• น่าเสียใจที่ประเทศไทยเราไม่มีแพลตฟอร์มแอปขายของเพื่อบริการคนไทยเราจริงๆ,ไม่เอาเปรียบผู้ขาย ไม่เอาเปรียบผู้ซื้อเป็นตัวกลางสื่อกลางทางการตลาดทำสัมมาชีพทำรายได้หารายได้ช่วยคนไทยจริงๆ.
    ..lazadaในที่คลิปนี้ชัดเจนสามารถฆ่าสังหารคนเข้าไปขายมือใหม่จริงๆ,ยิ่งขายไม่ได้ยิ่งถูกบังคับออกจากแพลตฟอร์มหรือต้องอาจขาดทุนเข้าเนื้อไปเลย,เช่นชาวบ้านบางคนมันขายต่ำไม่ได้จริงๆแต่แอปก็สั่งการโปรแกรมต้องทำแบบนี้,เสมือนแอปสร้างเงื่อนกำแพงใครสายปานสั้นอย่าเข้ามา,เหมือนชุมชนนี้คือของกู ชุมชนทุนนิยมหมู่บ้านคนไฮโซสไตล์หรูเงินทุนมากพร้อมลดและยึดครองตลาดทั้งหมดทีหลังโดยเครือข่ายกิจการเดอะแก๊งกูทั้งหมด เป็นเจ้าของตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำกว่าหมื่นกว่าแสนรายการสินค้าและร้านค้าชื่อสมมุติกว่าร้อนร้่นค้าพันร้านค้าเป็นของกูเจ้าของจริงคนเดียวแบบกูทั้งนั้นหรือเป็นของกูทั้งหมด,มรึงคุณลูกค้าไม่ซื้อร้านนี้ที่ราคา59,เสือกไปเห็นร้านค้าอื่นที่ราคา58แล้วไปเห็นอีกร้านค้าหนึ่งออนไลน์ร้านค้าที่ราคา57แล้วเสือกไปเจอต่ออีกร้านที่ราคา56ตัดสินใจซื้อเลย ส่งคำสั่งซื้อ,แต่เหี้ยความจริงคือมันมีเจ้าของจริงคนเดียวกันว่ะมันหลอกดาว555,พอดีตัวโง่มือใหม่เข้าไปเสือกขายราคา55ต่ำกว่ามัน,มันก็บีบออกสาระพัดกลไกนะสิ ปั่นราคาทุบราคาจนคุณๆมือใหม่ขายไม่ออก,ขายต่ำกว่าต้นทุนแต่กำไรรายได้ทั้งหมดไม่มี ,เสร็จแพลตฟอร์มนั้นๆเสมือนจับปลามือเปล่าทำกำไรงามๆ,เดอะแก๊งมันก็ยังวิ่งวนในแอปจักรวาลเนื้อที่มันพื้นที่มันปกติ,ทำรายได้กำไรแหกตาคนซื้อต่อไป,ดูเลยแอปพวกนี้ปกปิดชื่อเจ้าของร้านมั้ยล่ะ ที่อยู่บ้านเลขที่อะไร ตำบลไหน อำเภอมลฑลอะไรบอกชัดเจนห่าอะไร,จริงๆแอปlazadaหรือแอปใดๆต้องจริงใจเป็นสื่อกลางบอกซื่อร้านไม่พอ ต้องบอกชื่อที่อยู่ปัจจถบันคนขายเบอร์โทรติดต่อชัดเจน,มิใช่มารู้ทีหลังเมื่อเห็นในกล่องส่งวัสดุแล้ว,หรือเคลมนั้นล่ะ,แอปพวกนี้จริงๆผิดจรรยาบรรณขั้นพื้นฐานปกปิดซ่อนเล้นอำพรางศพคนขายก็ว่า,ไม่ซื่อสัตย์ต่อคนซื้อร่วมปกปิดคนขาย เสมือนตบาดมืดของโจร,รัฐบาลผีบ้าในหน่วยงานที่กำกับเสือกไม่ควบคุมดูแลแอปดูแลแพลตฟอร์มต่างๆคุ้มครองคนไทยไปในตัวด้วย,แอปมันทำตามเงื่อนไขเจ้าของประเทศนั้นๆที่จะมาเปิดให้บริการแอปผ่านประเทศไทยเราอยู่แล้ว,เป็นการคุ้มครองขั้นพื้นฐานพื้นๆก็ไร้จิตสำนึกขั้นพื้นฐานคิดอ่านเองคุ้มครองประชาชนตนมิให้ถูกหลอกลวงในชั้นต้นได้,เว็บไซต์ยังดีกว่าด้วยซ้ำ,
    ..จริงๆรัฐบาลสร้างแพลตฟอร์มการตลาดสื่อกลางช่วยการค้าการขายของคนไทยได้,แต่ไม่ทำ,ถ้ามีนายฯวิสัยไกลจะมองเห็น,และตังจะหมุนเวียนในแอปนี้จากคนมาใช้จ่ายทั่วโลกต่อวันอาจร้อยล้านล้านบาทไทยสบายๆ,คนไทยขายของได้มีตลาดกลางสนับสนุมแหล่งขายของมิใช่แค่ตลาดออฟไลน์หน้าบ้านหรือตลาดนัดตลาดเทศบาลอะไรก็ว่าอย่างเดียว,ตังเดินสะพัดหมุนเวียนจริงในชุมชนแอปไทยด้วย.,คิดอ่านคิดอ่านจริงๆสามารถทำได้หากจริงใจทำเพื่อผลประโยชน์ประชาชนผลักดันให้พ้นความไม่มีตังไม่มีรายรับรายได้,ตั้งเป็นกระทรวงตลาดกลางออนไลน์ประจำประเทศไทยก็ได้,จัดโปรจัดอะไรได้หมดล่ะ,คนไทยลงทะเบียนชัดเจนอยู่แล้ว ค้าขายกันระเบิดแน่,จัดหมวดหมู่แผนกฝ่ายประเภทสินค้าให้ชัดเจนแค่นััน,กองทุนร้านค้าชุมชนทั่วประเทศหรือใครองค์กรไหนสามารถเข้ามาตลาดกลางนี้ได้หมด อนาคตใช้แว่วเรียลไทม์ออนไลน์เดินตบาดโลกเสมือนจริงได้ใครจะรู้ อวตารเต็มทั้งเจ้าของร้านทั้งคนมาจับจ่ายซื้อของ,ไอเทมทรงร่างกายการแต่งตัวคงบันเจิดโคตรๆล่ะ.สีสันตรึมแทบไม่อยากออกจากแว่วเรียลก็ได้.

    https://youtu.be/II3FIrvd6BQ?si=5RsWo11vlqzpO4AP
    น่าเสียใจที่ประเทศไทยเราไม่มีแพลตฟอร์มแอปขายของเพื่อบริการคนไทยเราจริงๆ,ไม่เอาเปรียบผู้ขาย ไม่เอาเปรียบผู้ซื้อเป็นตัวกลางสื่อกลางทางการตลาดทำสัมมาชีพทำรายได้หารายได้ช่วยคนไทยจริงๆ. ..lazadaในที่คลิปนี้ชัดเจนสามารถฆ่าสังหารคนเข้าไปขายมือใหม่จริงๆ,ยิ่งขายไม่ได้ยิ่งถูกบังคับออกจากแพลตฟอร์มหรือต้องอาจขาดทุนเข้าเนื้อไปเลย,เช่นชาวบ้านบางคนมันขายต่ำไม่ได้จริงๆแต่แอปก็สั่งการโปรแกรมต้องทำแบบนี้,เสมือนแอปสร้างเงื่อนกำแพงใครสายปานสั้นอย่าเข้ามา,เหมือนชุมชนนี้คือของกู ชุมชนทุนนิยมหมู่บ้านคนไฮโซสไตล์หรูเงินทุนมากพร้อมลดและยึดครองตลาดทั้งหมดทีหลังโดยเครือข่ายกิจการเดอะแก๊งกูทั้งหมด เป็นเจ้าของตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำกว่าหมื่นกว่าแสนรายการสินค้าและร้านค้าชื่อสมมุติกว่าร้อนร้่นค้าพันร้านค้าเป็นของกูเจ้าของจริงคนเดียวแบบกูทั้งนั้นหรือเป็นของกูทั้งหมด,มรึงคุณลูกค้าไม่ซื้อร้านนี้ที่ราคา59,เสือกไปเห็นร้านค้าอื่นที่ราคา58แล้วไปเห็นอีกร้านค้าหนึ่งออนไลน์ร้านค้าที่ราคา57แล้วเสือกไปเจอต่ออีกร้านที่ราคา56ตัดสินใจซื้อเลย ส่งคำสั่งซื้อ,แต่เหี้ยความจริงคือมันมีเจ้าของจริงคนเดียวกันว่ะมันหลอกดาว555,พอดีตัวโง่มือใหม่เข้าไปเสือกขายราคา55ต่ำกว่ามัน,มันก็บีบออกสาระพัดกลไกนะสิ ปั่นราคาทุบราคาจนคุณๆมือใหม่ขายไม่ออก,ขายต่ำกว่าต้นทุนแต่กำไรรายได้ทั้งหมดไม่มี ,เสร็จแพลตฟอร์มนั้นๆเสมือนจับปลามือเปล่าทำกำไรงามๆ,เดอะแก๊งมันก็ยังวิ่งวนในแอปจักรวาลเนื้อที่มันพื้นที่มันปกติ,ทำรายได้กำไรแหกตาคนซื้อต่อไป,ดูเลยแอปพวกนี้ปกปิดชื่อเจ้าของร้านมั้ยล่ะ ที่อยู่บ้านเลขที่อะไร ตำบลไหน อำเภอมลฑลอะไรบอกชัดเจนห่าอะไร,จริงๆแอปlazadaหรือแอปใดๆต้องจริงใจเป็นสื่อกลางบอกซื่อร้านไม่พอ ต้องบอกชื่อที่อยู่ปัจจถบันคนขายเบอร์โทรติดต่อชัดเจน,มิใช่มารู้ทีหลังเมื่อเห็นในกล่องส่งวัสดุแล้ว,หรือเคลมนั้นล่ะ,แอปพวกนี้จริงๆผิดจรรยาบรรณขั้นพื้นฐานปกปิดซ่อนเล้นอำพรางศพคนขายก็ว่า,ไม่ซื่อสัตย์ต่อคนซื้อร่วมปกปิดคนขาย เสมือนตบาดมืดของโจร,รัฐบาลผีบ้าในหน่วยงานที่กำกับเสือกไม่ควบคุมดูแลแอปดูแลแพลตฟอร์มต่างๆคุ้มครองคนไทยไปในตัวด้วย,แอปมันทำตามเงื่อนไขเจ้าของประเทศนั้นๆที่จะมาเปิดให้บริการแอปผ่านประเทศไทยเราอยู่แล้ว,เป็นการคุ้มครองขั้นพื้นฐานพื้นๆก็ไร้จิตสำนึกขั้นพื้นฐานคิดอ่านเองคุ้มครองประชาชนตนมิให้ถูกหลอกลวงในชั้นต้นได้,เว็บไซต์ยังดีกว่าด้วยซ้ำ, ..จริงๆรัฐบาลสร้างแพลตฟอร์มการตลาดสื่อกลางช่วยการค้าการขายของคนไทยได้,แต่ไม่ทำ,ถ้ามีนายฯวิสัยไกลจะมองเห็น,และตังจะหมุนเวียนในแอปนี้จากคนมาใช้จ่ายทั่วโลกต่อวันอาจร้อยล้านล้านบาทไทยสบายๆ,คนไทยขายของได้มีตลาดกลางสนับสนุมแหล่งขายของมิใช่แค่ตลาดออฟไลน์หน้าบ้านหรือตลาดนัดตลาดเทศบาลอะไรก็ว่าอย่างเดียว,ตังเดินสะพัดหมุนเวียนจริงในชุมชนแอปไทยด้วย.,คิดอ่านคิดอ่านจริงๆสามารถทำได้หากจริงใจทำเพื่อผลประโยชน์ประชาชนผลักดันให้พ้นความไม่มีตังไม่มีรายรับรายได้,ตั้งเป็นกระทรวงตลาดกลางออนไลน์ประจำประเทศไทยก็ได้,จัดโปรจัดอะไรได้หมดล่ะ,คนไทยลงทะเบียนชัดเจนอยู่แล้ว ค้าขายกันระเบิดแน่,จัดหมวดหมู่แผนกฝ่ายประเภทสินค้าให้ชัดเจนแค่นััน,กองทุนร้านค้าชุมชนทั่วประเทศหรือใครองค์กรไหนสามารถเข้ามาตลาดกลางนี้ได้หมด อนาคตใช้แว่วเรียลไทม์ออนไลน์เดินตบาดโลกเสมือนจริงได้ใครจะรู้ อวตารเต็มทั้งเจ้าของร้านทั้งคนมาจับจ่ายซื้อของ,ไอเทมทรงร่างกายการแต่งตัวคงบันเจิดโคตรๆล่ะ.สีสันตรึมแทบไม่อยากออกจากแว่วเรียลก็ได้. https://youtu.be/II3FIrvd6BQ?si=5RsWo11vlqzpO4AP
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ต่างชาติเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ,คุณมีความเสี่ยงสูงที่จะหายไปจากผิวโลกและอาจทุกข์ทรมานจากการทารุณกรรมต่างๆและเป็นสวรรค์ของฝ่ายมืดในการลักพาตัวเด็กๆโดยเฉพาะสวนเด็กเล่นสวนสนุกต่างๆแบบดีสนีซ์ในอดีตนั้นล่ะ,แหล่งเด็กหายที่มีสถิติมากที่สุดในโลก,ดีนะว่านี้คือการสมมุติทดสอบผู้ใหญ่และไม่กระตือรือร้นหายเหลืออะไรเลย,อันตรายจริงๆและหากเข้าไปช่วยคนเดียวถ้าไม่แน่จริงอาจหายตัวอีกรายหรือไม่มีชีวิตกลับมาหรือตายขณะเข้าช่วยเหลือ.
    ..ต่างชาติเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ,คุณมีความเสี่ยงสูงที่จะหายไปจากผิวโลกและอาจทุกข์ทรมานจากการทารุณกรรมต่างๆและเป็นสวรรค์ของฝ่ายมืดในการลักพาตัวเด็กๆโดยเฉพาะสวนเด็กเล่นสวนสนุกต่างๆแบบดีสนีซ์ในอดีตนั้นล่ะ,แหล่งเด็กหายที่มีสถิติมากที่สุดในโลก,ดีนะว่านี้คือการสมมุติทดสอบผู้ใหญ่และไม่กระตือรือร้นหายเหลืออะไรเลย,อันตรายจริงๆและหากเข้าไปช่วยคนเดียวถ้าไม่แน่จริงอาจหายตัวอีกรายหรือไม่มีชีวิตกลับมาหรือตายขณะเข้าช่วยเหลือ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ส่วนตัวผมมองว่าในอนาคตถ้าเจ้ายูทูบทำตัวเหมือน X แล้วผมลองมาสมมุติว่าถ้ายูทูบวางแพ็คเกจพรีเมี่ยมแพงขึ้นๆ ต่อไปก็จำกัดแค่สมาชิกยูทูบ พรีเมี่ยมสูง พรีเมี่ยมธรรมดา พรีเมี่ยมต่ำ ส่วนไม่ใช่พรีเมี่ยมก็อดดูคลิปโดยส่วนใหญ่ อาจทำให้มีคนหนีจากยูทูบ หันไปใช้ BiliBili Rutube VKVideo Dailymotion กันโขยงใหญ่เลย ส่วน Facebook ถ้าจะขึ้นค่าพรีเมี่ยม ตั้งราคาตามระดับพรีเมี่ยมแบบยูทูบและ X ก็เตรียมตัวอพยพไปใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นอย่าง VK, Thaitimes, Telegram ได้เลยครับ
    ส่วนตัวผมมองว่าในอนาคตถ้าเจ้ายูทูบทำตัวเหมือน X แล้วผมลองมาสมมุติว่าถ้ายูทูบวางแพ็คเกจพรีเมี่ยมแพงขึ้นๆ ต่อไปก็จำกัดแค่สมาชิกยูทูบ พรีเมี่ยมสูง พรีเมี่ยมธรรมดา พรีเมี่ยมต่ำ ส่วนไม่ใช่พรีเมี่ยมก็อดดูคลิปโดยส่วนใหญ่ อาจทำให้มีคนหนีจากยูทูบ หันไปใช้ BiliBili Rutube VKVideo Dailymotion กันโขยงใหญ่เลย ส่วน Facebook ถ้าจะขึ้นค่าพรีเมี่ยม ตั้งราคาตามระดับพรีเมี่ยมแบบยูทูบและ X ก็เตรียมตัวอพยพไปใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นอย่าง VK, Thaitimes, Telegram ได้เลยครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญปั๊มในไทย ก่อนปี พศ.2500 ไม่มี.....!! เพราะไม่มีโรงงานรีดแผ่นโลหะ...จึงมีแต่เหรียญหล่อเท่านั้น....???
    ....เอาส่วนตัวของผู้เขียนเอง....คุณตาของผู้เขียน เป็นนายทหารักษาพระองค์ในสมัย ร.7 ยศ พันโท.. (ในสมัยนั้นใหญ่มาก) ...และท่านได้รับพระราชทาน เหรียญปั๊ม...มา 2 เหรียญ...คือเหรียญ พระปรมาภิไธย รพ. (พระนางเจ้ารำไพพรรณี) ...ซึ่งเป็นเหรียญปั๊ม...ข้างเลื่อย และเป็นเหรียญ ฉลุ.....ในข่วงก่อนที่จะเสด็จไปต่างประเทศ...(ราวปี 2475) ...เหรียญนี้ ร่วม 50 ปีก่อน ผู้เขียนได้เห็น ได้จับ...เพราะอยู่ที่บ้านมาตลอด...จนมาสนใจเรื่องพระเครื่อง...เมื่อสัก40 ปี....แะต่อมา องค์ความรู้เรื่อง ขอบข้างเหรียญ ...ผู้เขียนก็ยังได้หยิบมาดูเรื่อยๆ....จนเมื่อสัก 15 ปีก่อน ขโมยขึ้นบ้าน...ได้ถูกกวาดไปจำนวนมาก...ฉะนั้น ...ความคิดที่บอกก่อน 2500 ไม่มีเหรียญปั๊ม....ผู้เขียน...ไม่ใส่ใจเลย...
    _ หลักคิดต่อไป เหรียญพระแก้วมรกต.ปี 2475 คือเหรียญปั๊ม....พิธีหลวง เอกสารหลักฐานชัดเจน....จะตอบอย่างไร..? ต่อมา พระ 25 พศ. ...เอกสารวาระ พิธีหลวงชัดเจนมีบันทึก...ก็เหรียญปั๊มเนื้อตะกั่ว....พ่อผู้เขียนเอง...เป็นข้าราชการได้รับมาตั้งแต่ตอนนั้นเลย....มันจะเป็นเหรียญหล่อยังไง? ...
    _ หลักคิดอีกอย่าง เหรียญยอดนิยมทั้งหบายที่เล่นหากันแพงๆ เข่นหลวงพ่อกลั่น หลวงปู่ศุข ..หลวงพ่อโสธร...และอื่นๆ ที่เป็นเหรียญปั๊ม....ถูกเล่นหากันมาโดยเซียนยุคก่อน ตั้งแต่ปี 249 กว่า...และเป็นกลุ่มคน..ที่ทำให้ของเหล่านี้มีราคา.....ต้องยอมรับว่า เหรียญก่อน 2500 มีมากมาย ทำไมบางเกจิ หลักร้อย หลักพัน ก็เยอะแยะ.....นี่คือ ผลของเซียนยุคแรก..ที่เขาหนิบจับมาเล่นหากัน...
    _ บันทึกการจัดสร้างของวัดหลวงหลายวัด...เข่นวัดสุทัศน์ วัดบวร...และอื่นๆ ...มีการบันทึกว่า เป็น พระกริ่ง เป็นเหรียญปั๊ม ...และอะไรบ้างชัดเจน...วัดหลวงพระอารามขั้นเอก...มั่วได้หรือ? ..
    _ หลักคิดต่อมา..ถ้าไอ้เหรียญหล่อมีจริง....มันไปอยู่ไหนมา...ตั้ง 70 ปี...ทำไมเซียนไม่หยิบมาเล่น....คนค้าขาย ขอแค่มีของขาย...เขาก็ยินดีแล้ว....ทำไมมันเพิ่งโผล่มา....และโผล่มาแต่เหรียญมีราคา....
    _ หลักคิดต่อมา...การดูธรรมขาติ เขาไม่ใช้ดูพระเหรียญกันหรอกนะ...บอย ท่า...ก็พูบ่อยๆ.....ไอ้ยุบยับย่นอะไรนะ เลอะเทอะ เอากรดกัด แบบผ่านไฟฟ้า (กรณีเดียวกับการชุบด้วยไฟ้า..เร่งไฟแก่หน่อย ผิวเหรียญก็พรุน...แล้ว....หรือง่ายๆ วิกซอลราดเลย..เอายับย่นแค่ไหน ก็กะเอา....ผู้เขียนเคยทดลอง แช่ วิกซอล พระเหรียญ ไว้ 2 คืน....พอหยิบมาดู ขนาดเหลือแค่ 2 ใน 10 ...เป็นก้อนโหะอะไรสักอย่าง...เพราะโดนกีดกัดกร่อน...ขี้เขียวเหรอ เอาไปถูๆเหงื่อทิ้งไว้ไม่วันก็จึ้นเขียวแล้ว...น้ำยาทำสนิมเขียว...ทำเก่าพระบูชาก็มี..
    ..แกล้งสึกเหรอ....เอาไปให้กรรมกรแถวบ้านห้อยสัก 2 เดือน แบบไม่เลี่ยม......ก็ใช้ได้แล้ว.....
    #สรุป# ผู้เขียนทีเหตุผลมากมาย...รวมกับที่เห็นเหรียญหล่อตามโพสต่างๆ ที่นำมาอ้าง....มีคำอธิบายในใจได้ทั้งหมด.....และความคิดที่ว่า เหรียญปั๊มก่อนปี 2500 ไม่มี...ผู้เขียนว่า #เลอะเทอะ#
    ___
    อีกนิด...เอาเรื่องเก๊แท้ออกไปก็ได้...สมมุติเหรียญหลวงพ่อกลั่น ถ้าเป็นเหรียญฯปั๊มสวยๆ 30 ล้านก็มีคนซื้อ.....แต่ถ้าเป็นพ่อกลั่นเหรียญหล่อ....ไม่ว่าคุณจะซื้อมาเท่าไร....เวลาอยากขาย....สัก 500 จะมีใครซื้อ ....สักกี่คน....!!
    เหรียญปั๊มในไทย ก่อนปี พศ.2500 ไม่มี.....!! เพราะไม่มีโรงงานรีดแผ่นโลหะ...จึงมีแต่เหรียญหล่อเท่านั้น....??? ....เอาส่วนตัวของผู้เขียนเอง....คุณตาของผู้เขียน เป็นนายทหารักษาพระองค์ในสมัย ร.7 ยศ พันโท.. (ในสมัยนั้นใหญ่มาก) ...และท่านได้รับพระราชทาน เหรียญปั๊ม...มา 2 เหรียญ...คือเหรียญ พระปรมาภิไธย รพ. (พระนางเจ้ารำไพพรรณี) ...ซึ่งเป็นเหรียญปั๊ม...ข้างเลื่อย และเป็นเหรียญ ฉลุ.....ในข่วงก่อนที่จะเสด็จไปต่างประเทศ...(ราวปี 2475) ...เหรียญนี้ ร่วม 50 ปีก่อน ผู้เขียนได้เห็น ได้จับ...เพราะอยู่ที่บ้านมาตลอด...จนมาสนใจเรื่องพระเครื่อง...เมื่อสัก40 ปี....แะต่อมา องค์ความรู้เรื่อง ขอบข้างเหรียญ ...ผู้เขียนก็ยังได้หยิบมาดูเรื่อยๆ....จนเมื่อสัก 15 ปีก่อน ขโมยขึ้นบ้าน...ได้ถูกกวาดไปจำนวนมาก...ฉะนั้น ...ความคิดที่บอกก่อน 2500 ไม่มีเหรียญปั๊ม....ผู้เขียน...ไม่ใส่ใจเลย... _ หลักคิดต่อไป เหรียญพระแก้วมรกต.ปี 2475 คือเหรียญปั๊ม....พิธีหลวง เอกสารหลักฐานชัดเจน....จะตอบอย่างไร..? ต่อมา พระ 25 พศ. ...เอกสารวาระ พิธีหลวงชัดเจนมีบันทึก...ก็เหรียญปั๊มเนื้อตะกั่ว....พ่อผู้เขียนเอง...เป็นข้าราชการได้รับมาตั้งแต่ตอนนั้นเลย....มันจะเป็นเหรียญหล่อยังไง? ... _ หลักคิดอีกอย่าง เหรียญยอดนิยมทั้งหบายที่เล่นหากันแพงๆ เข่นหลวงพ่อกลั่น หลวงปู่ศุข ..หลวงพ่อโสธร...และอื่นๆ ที่เป็นเหรียญปั๊ม....ถูกเล่นหากันมาโดยเซียนยุคก่อน ตั้งแต่ปี 249 กว่า...และเป็นกลุ่มคน..ที่ทำให้ของเหล่านี้มีราคา.....ต้องยอมรับว่า เหรียญก่อน 2500 มีมากมาย ทำไมบางเกจิ หลักร้อย หลักพัน ก็เยอะแยะ.....นี่คือ ผลของเซียนยุคแรก..ที่เขาหนิบจับมาเล่นหากัน... _ บันทึกการจัดสร้างของวัดหลวงหลายวัด...เข่นวัดสุทัศน์ วัดบวร...และอื่นๆ ...มีการบันทึกว่า เป็น พระกริ่ง เป็นเหรียญปั๊ม ...และอะไรบ้างชัดเจน...วัดหลวงพระอารามขั้นเอก...มั่วได้หรือ? .. _ หลักคิดต่อมา..ถ้าไอ้เหรียญหล่อมีจริง....มันไปอยู่ไหนมา...ตั้ง 70 ปี...ทำไมเซียนไม่หยิบมาเล่น....คนค้าขาย ขอแค่มีของขาย...เขาก็ยินดีแล้ว....ทำไมมันเพิ่งโผล่มา....และโผล่มาแต่เหรียญมีราคา.... _ หลักคิดต่อมา...การดูธรรมขาติ เขาไม่ใช้ดูพระเหรียญกันหรอกนะ...บอย ท่า...ก็พูบ่อยๆ.....ไอ้ยุบยับย่นอะไรนะ เลอะเทอะ เอากรดกัด แบบผ่านไฟฟ้า (กรณีเดียวกับการชุบด้วยไฟ้า..เร่งไฟแก่หน่อย ผิวเหรียญก็พรุน...แล้ว....หรือง่ายๆ วิกซอลราดเลย..เอายับย่นแค่ไหน ก็กะเอา....ผู้เขียนเคยทดลอง แช่ วิกซอล พระเหรียญ ไว้ 2 คืน....พอหยิบมาดู ขนาดเหลือแค่ 2 ใน 10 ...เป็นก้อนโหะอะไรสักอย่าง...เพราะโดนกีดกัดกร่อน...ขี้เขียวเหรอ เอาไปถูๆเหงื่อทิ้งไว้ไม่วันก็จึ้นเขียวแล้ว...น้ำยาทำสนิมเขียว...ทำเก่าพระบูชาก็มี.. ..แกล้งสึกเหรอ....เอาไปให้กรรมกรแถวบ้านห้อยสัก 2 เดือน แบบไม่เลี่ยม......ก็ใช้ได้แล้ว..... #สรุป# ผู้เขียนทีเหตุผลมากมาย...รวมกับที่เห็นเหรียญหล่อตามโพสต่างๆ ที่นำมาอ้าง....มีคำอธิบายในใจได้ทั้งหมด.....และความคิดที่ว่า เหรียญปั๊มก่อนปี 2500 ไม่มี...ผู้เขียนว่า #เลอะเทอะ# ___ อีกนิด...เอาเรื่องเก๊แท้ออกไปก็ได้...สมมุติเหรียญหลวงพ่อกลั่น ถ้าเป็นเหรียญฯปั๊มสวยๆ 30 ล้านก็มีคนซื้อ.....แต่ถ้าเป็นพ่อกลั่นเหรียญหล่อ....ไม่ว่าคุณจะซื้อมาเท่าไร....เวลาอยากขาย....สัก 500 จะมีใครซื้อ ....สักกี่คน....!!
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ข้อคิดจากข่าว
    ..ยุคนี้คนชั่วครองประเทศไทย,มุกกฎหมายมากมายที่ออกตีตรามามันอ้างประชาชนบังหน้า,แต่แท้จริงมันปกป้องความทำชั่วมันเองให้ทำชั่วสะดวกและห้ามเปิดเผยข้อมูลชื่อกูที่เป็นแหล่งที่มาของการกระทำชั่ว,ไม่กระทบผลประโยชน์กูด้วยเพราะคนอื่นไม่รู้ สื่อถูกห้ามเปิดเผยชื่อในกิจการกู,ตลอดพวกนี้ห้ามเปิดเผยใบหน้าตัวตนจริงจนถึงที่สุดของศาลก็ว่าแต่สุดท้ายมันก็เขียนให้ศาลห้ามเปิดเผยอีกแม้ศาลตัดสินไปแล้ว,นี้คือวิถีทำลายคนดี รักษาคนไม่ดีให้มีที่ยืนเพื่อดำรงความชั่วเลวได้ต่อเนื่องได้,สำนึกดีชั่วเลวชั่งหัวใครมัน สื่อไม่สามารถระบุตัวตนชื่อกิจการบริษัทได้หรือระบุเจ้าสัวตัวตนเจ้าของกิจการตรงๆได้,กฎหมายมีเขียนออกมาตีตราใช้บังคับคนโง่และประชาชนตาดำๆอย่างเดียว,ไม่เคยเขียนประจานประฌามตรงๆแก่คนมีส่วนร่วมคู่กรณีอะไรเลย,แบรนด์ดังๆหน่อยก็เอาข้อกฎหมายกดปิดปากเขา,ประชาชนซวยแบบยายๆนี้ล่ะ,และมากมายประชาชนซวยแบบนีัตรึม,
    ..โจรมันเยอะจริงๆปล้นได้ทุกๆสถานที่,ทัังปล้นชิงแบบชอบธรรมปล้นชิงไม่ชอบธรรมและไม่สามารถเอาผิดได้,ตลอดเทียบเคียงลักเล็กขโมยทีละน้อยๆก็ได้,สังคมเรายิ่งมีเหตุกรณีทรัพย์สินหายเยอะมากๆ,แก้ไขเพื่อชี้เป้าคนไม่ดีได้ชัดคือต่างชาติต่างด้าวเยอะไปในประเทศไทย,ต้องผลักดันออกไปทัังหมดก่อน,จะเหลือจับผิดแค่คนไทยง่ายๆขึ้น,ใครลักทรัพย์ ของหายเวลาไหน กระทำการผ่านอะไร เทียบเวลาดูก็รู้ ใครทำธุรกรรมบัญชีใครมีโค้ตเจ้าหน้าที่หมด,ประชาชนลักขโมยของกันในชุมชนกลางทุ่งกลางป่าในหมู่บ้านขุมชน มีกล้องมีมือถทอตรวจจับพิกัดสัญญาณ โจรอาจถูกจับง่ายขึ้น,คนดีคนชั่วมีปะปนในสังคมชุมชนไทยเรา,หากสมมุติว่าฝังชิปจริงๆนะ ใครทำชั่วๆตรงจุดไหน หลักฐานวันเวลานอที่หายตรวจสอบย้อนหลังได้หมด เช่นชาวบ้านทำไร่ทำนา ฝังชิปทุกๆคน ขิปที่ปลอดภัยสูงไม่กระทบสุขภาพร่างกายบอดี้คน,เขาทิ้งของไว้สาระพัดสิ่งในไร่ในนาเขาปกติทิ้งอะไรไว้หายหมดเพราะไม่สามารถตรวจสอบสืบหาใดๆได้เลยที่รวดเร็ว เห็นผลชัด พอมีฝังชิปและรับรู้พิกัดย้อนหลังและเรียลไทม์จากดาวเทียมอีก ใครเข้าเขตส่วนบุคคลตนใครมันมีสิทธิ์ตรวจสอบสถานะชิปที่บริเวณตนเป็นเจ้าของได้และหาบุคคลต้องสงสัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมได้ นายAและพวกกว่า2-3คนไปอยู่ช่วงเวลากลางดึกในไร่นาที่ของหายโดยมีสถานะชิปยืนยันการดำรงอยู่จริงอีกและไม่มีใครชิปใครร่วมปรากฎในบริเวณนั้นอีก สามารถฟันธง99%ได้เลยว่า มันคือขโมยลักเล็กขโมยน้อยแน่นอนในหมู่บ้านชุมชนที่ไร่ที่นานั้นก็ว่า,ตังคนฝากหายความผิดเต็มๆคือธนาคาร มีโค้ตเจ้าหน้าที่คีย์มำธุรกรรมโอนหรือถอนแน่นอน,มาอ้างรับผิดชอบแค่1ล้านค้ำประกันเงินฝากมันฟังไม่ขึ้นหรอก,เพราะเจ้าของบัญชีหากมิได้ยินยอมมอบฉันทะใครๆมาทำธุรกรรมแทนอีก ธนาคารนั้นต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบทันที,
    ..นีัคือการเขียนกฎหมายปกป้องคนชั่ว จะอ้างมุกกลั่นแกล้งแล้วมาอ้างเพื่อเขียนกฎหมายลักษณะนี้ เสมือนไม่ร่วมส่งเสริมในการลงโทษจากประชาชนข้อหาผิดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมชั่วดีไม่ออก,ซึ่งไส้ในจริงๆใครผิดถูกไม่ทราบแต่ศาลบอกให้ยายเบิกได้ แบงค์ทำแบบนี้ไม่ให้เบิกมันก็ผิดปกติมาก,ปัจจุบันจบหรือยังไม่ทราบรู้,แต่เคสนีัมันบ่งบอกว่า กฎหมายเราสามารถเผาทิ้งในหลายตัวพร้อมๆกันได้เลยในเวลาใกล้เคียงกันที่ออกๆมาของข้อกฎหมายอื่นๆก็ว่าที่ออกมาพร้อมกฎหมายห้ามเปิดเผยตัวตนชื่อกิจการบริษัทคนที่ร่วมเป็นคู่ความของข่าวแบบๆนี้ก็ว่า,นำเสนอผีบ้าแค่ด้านเดียว,คนไม่ดีชื่อพนักงานอะไร อยู่ธนาคารชื่อไหน สาขาอะไร นี้ต้องระบุชัดเจนเตือนภัยประชาชนเจาะจงได้เสือกเขียนกฎหมายไม่ให้ระบุชื่อมันกิจการมัน,กฎหมายประเทศเราออกโดยพวกผีบ้านานเกินไปแล้วและไม่เคยยกเลิกกฎหมายผีบ้านั้นๆจริงจังสักที,ตย.ชัดคือกฎหมายผีบ้าที่ยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติไปหมด,กฎหมายผีบ้าที่ไม่เอาเรื่องบ่อน้ำมันเข้าสภาอภิปรายให้ประชาชนรับรู้และเปิดเผยค่าจริงความจริงทั้งหมดแก่ประชาชนคนไทย ,ลึกลับทำกันเองในกระทรวงทบวงกรมตนหรืออธิบดีมีอำนาจเต็มโน้น,สภาสส.สว.กากกระจอกไร้ค่าไร้ราคาอย่ามีส่วนร่วมอย่ามาร่วมตัดสินใจห่าอะไรใดๆด้วยกากและกระจอกมือไม่ถึงโง่ไม่ฉลาดด้านบ่อน้ำมันและพลังงานทั้งสภาหรอก,เก่งกาจคนเดียวคืออธิบดีนี้หมดทั้งประเทศ สุดยอดแค่เจ้าเดียวเท่านั้นมันว่า,จึงอนุญาตไม่ต้องเข้าสภาสส.สว.มาเสือกอภิปรายใดๆขัดขวางปากท้องกูทำการแดกให้ง่ายๆได้,จริงๆจึงสมควรเริ่มเผาทิ้งฉีกทิ้งจากกฎหมายปิโตรเลียมนี้ก่อนเลย,ทุกๆฉบับแล้วจะโมฆะทันที,อาจยุบกระทรวงทบวงกรมก็ได้อีก โมฆะอัตโนมัติแน่นอนก็ว่า,พวกนี้ต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดเพราะที่กระทรวงนี้ถูกยุบสามารถระบุข้อหาชัดเจนได้ว่าคือกบฎและกระทรวงทรยศของแผ่นดินไทยไม่ซื่อสัตย์อย่างร้ายแรงบวกคือภัยคุกคามความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทยด้วยประกอบเป็นตัวปั่นราคาให้สินค้าบริการแพงทั้งแผ่นดินกระทบเป็นเครือข่ายลูกโซ่จริงด้วย ค่าขนส่งขึ้น ราคาสินค้าขึ้นเพราะน้ำมันขึ้น เป็นต้น.

    https://youtube.com/shorts/SkTnVeSeAvY?si=-XJOKJ3BO983QToA
    ..ข้อคิดจากข่าว ..ยุคนี้คนชั่วครองประเทศไทย,มุกกฎหมายมากมายที่ออกตีตรามามันอ้างประชาชนบังหน้า,แต่แท้จริงมันปกป้องความทำชั่วมันเองให้ทำชั่วสะดวกและห้ามเปิดเผยข้อมูลชื่อกูที่เป็นแหล่งที่มาของการกระทำชั่ว,ไม่กระทบผลประโยชน์กูด้วยเพราะคนอื่นไม่รู้ สื่อถูกห้ามเปิดเผยชื่อในกิจการกู,ตลอดพวกนี้ห้ามเปิดเผยใบหน้าตัวตนจริงจนถึงที่สุดของศาลก็ว่าแต่สุดท้ายมันก็เขียนให้ศาลห้ามเปิดเผยอีกแม้ศาลตัดสินไปแล้ว,นี้คือวิถีทำลายคนดี รักษาคนไม่ดีให้มีที่ยืนเพื่อดำรงความชั่วเลวได้ต่อเนื่องได้,สำนึกดีชั่วเลวชั่งหัวใครมัน สื่อไม่สามารถระบุตัวตนชื่อกิจการบริษัทได้หรือระบุเจ้าสัวตัวตนเจ้าของกิจการตรงๆได้,กฎหมายมีเขียนออกมาตีตราใช้บังคับคนโง่และประชาชนตาดำๆอย่างเดียว,ไม่เคยเขียนประจานประฌามตรงๆแก่คนมีส่วนร่วมคู่กรณีอะไรเลย,แบรนด์ดังๆหน่อยก็เอาข้อกฎหมายกดปิดปากเขา,ประชาชนซวยแบบยายๆนี้ล่ะ,และมากมายประชาชนซวยแบบนีัตรึม, ..โจรมันเยอะจริงๆปล้นได้ทุกๆสถานที่,ทัังปล้นชิงแบบชอบธรรมปล้นชิงไม่ชอบธรรมและไม่สามารถเอาผิดได้,ตลอดเทียบเคียงลักเล็กขโมยทีละน้อยๆก็ได้,สังคมเรายิ่งมีเหตุกรณีทรัพย์สินหายเยอะมากๆ,แก้ไขเพื่อชี้เป้าคนไม่ดีได้ชัดคือต่างชาติต่างด้าวเยอะไปในประเทศไทย,ต้องผลักดันออกไปทัังหมดก่อน,จะเหลือจับผิดแค่คนไทยง่ายๆขึ้น,ใครลักทรัพย์ ของหายเวลาไหน กระทำการผ่านอะไร เทียบเวลาดูก็รู้ ใครทำธุรกรรมบัญชีใครมีโค้ตเจ้าหน้าที่หมด,ประชาชนลักขโมยของกันในชุมชนกลางทุ่งกลางป่าในหมู่บ้านขุมชน มีกล้องมีมือถทอตรวจจับพิกัดสัญญาณ โจรอาจถูกจับง่ายขึ้น,คนดีคนชั่วมีปะปนในสังคมชุมชนไทยเรา,หากสมมุติว่าฝังชิปจริงๆนะ ใครทำชั่วๆตรงจุดไหน หลักฐานวันเวลานอที่หายตรวจสอบย้อนหลังได้หมด เช่นชาวบ้านทำไร่ทำนา ฝังชิปทุกๆคน ขิปที่ปลอดภัยสูงไม่กระทบสุขภาพร่างกายบอดี้คน,เขาทิ้งของไว้สาระพัดสิ่งในไร่ในนาเขาปกติทิ้งอะไรไว้หายหมดเพราะไม่สามารถตรวจสอบสืบหาใดๆได้เลยที่รวดเร็ว เห็นผลชัด พอมีฝังชิปและรับรู้พิกัดย้อนหลังและเรียลไทม์จากดาวเทียมอีก ใครเข้าเขตส่วนบุคคลตนใครมันมีสิทธิ์ตรวจสอบสถานะชิปที่บริเวณตนเป็นเจ้าของได้และหาบุคคลต้องสงสัยมาสอบปากคำเพิ่มเติมได้ นายAและพวกกว่า2-3คนไปอยู่ช่วงเวลากลางดึกในไร่นาที่ของหายโดยมีสถานะชิปยืนยันการดำรงอยู่จริงอีกและไม่มีใครชิปใครร่วมปรากฎในบริเวณนั้นอีก สามารถฟันธง99%ได้เลยว่า มันคือขโมยลักเล็กขโมยน้อยแน่นอนในหมู่บ้านชุมชนที่ไร่ที่นานั้นก็ว่า,ตังคนฝากหายความผิดเต็มๆคือธนาคาร มีโค้ตเจ้าหน้าที่คีย์มำธุรกรรมโอนหรือถอนแน่นอน,มาอ้างรับผิดชอบแค่1ล้านค้ำประกันเงินฝากมันฟังไม่ขึ้นหรอก,เพราะเจ้าของบัญชีหากมิได้ยินยอมมอบฉันทะใครๆมาทำธุรกรรมแทนอีก ธนาคารนั้นต้องมีจิตสำนึกรับผิดชอบทันที, ..นีัคือการเขียนกฎหมายปกป้องคนชั่ว จะอ้างมุกกลั่นแกล้งแล้วมาอ้างเพื่อเขียนกฎหมายลักษณะนี้ เสมือนไม่ร่วมส่งเสริมในการลงโทษจากประชาชนข้อหาผิดจิตสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมชั่วดีไม่ออก,ซึ่งไส้ในจริงๆใครผิดถูกไม่ทราบแต่ศาลบอกให้ยายเบิกได้ แบงค์ทำแบบนี้ไม่ให้เบิกมันก็ผิดปกติมาก,ปัจจุบันจบหรือยังไม่ทราบรู้,แต่เคสนีัมันบ่งบอกว่า กฎหมายเราสามารถเผาทิ้งในหลายตัวพร้อมๆกันได้เลยในเวลาใกล้เคียงกันที่ออกๆมาของข้อกฎหมายอื่นๆก็ว่าที่ออกมาพร้อมกฎหมายห้ามเปิดเผยตัวตนชื่อกิจการบริษัทคนที่ร่วมเป็นคู่ความของข่าวแบบๆนี้ก็ว่า,นำเสนอผีบ้าแค่ด้านเดียว,คนไม่ดีชื่อพนักงานอะไร อยู่ธนาคารชื่อไหน สาขาอะไร นี้ต้องระบุชัดเจนเตือนภัยประชาชนเจาะจงได้เสือกเขียนกฎหมายไม่ให้ระบุชื่อมันกิจการมัน,กฎหมายประเทศเราออกโดยพวกผีบ้านานเกินไปแล้วและไม่เคยยกเลิกกฎหมายผีบ้านั้นๆจริงจังสักที,ตย.ชัดคือกฎหมายผีบ้าที่ยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติไปหมด,กฎหมายผีบ้าที่ไม่เอาเรื่องบ่อน้ำมันเข้าสภาอภิปรายให้ประชาชนรับรู้และเปิดเผยค่าจริงความจริงทั้งหมดแก่ประชาชนคนไทย ,ลึกลับทำกันเองในกระทรวงทบวงกรมตนหรืออธิบดีมีอำนาจเต็มโน้น,สภาสส.สว.กากกระจอกไร้ค่าไร้ราคาอย่ามีส่วนร่วมอย่ามาร่วมตัดสินใจห่าอะไรใดๆด้วยกากและกระจอกมือไม่ถึงโง่ไม่ฉลาดด้านบ่อน้ำมันและพลังงานทั้งสภาหรอก,เก่งกาจคนเดียวคืออธิบดีนี้หมดทั้งประเทศ สุดยอดแค่เจ้าเดียวเท่านั้นมันว่า,จึงอนุญาตไม่ต้องเข้าสภาสส.สว.มาเสือกอภิปรายใดๆขัดขวางปากท้องกูทำการแดกให้ง่ายๆได้,จริงๆจึงสมควรเริ่มเผาทิ้งฉีกทิ้งจากกฎหมายปิโตรเลียมนี้ก่อนเลย,ทุกๆฉบับแล้วจะโมฆะทันที,อาจยุบกระทรวงทบวงกรมก็ได้อีก โมฆะอัตโนมัติแน่นอนก็ว่า,พวกนี้ต้องเริ่มต้นกระบวนการใหม่ทั้งหมดเพราะที่กระทรวงนี้ถูกยุบสามารถระบุข้อหาชัดเจนได้ว่าคือกบฎและกระทรวงทรยศของแผ่นดินไทยไม่ซื่อสัตย์อย่างร้ายแรงบวกคือภัยคุกคามความมั่นคงทางพลังงานของประเทศไทยด้วยประกอบเป็นตัวปั่นราคาให้สินค้าบริการแพงทั้งแผ่นดินกระทบเป็นเครือข่ายลูกโซ่จริงด้วย ค่าขนส่งขึ้น ราคาสินค้าขึ้นเพราะน้ำมันขึ้น เป็นต้น. https://youtube.com/shorts/SkTnVeSeAvY?si=-XJOKJ3BO983QToA
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 230 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เอไออย่างไรก็สู้มนุษย์ผู้บรรลุธรรมจักรวาลไม่ได้หรอก,หรือระบบmatrixคือโลกที่ผู้คนลงมาทดสอบจิตวิญญาณใครมันเท่านั้นเพื่ออัพเกรดสู่การบรรลุธรรมออกไปอย่างเด็ดขาดจากระบบmatrix ,ไม่ย้อนกลับมาในระบบตลอดกาล,จะมาในมุกmatrixซ้อนmatrixก็ตาม,สรุปเรื่องthe matrixเป็นการนำเสนอเพื่อเตือนชาวโลกว่า หนทางออกจากmatrixโลกสมมุตินี้มีอยู่จริง,ส่วนตรรกะองค์รู้ต่างๆเลอะเทอะเป็นอจินไตยต่อผู้ดูมากเกินไปไม่มีประโยชน์จึงตัดทิ้ง,หมายบอกผ่านสื่อทางลัดว่า มีหนทางมีทางเลือก อนาคตมนุษย์จะสู่กับปัญญาประดิษฐ์นัันเองและมันจะควบคุมมนุษย์และหลายๆจักรวาลแต่สุดท้ายก็แพ้มนุษย์ในตอนสุดท้าย,หรือผู้ปลดปล่อยนั้นๆจะดึงเขาใครเขามันต่อไปเฉพาะใครมันไม่ได้อีกต่อไปเมื่อหนทางแห่งธรรมแห่งมรรคบรรลุเข้าถึงแห่งเขาเองในปัจเจกบุคคลคนนั้นๆทั่วโลก,มิใช่ไปอยู่ใต้ดินผีบ้าแบบในหนังหรอก,ผู้สร้างพยายามสื่อให้เข้าใจพื้นฐานปฐมบทต้นเรื่องต้นทางแค่นั้น,ใครอยากอิ่มก็กินเองทำเองใครมันหรือเลือกเอง,หนังเรื่องนีั หลายกูรูบอกว่าคนฝ่ายแสงดลใจดลจิตให้มันถูกสร้างขึ้นและฝ่ายแสงลงมาสร้างเองเพื่อชี้ทางให้คนชาวโลกสไตล์ทางกายหยาบวัตถุธาตุของยุคก็ว่า,แต่ทางคนไทยสายพุทธคงเข้าใจง่ายดายได้,แต่แบบพวกอื่นๆเช่นฝรั่งคนตะวันตกยากจะเข้าใจสายแบบพุทธทางจิตวิญญาณ,ไปทางเทคโนโลยีจึงสอนผ่านหนังตามยุควัตถุยุคเทคโนโลยีเขาด้วยก็ว่า,
    ..เสมือนหนังเรื่องนีับอกว่า ที่ช่วยได้ปลดปล่อยได้ก็ตามแต่ละยุคสมัยนั้นๆ ยังมีอีกมากมายที่ยังอยู่ในโลกสมมุติmatrixนั้นๆก็ว่า,ก็เหมือนสมมุติเหมือนโลกเหมือนจักรวาลเล็ก จักรวาลกลาง มหาจักรวาลนั้นล่ะ matrixสับเซ็ตmatrix,matrixซ้อนmatrixและซ้อนๆเข้าๆไปอีกในแต่ละจักรวาลต่างๆ สมมุติในตลอดทั่วอนันตจักรวาล,แต่ปัจจุบันนะกาลจะอยู่โลกmatrixไหนๆจักรวาลใดๆหากดีดบรรุธรรมตนเองได้หรืออรหันต์ก็หลุดออกขาดสิ้นในทุกๆจักรวาลหรือกลายเป็นผู้ปลดปล่อยคนต่อไปหากท่านเมตตาชี้ทางสั่งสอนบอกหนทางออกหรือให้ต้องลงมือทำก็ว่า.
    ..The matrixมีนัยยะมากมายจริงๆแต่แค่ขี้เล็บค่าจริงในองค์รู้ทางพุทธศาสนา,อย่าลืมว่าแม้ต่างดาวมากมายทั่วจักรวาล มิติสูงขนาดไหน เขารับรองว่ามนุษย์สมบัตินี้เป็นสถานะที่พร้อมในทุกๆประการจะออกจากmatrixแบบสิ้นเชิงหรือกลับมาเล่นวนซ้ำก็ได้เสมอหากสามารถเหนือระบบmatrixระดับดีก็อยู่ในโลกสมมุตินี้สะดวกสบายหน่อย,หากระดับไม่ดี จิตใจไม่แน่จริงอาจติดกับดักกระทั่งหลุดเรเวลเดิมที่ดีของตนได้ เช่นสายพุทธะคือนรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน ,มนุษย์สมบัติอาจถูกระบบmatrixก่อกวนจนตกชั้นตกเรเวลได้,อนาถสุดคือนรกภูมิโน้น.
    ..ปัจจุบันนี้ เรื่องthe matrixอาจกำลังสื่อว่า อนาคตยุคrobotและAIมาแน่,และใครควบคุมมันนั้นสำคัญที่สุด,เราพร้อมรับมือมันในสงครามปลดปล่อยมนุษย์ชาตินี้พร้อมแค่ไหนพร้อมพอหรือยัง.,มีสักกี่คนที่พร้อมจะเป็นแบบนีโอบนโลกThe matrixหรือทาสระบบมันทั้งหมด.

    ..https://youtu.be/hu4rl3m8WFA?si=gM6WOdvHNLB7gJwg
    ..เอไออย่างไรก็สู้มนุษย์ผู้บรรลุธรรมจักรวาลไม่ได้หรอก,หรือระบบmatrixคือโลกที่ผู้คนลงมาทดสอบจิตวิญญาณใครมันเท่านั้นเพื่ออัพเกรดสู่การบรรลุธรรมออกไปอย่างเด็ดขาดจากระบบmatrix ,ไม่ย้อนกลับมาในระบบตลอดกาล,จะมาในมุกmatrixซ้อนmatrixก็ตาม,สรุปเรื่องthe matrixเป็นการนำเสนอเพื่อเตือนชาวโลกว่า หนทางออกจากmatrixโลกสมมุตินี้มีอยู่จริง,ส่วนตรรกะองค์รู้ต่างๆเลอะเทอะเป็นอจินไตยต่อผู้ดูมากเกินไปไม่มีประโยชน์จึงตัดทิ้ง,หมายบอกผ่านสื่อทางลัดว่า มีหนทางมีทางเลือก อนาคตมนุษย์จะสู่กับปัญญาประดิษฐ์นัันเองและมันจะควบคุมมนุษย์และหลายๆจักรวาลแต่สุดท้ายก็แพ้มนุษย์ในตอนสุดท้าย,หรือผู้ปลดปล่อยนั้นๆจะดึงเขาใครเขามันต่อไปเฉพาะใครมันไม่ได้อีกต่อไปเมื่อหนทางแห่งธรรมแห่งมรรคบรรลุเข้าถึงแห่งเขาเองในปัจเจกบุคคลคนนั้นๆทั่วโลก,มิใช่ไปอยู่ใต้ดินผีบ้าแบบในหนังหรอก,ผู้สร้างพยายามสื่อให้เข้าใจพื้นฐานปฐมบทต้นเรื่องต้นทางแค่นั้น,ใครอยากอิ่มก็กินเองทำเองใครมันหรือเลือกเอง,หนังเรื่องนีั หลายกูรูบอกว่าคนฝ่ายแสงดลใจดลจิตให้มันถูกสร้างขึ้นและฝ่ายแสงลงมาสร้างเองเพื่อชี้ทางให้คนชาวโลกสไตล์ทางกายหยาบวัตถุธาตุของยุคก็ว่า,แต่ทางคนไทยสายพุทธคงเข้าใจง่ายดายได้,แต่แบบพวกอื่นๆเช่นฝรั่งคนตะวันตกยากจะเข้าใจสายแบบพุทธทางจิตวิญญาณ,ไปทางเทคโนโลยีจึงสอนผ่านหนังตามยุควัตถุยุคเทคโนโลยีเขาด้วยก็ว่า, ..เสมือนหนังเรื่องนีับอกว่า ที่ช่วยได้ปลดปล่อยได้ก็ตามแต่ละยุคสมัยนั้นๆ ยังมีอีกมากมายที่ยังอยู่ในโลกสมมุติmatrixนั้นๆก็ว่า,ก็เหมือนสมมุติเหมือนโลกเหมือนจักรวาลเล็ก จักรวาลกลาง มหาจักรวาลนั้นล่ะ matrixสับเซ็ตmatrix,matrixซ้อนmatrixและซ้อนๆเข้าๆไปอีกในแต่ละจักรวาลต่างๆ สมมุติในตลอดทั่วอนันตจักรวาล,แต่ปัจจุบันนะกาลจะอยู่โลกmatrixไหนๆจักรวาลใดๆหากดีดบรรุธรรมตนเองได้หรืออรหันต์ก็หลุดออกขาดสิ้นในทุกๆจักรวาลหรือกลายเป็นผู้ปลดปล่อยคนต่อไปหากท่านเมตตาชี้ทางสั่งสอนบอกหนทางออกหรือให้ต้องลงมือทำก็ว่า. ..The matrixมีนัยยะมากมายจริงๆแต่แค่ขี้เล็บค่าจริงในองค์รู้ทางพุทธศาสนา,อย่าลืมว่าแม้ต่างดาวมากมายทั่วจักรวาล มิติสูงขนาดไหน เขารับรองว่ามนุษย์สมบัตินี้เป็นสถานะที่พร้อมในทุกๆประการจะออกจากmatrixแบบสิ้นเชิงหรือกลับมาเล่นวนซ้ำก็ได้เสมอหากสามารถเหนือระบบmatrixระดับดีก็อยู่ในโลกสมมุตินี้สะดวกสบายหน่อย,หากระดับไม่ดี จิตใจไม่แน่จริงอาจติดกับดักกระทั่งหลุดเรเวลเดิมที่ดีของตนได้ เช่นสายพุทธะคือนรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัจฉาน ,มนุษย์สมบัติอาจถูกระบบmatrixก่อกวนจนตกชั้นตกเรเวลได้,อนาถสุดคือนรกภูมิโน้น. ..ปัจจุบันนี้ เรื่องthe matrixอาจกำลังสื่อว่า อนาคตยุคrobotและAIมาแน่,และใครควบคุมมันนั้นสำคัญที่สุด,เราพร้อมรับมือมันในสงครามปลดปล่อยมนุษย์ชาตินี้พร้อมแค่ไหนพร้อมพอหรือยัง.,มีสักกี่คนที่พร้อมจะเป็นแบบนีโอบนโลกThe matrixหรือทาสระบบมันทั้งหมด. ..https://youtu.be/hu4rl3m8WFA?si=gM6WOdvHNLB7gJwg
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก,
    ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด.

    https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก, ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด. https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เคยมโนเล่นๆไปหลายครัังแล้ว,ส่วนใครมีทองคำ ขายเลยอย่าถือไว้ เงินบาทเรามีทองคำค้ำประกันปกติมั่นคงในความแข็งแกร่งปกติอยู่แล้วอาจในระดับต้นๆของโลก สมดุลตัวปกติ,แต่ทองคำยุคนี้คือตัวปั่นสร้างราคาของอีลิทซาตานชัดเจน ฝ่ายแสงบ้าแสงบออย่าไปเชื่อเพราะอีลิทมืดมันคือเจ้าของบ่อทองคำเหมืองผลิตทองคำจริงเกือบทุกๆแห่งทั่วโลกไม่เว้นบ่อทองคำไทยเราด้วย,มันปั่นราคาให้สูงขึ้นชัดเจน อ้างbricsจะเป็นตังดิจิดัลโลกมีทองคำค้ำประกันใช้ทองคำเยอะราคาพุ่งเพราะแต่ละชาติต้องสะสมใช้ค้ำซึ่งหากมโนว่าจริงถ้าbricsคือองค์กรสากลของอีลิทยุคสมัยหน้าใหม่ก็ไม่แปลก,
    ..ทองคำถ้าบริหารจัดการขั้นตัดตอนจริงแบบอีลิทเจอตัดขาจริง,ไม่ใช่อีลิทสั่งควบคุมให้ปล่อยดันราคาให้สูงขึ้นแบบนี้ ทำลายกฎสมดุลเช่นราคาสินค้าอื่นๆที่เป็นอุปโภคบริโภคไปด้วยเพราะมันคือสินทรัพย์ที่ใช้ปั่นราคาเนียนๆนั้นเองโดยอ้างว่าทองคำเชื่อถือได้ที่สุดเพราะอีลิทมันโปรยัง,เดอะแก๊งเครือข่ายทั่วโลกเลยปั่นสะดวกเพราะนายใหญ่อนุญาตและรับรองการทำงานลงหน้างานไง,ถ้าผู้นำผีบ้าบางประเทศสมมุติแบบไทยที่ผู้ปกครองหรือผู้นำผู้มีอำนาจประเทศไทยมิใช่ขี้ข้าทาสรับใช้มันนะ,แค่ออกกฎหมายกติกาใหม่ยุติธรรมว่า ทุกๆราคาทองคำที่โลกสากลยอมรับในเวลานี้ว่าน่าเชื่อถือที่สุด หากราคาทองคำเพิ่มขึ้นเช่นที่ไทยจากปกติราคาไม่กี่หมื่นกี่พัน เทียบราคาสินค้าแบบก๋วยเตี๋ยวข้าวผัด1ชามจานที่ราคาละ15-20บาท ทองราคา15,000-20,000บาทต่อ1บาททองคำ,ราคาสินค้าทั้งหมดในเวลานี้ทั่วประเทศทุกๆสินค้าอุปโภคบริโภคหรือสินค้านำเข้าและส่งออกหรือภาษีทั้งหมดของประเทศไทยตลอดเงินเดือนค้าจ้างค้าแรงงานทั้งหมดจะเอกชนหรือรัฐบาลต้องปรับขึ้นทั้งหมดพร้อมกันทันทีและต้องอ้างอิงราคาทองคำนี้เป็นมาตราไทยทั้งหมดทันที โดยฐานปัจจุบันคือ2.34เท่าของราคาทองคำที่เปลี่ยนแปลงถึงปัจจุบัน อนาคตจะทันเงินเฟ้อทุกๆกรณีทันที,เช่นข้าวผัดก๋วยเตี๋ยวจานชามละ15บาทคูณราคาเพิ่มในเวลานี้ทันทีคือ15×2.34เท่า=35.10บาทที่ต้องบวกจาก15บาทเพิ่มขึ้นรวมราคาในปัจจุบันเวลานี้ต้องค้าขายกันจริงที่50.10บาทต่อจานชามเป็นราคาธรรมดาทั่วไปทันที จะทันเงินเฟ้อจริงที่ราคาทองคำในปัจจุบันที่50,000บาทเงินต่อ1บาททองคำทันทีด้วย,หากราคาทองคำลดลงที่30,000บาทเงิน,ราคาสินค้าจาก50บาทก็จะลดลงเรียลไทม์เช่นกันที่30บาทต่อจามชามในเวลานั้นโดยอ้างอิงราคาทองคำฐานที่50,000บาทเงินในเวลาฐานเป็นหลักเป็นพื้นเพื่อยืนคำนวนได้ในการเทียบราคาอ้างอิงในเวลาขึ้นลงของอนาคตต่อไป,มุกสูตรนี้สามารถใช้กับทุกๆค่าแรงงานจ้างเงินเดือนด้วยเรียลไทม์เช่นกันเพื่อทันเงินเฟ้อเรียลไทม์เช่นปกติเงินเดือน15,000บาท ทองคำราคาคือ50,000บาทเงินในเวลาจริงปัจจุบันซึ่งการขึ้นลงราคาทองคำในเวลานี้ถือว่าเอาเปรียบสายสาขาอื่นชัดเจนที่ไม่ได้ปรับราคาจริงทันอัตราเงินเฟ้อค่าเงินบาทไทยจนไปลดคุณค่าเงินบาทไทยอย่างอยุติธรรมของทองคำที่ทำกับค่าเงินบาทไทยเรา,จึงเปลี่ยนแปลงทางนโยบายการเงินไทยให้ล้ำสมัยทันเกมส์อีลิทซาตานสร้างมูลค่าเอาเปรียบเราคือทองคำฝ่ายเดียว ดันราคาขึ้นให้ค่าให้ราคาจนเหยียบค่าเงินบาทเราจนด้อยค่าลงหรือไร้ค่าเป็นเงินฟ้อนั้นเอง,นายกฯจึงต้องเปลี่ยนคนใหม่ทันทีบวกผู้ว่าแบงค์ชาติด้วยต้องทันมัน,คือรีเซ็ตปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ก็ต้องทำนั้นเอง,มิต้องไปใช้ตังดิจิดัลอะไรก็ได้,ตังกระดาษถ้าซื่อสัตย์ในการใช้มันก็จบ,เงินเดือนคนไทยป.ตรี15,000บาทคูณ2.34เท่าคือบวกเพิ่มที่35,100บาททันทีในทุกๆกิจการบริษัทที่มีพนักงานอยู่ กฎหมายต้องใช้บังคับทันทีจริงจัง,รวมคนไทยที่ปกติได้เงินเดือน15,000บาท เดือนหน้าจะเป็น50,100บาททันที,ทองคำลงที่30,000บาท,เดือนนั้นจะได้เงินเดือนที่30,060บาทเช่นกัน เพราะอ้างอิงราคาทองคำ,เมื่อนโยบายทางการเงินเราเปลี่ยนแปลงแบบอ้างอิงราคาทองคำโลกนำมาใข้จริงในไทย,เราจะบริหารแบบสมดุลการค้าการตังได้จริงทันที แก้ที่ต้นเหตุจริง,ทันค่าเงินจริง มูลค่าคุณค่าทางเงินบาทเราจะเที่ยงตรงสากลโลกจริง,ปัจจุบันมันไม่สมดุลด้วยราคาทองคำผีบ้ามีเอกสิทธิ์สามารถขึ้นเอาขึ้นเอาบวกทั้งไปเสือกลดด้อยค่าเงินบาทเราอีกด้วย,ค่าเงินกระทบเราจริง,เงินเฟ้อคือเครื่องมือมันคิดอ่านสร้างขึ้น ตัวไปกดไปขี่ไปบังคับให้ค่าเงินชาติอื่นๆไร้ค่าไร้ค่าก็ว่า,100บาท ปกติซื้อสินค้าในราคาอดีตเหมือนกันได้5ชนิดอย่าง,ปัจจุบันตัง100บาทซื้อสินค้าได้2ชนิดอย่างเป็นต้น,กิจการบริษัทไหนๆจะถูกควบคุมด้วยกลไกการค้าตังค้าเศรษฐกิจหรือแข่งขันกันอย่างยุติธรรมทันที,แรงงานก็ไม่ถูกเอาเปรียบเอารัดจากกิจการบริษัทด้วย,มีตังเท่านี้ ขยายกิจการสาขาจ้างแรงงานตามกำลังตังกำลังเศรษฐกิจตนได้สมสถานะก็ว่า,มิใช่ใช้ความได้เปรียบกดค่าตัวค่าแรงคนงานเช่นอ้างเศรษฐกิจไม่ดีอ้างแพะอ้างเงินเฟ้อสูงก็ด้วย,
    ..เมื่อปรับฐานลักษณะนี้ได้คือใช้นโยบายราคาทองคำไปใช้อ้างอิงจริงในสินค้าบริการทั้งอุปโภคและบริโภคภายในประเทศก่อนจึงค่อยต่อยอดขยายทั้งส่งออกและนำเข้าสินค้าจากนอกประเทศก็ด้วยจึงจะสามารถเข้าใกล้ค่าจริงของความเป็นจริงที่เราประเทศไทยต้องเผชิญในภาวะสงครามเศรษฐกิจหรือภาวะตัง,สงครามตังแบบนี้,จริงๆอีลิทมันใช้ทองคำเป็นอาวุธ(ตัดมุกมโนเรื่องฝ่ายแสงออกไป)มันไม่ใช้ตังบาทตังหยวนตังดอลล่าร์คืออาวุธ,จึงชี้นำว่าทองคำคือแร่ธาตุอ้างอิงมูลค่าและสร้างคุณค่าตังให้ดูดีมีหรูสูงค่ามากราคาดีที่สุดกว่าผีบ้ายุคอดีตอเมริกาอีลิทเก่าที่ใช้น้ำมันแทนทองคำค้ำประกันตังที่พิมพ์ๆปั่นๆตังกันออกมาใช้อย่างมากมายและมากจนเลอะเทอะไปหมดของชาติฝรั่งและอเมริกาบวกขี้ข้าตาอเมริกาก็ด้วย
    ..สรุป สมควรประกาศฉุกเฉินทันทีได้เลยว่า พรุ่งนี้ทุกๆสถานะที่ว่าด้วยตังเรื่องตัง,คูณทันทีที่ป้ายซื้อขายเงินเดือนค้าจ้างและอื่นๆที่เกี่ยวกับตัง,หรือประชาชนสามารถมาแลกตังบาทใหม่ในสถานะใหม่ที่แบงค์ชาติไทยได้ทันทีที่คูณ2.34เท่าแล้ว,เช่น เงินเดือนเดิมที่15,000บาท,นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างใหม่ทันทีที่ราคาทองคำใช้อ้างอิงในปัจจุบันของราคา50,000บาทต่อ1บาททองคำ,ที่บวกเพิ่มคือ35,100บาทรวมเป็น50,100บาท เพื่อคุ้มครองสัมมาชีวิตของคนไทยเราให้สมดุลกับค่าจริงของวิถีระบบตังที่เปลี่ยนมูลค่าไป ไม่ทันเวลาเช่นในอดีต,จนเกิดการเหลื่อมล้ำวทุกๆวิถีการครองชีพที่แพงที่สูงจนเกินไปก็ว่าและปกป้องค่าเงินบาทตนเองอีกช่องทางหนึ่งด้วย,ราคาทองคำจะขึ้นจะลง ไม่กระทบค่าใช้จ่ายประชาชนคนไทยเลย ทั้งค่าเงินมูลค่าเงินก็ไม่ลดลงด้วย,เดินในสมดุลเรียลไทม์กันจริงๆเลยก็ว่า,นี้คือฝ่ายมืดไม่กล้าจะทำ ไม่กล้าจะประกาศบังคับใช้ด้วยเพราะคนไทยจะได้ประโยชน์เต็มๆทันที ไม่กระทบคนไทยในการดำรงชีพด้วย,คือต้นทุนประชาชนจริงๆมูลค่าจริงๆมันก็เท่าเดิมอันเดิมนั้นล่ะนั้นเอง,ราคาทองคำขึ้น ราคาสินค้าบริการเงินเดือนค่าจ้างค่าแรงก็ขึ้นเรียลไทม์เช่นกันทันค่าใช้จ่ายทันรายได้รายรับ,ราคาทองคำลดลง ราคาสินค้าบริการเงินเดือนค่าจ้างก็ลดลงตามค่าจริงค่าครองชีพมวลรวมด้วยตลอดต้นน้ำปลายน้ำทั้งหมดก็ลดราคาลงจริงตามไปด้วย,ทองจะขึ้นทองจะลง ไม่กระทบคนไทยเราเลยนั้นล่ะ,นี้คือค่าจริงมิใช่ค่าเท็จค่าปลอมหลอกๆที่ผีบ้าแค่ใช้ทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์แบงค์ออกมาใส่ให้หมุนเวียนในระบบแค่นั้น,มันไม่สุดซอยเลอะเทอะด้วย คนไทยต้องเจอกับมูลค่าตังที่อ่อนค่าลงหรือแข็งค่าขึ้นแค่นั้นซึ่งมั่นยังถูกปั่นราคาง่ายสบายเกินไปเช่นสถาบันต่างชาติซื้อบาทมากไปก็แข็งค่า ขายเททิ้งบาทไทยในsetบาทก็อ่อนค่า,มันผีบ้ามั้ยล่ะ,ใช้ทองคำประกันพะนะ นี้คือกลยุทธสงครามตังที่ตั้งทัพผิดพลาด รบก็แพ้ตลอด,ต้องประกาศอัดใส่นโยยายชาติเลยว่า เมื่อตังบาทอยู่ในระบบแล้ว ราคาสินค้าบริการที่ตังเข้าไปแทนที่ เช่นค่าแรงเงินเดือน ตังบาทเข้าไปแทนทีเป็นตัวตังทันทีที่50,100บาทในภาวะทองคำเงินทำราคาอ้างอิงฐานที่50,000ในรอบคำนวนเป็นฐานอ้างอิง,หากลดลงเป็น30,000บาทต่อ1บาททองคำ,เงินเดือนจริงในภาวะสังคมจริงในการครองชีพจะเป็นที่30,060บาทต่อคนต่อแรงงานนั้น,ราคาน้ำมัน,ค่าขนส่งก็ด้วยเป็นต้นและสาระพัดอื่นๆที่ระบบทาสตังเข้าไปคำนวนเกี่ยวข้องตีมูลค่าตังได้ อาทิตย.อีกตัว ที่ดินบ้านซื้อขายกัน,1,500,000บาทต่อไร่ก็จะเป็น5,010,000บาทต่อไร่ทันที,จะไร้การคตโกงในความได้เปรียบของมูลค่าเก็งกำไรทางวิกฤติตังเศรษฐกิจที่ไม่ยุติธรรมในอดีตทันที,จะอยู่บนค่าจริงกัน,มิใช่ราคาทองคำสูงถึง50,000บาทต่อ1บาททองคำ,ค่าแรงขั้นต่ำเสือก300บาทเหมือนเดิมหาก300×2.34เท่า=702บาทนะ บวก300เข้าไปให้เต็มสูตรรวมคือ1,002บาทต่อวัน,นี้ค่าแรงงานขั้นต่ำประจำประเทศไทยที่สมดุลกับค่าจริงครองชีพเทียบราคาทองคำที่สะท้อนสภาวะความเชื่อมั่นในตลาดโลกถึงตลาดการค้าการเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตสัมมาชีวิตและสัมมาอาชีพต่างๆทั่วไทยของจริง,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลวและกากของคณะบริหารประเทศจากอดีตถึงปัจจุบัน,จะราคาข้าวเอย ราคาน้ำมันเอย สามารถใช้ราคาทองคำผูกอ้างอิงได้ค่าจริงสมจริงกว่าตลอดเวลาแต่ไม่ทำ,ราคาทองคำขึ้นลงราคาข้าวเกษตรกรก็ขึ้นลงสมมูลค่าจริงไว้เปรียบเทียบอ้างอิงได้,จากตันละ15,000บาท,เทียบราคาทองคำปัจจุบันคูณ2.34เท่าบวกตัวมันเองคือ50,100บาทต่อตัน,มิใช่เอาเปรียบชาวนาแบบที่เห็นๆกันทั้งในอดีตถึงปัจจุบัน ราคามันฯราคาอ้อยก็ใช้ได้หมดเช่นกัน,คนไทยจะตัดภาวะเงินเฟ้อไปเลย,
    ..
    https://youtube.com/shorts/vaq2-T0uPfw?si=C2gfmvZTRkZ37QkW
    ..เคยมโนเล่นๆไปหลายครัังแล้ว,ส่วนใครมีทองคำ ขายเลยอย่าถือไว้ เงินบาทเรามีทองคำค้ำประกันปกติมั่นคงในความแข็งแกร่งปกติอยู่แล้วอาจในระดับต้นๆของโลก สมดุลตัวปกติ,แต่ทองคำยุคนี้คือตัวปั่นสร้างราคาของอีลิทซาตานชัดเจน ฝ่ายแสงบ้าแสงบออย่าไปเชื่อเพราะอีลิทมืดมันคือเจ้าของบ่อทองคำเหมืองผลิตทองคำจริงเกือบทุกๆแห่งทั่วโลกไม่เว้นบ่อทองคำไทยเราด้วย,มันปั่นราคาให้สูงขึ้นชัดเจน อ้างbricsจะเป็นตังดิจิดัลโลกมีทองคำค้ำประกันใช้ทองคำเยอะราคาพุ่งเพราะแต่ละชาติต้องสะสมใช้ค้ำซึ่งหากมโนว่าจริงถ้าbricsคือองค์กรสากลของอีลิทยุคสมัยหน้าใหม่ก็ไม่แปลก, ..ทองคำถ้าบริหารจัดการขั้นตัดตอนจริงแบบอีลิทเจอตัดขาจริง,ไม่ใช่อีลิทสั่งควบคุมให้ปล่อยดันราคาให้สูงขึ้นแบบนี้ ทำลายกฎสมดุลเช่นราคาสินค้าอื่นๆที่เป็นอุปโภคบริโภคไปด้วยเพราะมันคือสินทรัพย์ที่ใช้ปั่นราคาเนียนๆนั้นเองโดยอ้างว่าทองคำเชื่อถือได้ที่สุดเพราะอีลิทมันโปรยัง,เดอะแก๊งเครือข่ายทั่วโลกเลยปั่นสะดวกเพราะนายใหญ่อนุญาตและรับรองการทำงานลงหน้างานไง,ถ้าผู้นำผีบ้าบางประเทศสมมุติแบบไทยที่ผู้ปกครองหรือผู้นำผู้มีอำนาจประเทศไทยมิใช่ขี้ข้าทาสรับใช้มันนะ,แค่ออกกฎหมายกติกาใหม่ยุติธรรมว่า ทุกๆราคาทองคำที่โลกสากลยอมรับในเวลานี้ว่าน่าเชื่อถือที่สุด หากราคาทองคำเพิ่มขึ้นเช่นที่ไทยจากปกติราคาไม่กี่หมื่นกี่พัน เทียบราคาสินค้าแบบก๋วยเตี๋ยวข้าวผัด1ชามจานที่ราคาละ15-20บาท ทองราคา15,000-20,000บาทต่อ1บาททองคำ,ราคาสินค้าทั้งหมดในเวลานี้ทั่วประเทศทุกๆสินค้าอุปโภคบริโภคหรือสินค้านำเข้าและส่งออกหรือภาษีทั้งหมดของประเทศไทยตลอดเงินเดือนค้าจ้างค้าแรงงานทั้งหมดจะเอกชนหรือรัฐบาลต้องปรับขึ้นทั้งหมดพร้อมกันทันทีและต้องอ้างอิงราคาทองคำนี้เป็นมาตราไทยทั้งหมดทันที โดยฐานปัจจุบันคือ2.34เท่าของราคาทองคำที่เปลี่ยนแปลงถึงปัจจุบัน อนาคตจะทันเงินเฟ้อทุกๆกรณีทันที,เช่นข้าวผัดก๋วยเตี๋ยวจานชามละ15บาทคูณราคาเพิ่มในเวลานี้ทันทีคือ15×2.34เท่า=35.10บาทที่ต้องบวกจาก15บาทเพิ่มขึ้นรวมราคาในปัจจุบันเวลานี้ต้องค้าขายกันจริงที่50.10บาทต่อจานชามเป็นราคาธรรมดาทั่วไปทันที จะทันเงินเฟ้อจริงที่ราคาทองคำในปัจจุบันที่50,000บาทเงินต่อ1บาททองคำทันทีด้วย,หากราคาทองคำลดลงที่30,000บาทเงิน,ราคาสินค้าจาก50บาทก็จะลดลงเรียลไทม์เช่นกันที่30บาทต่อจามชามในเวลานั้นโดยอ้างอิงราคาทองคำฐานที่50,000บาทเงินในเวลาฐานเป็นหลักเป็นพื้นเพื่อยืนคำนวนได้ในการเทียบราคาอ้างอิงในเวลาขึ้นลงของอนาคตต่อไป,มุกสูตรนี้สามารถใช้กับทุกๆค่าแรงงานจ้างเงินเดือนด้วยเรียลไทม์เช่นกันเพื่อทันเงินเฟ้อเรียลไทม์เช่นปกติเงินเดือน15,000บาท ทองคำราคาคือ50,000บาทเงินในเวลาจริงปัจจุบันซึ่งการขึ้นลงราคาทองคำในเวลานี้ถือว่าเอาเปรียบสายสาขาอื่นชัดเจนที่ไม่ได้ปรับราคาจริงทันอัตราเงินเฟ้อค่าเงินบาทไทยจนไปลดคุณค่าเงินบาทไทยอย่างอยุติธรรมของทองคำที่ทำกับค่าเงินบาทไทยเรา,จึงเปลี่ยนแปลงทางนโยบายการเงินไทยให้ล้ำสมัยทันเกมส์อีลิทซาตานสร้างมูลค่าเอาเปรียบเราคือทองคำฝ่ายเดียว ดันราคาขึ้นให้ค่าให้ราคาจนเหยียบค่าเงินบาทเราจนด้อยค่าลงหรือไร้ค่าเป็นเงินฟ้อนั้นเอง,นายกฯจึงต้องเปลี่ยนคนใหม่ทันทีบวกผู้ว่าแบงค์ชาติด้วยต้องทันมัน,คือรีเซ็ตปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ก็ต้องทำนั้นเอง,มิต้องไปใช้ตังดิจิดัลอะไรก็ได้,ตังกระดาษถ้าซื่อสัตย์ในการใช้มันก็จบ,เงินเดือนคนไทยป.ตรี15,000บาทคูณ2.34เท่าคือบวกเพิ่มที่35,100บาททันทีในทุกๆกิจการบริษัทที่มีพนักงานอยู่ กฎหมายต้องใช้บังคับทันทีจริงจัง,รวมคนไทยที่ปกติได้เงินเดือน15,000บาท เดือนหน้าจะเป็น50,100บาททันที,ทองคำลงที่30,000บาท,เดือนนั้นจะได้เงินเดือนที่30,060บาทเช่นกัน เพราะอ้างอิงราคาทองคำ,เมื่อนโยบายทางการเงินเราเปลี่ยนแปลงแบบอ้างอิงราคาทองคำโลกนำมาใข้จริงในไทย,เราจะบริหารแบบสมดุลการค้าการตังได้จริงทันที แก้ที่ต้นเหตุจริง,ทันค่าเงินจริง มูลค่าคุณค่าทางเงินบาทเราจะเที่ยงตรงสากลโลกจริง,ปัจจุบันมันไม่สมดุลด้วยราคาทองคำผีบ้ามีเอกสิทธิ์สามารถขึ้นเอาขึ้นเอาบวกทั้งไปเสือกลดด้อยค่าเงินบาทเราอีกด้วย,ค่าเงินกระทบเราจริง,เงินเฟ้อคือเครื่องมือมันคิดอ่านสร้างขึ้น ตัวไปกดไปขี่ไปบังคับให้ค่าเงินชาติอื่นๆไร้ค่าไร้ค่าก็ว่า,100บาท ปกติซื้อสินค้าในราคาอดีตเหมือนกันได้5ชนิดอย่าง,ปัจจุบันตัง100บาทซื้อสินค้าได้2ชนิดอย่างเป็นต้น,กิจการบริษัทไหนๆจะถูกควบคุมด้วยกลไกการค้าตังค้าเศรษฐกิจหรือแข่งขันกันอย่างยุติธรรมทันที,แรงงานก็ไม่ถูกเอาเปรียบเอารัดจากกิจการบริษัทด้วย,มีตังเท่านี้ ขยายกิจการสาขาจ้างแรงงานตามกำลังตังกำลังเศรษฐกิจตนได้สมสถานะก็ว่า,มิใช่ใช้ความได้เปรียบกดค่าตัวค่าแรงคนงานเช่นอ้างเศรษฐกิจไม่ดีอ้างแพะอ้างเงินเฟ้อสูงก็ด้วย, ..เมื่อปรับฐานลักษณะนี้ได้คือใช้นโยบายราคาทองคำไปใช้อ้างอิงจริงในสินค้าบริการทั้งอุปโภคและบริโภคภายในประเทศก่อนจึงค่อยต่อยอดขยายทั้งส่งออกและนำเข้าสินค้าจากนอกประเทศก็ด้วยจึงจะสามารถเข้าใกล้ค่าจริงของความเป็นจริงที่เราประเทศไทยต้องเผชิญในภาวะสงครามเศรษฐกิจหรือภาวะตัง,สงครามตังแบบนี้,จริงๆอีลิทมันใช้ทองคำเป็นอาวุธ(ตัดมุกมโนเรื่องฝ่ายแสงออกไป)มันไม่ใช้ตังบาทตังหยวนตังดอลล่าร์คืออาวุธ,จึงชี้นำว่าทองคำคือแร่ธาตุอ้างอิงมูลค่าและสร้างคุณค่าตังให้ดูดีมีหรูสูงค่ามากราคาดีที่สุดกว่าผีบ้ายุคอดีตอเมริกาอีลิทเก่าที่ใช้น้ำมันแทนทองคำค้ำประกันตังที่พิมพ์ๆปั่นๆตังกันออกมาใช้อย่างมากมายและมากจนเลอะเทอะไปหมดของชาติฝรั่งและอเมริกาบวกขี้ข้าตาอเมริกาก็ด้วย ..สรุป สมควรประกาศฉุกเฉินทันทีได้เลยว่า พรุ่งนี้ทุกๆสถานะที่ว่าด้วยตังเรื่องตัง,คูณทันทีที่ป้ายซื้อขายเงินเดือนค้าจ้างและอื่นๆที่เกี่ยวกับตัง,หรือประชาชนสามารถมาแลกตังบาทใหม่ในสถานะใหม่ที่แบงค์ชาติไทยได้ทันทีที่คูณ2.34เท่าแล้ว,เช่น เงินเดือนเดิมที่15,000บาท,นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างใหม่ทันทีที่ราคาทองคำใช้อ้างอิงในปัจจุบันของราคา50,000บาทต่อ1บาททองคำ,ที่บวกเพิ่มคือ35,100บาทรวมเป็น50,100บาท เพื่อคุ้มครองสัมมาชีวิตของคนไทยเราให้สมดุลกับค่าจริงของวิถีระบบตังที่เปลี่ยนมูลค่าไป ไม่ทันเวลาเช่นในอดีต,จนเกิดการเหลื่อมล้ำวทุกๆวิถีการครองชีพที่แพงที่สูงจนเกินไปก็ว่าและปกป้องค่าเงินบาทตนเองอีกช่องทางหนึ่งด้วย,ราคาทองคำจะขึ้นจะลง ไม่กระทบค่าใช้จ่ายประชาชนคนไทยเลย ทั้งค่าเงินมูลค่าเงินก็ไม่ลดลงด้วย,เดินในสมดุลเรียลไทม์กันจริงๆเลยก็ว่า,นี้คือฝ่ายมืดไม่กล้าจะทำ ไม่กล้าจะประกาศบังคับใช้ด้วยเพราะคนไทยจะได้ประโยชน์เต็มๆทันที ไม่กระทบคนไทยในการดำรงชีพด้วย,คือต้นทุนประชาชนจริงๆมูลค่าจริงๆมันก็เท่าเดิมอันเดิมนั้นล่ะนั้นเอง,ราคาทองคำขึ้น ราคาสินค้าบริการเงินเดือนค่าจ้างค่าแรงก็ขึ้นเรียลไทม์เช่นกันทันค่าใช้จ่ายทันรายได้รายรับ,ราคาทองคำลดลง ราคาสินค้าบริการเงินเดือนค่าจ้างก็ลดลงตามค่าจริงค่าครองชีพมวลรวมด้วยตลอดต้นน้ำปลายน้ำทั้งหมดก็ลดราคาลงจริงตามไปด้วย,ทองจะขึ้นทองจะลง ไม่กระทบคนไทยเราเลยนั้นล่ะ,นี้คือค่าจริงมิใช่ค่าเท็จค่าปลอมหลอกๆที่ผีบ้าแค่ใช้ทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์แบงค์ออกมาใส่ให้หมุนเวียนในระบบแค่นั้น,มันไม่สุดซอยเลอะเทอะด้วย คนไทยต้องเจอกับมูลค่าตังที่อ่อนค่าลงหรือแข็งค่าขึ้นแค่นั้นซึ่งมั่นยังถูกปั่นราคาง่ายสบายเกินไปเช่นสถาบันต่างชาติซื้อบาทมากไปก็แข็งค่า ขายเททิ้งบาทไทยในsetบาทก็อ่อนค่า,มันผีบ้ามั้ยล่ะ,ใช้ทองคำประกันพะนะ นี้คือกลยุทธสงครามตังที่ตั้งทัพผิดพลาด รบก็แพ้ตลอด,ต้องประกาศอัดใส่นโยยายชาติเลยว่า เมื่อตังบาทอยู่ในระบบแล้ว ราคาสินค้าบริการที่ตังเข้าไปแทนที่ เช่นค่าแรงเงินเดือน ตังบาทเข้าไปแทนทีเป็นตัวตังทันทีที่50,100บาทในภาวะทองคำเงินทำราคาอ้างอิงฐานที่50,000ในรอบคำนวนเป็นฐานอ้างอิง,หากลดลงเป็น30,000บาทต่อ1บาททองคำ,เงินเดือนจริงในภาวะสังคมจริงในการครองชีพจะเป็นที่30,060บาทต่อคนต่อแรงงานนั้น,ราคาน้ำมัน,ค่าขนส่งก็ด้วยเป็นต้นและสาระพัดอื่นๆที่ระบบทาสตังเข้าไปคำนวนเกี่ยวข้องตีมูลค่าตังได้ อาทิตย.อีกตัว ที่ดินบ้านซื้อขายกัน,1,500,000บาทต่อไร่ก็จะเป็น5,010,000บาทต่อไร่ทันที,จะไร้การคตโกงในความได้เปรียบของมูลค่าเก็งกำไรทางวิกฤติตังเศรษฐกิจที่ไม่ยุติธรรมในอดีตทันที,จะอยู่บนค่าจริงกัน,มิใช่ราคาทองคำสูงถึง50,000บาทต่อ1บาททองคำ,ค่าแรงขั้นต่ำเสือก300บาทเหมือนเดิมหาก300×2.34เท่า=702บาทนะ บวก300เข้าไปให้เต็มสูตรรวมคือ1,002บาทต่อวัน,นี้ค่าแรงงานขั้นต่ำประจำประเทศไทยที่สมดุลกับค่าจริงครองชีพเทียบราคาทองคำที่สะท้อนสภาวะความเชื่อมั่นในตลาดโลกถึงตลาดการค้าการเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตสัมมาชีวิตและสัมมาอาชีพต่างๆทั่วไทยของจริง,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลวและกากของคณะบริหารประเทศจากอดีตถึงปัจจุบัน,จะราคาข้าวเอย ราคาน้ำมันเอย สามารถใช้ราคาทองคำผูกอ้างอิงได้ค่าจริงสมจริงกว่าตลอดเวลาแต่ไม่ทำ,ราคาทองคำขึ้นลงราคาข้าวเกษตรกรก็ขึ้นลงสมมูลค่าจริงไว้เปรียบเทียบอ้างอิงได้,จากตันละ15,000บาท,เทียบราคาทองคำปัจจุบันคูณ2.34เท่าบวกตัวมันเองคือ50,100บาทต่อตัน,มิใช่เอาเปรียบชาวนาแบบที่เห็นๆกันทั้งในอดีตถึงปัจจุบัน ราคามันฯราคาอ้อยก็ใช้ได้หมดเช่นกัน,คนไทยจะตัดภาวะเงินเฟ้อไปเลย, .. https://youtube.com/shorts/vaq2-T0uPfw?si=C2gfmvZTRkZ37QkW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 449 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตคือสมมุติ #เหนือยนักก็พักหน่อย #ชวนดูซีรีส์ #รำพันรักวายุทะเลทราย #ฟางอี้หลุน #ฮานีเค่อจือ #ว่างว่างก็แวะมา
    ชีวิตคือสมมุติ #เหนือยนักก็พักหน่อย #ชวนดูซีรีส์ #รำพันรักวายุทะเลทราย #ฟางอี้หลุน #ฮานีเค่อจือ #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ,จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด

    คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที

    ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
    .
    พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว
    ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑)
    ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒)
    ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓)
    ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔)
    พร้อมด้วยของกลาง
    .
    ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด
    ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด
    .
    พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว
    .
    ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ
    .
    นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง
    อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง ,จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน . พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒) ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓) ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔) พร้อมด้วยของกลาง . ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด . พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว . ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ . นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง . เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด . เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง, จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด

    คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที

    ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน
    .
    พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว
    ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑)
    ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒)
    ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓)
    ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔)
    พร้อมด้วยของกลาง
    .
    ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด
    ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง
    ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด
    .
    พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว
    .
    ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ
    .
    นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง
    อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
    .
    ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    ตำรวจภูธรภาค ๓ ตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, สถานีตำรวจภูธรโพธิ์กลาง, จังหวัดนครราชสีมา และ ปปส.ภาค ๓ ร่วมกันแถลงผลการสืบสวนจับกุมคดียาเสพติดรายสําคัญ ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 198,000 เม็ด คณะรัฐมนตรีโดย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีแถลงนโยบายต่อรัฐสภา กรอบ นโยบายในการบริหารและพัฒนาประเทศตามกรอบความเร่งด่วน เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี นําความ ปลอดภัย สร้างศักดิ์ศรีและนำความภาคภูมิใจมาสู่ประชาชนไทย นโยบายด้านความปลอดภัย จะทำงาน รวมกับทุกภาคส่วนเพื่อดำเนินการปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติดให้หมดไปจากสังคมไทย โดยยึด หลัก “เปลี่ยนผู้เสพเป็นผู้ป่วย” สนับสนุนให้ผู้เสพเขารับการรักษาบำบัดอย่างมีประสิทธิภาพและทั่วถึง ส่วนผู้ผลิตผู้ค้า คือผู้ที่ต้องได้รับโทษตามกระบวนการยุติธรรม โดยใช้มาตรการปราบปรามทางกฎหมาย อย่างจริงจัง ซึ่งรวมถึงการ “ยึดทรัพย์” เพื่อตัดวงจรการค้ายาเสพติดพร้อมดำเนินการเจรจาทางการทูต กับประเทศตามแนวชายแดน เพื่อควบคุมการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทย ประชาชนออกจากวงจรการค้ายาเสพติดอย่างถาวร และตึง และปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด “Seal Stop Safe” เพื่อสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดตามแนวชายแดนถือเป็นนโยบายเร่งด่วนต้อง ทําทันที ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.๓/ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓, พล.ต.ต.ประสงค์ เรื่องเดช รอง จตร.รรท.รอง ผบช.ภ.๓/รอง ผอ.ศอ.ปส.ภ.๓ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัดเร่งรัดสืบสวน จับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ การกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติการทำลายเครือข่ายวงจร ยาเสพติดทุกระดับ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดน และพื้นที่ชั้นใน . พล.ต.ต.ไพโรจน์ ขุนหมื่น ผบก.ภ.จว.นครราชสีมา พ.ต.อ.คเชนท์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จว. นครราชสีมา, พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผกก.สภ.โพธิ์กลาง, พ.ต.ท.สมาน เชาว์มะเริง รอง ผกก.สส. สภ.โพธิ์กลาง สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จว.นครราชสีมา นำโดย พ.ต.ท.ชัยพล คงขุนทด สว.สส.สภ.โพธิ์กลาง, พธิ์กลาง, ร.ต.อ.ภาคิน พิทักษ์ศุภกร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง ร่วมสืบสวนจับกุมตัว ๑. นายเสือ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๑) ๒. นายยุทธ (นามสมมุติ) อายุ ๒๔ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๒) ๓. นายมอล (นามสมมุติ) อายุ ๓๒ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๓) ๔. นางสาวพลอย (นามสมุติ) อายุ ๒๑ ปี ที่อยู่ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ (ผู้ต้องหาที่ ๔) พร้อมด้วยของกลาง . ๑. ยาบ้า จํานวน ๒ เม็ด ๒. ยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด ๓. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อไอโฟน รุ่น ๑๑ สีดำ จำนวน ๑ เครื่อง ๔. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ ๒๔ จำนวน ๑ เครื่อง ๕. โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อซัมซุง รุ่นเอ๕๘ จำนวน ๑ เครื่อง ๖. น้ำปัสสาวะบรรจุขวดพลาสติก จำนวน ๔ ขวด . พฤติการณ์แห่งคดี วันที่ ๒๓ พ.ค.๖๘ เวลาประมาณ 00.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ทำการตั้งจุดตรวจจุดสกัดเพื่อป้องกันเหตุอาชญากรรมและลำเลียงยาเสพติดที่ถนนมิตรภาพ ต.โคกกรวด อ.เมือง จว.นครราชสีมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.โพธิ์กลางได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ชุดสนับสนุน จึงได้ทำการออกตรวจในบริเวณก่อนถึงจุดตรวจจุดสกัดฯ ดังกล่าว . ต่อมาเวลา ๐๐.๒๐ น. พบว่ามีรถยนต์กลับรถก่อนถึงจุดตั้งจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ขับรถติดตามไปจนถึงถนนหมายเลข ๒๙๐ บ้านหนองกุ้ง หมู่ที่ ๑๓ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา พบรถยนต์กระบะแค๊ปสีเขียว ยี่ห้ออีซูซุ จังหวัดบุรีรัมย์ เลี้ยวเข้าไปจอดที่บริเวณอยู่หน้าสนามชนไก่แก้ว เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าทำการตรวจสอบ พบบุคคลชาย ๒ คน คือนายเสือ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นคนขับรถ และนายยุทธ (ผู้ต้องหาที่ ๒) นั่งอยู่ฝั่งผู้โดยสาร ท่าทางมีพิรุธสงสัย จึงได้ทำการสอบ ทั้งสองแจ้งว่ารถยนต์เสีย แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ จึงได้สอบถามจนทั้งสองคนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาและเป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถที่ขนยาบ้า แต่ระหว่างขับรถมาทราบว่ามีการตั้งจุดตรวจอยู่ด้านหน้า จึงเลี้ยวกลับรถก่อนถึงจุดตรวจแล้วมาจอดรถรอเพื่อให้จุดตรวจเลิกก่อนจึงจะเดินทางต่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ขอทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ดังกล่าวพบยาบ้าจำนวน ๒ เม็ด ของกลางลำดับที่ ๑) จึงได้แจ้งข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษ ประเภท ๑ (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและแจ้งผู้ต้องหาที่ ๑ เป็นผู้ขับขี่รถยนต์เสพยาเสพ ติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” และสิทธิ์ให้ผู้ต้องหาทั้งสองทราบ . นายเสือฯ และนายยุทธฯ ทราบสิทธิดังกล่าวดีโดยละเอียดแล้วได้สมัครใจช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยให้การว่าได้เป็นคนขับรถนำทางหรือสเก้าท์หน้ารถคันที่ขนยาบ้า จะขับรถนำทางห่างกันประมาณ ๔-๕ กิโลเมตร ซึ่งรถขนยาบ้ามีจำนวน ๓ คน ชื่อนายต้า (คนขับรถ), นายมอล และ น.ส.พลอย ใช้รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว กทม. เดินทางไปรับยาบ้ามาจาก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี ซึ่งจะติดต่อกันผ่านแอฟพลิเคชั่นเฟสบุ๊คของนายต้า ตลอดเวลาที่เดินทาง . เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้วางแผนจับกุมโดยให้ผู้ต้องหาทั้งสอง ติดต่อกับรถคันที่ขนยาบ้าให้มาพบที่จุดที่ตนเอง อยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังซุ่มดูอยู่บริเวณใกล้ๆจุดนัดหมาย ต่อมาเวลาประมาณ ๐๑.๐๐ น. รถยนต์เป้าหมายได้มาจอดที่จุดนัดหมาย โดยไม่ดับเครื่องและไม่ลงจากรถยนต์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเกรงว่า เป้าหมายจะหลบหนีจึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเข้าทำการจับกุม แต่รถยนต์เป้าหมายได้ขับ หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการติดตามไปอย่างกระชั้นชิด มุ่งหน้าผ่านสวนสัตว์นครราชสีมา จนมาถึงจุดสร้างสะพานแห่งใหม่บ้านหนองบัวศาลา ต.หนองบัวศาลา อ.เมืองนครราชสีมา รถยนต์เป้าหมายได้เสียหลักไปชนเสาไฟฟ้าข้างถนนไม่สามารถขับต่อไปได้ คนภายในรถทั้ง ๓ คน ได้ลงจากรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในป่ามันสำปะหลังข้างทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงวิ่งไล่ติดตามจับกุมตัวมาได้ จำนวน ๒ คน คือนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ส่วนผู้ชายอีก ๑ คน (นายต้า) หลบหนีไปได้ เจ้าหน้าชุดจับกุมจึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคนมาตรวจค้นรถยนต์คันที่ผู้ต้องหาทั้งสองนั่งมา ผลการตรวจค้นพบยาบ้าที่ห่อด้วยกระดาษสีน้ำตาล จำนวน ๓๓ หมอน หมอนละ ๓ มัด รวม ๙๙ มัด มัดละ ๒,๐๐๐ เม็ด ซุกซ่อนอยู่ ถุงพลาสติกสีดำ รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ ๑๙๘,๐๐๐ เม็ด . เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) และ น.ส.พลอย (ผู้ต้องหาที่ ๔) ให้การว่าเมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๖๘ เวลาประมาณ ๑๕.๐๐ น. นายต้าฯ ขับรถยนต์คันดังกล่าว มาพบและชวนให้นั่งรถไปเป็นเพื่อนที่ จว.สระบุรี โดยนายมอล (ผู้ต้องหาที่ ๓) นั่งข้างคนขับ ส่วน น.ส.พลอยฯ (ผู้ต้องหาที่ ๔) นั่งที่เบาะหลัง เวลาประมาณ ๒๐.๐๐น. ได้จอดรถริมทางบริเวณทุ่งนาที่ ต.หนองแก อ.พระพุทธบาท จว.สระบุรี นายต้าฯ ก็ได้ให้นายมอลฯ ลงไปเอาถุงสีดำที่วางไว้ข้างทางขึ้นมาเก็บบนรถ จำนวน ๑ ถุง แล้วเดินทางกลับ อ.ลำปลายมาศ จว.บุรีรัมย์ โดยให้รถยนต์ของนายเสือฯ (ผู้ต้องหาที่ ๑) เป็นรถนำเพื่อคอยดูเส้นทางว่ามีด่านตำรวจหรือไม่ จนมาถึงที่เกิดเหตุแล้วถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับกุมตัวได้พร้อมของกลางดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งสิทธิ์และข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท ๑ (ยาบ้า) โดยมีไว้ เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า ซึ่งก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่ม ประชาชน และทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยฝ่าฝืนกฎหมาย” ซึ่งผู้ต้องหาทราบสิทธิ์และข้อกล่าวหาดีโดยละเอียดแล้ว ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมด้วยของกลาง ส่ง พงส.สภ.โพธิ์กลาง ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป . ตำารวจภูธรภาค ๓ จึงขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่งแจ้ง เบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบการฯ และอาศัยสถาน ประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งขอมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด ๑๕๙๙ สายด่วน ๑๙๑ และ Application Police I lert U ได้ตลอด ๒๔ ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดี ผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดและลดปัญหายาเสพติดในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นเพื่อให้สั งคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 496 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชึวิตคือสมมุติ #เหนื่อยนักก็พักหน่อย #ชวนดูซีรีส์ #เพลงเพราะ #ว่างว่างก็แวะมา
    ชึวิตคือสมมุติ #เหนื่อยนักก็พักหน่อย #ชวนดูซีรีส์ #เพลงเพราะ #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ตั้งแต่ปี 2004... ผมได้พบกุญแจไขสิ่งที่ผมอยากรู้จากคำเพียงคำเดียว "Cultural Transmission" มันนำพาผมไปพบกับงานของศาสตราจารย์ Luigi Luca Cavalli-Sforza และลูกศิษย์ของเขาที่ Standford ชื่อ Spencer Wells… มันได้เปิดโลกทัศน์ของผมในการมองสิ่งต่างๆ ผ่านการพิจารณาหลายๆ ศาสตร์ควบคู่กับความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมมนุษย์และการอพยพย้ายถิ่น เมื่อเรารู้ว่าที่แท้แล้วเราเป็นใคร สิ่งต่างๆ ก็เชื่อมโยงกัน
    .
    ในปีเดียวกันนั้น Bill Clinton ประกาศที่ทำเนียบขาวถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ แผนที่ดีเอ็นเออันแรกของมนุษย์ถูกทำสำเร็จ ความลับของสายพันธุ์มนุษย์ถูกไข ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ลูกา ที่มุ่งมั่นเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอมาก่อนหน้านั้นกว่าสามสิบปีเพราะเชื่อมั่นว่ามันซ่อนความลับของมนุษย์ไว้ ทันทีที่แผนที่ดีเอ็นเอสำเร็จ เสปนเซอร์ซึ่งเป็นทายาทรับช่วงงานวิจัยต่อจาก ศจ.ลูกา ก็นำเสนออีกแผนที่หนึ่ง คือแผนที่การอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์ย้อนหลังกว่าแสนปีจากแอฟริกา และสาแหรกพันธุกรรมมนุษย์ย้อนถอยไปถึงบรรพบุรุษคนแรกที่เป็นรากลึกที่สุด
    .
    ในเวลานั้น ไม่มีใครหรือสาขาวิชาใดมองความรู้ของมนุษย์ผ่านวิสัยทัศน์นี้ มันเป็นเรื่องใหม่ แต่ความฉงนสนเท่ห์ของผมที่มีกับตัวอย่างดนตรีของไท-ไทยและชาติพันธ์อื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในจีนตอนใต้และประเทศไทย ทำให้ผมเอามานั่งคิด ผลจากการคิดวิเคราะห์ ผมรู้สึกว่ามันเป็นดนตรีชนิดเดียวหรือพูดให้ชัดกว่านั้น มันน่าจะเป็นวัฒนธรรมที่มีรากเหง้าร่วมกัน อาจจัดเป็นสกุลเดียวกันคล้ายๆ กับภาษา และถ้าสิ่งที่นักมานุษยวิทยาเชื่อกันมาเนิ่นนานจนบัดนี้ว่า ดนตรีเกิดมาจากภาษา ว่ามันเริ่มมาจากจุดนั้น มันก็จะต้องมีส่วนสัมพันธ์กับการส่งต่อทางวัฒนธรรม ซึ่งผมแบ่งได้ง่ายๆ ออกเป็นสามลักษณะหลักๆ
    .
    หนึ่งคือ สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น เป็นเหมือนมรดกทางวัฒนธรรม จารีต ประเพณี / สองคือ รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากดินแดนอื่น-ชนชาติอื่นที่รุ่งเรืองกว่าหรือต่างดินแดนที่คบค้าไปมาหาสู่กันยาวนาน จึงรับเอาธรรมเนียมเขามานิยม / สามคือ เกิดจากการถูกพิชิตให้อยู่ในอาณัตหรือถูกบังคับให้รับวัฒนธรรมผู้อื่นมาเป็นของตน อาจจะยังดำเนินขนบทางวัฒนธรรมเดิมอยู่ได้ขณะที่ต้องยอมรับวัฒนธรรมอื่นเป็นหลัก หรืออาจถูกบังคับให้เลิกวัฒนธรรมของตนแล้วรับเอาวัฒนธรรมของชาติที่พิชิตเป็นของตนแทน
    .
    ในกรณีแรก วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจะมีอัตลักษณ์ที่จำแนกได้ชัดเจนเหมือนภาษาที่จัดเป็นสกุลหรือ phyla ได้ | กรณีที่สอง ย่อมมีการแทรกของวัฒนธรรมสกุลอื่นเข้ามาผสมผสาน แต่เนื่องจากการเชื่อมโยงกันเป็นไปอย่างละมุนละม่อมจึงไม่มีอะไรถูกทำลาย จะนำไปสู่ความหลากหลายมากขึ้นได้หลายปัจจัย แต่จะยังคงแยกแยะลักษณะของอัตลักษณ์แต่ละสกุลได้ | กรณีที่สาม ไม่ต่างอะไรกับขุดรากถอนโคน วัฒนธรรมสกุลเดิมถูกทำลายไป อาจมีบางคนที่ต่อต้านและต้องการรักษาขนบเก่าไว้อย่างหลบซ่อน ซึ่งจะทำให้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามหรือตาบู แต่ก็อาจมีโอกาสที่วันหนึ่งจะถูกฟื้นฟูขึ้น
    .
    ตั้งแต่ปี 2004 ผมหมกมุ่นเรื่องนี้นานนับสิบปี อ่านหนังสือมากมาย ไปเก็บตัวอย่างจากภาคสนาม เสาะหาข้อมูลเสียงจากทุกที่ที่ได้เบาะแส ผมนึกอยู่เวียนวนจนได้สมมุติฐานอันนึงขึ้นมา "เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าเรามีสายเลือดที่เชื่อมโยงกันทั้งโลกอย่างที่ ศจ.ลูกา และ เสปนเซอร์ นำเสนอ เราก็น่าจะมีวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกันโดยที่สอดคล้องกับสาแหรกพันธุกรรมด้วย และเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็น่าจะแยกแยะดนตรีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมนุษย์ออกเป็นวงศ์ตระกูลได้ในลักษณะเดียวกัน ในเวลาต่อมา ผมพบบทความหนึ่งที่เขียนโดย ศจ. Victor Grauer หัวข้อเรื่อง Music Family ผมจำชื่อเขาได้ทันที เพราะผมเรียนหนังสือเล่มหนึ่งของ Alan Lomax นักมานุษยวิทยาดนตรีที่เป็นตำนานของโลก มันเกี่ยวกับระบบวิเคราะห์ดนตรีพื้นเมืองที่เขาคิดค้นขึ้นเรียกว่า Cantomatrics และอาจารย์วิคเตอร์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอลันมีส่วนในการคิดค้นนี้
    .
    ผมเขียนอีเมล์ไปหาอาจารย์วิคเตอร์ตามอีเมล์ที่ปรากฏบนบทความของแก บอกว่าผมอ่าน Music Family แล้วคิดว่าน่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกับที่ผมคิด แล้วเล่า Hypothesis ของผมให้แกฟัง บอกว่าผมจะเทรซจากดีเอ็นเอและการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์เป็นวิธีวิจัย แกตอบมาว่าเห็นด้วย นี่เป็นเรื่องใหม่และตื่นเต้นมาก อยากให้ผมแชร์ข้อมูลกับแก จากจุดนี้ไปคือการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของผมกับโครงการ Genomusicology ตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้ ยี่สิบปีแล้ว
    .
    ผมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความสนใจของผมในเรื่องนี้มาเรื่อย และบางครั้งมันไม่ได้เกี่ยวกับดนตรีแต่เป็นเรื่องอื่น ผมรู้แต่ตอนนั้นว่าความรู้อะไรก็ตามหากมันขัดกับวิทยาศาสตร์นี้ ไม่ว่าจะสาขาวิชาอะไร มันมีแนวโน้มจะผิดพลาด ตัวอย่างเช่นประวัติศาสตร์ ยิ่งถ้าคุณเปิดหน้าต่างหลายๆ ศาสตร์พร้อมกันโดยไม่ยึดติดกับทัศนะของสำนักคิดเดิม คุณจะพบกับหนทางที่กว้างไกลกว่า ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณหาคำตอบทางประวัติศาสตร์ คุณลองทาบมันกับชีววิทยาพันธุกรรม ขณะเดียวกันก็ทาบมันกับโบราณคดี ภาษาศาสตร์ ธรณีวิทยา นิรุกติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ปรัมปราคติ ศาสนาเทววิทยา...ฯลฯ มันจะนำคุณไปสู่คำตอบที่หนักแน่นกว่าที่คุณจะจมอยู่กับข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว
    .
    หลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีหลายสาขาวิชาที่หันมาใช้แผนที่แผ่นเดียวกับผม ที่ผมเห็นคือนักภาษาศาสตร์ในต่างประเทศมาก่อนเป็นพวกแรก ในไทยที่เริ่มก่อนคือนักโบราณคดีอย่างเช่น อาจารย์รัศมี ชูทรงเดช ท่านล้ำมาก ศึกษาซากบรรพชีวินแล้วเริ่มใช้ข้อมูลดีเอ็นเอมาก่อนที่จะมีนักชีววิทยารุ่นใหม่ที่สนใจด้านนี้เริ่มเอามาใช้ผนวกกับสาขามานุษยวิทยา ช่วงสี่ห้าปีหลังเริ่มมีงานวิจัยเกี่ยวกับดีเอ็นเอของคนไทยออกมาให้เห็นจากนักวิชาการไทยหลายคน
    .
    ถ้าจำเรื่องเก่าๆ ที่ผมเคยเขียนได้บ้างจะเห็นว่าผมพูดอยู่หลายครั้ง "ความแบ่งแยกเป็นความคิดของปีศาจ" และมันเป็นต้นตอความขัดแย้งที่ลุกลามกลายเป็นสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ได้ ผมชี้ให้เห็นเสมอๆ ว่าคนเอเชียนั้นเป็นพี่น้องครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นลูกหลานของทายาทแห่งอาดัม (ในทางวิทยาศาสตร์) สองคนคือ Hg O และ Hg C และทายาทแห่งอีฟ (ในทางวิทยาศาสตร์) สี่คนคือ Hg B-M-F-D ดังนั้นพวกเขาไม่ว่าจะเรียกชื่อสมมุติตัวเองว่าอะไร ข้อเท็จจริงก็คือพวกเขาคือพี่น้องกันทั้งสิ้น เก่าใหม่ อ่อนแก่ ตามกาลเวลา
    .
    ด้วยเหตุนี้ ในปี 2008 ผมเขียนบทความหนึ่ง เรื่อง "ชื่อและชนเผ่า" และผมพยายามอธิบายความสมมุติที่ว่านี้ด้วยความพยายามยิ่งที่จะบอกความเป็นมาเป็นไปและความเกี่ยวโยงของแต่ละชาติพันธ์ ผมแบ่งกลุ่มพวกเขาออกเป็นสองกลุ่มง่ายๆ คือพวกเท้าเปียกและพวกเท้าแห้ง พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและทั้งหมดอยู่บนดินแดนเอเชียนี้มาตั้งแต่สามหมื่นกว่าปีที่แล้ว แต่พวกเท้าเปียกคือพวกที่อยู่บนซุนดาตอนล่าง ต้องผจญชะตากรรมน้ำท่วมโลกซึ่งหนักกว่าโนอาห์แน่นอน เพราะธรณีวิทยาบอกว่ามีที่เดียวบนโลกในประวัติศาสตร์มนุษย์แสนกว่าปี ที่คุณจะเรียกว่าน้ำท่วมโลกได้จริงๆ คือดินแดนซุนดาแห่งนี้ ไม่ใช่ในดินแดนเสี้ยวจันทร์หรือแถวเทือกเขาอารารัต มันท่วมที่นี่สามครั้งหลังยุคน้ำแข็งสิ้นสุด ทั้งสามครั้งรวมแล้วประมาณร้อยยี่สิบเมตร!.. ส่วนพวกเท้าแห้งก็คือพวกที่อยู่เหนือขึ้นไปในเมนแลนด์เอเชีย ซึ่งก็ได้เป็นสักขีพยานภัยพิบัตินี้เช่นกัน แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ได้รับผลจากภัยพิบัติ
    .
    ดังนั้น สำหรับผม ไม่ว่าจะเอ่ยชื่อไหนมันก็คือสิ่งสมมุติ บรรดาพี่น้องในสาแหรกเท้าเปียกในอุษาคเนย์นับจากโบราณจนกระทั่งบัดนี้ อย่างที่บอก พวกเขาล้วนมาจากอัสเลียน แม้ต่อมาพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นมอญ เป็นข่า เป็นละว้า เป็นขอมทวารวดี เป็นขอมละโว้ เป็นพนม เป็นสยาม เป็นศรีโพธิ์ เป็นมลายู เป็นนุสันทารา เป็นลาว เป็นจามปา เป็นเจนละ เป็นเขมร เป็นญวน... แต่หากคุณแล่เนื้อเถือหนังออกมา โครงสร้างทางโปรตีนของพวกเขาก็มีดีเอ็นเอที่มาจากบรรพบุรุษจากสาแหรกเดียวกันทั้งสิ้น..
    .
    การที่คุณแครี่วายโครโมโซมแฮพโพลกรุ๊พโอ หมายถึงคุณคลานตามกันมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน การย่อยออกเป็น sub group ต่างๆ เช่น O1 O1a O1b O1c O2 O2a O2b O2c... คือซับมิวเทชั่นในสกุลเดียวกัน แม้แตกแขนงออกไปแต่คุณยังคงมีสายเลือดที่โยงใยกันอยู่ จีนที่ซึ่งในการวิจัยช่วงแรกถูกจัดเป็น O3 (ปัจจุบันปรับเป็น O2) ยอมรับกันว่าเป็นชนชาติที่มีระบบบันทึกประวัติศาสตร์ดีที่สุดและเก่ากว่าทุกชนชาติในเอเชีย ถอยหลังไปถึงสี่พันกว่าปี แต่พันธุกรรมบอกว่าพวกเขาเป็นน้องเล็กที่สุด มียีนอายุน้อยที่สุดในสาแหรกวงศ์ตระกูล (เรียงจากหลักน้อยไปหามาก O > O1 > O2 หลักน้อยคือเก่ากว่า) ข้อนี้ยิ่งยืนยันว่าสาแหรก Y DNA Hg O มีรากเหง้าที่เก่าแก่ยาวไกลเพียงใด ในโลกนี้พวกเขาเก่ารองจากพวกออสตราอะบอริจิ้น และพวกซาฮารันโบราณ มียีนเป็นพี่ของชาวยุโรปเกือบทั้งหมด ยกเว้นพวกบาสก์ในอุสกาดี สเปน และพวกซามิแถวแลปแลนด์ ฟินด์แลนด์
    .
    Cultural Transmission ที่ส่งผ่านกันไปมานานนับหมื่นปี ทำให้ลักษณะที่ร่วมกันแต่โบราณจากวัฒนธรรมที่พื้นฐานที่สุดไปสู่วัฒนธรรมที่ซับซ้อนที่สุด ยังคงทิ้งเบาะแสความเกี่ยวโยงของพวกเขาเอาไว้ในทุกมิติทุกบริบท มันไม่ได้หายไปไหนและเรามองเห็นมันได้ แบบเดียวกับที่ผมเห็นผ่านดนตรี ตัวอย่างเช่น เราเป็นมนุษย์ที่ยุคบรรพกาลนับถือแม่เป็นใหญ่ เราจึงมีเทวี เจ้าแม่ พระแม่เต็มไปหมด ในดนตรีพื้นเมืองของเราผู้หญิงร้องเสียงสูงและดังทะลุทะลวง เพราะนางมีสถานะที่ได้รับการเคารพไม่ใช่ถูกกดไว้ นอกจากนั้นพวกนางยังมีการประสานเสียง มีพลังแข็งแรงและมั่นใจขณะขับร้อง นางสามารถยืนหยัดเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญได้ภายในสังคม แม้ทุกวันนี้ ผู้หญิงก็ยังคงเป็นใหญ่ในบ้าน ทุกบาททุกสตางค์ที่ผมหาได้ก็ต้องส่งมอบให้ภรรยาด้วยความเคารพ
    .
    เวลาที่มองภาพต่อทางประวัติศาสตร์ มุมมองของผมจึงเปลี่ยนไป ผมหยิบความรู้อื่นๆ เท่าที่อ้างอิงเชื่อถือได้มาประกบเข้าด้วยกันเสมอ... ทำไมกษัตริย์เขมรโบราณจะขึ้นครองราชย์ต้องแต่งกับนาค? สำหรับผม นี่คือปรัมปราคติที่สะท้อนการเมืองโบราณ เศรษฐีจากต่างถิ่น (ตัวขาวใส่เสื้อผ้าสวยงาม) จะมาปกครองคนท้องถิ่นที่เป็นคนพื้นเมือง (แก้ผ้า อยู่กับป่าฝนและมรสุม) ก็ต้องดองกับคนท้องถิ่น หลักฐานเจเนติคก็พบว่าพ้องกันว่า ผู้ชายบรรพบุรุษของพวกเรา (Y DNA Hg O) ซึ่งอพยพมาด้วยเส้นทางสายเอเชียกลาง อากาศดี อาหารสมบูรณ์ตลอดทาง พวกเขาคงหล่อเร้าใจไม่น้อยเมื่อเดินทางมาถึงซุนดา พวกผู้หญิงอะบอริจิ้น (mt DNA Hg B / M) พากันเลือกบรรพบุรุษของเราเป็นพ่อพันธ์ อุปมาดังหงส์ทองครองคู่กับนาคยังไงยังงั้น ทำให้ผู้ชายอะบอริจิ้นต้องถอยห่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ การได้แม่สายงูมาเป็นแม่พันธ์อีกสองแม่ ทำให้ลูกหลานพวก Hg O ออกลูกมาเต็มดินแดน มันคือการผสมกันของนกกับงู แต่พวก Hg C ที่ผู้หญิงไม่เลือกลูกหลานก็เลยน้อยกว่า แรงงานที่จะพัฒนาชุมชนและเป็นกำลังรบจึงน้อย ถ้าผู้หญิงของเขาไม่เลือกพวก Hg O และมีจำนวนประชากรพอๆ กัน พวกอัสเลียนกับอะบอริจิ้นคงรบกันแหลกราญตายไปข้างหนึ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว...
    .
    พระนางจามเทวีแห่งละโว้ หรือจะเรียกละโว้ ละว้า ว้า ลั๊วะ ก็คือกัน เป็นข่า เป็นอัสเลียนที่ยังมีความเป็นชนพื้นเมือง เมื่อเทียบชายหนุ่มในเผ่าของนางกับหนุ่มเท้าแห้งพี่น้องสาแหรกเดียวกันแต่ขาวผ่องกว่าเพราะอาศัยอยู่ดินแดนทางเหนือขึ้นไป อากาศแสนดี แต่งตัวหล่อ เหตุฉะนี้ พระนางทำเหมือนบรรพบุรุษอะบอริจิ้นข้างแม่ ไม่เลือกพวกเดียวกันเอง แต่ไปเลือกหนุ่มทางเหนือแถวหริภุญชัยสายไป่เยว่ ทำเอานักรบหนุ่มละว้าถึงกับไม่พอใจทำไมไม่เลือกฉันไปเลือกไอ้ละอ่อนสำอางทางเหนือ เลยท้าพระนางจามพุ่งหอกแข่งกัน ถ้าแพ้ต้องแต่งกับเขา และพระนางจามเทวีชนะนักรบนะ! แปลว่าพระนางจามของเรานี้ก็ยังคงมีทักษะแบบที่ชนเผ่าในสมัยบรรพกาลมี คือโตมานี่ยังรบและล่าสัตว์อยู่ แม่หญิงธรรมดาที่ไหนจะพุ่งหอกชนะ พระนางคงเห็นว่าการแต่งกับหนุ่มทางเหนือเป็นการปรับปรุงสายพันธุ์และทำให้การเมืองมีหนทางที่ก้าวหน้าขึ้นกว่าที่เคยเป็น เพราะการดองลักษณะนี้ พวกเท้าเปียกและเท้าแห้งก็จะมี Cultural Transmission ที่ถ่ายเทต่อกันอย่างละมุนละม่อม ต่างกับพวกยุโรปที่ไปปล้นพวกเมาริ ยึดแผ่นดินพวกเขา แล้วบังคับให้ดีดอะคูเลเล่และเข้าโบสถ์ไปร้องประสานเสียง
    .
    หันมองเครือญาติข้างบ้าน ยุคสมัยแห่งเขมรพระนครนั้นล่มสลายไปนานแล้ว กัมพูชาอยู่ในปกครองของอยุธยายาวนานมาจนรัตนโกสินทร์ ตอนที่พวกอาณานิคมฝรั่งเศสบุกมายึดครอง แล้วฝรั่งพวกนี้ไปเจอนครวัดอยู่ในป่าดงดิบ คนเขมรส่วนใหญ่ในตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีปราสาทโบราณอยู่ตรงนั้น มันถูกต้นไม้กลืนจนหายไป รากและกิ่งใบเลื้อยพันฝังรากลงไปในตัวปราสาทจนมองไม่เห็น หลังเป็นอิสระจากอาณานิคมฝรั่งเศสพวกกษัตริย์เขมรนั้นมาโตมาเรียนอยู่ที่สยามทั้งนั้น ประวัติศาสตร์บอกชัดไม่ต้องบรรยายอีก Cultural Transmission ถูกส่งผ่านอย่างละมุนละม่อม ไม่ใช่เพราะถูกพิชิตถูกบังคับให้ทำตาม แต่เพราะรากเหง้าเดิมของเขมรเสื่อมสลายไปหมดนานแล้ว และเจ้านายเขมรนิยมชมชอบในขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมแบบไทยจึงรับและเรียนไป จนกระทั่งมันวินาศย่อยยับไปอีกครั้งในยุคเขมรแดง เพราะศิลปิน ปราชญ์ราชบัณฑิต ครู กวี ปัญญาชน...ถูกเขมรแดงฆ่าจนสิ้น
    .
    ผมก็รำคาญนะ พวกเขมรเคลมโบเดียน่ะ แต่ก็คิดว่ามันน่าสงสาร ยังไงก็พี่น้องสาแหรกเดียวกัน แล้วคนฉลาดๆ ของเขาก็ตายไปหมดแล้วตอนยุคเขมรแดงทุ่งสังหาร ที่พอจะรอดมาได้ก็หนีไปอเมริกา-ยุโรปไม่กลับมาอีก อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกอยู่ในโลกก็บอกเรื่องราวของสยามและเขมรชัดแจ้งอยู่ มันจะเคลมยังไงก็ไม่มีใครเขาเชื่อ แล้วก็ไม่มีพิษสงอะไรหรอก นอกจากสร้างความรำคาญ ส่งพวกทหารพรานไปเป่าข้าวหลามสักสิบบ้องก็คงหยุดแล้ว
    .
    แต่ไอ้ที่เลวแท้ก็คือไอ้พวกตัวเป็นไทยใจเป็นเขมรนี่แหละ ไอ้ที่ส่งลูกไปปี้กับเขมรก็พอเข้าใจที่มันเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกัน แต่ไอ้พวกที่ไม่ได้ดองอะไรแต่เสือกไปรับใช้เขมร อันนี้เรียกขายชาติ ในดีเอ็นเอมีพันธุกรรมสุนัขแทรกอยู่เลยเลือกกินอาจม ไม่กินผัดไทย
    .
    เรื่องที่ผมเขียนให้อ่านนี่มันยาก ผมเข้าใจนะ แต่หากคนเราในทุกวันนี้เข้าใจในข้อนี้ตรงกัน บางทีความขัดแย้งในโลกอาจลดลงจนหมดไปได้ และเราอาจก้าวไปสู่สังคมอุดมคติแบบที่เราไฝ่ฝันถึง "We're All Connected"
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (2568) -
    .
    https://youtu.be/RdW1HNA5uSc?si=3E1WAUxHdLhSdVsw
    ตั้งแต่ปี 2004... ผมได้พบกุญแจไขสิ่งที่ผมอยากรู้จากคำเพียงคำเดียว "Cultural Transmission" มันนำพาผมไปพบกับงานของศาสตราจารย์ Luigi Luca Cavalli-Sforza และลูกศิษย์ของเขาที่ Standford ชื่อ Spencer Wells… มันได้เปิดโลกทัศน์ของผมในการมองสิ่งต่างๆ ผ่านการพิจารณาหลายๆ ศาสตร์ควบคู่กับความรู้เกี่ยวกับพันธุกรรมมนุษย์และการอพยพย้ายถิ่น เมื่อเรารู้ว่าที่แท้แล้วเราเป็นใคร สิ่งต่างๆ ก็เชื่อมโยงกัน . ในปีเดียวกันนั้น Bill Clinton ประกาศที่ทำเนียบขาวถึงความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ทางวิทยาศาสตร์ แผนที่ดีเอ็นเออันแรกของมนุษย์ถูกทำสำเร็จ ความลับของสายพันธุ์มนุษย์ถูกไข ทั้งหมดนั้นเป็นเพราะวิสัยทัศน์ของศาสตราจารย์ลูกา ที่มุ่งมั่นเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอมาก่อนหน้านั้นกว่าสามสิบปีเพราะเชื่อมั่นว่ามันซ่อนความลับของมนุษย์ไว้ ทันทีที่แผนที่ดีเอ็นเอสำเร็จ เสปนเซอร์ซึ่งเป็นทายาทรับช่วงงานวิจัยต่อจาก ศจ.ลูกา ก็นำเสนออีกแผนที่หนึ่ง คือแผนที่การอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์ย้อนหลังกว่าแสนปีจากแอฟริกา และสาแหรกพันธุกรรมมนุษย์ย้อนถอยไปถึงบรรพบุรุษคนแรกที่เป็นรากลึกที่สุด . ในเวลานั้น ไม่มีใครหรือสาขาวิชาใดมองความรู้ของมนุษย์ผ่านวิสัยทัศน์นี้ มันเป็นเรื่องใหม่ แต่ความฉงนสนเท่ห์ของผมที่มีกับตัวอย่างดนตรีของไท-ไทยและชาติพันธ์อื่นๆ ในเอเชีย โดยเฉพาะในจีนตอนใต้และประเทศไทย ทำให้ผมเอามานั่งคิด ผลจากการคิดวิเคราะห์ ผมรู้สึกว่ามันเป็นดนตรีชนิดเดียวหรือพูดให้ชัดกว่านั้น มันน่าจะเป็นวัฒนธรรมที่มีรากเหง้าร่วมกัน อาจจัดเป็นสกุลเดียวกันคล้ายๆ กับภาษา และถ้าสิ่งที่นักมานุษยวิทยาเชื่อกันมาเนิ่นนานจนบัดนี้ว่า ดนตรีเกิดมาจากภาษา ว่ามันเริ่มมาจากจุดนั้น มันก็จะต้องมีส่วนสัมพันธ์กับการส่งต่อทางวัฒนธรรม ซึ่งผมแบ่งได้ง่ายๆ ออกเป็นสามลักษณะหลักๆ . หนึ่งคือ สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น เป็นเหมือนมรดกทางวัฒนธรรม จารีต ประเพณี / สองคือ รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมจากดินแดนอื่น-ชนชาติอื่นที่รุ่งเรืองกว่าหรือต่างดินแดนที่คบค้าไปมาหาสู่กันยาวนาน จึงรับเอาธรรมเนียมเขามานิยม / สามคือ เกิดจากการถูกพิชิตให้อยู่ในอาณัตหรือถูกบังคับให้รับวัฒนธรรมผู้อื่นมาเป็นของตน อาจจะยังดำเนินขนบทางวัฒนธรรมเดิมอยู่ได้ขณะที่ต้องยอมรับวัฒนธรรมอื่นเป็นหลัก หรืออาจถูกบังคับให้เลิกวัฒนธรรมของตนแล้วรับเอาวัฒนธรรมของชาติที่พิชิตเป็นของตนแทน . ในกรณีแรก วัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาจะมีอัตลักษณ์ที่จำแนกได้ชัดเจนเหมือนภาษาที่จัดเป็นสกุลหรือ phyla ได้ | กรณีที่สอง ย่อมมีการแทรกของวัฒนธรรมสกุลอื่นเข้ามาผสมผสาน แต่เนื่องจากการเชื่อมโยงกันเป็นไปอย่างละมุนละม่อมจึงไม่มีอะไรถูกทำลาย จะนำไปสู่ความหลากหลายมากขึ้นได้หลายปัจจัย แต่จะยังคงแยกแยะลักษณะของอัตลักษณ์แต่ละสกุลได้ | กรณีที่สาม ไม่ต่างอะไรกับขุดรากถอนโคน วัฒนธรรมสกุลเดิมถูกทำลายไป อาจมีบางคนที่ต่อต้านและต้องการรักษาขนบเก่าไว้อย่างหลบซ่อน ซึ่งจะทำให้กลายเป็นสิ่งต้องห้ามหรือตาบู แต่ก็อาจมีโอกาสที่วันหนึ่งจะถูกฟื้นฟูขึ้น . ตั้งแต่ปี 2004 ผมหมกมุ่นเรื่องนี้นานนับสิบปี อ่านหนังสือมากมาย ไปเก็บตัวอย่างจากภาคสนาม เสาะหาข้อมูลเสียงจากทุกที่ที่ได้เบาะแส ผมนึกอยู่เวียนวนจนได้สมมุติฐานอันนึงขึ้นมา "เป็นไปได้ไหมว่า ถ้าเรามีสายเลือดที่เชื่อมโยงกันทั้งโลกอย่างที่ ศจ.ลูกา และ เสปนเซอร์ นำเสนอ เราก็น่าจะมีวัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกันโดยที่สอดคล้องกับสาแหรกพันธุกรรมด้วย และเมื่อเป็นเช่นนั้น เราก็น่าจะแยกแยะดนตรีซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมมนุษย์ออกเป็นวงศ์ตระกูลได้ในลักษณะเดียวกัน ในเวลาต่อมา ผมพบบทความหนึ่งที่เขียนโดย ศจ. Victor Grauer หัวข้อเรื่อง Music Family ผมจำชื่อเขาได้ทันที เพราะผมเรียนหนังสือเล่มหนึ่งของ Alan Lomax นักมานุษยวิทยาดนตรีที่เป็นตำนานของโลก มันเกี่ยวกับระบบวิเคราะห์ดนตรีพื้นเมืองที่เขาคิดค้นขึ้นเรียกว่า Cantomatrics และอาจารย์วิคเตอร์ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอลันมีส่วนในการคิดค้นนี้ . ผมเขียนอีเมล์ไปหาอาจารย์วิคเตอร์ตามอีเมล์ที่ปรากฏบนบทความของแก บอกว่าผมอ่าน Music Family แล้วคิดว่าน่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกับที่ผมคิด แล้วเล่า Hypothesis ของผมให้แกฟัง บอกว่าผมจะเทรซจากดีเอ็นเอและการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์เป็นวิธีวิจัย แกตอบมาว่าเห็นด้วย นี่เป็นเรื่องใหม่และตื่นเต้นมาก อยากให้ผมแชร์ข้อมูลกับแก จากจุดนี้ไปคือการผจญภัยอันน่าตื่นเต้นของผมกับโครงการ Genomusicology ตั้งแต่วันนั้นมาจนบัดนี้ ยี่สิบปีแล้ว . ผมเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับความสนใจของผมในเรื่องนี้มาเรื่อย และบางครั้งมันไม่ได้เกี่ยวกับดนตรีแต่เป็นเรื่องอื่น ผมรู้แต่ตอนนั้นว่าความรู้อะไรก็ตามหากมันขัดกับวิทยาศาสตร์นี้ ไม่ว่าจะสาขาวิชาอะไร มันมีแนวโน้มจะผิดพลาด ตัวอย่างเช่นประวัติศาสตร์ ยิ่งถ้าคุณเปิดหน้าต่างหลายๆ ศาสตร์พร้อมกันโดยไม่ยึดติดกับทัศนะของสำนักคิดเดิม คุณจะพบกับหนทางที่กว้างไกลกว่า ยกตัวอย่างเช่นเมื่อคุณหาคำตอบทางประวัติศาสตร์ คุณลองทาบมันกับชีววิทยาพันธุกรรม ขณะเดียวกันก็ทาบมันกับโบราณคดี ภาษาศาสตร์ ธรณีวิทยา นิรุกติศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ปรัมปราคติ ศาสนาเทววิทยา...ฯลฯ มันจะนำคุณไปสู่คำตอบที่หนักแน่นกว่าที่คุณจะจมอยู่กับข้อมูลทางประวัติศาสตร์เพียงอย่างเดียว . หลายปีที่ผ่านมา เริ่มมีหลายสาขาวิชาที่หันมาใช้แผนที่แผ่นเดียวกับผม ที่ผมเห็นคือนักภาษาศาสตร์ในต่างประเทศมาก่อนเป็นพวกแรก ในไทยที่เริ่มก่อนคือนักโบราณคดีอย่างเช่น อาจารย์รัศมี ชูทรงเดช ท่านล้ำมาก ศึกษาซากบรรพชีวินแล้วเริ่มใช้ข้อมูลดีเอ็นเอมาก่อนที่จะมีนักชีววิทยารุ่นใหม่ที่สนใจด้านนี้เริ่มเอามาใช้ผนวกกับสาขามานุษยวิทยา ช่วงสี่ห้าปีหลังเริ่มมีงานวิจัยเกี่ยวกับดีเอ็นเอของคนไทยออกมาให้เห็นจากนักวิชาการไทยหลายคน . ถ้าจำเรื่องเก่าๆ ที่ผมเคยเขียนได้บ้างจะเห็นว่าผมพูดอยู่หลายครั้ง "ความแบ่งแยกเป็นความคิดของปีศาจ" และมันเป็นต้นตอความขัดแย้งที่ลุกลามกลายเป็นสงครามและการฆ่าล้างเผ่าพันธ์ได้ ผมชี้ให้เห็นเสมอๆ ว่าคนเอเชียนั้นเป็นพี่น้องครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นลูกหลานของทายาทแห่งอาดัม (ในทางวิทยาศาสตร์) สองคนคือ Hg O และ Hg C และทายาทแห่งอีฟ (ในทางวิทยาศาสตร์) สี่คนคือ Hg B-M-F-D ดังนั้นพวกเขาไม่ว่าจะเรียกชื่อสมมุติตัวเองว่าอะไร ข้อเท็จจริงก็คือพวกเขาคือพี่น้องกันทั้งสิ้น เก่าใหม่ อ่อนแก่ ตามกาลเวลา . ด้วยเหตุนี้ ในปี 2008 ผมเขียนบทความหนึ่ง เรื่อง "ชื่อและชนเผ่า" และผมพยายามอธิบายความสมมุติที่ว่านี้ด้วยความพยายามยิ่งที่จะบอกความเป็นมาเป็นไปและความเกี่ยวโยงของแต่ละชาติพันธ์ ผมแบ่งกลุ่มพวกเขาออกเป็นสองกลุ่มง่ายๆ คือพวกเท้าเปียกและพวกเท้าแห้ง พวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกันและทั้งหมดอยู่บนดินแดนเอเชียนี้มาตั้งแต่สามหมื่นกว่าปีที่แล้ว แต่พวกเท้าเปียกคือพวกที่อยู่บนซุนดาตอนล่าง ต้องผจญชะตากรรมน้ำท่วมโลกซึ่งหนักกว่าโนอาห์แน่นอน เพราะธรณีวิทยาบอกว่ามีที่เดียวบนโลกในประวัติศาสตร์มนุษย์แสนกว่าปี ที่คุณจะเรียกว่าน้ำท่วมโลกได้จริงๆ คือดินแดนซุนดาแห่งนี้ ไม่ใช่ในดินแดนเสี้ยวจันทร์หรือแถวเทือกเขาอารารัต มันท่วมที่นี่สามครั้งหลังยุคน้ำแข็งสิ้นสุด ทั้งสามครั้งรวมแล้วประมาณร้อยยี่สิบเมตร!.. ส่วนพวกเท้าแห้งก็คือพวกที่อยู่เหนือขึ้นไปในเมนแลนด์เอเชีย ซึ่งก็ได้เป็นสักขีพยานภัยพิบัตินี้เช่นกัน แต่มีเพียงส่วนน้อยที่ได้รับผลจากภัยพิบัติ . ดังนั้น สำหรับผม ไม่ว่าจะเอ่ยชื่อไหนมันก็คือสิ่งสมมุติ บรรดาพี่น้องในสาแหรกเท้าเปียกในอุษาคเนย์นับจากโบราณจนกระทั่งบัดนี้ อย่างที่บอก พวกเขาล้วนมาจากอัสเลียน แม้ต่อมาพวกเขาทั้งหลายจะกลายเป็นมอญ เป็นข่า เป็นละว้า เป็นขอมทวารวดี เป็นขอมละโว้ เป็นพนม เป็นสยาม เป็นศรีโพธิ์ เป็นมลายู เป็นนุสันทารา เป็นลาว เป็นจามปา เป็นเจนละ เป็นเขมร เป็นญวน... แต่หากคุณแล่เนื้อเถือหนังออกมา โครงสร้างทางโปรตีนของพวกเขาก็มีดีเอ็นเอที่มาจากบรรพบุรุษจากสาแหรกเดียวกันทั้งสิ้น.. . การที่คุณแครี่วายโครโมโซมแฮพโพลกรุ๊พโอ หมายถึงคุณคลานตามกันมาจากบรรพบุรุษเดียวกัน การย่อยออกเป็น sub group ต่างๆ เช่น O1 O1a O1b O1c O2 O2a O2b O2c... คือซับมิวเทชั่นในสกุลเดียวกัน แม้แตกแขนงออกไปแต่คุณยังคงมีสายเลือดที่โยงใยกันอยู่ จีนที่ซึ่งในการวิจัยช่วงแรกถูกจัดเป็น O3 (ปัจจุบันปรับเป็น O2) ยอมรับกันว่าเป็นชนชาติที่มีระบบบันทึกประวัติศาสตร์ดีที่สุดและเก่ากว่าทุกชนชาติในเอเชีย ถอยหลังไปถึงสี่พันกว่าปี แต่พันธุกรรมบอกว่าพวกเขาเป็นน้องเล็กที่สุด มียีนอายุน้อยที่สุดในสาแหรกวงศ์ตระกูล (เรียงจากหลักน้อยไปหามาก O > O1 > O2 หลักน้อยคือเก่ากว่า) ข้อนี้ยิ่งยืนยันว่าสาแหรก Y DNA Hg O มีรากเหง้าที่เก่าแก่ยาวไกลเพียงใด ในโลกนี้พวกเขาเก่ารองจากพวกออสตราอะบอริจิ้น และพวกซาฮารันโบราณ มียีนเป็นพี่ของชาวยุโรปเกือบทั้งหมด ยกเว้นพวกบาสก์ในอุสกาดี สเปน และพวกซามิแถวแลปแลนด์ ฟินด์แลนด์ . Cultural Transmission ที่ส่งผ่านกันไปมานานนับหมื่นปี ทำให้ลักษณะที่ร่วมกันแต่โบราณจากวัฒนธรรมที่พื้นฐานที่สุดไปสู่วัฒนธรรมที่ซับซ้อนที่สุด ยังคงทิ้งเบาะแสความเกี่ยวโยงของพวกเขาเอาไว้ในทุกมิติทุกบริบท มันไม่ได้หายไปไหนและเรามองเห็นมันได้ แบบเดียวกับที่ผมเห็นผ่านดนตรี ตัวอย่างเช่น เราเป็นมนุษย์ที่ยุคบรรพกาลนับถือแม่เป็นใหญ่ เราจึงมีเทวี เจ้าแม่ พระแม่เต็มไปหมด ในดนตรีพื้นเมืองของเราผู้หญิงร้องเสียงสูงและดังทะลุทะลวง เพราะนางมีสถานะที่ได้รับการเคารพไม่ใช่ถูกกดไว้ นอกจากนั้นพวกนางยังมีการประสานเสียง มีพลังแข็งแรงและมั่นใจขณะขับร้อง นางสามารถยืนหยัดเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญได้ภายในสังคม แม้ทุกวันนี้ ผู้หญิงก็ยังคงเป็นใหญ่ในบ้าน ทุกบาททุกสตางค์ที่ผมหาได้ก็ต้องส่งมอบให้ภรรยาด้วยความเคารพ . เวลาที่มองภาพต่อทางประวัติศาสตร์ มุมมองของผมจึงเปลี่ยนไป ผมหยิบความรู้อื่นๆ เท่าที่อ้างอิงเชื่อถือได้มาประกบเข้าด้วยกันเสมอ... ทำไมกษัตริย์เขมรโบราณจะขึ้นครองราชย์ต้องแต่งกับนาค? สำหรับผม นี่คือปรัมปราคติที่สะท้อนการเมืองโบราณ เศรษฐีจากต่างถิ่น (ตัวขาวใส่เสื้อผ้าสวยงาม) จะมาปกครองคนท้องถิ่นที่เป็นคนพื้นเมือง (แก้ผ้า อยู่กับป่าฝนและมรสุม) ก็ต้องดองกับคนท้องถิ่น หลักฐานเจเนติคก็พบว่าพ้องกันว่า ผู้ชายบรรพบุรุษของพวกเรา (Y DNA Hg O) ซึ่งอพยพมาด้วยเส้นทางสายเอเชียกลาง อากาศดี อาหารสมบูรณ์ตลอดทาง พวกเขาคงหล่อเร้าใจไม่น้อยเมื่อเดินทางมาถึงซุนดา พวกผู้หญิงอะบอริจิ้น (mt DNA Hg B / M) พากันเลือกบรรพบุรุษของเราเป็นพ่อพันธ์ อุปมาดังหงส์ทองครองคู่กับนาคยังไงยังงั้น ทำให้ผู้ชายอะบอริจิ้นต้องถอยห่างออกไปจากแผ่นดินใหญ่ การได้แม่สายงูมาเป็นแม่พันธ์อีกสองแม่ ทำให้ลูกหลานพวก Hg O ออกลูกมาเต็มดินแดน มันคือการผสมกันของนกกับงู แต่พวก Hg C ที่ผู้หญิงไม่เลือกลูกหลานก็เลยน้อยกว่า แรงงานที่จะพัฒนาชุมชนและเป็นกำลังรบจึงน้อย ถ้าผู้หญิงของเขาไม่เลือกพวก Hg O และมีจำนวนประชากรพอๆ กัน พวกอัสเลียนกับอะบอริจิ้นคงรบกันแหลกราญตายไปข้างหนึ่ง นี่ไม่ใช่ครั้งเดียว... . พระนางจามเทวีแห่งละโว้ หรือจะเรียกละโว้ ละว้า ว้า ลั๊วะ ก็คือกัน เป็นข่า เป็นอัสเลียนที่ยังมีความเป็นชนพื้นเมือง เมื่อเทียบชายหนุ่มในเผ่าของนางกับหนุ่มเท้าแห้งพี่น้องสาแหรกเดียวกันแต่ขาวผ่องกว่าเพราะอาศัยอยู่ดินแดนทางเหนือขึ้นไป อากาศแสนดี แต่งตัวหล่อ เหตุฉะนี้ พระนางทำเหมือนบรรพบุรุษอะบอริจิ้นข้างแม่ ไม่เลือกพวกเดียวกันเอง แต่ไปเลือกหนุ่มทางเหนือแถวหริภุญชัยสายไป่เยว่ ทำเอานักรบหนุ่มละว้าถึงกับไม่พอใจทำไมไม่เลือกฉันไปเลือกไอ้ละอ่อนสำอางทางเหนือ เลยท้าพระนางจามพุ่งหอกแข่งกัน ถ้าแพ้ต้องแต่งกับเขา และพระนางจามเทวีชนะนักรบนะ! แปลว่าพระนางจามของเรานี้ก็ยังคงมีทักษะแบบที่ชนเผ่าในสมัยบรรพกาลมี คือโตมานี่ยังรบและล่าสัตว์อยู่ แม่หญิงธรรมดาที่ไหนจะพุ่งหอกชนะ พระนางคงเห็นว่าการแต่งกับหนุ่มทางเหนือเป็นการปรับปรุงสายพันธุ์และทำให้การเมืองมีหนทางที่ก้าวหน้าขึ้นกว่าที่เคยเป็น เพราะการดองลักษณะนี้ พวกเท้าเปียกและเท้าแห้งก็จะมี Cultural Transmission ที่ถ่ายเทต่อกันอย่างละมุนละม่อม ต่างกับพวกยุโรปที่ไปปล้นพวกเมาริ ยึดแผ่นดินพวกเขา แล้วบังคับให้ดีดอะคูเลเล่และเข้าโบสถ์ไปร้องประสานเสียง . หันมองเครือญาติข้างบ้าน ยุคสมัยแห่งเขมรพระนครนั้นล่มสลายไปนานแล้ว กัมพูชาอยู่ในปกครองของอยุธยายาวนานมาจนรัตนโกสินทร์ ตอนที่พวกอาณานิคมฝรั่งเศสบุกมายึดครอง แล้วฝรั่งพวกนี้ไปเจอนครวัดอยู่ในป่าดงดิบ คนเขมรส่วนใหญ่ในตอนนั้นไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีปราสาทโบราณอยู่ตรงนั้น มันถูกต้นไม้กลืนจนหายไป รากและกิ่งใบเลื้อยพันฝังรากลงไปในตัวปราสาทจนมองไม่เห็น หลังเป็นอิสระจากอาณานิคมฝรั่งเศสพวกกษัตริย์เขมรนั้นมาโตมาเรียนอยู่ที่สยามทั้งนั้น ประวัติศาสตร์บอกชัดไม่ต้องบรรยายอีก Cultural Transmission ถูกส่งผ่านอย่างละมุนละม่อม ไม่ใช่เพราะถูกพิชิตถูกบังคับให้ทำตาม แต่เพราะรากเหง้าเดิมของเขมรเสื่อมสลายไปหมดนานแล้ว และเจ้านายเขมรนิยมชมชอบในขนบธรรมเนียมวัฒนธรรมแบบไทยจึงรับและเรียนไป จนกระทั่งมันวินาศย่อยยับไปอีกครั้งในยุคเขมรแดง เพราะศิลปิน ปราชญ์ราชบัณฑิต ครู กวี ปัญญาชน...ถูกเขมรแดงฆ่าจนสิ้น . ผมก็รำคาญนะ พวกเขมรเคลมโบเดียน่ะ แต่ก็คิดว่ามันน่าสงสาร ยังไงก็พี่น้องสาแหรกเดียวกัน แล้วคนฉลาดๆ ของเขาก็ตายไปหมดแล้วตอนยุคเขมรแดงทุ่งสังหาร ที่พอจะรอดมาได้ก็หนีไปอเมริกา-ยุโรปไม่กลับมาอีก อย่างไรก็ตามประวัติศาสตร์ที่บันทึกอยู่ในโลกก็บอกเรื่องราวของสยามและเขมรชัดแจ้งอยู่ มันจะเคลมยังไงก็ไม่มีใครเขาเชื่อ แล้วก็ไม่มีพิษสงอะไรหรอก นอกจากสร้างความรำคาญ ส่งพวกทหารพรานไปเป่าข้าวหลามสักสิบบ้องก็คงหยุดแล้ว . แต่ไอ้ที่เลวแท้ก็คือไอ้พวกตัวเป็นไทยใจเป็นเขมรนี่แหละ ไอ้ที่ส่งลูกไปปี้กับเขมรก็พอเข้าใจที่มันเกี่ยวดองเป็นเครือญาติกัน แต่ไอ้พวกที่ไม่ได้ดองอะไรแต่เสือกไปรับใช้เขมร อันนี้เรียกขายชาติ ในดีเอ็นเอมีพันธุกรรมสุนัขแทรกอยู่เลยเลือกกินอาจม ไม่กินผัดไทย . เรื่องที่ผมเขียนให้อ่านนี่มันยาก ผมเข้าใจนะ แต่หากคนเราในทุกวันนี้เข้าใจในข้อนี้ตรงกัน บางทีความขัดแย้งในโลกอาจลดลงจนหมดไปได้ และเราอาจก้าวไปสู่สังคมอุดมคติแบบที่เราไฝ่ฝันถึง "We're All Connected" . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (2568) - . https://youtu.be/RdW1HNA5uSc?si=3E1WAUxHdLhSdVsw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 529 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น
    .
    ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ
    .
    อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้
    .
    ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน
    .
    [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้]
    .
    เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus)
    .
    นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี
    .
    อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland
    .
    เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่
    .
    ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่
    .
    และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก
    .
    ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย)
    .
    ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด
    .
    คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน?
    .
    บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน
    .
    หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า
    .
    ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน
    .
    เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก
    .
    สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน
    ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้
    .
    คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที
    .
    เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น
    ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี
    ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“
    แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม
    .
    นี่รู้ไหม...
    มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า?
    .
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] -
    .
    เขียนเล่าเรื่องพันธุกรรมมนุษย์มาหลายต่อหลายครั้ง ทั้งที่ความรู้นี้โลกเขารับรู้มาตั้งแต่ปี 2004 แล้ว ปัจจุบันนักวิชาการไทยหลายคนก็ทำวิจัยเรื่องนี้ตีพิมพ์ออกมาพอสมควร แต่ก็ยังมีบางพวกบางกลุ่มที่ยังตะแบงติดกับดักวังวนของสำนักคิดเก่าๆ อยู่อย่างนั้น ไอ้ที่แย่กว่าคือ จำต้องยอมรับวิทยาศาสตร์นี้โดยปริยายทั้งที่ไปกันไม่ได้กับเรื่องที่ตนเขียน แต่ความที่เคยพูดเคยเขียนหนังสือขายหาเงินรับประทานมาไม่น้อยกับความรู้ผิดๆ ครึ่งๆกลางๆ งูๆปลาๆ ก็เลยยังต้องยืนยันความคิดเดิมตะแบงต่อไป ถ้าไอ้ส่วนที่ความรู้ใหม่มันไปกันได้กับที่เคยเขียนก็จะหยิบมาอ้าง แต่ส่วนที่มันฟ้องว่าเอ็งเข้าใจผิดแล้วก็จะเลี่ยงเสีย เช่นกรณีเฒ่าเจ๊กปนลาวชังชาตินั่น . ความแบ่งแยกอันเป็นความคิดของปีศาจ นำมาซึ่งชื่อสมมุติ ที่โดยมากมักอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อปฏิเสธความเกี่ยวเนื่อง เพื่อสร้างอัตลักษณ์ใหม่ เพื่อให้ดูแตกต่างกับผู้คนหรือบรรพบุรุษที่เคยเกี่ยวข้อง ไม่ว่าเครื่องแต่งกายก็ตาม ความเชื่อ ภาษาพูดก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เครื่องพิสูจน์องค์ประกอบของตัวมนุษย์แต่ละผู้ว่าเป็นใครหรือเผ่าพันธุ์ไหน เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าความเป็นเจ๊กปนลาวที่พูดไทยหากินกับภาษาไทยของเฒ่าผู้นั้น อาจเป็นเรื่องเลื่อนลอยไปได้ ลาวที่เขาคิดว่าเป็นพ่ออาจเป็นกัมมุ และเจ๊กที่เขาคิดว่าเป็นแม่อาจเป็นชนเผ่าฮักกา ที่ซึ่งไม่ใช่เจ๊ก แต่เป็นเยว่ ก็เป็นได้... อยากจะแน่ใจก็ไปตรวจซะ . อย่างที่ทราบ (เอ๊ะ หรือใครยังไม่ทราบ?) มนุษย์ที่เป็นชนชาติต่างๆในโลกนี้ อพยพออกมาจากแอฟริกาเมื่อแสนกว่าปีก่อน เป็นหน่อเนื้อลูกหลานของบรรพบุรุษที่อาศัยในบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่าซาฮาร่า ดังนั้นนักวิชาการเลย "นิยามชื่อ" พวกเขาว่าพวก "ซาฮารันโบราณ" ผู้ชายทุกคนในโลกนี้ไม่ว่าคนออสตราอะบอริจิ้น คนเอเชีย คนตะวันออกกลาง คนยุโรป คนเมโสอเมริกา ล้วนมียีนของอาดัมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่าวายโครโมโซม M168 นี้ทุกคน ยกเว้นพวกแอฟริกาบางเผ่าที่บรรพบุรุษไม่ได้อพยพออกมาและยังคงอยู่รอดในแอฟริกาจนถึงปัจจุบันนี้ . ด้วยภาพใหญ่นี้ สาแหรกพันธุกรรมแสดงให้เห็น "DEEP ANCESTOR" โคตรเหง้าที่ลึกที่สุดของมนุษย์โลก "การที่พวกอาหรับพูดภาษาสกุลเซมิติคส่วนคนไทยอย่างเราพูดภาษาสกุลจ้วง-ไท ความแตกต่างนี้ไม่อาจลบล้างข้อเท็จจริงทางพันธุกรรมที่ทั้งคู่มี Deep Ancestor ร่วมกันไปได้". ทุกวันนี้มนุษย์ที่มียีนของ M168 เก่าแก่กว่าใครในโลกคือพวก San Bushman พวกเขาพูดภาษาสกุลกอยซานที่ในทาง Linguistic ถือว่าเป็นภาษาลูกของภาษาซาฮารันโบราณที่ยอมรับกันว่าคือ Global Early Language * หมายถึงภาษาแรกของโลก เมื่อพิจารณาจากวิทยาศาสตร์ข้อนี้ มนุษย์ทุกชนชาติที่มีชื่อสมมุติกันไปต่างๆ จะว่าไปก็ถือเป็นคนกอยซานทั้งสิ้น ดังนั้นคุณจงอย่าได้ยึดติดว่าภาษาพูดของชาติพันธ์หนึ่ง จะบ่งบอกว่าเขาคือชาติพันธ์นั้นเสมอไป... คนจีนอพยพตั้งแต่รุ่นที่สองที่อยู่ในเมืองไทยพูดภาษาไทยชัดทุกคน คนอเมริกันที่เกิดที่นี่ คนอินเดียที่เกิดที่นี่พูดไทยสำเนียงไทยชัดทุกคน และเป็นไปได้ว่าวันหนึ่งเขาอาจย้ายไปอยู่ที่ภูฏานเป็นการถาวรจนลูกหลานเขาเกิดที่นั่น แล้วพูดภาษาภูฏานชัดเจน . [* ภาษากอยซาน : นักภาษาศาสตร์ลงความเห็นว่าคือภาษาที่เก่าที่สุดในโลก มีลักษณะพิเศษคือมีเสียงคลิ๊กอยู่ในคำ ซึ่งได้หายไปจากภาษาอื่นๆ ที่เกิดภายหลัง นักวิชาการเชื่อว่า เมื่อบรรพบุรุษของเราอพยพออกจากแอฟริกาเมื่อแสนปีก่อน พวกเขามีภาษาพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าเช่นนี้ต้องทำงานเป็นทีม ไม่มีภาษาก็ทำงานเป็นทีมไม่ได้] . เมื่อมนุษย์มาจากแอฟริกาและเรามีเชื้อสายซาฮารันมาก่อน ทำไมเราจึงพูดกันไม่รู้เรื่อง พูดกันคนละภาษา ผมเคยเขียนบทความหนึ่งชื่อ บาเบล สืบเนื่องจากคัมภีร์ปฐมกาลบทที่ชื่อบาเบล เล่าว่า “พระเจ้าทรงเห็นว่ามนุษย์สร้างหอคอยใหญ่เทียมฟ้าขึ้นมาได้ พวกเขาอยากจะทำอะไรก็จะสำเร็จได้ อย่ากระนั้นเลย เราจะบันดาลให้เขาพูดกันไม่รู้เรื่อง ผู้คนก็แยกย้ายกันไป เป็นชนชาติต่างๆ ภาษาต่างๆ” นี่...ใครสักคนป้ายสีพระผู้เป็นเจ้าว่าเป็นมูลเหตุให้มนุษย์พูดกันไม่รู้เรื่อง. ใครสักคนในที่นี้มีอย่างน้อยสามคน นักภาษาศาสตร์ยุคใหม่วิเคราะห์ลักษณะการเขียน สำนวน คำศัพท์ที่ใช้ซึ่งบ่งบอกรากฐานและยุคสมัยได้ ทำการวิเคราะห์พระคัมภีร์ไบเบิ้ลฉบับคิงเจมส์ พวกเขาลงความเห็นว่า คัมภีร์ไบเบิ้ลมีผู้เขียนราวสามคน มีลักษณะการเขียนที่แตกต่างกันสามสำนวน คละเคล้ากันไปในแต่ละบท บางบทมีการปนกันมากกว่าหนึ่งสำนวน และยังลงความเห็นว่ารูปแบบการเขียนของบทปฐมกาล (genesis) เขียนทีหลังบทอพยพ (exodus) . นอกจากนี้นักภาษาศาสตร์ยุคหลังมานี่เชื่อว่าภาษาอินโดยูโรเปี้ยนนี้ คือผลของการทุบทำลายภาษาแม่ครั้งสำคัญในโลก เมื่อคุณพิจารณาพันธุกรรม คุณจะต้องทราบว่าผู้ชายชาวยุโรปและตะวันออกกลางแชร์สาแหรกพันธุกรรมในเครือเดียวกันคือ R / J / E อย่างที่ผมเขียนเรื่องยิวและปาเลสไตน์ไปก่อนนี้.. พวกคนยุโรป เปอร์เซีย อารยัน (ที่ภายหลังไปบุกอินเดียโบราณ) ล้วนเป็นสาแหรกเดียวกัน อย่าว่าแต่ยิวซึ่งเป็น semitic speaker ฆ่าปาเลสไตน์ที่เป็นพี่น้องใกล้ชิดเลย หากคนกรีก คนโรมัน ไปฆ่าคนเปอร์เซียหรือกลับกัน ก็คือพี่น้องฆ่ากันอยู่ดีนั่นแหละ อยู่มาวันหนึ่ง ไม่แน่ชัดว่าอะไรเป็นเหตุ หลังสงครามเทวีที่เกิดการต่อต้านปฏิเสธความเชื่อที่นับถือแม่เป็นใหญ่ เทวรูปของเทพีมากมาย เช่น Artemis เทวีผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ ต่างพากันถูกทุบจมูกทุบใบหน้าทิ้งให้ดูน่าเกลียด ชนชาติที่เคยเกี่ยวดองกัน พลันแยกออกจากกันเป็นชนชาติใหม่ พูดภาษาใหม่ เด็กที่เกิดใหม่นับแต่นั้นจะถูกฝึกให้พูดภาษาที่สร้างขึ้นมา จากนั้นก็ตามมาด้วยชื่อสมมุติอย่างเช่น อัสซีเรีย อัคเคเดียน ฮิตไทท์... จากนั้นก็ตามมาด้วยสงครามพี่น้องฆ่ากัน ทั้งที่ชีววิทยาพันธุกรรมบอกว่าพวกเขาคือพี่น้องคลานตามกันมาทั้งนั้น และถ้าอ้างไบเบิ้ล อย่างเช่นกรณีของบุตรหลานของ Sam ลูกหลานของโนอาห์ ก็อย่างที่เคยเล่าไปแล้ว ความแบ่งแยกทำให้พวกเขาปฏิเสธสายใยที่มี . อย่างที่ชี้ให้เห็นนี่ ดีเอ็นเอบอกเราถึงความเป็นพี่น้องร่วมสาแหรก แต่พวกเขาปฏิเสธกันเองแล้วแบ่งแยก ทุบทำลายภาษาแม่ทิ้งไปพร้อมๆ กันในเวลาไล่เลี่ยกัน ไม่ใช่เพราะฝีมือพระเจ้าหรอก มนุษย์นี่แหละ นักภาษาศาสตร์โบราณคดีทำการค้นคว้าเรื่องนี้แล้วทำการโยงภาษาในสกุลอินโดยูโรเปี้ยนทั้งหมด ย้อนกลับไปสู่ภาษาซาฮารันโบราณ ด้วยพจนานุกรมคำศัพท์ของพวก Basque (กลุ่มคนที่ isolated อยู่ในสเปนซึ่งเชื่อว่าเป็นภาษาลูกที่เหลืออยู่ของภาษาซาฮารัน).. เรื่องนี้ยาวนะ ผมเคยเล่าไว้ในบทความชื่อบาเบลที่ผมเกริ่นไปข้างบน ใครอยากลงลึกให้ไปอ่าน Linguistic Archaeology เขียนโดย Edo Nyland . เวลาเจอบทความอะไรจากเฒ่าเจ๊กปนลาวผู้นี้ รวมทั้งจากพวกสาวกกระดูกอ่อนของเขาก็เลยออกจะรำคาญ ด้วยการอ้างชื่อต่างๆ พวกเขาเชื่อมโยงยกแม่น้ำเป็นตุเป็นตะ ไอ้นั่นมาจากไหน ไอ้นี่มาจากไหน โดยไม่มีหลักฐานอะไรที่หนักแน่นพอมารองรับ… ยกตัวอย่างเช่นใช้กลองสำริดบ้าง ใช้ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณบ้าง มาอ้างอิงทั้งที่ไม่เข้าใจว่าดูอะไรอยู่ . ภาพเขียนสีผนังถ้ำโบราณแต่ละแห่งที่พบในโลกที่รังสรรค์โดยบรรพบุรุษยุคแรก ถ้าคุณทาบข้อมูลทางโบราณคดีของมันกับข้อมูลอื่น เช่น พันธุกรรมและการอพยพย้ายถิ่น ธรณีวิทยา ภาษาศาสตร์ ภูมิศาสตร์ มานุษยวิทยา วิทยาศาสตร์.. ก็จะรู้อะไรที่ต่างไปจากที่เคยมีคนสันนิษฐานกันออกมาก่อนหน้านี้ได้ เช่น ภูมิศาสตร์บอกว่าลักษณะภูมิประเทศแบบใดที่มนุษย์โบราณในยุคนั้นชอบใช้เป็นที่อาศัยและหลบภัย ลักษณะทางภูมิศาสตร์แบบไหนที่พบภาพเขียนสี ทำไมมันจึงถูกเลือกเป็นที่จัดทำนิทรรศการ.. ธรณีวิทยาบอกว่า พบดินแบบเดียวกันถูกใช้เป็นสีเขียนผนังถ้ำทุกแห่ง.. วิทยาศาสตร์บอกองค์ประกอบธาตุของสีที่ใช้เขียนว่าเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งแปลได้ว่าพวกเขาเรียนหนังสือมาจากที่เดียวกัน คือเรียนรู้เทคนิคในการทำแบบนี้ซ้ำต่อๆ กันมาเหมือนๆ กัน.. มานุษยวิทยาเห็นการสะท้อนธรรมเนียมนิยมทางวัฒนธรรมบรรพกาลของพวกเขา เช่น เอาสีใส่ปากพ่นผ่านมือให้เป็นรูปมือ เขียนรูปคนและสัตว์ที่มีลักษณะทาง figure ที่คล้ายคลึงกัน มีจินตนาการในการสร้างลักษณะของบุคคลที่พิเศษออกไปจากคนปกติเพื่อแสดงว่าเป็นผีสางเทวดาที่เขานับถือ... มีการวิเคราะห์คุณสมบัติทางวิทยาศาสตร์ของสภาวะแวดล้อมของพื้นที่ศักดิ์สิทธ์ที่พวกเขาไปเขียนรูปไว้ เช่น คุณสมบัติการก้องสะท้อนเสียงของสถานที่ . และเมื่อทาบพันธุกรรมลงไปดูความสอดคล้องกัน เริ่มจากพวกเผ่า San Bushman ที่มียีนของอดัมที่เก่าที่สุดในโลก พบว่าพวกเขาทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันทุกด้านดังที่ได้กล่าวไปนั่น พวกอัสเลียนโบราณก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกันกับที่กล่าวไปเช่นกัน เอาภาพเขียนสีเช่นที่ถ้ำเขาจันทร์งาม สีคิ้ว ไปเปรียบกับภาพเขียนสีในแอฟริกาที่พวกกอยซานทำ ทุกองค์ประกอบที่ว่านั่นก็จะเห็นว่าเหมือนกัน... พวกปาปัว-ออสตราอะบอริจิ้น ก็ทำภาพเขียนสีผนังถ้ำด้วยคุณสมบัติเดียวกับที่กล่าวไป นี่เป็นนวัตกรรมที่เป็นมรดกโคตรยาวนานของมนุษย์ จากแอฟริกาไปสู่จุดต่างๆในโลก ในวันนี้ พวกเขาเหล่านี้พูดกันคนละภาษา มันดูไม่มีความกี่ยวข้องกันใช่ไหมล่ะ? แต่วิทยาศาสตร์ไม่ได้บอกเช่นนั้น ในพันธุกรรมมี mutation ในวัฒนธรรมมี cultural transmission ถ้าเราขยับไปดูสิ่งที่คุ้นเคยกว่านั้นอีกสักอย่าง เช่น "กลอง".. มนุษย์ทุกแห่ง ตั้งแต่พวกที่อยู่ในแอฟริกา แม้แต่พวกชนเผ่าที่ไม่ได้อพยพไปไหนเลยจนกระทั่งยุคล่าอาณานิคม กับมนุษย์ทุกชนชาติที่กระจายอยู่ในทุกมุมโลก พวกเขาต่างทำกลองเหมือนกัน วิธีการคือ ด้วยการขึงหนังสัตว์ (membrane) ลงบนปากทรงกลมของวัตถุทรงกระบอก (cylinder) ขึงให้ตึงและตีให้สั่น นี่คือนวัตกรรมที่เรียก Membranophones คนทั้งโลกไม่ได้ต่างคนต่างทำเหมือนกันโดยบังเอิญ มันคือมรดกที่ส่งต่อกันมาตั้งแต่ก่อนอพยพเมื่อแสนปีที่แล้วและเก่าพอๆ กับภาษาแรก . ซากบรรพชีวินที่นักวิชาการไทยอย่างที่อาจารย์รัศมีท่านสำรวจและค้นคว้าอยู่ กรอบเวลาเท่าไหร่? โนนนกทา? บ้านเชียง? พวกนั้นเป็นใคร? โฮโมเซเปี้ยนส์แน่นอน ชีววิทยาบอกชัดว่าเซเปี้ยนส์ เราไม่ได้วิวัฒน์มาจากโฮโมอีเร็คตัส พวกนั้นสูญพันธ์ไปแล้วก็จบ ยีนพ่อไม่เคยหายไปจากมนุษย์และเราไม่มียีนของอีเร็คตัสอยู่ในตัวเรา เมื่อราวเจ็ดหมื่นปีก่อน เกิด super eruption ขึ้นที่ภูเขาโทบาในสุมาตราโบราณ [https://geographical.co.uk/.../explainer-the-toba...] ทิ้งบาดแผลไว้เป็นทะเลสาปโทบาให้ดูในทุกวันนี้ ภัยพิบัตินี้รุนแรง มันตามมาด้วยฤดูหนาวนิวเคลียร์ (นักวิชาการว่าเช่นนี้) เถ้าภูเขาไฟปกคลุมโลกนานหลายปีและลอยไปไกลถึงกรีนแลนด์ โฮโมอีเร็คตัสในเอเชียถ้ายังมีชีวิตอยู่จะต้องตายหมด ดังนั้นไม่ว่าจะมนุษย์ปักกิ่ง มนุษย์ชวาอะไร ไม่เกี่ยวกับเราทั้งนั้น กรอบเวลาของบรรพบุรุษเราที่มาถึงที่นี่คือห้าหมื่นและสามหมื่นปีมาแล้ว มากันสองระลอก และคนพื้นเมืองที่บุกเบิกดินแดนนี้ไม่ได้แปะยี่ห้ออะไรเมื่อมาถึง นอกจากเรียกตัวเองว่า กอย หมายถึง คน… (ข่า ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย.. ลาว ก็เรียกตัวเองว่า ข้อย) . ในความเป็นจริง มนุษย์โบราณที่เป็นบรรพบุรุษของชายชาวเอเชียราว 75 เปอร์เซ็นต์ล้วนเป็น Y DNA Hg O คือครอบครัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขามิวเททมาจากสาแหรกของพ่อ Y DNA Hg K ซึ่งมาถึงเอเชียกลางเมื่อราวสี่หมื่นปีและกระจายออกไป ทั้งที่ข้ามโกบีและไซบีเรีย ข้ามเบริงเจียไปอเมริกา (Hg Q) กลายเป็นพวกนาวาโฮ... ทั้งที่ย้อนกลับเข้าไปในยุโรปเผชิญความทารุณของยุคน้ำแข็งกลายเป็นพวกยุโรป (Hg R)… บรรพบุรุษพวกนี้ เมื่อตั้งถิ่นฐานตรงจุดใด ก็มักอยู่ตรงนั้น ลองนึกถึงความเป็นจริงว่า การย้ายถิ่นฐานใช้เวลายาวนานหลายชั่วคน เมื่อผู้อาวุโสหรือพ่อของเขาแก่เฒ่าไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินทางบุกเบิกต่อไป บางส่วนของพวกเขาจะหยุดการเดินทางและตั้งหลักแหล่งโดยเฉพาะเมื่อพบสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์พอจะดำรงชีพ คนหนุ่มจะเดินทางผจญภัยต่อไปเพื่อหาที่ของตนที่จะได้ขึ้นมาเป็นผู้นำ ได้มองโลกด้วยทัศนะของพวกเขาเอง พวกเขาจะพบปัญหาใหม่ จะได้หาทางแก้ไขสถานะการณ์ที่ไม่เคยพบ ดังนั้นพวกเขาจะมีเทคโนโลยีที่ดีขึ้นไปเองโดยธรรมชาติ จนเมื่อพวกเขาพบว่าได้เจอสถานที่ที่พึงพอใจหรือไปต่อไม่ได้แล้ว การเดินทางก็จะหยุด . คุณคิดว่ามีมนุษย์จำนวนเท่าไหร่ เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินซุนดาเมื่อสามหมื่นปีก่อน? . บรรพบุรุษของเรา เดินทางมาตามซุปเปอร์ไฮเวย์โบราณสายเอเชียกลางที่เป็นทุ่งหญ้าอันอุดมสมบูรณ์ อุดมด้วยกวางแอนทีโลฟและช้างแมมมอธ ท้องอิ่ม อบอุ่น และอันตรายน้อย เมื่อมาถึงซุนดา คุณคิดว่าพวกเขาจะอยู่อาศัยกันที่ไหน? บนภูเขา ในป่า หรือที่ราบลุ่มปากแม่น้ำ? ไปคิดดูเป็นการบ้าน . หากพิจารณาดูปัจจัยต่างๆ เราจะรู้ได้ว่าชุมชนบรรพกาล มักจะตั้งอยู่บนที่ที่เหมาะสมในการผดุงชีพ อ.สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา ให้ความเห็นว่า เนื่องเพราะบรรพบุรุษพวกนี้ต้องเผชิญกับน้ำท่วมซุนดาถึงสามครั้ง พวกเขานิยมสร้างบ้านที่มีเสาสูงและมีไต้ถุนสูง ทำแพและมีทักษะในการเดินทางด้วยแพ ซึ่งพร้อมที่จะอพยพหนีโดยล่องด้วยแพขึ้นไปเรื่อยๆ สู่ทิศทางต้นน้ำ ไม่เดินเท้าเพราะไม่รู้ว่าน้ำจะมาทางไหน เมื่อเห็นและแน่ใจว่าน้ำหยุดท่วมแล้วก็ปักหลักตั้งถิ่นฐานใหม่ เพราะพวกเขารู้ดีว่าไม่มีจุดไหนที่มีทรัพยากรอุดมไปกว่าริมแม่น้ำ ทั้งสัตว์น้ำและดินที่เหมาะแก่การเพาะปลูก ในป่านั้นมีโรคมากมายและสัตว์ร้าย พวกเขาจะเข้าไปต่อเมื่อต้องการล่าหรือหาของป่า . ชุมชนบรรพกาลเหล่านี้ เมื่อพบพื้นที่ที่พวกเขาพึงพอใจแล้วก็มักจะปักหลักอยู่เช่นนั้น สืบต่อกันไปหลายชั่วคน หลักฐานทางโบราณคดีก็ชี้ชัดเช่นนั้น ทำให้เกิดชุมชนโบราณขึ้นตรงนั้นตรงนี้มากมายและขยายตัวออกไป เกษตรกรรมเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เลิกเร่ร่อนแล้วหยุดตั้งหลักแหล่ง ผลที่เก็บเกี่ยวแน่นอนตามฤดูกาลทำให้ปัจจัยทางอาหารมั่นคง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ย้ายไปไหนโดยง่ายถ้าไม่ใช่เพราะภัยธรรมชาติ โรคระบาด หรือสงครามจากคนกลุ่มอื่นมาบีบบังคับให้ย้ายไปที่อื่น ชุมชนบรรพกาลซึ่งประชากรมีอยู่น้อย ย่อมต้องการปริมาณแรงงานไว้เพื่อสร้างชุมชนของตนให้เติบโตรุ่งเรืองขึ้น ถ้าไม่เกิดปัญหาที่ว่านี้ พวกเขาก็จะไม่ย้ายไปไหน พวกเขาจำฤดูกาลประจำถิ่น ทิศทางลม เวลาน้ำขึ้นลง ยาอยู่ที่ไหน อะไรเป็นยา จำต้นไม้ได้ทุกต้นและรู้ว่าอะไรใช้ทำอะไรได้บ้าง สัตว์อยู่ที่ไหน หาเจอยังไง จับยังไง... ความรู้ในภูมิลำเนาพวกนี้ใช้เวลาสั่งสมยาวนาน . เราต่างได้เรียนรู้กันมามากพอสมควรเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ แต่บางครั้งนิยามหรือความสมมุติในความเป็นชนชาติบ้านเมืองต่างๆ มักพาให้ไขว้เขว บางถิ่นฐาน ผู้ปกครองเป็นผู้มีศักดิ์ฐานะ มีทรัพยากรมาก แต่เป็นคนต่างถิ่นมาจากที่อื่น ไม่ต่างกับทุกวันนี้ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดหัวเมืองเช่นเชียงราย อาจเป็นลูกเศรษฐีตระกูลใหญ่จากกรุงเทพ สมัยโบราณก็เช่นกัน ประชากรเป็นคนพื้นเมืองท้องถิ่น อาจอยู่ที่นั่นมาแปดชั่วคนแล้ว เขาไม่ย้ายไปที่อื่นเพียงเพราะผู้ปกครองไม่ใช่คนพื้นเมืองเหมือนตน ถ้าปกครองดี ทุกคนยังกินอิ่ม ไม่รีดภาษี ไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ข่มเหงรังแก พวกเขาก็จะอยู่อย่างนั้นต่อไปในรุ่นลูกรุ่นหลาน จักรวรรดิจีนโบราณดินแดนกว้างใหญ่ ประชากรไม่ได้มีแต่จีนฮั่นเท่านั้น ยังมีประชากรที่เป็นชนเผ่าอื่นๆในปกครองหลายสิบเผ่า แล้วก็มีผู้ปกครองที่มาจากถิ่นอื่นมาปกครอง เคยมีกษัตริย์ที่เป็นมองโกล กษัตริย์ที่เป็นแมนจูมานั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ ยิ่งรูปงามผิวพรรณผุดผ่องมาพร้อมโปรโมชั่นว่าเป็นเทพลงมาเกิดก็จะทำให้รู้สึกนับถืออยากพึ่งพาบารมี ดังนั้นผู้ปกครองก็อาจเป็นชาติพันธุ์หนึ่งขณะที่ประชากรในดินแดนเป็นอีกชาติพันธุ์หนึ่งได้ เช่น ผู้ปกครองมีชื่อสมมุติว่าเป็นชาติพันธุ์ลาว ผู้ใต้ปกครองอาจเป็นชาวพื้นเมืองมีชื่อสมมุติว่าชาติพันธุ์ข่า เป็นต้น.. ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่พูดนี่ เป็นคนละเรื่องกับแนวความคิดเรื่องชาติ ประเทศ รัฐ ชนชาติและสัญชาติ ซึ่งเป็นความคิดใหม่ที่เกิดขึ้นภายหลังตามคติของอาณานิคมตะวันตก . สำหรับผมมันเป็นเรื่องตลก ที่พูดว่าคนโคราชไม่ใช่คนอีสาน ความยึดมั่นของผู้พูดผูกโยงกับภูมิลำเนา ผูกกับสำเนียงภาษาที่ใช้ แล้วเอามามัดให้ประชากรนั้นเป็นเผ่าพันธ์ตามที่ตนผูกไว้ . คนอีสานคือใครในทัศนะวิทยาศาสตร์ คนอีสานอาจประกอบด้วยพลเมืองจากทางเหนือที่มาไกลจากจีน มาจากหยุนหนาน หรืออาจมาจากเวียตนาม ได้มากพอกับมีพลเมืองที่มีชื่อสมมุติว่า "ลาว" ที่เฒ่างี่เง่านี้นิยามให้สาวกเชื่อว่าเป็นคนท้องถิ่นโดยแท้แล้วก็ปฏิเสธในเชิงที่รู้สึกได้ว่าพยายามจะบอกใครๆ ว่าคนโคราชเป็น "สิ่งแปลกปลอมในท่ามกลางคนอีสาน" ผมรู้สึกอย่างนั้น แล้วเขาก็โยงเรื่องโยงชื่อ ทั้งคนทั้งสถานที่ มั่วไปหมดชนแพะชนแกะชนควาย อนุมานเอาตามความเชื่อตน ทั้งที่ความเป็นจริงทุกมนุษย์ที่อ้างอิงมานั่นไม่ว่าจะด้วยคำ สยาม ทวารวดี มอญ อยุธยา สุพรรณ โคราช ศรีโคตรบูรณ์ เวียงจันทร์ ชัยวรมัน.... บลาๆๆ... ล้วนคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O (O2 เป็นจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงสุด) ทั้งนั้น ต่อให้หมู่บ้านนึงมันดันพูดได้สามภาษา ทั้งลาวทั้งอังกฤษทั้งเกาหลีสำเนียงเป๊ะทั้งหมู่บ้านก็ตามที . เขย่าไว้ไม่ให้นอนก้น ข้าว่าพวกเอ็งมันนอนก้นถอยหลังไปสองร้อยปี ฟังวนอยู่ห้าคำสิบคำ เต็มไปด้วยคำว่า “สันนิษฐานว่า…“ แปลเป็นไทยคือ คาดว่า เดาว่า... คือเอ็งไม่รู้ไง เชื่อเองเออเองแล้วมาชวนคนอื่นให้เชื่อตาม . นี่รู้ไหม... มีไม่น้อยนะที่สันนิษฐานว่ามนุษย์เซเปี้ยนส์นี่น่ะ มาจากเชื้อพันธุ์มนุษย์ต่างดาวชื่อ อนูนากิ แกเชื่อไหมเล่า? . - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา [2568] - .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 608 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า,
    ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย.
    ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก.

    .
    รัฐบาลใหญ่
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!


    โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849
    เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย!

    พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน!

    หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา

    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง!


    สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด
    โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้
    สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ


    สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร
    เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ
    คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว



    พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส
    คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?!
    หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย
    เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ
    ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”]



    แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น
    ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย!
    ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ
    คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น
    ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์
    พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด


    เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง
    ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ
    บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง
    หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น)
    นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต


    CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย
    ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน
    และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ
    รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ


    ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ
    อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง:
    “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...”
    นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล


    คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส
    นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้●
    คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้
    ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ?
    ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว!

    ..
    ..ประเทศไทยเราเองก็อาจเดินตามอเมริกาเช่นกัน,สูติบัตรเราคือการค้ำประกันหนี้แก่ประเทศไทย ,คือคนไทยทุกๆคนมีค่าตัวตั้งแต่เกืดมาทันทีหรือมีมูลค่าทันที,เพราะคนไทยคือทรัพย์สินมิใช่สิ่งมีชีวิต,ทาสก็ว่า เทียบใบหุ้นใบหนึ่งหรือตราสารหนี้ระดับชาติโดยค้ำประกันหนี้จากคนไทย,เพราะคนไทยคือแหล่งค้ำประกันหนี้คือสูติบัตรเราอ้างสมมุติไปทำแทนตัวเป็นๆ,อเมริกาสูติบัตรเขามีมูลค่าเป็นล้านเหรียญและปั่นจนกว่าพันล้านเหรียญ,คนไทยก็คงเช่นกันปั่นกว่าพันล้านถึงหมื่นล้านบาทแน่ๆต่อสูติบัตร1คน,ยิ่งมีหลักฐานชัดเจนขนาดนี้ มีมูลน่าเชื่อได้,รัฐฐะทั่วโลกฝ่ายอีลิทชนชั้นสูงยึดปกครองหมด แน่นอนมันต้องวางหมากวางนโยบายปั่นตีตรามูลค่าสูติบัตรเป็นนโยบายหลักบังคับใช้ในทุกๆประเทศทั่วโลกที่มันปกครอง ไม่เว้นแม้แต่ไทยด้วย,ธนาคารมันอีลิทก็ต้นคิดก่อตั้งแม้ในไทยก็ด้วย,ตลาดหุ้นในไทยมันเองอีกที่ก่อการหัวคิดก่อตั้งในไทยให้ขี้ข้าสมุนรับใช้ในไทยเดินเนื้องานลงหน้างานดำเนินการเปิดให้ได้,พะสาสูติบัตรแน่นอนมันสร้างมูลลค่าแน่ๆและยิ่งฝ่ายดีถ้ามีและคิดอ่านทำอีก แสดงว่าฝ่ายไม่ดียิ่งเหี้ย หามุกโกงแดกฝ่ายดีที่ตั้งราคาหัวสูติบัตรคนบนโลกไว้,ฝ่ายไม่ดีอาสาทำงานให้ฝ่ายดีก็ว่า ,โดยขณะทำงานก็คตโกงสร้างมุกต่างๆวางหมากวางสนุ๊คต่างๆโกงตังชาวโลกก็ว่าในกองทุนกลางของโลกฝ่ายดีที่โอนตังให้ชาวโลกใช้หรือตั้งมูลค่าตังไว้แล้วว่าตลอดการเกิดถึงตาย คนแต่ละน่าจะใช้จ่ายตังดำรงชีพจนถึงตายคงประมาณนี้ ร้อยล้านพันล้านก็ว่าไป,พวกฝ่ายไม่ดีก็ล้างสมองมิให้เรารับรู้ผ่านผู้นำผู้ปกครองประเทศนั้นๆอย่าเปิดปากบอกคนพวกนี้นะก็ว่า,ก็เปิดธนาคาร ปล่อยกู้โดยเอาตังเราๆนั้นล่ะมาปล่อย กินสองทาง ทางตรงแดกจากกองทุนเช่นซื้อบ้านจ่าย10ล้าน กองทุนจ่ายทันที10ล้านโดยเราไม่รู้หรือหักผ่านกองทุนเราใครมันแต่ละคนที่ส่วนกลางกำหนดไว้แล้วอาทิคนละ1หมื่นล้านบาทในไทย หักอัตโนมัติซื้อบ้านที่ดินรถนั้นนี้โน้นตลอดชีพผ่านกองทุนใครมัน,แต่รัฐฐะที่ปกครองล้มเหลวผิดพลาดหมายแดก เสือกมิให้คนไทยรับรู้,หอบตังเหมารวมว่าเองอาจกว่าล้านล้านล้านบาท จากนั้นกระจายให้อีลิทกิจการขี้ข้าทาสซาตานเครือข่ายเต็มไทยไปทำ แบบแบงค์ก็ปล่อยกู้ กิน2ต่อ ต่อที่1กินจากทางตรงของกองทุนที่ว่า,ต่อที่2กินจากคนไทยคนนั้นล่ะมาซื้อมาผ่อนมาจ่ายค่าดาวน์ค่าผ่อนในอนาคตตลอด30ปีหรือกว่า50ปีที่ทำในสัญญาณผ่อนกับแบงค์ในค่าผ่อนน้อยๆใครผ่อนมากๆเดือนละ4-5หมื่นอาจหมด3-4ปีก็หมดหนี้บ้านหนี้รถหนี้ที่ดินที่ซื้อผ่อนกับแบงค์,ทั้งที่จริงๆรัฐฐะที่ดีหากทำถูกตรง ประชาชนจะไม่เสียตังอะไรใดๆโดยรัฐฐะจ่ายตรงหักผ่านกองทุนที่รัฐฐะดูแลบัญชีกองทุนแทนบุคคลนั้นๆทันที,ไม่อุ๊บอิ๊บกินเองร่วมกับเอกชนเครือข่ายฝ่ายไม่ดีก็ว่า, ..สูติบัตรเรามีมูลค่าแต่ฝ่ายไม่ดีมาปล้นมาชิงเอาไปจากความไม่รู้ของคนทั้งโลก นำโดยผู้นำผู้ปกครองในประเทศนั้นๆสมคบคิดกับโจรเหล่านี้ด้วย. ..คนไทยร่ำรวยเลยถ้าจริงแบบนี้,บ่อน้ำมันบ่อทองคำจะเสมือนเพียงตัวหลอก จริงๆอาจคือสมบัติร่วมสร้างโลกพัฒนาโลกวิวัฒนาการโลกไปทางดีงานแบ่งปันช่วยเหลือกันและกันหรือซึ่งกันและกันได้สบาย,ผลิตเกินส่วนไหน สามารถเอาส่วนเกินนั้นส่งไปช่วยเหลือพื้นที่ตรงจุดของโลกส่วนอื่นๆที่ผู้คนชาวโลกเรายังขาดแคลนได้เช่นอาหารการกินต่างๆพืชผักผลไม้ ไม่ต้องทำลายทิังได้ เผลอส่งเสริมการแลกเปลี่ยนซื้อขายต่อกันและกันในราคามิตรภาพอีก. . รัฐบาลใหญ่ เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! โดย เมเดีย กรีเร่14 เมษายน 2568อัปเดต:19 พฤษภาคม 256849 เปิดเผย: คําโกหกที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา – พันธบัตรสูติบัตรของคุณมีมูลค่าหลายพันล้าน แต่คุณไม่ได้เป็นเจ้าของอะไรเลย! พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน! หมายเหตุบรรณาธิการ: ข้อมูลที่แบ่งปันในเนื้อหานี้มีต้นกําเนิดมาจาก เรดดิต, วิกิพีเดีย และ X เนื่องจากแพลตฟอร์มเหล่านี้ขับเคลื่อนโดยชุมชนและสร้างขึ้นโดยผู้ใช้ จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และความน่าเชื่อถือของข้อมูลได้ ฉันเพียงแบ่งปันเนื้อหานี้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและไม่อ้างสิทธิ์การประพันธ์หรือความรับผิดชอบต่อเนื้อหา สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงเอกสาร—มันเป็น พันธบัตรมูลค่าหลายล้าน ซื้อขายในตลาดหุ้นเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ! รัฐบาลสหรัฐฯ เป็นเจ้าของคุณตั้งแต่แรกเกิด ตื่น และเรียนรู้ว่าคุณถูกขาย ถูกเอารัดเอาเปรียบ และ ทาส! อ่านตอนนี้ก่อนที่พวกเขาจะฝังความจริง! สูติบัตรของคุณ: การหลอกลวงขั้นสูงสุด – วิธีที่คุณถูกซื้อและขายตั้งแต่แรกเกิด โซ่ตรวนที่มองไม่เห็นของทาสยุคใหม่- ตื่น! ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเข้าสู่โลกนี้ คุณตกเป็นทาส คุณไม่ยินยอม คุณไม่ได้รับทางเลือก คุณผูกพันกับระบบที่ทุจริตและร้ายกาจมากจนทําให้การดํารงอยู่ของคุณกลายเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ นี่ไม่ใช่การคาดเดา นี่เป็นข้อเท็จจริงที่ได้รับการบันทึกไว้และปฏิเสธไม่ได้ สูติบัตรของคุณไม่ได้เป็นเพียงบันทึก —it เป็นการประกาศความเป็นเจ้าของ คุณไม่ใช่บุคคลที่เป็นอิสระภายใต้กฎหมาย คุณเป็นสินทรัพย์ทางการเงิน ทรัพยากรบุคคล ซึ่งเป็นทรัพย์สินชิ้นหนึ่งในเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่ออกแบบมาเพื่อ ใช้ประโยชน์จากคุณ สูติบัตรของคุณ: การแสดงความเป็นเจ้าของขององค์กร เคยสงสัยไหมว่าทําไมคุณถึงต้องมีสูติบัตร? คิดดูสิ เมื่อเรือมาถึงท่าเรือ ก ใบรับรองรายการ ออกให้เพื่อจัดทําเอกสารสินค้า และเมื่อคุณเกิด คุณได้รับการปฏิบัติเหมือนเป็นสินค้า มีการออกสูติบัตร—NOT เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความยินดี แต่เป็นสัญญาการเป็นเจ้าของ คุณเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ รัฐไม่เห็นคุณเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีอํานาจอธิปไตย คุณเป็นนิติบุคคล ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการเงินที่ใช้สร้างความมั่งคั่งให้กับชนชั้นสูง เหล่านั้น หมายเลขซีเรียลสีแดง ในสูติบัตรของคุณ? เป็นหมายเลขตลาดหลักทรัพย์ เป็นตัวเลขที่เชื่อมโยงกับหลักทรัพย์ที่ซื้อขายบน ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก● การดํารงอยู่ของคุณสร้างรายได้แล้ว พันธบัตรสูติบัตร: มีมูลค่านับพันล้านและคุณเป็นทาส คุณรู้ไหมว่าสูติบัตรของคุณถูกสร้างเป็นพันธบัตรมูลค่าหลายพันล้าน?! หากคุณสงสัยว่าพันธบัตรสูติบัตรคืออะไรขอให้ชัดเจน: คุณคือมัน คุณได้รับคํามั่นสัญญาว่าจะเป็นหลักประกันหนี้ของประเทศนี้—A หนี้ที่จะไม่มีวันจ่าย เมื่อสหรัฐอเมริกาประกาศล้มละลายในปี พ.ศ.2476 ให้คํามั่นว่าจะเป็นคนอเมริกันทุกคน เป็นหลักประกันหนี้ของประเทศ ประธานาธิบดีรูสเวลต์ โดยทาง คําสั่งผู้บริหาร 6073, 6102, 6111 และ 6260, ประกาศให้ประเทศล้มละลายและยึด ALL GOLD ความสามารถของประชาชนในการชําระหนี้ของตนเองถูกลบออกไปอย่างรวดเร็วเพียงครั้งเดียว [ดู: รายงานของวุฒิสภา 93-549, หน้า 187 และ 594 ภายใต้ “Trading With The Enemy Act.”] แต่รัฐบาลต้องจัดให้มี วิธีการใหม่ ของการชําระเงิน—สิ่งที่ไม่ต้องพึ่งพาทองคํา แต่พวกเขาสร้างระบบที่เรียกว่า การยกเว้น ได้รับการยกเว้นจากอะไร? ได้รับการยกเว้นไม่ต้องจ่ายอะไรเลย! ในทางปฏิบัติ นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันทุกคนต้องได้รับ บางสิ่งบางอย่าง เพื่อชําระเงินด้วย—AND ว่าบางสิ่งคือเครดิตของคุณ คุณค่าของคุณต่อสังคมคํานวณโดยใช้ตารางคณิตศาสตร์ประกันภัย เมื่อแรกเกิด, พันธบัตรที่เท่ากับค่าเฉลี่ย “นี้ ” ถูกสร้างขึ้นและยังคงถูกสร้างขึ้น ทําความเข้าใจสิ่งนี้: ปัจจุบันพันธบัตรสูติบัตรของคุณคาดว่าจะมีมูลค่าระหว่างหนึ่งถึงสองล้านดอลลาร์ พันธบัตรเหล่านี้ค้ําประกันโดยสูติบัตรของคุณ และเปลี่ยนเป็น ตราสารเปลี่ยนมือได้● พวกเขาถูกสมมุติฐานและซื้อขาย ซ้ําแล้วซ้ําเล่า จนกว่ามูลค่าของพวกมันจะไม่จํากัด เครดิตทั้งหมดนั้นเป็นของคุณในทางเทคนิคและถูกต้อง ในความเป็นจริง, คุณควรจะสามารถเดินเข้าไปในร้านค้าใด ๆ, รับสิ่งที่คุณต้องการ และบอกให้พนักงานเรียกเก็บเงินเข้าบัญชียกเว้นของคุณ บัญชีการยกเว้นนั้นจะถูกระบุโดย หมายเลขเก้าหลัก—หมายเลขประกันสังคมของคุณโดยไม่มีขีดกลาง หมายเลขนั้นเป็นของคุณ EIN (หมายเลขประจําตัวการยกเว้น) นี่คือความจริงที่เก็บไว้จากคุณมาตลอดชีวิต CERTIFICATE = ความเป็นเจ้าของ: การหลอกลวงทางกฎหมาย ก ใบรับรอง คือเอกสารกรรมสิทธิ์ ก ใบรับรองหุ้น หมายถึงความเป็นเจ้าของหุ้นในบริษัท ก ใบรับรองที่ดิน หมายถึงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน และคุณ สูติบัตร แสดงถึงความเป็นเจ้าของของคุณ รัฐบาลไม่ได้มองว่าพลเมืองเป็นบุคคลที่มีสิทธิโดยธรรมชาติ พวกเขามองว่าคุณเป็น ASSET— สิ่งที่ต้องเสียภาษี ติดตาม และควบคุม สูติบัตรทุกใบแสดงถึง เครื่องมือทางการเงิน ใช้ค้ําประกันหนี้ นี่คือรากฐานของเรือนจําเศรษฐกิจที่กดขี่คุณ ความไว้วางใจสูติบัตร: อธิบายความเป็นทาสทางเศรษฐกิจ อดีตประธานาธิบดี วูดโรว์ วิลสัน ยอมรับความจริงด้วยคําพูดของเขาเอง: “เร็วๆ นี้ ชาวอเมริกันทุกคนจะต้องลงทะเบียนทรัพย์สินทางชีวภาพของตนในระบบระดับชาติ ซึ่งออกแบบมาเพื่อติดตามผู้คน และจะดําเนินการภายใต้ระบบคํามั่นสัญญาแบบโบราณ ด้วยวิธีการดังกล่าว เราสามารถบังคับให้ผู้คนส่งวาระการประชุมของเรา ซึ่งจะส่งผลต่อความปลอดภัยของเราในฐานะการคืนเงินสําหรับสกุลเงินกระดาษ FIAT ของเรา ชาวอเมริกันทุกคนจะถูกบังคับให้ลงทะเบียน หรือประสบ...” นี่คือเกม คุณเป็น ให้คํามั่นไว้แต่กําเนิด เพื่อเติมพลังให้กับเครื่องจักรทางการเงินของรัฐบาล คําเตือนสุดท้าย: ตื่นหรือยังคงเป็นทาส นี่ไม่ใช่แค่กระดาษแผ่นเดียว นี่มันเกี่ยวกับ ชีวิตของคุณ อิสรภาพของคุณ และอนาคตของคุณ● ระบบสูติบัตรคือ การหลอกลวงที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษย์● มันได้เปลี่ยนทุกชีวิตให้กลายเป็น ทาสหนี้● คุณเกิดมาอย่างอิสระ แต่คุณเป็น ตีตราและจําหน่าย ก่อนที่คุณจะพูดได้ ทางเลือกเป็นของคุณ คุณยังคงเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ในระบบของพวกเขาหรือไม่? หรือคุณยึดอํานาจของคุณกลับคืนมาและทวงคืนอํานาจอธิปไตยของคุณ? ถึงเวลาที่จะต่อสู้กลับแล้ว! ..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 575 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศไทย หากระวังรักษาตัวให้ดีไม่ให้ถูกบ่อนทำลาย มั่นใจได้ว่าแม้สถานะการณ์ในโลกจะเลวร้ายด้วยหายนะทั้งทางธรรมชาติ เศรษฐกิจ หรือสงคราม เราจะยังอยู่รอดได้ ถ้าไม่ใช่เพราะโง่ทำลายตัวเองหรือชักศึกเข้าบ้าน ขายตัวเป็นเครื่องมือให้ต่างชาติทำลายจากภายใน เราจะประคองชีวิตไว้ได้ด้วยปัจจัยที่มีอยู่ภายในได้อย่างแน่นอน ที่กล่าวนี้ไม่ได้เป็นเพราะศักยภาพในการค้ากับชาวโลก ไม่ได้หมายถึงสถานะทางเศรษฐกิจหรือการเมืองในประชาคมโลก ไม่ได้หมายถึงสถานะความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศใด แต่หมายถึงชาติและประชาชาติที่จะตั้งมั่นโดยลำพังในการรับมือสถานะการณ์ภายนอกที่จะมากระทบความมั่นคงภายในประเทศของเราโดยไม่พึ่งพาผู้อื่น ภายใต้วิกฤติการณ์เลวร้ายไม่ว่าจะสงครามหรือภัยพิบัติ
    .
    ปัจจัยสี่ที่ทุกคนรู้ดี ข้าว ผ้า ยา บ้าน ... ถามตัวเองว่าเรามีเพียงพอโดยไม่พึ่งพาใครไหม? เมื่อโลกดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว เหล่าคนโง่เขลาที่ยังคงไม่เข้าใจปรัชญาการดำเนินวิถีชีวิตอย่างยั่งยืนและพอเพียงที่ในหลวงรัชกาลที่เก้าสอน ควรจะต้องรู้สำนึกและคิดได้ในความสำคัญข้อนี้เสียแต่บัดนี้แล้ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาและครอบครัวจะต้องเดินไปสู่ความวิบัติอย่างหนีไม่พ้น พวกเขาจะต้องลำบากแสนสาหัส หรือไม่เช่นนั้นก็จะตาย
    .
    คุณได้เห็นกับตาจากสารคดีนี้ อเมริกา ประเทศที่ซึ่งเหล่ากีบเจน Z ไฝ่ฝันยกย่อง งมงายในพรอพพาแกนดาของประชาธิปไตยจอมปลอมโดยไม่รู้ความจริง มีข้อเท็จจริงมากมายที่หากคุณหลงวนอยู่ในกับดักคุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอะไรคือเรื่องโกหก อะไรคือเรื่องจริง คุณจะต้องตกใจที่จะได้รู้ว่ามันใช้เวลาที่รวดเร็วเพียงใดที่ประเทศอย่างอเมริกาที่คุณเห็นว่าสวยงามในภาพยนตร์ ได้เดินมาถึงจุดวิกฤติเช่นนี้ และกำลังเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่องเกินจะหยุดยั้ง
    .
    คนไทยทั้งหลาย... ชาติคือรัฐนาวาที่จะพาประชาชาติฝ่าคลื่นลมอันรุนแรงในโลกนี้ให้ไปถึงจุดหมายอันรุ่งเรืองได้ จะทำเช่นนั้นได้ก็ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวอย่างมั่นคงในฐานะของประชาชนที่เรียกตัวเองว่า "คนไทย" เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับความสมมุติในทางเผ่าพันธ์ุว่าจะเป็น เชื้อไทย เชื้อจีน เชื้อแขก เชื้อฝรั่ง.. เมื่อเกิดมาและอาศัยอยู่ในรัฐนาวาที่ชื่อว่า "ประเทศไทย" ลำนี้ ท่านก็คือประชาชาติไทย เป็นประชากรไทยคนหนึ่งที่มีหน้าที่ปกป้องเรือลำนี้ให้ปลอดภัยไม่อัปปางลงในกระแสน้ำแห่งหายนะ มีหน้าที่ที่จะช่วยกันทำนุบำรุงดูแลพัฒนาให้เรือลำนี้ก้าวหน้ามีประสิทธิภาพในการเดินทาง มีหน้าที่ช่วยกันและกันในหมู่ลูกเรือที่จะทำให้ทุกคนได้เติบโตแข็งแรงมีความพร้อมในการทำหน้าที่ของตนร่วมกับคนอื่นๆ ในเรือลำเดียวกันนี้
    .
    หากทุกคนสำนึกในข้อเหล่านี้ เราก็จะอยู่รอดปลอดภัยในทุกกระแสน้ำที่ซัดโถมเข้ากระหน่ำโลกตลอดไป และเมืองไทยจะไม่มีวันเป็นเหมือนอย่างซานฟรานซิสโกที่คุณเห็นนี้อย่างแน่นอน
    .
    https://youtu.be/lswvpyw0z9I?si=NtogZJPvzN7VIkH-
    ประเทศไทย หากระวังรักษาตัวให้ดีไม่ให้ถูกบ่อนทำลาย มั่นใจได้ว่าแม้สถานะการณ์ในโลกจะเลวร้ายด้วยหายนะทั้งทางธรรมชาติ เศรษฐกิจ หรือสงคราม เราจะยังอยู่รอดได้ ถ้าไม่ใช่เพราะโง่ทำลายตัวเองหรือชักศึกเข้าบ้าน ขายตัวเป็นเครื่องมือให้ต่างชาติทำลายจากภายใน เราจะประคองชีวิตไว้ได้ด้วยปัจจัยที่มีอยู่ภายในได้อย่างแน่นอน ที่กล่าวนี้ไม่ได้เป็นเพราะศักยภาพในการค้ากับชาวโลก ไม่ได้หมายถึงสถานะทางเศรษฐกิจหรือการเมืองในประชาคมโลก ไม่ได้หมายถึงสถานะความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศใด แต่หมายถึงชาติและประชาชาติที่จะตั้งมั่นโดยลำพังในการรับมือสถานะการณ์ภายนอกที่จะมากระทบความมั่นคงภายในประเทศของเราโดยไม่พึ่งพาผู้อื่น ภายใต้วิกฤติการณ์เลวร้ายไม่ว่าจะสงครามหรือภัยพิบัติ . ปัจจัยสี่ที่ทุกคนรู้ดี ข้าว ผ้า ยา บ้าน ... ถามตัวเองว่าเรามีเพียงพอโดยไม่พึ่งพาใครไหม? เมื่อโลกดำเนินมาถึงจุดนี้แล้ว เหล่าคนโง่เขลาที่ยังคงไม่เข้าใจปรัชญาการดำเนินวิถีชีวิตอย่างยั่งยืนและพอเพียงที่ในหลวงรัชกาลที่เก้าสอน ควรจะต้องรู้สำนึกและคิดได้ในความสำคัญข้อนี้เสียแต่บัดนี้แล้ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาและครอบครัวจะต้องเดินไปสู่ความวิบัติอย่างหนีไม่พ้น พวกเขาจะต้องลำบากแสนสาหัส หรือไม่เช่นนั้นก็จะตาย . คุณได้เห็นกับตาจากสารคดีนี้ อเมริกา ประเทศที่ซึ่งเหล่ากีบเจน Z ไฝ่ฝันยกย่อง งมงายในพรอพพาแกนดาของประชาธิปไตยจอมปลอมโดยไม่รู้ความจริง มีข้อเท็จจริงมากมายที่หากคุณหลงวนอยู่ในกับดักคุณจะไม่มีทางรู้ได้เลยว่าอะไรคือเรื่องโกหก อะไรคือเรื่องจริง คุณจะต้องตกใจที่จะได้รู้ว่ามันใช้เวลาที่รวดเร็วเพียงใดที่ประเทศอย่างอเมริกาที่คุณเห็นว่าสวยงามในภาพยนตร์ ได้เดินมาถึงจุดวิกฤติเช่นนี้ และกำลังเลวร้ายลงอย่างต่อเนื่องเกินจะหยุดยั้ง . คนไทยทั้งหลาย... ชาติคือรัฐนาวาที่จะพาประชาชาติฝ่าคลื่นลมอันรุนแรงในโลกนี้ให้ไปถึงจุดหมายอันรุ่งเรืองได้ จะทำเช่นนั้นได้ก็ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวอย่างมั่นคงในฐานะของประชาชนที่เรียกตัวเองว่า "คนไทย" เท่านั้น ไม่เกี่ยวกับความสมมุติในทางเผ่าพันธ์ุว่าจะเป็น เชื้อไทย เชื้อจีน เชื้อแขก เชื้อฝรั่ง.. เมื่อเกิดมาและอาศัยอยู่ในรัฐนาวาที่ชื่อว่า "ประเทศไทย" ลำนี้ ท่านก็คือประชาชาติไทย เป็นประชากรไทยคนหนึ่งที่มีหน้าที่ปกป้องเรือลำนี้ให้ปลอดภัยไม่อัปปางลงในกระแสน้ำแห่งหายนะ มีหน้าที่ที่จะช่วยกันทำนุบำรุงดูแลพัฒนาให้เรือลำนี้ก้าวหน้ามีประสิทธิภาพในการเดินทาง มีหน้าที่ช่วยกันและกันในหมู่ลูกเรือที่จะทำให้ทุกคนได้เติบโตแข็งแรงมีความพร้อมในการทำหน้าที่ของตนร่วมกับคนอื่นๆ ในเรือลำเดียวกันนี้ . หากทุกคนสำนึกในข้อเหล่านี้ เราก็จะอยู่รอดปลอดภัยในทุกกระแสน้ำที่ซัดโถมเข้ากระหน่ำโลกตลอดไป และเมืองไทยจะไม่มีวันเป็นเหมือนอย่างซานฟรานซิสโกที่คุณเห็นนี้อย่างแน่นอน . https://youtu.be/lswvpyw0z9I?si=NtogZJPvzN7VIkH-
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 496 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในท่ามกลางความตึงเครียดของการขึ้นภาษีของทรัมพ์ต่อชาวโลก โดยเฉพาะกับจีนที่ตามมาด้วยการตอบโต้อย่างถึงพริกถึงขิง
    เขาพูดกัน "นี่คือสงครามการค้า"
    เหล่าบรรดาข้าทาสผู้สวามิภักดิ์ใต้อุ้งตีนอเมริกาพากันถ่มถุย
    "จีนจะต้องย่อยยับในคราวนี้"......
    .
    พวกนี้ไม่ได้สำเหนียกในข้อเท็จจริงที่ว่า
    ประชากรจีนโพ้นทะเล กระจายไปในโลกตั้งแต่ยุคกลางของยุโรปแล้ว
    ก่อนยุคการล่าอาณานิคม ประชากรจีนโพ้นทะเลก็อยู่ในทุกแห่งหน
    ทำงานหนักและขยันขันแข็ง อดทน ไม่เกี่ยงความลำบาก
    พรสวรรค์ในด้านการค้าขายเป็นที่ประจักษ์เพราะฝังรากลึกอยู่ในทุกดินแดน
    เส้นทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกยุคโบราณคือเส้นทางสายไหมของจีน
    พวกเขาไม่ได้ไปด้วยการรุกราน ยึดครองดินแดนต่างๆ ด้วยแสนยานุภาพ
    แต่พวกเขาแพร่กระจายไปพร้อมกับแรงงานและการค้าขาย
    และมักตั้งตัวขึ้นมากลายเป็นนักธุรกิจที่มั่งคั่งกว่าชนชาติอื่นอยู่ในทุกทวีป
    .
    ก่อนการออกท่องสมุทรไปของพ่อค้าชาวยุโรปและอาหรับ
    นายพลเรือผู้หนึ่งของจีนนาม เจิ้งเหอ ออกเดินทางสมุทรยาตราด้วยกองเรือมหาสมบัติที่มีขนาดมหึมากว่าสามร้อยลำ ออกค้าขายไปทั่วทุกคาบสมุทร นักวิชาการหลายคนสันนิษฐานว่ากองเรือของเขาอาจไปถึงทวีปอเมริกาก่อนใคร แต่ไม่ว่ามันจะจริงหรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ หลักฐานเชิงประจักษ์ที่ปรากฏในประวัติศาสตร์จีนและประวัติศาสตร์ดินแดนที่เขาเดินทางไปถึงก็ชัดเจนแจ่มแจ้งมากพอถึงความยิ่งใหญ่ของความรู้และพรสวรรค์ทางการค้า
    .
    ตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 1405 ในรัชกาลจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิง.. เจิ้งเหอ ออกเดินทางเพื่อทำการค้าและสำรวจโลกทั้งสิ้น 7 ครั้ง ยาวนานและกินเวลาราว 28 ปี ไปถึงดินแดนต่างๆ ราว 37 ประเทศ ท่องมหาสมุทรไปมากกว่า 50,000 กิโลเมตร เรือสำเภา "เป่าฉวน" หรือที่เรียกว่าเรือมหาสมบัติของเขา ต่อขึ้นที่เมืองนานกิง มันมีขนาดราว 400 ฟุต ใหญ่กว่าเรือซานตามาเรียของโคลัมบัสซึ่งยาวแค่ 85 ฟุตถึง 5 เท่า กองเรือของเขาประกอบด้วยเรือขนาดใหญ่ 60 ลำ และเรือขนาดเล็กอีก 255 ลำ ประมาณว่ามีลูกเรือทั้งหมดกว่า 27,870 คน เดินทางผ่านชายฝั่งฟุเกี้ยน ท่องไปยังอาณาจักรต่างๆ เช่น จามปา เสียนหลอ (สยาม) มะละกา สมุทรา ชวา สุมาตรา ลังกา กาลิกัต... ผ่านทะเลอันดามัน เลาะฝั่งทะเลตะวันออกของชมพูทวีปเพื่อซื้อขายเครื่องเทศ ไปจนถึงเปอร์เซียและแอฟริกา หลักฐานปรากฏให้เห็นจากบันทึก ภาพเขียน และจากเครื่องบรรณาการที่เขานำกลับไปถวายจักรพรรดิหย่งเล่อ ซึ่งได้รวมเอา สิงโต เสือดาว นกกระจอกเทศ ม้าลาย และยีราฟ ซึ่งเป็นสัตว์จากดินแดนเหล่านั้น
    .
    เจิ้งเหอ เดิมแช่หม่า เป็นมุสลิมเชื้อสายตระกูลขุนนางใหญ่จากอุซเบกที่อาศัยในยูนนาน มีชื่อมุสลิมว่า มูฮัมมัด อับดุลญับบารฺ ต่อมาจักรพรรดิหย่งเล่อพระราชทานแซ่เจิ้ง จากบันทึกประมาณเวลาว่าเขามาถึงอยุธยาราวรัชสมัยสมเด็จพระรามราชาธิราช แต่คนไทยรู้จักในอีกชื่อว่า เจ้าพ่อซำปอกง ซึ่ง ซำปอกง นี้เป็นอีกชื่อหนึ่งของเขา วัดที่มีชื่อว่าวัดซำปอกงหรือวัดพนัญเชิงวรวิหารในจังหวัดอยุธยานี้ เขาเป็นผู้สร้างขึ้น นอกจากนั้นยังพบหลักฐานว่าเจิ้งเหอมีความเลื่อมใสในศาสนาพุทธด้วยการถวายพระสูตรให้แก่วัดเก้าแห่ง แต่กระนั้น เจิ้งเหอเมื่อวายชนม์ก็ยังมีสถานะเป็นมุสลิม เพราะมีสุสานอย่างมุสลิมอยู่บนภูเขาที่นานกิง เขาเสียชีวิตที่อินเดียในปี 1432 เชื่อกันว่า อาจเป็นเพราะทัศนคติที่เปิดกว้างทางศาสนาของเขา จึงทำให้เขาเข้าไปมีส่วนในการยุติความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างศาสนาอิสลามของพ่อค้าและศาสนาพื้นถิ่นตามเมืองท่าต่างๆ ที่เขาผ่านไปหลายแห่ง ทำให้เมืองท่าเหล่านั้นยอมรับในความหลากหลายทางศาสนามากขึ้น
    .
    เจิ้งเหอแม้จะเป็นขันที แต่พี่ชายของเขาได้ยกลูกชายและลูกสาวให้แก่เขา ปัจจุบันนี้มีทายาทในสกุลเจิ้งของเขาบางส่วนจากครอบครัวของทายาทรุ่นหลังที่ชื่อ เจิ้งชงหลิ่ง ยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย พวกเขายังคงเป็นมุสลิม ในหลวงรัชกาลที่หกพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ เจิ้งชงหลิ่ง ว่า ขุนชวงเลียงฦๅเกียรติ ลูกหลานของเขาใช้นามสกุล วงศ์ลือเกียรติ
    .
    รูปปั้นหินที่เห็นจากภาพประกอบ เป็นอนุสาวรีย์ของเจิ้งเหอที่มะละกา ประเทศมาเลเซีย อย่างที่เคยเล่า มีหลักฐานว่าเมืองท่าโบราณแห่งนี้เขาเป็นคนตั้งขึ้น
    .
    เรื่องของเจิ้งเหอ ยังถูกหยิบมาค้นคว้าเพิ่มเติมโดยนายพลเรือดำน้ำคนหนึ่งของราชนาวีอังกฤษ ชื่อ Gavin Menzies ที่ซึ่งปกติเรือดำน้ำของเขามีหน้าที่ลาดตระเวณไปทั่วโลกด้วยการดำอย่างเงียบเชียบ แต่คิดว่าเขาคงจะว่างมากนั่นแหละในภาวะที่โลกในช่วงนั้นไม่มีความตึงเครียด เขาจึงเปลี่ยนมาลอยลำวิ่งบนผิวน้ำแล้วเริ่มวิเคราะห์ทัศนียภาพชายฝั่งเทียบกับแผนที่โบราณต่างๆ ซึ่งต่อมามันนำมาด้วยสมมุติฐานของเขาที่เขย่าโลกว่า นักเดินเรือฝรั่งในยุคแรกๆ ของ Maritime เช่น วาสโกเดอกามา เจ้าชายเฮนรี่ โคลัมบัส..ฯ ล้วนเดินเรือด้วยแผนที่ที่คัดลอกมาจากแผนที่ของกองเรือเจิ้งเหอ เขาเขียนหนังสือยาว 500 หน้าชื่อ 1421 และแน่นอนว่า นี่เป็นการทำให้ประวัติศาสตร์การท่องสมุทรของชาวยุโรปเสื่อมเสียไปจากค่านิยมเดิม เกวิน เมนซีส์ถูกถล่มจากนักวิชาการตะวันตกแบบรุมสกรัม แต่น้าแกไม่สน หนังสือของแกติดอันดับขายดีมากอย่างรวดเร็ว และเขายักไหล่ใส่ "พวกคุณจะต่อต้านอย่างไรก็ว่าไป แต่ประชาชนอยู่กับผม..."
    .
    กลับไปที่จั่วหัว...
    อย่างที่เห็น พรสวรรค์ในด้านการค้าของจีนนั้น เป็นที่ประจักษ์ในประวัติศาสตร์โลกนับพันปี ชาติยุโรปลืมข้อเท็จจริงว่านวัตกรรมมากมายที่พวกเขาใช้ มีต้นกำเนิดมาจากจีน โดยเฉพาะแสนยานุภาพที่พวกฝรั่งนำไปใช้พิชิตชนชาติที่อ่อนแอกว่าอย่างเช่น ดินปืน ถ้าไม่มีดินปืน ก็ไม่มีปืน ไม่มีระเบิด นอกจากนั้นพวกตะวันตกยังโขมยความรู้จากจีนทุกวิถีทางตั้งแต่ยุคของมาร์โคโปโล โขมยแม้กระทั่งใบชา และพวกยุโรปรู้ดีว่าไม่อาจเอาชนะจีนอย่างขาวสะอาดได้ จึงใช้กลยุทธอันต่ำช้าด้วยการมอมเมาจีนด้วยฝิ่น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นบทเรียนที่จีนไม่เคยลืม และเตรียมตัวให้พร้อมมาตลอดนับสิบปีของการปิดประเทศเพื่อฟื้นฟู
    .
    สงครามการค้าในตอนนี้ ที่ซึ่ง...
    - จีนถือครองพันธบัตรสหรัฐอยู่ 759,000 ล้านดอลลาร์
    - สหรัฐเป็นหนี้จีนอยู่อีกมหาศาลและไม่มีปัญญาใช้คืน
    - ซัพพลายเชนมากมายของสหรัฐมาจากจีนเป็นส่วนใหญ่
    - แรงงานในสหรัฐแทบไม่มีเลย แถมราคาแพงและไม่มีคุณภาพ
    จะผลิตอะไรเองก็ต้องใช้เวลาในการพัฒนาทักษะอีกนาน
    -ใครจะมาลงทุนเปิดโรงงานในอเมริกา ในเมื่อค่าแรงจะแพงมากแต่ด้อยทักษะ ง่อยและทำอะไรเองไม่เป็นมานานแล้ว
    - ถ้าแกผลิตเองไม่ได้แต่เที่ยวโขกภาษีจากคู่ค้าชาติอื่น สิ่งของที่คนอเมริกันต้องใช้ จะต้องจ่ายแพงทบทวี แม้กระทั่งกระดาษเช็ดขี้ที่พวกเอ็งเคยชักดิ้นชักงอเมื่อมันขาดตลาดตอนช่วงโควิดระบาด
    - ไอ้เบื้อกพวกนี้คงจำไม่ได้ว่าช่วงโควิด จีนห้ามเรือสินค้าต่างชาติเข้าเทียบท่า จนพวกนี้ไปออกันอยู่กลางทะเลหลายพันลำ เดือดร้อนชิบหายวายป่วง แต่จีนไม่เดือดร้อนอะไร
    - จีนมีประชากร 1400 ล้านคน เขาซื้อขายกันเองก็พอจะอยู่กันได้แล้ว แต่วันนี้จีนแบนไม่ให้หนังฮอลลีวู๊ดเข้าฉายในประเทศ ลูกค้า 1400 ล้านคนหายไปกับตา เดี๋ยวคงตามมาด้วยการแบนแบรนด์อื่นอย่าง KFC McDonald...
    - กลายเป็นว่า คนอเมริกันจะกลายเป็นผู้ใช้ iPhone ที่ต้องจ่ายแพงกว่าใครในโลก เพราะมันผลิตในจีน คิดว่าอินเดียจะพร้อมในการเปิดโรงงานใหม่ในปีนี้หรือ?
    - จีนผลิตไมโครชิพเองแล้ว มีขนาดเล็กกว่า มีประสิทธิภาพและความเร็วเหนือกว่าชิพของตะวันตก
    - จีนมีระบบปฏิบัติการโมบายล์ของจีนเองที่ทำงานได้ดีกว่าแอนดรอยด์เรียกว่า ฮาร์โมนี่
    - จีนพัฒนาระบบเชื่อมต่อดาวเทียมเป๋ยโต่ที่ล้ำหน้ากว่าจีพีเอสของตะวันตกมาก
    - จีนพัฒนาระบบชื่อ Near Link ที่ล้ำหน้าระบบ Bluetooth ไปไกลกว่าหลายเท่า
    - เอไอจีนแซงเอไอของตะวันตกไปแล้วเช่นกัน
    - แสนยานุภาพจีนกำลังแซงตะวันตกทุกนาทีที่ผ่านไป
    - เส้นทางการค้าใหม่ที่เรียก One Belt One Road ครอบคลุมเครือข่ายการค้าที่กว้างขวางที่สุดในโลก โดยที่จีนไม่จำเป็นต้องค้าขายกับอเมริกา
    - ความก้าวหน้าทางโลจิสติกของจีนแซงอเมริกาไปนานแล้ว ในโลกนี้ไม่มีใครมีระบบรถไฟความเร็วสูงที่ดีเท่าจีน
    - ตลาดรถไฟฟ้าในโลก จีนคืออันดับหนึ่ง
    - เทคโนโลยีอวกาศของจีนแซงนาซ่าไปแล้ว จีนมีสถานีอวกาศของตัวเองที่ทันสมัยและก้าวหน้ากว่าชาติตะวันตก ในเวลาเดียวกันนี้พวกเขากำลังสำรวจด้านมืดของดวงจันทร์ที่โลกไม่เคยมองเห็น
    blablablabla......
    .
    ที่ร่ายมานี่ สงครามนี้จะลงเอยยังไง คนไทยก็ซวยอยู่ดี ขอให้รู้ไว้เถอะ
    ยิ่งไปเลียมัน พวกแกก็ยิ่งเจ็บตัวหนัก
    แจกฟรีแล้วยังไม่ได้อะไรแบบเวียตนามเอาไหม
    เจ็บปวดหน่อย มันไม่ซื้อเรา ก็ไปขายคนอื่น
    ก็ให้มันเจ็บปวดบ้าง ด้วยการไม่ซื้อมัน
    เราตัวเล็ก ยักษ์ตีกันย่อมต้องโดนลูกหลง
    ต้องเอาความตัวเล็กมาเป็นความได้เปรียบ
    และเรามีความอุดมสมบูรณ์เป็นทรัพย์สมบัติ
    ใครมีไก่ มีไข่ มีผัก มีปลา คุณรอดแล้ว
    ให้พรุ่งนี้แม่งยิงปรมาณูกันก็เถอะ
    ส่วนไอ้พวกโง่ ไอ้พวกเด็กเมื่อวาน เชื่อแต่เรื่องไร้สาระ
    ไม่ดูแลป้องกันประเทศ ชักนำภัยเข้าสู่ชาติบ้านเมือง
    มึงตายแน่ มีสาเหตุให้มึงตายเป็นร้อยเหตุ
    ในท่ามกลางความตึงเครียดของการขึ้นภาษีของทรัมพ์ต่อชาวโลก โดยเฉพาะกับจีนที่ตามมาด้วยการตอบโต้อย่างถึงพริกถึงขิง เขาพูดกัน "นี่คือสงครามการค้า" เหล่าบรรดาข้าทาสผู้สวามิภักดิ์ใต้อุ้งตีนอเมริกาพากันถ่มถุย "จีนจะต้องย่อยยับในคราวนี้"...... . พวกนี้ไม่ได้สำเหนียกในข้อเท็จจริงที่ว่า ประชากรจีนโพ้นทะเล กระจายไปในโลกตั้งแต่ยุคกลางของยุโรปแล้ว ก่อนยุคการล่าอาณานิคม ประชากรจีนโพ้นทะเลก็อยู่ในทุกแห่งหน ทำงานหนักและขยันขันแข็ง อดทน ไม่เกี่ยงความลำบาก พรสวรรค์ในด้านการค้าขายเป็นที่ประจักษ์เพราะฝังรากลึกอยู่ในทุกดินแดน เส้นทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกยุคโบราณคือเส้นทางสายไหมของจีน พวกเขาไม่ได้ไปด้วยการรุกราน ยึดครองดินแดนต่างๆ ด้วยแสนยานุภาพ แต่พวกเขาแพร่กระจายไปพร้อมกับแรงงานและการค้าขาย และมักตั้งตัวขึ้นมากลายเป็นนักธุรกิจที่มั่งคั่งกว่าชนชาติอื่นอยู่ในทุกทวีป . ก่อนการออกท่องสมุทรไปของพ่อค้าชาวยุโรปและอาหรับ นายพลเรือผู้หนึ่งของจีนนาม เจิ้งเหอ ออกเดินทางสมุทรยาตราด้วยกองเรือมหาสมบัติที่มีขนาดมหึมากว่าสามร้อยลำ ออกค้าขายไปทั่วทุกคาบสมุทร นักวิชาการหลายคนสันนิษฐานว่ากองเรือของเขาอาจไปถึงทวีปอเมริกาก่อนใคร แต่ไม่ว่ามันจะจริงหรือไม่ไม่ใช่เรื่องสำคัญ หลักฐานเชิงประจักษ์ที่ปรากฏในประวัติศาสตร์จีนและประวัติศาสตร์ดินแดนที่เขาเดินทางไปถึงก็ชัดเจนแจ่มแจ้งมากพอถึงความยิ่งใหญ่ของความรู้และพรสวรรค์ทางการค้า . ตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 1405 ในรัชกาลจักรพรรดิหย่งเล่อแห่งราชวงศ์หมิง.. เจิ้งเหอ ออกเดินทางเพื่อทำการค้าและสำรวจโลกทั้งสิ้น 7 ครั้ง ยาวนานและกินเวลาราว 28 ปี ไปถึงดินแดนต่างๆ ราว 37 ประเทศ ท่องมหาสมุทรไปมากกว่า 50,000 กิโลเมตร เรือสำเภา "เป่าฉวน" หรือที่เรียกว่าเรือมหาสมบัติของเขา ต่อขึ้นที่เมืองนานกิง มันมีขนาดราว 400 ฟุต ใหญ่กว่าเรือซานตามาเรียของโคลัมบัสซึ่งยาวแค่ 85 ฟุตถึง 5 เท่า กองเรือของเขาประกอบด้วยเรือขนาดใหญ่ 60 ลำ และเรือขนาดเล็กอีก 255 ลำ ประมาณว่ามีลูกเรือทั้งหมดกว่า 27,870 คน เดินทางผ่านชายฝั่งฟุเกี้ยน ท่องไปยังอาณาจักรต่างๆ เช่น จามปา เสียนหลอ (สยาม) มะละกา สมุทรา ชวา สุมาตรา ลังกา กาลิกัต... ผ่านทะเลอันดามัน เลาะฝั่งทะเลตะวันออกของชมพูทวีปเพื่อซื้อขายเครื่องเทศ ไปจนถึงเปอร์เซียและแอฟริกา หลักฐานปรากฏให้เห็นจากบันทึก ภาพเขียน และจากเครื่องบรรณาการที่เขานำกลับไปถวายจักรพรรดิหย่งเล่อ ซึ่งได้รวมเอา สิงโต เสือดาว นกกระจอกเทศ ม้าลาย และยีราฟ ซึ่งเป็นสัตว์จากดินแดนเหล่านั้น . เจิ้งเหอ เดิมแช่หม่า เป็นมุสลิมเชื้อสายตระกูลขุนนางใหญ่จากอุซเบกที่อาศัยในยูนนาน มีชื่อมุสลิมว่า มูฮัมมัด อับดุลญับบารฺ ต่อมาจักรพรรดิหย่งเล่อพระราชทานแซ่เจิ้ง จากบันทึกประมาณเวลาว่าเขามาถึงอยุธยาราวรัชสมัยสมเด็จพระรามราชาธิราช แต่คนไทยรู้จักในอีกชื่อว่า เจ้าพ่อซำปอกง ซึ่ง ซำปอกง นี้เป็นอีกชื่อหนึ่งของเขา วัดที่มีชื่อว่าวัดซำปอกงหรือวัดพนัญเชิงวรวิหารในจังหวัดอยุธยานี้ เขาเป็นผู้สร้างขึ้น นอกจากนั้นยังพบหลักฐานว่าเจิ้งเหอมีความเลื่อมใสในศาสนาพุทธด้วยการถวายพระสูตรให้แก่วัดเก้าแห่ง แต่กระนั้น เจิ้งเหอเมื่อวายชนม์ก็ยังมีสถานะเป็นมุสลิม เพราะมีสุสานอย่างมุสลิมอยู่บนภูเขาที่นานกิง เขาเสียชีวิตที่อินเดียในปี 1432 เชื่อกันว่า อาจเป็นเพราะทัศนคติที่เปิดกว้างทางศาสนาของเขา จึงทำให้เขาเข้าไปมีส่วนในการยุติความขัดแย้งทางศาสนาระหว่างศาสนาอิสลามของพ่อค้าและศาสนาพื้นถิ่นตามเมืองท่าต่างๆ ที่เขาผ่านไปหลายแห่ง ทำให้เมืองท่าเหล่านั้นยอมรับในความหลากหลายทางศาสนามากขึ้น . เจิ้งเหอแม้จะเป็นขันที แต่พี่ชายของเขาได้ยกลูกชายและลูกสาวให้แก่เขา ปัจจุบันนี้มีทายาทในสกุลเจิ้งของเขาบางส่วนจากครอบครัวของทายาทรุ่นหลังที่ชื่อ เจิ้งชงหลิ่ง ยังอาศัยอยู่ในประเทศไทย พวกเขายังคงเป็นมุสลิม ในหลวงรัชกาลที่หกพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้ เจิ้งชงหลิ่ง ว่า ขุนชวงเลียงฦๅเกียรติ ลูกหลานของเขาใช้นามสกุล วงศ์ลือเกียรติ . รูปปั้นหินที่เห็นจากภาพประกอบ เป็นอนุสาวรีย์ของเจิ้งเหอที่มะละกา ประเทศมาเลเซีย อย่างที่เคยเล่า มีหลักฐานว่าเมืองท่าโบราณแห่งนี้เขาเป็นคนตั้งขึ้น . เรื่องของเจิ้งเหอ ยังถูกหยิบมาค้นคว้าเพิ่มเติมโดยนายพลเรือดำน้ำคนหนึ่งของราชนาวีอังกฤษ ชื่อ Gavin Menzies ที่ซึ่งปกติเรือดำน้ำของเขามีหน้าที่ลาดตระเวณไปทั่วโลกด้วยการดำอย่างเงียบเชียบ แต่คิดว่าเขาคงจะว่างมากนั่นแหละในภาวะที่โลกในช่วงนั้นไม่มีความตึงเครียด เขาจึงเปลี่ยนมาลอยลำวิ่งบนผิวน้ำแล้วเริ่มวิเคราะห์ทัศนียภาพชายฝั่งเทียบกับแผนที่โบราณต่างๆ ซึ่งต่อมามันนำมาด้วยสมมุติฐานของเขาที่เขย่าโลกว่า นักเดินเรือฝรั่งในยุคแรกๆ ของ Maritime เช่น วาสโกเดอกามา เจ้าชายเฮนรี่ โคลัมบัส..ฯ ล้วนเดินเรือด้วยแผนที่ที่คัดลอกมาจากแผนที่ของกองเรือเจิ้งเหอ เขาเขียนหนังสือยาว 500 หน้าชื่อ 1421 และแน่นอนว่า นี่เป็นการทำให้ประวัติศาสตร์การท่องสมุทรของชาวยุโรปเสื่อมเสียไปจากค่านิยมเดิม เกวิน เมนซีส์ถูกถล่มจากนักวิชาการตะวันตกแบบรุมสกรัม แต่น้าแกไม่สน หนังสือของแกติดอันดับขายดีมากอย่างรวดเร็ว และเขายักไหล่ใส่ "พวกคุณจะต่อต้านอย่างไรก็ว่าไป แต่ประชาชนอยู่กับผม..." . กลับไปที่จั่วหัว... อย่างที่เห็น พรสวรรค์ในด้านการค้าของจีนนั้น เป็นที่ประจักษ์ในประวัติศาสตร์โลกนับพันปี ชาติยุโรปลืมข้อเท็จจริงว่านวัตกรรมมากมายที่พวกเขาใช้ มีต้นกำเนิดมาจากจีน โดยเฉพาะแสนยานุภาพที่พวกฝรั่งนำไปใช้พิชิตชนชาติที่อ่อนแอกว่าอย่างเช่น ดินปืน ถ้าไม่มีดินปืน ก็ไม่มีปืน ไม่มีระเบิด นอกจากนั้นพวกตะวันตกยังโขมยความรู้จากจีนทุกวิถีทางตั้งแต่ยุคของมาร์โคโปโล โขมยแม้กระทั่งใบชา และพวกยุโรปรู้ดีว่าไม่อาจเอาชนะจีนอย่างขาวสะอาดได้ จึงใช้กลยุทธอันต่ำช้าด้วยการมอมเมาจีนด้วยฝิ่น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นบทเรียนที่จีนไม่เคยลืม และเตรียมตัวให้พร้อมมาตลอดนับสิบปีของการปิดประเทศเพื่อฟื้นฟู . สงครามการค้าในตอนนี้ ที่ซึ่ง... - จีนถือครองพันธบัตรสหรัฐอยู่ 759,000 ล้านดอลลาร์ - สหรัฐเป็นหนี้จีนอยู่อีกมหาศาลและไม่มีปัญญาใช้คืน - ซัพพลายเชนมากมายของสหรัฐมาจากจีนเป็นส่วนใหญ่ - แรงงานในสหรัฐแทบไม่มีเลย แถมราคาแพงและไม่มีคุณภาพ จะผลิตอะไรเองก็ต้องใช้เวลาในการพัฒนาทักษะอีกนาน -ใครจะมาลงทุนเปิดโรงงานในอเมริกา ในเมื่อค่าแรงจะแพงมากแต่ด้อยทักษะ ง่อยและทำอะไรเองไม่เป็นมานานแล้ว - ถ้าแกผลิตเองไม่ได้แต่เที่ยวโขกภาษีจากคู่ค้าชาติอื่น สิ่งของที่คนอเมริกันต้องใช้ จะต้องจ่ายแพงทบทวี แม้กระทั่งกระดาษเช็ดขี้ที่พวกเอ็งเคยชักดิ้นชักงอเมื่อมันขาดตลาดตอนช่วงโควิดระบาด - ไอ้เบื้อกพวกนี้คงจำไม่ได้ว่าช่วงโควิด จีนห้ามเรือสินค้าต่างชาติเข้าเทียบท่า จนพวกนี้ไปออกันอยู่กลางทะเลหลายพันลำ เดือดร้อนชิบหายวายป่วง แต่จีนไม่เดือดร้อนอะไร - จีนมีประชากร 1400 ล้านคน เขาซื้อขายกันเองก็พอจะอยู่กันได้แล้ว แต่วันนี้จีนแบนไม่ให้หนังฮอลลีวู๊ดเข้าฉายในประเทศ ลูกค้า 1400 ล้านคนหายไปกับตา เดี๋ยวคงตามมาด้วยการแบนแบรนด์อื่นอย่าง KFC McDonald... - กลายเป็นว่า คนอเมริกันจะกลายเป็นผู้ใช้ iPhone ที่ต้องจ่ายแพงกว่าใครในโลก เพราะมันผลิตในจีน คิดว่าอินเดียจะพร้อมในการเปิดโรงงานใหม่ในปีนี้หรือ? - จีนผลิตไมโครชิพเองแล้ว มีขนาดเล็กกว่า มีประสิทธิภาพและความเร็วเหนือกว่าชิพของตะวันตก - จีนมีระบบปฏิบัติการโมบายล์ของจีนเองที่ทำงานได้ดีกว่าแอนดรอยด์เรียกว่า ฮาร์โมนี่ - จีนพัฒนาระบบเชื่อมต่อดาวเทียมเป๋ยโต่ที่ล้ำหน้ากว่าจีพีเอสของตะวันตกมาก - จีนพัฒนาระบบชื่อ Near Link ที่ล้ำหน้าระบบ Bluetooth ไปไกลกว่าหลายเท่า - เอไอจีนแซงเอไอของตะวันตกไปแล้วเช่นกัน - แสนยานุภาพจีนกำลังแซงตะวันตกทุกนาทีที่ผ่านไป - เส้นทางการค้าใหม่ที่เรียก One Belt One Road ครอบคลุมเครือข่ายการค้าที่กว้างขวางที่สุดในโลก โดยที่จีนไม่จำเป็นต้องค้าขายกับอเมริกา - ความก้าวหน้าทางโลจิสติกของจีนแซงอเมริกาไปนานแล้ว ในโลกนี้ไม่มีใครมีระบบรถไฟความเร็วสูงที่ดีเท่าจีน - ตลาดรถไฟฟ้าในโลก จีนคืออันดับหนึ่ง - เทคโนโลยีอวกาศของจีนแซงนาซ่าไปแล้ว จีนมีสถานีอวกาศของตัวเองที่ทันสมัยและก้าวหน้ากว่าชาติตะวันตก ในเวลาเดียวกันนี้พวกเขากำลังสำรวจด้านมืดของดวงจันทร์ที่โลกไม่เคยมองเห็น blablablabla...... . ที่ร่ายมานี่ สงครามนี้จะลงเอยยังไง คนไทยก็ซวยอยู่ดี ขอให้รู้ไว้เถอะ ยิ่งไปเลียมัน พวกแกก็ยิ่งเจ็บตัวหนัก แจกฟรีแล้วยังไม่ได้อะไรแบบเวียตนามเอาไหม เจ็บปวดหน่อย มันไม่ซื้อเรา ก็ไปขายคนอื่น ก็ให้มันเจ็บปวดบ้าง ด้วยการไม่ซื้อมัน เราตัวเล็ก ยักษ์ตีกันย่อมต้องโดนลูกหลง ต้องเอาความตัวเล็กมาเป็นความได้เปรียบ และเรามีความอุดมสมบูรณ์เป็นทรัพย์สมบัติ ใครมีไก่ มีไข่ มีผัก มีปลา คุณรอดแล้ว ให้พรุ่งนี้แม่งยิงปรมาณูกันก็เถอะ ส่วนไอ้พวกโง่ ไอ้พวกเด็กเมื่อวาน เชื่อแต่เรื่องไร้สาระ ไม่ดูแลป้องกันประเทศ ชักนำภัยเข้าสู่ชาติบ้านเมือง มึงตายแน่ มีสาเหตุให้มึงตายเป็นร้อยเหตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 775 มุมมอง 0 รีวิว
  • Evolution
    พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา
    9 พ.ค. 2567
    =====================
    .
    ประเด็นหนึ่งที่ผมมักพูดให้นักเรียนผมฟัง หลายชั้นเรียน หลายคาบวิชา หลายกิจกรรม ต่างกรรมต่างวาระ ในห้วงเวลากว่ายี่สิบปีที่ผ่านมา คือประเด็นที่ว่าด้วยกระบวนการส่งผ่านความรู้
    .
    โลกที่เจริญก้าวหน้ามาได้ทุกวันนี้ เป็นเพราะกระบวนการส่งต่อความรู้นี่แหละ ผ่านรุ่นต่อรุ่นมาหลายพันปี ตั้งแต่ยังไม่มีตัวหนังสือให้ใช้ขีดเขียนบันทึก
    .
    บรรพบุรุษของมนุษย์เซเปี้ยนส์รุ่นแรกๆ ที่อพยพจากแอฟริกาเมื่อราวแสนกว่าปีก่อน นักวิชาการเชื่อกันว่าพวกเขามีภาษาพูดของตนเองแล้ว ก่อนจะอพยพไปยังดินแดนส่วนอื่นๆ ในโลก ที่จุดนั้น กระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบก็เริ่มต้นขึ้น ลองถอยไปคิดถึงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญก่อนหน้านั้นที่ทำให้มนุษย์โบราณรอดจากการสูญพันธุ์มาได้ นั่นคือเมื่อพวกเขาค้นพบการจุดไฟเป็นครั้งแรก จะด้วยวิธีการปั่นให้เสียดสีกันของไม้ หรือการใช้หินกระเทาะกันก็ตาม สิ่งเหล่านี้ต้องสอนกันเพื่อให้ทำได้ถูกต้อง ปฐมบทของเทคโนโลยีได้บังเกิดขึ้น เพื่อให้อยู่รอด ลูกหลานพวกเขาจะต้องเรียนรู้วิธีการพวกนี้
    .
    เครื่องมือมากมายเริ่มถูกคิดค้นเรื่อยมา นับแต่ขวานหิน หลาวไม้ ฯลฯ เมื่อถึงยุคที่เซเปี้ยนส์พ่อคนฉลาดปรากฏขึ้นบนโลก พวกเขามีเครื่องนุ่งห่มป้องกันความหนาว รู้จักว่าอะไรเป็นยา อะไรเป็นพิษ สังเกตุธรรมชาติและฤดูกาล สังเกตุพฤติกรรมสัตว์และวงจรของมัน จนแม้กระทั่งก้าวหน้าจนสามารถหลอมโลหะ..
    .
    แน่นอนว่าในบรรดาความรู้ทั้งหลายที่ค้นพบ ภาษาคือสิ่งที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด มันคือเครื่องมือสื่อสารที่ทำให้มนุษย์ทำงานเป็นทีมได้ หากไม่มีภาษามนุษย์จะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าสัตว์ใหญ่ขนาดนี้ต้องมีการประสานงานสั่งการในการเข้าโจมตีเป็นทีม ผลพวงก็อย่างที่เราได้รู้ พวกมันถูกล่าจนสูญพันธ์ไปหมด เห็นได้ว่าการทำงานเป็นทีมของมนุษย์โบราณพวกนี้มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง เมื่อมีภาษา การเรียนการสอนในโลกครั้งแรกก็เริ่มขึ้น เมื่อมีความรู้ จากนี้พวกเขาจะพร้อมไปพิชิตโลก
    .
    ทั้งสิ้นทั้งปวง นับแต่เทคโนโลยีแรกเกิดขึ้น การจุดไฟ การทำเครื่องมือ แทกติคในการล่า ข้อมูลเกี่ยวกับพืช สัตว์ อาหาร ฤดูกาล อันตรายต่างๆ ฯลฯ จะถูกถ่ายทอดจากคนรุ่นก่อนไปสู่คนรุ่นใหม่ ทักษะต่างๆ ในชีวิต การแก้ปัญหาและการเอาตัวรอดในสถานะการณ์ต่างๆ จะถูกถ่ายทอดอย่างใกล้ชิดจากคนรุ่นก่อนที่มีประสบการณ์โชกโชนมาแล้ว เช่น จากพ่อ จากปู่ ไปสู่ลูก สู่หลาน ไม่ใช่แค่การบอกเล่าสั่งสอน พวกเขาจะคอยเฝ้าดูให้คนหนุ่มสาวเหล่านั้นได้ฝึกฝนปฏิบัติสิ่งต่างๆ ตามคำแนะนำ เฝ้าประกบตั้งแต่การล่าสัตว์ตัวแรก ไปถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือพิธีกรรมต่างๆ จนกระทั่งมีความพร้อมที่จะทำสิ่งเหล่านั้นได้โดยลำพังและสอนต่อแก่ผู้อื่น พัฒนาจนมีทักษะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการล่า หรือความเข้าใจในเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญ อันจะนำพาให้ชีวิตรอดและเติบโตก้าวหน้าต่อไป จากปฐมบทนี้ มนุษย์สั่งสมความรู้แล้วส่งต่อมาเรื่อย แตกแขนงเป็นสรรพวิชาความรู้ต่างๆ มากมายเหลือคณานับ
    .
    ถ้าเราลองมาพิจารณาดูสักมุมมองหนึ่ง เช่นด้านศิลปะ ที่จุดแรกของการสร้างสรรค์ นึกภาพว่าเมื่อครูคนแรกได้ค้นพบว่า ดินบางชนิดมีคุณสมบัติที่จะนำมาใช้เป็นสีในการวาดภาพได้ ครูคนหนึ่งค้นพบเทคนิคแรกของ stencil ด้วยการเอาดินพวกนั้นผสมน้ำอมเข้าไว้ในปากแล้วพ่นใส่ผ่านมือทำให้เกิดเป็นภาพรอยมือปรากฏบนผนังถ้ำ บางคนใช้นิ้วมือจิ้มดินสีเขียนเป็นภาพคนและสัตว์ แน่นอนว่ามีการสอนต่อกัน เราได้เห็นภาพเขียนโบราณที่ใช้เทคนิคเดียวกันนี้ในหลายแห่งทั่วโลก จุดเริ่มต้นนี้ หากไม่เกิดขึ้น จะไม่มีการประดิษฐ์พู่กัน หมึก และสีมากมายหลายชนิดขึ้นในโลก ซึ่งในที่สุดนำไปสู่การสร้างสรรค์เครื่องมือ วิธีการอันน่าทึ่งต่างๆ และแนวคิดในการสร้างสรรค์อันน่าอัศจรรย์ของศิลปะในโลก
    .
    กระบวนการเรียนรู้และส่งต่อนั้น มันมีลำดับขั้นที่เป็นผลต่อเนื่อง เราไม่อาจปฏิเสธข้อเท็จจริงของปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดการพัฒนาเหล่านั้นได้ เมื่อครูศิลปะคนแรกของโลกเรียนรู้ สมมุติเล่นๆ ให้เห็นภาพ ลองยกตัวอย่างการค้นพบดินสอว่าเป็นเครื่องมือศิลปะอันแรกอย่างหนึ่ง ครูคนแรกผู้นี้อาจใช้เวลาทั้งชีวิตของเขาในการค้นหาวัสดุหลายอย่างที่จะนำมาขีดเขียนให้เป็นเส้นสายสีดำเช่นนั้นได้ เขาจะต้องทดลองถ่านหลายชนิด รวมทั้งจะต้องแก้ปัญหาว่าถ่านชนิดที่เอามาใช้ จะทำอย่างไรไม่ให้เลอะมือ ไม่เปราะและหักง่ายเกินไป ลองคิดจินตนาการว่า เมื่อแรกเริ่มมีดินสอนั้น ผู้ที่คิดค้นมันขึ้นมาน่าจะต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะได้ดินสอหนึ่งแท่ง คนยุคหลังที่เกิดขึ้นมาก็มีดินสอรออยู่ในมือแล้ว ย่อมไม่รู้ว่าคนที่คิดค้นมันต้องผ่านอุปสรรคอะไรมา
    .
    นี่แค่พูดถึงเครื่องมือ แต่เมื่อพูดถึงว่าครูศิลปะคนแรกที่นำดินสอมาเขียนรูป เขายังจะต้องฝึกฝนทักษะในการที่จะควบคุมดินสอนั้นให้เกิดเส้นสายลวดลายต่างๆ ต้องเข้าใจผลที่เกิดจากดินสอที่ถูกเหลาจนคม ผลจากการที่ดินสอทู่ลง ผลจากการตะแคงดินสอใช้ด้านข้างถูให้เกิดแถบที่อ่อนนุ่มกว่า.. กระบวนการทั้งหลายในการพัฒนาทักษะของการใช้ดินสอเช่นนี้ เมื่อผ่านห้วงเวลาทั้งชีวิตของครูศิลปะผู้นี้ อาจหลอมรวมเวลาหลายปี เมื่อครูผู้นี้เริ่มสอน เขาอาจใช้ชีวิตในการวาดรูปด้วยดินสอมาเป็นเวลายี่สิบปี เนื่องจากเขาคือครูคนแรกอย่างที่เราสมมุติ ทั้งโลกและตัวเขาไม่มีต้นทุนมาก่อน ยี่สิบปีของเขาคือเวลาที่เริ่มต้นสั่งสมของมนุษยชาติ แต่เมื่อเขาเริ่มสอนให้แก่ศิษย์คนแรก ประสบการณ์ ความรู้ และทักษะที่สั่งสมมาของเขาตลอดยี่สิบปี สามารถถ่ายทอดให้แก่ศิษย์ในเวลาไม่กี่ปี ถ้าเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยทุกวันนี้ ก็จะเห็นว่าอาจารย์ไม่ว่าจะมีวัยวุฒิคุณวุฒิเท่าใด มีหน้าที่ที่จะถ่ายทอดสิ่งที่เขารู้ให้แก่ศิษย์ภายในเวลาสั้นๆ เพียงแค่สี่ห้าปี
    .
    กระบวนการส่งต่อจึงสำคัญเช่นนี้ อย่างที่สมมุติตัวอย่าง ศิษย์ใช้เวลาสี่ปีในการเรียนรู้ทักษะความรู้ยี่สิบปีของครูคนก่อน เขาไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก ครูคั้นเอาแก่นที่บ่มเพาะมาแล้วมาสอนให้ จากนั้น.. ถ้าไม่ใช่ศิษย์ที่ล้มเหลว เขาก็คงจะใช้ช่วงเวลาในชีวิตของเขาต่อไปในการหาความรู้เพิ่มเติมต่อยอดจากความรู้ยี่สิบปีของครูคนก่อนที่ส่งผ่านมาให้เขา เมื่อถึงจุดที่เขาเริ่มเป็นครูให้กับคนรุ่นต่อจากเขาบ้าง เขาอาจมีประสบการณ์ความรู้และทักษะของเขาเพิ่มเติมมาอีกยี่สิบปี รวมกับความรู้ที่รับมาจากครูคนแรกยี่สิบปี เท่ากับสี่สิบปี ดังนั้นศิษย์ที่มาเรียนกับเขา จะใช้เวลาแค่สี่ปีในการเรียนความรู้ที่สั่งสมมาสี่สิบปี เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ในแต่ละรุ่นก็จะทบทวีเช่นนี้เป็นอัตราทวีคูณ เร็วขึ้นจนแต่ละครั้งเป็นก้าวกระโดด จนกระทั่งมนุษย์ไปอวกาศ..
    .
    ลองคิดดูว่า หากปราศจากการส่งต่อความรู้เช่นนี้ ถ้าคนรุ่นใหม่แต่ละรุ่น ต้องไปค้นหาเรียนรู้นับจากศูนย์ด้วยตัวเอง มนุษย์คงไม่พัฒนามาจนถึงจุดที่ยืนอยู่ในทุกวันนี้ ซึ่งยืนหยัดอย่างมั่นคงอยู่บนฐานความรู้ที่สั่งสมและส่งผ่านมานับพันปี ไม่ใช่ว่าแต่ละคนจะเกิดขึ้นมาแล้วรู้ทุกอย่างได้เองโดยไม่ต้องเรียน หรือความรู้จะผุดโผล่ออกมาเองได้จากอากาศธาตุ
    .
    ด้วยกระบวนการส่งต่อความรู้เช่นนี้นี่เอง จากวันที่มนุษย์มีภาษาและประสานงานกันล่าแมมมอธ มาถึงวันนี้มนุษย์สามารถประดิษฐ์ควอนตัมคอมพิวเตอร์ได้ ด้วยสรรพความรู้ที่สั่งสมสั่งสอนกันมาเรื่อยๆ นับพันปี โลกจึงก่อเกิดเป็นศาสตร์วิทยาการมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้นผมจึงพูดบ่อยๆ กับนักเรียนของผมว่า การสอน การถ่ายทอดความรู้ ที่จริงไม่ใช่คุณธรรมอันยิ่งใหญ่อันใด แต่เป็นหน้าที่ของมนุษย์อย่างหนึ่งที่จะต้องกระทำด้วยความใส่ใจยิ่ง แม้ท่านมิได้มีอาชีพเป็นครูโดยตรง ท่านก็ควรจะมีคุณสมบัติอันมีประโยชน์บางอย่างที่สั่งสมมาพอจะสอนได้ อย่างน้อยก็คือการอบรมบุตรหลานให้เป็นมนุษย์ที่มีคุณภาพแก่โลก ภาระนี้จะทำให้มนุษย์ยังคงก้าวหน้าพัฒนาต่อไป ทั้งด้านความรู้ สติปัญญา และระดับของจิตใจ
    .
    จริงอยู่ที่ความแก่ ความเก่า เป็นสภาวะทางสังขารอันไม่เที่ยงแท้
    แต่คนฉลาดอย่างเช่นไอน์สไตน์ แม้เมื่อชราลงจนอาจไม่มีแรงก้าวเดิน
    เขาก็จะเสียชีวิตลงในขณะที่ความเฉลียวฉลาดของเขายังคงอยู่กับเขาจนวินาทีสุดท้าย
    คนแก่ ไม่ได้แปลว่า คนโง่ เช่นเดียวกับ คนหนุ่ม ไม่ได้แปลว่า ฉลาด
    โบราณว่า ขิงแก่ย่อมเผ็ดร้อน ฉันใดฉันนั้น
    .
    บรรดาวิทยาการสมัยใหม่ที่พวกท่านได้เสพได้ใช้ได้ปรนเปรอในวันนี้
    ปฏิเสธไม่ได้ว่าสร้างมาจากการถากถางค้นพบของคนรุ่นก่อนท่านทั้งนั้น
    ลองนึกดูว่า หากท่านไปเกิดอยู่บนเกาะร้างสักแห่งที่ไม่มีใครให้ความรู้
    ท่านจะเติบโตพัฒนาขึ้นมาจนกลายเป็นศิลปินหรือผู้มีชื่อเสียงได้หรือไม่
    ตัวท่านเองนอกจากต้องสำนึกแล้ว ก็จะต้องถามตัวเองด้วยว่า
    ท่านจะพึงกระทำหน้าที่ของมนุษย์ในการจะส่งความรู้ให้รุ่นต่อไปหรือไม่
    และได้ทำคุณประโยชน์ใดให้แก่มนุษย์รุ่นต่อจากท่านบ้าง
    ท่านได้ต่อยอดความรู้นับพันปีที่ได้งอกเงยอยู่ในตัวท่านอย่างไร
    เพื่อที่ว่าวันนึงเมื่อท่านกลายเป็น คนแก่อีกคนหนึ่ง
    คนรุ่นใหม่จะได้รำลึกถึงท่านในคุณูปการที่ท่านได้ฝากไว้แก่โลกนี้
    .
    .
    Evolution พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา 9 พ.ค. 2567 ===================== . ประเด็นหนึ่งที่ผมมักพูดให้นักเรียนผมฟัง หลายชั้นเรียน หลายคาบวิชา หลายกิจกรรม ต่างกรรมต่างวาระ ในห้วงเวลากว่ายี่สิบปีที่ผ่านมา คือประเด็นที่ว่าด้วยกระบวนการส่งผ่านความรู้ . โลกที่เจริญก้าวหน้ามาได้ทุกวันนี้ เป็นเพราะกระบวนการส่งต่อความรู้นี่แหละ ผ่านรุ่นต่อรุ่นมาหลายพันปี ตั้งแต่ยังไม่มีตัวหนังสือให้ใช้ขีดเขียนบันทึก . บรรพบุรุษของมนุษย์เซเปี้ยนส์รุ่นแรกๆ ที่อพยพจากแอฟริกาเมื่อราวแสนกว่าปีก่อน นักวิชาการเชื่อกันว่าพวกเขามีภาษาพูดของตนเองแล้ว ก่อนจะอพยพไปยังดินแดนส่วนอื่นๆ ในโลก ที่จุดนั้น กระบวนการเรียนรู้อย่างเป็นระบบก็เริ่มต้นขึ้น ลองถอยไปคิดถึงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญก่อนหน้านั้นที่ทำให้มนุษย์โบราณรอดจากการสูญพันธุ์มาได้ นั่นคือเมื่อพวกเขาค้นพบการจุดไฟเป็นครั้งแรก จะด้วยวิธีการปั่นให้เสียดสีกันของไม้ หรือการใช้หินกระเทาะกันก็ตาม สิ่งเหล่านี้ต้องสอนกันเพื่อให้ทำได้ถูกต้อง ปฐมบทของเทคโนโลยีได้บังเกิดขึ้น เพื่อให้อยู่รอด ลูกหลานพวกเขาจะต้องเรียนรู้วิธีการพวกนี้ . เครื่องมือมากมายเริ่มถูกคิดค้นเรื่อยมา นับแต่ขวานหิน หลาวไม้ ฯลฯ เมื่อถึงยุคที่เซเปี้ยนส์พ่อคนฉลาดปรากฏขึ้นบนโลก พวกเขามีเครื่องนุ่งห่มป้องกันความหนาว รู้จักว่าอะไรเป็นยา อะไรเป็นพิษ สังเกตุธรรมชาติและฤดูกาล สังเกตุพฤติกรรมสัตว์และวงจรของมัน จนแม้กระทั่งก้าวหน้าจนสามารถหลอมโลหะ.. . แน่นอนว่าในบรรดาความรู้ทั้งหลายที่ค้นพบ ภาษาคือสิ่งที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุด มันคือเครื่องมือสื่อสารที่ทำให้มนุษย์ทำงานเป็นทีมได้ หากไม่มีภาษามนุษย์จะไม่สามารถล่าสัตว์ใหญ่อย่างแมมมอธได้ เพราะการล่าสัตว์ใหญ่ขนาดนี้ต้องมีการประสานงานสั่งการในการเข้าโจมตีเป็นทีม ผลพวงก็อย่างที่เราได้รู้ พวกมันถูกล่าจนสูญพันธ์ไปหมด เห็นได้ว่าการทำงานเป็นทีมของมนุษย์โบราณพวกนี้มีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง เมื่อมีภาษา การเรียนการสอนในโลกครั้งแรกก็เริ่มขึ้น เมื่อมีความรู้ จากนี้พวกเขาจะพร้อมไปพิชิตโลก . ทั้งสิ้นทั้งปวง นับแต่เทคโนโลยีแรกเกิดขึ้น การจุดไฟ การทำเครื่องมือ แทกติคในการล่า ข้อมูลเกี่ยวกับพืช สัตว์ อาหาร ฤดูกาล อันตรายต่างๆ ฯลฯ จะถูกถ่ายทอดจากคนรุ่นก่อนไปสู่คนรุ่นใหม่ ทักษะต่างๆ ในชีวิต การแก้ปัญหาและการเอาตัวรอดในสถานะการณ์ต่างๆ จะถูกถ่ายทอดอย่างใกล้ชิดจากคนรุ่นก่อนที่มีประสบการณ์โชกโชนมาแล้ว เช่น จากพ่อ จากปู่ ไปสู่ลูก สู่หลาน ไม่ใช่แค่การบอกเล่าสั่งสอน พวกเขาจะคอยเฝ้าดูให้คนหนุ่มสาวเหล่านั้นได้ฝึกฝนปฏิบัติสิ่งต่างๆ ตามคำแนะนำ เฝ้าประกบตั้งแต่การล่าสัตว์ตัวแรก ไปถึงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมหรือพิธีกรรมต่างๆ จนกระทั่งมีความพร้อมที่จะทำสิ่งเหล่านั้นได้โดยลำพังและสอนต่อแก่ผู้อื่น พัฒนาจนมีทักษะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการล่า หรือความเข้าใจในเรื่องอื่นๆ ที่สำคัญ อันจะนำพาให้ชีวิตรอดและเติบโตก้าวหน้าต่อไป จากปฐมบทนี้ มนุษย์สั่งสมความรู้แล้วส่งต่อมาเรื่อย แตกแขนงเป็นสรรพวิชาความรู้ต่างๆ มากมายเหลือคณานับ . ถ้าเราลองมาพิจารณาดูสักมุมมองหนึ่ง เช่นด้านศิลปะ ที่จุดแรกของการสร้างสรรค์ นึกภาพว่าเมื่อครูคนแรกได้ค้นพบว่า ดินบางชนิดมีคุณสมบัติที่จะนำมาใช้เป็นสีในการวาดภาพได้ ครูคนหนึ่งค้นพบเทคนิคแรกของ stencil ด้วยการเอาดินพวกนั้นผสมน้ำอมเข้าไว้ในปากแล้วพ่นใส่ผ่านมือทำให้เกิดเป็นภาพรอยมือปรากฏบนผนังถ้ำ บางคนใช้นิ้วมือจิ้มดินสีเขียนเป็นภาพคนและสัตว์ แน่นอนว่ามีการสอนต่อกัน เราได้เห็นภาพเขียนโบราณที่ใช้เทคนิคเดียวกันนี้ในหลายแห่งทั่วโลก จุดเริ่มต้นนี้ หากไม่เกิดขึ้น จะไม่มีการประดิษฐ์พู่กัน หมึก และสีมากมายหลายชนิดขึ้นในโลก ซึ่งในที่สุดนำไปสู่การสร้างสรรค์เครื่องมือ วิธีการอันน่าทึ่งต่างๆ และแนวคิดในการสร้างสรรค์อันน่าอัศจรรย์ของศิลปะในโลก . กระบวนการเรียนรู้และส่งต่อนั้น มันมีลำดับขั้นที่เป็นผลต่อเนื่อง เราไม่อาจปฏิเสธข้อเท็จจริงของปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดการพัฒนาเหล่านั้นได้ เมื่อครูศิลปะคนแรกของโลกเรียนรู้ สมมุติเล่นๆ ให้เห็นภาพ ลองยกตัวอย่างการค้นพบดินสอว่าเป็นเครื่องมือศิลปะอันแรกอย่างหนึ่ง ครูคนแรกผู้นี้อาจใช้เวลาทั้งชีวิตของเขาในการค้นหาวัสดุหลายอย่างที่จะนำมาขีดเขียนให้เป็นเส้นสายสีดำเช่นนั้นได้ เขาจะต้องทดลองถ่านหลายชนิด รวมทั้งจะต้องแก้ปัญหาว่าถ่านชนิดที่เอามาใช้ จะทำอย่างไรไม่ให้เลอะมือ ไม่เปราะและหักง่ายเกินไป ลองคิดจินตนาการว่า เมื่อแรกเริ่มมีดินสอนั้น ผู้ที่คิดค้นมันขึ้นมาน่าจะต้องผ่านอะไรมาบ้างกว่าจะได้ดินสอหนึ่งแท่ง คนยุคหลังที่เกิดขึ้นมาก็มีดินสอรออยู่ในมือแล้ว ย่อมไม่รู้ว่าคนที่คิดค้นมันต้องผ่านอุปสรรคอะไรมา . นี่แค่พูดถึงเครื่องมือ แต่เมื่อพูดถึงว่าครูศิลปะคนแรกที่นำดินสอมาเขียนรูป เขายังจะต้องฝึกฝนทักษะในการที่จะควบคุมดินสอนั้นให้เกิดเส้นสายลวดลายต่างๆ ต้องเข้าใจผลที่เกิดจากดินสอที่ถูกเหลาจนคม ผลจากการที่ดินสอทู่ลง ผลจากการตะแคงดินสอใช้ด้านข้างถูให้เกิดแถบที่อ่อนนุ่มกว่า.. กระบวนการทั้งหลายในการพัฒนาทักษะของการใช้ดินสอเช่นนี้ เมื่อผ่านห้วงเวลาทั้งชีวิตของครูศิลปะผู้นี้ อาจหลอมรวมเวลาหลายปี เมื่อครูผู้นี้เริ่มสอน เขาอาจใช้ชีวิตในการวาดรูปด้วยดินสอมาเป็นเวลายี่สิบปี เนื่องจากเขาคือครูคนแรกอย่างที่เราสมมุติ ทั้งโลกและตัวเขาไม่มีต้นทุนมาก่อน ยี่สิบปีของเขาคือเวลาที่เริ่มต้นสั่งสมของมนุษยชาติ แต่เมื่อเขาเริ่มสอนให้แก่ศิษย์คนแรก ประสบการณ์ ความรู้ และทักษะที่สั่งสมมาของเขาตลอดยี่สิบปี สามารถถ่ายทอดให้แก่ศิษย์ในเวลาไม่กี่ปี ถ้าเปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยทุกวันนี้ ก็จะเห็นว่าอาจารย์ไม่ว่าจะมีวัยวุฒิคุณวุฒิเท่าใด มีหน้าที่ที่จะถ่ายทอดสิ่งที่เขารู้ให้แก่ศิษย์ภายในเวลาสั้นๆ เพียงแค่สี่ห้าปี . กระบวนการส่งต่อจึงสำคัญเช่นนี้ อย่างที่สมมุติตัวอย่าง ศิษย์ใช้เวลาสี่ปีในการเรียนรู้ทักษะความรู้ยี่สิบปีของครูคนก่อน เขาไม่ต้องเสียเวลาลองผิดลองถูก ครูคั้นเอาแก่นที่บ่มเพาะมาแล้วมาสอนให้ จากนั้น.. ถ้าไม่ใช่ศิษย์ที่ล้มเหลว เขาก็คงจะใช้ช่วงเวลาในชีวิตของเขาต่อไปในการหาความรู้เพิ่มเติมต่อยอดจากความรู้ยี่สิบปีของครูคนก่อนที่ส่งผ่านมาให้เขา เมื่อถึงจุดที่เขาเริ่มเป็นครูให้กับคนรุ่นต่อจากเขาบ้าง เขาอาจมีประสบการณ์ความรู้และทักษะของเขาเพิ่มเติมมาอีกยี่สิบปี รวมกับความรู้ที่รับมาจากครูคนแรกยี่สิบปี เท่ากับสี่สิบปี ดังนั้นศิษย์ที่มาเรียนกับเขา จะใช้เวลาแค่สี่ปีในการเรียนความรู้ที่สั่งสมมาสี่สิบปี เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ในแต่ละรุ่นก็จะทบทวีเช่นนี้เป็นอัตราทวีคูณ เร็วขึ้นจนแต่ละครั้งเป็นก้าวกระโดด จนกระทั่งมนุษย์ไปอวกาศ.. . ลองคิดดูว่า หากปราศจากการส่งต่อความรู้เช่นนี้ ถ้าคนรุ่นใหม่แต่ละรุ่น ต้องไปค้นหาเรียนรู้นับจากศูนย์ด้วยตัวเอง มนุษย์คงไม่พัฒนามาจนถึงจุดที่ยืนอยู่ในทุกวันนี้ ซึ่งยืนหยัดอย่างมั่นคงอยู่บนฐานความรู้ที่สั่งสมและส่งผ่านมานับพันปี ไม่ใช่ว่าแต่ละคนจะเกิดขึ้นมาแล้วรู้ทุกอย่างได้เองโดยไม่ต้องเรียน หรือความรู้จะผุดโผล่ออกมาเองได้จากอากาศธาตุ . ด้วยกระบวนการส่งต่อความรู้เช่นนี้นี่เอง จากวันที่มนุษย์มีภาษาและประสานงานกันล่าแมมมอธ มาถึงวันนี้มนุษย์สามารถประดิษฐ์ควอนตัมคอมพิวเตอร์ได้ ด้วยสรรพความรู้ที่สั่งสมสั่งสอนกันมาเรื่อยๆ นับพันปี โลกจึงก่อเกิดเป็นศาสตร์วิทยาการมากมายนับไม่ถ้วน ดังนั้นผมจึงพูดบ่อยๆ กับนักเรียนของผมว่า การสอน การถ่ายทอดความรู้ ที่จริงไม่ใช่คุณธรรมอันยิ่งใหญ่อันใด แต่เป็นหน้าที่ของมนุษย์อย่างหนึ่งที่จะต้องกระทำด้วยความใส่ใจยิ่ง แม้ท่านมิได้มีอาชีพเป็นครูโดยตรง ท่านก็ควรจะมีคุณสมบัติอันมีประโยชน์บางอย่างที่สั่งสมมาพอจะสอนได้ อย่างน้อยก็คือการอบรมบุตรหลานให้เป็นมนุษย์ที่มีคุณภาพแก่โลก ภาระนี้จะทำให้มนุษย์ยังคงก้าวหน้าพัฒนาต่อไป ทั้งด้านความรู้ สติปัญญา และระดับของจิตใจ . จริงอยู่ที่ความแก่ ความเก่า เป็นสภาวะทางสังขารอันไม่เที่ยงแท้ แต่คนฉลาดอย่างเช่นไอน์สไตน์ แม้เมื่อชราลงจนอาจไม่มีแรงก้าวเดิน เขาก็จะเสียชีวิตลงในขณะที่ความเฉลียวฉลาดของเขายังคงอยู่กับเขาจนวินาทีสุดท้าย คนแก่ ไม่ได้แปลว่า คนโง่ เช่นเดียวกับ คนหนุ่ม ไม่ได้แปลว่า ฉลาด โบราณว่า ขิงแก่ย่อมเผ็ดร้อน ฉันใดฉันนั้น . บรรดาวิทยาการสมัยใหม่ที่พวกท่านได้เสพได้ใช้ได้ปรนเปรอในวันนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าสร้างมาจากการถากถางค้นพบของคนรุ่นก่อนท่านทั้งนั้น ลองนึกดูว่า หากท่านไปเกิดอยู่บนเกาะร้างสักแห่งที่ไม่มีใครให้ความรู้ ท่านจะเติบโตพัฒนาขึ้นมาจนกลายเป็นศิลปินหรือผู้มีชื่อเสียงได้หรือไม่ ตัวท่านเองนอกจากต้องสำนึกแล้ว ก็จะต้องถามตัวเองด้วยว่า ท่านจะพึงกระทำหน้าที่ของมนุษย์ในการจะส่งความรู้ให้รุ่นต่อไปหรือไม่ และได้ทำคุณประโยชน์ใดให้แก่มนุษย์รุ่นต่อจากท่านบ้าง ท่านได้ต่อยอดความรู้นับพันปีที่ได้งอกเงยอยู่ในตัวท่านอย่างไร เพื่อที่ว่าวันนึงเมื่อท่านกลายเป็น คนแก่อีกคนหนึ่ง คนรุ่นใหม่จะได้รำลึกถึงท่านในคุณูปการที่ท่านได้ฝากไว้แก่โลกนี้ . .
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 554 มุมมอง 0 รีวิว
  • จิตเมตตาพาธรรมนำ
    ได้ดื่มด่ำกำลังธรรม
    จิตเมตตาพาบาปกรรม
    นำจิตแย่แพ้ภัยตน

    ปรารถนาพาดีงาม
    ทุกโมงยามตามดั้นด้น
    สัจธรรมนำหลุดพ้น
    ไม่สับสนหนทางธรรม

    ธรรมอารมณ์กลมกลืนจิต
    แนบสนิทคิดพูดทำ
    อนัตตาพาดื่มด่ำ
    เตือนตนย้ำธรรมความจริง

    จริงสมมุติผุดเวียนวน
    จิตสับสนจนยุ่งยิ่ง
    ยึดอัตตาพาสุงสิง
    มีทุกข์จริงยิ่งทวี

    ปรารถนาพาดีมา
    ธรรมนำพาอาศัยมี
    เชื้อกิเลสเหตุไม่ดี
    พาคลุกคลีมีแต่แย่

    มีกิเลสเหตุดั่งไฟ
    อัตตาใช้ได้เชื้อแน่
    เชื้อกับไฟไม่เหลียวแล
    มีแต่ไหม้ได้เดือดร้อน

    ดับกิเลสเหตุฟืนไฟ
    อย่าให้ไหม้ไร้ทางจร
    มีชนวนล้วนของร้อน
    จิตสั่นคลอนพรไม่ดี

    ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง สวัสดีมงคลชัย

    นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    จิตเมตตาพาธรรมนำ ได้ดื่มด่ำกำลังธรรม จิตเมตตาพาบาปกรรม นำจิตแย่แพ้ภัยตน ปรารถนาพาดีงาม ทุกโมงยามตามดั้นด้น สัจธรรมนำหลุดพ้น ไม่สับสนหนทางธรรม ธรรมอารมณ์กลมกลืนจิต แนบสนิทคิดพูดทำ อนัตตาพาดื่มด่ำ เตือนตนย้ำธรรมความจริง จริงสมมุติผุดเวียนวน จิตสับสนจนยุ่งยิ่ง ยึดอัตตาพาสุงสิง มีทุกข์จริงยิ่งทวี ปรารถนาพาดีมา ธรรมนำพาอาศัยมี เชื้อกิเลสเหตุไม่ดี พาคลุกคลีมีแต่แย่ มีกิเลสเหตุดั่งไฟ อัตตาใช้ได้เชื้อแน่ เชื้อกับไฟไม่เหลียวแล มีแต่ไหม้ได้เดือดร้อน ดับกิเลสเหตุฟืนไฟ อย่าให้ไหม้ไร้ทางจร มีชนวนล้วนของร้อน จิตสั่นคลอนพรไม่ดี ขอให้พบธรรมความดีมีสุข ยิ่งทำยิ่งเจริญรุ่งเรือง สวัสดีมงคลชัย นิพพานะ ปัจจะโยโหตุ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • **ดินแดนเนรเทศจีนโบราณ**

    สวัสดีค่ะ สองสัปดาห์ที่แล้วเราคุยเรื่องการไถ่โทษเนรเทศ วันนี้เลยมาคุยกันต่อเกี่ยวกับเกร็ดความรู้จากเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> ว่าด้วยดินแดนเนรเทศ

    จิ่วฉงจื่อฯ เป็นเรื่องราวในราชวงศ์สมมุติแต่เสื้อผ้าและสภาพสังคมอิงตามสมัยหมิง และในเรื่องนี้ บุรุษในครอบครัวสกุลเจี่ยงของติ้งกั๋วกงเจี่ยงเหมยซุน (ลุงของพระเอก) ถูกเนรเทศไปยังพื้นที่ที่มีชื่อว่า ‘เถียหลิ่งเว่ย’ ซึ่งเป็นหนึ่งในดินแดนเนรเทศยอดนิยมทางเหนือในสมัยนั้น

    แรกเริ่มเลยในสมัยบรรพกาล หากมีการเนรเทศจะนิยมส่งไปพื้นที่โยวโจว (แถบปักกิ่งปัจจุบัน) ต่อมามีการใช้พื้นที่อื่น ซึ่งโดยหลักการคือต้องเป็นพื้นที่ทุรกันดารและด้อยพัฒนา ไม่ว่าจะด้วยสภาพดินฟ้าอากาศหรือภูมิประเทศ ในสมัยฮั่นนิยมใช้พื้นที่แถบภูเขาทางตะวันตกในมณฑลเสฉวน เนื่องจากหนาวเย็น ไกลจากเส้นทางการค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจ อีกทั้งภูมิประเทศเป็นเขาสูงทำให้ง่ายต่อการกักบริเวณนักโทษ ต่อมาเมื่อมีการขยายดินแดนและพัฒนาเศรษฐกิจลงใต้ ก็ยิ่งส่งนักโทษเนรเทศลงใต้ไปไกลยิ่งขึ้นโดยมีพื้นที่ยอดฮิตคือแถบหลิ่งหนานและไห่หนาน (กวางเจา กวางซี ฯลฯ) และไกลลงไปถึงเวียดนาม ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ห่างไกลความเจริญและมีพายุฝนและสภาพอากาศร้อนชื้น ง่ายต่อการล้มป่วย นับว่าทุรกันดารไม่แพ้กัน จวบจนยุคถังและซ่งก็ยังนิยมใช้พื้นที่ติดชายแดนทางตอนใต้นี้ (ดูรูปประกอบขวาบน)

    ส่วนพื้นที่ทางเหนือที่นิยมใช้เป็นดินแดนเนรเทศนั้น คือพื้นที่ทหารทางชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีอากาศหนาวมากและชีวิตความเป็นอยู่ลำเค็ญ อีกทั้งการเดินทางไปมาก็ยากลำบาก มักถูกเรียกรวมว่า ‘ขู่หานจือตี้’ (แปลตรงตัวว่าพื้นที่หนาวมากและยากลำบาก) (ดูรูปประกอบขวาล่าง) แต่การใช้พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือเป็นดินแดนเนรเทศไม่สามารถทำได้ทุกยุคสมัย เนื่องจากดินแดนดังกล่าวไม่ได้อยู่ภายใต้การครอบครองของอาณาจักรภาคกลางเสมอไป จวบจนสมัยหยวนเป็นต้นมาจึงกลายเป็นดินแดนเนรเทศที่นิยม โดยมีหลักการว่า คนจากพื้นที่ทางใต้จะถูกเนรเทศไปยังแดนเหนือ และคนจากพื้นที่ทางเหนือจะถูกเนรเทศลงใต้

    ในสมัยหมิง พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือยังคงเป็นดินแดนเนรเทศยอดนิยม โดยพื้นที่เถียหลิ่งเว่ยที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องจิ่วฉงจื่อฯ นี้เป็นที่นิยมในช่วงยุคกลางของสมัยหมิง ต่อมาในสมัยชิงจึงเปลี่ยนไปเป็นหนิงกู๋ถ่าและเฮยหลงเจียง

    นอกจากนี้ยังมีพื้นที่แถบตะวันตกเฉียงเหนือที่ไม่ได้มีลงไว้ในรูปประกอบ ซึ่งก็คือบริเวณซีอวี้หรือซินเกียงปัจจุบัน ซึ่งเป็นดินแดนเนรเทศในสมัยฮั่น แต่ต่อมาเนื่องจากการครอบครองพื้นที่ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จึงไม่ได้มีการส่งนักโทษเนรเทศไปยังพื้นที่นี้อีกต่อไปจวบจนสมัยชิงจึงกลับมาเป็นดินแดนเนรเทศที่นิยมอีกครั้ง

    เพื่อนเพจอาจติดภาพลักษณ์จากในซีรีส์ว่านักโทษเนรเทศจะถูกตีตรวนและมีการกักบริเวณ ทั้งนี้ ในหลายกรณีนักโทษเนรเทศเหล่านี้จะถูกใช้เป็นแรงงานในค่ายทหารโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองทัพทางชายแดน นักโทษจึงทำหน้าที่หลากหลาย เช่นเผาฟืนทำถ่าน ทำการเกษตร ฯลฯ เหมือนอย่างการถูกเนรเทศไปยังเถียหลิ่งเว่ยซึ่งเป็นพื้นที่ทหารอย่างในเรื่องจิ่วฉงจื่อฯ เป็นต้น

    แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่นักโทษเนรเทศทุกคนที่ต้องอยู่ภายในค่ายกักกัน การเนรเทศยังมีอีกวัตถุประสงค์หนึ่งคือเพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ดังนั้น นักโทษอาจถูกลงทะเบียนเป็นทาสรับใช้ทำงานให้ผู้มีอันจะกินในพื้นที่นั้นๆ (ซึ่งก็อาจเป็นแรงงานหนักและถูกกักบริเวณโดยผู้เป็นนายได้) หรืออาจเพียงถูกปล่อยทิ้งให้ใช้ชีวิตในดินแดนเนรเทศตามบุญตามกรรม ซึ่งหากเป็นอย่างหลังก็คือต้องขึ้นทะเบียนราษฎร์ในพื้นที่นั้นๆ เดินทางออกนอกพื้นที่ไม่ได้ แต่สามารถทำมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัวได้ ในบางรัชสมัยยังอนุญาตให้สมาชิกครอบครัวฝ่ายหญิงเดินทางย้ายรกรากไปอยู่ร่วมกับสมาชิกครอบครัวฝ่ายชายได้ด้วย อย่าลืมว่านักโทษเนรเทศจำนวนมากเป็นนักโทษทางการเมืองเช่นอดีตขุนนางที่มีการศึกษา พวกเขาจึงมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความรู้และวัฒนธรรมไปยังพื้นที่ทุรกันดารเหล่านี้

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.harpersbazaar.com/tw/culture/drama/g63130394/blossom-highlights/
    https://news.qq.com/rain/a/20250305A08SXM00
    https://news.qq.com/rain/a/20230809A078JQ00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.xinghuozhiku.com/76834.html
    https://m.fx361.com/news/2018/0201/16397999.html
    http://www.fs7000.com/news/?12143.html
    https://news.qq.com/rain/a/20240427A081KW00
    https://www.163.com/dy/article/HDA24IDA0552XK8U.html

    #จิ่วฉงจื่อ #ดินแดนเนรเทศ #เถียหลิ่งเว่ย #โทษเนรเทศ #สาระจีน
    **ดินแดนเนรเทศจีนโบราณ** สวัสดีค่ะ สองสัปดาห์ที่แล้วเราคุยเรื่องการไถ่โทษเนรเทศ วันนี้เลยมาคุยกันต่อเกี่ยวกับเกร็ดความรู้จากเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> ว่าด้วยดินแดนเนรเทศ จิ่วฉงจื่อฯ เป็นเรื่องราวในราชวงศ์สมมุติแต่เสื้อผ้าและสภาพสังคมอิงตามสมัยหมิง และในเรื่องนี้ บุรุษในครอบครัวสกุลเจี่ยงของติ้งกั๋วกงเจี่ยงเหมยซุน (ลุงของพระเอก) ถูกเนรเทศไปยังพื้นที่ที่มีชื่อว่า ‘เถียหลิ่งเว่ย’ ซึ่งเป็นหนึ่งในดินแดนเนรเทศยอดนิยมทางเหนือในสมัยนั้น แรกเริ่มเลยในสมัยบรรพกาล หากมีการเนรเทศจะนิยมส่งไปพื้นที่โยวโจว (แถบปักกิ่งปัจจุบัน) ต่อมามีการใช้พื้นที่อื่น ซึ่งโดยหลักการคือต้องเป็นพื้นที่ทุรกันดารและด้อยพัฒนา ไม่ว่าจะด้วยสภาพดินฟ้าอากาศหรือภูมิประเทศ ในสมัยฮั่นนิยมใช้พื้นที่แถบภูเขาทางตะวันตกในมณฑลเสฉวน เนื่องจากหนาวเย็น ไกลจากเส้นทางการค้าและการพัฒนาเศรษฐกิจ อีกทั้งภูมิประเทศเป็นเขาสูงทำให้ง่ายต่อการกักบริเวณนักโทษ ต่อมาเมื่อมีการขยายดินแดนและพัฒนาเศรษฐกิจลงใต้ ก็ยิ่งส่งนักโทษเนรเทศลงใต้ไปไกลยิ่งขึ้นโดยมีพื้นที่ยอดฮิตคือแถบหลิ่งหนานและไห่หนาน (กวางเจา กวางซี ฯลฯ) และไกลลงไปถึงเวียดนาม ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ห่างไกลความเจริญและมีพายุฝนและสภาพอากาศร้อนชื้น ง่ายต่อการล้มป่วย นับว่าทุรกันดารไม่แพ้กัน จวบจนยุคถังและซ่งก็ยังนิยมใช้พื้นที่ติดชายแดนทางตอนใต้นี้ (ดูรูปประกอบขวาบน) ส่วนพื้นที่ทางเหนือที่นิยมใช้เป็นดินแดนเนรเทศนั้น คือพื้นที่ทหารทางชายแดนตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีอากาศหนาวมากและชีวิตความเป็นอยู่ลำเค็ญ อีกทั้งการเดินทางไปมาก็ยากลำบาก มักถูกเรียกรวมว่า ‘ขู่หานจือตี้’ (แปลตรงตัวว่าพื้นที่หนาวมากและยากลำบาก) (ดูรูปประกอบขวาล่าง) แต่การใช้พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือเป็นดินแดนเนรเทศไม่สามารถทำได้ทุกยุคสมัย เนื่องจากดินแดนดังกล่าวไม่ได้อยู่ภายใต้การครอบครองของอาณาจักรภาคกลางเสมอไป จวบจนสมัยหยวนเป็นต้นมาจึงกลายเป็นดินแดนเนรเทศที่นิยม โดยมีหลักการว่า คนจากพื้นที่ทางใต้จะถูกเนรเทศไปยังแดนเหนือ และคนจากพื้นที่ทางเหนือจะถูกเนรเทศลงใต้ ในสมัยหมิง พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือยังคงเป็นดินแดนเนรเทศยอดนิยม โดยพื้นที่เถียหลิ่งเว่ยที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องจิ่วฉงจื่อฯ นี้เป็นที่นิยมในช่วงยุคกลางของสมัยหมิง ต่อมาในสมัยชิงจึงเปลี่ยนไปเป็นหนิงกู๋ถ่าและเฮยหลงเจียง นอกจากนี้ยังมีพื้นที่แถบตะวันตกเฉียงเหนือที่ไม่ได้มีลงไว้ในรูปประกอบ ซึ่งก็คือบริเวณซีอวี้หรือซินเกียงปัจจุบัน ซึ่งเป็นดินแดนเนรเทศในสมัยฮั่น แต่ต่อมาเนื่องจากการครอบครองพื้นที่ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย จึงไม่ได้มีการส่งนักโทษเนรเทศไปยังพื้นที่นี้อีกต่อไปจวบจนสมัยชิงจึงกลับมาเป็นดินแดนเนรเทศที่นิยมอีกครั้ง เพื่อนเพจอาจติดภาพลักษณ์จากในซีรีส์ว่านักโทษเนรเทศจะถูกตีตรวนและมีการกักบริเวณ ทั้งนี้ ในหลายกรณีนักโทษเนรเทศเหล่านี้จะถูกใช้เป็นแรงงานในค่ายทหารโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองทัพทางชายแดน นักโทษจึงทำหน้าที่หลากหลาย เช่นเผาฟืนทำถ่าน ทำการเกษตร ฯลฯ เหมือนอย่างการถูกเนรเทศไปยังเถียหลิ่งเว่ยซึ่งเป็นพื้นที่ทหารอย่างในเรื่องจิ่วฉงจื่อฯ เป็นต้น แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่นักโทษเนรเทศทุกคนที่ต้องอยู่ภายในค่ายกักกัน การเนรเทศยังมีอีกวัตถุประสงค์หนึ่งคือเพื่อช่วยพัฒนาเศรษฐกิจ ดังนั้น นักโทษอาจถูกลงทะเบียนเป็นทาสรับใช้ทำงานให้ผู้มีอันจะกินในพื้นที่นั้นๆ (ซึ่งก็อาจเป็นแรงงานหนักและถูกกักบริเวณโดยผู้เป็นนายได้) หรืออาจเพียงถูกปล่อยทิ้งให้ใช้ชีวิตในดินแดนเนรเทศตามบุญตามกรรม ซึ่งหากเป็นอย่างหลังก็คือต้องขึ้นทะเบียนราษฎร์ในพื้นที่นั้นๆ เดินทางออกนอกพื้นที่ไม่ได้ แต่สามารถทำมาหากินสร้างเนื้อสร้างตัวได้ ในบางรัชสมัยยังอนุญาตให้สมาชิกครอบครัวฝ่ายหญิงเดินทางย้ายรกรากไปอยู่ร่วมกับสมาชิกครอบครัวฝ่ายชายได้ด้วย อย่าลืมว่านักโทษเนรเทศจำนวนมากเป็นนักโทษทางการเมืองเช่นอดีตขุนนางที่มีการศึกษา พวกเขาจึงมีบทบาทสำคัญในการเผยแพร่ความรู้และวัฒนธรรมไปยังพื้นที่ทุรกันดารเหล่านี้ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.harpersbazaar.com/tw/culture/drama/g63130394/blossom-highlights/ https://news.qq.com/rain/a/20250305A08SXM00 https://news.qq.com/rain/a/20230809A078JQ00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.xinghuozhiku.com/76834.html https://m.fx361.com/news/2018/0201/16397999.html http://www.fs7000.com/news/?12143.html https://news.qq.com/rain/a/20240427A081KW00 https://www.163.com/dy/article/HDA24IDA0552XK8U.html #จิ่วฉงจื่อ #ดินแดนเนรเทศ #เถียหลิ่งเว่ย #โทษเนรเทศ #สาระจีน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 563 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มโนเล่นๆ อาจร่ายยาวเพลินๆก็ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยแก่ผู้ที่ล็อกอินผ่านมาเจอ.

    ....เอาจริงๆนะ ชุมชนthaitimeตั้งเป็นชุมชนเตรียมอุดมจัดตั้งคณะบริหารชาติภาคมหาประชาชนเลย,หรือฮับศูนย์กลางแหล่งลงทะเบียนรับสมาชิกภาคประชาชนคนไทยเราเพื่อนำไปสู่การตั้งพรรคการเมืองภาคประชาชนก็ว่า,ใช้แอปแพลตฟอร์มthaitimeนี้เป็นรุ่นทดลองทดสอบโมเดลสำรวจความต้องการก่อนก็ได้ หรือว่าที่พรรคการเมืองตัวแทนภาคประชาชนคนไทยจริงจังในอนาคตนั้นเอง,ลงทะเบียนสำรวจความสนใจเบื้องต้นก็ได้ แบบกดลงมติเห็นด้วยไม่เห็นด้วยได้เลย,เช่นใครก็ตามเข้ามาใช้thaitimeสามารถมีอีกช่องทางเลือกหนึ่งว่า ปุ่มรับลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมเป็นว่าที่สมาชิกพรรคการเมืองภาคประชาชนคนไทยระดับทั้งคนประเภทไทบ้านออฟไลน์และออนไลน์ได้เพียงให้ลูกหลานลงทะเบียนในช่องสำรวจร่วมจัดตั้งพรรคนี้อย่างยินยอมเต็มใจได้ ก็สามารถให้คนที่เข้ามาใช้ช่วยกดลงมติเห็นด้วยได้และเข้าไปลงทะเบียนรุ่นโมเดลทดลองเป็นว่าที่สมาชิกพรรคการเมืองภาคประชาชนได้,เช่นคนมาเล่นthaitimeตลอดปีและลงทะเบียนเป็นสมาชิกพรรคการเมืองภาคประชาชนอย่างเต็มใจถึง 30-40ล้านคน แพลตฟอร์มนี้สมาชิกประเมินและประมวลผลติดตามได้ทันที ส่งสิทธิการยืนยันตัวตนจริงจังอีกครั้งว่าจากสถานะว่าที่สมาชิกจะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองภาคประชาชนอย่างสมบูรณ์แล้วนะเมื่อกดปุ่มยืนยันตามนี้ ระบบจะรันรายชื่อสมาชิกที่ลงทะเบียนไว้แล้วว่าที่สมาชิกนั้นเป็นสมาชิกจริง100%ทันทีเพื่อความเป็นพรรคการเมืองภาคประชาชนจะได้สมบูรณ์จริงต่อไป,
    ..เลือกตั้งสมัยหน้า (อาจแค่สมาชิกและครอบครัวคนที่เป็นหนี้กยศ.อาจเป็นสมาชิกพรรคทั้งหมดด้วยกว่า6ถึง10ล้านคนเครือญาติพี่น้องเขาที่มีสิทธิ์กาเลือกตั้งได้)ไทบ้าน&ประชาชนทั่วประเทศสามารถสื่อสารการบริหารจัดการปกครองประเทศร่วมกันผ่านแอปนี้ได้ทันที,อาจใช้ระบบควอนตัมบริหารจัดการข้อมูลดาต้าสมาชิกและปัญหาคำถามใดเพื่อขจัดปัญหาที่ไม่ดีในอนาคตได้อย่างราบรื่น,เช่นลงมติว่า พรรคthatimeถึงเวลายึดคืนบ่อปิโตรเลียมไทยที่ถูกปล้นนานมาแล้วคืนสู่สามัญเดิมในอธิปไตยชาติไทยเถอะก็ว่า โมฆะสัมปทานทั้งหมดก็ว่า เป็นต้น,หรือล้างหนีักยศ.เลย กว่าแบบอเมริกาสมัยไบเดนทำคือล้างหนี้ช่วยนักเรียนนักศึกษาอเมริกาขั้นต่ำของเขาจริงต่อคนที่10,000$หรือ350,000บาทต่อหนี้กยศ.คนอเมริกาต่อคน และแบบสูงสุดมีเงื่อนไขบ้างที่20,000$หรือ700,000บาทต่อคนของประเทศเขาอเมริกา,แต่ชาติไทยเราอาจล้างหนี้และยกเลิกหนี้แก่เยาวชนไทยเราทั้งหมดได้สบายมาก,สู่ยุคการศึกษาที่ประเทศเรา ใครคนไทยอยากเรียนไม่ต้องมีหนี้นั้นเองได้แล้ว,ยุบกยศ.ทิ้งเลยด้วย กูรูบ้างท่านบอกว่า สัญลักษณ์กยศ.หากดูดีๆมันคือโลโก้สไตล์สัญลักษณ์ปิระมิทของพวกซาตานฝ่ายมืด จะเป็นไปเพื่อกดขี่ บังคับข่มเหงในองค์กรหน่วยงานนั้นๆที่ทำโลโก้สัญลักษณ์บอกแสดงออกมา,กยศ.ไทยเราปกติไม่เคยทำตราโลโก้องค์กรแบบที่ว่านั้น แต่พึ่งมาเปรียบใหม่ๆช่วงฝ่ายแสงกับฝ่ายมืดรบกันจริงจังแบบเปิดเผยเปิดหน้าชัดเจนไม่แอบซ่อนเหมือนดั่งในอดีตแล้ว,มันจึงเสมือนชัดเจนเจาะจงว่ากยศ.ไทยที่โทนี่คิดค้นสร้างทำในยุคตนขึ้นปกครองมีการวางแผนเพื่อกดขี่เยาวชนนักศึกษาไทยด้วยทาสหนี้ทาสตังมานานแล้วคือมุกวางหมากวางเกมส์นี้สร้างขึ้นเพื่องานนีัหวังผลชัดเจนนั้นเองและผลลัพธ์ชัดแจ้งคือยุคปัจจุบันนี้ล่ะ,สิ่งใดที่ฝ่ายมืดทำขึ้นมันมุ่งใช้งานไปทางไม่ดีแน่นอน,เมื่อเยาวชนคนรุ่นต่อไปจมในกับดักหนี้แต่แรกเริ่มเรียนเริ่มทำงาน ชาติจะอ่อนแอย่อมง่ายมากแบบเห็นชัดในปัจจุบันผ่านเยาวชนที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในสังคมชุมชนตนอยู่ในคอกหนี้กรอบหนี้ทัังบีบในหนี้ที่อยู่ในระบบ บีบจนต้องมาพึ่งหนีัฝ่ายมืดฝ่ายนอกระบบที่ก็เป็นของพวกมันสร้างวางแผนรอดักทางเตรียมไว้แล้ว,สุดท้ายเยาวชนไทยติดหนี้ทัังในระบบ ถูกเล่นงานทั้งพวกหนี้นอกระบบ และถูกเอารัดเอาเปรียบในระบบธุรการงานราชการจากการทำเรื่องในหน่วยงานอื่นๆอีก พวกทวงหนี้จนถึงยึดทรัพย์บังคับขาย ต่างได้ตังได้เงินทองจากทาสหนี้ทาสตังในระบบและนอกระบบสิ้น,ซวยและเหยื่อที่ดีคือเยาวชนเด็กนักเรียนนักศึกษาเราแม้เติบโตเข้าสังคมระบบกลไกสัมมาอาชีพชอบระดับประเทศ ก็จะตายเพราะสัมมาอาชีพชั่วเลวของคนฝ่ายมารมืดซาตานที่อยู่เป็นองค์กรเลวระดับใหญ่มีอำนาจในระดับชาติ ปะปนในหน่วยงานระบยราชการที่ล้มเหลวอีก ซวยคือประชาชน ลูกหลานและผู้ปกครองเขา,จึงทำลายกยศ.ที่ฝ่ายมืดจัดตั้งดีที่สุด ตัดตอนจบเรื่องทันที เพราะเมื่อเหตุเลว ผลยอมเลวตามมาชัดเจน,ฝ่ายมืดก่อตั้ง มันจะดีได้อย่างไร กฎหมายใดๆกติกาเงื่อนไขใดๆมันย่อมสนองที่ต้นเหตุเป้าหมายการจัดตั้งก่อตั้งขึ้นมา,แก้แบบใดๆก็ไม่ใช่ทาง,ทุบก่อตัังใหม่จากฝ่ายแสงฝ่ายดีทำเอง เหตุเพื้อก่อมาดี ผลย่อมได้ดีตามมาจากเหตุ,อาทิ กยศ.ยุบทุบทิ้ง เกิดใหม่ว่า กองทุนการศึกษาแห่งชาติไทย กศช. เป้าหมาย คนไทยทุกๆคนสามารถเรียนฟรีตลอดชีพ ขั้นต่ำสูงสุดตามใจต้องการเช่นป.เอกในหมู่วัยเล่าเรียน,ในหมู่ประชาชนทั่วไป มีสถาบันฝึกทักษะสัมมาอาชีพเกือบทุกๆประเภทเพื่อให้ประชาชนคนไทยพึ่งพาสัมมาอาชีพตนเองยืนด้วยขาตนเองได้จริง มีทุนสัมมาอาชีพเริ่มต้นให้ทุกๆคน ตั้งแต่เยาวชนนักเรียนนักศึกษาเราที่จบใหม่ๆหรือประชาชนทั่วไปที่ผ่านการฝึกอบรบทักษะอาชีพใดๆที่สนใจ ไร้ทุนตังตั้งสัมมาอาชีพ สามารถยืมฟรีๆได้ ไม่มีดอกเบี้ย,มีรายได้ในสัมมาอาชีพนั้นๆที่เหลือใช้สามารถฝากตังไร้ดอกเบี้ยเงินฝากที่กองทุนสัมมาอาชีพ ฝากถอนสร้างสภาพคล่องได้เองตลอดเวลา,เช่นแต่ละหมู่บ้าน80,000ชุมชนทั่วประเทศ,แบงค์ชาติโอนตังเข้ากองทุนสัมมาอาชีพแต่ละชุมชนๆละ10ล้านบาทเบื้องต้นให้คนในชุมชนนั้นๆมายืมไปสร้างสัมมาอาชีพได้ในแต่ละปี เป็นตัง800,000ล้านบาทต่อปีเอง เทียบกับรายได้จากบ่อน้ำมัน เหมืองแร่ทองคำ แร่ทรัพยากรมีค่ามากมายบนแผ่นดินไทย มันมีตังมากมายมหาศาลกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีแน่นอนถ้าบริหารจัดการแบบไม่ทุจริตโกงกินแผ่นดินไทยในปัจจุบัน,1ชุมชนไทบ้าน คนสนใจไปสร้างสัมมาอาชีพต่างๆในชุมชนตนเองอาจคนละ100,000บาทยืมสูงสุดก็ช่วยได้100คนหรือ100ครัวเรือนต่อปีเลย,ชุมชนนัันๆปลูกเลี้ยงนั้นนีัส่งออก ยืนด้วยขาตนเองได้มาคืนตังในปีที่สามทันที10ล้านบาทก็สามารถปล่อยยืมหมุนเวียนในชุมชนได้ตลอดเวลาอีก,บวกคน100คนนั้นๆมีรายได้รวมต่อปีเกิน1ล้านบาทอีกเหลือใช้อาจมาแบ่งฝากหมุนเวียนตลอดปีคนละ500,000บาทก็50ล้านบาทประจำชุมชนท้องถิ่นนั้นๆเลย,ความสามัคคีในชุมชนจะแน่นหนาเป็นเครือข่ายกว่า80,000หมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศอีก,มีตลาดออนไลน์แบบแพลตฟอร์มthatimeส่งเสริมสนับสนุนการค้าเสรีบนโลกออนไลน์ทั่วโลกอีกจะเกิดอะไรขึ้น ตังหมุนเวียนซื้อขายในแอปอาจกว่า1ล้านล้านบาทต่อวันทั่วโลกก็ได้,ไม่รวมตลาดออฟไลน์แบบตลาดร้านค้าชุมชนหมู่บ้านอีก แบบกองทุนร้านค้าชุมชนในหลายๆหมู่บ้านยังมีเปิดค้าขายของใช้สอยในชุมชนอยู่,สามารถใช้ตังกองทุนฯไปสร้างตลาดชุมชนประจำอำเภอ จังหวัดเป็บฮับพบเจอกันต่อคนซื้อคนขายราคาไม่แพงตรงจากผู้ผลิตอีก แผงผักแผงปลาแผงผลไม้สาระพัดอาหารอุปโภคบริโภค ประชาชนสัมมาอาชีพมีตัง นำตังมากมายมาฝากไว้ในกองทุนอีก กองทุนตังล้นระบบสถาบันแน่นอน ปกติตังสะพัดทั้งประเทศกว่า40-50ล้านล้านบาทต่อปี อนาคตทั้งตลาดออนไลน์และออฟไลน์ในประเทศ อาจกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีในประเทศไทยบวกทั่วโลกเข้าไทยจะขนาดไหน,เราไม่ต้องขุดสมบัติชาติทรัพยากรแผ่นดินไทยขึ้นมาอีกก็ได้ ต่อยอดอะไรๆต่อไปได้สาระพัดเลย,ฮับโรงพยาบาลโลกที่มีทั้งแบบสมุนไพรไทยผสมผสานล้ำๆเทคโนโลยีโลกAIหุ่นยนต์ชีวภาพ&มนุษย์กึ่งหุ่นยนต์AIซึ่งคนเราอาจพิการตาแขนขาอาจใช้แขนขาจักรกลผสมผสานรักษาทางการแพทย์ได้ลงตัวในไทยเราเติมเต็มตอบโจทย์ผู้คนทั่วโลกให้มารักษาในไทยอย่างสบายใจสะดวกสบายปลอดภัยในสุขภาพร่างกายได้เป็นต้น,สงกรานต์ไทยกินขาดแล้วด้านมิติท่องเที่ยวในช่วงหนึ่งๆ ต่อยอดขายอะไรต่อมิอะไรมากมายในไทยอีก ร่ำรวยโคตรๆก็ว่า,เราจะชัดเจนว่า การปกครองเราเองล้มเหลว ปกครองที่ผิดพลาดและไม่ยอมแก้ไขปรับปรุง มั่นคงให้คนไทยตนเองยากจนทุกข์ยาก,ทาสตังทาสหนี้ ทาสค่าครองชีพแพงในแบบไทยๆภายในไทยเราเองจึงต้องทำลายสถานะทาสนี้ทั้งหมดทันที,พักงานนักการเมืองทั้งหมด สส.สว.ทั้งหมด,ยุบองค์กรกยศ.หรือทุบทิ้งกยศ.ไทยด้วยก็ว่า, อเมริกาล้างหนี้เรียนสมัยไบเดนกว่า350,000บาทต่อคนได้ ทัังที่สภาพหนี้เขากว่า30ล้านล้าน$ยังสามารถทำได้,มองมาไทย สว.ยินยอมลงมติล้างหนี้เยาวชนไทยจากกยศ.ที่ก่อตั้งมาอย่างผิดพลาด หากสว.ตัดสินใจจริง &จริงใจในการห่วงใยเยาวชนไทยจริง จะตัดสินใจกล้าหาญโดยไม่ยาก,และสามารถคิดอ่านตัังหน่วยงานใหม่ให้เยาวชนไทยได้เล่าเรียนฟรีๆสูงๆโดยไม่ต้องมีหนี้สินติดตัวเป็นกำลังของชาติได้สบาย,
    ..thaitimeหากปลุกติดจริงแบบจุดเทียนช่วงสมัยพันธมิตรขับไล่โทนี่ออกจากประเทศได้สำเร็จและหากทำสุดซอย ยึดอำนาจในภาคมหาประชาชนด้วยได้สำเร็จ อาจไม่เสียของแบบทหารยึดอำนาจทั้งในอดีตและสมัยยึดอำนาจล่าสุดนั้นด้วยเสียของมากๆ ขายที่ดินให้ต่างชาติไร่ละ40ล้านบาทก็สามารถทำได้ ให้ต่างชาติเช่าที่ดินไทยแบบฮ่องกง99ปีก็สำเร็จจากทีมคณะยึดอำนาจไม้ต่อดำรงอำนาจการปกครองไทย ตลอดปล่อยสัมปทานสองแปลงอ่าวไทยให้คนอื่นจยชาติซาอุฯออกหน้าอย่างน่าเกียจด้วยปลื้มใจสำเร็จจะยึดสัมปทานน้ำมันไทยได้จนกะสร้างคลังแสงน้ำมันขนาดใหญ่ในไทยโน้น เหมืองทองคำก็ปล่อยให้ขุดต่อทั้งที่มีคดีกว่า15คดี,ผูกขาดพรบ.เม็ดพันธุ์ให้เอกชนยึดครองถ้าเกษตรกรฉีกซองเก็บเอาทำพันธุ์พืชต่อมีสิทธิ์ติดคุกทันทีแบบซาตานเอกชนฝรั่งทำสำเร็จแล้วโน้นก็ด้วยจะผ่านพรบ.500นี้ให้ได้จนประชาชนไม่ยอม ออกมาประท้วงจึงถอนพรบ.เหี้ยโจร500นี้ออกไปอีกตัว,นี้ยุคทหารอุบาทก์ยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญเก่งมากกล้ามากทุกๆยุคการยึดอำนาจรัฐประหารแต่ไม่กล้าขี้ขลาด&เขลากากกระจอกไม่กล้าแม้แต่จะฉีกกฎหมายลูกๆหลานๆที่เอาเปรียบแผ่นดินไทยตนเอง ปล้นชิงสมบัติทรัพยากรชาติไทยตนผ่านกฎหมายลูกกระทรวงทบวงกรมขี้ข้าทาสสัมปทานนั้นเลย เก่งกล้าแต่จะฉีกกฎหมายแม่รัฐธรรมนูญ มันเหี้ยมั้ยการปกครองไทยเรา,
    ..
    ..จริงๆthaitimeจึงสมควรที่เป็นเทียนชัยรุ่นบุกเบิกวางรากฐานที่ดีของภาคประชาชนคนไทยเราได้,ยิ่งมีนโยบายชัดไม่แสวงหากำไรมุ่งทำรายได้ผลประโยชน์ต่อสาธารณะมาเป็นของตัวของตนยิ่งจะเป็นแพลตฟอร์มที่ทรงคุณค่าแน่นอน,
    ..อาทิ ใครอยากจะร่วมจัดตั้งพรรคthaitimeภาคมหาชนคนไทยจริงก็มาลงทะเบียนเป็นสมาชิกพรรคที่นี้,มี40ล้านคนคือ40ล้านเสียงกาเลือกนายกภาคมหาประชาชนไทยจึงสะดวกต่อการสื่อสารแน่นอน,
    ..thaitimeเป็นแอปตลาดออนไลน์ของกองทุนตังสัมมาอาชีพคนไทยอีกยิ่งจะขนาดไหน,เลิกใช้แพลตฟอร์มอื่นๆของฝ่ายเอกชนต่างชาติอื่นๆจะแอปใดๆอีก มาพูดคุยแลกเปลี่ยนค้าขายออนไลน์ติดตระกร้าอิสระเสรีจะขนาดไหน,โฆษณาต่างๆตามมาตรึม มาช่วยคนพัฒนาแอปมีรายได้กำลังบริหารจัดการแอปมหาชนเราเสรีอีก,อาจอนาคตกว่าเดือนละ10ล้านบาทเข้าคนทำงานแอป แอปเรายิ่งต่อยอดแตกอำนวยความสะดวกเชิงบวกการทำตลาดค้าขายออนไลน์เสรีแก่ชุมชนสังคมแอปไทยนี้แน่นอนทั้งเปิดกว้างเสรีการค้าขายแลกเปลี่ยนทั่วโลกอีก คนทั้งโลกมาร่วมกันใช้แอปนี้ของไทยสัก5,000ล้านคนก็สุดยอดมากแล้ว พากันค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าการตลาดสาระพัดในแอปนี้อีก,คนไทยเรายิงสินค้าไทย&บริการไทยติดตาทั่วโลกได้สบายพันธมิตรการค้าเสรีกับชาวไทยคตธรรมดาเราอีก ขายตรงจากต้นน้ำถึงปลายน้ำเลย อาทิต่างชาติมาเห็นชุมชนหมู่บ้านเราปลูกพืชอินทรีย์ปลอดภัย สั่งซื้อยกชุมชนยกอำเภอ ตังกว่า10,000ล้าน$&หยวนหรือบาทไทยจะขนาดไหน,ตะวันตกขาดสินค้า ยุโรปขาดอาหาร สินค้าไทยมิตรทั่วโลกสั่งตรึม77จังหวัดๆละ100,000ล้านเหรียญหรือหยวนหรือบาทไทย,ในแต่ละเดือนๆ รวยร่ำๆเลยนะ,กองทุนสัมมาอาชีพที่แบงค์ชาติอัดให้ชุมชนละๆ10ล้านบาทหมุนเวียนต่อเนื่องคืนทุนต่อเนื่องในชุมชนแทบตลอดไปไม่เรียกคืนให้งอกเงยสบายมากๆ,
    ..พื้นฐานจริงๆคือฐานเยาวชนการศึกษาเรานี้ล่ะ เรียนไม่ต้องมีหนี้ติดตัวบวกอัดเงินส่งเสริมสร้างสัมมาอาชีพอิสระเสรีประยุกต์ทำได้หมด,บางคนอาจจบมารวมกลุ่มสมาคมขนาดใหญ่พัฒนาสร้างยานอวกาศบินออกนอกโลกโดยฝีมือเยาวชนไทยรุ่นท่องเที่ยวขนาดเล็กไม่เกิน10ที่นั่งก็อาจสบายมากเป็นต้น,ผีบ้าผู้ปกครองไทยกาก&กระจอกเสือกไม่ตั้งกยศ.ให้คนที่อยากเรียนไปเป็นทาสตังทาสหนี้สู่ทาสแรงงานรับใช้กดขี่อิสระภาพสัมมาอาชีพและความคิดล้ำๆคนไทย,ทัังที่แค่ยึดบ่อน้ำมันคืนบ่อทองคำคืนมาทำมาขายเองก็ร่ำรวยมหาศาลขนาดไหนแล้ว พะสาเศษตังไม่ถึงล้านล้านบาทนี้,เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่มาดูดน้ำมันลงเรือมันไม่กี่ลำแบบเถื่อนๆลับที่พวกได้สัมปทานไปทำตรึมแน่นอนจนกูรูมากมายออกมาแฉตรึม ตีเป็นตังต่อปีอาจมากกว่า100ล้านล้านบาทที่หายไปจากแผ่นดินไทยจนถึงปัจจุบันโน้น.,ยุบกยศทิ้งเถอะ,ไบเดนว่ากากๆยังล้างหนี้ช่วยเยาวชนคนอเมริกาถึงคนละ10,000-20,000$ต่อคนโน้นหรือตังไทย35฿:1$คือ350,000-700,000บาทต่อคนโน้น,แบบไม่ต้องทวงตามหนี้ค่ายืมเล่าเรียนอะไรเลย,เขาลงทุนในเยาวชนลูกหลานเขาเอง เลี้ยงลูกหลานเขาเองจะเป็นอะไร,ย่อมาดูไทยเราอุบาทก์บัดสบ&เหี้ยกากกระจอกตั้งแต่ยกบ่อน้ำมันเต็มประเทศให้เอกชนชาติอื่นหรือหัวดำเอกชนปลอมเป็นต่างชาติก็เถอะหรือบ่อทองคำตรึมก็ด้วยลากยาวทับถมมหาศาลทั่อ่าวไทยเราอีก มันโคตรร่ำรวยมหาศาลเสือกปกครองบ้านเมืองไทยตนเองให้เก็กๆลูกหลานเยาวชนไทยตนนักเรียนนักศุกษาตนมรึงๆอยากเรียนอะไรใส่ความรู้องค์รู้ใส่หัวใส่มันสมองฝึกเหี้ยอะไรทักษะมรึงๆอยากเรียนสูงๆบนแผ่นดินไทยตนมรึงนี้ต้องเป็นหนี้ต้องมีหนี้ต้องติดหนี้โว้ย,ชนชั้นไพร่ประชาชนธรรมดาสามัญลูกตาสีตาสายามาทวดวัวควายสะพายวัวควายเคยเลิกทาสขี้ข้ารับใช้มา,ไม่ได้เป็นไม่ใช่แบบชนชั้นอำมาตย์ขุนนางเจ้าพระมีโรงเรียนทุนโรงเรียนชนชั้นคนปกครองอำมาตย์ขุนนางเจ้าพระยาแบบกูมีตังมากมายกองเป็นภูเขาตำแหน่งราชการใหญ่โตคับเมือง คหบดีพ่อค้าร่ำรวยผูกขาดวงการาชหลวงฝ่ายครองเมืองแบบพวกกู&โควต้าเพียบ&อุปถัมภพตรึม&เส้นสายอัพเกรดเรเวลแบบใดๆกูมีหมดแบบพวกกูชนชั้นปกครอง ไม่ใช่แบบพวกมรึงชนชั้นทาสไพร่พวกเลิกทาสสืบเชื้อสายรับใช้ขี้ข้ามาถึงปัจจุบัน มีอิสระไทหน่อยนิดต้องมีเป็นหนี้มีหนี้ อยากเรียนเพราะจนต้องมีหนี้ติดตัวโว้ย&ว่ะ!!!,นี้คือประเทศกูมี.,อยากเรียนต้องเป็นหนีันะประชาชนคนจนๆธรรมดา&ดิ้นรนหาแดกหางานเอาเองนะ กรมแรงงานหน่วยกูมีไม่ประสานงานเหี้ยหาอะไรหรอกระหว่างจะจบเรียน,&ไม่ควบคุมแรงงานกิจการบริษัทใดๆด้วย,คนไทยจริงๆต้องได้งานก่อนทำงานก่อน,อยากจ้างต่างชาติต่างด้าวก็ไปตั้งกิจการบริษัทโรงงานที่ประเทศต่างด้าวต่างชาตินั้น,กรมแรงงานสมควรยุบไปด้วย.,โรงงานใดๆจะเปิดโรงงานเปิดกิจการเปิดบริษัทต้องมาขอคนงานตรงผ่านกระทรวงแรงงานจัดสรรคนไทยลงไปทำงานหรือติดต่อคนงานไทยนั้นๆไปพบกรมจัดสรรคนงานก่อนตนจึงค่อยอนุมัตรับคนที่ตนต้องการได้มาทำที่ตนและตรงเงื่อนไขว่าต้องจ้างคนไทยก่อนทุกๆกรณี ไม่พอจึงจ้างต่างด้าวโดยต้องขออนุญาต อนุมัติจากกระทรวงทบวงกรมและสังเกตุประพฤติคนงานต่างด้าวก่อนทุกๆกรณี&สแกนคุณสมบัติทั้งหมดทั้งเข้าเมืองถูกต้อง ไม่มีคดีก่ออาชญากรรมต่างๆทั้งในประเทศต้นทางและในไทย และอื่นๆตรึม&ซึ่งคนไทยต้องมีงานทำก่อนทุกๆกรณีก่อนคนต่างชาติต่างด้าว&ติดตามสุขภาพการทำงานของคนงานไทยตนด้วย,กรมแรงงานเราเลอะเทอะ โรงงานต่างชาติเอาแรงงานชาติมันมาทำเต็มโรงงานบนแผ่นดินไทย แย่งที่ดินที่อาศัยคนไทยแย่งอากาศหายใจคนไทย แย่งชิงน้ำเพื่อสนองภาคอุตสาหกรรมโรงงานต่างๆไปจากคนไทยและมากมายที่ดินที่ประเทศเสียอธิปไตยจากเขตเศรษฐกิจพิเศษผีบ้ามากมายที่มุกมันอ้างทำอ้างสร้างขึ้น,คนไทยธรรมดาเข้าพื้นที่มันไปดูสิ่งผิดปกติได้ที่ไหน.เป็นดินแดนปกครองตนเอง&ที่อยู่มันไปเลยเป็นเขตอธิปไตยกว่าสถานฑูตอีกล่ะ.นี้คือการปกครอง&วิถีปกครองที่ผิดพลาด&ล้มเหลว&กากบวกเหี้ยไปยกอธิปไตยไทยมากมายแก่คนอื่นชาติอื่นนั้นเอง,จึงต้องโมฆะทั้งหมดเพื่อคืนสู่สามัญแก่ประเทศไทยเรา.,หรือทั้งประเทศไทยทั้งหมดคนไทยย้ายไปประเทศจีนประเทศอินโดอินเดีย ไปอยู่ในบ้านในเมืองคนอื่นมั้ยล่ะ,เขาคงถีบออกมาทั้งหมดล่ะ,แผ่นดินไทยเสือกไม่รักษาหวงแหนปกป้องร่วมกันไว้แล้วเราจะถอยจะย้ายจะไปอยู่ไหนล่ะ,ที่ตั้งเดิมเรามีปัจจุบันแล้ว เขาเข้ามารุกมาบุกจะมามุกใดๆเราก็โมฆะขับไล่ได้หมดล่ะจะเกรงใจทำพ่อทำโคตรพ่อโคตรแมร่งมันอะไร เราถอยหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วนะ,เยาวชนไทยเขาจะทำลายผ่านตังผ่านระบบการศึกษาผ่านมุกหนี้ตังคนอยากเรียน,แก้มุกมันเลยคือยุบทิ้งล้างไพ่มันทันทีคือยุบกยศ. ปลดปล่อยเด็กๆเยาวชนคนที่เติบโตเป็นประชาชนคนไทยเราเองเป็นอิสระภาพจะกั้กเอาดูหรูทำเท่ห่าสวรรค์วิมานห่าอะไร เสียบ่อน้ำมันเสียบ่อทองคำมากมายตีเป็นเงินโคตรมหาศาลเสือกเสียดายตังกะทวงหนี้ทำไมแก่ลูกๆหลานคนไทยตนเอง,พวกโกงปล้นชาติแบบนักการเมืองเลวข้าราชการชั่วตีค่าเป็นเงินเป็นตังอาจกว่า100ล้านล้านบาทแล้วถึงปัจจุบันที่เราสูญเสียไปทางลับๆใต้บัญชีใต้ดินต่างๆไม่รวมกรณีฟอกตังในอดีตแบบเกาะเคแมนหรือเกาะเถื่อนๆต่างๆทั่วโลกที่ชนชั้นผู้ดีชนชั้นปกครองเจ้าสัวเจ้าพระลูกหลานคนสถุนต่อแผ่นดินไทยไปเปิดกิจการบริษัทไว้อีกนะ,
    ..มโนเล่นๆ สมมุติพรรคthaitimeได้เป็นนายกฯปกครองประเทศ นอกจากนโยบายหลักข้อแรกที่อยากให้ตั้งชัดเจนคือนยึดคืนวัตถุดิบทรัพยากรพัฒนาชาติไทยทั้งหมดยึดกลับคืนมา.ข้อที่สองคือยุบกยศ.ทิ้ง&ล้างหนี้นักเรียนนักศึกษาคนไทยทั้งหมดทุกๆกรณี แล้วตั้งกองทุนการศึกษาแห่งชาติไทย(กศช.)ขึ้นมาแทน,ที่สามคือล้างหนี้ประชาชนธรรมดาทั้งหมดคืนอิสระภาพแห่งชีวิตให้ทุกๆเป็นอิสระแห่งหนี้สินจริงๆจังๆ. ยุคอนาคตเชื่อว่าเราประเทศเราประชาชนคนไทยไม่แพ้ใครๆในโลกแน่นอน เพราะคนอัจฉริยะมากมายจะมาเกิดบนแผ่นดินไทยเป็นอันมาก,ด้วยสนามแม่เหล็กโลกพลิกเปลี่ยนก็ด้วยทำให้มันสมองตานัยเราคนไทยเปิดอัตโนมัติแบบไม่รู้ตัวก็ด้วย,ทั้งพื้นฐานรากเหง้าเรามีภูมิจิตภูมิธรรมเป็นเอกอยู่แล้วด้วย.

    https://youtube.com/live/e8H6CbIqBhw?si=_3UqmfFzhuI8-pW8


    ..มโนเล่นๆ อาจร่ายยาวเพลินๆก็ขออภัยไว้นะที่นี้ด้วยแก่ผู้ที่ล็อกอินผ่านมาเจอ. ....เอาจริงๆนะ ชุมชนthaitimeตั้งเป็นชุมชนเตรียมอุดมจัดตั้งคณะบริหารชาติภาคมหาประชาชนเลย,หรือฮับศูนย์กลางแหล่งลงทะเบียนรับสมาชิกภาคประชาชนคนไทยเราเพื่อนำไปสู่การตั้งพรรคการเมืองภาคประชาชนก็ว่า,ใช้แอปแพลตฟอร์มthaitimeนี้เป็นรุ่นทดลองทดสอบโมเดลสำรวจความต้องการก่อนก็ได้ หรือว่าที่พรรคการเมืองตัวแทนภาคประชาชนคนไทยจริงจังในอนาคตนั้นเอง,ลงทะเบียนสำรวจความสนใจเบื้องต้นก็ได้ แบบกดลงมติเห็นด้วยไม่เห็นด้วยได้เลย,เช่นใครก็ตามเข้ามาใช้thaitimeสามารถมีอีกช่องทางเลือกหนึ่งว่า ปุ่มรับลงทะเบียนเพื่อเข้าร่วมเป็นว่าที่สมาชิกพรรคการเมืองภาคประชาชนคนไทยระดับทั้งคนประเภทไทบ้านออฟไลน์และออนไลน์ได้เพียงให้ลูกหลานลงทะเบียนในช่องสำรวจร่วมจัดตั้งพรรคนี้อย่างยินยอมเต็มใจได้ ก็สามารถให้คนที่เข้ามาใช้ช่วยกดลงมติเห็นด้วยได้และเข้าไปลงทะเบียนรุ่นโมเดลทดลองเป็นว่าที่สมาชิกพรรคการเมืองภาคประชาชนได้,เช่นคนมาเล่นthaitimeตลอดปีและลงทะเบียนเป็นสมาชิกพรรคการเมืองภาคประชาชนอย่างเต็มใจถึง 30-40ล้านคน แพลตฟอร์มนี้สมาชิกประเมินและประมวลผลติดตามได้ทันที ส่งสิทธิการยืนยันตัวตนจริงจังอีกครั้งว่าจากสถานะว่าที่สมาชิกจะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองภาคประชาชนอย่างสมบูรณ์แล้วนะเมื่อกดปุ่มยืนยันตามนี้ ระบบจะรันรายชื่อสมาชิกที่ลงทะเบียนไว้แล้วว่าที่สมาชิกนั้นเป็นสมาชิกจริง100%ทันทีเพื่อความเป็นพรรคการเมืองภาคประชาชนจะได้สมบูรณ์จริงต่อไป, ..เลือกตั้งสมัยหน้า (อาจแค่สมาชิกและครอบครัวคนที่เป็นหนี้กยศ.อาจเป็นสมาชิกพรรคทั้งหมดด้วยกว่า6ถึง10ล้านคนเครือญาติพี่น้องเขาที่มีสิทธิ์กาเลือกตั้งได้)ไทบ้าน&ประชาชนทั่วประเทศสามารถสื่อสารการบริหารจัดการปกครองประเทศร่วมกันผ่านแอปนี้ได้ทันที,อาจใช้ระบบควอนตัมบริหารจัดการข้อมูลดาต้าสมาชิกและปัญหาคำถามใดเพื่อขจัดปัญหาที่ไม่ดีในอนาคตได้อย่างราบรื่น,เช่นลงมติว่า พรรคthatimeถึงเวลายึดคืนบ่อปิโตรเลียมไทยที่ถูกปล้นนานมาแล้วคืนสู่สามัญเดิมในอธิปไตยชาติไทยเถอะก็ว่า โมฆะสัมปทานทั้งหมดก็ว่า เป็นต้น,หรือล้างหนีักยศ.เลย กว่าแบบอเมริกาสมัยไบเดนทำคือล้างหนี้ช่วยนักเรียนนักศึกษาอเมริกาขั้นต่ำของเขาจริงต่อคนที่10,000$หรือ350,000บาทต่อหนี้กยศ.คนอเมริกาต่อคน และแบบสูงสุดมีเงื่อนไขบ้างที่20,000$หรือ700,000บาทต่อคนของประเทศเขาอเมริกา,แต่ชาติไทยเราอาจล้างหนี้และยกเลิกหนี้แก่เยาวชนไทยเราทั้งหมดได้สบายมาก,สู่ยุคการศึกษาที่ประเทศเรา ใครคนไทยอยากเรียนไม่ต้องมีหนี้นั้นเองได้แล้ว,ยุบกยศ.ทิ้งเลยด้วย กูรูบ้างท่านบอกว่า สัญลักษณ์กยศ.หากดูดีๆมันคือโลโก้สไตล์สัญลักษณ์ปิระมิทของพวกซาตานฝ่ายมืด จะเป็นไปเพื่อกดขี่ บังคับข่มเหงในองค์กรหน่วยงานนั้นๆที่ทำโลโก้สัญลักษณ์บอกแสดงออกมา,กยศ.ไทยเราปกติไม่เคยทำตราโลโก้องค์กรแบบที่ว่านั้น แต่พึ่งมาเปรียบใหม่ๆช่วงฝ่ายแสงกับฝ่ายมืดรบกันจริงจังแบบเปิดเผยเปิดหน้าชัดเจนไม่แอบซ่อนเหมือนดั่งในอดีตแล้ว,มันจึงเสมือนชัดเจนเจาะจงว่ากยศ.ไทยที่โทนี่คิดค้นสร้างทำในยุคตนขึ้นปกครองมีการวางแผนเพื่อกดขี่เยาวชนนักศึกษาไทยด้วยทาสหนี้ทาสตังมานานแล้วคือมุกวางหมากวางเกมส์นี้สร้างขึ้นเพื่องานนีัหวังผลชัดเจนนั้นเองและผลลัพธ์ชัดแจ้งคือยุคปัจจุบันนี้ล่ะ,สิ่งใดที่ฝ่ายมืดทำขึ้นมันมุ่งใช้งานไปทางไม่ดีแน่นอน,เมื่อเยาวชนคนรุ่นต่อไปจมในกับดักหนี้แต่แรกเริ่มเรียนเริ่มทำงาน ชาติจะอ่อนแอย่อมง่ายมากแบบเห็นชัดในปัจจุบันผ่านเยาวชนที่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ในสังคมชุมชนตนอยู่ในคอกหนี้กรอบหนี้ทัังบีบในหนี้ที่อยู่ในระบบ บีบจนต้องมาพึ่งหนีัฝ่ายมืดฝ่ายนอกระบบที่ก็เป็นของพวกมันสร้างวางแผนรอดักทางเตรียมไว้แล้ว,สุดท้ายเยาวชนไทยติดหนี้ทัังในระบบ ถูกเล่นงานทั้งพวกหนี้นอกระบบ และถูกเอารัดเอาเปรียบในระบบธุรการงานราชการจากการทำเรื่องในหน่วยงานอื่นๆอีก พวกทวงหนี้จนถึงยึดทรัพย์บังคับขาย ต่างได้ตังได้เงินทองจากทาสหนี้ทาสตังในระบบและนอกระบบสิ้น,ซวยและเหยื่อที่ดีคือเยาวชนเด็กนักเรียนนักศึกษาเราแม้เติบโตเข้าสังคมระบบกลไกสัมมาอาชีพชอบระดับประเทศ ก็จะตายเพราะสัมมาอาชีพชั่วเลวของคนฝ่ายมารมืดซาตานที่อยู่เป็นองค์กรเลวระดับใหญ่มีอำนาจในระดับชาติ ปะปนในหน่วยงานระบยราชการที่ล้มเหลวอีก ซวยคือประชาชน ลูกหลานและผู้ปกครองเขา,จึงทำลายกยศ.ที่ฝ่ายมืดจัดตั้งดีที่สุด ตัดตอนจบเรื่องทันที เพราะเมื่อเหตุเลว ผลยอมเลวตามมาชัดเจน,ฝ่ายมืดก่อตั้ง มันจะดีได้อย่างไร กฎหมายใดๆกติกาเงื่อนไขใดๆมันย่อมสนองที่ต้นเหตุเป้าหมายการจัดตั้งก่อตั้งขึ้นมา,แก้แบบใดๆก็ไม่ใช่ทาง,ทุบก่อตัังใหม่จากฝ่ายแสงฝ่ายดีทำเอง เหตุเพื้อก่อมาดี ผลย่อมได้ดีตามมาจากเหตุ,อาทิ กยศ.ยุบทุบทิ้ง เกิดใหม่ว่า กองทุนการศึกษาแห่งชาติไทย กศช. เป้าหมาย คนไทยทุกๆคนสามารถเรียนฟรีตลอดชีพ ขั้นต่ำสูงสุดตามใจต้องการเช่นป.เอกในหมู่วัยเล่าเรียน,ในหมู่ประชาชนทั่วไป มีสถาบันฝึกทักษะสัมมาอาชีพเกือบทุกๆประเภทเพื่อให้ประชาชนคนไทยพึ่งพาสัมมาอาชีพตนเองยืนด้วยขาตนเองได้จริง มีทุนสัมมาอาชีพเริ่มต้นให้ทุกๆคน ตั้งแต่เยาวชนนักเรียนนักศึกษาเราที่จบใหม่ๆหรือประชาชนทั่วไปที่ผ่านการฝึกอบรบทักษะอาชีพใดๆที่สนใจ ไร้ทุนตังตั้งสัมมาอาชีพ สามารถยืมฟรีๆได้ ไม่มีดอกเบี้ย,มีรายได้ในสัมมาอาชีพนั้นๆที่เหลือใช้สามารถฝากตังไร้ดอกเบี้ยเงินฝากที่กองทุนสัมมาอาชีพ ฝากถอนสร้างสภาพคล่องได้เองตลอดเวลา,เช่นแต่ละหมู่บ้าน80,000ชุมชนทั่วประเทศ,แบงค์ชาติโอนตังเข้ากองทุนสัมมาอาชีพแต่ละชุมชนๆละ10ล้านบาทเบื้องต้นให้คนในชุมชนนั้นๆมายืมไปสร้างสัมมาอาชีพได้ในแต่ละปี เป็นตัง800,000ล้านบาทต่อปีเอง เทียบกับรายได้จากบ่อน้ำมัน เหมืองแร่ทองคำ แร่ทรัพยากรมีค่ามากมายบนแผ่นดินไทย มันมีตังมากมายมหาศาลกว่า100ล้านล้านบาทต่อปีแน่นอนถ้าบริหารจัดการแบบไม่ทุจริตโกงกินแผ่นดินไทยในปัจจุบัน,1ชุมชนไทบ้าน คนสนใจไปสร้างสัมมาอาชีพต่างๆในชุมชนตนเองอาจคนละ100,000บาทยืมสูงสุดก็ช่วยได้100คนหรือ100ครัวเรือนต่อปีเลย,ชุมชนนัันๆปลูกเลี้ยงนั้นนีัส่งออก ยืนด้วยขาตนเองได้มาคืนตังในปีที่สามทันที10ล้านบาทก็สามารถปล่อยยืมหมุนเวียนในชุมชนได้ตลอดเวลาอีก,บวกคน100คนนั้นๆมีรายได้รวมต่อปีเกิน1ล้านบาทอีกเหลือใช้อาจมาแบ่งฝากหมุนเวียนตลอดปีคนละ500,000บาทก็50ล้านบาทประจำชุมชนท้องถิ่นนั้นๆเลย,ความสามัคคีในชุมชนจะแน่นหนาเป็นเครือข่ายกว่า80,000หมู่บ้านชุมชนทั่วประเทศอีก,มีตลาดออนไลน์แบบแพลตฟอร์มthatimeส่งเสริมสนับสนุนการค้าเสรีบนโลกออนไลน์ทั่วโลกอีกจะเกิดอะไรขึ้น ตังหมุนเวียนซื้อขายในแอปอาจกว่า1ล้านล้านบาทต่อวันทั่วโลกก็ได้,ไม่รวมตลาดออฟไลน์แบบตลาดร้านค้าชุมชนหมู่บ้านอีก แบบกองทุนร้านค้าชุมชนในหลายๆหมู่บ้านยังมีเปิดค้าขายของใช้สอยในชุมชนอยู่,สามารถใช้ตังกองทุนฯไปสร้างตลาดชุมชนประจำอำเภอ จังหวัดเป็บฮับพบเจอกันต่อคนซื้อคนขายราคาไม่แพงตรงจากผู้ผลิตอีก แผงผักแผงปลาแผงผลไม้สาระพัดอาหารอุปโภคบริโภค ประชาชนสัมมาอาชีพมีตัง นำตังมากมายมาฝากไว้ในกองทุนอีก กองทุนตังล้นระบบสถาบันแน่นอน ปกติตังสะพัดทั้งประเทศกว่า40-50ล้านล้านบาทต่อปี อนาคตทั้งตลาดออนไลน์และออฟไลน์ในประเทศ อาจกว่า1,000ล้านล้านบาทต่อปีในประเทศไทยบวกทั่วโลกเข้าไทยจะขนาดไหน,เราไม่ต้องขุดสมบัติชาติทรัพยากรแผ่นดินไทยขึ้นมาอีกก็ได้ ต่อยอดอะไรๆต่อไปได้สาระพัดเลย,ฮับโรงพยาบาลโลกที่มีทั้งแบบสมุนไพรไทยผสมผสานล้ำๆเทคโนโลยีโลกAIหุ่นยนต์ชีวภาพ&มนุษย์กึ่งหุ่นยนต์AIซึ่งคนเราอาจพิการตาแขนขาอาจใช้แขนขาจักรกลผสมผสานรักษาทางการแพทย์ได้ลงตัวในไทยเราเติมเต็มตอบโจทย์ผู้คนทั่วโลกให้มารักษาในไทยอย่างสบายใจสะดวกสบายปลอดภัยในสุขภาพร่างกายได้เป็นต้น,สงกรานต์ไทยกินขาดแล้วด้านมิติท่องเที่ยวในช่วงหนึ่งๆ ต่อยอดขายอะไรต่อมิอะไรมากมายในไทยอีก ร่ำรวยโคตรๆก็ว่า,เราจะชัดเจนว่า การปกครองเราเองล้มเหลว ปกครองที่ผิดพลาดและไม่ยอมแก้ไขปรับปรุง มั่นคงให้คนไทยตนเองยากจนทุกข์ยาก,ทาสตังทาสหนี้ ทาสค่าครองชีพแพงในแบบไทยๆภายในไทยเราเองจึงต้องทำลายสถานะทาสนี้ทั้งหมดทันที,พักงานนักการเมืองทั้งหมด สส.สว.ทั้งหมด,ยุบองค์กรกยศ.หรือทุบทิ้งกยศ.ไทยด้วยก็ว่า, อเมริกาล้างหนี้เรียนสมัยไบเดนกว่า350,000บาทต่อคนได้ ทัังที่สภาพหนี้เขากว่า30ล้านล้าน$ยังสามารถทำได้,มองมาไทย สว.ยินยอมลงมติล้างหนี้เยาวชนไทยจากกยศ.ที่ก่อตั้งมาอย่างผิดพลาด หากสว.ตัดสินใจจริง &จริงใจในการห่วงใยเยาวชนไทยจริง จะตัดสินใจกล้าหาญโดยไม่ยาก,และสามารถคิดอ่านตัังหน่วยงานใหม่ให้เยาวชนไทยได้เล่าเรียนฟรีๆสูงๆโดยไม่ต้องมีหนี้สินติดตัวเป็นกำลังของชาติได้สบาย, ..thaitimeหากปลุกติดจริงแบบจุดเทียนช่วงสมัยพันธมิตรขับไล่โทนี่ออกจากประเทศได้สำเร็จและหากทำสุดซอย ยึดอำนาจในภาคมหาประชาชนด้วยได้สำเร็จ อาจไม่เสียของแบบทหารยึดอำนาจทั้งในอดีตและสมัยยึดอำนาจล่าสุดนั้นด้วยเสียของมากๆ ขายที่ดินให้ต่างชาติไร่ละ40ล้านบาทก็สามารถทำได้ ให้ต่างชาติเช่าที่ดินไทยแบบฮ่องกง99ปีก็สำเร็จจากทีมคณะยึดอำนาจไม้ต่อดำรงอำนาจการปกครองไทย ตลอดปล่อยสัมปทานสองแปลงอ่าวไทยให้คนอื่นจยชาติซาอุฯออกหน้าอย่างน่าเกียจด้วยปลื้มใจสำเร็จจะยึดสัมปทานน้ำมันไทยได้จนกะสร้างคลังแสงน้ำมันขนาดใหญ่ในไทยโน้น เหมืองทองคำก็ปล่อยให้ขุดต่อทั้งที่มีคดีกว่า15คดี,ผูกขาดพรบ.เม็ดพันธุ์ให้เอกชนยึดครองถ้าเกษตรกรฉีกซองเก็บเอาทำพันธุ์พืชต่อมีสิทธิ์ติดคุกทันทีแบบซาตานเอกชนฝรั่งทำสำเร็จแล้วโน้นก็ด้วยจะผ่านพรบ.500นี้ให้ได้จนประชาชนไม่ยอม ออกมาประท้วงจึงถอนพรบ.เหี้ยโจร500นี้ออกไปอีกตัว,นี้ยุคทหารอุบาทก์ยึดอำนาจฉีกรัฐธรรมนูญเก่งมากกล้ามากทุกๆยุคการยึดอำนาจรัฐประหารแต่ไม่กล้าขี้ขลาด&เขลากากกระจอกไม่กล้าแม้แต่จะฉีกกฎหมายลูกๆหลานๆที่เอาเปรียบแผ่นดินไทยตนเอง ปล้นชิงสมบัติทรัพยากรชาติไทยตนผ่านกฎหมายลูกกระทรวงทบวงกรมขี้ข้าทาสสัมปทานนั้นเลย เก่งกล้าแต่จะฉีกกฎหมายแม่รัฐธรรมนูญ มันเหี้ยมั้ยการปกครองไทยเรา, .. ..จริงๆthaitimeจึงสมควรที่เป็นเทียนชัยรุ่นบุกเบิกวางรากฐานที่ดีของภาคประชาชนคนไทยเราได้,ยิ่งมีนโยบายชัดไม่แสวงหากำไรมุ่งทำรายได้ผลประโยชน์ต่อสาธารณะมาเป็นของตัวของตนยิ่งจะเป็นแพลตฟอร์มที่ทรงคุณค่าแน่นอน, ..อาทิ ใครอยากจะร่วมจัดตั้งพรรคthaitimeภาคมหาชนคนไทยจริงก็มาลงทะเบียนเป็นสมาชิกพรรคที่นี้,มี40ล้านคนคือ40ล้านเสียงกาเลือกนายกภาคมหาประชาชนไทยจึงสะดวกต่อการสื่อสารแน่นอน, ..thaitimeเป็นแอปตลาดออนไลน์ของกองทุนตังสัมมาอาชีพคนไทยอีกยิ่งจะขนาดไหน,เลิกใช้แพลตฟอร์มอื่นๆของฝ่ายเอกชนต่างชาติอื่นๆจะแอปใดๆอีก มาพูดคุยแลกเปลี่ยนค้าขายออนไลน์ติดตระกร้าอิสระเสรีจะขนาดไหน,โฆษณาต่างๆตามมาตรึม มาช่วยคนพัฒนาแอปมีรายได้กำลังบริหารจัดการแอปมหาชนเราเสรีอีก,อาจอนาคตกว่าเดือนละ10ล้านบาทเข้าคนทำงานแอป แอปเรายิ่งต่อยอดแตกอำนวยความสะดวกเชิงบวกการทำตลาดค้าขายออนไลน์เสรีแก่ชุมชนสังคมแอปไทยนี้แน่นอนทั้งเปิดกว้างเสรีการค้าขายแลกเปลี่ยนทั่วโลกอีก คนทั้งโลกมาร่วมกันใช้แอปนี้ของไทยสัก5,000ล้านคนก็สุดยอดมากแล้ว พากันค้าขายแลกเปลี่ยนสินค้าการตลาดสาระพัดในแอปนี้อีก,คนไทยเรายิงสินค้าไทย&บริการไทยติดตาทั่วโลกได้สบายพันธมิตรการค้าเสรีกับชาวไทยคตธรรมดาเราอีก ขายตรงจากต้นน้ำถึงปลายน้ำเลย อาทิต่างชาติมาเห็นชุมชนหมู่บ้านเราปลูกพืชอินทรีย์ปลอดภัย สั่งซื้อยกชุมชนยกอำเภอ ตังกว่า10,000ล้าน$&หยวนหรือบาทไทยจะขนาดไหน,ตะวันตกขาดสินค้า ยุโรปขาดอาหาร สินค้าไทยมิตรทั่วโลกสั่งตรึม77จังหวัดๆละ100,000ล้านเหรียญหรือหยวนหรือบาทไทย,ในแต่ละเดือนๆ รวยร่ำๆเลยนะ,กองทุนสัมมาอาชีพที่แบงค์ชาติอัดให้ชุมชนละๆ10ล้านบาทหมุนเวียนต่อเนื่องคืนทุนต่อเนื่องในชุมชนแทบตลอดไปไม่เรียกคืนให้งอกเงยสบายมากๆ, ..พื้นฐานจริงๆคือฐานเยาวชนการศึกษาเรานี้ล่ะ เรียนไม่ต้องมีหนี้ติดตัวบวกอัดเงินส่งเสริมสร้างสัมมาอาชีพอิสระเสรีประยุกต์ทำได้หมด,บางคนอาจจบมารวมกลุ่มสมาคมขนาดใหญ่พัฒนาสร้างยานอวกาศบินออกนอกโลกโดยฝีมือเยาวชนไทยรุ่นท่องเที่ยวขนาดเล็กไม่เกิน10ที่นั่งก็อาจสบายมากเป็นต้น,ผีบ้าผู้ปกครองไทยกาก&กระจอกเสือกไม่ตั้งกยศ.ให้คนที่อยากเรียนไปเป็นทาสตังทาสหนี้สู่ทาสแรงงานรับใช้กดขี่อิสระภาพสัมมาอาชีพและความคิดล้ำๆคนไทย,ทัังที่แค่ยึดบ่อน้ำมันคืนบ่อทองคำคืนมาทำมาขายเองก็ร่ำรวยมหาศาลขนาดไหนแล้ว พะสาเศษตังไม่ถึงล้านล้านบาทนี้,เรือบรรทุกน้ำมันขนาดใหญ่มาดูดน้ำมันลงเรือมันไม่กี่ลำแบบเถื่อนๆลับที่พวกได้สัมปทานไปทำตรึมแน่นอนจนกูรูมากมายออกมาแฉตรึม ตีเป็นตังต่อปีอาจมากกว่า100ล้านล้านบาทที่หายไปจากแผ่นดินไทยจนถึงปัจจุบันโน้น.,ยุบกยศทิ้งเถอะ,ไบเดนว่ากากๆยังล้างหนี้ช่วยเยาวชนคนอเมริกาถึงคนละ10,000-20,000$ต่อคนโน้นหรือตังไทย35฿:1$คือ350,000-700,000บาทต่อคนโน้น,แบบไม่ต้องทวงตามหนี้ค่ายืมเล่าเรียนอะไรเลย,เขาลงทุนในเยาวชนลูกหลานเขาเอง เลี้ยงลูกหลานเขาเองจะเป็นอะไร,ย่อมาดูไทยเราอุบาทก์บัดสบ&เหี้ยกากกระจอกตั้งแต่ยกบ่อน้ำมันเต็มประเทศให้เอกชนชาติอื่นหรือหัวดำเอกชนปลอมเป็นต่างชาติก็เถอะหรือบ่อทองคำตรึมก็ด้วยลากยาวทับถมมหาศาลทั่อ่าวไทยเราอีก มันโคตรร่ำรวยมหาศาลเสือกปกครองบ้านเมืองไทยตนเองให้เก็กๆลูกหลานเยาวชนไทยตนนักเรียนนักศุกษาตนมรึงๆอยากเรียนอะไรใส่ความรู้องค์รู้ใส่หัวใส่มันสมองฝึกเหี้ยอะไรทักษะมรึงๆอยากเรียนสูงๆบนแผ่นดินไทยตนมรึงนี้ต้องเป็นหนี้ต้องมีหนี้ต้องติดหนี้โว้ย,ชนชั้นไพร่ประชาชนธรรมดาสามัญลูกตาสีตาสายามาทวดวัวควายสะพายวัวควายเคยเลิกทาสขี้ข้ารับใช้มา,ไม่ได้เป็นไม่ใช่แบบชนชั้นอำมาตย์ขุนนางเจ้าพระมีโรงเรียนทุนโรงเรียนชนชั้นคนปกครองอำมาตย์ขุนนางเจ้าพระยาแบบกูมีตังมากมายกองเป็นภูเขาตำแหน่งราชการใหญ่โตคับเมือง คหบดีพ่อค้าร่ำรวยผูกขาดวงการาชหลวงฝ่ายครองเมืองแบบพวกกู&โควต้าเพียบ&อุปถัมภพตรึม&เส้นสายอัพเกรดเรเวลแบบใดๆกูมีหมดแบบพวกกูชนชั้นปกครอง ไม่ใช่แบบพวกมรึงชนชั้นทาสไพร่พวกเลิกทาสสืบเชื้อสายรับใช้ขี้ข้ามาถึงปัจจุบัน มีอิสระไทหน่อยนิดต้องมีเป็นหนี้มีหนี้ อยากเรียนเพราะจนต้องมีหนี้ติดตัวโว้ย&ว่ะ!!!,นี้คือประเทศกูมี.,อยากเรียนต้องเป็นหนีันะประชาชนคนจนๆธรรมดา&ดิ้นรนหาแดกหางานเอาเองนะ กรมแรงงานหน่วยกูมีไม่ประสานงานเหี้ยหาอะไรหรอกระหว่างจะจบเรียน,&ไม่ควบคุมแรงงานกิจการบริษัทใดๆด้วย,คนไทยจริงๆต้องได้งานก่อนทำงานก่อน,อยากจ้างต่างชาติต่างด้าวก็ไปตั้งกิจการบริษัทโรงงานที่ประเทศต่างด้าวต่างชาตินั้น,กรมแรงงานสมควรยุบไปด้วย.,โรงงานใดๆจะเปิดโรงงานเปิดกิจการเปิดบริษัทต้องมาขอคนงานตรงผ่านกระทรวงแรงงานจัดสรรคนไทยลงไปทำงานหรือติดต่อคนงานไทยนั้นๆไปพบกรมจัดสรรคนงานก่อนตนจึงค่อยอนุมัตรับคนที่ตนต้องการได้มาทำที่ตนและตรงเงื่อนไขว่าต้องจ้างคนไทยก่อนทุกๆกรณี ไม่พอจึงจ้างต่างด้าวโดยต้องขออนุญาต อนุมัติจากกระทรวงทบวงกรมและสังเกตุประพฤติคนงานต่างด้าวก่อนทุกๆกรณี&สแกนคุณสมบัติทั้งหมดทั้งเข้าเมืองถูกต้อง ไม่มีคดีก่ออาชญากรรมต่างๆทั้งในประเทศต้นทางและในไทย และอื่นๆตรึม&ซึ่งคนไทยต้องมีงานทำก่อนทุกๆกรณีก่อนคนต่างชาติต่างด้าว&ติดตามสุขภาพการทำงานของคนงานไทยตนด้วย,กรมแรงงานเราเลอะเทอะ โรงงานต่างชาติเอาแรงงานชาติมันมาทำเต็มโรงงานบนแผ่นดินไทย แย่งที่ดินที่อาศัยคนไทยแย่งอากาศหายใจคนไทย แย่งชิงน้ำเพื่อสนองภาคอุตสาหกรรมโรงงานต่างๆไปจากคนไทยและมากมายที่ดินที่ประเทศเสียอธิปไตยจากเขตเศรษฐกิจพิเศษผีบ้ามากมายที่มุกมันอ้างทำอ้างสร้างขึ้น,คนไทยธรรมดาเข้าพื้นที่มันไปดูสิ่งผิดปกติได้ที่ไหน.เป็นดินแดนปกครองตนเอง&ที่อยู่มันไปเลยเป็นเขตอธิปไตยกว่าสถานฑูตอีกล่ะ.นี้คือการปกครอง&วิถีปกครองที่ผิดพลาด&ล้มเหลว&กากบวกเหี้ยไปยกอธิปไตยไทยมากมายแก่คนอื่นชาติอื่นนั้นเอง,จึงต้องโมฆะทั้งหมดเพื่อคืนสู่สามัญแก่ประเทศไทยเรา.,หรือทั้งประเทศไทยทั้งหมดคนไทยย้ายไปประเทศจีนประเทศอินโดอินเดีย ไปอยู่ในบ้านในเมืองคนอื่นมั้ยล่ะ,เขาคงถีบออกมาทั้งหมดล่ะ,แผ่นดินไทยเสือกไม่รักษาหวงแหนปกป้องร่วมกันไว้แล้วเราจะถอยจะย้ายจะไปอยู่ไหนล่ะ,ที่ตั้งเดิมเรามีปัจจุบันแล้ว เขาเข้ามารุกมาบุกจะมามุกใดๆเราก็โมฆะขับไล่ได้หมดล่ะจะเกรงใจทำพ่อทำโคตรพ่อโคตรแมร่งมันอะไร เราถอยหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้วนะ,เยาวชนไทยเขาจะทำลายผ่านตังผ่านระบบการศึกษาผ่านมุกหนี้ตังคนอยากเรียน,แก้มุกมันเลยคือยุบทิ้งล้างไพ่มันทันทีคือยุบกยศ. ปลดปล่อยเด็กๆเยาวชนคนที่เติบโตเป็นประชาชนคนไทยเราเองเป็นอิสระภาพจะกั้กเอาดูหรูทำเท่ห่าสวรรค์วิมานห่าอะไร เสียบ่อน้ำมันเสียบ่อทองคำมากมายตีเป็นเงินโคตรมหาศาลเสือกเสียดายตังกะทวงหนี้ทำไมแก่ลูกๆหลานคนไทยตนเอง,พวกโกงปล้นชาติแบบนักการเมืองเลวข้าราชการชั่วตีค่าเป็นเงินเป็นตังอาจกว่า100ล้านล้านบาทแล้วถึงปัจจุบันที่เราสูญเสียไปทางลับๆใต้บัญชีใต้ดินต่างๆไม่รวมกรณีฟอกตังในอดีตแบบเกาะเคแมนหรือเกาะเถื่อนๆต่างๆทั่วโลกที่ชนชั้นผู้ดีชนชั้นปกครองเจ้าสัวเจ้าพระลูกหลานคนสถุนต่อแผ่นดินไทยไปเปิดกิจการบริษัทไว้อีกนะ, ..มโนเล่นๆ สมมุติพรรคthaitimeได้เป็นนายกฯปกครองประเทศ นอกจากนโยบายหลักข้อแรกที่อยากให้ตั้งชัดเจนคือนยึดคืนวัตถุดิบทรัพยากรพัฒนาชาติไทยทั้งหมดยึดกลับคืนมา.ข้อที่สองคือยุบกยศ.ทิ้ง&ล้างหนี้นักเรียนนักศึกษาคนไทยทั้งหมดทุกๆกรณี แล้วตั้งกองทุนการศึกษาแห่งชาติไทย(กศช.)ขึ้นมาแทน,ที่สามคือล้างหนี้ประชาชนธรรมดาทั้งหมดคืนอิสระภาพแห่งชีวิตให้ทุกๆเป็นอิสระแห่งหนี้สินจริงๆจังๆ. ยุคอนาคตเชื่อว่าเราประเทศเราประชาชนคนไทยไม่แพ้ใครๆในโลกแน่นอน เพราะคนอัจฉริยะมากมายจะมาเกิดบนแผ่นดินไทยเป็นอันมาก,ด้วยสนามแม่เหล็กโลกพลิกเปลี่ยนก็ด้วยทำให้มันสมองตานัยเราคนไทยเปิดอัตโนมัติแบบไม่รู้ตัวก็ด้วย,ทั้งพื้นฐานรากเหง้าเรามีภูมิจิตภูมิธรรมเป็นเอกอยู่แล้วด้วย. https://youtube.com/live/e8H6CbIqBhw?si=_3UqmfFzhuI8-pW8
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 893 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชีวิตคือสมมุติ #ชวนดูซีรีส์ #wetv #ซีรีส์น่าดู #เพลงเพราะ #ว่างว่างก็แวะมา
    ชีวิตคือสมมุติ #ชวนดูซีรีส์ #wetv #ซีรีส์น่าดู #เพลงเพราะ #ว่างว่างก็แวะมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • นักดาราศาสตร์อาจค้นพบหลักฐานที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับ Planet Nine ซึ่งเป็นดาวเคราะห์สมมุติที่อาจอยู่ในระบบสุริยะของเรา โดยใช้ข้อมูลจาก ดาวเทียมอินฟราเรดสองดวง ที่เก็บรวบรวมมานานกว่า 23 ปี

    การศึกษานี้นำโดย Terry Long Phan จาก National Tsing Hua University ในไต้หวัน ซึ่งใช้ข้อมูลจาก NASA's Infrared Astronomical Satellite (IRAS) ในปี 1983 และ ดาวเทียม AKARI ของญี่ปุ่น (2006-2011) เพื่อค้นหาวัตถุที่อาจเคลื่อนที่ไปตามวงโคจรที่คาดการณ์ไว้ของ Planet Nine

    ✅ Planet Nine อาจเป็นดาวเคราะห์ขนาดเท่า Neptune ที่อยู่ไกลจากดวงอาทิตย์หลายร้อยเท่า
    - มีมวลมากกว่าโลกและอาจมีวงโคจรที่ยาวมาก
    - อาจเป็นสาเหตุของการจัดเรียงตัวผิดปกติของวัตถุใน Kuiper Belt

    ✅ การค้นพบนี้ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมอินฟราเรดสองดวงที่เก็บรวบรวมมานานกว่า 23 ปี
    - IRAS (1983) และ AKARI (2006-2011)
    - นักวิจัยพบวัตถุที่เคลื่อนที่ไป 47.4 arcminutes ในช่วงเวลานี้

    ✅ การตรวจสอบเพิ่มเติมจำเป็นต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ที่ทรงพลัง
    - กล้อง Dark Energy Camera ในชิลีอาจช่วยยืนยันตำแหน่งของวัตถุ
    - หากได้รับการยืนยัน อาจเป็นการค้นพบดาวเคราะห์ใหม่ในระบบสุริยะ

    ✅ ทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของ Planet Nine
    - อาจถูกผลักออกจากระบบสุริยะชั้นในโดยแรงโน้มถ่วงของ Jupiter หรือ Saturn
    - หรืออาจเป็น ดาวเคราะห์เร่ร่อนที่ถูกจับเข้ามาในระบบสุริยะ

    https://www.techspot.com/news/107802-astronomers-spot-possible-planet-nine-data-spanning-23.html
    นักดาราศาสตร์อาจค้นพบหลักฐานที่น่าสนใจที่สุดเกี่ยวกับ Planet Nine ซึ่งเป็นดาวเคราะห์สมมุติที่อาจอยู่ในระบบสุริยะของเรา โดยใช้ข้อมูลจาก ดาวเทียมอินฟราเรดสองดวง ที่เก็บรวบรวมมานานกว่า 23 ปี การศึกษานี้นำโดย Terry Long Phan จาก National Tsing Hua University ในไต้หวัน ซึ่งใช้ข้อมูลจาก NASA's Infrared Astronomical Satellite (IRAS) ในปี 1983 และ ดาวเทียม AKARI ของญี่ปุ่น (2006-2011) เพื่อค้นหาวัตถุที่อาจเคลื่อนที่ไปตามวงโคจรที่คาดการณ์ไว้ของ Planet Nine ✅ Planet Nine อาจเป็นดาวเคราะห์ขนาดเท่า Neptune ที่อยู่ไกลจากดวงอาทิตย์หลายร้อยเท่า - มีมวลมากกว่าโลกและอาจมีวงโคจรที่ยาวมาก - อาจเป็นสาเหตุของการจัดเรียงตัวผิดปกติของวัตถุใน Kuiper Belt ✅ การค้นพบนี้ใช้ข้อมูลจากดาวเทียมอินฟราเรดสองดวงที่เก็บรวบรวมมานานกว่า 23 ปี - IRAS (1983) และ AKARI (2006-2011) - นักวิจัยพบวัตถุที่เคลื่อนที่ไป 47.4 arcminutes ในช่วงเวลานี้ ✅ การตรวจสอบเพิ่มเติมจำเป็นต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ที่ทรงพลัง - กล้อง Dark Energy Camera ในชิลีอาจช่วยยืนยันตำแหน่งของวัตถุ - หากได้รับการยืนยัน อาจเป็นการค้นพบดาวเคราะห์ใหม่ในระบบสุริยะ ✅ ทฤษฎีเกี่ยวกับที่มาของ Planet Nine - อาจถูกผลักออกจากระบบสุริยะชั้นในโดยแรงโน้มถ่วงของ Jupiter หรือ Saturn - หรืออาจเป็น ดาวเคราะห์เร่ร่อนที่ถูกจับเข้ามาในระบบสุริยะ https://www.techspot.com/news/107802-astronomers-spot-possible-planet-nine-data-spanning-23.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Astronomers spot possible Planet Nine in data spanning 23 years
    Astronomers have long speculated about an unseen planet lurking in the solar system's outer edge. This hypothetical world, dubbed Planet Nine, could explain the unusual clustering of...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว

  • ..นี้ก็ด้วย
    ..แผนสร้างความแตกแยก
    ..การจัดการที่ดีคือกรมแรงงานต้องจัดการ,เช่นนั้นจะส่งเสริมระบบการศึกษาทำไม.
    ..วุฒิการศึกษาใครบอกว่าไม่จำเป็น นี้การสร้างคุณค่ามนุษย์ในตัวด้วย มิใช่การแบ่งชั้นแบ่งสถานะ,แค่คือคุณค่าความพยายามของเขาที่ต่อสู้จนได้วุฒิการศึกษามา คุณภาพชีวิตเขาต้องอัพเกรดตามวุฒิถูกแล้ว,นี้คือการส่งเสริมคนให้ด้อยค่าตกต่ำลง,หรือล่อลวงคนเป็นทาสระบบง่ายด้วย ควบคุมชนชั้นแรงงานค่าทาส ไม่ยกระดับคนยกระดับจิตใจคนด้วย,กดราคาค่าจ้างแรงงานก็ด้วย วุฒิต่ำๆค่าจ้างถูกๆกิจการค้ากำไรเขามองทะลุอยู่แล้ว,สร้างวลีบิดเบือนด้วย ให้ค่าคนวุฒิไม่สูง ตีค่าคนวุฒิสูงด้อยค่าในตัวล่ะ,เรากำลังถูกหลอกให้หลงทางตามทุนโรงงานกิจการสร้าง,หน้าที่รัฐคืออย่านำเขาแรงงานต่างด้าวมาทำงานที่ไทย เมื่อโรงงานในไทยกล้าเปิดกิจการ คนไทยต้องได้รับจ้างก่อน วุฒิป.เอก วุฒิป.โท ป.ตรี ต้องได้ทำงานทุกๆคนไทยจนมาถึง ปวส.ปวช. ม.6 ม.3 ป.6 ครบทุกๆวุฒิ ทะเบียนคนจบวุฒิการศึกษาต้องมีในไทย ,สถานะการมีงานทำต้องมีในกรมแรงงานด้วย,พร้อมอัพเกรดวุฒิ&ทักษะฝีมือช่วยนักศึกษาประชาชนคนไทยให้เหมาะสมในอาชีพที่ต้องการทำ,โรงงานใดๆขาดวุฒิอะไรต้องงานคนงานแบบไหน กิจการนั้นต้องประสานมาที่กรมแรงงานทางตรงเพื่อจัดสรรคัดกรองคนตอบสนองคนงาน&บริหารจัดการภาคแรงงานระดับของชาติไทยให้สมดุลกันและช่วยคุ้มครองสถานะงานคนไทยเราได้ด้วย,มิใช้กิจการโรงงานมาลดดุลอำนาจ ลดค่าด้อยค่าวุฒิการศึกษาเรเวลใดๆลดหรือเพิ่มค่าให้แตกความสามัคคีกันในประเทศไทย,เช่นสายปกครองก็ผูกขาดสายปกครองแบบโรงเรียนทหารโรงเรียนตำรวจ จบมาผูกขาดสถานะชนชั้นปกครองขึ้นทำงานขึ้นดำรงตำแหน่งตามสายทำงานผูกขาดนั้นๆ ต่างจากประชาชนต้องดิ้นรนกันเองตามยาถากรรม,ส่วนสายปกครอง มีทั้งเส้นสายโควต้า&ระบบอุปถัมภพอีก เจ้าขุนมูลนายเชื้อตระกูลนั้นนี้วงศ์สกุลใครมันอีกส่งลูกหลานตนเข้ายึดครองดำรงไว้ซึ่งสถานะตนในอำนาจปกครองหน่วยงานนั้นๆก็ว่า ลูกหลานประชาชนตาสีตาสาน้อยคนนะจะหลุดเข้าระบบอำนาจตำแหน่งนี้ เครือญาติเครือวงศ์สกุลใครเป็นเจ้าของเดิมเก่าใหม่จึงยอมกันยาก,พะสาตำแหน่งงานราชการอื่นๆคนใครคนมันอีก,การสอบต่างๆสุดท้ายจริงๆคือกำแพงกีดกันประชาชนตาดำๆมิให้เข้าไปในวงจรอุบาทก์ตนนั้นล่ะขัดขวางการแดกประเทศผูกขาดความร่ำรวยมั่งคั่งก็ได้,อาทิ บ่อน้ำมัน บ่อทองคำ ประมูลงานหลวงงานรัฐต่างๆเมื่อสืบเชื้อสายความสัมพันธ์จริงๆมันผลประโยชน์ตกทอดลงตระกูลใครมันที่เป็นเส้นสายกันหมดแล้ว,
    ..วุฒิการศึกษาจริงๆสำคัญมาก ไม่ใช่พวกซื้อวุฒิมานะ พวกนี้กว่าจะจบการศึกษาเข้าเจอหลากหลายสถานะการณ์ คนดีก็เจอแบบดี คนชั่วก็เจอแบบชั่ว ทั้งคนดีคนชั่วเจอทั้งแบบดีแบบชั่ว คนสร้างเป็นคนเป็นมนุษย์ออกมา สร้างคุณภาพคนขึ้นผ่านการศึกษาที่ดี ครูดี สำนักดี ก็ออกมาดี สุดท้ายชาติก็ดีแข็งแกร่งด้วยคนดีการศึกษาดีแยกดีเลวชั่วออกจากคุณภาพการศึกษาที่เพาะตนออกมาสู่สังคมชาติชุมชนตน,
    ..การศึกษาแม้จริงไม่ต้องมีวุฒิค้ำประกัน,แต่มันคือสมมุติที่ต้องเบิกทางเริ่มต้นก่อน,ส่วนทักษะชำนาญชีพใดๆก็จากการรู้ผิดถูกที่ศึกษาจริงผ่านมานั้นเอง,เขาจะเริ่มประยุกต์ปรับปรุงเองล่ะ,จึงเป็นเกณฑ์ขั้นต้นที่ดี,ส่วนเข้าไปแล้ว เจ้าของกิจการก็คนปกติธรรมดานี้ล่ะเพียงมีตังมากกว่าเท่านั้น,จะจ้างอัพเงินเดือนเพิ่มหรือลดก็สิทธิ์คนจ้าง,ชอบไม่ชอบใครก็ไม่จ้างแค่นั้น,แต่วุฒิการศึกษาไม่ใช่หน้าที่คนจ้างจะไปลดค่าด้อยค่าคุณวุฒิเขา หรือกิจการนั้นๆก็ด้วย,และการจ้างงานทั้งหมด กรมแรงงานต้องควบคุมกิจการบริษัททั้งหมดที่เปิดทำการในประเทศไทย,จำนวนคนงาน แรงงานที่ต้องการก่อนสร้างโรงงาน กิจการนั้นๆมุ่งการรับรู้แล้วต้องส่งหนังสือตรงถึงกรมแรงงานและต้องการกำลังคนแรงงานเท่าใดมากน้อยขนาดไหน วุฒิอะไรออกมา,แล้วกรมแรงงานจึงตอบกลับไปว่าจะจัดสรรหาให้สนองตอบครบแบบใด,มีเป้าหมายวางแผนแบบใดๆโดยมุ่งเน้นว่าทุกๆวุฒิการศึกษาที่ทุกๆคนไทยเล่าเรียนมาต้องมีสถานะได้งานทำก่อนอันดับแรกมิใช่ต่างชาติต่างด้าวได้งานมำก่อนคนไทยจนคนไทยตกงาน,ถ้าโรงงานต้องการแรงงานถูกค่าจ้างต่ำๆก็ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการใดๆที่ออกให้ไปหากไม่รับแรงงานคนไทยก่อนที่กรมแรงงานส่งคนงานตรงให้ไป,ก็ให้ไปสร้างโรงงานสร้างกิจการที่ประเทศแรงงานต่ำแรงงานถูกๆที่คนต่างด้าวนั้นอยู่ในประเทศเขาแทนอย่ามาตั้งโรงงานบนแผ่นดินไทยหากต้องการแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานจากประเทศตนที่ย้ายมาตั้งในไทย แบบจีนแบบพม่า โรงงานนั้นในบนแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยแรงงานพม่าเขมร,โรงงานจีนก็เต็มไปด้วยคนจีน,บริษัทอยู่ในไทยแต่คนงานคือแรงงานต่างด้าวเต็มโรงงาน,คนไทยถูกด้อยค่าทัังค่าจ้างทั้งไม่เอาวุฒิที่สูง จบสูงเพราะค่าแรงแพงจ้างไม่ไหว,นี้ไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยคนงานไทยวุฒิการศึกษาไทย แต่คือปัญหากิจการนั้นๆจะกดขี่คุณภาพแรงงานคนไทย วุฒิการศึกษาไทย,และหน่วยงานรัฐเราสามารถกำหนดการจ้างงานได้,เช่นชำแหละไก่ โรงงานทั่วประเทศรับขึ้นต่ำวุฒิป.ตรีเท่านั้นเป็นต้น.ส่วน ม.6 ม.3 ปวช. ปวส.รัฐจะบริหารจัดสรรจัดหาจัดการเอง ควบคุมเอง,นั้นคือรัฐค้ำประกันการมีงานทำจริงของคนวุฒิที่ว่า อาจทำงานในภาคหน่วยงานรัฐเองที่กระจายอยู่เต็มประเทศ นอกจากวุฒิป.ตรี โท เอก ที่สอบเข้าราชการได้ปกติอยู่แล้ว คนวุฒินี้จะมีภูมิป้องกันตนเอง ไร้กดขี่แรงงานง่ายๆด้วยภายในประเทศไทยเรา ต่างจากวุฒิป.6 ม.3 ม.6 ปวช.หรือปวส. การกดขี่ค่าจ้างค่าแรงจากเอกชนย่อมเสี่ยงสูงกว่าทั้งอ้างว่าเอกชนสามารถจ้างใช้แรงงานได้ในราคาต่ำราคาถูกนั้นเอง,ภาวะตกงานภายในประเทศจะสิ้นสุดทันที นอกจากห้ามนำเข้าแรงงานต่างด้าวมาทำงานก่อนแรงงานคนไทยที่ต้องได้งานทำจนครบคนไทยจริงก่อน,ขาดจริงจึงกรมแรงงานอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติต่างด้าวมาทดแทนแรงงานคนไทยที่ขาดไปด้วย,กรมแรงงานหรือรัฐบาลเราบริหารจัดการผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น และตั้งแต่สถานศึกษาผลิตคนด้วยจนถึงกระบวนการสร้างคนเพื่อมุ่งสัมมาอาชีพต่างๆออกคืนสู่สังคมใหญ่ภาพรวมระดับประเทศ,เราจะเห็นตัวเลขแรงงานที่ตกงานทั้งหมดได้ชัด เห็นตัวเลขที่คนไทยได้งานได้จริง,เห็นสถานะการเงินความมั่นคงทางสัมมาอาชีพคนไทยได้ทั่วถึงและพร้อมเข้าช่วยเหลือคนไทยนั้นๆที่อยู่ในสถานะที่ผิดปกติไปเช่นตกงานขาดรายได้ อาชีพนั้นไม่เหมาะกับสุขภาพร่างกายแก่งานที่ทำปัจจุบัน สลับปรับเปลี่ยนให้คนไทยทุกๆคนยืนด้วยขาตนเองได้จริง พึ่งพาตนเองได้แท้,จนถึงขั้นหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของจ้างตนเองทำงานเองมีรายได้เองมั่นคงในอาชีพตนที่แสวงหาจะเป็น อาทิคนเกษตรผสมผสานพอเพียง สร้างรายได้เข้าบ้านจากสวนจานาจากที่ดินตนเองอาจกว่าเดือนละแสนบาทต่อเดือนเป็นต้นในพื้นที่ไม่กี่ไร่ของตนเอง ,หรือออกจากโรงงานบริษัทกิจการต่างๆมาทำสัมมาอาชีพตนเองค้าขายเปิดร้านทั่วไปขายอาหารเครื่องใช้ใดๆขายแผงปลาแผงผักผลไม้ทุเรียนรายได้กว่าล้านบาทต่อปีก็สามารถทำได้ นั้นคือกรมแรงงานมิใช่ส่งเสริมแรงงานทักษาอาชีพ ยังสนับสนุนเงินทุนสร้างอาชีพด้วย มิใช่แสวงหาประโยชน์แบบแบงค์ปล่อยเงินกู้สร้างอาชีพ เป็นหนี้เป็นงูกินหางมิสามารถหลุดพ้นอิสระภาพได้.
    ..วุฒิการศึกษาคือการยกระดับจิตใจยกคุณค่าของชีวิตและคุณค่ามนุษย์ความเป็นคนเป็นมนุษย์ได้ ,มีนัยยะดีๆมากมายจากการกว่าจะมาแห่งวุฒิการศึกษานั้นๆของใครมัน,และนี้คือเป้าหมายการทำลายคุณค่าคนคุณค่ามนุษย์ด้อยค่าคนด้อยค่ามนุษย์ในอนาคตด้วยนำหุ่นยนต์AIเข้ามาทดแทนคนงานแรงงานคนแรงงานมนุษย์ในอนาคต,จึงทำลายวลีวุฒิการศึกษาก่อน ด้อยค่าวุฒิการศึกษาก่อน,เสมือนทำลายอะไรง่ายๆต่อไปอย่างสบายๆในอนาคตต่อคุณค่ามนุษย์ โรงงานมากมายจะทดแทนด้วยหุ่นยนต์หรือAIมากมายหลากหลายสไตล์,วุฒิการศึกษาจึงเป็นการยกเรเวลคุณค่ามนุษย์ในสายสัมพันธุ์ความเป็นมนุษย์ในตัว,เมื่อแต่ละกิจการโรงงานทำสำเร็จ ด้อยค่าใช้วุฒิที่จ้างงานราคาต่ำราคาถูกสำเร็จ แผนการนำเข้าหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานถูกในโรงงานต่างๆบริษัทกิจการต่างๆที่ด้อยค่าจะสำเร็จโดยง่าย.แล้วเราจะใช้สมมุติอะไรดูสถานะคุณค่ามนุษย์เป็นพื้นฐาน แล้วเราจะส่งลูกหลานเล่าเรียนไปทำซากอะไร,การปกครองด้วยจะมีไว้ให้คนอื่นตีตรากฎหมายออกมาปกครองเราทำไมตลอดเวลา,ตลอดอนาคตอันใกล้AIมันก็เขียนกฎหมายตีตราออกมาบังคับผู้คนได้แล้วโดยง่ายๆด้วย.,นั้นยิ่งตอกย้ำว่าคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนไทยและทั้งโลกจะถูกปกครองด้วยAIหุ่นยนต์แล้วใช่หรือไม่.ทั้งมันจะฝังชิปใส่สมองมนุษย์อีกล่ะ ต่อไปไม่ต้องไปโรงเรียนเอาวุฒิล่ะ อยากรู้อะไรโหลดเข้าสมองเลย กึ่งมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์ล่ะ,และอนาคตชัดเจนว่า สงครามหุ่นยนต์เกิดขึ้นแน่นอน,หนักกว่าสงครามสมัยถือมีดถือดาบหรือระเบิดๆแบบปัจจุบันอีก,โลกนี้อาจถือทำลายภายในพลิกตาก็ว่า.ดังนั้นจึงจรรโลงคุณค่าสถานะสมมุติการบ่งบอกการมีตังตนของคุณค่ามนุษย์แบบเราๆในยุคเวลาเรานี้เถอะ อีก100ปี อีก2-3พันปีนับจากนี้คงอีกเรื่องแล้ว,วิถีสัมมาขีวิตแบบพอดีพอดีเพียงพอและพอเพียงจึงสมสถานะคนไทยเรามาก,เราต้องสร้างชาติไทยเราเอง มิใช่แรงงานต่างด้าวบริษัทต่างชาติที่ถือหุ้นในรูปบริษัทต่างๆที่ตั้งบนแผ่นดินไทยเรามาสร้างชาติให้คนไทยเราเองนะ,ก็บริษัทพวกนี้ล่ะเหี้ยๆทั้งนั้นเกิดขึ้นมา ดูราคาน้ำมันสิแพงๆมั้ย ยุบ&ถีบบริษัทนี้ออกจากแผ่นดินไทยสิ ราคาน้ำมันคืนเป็นของคนไทยเลย ขายราคาต่ำๆแบยอิหร่านลิตรละ1-2บาทก็ได้,รถยนต์ค่าขนส่งไปมาไหนๆจะไม่แพง ต้นทุนฐานจะต่ำ แข่งขันจะเป็นเชิงบวกแก่คนไทยที่ค้าขายกับต่างชาติ,ระดับจิตใจผู้คนทั้งชาติจะเย็นเลยล่ะ.ไม่ดิ้นรนบ้าคลั่งใช้หนี้สาระพัดใช้จ่ายในภาระต่างๆจนแทบตายก็ยังไม่พอก็ว่าในแบบปัจจุบันซึ่งโลกก็โคตรเศรษฐกิจพังปกติอยู่แล้ว,

    ..เราต้องรีเซ็ตใหม่จริงๆ วัตถุดิบสมบัติชาติแบบทรัพยากรมีค่ามากมายต้องได้คืนมาจริงด้วย,มิใช่ยังถูกปล้นชิงแบบในปัจจุบัน ยึดอำนาจกว่าสิบครั้งเสียของหมด,บ่อน้ำมันบ่อทองคำไม่เคยได้คืนมาเลย,ขุดเจาะดูดกลั่นขายเองก็ได้ ทองคำก็ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไปสิ เสือกยกให้คนอื่น เหี้ยจริงๆ.

    https://youtube.com/shorts/np7PPSH7bKc?si=GdvFcFFOIUM3X4Y5

    ..นี้ก็ด้วย ..แผนสร้างความแตกแยก ..การจัดการที่ดีคือกรมแรงงานต้องจัดการ,เช่นนั้นจะส่งเสริมระบบการศึกษาทำไม. ..วุฒิการศึกษาใครบอกว่าไม่จำเป็น นี้การสร้างคุณค่ามนุษย์ในตัวด้วย มิใช่การแบ่งชั้นแบ่งสถานะ,แค่คือคุณค่าความพยายามของเขาที่ต่อสู้จนได้วุฒิการศึกษามา คุณภาพชีวิตเขาต้องอัพเกรดตามวุฒิถูกแล้ว,นี้คือการส่งเสริมคนให้ด้อยค่าตกต่ำลง,หรือล่อลวงคนเป็นทาสระบบง่ายด้วย ควบคุมชนชั้นแรงงานค่าทาส ไม่ยกระดับคนยกระดับจิตใจคนด้วย,กดราคาค่าจ้างแรงงานก็ด้วย วุฒิต่ำๆค่าจ้างถูกๆกิจการค้ากำไรเขามองทะลุอยู่แล้ว,สร้างวลีบิดเบือนด้วย ให้ค่าคนวุฒิไม่สูง ตีค่าคนวุฒิสูงด้อยค่าในตัวล่ะ,เรากำลังถูกหลอกให้หลงทางตามทุนโรงงานกิจการสร้าง,หน้าที่รัฐคืออย่านำเขาแรงงานต่างด้าวมาทำงานที่ไทย เมื่อโรงงานในไทยกล้าเปิดกิจการ คนไทยต้องได้รับจ้างก่อน วุฒิป.เอก วุฒิป.โท ป.ตรี ต้องได้ทำงานทุกๆคนไทยจนมาถึง ปวส.ปวช. ม.6 ม.3 ป.6 ครบทุกๆวุฒิ ทะเบียนคนจบวุฒิการศึกษาต้องมีในไทย ,สถานะการมีงานทำต้องมีในกรมแรงงานด้วย,พร้อมอัพเกรดวุฒิ&ทักษะฝีมือช่วยนักศึกษาประชาชนคนไทยให้เหมาะสมในอาชีพที่ต้องการทำ,โรงงานใดๆขาดวุฒิอะไรต้องงานคนงานแบบไหน กิจการนั้นต้องประสานมาที่กรมแรงงานทางตรงเพื่อจัดสรรคัดกรองคนตอบสนองคนงาน&บริหารจัดการภาคแรงงานระดับของชาติไทยให้สมดุลกันและช่วยคุ้มครองสถานะงานคนไทยเราได้ด้วย,มิใช้กิจการโรงงานมาลดดุลอำนาจ ลดค่าด้อยค่าวุฒิการศึกษาเรเวลใดๆลดหรือเพิ่มค่าให้แตกความสามัคคีกันในประเทศไทย,เช่นสายปกครองก็ผูกขาดสายปกครองแบบโรงเรียนทหารโรงเรียนตำรวจ จบมาผูกขาดสถานะชนชั้นปกครองขึ้นทำงานขึ้นดำรงตำแหน่งตามสายทำงานผูกขาดนั้นๆ ต่างจากประชาชนต้องดิ้นรนกันเองตามยาถากรรม,ส่วนสายปกครอง มีทั้งเส้นสายโควต้า&ระบบอุปถัมภพอีก เจ้าขุนมูลนายเชื้อตระกูลนั้นนี้วงศ์สกุลใครมันอีกส่งลูกหลานตนเข้ายึดครองดำรงไว้ซึ่งสถานะตนในอำนาจปกครองหน่วยงานนั้นๆก็ว่า ลูกหลานประชาชนตาสีตาสาน้อยคนนะจะหลุดเข้าระบบอำนาจตำแหน่งนี้ เครือญาติเครือวงศ์สกุลใครเป็นเจ้าของเดิมเก่าใหม่จึงยอมกันยาก,พะสาตำแหน่งงานราชการอื่นๆคนใครคนมันอีก,การสอบต่างๆสุดท้ายจริงๆคือกำแพงกีดกันประชาชนตาดำๆมิให้เข้าไปในวงจรอุบาทก์ตนนั้นล่ะขัดขวางการแดกประเทศผูกขาดความร่ำรวยมั่งคั่งก็ได้,อาทิ บ่อน้ำมัน บ่อทองคำ ประมูลงานหลวงงานรัฐต่างๆเมื่อสืบเชื้อสายความสัมพันธ์จริงๆมันผลประโยชน์ตกทอดลงตระกูลใครมันที่เป็นเส้นสายกันหมดแล้ว, ..วุฒิการศึกษาจริงๆสำคัญมาก ไม่ใช่พวกซื้อวุฒิมานะ พวกนี้กว่าจะจบการศึกษาเข้าเจอหลากหลายสถานะการณ์ คนดีก็เจอแบบดี คนชั่วก็เจอแบบชั่ว ทั้งคนดีคนชั่วเจอทั้งแบบดีแบบชั่ว คนสร้างเป็นคนเป็นมนุษย์ออกมา สร้างคุณภาพคนขึ้นผ่านการศึกษาที่ดี ครูดี สำนักดี ก็ออกมาดี สุดท้ายชาติก็ดีแข็งแกร่งด้วยคนดีการศึกษาดีแยกดีเลวชั่วออกจากคุณภาพการศึกษาที่เพาะตนออกมาสู่สังคมชาติชุมชนตน, ..การศึกษาแม้จริงไม่ต้องมีวุฒิค้ำประกัน,แต่มันคือสมมุติที่ต้องเบิกทางเริ่มต้นก่อน,ส่วนทักษะชำนาญชีพใดๆก็จากการรู้ผิดถูกที่ศึกษาจริงผ่านมานั้นเอง,เขาจะเริ่มประยุกต์ปรับปรุงเองล่ะ,จึงเป็นเกณฑ์ขั้นต้นที่ดี,ส่วนเข้าไปแล้ว เจ้าของกิจการก็คนปกติธรรมดานี้ล่ะเพียงมีตังมากกว่าเท่านั้น,จะจ้างอัพเงินเดือนเพิ่มหรือลดก็สิทธิ์คนจ้าง,ชอบไม่ชอบใครก็ไม่จ้างแค่นั้น,แต่วุฒิการศึกษาไม่ใช่หน้าที่คนจ้างจะไปลดค่าด้อยค่าคุณวุฒิเขา หรือกิจการนั้นๆก็ด้วย,และการจ้างงานทั้งหมด กรมแรงงานต้องควบคุมกิจการบริษัททั้งหมดที่เปิดทำการในประเทศไทย,จำนวนคนงาน แรงงานที่ต้องการก่อนสร้างโรงงาน กิจการนั้นๆมุ่งการรับรู้แล้วต้องส่งหนังสือตรงถึงกรมแรงงานและต้องการกำลังคนแรงงานเท่าใดมากน้อยขนาดไหน วุฒิอะไรออกมา,แล้วกรมแรงงานจึงตอบกลับไปว่าจะจัดสรรหาให้สนองตอบครบแบบใด,มีเป้าหมายวางแผนแบบใดๆโดยมุ่งเน้นว่าทุกๆวุฒิการศึกษาที่ทุกๆคนไทยเล่าเรียนมาต้องมีสถานะได้งานทำก่อนอันดับแรกมิใช่ต่างชาติต่างด้าวได้งานมำก่อนคนไทยจนคนไทยตกงาน,ถ้าโรงงานต้องการแรงงานถูกค่าจ้างต่ำๆก็ยกเลิกใบอนุญาตประกอบกิจการใดๆที่ออกให้ไปหากไม่รับแรงงานคนไทยก่อนที่กรมแรงงานส่งคนงานตรงให้ไป,ก็ให้ไปสร้างโรงงานสร้างกิจการที่ประเทศแรงงานต่ำแรงงานถูกๆที่คนต่างด้าวนั้นอยู่ในประเทศเขาแทนอย่ามาตั้งโรงงานบนแผ่นดินไทยหากต้องการแรงงานต่างด้าวหรือแรงงานจากประเทศตนที่ย้ายมาตั้งในไทย แบบจีนแบบพม่า โรงงานนั้นในบนแผ่นดินไทยเต็มไปด้วยแรงงานพม่าเขมร,โรงงานจีนก็เต็มไปด้วยคนจีน,บริษัทอยู่ในไทยแต่คนงานคือแรงงานต่างด้าวเต็มโรงงาน,คนไทยถูกด้อยค่าทัังค่าจ้างทั้งไม่เอาวุฒิที่สูง จบสูงเพราะค่าแรงแพงจ้างไม่ไหว,นี้ไม่ใช่ปัญหาประเทศไทยคนงานไทยวุฒิการศึกษาไทย แต่คือปัญหากิจการนั้นๆจะกดขี่คุณภาพแรงงานคนไทย วุฒิการศึกษาไทย,และหน่วยงานรัฐเราสามารถกำหนดการจ้างงานได้,เช่นชำแหละไก่ โรงงานทั่วประเทศรับขึ้นต่ำวุฒิป.ตรีเท่านั้นเป็นต้น.ส่วน ม.6 ม.3 ปวช. ปวส.รัฐจะบริหารจัดสรรจัดหาจัดการเอง ควบคุมเอง,นั้นคือรัฐค้ำประกันการมีงานทำจริงของคนวุฒิที่ว่า อาจทำงานในภาคหน่วยงานรัฐเองที่กระจายอยู่เต็มประเทศ นอกจากวุฒิป.ตรี โท เอก ที่สอบเข้าราชการได้ปกติอยู่แล้ว คนวุฒินี้จะมีภูมิป้องกันตนเอง ไร้กดขี่แรงงานง่ายๆด้วยภายในประเทศไทยเรา ต่างจากวุฒิป.6 ม.3 ม.6 ปวช.หรือปวส. การกดขี่ค่าจ้างค่าแรงจากเอกชนย่อมเสี่ยงสูงกว่าทั้งอ้างว่าเอกชนสามารถจ้างใช้แรงงานได้ในราคาต่ำราคาถูกนั้นเอง,ภาวะตกงานภายในประเทศจะสิ้นสุดทันที นอกจากห้ามนำเข้าแรงงานต่างด้าวมาทำงานก่อนแรงงานคนไทยที่ต้องได้งานทำจนครบคนไทยจริงก่อน,ขาดจริงจึงกรมแรงงานอนุญาตนำเข้าแรงงานต่างชาติต่างด้าวมาทดแทนแรงงานคนไทยที่ขาดไปด้วย,กรมแรงงานหรือรัฐบาลเราบริหารจัดการผิดพลาดตั้งแต่เริ่มต้น และตั้งแต่สถานศึกษาผลิตคนด้วยจนถึงกระบวนการสร้างคนเพื่อมุ่งสัมมาอาชีพต่างๆออกคืนสู่สังคมใหญ่ภาพรวมระดับประเทศ,เราจะเห็นตัวเลขแรงงานที่ตกงานทั้งหมดได้ชัด เห็นตัวเลขที่คนไทยได้งานได้จริง,เห็นสถานะการเงินความมั่นคงทางสัมมาอาชีพคนไทยได้ทั่วถึงและพร้อมเข้าช่วยเหลือคนไทยนั้นๆที่อยู่ในสถานะที่ผิดปกติไปเช่นตกงานขาดรายได้ อาชีพนั้นไม่เหมาะกับสุขภาพร่างกายแก่งานที่ทำปัจจุบัน สลับปรับเปลี่ยนให้คนไทยทุกๆคนยืนด้วยขาตนเองได้จริง พึ่งพาตนเองได้แท้,จนถึงขั้นหนึ่งที่สามารถเป็นเจ้าของจ้างตนเองทำงานเองมีรายได้เองมั่นคงในอาชีพตนที่แสวงหาจะเป็น อาทิคนเกษตรผสมผสานพอเพียง สร้างรายได้เข้าบ้านจากสวนจานาจากที่ดินตนเองอาจกว่าเดือนละแสนบาทต่อเดือนเป็นต้นในพื้นที่ไม่กี่ไร่ของตนเอง ,หรือออกจากโรงงานบริษัทกิจการต่างๆมาทำสัมมาอาชีพตนเองค้าขายเปิดร้านทั่วไปขายอาหารเครื่องใช้ใดๆขายแผงปลาแผงผักผลไม้ทุเรียนรายได้กว่าล้านบาทต่อปีก็สามารถทำได้ นั้นคือกรมแรงงานมิใช่ส่งเสริมแรงงานทักษาอาชีพ ยังสนับสนุนเงินทุนสร้างอาชีพด้วย มิใช่แสวงหาประโยชน์แบบแบงค์ปล่อยเงินกู้สร้างอาชีพ เป็นหนี้เป็นงูกินหางมิสามารถหลุดพ้นอิสระภาพได้. ..วุฒิการศึกษาคือการยกระดับจิตใจยกคุณค่าของชีวิตและคุณค่ามนุษย์ความเป็นคนเป็นมนุษย์ได้ ,มีนัยยะดีๆมากมายจากการกว่าจะมาแห่งวุฒิการศึกษานั้นๆของใครมัน,และนี้คือเป้าหมายการทำลายคุณค่าคนคุณค่ามนุษย์ด้อยค่าคนด้อยค่ามนุษย์ในอนาคตด้วยนำหุ่นยนต์AIเข้ามาทดแทนคนงานแรงงานคนแรงงานมนุษย์ในอนาคต,จึงทำลายวลีวุฒิการศึกษาก่อน ด้อยค่าวุฒิการศึกษาก่อน,เสมือนทำลายอะไรง่ายๆต่อไปอย่างสบายๆในอนาคตต่อคุณค่ามนุษย์ โรงงานมากมายจะทดแทนด้วยหุ่นยนต์หรือAIมากมายหลากหลายสไตล์,วุฒิการศึกษาจึงเป็นการยกเรเวลคุณค่ามนุษย์ในสายสัมพันธุ์ความเป็นมนุษย์ในตัว,เมื่อแต่ละกิจการโรงงานทำสำเร็จ ด้อยค่าใช้วุฒิที่จ้างงานราคาต่ำราคาถูกสำเร็จ แผนการนำเข้าหุ่นยนต์ทดแทนแรงงานถูกในโรงงานต่างๆบริษัทกิจการต่างๆที่ด้อยค่าจะสำเร็จโดยง่าย.แล้วเราจะใช้สมมุติอะไรดูสถานะคุณค่ามนุษย์เป็นพื้นฐาน แล้วเราจะส่งลูกหลานเล่าเรียนไปทำซากอะไร,การปกครองด้วยจะมีไว้ให้คนอื่นตีตรากฎหมายออกมาปกครองเราทำไมตลอดเวลา,ตลอดอนาคตอันใกล้AIมันก็เขียนกฎหมายตีตราออกมาบังคับผู้คนได้แล้วโดยง่ายๆด้วย.,นั้นยิ่งตอกย้ำว่าคุณค่าความเป็นมนุษย์ของคนไทยและทั้งโลกจะถูกปกครองด้วยAIหุ่นยนต์แล้วใช่หรือไม่.ทั้งมันจะฝังชิปใส่สมองมนุษย์อีกล่ะ ต่อไปไม่ต้องไปโรงเรียนเอาวุฒิล่ะ อยากรู้อะไรโหลดเข้าสมองเลย กึ่งมนุษย์กึ่งหุ่นยนต์ล่ะ,และอนาคตชัดเจนว่า สงครามหุ่นยนต์เกิดขึ้นแน่นอน,หนักกว่าสงครามสมัยถือมีดถือดาบหรือระเบิดๆแบบปัจจุบันอีก,โลกนี้อาจถือทำลายภายในพลิกตาก็ว่า.ดังนั้นจึงจรรโลงคุณค่าสถานะสมมุติการบ่งบอกการมีตังตนของคุณค่ามนุษย์แบบเราๆในยุคเวลาเรานี้เถอะ อีก100ปี อีก2-3พันปีนับจากนี้คงอีกเรื่องแล้ว,วิถีสัมมาขีวิตแบบพอดีพอดีเพียงพอและพอเพียงจึงสมสถานะคนไทยเรามาก,เราต้องสร้างชาติไทยเราเอง มิใช่แรงงานต่างด้าวบริษัทต่างชาติที่ถือหุ้นในรูปบริษัทต่างๆที่ตั้งบนแผ่นดินไทยเรามาสร้างชาติให้คนไทยเราเองนะ,ก็บริษัทพวกนี้ล่ะเหี้ยๆทั้งนั้นเกิดขึ้นมา ดูราคาน้ำมันสิแพงๆมั้ย ยุบ&ถีบบริษัทนี้ออกจากแผ่นดินไทยสิ ราคาน้ำมันคืนเป็นของคนไทยเลย ขายราคาต่ำๆแบยอิหร่านลิตรละ1-2บาทก็ได้,รถยนต์ค่าขนส่งไปมาไหนๆจะไม่แพง ต้นทุนฐานจะต่ำ แข่งขันจะเป็นเชิงบวกแก่คนไทยที่ค้าขายกับต่างชาติ,ระดับจิตใจผู้คนทั้งชาติจะเย็นเลยล่ะ.ไม่ดิ้นรนบ้าคลั่งใช้หนี้สาระพัดใช้จ่ายในภาระต่างๆจนแทบตายก็ยังไม่พอก็ว่าในแบบปัจจุบันซึ่งโลกก็โคตรเศรษฐกิจพังปกติอยู่แล้ว, ..เราต้องรีเซ็ตใหม่จริงๆ วัตถุดิบสมบัติชาติแบบทรัพยากรมีค่ามากมายต้องได้คืนมาจริงด้วย,มิใช่ยังถูกปล้นชิงแบบในปัจจุบัน ยึดอำนาจกว่าสิบครั้งเสียของหมด,บ่อน้ำมันบ่อทองคำไม่เคยได้คืนมาเลย,ขุดเจาะดูดกลั่นขายเองก็ได้ ทองคำก็ขุดเข้าคลังสำรองประเทศไปสิ เสือกยกให้คนอื่น เหี้ยจริงๆ. https://youtube.com/shorts/np7PPSH7bKc?si=GdvFcFFOIUM3X4Y5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 797 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดเทอม ภาระผู้ปกครองตรึมจริงๆ,ยิ่งภาวะเศรษฐกิจขนาดนี้,แถมบางโรงเรียนมีนโยบายตนเองเปิดหลักสูตรห้องพิเศษโปรแกรมต่างๆเก็บค่าเทอมอีกซึ่งภาระจริงๆคือรัฐ(คนยากจนไม่ต้องแห่ไปโรงเรียนเอกชนจ่ายค่าเล่าเรียนแพงๆเพื่อหวังเข้าทำงานดีๆในภาครัฐหรือภาคเอกชนเองแบบผู้ปกครองพ่อแม่ซึ่งส่วนใหญ่คือคนข้าราชการตำแหน่งดีๆมีตังใหญ่โตพอจ่ายค่าเทอมนั้นนั้นล่ะหรือคนค้าขายมำกิจการพอมีตังก็ว่า)ต้องเปิดหลักสูตรพื้นฐานเป็นหลักและเสริมอื่นๆเป็นรองในแบบฟรีๆเช่นกันจะภาษาจะการเล่าเรียนยุคAIต่างๆให้ทุกๆเยาวชนไทยเล่าเรียนสะดวกสบายเต็มที่หรือไร้กังวลค่าใช้จ่ายใดๆเกี่ยวกับการศึกษาของเยาวชน โดยเฉพาะอุปกรณ์การเรียนการศึกษา อาทิเครื่องเขียนแบบเรียนชุดนักเรียนต่างๆจะเป็นชุดนักเรียนธรรมดาชุดพละชุดลูกเสือใ้ดๆต้องฝ่ายรัฐจัดหาให้ทันทีเมื่อเยาวชนไทยเข้าศึกษาในสถาบันการเรียนของรัฐขั้นพื้นฐานคือจริงๆต้อง อนุบาลถึงม.ปลายหรือวิทยาลัยอาชีพ ปวช.ก็ว่า,เรามีบ่อทองคำ บ่อน้ำมันเต็มประเทศขายทำกำไรเองได้มหาศาล,มิใช่ยากจนเหมือนในอดีตก่อนขุดสำรวจเจอน้ำมันเลย,นี้คือการปกครองที่ผู้นำล้มเหลว วิถีปกครองที่ผิดพลาด ไม่ปรับปรุงใดๆในความล้มเหลวนั้น เช่นโมฆะสัมปาทานปิโตรเลียมทาสที่ถูกปล้นชิงไปจากคนไทยทั้งหมดแล้วคิดอ่านทำใหม่ทั้งไม่เปิดสัมปทานใดๆอีกแก่ต่างชาติต้องทำเอง แม้ยุคทหารที่ยึดอำนาจล่าสุดก็ยังเปิดสัมปทานต่างชาติในอ่าวไทยถึง2แปลงที่เป็นข่าวใหญ่โต จนประเทศซาอุฯแอ็คชั่นรับไม้ต่อหมายสร้างคลังน้ำมันขนาดใหญ่ยักษ์ที่ประเทศไทยเป็นฮับแหล่งคลังน้ำมันของเอเชียและอาจส่งออกทั่วโลก ทั้งยึดคลองคลองคอดกระหรือแลนด์บริดจ์ในตัวด้วย,ชาวนามีข้าวมากมายจึงสร้างคลังฉางข้าวกักเก็บไว้จากที่เหลือหรือมีมากมายในไร่นาประชาชน,อันเดียวกัน น้ำมันหรือเนื้อปิโตรเลียมเรามีมากมายมหาศาลเช่นกันจึงสามารถสร้างคลังแสงขนาดใหญ่รอรับเนื้อน้ำมันนี้ทั้งผีบ้าอะไร ไทยจะมีโรงกลั่นมากมายกว่า5-6โรง กลั่นน้ำมันอะไรบ้าคลั่งขนาดนั้น เพราะมีน้ำมันมากนั้นเอง,นี้คือการปกครองที่ผิดพลาด ไม่ยึดประโยชน์ประชาชนห่าอะไร กอบโกยโดยรัฐฐะที่ผิดจรรยาบรรณเสียเอง ไม่ซื่อสัตย์เสียเองจนนำพาประชาชนตนยากจนทั่วทั้งประเทศ ค่าครองชีพก็แพงจากต้นทุนพื้นฐานคือพลังงานแพง ขนส่งอ้างน้ำมันแพง ปรับราคาสินค้าขึ้น ร้านค้าอ้างน้ำมันแพงขนส่งแพงปรับราคาสินค้าขึ้น,โรงงานผู้ผลิตฮั่วกันทั้งประเทศอ้างน้ำมันแพงปรับราคาสินค้าขึ้น ซึ่งเราเห็นๆกันจริงชัดเจนจากอดีตถึงปัจจุบันตั้งพันธมิตรชุมนุมประท้วงขับไล่โทนี่หรือหลังปตท.เข้าตลาดหุ้นก็ด้วยจาก ร.9 ถึง ร.10 เราประเทศไทยเสียอธิปไตยบ่อปิโตรเลียมไปได้คืนมาจริงทั้งหมดกี่บ่อกี่หลุมเจาะ ,อิหร่านมีบ่อน้ำมันน้อยกว่าไทยทำไมขายถูกๆได้ที่ลิตรละ1-2บาทไม่ผสมเอทานอลอะไรด้วยทั้งเบนซินดีเชลก็ลิตรละ1-2บาท,วิถีการปกครองเราควรยุบทิ้งมั้ยแบบนี้,
    ..การศึกษาคือปัญญาสร้างชาติในอนาคต
    ..รัฐฐะเราทำลายการศึกษาตนเองคือทำลายชาติชัดเจน
    ..ประชาชนเติบโตมาจนเป็นชาติก็ผ่านกระบวนการเรียนผิดเรียนจากสถานศึกษาก่อน แม้การดำรงชีวิตคือระหว่างทางของการเรียนรู้ศึกษาจริงตลอดเวลา แต่ก้าวแรกต้องผ่านพื้นฐานนี้หมดร่วมกันจึงต่อยอดใครมันในอนาคตร่วมกันดำรงชาติไทยต่อไปได้.
    ..นี้อะไร บ้านเมืองถูกแทรกแซงการปกครองตลอด วุ่นวายโกลาหล ทำให้ประชาชนลำบากบวกยากจนลงต่ำตลอดเวลาถึงปัจจุบัน,จนเข้าสู่ยุคล้ำๆรุ่นAIหุ่นยนต์ก็ยังแบบเดิมๆไม่พัฒนาให้คนไทยร่ำรวยมั่งคั่งจนใครชาติไหนหรือนักการเมืองใดๆไม่สามารถเอาเศษตังมาซื้อเสียง เอาตังจากต่างประเทศมาซื้อคนไทยย่ำยีคนทั้งชาติง่ายดายแบบปัจจุบันขนาดนี้,สงครามตังสงครามเงินแท้ๆตังคืออาวุธของยุคนี้ เศรษฐกิจชื่อสมมุตินี้คือมุ่งหาทำตังทำเงินนี้ล่ะวลีบาลีบิดคำแค่นั้น,แต่วิถีปกครองคนนำปกครองเสือกไร้สมองคิดอ่านไปยกอาวุธตน ทิ้งอาวุธตนในการปกป้องตนเองทิ้งเสีย ทิ้งตังทิ้งความร่ำรวยมั่งคั่งของคนทั้งแผ่นดินไทย ปล่อยคนไทยพบเจอความยากจนแทนบนใต้ตีนคนปกครองที่เหยียบความจนเองในโคต,รเหง้าตระกูลบรมโคตรมันเองเสวยความร่ำรวยมั่งคั่งในโคตรเหง้าบรมตระกูลชนชั้นมันที่ผูกขาดความร่ำรวยมั่งคั่งเอง ทั้งมาในมุกเอกชนผูกขาดเอง&อ้างทำในนามกึ่งเอกชนหรือเอกชนเต็มๆทั้งสไตล์เอกชนไทย มุกสไตล์เอกชนต่างชาติก็ด้วยหรือคนไทยชั่วๆเลวๆตัวดีตัวเลวตัวชั่วของแท้เองนี้ล่ะทำทีเป็นต่างชาติ&มาในมุกคนต่างชาติเอกชนต่างชาติหรือนอมินีตัวแทนคนต่างชาติหรือเหี้ยถือหุ้นต่างชาติร่วมกับต่างชาติหรือของมันเองทั้งหมดมาในฟอร์มต่างชาติปลอมๆมายึดแดกครอบครองผูกขาดเองก็ด้วย จะบ่อน้ำมันบ่อทองคำ แหล่งแร่ทรัพยากรมีค่ามากมายอื่นๆหรือสัมปทานผูกขาดสไตล์มวลรวมมวลชนคนใช้มากๆทัังหมดของประเทศมันนี้ล่ะจะยึดครองก็ว่า อาทิราคาน้ำมันขึ้นลงตามใจมันก็ด้วยในอดีต,จนอะไรๆแพงทั้งแผ่นดิน ชุดนักเรียนแพง ค่าใช้จ่ายแพง เงินเฟ้อขึ้นไร้ค่า ก๋วยเตี๋ยวปกติชามละ10-20บาทปัจจุบัน50-80บาท ข้าวจานละ15-20บาท ปัจจุบัน45-80บาท
    ..ทั้งหมดคือวิถีปกครองในประเทศไทยเราเองที่ผิดพลาด จนนักเรียนแม้ผ่านการเล่าเรียนขั้นพื้นฐานจำเป็นต้องกู้กยศ.เป็นหนี้เป็นสินล้นพ้นตัวเป็นจำนวนมาก จบมาตกงานมหาศาลทั้งกิจการมากมายต่างด้าวเอาทดแทนเป็นอย่างมากแย่งงานคนไทยแม้ระดับโรงงานทั่วไปต่างด้าวยังเต็มโรงงาน ,กิจการมากมายถูกต่างชาติต่างด้าวกลืนกินยึดครองบวกผูกขาดทั้งทางตรงและทางอ้อมอีก,มันคือการปกครองที่ล้มเหลว เสี่ยงต่อภัยด้านความมั่นคงของประชาชนคนไทยภายในด้วย.ประชาชนถูกทอดทิ้งในระดับมหาภาคชัดเจนถึงระดับย่อย,พบเจอต่อปัญหาการเงินของทั้งส่วนตัวและระดับครอบครัวเป็นอันมาก รวมถึงคนของระบบราชการเองที่หนี้สินเงินกู้ยืมมีไม่น้อย หนี้บ้านหนี้รถคนพวกนี้หลายคนแทบไปรอดเช่นกัน ขับเคลื่อนด้วยหนี้ทั้งประเทศซึ่งเป็นการเติบโตที่ผิด&ไร้ความมั่นคง,เพียงสมดุลพัง ระบบราชการจะพังทันที เช่นรัฐบาลไม่มีตังจ่ายเงินเดือนคนราชการ คลังตังหมด ทุนสำรองประเทศหมดสิ้นหรือคิดใช้ซื้อBTCคริปโตฯต่างๆแทนตังทุนสำรองประเทศ นี้ก็เหี้ยแล้ว,ประชาชนเงินฝืดบวกหนี้ทั้งในระบบที่กู้ไปก็ใช้คืนไม่ทันไม่ได้เช่นพวกธกส.ชาวนาชาวไร่ชาวสวนต่างๆ ข้าว&พืชไร่พืชสวนพื้นฐานอื่นๆแบบข้าวราคาตันไม่กี่พัน มันคืออะไร,จนมาเทนมทิ้งเทน้ำมันพืชทิ้งประท้วงล่าสุด,
    ..การศึกษามันสำคัญและเดอะแก๊งไม่ดีมากมายหาประโยชน์ในระบบการศึกษานี้ทั้งมาในมุกล้างสมองทำลายเยาวชนไทยล้มสถาบันก็ว่า,ทัังกอบโกยรายได้จากการค้าระบบการศึกษาอีกผ่านช่องทางมากมายในกระบวนการศึกษาและกับสถานศึกษาเองต่างๆทั่วประเทศ,เม็ดเงินมหาศาลจริงๆที่ได้จากระบบการศึกษาของไทยเรา,ไม่ต่างจากเม็ดเงินมหาศาลที่ได้จากการขายยาตั้งแต่ยุคฉีดวัคซีนโควิดจนขายยามากมายสาระพัดต่อคนอักเสบและถึงตายจากคนไทยเราที่ต้องถูกบังคับฉีดวัคซีนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่มาใช้มุกทัังเชิญชวนทั้งกึ่งบังคับ&บังคับในรูปแบบต่างๆที่ไม่เป็นทางการเพราะถ้าเป็นทางการและเปิดเผยจะถือว่าผิดกฎหมายสากลนูเร็มเบิร์กฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตนภายในประเทศตนเองได้และทุกๆคนที่เกี่ยวข้องจะสามารถถูกตัดสินสากลให้มีความจริงชัดเจนได้ทันทีบวกสามารถจับลงโทษระดับโลกทันทีได้ที่กฎหมายในแต่ละประเทศนั้นๆไม่สามารถปกป้องพวกนี้ได้.,แม้กระนั้นถึงกลัวตายก็บังคับฉีดทางอ้อมทางกลไกสังคมมาอ้างชอบธรรมแก่พวกมันฉีดคนไทยครบกว่า60ล้านคน,ซึ่งคนพวกนี้สมควรถูกกวาดล้างแต่ก็ยังไม่เห็นใครที่เกี่ยวข้องโดนลงโทษจริงจังสักคนในไทยและทำให้เป็นข่าวจริงอย่างเปืดเผยผ่านสื่อหลักไทยเรา,ชาติไทยเราหากไม่พลิกจริงจัง ไม่เปลี่ยนแปลงจริงจัง ไม่นานสิ้นชาติไทยแน่นอน อาจเป็นสาขาหนึ่งของชาติพม่าสาขาหนึ่งของชาติเขมรหรือมลฑลหนึ่งของจีนในอนาคตที่deep state ไม่ต้องออกตัวออกหน้าโชว์ลงมือ,แบบเช่นblackrock vanguardไม่ต้องออกตัวออกหน้ายึดครองประเทศไทยทางเศรษฐกิจหรือการลงทุนใดๆให้สมุนขี้ข้ารับใช้กิจการเครือข่ายลูกหลานมันจัดการประเทศไทยก็จบแล้วเพราะเกือบทุกๆบริษัทใหญ่ๆแบรนด์ใหญ่ๆระดับโลกในประเทศไทยล้วนคือขี้ข้ากิจการทาสสมุนรับใช้ทุนใหญ่หลังฉากอย่างvanguardหรือblackrockที่ต้องการยึดภาคใต้ยึดครองแลนด์บริดจ์ไทยคลองคอดกระไทยหรืออ่าวไทยทะเลสองฝั่งไทยเราสิ้น.,แค่มันใช้มุกขนคนมาอยู่ไทยเช่นต่างชาติเอยพม่าเอยอยู่กระจายทั่วทั้งภาคใต้ก็อนาถแล้วและไร้มาตรการจริงจังผลักดันถีบออกจากประเทศไทยจริงจังเลย,แย่งพื้นที่การศึกษาเยาวชนไทยตนเองอีก,ต่างชาติใดอยากส่งเสริมสนับสนุนลูกหลานคนต่างด้าวต่างชาติก็พาคนต่างชาติต่างด้าวออกไปสร้างที่ประเทศตนเองส่งเสริมสนับสนุนกันที่ชาติมรึงเต็มที่อย่ามาใช้แผ่นดินไทยสร้างสถานที่ส่งเสริมนั้นนี้บนแผ่นดินไทยเราและมิได้ส่งเสริมสนับสนุนคนไทยเยาวชนไทยเราด้วย,นี้คือการช่วบเลี้ยงดูคนต่างชาติต่างด้าวในบ้านเราเองจากนั้นก็เริ่มขบวนการยึดบ้านเจ้าของคนนั้นๆเช่นมุกออกลูกออกหลานมากๆในบ้านหลังนั้นจากนั้นก็จะได้กรรมสิทธิ์เต็มที่ร่วมกันลูกหลานคนเจ้าของบ้านเดิมที่ตนถูกเลี้ยงดูจากพวกต่างชาติที่สนับสนุนตนก็ว่าตอนเริ่มต้น,พม่ามาอยู่ไทย เขมรลาวแกวมาอยู่ไทย แขกอินเดียแขกอาหรับยิวอิสราเอลมาอยู่ไทยออกลูกออกหลานเต็มแผ่นดินไทยได้สัญชาติไทยได้สิทธิในที่ดินแผ่นดินเต็มสมบูรณ์กว่า20-30ล้านคนใน20ปีข้างหน้าเป็น100-200ล้านคน ชาติไทยจะเหลือแผ่นดินไทยให้คนไทยจริงๆเท่าไร ,ดูแกวดูจีนสมัยก่อนมุกแบบสงครามพม่าปัจจุบันอพยพมาอยู่ไทยออกลูกออกหลานตรึมได้สัญชาติไทยยึดไทยไม่ต้องรบหรือใช้อาวุธอะไร,ส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือลูกหลานแกวจีนยึดตำแหน่งปกครองใหญ่โตในระบบราชการไทยและกิจการใหญ่โตสายเลือดใหญ่ในไทย ไทยก็เสร็จนะสิ,เขาระดมทุนผ่านสมาคมจีนสมาคมแกวได้สบาย แกวจีนส่งตังมหาศาลให้สมาคมนี้เอาไปใช้ยึดกิจการไทยส่งลูกหลานคนจีนแกวเข้าทำงานในตำแหน่งใหญ่ให้ได้บนแผ่นดินไทยบอกว่ารักประเทศไทยรักสถาบันไทยก็จบแล้ว,ร้านทองเจ๊กจีนแกวยึดค้าขาย แบบพม่าในปัจจุบันยึดตลาดคนไทยค้าขายแทน ทวงหนี้นอกระบบก็ด้วย,สมาคมพลัดถิ่นรักบ้านเกิดเมืองนอนตนพะนะจีนเอยแกวเอยให้ตังสนับสนุนคนจีนแกวในไทยที่อพยพหนี้ตายมาไทยสมันสงครามก็ว่า,เหยียบย่ำคนไทยเนียนๆเชือดนิ่มๆยึดที่ดินผ่านร้านทองจำนองจำนำตรึม ยึดผ่านแบงค์ต่างๆอีกที่ค้ำประกันเงินกู้โดยใช้ที่ดินค้ำประกัน,ยุคนี้ถ้าผู้ปกครองยังโง่เขลากากกระจอกไม่ล้ำสมัยในสงครามตังนี้อันตรายมากๆ สงครามตังคือสงครามหลักโดยใช้AIเป็นทหารยิงกระสุนแทนอีก,เพราะไม่ว่าจะล้ำจะใช้AIล้ำๆขนาดไหน มันก็ขับเคลื่อนด้วยตังนี้ล่ะ,ตังกระดาษตังดิจิดัลก็คือตัง,เล่าเรียนก็ใช้ตังทุกๆขณะที่ดำเนินขณะภาคเรียนใดๆ.ประเทศไทยเราได้เปรียบมากมาย ตังมีมหาศาลผ่านทรัพยากรบนแผ่นดินไทยและไม่ใช่แค่บ่อน้ำมันหรือบ่อทองคำ เราต่อยอดต่างๆได้ตังมหาศาลแทบไม่แตะต้องทรัพยากรมีค่าอีกก็ได้ นำออกมาใช้ยามจำเป็นฉุกเฉินขาดแคลนก็ได้,เราสามารถสร้างประเทศไทยสร้างชาติสร้างคนไทยทั้งประเทศให้แข็งแกร่งพร้อมเข้าสนามรบสงครามพันทางกับศัตรูของชาติไทยได้อย่างสบายๆแม้มารอบด้านก็ได้,ข้าวปากอาหารเต็มประเทศอีก,แต่คนปกครองเรามันกาก&เหี้ยจริงๆนะ ,เราไม่สมควรดำรงรักษาคนแบบนี้ไว้เลย,นำพาประชาชนทั้งแผ่นดินไทยมั่นคงในความยากจนนานพอแล้ว.และการเล่าเรียนของเยาวชนรวมทั้งของคนไทยทุกๆคนสามารถเล่าเรียนฟรีๆถึงป.เอกได้หรือเรียนรู้ตลอดชีวิตแม้จบสถานศึกษาขั้นปกติก็ตาม ,ฝึกอบรมสัมมาอาชีพพร้อมทุนตั้งตัวตั้งตนเริ่มต้นเพื่อยืนด้วยขาตนเองใครมันคนไทยร่วมกันก็สามารถส่งเสริมได้,เราใช้ตังในชาติไทยเราช่วยเหลือคนไทยเราทำไมจะทำไม่ได้.,เพราะเหี้ยไปยกตังมหาศาลมากมายให้คนอื่นไง.,ตย.ง่ายๆแบบยกบ่อน้ำมันบ่อทองคำตัวทำตังของประเทศไทยให้คนอื่นยึดครอง,ตนไม่มีวัตถุดิบทำตังเลยบนแผ่นดินตนเองแท้ๆมันคือเหี้ยอะไรล่ะ,นี้ไงจึงต้องฉีกทิ้งสัญญาทั้งหมดที่ทำไว้ในอดีตกับต่างชาติและอยุติธรรมเอาเปรียบ&ปล้นชิงแย่งชิงเราในรูปแบบสัญญาต่างๆนั้น,โมฆะทั้งหมด,เราก็จะคืนธิปไตยเรามาทั้งหมด,จากนั้นจับมือจริงจังกับมิตรดีสหายดีทั่วโลกกันใหม่,ทำสัญญาดีๆไม่เอาเปรียบปล้นชิงแย่งชิงกันและกันใหม่,เป็นคู่ค้าคู่มิตรดีทั่วโลกใหม่,ใครเหี้ยก็เลิกคบจบ,ยุคนี้ต้องแบบนี้,ล้ำสมัยต้องแบบนี้,นี้เสือกมั่นคง คงไว้ในกฎหมายที่เอาเปรียบชาติตนเองปล้นตนเอง ล้ำสมัยห่าอะไร,แบบยึดอำนาจเสียของในอดีตนั้นล่ะรัฐประหารเสียของ,ฉลาดฉีกนักกฎหมายรัฐธรรมนูญเสือกไม่ฉีกกฎหมายทาสสัญญาทาสโมฆะมันทิังที่เอาเปรียบประชาชนตนไทยและชาติไทยตนเองแบบสัมปทานบ่อปิโตรเลียมนั้นล่ะที่เป็นตย.ชัดเจนมาก กูรูมากมายแฉในอดีตตรึม ทั้งปกปิดค่าจริงความจริงอีกว่าประเทศไทยไม่มีบ่อน้ำมัน มีแต่น้อย แล้วเสือกแย่งชิงการสัมปทานตรึมหรือต้องได้รับการต่ออายุสัมปทานเดิมให้ได้.,ยุคเราสมควรจบความระยำบัดสบนี้จริงๆ.
    https://youtube.com/live/-I_7Ne9jNvs?si=ZuGvcgZ3Ang7J3-_
    เปิดเทอม ภาระผู้ปกครองตรึมจริงๆ,ยิ่งภาวะเศรษฐกิจขนาดนี้,แถมบางโรงเรียนมีนโยบายตนเองเปิดหลักสูตรห้องพิเศษโปรแกรมต่างๆเก็บค่าเทอมอีกซึ่งภาระจริงๆคือรัฐ(คนยากจนไม่ต้องแห่ไปโรงเรียนเอกชนจ่ายค่าเล่าเรียนแพงๆเพื่อหวังเข้าทำงานดีๆในภาครัฐหรือภาคเอกชนเองแบบผู้ปกครองพ่อแม่ซึ่งส่วนใหญ่คือคนข้าราชการตำแหน่งดีๆมีตังใหญ่โตพอจ่ายค่าเทอมนั้นนั้นล่ะหรือคนค้าขายมำกิจการพอมีตังก็ว่า)ต้องเปิดหลักสูตรพื้นฐานเป็นหลักและเสริมอื่นๆเป็นรองในแบบฟรีๆเช่นกันจะภาษาจะการเล่าเรียนยุคAIต่างๆให้ทุกๆเยาวชนไทยเล่าเรียนสะดวกสบายเต็มที่หรือไร้กังวลค่าใช้จ่ายใดๆเกี่ยวกับการศึกษาของเยาวชน โดยเฉพาะอุปกรณ์การเรียนการศึกษา อาทิเครื่องเขียนแบบเรียนชุดนักเรียนต่างๆจะเป็นชุดนักเรียนธรรมดาชุดพละชุดลูกเสือใ้ดๆต้องฝ่ายรัฐจัดหาให้ทันทีเมื่อเยาวชนไทยเข้าศึกษาในสถาบันการเรียนของรัฐขั้นพื้นฐานคือจริงๆต้อง อนุบาลถึงม.ปลายหรือวิทยาลัยอาชีพ ปวช.ก็ว่า,เรามีบ่อทองคำ บ่อน้ำมันเต็มประเทศขายทำกำไรเองได้มหาศาล,มิใช่ยากจนเหมือนในอดีตก่อนขุดสำรวจเจอน้ำมันเลย,นี้คือการปกครองที่ผู้นำล้มเหลว วิถีปกครองที่ผิดพลาด ไม่ปรับปรุงใดๆในความล้มเหลวนั้น เช่นโมฆะสัมปาทานปิโตรเลียมทาสที่ถูกปล้นชิงไปจากคนไทยทั้งหมดแล้วคิดอ่านทำใหม่ทั้งไม่เปิดสัมปทานใดๆอีกแก่ต่างชาติต้องทำเอง แม้ยุคทหารที่ยึดอำนาจล่าสุดก็ยังเปิดสัมปทานต่างชาติในอ่าวไทยถึง2แปลงที่เป็นข่าวใหญ่โต จนประเทศซาอุฯแอ็คชั่นรับไม้ต่อหมายสร้างคลังน้ำมันขนาดใหญ่ยักษ์ที่ประเทศไทยเป็นฮับแหล่งคลังน้ำมันของเอเชียและอาจส่งออกทั่วโลก ทั้งยึดคลองคลองคอดกระหรือแลนด์บริดจ์ในตัวด้วย,ชาวนามีข้าวมากมายจึงสร้างคลังฉางข้าวกักเก็บไว้จากที่เหลือหรือมีมากมายในไร่นาประชาชน,อันเดียวกัน น้ำมันหรือเนื้อปิโตรเลียมเรามีมากมายมหาศาลเช่นกันจึงสามารถสร้างคลังแสงขนาดใหญ่รอรับเนื้อน้ำมันนี้ทั้งผีบ้าอะไร ไทยจะมีโรงกลั่นมากมายกว่า5-6โรง กลั่นน้ำมันอะไรบ้าคลั่งขนาดนั้น เพราะมีน้ำมันมากนั้นเอง,นี้คือการปกครองที่ผิดพลาด ไม่ยึดประโยชน์ประชาชนห่าอะไร กอบโกยโดยรัฐฐะที่ผิดจรรยาบรรณเสียเอง ไม่ซื่อสัตย์เสียเองจนนำพาประชาชนตนยากจนทั่วทั้งประเทศ ค่าครองชีพก็แพงจากต้นทุนพื้นฐานคือพลังงานแพง ขนส่งอ้างน้ำมันแพง ปรับราคาสินค้าขึ้น ร้านค้าอ้างน้ำมันแพงขนส่งแพงปรับราคาสินค้าขึ้น,โรงงานผู้ผลิตฮั่วกันทั้งประเทศอ้างน้ำมันแพงปรับราคาสินค้าขึ้น ซึ่งเราเห็นๆกันจริงชัดเจนจากอดีตถึงปัจจุบันตั้งพันธมิตรชุมนุมประท้วงขับไล่โทนี่หรือหลังปตท.เข้าตลาดหุ้นก็ด้วยจาก ร.9 ถึง ร.10 เราประเทศไทยเสียอธิปไตยบ่อปิโตรเลียมไปได้คืนมาจริงทั้งหมดกี่บ่อกี่หลุมเจาะ ,อิหร่านมีบ่อน้ำมันน้อยกว่าไทยทำไมขายถูกๆได้ที่ลิตรละ1-2บาทไม่ผสมเอทานอลอะไรด้วยทั้งเบนซินดีเชลก็ลิตรละ1-2บาท,วิถีการปกครองเราควรยุบทิ้งมั้ยแบบนี้, ..การศึกษาคือปัญญาสร้างชาติในอนาคต ..รัฐฐะเราทำลายการศึกษาตนเองคือทำลายชาติชัดเจน ..ประชาชนเติบโตมาจนเป็นชาติก็ผ่านกระบวนการเรียนผิดเรียนจากสถานศึกษาก่อน แม้การดำรงชีวิตคือระหว่างทางของการเรียนรู้ศึกษาจริงตลอดเวลา แต่ก้าวแรกต้องผ่านพื้นฐานนี้หมดร่วมกันจึงต่อยอดใครมันในอนาคตร่วมกันดำรงชาติไทยต่อไปได้. ..นี้อะไร บ้านเมืองถูกแทรกแซงการปกครองตลอด วุ่นวายโกลาหล ทำให้ประชาชนลำบากบวกยากจนลงต่ำตลอดเวลาถึงปัจจุบัน,จนเข้าสู่ยุคล้ำๆรุ่นAIหุ่นยนต์ก็ยังแบบเดิมๆไม่พัฒนาให้คนไทยร่ำรวยมั่งคั่งจนใครชาติไหนหรือนักการเมืองใดๆไม่สามารถเอาเศษตังมาซื้อเสียง เอาตังจากต่างประเทศมาซื้อคนไทยย่ำยีคนทั้งชาติง่ายดายแบบปัจจุบันขนาดนี้,สงครามตังสงครามเงินแท้ๆตังคืออาวุธของยุคนี้ เศรษฐกิจชื่อสมมุตินี้คือมุ่งหาทำตังทำเงินนี้ล่ะวลีบาลีบิดคำแค่นั้น,แต่วิถีปกครองคนนำปกครองเสือกไร้สมองคิดอ่านไปยกอาวุธตน ทิ้งอาวุธตนในการปกป้องตนเองทิ้งเสีย ทิ้งตังทิ้งความร่ำรวยมั่งคั่งของคนทั้งแผ่นดินไทย ปล่อยคนไทยพบเจอความยากจนแทนบนใต้ตีนคนปกครองที่เหยียบความจนเองในโคต,รเหง้าตระกูลบรมโคตรมันเองเสวยความร่ำรวยมั่งคั่งในโคตรเหง้าบรมตระกูลชนชั้นมันที่ผูกขาดความร่ำรวยมั่งคั่งเอง ทั้งมาในมุกเอกชนผูกขาดเอง&อ้างทำในนามกึ่งเอกชนหรือเอกชนเต็มๆทั้งสไตล์เอกชนไทย มุกสไตล์เอกชนต่างชาติก็ด้วยหรือคนไทยชั่วๆเลวๆตัวดีตัวเลวตัวชั่วของแท้เองนี้ล่ะทำทีเป็นต่างชาติ&มาในมุกคนต่างชาติเอกชนต่างชาติหรือนอมินีตัวแทนคนต่างชาติหรือเหี้ยถือหุ้นต่างชาติร่วมกับต่างชาติหรือของมันเองทั้งหมดมาในฟอร์มต่างชาติปลอมๆมายึดแดกครอบครองผูกขาดเองก็ด้วย จะบ่อน้ำมันบ่อทองคำ แหล่งแร่ทรัพยากรมีค่ามากมายอื่นๆหรือสัมปทานผูกขาดสไตล์มวลรวมมวลชนคนใช้มากๆทัังหมดของประเทศมันนี้ล่ะจะยึดครองก็ว่า อาทิราคาน้ำมันขึ้นลงตามใจมันก็ด้วยในอดีต,จนอะไรๆแพงทั้งแผ่นดิน ชุดนักเรียนแพง ค่าใช้จ่ายแพง เงินเฟ้อขึ้นไร้ค่า ก๋วยเตี๋ยวปกติชามละ10-20บาทปัจจุบัน50-80บาท ข้าวจานละ15-20บาท ปัจจุบัน45-80บาท ..ทั้งหมดคือวิถีปกครองในประเทศไทยเราเองที่ผิดพลาด จนนักเรียนแม้ผ่านการเล่าเรียนขั้นพื้นฐานจำเป็นต้องกู้กยศ.เป็นหนี้เป็นสินล้นพ้นตัวเป็นจำนวนมาก จบมาตกงานมหาศาลทั้งกิจการมากมายต่างด้าวเอาทดแทนเป็นอย่างมากแย่งงานคนไทยแม้ระดับโรงงานทั่วไปต่างด้าวยังเต็มโรงงาน ,กิจการมากมายถูกต่างชาติต่างด้าวกลืนกินยึดครองบวกผูกขาดทั้งทางตรงและทางอ้อมอีก,มันคือการปกครองที่ล้มเหลว เสี่ยงต่อภัยด้านความมั่นคงของประชาชนคนไทยภายในด้วย.ประชาชนถูกทอดทิ้งในระดับมหาภาคชัดเจนถึงระดับย่อย,พบเจอต่อปัญหาการเงินของทั้งส่วนตัวและระดับครอบครัวเป็นอันมาก รวมถึงคนของระบบราชการเองที่หนี้สินเงินกู้ยืมมีไม่น้อย หนี้บ้านหนี้รถคนพวกนี้หลายคนแทบไปรอดเช่นกัน ขับเคลื่อนด้วยหนี้ทั้งประเทศซึ่งเป็นการเติบโตที่ผิด&ไร้ความมั่นคง,เพียงสมดุลพัง ระบบราชการจะพังทันที เช่นรัฐบาลไม่มีตังจ่ายเงินเดือนคนราชการ คลังตังหมด ทุนสำรองประเทศหมดสิ้นหรือคิดใช้ซื้อBTCคริปโตฯต่างๆแทนตังทุนสำรองประเทศ นี้ก็เหี้ยแล้ว,ประชาชนเงินฝืดบวกหนี้ทั้งในระบบที่กู้ไปก็ใช้คืนไม่ทันไม่ได้เช่นพวกธกส.ชาวนาชาวไร่ชาวสวนต่างๆ ข้าว&พืชไร่พืชสวนพื้นฐานอื่นๆแบบข้าวราคาตันไม่กี่พัน มันคืออะไร,จนมาเทนมทิ้งเทน้ำมันพืชทิ้งประท้วงล่าสุด, ..การศึกษามันสำคัญและเดอะแก๊งไม่ดีมากมายหาประโยชน์ในระบบการศึกษานี้ทั้งมาในมุกล้างสมองทำลายเยาวชนไทยล้มสถาบันก็ว่า,ทัังกอบโกยรายได้จากการค้าระบบการศึกษาอีกผ่านช่องทางมากมายในกระบวนการศึกษาและกับสถานศึกษาเองต่างๆทั่วประเทศ,เม็ดเงินมหาศาลจริงๆที่ได้จากระบบการศึกษาของไทยเรา,ไม่ต่างจากเม็ดเงินมหาศาลที่ได้จากการขายยาตั้งแต่ยุคฉีดวัคซีนโควิดจนขายยามากมายสาระพัดต่อคนอักเสบและถึงตายจากคนไทยเราที่ต้องถูกบังคับฉีดวัคซีนทั้งทางตรงและทางอ้อมที่มาใช้มุกทัังเชิญชวนทั้งกึ่งบังคับ&บังคับในรูปแบบต่างๆที่ไม่เป็นทางการเพราะถ้าเป็นทางการและเปิดเผยจะถือว่าผิดกฎหมายสากลนูเร็มเบิร์กฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตนภายในประเทศตนเองได้และทุกๆคนที่เกี่ยวข้องจะสามารถถูกตัดสินสากลให้มีความจริงชัดเจนได้ทันทีบวกสามารถจับลงโทษระดับโลกทันทีได้ที่กฎหมายในแต่ละประเทศนั้นๆไม่สามารถปกป้องพวกนี้ได้.,แม้กระนั้นถึงกลัวตายก็บังคับฉีดทางอ้อมทางกลไกสังคมมาอ้างชอบธรรมแก่พวกมันฉีดคนไทยครบกว่า60ล้านคน,ซึ่งคนพวกนี้สมควรถูกกวาดล้างแต่ก็ยังไม่เห็นใครที่เกี่ยวข้องโดนลงโทษจริงจังสักคนในไทยและทำให้เป็นข่าวจริงอย่างเปืดเผยผ่านสื่อหลักไทยเรา,ชาติไทยเราหากไม่พลิกจริงจัง ไม่เปลี่ยนแปลงจริงจัง ไม่นานสิ้นชาติไทยแน่นอน อาจเป็นสาขาหนึ่งของชาติพม่าสาขาหนึ่งของชาติเขมรหรือมลฑลหนึ่งของจีนในอนาคตที่deep state ไม่ต้องออกตัวออกหน้าโชว์ลงมือ,แบบเช่นblackrock vanguardไม่ต้องออกตัวออกหน้ายึดครองประเทศไทยทางเศรษฐกิจหรือการลงทุนใดๆให้สมุนขี้ข้ารับใช้กิจการเครือข่ายลูกหลานมันจัดการประเทศไทยก็จบแล้วเพราะเกือบทุกๆบริษัทใหญ่ๆแบรนด์ใหญ่ๆระดับโลกในประเทศไทยล้วนคือขี้ข้ากิจการทาสสมุนรับใช้ทุนใหญ่หลังฉากอย่างvanguardหรือblackrockที่ต้องการยึดภาคใต้ยึดครองแลนด์บริดจ์ไทยคลองคอดกระไทยหรืออ่าวไทยทะเลสองฝั่งไทยเราสิ้น.,แค่มันใช้มุกขนคนมาอยู่ไทยเช่นต่างชาติเอยพม่าเอยอยู่กระจายทั่วทั้งภาคใต้ก็อนาถแล้วและไร้มาตรการจริงจังผลักดันถีบออกจากประเทศไทยจริงจังเลย,แย่งพื้นที่การศึกษาเยาวชนไทยตนเองอีก,ต่างชาติใดอยากส่งเสริมสนับสนุนลูกหลานคนต่างด้าวต่างชาติก็พาคนต่างชาติต่างด้าวออกไปสร้างที่ประเทศตนเองส่งเสริมสนับสนุนกันที่ชาติมรึงเต็มที่อย่ามาใช้แผ่นดินไทยสร้างสถานที่ส่งเสริมนั้นนี้บนแผ่นดินไทยเราและมิได้ส่งเสริมสนับสนุนคนไทยเยาวชนไทยเราด้วย,นี้คือการช่วบเลี้ยงดูคนต่างชาติต่างด้าวในบ้านเราเองจากนั้นก็เริ่มขบวนการยึดบ้านเจ้าของคนนั้นๆเช่นมุกออกลูกออกหลานมากๆในบ้านหลังนั้นจากนั้นก็จะได้กรรมสิทธิ์เต็มที่ร่วมกันลูกหลานคนเจ้าของบ้านเดิมที่ตนถูกเลี้ยงดูจากพวกต่างชาติที่สนับสนุนตนก็ว่าตอนเริ่มต้น,พม่ามาอยู่ไทย เขมรลาวแกวมาอยู่ไทย แขกอินเดียแขกอาหรับยิวอิสราเอลมาอยู่ไทยออกลูกออกหลานเต็มแผ่นดินไทยได้สัญชาติไทยได้สิทธิในที่ดินแผ่นดินเต็มสมบูรณ์กว่า20-30ล้านคนใน20ปีข้างหน้าเป็น100-200ล้านคน ชาติไทยจะเหลือแผ่นดินไทยให้คนไทยจริงๆเท่าไร ,ดูแกวดูจีนสมัยก่อนมุกแบบสงครามพม่าปัจจุบันอพยพมาอยู่ไทยออกลูกออกหลานตรึมได้สัญชาติไทยยึดไทยไม่ต้องรบหรือใช้อาวุธอะไร,ส่งเสริมสนับสนุนช่วยเหลือลูกหลานแกวจีนยึดตำแหน่งปกครองใหญ่โตในระบบราชการไทยและกิจการใหญ่โตสายเลือดใหญ่ในไทย ไทยก็เสร็จนะสิ,เขาระดมทุนผ่านสมาคมจีนสมาคมแกวได้สบาย แกวจีนส่งตังมหาศาลให้สมาคมนี้เอาไปใช้ยึดกิจการไทยส่งลูกหลานคนจีนแกวเข้าทำงานในตำแหน่งใหญ่ให้ได้บนแผ่นดินไทยบอกว่ารักประเทศไทยรักสถาบันไทยก็จบแล้ว,ร้านทองเจ๊กจีนแกวยึดค้าขาย แบบพม่าในปัจจุบันยึดตลาดคนไทยค้าขายแทน ทวงหนี้นอกระบบก็ด้วย,สมาคมพลัดถิ่นรักบ้านเกิดเมืองนอนตนพะนะจีนเอยแกวเอยให้ตังสนับสนุนคนจีนแกวในไทยที่อพยพหนี้ตายมาไทยสมันสงครามก็ว่า,เหยียบย่ำคนไทยเนียนๆเชือดนิ่มๆยึดที่ดินผ่านร้านทองจำนองจำนำตรึม ยึดผ่านแบงค์ต่างๆอีกที่ค้ำประกันเงินกู้โดยใช้ที่ดินค้ำประกัน,ยุคนี้ถ้าผู้ปกครองยังโง่เขลากากกระจอกไม่ล้ำสมัยในสงครามตังนี้อันตรายมากๆ สงครามตังคือสงครามหลักโดยใช้AIเป็นทหารยิงกระสุนแทนอีก,เพราะไม่ว่าจะล้ำจะใช้AIล้ำๆขนาดไหน มันก็ขับเคลื่อนด้วยตังนี้ล่ะ,ตังกระดาษตังดิจิดัลก็คือตัง,เล่าเรียนก็ใช้ตังทุกๆขณะที่ดำเนินขณะภาคเรียนใดๆ.ประเทศไทยเราได้เปรียบมากมาย ตังมีมหาศาลผ่านทรัพยากรบนแผ่นดินไทยและไม่ใช่แค่บ่อน้ำมันหรือบ่อทองคำ เราต่อยอดต่างๆได้ตังมหาศาลแทบไม่แตะต้องทรัพยากรมีค่าอีกก็ได้ นำออกมาใช้ยามจำเป็นฉุกเฉินขาดแคลนก็ได้,เราสามารถสร้างประเทศไทยสร้างชาติสร้างคนไทยทั้งประเทศให้แข็งแกร่งพร้อมเข้าสนามรบสงครามพันทางกับศัตรูของชาติไทยได้อย่างสบายๆแม้มารอบด้านก็ได้,ข้าวปากอาหารเต็มประเทศอีก,แต่คนปกครองเรามันกาก&เหี้ยจริงๆนะ ,เราไม่สมควรดำรงรักษาคนแบบนี้ไว้เลย,นำพาประชาชนทั้งแผ่นดินไทยมั่นคงในความยากจนนานพอแล้ว.และการเล่าเรียนของเยาวชนรวมทั้งของคนไทยทุกๆคนสามารถเล่าเรียนฟรีๆถึงป.เอกได้หรือเรียนรู้ตลอดชีวิตแม้จบสถานศึกษาขั้นปกติก็ตาม ,ฝึกอบรมสัมมาอาชีพพร้อมทุนตั้งตัวตั้งตนเริ่มต้นเพื่อยืนด้วยขาตนเองใครมันคนไทยร่วมกันก็สามารถส่งเสริมได้,เราใช้ตังในชาติไทยเราช่วยเหลือคนไทยเราทำไมจะทำไม่ได้.,เพราะเหี้ยไปยกตังมหาศาลมากมายให้คนอื่นไง.,ตย.ง่ายๆแบบยกบ่อน้ำมันบ่อทองคำตัวทำตังของประเทศไทยให้คนอื่นยึดครอง,ตนไม่มีวัตถุดิบทำตังเลยบนแผ่นดินตนเองแท้ๆมันคือเหี้ยอะไรล่ะ,นี้ไงจึงต้องฉีกทิ้งสัญญาทั้งหมดที่ทำไว้ในอดีตกับต่างชาติและอยุติธรรมเอาเปรียบ&ปล้นชิงแย่งชิงเราในรูปแบบสัญญาต่างๆนั้น,โมฆะทั้งหมด,เราก็จะคืนธิปไตยเรามาทั้งหมด,จากนั้นจับมือจริงจังกับมิตรดีสหายดีทั่วโลกกันใหม่,ทำสัญญาดีๆไม่เอาเปรียบปล้นชิงแย่งชิงกันและกันใหม่,เป็นคู่ค้าคู่มิตรดีทั่วโลกใหม่,ใครเหี้ยก็เลิกคบจบ,ยุคนี้ต้องแบบนี้,ล้ำสมัยต้องแบบนี้,นี้เสือกมั่นคง คงไว้ในกฎหมายที่เอาเปรียบชาติตนเองปล้นตนเอง ล้ำสมัยห่าอะไร,แบบยึดอำนาจเสียของในอดีตนั้นล่ะรัฐประหารเสียของ,ฉลาดฉีกนักกฎหมายรัฐธรรมนูญเสือกไม่ฉีกกฎหมายทาสสัญญาทาสโมฆะมันทิังที่เอาเปรียบประชาชนตนไทยและชาติไทยตนเองแบบสัมปทานบ่อปิโตรเลียมนั้นล่ะที่เป็นตย.ชัดเจนมาก กูรูมากมายแฉในอดีตตรึม ทั้งปกปิดค่าจริงความจริงอีกว่าประเทศไทยไม่มีบ่อน้ำมัน มีแต่น้อย แล้วเสือกแย่งชิงการสัมปทานตรึมหรือต้องได้รับการต่ออายุสัมปทานเดิมให้ได้.,ยุคเราสมควรจบความระยำบัดสบนี้จริงๆ. https://youtube.com/live/-I_7Ne9jNvs?si=ZuGvcgZ3Ang7J3-_
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 865 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts