• Sundar Pichai CEO ของ Alphabet ยืนยันแผนการลงทุนมูลค่า 75 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025 เพื่อขยายศักยภาพของศูนย์ข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะโมเดล Gemini ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่บริษัทมุ่งเน้น

    🌐 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน:
    - งบประมาณนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาชิปและเซิร์ฟเวอร์ที่จำเป็นสำหรับบริการหลัก เช่น Search และการพัฒนา AI
    - การลงทุนยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการคลาวด์ของ Google

    🤖 โอกาสใน AI:
    - Sundar Pichai ระบุว่า AI เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และ Alphabet มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปสู่มือของผู้บริโภคและองค์กร

    📈 ผลกระทบต่อหุ้น:
    - หุ้นของ Alphabet เพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศหยุดการเก็บภาษีชั่วคราว ซึ่งช่วยลดแรงกดดันในตลาด

    ความท้าทายที่ต้องเผชิญ:
    💡 ความกังวลของนักลงทุน:
    - แม้การลงทุนใน AI จะมีศักยภาพสูง แต่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุนมหาศาลนี้

    💡 สงครามการค้า:
    - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/alphabet-ceo-reaffirms-planned-75-billion-capital-spending-in-2025
    Sundar Pichai CEO ของ Alphabet ยืนยันแผนการลงทุนมูลค่า 75 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025 เพื่อขยายศักยภาพของศูนย์ข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะโมเดล Gemini ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่บริษัทมุ่งเน้น 🌐 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน: - งบประมาณนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาชิปและเซิร์ฟเวอร์ที่จำเป็นสำหรับบริการหลัก เช่น Search และการพัฒนา AI - การลงทุนยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการคลาวด์ของ Google 🤖 โอกาสใน AI: - Sundar Pichai ระบุว่า AI เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และ Alphabet มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปสู่มือของผู้บริโภคและองค์กร 📈 ผลกระทบต่อหุ้น: - หุ้นของ Alphabet เพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศหยุดการเก็บภาษีชั่วคราว ซึ่งช่วยลดแรงกดดันในตลาด ความท้าทายที่ต้องเผชิญ: 💡 ความกังวลของนักลงทุน: - แม้การลงทุนใน AI จะมีศักยภาพสูง แต่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุนมหาศาลนี้ 💡 สงครามการค้า: - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/alphabet-ceo-reaffirms-planned-75-billion-capital-spending-in-2025
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alphabet CEO reaffirms planned $75 billion capital spending in 2025
    Las Vegas (Reuters) - Alphabet reiterated on Wednesday it would spend about $75 billion this year to build out data center capacity, doubling down on its generative AI bet even as the payoff remains unclear and a global trade war threatens to raise costs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • Corsair ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่ได้รับการพูดถึงในกลุ่มผู้ใช้เกี่ยวกับ 12V-2x6 connectors ที่มีการ "ขยับตัว" ได้เล็กน้อย โดยทางบริษัทระบุว่านี่เป็นการออกแบบที่ตั้งใจไว้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อให้เหมาะสม และลดการสึกหรอของขั้วต่อในระยะยาว

    ✅ ลดปัญหาขั้วต่อเสียหาย:
    - Corsair ระบุว่า การที่ขั้วต่อสามารถขยับได้เล็กน้อย (ประมาณ 0.25mm ถึง 0.55mm) ช่วยให้การจัดวางขั้วต่อกับพินใน GPU ทำได้แม่นยำขึ้น
    - การออกแบบนี้ยังช่วยลดแรงที่เกิดจากการเสียบและถอดซ้ำ ๆ ซึ่งปกติอาจทำให้ขั้วต่อเสียหายได้

    ✅ ความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว:
    - การขยับเล็กน้อยในขั้วต่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานแต่อย่างใด เนื่องจาก Corsair ได้ทดสอบอย่างละเอียดแล้วว่าขั้วต่อต่าง ๆ ยังคงสามารถส่งไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์

    ✅ ตัวเลือกที่รองรับมาตรฐาน:
    - Corsair ใช้ผู้ผลิตหลายรายในการผลิตสายไฟที่รองรับมาตรฐานนี้ รวมถึงสายที่ถูกหุ้มอย่างดีและมีความหนากว่าปกติ

    == ความสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Nvidia RTX ==
    ✅ ปัญหาการหลอมละลายของสายไฟใน GPU ซีรีส์ RTX 50 เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานกังวล แต่ Corsair ชี้แจงว่าการออกแบบขั้วต่อที่มีช่องว่างนี้ไม่ใช่สาเหตุของปัญหา

    ✅ ขณะเดียวกัน Corsair ยืนยันว่า หากผู้ใช้งานพบปัญหาการหลวมมากเกินไป ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าทันที

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/corsair-confirms-the-slight-wiggle-room-in-its-16-pin-connectors-for-nvidia-gpus-is-by-design
    Corsair ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่ได้รับการพูดถึงในกลุ่มผู้ใช้เกี่ยวกับ 12V-2x6 connectors ที่มีการ "ขยับตัว" ได้เล็กน้อย โดยทางบริษัทระบุว่านี่เป็นการออกแบบที่ตั้งใจไว้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อให้เหมาะสม และลดการสึกหรอของขั้วต่อในระยะยาว ✅ ลดปัญหาขั้วต่อเสียหาย: - Corsair ระบุว่า การที่ขั้วต่อสามารถขยับได้เล็กน้อย (ประมาณ 0.25mm ถึง 0.55mm) ช่วยให้การจัดวางขั้วต่อกับพินใน GPU ทำได้แม่นยำขึ้น - การออกแบบนี้ยังช่วยลดแรงที่เกิดจากการเสียบและถอดซ้ำ ๆ ซึ่งปกติอาจทำให้ขั้วต่อเสียหายได้ ✅ ความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว: - การขยับเล็กน้อยในขั้วต่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานแต่อย่างใด เนื่องจาก Corsair ได้ทดสอบอย่างละเอียดแล้วว่าขั้วต่อต่าง ๆ ยังคงสามารถส่งไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์ ✅ ตัวเลือกที่รองรับมาตรฐาน: - Corsair ใช้ผู้ผลิตหลายรายในการผลิตสายไฟที่รองรับมาตรฐานนี้ รวมถึงสายที่ถูกหุ้มอย่างดีและมีความหนากว่าปกติ == ความสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Nvidia RTX == ✅ ปัญหาการหลอมละลายของสายไฟใน GPU ซีรีส์ RTX 50 เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานกังวล แต่ Corsair ชี้แจงว่าการออกแบบขั้วต่อที่มีช่องว่างนี้ไม่ใช่สาเหตุของปัญหา ✅ ขณะเดียวกัน Corsair ยืนยันว่า หากผู้ใช้งานพบปัญหาการหลวมมากเกินไป ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าทันที https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/corsair-confirms-the-slight-wiggle-room-in-its-16-pin-connectors-for-nvidia-gpus-is-by-design
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถอยไม่กล้าลุยไฟ ดัน 'กาสิโน' ลดแรงต้าน-ทำลายเงื่อนไข : ข่าวลึกปมลับ 09/04/68
    ถอยไม่กล้าลุยไฟ ดัน 'กาสิโน' ลดแรงต้าน-ทำลายเงื่อนไข : ข่าวลึกปมลับ 09/04/68
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • SoftBank Group บริษัทด้านการลงทุนเทคโนโลยีชั้นนำจากญี่ปุ่น วางแผนระดมทุนมูลค่ากว่า 600 พันล้านเยน (4.1 พันล้านดอลลาร์) ผ่านการออกพันธบัตรให้แก่ผู้ลงทุนรายย่อย นับว่าเป็น การระดมทุนผ่านพันธบัตรครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ของ SoftBank โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนนี้จะนำไปใช้ในการไถ่ถอนพันธบัตรเดิม และชำระหนี้จากการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท Arm ซึ่งเป็นผู้พัฒนาชิปเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ

    ✅ การจัดการหนี้และเสริมกำลังการลงทุน:
    - SoftBank มีหนี้ค้างชำระกว่า 7 ล้านล้านเยน และการออกพันธบัตรครั้งนี้ช่วยลดแรงกดดันทางการเงิน โดยอัตราดอกเบี้ยที่เสนอจะอยู่ระหว่าง 3% ถึง 3.6% และพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนพฤษภาคม 2030

    ✅ พันธบัตรเพื่อสนับสนุนธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์:
    - SoftBank เข้าซื้อหุ้น Arm จาก Vision Fund ในปี 2023 ซึ่งเงินทุนนี้จะช่วยผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ในระดับโลก

    ✅ SoftBank กับ OpenAI:
    - เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา SoftBank ได้เป็นผู้นำในรอบการระดมทุนมูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์ ของ OpenAI โดย SoftBank ลงทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสนับสนุนเทคโนโลยี AI

    ✅ สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง:
    - SoftBank ตั้งเป้ารักษาสัดส่วนหนี้ให้อยู่ที่ ต่ำกว่า 25% ของมูลค่าสินทรัพย์รวม ซึ่ง ณ สิ้นปี 2024 สัดส่วนนี้อยู่ที่ 12.9% แสดงให้เห็นถึงการจัดการการเงินที่สมดุล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/softbank-to-raise-41-billion-in-retail-bond-issuance
    SoftBank Group บริษัทด้านการลงทุนเทคโนโลยีชั้นนำจากญี่ปุ่น วางแผนระดมทุนมูลค่ากว่า 600 พันล้านเยน (4.1 พันล้านดอลลาร์) ผ่านการออกพันธบัตรให้แก่ผู้ลงทุนรายย่อย นับว่าเป็น การระดมทุนผ่านพันธบัตรครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ของ SoftBank โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนนี้จะนำไปใช้ในการไถ่ถอนพันธบัตรเดิม และชำระหนี้จากการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท Arm ซึ่งเป็นผู้พัฒนาชิปเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ ✅ การจัดการหนี้และเสริมกำลังการลงทุน: - SoftBank มีหนี้ค้างชำระกว่า 7 ล้านล้านเยน และการออกพันธบัตรครั้งนี้ช่วยลดแรงกดดันทางการเงิน โดยอัตราดอกเบี้ยที่เสนอจะอยู่ระหว่าง 3% ถึง 3.6% และพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนพฤษภาคม 2030 ✅ พันธบัตรเพื่อสนับสนุนธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์: - SoftBank เข้าซื้อหุ้น Arm จาก Vision Fund ในปี 2023 ซึ่งเงินทุนนี้จะช่วยผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ในระดับโลก ✅ SoftBank กับ OpenAI: - เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา SoftBank ได้เป็นผู้นำในรอบการระดมทุนมูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์ ของ OpenAI โดย SoftBank ลงทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสนับสนุนเทคโนโลยี AI ✅ สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง: - SoftBank ตั้งเป้ารักษาสัดส่วนหนี้ให้อยู่ที่ ต่ำกว่า 25% ของมูลค่าสินทรัพย์รวม ซึ่ง ณ สิ้นปี 2024 สัดส่วนนี้อยู่ที่ 12.9% แสดงให้เห็นถึงการจัดการการเงินที่สมดุล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/softbank-to-raise-41-billion-in-retail-bond-issuance
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SoftBank to raise $4.1 billion in retail bond issuance
    TOKYO (Reuters) - Japanese technology investment group SoftBank Group plans to raise 600 billion yen ($4.10 billion) by issuing bonds to retail investors, it said in a filing on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี Superfluid Cooling ที่สามารถจัดการความร้อนสูงถึง 1.5 กิโลวัตต์ต่อชิป ซึ่งถือเป็นระดับที่เหมาะสำหรับชิปประสิทธิภาพสูงอย่าง Nvidia GB300 Superchip รวมถึงการใช้งานในระบบ rack servers แห่งอนาคต การพัฒนานี้เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายของ Intel ในตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันสูง

    ✅ การจัดการความร้อนระดับสูงสำหรับเซิร์ฟเวอร์พลังงานมาก
    - เทคโนโลยีนี้ใช้ microbubble injection เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของของเหลวและการถ่ายเทความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ
    - ระบบยังใช้ ของเหลว dielectric ชนิดพิเศษ ที่ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ทำให้ปลอดภัยหากเกิดการรั่วซึม

    ✅ แรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีเรือเดินสมุทร
    - เทคโนโลยีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการลดแรงต้านน้ำในเรือเดินสมุทรของ Mitsubishi Heavy Industries โดยใช้ฟองอากาศเพื่อเพิ่มความเร็ว ซึ่งถูกนำมาปรับใช้ในการระบายความร้อน

    ✅ เหมาะสำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ในยุค AI
    - Superfluid Cooling ถูกออกแบบมาเพื่อระบบเซิร์ฟเวอร์ที่มีพลังงานสูงสุดถึง 600 กิโลวัตต์ และรองรับอนาคตที่ระบบเซิร์ฟเวอร์อาจมีความต้องการพลังงานระดับเมกะวัตต์

    ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในไต้หวัน
    - Intel ร่วมมือกับซัพพลายเออร์ในไต้หวัน เช่น Maico, YuanShan และ Kuenling เพื่อพัฒนาอุปกรณ์เสริม เช่น server racks และ liquid-cooled chassis
    - บริษัทกำลังลงทุนในวัสดุขั้นสูง เช่น liquid metal-based designs เพื่อเพิ่มความทนทานและลดการสึกหรอ

    https://www.techradar.com/pro/intel-could-be-key-to-nvidias-future-plans-for-megawatt-class-rack-servers-as-it-pushes-ahead-with-superfluid-cooling
    Intel เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี Superfluid Cooling ที่สามารถจัดการความร้อนสูงถึง 1.5 กิโลวัตต์ต่อชิป ซึ่งถือเป็นระดับที่เหมาะสำหรับชิปประสิทธิภาพสูงอย่าง Nvidia GB300 Superchip รวมถึงการใช้งานในระบบ rack servers แห่งอนาคต การพัฒนานี้เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายของ Intel ในตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันสูง ✅ การจัดการความร้อนระดับสูงสำหรับเซิร์ฟเวอร์พลังงานมาก - เทคโนโลยีนี้ใช้ microbubble injection เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของของเหลวและการถ่ายเทความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ - ระบบยังใช้ ของเหลว dielectric ชนิดพิเศษ ที่ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ทำให้ปลอดภัยหากเกิดการรั่วซึม ✅ แรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีเรือเดินสมุทร - เทคโนโลยีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการลดแรงต้านน้ำในเรือเดินสมุทรของ Mitsubishi Heavy Industries โดยใช้ฟองอากาศเพื่อเพิ่มความเร็ว ซึ่งถูกนำมาปรับใช้ในการระบายความร้อน ✅ เหมาะสำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ในยุค AI - Superfluid Cooling ถูกออกแบบมาเพื่อระบบเซิร์ฟเวอร์ที่มีพลังงานสูงสุดถึง 600 กิโลวัตต์ และรองรับอนาคตที่ระบบเซิร์ฟเวอร์อาจมีความต้องการพลังงานระดับเมกะวัตต์ ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในไต้หวัน - Intel ร่วมมือกับซัพพลายเออร์ในไต้หวัน เช่น Maico, YuanShan และ Kuenling เพื่อพัฒนาอุปกรณ์เสริม เช่น server racks และ liquid-cooled chassis - บริษัทกำลังลงทุนในวัสดุขั้นสูง เช่น liquid metal-based designs เพื่อเพิ่มความทนทานและลดการสึกหรอ https://www.techradar.com/pro/intel-could-be-key-to-nvidias-future-plans-for-megawatt-class-rack-servers-as-it-pushes-ahead-with-superfluid-cooling
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนร่วมสอบตึกถล่ม ทูตจีนเผย “ผลสอบอาจกระทบเจ้านายไทย” เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนที่ชี้ว่า ซับคอนแทรคเตอร์รายดังกล่าว มีบทบาทสำคัญในการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับส่วนราชการ และนักการเมืองไทย


    .
    2 เมษายน 2568 งามหน้ากับความชัดเจนของเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย นายหาน จื้อเฉียง ที่โพสต์แสดงความเสียใจและระบุให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม จนกลายเป็นประเด็นระดับนานาชาติ ...มีรายงานว่า #รัฐบาลจีน ได้เร่งดำเนินการสอบสวนอย่างเข้มงวด กับ #บริษัทก่อสร้าง จากจีนที่ทำหน้าที่เป็น #ซับคอนแทรคเตอร์ ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้ยังส่งสัญญาณถึงความโปร่งใสที่อาจกระทบต่อบุคคลสำคัญในประเทศไทย
    .
    ข่าวจากรัฐบาลจีนระบุว่า ทางการได้เรียกตัวผู้บริหารระดับสูงของบริษัท #ไชน่าเรลเวย์ บริษัทแม่ ของ #ไชน่าเรลเวย์นัมเบอร์10 ที่รับผิดชอบโครงการนี้ทั้งชุด ร่วมสอบสวนเหตุตึกถล่มอย่างละเอียด และเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที หากพบหลักฐาน "ความผิดพลาดจากการออกแบบ การก่อสร้าง หรือการตรวจสอบโครงสร้าง"
    .
    กระบวนการสอบสวนของจีน ไม่เพียงแต่ตรวจสอบซับคอนแทรคเตอร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง บริษัทผู้ออกแบบ , วิศวกรที่ตรวจและอนุมัติโครงสร้าง , และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งหมด โดยให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
    .
    ทูตจีนเผย “ผลสอบอาจกระทบเจ้านายไทย”
    ระหว่างการประชุมลับในเหตุการณ์นี้ ทูตจีน ประจำประเทศไทยได้แสดงความกังวลว่า ผลการสอบสวนอาจส่งผลกระทบต่อ #เจ้านายไทย หรือ #บุคคลสำคัญ ที่อาจเชื่อมโยงกับโครงการนี้ เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนที่ชี้ว่า ซับคอนแทรคเตอร์รายดังกล่าว มีบทบาทสำคัญใน #การจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับ #ส่วนราชการ และ #นักการเมืองไทย
    .
    "การตรวจสอบครั้งนี้จะไม่ใช่แค่การสอบสวนภายในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังขยายผลไปถึงการเชื่อมโยงระหว่างบริษัทจีนกับพันธมิตรในประเทศไทย ซึ่งอาจนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในวงการเมืองและการปกครองของไทย" แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทูตจีนกล่าว
    .
    ขณะที่ รัฐบาลไทย ยังไม่มีแถลงการณ์อย่างใด นอกจากความพยายามในการควบคุมสถานการณ์ เพื่อป้องกันผลกระทบในวงกว้างกวานี้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับบุคคลสำคัญที่ถูกอ้างอิง หากผลการสอบสวนจากจีนเผยถึง การจ่ายใต้โต๊ะ เป็นการคอร์รัปชันในโครงการนี้ อาจทำให้เกิดแรงกดดันจากสังคมไทยและประชาคมระหว่างประเทศต่อรัฐบาลไทยได้
    .
    "คำถามสำคัญคือ รัฐบาลไทยจะสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้หรือไม่และได้อย่างไร หรือจะเลือกใช้วิธีการปิดข่าวเพื่อลดแรงกระเพื่อมทางการเมือง" .
    การที่จีน กล้าพูดชัดเจนถึง "เจ้านายไทย" หมายความว่า มีความชัดเจนเข้าใจและรับรู้ถึงต้นตอของปัญหา เพียงแต่จะเปิดเผยข้อมูล รวมถึงนำคนผิดมาลงโทษได้จริงหรือไม่...
    .
    กับคำถามทิ้งท้าย…
    "ประเทศไทยจะยอมรับความจริงและเผชิญหน้ากับปัญหานี้อย่างตรงไปตรงมา หรือจะเลือกใช้วิธีการเดิมๆ ในการปกปิดความผิดพลาด?" นี่คือคำถามที่สังคมไทยและประชาคมโลกกำลังรอคำตอบ

    .
    https://web.facebook.com/share/p/161BQVb9fA/
    จีนร่วมสอบตึกถล่ม ทูตจีนเผย “ผลสอบอาจกระทบเจ้านายไทย” เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนที่ชี้ว่า ซับคอนแทรคเตอร์รายดังกล่าว มีบทบาทสำคัญในการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับส่วนราชการ และนักการเมืองไทย . 2 เมษายน 2568 งามหน้ากับความชัดเจนของเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย นายหาน จื้อเฉียง ที่โพสต์แสดงความเสียใจและระบุให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม จนกลายเป็นประเด็นระดับนานาชาติ ...มีรายงานว่า #รัฐบาลจีน ได้เร่งดำเนินการสอบสวนอย่างเข้มงวด กับ #บริษัทก่อสร้าง จากจีนที่ทำหน้าที่เป็น #ซับคอนแทรคเตอร์ ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้ยังส่งสัญญาณถึงความโปร่งใสที่อาจกระทบต่อบุคคลสำคัญในประเทศไทย . ข่าวจากรัฐบาลจีนระบุว่า ทางการได้เรียกตัวผู้บริหารระดับสูงของบริษัท #ไชน่าเรลเวย์ บริษัทแม่ ของ #ไชน่าเรลเวย์นัมเบอร์10 ที่รับผิดชอบโครงการนี้ทั้งชุด ร่วมสอบสวนเหตุตึกถล่มอย่างละเอียด และเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที หากพบหลักฐาน "ความผิดพลาดจากการออกแบบ การก่อสร้าง หรือการตรวจสอบโครงสร้าง" . กระบวนการสอบสวนของจีน ไม่เพียงแต่ตรวจสอบซับคอนแทรคเตอร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง บริษัทผู้ออกแบบ , วิศวกรที่ตรวจและอนุมัติโครงสร้าง , และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งหมด โดยให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง . ทูตจีนเผย “ผลสอบอาจกระทบเจ้านายไทย” ระหว่างการประชุมลับในเหตุการณ์นี้ ทูตจีน ประจำประเทศไทยได้แสดงความกังวลว่า ผลการสอบสวนอาจส่งผลกระทบต่อ #เจ้านายไทย หรือ #บุคคลสำคัญ ที่อาจเชื่อมโยงกับโครงการนี้ เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนที่ชี้ว่า ซับคอนแทรคเตอร์รายดังกล่าว มีบทบาทสำคัญใน #การจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับ #ส่วนราชการ และ #นักการเมืองไทย . "การตรวจสอบครั้งนี้จะไม่ใช่แค่การสอบสวนภายในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังขยายผลไปถึงการเชื่อมโยงระหว่างบริษัทจีนกับพันธมิตรในประเทศไทย ซึ่งอาจนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในวงการเมืองและการปกครองของไทย" แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทูตจีนกล่าว . ขณะที่ รัฐบาลไทย ยังไม่มีแถลงการณ์อย่างใด นอกจากความพยายามในการควบคุมสถานการณ์ เพื่อป้องกันผลกระทบในวงกว้างกวานี้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับบุคคลสำคัญที่ถูกอ้างอิง หากผลการสอบสวนจากจีนเผยถึง การจ่ายใต้โต๊ะ เป็นการคอร์รัปชันในโครงการนี้ อาจทำให้เกิดแรงกดดันจากสังคมไทยและประชาคมระหว่างประเทศต่อรัฐบาลไทยได้ . "คำถามสำคัญคือ รัฐบาลไทยจะสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้หรือไม่และได้อย่างไร หรือจะเลือกใช้วิธีการปิดข่าวเพื่อลดแรงกระเพื่อมทางการเมือง" . การที่จีน กล้าพูดชัดเจนถึง "เจ้านายไทย" หมายความว่า มีความชัดเจนเข้าใจและรับรู้ถึงต้นตอของปัญหา เพียงแต่จะเปิดเผยข้อมูล รวมถึงนำคนผิดมาลงโทษได้จริงหรือไม่... . กับคำถามทิ้งท้าย… "ประเทศไทยจะยอมรับความจริงและเผชิญหน้ากับปัญหานี้อย่างตรงไปตรงมา หรือจะเลือกใช้วิธีการเดิมๆ ในการปกปิดความผิดพลาด?" นี่คือคำถามที่สังคมไทยและประชาคมโลกกำลังรอคำตอบ . https://web.facebook.com/share/p/161BQVb9fA/
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 431 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่จาก AMD อย่าง RX 9070 XT และ RX 9070 ซึ่งกำลังได้รับความสนใจในวงการเกมและเทคโนโลยี ด้วยความสามารถที่โดดเด่นในการแข่งขันกับคู่แข่งรุ่นใหญ่ของ Nvidia อย่าง RTX 5080 และการปรับแต่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่าค่ามาตรฐาน

    จุดเด่นสำคัญ:
    1) การ์ด RX 9070 XT สามารถเอาชนะ RTX 5080 ได้ในด้านการประสิทธิภาพเฟรมเรต (FPS) โดยเฉพาะในเกม Cyberpunk 2077 เมื่อปรับลดแรงดันไฟฟ้า (Undervolting) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 10% โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความเร็วของ GPU โดยตรง

    2) มีการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านการโอเวอร์คล็อก (Overclocking) อย่าง Der8auer และ Alva Jonathan ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการ์ด AMD ในการเพิ่มเฟรมเรตได้อย่างน่าประทับใจ โดยใช้เทคนิคปรับแรงดันไฟฟ้าลดลง ทำให้ GPU ทำงานได้ที่ความเร็ว 3.36 GHz โดยใช้พลังงานต่ำลง

    เทคโนโลยีและผลลัพธ์:
    - AMD Radeon Software ช่วยให้การปรับแรงดันไฟฟ้าทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตัวการ์ดสามารถทำงานได้อย่างเสถียร แม้ภายใต้การเพิ่มพลังงานถึง 110% จากปกติ

    - อย่างไรก็ตาม การ์ดเหล่านี้ถูกตั้งราคาขายเกินกว่ามาตรฐาน MSRP ในตลาด เช่น รุ่น RX 9070 XT PowerColor Red Devil ที่เริ่มต้นที่ $799 สูงกว่าราคามาตรฐานถึง $200

    แม้ว่าความสามารถด้านการเพิ่มประสิทธิภาพจะโดดเด่น แต่ยังมีประเด็นที่อาจทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจยาก เช่น การจัดจำหน่ายที่จำกัดและราคาที่สูง นอกจากนี้ การปรับแต่งในบางกรณี เช่น การเพิ่มความเร็ว VRAM อาจไม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่กลับทำให้เกมทำงานช้าลงเนื่องจากการแก้ไขข้อผิดพลาดของ VRAM ที่ซับซ้อนขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/undervolted-rx-9070-xt-beats-rtx-5080-rx-9070-and-9070-xt-models-with-heavy-coolers-have-massive-oc-headroom
    ข่าวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่จาก AMD อย่าง RX 9070 XT และ RX 9070 ซึ่งกำลังได้รับความสนใจในวงการเกมและเทคโนโลยี ด้วยความสามารถที่โดดเด่นในการแข่งขันกับคู่แข่งรุ่นใหญ่ของ Nvidia อย่าง RTX 5080 และการปรับแต่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่าค่ามาตรฐาน จุดเด่นสำคัญ: 1) การ์ด RX 9070 XT สามารถเอาชนะ RTX 5080 ได้ในด้านการประสิทธิภาพเฟรมเรต (FPS) โดยเฉพาะในเกม Cyberpunk 2077 เมื่อปรับลดแรงดันไฟฟ้า (Undervolting) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 10% โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความเร็วของ GPU โดยตรง 2) มีการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านการโอเวอร์คล็อก (Overclocking) อย่าง Der8auer และ Alva Jonathan ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการ์ด AMD ในการเพิ่มเฟรมเรตได้อย่างน่าประทับใจ โดยใช้เทคนิคปรับแรงดันไฟฟ้าลดลง ทำให้ GPU ทำงานได้ที่ความเร็ว 3.36 GHz โดยใช้พลังงานต่ำลง เทคโนโลยีและผลลัพธ์: - AMD Radeon Software ช่วยให้การปรับแรงดันไฟฟ้าทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตัวการ์ดสามารถทำงานได้อย่างเสถียร แม้ภายใต้การเพิ่มพลังงานถึง 110% จากปกติ - อย่างไรก็ตาม การ์ดเหล่านี้ถูกตั้งราคาขายเกินกว่ามาตรฐาน MSRP ในตลาด เช่น รุ่น RX 9070 XT PowerColor Red Devil ที่เริ่มต้นที่ $799 สูงกว่าราคามาตรฐานถึง $200 แม้ว่าความสามารถด้านการเพิ่มประสิทธิภาพจะโดดเด่น แต่ยังมีประเด็นที่อาจทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจยาก เช่น การจัดจำหน่ายที่จำกัดและราคาที่สูง นอกจากนี้ การปรับแต่งในบางกรณี เช่น การเพิ่มความเร็ว VRAM อาจไม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่กลับทำให้เกมทำงานช้าลงเนื่องจากการแก้ไขข้อผิดพลาดของ VRAM ที่ซับซ้อนขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/undervolted-rx-9070-xt-beats-rtx-5080-rx-9070-and-9070-xt-models-with-heavy-coolers-have-massive-oc-headroom
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 400 มุมมอง 0 รีวิว
  • Guan Wenhui สมาชิกสภานิติบัญญัติของจีนได้เสนอข้อกฎหมายใหม่ที่ช่วยให้บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนสามารถปกปิดข้อมูลแหล่งที่มาของซัพพลายเออร์ต่างประเทศได้ การเสนอแก้ไขครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางการค้าจากสหรัฐฯ ที่ทำให้จีนมีความยากลำบากในการเข้าถึงโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัย ซอฟต์แวร์ และเครื่องมือในการผลิตชิป

    Guan ซึ่งเป็นผู้แทนจาก National People’s Congress แนะนำว่าบริษัทที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำไม่ควรต้องเปิดเผยแหล่งซัพพลายเออร์ในการเสนอราคาสาธารณะ การทำเช่นนี้จะช่วยลดแรงกดดันที่อาจทำให้ซัพพลายเออร์ต่างประเทศต้องตัดสัมพันธ์กับผู้ซื้อชาวจีน และทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศยังคงมีอยู่

    บริษัทจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ ได้ใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การลักลอบนำเข้าสินค้าจากประเทศที่สามเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่ต้องการ ข้อกฎหมายใหม่นี้จะทำให้การตรวจสอบและการระบุส่วนประกอบของซัพพลายเออร์ต่างประเทศยากยิ่งขึ้นสำหรับนักวิเคราะห์ ผู้สังเกตการณ์ และเจ้าหน้าที่รัฐบาล

    แม้ว่าข้อเสนอจาก NPC อาจไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายในทันที แต่ก็แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในลำดับความสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ความคิดเห็นของ Guan ยังบ่งชี้ว่าจีนกำลังมองหาวิธีการที่จะรักษาการเข้าถึงเทคโนโลยีระดับโลกขณะลดการเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ การผลักดันนวัตกรรมภายในประเทศยังเป็นเป้าหมายสำคัญที่จีนให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-lawmaker-proposes-law-to-allow-chinese-companies-to-hide-their-foreign-suppliers
    Guan Wenhui สมาชิกสภานิติบัญญัติของจีนได้เสนอข้อกฎหมายใหม่ที่ช่วยให้บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนสามารถปกปิดข้อมูลแหล่งที่มาของซัพพลายเออร์ต่างประเทศได้ การเสนอแก้ไขครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางการค้าจากสหรัฐฯ ที่ทำให้จีนมีความยากลำบากในการเข้าถึงโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัย ซอฟต์แวร์ และเครื่องมือในการผลิตชิป Guan ซึ่งเป็นผู้แทนจาก National People’s Congress แนะนำว่าบริษัทที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำไม่ควรต้องเปิดเผยแหล่งซัพพลายเออร์ในการเสนอราคาสาธารณะ การทำเช่นนี้จะช่วยลดแรงกดดันที่อาจทำให้ซัพพลายเออร์ต่างประเทศต้องตัดสัมพันธ์กับผู้ซื้อชาวจีน และทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศยังคงมีอยู่ บริษัทจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ ได้ใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การลักลอบนำเข้าสินค้าจากประเทศที่สามเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่ต้องการ ข้อกฎหมายใหม่นี้จะทำให้การตรวจสอบและการระบุส่วนประกอบของซัพพลายเออร์ต่างประเทศยากยิ่งขึ้นสำหรับนักวิเคราะห์ ผู้สังเกตการณ์ และเจ้าหน้าที่รัฐบาล แม้ว่าข้อเสนอจาก NPC อาจไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายในทันที แต่ก็แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในลำดับความสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ความคิดเห็นของ Guan ยังบ่งชี้ว่าจีนกำลังมองหาวิธีการที่จะรักษาการเข้าถึงเทคโนโลยีระดับโลกขณะลดการเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ การผลักดันนวัตกรรมภายในประเทศยังเป็นเป้าหมายสำคัญที่จีนให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-lawmaker-proposes-law-to-allow-chinese-companies-to-hide-their-foreign-suppliers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 371 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💰 **ลดสูงสุดถึง 3,000 บาท!**
    🎯 **ดีลสุดพิเศษเฉพาะช่วงเวลานี้เท่านั้น**
    ✅ สินค้าสุดฮอต ราคาพิเศษ
    ✅ ส่วนลดจัดเต็ม รีบช้อปก่อนหมดโอกาส
    ✅ ไม่มีซ้ำ! โปรนี้มีครั้งเดียวเท่านั้น
    ⚡ **อย่ารอช้า! คลิกเลย** ⬇️
    78s.me/e13337

    📌 **#นาทีทอง #ลดแรง #หมดแล้วหมดเลย #ช้อปด่วน** 🚀

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    💰 **ลดสูงสุดถึง 3,000 บาท!** 🎯 **ดีลสุดพิเศษเฉพาะช่วงเวลานี้เท่านั้น** ✅ สินค้าสุดฮอต ราคาพิเศษ ✅ ส่วนลดจัดเต็ม รีบช้อปก่อนหมดโอกาส ✅ ไม่มีซ้ำ! โปรนี้มีครั้งเดียวเท่านั้น ⚡ **อย่ารอช้า! คลิกเลย** ⬇️ 78s.me/e13337 📌 **#นาทีทอง #ลดแรง #หมดแล้วหมดเลย #ช้อปด่วน** 🚀 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 387 มุมมอง 0 รีวิว
  • พวกผู้เชี่ยวชาญชี้ แผนการลงทุนมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในอเมริกาของทีเอสเอ็มซี บริษัทไต้หวันที่เป็นผู้ผลิตชิปใหญ่ที่สุดของโลก อาจส่งผลให้ “โล่ซิลิคอน” ของไทเปอ่อนแอลง เปิดทางให้ทรัมป์เข้าควบคุมการผลิตชิปของทีเอสเอ็มซี หรือในทางกลับกันอาจทำให้ไต้หวัน “ปลอดภัยขึ้น” และสร้างความไว้วางใจระหว่างไทเปกับวอชิงตัน
    .
    ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง (ทีเอสเอ็มซี) ซึ่งเวลานี้มีฐานะเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีสำคัญ ที่กลายเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจโลก
    .
    ในสัปดาห์นี้ การประกาศลงทุนครั้งมหึมาในสหรัฐฯ ทำให้มูลค่าการลงทุนทั้งหมดของทีเอสเอ็มซีในอเมริกาเพิ่มเป็น 165,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบริษัทบอกว่า เป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาไต้หวันขโมยอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา พร้อมขู่รีดภาษี 100% และไทเปต้องรีบตอบสนองโดยให้สัญญาว่า จะลงทุนในอเมริกาเพิ่ม
    .
    เอเอฟพีเสนอรายงานที่ระบุว่า การลงทุนของทีเอสเอ็มซีครั้งนี้อาจมีนัยสำคัญสำหรับไต้หวัน ดังต่อไปนี้
    .
    โล่ซิลิคอน
    .
    ชิปเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบันเป็นส่วนประกอบอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงทีวี รถยนต์ไฟฟ้า และขีปนาวุธ และชิปเหล่านี้กว่าครึ่งผลิตในไต้หวัน
    .
    การผลิตชิปที่กระจุกตัวอยู่ในไต้หวันถูกมองมานานแล้วว่าเป็น “โล่ซิลิคอน” ที่ปกป้องไต้หวันจากการรุกรานหรือการปิดล้อมของจีน อีกทั้งยังเป็นแรงจูงใจให้อเมริกากางปีกปกป้องไทเป
    .
    ช่วงหลายปีมานี้จีนเพิ่มความกดดันทางทหารต่อไต้หวันเพื่อผลักดันการอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือเกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่และโรงงานผลิตชิปมากมายหลายแห่งของทีเอสเอ็มซี
    .
    ความเคลื่อนไหวของจีนทำให้มีเสียงเรียกร้องให้ทีเอสเอ็มซีย้ายการผลิตออกจากไต้หวันเพื่อป้องกันการชะงักงันด้านอุปทานหากถูกจีนโจมตี
    .
    เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์เตือนว่า อาจเรียกเก็บภาษีชิปที่ผลิตนอกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 25% หรือมากกว่านั้น ซึ่งนักวิเคราะห์คนหนึ่งระบุว่า อาจทำให้อุตสาหกรรมชิปเผชิญภาวะถดถอย
    .
    แม้การลงทุนล่าสุดคราวนี้ของทีเอสเอ็มซี น่าจะสามารถหลบเลี่ยงจากการข่มขู่รีดภาษีศุลกากรเช่นว่านี้ แต่ยังมีความกังวลว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจกระทบต่อเศรษฐกิจไต้หวันและทำให้ “โล่ซิลิคอน” ความมั่นคงของไต้หวันอ่อนแอลง
    .
    โก จูชุน สมาชิกรัฐสภาจากพรรคก๊กมินตั๋งซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้าน ชี้ว่า ยิ่งทีเอสเอ็มซีออกไปผลิตในอเมริกามากเท่าไหร่ ไต้หวันยิ่งหมดความสำคัญในแง่ภูมิรัฐศาสตร์มากขึ้นเท่านั้น รวมทั้งยังลดแรงจูงใจต่ออเมริกาในการให้ความช่วยเหลือไต้หวันในอนาคต
    .
    การควบคุมทีเอสเอ็มซี
    .
    ผู้นำไต้หวันตระหนักดีถึงความเสี่ยงขณะพยายามรักษาการสนับสนุนจากวอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนด้านความมั่นคงที่สำคัญที่สุด และปกป้องสถานะผู้ทรงอิทธิพลในการผลิตชิปของไต้หวัน
    .
    สำนักงานของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ แถลงเมื่อวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า รัฐบาลจะตรวจสอบข้อตกลงของทีเอสเอ็มซีว่า สอดคล้องกับกฎหมายของไต้หวันหรือไม่ และทำให้แน่ใจว่า กระบวนการผลิตชิปขั้นสูงสุดจะยังคงอยู่ในไต้หวัน
    .
    ก่อนหน้านี้ ทีเอสเอ็มซีประกาศลงทุนมูลค่ากว่า 65,000 ล้านดอลลาร์ในการจัดตั้งโรงงาน 3 แห่งในรัฐแอริโซนาของอเมริกา โดยที่โรงงานแห่งแรกเริ่มต้นผลิตตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
    .
    สำหรับการลงทุน 100,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งประกาศในสัปดาห์นี้ จะเป็นการขยายโครงการในอเมริกาด้วยการจัดตั้งโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ 3 แห่ง โรงงานบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง 2 แห่ง และศูนย์วิจัยและพัฒนา
    .
    ริชาร์ด หู รองผู้อำนวยการของกลุ่มคลังสมอง ที่ใช้ชื่อว่า ศูนย์เพื่อการศึกษาด้านความมั่นคงของไต้หวัน ให้ความเห็นว่า ทรัมป์ต้องการป้องกันไม่ให้ทีเอสเอ็มซีตกอยู่ในมือจีน และทำให้บริษัทแห่งนี้เป็นสินทรัพย์ด้านเทคโนโลยีของอเมริกา
    .
    หูเสริมว่า เป้าหมายสูงสุดของทรัมป์คือ อเมริกาจะสามารถควบคุมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของทีเอสเอ็มซีทั้งหมดหรืออย่างมีนัยสำคัญ และทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา
    .
    การรับประกันความมั่นคง
    .
    อย่างไรก็ตาม ซู จื๋ออวิ๋น นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงจากสถาบันเพื่อการวิจัยด้านกลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติของไทเป มองโลกในแง่ดีมากกว่า โดยบอกว่า การลงทุนในสหรัฐฯ ของทีเอสเอ็มซีน่าจะทำให้ไต้หวัน “ปลอดภัยขึ้น” และช่วยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมชิป อีกทั้งยังสร้างความไว้วางใจระหว่างไทเปกับวอชิงตัน และลดความกังวลของทรัมป์เกี่ยวกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของอเมริกา
    .
    ซูเสริมว่า ไต้หวันไม่ได้มีความสำคัญเพราะมีทีเอสเอ็มซีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านภูมิยุทธศาสตร์ โดยตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความสำคัญของเส้นทางขนส่งสินค้าทางทะเลของโลกที่อยู่ใกล้ไต้หวัน
    .
    ทว่า เจมส์ อี้ฟาน เฉิน จากมหาวิทยาลัยตั้นเจียง เสนอมุมมองอีกด้านหนึ่งว่า ต้นทุนการผลิตในอเมริกาที่สูงกว่าอาจทำให้ราคาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชิปทีเอสเอ็มซีแพงขึ้น
    .
    นอกจากนั้น ยังไม่มีการรับประกันว่า การลงทุนจะทำให้ทรัมป์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ มีความโน้มเอียงมากขึ้นจริงๆ ที่จะปกป้องไต้หวัน
    .
    เหวิน ตี้ซุง นักวิชาการจากโกลบัล ไชน่า ฮับ ของกลุ่มคลังสมองในสหรัฐฯ แอตแลนติก เคาน์ซิล บอกว่า ผลลัพธ์จากข้อตกลงนี้ในแง่ความเต็มใจของอเมริกาในการปกป้องไต้หวันนั้นต้องพูดว่ายังไม่มีความชัดเจน โดยขึ้นอยู่กับความรู้สึกของทรัมป์ ณ ขณะนั้นมากกว่า รวมทั้งขึ้นอยู่กับว่า ปักกิ่งจะพยายามยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจกว่าไต้หวันหรือไม่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021621
    ..............
    Sondhi X
    พวกผู้เชี่ยวชาญชี้ แผนการลงทุนมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในอเมริกาของทีเอสเอ็มซี บริษัทไต้หวันที่เป็นผู้ผลิตชิปใหญ่ที่สุดของโลก อาจส่งผลให้ “โล่ซิลิคอน” ของไทเปอ่อนแอลง เปิดทางให้ทรัมป์เข้าควบคุมการผลิตชิปของทีเอสเอ็มซี หรือในทางกลับกันอาจทำให้ไต้หวัน “ปลอดภัยขึ้น” และสร้างความไว้วางใจระหว่างไทเปกับวอชิงตัน . ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง (ทีเอสเอ็มซี) ซึ่งเวลานี้มีฐานะเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีสำคัญ ที่กลายเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจโลก . ในสัปดาห์นี้ การประกาศลงทุนครั้งมหึมาในสหรัฐฯ ทำให้มูลค่าการลงทุนทั้งหมดของทีเอสเอ็มซีในอเมริกาเพิ่มเป็น 165,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบริษัทบอกว่า เป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน . ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาไต้หวันขโมยอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา พร้อมขู่รีดภาษี 100% และไทเปต้องรีบตอบสนองโดยให้สัญญาว่า จะลงทุนในอเมริกาเพิ่ม . เอเอฟพีเสนอรายงานที่ระบุว่า การลงทุนของทีเอสเอ็มซีครั้งนี้อาจมีนัยสำคัญสำหรับไต้หวัน ดังต่อไปนี้ . โล่ซิลิคอน . ชิปเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบันเป็นส่วนประกอบอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงทีวี รถยนต์ไฟฟ้า และขีปนาวุธ และชิปเหล่านี้กว่าครึ่งผลิตในไต้หวัน . การผลิตชิปที่กระจุกตัวอยู่ในไต้หวันถูกมองมานานแล้วว่าเป็น “โล่ซิลิคอน” ที่ปกป้องไต้หวันจากการรุกรานหรือการปิดล้อมของจีน อีกทั้งยังเป็นแรงจูงใจให้อเมริกากางปีกปกป้องไทเป . ช่วงหลายปีมานี้จีนเพิ่มความกดดันทางทหารต่อไต้หวันเพื่อผลักดันการอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือเกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่และโรงงานผลิตชิปมากมายหลายแห่งของทีเอสเอ็มซี . ความเคลื่อนไหวของจีนทำให้มีเสียงเรียกร้องให้ทีเอสเอ็มซีย้ายการผลิตออกจากไต้หวันเพื่อป้องกันการชะงักงันด้านอุปทานหากถูกจีนโจมตี . เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์เตือนว่า อาจเรียกเก็บภาษีชิปที่ผลิตนอกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 25% หรือมากกว่านั้น ซึ่งนักวิเคราะห์คนหนึ่งระบุว่า อาจทำให้อุตสาหกรรมชิปเผชิญภาวะถดถอย . แม้การลงทุนล่าสุดคราวนี้ของทีเอสเอ็มซี น่าจะสามารถหลบเลี่ยงจากการข่มขู่รีดภาษีศุลกากรเช่นว่านี้ แต่ยังมีความกังวลว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจกระทบต่อเศรษฐกิจไต้หวันและทำให้ “โล่ซิลิคอน” ความมั่นคงของไต้หวันอ่อนแอลง . โก จูชุน สมาชิกรัฐสภาจากพรรคก๊กมินตั๋งซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้าน ชี้ว่า ยิ่งทีเอสเอ็มซีออกไปผลิตในอเมริกามากเท่าไหร่ ไต้หวันยิ่งหมดความสำคัญในแง่ภูมิรัฐศาสตร์มากขึ้นเท่านั้น รวมทั้งยังลดแรงจูงใจต่ออเมริกาในการให้ความช่วยเหลือไต้หวันในอนาคต . การควบคุมทีเอสเอ็มซี . ผู้นำไต้หวันตระหนักดีถึงความเสี่ยงขณะพยายามรักษาการสนับสนุนจากวอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนด้านความมั่นคงที่สำคัญที่สุด และปกป้องสถานะผู้ทรงอิทธิพลในการผลิตชิปของไต้หวัน . สำนักงานของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ แถลงเมื่อวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า รัฐบาลจะตรวจสอบข้อตกลงของทีเอสเอ็มซีว่า สอดคล้องกับกฎหมายของไต้หวันหรือไม่ และทำให้แน่ใจว่า กระบวนการผลิตชิปขั้นสูงสุดจะยังคงอยู่ในไต้หวัน . ก่อนหน้านี้ ทีเอสเอ็มซีประกาศลงทุนมูลค่ากว่า 65,000 ล้านดอลลาร์ในการจัดตั้งโรงงาน 3 แห่งในรัฐแอริโซนาของอเมริกา โดยที่โรงงานแห่งแรกเริ่มต้นผลิตตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว . สำหรับการลงทุน 100,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งประกาศในสัปดาห์นี้ จะเป็นการขยายโครงการในอเมริกาด้วยการจัดตั้งโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ 3 แห่ง โรงงานบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง 2 แห่ง และศูนย์วิจัยและพัฒนา . ริชาร์ด หู รองผู้อำนวยการของกลุ่มคลังสมอง ที่ใช้ชื่อว่า ศูนย์เพื่อการศึกษาด้านความมั่นคงของไต้หวัน ให้ความเห็นว่า ทรัมป์ต้องการป้องกันไม่ให้ทีเอสเอ็มซีตกอยู่ในมือจีน และทำให้บริษัทแห่งนี้เป็นสินทรัพย์ด้านเทคโนโลยีของอเมริกา . หูเสริมว่า เป้าหมายสูงสุดของทรัมป์คือ อเมริกาจะสามารถควบคุมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของทีเอสเอ็มซีทั้งหมดหรืออย่างมีนัยสำคัญ และทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา . การรับประกันความมั่นคง . อย่างไรก็ตาม ซู จื๋ออวิ๋น นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงจากสถาบันเพื่อการวิจัยด้านกลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติของไทเป มองโลกในแง่ดีมากกว่า โดยบอกว่า การลงทุนในสหรัฐฯ ของทีเอสเอ็มซีน่าจะทำให้ไต้หวัน “ปลอดภัยขึ้น” และช่วยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมชิป อีกทั้งยังสร้างความไว้วางใจระหว่างไทเปกับวอชิงตัน และลดความกังวลของทรัมป์เกี่ยวกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของอเมริกา . ซูเสริมว่า ไต้หวันไม่ได้มีความสำคัญเพราะมีทีเอสเอ็มซีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านภูมิยุทธศาสตร์ โดยตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความสำคัญของเส้นทางขนส่งสินค้าทางทะเลของโลกที่อยู่ใกล้ไต้หวัน . ทว่า เจมส์ อี้ฟาน เฉิน จากมหาวิทยาลัยตั้นเจียง เสนอมุมมองอีกด้านหนึ่งว่า ต้นทุนการผลิตในอเมริกาที่สูงกว่าอาจทำให้ราคาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชิปทีเอสเอ็มซีแพงขึ้น . นอกจากนั้น ยังไม่มีการรับประกันว่า การลงทุนจะทำให้ทรัมป์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ มีความโน้มเอียงมากขึ้นจริงๆ ที่จะปกป้องไต้หวัน . เหวิน ตี้ซุง นักวิชาการจากโกลบัล ไชน่า ฮับ ของกลุ่มคลังสมองในสหรัฐฯ แอตแลนติก เคาน์ซิล บอกว่า ผลลัพธ์จากข้อตกลงนี้ในแง่ความเต็มใจของอเมริกาในการปกป้องไต้หวันนั้นต้องพูดว่ายังไม่มีความชัดเจน โดยขึ้นอยู่กับความรู้สึกของทรัมป์ ณ ขณะนั้นมากกว่า รวมทั้งขึ้นอยู่กับว่า ปักกิ่งจะพยายามยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจกว่าไต้หวันหรือไม่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021621 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2454 มุมมอง 0 รีวิว
  • "นิยามของศัตรู & ศิลปะการรับมือ"

    ศัตรู ไม่ใช่แค่คนที่เลวร้ายโดยสันดาน
    แต่คือ "คนที่ใจเราเลือกจะเห็นแต่แง่ร้ายของเขา"


    ---

    📌 "ศัตรู" เกิดจากมุมมองของใจเราเอง

    ✔ คนเดียวกัน แต่บางคนเกลียด บางคนรัก
    ✔ คนเดียวกัน แต่บางคนเห็นดี บางคนเห็นร้าย
    ✔ คนเดียวกัน แต่เรามองไม่เหมือนเมื่อวาน

    🎯 "ศัตรู" ไม่ได้เกิดจากตัวเขา
    🎯 "ศัตรู" เกิดจากใจเราที่สร้างเขาขึ้นมา!


    ---

    📌 วิธีทำให้ "ศัตรู" หายไปจากใจเรา

    1️⃣ มี "สติ" แทน "โทสะ" ขณะเผชิญหน้า

    ✅ ถ้าเรา "รู้ตัว" ว่ากำลังโกรธ → โกรธจะอ่อนกำลัง
    ✅ ถ้าเรา "รู้ตัว" ว่ากำลังมองแง่ร้าย → ใจจะเริ่มปรับสมดุล

    🎯 "สติ" คือการดึงตัวเองออกจากอคติที่สร้างศัตรู
    🎯 "สติ" ทำให้ใจสงบ → คลื่นจิตสงบ → ความเป็นศัตรูลดลง


    ---

    2️⃣ ฝึกพูด "ด้วยความนิ่ง" แทนอารมณ์

    ✅ "น้ำเสียง" เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง
    ✅ "จิตที่มีอารมณ์" = น้ำเสียงกระแทก = คนฟังรู้สึกเป็นปฏิปักษ์
    ✅ "จิตที่มีสติ" = น้ำเสียงราบเรียบ = คนฟังรู้สึกสงบ

    🎯 "พูดด้วยใจที่สงบ → ทำให้ใจเขาสงบตาม"
    🎯 "พูดโดยไร้ความเป็นศัตรู → ทำให้เขาไม่อยากเป็นศัตรูด้วย"


    ---

    3️⃣ หัด "มองเห็นแง่ดี" ของคนที่เราไม่ชอบ

    ✅ ทุกคนมีข้อดี → ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกจะมองเห็นไหม
    ✅ ถ้ามองเขาแง่ดีบ้าง → ใจเราจะเริ่มคลายจากความเป็นศัตรู

    🎯 "ศัตรู = มายาคติของใจ"
    🎯 "พอใจมองเปลี่ยน → ศัตรูก็เปลี่ยนเป็นคนธรรมดาได้"


    ---

    🔥 สรุป: ถ้าใจเราไม่เป็นศัตรู → ศัตรูจะค่อยๆ หายไปเอง 🔥

    ✔ "ศัตรูไม่ได้อยู่ที่เขา → ศัตรูอยู่ในใจเรา"
    ✔ "สติ & การควบคุมอารมณ์ → คือกุญแจเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร"
    ✔ "ฝึกพูดด้วยความนิ่ง → จะลดแรงต้านจากอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ"

    🎯 "สุดท้ายแล้ว… คนอื่นเปลี่ยนไม่ได้"
    🎯 "แต่ใจเราเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาได้เสมอ!"

    "นิยามของศัตรู & ศิลปะการรับมือ" ศัตรู ไม่ใช่แค่คนที่เลวร้ายโดยสันดาน แต่คือ "คนที่ใจเราเลือกจะเห็นแต่แง่ร้ายของเขา" --- 📌 "ศัตรู" เกิดจากมุมมองของใจเราเอง ✔ คนเดียวกัน แต่บางคนเกลียด บางคนรัก ✔ คนเดียวกัน แต่บางคนเห็นดี บางคนเห็นร้าย ✔ คนเดียวกัน แต่เรามองไม่เหมือนเมื่อวาน 🎯 "ศัตรู" ไม่ได้เกิดจากตัวเขา 🎯 "ศัตรู" เกิดจากใจเราที่สร้างเขาขึ้นมา! --- 📌 วิธีทำให้ "ศัตรู" หายไปจากใจเรา 1️⃣ มี "สติ" แทน "โทสะ" ขณะเผชิญหน้า ✅ ถ้าเรา "รู้ตัว" ว่ากำลังโกรธ → โกรธจะอ่อนกำลัง ✅ ถ้าเรา "รู้ตัว" ว่ากำลังมองแง่ร้าย → ใจจะเริ่มปรับสมดุล 🎯 "สติ" คือการดึงตัวเองออกจากอคติที่สร้างศัตรู 🎯 "สติ" ทำให้ใจสงบ → คลื่นจิตสงบ → ความเป็นศัตรูลดลง --- 2️⃣ ฝึกพูด "ด้วยความนิ่ง" แทนอารมณ์ ✅ "น้ำเสียง" เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง ✅ "จิตที่มีอารมณ์" = น้ำเสียงกระแทก = คนฟังรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ ✅ "จิตที่มีสติ" = น้ำเสียงราบเรียบ = คนฟังรู้สึกสงบ 🎯 "พูดด้วยใจที่สงบ → ทำให้ใจเขาสงบตาม" 🎯 "พูดโดยไร้ความเป็นศัตรู → ทำให้เขาไม่อยากเป็นศัตรูด้วย" --- 3️⃣ หัด "มองเห็นแง่ดี" ของคนที่เราไม่ชอบ ✅ ทุกคนมีข้อดี → ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกจะมองเห็นไหม ✅ ถ้ามองเขาแง่ดีบ้าง → ใจเราจะเริ่มคลายจากความเป็นศัตรู 🎯 "ศัตรู = มายาคติของใจ" 🎯 "พอใจมองเปลี่ยน → ศัตรูก็เปลี่ยนเป็นคนธรรมดาได้" --- 🔥 สรุป: ถ้าใจเราไม่เป็นศัตรู → ศัตรูจะค่อยๆ หายไปเอง 🔥 ✔ "ศัตรูไม่ได้อยู่ที่เขา → ศัตรูอยู่ในใจเรา" ✔ "สติ & การควบคุมอารมณ์ → คือกุญแจเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร" ✔ "ฝึกพูดด้วยความนิ่ง → จะลดแรงต้านจากอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ" 🎯 "สุดท้ายแล้ว… คนอื่นเปลี่ยนไม่ได้" 🎯 "แต่ใจเราเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาได้เสมอ!"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 308 มุมมอง 0 รีวิว
  • สองวันหลังยกเลิกงานที่ไม่ไหวจะเคลียร์ ทำต่อไม่ไหว คือจะทำเท่าที่ทำได้ แต่อยากให้ผมแก้ปัญหาคนเดียว และอีกปัจจัยนึงคือเพื่อนโปรแกรมเมอร์ที่ประสบการณ์มากกว่าเขาไม่ว่างกัน คือผมไปขอความช่วยเหลือเพื่อศึกษาจากรุ่นพี่ก็ไม่ได้ ให้ผมแก้ แต่กว่าจะได้เงินมาก็ไส้แห้งพอดี ได้เงินก็ได้มาน้อยมาก จนผมตัดสินใจยกเลิกไม่รับงานมันไปทำอย่างอื่นที่ตอบโจทย์กว่านี้ดีกว่า แต่สุดท้ายต้องยกเลิกเพราะทำต่อไปไม่ไหวจริงๆ แต่ไม่ค่อยมีใครโทรตามไปแก้ คือลูกค้าเขาเอือมระอาและโกรธแค้นผมมากที่ผมทำงานของคนที่จ้างผม(เขามีลูกค้าของเขาและเป็นลูกค้าของลูกค้าของผม)จนคนที่จ้างผมอมขี้ฟันลูกค้ามาด่าและแทงใจดำ จนผมนอยด์และดิ่ง ทนกับมันมานาน เกรงใจคนในครอบครัวมานาน แน่นอนครอบครัวไม่ใช่เซฟโซนนานแล้ว และกกลับบ้านเกิดก็ไม่ใช่เซฟโซนอีก เพราะทุกคนในครอบครัวกดดันให้ผมสอบงานราชการซึ่งไม่ใช่ทางผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมสอบ กพ. เพื่อเป็นทางผ่านไปสอบ TOEIC รอบแก้แค้นแทน และ CU-TEP ต่อ เพื่อสร้างตัวตนที่ดีกว่านี้ แต่ผมสามารถอยู่ยืนได้ด้วยลำแข้งลำขาตนเองได้ แต่ผมคงกร่อยต่อไปไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ที่จะปลูกต้นกล้าผักกาดที่เบียดกันอยู่ต่อขอหยุดทำไปก่อนเพราะทางบ้านเขาเริ่มไม่พอใจผมแล้ว เลยต้องหยุดทำไว้ก่อนเพื่อลดแรงเสียดทานก่อนที่จะบานปลายและรุนแรงไปมากกว่านี้ แต่ทนอยู่กับทางบ้านและครอบครัวที่ทั้งครอบครัวไม่ถูกกับผมเพื่ออนาคตวันข้างหน้าและถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจริงๆและเด็ดขาดชัดเจนว่าจะไม่อยู่ร่วมกัน ต่างคนต่างอยู่ ผมไม่ตัดตัวเองออกจากครอบครัว ถึงทั้งครอบครัวจะตัดผมเพราะผมคือมะเร็งเนื้อร้ายก็ตัดไป เพราะก่อนจะทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อตัวเองก่อน ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ครอบครัวกดดัน ตัวเองก็พยายามจะไม่ตามครอบครัวไปทุกเรื่องจนผมเสียความเป็นตัวตน เงินหาใหม่ได้ หาเมื่อไหร่ก็ได้ งานเราสร้างมาเองได้ ไม่ต้องฝากประวัติเพื่อทำงานเป็นลูกจ้างใคร คือทางบ้านเขาติดมูหนักมากจนเขาพยายามห้ามไม่ให้กินเนื้อวัว สุดท้ายก็ต้องกิน ส่วนเรื่องกินเนื้อแพะฟรีไม่ได้กิน ไม่รู้ทางบ้านกับครอบครัวเขาเคร่งมูจัดอะไรนักหนา ผมนับถือแค่พุทธโดยแก่นแท้ แต่มูมากเกินไปกฎเกณฑ์มากเกินไปจนผมรู้สึกแพนิก หวาดระแวง แบบผ่อนส่งไปแล้ว
    สองวันหลังยกเลิกงานที่ไม่ไหวจะเคลียร์ ทำต่อไม่ไหว คือจะทำเท่าที่ทำได้ แต่อยากให้ผมแก้ปัญหาคนเดียว และอีกปัจจัยนึงคือเพื่อนโปรแกรมเมอร์ที่ประสบการณ์มากกว่าเขาไม่ว่างกัน คือผมไปขอความช่วยเหลือเพื่อศึกษาจากรุ่นพี่ก็ไม่ได้ ให้ผมแก้ แต่กว่าจะได้เงินมาก็ไส้แห้งพอดี ได้เงินก็ได้มาน้อยมาก จนผมตัดสินใจยกเลิกไม่รับงานมันไปทำอย่างอื่นที่ตอบโจทย์กว่านี้ดีกว่า แต่สุดท้ายต้องยกเลิกเพราะทำต่อไปไม่ไหวจริงๆ แต่ไม่ค่อยมีใครโทรตามไปแก้ คือลูกค้าเขาเอือมระอาและโกรธแค้นผมมากที่ผมทำงานของคนที่จ้างผม(เขามีลูกค้าของเขาและเป็นลูกค้าของลูกค้าของผม)จนคนที่จ้างผมอมขี้ฟันลูกค้ามาด่าและแทงใจดำ จนผมนอยด์และดิ่ง ทนกับมันมานาน เกรงใจคนในครอบครัวมานาน แน่นอนครอบครัวไม่ใช่เซฟโซนนานแล้ว และกกลับบ้านเกิดก็ไม่ใช่เซฟโซนอีก เพราะทุกคนในครอบครัวกดดันให้ผมสอบงานราชการซึ่งไม่ใช่ทางผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมสอบ กพ. เพื่อเป็นทางผ่านไปสอบ TOEIC รอบแก้แค้นแทน และ CU-TEP ต่อ เพื่อสร้างตัวตนที่ดีกว่านี้ แต่ผมสามารถอยู่ยืนได้ด้วยลำแข้งลำขาตนเองได้ แต่ผมคงกร่อยต่อไปไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ที่จะปลูกต้นกล้าผักกาดที่เบียดกันอยู่ต่อขอหยุดทำไปก่อนเพราะทางบ้านเขาเริ่มไม่พอใจผมแล้ว เลยต้องหยุดทำไว้ก่อนเพื่อลดแรงเสียดทานก่อนที่จะบานปลายและรุนแรงไปมากกว่านี้ แต่ทนอยู่กับทางบ้านและครอบครัวที่ทั้งครอบครัวไม่ถูกกับผมเพื่ออนาคตวันข้างหน้าและถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจริงๆและเด็ดขาดชัดเจนว่าจะไม่อยู่ร่วมกัน ต่างคนต่างอยู่ ผมไม่ตัดตัวเองออกจากครอบครัว ถึงทั้งครอบครัวจะตัดผมเพราะผมคือมะเร็งเนื้อร้ายก็ตัดไป เพราะก่อนจะทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อตัวเองก่อน ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ครอบครัวกดดัน ตัวเองก็พยายามจะไม่ตามครอบครัวไปทุกเรื่องจนผมเสียความเป็นตัวตน เงินหาใหม่ได้ หาเมื่อไหร่ก็ได้ งานเราสร้างมาเองได้ ไม่ต้องฝากประวัติเพื่อทำงานเป็นลูกจ้างใคร คือทางบ้านเขาติดมูหนักมากจนเขาพยายามห้ามไม่ให้กินเนื้อวัว สุดท้ายก็ต้องกิน ส่วนเรื่องกินเนื้อแพะฟรีไม่ได้กิน ไม่รู้ทางบ้านกับครอบครัวเขาเคร่งมูจัดอะไรนักหนา ผมนับถือแค่พุทธโดยแก่นแท้ แต่มูมากเกินไปกฎเกณฑ์มากเกินไปจนผมรู้สึกแพนิก หวาดระแวง แบบผ่อนส่งไปแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • "คู่เวร"—บทเรียนที่ต้องเรียนให้จบ


    ---

    📌 ทำไมต้องเจอคู่เวร?

    ทุกคนเคย อธิษฐานขอไม่เจอ คู่เวร

    แต่สุดท้าย… ก็ต้องเจออยู่ดี

    “ความอยาก” ไม่ใช่ตัวกำหนด

    “กรรม” เท่านั้นที่มีผลจริง


    💡 เจอคู่เวร เพราะเคยทำกรรมร่วมกันมา
    ✔ บางครั้งเราเป็นฝ่ายให้ทุกข์
    ✔ บางครั้งเราเป็นฝ่ายรับทุกข์
    ✔ บางครั้งเราเคยรักกันมาก่อน
    ✔ บางครั้งเราเคยเกลียดกันสุดหัวใจ


    ---

    🔄 วงจรของ “คู่เวร”

    1️⃣ เคยรักกัน → ดึงดูดเข้าหากัน
    2️⃣ เคยเกลียดกัน → ผลักไสกัน
    3️⃣ ทำร้ายกันในอดีต → ต้องใช้กรรม
    4️⃣ พอเจอกันใหม่ = ยังรู้สึกแย่
    5️⃣ ทำเวรต่อกัน = ยิ่งต้องเจออีก

    🔥 "อธิษฐานขอไม่เจอ" ไม่ได้ผล
    🔥 เพราะจิตยังแบกความเกลียดอยู่
    🔥 ความคิดลบ = พลังดึงดูดใหม่


    ---

    🔑 วิธี “ปลดล็อกคู่เวร”

    1) อย่าอธิษฐาน "ขอไม่เจอ" อีก

    ✅ เพราะเป็น พลังผลักออก ที่ทำให้
    ➡ รู้สึกแย่ทุกครั้งที่เจอ
    ➡ เหม็นหน้าโดยไม่รู้เหตุผล
    ➡ ลงเอยด้วยการอธิษฐานซ้ำ

    2) เปลี่ยนเป็น “ขออโหสิกรรม”

    ✅ แทนที่จะขอไม่เจอ
    ✅ ขอให้กรรมระงับในชาตินี้
    ✅ ขออโหสิให้กัน ไม่ต้องใช้เวรต่อกันอีก

    3) เปลี่ยน "เกลียด" เป็น "แผ่เมตตา"

    ✅ แผ่เมตตาทุกครั้งที่คิดถึงเขา
    ✅ อธิษฐานให้เขาเป็นสุข
    ✅ เพราะคนละระดับบุญ = ออกจากวงโคจรได้เร็ว

    4) ยกระดับบุญของตัวเองให้สูงขึ้น

    ✅ ถ้าคู่เวรอยู่ใน ระดับพลังลบ
    ✅ แล้วเรายกระดับตัวเองสูงขึ้นเรื่อยๆ
    ✅ คลื่นพลังไม่ตรงกัน = ไม่ต้องมาเจอกันอีก


    ---

    ⛔ ถ้าไม่ปล่อยวาง จะเป็นแบบนี้

    ❌ เจอคู่เวรซ้ำๆ แบบ เดจาวู
    ❌ ไม่เจอเขา → แต่เจอคนแบบเขาอีก
    ❌ เปลี่ยนแฟนกี่คน ก็เจอแบบเดิม
    ❌ เปลี่ยนที่ทำงาน ก็เจอเจ้านายแบบเดิม
    ❌ หนีไปที่ไหน ก็ยังต้องใช้กรรมอยู่ดี


    ---

    ✅ ทางออกที่ดีที่สุด

    ✔ เจริญสติให้รู้ทัน → ว่าเราแบกอะไรไว้
    ✔ อโหสิกรรมให้กัน → แค่ตั้งจิตให้อภัยก็พอ
    ✔ แผ่เมตตาให้เขา → ลดแรงกรรมต่อกัน
    ✔ สร้างบุญให้สูงขึ้น → ไม่ต้องกลับมาเจอเวรนี้อีก

    💡 “ยิ่งอโหสิ ยิ่งหลุดออกจากวงเวียนกรรม”
    💡 "ยิ่งเกลียด ยิ่งต้องเจอกันอีก"
    💡 "ยิ่งปล่อยวาง ยิ่งเบา และหมดเวรหมดกรรมเร็วขึ้น"

    🔥 "ดีที่สุด คือ ให้เวรจบที่เรา ไม่ต้องส่งต่ออีก!" 🔥

    "คู่เวร"—บทเรียนที่ต้องเรียนให้จบ --- 📌 ทำไมต้องเจอคู่เวร? ทุกคนเคย อธิษฐานขอไม่เจอ คู่เวร แต่สุดท้าย… ก็ต้องเจออยู่ดี “ความอยาก” ไม่ใช่ตัวกำหนด “กรรม” เท่านั้นที่มีผลจริง 💡 เจอคู่เวร เพราะเคยทำกรรมร่วมกันมา ✔ บางครั้งเราเป็นฝ่ายให้ทุกข์ ✔ บางครั้งเราเป็นฝ่ายรับทุกข์ ✔ บางครั้งเราเคยรักกันมาก่อน ✔ บางครั้งเราเคยเกลียดกันสุดหัวใจ --- 🔄 วงจรของ “คู่เวร” 1️⃣ เคยรักกัน → ดึงดูดเข้าหากัน 2️⃣ เคยเกลียดกัน → ผลักไสกัน 3️⃣ ทำร้ายกันในอดีต → ต้องใช้กรรม 4️⃣ พอเจอกันใหม่ = ยังรู้สึกแย่ 5️⃣ ทำเวรต่อกัน = ยิ่งต้องเจออีก 🔥 "อธิษฐานขอไม่เจอ" ไม่ได้ผล 🔥 เพราะจิตยังแบกความเกลียดอยู่ 🔥 ความคิดลบ = พลังดึงดูดใหม่ --- 🔑 วิธี “ปลดล็อกคู่เวร” 1) อย่าอธิษฐาน "ขอไม่เจอ" อีก ✅ เพราะเป็น พลังผลักออก ที่ทำให้ ➡ รู้สึกแย่ทุกครั้งที่เจอ ➡ เหม็นหน้าโดยไม่รู้เหตุผล ➡ ลงเอยด้วยการอธิษฐานซ้ำ 2) เปลี่ยนเป็น “ขออโหสิกรรม” ✅ แทนที่จะขอไม่เจอ ✅ ขอให้กรรมระงับในชาตินี้ ✅ ขออโหสิให้กัน ไม่ต้องใช้เวรต่อกันอีก 3) เปลี่ยน "เกลียด" เป็น "แผ่เมตตา" ✅ แผ่เมตตาทุกครั้งที่คิดถึงเขา ✅ อธิษฐานให้เขาเป็นสุข ✅ เพราะคนละระดับบุญ = ออกจากวงโคจรได้เร็ว 4) ยกระดับบุญของตัวเองให้สูงขึ้น ✅ ถ้าคู่เวรอยู่ใน ระดับพลังลบ ✅ แล้วเรายกระดับตัวเองสูงขึ้นเรื่อยๆ ✅ คลื่นพลังไม่ตรงกัน = ไม่ต้องมาเจอกันอีก --- ⛔ ถ้าไม่ปล่อยวาง จะเป็นแบบนี้ ❌ เจอคู่เวรซ้ำๆ แบบ เดจาวู ❌ ไม่เจอเขา → แต่เจอคนแบบเขาอีก ❌ เปลี่ยนแฟนกี่คน ก็เจอแบบเดิม ❌ เปลี่ยนที่ทำงาน ก็เจอเจ้านายแบบเดิม ❌ หนีไปที่ไหน ก็ยังต้องใช้กรรมอยู่ดี --- ✅ ทางออกที่ดีที่สุด ✔ เจริญสติให้รู้ทัน → ว่าเราแบกอะไรไว้ ✔ อโหสิกรรมให้กัน → แค่ตั้งจิตให้อภัยก็พอ ✔ แผ่เมตตาให้เขา → ลดแรงกรรมต่อกัน ✔ สร้างบุญให้สูงขึ้น → ไม่ต้องกลับมาเจอเวรนี้อีก 💡 “ยิ่งอโหสิ ยิ่งหลุดออกจากวงเวียนกรรม” 💡 "ยิ่งเกลียด ยิ่งต้องเจอกันอีก" 💡 "ยิ่งปล่อยวาง ยิ่งเบา และหมดเวรหมดกรรมเร็วขึ้น" 🔥 "ดีที่สุด คือ ให้เวรจบที่เรา ไม่ต้องส่งต่ออีก!" 🔥
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในขณะที่บริษัทเทคฯ ของอเมริกากำลังลดแรงงานด้านเทคโนโลยี ลุงเห็นว่าจีนต้องรีบฉวยโอกาสจ้างงานคนเหล่านี้เข้ามาเสริมความรู้ให้มากขึ้น แต่อเมริกาของลุงตั๊มป์จะขวางไหมนะ ??!!

    https://www.thairath.co.th/money/economics/global_economics/2842408
    ในขณะที่บริษัทเทคฯ ของอเมริกากำลังลดแรงงานด้านเทคโนโลยี ลุงเห็นว่าจีนต้องรีบฉวยโอกาสจ้างงานคนเหล่านี้เข้ามาเสริมความรู้ให้มากขึ้น แต่อเมริกาของลุงตั๊มป์จะขวางไหมนะ ??!! https://www.thairath.co.th/money/economics/global_economics/2842408
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    โลกบีบจีนไร้ทางเลือก ? สี จิ้นผิง เรียกพบแจ็ค หม่า และผู้บริหารบิ๊กเทค ระดมกำลังฟื้นเศรษฐกิจ
    สี จิ้นผิง เชิญ แจ็ค หม่า พร้อมผู้บริหารบิ๊กเทคจีนและผู้ประกอบการภาคเอกชนระดับแนวหน้าเข้าพบในการประชุมนัดพิเศษ ส่งสัญญาณนโยบายเชิงบวกต่อภาคเอกชน หันหัวเรือกลับมาสนับสนุนเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจสู้กำแพงภาษีสหรัฐฯ หลังจากมีการปราบปรามมาเป็นเวลานานกว่าสี่ปี
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานจาก Wall Street Journal ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการให้ TSMC นำประสบการณ์ด้านการผลิตชิปขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยี EUV lithography มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตของ Intel อีกทั้งยังมีข่าวลือจาก Financial Times ว่า TSMC กำลังเร่งขยายการดำเนินงานในโรงงานผลิตชิปที่ Arizona

    Tristan Gerra นักวิเคราะห์จาก Baird ได้ส่งข้อมูลถึงลูกค้าว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังสนับสนุนให้มีการส่งวิศวกรของ TSMC ไปยังโรงงานผลิตชิปขนาด 3nm และ 2nm ของ Intel เพื่อให้โรงงานและโครงการผลิตชิปต่างๆ ของ Intel มีความเป็นไปได้มากขึ้น แนวคิดนี้ก็คือให้โรงงานนั้นถูกหมุนเวียนออกมาเป็นบริษัทใหม่ที่เป็นเจ้าของร่วมโดย TSMC และ Intel และดำเนินการโดย TSMC ซึ่งจะได้รับเงินทุนจาก U.S. Chip Act

    แม้ว่าข่าวลือนี้จะยังไม่มีการยืนยันและอาจใช้เวลานานในการนำไปปฏิบัติ นักวิเคราะห์มองว่าแนวทางนี้มีเหตุผล เพราะจะช่วยลดแรงกดดันทางการเงินของ Intel และช่วยให้สามารถมุ่งเน้นไปที่การออกแบบชิปและโซลูชันแพลตฟอร์ม ขณะเดียวกัน โรงงานผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพและมีความสามารถแข่งขันก็จะสามารถดึงดูดนักออกแบบชิปชั้นนำได้

    อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลในด้านเทคโนโลยีที่ TSMC และ Intel อาจต้องปรับแต่งกระบวนการผลิตของตน และด้านธุรกิจที่ TSMC อาจไม่ต้องการช่วย Intel เนื่องจากเป็นคู่แข่งกัน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/us-govt-pushing-tsmc-and-intel-to-create-joint-venture-in-the-us-report
    มีรายงานจาก Wall Street Journal ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการให้ TSMC นำประสบการณ์ด้านการผลิตชิปขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยี EUV lithography มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตของ Intel อีกทั้งยังมีข่าวลือจาก Financial Times ว่า TSMC กำลังเร่งขยายการดำเนินงานในโรงงานผลิตชิปที่ Arizona Tristan Gerra นักวิเคราะห์จาก Baird ได้ส่งข้อมูลถึงลูกค้าว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังสนับสนุนให้มีการส่งวิศวกรของ TSMC ไปยังโรงงานผลิตชิปขนาด 3nm และ 2nm ของ Intel เพื่อให้โรงงานและโครงการผลิตชิปต่างๆ ของ Intel มีความเป็นไปได้มากขึ้น แนวคิดนี้ก็คือให้โรงงานนั้นถูกหมุนเวียนออกมาเป็นบริษัทใหม่ที่เป็นเจ้าของร่วมโดย TSMC และ Intel และดำเนินการโดย TSMC ซึ่งจะได้รับเงินทุนจาก U.S. Chip Act แม้ว่าข่าวลือนี้จะยังไม่มีการยืนยันและอาจใช้เวลานานในการนำไปปฏิบัติ นักวิเคราะห์มองว่าแนวทางนี้มีเหตุผล เพราะจะช่วยลดแรงกดดันทางการเงินของ Intel และช่วยให้สามารถมุ่งเน้นไปที่การออกแบบชิปและโซลูชันแพลตฟอร์ม ขณะเดียวกัน โรงงานผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพและมีความสามารถแข่งขันก็จะสามารถดึงดูดนักออกแบบชิปชั้นนำได้ อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลในด้านเทคโนโลยีที่ TSMC และ Intel อาจต้องปรับแต่งกระบวนการผลิตของตน และด้านธุรกิจที่ TSMC อาจไม่ต้องการช่วย Intel เนื่องจากเป็นคู่แข่งกัน https://www.tomshardware.com/tech-industry/us-govt-pushing-tsmc-and-intel-to-create-joint-venture-in-the-us-report
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 412 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌 กรรมเก่ากำหนดตัวตนใหม่ และบทบาทในสังคม

    คนเราเกิดมาต่างกัน
    ไม่ใช่แค่หน้าตา ฐานะ หรือสติปัญญา
    แต่ยังรวมถึง “พลังของกรรม”
    ที่ส่งผลให้ บางคนเป็นผู้ได้รับการยกย่อง
    และ บางคนเป็นเป้าหมายของการถูกแกล้ง


    ---

    📌 ทำไมบางคนเหมือนถูก ‘ชี้เป้า’ ให้โดนแกล้ง?

    ✔ กรรมเก่าทำให้ดึงดูด ‘ความอยากแกล้ง’ จากคนรอบข้าง
    ✔ เคยสร้างความอับอายให้คนอื่น → จึงต้องเผชิญความอับอายเอง
    ✔ เคยทำร้ายใครโดยไม่มีเหตุผล → จึงต้องเจอการถูกทำร้ายแบบไร้เหตุผล

    📌 บางคนแค่เดินเข้ามาในห้อง
    คนรอบข้างก็รู้สึกอยากเยาะเย้ย
    เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง
    กระตุ้นให้คนอยากทำให้เขาเจ็บปวด

    📌 นี่อาจเป็น “ผลของกรรม”
    ที่ดึงพลังแห่ง “อารมณ์สาธารณะ” ออกมา
    ทำให้มวลชนมองไปในทางเดียวกัน
    และรู้สึกว่าสมควรที่จะถูกกระทำ


    ---

    📌 หากเห็นใครเป็นเป้าของการถูกแกล้ง ควรทำอย่างไร?

    ⚠ ระวังตัวเองให้ดี
    เพราะ เราอาจกำลังตกเป็น ‘เครื่องมือของกรรมคนอื่น’

    ⚠ หยุดความคิด ‘คันไม้คันมือ’ อยากแกล้ง

    ทุกครั้งที่รู้สึกอยากล้อเลียนใคร

    ทุกครั้งที่คิดว่า "ล้อเล่นนิดเดียว ไม่เป็นไรหรอก"

    หยุดก่อนแล้วถามตัวเองว่า
    “นี่เรากำลังสร้างกรรมใหม่อยู่หรือเปล่า?”


    ⚠ อย่ามองว่า ‘แกล้งกันสนุก’ เป็นเรื่องปกติ

    คนถูกแกล้งอาจไม่ได้ขำไปด้วย

    บางทีเขาแค่กลั้นใจยิ้ม แต่ในใจทุกข์มาก

    กรรมไม่ได้ดูว่า “เล่นๆ” หรือ “จริงจัง”

    กรรมดูที่ “ความรู้สึกของผู้ถูกกระทำ”



    ---

    📌 ใครเคยแกล้งคนอื่นมาก่อน จะหลีกเลี่ยงกรรมร้ายได้ไหม?

    ได้ ถ้าเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้

    ✅ 1. หยุดสร้างกรรมใหม่ทันที

    ไม่ซ้ำเติม ไม่แกล้งใครให้ทุกข์ใจ

    ไม่หัวเราะเยาะคนที่อับอาย


    ✅ 2. ชดเชยกรรมเก่าด้วยการให้โอกาสคนอื่น

    หากเจอคนที่เคยแกล้งมาก่อน → ยอมรับผิด

    หากเห็นใครกำลังถูกกลั่นแกล้ง → ช่วยห้าม


    ✅ 3. เจริญเมตตา สร้างพลังใจให้ตัวเองและผู้อื่น

    กรรมดีสามารถลดแรงกรรมเก่าได้

    เมตตาต่อผู้อื่น คือการเมตตาต่ออนาคตของตัวเอง



    ---

    📌 กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาด

    คนที่เคยแกล้ง → วันหนึ่งต้องถูกแกล้ง
    คนที่เคยหัวเราะเยาะ → วันหนึ่งต้องเป็นเป้าหัวเราะเยาะ
    คนที่เคยทำให้คนอื่นอับอาย → วันหนึ่งต้องอับอายเอง

    แต่หากเราหยุดวงจรนี้ได้
    กรรมร้ายจะไม่ส่งต่อมาถึงเรา

    “หยุดแกล้งคนอื่น = หยุดกรรมของตัวเอง”

    📌 กรรมเก่ากำหนดตัวตนใหม่ และบทบาทในสังคม คนเราเกิดมาต่างกัน ไม่ใช่แค่หน้าตา ฐานะ หรือสติปัญญา แต่ยังรวมถึง “พลังของกรรม” ที่ส่งผลให้ บางคนเป็นผู้ได้รับการยกย่อง และ บางคนเป็นเป้าหมายของการถูกแกล้ง --- 📌 ทำไมบางคนเหมือนถูก ‘ชี้เป้า’ ให้โดนแกล้ง? ✔ กรรมเก่าทำให้ดึงดูด ‘ความอยากแกล้ง’ จากคนรอบข้าง ✔ เคยสร้างความอับอายให้คนอื่น → จึงต้องเผชิญความอับอายเอง ✔ เคยทำร้ายใครโดยไม่มีเหตุผล → จึงต้องเจอการถูกทำร้ายแบบไร้เหตุผล 📌 บางคนแค่เดินเข้ามาในห้อง คนรอบข้างก็รู้สึกอยากเยาะเย้ย เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง กระตุ้นให้คนอยากทำให้เขาเจ็บปวด 📌 นี่อาจเป็น “ผลของกรรม” ที่ดึงพลังแห่ง “อารมณ์สาธารณะ” ออกมา ทำให้มวลชนมองไปในทางเดียวกัน และรู้สึกว่าสมควรที่จะถูกกระทำ --- 📌 หากเห็นใครเป็นเป้าของการถูกแกล้ง ควรทำอย่างไร? ⚠ ระวังตัวเองให้ดี เพราะ เราอาจกำลังตกเป็น ‘เครื่องมือของกรรมคนอื่น’ ⚠ หยุดความคิด ‘คันไม้คันมือ’ อยากแกล้ง ทุกครั้งที่รู้สึกอยากล้อเลียนใคร ทุกครั้งที่คิดว่า "ล้อเล่นนิดเดียว ไม่เป็นไรหรอก" หยุดก่อนแล้วถามตัวเองว่า “นี่เรากำลังสร้างกรรมใหม่อยู่หรือเปล่า?” ⚠ อย่ามองว่า ‘แกล้งกันสนุก’ เป็นเรื่องปกติ คนถูกแกล้งอาจไม่ได้ขำไปด้วย บางทีเขาแค่กลั้นใจยิ้ม แต่ในใจทุกข์มาก กรรมไม่ได้ดูว่า “เล่นๆ” หรือ “จริงจัง” กรรมดูที่ “ความรู้สึกของผู้ถูกกระทำ” --- 📌 ใครเคยแกล้งคนอื่นมาก่อน จะหลีกเลี่ยงกรรมร้ายได้ไหม? ได้ ถ้าเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้ ✅ 1. หยุดสร้างกรรมใหม่ทันที ไม่ซ้ำเติม ไม่แกล้งใครให้ทุกข์ใจ ไม่หัวเราะเยาะคนที่อับอาย ✅ 2. ชดเชยกรรมเก่าด้วยการให้โอกาสคนอื่น หากเจอคนที่เคยแกล้งมาก่อน → ยอมรับผิด หากเห็นใครกำลังถูกกลั่นแกล้ง → ช่วยห้าม ✅ 3. เจริญเมตตา สร้างพลังใจให้ตัวเองและผู้อื่น กรรมดีสามารถลดแรงกรรมเก่าได้ เมตตาต่อผู้อื่น คือการเมตตาต่ออนาคตของตัวเอง --- 📌 กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาด คนที่เคยแกล้ง → วันหนึ่งต้องถูกแกล้ง คนที่เคยหัวเราะเยาะ → วันหนึ่งต้องเป็นเป้าหัวเราะเยาะ คนที่เคยทำให้คนอื่นอับอาย → วันหนึ่งต้องอับอายเอง แต่หากเราหยุดวงจรนี้ได้ กรรมร้ายจะไม่ส่งต่อมาถึงเรา “หยุดแกล้งคนอื่น = หยุดกรรมของตัวเอง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่านที่เกิดปีมะโรง

    ในปี 2568 นี้... พลังชีวิตของคนที่เกิดปีมะโรงทุกๆคนจะพลิกผันสำเร็จอย่างราบรื่น ด้วยอิทธิพลของดาวเทพมงคล太陽(ไท้เอี้ยง)และดาวเทพ มงคล天喜(เทียงฮี้) ช่วยผ่อนคลายพลังดาวร้ายให้ลดแรงอิทธิฤทธิ์ลง ส่งผลให้กิจการงานค้าขายได้ผลประโยชน์กำไรงอกเงยงามทำให้ชีวิตรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้า มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีขึ้นสูงขึ้น พร้อมรับข่าวดีมีเรื่องมงคลเกิดขึ้นภายในบ้าน ช่วยเสริมสร้างพลังกำลังใจให้มีแรงฮึดสู้ตลอดทั้งปีนี้

    แม้จะถูกพลังดาวอัปมงคลดาวร้าย 晦氣(ห้วยขี่) ดาวร้าย 天空(เทียนคง) ดาวร้าย 孤辰(โกวซิ้ง) และ ดาวร้าย 劫煞(เกี๊ยบสั่วะ) ยังผลให้เกิดอุปสรรคปัญหาผิดพลาดวุ่นวาย ไปยุ่งเรื่องคนอื่นจะเกิดปากเสียงทะเลาะเบาะแว้ง คนรอบข้างให้ร้ายใส่ความลับหลังจนผิดพลาด จะรู้สึกโดดเดี่ยวแปลกแยกเหมือนไม่มีใครเข้าใจ ทั้งยังเบื่อหน่ายอยากเก็บตัวห่างจากสังคมที่วุ่นวาย หรือเป็นเพราะลูกน้องและบริวาร หรือธุรกิจการงานที่ต้องทุ่มเทผลประโยชน์จึงจะได้มา การเงินเสียหายใช้จ่ายเป็นรายวันควรรู้จักยับยั้งชั่งใจไว้บ้าง เงินทองจะหมดไปในเรื่องชู้สาว เพศตรงข้ามจะสร้างปัญหาแก่ชีวิตให้วุ่นวาย ซ้ำร้ายยังมีเกณฑ์จะถูกปล้นแย่งชิงทรัพย์ให้ต้องสูญเสียต้องระมัดระวังอีกเช่นกัน
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ท่านที่เกิดปีมะโรง ในปี 2568 นี้... พลังชีวิตของคนที่เกิดปีมะโรงทุกๆคนจะพลิกผันสำเร็จอย่างราบรื่น ด้วยอิทธิพลของดาวเทพมงคล太陽(ไท้เอี้ยง)และดาวเทพ มงคล天喜(เทียงฮี้) ช่วยผ่อนคลายพลังดาวร้ายให้ลดแรงอิทธิฤทธิ์ลง ส่งผลให้กิจการงานค้าขายได้ผลประโยชน์กำไรงอกเงยงามทำให้ชีวิตรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้า มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีขึ้นสูงขึ้น พร้อมรับข่าวดีมีเรื่องมงคลเกิดขึ้นภายในบ้าน ช่วยเสริมสร้างพลังกำลังใจให้มีแรงฮึดสู้ตลอดทั้งปีนี้ แม้จะถูกพลังดาวอัปมงคลดาวร้าย 晦氣(ห้วยขี่) ดาวร้าย 天空(เทียนคง) ดาวร้าย 孤辰(โกวซิ้ง) และ ดาวร้าย 劫煞(เกี๊ยบสั่วะ) ยังผลให้เกิดอุปสรรคปัญหาผิดพลาดวุ่นวาย ไปยุ่งเรื่องคนอื่นจะเกิดปากเสียงทะเลาะเบาะแว้ง คนรอบข้างให้ร้ายใส่ความลับหลังจนผิดพลาด จะรู้สึกโดดเดี่ยวแปลกแยกเหมือนไม่มีใครเข้าใจ ทั้งยังเบื่อหน่ายอยากเก็บตัวห่างจากสังคมที่วุ่นวาย หรือเป็นเพราะลูกน้องและบริวาร หรือธุรกิจการงานที่ต้องทุ่มเทผลประโยชน์จึงจะได้มา การเงินเสียหายใช้จ่ายเป็นรายวันควรรู้จักยับยั้งชั่งใจไว้บ้าง เงินทองจะหมดไปในเรื่องชู้สาว เพศตรงข้ามจะสร้างปัญหาแก่ชีวิตให้วุ่นวาย ซ้ำร้ายยังมีเกณฑ์จะถูกปล้นแย่งชิงทรัพย์ให้ต้องสูญเสียต้องระมัดระวังอีกเช่นกัน ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 374 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เซลลูไลท์ คือการสะสมของไขมันที่เป็นของเหลวเเละสารพิษที่ติดค้างอยู่ในร่างกาย สะสมกันจนเป็นชั้นคลื่นอยู่ในเนื้อเยื่อที่เชื่อมต่ออยู่ใต้ผิวหนัง เซลลูไลท์จะเกิดขึ้นในชั้นผิวหนังของคนที่มีการระบายน้ำเหลืองไม่มีประสิทธิภาพ ร่างกายไม่สามารถขับไขมันและของเสียออกไปได้จนเกิดการสะสมของไขมันที่เป็นของเหลวและสารพิษ กลายเป็นผิวเซลลูไลท์ที่ดูน่าเกลียด ใหญ่เทอะทะผิวไม่เรียบคล้ายผิวส้ม ไขมันนี้จะพบได้ทั้งในคนผอมและคนอ้วน ร่างกายจะสามารถสะสมได้ที่บริเวณ ท้องแขน หน้าท้อง ต้นขา และสะโพกและมันก็เป็นเรื่องของผู้หญิงซะมากกว่า สาเหตุ- ร่างกายมีการเผาผลาญที่ผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถเผาผลาญไขมันใต้ผิวหนังออกจากร่างกายได้หมด- กรรมพันธ์ แตกต่างจากกรรมพันธ์ในเรื่องของเล็บหรือลักษณะของผม ตรงที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพของเซลลูไลท์ได้- ดื่มน้ำน้อย เพราะน้ำช่วยในการทำงานของระบบขับของเสีย และช่วยขับพิษออกจากร่างกาย กำหนดว่าควรดื่มน้ำแปดแก้วต่อวันเป็นอย่างน้อย- แอลกอฮอล์ คาเฟอีน อาหารรสจัด ล้วนก่อให้เกิดเซลลูไลท์ได้ทั้งสิ้น เพราะพิษที่สารดังกล่าวขับออกมาจะถูกกักอยู่ในเนื้อเยื่อไขมัน- การลดความอ้วนแบบเร่งด่วน จะยิ่งไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเซลลูไลท์อย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจาก ร่างกายเกิดการตอบรับว่า ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและต้องพยายามสะสมสารอาหารในร่างกายเพื่อความอยู่รอด- การสะสมอาหารและไขมัน ช่วยก่อเซลลูไลท์และกั้นเส้นเลือดจนติดหนึบอยู่ในเนื้อเยื่อ จึงทำให้ระบบกำจัดสารพิษและของเสียขาดประสิทธิภาพ- การสูบบุหรี่ ทำร้ายทั้งผิว ทั้งปอด ทำให้ผิวอ่อนแอ เส้นเลือดฝอยหดตัวและยังทำให้เนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกันถูกทำลายอันเป็นผลให้เกิดคลื่นเซลลูไลท์- ความเครียด เป็นผลให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวหนัก เนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกล้ามเนื้อก็ขมวดเกร็งตามไปด้วย ความตึงเครียดยังไปขวางเนื้อเยื่อไม่ให้กำจัดของเสียและล้างเลือดให้สะอาด- การใช้ยาลดความอ้วน ยานอนหลับ ยาขับปัสสาวะ จะเข้าไปรบกวนกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของร่างกาย โดยเฉพาะระบบชำระเลือดอันนำไปสู่ปัญหาเซลลูไลท์- ยาคุมกำเนิด ประเภทรับประทานซึ่งไปเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน จะทำให้เซลล์ไขมันขยายตัวและเก็บน้ำจนบวม ร่างกายไม่มีน้ำพอที่จะขับของเสียออกจากร่างกาย สุดท้ายก็กลายเป็นเซลลูไลท์- เซลล์ของไขมันบวมเนื่องจากมีการสะสมไขมันไว้ในเซลล์เป็นปริมาณมาก- ผนังหลอดเลือดของเซลล์ไขมันรั่วทำให้มีน้ำซึมผ่านออกจากเซลล์ไขมันทำให้เกิดการคั่งของน้ำ- เซลล์ของไขมันจับกันเป็นกลุ่มโดยมี collagen ล้อมรอบซึ่งทำให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ- เนื้อเยื่อเกี่ยวพันดึงผิวหนังตำแหน่งที่ยึดกับผิวหนังทำให้ผิวหนังเป็นลอนคล้ายริ้วคลื่นห้ามคิดว่าไม่มีโทษนะ มันร้ายแรงไม่มากในช่วงต้นๆ แต่เมื่อปล่อยไว้ระยะยาวแล้วระบบคุณรวนแน่ ๆ:1.ส่งผลต่อการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง2.ส่งผลต่อระบบขับของเสียในร่างกายจนเกิดความผิดปกติการแก้ไข ต้องดูสาเหตุเป็นรายคนไปแต่การผ่าตัดหรือดูดออกเป็นเรื่องไร้สาระเพราะ ร้อยทั้งร้อยกลับมาเหมือนเดิมเพราะไม่ได้แก้ที่สาเหตุ โภชนาการเพื่อการป้องกันและแก้ไข- ทานให้ครบหมู่และหลากหลายเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งไป เพียงแต่ลดสัดส่วนของอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมันและพยายามเน้นหนักที่ผักให้มาก เพราะกากใยจะช่วยขับล้างสารพิษตกค้างในร่างกาย อีกทั้งวิตามินซีและวิตามินอีมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ผิวหนังกระชับขึ้น - ควรเน้นอาหารกลุ่มที่มีกรดไขมัน ถั่ว น้ำมันปลา เมล็ดพืชที่ช่วยการไหลเวียนของโลหิตและกินอาหารโปรตีนไขมันต่ำเป็นประจำ เนื่องจากร่างกายใช้พลังงานในการย่อยอาหารพวกโปรตีนมากกว่าการย่อยไขมันหรือคาร์โบไฮเดรตถึงสองเท่า เรียกว่าอิ่มเท่ากันแต่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญมากกว่า นอกจากนี้สารแอลบูมินที่มีอยู่ในอาหารกลุ่มโปรตีนไขมันต่ำจำพวกถั่ว ยังสามารถช่วยลดระดับของเหลวที่สะสมในเซลล์ไขมันได้ ทำให้กระบวนการไหลเวียนของโลหิตกับน้ำเหลืองคล่องตัว และเพื่อให้ได้ผลควรลดอาหารเค็มควบคู่ไปด้วย- ลดการให้อาหารแก่เซลลูไลต์เพราะยิ่งกินเท่ากับสนับสนุนให้ร่างกายสะสมเซลลูไลต์และไขมันส่วนเกิน อาหารกลุ่มนี้ได้แก่•อาหารทั้งมันและหวาน อาหารที่ให้พลังงานสูง ๆ โดยเฉพาะอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล ซึ่งจะไปเพิ่มอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหนังหย่อนยานลง เกิดริ้วรอย และเพิ่มแคลอรี่ให้กับร่างกายด้วย ถ้ากินมากไปร่างกายใช้ไม่หมดก็จะเกิดการสะสมเซลลูไลต์และไขมันส่วนเกินทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น•น้ำตาลแลคโตสในผลิตภัณฑ์นมวัว เพราะยิ่งอายุมากขึ้นความสามารถในการย่อยน้ำตาลชนิดนี้จะลดลง•กาเฟอีนจากชา กาแฟ เพราะจะไปกดสมดุลฮอร์โมน •อาหารที่ผ่านกระบวนการแปลงสภาพมากจนจำไม่ได้ว่าทำมาจากอะไร เช่น แฮม เบคอน ไส้กรอก แหนม หมูแผ่น หมูหย็อง ขนมปัง คุกกี้ เบเกอรี่ทุกชนิด เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นสปาเกตตี อาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูป เพราะอาหารเหล่านี้มักมีสารปนเปื้อนและสารพิษที่จะไปตกค้างในร่างกายและเซลล์ไขมันได้•อาหารเค็มจัด เพราะจะยิ่งเพิ่มการคั่งของสารน้ำในเซลล์ไขมันมากขึ้น•แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในเบียร์และไวน์ เพราะหากดื่มมาก ๆ จะกลายเป็นสารพิษตกค้างอยู่ในร่างกายและเซลล์ไขมัน ซึ่งนั่นคือที่มาของเซลลูไลต์ กลุ่มนี้งดหรือเลิกขาดได้ก็เยี่ยมเลย- เน้นอาหารธรรมชาติปรุงแต่งให้น้อย แน่นอนว่าหลักการนี้จะคิดถึงอะไรไปไม่ได้ นอกจากผักสด ๆ โดยจะกินเป็นสลัด ตำ ยำ กับน้ำพริก ก็เลือกได้ตามชอบ หรือเมนูที่ผ่านความร้อนไม่เกิน 100 องศา ใช้เวลาปรุงไม่นาน ประโยชน์จากการกินอาหารแบบนี้คือ ช่วยฟื้นฟูพลังงานและผิวพรรณ ทั้งยังช่วยดูแลระบบย่อยอาหารและควบคุมน้ำหนักได้ แถมคุณค่ายังรับไปแบบเต็ม ๆ ตัดโอกาสการตกค้างของเสียได้อีกด้วย- ออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญและขับสารพิษออกทางเหงื่ออีกด้วย วิธีโดยรวมที่จะช่วยลดเซลลูไลท์- หมั่นขัดผิวขา การขัดผิวหรือ Exfoliating คือการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากผิวของเรา ซึ่งเป็นผิวชั้นนอกและเผยเซลล์ผิวรุ่นใหม่ที่แข็งแรงกว่ามาแทนที่ ทำให้ผิวของเราดูสดใสและมีชีวิตชีวา การขัดผิวนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะฟองน้ำ ครีม ใยบวม หินขัด หรือแม้กระทั่งผ้าเช็ดตัวก็สามารถนำมาใช้ได้ แต่การขัดผิวที่ดีนั่นควรทำอย่างนิ่มนวลและไม่ทำบ่อยจนเกินไป เพราะจำทำให้ผิวอ่อนไหว ไม่สามารถทนแดดและจะทำให้แห้งกร้านได้ง่าย ปกติผิวของคนเราจะมีการผลิตเซลล์ผิวทุก 2-4 สัปดาห์ แต่หากอายุเรามากกว่า 20 ปีขึ้นไปการผลัดเซลล์ผิวก็จะช้าลงไปเรื่อยๆ การขัดผิวจะช่วยในการผลัดเซลล์ผิวทำได้ดีขึ้น ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส " การขัดผิวควรทำอยู่ที่สัปดาห์ละไม่กิน 2 ครั้ง ควรทำการขัดเป็นวงกลมเบาๆ หลังขัดควรหามอยส์เจอไรเซอร์มาเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว แค่นี้ก็มีผิวขาที่ขาวใสนวลเนียน "- การนวดก็เป็นอีกวิธีสำหรับการลดเซลลูไลท์ โดยให้นวดเป็นวงเบาๆ ไปให้ทั่วบริเวณขาหรือใต้แขนของคุณเป็นเวลา 10-20 นาทีทุกวัน - กระโดดเชือก การกระโดดเชือกติดต่อกัน 15 นาที เทียบเท่าได้กับการวิ่งจ๊อกกิ้งนานถึง 30 นาที ดาราฮอลลีวูดทั้งหลาย ที่รีบฟิตหุ่นให้ทันเปิดกล้องหนังเรื่องต่อไปใช้การกระโดดเชือกทุกเช้าและเย็น เพื่อเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันและกระชับสัดส่วนแขนขาให้แน่นสวยไม่หย่อนยานการกระโดดเชือกด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง จะช่วยลดแรงกระแทกลงได้มาก ไม่เกิดอันตรายต่อเข่า หรือทำให้เข่าเสื่อม เข่าพัง อย่างที่หลายคนเคยได้ยินกันมา การกระโดดเชือกที่ถูกวิธี จะกระโดดเพียงแค่ต่ำๆ สูงจากพื้นไม่เกิน 1-2 นิ้ว โดยที่จะใช้ข้อเท้า กล้ามเนื้อน่อง รวมถึงการงอเข่าเล็กน้อย ช่วยในการดูดซับแรงกระแทกลงได้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งแรงกระแทกที่เกิดขึ้นยังน้อยกว่าการวิ่งอีกด้วย การกระโดดแบบผิดๆ ด้วยการกระโดดสูงเกินไปต่างหาก ที่มีโอกาสทำให้เข่าพังได้ จากแรงกระแทกที่สูงเกินไป - การย่อเข่าการออกกำลังกายโดยการย่อเข่าไปข้างหน้า วิธีนี้สามารถช่วยในการกำจัดไขมันและช่วยกระชับกล้ามเนื้อต้นขาและลดต้นขาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากคล้ายๆ กับการออกกำลังกายลุกนั่งวิธีการคือ ยืนแยกขาออก ให้ระหว่างขากว้างระยะประมาณหัวไหล่ทั้งสองข้างของเรา แล้วก้าวไปข้างหน้าด้วยเท้าหนึ่งข้างแล้วโยกตัวย่อเข่าลงไปข้างหน้าประมาณ 90 องศา ย่อตัวลงให้หัวเข่าขาหลังอยู่ห่างจากพื้นประมาณ 1 นิ้วพยายามให้หลังและคอเหยียดตรงตลอดเวลา ทิ้งน้ำหนักไปข้างหน้าไปที่ส้นเท้าและหัวเข่า อาจใช้วิธียกลูกเหล็กขนาด 5-10 ปอนด์ตรงด้านข้างลำตัว ระหว่างออกกำลังกายในท่านี้ไปด้วยก็ได้ บริหารต้นขาทั้งสองข้างด้วยท่านี้ประมาณข้างละ 30 ครั้ง พักแล้วเริ่มทำใหม่- การเดิน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีลดต้นขาและเซลลูไลท์ที่ดีอีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากการทำงานของกล้ามเนื้อจากการเดินนั้นทำให้กล้ามเนื้อแข็งแกร่งขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นจึงทำให้ไขมันบริเวณนั้นถูกเผาผลาญได้อย่างดี จึงทำให้ต้นขาของเราเล็กลงเซลลูไลท์ก็ลดและดูสวยงามยิ่งขึ้น - ขึ้น-ลงบันไดลองสวมรองเท้าส้นสูงแล้วเดินขึ้นลงบันได นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดน่องโต ทำขาเรียวสวยเซ็กซี่ได้การขึ้นบันไดสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 8-11 กิโลแคลอรี่ต่อนาทีซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายทั่วไป ส่วนการลงบันไดจะใช้พลังงานประมาณ 1 ใน 3 ของการขึ้นบันได การเดินขึ้นบันได เป็นการออกกำลังกายขณะทำงานรูปแบบหนึ่ง เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศถึงขนาดมีการแข่งขันการเดินขึ้นบันไดเป็นประจำทุกปี เป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน ทำได้ง่าย สะดวกทุกที่ ทุกเวลา การเดินขึ้นบันไดเป็นการออกกำลังแบบ aerobic หัวใจจะแข็งแรง ทำให้กล้ามเนื้อต้นขา น่อง และก้นแข็งแรง กระชับ แถมอาการปวดข้อน้อยกว่าการวิ่ง ยังมีรายงานอีกด้วยว่า การขึ้นบันไดเฉลี่ยวันละ 2 ชั้นสามารถลดน้ำหนักได้ 2.7 กิโลกรัมในเวลา 1 ปี และมีหลักฐานยืนยันว่าการเดินขึ้นลงบันไดสามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน อีกทั้งสามารถลดปริมาณไขมันในร่างกาย และเพิ่มปริมาณ High-density lipoprotein (HDL) ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีได้และนี่คือภาพรวม ส่วนใครทำตามนี้แล้วยังได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจก็ต้องวินิจฉัยเพิ่มเป็นราย ๆ ไปผลิตภัณฑ์และอาหารเสริมแนะนำPaa super h เพื่อเพิ่มไขมันดีGlube เพื่อเพิ่มความสามารถในการกำจัดของเสียPraow ใช้นวดเพื่อเร่งการกำจัดไขมันเลวPloy ใช้ทาผิวหลังจากการอาบน้ำด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง Cr.Santi Manadee
    #เซลลูไลท์ คือการสะสมของไขมันที่เป็นของเหลวเเละสารพิษที่ติดค้างอยู่ในร่างกาย สะสมกันจนเป็นชั้นคลื่นอยู่ในเนื้อเยื่อที่เชื่อมต่ออยู่ใต้ผิวหนัง เซลลูไลท์จะเกิดขึ้นในชั้นผิวหนังของคนที่มีการระบายน้ำเหลืองไม่มีประสิทธิภาพ ร่างกายไม่สามารถขับไขมันและของเสียออกไปได้จนเกิดการสะสมของไขมันที่เป็นของเหลวและสารพิษ กลายเป็นผิวเซลลูไลท์ที่ดูน่าเกลียด ใหญ่เทอะทะผิวไม่เรียบคล้ายผิวส้ม ไขมันนี้จะพบได้ทั้งในคนผอมและคนอ้วน ร่างกายจะสามารถสะสมได้ที่บริเวณ ท้องแขน หน้าท้อง ต้นขา และสะโพกและมันก็เป็นเรื่องของผู้หญิงซะมากกว่า สาเหตุ- ร่างกายมีการเผาผลาญที่ผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถเผาผลาญไขมันใต้ผิวหนังออกจากร่างกายได้หมด- กรรมพันธ์ แตกต่างจากกรรมพันธ์ในเรื่องของเล็บหรือลักษณะของผม ตรงที่เราสามารถเปลี่ยนแปลงสภาพของเซลลูไลท์ได้- ดื่มน้ำน้อย เพราะน้ำช่วยในการทำงานของระบบขับของเสีย และช่วยขับพิษออกจากร่างกาย กำหนดว่าควรดื่มน้ำแปดแก้วต่อวันเป็นอย่างน้อย- แอลกอฮอล์ คาเฟอีน อาหารรสจัด ล้วนก่อให้เกิดเซลลูไลท์ได้ทั้งสิ้น เพราะพิษที่สารดังกล่าวขับออกมาจะถูกกักอยู่ในเนื้อเยื่อไขมัน- การลดความอ้วนแบบเร่งด่วน จะยิ่งไปเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดเซลลูไลท์อย่างไม่น่าเชื่อ เนื่องจาก ร่างกายเกิดการตอบรับว่า ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอและต้องพยายามสะสมสารอาหารในร่างกายเพื่อความอยู่รอด- การสะสมอาหารและไขมัน ช่วยก่อเซลลูไลท์และกั้นเส้นเลือดจนติดหนึบอยู่ในเนื้อเยื่อ จึงทำให้ระบบกำจัดสารพิษและของเสียขาดประสิทธิภาพ- การสูบบุหรี่ ทำร้ายทั้งผิว ทั้งปอด ทำให้ผิวอ่อนแอ เส้นเลือดฝอยหดตัวและยังทำให้เนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกันถูกทำลายอันเป็นผลให้เกิดคลื่นเซลลูไลท์- ความเครียด เป็นผลให้กล้ามเนื้อเกร็งตัวหนัก เนื้อเยื่อที่เชื่อมต่อกล้ามเนื้อก็ขมวดเกร็งตามไปด้วย ความตึงเครียดยังไปขวางเนื้อเยื่อไม่ให้กำจัดของเสียและล้างเลือดให้สะอาด- การใช้ยาลดความอ้วน ยานอนหลับ ยาขับปัสสาวะ จะเข้าไปรบกวนกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของร่างกาย โดยเฉพาะระบบชำระเลือดอันนำไปสู่ปัญหาเซลลูไลท์- ยาคุมกำเนิด ประเภทรับประทานซึ่งไปเพิ่มฮอร์โมนเอสโตรเจน จะทำให้เซลล์ไขมันขยายตัวและเก็บน้ำจนบวม ร่างกายไม่มีน้ำพอที่จะขับของเสียออกจากร่างกาย สุดท้ายก็กลายเป็นเซลลูไลท์- เซลล์ของไขมันบวมเนื่องจากมีการสะสมไขมันไว้ในเซลล์เป็นปริมาณมาก- ผนังหลอดเลือดของเซลล์ไขมันรั่วทำให้มีน้ำซึมผ่านออกจากเซลล์ไขมันทำให้เกิดการคั่งของน้ำ- เซลล์ของไขมันจับกันเป็นกลุ่มโดยมี collagen ล้อมรอบซึ่งทำให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ- เนื้อเยื่อเกี่ยวพันดึงผิวหนังตำแหน่งที่ยึดกับผิวหนังทำให้ผิวหนังเป็นลอนคล้ายริ้วคลื่นห้ามคิดว่าไม่มีโทษนะ มันร้ายแรงไม่มากในช่วงต้นๆ แต่เมื่อปล่อยไว้ระยะยาวแล้วระบบคุณรวนแน่ ๆ:1.ส่งผลต่อการไหลเวียนของระบบน้ำเหลือง2.ส่งผลต่อระบบขับของเสียในร่างกายจนเกิดความผิดปกติการแก้ไข ต้องดูสาเหตุเป็นรายคนไปแต่การผ่าตัดหรือดูดออกเป็นเรื่องไร้สาระเพราะ ร้อยทั้งร้อยกลับมาเหมือนเดิมเพราะไม่ได้แก้ที่สาเหตุ โภชนาการเพื่อการป้องกันและแก้ไข- ทานให้ครบหมู่และหลากหลายเพื่อไม่ให้ร่างกายขาดสารอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งไป เพียงแต่ลดสัดส่วนของอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ไขมันและพยายามเน้นหนักที่ผักให้มาก เพราะกากใยจะช่วยขับล้างสารพิษตกค้างในร่างกาย อีกทั้งวิตามินซีและวิตามินอีมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ผิวหนังกระชับขึ้น - ควรเน้นอาหารกลุ่มที่มีกรดไขมัน ถั่ว น้ำมันปลา เมล็ดพืชที่ช่วยการไหลเวียนของโลหิตและกินอาหารโปรตีนไขมันต่ำเป็นประจำ เนื่องจากร่างกายใช้พลังงานในการย่อยอาหารพวกโปรตีนมากกว่าการย่อยไขมันหรือคาร์โบไฮเดรตถึงสองเท่า เรียกว่าอิ่มเท่ากันแต่ช่วยเพิ่มการเผาผลาญมากกว่า นอกจากนี้สารแอลบูมินที่มีอยู่ในอาหารกลุ่มโปรตีนไขมันต่ำจำพวกถั่ว ยังสามารถช่วยลดระดับของเหลวที่สะสมในเซลล์ไขมันได้ ทำให้กระบวนการไหลเวียนของโลหิตกับน้ำเหลืองคล่องตัว และเพื่อให้ได้ผลควรลดอาหารเค็มควบคู่ไปด้วย- ลดการให้อาหารแก่เซลลูไลต์เพราะยิ่งกินเท่ากับสนับสนุนให้ร่างกายสะสมเซลลูไลต์และไขมันส่วนเกิน อาหารกลุ่มนี้ได้แก่•อาหารทั้งมันและหวาน อาหารที่ให้พลังงานสูง ๆ โดยเฉพาะอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล ซึ่งจะไปเพิ่มอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหนังหย่อนยานลง เกิดริ้วรอย และเพิ่มแคลอรี่ให้กับร่างกายด้วย ถ้ากินมากไปร่างกายใช้ไม่หมดก็จะเกิดการสะสมเซลลูไลต์และไขมันส่วนเกินทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น•น้ำตาลแลคโตสในผลิตภัณฑ์นมวัว เพราะยิ่งอายุมากขึ้นความสามารถในการย่อยน้ำตาลชนิดนี้จะลดลง•กาเฟอีนจากชา กาแฟ เพราะจะไปกดสมดุลฮอร์โมน •อาหารที่ผ่านกระบวนการแปลงสภาพมากจนจำไม่ได้ว่าทำมาจากอะไร เช่น แฮม เบคอน ไส้กรอก แหนม หมูแผ่น หมูหย็อง ขนมปัง คุกกี้ เบเกอรี่ทุกชนิด เส้นก๋วยเตี๋ยว เส้นสปาเกตตี อาหารแช่แข็ง อาหารสำเร็จรูป เพราะอาหารเหล่านี้มักมีสารปนเปื้อนและสารพิษที่จะไปตกค้างในร่างกายและเซลล์ไขมันได้•อาหารเค็มจัด เพราะจะยิ่งเพิ่มการคั่งของสารน้ำในเซลล์ไขมันมากขึ้น•แอลกอฮอล์ โดยเฉพาะในเบียร์และไวน์ เพราะหากดื่มมาก ๆ จะกลายเป็นสารพิษตกค้างอยู่ในร่างกายและเซลล์ไขมัน ซึ่งนั่นคือที่มาของเซลลูไลต์ กลุ่มนี้งดหรือเลิกขาดได้ก็เยี่ยมเลย- เน้นอาหารธรรมชาติปรุงแต่งให้น้อย แน่นอนว่าหลักการนี้จะคิดถึงอะไรไปไม่ได้ นอกจากผักสด ๆ โดยจะกินเป็นสลัด ตำ ยำ กับน้ำพริก ก็เลือกได้ตามชอบ หรือเมนูที่ผ่านความร้อนไม่เกิน 100 องศา ใช้เวลาปรุงไม่นาน ประโยชน์จากการกินอาหารแบบนี้คือ ช่วยฟื้นฟูพลังงานและผิวพรรณ ทั้งยังช่วยดูแลระบบย่อยอาหารและควบคุมน้ำหนักได้ แถมคุณค่ายังรับไปแบบเต็ม ๆ ตัดโอกาสการตกค้างของเสียได้อีกด้วย- ออกกำลังกายจะช่วยเผาผลาญและขับสารพิษออกทางเหงื่ออีกด้วย วิธีโดยรวมที่จะช่วยลดเซลลูไลท์- หมั่นขัดผิวขา การขัดผิวหรือ Exfoliating คือการขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากผิวของเรา ซึ่งเป็นผิวชั้นนอกและเผยเซลล์ผิวรุ่นใหม่ที่แข็งแรงกว่ามาแทนที่ ทำให้ผิวของเราดูสดใสและมีชีวิตชีวา การขัดผิวนั้นสามารถทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะฟองน้ำ ครีม ใยบวม หินขัด หรือแม้กระทั่งผ้าเช็ดตัวก็สามารถนำมาใช้ได้ แต่การขัดผิวที่ดีนั่นควรทำอย่างนิ่มนวลและไม่ทำบ่อยจนเกินไป เพราะจำทำให้ผิวอ่อนไหว ไม่สามารถทนแดดและจะทำให้แห้งกร้านได้ง่าย ปกติผิวของคนเราจะมีการผลิตเซลล์ผิวทุก 2-4 สัปดาห์ แต่หากอายุเรามากกว่า 20 ปีขึ้นไปการผลัดเซลล์ผิวก็จะช้าลงไปเรื่อยๆ การขัดผิวจะช่วยในการผลัดเซลล์ผิวทำได้ดีขึ้น ทำให้ผิวขาวกระจ่างใส " การขัดผิวควรทำอยู่ที่สัปดาห์ละไม่กิน 2 ครั้ง ควรทำการขัดเป็นวงกลมเบาๆ หลังขัดควรหามอยส์เจอไรเซอร์มาเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว แค่นี้ก็มีผิวขาที่ขาวใสนวลเนียน "- การนวดก็เป็นอีกวิธีสำหรับการลดเซลลูไลท์ โดยให้นวดเป็นวงเบาๆ ไปให้ทั่วบริเวณขาหรือใต้แขนของคุณเป็นเวลา 10-20 นาทีทุกวัน - กระโดดเชือก การกระโดดเชือกติดต่อกัน 15 นาที เทียบเท่าได้กับการวิ่งจ๊อกกิ้งนานถึง 30 นาที ดาราฮอลลีวูดทั้งหลาย ที่รีบฟิตหุ่นให้ทันเปิดกล้องหนังเรื่องต่อไปใช้การกระโดดเชือกทุกเช้าและเย็น เพื่อเร่งกระบวนการเผาผลาญไขมันและกระชับสัดส่วนแขนขาให้แน่นสวยไม่หย่อนยานการกระโดดเชือกด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง จะช่วยลดแรงกระแทกลงได้มาก ไม่เกิดอันตรายต่อเข่า หรือทำให้เข่าเสื่อม เข่าพัง อย่างที่หลายคนเคยได้ยินกันมา การกระโดดเชือกที่ถูกวิธี จะกระโดดเพียงแค่ต่ำๆ สูงจากพื้นไม่เกิน 1-2 นิ้ว โดยที่จะใช้ข้อเท้า กล้ามเนื้อน่อง รวมถึงการงอเข่าเล็กน้อย ช่วยในการดูดซับแรงกระแทกลงได้อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งแรงกระแทกที่เกิดขึ้นยังน้อยกว่าการวิ่งอีกด้วย การกระโดดแบบผิดๆ ด้วยการกระโดดสูงเกินไปต่างหาก ที่มีโอกาสทำให้เข่าพังได้ จากแรงกระแทกที่สูงเกินไป - การย่อเข่าการออกกำลังกายโดยการย่อเข่าไปข้างหน้า วิธีนี้สามารถช่วยในการกำจัดไขมันและช่วยกระชับกล้ามเนื้อต้นขาและลดต้นขาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากคล้ายๆ กับการออกกำลังกายลุกนั่งวิธีการคือ ยืนแยกขาออก ให้ระหว่างขากว้างระยะประมาณหัวไหล่ทั้งสองข้างของเรา แล้วก้าวไปข้างหน้าด้วยเท้าหนึ่งข้างแล้วโยกตัวย่อเข่าลงไปข้างหน้าประมาณ 90 องศา ย่อตัวลงให้หัวเข่าขาหลังอยู่ห่างจากพื้นประมาณ 1 นิ้วพยายามให้หลังและคอเหยียดตรงตลอดเวลา ทิ้งน้ำหนักไปข้างหน้าไปที่ส้นเท้าและหัวเข่า อาจใช้วิธียกลูกเหล็กขนาด 5-10 ปอนด์ตรงด้านข้างลำตัว ระหว่างออกกำลังกายในท่านี้ไปด้วยก็ได้ บริหารต้นขาทั้งสองข้างด้วยท่านี้ประมาณข้างละ 30 ครั้ง พักแล้วเริ่มทำใหม่- การเดิน ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีลดต้นขาและเซลลูไลท์ที่ดีอีกวิธีหนึ่ง เนื่องจากการทำงานของกล้ามเนื้อจากการเดินนั้นทำให้กล้ามเนื้อแข็งแกร่งขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นจึงทำให้ไขมันบริเวณนั้นถูกเผาผลาญได้อย่างดี จึงทำให้ต้นขาของเราเล็กลงเซลลูไลท์ก็ลดและดูสวยงามยิ่งขึ้น - ขึ้น-ลงบันไดลองสวมรองเท้าส้นสูงแล้วเดินขึ้นลงบันได นี่ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการลดน่องโต ทำขาเรียวสวยเซ็กซี่ได้การขึ้นบันไดสามารถเผาผลาญพลังงานได้ถึง 8-11 กิโลแคลอรี่ต่อนาทีซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับการออกกำลังกายทั่วไป ส่วนการลงบันไดจะใช้พลังงานประมาณ 1 ใน 3 ของการขึ้นบันได การเดินขึ้นบันได เป็นการออกกำลังกายขณะทำงานรูปแบบหนึ่ง เป็นที่นิยมมากในต่างประเทศถึงขนาดมีการแข่งขันการเดินขึ้นบันไดเป็นประจำทุกปี เป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้เป็นประจำทุกวัน ทำได้ง่าย สะดวกทุกที่ ทุกเวลา การเดินขึ้นบันไดเป็นการออกกำลังแบบ aerobic หัวใจจะแข็งแรง ทำให้กล้ามเนื้อต้นขา น่อง และก้นแข็งแรง กระชับ แถมอาการปวดข้อน้อยกว่าการวิ่ง ยังมีรายงานอีกด้วยว่า การขึ้นบันไดเฉลี่ยวันละ 2 ชั้นสามารถลดน้ำหนักได้ 2.7 กิโลกรัมในเวลา 1 ปี และมีหลักฐานยืนยันว่าการเดินขึ้นลงบันไดสามารถเพิ่มความหนาแน่นของกระดูกได้ในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน อีกทั้งสามารถลดปริมาณไขมันในร่างกาย และเพิ่มปริมาณ High-density lipoprotein (HDL) ซึ่งเป็นไขมันชนิดดีได้และนี่คือภาพรวม ส่วนใครทำตามนี้แล้วยังได้ผลไม่เป็นที่น่าพอใจก็ต้องวินิจฉัยเพิ่มเป็นราย ๆ ไปผลิตภัณฑ์และอาหารเสริมแนะนำPaa super h เพื่อเพิ่มไขมันดีGlube เพื่อเพิ่มความสามารถในการกำจัดของเสียPraow ใช้นวดเพื่อเร่งการกำจัดไขมันเลวPloy ใช้ทาผิวหลังจากการอาบน้ำด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง Cr.Santi Manadee
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1118 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำถาม: ใกล้คนรักแล้วอึดอัดไม่ทราบสาเหตุ เป็นเพราะอะไร?คำตอบ:ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นได้บ่อย และมีหลายสาเหตุทั้งทางจิตวิทยาและกรรมวิบากในอดีต การรู้สึกคิดถึงคนรักเวลาอยู่ไกล แต่กลับรู้สึกอึดอัดและมีแรงผลักเมื่ออยู่ใกล้ อาจสะท้อนถึงปัจจัยในระดับลึกที่ควรพิจารณา---สาเหตุทางจิตวิทยา1. ความกลัวความสัมพันธ์ที่จริงจังความรู้สึกอึดอัดอาจเกิดจากความไม่พร้อมรับผิดชอบหรือกลัวความผูกพันที่ลึกซึ้ง แม้ในใจลึกๆ จะรู้สึกดีต่อกัน2. ความคาดหวังสูงเกินไปเมื่ออยู่ไกล เรามักสร้างจินตนาการดีๆ เกี่ยวกับคนรัก แต่เมื่ออยู่ใกล้ ตัวตนจริงอาจไม่ตรงกับภาพในจินตนาการ ส่งผลให้รู้สึกอึดอัด---สาเหตุทางกรรมและวิบาก1. เคยทำกรรมร่วมกันในอดีตหากเคยอยู่ร่วมกันในอดีตชาติและทำบาปร่วมกัน เช่น นินทา ทำร้ายผู้อื่น หรือก่อกรรมไม่ดีใดๆ บาปเหล่านั้นอาจส่งผลให้เกิดกระแสผลักดันในปัจจุบัน เมื่อมาเจอกันอีกครั้ง2. วิบากกรรมร่วมกันหากเคยเป็นคู่เวรคู่กรรม ความรู้สึกดึงดูดเมื่ออยู่ไกลและแรงผลักเมื่ออยู่ใกล้ อาจสะท้อนถึงกรรมที่ยังค้างคา ซึ่งสร้างความไม่สมดุลในความสัมพันธ์---แนวทางแก้ไขและคำแนะนำ1. หมั่นมีเมตตาและให้อภัยการพิจารณาว่าความสัมพันธ์นี้อาจเกิดจากวิบากกรรม จะช่วยให้เราปรับมุมมองและลดแรงผลักในใจ2. สร้างความสัมพันธ์ด้วยศีลธรรมหากตั้งใจครองคู่เพื่อสนับสนุนกันในทางธรรม เช่น ช่วยกันทำทาน รักษาศีล และพูดดีต่อกัน จะช่วยเปลี่ยนกระแสแรงผลักให้เป็นแรงดึงดูดในระยะยาว3. พิจารณาความเหมาะสมหากความอึดอัดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจพิจารณาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแทนการครองคู่ เพราะการฝืนอยู่ร่วมกันอาจนำไปสู่ความทุกข์มากกว่า4. ใช้ปัญญาในการแก้ไขความสัมพันธ์การสื่อสารด้วยความเข้าใจ แม้ในยามโกรธ หรือการตั้งใจเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ให้สร้างสรรค์ จะช่วยให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนจากแรงผลักเป็นแรงดึงดูดได้---บทสรุปหากความสัมพันธ์นี้มีพื้นฐานของศีลธรรมและความเข้าใจ ความรักจะเติบโตขึ้นทุกวันตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “อยู่ด้วยกันด้วยศีล ด้วยสัตย์ ด้วยปัญญา ความรักจะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ”แต่หากความสัมพันธ์เต็มไปด้วยความอึดอัด ควรพิจารณาแยกจากกันอย่างมีสติ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายพบทางที่เหมาะสมที่สุดในชีวิต.
    คำถาม: ใกล้คนรักแล้วอึดอัดไม่ทราบสาเหตุ เป็นเพราะอะไร?คำตอบ:ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นได้บ่อย และมีหลายสาเหตุทั้งทางจิตวิทยาและกรรมวิบากในอดีต การรู้สึกคิดถึงคนรักเวลาอยู่ไกล แต่กลับรู้สึกอึดอัดและมีแรงผลักเมื่ออยู่ใกล้ อาจสะท้อนถึงปัจจัยในระดับลึกที่ควรพิจารณา---สาเหตุทางจิตวิทยา1. ความกลัวความสัมพันธ์ที่จริงจังความรู้สึกอึดอัดอาจเกิดจากความไม่พร้อมรับผิดชอบหรือกลัวความผูกพันที่ลึกซึ้ง แม้ในใจลึกๆ จะรู้สึกดีต่อกัน2. ความคาดหวังสูงเกินไปเมื่ออยู่ไกล เรามักสร้างจินตนาการดีๆ เกี่ยวกับคนรัก แต่เมื่ออยู่ใกล้ ตัวตนจริงอาจไม่ตรงกับภาพในจินตนาการ ส่งผลให้รู้สึกอึดอัด---สาเหตุทางกรรมและวิบาก1. เคยทำกรรมร่วมกันในอดีตหากเคยอยู่ร่วมกันในอดีตชาติและทำบาปร่วมกัน เช่น นินทา ทำร้ายผู้อื่น หรือก่อกรรมไม่ดีใดๆ บาปเหล่านั้นอาจส่งผลให้เกิดกระแสผลักดันในปัจจุบัน เมื่อมาเจอกันอีกครั้ง2. วิบากกรรมร่วมกันหากเคยเป็นคู่เวรคู่กรรม ความรู้สึกดึงดูดเมื่ออยู่ไกลและแรงผลักเมื่ออยู่ใกล้ อาจสะท้อนถึงกรรมที่ยังค้างคา ซึ่งสร้างความไม่สมดุลในความสัมพันธ์---แนวทางแก้ไขและคำแนะนำ1. หมั่นมีเมตตาและให้อภัยการพิจารณาว่าความสัมพันธ์นี้อาจเกิดจากวิบากกรรม จะช่วยให้เราปรับมุมมองและลดแรงผลักในใจ2. สร้างความสัมพันธ์ด้วยศีลธรรมหากตั้งใจครองคู่เพื่อสนับสนุนกันในทางธรรม เช่น ช่วยกันทำทาน รักษาศีล และพูดดีต่อกัน จะช่วยเปลี่ยนกระแสแรงผลักให้เป็นแรงดึงดูดในระยะยาว3. พิจารณาความเหมาะสมหากความอึดอัดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง อาจพิจารณาเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแทนการครองคู่ เพราะการฝืนอยู่ร่วมกันอาจนำไปสู่ความทุกข์มากกว่า4. ใช้ปัญญาในการแก้ไขความสัมพันธ์การสื่อสารด้วยความเข้าใจ แม้ในยามโกรธ หรือการตั้งใจเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ให้สร้างสรรค์ จะช่วยให้ความสัมพันธ์เปลี่ยนจากแรงผลักเป็นแรงดึงดูดได้---บทสรุปหากความสัมพันธ์นี้มีพื้นฐานของศีลธรรมและความเข้าใจ ความรักจะเติบโตขึ้นทุกวันตามที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า “อยู่ด้วยกันด้วยศีล ด้วยสัตย์ ด้วยปัญญา ความรักจะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ”แต่หากความสัมพันธ์เต็มไปด้วยความอึดอัด ควรพิจารณาแยกจากกันอย่างมีสติ เพื่อให้ทั้งสองฝ่ายพบทางที่เหมาะสมที่สุดในชีวิต.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 370 มุมมอง 0 รีวิว
  • 😻ช้าหมด ลดแรงมาก‼️วิลล่าแมวแบบจัดเต็ม ลดเหลือ 1,375‼️
    😻รีบกดก่อนหมดโปรนะคะ👇
    ➡️มีปลายทาง มีผ่อนจ่าย
    ‼️ราคาอาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อย เพราะแต่ละแอพจัดโปรโมชั่นต่างกันค่ะ
    ‼️อย่าลืมกดคูปองส่วนลด+ส่งฟรีก่อนสั่งนะคะ
    👇พิกัดร้าน
    💙
    https://s.lazada.co.th/s.rBlRR?cc
    🧡
    https://s.shopee.co.th/6V6WHU7Bgi

    #แมวหมาพาเพลิน #วิลล่าแมว #ทาสแมว #ของใช้แมว
    😻ช้าหมด ลดแรงมาก‼️วิลล่าแมวแบบจัดเต็ม ลดเหลือ 1,375‼️ 😻รีบกดก่อนหมดโปรนะคะ👇 ➡️มีปลายทาง มีผ่อนจ่าย ‼️ราคาอาจคลาดเคลื่อนเล็กน้อย เพราะแต่ละแอพจัดโปรโมชั่นต่างกันค่ะ ‼️อย่าลืมกดคูปองส่วนลด+ส่งฟรีก่อนสั่งนะคะ 👇พิกัดร้าน 💙 https://s.lazada.co.th/s.rBlRR?cc 🧡 https://s.shopee.co.th/6V6WHU7Bgi #แมวหมาพาเพลิน #วิลล่าแมว #ทาสแมว #ของใช้แมว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 674 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขงเบ้ง ปรมาจารย์ The Icon กับกลยุทธ์บีบน้ำตาลดแรงเสียดทาน มีบทความน่าคิดพิจารณาในเพจเฟซบุ๊กชื่อสามก๊ก เซ็นโกคุประวัติศาสตร์ History teller เขียนไว้ว่า

    “ ขงเบ้ง ร้องไห้ในงานศพของจิวยี่ ช่วยลดความตึงเครียดจากเหล่าขุนพลของง่อก๊กที่กำลังไม่พอใจขงเบ้งให้เบาลง
    .
    ต้องยอมรับว่าในบางครั้งการร้องไห้ต่อหน้าผู้คนจำนวนมากที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องราว ก็อาจช่วยลดความตึงเครียดของสถานการณ์ลงได้ ในยุคสามก๊กมีหลายคนที่ทำแบบนี้ได้ดี ก็คือ เล่าปี่ และ โจโฉ ต่อมายังเพิ่มขงเบ้งเข้าไปอีกคน
    .
    กรณีขงเบ้ง เดิมเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านการแสดงอารมณ์ละเอียดอ่อนต่อหน้าผู้คน แต่คาดว่าเขาเองได้ศึกษาและเรียนรู้เรื่องนี้จากเล่าปี่ ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกบรรยายไว้ในประวัติศาสตร์และวรรณกรรมว่า ไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจ มักไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกทางสีหน้า แต่เล่าปี่จะร้องไห้หรือแสดงอารมณ์ออกมาต่อหน้าผู้คนเฉพาะกรณีที่หวังผลบางอย่างเป็นหลักมากกว่า และได้ผลดีเลิศเสมอ
    .
    ส่วนฉากที่ขงเบ้งใช้กลยุทธ์นี้แล้วได้ผลดีก็คือเหตุการณ์ที่เขาเดินทางไปคารวะศพของจิวยี่ที่ง่อก๊ก เขาร้องไห้เสียใจต่อหน้าเหล่าขุนพลและขุนนางง่อทั้งหมดที่อยู่ในงาน เรื่องนี้ทำให้พวกคนของง่อที่เคยแสดงความไม่พอใจต่อขงเบ้งลดความรู้สึกด้านนี้ลงไปพอสมควร แต่ก็มีบางคนที่มองออกว่าขงเบ้งใช้อุบาย นั่นคือบังทอง ที่เข้ามาทักขงเบ้งในระหว่างที่เขากำลังจะขึ้นเรือกลับเกงจิ๋ว
    .
    แน่นอนว่าการร้องไห้ของขงเบ้งไม่ได้แก้ปัญหาได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยเขาลดความร้อนระอุด้านอารมณ์ของขุนพลง่อที่มีต่อขงเบ้งและฝ่ายเล่าปี่ลงมาบ้างในระยะเวลาหนึ่ง
    .
    เพิ่มเติม ส่วนคู่ปรับขงเบ้งอย่างสุมาอึ้จะชอบใช้แผนแกล้งป่วย (ไม่ได้พาดพิงนักการเมืองท่านใด)
    .
    ปล.แนวกลยุทธ์การร้องไห้ออกสื่อ เพื่อขอความเห็นใจ ยังคงใช้งานกันในปัจจุบัน แม้แต่ในระดับประเทศหรือในระดับโลก
    ………
    ศิลปะและศาสตร์แห่งการร้องไห้ ฉบับ เล่าปี่ และ โจโฉ แล้วตอนหลังขงเบ้งก็ขอยืมเทคนิคนี้มาใช้ด้วย เรื่องนี้อาจจะตอบคำถามว่า อ่านสามก๊กแล้วได้อะไร วันนี้เราเพิ่งเห็นกันสดๆร้อนๆหนึ่งเรื่องในระดับประเทศ
    .
    ในสามก๊ก มีตัวอย่างของผู้นำหรือผู้ที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะแก้ไขได้โดยง่าย เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอาศัยกลยุทธ์ในด้านอารมณ์เข้ามาช่วย นอกเหนือจากหลักเหตุผลเท่านั้น
    .
    สำหรับตัวอย่างโดดเด่นที่ เล่าปี่ โจโฉ ขงเบ้ง เคยนำมาใช้ แล้วได้ผลลัพธ์ระดับสุดยอด เช่น
    .
    เล่าปี่ ตอนที่ต้องพาประชาชนอพยพหนีการตามล่าจากทัพโจโฉ แล้วเห็นประชาชนที่ทุกข์ยากเพราะติดตามตนมา เขาก็ร้องไห้เสียใจหนัก จะกระโดดน้ำ แต่คนอื่นห้ามไว้ และที่เด็ดสุดจากนั้นคือตอนที่ “จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า” ช่วยพาทั้งอาเต๊าและนางกำฮูหยินที่พลัดหลงอยู่ในทุ่งเต็งหยาง เตียงปัน ซึ่งมีทหารโจโฉกระจัดกระจายอยู่มากกว่าหลายแสนคน เมื่อจูล่งพาอาเต๊ามาให้เล่าปี่ เขาก็ปล่อยอาเต๊าลงพื้นแล้วร้องไห้ว่า เด็กนี่เกือบทำให้ข้าสูญเสียจูล่ง จากนั้นจูล่งก็เข้าไปอุ้มอาเต๊าแล้วประกาศว่า ข้าจะขอติดตามเป็นดั่งม้าใช้ของนายท่านตราบจนสิ้นไป
    .
    โจโฉ หลายครั้งที่เขาผ่านการเสี่ยงตาย แต่ครั้งที่เสียหายรุนแรงที่สุดคือศึกเมืองอ้วนเสีย เพราะความประมาทและลุ่มหลงในหญิงงามของตนทำให้เสียท่าต่อกลยุทธ์ของกาเซี่ยง ทำให้ทหารตนล้มตายไปมากมาย รวมถึง บุตรชายโจงั่น หลานชายโจอั๋นปิน และองครักษ์เตียนอุย ต่อมาโจโฉเดินทัพผ่านบริเวณที่เคยเกิดเหตุ เขาก็ร้องไห้เสียใจออกมาให้พวกทหารเห็น โจโฉยังบอกว่า เขาร้องไห้ครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อบุตรชายและหลานชาย แต่เพื่อเตียนอุย เรื่องนี้ทำให้ได้ใจเหล่าทหารในกองทัพมาก
    .
    ขงเบ้ง เหตุการณ์สำคัญที่ขงเบ้งพ่ายแพ้ในการบุกภาคเหนือครั้งแรก สาเหตุหนึ่งที่ขงเบ้งยอมรับว่าตนผิดพลาดก็คือ การเลือกม้าเจ๊ก มาคุมทัพที่เกเต๋ง แต่หลังจากนั้นเขากลับผิดพลาด จึงทำให้ส่งผลเสียหายต่อทั้งกองทัพ หนึ่งในความรับผิดชอบที่เขาต้องทำก็คือ การสั่งประหารม้าเจ๊ก ซึ่งเป็นคนที่ทำให้การบุกครั้งนี้ล้มเหลว ขงเบ้งต้องประหารทั้งน้ำตา ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวก็น่าจะเสียใจมากจริงๆ แต่เรื่องนี้ทำให้ขงเบ้งแสดงตนชัดเจนว่า เขาไม่อิงระบบเส้นสาย ต่อให้ม้าเจ๊กเป็นคนโปรดขนาดไหน หากทำผิดพลาดครั้งใหญ่ก็ต้องโทษประหาร พวกทหารจึงให้ความเคารพเชื่อฟังขงเบ้งต่อไป แม้ว่าจะรบแพ้ใหญ่ก็ตามทึ
    .
    ทั้งนี้ ไม่ได้แปลว่า “ร้องไห้แล้วจบ” เพราะหลังจากนั้นทุกคนต้องรับผลลัพธ์ของการกระทำ และหาทางแก้ปัญหากับเดินหน้าต่อไป หากทำผิดก็ต้องรับผล

    ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/SUbTfaxKA3edYxLC/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes

    ขงเบ้ง ปรมาจารย์ The Icon กับกลยุทธ์บีบน้ำตาลดแรงเสียดทาน มีบทความน่าคิดพิจารณาในเพจเฟซบุ๊กชื่อสามก๊ก เซ็นโกคุประวัติศาสตร์ History teller เขียนไว้ว่า “ ขงเบ้ง ร้องไห้ในงานศพของจิวยี่ ช่วยลดความตึงเครียดจากเหล่าขุนพลของง่อก๊กที่กำลังไม่พอใจขงเบ้งให้เบาลง . ต้องยอมรับว่าในบางครั้งการร้องไห้ต่อหน้าผู้คนจำนวนมากที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับเรื่องราว ก็อาจช่วยลดความตึงเครียดของสถานการณ์ลงได้ ในยุคสามก๊กมีหลายคนที่ทำแบบนี้ได้ดี ก็คือ เล่าปี่ และ โจโฉ ต่อมายังเพิ่มขงเบ้งเข้าไปอีกคน . กรณีขงเบ้ง เดิมเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญในด้านการแสดงอารมณ์ละเอียดอ่อนต่อหน้าผู้คน แต่คาดว่าเขาเองได้ศึกษาและเรียนรู้เรื่องนี้จากเล่าปี่ ซึ่งเป็นผู้ที่ถูกบรรยายไว้ในประวัติศาสตร์และวรรณกรรมว่า ไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจ มักไม่ค่อยแสดงอารมณ์ออกทางสีหน้า แต่เล่าปี่จะร้องไห้หรือแสดงอารมณ์ออกมาต่อหน้าผู้คนเฉพาะกรณีที่หวังผลบางอย่างเป็นหลักมากกว่า และได้ผลดีเลิศเสมอ . ส่วนฉากที่ขงเบ้งใช้กลยุทธ์นี้แล้วได้ผลดีก็คือเหตุการณ์ที่เขาเดินทางไปคารวะศพของจิวยี่ที่ง่อก๊ก เขาร้องไห้เสียใจต่อหน้าเหล่าขุนพลและขุนนางง่อทั้งหมดที่อยู่ในงาน เรื่องนี้ทำให้พวกคนของง่อที่เคยแสดงความไม่พอใจต่อขงเบ้งลดความรู้สึกด้านนี้ลงไปพอสมควร แต่ก็มีบางคนที่มองออกว่าขงเบ้งใช้อุบาย นั่นคือบังทอง ที่เข้ามาทักขงเบ้งในระหว่างที่เขากำลังจะขึ้นเรือกลับเกงจิ๋ว . แน่นอนว่าการร้องไห้ของขงเบ้งไม่ได้แก้ปัญหาได้ทั้งหมด แต่อย่างน้อยเขาลดความร้อนระอุด้านอารมณ์ของขุนพลง่อที่มีต่อขงเบ้งและฝ่ายเล่าปี่ลงมาบ้างในระยะเวลาหนึ่ง . เพิ่มเติม ส่วนคู่ปรับขงเบ้งอย่างสุมาอึ้จะชอบใช้แผนแกล้งป่วย (ไม่ได้พาดพิงนักการเมืองท่านใด) . ปล.แนวกลยุทธ์การร้องไห้ออกสื่อ เพื่อขอความเห็นใจ ยังคงใช้งานกันในปัจจุบัน แม้แต่ในระดับประเทศหรือในระดับโลก ……… ศิลปะและศาสตร์แห่งการร้องไห้ ฉบับ เล่าปี่ และ โจโฉ แล้วตอนหลังขงเบ้งก็ขอยืมเทคนิคนี้มาใช้ด้วย เรื่องนี้อาจจะตอบคำถามว่า อ่านสามก๊กแล้วได้อะไร วันนี้เราเพิ่งเห็นกันสดๆร้อนๆหนึ่งเรื่องในระดับประเทศ . ในสามก๊ก มีตัวอย่างของผู้นำหรือผู้ที่อยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะแก้ไขได้โดยง่าย เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ต้องอาศัยกลยุทธ์ในด้านอารมณ์เข้ามาช่วย นอกเหนือจากหลักเหตุผลเท่านั้น . สำหรับตัวอย่างโดดเด่นที่ เล่าปี่ โจโฉ ขงเบ้ง เคยนำมาใช้ แล้วได้ผลลัพธ์ระดับสุดยอด เช่น . เล่าปี่ ตอนที่ต้องพาประชาชนอพยพหนีการตามล่าจากทัพโจโฉ แล้วเห็นประชาชนที่ทุกข์ยากเพราะติดตามตนมา เขาก็ร้องไห้เสียใจหนัก จะกระโดดน้ำ แต่คนอื่นห้ามไว้ และที่เด็ดสุดจากนั้นคือตอนที่ “จูล่งฝ่าทัพรับอาเต๊า” ช่วยพาทั้งอาเต๊าและนางกำฮูหยินที่พลัดหลงอยู่ในทุ่งเต็งหยาง เตียงปัน ซึ่งมีทหารโจโฉกระจัดกระจายอยู่มากกว่าหลายแสนคน เมื่อจูล่งพาอาเต๊ามาให้เล่าปี่ เขาก็ปล่อยอาเต๊าลงพื้นแล้วร้องไห้ว่า เด็กนี่เกือบทำให้ข้าสูญเสียจูล่ง จากนั้นจูล่งก็เข้าไปอุ้มอาเต๊าแล้วประกาศว่า ข้าจะขอติดตามเป็นดั่งม้าใช้ของนายท่านตราบจนสิ้นไป . โจโฉ หลายครั้งที่เขาผ่านการเสี่ยงตาย แต่ครั้งที่เสียหายรุนแรงที่สุดคือศึกเมืองอ้วนเสีย เพราะความประมาทและลุ่มหลงในหญิงงามของตนทำให้เสียท่าต่อกลยุทธ์ของกาเซี่ยง ทำให้ทหารตนล้มตายไปมากมาย รวมถึง บุตรชายโจงั่น หลานชายโจอั๋นปิน และองครักษ์เตียนอุย ต่อมาโจโฉเดินทัพผ่านบริเวณที่เคยเกิดเหตุ เขาก็ร้องไห้เสียใจออกมาให้พวกทหารเห็น โจโฉยังบอกว่า เขาร้องไห้ครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อบุตรชายและหลานชาย แต่เพื่อเตียนอุย เรื่องนี้ทำให้ได้ใจเหล่าทหารในกองทัพมาก . ขงเบ้ง เหตุการณ์สำคัญที่ขงเบ้งพ่ายแพ้ในการบุกภาคเหนือครั้งแรก สาเหตุหนึ่งที่ขงเบ้งยอมรับว่าตนผิดพลาดก็คือ การเลือกม้าเจ๊ก มาคุมทัพที่เกเต๋ง แต่หลังจากนั้นเขากลับผิดพลาด จึงทำให้ส่งผลเสียหายต่อทั้งกองทัพ หนึ่งในความรับผิดชอบที่เขาต้องทำก็คือ การสั่งประหารม้าเจ๊ก ซึ่งเป็นคนที่ทำให้การบุกครั้งนี้ล้มเหลว ขงเบ้งต้องประหารทั้งน้ำตา ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวก็น่าจะเสียใจมากจริงๆ แต่เรื่องนี้ทำให้ขงเบ้งแสดงตนชัดเจนว่า เขาไม่อิงระบบเส้นสาย ต่อให้ม้าเจ๊กเป็นคนโปรดขนาดไหน หากทำผิดพลาดครั้งใหญ่ก็ต้องโทษประหาร พวกทหารจึงให้ความเคารพเชื่อฟังขงเบ้งต่อไป แม้ว่าจะรบแพ้ใหญ่ก็ตามทึ . ทั้งนี้ ไม่ได้แปลว่า “ร้องไห้แล้วจบ” เพราะหลังจากนั้นทุกคนต้องรับผลลัพธ์ของการกระทำ และหาทางแก้ปัญหากับเดินหน้าต่อไป หากทำผิดก็ต้องรับผล ที่มา : https://www.facebook.com/share/p/SUbTfaxKA3edYxLC/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 673 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ทักษิณ-เนวิน' เคลียร์ใจ ลดแรงปะทะภายใน เตรียมรบศึกนอก : ข่าวลึกปมลับ 09/10/67
    'ทักษิณ-เนวิน' เคลียร์ใจ ลดแรงปะทะภายใน เตรียมรบศึกนอก : ข่าวลึกปมลับ 09/10/67
    Like
    Haha
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 496 มุมมอง 145 1 รีวิว
  • 🔥 ฮาร์บิน+ปักกิ่ง เทศกาลหิมะ ราคาพิเศษ 27,777
    คลิก ดูรายละเอียดโปรแกรม A11247
    ➡️ https://78s.me/e2148b

    🔥อียิปต์ลดแรง 9,901 เหลือ 35,999
    คลิก ดูรายละเอียดโปรแกรม A10015
    ➡️ https://78s.me/ea083b

    ตุรเคียลดราคาสูงถึง 4,889 จองด่วน
    คลิก ดูรายละเอียดโปรแกรม A08342
    ➡️ https://78s.me/eefac3

    ตุรเคียลด 2,000 8ที่สุดท้าย
    คลิก ดูรายละเอียดโปรแกรม A09281
    ➡️ https://78s.me/ed1862

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #ว่างว่างก็แวะมา
    🔥 ฮาร์บิน+ปักกิ่ง เทศกาลหิมะ ราคาพิเศษ 27,777 คลิก ดูรายละเอียดโปรแกรม A11247 ➡️ https://78s.me/e2148b 🔥อียิปต์ลดแรง 9,901 เหลือ 35,999 คลิก ดูรายละเอียดโปรแกรม A10015 ➡️ https://78s.me/ea083b ตุรเคียลดราคาสูงถึง 4,889 จองด่วน คลิก ดูรายละเอียดโปรแกรม A08342 ➡️ https://78s.me/eefac3 ตุรเคียลด 2,000 8ที่สุดท้าย คลิก ดูรายละเอียดโปรแกรม A09281 ➡️ https://78s.me/ed1862 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #ว่างว่างก็แวะมา
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 966 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยางเบอร์ 205/55R17 รุ่น HS52 ยี่ห้อ Kumho ปี2022 ยางพรีเมี่ยมคุณภาพดี
    จากราคาเต็ม เส้นละ 3400 บาท ยางใหม่ตกปี เหลือเส้นละ 1075 บาทเท่านั้น!!!
    **สินค้าของเรา มีจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลยน๊าา**

    ✅ สมรรถนะ
    - ออกแบบมาให้มีการยึดเกาะถนนที่ดี ทั้งบนถนนแห้งและเปียก ช่วยให้ในการขับขี่ได้ในทุกสภาพอากาศ
    - ดอกยางที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ช่วยในเรื่องการควบคุมรถได้ค่อนข้างแม่นยำและตอบสนองต่อการบังคับเลี้ยวได้ดียิ่งขึ้น
    - ช่วยลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ และใช้วัสดุที่มีความทนทานสูง ทำให้อายุการใช้งานของยางยาวนานขึ้น
    - ลวดลายดอกยางที่ออกแบบมาให้ลดแรงต้านทานการหมุน ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง


    ✅ รถที่ใช้ได้ (แนะนำให้ตรวจสอบ เบอร์ยางจาก หน้ายางที่ใช้อยู่ปัจจุบันอีกทีนะคะ)
    - Honda : Stepwgn
    - Nissan : Kick
    - รถซีดานแปลงเบอร์จากเดิม 215/55R17 มาใช้เบอร์นี้ได้เช่น Honda Accord , Toyota Camry, Nissan Teana
    ✅รับประกันคุณภาพการผลิตตลอดอายุการใช้งาน 💯

    📍ลิงก์ Tiltok
    https://www.tiktok.com/@yangoutlet/video/7418801498991250706
    ยางเบอร์ 205/55R17 รุ่น HS52 ยี่ห้อ Kumho ปี2022 ยางพรีเมี่ยมคุณภาพดี จากราคาเต็ม เส้นละ 3400 บาท ยางใหม่ตกปี เหลือเส้นละ 1075 บาทเท่านั้น!!! **สินค้าของเรา มีจำนวนจำกัด หมดแล้วหมดเลยน๊าา** ✅ สมรรถนะ - ออกแบบมาให้มีการยึดเกาะถนนที่ดี ทั้งบนถนนแห้งและเปียก ช่วยให้ในการขับขี่ได้ในทุกสภาพอากาศ - ดอกยางที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ ช่วยในเรื่องการควบคุมรถได้ค่อนข้างแม่นยำและตอบสนองต่อการบังคับเลี้ยวได้ดียิ่งขึ้น - ช่วยลดเสียงรบกวนขณะขับขี่ และใช้วัสดุที่มีความทนทานสูง ทำให้อายุการใช้งานของยางยาวนานขึ้น - ลวดลายดอกยางที่ออกแบบมาให้ลดแรงต้านทานการหมุน ช่วยประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ✅ รถที่ใช้ได้ (แนะนำให้ตรวจสอบ เบอร์ยางจาก หน้ายางที่ใช้อยู่ปัจจุบันอีกทีนะคะ) - Honda : Stepwgn - Nissan : Kick - รถซีดานแปลงเบอร์จากเดิม 215/55R17 มาใช้เบอร์นี้ได้เช่น Honda Accord , Toyota Camry, Nissan Teana ✅รับประกันคุณภาพการผลิตตลอดอายุการใช้งาน 💯 📍ลิงก์ Tiltok https://www.tiktok.com/@yangoutlet/video/7418801498991250706
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 646 มุมมอง 75 0 รีวิว
  • ขายรองเท้าบาสเก็ตบอล Lebron withness VII EP ไซ้ส์ 11 US ราคา 1,299 บ.รวมส่ง สภาพ 95% ใส่เที่ยว-ออกกำลังกายสบายๆ ระบบ Air max ลดแรงกระแทก พื้นเต็มๆ
    เผื่อมีพี่น้องสนใจครับ
    ขายรองเท้าบาสเก็ตบอล Lebron withness VII EP ไซ้ส์ 11 US ราคา 1,299 บ.รวมส่ง สภาพ 95% ใส่เที่ยว-ออกกำลังกายสบายๆ ระบบ Air max ลดแรงกระแทก พื้นเต็มๆ เผื่อมีพี่น้องสนใจครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts