• จีนกับความพยายาม Reverse Engineering เครื่อง EUV Lithography

    รายงานจาก Reuters และ Tom’s Hardware ระบุว่า จีนได้ตั้งห้องแล็บลับในเซินเจิ้นเพื่อสร้างเครื่อง EUV Lithography ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยอ้างว่าใช้วิธี Reverse Engineering จากเครื่องของ ASML บริษัทเนเธอร์แลนด์ที่เป็นผู้ผลิตรายเดียวในโลกที่สามารถทำเครื่อง EUV ได้สำเร็จ ปัจจุบันเครื่องต้นแบบของจีนสามารถสร้างแสง EUV ที่ความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรได้ แต่ยังไม่สามารถใช้ผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้

    เครื่องดังกล่าวใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML โดยยิงเลเซอร์ไปที่หยดดีบุกขนาดไมครอนเพื่อสร้างพลาสมาที่ปล่อยแสง EUV อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักอยู่ที่ระบบออปติกที่ซับซ้อนมาก เช่น กระจกสะท้อนที่เคลือบด้วยชั้น Mo/Si และระบบ Projection Optics ที่ต้องการความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้สมบูรณ์

    รัฐบาลจีนตั้งเป้าว่าจะมีต้นแบบที่สามารถผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความเป็นจริงอาจต้องรอถึงปี 2030 หรือหลังจากนั้น เนื่องจากการสร้างเครื่อง EUV ต้องอาศัยการบูรณาการมากกว่า 100,000 ชิ้นส่วน และความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ซึ่งปัจจุบันจีนยังต้องพึ่งพาอดีตวิศวกรจาก ASML และนักวิจัยมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจบใหม่

    หากจีนสามารถพัฒนาเครื่อง EUV ได้สำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพราะปัจจุบันจีนถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จากมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐและพันธมิตร แต่ในทางกลับกัน หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาด้านออปติกและระบบกลไกได้ ความพยายามนี้อาจกลายเป็นเพียงการทดลองที่ไม่สามารถใช้จริงในเชิงพาณิชย์

    สรุปสาระสำคัญและคำเตือน
    การสร้างเครื่อง EUV ในจีน
    ห้องแล็บลับในเซินเจิ้นสร้างเครื่องต้นแบบที่สามารถผลิตแสง EUV ได้แล้ว

    เทคนิคที่ใช้
    ใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML

    เป้าหมายรัฐบาลจีน
    ต้องการให้มีต้นแบบที่ผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจช้ากว่านั้น

    ความท้าทายด้านเทคนิค
    ระบบออปติกและกลไกที่ซับซ้อนยังไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์

    คำเตือนด้านความเป็นจริง
    การสร้างเครื่อง EUV ต้องใช้มากกว่า 100,000 ชิ้นส่วนและความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้
    แม้จะมีความก้าวหน้า แต่ยังไม่สามารถผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ในระยะสั้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-may-have-reverse-engineered-euv-lithography-tool-in-covert-lab-report-claims-employees-given-fake-ids-to-avoid-secret-project-being-detected-prototypes-expected-in-2028
    🔬 จีนกับความพยายาม Reverse Engineering เครื่อง EUV Lithography รายงานจาก Reuters และ Tom’s Hardware ระบุว่า จีนได้ตั้งห้องแล็บลับในเซินเจิ้นเพื่อสร้างเครื่อง EUV Lithography ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ล้ำหน้าที่สุดในโลก โดยอ้างว่าใช้วิธี Reverse Engineering จากเครื่องของ ASML บริษัทเนเธอร์แลนด์ที่เป็นผู้ผลิตรายเดียวในโลกที่สามารถทำเครื่อง EUV ได้สำเร็จ ปัจจุบันเครื่องต้นแบบของจีนสามารถสร้างแสง EUV ที่ความยาวคลื่น 13.5 นาโนเมตรได้ แต่ยังไม่สามารถใช้ผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ เครื่องดังกล่าวใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML โดยยิงเลเซอร์ไปที่หยดดีบุกขนาดไมครอนเพื่อสร้างพลาสมาที่ปล่อยแสง EUV อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักอยู่ที่ระบบออปติกที่ซับซ้อนมาก เช่น กระจกสะท้อนที่เคลือบด้วยชั้น Mo/Si และระบบ Projection Optics ที่ต้องการความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้สมบูรณ์ รัฐบาลจีนตั้งเป้าว่าจะมีต้นแบบที่สามารถผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญมองว่าความเป็นจริงอาจต้องรอถึงปี 2030 หรือหลังจากนั้น เนื่องจากการสร้างเครื่อง EUV ต้องอาศัยการบูรณาการมากกว่า 100,000 ชิ้นส่วน และความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา ซึ่งปัจจุบันจีนยังต้องพึ่งพาอดีตวิศวกรจาก ASML และนักวิจัยมหาวิทยาลัยที่เพิ่งจบใหม่ หากจีนสามารถพัฒนาเครื่อง EUV ได้สำเร็จ จะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ เพราะปัจจุบันจีนถูกจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีนี้จากมาตรการควบคุมการส่งออกของสหรัฐและพันธมิตร แต่ในทางกลับกัน หากยังไม่สามารถแก้ปัญหาด้านออปติกและระบบกลไกได้ ความพยายามนี้อาจกลายเป็นเพียงการทดลองที่ไม่สามารถใช้จริงในเชิงพาณิชย์ 📌 สรุปสาระสำคัญและคำเตือน ✅ การสร้างเครื่อง EUV ในจีน ➡️ ห้องแล็บลับในเซินเจิ้นสร้างเครื่องต้นแบบที่สามารถผลิตแสง EUV ได้แล้ว ✅ เทคนิคที่ใช้ ➡️ ใช้วิธี Laser-Produced Plasma (LPP) เช่นเดียวกับ ASML ✅ เป้าหมายรัฐบาลจีน ➡️ ต้องการให้มีต้นแบบที่ผลิตชิปได้ภายในปี 2028 แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าอาจช้ากว่านั้น ✅ ความท้าทายด้านเทคนิค ➡️ ระบบออปติกและกลไกที่ซับซ้อนยังไม่สามารถทำงานได้สมบูรณ์ ‼️ คำเตือนด้านความเป็นจริง ⛔ การสร้างเครื่อง EUV ต้องใช้มากกว่า 100,000 ชิ้นส่วนและความแม่นยำระดับนาโนเมตร ซึ่งจีนยังไม่สามารถทำได้ ⛔ แม้จะมีความก้าวหน้า แต่ยังไม่สามารถผลิตชิปเชิงพาณิชย์ได้ในระยะสั้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-may-have-reverse-engineered-euv-lithography-tool-in-covert-lab-report-claims-employees-given-fake-ids-to-avoid-secret-project-being-detected-prototypes-expected-in-2028
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • HDD ราคาพุ่งแรงที่สุดในรอบ 8 ไตรมาส

    ตลาดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) กำลังกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังจากราคาสัญญาเพิ่มขึ้นกว่า 4% ในไตรมาส 4 ปี 2025 ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นแรงที่สุดในรอบ 8 ไตรมาสติดต่อกัน ปัจจัยสำคัญมาจาก ความต้องการในจีน ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และ การขยายตัวของศูนย์ข้อมูล AI ในสหรัฐฯ ที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมหาศาล.

    จีนหนุนตลาด HDD
    นโยบายจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลจีนที่เน้นใช้ CPU และระบบปฏิบัติการที่ผลิตในประเทศ ทำให้การผลิต PC ภายในประเทศพุ่งสูงขึ้น และส่งผลให้ความต้องการ HDD เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด เหตุผลสำคัญคือความกังวลเรื่อง การเก็บข้อมูลระยะยาวใน SSD ที่อาจเสื่อมสภาพจาก NAND flash memory เมื่อเก็บไว้นาน ทำให้ HDD ถูกมองว่าเชื่อถือได้มากกว่าในบางกรณี.

    ศูนย์ข้อมูล AI ดันความต้องการ
    ในสหรัฐฯ ศูนย์ข้อมูลที่รองรับงาน AI และ Machine Learning ยังคงพึ่งพา HDD ขนาดใหญ่สำหรับการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาล แม้ SSD จะมีความเร็วสูงกว่า แต่ HDD ยังคงได้เปรียบในด้าน ต้นทุนต่อกิกะไบต์ และความเหมาะสมในการเก็บข้อมูลแบบ cold/warm storage ส่งผลให้ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ยังคงสั่งซื้อ HDD ในปริมาณมหาศาล.

    ความท้าทายด้านการผลิต
    แม้ผู้ผลิต HDD จะเดินเครื่องเต็มกำลัง แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ทัน เนื่องจากการผลิต HDD ต้องใช้ชิ้นส่วนเฉพาะทาง เช่น หัวอ่าน/เขียน และแผ่นบันทึกข้อมูล ที่ไม่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้รวดเร็วเหมือน NAND flash การขาดแคลน DRAM ที่ใช้เป็น cache memory ก็ยิ่งเพิ่มต้นทุนการผลิต ทำให้ราคามีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ราคาพุ่งแรงที่สุดในรอบ 8 ไตรมาส
    HDD contract prices เพิ่มขึ้น 4% ใน Q4 2025
    แนวโน้มราคายังมีแรงกดดันต่อเนื่อง

    ปัจจัยจากจีน
    นโยบายจัดซื้อ PC ในประเทศหนุนการผลิต
    ความกังวลเรื่อง SSD เก็บข้อมูลระยะยาว ทำให้ HDD ถูกเลือกมากขึ้น

    ปัจจัยจากสหรัฐฯ
    ศูนย์ข้อมูล AI ต้องการ HDD ความจุสูง
    HDD ยังคงได้เปรียบด้านต้นทุนต่อกิกะไบต์

    ข้อจำกัดการผลิต
    ชิ้นส่วนเฉพาะทางทำให้การเพิ่มกำลังผลิตทำได้ช้า
    DRAM ขาดแคลนเพิ่มต้นทุนการผลิต HDD

    ข้อควรระวัง
    ราคามีแนวโน้มสูงต่อเนื่องหากความต้องการยังพุ่ง
    การขาดแคลน DRAM และชิ้นส่วนสำคัญอาจทำให้ซัพพลายไม่ทัน
    ผู้ใช้ทั่วไปอาจได้รับผลกระทบจากราคาที่สูงขึ้น แม้ HDD เคยเป็นตัวเลือกประหยัด

    https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/hdd-prices-spike-as-ai-infrastructure-and-chinas-pc-push-collide-hard-drives-record-biggest-price-increase-in-eight-quarters-suppliers-warn-pressure-will-continue
    💾 HDD ราคาพุ่งแรงที่สุดในรอบ 8 ไตรมาส ตลาดฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ (HDD) กำลังกลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังจากราคาสัญญาเพิ่มขึ้นกว่า 4% ในไตรมาส 4 ปี 2025 ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นแรงที่สุดในรอบ 8 ไตรมาสติดต่อกัน ปัจจัยสำคัญมาจาก ความต้องการในจีน ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และ การขยายตัวของศูนย์ข้อมูล AI ในสหรัฐฯ ที่ต้องการพื้นที่จัดเก็บข้อมูลมหาศาล. 🇨🇳 จีนหนุนตลาด HDD นโยบายจัดซื้อคอมพิวเตอร์ของรัฐบาลจีนที่เน้นใช้ CPU และระบบปฏิบัติการที่ผลิตในประเทศ ทำให้การผลิต PC ภายในประเทศพุ่งสูงขึ้น และส่งผลให้ความต้องการ HDD เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด เหตุผลสำคัญคือความกังวลเรื่อง การเก็บข้อมูลระยะยาวใน SSD ที่อาจเสื่อมสภาพจาก NAND flash memory เมื่อเก็บไว้นาน ทำให้ HDD ถูกมองว่าเชื่อถือได้มากกว่าในบางกรณี. 🇺🇸 ศูนย์ข้อมูล AI ดันความต้องการ ในสหรัฐฯ ศูนย์ข้อมูลที่รองรับงาน AI และ Machine Learning ยังคงพึ่งพา HDD ขนาดใหญ่สำหรับการเก็บข้อมูลจำนวนมหาศาล แม้ SSD จะมีความเร็วสูงกว่า แต่ HDD ยังคงได้เปรียบในด้าน ต้นทุนต่อกิกะไบต์ และความเหมาะสมในการเก็บข้อมูลแบบ cold/warm storage ส่งผลให้ผู้ให้บริการคลาวด์รายใหญ่ยังคงสั่งซื้อ HDD ในปริมาณมหาศาล. ⚠️ ความท้าทายด้านการผลิต แม้ผู้ผลิต HDD จะเดินเครื่องเต็มกำลัง แต่ก็ยังไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ทัน เนื่องจากการผลิต HDD ต้องใช้ชิ้นส่วนเฉพาะทาง เช่น หัวอ่าน/เขียน และแผ่นบันทึกข้อมูล ที่ไม่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้รวดเร็วเหมือน NAND flash การขาดแคลน DRAM ที่ใช้เป็น cache memory ก็ยิ่งเพิ่มต้นทุนการผลิต ทำให้ราคามีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ราคาพุ่งแรงที่สุดในรอบ 8 ไตรมาส ➡️ HDD contract prices เพิ่มขึ้น 4% ใน Q4 2025 ➡️ แนวโน้มราคายังมีแรงกดดันต่อเนื่อง ✅ ปัจจัยจากจีน ➡️ นโยบายจัดซื้อ PC ในประเทศหนุนการผลิต ➡️ ความกังวลเรื่อง SSD เก็บข้อมูลระยะยาว ทำให้ HDD ถูกเลือกมากขึ้น ✅ ปัจจัยจากสหรัฐฯ ➡️ ศูนย์ข้อมูล AI ต้องการ HDD ความจุสูง ➡️ HDD ยังคงได้เปรียบด้านต้นทุนต่อกิกะไบต์ ✅ ข้อจำกัดการผลิต ➡️ ชิ้นส่วนเฉพาะทางทำให้การเพิ่มกำลังผลิตทำได้ช้า ➡️ DRAM ขาดแคลนเพิ่มต้นทุนการผลิต HDD ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ราคามีแนวโน้มสูงต่อเนื่องหากความต้องการยังพุ่ง ⛔ การขาดแคลน DRAM และชิ้นส่วนสำคัญอาจทำให้ซัพพลายไม่ทัน ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปอาจได้รับผลกระทบจากราคาที่สูงขึ้น แม้ HDD เคยเป็นตัวเลือกประหยัด https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/hdd-prices-spike-as-ai-infrastructure-and-chinas-pc-push-collide-hard-drives-record-biggest-price-increase-in-eight-quarters-suppliers-warn-pressure-will-continue
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ EP.151 : 9 คำจีนสำคัญปี 2025 สะท้อนทิศทางนโยบายปักกิ่ง
    .
    ในทุก ๆ ปี ศูนย์ติดตามและวิจัยทรัพยากรภาษาแห่งชาติจีน จะรวบรวม “คำศัพท์สร้างกระแส” ที่อยู่ในสื่อมวลชนจีน โดยคำศัพท์เหล่านี้จะสะท้อนถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาลจีน , การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศจีนในรอบปีที่ผ่านมา รวมถึงใช้คาดการณ์ถึงทิศทางในอนาคตได้ด้วยว่า รัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญกับเรื่องอะไรบ้าง
    .
    พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ จะอธิบายถึง 9 คำสำคัญของประเทศจีน ในปี 2568 ซึ่งนัยยะของ “คำสำคัญ” เหล่านี้ก็คือ การทำความเข้าใจกับทิศทางนโยบายของรัฐบาลจีน ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการค้า การลงทุน และการติดต่อสัมพันธ์กับประเทศจีนอย่างมาก
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=Viyi7RphYGA
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #คำสำคัญจีน2025 #2025年度中国媒体大热词 #十大热词
    บูรพาไม่แพ้ EP.151 : 9 คำจีนสำคัญปี 2025 สะท้อนทิศทางนโยบายปักกิ่ง . ในทุก ๆ ปี ศูนย์ติดตามและวิจัยทรัพยากรภาษาแห่งชาติจีน จะรวบรวม “คำศัพท์สร้างกระแส” ที่อยู่ในสื่อมวลชนจีน โดยคำศัพท์เหล่านี้จะสะท้อนถึงนโยบายสำคัญของรัฐบาลจีน , การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในประเทศจีนในรอบปีที่ผ่านมา รวมถึงใช้คาดการณ์ถึงทิศทางในอนาคตได้ด้วยว่า รัฐบาลจีนได้ให้ความสำคัญกับเรื่องอะไรบ้าง . พอดแคส บูรพาไม่แพ้ ในวันนี้ จะอธิบายถึง 9 คำสำคัญของประเทศจีน ในปี 2568 ซึ่งนัยยะของ “คำสำคัญ” เหล่านี้ก็คือ การทำความเข้าใจกับทิศทางนโยบายของรัฐบาลจีน ซึ่งก็จะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการค้า การลงทุน และการติดต่อสัมพันธ์กับประเทศจีนอย่างมาก . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=Viyi7RphYGA . #บูรพาไม่แพ้ #คำสำคัญจีน2025 #2025年度中国媒体大热词 #十大热词
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 301 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังพิจารณาอัดฉีดเงินลงทุนสูงสุดถึง 70 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปภายในประเทศ

    รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาโครงการลงทุนใหม่ในอุตสาหกรรมชิปวงเงิน 28–70 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากดำเนินการเต็มจำนวน จะมากกว่าการลงทุนโดยตรงของสหรัฐฯ ผ่าน CHIPS Act การลงทุนนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งการออกแบบและการผลิตชิปขั้นสูง ลดการพึ่งพาซัพพลายจากต่างประเทศ และแก้ปัญหาการขาดแคลนชิปที่กระทบเศรษฐกิจโลก

    ผู้เล่นหลัก: Huawei และ Cambricon
    สองบริษัทจีนที่ถูกมองว่าเป็นผู้รับเงินทุนหลักคือ Huawei และ Cambricon ซึ่งมีบทบาทสำคัญในตลาด AI และการประมวลผลขั้นสูง Huawei มีชิป Ascend สำหรับ AI inference ส่วน Cambricon กำลังเร่งการผลิต AI chip ให้ได้ถึง 500,000 ชิ้นภายในปี 2026 ทั้งสองบริษัทถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกแทน Nvidia ในตลาดจีน

    กลยุทธ์ "Whole-Nation" ของจีน
    ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงผลักดันแนวทาง “Whole-Nation Approach” เพื่อสร้างความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยี โดยมีมาตรการบังคับใช้ชิปที่ผลิตในประเทศอย่างน้อย 50% ในศูนย์ข้อมูล และให้เงินอุดหนุนด้านพลังงานแก่บริษัทที่ใช้ชิปจีน แม้จะมีความพยายามบังคับใช้กับงานฝึก AI แต่หลายบริษัท เช่น DeepSeek ยังเลือกใช้ Nvidia เนื่องจากประสิทธิภาพเหนือกว่า

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก
    การลงทุนครั้งนี้อาจเปลี่ยนสมดุลของตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก หากจีนสามารถเร่งพัฒนาเทคโนโลยีได้ทันกับคู่แข่งตะวันตก อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้าน yield, ความร้อน และการล้าหลังของ process node ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ จีนจึงต้องใช้ทั้งการลงทุนและนโยบายเชิงรุกเพื่อปิดช่องว่างนี้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การลงทุนมหาศาล
    วงเงิน 28–70 พันล้านดอลลาร์
    ใหญ่กว่าการลงทุนตรงของสหรัฐฯ ผ่าน CHIPS Act

    ผู้เล่นหลัก
    Huawei: ชิป Ascend สำหรับ AI
    Cambricon: ตั้งเป้าผลิต 500,000 AI chip ภายในปี 2026

    กลยุทธ์ชาติ
    Whole-Nation Approach ผลักดันการใช้ชิปในประเทศ
    บังคับใช้ชิปจีนอย่างน้อย 50% ในศูนย์ข้อมูล

    ผลกระทบเชิงบวก
    ลดการพึ่งพาต่างชาติ
    เสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี

    ความเสี่ยงและข้อจำกัด
    ปัญหาด้าน yield และความร้อนของชิปจีน
    ประสิทธิภาพยังตามหลัง Nvidia และ AMD หลายรุ่น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-mulls-usd70-billion-domestic-chip-fabrication-injection-would-be-largest-of-any-government-semiconductor-investment-huawei-and-cambricon-among-candidates-in-push-to-compete-with-nvidia-other-u-s-firms
    💰 จีนกำลังพิจารณาอัดฉีดเงินลงทุนสูงสุดถึง 70 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสนับสนุนการผลิตชิปภายในประเทศ รัฐบาลจีนกำลังพิจารณาโครงการลงทุนใหม่ในอุตสาหกรรมชิปวงเงิน 28–70 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหากดำเนินการเต็มจำนวน จะมากกว่าการลงทุนโดยตรงของสหรัฐฯ ผ่าน CHIPS Act การลงทุนนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งการออกแบบและการผลิตชิปขั้นสูง ลดการพึ่งพาซัพพลายจากต่างประเทศ และแก้ปัญหาการขาดแคลนชิปที่กระทบเศรษฐกิจโลก 🏢 ผู้เล่นหลัก: Huawei และ Cambricon สองบริษัทจีนที่ถูกมองว่าเป็นผู้รับเงินทุนหลักคือ Huawei และ Cambricon ซึ่งมีบทบาทสำคัญในตลาด AI และการประมวลผลขั้นสูง Huawei มีชิป Ascend สำหรับ AI inference ส่วน Cambricon กำลังเร่งการผลิต AI chip ให้ได้ถึง 500,000 ชิ้นภายในปี 2026 ทั้งสองบริษัทถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกแทน Nvidia ในตลาดจีน ⚙️ กลยุทธ์ "Whole-Nation" ของจีน ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงผลักดันแนวทาง “Whole-Nation Approach” เพื่อสร้างความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยี โดยมีมาตรการบังคับใช้ชิปที่ผลิตในประเทศอย่างน้อย 50% ในศูนย์ข้อมูล และให้เงินอุดหนุนด้านพลังงานแก่บริษัทที่ใช้ชิปจีน แม้จะมีความพยายามบังคับใช้กับงานฝึก AI แต่หลายบริษัท เช่น DeepSeek ยังเลือกใช้ Nvidia เนื่องจากประสิทธิภาพเหนือกว่า 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโลก การลงทุนครั้งนี้อาจเปลี่ยนสมดุลของตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก หากจีนสามารถเร่งพัฒนาเทคโนโลยีได้ทันกับคู่แข่งตะวันตก อย่างไรก็ตาม ปัญหาด้าน yield, ความร้อน และการล้าหลังของ process node ยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ จีนจึงต้องใช้ทั้งการลงทุนและนโยบายเชิงรุกเพื่อปิดช่องว่างนี้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การลงทุนมหาศาล ➡️ วงเงิน 28–70 พันล้านดอลลาร์ ➡️ ใหญ่กว่าการลงทุนตรงของสหรัฐฯ ผ่าน CHIPS Act ✅ ผู้เล่นหลัก ➡️ Huawei: ชิป Ascend สำหรับ AI ➡️ Cambricon: ตั้งเป้าผลิต 500,000 AI chip ภายในปี 2026 ✅ กลยุทธ์ชาติ ➡️ Whole-Nation Approach ผลักดันการใช้ชิปในประเทศ ➡️ บังคับใช้ชิปจีนอย่างน้อย 50% ในศูนย์ข้อมูล ✅ ผลกระทบเชิงบวก ➡️ ลดการพึ่งพาต่างชาติ ➡️ เสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี ‼️ ความเสี่ยงและข้อจำกัด ⛔ ปัญหาด้าน yield และความร้อนของชิปจีน ⛔ ประสิทธิภาพยังตามหลัง Nvidia และ AMD หลายรุ่น https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-mulls-usd70-billion-domestic-chip-fabrication-injection-would-be-largest-of-any-government-semiconductor-investment-huawei-and-cambricon-among-candidates-in-push-to-compete-with-nvidia-other-u-s-firms
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 357 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกดดันเนเธอร์แลนด์ให้แก้ปัญหาความขัดแย้ง Nexperia

    รัฐบาลจีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์เร่งแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับบริษัท Nexperia ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของดัตช์ที่ถูกควบคุมโดย Wingtech Technology ของจีน หลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้ามาแทรกแซงเพื่อป้องกันการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทำให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญ

    การแทรกแซงของรัฐและผลกระทบ
    ในเดือนกันยายน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็นเพื่อวาง Nexperia ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ พร้อมระงับสิทธิ์การโหวตของผู้บริหารที่มาจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระแทน จีนตอบโต้ด้วยการหยุดการส่งออกชิ้นส่วนที่บรรจุในจีนกลับไปยุโรป ส่งผลให้การผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรปสะดุดทันที

    ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
    กว่า 70% ของเวเฟอร์ที่ผลิตในยุโรปโดย Nexperia ต้องถูกส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ เมื่อจีนหยุดส่งออก ทำให้เกิดการค้างสต็อกและใบแจ้งหนี้ที่ไม่ได้รับชำระจำนวนมาก ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการควบคุมบริษัทได้อย่างถาวร

    บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดด้าน ภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและยุโรป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเร่งลงทุนเพื่อสร้างโรงงานใหม่ในประเทศตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานที่เสี่ยงต่อการเมือง

    สรุปสาระสำคัญ
    จีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์แก้ปัญหา Nexperia
    หลังการแทรกแซงของรัฐทำให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุด

    รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็น
    ระงับสิทธิ์ผู้บริหารจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระ

    จีนตอบโต้ด้วยการหยุดส่งออกชิ้นส่วน
    กระทบการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป

    ปัจจุบันผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน
    แต่ยังไม่แก้ปัญหาการควบคุมบริษัทได้ถาวร

    ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก
    70% ของเวเฟอร์ยุโรปต้องส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ

    ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์
    อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-presses-netherlands-to-resolve-nexperia-dispute-as-supply-concerns-grow
    🇨🇳 จีนกดดันเนเธอร์แลนด์ให้แก้ปัญหาความขัดแย้ง Nexperia รัฐบาลจีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์เร่งแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับบริษัท Nexperia ผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของดัตช์ที่ถูกควบคุมโดย Wingtech Technology ของจีน หลังจากรัฐบาลเนเธอร์แลนด์เข้ามาแทรกแซงเพื่อป้องกันการถ่ายโอนเทคโนโลยี ทำให้เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและการส่งออกชิ้นส่วนสำคัญ 🏛️ การแทรกแซงของรัฐและผลกระทบ ในเดือนกันยายน รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็นเพื่อวาง Nexperia ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐ พร้อมระงับสิทธิ์การโหวตของผู้บริหารที่มาจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระแทน จีนตอบโต้ด้วยการหยุดการส่งออกชิ้นส่วนที่บรรจุในจีนกลับไปยุโรป ส่งผลให้การผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรปสะดุดทันที ⚡ ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก กว่า 70% ของเวเฟอร์ที่ผลิตในยุโรปโดย Nexperia ต้องถูกส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ เมื่อจีนหยุดส่งออก ทำให้เกิดการค้างสต็อกและใบแจ้งหนี้ที่ไม่ได้รับชำระจำนวนมาก ปัจจุบันทั้งสองฝ่ายผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน แต่ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาการควบคุมบริษัทได้อย่างถาวร 🌐 บริบทเพิ่มเติมจากอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ กรณีนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดด้าน ภูมิรัฐศาสตร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและยุโรป โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่เป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจโลก ขณะเดียวกันบริษัทญี่ปุ่นและเกาหลีใต้กำลังเร่งลงทุนเพื่อสร้างโรงงานใหม่ในประเทศตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาห่วงโซ่อุปทานที่เสี่ยงต่อการเมือง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ จีนเรียกร้องให้เนเธอร์แลนด์แก้ปัญหา Nexperia ➡️ หลังการแทรกแซงของรัฐทำให้ห่วงโซ่อุปทานสะดุด ✅ รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ใช้กฎหมายยุคสงครามเย็น ➡️ ระงับสิทธิ์ผู้บริหารจาก Wingtech และแต่งตั้งผู้ดูแลอิสระ ✅ จีนตอบโต้ด้วยการหยุดส่งออกชิ้นส่วน ➡️ กระทบการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในยุโรป ✅ ปัจจุบันผ่อนคลายข้อจำกัดบางส่วน ➡️ แต่ยังไม่แก้ปัญหาการควบคุมบริษัทได้ถาวร ‼️ ความเสี่ยงต่อห่วงโซ่อุปทานโลก ⛔ 70% ของเวเฟอร์ยุโรปต้องส่งไปจีนเพื่อบรรจุและประกอบ ‼️ ความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ⛔ อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-presses-netherlands-to-resolve-nexperia-dispute-as-supply-concerns-grow
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Chinese government wades into Dutch chipmaker dispute — presses Netherlands to resolve Nexperia saga as supply concerns grow
    Beijing urges the Dutch government to allow talks with Wingtech after state intervention disrupted chip flows.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 339 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline

    Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่
    ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย
    https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks

    DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ
    กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero
    https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย
    มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว
    https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism

    EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย
    หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น
    https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit

    Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO
    OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI
    https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle

    Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS
    ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย
    https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports

    Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal
    นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที
    https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass

    GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki
    GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้
    https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages

    Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO
    มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ
    https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait

    SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์
    SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX
    https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers

    จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure
    มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน
    https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud

    ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน
    มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด
    https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce

    FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย
    หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา
    https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน
    CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย
    https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication

    ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome
    เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว
    https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack

    นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ
    Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น
    https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory

    📌🔐🟠 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟠🔐📌 #รวมข่าวIT #20251211 #securityonline 🛡️ Makop Ransomware กลับมาอีกครั้งพร้อมกลยุทธ์ใหม่ ภัยคุกคามที่เคยคุ้นชื่อ Makop ransomware ได้พัฒนาวิธีการโจมตีให้ซับซ้อนขึ้น แม้จะยังใช้ช่องโหว่เดิมคือการเจาะผ่านพอร์ต RDP ที่ไม่ได้ป้องกัน แต่ครั้งนี้พวกเขาเสริมเครื่องมืออย่าง GuLoader เพื่อดาวน์โหลดมัลแวร์เพิ่มเติม และยังใช้เทคนิค BYOVD (Bring Your Own Vulnerable Driver) เพื่อฆ่าโปรแกรมป้องกันไวรัสในระดับ kernel ได้โดยตรง การโจมตีส่วนใหญ่พุ่งเป้าไปที่องค์กรในอินเดีย แต่ก็พบในหลายประเทศอื่นด้วย จุดสำคัญคือ แม้จะเป็นการโจมตีที่ดู “ง่าย” แต่ผลลัพธ์กลับสร้างความเสียหายรุนแรงต่อองค์กรที่ละเลยการอัปเดตและการตั้งค่าความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/makop-ransomware-evolves-guloader-and-byovd-edr-killers-used-to-attack-rdp-exposed-networks 💻 DeadLock Ransomware ใช้ช่องโหว่ไดรเวอร์ Baidu เจาะระบบ กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่หวังผลทางการเงินได้ปล่อยแรนซัมแวร์ชื่อ DeadLock โดยใช้เทคนิค BYOVD เช่นกัน คราวนี้พวกเขาอาศัยไดรเวอร์จาก Baidu Antivirus ที่มีช่องโหว่ ทำให้สามารถสั่งงานในระดับ kernel และปิดการทำงานของโปรแกรมป้องกันได้ทันที หลังจากนั้นยังใช้ PowerShell script ปิดบริการสำคัญ เช่น SQL Server และลบ shadow copies เพื่อกันไม่ให้เหยื่อกู้คืนข้อมูลได้ ตัวแรนซัมแวร์ถูกเขียนขึ้นใหม่ด้วย C++ และใช้วิธีเข้ารหัสเฉพาะที่ไม่เหมือนใคร ที่น่าสนใจคือพวกเขาไม่ใช้วิธี “double extortion” แต่ให้เหยื่อติดต่อผ่านแอป Session เพื่อเจรจาจ่ายค่าไถ่เป็น Bitcoin หรือ Monero 🔗 https://securityonline.info/deadlock-ransomware-deploys-byovd-edr-killer-by-exploiting-baidu-driver-for-kernel-level-defense-bypass ⚙️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน PCIe 6.0 เสี่ยงข้อมูลเสียหาย มาตรฐาน PCIe 6.0 ที่ใช้ในการส่งข้อมูลความเร็วสูงถูกพบว่ามีช่องโหว่ในกลไก IDE (Integrity and Data Encryption) ซึ่งอาจทำให้ผู้โจมตีที่มีสิทธิ์เข้าถึงฮาร์ดแวร์สามารถฉีดข้อมูลที่ผิดพลาดหรือเก่าเข้ามาในระบบได้ ช่องโหว่นี้ถูกระบุเป็น CVE-2025-9612, 9613 และ 9614 แม้จะไม่สามารถโจมตีจากระยะไกล แต่ก็เป็นภัยใหญ่สำหรับศูนย์ข้อมูลหรือระบบที่ต้องการความปลอดภัยสูง ตอนนี้ PCI-SIG ได้ออก Draft Engineering Change Notice เพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ผลิตอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้โดยเร็ว 🔗 https://securityonline.info/critical-pcie-6-0-flaws-risk-secure-data-integrity-via-stale-data-injection-in-ide-mechanism 🪙 EtherRAT Malware ใช้บล็อกเชน Ethereum ซ่อนร่องรอย หลังจากเกิดช่องโหว่ React2Shell เพียงไม่กี่วัน นักวิจัยพบมัลแวร์ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ใช้บล็อกเชน Ethereum เป็นช่องทางสื่อสารกับผู้ควบคุม โดยอาศัย smart contracts เพื่อรับคำสั่ง ทำให้แทบไม่สามารถปิดกั้นได้ เพราะเครือข่าย Ethereum เป็นระบบกระจายศูนย์ นอกจากนี้ EtherRAT ยังมีความคล้ายคลึงกับเครื่องมือที่เคยใช้โดยกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือ และถูกออกแบบให้ฝังตัวแน่นหนาในระบบ Linux ด้วยหลายวิธีการ persistence พร้อมทั้งดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อกลมกลืนกับการทำงานปกติ ถือเป็นการยกระดับการโจมตีจากช่องโหว่ React2Shell ไปสู่ระดับ APT ที่อันตรายยิ่งขึ้น 🔗 https://securityonline.info/etherrat-malware-hijacks-ethereum-blockchain-for-covert-c2-after-react2shell-exploit 🤝 Slack CEO ย้ายไปร่วมทีม OpenAI เป็น CRO OpenAI กำลังเร่งหาทางสร้างรายได้เพื่อรองรับค่าใช้จ่ายมหาศาลในการประมวลผล AI ล่าสุดได้ดึง Denise Dresser ซีอีโอของ Slack เข้ามารับตำแหน่ง Chief Revenue Officer (CRO) เพื่อดูแลกลยุทธ์รายได้และการขยายตลาดองค์กร การเข้ามาของเธอสะท้อนให้เห็นว่า OpenAI กำลังใช้แนวทางแบบ Silicon Valley อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการขยายฐานผู้ใช้และการหาช่องทางทำเงิน ไม่ว่าจะเป็นการขาย subscription หรือแม้กระทั่งโฆษณาใน ChatGPT อย่างไรก็ตาม ความท้าทายใหญ่คือการทำให้รายได้เติบโตทันกับค่าใช้จ่ายที่สูงลิ่วจากการสร้างและดูแลโครงสร้างพื้นฐาน AI 🔗 https://securityonline.info/slack-ceo-denise-dresser-joins-openai-as-cro-to-solve-the-profitability-puzzle 🛠️ Jenkins เจอช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงถูกโจมตี DoS และ XSS ทีมพัฒนา Jenkins ออกประกาศเตือนครั้งใหญ่ หลังพบช่องโหว่หลายรายการที่อาจทำให้ระบบ CI/CD ถูกโจมตีจนหยุดทำงาน หรือโดนฝังสคริปต์อันตราย (XSS) โดยเฉพาะช่องโหว่ CVE-2025-67635 ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์ส่งคำสั่งผ่าน HTTP CLI โดยไม่ต้องล็อกอิน ทำให้เซิร์ฟเวอร์ทรัพยากรถูกใช้จนล่ม อีกช่องโหว่ CVE-2025-67641 ใน Coverage Plugin ก็เปิดทางให้ผู้โจมตีฝังโค้ด JavaScript ลงในรายงาน เมื่อผู้ดูแลเปิดดู รายงานนั้นจะรันสคริปต์ทันที เสี่ยงต่อการถูกขโมย session และข้อมูลสำคัญ แม้จะมีการอัปเดตแก้ไขหลายจุด เช่น การเข้ารหัส token และการปิดช่องโหว่การเห็นรหัสผ่าน แต่ยังมีบางปลั๊กอินที่ยังไม่มีแพตช์ออกมา ทำให้ผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดต Jenkins และปลั๊กอินที่เกี่ยวข้องเพื่อป้องกันความเสียหาย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-jenkins-flaws-risk-unauthenticated-dos-via-http-cli-and-xss-via-coverage-reports 🐙 Gogs Zero-Day โดนเจาะกว่า 700 เซิร์ฟเวอร์ ผ่าน Symlink Path Traversal นักวิจัยจาก Wiz พบช่องโหว่ใหม่ใน Gogs (CVE-2025-8110) ที่เปิดทางให้ผู้โจมตีสามารถเขียนไฟล์อันตรายลงในระบบได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้ symlink โดยช่องโหว่นี้เป็นการเลี่ยงแพตช์เก่าที่เคยแก้ไขไปแล้ว ทำให้กว่า 700 เซิร์ฟเวอร์จาก 1,400 ที่ตรวจสอบถูกเจาะสำเร็จ การโจมตีมีลักษณะเป็นแคมเปญ “smash-and-grab” คือเข้ามาเร็ว ใช้ symlink เขียนทับไฟล์สำคัญ เช่น .git/config แล้วรันคำสั่งอันตราย จากนั้นติดตั้ง payload ที่ใช้ Supershell เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ปัจจุบันยังไม่มีแพตช์ออกมา ผู้ดูแลระบบจึงถูกแนะนำให้ปิดการสมัครสมาชิกสาธารณะ และจำกัดการเข้าถึงระบบทันที 🔗 https://securityonline.info/gogs-zero-day-cve-2025-8110-risks-rce-for-700-servers-via-symlink-path-traversal-bypass 🧩 GitLab พบช่องโหว่ XSS เสี่ยงโดนขโมย session ผ่าน Wiki GitLab ออกอัปเดตด่วนเพื่อแก้ไขช่องโหว่ CVE-2025-12716 ที่มีความรุนแรงสูง (CVSS 8.7) โดยช่องโหว่นี้เกิดขึ้นในฟีเจอร์ Wiki ที่ผู้ใช้สามารถสร้างเพจได้ หากมีการฝังโค้ดอันตรายลงไป เมื่อผู้ใช้รายอื่นเปิดดู เพจนั้นจะรันคำสั่งแทนผู้ใช้โดยอัตโนมัติ เสี่ยงต่อการถูกยึด session และสั่งงานแทนเจ้าของบัญชี นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่อื่น ๆ เช่น การ inject HTML ในรายงานช่องโหว่ และการเปิดเผยข้อมูลโครงการที่ควรเป็น private ผ่าน error message และ GraphQL query GitLab.com และ GitLab Dedicated ได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ผู้ที่ใช้ self-managed instance ต้องรีบอัปเดตเวอร์ชัน 18.6.2, 18.5.4 หรือ 18.4.6 เพื่อปิดช่องโหว่เหล่านี้ 🔗 https://securityonline.info/high-severity-gitlab-xss-flaw-cve-2025-12716-risks-session-hijack-via-malicious-wiki-pages 📱 Facebook ปรับโฉมใหม่ แต่ Instagram ใช้ AI ดึง SEO มีรายงานว่า Facebook ได้ปรับโฉมหน้าตาใหม่ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือ Instagram ถูกเปิดโปงว่าใช้ AI เพื่อสร้างคอนเทนต์ที่ดึง SEO ให้ติดอันดับการค้นหา คล้ายกับการทำ content farm โดยไม่ได้บอกผู้ใช้ตรง ๆ เรื่องนี้จึงถูกตั้งคำถามถึงความโปร่งใสและจริยธรรมของ Meta ที่อาจใช้ AI เพื่อผลักดันการเข้าถึงโดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ 🔗 https://securityonline.info/facebook-gets-new-look-but-instagram-secretly-uses-ai-for-seo-bait 🚀 SpaceX เตรียม IPO มูลค่าเป้าหมายทะลุ 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ SpaceX กำลังเดินหน้าแผน IPO ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยตั้งเป้าระดมทุนกว่า 30 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะทำลายสถิติของ Saudi Aramco ที่เคยทำไว้ในปี 2019 ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้ตลาดตะลึงคือการตั้งเป้ามูลค่าบริษัทไว้สูงถึง 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ แม้รายได้ของ SpaceX ในปี 2025 จะอยู่ที่ประมาณ 15.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งน้อยกว่า Tesla ถึง 6 เท่า แต่ความคาดหวังอยู่ที่อนาคตของ Starlink และ Starship รวมถึงแผนสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศเพื่อรองรับ AI และการสื่อสารผ่านดาวเทียม Musk เชื่อว่าการรวมพลังของ Starlink และ Starship จะขยายตลาดได้มหาศาล และนี่อาจเป็นก้าวสำคัญที่สุดของ SpaceX 🔗 https://securityonline.info/spacex-ipo-targeting-a-1-5-trillion-valuation-to-fund-space-data-centers 🐼 จีนเปิดปฏิบัติการไซเบอร์ WARP PANDA ใช้ BRICKSTORM เจาะ VMware และ Azure มีการเปิดโปงแคมเปญจารกรรมไซเบอร์ครั้งใหญ่ที่ดำเนินการโดยกลุ่มแฮกเกอร์จากจีนชื่อ WARP PANDA พวกเขาไม่ได้โจมตีแบบธรรมดา แต่เลือกเจาะเข้าไปในโครงสร้างพื้นฐาน IT ที่สำคัญอย่าง VMware vCenter และ ESXi รวมถึงระบบคลาวด์ Microsoft Azure จุดเด่นคือการใช้เครื่องมือที่สร้างขึ้นเองชื่อ BRICKSTORM ซึ่งเป็น backdoor ที่แฝงตัวเหมือนโปรเซสของระบบ ทำให้ยากต่อการตรวจจับ นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือเสริมอย่าง Junction และ GuestConduit ที่ช่วยควบคุมการสื่อสารในระบบเสมือนจริงได้อย่างแนบเนียน สิ่งที่น่ากังวลคือพวกเขาสามารถอยู่ในระบบได้นานเป็นปีโดยไม่ถูกพบ และยังขยายการโจมตีไปสู่บริการ Microsoft 365 เพื่อขโมยข้อมูลสำคัญ การกระทำเหล่านี้สะท้อนให้เห็นถึงแรงจูงใจเชิงรัฐมากกว่าการเงิน เพราะเป้าหมายคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของรัฐบาลจีน 🔗 https://securityonline.info/chinas-warp-panda-apt-deploys-brickstorm-backdoor-to-hijack-vmware-vcenter-esxi-and-azure-cloud 📡 ช่องโหว่ร้ายแรง TOTOLINK AX1800 เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึง root โดยไม่ต้องล็อกอิน มีการค้นพบช่องโหว่ในเราเตอร์ TOTOLINK AX1800 ที่ใช้กันแพร่หลายในบ้านและธุรกิจขนาดเล็ก ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถส่งคำสั่ง HTTP เพียงครั้งเดียวเพื่อเปิดบริการ Telnet โดยไม่ต้องผ่านการยืนยันตัวตน เมื่อ Telnet ถูกเปิดแล้ว แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงสิทธิ์ระดับ root และควบคุมอุปกรณ์ได้เต็มรูปแบบ ผลกระทบคือสามารถดักจับข้อมูล เปลี่ยนเส้นทาง DNS หรือใช้เป็นฐานโจมตีอุปกรณ์อื่นในเครือข่ายได้ ที่น่ากังวลคือยังไม่มีแพตช์แก้ไขจากผู้ผลิต ทำให้ผู้ใช้ต้องป้องกันตัวเองด้วยการปิดการเข้าถึงจาก WAN และตรวจสอบการเปิดใช้งาน Telnet อย่างเข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/unpatched-totolink-ax1800-router-flaw-allows-unauthenticated-telnet-root-rce ⚠️ FBI และ CISA เตือนกลุ่มแฮกเกอร์สายโปรรัสเซียโจมตีโครงสร้างพื้นฐานผ่าน VNC ที่ไม่ปลอดภัย หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของสหรัฐฯ รวมถึง FBI และ CISA ออกคำเตือนว่ากลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซียกำลังโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น ระบบน้ำ พลังงาน และอาหาร โดยใช้วิธีง่าย ๆ คือค้นหา Human-Machine Interfaces (HMI) ที่เชื่อมต่อผ่าน VNC แต่ไม่ได้ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรง เมื่อเข้าถึงได้ พวกเขาจะปรับเปลี่ยนค่าการทำงาน เช่น ความเร็วปั๊ม หรือปิดระบบแจ้งเตือน ทำให้ผู้ควบคุมไม่เห็นภาพจริงของโรงงาน กลุ่มที่ถูกระบุมีทั้ง Cyber Army of Russia Reborn, NoName057(16), Z-Pentest และ Sector16 ซึ่งมีความเชื่อมโยงกับรัฐรัสเซีย แม้จะไม่ซับซ้อน แต่การโจมตีแบบนี้สร้างความเสียหายได้จริงและยากต่อการคาดเดา 🔗 https://securityonline.info/fbi-cisa-warn-pro-russia-hacktivists-target-critical-infrastructure-via-unsecured-vnc-hmis 🎥 ช่องโหว่ร้ายแรงใน CCTV (CVE-2025-13607) เสี่ยงถูกแฮกดูภาพสดและขโมยรหัสผ่าน CISA ออกประกาศเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ในกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อเครือข่าย โดยเฉพาะรุ่น D-Link DCS-F5614-L1 ที่เปิดช่องให้ผู้โจมตีเข้าถึงการตั้งค่าและข้อมูลบัญชีได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ผลคือสามารถดูภาพสดจากกล้องและขโมยรหัสผ่านผู้ดูแลเพื่อเจาะลึกเข้าไปในระบบต่อไปได้ ช่องโหว่นี้มีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.4 และแม้ D-Link จะออกเฟิร์มแวร์แก้ไขแล้ว แต่ผู้ใช้แบรนด์อื่นอย่าง Securus และ Sparsh ยังไม่ได้รับการตอบสนอง ทำให้ผู้ใช้ต้องรีบตรวจสอบและติดต่อผู้ผลิตเองเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://securityonline.info/critical-cctv-flaw-cve-2025-13607-risks-video-feed-hijack-credential-theft-via-missing-authentication 🛡️ ข่าวด่วน: Google ออกแพตช์ฉุกเฉินแก้ช่องโหว่ Zero-Day บน Chrome เรื่องนี้เป็นการอัปเดตที่สำคัญมากของ Google Chrome เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ถูกโจมตีจริงแล้วในโลกออนไลน์ Google จึงรีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ 143.0.7499.109/.110 เพื่ออุดช่องโหว่ โดยช่องโหว่นี้ถูกระบุว่าเป็น “Under coordination” ซึ่งหมายถึงยังอยู่ระหว่างการทำงานร่วมกับผู้พัฒนาซอฟต์แวร์อื่น ๆ ทำให้รายละเอียดเชิงเทคนิคยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ที่แน่ ๆ คือมีผู้ไม่หวังดีนำไปใช้โจมตีแล้ว นอกจากนี้ยังมีการแก้ไขช่องโหว่ระดับกลางอีกสองรายการ ได้แก่ปัญหาใน Password Manager และ Toolbar ที่นักวิจัยภายนอกรายงานเข้ามา พร้อมได้รับรางวัลบั๊กบาวน์ตี้รวม 4,000 ดอลลาร์ เรื่องนี้จึงเป็นการเตือนผู้ใช้ทุกคนให้รีบตรวจสอบและอัปเดต Chrome ด้วยตนเองทันที ไม่ควรรอการอัปเดตอัตโนมัติ เพราะความเสี่ยงกำลังเกิดขึ้นจริงแล้ว 🔗 https://securityonline.info/emergency-chrome-update-google-patches-new-zero-day-under-active-attack 🤖 นวัตกรรมใหม่: สถาปัตยกรรม AI ของ Google แรงกว่า GPT-4 ในด้านความจำ Google เปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ Titans และกรอบแนวคิด MIRAS ที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาการจำข้อมูลระยะยาวของโมเดล AI แบบเดิม ๆ จุดเด่นคือสามารถ “อ่านไป จำไป” ได้เหมือนสมองมนุษย์ โดยใช้โมดูลความจำระยะยาวที่ทำงานคล้ายการแยกความจำสั้นและยาวในสมองจริง ๆ สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือ “surprise metric” กลไกที่เลือกจำเฉพาะข้อมูลที่แปลกใหม่หรือไม่คาดคิด เช่นเดียวกับที่มนุษย์มักจำเหตุการณ์ที่ไม่ธรรมดาได้ชัดเจน ผลลัพธ์คือโมเดลนี้สามารถจัดการข้อมูลยาวมหาศาลได้ถึงสองล้านโทเคน และยังทำงานได้ดีกว่า GPT-4 แม้จะมีพารามิเตอร์น้อยกว่า นอกจากนี้ MIRAS ยังเปิดทางให้สร้างโมเดลใหม่ ๆ ที่มีความสามารถเฉพาะด้าน เช่นการทนต่อสัญญาณรบกวนหรือการรักษาความจำระยะยาวอย่างมั่นคง การทดสอบกับชุดข้อมูล BABILong แสดงให้เห็นว่า Titans มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลชั้นนำอื่น ๆ ในการดึงข้อมูลที่กระจายอยู่ในเอกสารขนาดใหญ่ ทำให้อนาคตของ AI ในการทำความเข้าใจทั้งเอกสารหรือแม้แต่ข้อมูลทางพันธุกรรมดูสดใสและทรงพลังมากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-surprise-metric-googles-new-ai-architecture-outperforms-gpt-4-in-memory
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 895 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเริ่มจัดทำ “บัญชีรายชื่อผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ AI ที่รัฐบาลอนุมัติ”

    รัฐบาลจีนได้เพิ่มหมวดหมู่ใหม่ใน “Information Technology Innovation List (Xinchuang)” โดยรวมถึงโปรเซสเซอร์ AI ที่ผลิตในประเทศ รายชื่อแรกประกอบด้วย Cambricon และ Huawei ซึ่งจะถูกแนะนำให้หน่วยงานรัฐ, บริษัทของรัฐ และสถาบันสาธารณะเลือกใช้เป็นหลัก

    เป้าหมายของนโยบาย
    การจัดทำรายชื่อนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งการแทนที่ชิป AI ที่ออกแบบโดยสหรัฐ เช่น Nvidia และ AMD ด้วยทางเลือกที่ผลิตในประเทศ เพื่อสร้าง ecosystem ที่จีนควบคุมเองได้ และลดความเสี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรหรือข้อจำกัดการส่งออก

    ความท้าทายในการเปลี่ยนผ่าน
    แม้ Cambricon และ Huawei จะมีชิป AI ของตัวเอง แต่หลายงานในภาครัฐและเอกชนยังคงพึ่งพา CUDA ของ Nvidia อย่างหนัก ทำให้การย้ายไปใช้สถาปัตยกรรมใหม่ไม่ง่าย นอกจากนี้ โรงงานผลิตชิปของจีน เช่น SMIC ยังมีข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตและไม่สามารถแข่งขันกับ TSMC ได้เต็มที่

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    นโยบายนี้จะส่งผลให้บริษัทจีนต้องเร่งพัฒนา ecosystem ของตัวเอง ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ขณะเดียวกันบริษัทเอกชนอย่าง Alibaba และ Tencent อาจยังเลือกใช้ Nvidia ผ่านบริการคลาวด์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน แต่ในระยะยาว จีนตั้งใจจะสร้างความพึ่งพาตนเองให้ได้

    สรุปเป็นหัวข้อ
    รายชื่อผู้ผลิตที่อนุมัติ
    Cambricon และ Huawei ติดในบัญชี Xinchuang
    Nvidia และ AMD ไม่ถูกบรรจุ

    เป้าหมายของนโยบาย
    ลดการพึ่งพาชิปต่างชาติ
    สร้าง ecosystem AI ที่จีนควบคุมเองได้

    ความท้าทาย
    งานจำนวนมากยังพึ่งพา CUDA ของ Nvidia
    SMIC มีกำลังผลิตจำกัด ไม่เทียบเท่า TSMC

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    Alibaba และ Tencent อาจยังใช้ Nvidia ผ่านคลาวด์
    จีนเร่งพัฒนา ecosystem ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในประเทศ

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    การเปลี่ยนผ่านอาจทำให้เกิดความไม่เสถียรในระบบ
    ความเสี่ยงจากการขาดกำลังผลิตชิปขั้นสูง
    อาจกระทบต่อความสามารถแข่งขันของบริษัทจีนในระยะสั้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-starts-list-of-government-approved-ai-hardware-suppliers-cambricon-and-huawei-are-in-nvidia-is-not
    🇨🇳 จีนเริ่มจัดทำ “บัญชีรายชื่อผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ AI ที่รัฐบาลอนุมัติ” รัฐบาลจีนได้เพิ่มหมวดหมู่ใหม่ใน “Information Technology Innovation List (Xinchuang)” โดยรวมถึงโปรเซสเซอร์ AI ที่ผลิตในประเทศ รายชื่อแรกประกอบด้วย Cambricon และ Huawei ซึ่งจะถูกแนะนำให้หน่วยงานรัฐ, บริษัทของรัฐ และสถาบันสาธารณะเลือกใช้เป็นหลัก ⚡ เป้าหมายของนโยบาย การจัดทำรายชื่อนี้มีเป้าหมายเพื่อเร่งการแทนที่ชิป AI ที่ออกแบบโดยสหรัฐ เช่น Nvidia และ AMD ด้วยทางเลือกที่ผลิตในประเทศ เพื่อสร้าง ecosystem ที่จีนควบคุมเองได้ และลดความเสี่ยงจากมาตรการคว่ำบาตรหรือข้อจำกัดการส่งออก 🖥️ ความท้าทายในการเปลี่ยนผ่าน แม้ Cambricon และ Huawei จะมีชิป AI ของตัวเอง แต่หลายงานในภาครัฐและเอกชนยังคงพึ่งพา CUDA ของ Nvidia อย่างหนัก ทำให้การย้ายไปใช้สถาปัตยกรรมใหม่ไม่ง่าย นอกจากนี้ โรงงานผลิตชิปของจีน เช่น SMIC ยังมีข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตและไม่สามารถแข่งขันกับ TSMC ได้เต็มที่ 🔍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม นโยบายนี้จะส่งผลให้บริษัทจีนต้องเร่งพัฒนา ecosystem ของตัวเอง ทั้งด้านฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ขณะเดียวกันบริษัทเอกชนอย่าง Alibaba และ Tencent อาจยังเลือกใช้ Nvidia ผ่านบริการคลาวด์เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน แต่ในระยะยาว จีนตั้งใจจะสร้างความพึ่งพาตนเองให้ได้ 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ รายชื่อผู้ผลิตที่อนุมัติ ➡️ Cambricon และ Huawei ติดในบัญชี Xinchuang ➡️ Nvidia และ AMD ไม่ถูกบรรจุ ✅ เป้าหมายของนโยบาย ➡️ ลดการพึ่งพาชิปต่างชาติ ➡️ สร้าง ecosystem AI ที่จีนควบคุมเองได้ ✅ ความท้าทาย ➡️ งานจำนวนมากยังพึ่งพา CUDA ของ Nvidia ➡️ SMIC มีกำลังผลิตจำกัด ไม่เทียบเท่า TSMC ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ Alibaba และ Tencent อาจยังใช้ Nvidia ผ่านคลาวด์ ➡️ จีนเร่งพัฒนา ecosystem ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในประเทศ ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ การเปลี่ยนผ่านอาจทำให้เกิดความไม่เสถียรในระบบ ⛔ ความเสี่ยงจากการขาดกำลังผลิตชิปขั้นสูง ⛔ อาจกระทบต่อความสามารถแข่งขันของบริษัทจีนในระยะสั้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/china-starts-list-of-government-approved-ai-hardware-suppliers-cambricon-and-huawei-are-in-nvidia-is-not
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 288 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานการลักลอบนำเข้า Blackwell ขแง DeepSeek

    แหล่งข่าวนิรนามหลายรายอ้างว่า DeepSeek ใช้บริษัทเชลล์สร้างศูนย์ข้อมูลปลอมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ผ่านการตรวจสอบจาก Nvidia และพันธมิตร OEM หลังจากนั้นจึงรื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์ออกเป็นชิ้น ๆ และลักลอบนำเข้าไปยังจีน ซึ่งถูกห้ามนำเข้า GPU รุ่นใหม่ตามข้อจำกัดของสหรัฐ

    ความต้องการ GPU ของ DeepSeek
    DeepSeek เคยสร้างชื่อจากโมเดล R1 ที่ใช้เพียง 2,048 Nvidia H800s แต่สามารถฝึกได้ภายในสองเดือน ทำให้บริษัทถูกจับตามองว่ามีความสามารถในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน DeepSeek ยังคงพยายามหาทางเข้าถึง GPU รุ่นใหม่เพื่อพัฒนาโมเดล AI ต่อไป แม้รัฐบาลจีนจะผลักดันให้ใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend

    ปฏิกิริยาของ Nvidia
    Nvidia ออกแถลงการณ์ว่า “ยังไม่พบหลักฐานหรือได้รับข้อมูลยืนยัน” เกี่ยวกับการสร้างศูนย์ข้อมูลปลอมและการลักลอบนำเข้า พร้อมย้ำว่าบริษัทจะตรวจสอบทุกเบาะแสที่ได้รับ แม้จะมองว่าข่าวนี้เป็นเรื่อง “far-fetched” แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะติดตามอย่างจริงจัง

    ความหมายต่อสงครามชิป
    เหตุการณ์นี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐและจีน การที่ DeepSeek ถูกกล่าวหาว่าลักลอบนำเข้า Blackwell แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ GPU ในการพัฒนา AI ขั้นสูง และความพยายามของจีนที่จะหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้จะมีข้อจำกัดทางการค้า

    สรุปเป็นหัวข้อ
    รายงานการลักลอบนำเข้า
    DeepSeek ถูกกล่าวหาว่าสร้างศูนย์ข้อมูลปลอม
    รื้อเซิร์ฟเวอร์แล้วลักลอบนำ GPU เข้าจีน

    ความต้องการของ DeepSeek
    โมเดล R1 ใช้เพียง 2,048 H800s
    พยายามเข้าถึง GPU รุ่นใหม่เพื่อพัฒนาโมเดลต่อ

    ปฏิกิริยาของ Nvidia
    ปฏิเสธข่าวว่าเป็น “far-fetched”
    ยืนยันว่าจะตรวจสอบทุกเบาะแส

    ความหมายต่อสงครามชิป
    GPU เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา AI
    จีนพยายามหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้ถูกจำกัด

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    ยังไม่มีหลักฐานยืนยันการลักลอบนำเข้า
    ข่าวอาจสร้างความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน
    ความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนและการควบคุมการส่งออก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-decries-far-fetched-reports-of-smuggling-in-face-of-deepseek-training-reports-unnamed-sources-claim-chinese-company-is-involved-in-blackwell-smuggling-ring
    🛰️ รายงานการลักลอบนำเข้า Blackwell ขแง DeepSeek แหล่งข่าวนิรนามหลายรายอ้างว่า DeepSeek ใช้บริษัทเชลล์สร้างศูนย์ข้อมูลปลอมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อให้ผ่านการตรวจสอบจาก Nvidia และพันธมิตร OEM หลังจากนั้นจึงรื้อเครื่องเซิร์ฟเวอร์ออกเป็นชิ้น ๆ และลักลอบนำเข้าไปยังจีน ซึ่งถูกห้ามนำเข้า GPU รุ่นใหม่ตามข้อจำกัดของสหรัฐ ⚡ ความต้องการ GPU ของ DeepSeek DeepSeek เคยสร้างชื่อจากโมเดล R1 ที่ใช้เพียง 2,048 Nvidia H800s แต่สามารถฝึกได้ภายในสองเดือน ทำให้บริษัทถูกจับตามองว่ามีความสามารถในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ ปัจจุบัน DeepSeek ยังคงพยายามหาทางเข้าถึง GPU รุ่นใหม่เพื่อพัฒนาโมเดล AI ต่อไป แม้รัฐบาลจีนจะผลักดันให้ใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend 🖥️ ปฏิกิริยาของ Nvidia Nvidia ออกแถลงการณ์ว่า “ยังไม่พบหลักฐานหรือได้รับข้อมูลยืนยัน” เกี่ยวกับการสร้างศูนย์ข้อมูลปลอมและการลักลอบนำเข้า พร้อมย้ำว่าบริษัทจะตรวจสอบทุกเบาะแสที่ได้รับ แม้จะมองว่าข่าวนี้เป็นเรื่อง “far-fetched” แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะติดตามอย่างจริงจัง 🔍 ความหมายต่อสงครามชิป เหตุการณ์นี้สะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดในสงครามเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐและจีน การที่ DeepSeek ถูกกล่าวหาว่าลักลอบนำเข้า Blackwell แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ GPU ในการพัฒนา AI ขั้นสูง และความพยายามของจีนที่จะหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้จะมีข้อจำกัดทางการค้า 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ รายงานการลักลอบนำเข้า ➡️ DeepSeek ถูกกล่าวหาว่าสร้างศูนย์ข้อมูลปลอม ➡️ รื้อเซิร์ฟเวอร์แล้วลักลอบนำ GPU เข้าจีน ✅ ความต้องการของ DeepSeek ➡️ โมเดล R1 ใช้เพียง 2,048 H800s ➡️ พยายามเข้าถึง GPU รุ่นใหม่เพื่อพัฒนาโมเดลต่อ ✅ ปฏิกิริยาของ Nvidia ➡️ ปฏิเสธข่าวว่าเป็น “far-fetched” ➡️ ยืนยันว่าจะตรวจสอบทุกเบาะแส ✅ ความหมายต่อสงครามชิป ➡️ GPU เป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา AI ➡️ จีนพยายามหาทางเข้าถึงเทคโนโลยีแม้ถูกจำกัด ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ ยังไม่มีหลักฐานยืนยันการลักลอบนำเข้า ⛔ ข่าวอาจสร้างความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน ⛔ ความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนและการควบคุมการส่งออก https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-decries-far-fetched-reports-of-smuggling-in-face-of-deepseek-training-reports-unnamed-sources-claim-chinese-company-is-involved-in-blackwell-smuggling-ring
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • การประชุมฉุกเฉินของรัฐบาลจีน พิจารณาจำกัดการนำเข้าชิป Nvidia H200

    หน่วยงานกำกับดูแลของจีน เช่น National Development and Reform Commission (NDRC) และ Ministry of Industry and Information Technology (MIIT) ได้จัดประชุมกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ Alibaba, ByteDance และ Tencent เพื่อสอบถามความต้องการชิป H200 หลังสหรัฐอนุญาตให้ส่งออก โดยจีนกำลังพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ซื้อในปริมาณเท่าใด

    ความขัดแย้งระหว่างความต้องการและนโยบาย
    แม้ H200 จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป H20 ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดจีน แต่รัฐบาลยังคงกดดันให้บริษัทหันไปใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend การนำเข้า H200 จึงถูกมองว่าเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่เสี่ยงต่อการลดแรงจูงใจในการพัฒนาชิปจีนเอง

    ผลกระทบต่อ Nvidia
    ก่อนหน้านี้ Nvidia สูญเสียรายได้ในจีนกว่า 63% เมื่อไม่สามารถขาย H100 ได้ แต่หากจีนอนุญาตให้ซื้อ H200 ความต้องการคาดว่าจะสูงมาก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนอาจใช้มาตรการจำกัด เช่น กำหนดโควตาการซื้อ หรือห้ามใช้ในอุตสาหกรรมที่ถือว่า “มีความอ่อนไหวเชิงกลยุทธ์” เช่น การเงินและพลังงาน

    ความหมายต่อการแข่งขัน AI
    การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการหาจุดสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีต่างชาติและการสร้างความพึ่งพาตนเอง หากจีนจำกัดการนำเข้า H200 จะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทหันไปลงทุนในชิปภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งอาจเร่งการพัฒนา ecosystem AI ของจีนในระยะยาว

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การประชุมฉุกเฉินของจีน
    NDRC และ MIIT เรียก Alibaba, ByteDance, Tencent เข้าหารือ
    ประเมินความต้องการชิป H200

    ความขัดแย้งด้านนโยบาย
    H200 มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป H20
    รัฐบาลจีนกดดันให้ใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend

    ผลกระทบต่อ Nvidia
    สูญเสียรายได้ในจีนกว่า 63% หลังห้ามขาย H100
    หากอนุญาต H200 ความต้องการจะสูง แต่มีโควตาจำกัด

    ความหมายต่อการแข่งขัน AI
    จีนพยายามหาสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพึ่งพาตนเอง
    อาจเร่งการพัฒนาชิปและ ecosystem AI ภายในประเทศ

    ข้อจำกัดและคำเตือน
    อาจห้ามใช้ H200 ในอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ เช่น การเงินและพลังงาน
    การนำเข้า H200 มากเกินไปอาจลดแรงจูงใจในการพัฒนาชิปจีน
    ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์จากการพึ่งพาเทคโนโลยีสหรัฐ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-weighs-import-limits-on-nvidias-h200-after-us-export-rules-relaxed
    🇨🇳 การประชุมฉุกเฉินของรัฐบาลจีน พิจารณาจำกัดการนำเข้าชิป Nvidia H200 หน่วยงานกำกับดูแลของจีน เช่น National Development and Reform Commission (NDRC) และ Ministry of Industry and Information Technology (MIIT) ได้จัดประชุมกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ Alibaba, ByteDance และ Tencent เพื่อสอบถามความต้องการชิป H200 หลังสหรัฐอนุญาตให้ส่งออก โดยจีนกำลังพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ซื้อในปริมาณเท่าใด ⚡ ความขัดแย้งระหว่างความต้องการและนโยบาย แม้ H200 จะมีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป H20 ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับตลาดจีน แต่รัฐบาลยังคงกดดันให้บริษัทหันไปใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend การนำเข้า H200 จึงถูกมองว่าเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่เสี่ยงต่อการลดแรงจูงใจในการพัฒนาชิปจีนเอง 💹 ผลกระทบต่อ Nvidia ก่อนหน้านี้ Nvidia สูญเสียรายได้ในจีนกว่า 63% เมื่อไม่สามารถขาย H100 ได้ แต่หากจีนอนุญาตให้ซื้อ H200 ความต้องการคาดว่าจะสูงมาก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนอาจใช้มาตรการจำกัด เช่น กำหนดโควตาการซื้อ หรือห้ามใช้ในอุตสาหกรรมที่ถือว่า “มีความอ่อนไหวเชิงกลยุทธ์” เช่น การเงินและพลังงาน 🔍 ความหมายต่อการแข่งขัน AI การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของจีนในการหาจุดสมดุลระหว่างการใช้เทคโนโลยีต่างชาติและการสร้างความพึ่งพาตนเอง หากจีนจำกัดการนำเข้า H200 จะเป็นแรงผลักดันให้บริษัทหันไปลงทุนในชิปภายในประเทศมากขึ้น ซึ่งอาจเร่งการพัฒนา ecosystem AI ของจีนในระยะยาว 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การประชุมฉุกเฉินของจีน ➡️ NDRC และ MIIT เรียก Alibaba, ByteDance, Tencent เข้าหารือ ➡️ ประเมินความต้องการชิป H200 ✅ ความขัดแย้งด้านนโยบาย ➡️ H200 มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป H20 ➡️ รัฐบาลจีนกดดันให้ใช้ชิปในประเทศ เช่น Huawei Ascend ✅ ผลกระทบต่อ Nvidia ➡️ สูญเสียรายได้ในจีนกว่า 63% หลังห้ามขาย H100 ➡️ หากอนุญาต H200 ความต้องการจะสูง แต่มีโควตาจำกัด ✅ ความหมายต่อการแข่งขัน AI ➡️ จีนพยายามหาสมดุลระหว่างการนำเข้าและการพึ่งพาตนเอง ➡️ อาจเร่งการพัฒนาชิปและ ecosystem AI ภายในประเทศ ‼️ ข้อจำกัดและคำเตือน ⛔ อาจห้ามใช้ H200 ในอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์ เช่น การเงินและพลังงาน ⛔ การนำเข้า H200 มากเกินไปอาจลดแรงจูงใจในการพัฒนาชิปจีน ⛔ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์จากการพึ่งพาเทคโนโลยีสหรัฐ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-weighs-import-limits-on-nvidias-h200-after-us-export-rules-relaxed
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷

    #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar

    Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น
    เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it

    WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe

    กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก
    ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban

    Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่
    ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender

    NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล
    NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox

    GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini
    OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week

    จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia
    Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage

    Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ
    Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads

    Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์
    นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up

    Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial
    Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน
    https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences

    รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE
    เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ
    https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends

    Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ
    Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is

    Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่
    สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy

    ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p
    ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์
    https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs

    รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด
    ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี
    https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review

    Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่
    Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต
    https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it

    ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI
    Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus

    เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี
    อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง
    https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia

    รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี
    นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม
    https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation

    อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก
    นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ
    https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag

    FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่
    เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life

    Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด
    รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย
    https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review

    FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้
    อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย
    https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks

    ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่
    บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน
    https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack

    Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ
    รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน
    https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk

    IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป
    บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ
    https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward

    ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI
    ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it

    ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว
    รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง
    https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands

    OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา”
    OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls

    React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง
    เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี
    https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure

    SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้
    SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy
    https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy

    Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco
    แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด
    https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close

    X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป
    แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก
    https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition

    Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว
    Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it

    มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้
    มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย
    https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps

    AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT
    มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found

    Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros
    Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why

    แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้
    มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    📌📡🩷 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🩷📡📌 #รวมข่าวIT #20251209 #TechRadar 👓 Android XR: จุดเปลี่ยนของสมาร์ทแว่น เรื่องราวเริ่มจากประสบการณ์ของ Juston Payne ผู้บริหาร Google ที่ได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR กับลูกชายวัย 10 ขวบในกรุงโรม พอเด็กถามแว่นว่าอยากไปกินเจลาโต้ที่ไหน แว่นก็แสดงแผนที่และนำทางตรงหน้า ทำให้ทั้งครอบครัวเดินตามไปถึงร้านเหมือนเป็นคนท้องถิ่น นี่คือ “aha moment” ที่ทำให้ Payne เชื่อว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเทคโนโลยี wearable แว่นตาเหล่านี้จะไม่ใช่เพียง gadget แต่จะกลายเป็นแพลตฟอร์มคอมพิวติ้งใหม่ที่ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงได้ในอนาคต แม้ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ Google และพันธมิตรอย่าง Samsung, Warby Parker กำลังปูทางให้สมาร์ทแว่นกลายเป็นสิ่งที่หาซื้อได้ทั่วไปในร้านแว่นตา 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/android-xr-head-on-the-ecosystem-we-think-that-this-is-actually-a-very-early-space-and-the-history-is-not-yet-written-for-it 🛡️ WordPress RCE Flaw: ช่องโหว่ที่เปิดทางให้แฮกเกอร์ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในปลั๊กอิน Sneeit Framework ของ WordPress ที่ทำให้แฮกเกอร์สามารถสร้างบัญชีแอดมินเองได้ทันที และเข้าควบคุมเว็บไซต์เต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุด 9.8/10 และมีการโจมตีจริงเกิดขึ้นทันทีหลังการเปิดเผย โดยวันแรกมีการบล็อกกว่า 131,000 ครั้ง วิธีป้องกันคืออัปเดตปลั๊กอินเป็นเวอร์ชัน 8.4 และตรวจสอบว่ามีบัญชีแอดมินแปลกปลอม หรือไฟล์ PHP ที่ไม่รู้จักอยู่ในระบบหรือไม่ เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการดูแลความปลอดภัยของเว็บไซต์ต้องทำอย่างต่อเนื่องและจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/sneeit-wordpress-rce-flaw-allows-hackers-to-add-themselves-as-admin-heres-how-to-stay-safe 🌍 กฎหมายห้ามเด็กใช้โซเชียล: ออสเตรเลียจุดประกายทั่วโลก ออสเตรเลียกำลังจะบังคับใช้กฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ปีใช้โซเชียลมีเดีย พร้อมบทลงโทษปรับสูงถึง 32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ กฎหมายนี้ทำให้หลายประเทศจับตามองอย่างใกล้ชิด ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และสหภาพยุโรปที่เริ่มพิจารณามาตรการคล้ายกัน แม้จะมีข้อถกเถียงเรื่องการละเมิดความเป็นส่วนตัวจากการตรวจสอบอายุ แต่หลายฝ่ายเห็นว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเด็กจากเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม กฎหมายนี้อาจกลายเป็นต้นแบบที่แพร่ไปทั่วโลกในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/were-going-to-be-watching-really-closely-politicians-around-the-world-are-taking-inspiration-from-australias-social-media-ban 💻 Windows 11 กับปัญหา RAM: Discord ตัวการใหญ่ ผู้ใช้ Windows 11 หลายคนพบว่าแอปพลิเคชันที่สร้างบน Electron framework อย่าง Discord กิน RAM มากผิดปกติ จากเดิมประมาณ 1GB พุ่งขึ้นไปถึง 4GB โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน voice chat หรือสตรีมวิดีโอ ปัญหาคือแม้หยุดใช้งานแล้ว RAM ก็ไม่ลดลง ต้องรีสตาร์ทโปรแกรมใหม่ ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพการเล่นเกมและการทำงานอื่น ๆ ยิ่งในช่วงที่ราคาหน่วยความจำพุ่งสูงเพราะกระแส AI ทำให้ผู้ใช้ยิ่งรู้สึกเดือดร้อนมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/some-windows-11-apps-have-a-massive-ram-problem-and-this-app-is-the-worst-offender 📧 NordVPN: ป้องกันฟิชชิ่งถึงกล่องอีเมล NordVPN เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ใน Threat Protection Pro ที่สามารถสแกนลิงก์ในอีเมลแบบเรียลไทม์ หากพบว่าเป็นลิงก์อันตราย เช่น ฟิชชิ่งหรือมัลแวร์ จะมีสัญลักษณ์เตือนและแบนเนอร์แจ้งทันที จุดเด่นคือทำงานโดยไม่ต้องเข้าถึงเนื้อหาอีเมลทั้งหมด จึงยังคงรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการคลิกลิงก์โดยไม่ตั้งใจ และเป็นอีกชั้นการป้องกันที่สำคัญในยุคที่อีเมลฟิชชิ่งถูกส่งออกมาหลายพันล้านฉบับต่อวัน 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nordvpn-extends-phishing-and-malware-protection-to-your-inbox 🤓 GPT‑5.2: การแข่งเดือดระหว่าง OpenAI และ Gemini OpenAI เปิดตัว GPT‑5.2 เพื่อเร่งแข่งกับ Gemini 3 ของ Google จุดเด่นคือความเร็วและความสามารถ reasoning ที่ดีขึ้น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้ลื่นไหลกว่าเดิม การอัปเดตนี้สะท้อนว่าการแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรง และแต่ละค่ายพยายามผลักดันเทคโนโลยีให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-races-gemini-3-to-the-top-with-gpt-5-2-drop-this-week ⚡ จีนกับข้อได้เปรียบด้าน AI: คำเตือนจาก CEO Nvidia Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia เตือนว่าจีนมีข้อได้เปรียบมหาศาลในด้าน AI ทั้งด้านการก่อสร้างและพลังงาน โดยรายงานล่าสุดเผยว่าจีนมีสัดส่วนการใช้งาน AI ถึง 30% ของโลก ความสามารถในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็ว เช่น “สร้างโรงพยาบาลในสุดสัปดาห์เดียว” ทำให้จีนถูกมองว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากังวลในสนาม AI ระดับโลก 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/they-can-build-a-hospital-in-a-weekend-nvidia-ceo-warns-about-chinas-big-ai-advantages-as-report-reveals-it-now-has-30-percent-of-global-ai-usage 🚗 Subaru กับโฆษณา Pop‑up ในรถ Subaru เข้าร่วมกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์ที่ทดลองใส่โฆษณา pop‑up ในระบบ infotainment ของรถยนต์ ซึ่งสร้างเสียงวิจารณ์อย่างมาก หลายคนกังวลว่าโฆษณาจะรบกวนสมาธิในการขับขี่ และอาจเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ผู้ผลิตจะมองว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ใหม่ แต่ผู้ใช้จำนวนมากไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/subaru-joins-controversial-list-of-carmakers-experimenting-with-infotainment-system-pop-up-ads 👓 Android XR Prototype: สมาร์ทแว่นรุ่นใหม่ที่พร้อมโชว์ นักข่าวได้ลองใช้สมาร์ทแว่น Android XR รุ่นต้นแบบ พบว่ามีดีไซน์บางเบาและเลนส์โปร่งใสที่สามารถแสดงข้อมูลตรงหน้าได้ทันที ทั้งการนำทางและการใช้งานร่วมกับ AI Gemini จุดเด่นคือการออกแบบที่ไม่ทำให้ผู้ใช้ดูแปลกตา และสวมใส่สบาย ทำให้สมาร์ทแว่นรุ่นนี้ถูกมองว่าเป็นก้าวสำคัญของ wearable ที่จะเข้าสู่ตลาดในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/i-tried-the-next-gen-android-xr-prototype-smart-glasses-and-these-frames-are-ready-for-your-close-up 🕶️ Samsung Galaxy XR: ยกระดับประสบการณ์ Spatial Samsung เปิดตัว Galaxy XR ที่ผสมผสานเทคโนโลยี mixed reality และ AI Gemini เข้าด้วยกัน จุดขายคือคุณภาพการแสดงผลที่คมชัดและฟีเจอร์ที่ทำให้ผู้ใช้รู้สึกเหมือนก้าวเข้าสู่โลกเสมือนจริงในราคาที่จับต้องได้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของอุปกรณ์ XR และสร้างแรงกดดันให้คู่แข่งต้องเร่งพัฒนาเทคโนโลยีตามให้ทัน 🔗 https://www.techradar.com/computing/virtual-reality-augmented-reality/samsung-galaxy-xr-raises-the-bar-while-lowering-the-price-for-premium-spatial-experiences 🛡️ รัฐบาลสหรัฐฯ กดดัน Google และ Apple ให้ลบแอปติดตามเจ้าหน้าที่ ICE เรื่องนี้กำลังเป็นประเด็นร้อนในสหรัฐฯ เมื่อคณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสภาผู้แทนราษฎรออกแรงกดดันให้ Google และ Apple ลบแอปที่สามารถติดตามเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง (ICE) ได้ โดยเฉพาะแอปชื่อ ICEBlock ที่เคยมีผู้ใช้มากกว่าล้านคน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถดาวน์โหลดใหม่ได้ แต่ยังคงใช้งานได้ในเครื่องที่ติดตั้งไว้แล้ว ปัญหาคือแอปนี้ถูกใช้โดยมือปืนในการก่อเหตุยิงที่ศูนย์ ICE ในเมืองดัลลัส ทำให้เกิดข้อถกเถียงระหว่างความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่กับสิทธิในการรับรู้ข้อมูลของประชาชน นักพัฒนาแอปเองก็ยืนยันว่า แอปนี้ไม่ต่างจากการแชร์ตำแหน่งด่านตรวจความเร็วในแผนที่ ซึ่งถือเป็นเสรีภาพในการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ 🔗 https://www.techradar.com/pro/us-gov-wants-google-and-apple-to-take-down-websites-tracking-ice-and-friends ⌚ Pebble โผล่กลับมาอีกครั้งกับสมาร์ทวอชลึกลับ Pebble ที่เคยเป็นแบรนด์สมาร์ทวอชสุดฮิตในยุคแรกๆ กำลังสร้างความตื่นเต้นอีกครั้ง หลังจากปล่อยทีเซอร์สมาร์ทวอชใหม่ที่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดมากนัก หลายคนคาดว่ามันอาจจะเป็นการกลับมาของแบรนด์ในรูปแบบที่ทันสมัยขึ้น หรืออาจจะเป็นการรีแบรนด์เพื่อเจาะตลาดสุขภาพและฟิตเนสที่กำลังมาแรง ความลึกลับนี้ทำให้แฟนๆ ที่เคยรัก Pebble ต่างตั้งตารอว่าจะมีอะไรใหม่ที่แตกต่างจากสมาร์ทวอชในตลาดตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/pebble-just-teased-a-mysterious-new-smartwatch-and-were-excited-to-see-what-it-is 💿 Magnetar เปิดตัวเครื่องเล่น Blu-ray 4K รุ่นใหม่ สำหรับคนที่ยังรักการดูหนังผ่านแผ่น Blu-ray Magnetar ได้เปิดตัวเครื่องเล่นรุ่นใหม่ที่ถูกยกให้เป็น “เครื่องเล่นแผ่นสุดท้ายที่คุณต้องมี” เพราะรองรับการเล่นแผ่น 4K ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พร้อมคุณภาพเสียงและภาพที่เหนือกว่า เหมาะกับนักสะสมและคนที่จริงจังกับการดูหนังในบ้าน แม้ยุคสตรีมมิ่งจะครองตลาด แต่เครื่องเล่นนี้ก็ยังตอบโจทย์คนที่ต้องการประสบการณ์ภาพและเสียงระดับสูงสุด 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/magnetars-new-4k-blu-ray-players-are-the-last-disc-spinners-youll-ever-need-and-theyre-now-available-to-buy 🏥 ข้อมูลคนไข้และเจ้าหน้าที่ NHS ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ระบบสุขภาพในอังกฤษเจอปัญหาใหญ่เมื่อ Barts Health NHS Trust ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ Cl0p ทำให้ข้อมูลทั้งคนไข้และเจ้าหน้าที่รั่วไหลออกไป เหตุการณ์นี้สร้างความกังวลอย่างมากต่อความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และยังสะท้อนให้เห็นว่าระบบสาธารณสุขที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรไซเบอร์ การโจมตีครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณเตือนว่าหน่วยงานด้านสุขภาพต้องลงทุนมากขึ้นในระบบป้องกันภัยไซเบอร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/patient-and-staff-data-impacted-by-cl0p-ransomware-attack-on-barts-health-nhs 🧹 รีวิว Bissell PowerClean FurFinder เครื่องดูดฝุ่นไร้สายราคาประหยัด ใครที่เลี้ยงสัตว์น่าจะสนใจเครื่องดูดฝุ่นรุ่นนี้ เพราะ Bissell PowerClean FurFinder ถูกออกแบบมาเพื่อจัดการขนสัตว์โดยเฉพาะ แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด แต่รีวิวบอกว่ามันทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานง่าย น้ำหนักเบา และเหมาะกับการทำความสะอาดบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง จุดเด่นคือความเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน แต่ก็ยังตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดี 🔗 https://www.techradar.com/home/vacuums/bissell-powerclean-furfinder-cordless-vacuum-review 📱 Samsung เปิดตัว One UI 8.5 Beta พร้อม 6 ฟีเจอร์ใหม่ Samsung ปล่อยเวอร์ชันเบต้าของ One UI 8.5 ให้ผู้ใช้ได้ลองก่อนใคร โดยมีการอัปเกรดถึง 6 จุดสำคัญ เช่น การปรับปรุงการทำงานแบบหลายหน้าต่างให้ลื่นไหลขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ด้านความเป็นส่วนตัว, การปรับแต่งหน้าจอหลักที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม และการปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวม จุดเด่นคือการทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมเครื่องได้สะดวกและปลอดภัยมากขึ้น ถือเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-just-launched-the-one-ui-8-5-beta-with-6-big-upgrades-heres-how-to-try-it 🧑‍💻 ผู้บริหาร UI ของ Apple ถูก Meta ดึงตัว พร้อมการอพยพครั้งใหญ่ในทีม AI Apple กำลังเผชิญกับการสูญเสียบุคลากรสำคัญในทีม AI และ UI เมื่อผู้บริหารระดับสูงถูก Meta ดึงตัวไป และอีกสามคนลาออกตามมา เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในวงการเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้าน AI ที่กำลังเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาอุปกรณ์และบริการใหม่ๆ การสูญเสียบุคลากรจำนวนมากในเวลาเดียวกันอาจส่งผลต่อทิศทางการพัฒนาของ Apple ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/apples-ui-executive-poached-by-meta-and-three-other-executives-leave-in-apple-ai-exodus 🌐 เครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ในอินโดนีเซียถูกสลายหลังดำเนินงานมา 14 ปี อินโดนีเซียสามารถสลายเครือข่ายอาชญากรรมไซเบอร์ที่ดำเนินงานมายาวนานถึง 14 ปี ซึ่งมีการโจมตีและหลอกลวงผู้คนจำนวนมากทั่วโลก การปฏิบัติการครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย และเป็นสัญญาณว่าประเทศกำลังจริงจังกับการจัดการภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจและความมั่นคง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/national-cybercrime-network-operating-for-14-years-dismantled-in-indonesia 🎬 รีวิวแผ่น Blu-ray 4K ที่ดีจนถูกนำมาใช้ทดสอบทีวี นักรีวิวที่ทำงานกับทีวีมืออาชีพเผยว่าเจอแผ่น Blu-ray 4K ใหม่ 5 เรื่องที่คุณภาพดีมากจนถูกนำมาใช้เป็นสื่อทดสอบทีวีในห้องแล็บ ความละเอียดและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมทำให้แผ่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิง แต่ยังเป็นมาตรฐานในการวัดประสิทธิภาพของทีวีรุ่นใหม่ๆ สำหรับคนที่รักการดูหนังแบบเต็มประสบการณ์ นี่คือแผ่นที่ควรมีไว้สะสม 🔗 https://www.techradar.com/televisions/blu-ray/i-review-4k-blu-rays-for-a-living-these-5-new-discs-are-so-good-theyve-entered-my-tv-testing-rotation 🎥 อุปกรณ์ถ่ายทำ TikTok ที่ครบในกระเป๋าใบเล็ก นักสร้างคอนเทนต์ TikTok แชร์ว่าเขามีกล้องและอุปกรณ์เสริม 9 ชิ้นที่สามารถใส่รวมกันในกระเป๋าสะพายใบเล็กได้ทั้งหมด ตั้งแต่กล้องคุณภาพสูง ขาตั้ง ไปจนถึงอุปกรณ์เสียง จุดเด่นคือความคล่องตัวและความสามารถในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูงได้ทุกที่ทุกเวลา เหมาะสำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์แบบมืออาชีพโดยไม่ต้องแบกอุปกรณ์ใหญ่ๆ 🔗 https://www.techradar.com/cameras/i-swear-by-these-9-cameras-and-accessories-for-shooting-tiktok-content-and-they-all-fit-in-one-small-sling-bag 🛡️ FBI เตือนภัย Deepfake ใช้หลอกเรียกค่าไถ่ เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่อาชญากรเริ่มใช้ Generative AI สร้างวิดีโอปลอมเป็น “หลักฐานการมีชีวิต” ของเหยื่อที่ถูกอ้างว่าถูกลักพาตัว พวกเขาจะนำภาพและวิดีโอจากโซเชียลมีเดียไปสร้างเป็นคลิปที่ดูสมจริง แล้วส่งไปหาญาติหรือคนใกล้ชิดเพื่อเรียกค่าไถ่ทันที FBI ออกประกาศเตือนว่าภาพเหล่านี้มักมีจุดผิดพลาด เช่น รอยสักหายไปหรือสัดส่วนร่างกายไม่ถูกต้อง แต่ผู้ร้ายจะใช้วิธีส่งแบบข้อความหมดเวลาเพื่อไม่ให้เหยื่อมีเวลาตรวจสอบ ทางออกคือควรระวังการโพสต์ข้อมูลส่วนตัว ตั้งรหัสลับในครอบครัว และพยายามติดต่อคนที่ถูกอ้างว่าถูกจับก่อนจะโอนเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/fbi-warns-of-kidnapping-scams-as-hackers-turn-to-ai-to-provide-proof-of-life 🔋 Honor Magic 8 Lite: มือถือแบตอึดราคาประหยัด รีวิวนี้บอกว่า Honor Magic 8 Lite เป็นสมาร์ทโฟนที่เด่นเรื่องแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานเกินคาด แม้จะเป็นรุ่นราคาประหยัด ดีไซน์ดูทันสมัย หน้าจอใหญ่พอเหมาะ และประสิทธิภาพถือว่าเพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป กล้องอาจไม่ได้โดดเด่นเท่ารุ่นเรือธง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา เหมาะสำหรับคนที่มองหามือถือใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/honor-phones/honor-magic-8-lite-review 🚁 FBI มองหาดรอนที่ “กันเจาะสัญญาณ” ได้ อีกข่าวหนึ่งเล่าถึงความพยายามของ FBI ที่กำลังค้นหาดรอนซึ่งไม่สามารถถูกโจมตีด้วยการรบกวนสัญญาณได้ วิธีที่ใช้ไม่ใช่เทคโนโลยีใหม่ แต่เป็นการหันกลับไปใช้เทคนิคแบบเก่าเพื่อป้องกันการแฮ็กหรือการควบคุมจากระยะไกล จุดประสงค์คือทำให้ดรอนยังคงทำงานได้แม้มีการพยายามโจมตีทางไซเบอร์ ถือเป็นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยกับวิธีดั้งเดิมเพื่อความปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/the-fbi-is-hunting-for-unjammable-drones-and-these-flying-cameras-use-one-very-old-school-trick-to-stop-remote-attacks 🌱 ปี 2026 “Sustainability” กลายเป็น Stack ใหม่ บทความนี้เล่าว่าในปี 2026 แนวคิดด้านความยั่งยืนจะไม่ใช่แค่เรื่องเสริม แต่จะถูกมองว่าเป็น “stack” ใหม่ของธุรกิจ เทียบได้กับการมีเทคโนโลยีหรือโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น องค์กรต่าง ๆ จะต้องผสมผสานการใช้พลังงานสะอาด การจัดการทรัพยากร และการออกแบบระบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก ไม่ใช่แค่ CSR แต่เป็นแกนกลางของการดำเนินงาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/in-2026-sustainability-is-the-new-stack ⚠️ Gartner เตือน “AI Browsers” อาจเป็นภัยต่อธุรกิจ รายงานจาก Gartner ชี้ว่าเบราว์เซอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ไม่ได้เป็นเพื่อนที่ดีเสมอไป เพราะอาจสร้างความเสี่ยงต่อข้อมูลและความปลอดภัยขององค์กร แม้จะช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้น แต่ก็มีช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตีหรือทำให้ข้อมูลรั่วไหลได้ Gartner แนะนำให้ธุรกิจระมัดระวังและไม่ควรพึ่งพา AI browsers โดยไม่ตรวจสอบมาตรการป้องกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/gartner-advisory-states-ai-browsers-are-not-your-friend-and-are-putting-your-business-at-risk 🤖 IT ที่ “รักษาตัวเอง” ไม่ใช่วิทยาศาสตร์อีกต่อไป บทความนี้เล่าว่าแนวคิด Self-healing IT หรือระบบที่สามารถตรวจจับและแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง กำลังกลายเป็นจริงและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้เดินหน้าได้อย่างต่อเนื่อง ระบบเหล่านี้สามารถวิเคราะห์ความผิดพลาด คาดการณ์ปัญหา และดำเนินการแก้ไขโดยอัตโนมัติ ทำให้ลดเวลาหยุดชะงักและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นและพร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/self-healing-it-is-no-longer-science-fiction-its-driving-businesses-forward 🎧 ChatGPT Wrapped: สรุปปีแห่งการใช้ AI ผู้ใช้ ChatGPT กำลังสร้าง “Spotify Wrapped” เวอร์ชันของตัวเอง เพื่อย้อนดูว่าตลอดปีที่ผ่านมาได้ใช้ AI ทำอะไรบ้าง เช่น คำถามที่ถามบ่อยที่สุด หรือหัวข้อที่พูดถึงมากที่สุด วิธีทำก็ไม่ซับซ้อน เพียงดึงข้อมูลการใช้งานแล้วจัดเรียงเป็นรูปแบบที่แชร์ได้บนโซเชียล ถือเป็นการเล่นสนุกที่สะท้อนว่า AI กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันไปแล้ว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpt-users-are-making-a-spotify-wrapped-for-their-year-in-ai-heres-how-to-do-it 🏗️ ศูนย์ข้อมูล AI ทำให้การสร้างบ้านชะลอตัว รายงานนี้ชี้ว่าความต้องการศูนย์ข้อมูลเพื่อรองรับ AI กำลังเพิ่มสูงจนโครงสร้างพื้นฐานไม่สามารถตามทัน ส่งผลให้การพัฒนาโครงการบ้านเรือนถูกชะลอ เพราะทรัพยากรด้านพลังงานและพื้นที่ถูกใช้ไปกับการสร้างศูนย์ข้อมูลแทน ปัญหานี้สะท้อนว่าการเติบโตของ AI ไม่ได้กระทบแค่ธุรกิจเทคโนโลยี แต่ยังส่งผลต่อเศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของผู้คนโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/pro/data-centers-are-throttling-home-building-as-infrastructure-struggles-to-keep-up-with-ai-demands 📱 OpenAI ถอยแผน “แนะนำแอปคล้ายโฆษณา” OpenAI เคยทดลองใส่ฟีเจอร์แนะนำแอปใน ChatGPT ที่ดูเหมือนโฆษณา แต่หลังจากได้รับเสียงวิจารณ์ว่าทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สบายใจ จึงออกมาประกาศว่าจะปรับปรุงและให้ผู้ใช้ควบคุมได้มากขึ้น การถอยครั้งนี้สะท้อนว่าบริษัทต้องหาสมดุลระหว่างการสร้างรายได้และการรักษาประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/openai-walks-back-ad-like-app-suggestions-in-chatgpt-saying-it-fell-short-and-will-improve-controls 🛡️ React2Shell RCE Flaw ถูกแฮ็กเกอร์จีนโจมตีหลังประกาศไม่กี่ชั่วโมง เรื่องนี้เป็นข่าวใหญ่ในวงการไซเบอร์ เพราะมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงใน React Server Components ที่ถูกตั้งชื่อว่า React2Shell โดยมีรหัส CVE-2025-55182 และถูกจัดระดับความรุนแรงเต็ม 10/10 ช่องโหว่นี้เปิดโอกาสให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงระบบได้ก่อนการยืนยันตัวตน ซึ่งเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากการเปิดเผย ก็มีรายงานว่าแฮ็กเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีนเริ่มใช้ช่องโหว่นี้โจมตีจริงแล้ว เป้าหมายคือองค์กรในหลายภาคส่วนทั่วโลก ตั้งแต่การเงิน โลจิสติกส์ ไปจนถึงมหาวิทยาลัยและรัฐบาล จุดประสงค์หลักคือการสอดแนมและสร้างการเข้าถึงถาวร นักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดตเป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันทีเพื่อป้องกันการโจมตี 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-rce-flaw-exploited-by-chinese-hackers-hours-after-disclosure 🕯️ SwitchBot เปิดตัวโคมไฟที่ละลายเทียนได้ SwitchBot สร้างไอเดียใหม่ที่ผสมผสานความเป็นสมาร์ทโฮมเข้ากับความอบอุ่นแบบ hygge โดยออกผลิตภัณฑ์ที่เป็นทั้งโคมไฟอัจฉริยะและเครื่องละลายเทียนในตัว เหมาะสำหรับคนที่อยากได้บรรยากาศผ่อนคลายและโรแมนติกในบ้าน สามารถควบคุมผ่านแอปได้เหมือนอุปกรณ์สมาร์ทอื่น ๆ และยังช่วยให้การใช้เทียนปลอดภัยขึ้นเพราะไม่ต้องใช้ไฟจริง ผลิตภัณฑ์นี้ถูกมองว่าเป็นของขวัญที่ลงตัวสำหรับสาย gadget ที่ชอบความ cozy 🔗 https://www.techradar.com/home/small-appliances/switchbot-crossed-a-smart-lamp-with-a-candle-melter-and-its-the-ultimate-hygge-gift-for-gadget-fans-who-just-want-to-get-cozy 🎮 Katsuhiro Harada ประกาศลาออกจาก Bandai Namco แฟนเกม Tekken ต้องสะเทือนใจเมื่อ Katsuhiro Harada ผู้เป็นหัวเรือใหญ่ของซีรีส์นี้ ประกาศว่าจะก้าวลงจากตำแหน่งใน Bandai Namco เขาอธิบายว่าถึงเวลาที่เหมาะสมในการปิดฉากหนึ่งบทของชีวิตการทำงาน หลังจากอยู่กับบริษัทมานานและสร้างชื่อเสียงให้ Tekken กลายเป็นหนึ่งในเกมต่อสู้ที่โด่งดังที่สุดในโลก การจากไปครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการเกม และแฟน ๆ ต่างจับตามองว่าอนาคตของ Tekken จะเดินไปในทิศทางใด 🔗 https://www.techradar.com/gaming/tekken-lead-katsuhiro-harada-to-leave-bandai-namco-i-felt-this-was-the-most-fitting-moment-to-bring-one-chapter-to-a-close 💸 X ถูกปรับ 140 ล้านดอลลาร์ในยุโรป แพลตฟอร์ม X (เดิม Twitter) ถูกสหภาพยุโรปปรับเงินมหาศาลถึง 140 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากละเมิดกฎระเบียบด้านดิจิทัลและความโปร่งใส ข่าวนี้ยิ่งร้อนแรงขึ้นเมื่อ Elon Musk ออกมาเรียกร้องให้ยกเลิก EU ทั้งหมด โดยมองว่ากฎเกณฑ์เหล่านี้เป็นการกีดกันนวัตกรรมและเสรีภาพทางออนไลน์ เรื่องนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดระหว่างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีกับหน่วยงานกำกับดูแลในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลต่ออนาคตของการควบคุมแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลก 🔗 https://www.techradar.com/pro/x-fined-usd140-million-for-breaching-eu-rules-elon-calls-for-bloc-abolition 💻 Windows 11 25H2 เปิดให้ทุกเครื่องอัปเดตแล้ว Microsoft ปล่อยอัปเดตใหญ่ Windows 11 25H2 ให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถติดตั้งได้แล้ว การอัปเดตนี้มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ ๆ และการปรับปรุงประสิทธิภาพ รวมถึงการแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้ใช้สามารถเข้าไปที่ Windows Update เพื่อดาวน์โหลดและติดตั้งได้ทันที ถือเป็นการอัปเดตที่สำคัญสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร เพราะช่วยให้ระบบมีความเสถียรและปลอดภัยมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/windows-11-25h2-update-is-now-available-for-all-pcs-heres-how-to-get-it 📱 มือถือ Linux เน้นความเป็นส่วนตัว แต่ยังรันแอป Android ได้ มีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux โดยเน้นความเป็นส่วนตัวเป็นหลัก ถูกมองว่าเป็นอีกทางเลือกแทน Android และ iOS จุดเด่นคือแม้จะใช้ Linux แต่ยังสามารถรันแอป Android ได้ ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดแอปยอดนิยม แนวคิดนี้ตอบโจทย์ผู้ที่อยากได้ความปลอดภัยและการควบคุมข้อมูลส่วนตัวมากขึ้น แต่ก็ยังคงความสะดวกสบายของแอปที่คุ้นเคย 🔗 https://www.techradar.com/phones/forget-android-vs-ios-this-new-privacy-focused-linux-phone-promises-to-be-the-alternative-we-need-but-it-still-runs-android-apps 🤖 AI จากสหราชอาณาจักรอ้างว่าเหนือกว่า ChatGPT มีสตาร์ทอัพในสหราชอาณาจักรเปิดตัว AI ใหม่ที่ประกาศว่ามีความสามารถเหนือกว่า ChatGPT ทีมงาน TechRadar ได้ลองใช้งานจริงและพบว่ามีจุดแข็งหลายด้าน เช่น ความเร็วในการตอบสนองและการจัดการข้อมูลที่ซับซ้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ต้องพัฒนาเพิ่มเติม การแข่งขันในตลาด AI กำลังร้อนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และการมาของผู้เล่นใหม่รายนี้อาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/a-new-uk-ai-says-it-can-beat-chatgpt-we-tried-it-and-heres-what-we-found 📺 Trump แสดงความกังวลต่อการควบรวม Netflix และ Warner Bros Donald Trump แสดงความคิดเห็นว่าการควบรวมกิจการครั้งใหญ่ระหว่าง Netflix และ Warner Bros อาจสร้างปัญหา โดยมองว่าอาจกระทบต่อการแข่งขันและความหลากหลายของตลาดสตรีมมิ่ง ความเห็นนี้สะท้อนถึงความกังวลว่าบริษัทขนาดใหญ่จะมีอำนาจมากเกินไป และอาจทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลงในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/trump-says-the-big-netflix-warner-bros-merger-could-be-a-problem-heres-why 🔋 แบรนด์คู่แข่ง Anker เรียกคืน Power Bank หลังพบเสี่ยงไฟไหม้ มีการเรียกคืน Power Bank รุ่นหนึ่งจากแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งของ Anker เนื่องจากพบว่ามีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ ข่าวนี้ทำให้ผู้ใช้ที่ซื้อไปแล้วต้องตรวจสอบและหยุดใช้งานทันที พร้อมติดต่อเพื่อขอคืนหรือเปลี่ยนสินค้า เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความสำคัญของมาตรฐานความปลอดภัยในอุปกรณ์พกพา และเตือนให้ผู้บริโภคระมัดระวังในการเลือกซื้อแบตเตอรี่สำรอง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/phones/this-popular-anker-rival-has-just-recalled-a-power-bank-due-to-a-fire-hazard-heres-what-to-do
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1285 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251208 #securityonline


    Stealth Supply Chain Attack: Rust Crate ปลอมแฝงมัลแวร์
    เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบ supply chain ที่แยบยลมาก แฮกเกอร์ใช้เทคนิค typosquatting ปลอมตัวเป็นไลบรารีชื่อ finch-rust บน Crates.io ให้ดูเหมือนเป็นเวอร์ชัน Rust ของเครื่องมือ bioinformatics ที่ชื่อ finch ซึ่งมีคนดาวน์โหลดจริงกว่า 67,000 ครั้ง ตัวแพ็กเกจปลอมนี้ทำงานเหมือนของจริง แต่ซ่อนโค้ดบรรทัดเดียวที่โหลดมัลแวร์ชื่อ sha-rust เข้ามา โดยใช้ dependency แบบไม่ fix เวอร์ชัน ทำให้ผู้โจมตีสามารถอัปเดต payload ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องแก้ loader เลย ภายในสองสัปดาห์ sha-rust ถูกพัฒนาไปถึง 8 เวอร์ชัน จากการสแกนโฟลเดอร์ทั้งหมดจนเปลี่ยนเป็นสแกนเฉพาะ directory ปัจจุบันเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ เป้าหมายคือไฟล์ environment, config และ token ต่าง ๆ แล้วส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลอมผ่าน HTTPS พร้อม delay เล็กน้อยเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ผู้โจมตียังสร้างโปรไฟล์ GitHub ปลอมแฝงตัวเป็นนักพัฒนาจริงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ สุดท้ายทีม Rust Security ตรวจพบและลบออกไป แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการโจมตีแบบ typosquatting ยังคงเป็นภัยใหญ่ในโลก open-source
    https://securityonline.info/stealth-supply-chain-attack-malicious-rust-crate-used-unpinned-dependency-for-silent-payload-upgrades

    Pixel Phone กลายเป็น Webcam สำหรับ Nintendo Switch 2
    ข่าวนี้เล่าเรื่องน่าสนใจสำหรับสายเกมและเทคโนโลยี เมื่อมีการค้นพบว่า Pixel Phone สามารถเชื่อมต่อกับ Nintendo Switch 2 ผ่านสาย USB แล้วทำงานเป็น webcam ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสตรีมเกมหรือใช้กล้องมือถือเป็นอุปกรณ์เสริมได้อย่างสะดวก ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนและเครื่องเกมที่ทำให้การใช้งานยืดหยุ่นขึ้นมาก
    https://securityonline.info/pixel-phone-turns-into-webcam-for-nintendo-switch-2-via-usb-no-accessory-needed

    Meta จับมือ CNN และ Le Monde ป้อนข่าวลิขสิทธิ์ให้ AI
    Meta ที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์เรื่องการใช้ข้อมูลข่าวสารโดยไม่ขออนุญาต ตอนนี้ได้เปลี่ยนท่าทีใหม่ โดยทำข้อตกลงกับสำนักข่าวใหญ่ ๆ อย่าง CNN และ Le Monde เพื่อให้ข่าวที่มีลิขสิทธิ์ถูกนำไปใช้ในระบบ Meta AI อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามสร้างความน่าเชื่อถือและลดแรงเสียดทานจากสื่อ รวมถึงอาจเป็นการวางรากฐานให้ AI ของ Meta มีข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้มากขึ้น
    https://securityonline.info/meta-reverses-course-strikes-deals-with-cnn-le-monde-to-feed-licensed-news-to-meta-ai

    EU ปรับ X €120 ล้าน จากการละเมิด DSA
    สหภาพยุโรปได้ปรับแพลตฟอร์ม X (อดีต Twitter) เป็นเงินมหาศาลถึง 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบระบบ Blue Check Verification ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” การปรับครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า EU จริงจังกับการบังคับใช้กฎหมายดิจิทัล และแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ จะไม่สามารถใช้วิธีการที่ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดได้อีกต่อไป
    https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification

    Meta แก้ระบบ Support พัง เปิดตัว AI Assistants และ Recovery Hub
    Meta ประกาศปรับปรุงระบบช่วยเหลือผู้ใช้ที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์ว่า “พัง” และไม่ตอบโจทย์ โดยครั้งนี้ได้เพิ่ม AI Assistants เข้ามาช่วยตอบคำถามและแก้ปัญหา รวมถึงเปิดตัว Recovery Hubs ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการกู้คืนบัญชีหรือแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามฟื้นความเชื่อมั่นจากผู้ใช้ และใช้ AI เป็นหัวใจหลักในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน
    https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs

    Bluetooth Flaw เสี่ยงทำ Smart Car และ Wear OS Crash
    มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่สามารถทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ได้ โดย Proof-of-Concept (PoC) แสดงให้เห็นว่าช่องโหว่นี้สามารถทำให้ Smart Cars และอุปกรณ์ที่ใช้ Wear OS เกิดการ crash ได้ทันที ความเสี่ยงนี้ทำให้ผู้ใช้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์สวมใส่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะการโจมตีอาจทำให้ระบบหยุดทำงานในเวลาที่ไม่คาดคิด
    https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool (CVE-2025-13654)
    เครื่องมือ Duc Disk Tool ถูกพบว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับ integer underflow ซึ่งสามารถนำไปสู่การโจมตีแบบ DoS และการรั่วไหลของข้อมูลได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ High-Severity ทำให้ผู้ใช้และผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดตหรือหาทางแก้ไขเพื่อป้องกันการถูกโจมตี
    https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow

    SeedSnatcher มัลแวร์ Android ล่าผู้ใช้คริปโต
    มัลแวร์ใหม่ชื่อ SeedSnatcher กำลังโจมตีผู้ใช้ Android ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยใช้เทคนิค overlay phishing และการตรวจสอบ BIP 39 เพื่อขโมย seed phrase ของกระเป๋าเงินดิจิทัล มันสามารถหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญลงในหน้าปลอมที่ดูเหมือนจริง ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและขโมยสินทรัพย์คริปโตได้อย่างง่ายดาย
    https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases

    Russian APT UTA0355 ขโมย OAuth Token ของ Microsoft 365
    กลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียชื่อ UTA0355 ใช้กลยุทธ์หลอกลวงผ่านการเชิญเข้าร่วม งานประชุมความปลอดภัยปลอม และแม้กระทั่งการปลอมเป็นทีมสนับสนุนบน WhatsApp เพื่อหลอกผู้ใช้ให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ ผลลัพธ์คือการขโมย OAuth Token ของ Microsoft 365 ซึ่งสามารถนำไปใช้เข้าถึงข้อมูลและระบบขององค์กรได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน
    https://securityonline.info/russian-apt-uta0355-steals-microsoft-365-oauth-tokens-via-fake-security-conference-lures-and-whatsapp-support

    Windows 11 Agenda View กลับมาอีกครั้ง แต่มี Overhead
    Microsoft ได้นำฟีเจอร์ Agenda View กลับมาใน Windows 11 แต่ครั้งนี้ถูกสร้างบน WebView 2 ซึ่งแม้จะทำให้การแสดงผลยืดหยุ่นขึ้น แต่ก็มีข้อเสียคือ performance overhead ที่อาจทำให้ระบบทำงานช้าลง ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับการใช้ทรัพยากรที่มากกว่าเดิม
    https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead

    BRICKSTORM: มัลแวร์สายลับจากจีนที่ฝังตัวใน VMware และ ADFS
    มีรายงานใหม่จาก CISA และ NSA ร่วมกับหน่วยงานแคนาดา เปิดเผยการทำงานของมัลแวร์ชื่อ BRICKSTORM ที่ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน จุดเด่นของมันคือความสามารถในการอยู่รอดในระบบเป้าหมายได้นานเกือบ 18 เดือนโดยไม่ถูกตรวจจับ เป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานเสมือนจริงอย่าง VMware และระบบ Windows โดยมันสามารถสร้าง VM ปลอมเพื่อขโมยข้อมูล รวมถึงใช้เทคนิคการสื่อสารที่ซับซ้อน เช่น HTTPS, WebSockets, TLS ซ้อนกันหลายชั้น และ DNS-over-HTTPS เพื่อพรางตัวให้เหมือนทราฟฟิกปกติ เรื่องนี้ถือเป็นภัยคุกคามระยะยาวที่องค์กรภาครัฐและ IT ต้องเร่งตรวจสอบ
    https://securityonline.info/cisa-nsa-warn-of-brickstorm-backdoor-china-apt-targets-vmware-and-adfs-for-long-term-espionage

    ช่องโหว่ lz4-java (CVE-2025-66566) รั่วข้อมูลหน่วยความจำ
    มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในไลบรารี lz4-java ที่ใช้กันแพร่หลายสำหรับการบีบอัดข้อมูล ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลที่ยังไม่ได้ถูกล้างออกจากหน่วยความจำระหว่างการดีคอมเพรสได้ ซึ่งอาจรวมถึงรหัสผ่านหรือคีย์เข้ารหัส ปัญหามาจากการที่บัฟเฟอร์ไม่ได้ถูกเคลียร์ก่อนใช้งานใหม่ ทำให้ข้อมูลเก่าหลุดออกมาได้ การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อผู้โจมตีส่งข้อมูลบีบอัดที่ถูกปรับแต่งมาให้ระบบดีคอมเพรส ผลคือข้อมูลที่ควรจะถูกซ่อนกลับถูกเปิดเผยออกมา ทางแก้คือการอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.10.1 หรือหากยังไม่สามารถทำได้ ต้องล้างบัฟเฟอร์ด้วยตนเองก่อนใช้งาน
    https://securityonline.info/high-severity-lz4-java-flaw-cve-2025-66566-leaks-uninitialized-memory-during-decompression

    ช่องโหว่ Cal.com (CVE-2025-66489) เปิดทางให้ข้ามการยืนยันตัวตน
    แพลตฟอร์ม Cal.com ที่ใช้จัดการตารางนัดหมาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าสู่ระบบได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านจริง หากใส่ค่าในช่อง TOTP (รหัสยืนยันแบบครั้งเดียว) ระบบจะข้ามการตรวจสอบรหัสผ่านทันที แม้ผู้ใช้เปิด 2FA ก็ยังเสี่ยงเพราะระบบตรวจสอบแค่ TOTP โดยไม่สนใจรหัสผ่าน ส่งผลให้แค่รู้ที่อยู่อีเมลก็สามารถเจาะบัญชีได้แล้ว ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุดเกือบเต็ม 9.9 และมีการออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 5.9.8 ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดบัญชี
    https://securityonline.info/critical-cal-com-flaw-cve-2025-66489-cvss-9-9-allows-authentication-bypass-by-submitting-fake-totp-codes

    WatchGuard VPN เจอช่องโหว่เสี่ยง DoS และ RCE
    ผลิตภัณฑ์ Firebox ของ WatchGuard ถูกพบช่องโหว่หลายรายการที่กระทบต่อระบบ VPN และอินเทอร์เฟซจัดการ โดยเฉพาะ CVE-2025-11838 ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้บริการ VPN ล่มได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ใด ๆ นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่การฉีดคำสั่ง CLI และ XPath Injection ที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงข้อมูลหรือรันโค้ดอันตรายได้ ช่องโหว่เหล่านี้กระทบหลายเวอร์ชันของ Fireware OS และบริษัทได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายเสียหาย
    https://securityonline.info/high-severity-watchguard-flaws-risk-vpn-dos-and-rce-via-ikev2-memory-corruption

    MuddyWater ใช้ UDPGangster Backdoor เจาะระบบ
    กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับอิหร่านชื่อ MuddyWater ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ UDPGangster เพื่อโจมตีหน่วยงานรัฐบาลและโครงสร้างพื้นฐานในตุรกี อิสราเอล และอาเซอร์ไบจาน จุดเด่นคือการสื่อสารผ่านโปรโตคอล UDP แทนที่จะใช้ HTTP/HTTPS ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับได้ดี มัลแวร์ถูกส่งผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ Word พร้อมมาโคร เมื่อเหยื่อเปิดใช้งานก็จะติดตั้งตัวเองและสร้าง persistence บนเครื่อง จากนั้นผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่ง ขโมยไฟล์ และควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและมีการตรวจสอบสภาพแวดล้อมเพื่อหลบเลี่ยงการวิเคราะห์
    https://securityonline.info/iran-linked-muddywater-deploys-udpgangster-backdoor-using-udp-protocol-for-covert-c2

    Intellexa ใช้ช่องโหว่ 15 รายการเพื่อแพร่กระจาย Predator Spyware
    บริษัทผู้ขายสปายแวร์ชื่อ Intellexa ถูกเปิดโปงว่าใช้ช่องโหว่แบบ zero-day ถึง 15 รายการตั้งแต่ปี 2021 เพื่อแพร่กระจายสปายแวร์ Predator โดยเฉพาะการโจมตีผ่าน iOS exploit chain ที่ชื่อ “smack” ซึ่งสามารถเจาะระบบ iPhone ได้โดยไม่ต้องมีการโต้ตอบจากผู้ใช้ Predator ถูกใช้เพื่อสอดแนมเป้าหมายระดับสูง เช่น นักข่าว นักการเมือง และนักกิจกรรม โดยมีการขายให้กับรัฐบาลหลายประเทศ การเปิดเผยนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีเชิงรุกเพื่อการสอดแนมที่อันตรายและยากต่อการป้องกัน
    https://securityonline.info/spyware-vendor-intellexa-used-15-zero-days-since-2021-deploying-predator-via-smack-ios-exploit-chain

    urllib3 พบช่องโหว่เสี่ยงทำให้ระบบล่ม
    ไลบรารี Python ยอดนิยมอย่าง urllib3 ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้ระบบผู้ใช้ล่มได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการดีคอมเพรสข้อมูลที่ไม่มีการจำกัด ทำให้หน่วยความจำถูกใช้จนหมด และการสตรีมข้อมูลที่ไม่ถูกควบคุมจนทำให้ทรัพยากรถูกใช้เกินขีดจำกัด ผลคือระบบอาจหยุดทำงานหรือไม่ตอบสนอง การโจมตีสามารถทำได้ง่ายเพียงส่งข้อมูลที่ถูกปรับแต่งมาให้ระบบจัดการ การแก้ไขคือการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ที่มีการจำกัดการดีคอมเพรสและการสตรีมเพื่อป้องกันการโจมตีแบบ DoS
    https://securityonline.info/urllib3-flaws-risk-client-dos-via-unbounded-decompression-and-streaming-resource-exhaustion

    ValleyRAT หลอกผู้หางานด้วย Foxit PDF Reader ปลอม
    มีการค้นพบการโจมตีใหม่ที่ใช้มัลแวร์ ValleyRAT โดยกลุ่มผู้โจมตีได้ทำการ sideload DLL อันตรายเข้าไปใน Foxit PDF Reader ที่ถูกดัดแปลง จากนั้นนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์หางานภาษาอังกฤษเพื่อหลอกผู้ใช้ที่กำลังหางาน เมื่อเหยื่อดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม PDF Reader ปลอมนี้ มัลแวร์จะถูกโหลดเข้ามาในระบบทันที ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่อง ขโมยข้อมูล และติดตั้ง payload เพิ่มเติมได้ การโจมตีนี้เน้นไปที่ผู้หางานในต่างประเทศที่อาจไม่ทันระวังภัย
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/valleyrat-targets-english-job-seekers-by-trojanizing-foxit-pdf-reader-with-dll-sideloading
    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251208 #securityonline 🛡️ Stealth Supply Chain Attack: Rust Crate ปลอมแฝงมัลแวร์ เรื่องนี้เป็นการโจมตีแบบ supply chain ที่แยบยลมาก แฮกเกอร์ใช้เทคนิค typosquatting ปลอมตัวเป็นไลบรารีชื่อ finch-rust บน Crates.io ให้ดูเหมือนเป็นเวอร์ชัน Rust ของเครื่องมือ bioinformatics ที่ชื่อ finch ซึ่งมีคนดาวน์โหลดจริงกว่า 67,000 ครั้ง ตัวแพ็กเกจปลอมนี้ทำงานเหมือนของจริง แต่ซ่อนโค้ดบรรทัดเดียวที่โหลดมัลแวร์ชื่อ sha-rust เข้ามา โดยใช้ dependency แบบไม่ fix เวอร์ชัน ทำให้ผู้โจมตีสามารถอัปเดต payload ได้เรื่อย ๆ โดยไม่ต้องแก้ loader เลย ภายในสองสัปดาห์ sha-rust ถูกพัฒนาไปถึง 8 เวอร์ชัน จากการสแกนโฟลเดอร์ทั้งหมดจนเปลี่ยนเป็นสแกนเฉพาะ directory ปัจจุบันเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจจับ เป้าหมายคือไฟล์ environment, config และ token ต่าง ๆ แล้วส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ปลอมผ่าน HTTPS พร้อม delay เล็กน้อยเพื่อไม่ให้ถูกจับได้ ผู้โจมตียังสร้างโปรไฟล์ GitHub ปลอมแฝงตัวเป็นนักพัฒนาจริงเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ สุดท้ายทีม Rust Security ตรวจพบและลบออกไป แต่เหตุการณ์นี้สะท้อนว่าการโจมตีแบบ typosquatting ยังคงเป็นภัยใหญ่ในโลก open-source 🔗 https://securityonline.info/stealth-supply-chain-attack-malicious-rust-crate-used-unpinned-dependency-for-silent-payload-upgrades 🎮 Pixel Phone กลายเป็น Webcam สำหรับ Nintendo Switch 2 ข่าวนี้เล่าเรื่องน่าสนใจสำหรับสายเกมและเทคโนโลยี เมื่อมีการค้นพบว่า Pixel Phone สามารถเชื่อมต่อกับ Nintendo Switch 2 ผ่านสาย USB แล้วทำงานเป็น webcam ได้ทันที โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใด ๆ ฟีเจอร์นี้เปิดโอกาสให้ผู้เล่นสามารถสตรีมเกมหรือใช้กล้องมือถือเป็นอุปกรณ์เสริมได้อย่างสะดวก ถือเป็นการผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนและเครื่องเกมที่ทำให้การใช้งานยืดหยุ่นขึ้นมาก 🔗 https://securityonline.info/pixel-phone-turns-into-webcam-for-nintendo-switch-2-via-usb-no-accessory-needed 📰 Meta จับมือ CNN และ Le Monde ป้อนข่าวลิขสิทธิ์ให้ AI Meta ที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์เรื่องการใช้ข้อมูลข่าวสารโดยไม่ขออนุญาต ตอนนี้ได้เปลี่ยนท่าทีใหม่ โดยทำข้อตกลงกับสำนักข่าวใหญ่ ๆ อย่าง CNN และ Le Monde เพื่อให้ข่าวที่มีลิขสิทธิ์ถูกนำไปใช้ในระบบ Meta AI อย่างถูกต้องตามกฎหมาย การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามสร้างความน่าเชื่อถือและลดแรงเสียดทานจากสื่อ รวมถึงอาจเป็นการวางรากฐานให้ AI ของ Meta มีข้อมูลที่ถูกต้องและเชื่อถือได้มากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/meta-reverses-course-strikes-deals-with-cnn-le-monde-to-feed-licensed-news-to-meta-ai ⚖️ EU ปรับ X €120 ล้าน จากการละเมิด DSA สหภาพยุโรปได้ปรับแพลตฟอร์ม X (อดีต Twitter) เป็นเงินมหาศาลถึง 120 ล้านยูโร เนื่องจากละเมิดกฎหมาย Digital Services Act (DSA) โดยเฉพาะการตรวจสอบระบบ Blue Check Verification ที่ถูกมองว่า “หลอกลวง” การปรับครั้งนี้ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่า EU จริงจังกับการบังคับใช้กฎหมายดิจิทัล และแพลตฟอร์มใหญ่ ๆ จะไม่สามารถใช้วิธีการที่ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดได้อีกต่อไป 🔗 https://securityonline.info/eu-fines-x-e120-million-for-dsa-violation-over-deceptive-blue-check-verification 🤖 Meta แก้ระบบ Support พัง เปิดตัว AI Assistants และ Recovery Hub Meta ประกาศปรับปรุงระบบช่วยเหลือผู้ใช้ที่ก่อนหน้านี้ถูกวิจารณ์ว่า “พัง” และไม่ตอบโจทย์ โดยครั้งนี้ได้เพิ่ม AI Assistants เข้ามาช่วยตอบคำถามและแก้ปัญหา รวมถึงเปิดตัว Recovery Hubs ที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางสำหรับการกู้คืนบัญชีหรือแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนว่าบริษัทกำลังพยายามฟื้นความเชื่อมั่นจากผู้ใช้ และใช้ AI เป็นหัวใจหลักในการปรับปรุงประสบการณ์การใช้งาน 🔗 https://securityonline.info/meta-fixes-broken-support-rolling-out-ai-assistants-and-new-recovery-hubs 🚗 Bluetooth Flaw เสี่ยงทำ Smart Car และ Wear OS Crash มีการเปิดเผยช่องโหว่ใหม่ในระบบ Bluetooth ที่สามารถทำให้เกิดการโจมตีแบบ Denial of Service (DoS) ได้ โดย Proof-of-Concept (PoC) แสดงให้เห็นว่าช่องโหว่นี้สามารถทำให้ Smart Cars และอุปกรณ์ที่ใช้ Wear OS เกิดการ crash ได้ทันที ความเสี่ยงนี้ทำให้ผู้ใช้รถยนต์อัจฉริยะและอุปกรณ์สวมใส่ต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะการโจมตีอาจทำให้ระบบหยุดทำงานในเวลาที่ไม่คาดคิด 🔗 https://securityonline.info/poc-available-bluetooth-flaw-risks-dos-crash-on-smart-cars-and-wear-os 💾 ช่องโหว่ร้ายแรงใน Duc Disk Tool (CVE-2025-13654) เครื่องมือ Duc Disk Tool ถูกพบว่ามีช่องโหว่ร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับ integer underflow ซึ่งสามารถนำไปสู่การโจมตีแบบ DoS และการรั่วไหลของข้อมูลได้ ช่องโหว่นี้ถูกจัดอยู่ในระดับ High-Severity ทำให้ผู้ใช้และผู้ดูแลระบบต้องรีบอัปเดตหรือหาทางแก้ไขเพื่อป้องกันการถูกโจมตี 🔗 https://securityonline.info/high-severity-duc-disk-tool-flaw-cve-2025-13654-risks-dos-and-information-leak-via-integer-underflow 📱 SeedSnatcher มัลแวร์ Android ล่าผู้ใช้คริปโต มัลแวร์ใหม่ชื่อ SeedSnatcher กำลังโจมตีผู้ใช้ Android ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยใช้เทคนิค overlay phishing และการตรวจสอบ BIP 39 เพื่อขโมย seed phrase ของกระเป๋าเงินดิจิทัล มันสามารถหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญลงในหน้าปลอมที่ดูเหมือนจริง ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าถึงและขโมยสินทรัพย์คริปโตได้อย่างง่ายดาย 🔗 https://securityonline.info/seedsnatcher-android-malware-targets-crypto-users-using-overlay-phishing-and-bip-39-validation-to-steal-seed-phrases 🎭 Russian APT UTA0355 ขโมย OAuth Token ของ Microsoft 365 กลุ่มแฮกเกอร์รัสเซียชื่อ UTA0355 ใช้กลยุทธ์หลอกลวงผ่านการเชิญเข้าร่วม งานประชุมความปลอดภัยปลอม และแม้กระทั่งการปลอมเป็นทีมสนับสนุนบน WhatsApp เพื่อหลอกผู้ใช้ให้เปิดเผยข้อมูลสำคัญ ผลลัพธ์คือการขโมย OAuth Token ของ Microsoft 365 ซึ่งสามารถนำไปใช้เข้าถึงข้อมูลและระบบขององค์กรได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน 🔗 https://securityonline.info/russian-apt-uta0355-steals-microsoft-365-oauth-tokens-via-fake-security-conference-lures-and-whatsapp-support 🖥️ Windows 11 Agenda View กลับมาอีกครั้ง แต่มี Overhead Microsoft ได้นำฟีเจอร์ Agenda View กลับมาใน Windows 11 แต่ครั้งนี้ถูกสร้างบน WebView 2 ซึ่งแม้จะทำให้การแสดงผลยืดหยุ่นขึ้น แต่ก็มีข้อเสียคือ performance overhead ที่อาจทำให้ระบบทำงานช้าลง ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยให้ผู้ใช้ดูตารางนัดหมายได้สะดวกขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับการใช้ทรัพยากรที่มากกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/windows-11-agenda-view-is-back-but-built-on-webview-2-with-performance-overhead 🛡️ BRICKSTORM: มัลแวร์สายลับจากจีนที่ฝังตัวใน VMware และ ADFS มีรายงานใหม่จาก CISA และ NSA ร่วมกับหน่วยงานแคนาดา เปิดเผยการทำงานของมัลแวร์ชื่อ BRICKSTORM ที่ถูกใช้โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน จุดเด่นของมันคือความสามารถในการอยู่รอดในระบบเป้าหมายได้นานเกือบ 18 เดือนโดยไม่ถูกตรวจจับ เป้าหมายหลักคือโครงสร้างพื้นฐานเสมือนจริงอย่าง VMware และระบบ Windows โดยมันสามารถสร้าง VM ปลอมเพื่อขโมยข้อมูล รวมถึงใช้เทคนิคการสื่อสารที่ซับซ้อน เช่น HTTPS, WebSockets, TLS ซ้อนกันหลายชั้น และ DNS-over-HTTPS เพื่อพรางตัวให้เหมือนทราฟฟิกปกติ เรื่องนี้ถือเป็นภัยคุกคามระยะยาวที่องค์กรภาครัฐและ IT ต้องเร่งตรวจสอบ 🔗 https://securityonline.info/cisa-nsa-warn-of-brickstorm-backdoor-china-apt-targets-vmware-and-adfs-for-long-term-espionage 🧩 ช่องโหว่ lz4-java (CVE-2025-66566) รั่วข้อมูลหน่วยความจำ มีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในไลบรารี lz4-java ที่ใช้กันแพร่หลายสำหรับการบีบอัดข้อมูล ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถดึงข้อมูลที่ยังไม่ได้ถูกล้างออกจากหน่วยความจำระหว่างการดีคอมเพรสได้ ซึ่งอาจรวมถึงรหัสผ่านหรือคีย์เข้ารหัส ปัญหามาจากการที่บัฟเฟอร์ไม่ได้ถูกเคลียร์ก่อนใช้งานใหม่ ทำให้ข้อมูลเก่าหลุดออกมาได้ การโจมตีเกิดขึ้นเมื่อผู้โจมตีส่งข้อมูลบีบอัดที่ถูกปรับแต่งมาให้ระบบดีคอมเพรส ผลคือข้อมูลที่ควรจะถูกซ่อนกลับถูกเปิดเผยออกมา ทางแก้คือการอัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.10.1 หรือหากยังไม่สามารถทำได้ ต้องล้างบัฟเฟอร์ด้วยตนเองก่อนใช้งาน 🔗 https://securityonline.info/high-severity-lz4-java-flaw-cve-2025-66566-leaks-uninitialized-memory-during-decompression 🔐 ช่องโหว่ Cal.com (CVE-2025-66489) เปิดทางให้ข้ามการยืนยันตัวตน แพลตฟอร์ม Cal.com ที่ใช้จัดการตารางนัดหมาย ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถเข้าสู่ระบบได้โดยไม่ต้องใช้รหัสผ่านจริง หากใส่ค่าในช่อง TOTP (รหัสยืนยันแบบครั้งเดียว) ระบบจะข้ามการตรวจสอบรหัสผ่านทันที แม้ผู้ใช้เปิด 2FA ก็ยังเสี่ยงเพราะระบบตรวจสอบแค่ TOTP โดยไม่สนใจรหัสผ่าน ส่งผลให้แค่รู้ที่อยู่อีเมลก็สามารถเจาะบัญชีได้แล้ว ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงสูงสุดเกือบเต็ม 9.9 และมีการออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน 5.9.8 ผู้ใช้ควรรีบอัปเดตทันทีเพื่อป้องกันการถูกยึดบัญชี 🔗 https://securityonline.info/critical-cal-com-flaw-cve-2025-66489-cvss-9-9-allows-authentication-bypass-by-submitting-fake-totp-codes 🌐 WatchGuard VPN เจอช่องโหว่เสี่ยง DoS และ RCE ผลิตภัณฑ์ Firebox ของ WatchGuard ถูกพบช่องโหว่หลายรายการที่กระทบต่อระบบ VPN และอินเทอร์เฟซจัดการ โดยเฉพาะ CVE-2025-11838 ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้บริการ VPN ล่มได้โดยไม่ต้องมีสิทธิ์ใด ๆ นอกจากนี้ยังมีช่องโหว่การฉีดคำสั่ง CLI และ XPath Injection ที่เปิดโอกาสให้เข้าถึงข้อมูลหรือรันโค้ดอันตรายได้ ช่องโหว่เหล่านี้กระทบหลายเวอร์ชันของ Fireware OS และบริษัทได้ออกแพตช์ใหม่เพื่อแก้ไขแล้ว ผู้ดูแลระบบควรรีบอัปเดตเพื่อป้องกันการโจมตีที่อาจทำให้ระบบเครือข่ายเสียหาย 🔗 https://securityonline.info/high-severity-watchguard-flaws-risk-vpn-dos-and-rce-via-ikev2-memory-corruption 📡 MuddyWater ใช้ UDPGangster Backdoor เจาะระบบ กลุ่มแฮกเกอร์ที่เชื่อมโยงกับอิหร่านชื่อ MuddyWater ถูกพบว่ากำลังใช้มัลแวร์ใหม่ชื่อ UDPGangster เพื่อโจมตีหน่วยงานรัฐบาลและโครงสร้างพื้นฐานในตุรกี อิสราเอล และอาเซอร์ไบจาน จุดเด่นคือการสื่อสารผ่านโปรโตคอล UDP แทนที่จะใช้ HTTP/HTTPS ทำให้หลบเลี่ยงการตรวจจับได้ดี มัลแวร์ถูกส่งผ่านอีเมลฟิชชิ่งที่แนบไฟล์ Word พร้อมมาโคร เมื่อเหยื่อเปิดใช้งานก็จะติดตั้งตัวเองและสร้าง persistence บนเครื่อง จากนั้นผู้โจมตีสามารถสั่งรันคำสั่ง ขโมยไฟล์ และควบคุมเครื่องได้เต็มรูปแบบ ถือเป็นการโจมตีที่ซับซ้อนและมีการตรวจสอบสภาพแวดล้อมเพื่อหลบเลี่ยงการวิเคราะห์ 🔗 https://securityonline.info/iran-linked-muddywater-deploys-udpgangster-backdoor-using-udp-protocol-for-covert-c2 🕵️‍♂️ Intellexa ใช้ช่องโหว่ 15 รายการเพื่อแพร่กระจาย Predator Spyware บริษัทผู้ขายสปายแวร์ชื่อ Intellexa ถูกเปิดโปงว่าใช้ช่องโหว่แบบ zero-day ถึง 15 รายการตั้งแต่ปี 2021 เพื่อแพร่กระจายสปายแวร์ Predator โดยเฉพาะการโจมตีผ่าน iOS exploit chain ที่ชื่อ “smack” ซึ่งสามารถเจาะระบบ iPhone ได้โดยไม่ต้องมีการโต้ตอบจากผู้ใช้ Predator ถูกใช้เพื่อสอดแนมเป้าหมายระดับสูง เช่น นักข่าว นักการเมือง และนักกิจกรรม โดยมีการขายให้กับรัฐบาลหลายประเทศ การเปิดเผยนี้สะท้อนถึงการใช้เทคโนโลยีเชิงรุกเพื่อการสอดแนมที่อันตรายและยากต่อการป้องกัน 🔗 https://securityonline.info/spyware-vendor-intellexa-used-15-zero-days-since-2021-deploying-predator-via-smack-ios-exploit-chain 📉 urllib3 พบช่องโหว่เสี่ยงทำให้ระบบล่ม ไลบรารี Python ยอดนิยมอย่าง urllib3 ถูกพบช่องโหว่ที่ทำให้ผู้โจมตีสามารถทำให้ระบบผู้ใช้ล่มได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการดีคอมเพรสข้อมูลที่ไม่มีการจำกัด ทำให้หน่วยความจำถูกใช้จนหมด และการสตรีมข้อมูลที่ไม่ถูกควบคุมจนทำให้ทรัพยากรถูกใช้เกินขีดจำกัด ผลคือระบบอาจหยุดทำงานหรือไม่ตอบสนอง การโจมตีสามารถทำได้ง่ายเพียงส่งข้อมูลที่ถูกปรับแต่งมาให้ระบบจัดการ การแก้ไขคือการอัปเดตเวอร์ชันใหม่ที่มีการจำกัดการดีคอมเพรสและการสตรีมเพื่อป้องกันการโจมตีแบบ DoS 🔗 https://securityonline.info/urllib3-flaws-risk-client-dos-via-unbounded-decompression-and-streaming-resource-exhaustion 🎯 ValleyRAT หลอกผู้หางานด้วย Foxit PDF Reader ปลอม มีการค้นพบการโจมตีใหม่ที่ใช้มัลแวร์ ValleyRAT โดยกลุ่มผู้โจมตีได้ทำการ sideload DLL อันตรายเข้าไปใน Foxit PDF Reader ที่ถูกดัดแปลง จากนั้นนำไปเผยแพร่ในเว็บไซต์หางานภาษาอังกฤษเพื่อหลอกผู้ใช้ที่กำลังหางาน เมื่อเหยื่อดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรม PDF Reader ปลอมนี้ มัลแวร์จะถูกโหลดเข้ามาในระบบทันที ทำให้ผู้โจมตีสามารถควบคุมเครื่อง ขโมยข้อมูล และติดตั้ง payload เพิ่มเติมได้ การโจมตีนี้เน้นไปที่ผู้หางานในต่างประเทศที่อาจไม่ทันระวังภัย ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/valleyrat-targets-english-job-seekers-by-trojanizing-foxit-pdf-reader-with-dll-sideloading
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 704 มุมมอง 0 รีวิว
  • แผนชั่ว ตอนที่ 6

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว”
    ตอน 6
    ในที่สุด เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2007 CNPC หน่วยงานที่ดูแลด้านน้ำมัน ของรัฐบาลจีน ก็ตกลงทำสัญญากับรัฐบาลของชาด Chad ในการสร้างท่อส่งน้ำมัน หลังจากนั้น 2 ปี การก่อสร้างท่อส่งน้ำมันก็เริ่มดำเนินการ มันเป็นท่อส่งสำหรับน้ำมันบ่อใหม่ ที่จีน (แอบ) ไปลงทุนขุดใหม่ทางใต้ของชาด ห่างไปอีก 300 กิโลเมตร หลังจากนั้น กลุ่มเอ็นจีโอ ที่พวกตะวันตกสนับสนุน ก็ออกมาโว้ยว่า เป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อม มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และเมื่อตอน Chevron ขุดน้ำมันแถวนั้น ในปี ค.ศ.2003 เอ็นจีโอกลุ่มเดียวกันนี้ ไม่ออกมาโวย ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน
    แล้วเดือนกรกฏาคม ค.ศ.2011 ชาดและจีน ก็ฉลองการเปิดดำเนินการของโรงกลั่นน้ำมัน ที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของชาด ที่ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมทุนกัน โรงกลั่นนี้ ว่าไปแล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสำรวจที่จีนไปลงทุนไว้ตอนแรก ในบริเวณดาร์ฟูที่ติดกับชาด และจีนถูกไม้กั้น ไม่เสี้ยม จนยังกินแห้วอยู่นั่นเอง แม้จะกินแห้วของดาร์ฟู แต่แหล่งที่จีนได้ใหม่ ที่ชาดก็น่าจะชดเชยของเดิม ที่ถูกถีบออกมาได้อย่างน่าทึ่ง
    จากการประเมินทางภูมิศาสตร์ สายน้ำมันน่าจะไหลมาจากดาร์ฟู ผ่านมาที่ชาด และต่อไปถึงแคเมอรูน ขนาดของแหล่งน้ำมันนี้ประเมินกันว่า ใหญ่มหาศาลนัก อาจจะเท่ากับแหล่งน้ำมันที่ซาอุดิอารเบียเสียด้วยซ้ำ การควบคุมซูดานใต้ ชาดและแคเมอรูน จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญรายการใหม่ ของสภาความมั่นคงของอเมริกา คราวนี้เป็น “ยุทธศาสตร์ขวางจีน” เต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้จีน เข้าไปสู่แหล่งพลังงานทุกแห่งในโลก โดยเฉพาะที่อาฟริกา
    หมากตัวสำคัญ ที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ขวางจีนในอาฟริกา เป็นผลสำเร็จหรือไม่ คือ กัดดาฟี แห่งลิเบีย เป็นกัดดาฟีที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับตะวันตก และต่อสู้ทุกเม็ด ทุกหมากกับอเมริกา และอังกฤษ เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศตนและอาฟริกา รวมไปถีงประเทศในตะวันออกกลาง กัดดาฟี พยายามตั้งสถาบันการเงิน เหมือนธนาคารโลก เพื่อช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาฟริกา จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของก๊วนหน้าเลือด ใจร้าย World Bank, IMF และที่สำคัญ กัดดาฟี ไม่ปฏิเสธ ที่จะคบ และค้าขายกับรัสเซียและจีน
    เขาจึงเป็นบุคคลที่อเมริกา และอังกฤษรังเกียจยิ่งนัก
    ลิเบีย เป็นประเทศในอาฟริกา ที่ด้านเหนือ ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข้ามทะเลไปก็เป็นอิตาลี ซึ่งบริษัทน้ำมัน ENI ของอิตาลี เป็นผู้มาร่วมงานขุดเจาะน้ำมัน กับลิเบียอยู่นาน ตะวันตกของลิเบียติดกับ ตูนีเซีย และอัลจีเรีย ทางด้านใต้ ติดกับชาด ส่วนตะวันออกติดกับซูดาน ทั้งเหนือและใต้ และอียิปต์ ที่ตั้งของลิเบียจึงเหมือนอยู่กลางดงน้ำมัน คงมีใครมองว่า ลิเบียเหมาะที่จะใช้เป็นศูนย์กลาง ในการควบคุมดงน้ำมันอย่างยิ่ง
    ลิเบีย ไม่ให้ใครมาเป็นเจ้าของปั้มลิเบีย ลิเบียเป็นเจ้าของปั้มเอง ขายเอง ดูแลแหล่งน้ำมันที่มีคุณภาพสูงเอง ในปี ค.ศ.2006 ลิเบียเป็นเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่ได้รับการสำรวจและพิสูจน์ว่า มีน้ำมันแล้วถึง 35% ของน้ำมันทั้งหมดในอาฟริกา มีมากกว่าไนจีเรีย ที่อเมริกาคว้าคออยู่หมัดเสียอีก
    นอกจากนี้ ลิเบียยังให้สัมปทานน้ำมัน แก่รัฐบาลจีนด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาล กับ รัฐบาล
    แบบนี้ อเมริกาจะทนดู ลิเบีย ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ในกลางดงน้ำมัน (ที่อเมริกาอยากครอบครอง) ได้หรือ อเมริกามองว่า ตราบใดที่รัฐบาลกัดดาฟีเข้มแข็ง มีอำนาจอยู่ที่เมืองทริโปลี และควบคุมแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในอาฟริกา แผนการของอเมริกา ตามยุทธศาสตร์ขวางจีน คงสำเร็จยาก การแบ่งแยกซูดานเป็น 2 ประเทศ และการยุ การเสี้ยมให้เกิดการกบฏในลิเบียต้องทำพร้อมกัน จึงพอจะมีทางเอากัดดาฟี่มาขึงพืดได้
    นี่จึงเป็นภาระกิจสำคัญและเป็น “งาน” ของจริง สำหรับ AFRICOM ที่คงไม่ได้แถลงกันในรัฐสภาให้คนอเมริกันรู้
    AFRICOM รับหน้าที่เป็นกองกำลังหลัก ในปฏิบัติการทำลายกัดดาฟีและลิเบีย รวมทั้งในการสร้างกบฏ เปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในตูนีเซีย อียิปต์ และสร้างรัฐซูดานใต้ทั้งหมด เพื่อให้แหล่งน้ำมันใหญ่ ในประเทศเหล่านี้ ไม่มีเจ้าของดูแลควบคุม อเมริกาและพวก จะได้เข้าไปควบคุมแทน
    มันเป็นปฏิบัติการเก็บเจ้าของปั้ม แล้วปล้นเอาปั้มเขามา นั่นเอง
    แต่อเมริกาไม่กล้ารบเดี่ยว อยากจะปล้น แต่ก็คงปอดแหกเหมือนกัน กัดดาฟีไม่ได้เคี้ยวง่ายเหมือนซูดาน กัดดาฟี มีทั้งเขี้ยวยาว และอาวุธทันสมัยที่ซื้อจากอเมริกาและรัสเซีย เก็บเงียบอยู่เต็มลิเบีย คราวนี้ อเมริกาจะใช้พระเอกหนังไปเดินทำหน้าเศร้า ก็คงไม่สำเร็จ อเมริกาจึงดึงนาโต้เข้ามาเล่นเต็มอัตรา
    ปี ค.ศ.2010 นาโต้ ไปกวาดต้อนเอาสาระพัดพันธ์ุ ตั้งแต่อดีตนักการเมืองที่เคยอยู่กับกัดดาฟี แต่บัดนี้ขัดใจกันแล้ว อดีตนักธุรกิจขี้โกงที่หนีคดี ไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนประกอบแบบนี้ คุ้นไหมครับ ส่วนประกอบที่สำคัญอีก 2 ส่วนคือ เด็กในกระเป๋า ซีไอเอ ที่ได้รับการฝึก รับเงินและก็ไปร่วมรบกับ ซีไอเอ หลายที่ เช่น อาฟกานิสถาน อิรัค เป็นต้น อีกส่วนหนึ่งคือ ทหารรับจ้าง หรือที่สมัยใหม่นี้ เรียกว่า ผู้รับเหมา contractor รับเหมาทำอะไรบ้าง ก็คงพอเดากันออก มันเป็นการผสมพันธุ์โหด ที่เตรียมเอาไว้เชือดกัดดาฟี
    กลุ่มสาระพัดพันธ์ุนี่ เรียกตัวเองว่า กลุ่ม TNC Transitional Nation Council
    กลุ่ม TNC ออกมาด่าว่า กัดดาฟี่เป็นเผด็จการรวบอำนาจ กดขี่ ประชาชน ต้องการให้ กัดดาฟีลาออก มีการเลือกตั้งใหม่ และปกครองตามระบอบประชาธิปไตย แหม โรเนียวนี้ใช้จนเก่าเน่าแล้ว ไม่เปลี่ยนเลยหรือพี่
    กัดดาฟี เป็นเผด็จการจริง มีทั้งพวกที่บอกว่า เขาทำประโยชน์ให้กับชาวลิเบีย และก็มีพวกที่บอกว่า เขาข่มขู่บังคับชาวลิเบีย จึงคงมีทั้งพวกที่รักเขา และพวกที่เกลียดเขา แต่ลองดูจากหลายสิ่งที่เขาทำให้กับชาวลิเบีย มันก็พอบอกได้ว่า เขาดี เลวอย่างไรกับลิเบีย
    – ชาวลิเบีย ได้รับการรักษาพยาบาล และเรียนหนังสือฟรี ( อย่าบอกนะว่า เหมือน 30 บาท รักษาทุกโรค)
    – ชาวลิเบียไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้า
    – ชาวลิเบียกู้เงินไม่เสียดอกเบี้ยจากธนาคารของรัฐ ซึ่งใหญ่มาก และกัดดาฟีมีแผนจะสร้าง ให้มีเงินทุนมากกว่า World Bank เพื่อให้ ชาวอาฟริกันกู้ด้วย
    – รัฐบาลกัดดาฟี สร้างระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการสร้างแม่น้ำทั่วประเทศ ชาวลิเบีย ไม่มีการขาดน้ำตลอดปี
    – ถ้าชาวลิเบียต้องการทำฟาร์มเพาะ ปลูก และเลี้ยงสัตว์ รัฐจะยกที่ดินให้ฟรี แถมปลูกบ้านให้ พร้อมแจกพันธ์ุพืชและสัตว์ ฟรีหมด เพราะรัฐสนับสนุนให้สร้าง “อาหาร” จะได้ไม่อดตาย
    – เมื่อหญิงชาวลิเบียคลอดลูก จะได้รับเงินช่วยจากรัฐ จำนวน 5 พันเหรียญ เขาสนับสนุนให้มีชาวลิเบียอยู่ในโลก ไม่ใช่ถูกตอนพันธ์
    – รัฐบาลกัดดาฟี ยืนราคาน้ำมันขายในลิเบีย ที่ลิตรละ 14 เซ็นต์ (ประมาณ 5 บาท)
    – รัฐบาลกัดดาฟีส่งเสริมการศึกษา ก่อนเขาปกครอง มีคนอ่านหนังสือออกเพียง 25% ช่วง 40 ปี ที่กัดดาฟี ปกครองลิเบีย จำนวนคนอ่านหนังสือออก เพิ่มเป็นเกือบ 90% และมีคนศึกษาจบระดับปริญญา 25%
    TNC เป็นแนวหน้าที่นาโต้เตรียมไว้ให้ไปสู้ และตายแทนกองกำลังนาโต้ ส่วนทหารนาโต้ นั่งคอยดูผลงาน TNC ไปก่อน นี่เป็นเพียงก๊อก 1
    ก๊อก 1 เริ่มงานด้วยการ ออกมาประท้วงกัดดาฟีตามเมืองต่างๆว่า เป็นเผด็จการ พวกเขาต้องการประชาธิปไตย และการประท้วงครั้งแรกในลืเบีย ก็เกิดขึ้นที่เมือง Cyrenaica เมืองที่เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ ทางตะวันออกของลิเบีย หลังจากนั้น การประท้วงก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และขยายตัวออกไป และในที่สุดก็ยึดเมืองสำคัญอย่าง เบงกาซี Benghazi ได้
    หลังจากนั้น กระป๋องสีย้อมข่าวใบใหญ่ ซีเอนเอน ก็รับช่วงรายงานข่าวทุกวันว่า กัดดาฟี ชั่วช้า กระทำรุนแรง ตั้งใจฆ่าประชาชน ด้วยการเอาเครื่องบินมาถล่มพวกกบฏมือเปล่า แบบนี้นานาชาติใจบุญ จะทนดูชาวลิเบียโดนระเบิดทุกวันไหวยังไง
    อังกฤษกับฝรั่งเศส รีบถลาไปเอาหน้าเกือบไม่ทัน บอกว่าไม่ได้นะ แบบนี่มันละเมิดกฏ “No Fly Zone” ของสหประชาชาติ ว่าเข้าไปโน่น สหประชาชาติ เลยมีมติกำหนดเขตห้ามบิน No Fly Zone ตามเมืองต่างๆในลิเบีย เครื่องบินของฝ่ายรัฐบาลหรือกัดดาฟี บินไม่ได้ แต่ของกองกำลังผสมของนานาชาติบินได้ ทิ้งระเบิดได้ มีปัญหาไหม ไม่มีคร้าบ… พวกเอ็งมันใหญ่ค้ำโลกแล้ว ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย
    ก๊อก 2 คือ กองกำลังผสมของนานาชาติ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อร่วมกันเชือด กัดดาฟี ทรัพยากรลิเบียแยะนัก กองกำลังร่วมเชือด เลยแยะตามไปด้วย หวังได้แบ่งส่วนบุญ กองกำลังผสม นำโดยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และลูกกระเป๋ง อย่าง กาต้าร์ สหรัฐเอมิเรต เบลเยี่ยม อิตาลี เดนมาร์ค นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์และสเปญ เอาชื่อมาโชว์ให้ดูหมด จะได้รู้ว่าใคร อยู่ตรงไหน… โถ นึกว่ารวยแล้วไม่ตะกระ …แถวบ้านผมเคยมี ที่รวยแล้ว ทั้งตะกระ ทั้งโกง….
    ช่วงแรก กองกำลังผสมบัญชาการโดยอเมริกา ช่วงหลัง บัญชาการโดยนาโต้ ไม่รู้จะดัดจริต เปลี่ยนทำไม ยังไงอเมริกาก็คุมนาโต้อยู่แล้ว
    จริงๆ ช่วงแรก อเมริกานำ ก็เพราะต้องการจะเข้าลิเบียไปก่อนใคร เพื่อค้นหาสมบัติของกัดดาฟี โดยเฉพาะ พวกอาวุธที่แอบเก็บตามโกดังนั่นแหละ ใครๆ ก็อยากงาบต่อทั้งนั้น
    แล้วกองกำลังผสมของชาติต่างๆ บวกกองกำลังของนาโต้เอง บวกกองกำลังฝ่ายกบฏ บวกกองกำลังของผู้รับเหมา บวกกองกำลังทหารของอเมริกา (เอะ นี่ผมตกกองอะไร ของใครอีกไหม มันแยะ เละไปหมด) ก็ไล่ล่ากัดดาฟีอยู่ 8 เดือน กัดดาฟีหนีไปเมืองไหน ยิงกันอย่างไร บ้านเรือนพังฉิบหายขนาดไหน คนเจ็บคนตายนอนน่าสมเพชเกลื่อน ถนนเท่าไหร่ ไอ้กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ซีเอนเอน รายงานข่าวละเอียดละออ ชาวบ้านได้ดูข่าวการไล่ล่า และไล่ฆ่า เป็นรายการสดทางทีวี ทุกวัน ทุกคืน
    เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2011 นาโต้ประกาศว่า ได้ทิ้งระเบิด ที่บริเวณบ้านใหญ่ ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีรอบใหญ่ บ้านพังฉิบหายยับ แต่ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย แต่มีคนอื่นตายแทน เป็นลูกชายคนเล็กของกัดดาฟี และหลานปู่เล็กๆ อีก 3 คน เวร…..
    แล้วในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2011 กัดดาฟี ก็ถูกฆ่าตายที่เมืองบ้านเกิดของเขา Sirte ขณะที่อยู่กับกองกำลังของตัว ที่ล้อมหน้า ล้อมหลัง แต่มันมาทางจากข้างบน เป็นจรวดไล่ยิง จะไปคุ้มกันยังไงไหว เล่นยิงใส่ขบวนรถของพวกกัดดาฟี ที่กำลังขับหนีออกจาก Sirte รถกระเด็นพลิกคว่ำ บ้านเรือนแถบนั้นพังเป็นแถบ คนจะรอดหรือ แล้วกัดดาฟีพร้อมลูกชาย 2 คน และลูกน้องคนสนิทหลายคน ก็ตายเรียบ
    หลังจากนั้น เขาว่าพวกกบฏก็บุกเขาไปเอาร่างกัดดาฟีออกมา ลากไปตามถนนโห่ร้องยินดี บางข่าว บอกว่าเขาตายตั้งแต่โดนจรวด บางข่าวบอก เขายังไม่ตาย แค่เกือบ เขาหลุดออกมาจากรถ ไปแอบซ่อนตัวอยู่ในท่อ แต่มาตายตอนที่พวกกบฏลากตัวขึ้น มาจากท่อ ไปตามถนน ก่อนลาก ทุบเสียละเอียด ก่อน ทุบ จับแก้ผ้า และชำเราทางทวารหนักก่อน บางสื่อลงภาพเขานอนตาย หัวเป็นรู จากรอยกระสุน
    2 วัน ก่อนที่กัดดาฟีจะถูกจับ คุณนายคลินตัน สตรีหน้าโหด ( ผมเห็นหน้าคุณนายในทีวีทีไร ฝันร้ายทุกที ผู้หญิงอะไร น่ากลัวชะมัด) ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินทางไปที่เมือง ทริโปลี Tripoli ด้วยเครื่องบินทหาร ที่มีการคุ้มกันหลายชั้น แม้แต่แมลงวันที่คุ้นเคยกัน ก็คงเข้าไปตอมคุณนายไม่ถึง คุณนายประกาศเสียงดังฟังชัดว่า เราจะต้องจับตัวกัดดาฟี มาให้ได้ ไม่ว่า จับตาย หรือจับเป็น “dead or alive”
    นี่! มันยิ่งกว่าบทพระเอก ไปทำหน้าเศร้าที่ซูดานอีกนะ บทนี้มันเป็นบทนางสิงห์สั่งฆ่าเลย
    กัดดาฟี จะอย่างไรก็เป็นประมุขประเทศ เป็นประเทศเอกราช ไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร ทำดี ทำชั่ว ศาลระหว่างประเทศมี อเมริกา และรัฐมนตรีต่างประเทศของตน ใช้สิทธิอะไร เที่ยวประกาศ ตัดสินว่า ประเทศไหน ต้องมีนโยบายอย่างไร ประมุขประเทศ ต้องทำตัวอย่างไร ตามใจอเมริกาอย่างไร ถ้าไม่ถูกใจนี่ อเมริกา สั่งฆ่าได้เลยหรือ เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ และสะอิดสะเอียนที่สุด
    เรื่องนี้ สำนักข่าว Associated Press รายงานข่าวว่า
    … นางคลินตันพูดแบบไม่อ้อมค้อมเป็นพิเศษว่า อเมริกา ต้องการเห็น อดีตเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถึงแก่ความตาย….
    … เราหวังว่า เขาจะถูกจับ หรือถูก ฆ่า เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ต้องกลัวเขาอีกต่อไป
    .. Clinton declared in unusually blunt terms that the United States would like to see former dictator Muammar Gaddafi dead..
    …We hope he can be captured or killed soon so that you don’t have to fear him any longer…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    19 ก.ย. 2558
    แผนชั่ว ตอนที่ 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “แผนชั่ว” ตอน 6 ในที่สุด เดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2007 CNPC หน่วยงานที่ดูแลด้านน้ำมัน ของรัฐบาลจีน ก็ตกลงทำสัญญากับรัฐบาลของชาด Chad ในการสร้างท่อส่งน้ำมัน หลังจากนั้น 2 ปี การก่อสร้างท่อส่งน้ำมันก็เริ่มดำเนินการ มันเป็นท่อส่งสำหรับน้ำมันบ่อใหม่ ที่จีน (แอบ) ไปลงทุนขุดใหม่ทางใต้ของชาด ห่างไปอีก 300 กิโลเมตร หลังจากนั้น กลุ่มเอ็นจีโอ ที่พวกตะวันตกสนับสนุน ก็ออกมาโว้ยว่า เป็นการทำลาย สิ่งแวดล้อม มันไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ และเมื่อตอน Chevron ขุดน้ำมันแถวนั้น ในปี ค.ศ.2003 เอ็นจีโอกลุ่มเดียวกันนี้ ไม่ออกมาโวย ก็ไม่ใช่เป็นเรื่องน่าแปลกใจเช่นเดียวกัน แล้วเดือนกรกฏาคม ค.ศ.2011 ชาดและจีน ก็ฉลองการเปิดดำเนินการของโรงกลั่นน้ำมัน ที่อยู่ใกล้กับเมืองหลวงของชาด ที่ทั้ง 2 ฝ่ายร่วมทุนกัน โรงกลั่นนี้ ว่าไปแล้ว ก็อยู่ไม่ไกลจากแหล่งสำรวจที่จีนไปลงทุนไว้ตอนแรก ในบริเวณดาร์ฟูที่ติดกับชาด และจีนถูกไม้กั้น ไม่เสี้ยม จนยังกินแห้วอยู่นั่นเอง แม้จะกินแห้วของดาร์ฟู แต่แหล่งที่จีนได้ใหม่ ที่ชาดก็น่าจะชดเชยของเดิม ที่ถูกถีบออกมาได้อย่างน่าทึ่ง จากการประเมินทางภูมิศาสตร์ สายน้ำมันน่าจะไหลมาจากดาร์ฟู ผ่านมาที่ชาด และต่อไปถึงแคเมอรูน ขนาดของแหล่งน้ำมันนี้ประเมินกันว่า ใหญ่มหาศาลนัก อาจจะเท่ากับแหล่งน้ำมันที่ซาอุดิอารเบียเสียด้วยซ้ำ การควบคุมซูดานใต้ ชาดและแคเมอรูน จึงเป็นยุทธศาสตร์สำคัญรายการใหม่ ของสภาความมั่นคงของอเมริกา คราวนี้เป็น “ยุทธศาสตร์ขวางจีน” เต็มรูปแบบ เพื่อไม่ให้จีน เข้าไปสู่แหล่งพลังงานทุกแห่งในโลก โดยเฉพาะที่อาฟริกา หมากตัวสำคัญ ที่จะทำให้ยุทธศาสตร์ขวางจีนในอาฟริกา เป็นผลสำเร็จหรือไม่ คือ กัดดาฟี แห่งลิเบีย เป็นกัดดาฟีที่ไม่ยอมก้มหัวให้กับตะวันตก และต่อสู้ทุกเม็ด ทุกหมากกับอเมริกา และอังกฤษ เพื่อที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศตนและอาฟริกา รวมไปถีงประเทศในตะวันออกกลาง กัดดาฟี พยายามตั้งสถาบันการเงิน เหมือนธนาคารโลก เพื่อช่วยเหลือประเทศในกลุ่มอาฟริกา จะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของก๊วนหน้าเลือด ใจร้าย World Bank, IMF และที่สำคัญ กัดดาฟี ไม่ปฏิเสธ ที่จะคบ และค้าขายกับรัสเซียและจีน เขาจึงเป็นบุคคลที่อเมริกา และอังกฤษรังเกียจยิ่งนัก ลิเบีย เป็นประเทศในอาฟริกา ที่ด้านเหนือ ติดกับทะเลเมดิเตอเรเนียน ข้ามทะเลไปก็เป็นอิตาลี ซึ่งบริษัทน้ำมัน ENI ของอิตาลี เป็นผู้มาร่วมงานขุดเจาะน้ำมัน กับลิเบียอยู่นาน ตะวันตกของลิเบียติดกับ ตูนีเซีย และอัลจีเรีย ทางด้านใต้ ติดกับชาด ส่วนตะวันออกติดกับซูดาน ทั้งเหนือและใต้ และอียิปต์ ที่ตั้งของลิเบียจึงเหมือนอยู่กลางดงน้ำมัน คงมีใครมองว่า ลิเบียเหมาะที่จะใช้เป็นศูนย์กลาง ในการควบคุมดงน้ำมันอย่างยิ่ง ลิเบีย ไม่ให้ใครมาเป็นเจ้าของปั้มลิเบีย ลิเบียเป็นเจ้าของปั้มเอง ขายเอง ดูแลแหล่งน้ำมันที่มีคุณภาพสูงเอง ในปี ค.ศ.2006 ลิเบียเป็นเจ้าของแหล่งน้ำมัน ที่ได้รับการสำรวจและพิสูจน์ว่า มีน้ำมันแล้วถึง 35% ของน้ำมันทั้งหมดในอาฟริกา มีมากกว่าไนจีเรีย ที่อเมริกาคว้าคออยู่หมัดเสียอีก นอกจากนี้ ลิเบียยังให้สัมปทานน้ำมัน แก่รัฐบาลจีนด้วย ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นเรื่องระหว่างรัฐบาล กับ รัฐบาล แบบนี้ อเมริกาจะทนดู ลิเบีย ทำอะไรตามใจตัวเองอยู่ในกลางดงน้ำมัน (ที่อเมริกาอยากครอบครอง) ได้หรือ อเมริกามองว่า ตราบใดที่รัฐบาลกัดดาฟีเข้มแข็ง มีอำนาจอยู่ที่เมืองทริโปลี และควบคุมแหล่งน้ำมันใหญ่ที่สุดในอาฟริกา แผนการของอเมริกา ตามยุทธศาสตร์ขวางจีน คงสำเร็จยาก การแบ่งแยกซูดานเป็น 2 ประเทศ และการยุ การเสี้ยมให้เกิดการกบฏในลิเบียต้องทำพร้อมกัน จึงพอจะมีทางเอากัดดาฟี่มาขึงพืดได้ นี่จึงเป็นภาระกิจสำคัญและเป็น “งาน” ของจริง สำหรับ AFRICOM ที่คงไม่ได้แถลงกันในรัฐสภาให้คนอเมริกันรู้ AFRICOM รับหน้าที่เป็นกองกำลังหลัก ในปฏิบัติการทำลายกัดดาฟีและลิเบีย รวมทั้งในการสร้างกบฏ เปลี่ยนแปลงรัฐบาล ในตูนีเซีย อียิปต์ และสร้างรัฐซูดานใต้ทั้งหมด เพื่อให้แหล่งน้ำมันใหญ่ ในประเทศเหล่านี้ ไม่มีเจ้าของดูแลควบคุม อเมริกาและพวก จะได้เข้าไปควบคุมแทน มันเป็นปฏิบัติการเก็บเจ้าของปั้ม แล้วปล้นเอาปั้มเขามา นั่นเอง แต่อเมริกาไม่กล้ารบเดี่ยว อยากจะปล้น แต่ก็คงปอดแหกเหมือนกัน กัดดาฟีไม่ได้เคี้ยวง่ายเหมือนซูดาน กัดดาฟี มีทั้งเขี้ยวยาว และอาวุธทันสมัยที่ซื้อจากอเมริกาและรัสเซีย เก็บเงียบอยู่เต็มลิเบีย คราวนี้ อเมริกาจะใช้พระเอกหนังไปเดินทำหน้าเศร้า ก็คงไม่สำเร็จ อเมริกาจึงดึงนาโต้เข้ามาเล่นเต็มอัตรา ปี ค.ศ.2010 นาโต้ ไปกวาดต้อนเอาสาระพัดพันธ์ุ ตั้งแต่อดีตนักการเมืองที่เคยอยู่กับกัดดาฟี แต่บัดนี้ขัดใจกันแล้ว อดีตนักธุรกิจขี้โกงที่หนีคดี ไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนประกอบแบบนี้ คุ้นไหมครับ ส่วนประกอบที่สำคัญอีก 2 ส่วนคือ เด็กในกระเป๋า ซีไอเอ ที่ได้รับการฝึก รับเงินและก็ไปร่วมรบกับ ซีไอเอ หลายที่ เช่น อาฟกานิสถาน อิรัค เป็นต้น อีกส่วนหนึ่งคือ ทหารรับจ้าง หรือที่สมัยใหม่นี้ เรียกว่า ผู้รับเหมา contractor รับเหมาทำอะไรบ้าง ก็คงพอเดากันออก มันเป็นการผสมพันธุ์โหด ที่เตรียมเอาไว้เชือดกัดดาฟี กลุ่มสาระพัดพันธ์ุนี่ เรียกตัวเองว่า กลุ่ม TNC Transitional Nation Council กลุ่ม TNC ออกมาด่าว่า กัดดาฟี่เป็นเผด็จการรวบอำนาจ กดขี่ ประชาชน ต้องการให้ กัดดาฟีลาออก มีการเลือกตั้งใหม่ และปกครองตามระบอบประชาธิปไตย แหม โรเนียวนี้ใช้จนเก่าเน่าแล้ว ไม่เปลี่ยนเลยหรือพี่ กัดดาฟี เป็นเผด็จการจริง มีทั้งพวกที่บอกว่า เขาทำประโยชน์ให้กับชาวลิเบีย และก็มีพวกที่บอกว่า เขาข่มขู่บังคับชาวลิเบีย จึงคงมีทั้งพวกที่รักเขา และพวกที่เกลียดเขา แต่ลองดูจากหลายสิ่งที่เขาทำให้กับชาวลิเบีย มันก็พอบอกได้ว่า เขาดี เลวอย่างไรกับลิเบีย – ชาวลิเบีย ได้รับการรักษาพยาบาล และเรียนหนังสือฟรี ( อย่าบอกนะว่า เหมือน 30 บาท รักษาทุกโรค) – ชาวลิเบียไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้า – ชาวลิเบียกู้เงินไม่เสียดอกเบี้ยจากธนาคารของรัฐ ซึ่งใหญ่มาก และกัดดาฟีมีแผนจะสร้าง ให้มีเงินทุนมากกว่า World Bank เพื่อให้ ชาวอาฟริกันกู้ด้วย – รัฐบาลกัดดาฟี สร้างระบบชลประทานที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยการสร้างแม่น้ำทั่วประเทศ ชาวลิเบีย ไม่มีการขาดน้ำตลอดปี – ถ้าชาวลิเบียต้องการทำฟาร์มเพาะ ปลูก และเลี้ยงสัตว์ รัฐจะยกที่ดินให้ฟรี แถมปลูกบ้านให้ พร้อมแจกพันธ์ุพืชและสัตว์ ฟรีหมด เพราะรัฐสนับสนุนให้สร้าง “อาหาร” จะได้ไม่อดตาย – เมื่อหญิงชาวลิเบียคลอดลูก จะได้รับเงินช่วยจากรัฐ จำนวน 5 พันเหรียญ เขาสนับสนุนให้มีชาวลิเบียอยู่ในโลก ไม่ใช่ถูกตอนพันธ์ – รัฐบาลกัดดาฟี ยืนราคาน้ำมันขายในลิเบีย ที่ลิตรละ 14 เซ็นต์ (ประมาณ 5 บาท) – รัฐบาลกัดดาฟีส่งเสริมการศึกษา ก่อนเขาปกครอง มีคนอ่านหนังสือออกเพียง 25% ช่วง 40 ปี ที่กัดดาฟี ปกครองลิเบีย จำนวนคนอ่านหนังสือออก เพิ่มเป็นเกือบ 90% และมีคนศึกษาจบระดับปริญญา 25% TNC เป็นแนวหน้าที่นาโต้เตรียมไว้ให้ไปสู้ และตายแทนกองกำลังนาโต้ ส่วนทหารนาโต้ นั่งคอยดูผลงาน TNC ไปก่อน นี่เป็นเพียงก๊อก 1 ก๊อก 1 เริ่มงานด้วยการ ออกมาประท้วงกัดดาฟีตามเมืองต่างๆว่า เป็นเผด็จการ พวกเขาต้องการประชาธิปไตย และการประท้วงครั้งแรกในลืเบีย ก็เกิดขึ้นที่เมือง Cyrenaica เมืองที่เป็นแหล่งน้ำมันใหญ่ ทางตะวันออกของลิเบีย หลังจากนั้น การประท้วงก็รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ และขยายตัวออกไป และในที่สุดก็ยึดเมืองสำคัญอย่าง เบงกาซี Benghazi ได้ หลังจากนั้น กระป๋องสีย้อมข่าวใบใหญ่ ซีเอนเอน ก็รับช่วงรายงานข่าวทุกวันว่า กัดดาฟี ชั่วช้า กระทำรุนแรง ตั้งใจฆ่าประชาชน ด้วยการเอาเครื่องบินมาถล่มพวกกบฏมือเปล่า แบบนี้นานาชาติใจบุญ จะทนดูชาวลิเบียโดนระเบิดทุกวันไหวยังไง อังกฤษกับฝรั่งเศส รีบถลาไปเอาหน้าเกือบไม่ทัน บอกว่าไม่ได้นะ แบบนี่มันละเมิดกฏ “No Fly Zone” ของสหประชาชาติ ว่าเข้าไปโน่น สหประชาชาติ เลยมีมติกำหนดเขตห้ามบิน No Fly Zone ตามเมืองต่างๆในลิเบีย เครื่องบินของฝ่ายรัฐบาลหรือกัดดาฟี บินไม่ได้ แต่ของกองกำลังผสมของนานาชาติบินได้ ทิ้งระเบิดได้ มีปัญหาไหม ไม่มีคร้าบ… พวกเอ็งมันใหญ่ค้ำโลกแล้ว ใครจะกล้ามีปัญหาด้วย ก๊อก 2 คือ กองกำลังผสมของนานาชาติ ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อร่วมกันเชือด กัดดาฟี ทรัพยากรลิเบียแยะนัก กองกำลังร่วมเชือด เลยแยะตามไปด้วย หวังได้แบ่งส่วนบุญ กองกำลังผสม นำโดยอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา และลูกกระเป๋ง อย่าง กาต้าร์ สหรัฐเอมิเรต เบลเยี่ยม อิตาลี เดนมาร์ค นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์และสเปญ เอาชื่อมาโชว์ให้ดูหมด จะได้รู้ว่าใคร อยู่ตรงไหน… โถ นึกว่ารวยแล้วไม่ตะกระ …แถวบ้านผมเคยมี ที่รวยแล้ว ทั้งตะกระ ทั้งโกง…. ช่วงแรก กองกำลังผสมบัญชาการโดยอเมริกา ช่วงหลัง บัญชาการโดยนาโต้ ไม่รู้จะดัดจริต เปลี่ยนทำไม ยังไงอเมริกาก็คุมนาโต้อยู่แล้ว จริงๆ ช่วงแรก อเมริกานำ ก็เพราะต้องการจะเข้าลิเบียไปก่อนใคร เพื่อค้นหาสมบัติของกัดดาฟี โดยเฉพาะ พวกอาวุธที่แอบเก็บตามโกดังนั่นแหละ ใครๆ ก็อยากงาบต่อทั้งนั้น แล้วกองกำลังผสมของชาติต่างๆ บวกกองกำลังของนาโต้เอง บวกกองกำลังฝ่ายกบฏ บวกกองกำลังของผู้รับเหมา บวกกองกำลังทหารของอเมริกา (เอะ นี่ผมตกกองอะไร ของใครอีกไหม มันแยะ เละไปหมด) ก็ไล่ล่ากัดดาฟีอยู่ 8 เดือน กัดดาฟีหนีไปเมืองไหน ยิงกันอย่างไร บ้านเรือนพังฉิบหายขนาดไหน คนเจ็บคนตายนอนน่าสมเพชเกลื่อน ถนนเท่าไหร่ ไอ้กระป๋องใส่สีย้อมข่าว ซีเอนเอน รายงานข่าวละเอียดละออ ชาวบ้านได้ดูข่าวการไล่ล่า และไล่ฆ่า เป็นรายการสดทางทีวี ทุกวัน ทุกคืน เดือนมีนาคม ปี ค.ศ.2011 นาโต้ประกาศว่า ได้ทิ้งระเบิด ที่บริเวณบ้านใหญ่ ของกัดดาฟี ที่ทริโปลีรอบใหญ่ บ้านพังฉิบหายยับ แต่ยังไม่เจอกัดดาฟี ไม่ว่าเป็นหรือตาย แต่มีคนอื่นตายแทน เป็นลูกชายคนเล็กของกัดดาฟี และหลานปู่เล็กๆ อีก 3 คน เวร….. แล้วในเดือนตุลาคม ปี ค.ศ.2011 กัดดาฟี ก็ถูกฆ่าตายที่เมืองบ้านเกิดของเขา Sirte ขณะที่อยู่กับกองกำลังของตัว ที่ล้อมหน้า ล้อมหลัง แต่มันมาทางจากข้างบน เป็นจรวดไล่ยิง จะไปคุ้มกันยังไงไหว เล่นยิงใส่ขบวนรถของพวกกัดดาฟี ที่กำลังขับหนีออกจาก Sirte รถกระเด็นพลิกคว่ำ บ้านเรือนแถบนั้นพังเป็นแถบ คนจะรอดหรือ แล้วกัดดาฟีพร้อมลูกชาย 2 คน และลูกน้องคนสนิทหลายคน ก็ตายเรียบ หลังจากนั้น เขาว่าพวกกบฏก็บุกเขาไปเอาร่างกัดดาฟีออกมา ลากไปตามถนนโห่ร้องยินดี บางข่าว บอกว่าเขาตายตั้งแต่โดนจรวด บางข่าวบอก เขายังไม่ตาย แค่เกือบ เขาหลุดออกมาจากรถ ไปแอบซ่อนตัวอยู่ในท่อ แต่มาตายตอนที่พวกกบฏลากตัวขึ้น มาจากท่อ ไปตามถนน ก่อนลาก ทุบเสียละเอียด ก่อน ทุบ จับแก้ผ้า และชำเราทางทวารหนักก่อน บางสื่อลงภาพเขานอนตาย หัวเป็นรู จากรอยกระสุน 2 วัน ก่อนที่กัดดาฟีจะถูกจับ คุณนายคลินตัน สตรีหน้าโหด ( ผมเห็นหน้าคุณนายในทีวีทีไร ฝันร้ายทุกที ผู้หญิงอะไร น่ากลัวชะมัด) ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ เดินทางไปที่เมือง ทริโปลี Tripoli ด้วยเครื่องบินทหาร ที่มีการคุ้มกันหลายชั้น แม้แต่แมลงวันที่คุ้นเคยกัน ก็คงเข้าไปตอมคุณนายไม่ถึง คุณนายประกาศเสียงดังฟังชัดว่า เราจะต้องจับตัวกัดดาฟี มาให้ได้ ไม่ว่า จับตาย หรือจับเป็น “dead or alive” นี่! มันยิ่งกว่าบทพระเอก ไปทำหน้าเศร้าที่ซูดานอีกนะ บทนี้มันเป็นบทนางสิงห์สั่งฆ่าเลย กัดดาฟี จะอย่างไรก็เป็นประมุขประเทศ เป็นประเทศเอกราช ไม่ได้เป็นขี้ข้าใคร ทำดี ทำชั่ว ศาลระหว่างประเทศมี อเมริกา และรัฐมนตรีต่างประเทศของตน ใช้สิทธิอะไร เที่ยวประกาศ ตัดสินว่า ประเทศไหน ต้องมีนโยบายอย่างไร ประมุขประเทศ ต้องทำตัวอย่างไร ตามใจอเมริกาอย่างไร ถ้าไม่ถูกใจนี่ อเมริกา สั่งฆ่าได้เลยหรือ เรื่องนี้ผมรับไม่ได้จริงๆ และสะอิดสะเอียนที่สุด เรื่องนี้ สำนักข่าว Associated Press รายงานข่าวว่า … นางคลินตันพูดแบบไม่อ้อมค้อมเป็นพิเศษว่า อเมริกา ต้องการเห็น อดีตเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ถึงแก่ความตาย…. … เราหวังว่า เขาจะถูกจับ หรือถูก ฆ่า เพื่อพวกคุณจะได้ไม่ต้องกลัวเขาอีกต่อไป .. Clinton declared in unusually blunt terms that the United States would like to see former dictator Muammar Gaddafi dead.. …We hope he can be captured or killed soon so that you don’t have to fear him any longer… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 19 ก.ย. 2558
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 807 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Nvidia ไม่มั่นใจจีนจะซื้อ H200 แม้สหรัฐฯ ผ่อนคลายข้อจำกัด"

    Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia เปิดเผยหลังการพบปะกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า แม้จะมีการพูดคุยถึงการอนุญาตให้ส่งออกชิป H200 ไปยังจีน แต่บริษัทก็ “ไม่รู้ ไม่แน่ใจเลย” ว่าจีนจะยอมซื้อจริงหรือไม่ เนื่องจากรัฐบาลจีนได้สั่งห้ามบริษัทเทคโนโลยีในประเทศซื้อชิป H20 และ RTX Pro 6000D ไปแล้ว พร้อมประกาศว่าชิป AI ที่ผลิตเองสามารถทดแทนได้.

    ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้สั่งห้ามส่งออกชิป AI รุ่นใหม่ไปจีน ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง โดย H200 ถือเป็นรุ่นที่ยังคงมีประสิทธิภาพสูง แต่ถูกมองว่า “ล้าสมัย” เมื่อเทียบกับรุ่นใหม่อย่าง B200 ที่เพิ่งเปิดตัว ข้อจำกัดนี้ทำให้ Nvidia สูญเสียตลาดจีนซึ่งเคยครองส่วนแบ่งกว่า 95% จนเหลือแทบเป็นศูนย์.

    แม้จะมีการพูดถึงการอนุญาตให้ขาย H200 อีกครั้ง แต่ Huang ย้ำว่า จีนไม่ยอมรับชิปที่ถูกลดสเปก และนโยบายของรัฐบาลจีนชัดเจนว่าต้องการพึ่งพาชิปภายในประเทศมากขึ้น การตัดสินใจครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องการค้า แต่เป็นการเมืองและยุทธศาสตร์ชาติ.

    สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของ Nvidia ที่ต้องพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรเป็นหลัก ขณะที่จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเพื่อปิดช่องว่าง และอาจทำให้การแข่งขันด้าน AI ระหว่างสองมหาอำนาจยิ่งทวีความเข้มข้นในอนาคต.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Jensen Huang ไม่มั่นใจว่าจีนจะซื้อ H200 แม้สหรัฐฯ ผ่อนคลายข้อจำกัด
    จีนสั่งห้ามซื้อ H20 และ RTX Pro 6000D พร้อมผลักดันชิป AI ภายในประเทศ
    Nvidia สูญเสียส่วนแบ่งตลาดจีนจาก 95% เหลือเกือบศูนย์
    H200 ถูกมองว่าล้าสมัยเมื่อเทียบกับ B200

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    จีนกำลังลงทุนมหาศาลในบริษัทชิป AI เช่น Huawei และ Cambricon
    ตลาดชิป AI คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปีในช่วง 2025–2030
    การแข่งขันด้าน AI ระหว่างสหรัฐฯ–จีนถูกมองว่าเป็น “สงครามเทคโนโลยี” ยุคใหม่

    คำเตือนจากข่าว
    Nvidia ไม่สามารถลดสเปกชิปเพื่อขายในจีนได้ เพราะจีนไม่ยอมรับ
    การพึ่งพาตลาดจีนอาจไม่มั่นคงอีกต่อไป
    ความตึงเครียดทางการเมืองอาจทำให้การค้าชิป AI ถูกใช้เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidia-ceo-jensen-huang-unsure-if-china-would-buy-its-h200-chips-if-restrictions-are-relaxed-as-beijing-prioritizes-homegrown-ai-solutions-we-dont-know-we-have-no-clue
    💡 "Nvidia ไม่มั่นใจจีนจะซื้อ H200 แม้สหรัฐฯ ผ่อนคลายข้อจำกัด" Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia เปิดเผยหลังการพบปะกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ ว่า แม้จะมีการพูดคุยถึงการอนุญาตให้ส่งออกชิป H200 ไปยังจีน แต่บริษัทก็ “ไม่รู้ ไม่แน่ใจเลย” ว่าจีนจะยอมซื้อจริงหรือไม่ เนื่องจากรัฐบาลจีนได้สั่งห้ามบริษัทเทคโนโลยีในประเทศซื้อชิป H20 และ RTX Pro 6000D ไปแล้ว พร้อมประกาศว่าชิป AI ที่ผลิตเองสามารถทดแทนได้. ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้สั่งห้ามส่งออกชิป AI รุ่นใหม่ไปจีน ด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง โดย H200 ถือเป็นรุ่นที่ยังคงมีประสิทธิภาพสูง แต่ถูกมองว่า “ล้าสมัย” เมื่อเทียบกับรุ่นใหม่อย่าง B200 ที่เพิ่งเปิดตัว ข้อจำกัดนี้ทำให้ Nvidia สูญเสียตลาดจีนซึ่งเคยครองส่วนแบ่งกว่า 95% จนเหลือแทบเป็นศูนย์. แม้จะมีการพูดถึงการอนุญาตให้ขาย H200 อีกครั้ง แต่ Huang ย้ำว่า จีนไม่ยอมรับชิปที่ถูกลดสเปก และนโยบายของรัฐบาลจีนชัดเจนว่าต้องการพึ่งพาชิปภายในประเทศมากขึ้น การตัดสินใจครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่เรื่องการค้า แต่เป็นการเมืองและยุทธศาสตร์ชาติ. สถานการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของ Nvidia ที่ต้องพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรเป็นหลัก ขณะที่จีนเร่งพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเพื่อปิดช่องว่าง และอาจทำให้การแข่งขันด้าน AI ระหว่างสองมหาอำนาจยิ่งทวีความเข้มข้นในอนาคต. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Jensen Huang ไม่มั่นใจว่าจีนจะซื้อ H200 แม้สหรัฐฯ ผ่อนคลายข้อจำกัด ➡️ จีนสั่งห้ามซื้อ H20 และ RTX Pro 6000D พร้อมผลักดันชิป AI ภายในประเทศ ➡️ Nvidia สูญเสียส่วนแบ่งตลาดจีนจาก 95% เหลือเกือบศูนย์ ➡️ H200 ถูกมองว่าล้าสมัยเมื่อเทียบกับ B200 ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ จีนกำลังลงทุนมหาศาลในบริษัทชิป AI เช่น Huawei และ Cambricon ➡️ ตลาดชิป AI คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปีในช่วง 2025–2030 ➡️ การแข่งขันด้าน AI ระหว่างสหรัฐฯ–จีนถูกมองว่าเป็น “สงครามเทคโนโลยี” ยุคใหม่ ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ Nvidia ไม่สามารถลดสเปกชิปเพื่อขายในจีนได้ เพราะจีนไม่ยอมรับ ⛔ การพึ่งพาตลาดจีนอาจไม่มั่นคงอีกต่อไป ⛔ ความตึงเครียดทางการเมืองอาจทำให้การค้าชิป AI ถูกใช้เป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidia-ceo-jensen-huang-unsure-if-china-would-buy-its-h200-chips-if-restrictions-are-relaxed-as-beijing-prioritizes-homegrown-ai-solutions-we-dont-know-we-have-no-clue
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 424 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Cambricon ตั้งเป้าเพิ่มการผลิตชิป AI 3 เท่า – หวังแทนที่ Nvidia และท้าชน Huawei"

    ข่าวนี้เล่าถึงบริษัท Cambricon Technologies ของจีนที่ตั้งเป้า เพิ่มการผลิตชิป AI เป็น 3 เท่าในปี 2026 เพื่อทดแทนช่องว่างที่ Nvidia ถอนตัวออกจากตลาดจีน และแข่งขันกับ Huawei แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องกำลังการผลิตและคุณภาพการผลิตที่ต่ำ

    Cambricon Technologies มีแผนจะผลิตชิป AI กว่า 500,000 ตัวในปี 2026 รวมถึงรุ่นเรือธง Siyuan 590 และ 690 ซึ่งมากกว่าสามเท่าของจำนวนที่คาดว่าจะผลิตในปี 2025 (ประมาณ 142,000 ตัว). การขยายนี้เกิดขึ้นหลังจาก Nvidia ถูกจำกัดการส่งออกชิปไปยังจีน ทำให้เกิดช่องว่างในตลาดที่บริษัทจีนพยายามเข้ามาเติมเต็ม.

    Cambricon จะพึ่งพากำลังการผลิตจาก Semiconductor Manufacturing International Corp (SMIC) โดยใช้กระบวนการผลิต 7nm N+2 แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ เนื่องจากชิป Siyuan มีอัตราการผลิตที่ใช้ได้จริงเพียง 20% หรือหนึ่งในห้าของจำนวนที่ผลิตออกมา ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับ TSMC ที่มี yield rate สูงถึง 60%.

    แม้จะมีข้อจำกัดด้านเทคนิค แต่ Cambricon ได้รับแรงหนุนจากรัฐบาลจีนและความต้องการภายในประเทศ โดยมีลูกค้ารายใหญ่เช่น Alibaba และ ByteDance ที่หันมาใช้ชิปจีนตามนโยบายลดการพึ่งพาต่างชาติ รายได้ของบริษัทก็เพิ่มขึ้นกว่า 14 เท่าในไตรมาสล่าสุด สะท้อนความต้องการที่พุ่งสูงในตลาด AI.

    อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่ที่ การจัดหาวัสดุพื้นฐานและหน่วยความจำ (HBM, LPDDR) ซึ่งขาดแคลนทั่วโลก รวมถึงการแข่งขันกับ Huawei ที่ประกาศว่าจะเพิ่มการผลิตชิปเช่นกัน ทำให้อนาคตของ Cambricon แม้จะสดใส แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงด้านเทคนิคและทรัพยากร.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ข้อมูลจากข่าว
    Cambricon ตั้งเป้าผลิตชิป AI 500,000 ตัวในปี 2026
    ใช้กำลังการผลิตจาก SMIC ที่กระบวนการ 7nm N+2
    Yield rate ของชิป Siyuan อยู่ที่ 20% เทียบกับ TSMC ที่ 60%
    ลูกค้ารายใหญ่: Alibaba และ ByteDance
    รายได้ไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้น 14 เท่า

    ข้อมูลเสริมจาก Internet
    ตลาดชิป AI คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปีในช่วง 2025–2030
    Huawei กำลังเพิ่มการผลิตชิป AI เพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศ
    การขาดแคลน HBM และ LPDDR เป็นปัญหาสำคัญทั่วโลก

    คำเตือนจากข่าว
    Yield rate ต่ำอาจทำให้ต้นทุนสูงและการผลิตไม่คุ้มค่า
    การขาดแคลนหน่วยความจำอาจทำให้คำสั่งซื้อไม่สามารถส่งมอบได้
    การแข่งขันกับ Huawei อาจทำให้ Cambricon เสียเปรียบในตลาดภายในประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-tech-firm-cambricon-looks-to-step-into-nvidia-void-triple-ai-chip-production-next-year-seeks-to-rival-huawei-but-production-remains-a-concern
    ⚙️ "Cambricon ตั้งเป้าเพิ่มการผลิตชิป AI 3 เท่า – หวังแทนที่ Nvidia และท้าชน Huawei" ข่าวนี้เล่าถึงบริษัท Cambricon Technologies ของจีนที่ตั้งเป้า เพิ่มการผลิตชิป AI เป็น 3 เท่าในปี 2026 เพื่อทดแทนช่องว่างที่ Nvidia ถอนตัวออกจากตลาดจีน และแข่งขันกับ Huawei แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องกำลังการผลิตและคุณภาพการผลิตที่ต่ำ Cambricon Technologies มีแผนจะผลิตชิป AI กว่า 500,000 ตัวในปี 2026 รวมถึงรุ่นเรือธง Siyuan 590 และ 690 ซึ่งมากกว่าสามเท่าของจำนวนที่คาดว่าจะผลิตในปี 2025 (ประมาณ 142,000 ตัว). การขยายนี้เกิดขึ้นหลังจาก Nvidia ถูกจำกัดการส่งออกชิปไปยังจีน ทำให้เกิดช่องว่างในตลาดที่บริษัทจีนพยายามเข้ามาเติมเต็ม. Cambricon จะพึ่งพากำลังการผลิตจาก Semiconductor Manufacturing International Corp (SMIC) โดยใช้กระบวนการผลิต 7nm N+2 แต่ยังมีข้อกังวลเรื่องคุณภาพ เนื่องจากชิป Siyuan มีอัตราการผลิตที่ใช้ได้จริงเพียง 20% หรือหนึ่งในห้าของจำนวนที่ผลิตออกมา ซึ่งถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับ TSMC ที่มี yield rate สูงถึง 60%. แม้จะมีข้อจำกัดด้านเทคนิค แต่ Cambricon ได้รับแรงหนุนจากรัฐบาลจีนและความต้องการภายในประเทศ โดยมีลูกค้ารายใหญ่เช่น Alibaba และ ByteDance ที่หันมาใช้ชิปจีนตามนโยบายลดการพึ่งพาต่างชาติ รายได้ของบริษัทก็เพิ่มขึ้นกว่า 14 เท่าในไตรมาสล่าสุด สะท้อนความต้องการที่พุ่งสูงในตลาด AI. อย่างไรก็ตาม ความท้าทายยังคงอยู่ที่ การจัดหาวัสดุพื้นฐานและหน่วยความจำ (HBM, LPDDR) ซึ่งขาดแคลนทั่วโลก รวมถึงการแข่งขันกับ Huawei ที่ประกาศว่าจะเพิ่มการผลิตชิปเช่นกัน ทำให้อนาคตของ Cambricon แม้จะสดใส แต่ก็เต็มไปด้วยความเสี่ยงด้านเทคนิคและทรัพยากร. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว ➡️ Cambricon ตั้งเป้าผลิตชิป AI 500,000 ตัวในปี 2026 ➡️ ใช้กำลังการผลิตจาก SMIC ที่กระบวนการ 7nm N+2 ➡️ Yield rate ของชิป Siyuan อยู่ที่ 20% เทียบกับ TSMC ที่ 60% ➡️ ลูกค้ารายใหญ่: Alibaba และ ByteDance ➡️ รายได้ไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้น 14 เท่า ✅ ข้อมูลเสริมจาก Internet ➡️ ตลาดชิป AI คาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 25% ต่อปีในช่วง 2025–2030 ➡️ Huawei กำลังเพิ่มการผลิตชิป AI เพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศ ➡️ การขาดแคลน HBM และ LPDDR เป็นปัญหาสำคัญทั่วโลก ‼️ คำเตือนจากข่าว ⛔ Yield rate ต่ำอาจทำให้ต้นทุนสูงและการผลิตไม่คุ้มค่า ⛔ การขาดแคลนหน่วยความจำอาจทำให้คำสั่งซื้อไม่สามารถส่งมอบได้ ⛔ การแข่งขันกับ Huawei อาจทำให้ Cambricon เสียเปรียบในตลาดภายในประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/chinese-tech-firm-cambricon-looks-to-step-into-nvidia-void-triple-ai-chip-production-next-year-seeks-to-rival-huawei-but-production-remains-a-concern
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวใหญ่: จีนออกใบอนุญาตส่งออกแร่หายากแบบใหม่

    รัฐบาลจีนได้ออกใบอนุญาตส่งออก “ทั่วไป” ให้กับผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ เช่น JL Mag Rare Earth, Ningbo Yunsheng และ Beijing Zhong Ke San Huan High-Tech การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมระหว่างผู้นำจีนและสหรัฐฯ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาความตึงเครียดทางการค้า

    รายละเอียดของใบอนุญาต
    ใบอนุญาตใหม่นี้มีอายุ 1 ปี และผูกกับลูกค้ารายบุคคล ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ทำให้ผู้ผลิตสามารถส่งออกได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอการอนุมัติแบบกรณีต่อกรณีเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กรอบการควบคุมยังคงอยู่ เพียงแต่มีช่องทางที่สะดวกขึ้นสำหรับลูกค้าที่ได้รับอนุมัติ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    มาตรการนี้ช่วยลดระยะเวลาการอนุมัติและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อในต่างประเทศ แต่ผลกระทบจะไม่เท่ากันในทุกภาคส่วน เนื่องจากใบอนุญาตผูกกับลูกค้าเฉพาะราย บางบริษัทอาจได้ประโยชน์ทันที ขณะที่บางรายยังต้องรอการอนุมัติในอนาคต

    มุมมองในอนาคต
    แม้จะมีการผ่อนคลาย แต่จีนยังคงควบคุมอุตสาหกรรมแร่หายากอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในส่วนแม่เหล็กถาวรที่ใช้ใน มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ การเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นเพียงการเปิดช่องทางใหม่ ไม่ใช่การยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมด

    สรุปสาระสำคัญ
    จีนออกใบอนุญาตส่งออก “ทั่วไป” สำหรับผู้ผลิตแม่เหล็กถาวร
    ครอบคลุม JL Mag, Ningbo Yunsheng และ Zhong Ke San Huan

    ใบอนุญาตมีอายุ 1 ปี และผูกกับลูกค้ารายบุคคล
    ลดขั้นตอนการอนุมัติแบบกรณีต่อกรณี

    ช่วยให้การส่งออกเร็วขึ้นและเพิ่มความมั่นใจแก่ลูกค้า
    แต่ผลกระทบไม่เท่ากันในทุกภาคส่วน

    กรอบการควบคุมยังคงอยู่ ไม่ใช่การยกเลิกข้อจำกัด
    ผู้ผลิตที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อยังต้องรอการอนุมัติ

    อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวรยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ของจีน
    มีผลต่อเทคโนโลยีสำคัญ เช่น มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-issues-first-batch-of-general-rare-earth-export-licenses-to-magnet-makers
    🌏 ข่าวใหญ่: จีนออกใบอนุญาตส่งออกแร่หายากแบบใหม่ รัฐบาลจีนได้ออกใบอนุญาตส่งออก “ทั่วไป” ให้กับผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ เช่น JL Mag Rare Earth, Ningbo Yunsheng และ Beijing Zhong Ke San Huan High-Tech การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมระหว่างผู้นำจีนและสหรัฐฯ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาความตึงเครียดทางการค้า 🔧 รายละเอียดของใบอนุญาต ใบอนุญาตใหม่นี้มีอายุ 1 ปี และผูกกับลูกค้ารายบุคคล ไม่ใช่ผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ทำให้ผู้ผลิตสามารถส่งออกได้รวดเร็วขึ้นโดยไม่ต้องรอการอนุมัติแบบกรณีต่อกรณีเหมือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม กรอบการควบคุมยังคงอยู่ เพียงแต่มีช่องทางที่สะดวกขึ้นสำหรับลูกค้าที่ได้รับอนุมัติ 📉 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม มาตรการนี้ช่วยลดระยะเวลาการอนุมัติและเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ซื้อในต่างประเทศ แต่ผลกระทบจะไม่เท่ากันในทุกภาคส่วน เนื่องจากใบอนุญาตผูกกับลูกค้าเฉพาะราย บางบริษัทอาจได้ประโยชน์ทันที ขณะที่บางรายยังต้องรอการอนุมัติในอนาคต 📊 มุมมองในอนาคต แม้จะมีการผ่อนคลาย แต่จีนยังคงควบคุมอุตสาหกรรมแร่หายากอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในส่วนแม่เหล็กถาวรที่ใช้ใน มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเทคโนโลยีสมัยใหม่ การเปลี่ยนแปลงนี้จึงเป็นเพียงการเปิดช่องทางใหม่ ไม่ใช่การยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ จีนออกใบอนุญาตส่งออก “ทั่วไป” สำหรับผู้ผลิตแม่เหล็กถาวร ➡️ ครอบคลุม JL Mag, Ningbo Yunsheng และ Zhong Ke San Huan ✅ ใบอนุญาตมีอายุ 1 ปี และผูกกับลูกค้ารายบุคคล ➡️ ลดขั้นตอนการอนุมัติแบบกรณีต่อกรณี ✅ ช่วยให้การส่งออกเร็วขึ้นและเพิ่มความมั่นใจแก่ลูกค้า ➡️ แต่ผลกระทบไม่เท่ากันในทุกภาคส่วน ‼️ กรอบการควบคุมยังคงอยู่ ไม่ใช่การยกเลิกข้อจำกัด ⛔ ผู้ผลิตที่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อยังต้องรอการอนุมัติ ‼️ อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวรยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ของจีน ⛔ มีผลต่อเทคโนโลยีสำคัญ เช่น มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า https://www.tomshardware.com/tech-industry/china-issues-first-batch-of-general-rare-earth-export-licenses-to-magnet-makers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 15

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 15
    ในญี่ปุ่น ระหว่าง ค.ศ.1900 ถึง ค.ศ.1930 การเมืองญี่ปุ่น แบ่งแยกเป็น 2 ขั้วชัดเจน ขั้วที่ไม่ต้องการให้กองทัพแข็งแกร่ง ดูเหมือนจะเป็นการกระตุกเชือกชักใย โดยอังกฤษผ่านมาที่สายพวกนักการเงิน และนักการเมือง ฝ่ายพลเรือน อังกฤษต้องการให้ญี่ปุ่นไปป่วนจีนก็จริง แต่แค่ป่วน ไม่ใช่ไปยึด เพราะอังกฤษต้องการยึดเอาจีนมาเป็นของตนเอง ดังนั้น ถ้าญี่ปุ่นเกิดมีกองทัพแข็งแกร่งขี้นมา แล้วบ้าเลือดไปยึดจีน อังกฤษ ก็ อ ด
    อังกฤษจึงต้องหาวิธีติดเบรคกองทัพญี่ปุ่น การตอนงบประมาณกองทัพ น่าจะเป็นวิธีหนึ่ง นักการเมืองอย่าง ทากาฮาชิ จึงรับบทไปจากอังกฤษ โดยไม่รู้ตัว หรือรู้ตัว
    ส่วนฝ่ายที่ต้องการให้กองทัพญี่ปุ่นแข็งแกร่งนั้นน่าสนใจ มันเป็นความอยากใหญ่ อยากเป็นมหาอำนาจของญี่ปุ่นเอง ที่สะสมมาจากความเชื่อว่าตนมีความเก่งกล้าสามารถ ฉลาด และเหนือกว่าชาติใดๆในเอเซีย รวมทั้งรัสเซีย ที่อยู่ใกล้กัน และความแค้นที่ถูกหักหน้า ถูกดูหมิ่น เรื่องเชื้อชาติของญี่ปุ่นเอง ผสมกับการปั่นหัวของอังกฤษ เพื่อหลอกใช้ญี่ปุ่นไปรวนจีนส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนนั้น ก็น่าเป็นการหลอกใช้ญี่ปุ่นของอเมริกา เช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์ ของอังกฤษและอเมริกา เกี่ยวกับญี่ปุ่นไม่ต่างกันเลย มันเป็นการ “หลอกใช้” อย่างเดียว ญี่ปุ่นรู้ตัวหรือไม่เท่านั้นเอง
    กลับไปดูกองทัพญี่ปุ่น ที่ปักหลักอยู่ที่แมนจูเรีย ภายใต้การบัญชาการของนายพลโตโจ ที่เริ่มมีรัศมีอำนาจและเงินจับ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1931 ร่ำรวยจนไม่ต้องพึ่งงบหลวงจากโตเกียว จากการบริหารจัดการของ นายคิชิ Kishi Nobusuke เขาเป็นคนสำคัญในการเพาะพันธุ์ญี่ปุ่นใหม่ โดยเฉพาะญี่ปุ่น หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาจนถึงปัจจุบัน ไม่รู้จักเขาให้ดี ก็ยากที่จะ “รู้จัก” ญี่ปุ่นปัจจุบัน
    คิชิ โนบูซูเกะ ชื่อเดิม คือ ซาโตะ โนบูซูเกะ Sato Nobusuke เกิดเมื่อปี ค.ศ.1896 ที่เมือง โชชู Choshu เป็นเด็กเฉลียวฉลาด หัวไว แววดี ลุงซึ่งเป็นพี่ชายของแม่ จึงขอมาเลี้ยง และให้ใช้นามสกุลของลุงคือ คิชิ ส่วนพี่ชายอีก 2 คน ยังใช้สกุล ซาโตะ พี่ชายคนหนึ่ง ซาโตะ ไอซากุ Sato Eisaku หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิก ได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีคลัง และต่อมา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี สังกัดพรรค LDP ส่วนพี่ชายอีกคน ซาโตะ อิชิโร Sato Ichiro ได้เป็นนายพลเอกของกองทัพเรือ
    เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัยโตเกียว คิชิ เข้าทำงานที่กระทรวงพาณิชย์และ อุตสาหกรรม ทำหน้าที่จัดเก็บเอกสาร เก็บไปอ่านไป ทำให้คิชิรู้ข้อมูล และนโยบาย ทั้งลับ และลึกของญี่ปุ่น ช่วงปี ค.ศ.1929 เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั้งโลก Great Depression แต่เศรษฐกิจของคิชิ ไม่ถดถอยด้วย ตรงกันข้าม ด้วยข้อมูลที่เขาสะสมไว้ เขาตามซื้อหุ้นบริษัทที่น่าจะฟื้นเร็ว และมันก็ฟื้นเร็วอย่างที่เขาคาด เมื่อญี่ปุ่นคิดจะยึดแมนจูเรียในปี ค.ศ.1931 เขาจึงถูกส่งตัวไปให้ไปทำการสำรวจล่วงหน้าถึง “โอกาส” ของญี่ปุ่นในแมนจูเรีย
    คิชิ บอกกับนายพลโตโจ ว่า นู่น บ่อเงินบ่อทองของเรา อยู่ที่ทางรถไฟสายแมนจูเรียใต้ South Manchuria Railroad Company (SMRC) ของรัฐบาลจีน บริษัทนี้ เป็นเจ้าของท่าเรือ โรงแรม เหมืองแร่ แหล่งน้ำมัน การขนส่ง สิทธิในการสำรวจ ฯลฯ มันเยอะแยะจนบรรยายไม่หมด เข้าใจไหมท่านนายพล
    วิธีที่จะเป็นเจ้าของ SMRC ก็ไม่น่าจะยากอะไร ท่านก็ยกทัพไปตีแมนจูเรีย แล้วก็ยึดบริษัทมา ก็เท่านั้น บังเอิญ ประธาน SMRC ดันเป็นลุงเขยของคิชิ ไอ้คนหัวแหลม เลยไปกล่อมลุงเขยอีกทีว่า เรามาจับมือกัน แล้วช่วยกันรวยดีกว่านะลุง แล้วกองทัพญี่ปุ่น ก็ยกทัพไปตีแมนจูเรียของจีน หลังจากนั้น นายคิชิ ก็ทำทุกอย่างทั้งบนดิน ใต้ดิน และกองทัพญี่ปุ่นก็เลยเริ่มรวย คิชิ เสนอให้กองทัพชวนพวก นิสสัน Nissan zaibutsu บริษัทใหญ่ของญี่ปุ่น ที่เพิ่งตั้งขึ้น แต่มีอนาคตไกล และก็เป็นของลุงอีกคนของนายคิชิ เข้ามาช่วยบริหารทรัพย์สมบัติ (คนอื่น) ที่กองทัพญี่ปุ่น ไปปล้นมาได้ ไม่รู้ นายคิชิ นี่ มีลุงกี่คน
    กองทัพญี่ปุ่นที่แมนจูเรีย จึงยิ่งรวยใหญ่ จนในที่สุดไม่ต้องพึ่งงบรัฐบาลที่โตเกียว แถมเริ่มมีเสียงดังกว่ารัฐบาลที่โตเกียวเสียด้วยซ้ำ
    ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 คิชิ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมที่โตเกียว ขณะเดียวกัน ก็ทำหน้าที่ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ในการจัดหาสรรพาวุธ ให้แก่นายพลโตโจ ที่ในที่สุด ก็มาทำหน้าที่เป็นผู้นำกองทัพของญี่ปุ่น ในการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2
    หลังสงครามโลก เมื่อญี่ปุ่นยอมแพ้ อเมริกาเข้ามาใช้อำนาจควบคุมญี่ปุ่นและเอเซียแต่ผู้เดียว ต่างกับยุโรป ที่มีทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และชาติอื่นๆ แบ่งกันควบคุมเยอรมันและอิตาลีผู้แพ้สงคราม
    เมื่อนายพลแมคอาเธอร์ เข้ามาถึงญี่ปุ่น ในฐานะเป็น Supreme Commander Asia and Pacific (SACP) เขาสั่งให้มีการสอบสวนผู้ที่ทำผิดในการก่อสงคราม และความผิดที่เกี่ยวเนื่องจากสงคราม มีรายชื่อผู้ที่เข้าข่ายต้องถูก จับ และไต่สวน ไม่น้อยกว่า 2 แสน 2 หมื่นคน คิชิ เป็นหนึ่งใน 2 แสน 2 หมื่นคน เขาเป็นนักโทษระดับเอ class A ข้อหาแรงสุด เขาถูกจับใส่คุก ซุกาโม Sugamo ในข้อหา ปล้นจีนและแมนจูเรีย ขโมยทรัพย์สินส่วนบุคคล และ ใช้คนเป็นทาสแรงงานในการทำเหมืองและโรงงาน
    หนึ่งวัน ก่อนถูกนำไปเข้าคุก เขาได้รับโทรเลขบอกว่า “เป็นไปได้ว่า อเมริกา จะไม่ดำเนินคดี และลงโทษคุณ ดังนั้น อย่าได้ใจร้อนทำอะไร ( อย่ายอมรับ ไม่ว่าข้อหาใด)”
    ระหว่างที่อยู่ในคุก ซุกาโม คิชิ ไม่ปล่อยให้เสียเวลาเปล่า เขาคลุกคลีกับบรรดานักการเมือง นักธุรกิจ นักวิชาการ รวมทั้งพวกนอกกฏหมายที่ถูกจับ บังเอิญเขาอยู่ห้องขังร่วมกับ โคดามะ โยชิโอะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อใหญ่ หัวหน้ายากูซ่า แก็งมังกรดำ ในขณะนั้น (ที่ในปี ค.ศ.1945 ด้วยการปล้นสาระพัดที่ในช่วงสงคราม โคดามะ น่าจะเป็นคนรวยที่สุดในญี่ปุ่น เป็นรองแค่จักรพรรดิเท่านั้น) และ ฮาโตยาม่า Hatoyama Ichiro ซึ่งต่อไปจะเป็นผู้ก่อตั้ง LDP พรรคสุดยอดอิทธิพลของญี่ปุ่น หรือที่คนส่วนใหญ่บอกว่า เป็นเจ้าของญี่ปุ่น เสียด้วยซ้ำ
    ดูเหมือน คุกซุกาโม จะเป็นแหล่งรวมพวกนรกแตก และพวกเขากำลังจะเป็นผู้สร้างอนาคตของญี่ปุ่น
    โคดามะ เจ้าพ่อยากูซ่า นั้น เป็นกระเป๋าเงินตัวจริง ของพรรคเสรีนิยม Liberal Party อยู่แล้ว แต่หลังจากนั่งวาดอนาคตญี่ปุ่นกันในคุก โคดามะ ก็บอกว่า จะลงทุนตั้งพรรคการเมืองอีกพรรคให้ ฮาโตยาม่าเป็นหัวหน้าพรรค ถ้า ฮาโตยาม่ายอมให้ คิชิ เป็นผู้ดูแลด้านการเงิน และเป็นคนดูแลกิจการหลังบ้านของ พรรค ฮาโตยาม่าตกลง โคดามะ ก็เลยลงเงินหลายล้านเหรียญ ตั้งพรรคประชาธิปไตย Democratic Party ให้ ฮาโตยาม่า ง่ายดีจัง ประชาธิปไตยยี่ห้อ ยากูซ่า
    ข่าวว่า โคดามะ ซึ่งขณะนั้น มีทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 13 .5 พันล้านเหรียญ รับกับสื่อว่า เขาได้จ่ายเงินให้แก่ SCAP ไป 200 ล้านเหรียญ ให้แบ่งกันระหว่าง เจียงไคเช็ค กับ Counter-Intelligence Corp (CIC) หน่วยงานบังหน้า ของซีไอเอ หลังจากจ่ายเงินไปไม่นาน โคดามะ กับ คิชิ ก็ได้เดินออกมาจากคุกซุกาโม อย่างเงียบๆ สบายๆ
    ส่วน ซีไอเอ คงถูกใจ โคดามะมาก เมื่อพ้นออกมาจากคุก ซีไอเอ จึงจ้างเขาเป็นที่ปรึกษาพิเศษ ดูแลไปทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่อง ฝิ่น เฮโรอีน ทอง เพชร ที่อยู่ตามประเทศต่างๆ แต่ ที่อเมริกาปลื้มมากคือ ฝีมือการ “ดูแล” ของโคดามะ โดยเฉพาะการไปดูแล แร่ทังสเต็น ซึ่งเหมาะสำหรับการทำหัวจรวด และหัวเครื่องบินรบ ซึ่งข่าวว่าจีนมีแร่นี้อยู่แยะ เมื่อโคดามะ ไปขนแร่นี้มาจากจีน มาถีงญี่ปุ่น ซีไอเอ ก็ขนแร่นี้ต่อไปที่อเมริกา
    ส่วนคิชิ เมื่อออกมาจากคุก ด้วยเงินของโคดามะ และใช้เครือข่ายการเมือง ของฮาโตยาม่า เขาก็เดินสาย ตะล่อมเอานักการเมืองมาเข้าพวก และเริ่มบทบาทเจ้าพ่อทางการเมือง ขณะเดียวกัน พี่ชายของเขา นายซาโตะ ไอซากุ Sato Eisaku ก็ได้ขึ้นมาเป็นเลขาธิการ ของนายกรัฐมนตรีโยชิดะ Yoshida เมื่อพรรค LDP ตั้งสำเร็จ ก็ได้เสียงข้างมากในสภาอย่างไม่ยาก หลังจากนั้น LDP ก็ครองเสียงข้างมากในสภามาตลอด ขนาดมีคำพูดว่า อำนาจของ LDP ในญี่ปุ่นนั้น เป็นรองแค่จักรพรรดิ เท่านั้นเอง
    คิชิ โนบูซูเกะ มีความสำคัญอย่างไร
    เขาเป็นคนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่น ให้อเมริกาเข้าไปกินญี่ปุ่น ต่อ หรือแทน อังกฤษ คิชิ ทำหน้าที่ไม่ต่างกับ ชาลี ซ่ง ช่วยเปิดประตูเมืองจีน ให้อเมริกาเข้าไปแทนอังกฤษ เรื่องราวอาจจะไม่เหมือน แต่ก็ทำหน้าที่เป็นคนเปิดประตูบ้านตัวเอง ให้โจร (อีกราย) เข้ามาในบ้านเหมือนกัน
    อเมริกา น่าจะวางแผนเข้ามาในญี่ปุ่น และ “ใช้” ญี่ปุ่น ไม่ต่างกับที่อังกฤษคิด อิทธิพลของอังกฤษในญี่ปุ่น สูงตั้งแต่ปลาย ค.ศ.1800 แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว อิทธิพลของอังกฤษในญี่ปุ่น ก็เริ่มลดลง แต่ยังไม่หายไป ทั้ง Morgan และ Rockefeller ต่างเข้ามาเปิดตัว เปิดตลาดในญี่ปุ่น ในเวลาใกล้เคียงกัน Morgan เน้นเรื่องธุรกิจการเงิน Rockefeller เน้น เรื่องน้ำมัน และอุตสาหกรรม ทั้ง 2 กลุ่ม มีทั้งร่วมมือกันกิน และก็แย่งกันกิน
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 15 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 15 ในญี่ปุ่น ระหว่าง ค.ศ.1900 ถึง ค.ศ.1930 การเมืองญี่ปุ่น แบ่งแยกเป็น 2 ขั้วชัดเจน ขั้วที่ไม่ต้องการให้กองทัพแข็งแกร่ง ดูเหมือนจะเป็นการกระตุกเชือกชักใย โดยอังกฤษผ่านมาที่สายพวกนักการเงิน และนักการเมือง ฝ่ายพลเรือน อังกฤษต้องการให้ญี่ปุ่นไปป่วนจีนก็จริง แต่แค่ป่วน ไม่ใช่ไปยึด เพราะอังกฤษต้องการยึดเอาจีนมาเป็นของตนเอง ดังนั้น ถ้าญี่ปุ่นเกิดมีกองทัพแข็งแกร่งขี้นมา แล้วบ้าเลือดไปยึดจีน อังกฤษ ก็ อ ด อังกฤษจึงต้องหาวิธีติดเบรคกองทัพญี่ปุ่น การตอนงบประมาณกองทัพ น่าจะเป็นวิธีหนึ่ง นักการเมืองอย่าง ทากาฮาชิ จึงรับบทไปจากอังกฤษ โดยไม่รู้ตัว หรือรู้ตัว ส่วนฝ่ายที่ต้องการให้กองทัพญี่ปุ่นแข็งแกร่งนั้นน่าสนใจ มันเป็นความอยากใหญ่ อยากเป็นมหาอำนาจของญี่ปุ่นเอง ที่สะสมมาจากความเชื่อว่าตนมีความเก่งกล้าสามารถ ฉลาด และเหนือกว่าชาติใดๆในเอเซีย รวมทั้งรัสเซีย ที่อยู่ใกล้กัน และความแค้นที่ถูกหักหน้า ถูกดูหมิ่น เรื่องเชื้อชาติของญี่ปุ่นเอง ผสมกับการปั่นหัวของอังกฤษ เพื่อหลอกใช้ญี่ปุ่นไปรวนจีนส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนนั้น ก็น่าเป็นการหลอกใช้ญี่ปุ่นของอเมริกา เช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์ ของอังกฤษและอเมริกา เกี่ยวกับญี่ปุ่นไม่ต่างกันเลย มันเป็นการ “หลอกใช้” อย่างเดียว ญี่ปุ่นรู้ตัวหรือไม่เท่านั้นเอง กลับไปดูกองทัพญี่ปุ่น ที่ปักหลักอยู่ที่แมนจูเรีย ภายใต้การบัญชาการของนายพลโตโจ ที่เริ่มมีรัศมีอำนาจและเงินจับ ตั้งแต่ปี ค.ศ.1931 ร่ำรวยจนไม่ต้องพึ่งงบหลวงจากโตเกียว จากการบริหารจัดการของ นายคิชิ Kishi Nobusuke เขาเป็นคนสำคัญในการเพาะพันธุ์ญี่ปุ่นใหม่ โดยเฉพาะญี่ปุ่น หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อมาจนถึงปัจจุบัน ไม่รู้จักเขาให้ดี ก็ยากที่จะ “รู้จัก” ญี่ปุ่นปัจจุบัน คิชิ โนบูซูเกะ ชื่อเดิม คือ ซาโตะ โนบูซูเกะ Sato Nobusuke เกิดเมื่อปี ค.ศ.1896 ที่เมือง โชชู Choshu เป็นเด็กเฉลียวฉลาด หัวไว แววดี ลุงซึ่งเป็นพี่ชายของแม่ จึงขอมาเลี้ยง และให้ใช้นามสกุลของลุงคือ คิชิ ส่วนพี่ชายอีก 2 คน ยังใช้สกุล ซาโตะ พี่ชายคนหนึ่ง ซาโตะ ไอซากุ Sato Eisaku หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เลิก ได้รับเลือกเป็นรัฐมนตรีคลัง และต่อมา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี สังกัดพรรค LDP ส่วนพี่ชายอีกคน ซาโตะ อิชิโร Sato Ichiro ได้เป็นนายพลเอกของกองทัพเรือ เมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัยโตเกียว คิชิ เข้าทำงานที่กระทรวงพาณิชย์และ อุตสาหกรรม ทำหน้าที่จัดเก็บเอกสาร เก็บไปอ่านไป ทำให้คิชิรู้ข้อมูล และนโยบาย ทั้งลับ และลึกของญี่ปุ่น ช่วงปี ค.ศ.1929 เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั้งโลก Great Depression แต่เศรษฐกิจของคิชิ ไม่ถดถอยด้วย ตรงกันข้าม ด้วยข้อมูลที่เขาสะสมไว้ เขาตามซื้อหุ้นบริษัทที่น่าจะฟื้นเร็ว และมันก็ฟื้นเร็วอย่างที่เขาคาด เมื่อญี่ปุ่นคิดจะยึดแมนจูเรียในปี ค.ศ.1931 เขาจึงถูกส่งตัวไปให้ไปทำการสำรวจล่วงหน้าถึง “โอกาส” ของญี่ปุ่นในแมนจูเรีย คิชิ บอกกับนายพลโตโจ ว่า นู่น บ่อเงินบ่อทองของเรา อยู่ที่ทางรถไฟสายแมนจูเรียใต้ South Manchuria Railroad Company (SMRC) ของรัฐบาลจีน บริษัทนี้ เป็นเจ้าของท่าเรือ โรงแรม เหมืองแร่ แหล่งน้ำมัน การขนส่ง สิทธิในการสำรวจ ฯลฯ มันเยอะแยะจนบรรยายไม่หมด เข้าใจไหมท่านนายพล วิธีที่จะเป็นเจ้าของ SMRC ก็ไม่น่าจะยากอะไร ท่านก็ยกทัพไปตีแมนจูเรีย แล้วก็ยึดบริษัทมา ก็เท่านั้น บังเอิญ ประธาน SMRC ดันเป็นลุงเขยของคิชิ ไอ้คนหัวแหลม เลยไปกล่อมลุงเขยอีกทีว่า เรามาจับมือกัน แล้วช่วยกันรวยดีกว่านะลุง แล้วกองทัพญี่ปุ่น ก็ยกทัพไปตีแมนจูเรียของจีน หลังจากนั้น นายคิชิ ก็ทำทุกอย่างทั้งบนดิน ใต้ดิน และกองทัพญี่ปุ่นก็เลยเริ่มรวย คิชิ เสนอให้กองทัพชวนพวก นิสสัน Nissan zaibutsu บริษัทใหญ่ของญี่ปุ่น ที่เพิ่งตั้งขึ้น แต่มีอนาคตไกล และก็เป็นของลุงอีกคนของนายคิชิ เข้ามาช่วยบริหารทรัพย์สมบัติ (คนอื่น) ที่กองทัพญี่ปุ่น ไปปล้นมาได้ ไม่รู้ นายคิชิ นี่ มีลุงกี่คน กองทัพญี่ปุ่นที่แมนจูเรีย จึงยิ่งรวยใหญ่ จนในที่สุดไม่ต้องพึ่งงบรัฐบาลที่โตเกียว แถมเริ่มมีเสียงดังกว่ารัฐบาลที่โตเกียวเสียด้วยซ้ำ ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 คิชิ ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมที่โตเกียว ขณะเดียวกัน ก็ทำหน้าที่ เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี ในการจัดหาสรรพาวุธ ให้แก่นายพลโตโจ ที่ในที่สุด ก็มาทำหน้าที่เป็นผู้นำกองทัพของญี่ปุ่น ในการเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 หลังสงครามโลก เมื่อญี่ปุ่นยอมแพ้ อเมริกาเข้ามาใช้อำนาจควบคุมญี่ปุ่นและเอเซียแต่ผู้เดียว ต่างกับยุโรป ที่มีทั้งอังกฤษ ฝรั่งเศส และชาติอื่นๆ แบ่งกันควบคุมเยอรมันและอิตาลีผู้แพ้สงคราม เมื่อนายพลแมคอาเธอร์ เข้ามาถึงญี่ปุ่น ในฐานะเป็น Supreme Commander Asia and Pacific (SACP) เขาสั่งให้มีการสอบสวนผู้ที่ทำผิดในการก่อสงคราม และความผิดที่เกี่ยวเนื่องจากสงคราม มีรายชื่อผู้ที่เข้าข่ายต้องถูก จับ และไต่สวน ไม่น้อยกว่า 2 แสน 2 หมื่นคน คิชิ เป็นหนึ่งใน 2 แสน 2 หมื่นคน เขาเป็นนักโทษระดับเอ class A ข้อหาแรงสุด เขาถูกจับใส่คุก ซุกาโม Sugamo ในข้อหา ปล้นจีนและแมนจูเรีย ขโมยทรัพย์สินส่วนบุคคล และ ใช้คนเป็นทาสแรงงานในการทำเหมืองและโรงงาน หนึ่งวัน ก่อนถูกนำไปเข้าคุก เขาได้รับโทรเลขบอกว่า “เป็นไปได้ว่า อเมริกา จะไม่ดำเนินคดี และลงโทษคุณ ดังนั้น อย่าได้ใจร้อนทำอะไร ( อย่ายอมรับ ไม่ว่าข้อหาใด)” ระหว่างที่อยู่ในคุก ซุกาโม คิชิ ไม่ปล่อยให้เสียเวลาเปล่า เขาคลุกคลีกับบรรดานักการเมือง นักธุรกิจ นักวิชาการ รวมทั้งพวกนอกกฏหมายที่ถูกจับ บังเอิญเขาอยู่ห้องขังร่วมกับ โคดามะ โยชิโอะ Kodama Yoshio เจ้าพ่อใหญ่ หัวหน้ายากูซ่า แก็งมังกรดำ ในขณะนั้น (ที่ในปี ค.ศ.1945 ด้วยการปล้นสาระพัดที่ในช่วงสงคราม โคดามะ น่าจะเป็นคนรวยที่สุดในญี่ปุ่น เป็นรองแค่จักรพรรดิเท่านั้น) และ ฮาโตยาม่า Hatoyama Ichiro ซึ่งต่อไปจะเป็นผู้ก่อตั้ง LDP พรรคสุดยอดอิทธิพลของญี่ปุ่น หรือที่คนส่วนใหญ่บอกว่า เป็นเจ้าของญี่ปุ่น เสียด้วยซ้ำ ดูเหมือน คุกซุกาโม จะเป็นแหล่งรวมพวกนรกแตก และพวกเขากำลังจะเป็นผู้สร้างอนาคตของญี่ปุ่น โคดามะ เจ้าพ่อยากูซ่า นั้น เป็นกระเป๋าเงินตัวจริง ของพรรคเสรีนิยม Liberal Party อยู่แล้ว แต่หลังจากนั่งวาดอนาคตญี่ปุ่นกันในคุก โคดามะ ก็บอกว่า จะลงทุนตั้งพรรคการเมืองอีกพรรคให้ ฮาโตยาม่าเป็นหัวหน้าพรรค ถ้า ฮาโตยาม่ายอมให้ คิชิ เป็นผู้ดูแลด้านการเงิน และเป็นคนดูแลกิจการหลังบ้านของ พรรค ฮาโตยาม่าตกลง โคดามะ ก็เลยลงเงินหลายล้านเหรียญ ตั้งพรรคประชาธิปไตย Democratic Party ให้ ฮาโตยาม่า ง่ายดีจัง ประชาธิปไตยยี่ห้อ ยากูซ่า ข่าวว่า โคดามะ ซึ่งขณะนั้น มีทรัพย์สินมูลค่าประมาณ 13 .5 พันล้านเหรียญ รับกับสื่อว่า เขาได้จ่ายเงินให้แก่ SCAP ไป 200 ล้านเหรียญ ให้แบ่งกันระหว่าง เจียงไคเช็ค กับ Counter-Intelligence Corp (CIC) หน่วยงานบังหน้า ของซีไอเอ หลังจากจ่ายเงินไปไม่นาน โคดามะ กับ คิชิ ก็ได้เดินออกมาจากคุกซุกาโม อย่างเงียบๆ สบายๆ ส่วน ซีไอเอ คงถูกใจ โคดามะมาก เมื่อพ้นออกมาจากคุก ซีไอเอ จึงจ้างเขาเป็นที่ปรึกษาพิเศษ ดูแลไปทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่อง ฝิ่น เฮโรอีน ทอง เพชร ที่อยู่ตามประเทศต่างๆ แต่ ที่อเมริกาปลื้มมากคือ ฝีมือการ “ดูแล” ของโคดามะ โดยเฉพาะการไปดูแล แร่ทังสเต็น ซึ่งเหมาะสำหรับการทำหัวจรวด และหัวเครื่องบินรบ ซึ่งข่าวว่าจีนมีแร่นี้อยู่แยะ เมื่อโคดามะ ไปขนแร่นี้มาจากจีน มาถีงญี่ปุ่น ซีไอเอ ก็ขนแร่นี้ต่อไปที่อเมริกา ส่วนคิชิ เมื่อออกมาจากคุก ด้วยเงินของโคดามะ และใช้เครือข่ายการเมือง ของฮาโตยาม่า เขาก็เดินสาย ตะล่อมเอานักการเมืองมาเข้าพวก และเริ่มบทบาทเจ้าพ่อทางการเมือง ขณะเดียวกัน พี่ชายของเขา นายซาโตะ ไอซากุ Sato Eisaku ก็ได้ขึ้นมาเป็นเลขาธิการ ของนายกรัฐมนตรีโยชิดะ Yoshida เมื่อพรรค LDP ตั้งสำเร็จ ก็ได้เสียงข้างมากในสภาอย่างไม่ยาก หลังจากนั้น LDP ก็ครองเสียงข้างมากในสภามาตลอด ขนาดมีคำพูดว่า อำนาจของ LDP ในญี่ปุ่นนั้น เป็นรองแค่จักรพรรดิ เท่านั้นเอง คิชิ โนบูซูเกะ มีความสำคัญอย่างไร เขาเป็นคนเปิดประตูเมืองญี่ปุ่น ให้อเมริกาเข้าไปกินญี่ปุ่น ต่อ หรือแทน อังกฤษ คิชิ ทำหน้าที่ไม่ต่างกับ ชาลี ซ่ง ช่วยเปิดประตูเมืองจีน ให้อเมริกาเข้าไปแทนอังกฤษ เรื่องราวอาจจะไม่เหมือน แต่ก็ทำหน้าที่เป็นคนเปิดประตูบ้านตัวเอง ให้โจร (อีกราย) เข้ามาในบ้านเหมือนกัน อเมริกา น่าจะวางแผนเข้ามาในญี่ปุ่น และ “ใช้” ญี่ปุ่น ไม่ต่างกับที่อังกฤษคิด อิทธิพลของอังกฤษในญี่ปุ่น สูงตั้งแต่ปลาย ค.ศ.1800 แต่หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว อิทธิพลของอังกฤษในญี่ปุ่น ก็เริ่มลดลง แต่ยังไม่หายไป ทั้ง Morgan และ Rockefeller ต่างเข้ามาเปิดตัว เปิดตลาดในญี่ปุ่น ในเวลาใกล้เคียงกัน Morgan เน้นเรื่องธุรกิจการเงิน Rockefeller เน้น เรื่องน้ำมัน และอุตสาหกรรม ทั้ง 2 กลุ่ม มีทั้งร่วมมือกันกิน และก็แย่งกันกิน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 798 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลทดสอบของการ์ดจอ Nvidia RTX Pro 6000D รุ่นพิเศษที่ทำตลาดในจีน

    ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดตัวและผลทดสอบของการ์ดจอ Nvidia RTX Pro 6000D รุ่นพิเศษที่ทำตลาดในจีน ซึ่งแม้ถูกจำกัดด้วยข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ แต่ยังทำคะแนนทดสอบได้สูงกว่า RTX 5090D เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การ์ดนี้ถูกแบนโดยรัฐบาลจีน ทำให้อนาคตของมันไม่สดใส

    ผลทดสอบที่เหนือกว่าเล็กน้อย
    RTX Pro 6000D ทำคะแนน 390,656 คะแนนใน Geekbench 6.5 OpenCL ซึ่งสูงกว่า RTX 5090D V2 ประมาณ 1% และตามหลัง RTX Pro 6000 รุ่นเซิร์ฟเวอร์เพียง 5% เท่านั้น การ์ดนี้มีหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 84GB และ 19,968 CUDA cores แม้จะถูกลดสเปกลงจากรุ่นหลัก แต่ยังคงรักษาประสิทธิภาพได้ดีในงานคำนวณเชิงกราฟิก

    ข้อจำกัดและการลดสเปก
    เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ Nvidia ต้องลดสเปกของรุ่น D-series เช่น RTX 6000D โดยตัดหน่วยความจำลง 14% และลดจำนวน CUDA cores ลง 20% เมื่อเทียบกับรุ่น Pro 6000 ปกติ แม้ผลทดสอบ OpenCL ยังดูดี แต่ในงาน AI และ Machine Learning ประสิทธิภาพจะลดลงมากกว่า ซึ่งเป็นจุดที่รัฐบาลสหรัฐฯ จับตามอง

    การแบนจากรัฐบาลจีน
    แม้ Nvidia พยายามเจาะตลาดจีนด้วยรุ่นพิเศษนี้ แต่รัฐบาลจีนกลับสั่งแบนการ์ดดังกล่าว และสนับสนุนให้ใช้ GPU ที่ผลิตโดยบริษัทท้องถิ่นแทน ทำให้ RTX 6000D ไม่สามารถสร้างยอดขายได้ตามที่คาดการณ์ และกลายเป็นเพียง “บทเรียน” ของการปรับตัวในตลาดที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดทางการเมืองและเศรษฐกิจ

    ผลสะท้อนต่ออุตสาหกรรม
    เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก ที่ถูกกำหนดทั้งโดยเทคโนโลยีและการเมือง การที่ Nvidia ต้องออกแบบรุ่นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัด แต่สุดท้ายก็ถูกแบน แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันในตลาดจีนไม่ใช่แค่เรื่องของประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นเรื่องของความมั่นคงและการพึ่งพาเทคโนโลยีในประเทศ

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลทดสอบ RTX Pro 6000D
    ทำคะแนน 390,656 ใน Geekbench 6.5 OpenCL
    สูงกว่า RTX 5090D V2 เล็กน้อย และตามหลัง RTX Pro 6000 เซิร์ฟเวอร์เพียง 5%

    ข้อจำกัดด้านสเปก
    หน่วยความจำลดลง 14% เหลือ 84GB GDDR7
    CUDA cores ลดลง 20% เหลือ 19,968 cores

    การแบนจากรัฐบาลจีน
    ห้ามจำหน่าย RTX 6000D ในประเทศ
    สนับสนุนให้ใช้ GPU ที่ผลิตโดยบริษัทจีนแทน

    ผลสะท้อนต่ออุตสาหกรรม
    แสดงให้เห็นความซับซ้อนของการเมืองและเทคโนโลยี
    การแข่งขันในตลาดจีนไม่ใช่แค่เรื่องประสิทธิภาพ แต่ยังเกี่ยวข้องกับความมั่นคง

    คำเตือนต่อผู้เล่นในตลาด GPU
    การพึ่งพาตลาดจีนมีความเสี่ยงสูงจากข้อจำกัดทางการเมือง
    การลดสเปกเพื่อเลี่ยงข้อกำหนดอาจทำให้สูญเสียความสามารถในงาน AI ที่สำคัญ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-pro-6000d-squeaks-ahead-of-rtx-5090d-in-geekbench-opencl-china-tailored-ai-card-still-performs-well-despite-regulatory-woes
    💷 ผลทดสอบของการ์ดจอ Nvidia RTX Pro 6000D รุ่นพิเศษที่ทำตลาดในจีน ข่าวนี้เล่าถึงการเปิดตัวและผลทดสอบของการ์ดจอ Nvidia RTX Pro 6000D รุ่นพิเศษที่ทำตลาดในจีน ซึ่งแม้ถูกจำกัดด้วยข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ แต่ยังทำคะแนนทดสอบได้สูงกว่า RTX 5090D เล็กน้อย อย่างไรก็ตาม การ์ดนี้ถูกแบนโดยรัฐบาลจีน ทำให้อนาคตของมันไม่สดใส ⚡ ผลทดสอบที่เหนือกว่าเล็กน้อย RTX Pro 6000D ทำคะแนน 390,656 คะแนนใน Geekbench 6.5 OpenCL ซึ่งสูงกว่า RTX 5090D V2 ประมาณ 1% และตามหลัง RTX Pro 6000 รุ่นเซิร์ฟเวอร์เพียง 5% เท่านั้น การ์ดนี้มีหน่วยความจำ GDDR7 ขนาด 84GB และ 19,968 CUDA cores แม้จะถูกลดสเปกลงจากรุ่นหลัก แต่ยังคงรักษาประสิทธิภาพได้ดีในงานคำนวณเชิงกราฟิก 🏭 ข้อจำกัดและการลดสเปก เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดการส่งออกของสหรัฐฯ Nvidia ต้องลดสเปกของรุ่น D-series เช่น RTX 6000D โดยตัดหน่วยความจำลง 14% และลดจำนวน CUDA cores ลง 20% เมื่อเทียบกับรุ่น Pro 6000 ปกติ แม้ผลทดสอบ OpenCL ยังดูดี แต่ในงาน AI และ Machine Learning ประสิทธิภาพจะลดลงมากกว่า ซึ่งเป็นจุดที่รัฐบาลสหรัฐฯ จับตามอง 🚫 การแบนจากรัฐบาลจีน แม้ Nvidia พยายามเจาะตลาดจีนด้วยรุ่นพิเศษนี้ แต่รัฐบาลจีนกลับสั่งแบนการ์ดดังกล่าว และสนับสนุนให้ใช้ GPU ที่ผลิตโดยบริษัทท้องถิ่นแทน ทำให้ RTX 6000D ไม่สามารถสร้างยอดขายได้ตามที่คาดการณ์ และกลายเป็นเพียง “บทเรียน” ของการปรับตัวในตลาดที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดทางการเมืองและเศรษฐกิจ 🌍 ผลสะท้อนต่ออุตสาหกรรม เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก ที่ถูกกำหนดทั้งโดยเทคโนโลยีและการเมือง การที่ Nvidia ต้องออกแบบรุ่นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัด แต่สุดท้ายก็ถูกแบน แสดงให้เห็นว่าการแข่งขันในตลาดจีนไม่ใช่แค่เรื่องของประสิทธิภาพ แต่ยังเป็นเรื่องของความมั่นคงและการพึ่งพาเทคโนโลยีในประเทศ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลทดสอบ RTX Pro 6000D ➡️ ทำคะแนน 390,656 ใน Geekbench 6.5 OpenCL ➡️ สูงกว่า RTX 5090D V2 เล็กน้อย และตามหลัง RTX Pro 6000 เซิร์ฟเวอร์เพียง 5% ✅ ข้อจำกัดด้านสเปก ➡️ หน่วยความจำลดลง 14% เหลือ 84GB GDDR7 ➡️ CUDA cores ลดลง 20% เหลือ 19,968 cores ✅ การแบนจากรัฐบาลจีน ➡️ ห้ามจำหน่าย RTX 6000D ในประเทศ ➡️ สนับสนุนให้ใช้ GPU ที่ผลิตโดยบริษัทจีนแทน ✅ ผลสะท้อนต่ออุตสาหกรรม ➡️ แสดงให้เห็นความซับซ้อนของการเมืองและเทคโนโลยี ➡️ การแข่งขันในตลาดจีนไม่ใช่แค่เรื่องประสิทธิภาพ แต่ยังเกี่ยวข้องกับความมั่นคง ‼️ คำเตือนต่อผู้เล่นในตลาด GPU ⛔ การพึ่งพาตลาดจีนมีความเสี่ยงสูงจากข้อจำกัดทางการเมือง ⛔ การลดสเปกเพื่อเลี่ยงข้อกำหนดอาจทำให้สูญเสียความสามารถในงาน AI ที่สำคัญ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-pro-6000d-squeaks-ahead-of-rtx-5090d-in-geekbench-opencl-china-tailored-ai-card-still-performs-well-despite-regulatory-woes
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia RTX Pro 6000D squeaks ahead of RTX 5090D in Geekbench OpenCL—China-tailored AI card still performs well despite regulatory woes
    Performance against other Nvidia GPUs looks good, but Chinese regulatory headwinds mean the RTX Pro 6000D is unlikely to enjoy wide adoption.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (DHS) กำลังสอบสวนบริษัทจีน Bitmain

    รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการ “Operation Red Sunset” เพื่อตรวจสอบว่าเครื่องขุดจาก Bitmain สามารถถูกควบคุมจากระยะไกลโดยรัฐบาลจีนหรือไม่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดและถอดเครื่องเพื่อตรวจสอบชิปและโค้ดภายใน แม้ผลการตรวจสอบยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ความกังวลนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน

    กรณีที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้า
    ในปี 2024 รัฐบาลสหรัฐฯ เคยสั่งปิดการดำเนินการขุด Bitcoin ขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ฐานทัพ Warren Air Force Base เนื่องจากใช้เครื่อง Antminer ของ Bitmain นับพันเครื่อง และถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง นอกจากนี้ รายงานของคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาสหรัฐฯ ยังระบุว่าเครื่องขุดของ Bitmainสามารถถูก “ควบคุมจากระยะไกล” ได้

    การตอบโต้ของ Bitmain
    Bitmain ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า ปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐฯ อย่างเคร่งครัด และไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอดแนมหรือก่อวินาศกรรม บริษัทชี้แจงว่าการที่สินค้าบางส่วนถูกยึดโดย FCC เป็นเพียงการตรวจสอบมาตรฐานสัญญาณเท่านั้น และไม่พบสิ่งผิดปกติ

    ความหมายเชิงภูมิรัฐศาสตร์
    Bitmain ครองตลาดเครื่องขุด Bitcoin กว่า 80% ทั่วโลก แต่การที่สหรัฐฯ กังวลต่อบริษัทจีนรายใหญ่เช่นนี้ สะท้อนถึงความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์และพลังงาน โดยเฉพาะหลังจีนออกกฎหมายข่าวกรัฐในปี 2017 ที่บังคับให้บริษัทต้องร่วมมือกับหน่วยข่าวกรอง

    สรุปเป็นหัวข้อ
    การสอบสวนของ DHS
    ปฏิบัติการ “Operation Red Sunset” ตรวจสอบเครื่องขุด Bitmain
    ยึดและถอดเครื่องเพื่อตรวจสอบชิปและโค้ด

    กรณีที่เคยเกิดขึ้น
    ปี 2024 สหรัฐฯ ปิดการขุดใกล้ฐานทัพ Warren Air Force Base
    รายงานวุฒิสภาระบุว่าเครื่อง Bitmain อาจถูกควบคุมจากระยะไกล

    การตอบโต้ของ Bitmain
    ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องสอดแนมและก่อวินาศกรรม
    ยืนยันว่าปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐฯ และมาตรฐาน FCC

    ความหมายเชิงภูมิรัฐศาสตร์
    Bitmain ครองตลาดเครื่องขุดกว่า 80%
    ความตึงเครียดสหรัฐฯ–จีนเพิ่มขึ้นหลังมีกฎหมายข่าวกรัฐจีน

    คำเตือนจากกรณีนี้
    เครื่องขุดอาจถูกใช้เป็นช่องทางสอดแนมหรือโจมตีโครงสร้างพื้นฐาน
    ความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์และพลังงานยังคงสูง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/homeland-security-thinks-chinese-firms-bitcoin-mining-chips-could-be-used-for-espionage-or-to-sabotage-the-power-grid-bitmain-probed-by-u-s-govt-over-national-security-concerns
    ‼️‼️ กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (DHS) กำลังสอบสวนบริษัทจีน Bitmain รัฐบาลสหรัฐฯ เปิดปฏิบัติการ “Operation Red Sunset” เพื่อตรวจสอบว่าเครื่องขุดจาก Bitmain สามารถถูกควบคุมจากระยะไกลโดยรัฐบาลจีนหรือไม่ เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดและถอดเครื่องเพื่อตรวจสอบชิปและโค้ดภายใน แม้ผลการตรวจสอบยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ความกังวลนี้สะท้อนถึงความตึงเครียดทางเทคโนโลยีระหว่างสหรัฐฯ และจีน 🔋 กรณีที่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้า ในปี 2024 รัฐบาลสหรัฐฯ เคยสั่งปิดการดำเนินการขุด Bitcoin ขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้ฐานทัพ Warren Air Force Base เนื่องจากใช้เครื่อง Antminer ของ Bitmain นับพันเครื่อง และถูกมองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง นอกจากนี้ รายงานของคณะกรรมาธิการข่าวกรองวุฒิสภาสหรัฐฯ ยังระบุว่าเครื่องขุดของ Bitmainสามารถถูก “ควบคุมจากระยะไกล” ได้ 🛡️ การตอบโต้ของ Bitmain Bitmain ปฏิเสธข้อกล่าวหา โดยยืนยันว่า ปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐฯ อย่างเคร่งครัด และไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสอดแนมหรือก่อวินาศกรรม บริษัทชี้แจงว่าการที่สินค้าบางส่วนถูกยึดโดย FCC เป็นเพียงการตรวจสอบมาตรฐานสัญญาณเท่านั้น และไม่พบสิ่งผิดปกติ 🌐 ความหมายเชิงภูมิรัฐศาสตร์ Bitmain ครองตลาดเครื่องขุด Bitcoin กว่า 80% ทั่วโลก แต่การที่สหรัฐฯ กังวลต่อบริษัทจีนรายใหญ่เช่นนี้ สะท้อนถึงความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์และพลังงาน โดยเฉพาะหลังจีนออกกฎหมายข่าวกรัฐในปี 2017 ที่บังคับให้บริษัทต้องร่วมมือกับหน่วยข่าวกรอง 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ การสอบสวนของ DHS ➡️ ปฏิบัติการ “Operation Red Sunset” ตรวจสอบเครื่องขุด Bitmain ➡️ ยึดและถอดเครื่องเพื่อตรวจสอบชิปและโค้ด ✅ กรณีที่เคยเกิดขึ้น ➡️ ปี 2024 สหรัฐฯ ปิดการขุดใกล้ฐานทัพ Warren Air Force Base ➡️ รายงานวุฒิสภาระบุว่าเครื่อง Bitmain อาจถูกควบคุมจากระยะไกล ✅ การตอบโต้ของ Bitmain ➡️ ปฏิเสธข้อกล่าวหาเรื่องสอดแนมและก่อวินาศกรรม ➡️ ยืนยันว่าปฏิบัติตามกฎหมายสหรัฐฯ และมาตรฐาน FCC ✅ ความหมายเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ➡️ Bitmain ครองตลาดเครื่องขุดกว่า 80% ➡️ ความตึงเครียดสหรัฐฯ–จีนเพิ่มขึ้นหลังมีกฎหมายข่าวกรัฐจีน ‼️ คำเตือนจากกรณีนี้ ⛔ เครื่องขุดอาจถูกใช้เป็นช่องทางสอดแนมหรือโจมตีโครงสร้างพื้นฐาน ⛔ ความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์และพลังงานยังคงสูง https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptomining/homeland-security-thinks-chinese-firms-bitcoin-mining-chips-could-be-used-for-espionage-or-to-sabotage-the-power-grid-bitmain-probed-by-u-s-govt-over-national-security-concerns
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 456 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia เปิดตัว Vera Rubin เร็วกว่ากำหนด

    Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia ยืนยันว่าแพลตฟอร์ม Vera Rubin ซึ่งรวมทั้ง GPU, CPU, DPU และระบบเครือข่าย จะเปิดตัวในไตรมาส 3 ปี 2026 เร็วกว่าที่เคยประกาศไว้ในครึ่งหลังของปี การเร่งเปิดตัวครั้งนี้เกิดจากความต้องการ AI Compute ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยมีทีมวิศวกรกว่า 20,000 คนทำงานตลอดเวลาเพื่อเตรียมความพร้อม

    เป้าหมายยอดขายมหาศาล
    Nvidia ตั้งเป้ายอดขาย GPU สำหรับ AI สูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2026 โดยไม่รวมตลาดจีน ซึ่งเคยเป็นตลาดใหญ่อันดับสามของบริษัท การเติบโตนี้มาจากการใช้งาน AI ที่แพร่หลายทั้งในภาคธุรกิจ รัฐบาล และสถาบันวิจัย ทำให้ความต้องการชิปประสิทธิภาพสูงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ผลกระทบจากข้อจำกัดจีน
    สหรัฐฯ ได้สั่งห้ามการขาย GPU ขั้นสูงให้จีน ขณะที่รัฐบาลจีนก็ห้ามหน่วยงานรัฐซื้อฮาร์ดแวร์ต่างประเทศ ทำให้ Nvidia ต้องตัดจีนออกจากการคาดการณ์รายได้ Huang ระบุว่า “เราคาดการณ์รายได้จากจีนเป็นศูนย์” แม้จะยอมรับว่าตลาด AI ของจีนมีมูลค่ากว่า 50 พันล้านดอลลาร์ แต่บริษัทจะยังคงพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ

    สถาปัตยกรรม Vera Rubin
    แพลตฟอร์ม Vera Rubin ประกอบด้วย
    Rubin GPU แบบ dual-chiplet พร้อม HBM4 288GB
    Rubin CPX accelerator พร้อม GDDR7 128GB
    Vera CPU ที่มี 88 คอร์
    BlueField-4 DPU
    NVLink รุ่นที่ 6 และอะแดปเตอร์ Ethernet/InfiniBand รุ่นใหม่

    ทั้งหมดถูกออกแบบเพื่อรองรับการประมวลผล AI และ HPC ในระดับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Vera Rubin เปิดตัวเร็วกว่ากำหนด
    เปิดตัวไตรมาส 3 ปี 2026
    ทีมวิศวกรกว่า 20,000 คนทำงานพัฒนา

    เป้าหมายยอดขาย
    ตั้งเป้า 500 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2026
    ความต้องการ AI Compute พุ่งสูงทั่วโลก

    ผลกระทบจากจีน
    สหรัฐฯ ห้ามขาย GPU ขั้นสูงให้จีน
    จีนห้ามหน่วยงานรัฐซื้อฮาร์ดแวร์ต่างประเทศ
    Nvidia คาดการณ์รายได้จากจีนเป็นศูนย์

    สถาปัตยกรรม Vera Rubin
    Rubin GPU, CPX accelerator, Vera CPU, BlueField-4 DPU
    NVLink รุ่นที่ 6 และระบบเครือข่ายใหม่

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    การสูญเสียตลาดจีนอาจกระทบต่อการเติบโตระยะยาว
    ความเสี่ยงจากสงครามการค้าสหรัฐฯ–จีนยังคงอยู่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-hints-at-early-vera-rubin-launch-on-track-for-usd500-billion-in-gpu-sales-by-late-2026-despite-losing-china
    🚀 Nvidia เปิดตัว Vera Rubin เร็วกว่ากำหนด Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia ยืนยันว่าแพลตฟอร์ม Vera Rubin ซึ่งรวมทั้ง GPU, CPU, DPU และระบบเครือข่าย จะเปิดตัวในไตรมาส 3 ปี 2026 เร็วกว่าที่เคยประกาศไว้ในครึ่งหลังของปี การเร่งเปิดตัวครั้งนี้เกิดจากความต้องการ AI Compute ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยมีทีมวิศวกรกว่า 20,000 คนทำงานตลอดเวลาเพื่อเตรียมความพร้อม 💹 เป้าหมายยอดขายมหาศาล Nvidia ตั้งเป้ายอดขาย GPU สำหรับ AI สูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2026 โดยไม่รวมตลาดจีน ซึ่งเคยเป็นตลาดใหญ่อันดับสามของบริษัท การเติบโตนี้มาจากการใช้งาน AI ที่แพร่หลายทั้งในภาคธุรกิจ รัฐบาล และสถาบันวิจัย ทำให้ความต้องการชิปประสิทธิภาพสูงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง 🌐 ผลกระทบจากข้อจำกัดจีน สหรัฐฯ ได้สั่งห้ามการขาย GPU ขั้นสูงให้จีน ขณะที่รัฐบาลจีนก็ห้ามหน่วยงานรัฐซื้อฮาร์ดแวร์ต่างประเทศ ทำให้ Nvidia ต้องตัดจีนออกจากการคาดการณ์รายได้ Huang ระบุว่า “เราคาดการณ์รายได้จากจีนเป็นศูนย์” แม้จะยอมรับว่าตลาด AI ของจีนมีมูลค่ากว่า 50 พันล้านดอลลาร์ แต่บริษัทจะยังคงพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ⚡ สถาปัตยกรรม Vera Rubin แพลตฟอร์ม Vera Rubin ประกอบด้วย 🎗️ Rubin GPU แบบ dual-chiplet พร้อม HBM4 288GB 🎗️ Rubin CPX accelerator พร้อม GDDR7 128GB 🎗️ Vera CPU ที่มี 88 คอร์ 🎗️ BlueField-4 DPU 🎗️ NVLink รุ่นที่ 6 และอะแดปเตอร์ Ethernet/InfiniBand รุ่นใหม่ ทั้งหมดถูกออกแบบเพื่อรองรับการประมวลผล AI และ HPC ในระดับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Vera Rubin เปิดตัวเร็วกว่ากำหนด ➡️ เปิดตัวไตรมาส 3 ปี 2026 ➡️ ทีมวิศวกรกว่า 20,000 คนทำงานพัฒนา ✅ เป้าหมายยอดขาย ➡️ ตั้งเป้า 500 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2026 ➡️ ความต้องการ AI Compute พุ่งสูงทั่วโลก ✅ ผลกระทบจากจีน ➡️ สหรัฐฯ ห้ามขาย GPU ขั้นสูงให้จีน ➡️ จีนห้ามหน่วยงานรัฐซื้อฮาร์ดแวร์ต่างประเทศ ➡️ Nvidia คาดการณ์รายได้จากจีนเป็นศูนย์ ✅ สถาปัตยกรรม Vera Rubin ➡️ Rubin GPU, CPX accelerator, Vera CPU, BlueField-4 DPU ➡️ NVLink รุ่นที่ 6 และระบบเครือข่ายใหม่ ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ การสูญเสียตลาดจีนอาจกระทบต่อการเติบโตระยะยาว ⛔ ความเสี่ยงจากสงครามการค้าสหรัฐฯ–จีนยังคงอยู่ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-hints-at-early-vera-rubin-launch-on-track-for-usd500-billion-in-gpu-sales-by-late-2026-despite-losing-china
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • “App Store Oligopoly – เมื่อสมาร์ทโฟนกลายเป็นเครื่องมือควบคุมเสรีภาพ”

    บทความจาก ACLU เตือนว่าโครงสร้างผูกขาดของ App Store (Apple และ Google) กำลังเปิดช่องให้รัฐบาลใช้อำนาจกดดันบริษัทเทคโนโลยีเพื่อควบคุมการสื่อสารและจำกัดเสรีภาพของประชาชน

    การควบคุมแอปโดยรัฐบาลและบริษัทยักษ์ใหญ่ บทความชี้ว่า Apple และ Google ครองตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด ทำให้สิ่งที่ผู้ใช้สามารถทำได้บนมือถือถูกกำหนดโดยสองบริษัทนี้ ตัวอย่างล่าสุดคือการที่ Apple และ Google ถอนแอป ICEBlock และ Red Dot ตามคำสั่งของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ทั้งที่แอปเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนรายงานการพบเห็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งถือเป็นสิทธิภายใต้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งแรก (First Amendment)

    โครงสร้างระบบที่เอื้อต่อการเซ็นเซอร์ Apple ใช้ระบบ iOS ที่บังคับให้ติดตั้งแอปผ่าน App Store เท่านั้น ทำให้การควบคุมเป็นแบบรวมศูนย์และเสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เช่น การห้ามเกมที่วิจารณ์บริษัท หรือการยอมให้รัฐบาลจีนบล็อกแอปหาคู่ LGBTQ ในประเทศ ขณะที่ Google แม้เคยเปิดให้ “sideloading” แต่กำลังเปลี่ยนไปใช้ระบบ Verified Developer ที่อาจทำให้รัฐบาลสามารถกดดันให้ตัดสิทธิ์นักพัฒนาที่ไม่พึงประสงค์ได้

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการสอดส่อง แม้บริษัทจะอ้างว่าเป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัย แต่ในความจริง App Store และ Play Store ยังคงอนุญาตให้แอปที่มีโค้ดสอดส่องและขายข้อมูลผู้ใช้ผ่าน data broker เข้ามาได้ อีกทั้งยังมีการเก็บข้อมูลการติดตั้งแอปของผู้ใช้เอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

    ทางเลือกและการผลักดันเพื่อเสรีภาพ ACLU เสนอว่าผู้ใช้ควรหันไปใช้ App Store ทางเลือก เช่น F-Droid หรือ Accrescent ที่เน้นความเป็นโอเพนซอร์สและความเป็นส่วนตัว รวมถึงการผลักดันกฎหมายแบบ Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป ที่บังคับให้ Apple เปิดให้มีการ sideload แอปและ App Store ทางเลือก เพื่อป้องกันการผูกขาดและการควบคุมจากรัฐบาล

    สรุปสาระสำคัญ
    การควบคุมโดย App Store
    Apple และ Google ครองตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐฯ
    การถอนแอป ICEBlock และ Red Dot ตามคำสั่ง DOJ

    โครงสร้างที่เอื้อต่อการเซ็นเซอร์
    Apple บังคับใช้ App Store เดียว
    Google เตรียมใช้ระบบ Verified Developer

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการสอดส่อง
    แอปที่มีโค้ดสอดส่องยังถูกอนุญาต
    App Store เก็บข้อมูลการติดตั้งแอปของผู้ใช้

    ทางเลือกเพื่อเสรีภาพ
    ใช้ App Store ทางเลือก เช่น F-Droid, Accrescent
    ผลักดันกฎหมายแบบ DMA ของ EU

    คำเตือนต่อผู้ใช้สมาร์ทโฟน
    การผูกขาดทำให้รัฐบาลสามารถกดดันบริษัทเพื่อควบคุมเสรีภาพ
    การสอดส่องข้อมูลผู้ใช้อาจกระทบสิทธิความเป็นส่วนตัว

    https://www.aclu.org/news/free-speech/app-store-oligopoly
    📰 “App Store Oligopoly – เมื่อสมาร์ทโฟนกลายเป็นเครื่องมือควบคุมเสรีภาพ” บทความจาก ACLU เตือนว่าโครงสร้างผูกขาดของ App Store (Apple และ Google) กำลังเปิดช่องให้รัฐบาลใช้อำนาจกดดันบริษัทเทคโนโลยีเพื่อควบคุมการสื่อสารและจำกัดเสรีภาพของประชาชน 📱 การควบคุมแอปโดยรัฐบาลและบริษัทยักษ์ใหญ่ บทความชี้ว่า Apple และ Google ครองตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐฯ เกือบทั้งหมด ทำให้สิ่งที่ผู้ใช้สามารถทำได้บนมือถือถูกกำหนดโดยสองบริษัทนี้ ตัวอย่างล่าสุดคือการที่ Apple และ Google ถอนแอป ICEBlock และ Red Dot ตามคำสั่งของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ทั้งที่แอปเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนรายงานการพบเห็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งถือเป็นสิทธิภายใต้การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งแรก (First Amendment) 🔒 โครงสร้างระบบที่เอื้อต่อการเซ็นเซอร์ Apple ใช้ระบบ iOS ที่บังคับให้ติดตั้งแอปผ่าน App Store เท่านั้น ทำให้การควบคุมเป็นแบบรวมศูนย์และเสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง เช่น การห้ามเกมที่วิจารณ์บริษัท หรือการยอมให้รัฐบาลจีนบล็อกแอปหาคู่ LGBTQ ในประเทศ ขณะที่ Google แม้เคยเปิดให้ “sideloading” แต่กำลังเปลี่ยนไปใช้ระบบ Verified Developer ที่อาจทำให้รัฐบาลสามารถกดดันให้ตัดสิทธิ์นักพัฒนาที่ไม่พึงประสงค์ได้ 👁️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการสอดส่อง แม้บริษัทจะอ้างว่าเป็นมาตรการเพื่อความปลอดภัย แต่ในความจริง App Store และ Play Store ยังคงอนุญาตให้แอปที่มีโค้ดสอดส่องและขายข้อมูลผู้ใช้ผ่าน data broker เข้ามาได้ อีกทั้งยังมีการเก็บข้อมูลการติดตั้งแอปของผู้ใช้เอง ทำให้ผู้ใช้ตกอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง 🌐 ทางเลือกและการผลักดันเพื่อเสรีภาพ ACLU เสนอว่าผู้ใช้ควรหันไปใช้ App Store ทางเลือก เช่น F-Droid หรือ Accrescent ที่เน้นความเป็นโอเพนซอร์สและความเป็นส่วนตัว รวมถึงการผลักดันกฎหมายแบบ Digital Markets Act (DMA) ของสหภาพยุโรป ที่บังคับให้ Apple เปิดให้มีการ sideload แอปและ App Store ทางเลือก เพื่อป้องกันการผูกขาดและการควบคุมจากรัฐบาล 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การควบคุมโดย App Store ➡️ Apple และ Google ครองตลาดสมาร์ทโฟนสหรัฐฯ ➡️ การถอนแอป ICEBlock และ Red Dot ตามคำสั่ง DOJ ✅ โครงสร้างที่เอื้อต่อการเซ็นเซอร์ ➡️ Apple บังคับใช้ App Store เดียว ➡️ Google เตรียมใช้ระบบ Verified Developer ✅ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการสอดส่อง ➡️ แอปที่มีโค้ดสอดส่องยังถูกอนุญาต ➡️ App Store เก็บข้อมูลการติดตั้งแอปของผู้ใช้ ✅ ทางเลือกเพื่อเสรีภาพ ➡️ ใช้ App Store ทางเลือก เช่น F-Droid, Accrescent ➡️ ผลักดันกฎหมายแบบ DMA ของ EU ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้สมาร์ทโฟน ⛔ การผูกขาดทำให้รัฐบาลสามารถกดดันบริษัทเพื่อควบคุมเสรีภาพ ⛔ การสอดส่องข้อมูลผู้ใช้อาจกระทบสิทธิความเป็นส่วนตัว https://www.aclu.org/news/free-speech/app-store-oligopoly
    WWW.ACLU.ORG
    Your Smartphone, Their Rules: How App Stores Enable Corporate-Government Censorship | ACLU
    Big Tech Oligopoly helps the Trump Administration crack down on free speech
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 392 มุมมอง 0 รีวิว
  • คดี “Bitcoin Queen” – ฟอกเงินกว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์

    เรื่องราวของ Zhimin Qian หรือที่รู้จักกันว่า “Bitcoin Queen” กลายเป็นข่าวใหญ่ในอังกฤษ เธอถูกตัดสินจำคุกเกือบ 12 ปี หลังจากฟอกเงินผ่านคริปโตมูลค่ากว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหลอกนักลงทุนกว่า 128,000 รายในจีนระหว่างปี 2014–2017 ก่อนหลบหนีไปหลายประเทศด้วยพาสปอร์ตปลอม

    การสืบสวนเริ่มต้นเมื่อเธอพยายามซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนด้วย Bitcoin ทำให้ตำรวจเริ่มติดตามและยึดได้กว่า 61,000 Bitcoin ซึ่งถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ช่วงนั้น แม้เธอจะใช้ชีวิตหรูหราและเดินทางหลบเลี่ยงประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่สุดท้ายก็ถูกจับในอังกฤษ

    สิ่งที่น่าสนใจคือ เธอเคยวางแผนจะขาย Bitcoin เดือนละ 250,000 ดอลลาร์เพื่อใช้ชีวิต และถึงขั้นฝันอยากเป็น “ราชินีแห่ง Liberland” ประเทศเล็ก ๆ ระหว่างโครเอเชียและเซอร์เบีย แต่ความฝันก็จบลงเมื่อถูกจับและตัดสินโทษหนัก ปัจจุบันยังมีข้อถกเถียงว่าจีนและอังกฤษจะจัดการคืนเงินให้ผู้เสียหายอย่างไร

    สรุปประเด็น
    Zhimin Qian ถูกตัดสินจำคุกเกือบ 12 ปี
    ฟอกเงินผ่านคริปโตมูลค่ากว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์

    ตำรวจอังกฤษยึดได้กว่า 61,000 Bitcoin
    ถือเป็นการยึดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    เธอใช้ชีวิตหรูหราและหลบหนีหลายประเทศ
    เลี่ยงประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

    ผู้เสียหายกว่า 128,000 รายยังไม่แน่ว่าจะได้เงินคืน
    การจัดการระหว่างรัฐบาลจีนและอังกฤษยังไม่ชัดเจน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/bitcoin-queen-who-laundered-usd5-6-billion-in-illicit-funds-through-crypto-gets-nearly-12-years-in-prison-uk-court-hands-down-sentence
    💰 คดี “Bitcoin Queen” – ฟอกเงินกว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์ เรื่องราวของ Zhimin Qian หรือที่รู้จักกันว่า “Bitcoin Queen” กลายเป็นข่าวใหญ่ในอังกฤษ เธอถูกตัดสินจำคุกเกือบ 12 ปี หลังจากฟอกเงินผ่านคริปโตมูลค่ากว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหลอกนักลงทุนกว่า 128,000 รายในจีนระหว่างปี 2014–2017 ก่อนหลบหนีไปหลายประเทศด้วยพาสปอร์ตปลอม การสืบสวนเริ่มต้นเมื่อเธอพยายามซื้ออสังหาริมทรัพย์ในลอนดอนด้วย Bitcoin ทำให้ตำรวจเริ่มติดตามและยึดได้กว่า 61,000 Bitcoin ซึ่งถือเป็นการยึดคริปโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ช่วงนั้น แม้เธอจะใช้ชีวิตหรูหราและเดินทางหลบเลี่ยงประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน แต่สุดท้ายก็ถูกจับในอังกฤษ สิ่งที่น่าสนใจคือ เธอเคยวางแผนจะขาย Bitcoin เดือนละ 250,000 ดอลลาร์เพื่อใช้ชีวิต และถึงขั้นฝันอยากเป็น “ราชินีแห่ง Liberland” ประเทศเล็ก ๆ ระหว่างโครเอเชียและเซอร์เบีย แต่ความฝันก็จบลงเมื่อถูกจับและตัดสินโทษหนัก ปัจจุบันยังมีข้อถกเถียงว่าจีนและอังกฤษจะจัดการคืนเงินให้ผู้เสียหายอย่างไร 📌 สรุปประเด็น ✅ Zhimin Qian ถูกตัดสินจำคุกเกือบ 12 ปี ➡️ ฟอกเงินผ่านคริปโตมูลค่ากว่า 5.6 พันล้านดอลลาร์ ✅ ตำรวจอังกฤษยึดได้กว่า 61,000 Bitcoin ➡️ ถือเป็นการยึดครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ✅ เธอใช้ชีวิตหรูหราและหลบหนีหลายประเทศ ➡️ เลี่ยงประเทศที่มีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ‼️ ผู้เสียหายกว่า 128,000 รายยังไม่แน่ว่าจะได้เงินคืน ⛔ การจัดการระหว่างรัฐบาลจีนและอังกฤษยังไม่ชัดเจน https://www.tomshardware.com/tech-industry/cryptocurrency/bitcoin-queen-who-laundered-usd5-6-billion-in-illicit-funds-through-crypto-gets-nearly-12-years-in-prison-uk-court-hands-down-sentence
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 571 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนเร่งใช้ชิป AI พัฒนาเอง หลังถูกจำกัดการนำเข้า

    รัฐบาลจีนเริ่มเข้ามากำกับดูแลการจัดสรรชิป AI ระดับสูง เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกจากสหรัฐฯ ทำให้เกิดการขาดแคลน GPU ของ Nvidia บริษัทคลาวด์รายใหญ่ในจีน เช่น Alibaba และ Baidu จึงหันมาใช้ชิปที่ผลิตเอง เช่น Huawei Ascend 910B และรุ่นใหม่ 910C ซึ่งแม้จะไม่แรงเท่า Nvidia แต่ก็ถูกนำมาใช้จริงในงานฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่

    การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้จีนต้องเขียนซอฟต์แวร์ใหม่และปรับโครงสร้างงานให้เข้ากับชิปที่ยังไม่สมบูรณ์แบบนัก ปัญหาที่ตามมาคือแบนด์วิดท์หน่วยความจำที่ยังไม่เพียงพอ และการผลิต HBM ในประเทศยังไม่สามารถรองรับได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม การผลักดันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้จีนลดการพึ่งพาต่างชาติ

    นอกจากนั้นยังมีการใช้วิธีเลี่ยง เช่น การนำชิป Nvidia มือสองเข้ามา หรือใช้บริษัทสาขาในต่างประเทศเพื่อฝึกโมเดล แต่แนวโน้มชัดเจนว่าตลาดจีนกำลังหันไปพึ่งพาชิปภายในประเทศมากขึ้น

    จีนหันมาใช้ชิป AI ที่ผลิตเอง เช่น Huawei Ascend 910C
    ถูกใช้จริงในการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่

    Alibaba และ Baidu ปรับแพลตฟอร์มให้ทำงานบนฮาร์ดแวร์จีน
    ลดการพึ่งพา Nvidia

    รัฐบาลจีนเข้ามากำกับการจัดสรรชิปโดยตรง
    เน้นให้โครงการรัฐและคลาวด์ใช้ชิปในประเทศ

    ชิปจีนยังด้อยกว่า Nvidia ในด้านประสิทธิภาพ
    อาจทำให้การฝึกโมเดลใช้เวลานานขึ้น

    ปัญหาหน่วยความจำ HBM ยังไม่ถูกแก้ไข
    เสี่ยงต่อการชะลอการพัฒนา AI ในประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinas-ai-chip-pivot-accelerates-as-us-export-restrictions-bite
    🇨🇳 จีนเร่งใช้ชิป AI พัฒนาเอง หลังถูกจำกัดการนำเข้า รัฐบาลจีนเริ่มเข้ามากำกับดูแลการจัดสรรชิป AI ระดับสูง เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกจากสหรัฐฯ ทำให้เกิดการขาดแคลน GPU ของ Nvidia บริษัทคลาวด์รายใหญ่ในจีน เช่น Alibaba และ Baidu จึงหันมาใช้ชิปที่ผลิตเอง เช่น Huawei Ascend 910B และรุ่นใหม่ 910C ซึ่งแม้จะไม่แรงเท่า Nvidia แต่ก็ถูกนำมาใช้จริงในงานฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้จีนต้องเขียนซอฟต์แวร์ใหม่และปรับโครงสร้างงานให้เข้ากับชิปที่ยังไม่สมบูรณ์แบบนัก ปัญหาที่ตามมาคือแบนด์วิดท์หน่วยความจำที่ยังไม่เพียงพอ และการผลิต HBM ในประเทศยังไม่สามารถรองรับได้เต็มที่ อย่างไรก็ตาม การผลักดันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ทำให้จีนลดการพึ่งพาต่างชาติ นอกจากนั้นยังมีการใช้วิธีเลี่ยง เช่น การนำชิป Nvidia มือสองเข้ามา หรือใช้บริษัทสาขาในต่างประเทศเพื่อฝึกโมเดล แต่แนวโน้มชัดเจนว่าตลาดจีนกำลังหันไปพึ่งพาชิปภายในประเทศมากขึ้น ✅ จีนหันมาใช้ชิป AI ที่ผลิตเอง เช่น Huawei Ascend 910C ➡️ ถูกใช้จริงในการฝึกโมเดล AI ขนาดใหญ่ ✅ Alibaba และ Baidu ปรับแพลตฟอร์มให้ทำงานบนฮาร์ดแวร์จีน ➡️ ลดการพึ่งพา Nvidia ✅ รัฐบาลจีนเข้ามากำกับการจัดสรรชิปโดยตรง ➡️ เน้นให้โครงการรัฐและคลาวด์ใช้ชิปในประเทศ ‼️ ชิปจีนยังด้อยกว่า Nvidia ในด้านประสิทธิภาพ ⛔ อาจทำให้การฝึกโมเดลใช้เวลานานขึ้น ‼️ ปัญหาหน่วยความจำ HBM ยังไม่ถูกแก้ไข ⛔ เสี่ยงต่อการชะลอการพัฒนา AI ในประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chinas-ai-chip-pivot-accelerates-as-us-export-restrictions-bite
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สหรัฐฯ เตรียมแบน TP-Link — ความปลอดภัยไซเบอร์หรือสงครามการค้า? "

    รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแบนการขายอุปกรณ์เครือข่ายจาก TP-Link Systems ซึ่งครองตลาดผู้ใช้ตามบ้านและธุรกิจขนาดเล็กกว่า 50% โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงและความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน แม้ TP-Link จะปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าเป็นบริษัทอเมริกันที่แยกตัวจากจีนแล้วก็ตาม

    เหตุผลที่สหรัฐฯ เตรียมแบน TP-Link
    TP-Link ถูกกล่าวหาว่าอาจอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาลจีน
    แม้จะมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนียและโรงงานในเวียดนาม แต่ยังมีการดำเนินงานบางส่วนในจีน

    อุปกรณ์ TP-Link พบในฐานทัพสหรัฐฯ และร้านค้าสำหรับทหาร
    สร้างความกังวลเรื่องการสอดแนมและการโจมตีไซเบอร์

    ราคาถูกและประสิทธิภาพดี ทำให้ TP-Link เป็นที่นิยมในตลาด
    โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP)

    ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ถูกเปิดเผย
    กลุ่มแฮกเกอร์ Camaro Dragon ใช้ firmware ปลอมโจมตีหน่วยงานต่างประเทศ
    พบเฉพาะในอุปกรณ์ TP-Link แต่มีความเสี่ยงต่ออุปกรณ์อื่นด้วย

    Microsoft พบว่า TP-Link ถูกใช้ในการโจมตีแบบ “password spraying”
    กลุ่มแฮกเกอร์จีนใช้ router ที่ถูกเจาะระบบเพื่อเข้าถึงบัญชี Microsoft

    อุปกรณ์ใหม่มักมี firmware ที่ล้าสมัยและตั้งค่าความปลอดภัยไม่ดี
    เช่น รหัสผ่านเริ่มต้นที่ไม่ได้เปลี่ยน ทำให้ถูกโจมตีได้ง่าย

    ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ TP-Link
    ใช้ firmware แบบ open-source เช่น OpenWRT หรือ DD-WRT
    เพิ่มความปลอดภัยและฟีเจอร์ เช่น VPN, ad blocker, network monitor

    เปลี่ยน router หากอุปกรณ์เก่าเกิน 4–5 ปี
    เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ดีกว่า

    ตรวจสอบว่า router ได้รับการอัปเดตจาก ISP หรือไม่
    หากเป็นอุปกรณ์ที่เช่า ควรปรึกษาผู้ให้บริการก่อนเปลี่ยน

    แนวโน้มของตลาด router และความปลอดภัย
    ผู้ผลิตเริ่มบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านและอัปเดต firmware ตั้งแต่แรก
    เช่น Amazon Eero, Netgear Orbi, Asus ZenWifi

    router ราคาถูกมักบังคับให้ติดตั้งผ่านแอปมือถือ
    อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ชอบตั้งค่าด้วยตนเอง

    https://krebsonsecurity.com/2025/11/drilling-down-on-uncle-sams-proposed-tp-link-ban/
    📡 "สหรัฐฯ เตรียมแบน TP-Link — ความปลอดภัยไซเบอร์หรือสงครามการค้า? 🔒🇺🇸" รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาแบนการขายอุปกรณ์เครือข่ายจาก TP-Link Systems ซึ่งครองตลาดผู้ใช้ตามบ้านและธุรกิจขนาดเล็กกว่า 50% โดยอ้างเหตุผลด้านความมั่นคงและความเชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน แม้ TP-Link จะปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าเป็นบริษัทอเมริกันที่แยกตัวจากจีนแล้วก็ตาม 🔖 เหตุผลที่สหรัฐฯ เตรียมแบน TP-Link ✅ TP-Link ถูกกล่าวหาว่าอาจอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาลจีน ➡️ แม้จะมีสำนักงานใหญ่ในแคลิฟอร์เนียและโรงงานในเวียดนาม แต่ยังมีการดำเนินงานบางส่วนในจีน ✅ อุปกรณ์ TP-Link พบในฐานทัพสหรัฐฯ และร้านค้าสำหรับทหาร ➡️ สร้างความกังวลเรื่องการสอดแนมและการโจมตีไซเบอร์ ✅ ราคาถูกและประสิทธิภาพดี ทำให้ TP-Link เป็นที่นิยมในตลาด ➡️ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ⛔🚫 ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยที่ถูกเปิดเผย ‼️ กลุ่มแฮกเกอร์ Camaro Dragon ใช้ firmware ปลอมโจมตีหน่วยงานต่างประเทศ ⛔ พบเฉพาะในอุปกรณ์ TP-Link แต่มีความเสี่ยงต่ออุปกรณ์อื่นด้วย ‼️ Microsoft พบว่า TP-Link ถูกใช้ในการโจมตีแบบ “password spraying” ⛔ กลุ่มแฮกเกอร์จีนใช้ router ที่ถูกเจาะระบบเพื่อเข้าถึงบัญชี Microsoft ‼️ อุปกรณ์ใหม่มักมี firmware ที่ล้าสมัยและตั้งค่าความปลอดภัยไม่ดี ⛔ เช่น รหัสผ่านเริ่มต้นที่ไม่ได้เปลี่ยน ทำให้ถูกโจมตีได้ง่าย ✅ ทางเลือกสำหรับผู้ใช้ TP-Link ✅ ใช้ firmware แบบ open-source เช่น OpenWRT หรือ DD-WRT ➡️ เพิ่มความปลอดภัยและฟีเจอร์ เช่น VPN, ad blocker, network monitor ✅ เปลี่ยน router หากอุปกรณ์เก่าเกิน 4–5 ปี ➡️ เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่ดีกว่า ✅ ตรวจสอบว่า router ได้รับการอัปเดตจาก ISP หรือไม่ ➡️ หากเป็นอุปกรณ์ที่เช่า ควรปรึกษาผู้ให้บริการก่อนเปลี่ยน ✅ แนวโน้มของตลาด router และความปลอดภัย ✅ ผู้ผลิตเริ่มบังคับให้ผู้ใช้เปลี่ยนรหัสผ่านและอัปเดต firmware ตั้งแต่แรก ➡️ เช่น Amazon Eero, Netgear Orbi, Asus ZenWifi ✅ router ราคาถูกมักบังคับให้ติดตั้งผ่านแอปมือถือ ➡️ อาจไม่สะดวกสำหรับผู้ใช้ที่ชอบตั้งค่าด้วยตนเอง https://krebsonsecurity.com/2025/11/drilling-down-on-uncle-sams-proposed-tp-link-ban/
    KREBSONSECURITY.COM
    Drilling Down on Uncle Sam’s Proposed TP-Link Ban
    The U.S. government is reportedly preparing to ban the sale of wireless routers and other networking gear from TP-Link Systems, a tech company that currently enjoys an estimated 50% market share among home users and small businesses. Experts say while…
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 509 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิบัติการเงียบจากแดนมังกร: แฮกเกอร์จีนแฝงตัวในองค์กรนโยบายสหรัฐฯ นานนับเดือน

    การสืบสวนล่าสุดโดยทีม Broadcom Threat Hunter เผยให้เห็นการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนจากกลุ่ม APT (Advanced Persistent Threat) ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน โดยเจาะเข้าองค์กรไม่แสวงกำไรในสหรัฐฯ ที่มีบทบาทด้านนโยบายระหว่างประเทศ

    การโจมตีเริ่มต้นในเดือนเมษายน 2025 ด้วยการสแกนช่องโหว่ที่รู้จักกันดี เช่น Log4j, Apache Struts และ Atlassian OGNL Injection ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการแฝงตัวอย่างแนบเนียนผ่าน Scheduled Task และการใช้โปรแกรมระบบ Windows เช่น msbuild.exe และ csc.exe เพื่อรันโค้ดอันตรายโดยไม่ถูกตรวจจับ

    หนึ่งในเทคนิคที่โดดเด่นคือ DLL Sideloading โดยใช้ไฟล์ vetysafe.exe จาก Vipre Antivirus เพื่อโหลด DLL ปลอมชื่อ sbamres.dll ซึ่งเคยถูกใช้ในแคมเปญของกลุ่มแฮกเกอร์จีนหลายกลุ่ม เช่น Space Pirates, Kelp (Salt Typhoon) และ Earth Longzhi (กลุ่มย่อยของ APT41)

    เสริมความรู้: DLL Sideloading และ Living-off-the-Land คืออะไร?
    DLL Sideloading คือการใช้โปรแกรมที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อโหลด DLL ปลอมที่แฮกเกอร์สร้างขึ้น ทำให้ระบบเข้าใจผิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมจริง
    Living-off-the-Land (LOTL) คือการใช้เครื่องมือหรือโปรแกรมที่มีอยู่ในระบบอยู่แล้ว เช่น msbuild.exe, certutil.exe เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากโปรแกรมป้องกันไวรัส

    กลุ่มผู้โจมตี
    เป็นกลุ่ม APT ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน เช่น APT41, Space Pirates, Kelp
    มีเป้าหมายเพื่อสอดแนมนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ

    เทคนิคที่ใช้
    สแกนช่องโหว่ที่รู้จักกันดี เช่น Log4j, Apache Struts
    ใช้ msbuild.exe และ csc.exe เพื่อรันโค้ดอันตรายแบบ LOTL
    สร้าง Scheduled Task ที่รันทุกชั่วโมงในระดับ SYSTEM
    ใช้ DLL Sideloading ผ่าน vetysafe.exe เพื่อโหลด sbamres.dll

    ความสามารถของมัลแวร์
    สร้าง C2 connection เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล
    ใช้ msascui.exe ปลอมตัวเป็น MicrosoftRuntime เพื่อรัน payload
    ใช้ DCSync เพื่อขโมยข้อมูลจาก Active Directory
    ใช้ Imjpuexc.exe เพื่อหลบซ่อนในระบบ

    ความเสี่ยงต่อองค์กร
    องค์กรที่เกี่ยวข้องกับนโยบายหรือการทูตมีความเสี่ยงสูง
    การใช้โปรแกรมระบบทำให้การตรวจจับยากขึ้น
    การโจมตีแบบยาวนานอาจทำให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหลโดยไม่รู้ตัว

    คำแนะนำด้านความปลอดภัย
    ตรวจสอบ Scheduled Task ที่รันในระดับ SYSTEM
    ตรวจสอบการใช้โปรแกรมระบบที่ผิดปกติ เช่น msbuild.exe
    ใช้ระบบ EDR ที่สามารถตรวจจับ DLL Sideloading และ LOTL ได้

    https://securityonline.info/china-apt-infiltrates-us-policy-nonprofit-in-months-long-espionage-campaign-using-dll-sideloading/
    🧨 ปฏิบัติการเงียบจากแดนมังกร: แฮกเกอร์จีนแฝงตัวในองค์กรนโยบายสหรัฐฯ นานนับเดือน การสืบสวนล่าสุดโดยทีม Broadcom Threat Hunter เผยให้เห็นการโจมตีไซเบอร์ที่ซับซ้อนจากกลุ่ม APT (Advanced Persistent Threat) ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน โดยเจาะเข้าองค์กรไม่แสวงกำไรในสหรัฐฯ ที่มีบทบาทด้านนโยบายระหว่างประเทศ การโจมตีเริ่มต้นในเดือนเมษายน 2025 ด้วยการสแกนช่องโหว่ที่รู้จักกันดี เช่น Log4j, Apache Struts และ Atlassian OGNL Injection ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการแฝงตัวอย่างแนบเนียนผ่าน Scheduled Task และการใช้โปรแกรมระบบ Windows เช่น msbuild.exe และ csc.exe เพื่อรันโค้ดอันตรายโดยไม่ถูกตรวจจับ หนึ่งในเทคนิคที่โดดเด่นคือ DLL Sideloading โดยใช้ไฟล์ vetysafe.exe จาก Vipre Antivirus เพื่อโหลด DLL ปลอมชื่อ sbamres.dll ซึ่งเคยถูกใช้ในแคมเปญของกลุ่มแฮกเกอร์จีนหลายกลุ่ม เช่น Space Pirates, Kelp (Salt Typhoon) และ Earth Longzhi (กลุ่มย่อยของ APT41) 🧠 เสริมความรู้: DLL Sideloading และ Living-off-the-Land คืออะไร? 🎗️ DLL Sideloading คือการใช้โปรแกรมที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อโหลด DLL ปลอมที่แฮกเกอร์สร้างขึ้น ทำให้ระบบเข้าใจผิดว่าเป็นส่วนหนึ่งของโปรแกรมจริง 🎗️ Living-off-the-Land (LOTL) คือการใช้เครื่องมือหรือโปรแกรมที่มีอยู่ในระบบอยู่แล้ว เช่น msbuild.exe, certutil.exe เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับจากโปรแกรมป้องกันไวรัส ✅ กลุ่มผู้โจมตี ➡️ เป็นกลุ่ม APT ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลจีน เช่น APT41, Space Pirates, Kelp ➡️ มีเป้าหมายเพื่อสอดแนมนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ✅ เทคนิคที่ใช้ ➡️ สแกนช่องโหว่ที่รู้จักกันดี เช่น Log4j, Apache Struts ➡️ ใช้ msbuild.exe และ csc.exe เพื่อรันโค้ดอันตรายแบบ LOTL ➡️ สร้าง Scheduled Task ที่รันทุกชั่วโมงในระดับ SYSTEM ➡️ ใช้ DLL Sideloading ผ่าน vetysafe.exe เพื่อโหลด sbamres.dll ✅ ความสามารถของมัลแวร์ ➡️ สร้าง C2 connection เพื่อควบคุมเครื่องจากระยะไกล ➡️ ใช้ msascui.exe ปลอมตัวเป็น MicrosoftRuntime เพื่อรัน payload ➡️ ใช้ DCSync เพื่อขโมยข้อมูลจาก Active Directory ➡️ ใช้ Imjpuexc.exe เพื่อหลบซ่อนในระบบ ‼️ ความเสี่ยงต่อองค์กร ⛔ องค์กรที่เกี่ยวข้องกับนโยบายหรือการทูตมีความเสี่ยงสูง ⛔ การใช้โปรแกรมระบบทำให้การตรวจจับยากขึ้น ⛔ การโจมตีแบบยาวนานอาจทำให้ข้อมูลสำคัญรั่วไหลโดยไม่รู้ตัว ‼️ คำแนะนำด้านความปลอดภัย ⛔ ตรวจสอบ Scheduled Task ที่รันในระดับ SYSTEM ⛔ ตรวจสอบการใช้โปรแกรมระบบที่ผิดปกติ เช่น msbuild.exe ⛔ ใช้ระบบ EDR ที่สามารถตรวจจับ DLL Sideloading และ LOTL ได้ https://securityonline.info/china-apt-infiltrates-us-policy-nonprofit-in-months-long-espionage-campaign-using-dll-sideloading/
    SECURITYONLINE.INFO
    China APT Infiltrates US Policy Nonprofit in Months-Long Espionage Campaign Using DLL Sideloading
    A China-linked APT targeted a U.S. policy nonprofit for weeks in April 2025. The group used DLL sideloading via a VipreAV binary and msbuild.exe scheduled tasks to achieve SYSTEM persistence for espionage.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จีนระงับมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก 1 ปี – เปิดทางเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ”

    รัฐบาลจีนประกาศระงับการบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากที่เคยประกาศไว้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยให้เวลาผ่อนผัน 1 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น

    มาตรการเดิมครอบคลุมทั้งแร่หายากที่ผลิตในจีน และเทคโนโลยีที่มีส่วนประกอบของแร่เหล่านี้เกิน 0.1% ของมูลค่ารวม ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่พึ่งพาแร่หายากจากจีนในหลายกระบวนการผลิต

    เบื้องหลังการตัดสินใจ
    การระงับมาตรการนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมลับระหว่างประธานาธิบดี Donald Trump และประธานาธิบดี Xi Jinping ที่เมืองปูซาน ระหว่างการประชุม APEC 2025 ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงกันในเรื่องการพักรบทางภาษี และเปิดทางให้การเจรจาเชิงเทคนิคดำเนินต่อไปโดยไม่ถูกกดดันจากระดับผู้นำ

    ความสำคัญของแร่หายากในอุตสาหกรรมชิป
    ใช้ในการผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าและฮาร์ดดิสก์
    เป็นส่วนประกอบสำคัญในเลเซอร์และอุปกรณ์ออปติก
    จำเป็นต่อการผลิตชิป AI และอุปกรณ์สื่อสารขั้นสูง

    จีนระงับมาตรการควบคุมแร่หายาก
    ระงับการบังคับใช้เป็นเวลา 1 ปี
    ครอบคลุมแร่หายากและเทคโนโลยีที่มีส่วนประกอบเกิน 0.1%
    ช่วยให้บริษัทต่างๆ มีเวลาสำรองวัตถุดิบและหาทางเลือกใหม่

    การเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ
    เกิดขึ้นหลังการประชุม APEC 2025 ที่ปูซาน
    Trump ขู่ขึ้นภาษีนำเข้า 100% และแบนซอฟต์แวร์สำคัญ
    การระงับช่วยลดแรงกดดันในการเจรจา

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    Nvidia ยังไม่สามารถส่งชิป Blackwell ไปจีนได้
    จีนแบนบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ไม่ให้ซื้อ GPU จาก Nvidia
    ตลาดจีนของ Nvidia ลดลงจาก 95% เหลือเกือบ 0%

    คำเตือนด้านความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน
    การพึ่งพาแร่หายากจากจีนเป็นจุดอ่อนของสหรัฐฯ
    หากจีนกลับมาใช้มาตรการควบคุมอีกครั้ง อุตสาหกรรมชิปทั่วโลกจะได้รับผลกระทบ
    การแบนซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อาจนำไปสู่การแบ่งขั้วเทคโนโลยีระหว่างประเทศ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-suspends-rare-earth-export-control-measures-easing-key-flashpoint-in-us-china-trade-war-one-year-reprieve-allows-for-trade-talks-with-the-u-s-to-continue
    🌏🧲 “จีนระงับมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก 1 ปี – เปิดทางเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ” รัฐบาลจีนประกาศระงับการบังคับใช้มาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายากที่เคยประกาศไว้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา โดยให้เวลาผ่อนผัน 1 ปี เพื่อเปิดโอกาสให้การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น มาตรการเดิมครอบคลุมทั้งแร่หายากที่ผลิตในจีน และเทคโนโลยีที่มีส่วนประกอบของแร่เหล่านี้เกิน 0.1% ของมูลค่ารวม ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ ที่พึ่งพาแร่หายากจากจีนในหลายกระบวนการผลิต 🤝 เบื้องหลังการตัดสินใจ การระงับมาตรการนี้เกิดขึ้นหลังจากการประชุมลับระหว่างประธานาธิบดี Donald Trump และประธานาธิบดี Xi Jinping ที่เมืองปูซาน ระหว่างการประชุม APEC 2025 ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงกันในเรื่องการพักรบทางภาษี และเปิดทางให้การเจรจาเชิงเทคนิคดำเนินต่อไปโดยไม่ถูกกดดันจากระดับผู้นำ 🧠 ความสำคัญของแร่หายากในอุตสาหกรรมชิป 🔖 ใช้ในการผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ไฟฟ้าและฮาร์ดดิสก์ 🔖 เป็นส่วนประกอบสำคัญในเลเซอร์และอุปกรณ์ออปติก 🔖 จำเป็นต่อการผลิตชิป AI และอุปกรณ์สื่อสารขั้นสูง ✅ จีนระงับมาตรการควบคุมแร่หายาก ➡️ ระงับการบังคับใช้เป็นเวลา 1 ปี ➡️ ครอบคลุมแร่หายากและเทคโนโลยีที่มีส่วนประกอบเกิน 0.1% ➡️ ช่วยให้บริษัทต่างๆ มีเวลาสำรองวัตถุดิบและหาทางเลือกใหม่ ✅ การเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ➡️ เกิดขึ้นหลังการประชุม APEC 2025 ที่ปูซาน ➡️ Trump ขู่ขึ้นภาษีนำเข้า 100% และแบนซอฟต์แวร์สำคัญ ➡️ การระงับช่วยลดแรงกดดันในการเจรจา ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยี ➡️ Nvidia ยังไม่สามารถส่งชิป Blackwell ไปจีนได้ ➡️ จีนแบนบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ไม่ให้ซื้อ GPU จาก Nvidia ➡️ ตลาดจีนของ Nvidia ลดลงจาก 95% เหลือเกือบ 0% ‼️ คำเตือนด้านความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทาน ⛔ การพึ่งพาแร่หายากจากจีนเป็นจุดอ่อนของสหรัฐฯ ⛔ หากจีนกลับมาใช้มาตรการควบคุมอีกครั้ง อุตสาหกรรมชิปทั่วโลกจะได้รับผลกระทบ ⛔ การแบนซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์อาจนำไปสู่การแบ่งขั้วเทคโนโลยีระหว่างประเทศ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-suspends-rare-earth-export-control-measures-easing-key-flashpoint-in-us-china-trade-war-one-year-reprieve-allows-for-trade-talks-with-the-u-s-to-continue
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 537 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts