• ซินโครตรอน อว. เปิดตัว 2 นวัตกรรมล้ำสมัย “เครื่องสังเคราะห์กราฟีน” และ “เครื่องเคลือบฟิล์ม DLC” ยกระดับอุตสาหกรรมไทยในงาน Thailand Research Expo 2025

    สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมแสดงผลงานในงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ Thailand Research Expo 2025 ชู 2 นวัตกรรมก้าวล้ำพร้อมต่อยอดสู่การยกระดับอุตสาหกรรมไทย “เครื่องสังเคราะห์กราฟีนในระดับอุตสาหกรรม” และ “เครื่องเคลือบฟิล์มดีแอลซีสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม”

    กรุงเทพฯ – สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้นำผลงานมาร่วมจัดแสดงภายในงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ 2568 หรือ Thailand Research Expo 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568
    ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ จำนวน 2 ผลงาน คือ “เครื่องสังเคราะห์กราฟีนสู่การนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์” และ“เครื่องต้นแบบการเคลือบฟิล์มดีแอลซีสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม” โดยจัดแสดงที่บูธ CL2 ภายในโซนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมและพัฒนาเศรษฐกิจ

    ดร.พัฒนพงศ์ จันทร์พวง หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเทคนิคและวิศวกรรม และหัวหน้าทีมวิจัยเครื่องสังเคราะห์กราฟีนฯ กล่าวว่า “กราฟีนเป็นคาร์บอนที่มีการจัดเรียงตัวในลักษณะ 2 มิติ ทำให้มีคุณสมบัติที่แข็งแรงกว่าเหล็กกล้าถึง 200 เท่า, นำไฟฟ้าได้ดีกว่าโลหะทองแดง, น้ำหนักเบา, แผ่ความร้อนได้ดี และความยืดหยุ่นสูง จึงถูกนำไปประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีหลากหลายด้าน เช่น อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง, การแพทย์, และการกักเก็บพลังงาน เป็นต้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการสังเคราะห์กราฟีนหลายวิธี แต่ละวิธีก็มีข้อจำกัดแตกต่างกัน ซึ่งวิธีที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการสังเคราะห์กราฟีนให้ได้ระดับอุตสาหกรรม คือวิธี Flash Joule Heating (FJH) ที่อาศัยการจ่ายกระแสไฟฟ้าแรงสูงในเวลาฉับพลันผ่านผงคาร์บอนที่ได้จากขยะ จนทำให้เกิดความร้อนสูงกว่า 2700 องศาเซลเซียส แล้วเกิดการสลายพันธะระหว่างอะตอมของคาร์บอนกับแก๊ส หลังอุณหภูมิลดลงอะตอมของคาร์บอนจะจัดเรียงตัวกันกลายเป็นกราฟีนในเสี้ยววินาที”

    “ทั้งนี้ สถาบันฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบสังเคราะห์กราฟีนด้วยเทคนิคความร้อนกระตุ้นแบบพัลส์ยาว (Long-Pulse Joule Heating: LPJH) ที่มีกำลังผลิตวันละ 1 กิโลกรัม โดยอ้างอิงหลักการสังเคราะห์กราฟีนโดยใช้เทคนิค FJH และได้ศึกษาและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์กราฟีนจากขยะเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ใบอ้อยและชานอ้อยจากอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาล อุตสาหกรรมพอลิเมอร์, เศษผ้าและเสื้อผ้าเก่าจากอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้ศึกษา พัฒนา และประยุกต์ใช้ กราฟีนที่ผลิตได้ สำหรับพัฒนาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้างและคอนกรีต, อุตสาหกรรมยางและพอลิเมอร์, อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ, อุตสาหกรรมสีเคลือบ เป็นต้น” ดร.พัฒนพงศ์ จันทร์พวง กล่าว

    อีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญคือ เครื่องเคลือบฟิล์มดีแอลซี (DLC) สำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ซึ่ง
    ดร.ศรายุทธ ตั้นมี หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กรและหัวหน้าทีมวิจัยเครื่องต้นแบบการเคลือบฟิล์มดีแอลซีฯ อธิบายว่า “สิ่งปนเปื้อนในน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติก่อให้เกิดการกัดกร่อนของชิ้นส่วนทางวิศวกรรมในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ส่งผลให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในกระบวนการบำรุงรักษาทั้งการซ่อมและเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ และยังส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อประเทศด้วย โดยเทคโนโลยีการเคลือบฟิล์มคาร์บอนคล้ายเพชร หรือ ฟิล์มดีแอลซี (DLC) ช่วยเพิ่มสมบัติความแข็ง ต้านการสึกกร่อนและการกัดกร่อน และลดแรงเสียดทานให้กับชิ้นส่วนอุตสาหกรรมได้”

    “สถาบันฯ ได้ร่วมกับ บริษัท ปตท.สํารวจและผลิตปิโตรเลียม จํากัด (มหาชน) พัฒนาเครื่องต้นแบบการเคลือบฟิล์มดีแอลซีสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเป็นเครื่องแรกของประเทศไทย เพื่อลดต้นทุนการนำเข้าจากต่างประเทศ และยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล เครื่องต้นแบบเครื่องเคลือบฟิล์มดีแอลซีฯ นี้ ใช้เทคโนโลยีพลาสมาและการเคลือบฟิล์มด้วยเทคนิคการใช้พลาสมาเพิ่มการตกสะสมของไอเชิงเคมี (RF-PECVD) เพื่อสังเคราะห์ฟิล์มดีแอลซี และใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนขั้นสูง Near Edge X-ray Absorption Fine Structure (NEXAFS) เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างฟิล์มดีแอลซี และศึกษาการกระจายตัวของพันธะคาร์บอน ซึ่งฟิล์มดีแอลซีที่พัฒนาขึ้นนี้มีคุณสมบัติต้านการสึกกร่อนและการกัดกร่อนสูง เหมาะสมกับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ช่วยลดต้นทุนการซ่อมบำรุง และสามารถทดแทนวัสดุนำเข้าราคาแพงได้” ดร.ศรายุทธ ตั้นมี กล่าว

    สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมทั้ง 2 นวัตกรรมของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ได้ที่ บูธ CL2 ในงาน Thailand Research Expo 2025 ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.00 น. ระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
    ซินโครตรอน อว. เปิดตัว 2 นวัตกรรมล้ำสมัย “เครื่องสังเคราะห์กราฟีน” และ “เครื่องเคลือบฟิล์ม DLC” ยกระดับอุตสาหกรรมไทยในงาน Thailand Research Expo 2025 สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (องค์การมหาชน) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ร่วมแสดงผลงานในงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ Thailand Research Expo 2025 ชู 2 นวัตกรรมก้าวล้ำพร้อมต่อยอดสู่การยกระดับอุตสาหกรรมไทย “เครื่องสังเคราะห์กราฟีนในระดับอุตสาหกรรม” และ “เครื่องเคลือบฟิล์มดีแอลซีสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม” กรุงเทพฯ – สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอนได้นำผลงานมาร่วมจัดแสดงภายในงานมหกรรมวิจัยแห่งชาติ 2568 หรือ Thailand Research Expo 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ จำนวน 2 ผลงาน คือ “เครื่องสังเคราะห์กราฟีนสู่การนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์” และ“เครื่องต้นแบบการเคลือบฟิล์มดีแอลซีสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม” โดยจัดแสดงที่บูธ CL2 ภายในโซนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมและพัฒนาเศรษฐกิจ ดร.พัฒนพงศ์ จันทร์พวง หัวหน้าฝ่ายพัฒนาเทคนิคและวิศวกรรม และหัวหน้าทีมวิจัยเครื่องสังเคราะห์กราฟีนฯ กล่าวว่า “กราฟีนเป็นคาร์บอนที่มีการจัดเรียงตัวในลักษณะ 2 มิติ ทำให้มีคุณสมบัติที่แข็งแรงกว่าเหล็กกล้าถึง 200 เท่า, นำไฟฟ้าได้ดีกว่าโลหะทองแดง, น้ำหนักเบา, แผ่ความร้อนได้ดี และความยืดหยุ่นสูง จึงถูกนำไปประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยีหลากหลายด้าน เช่น อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง, การแพทย์, และการกักเก็บพลังงาน เป็นต้น ปัจจุบันมีเทคโนโลยีในการสังเคราะห์กราฟีนหลายวิธี แต่ละวิธีก็มีข้อจำกัดแตกต่างกัน ซึ่งวิธีที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการสังเคราะห์กราฟีนให้ได้ระดับอุตสาหกรรม คือวิธี Flash Joule Heating (FJH) ที่อาศัยการจ่ายกระแสไฟฟ้าแรงสูงในเวลาฉับพลันผ่านผงคาร์บอนที่ได้จากขยะ จนทำให้เกิดความร้อนสูงกว่า 2700 องศาเซลเซียส แล้วเกิดการสลายพันธะระหว่างอะตอมของคาร์บอนกับแก๊ส หลังอุณหภูมิลดลงอะตอมของคาร์บอนจะจัดเรียงตัวกันกลายเป็นกราฟีนในเสี้ยววินาที” “ทั้งนี้ สถาบันฯ ประสบความสำเร็จในการพัฒนาระบบสังเคราะห์กราฟีนด้วยเทคนิคความร้อนกระตุ้นแบบพัลส์ยาว (Long-Pulse Joule Heating: LPJH) ที่มีกำลังผลิตวันละ 1 กิโลกรัม โดยอ้างอิงหลักการสังเคราะห์กราฟีนโดยใช้เทคนิค FJH และได้ศึกษาและพัฒนากระบวนการสังเคราะห์กราฟีนจากขยะเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น ใบอ้อยและชานอ้อยจากอุตสาหกรรมผลิตน้ำตาล อุตสาหกรรมพอลิเมอร์, เศษผ้าและเสื้อผ้าเก่าจากอุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้ศึกษา พัฒนา และประยุกต์ใช้ กราฟีนที่ผลิตได้ สำหรับพัฒนาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์อื่นๆ ในอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรมก่อสร้างและคอนกรีต, อุตสาหกรรมยางและพอลิเมอร์, อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและสิ่งทอ, อุตสาหกรรมสีเคลือบ เป็นต้น” ดร.พัฒนพงศ์ จันทร์พวง กล่าว อีกหนึ่งนวัตกรรมสำคัญคือ เครื่องเคลือบฟิล์มดีแอลซี (DLC) สำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ซึ่ง ดร.ศรายุทธ ตั้นมี หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์องค์กรและหัวหน้าทีมวิจัยเครื่องต้นแบบการเคลือบฟิล์มดีแอลซีฯ อธิบายว่า “สิ่งปนเปื้อนในน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติก่อให้เกิดการกัดกร่อนของชิ้นส่วนทางวิศวกรรมในอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ส่งผลให้ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงในกระบวนการบำรุงรักษาทั้งการซ่อมและเปลี่ยนชิ้นส่วนใหม่ และยังส่งผลให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจต่อประเทศด้วย โดยเทคโนโลยีการเคลือบฟิล์มคาร์บอนคล้ายเพชร หรือ ฟิล์มดีแอลซี (DLC) ช่วยเพิ่มสมบัติความแข็ง ต้านการสึกกร่อนและการกัดกร่อน และลดแรงเสียดทานให้กับชิ้นส่วนอุตสาหกรรมได้” “สถาบันฯ ได้ร่วมกับ บริษัท ปตท.สํารวจและผลิตปิโตรเลียม จํากัด (มหาชน) พัฒนาเครื่องต้นแบบการเคลือบฟิล์มดีแอลซีสำหรับอุตสาหกรรมปิโตรเลียมเป็นเครื่องแรกของประเทศไทย เพื่อลดต้นทุนการนำเข้าจากต่างประเทศ และยกระดับขีดความสามารถของอุตสาหกรรมไทย ให้สามารถแข่งขันได้ในระดับสากล เครื่องต้นแบบเครื่องเคลือบฟิล์มดีแอลซีฯ นี้ ใช้เทคโนโลยีพลาสมาและการเคลือบฟิล์มด้วยเทคนิคการใช้พลาสมาเพิ่มการตกสะสมของไอเชิงเคมี (RF-PECVD) เพื่อสังเคราะห์ฟิล์มดีแอลซี และใช้เทคนิคแสงซินโครตรอนขั้นสูง Near Edge X-ray Absorption Fine Structure (NEXAFS) เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างฟิล์มดีแอลซี และศึกษาการกระจายตัวของพันธะคาร์บอน ซึ่งฟิล์มดีแอลซีที่พัฒนาขึ้นนี้มีคุณสมบัติต้านการสึกกร่อนและการกัดกร่อนสูง เหมาะสมกับอุตสาหกรรมปิโตรเลียม ช่วยลดต้นทุนการซ่อมบำรุง และสามารถทดแทนวัสดุนำเข้าราคาแพงได้” ดร.ศรายุทธ ตั้นมี กล่าว สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถเข้าชมทั้ง 2 นวัตกรรมของสถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน ได้ที่ บูธ CL2 ในงาน Thailand Research Expo 2025 ตั้งแต่เวลา 08.30 - 17.00 น. ระหว่างวันที่ 16-20 มิถุนายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อิ๊งค์" รับทัวร์ต่อเนื่องปม JBC สื่อสารล่าช้า สว.ชี้รัฐบาลสอบตก ไม่ทันเกมเขมร หลายฝ่ายแนะปรับกลยุทธ์สื่อสารให้เร็ว-ชัด-ตรงประเด็น หวังลดแรงเสียดทานทางการเมือง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000056759

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    "อิ๊งค์" รับทัวร์ต่อเนื่องปม JBC สื่อสารล่าช้า สว.ชี้รัฐบาลสอบตก ไม่ทันเกมเขมร หลายฝ่ายแนะปรับกลยุทธ์สื่อสารให้เร็ว-ชัด-ตรงประเด็น หวังลดแรงเสียดทานทางการเมือง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000056759 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Sad
    Love
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1157 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌸 เวียดนามกลาง ดานัง ฮอยอัน บานาฮิลส์
    ✈️ บินหรู Full Service กับ Emirates Airlines
    💸 ลดทันที 3,000.- เหลือเพียง 12,990.-

    📆 เดินทาง :
    • 11-14 ก.ค. 68
    • 25-28 ก.ค. 68

    📍โปรแกรมไฮไลท์
    🪨 หมู่บ้านแกะสลักหินอ่อน – ภูเขาหินอ่อน
    🚣‍♀️ ล่องเรือกระด้ง – เมืองโบราณฮอยอัน – สะพานญี่ปุ่น
    🪭 ชมร้านเยื้อไผ่ – สะพานมังกรสุดอลัง
    🚡 นั่งกระเช้าบานาฮิลส์ – สวนดอกไม้ – สวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค
    🖐 สะพานมือยักษ์ – ป๊อปมาร์ท – พระพุทธรูปหลินอึ๋ง
    ☕️ จิบกาแฟ Café Palm Beach & SON TRA MARINA CAFE
    🎀 โบสถ์สีชมพู – ช้อปปิ้งฮาน มาร์เก็ต

    📌 ที่เดียว เที่ยวครบ ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม คาเฟ่ และแลนด์มาร์ก
    จองเลยก่อนเต็ม!

    #เวียดนามกลาง #ดานังฮอยอัน #บานาฮิลส์ #สะพานมือยักษ์ #บินหรูEmirates #เที่ยวเวียดนาม #ลดแรงแซงทุกโปร #เที่ยวฟูลเซอร์วิส

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e2c73e

    ดูทัวร์เวียดนามทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/8d0826

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์เวียดนาม #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🌸 เวียดนามกลาง ดานัง ฮอยอัน บานาฮิลส์ ✈️ บินหรู Full Service กับ Emirates Airlines 💸 ลดทันที 3,000.- เหลือเพียง 12,990.- 📆 เดินทาง : • 11-14 ก.ค. 68 • 25-28 ก.ค. 68 📍โปรแกรมไฮไลท์ 🪨 หมู่บ้านแกะสลักหินอ่อน – ภูเขาหินอ่อน 🚣‍♀️ ล่องเรือกระด้ง – เมืองโบราณฮอยอัน – สะพานญี่ปุ่น 🪭 ชมร้านเยื้อไผ่ – สะพานมังกรสุดอลัง 🚡 นั่งกระเช้าบานาฮิลส์ – สวนดอกไม้ – สวนสนุกแฟนตาซีพาร์ค 🖐 สะพานมือยักษ์ – ป๊อปมาร์ท – พระพุทธรูปหลินอึ๋ง ☕️ จิบกาแฟ Café Palm Beach & SON TRA MARINA CAFE 🎀 โบสถ์สีชมพู – ช้อปปิ้งฮาน มาร์เก็ต 📌 ที่เดียว เที่ยวครบ ทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม คาเฟ่ และแลนด์มาร์ก จองเลยก่อนเต็ม! #เวียดนามกลาง #ดานังฮอยอัน #บานาฮิลส์ #สะพานมือยักษ์ #บินหรูEmirates #เที่ยวเวียดนาม #ลดแรงแซงทุกโปร #เที่ยวฟูลเซอร์วิส ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e2c73e ดูทัวร์เวียดนามทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/8d0826 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์เวียดนาม #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 378 มุมมอง 0 รีวิว
  • Xu Yang นักศึกษาจีนทำลายสถิติโลกด้านความเร็วของไมโครโดรน

    Xu Yang นักศึกษาชาวจีน สร้างสถิติโลกใหม่สำหรับไมโครโดรน โดยโดรนของเขา สามารถบินด้วยความเร็วสูงถึง 340.78 กม./ชม. (211.75 ไมล์/ชม.) ซึ่งเทียบเท่ากับความเร็วของรถไฟความเร็วสูง

    ✅ Xu Yang ใช้ใบพัดที่ออกแบบเองผ่านการพิมพ์ 3 มิติ
    - ช่วยให้ โดรนของเขามีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำลายสถิติ

    ✅ ไมโครโดรนของเขามีน้ำหนักต่ำกว่า 250 กรัม
    - ทำให้ สามารถบินได้เร็วขึ้นโดยลดแรงต้านอากาศ

    ✅ สถิตินี้ได้รับการรับรองจาก Guinness World Records
    - เป็น สถิติใหม่สำหรับโดรนควอดคอปเตอร์ขนาดเล็กที่ควบคุมจากระยะไกล

    ✅ Xu Yang ได้รับความช่วยเหลือจากนักแข่งโดรนมืออาชีพในการพัฒนาเทคโนโลยี
    - ทำให้ สามารถปรับปรุงการออกแบบให้เหมาะสมกับการแข่งขัน

    ✅ ไมโครโดรนกำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากขึ้น
    - อาจมีการนำไปใช้ใน การแข่งขันกีฬาและการพัฒนาเทคโนโลยีการบิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/16/chinese-student-xu-yang-breaks-impossible-microdrone-world-speed-record
    Xu Yang นักศึกษาจีนทำลายสถิติโลกด้านความเร็วของไมโครโดรน Xu Yang นักศึกษาชาวจีน สร้างสถิติโลกใหม่สำหรับไมโครโดรน โดยโดรนของเขา สามารถบินด้วยความเร็วสูงถึง 340.78 กม./ชม. (211.75 ไมล์/ชม.) ซึ่งเทียบเท่ากับความเร็วของรถไฟความเร็วสูง ✅ Xu Yang ใช้ใบพัดที่ออกแบบเองผ่านการพิมพ์ 3 มิติ - ช่วยให้ โดรนของเขามีประสิทธิภาพสูงสุดในการทำลายสถิติ ✅ ไมโครโดรนของเขามีน้ำหนักต่ำกว่า 250 กรัม - ทำให้ สามารถบินได้เร็วขึ้นโดยลดแรงต้านอากาศ ✅ สถิตินี้ได้รับการรับรองจาก Guinness World Records - เป็น สถิติใหม่สำหรับโดรนควอดคอปเตอร์ขนาดเล็กที่ควบคุมจากระยะไกล ✅ Xu Yang ได้รับความช่วยเหลือจากนักแข่งโดรนมืออาชีพในการพัฒนาเทคโนโลยี - ทำให้ สามารถปรับปรุงการออกแบบให้เหมาะสมกับการแข่งขัน ✅ ไมโครโดรนกำลังกลายเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับความสนใจมากขึ้น - อาจมีการนำไปใช้ใน การแข่งขันกีฬาและการพัฒนาเทคโนโลยีการบิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/16/chinese-student-xu-yang-breaks-impossible-microdrone-world-speed-record
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Chinese student Xu Yang breaks ‘impossible’ microdrone world speed record
    With help from other drone speedsters, Xu comes up with his own 3D-printed propellers for his superfast small quadcopter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • 👍ถ้าการออกกำลังทำเป็นยาได้ มันจะเป็นยาที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมา📌

    การออกกำลังกาย สามารถป้องกันโรคได้ ท้้ง 3 ระดับ ครับ

    👉Primary Prevention – ป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค

    👇Secondary Prevention – ป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม

    👉Tertiary Prevention – ฟื้นฟูหลังเป็นโรค ไม่ให้ทรุดลง

    📌แต่ละ โรค มีข้อแนะนำการออกกำลังกายที่แตกต่างกันในรายละเอียด สรุปสั้นๆ

    1. 🦴 ข้อเสื่อม (Arthritis)

    ควรทำ: 🚶‍♂️เดินช้า | 🚴‍♀️ปั่นจักรยาน | 🏊‍♂️ว่ายน้ำ | 🏋️‍♀️เวทเบา

    เพราะ: ลดแรงกระแทก ลดน้ำหนักตัว เสริมกล้ามเนื้อรอบข้อ ลดอักเสบ

    2. 🎗️ มะเร็ง (Cancer – เต้านม, ลำไส้, ต่อมลูกหมาก)

    ควรทำ: 🚶‍♀️เดินเร็ว | 🏋️‍♀️ยกเวทเบา | 🍽️ควบคุมอาหาร

    เพราะ: ลดไขมัน ลดฮอร์โมนที่กระตุ้นเซลล์มะเร็ง เพิ่มภูมิคุ้มกัน

    3. 🌬️ ถุงลมโป่งพอง (COPD)

    ควรทำ: 🚴‍♂️ปั่นจักรยานเบา | 🏋️‍♀️เวทเบา
    เพราะ: เสริมกล้ามเนื้อ ปรับลมหายใจให้มีประสิทธิภาพ
    (ควรออกช่วงที่ใช้ยาขยายหลอดลมหรือมีออกซิเจน)

    4. 🩸 ไตวายเรื้อรัง (Chronic Renal Failure)

    ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏋️เวทเบา

    เพราะ: ลดความดัน คุมเบาหวาน ลดกล้ามเนื้อลีบ เพิ่มการตอบสนองต่ออินซูลิน

    5. ❤️ หัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure)

    ควรทำ: 🚶เดินช้า | 🏋️‍♂️เวทเบา | 🚴ปั่นจักรยานเบา

    เพราะ: เสริมกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูหัวใจ ลดอาการอ่อนแรง

    6. 💓 หลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease)

    ควรทำ: 🚶‍♀️เดินเร็ว | 🚴‍♀️ปั่นจักรยาน | 🏋️‍♀️เวทเบา

    เพราะ: ลดไขมัน เพิ่มสมรรถภาพหัวใจ ป้องกันโรคซ้ำ

    7. 🧠 สมองเสื่อม (Dementia)

    ควรทำ: 🚶เดิน | ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️‍♀️เวทเบา

    เพราะ: เพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมอง ลดล้ม ชะลอภาวะเสื่อม

    8. ☁️ ซึมเศร้า (Depression)

    ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏃‍♀️วิ่งเบา | 🧘‍♀️โยคะ | 🏋️‍♂️เวท

    เพราะ: กระตุ้นสารแห่งความสุข ลดเครียด เพิ่มการเข้าสังคม

    9. 🦴 กระดูกพรุน (Osteoporosis)

    ควรทำ: 🦘กระโดดเบา ๆ (ถ้าไม่ปวดข้อ) | ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️เวท

    เพราะ: เพิ่มมวลกระดูก เสริมความแข็งแรง ลดความกลัวล้ม

    10. 🦵 หลอดเลือดส่วนปลายตีบ (Peripheral Vascular Disease)

    ควรทำ: เครื่องปั่นจักรยาน ด้วยแขน | 🚶เดินจนปวด แล้วพัก

    เพราะ: กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดขา

    11. 🧠 โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke)

    ควรทำ: ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️เวทเบา | 🚶‍♀️เดิน (ถ้าปลอดภัย)

    เพราะ: ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ลดล้ม (ต้องดูแลใกล้ชิด)

    12. 🍬 เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes)

    ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏋️‍♀️เวทเบา (วันเว้นวัน)

    เพราะ: คุมน้ำตาล ลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ ใช้กลูโคสดีขึ้น
    (เลี่ยงแรงกระแทกถ้ามีปลายประสาทเสื่อม)

    13. 🦶 เส้นเลือดดำขาไหลเวียนไม่ดี (Venous Insufficiency)

    ควรทำ: 🚶‍♀️เดิน | 🦵ยกขา | 🏋️‍♂️ฝึกกล้ามเนื้อขา

    เพราะ: ช่วยส่งเลือดกลับหัวใจ ลดบวม ลดเสี่ยงอักเสบ
    ❤️❤️❤️

    ดังนั้น ยิ่งมีโรคเยอะ ยิ่งได้ประโยชน์เยอะจากการออกกำลังนะครับ ไม่ใช่ควรอยู่เฉยๆ ไม่กล้าออกกำลัง เพราะยิ่งทำให้สุขภาพไม่ดีและโรคแย่ลงครับ

    การออกกำลังจึงเป็น ยาที่ดีที่สุด อันนึงเลยครับ
    👍ถ้าการออกกำลังทำเป็นยาได้ มันจะเป็นยาที่ดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เคยสร้างมา📌 การออกกำลังกาย สามารถป้องกันโรคได้ ท้้ง 3 ระดับ ครับ 👉Primary Prevention – ป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค 👇Secondary Prevention – ป้องกันไม่ให้โรคลุกลาม 👉Tertiary Prevention – ฟื้นฟูหลังเป็นโรค ไม่ให้ทรุดลง 📌แต่ละ โรค มีข้อแนะนำการออกกำลังกายที่แตกต่างกันในรายละเอียด สรุปสั้นๆ 1. 🦴 ข้อเสื่อม (Arthritis) ควรทำ: 🚶‍♂️เดินช้า | 🚴‍♀️ปั่นจักรยาน | 🏊‍♂️ว่ายน้ำ | 🏋️‍♀️เวทเบา เพราะ: ลดแรงกระแทก ลดน้ำหนักตัว เสริมกล้ามเนื้อรอบข้อ ลดอักเสบ 2. 🎗️ มะเร็ง (Cancer – เต้านม, ลำไส้, ต่อมลูกหมาก) ควรทำ: 🚶‍♀️เดินเร็ว | 🏋️‍♀️ยกเวทเบา | 🍽️ควบคุมอาหาร เพราะ: ลดไขมัน ลดฮอร์โมนที่กระตุ้นเซลล์มะเร็ง เพิ่มภูมิคุ้มกัน 3. 🌬️ ถุงลมโป่งพอง (COPD) ควรทำ: 🚴‍♂️ปั่นจักรยานเบา | 🏋️‍♀️เวทเบา เพราะ: เสริมกล้ามเนื้อ ปรับลมหายใจให้มีประสิทธิภาพ (ควรออกช่วงที่ใช้ยาขยายหลอดลมหรือมีออกซิเจน) 4. 🩸 ไตวายเรื้อรัง (Chronic Renal Failure) ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏋️เวทเบา เพราะ: ลดความดัน คุมเบาหวาน ลดกล้ามเนื้อลีบ เพิ่มการตอบสนองต่ออินซูลิน 5. ❤️ หัวใจล้มเหลว (Congestive Heart Failure) ควรทำ: 🚶เดินช้า | 🏋️‍♂️เวทเบา | 🚴ปั่นจักรยานเบา เพราะ: เสริมกล้ามเนื้อ ฟื้นฟูหัวใจ ลดอาการอ่อนแรง 6. 💓 หลอดเลือดหัวใจตีบ (Coronary Artery Disease) ควรทำ: 🚶‍♀️เดินเร็ว | 🚴‍♀️ปั่นจักรยาน | 🏋️‍♀️เวทเบา เพราะ: ลดไขมัน เพิ่มสมรรถภาพหัวใจ ป้องกันโรคซ้ำ 7. 🧠 สมองเสื่อม (Dementia) ควรทำ: 🚶เดิน | ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️‍♀️เวทเบา เพราะ: เพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมอง ลดล้ม ชะลอภาวะเสื่อม 8. ☁️ ซึมเศร้า (Depression) ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏃‍♀️วิ่งเบา | 🧘‍♀️โยคะ | 🏋️‍♂️เวท เพราะ: กระตุ้นสารแห่งความสุข ลดเครียด เพิ่มการเข้าสังคม 9. 🦴 กระดูกพรุน (Osteoporosis) ควรทำ: 🦘กระโดดเบา ๆ (ถ้าไม่ปวดข้อ) | ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️เวท เพราะ: เพิ่มมวลกระดูก เสริมความแข็งแรง ลดความกลัวล้ม 10. 🦵 หลอดเลือดส่วนปลายตีบ (Peripheral Vascular Disease) ควรทำ: เครื่องปั่นจักรยาน ด้วยแขน | 🚶เดินจนปวด แล้วพัก เพราะ: กระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดอาการปวดขา 11. 🧠 โรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) ควรทำ: ⚖️ฝึกทรงตัว | 🏋️เวทเบา | 🚶‍♀️เดิน (ถ้าปลอดภัย) เพราะ: ฟื้นฟูการเคลื่อนไหว ลดล้ม (ต้องดูแลใกล้ชิด) 12. 🍬 เบาหวานชนิดที่ 2 (Type 2 Diabetes) ควรทำ: 🚶‍♂️เดินเร็ว | 🏋️‍♀️เวทเบา (วันเว้นวัน) เพราะ: คุมน้ำตาล ลดไขมัน เพิ่มกล้ามเนื้อ ใช้กลูโคสดีขึ้น (เลี่ยงแรงกระแทกถ้ามีปลายประสาทเสื่อม) 13. 🦶 เส้นเลือดดำขาไหลเวียนไม่ดี (Venous Insufficiency) ควรทำ: 🚶‍♀️เดิน | 🦵ยกขา | 🏋️‍♂️ฝึกกล้ามเนื้อขา เพราะ: ช่วยส่งเลือดกลับหัวใจ ลดบวม ลดเสี่ยงอักเสบ ❤️❤️❤️ ดังนั้น ยิ่งมีโรคเยอะ ยิ่งได้ประโยชน์เยอะจากการออกกำลังนะครับ ไม่ใช่ควรอยู่เฉยๆ ไม่กล้าออกกำลัง เพราะยิ่งทำให้สุขภาพไม่ดีและโรคแย่ลงครับ การออกกำลังจึงเป็น ยาที่ดีที่สุด อันนึงเลยครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 525 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ออกอัปเดตไมโครโค้ด 0x12F เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เสถียรของซีพียูรุ่นที่ 13 และ 14 Intel ได้ปล่อย ไมโครโค้ดเวอร์ชัน 0x12F เพื่อแก้ไขปัญหา Vmin Shift Instability ซึ่งเป็นปัญหาที่พบใน ซีพียูเดสก์ท็อปรุ่นที่ 13 และ 14 โดยอัปเดตใหม่นี้ ช่วยปรับปรุงเสถียรภาพของระบบโดยไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพ

    ก่อนหน้านี้ Intel ได้ออก ไมโครโค้ดเวอร์ชัน 0x12B เพื่อลดแรงดันไฟฟ้าที่สูงเกินไป แต่ยังพบปัญหาในบางกรณี ทำให้ต้องออก เวอร์ชัน 0x12F เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม

    ✅ Intel ออกไมโครโค้ด 0x12F เพื่อแก้ไขปัญหา Vmin Shift Instability
    - เป็น ส่วนขยายของอัปเดต 0x12B
    - ช่วยปรับปรุง เสถียรภาพของซีพียูรุ่นที่ 13 และ 14

    ✅ อัปเดตใหม่นี้ไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของซีพียู
    - Intel ยืนยันว่า ไม่มีการลดประสิทธิภาพจากอัปเดตนี้

    ✅ Intel แนะนำให้ผู้ใช้ติดตั้ง BIOS เวอร์ชันล่าสุด
    - ควรใช้ Intel Default Settings ใน BIOS เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของ Vmin Shift Instability

    ✅ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบอัปเดต BIOS ได้จากเว็บไซต์ของผู้ผลิตเมนบอร์ด
    - หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับรุ่นเมนบอร์ด สามารถใช้คำสั่ง msinfo32 เพื่อตรวจสอบข้อมูลระบบ

    https://www.neowin.net/news/intel-says-latest-13th14th-gen-cpu-instability-bug-firmware-does-not-impact-performance/
    Intel ออกอัปเดตไมโครโค้ด 0x12F เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่เสถียรของซีพียูรุ่นที่ 13 และ 14 Intel ได้ปล่อย ไมโครโค้ดเวอร์ชัน 0x12F เพื่อแก้ไขปัญหา Vmin Shift Instability ซึ่งเป็นปัญหาที่พบใน ซีพียูเดสก์ท็อปรุ่นที่ 13 และ 14 โดยอัปเดตใหม่นี้ ช่วยปรับปรุงเสถียรภาพของระบบโดยไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพ ก่อนหน้านี้ Intel ได้ออก ไมโครโค้ดเวอร์ชัน 0x12B เพื่อลดแรงดันไฟฟ้าที่สูงเกินไป แต่ยังพบปัญหาในบางกรณี ทำให้ต้องออก เวอร์ชัน 0x12F เพื่อแก้ไขเพิ่มเติม ✅ Intel ออกไมโครโค้ด 0x12F เพื่อแก้ไขปัญหา Vmin Shift Instability - เป็น ส่วนขยายของอัปเดต 0x12B - ช่วยปรับปรุง เสถียรภาพของซีพียูรุ่นที่ 13 และ 14 ✅ อัปเดตใหม่นี้ไม่มีผลกระทบต่อประสิทธิภาพของซีพียู - Intel ยืนยันว่า ไม่มีการลดประสิทธิภาพจากอัปเดตนี้ ✅ Intel แนะนำให้ผู้ใช้ติดตั้ง BIOS เวอร์ชันล่าสุด - ควรใช้ Intel Default Settings ใน BIOS เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของ Vmin Shift Instability ✅ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบอัปเดต BIOS ได้จากเว็บไซต์ของผู้ผลิตเมนบอร์ด - หากไม่แน่ใจเกี่ยวกับรุ่นเมนบอร์ด สามารถใช้คำสั่ง msinfo32 เพื่อตรวจสอบข้อมูลระบบ https://www.neowin.net/news/intel-says-latest-13th14th-gen-cpu-instability-bug-firmware-does-not-impact-performance/
    WWW.NEOWIN.NET
    Intel says latest 13th/14th Gen CPU instability bug firmware does not impact performance
    Intel has issued new firmware to further fix stability issues on 13th and 14th Gen desktop processors. The new update is said to have almost no performance impact.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจาก TechSpot ระบุว่า ความหนาแน่นของพลังงานและความร้อนที่เพิ่มขึ้น กำลังเป็นภัยคุกคามต่ออนาคตของเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง โดยปัญหานี้เกิดจาก การสิ้นสุดของ Dennard scaling ซึ่งเคยช่วยให้สามารถลดแรงดันไฟฟ้าพร้อมกับการเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์

    ✅ ความหนาแน่นของพลังงานที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดวิกฤตความร้อนในชิปยุคใหม่
    - อุณหภูมิที่สูงขึ้นส่งผลต่อ ประสิทธิภาพและการใช้พลังงานของชิป
    - ความร้อนที่มากเกินไปสามารถ ชะลอการส่งสัญญาณ, ลดประสิทธิภาพ และเพิ่มการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า

    ✅ การสิ้นสุดของ Dennard scaling ทำให้แรงดันไฟฟ้าไม่สามารถลดลงได้อีก
    - ก่อนปี 2000 วิศวกรสามารถ ลดแรงดันไฟฟ้าพร้อมกับการเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์
    - แต่ในปัจจุบัน แรงดันไฟฟ้าไม่สามารถลดลงได้อีก ทำให้พลังงานที่ใช้ต่อพื้นที่เพิ่มขึ้น

    ✅ เทคโนโลยีใหม่ เช่น CFETs อาจทำให้ปัญหาความร้อนรุนแรงขึ้น
    - CFETs (Complementary Field-Effect Transistors) เพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์โดยการซ้อนกัน
    - การจำลองแสดงให้เห็นว่า CFETs อาจเพิ่มอุณหภูมิของชิปขึ้น 9°C

    ✅ นักวิจัยกำลังพัฒนาแนวทางใหม่ในการจัดการความร้อน
    - Microfluidic cooling: ใช้ของเหลวไหลผ่านช่องทางระดับไมโครภายในชิป
    - Jet impingement: ใช้กระแสของเหลวความเร็วสูงเพื่อระบายความร้อน
    - Immersion cooling: จุ่มบอร์ดทั้งหมดลงในของเหลวที่นำความร้อนได้ดี

    ✅ แนวทางใหม่ในการจัดการพลังงานของชิป
    - Backside power delivery network (BSPDN): ย้ายเครือข่ายจ่ายไฟไปด้านหลังของชิปเพื่อลดความต้านทานไฟฟ้า
    - BSPDN อาจช่วยลดแรงดันไฟฟ้า แต่ อาจเพิ่มอุณหภูมิของชิปขึ้น 14°C

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - หากปัญหาความร้อนยังคงเพิ่มขึ้น อาจทำให้ การพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ต้องชะลอตัว

    ℹ️ ความท้าทายในการใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่
    - เทคโนโลยีเช่น microfluidic cooling และ immersion cooling อาจมีต้นทุนสูงและต้องปรับโครงสร้างพื้นฐาน

    ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต
    - หาก BSPDN ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม อาจช่วยให้ ชิปสามารถทำงานที่แรงดันไฟฟ้าต่ำลงและลดความร้อน

    https://www.techspot.com/news/107585-rising-power-density-heat-threaten-future-advanced-semiconductors.html
    รายงานจาก TechSpot ระบุว่า ความหนาแน่นของพลังงานและความร้อนที่เพิ่มขึ้น กำลังเป็นภัยคุกคามต่ออนาคตของเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง โดยปัญหานี้เกิดจาก การสิ้นสุดของ Dennard scaling ซึ่งเคยช่วยให้สามารถลดแรงดันไฟฟ้าพร้อมกับการเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์ ✅ ความหนาแน่นของพลังงานที่เพิ่มขึ้นทำให้เกิดวิกฤตความร้อนในชิปยุคใหม่ - อุณหภูมิที่สูงขึ้นส่งผลต่อ ประสิทธิภาพและการใช้พลังงานของชิป - ความร้อนที่มากเกินไปสามารถ ชะลอการส่งสัญญาณ, ลดประสิทธิภาพ และเพิ่มการรั่วไหลของกระแสไฟฟ้า ✅ การสิ้นสุดของ Dennard scaling ทำให้แรงดันไฟฟ้าไม่สามารถลดลงได้อีก - ก่อนปี 2000 วิศวกรสามารถ ลดแรงดันไฟฟ้าพร้อมกับการเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์ - แต่ในปัจจุบัน แรงดันไฟฟ้าไม่สามารถลดลงได้อีก ทำให้พลังงานที่ใช้ต่อพื้นที่เพิ่มขึ้น ✅ เทคโนโลยีใหม่ เช่น CFETs อาจทำให้ปัญหาความร้อนรุนแรงขึ้น - CFETs (Complementary Field-Effect Transistors) เพิ่มความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์โดยการซ้อนกัน - การจำลองแสดงให้เห็นว่า CFETs อาจเพิ่มอุณหภูมิของชิปขึ้น 9°C ✅ นักวิจัยกำลังพัฒนาแนวทางใหม่ในการจัดการความร้อน - Microfluidic cooling: ใช้ของเหลวไหลผ่านช่องทางระดับไมโครภายในชิป - Jet impingement: ใช้กระแสของเหลวความเร็วสูงเพื่อระบายความร้อน - Immersion cooling: จุ่มบอร์ดทั้งหมดลงในของเหลวที่นำความร้อนได้ดี ✅ แนวทางใหม่ในการจัดการพลังงานของชิป - Backside power delivery network (BSPDN): ย้ายเครือข่ายจ่ายไฟไปด้านหลังของชิปเพื่อลดความต้านทานไฟฟ้า - BSPDN อาจช่วยลดแรงดันไฟฟ้า แต่ อาจเพิ่มอุณหภูมิของชิปขึ้น 14°C ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - หากปัญหาความร้อนยังคงเพิ่มขึ้น อาจทำให้ การพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ต้องชะลอตัว ℹ️ ความท้าทายในการใช้เทคโนโลยีระบายความร้อนใหม่ - เทคโนโลยีเช่น microfluidic cooling และ immersion cooling อาจมีต้นทุนสูงและต้องปรับโครงสร้างพื้นฐาน ℹ️ แนวโน้มของการพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ในอนาคต - หาก BSPDN ได้รับการพัฒนาเพิ่มเติม อาจช่วยให้ ชิปสามารถทำงานที่แรงดันไฟฟ้าต่ำลงและลดความร้อน https://www.techspot.com/news/107585-rising-power-density-heat-threaten-future-advanced-semiconductors.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Rising power density and heat threaten the future of advanced semiconductors
    The underlying issue is closely linked to the end of Dennard scaling, a principle that once allowed engineers to shrink transistors and reduce voltage simultaneously – keeping...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองนายกฯ พิชัย หัวหน้า ”ทีมไทยแลนด์ ” เจรจาสหรัฐฯ เรียกประชุมถกเข้มกับทีมที่ปรึกษา ฯ ก่อนเดินทางไปเจรจา ย้ำข้อมูลพร้อมเกือบร้อยเปอร์เซนต์ เชื่อมั่นจะลดแรงกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ได้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035534

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    รองนายกฯ พิชัย หัวหน้า ”ทีมไทยแลนด์ ” เจรจาสหรัฐฯ เรียกประชุมถกเข้มกับทีมที่ปรึกษา ฯ ก่อนเดินทางไปเจรจา ย้ำข้อมูลพร้อมเกือบร้อยเปอร์เซนต์ เชื่อมั่นจะลดแรงกระทบจากมาตรการภาษีตอบโต้ได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000035534 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 939 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sundar Pichai CEO ของ Alphabet ยืนยันแผนการลงทุนมูลค่า 75 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025 เพื่อขยายศักยภาพของศูนย์ข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะโมเดล Gemini ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่บริษัทมุ่งเน้น

    🌐 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน:
    - งบประมาณนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาชิปและเซิร์ฟเวอร์ที่จำเป็นสำหรับบริการหลัก เช่น Search และการพัฒนา AI
    - การลงทุนยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการคลาวด์ของ Google

    🤖 โอกาสใน AI:
    - Sundar Pichai ระบุว่า AI เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และ Alphabet มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปสู่มือของผู้บริโภคและองค์กร

    📈 ผลกระทบต่อหุ้น:
    - หุ้นของ Alphabet เพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศหยุดการเก็บภาษีชั่วคราว ซึ่งช่วยลดแรงกดดันในตลาด

    ความท้าทายที่ต้องเผชิญ:
    💡 ความกังวลของนักลงทุน:
    - แม้การลงทุนใน AI จะมีศักยภาพสูง แต่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุนมหาศาลนี้

    💡 สงครามการค้า:
    - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/alphabet-ceo-reaffirms-planned-75-billion-capital-spending-in-2025
    Sundar Pichai CEO ของ Alphabet ยืนยันแผนการลงทุนมูลค่า 75 พันล้านดอลลาร์ ในปี 2025 เพื่อขยายศักยภาพของศูนย์ข้อมูลและพัฒนาเทคโนโลยี AI โดยเฉพาะโมเดล Gemini ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญที่บริษัทมุ่งเน้น 🌐 การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน: - งบประมาณนี้จะถูกใช้ในการพัฒนาชิปและเซิร์ฟเวอร์ที่จำเป็นสำหรับบริการหลัก เช่น Search และการพัฒนา AI - การลงทุนยังครอบคลุมถึงการสนับสนุนลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการคลาวด์ของ Google 🤖 โอกาสใน AI: - Sundar Pichai ระบุว่า AI เป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนี้ และ Alphabet มุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปสู่มือของผู้บริโภคและองค์กร 📈 ผลกระทบต่อหุ้น: - หุ้นของ Alphabet เพิ่มขึ้นกว่า 7% หลังจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศหยุดการเก็บภาษีชั่วคราว ซึ่งช่วยลดแรงกดดันในตลาด ความท้าทายที่ต้องเผชิญ: 💡 ความกังวลของนักลงทุน: - แม้การลงทุนใน AI จะมีศักยภาพสูง แต่นักลงทุนเริ่มตั้งคำถามถึงผลตอบแทนที่ชัดเจนจากการลงทุนมหาศาลนี้ 💡 สงครามการค้า: - ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตและส่งผลกระทบต่อแผนการลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/10/alphabet-ceo-reaffirms-planned-75-billion-capital-spending-in-2025
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alphabet CEO reaffirms planned $75 billion capital spending in 2025
    Las Vegas (Reuters) - Alphabet reiterated on Wednesday it would spend about $75 billion this year to build out data center capacity, doubling down on its generative AI bet even as the payoff remains unclear and a global trade war threatens to raise costs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • Corsair ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่ได้รับการพูดถึงในกลุ่มผู้ใช้เกี่ยวกับ 12V-2x6 connectors ที่มีการ "ขยับตัว" ได้เล็กน้อย โดยทางบริษัทระบุว่านี่เป็นการออกแบบที่ตั้งใจไว้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อให้เหมาะสม และลดการสึกหรอของขั้วต่อในระยะยาว

    ✅ ลดปัญหาขั้วต่อเสียหาย:
    - Corsair ระบุว่า การที่ขั้วต่อสามารถขยับได้เล็กน้อย (ประมาณ 0.25mm ถึง 0.55mm) ช่วยให้การจัดวางขั้วต่อกับพินใน GPU ทำได้แม่นยำขึ้น
    - การออกแบบนี้ยังช่วยลดแรงที่เกิดจากการเสียบและถอดซ้ำ ๆ ซึ่งปกติอาจทำให้ขั้วต่อเสียหายได้

    ✅ ความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว:
    - การขยับเล็กน้อยในขั้วต่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานแต่อย่างใด เนื่องจาก Corsair ได้ทดสอบอย่างละเอียดแล้วว่าขั้วต่อต่าง ๆ ยังคงสามารถส่งไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์

    ✅ ตัวเลือกที่รองรับมาตรฐาน:
    - Corsair ใช้ผู้ผลิตหลายรายในการผลิตสายไฟที่รองรับมาตรฐานนี้ รวมถึงสายที่ถูกหุ้มอย่างดีและมีความหนากว่าปกติ

    == ความสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Nvidia RTX ==
    ✅ ปัญหาการหลอมละลายของสายไฟใน GPU ซีรีส์ RTX 50 เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานกังวล แต่ Corsair ชี้แจงว่าการออกแบบขั้วต่อที่มีช่องว่างนี้ไม่ใช่สาเหตุของปัญหา

    ✅ ขณะเดียวกัน Corsair ยืนยันว่า หากผู้ใช้งานพบปัญหาการหลวมมากเกินไป ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าทันที

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/corsair-confirms-the-slight-wiggle-room-in-its-16-pin-connectors-for-nvidia-gpus-is-by-design
    Corsair ออกมาชี้แจงถึงประเด็นที่ได้รับการพูดถึงในกลุ่มผู้ใช้เกี่ยวกับ 12V-2x6 connectors ที่มีการ "ขยับตัว" ได้เล็กน้อย โดยทางบริษัทระบุว่านี่เป็นการออกแบบที่ตั้งใจไว้ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อให้เหมาะสม และลดการสึกหรอของขั้วต่อในระยะยาว ✅ ลดปัญหาขั้วต่อเสียหาย: - Corsair ระบุว่า การที่ขั้วต่อสามารถขยับได้เล็กน้อย (ประมาณ 0.25mm ถึง 0.55mm) ช่วยให้การจัดวางขั้วต่อกับพินใน GPU ทำได้แม่นยำขึ้น - การออกแบบนี้ยังช่วยลดแรงที่เกิดจากการเสียบและถอดซ้ำ ๆ ซึ่งปกติอาจทำให้ขั้วต่อเสียหายได้ ✅ ความทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว: - การขยับเล็กน้อยในขั้วต่อไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงานแต่อย่างใด เนื่องจาก Corsair ได้ทดสอบอย่างละเอียดแล้วว่าขั้วต่อต่าง ๆ ยังคงสามารถส่งไฟฟ้าได้อย่างสมบูรณ์ ✅ ตัวเลือกที่รองรับมาตรฐาน: - Corsair ใช้ผู้ผลิตหลายรายในการผลิตสายไฟที่รองรับมาตรฐานนี้ รวมถึงสายที่ถูกหุ้มอย่างดีและมีความหนากว่าปกติ == ความสำคัญสำหรับผู้ใช้งาน Nvidia RTX == ✅ ปัญหาการหลอมละลายของสายไฟใน GPU ซีรีส์ RTX 50 เป็นเรื่องที่ผู้ใช้งานกังวล แต่ Corsair ชี้แจงว่าการออกแบบขั้วต่อที่มีช่องว่างนี้ไม่ใช่สาเหตุของปัญหา ✅ ขณะเดียวกัน Corsair ยืนยันว่า หากผู้ใช้งานพบปัญหาการหลวมมากเกินไป ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนลูกค้าทันที https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/corsair-confirms-the-slight-wiggle-room-in-its-16-pin-connectors-for-nvidia-gpus-is-by-design
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถอยไม่กล้าลุยไฟ ดัน 'กาสิโน' ลดแรงต้าน-ทำลายเงื่อนไข : ข่าวลึกปมลับ 09/04/68
    ถอยไม่กล้าลุยไฟ ดัน 'กาสิโน' ลดแรงต้าน-ทำลายเงื่อนไข : ข่าวลึกปมลับ 09/04/68
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • SoftBank Group บริษัทด้านการลงทุนเทคโนโลยีชั้นนำจากญี่ปุ่น วางแผนระดมทุนมูลค่ากว่า 600 พันล้านเยน (4.1 พันล้านดอลลาร์) ผ่านการออกพันธบัตรให้แก่ผู้ลงทุนรายย่อย นับว่าเป็น การระดมทุนผ่านพันธบัตรครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ของ SoftBank โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนนี้จะนำไปใช้ในการไถ่ถอนพันธบัตรเดิม และชำระหนี้จากการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท Arm ซึ่งเป็นผู้พัฒนาชิปเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ

    ✅ การจัดการหนี้และเสริมกำลังการลงทุน:
    - SoftBank มีหนี้ค้างชำระกว่า 7 ล้านล้านเยน และการออกพันธบัตรครั้งนี้ช่วยลดแรงกดดันทางการเงิน โดยอัตราดอกเบี้ยที่เสนอจะอยู่ระหว่าง 3% ถึง 3.6% และพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนพฤษภาคม 2030

    ✅ พันธบัตรเพื่อสนับสนุนธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์:
    - SoftBank เข้าซื้อหุ้น Arm จาก Vision Fund ในปี 2023 ซึ่งเงินทุนนี้จะช่วยผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ในระดับโลก

    ✅ SoftBank กับ OpenAI:
    - เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา SoftBank ได้เป็นผู้นำในรอบการระดมทุนมูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์ ของ OpenAI โดย SoftBank ลงทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสนับสนุนเทคโนโลยี AI

    ✅ สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง:
    - SoftBank ตั้งเป้ารักษาสัดส่วนหนี้ให้อยู่ที่ ต่ำกว่า 25% ของมูลค่าสินทรัพย์รวม ซึ่ง ณ สิ้นปี 2024 สัดส่วนนี้อยู่ที่ 12.9% แสดงให้เห็นถึงการจัดการการเงินที่สมดุล

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/softbank-to-raise-41-billion-in-retail-bond-issuance
    SoftBank Group บริษัทด้านการลงทุนเทคโนโลยีชั้นนำจากญี่ปุ่น วางแผนระดมทุนมูลค่ากว่า 600 พันล้านเยน (4.1 พันล้านดอลลาร์) ผ่านการออกพันธบัตรให้แก่ผู้ลงทุนรายย่อย นับว่าเป็น การระดมทุนผ่านพันธบัตรครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์ของ SoftBank โดยเงินที่ได้จากการระดมทุนนี้จะนำไปใช้ในการไถ่ถอนพันธบัตรเดิม และชำระหนี้จากการเข้าซื้อหุ้นของบริษัท Arm ซึ่งเป็นผู้พัฒนาชิปเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำ ✅ การจัดการหนี้และเสริมกำลังการลงทุน: - SoftBank มีหนี้ค้างชำระกว่า 7 ล้านล้านเยน และการออกพันธบัตรครั้งนี้ช่วยลดแรงกดดันทางการเงิน โดยอัตราดอกเบี้ยที่เสนอจะอยู่ระหว่าง 3% ถึง 3.6% และพันธบัตรจะครบกำหนดไถ่ถอนในเดือนพฤษภาคม 2030 ✅ พันธบัตรเพื่อสนับสนุนธุรกิจเซมิคอนดักเตอร์: - SoftBank เข้าซื้อหุ้น Arm จาก Vision Fund ในปี 2023 ซึ่งเงินทุนนี้จะช่วยผลักดันการพัฒนาเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ในระดับโลก ✅ SoftBank กับ OpenAI: - เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา SoftBank ได้เป็นผู้นำในรอบการระดมทุนมูลค่า 40 พันล้านดอลลาร์ ของ OpenAI โดย SoftBank ลงทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสนับสนุนเทคโนโลยี AI ✅ สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง: - SoftBank ตั้งเป้ารักษาสัดส่วนหนี้ให้อยู่ที่ ต่ำกว่า 25% ของมูลค่าสินทรัพย์รวม ซึ่ง ณ สิ้นปี 2024 สัดส่วนนี้อยู่ที่ 12.9% แสดงให้เห็นถึงการจัดการการเงินที่สมดุล https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/07/softbank-to-raise-41-billion-in-retail-bond-issuance
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SoftBank to raise $4.1 billion in retail bond issuance
    TOKYO (Reuters) - Japanese technology investment group SoftBank Group plans to raise 600 billion yen ($4.10 billion) by issuing bonds to retail investors, it said in a filing on Monday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี Superfluid Cooling ที่สามารถจัดการความร้อนสูงถึง 1.5 กิโลวัตต์ต่อชิป ซึ่งถือเป็นระดับที่เหมาะสำหรับชิปประสิทธิภาพสูงอย่าง Nvidia GB300 Superchip รวมถึงการใช้งานในระบบ rack servers แห่งอนาคต การพัฒนานี้เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายของ Intel ในตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันสูง

    ✅ การจัดการความร้อนระดับสูงสำหรับเซิร์ฟเวอร์พลังงานมาก
    - เทคโนโลยีนี้ใช้ microbubble injection เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของของเหลวและการถ่ายเทความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ
    - ระบบยังใช้ ของเหลว dielectric ชนิดพิเศษ ที่ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ทำให้ปลอดภัยหากเกิดการรั่วซึม

    ✅ แรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีเรือเดินสมุทร
    - เทคโนโลยีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการลดแรงต้านน้ำในเรือเดินสมุทรของ Mitsubishi Heavy Industries โดยใช้ฟองอากาศเพื่อเพิ่มความเร็ว ซึ่งถูกนำมาปรับใช้ในการระบายความร้อน

    ✅ เหมาะสำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ในยุค AI
    - Superfluid Cooling ถูกออกแบบมาเพื่อระบบเซิร์ฟเวอร์ที่มีพลังงานสูงสุดถึง 600 กิโลวัตต์ และรองรับอนาคตที่ระบบเซิร์ฟเวอร์อาจมีความต้องการพลังงานระดับเมกะวัตต์

    ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในไต้หวัน
    - Intel ร่วมมือกับซัพพลายเออร์ในไต้หวัน เช่น Maico, YuanShan และ Kuenling เพื่อพัฒนาอุปกรณ์เสริม เช่น server racks และ liquid-cooled chassis
    - บริษัทกำลังลงทุนในวัสดุขั้นสูง เช่น liquid metal-based designs เพื่อเพิ่มความทนทานและลดการสึกหรอ

    https://www.techradar.com/pro/intel-could-be-key-to-nvidias-future-plans-for-megawatt-class-rack-servers-as-it-pushes-ahead-with-superfluid-cooling
    Intel เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยี Superfluid Cooling ที่สามารถจัดการความร้อนสูงถึง 1.5 กิโลวัตต์ต่อชิป ซึ่งถือเป็นระดับที่เหมาะสำหรับชิปประสิทธิภาพสูงอย่าง Nvidia GB300 Superchip รวมถึงการใช้งานในระบบ rack servers แห่งอนาคต การพัฒนานี้เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายของ Intel ในตลาดอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันสูง ✅ การจัดการความร้อนระดับสูงสำหรับเซิร์ฟเวอร์พลังงานมาก - เทคโนโลยีนี้ใช้ microbubble injection เพื่อเพิ่มการไหลเวียนของของเหลวและการถ่ายเทความร้อนอย่างมีประสิทธิภาพ - ระบบยังใช้ ของเหลว dielectric ชนิดพิเศษ ที่ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า ทำให้ปลอดภัยหากเกิดการรั่วซึม ✅ แรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีเรือเดินสมุทร - เทคโนโลยีนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากการลดแรงต้านน้ำในเรือเดินสมุทรของ Mitsubishi Heavy Industries โดยใช้ฟองอากาศเพื่อเพิ่มความเร็ว ซึ่งถูกนำมาปรับใช้ในการระบายความร้อน ✅ เหมาะสำหรับเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่ในยุค AI - Superfluid Cooling ถูกออกแบบมาเพื่อระบบเซิร์ฟเวอร์ที่มีพลังงานสูงสุดถึง 600 กิโลวัตต์ และรองรับอนาคตที่ระบบเซิร์ฟเวอร์อาจมีความต้องการพลังงานระดับเมกะวัตต์ ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในไต้หวัน - Intel ร่วมมือกับซัพพลายเออร์ในไต้หวัน เช่น Maico, YuanShan และ Kuenling เพื่อพัฒนาอุปกรณ์เสริม เช่น server racks และ liquid-cooled chassis - บริษัทกำลังลงทุนในวัสดุขั้นสูง เช่น liquid metal-based designs เพื่อเพิ่มความทนทานและลดการสึกหรอ https://www.techradar.com/pro/intel-could-be-key-to-nvidias-future-plans-for-megawatt-class-rack-servers-as-it-pushes-ahead-with-superfluid-cooling
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนร่วมสอบตึกถล่ม ทูตจีนเผย “ผลสอบอาจกระทบเจ้านายไทย” เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนที่ชี้ว่า ซับคอนแทรคเตอร์รายดังกล่าว มีบทบาทสำคัญในการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับส่วนราชการ และนักการเมืองไทย


    .
    2 เมษายน 2568 งามหน้ากับความชัดเจนของเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย นายหาน จื้อเฉียง ที่โพสต์แสดงความเสียใจและระบุให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม จนกลายเป็นประเด็นระดับนานาชาติ ...มีรายงานว่า #รัฐบาลจีน ได้เร่งดำเนินการสอบสวนอย่างเข้มงวด กับ #บริษัทก่อสร้าง จากจีนที่ทำหน้าที่เป็น #ซับคอนแทรคเตอร์ ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้ยังส่งสัญญาณถึงความโปร่งใสที่อาจกระทบต่อบุคคลสำคัญในประเทศไทย
    .
    ข่าวจากรัฐบาลจีนระบุว่า ทางการได้เรียกตัวผู้บริหารระดับสูงของบริษัท #ไชน่าเรลเวย์ บริษัทแม่ ของ #ไชน่าเรลเวย์นัมเบอร์10 ที่รับผิดชอบโครงการนี้ทั้งชุด ร่วมสอบสวนเหตุตึกถล่มอย่างละเอียด และเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที หากพบหลักฐาน "ความผิดพลาดจากการออกแบบ การก่อสร้าง หรือการตรวจสอบโครงสร้าง"
    .
    กระบวนการสอบสวนของจีน ไม่เพียงแต่ตรวจสอบซับคอนแทรคเตอร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง บริษัทผู้ออกแบบ , วิศวกรที่ตรวจและอนุมัติโครงสร้าง , และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งหมด โดยให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
    .
    ทูตจีนเผย “ผลสอบอาจกระทบเจ้านายไทย”
    ระหว่างการประชุมลับในเหตุการณ์นี้ ทูตจีน ประจำประเทศไทยได้แสดงความกังวลว่า ผลการสอบสวนอาจส่งผลกระทบต่อ #เจ้านายไทย หรือ #บุคคลสำคัญ ที่อาจเชื่อมโยงกับโครงการนี้ เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนที่ชี้ว่า ซับคอนแทรคเตอร์รายดังกล่าว มีบทบาทสำคัญใน #การจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับ #ส่วนราชการ และ #นักการเมืองไทย
    .
    "การตรวจสอบครั้งนี้จะไม่ใช่แค่การสอบสวนภายในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังขยายผลไปถึงการเชื่อมโยงระหว่างบริษัทจีนกับพันธมิตรในประเทศไทย ซึ่งอาจนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในวงการเมืองและการปกครองของไทย" แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทูตจีนกล่าว
    .
    ขณะที่ รัฐบาลไทย ยังไม่มีแถลงการณ์อย่างใด นอกจากความพยายามในการควบคุมสถานการณ์ เพื่อป้องกันผลกระทบในวงกว้างกวานี้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับบุคคลสำคัญที่ถูกอ้างอิง หากผลการสอบสวนจากจีนเผยถึง การจ่ายใต้โต๊ะ เป็นการคอร์รัปชันในโครงการนี้ อาจทำให้เกิดแรงกดดันจากสังคมไทยและประชาคมระหว่างประเทศต่อรัฐบาลไทยได้
    .
    "คำถามสำคัญคือ รัฐบาลไทยจะสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้หรือไม่และได้อย่างไร หรือจะเลือกใช้วิธีการปิดข่าวเพื่อลดแรงกระเพื่อมทางการเมือง" .
    การที่จีน กล้าพูดชัดเจนถึง "เจ้านายไทย" หมายความว่า มีความชัดเจนเข้าใจและรับรู้ถึงต้นตอของปัญหา เพียงแต่จะเปิดเผยข้อมูล รวมถึงนำคนผิดมาลงโทษได้จริงหรือไม่...
    .
    กับคำถามทิ้งท้าย…
    "ประเทศไทยจะยอมรับความจริงและเผชิญหน้ากับปัญหานี้อย่างตรงไปตรงมา หรือจะเลือกใช้วิธีการเดิมๆ ในการปกปิดความผิดพลาด?" นี่คือคำถามที่สังคมไทยและประชาคมโลกกำลังรอคำตอบ

    .
    https://web.facebook.com/share/p/161BQVb9fA/
    จีนร่วมสอบตึกถล่ม ทูตจีนเผย “ผลสอบอาจกระทบเจ้านายไทย” เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนที่ชี้ว่า ซับคอนแทรคเตอร์รายดังกล่าว มีบทบาทสำคัญในการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับส่วนราชการ และนักการเมืองไทย . 2 เมษายน 2568 งามหน้ากับความชัดเจนของเอกอัครราชทูตจีน ประจำประเทศไทย นายหาน จื้อเฉียง ที่โพสต์แสดงความเสียใจและระบุให้ความร่วมมือในการตรวจสอบ เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม จนกลายเป็นประเด็นระดับนานาชาติ ...มีรายงานว่า #รัฐบาลจีน ได้เร่งดำเนินการสอบสวนอย่างเข้มงวด กับ #บริษัทก่อสร้าง จากจีนที่ทำหน้าที่เป็น #ซับคอนแทรคเตอร์ ขณะเดียวกัน ความเคลื่อนไหวของจีนครั้งนี้ยังส่งสัญญาณถึงความโปร่งใสที่อาจกระทบต่อบุคคลสำคัญในประเทศไทย . ข่าวจากรัฐบาลจีนระบุว่า ทางการได้เรียกตัวผู้บริหารระดับสูงของบริษัท #ไชน่าเรลเวย์ บริษัทแม่ ของ #ไชน่าเรลเวย์นัมเบอร์10 ที่รับผิดชอบโครงการนี้ทั้งชุด ร่วมสอบสวนเหตุตึกถล่มอย่างละเอียด และเตรียมดำเนินคดีตามกฎหมายทันที หากพบหลักฐาน "ความผิดพลาดจากการออกแบบ การก่อสร้าง หรือการตรวจสอบโครงสร้าง" . กระบวนการสอบสวนของจีน ไม่เพียงแต่ตรวจสอบซับคอนแทรคเตอร์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง บริษัทผู้ออกแบบ , วิศวกรที่ตรวจและอนุมัติโครงสร้าง , และบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งหมด โดยให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบร่วมกันของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง . ทูตจีนเผย “ผลสอบอาจกระทบเจ้านายไทย” ระหว่างการประชุมลับในเหตุการณ์นี้ ทูตจีน ประจำประเทศไทยได้แสดงความกังวลว่า ผลการสอบสวนอาจส่งผลกระทบต่อ #เจ้านายไทย หรือ #บุคคลสำคัญ ที่อาจเชื่อมโยงกับโครงการนี้ เนื่องจากมีข้อมูลบางส่วนที่ชี้ว่า ซับคอนแทรคเตอร์รายดังกล่าว มีบทบาทสำคัญใน #การจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับ #ส่วนราชการ และ #นักการเมืองไทย . "การตรวจสอบครั้งนี้จะไม่ใช่แค่การสอบสวนภายในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังขยายผลไปถึงการเชื่อมโยงระหว่างบริษัทจีนกับพันธมิตรในประเทศไทย ซึ่งอาจนำไปสู่การเปิดเผยข้อมูลที่ละเอียดอ่อนในวงการเมืองและการปกครองของไทย" แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทูตจีนกล่าว . ขณะที่ รัฐบาลไทย ยังไม่มีแถลงการณ์อย่างใด นอกจากความพยายามในการควบคุมสถานการณ์ เพื่อป้องกันผลกระทบในวงกว้างกวานี้ ซึ่งอาจเกิดขึ้นกับบุคคลสำคัญที่ถูกอ้างอิง หากผลการสอบสวนจากจีนเผยถึง การจ่ายใต้โต๊ะ เป็นการคอร์รัปชันในโครงการนี้ อาจทำให้เกิดแรงกดดันจากสังคมไทยและประชาคมระหว่างประเทศต่อรัฐบาลไทยได้ . "คำถามสำคัญคือ รัฐบาลไทยจะสามารถรับมือกับสถานการณ์นี้หรือไม่และได้อย่างไร หรือจะเลือกใช้วิธีการปิดข่าวเพื่อลดแรงกระเพื่อมทางการเมือง" . การที่จีน กล้าพูดชัดเจนถึง "เจ้านายไทย" หมายความว่า มีความชัดเจนเข้าใจและรับรู้ถึงต้นตอของปัญหา เพียงแต่จะเปิดเผยข้อมูล รวมถึงนำคนผิดมาลงโทษได้จริงหรือไม่... . กับคำถามทิ้งท้าย… "ประเทศไทยจะยอมรับความจริงและเผชิญหน้ากับปัญหานี้อย่างตรงไปตรงมา หรือจะเลือกใช้วิธีการเดิมๆ ในการปกปิดความผิดพลาด?" นี่คือคำถามที่สังคมไทยและประชาคมโลกกำลังรอคำตอบ . https://web.facebook.com/share/p/161BQVb9fA/
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 725 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่จาก AMD อย่าง RX 9070 XT และ RX 9070 ซึ่งกำลังได้รับความสนใจในวงการเกมและเทคโนโลยี ด้วยความสามารถที่โดดเด่นในการแข่งขันกับคู่แข่งรุ่นใหญ่ของ Nvidia อย่าง RTX 5080 และการปรับแต่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่าค่ามาตรฐาน

    จุดเด่นสำคัญ:
    1) การ์ด RX 9070 XT สามารถเอาชนะ RTX 5080 ได้ในด้านการประสิทธิภาพเฟรมเรต (FPS) โดยเฉพาะในเกม Cyberpunk 2077 เมื่อปรับลดแรงดันไฟฟ้า (Undervolting) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 10% โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความเร็วของ GPU โดยตรง

    2) มีการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านการโอเวอร์คล็อก (Overclocking) อย่าง Der8auer และ Alva Jonathan ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการ์ด AMD ในการเพิ่มเฟรมเรตได้อย่างน่าประทับใจ โดยใช้เทคนิคปรับแรงดันไฟฟ้าลดลง ทำให้ GPU ทำงานได้ที่ความเร็ว 3.36 GHz โดยใช้พลังงานต่ำลง

    เทคโนโลยีและผลลัพธ์:
    - AMD Radeon Software ช่วยให้การปรับแรงดันไฟฟ้าทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตัวการ์ดสามารถทำงานได้อย่างเสถียร แม้ภายใต้การเพิ่มพลังงานถึง 110% จากปกติ

    - อย่างไรก็ตาม การ์ดเหล่านี้ถูกตั้งราคาขายเกินกว่ามาตรฐาน MSRP ในตลาด เช่น รุ่น RX 9070 XT PowerColor Red Devil ที่เริ่มต้นที่ $799 สูงกว่าราคามาตรฐานถึง $200

    แม้ว่าความสามารถด้านการเพิ่มประสิทธิภาพจะโดดเด่น แต่ยังมีประเด็นที่อาจทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจยาก เช่น การจัดจำหน่ายที่จำกัดและราคาที่สูง นอกจากนี้ การปรับแต่งในบางกรณี เช่น การเพิ่มความเร็ว VRAM อาจไม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่กลับทำให้เกมทำงานช้าลงเนื่องจากการแก้ไขข้อผิดพลาดของ VRAM ที่ซับซ้อนขึ้น

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/undervolted-rx-9070-xt-beats-rtx-5080-rx-9070-and-9070-xt-models-with-heavy-coolers-have-massive-oc-headroom
    ข่าวนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่จาก AMD อย่าง RX 9070 XT และ RX 9070 ซึ่งกำลังได้รับความสนใจในวงการเกมและเทคโนโลยี ด้วยความสามารถที่โดดเด่นในการแข่งขันกับคู่แข่งรุ่นใหญ่ของ Nvidia อย่าง RTX 5080 และการปรับแต่งที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้มากกว่าค่ามาตรฐาน จุดเด่นสำคัญ: 1) การ์ด RX 9070 XT สามารถเอาชนะ RTX 5080 ได้ในด้านการประสิทธิภาพเฟรมเรต (FPS) โดยเฉพาะในเกม Cyberpunk 2077 เมื่อปรับลดแรงดันไฟฟ้า (Undervolting) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 10% โดยไม่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนความเร็วของ GPU โดยตรง 2) มีการทดสอบจากผู้เชี่ยวชาญด้านการโอเวอร์คล็อก (Overclocking) อย่าง Der8auer และ Alva Jonathan ที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของการ์ด AMD ในการเพิ่มเฟรมเรตได้อย่างน่าประทับใจ โดยใช้เทคนิคปรับแรงดันไฟฟ้าลดลง ทำให้ GPU ทำงานได้ที่ความเร็ว 3.36 GHz โดยใช้พลังงานต่ำลง เทคโนโลยีและผลลัพธ์: - AMD Radeon Software ช่วยให้การปรับแรงดันไฟฟ้าทำได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลให้ตัวการ์ดสามารถทำงานได้อย่างเสถียร แม้ภายใต้การเพิ่มพลังงานถึง 110% จากปกติ - อย่างไรก็ตาม การ์ดเหล่านี้ถูกตั้งราคาขายเกินกว่ามาตรฐาน MSRP ในตลาด เช่น รุ่น RX 9070 XT PowerColor Red Devil ที่เริ่มต้นที่ $799 สูงกว่าราคามาตรฐานถึง $200 แม้ว่าความสามารถด้านการเพิ่มประสิทธิภาพจะโดดเด่น แต่ยังมีประเด็นที่อาจทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจยาก เช่น การจัดจำหน่ายที่จำกัดและราคาที่สูง นอกจากนี้ การปรับแต่งในบางกรณี เช่น การเพิ่มความเร็ว VRAM อาจไม่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ แต่กลับทำให้เกมทำงานช้าลงเนื่องจากการแก้ไขข้อผิดพลาดของ VRAM ที่ซับซ้อนขึ้น https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/undervolted-rx-9070-xt-beats-rtx-5080-rx-9070-and-9070-xt-models-with-heavy-coolers-have-massive-oc-headroom
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 487 มุมมอง 0 รีวิว
  • Guan Wenhui สมาชิกสภานิติบัญญัติของจีนได้เสนอข้อกฎหมายใหม่ที่ช่วยให้บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนสามารถปกปิดข้อมูลแหล่งที่มาของซัพพลายเออร์ต่างประเทศได้ การเสนอแก้ไขครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางการค้าจากสหรัฐฯ ที่ทำให้จีนมีความยากลำบากในการเข้าถึงโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัย ซอฟต์แวร์ และเครื่องมือในการผลิตชิป

    Guan ซึ่งเป็นผู้แทนจาก National People’s Congress แนะนำว่าบริษัทที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำไม่ควรต้องเปิดเผยแหล่งซัพพลายเออร์ในการเสนอราคาสาธารณะ การทำเช่นนี้จะช่วยลดแรงกดดันที่อาจทำให้ซัพพลายเออร์ต่างประเทศต้องตัดสัมพันธ์กับผู้ซื้อชาวจีน และทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศยังคงมีอยู่

    บริษัทจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ ได้ใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การลักลอบนำเข้าสินค้าจากประเทศที่สามเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่ต้องการ ข้อกฎหมายใหม่นี้จะทำให้การตรวจสอบและการระบุส่วนประกอบของซัพพลายเออร์ต่างประเทศยากยิ่งขึ้นสำหรับนักวิเคราะห์ ผู้สังเกตการณ์ และเจ้าหน้าที่รัฐบาล

    แม้ว่าข้อเสนอจาก NPC อาจไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายในทันที แต่ก็แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในลำดับความสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ความคิดเห็นของ Guan ยังบ่งชี้ว่าจีนกำลังมองหาวิธีการที่จะรักษาการเข้าถึงเทคโนโลยีระดับโลกขณะลดการเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ การผลักดันนวัตกรรมภายในประเทศยังเป็นเป้าหมายสำคัญที่จีนให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-lawmaker-proposes-law-to-allow-chinese-companies-to-hide-their-foreign-suppliers
    Guan Wenhui สมาชิกสภานิติบัญญัติของจีนได้เสนอข้อกฎหมายใหม่ที่ช่วยให้บริษัทที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนสามารถปกปิดข้อมูลแหล่งที่มาของซัพพลายเออร์ต่างประเทศได้ การเสนอแก้ไขครั้งนี้มุ่งเน้นไปที่การหลีกเลี่ยงข้อจำกัดทางการค้าจากสหรัฐฯ ที่ทำให้จีนมีความยากลำบากในการเข้าถึงโปรเซสเซอร์ที่ทันสมัย ซอฟต์แวร์ และเครื่องมือในการผลิตชิป Guan ซึ่งเป็นผู้แทนจาก National People’s Congress แนะนำว่าบริษัทที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำไม่ควรต้องเปิดเผยแหล่งซัพพลายเออร์ในการเสนอราคาสาธารณะ การทำเช่นนี้จะช่วยลดแรงกดดันที่อาจทำให้ซัพพลายเออร์ต่างประเทศต้องตัดสัมพันธ์กับผู้ซื้อชาวจีน และทำให้การเข้าถึงเทคโนโลยีต่างประเทศยังคงมีอยู่ บริษัทจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำ ได้ใช้วิธีการต่าง ๆ เช่น การลักลอบนำเข้าสินค้าจากประเทศที่สามเพื่อให้ได้ชิ้นส่วนที่ต้องการ ข้อกฎหมายใหม่นี้จะทำให้การตรวจสอบและการระบุส่วนประกอบของซัพพลายเออร์ต่างประเทศยากยิ่งขึ้นสำหรับนักวิเคราะห์ ผู้สังเกตการณ์ และเจ้าหน้าที่รัฐบาล แม้ว่าข้อเสนอจาก NPC อาจไม่ได้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงนโยบายในทันที แต่ก็แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในลำดับความสำคัญของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ความคิดเห็นของ Guan ยังบ่งชี้ว่าจีนกำลังมองหาวิธีการที่จะรักษาการเข้าถึงเทคโนโลยีระดับโลกขณะลดการเผชิญกับมาตรการคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ การผลักดันนวัตกรรมภายในประเทศยังเป็นเป้าหมายสำคัญที่จีนให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-lawmaker-proposes-law-to-allow-chinese-companies-to-hide-their-foreign-suppliers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 463 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💰 **ลดสูงสุดถึง 3,000 บาท!**
    🎯 **ดีลสุดพิเศษเฉพาะช่วงเวลานี้เท่านั้น**
    ✅ สินค้าสุดฮอต ราคาพิเศษ
    ✅ ส่วนลดจัดเต็ม รีบช้อปก่อนหมดโอกาส
    ✅ ไม่มีซ้ำ! โปรนี้มีครั้งเดียวเท่านั้น
    ⚡ **อย่ารอช้า! คลิกเลย** ⬇️
    78s.me/e13337

    📌 **#นาทีทอง #ลดแรง #หมดแล้วหมดเลย #ช้อปด่วน** 🚀

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    💰 **ลดสูงสุดถึง 3,000 บาท!** 🎯 **ดีลสุดพิเศษเฉพาะช่วงเวลานี้เท่านั้น** ✅ สินค้าสุดฮอต ราคาพิเศษ ✅ ส่วนลดจัดเต็ม รีบช้อปก่อนหมดโอกาส ✅ ไม่มีซ้ำ! โปรนี้มีครั้งเดียวเท่านั้น ⚡ **อย่ารอช้า! คลิกเลย** ⬇️ 78s.me/e13337 📌 **#นาทีทอง #ลดแรง #หมดแล้วหมดเลย #ช้อปด่วน** 🚀 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 รีวิว
  • พวกผู้เชี่ยวชาญชี้ แผนการลงทุนมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในอเมริกาของทีเอสเอ็มซี บริษัทไต้หวันที่เป็นผู้ผลิตชิปใหญ่ที่สุดของโลก อาจส่งผลให้ “โล่ซิลิคอน” ของไทเปอ่อนแอลง เปิดทางให้ทรัมป์เข้าควบคุมการผลิตชิปของทีเอสเอ็มซี หรือในทางกลับกันอาจทำให้ไต้หวัน “ปลอดภัยขึ้น” และสร้างความไว้วางใจระหว่างไทเปกับวอชิงตัน
    .
    ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง (ทีเอสเอ็มซี) ซึ่งเวลานี้มีฐานะเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีสำคัญ ที่กลายเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจโลก
    .
    ในสัปดาห์นี้ การประกาศลงทุนครั้งมหึมาในสหรัฐฯ ทำให้มูลค่าการลงทุนทั้งหมดของทีเอสเอ็มซีในอเมริกาเพิ่มเป็น 165,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบริษัทบอกว่า เป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาไต้หวันขโมยอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา พร้อมขู่รีดภาษี 100% และไทเปต้องรีบตอบสนองโดยให้สัญญาว่า จะลงทุนในอเมริกาเพิ่ม
    .
    เอเอฟพีเสนอรายงานที่ระบุว่า การลงทุนของทีเอสเอ็มซีครั้งนี้อาจมีนัยสำคัญสำหรับไต้หวัน ดังต่อไปนี้
    .
    โล่ซิลิคอน
    .
    ชิปเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบันเป็นส่วนประกอบอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงทีวี รถยนต์ไฟฟ้า และขีปนาวุธ และชิปเหล่านี้กว่าครึ่งผลิตในไต้หวัน
    .
    การผลิตชิปที่กระจุกตัวอยู่ในไต้หวันถูกมองมานานแล้วว่าเป็น “โล่ซิลิคอน” ที่ปกป้องไต้หวันจากการรุกรานหรือการปิดล้อมของจีน อีกทั้งยังเป็นแรงจูงใจให้อเมริกากางปีกปกป้องไทเป
    .
    ช่วงหลายปีมานี้จีนเพิ่มความกดดันทางทหารต่อไต้หวันเพื่อผลักดันการอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือเกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่และโรงงานผลิตชิปมากมายหลายแห่งของทีเอสเอ็มซี
    .
    ความเคลื่อนไหวของจีนทำให้มีเสียงเรียกร้องให้ทีเอสเอ็มซีย้ายการผลิตออกจากไต้หวันเพื่อป้องกันการชะงักงันด้านอุปทานหากถูกจีนโจมตี
    .
    เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์เตือนว่า อาจเรียกเก็บภาษีชิปที่ผลิตนอกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 25% หรือมากกว่านั้น ซึ่งนักวิเคราะห์คนหนึ่งระบุว่า อาจทำให้อุตสาหกรรมชิปเผชิญภาวะถดถอย
    .
    แม้การลงทุนล่าสุดคราวนี้ของทีเอสเอ็มซี น่าจะสามารถหลบเลี่ยงจากการข่มขู่รีดภาษีศุลกากรเช่นว่านี้ แต่ยังมีความกังวลว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจกระทบต่อเศรษฐกิจไต้หวันและทำให้ “โล่ซิลิคอน” ความมั่นคงของไต้หวันอ่อนแอลง
    .
    โก จูชุน สมาชิกรัฐสภาจากพรรคก๊กมินตั๋งซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้าน ชี้ว่า ยิ่งทีเอสเอ็มซีออกไปผลิตในอเมริกามากเท่าไหร่ ไต้หวันยิ่งหมดความสำคัญในแง่ภูมิรัฐศาสตร์มากขึ้นเท่านั้น รวมทั้งยังลดแรงจูงใจต่ออเมริกาในการให้ความช่วยเหลือไต้หวันในอนาคต
    .
    การควบคุมทีเอสเอ็มซี
    .
    ผู้นำไต้หวันตระหนักดีถึงความเสี่ยงขณะพยายามรักษาการสนับสนุนจากวอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนด้านความมั่นคงที่สำคัญที่สุด และปกป้องสถานะผู้ทรงอิทธิพลในการผลิตชิปของไต้หวัน
    .
    สำนักงานของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ แถลงเมื่อวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า รัฐบาลจะตรวจสอบข้อตกลงของทีเอสเอ็มซีว่า สอดคล้องกับกฎหมายของไต้หวันหรือไม่ และทำให้แน่ใจว่า กระบวนการผลิตชิปขั้นสูงสุดจะยังคงอยู่ในไต้หวัน
    .
    ก่อนหน้านี้ ทีเอสเอ็มซีประกาศลงทุนมูลค่ากว่า 65,000 ล้านดอลลาร์ในการจัดตั้งโรงงาน 3 แห่งในรัฐแอริโซนาของอเมริกา โดยที่โรงงานแห่งแรกเริ่มต้นผลิตตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว
    .
    สำหรับการลงทุน 100,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งประกาศในสัปดาห์นี้ จะเป็นการขยายโครงการในอเมริกาด้วยการจัดตั้งโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ 3 แห่ง โรงงานบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง 2 แห่ง และศูนย์วิจัยและพัฒนา
    .
    ริชาร์ด หู รองผู้อำนวยการของกลุ่มคลังสมอง ที่ใช้ชื่อว่า ศูนย์เพื่อการศึกษาด้านความมั่นคงของไต้หวัน ให้ความเห็นว่า ทรัมป์ต้องการป้องกันไม่ให้ทีเอสเอ็มซีตกอยู่ในมือจีน และทำให้บริษัทแห่งนี้เป็นสินทรัพย์ด้านเทคโนโลยีของอเมริกา
    .
    หูเสริมว่า เป้าหมายสูงสุดของทรัมป์คือ อเมริกาจะสามารถควบคุมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของทีเอสเอ็มซีทั้งหมดหรืออย่างมีนัยสำคัญ และทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา
    .
    การรับประกันความมั่นคง
    .
    อย่างไรก็ตาม ซู จื๋ออวิ๋น นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงจากสถาบันเพื่อการวิจัยด้านกลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติของไทเป มองโลกในแง่ดีมากกว่า โดยบอกว่า การลงทุนในสหรัฐฯ ของทีเอสเอ็มซีน่าจะทำให้ไต้หวัน “ปลอดภัยขึ้น” และช่วยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมชิป อีกทั้งยังสร้างความไว้วางใจระหว่างไทเปกับวอชิงตัน และลดความกังวลของทรัมป์เกี่ยวกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของอเมริกา
    .
    ซูเสริมว่า ไต้หวันไม่ได้มีความสำคัญเพราะมีทีเอสเอ็มซีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านภูมิยุทธศาสตร์ โดยตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความสำคัญของเส้นทางขนส่งสินค้าทางทะเลของโลกที่อยู่ใกล้ไต้หวัน
    .
    ทว่า เจมส์ อี้ฟาน เฉิน จากมหาวิทยาลัยตั้นเจียง เสนอมุมมองอีกด้านหนึ่งว่า ต้นทุนการผลิตในอเมริกาที่สูงกว่าอาจทำให้ราคาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชิปทีเอสเอ็มซีแพงขึ้น
    .
    นอกจากนั้น ยังไม่มีการรับประกันว่า การลงทุนจะทำให้ทรัมป์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ มีความโน้มเอียงมากขึ้นจริงๆ ที่จะปกป้องไต้หวัน
    .
    เหวิน ตี้ซุง นักวิชาการจากโกลบัล ไชน่า ฮับ ของกลุ่มคลังสมองในสหรัฐฯ แอตแลนติก เคาน์ซิล บอกว่า ผลลัพธ์จากข้อตกลงนี้ในแง่ความเต็มใจของอเมริกาในการปกป้องไต้หวันนั้นต้องพูดว่ายังไม่มีความชัดเจน โดยขึ้นอยู่กับความรู้สึกของทรัมป์ ณ ขณะนั้นมากกว่า รวมทั้งขึ้นอยู่กับว่า ปักกิ่งจะพยายามยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจกว่าไต้หวันหรือไม่
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021621
    ..............
    Sondhi X
    พวกผู้เชี่ยวชาญชี้ แผนการลงทุนมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์ในอเมริกาของทีเอสเอ็มซี บริษัทไต้หวันที่เป็นผู้ผลิตชิปใหญ่ที่สุดของโลก อาจส่งผลให้ “โล่ซิลิคอน” ของไทเปอ่อนแอลง เปิดทางให้ทรัมป์เข้าควบคุมการผลิตชิปของทีเอสเอ็มซี หรือในทางกลับกันอาจทำให้ไต้หวัน “ปลอดภัยขึ้น” และสร้างความไว้วางใจระหว่างไทเปกับวอชิงตัน . ไต้หวัน เซมิคอนดักเตอร์ แมนูแฟกเจอริง (ทีเอสเอ็มซี) ซึ่งเวลานี้มีฐานะเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีสำคัญ ที่กลายเป็นเส้นเลือดหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจโลก . ในสัปดาห์นี้ การประกาศลงทุนครั้งมหึมาในสหรัฐฯ ทำให้มูลค่าการลงทุนทั้งหมดของทีเอสเอ็มซีในอเมริกาเพิ่มเป็น 165,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งบริษัทบอกว่า เป็นการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศที่มีมูลค่าสูงสุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน . ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาไต้หวันขโมยอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา พร้อมขู่รีดภาษี 100% และไทเปต้องรีบตอบสนองโดยให้สัญญาว่า จะลงทุนในอเมริกาเพิ่ม . เอเอฟพีเสนอรายงานที่ระบุว่า การลงทุนของทีเอสเอ็มซีครั้งนี้อาจมีนัยสำคัญสำหรับไต้หวัน ดังต่อไปนี้ . โล่ซิลิคอน . ชิปเซมิคอนดักเตอร์ในปัจจุบันเป็นส่วนประกอบอยู่ในทุกสิ่งทุกอย่างตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปจนถึงทีวี รถยนต์ไฟฟ้า และขีปนาวุธ และชิปเหล่านี้กว่าครึ่งผลิตในไต้หวัน . การผลิตชิปที่กระจุกตัวอยู่ในไต้หวันถูกมองมานานแล้วว่าเป็น “โล่ซิลิคอน” ที่ปกป้องไต้หวันจากการรุกรานหรือการปิดล้อมของจีน อีกทั้งยังเป็นแรงจูงใจให้อเมริกากางปีกปกป้องไทเป . ช่วงหลายปีมานี้จีนเพิ่มความกดดันทางทหารต่อไต้หวันเพื่อผลักดันการอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือเกาะแห่งนี้ ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่และโรงงานผลิตชิปมากมายหลายแห่งของทีเอสเอ็มซี . ความเคลื่อนไหวของจีนทำให้มีเสียงเรียกร้องให้ทีเอสเอ็มซีย้ายการผลิตออกจากไต้หวันเพื่อป้องกันการชะงักงันด้านอุปทานหากถูกจีนโจมตี . เมื่อไม่นานมานี้ ทรัมป์เตือนว่า อาจเรียกเก็บภาษีชิปที่ผลิตนอกสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 25% หรือมากกว่านั้น ซึ่งนักวิเคราะห์คนหนึ่งระบุว่า อาจทำให้อุตสาหกรรมชิปเผชิญภาวะถดถอย . แม้การลงทุนล่าสุดคราวนี้ของทีเอสเอ็มซี น่าจะสามารถหลบเลี่ยงจากการข่มขู่รีดภาษีศุลกากรเช่นว่านี้ แต่ยังมีความกังวลว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจกระทบต่อเศรษฐกิจไต้หวันและทำให้ “โล่ซิลิคอน” ความมั่นคงของไต้หวันอ่อนแอลง . โก จูชุน สมาชิกรัฐสภาจากพรรคก๊กมินตั๋งซึ่งเป็นแกนนำฝ่ายค้าน ชี้ว่า ยิ่งทีเอสเอ็มซีออกไปผลิตในอเมริกามากเท่าไหร่ ไต้หวันยิ่งหมดความสำคัญในแง่ภูมิรัฐศาสตร์มากขึ้นเท่านั้น รวมทั้งยังลดแรงจูงใจต่ออเมริกาในการให้ความช่วยเหลือไต้หวันในอนาคต . การควบคุมทีเอสเอ็มซี . ผู้นำไต้หวันตระหนักดีถึงความเสี่ยงขณะพยายามรักษาการสนับสนุนจากวอชิงตัน ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนด้านความมั่นคงที่สำคัญที่สุด และปกป้องสถานะผู้ทรงอิทธิพลในการผลิตชิปของไต้หวัน . สำนักงานของประธานาธิบดีไล่ ชิงเต๋อ แถลงเมื่อวันอังคาร (4 มี.ค.) ว่า รัฐบาลจะตรวจสอบข้อตกลงของทีเอสเอ็มซีว่า สอดคล้องกับกฎหมายของไต้หวันหรือไม่ และทำให้แน่ใจว่า กระบวนการผลิตชิปขั้นสูงสุดจะยังคงอยู่ในไต้หวัน . ก่อนหน้านี้ ทีเอสเอ็มซีประกาศลงทุนมูลค่ากว่า 65,000 ล้านดอลลาร์ในการจัดตั้งโรงงาน 3 แห่งในรัฐแอริโซนาของอเมริกา โดยที่โรงงานแห่งแรกเริ่มต้นผลิตตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว . สำหรับการลงทุน 100,000 ล้านดอลลาร์ซึ่งประกาศในสัปดาห์นี้ จะเป็นการขยายโครงการในอเมริกาด้วยการจัดตั้งโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ 3 แห่ง โรงงานบรรจุภัณฑ์ขั้นสูง 2 แห่ง และศูนย์วิจัยและพัฒนา . ริชาร์ด หู รองผู้อำนวยการของกลุ่มคลังสมอง ที่ใช้ชื่อว่า ศูนย์เพื่อการศึกษาด้านความมั่นคงของไต้หวัน ให้ความเห็นว่า ทรัมป์ต้องการป้องกันไม่ให้ทีเอสเอ็มซีตกอยู่ในมือจีน และทำให้บริษัทแห่งนี้เป็นสินทรัพย์ด้านเทคโนโลยีของอเมริกา . หูเสริมว่า เป้าหมายสูงสุดของทรัมป์คือ อเมริกาจะสามารถควบคุมการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของทีเอสเอ็มซีทั้งหมดหรืออย่างมีนัยสำคัญ และทำให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมชิปของอเมริกา . การรับประกันความมั่นคง . อย่างไรก็ตาม ซู จื๋ออวิ๋น นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงจากสถาบันเพื่อการวิจัยด้านกลาโหมและความมั่นคงแห่งชาติของไทเป มองโลกในแง่ดีมากกว่า โดยบอกว่า การลงทุนในสหรัฐฯ ของทีเอสเอ็มซีน่าจะทำให้ไต้หวัน “ปลอดภัยขึ้น” และช่วยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมชิป อีกทั้งยังสร้างความไว้วางใจระหว่างไทเปกับวอชิงตัน และลดความกังวลของทรัมป์เกี่ยวกับความมั่นคงทางเศรษฐกิจของอเมริกา . ซูเสริมว่า ไต้หวันไม่ได้มีความสำคัญเพราะมีทีเอสเอ็มซีเท่านั้น แต่ยังรวมถึงด้านภูมิยุทธศาสตร์ โดยตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับความสำคัญของเส้นทางขนส่งสินค้าทางทะเลของโลกที่อยู่ใกล้ไต้หวัน . ทว่า เจมส์ อี้ฟาน เฉิน จากมหาวิทยาลัยตั้นเจียง เสนอมุมมองอีกด้านหนึ่งว่า ต้นทุนการผลิตในอเมริกาที่สูงกว่าอาจทำให้ราคาผลิตภัณฑ์ที่ใช้ชิปทีเอสเอ็มซีแพงขึ้น . นอกจากนั้น ยังไม่มีการรับประกันว่า การลงทุนจะทำให้ทรัมป์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ มีความโน้มเอียงมากขึ้นจริงๆ ที่จะปกป้องไต้หวัน . เหวิน ตี้ซุง นักวิชาการจากโกลบัล ไชน่า ฮับ ของกลุ่มคลังสมองในสหรัฐฯ แอตแลนติก เคาน์ซิล บอกว่า ผลลัพธ์จากข้อตกลงนี้ในแง่ความเต็มใจของอเมริกาในการปกป้องไต้หวันนั้นต้องพูดว่ายังไม่มีความชัดเจน โดยขึ้นอยู่กับความรู้สึกของทรัมป์ ณ ขณะนั้นมากกว่า รวมทั้งขึ้นอยู่กับว่า ปักกิ่งจะพยายามยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจกว่าไต้หวันหรือไม่ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021621 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    14
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2701 มุมมอง 0 รีวิว
  • "นิยามของศัตรู & ศิลปะการรับมือ"

    ศัตรู ไม่ใช่แค่คนที่เลวร้ายโดยสันดาน
    แต่คือ "คนที่ใจเราเลือกจะเห็นแต่แง่ร้ายของเขา"


    ---

    📌 "ศัตรู" เกิดจากมุมมองของใจเราเอง

    ✔ คนเดียวกัน แต่บางคนเกลียด บางคนรัก
    ✔ คนเดียวกัน แต่บางคนเห็นดี บางคนเห็นร้าย
    ✔ คนเดียวกัน แต่เรามองไม่เหมือนเมื่อวาน

    🎯 "ศัตรู" ไม่ได้เกิดจากตัวเขา
    🎯 "ศัตรู" เกิดจากใจเราที่สร้างเขาขึ้นมา!


    ---

    📌 วิธีทำให้ "ศัตรู" หายไปจากใจเรา

    1️⃣ มี "สติ" แทน "โทสะ" ขณะเผชิญหน้า

    ✅ ถ้าเรา "รู้ตัว" ว่ากำลังโกรธ → โกรธจะอ่อนกำลัง
    ✅ ถ้าเรา "รู้ตัว" ว่ากำลังมองแง่ร้าย → ใจจะเริ่มปรับสมดุล

    🎯 "สติ" คือการดึงตัวเองออกจากอคติที่สร้างศัตรู
    🎯 "สติ" ทำให้ใจสงบ → คลื่นจิตสงบ → ความเป็นศัตรูลดลง


    ---

    2️⃣ ฝึกพูด "ด้วยความนิ่ง" แทนอารมณ์

    ✅ "น้ำเสียง" เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง
    ✅ "จิตที่มีอารมณ์" = น้ำเสียงกระแทก = คนฟังรู้สึกเป็นปฏิปักษ์
    ✅ "จิตที่มีสติ" = น้ำเสียงราบเรียบ = คนฟังรู้สึกสงบ

    🎯 "พูดด้วยใจที่สงบ → ทำให้ใจเขาสงบตาม"
    🎯 "พูดโดยไร้ความเป็นศัตรู → ทำให้เขาไม่อยากเป็นศัตรูด้วย"


    ---

    3️⃣ หัด "มองเห็นแง่ดี" ของคนที่เราไม่ชอบ

    ✅ ทุกคนมีข้อดี → ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกจะมองเห็นไหม
    ✅ ถ้ามองเขาแง่ดีบ้าง → ใจเราจะเริ่มคลายจากความเป็นศัตรู

    🎯 "ศัตรู = มายาคติของใจ"
    🎯 "พอใจมองเปลี่ยน → ศัตรูก็เปลี่ยนเป็นคนธรรมดาได้"


    ---

    🔥 สรุป: ถ้าใจเราไม่เป็นศัตรู → ศัตรูจะค่อยๆ หายไปเอง 🔥

    ✔ "ศัตรูไม่ได้อยู่ที่เขา → ศัตรูอยู่ในใจเรา"
    ✔ "สติ & การควบคุมอารมณ์ → คือกุญแจเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร"
    ✔ "ฝึกพูดด้วยความนิ่ง → จะลดแรงต้านจากอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ"

    🎯 "สุดท้ายแล้ว… คนอื่นเปลี่ยนไม่ได้"
    🎯 "แต่ใจเราเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาได้เสมอ!"

    "นิยามของศัตรู & ศิลปะการรับมือ" ศัตรู ไม่ใช่แค่คนที่เลวร้ายโดยสันดาน แต่คือ "คนที่ใจเราเลือกจะเห็นแต่แง่ร้ายของเขา" --- 📌 "ศัตรู" เกิดจากมุมมองของใจเราเอง ✔ คนเดียวกัน แต่บางคนเกลียด บางคนรัก ✔ คนเดียวกัน แต่บางคนเห็นดี บางคนเห็นร้าย ✔ คนเดียวกัน แต่เรามองไม่เหมือนเมื่อวาน 🎯 "ศัตรู" ไม่ได้เกิดจากตัวเขา 🎯 "ศัตรู" เกิดจากใจเราที่สร้างเขาขึ้นมา! --- 📌 วิธีทำให้ "ศัตรู" หายไปจากใจเรา 1️⃣ มี "สติ" แทน "โทสะ" ขณะเผชิญหน้า ✅ ถ้าเรา "รู้ตัว" ว่ากำลังโกรธ → โกรธจะอ่อนกำลัง ✅ ถ้าเรา "รู้ตัว" ว่ากำลังมองแง่ร้าย → ใจจะเริ่มปรับสมดุล 🎯 "สติ" คือการดึงตัวเองออกจากอคติที่สร้างศัตรู 🎯 "สติ" ทำให้ใจสงบ → คลื่นจิตสงบ → ความเป็นศัตรูลดลง --- 2️⃣ ฝึกพูด "ด้วยความนิ่ง" แทนอารมณ์ ✅ "น้ำเสียง" เป็นพลังงานชนิดหนึ่ง ✅ "จิตที่มีอารมณ์" = น้ำเสียงกระแทก = คนฟังรู้สึกเป็นปฏิปักษ์ ✅ "จิตที่มีสติ" = น้ำเสียงราบเรียบ = คนฟังรู้สึกสงบ 🎯 "พูดด้วยใจที่สงบ → ทำให้ใจเขาสงบตาม" 🎯 "พูดโดยไร้ความเป็นศัตรู → ทำให้เขาไม่อยากเป็นศัตรูด้วย" --- 3️⃣ หัด "มองเห็นแง่ดี" ของคนที่เราไม่ชอบ ✅ ทุกคนมีข้อดี → ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกจะมองเห็นไหม ✅ ถ้ามองเขาแง่ดีบ้าง → ใจเราจะเริ่มคลายจากความเป็นศัตรู 🎯 "ศัตรู = มายาคติของใจ" 🎯 "พอใจมองเปลี่ยน → ศัตรูก็เปลี่ยนเป็นคนธรรมดาได้" --- 🔥 สรุป: ถ้าใจเราไม่เป็นศัตรู → ศัตรูจะค่อยๆ หายไปเอง 🔥 ✔ "ศัตรูไม่ได้อยู่ที่เขา → ศัตรูอยู่ในใจเรา" ✔ "สติ & การควบคุมอารมณ์ → คือกุญแจเปลี่ยนศัตรูให้กลายเป็นมิตร" ✔ "ฝึกพูดด้วยความนิ่ง → จะลดแรงต้านจากอีกฝ่ายโดยอัตโนมัติ" 🎯 "สุดท้ายแล้ว… คนอื่นเปลี่ยนไม่ได้" 🎯 "แต่ใจเราเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเขาได้เสมอ!"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว
  • สองวันหลังยกเลิกงานที่ไม่ไหวจะเคลียร์ ทำต่อไม่ไหว คือจะทำเท่าที่ทำได้ แต่อยากให้ผมแก้ปัญหาคนเดียว และอีกปัจจัยนึงคือเพื่อนโปรแกรมเมอร์ที่ประสบการณ์มากกว่าเขาไม่ว่างกัน คือผมไปขอความช่วยเหลือเพื่อศึกษาจากรุ่นพี่ก็ไม่ได้ ให้ผมแก้ แต่กว่าจะได้เงินมาก็ไส้แห้งพอดี ได้เงินก็ได้มาน้อยมาก จนผมตัดสินใจยกเลิกไม่รับงานมันไปทำอย่างอื่นที่ตอบโจทย์กว่านี้ดีกว่า แต่สุดท้ายต้องยกเลิกเพราะทำต่อไปไม่ไหวจริงๆ แต่ไม่ค่อยมีใครโทรตามไปแก้ คือลูกค้าเขาเอือมระอาและโกรธแค้นผมมากที่ผมทำงานของคนที่จ้างผม(เขามีลูกค้าของเขาและเป็นลูกค้าของลูกค้าของผม)จนคนที่จ้างผมอมขี้ฟันลูกค้ามาด่าและแทงใจดำ จนผมนอยด์และดิ่ง ทนกับมันมานาน เกรงใจคนในครอบครัวมานาน แน่นอนครอบครัวไม่ใช่เซฟโซนนานแล้ว และกกลับบ้านเกิดก็ไม่ใช่เซฟโซนอีก เพราะทุกคนในครอบครัวกดดันให้ผมสอบงานราชการซึ่งไม่ใช่ทางผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมสอบ กพ. เพื่อเป็นทางผ่านไปสอบ TOEIC รอบแก้แค้นแทน และ CU-TEP ต่อ เพื่อสร้างตัวตนที่ดีกว่านี้ แต่ผมสามารถอยู่ยืนได้ด้วยลำแข้งลำขาตนเองได้ แต่ผมคงกร่อยต่อไปไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ที่จะปลูกต้นกล้าผักกาดที่เบียดกันอยู่ต่อขอหยุดทำไปก่อนเพราะทางบ้านเขาเริ่มไม่พอใจผมแล้ว เลยต้องหยุดทำไว้ก่อนเพื่อลดแรงเสียดทานก่อนที่จะบานปลายและรุนแรงไปมากกว่านี้ แต่ทนอยู่กับทางบ้านและครอบครัวที่ทั้งครอบครัวไม่ถูกกับผมเพื่ออนาคตวันข้างหน้าและถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจริงๆและเด็ดขาดชัดเจนว่าจะไม่อยู่ร่วมกัน ต่างคนต่างอยู่ ผมไม่ตัดตัวเองออกจากครอบครัว ถึงทั้งครอบครัวจะตัดผมเพราะผมคือมะเร็งเนื้อร้ายก็ตัดไป เพราะก่อนจะทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อตัวเองก่อน ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ครอบครัวกดดัน ตัวเองก็พยายามจะไม่ตามครอบครัวไปทุกเรื่องจนผมเสียความเป็นตัวตน เงินหาใหม่ได้ หาเมื่อไหร่ก็ได้ งานเราสร้างมาเองได้ ไม่ต้องฝากประวัติเพื่อทำงานเป็นลูกจ้างใคร คือทางบ้านเขาติดมูหนักมากจนเขาพยายามห้ามไม่ให้กินเนื้อวัว สุดท้ายก็ต้องกิน ส่วนเรื่องกินเนื้อแพะฟรีไม่ได้กิน ไม่รู้ทางบ้านกับครอบครัวเขาเคร่งมูจัดอะไรนักหนา ผมนับถือแค่พุทธโดยแก่นแท้ แต่มูมากเกินไปกฎเกณฑ์มากเกินไปจนผมรู้สึกแพนิก หวาดระแวง แบบผ่อนส่งไปแล้ว
    สองวันหลังยกเลิกงานที่ไม่ไหวจะเคลียร์ ทำต่อไม่ไหว คือจะทำเท่าที่ทำได้ แต่อยากให้ผมแก้ปัญหาคนเดียว และอีกปัจจัยนึงคือเพื่อนโปรแกรมเมอร์ที่ประสบการณ์มากกว่าเขาไม่ว่างกัน คือผมไปขอความช่วยเหลือเพื่อศึกษาจากรุ่นพี่ก็ไม่ได้ ให้ผมแก้ แต่กว่าจะได้เงินมาก็ไส้แห้งพอดี ได้เงินก็ได้มาน้อยมาก จนผมตัดสินใจยกเลิกไม่รับงานมันไปทำอย่างอื่นที่ตอบโจทย์กว่านี้ดีกว่า แต่สุดท้ายต้องยกเลิกเพราะทำต่อไปไม่ไหวจริงๆ แต่ไม่ค่อยมีใครโทรตามไปแก้ คือลูกค้าเขาเอือมระอาและโกรธแค้นผมมากที่ผมทำงานของคนที่จ้างผม(เขามีลูกค้าของเขาและเป็นลูกค้าของลูกค้าของผม)จนคนที่จ้างผมอมขี้ฟันลูกค้ามาด่าและแทงใจดำ จนผมนอยด์และดิ่ง ทนกับมันมานาน เกรงใจคนในครอบครัวมานาน แน่นอนครอบครัวไม่ใช่เซฟโซนนานแล้ว และกกลับบ้านเกิดก็ไม่ใช่เซฟโซนอีก เพราะทุกคนในครอบครัวกดดันให้ผมสอบงานราชการซึ่งไม่ใช่ทางผมตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ผมสอบ กพ. เพื่อเป็นทางผ่านไปสอบ TOEIC รอบแก้แค้นแทน และ CU-TEP ต่อ เพื่อสร้างตัวตนที่ดีกว่านี้ แต่ผมสามารถอยู่ยืนได้ด้วยลำแข้งลำขาตนเองได้ แต่ผมคงกร่อยต่อไปไม่ได้แล้ว พรุ่งนี้ที่จะปลูกต้นกล้าผักกาดที่เบียดกันอยู่ต่อขอหยุดทำไปก่อนเพราะทางบ้านเขาเริ่มไม่พอใจผมแล้ว เลยต้องหยุดทำไว้ก่อนเพื่อลดแรงเสียดทานก่อนที่จะบานปลายและรุนแรงไปมากกว่านี้ แต่ทนอยู่กับทางบ้านและครอบครัวที่ทั้งครอบครัวไม่ถูกกับผมเพื่ออนาคตวันข้างหน้าและถึงเวลาที่ต้องตัดสินใจจริงๆและเด็ดขาดชัดเจนว่าจะไม่อยู่ร่วมกัน ต่างคนต่างอยู่ ผมไม่ตัดตัวเองออกจากครอบครัว ถึงทั้งครอบครัวจะตัดผมเพราะผมคือมะเร็งเนื้อร้ายก็ตัดไป เพราะก่อนจะทำเพื่อครอบครัว ทำเพื่อตัวเองก่อน ตัวเองยังเอาไม่รอดเลย ครอบครัวกดดัน ตัวเองก็พยายามจะไม่ตามครอบครัวไปทุกเรื่องจนผมเสียความเป็นตัวตน เงินหาใหม่ได้ หาเมื่อไหร่ก็ได้ งานเราสร้างมาเองได้ ไม่ต้องฝากประวัติเพื่อทำงานเป็นลูกจ้างใคร คือทางบ้านเขาติดมูหนักมากจนเขาพยายามห้ามไม่ให้กินเนื้อวัว สุดท้ายก็ต้องกิน ส่วนเรื่องกินเนื้อแพะฟรีไม่ได้กิน ไม่รู้ทางบ้านกับครอบครัวเขาเคร่งมูจัดอะไรนักหนา ผมนับถือแค่พุทธโดยแก่นแท้ แต่มูมากเกินไปกฎเกณฑ์มากเกินไปจนผมรู้สึกแพนิก หวาดระแวง แบบผ่อนส่งไปแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 395 มุมมอง 0 รีวิว
  • "คู่เวร"—บทเรียนที่ต้องเรียนให้จบ


    ---

    📌 ทำไมต้องเจอคู่เวร?

    ทุกคนเคย อธิษฐานขอไม่เจอ คู่เวร

    แต่สุดท้าย… ก็ต้องเจออยู่ดี

    “ความอยาก” ไม่ใช่ตัวกำหนด

    “กรรม” เท่านั้นที่มีผลจริง


    💡 เจอคู่เวร เพราะเคยทำกรรมร่วมกันมา
    ✔ บางครั้งเราเป็นฝ่ายให้ทุกข์
    ✔ บางครั้งเราเป็นฝ่ายรับทุกข์
    ✔ บางครั้งเราเคยรักกันมาก่อน
    ✔ บางครั้งเราเคยเกลียดกันสุดหัวใจ


    ---

    🔄 วงจรของ “คู่เวร”

    1️⃣ เคยรักกัน → ดึงดูดเข้าหากัน
    2️⃣ เคยเกลียดกัน → ผลักไสกัน
    3️⃣ ทำร้ายกันในอดีต → ต้องใช้กรรม
    4️⃣ พอเจอกันใหม่ = ยังรู้สึกแย่
    5️⃣ ทำเวรต่อกัน = ยิ่งต้องเจออีก

    🔥 "อธิษฐานขอไม่เจอ" ไม่ได้ผล
    🔥 เพราะจิตยังแบกความเกลียดอยู่
    🔥 ความคิดลบ = พลังดึงดูดใหม่


    ---

    🔑 วิธี “ปลดล็อกคู่เวร”

    1) อย่าอธิษฐาน "ขอไม่เจอ" อีก

    ✅ เพราะเป็น พลังผลักออก ที่ทำให้
    ➡ รู้สึกแย่ทุกครั้งที่เจอ
    ➡ เหม็นหน้าโดยไม่รู้เหตุผล
    ➡ ลงเอยด้วยการอธิษฐานซ้ำ

    2) เปลี่ยนเป็น “ขออโหสิกรรม”

    ✅ แทนที่จะขอไม่เจอ
    ✅ ขอให้กรรมระงับในชาตินี้
    ✅ ขออโหสิให้กัน ไม่ต้องใช้เวรต่อกันอีก

    3) เปลี่ยน "เกลียด" เป็น "แผ่เมตตา"

    ✅ แผ่เมตตาทุกครั้งที่คิดถึงเขา
    ✅ อธิษฐานให้เขาเป็นสุข
    ✅ เพราะคนละระดับบุญ = ออกจากวงโคจรได้เร็ว

    4) ยกระดับบุญของตัวเองให้สูงขึ้น

    ✅ ถ้าคู่เวรอยู่ใน ระดับพลังลบ
    ✅ แล้วเรายกระดับตัวเองสูงขึ้นเรื่อยๆ
    ✅ คลื่นพลังไม่ตรงกัน = ไม่ต้องมาเจอกันอีก


    ---

    ⛔ ถ้าไม่ปล่อยวาง จะเป็นแบบนี้

    ❌ เจอคู่เวรซ้ำๆ แบบ เดจาวู
    ❌ ไม่เจอเขา → แต่เจอคนแบบเขาอีก
    ❌ เปลี่ยนแฟนกี่คน ก็เจอแบบเดิม
    ❌ เปลี่ยนที่ทำงาน ก็เจอเจ้านายแบบเดิม
    ❌ หนีไปที่ไหน ก็ยังต้องใช้กรรมอยู่ดี


    ---

    ✅ ทางออกที่ดีที่สุด

    ✔ เจริญสติให้รู้ทัน → ว่าเราแบกอะไรไว้
    ✔ อโหสิกรรมให้กัน → แค่ตั้งจิตให้อภัยก็พอ
    ✔ แผ่เมตตาให้เขา → ลดแรงกรรมต่อกัน
    ✔ สร้างบุญให้สูงขึ้น → ไม่ต้องกลับมาเจอเวรนี้อีก

    💡 “ยิ่งอโหสิ ยิ่งหลุดออกจากวงเวียนกรรม”
    💡 "ยิ่งเกลียด ยิ่งต้องเจอกันอีก"
    💡 "ยิ่งปล่อยวาง ยิ่งเบา และหมดเวรหมดกรรมเร็วขึ้น"

    🔥 "ดีที่สุด คือ ให้เวรจบที่เรา ไม่ต้องส่งต่ออีก!" 🔥

    "คู่เวร"—บทเรียนที่ต้องเรียนให้จบ --- 📌 ทำไมต้องเจอคู่เวร? ทุกคนเคย อธิษฐานขอไม่เจอ คู่เวร แต่สุดท้าย… ก็ต้องเจออยู่ดี “ความอยาก” ไม่ใช่ตัวกำหนด “กรรม” เท่านั้นที่มีผลจริง 💡 เจอคู่เวร เพราะเคยทำกรรมร่วมกันมา ✔ บางครั้งเราเป็นฝ่ายให้ทุกข์ ✔ บางครั้งเราเป็นฝ่ายรับทุกข์ ✔ บางครั้งเราเคยรักกันมาก่อน ✔ บางครั้งเราเคยเกลียดกันสุดหัวใจ --- 🔄 วงจรของ “คู่เวร” 1️⃣ เคยรักกัน → ดึงดูดเข้าหากัน 2️⃣ เคยเกลียดกัน → ผลักไสกัน 3️⃣ ทำร้ายกันในอดีต → ต้องใช้กรรม 4️⃣ พอเจอกันใหม่ = ยังรู้สึกแย่ 5️⃣ ทำเวรต่อกัน = ยิ่งต้องเจออีก 🔥 "อธิษฐานขอไม่เจอ" ไม่ได้ผล 🔥 เพราะจิตยังแบกความเกลียดอยู่ 🔥 ความคิดลบ = พลังดึงดูดใหม่ --- 🔑 วิธี “ปลดล็อกคู่เวร” 1) อย่าอธิษฐาน "ขอไม่เจอ" อีก ✅ เพราะเป็น พลังผลักออก ที่ทำให้ ➡ รู้สึกแย่ทุกครั้งที่เจอ ➡ เหม็นหน้าโดยไม่รู้เหตุผล ➡ ลงเอยด้วยการอธิษฐานซ้ำ 2) เปลี่ยนเป็น “ขออโหสิกรรม” ✅ แทนที่จะขอไม่เจอ ✅ ขอให้กรรมระงับในชาตินี้ ✅ ขออโหสิให้กัน ไม่ต้องใช้เวรต่อกันอีก 3) เปลี่ยน "เกลียด" เป็น "แผ่เมตตา" ✅ แผ่เมตตาทุกครั้งที่คิดถึงเขา ✅ อธิษฐานให้เขาเป็นสุข ✅ เพราะคนละระดับบุญ = ออกจากวงโคจรได้เร็ว 4) ยกระดับบุญของตัวเองให้สูงขึ้น ✅ ถ้าคู่เวรอยู่ใน ระดับพลังลบ ✅ แล้วเรายกระดับตัวเองสูงขึ้นเรื่อยๆ ✅ คลื่นพลังไม่ตรงกัน = ไม่ต้องมาเจอกันอีก --- ⛔ ถ้าไม่ปล่อยวาง จะเป็นแบบนี้ ❌ เจอคู่เวรซ้ำๆ แบบ เดจาวู ❌ ไม่เจอเขา → แต่เจอคนแบบเขาอีก ❌ เปลี่ยนแฟนกี่คน ก็เจอแบบเดิม ❌ เปลี่ยนที่ทำงาน ก็เจอเจ้านายแบบเดิม ❌ หนีไปที่ไหน ก็ยังต้องใช้กรรมอยู่ดี --- ✅ ทางออกที่ดีที่สุด ✔ เจริญสติให้รู้ทัน → ว่าเราแบกอะไรไว้ ✔ อโหสิกรรมให้กัน → แค่ตั้งจิตให้อภัยก็พอ ✔ แผ่เมตตาให้เขา → ลดแรงกรรมต่อกัน ✔ สร้างบุญให้สูงขึ้น → ไม่ต้องกลับมาเจอเวรนี้อีก 💡 “ยิ่งอโหสิ ยิ่งหลุดออกจากวงเวียนกรรม” 💡 "ยิ่งเกลียด ยิ่งต้องเจอกันอีก" 💡 "ยิ่งปล่อยวาง ยิ่งเบา และหมดเวรหมดกรรมเร็วขึ้น" 🔥 "ดีที่สุด คือ ให้เวรจบที่เรา ไม่ต้องส่งต่ออีก!" 🔥
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 576 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในขณะที่บริษัทเทคฯ ของอเมริกากำลังลดแรงงานด้านเทคโนโลยี ลุงเห็นว่าจีนต้องรีบฉวยโอกาสจ้างงานคนเหล่านี้เข้ามาเสริมความรู้ให้มากขึ้น แต่อเมริกาของลุงตั๊มป์จะขวางไหมนะ ??!!

    https://www.thairath.co.th/money/economics/global_economics/2842408
    ในขณะที่บริษัทเทคฯ ของอเมริกากำลังลดแรงงานด้านเทคโนโลยี ลุงเห็นว่าจีนต้องรีบฉวยโอกาสจ้างงานคนเหล่านี้เข้ามาเสริมความรู้ให้มากขึ้น แต่อเมริกาของลุงตั๊มป์จะขวางไหมนะ ??!! https://www.thairath.co.th/money/economics/global_economics/2842408
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    โลกบีบจีนไร้ทางเลือก ? สี จิ้นผิง เรียกพบแจ็ค หม่า และผู้บริหารบิ๊กเทค ระดมกำลังฟื้นเศรษฐกิจ
    สี จิ้นผิง เชิญ แจ็ค หม่า พร้อมผู้บริหารบิ๊กเทคจีนและผู้ประกอบการภาคเอกชนระดับแนวหน้าเข้าพบในการประชุมนัดพิเศษ ส่งสัญญาณนโยบายเชิงบวกต่อภาคเอกชน หันหัวเรือกลับมาสนับสนุนเดินหน้าฟื้นฟูเศรษฐกิจสู้กำแพงภาษีสหรัฐฯ หลังจากมีการปราบปรามมาเป็นเวลานานกว่าสี่ปี
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 322 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานจาก Wall Street Journal ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการให้ TSMC นำประสบการณ์ด้านการผลิตชิปขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยี EUV lithography มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตของ Intel อีกทั้งยังมีข่าวลือจาก Financial Times ว่า TSMC กำลังเร่งขยายการดำเนินงานในโรงงานผลิตชิปที่ Arizona

    Tristan Gerra นักวิเคราะห์จาก Baird ได้ส่งข้อมูลถึงลูกค้าว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังสนับสนุนให้มีการส่งวิศวกรของ TSMC ไปยังโรงงานผลิตชิปขนาด 3nm และ 2nm ของ Intel เพื่อให้โรงงานและโครงการผลิตชิปต่างๆ ของ Intel มีความเป็นไปได้มากขึ้น แนวคิดนี้ก็คือให้โรงงานนั้นถูกหมุนเวียนออกมาเป็นบริษัทใหม่ที่เป็นเจ้าของร่วมโดย TSMC และ Intel และดำเนินการโดย TSMC ซึ่งจะได้รับเงินทุนจาก U.S. Chip Act

    แม้ว่าข่าวลือนี้จะยังไม่มีการยืนยันและอาจใช้เวลานานในการนำไปปฏิบัติ นักวิเคราะห์มองว่าแนวทางนี้มีเหตุผล เพราะจะช่วยลดแรงกดดันทางการเงินของ Intel และช่วยให้สามารถมุ่งเน้นไปที่การออกแบบชิปและโซลูชันแพลตฟอร์ม ขณะเดียวกัน โรงงานผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพและมีความสามารถแข่งขันก็จะสามารถดึงดูดนักออกแบบชิปชั้นนำได้

    อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลในด้านเทคโนโลยีที่ TSMC และ Intel อาจต้องปรับแต่งกระบวนการผลิตของตน และด้านธุรกิจที่ TSMC อาจไม่ต้องการช่วย Intel เนื่องจากเป็นคู่แข่งกัน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/us-govt-pushing-tsmc-and-intel-to-create-joint-venture-in-the-us-report
    มีรายงานจาก Wall Street Journal ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ต้องการให้ TSMC นำประสบการณ์ด้านการผลิตชิปขนาดใหญ่ด้วยเทคโนโลยี EUV lithography มาประยุกต์ใช้ในกระบวนการผลิตของ Intel อีกทั้งยังมีข่าวลือจาก Financial Times ว่า TSMC กำลังเร่งขยายการดำเนินงานในโรงงานผลิตชิปที่ Arizona Tristan Gerra นักวิเคราะห์จาก Baird ได้ส่งข้อมูลถึงลูกค้าว่ารัฐบาลสหรัฐฯ กำลังสนับสนุนให้มีการส่งวิศวกรของ TSMC ไปยังโรงงานผลิตชิปขนาด 3nm และ 2nm ของ Intel เพื่อให้โรงงานและโครงการผลิตชิปต่างๆ ของ Intel มีความเป็นไปได้มากขึ้น แนวคิดนี้ก็คือให้โรงงานนั้นถูกหมุนเวียนออกมาเป็นบริษัทใหม่ที่เป็นเจ้าของร่วมโดย TSMC และ Intel และดำเนินการโดย TSMC ซึ่งจะได้รับเงินทุนจาก U.S. Chip Act แม้ว่าข่าวลือนี้จะยังไม่มีการยืนยันและอาจใช้เวลานานในการนำไปปฏิบัติ นักวิเคราะห์มองว่าแนวทางนี้มีเหตุผล เพราะจะช่วยลดแรงกดดันทางการเงินของ Intel และช่วยให้สามารถมุ่งเน้นไปที่การออกแบบชิปและโซลูชันแพลตฟอร์ม ขณะเดียวกัน โรงงานผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพและมีความสามารถแข่งขันก็จะสามารถดึงดูดนักออกแบบชิปชั้นนำได้ อย่างไรก็ตาม มีข้อกังวลในด้านเทคโนโลยีที่ TSMC และ Intel อาจต้องปรับแต่งกระบวนการผลิตของตน และด้านธุรกิจที่ TSMC อาจไม่ต้องการช่วย Intel เนื่องจากเป็นคู่แข่งกัน https://www.tomshardware.com/tech-industry/us-govt-pushing-tsmc-and-intel-to-create-joint-venture-in-the-us-report
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 444 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌 กรรมเก่ากำหนดตัวตนใหม่ และบทบาทในสังคม

    คนเราเกิดมาต่างกัน
    ไม่ใช่แค่หน้าตา ฐานะ หรือสติปัญญา
    แต่ยังรวมถึง “พลังของกรรม”
    ที่ส่งผลให้ บางคนเป็นผู้ได้รับการยกย่อง
    และ บางคนเป็นเป้าหมายของการถูกแกล้ง


    ---

    📌 ทำไมบางคนเหมือนถูก ‘ชี้เป้า’ ให้โดนแกล้ง?

    ✔ กรรมเก่าทำให้ดึงดูด ‘ความอยากแกล้ง’ จากคนรอบข้าง
    ✔ เคยสร้างความอับอายให้คนอื่น → จึงต้องเผชิญความอับอายเอง
    ✔ เคยทำร้ายใครโดยไม่มีเหตุผล → จึงต้องเจอการถูกทำร้ายแบบไร้เหตุผล

    📌 บางคนแค่เดินเข้ามาในห้อง
    คนรอบข้างก็รู้สึกอยากเยาะเย้ย
    เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง
    กระตุ้นให้คนอยากทำให้เขาเจ็บปวด

    📌 นี่อาจเป็น “ผลของกรรม”
    ที่ดึงพลังแห่ง “อารมณ์สาธารณะ” ออกมา
    ทำให้มวลชนมองไปในทางเดียวกัน
    และรู้สึกว่าสมควรที่จะถูกกระทำ


    ---

    📌 หากเห็นใครเป็นเป้าของการถูกแกล้ง ควรทำอย่างไร?

    ⚠ ระวังตัวเองให้ดี
    เพราะ เราอาจกำลังตกเป็น ‘เครื่องมือของกรรมคนอื่น’

    ⚠ หยุดความคิด ‘คันไม้คันมือ’ อยากแกล้ง

    ทุกครั้งที่รู้สึกอยากล้อเลียนใคร

    ทุกครั้งที่คิดว่า "ล้อเล่นนิดเดียว ไม่เป็นไรหรอก"

    หยุดก่อนแล้วถามตัวเองว่า
    “นี่เรากำลังสร้างกรรมใหม่อยู่หรือเปล่า?”


    ⚠ อย่ามองว่า ‘แกล้งกันสนุก’ เป็นเรื่องปกติ

    คนถูกแกล้งอาจไม่ได้ขำไปด้วย

    บางทีเขาแค่กลั้นใจยิ้ม แต่ในใจทุกข์มาก

    กรรมไม่ได้ดูว่า “เล่นๆ” หรือ “จริงจัง”

    กรรมดูที่ “ความรู้สึกของผู้ถูกกระทำ”



    ---

    📌 ใครเคยแกล้งคนอื่นมาก่อน จะหลีกเลี่ยงกรรมร้ายได้ไหม?

    ได้ ถ้าเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้

    ✅ 1. หยุดสร้างกรรมใหม่ทันที

    ไม่ซ้ำเติม ไม่แกล้งใครให้ทุกข์ใจ

    ไม่หัวเราะเยาะคนที่อับอาย


    ✅ 2. ชดเชยกรรมเก่าด้วยการให้โอกาสคนอื่น

    หากเจอคนที่เคยแกล้งมาก่อน → ยอมรับผิด

    หากเห็นใครกำลังถูกกลั่นแกล้ง → ช่วยห้าม


    ✅ 3. เจริญเมตตา สร้างพลังใจให้ตัวเองและผู้อื่น

    กรรมดีสามารถลดแรงกรรมเก่าได้

    เมตตาต่อผู้อื่น คือการเมตตาต่ออนาคตของตัวเอง



    ---

    📌 กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาด

    คนที่เคยแกล้ง → วันหนึ่งต้องถูกแกล้ง
    คนที่เคยหัวเราะเยาะ → วันหนึ่งต้องเป็นเป้าหัวเราะเยาะ
    คนที่เคยทำให้คนอื่นอับอาย → วันหนึ่งต้องอับอายเอง

    แต่หากเราหยุดวงจรนี้ได้
    กรรมร้ายจะไม่ส่งต่อมาถึงเรา

    “หยุดแกล้งคนอื่น = หยุดกรรมของตัวเอง”

    📌 กรรมเก่ากำหนดตัวตนใหม่ และบทบาทในสังคม คนเราเกิดมาต่างกัน ไม่ใช่แค่หน้าตา ฐานะ หรือสติปัญญา แต่ยังรวมถึง “พลังของกรรม” ที่ส่งผลให้ บางคนเป็นผู้ได้รับการยกย่อง และ บางคนเป็นเป้าหมายของการถูกแกล้ง --- 📌 ทำไมบางคนเหมือนถูก ‘ชี้เป้า’ ให้โดนแกล้ง? ✔ กรรมเก่าทำให้ดึงดูด ‘ความอยากแกล้ง’ จากคนรอบข้าง ✔ เคยสร้างความอับอายให้คนอื่น → จึงต้องเผชิญความอับอายเอง ✔ เคยทำร้ายใครโดยไม่มีเหตุผล → จึงต้องเจอการถูกทำร้ายแบบไร้เหตุผล 📌 บางคนแค่เดินเข้ามาในห้อง คนรอบข้างก็รู้สึกอยากเยาะเย้ย เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่าง กระตุ้นให้คนอยากทำให้เขาเจ็บปวด 📌 นี่อาจเป็น “ผลของกรรม” ที่ดึงพลังแห่ง “อารมณ์สาธารณะ” ออกมา ทำให้มวลชนมองไปในทางเดียวกัน และรู้สึกว่าสมควรที่จะถูกกระทำ --- 📌 หากเห็นใครเป็นเป้าของการถูกแกล้ง ควรทำอย่างไร? ⚠ ระวังตัวเองให้ดี เพราะ เราอาจกำลังตกเป็น ‘เครื่องมือของกรรมคนอื่น’ ⚠ หยุดความคิด ‘คันไม้คันมือ’ อยากแกล้ง ทุกครั้งที่รู้สึกอยากล้อเลียนใคร ทุกครั้งที่คิดว่า "ล้อเล่นนิดเดียว ไม่เป็นไรหรอก" หยุดก่อนแล้วถามตัวเองว่า “นี่เรากำลังสร้างกรรมใหม่อยู่หรือเปล่า?” ⚠ อย่ามองว่า ‘แกล้งกันสนุก’ เป็นเรื่องปกติ คนถูกแกล้งอาจไม่ได้ขำไปด้วย บางทีเขาแค่กลั้นใจยิ้ม แต่ในใจทุกข์มาก กรรมไม่ได้ดูว่า “เล่นๆ” หรือ “จริงจัง” กรรมดูที่ “ความรู้สึกของผู้ถูกกระทำ” --- 📌 ใครเคยแกล้งคนอื่นมาก่อน จะหลีกเลี่ยงกรรมร้ายได้ไหม? ได้ ถ้าเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตั้งแต่วันนี้ ✅ 1. หยุดสร้างกรรมใหม่ทันที ไม่ซ้ำเติม ไม่แกล้งใครให้ทุกข์ใจ ไม่หัวเราะเยาะคนที่อับอาย ✅ 2. ชดเชยกรรมเก่าด้วยการให้โอกาสคนอื่น หากเจอคนที่เคยแกล้งมาก่อน → ยอมรับผิด หากเห็นใครกำลังถูกกลั่นแกล้ง → ช่วยห้าม ✅ 3. เจริญเมตตา สร้างพลังใจให้ตัวเองและผู้อื่น กรรมดีสามารถลดแรงกรรมเก่าได้ เมตตาต่อผู้อื่น คือการเมตตาต่ออนาคตของตัวเอง --- 📌 กฎแห่งกรรมไม่เคยผิดพลาด คนที่เคยแกล้ง → วันหนึ่งต้องถูกแกล้ง คนที่เคยหัวเราะเยาะ → วันหนึ่งต้องเป็นเป้าหัวเราะเยาะ คนที่เคยทำให้คนอื่นอับอาย → วันหนึ่งต้องอับอายเอง แต่หากเราหยุดวงจรนี้ได้ กรรมร้ายจะไม่ส่งต่อมาถึงเรา “หยุดแกล้งคนอื่น = หยุดกรรมของตัวเอง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 451 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่านที่เกิดปีมะโรง

    ในปี 2568 นี้... พลังชีวิตของคนที่เกิดปีมะโรงทุกๆคนจะพลิกผันสำเร็จอย่างราบรื่น ด้วยอิทธิพลของดาวเทพมงคล太陽(ไท้เอี้ยง)และดาวเทพ มงคล天喜(เทียงฮี้) ช่วยผ่อนคลายพลังดาวร้ายให้ลดแรงอิทธิฤทธิ์ลง ส่งผลให้กิจการงานค้าขายได้ผลประโยชน์กำไรงอกเงยงามทำให้ชีวิตรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้า มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีขึ้นสูงขึ้น พร้อมรับข่าวดีมีเรื่องมงคลเกิดขึ้นภายในบ้าน ช่วยเสริมสร้างพลังกำลังใจให้มีแรงฮึดสู้ตลอดทั้งปีนี้

    แม้จะถูกพลังดาวอัปมงคลดาวร้าย 晦氣(ห้วยขี่) ดาวร้าย 天空(เทียนคง) ดาวร้าย 孤辰(โกวซิ้ง) และ ดาวร้าย 劫煞(เกี๊ยบสั่วะ) ยังผลให้เกิดอุปสรรคปัญหาผิดพลาดวุ่นวาย ไปยุ่งเรื่องคนอื่นจะเกิดปากเสียงทะเลาะเบาะแว้ง คนรอบข้างให้ร้ายใส่ความลับหลังจนผิดพลาด จะรู้สึกโดดเดี่ยวแปลกแยกเหมือนไม่มีใครเข้าใจ ทั้งยังเบื่อหน่ายอยากเก็บตัวห่างจากสังคมที่วุ่นวาย หรือเป็นเพราะลูกน้องและบริวาร หรือธุรกิจการงานที่ต้องทุ่มเทผลประโยชน์จึงจะได้มา การเงินเสียหายใช้จ่ายเป็นรายวันควรรู้จักยับยั้งชั่งใจไว้บ้าง เงินทองจะหมดไปในเรื่องชู้สาว เพศตรงข้ามจะสร้างปัญหาแก่ชีวิตให้วุ่นวาย ซ้ำร้ายยังมีเกณฑ์จะถูกปล้นแย่งชิงทรัพย์ให้ต้องสูญเสียต้องระมัดระวังอีกเช่นกัน
    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้

    เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG
    ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง)
    .
    .
    #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร
    #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    ท่านที่เกิดปีมะโรง ในปี 2568 นี้... พลังชีวิตของคนที่เกิดปีมะโรงทุกๆคนจะพลิกผันสำเร็จอย่างราบรื่น ด้วยอิทธิพลของดาวเทพมงคล太陽(ไท้เอี้ยง)และดาวเทพ มงคล天喜(เทียงฮี้) ช่วยผ่อนคลายพลังดาวร้ายให้ลดแรงอิทธิฤทธิ์ลง ส่งผลให้กิจการงานค้าขายได้ผลประโยชน์กำไรงอกเงยงามทำให้ชีวิตรุ่งโรจน์เจริญก้าวหน้า มีตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดีขึ้นสูงขึ้น พร้อมรับข่าวดีมีเรื่องมงคลเกิดขึ้นภายในบ้าน ช่วยเสริมสร้างพลังกำลังใจให้มีแรงฮึดสู้ตลอดทั้งปีนี้ แม้จะถูกพลังดาวอัปมงคลดาวร้าย 晦氣(ห้วยขี่) ดาวร้าย 天空(เทียนคง) ดาวร้าย 孤辰(โกวซิ้ง) และ ดาวร้าย 劫煞(เกี๊ยบสั่วะ) ยังผลให้เกิดอุปสรรคปัญหาผิดพลาดวุ่นวาย ไปยุ่งเรื่องคนอื่นจะเกิดปากเสียงทะเลาะเบาะแว้ง คนรอบข้างให้ร้ายใส่ความลับหลังจนผิดพลาด จะรู้สึกโดดเดี่ยวแปลกแยกเหมือนไม่มีใครเข้าใจ ทั้งยังเบื่อหน่ายอยากเก็บตัวห่างจากสังคมที่วุ่นวาย หรือเป็นเพราะลูกน้องและบริวาร หรือธุรกิจการงานที่ต้องทุ่มเทผลประโยชน์จึงจะได้มา การเงินเสียหายใช้จ่ายเป็นรายวันควรรู้จักยับยั้งชั่งใจไว้บ้าง เงินทองจะหมดไปในเรื่องชู้สาว เพศตรงข้ามจะสร้างปัญหาแก่ชีวิตให้วุ่นวาย ซ้ำร้ายยังมีเกณฑ์จะถูกปล้นแย่งชิงทรัพย์ให้ต้องสูญเสียต้องระมัดระวังอีกเช่นกัน ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้ เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ แอดเลย!! คลิก https://lin.ee/nyL0NuG ติดต่อ : 066-095-4524 (จิม) , 081-625-2587(ด็อง) . . #ดูดวงธุรกิจ #โลโก้ดี #ออกแบบโลโก้ #เช็คฮวงจุ้ยให้ธุรกิจ #ฮวงจุ้ย #พี่อ๋า #สมศักดิ์ #ชาคริตฐากูร #FengshuiBiz #FengshuiBizDesigner
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 475 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts