร์ตอแหลนั่นแหละ โลกจะล้อมรึงไปอีก 1000 ปี เกมส์เพิ่งจะเริ่ม จับตาดูโลกให้ดีดี อะไรมันมักจะไปไวมาไวเสมอ ยามสิ้นกลียุค ถูกปูพรมหายเรียบวุธ! กระแสโลกมันเดินมาทางเดียวหมดแล้ว ใครดี ใครเหี้ย รู้แจ้งจางปางหมดเกลี้ยง?

    หมี CNN(ยุคคาวบอยกำลังจะสิ้นสุด เข้าสู่ยุคปัญญา ไม่ต้องฆ่า ไม่ต้องขู่ บีบปากท้องก็ตายห่าแล้ว นุ๊กไร้น้ำยา ขู่หมายังไม่ได้ จะเปิดเกมส์ใหญ่ แต่ปัญญาไม่มี ถังแตก หมดตูด จะเอาเหี้ยอะไรแดร๊ก อย่าว่าจะเปิดศึกเลย อเมริกาคือหมา(รับใช้) อังกฤษคือหมา(รับใช้) ส่วนอิสราเอลคือเหี้ย(ตัวบงการใหญ่) ส่วนอีเรปทีเรี่ยนคือเหี้ยกว่า(ตัวสั่งตัวบงการอีกที) สุดท้ายแสงพาลงทัวร์ขุมนรกกันหมด มาทางไหน ก็เชิญกลับไปทางนั้น ไฟนรกเหมาะกับมรึง วันพิพากษาใกล้เข้ามาแล้ว WWIII แค่ชื่อเรียก นรกบนดินผุดขึ้นมา
    26 กย. 67
    12.35 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172732901793834377
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    26-09-67/01 : หมี CNN / "เล่าสู่กันฟัง" EP.9 ตอน "KILL THEM(FCUK JEWS BASTARD) ALL" ล่อกันเมามันส์ เปิดฉากแลกกันแบบลืมหายใจ เสี้ยนอยากตาย จัดให้! เฮซบอเลาะห์ถล่มใส่ฐานบัญชาการ "อีมดสัด" แตกกระจุย กลางกรุงเทลอาวีฟ ช็อคแดร๊ก! สื่อตี 40000 เข้าช่วยเลบานอน ของจริงมาเป็นแสนไอ้สัส มาจากไหนไม่รู้? เลบานอนช่วงโปรไฟไหม้ คึกคักสัด อย่างกะปลากระดี่ได้น้ำ ดาหน้ายกพลเตรียมขึ้นบก เอาส้นตรีนไปขยี้หน้าทหารยิวเหี้ยนอนตายเกลื่อน ตอนเหนือแค่ป่าช้า! หลังจีนประกาศอุ้มเลบานอนเต็มเหนี่ยว ของก็ถึงมือทันที อะไรน่ะเหรอ? "โดรน AI" MADE IN CHINA เยเมนกลัวเหงาจัด ไอ้สัส! ทะเลแดงเงียบกริบ เหี้ยมันหายหัวไปไหนหมดฟ่ะ? ขอร่วมแจมเลบานอน ส่งมือดี เพชรฆาตรัตติกาล เข้าไปช่วยซ้อมเป้า อีเหี้ยมะกันเห็นลวกเพ่ยิวขี้แตก หวังจะเข้าไปช่วย โดนลูกยาวขู่ มรึงเข้าคือตายโหง! ตอนนี้ โลกอาหรับ มุสลิม ลงแขกอียิวแล้ว ปิดช่องทางหลบหนี เปิดให้แลกซึ่งหน้าอย่างเดียว แบบนี้ อียิวก็ตายโหงตายห่าชัวร์ จะเอาเหี้ยอะไรไปสู้ได้ล่ะ? สื่อหลอกควาย ควายก็โง่บัดซบ แค่ใช้สติ ไม่ต้องเสพข่าว ยังรู้ ว่าใครได้เปรียบ เสียเปรียบยังไง? โลกน่ะมรึง! มรึงสู้กับทั้งโลกไหวเหรอ ดีออก? คำว่า "ลงแขก" ไม่ใช่เอาแค่มรึงแพ้ หรือตาย งานนี้ ใบสั่งมุสลิมทั้งโลก "เอาให้สูญพันธุ์ยิว" ยิวเหี้ยไซออนนิสต์ทั้งหลาย เชิญกลับขุมนรกตามพ่อเหี้ยลูซิเฟอร์มรึงไปซ่ะน่ะ! ถล่มฐานลับอีมดสัดได้ มรึงไม่ต้องไปหาข่าวกรองที่ไหนอีกแล้ว แบบว่ารั่วสุดขีด เกลือเป็นหนอนทั้งนั้น! ไม่ทันไร รัสเซียเพิ่งจะออกอาวุธใหม่อีกดอก เหี้ยจะอยู่ต่อไหวเหรอ? แผนปูตินหลายชั้น ก่อนเปิดยูเครน ล่อยูเครนจนคลังอาวุธเก่าสมัยโซเวียตหมดเกลี้ยง ทำให้อี NATO ต้องส่งทหารนาโต้เข้ามาประจำการ เหตุเพราะทหารยูเครน มันใช้อาวุธตะวันตกไม่เป็นน่ะสิ เมื่ออาวุธมาพร้อมกับคนใช้เป็น คำตอบคือ ตายโหงทั้งอาวุธและคนใช้ เมื่อตายไปเยอะ ก็ยิ่งแค้นจัด ส่งเพิ่มเข้ามา ส่งเติมเข้ามา ก็ถูกกับดักที่มารีโอโพสตายห่าในถ้ำใต้ดินเป็นพันตัว ลูกยาวลงหัวทุกวัน ทหารพิการทั้งกองทัพ ทั้งหมดมันคือภาพที่รัสเซียวางไว้ก่อนแล้ว นี่ไง อัจฉริยะตัวจริง! อาร์คติคระอุเดือด รัสเซียขยายฐานพื้นที่ในอาร์คติค ขยันสำรวจอลาสก้าเพิ่ม จนบินรบเหี้ยต้องตามประกบบินสำรวจรัสเซียเช้าเย็น หากวัดกันจริง ระยะห่างระหว่างสหรัฐ และรัสเซียในขั้วโลกเหนือห่างกันแค่ 4 กิโลเมตรเอง ไม่แปลก หากเหี้ยจะแตกแผ่นดิน ไม่ต้องถามว่า อลาสก้าจะยังอยู่มุย? รัสเซียปักป้ายจองคืนไว้นานแล้ว แค่จะจ่าย หรือของฟรี เท่านั้นเอง! ฐานทัพอาร์คติคของรัสเซียขยายใหญ่เพิ่มขึ้นเยอะ ผู้คนเข้าอาร์คติคมากขึ้นจากการขยายฐานนั่นเอง ส่งผลให้ความมั่นคง แข็งแกร่งของรัสเซีย ในอาร์คติคเด่นชัดยิ่งขึ้น ฐานทัพเหี้ย ในนาม NATO ทางขั้วโลกเหนือ ไม่สามารถต่อกรกับรัสเซียได้เลย เพราะแค่เรือตัดน้ำแข็งยังไม่มี ไม่พังก็ซ่อม เพราะไม่ได้ใช้นานแล้ว แต่รัสเซียผลิตเพิ่ม ใช้เยอะ ใช้ทุกวัน ภาพมันฟ้อง "อาร์คติค" เป็นของใครเบ็ดเสร็จ ไม่แปลกที่จีนเข้ามาร่วมด้วย ขอมีเอี่ยว เพราะมันคือแหล่งแก็สธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดใน 3 โลก ดังนั้น ตามรัสเซีย โลกจะไม่มีวันหมดพลังงานใช้เด็ดขาด มีเยอะ มีเกินกว่าที่มรึงจะคาดคิด สั้นๆ "กว้างใหญ่ไพศาลมโหฬารบานตะบือ" ข้ามวิกแป๊บ : ไอ้สัส! ดีใจแค่วันเดียว 25 กำลังจะไล่แจก ชาวบ้านอดอยากปากแห้ง เอาหมด ฝ่ายกฎหมายยิ้มแก้มปริ มรึงหาเรื่องไร้แผ่นดินอยู่ ไม่ทันไร ข้อกฎหมายออกมาจ่อหัวเพี๊ยบ เหี้ยมันรู้ อีนายกปลอมก็รู้ ไม่ทำแบบนี้ แล้วจะทำลายแผ่นดินไทยได้อย่างไร? กูบอกแล้วชิมิ? นโยบายไม่มีดอก รับงานอีเยรูซาเล็มมาเพื่อทำลายโครงสร้างพื้นฐานบ้านพ่อกู ดอก 10000 คุกยังไม่พอ ยังซ้ำดาบสองด้วยขึ้นค่าแรง 400 คนไทยไม่ได้ พม่า ลาว ขะแมร์เอาไปแดร๊กหมด นี่ไง ปชต.โคตรพ่องที่พวกมรึงใฝ่ฝัน เมื่อมรึงไม่แคร์ชาติและแผ่นดิน กูก็ไม่ต้องไว้หน้าไอ้พวกเสนียดเกาะกินแผ่นดินเช่นกัน ทำไปเหอะ ทุกอย่าง เอาอีก เอาให้เหี้ยกว่านี้ เอาให้สุดโต่ง ขายชาติ แบ่งขายกันไปเลย แล้วมรึงรอดูวันที่ศาลไคฟงลงดาบน่ะมรึง หายหมดเกลี้ยง ใครจะโง่อยู่รอโดนเชือดกันล่ะ นี่คือเกมส์ "เค้าเล่นกันไว้แบบนี้" ปล่อยทหารเค้าเดินหมากของเค้าไป มรึงอย่าอิน อย่าเครียดกันมาก ไม่มีดอกน่ะ ทำเหี้ยได้ดี ทำชั่วได้ดี มันมีแต่ในการ์ตูนหลอกควายเท่านั้น โลกความจริง ทุกอย่างย่อมต้องชดใช้! ตอนนี้ มรึงควรจะเชียร์ แจกให้ครบ จบทุกขบวนความ ใครรับ ก็เตรียมถูกฟ้องเรียกเงินคืน ไม่มีจ่าย ก็ต้องชดใช้คืน ไม่ว่าทางใดก็ทางนึง เงินแจกฟรี มันมีแต่เฉพาะชาติที่เป็นง่อยเท่านั้น ไม่ทำมาหาแดร๊ก แบมือขอท่าเดียว! มรึงดูอีเมสซี่แลนด์ก็พอ ป่านนี้ ยังเป็นหนี้หัวบานกับ IMF ต้องทะยอยขายทรัพย์สินแผ่นดินเรื่อยไป งานนี้ พูดจริง คุกจริง ตายจริง เผ่นจริง ราบคาบ เบ็ดเสร็จ สงครามเค้าไม่ได้ดูกันที่วันแรก เค้าดูกันตอนจบ ถึงค่อยนับศพทหาร? ไม่ว่ามรึงจะเล่นแร่แปรวิญญาน ตอแหล แถไปเรื่อยยังไง สุดท้าย จบที่คุกเท่านั้น ปัญหาจะตามมาทันที ใครไม่ได้เงิน ใครได้ไม่ครบ ใครยังไม่ได้รับสิทธิ์ งานนี้ โดมิโน่ แอฟเฟคมาเต็ม ไม่อยากจะเดาว่าเละเทะแค่ไหน? ไปหมดเกลี้ยงทั้งอีแดง อีส้มเน่า แล้วยังจะเหลือใครอีกล่ะ? ก็เปลี่ยนรัฐธรรมนูญใหม่ พลิกฟ้าพลิกแผ่นดินกันใหม่ไงล่ะ ทุกอย่างมันเดินมาทรงนี้หมดแล้ว! รอดูดาบอาจารย์ฮันโซ ที่เสธ.แดงถือเอาไว้ให้ดีดี จะบั่นหัวไอ้เนรคุณขายชาติได้กี่ตัว? งานนี้ อาจไม่จบที่ศาล แต่ไปสุสานแทนซะก่อน? ปล.ดูภาพใหญ่เข้าไว้ โลกอาหรับ มุสลิม ลงแขกอียิวแล้ว รัสเซียลงแขกอี NATO แล้ว เหลือจีน โสมแดง กำลังจะลงแขกใครเอ่ย? เดาดูจิ? ด้านจีนคือทำลายรากฐานความมั่นคงด้านการเงินยิวเหี้ย จัดการกระทืบดอลล่าร์ตายคาตรีน จนเงินหยวนขึ้นมาแซงเป็นอันดับ 1 ตอนนี้ นั่นไม่ใช่เป้าหมายหลัก เพราะต้องทำให้มันกลายเป็น 0 จนโลกลืมไปว่า อดีตเคยมีดอลลาร์เป็นสกุลเงินหลักของโลก ที่มาว่าทำไม จีนรุกหนักอุตสาหกรรมหนัก ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ EV แหล่งแร่ พลังงาน ตลาดย่อยออนไลน์ โลจิสติค อาหาร ตลาดหุ้น ด้านการเงิน การธนาคาร แหล่งเงินทุน จีนไล่ทุบเส้นเลือดเหี้ยรายวัน นั่นคือแผนที่ขั้วใหม่เค้าวางเอาไว้ จีนเล่นบทบุ๋น รัสเซียเล่นบทบู๊ อิหร่านแฮปปี้ ได้ขย่มอียิวสัดนรกตายคาตรีนอย่างเอร็ดอร่อย โสมแดงรอเล่นบท "พระเอก" ปักธงโสมแดงบนยอดทำเนียบขาว ขยี้ปชต.หลอกแดร๊กโลกให้สิ้นซาก ช่วงนี้ จะเป็นช่วงเวลาโชว์ของหนัก อาวุธลับกันแล้ว สิ่งที่เหี้ยหนักใจที่สุดกำลังจะมา ไอ้ที่มรึงโดนมาตลอด 2 ปีกว่าเนี่ย นั่นแค่ออเดิร์ฟ ไอ้สัส! จีนยิงโชว์แล้ว ขีปนาวุธข้ามทวีป ส่งสัญญานตรงถึงวอชิงตัน อย่าห้าวเป้ง! กระจอกก็หลบไป ไอ้น้อง! อยู่ดีดี เรือเติมน้ำมันพัง เรือบรรทุกเครื่องบินจอดสนิท ถามจริงเหอะ! พิการซะขนาดนี้ ยังจะเสี้ยนตายโหงต่ออีกมุย? จะทำให้เหนื่อยไปทำไม? ไอ้อีอเมริกันควายในแผ่นดิน มันมีปัญญาจะทำอะไรมรึงได้ สร้างสตอรี่มาซะขนาดนี้ ประกาศไปเลย อเมริกาจะยกแผ่นดินให้อิสราเอลมาอยู่แทน ปรับชาวอเมริกันเป็นประชาชนชั้น 2 คือจบทันที ยิวได้แผ่นดินใหม่ มรึงไม่ต้องตายห่าสูญพันธุ์ โลกไม่ต้องการมรึง ต่างคนต่างอยู่ ที่ทำไปทั้งหมด ก็ไม่ใช่เพื่ออียิวตอแหลสลัดหมาเหรอ? ยิ่งนานวัน มรึงยิ่งจะเสียหมามากขึ้นเรื่อยๆ หมดสภาพ สุดท้ายถูกหั่น แตกยับ ตอนโซเวียตแตก ทุกอย่างยังอยู่ครบ แค่ใช้ชื่อใหม่ และปูตินตามมาเก็บกลับคืนแผ่นดินแม่ได้หมด ต่างจากอเมริกา ที่จะสูญพันธุ์ไปตลอดกาล ไม่เหลือเรื่องราวให้เล่าขานอีกต่อไป นอกจากเรื่องเหยียบดวงจันทร์ตอแหลนั่นแหละ โลกจะล้อมรึงไปอีก 1000 ปี เกมส์เพิ่งจะเริ่ม จับตาดูโลกให้ดีดี อะไรมันมักจะไปไวมาไวเสมอ ยามสิ้นกลียุค ถูกปูพรมหายเรียบวุธ! กระแสโลกมันเดินมาทางเดียวหมดแล้ว ใครดี ใครเหี้ย รู้แจ้งจางปางหมดเกลี้ยง? หมี CNN(ยุคคาวบอยกำลังจะสิ้นสุด เข้าสู่ยุคปัญญา ไม่ต้องฆ่า ไม่ต้องขู่ บีบปากท้องก็ตายห่าแล้ว นุ๊กไร้น้ำยา ขู่หมายังไม่ได้ จะเปิดเกมส์ใหญ่ แต่ปัญญาไม่มี ถังแตก หมดตูด จะเอาเหี้ยอะไรแดร๊ก อย่าว่าจะเปิดศึกเลย อเมริกาคือหมา(รับใช้) อังกฤษคือหมา(รับใช้) ส่วนอิสราเอลคือเหี้ย(ตัวบงการใหญ่) ส่วนอีเรปทีเรี่ยนคือเหี้ยกว่า(ตัวสั่งตัวบงการอีกที) สุดท้ายแสงพาลงทัวร์ขุมนรกกันหมด มาทางไหน ก็เชิญกลับไปทางนั้น ไฟนรกเหมาะกับมรึง วันพิพากษาใกล้เข้ามาแล้ว WWIII แค่ชื่อเรียก นรกบนดินผุดขึ้นมา 26 กย. 67 12.35 น. https://linevoom.line.me/post/1172732901793834377 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔹️แพ็กคู่ซีรีส์ชุด พิกัดต่อไปใครเป็นศพ❗

    คำเตือน เนื้อหายาวมากถึงมากที่สุด

    1 #พิกัดต่อไปใครเป็นศพ #masqueradehotel

    อ่านจนจบในวันเดียว หนาถึง 547 หน้า ดีที่ขนาดไม่เทอะทะแม้หนาแต่ไม่หนัก ตอนตัดสินใจเลือกยืมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยชมที่สร้างเป็นหนังมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน พออ่านไปได้ไม่กี่หน้าเริ่มรู้สึกฉากช่างคุ้นเคย เนื้อเรื่องเหมือนเคยรู้มาก่อน ทบทวนความทรงจำตนเองจึงค่อยจำได้ว่าคือเรื่องเดียวกับหนังที่ดูจบแล้วชอบมากนั่นเอง แต่ห้วงเวลาที่ชมนั้นไม่เคยทราบว่าสร้างจากนิยายเล่มนี้ ดูเพราะชอบนักแสดงหลักทั้งสองคนเลยคือ ทาคูยะ และมาซามิ และก็ไม่ผิดหวังทั้งคู่แสดงในบทบาทที่ได้รับได้ดีมาก พระนางมีการขัดแย้งในความเห็นอย่างที่เรียกว่าคู่กัด แต่ก็ห่วงใยช่วยเหลือกันมีความน่ารักปนน่าหมั่นไส้ โรงแรมที่ใช้เป็นฉากก็หรูหราโอ่โถงงดงามน่าใช้บริการอย่างมากครับ

    📚วกกลับมาเข้าเรื่องในหนังสือ

    สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 425 บาท
    ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน
    อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล

    เนื้อหาในเล่มกล่าวถึงชีวิตของพนักงานโรงแรมคอร์เทเชียโตเกียวสุดหรูที่มีนามว่า ยามางิชิ นาโอมิ ซึ่งเป็นตัวเอกที่ดำเนินเรื่องหลักของนิยายเล่มนี้ ที่ฉากแรกปรากฏก็เปิดตัวอย่างสง่างามสมกับความเป็นพนักงานต้อนรับมืออาชีพยิ่ง เพราะมีลูกค้าชายประเภทที่จงใจก่อปัญหาเพื่อหวังจะได้เข้าพักในห้องราคาสูงกว่าที่ตนได้เลือกจองไว้ จนพนักงานยกกระเป๋าที่เข็นของไปให้ ต้องโทร.ลงมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งเธอสามารถบริหารจัดการให้ผ่านพ้นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าลงได้อย่างสวยงาม

    จากนั้นเรื่องจึงนำพาผู้อ่านเข้าสู่ประเด็นของที่มาอันกลายเป็นชื่อเรื่องคือ ทางผู้จัดการใหญ่ที่รับผิดชอบดูแลพนักงานในโรงแรมทั้งหมด ได้รับการติดต่อขอความร่วมมือจากกรมตำรวจนครบาลโตเกียว ในการสืบสวนคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ ที่มีแนวโน้มเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโดยคนร้ายรายเดียวกัน

    🏨

    รายละเอียดของคดีคือ มีการพบศพผู้ตาย 3 ราย ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 6-7 วันนับจากศพแรก ทราบชื่อผู้ตายทั้งสาม เป็นชาย2หญิง1 สาเหตุเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยการตีจากด้านหลังบ้าง รัดคอบ้าง ทุกรายพบตัวเลขปริศนา2ชุดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อหรือไม่อย่างไร แต่ตำรวจมั่นใจว่าคนร้ายหมายตาที่จะก่อเหตุในครั้งต่อไป โดยเล็งเป้าหมายคือโรงแรมที่นาโอมิทำงานอยู่ ปัญหาใหญ่คือไม่ทราบว่าใครที่คนร้ายหมายจะฆ่า ทำไมถึงเลือกที่นี่ และคนร้ายคือใคร ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้ ฝ่ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้คุยตกลงกันกับผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมแล้ว ดังนั้นจึงเรียกตัว หัวหน้าจากหลายฝ่ายให้มาร่วมประชุม ไม่ว่าฝ่ายห้องพัก ฝ่ายเข็นสัมภาระลูกค้าไปส่งห้อง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และในการนี้นาโอมิยังถูกระบุให้เข้าร่วมประชุมแม้จะเป็นแค่เพียง พนักงานระดับปฏิบัติการณ์ฝ่ายต้อนรับเท่านั้น

    🏨

    เหตุผลเพราะหัวหน้างานไว้วางใจ เชื่อมั่นในคุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอจะสามารถเป็นพี่เลี้ยงให้กับตำรวจ ที่จะปลอมเข้ามาเป็นพนักงานเพื่อเฝ้าสังเกตบุคคลที่มาใช้บริการโรงแรม ซึ่งแผนกต้อนรับเองนาโอมิถูกเลือกให้จับคู่กับรองสารวัตรนิตตะ ส่วนแผนกอื่นก็มีตำรวจปลอมตัวเข้าไปด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็มีตำรวจส่วนหนึ่งที่ถูกสั่งการให้ปะปนเข้ามาเป็นคนใช้บริการหรือจับตาความเคลื่อนไหวบริเวณโถงรับแขก ห้องอาหาร และอื่นๆ

    🏨

    นั่นคือจุดเริ่มแห่งความหรรษา เพราะนิตตะไม่ชอบอะไรที่เป็นพิธีการ แต่จำใจต้องเชื่อฟังนาโอมิที่อายุน้อยกว่า ตั้งแต่เรื่องชุดพนักงาน ท่าทีการพูดจา บุคลิกภายนอกที่ต้องถูกปรับให้กลายจากความเป็นตำรวจมาเป็นพนักงานต้อนรับให้สมจริงมากที่สุด ทั้งคู่จึงมีการกระทบกระทั่งทางความคิดที่ไม่ตรงกัน จนมีการโต้เถียงบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความบันเทิงประการหนึ่ง ด้วยคู่นี้มีความน่ารัก น่าลุ้น ที่จะกลายมาเป็นคู่ใจในอนาคตได้

    🏨

    ระหว่างนั้น นาโอมิมีข้อสงสัยมากมายหลายประการ เธอมักถามนิตตะที่ทราบรายละเอียดของคดีมากกว่าที่พนักงานโรงแรมทราบ แต่นิตตะไม่บอกเล่าโดยให้เหตุผลว่าเป็นความลับของทางราชการไม่อาจให้คนนอกทราบได้

    งานบริการของนาโอมิยังคงต้องดำเนินต่อไป เกิดปัญหาจากความต้องการของลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาพักเป็นระยะ ซึ่งเธอและนิตตะต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านพ้น ทำให้ทั้งสองเริ่มมีความเข้าใจและยอมรับในตัวตนและงานของอีกฝ่ายได้ดีขึ้นกว่าเมื่อแรกพบหน้า ลูกค้าบางคนดูไม่น่าไว้ใจและมีท่าทางแปลกจนนิตตะจับตามองเป็นพิเศษ ด้วยสัญชาตญาณของนักสืบ

    🏨

    ขณะที่มีตำรวจวัยเลยกลางคนไปแล้ว ซึ่งเป็นตำรวจในท้องที่เกิดเหตุคนหนึ่งที่รู้จักกับนิตตะ และได้รับการมอบหมายให้เป็นคู่หูสืบคดีก่อนที่นิตตะจะต้องปลอมตัวมาเป็นพนักงานต้อนรับนั้น มีน้ำใจที่อยากจะช่วยเหลือ จึงมักอาสาช่วยสืบเรื่องราวต่าง ๆ จากด้านนอก ตามที่นิตตะมีความสงสัยด้วยอีกทางหนึ่ง

    ในที่สุดนิตตะก็ทนรบเร้าจากนาโอมิไม่ไหว อีกทั้งเริ่มมีความไว้ใจเธอมากขึ้น จนยอมเล่าให้ทราบถึงปริศนาของชุดตัวเลขที่ปรากฏทุกครั้งในสถานที่พบศพอันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตำรวจตัดสินใจปะปนเข้ามาในโรงแรม ทำให้เธอเริ่มเกิดความตื่นตัวและทึ่งในความสามารถของเขา รวมถึงมีความกังวลถึงเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้จนส่งผลต่อสุขภาพและงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ

    🏨

    อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตัวคนร้ายคือคนที่คิดไม่ถึง ซึ่งไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าจะวางแผนการณ์ได้อย่างแยบยลขนาดนั้น แต่แรงจูงใจในการก่อคดียังรู้สึกว่ามีน้ำหนักน้อยไปสักหน่อย คงเพราะความที่คนร้ายเป็นคนประเภทมีจิตรุนแรงในพื้นนิสัย ทำให้ต้องลุ้นเอาใจช่วยนิตตะและนาโอมิในตอนที่เนื้อเรื่องเปิดเผยให้คนอ่านทราบแล้วว่าเป็นใคร ทั้งสองจะปลอดภัยหรือไม่ จะจับตัวคนร้ายได้ไหม ใครจะถูกฆ่าเป็นรายถัดไปหรือเปล่า ต้องตามอ่านต่อในพิกัดต่อไปใครเป็นศพครับ

    🖋วิจารณ์หลังจบเรื่อง

    เป็นการเล่าในมุมมองบุคคลที่สามคือมุมมองพระเจ้า ฉากหลักตลอดทั้งเรื่องเกิดขึ้นภายในโรงแรม ตัวละครที่มีการเอ่ยชื่อและมีบทบาทสำคัญไม่เยอะจนเกินไป จึงทำให้คนอ่านจดจำและรู้สึกใกล้ชิดกับตัวเอก ไปจนตัวรองที่ถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ ได้ไม่ยาก ความจริงในส่วนของคดีที่เกิดในเล่มนี้นั้น พูดตามจริงแล้วไม่ได้มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร รูปแบบการฆ่าก็ธรรมดาเกินกว่าจะดูน่ากลัวหรือลึกลับ เพียงแต่มีจุดเด่นตรงชุดตัวเลขปริศนาว่าหมายถึงอะไร และชวนน่าสงสัยเล็กน้อยว่าคนร้ายจะฆ่าคนไปทำไม เพราะดูเหมือนตำรวจมีข้อมูลน้อยมาก จนการสืบสวนแทบไม่เดินหน้าไปไหนเลย

    🏨

    เป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่คงจะต้องการให้โทนของเรื่องออกมาในลักษณะนี้ คือไม่เน้นที่การสืบสวนคลี่คลายปมเป็นพิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องผูกเรื่องราวของคดีที่เกิดขึ้นให้มีความอลังการ จนดึงดูดความสนใจกระหายใคร่รู้ และกระตุ้มต่อมนักสืบของคนอ่านจนพุ่งสูงด้วยความเข้มข้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ แต่กลับเลือกที่จะให้ดูเป็นคดีทั่วไป ไม่มีความโชกเลือดหรือบ้าคลั่งของฆาตกรเป็นที่ปรากฏออกมาในบรรยากาศ ซึ่งในแง่นี้ถือว่านักอ่านหลายคนอาจถูกภาพปกของหนังสือหลอกเอาได้ เพราะโทนสีดำแดง กับเลือดเปรอะกระจายบนแผนที่ อีกทั้งชื่อเรื่องชวนค้นหาว่าคงจะดำเนินไปในแนวทางน่าตื่นเต้นกับการตามสืบอะไรทำนองนั้น ซึ่งใครที่คาดหวังมากก็อาจผิดหวังเมื่อพบว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ตนคาดว่าจะได้พบเจอ

    🏨

    แต่นี่ไม่มีปัญหากับผม ส่วนตัวชอบมาก แทบไม่ได้สนใจในคดีด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นคนร้าย ใครเป็นเป้าหมายที่กำลังจะถูกฆ่า และทำไมต้องฆ่า คืออ่านไปได้เรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน ชอบในความที่เนื้อหาเจาะลึกถึงวงการคนโรงแรม ทำให้เราได้รู้ข้อมูลหลายอย่าง สิ่งที่พนักงานต้องแบกรับและพบเจอที่เป็นเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลัง ซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยได้คำนึงถึงและไม่เคยมองในมุมของคนทำงานเหล่านั้น จึงเป็นความบันเทิงที่สามารถได้รู้เรื่องราวอินไซด์โดยผ่านการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของนาโอมิ กับประเด็นต่าง ๆ ที่เข้ามามากมาย คล้ายกำลังได้ติดตามดูซีรีส์ชีวิตการทำงานในอาชีพด้านการบริหารโรงแรมดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง ซึ่งอดีตเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เคยได้รับชมมาบ้างทั้งของญี่ปุ่นและเกาหลี

    🏨

    จุดเด่นในการดำเนินเรื่องคือเราจะได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของสองตัวละครหลัก ในระหว่างร่วมกันแก้ไขปัญหา แม้มีความขัดแย้งจากความเห็นมุมมองที่ต่างสถานะบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดีเสียอีกทำให้ต่างฝ่ายได้เรียนรู้เพิ่ม เป็นประสบการณ์ใหม่และเปิดมุมมองอีกด้านที่ตนไม่เคยใส่ใจ จนเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจ และเชื่อใจกันโดยไม่รู้ตัว แม้นภายนอกเหมือนไม่ชอบหน้ากันก็ตาม ที่สำคัญคือแม้เรื่องแนวทางการสืบหาตัวคนร้ายเหมือนไม่คืบหน้าไปไหน แต่เมื่อนาโอมิแก้ปัญหาลูกค้าไปทีละเรื่องต่อเนื่องไป ทำให้นิตตะเองสะดุดคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกี่ยวโยงไปถึงคดีได้อย่างไม่ตั้งใจ บางครั้งคำพูดของนาโอมิเองช่วงสนทนากับนิตตะ ไปจุดประกายให้เขาพลันนึกอะไรได้ขึ้นมาอย่างกะทันหันก็มี รวมถึงคู่หูนายตำรวจท้องที่ผู้มีอายุมากกว่าเขา ก็ยังมีส่วนช่วยอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน ทำให้เห็นถึงพลังของความช่วยเหลือกันและกันของความเป็นเพื่อน แม้เพิ่งทำความรู้จักกันชั่วระยะเวลาไม่นาน นี่จึงไม่ใช่นิยายสืบสวนที่เน้นความเก่งฉกาจของนักสืบที่รับผิดชอบคดีแบบฉายเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความเชื่อใจระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นที่มีของตนคนเดียวอาจจะไม่เพียงพอ

    หากพิจารณาให้ดี จะได้เห็นถึงความสำคัญของบุคคลแวดล้อมที่ดูราวกับไม่มีส่วนสำคัญ แต่แท้จริงถ้าไม่ได้ความคิดเห็นหรือความช่วยเหลือของเขา พระเอกของเราก็ยังคงไม่อาจฉุกใจได้คิด จนนำไปสู่การรู้ตัวคนร้ายในช่วงท้ายของเรื่อง

    บทสรุปก่อนจบ มีแนวโน้มให้คนอ่านได้ลุ้นว่านิตตะกับนาโอมิ จะมีความเป็นไปได้ในการเป็นคู่รักหรือไม่ แต่ที่มั่นใจคือน่าจะมีเล่มต่อให้ได้ติดตามกันอย่างแน่นอน.

    .........................................

    2. #พิกัดต่อไปใครเป็นศพตอนลางร้ายใต้หน้ากาก #masqueradeeve

    เล่มที่สองของซีรีส์ ที่ยังคงความสนุกได้ไม่แพ้เล่มแรก แต่ความหนาน้อยลงเหลือ 352 หน้า

    สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 345 บาท
    ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน
    อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล

    เนื้อหาย่อของเล่มนี้

    ถึงจะออกมาเป็นเล่มที่สองของชุด แต่เหตุการณ์เป็นเรื่องก่อนหน้าคดีในเล่มแรก คือย้อนไปเล่าสมัยที่นาโอมิเพิ่งจะเข้าทำงานใน คอร์เทเชียโตเกียวได้แค่สี่ปี และย้ายแผนกมาอยู่ฝ่ายต้อนรับไม่นาน ยังเห็นถึงความผิดพลาดบกพร่องที่ไม่คล่องตัว ยังไม่มีความเชื่อมั่นในประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญดังภาพที่ปรากฏในเล่มก่อนหน้า ทว่าก็ยังคงบุคลิกที่มุ่งมั่นในการให้บริการ และมีหัวใจในการคิดถึงและเอาใจใส่ต่อลูกค้าทุกคนอย่างซื่อสัตย์

    🏨

    เริ่มต้นมา นาโอมิก็ได้แสดงความสามารถที่ทำให้เห็นถึงความมีไหวพริบปฏิภาณ และช่างสังเกต อันเป็นคุณสมบัติที่ควรต้องมีในคนที่ทำอาชีพเช่นเธอ โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งนาโอมิจดจำได้ว่าเป็นอดีตแฟนที่เคยคบหากันชั่วเวลาหนึ่งสมัยที่เธอเรียนมหาวิทยาลัย แต่มีเหตุให้ต้องเลิกราแยกย้ายกันไปคนละเส้นทาง เขามากับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักกีฬาเบสบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงมาก โดยทำหน้าที่เป็นผจก.ส่วนตัวนักกีฬาชาย แล้วได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นในขณะที่ทั้งสองมาพักอยู่ในโรงแรม จนเป็นเหตุให้แฟนเก่าคนนี้โทร.ตามตัวนาโอมิจากหน้าฟรอนต์ให้มาช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งเธอไม่เต็มใจนักแต่ต้องตัดความรู้สึกส่วนตัวออก แล้วสวมหัวใจพนักงานฝ่ายต้อนรับที่ต้องช่วยเหลือบริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายเธอก็สามารถจัดการกับปัญหาให้จบลงด้วยดี

    🏨

    ทางด้านนิตตะนั้น เพิ่งเริ่มต้นอาชีพด้วยการเข้าเป็นน้องใหม่ในสังกัดกรมตำรวจหลังกลับมาจากต่างประเทศไม่นาน โดยมีรุ่นพี่โมโตมิยะ(ปรากฏตัวในเล่มแรกด้วย โดยเป็นหนึ่งที่ปลอมตัวเข้าไปในโรงแรม) ที่เป็นคู่หูและพี่เลี้ยง ซึ่งคดีแรกที่เขาต้องคลี่คลายคือ คดีฆาตกรรมวันไวต์เดย์ โดยตำรวจได้รับแจ้งจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าสามีของตนออกไปวิ่งออกกำลังตอนกลางดึกแต่ยังไม่กลับถึงบ้านตามเวลา สุดท้ายมีการพบว่าสามีของเธอกลายเป็นศพอยู่ในสวน ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกแทงที่ท้องและหลัง มีอะไรหลายอย่างที่พบในที่เกิดเหตุ รวมถึงข้อมูลที่ตำรวจได้สืบทราบมา ที่รบกวนใจของนิตตะ เขาได้แสดงความสามารถออกมาเป็นที่ปรากฏจนรุ่นพี่ออกจะไม่พอใจและหมั่นไส้อยู่บ้าง ด้วยสิ่งที่นิตตะคาดคะเนและวิเคราะห์ทำให้ตำรวจสามารถพบตัวของผู้ก่อเหตุได้ในเวลาไม่นาน แต่คดีนี้มีอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่าสิ่งที่ตำรวจรู้

    🏨

    ตัดมาที่การปฏิบัติงานของนาโอมิ ในเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายหลายคน มาจองห้องพักและมีพฤติการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าแปลกพิกล ต่อมาทราบว่าที่แท้คนกลุ่มนี้หวังที่จะมาเฝ้ารอเพื่อจะได้พบเจอกับนักเขียนนิยายที่โด่งดังนามว่า ทาจิบานะ ซากุระซึ่งเขียนแนวประโลมโลก และจะเข้ามาพักที่โรงแรมเพื่อเขียนงานใหม่ เนื่องจากเหล่าสาวกที่ชื่นชอบงานเขียนของซากุระ ไปเห็นรูปที่ถูกระบุว่าเป็นนักเขียนหญิงคนดังในโซเชียลมีเดีย พอเห็นว่าเป็นสาวสวยจึงหาวิธีที่จะได้พบเจอตัวจริงให้ได้ จึงเป็นหน้าที่ของนาโอมิ ที่จะต้องรักษาความเป็นส่วนตัวรวมถึงความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ความยุ่งยากจึงเกิดขึ้น

    🏨

    ตอนสุดท้าย นาโอมิได้รับการขอจากผู้จัดการให้ช่วยไปสอนงานให้กับพนักงานแผนกต้อนรับที่สาขาโอซาก้า ซึ่งเพิ่งเปิดโรงแรมได้ไม่นาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่นั่นชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่เกินครึ่งปี ในขณะที่นิตตะมีคดีใหม่ที่ต้องรับผิดชอบกับรุ่นพี่โมโตมิยะ คือการตายของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องทางสิทยาศาสตร์ โดยพบศพในห้องทำงาน คดีนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นบุคคลคนหนึ่ง แต่ทว่าเขากลับมีหลักฐานยืนยันที่อยู่ชัดเจนในช่วงเวลาที่คาดว่าเหยื่อถูกฆ่าตาย ซึ่งเจ้าตัวเข้าใจว่าตนเองรอดพ้นแน่แต่แท้จริงเบื้องหลังยังมีอะไรที่ไม่เป็นดังที่คิด ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่า

    ในกรณีทีมสืบสวนเอง ผู้ใหญ่ได้สั่งการลงมาให้นิตตะจับคู่กันกับตำรวจหญิงวัยละอ่อน ที่เป็นตำรวจท้องที่มีนามว่า ริสะ ที่ถูกย้ายมาจากแผนกความปลอดภัยชุมชน ให้มาร่วมในทีมเป็นครั้งแรก นิตตะไม่พอใจนักแต่จำใจต้องทำตาม แม้จะดูเหมือนเป็นตำรวจหญิงที่อ่อนต่อโลก พูดเป็นต่อยหอย และขาดไหวพริบม แต่ริสะก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่นใส่ใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่เธอได้รับคำสั่งจากนิตตะให้ไปสืบเช็กข้อมูลจากโรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้า เพื่อยืนยันคำพูดจากปากของชายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ทำให้ริสะได้พบกับนาโอมิ อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาถึงผลลัพธ์ในภายหลัง

    🖋วิเคราะห์หลังอ่านจบ

    เล่มนี้เล่าเรื่องโดยแยกเนื้อหาระหว่างการแก้ปัญหาในโรงแรมของนาโอมิ กับการไขคดีของนิตตะออกจากกันชัดเจนเป็นตอนที่จบในตัว เริ่มจากตอนของนาโอมิก่อน จากนั้นสลับไปเล่าฝั่งนิตตะ แต่ในตอนสุดท้ายจะผนวกสองฝั่งให้เชื่อมถึงกันในคดีที่มีผู้เกี่ยวข้องได้ไปเข้าพักที่โรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้าซึ่งนาโอมิกำลังอยู่ในช่วงที่สอนงานให้พนักงานที่นั่น

    ทั้งคู่ไม่ได้พบกันเลย เพราะการพบกันครั้งแรกเกิดขึ้นในเล่มแรก แต่ผู้เขียนมีความสามารถในการผูกโยงเรื่องราวให้คนอ่านรู้สึกเหมือนว่าได้เห็นคนทั้งสองอย่างใกล้ชิด และได้เห็นบุคลิกกับอุปนิสัยส่วนตัวของนาโอมิกับนิตตะมากขึ้น

    นิตตะในเล่มนี้ มีโอกาสได้แสดงฝีมือในการคิดวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์กับข้อมูลที่ใช้หาตัวคนร้าย ได้เด่นชัดกว่าเล่มแรก สมกับที่เป็นระดับหัวกะทิที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่เราก็จะได้เห็นถึงข้อเสียใหญ่ของเขาที่ไม่น่ารักเช่นกัน คือเป็นคนมั่นใจในความฉลาดของตนมากจนเหมือนดูถูกคนที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะความคิดที่เห็นว่าผู้หญิงเป็นตัวถ่วง สู้ผู้ชายไม่ได้ ดังที่นิตตะแสดงออกทางสีหน้าท่าทางและคำพูดต่อเด็กใหม่อย่างริสะ ที่เหมือนเป็นได้แค่ลูกไล่ไร้ประโยชน์ ซึ่งต่างจากนาโอมิ ที่แม้จะมองออกว่าริสะเป็นตำรวจที่ความสามารถไม่ถึงขั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญ กลับมองเห็นถึงมุมที่เป็นความอดทน ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดของตำรวจหญิงในการพยายามค้นหาความจริงให้ได้ ความมุ่งมั่นของริสะจึงเอาชนะใจของนาโอมิ จนยอมช่วยเหลือด้วยการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนให้ริสะทราบ

    ในส่วนของการคลี่คลายคดี ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนจนเกินไป แต่เล่มนี้จะเน้นไปที่คดีที่น่าจะเป็นที่มาของชื่อตอน (ลางร้ายใต้หน้ากาก) ถึงสองคดีด้วยกันครับ ถ้าได้อ่านแล้วจะเข้าใจ และน่าจะเห็นตรงกันว่าภายใต้หน้ากากที่ภายนอกดูไม่ได้รู้เลยว่าจะกลายเป็นคนร้ายได้ สุดท้ายก็แอบซ่อนความบิดเบี้ยวของใจที่โดนกิเลสเข้าครอบงำได้อย่างน่ากลัว

    ตัวละครในเรื่อง สำหรับเล่มนี้ รู้สึกว่าริสะที่แม้จะมีบทบาทเพียงแค่ช่วงคดีสุดท้ายนั้น เป็นตัวละครที่เขียนมาได้น่าสนใจมาก โผล่มาทีไรก็ทำให้คนอ่านอย่างผมอดขำไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปต่อในเล่มอื่น ๆ ของชุดนี้หรือไม่ ส่วนนาโอมินั้นยังคงเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์เช่นเดิม เทียบกับนิตตะแล้วส่วนตัวมีความรู้สึกชอบนาโอมิมากกว่า

    นอกจากนี้ยังชอบตอนจบของเรื่อง ที่มีการโยงถึงเหตุการณ์ที่เป็นต้นตอนำไปสู่ความอาฆาตแค้นของฆาตกรในคดีที่เกิดขึ้นในเล่มแรก สรุปว่าอ่านจบเล่มสองแล้วก็จะไปต่อเหตุการณ์ของเล่มแรกพอดี

    ใครเริ่มอ่านจากเล่มนี้ก่อน สามารถอ่านเล่มแรกต่อเนื่องได้เลย

    📌คำเตือน : สำหรับคนที่ชอบการสืบคดีแบบเข้มข้น มีวิธีการฆ่าที่ค่อนข้างแปลกพิสดารหรือโหดสยอง และมีกลวิธีในการอำพรางซ่อนเร้นที่ไม่ธรรมดา ซีรีส์ชุดนี้อาจไม่ตอบโจทย์ แล้วเลยพาลจะไม่ชอบหรือหมดสนุกได้ง่าย แต่ถ้าชอบแนวได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพของตัวเอกควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการไขคดีที่ไม่โลดโผน ชุดนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณได้ไม่ยากครับ

    ป.ล. มีปกใหม่ออกมาที่คิดว่าทำได้ดีตรงกับแนวเรื่องและชื่อตอนมากกว่าปกฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกด้วย เพราะปกของเล่มสองนี้ดูเหมือนน่าจะโหดมาก แต่เนื้อในไม่ใช่อย่างที่คิด

    ใครอ่านตั้งแต่ต้นมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ได้ขอได้รับความขอบคุณจากผมด้วยครับ

    #thaitimes
    #หนังสือ
    #หนังสือน่าอ่าน
    #นิยายแปล
    #นิยายญี่ปุ่น
    #นิยายสืบสวน
    #สืบสวน
    #คดีฆาตกรรม
    #งานโรงแรม
    #พนักงานต้อนรับ
    #ตำรวจ
    #นักสืบ
    #ลูกค้า
    #งานบริการ
    #อาชีพ
    #ฮิงาชิโนะเคโงะ
    🔹️แพ็กคู่ซีรีส์ชุด พิกัดต่อไปใครเป็นศพ❗ คำเตือน เนื้อหายาวมากถึงมากที่สุด 1 #พิกัดต่อไปใครเป็นศพ #masqueradehotel อ่านจนจบในวันเดียว หนาถึง 547 หน้า ดีที่ขนาดไม่เทอะทะแม้หนาแต่ไม่หนัก ตอนตัดสินใจเลือกยืมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยชมที่สร้างเป็นหนังมาแล้วเมื่อหลายปีก่อน พออ่านไปได้ไม่กี่หน้าเริ่มรู้สึกฉากช่างคุ้นเคย เนื้อเรื่องเหมือนเคยรู้มาก่อน ทบทวนความทรงจำตนเองจึงค่อยจำได้ว่าคือเรื่องเดียวกับหนังที่ดูจบแล้วชอบมากนั่นเอง แต่ห้วงเวลาที่ชมนั้นไม่เคยทราบว่าสร้างจากนิยายเล่มนี้ ดูเพราะชอบนักแสดงหลักทั้งสองคนเลยคือ ทาคูยะ และมาซามิ และก็ไม่ผิดหวังทั้งคู่แสดงในบทบาทที่ได้รับได้ดีมาก พระนางมีการขัดแย้งในความเห็นอย่างที่เรียกว่าคู่กัด แต่ก็ห่วงใยช่วยเหลือกันมีความน่ารักปนน่าหมั่นไส้ โรงแรมที่ใช้เป็นฉากก็หรูหราโอ่โถงงดงามน่าใช้บริการอย่างมากครับ 📚วกกลับมาเข้าเรื่องในหนังสือ สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 425 บาท ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล เนื้อหาในเล่มกล่าวถึงชีวิตของพนักงานโรงแรมคอร์เทเชียโตเกียวสุดหรูที่มีนามว่า ยามางิชิ นาโอมิ ซึ่งเป็นตัวเอกที่ดำเนินเรื่องหลักของนิยายเล่มนี้ ที่ฉากแรกปรากฏก็เปิดตัวอย่างสง่างามสมกับความเป็นพนักงานต้อนรับมืออาชีพยิ่ง เพราะมีลูกค้าชายประเภทที่จงใจก่อปัญหาเพื่อหวังจะได้เข้าพักในห้องราคาสูงกว่าที่ตนได้เลือกจองไว้ จนพนักงานยกกระเป๋าที่เข็นของไปให้ ต้องโทร.ลงมาปรึกษาว่าจะทำอย่างไรดี ซึ่งเธอสามารถบริหารจัดการให้ผ่านพ้นสิ่งที่เกิดขึ้นเฉพาะหน้าลงได้อย่างสวยงาม จากนั้นเรื่องจึงนำพาผู้อ่านเข้าสู่ประเด็นของที่มาอันกลายเป็นชื่อเรื่องคือ ทางผู้จัดการใหญ่ที่รับผิดชอบดูแลพนักงานในโรงแรมทั้งหมด ได้รับการติดต่อขอความร่วมมือจากกรมตำรวจนครบาลโตเกียว ในการสืบสวนคดีที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานนี้ ที่มีแนวโน้มเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องโดยคนร้ายรายเดียวกัน 🏨 รายละเอียดของคดีคือ มีการพบศพผู้ตาย 3 ราย ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 6-7 วันนับจากศพแรก ทราบชื่อผู้ตายทั้งสาม เป็นชาย2หญิง1 สาเหตุเสียชีวิตจากการถูกทำร้ายด้วยการตีจากด้านหลังบ้าง รัดคอบ้าง ทุกรายพบตัวเลขปริศนา2ชุดในจุดเกิดเหตุ ซึ่งยังไม่แน่ชัดว่าเกี่ยวข้องกับการตายของเหยื่อหรือไม่อย่างไร แต่ตำรวจมั่นใจว่าคนร้ายหมายตาที่จะก่อเหตุในครั้งต่อไป โดยเล็งเป้าหมายคือโรงแรมที่นาโอมิทำงานอยู่ ปัญหาใหญ่คือไม่ทราบว่าใครที่คนร้ายหมายจะฆ่า ทำไมถึงเลือกที่นี่ และคนร้ายคือใคร ซึ่งรายละเอียดปลีกย่อยพวกนี้ ฝ่ายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้คุยตกลงกันกับผู้จัดการใหญ่ของโรงแรมแล้ว ดังนั้นจึงเรียกตัว หัวหน้าจากหลายฝ่ายให้มาร่วมประชุม ไม่ว่าฝ่ายห้องพัก ฝ่ายเข็นสัมภาระลูกค้าไปส่งห้อง ฝ่ายประชาสัมพันธ์ และในการนี้นาโอมิยังถูกระบุให้เข้าร่วมประชุมแม้จะเป็นแค่เพียง พนักงานระดับปฏิบัติการณ์ฝ่ายต้อนรับเท่านั้น 🏨 เหตุผลเพราะหัวหน้างานไว้วางใจ เชื่อมั่นในคุณสมบัติและประสบการณ์ของเธอจะสามารถเป็นพี่เลี้ยงให้กับตำรวจ ที่จะปลอมเข้ามาเป็นพนักงานเพื่อเฝ้าสังเกตบุคคลที่มาใช้บริการโรงแรม ซึ่งแผนกต้อนรับเองนาโอมิถูกเลือกให้จับคู่กับรองสารวัตรนิตตะ ส่วนแผนกอื่นก็มีตำรวจปลอมตัวเข้าไปด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็มีตำรวจส่วนหนึ่งที่ถูกสั่งการให้ปะปนเข้ามาเป็นคนใช้บริการหรือจับตาความเคลื่อนไหวบริเวณโถงรับแขก ห้องอาหาร และอื่นๆ 🏨 นั่นคือจุดเริ่มแห่งความหรรษา เพราะนิตตะไม่ชอบอะไรที่เป็นพิธีการ แต่จำใจต้องเชื่อฟังนาโอมิที่อายุน้อยกว่า ตั้งแต่เรื่องชุดพนักงาน ท่าทีการพูดจา บุคลิกภายนอกที่ต้องถูกปรับให้กลายจากความเป็นตำรวจมาเป็นพนักงานต้อนรับให้สมจริงมากที่สุด ทั้งคู่จึงมีการกระทบกระทั่งทางความคิดที่ไม่ตรงกัน จนมีการโต้เถียงบ่อยครั้ง ซึ่งเป็นความบันเทิงประการหนึ่ง ด้วยคู่นี้มีความน่ารัก น่าลุ้น ที่จะกลายมาเป็นคู่ใจในอนาคตได้ 🏨 ระหว่างนั้น นาโอมิมีข้อสงสัยมากมายหลายประการ เธอมักถามนิตตะที่ทราบรายละเอียดของคดีมากกว่าที่พนักงานโรงแรมทราบ แต่นิตตะไม่บอกเล่าโดยให้เหตุผลว่าเป็นความลับของทางราชการไม่อาจให้คนนอกทราบได้ งานบริการของนาโอมิยังคงต้องดำเนินต่อไป เกิดปัญหาจากความต้องการของลูกค้าที่แวะเวียนเข้ามาพักเป็นระยะ ซึ่งเธอและนิตตะต้องพยายามแก้ไขสถานการณ์ให้ผ่านพ้น ทำให้ทั้งสองเริ่มมีความเข้าใจและยอมรับในตัวตนและงานของอีกฝ่ายได้ดีขึ้นกว่าเมื่อแรกพบหน้า ลูกค้าบางคนดูไม่น่าไว้ใจและมีท่าทางแปลกจนนิตตะจับตามองเป็นพิเศษ ด้วยสัญชาตญาณของนักสืบ 🏨 ขณะที่มีตำรวจวัยเลยกลางคนไปแล้ว ซึ่งเป็นตำรวจในท้องที่เกิดเหตุคนหนึ่งที่รู้จักกับนิตตะ และได้รับการมอบหมายให้เป็นคู่หูสืบคดีก่อนที่นิตตะจะต้องปลอมตัวมาเป็นพนักงานต้อนรับนั้น มีน้ำใจที่อยากจะช่วยเหลือ จึงมักอาสาช่วยสืบเรื่องราวต่าง ๆ จากด้านนอก ตามที่นิตตะมีความสงสัยด้วยอีกทางหนึ่ง ในที่สุดนิตตะก็ทนรบเร้าจากนาโอมิไม่ไหว อีกทั้งเริ่มมีความไว้ใจเธอมากขึ้น จนยอมเล่าให้ทราบถึงปริศนาของชุดตัวเลขที่ปรากฏทุกครั้งในสถานที่พบศพอันเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตำรวจตัดสินใจปะปนเข้ามาในโรงแรม ทำให้เธอเริ่มเกิดความตื่นตัวและทึ่งในความสามารถของเขา รวมถึงมีความกังวลถึงเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้จนส่งผลต่อสุขภาพและงานในหน้าที่ความรับผิดชอบ 🏨 อย่างไรก็ตาม สุดท้ายตัวคนร้ายคือคนที่คิดไม่ถึง ซึ่งไม่น่าเชื่อจริง ๆ ว่าจะวางแผนการณ์ได้อย่างแยบยลขนาดนั้น แต่แรงจูงใจในการก่อคดียังรู้สึกว่ามีน้ำหนักน้อยไปสักหน่อย คงเพราะความที่คนร้ายเป็นคนประเภทมีจิตรุนแรงในพื้นนิสัย ทำให้ต้องลุ้นเอาใจช่วยนิตตะและนาโอมิในตอนที่เนื้อเรื่องเปิดเผยให้คนอ่านทราบแล้วว่าเป็นใคร ทั้งสองจะปลอดภัยหรือไม่ จะจับตัวคนร้ายได้ไหม ใครจะถูกฆ่าเป็นรายถัดไปหรือเปล่า ต้องตามอ่านต่อในพิกัดต่อไปใครเป็นศพครับ 🖋วิจารณ์หลังจบเรื่อง เป็นการเล่าในมุมมองบุคคลที่สามคือมุมมองพระเจ้า ฉากหลักตลอดทั้งเรื่องเกิดขึ้นภายในโรงแรม ตัวละครที่มีการเอ่ยชื่อและมีบทบาทสำคัญไม่เยอะจนเกินไป จึงทำให้คนอ่านจดจำและรู้สึกใกล้ชิดกับตัวเอก ไปจนตัวรองที่ถูกกล่าวถึงบ่อย ๆ ได้ไม่ยาก ความจริงในส่วนของคดีที่เกิดในเล่มนี้นั้น พูดตามจริงแล้วไม่ได้มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร รูปแบบการฆ่าก็ธรรมดาเกินกว่าจะดูน่ากลัวหรือลึกลับ เพียงแต่มีจุดเด่นตรงชุดตัวเลขปริศนาว่าหมายถึงอะไร และชวนน่าสงสัยเล็กน้อยว่าคนร้ายจะฆ่าคนไปทำไม เพราะดูเหมือนตำรวจมีข้อมูลน้อยมาก จนการสืบสวนแทบไม่เดินหน้าไปไหนเลย 🏨 เป็นความตั้งใจของผู้เขียนที่คงจะต้องการให้โทนของเรื่องออกมาในลักษณะนี้ คือไม่เน้นที่การสืบสวนคลี่คลายปมเป็นพิเศษ จึงไม่จำเป็นต้องผูกเรื่องราวของคดีที่เกิดขึ้นให้มีความอลังการ จนดึงดูดความสนใจกระหายใคร่รู้ และกระตุ้มต่อมนักสืบของคนอ่านจนพุ่งสูงด้วยความเข้มข้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเหยื่อ แต่กลับเลือกที่จะให้ดูเป็นคดีทั่วไป ไม่มีความโชกเลือดหรือบ้าคลั่งของฆาตกรเป็นที่ปรากฏออกมาในบรรยากาศ ซึ่งในแง่นี้ถือว่านักอ่านหลายคนอาจถูกภาพปกของหนังสือหลอกเอาได้ เพราะโทนสีดำแดง กับเลือดเปรอะกระจายบนแผนที่ อีกทั้งชื่อเรื่องชวนค้นหาว่าคงจะดำเนินไปในแนวทางน่าตื่นเต้นกับการตามสืบอะไรทำนองนั้น ซึ่งใครที่คาดหวังมากก็อาจผิดหวังเมื่อพบว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ได้เป็นไปในทิศทางที่ตนคาดว่าจะได้พบเจอ 🏨 แต่นี่ไม่มีปัญหากับผม ส่วนตัวชอบมาก แทบไม่ได้สนใจในคดีด้วยซ้ำว่าใครจะเป็นคนร้าย ใครเป็นเป้าหมายที่กำลังจะถูกฆ่า และทำไมต้องฆ่า คืออ่านไปได้เรื่อย ๆ อย่างเพลิดเพลิน ชอบในความที่เนื้อหาเจาะลึกถึงวงการคนโรงแรม ทำให้เราได้รู้ข้อมูลหลายอย่าง สิ่งที่พนักงานต้องแบกรับและพบเจอที่เป็นเรื่องเบื้องลึกเบื้องหลัง ซึ่งคนทั่วไปไม่ค่อยได้คำนึงถึงและไม่เคยมองในมุมของคนทำงานเหล่านั้น จึงเป็นความบันเทิงที่สามารถได้รู้เรื่องราวอินไซด์โดยผ่านการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของนาโอมิ กับประเด็นต่าง ๆ ที่เข้ามามากมาย คล้ายกำลังได้ติดตามดูซีรีส์ชีวิตการทำงานในอาชีพด้านการบริหารโรงแรมดี ๆ สักเรื่องหนึ่ง ซึ่งอดีตเมื่อ 30 กว่าปีก่อน เคยได้รับชมมาบ้างทั้งของญี่ปุ่นและเกาหลี 🏨 จุดเด่นในการดำเนินเรื่องคือเราจะได้เห็นพัฒนาการความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นของสองตัวละครหลัก ในระหว่างร่วมกันแก้ไขปัญหา แม้มีความขัดแย้งจากความเห็นมุมมองที่ต่างสถานะบ้างก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ดีเสียอีกทำให้ต่างฝ่ายได้เรียนรู้เพิ่ม เป็นประสบการณ์ใหม่และเปิดมุมมองอีกด้านที่ตนไม่เคยใส่ใจ จนเกิดเป็นความเห็นอกเห็นใจ และเชื่อใจกันโดยไม่รู้ตัว แม้นภายนอกเหมือนไม่ชอบหน้ากันก็ตาม ที่สำคัญคือแม้เรื่องแนวทางการสืบหาตัวคนร้ายเหมือนไม่คืบหน้าไปไหน แต่เมื่อนาโอมิแก้ปัญหาลูกค้าไปทีละเรื่องต่อเนื่องไป ทำให้นิตตะเองสะดุดคิดได้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะเกี่ยวโยงไปถึงคดีได้อย่างไม่ตั้งใจ บางครั้งคำพูดของนาโอมิเองช่วงสนทนากับนิตตะ ไปจุดประกายให้เขาพลันนึกอะไรได้ขึ้นมาอย่างกะทันหันก็มี รวมถึงคู่หูนายตำรวจท้องที่ผู้มีอายุมากกว่าเขา ก็ยังมีส่วนช่วยอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน ทำให้เห็นถึงพลังของความช่วยเหลือกันและกันของความเป็นเพื่อน แม้เพิ่งทำความรู้จักกันชั่วระยะเวลาไม่นาน นี่จึงไม่ใช่นิยายสืบสวนที่เน้นความเก่งฉกาจของนักสืบที่รับผิดชอบคดีแบบฉายเดี่ยว แต่ต้องอาศัยความเชื่อใจระหว่างกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ความเห็นที่มีของตนคนเดียวอาจจะไม่เพียงพอ หากพิจารณาให้ดี จะได้เห็นถึงความสำคัญของบุคคลแวดล้อมที่ดูราวกับไม่มีส่วนสำคัญ แต่แท้จริงถ้าไม่ได้ความคิดเห็นหรือความช่วยเหลือของเขา พระเอกของเราก็ยังคงไม่อาจฉุกใจได้คิด จนนำไปสู่การรู้ตัวคนร้ายในช่วงท้ายของเรื่อง บทสรุปก่อนจบ มีแนวโน้มให้คนอ่านได้ลุ้นว่านิตตะกับนาโอมิ จะมีความเป็นไปได้ในการเป็นคู่รักหรือไม่ แต่ที่มั่นใจคือน่าจะมีเล่มต่อให้ได้ติดตามกันอย่างแน่นอน. ......................................... 2. #พิกัดต่อไปใครเป็นศพตอนลางร้ายใต้หน้ากาก #masqueradeeve เล่มที่สองของซีรีส์ ที่ยังคงความสนุกได้ไม่แพ้เล่มแรก แต่ความหนาน้อยลงเหลือ 352 หน้า สำนักพิมพ์น้ำพุ ปี พ.ศ.2023 /ราคา 345 บาท ฮิงาชิโนะ เคโงะ เขียน อภิญญา เตชะบุญไพศาล แปล เนื้อหาย่อของเล่มนี้ ถึงจะออกมาเป็นเล่มที่สองของชุด แต่เหตุการณ์เป็นเรื่องก่อนหน้าคดีในเล่มแรก คือย้อนไปเล่าสมัยที่นาโอมิเพิ่งจะเข้าทำงานใน คอร์เทเชียโตเกียวได้แค่สี่ปี และย้ายแผนกมาอยู่ฝ่ายต้อนรับไม่นาน ยังเห็นถึงความผิดพลาดบกพร่องที่ไม่คล่องตัว ยังไม่มีความเชื่อมั่นในประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญดังภาพที่ปรากฏในเล่มก่อนหน้า ทว่าก็ยังคงบุคลิกที่มุ่งมั่นในการให้บริการ และมีหัวใจในการคิดถึงและเอาใจใส่ต่อลูกค้าทุกคนอย่างซื่อสัตย์ 🏨 เริ่มต้นมา นาโอมิก็ได้แสดงความสามารถที่ทำให้เห็นถึงความมีไหวพริบปฏิภาณ และช่างสังเกต อันเป็นคุณสมบัติที่ควรต้องมีในคนที่ทำอาชีพเช่นเธอ โดยมีชายหนุ่มคนหนึ่งซึ่งนาโอมิจดจำได้ว่าเป็นอดีตแฟนที่เคยคบหากันชั่วเวลาหนึ่งสมัยที่เธอเรียนมหาวิทยาลัย แต่มีเหตุให้ต้องเลิกราแยกย้ายกันไปคนละเส้นทาง เขามากับชายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นนักกีฬาเบสบอลอาชีพที่มีชื่อเสียงมาก โดยทำหน้าที่เป็นผจก.ส่วนตัวนักกีฬาชาย แล้วได้เกิดเหตุการณ์ชุลมุนขึ้นในขณะที่ทั้งสองมาพักอยู่ในโรงแรม จนเป็นเหตุให้แฟนเก่าคนนี้โทร.ตามตัวนาโอมิจากหน้าฟรอนต์ให้มาช่วยแก้ไขปัญหา ซึ่งเธอไม่เต็มใจนักแต่ต้องตัดความรู้สึกส่วนตัวออก แล้วสวมหัวใจพนักงานฝ่ายต้อนรับที่ต้องช่วยเหลือบริการแก่ลูกค้าอย่างดีที่สุด ซึ่งสุดท้ายเธอก็สามารถจัดการกับปัญหาให้จบลงด้วยดี 🏨 ทางด้านนิตตะนั้น เพิ่งเริ่มต้นอาชีพด้วยการเข้าเป็นน้องใหม่ในสังกัดกรมตำรวจหลังกลับมาจากต่างประเทศไม่นาน โดยมีรุ่นพี่โมโตมิยะ(ปรากฏตัวในเล่มแรกด้วย โดยเป็นหนึ่งที่ปลอมตัวเข้าไปในโรงแรม) ที่เป็นคู่หูและพี่เลี้ยง ซึ่งคดีแรกที่เขาต้องคลี่คลายคือ คดีฆาตกรรมวันไวต์เดย์ โดยตำรวจได้รับแจ้งจากหญิงสาวคนหนึ่งว่าสามีของตนออกไปวิ่งออกกำลังตอนกลางดึกแต่ยังไม่กลับถึงบ้านตามเวลา สุดท้ายมีการพบว่าสามีของเธอกลายเป็นศพอยู่ในสวน ซึ่งเสียชีวิตจากการถูกแทงที่ท้องและหลัง มีอะไรหลายอย่างที่พบในที่เกิดเหตุ รวมถึงข้อมูลที่ตำรวจได้สืบทราบมา ที่รบกวนใจของนิตตะ เขาได้แสดงความสามารถออกมาเป็นที่ปรากฏจนรุ่นพี่ออกจะไม่พอใจและหมั่นไส้อยู่บ้าง ด้วยสิ่งที่นิตตะคาดคะเนและวิเคราะห์ทำให้ตำรวจสามารถพบตัวของผู้ก่อเหตุได้ในเวลาไม่นาน แต่คดีนี้มีอะไรที่ซับซ้อนยิ่งกว่าสิ่งที่ตำรวจรู้ 🏨 ตัดมาที่การปฏิบัติงานของนาโอมิ ในเหตุการณ์ที่มีกลุ่มชายหลายคน มาจองห้องพักและมีพฤติการณ์ที่ทำให้เธอรู้สึกว่าแปลกพิกล ต่อมาทราบว่าที่แท้คนกลุ่มนี้หวังที่จะมาเฝ้ารอเพื่อจะได้พบเจอกับนักเขียนนิยายที่โด่งดังนามว่า ทาจิบานะ ซากุระซึ่งเขียนแนวประโลมโลก และจะเข้ามาพักที่โรงแรมเพื่อเขียนงานใหม่ เนื่องจากเหล่าสาวกที่ชื่นชอบงานเขียนของซากุระ ไปเห็นรูปที่ถูกระบุว่าเป็นนักเขียนหญิงคนดังในโซเชียลมีเดีย พอเห็นว่าเป็นสาวสวยจึงหาวิธีที่จะได้พบเจอตัวจริงให้ได้ จึงเป็นหน้าที่ของนาโอมิ ที่จะต้องรักษาความเป็นส่วนตัวรวมถึงความปลอดภัยให้แก่ลูกค้าที่มาใช้บริการ ความยุ่งยากจึงเกิดขึ้น 🏨 ตอนสุดท้าย นาโอมิได้รับการขอจากผู้จัดการให้ช่วยไปสอนงานให้กับพนักงานแผนกต้อนรับที่สาขาโอซาก้า ซึ่งเพิ่งเปิดโรงแรมได้ไม่นาน เธอจึงต้องไปทำงานอยู่ที่นั่นชั่วระยะเวลาหนึ่งแต่ไม่เกินครึ่งปี ในขณะที่นิตตะมีคดีใหม่ที่ต้องรับผิดชอบกับรุ่นพี่โมโตมิยะ คือการตายของอาจารย์มหาวิทยาลัย ที่กำลังทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องทางสิทยาศาสตร์ โดยพบศพในห้องทำงาน คดีนี้มีผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะเป็นบุคคลคนหนึ่ง แต่ทว่าเขากลับมีหลักฐานยืนยันที่อยู่ชัดเจนในช่วงเวลาที่คาดว่าเหยื่อถูกฆ่าตาย ซึ่งเจ้าตัวเข้าใจว่าตนเองรอดพ้นแน่แต่แท้จริงเบื้องหลังยังมีอะไรที่ไม่เป็นดังที่คิด ที่มีความซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่า ในกรณีทีมสืบสวนเอง ผู้ใหญ่ได้สั่งการลงมาให้นิตตะจับคู่กันกับตำรวจหญิงวัยละอ่อน ที่เป็นตำรวจท้องที่มีนามว่า ริสะ ที่ถูกย้ายมาจากแผนกความปลอดภัยชุมชน ให้มาร่วมในทีมเป็นครั้งแรก นิตตะไม่พอใจนักแต่จำใจต้องทำตาม แม้จะดูเหมือนเป็นตำรวจหญิงที่อ่อนต่อโลก พูดเป็นต่อยหอย และขาดไหวพริบม แต่ริสะก็ถือเป็นเจ้าหน้าที่ที่มีความกระตือรือร้น มุ่งมั่นใส่ใจในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการที่เธอได้รับคำสั่งจากนิตตะให้ไปสืบเช็กข้อมูลจากโรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้า เพื่อยืนยันคำพูดจากปากของชายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในคดี ทำให้ริสะได้พบกับนาโอมิ อันก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากมาถึงผลลัพธ์ในภายหลัง 🖋วิเคราะห์หลังอ่านจบ เล่มนี้เล่าเรื่องโดยแยกเนื้อหาระหว่างการแก้ปัญหาในโรงแรมของนาโอมิ กับการไขคดีของนิตตะออกจากกันชัดเจนเป็นตอนที่จบในตัว เริ่มจากตอนของนาโอมิก่อน จากนั้นสลับไปเล่าฝั่งนิตตะ แต่ในตอนสุดท้ายจะผนวกสองฝั่งให้เชื่อมถึงกันในคดีที่มีผู้เกี่ยวข้องได้ไปเข้าพักที่โรงแรมคอร์เทเชียโอซาก้าซึ่งนาโอมิกำลังอยู่ในช่วงที่สอนงานให้พนักงานที่นั่น ทั้งคู่ไม่ได้พบกันเลย เพราะการพบกันครั้งแรกเกิดขึ้นในเล่มแรก แต่ผู้เขียนมีความสามารถในการผูกโยงเรื่องราวให้คนอ่านรู้สึกเหมือนว่าได้เห็นคนทั้งสองอย่างใกล้ชิด และได้เห็นบุคลิกกับอุปนิสัยส่วนตัวของนาโอมิกับนิตตะมากขึ้น นิตตะในเล่มนี้ มีโอกาสได้แสดงฝีมือในการคิดวิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์กับข้อมูลที่ใช้หาตัวคนร้าย ได้เด่นชัดกว่าเล่มแรก สมกับที่เป็นระดับหัวกะทิที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่เราก็จะได้เห็นถึงข้อเสียใหญ่ของเขาที่ไม่น่ารักเช่นกัน คือเป็นคนมั่นใจในความฉลาดของตนมากจนเหมือนดูถูกคนที่ด้อยกว่า โดยเฉพาะความคิดที่เห็นว่าผู้หญิงเป็นตัวถ่วง สู้ผู้ชายไม่ได้ ดังที่นิตตะแสดงออกทางสีหน้าท่าทางและคำพูดต่อเด็กใหม่อย่างริสะ ที่เหมือนเป็นได้แค่ลูกไล่ไร้ประโยชน์ ซึ่งต่างจากนาโอมิ ที่แม้จะมองออกว่าริสะเป็นตำรวจที่ความสามารถไม่ถึงขั้น แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีรำคาญ กลับมองเห็นถึงมุมที่เป็นความอดทน ไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรคใดของตำรวจหญิงในการพยายามค้นหาความจริงให้ได้ ความมุ่งมั่นของริสะจึงเอาชนะใจของนาโอมิ จนยอมช่วยเหลือด้วยการเปิดเผยเรื่องราวบางส่วนให้ริสะทราบ ในส่วนของการคลี่คลายคดี ไม่มีอะไรลึกลับซับซ้อนจนเกินไป แต่เล่มนี้จะเน้นไปที่คดีที่น่าจะเป็นที่มาของชื่อตอน (ลางร้ายใต้หน้ากาก) ถึงสองคดีด้วยกันครับ ถ้าได้อ่านแล้วจะเข้าใจ และน่าจะเห็นตรงกันว่าภายใต้หน้ากากที่ภายนอกดูไม่ได้รู้เลยว่าจะกลายเป็นคนร้ายได้ สุดท้ายก็แอบซ่อนความบิดเบี้ยวของใจที่โดนกิเลสเข้าครอบงำได้อย่างน่ากลัว ตัวละครในเรื่อง สำหรับเล่มนี้ รู้สึกว่าริสะที่แม้จะมีบทบาทเพียงแค่ช่วงคดีสุดท้ายนั้น เป็นตัวละครที่เขียนมาได้น่าสนใจมาก โผล่มาทีไรก็ทำให้คนอ่านอย่างผมอดขำไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ไปต่อในเล่มอื่น ๆ ของชุดนี้หรือไม่ ส่วนนาโอมินั้นยังคงเป็นตัวละครที่มีเสน่ห์เช่นเดิม เทียบกับนิตตะแล้วส่วนตัวมีความรู้สึกชอบนาโอมิมากกว่า นอกจากนี้ยังชอบตอนจบของเรื่อง ที่มีการโยงถึงเหตุการณ์ที่เป็นต้นตอนำไปสู่ความอาฆาตแค้นของฆาตกรในคดีที่เกิดขึ้นในเล่มแรก สรุปว่าอ่านจบเล่มสองแล้วก็จะไปต่อเหตุการณ์ของเล่มแรกพอดี ใครเริ่มอ่านจากเล่มนี้ก่อน สามารถอ่านเล่มแรกต่อเนื่องได้เลย 📌คำเตือน : สำหรับคนที่ชอบการสืบคดีแบบเข้มข้น มีวิธีการฆ่าที่ค่อนข้างแปลกพิสดารหรือโหดสยอง และมีกลวิธีในการอำพรางซ่อนเร้นที่ไม่ธรรมดา ซีรีส์ชุดนี้อาจไม่ตอบโจทย์ แล้วเลยพาลจะไม่ชอบหรือหมดสนุกได้ง่าย แต่ถ้าชอบแนวได้ศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับอาชีพของตัวเอกควบคู่ไปกับการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และการไขคดีที่ไม่โลดโผน ชุดนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคุณได้ไม่ยากครับ ป.ล. มีปกใหม่ออกมาที่คิดว่าทำได้ดีตรงกับแนวเรื่องและชื่อตอนมากกว่าปกฉบับตีพิมพ์ครั้งแรกด้วย เพราะปกของเล่มสองนี้ดูเหมือนน่าจะโหดมาก แต่เนื้อในไม่ใช่อย่างที่คิด ใครอ่านตั้งแต่ต้นมาจนถึงบรรทัดสุดท้ายนี้ได้ขอได้รับความขอบคุณจากผมด้วยครับ #thaitimes #หนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #นิยายแปล #นิยายญี่ปุ่น #นิยายสืบสวน #สืบสวน #คดีฆาตกรรม #งานโรงแรม #พนักงานต้อนรับ #ตำรวจ #นักสืบ #ลูกค้า #งานบริการ #อาชีพ #ฮิงาชิโนะเคโงะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 958 มุมมอง 0 รีวิว
  • รีโพสต์เรื่องอื้อฉาวโสมมของDiddyเจ้าพ่อบันเทิงคนดังของอเมริกา
    “ปรากฏการณ์ดิ๊ดดี้ (Diddy) สะเทือนสังคมอเมริกันอย่างรุนแรง เพราะมีเซเลบริตี้เข้าไปข้องเกี่ยวมากมาย

    ก่อนจะเกิดเรื่องฉาว ดิ๊ดดี้ มีความสัมพันธ์ดีๆ กับ นักกีฬาระดับโลกหลายคน แต่ในวันนี้ทุกคนตัดความสัมพันธ์ทิ้งหมดแล้ว

    เลอบรอน เจมส์ นักบาสเกตบอลผู้โด่งดัง สนิทสนมกับดิ๊ดดี้ เป็นการส่วนตัว ลูกชายคนเล็กของเขาชื่อ บรีซ เคยไปเที่ยวกับ เจสซี่ และ ดีลีล่า ลูกสาวแฝดของดิ๊ดดี้ และเคยถ่ายคลิปเต้นด้วยกันอีกต่างหาก

    เลอบรอน เคยพูดอินสตาแกรมไลฟ์ ว่า "ทุกคนรู้ว่า ไม่มีปาร์ตี้ไหน จะเหมือนปาร์ตี้ของดิ๊ดดี้" กลายเป็นประโยคไวรัล ที่จะถูกใช้ไปอีกนานต่อจากนี้

    แต่จากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ล่าสุดเลอบรอน อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ไปแล้วเรียบร้อย ตัดขาดกันไปเลย ไม่อยากข้องเกี่ยวใดๆ ด้วย

    แพทริก มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กจากแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ เจ้าของแชมป์ซูเปอร์โบวล์ 3 สมัย ไล่ลบทวีต ที่เคยแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ดิ๊ดดี้ พยายามไม่ให้เหลือหลักฐานว่าเคยสนิทกัน (แต่โดนคนแคปเก็บไว้แล้ว)

    เช่นเดียวกับ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ และ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ก็อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ ในโซเชียลมีเดียไปแล้วทั้งหมด

    เรื่องราวของดิ๊ดดี้เป็นอย่างไร ทำไมนักกีฬาต้องเลิกติดตามเขา เราจะไปลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่แรก อย่างเข้าใจง่ายนะครับ

    ดิ๊ดดี้ มีชื่อจริงว่า ฌอน คอมบ์ส เขาเป็นคนนิวยอร์ก และเข้าสู่วงการดนตรีตั้งแต่วัยรุ่น และอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มา 3 ทศวรรษ ถือเป็นหนึ่งในเลเจนด์ของวงการเพลงแร็พ

    ฌอน คอมบ์ส มีชื่อในวงการหลายชื่อ เช่น Diddy, P.Diddy, Puff Daddy เป็นต้น

    ดิ๊ดดี้ ได้รางวัลใหญ่ๆ ในด้านดนตรีมาแล้ว แทบทุกสถาบัน เช่นแกรมมี่ อวอร์ดส และ MTV Music Awards

    เขามีซิงเกิ้ลขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ด ถึง 3 เพลง โดยหนึ่งในเพลงคลาสสิคที่สุด ที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินแน่นอน คือเพลงชื่อ I'll be missing you แค่อินโทรดังขึ้นมา ก็ติดหูแล้ว (แต่จริงๆ ไปเอาทำนองมาจากเพลงชื่อ Every Breath You Take ของ Police)

    ในปี 1993 ดิ๊ดดี้ เปิดค่ายเพลงชื่อ แบด บอย เรคคอร์ดส และเป็นโปรดิวเซอร์ให้สตาร์ของวงการมาแล้วหลายคน เช่น The Notorious B.I.G. ที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนในยุคปัจจุบันก็มี MGK ศิลปินที่ทำเพลงร้อยล้านวิวเป็นว่าเล่น

    ดิ๊ดดี้ ไม่ใช่แค่ทำเพลงเก่งอย่างเดียว แต่ยังมีหัวธุรกิจในระดับสุดยอดอีกด้วย พอมีชื่อเสียงจากฮิปฮอป เขาต่อยอดไปทำแบรนด์เสื้อผ้าชื่อ ฌอน จอห์น ตามด้วยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้กับว็อดก้ายี่ห้อซิร็อค ได้รับส่วนแบ่งยอดขายต่อขวด

    นอกจากนั้น เขายังก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ชื่อ Revolt TV เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมและดนตรี ของกลุ่มแอฟริกัน อเมริกัน โดยเฉพาะ

    และในที่สุด ปี 2022 ดิ๊ดดี้ ก็มีสินทรัพย์ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ (32,000 ล้านบาท) กลายเป็นศิลปินฮิปฮอปแค่ไม่กี่คนบนโลก ที่มีรายได้มหาศาลในเลเวลนี้

    ไม่ใช่แค่ความรวย แต่ดิ๊ดดี้ ยังสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา รวมถึงสร้างเครือข่ายของกลุ่มเซเลบริตี้ ที่คอยซัพพอร์ทช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้ดิ๊ดดี้ ถูกสื่อมวลชน ใช้คำว่า Mogul (ผู้มีอำนาจ, เจ้าพ่อ) ในวงการดนตรี

    ดิ๊ดดี้นั้น ขึ้นชื่อมาก เรื่องการจัดงานปาร์ตี้ ในช่วงปี 1998-2009 เขาจัดงานชื่อ "ไวท์ปาร์ตี้" สังสรรค์เฉพาะกลุ่มคนรวย คนดัง ใส่เสื้อขาวทั้งงาน เป็นปาร์ตี้ที่พวกเซเล็บอยากไปร่วมกันมากๆ

    ชีวิตของเขาก็ดูราบรื่นดี อย่างในปี 2022 เขาจัดงานปาร์ตี้ ฉลองวันเกิดอายุ 53 ปี ที่เบเวอร์ลี่ฮิลส์ คนดังๆ ทั้ง เจย์ซี, ทราวิส สกอตต์, แมรี่ เจ ไบล์ และ คริส บราวน์ ก็มาร่วมงานด้วย ดูแล้ว ชีวิตก็สบายๆ ไม่มีปัญหาอะไร

    ส่วนเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวนั้น ในอดีต เขาโดนคดีต่างๆ มาบ้าง เช่น พกพาอาวุธปืน หรือ ทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่ก็รอดมาได้ตลอด ไม่เคยต้องติดคุกสักครั้ง

    อย่างไรก็ตาม ชีวิตของดิ๊ดดี้ ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นับจากวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 เมื่อคาซานดร้า เวนทูร่า หรือ แคสซี่ อดีตแฟนสาวของของเขา ที่เลิกรากันไปแล้ว ไปแจ้งความที่นิวยอร์ก

    แคสซี่ ระบายความในใจทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าช่วงเวลาที่เธอคบหากับดิ๊ดดี้ มีแต่ความทรมาน และโดนทำร้ายร่างกายเป็นว่าเล่น

    เธอบอกว่าเคยโดนดิ๊ดดี้ ทั้งเตะ ทั้งต่อย จนตาเขียวช้ำ เลือดออก และมีแผลทั่วร่างกาย ครั้งหนึ่งเคยโดนต่อยท้องต่อหน้าเพื่อนๆ ของดิ๊ดดี้ด้วย

    นอกจากนั้น ยังใช้อำนาจในการบังคับ และล่อลวง ให้เธอมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น โดยที่ดิ๊ดดี้จะนั่งดูอย่างสนุกสนาน เหมือนกิจกรรมบันเทิง

    ตลอดช่วงที่คบกัน แคสซี่ โดนกระทำมากมาย เช่นบีบคอ ผลักรุนแรงจนกระแทกกำแพง เคยโดนปาไข่ใส่หน้ามาแล้ว เวลาทำอะไรไม่ถูกใจ

    ไม่ใช่แค่ทำร้ายร่างกาย หรือ บังคับเรื่องเพศ แต่ดิ๊ดดี้ ยังมีส่วนพัวพันกับอาชญากรรมหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือการจ้างคนไปเผารถยนต์ ของแรพเปอร์ชื่อ คิด คูดี้ ที่มีข่าวว่าปลื้มแคสซี่

    แล้วไม่ใช่แค่เรื่องที่ตัวเธอโดน แต่แคสซี่ แฉมากกว่านั้น บอกว่า มีปาร์ตี้พิสดาร ที่ดิ๊ดดี้เป็นเจ้าภาพ มีชื่อว่า "freak offs" (ปาร์ตี้หลุดโลก) โดยในงานมีเหล้า มียา สารผิดกฎหมาย และมีการจ้างเด็กเอ็น ทั้งชายและหญิง มามีเซ็กส์กันแบบมั่วสุดๆ และยังมีการถ่ายคลิปเก็บไว้ด้วย โดยไม่สนใจว่า คนในงานจะเต็มใจหรือไม่

    เมื่อโดนแจ้งความใส่ยับแบบนี้ ดิ๊ดดี้ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขาว่าจ้างทนายให้มาสู้คดีกับแคสซี่บนศาล คุณมีหลักฐานอะไรก็งัดกันออกมาดู

    หลังจากที่แคสซี่ ทำการแฉดิ๊ดดี้นั้น ในจังหวะใกล้ๆ กัน มีคนออกมาแจ้งความใส่ดิ๊ดดี้รัวๆ แบบต่างกรรมต่างวาระ เช่น

    - จอย ดิกเกอร์สัน-นีล เธออ้างว่า ในสมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เธอโดนดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิประหว่างใช้กำลังมีเซ็กส์กับเธอ จ่ายนั้นเอาไปส่งต่อให้คนอื่น โดยที่เธอไม่ได้ยินยอม

    - ลิซ่า การ์ดเนอร์ บอกว่าเธอกับเพื่อนถูกชวนไปปาร์ตี้ตอนอายุ 16 และโดนดิ๊ดดี้ กับ เพื่อน ล่อลวงให้มีเซ็กส์ด้วย ทั้งๆ ที่เธอยังเป็นผู้เยาว์

    - ผู้หญิงอีกคนที่ไม่เอ่ยนาม บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้ กับ ประธานบริษัทแบดบอย เรคคอร์ด ชื่อ ฮาร์ฟ ปิแอร์ และผู้ชายอีกคนหนึ่ง ทำการลงแขก ตอนเธออายุ 17 ปี โดยหลอกล่อว่าจะให้โอกาสทางหน้าที่การงาน

    - ร็อดนีย์ โจนส์ โปรดิวเซอร์ผู้ชาย ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนกดดันให้ไปมีเซ็กส์กับผู้ชายอีกคนหนึ่งในงานปาร์ตี้ โดยอ้างว่า 'นี่เป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมดนตรี'

    คดีแล้ว คดีเล่า ที่ค่อยๆ แดงออกมาเรื่อยๆ แต่ดิ๊ดดี้ ไม่ยอมจำนน เขาตั้งใจจะสู้ทุกคดี เพราะแค่พูด ใครก็พูดได้ ไว้มีหลักฐานจะจะ ค่อยคิดจะมาโค่นเขา

    วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 สถานี CNN ก็ได้หลักฐานเด็ดในคดี แคสซี่-ดิ๊ดดี้ นั่นคือกล้องวงจรปิด จากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล ในลอสแองเจลิส

    เป็นจังหวะที่แคสซี่ เดินออกจากห้องพัก เพื่อลงลิฟต์เตรียมจะกลับบ้าน แต่ดิ๊ดดี้ ตื่นขึ้นมาพอดี และเห็นแคสซี่ไม่อยู่ จึงวิ่งใส่ผ้าเช็ดตัว ออกมาตามทางเดินแล้วมาเจอเธอที่ลิฟต์

    เขาต่อยเธอด้วยหมัดขวา ถีบไปอีก 2 ที แล้วเอาแจกันแก้วที่โรงแรมวางประดับเอาไว้ ขว้างใส่ ก่อนจะลากคอกลับเข้าห้องนอน

    เมื่อมีหลักฐานจะแจ้งขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่าการใช้กำลังเกิดขึ้นจริง ทำให้ดิ๊ดดี้ก็ต้องออกมายอมรับ และกล่าวคำขอโทษต่อมวลชน

    และจากจุดนั้นเอง ทำให้เซเล็บหลายๆ คน เริ่มอันฟอลโลว์เขา ไม่มีใครอยากจะสนิทชิดเชื้อกับคนที่ใช้ความรุนแรงแบบนี้ คือภาพที่ออกไป มันแย่มาก

    และจากจุดนั้น ก็มีคดีใหม่ๆ ที่ถูกเปิดเผยเรื่อยๆ ประเดประดังเข้ามาใส่ดิ๊ดดี้ จนตั้งตัวไม่ทัน

    - คริสตัล แม็คเคนนีย์ นางแบบสาว อ้างว่าโดนดิ๊ดดี้ ใช้กำลังลากเธอเข้าไปในห้องนำแล้วบังคับให้ทำออรัลเซ็กส์ให้ ในสตูดิโอที่ใช้อัดเพลงในนิวยอร์ก

    - เอพริล แลมพรอส นักศึกษาสถาบันแฟชั่น บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้บังคับให้ทำการเซ็กส์หมู่

    - อาเดรีย อิงลิช นักแสดงหนังโป๊ บอกว่าเธอโดนล่อหลอกให้แสดงกิจกรรมทางเพศ ระหว่างงานปาร์ตี้ โจมตีดิ๊ดดี้ว่าทำการค้ามนุษย์

    - ดอว์น ริชาร์ดส นักร้องจากวงดานิตี้ เคน ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนดิ๊ดดี้แอบจับหน้าอก และจับก้นหลายครั้ง ทำแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร เหมือนเป็นเรื่องปกติ คุณพ่อของดอว์น ริชาร์ดส ขับรถจากบัลติมอร์ มานิวยอร์กเพื่อมาคุยกับดิ๊ดดี้ แต่โดนขู่ว่า "คิดถึงครอบครัวของแกให้ดีเถอะ"

    เมื่อคดียาวเป็นหางว่าวแบบนี้ ทำให้วันที่ 16 กันยายน 2024 ดิ๊ดดี้ โดนตำรวจจับกุมตัว ที่โรงแรมพาร์กไฮแอต ในนิวยอร์ก

    โดยคดีที่ตำรวจให้ความสนใจคือ การจัดปาร์ตี้เบื้องหน้า แต่เบื้องหลังคือขบวนการค้ากาม ค้ามนุษย์ รวมถึงพรากผู้เยาว์ รวมถึงการทำร้ายร่างกาย ที่มีคลิปหลักฐานชัดเจน

    สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ มองอยู่ คือดิ๊ดดี้ อาจทำเรื่องผิดกฎหมายที่ร้ายแรงกว่านั้นอีก เช่น การสร้างองค์กรอาชญากรรมของตัวเองขึ้นมา แล้วมีส่วนในการลักลอบวางเพลิง, การลักพาตัว, การใช้แรงงานทาส, การค้าสารเสพติด และ การติดสินบนเจ้าพนักงาน

    เขาอาจจะไม่ใช่แค่เจ้าพ่อเพลงฮิปฮอปเฉยๆ แต่อาจเป็นผู้มีอิทธิพลของจริงเลยก็ได้

    หลังจากดิ๊ดดี้โดนจับ มีข้อมูลน่าสนใจ ที่ตำรวจค้นพบ ระหว่างการค้นบ้านของดิ๊ดดี้ ที่ลอสแองเจลิส กับ ไมอามี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ freak offs

    ตำรวจพบว่า มีขวดเบบี้ออยล์ มากถึง 1,000 ขวด อยู่ในบ้าน

    แน่นอน คนก็เชื่อมโยงว่า คุณจะซื้อเบบี้ออยล์มาเยอะขนาดนั้นทำไม เหตุผลน่าจะมีอย่างเดียวคือ คงเอาไปใช้ในกิจกรรมทางเพศอย่างบ้าคลั่ง เช่นงาน ปาร์ตี้เซ็กส์ เป็นต้น

    นับจนถึงเมื่อวานนี้ (24 กันยายน) มีคนแจ้งความดิ๊ดดี้ ทั้งหมด 11 คน และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นอีกเรื่อยๆ

    รวมถึงบางคดี ที่น่าสนใจเหมือนกัน เช่น จากัวร์ ไรท์ นักร้องสาวชาวอเมริกัน อ้างว่า ดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิปของเซเลบริตี้หลายคนเอาไว้ แล้วไปปล่อยในดาร์กเว็บ ได้เงินมา 500 ล้านดอลลาร์

    นอกจากนั้น ยังมีข่าวลืออีกสารพัด ว่าเขาเคยล่วงละเมิด ศิลปินทั้งชาย และ หญิง มาแล้วหลายคน ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีคนที่เป็นซูเปอร์สตาร์ในปัจจุบันด้วย

    สถานการณ์ล่าสุด ดิ๊ดดี้ต้องไปอยู่ในห้องขัง โดยเขายื่นข้อเสนอประกันตัว 50 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งติด GPS เพื่อการันตีว่าจะไม่หลบหนี แต่ศาลไม่อนุมัติ ทำให้ตอนนี้ดิ๊ดดี้ต้องอยู่ในเรือนจำที่บรู๊คลิน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

    สเต็ปต่อไปทนายของดิ๊ดดี้ กำลังเตรียมสู้คดีอย่างเต็มที่ คือมีบางเคสที่ดิ๊ดดี้โดนแน่ๆ เช่นทำร้ายร่างกายแคสซี่ เพราะมีกล้องวงจรปิดชัดเจน

    แต่กับคดีอื่นๆ ที่เขาโดนกล่าวหาว่ากระทำ ก็ต้องมาพิสูจน์กันต่อไป ว่าทำจริงหรือไม่

    สำหรับในวงการกีฬานั้น เรื่องนี้ก็สั่นสะเทือนเช่นกัน เพราะศิลปินฮิปฮ็อป กับนักกีฬาอีลีท มักจะสนิทสนมกัน เช่น เคนดริค ลามาร์ กับ เดมาร์ เดโรซาน สนิทกันถึงขั้นเดโรซานไปเล่นในเอ็มวีให้

    หรือตอนรัสเซลล์ เวสต์บรู๊ก นำทริปเปิ้ลดับเบิ้ลในตำนาน (20 แต้ม, 20 รีบาวด์, 20 แอสซิสต์) เขาอุทิศผลงานนี้ ให้กับแรพเปอร์ ชื่อ นิปซีย์ ผู้ล่วงลับ

    โดยดิ๊ดดี้ อยู่ในวงการมาเกิน 30 ปี รู้จักคนมากมาย และสนิทสนมกับนักกีฬาหลายคน ไปร่วมกิจกรรมกับ NBA ก็บ่อย แต่ถึงตรงนี้ ก็คงไม่มีใครที่พร้อมจะอยู่ซัพพอร์ทเขา เพราะไม่อยากติดร่างแหไปด้วย

    มีคนย้อนไปดูคลิปงานปาร์ตี้ freak offs ที่เผยแพร่ออกมา พบว่า มีนักกีฬาบางคนไปร่วมงานด้วย เช่น เลียวนาร์ด โฟร์เนตต์ รันนิ่งแบ็กชุดแชมป์ NFL ของแทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ ซึ่งโฟร์เนตต์ก็โดนสังคมจับจ้องทันทีว่า ไปมั่วยา มั่วเซ็กส์ หรือทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า

    ดังนั้นสิ่งที่นักกีฬาทำตอนนี้คือ เอาตัวออกห่างจากดิ๊ดดี้ให้ไกลที่สุด ไม่ให้เชื่อมโยงกันได้ อะไรที่เคยโพสต์ถึงก็ไล่ลบจนเกลี้ยงทั้งหมด

    สิ่งที่เราเห็นจากเรื่องนี้ คือในวันที่ยิ่งใหญ่ ทำอะไรก็ราบรื่น ผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ในวันนี้ ที่ความผิดเริ่มแดงออกมาเรื่อยๆ ดิ๊ดดี้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครอยากจะร่วม "ปาร์ตี้" ของเขาอีกแล้ว

    และแน่นอน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าทำผิดจริง ก็ต้องรับโทษทางกฎหมายกันไป

    บางคนบอกว่า ถ้าทีมทนายไม่เก่งระดับเทพล่ะก็ อิสรภาพวันสุดท้ายของดิ๊ดดี้ อาจจะหมดลงแล้ว และอาจติดคุกในช่วงที่เหลืออยู่ของชีวิต แม้จะมีเงินในบัญชีถึง 1 พันล้านดอลลาร์ก็ตามที”

    ที่มา : เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง https://www.facebook.com/share/5f8x3Zx1WzpUs8b5/?mibextid=CTbP7E
    ภาพ

    #Thaitimes
    รีโพสต์เรื่องอื้อฉาวโสมมของDiddyเจ้าพ่อบันเทิงคนดังของอเมริกา “ปรากฏการณ์ดิ๊ดดี้ (Diddy) สะเทือนสังคมอเมริกันอย่างรุนแรง เพราะมีเซเลบริตี้เข้าไปข้องเกี่ยวมากมาย ก่อนจะเกิดเรื่องฉาว ดิ๊ดดี้ มีความสัมพันธ์ดีๆ กับ นักกีฬาระดับโลกหลายคน แต่ในวันนี้ทุกคนตัดความสัมพันธ์ทิ้งหมดแล้ว เลอบรอน เจมส์ นักบาสเกตบอลผู้โด่งดัง สนิทสนมกับดิ๊ดดี้ เป็นการส่วนตัว ลูกชายคนเล็กของเขาชื่อ บรีซ เคยไปเที่ยวกับ เจสซี่ และ ดีลีล่า ลูกสาวแฝดของดิ๊ดดี้ และเคยถ่ายคลิปเต้นด้วยกันอีกต่างหาก เลอบรอน เคยพูดอินสตาแกรมไลฟ์ ว่า "ทุกคนรู้ว่า ไม่มีปาร์ตี้ไหน จะเหมือนปาร์ตี้ของดิ๊ดดี้" กลายเป็นประโยคไวรัล ที่จะถูกใช้ไปอีกนานต่อจากนี้ แต่จากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ล่าสุดเลอบรอน อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ไปแล้วเรียบร้อย ตัดขาดกันไปเลย ไม่อยากข้องเกี่ยวใดๆ ด้วย แพทริก มาโฮมส์ ควอเตอร์แบ็กจากแคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ เจ้าของแชมป์ซูเปอร์โบวล์ 3 สมัย ไล่ลบทวีต ที่เคยแฮปปี้เบิร์ธเดย์ ดิ๊ดดี้ พยายามไม่ให้เหลือหลักฐานว่าเคยสนิทกัน (แต่โดนคนแคปเก็บไว้แล้ว) เช่นเดียวกับ สเตฟเฟ่น เคอร์รี่ และ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ก็อันฟอลโลว์ดิ๊ดดี้ ในโซเชียลมีเดียไปแล้วทั้งหมด เรื่องราวของดิ๊ดดี้เป็นอย่างไร ทำไมนักกีฬาต้องเลิกติดตามเขา เราจะไปลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่แรก อย่างเข้าใจง่ายนะครับ ดิ๊ดดี้ มีชื่อจริงว่า ฌอน คอมบ์ส เขาเป็นคนนิวยอร์ก และเข้าสู่วงการดนตรีตั้งแต่วัยรุ่น และอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มา 3 ทศวรรษ ถือเป็นหนึ่งในเลเจนด์ของวงการเพลงแร็พ ฌอน คอมบ์ส มีชื่อในวงการหลายชื่อ เช่น Diddy, P.Diddy, Puff Daddy เป็นต้น ดิ๊ดดี้ ได้รางวัลใหญ่ๆ ในด้านดนตรีมาแล้ว แทบทุกสถาบัน เช่นแกรมมี่ อวอร์ดส และ MTV Music Awards เขามีซิงเกิ้ลขึ้นอันดับ 1 บิลบอร์ด ถึง 3 เพลง โดยหนึ่งในเพลงคลาสสิคที่สุด ที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินแน่นอน คือเพลงชื่อ I'll be missing you แค่อินโทรดังขึ้นมา ก็ติดหูแล้ว (แต่จริงๆ ไปเอาทำนองมาจากเพลงชื่อ Every Breath You Take ของ Police) ในปี 1993 ดิ๊ดดี้ เปิดค่ายเพลงชื่อ แบด บอย เรคคอร์ดส และเป็นโปรดิวเซอร์ให้สตาร์ของวงการมาแล้วหลายคน เช่น The Notorious B.I.G. ที่เสียชีวิตไปแล้ว ส่วนในยุคปัจจุบันก็มี MGK ศิลปินที่ทำเพลงร้อยล้านวิวเป็นว่าเล่น ดิ๊ดดี้ ไม่ใช่แค่ทำเพลงเก่งอย่างเดียว แต่ยังมีหัวธุรกิจในระดับสุดยอดอีกด้วย พอมีชื่อเสียงจากฮิปฮอป เขาต่อยอดไปทำแบรนด์เสื้อผ้าชื่อ ฌอน จอห์น ตามด้วยเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ ให้กับว็อดก้ายี่ห้อซิร็อค ได้รับส่วนแบ่งยอดขายต่อขวด นอกจากนั้น เขายังก่อตั้งสถานีโทรทัศน์ชื่อ Revolt TV เพื่อนำเสนอวัฒนธรรมและดนตรี ของกลุ่มแอฟริกัน อเมริกัน โดยเฉพาะ และในที่สุด ปี 2022 ดิ๊ดดี้ ก็มีสินทรัพย์ทะลุ 1 พันล้านดอลลาร์ (32,000 ล้านบาท) กลายเป็นศิลปินฮิปฮอปแค่ไม่กี่คนบนโลก ที่มีรายได้มหาศาลในเลเวลนี้ ไม่ใช่แค่ความรวย แต่ดิ๊ดดี้ ยังสร้างอาณาจักรของตัวเองขึ้นมา รวมถึงสร้างเครือข่ายของกลุ่มเซเลบริตี้ ที่คอยซัพพอร์ทช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ทำให้ดิ๊ดดี้ ถูกสื่อมวลชน ใช้คำว่า Mogul (ผู้มีอำนาจ, เจ้าพ่อ) ในวงการดนตรี ดิ๊ดดี้นั้น ขึ้นชื่อมาก เรื่องการจัดงานปาร์ตี้ ในช่วงปี 1998-2009 เขาจัดงานชื่อ "ไวท์ปาร์ตี้" สังสรรค์เฉพาะกลุ่มคนรวย คนดัง ใส่เสื้อขาวทั้งงาน เป็นปาร์ตี้ที่พวกเซเล็บอยากไปร่วมกันมากๆ ชีวิตของเขาก็ดูราบรื่นดี อย่างในปี 2022 เขาจัดงานปาร์ตี้ ฉลองวันเกิดอายุ 53 ปี ที่เบเวอร์ลี่ฮิลส์ คนดังๆ ทั้ง เจย์ซี, ทราวิส สกอตต์, แมรี่ เจ ไบล์ และ คริส บราวน์ ก็มาร่วมงานด้วย ดูแล้ว ชีวิตก็สบายๆ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องพฤติกรรมส่วนตัวนั้น ในอดีต เขาโดนคดีต่างๆ มาบ้าง เช่น พกพาอาวุธปืน หรือ ทำร้ายร่างกายคนอื่น แต่ก็รอดมาได้ตลอด ไม่เคยต้องติดคุกสักครั้ง อย่างไรก็ตาม ชีวิตของดิ๊ดดี้ ต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นับจากวันที่ 16 พฤศจิกายน 2023 เมื่อคาซานดร้า เวนทูร่า หรือ แคสซี่ อดีตแฟนสาวของของเขา ที่เลิกรากันไปแล้ว ไปแจ้งความที่นิวยอร์ก แคสซี่ ระบายความในใจทั้งหมดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าช่วงเวลาที่เธอคบหากับดิ๊ดดี้ มีแต่ความทรมาน และโดนทำร้ายร่างกายเป็นว่าเล่น เธอบอกว่าเคยโดนดิ๊ดดี้ ทั้งเตะ ทั้งต่อย จนตาเขียวช้ำ เลือดออก และมีแผลทั่วร่างกาย ครั้งหนึ่งเคยโดนต่อยท้องต่อหน้าเพื่อนๆ ของดิ๊ดดี้ด้วย นอกจากนั้น ยังใช้อำนาจในการบังคับ และล่อลวง ให้เธอมีเพศสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น โดยที่ดิ๊ดดี้จะนั่งดูอย่างสนุกสนาน เหมือนกิจกรรมบันเทิง ตลอดช่วงที่คบกัน แคสซี่ โดนกระทำมากมาย เช่นบีบคอ ผลักรุนแรงจนกระแทกกำแพง เคยโดนปาไข่ใส่หน้ามาแล้ว เวลาทำอะไรไม่ถูกใจ ไม่ใช่แค่ทำร้ายร่างกาย หรือ บังคับเรื่องเพศ แต่ดิ๊ดดี้ ยังมีส่วนพัวพันกับอาชญากรรมหลายอย่าง หนึ่งในนั้น คือการจ้างคนไปเผารถยนต์ ของแรพเปอร์ชื่อ คิด คูดี้ ที่มีข่าวว่าปลื้มแคสซี่ แล้วไม่ใช่แค่เรื่องที่ตัวเธอโดน แต่แคสซี่ แฉมากกว่านั้น บอกว่า มีปาร์ตี้พิสดาร ที่ดิ๊ดดี้เป็นเจ้าภาพ มีชื่อว่า "freak offs" (ปาร์ตี้หลุดโลก) โดยในงานมีเหล้า มียา สารผิดกฎหมาย และมีการจ้างเด็กเอ็น ทั้งชายและหญิง มามีเซ็กส์กันแบบมั่วสุดๆ และยังมีการถ่ายคลิปเก็บไว้ด้วย โดยไม่สนใจว่า คนในงานจะเต็มใจหรือไม่ เมื่อโดนแจ้งความใส่ยับแบบนี้ ดิ๊ดดี้ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เขาว่าจ้างทนายให้มาสู้คดีกับแคสซี่บนศาล คุณมีหลักฐานอะไรก็งัดกันออกมาดู หลังจากที่แคสซี่ ทำการแฉดิ๊ดดี้นั้น ในจังหวะใกล้ๆ กัน มีคนออกมาแจ้งความใส่ดิ๊ดดี้รัวๆ แบบต่างกรรมต่างวาระ เช่น - จอย ดิกเกอร์สัน-นีล เธออ้างว่า ในสมัยเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย เธอโดนดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิประหว่างใช้กำลังมีเซ็กส์กับเธอ จ่ายนั้นเอาไปส่งต่อให้คนอื่น โดยที่เธอไม่ได้ยินยอม - ลิซ่า การ์ดเนอร์ บอกว่าเธอกับเพื่อนถูกชวนไปปาร์ตี้ตอนอายุ 16 และโดนดิ๊ดดี้ กับ เพื่อน ล่อลวงให้มีเซ็กส์ด้วย ทั้งๆ ที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ - ผู้หญิงอีกคนที่ไม่เอ่ยนาม บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้ กับ ประธานบริษัทแบดบอย เรคคอร์ด ชื่อ ฮาร์ฟ ปิแอร์ และผู้ชายอีกคนหนึ่ง ทำการลงแขก ตอนเธออายุ 17 ปี โดยหลอกล่อว่าจะให้โอกาสทางหน้าที่การงาน - ร็อดนีย์ โจนส์ โปรดิวเซอร์ผู้ชาย ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนกดดันให้ไปมีเซ็กส์กับผู้ชายอีกคนหนึ่งในงานปาร์ตี้ โดยอ้างว่า 'นี่เป็นเรื่องปกติในอุตสาหกรรมดนตรี' คดีแล้ว คดีเล่า ที่ค่อยๆ แดงออกมาเรื่อยๆ แต่ดิ๊ดดี้ ไม่ยอมจำนน เขาตั้งใจจะสู้ทุกคดี เพราะแค่พูด ใครก็พูดได้ ไว้มีหลักฐานจะจะ ค่อยคิดจะมาโค่นเขา วันที่ 17 พฤษภาคม 2024 สถานี CNN ก็ได้หลักฐานเด็ดในคดี แคสซี่-ดิ๊ดดี้ นั่นคือกล้องวงจรปิด จากโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนทัล ในลอสแองเจลิส เป็นจังหวะที่แคสซี่ เดินออกจากห้องพัก เพื่อลงลิฟต์เตรียมจะกลับบ้าน แต่ดิ๊ดดี้ ตื่นขึ้นมาพอดี และเห็นแคสซี่ไม่อยู่ จึงวิ่งใส่ผ้าเช็ดตัว ออกมาตามทางเดินแล้วมาเจอเธอที่ลิฟต์ เขาต่อยเธอด้วยหมัดขวา ถีบไปอีก 2 ที แล้วเอาแจกันแก้วที่โรงแรมวางประดับเอาไว้ ขว้างใส่ ก่อนจะลากคอกลับเข้าห้องนอน เมื่อมีหลักฐานจะแจ้งขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่าการใช้กำลังเกิดขึ้นจริง ทำให้ดิ๊ดดี้ก็ต้องออกมายอมรับ และกล่าวคำขอโทษต่อมวลชน และจากจุดนั้นเอง ทำให้เซเล็บหลายๆ คน เริ่มอันฟอลโลว์เขา ไม่มีใครอยากจะสนิทชิดเชื้อกับคนที่ใช้ความรุนแรงแบบนี้ คือภาพที่ออกไป มันแย่มาก และจากจุดนั้น ก็มีคดีใหม่ๆ ที่ถูกเปิดเผยเรื่อยๆ ประเดประดังเข้ามาใส่ดิ๊ดดี้ จนตั้งตัวไม่ทัน - คริสตัล แม็คเคนนีย์ นางแบบสาว อ้างว่าโดนดิ๊ดดี้ ใช้กำลังลากเธอเข้าไปในห้องนำแล้วบังคับให้ทำออรัลเซ็กส์ให้ ในสตูดิโอที่ใช้อัดเพลงในนิวยอร์ก - เอพริล แลมพรอส นักศึกษาสถาบันแฟชั่น บอกว่าเธอโดนดิ๊ดดี้บังคับให้ทำการเซ็กส์หมู่ - อาเดรีย อิงลิช นักแสดงหนังโป๊ บอกว่าเธอโดนล่อหลอกให้แสดงกิจกรรมทางเพศ ระหว่างงานปาร์ตี้ โจมตีดิ๊ดดี้ว่าทำการค้ามนุษย์ - ดอว์น ริชาร์ดส นักร้องจากวงดานิตี้ เคน ที่เคยร่วมงานกับดิ๊ดดี้ บอกว่า โดนดิ๊ดดี้แอบจับหน้าอก และจับก้นหลายครั้ง ทำแบบไม่รู้สึกรู้สาอะไร เหมือนเป็นเรื่องปกติ คุณพ่อของดอว์น ริชาร์ดส ขับรถจากบัลติมอร์ มานิวยอร์กเพื่อมาคุยกับดิ๊ดดี้ แต่โดนขู่ว่า "คิดถึงครอบครัวของแกให้ดีเถอะ" เมื่อคดียาวเป็นหางว่าวแบบนี้ ทำให้วันที่ 16 กันยายน 2024 ดิ๊ดดี้ โดนตำรวจจับกุมตัว ที่โรงแรมพาร์กไฮแอต ในนิวยอร์ก โดยคดีที่ตำรวจให้ความสนใจคือ การจัดปาร์ตี้เบื้องหน้า แต่เบื้องหลังคือขบวนการค้ากาม ค้ามนุษย์ รวมถึงพรากผู้เยาว์ รวมถึงการทำร้ายร่างกาย ที่มีคลิปหลักฐานชัดเจน สิ่งที่รัฐบาลสหรัฐฯ มองอยู่ คือดิ๊ดดี้ อาจทำเรื่องผิดกฎหมายที่ร้ายแรงกว่านั้นอีก เช่น การสร้างองค์กรอาชญากรรมของตัวเองขึ้นมา แล้วมีส่วนในการลักลอบวางเพลิง, การลักพาตัว, การใช้แรงงานทาส, การค้าสารเสพติด และ การติดสินบนเจ้าพนักงาน เขาอาจจะไม่ใช่แค่เจ้าพ่อเพลงฮิปฮอปเฉยๆ แต่อาจเป็นผู้มีอิทธิพลของจริงเลยก็ได้ หลังจากดิ๊ดดี้โดนจับ มีข้อมูลน่าสนใจ ที่ตำรวจค้นพบ ระหว่างการค้นบ้านของดิ๊ดดี้ ที่ลอสแองเจลิส กับ ไมอามี่ ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานปาร์ตี้ freak offs ตำรวจพบว่า มีขวดเบบี้ออยล์ มากถึง 1,000 ขวด อยู่ในบ้าน แน่นอน คนก็เชื่อมโยงว่า คุณจะซื้อเบบี้ออยล์มาเยอะขนาดนั้นทำไม เหตุผลน่าจะมีอย่างเดียวคือ คงเอาไปใช้ในกิจกรรมทางเพศอย่างบ้าคลั่ง เช่นงาน ปาร์ตี้เซ็กส์ เป็นต้น นับจนถึงเมื่อวานนี้ (24 กันยายน) มีคนแจ้งความดิ๊ดดี้ ทั้งหมด 11 คน และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นอีกเรื่อยๆ รวมถึงบางคดี ที่น่าสนใจเหมือนกัน เช่น จากัวร์ ไรท์ นักร้องสาวชาวอเมริกัน อ้างว่า ดิ๊ดดี้ ถ่ายคลิปของเซเลบริตี้หลายคนเอาไว้ แล้วไปปล่อยในดาร์กเว็บ ได้เงินมา 500 ล้านดอลลาร์ นอกจากนั้น ยังมีข่าวลืออีกสารพัด ว่าเขาเคยล่วงละเมิด ศิลปินทั้งชาย และ หญิง มาแล้วหลายคน ซึ่งในจำนวนนั้นก็มีคนที่เป็นซูเปอร์สตาร์ในปัจจุบันด้วย สถานการณ์ล่าสุด ดิ๊ดดี้ต้องไปอยู่ในห้องขัง โดยเขายื่นข้อเสนอประกันตัว 50 ล้านดอลลาร์ พร้อมทั้งติด GPS เพื่อการันตีว่าจะไม่หลบหนี แต่ศาลไม่อนุมัติ ทำให้ตอนนี้ดิ๊ดดี้ต้องอยู่ในเรือนจำที่บรู๊คลิน จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง สเต็ปต่อไปทนายของดิ๊ดดี้ กำลังเตรียมสู้คดีอย่างเต็มที่ คือมีบางเคสที่ดิ๊ดดี้โดนแน่ๆ เช่นทำร้ายร่างกายแคสซี่ เพราะมีกล้องวงจรปิดชัดเจน แต่กับคดีอื่นๆ ที่เขาโดนกล่าวหาว่ากระทำ ก็ต้องมาพิสูจน์กันต่อไป ว่าทำจริงหรือไม่ สำหรับในวงการกีฬานั้น เรื่องนี้ก็สั่นสะเทือนเช่นกัน เพราะศิลปินฮิปฮ็อป กับนักกีฬาอีลีท มักจะสนิทสนมกัน เช่น เคนดริค ลามาร์ กับ เดมาร์ เดโรซาน สนิทกันถึงขั้นเดโรซานไปเล่นในเอ็มวีให้ หรือตอนรัสเซลล์ เวสต์บรู๊ก นำทริปเปิ้ลดับเบิ้ลในตำนาน (20 แต้ม, 20 รีบาวด์, 20 แอสซิสต์) เขาอุทิศผลงานนี้ ให้กับแรพเปอร์ ชื่อ นิปซีย์ ผู้ล่วงลับ โดยดิ๊ดดี้ อยู่ในวงการมาเกิน 30 ปี รู้จักคนมากมาย และสนิทสนมกับนักกีฬาหลายคน ไปร่วมกิจกรรมกับ NBA ก็บ่อย แต่ถึงตรงนี้ ก็คงไม่มีใครที่พร้อมจะอยู่ซัพพอร์ทเขา เพราะไม่อยากติดร่างแหไปด้วย มีคนย้อนไปดูคลิปงานปาร์ตี้ freak offs ที่เผยแพร่ออกมา พบว่า มีนักกีฬาบางคนไปร่วมงานด้วย เช่น เลียวนาร์ด โฟร์เนตต์ รันนิ่งแบ็กชุดแชมป์ NFL ของแทมป้าเบย์ บัคคาเนียร์ ซึ่งโฟร์เนตต์ก็โดนสังคมจับจ้องทันทีว่า ไปมั่วยา มั่วเซ็กส์ หรือทำอะไรผิดกฎหมายหรือเปล่า ดังนั้นสิ่งที่นักกีฬาทำตอนนี้คือ เอาตัวออกห่างจากดิ๊ดดี้ให้ไกลที่สุด ไม่ให้เชื่อมโยงกันได้ อะไรที่เคยโพสต์ถึงก็ไล่ลบจนเกลี้ยงทั้งหมด สิ่งที่เราเห็นจากเรื่องนี้ คือในวันที่ยิ่งใหญ่ ทำอะไรก็ราบรื่น ผู้คนล้อมหน้าล้อมหลัง แต่ในวันนี้ ที่ความผิดเริ่มแดงออกมาเรื่อยๆ ดิ๊ดดี้ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่มีใครอยากจะร่วม "ปาร์ตี้" ของเขาอีกแล้ว และแน่นอน ถ้าพิสูจน์ได้ว่าทำผิดจริง ก็ต้องรับโทษทางกฎหมายกันไป บางคนบอกว่า ถ้าทีมทนายไม่เก่งระดับเทพล่ะก็ อิสรภาพวันสุดท้ายของดิ๊ดดี้ อาจจะหมดลงแล้ว และอาจติดคุกในช่วงที่เหลืออยู่ของชีวิต แม้จะมีเงินในบัญชีถึง 1 พันล้านดอลลาร์ก็ตามที” ที่มา : เพจวิเคราะห์บอลจริงจัง https://www.facebook.com/share/5f8x3Zx1WzpUs8b5/?mibextid=CTbP7E ภาพ #Thaitimes
    Like
    1
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 918 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดังเช่น ที่เร้นซ่อน
    ไม่โอนอ่อน ผ่อนให้เห็น
    ข้างใน อย่างที่เป็น
    ปิดชิดเน้น เร้นความนัย

    ไม่เปิด ไม่ยอมเผย
    ไม่เคยเลย เอ่ยสิ่งใด
    หากคาดเดา คงห่างไกล
    ที่เป็นไป จากเป็นจริง

    ผนึกไว้ บานใบหนา
    สร้างขึ้นมา บังทุกสิ่ง
    กั้นลมฝน ปกความจริง
    ป้องทุกสิ่ง จะกล้ำกราย
    ดังเช่น ที่เร้นซ่อน ไม่โอนอ่อน ผ่อนให้เห็น ข้างใน อย่างที่เป็น ปิดชิดเน้น เร้นความนัย ไม่เปิด ไม่ยอมเผย ไม่เคยเลย เอ่ยสิ่งใด หากคาดเดา คงห่างไกล ที่เป็นไป จากเป็นจริง ผนึกไว้ บานใบหนา สร้างขึ้นมา บังทุกสิ่ง กั้นลมฝน ปกความจริง ป้องทุกสิ่ง จะกล้ำกราย
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • #คิงส์นี้ใช่มั๊ยที่กำลังตามหา
    รายละเอียดดังนี้
    กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล (อังกฤษ: King Power International Group) เป็นบริษัทด้านธุรกิจค้าปลีกสินค้าปลอดอากรของไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2532 โดยวิชัย ศรีวัฒนประภา ใช้ชื่อเดิมว่า บริษัท ดาวน์ทาวน์ ดี.เอฟ.เอส (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ร่วมทุนกับ ททท. เปิดดำเนินกิจการร้านค้าปลอดอากรในเมืองเป็นรายแรกในประเทศไทย ณ อาคารมหาทุนพลาซ่า ถนนเพลินจิต ต่อมาในปี พ.ศ. 2536–2549 ได้รับสัมปทานจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ปัจจุบันคือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)) เข้าบริหารร้านค้าปลอดภาษี ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่ ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี จำกัด และในปี พ.ศ. 2549 ได้เข้ามาดำเนินการสินค้าปลอดอากร ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 บริษัทได้รับพระราชทานตราตั้งห้างครุฑ ตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ ถนนรางน้ำ เขตราชเทวี
    ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวจะพยายามหามาให้อีกนะครับ
    รักทุกค๊นนน
    #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์นี้ใช่มั๊ยที่กำลังตามหา รายละเอียดดังนี้ กลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล (อังกฤษ: King Power International Group) เป็นบริษัทด้านธุรกิจค้าปลีกสินค้าปลอดอากรของไทย ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2532 โดยวิชัย ศรีวัฒนประภา ใช้ชื่อเดิมว่า บริษัท ดาวน์ทาวน์ ดี.เอฟ.เอส (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ร่วมทุนกับ ททท. เปิดดำเนินกิจการร้านค้าปลอดอากรในเมืองเป็นรายแรกในประเทศไทย ณ อาคารมหาทุนพลาซ่า ถนนเพลินจิต ต่อมาในปี พ.ศ. 2536–2549 ได้รับสัมปทานจากการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย (ปัจจุบันคือ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)) เข้าบริหารร้านค้าปลอดภาษี ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต และหาดใหญ่ ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท คิง เพาเวอร์ แท็กซ์ฟรี จำกัด และในปี พ.ศ. 2549 ได้เข้ามาดำเนินการสินค้าปลอดอากร ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552 บริษัทได้รับพระราชทานตราตั้งห้างครุฑ ตั้งอยู่ที่สำนักงานใหญ่ ถนนรางน้ำ เขตราชเทวี ถ้าไม่ใช่เดี๋ยวจะพยายามหามาให้อีกนะครับ รักทุกค๊นนน #คิงส์โพธิ์แดง-สำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    Love
    12
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 560 มุมมอง 0 รีวิว
  • 24-09-67/01 : หมี CNN / สัพเพเหระ เม้าท์มอย สังขยา ปลาปิ้ง EP.49 THE DAY AFTER 2MORROW มรึงโดนกูแน่! วัดกันไปเลย วันต่อวัน จะมีปัญญาจุดไฟโหมโรง WWIII หรือไม่ อยู่ที่ ขี้ข้าเหี้ย ใจกล้าพอแค่ไหน? พร้อมตายยัง? ทะเลาะกันวงแตก หามติไม่ได้ ทั้ง NATO EU ต่างชิ่งหนีเอาตัวรอด ใครจะยอมโง่ไปตายห่าฟรี เพื่อบูชายันต์สนองตัณหาให้อียิวสลัดหมากันล่ะ? เสี้ยมกันจังน่ะมรึง! ช่องอีอ่ำ ดันสุดฤทธิ์ ห่มเหลืองบูชาเยซูคริสต์เจ้า แค่ไม่ใช่ควาย มีสติ หมายังมองออก ทำลายแก้ว 3 ประการ 1 ในนั้นคือพุทธศาสนา คนเราหากมีสติ มีเหรอ? จะดูไม่ออก ว่าเหี้ยต้องการอะไร? ไม่ว่าพุทธ คริสต์ อิสลาม ศาสนาไหนก็ดีหมด หากมรึงศรัทธาด้วยสติ ไอ้ที่ทะเลาะกันเนี่ย เพราะเหี้ยมันเสี้ยม มรึงดูอิรัก-อิหร่าน เป็นตัวอย่าง สุนี่-ชิอะห์ ไม่เผาผี แล้วเป็นยังไง วันนี้ รักกันปานจะกลืนกิน เพ่น้องร่วมโลกมุสลิม ใครเสี้ยมให้มรึงเข่นฆ่ากันเอง หันปากกระบอกปืนไปไล่ฆ่าอียูดาส อีชั่วทรยศพระเจ้าจะดีกว่ามุย? มีแต่สัดนรกเท่านั้นแหละ ที่ไม่อยากเห็นมวลมนุษยชาติรักใคร่กัน เพราะมันจะหาแดร๊กลำบาก ธุรกิจของอียิวทุกอย่าง มีไว้เพื่อทำลายมวลมนุษยชาติโดยตรง ใครออกแบบล่ะ ก็อีนายใหญ่สัดนรกเลื้อยคลานเรปทีเรี่ยนไงล่ะ? เมื่อเข้าใจโลกดีแล้วว่า ความชั่วบัดซบ มาจากพวกมัน แล้วมรึงจะรออะไรอยู่ล่ะ "ฆ่าล้างโคตรแม่งซะ โลกสงบสุขทันที" ที่มาว่าแสงทำงานดีเกิน ตาสว่างไสวไปทั่วโลก แค่ตั้งสติ ปัญญามาทันที! รัสเซียจ๋า มรึงจะรีบคึกไปไหน ของเหลือเยอะชิมิ? ล่อชุดใหญ่ 900 ลูก ปูพรมแบบ NON STOP อียูเครนมันเหลือแต่ซากศพแล้ว จะขยี้ไปถึงไหน? ไอ้สัส! บร๊าไปแล้ว แค่ 7 NANO ชิปเทพ อีฝรั่งหัวทองเห็นยังอึ้ง ยังช็อค! นี่เผลอแป๊บเดียว มรึงจะไปถึง 8 NANO อีกแล้วเหรอ? สัส..ชาติหน้า เมื่อไหร่จะตามทัน โครงการอวกาศจีน แม่งไปถึงดาวอันโดรเมด้าแล้ว มรึงยังจะเพิ่งหาทางไปเหยียบดวงจันทร์อยู่ แม่งคนละสเปซี่เลย จีนยุคใหม่ แม่ง GENIUS ชัดๆ แล้วเสี้ยนจะทำสงครามกับจีน มีปัญญาเหรอ ไอ้ควาย? สาแก่ใจอีช้อยทั้งตะวันออกกลาง IRGC จับสายลับอีมดเหี้ยยิว 12 ตัว ไม่ต้องถามสภาพจะเหลือมุย? ตายเร็วสบายไป งานนี้ ร้องขอความตายสถานเดียว! นี่กลายเป็นว่า "อียิว" กลายเป็นเหยื่อ ให้นายพรานจากโลกมุสลิมไล่ล่าฆ่ากันอย่างเมามันส์ เอาให้สูญพันธุ์เหี้ยกันไปเลย จับได้ รีดข้อมูล จับขึงก่อน ทรมานซัก 15 วัน แล้วค่อยเชือด อยากกลับขุมนรก กูจัดให้! มันส์ล่ะมรึง! สัญญานแรง 6G จีนและชาวโลก สั่งแห่อพยพคนของตนออกจากอิสราเอลทั้งหมดแล้ว นัยยะคือ "มินิคุ๊กกี้รสปลาหมึกย่างมาเต็มตรีน" สถานฑูตไม่เหลือใครอยู่เฝ้าแล้วจ๊ะ ทะยอยออกกันเกือบหมดแล้ว อีเนรคุณแพะ หนีก็ไม่ได้ สู้ก็ตายคาที่ กวักมือเรียกขี้ข้ามะกันมา มาได้แต่นอกรัศมีระยะยิงเยเมน ไอ้สัส! ปอดแหกซะขนาดนี้ อย่าริเปิดเกมส์ใหญ่ ไม่คู่ควร! ล่าสุด XIAOMI ทำยอดขายทะลุแซง อีไอโฟนเน่าเรียบร้อย โลกไม่ใช่ของอียิวอีกแล้ว ระเบิดตายหลักสิบ แต่มูลค่าการตลาดมรึงเสียหายหลายแสนล้านเหรียญ ไม่ใช่โง่ดอก แต่มันจนตรอกขั้นสูงสุด สิ้นเนื้อประดาตัวหมดแล้ว ยังให้ตายห่าง่ายๆ ไม่สาแก่ใจ โลกรู้ ว่ามรึงแอบส่ง HAARP ไปทำลายสิ่งแวดล้อมคู่ปรปักษ์ แต่จีนล้ำกว่ามรึงเยอะ สิ่งที่จีนทำ สิ่งที่จีนมี คือส่งผลสะท้อนคลื่นแม่เหล็กกลับใส่มรึงไงล่ะ? จีนทำได้เนียนตากว่าเยอะ ยิ่งรัสเซียไม่ต้องถาม แจมสัญญานสื่อสาร ทำให้ GPS มรึงเสียการควบคุม ระบบมรึงรวนทั้งระบบ ทำไปแล้ว ตั้งแต่สัญญานอินเตอร์เน็ตล่ม โรงงานไฟฟ้าดับ โรงงานนิวเคลียร์ไม่ทำงาน วงในเค้ารู้กันว่าฝีมือใคร ที่มีเทคโนโลยีล้ำซะขนาดนี้ ขนาดนอกโลก มรึงยังต้องแบมือกราบของแรงช่วยส่งนักบินกลับโลก หมาซะยิ่งกว่าหมา? แบบนี้ ยังจะหน้าด้านมาท้าสู้อีก แค่ใต้ตรีนเค้า อย่าริเสนอหน้า มรึงไม่คู่ควร! เมืองท่าไฮฟาทรุด โดน 200 ลูก พังยับเยิน โลจิสติคเละเทะ ความช่วยเหลือไม่มา สภาพมรึงตอนนี้ ดูแล้วโคตรน่าสมเพช "พิการซะขนาดนี้" ยังเสี้ยนจะก่อสงคราม อยากให้มวลมนุษยชาติตายห่ามากสิท่า แต่ดูทรงแล้ว จะเป็นอียิวพันธุ์สัดนรกมากกว่าที่จะตายห่าสูญพันธุ์ สิ้นชาติ ได้แต่ยื้อ ทำอะไรเค้าไม่ได้เลย! โจมตีปาหี่ แตะต้องหัวใจสำคัญไม่ได้เลย อาวุธมรึงที่คิดว่าจะขายออก แป๊กสิจ๊ะ เพราะทั้งโลก หันไปหารัสเซีย จีน อิหร่าน แม้แต่โสมแดง หมดเกลี้ยง ของดีจริง พิสูจน์แล้วเต็มตา สนามรบงวดนี้ กลายเป็น SHOW ROOM ให้ขั้วใหม่ประกาศศักดาชัดเจน!

    ปล.บ้านศรีธนญชัย 2024 การเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ กองทัพตบเท้าเข้าวังหมด สายสัมพันธ์ลุงตู่ยกคณะ ทหารแตงโมหลุดทั้งยวง ปลดประจำการทั้งคณะ นายพลเหี้ยร่วงระนาว ส่งดาบแรง วังไม่ไว้หน้า คิดคดทรยศแผ่นดิน ตะบัดสัตย์ ใครจะเก็บไว้ทำพ่อง? การเมืองปาหี่ขายไม่ออก อีส้มเน่าแพ้ราบ อีแดงถูกล้างแค้น มรึงยังจะเอา ปชต. ควายไปถึงไหน เลือกตั้งมาทั้งชีวิต มีเหี้ยอะไรดีขึ้นบ้าง ไอ้สัส! สุดท้าย พ่อหลวงก็ต้องออกโรงช่วยเสมอมา ปิดทองหลังพระควายมองไม่เห็น แต่คนเห็น ลูกพ่อตัวจริงเห็นทุกอย่าง! คีย์สำคัญ จำเอาไว้ "ศรีธนญชัย รอขั้วใหม่นำโลก" ไม่ต้องลงมือเอง ตามน้ำอย่างเดียว เดินตามอย่างเดียว รอดชัวร์! อาเซียนทั้งหมด ก็ใช้แผนเดียวกัน ไม่ยุ่ง ไม่ล้ำเส้น ไม่เสือก จะรอด! ปล่อยขั้วใหม่ไล่กระทืบขั้วเก่าให้เมามันส์ไปก่อน แล้วค่อยออกโรงตอนจบ แบบตำรวจหนังไทยไงล่ะ ไอ้สัส! จีนก้าวกระโดด ใช้เวลา 24 ปี จากประเทศยากจน กลายเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลกล่าสุด เหตุผลเดียวคือ "พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ" น้ำ ไฟ ถนน อินเตอร์เน็ต โลจิสติค ครอบจักรวาล ถึงกันหมด ไม่มีช่องว่าง พื้นที่เคยขาดแคลนน้ำ ก็ผันน้ำจากแหล่งใหญ่สุดตีขึ้นเหนือ ตะวันตก จนมีน้ำใช้เหลือเฟือ เพราะก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี เพราะส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานหลักอย่างมั่นคงต่อเนื่อง ทำให้จีนเติบโตทั้งแผ่นดิน แบบที่เหี้ยตะวันตก ยังทำไม่ได้ในระยะเวลาสั้นแค่นี้ พอจีนไปอุ้มใคร ทั้งแอฟริกา ทั้งอาเซียน ก็จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ก่อนอันดับแลก คนต้องไปถึง น้ำ ไฟ ต้องมีใช้ โลจิสติคต้องเชื่อมต่อ เมื่อเทคโนโลยีเข้าสู่ทุกพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว การพัฒนาก็จะเป็นแบบก้าวกระโดด จับตาดูให้ดีดี ใครที่จีนดีด้วย จะได้เปรียบในเชิงการค้าเสมอ เพราะจีนจะป้อนตลาดเข้าหากัน ใครมีอะไร ใครขาดอะไร จับมาจูบปากคือจบ ไม่มีกั๊ก? แต่เหี้ยตะวันตกเอาทุกอย่างผูกไว้กับตัวเอง ไม่แบ่งปัน ไม่เชื่อมต่อ เพราะต้องการกุมอำนาจในมือฝ่ายเดียว นี่คือจุดอ่อนของเหี้ยที่ผ่านมา BRICS ถึงเกิดได้รวดฟ้าผ่าอย่างที่เห็น! ไอ้สัส! ไม่จริงชิมิ วิ โครโมโซม Y กำลังจะหายไป หมดโลกเหรอ? ผู้ชายกำลังจะสูญพันธุ์ เพราะโครโมโซม Y เพศผู้ สั้นลงไปเรื่อยๆ จากความยาวที่เคยเป็น เพราะความอ่อนแอด้านพันธุ์กรรม จึงทำให้โครโมโซม X ที่ยาวกว่า แข็งแกร่งกว่าเขมือบนั่นเอง แปลว่าอะไร "โลกอนาคต ผู้ชายเหลือน้อย โปรดใช้สอยอย่างปราณี" อีกหน่อย มรึงอาจจะได้เห็นทั้งโลก ประกาศรับสมัครผู้ชายมาเป็นพ่อพันธุ์ โอนสัญชาติ ดูแลฟรีทั้งชีวิต อยู่ให้ถึงน่ะ ตอนนั้น มรึงได้กลายเป็น "ชายเหนือชาย" แน่ เพราะโลกจะเหลือแค่ ผู้หญิง กับตุ๊ดหวานแหววแต๋วแตก ชายจริงจะเหลือซักกี่ตัวกันเนี่ย? เห็นแล้วเศร้า! ว่าแล้วไปลงหม้อสุกี้ดีก่า? 555+

    หมี CNN(ศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน จันทร์ลา อังคารแฮงค์ ฝนตกหนักช่วงนี้ รักษาสุขภาพด้วย เหล้า ยา ปลาปิ้ง ลดได้ลด ไปออกกำลังกายบ้าง อะไรน่ะ ฝนตกทั้งวัน จะให้กูไปออกที่ไหน ไอ้สัส! ก็กีฬาในร่มก็มี เพชรบุรีตัดใหม่ก็เยอะ รัชดาก็แยะ ไปสิ ไปเสริมแกร่งโครโมโซม Y ก่อนเสื่อม อั๊ยยะ จับตาดูโลกให้ดีดี อะไรเอ่ย มาไว ไปไว เร็วฟ้าผ่า ยังไม่ทันตั้งตัว อุ๊ปส์ หายวับทันตาเห็น เกมส์มาสุดทางแล้ว แค่รอเปิดพิธีเท่านั้นเอง ไทยยังชิลด์!)
    24 กย. 67
    11.45 น.

    https://linevoom.line.me/post/1172717524688184772
    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ :
    https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    24-09-67/01 : หมี CNN / สัพเพเหระ เม้าท์มอย สังขยา ปลาปิ้ง EP.49 THE DAY AFTER 2MORROW มรึงโดนกูแน่! วัดกันไปเลย วันต่อวัน จะมีปัญญาจุดไฟโหมโรง WWIII หรือไม่ อยู่ที่ ขี้ข้าเหี้ย ใจกล้าพอแค่ไหน? พร้อมตายยัง? ทะเลาะกันวงแตก หามติไม่ได้ ทั้ง NATO EU ต่างชิ่งหนีเอาตัวรอด ใครจะยอมโง่ไปตายห่าฟรี เพื่อบูชายันต์สนองตัณหาให้อียิวสลัดหมากันล่ะ? เสี้ยมกันจังน่ะมรึง! ช่องอีอ่ำ ดันสุดฤทธิ์ ห่มเหลืองบูชาเยซูคริสต์เจ้า แค่ไม่ใช่ควาย มีสติ หมายังมองออก ทำลายแก้ว 3 ประการ 1 ในนั้นคือพุทธศาสนา คนเราหากมีสติ มีเหรอ? จะดูไม่ออก ว่าเหี้ยต้องการอะไร? ไม่ว่าพุทธ คริสต์ อิสลาม ศาสนาไหนก็ดีหมด หากมรึงศรัทธาด้วยสติ ไอ้ที่ทะเลาะกันเนี่ย เพราะเหี้ยมันเสี้ยม มรึงดูอิรัก-อิหร่าน เป็นตัวอย่าง สุนี่-ชิอะห์ ไม่เผาผี แล้วเป็นยังไง วันนี้ รักกันปานจะกลืนกิน เพ่น้องร่วมโลกมุสลิม ใครเสี้ยมให้มรึงเข่นฆ่ากันเอง หันปากกระบอกปืนไปไล่ฆ่าอียูดาส อีชั่วทรยศพระเจ้าจะดีกว่ามุย? มีแต่สัดนรกเท่านั้นแหละ ที่ไม่อยากเห็นมวลมนุษยชาติรักใคร่กัน เพราะมันจะหาแดร๊กลำบาก ธุรกิจของอียิวทุกอย่าง มีไว้เพื่อทำลายมวลมนุษยชาติโดยตรง ใครออกแบบล่ะ ก็อีนายใหญ่สัดนรกเลื้อยคลานเรปทีเรี่ยนไงล่ะ? เมื่อเข้าใจโลกดีแล้วว่า ความชั่วบัดซบ มาจากพวกมัน แล้วมรึงจะรออะไรอยู่ล่ะ "ฆ่าล้างโคตรแม่งซะ โลกสงบสุขทันที" ที่มาว่าแสงทำงานดีเกิน ตาสว่างไสวไปทั่วโลก แค่ตั้งสติ ปัญญามาทันที! รัสเซียจ๋า มรึงจะรีบคึกไปไหน ของเหลือเยอะชิมิ? ล่อชุดใหญ่ 900 ลูก ปูพรมแบบ NON STOP อียูเครนมันเหลือแต่ซากศพแล้ว จะขยี้ไปถึงไหน? ไอ้สัส! บร๊าไปแล้ว แค่ 7 NANO ชิปเทพ อีฝรั่งหัวทองเห็นยังอึ้ง ยังช็อค! นี่เผลอแป๊บเดียว มรึงจะไปถึง 8 NANO อีกแล้วเหรอ? สัส..ชาติหน้า เมื่อไหร่จะตามทัน โครงการอวกาศจีน แม่งไปถึงดาวอันโดรเมด้าแล้ว มรึงยังจะเพิ่งหาทางไปเหยียบดวงจันทร์อยู่ แม่งคนละสเปซี่เลย จีนยุคใหม่ แม่ง GENIUS ชัดๆ แล้วเสี้ยนจะทำสงครามกับจีน มีปัญญาเหรอ ไอ้ควาย? สาแก่ใจอีช้อยทั้งตะวันออกกลาง IRGC จับสายลับอีมดเหี้ยยิว 12 ตัว ไม่ต้องถามสภาพจะเหลือมุย? ตายเร็วสบายไป งานนี้ ร้องขอความตายสถานเดียว! นี่กลายเป็นว่า "อียิว" กลายเป็นเหยื่อ ให้นายพรานจากโลกมุสลิมไล่ล่าฆ่ากันอย่างเมามันส์ เอาให้สูญพันธุ์เหี้ยกันไปเลย จับได้ รีดข้อมูล จับขึงก่อน ทรมานซัก 15 วัน แล้วค่อยเชือด อยากกลับขุมนรก กูจัดให้! มันส์ล่ะมรึง! สัญญานแรง 6G จีนและชาวโลก สั่งแห่อพยพคนของตนออกจากอิสราเอลทั้งหมดแล้ว นัยยะคือ "มินิคุ๊กกี้รสปลาหมึกย่างมาเต็มตรีน" สถานฑูตไม่เหลือใครอยู่เฝ้าแล้วจ๊ะ ทะยอยออกกันเกือบหมดแล้ว อีเนรคุณแพะ หนีก็ไม่ได้ สู้ก็ตายคาที่ กวักมือเรียกขี้ข้ามะกันมา มาได้แต่นอกรัศมีระยะยิงเยเมน ไอ้สัส! ปอดแหกซะขนาดนี้ อย่าริเปิดเกมส์ใหญ่ ไม่คู่ควร! ล่าสุด XIAOMI ทำยอดขายทะลุแซง อีไอโฟนเน่าเรียบร้อย โลกไม่ใช่ของอียิวอีกแล้ว ระเบิดตายหลักสิบ แต่มูลค่าการตลาดมรึงเสียหายหลายแสนล้านเหรียญ ไม่ใช่โง่ดอก แต่มันจนตรอกขั้นสูงสุด สิ้นเนื้อประดาตัวหมดแล้ว ยังให้ตายห่าง่ายๆ ไม่สาแก่ใจ โลกรู้ ว่ามรึงแอบส่ง HAARP ไปทำลายสิ่งแวดล้อมคู่ปรปักษ์ แต่จีนล้ำกว่ามรึงเยอะ สิ่งที่จีนทำ สิ่งที่จีนมี คือส่งผลสะท้อนคลื่นแม่เหล็กกลับใส่มรึงไงล่ะ? จีนทำได้เนียนตากว่าเยอะ ยิ่งรัสเซียไม่ต้องถาม แจมสัญญานสื่อสาร ทำให้ GPS มรึงเสียการควบคุม ระบบมรึงรวนทั้งระบบ ทำไปแล้ว ตั้งแต่สัญญานอินเตอร์เน็ตล่ม โรงงานไฟฟ้าดับ โรงงานนิวเคลียร์ไม่ทำงาน วงในเค้ารู้กันว่าฝีมือใคร ที่มีเทคโนโลยีล้ำซะขนาดนี้ ขนาดนอกโลก มรึงยังต้องแบมือกราบของแรงช่วยส่งนักบินกลับโลก หมาซะยิ่งกว่าหมา? แบบนี้ ยังจะหน้าด้านมาท้าสู้อีก แค่ใต้ตรีนเค้า อย่าริเสนอหน้า มรึงไม่คู่ควร! เมืองท่าไฮฟาทรุด โดน 200 ลูก พังยับเยิน โลจิสติคเละเทะ ความช่วยเหลือไม่มา สภาพมรึงตอนนี้ ดูแล้วโคตรน่าสมเพช "พิการซะขนาดนี้" ยังเสี้ยนจะก่อสงคราม อยากให้มวลมนุษยชาติตายห่ามากสิท่า แต่ดูทรงแล้ว จะเป็นอียิวพันธุ์สัดนรกมากกว่าที่จะตายห่าสูญพันธุ์ สิ้นชาติ ได้แต่ยื้อ ทำอะไรเค้าไม่ได้เลย! โจมตีปาหี่ แตะต้องหัวใจสำคัญไม่ได้เลย อาวุธมรึงที่คิดว่าจะขายออก แป๊กสิจ๊ะ เพราะทั้งโลก หันไปหารัสเซีย จีน อิหร่าน แม้แต่โสมแดง หมดเกลี้ยง ของดีจริง พิสูจน์แล้วเต็มตา สนามรบงวดนี้ กลายเป็น SHOW ROOM ให้ขั้วใหม่ประกาศศักดาชัดเจน! ปล.บ้านศรีธนญชัย 2024 การเปลี่ยนแปลงมาเรื่อยๆ กองทัพตบเท้าเข้าวังหมด สายสัมพันธ์ลุงตู่ยกคณะ ทหารแตงโมหลุดทั้งยวง ปลดประจำการทั้งคณะ นายพลเหี้ยร่วงระนาว ส่งดาบแรง วังไม่ไว้หน้า คิดคดทรยศแผ่นดิน ตะบัดสัตย์ ใครจะเก็บไว้ทำพ่อง? การเมืองปาหี่ขายไม่ออก อีส้มเน่าแพ้ราบ อีแดงถูกล้างแค้น มรึงยังจะเอา ปชต. ควายไปถึงไหน เลือกตั้งมาทั้งชีวิต มีเหี้ยอะไรดีขึ้นบ้าง ไอ้สัส! สุดท้าย พ่อหลวงก็ต้องออกโรงช่วยเสมอมา ปิดทองหลังพระควายมองไม่เห็น แต่คนเห็น ลูกพ่อตัวจริงเห็นทุกอย่าง! คีย์สำคัญ จำเอาไว้ "ศรีธนญชัย รอขั้วใหม่นำโลก" ไม่ต้องลงมือเอง ตามน้ำอย่างเดียว เดินตามอย่างเดียว รอดชัวร์! อาเซียนทั้งหมด ก็ใช้แผนเดียวกัน ไม่ยุ่ง ไม่ล้ำเส้น ไม่เสือก จะรอด! ปล่อยขั้วใหม่ไล่กระทืบขั้วเก่าให้เมามันส์ไปก่อน แล้วค่อยออกโรงตอนจบ แบบตำรวจหนังไทยไงล่ะ ไอ้สัส! จีนก้าวกระโดด ใช้เวลา 24 ปี จากประเทศยากจน กลายเป็นผู้นำเศรษฐกิจโลกล่าสุด เหตุผลเดียวคือ "พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั่วประเทศ" น้ำ ไฟ ถนน อินเตอร์เน็ต โลจิสติค ครอบจักรวาล ถึงกันหมด ไม่มีช่องว่าง พื้นที่เคยขาดแคลนน้ำ ก็ผันน้ำจากแหล่งใหญ่สุดตีขึ้นเหนือ ตะวันตก จนมีน้ำใช้เหลือเฟือ เพราะก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี เพราะส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานหลักอย่างมั่นคงต่อเนื่อง ทำให้จีนเติบโตทั้งแผ่นดิน แบบที่เหี้ยตะวันตก ยังทำไม่ได้ในระยะเวลาสั้นแค่นี้ พอจีนไปอุ้มใคร ทั้งแอฟริกา ทั้งอาเซียน ก็จะพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ก่อนอันดับแลก คนต้องไปถึง น้ำ ไฟ ต้องมีใช้ โลจิสติคต้องเชื่อมต่อ เมื่อเทคโนโลยีเข้าสู่ทุกพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว การพัฒนาก็จะเป็นแบบก้าวกระโดด จับตาดูให้ดีดี ใครที่จีนดีด้วย จะได้เปรียบในเชิงการค้าเสมอ เพราะจีนจะป้อนตลาดเข้าหากัน ใครมีอะไร ใครขาดอะไร จับมาจูบปากคือจบ ไม่มีกั๊ก? แต่เหี้ยตะวันตกเอาทุกอย่างผูกไว้กับตัวเอง ไม่แบ่งปัน ไม่เชื่อมต่อ เพราะต้องการกุมอำนาจในมือฝ่ายเดียว นี่คือจุดอ่อนของเหี้ยที่ผ่านมา BRICS ถึงเกิดได้รวดฟ้าผ่าอย่างที่เห็น! ไอ้สัส! ไม่จริงชิมิ วิ โครโมโซม Y กำลังจะหายไป หมดโลกเหรอ? ผู้ชายกำลังจะสูญพันธุ์ เพราะโครโมโซม Y เพศผู้ สั้นลงไปเรื่อยๆ จากความยาวที่เคยเป็น เพราะความอ่อนแอด้านพันธุ์กรรม จึงทำให้โครโมโซม X ที่ยาวกว่า แข็งแกร่งกว่าเขมือบนั่นเอง แปลว่าอะไร "โลกอนาคต ผู้ชายเหลือน้อย โปรดใช้สอยอย่างปราณี" อีกหน่อย มรึงอาจจะได้เห็นทั้งโลก ประกาศรับสมัครผู้ชายมาเป็นพ่อพันธุ์ โอนสัญชาติ ดูแลฟรีทั้งชีวิต อยู่ให้ถึงน่ะ ตอนนั้น มรึงได้กลายเป็น "ชายเหนือชาย" แน่ เพราะโลกจะเหลือแค่ ผู้หญิง กับตุ๊ดหวานแหววแต๋วแตก ชายจริงจะเหลือซักกี่ตัวกันเนี่ย? เห็นแล้วเศร้า! ว่าแล้วไปลงหม้อสุกี้ดีก่า? 555+ หมี CNN(ศุกร์เมา เสาร์นอน อาทิตย์ถอน จันทร์ลา อังคารแฮงค์ ฝนตกหนักช่วงนี้ รักษาสุขภาพด้วย เหล้า ยา ปลาปิ้ง ลดได้ลด ไปออกกำลังกายบ้าง อะไรน่ะ ฝนตกทั้งวัน จะให้กูไปออกที่ไหน ไอ้สัส! ก็กีฬาในร่มก็มี เพชรบุรีตัดใหม่ก็เยอะ รัชดาก็แยะ ไปสิ ไปเสริมแกร่งโครโมโซม Y ก่อนเสื่อม อั๊ยยะ จับตาดูโลกให้ดีดี อะไรเอ่ย มาไว ไปไว เร็วฟ้าผ่า ยังไม่ทันตั้งตัว อุ๊ปส์ หายวับทันตาเห็น เกมส์มาสุดทางแล้ว แค่รอเปิดพิธีเท่านั้นเอง ไทยยังชิลด์!) 24 กย. 67 11.45 น. https://linevoom.line.me/post/1172717524688184772 ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://liff.line.me/1645278921-kWRPP32q/?accountId=hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 1 รีวิว
  • ..ในห้างมีเครื่องสแกนบาร์โค้ตยิงยืนยันว่าคุณคือผลิตภัณฑ์สินค้ามีลิขสิทธิ์ของมันด้วย ที่ไปฉีดวัคซีนมันมาแล้ว เลขบาร์โค้ตอาจขึ้นด้วย.
    ..มนุษย์แม่เหล็กกราฟีน&นาโนบอทได้ส่งเข้าสู่ร่างกายของทุกๆคนทั่วโลกจากปฏิบัติโควิด19 ไม่รอดด้วยแม้ในไทยเราเอง.
    ..ทวนรุ่นแรกๆที่ไปฉีดวัคซีนกันมา&ใส่ตัวเองและหลายๆชาติถูกบังคับฉีดด้วยที่ซาตานปกครองสิ้นซากไปแล้ว มันสั่งให้ทำอะไร บังคับแบบไหนผ่านคนของมันผู้ปกครองในประเทศนัันๆที่มันควบคุมได้แล้วก็ว่า.
    ..ในห้างมีเครื่องสแกนบาร์โค้ตยิงยืนยันว่าคุณคือผลิตภัณฑ์สินค้ามีลิขสิทธิ์ของมันด้วย ที่ไปฉีดวัคซีนมันมาแล้ว เลขบาร์โค้ตอาจขึ้นด้วย. ..มนุษย์แม่เหล็กกราฟีน&นาโนบอทได้ส่งเข้าสู่ร่างกายของทุกๆคนทั่วโลกจากปฏิบัติโควิด19 ไม่รอดด้วยแม้ในไทยเราเอง. ..ทวนรุ่นแรกๆที่ไปฉีดวัคซีนกันมา&ใส่ตัวเองและหลายๆชาติถูกบังคับฉีดด้วยที่ซาตานปกครองสิ้นซากไปแล้ว มันสั่งให้ทำอะไร บังคับแบบไหนผ่านคนของมันผู้ปกครองในประเทศนัันๆที่มันควบคุมได้แล้วก็ว่า.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • จะบอกติ่งๆทั้งหลายว่า……โหด……มัน……ฮานิดหน่อย ไม่มีใครเกินพี่ปูคนนี้….

    ตอนสิบสอง……สู่บัลลังก์อำนาจ ด้วยการผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นรายวัน……ไม่ว่าบู๊……ว่าบุ๋น……!!!

    ประธานาธิบดีบุชได้โทรกลับมา ปูตินได้แสดงความเสียใจและเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ
    ความโกรธ ความชังอเมริกันที่นาโต้ไปบอมบ์ที่ Kosovo ก็พักไว้ก่อน
    ประชาชนชาวรัสเซียได้นำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความเสียใจที่หน้าสถานทูตอเมริกาเป็นกองพะเนิน
    ปูตินได้ย้ำกับปธน. บุช ว่า……
    “ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย โหดร้ายเช่นนี้ ……เราจะยืนหยัดสู้ไปด้วยกัน……”
    ที่ลึกๆแล้ว……ปูตินมีความประทับใจในประธานาธิบดีบุชอยู่เป็นทุน
    เนื่องจากตอนที่บุชหาเสียงในปี 1999 (คู่แข่งคือ นาย Al Gore)
    เขาได้ประกาศนโยบายว่า ……จะไม่ยุ่งกับสงครามเชเชน..…

    เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งคู่จึงได้พบกันเป็นครั้วแรกใน เดือนมิถุนายน
    2001 ที่ Ljubljana, Slovenia
    คราวนี้ต่างคนต่างเตรียมตัวมาดี ในการ(แอบ) อ่านประวัติส่วนตัวของคู่สนทนากันมา เช่น
    ปูตินชวนบุชคุยถึงเรื่องรักบี้ (เพราะเป็นกีฬาโปรดสมัยหนุ่ม)
    แต่บุชมาเหนือกว่า……เขาถามปูตินถึงเรื่อง”กางเขน” ที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น้อยคนจะทราบ
    เล่นเอาปูติน…งงไปพักนึง(นับว่าการข่าวของอเมริกันนั้น เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง

    ต่อภายหลังเมื่อมีคนถามบุช…ว่า คิดว่าคนอย่างปูตินเป็นอย่างไร?
    เขาตอบว่า เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนที่มั่นคงกับการเห็นชาติพัฒนาไปในทางที่ดี ผมชอบเขานะ……ได้เขิญเขามาเที่ยวที่บ้านไร่ในเท็กซัสด้วย”
    ทั้งๆที่งานนี้……มีแต่คนสงสัยว่า จะเชื่อปูตินได้ยังไง ในเมื่อ KGB เก่าพวกนี้
    เขาไม่เคยพูดความจริงอะไรกับใคร……

    ในช่วงของการขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ปูตินเดินทางไปทั่วรัสเซีย
    และอีก 18 ประเทศ ที่มีลุดมิลาเคียงคู่ไปด้วย เป็นการประกาศกลายๆ
    ว่าโลกได้ปลอดจากสงครามเย็นไปแล้ว และตอนนี้รัสเซียพร้อมที่จะเปิดกว้างกับการที่จะก้าวสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างเต็มสูบ

    ในปี 2001 ปูตินปิดหน่วยงาน(โซเวียต) ที่ คิวบา, เวียดนาม
    พร้อมทั้งหันมาพัฒนากองทัพเต็มรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพทางฝั่งเหนือของคอร์เคซัส ในการที่จะส่ายตาหากลุ่มอิสลามหัวรุนแรง

    หลังจากวิกฤต 9/11 ปูตินอ่อนข้อให้กับการขยายเขตแดนของนาโต้ ที่ก้าวเข้ามากวาด Lithuania, Latvia, Estonia ที่อยู่ติดกับรัสเซีย
    บางครั้งปูตินยังเคยบอกว่า……รัสเซียเองก็สนใจที่จะเข้าร่วมในนาโต้ด้วยเช่นกัน (ไม่รู้ว่าประชด หรือ พูดจริง)
    อเมริกาได้เปิดฉากทำสงครามล้างแค้นกับกลุ่มอัลเคดะห์ และ กลุ่มตาลีบัน
    ในอาฟกานิสถาน ในเดือนตุลาคม ที่ปูตินได้ช่วยทั้งเงินและอาวุธ
    ช่วยกองทัพอัฟกันในการต่อต้านกับตาลีบัน
    และได้โอนอ่อน…ไม่ขัดขวางเมื่อกองทัพอเมริกันมาตั้งฐานที่ Uzbekistan และ Kyrgyzstan
    ซึ่งนี่คือประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่กองทัพอเมริกันได้เข้ามาเหยียบในแผ่นดินฝั่งนี้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง

    หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุกับเรือดำน้ำ Kursk ปูตินได้หันมาจี้เรื่องกองทัพด้วยตัวเอง เขาปลดพวกนายพลเช้าชามเย็นชามออกไปเป็นแผง
    เพิ่มเงินเดือนให้กับทหารรุ่นใหม่ พร้อมสวัสดิการอัดแน่น
    ทำเพลงชาติให้มีเนื้อเพลงคำร้อง ให้ทันสมัย ให้พ้นไปจากเงาของโซเวียต
    เพราะตอนที่นักกีฬารัสเซียไปแข่งในโอลิมปิคที่ซิดนีย์ ในปี 2000
    ได้เหรียญมากันทุกชนิด แต่เวลาขึ้นแท่นรับเหรียญ ไม่สามารถร้องเพลงชาติได้ เพราะมีแต่ดนตรี
    ชาวรัสเชี่ยนเริ่มมีชีวิตชีวากับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และชื่นชมปูตินที่เขาได้พูดถึงก้าวใหม่นี้ว่า
    “ใครก็ตามที่ไม่รู้สึกรู้สมกับความล่มสลายของโซเวียต คือคนไม่มีหัวใจ
    และใครก็ตามที่ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า…คือคนไม่มีสมอง…”

    การปฏิวัติทางด้านกองทัพ เขาได้แต่งตั้ง Sergei Ivanov (KGB เพื่อนเก่าและร่วมมหาวิทยาลัย เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ และ สวีดิช)
    ขึ้นมาคุมกำลัง เป็น รัฐมนตรีกลาโหม
    และฝ่ายงบประมาณกองทัพ คือ Lyubov Kudelina เพื่อมาดูแลเรื่องเงิน
    ส่วนนายพลที่มีประวัติมือไม่สะอาด เช่นYevgeny Adamov (สมัยเยลซิน)
    ที่มีส่วนพัวพันกับเปอร์เซ็นต์ในงบสร้างฐานนิวเคลียร์ พร้อมกับคนอื่นๆ
    ถูกส่งเข้าเก็บกรุนายพลที่ไร้สมรรถภาพ…

    รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ อิวานอฟ ทำงานเร็วทันใจ เพียงสามวันหลังจากเหตุการณ์ 9/11 เขาได้ส่งสัญญาณให้ปูตินทราบว่า อเมริกากำลังขยายกำลังของนาโต้เข้ามาในส่วนของฝั่งชายขอบเอเซียกลาง (กลุ่มประเทศที่ลงท้ายด้วยคำว่า สถาน ทั้งหลาย)
    แต่ปูติน……มองเห็นว่า การสร้างสัมพันธภาพอันดีกับบุช คือสิ่งจำเป็น
    อย่างอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง…
    และการที่จะสร้างสัมพันธไมตรีอันดี อย่างแรกเลยที่เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการเรียนภาษาอังกฤษวันละหนึ่งชั่วโมงที่สถาบัน
    American Diplomacy and Commerce และเขาได้ใช้เป็นครั้งแรกในการสนทนากับบุช ในภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซียปนเยอรมันว่า
    “ผมเห็นว่าคุณตั้งชื่อลูกสาวตามชื่อแม่ และ แม่ยายของคุณ……”
    “นั่นซิ…ก็ผมมันเป็นนักการเมืองชั้นเยี่ยมไงล่ะ..”
    “เออ……ใช่จริงๆ เพราะของผมก็เหมือนกัน..”
    แล้วสองคนก็หัวเราะเฮฮากันไป

    สองคนนี้ได้พบกันอีกครั้งเมื่อการประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation Summit ที่เซี่ยงไฮ้ ในเดือนตุลาคม
    และได้คุยกันถึงเรื่องการสร้าง(จำนวน) ซ้อม(ยิง) นิวเคลียร์ที่ยังไม่ชัดเจน
    ที่ทำให้ประธานาธิบดีบุช ต้องเชิญปูตินไปยังทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาในเดือน พฤศจิกายน
    เขาได้ไปเยี่ยมไร่ของบุชที่เท๊กซัสเป็นการส่วนตัว มีการเลี้ยงปิ้งย่าง บาร์บีคิว ปูตินได้กล่าวว่า
    “ผมไม่เคยไปเยี่ยมเยียนผู้คนไหนถึงในบ้านเลย…นับว่าเป็นโชคดีที่ได้มาถึงที่นี่ “
    และเขาได้ไปดูตึกที่ถล่มทลายและได้แสดงความอาลัย

    แต่.…เพียงสามอาทิตย์ต่อมา บุชได้โทรศัพท์มาถึงปูติน บอกว่า
    นโยบายทางเพนตากอนได้มีมติให้อเมริกาถอนตัวไม่เข้าร่วมกับโครงการ
    ABM (Anti-Ballistic Missile)
    เท่ากับว่า….ปูตินถูกอเมริกาเทอย่างหน้าตาเฉย…ทั้งๆที่เริ่มต้นทำท่าจะดี..

    การก่อกวนในเชเชนหลังจากสงครามยังไม่หยุด กลุ่มหัวรุนแรงได้เริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ปูตินได้ประกาศว่า ต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น
    จึงทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำเป็นขบวนการใต้ดิน
    ที่ทำให้เกิดการจับคนดูเป็นตัวประกันที่ โรงละคร Palace of Culture ในกรุงมอสโคว์ วันที่ 24 ตุลาคม 2002 ที่กำลังแสดงละครย้อนยุคที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาล บัตรใบละ 15 ดอลล่าร์ (เทียบเท่า ที่นับว่าแพงมาก)
    โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายแต่งกายเป็นคนงาน ขึ้นไปบนเวที
    ท่ามกลางความสับสนของคนดู ที่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง
    แต่.…คณะผู้ก่อการร้ายในการนำของ Movsar Barayev** ได้กราดกระสุน AK-47 ขึ้นไปบนเพดาน และประกาศว่า ประตูทุกบานได้มีสลักระเบิดผูกติดอยู่
    ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำ ได้ก้าวเข้ามาอยู่กลางกลุ่มคนดู
    และเปิดเสื้อคลุมให้เห็นว่า ข้างในนั้น ร่างของเธอได้ผูกติดระเบิดเอาไว้
    พร้อมที่จะดึงสลัก หากว่า……มีเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้ามา
    ทั้งประกาศก้องว่า….ในนามพระอัลลาห์ พวกเราตายหนึ่ง แต่จะเกิดร้อย
    และถ้าใครมีโทรศัพท์……ให้โทรไปบอกครอบครัวได้เลยว่า
    ต้องตายเพราะสงครามเชเชน และถ้าอยากรอด……หนทางเดียวคือรัสเซียต้องถอนทัพออกไป เลิกสงครามทันที…!!!

    ปูตินอยู่ในสภาพที่หลังชนกำแพง จากที่กองทัพทำสงครามยืดเยื้อในเชเชน……หน่วย FSB ที่ทำงานประสาอะไรปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาถึงในมอสโคว์
    เขายกเลิกแผนการเดินทางทั้งหมด (ที่จะไป เยอรมัน,โปรตุเกส และ เม๊กซิโก)
    เรียกหน่วยข่าวกรอง บรรดาสายลับทั้งหลาย และตัวหัวหน้า Nikolai Patrushev เข้ามาพบโดยด่วน เตรียมการบุกโรงละคร
    เรียกหน่วยคอมมานโดให้เตรียมพร้อม
    คนค้าน……คือ นายกรัฐมนตรี Mikhaïl Kasyanov ด้วยเกรงว่าการทำอย่างนี้เสี่ยงเกินไป ผู้บริสุทธิ์อาจจะได้รับเคราะห์
    ปูตินบอกว่า “ถ้าป๊อด……ก็ออกไปห่างๆเลย……”
    เขาได้ส่งท่านนายกรัฐมนตรีมิเกล ออกไปประชุมแทนในตามรายชื่อประเทศ…จะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไร

    ข้างในโรงละคร…ในกลุ่มคนดู ก็มีบุคคลสำคัญหลายคนในหลายวงการ
    ส่วนผู้ที่ได้ถูกปล่อยตัวออกมา คือ กลุ่มเด็กเล็กจำนวน 39 คน ที่ได้ให้การว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น ที่เติบโตมากับสงครามในคอร์เคซัส ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก
    เมื่อถูกถามว่า “ที่อยากให้เลิกสงคราม หมายความว่าอะไร..เพื่อ..?”
    คนกลุ่มนั้น ตอบไม่ได้ ลังเล ไม่แน่ใจ……
    ในวันที่สองของการจับตัวประกัน ที่ทุกคนเริ่มอ่อนล้า หิวโหย กระหาย
    วิตก……
    กลุ่มก่อการร้ายได้สังหารคนไปหลายคน ที่พยายามหาทางออก
    เจ้าหน้าที่ได้เจรจาขอให้มีการส่งอาหารและน้ำได้สำเร็จ

    ตีห้าของวันรุ่งขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังหลับ อ่อนแรง เตรียมพร้อมกับการที่จะเจรจาในตอนสิบโมงเช้า ตามที่เครมลินได้ส่งข่าวมา
    ทางหน่วยคอมมานโดที่ได้เจาะอุโมงค์ใต้ดินเข้าไปจากอาคารข้างๆ และได้ติดไมโครโฟนดักฟังจนรู้ตำแหน่งของผู้ก่อการร้าย
    กังวลที่สุด คือ อาคารทั้งหลังอาจจะระเบิดขึ้นมาได้
    ปูตินได้สั่งการเด็ดขาดว่า……จับตายทั้งหมดเท่านั้น……!!
    การใช้ ยาสลบ fentanyl ที่เป็นอาวุธชนิดหนึ่งของ FSB ได้ทำการแสดงฝีมือ คือ ฉีดส่งเข้าไปในท่อระบายอากาศ ที่ทำให้ทุกคนหลับแบบร่วงผล็อย
    แต่กลุ่มที่ระวังอยู่ด้านนอก มีการปะทะดุเดือด กลุ่มผู้ก่อการร้าย 41 คน
    มีกระสุนเจาะที่สมอง…… ตัวหัวหน้า Barayev ได้ถูกสังหารในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง
    แต่ตัวประกันได้เสียชีวิตไปกว่าร้อยคน จากการโดนสังหารของผู้ก่อการร้าย และ บางคนเสียชีวิตเพราะสารยาสลบ เพราะมีอายุ และสุขภาพที่ไม่ดี

    ปูตินได้ออกโทรทัศน์ เพื่อทำการขอโทษประชาชนที่เขาไม่สามารถรักษาชีวิตได้ทุกคน ……แต่รัสเซียจะไม่ยอมให้หน้าไหนมาหยาม..!!

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันได้บอกกับปูตินว่าสงครามได้มาในรูปแบบใหม่
    ที่ได้ก้าวล่วงเข้ามาก่อกวนในประเทศ และที่นอกประเทศในขอบชายแดน
    ก็ขยายวงขึ้นเพราะการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกแผ่นดิน ปูตินไม่มีทางอื่น นอกจากต้องหักเท่านั้น……ไม่มีงอ
    ข่าวนี้……ทำให้ Aslan Maskhadov หัวหน้ากบฎเชเชนที่ได้ใช้ตัวแทนในโคเปนเฮเกน มาเสนอการเจรจาสันติภาพแบบไม่มีเงื่อนไข
    แต่ทางเครมลิน……ปฏิเสธ ไม่เจรจา แถมยังประกาศจับตัวแทนเจรจา Ahmed Zakayev(อดีตรองนายกรัฐมนตรีเชเชน และ เป็นฝ่ายโปรกบฏ)
    เดนมาร์ก……จับตัวให้ แต่ไม่ส่งให้รัสเซีย เพราะข้อกล่าวหาทางรัสเซียที่พัวพันไปในเรื่องโรงละครด้วย

    คนที่ออกมารับหน้าในเรื่องโรงละคร คือ Shamil Basayev**(หัวหน้าใหญ่กลุ่มกบฏเชเชน) ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า “นี่คือบทเรียนที่รัสเซียสมควรได้รับ..”
    ปูตินรับคำขู่ด้วยการขานรับ เล่นงานเชเชนหนักขึ้น
    ฝ่ายโลกเสรีได้ยิงคำถามในเรื่องการใช้อาวุธด้วยการฝังทุ่นระเบิดไปทั่ว
    เขาตอบว่า “ ในวินาทีนี้ ใครก็ตามที่นับถือศาสนาคริสต์ ล้วนแต่ตกอยู่ในอันตราย แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นมุสลิม……ก็ไม่รอด เพราะเขาเชื่อว่าการตายคือการไปพบพระเจ้า…ไม่ใช่หรือ……?!!
    และต่อด้วยภาษานักเลงสุดๆ กับนักข่าวที่ถาม (จนบางคนไม่กล้าแปล…)
    ว่า……

    “ ถ้าคุณตัดสินใจอยากจะเป็นมุสลิมอย่างที่พวกเขาเป็น และพร้อมที่จะไปพบกับพระเจ้า…ขอเชิญไปที่มอสโคว์ เพราะพวกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มตัว และรับรองได้ว่า เรามีสารพัดวิธีที่คุณจะไม่เติบโตต่อไปอีก………”

    **Shamil Basayev ผู้ก่อการร้ายตัวยง ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร้ายที่ทั้งโลกต้องการตัว เขาเป็นคนวางแผนเรื่องโรงละคร และการวางระเบิดเครื่องบินรัสเซีย เขาได้ถูกสังหารด้วยระเบิดกับดักที่มากับรถบรรทุก ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2006

    Wiwanda W. Vichit
    จะบอกติ่งๆทั้งหลายว่า……โหด……มัน……ฮานิดหน่อย ไม่มีใครเกินพี่ปูคนนี้…. ตอนสิบสอง……สู่บัลลังก์อำนาจ ด้วยการผ่านอุปสรรคที่เกิดขึ้นรายวัน……ไม่ว่าบู๊……ว่าบุ๋น……!!! ประธานาธิบดีบุชได้โทรกลับมา ปูตินได้แสดงความเสียใจและเศร้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างจริงใจ ความโกรธ ความชังอเมริกันที่นาโต้ไปบอมบ์ที่ Kosovo ก็พักไว้ก่อน ประชาชนชาวรัสเซียได้นำดอกไม้ไปวางเพื่อแสดงความเสียใจที่หน้าสถานทูตอเมริกาเป็นกองพะเนิน ปูตินได้ย้ำกับปธน. บุช ว่า…… “ในช่วงเวลาที่วุ่นวาย โหดร้ายเช่นนี้ ……เราจะยืนหยัดสู้ไปด้วยกัน……” ที่ลึกๆแล้ว……ปูตินมีความประทับใจในประธานาธิบดีบุชอยู่เป็นทุน เนื่องจากตอนที่บุชหาเสียงในปี 1999 (คู่แข่งคือ นาย Al Gore) เขาได้ประกาศนโยบายว่า ……จะไม่ยุ่งกับสงครามเชเชน..… เมื่อทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ทั้งคู่จึงได้พบกันเป็นครั้วแรกใน เดือนมิถุนายน 2001 ที่ Ljubljana, Slovenia คราวนี้ต่างคนต่างเตรียมตัวมาดี ในการ(แอบ) อ่านประวัติส่วนตัวของคู่สนทนากันมา เช่น ปูตินชวนบุชคุยถึงเรื่องรักบี้ (เพราะเป็นกีฬาโปรดสมัยหนุ่ม) แต่บุชมาเหนือกว่า……เขาถามปูตินถึงเรื่อง”กางเขน” ที่ถูกไฟไหม้ ซึ่งเป็นเรื่องที่น้อยคนจะทราบ เล่นเอาปูติน…งงไปพักนึง(นับว่าการข่าวของอเมริกันนั้น เชื่อถือได้ในระดับหนึ่ง ต่อภายหลังเมื่อมีคนถามบุช…ว่า คิดว่าคนอย่างปูตินเป็นอย่างไร? เขาตอบว่า เป็นคนตรงไปตรงมา เป็นคนที่มั่นคงกับการเห็นชาติพัฒนาไปในทางที่ดี ผมชอบเขานะ……ได้เขิญเขามาเที่ยวที่บ้านไร่ในเท็กซัสด้วย” ทั้งๆที่งานนี้……มีแต่คนสงสัยว่า จะเชื่อปูตินได้ยังไง ในเมื่อ KGB เก่าพวกนี้ เขาไม่เคยพูดความจริงอะไรกับใคร…… ในช่วงของการขึ้นมาเป็นประธานาธิบดี ปูตินเดินทางไปทั่วรัสเซีย และอีก 18 ประเทศ ที่มีลุดมิลาเคียงคู่ไปด้วย เป็นการประกาศกลายๆ ว่าโลกได้ปลอดจากสงครามเย็นไปแล้ว และตอนนี้รัสเซียพร้อมที่จะเปิดกว้างกับการที่จะก้าวสู่การเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างเต็มสูบ ในปี 2001 ปูตินปิดหน่วยงาน(โซเวียต) ที่ คิวบา, เวียดนาม พร้อมทั้งหันมาพัฒนากองทัพเต็มรูปแบบ และเพิ่มประสิทธิภาพทางฝั่งเหนือของคอร์เคซัส ในการที่จะส่ายตาหากลุ่มอิสลามหัวรุนแรง หลังจากวิกฤต 9/11 ปูตินอ่อนข้อให้กับการขยายเขตแดนของนาโต้ ที่ก้าวเข้ามากวาด Lithuania, Latvia, Estonia ที่อยู่ติดกับรัสเซีย บางครั้งปูตินยังเคยบอกว่า……รัสเซียเองก็สนใจที่จะเข้าร่วมในนาโต้ด้วยเช่นกัน (ไม่รู้ว่าประชด หรือ พูดจริง) อเมริกาได้เปิดฉากทำสงครามล้างแค้นกับกลุ่มอัลเคดะห์ และ กลุ่มตาลีบัน ในอาฟกานิสถาน ในเดือนตุลาคม ที่ปูตินได้ช่วยทั้งเงินและอาวุธ ช่วยกองทัพอัฟกันในการต่อต้านกับตาลีบัน และได้โอนอ่อน…ไม่ขัดขวางเมื่อกองทัพอเมริกันมาตั้งฐานที่ Uzbekistan และ Kyrgyzstan ซึ่งนี่คือประวัติศาสตร์ครั้งแรกที่กองทัพอเมริกันได้เข้ามาเหยียบในแผ่นดินฝั่งนี้ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุกับเรือดำน้ำ Kursk ปูตินได้หันมาจี้เรื่องกองทัพด้วยตัวเอง เขาปลดพวกนายพลเช้าชามเย็นชามออกไปเป็นแผง เพิ่มเงินเดือนให้กับทหารรุ่นใหม่ พร้อมสวัสดิการอัดแน่น ทำเพลงชาติให้มีเนื้อเพลงคำร้อง ให้ทันสมัย ให้พ้นไปจากเงาของโซเวียต เพราะตอนที่นักกีฬารัสเซียไปแข่งในโอลิมปิคที่ซิดนีย์ ในปี 2000 ได้เหรียญมากันทุกชนิด แต่เวลาขึ้นแท่นรับเหรียญ ไม่สามารถร้องเพลงชาติได้ เพราะมีแต่ดนตรี ชาวรัสเชี่ยนเริ่มมีชีวิตชีวากับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ และชื่นชมปูตินที่เขาได้พูดถึงก้าวใหม่นี้ว่า “ใครก็ตามที่ไม่รู้สึกรู้สมกับความล่มสลายของโซเวียต คือคนไม่มีหัวใจ และใครก็ตามที่ไม่อยากก้าวไปข้างหน้า…คือคนไม่มีสมอง…” การปฏิวัติทางด้านกองทัพ เขาได้แต่งตั้ง Sergei Ivanov (KGB เพื่อนเก่าและร่วมมหาวิทยาลัย เชี่ยวชาญภาษาอังกฤษ และ สวีดิช) ขึ้นมาคุมกำลัง เป็น รัฐมนตรีกลาโหม และฝ่ายงบประมาณกองทัพ คือ Lyubov Kudelina เพื่อมาดูแลเรื่องเงิน ส่วนนายพลที่มีประวัติมือไม่สะอาด เช่นYevgeny Adamov (สมัยเยลซิน) ที่มีส่วนพัวพันกับเปอร์เซ็นต์ในงบสร้างฐานนิวเคลียร์ พร้อมกับคนอื่นๆ ถูกส่งเข้าเก็บกรุนายพลที่ไร้สมรรถภาพ… รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ อิวานอฟ ทำงานเร็วทันใจ เพียงสามวันหลังจากเหตุการณ์ 9/11 เขาได้ส่งสัญญาณให้ปูตินทราบว่า อเมริกากำลังขยายกำลังของนาโต้เข้ามาในส่วนของฝั่งชายขอบเอเซียกลาง (กลุ่มประเทศที่ลงท้ายด้วยคำว่า สถาน ทั้งหลาย) แต่ปูติน……มองเห็นว่า การสร้างสัมพันธภาพอันดีกับบุช คือสิ่งจำเป็น อย่างอื่นค่อยมาว่ากันทีหลัง… และการที่จะสร้างสัมพันธไมตรีอันดี อย่างแรกเลยที่เขาจะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง โดยการเรียนภาษาอังกฤษวันละหนึ่งชั่วโมงที่สถาบัน American Diplomacy and Commerce และเขาได้ใช้เป็นครั้งแรกในการสนทนากับบุช ในภาษาอังกฤษสำเนียงรัสเซียปนเยอรมันว่า “ผมเห็นว่าคุณตั้งชื่อลูกสาวตามชื่อแม่ และ แม่ยายของคุณ……” “นั่นซิ…ก็ผมมันเป็นนักการเมืองชั้นเยี่ยมไงล่ะ..” “เออ……ใช่จริงๆ เพราะของผมก็เหมือนกัน..” แล้วสองคนก็หัวเราะเฮฮากันไป สองคนนี้ได้พบกันอีกครั้งเมื่อการประชุม Asia-Pacific Economic Cooperation Summit ที่เซี่ยงไฮ้ ในเดือนตุลาคม และได้คุยกันถึงเรื่องการสร้าง(จำนวน) ซ้อม(ยิง) นิวเคลียร์ที่ยังไม่ชัดเจน ที่ทำให้ประธานาธิบดีบุช ต้องเชิญปูตินไปยังทำเนียบขาว สหรัฐอเมริกาในเดือน พฤศจิกายน เขาได้ไปเยี่ยมไร่ของบุชที่เท๊กซัสเป็นการส่วนตัว มีการเลี้ยงปิ้งย่าง บาร์บีคิว ปูตินได้กล่าวว่า “ผมไม่เคยไปเยี่ยมเยียนผู้คนไหนถึงในบ้านเลย…นับว่าเป็นโชคดีที่ได้มาถึงที่นี่ “ และเขาได้ไปดูตึกที่ถล่มทลายและได้แสดงความอาลัย แต่.…เพียงสามอาทิตย์ต่อมา บุชได้โทรศัพท์มาถึงปูติน บอกว่า นโยบายทางเพนตากอนได้มีมติให้อเมริกาถอนตัวไม่เข้าร่วมกับโครงการ ABM (Anti-Ballistic Missile) เท่ากับว่า….ปูตินถูกอเมริกาเทอย่างหน้าตาเฉย…ทั้งๆที่เริ่มต้นทำท่าจะดี.. การก่อกวนในเชเชนหลังจากสงครามยังไม่หยุด กลุ่มหัวรุนแรงได้เริ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่ปูตินได้ประกาศว่า ต้องยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไขเท่านั้น จึงทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำเป็นขบวนการใต้ดิน ที่ทำให้เกิดการจับคนดูเป็นตัวประกันที่ โรงละคร Palace of Culture ในกรุงมอสโคว์ วันที่ 24 ตุลาคม 2002 ที่กำลังแสดงละครย้อนยุคที่ทุ่มทุนสร้างมหาศาล บัตรใบละ 15 ดอลล่าร์ (เทียบเท่า ที่นับว่าแพงมาก) โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายแต่งกายเป็นคนงาน ขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางความสับสนของคนดู ที่คิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของการแสดง แต่.…คณะผู้ก่อการร้ายในการนำของ Movsar Barayev** ได้กราดกระสุน AK-47 ขึ้นไปบนเพดาน และประกาศว่า ประตูทุกบานได้มีสลักระเบิดผูกติดอยู่ ผู้หญิงคนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีดำ ได้ก้าวเข้ามาอยู่กลางกลุ่มคนดู และเปิดเสื้อคลุมให้เห็นว่า ข้างในนั้น ร่างของเธอได้ผูกติดระเบิดเอาไว้ พร้อมที่จะดึงสลัก หากว่า……มีเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้ามา ทั้งประกาศก้องว่า….ในนามพระอัลลาห์ พวกเราตายหนึ่ง แต่จะเกิดร้อย และถ้าใครมีโทรศัพท์……ให้โทรไปบอกครอบครัวได้เลยว่า ต้องตายเพราะสงครามเชเชน และถ้าอยากรอด……หนทางเดียวคือรัสเซียต้องถอนทัพออกไป เลิกสงครามทันที…!!! ปูตินอยู่ในสภาพที่หลังชนกำแพง จากที่กองทัพทำสงครามยืดเยื้อในเชเชน……หน่วย FSB ที่ทำงานประสาอะไรปล่อยให้ผู้ก่อการร้ายเข้ามาถึงในมอสโคว์ เขายกเลิกแผนการเดินทางทั้งหมด (ที่จะไป เยอรมัน,โปรตุเกส และ เม๊กซิโก) เรียกหน่วยข่าวกรอง บรรดาสายลับทั้งหลาย และตัวหัวหน้า Nikolai Patrushev เข้ามาพบโดยด่วน เตรียมการบุกโรงละคร เรียกหน่วยคอมมานโดให้เตรียมพร้อม คนค้าน……คือ นายกรัฐมนตรี Mikhaïl Kasyanov ด้วยเกรงว่าการทำอย่างนี้เสี่ยงเกินไป ผู้บริสุทธิ์อาจจะได้รับเคราะห์ ปูตินบอกว่า “ถ้าป๊อด……ก็ออกไปห่างๆเลย……” เขาได้ส่งท่านนายกรัฐมนตรีมิเกล ออกไปประชุมแทนในตามรายชื่อประเทศ…จะได้ไม่ต้องมารับรู้อะไร ข้างในโรงละคร…ในกลุ่มคนดู ก็มีบุคคลสำคัญหลายคนในหลายวงการ ส่วนผู้ที่ได้ถูกปล่อยตัวออกมา คือ กลุ่มเด็กเล็กจำนวน 39 คน ที่ได้ให้การว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายส่วนใหญ่เป็นเด็กวัยรุ่น ที่เติบโตมากับสงครามในคอร์เคซัส ไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะยังไม่รู้เรื่องราวอะไรมากนัก เมื่อถูกถามว่า “ที่อยากให้เลิกสงคราม หมายความว่าอะไร..เพื่อ..?” คนกลุ่มนั้น ตอบไม่ได้ ลังเล ไม่แน่ใจ…… ในวันที่สองของการจับตัวประกัน ที่ทุกคนเริ่มอ่อนล้า หิวโหย กระหาย วิตก…… กลุ่มก่อการร้ายได้สังหารคนไปหลายคน ที่พยายามหาทางออก เจ้าหน้าที่ได้เจรจาขอให้มีการส่งอาหารและน้ำได้สำเร็จ ตีห้าของวันรุ่งขึ้น ขณะที่ทุกคนกำลังหลับ อ่อนแรง เตรียมพร้อมกับการที่จะเจรจาในตอนสิบโมงเช้า ตามที่เครมลินได้ส่งข่าวมา ทางหน่วยคอมมานโดที่ได้เจาะอุโมงค์ใต้ดินเข้าไปจากอาคารข้างๆ และได้ติดไมโครโฟนดักฟังจนรู้ตำแหน่งของผู้ก่อการร้าย กังวลที่สุด คือ อาคารทั้งหลังอาจจะระเบิดขึ้นมาได้ ปูตินได้สั่งการเด็ดขาดว่า……จับตายทั้งหมดเท่านั้น……!! การใช้ ยาสลบ fentanyl ที่เป็นอาวุธชนิดหนึ่งของ FSB ได้ทำการแสดงฝีมือ คือ ฉีดส่งเข้าไปในท่อระบายอากาศ ที่ทำให้ทุกคนหลับแบบร่วงผล็อย แต่กลุ่มที่ระวังอยู่ด้านนอก มีการปะทะดุเดือด กลุ่มผู้ก่อการร้าย 41 คน มีกระสุนเจาะที่สมอง…… ตัวหัวหน้า Barayev ได้ถูกสังหารในวันคล้ายวันเกิดของตัวเอง แต่ตัวประกันได้เสียชีวิตไปกว่าร้อยคน จากการโดนสังหารของผู้ก่อการร้าย และ บางคนเสียชีวิตเพราะสารยาสลบ เพราะมีอายุ และสุขภาพที่ไม่ดี ปูตินได้ออกโทรทัศน์ เพื่อทำการขอโทษประชาชนที่เขาไม่สามารถรักษาชีวิตได้ทุกคน ……แต่รัสเซียจะไม่ยอมให้หน้าไหนมาหยาม..!! เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น มันได้บอกกับปูตินว่าสงครามได้มาในรูปแบบใหม่ ที่ได้ก้าวล่วงเข้ามาก่อกวนในประเทศ และที่นอกประเทศในขอบชายแดน ก็ขยายวงขึ้นเพราะการได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มที่ต้องการแบ่งแยกแผ่นดิน ปูตินไม่มีทางอื่น นอกจากต้องหักเท่านั้น……ไม่มีงอ ข่าวนี้……ทำให้ Aslan Maskhadov หัวหน้ากบฎเชเชนที่ได้ใช้ตัวแทนในโคเปนเฮเกน มาเสนอการเจรจาสันติภาพแบบไม่มีเงื่อนไข แต่ทางเครมลิน……ปฏิเสธ ไม่เจรจา แถมยังประกาศจับตัวแทนเจรจา Ahmed Zakayev(อดีตรองนายกรัฐมนตรีเชเชน และ เป็นฝ่ายโปรกบฏ) เดนมาร์ก……จับตัวให้ แต่ไม่ส่งให้รัสเซีย เพราะข้อกล่าวหาทางรัสเซียที่พัวพันไปในเรื่องโรงละครด้วย คนที่ออกมารับหน้าในเรื่องโรงละคร คือ Shamil Basayev**(หัวหน้าใหญ่กลุ่มกบฏเชเชน) ที่ออกมาประกาศกร้าวว่า “นี่คือบทเรียนที่รัสเซียสมควรได้รับ..” ปูตินรับคำขู่ด้วยการขานรับ เล่นงานเชเชนหนักขึ้น ฝ่ายโลกเสรีได้ยิงคำถามในเรื่องการใช้อาวุธด้วยการฝังทุ่นระเบิดไปทั่ว เขาตอบว่า “ ในวินาทีนี้ ใครก็ตามที่นับถือศาสนาคริสต์ ล้วนแต่ตกอยู่ในอันตราย แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นมุสลิม……ก็ไม่รอด เพราะเขาเชื่อว่าการตายคือการไปพบพระเจ้า…ไม่ใช่หรือ……?!! และต่อด้วยภาษานักเลงสุดๆ กับนักข่าวที่ถาม (จนบางคนไม่กล้าแปล…) ว่า…… “ ถ้าคุณตัดสินใจอยากจะเป็นมุสลิมอย่างที่พวกเขาเป็น และพร้อมที่จะไปพบกับพระเจ้า…ขอเชิญไปที่มอสโคว์ เพราะพวกเราไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มตัว และรับรองได้ว่า เรามีสารพัดวิธีที่คุณจะไม่เติบโตต่อไปอีก………” **Shamil Basayev ผู้ก่อการร้ายตัวยง ที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ร้ายที่ทั้งโลกต้องการตัว เขาเป็นคนวางแผนเรื่องโรงละคร และการวางระเบิดเครื่องบินรัสเซีย เขาได้ถูกสังหารด้วยระเบิดกับดักที่มากับรถบรรทุก ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2006 Wiwanda W. Vichit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 521 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านอร่อยชื่อดัง ที่ทั้งปังและแซ่บ นิตยาไก่ย่าง ที่มีหลายสาขาทั่วกรุงเทพฯ การันตีความอร่อยเด็ดยาวนานมาเป็น 10 ปี มีทั้งอาหารไทย และอาหารอีสานหลายเมนู ส้มตำ ไก่ย่างสูตรเฉพาะที่หลายคนไปแล้วต้องติดใจ ปลาช่อนริมสวน น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว และภายในร้านยังสะอาด นั่งสบายอีกด้วย เหมาะกับมื้อร่อยของครอบครัวมากๆ ทีเดียว

    พิกัด : สาขาห้างธัญญาพาร์ค ถ.ศรีนครินทร์, สาขาถนนประชาชื่น, สาขาสี่แยกประชานุกูล, สาขาแยกสะพานพระนั่งเกล้า, สาขาเมืองทองธานี, สาขาพหลโยธิน 8 (ซอยสายลม), สาขาปิ่นเกล้า, สาขารังสิต คลอง 2 ธัญบุรี, สาขาถนนนวมินทร์ 53, สาขาปตท. ไลฟ์พลาซ่า ถนนกาญจนาภิเษก, สาขาเดอะคริสตัล ปตท. (ชั้น 1) ถนนชัยพฤกษ์, สาขาสวนเพลิน มาร์เก็ต (ชั้น 1) ถนนพระราม 4
    ร้านเปิดบริการ : 10.00-21.30 น.
    โทร : 08-9135-1230

    #ส้มตำในกรุงเทพ #กินสารระนัวร์ #ของอร่อย #Thaitimes
    ร้านอร่อยชื่อดัง ที่ทั้งปังและแซ่บ นิตยาไก่ย่าง ที่มีหลายสาขาทั่วกรุงเทพฯ การันตีความอร่อยเด็ดยาวนานมาเป็น 10 ปี มีทั้งอาหารไทย และอาหารอีสานหลายเมนู ส้มตำ ไก่ย่างสูตรเฉพาะที่หลายคนไปแล้วต้องติดใจ ปลาช่อนริมสวน น้ำพริกหนุ่ม ไส้อั่ว และภายในร้านยังสะอาด นั่งสบายอีกด้วย เหมาะกับมื้อร่อยของครอบครัวมากๆ ทีเดียว พิกัด : สาขาห้างธัญญาพาร์ค ถ.ศรีนครินทร์, สาขาถนนประชาชื่น, สาขาสี่แยกประชานุกูล, สาขาแยกสะพานพระนั่งเกล้า, สาขาเมืองทองธานี, สาขาพหลโยธิน 8 (ซอยสายลม), สาขาปิ่นเกล้า, สาขารังสิต คลอง 2 ธัญบุรี, สาขาถนนนวมินทร์ 53, สาขาปตท. ไลฟ์พลาซ่า ถนนกาญจนาภิเษก, สาขาเดอะคริสตัล ปตท. (ชั้น 1) ถนนชัยพฤกษ์, สาขาสวนเพลิน มาร์เก็ต (ชั้น 1) ถนนพระราม 4 ร้านเปิดบริการ : 10.00-21.30 น. โทร : 08-9135-1230 #ส้มตำในกรุงเทพ #กินสารระนัวร์ #ของอร่อย #Thaitimes
    Like
    Yay
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 644 มุมมอง 0 รีวิว
  • (ว่าที่) เซ็นทรัล บางรัก โรบินสันในตำนาน

    เมื่อวันก่อนร้านแมคโดนัลด์ ภายในอาคารโรบินสัน บางรัก เปิดสาขาโฉมใหม่ใช้ชื่อว่า สาขาเซ็นทรัล บางรัก ออกแบบดีไซน์ ‘Geometry’ พร้อมเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ (SOK- Self Ordering Kiosk), บริการชำระเงินแบบไร้เงินสด, พนักงานต้อนรับ (GEL – Guest Experience Leader), บริการเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะ (Table Service) และ บริการฟรี Wifi เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เมนูอาหารเช้าเริ่มจำหน่ายเวลา 05.00-11.00 น. และเมนูไก่ทอดแมคเริ่มจำหน่ายเวลา 11.00-05.00 น.

    เหตุผลที่แมคโดนัลด์ใช้คำว่าสาขาเซ็นทรัล บางรัก เพราะอีกไม่นาน ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก ที่มีอายุประมาณ 32 ปี จะเปลี่ยนเป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางรัก ตามกลยุทธ์ของกลุ่มเซ็นทรัล ที่ทยอยเปลี่ยนห้างโรบินสันบางสาขาเป็นห้างเซ็นทรัล มาตั้งแต่ปี 2563 เพื่อให้เข้ากับสภาพตลาดและทำเล เน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงานมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง เริ่มจากสาขาแรกเมกาบางนา ตามมาด้วยสาขาอุดรธานี ขอนแก่น และแฟชั่นไอส์แลนด์

    ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก เปิดสาขาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2535 เป็นอาคารห้างสรรพสินค้าขนาด 5 ชั้น (รวมชั้นใต้ดิน) ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ที่ผ่านมาได้ทยอยปรับปรุงพื้นที่มาตั้งแต่กลางปี 2567 โดยใช้อัตลักษณ์องค์กร (Corporate Identity) ของห้างเซ็นทรัลแทน เป็นสาขาในกลุ่ม Black Tier ระดับเดียวกับสาขาลาดพร้าว ปิ่นเกล้า บางนา จับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ เป็นรองก็แค่สาขาชิดลมที่้เป็นระดับ Rose Gold Tier ที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ A+ ขึ้นไปและลูกค้าชาวต่างชาติ

    การปรับโฉมครั้งนี้ทำให้ห้างโรบินสัน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เหลือสาขาพระราม 9 สุขุมวิท ลาดกระบัง รังสิต ศรีสมาน ราชพฤกษ์ และสมุทรปราการ ซึ่งก่อนหน้านี้ปิดสาขาศรีนครินทร์ เพราะไม่ต่อสัญญาเช่ากับศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ถึงกระนั้นห้างเซ็นทรัลและโรบินสัน ยังคงจัดโปรโมชันร่วมกัน มีบริการผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัว (Personal Shopper) โทร. 1425 การจำหน่ายสินค้าผ่านเซ็นทรัลออนไลน์ และ Central App

    ทำเลห้างโรบินสัน บางรักในปัจจุบัน อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สะพานตากสิน และท่าเรือสาทร ใกล้แหล่งอาคารสำนักงานย่านสีลมและสาทร ใกล้โรงแรมหรูอย่างโรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โรงแรมเลอบัว แอท สเตททาวเวอร์ ใกล้สถานศึกษาอย่างโรงเรียนอัสสัมชัญ รวมทั้งฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยายังมีศูนย์การค้าไอคอนสยาม ที่มีเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือสาทร ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่กลุ่มเซ็นทรัลไม่ปล่อยให้หลุดมือง่ายๆ

    #Newskit #CentralBangrak #RobinsonBangrak
    (ว่าที่) เซ็นทรัล บางรัก โรบินสันในตำนาน เมื่อวันก่อนร้านแมคโดนัลด์ ภายในอาคารโรบินสัน บางรัก เปิดสาขาโฉมใหม่ใช้ชื่อว่า สาขาเซ็นทรัล บางรัก ออกแบบดีไซน์ ‘Geometry’ พร้อมเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ (SOK- Self Ordering Kiosk), บริการชำระเงินแบบไร้เงินสด, พนักงานต้อนรับ (GEL – Guest Experience Leader), บริการเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะ (Table Service) และ บริการฟรี Wifi เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เมนูอาหารเช้าเริ่มจำหน่ายเวลา 05.00-11.00 น. และเมนูไก่ทอดแมคเริ่มจำหน่ายเวลา 11.00-05.00 น. เหตุผลที่แมคโดนัลด์ใช้คำว่าสาขาเซ็นทรัล บางรัก เพราะอีกไม่นาน ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก ที่มีอายุประมาณ 32 ปี จะเปลี่ยนเป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางรัก ตามกลยุทธ์ของกลุ่มเซ็นทรัล ที่ทยอยเปลี่ยนห้างโรบินสันบางสาขาเป็นห้างเซ็นทรัล มาตั้งแต่ปี 2563 เพื่อให้เข้ากับสภาพตลาดและทำเล เน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงานมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง เริ่มจากสาขาแรกเมกาบางนา ตามมาด้วยสาขาอุดรธานี ขอนแก่น และแฟชั่นไอส์แลนด์ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก เปิดสาขาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2535 เป็นอาคารห้างสรรพสินค้าขนาด 5 ชั้น (รวมชั้นใต้ดิน) ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ที่ผ่านมาได้ทยอยปรับปรุงพื้นที่มาตั้งแต่กลางปี 2567 โดยใช้อัตลักษณ์องค์กร (Corporate Identity) ของห้างเซ็นทรัลแทน เป็นสาขาในกลุ่ม Black Tier ระดับเดียวกับสาขาลาดพร้าว ปิ่นเกล้า บางนา จับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ เป็นรองก็แค่สาขาชิดลมที่้เป็นระดับ Rose Gold Tier ที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ A+ ขึ้นไปและลูกค้าชาวต่างชาติ การปรับโฉมครั้งนี้ทำให้ห้างโรบินสัน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เหลือสาขาพระราม 9 สุขุมวิท ลาดกระบัง รังสิต ศรีสมาน ราชพฤกษ์ และสมุทรปราการ ซึ่งก่อนหน้านี้ปิดสาขาศรีนครินทร์ เพราะไม่ต่อสัญญาเช่ากับศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ถึงกระนั้นห้างเซ็นทรัลและโรบินสัน ยังคงจัดโปรโมชันร่วมกัน มีบริการผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัว (Personal Shopper) โทร. 1425 การจำหน่ายสินค้าผ่านเซ็นทรัลออนไลน์ และ Central App ทำเลห้างโรบินสัน บางรักในปัจจุบัน อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สะพานตากสิน และท่าเรือสาทร ใกล้แหล่งอาคารสำนักงานย่านสีลมและสาทร ใกล้โรงแรมหรูอย่างโรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โรงแรมเลอบัว แอท สเตททาวเวอร์ ใกล้สถานศึกษาอย่างโรงเรียนอัสสัมชัญ รวมทั้งฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยายังมีศูนย์การค้าไอคอนสยาม ที่มีเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือสาทร ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่กลุ่มเซ็นทรัลไม่ปล่อยให้หลุดมือง่ายๆ #Newskit #CentralBangrak #RobinsonBangrak
    Like
    Wow
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 558 มุมมอง 0 รีวิว
  • ㊗️🏮มาแล้ว จากโป๊ยเซียน
    📌“จงอ่านเนื้อเรื่องแล้วเดาว่าเป็นงานของนักเขียนจีนท่านไหนของห้องสมุด!”

    .
    เริ่ม!!!

    -------------

    .
    📌 อากาศเดือนแปดร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวัน มีแต่ตอนกลางคืนเท่านั้นถึงจะเย็นสบายขึ้นบ้าง

    ช่วงเวลาที่เงียบสงัด จวนสกุลเฟ่ยคล้ายกับมีม่านหมอกบาง ๆ ปกคลุม รอบจวนเงียบสงัดเสียจนรู้สึกถึงความผิดปกติ
    รอบเรือนใหญ่กลับมีแสงไฟสว่างจ้า ระเบียงทางเดินนอกห้องยังมีคนรับใช้ยืนก้มหน้าก้มตาเงียบ ๆ อยู่เป็นแถวยาว ทุกคนยืนอย่างสงบนิ่ง ไม่มีการพูดคุย ไม่มีการเงยหน้าขึ้นมอง
    ความเงียบเชียบของค่ำคืนนี้ดูคล้ายกับปกติ แต่ก็เหมือนจะไม่ปกติ
    นอกห้องสงบเงียบ แต่ในห้องกลับแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง
    ห้องด้านในมืดสลัว มีสิ่งของตกเกลื่อนบนพื้นห้อง
    เครื่องกระเบื้องที่ตกอยู่บนพื้นแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ยังมีเชิงเทียน ยังมีม้านั่งที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ
    เสียงครางของสตรีผสานไปกับเสียงหายใจหนักหน่วงของบุรุษ ภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอายราคะอบอวลไปทั่วห้อง
    ร่างของหลี่อันเปียกโชกไปด้วยเหงื่อราวกับชุบตัวอยู่บ่อน้ำ เรือนร่างที่เปลือยเปล่าคุกเข่าโน้มตัวไปด้านหน้าอยู่บนเตียง เสียงหายใจคล้ายติดขัด
    เอวเล็กขาวของเนางถูกรวบอยู่ในฝ่ามือใหญ่ที่แข็งแรงราวกับคีมเหล็ก ร่างกายท่อนล่างถูกรุกรานด้วยท่อนเนื้อขนาดใหญ่จนตัวของนางโน้มตัวไปด้านหน้าเป็นจังหวะ ทรวงอกที่เต็มอิ่มไหวไปตามแรงจนเห็นเป็นเนื้อเคลื่อนไหวเป็นระลอก
    ชายหนุ่มเร่งความเร็วไปตามอารมณ์โดยมิได้ใส่ใจกับเรื่องอื่นใด
    “ช้า ช้าหน่อย ใต้ ใต้เท้า...” เสียงของหลี่อันขาดเป็นห้วง ๆ
    นี่เป็นการสูญเสียพรหมจรรย์ครั้งแรก นางยังรับมือไม่ทันอีกทั้งเขายังไม่ให้โอกาสนางได้ปรับตัวก็ช่วงชิงความบริสุทธิ์ของนางไปแล้ว
    นางบิดตัวด้วยความรู้สึกอึดอัด หวังจะลดความคับแน่นที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ได้กลับตรงกันข้าม ยิ่งทำให้ชายที่อยู่ด้านหลังเร่งความเร็วในการเคลื่อนตัวอยู่ร่างของนางมากขึ้น
    หลี่อันเปล่งเสียงร้องอย่างตกใจ
    ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งบีบเค้นหน้าอกที่อวบอิ่ม เนื้อหน้าอกที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะรวบได้เพียงแค่ฝ่ามือเดียวทะลักไหลออกมาตามง่ามนิ้ว ยอดอกที่ชูชันสัมผัสถูกฝ่ามือหยาบกระด้าง ความเจ็บปวดระคนความเสียวซ่านเหมือนเปลวไฟและน้ำแข็งที่เกิดขึ้นพร้อมกันทำให้ตัวนางบีบรัดสิ่งแปลกปลอมจนทำให้อาวุธที่อยู่ในร่างของนางเคลื่อนตัวได้ลำบาก
    หน้าผากของชายหนุ่มมีเหงื่อเม็ดใหญ่ ๆ ไหลลงมาข้างแก้ม ตกมาถึงสะโพกของหลี่อัน
    เสียงทุ้มห้าวดังคล้ายเสียงเตือน “อย่าเกร็ง”
    หลี่อันหันกลับไปมอง ดวงตาเรียวยาวที่อยู่บนใบหน้าหล่อเหลายามนี้หรี่แคบ ปลายคางและต้นคอเกร็งจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน
    สายตาของหลี่อันเลื่อนลงมาด้านล่าง เหงื่อจากต้นคอไหลลงมาเรื่อย ๆ จนถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เห็นเป็นลอนชัดเจน รวมเข้ากับเหงื่อที่อยู่บริเวณนั้นแล้วไหลลงไปรวมกันด้านล่าง
    สีหน้าที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความงดงามของเรือนร่าง กระตุ้นให้หว่างขาของนางชุ่มฉ่ำ หล่อลื่นให้ชายหนุ่มเคลื่อนตัวได้อีกครั้ง
    แรงกระแทกทำให้ร่างของหลี่อันเคลื่อนตัวไปด้านหน้าราวกับปลาที่คิดจะกระโดดขึ้นจากน้ำ ริมฝีปากสีสดเผยอขึ้นเพื่อช่วยให้หายใจได้ดีขึ้น
    ความร้อนระอุที่เกิดขึ้นร้อนจนนางทนไม่ไหว มีน้ำตาเอ่ออยู่ขอบตา มือซ้ายจับผ้าม่านข้างเตียงเอาไว้ แรงดึงทำให้ผ้าม่านขาดติดมือ
    เสียงผ้าขาดถูกกลบด้วยเสียงเนื้อกระทบเนื้อ
    ทั้งร้อนแรงทั้งรุนแรง
    ความรู้สึกเสียวซ่านแผ่กระจายไปทีละน้อย อารมณ์เริ่มดำดิ่งไปกับจังหวะการรุกเข้ารุกออกของคนที่อยู่ด้านหลัง
    เสียงร้องด้วยความสุขสมยามถึงจุดสุดยอดดังออกจากปากหลี่อัน ก่อนร่างของนางจะอ่อนระทวยฟุบลงอยู่บนผ้าห่ม หน้าอกนุ่มนิ่มถูกทับจนแทบจะเปลี่ยนรูป
    การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มทั้งเร็วทั้งแรง จนกระทั่งถึงจุดที่ปลดปล่อยธารร้อนออกมา
    เสียงหายใจแรงของคนทั้งสองดังประสานกัน ส่วนที่ยังประสานกันอยู่ก็ยังคงสอดประสานกันอยู่
    หลี่อันรู้สึกสมองว่างเปล่าไปชั่วขณะก่อนเริ่มรู้สึกตัว นางดีใจที่ยุติเสียที ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป นางคิดว่าตัวเองคงถูกหามออกไปเป็นแน่
    แต่นางมิได้สังเกตถึงชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลัง ว่าสายตาของเขาจับจ้องยู่ที่สะโพกกลมกลึงที่ยามนี้เป็นสีแดงเข้ม ก่อนเลื่อนสายตามองยังส่วนที่ยังประสานกันอยู่
    หลี่อันสะดุ้งเฮือก เมื่อรับรู้ได้ถึงงสิ่งที่ยังอยู่ในร่างของนางเริ่มพองตัวขึ้นอีกครั้ง
    แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เอวบางถูกมือสองข้างรวบเอาไว้ ก่อนจับตัวนางยกสูง บริเวณอ่อนนุ่มที่เพิ่งรับศึกหนักไปเมื่อครู่ ถูกท่อนเนื้อแข็งแรงดันเข้ามาด้านในอีกครั้ง
    “ใต้ ใต้เท้า ไม่ ไม่ ข้าน้อย ไม่ไหวแล้ว...” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แทบจะไร้เรี่ยวแรง อีกทั้งสั่นเครือจนแทบจะฟังไม่เป็นคำ
    แต่ชายหนุ่มมิได้ใส่ใจ ยังคงกระทำไปตามอำเภอใจ เสียงทุ้มห้าวแหบแห้งดังเพียงว่า “ไม่ไหวก็ต้องทน”
    เสียงห้าวทุ้มที่ถูกเค้นออกมานั้นเต็มไปด้วยความเย็นกระด้าง ไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิง
    หลี่อันได้แต่ส่งเสียงสะอื้นไปตามจังหวะการกระแทก นางก่นด่าคนที่อยู่ด้านหลังไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ความจริงนางอยากจะด่าเขาออกเสียงด้วยซ้ำ
    แต่เมื่อคิดถึงคนที่อยู่ด้านหลังเป็นขุนนางกังฉินที่มีความโหดร้ายอำมหิต เดาความคิดไม่ได้ นางไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่านี้
    นางกลัวเพียงว่า ถ้าด่าออกไป เขาจะจับนางหักคอเสียก่อน ดังนั้นนางกัดริมฝีปากเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองด่าออกไป
    ผ่านไปอย่างนี้สองชั่วยามกว่า กว่าพายุจะสงบลงได้
    ขณะสะลึมสะลือ ไร้เรี่ยวแรง มีเสียงทุ้มห้าวดังขึ้นอย่างไม่ไยดีว่า “เตรียมน้ำ”
    ไม่นานหลังจากนั้นประตูห้องถูกเปิดออก ภายในห้องมืดสลัว มีสาวใช้ถือตะเกียง ยกน้ำเข้ามาในห้อง
    ตะเกียงและถังน้ำถูกวางไว้ดีแล้ว สาวใช้ทั้งหลายถอยออกไปอย่างเงียบกริบ ราวกับไม่เคยมีใครเข้ามาแต่อย่างใด
    เปลวไฟไหวไปมา หลี่อันรับรู้ได้ว่า ชายที่อยู่ด้านหลังลงจากเตียง นางเงยหน้ามองตาม เห็นแผ่นหลังกว้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ที่มีเหงื่อจับอยู่เป็นชั้น
    คล้ายกับรับรู้ได้ถึงสายตาที่จับจ้องทำให้ชายหนุ่มหันหลังกลับ
    ใบหน้าของเขาหล่อเหลา หากแววตาเต็มไปด้วยความเย็นกระด้างที่แฝงแววอำมหิต
    หลี่อันรับรู้ได้ถึงแรงกดดันเที่แผ่กระจายออกจากตัวของเขาได้อย่างชัดเจนทำให้นางรีบก้มหน้า หลบตา เปล่งเสียงอ่อน ๆ ขึ้นว่า “ใต้เท้า”
    ชายหนุ่มดึงสายตากลับมา เม้มริมฝีปากเดินออกไปด้านนอก
    เขาเช็ดตัวอย่างลวก ๆ สวมเสื้อผ้าแล้วค่อยออกไปจากห้อง
    ทันทีที่ประตูห้องปิดเข้าหากัน หลี่อันลอบถอนหายใจ ความหวาดหวั่นที่มีอยู่เมื่อครู่หายวับไปทันที
    นางนอนอยู่บนเตียงที่ยุ่งเหยิงอย่างเหม่อลอย ดวงตาจับจ้องอยู่บนเพดานเตียง
    กลิ่นความใคร่ยังอบอวลอยู่ในห้องจนทำให้นางรู้สึกไม่สบายตัว
    หลี่อันแทบไม่มีเรี่ยวแรง เริ่มปวดศีรษะจึงมิได้สนใจกับกลิ่นเหล่านี้ แต่นางรู้สึกอะไรบางอย่างขาดหายไป เป็นสิ่งที่สำคัญมากแต่นางก็นึกไม่ออก
    ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง ครั้งนี้มีสาวใช้เข้ามาสองคน
    สาวใช้ทั้งสองเป็นสาวใช้ที่คอยรับใช้ใกล้ชิดหลี่อัน
    สาวใช้หยุดยืนอยู่นอกผ้าม่าน เตือนเบา ๆ ว่า “อนุเก้า ควรกลับเรือนฉงอันได้แล้วเจ้าค่ะ”
    หลี่อันจับผ้าห่มคลุมตัวเอาไว้แล้วลุกขึ้นนั่งปัดผ้าม่านออกอย่างไร้เรี่ยวแรง มองสาวใช้ทั้งสองก่อนออกคำสั่งเสียงแผ่วว่า “ช่วยประคองข้าหน่อย”
    สาวใช้ทั้งสองเข้ามาประคอง เมื่อเห็นจ้ำแดง ๆ ตามเนื้อตัวของหลี่อันแล้วก็หน้าแดงก่ำ
    พวกนางไม่กล้ามองให้มากกว่านั้น สาวใช้นางหนึ่งเดินไหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมา แต่ปรากฏว่าขาดวิ่นจนใส่ไม่ได้ รีบเอ่ยว่า “บ่าวจะกลับไปหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาเจ้าค่ะ”
    หลี่อันมองเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งแล้วพลันนึกไปถึงสองชั่วยามก่อนที่นางจะเข้ามาในห้อง
    เวลาก่อนยามหนึ่ง หนึ่งเค่อ พ่อบ้านมาหานางที่เรือนฉงอันอย่างรีบร้อน บอกให้นางไปรับใช้ที่เรือนใหญ่
    พ่อบ้านให้นางเตรียมตัวไม่ถึงหนึ่งเค่อ เดินนำหน้าพานางไปยังเรือนใหญ่
    เมื่อมาถึงก็ให้นางเข้าในห้องที่มืดสลัว
    เมื่อเข้ามาในห้อง นางเห็นสภาพเละเทะบนพื้นได้อย่างเลือนราง
    ไม่เพียงในห้องจะอยู่ในสภาพที่ไม่น่าดู ในความมืดมิดยังมีความรู้สึกที่อึดอัด ยังมีบรรยากาศที่ร้อนระอุแฝงอยู่
    นางเงยหน้ามองสภาพภายในห้องอย่างตั้งใจ จากความมืดมิดเห็นห้องด้านในที่มีม่านทิ้งตัวแบ่งเขตแดนอยู่หลางชั้น เห็นเงาราง ๆ นั่งอยู่ขอบเตียง
    ยังมีเสียงหายใจหนักแรงๆ ดังมาจากหลังผ้าม่านพร้อมกับมีกลิ่นอายบางอย่างที่นางบรรยายไม่ภถูก
    หลี่อันยืนอยู่หน้าผ้าม่านเนื้อบาง ลังเลไปชั่วครู่ก่อนเอ่ยเสียงแผ่วว่า “ใต้เท้า”
    คนที่อยู่ด้านในย่อมไม่อาจเป็นใครอื่นนอกจาก “สามี” ของนาง
    ขุนนางใหญ่ผู้ทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการ อีกทั้งยังเป็นผู้บัญชาการสำนักตุลาการทหาร... เสวียนเฟิง
    ชายที่นั่งอยู่หลังผ้าม่านเงยหน้าขึ้นมองหลี่อัน
    แม้จะมีผ้าม่านขวางอยู่หลายชั้นแต่หลี่อันรับรู้ได้ถึงสายตาร้อนแรงที่มองมา
    แม้สายตานั้นจะร้อนแรงแต่บรรยากาศรอบตัวของเขากลับมีแต่ความเย็นยะเยือกราวกับอยู่ท่ามกลางสายหมอกในเหมันตฤดูอีกทั้งยังมีรังสีอำมหิตแฝงอยู่
    หลี่อันตัวเกร็งด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาทันที
    เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ มีเสียงทุ้มต่ำดังผ่านผ้าม่าน “เข้ามา”
    หลี่อันลังเลไปเล็กน้อยสุดท้ายยังคงปัดผ้าม่านที่ขวางกั้น เข้าไปห้องด้านใน
    แม้นางจะมองเพียงแวบเดียวแต่ก็เข้าใจถึงสถานการณ์ภายในได้เป็นอย่างดี
    ห้องภายในและภายนอกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ภายนอกมีแต่สิ่งของเกลื่อนพื้น แต่ด้านในกลับสะอาดเรียบร้อย เพียงแต่มีบรรยากาศอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก หลี่อันมิได้สบสายตากับเขา นางหลุบตาเล็กน้อย เห็นแผ่นอกแข็งแรงที่ถูกใต้เสื้อตัวในที่ถูกแหวกออกจนกว้าง …
    เขานั่งแยกขาออกจากกัน วางมือสองข้างที่เห็นเส้นเอ็นเด่นชัดอยู่บนหน้าตัก มีสิ่งหนึ่งที่น่าตระหนกชูชันอยู่เบื้องหน้า
    หลี่อันลอบกลืนน้ำลาย นางไม่กล้าสอดส่ายสายตาไปเรื่อยเปื่อย รีบก้มหน้ามองพื้น
    ทว่าชายที่นั่งอยู่กลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ กับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
    หลี่อันยืนก้มหน้าอยู่ห่างจากชายผู้นั้นสองก้าว รับรู้ได้ถึงสายตาที่จ้องเขม็งมาที่ร่างของตน
    “เข้าจวนเมื่อใด” เขาถาม
    น้ำเสียงห้าวทุ้มดังกระทบโสตประสาท หลี่อันจำต้องตอบกลับ “เรียนใต้เท้า ข้าน้อยเข้าจวนเมื่อครึ่งปีก่อนเจ้าค่ะ”
    หลังจากตอบคำถามไปแล้ว สิ่งที่ตามมาคือความเงียบงัน
    แม้จะเป็นเวลาเพียงสั้น ๆ แต่กลับยาวนานในความรู้สึก
    หลังจากนั้นไม่นาน ข้อมือของหลี่อันถูกฝ่ามือร้อนระอุดึงเข้ามาอยู่ชิดแผงอกกว้างที่มีเหงื่อออกเต็ม
    ร้อน!
    ไม่ใช่อุณหภูมิที่คนทั่วไปควรจะมี
    แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่หมิ่นเหม่แต่หลี่อันกลับวิเคราะห์ถึงสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน
    ภายในห้องที่อยู่ในสภาพเละเทะนั้น เห็นได้ว่าเป็นฝีมือของเขาผู้นี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติ
    หลี่อันคาดเดาอย่างคนใจกล้าอย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่า เขาผู้นี้คงถูกคนวางยาปลุกกำหนัดเข้าให้แล้ว
    แต่คนที่มีความระมัดระวังตัวสูงอย่างเสวียนเฟิงเหตุใดจึงตกหลุมพรางได้
    นางยังไม่ทันได้ขบคิดต่อไป เสวียนเฟิงจับข้อมือสองข้างของนางผูกเข้าด้วยกัน
    หลี่อันตกใจ คิดจะขัดขืน หากข้อมือของนางถูกจับเอาไว้แน่
    “อย่าขยับ!” เสียงตวาดดังขึ้น ฝ่ามือที่แข็งแรงข้างหนึ่งเปลี่ยนตำแหน่งมาจับต้นคอของนางแทน
    ความร้อนจากฝ่ามือแข็งแรงทำให้หลี่อันตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับตัวแต่อย่างใด
    เมื่อนึกได้ว่า คนอย่างเสวียนเฟิงไม่เคยให้ใครเข้าใกล้ตัวเขาได้ อีกทั้งยังมีตำแหน่งเป็นขุนนางใหญ่ มีคนลอบสังหารอยู่ตลอดเวลา การกระทำของเขาเช่นนี้แสดงว่าไม่เชื่อใจนาง
    เรื่องที่ตามมาหลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่รู้กัน
    หลี่อันเลื่อนสายตาจากเสื้อผ้าขาดวิ่นที่สาวใช้ถืออยู่ มาดูข้อมือที่ยังรู้สึกเจ็บอยู่ พลางมองไปยังอ่างน้ำอุ่นที่ยังไม่มีใครใช้ภายในห้อง
    จากนั้นออกคำสั่งว่า “พวกเจ้าออกไปก่อน ข้าจะเช็ดตัวสักหน่อย”
    ห้องนี้มิใช่ห้องนอนของใต้เท้าเสวียน สาวใช้ทั้งสองล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว
    หลี่อันปรับลมหายใจอยู่หลายครั้งก่อนลงจากเตียง เดินไปหน้าที่วางอ่างน้ำอย่างเชื่องช้า หยิบผ้าแห้งที่วางอยู่ข้าง ๆ มาชุบน้ำ บิดหมาด ๆ เช็ดร่องรอยที่หลงเหลืออยู่ตามเนื้อตัวอย่างเบามือ
    ขณะที่เช็ดตัวอยู่นั้น ความคิดของหลี่อันล่องลอยไปไกล
    นี่เป็นประสบการณ์บนเตียงครั้งแรก แต่เหตุใดหลังจากผ่านไปแล้ว นางจึงได้มีความเยือกเย็นได้ถึงเพียงนี้
    หลี่อันเกิดความสงสัยในตัวเองขึ้นมาไม่น้อย
    หรือเพราะก่อนนี้ที่นางอยู่ในหอฟงเยว่ได้รับการอบรมสั่งสอนเกี่ยวกับเรื่องหญิงชายมาโดยเฉพาะ จึงทำให้นางมิได้ตื่นตระหนกมากนัก
    หลี่อันมาจากหอฟงเยว่ที่เป็นสถานเริงรมย์ มีแต่ความต่ำต้อย แต่ว่านางจำอะไรไม่ได้
    สองเดือนก่อน ในงานวันเกิดของเสวียนเฟิง มีคนร้ายเข้ามาลอบสังหารเขา
    เกิดความวุ่นวายภายในงานเลี้ยง สร้างความตื่นกลัวให้กับทุกคนที่อยู่ในงาน มีเพียงเสวียนเฟิงที่นั่งดื่มสุราราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
    ส่วนนางถูกใครไม่รู้ผลักจนตกบันไดระหว่างที่ชุลมุนจนศีรษะแตกมีเลือดไหลออกมา จากนั้นเมื่อนางรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งก็จำเรื่องอะไรไม่ได้แล้ว
    นางไม่ได้บอกใครเรื่องที่ตนเองสูญเสียความจำ
    หลี่อันคอยสังเกตดูเหตุการณ์ต่าง ๆ หลังจากผ่านไปอีกหลายวันก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้
    อดีตฮ่องเต้สวรรคต ได้แต่งตั้งผู้บัญชาการสำนักงานตุลาการทหารเสวียนเฟิงเป็นขุนนางผู้สำเร็จราชการ
    เสวียนเฟิงที่มีตำแหน่งเป็นผู้สำเร็จราชการมีความเด็ดขาดอำมหิต กุมอำนาจทางการทหารส่วนใหญ่ ดังนั้นขุนนางบุ๋นบู๊ในราชสำนักไม่มีใครไม่เกรงกลัวเขา คนที่คิดจะเอาชีวิตของเขาจึงมีมากมายนับไม่ถ้วน
    ในขณะเดียวกันคนที่คิดจะประจบเอาใจเขาก็มีไม่น้อยเช่นกัน
    คนที่คิดเอาใจเสวียนเฟิงย่อมหนีไม่พ้นการมอบเงินทองของมีค่า ไปจนถึงหญิงงาม
    หลี่อันเป็นหญิงงามที่ถูกผู้ช่วยเจ้าเมืองหวายโจวส่งมาให้เสวียนเฟิงเพื่อประจบเอาใจ ตอนนั้นภายในจวนสกุลเสวียนมีอนุแปดคนแล้ว หลี่อันเป็นคนที่เก้า
    ด้วยอุปนิสัยของเสวียนเฟิง เขาเป็นคนที่มีความระแวง ไม่เข้าใกล้หญิงสาวคนใด อย่าว่าแต่หลี่อัน แม้แต่หญิงงามแปดคนที่อยู่มาก่อนนางก็ยังไม่มีใครได้ร่วมเตียงกับเขามาก่อน
    ไม่ว่าจะเป็นหญิงงามหรือเป็นของมีค่าใด ๆ เสวียนเฟิงไม่เคยปฏิเสธ ดังนั้นคนเหล่านั้นจึงได้ส่งหญิงงาม ส่งสิ่งของให้เสวียนเฟิงด้วยความคิดที่ว่า หญิงงามที่ตนเองส่งให้นั้นเป็นที่สนใจของเขา
    หลังจากหลี่อันความจำเสื่อมจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาสองเดือน สองเดือนที่ผ่านมา นางเคยพบเสวียนเฟิงครั้งเดียว ส่วนคืนนี้เป็นครั้งที่สอง
    ที่นางถูกเรียกตัวมาพบเขาคืนนี้คงเป็นเพราะสองเดือนก่อนในงานเลี้ยงวันเกิดของเขา ในบรรดาหญิงงามสิบคนที่อยู่ในงานเลี้ยงมีนางเพียงคนเดียวที่หกล้ม ได้รับบาดเจ็บ นางคิดว่าเสวียนเฟิงคงจำนางได้จากเรื่องนั้น
    เมื่อเช็ดตัวดีแล้ว สาวใช้นำเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้
    หลี่อันแต่งตัวเรียบร้อยค่อยออกจากห้อง
    ยามสาม แล้ว ท้องฟ้าเริ่มเห็นแสงรำไร ด้านนอกดูเหมือนจะไร้ผู้คน แต่หลี่อันรับรู้ได้ว่า มิได้มีความเงียบงันเหมือนกับที่เห็นภายนอก
    สาวใช้ประคองตัวนางเดินออกมาที่ระเบียงทางเดิน ก่อนลงบันไดหินอย่างเชื่องช้า
    ท้องฟ้ายังไม่สว่างดี ทำให้อากาศภายนอกค่อนข้างเย็น สาวใช้คนหนึ่งนำเสื้อคลุมเนื้อบางคลุมบนตัวหลี่อัน
    เมื่อออกจากเรือนใหญ่ สาวใช้ที่ชื่อว่าลวี่หลัวประคองตัวหลี่อัน ส่วนปี้อวี้เดินถือโคมไฟส่องทางอยู่ด้านหน้า
    ลวี่หลัวพ่นลมหายใจออกอย่างระมัดระวังก่อนกระซิบว่า “อนุเก้า ตอนที่บ่าวกลับไปหยิบเสื้อผ้ามาให้ท่าน ได้ให้คนเตรียมน้ำร้อนไว้แล้ว”
    หลี่อันรับคำเบา ๆ น้ำเสียงของนางเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง
    สาวใช้สองคนนี้ถูกส่งมารับใช้หลี่อันตอนที่นางเข้ามาในจวนไม่นาน ทั้งสองคนนี้คอยรับใช้นางได้ครึ่งปีแล้ว
    เดิมทีสาวใช้ทั้งสองมีความตื่นเต้นดีใจที่เจ้านายของตนได้รับใช้ใกล้ชิดใต้เท้าจริง ๆ เป็นคนแรก แต่เมื่อเห็นร่อยรองตามตัวของอนุเก้าแล้ว ความดีใจที่มีมาก่อนหน้านี้ก็หายวับไป
    พวกนางลืมไปเสียสนิทว่า ใต้เท้าเป็นคนที่ไร้ความเมตตา ไร้ความเห็นใจผู้อื่น
    ยามปกติเขาก็เป็นคนน่ากลัวอยู่แล้ว แล้วเรื่องบนเตียงจะไม่ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่หรือ!
    คิดไปคิดมา สาวใช้ทั้งสองรู้สึกเสียใจจนน้ำตาคลออยู่ขอบตา
    คืนนี้ อนุเก้าคงจะทรมานไม่น้อย
    ถ้าเกิดต่อไปใต้เท้ายังเรียกหาอนุเก้าอีก นางจะต้องรับความทรมานไปอีกเท่าไร

    ❤️ เป็นไฟล์ดิบแปลสด ยังไม่ผ่านพิสูจน์อักษรคำผิดเพียบ
    ❤️ มีการเปลี่ยนชื่อพระนาง สถานที่ ไม่ให้เดาถูก 555

    .
    ㊗️🏮มาแล้ว จากโป๊ยเซียน 📌“จงอ่านเนื้อเรื่องแล้วเดาว่าเป็นงานของนักเขียนจีนท่านไหนของห้องสมุด!” . เริ่ม!!! ------------- . 📌 อากาศเดือนแปดร้อนอบอ้าวตลอดทั้งวัน มีแต่ตอนกลางคืนเท่านั้นถึงจะเย็นสบายขึ้นบ้าง ช่วงเวลาที่เงียบสงัด จวนสกุลเฟ่ยคล้ายกับมีม่านหมอกบาง ๆ ปกคลุม รอบจวนเงียบสงัดเสียจนรู้สึกถึงความผิดปกติ รอบเรือนใหญ่กลับมีแสงไฟสว่างจ้า ระเบียงทางเดินนอกห้องยังมีคนรับใช้ยืนก้มหน้าก้มตาเงียบ ๆ อยู่เป็นแถวยาว ทุกคนยืนอย่างสงบนิ่ง ไม่มีการพูดคุย ไม่มีการเงยหน้าขึ้นมอง ความเงียบเชียบของค่ำคืนนี้ดูคล้ายกับปกติ แต่ก็เหมือนจะไม่ปกติ นอกห้องสงบเงียบ แต่ในห้องกลับแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง ห้องด้านในมืดสลัว มีสิ่งของตกเกลื่อนบนพื้นห้อง เครื่องกระเบื้องที่ตกอยู่บนพื้นแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ยังมีเชิงเทียน ยังมีม้านั่งที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ เสียงครางของสตรีผสานไปกับเสียงหายใจหนักหน่วงของบุรุษ ภายในห้องเต็มไปด้วยกลิ่นอายราคะอบอวลไปทั่วห้อง ร่างของหลี่อันเปียกโชกไปด้วยเหงื่อราวกับชุบตัวอยู่บ่อน้ำ เรือนร่างที่เปลือยเปล่าคุกเข่าโน้มตัวไปด้านหน้าอยู่บนเตียง เสียงหายใจคล้ายติดขัด เอวเล็กขาวของเนางถูกรวบอยู่ในฝ่ามือใหญ่ที่แข็งแรงราวกับคีมเหล็ก ร่างกายท่อนล่างถูกรุกรานด้วยท่อนเนื้อขนาดใหญ่จนตัวของนางโน้มตัวไปด้านหน้าเป็นจังหวะ ทรวงอกที่เต็มอิ่มไหวไปตามแรงจนเห็นเป็นเนื้อเคลื่อนไหวเป็นระลอก ชายหนุ่มเร่งความเร็วไปตามอารมณ์โดยมิได้ใส่ใจกับเรื่องอื่นใด “ช้า ช้าหน่อย ใต้ ใต้เท้า...” เสียงของหลี่อันขาดเป็นห้วง ๆ นี่เป็นการสูญเสียพรหมจรรย์ครั้งแรก นางยังรับมือไม่ทันอีกทั้งเขายังไม่ให้โอกาสนางได้ปรับตัวก็ช่วงชิงความบริสุทธิ์ของนางไปแล้ว นางบิดตัวด้วยความรู้สึกอึดอัด หวังจะลดความคับแน่นที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ได้กลับตรงกันข้าม ยิ่งทำให้ชายที่อยู่ด้านหลังเร่งความเร็วในการเคลื่อนตัวอยู่ร่างของนางมากขึ้น หลี่อันเปล่งเสียงร้องอย่างตกใจ ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งบีบเค้นหน้าอกที่อวบอิ่ม เนื้อหน้าอกที่มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะรวบได้เพียงแค่ฝ่ามือเดียวทะลักไหลออกมาตามง่ามนิ้ว ยอดอกที่ชูชันสัมผัสถูกฝ่ามือหยาบกระด้าง ความเจ็บปวดระคนความเสียวซ่านเหมือนเปลวไฟและน้ำแข็งที่เกิดขึ้นพร้อมกันทำให้ตัวนางบีบรัดสิ่งแปลกปลอมจนทำให้อาวุธที่อยู่ในร่างของนางเคลื่อนตัวได้ลำบาก หน้าผากของชายหนุ่มมีเหงื่อเม็ดใหญ่ ๆ ไหลลงมาข้างแก้ม ตกมาถึงสะโพกของหลี่อัน เสียงทุ้มห้าวดังคล้ายเสียงเตือน “อย่าเกร็ง” หลี่อันหันกลับไปมอง ดวงตาเรียวยาวที่อยู่บนใบหน้าหล่อเหลายามนี้หรี่แคบ ปลายคางและต้นคอเกร็งจนเห็นเส้นเลือดปูดโปน สายตาของหลี่อันเลื่อนลงมาด้านล่าง เหงื่อจากต้นคอไหลลงมาเรื่อย ๆ จนถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องที่เห็นเป็นลอนชัดเจน รวมเข้ากับเหงื่อที่อยู่บริเวณนั้นแล้วไหลลงไปรวมกันด้านล่าง สีหน้าที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความงดงามของเรือนร่าง กระตุ้นให้หว่างขาของนางชุ่มฉ่ำ หล่อลื่นให้ชายหนุ่มเคลื่อนตัวได้อีกครั้ง แรงกระแทกทำให้ร่างของหลี่อันเคลื่อนตัวไปด้านหน้าราวกับปลาที่คิดจะกระโดดขึ้นจากน้ำ ริมฝีปากสีสดเผยอขึ้นเพื่อช่วยให้หายใจได้ดีขึ้น ความร้อนระอุที่เกิดขึ้นร้อนจนนางทนไม่ไหว มีน้ำตาเอ่ออยู่ขอบตา มือซ้ายจับผ้าม่านข้างเตียงเอาไว้ แรงดึงทำให้ผ้าม่านขาดติดมือ เสียงผ้าขาดถูกกลบด้วยเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ทั้งร้อนแรงทั้งรุนแรง ความรู้สึกเสียวซ่านแผ่กระจายไปทีละน้อย อารมณ์เริ่มดำดิ่งไปกับจังหวะการรุกเข้ารุกออกของคนที่อยู่ด้านหลัง เสียงร้องด้วยความสุขสมยามถึงจุดสุดยอดดังออกจากปากหลี่อัน ก่อนร่างของนางจะอ่อนระทวยฟุบลงอยู่บนผ้าห่ม หน้าอกนุ่มนิ่มถูกทับจนแทบจะเปลี่ยนรูป การเคลื่อนไหวของชายหนุ่มทั้งเร็วทั้งแรง จนกระทั่งถึงจุดที่ปลดปล่อยธารร้อนออกมา เสียงหายใจแรงของคนทั้งสองดังประสานกัน ส่วนที่ยังประสานกันอยู่ก็ยังคงสอดประสานกันอยู่ หลี่อันรู้สึกสมองว่างเปล่าไปชั่วขณะก่อนเริ่มรู้สึกตัว นางดีใจที่ยุติเสียที ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไป นางคิดว่าตัวเองคงถูกหามออกไปเป็นแน่ แต่นางมิได้สังเกตถึงชายหนุ่มที่อยู่ด้านหลัง ว่าสายตาของเขาจับจ้องยู่ที่สะโพกกลมกลึงที่ยามนี้เป็นสีแดงเข้ม ก่อนเลื่อนสายตามองยังส่วนที่ยังประสานกันอยู่ หลี่อันสะดุ้งเฮือก เมื่อรับรู้ได้ถึงงสิ่งที่ยังอยู่ในร่างของนางเริ่มพองตัวขึ้นอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันได้ตั้งตัว เอวบางถูกมือสองข้างรวบเอาไว้ ก่อนจับตัวนางยกสูง บริเวณอ่อนนุ่มที่เพิ่งรับศึกหนักไปเมื่อครู่ ถูกท่อนเนื้อแข็งแรงดันเข้ามาด้านในอีกครั้ง “ใต้ ใต้เท้า ไม่ ไม่ ข้าน้อย ไม่ไหวแล้ว...” นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แทบจะไร้เรี่ยวแรง อีกทั้งสั่นเครือจนแทบจะฟังไม่เป็นคำ แต่ชายหนุ่มมิได้ใส่ใจ ยังคงกระทำไปตามอำเภอใจ เสียงทุ้มห้าวแหบแห้งดังเพียงว่า “ไม่ไหวก็ต้องทน” เสียงห้าวทุ้มที่ถูกเค้นออกมานั้นเต็มไปด้วยความเย็นกระด้าง ไร้ความรู้สึกโดยสิ้นเชิง หลี่อันได้แต่ส่งเสียงสะอื้นไปตามจังหวะการกระแทก นางก่นด่าคนที่อยู่ด้านหลังไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบ ความจริงนางอยากจะด่าเขาออกเสียงด้วยซ้ำ แต่เมื่อคิดถึงคนที่อยู่ด้านหลังเป็นขุนนางกังฉินที่มีความโหดร้ายอำมหิต เดาความคิดไม่ได้ นางไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่านี้ นางกลัวเพียงว่า ถ้าด่าออกไป เขาจะจับนางหักคอเสียก่อน ดังนั้นนางกัดริมฝีปากเอาไว้แน่นเพื่อไม่ให้ตัวเองด่าออกไป ผ่านไปอย่างนี้สองชั่วยามกว่า กว่าพายุจะสงบลงได้ ขณะสะลึมสะลือ ไร้เรี่ยวแรง มีเสียงทุ้มห้าวดังขึ้นอย่างไม่ไยดีว่า “เตรียมน้ำ” ไม่นานหลังจากนั้นประตูห้องถูกเปิดออก ภายในห้องมืดสลัว มีสาวใช้ถือตะเกียง ยกน้ำเข้ามาในห้อง ตะเกียงและถังน้ำถูกวางไว้ดีแล้ว สาวใช้ทั้งหลายถอยออกไปอย่างเงียบกริบ ราวกับไม่เคยมีใครเข้ามาแต่อย่างใด เปลวไฟไหวไปมา หลี่อันรับรู้ได้ว่า ชายที่อยู่ด้านหลังลงจากเตียง นางเงยหน้ามองตาม เห็นแผ่นหลังกว้างเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ที่มีเหงื่อจับอยู่เป็นชั้น คล้ายกับรับรู้ได้ถึงสายตาที่จับจ้องทำให้ชายหนุ่มหันหลังกลับ ใบหน้าของเขาหล่อเหลา หากแววตาเต็มไปด้วยความเย็นกระด้างที่แฝงแววอำมหิต หลี่อันรับรู้ได้ถึงแรงกดดันเที่แผ่กระจายออกจากตัวของเขาได้อย่างชัดเจนทำให้นางรีบก้มหน้า หลบตา เปล่งเสียงอ่อน ๆ ขึ้นว่า “ใต้เท้า” ชายหนุ่มดึงสายตากลับมา เม้มริมฝีปากเดินออกไปด้านนอก เขาเช็ดตัวอย่างลวก ๆ สวมเสื้อผ้าแล้วค่อยออกไปจากห้อง ทันทีที่ประตูห้องปิดเข้าหากัน หลี่อันลอบถอนหายใจ ความหวาดหวั่นที่มีอยู่เมื่อครู่หายวับไปทันที นางนอนอยู่บนเตียงที่ยุ่งเหยิงอย่างเหม่อลอย ดวงตาจับจ้องอยู่บนเพดานเตียง กลิ่นความใคร่ยังอบอวลอยู่ในห้องจนทำให้นางรู้สึกไม่สบายตัว หลี่อันแทบไม่มีเรี่ยวแรง เริ่มปวดศีรษะจึงมิได้สนใจกับกลิ่นเหล่านี้ แต่นางรู้สึกอะไรบางอย่างขาดหายไป เป็นสิ่งที่สำคัญมากแต่นางก็นึกไม่ออก ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง ครั้งนี้มีสาวใช้เข้ามาสองคน สาวใช้ทั้งสองเป็นสาวใช้ที่คอยรับใช้ใกล้ชิดหลี่อัน สาวใช้หยุดยืนอยู่นอกผ้าม่าน เตือนเบา ๆ ว่า “อนุเก้า ควรกลับเรือนฉงอันได้แล้วเจ้าค่ะ” หลี่อันจับผ้าห่มคลุมตัวเอาไว้แล้วลุกขึ้นนั่งปัดผ้าม่านออกอย่างไร้เรี่ยวแรง มองสาวใช้ทั้งสองก่อนออกคำสั่งเสียงแผ่วว่า “ช่วยประคองข้าหน่อย” สาวใช้ทั้งสองเข้ามาประคอง เมื่อเห็นจ้ำแดง ๆ ตามเนื้อตัวของหลี่อันแล้วก็หน้าแดงก่ำ พวกนางไม่กล้ามองให้มากกว่านั้น สาวใช้นางหนึ่งเดินไหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่บนพื้นขึ้นมา แต่ปรากฏว่าขาดวิ่นจนใส่ไม่ได้ รีบเอ่ยว่า “บ่าวจะกลับไปหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาเจ้าค่ะ” หลี่อันมองเสื้อผ้าที่ขาดรุ่งริ่งแล้วพลันนึกไปถึงสองชั่วยามก่อนที่นางจะเข้ามาในห้อง เวลาก่อนยามหนึ่ง หนึ่งเค่อ พ่อบ้านมาหานางที่เรือนฉงอันอย่างรีบร้อน บอกให้นางไปรับใช้ที่เรือนใหญ่ พ่อบ้านให้นางเตรียมตัวไม่ถึงหนึ่งเค่อ เดินนำหน้าพานางไปยังเรือนใหญ่ เมื่อมาถึงก็ให้นางเข้าในห้องที่มืดสลัว เมื่อเข้ามาในห้อง นางเห็นสภาพเละเทะบนพื้นได้อย่างเลือนราง ไม่เพียงในห้องจะอยู่ในสภาพที่ไม่น่าดู ในความมืดมิดยังมีความรู้สึกที่อึดอัด ยังมีบรรยากาศที่ร้อนระอุแฝงอยู่ นางเงยหน้ามองสภาพภายในห้องอย่างตั้งใจ จากความมืดมิดเห็นห้องด้านในที่มีม่านทิ้งตัวแบ่งเขตแดนอยู่หลางชั้น เห็นเงาราง ๆ นั่งอยู่ขอบเตียง ยังมีเสียงหายใจหนักแรงๆ ดังมาจากหลังผ้าม่านพร้อมกับมีกลิ่นอายบางอย่างที่นางบรรยายไม่ภถูก หลี่อันยืนอยู่หน้าผ้าม่านเนื้อบาง ลังเลไปชั่วครู่ก่อนเอ่ยเสียงแผ่วว่า “ใต้เท้า” คนที่อยู่ด้านในย่อมไม่อาจเป็นใครอื่นนอกจาก “สามี” ของนาง ขุนนางใหญ่ผู้ทำหน้าที่เป็นผู้สำเร็จราชการ อีกทั้งยังเป็นผู้บัญชาการสำนักตุลาการทหาร... เสวียนเฟิง ชายที่นั่งอยู่หลังผ้าม่านเงยหน้าขึ้นมองหลี่อัน แม้จะมีผ้าม่านขวางอยู่หลายชั้นแต่หลี่อันรับรู้ได้ถึงสายตาร้อนแรงที่มองมา แม้สายตานั้นจะร้อนแรงแต่บรรยากาศรอบตัวของเขากลับมีแต่ความเย็นยะเยือกราวกับอยู่ท่ามกลางสายหมอกในเหมันตฤดูอีกทั้งยังมีรังสีอำมหิตแฝงอยู่ หลี่อันตัวเกร็งด้วยความรู้สึกไม่ปลอดภัยขึ้นมาทันที เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ มีเสียงทุ้มต่ำดังผ่านผ้าม่าน “เข้ามา” หลี่อันลังเลไปเล็กน้อยสุดท้ายยังคงปัดผ้าม่านที่ขวางกั้น เข้าไปห้องด้านใน แม้นางจะมองเพียงแวบเดียวแต่ก็เข้าใจถึงสถานการณ์ภายในได้เป็นอย่างดี ห้องภายในและภายนอกแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ภายนอกมีแต่สิ่งของเกลื่อนพื้น แต่ด้านในกลับสะอาดเรียบร้อย เพียงแต่มีบรรยากาศอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก หลี่อันมิได้สบสายตากับเขา นางหลุบตาเล็กน้อย เห็นแผ่นอกแข็งแรงที่ถูกใต้เสื้อตัวในที่ถูกแหวกออกจนกว้าง … เขานั่งแยกขาออกจากกัน วางมือสองข้างที่เห็นเส้นเอ็นเด่นชัดอยู่บนหน้าตัก มีสิ่งหนึ่งที่น่าตระหนกชูชันอยู่เบื้องหน้า หลี่อันลอบกลืนน้ำลาย นางไม่กล้าสอดส่ายสายตาไปเรื่อยเปื่อย รีบก้มหน้ามองพื้น ทว่าชายที่นั่งอยู่กลับไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ กับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย หลี่อันยืนก้มหน้าอยู่ห่างจากชายผู้นั้นสองก้าว รับรู้ได้ถึงสายตาที่จ้องเขม็งมาที่ร่างของตน “เข้าจวนเมื่อใด” เขาถาม น้ำเสียงห้าวทุ้มดังกระทบโสตประสาท หลี่อันจำต้องตอบกลับ “เรียนใต้เท้า ข้าน้อยเข้าจวนเมื่อครึ่งปีก่อนเจ้าค่ะ” หลังจากตอบคำถามไปแล้ว สิ่งที่ตามมาคือความเงียบงัน แม้จะเป็นเวลาเพียงสั้น ๆ แต่กลับยาวนานในความรู้สึก หลังจากนั้นไม่นาน ข้อมือของหลี่อันถูกฝ่ามือร้อนระอุดึงเข้ามาอยู่ชิดแผงอกกว้างที่มีเหงื่อออกเต็ม ร้อน! ไม่ใช่อุณหภูมิที่คนทั่วไปควรจะมี แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์ที่หมิ่นเหม่แต่หลี่อันกลับวิเคราะห์ถึงสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน ภายในห้องที่อยู่ในสภาพเละเทะนั้น เห็นได้ว่าเป็นฝีมือของเขาผู้นี้ ยังมีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอุณหภูมิที่สูงกว่าปกติ หลี่อันคาดเดาอย่างคนใจกล้าอย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้ว่า เขาผู้นี้คงถูกคนวางยาปลุกกำหนัดเข้าให้แล้ว แต่คนที่มีความระมัดระวังตัวสูงอย่างเสวียนเฟิงเหตุใดจึงตกหลุมพรางได้ นางยังไม่ทันได้ขบคิดต่อไป เสวียนเฟิงจับข้อมือสองข้างของนางผูกเข้าด้วยกัน หลี่อันตกใจ คิดจะขัดขืน หากข้อมือของนางถูกจับเอาไว้แน่ “อย่าขยับ!” เสียงตวาดดังขึ้น ฝ่ามือที่แข็งแรงข้างหนึ่งเปลี่ยนตำแหน่งมาจับต้นคอของนางแทน ความร้อนจากฝ่ามือแข็งแรงทำให้หลี่อันตัวแข็งทื่อ ไม่กล้าขยับตัวแต่อย่างใด เมื่อนึกได้ว่า คนอย่างเสวียนเฟิงไม่เคยให้ใครเข้าใกล้ตัวเขาได้ อีกทั้งยังมีตำแหน่งเป็นขุนนางใหญ่ มีคนลอบสังหารอยู่ตลอดเวลา การกระทำของเขาเช่นนี้แสดงว่าไม่เชื่อใจนาง เรื่องที่ตามมาหลังจากนั้นก็เป็นอย่างที่รู้กัน หลี่อันเลื่อนสายตาจากเสื้อผ้าขาดวิ่นที่สาวใช้ถืออยู่ มาดูข้อมือที่ยังรู้สึกเจ็บอยู่ พลางมองไปยังอ่างน้ำอุ่นที่ยังไม่มีใครใช้ภายในห้อง จากนั้นออกคำสั่งว่า “พวกเจ้าออกไปก่อน ข้าจะเช็ดตัวสักหน่อย” ห้องนี้มิใช่ห้องนอนของใต้เท้าเสวียน สาวใช้ทั้งสองล่าถอยออกไปอย่างรวดเร็ว หลี่อันปรับลมหายใจอยู่หลายครั้งก่อนลงจากเตียง เดินไปหน้าที่วางอ่างน้ำอย่างเชื่องช้า หยิบผ้าแห้งที่วางอยู่ข้าง ๆ มาชุบน้ำ บิดหมาด ๆ เช็ดร่องรอยที่หลงเหลืออยู่ตามเนื้อตัวอย่างเบามือ ขณะที่เช็ดตัวอยู่นั้น ความคิดของหลี่อันล่องลอยไปไกล นี่เป็นประสบการณ์บนเตียงครั้งแรก แต่เหตุใดหลังจากผ่านไปแล้ว นางจึงได้มีความเยือกเย็นได้ถึงเพียงนี้ หลี่อันเกิดความสงสัยในตัวเองขึ้นมาไม่น้อย หรือเพราะก่อนนี้ที่นางอยู่ในหอฟงเยว่ได้รับการอบรมสั่งสอนเกี่ยวกับเรื่องหญิงชายมาโดยเฉพาะ จึงทำให้นางมิได้ตื่นตระหนกมากนัก หลี่อันมาจากหอฟงเยว่ที่เป็นสถานเริงรมย์ มีแต่ความต่ำต้อย แต่ว่านางจำอะไรไม่ได้ สองเดือนก่อน ในงานวันเกิดของเสวียนเฟิง มีคนร้ายเข้ามาลอบสังหารเขา เกิดความวุ่นวายภายในงานเลี้ยง สร้างความตื่นกลัวให้กับทุกคนที่อยู่ในงาน มีเพียงเสวียนเฟิงที่นั่งดื่มสุราราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนนางถูกใครไม่รู้ผลักจนตกบันไดระหว่างที่ชุลมุนจนศีรษะแตกมีเลือดไหลออกมา จากนั้นเมื่อนางรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งก็จำเรื่องอะไรไม่ได้แล้ว นางไม่ได้บอกใครเรื่องที่ตนเองสูญเสียความจำ หลี่อันคอยสังเกตดูเหตุการณ์ต่าง ๆ หลังจากผ่านไปอีกหลายวันก็เริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวได้ อดีตฮ่องเต้สวรรคต ได้แต่งตั้งผู้บัญชาการสำนักงานตุลาการทหารเสวียนเฟิงเป็นขุนนางผู้สำเร็จราชการ เสวียนเฟิงที่มีตำแหน่งเป็นผู้สำเร็จราชการมีความเด็ดขาดอำมหิต กุมอำนาจทางการทหารส่วนใหญ่ ดังนั้นขุนนางบุ๋นบู๊ในราชสำนักไม่มีใครไม่เกรงกลัวเขา คนที่คิดจะเอาชีวิตของเขาจึงมีมากมายนับไม่ถ้วน ในขณะเดียวกันคนที่คิดจะประจบเอาใจเขาก็มีไม่น้อยเช่นกัน คนที่คิดเอาใจเสวียนเฟิงย่อมหนีไม่พ้นการมอบเงินทองของมีค่า ไปจนถึงหญิงงาม หลี่อันเป็นหญิงงามที่ถูกผู้ช่วยเจ้าเมืองหวายโจวส่งมาให้เสวียนเฟิงเพื่อประจบเอาใจ ตอนนั้นภายในจวนสกุลเสวียนมีอนุแปดคนแล้ว หลี่อันเป็นคนที่เก้า ด้วยอุปนิสัยของเสวียนเฟิง เขาเป็นคนที่มีความระแวง ไม่เข้าใกล้หญิงสาวคนใด อย่าว่าแต่หลี่อัน แม้แต่หญิงงามแปดคนที่อยู่มาก่อนนางก็ยังไม่มีใครได้ร่วมเตียงกับเขามาก่อน ไม่ว่าจะเป็นหญิงงามหรือเป็นของมีค่าใด ๆ เสวียนเฟิงไม่เคยปฏิเสธ ดังนั้นคนเหล่านั้นจึงได้ส่งหญิงงาม ส่งสิ่งของให้เสวียนเฟิงด้วยความคิดที่ว่า หญิงงามที่ตนเองส่งให้นั้นเป็นที่สนใจของเขา หลังจากหลี่อันความจำเสื่อมจนถึงวันนี้ก็เป็นเวลาสองเดือน สองเดือนที่ผ่านมา นางเคยพบเสวียนเฟิงครั้งเดียว ส่วนคืนนี้เป็นครั้งที่สอง ที่นางถูกเรียกตัวมาพบเขาคืนนี้คงเป็นเพราะสองเดือนก่อนในงานเลี้ยงวันเกิดของเขา ในบรรดาหญิงงามสิบคนที่อยู่ในงานเลี้ยงมีนางเพียงคนเดียวที่หกล้ม ได้รับบาดเจ็บ นางคิดว่าเสวียนเฟิงคงจำนางได้จากเรื่องนั้น เมื่อเช็ดตัวดีแล้ว สาวใช้นำเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้ หลี่อันแต่งตัวเรียบร้อยค่อยออกจากห้อง ยามสาม แล้ว ท้องฟ้าเริ่มเห็นแสงรำไร ด้านนอกดูเหมือนจะไร้ผู้คน แต่หลี่อันรับรู้ได้ว่า มิได้มีความเงียบงันเหมือนกับที่เห็นภายนอก สาวใช้ประคองตัวนางเดินออกมาที่ระเบียงทางเดิน ก่อนลงบันไดหินอย่างเชื่องช้า ท้องฟ้ายังไม่สว่างดี ทำให้อากาศภายนอกค่อนข้างเย็น สาวใช้คนหนึ่งนำเสื้อคลุมเนื้อบางคลุมบนตัวหลี่อัน เมื่อออกจากเรือนใหญ่ สาวใช้ที่ชื่อว่าลวี่หลัวประคองตัวหลี่อัน ส่วนปี้อวี้เดินถือโคมไฟส่องทางอยู่ด้านหน้า ลวี่หลัวพ่นลมหายใจออกอย่างระมัดระวังก่อนกระซิบว่า “อนุเก้า ตอนที่บ่าวกลับไปหยิบเสื้อผ้ามาให้ท่าน ได้ให้คนเตรียมน้ำร้อนไว้แล้ว” หลี่อันรับคำเบา ๆ น้ำเสียงของนางเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง สาวใช้สองคนนี้ถูกส่งมารับใช้หลี่อันตอนที่นางเข้ามาในจวนไม่นาน ทั้งสองคนนี้คอยรับใช้นางได้ครึ่งปีแล้ว เดิมทีสาวใช้ทั้งสองมีความตื่นเต้นดีใจที่เจ้านายของตนได้รับใช้ใกล้ชิดใต้เท้าจริง ๆ เป็นคนแรก แต่เมื่อเห็นร่อยรองตามตัวของอนุเก้าแล้ว ความดีใจที่มีมาก่อนหน้านี้ก็หายวับไป พวกนางลืมไปเสียสนิทว่า ใต้เท้าเป็นคนที่ไร้ความเมตตา ไร้ความเห็นใจผู้อื่น ยามปกติเขาก็เป็นคนน่ากลัวอยู่แล้ว แล้วเรื่องบนเตียงจะไม่ยิ่งน่ากลัวเข้าไปใหญ่หรือ! คิดไปคิดมา สาวใช้ทั้งสองรู้สึกเสียใจจนน้ำตาคลออยู่ขอบตา คืนนี้ อนุเก้าคงจะทรมานไม่น้อย ถ้าเกิดต่อไปใต้เท้ายังเรียกหาอนุเก้าอีก นางจะต้องรับความทรมานไปอีกเท่าไร ❤️ เป็นไฟล์ดิบแปลสด ยังไม่ผ่านพิสูจน์อักษรคำผิดเพียบ ❤️ มีการเปลี่ยนชื่อพระนาง สถานที่ ไม่ให้เดาถูก 555 .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพราะรักและห่วงใยเมื่อห่างไกลกันไป ใจจึงคิดถึง
    สุดจะคิดถึง - SHAW SHERRY DUCK
    https://youtu.be/a4llVMd5_kU?si=0lJyQ1elyeRCqKkJ

    #newsingle #shawsherryduck #newsongs
    #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ
    เพราะรักและห่วงใยเมื่อห่างไกลกันไป ใจจึงคิดถึง สุดจะคิดถึง - SHAW SHERRY DUCK https://youtu.be/a4llVMd5_kU?si=0lJyQ1elyeRCqKkJ #newsingle #shawsherryduck #newsongs #Sherryduck #ชอว์เชอร์รี่ดั๊ก #ศิลปินนักร้องอัลเทอร์ยุค90 #indieArtist #อินดี้โคตรๆ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts