• 3/3
    วันที่ 11 ธันวาคม 2566 สัมภาษณ์นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในรายการข่าว วิทยุจุฬาฯ FM 101.5 MHz หัวข้อ “ผลกระทบของวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอที่มีต่อมนุษย์ : ก่อให้เกิดโรคร้ายและอันตรายต่อชีวิตจริงหรือไม่” ดำเนินรายการโดย ดร.ธีรารัตน์ พันทวี
    https://curadio.chula.ac.th/Radio-Demand.php?program=202312110730
    วันที่ 8 ก.พ. 2567 ในที่สุด กระทรวงสาธารณสุข ก็ออกมายืนยันสิ่งที่ข้องใจ ไฟเซอร์ หักคอให้รัฐบาลไทย เซ็น”สัญญาทาส“ ไม่อนุญาตให้ ตรวจสอบ
    https://t.me/ThaiPitaksithData/4864
    อ้างติดเงื่อนไข
    สธ.ปฏิเสธเปิดสัญญา“ไฟเซอร์” คนไทยพิทักษ์สิทธิ์จวกยับ น่าเศร้า ขรก.ไทยกลัวบริษัทยา
    https://mgronline.com/qol/detail/9670000014134
    และมีการโครงการจัดเสวนาและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สำหรับภาวะ Long Covid-19 และผลกระทบจากวัคซีน ณ หอศิลป์แห่งวัฒนธรรมกรุงเทพ จาก 9 วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คุณรสนา โตสิตระกูล, นายแพทย์ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ, นายแพทย์อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง, อาจารย์สันติสุข โสภณสิริ , นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์, ศาสตราจารย์คลินิกแพทย์จีน นายแพทย์ภาสกิจ วัณนาวิบูล, แพทย์หญิงสุภาพร มีลาภ, แพทย์แผนไทยประยุกต์แวสะมิง แวหมะ, พันเอก นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา https://youtu.be/KuhFBFDIFPo
    https://rumble.com/v4bmro6-title-health-uncensored-by-dr.atapol-test-draft-1-.html?fbclid=IwAR3KiMhm_Jj--rzxsevf2gWazMP-1SdFHD1XDb0GY3Rw0MMu8-Lk-mGY1g0
    https://t.me/injuryjabthaiseminar
    วันที่ 21 ก.พ.2567 สัมภาษณ์สด นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    รายการทัวร์มาลงทางช่องโมโน29
    mRNA ไม่ใช่วัคซีนแต่เป็นยีนเทอราปี gene therapy
    https://www.facebook.com/share/v/ENS2BTLH5oxkuGKD/?mibextid=A7sQZp
    วันที่ 24 ก.พ.2567 CMUL Live สด อ.ทีน่า อ.เกรซ ครูหนึ่ง จาก สถาบัน CMUL สัมภาษณ์อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://fb.watch/qHUSo1JsoU/?
    วันที่ 4 มี.ค. 2567 คุยกับอ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    CDC Webinar Live Talk หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine
    https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html
    วันที่ 25 เมษายน 2567 รายการ สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 พูดคุยกับ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรุดตัวไว?
    https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x
    วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพจัดเสวนาครั้งที่ 2 แฉความจริง*อันตรายจากวัคซีนCovid-19 ร้ายแรงกว่าที่คิด ณ หอศิลป์ฯ กทม. โดยมีวิทยากรรับเชิญ อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.สุภาพร มีลาภ นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา คลิปไลฟ์4 ชม.เต็มถูกแบนทุกช่องทางต้องตามไปเทเลแกรมครับ [https://t.me/goodthaidoctorclip/1399](https://t.me/goodthaidoctorclip/1399) [https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647](https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647) [https://t.me/ThaiPitaksithData/5579](https://t.me/ThaiPitaksithData/5579)
    วันที่ 19 มิ.ย.2567 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา และ นพ.มนตรี เศรษฐบุตร ยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่รัฐสภา ยื่นหนังสือที่ทางกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ผู้ป่วย และญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนป้องกันโควิด รวมทั้ง เครือข่ายพันธมิตร เช่น สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย,ตัวแทน สภาทนายความแห่งประเทศไทย ,ตัวแทน สมาคมแพทย์ทางร่วมนานาชาติ ,สมาคมแพทย์แผนไทย ส่งให้ทางรัฐมนตรีว่าการสธ. และขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทวัคซีน
    https://www.hfocus.org/content/2024/06/30839
    https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/466060772776252/?
    วันที่ 10 ส.ค.2567 โค๊ชนาตาลีได้จัดงานสัมมนา โดยเชิญ อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง และคุณอดิเทพ จาวลาห์ มาให้ความรู้เรื่อง Hidden Agendas ปัญหาแอบแฝงที่เขาไม่อยากให้เรารู้ และการตื่นรู้จากการถูกควบคุมเพื่ออิสระภาพ
    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02K9Zcf94pFjeTqnSZhdUVY2HR7xzpAnak7B7b1AaC7iFjviDvT8r8rbnYkM5Y9Knfl&id=100011380184111
    วันที่ 14 ส.ค.2567 ไลฟ์สด รายการสภากาแฟ ช่อง News1 หัวข้อ : Shipหายเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนไทยตายมากขึ้น?
    สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.youtube.com/live/st0hoQmKQu8?si=R8LMbTKCwaEEWBte
    https://vt.tiktok.com/ZS2LRQDDF/
    วันที่ 18 ก.ย.2567 หัวข้อ วัคซีนทำอะไรต่อสุขภาพกายใจ และวิธีแก้ไขโดยใช้อาหารบูสต์อารมณ์ คุณปูสัมภาษณ์น.พ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    https://www.facebook.com/share/a2PztSKYEDQ3pviq/?mibextid=9l3rBW
    วันที่ 22 ก.ย.2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ
    https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk
    นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​มันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​
    https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/
    แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc
    วันที่ 21 ตุลาคม 2567 ข่าวเปิดผนึก สถิติคนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ
    https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=sharing
    วันที่ 24 พ.ย.2567 งานสัมมนา ฟังคุณหมอเล่านิทาน (เรื่องที่เล่าบนสื่อทั่วไปไม่ได้) EP.1 วัคซีนทำให้ป่วยเป็นอะไร แก้ไขได้อย่างไร โรงแรมใบหยกสกาย วิทยากร พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา นพ.ทวีศักดิ์ เนตรวงศ์ ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คุณอดิเทพ จาวลาห์
    https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/535323545849974/?
    https://t.me/ThaiPitaksithData/6207
    และในวันเดียวกัน ที่ม.ธรรมศาสตร์ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว หัวข้อ ระเบียบโลกใหม่ ระบบสาธารณสุข โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เรื่องสุขภาพความเป็นความตายประชาชน เรื่องจริงที่พูดไม่ได้ในทางสาธารณะ
    คลิป UNCUT รับชมเต็มๆ แบบไม่ตัด https://thaitimes.co/posts/125847
    https://t.me/goodthaidoctorclip/1610
    https://t.me/clipcovid19/1208
    วันที่ 5 ม.ค.2568 ประกาศข่าว คนไทยตายเพิ่มขึ้นในปี 2567
    https://drive.google.com/file/d/1mfgjiKEyCTfccFf_TcdVjDmS0jvJwzPa/view?usp=drive_link
    https://www.facebook.com/share/p/1AHaC6eSK8/
    วันที่ 2 ก.พ.2568 รูต่ายส่ายสะโพก Special (หมออรรถพล x เทนโด้) วัคซีน mRNA ... มือที่มองไม่เห็นและปลายเข็มแห่งซาตาน (วัคซีน mRNA ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไง)
    https://rumble.com/v6gea87--mrna-...-.html
    วันที่ 2 มี.ค.2568 รูต่ายส่ายสะโพก Special (หมออรรถพล x เทนโด้)
    เปิดแฟ้มลับ...มือสังหารหมู่โลก (วัคซีน mRNA, เชื้อโควิด และการทุจริตในอเมริกา)
    https://rumble.com/v6q1hmg-...-mrna-.html?start=179
    วันที่ 14 มี.ค.2568 บ๊วยLive EP.18 l เข้าถึงปัญญาญาณ เข้าถึงDNA! กับคุณหมออรรถพล
    https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=B6_Z7LtIwBk
    วันที่ 30 มี.ค.2568 เปิดจักรวาล 'รายการมืด' หมออรรถพล นิลฉงน นลเฉลย ชวนพูดคุย พร้อมตอบคำถามใน ไลฟ์ "เปิดแฟ้มลับ...มือสังหาร JFK" #รต่ายส่ายสะโพก EP3
    (หมออรรถพล x เทนโด้ x อาจารย์ต้น ตำนานนักล้วงข้อมูลลับแห่งประเทศไทย)
    https://www.facebook.com/share/v/16YMx4sWn6/
    รับชมคลิปที่ https://rumble.com/v6rewkc-...-jfk-ep3.html หรือ https://zap.stream/naddr1qq9rzde5xqurjvfcx5mqz9thwden5te0wfjkccte9ejxzmt4wvhxjme0qgsfwrl76z6zy0tjhsdnlaj6tkqweyx5w9vdyja5n788vl07p3nw3ugrqsqqqan8vzj3gy
    วันที่ 15 พ.ค. 2568 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 หัวข้อ โลกรับรู้มนุษย์ทําไวรัสเขา
    มีเจตนาอะไร? คิดกุศลหรืออกุศล สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง
    ยูทูบ https://www.youtube.com/live/LQcoOjcPNkQ?si=QFfCzxuYBKx14God
    เฟสบุ๊กไลฟ์ https://www.facebook.com/share/v/15PyyQ8pgE/
    วันที่ 19 พ.ค.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการยา ตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐
    เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และ คณะกรรมการยาทุกท่าน ขอให้ดำเนินการระงับการอนุญาตให้ใช้วัคซีน mRNA ในมนุษย์
    https://drive.google.com/file/d/1BR1vKiDPMrlXMykJqZUVgj3aAK-KkyjH/view?usp=drivesdk
    ข้อมูลเหล่านั้นบางส่วนได้รับการเปิดเผยในเว็บไซต์ทางการของทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา https://www.whitehouse.gov/lab-leak-true-origins-of-covid-19/
    https://www.facebook.com/share/p/1F5cKBiQSK/
    https://www.facebook.com/share/p/16EB5JToNy/
    ไฟล์จดหมายฉบับนี้
    https://drive.google.com/file/d/1zx62n7IaqEdPYL-SFeNcrS2s8cpnLuDE/view?usp=drivesdk
    วันที่ 22 พ.ค.2568 ผู้ที่ได้รับยาฉีดโควิดแล้วมีผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ ร่างกายไม่เหมือนเดิม และญาติผู้เสียชีวิต รว่มกับ คุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ
    ประธานชมรมสันติประชาธรรม พอ.นพ.พงษฺศักดิ์ ตั้งคณา นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.ชนิฎา ศิริประภารัตน์ ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ และจิตอาสากลุ่มคนไทยพิทักษฺสิทธิ์ ร่วมยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ในการรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด และให้มีการจัดเวทีทางวิชาการ ถึงท่านประธานรัฐสภาไทย และประธานสภาผู้แทนราษฎร พณฯท่าน วันมูหะมัดนอร์ มะทา
    จดหมายยื่นรัฐสภา
    https://drive.google.com/drive/folders/114MB4aBXnhPjSOb5iZKhThk0d9B0rs6f
    ไลฟ์สด https://www.facebook.com/share/v/189S4WxV6j/
    https://www.thaipithaksith.com/my-posta3c48515
    https://www.facebook.com/share/p/1NaPKfhgkD/
    https://www.khaosod.co.th/politics/news_9770255
    https://www.facebook.com/share/v/189S4WxV6j/
    https://www.facebook.com/share/19RpSX1zVx/
    อีเมล์ หมอยงตอบหมออรรถพล ในกรณีที่ มีผู้ป่วยเด็กที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด เข้ารับการรักษาในรพ.จุฬาลงกรณ์ ลองอ่านดูครับว่า หมอยง แสดงความเห็นใจ เป็นห่วงเป็นใย ผู้ป่วยบ้างไหม
    https://www.facebook.com/share/p/18qB9oj8MR/
    ข้อมูลจากฐานข้อมูล องค์การอนามัยโลก
    พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด กลับเพิ่มมากขึ้น หลังจากการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในประเทศที่มีการฉีดมาก
    https://www.facebook.com/share/p/198894qDBY/
    หมออรรถพลแนะจัดเวทีวิชาการคุยเรื่อง วัคซีนมรณา mRNA กันดีกว่า อย่ามัวดราม่า บูลลี่กันอยู่เลย
    https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7496066093576949009?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351
    https://t.me/goodthaidoctorclip/1728
    ข้อมูลจากสื่อหลักมิได้จริงเสมอไป
    https://www.facebook.com/share/p/1XsfU32uuq/
    3/3 ✍️วันที่ 11 ธันวาคม 2566 สัมภาษณ์นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในรายการข่าว วิทยุจุฬาฯ FM 101.5 MHz หัวข้อ “ผลกระทบของวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอที่มีต่อมนุษย์ : ก่อให้เกิดโรคร้ายและอันตรายต่อชีวิตจริงหรือไม่” ดำเนินรายการโดย ดร.ธีรารัตน์ พันทวี https://curadio.chula.ac.th/Radio-Demand.php?program=202312110730 ✍️วันที่ 8 ก.พ. 2567 ในที่สุด กระทรวงสาธารณสุข ก็ออกมายืนยันสิ่งที่ข้องใจ ไฟเซอร์ หักคอให้รัฐบาลไทย เซ็น”สัญญาทาส“ ไม่อนุญาตให้ ตรวจสอบ https://t.me/ThaiPitaksithData/4864 อ้างติดเงื่อนไข สธ.ปฏิเสธเปิดสัญญา“ไฟเซอร์” คนไทยพิทักษ์สิทธิ์จวกยับ น่าเศร้า ขรก.ไทยกลัวบริษัทยา https://mgronline.com/qol/detail/9670000014134 และมีการโครงการจัดเสวนาและหน่วยแพทย์เคลื่อนที่สำหรับภาวะ Long Covid-19 และผลกระทบจากวัคซีน ณ หอศิลป์แห่งวัฒนธรรมกรุงเทพ จาก 9 วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ คุณรสนา โตสิตระกูล, นายแพทย์ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ, นายแพทย์อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง, อาจารย์สันติสุข โสภณสิริ , นายแพทย์ขวัญชัย วิศิษฐานนท์, ศาสตราจารย์คลินิกแพทย์จีน นายแพทย์ภาสกิจ วัณนาวิบูล, แพทย์หญิงสุภาพร มีลาภ, แพทย์แผนไทยประยุกต์แวสะมิง แวหมะ, พันเอก นายแพทย์พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา https://youtu.be/KuhFBFDIFPo https://rumble.com/v4bmro6-title-health-uncensored-by-dr.atapol-test-draft-1-.html?fbclid=IwAR3KiMhm_Jj--rzxsevf2gWazMP-1SdFHD1XDb0GY3Rw0MMu8-Lk-mGY1g0 https://t.me/injuryjabthaiseminar ✍️วันที่ 21 ก.พ.2567 สัมภาษณ์สด นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง รายการทัวร์มาลงทางช่องโมโน29 mRNA ไม่ใช่วัคซีนแต่เป็นยีนเทอราปี gene therapy https://www.facebook.com/share/v/ENS2BTLH5oxkuGKD/?mibextid=A7sQZp ✍️วันที่ 24 ก.พ.2567 CMUL Live สด อ.ทีน่า อ.เกรซ ครูหนึ่ง จาก สถาบัน CMUL สัมภาษณ์อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://fb.watch/qHUSo1JsoU/? ✍️วันที่ 4 มี.ค. 2567 คุยกับอ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง CDC Webinar Live Talk หัวข้อ ภัยของ Covid Vaccine https://rumble.com/v4hcoae--covid-vaccine.html ✍️วันที่ 25 เมษายน 2567 รายการ สภากาแฟเวทีชาวบ้าน ช่อง News1 พูดคุยกับ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หัวข้อ ทำไม พระสงฆ์ คนหนุ่มสาว ป่วยทรุดตัวไว? https://www.youtube.com/live/4BHNF3zpCz0?si=nzF8PfAMNCo_mS8x ✍️วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 หมอธีระวัฒน์-อ.ปานเทพจัดเสวนาครั้งที่ 2 แฉความจริง*อันตรายจากวัคซีนCovid-19 ร้ายแรงกว่าที่คิด ณ หอศิลป์ฯ กทม. โดยมีวิทยากรรับเชิญ อ.หมออรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.สุภาพร มีลาภ นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา คลิปไลฟ์4 ชม.เต็มถูกแบนทุกช่องทางต้องตามไปเทเลแกรมครับ [https://t.me/goodthaidoctorclip/1399](https://t.me/goodthaidoctorclip/1399) [https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647](https://mgronline.com/qol/detail/9670000035647) [https://t.me/ThaiPitaksithData/5579](https://t.me/ThaiPitaksithData/5579) ✍️วันที่ 19 มิ.ย.2567 นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา และ นพ.มนตรี เศรษฐบุตร ยื่นหนังสือถึง นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่รัฐสภา ยื่นหนังสือที่ทางกลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ ผู้ป่วย และญาติของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนป้องกันโควิด รวมทั้ง เครือข่ายพันธมิตร เช่น สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย,ตัวแทน สภาทนายความแห่งประเทศไทย ,ตัวแทน สมาคมแพทย์ทางร่วมนานาชาติ ,สมาคมแพทย์แผนไทย ส่งให้ทางรัฐมนตรีว่าการสธ. และขอให้สอบสวนการกระทำผิดสัญญาของบริษัทวัคซีน https://www.hfocus.org/content/2024/06/30839 https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/466060772776252/? ✍️วันที่ 10 ส.ค.2567 โค๊ชนาตาลีได้จัดงานสัมมนา โดยเชิญ อ.นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง และคุณอดิเทพ จาวลาห์ มาให้ความรู้เรื่อง Hidden Agendas ปัญหาแอบแฝงที่เขาไม่อยากให้เรารู้ และการตื่นรู้จากการถูกควบคุมเพื่ออิสระภาพ https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02K9Zcf94pFjeTqnSZhdUVY2HR7xzpAnak7B7b1AaC7iFjviDvT8r8rbnYkM5Y9Knfl&id=100011380184111 ✍️วันที่ 14 ส.ค.2567 ไลฟ์สด รายการสภากาแฟ ช่อง News1 หัวข้อ : Shipหายเกิดอะไรขึ้น ทำไมคนไทยตายมากขึ้น? สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.youtube.com/live/st0hoQmKQu8?si=R8LMbTKCwaEEWBte https://vt.tiktok.com/ZS2LRQDDF/ ✍️วันที่ 18 ก.ย.2567 หัวข้อ วัคซีนทำอะไรต่อสุขภาพกายใจ และวิธีแก้ไขโดยใช้อาหารบูสต์อารมณ์ คุณปูสัมภาษณ์น.พ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง https://www.facebook.com/share/a2PztSKYEDQ3pviq/?mibextid=9l3rBW ✍️วันที่ 22 ก.ย.2567 ข่าวเปิดผนึกทวงถามความจริง ผอ.สถาบันมะเร็งแห่งชาติ ออกมาแก้ต่างให้กับบริษัทยา ว่าไม่มีข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่าง modified RNA (mRNA) ที่หลอกว่าเป็นวัคซีน กับ มะเร็งกล้ามเนื้อหัวใจ https://drive.google.com/file/d/1cxK176_E_k8oxdJuH3ajMnLEBq64yfl8/view?usp=drivesdk ✍️ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง กล่าวชัดๆไม่อ้อมค้อม​มันคืออาวุธ​ชีวภาพ ใครฉีดให้คนคืออาชญากร​ ใครนิ่งเฉยไม่พูด​อะไรคือ​ ผู้สมรู้ร่วมคิด​ร่วม​กระทำความผิด​ https://vm.tiktok.com/ZS2XQ5qgB/ แผนลดประชากรโลก มีจริงหรือไม่ https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7414795548814773521?is_from_webapp=1&sender_device=pc ✍️วันที่ 21 ตุลาคม 2567 ข่าวเปิดผนึก สถิติคนไทยเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นผิดปกติ https://drive.google.com/file/d/122EJw-wrGa0GTD-hJSho0IC-U3ROJU4Z/view?usp=sharing ✍️วันที่ 24 พ.ย.2567 งานสัมมนา ฟังคุณหมอเล่านิทาน (เรื่องที่เล่าบนสื่อทั่วไปไม่ได้) EP.1 วัคซีนทำให้ป่วยเป็นอะไร แก้ไขได้อย่างไร โรงแรมใบหยกสกาย วิทยากร พ.อ.นพ.พงศ์ศักดิ์ ตั้งคณา นพ.ทวีศักดิ์ เนตรวงศ์ ดร.นพ.ชลธวัช สุวรรณปิยะศิริ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง คุณอดิเทพ จาวลาห์ https://m.facebook.com/groups/374786411903689/permalink/535323545849974/? https://t.me/ThaiPitaksithData/6207 และในวันเดียวกัน ที่ม.ธรรมศาสตร์ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว หัวข้อ ระเบียบโลกใหม่ ระบบสาธารณสุข โดย ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา เรื่องสุขภาพความเป็นความตายประชาชน เรื่องจริงที่พูดไม่ได้ในทางสาธารณะ คลิป UNCUT รับชมเต็มๆ แบบไม่ตัด https://thaitimes.co/posts/125847 https://t.me/goodthaidoctorclip/1610 https://t.me/clipcovid19/1208 ✍️วันที่ 5 ม.ค.2568 ประกาศข่าว คนไทยตายเพิ่มขึ้นในปี 2567 https://drive.google.com/file/d/1mfgjiKEyCTfccFf_TcdVjDmS0jvJwzPa/view?usp=drive_link https://www.facebook.com/share/p/1AHaC6eSK8/ ✍️วันที่ 2 ก.พ.2568 รูต่ายส่ายสะโพก Special (หมออรรถพล x เทนโด้) วัคซีน mRNA ... มือที่มองไม่เห็นและปลายเข็มแห่งซาตาน (วัคซีน mRNA ส่งผลต่อร่างกายมนุษย์ยังไง) https://rumble.com/v6gea87--mrna-...-.html ✍️วันที่ 2 มี.ค.2568 รูต่ายส่ายสะโพก Special (หมออรรถพล x เทนโด้) เปิดแฟ้มลับ...มือสังหารหมู่โลก (วัคซีน mRNA, เชื้อโควิด และการทุจริตในอเมริกา) https://rumble.com/v6q1hmg-...-mrna-.html?start=179 ✍️วันที่ 14 มี.ค.2568 บ๊วยLive EP.18 l เข้าถึงปัญญาญาณ เข้าถึงDNA! กับคุณหมออรรถพล https://www.youtube.com/watch?app=desktop&v=B6_Z7LtIwBk ✍️วันที่ 30 มี.ค.2568 เปิดจักรวาล 'รายการมืด' หมออรรถพล นิลฉงน นลเฉลย ชวนพูดคุย พร้อมตอบคำถามใน ไลฟ์ "เปิดแฟ้มลับ...มือสังหาร JFK" #รต่ายส่ายสะโพก EP3 (หมออรรถพล x เทนโด้ x อาจารย์ต้น ตำนานนักล้วงข้อมูลลับแห่งประเทศไทย) https://www.facebook.com/share/v/16YMx4sWn6/ รับชมคลิปที่ https://rumble.com/v6rewkc-...-jfk-ep3.html หรือ https://zap.stream/naddr1qq9rzde5xqurjvfcx5mqz9thwden5te0wfjkccte9ejxzmt4wvhxjme0qgsfwrl76z6zy0tjhsdnlaj6tkqweyx5w9vdyja5n788vl07p3nw3ugrqsqqqan8vzj3gy ✍️วันที่ 15 พ.ค. 2568 รายการสภากาแฟ ช่อง News1 หัวข้อ โลกรับรู้มนุษย์ทําไวรัสเขา มีเจตนาอะไร? คิดกุศลหรืออกุศล สัมภาษณ์ นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ยูทูบ https://www.youtube.com/live/LQcoOjcPNkQ?si=QFfCzxuYBKx14God เฟสบุ๊กไลฟ์ https://www.facebook.com/share/v/15PyyQ8pgE/ ✍️วันที่ 19 พ.ค.2568 กลุ่มแพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์ยื่นหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการยา ตามพระราชบัญญัติยา พุทธศักราช ๒๕๑๐ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา และ คณะกรรมการยาทุกท่าน ขอให้ดำเนินการระงับการอนุญาตให้ใช้วัคซีน mRNA ในมนุษย์ https://drive.google.com/file/d/1BR1vKiDPMrlXMykJqZUVgj3aAK-KkyjH/view?usp=drivesdk ข้อมูลเหล่านั้นบางส่วนได้รับการเปิดเผยในเว็บไซต์ทางการของทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา https://www.whitehouse.gov/lab-leak-true-origins-of-covid-19/ https://www.facebook.com/share/p/1F5cKBiQSK/ https://www.facebook.com/share/p/16EB5JToNy/ ไฟล์จดหมายฉบับนี้ https://drive.google.com/file/d/1zx62n7IaqEdPYL-SFeNcrS2s8cpnLuDE/view?usp=drivesdk ✍️วันที่ 22 พ.ค.2568 ผู้ที่ได้รับยาฉีดโควิดแล้วมีผลเสียต่อร่างกายและจิตใจ ร่างกายไม่เหมือนเดิม และญาติผู้เสียชีวิต รว่มกับ คุณอี้ แทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พอ.นพ.พงษฺศักดิ์ ตั้งคณา นพ.อรรถพล สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง พญ.ชนิฎา ศิริประภารัตน์ ดร.ศรีวิชัย ศรีสุวรรณ และจิตอาสากลุ่มคนไทยพิทักษฺสิทธิ์ ร่วมยื่นหนังสือขอความอนุเคราะห์ในการรับฟังความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด และให้มีการจัดเวทีทางวิชาการ ถึงท่านประธานรัฐสภาไทย และประธานสภาผู้แทนราษฎร พณฯท่าน วันมูหะมัดนอร์ มะทา จดหมายยื่นรัฐสภา https://drive.google.com/drive/folders/114MB4aBXnhPjSOb5iZKhThk0d9B0rs6f ไลฟ์สด https://www.facebook.com/share/v/189S4WxV6j/ https://www.thaipithaksith.com/my-posta3c48515 https://www.facebook.com/share/p/1NaPKfhgkD/ https://www.khaosod.co.th/politics/news_9770255 https://www.facebook.com/share/v/189S4WxV6j/ https://www.facebook.com/share/19RpSX1zVx/ ✍️อีเมล์ หมอยงตอบหมออรรถพล ในกรณีที่ มีผู้ป่วยเด็กที่ได้รับผลกระทบจากวัคซีนโควิด เข้ารับการรักษาในรพ.จุฬาลงกรณ์ ลองอ่านดูครับว่า หมอยง แสดงความเห็นใจ เป็นห่วงเป็นใย ผู้ป่วยบ้างไหม https://www.facebook.com/share/p/18qB9oj8MR/ ข้อมูลจากฐานข้อมูล องค์การอนามัยโลก พบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด กลับเพิ่มมากขึ้น หลังจากการฉีดวัคซีน โดยเฉพาะในประเทศที่มีการฉีดมาก https://www.facebook.com/share/p/198894qDBY/ ✍️หมออรรถพลแนะจัดเวทีวิชาการคุยเรื่อง วัคซีนมรณา mRNA กันดีกว่า อย่ามัวดราม่า บูลลี่กันอยู่เลย https://www.tiktok.com/@atapolhuawei/video/7496066093576949009?is_from_webapp=1&sender_device=pc&web_id=7359944913523705351 https://t.me/goodthaidoctorclip/1728 ✍️ข้อมูลจากสื่อหลักมิได้จริงเสมอไป https://www.facebook.com/share/p/1XsfU32uuq/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 758 มุมมอง 0 รีวิว
  • พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผย ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม ทั้งบริษัทผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมการก่อสร้าง และผู้รับเหมาก่อสร้าง ทยอยมอบตัว เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธ โดยจะส่งคำให้การภายในวันที่ 23 พ.ค. นี้ ประสานดีเอสไอคดีนอมินีและฮั้วประมูล หากพยานหลักฐานถึงเจ้าหน้าที่รัฐคนใดจะดำเนินคดีไม่ละเว้น ตั้งแต่คนทำ TOR สัญญาจ้างออกแบบ จ้างควบคุมงาน และส่วนอื่นๆ สำหรับโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. ตรวจสอบพบเบิกงบก่อสร้างแล้ว 22 งวด จาก 30 งวด เป็นเงิน 900 ล้านบาท ซึ่ง สตง. จ่ายเงินตามสัญญา ทั้งที่การก่อสร้างคืบหน้าเพียง 35% แต่ตามหลักการต้องคืบหน้า 80% อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ยืนยัน ไม่กลั่นแกล้งบุคคลใด กรรมใดที่ใครก่อไว้ต้องสนองในชาตินี้แน่นอน

    -"เปรมชัย"นั่งรถเข็นมอบตัว
    -สภาทนายความจ่ายเยียวยา
    -เตือนภัยแบบ One Message
    -กล้าธรรมไม่เคยซื้อตัวใคร
    พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เผย ผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม ทั้งบริษัทผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมการก่อสร้าง และผู้รับเหมาก่อสร้าง ทยอยมอบตัว เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธ โดยจะส่งคำให้การภายในวันที่ 23 พ.ค. นี้ ประสานดีเอสไอคดีนอมินีและฮั้วประมูล หากพยานหลักฐานถึงเจ้าหน้าที่รัฐคนใดจะดำเนินคดีไม่ละเว้น ตั้งแต่คนทำ TOR สัญญาจ้างออกแบบ จ้างควบคุมงาน และส่วนอื่นๆ สำหรับโครงการก่อสร้างอาคาร สตง. ตรวจสอบพบเบิกงบก่อสร้างแล้ว 22 งวด จาก 30 งวด เป็นเงิน 900 ล้านบาท ซึ่ง สตง. จ่ายเงินตามสัญญา ทั้งที่การก่อสร้างคืบหน้าเพียง 35% แต่ตามหลักการต้องคืบหน้า 80% อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และรอผลตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการที่นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง ยืนยัน ไม่กลั่นแกล้งบุคคลใด กรรมใดที่ใครก่อไว้ต้องสนองในชาตินี้แน่นอน -"เปรมชัย"นั่งรถเข็นมอบตัว -สภาทนายความจ่ายเยียวยา -เตือนภัยแบบ One Message -กล้าธรรมไม่เคยซื้อตัวใคร
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 914 มุมมอง 18 0 รีวิว
  • "รมว.ยุติธรรม-ดีเอสไอ" หาแนวทางร่วม "อิตาเลียนไทยฯ-ไชน่า เรลเวย์ฯ" เยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ปมตึก สตง. ถล่ม มีสภาทนายความช่วยดูแล

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000040249

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "รมว.ยุติธรรม-ดีเอสไอ" หาแนวทางร่วม "อิตาเลียนไทยฯ-ไชน่า เรลเวย์ฯ" เยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ปมตึก สตง. ถล่ม มีสภาทนายความช่วยดูแล อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000040249 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 697 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดีเอสไอพบเอกสารสำคัญ โยงแก้แบบตึก สตง.? : [NEWS UPDATE]

    พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เผยหลังตรวจสอบตู้คอนเทเนอร์จำนวน 24 ตู้ ซึ่งใช้เป็นสำนักงานชั่วคราวในพื้นที่ก่อสร้างตึก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เพื่อรวบรวมหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง พบเอกสารสำคัญหลายรายการ อาทิ แฟ้มส่งมอบงาน รายงานความคืบหน้าการก่อสร้างประจำเดือน เอกสารการตั้งเบิก วางบิล ค่างวดงานก่อสร้าง ซื้อคอนกรีต ปูน เหล็ก รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ลิฟต์ เอกสารสอบถามชี้แจงแบบก่อสร้าง รายการประกอบแบบ เอกสารขออนุมัติก่อสร้าง รายงานการประชุมของ Project Manager ใบตรวจสอบหน้างานของผู้คุมงาน ที่สำคัญพบรายงาน Shop Drawing ซึ่งเป็นรายละเอียดโครงสร้างที่จะนำไปสู่การตรวจสอบการแก้ไขแบบก่อสร้าง ซึ่งเอกสารมีจำนวนมาก ได้เตรียมลังเอกสารถึง 100 ลัง คาดต้องใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ในการขนย้ายเอกสารทั้งหมดไปดีเอสไอ

    -สภาทนายความช่วยถึงที่

    -รองประธาน สว.ไม่รู้จักเอไอ

    -ส่งออกหนุนเศรษฐกิจไทย

    -ปะการังอ่าวไทยตายเพิ่ม
    ดีเอสไอพบเอกสารสำคัญ โยงแก้แบบตึก สตง.? : [NEWS UPDATE] พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เผยหลังตรวจสอบตู้คอนเทเนอร์จำนวน 24 ตู้ ซึ่งใช้เป็นสำนักงานชั่วคราวในพื้นที่ก่อสร้างตึก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เพื่อรวบรวมหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง พบเอกสารสำคัญหลายรายการ อาทิ แฟ้มส่งมอบงาน รายงานความคืบหน้าการก่อสร้างประจำเดือน เอกสารการตั้งเบิก วางบิล ค่างวดงานก่อสร้าง ซื้อคอนกรีต ปูน เหล็ก รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ลิฟต์ เอกสารสอบถามชี้แจงแบบก่อสร้าง รายการประกอบแบบ เอกสารขออนุมัติก่อสร้าง รายงานการประชุมของ Project Manager ใบตรวจสอบหน้างานของผู้คุมงาน ที่สำคัญพบรายงาน Shop Drawing ซึ่งเป็นรายละเอียดโครงสร้างที่จะนำไปสู่การตรวจสอบการแก้ไขแบบก่อสร้าง ซึ่งเอกสารมีจำนวนมาก ได้เตรียมลังเอกสารถึง 100 ลัง คาดต้องใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ในการขนย้ายเอกสารทั้งหมดไปดีเอสไอ -สภาทนายความช่วยถึงที่ -รองประธาน สว.ไม่รู้จักเอไอ -ส่งออกหนุนเศรษฐกิจไทย -ปะการังอ่าวไทยตายเพิ่ม
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 790 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เผยการรับคดีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่มเป็นคดีพิเศษ ในคดีนอมินีพบมีคนไทยที่สถานภาพไม่สอดคล้องกับการมาถือหุ้นในธุรกิจบริษัทใหญ่ มีหลักฐานการลงนามเอกสารเซ็นสัญญากิจการร่วมค้าต่างๆ คนต่างด้าวดูมีอำนาจครอบงำกิจการ คนไทยกลุ่มนี้ยังถือหุ้นบริษัทอื่นไม่ต่ำกว่า 3 บริษัทในเครือ จากทั้งหมด 13 บริษัท ส่วนเรื่องความผิดใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมจะเน้นตรวจสอบเรื่องเหล็ก พบเหล็กบางยี่ห้อไม่ตรงสเปค ส่วนคดีฮั้วประมูลจะสืบสวนการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม และตรวจสอบพยานหลักฐาน แฟ้มที่ชาวจีนลักลอบขนออกจากไซต์งานหลังวันเกิดเหตุ 37 แฟ้ม ส่วนการที่อาคารถล่ม ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุภัยพิบัติหรือข้อผิดพลาดจากการก่อสร้าง แต่เป็นสิ่งที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่ามีความผิดปกติ

    -ปรับแผนเครื่องจักรรื้อถอน
    -สภาทนายความเปิดศูนย์ช่วย
    -อย่าอ้างเป็นสถานบันเทิง
    -ไทย-เนปาล ยกระดับสัมพันธ์
    พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เผยการรับคดีตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่มเป็นคดีพิเศษ ในคดีนอมินีพบมีคนไทยที่สถานภาพไม่สอดคล้องกับการมาถือหุ้นในธุรกิจบริษัทใหญ่ มีหลักฐานการลงนามเอกสารเซ็นสัญญากิจการร่วมค้าต่างๆ คนต่างด้าวดูมีอำนาจครอบงำกิจการ คนไทยกลุ่มนี้ยังถือหุ้นบริษัทอื่นไม่ต่ำกว่า 3 บริษัทในเครือ จากทั้งหมด 13 บริษัท ส่วนเรื่องความผิดใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมจะเน้นตรวจสอบเรื่องเหล็ก พบเหล็กบางยี่ห้อไม่ตรงสเปค ส่วนคดีฮั้วประมูลจะสืบสวนการแข่งขันราคาอย่างไม่เป็นธรรม และตรวจสอบพยานหลักฐาน แฟ้มที่ชาวจีนลักลอบขนออกจากไซต์งานหลังวันเกิดเหตุ 37 แฟ้ม ส่วนการที่อาคารถล่ม ไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุภัยพิบัติหรือข้อผิดพลาดจากการก่อสร้าง แต่เป็นสิ่งที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่ามีความผิดปกติ -ปรับแผนเครื่องจักรรื้อถอน -สภาทนายความเปิดศูนย์ช่วย -อย่าอ้างเป็นสถานบันเทิง -ไทย-เนปาล ยกระดับสัมพันธ์
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1001 มุมมอง 43 0 รีวิว
  • เพื่อนรักหักเหลี่ยม ที่มีแววไปรักกันต่อในซังเต
    ทนายตั้ม กําลังเผชิญวิบากกรรม ถล่มใส่นอกจากถูกอัยการสั่งฟ้องเรียบร้อยแล้ว คดีฉ้อโกง พี่อ้อยจตุพร ล่าสุดยังถูกเชือดจากสภาทนายความแห่งประเทศไทย ลงโทษห้ามเป็นทนายความนาน 3 ปี กรณีถูกร้องเรียนเกี่ยวกับคลิปลับผู้กํากับโจ้ เมื่อปี 2564
    นับเป็นคดีแรกในชีวิตของทนายตั้มที่ถูกสภาทนายความสั่งลงโทษแม้จะเป็นการพิจารณาสอบสวนที่ค่อนข้างล่าช้า แต่ก็ตรงตามสํานวนที่ว่า มาช้าดีกว่าไม่มา
    ก็เป็นไปได้ว่าสภาทนายความซึ่งจะกล้าหือกับทนายตั้ม ก็ตอนทนายตั้มหมดสภาพแล้วอย่างในเวลานี้ หากเขายังคงเป็นทนายเซเลบปาก้าอยู่นอกคุก ทคดีนี้อาจล่าช้าไปถึงไหนต่อไหนแต่พอเริ่มมีคดีแรกก็อาจมีคดีที่สองที่สามตามมา
    ทนายตั้มมีคดีร้องเรียนกรรมการมรรยาททนายความค้างอยู่นับสิบเรื่อง แต่ละเรื่องล้วนเป็นข้อหาหนักสมฐานะของโจรในคาบทนายอย่างทนายตั้มทุกประการ สุดท้ายอาจถึงขั้นถูกลบชื่อจากการเป็นทนายความตลอดชีวิตได้เลย
    ที่เป็นตลกร้ายก็คือคนที่ร้องเรียนทนายตั้มจนถูกลงโทษรุนแรงขนาดนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อนรักหน้ากล้องของทนายตั้มนั่นเอง ทนายจุ๊กกรู เดชา เป็นคนยื่นกรรมการมันยาททนายความให้สอบสวนทนายตั้มคดีโจ้ถุงดํา โดยหลังเกิดคดีนี้ทนายเดชากับทนายตั้มเปิดศึกทางโซเชียลกันอย่างดุเดือด
    เวลานั้นเป็นทนายตั้มที่กล่าวหาทนายเดชาได้คลิปลับถุงดําเป็นคนแรกแต่ไม่ยอมไปแจ้งตํารวจ หรือเอามาเปิดให้สาธารณชนเห็น ซึ่งทนายตั้มกล่าวหาทนายเดชาจ้องจะตบทรัพย์ผู้กํากับโจ้เพราะได้คลิปก่อนใคร แต่ไม่รีบปล่อย ส่วนทนายตั้มซึ่งได้คลิปทีหลังกลายเป็นคนได้เปิดก่อนโกยคะแนนนิยมไปเต็มๆ
    จากนั้นทั้งคู่ก็ค้าความกันนัวฟ้องกันไปฟ้องกันมาด่ากันไปด่ากันมานายเดชาถึงกับด่าทนายตั้มออกทีวีว่าเป็นหมาขี้เรื้อน
    แต่พอปี 2565สองทนายโซเชียลกลับลํามาจูบปากกัน ยอมถอนฟ้องซึ่งกันและกันจนหมด แต่เรื่องที่ถอนฟ้องไม่ได้ก็คือการไปร้องเรียนกรรมการมันยาททนายความนี่เองเพราะระเบียบของที่นี่ไม่เหมือนศาลถ้าร้องแล้วก็คือร้องเลยถอนคืนไม่ได้ยอมความกันไม่ได้
    สุดท้ายทนายตั้มเลยมาถูกเชือดด้วยน้ํามือของเพื่อนรักเข้าตําราเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของแท้
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    #เดชา
    #ทนายตั้ม
    เพื่อนรักหักเหลี่ยม ที่มีแววไปรักกันต่อในซังเต ทนายตั้ม กําลังเผชิญวิบากกรรม ถล่มใส่นอกจากถูกอัยการสั่งฟ้องเรียบร้อยแล้ว คดีฉ้อโกง พี่อ้อยจตุพร ล่าสุดยังถูกเชือดจากสภาทนายความแห่งประเทศไทย ลงโทษห้ามเป็นทนายความนาน 3 ปี กรณีถูกร้องเรียนเกี่ยวกับคลิปลับผู้กํากับโจ้ เมื่อปี 2564 นับเป็นคดีแรกในชีวิตของทนายตั้มที่ถูกสภาทนายความสั่งลงโทษแม้จะเป็นการพิจารณาสอบสวนที่ค่อนข้างล่าช้า แต่ก็ตรงตามสํานวนที่ว่า มาช้าดีกว่าไม่มา ก็เป็นไปได้ว่าสภาทนายความซึ่งจะกล้าหือกับทนายตั้ม ก็ตอนทนายตั้มหมดสภาพแล้วอย่างในเวลานี้ หากเขายังคงเป็นทนายเซเลบปาก้าอยู่นอกคุก ทคดีนี้อาจล่าช้าไปถึงไหนต่อไหนแต่พอเริ่มมีคดีแรกก็อาจมีคดีที่สองที่สามตามมา ทนายตั้มมีคดีร้องเรียนกรรมการมรรยาททนายความค้างอยู่นับสิบเรื่อง แต่ละเรื่องล้วนเป็นข้อหาหนักสมฐานะของโจรในคาบทนายอย่างทนายตั้มทุกประการ สุดท้ายอาจถึงขั้นถูกลบชื่อจากการเป็นทนายความตลอดชีวิตได้เลย ที่เป็นตลกร้ายก็คือคนที่ร้องเรียนทนายตั้มจนถูกลงโทษรุนแรงขนาดนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนเพื่อนรักหน้ากล้องของทนายตั้มนั่นเอง ทนายจุ๊กกรู เดชา เป็นคนยื่นกรรมการมันยาททนายความให้สอบสวนทนายตั้มคดีโจ้ถุงดํา โดยหลังเกิดคดีนี้ทนายเดชากับทนายตั้มเปิดศึกทางโซเชียลกันอย่างดุเดือด เวลานั้นเป็นทนายตั้มที่กล่าวหาทนายเดชาได้คลิปลับถุงดําเป็นคนแรกแต่ไม่ยอมไปแจ้งตํารวจ หรือเอามาเปิดให้สาธารณชนเห็น ซึ่งทนายตั้มกล่าวหาทนายเดชาจ้องจะตบทรัพย์ผู้กํากับโจ้เพราะได้คลิปก่อนใคร แต่ไม่รีบปล่อย ส่วนทนายตั้มซึ่งได้คลิปทีหลังกลายเป็นคนได้เปิดก่อนโกยคะแนนนิยมไปเต็มๆ จากนั้นทั้งคู่ก็ค้าความกันนัวฟ้องกันไปฟ้องกันมาด่ากันไปด่ากันมานายเดชาถึงกับด่าทนายตั้มออกทีวีว่าเป็นหมาขี้เรื้อน แต่พอปี 2565สองทนายโซเชียลกลับลํามาจูบปากกัน ยอมถอนฟ้องซึ่งกันและกันจนหมด แต่เรื่องที่ถอนฟ้องไม่ได้ก็คือการไปร้องเรียนกรรมการมันยาททนายความนี่เองเพราะระเบียบของที่นี่ไม่เหมือนศาลถ้าร้องแล้วก็คือร้องเลยถอนคืนไม่ได้ยอมความกันไม่ได้ สุดท้ายทนายตั้มเลยมาถูกเชือดด้วยน้ํามือของเพื่อนรักเข้าตําราเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของแท้ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ #เดชา #ทนายตั้ม
    Love
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1087 มุมมอง 0 รีวิว
  • สภาทนายความลงโทษคดีมรรยาท“ทนายตั้ม”ปมกล่าวหาตบทรัพย์ "ผกก.โจ้" สั่งห้ามเป็นทนาย 3 ปี หลังโดนร้องเรียนเพียบ เผยยังมีเรื่องอื่นรอคิวเป็น 10 คดี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010445

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สภาทนายความลงโทษคดีมรรยาท“ทนายตั้ม”ปมกล่าวหาตบทรัพย์ "ผกก.โจ้" สั่งห้ามเป็นทนาย 3 ปี หลังโดนร้องเรียนเพียบ เผยยังมีเรื่องอื่นรอคิวเป็น 10 คดี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010445 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    21
    4 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1387 มุมมอง 1 รีวิว
  • สภาทนายความตั้ง “วีรพัฒน์ ปริยวงศ์” หัวหน้าคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี
    เหยื่อดิไอคอนทั้งแพ่งและอาญา ลั่น! ต้องคุ้มครองผู้เสียหาย เตรียมจัดทีมทนายความอำนวยความยุติธรรมเพื่อคุ้มครองประโยชน์ประชาชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006924

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สภาทนายความตั้ง “วีรพัฒน์ ปริยวงศ์” หัวหน้าคณะทำงานช่วยเหลือทางคดี เหยื่อดิไอคอนทั้งแพ่งและอาญา ลั่น! ต้องคุ้มครองผู้เสียหาย เตรียมจัดทีมทนายความอำนวยความยุติธรรมเพื่อคุ้มครองประโยชน์ประชาชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000006924 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่ประชุมคณะกรรมการมรรยาททนายความสั่งลงโทษรุนแรง ลบชื่อทนายความออกจากทะเบียนทนายความแล้ว 18 คดี ห้ามว่าความ 3 ปี 19 คดี ห้ามว่าความ 2 ปี 9 คดี ห้ามว่าความ 1 ปี 19 คดี ห้ามว่าความ 6 เดือน 8 คดี ภาคทัณฑ์และว่ากล่าวตักเตือน รวม 29 คดี

    วันนี้ (7 ม.ค.) สำนักงานคณะกรรมการมรรยาททนายความได้ประกาศ เรื่อง การพิจารณาคดีมรรยาททนายความ ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการมรรยาททนายความ ได้ประชุมพิจารณาคดีมรรยาททนายความ ตามพ.ร.บ.ทนายความ พ.ศ.2528 และข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความฯ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ธ.ค.2567 นั้นปรากฏผลการพิจารณาคดี จากทั้งหมด 362 คดี ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาลงโทษ โดยให้ลบชื่อทนายความ ออกจากทะเบียนทนายความ จำนวน 18 คดี ,ห้ามทำการเป็นทนายความ มีกำหนด 3 ปี จำนวน 19 คดี , ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนด 2 ปี จำนวน 9 คดี ,ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนด 1 ปี จำนวน 19 คดี ,ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนด 6 เดือน จำนวน 8 คดี ,ภาคทัณฑ์ จำนวน 10 คดี และ งดโทษให้ โดยว่ากล่าวตักเตือน จำนวน 19 คดี

    อย่างไรก็ตามขั้นตอนหลังจากผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาททนายความแล้ว จะต้องส่งให้นายกสภาทนายความ เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมกรรมการสภาทนายความเพื่อพิจารณาอีกครั้งว่าจะเห็นชอบหรือไม่ จากนั้นจึงส่งไปให้ประธานคณะกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อแจ้งผลการพิจารณาลงโทษให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่ทนายความไปกระทำความผิดละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมืองหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นการกระทำอันขัดต่อมรรยาททนายความ ถือเป็นคดีมรรยาททนายความที่คณะกรรมการมรรยาททนายความสามารถรับพิจารณาได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. ผู้เสียหายที่เป็นคู่กรณีกับทนายความคนดังกล่าว สามารถร้องเรียนสภาทนายความได้ 2. ทนายความด้วยกันร้องเรียนมาที่สภาทนายความ และ3. คณะกรรมการมรรยาททนายความเห็นว่ามีความผิดปรากฏขึ้นมา ก็สามารถยกนำเรื่องดังกล่าวมาสอบสวนและพิจารณาความผิดคดีมรรยาททนายความได้เอง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001823

    #MGROnline #คณะกรรมการมรรยาททนายความ
    ที่ประชุมคณะกรรมการมรรยาททนายความสั่งลงโทษรุนแรง ลบชื่อทนายความออกจากทะเบียนทนายความแล้ว 18 คดี ห้ามว่าความ 3 ปี 19 คดี ห้ามว่าความ 2 ปี 9 คดี ห้ามว่าความ 1 ปี 19 คดี ห้ามว่าความ 6 เดือน 8 คดี ภาคทัณฑ์และว่ากล่าวตักเตือน รวม 29 คดี • วันนี้ (7 ม.ค.) สำนักงานคณะกรรมการมรรยาททนายความได้ประกาศ เรื่อง การพิจารณาคดีมรรยาททนายความ ระบุว่า ตามที่คณะกรรมการมรรยาททนายความ ได้ประชุมพิจารณาคดีมรรยาททนายความ ตามพ.ร.บ.ทนายความ พ.ศ.2528 และข้อบังคับสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความฯ ตั้งแต่เดือน ม.ค.-ธ.ค.2567 นั้นปรากฏผลการพิจารณาคดี จากทั้งหมด 362 คดี ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณาลงโทษ โดยให้ลบชื่อทนายความ ออกจากทะเบียนทนายความ จำนวน 18 คดี ,ห้ามทำการเป็นทนายความ มีกำหนด 3 ปี จำนวน 19 คดี , ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนด 2 ปี จำนวน 9 คดี ,ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนด 1 ปี จำนวน 19 คดี ,ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนด 6 เดือน จำนวน 8 คดี ,ภาคทัณฑ์ จำนวน 10 คดี และ งดโทษให้ โดยว่ากล่าวตักเตือน จำนวน 19 คดี • อย่างไรก็ตามขั้นตอนหลังจากผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาททนายความแล้ว จะต้องส่งให้นายกสภาทนายความ เพื่อเสนอเข้าที่ประชุมกรรมการสภาทนายความเพื่อพิจารณาอีกครั้งว่าจะเห็นชอบหรือไม่ จากนั้นจึงส่งไปให้ประธานคณะกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อแจ้งผลการพิจารณาลงโทษให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับกรณีที่ทนายความไปกระทำความผิดละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมืองหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นการกระทำอันขัดต่อมรรยาททนายความ ถือเป็นคดีมรรยาททนายความที่คณะกรรมการมรรยาททนายความสามารถรับพิจารณาได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1. ผู้เสียหายที่เป็นคู่กรณีกับทนายความคนดังกล่าว สามารถร้องเรียนสภาทนายความได้ 2. ทนายความด้วยกันร้องเรียนมาที่สภาทนายความ และ3. คณะกรรมการมรรยาททนายความเห็นว่ามีความผิดปรากฏขึ้นมา ก็สามารถยกนำเรื่องดังกล่าวมาสอบสวนและพิจารณาความผิดคดีมรรยาททนายความได้เอง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001823 • #MGROnline #คณะกรรมการมรรยาททนายความ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายเดชา เจ้าของฉายา ปากม๋าเป็นปกติธุระ
    ทนายเดชา ปกติก็โดนทัวร์ลงเป็นปกติธุระอยู่แล้ว จากจุดยืนเลือกข้างทนายตั้ม แต่สถานการณ์ล่าสุดกลับเลวร้ายกว่าเดิม ทัวร์ลงเพจทนายคลายทุกข์จนแทบลุกเป็นไฟ เมื่อวันพ่อ 5 ธันวาคม เพราะดันไปหาเรื่องเอง ไปโพสต์ล่อแหลมถึงพ่อ จนคนจํานวนมากไม่พอใจมองว่ามีเจตนาไม่ดีดูยังไงก็เหมือนแซะสถาบัน โดนกระหน่ําด่า จนทนายเดชาต้องลบโพสต์เจ้าปัญหาทิ้ง
    แล้วก็ไลฟ์สดด่าคนที่มาทัวร์ลงด้วยถ้อยคําหยาบคาย อย่างจัญไร ไอ้ควาย ทั้งสาปแช่งให้ตกนรกออกอาการสติแตกออกปากหยาบคายเช่นนี้ ตรงตามที่บิ๊กเต่า พลตํารวจตรีจรุญเกียรติ ปานแก้ว ตอบกลับทนายบางคน โดยนิยามให้เป็นอินฟลูปากหมา แค่คํานี้คําเดียวบิ๊กเต่า ก็สอบผ่านฉลุย เป็นอินฟลูตํารวจตามนโยบาย ผบ ตร ทันที
    ปฏิกิริยาตอบกลับแบบไม่เกรงใจบอกให้รู้ว่า ในสายตาบิ๊กเต่าคนอย่างทนายเดชาไม่มีราคาเอาเสียเลย คํานิยามจากบิ๊กเต่านับว่าเข้ากันเป๊ะกับสถานการณ์ล่าสุดของทนายเดชาที่ดันมาโพสต์แซะพ่อ จนสียศูนย์ ด่ากราดคนอย่างหยาบคาย
    การที่ทนายเดชาแกว่งปากใส่บิ๊กเต่าก่อน โดยเตือนให้ระวังติดคุกเพราะการแถลงข่าวบ่อยถือเป็นคําพูดที่ไม่เข้าท่าเพราะสื่อจะรู้อยู่แล้วตํารวจบิ๊กๆ ในสอบสวนกลางล้วนแต่ให้สัมภาษณ์อย่างระมัดระวังสุดขีดไม่เคยหลุดข้อมูลเชิงลึกให้เสียรูปคดี นักข่าวล่อหลอกถามเท่าไหร่ก็รู้ทันหมดไม่ว่าจะบิ๊กก้องพลตํารวจโท จิรภพ ภูริเดช บิ๊กหมูพลตํารวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม และก็ตัวบิ๊กเต่าเองล้วนแต่รู้วิธีการให้ข่าวว่าแค่ไหนคือพอดี
    คนละแนวกับทนายเดชาต่อให้รู้น้อยก็พูดเหมือนรู้มาก อย่างพูดว่าทนายตั้มจะใช้ทีมทนายของบิ๊กโจ๊กก็ถูกทางทีมทนายของบิ๊กโจ๊กปฏิเสธหน้าแหก เคยบอกว่าตํารวจสอบสวนกลางไม่ออกหมายจับเจ๊พัฒน์คดีตบทรัพย์ เจ๊พัฒน์จะได้ลอยกระทง แต่สุดท้ายตํารวจก็ออกหมายจับเจ๊พัฒน์ในวันลอยกระทง ช่างกล้าพูดว่าสื่อไม่สามารถเจาะข่าวทางลึกของตํารวจได้ทั้งที่สื่อสามารถขุดคุ้ยข้อมูลลึกของทนายตั้มแบบรายวันนําเสนอกันเป็นเดือนแล้ว
    ขณะที่ตํารวจ CIB กําลังเป็นขาขึ้นเป็นขวัญใจประชาชน คนที่กระแสตกสวนทางตํารวจก็มีแต่ทนายเดชานี่แหละยอดไลค์ทุกวันนี้ไม่ได้สัมพันธ์กับผู้ติดตามเป็นล้านๆคนเลยไหนยังเป็นทนายคนแรกที่ประชาชนไม่เกรงใจคอมเม้นแจก ค กันเป็นร้อยๆ กลายเป็นเจ้าพ่อควายไปเรียบร้อยแล้ว สะท้อนเครดิตความน่าเชื่อถือของทนายเดชาเองว่ากําลังดําดิ่งเจ้าตัวควรจะรู้ตัวได้แล้วไม่ใช่แค่เป็นแชมป์คอควายเท่านั้น
    ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสภาทนายความแห่งประเทศไทยระบุว่าทนายเดชามีคดีถูกร้องเรียนมรรยาททนายความจํานวนมาก ครองแชมป์การถูกร้องเรียนทิ้งห่างคนอื่นๆแบบไม่เห็นฝุ่นถือเป็นทนายเหนือทนายของจริง ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    ทนายเดชา เจ้าของฉายา ปากม๋าเป็นปกติธุระ ทนายเดชา ปกติก็โดนทัวร์ลงเป็นปกติธุระอยู่แล้ว จากจุดยืนเลือกข้างทนายตั้ม แต่สถานการณ์ล่าสุดกลับเลวร้ายกว่าเดิม ทัวร์ลงเพจทนายคลายทุกข์จนแทบลุกเป็นไฟ เมื่อวันพ่อ 5 ธันวาคม เพราะดันไปหาเรื่องเอง ไปโพสต์ล่อแหลมถึงพ่อ จนคนจํานวนมากไม่พอใจมองว่ามีเจตนาไม่ดีดูยังไงก็เหมือนแซะสถาบัน โดนกระหน่ําด่า จนทนายเดชาต้องลบโพสต์เจ้าปัญหาทิ้ง แล้วก็ไลฟ์สดด่าคนที่มาทัวร์ลงด้วยถ้อยคําหยาบคาย อย่างจัญไร ไอ้ควาย ทั้งสาปแช่งให้ตกนรกออกอาการสติแตกออกปากหยาบคายเช่นนี้ ตรงตามที่บิ๊กเต่า พลตํารวจตรีจรุญเกียรติ ปานแก้ว ตอบกลับทนายบางคน โดยนิยามให้เป็นอินฟลูปากหมา แค่คํานี้คําเดียวบิ๊กเต่า ก็สอบผ่านฉลุย เป็นอินฟลูตํารวจตามนโยบาย ผบ ตร ทันที ปฏิกิริยาตอบกลับแบบไม่เกรงใจบอกให้รู้ว่า ในสายตาบิ๊กเต่าคนอย่างทนายเดชาไม่มีราคาเอาเสียเลย คํานิยามจากบิ๊กเต่านับว่าเข้ากันเป๊ะกับสถานการณ์ล่าสุดของทนายเดชาที่ดันมาโพสต์แซะพ่อ จนสียศูนย์ ด่ากราดคนอย่างหยาบคาย การที่ทนายเดชาแกว่งปากใส่บิ๊กเต่าก่อน โดยเตือนให้ระวังติดคุกเพราะการแถลงข่าวบ่อยถือเป็นคําพูดที่ไม่เข้าท่าเพราะสื่อจะรู้อยู่แล้วตํารวจบิ๊กๆ ในสอบสวนกลางล้วนแต่ให้สัมภาษณ์อย่างระมัดระวังสุดขีดไม่เคยหลุดข้อมูลเชิงลึกให้เสียรูปคดี นักข่าวล่อหลอกถามเท่าไหร่ก็รู้ทันหมดไม่ว่าจะบิ๊กก้องพลตํารวจโท จิรภพ ภูริเดช บิ๊กหมูพลตํารวจตรีสุวัฒน์ แสงนุ่ม และก็ตัวบิ๊กเต่าเองล้วนแต่รู้วิธีการให้ข่าวว่าแค่ไหนคือพอดี คนละแนวกับทนายเดชาต่อให้รู้น้อยก็พูดเหมือนรู้มาก อย่างพูดว่าทนายตั้มจะใช้ทีมทนายของบิ๊กโจ๊กก็ถูกทางทีมทนายของบิ๊กโจ๊กปฏิเสธหน้าแหก เคยบอกว่าตํารวจสอบสวนกลางไม่ออกหมายจับเจ๊พัฒน์คดีตบทรัพย์ เจ๊พัฒน์จะได้ลอยกระทง แต่สุดท้ายตํารวจก็ออกหมายจับเจ๊พัฒน์ในวันลอยกระทง ช่างกล้าพูดว่าสื่อไม่สามารถเจาะข่าวทางลึกของตํารวจได้ทั้งที่สื่อสามารถขุดคุ้ยข้อมูลลึกของทนายตั้มแบบรายวันนําเสนอกันเป็นเดือนแล้ว ขณะที่ตํารวจ CIB กําลังเป็นขาขึ้นเป็นขวัญใจประชาชน คนที่กระแสตกสวนทางตํารวจก็มีแต่ทนายเดชานี่แหละยอดไลค์ทุกวันนี้ไม่ได้สัมพันธ์กับผู้ติดตามเป็นล้านๆคนเลยไหนยังเป็นทนายคนแรกที่ประชาชนไม่เกรงใจคอมเม้นแจก ค กันเป็นร้อยๆ กลายเป็นเจ้าพ่อควายไปเรียบร้อยแล้ว สะท้อนเครดิตความน่าเชื่อถือของทนายเดชาเองว่ากําลังดําดิ่งเจ้าตัวควรจะรู้ตัวได้แล้วไม่ใช่แค่เป็นแชมป์คอควายเท่านั้น ล่าสุดมีรายงานข่าวจากสภาทนายความแห่งประเทศไทยระบุว่าทนายเดชามีคดีถูกร้องเรียนมรรยาททนายความจํานวนมาก ครองแชมป์การถูกร้องเรียนทิ้งห่างคนอื่นๆแบบไม่เห็นฝุ่นถือเป็นทนายเหนือทนายของจริง ติดตามข่าวซีพๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1247 มุมมอง 0 รีวิว
  • สายข่าวจากสภาทนายความฯ บอกว่า “เดชา” มีคดีถูกร้องเรียนมรรยาททนายความ จำนวนมากในระดับแชมป์ แหม่ ทนายเหนือทนายของจริง

    #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายเดชา #เดชาสติแตก #ชาวเน็ตกระหน่ำให้คอควาย
    สายข่าวจากสภาทนายความฯ บอกว่า “เดชา” มีคดีถูกร้องเรียนมรรยาททนายความ จำนวนมากในระดับแชมป์ แหม่ ทนายเหนือทนายของจริง #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #ทนายเดชา #เดชาสติแตก #ชาวเน็ตกระหน่ำให้คอควาย
    Haha
    Like
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1481 มุมมอง 50 0 รีวิว
  • ยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" CIB Nominee sweep ep.2 รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิด4 ธันวาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ฐากิจจ์ โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวด้วยสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการ กวาดล้างธุรกิจตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในประเทศไทย ซึ่งประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย แข่งขันแย่งอาชีพคนไทย และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยประสานความร่วมมือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” ระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีการเชื่อมต่อระบบข้อมูลผู้จดทะเบียนนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลาง ของตำรวจสอบสวนกลาง (BIG DATA) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล ตลอดห้วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท พบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้ง กรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลจึงขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย อาทิเช่น สำนักงานบัญชี โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น รวบรวมพยานหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึด ทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) (2) การจดทะเบียนบริษัท ในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน ผลการปฏิบัติ(ภาพรวม) 1) ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 46 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ 2) พบเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลและนิติบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท 3) การดำเนินคดี - นิติบุคคล จำนวน 442 ราย - บุคคล จำนวน 1,014 ราย (กรรมการ, ผู้ถือหุ้น, ผู้ทำบัญชี, ทนายความ, นายทุน) (สัญชาติจีน 258 ราย, ไทย 714 ราย, เยอรมัน 3 ราย, อังกฤษ 3 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, เมียนมาร์ 2 ราย, กัมพูชา 4 ราย, อเมริกัน 1 ราย, มาเลเซีย 21 ราย,เวียดนาม 4 ราย ,สิงคโปร์ 1 ราย ,คาซัคสถาน 1 ราย 4) ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท 3. ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น 4. ป้ายบริษัท จำนวน 67 ป้าย 5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 24 เครื่อง 6. ธนบัตรสกุลเงินไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,149,290 บาท 7. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 2 เครื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1. พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 2. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 3. พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ.2561 4. พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ.2485 5. พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 6. พ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 7. ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 8. ประมวลกฎหมายอาญา 9. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ชาวต่างชาติจะว่าจ้าง บริษัทบัญชี ในการจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเข้ามาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่าที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบนิติบุคคล 244 ราย บุคคล 319 ราย (จีน 248,ไทย 57 สัญชาติอื่น 14 ราย) เบื้องต้นตรวจพบบริษัทลักษณะเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ จำแนกเป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นการค้าที่ดิน, ท่องเที่ยว, ธุรกิจบริการและธุรกิจประเภทอื่นๆ มีทุนจดทะเบียนรวมกัน 891,000,000 บาท จุดตรวจค้นที่ 1 รวม 8 จุด : สำนักงานบัญชี 3 แห่ง และบริษัทนอมินี 5 ที่ถือครองบ้านหรู - พบ ชาวต่างชาติสัญชาติจีนจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมทุนกับคนไทยโดยมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่น่าสงสัย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบนิติบุคคลที่จดทะเบียนเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดินลักษณะเป็นบ้านหรู และที่ดินเพื่อการเกษตร รวม 22 แปลง รวมมูลค่า 254 ล้านบาท รวมถึงตราประทับของบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 242 ชิ้น และยังพบข้อมูลการว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีและจดทะเบียนบริษัทที่รับทำบัญชีและจดจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน โดยจะใช้ชื่อของตนเอง กลุ่มเครือญาติของตน รวมทั้งลูกจ้างของบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วมกับชาวต่างชาติ ในสัดส่วนของคนไทย เพื่อหลบหลีกข้อกฎหมาย จุดตรวจค้นที่ 2 รวม 7 จุด : ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน และโกดังนำเข้าสินค้าขนาดใหญ่ - ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการและ สมุทรสาคร พบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนหลายแสนชิ้น จึงได้ตรวจยึดสินค้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (สินค้าต้องห้ามนำเข้า, สินค้าที่ไม่ผ่านอนุญาต อย.) จุดตรวจค้นที่ 3 รวม 8 จุด : บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ, สินทรัพย์ดิจิทัล USDT - พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) โดยผิดกฎหมาย พบสถานประกอบการที่ดำเนินการโดยใช้ชื่อคนไทย ตรวจยึด สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก เช่น ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ เครื่องนับธนบัตร คอมพิวเตอร์ บัญชีธนาคารของคนจีน โบชัวร์รับแลกเงิน(USDT) โดยพบว่ามีชาวจีน 6 คนเป็นเจ้าของธุรกิจใชวีซาทองเที่ยวและวีซ่านักศึกษาเขามาในประเทศ (2) การจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะของบริษัทม้า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้บัญชีบริษัทเพื่อเปิด “บัญชีม้านิติบุคคล” แทนบัญชีบุคคลเพื่อรับโอนเงิน เนื่องจากสามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดวงเงิน ต่อครั้ง/ต่อวัน, ไม่ต้องทำการ KYC, สามารถโอนผ่าน browser (internet banking ) โดยเพียงมี User และ password ของบัญชีนิติบุคคล เท่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึง ว่าจ้างสำนักงานบัญชี/สำนักงานทนายความ ในการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดหาบัญชีหรือ “คอกม้า” โดยแอบอ้างใช้ชื่อคนไทยเข้าไปเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น เพื่ออำพราง เมื่อจดทะเบียนสำเร็จ จะนำนิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนผลประโยชน์หรือฟอกเงิน โดยไม่มีการประกอบกิจการจริง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ (Thai police online) พบบริษัทที่มีลักษณะเข้าข่ายบริษัทนิติบุคคลม้าจำนวนหลายบริษัท จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ชลบุรี 10 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด เชียงใหม่ 3 ราชบุรี 2 จุด จังหวัดละ 1 จุด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี จุดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า ผลการปฏิบัติ พบ นายทุน ชาวจีน, ชาวมาเลเซีย(สัญญาชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัท จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผล พบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย (เป็นต่างชาติ 37 คน คนไทย 658 คน) ตรวจยึด บัญชีธนาคาร 314 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบว่า สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการกระทำความผิด โดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ ในเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และประมวลกฎหมายอาญา (รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, แจ้งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จ) จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และ ทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทยซึ่งจะมีความผิดทั้งนิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    ยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" CIB Nominee sweep ep.2 รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิดยุทธการการ "ทลายรังมังกรเทา" รวบ 8 นายทุนจีน เปิด 14 บริษัท กระทำผิด4 ธันวาคม 2567 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. รรท.จตช. , พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.วิจักขณ์ ตารมย์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.ฐากิจจ์ โตเกียรติชูกรณ์ รอง ผบก.ปอศ.,พ.ต.อ.จักรกริช เสริบุตร รอง ผบก.ปอศ. และเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจโดยมี นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า , หม่อมหลวงภู่ทอง ทองใหญ่ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และผู้แทนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมแถลงข่าวด้วยสืบเนื่องจากนโยบายรัฐบาลให้ดำเนินการ กวาดล้างธุรกิจตัวแทนอำพรางหรือนอมินีในประเทศไทย ซึ่งประกอบอาชีพต้องห้ามตามกฎหมาย แข่งขันแย่งอาชีพคนไทย และหลีกเลี่ยงการเสียภาษี โดยพบว่าส่วนหนึ่งเป็นขบวนการที่เชื่อมโยงกับเครือข่ายธุรกิจผิดกฎหมายและอาชญากรรมออนไลน์ ใช้เป็นช่องทางในการฟอกเงิน ครอบครองอสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน คอนโด และโครงการบ้านหรู ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้นำนโยบายไปสู่การปฏิบัติโดยประสานความร่วมมือไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เพื่อจัดพิธีลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) “การป้องกันและปราบปรามปัญหาการเปิดบัญชีม้าของนิติบุคคล และการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (NOMINEE)” ระหว่างตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2567 มีการเชื่อมต่อระบบข้อมูลผู้จดทะเบียนนิติบุคคลกับระบบข้อมูลกลาง ของตำรวจสอบสวนกลาง (BIG DATA) เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลในการป้องกันปราบปรามนิติบุคคลต้องสงสัย ที่เกี่ยวข้องกับการใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคล ตลอดห้วงระยะเวลาสามเดือนที่ผ่าน เจ้าหน้าที่ตำรวจของ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ได้ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ข้อมูลการจดทะเบียนบริษัท พบว่า มีบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดทั้ง กรณีใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง(Nominee) และเปิดใช้บัญชีม้านิติบุคคลจึงขออนุมัติศาลเพื่อขอหมายเข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย อาทิเช่น สำนักงานบัญชี โกดัง/คลังสินค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ร้านรับแลกเงินต่างประเทศ/เงินดิจิทัล บริษัทอสังหาริมทรัพย์และบ้านหรูที่ถือครองโดยผิดกฎหมาย จากการตรวจค้น รวบรวมพยานหลักฐานและพยานเอกสารที่ตรวจยึด ทำให้พบแผนประทุษกรรมในการกระทำความผิด 2 รูปแบบ คือ (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) (2) การจดทะเบียนบริษัท ในลักษณะของบริษัทม้า เพื่อนำไปเปิดบัญชีธนาคารรับโอนผลประโยชน์จากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และใช้ในการฟอกเงิน ผลการปฏิบัติ(ภาพรวม) 1) ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 46 จุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี ราชบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงใหม่ 2) พบเอกสารเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของบุคคลและนิติบุคคล จำนวนทั้งสิ้น 442 บริษัท รวมมูลค่าทุนจดทะเบียนทั้งหมด 1,189 ล้านบาท ตรวจพบเงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท 3) การดำเนินคดี - นิติบุคคล จำนวน 442 ราย - บุคคล จำนวน 1,014 ราย (กรรมการ, ผู้ถือหุ้น, ผู้ทำบัญชี, ทนายความ, นายทุน) (สัญชาติจีน 258 ราย, ไทย 714 ราย, เยอรมัน 3 ราย, อังกฤษ 3 ราย, ญี่ปุ่น 2 ราย, เมียนมาร์ 2 ราย, กัมพูชา 4 ราย, อเมริกัน 1 ราย, มาเลเซีย 21 ราย,เวียดนาม 4 ราย ,สิงคโปร์ 1 ราย ,คาซัคสถาน 1 ราย 4) ของกลางและทรัพย์สินที่ตรวจยึด 1. สมุดบัญชีธนาคาร จำนวน 34 เล่ม 2. เอกสารการถือครองที่ดิน จำนวน 22 ฉบับ รวมมูลค่า 254 ล้านบาท 3. ตราประทับบริษัทต่างๆ จำนวน 494 ชิ้น 4. ป้ายบริษัท จำนวน 67 ป้าย 5. อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 24 เครื่อง 6. ธนบัตรสกุลเงินไทยและต่างประเทศ จำนวน 1,149,290 บาท 7. เครื่องนับธนบัตร จำนวน 2 เครื่อง กฎหมายที่เกี่ยวข้อง 1. พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 2. พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 3. พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิตอล พ.ศ.2561 4. พ.ร.บ.ควบคุมการแลกเปลี่ยนเงินตรา พ.ศ.2485 5. พ.ร.บ.การบัญชี พ.ศ.2543 6. พ.ร.ก.การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ.2566 7. ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ.2497 8. ประมวลกฎหมายอาญา 9. พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 (1) การจดทะเบียนบริษัท โดยใช้คนไทยเป็นตัวแทนอำพราง (Nominee) ชาวต่างชาติจะว่าจ้าง บริษัทบัญชี ในการจดทะเบียนนิติบุคคลประกอบธุรกิจโดยใช้คนไทยเข้ามาเป็นตัวแทนอำพราง หรือที่เรียกว่า “นอมินี” ถือหุ้นแทนชาวต่างชาติในสัดส่วนที่ไม่เกินกว่าที่กำหนด เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายและการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่รัฐ มาประกอบธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับคนไทย ตลอดจนการถือกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ พบนิติบุคคล 244 ราย บุคคล 319 ราย (จีน 248,ไทย 57 สัญชาติอื่น 14 ราย) เบื้องต้นตรวจพบบริษัทลักษณะเป็นนอมินีของชาวต่างชาติ จำแนกเป็นธุรกิจประเภทอสังหาริมทรัพย์ที่มีลักษณะเป็นการค้าที่ดิน, ท่องเที่ยว, ธุรกิจบริการและธุรกิจประเภทอื่นๆ มีทุนจดทะเบียนรวมกัน 891,000,000 บาท จุดตรวจค้นที่ 1 รวม 8 จุด : สำนักงานบัญชี 3 แห่ง และบริษัทนอมินี 5 ที่ถือครองบ้านหรู - พบ ชาวต่างชาติสัญชาติจีนจดทะเบียนนิติบุคคลร่วมทุนกับคนไทยโดยมีชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นในสัดส่วนที่น่าสงสัย เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบนิติบุคคลที่จดทะเบียนเพื่อถือครองอสังหาริมทรัพย์หลายรายการ เช่น โฉนดที่ดินลักษณะเป็นบ้านหรู และที่ดินเพื่อการเกษตร รวม 22 แปลง รวมมูลค่า 254 ล้านบาท รวมถึงตราประทับของบริษัทต่างๆ จำนวนกว่า 242 ชิ้น และยังพบข้อมูลการว่าจ้างบริษัทรับทำบัญชีและจดทะเบียนบริษัทที่รับทำบัญชีและจดจัดตั้งบริษัทให้กับชาวต่างชาติโดยเฉพาะกลุ่มคนจีน โดยจะใช้ชื่อของตนเอง กลุ่มเครือญาติของตน รวมทั้งลูกจ้างของบริษัทเข้าไปถือหุ้นร่วมกับชาวต่างชาติ ในสัดส่วนของคนไทย เพื่อหลบหลีกข้อกฎหมาย จุดตรวจค้นที่ 2 รวม 7 จุด : ร้านค้า ร้านอาหาร ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน และโกดังนำเข้าสินค้าขนาดใหญ่ - ในพื้นที่กรุงเทพฯ สมุทรปราการและ สมุทรสาคร พบสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากต่างประเทศจำนวนหลายแสนชิ้น จึงได้ตรวจยึดสินค้าทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย เบื้องต้นพบสินค้าที่ไม่ได้รับอนุญาตหรือห้ามนำเข้ามาในราชอาณาจักร (สินค้าต้องห้ามนำเข้า, สินค้าที่ไม่ผ่านอนุญาต อย.) จุดตรวจค้นที่ 3 รวม 8 จุด : บริษัทรับแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลต่างประเทศ, สินทรัพย์ดิจิทัล USDT - พื้นที่กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดกิจการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ และซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล (USDT) โดยผิดกฎหมาย พบสถานประกอบการที่ดำเนินการโดยใช้ชื่อคนไทย ตรวจยึด สิ่งของและอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดจำนวนมาก เช่น ธนบัตรสกุลเงินต่างประเทศ เครื่องนับธนบัตร คอมพิวเตอร์ บัญชีธนาคารของคนจีน โบชัวร์รับแลกเงิน(USDT) โดยพบว่ามีชาวจีน 6 คนเป็นเจ้าของธุรกิจใชวีซาทองเที่ยวและวีซ่านักศึกษาเขามาในประเทศ (2) การจดทะเบียนบริษัทนิติบุคคล ในลักษณะของบริษัทม้า จากการวิเคราะห์แผนประทุษกรรม พบว่า ปัจจุบันมิจฉาชีพ โดยเฉพาะกลุ่มอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปลี่ยนมาใช้บัญชีบริษัทเพื่อเปิด “บัญชีม้านิติบุคคล” แทนบัญชีบุคคลเพื่อรับโอนเงิน เนื่องจากสามารถโอนเงินได้ไม่จำกัดวงเงิน ต่อครั้ง/ต่อวัน, ไม่ต้องทำการ KYC, สามารถโอนผ่าน browser (internet banking ) โดยเพียงมี User และ password ของบัญชีนิติบุคคล เท่านั้น กลุ่มมิจฉาชีพจึง ว่าจ้างสำนักงานบัญชี/สำนักงานทนายความ ในการจดทะเบียนนิติบุคคล จัดหาบัญชีหรือ “คอกม้า” โดยแอบอ้างใช้ชื่อคนไทยเข้าไปเป็นกรรมการ ผู้ถือหุ้น เพื่ออำพราง เมื่อจดทะเบียนสำเร็จ จะนำนิติบุคคลดังกล่าวไปเปิดบัญชีเพื่อรับโอนผลประโยชน์หรือฟอกเงิน โดยไม่มีการประกอบกิจการจริง และถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มมิจฉาชีพในการหลอกลวงประชาชน จากการตรวจสอบข้อมูลการแจ้งความร้องทุกข์ผ่าน ระบบรับแจ้งความออนไลน์ (Thai police online) พบบริษัทที่มีลักษณะเข้าข่ายบริษัทนิติบุคคลม้าจำนวนหลายบริษัท จึงมีการวางแผนและเข้าทำการตรวจค้น 23 จุดทั่วประเทศ ได้แก่ ชลบุรี 10 จุด กรุงเทพมหานคร 3 จุด เชียงใหม่ 3 ราชบุรี 2 จุด จังหวัดละ 1 จุด ประกอบด้วย ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรปราการ สมุทรสาคร ชลบุรี จุดประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เผยว่า ผลการปฏิบัติ พบ นายทุน ชาวจีน, ชาวมาเลเซีย(สัญญาชาติจีน) รวม 8 ราย ว่าจ้างบริษัทบัญชีรวม 14 บริษัท จดทะเบียนนิติบุคคล เพื่อเปิดบัญชีธนาคาร โดยมีทนายความ ผู้ทำบัญชี ผู้รับมอบอำนาจในการจดทะเบียน เป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด และจากการขยายผล พบนิติบุคคลที่เกี่ยวข้อง 198 บริษัท บุคคลธรรมดา 695 ราย (เป็นต่างชาติ 37 คน คนไทย 658 คน) ตรวจยึด บัญชีธนาคาร 314 บัญชี เงินหมุนเวียนกว่า 3,600 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังพบว่า สำนักงานบัญชี บริษัทกฎหมาย สำนักงานทนายความ มีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นกับการกระทำความผิด โดยรับรองลายมือชื่ออันเป็นเท็จ ในเอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียน มีความผิดตาม พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี และประมวลกฎหมายอาญา (รับรองเอกสารอันเป็นเท็จ, แจ้งเจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่ จดข้อความอันเป็นเท็จ) จึงได้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่บัญชี และ ทนายความ จำนวน 25 ราย รวมทั้งได้มีหนังสือแจ้งไปยัง สภาทนายความ และสภาวิชาชีพบัญชี เพื่อพิจารณาเพิกถอนใบอนุญาต ต่อไป ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยถึงพี่น้องประชาชน การให้ความช่วยเหลือ สนับสนุน หรือถือหุ้น โดยการนำเอาชื่อของตนเองหรือบุคคลใกล้ชิดไปก่อตั้งบริษัทให้กับบุคคลต่างชาติ เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนชาวต่างชาติเข้ามาแสวงผลประโยชน์ภายในประเทศ อันส่งผลกระทบภาพลักษณ์ ความเชื่อมั่น การแข่งขันทางธุรกิจในประเทศ และธุรกิจที่สงวนไว้สำหรับประชาชนคนไทยซึ่งจะมีความผิดทั้งนิติบุคคลและผู้ให้ความช่วยเหลือ อันเป็นความผิดตาม พรบ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2542 และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1777 มุมมอง 0 รีวิว
  • "วิเชียร" นายกสภาทนายความ เผยขั้นตอนสอบมรรยาท "ทนายตั้ม-ทนายเดชา" เป็นอำนาจ ปธ.กรรมการมรรยาททนาย หากผู้กล่าวหามั่นใจข้อเท็จจริง พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112946

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "วิเชียร" นายกสภาทนายความ เผยขั้นตอนสอบมรรยาท "ทนายตั้ม-ทนายเดชา" เป็นอำนาจ ปธ.กรรมการมรรยาททนาย หากผู้กล่าวหามั่นใจข้อเท็จจริง พร้อมให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112946 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    Wow
    42
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2583 มุมมอง 2 รีวิว
  • เสียงทนายบอสพอลจริงๆ หรือ? ทำไมทนายสายโจน ฉ้อโกงตบทรัพย์เต็มบ้านเต็มเมือง แถมยังมีทนายรัฐฉานอีก แต่ละตัวทำลายคนอื่น ทำลายเพื่อนร่วมอาชีพ สภาทนายความตื่นได้หรือยัง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    เสียงทนายบอสพอลจริงๆ หรือ? ทำไมทนายสายโจน ฉ้อโกงตบทรัพย์เต็มบ้านเต็มเมือง แถมยังมีทนายรัฐฉานอีก แต่ละตัวทำลายคนอื่น ทำลายเพื่อนร่วมอาชีพ สภาทนายความตื่นได้หรือยัง #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง-2
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 804 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนธิ-ปานเทพ” ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสภาทนายความ.วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 13.00น. คุณสนธิ ลิ้มทองกุล และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาทนายความ โดยมี นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความ.จากนั้นจึงเข้าหารือกับ นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลประมาณ 20 นาที.#คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ทนายตั้ม #สภาทนายความ #ทนายตั้มษิทรา #sondhitalk
    “สนธิ-ปานเทพ” ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสภาทนายความ.วันนี้ (21 พ.ย.) เวลา 13.00น. คุณสนธิ ลิ้มทองกุล และ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อสภาทนายความ โดยมี นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ สภาทนายความ.จากนั้นจึงเข้าหารือกับ นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลประมาณ 20 นาที.#คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ทนายตั้ม #สภาทนายความ #ทนายตั้มษิทรา #sondhitalk
    Like
    Love
    Yay
    12
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1037 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สนธิ"ยื่นหนังสือร้องเรียนสภาทนายความ พิจารณาสอบมรรยาท "ทนายษิทธา-ทนายเดชา" ยันจะดำเนินการอย่างสุดซอย ไม่เจรจาแน่นอนเมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (21 พ.ย.) ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพพัวพงษ์พันธ์ พร้อมทนายความ เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนให้พิจารณาสอบมรรยาททนายความกับนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา กับ นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ กำกับดูแลงานมรรยาททนายความ จากนั้นจึงเข้าพบกับ นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจากนั้นนายสนธิ ให้สัมภาษณ์ว่า ผมดีใจมากที่สื่อมวลชนและผมได้ช่วยกันนั้น ทำให้ความจริงปรากฎ และเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในสังคมไทย สิ่งที่ษิทธาทำกับน.ส.จตุพร หรือ เจ๊อ้อย ไม่ใช่การฉ้อโกงหรือฟอกเงินอย่างเดียว แต่เป็นกระบวนการของคนที่รู้กฎหมาย แล้วใช้ความรู้ทางกฎหมายเอารัดเอาเปรียบคนที่ไม่รู้กฎหมาย โดยเฉพาะน.ส.จตุพรที่มองว่าเป็นคนต่างจังหวัด ซึ่งน.ส.จตุพรไปอยู่เยอรมัน 20 ปี และบอกว่าเจอกับทนายษิทธาทางโซเชี่ยลเฟซบุ๊ก
    "สนธิ"ยื่นหนังสือร้องเรียนสภาทนายความ พิจารณาสอบมรรยาท "ทนายษิทธา-ทนายเดชา" ยันจะดำเนินการอย่างสุดซอย ไม่เจรจาแน่นอนเมื่อเวลา 13.30 น. วันนี้ (21 พ.ย.) ที่สภาทนายความ ถ.พหลโยธิน นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งสื่อเครือผู้จัดการและเจ้าของรายการสนธิทอร์ค, นายปานเทพพัวพงษ์พันธ์ พร้อมทนายความ เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนให้พิจารณาสอบมรรยาททนายความกับนายษิทธา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม และนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา กับ นายสุชาติ ชมกุล อุปนายกฝ่ายกิจการพิเศษ กำกับดูแลงานมรรยาททนายความ จากนั้นจึงเข้าพบกับ นายคณิต วัลยะเพ็ชร์ ประธานกรรมการมรรยาททนายความ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีจากนั้นนายสนธิ ให้สัมภาษณ์ว่า ผมดีใจมากที่สื่อมวลชนและผมได้ช่วยกันนั้น ทำให้ความจริงปรากฎ และเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดในสังคมไทย สิ่งที่ษิทธาทำกับน.ส.จตุพร หรือ เจ๊อ้อย ไม่ใช่การฉ้อโกงหรือฟอกเงินอย่างเดียว แต่เป็นกระบวนการของคนที่รู้กฎหมาย แล้วใช้ความรู้ทางกฎหมายเอารัดเอาเปรียบคนที่ไม่รู้กฎหมาย โดยเฉพาะน.ส.จตุพรที่มองว่าเป็นคนต่างจังหวัด ซึ่งน.ส.จตุพรไปอยู่เยอรมัน 20 ปี และบอกว่าเจอกับทนายษิทธาทางโซเชี่ยลเฟซบุ๊ก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1141 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สนธิ" ยื่นหนังสือร้องเรียนสภาทนายความ พิจารณาสอบมรรยาท "ทนายษิทธา-ทนายเดชา" ยันจะดำเนินการอย่างสุดซอย ไม่เจรจาแน่นอน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112039

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "สนธิ" ยื่นหนังสือร้องเรียนสภาทนายความ พิจารณาสอบมรรยาท "ทนายษิทธา-ทนายเดชา" ยันจะดำเนินการอย่างสุดซอย ไม่เจรจาแน่นอน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000112039 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    24
    2 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 2127 มุมมอง 1 รีวิว
  • เปิดคนอื่นไม่ทั่ว ไม่เคยดูความซั่วของตัวเอง
    ก่อนจะข้ามรุ่นมาเล่นกับ สนธิ ลิ่มทองกุล ทนายเดชา จุ๊กกรู๊ ก็มีคู่ปรับระดับเดียวกันอยู่ก่อนแล้ว มีคดีคาโรงคาสานกันอยู่ในเวลานี้ ก็คือ อาจารย์อ๊อด แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ซึ่งเป็นอินฟลูฯ โด่งดังคนหนึ่ง จากการจับเท็จ โกหกตอแหลของทนายจุกกู้ ศึกระหว่างอาจารย์อ๊อดและทนายเดชาเกิดขึ้นเมื่อปี 2565
    เมื่อทนายเดชารับเป็นทนายความให้นายสุธี หรือเสี่ยเปี๊ยก เสี่ยพันล้านเมืองเพชรฟ้องอาจารย์อ๊อดเรียกค่าเสียหาย150 ล้าน กล่าวหาว่าหลอกร่วมลงทุน แต่คดีนี้กลับไม่ได้สู้กันเฉพาะคดีความในศาล ทนายเดชาใช้อาวุธของตัวคือวาทกรรมไลฟ์สดแบบไม่ออกชื่อ กล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าโกงๆ
    แม้อาจารย์อ๊อดรู้สึกว่าเสียหายจากวาทกรรมเหล่านั้น แต่ก็ไม่สามารถฟ้องเอาผิดทนายเดชาได้ เพราะไม่สามารถพิสูจน์ในศาลได้ว่าเป็นตัวเองที่ถูกใส่ร้าย แต่อาจารย์อ๊อดปักหลักสู้ไม่ถอย จึงไปร้องเรียนกรรมการมรรยาททนายความของสภาทนายความแห่งประเทศไทย ทนายเดชาเลยฟ้องอาจารย์อ๊อด กล่าวหาว่าอาจารย์อ๊อดแจ้งความเท็จหลายคดีแต่คราวนี้อาจารย์อ๊อดเป็นฝ่ายชนะรวดหลายคดีถึงที่สุดเรียบร้อย อาจารย์อ๊อดเลยเอาคืนบ้างเป็นฝ่ายยื่นฟ้องทนายเดชาข้อหาฟ้องเท็จ คดียังอยู่ในการพิจารณาในชั้นศาลและเพราะต้องตั้งรับสู้คดีกับทนายเดชาและเครือข่ายมาอย่างโชกโชน อาจารย์อ๊อดเลยมีความรู้ด้านกฎหมายงอกเงยขึ้นมา จากเดิมที่รู้แต่วิชาเคมีไหนไหนก็ไหนไหนอาจารย์อ๊อดเลยตั้งสํานักงานกฎหมายขึ้นมามีทนายความประจําสํานักงาน ของตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
    ถึงตอนนี้อาจารย์อ๊อดเคลียร์ใจกับเสี่ยเปี๊ยกร่ําไห้กอดกันถอนคดีไปเรียบร้อยแล้วแต่คู่กัดคนสําคัญกลับเป็นอดีตทนายความของเสี่ยเปี๊ยกแทน โดยอาจารย์อ๊อดประกาศชัด ต้องเอาทนายเดชาถึงติดคุกให้ได้ สิ่งหนึ่งที่ยังคาใจอาจารย์อ๊อด
    ก็คือ สภาทนายความที่ไม่เคยขานรับเรื่องร้องเรียนใดๆโดยในการร้องเรียนทนายเดชาต่อกรรมการมารยาททนายความ อาจารย์อ๊อดระบุว่าการประพฤติตนของทนายความรายนี้ฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีหรือเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความ จึงขอให้สภาทนายความเพิกถอนใบอนุญาตว่าความของทนายเดชาเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงต่อทนายความที่จะไม่รักษาข้อบังคับสภาทนายความ
    ขณะที่สภาทนายความที่รับร้องเรียนจากอาจารย์อ๊อดไปตั้งแต่ปีมะโว้จนบัดนี้ก็ยังแบะๆๆก็ไม่น่าแปลกใจที่สังคมจะตั้งคําถามอื้ออึงสภาทนายมีไว้ทําอะไร ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    เปิดคนอื่นไม่ทั่ว ไม่เคยดูความซั่วของตัวเอง ก่อนจะข้ามรุ่นมาเล่นกับ สนธิ ลิ่มทองกุล ทนายเดชา จุ๊กกรู๊ ก็มีคู่ปรับระดับเดียวกันอยู่ก่อนแล้ว มีคดีคาโรงคาสานกันอยู่ในเวลานี้ ก็คือ อาจารย์อ๊อด แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ซึ่งเป็นอินฟลูฯ โด่งดังคนหนึ่ง จากการจับเท็จ โกหกตอแหลของทนายจุกกู้ ศึกระหว่างอาจารย์อ๊อดและทนายเดชาเกิดขึ้นเมื่อปี 2565 เมื่อทนายเดชารับเป็นทนายความให้นายสุธี หรือเสี่ยเปี๊ยก เสี่ยพันล้านเมืองเพชรฟ้องอาจารย์อ๊อดเรียกค่าเสียหาย150 ล้าน กล่าวหาว่าหลอกร่วมลงทุน แต่คดีนี้กลับไม่ได้สู้กันเฉพาะคดีความในศาล ทนายเดชาใช้อาวุธของตัวคือวาทกรรมไลฟ์สดแบบไม่ออกชื่อ กล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าโกงๆ แม้อาจารย์อ๊อดรู้สึกว่าเสียหายจากวาทกรรมเหล่านั้น แต่ก็ไม่สามารถฟ้องเอาผิดทนายเดชาได้ เพราะไม่สามารถพิสูจน์ในศาลได้ว่าเป็นตัวเองที่ถูกใส่ร้าย แต่อาจารย์อ๊อดปักหลักสู้ไม่ถอย จึงไปร้องเรียนกรรมการมรรยาททนายความของสภาทนายความแห่งประเทศไทย ทนายเดชาเลยฟ้องอาจารย์อ๊อด กล่าวหาว่าอาจารย์อ๊อดแจ้งความเท็จหลายคดีแต่คราวนี้อาจารย์อ๊อดเป็นฝ่ายชนะรวดหลายคดีถึงที่สุดเรียบร้อย อาจารย์อ๊อดเลยเอาคืนบ้างเป็นฝ่ายยื่นฟ้องทนายเดชาข้อหาฟ้องเท็จ คดียังอยู่ในการพิจารณาในชั้นศาลและเพราะต้องตั้งรับสู้คดีกับทนายเดชาและเครือข่ายมาอย่างโชกโชน อาจารย์อ๊อดเลยมีความรู้ด้านกฎหมายงอกเงยขึ้นมา จากเดิมที่รู้แต่วิชาเคมีไหนไหนก็ไหนไหนอาจารย์อ๊อดเลยตั้งสํานักงานกฎหมายขึ้นมามีทนายความประจําสํานักงาน ของตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ถึงตอนนี้อาจารย์อ๊อดเคลียร์ใจกับเสี่ยเปี๊ยกร่ําไห้กอดกันถอนคดีไปเรียบร้อยแล้วแต่คู่กัดคนสําคัญกลับเป็นอดีตทนายความของเสี่ยเปี๊ยกแทน โดยอาจารย์อ๊อดประกาศชัด ต้องเอาทนายเดชาถึงติดคุกให้ได้ สิ่งหนึ่งที่ยังคาใจอาจารย์อ๊อด ก็คือ สภาทนายความที่ไม่เคยขานรับเรื่องร้องเรียนใดๆโดยในการร้องเรียนทนายเดชาต่อกรรมการมารยาททนายความ อาจารย์อ๊อดระบุว่าการประพฤติตนของทนายความรายนี้ฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีหรือเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความ จึงขอให้สภาทนายความเพิกถอนใบอนุญาตว่าความของทนายเดชาเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงต่อทนายความที่จะไม่รักษาข้อบังคับสภาทนายความ ขณะที่สภาทนายความที่รับร้องเรียนจากอาจารย์อ๊อดไปตั้งแต่ปีมะโว้จนบัดนี้ก็ยังแบะๆๆก็ไม่น่าแปลกใจที่สังคมจะตั้งคําถามอื้ออึงสภาทนายมีไว้ทําอะไร ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 899 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทนายจุ๊กกรู้" ที่ผมก็ไม่อยากรู้จักด้วย
    .
    เมื่อวันจันทร์ที่ 4พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายเดชาออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 กับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในรายการ ทนายเดชากล่าวพาดพิงตอบโต้คณะกรรมการสภาทนายความ กรณีจะจัดการทนายโซเชียลที่เดินสายออกทีวี เนื่องจากได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรและสมาชิกทนายความส่วนใหญ่
    .
    นายเดชาอ้างว่าสภาทนายความไม่ได้มีอำนาจพิพากษาทนายทำผิด ถือเป็นการกระทำเกินบทบาท เพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพ แต่คนที่เป็นนายก และอุปนายก มาจากการเลือกตั้ง สามปีก็ไปแล้ว เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำตัวเป็นศาล จะจัดระเบียบทนายโซเชียล จะไปเอากฎหมายอะไรมาจัดการได้
    .
    อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วในรายการวันศุกร์ที่แล้วว่าผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบันให้ถอดถอนตั๋วทนายหรือใบอนุญาตเป็นทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เสีย เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงในหลายประเด็นด้วยกัน
    .
    แม้ผมจะไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่ทนาย แต่ผมระแคะระคายว่าทนายตั้ม ษิทรา เคยถูกร้องเรียนเรื่องราวต่อสภาทนายความมาแล้วเยอะแยะเลย รวมถึงคุณเดชาเองก็เคยร้องเรียนทนายตั้มเสียด้วยซ้ำ ตัวเองเคยร้องเรียนเอง แต่พอไกล่เกลี่ย เกี้ยเซียะกัน จะเกี้ยเซียะกันด้วยอะไร ผมไม่รู้ ทนายเดชาก็ถอนเรื่องไป แต่เรื่องก็ยังคาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาทฯ แม้คุณจะถอนเรื่องออกไปแล้วก็ตาม
    .
    จริงๆ วิธีการวางหมากของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในการจัดการเรื่องราวร้องเรียนต่อสภาทนายความที่มาถึงตนเองเป็นสิบเรื่องนั้น ไม่ได้แตกต่างกว่าวิธีของนายของทนายตั้ม คือ สุรเชชษฐ์ หักพาล ใช้เพื่อจัดการเรื่องราวร้องเรียนของตัวเองที่ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เหมือนกัน โดยสุรเชชษฐ์ ใช้วิธีวางคนของตัวเองไว้ใน ป.ป.ช. ตั้งแต่ระดับกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของ ป.ป.ช. ยกตัวอย่างเช่น นายสมบัติ ธรธรรม แต่กรณีทนายตั้ม ษิทรา นั้น อาจจะเรียกได้ว่าหนักหนากว่า เพราะไม่ได้วางคนทั่วไป แต่วางญาติตัวเองไว้ในคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความชุดเก่าเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ชื่อย่อก็ไม่อยากจะเอ่ย
    .
    ทนายเดชาและคุณษิทรา เรื่องของพวกคุณกับแก๊งทนายหิวแสงนั้น ยังมีอีกเยอะ แค่ข้อมูลของคุณษิทราที่มีคน inbox ส่งเรื่องเข้ามาให้ผมได้รับรู้ รับทราบ และคัดกรองนั้นคุณเดชา คุณษิทรา รู้ไหม มากมายมหาศาล วันๆ พวกผมไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เพราะเรื่องฉาวๆ ของแก๊งพวกคุณมันเยอะจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับแวดวงทนาย ที่ผมบอกแล้วว่าเอาโจรมาเป็นทนาย
    .
    ทนายเดชา คุณใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามานำเสนอทีละเรื่องๆ คุณคอยฝึกร้องจุ๊กกรู้ๆ เหมือนที่คุณชอบร้องเวลาไลฟ์สดอยู่ประจำก็แล้วกัน เวลามีเรื่องจริงๆ กรุณาอย่าหายหน้าหายตาหลบไปเหมือนทนายษิทราเลยนะครับ

    ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    https://www.facebook.com/share/p/18cR1aRJcH/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    "ทนายจุ๊กกรู้" ที่ผมก็ไม่อยากรู้จักด้วย . เมื่อวันจันทร์ที่ 4พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายเดชาออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 กับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในรายการ ทนายเดชากล่าวพาดพิงตอบโต้คณะกรรมการสภาทนายความ กรณีจะจัดการทนายโซเชียลที่เดินสายออกทีวี เนื่องจากได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรและสมาชิกทนายความส่วนใหญ่ . นายเดชาอ้างว่าสภาทนายความไม่ได้มีอำนาจพิพากษาทนายทำผิด ถือเป็นการกระทำเกินบทบาท เพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพ แต่คนที่เป็นนายก และอุปนายก มาจากการเลือกตั้ง สามปีก็ไปแล้ว เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำตัวเป็นศาล จะจัดระเบียบทนายโซเชียล จะไปเอากฎหมายอะไรมาจัดการได้ . อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วในรายการวันศุกร์ที่แล้วว่าผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบันให้ถอดถอนตั๋วทนายหรือใบอนุญาตเป็นทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เสีย เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงในหลายประเด็นด้วยกัน . แม้ผมจะไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่ทนาย แต่ผมระแคะระคายว่าทนายตั้ม ษิทรา เคยถูกร้องเรียนเรื่องราวต่อสภาทนายความมาแล้วเยอะแยะเลย รวมถึงคุณเดชาเองก็เคยร้องเรียนทนายตั้มเสียด้วยซ้ำ ตัวเองเคยร้องเรียนเอง แต่พอไกล่เกลี่ย เกี้ยเซียะกัน จะเกี้ยเซียะกันด้วยอะไร ผมไม่รู้ ทนายเดชาก็ถอนเรื่องไป แต่เรื่องก็ยังคาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาทฯ แม้คุณจะถอนเรื่องออกไปแล้วก็ตาม . จริงๆ วิธีการวางหมากของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในการจัดการเรื่องราวร้องเรียนต่อสภาทนายความที่มาถึงตนเองเป็นสิบเรื่องนั้น ไม่ได้แตกต่างกว่าวิธีของนายของทนายตั้ม คือ สุรเชชษฐ์ หักพาล ใช้เพื่อจัดการเรื่องราวร้องเรียนของตัวเองที่ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เหมือนกัน โดยสุรเชชษฐ์ ใช้วิธีวางคนของตัวเองไว้ใน ป.ป.ช. ตั้งแต่ระดับกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของ ป.ป.ช. ยกตัวอย่างเช่น นายสมบัติ ธรธรรม แต่กรณีทนายตั้ม ษิทรา นั้น อาจจะเรียกได้ว่าหนักหนากว่า เพราะไม่ได้วางคนทั่วไป แต่วางญาติตัวเองไว้ในคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความชุดเก่าเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ชื่อย่อก็ไม่อยากจะเอ่ย . ทนายเดชาและคุณษิทรา เรื่องของพวกคุณกับแก๊งทนายหิวแสงนั้น ยังมีอีกเยอะ แค่ข้อมูลของคุณษิทราที่มีคน inbox ส่งเรื่องเข้ามาให้ผมได้รับรู้ รับทราบ และคัดกรองนั้นคุณเดชา คุณษิทรา รู้ไหม มากมายมหาศาล วันๆ พวกผมไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เพราะเรื่องฉาวๆ ของแก๊งพวกคุณมันเยอะจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับแวดวงทนาย ที่ผมบอกแล้วว่าเอาโจรมาเป็นทนาย . ทนายเดชา คุณใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามานำเสนอทีละเรื่องๆ คุณคอยฝึกร้องจุ๊กกรู้ๆ เหมือนที่คุณชอบร้องเวลาไลฟ์สดอยู่ประจำก็แล้วกัน เวลามีเรื่องจริงๆ กรุณาอย่าหายหน้าหายตาหลบไปเหมือนทนายษิทราเลยนะครับ ที่มา คุยทุกเรื่องกับสนธิ https://www.facebook.com/share/p/18cR1aRJcH/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1437 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทนายจุ๊กกรู้" ที่ผมก็ไม่อยากรู้จักด้วย
    .
    เมื่อวันจันทร์ที่่4พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายเดชาออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 กับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในรายการ "ถกไม่เถียง" ทนายเดชากล่าวพาดพิงตอบโต้คณะกรรมการสภาทนายความ กรณีจะจัดการทนายโซเชียลที่เดินสายออกทีวี เนื่องจากได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรและสมาชิกทนายความส่วนใหญ่
    .
    นายเดชาอ้างว่าสภาทนายความไม่ได้มีอำนาจพิพากษาทนายทำผิด ถือเป็นการกระทำเกินบทบาท เพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพ แต่คนที่เป็นนายก และอุปนายก มาจากการเลือกตั้ง สามปีก็ไปแล้ว เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำตัวเป็นศาล จะจัดระเบียบทนายโซเชียล จะไปเอากฎหมายอะไรมาจัดการได้
    .
    อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วในรายการวันศุกร์ที่แล้วว่าผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบันให้ถอดถอนตั๋วทนายหรือใบอนุญาตเป็นทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เสีย เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงในหลายประเด็นด้วยกัน
    .
    แม้ผมจะไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่ทนาย แต่ผมระแคะระคายว่าทนายตั้ม ษิทรา เคยถูกร้องเรียนเรื่องราวต่อสภาทนายความมาแล้วเยอะแยะเลย รวมถึงคุณเดชาเองก็เคยร้องเรียนทนายตั้มเสียด้วยซ้ำ ตัวเองเคยร้องเรียนเอง แต่พอไกล่เกลี่ย เกี้ยเซียะกัน จะเกี้ยเซียะกันด้วยอะไร ผมไม่รู้ ทนายเดชาก็ถอนเรื่องไป แต่เรื่องก็ยังคาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาทฯ แม้คุณจะถอนเรื่องออกไปแล้วก็ตาม
    .
    จริงๆ วิธีการวางหมากของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในการจัดการเรื่องราวร้องเรียนต่อสภาทนายความที่มาถึงตนเองเป็นสิบเรื่องนั้น ไม่ได้แตกต่างกว่าวิธีของนายของทนายตั้ม คือ สุรเชชษฐ์ หักพาล ใช้เพื่อจัดการเรื่องราวร้องเรียนของตัวเองที่ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เหมือนกัน โดยสุรเชชษฐ์ ใช้วิธีวางคนของตัวเองไว้ใน ป.ป.ช. ตั้งแต่ระดับกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของ ป.ป.ช. ยกตัวอย่างเช่น นายสมบัติ ธรธรรม แต่กรณีทนายตั้ม ษิทรา นั้น อาจจะเรียกได้ว่าหนักหนากว่า เพราะไม่ได้วางคนทั่วไป แต่วางญาติตัวเองไว้ในคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความชุดเก่าเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ชื่อย่อก็ไม่อยากจะเอ่ย
    .
    ทนายเดชาและคุณษิทรา เรื่องของพวกคุณกับแก๊งทนายหิวแสงนั้น ยังมีอีกเยอะ แค่ข้อมูลของคุณษิทราที่มีคน inbox ส่งเรื่องเข้ามาให้ผมได้รับรู้ รับทราบ และคัดกรองนั้นคุณเดชา คุณษิทรา รู้ไหม มากมายมหาศาล วันๆ พวกผมไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เพราะเรื่องฉาวๆ ของแก๊งพวกคุณมันเยอะจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับแวดวงทนาย ที่ผมบอกแล้วว่าเอาโจรมาเป็นทนาย
    .
    ทนายเดชา คุณใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามานำเสนอทีละเรื่องๆ คุณคอยฝึกร้องจุ๊กกรู้ๆ เหมือนที่คุณชอบร้องเวลาไลฟ์สดอยู่ประจำก็แล้วกัน เวลามีเรื่องจริงๆ กรุณาอย่าหายหน้าหายตาหลบไปเหมือนทนายษิทราเลยนะครับ
    "ทนายจุ๊กกรู้" ที่ผมก็ไม่อยากรู้จักด้วย . เมื่อวันจันทร์ที่่4พฤศจิกายนที่ผ่านมา ทนายเดชาออกรายการ "ถกไม่เถียง" ทางช่อง 7 กับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ในรายการ "ถกไม่เถียง" ทนายเดชากล่าวพาดพิงตอบโต้คณะกรรมการสภาทนายความ กรณีจะจัดการทนายโซเชียลที่เดินสายออกทีวี เนื่องจากได้ละเมิดต่อข้อบังคับของสภาทนายความว่าด้วยมรรยาททนายความ จนส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงองค์กรและสมาชิกทนายความส่วนใหญ่ . นายเดชาอ้างว่าสภาทนายความไม่ได้มีอำนาจพิพากษาทนายทำผิด ถือเป็นการกระทำเกินบทบาท เพราะสภาทนายความเป็นสภาวิชาชีพ แต่คนที่เป็นนายก และอุปนายก มาจากการเลือกตั้ง สามปีก็ไปแล้ว เป็นผู้ประกอบวิชาชีพ ไม่ใช่อยู่ดีๆ จะทำตัวเป็นศาล จะจัดระเบียบทนายโซเชียล จะไปเอากฎหมายอะไรมาจัดการได้ . อย่างที่ผมกล่าวไปแล้วในรายการวันศุกร์ที่แล้วว่าผมจะยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการสภาทนายความชุดปัจจุบันให้ถอดถอนตั๋วทนายหรือใบอนุญาตเป็นทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เสีย เนื่องจากมีการกระทำผิดกฎหมายและละเมิดมรรยาททนายความอย่างร้ายแรงในหลายประเด็นด้วยกัน . แม้ผมจะไม่ใช่นักกฎหมาย ไม่ใช่ทนาย แต่ผมระแคะระคายว่าทนายตั้ม ษิทรา เคยถูกร้องเรียนเรื่องราวต่อสภาทนายความมาแล้วเยอะแยะเลย รวมถึงคุณเดชาเองก็เคยร้องเรียนทนายตั้มเสียด้วยซ้ำ ตัวเองเคยร้องเรียนเอง แต่พอไกล่เกลี่ย เกี้ยเซียะกัน จะเกี้ยเซียะกันด้วยอะไร ผมไม่รู้ ทนายเดชาก็ถอนเรื่องไป แต่เรื่องก็ยังคาอยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการมรรยาทฯ แม้คุณจะถอนเรื่องออกไปแล้วก็ตาม . จริงๆ วิธีการวางหมากของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ในการจัดการเรื่องราวร้องเรียนต่อสภาทนายความที่มาถึงตนเองเป็นสิบเรื่องนั้น ไม่ได้แตกต่างกว่าวิธีของนายของทนายตั้ม คือ สุรเชชษฐ์ หักพาล ใช้เพื่อจัดการเรื่องราวร้องเรียนของตัวเองที่ถูกส่งไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เหมือนกัน โดยสุรเชชษฐ์ ใช้วิธีวางคนของตัวเองไว้ใน ป.ป.ช. ตั้งแต่ระดับกรรมการ ป.ป.ช. เรื่อยไปจนถึงเจ้าหน้าที่ระดับต่างๆ ของ ป.ป.ช. ยกตัวอย่างเช่น นายสมบัติ ธรธรรม แต่กรณีทนายตั้ม ษิทรา นั้น อาจจะเรียกได้ว่าหนักหนากว่า เพราะไม่ได้วางคนทั่วไป แต่วางญาติตัวเองไว้ในคณะกรรมการมรรยาทสภาทนายความชุดเก่าเลยทีเดียว ผมไม่อยากจะเอ่ยชื่อ ชื่อย่อก็ไม่อยากจะเอ่ย . ทนายเดชาและคุณษิทรา เรื่องของพวกคุณกับแก๊งทนายหิวแสงนั้น ยังมีอีกเยอะ แค่ข้อมูลของคุณษิทราที่มีคน inbox ส่งเรื่องเข้ามาให้ผมได้รับรู้ รับทราบ และคัดกรองนั้นคุณเดชา คุณษิทรา รู้ไหม มากมายมหาศาล วันๆ พวกผมไม่ต้องทำงานอื่นแล้ว เพราะเรื่องฉาวๆ ของแก๊งพวกคุณมันเยอะจริงๆ ผมนึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องราวที่เลวทรามต่ำช้าแบบนี้เกิดขึ้นในสังคมไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดขึ้นกับแวดวงทนาย ที่ผมบอกแล้วว่าเอาโจรมาเป็นทนาย . ทนายเดชา คุณใจเย็นๆ ผมจะค่อยๆ ทยอยเอามานำเสนอทีละเรื่องๆ คุณคอยฝึกร้องจุ๊กกรู้ๆ เหมือนที่คุณชอบร้องเวลาไลฟ์สดอยู่ประจำก็แล้วกัน เวลามีเรื่องจริงๆ กรุณาอย่าหายหน้าหายตาหลบไปเหมือนทนายษิทราเลยนะครับ
    Like
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1621 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมมีเรื่องจะแถลงให้กับท่านผู้ชมและคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบอย่างเป็นทางการ
    .
    ข้อแรก ผมไม่ใช่อีแอบ ผมทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา คุณหาเรื่องผมก่อนนะ นายษิทรา ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมบอกคุณ ถ้าคุณมีเรื่องกับผม สนธิ ลิ้มทองกุลเดินสุดซอย เหมือนที่ผมเคยเดินสุดซอยกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ถอยเลยแม้ก้าวเดียว
    .
    อาทิตย์หน้า ผมร่างเรื่องร้องเรียนแล้ว ผมจะร้องเรียนไปสภาทนายความ เรื่องการผิดจริยธรรมของคุณในหลายๆกรณี ผมกำลังท้าทายสภาทนายความชุดนี้ ว่าจะกล้าพอที่จะขจัดทนายที่ไม่มีจริยธรรม สร้างชื่อเสียง ดึงเอาชื่อเสียงให้ประชาชนกลับมาเชื่อทนายความได้อีกหรือไม่
    .
    ผมเป็นคนที่มั่นคง ผมไม่หลบหลีก หลีกเลี่ยง เมื่อผมร่างคำร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงชื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วผมจะไปยื่นด้วยตัวเองเลย ให้รู้ว่าผมไม่ใช่อีแอบ และผมไม่ต้องไปโทรขู่ใครเหมือนอย่างคนบางคนเที่ยวข่มขู่พยานของคุณอ้อย ว่าเขามีลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใช่ไหม 2 คน เป็นลักษณะคนที่ชั่วช้ามาก
    .
    เรื่องนี้ผมไปสุดซอยแน่นอน ให้คุณรับทราบไว้ด้วย คุณษิทรา และยังไม่จบ คุณษิทรา อีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเร่งทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคุณ ของครอบครัวคุณ ของพี่ภรรยาคุณ และก็ตรวจสอบการใช้เงินซื้อบ้านที่คุณอยู่วันนี้ ที่บางกอกบูเลอวาร์ด ว่า 46 ล้านบาทนั้น ซื้อใส่ชื่อภรรยาคุณ เอาเงินจากไหนซื้อ สรรพากรต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเอาเงินจากไหน ถ้าเป็นเงินตัวเอง เงินก้อนนั้นเสียภาษีหรือเปล่า เงิน 71 ล้านบาท ที่คุณบอกว่าคุณอ้อยเขาให้ด้วยเสน่หา สรรพากรดูเสียหน่อยว่าเสน่หาหรือเปล่า ผมไม่ได้เก่งเรื่องภาษี แต่ผมรู้อยู่ว่า อะไรที่เป็นรายได้ต้องเสียภาษีหมด
    .
    71 ล้าน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีบอกชัดเจนว่าต้องเสียภาษีถึง 35% ท่านอธิบดีกรมสรรพากรครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ท่านอย่านั่งเฉย เป็นที่สนใจของประชาชนมาก แล้วยังมีเงินทองอีกเยอะในอดีตที่คุณเคยได้มา ถ้าผมค้นเจอหลักฐาน มีคนกล่าวหาคุณ ผมจะร้องเรียนเพิ่มเติม คุณชอบใช่ไหมที่จะทะเลาะกับผม ผมจะเดินให้สุดซอย อย่าลืมนะครับ อาทิตย์หน้าสภาทนายความ อีกอาทิตย์หนึ่งจะพยายามทำเรื่องให้เสร็จแล้วไปยื่นที่กรมสรรพากร และทั้งสองเรื่องจะไปยื่นด้วยตัวเองครับ

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1942qfmeuV/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    ผมมีเรื่องจะแถลงให้กับท่านผู้ชมและคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบอย่างเป็นทางการ . ข้อแรก ผมไม่ใช่อีแอบ ผมทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา คุณหาเรื่องผมก่อนนะ นายษิทรา ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมบอกคุณ ถ้าคุณมีเรื่องกับผม สนธิ ลิ้มทองกุลเดินสุดซอย เหมือนที่ผมเคยเดินสุดซอยกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ถอยเลยแม้ก้าวเดียว . อาทิตย์หน้า ผมร่างเรื่องร้องเรียนแล้ว ผมจะร้องเรียนไปสภาทนายความ เรื่องการผิดจริยธรรมของคุณในหลายๆกรณี ผมกำลังท้าทายสภาทนายความชุดนี้ ว่าจะกล้าพอที่จะขจัดทนายที่ไม่มีจริยธรรม สร้างชื่อเสียง ดึงเอาชื่อเสียงให้ประชาชนกลับมาเชื่อทนายความได้อีกหรือไม่ . ผมเป็นคนที่มั่นคง ผมไม่หลบหลีก หลีกเลี่ยง เมื่อผมร่างคำร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงชื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วผมจะไปยื่นด้วยตัวเองเลย ให้รู้ว่าผมไม่ใช่อีแอบ และผมไม่ต้องไปโทรขู่ใครเหมือนอย่างคนบางคนเที่ยวข่มขู่พยานของคุณอ้อย ว่าเขามีลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใช่ไหม 2 คน เป็นลักษณะคนที่ชั่วช้ามาก . เรื่องนี้ผมไปสุดซอยแน่นอน ให้คุณรับทราบไว้ด้วย คุณษิทรา และยังไม่จบ คุณษิทรา อีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเร่งทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคุณ ของครอบครัวคุณ ของพี่ภรรยาคุณ และก็ตรวจสอบการใช้เงินซื้อบ้านที่คุณอยู่วันนี้ ที่บางกอกบูเลอวาร์ด ว่า 46 ล้านบาทนั้น ซื้อใส่ชื่อภรรยาคุณ เอาเงินจากไหนซื้อ สรรพากรต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเอาเงินจากไหน ถ้าเป็นเงินตัวเอง เงินก้อนนั้นเสียภาษีหรือเปล่า เงิน 71 ล้านบาท ที่คุณบอกว่าคุณอ้อยเขาให้ด้วยเสน่หา สรรพากรดูเสียหน่อยว่าเสน่หาหรือเปล่า ผมไม่ได้เก่งเรื่องภาษี แต่ผมรู้อยู่ว่า อะไรที่เป็นรายได้ต้องเสียภาษีหมด . 71 ล้าน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีบอกชัดเจนว่าต้องเสียภาษีถึง 35% ท่านอธิบดีกรมสรรพากรครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ท่านอย่านั่งเฉย เป็นที่สนใจของประชาชนมาก แล้วยังมีเงินทองอีกเยอะในอดีตที่คุณเคยได้มา ถ้าผมค้นเจอหลักฐาน มีคนกล่าวหาคุณ ผมจะร้องเรียนเพิ่มเติม คุณชอบใช่ไหมที่จะทะเลาะกับผม ผมจะเดินให้สุดซอย อย่าลืมนะครับ อาทิตย์หน้าสภาทนายความ อีกอาทิตย์หนึ่งจะพยายามทำเรื่องให้เสร็จแล้วไปยื่นที่กรมสรรพากร และทั้งสองเรื่องจะไปยื่นด้วยตัวเองครับ ที่มา https://www.facebook.com/share/p/1942qfmeuV/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 995 มุมมอง 0 รีวิว
  • ริเริ่มกองทุนเพื่อความยุติธรรมในมูลนิธิไชย้ง
    .
    ท่านผู้ชมครับ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกให้รับทราบ ใครก็ตามที่เคยโดนคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด หลอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าอยากให้ผมดำเนินเรื่องให้ ส่งเรื่องเข้ามาที่ inbox เพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ที่เฟซบุ๊ก หรืออีเมลมาก็ได้ที่sondhitalk @ gmail .com เมื่อผมรับเรื่องแล้วผมจะให้คนติดต่อกลับไปทันที เอาข้อมูลมา แล้วผมก็ต้องเจาะข้อมูลให้เต็มที่ ถ้ามีพื้นฐานแห่งคดีความได้ เดี๋ยวผมจะดำเนินคดีให้
    .
    ท่านผู้ชมครับ ต่อยอดสักนิดหนึ่ง ผมคิดว่าตอนนี้สังคมไทยกำลังต้องการฝ่ายกฎหมายที่ทำงานเป็นลักษณะองค์กรอิสระ ผมคิดว่าผมจะพยายามระดมเงินทุนเข้ามาตั้งเป็นกองทุนเพื่อความยุติธรรม ในมูลนิธิไชย้ง ลิ้มทองกุล ของแม่ผม เงินกองทุนนี้มีเอาไว้ทำไม ? มีเอาไว้ ถ้าท่านเดือดร้อนเรื่องต่างๆ เหมือนอย่างที่คนเดือดร้อนกันอยู่นี้ เราจะจัดทนายของเรา ผมไม่ได้ต้องการแข่งกับสภาทนายความนะครับ แต่ทนายที่อยู่สังกัดเรา จะกินเงินเดือนของเรา แล้วก็ว่าความดำเนินคดีให้ในอัตราค่าจ้างที่สมเหตุสมผล และไม่แพง แต่ก็ไม่ถูกมากจนเกินไป นอกเสียจากว่าคนเดือดร้อนบางคนไม่มีเงินไม่มีทอง เราก็ยกให้เป็นกรณีพิเศษ มันจะได้เลิกกันเสียทีพวกทนายที่ทำตัวเป็นอีแร้ง
    .
    ท่านผู้ชมครับ ถ้าเห็นด้วย บอกมา ผมมีพรรคพวกผู้หลักผู้ใหญ่เยอะแยะไปหมด ผมขอรับเงินบริจาคเขาได้ ตั้งเป็นกองทุนเพื่อความยุติธรรม และจะรายงานเงินที่เข้ามาทุกครั้ง และใช้จ่ายออกไปแต่ละครั้งนั้น ค่าอะไรบ้าง อย่างโปร่งใส ท่านให้ผมมา เพื่อให้ผมจัดทำเรื่องนี้นะครับ ท่านไม่ได้ให้มาด้วยความเสน่หา ขอยืนยันก่อน อย่าลืมนะครับ
    ริเริ่มกองทุนเพื่อความยุติธรรมในมูลนิธิไชย้ง . ท่านผู้ชมครับ อีกเรื่องหนึ่งที่ต้องบอกให้รับทราบ ใครก็ตามที่เคยโดนคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด หลอก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตาม ถ้าอยากให้ผมดำเนินเรื่องให้ ส่งเรื่องเข้ามาที่ inbox เพจ "คุยทุกเรื่องกับสนธิ" ที่เฟซบุ๊ก หรืออีเมลมาก็ได้ที่sondhitalk @ gmail .com เมื่อผมรับเรื่องแล้วผมจะให้คนติดต่อกลับไปทันที เอาข้อมูลมา แล้วผมก็ต้องเจาะข้อมูลให้เต็มที่ ถ้ามีพื้นฐานแห่งคดีความได้ เดี๋ยวผมจะดำเนินคดีให้ . ท่านผู้ชมครับ ต่อยอดสักนิดหนึ่ง ผมคิดว่าตอนนี้สังคมไทยกำลังต้องการฝ่ายกฎหมายที่ทำงานเป็นลักษณะองค์กรอิสระ ผมคิดว่าผมจะพยายามระดมเงินทุนเข้ามาตั้งเป็นกองทุนเพื่อความยุติธรรม ในมูลนิธิไชย้ง ลิ้มทองกุล ของแม่ผม เงินกองทุนนี้มีเอาไว้ทำไม ? มีเอาไว้ ถ้าท่านเดือดร้อนเรื่องต่างๆ เหมือนอย่างที่คนเดือดร้อนกันอยู่นี้ เราจะจัดทนายของเรา ผมไม่ได้ต้องการแข่งกับสภาทนายความนะครับ แต่ทนายที่อยู่สังกัดเรา จะกินเงินเดือนของเรา แล้วก็ว่าความดำเนินคดีให้ในอัตราค่าจ้างที่สมเหตุสมผล และไม่แพง แต่ก็ไม่ถูกมากจนเกินไป นอกเสียจากว่าคนเดือดร้อนบางคนไม่มีเงินไม่มีทอง เราก็ยกให้เป็นกรณีพิเศษ มันจะได้เลิกกันเสียทีพวกทนายที่ทำตัวเป็นอีแร้ง . ท่านผู้ชมครับ ถ้าเห็นด้วย บอกมา ผมมีพรรคพวกผู้หลักผู้ใหญ่เยอะแยะไปหมด ผมขอรับเงินบริจาคเขาได้ ตั้งเป็นกองทุนเพื่อความยุติธรรม และจะรายงานเงินที่เข้ามาทุกครั้ง และใช้จ่ายออกไปแต่ละครั้งนั้น ค่าอะไรบ้าง อย่างโปร่งใส ท่านให้ผมมา เพื่อให้ผมจัดทำเรื่องนี้นะครับ ท่านไม่ได้ให้มาด้วยความเสน่หา ขอยืนยันก่อน อย่าลืมนะครับ
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1703 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมมีเรื่องจะแถลงให้กับท่านผู้ชมและคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบอย่างเป็นทางการ
    .
    ข้อแรก ผมไม่ใช่อีแอบ ผมทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา คุณหาเรื่องผมก่อนนะ นายษิทรา ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมบอกคุณ ถ้าคุณมีเรื่องกับผม สนธิ ลิ้มทองกุลเดินสุดซอย เหมือนที่ผมเคยเดินสุดซอยกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ถอยเลยแม้ก้าวเดียว
    .
    อาทิตย์หน้า ผมร่างเรื่องร้องเรียนแล้ว ผมจะร้องเรียนไปสภาทนายความ เรื่องการผิดจริยธรรมของคุณในหลายๆกรณี ผมกำลังท้าทายสภาทนายความชุดนี้ ว่าจะกล้าพอที่จะขจัดทนายที่ไม่มีจริยธรรม สร้างชื่อเสียง ดึงเอาชื่อเสียงให้ประชาชนกลับมาเชื่อทนายความได้อีกหรือไม่
    .
    ผมเป็นคนที่มั่นคง ผมไม่หลบหลีก หลีกเลี่ยง เมื่อผมร่างคำร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงชื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วผมจะไปยื่นด้วยตัวเองเลย ให้รู้ว่าผมไม่ใช่อีแอบ และผมไม่ต้องไปโทรขู่ใครเหมือนอย่างคนบางคนเที่ยวข่มขู่พยานของคุณอ้อย ว่าเขามีลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใช่ไหม 2 คน เป็นลักษณะคนที่ชั่วช้ามาก
    .
    เรื่องนี้ผมไปสุดซอยแน่นอน ให้คุณรับทราบไว้ด้วย คุณษิทรา และยังไม่จบ คุณษิทรา อีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเร่งทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคุณ ของครอบครัวคุณ ของพี่ภรรยาคุณ และก็ตรวจสอบการใช้เงินซื้อบ้านที่คุณอยู่วันนี้ ที่บางกอกบูเลอวาร์ด ว่า 46 ล้านบาทนั้น ซื้อใส่ชื่อภรรยาคุณ เอาเงินจากไหนซื้อ สรรพากรต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเอาเงินจากไหน ถ้าเป็นเงินตัวเอง เงินก้อนนั้นเสียภาษีหรือเปล่า เงิน 71 ล้านบาท ที่คุณบอกว่าคุณอ้อยเขาให้ด้วยเสน่หา สรรพากรดูเสียหน่อยว่าเสน่หาหรือเปล่า ผมไม่ได้เก่งเรื่องภาษี แต่ผมรู้อยู่ว่า อะไรที่เป็นรายได้ต้องเสียภาษีหมด
    .
    71 ล้าน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีบอกชัดเจนว่าต้องเสียภาษีถึง 35% ท่านอธิบดีกรมสรรพากรครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ท่านอย่านั่งเฉย เป็นที่สนใจของประชาชนมาก แล้วยังมีเงินทองอีกเยอะในอดีตที่คุณเคยได้มา ถ้าผมค้นเจอหลักฐาน มีคนกล่าวหาคุณ ผมจะร้องเรียนเพิ่มเติม คุณชอบใช่ไหมที่จะทะเลาะกับผม ผมจะเดินให้สุดซอย อย่าลืมนะครับ อาทิตย์หน้าสภาทนายความ อีกอาทิตย์หนึ่งจะพยายามทำเรื่องให้เสร็จแล้วไปยื่นที่กรมสรรพากร และทั้งสองเรื่องจะไปยื่นด้วยตัวเองครับ
    ผมมีเรื่องจะแถลงให้กับท่านผู้ชมและคุณษิทรา เบี้ยบังเกิด ทราบอย่างเป็นทางการ . ข้อแรก ผมไม่ใช่อีแอบ ผมทำอะไรเปิดเผย ตรงไปตรงมา คุณหาเรื่องผมก่อนนะ นายษิทรา ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ผมบอกคุณ ถ้าคุณมีเรื่องกับผม สนธิ ลิ้มทองกุลเดินสุดซอย เหมือนที่ผมเคยเดินสุดซอยกับ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ไม่ถอยเลยแม้ก้าวเดียว . อาทิตย์หน้า ผมร่างเรื่องร้องเรียนแล้ว ผมจะร้องเรียนไปสภาทนายความ เรื่องการผิดจริยธรรมของคุณในหลายๆกรณี ผมกำลังท้าทายสภาทนายความชุดนี้ ว่าจะกล้าพอที่จะขจัดทนายที่ไม่มีจริยธรรม สร้างชื่อเสียง ดึงเอาชื่อเสียงให้ประชาชนกลับมาเชื่อทนายความได้อีกหรือไม่ . ผมเป็นคนที่มั่นคง ผมไม่หลบหลีก หลีกเลี่ยง เมื่อผมร่างคำร้องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจะลงชื่อ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แล้วผมจะไปยื่นด้วยตัวเองเลย ให้รู้ว่าผมไม่ใช่อีแอบ และผมไม่ต้องไปโทรขู่ใครเหมือนอย่างคนบางคนเที่ยวข่มขู่พยานของคุณอ้อย ว่าเขามีลูกเรียนหนังสืออยู่ที่โรงเรียนอนุบาลใช่ไหม 2 คน เป็นลักษณะคนที่ชั่วช้ามาก . เรื่องนี้ผมไปสุดซอยแน่นอน ให้คุณรับทราบไว้ด้วย คุณษิทรา และยังไม่จบ คุณษิทรา อีกอาทิตย์หนึ่ง ผมจะเร่งทำเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการเสียภาษีของคุณ ของครอบครัวคุณ ของพี่ภรรยาคุณ และก็ตรวจสอบการใช้เงินซื้อบ้านที่คุณอยู่วันนี้ ที่บางกอกบูเลอวาร์ด ว่า 46 ล้านบาทนั้น ซื้อใส่ชื่อภรรยาคุณ เอาเงินจากไหนซื้อ สรรพากรต้องตรวจสอบให้ได้ว่าเอาเงินจากไหน ถ้าเป็นเงินตัวเอง เงินก้อนนั้นเสียภาษีหรือเปล่า เงิน 71 ล้านบาท ที่คุณบอกว่าคุณอ้อยเขาให้ด้วยเสน่หา สรรพากรดูเสียหน่อยว่าเสน่หาหรือเปล่า ผมไม่ได้เก่งเรื่องภาษี แต่ผมรู้อยู่ว่า อะไรที่เป็นรายได้ต้องเสียภาษีหมด . 71 ล้าน ผู้เชี่ยวชาญทางภาษีบอกชัดเจนว่าต้องเสียภาษีถึง 35% ท่านอธิบดีกรมสรรพากรครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ท่านอย่านั่งเฉย เป็นที่สนใจของประชาชนมาก แล้วยังมีเงินทองอีกเยอะในอดีตที่คุณเคยได้มา ถ้าผมค้นเจอหลักฐาน มีคนกล่าวหาคุณ ผมจะร้องเรียนเพิ่มเติม คุณชอบใช่ไหมที่จะทะเลาะกับผม ผมจะเดินให้สุดซอย อย่าลืมนะครับ อาทิตย์หน้าสภาทนายความ อีกอาทิตย์หนึ่งจะพยายามทำเรื่องให้เสร็จแล้วไปยื่นที่กรมสรรพากร และทั้งสองเรื่องจะไปยื่นด้วยตัวเองครับ
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1347 มุมมอง 0 รีวิว
  • Newsstory : สนธิ ยั๊วะหนัก ท้าทายระบสภาทนายความ ร้องเรียนไป จะแอคชั่นอะไรบ้าง
    #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่
    #สนธิลิ้มทองกุล #สนธิ #สภาทนายความ
    Newsstory : สนธิ ยั๊วะหนัก ท้าทายระบสภาทนายความ ร้องเรียนไป จะแอคชั่นอะไรบ้าง #Newsstory #สนธิทอร์ค #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #นิวส์สตอรี่ #สนธิลิ้มทองกุล #สนธิ #สภาทนายความ
    Like
    Love
    Yay
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1342 มุมมอง 636 0 รีวิว
  • เปิดสัมภาษณ์ "สนธิ" คุยกับ "คุณอ้อย" คู่กรณีทนายตั้มฟ้องคดีฉ้อโกง 71 ล้านบาท ลั่นสายไปแล้ว ไม่รับขอขมา ไม่มีทางหยุดคดี เตรียมเดินสุดซอย ร้องสภาทนายความถอดออกจากทนาย และร้องสรรพากรสอบเลี่ยงภาษี ปูดเบื้องหลังมีขบวนการฟอกเงิน เตือนไปทำอะไรใครไว้ เวรกรรมกำลังตามอยู่

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000104498

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เปิดสัมภาษณ์ "สนธิ" คุยกับ "คุณอ้อย" คู่กรณีทนายตั้มฟ้องคดีฉ้อโกง 71 ล้านบาท ลั่นสายไปแล้ว ไม่รับขอขมา ไม่มีทางหยุดคดี เตรียมเดินสุดซอย ร้องสภาทนายความถอดออกจากทนาย และร้องสรรพากรสอบเลี่ยงภาษี ปูดเบื้องหลังมีขบวนการฟอกเงิน เตือนไปทำอะไรใครไว้ เวรกรรมกำลังตามอยู่ อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000104498 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Wow
    29
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 3307 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts