• จีนเปิดตัวเครือข่ายดาวเทียมคอมพิวเตอร์ในอวกาศ

    จีน ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม 12 ดวงแรกของโครงการ "Satellite Computing" ซึ่งเป็นเครือข่ายดาวเทียมที่มีความสามารถในการประมวลผล AI ในวงโคจรของโลก โครงการนี้มีเป้าหมาย เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ในอวกาศ และสามารถรองรับการประมวลผลแบบเรียลไทม์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเครือข่ายดาวเทียมคอมพิวเตอร์ของจีน
    ✅ ดาวเทียม 12 ดวงแรกถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวด Long March-2D
    - เป็น ก้าวแรกของเครือข่ายที่วางแผนจะมีทั้งหมด 2,800 ดวง

    ✅ แต่ละดาวเทียมมีความสามารถในการประมวลผลสูงถึง 5 peta-operations per second (POPS)
    - เป้าหมายระยะยาว คือการสร้างเครือข่ายที่สามารถประมวลผลได้ถึง 1,000 POPS

    ✅ ดาวเทียมใช้ระบบสื่อสารด้วยเลเซอร์ที่มีความเร็ว 100 Gbps
    - ช่วยให้ สามารถส่งข้อมูลระหว่างดาวเทียมได้อย่างรวดเร็ว

    ✅ มีเซ็นเซอร์ X-ray ที่พัฒนาโดย Guangxi University เพื่อศึกษาปรากฏการณ์ในอวกาศ
    - เช่น การระเบิดของรังสีแกมมา

    ✅ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ADA Space และ Zhejiang Lab ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลจีนและ Alibaba Group
    - รวมถึง SoftStone และ Kepu Cloud ที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน

    https://www.techspot.com/news/107969-china-launches-first-12-satellites-massive-computing-constellation.html
    จีนเปิดตัวเครือข่ายดาวเทียมคอมพิวเตอร์ในอวกาศ จีน ประสบความสำเร็จในการปล่อยดาวเทียม 12 ดวงแรกของโครงการ "Satellite Computing" ซึ่งเป็นเครือข่ายดาวเทียมที่มีความสามารถในการประมวลผล AI ในวงโคจรของโลก โครงการนี้มีเป้าหมาย เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ในอวกาศ และสามารถรองรับการประมวลผลแบบเรียลไทม์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับเครือข่ายดาวเทียมคอมพิวเตอร์ของจีน ✅ ดาวเทียม 12 ดวงแรกถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวด Long March-2D - เป็น ก้าวแรกของเครือข่ายที่วางแผนจะมีทั้งหมด 2,800 ดวง ✅ แต่ละดาวเทียมมีความสามารถในการประมวลผลสูงถึง 5 peta-operations per second (POPS) - เป้าหมายระยะยาว คือการสร้างเครือข่ายที่สามารถประมวลผลได้ถึง 1,000 POPS ✅ ดาวเทียมใช้ระบบสื่อสารด้วยเลเซอร์ที่มีความเร็ว 100 Gbps - ช่วยให้ สามารถส่งข้อมูลระหว่างดาวเทียมได้อย่างรวดเร็ว ✅ มีเซ็นเซอร์ X-ray ที่พัฒนาโดย Guangxi University เพื่อศึกษาปรากฏการณ์ในอวกาศ - เช่น การระเบิดของรังสีแกมมา ✅ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก ADA Space และ Zhejiang Lab ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลจีนและ Alibaba Group - รวมถึง SoftStone และ Kepu Cloud ที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภาคพื้นดิน https://www.techspot.com/news/107969-china-launches-first-12-satellites-massive-computing-constellation.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    China launches the first 12 satellites of a massive computing constellation in space
    While Eric Schmidt and other Western space entrepreneurs are still exploring the idea of orbital data centers, Chinese companies have already begun moving forward. Last week, China...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia เตรียมเปิดตัวชิป AI ใหม่สำหรับตลาดจีน หลังถูกสหรัฐฯ จำกัดการส่งออก

    Nvidia กำลังพัฒนาชิป AI รุ่นใหม่สำหรับตลาดจีน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งห้ามการส่งออกชิป H20 และ H100 ไปยังจีน โดยชิปใหม่นี้ จะไม่ใช้สถาปัตยกรรม Hopper และอาจเปลี่ยนจาก HBM เป็น GDDR7 เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านหน่วยความจำและการเชื่อมต่อ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแผนของ Nvidia ในตลาดจีน
    ✅ ชิป AI รุ่นใหม่จะไม่ใช้สถาปัตยกรรม Hopper
    - Jensen Huang ยืนยันว่าไม่สามารถปรับแต่ง Hopper ได้อีกต่อไป

    ✅ Nvidia อาจเปลี่ยนจาก HBM เป็น GDDR7 เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านหน่วยความจำ
    - เนื่องจาก รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดให้ต้องมีใบอนุญาตส่งออกสำหรับชิปที่มีแบนด์วิดท์สูง

    ✅ ตลาดจีนมีความสำคัญต่อ Nvidia แม้จะถูกจำกัดการส่งออก
    - Nvidia สูญเสียรายได้กว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์จากข้อจำกัดนี้

    ✅ Huawei เปิดตัว Ascend 920 เพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดจีน
    - แม้จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่า แต่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน

    ✅ Nvidia อาจใช้สถาปัตยกรรม Blackwell แทน Hopper
    - แต่ Blackwell ไม่มี NVLink ซึ่งจำเป็นสำหรับการทำงานแบบ multi-GPU

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidias-h20-follow-up-in-china-wont-be-based-on-hopper-says-jensen-reportedly-switching-from-hbm-to-gddr7
    Nvidia เตรียมเปิดตัวชิป AI ใหม่สำหรับตลาดจีน หลังถูกสหรัฐฯ จำกัดการส่งออก Nvidia กำลังพัฒนาชิป AI รุ่นใหม่สำหรับตลาดจีน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งห้ามการส่งออกชิป H20 และ H100 ไปยังจีน โดยชิปใหม่นี้ จะไม่ใช้สถาปัตยกรรม Hopper และอาจเปลี่ยนจาก HBM เป็น GDDR7 เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านหน่วยความจำและการเชื่อมต่อ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแผนของ Nvidia ในตลาดจีน ✅ ชิป AI รุ่นใหม่จะไม่ใช้สถาปัตยกรรม Hopper - Jensen Huang ยืนยันว่าไม่สามารถปรับแต่ง Hopper ได้อีกต่อไป ✅ Nvidia อาจเปลี่ยนจาก HBM เป็น GDDR7 เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านหน่วยความจำ - เนื่องจาก รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดให้ต้องมีใบอนุญาตส่งออกสำหรับชิปที่มีแบนด์วิดท์สูง ✅ ตลาดจีนมีความสำคัญต่อ Nvidia แม้จะถูกจำกัดการส่งออก - Nvidia สูญเสียรายได้กว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์จากข้อจำกัดนี้ ✅ Huawei เปิดตัว Ascend 920 เพื่อแข่งขันกับ Nvidia ในตลาดจีน - แม้จะมีประสิทธิภาพต่ำกว่า แต่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ✅ Nvidia อาจใช้สถาปัตยกรรม Blackwell แทน Hopper - แต่ Blackwell ไม่มี NVLink ซึ่งจำเป็นสำหรับการทำงานแบบ multi-GPU https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidias-h20-follow-up-in-china-wont-be-based-on-hopper-says-jensen-reportedly-switching-from-hbm-to-gddr7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ กังวลเกี่ยวกับข้อตกลง AI ระหว่าง Apple และ Alibaba ในจีน

    รัฐบาลสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงของ Apple กับ Alibaba ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อนำ ฟีเจอร์ AI มาสู่ iPhone ในจีน โดยเจ้าหน้าที่ในวอชิงตันมองว่า ข้อตกลงนี้อาจช่วยให้บริษัทจีนพัฒนา AI ได้ดีขึ้น และเพิ่มการควบคุมของรัฐบาลจีนต่อข้อมูลและการเซ็นเซอร์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับข้อตกลง AI ของ Apple ในจีน
    ✅ Apple ต้องหาพันธมิตรในจีนเพื่อให้ iPhone มีฟีเจอร์ AI
    - เนื่องจาก OpenAI ไม่สามารถดำเนินการในจีนได้

    ✅ Alibaba เป็นหนึ่งในบริษัทที่ Apple เจรจาด้วย
    - นอกจากนี้ ยังมี Baidu, Tencent และ DeepSeek ที่ Apple เคยพิจารณา

    ✅ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กังวลว่าข้อตกลงนี้อาจช่วยให้จีนพัฒนา AI ได้เร็วขึ้น
    - รวมถึง เพิ่มการควบคุมของรัฐบาลจีนต่อข้อมูลและการเซ็นเซอร์

    ✅ Apple พบกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและคณะกรรมการสภาเพื่อชี้แจงข้อตกลง
    - แต่ ยังขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับรายละเอียดของข้อตกลง

    ✅ หาก Apple ไม่สามารถทำข้อตกลงได้ อาจสูญเสียลูกค้าในจีนให้กับ Xiaomi และ Huawei
    - เนื่องจาก แบรนด์เหล่านี้มีฟีเจอร์ AI ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว

    https://www.neowin.net/news/the-us-lawmakers-raise-concerns-about-apple-alibaba-ai-venture-in-china/
    สหรัฐฯ กังวลเกี่ยวกับข้อตกลง AI ระหว่าง Apple และ Alibaba ในจีน รัฐบาลสหรัฐฯ แสดงความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงของ Apple กับ Alibaba ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อนำ ฟีเจอร์ AI มาสู่ iPhone ในจีน โดยเจ้าหน้าที่ในวอชิงตันมองว่า ข้อตกลงนี้อาจช่วยให้บริษัทจีนพัฒนา AI ได้ดีขึ้น และเพิ่มการควบคุมของรัฐบาลจีนต่อข้อมูลและการเซ็นเซอร์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับข้อตกลง AI ของ Apple ในจีน ✅ Apple ต้องหาพันธมิตรในจีนเพื่อให้ iPhone มีฟีเจอร์ AI - เนื่องจาก OpenAI ไม่สามารถดำเนินการในจีนได้ ✅ Alibaba เป็นหนึ่งในบริษัทที่ Apple เจรจาด้วย - นอกจากนี้ ยังมี Baidu, Tencent และ DeepSeek ที่ Apple เคยพิจารณา ✅ เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ กังวลว่าข้อตกลงนี้อาจช่วยให้จีนพัฒนา AI ได้เร็วขึ้น - รวมถึง เพิ่มการควบคุมของรัฐบาลจีนต่อข้อมูลและการเซ็นเซอร์ ✅ Apple พบกับเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวและคณะกรรมการสภาเพื่อชี้แจงข้อตกลง - แต่ ยังขาดความโปร่งใสเกี่ยวกับรายละเอียดของข้อตกลง ✅ หาก Apple ไม่สามารถทำข้อตกลงได้ อาจสูญเสียลูกค้าในจีนให้กับ Xiaomi และ Huawei - เนื่องจาก แบรนด์เหล่านี้มีฟีเจอร์ AI ที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว https://www.neowin.net/news/the-us-lawmakers-raise-concerns-about-apple-alibaba-ai-venture-in-china/
    WWW.NEOWIN.NET
    The US lawmakers raise concerns about Apple-Alibaba AI venture in China
    Apple's partnership with Alibaba to bring AI features to iPhones in China raises alarms in Washington over security concerns.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯ อาจแบน TP-Link หลังข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์

    TP-Link ซึ่งเป็นแบรนด์เราเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับความเป็นไปได้ที่จะถูกแบน หลังจากที่สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์สั่งห้ามการขายผลิตภัณฑ์ของ TP-Link เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ของบริษัทกับรัฐบาลจีนและพฤติกรรมทางการตลาดที่ไม่เป็นธรรม

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับข้อกล่าวหาต่อ TP-Link
    ✅ สมาชิกสภาคองเกรส 17 คนเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์สั่งห้ามการขายผลิตภัณฑ์ของ TP-Link
    - อ้างว่า TP-Link มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน และอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ

    ✅ TP-Link ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์ "predatory pricing" เพื่อลดราคาสินค้าให้ต่ำกว่าคู่แข่ง
    - ทำให้ แบรนด์สหรัฐฯ เสียเปรียบและสูญเสียส่วนแบ่งตลาด

    ✅ มีรายงานว่า TP-Link ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีไซเบอร์โดยกลุ่มแฮกเกอร์จีน
    - เช่น กรณีของ "CovertNetwork-1658" ซึ่งใช้เราเตอร์ TP-Link ในการขโมยข้อมูลจาก Azure

    ✅ TP-Link ปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน
    - บริษัทระบุว่า เป็นองค์กรอิสระและไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ

    ✅ TP-Link USA ได้ปรับโครงสร้างองค์กรในปี 2024 เพื่อแยกการดำเนินงานออกจากบริษัทแม่ในจีน
    - โดยตั้งสำนักงานใหญ่ใน Irvine, California

    https://www.techspot.com/news/107944-lawmakers-tp-link-rock-bottom-prices-fuel-chinese.html
    สหรัฐฯ อาจแบน TP-Link หลังข้อกล่าวหาเกี่ยวกับความปลอดภัยไซเบอร์ TP-Link ซึ่งเป็นแบรนด์เราเตอร์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับความเป็นไปได้ที่จะถูกแบน หลังจากที่สมาชิกสภาคองเกรสของสหรัฐฯ เรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์สั่งห้ามการขายผลิตภัณฑ์ของ TP-Link เนื่องจากข้อกังวลเกี่ยวกับ ความสัมพันธ์ของบริษัทกับรัฐบาลจีนและพฤติกรรมทางการตลาดที่ไม่เป็นธรรม 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับข้อกล่าวหาต่อ TP-Link ✅ สมาชิกสภาคองเกรส 17 คนเรียกร้องให้กระทรวงพาณิชย์สั่งห้ามการขายผลิตภัณฑ์ของ TP-Link - อ้างว่า TP-Link มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับรัฐบาลจีน และอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ ✅ TP-Link ถูกกล่าวหาว่าใช้กลยุทธ์ "predatory pricing" เพื่อลดราคาสินค้าให้ต่ำกว่าคู่แข่ง - ทำให้ แบรนด์สหรัฐฯ เสียเปรียบและสูญเสียส่วนแบ่งตลาด ✅ มีรายงานว่า TP-Link ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการโจมตีไซเบอร์โดยกลุ่มแฮกเกอร์จีน - เช่น กรณีของ "CovertNetwork-1658" ซึ่งใช้เราเตอร์ TP-Link ในการขโมยข้อมูลจาก Azure ✅ TP-Link ปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าไม่มีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน - บริษัทระบุว่า เป็นองค์กรอิสระและไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ✅ TP-Link USA ได้ปรับโครงสร้างองค์กรในปี 2024 เพื่อแยกการดำเนินงานออกจากบริษัทแม่ในจีน - โดยตั้งสำนักงานใหญ่ใน Irvine, California https://www.techspot.com/news/107944-lawmakers-tp-link-rock-bottom-prices-fuel-chinese.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Lawmakers say TP-Link's rock-bottom prices fuel Chinese cyberattacks, back US sales ban
    The seventeen senators and representatives wrote a letter to Commerce Secretary Howard Lutnick this week to support the ongoing investigations into TP-Link. The company is being investigated...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยอดขาย iPhone ในจีนลดลงเกือบ 50% ท่ามกลางการแข่งขันจากแบรนด์ท้องถิ่น

    Apple กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในตลาดจีน หลังจากยอดขาย iPhone ลดลงเกือบ 50% ในเดือนมีนาคม 2025 แม้ว่าตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมจะเติบโตขึ้น 3.3% ก็ตาม สาเหตุหลักมาจาก การเติบโตของแบรนด์จีน, นโยบายสนับสนุนสินค้าท้องถิ่น และความรู้สึกต่อต้านสหรัฐฯ

    ✅ ยอดขาย iPhone ลดลง 49.6% ในเดือนมีนาคม 2025
    - จาก 3.75 ล้านเครื่องในปี 2024 เหลือเพียง 1.89 ล้านเครื่องในปี 2025

    ✅ ส่วนแบ่งตลาดของ Apple ในจีนลดลงเหลือเพียง 8%
    - ขณะที่แบรนด์จีน ครองตลาดถึง 92%

    ✅ Huawei ยังคงเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งในจีน
    - มีส่วนแบ่งตลาด 19.4% เพิ่มขึ้น 28.5% จากปีที่แล้ว ตามมาด้วย Vivo (17%), Xiaomi (16.6%) และ Oppo (14.6%)

    ✅ รัฐบาลจีนออกนโยบาย "ซื้อใหม่" ลดราคาสินค้าดิจิทัล 15%
    - ใช้ได้กับ สินค้าราคาไม่เกิน 6,000 หยวน ทำให้ iPhone 16 ซึ่งเริ่มต้นที่ 5,999 หยวน ไม่ได้รับส่วนลดนี้

    ✅ Apple อาจลดราคาบางรุ่นก่อนเทศกาลช้อปปิ้ง 618 ของจีน
    - เพื่อกระตุ้นยอดขายและแข่งขันกับแบรนด์ท้องถิ่น

    https://www.techspot.com/news/107928-apple-china-smartphone-shipments-plunge-50-local-rivals.html
    ยอดขาย iPhone ในจีนลดลงเกือบ 50% ท่ามกลางการแข่งขันจากแบรนด์ท้องถิ่น Apple กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในตลาดจีน หลังจากยอดขาย iPhone ลดลงเกือบ 50% ในเดือนมีนาคม 2025 แม้ว่าตลาดสมาร์ทโฟนโดยรวมจะเติบโตขึ้น 3.3% ก็ตาม สาเหตุหลักมาจาก การเติบโตของแบรนด์จีน, นโยบายสนับสนุนสินค้าท้องถิ่น และความรู้สึกต่อต้านสหรัฐฯ ✅ ยอดขาย iPhone ลดลง 49.6% ในเดือนมีนาคม 2025 - จาก 3.75 ล้านเครื่องในปี 2024 เหลือเพียง 1.89 ล้านเครื่องในปี 2025 ✅ ส่วนแบ่งตลาดของ Apple ในจีนลดลงเหลือเพียง 8% - ขณะที่แบรนด์จีน ครองตลาดถึง 92% ✅ Huawei ยังคงเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับหนึ่งในจีน - มีส่วนแบ่งตลาด 19.4% เพิ่มขึ้น 28.5% จากปีที่แล้ว ตามมาด้วย Vivo (17%), Xiaomi (16.6%) และ Oppo (14.6%) ✅ รัฐบาลจีนออกนโยบาย "ซื้อใหม่" ลดราคาสินค้าดิจิทัล 15% - ใช้ได้กับ สินค้าราคาไม่เกิน 6,000 หยวน ทำให้ iPhone 16 ซึ่งเริ่มต้นที่ 5,999 หยวน ไม่ได้รับส่วนลดนี้ ✅ Apple อาจลดราคาบางรุ่นก่อนเทศกาลช้อปปิ้ง 618 ของจีน - เพื่อกระตุ้นยอดขายและแข่งขันกับแบรนด์ท้องถิ่น https://www.techspot.com/news/107928-apple-china-smartphone-shipments-plunge-50-local-rivals.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    iPhone shipments in China plunge nearly 50% as local brands surge
    Apple has long been one of the few western companies to enjoy success in China, but the popularity of its iPhones in the Asian nation is waning...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • Huawei ขยายอิทธิพลในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน: ดำเนินงานโรงงานผลิตชิปกว่า 11 แห่ง

    Huawei กำลังเสริมความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน โดยล่าสุดมีรายงานว่า บริษัทดำเนินงานโรงงานผลิตชิปกว่า 11 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งครอบคลุมทั้ง การผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์และ DRAM

    ✅ Huawei ดำเนินงานโรงงานผลิตชิปกว่า 11 แห่งทั่วจีน
    - โรงงานเหล่านี้ ดำเนินงานภายใต้บริษัทลูกที่มีชื่อแตกต่างกัน เพื่อให้ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับ Huawei

    ✅ โรงงานบางแห่งสามารถผลิตชิปที่ระดับ 7nm ได้
    - ทำให้ Huawei มีศักยภาพเทียบเท่ากับ SMIC ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของจีน

    ✅ Huawei มีการบูรณาการแนวตั้งในห่วงโซ่อุปทานของตนเอง
    - ครอบคลุม ทั้งการผลิตชิปสำหรับมือถือและ AI accelerators

    ✅ โรงงานหลักของ Huawei ตั้งอยู่ในเซินเจิ้น เช่น PST, PXW, SWX และ PJHT
    - แสดงให้เห็นว่า บริษัทกำลังขยายการผลิตอย่างรวดเร็ว

    ✅ Huawei ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนในการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    - ทำให้บริษัท มีทรัพยากรด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างมหาศาล

    https://wccftech.com/huawei-strengthens-its-grip-over-the-chip-supply-chain/
    Huawei ขยายอิทธิพลในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน: ดำเนินงานโรงงานผลิตชิปกว่า 11 แห่ง Huawei กำลังเสริมความแข็งแกร่งในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน โดยล่าสุดมีรายงานว่า บริษัทดำเนินงานโรงงานผลิตชิปกว่า 11 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งครอบคลุมทั้ง การผลิตชิปเซมิคอนดักเตอร์และ DRAM ✅ Huawei ดำเนินงานโรงงานผลิตชิปกว่า 11 แห่งทั่วจีน - โรงงานเหล่านี้ ดำเนินงานภายใต้บริษัทลูกที่มีชื่อแตกต่างกัน เพื่อให้ดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกับ Huawei ✅ โรงงานบางแห่งสามารถผลิตชิปที่ระดับ 7nm ได้ - ทำให้ Huawei มีศักยภาพเทียบเท่ากับ SMIC ซึ่งเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายใหญ่ของจีน ✅ Huawei มีการบูรณาการแนวตั้งในห่วงโซ่อุปทานของตนเอง - ครอบคลุม ทั้งการผลิตชิปสำหรับมือถือและ AI accelerators ✅ โรงงานหลักของ Huawei ตั้งอยู่ในเซินเจิ้น เช่น PST, PXW, SWX และ PJHT - แสดงให้เห็นว่า บริษัทกำลังขยายการผลิตอย่างรวดเร็ว ✅ Huawei ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนในการพัฒนาอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ - ทำให้บริษัท มีทรัพยากรด้านการวิจัยและพัฒนาอย่างมหาศาล https://wccftech.com/huawei-strengthens-its-grip-over-the-chip-supply-chain/
    WCCFTECH.COM
    Huawei Strengthens Its Grip Over The Chip Supply Chain; Now Reported To Operate Over 11 Fabs Across China Producing Foundry & DRAM Products
    Huawei has managed to take over the chip supply chain in China, as, according to a new report, the firm now operates multiple facilities.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • อดีตประธาน Tsinghua Unigroup ถูกตัดสินโทษประหารแบบแขวน หลังพบการทุจริตครั้งใหญ่

    Zhao Weiguo อดีตประธานบริษัท Tsinghua Unigroup ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของจีน ถูกตัดสินโทษ ประหารชีวิตแบบแขวนคอ หลังพบว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับ การทุจริตและยักยอกทรัพย์สินของรัฐ

    ✅ Zhao Weiguo ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตแบบแขวนเป็นเวลา 2 ปี
    - หากไม่มีการกระทำผิดเพิ่มเติม โทษจะถูกลดลงเป็นจำคุกตลอดชีวิต

    ✅ Tsinghua Unigroup เคยเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
    - เป็นเจ้าของ YMTC และ Unisoc ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านชิป

    ✅ Zhao ถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์สินของรัฐและให้ผลประโยชน์แก่ญาติและเพื่อน
    - รวมถึง ซื้อสินค้าจากบริษัทที่เกี่ยวข้องในราคาสูงเกินจริง

    ✅ การทุจริตของ Zhao ส่งผลให้รัฐเสียหายกว่า 189 ล้านดอลลาร์
    - รวมถึง ทรัพย์สินของรัฐมูลค่า 65 ล้านดอลลาร์ และความเสียหายของบริษัท 124 ล้านดอลลาร์

    ✅ Tsinghua Unigroup เคยเป็นส่วนหนึ่งของแผน "Made in China 2025"
    - แต่บริษัท เผชิญปัญหาหนี้สินกว่า 31 พันล้านดอลลาร์ และล้มละลายในปี 2021

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/former-chairman-of-chinas-chipmaking-champion-gets-suspended-death-sentence-in-corruption-and-embezzlement-case
    อดีตประธาน Tsinghua Unigroup ถูกตัดสินโทษประหารแบบแขวน หลังพบการทุจริตครั้งใหญ่ Zhao Weiguo อดีตประธานบริษัท Tsinghua Unigroup ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของจีน ถูกตัดสินโทษ ประหารชีวิตแบบแขวนคอ หลังพบว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับ การทุจริตและยักยอกทรัพย์สินของรัฐ ✅ Zhao Weiguo ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตแบบแขวนเป็นเวลา 2 ปี - หากไม่มีการกระทำผิดเพิ่มเติม โทษจะถูกลดลงเป็นจำคุกตลอดชีวิต ✅ Tsinghua Unigroup เคยเป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน - เป็นเจ้าของ YMTC และ Unisoc ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านชิป ✅ Zhao ถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์สินของรัฐและให้ผลประโยชน์แก่ญาติและเพื่อน - รวมถึง ซื้อสินค้าจากบริษัทที่เกี่ยวข้องในราคาสูงเกินจริง ✅ การทุจริตของ Zhao ส่งผลให้รัฐเสียหายกว่า 189 ล้านดอลลาร์ - รวมถึง ทรัพย์สินของรัฐมูลค่า 65 ล้านดอลลาร์ และความเสียหายของบริษัท 124 ล้านดอลลาร์ ✅ Tsinghua Unigroup เคยเป็นส่วนหนึ่งของแผน "Made in China 2025" - แต่บริษัท เผชิญปัญหาหนี้สินกว่า 31 พันล้านดอลลาร์ และล้มละลายในปี 2021 https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/former-chairman-of-chinas-chipmaking-champion-gets-suspended-death-sentence-in-corruption-and-embezzlement-case
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft แบนการใช้ DeepSeek ในหมู่พนักงาน เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูลและโฆษณาชวนเชื่อ Brad Smith รองประธานและรองประธานกรรมการของ Microsoft เปิดเผยว่า พนักงานของบริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้แอป DeepSeek ซึ่งเป็นแชตบอท AI จากจีน โดยให้เหตุผลว่า มีความเสี่ยงที่ข้อมูลผู้ใช้จะถูกจัดเก็บในจีน และคำตอบของ AI อาจได้รับอิทธิพลจากโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลจีน

    นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งของสหรัฐฯ เช่น กระทรวงพาณิชย์และกองทัพเรือสหรัฐฯ ก็ได้แบน DeepSeek เช่นกัน และอาจมีการขยายข้อห้ามเพิ่มเติมผ่าน กฎหมาย "No DeepSeek on Government Devices Act"

    ✅ Microsoft แบนการใช้ DeepSeek ในหมู่พนักงาน
    - เนื่องจาก ความกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูลและโฆษณาชวนเชื่อ

    ✅ DeepSeek ถูกแบนจากหลายหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ
    - รวมถึง กระทรวงพาณิชย์และกองทัพเรือสหรัฐฯ

    ✅ กฎหมาย "No DeepSeek on Government Devices Act" อาจขยายข้อห้ามเพิ่มเติม
    - เพื่อ ป้องกันการใช้ AI ที่อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

    ✅ DeepSeek มีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ระบุว่าข้อมูลผู้ใช้ถูกจัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ในจีน
    - และ อยู่ภายใต้กฎหมายจีนที่กำหนดให้ต้องให้ความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของรัฐบาล

    ✅ DeepSeek เคยเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ ซึ่งเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้กว่า 1 ล้านรายการ
    - ทำให้ เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลและความปลอดภัยของผู้ใช้

    https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-employees-join-the-list-of-those-banned-from-using-deepseek
    Microsoft แบนการใช้ DeepSeek ในหมู่พนักงาน เนื่องจากความกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูลและโฆษณาชวนเชื่อ Brad Smith รองประธานและรองประธานกรรมการของ Microsoft เปิดเผยว่า พนักงานของบริษัทไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้แอป DeepSeek ซึ่งเป็นแชตบอท AI จากจีน โดยให้เหตุผลว่า มีความเสี่ยงที่ข้อมูลผู้ใช้จะถูกจัดเก็บในจีน และคำตอบของ AI อาจได้รับอิทธิพลจากโฆษณาชวนเชื่อของรัฐบาลจีน นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐบาลหลายแห่งของสหรัฐฯ เช่น กระทรวงพาณิชย์และกองทัพเรือสหรัฐฯ ก็ได้แบน DeepSeek เช่นกัน และอาจมีการขยายข้อห้ามเพิ่มเติมผ่าน กฎหมาย "No DeepSeek on Government Devices Act" ✅ Microsoft แบนการใช้ DeepSeek ในหมู่พนักงาน - เนื่องจาก ความกังวลด้านความปลอดภัยข้อมูลและโฆษณาชวนเชื่อ ✅ DeepSeek ถูกแบนจากหลายหน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐฯ - รวมถึง กระทรวงพาณิชย์และกองทัพเรือสหรัฐฯ ✅ กฎหมาย "No DeepSeek on Government Devices Act" อาจขยายข้อห้ามเพิ่มเติม - เพื่อ ป้องกันการใช้ AI ที่อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ✅ DeepSeek มีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ระบุว่าข้อมูลผู้ใช้ถูกจัดเก็บบนเซิร์ฟเวอร์ในจีน - และ อยู่ภายใต้กฎหมายจีนที่กำหนดให้ต้องให้ความร่วมมือกับหน่วยข่าวกรองของรัฐบาล ✅ DeepSeek เคยเกิดเหตุข้อมูลรั่วไหลครั้งใหญ่ ซึ่งเปิดเผยข้อมูลผู้ใช้กว่า 1 ล้านรายการ - ทำให้ เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับการจัดการข้อมูลและความปลอดภัยของผู้ใช้ https://www.techradar.com/pro/security/microsoft-employees-join-the-list-of-those-banned-from-using-deepseek
    WWW.TECHRADAR.COM
    Microsoft employees join the list of those banned from using DeepSeek
    Data security and propaganda concerns cause Microsoft to restrict access
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • Qing Chenjingliang หรือที่รู้จักกันในชื่อ "นักโทษหญิงที่สวยที่สุดของจีน" ถูก แบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์ หลังจากที่เธอใช้ ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกง

    เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ และถูกจำคุกก่อนที่จะ กลับตัวเป็นคนดีหลังพ้นโทษ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล

    ✅ Qing Chenjingliang ถูกแบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์หลังจากใช้ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมาย
    - เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ
    - หลังพ้นโทษ เธอพยายามให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกงผ่านไลฟ์สตรีม

    ✅ รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล
    - เป็นมาตรการที่ ป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดใช้ชื่อเสียงเพื่อสร้างรายได้

    ✅ Qing Chenjingliang เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมเนื่องจากผลการเรียนต่ำ
    - เธอเติบโตมาใน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน

    ✅ กรณีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโซเชียลมีเดียจีน
    - มีการถกเถียงกันว่า บุคคลที่เคยกระทำผิดควรได้รับโอกาสในการแก้ไขตัวเองหรือไม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/ex-china-most-beautiful-fugitive-banned-for-promoting-legal-education-via-livestreams
    Qing Chenjingliang หรือที่รู้จักกันในชื่อ "นักโทษหญิงที่สวยที่สุดของจีน" ถูก แบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์ หลังจากที่เธอใช้ ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกง เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ และถูกจำคุกก่อนที่จะ กลับตัวเป็นคนดีหลังพ้นโทษ อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล ✅ Qing Chenjingliang ถูกแบนจากแพลตฟอร์มออนไลน์หลังจากใช้ไลฟ์สตรีมเพื่อให้ความรู้ด้านกฎหมาย - เธอเคยเป็นสมาชิกของ แก๊งฉ้อโกงที่สร้างความเสียหายกว่า 190,000 ดอลลาร์สหรัฐ - หลังพ้นโทษ เธอพยายามให้ความรู้ด้านกฎหมายและต่อต้านการฉ้อโกงผ่านไลฟ์สตรีม ✅ รัฐบาลจีนไม่อนุญาตให้บุคคลที่เคยมีประวัติอาชญากรรมใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเผยแพร่ข้อมูล - เป็นมาตรการที่ ป้องกันไม่ให้ผู้กระทำผิดใช้ชื่อเสียงเพื่อสร้างรายได้ ✅ Qing Chenjingliang เคยถูกไล่ออกจากโรงเรียนมัธยมเนื่องจากผลการเรียนต่ำ - เธอเติบโตมาใน มณฑลเสฉวน ประเทศจีน ✅ กรณีนี้ได้รับความสนใจอย่างมากในโซเชียลมีเดียจีน - มีการถกเถียงกันว่า บุคคลที่เคยกระทำผิดควรได้รับโอกาสในการแก้ไขตัวเองหรือไม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/ex-china-most-beautiful-fugitive-banned-for-promoting-legal-education-via-livestreams
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Ex-China ‘most beautiful fugitive’ banned for promoting legal education via livestreams
    Former member of gang involved in US$190,000 fraud racket claimed to have 'turned over a new leaf' after release from prison.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 249 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก ESET ได้เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ TheWizards ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน กำลังใช้ SLAAC spoofing attack เพื่อ แทรกแซงกระบวนการอัปเดตซอฟต์แวร์ และแพร่กระจายมัลแวร์ WizardNet ไปยังอุปกรณ์เป้าหมาย

    การโจมตีนี้ใช้เครื่องมือ Spellbinder เพื่อส่ง Router Advertisement (RA) messages ปลอม ไปยังอุปกรณ์เป้าหมาย ทำให้อุปกรณ์เข้าใจผิดว่า เครื่องของแฮกเกอร์เป็นเราเตอร์ที่ถูกต้อง และส่งทราฟฟิกทั้งหมดผ่านเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี

    เมื่อแฮกเกอร์สามารถควบคุมทราฟฟิกได้ พวกเขาจะ เปลี่ยนเส้นทาง DNS queries สำหรับโดเมนที่เกี่ยวข้องกับการอัปเดตซอฟต์แวร์ เช่น Tencent, Baidu, Xiaomi และ Meitu ทำให้เหยื่อดาวน์โหลด เวอร์ชันที่ถูกดัดแปลงและฝัง WizardNet ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงอุปกรณ์จากระยะไกล

    ✅ TheWizards ใช้ SLAAC spoofing attack เพื่อแทรกแซงการอัปเดตซอฟต์แวร์
    - ใช้เครื่องมือ Spellbinder เพื่อส่ง Router Advertisement (RA) messages ปลอม
    - ทำให้อุปกรณ์เป้าหมายเข้าใจผิดว่า เครื่องของแฮกเกอร์เป็นเราเตอร์ที่ถูกต้อง

    ✅ เปลี่ยนเส้นทาง DNS queries เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ WizardNet
    - เหยื่อดาวน์โหลด ซอฟต์แวร์ที่ถูกดัดแปลงและฝัง WizardNet
    - WizardNet สามารถ โหลดและรัน .NET modules ในหน่วยความจำ

    ✅ เป้าหมายหลักของการโจมตี
    - ผู้ใช้และองค์กรใน จีน, ฮ่องกง, กัมพูชา, ฟิลิปปินส์ และ UAE
    - ส่วนใหญ่เป็น บริษัทในอุตสาหกรรมการพนัน

    ✅ วิธีป้องกันการโจมตี
    - ตรวจสอบทราฟฟิก IPv6 อย่างสม่ำเสมอ
    - ปิดการใช้งาน IPv6 หากไม่จำเป็นในระบบ

    https://www.techradar.com/pro/security/ipv6-networking-feature-hit-by-hackers-to-hijack-software-updates
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก ESET ได้เปิดเผยว่า กลุ่มแฮกเกอร์ TheWizards ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับรัฐบาลจีน กำลังใช้ SLAAC spoofing attack เพื่อ แทรกแซงกระบวนการอัปเดตซอฟต์แวร์ และแพร่กระจายมัลแวร์ WizardNet ไปยังอุปกรณ์เป้าหมาย การโจมตีนี้ใช้เครื่องมือ Spellbinder เพื่อส่ง Router Advertisement (RA) messages ปลอม ไปยังอุปกรณ์เป้าหมาย ทำให้อุปกรณ์เข้าใจผิดว่า เครื่องของแฮกเกอร์เป็นเราเตอร์ที่ถูกต้อง และส่งทราฟฟิกทั้งหมดผ่านเซิร์ฟเวอร์ของผู้โจมตี เมื่อแฮกเกอร์สามารถควบคุมทราฟฟิกได้ พวกเขาจะ เปลี่ยนเส้นทาง DNS queries สำหรับโดเมนที่เกี่ยวข้องกับการอัปเดตซอฟต์แวร์ เช่น Tencent, Baidu, Xiaomi และ Meitu ทำให้เหยื่อดาวน์โหลด เวอร์ชันที่ถูกดัดแปลงและฝัง WizardNet ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงอุปกรณ์จากระยะไกล ✅ TheWizards ใช้ SLAAC spoofing attack เพื่อแทรกแซงการอัปเดตซอฟต์แวร์ - ใช้เครื่องมือ Spellbinder เพื่อส่ง Router Advertisement (RA) messages ปลอม - ทำให้อุปกรณ์เป้าหมายเข้าใจผิดว่า เครื่องของแฮกเกอร์เป็นเราเตอร์ที่ถูกต้อง ✅ เปลี่ยนเส้นทาง DNS queries เพื่อแพร่กระจายมัลแวร์ WizardNet - เหยื่อดาวน์โหลด ซอฟต์แวร์ที่ถูกดัดแปลงและฝัง WizardNet - WizardNet สามารถ โหลดและรัน .NET modules ในหน่วยความจำ ✅ เป้าหมายหลักของการโจมตี - ผู้ใช้และองค์กรใน จีน, ฮ่องกง, กัมพูชา, ฟิลิปปินส์ และ UAE - ส่วนใหญ่เป็น บริษัทในอุตสาหกรรมการพนัน ✅ วิธีป้องกันการโจมตี - ตรวจสอบทราฟฟิก IPv6 อย่างสม่ำเสมอ - ปิดการใช้งาน IPv6 หากไม่จำเป็นในระบบ https://www.techradar.com/pro/security/ipv6-networking-feature-hit-by-hackers-to-hijack-software-updates
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนกำลังเผชิญกับกระแสความนิยมของ DeepSeek ซึ่งเป็นแชตบอท AI ที่พัฒนาโดยบริษัทจีน และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เตือนว่า การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

    Qi Xiangdong ประธานบริษัท Qi An Xin (QAX) ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในปักกิ่ง ได้กล่าวในงาน Digital China Summit ว่า AI ขนาดใหญ่มีความท้าทายด้านความปลอดภัย และอาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อโจมตีระบบ หรือแม้แต่ "วางยาข้อมูล" เพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของโมเดล AI

    รัฐบาลจีนได้สนับสนุนการใช้ AI อย่างแพร่หลาย โดยมีการนำ DeepSeek ไปใช้ในหลายภาคส่วน เช่น การแปลภาษา, การเขียนบทความ, การให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงดูเด็ก และแม้แต่การแพทย์ อย่างไรก็ตาม มณฑลหูหนาน ได้สั่งห้ามโรงพยาบาลใช้ AI ในการออกใบสั่งยา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำของข้อมูล

    นอกจากนี้ สำนักงานบริหารไซเบอร์ของจีน ได้ประกาศ แคมเปญควบคุม AI เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อตรวจสอบบริการ AI ที่ให้คำแนะนำทางการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการเผยแพร่ข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับการลงทุนและข่าวสารสาธารณะ

    ✅ ความนิยมของ DeepSeek ในจีน
    - DeepSeek เป็นแชตบอท AI ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน
    - ถูกนำไปใช้ในหลายภาคส่วน เช่น การแปลภาษา, การเขียนบทความ และการแพทย์

    ✅ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - Qi Xiangdong เตือนว่า AI อาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อโจมตีระบบ
    - มีความเสี่ยงจากการ "วางยาข้อมูล" เพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของ AI

    ✅ การควบคุมการใช้ AI ในจีน
    - มณฑลหูหนานสั่งห้ามโรงพยาบาลใช้ AI ในการออกใบสั่งยา
    - สำนักงานบริหารไซเบอร์ของจีนประกาศแคมเปญควบคุม AI เป็นเวลา 3 เดือน

    ✅ การใช้ AI ในภาครัฐ
    - รัฐบาลจีนใช้ AI ในการร่างเอกสารและตรวจสอบข้อมูล
    - มีการนำ AI ไปใช้ร่วมกับกล้องวงจรปิดเพื่อช่วยค้นหาผู้สูญหาย

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/01/relying-on-ai-carries-risks-cybersecurity-expert-warns-amid-chinas-deepseek-craze
    จีนกำลังเผชิญกับกระแสความนิยมของ DeepSeek ซึ่งเป็นแชตบอท AI ที่พัฒนาโดยบริษัทจีน และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์เตือนว่า การพึ่งพา AI มากเกินไปอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย Qi Xiangdong ประธานบริษัท Qi An Xin (QAX) ซึ่งเป็นบริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ในปักกิ่ง ได้กล่าวในงาน Digital China Summit ว่า AI ขนาดใหญ่มีความท้าทายด้านความปลอดภัย และอาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อโจมตีระบบ หรือแม้แต่ "วางยาข้อมูล" เพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของโมเดล AI รัฐบาลจีนได้สนับสนุนการใช้ AI อย่างแพร่หลาย โดยมีการนำ DeepSeek ไปใช้ในหลายภาคส่วน เช่น การแปลภาษา, การเขียนบทความ, การให้คำแนะนำด้านการเลี้ยงดูเด็ก และแม้แต่การแพทย์ อย่างไรก็ตาม มณฑลหูหนาน ได้สั่งห้ามโรงพยาบาลใช้ AI ในการออกใบสั่งยา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความแม่นยำของข้อมูล นอกจากนี้ สำนักงานบริหารไซเบอร์ของจีน ได้ประกาศ แคมเปญควบคุม AI เป็นเวลา 3 เดือน เพื่อตรวจสอบบริการ AI ที่ให้คำแนะนำทางการแพทย์โดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงการเผยแพร่ข้อมูลผิดพลาดเกี่ยวกับการลงทุนและข่าวสารสาธารณะ ✅ ความนิยมของ DeepSeek ในจีน - DeepSeek เป็นแชตบอท AI ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน - ถูกนำไปใช้ในหลายภาคส่วน เช่น การแปลภาษา, การเขียนบทความ และการแพทย์ ✅ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - Qi Xiangdong เตือนว่า AI อาจถูกใช้โดยแฮกเกอร์เพื่อโจมตีระบบ - มีความเสี่ยงจากการ "วางยาข้อมูล" เพื่อเปลี่ยนแปลงการตัดสินใจของ AI ✅ การควบคุมการใช้ AI ในจีน - มณฑลหูหนานสั่งห้ามโรงพยาบาลใช้ AI ในการออกใบสั่งยา - สำนักงานบริหารไซเบอร์ของจีนประกาศแคมเปญควบคุม AI เป็นเวลา 3 เดือน ✅ การใช้ AI ในภาครัฐ - รัฐบาลจีนใช้ AI ในการร่างเอกสารและตรวจสอบข้อมูล - มีการนำ AI ไปใช้ร่วมกับกล้องวงจรปิดเพื่อช่วยค้นหาผู้สูญหาย https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/01/relying-on-ai-carries-risks-cybersecurity-expert-warns-amid-chinas-deepseek-craze
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Relying on AI carries risks, cybersecurity expert warns amid China’s DeepSeek craze
    Political adviser cautions against dependence on AI for decision-making, calls for security mechanism to monitor and intercept threats.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่น้ำกกป่วยเพราะสารพิษหนักเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่าใครจะเป็นหมอรักษา (ตอนที่ 5)
    .................
    มหากาพย์แร่หายากกำลังเป็นฝีแตกในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพราะทำให้แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และจะส่งผลต่อแม่น้ำโขงป่วยหนักขึ้น การบริโภค การใช้แม่น้ำที่มีวิญญาณของความเป็นแม่ ถูกความโลภ อำนาจ เผาผลาญ และเอากากความความโลภทิ้งลงแม่น้ำ แล้วทุนแร่หายากในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงแห่งนี้กำลังสร้างตำนานซ้ำซากที่เกิดขึ้นในแอฟริกา เป็นกระบวนการถลุงแร่ธาตุ เพื่อให้เป็นเลือด
    .................
    สัญญาณแรก ประมงจังหวัดเชียงราย แถลงเมื่อ 25 เม.ย.68 ระบุพบปลากลุ่มตัวอย่างพบโลหะหนัก เช่น สารหนูและปรอท ไม่เกินค่ามาตรฐาน ก็อาจจะไม่ให้เราเบาใจและปล่อยปละละเลย และแสดงความกังวลว่าปลาลดน้อยลงมาก เพราะแม่น้ำเสื่อมโทรม ตั้งแต่ความตื้นเขิน น้ำมีตะกอนดินทั้งปี

    สัญญาณที่สอง สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ก็หวั่น ๆ ว่า ผลสรุปการตรวจสอบคุณภาพตะกอนดินในแหล่งน้ำแม่น้ำกก บริเวณ อ.แม่อาย และอ.เมือง จ.เชียงราย พบมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดิน อาจจะเกิดอันตรายต่อสัตว์หน้าดินที่เป็นอาหารของสัตว์น้ำ เช่น ปลา จะทำให้จำนวนหรือประเภทของสัตว์หน้าดินลดลง ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศลดลง สัตว์น้ำลดจำนวนลง และชาวบ้านจับสัตว์น้ำได้น้อยลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ที่กินสัตว์น้ำ แต่ไม่แน่ว่าหากมีการสะสมในปลา ถ้าชาวบ้านบริโภคปลาเป็นจำนวนมากและเป็นประจำ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย เช่น ชาที่ปลายมือปลายเท้า (ไข้ดำ: ผิวหนังหนาและเข้ม) มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ

    สัญญาณที่สาม 30 เมษายน ผลตรวจสารหนูเบื้องต้นในแม่น้ำ อ.แม่สาย - อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย พบเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่า มีหมายเหตุ ผลดังกล่าวเป็นเพียงผลการตรวจเบื้องต้นทางทีมวิจัยจะนำตัวอย่างน้ำส่งตรวจใน Lab มาตรฐานต่อไป
    .................
    แรงกระเพื่อมต่อถึงทำเนียบ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุม ติดตามสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกก ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล องค์ประชุมประกอบด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ

    ในการประชุม กระจายหน้าที่แต่ละกระทรวง กระทรวงมหาดไทย เร่งสั่งการการประปาส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการใช้น้ำดิบในการผลิตน้ำประปา พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับข้อมูลสารปนเปื้อนในน้ำ แนวทางการกรองน้ำเพื่อการบริโภคที่ปลอดภัย รวมถึงการเร่งตรวจสอบแหล่งน้ำในพื้นที่อย่างเข้มข้น

    ประธานในการประชุมมีข้อสั่งการด้านการแก้ไขปัญหา 6 ประเด็น ดังนี้ 1. มอบหมายกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติบูรณาการร่วมกัน เร่งประสานประเทศเพื่อนบ้าน ใช้กลไกความร่วมมือทุกระดับเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดภายนอกประเทศที่อาจส่งผลให้เกิดสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก

    2. มอบหมายสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติใช้กลไกลุ่มน้ำโขงเหนือ บริหารจัดการปริมาณน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ เพิ่มน้ำต้นทุนเข้าสู่แม่น้ำกก

    3. มอบหมายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ใช้นวัตกรรมดาวเทียม และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ช่วยประเมินความขุ่น สารแขวนลอยในแม่น้ำกกทั้งในเขตประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

    4. มอบหมายกระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก

    5. มอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข ติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนในแม่น้ำกก และลำน้ำสาขา การปนเปื้อนในสัตว์น้ำและการสะสมในร่างกายมนุษย์อย่างต่อเนื่อง

    6. มอบหมายกระทรวงอุตสาหกรรม จัดทำแนวทางการลดผลกระทบจากการทำเหมืองและประสานความร่วมมือในการเผยแพร่ให้ประเทศเพื่อนบ้านผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ
    คำถามที่ท้าทาย จะปล่อยให้ภาวะสะสมเกิดกับประชาชนชาวเชียงราย และประชาชนลุ่มน้ำสาย กก โขงแบบนี้เรื่อย ๆ ใช่หรือไม่

    .................
    เสียงประชาชนต้องดังกว่านี้ เครือข่ายข้อมูลอุทกภัยแม่น้ำกก (ค.อ.ก) ก็ได้จัดเวทีความร่วมมือเตือนภัยน้ำกกหลากท่วมปี 2568 โดยมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ หรือ “ครูแดง” ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ พชภ. เป็นประธานการประชุม โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินงานในพื้นที่แม่น้ำกก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมแลกเปลี่ยนพร้อมนำเสนอ ถึงนายกรรัฐมนตรี

    1.แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาชน และนักวิชาการ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งในแหล่งกำเนิดมลพิษ ระหว่างทาง และผู้รับผลพิษ จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำในจังหวัดเชียงราย
    2. เปิดเผยและซักซ้อมมาตรการรับมืออุทกภัยลุ่มน้ำกก และลุ่มน้ำสาย อย่างเป็นระบบ มีส่วนร่วม และมีประสิทธิภาพ
    3. สร้างความร่วมมือกับประเทศเมียนมา หรือกองกำลังที่ดูแลในพื้นที่ เพื่อเพิ่มจุดเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของสารปนเปื้อน ตลอดลำน้ำกก น้ำสาย ทั้ง พื้นที่ต้นน้ำ ก่อนเหมืองในรัฐฉาน
    4 .สร้างระบบสื่อสารสาธารณะที่โปร่งใส เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจุบัน
    5. ขยายขอบเขตการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เป็นการลุกล้ำหรือทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดลุ่มน้ำกกและลุ่มน้ำสาย
    6. เปิดการเจรจา 4 ฝ่ายคือ ไทย เมียนมา กองกำลังชาติพันธุ์ที่ควบคุมพื้นที่สัมปทานเหมือง และประเทศจีน เพื่อร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบ

    สรุปคือการส่งเสียงว่ารัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การทำเหมืองทองต้องกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐไปเจรจา ทุกฝ่ายร่วมกัน ทั้งฝ่ายความมั่นคง รัฐบาล สื่อมวลชน ชาวบ้าน ประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าระดับประเทศแก้ไม่ได้ก็ต้องเป็นระดับอาเซียน ภูมิภาค หรือระดับนานาชาติร่วมกันแก้ไข ต้องคุยกับรัฐบาลพม่ารวมถึงรัฐบาลจีน เพราะเป็นพื้นที่ของกลุ่มว้า เป็นการเมืองระหว่างประเทศ

    เปิดพื้นที่ผ่านการเล่าเรื่องของแม่น้ำกกระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับสิทธิของแม่น้ำ และ การเจรจาระหว่างรัฐกับธรรมชาติ ข้ามเขตแดนรัฐและแนวคิดการจัดการสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน (Transboundary Environmental Governance)”
    .................

    ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงกล่าวว่า รัฐบาลต้องใช้แนวคิดการทูตสิ่งแวดล้อมสร้างความร่วมมือแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด นอกจากนี้ต้องเสนอให้เมียนมาเข้าใจด้วยว่า เหมืองแร่อยู่ในเขตควบคุมของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่การเจรจาสันติภาพในเมียนมา ต้องหยิบยกเอาประเด็นมลพิษข้ามพรมแดนเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาด้วย

    น.ส.เพียงพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา(พชภ.) และผู้อำนวยการฝ่ายรณรงรงค์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) กล่าวว่า ทั้งแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ โดยมีต้นน้ำอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศพม่า การสร้างเหมืองทองที่บริเวณต้นน้ำ ทำให้ประชาชนและระบบนิเวศท้ายน้ำซึ่งอยู่ในประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งหาทางยุติการทำเหมืองและเปิดหน้าดินในวงกว้างให้ได้ เพราะนอกจากส่งผลในเรื่องการปนเปื้อนสารโลหะหนักลงแม่น้ำแล้ว ยังส่งผลต่ออุทกภัยที่มีดินโคลนปนมาด้วย กลายเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่คนท้ายน้ำต้องเผชิญและหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา

    ก่อนหน้านี้กระแสกระเพื่อมขึ้นในพื้นที่ที่ดีมาก ที่ทาง พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เลขานุการคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา ร่วมรับฟังปัญหาสารโลหะหนักในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย

    เนื้อหาจึงเจาะประเด็นเชิงความมั่นคงทันทีในมิติของผลกระทบข้ามแดน ตามที่ได้นำเสนอในตอนต้น ๆ เป็นเรื่องของกระบวนการขุมเหมืองแร่สีเลือกเพื่อนำผลประโยชน์มาห่ำหั่นกันทางการเมือง ที่รัฐบาลทหารพม่า อนุญาตให้ทำเหมืองแร่ต่าง ๆ ในรัฐฉาน ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนจีน แต่ก็มีประเทศออสเตรเลีย รัสเซีย และอิตาลีด้วย เหมืองทั้งหมดอยู่เหนือน้ำกก น้ำสาย น้ำรวก
    .................

    มิติทางแม่น้ำระหว่างประเทศ เป็นวิกฤติมลพิษข้ามแดนที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับฝุ่นควันข้ามแดน ที่มีปลายทางด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองอยู่เบื้องหลัง ต้องใช้เวลาเกลี่ย ล๊อบบี้ กดดัน การตีโอบ เพื่อกระทบ อันจะให้การกดดันทุน และอำนาจรัฐเข้ามาเร่งรัดจัดการปัญหาข้ามพรมแดนไมว่าจะเป็น การทำระบบบำบัดน้ำเสีย ที่ต้องเพิ่มต้นทุนก็ต้องทำ กรองน้ำที่มีสารหนูปนเปื้อน

    การให้ความสำคัญมิติ สาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อม การเกษตร การสื่อสาร กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างสัมพันธ์และความเข้าใจนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานทุกฝ่ายต่อการโต้ตอบเหตุสารเคมีปนเปื้อน เพื่อสื่อสารและการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เจ้ากรมกิจการชายแดนทหารได้รับฟังข้อมูลจากผู้เข้าร่วมให้ข้อมูลเพื่อนำไปศึกษาการจัดทำรายงานนำเสนอต้นสังกัดและรัฐบาลในการดำเนินการงานร่วมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาต่อไป

    แม่น้ำกกป่วยเพราะสารพิษหนักเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่าใครจะเป็นหมอรักษา (ตอนที่ 5) ................. มหากาพย์แร่หายากกำลังเป็นฝีแตกในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เพราะทำให้แม่น้ำกก แม่น้ำสาย และจะส่งผลต่อแม่น้ำโขงป่วยหนักขึ้น การบริโภค การใช้แม่น้ำที่มีวิญญาณของความเป็นแม่ ถูกความโลภ อำนาจ เผาผลาญ และเอากากความความโลภทิ้งลงแม่น้ำ แล้วทุนแร่หายากในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงแห่งนี้กำลังสร้างตำนานซ้ำซากที่เกิดขึ้นในแอฟริกา เป็นกระบวนการถลุงแร่ธาตุ เพื่อให้เป็นเลือด ................. สัญญาณแรก ประมงจังหวัดเชียงราย แถลงเมื่อ 25 เม.ย.68 ระบุพบปลากลุ่มตัวอย่างพบโลหะหนัก เช่น สารหนูและปรอท ไม่เกินค่ามาตรฐาน ก็อาจจะไม่ให้เราเบาใจและปล่อยปละละเลย และแสดงความกังวลว่าปลาลดน้อยลงมาก เพราะแม่น้ำเสื่อมโทรม ตั้งแต่ความตื้นเขิน น้ำมีตะกอนดินทั้งปี สัญญาณที่สอง สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 1 (เชียงใหม่) ก็หวั่น ๆ ว่า ผลสรุปการตรวจสอบคุณภาพตะกอนดินในแหล่งน้ำแม่น้ำกก บริเวณ อ.แม่อาย และอ.เมือง จ.เชียงราย พบมาตรฐานคุณภาพตะกอนดินเพื่อปกป้องสัตว์หน้าดิน อาจจะเกิดอันตรายต่อสัตว์หน้าดินที่เป็นอาหารของสัตว์น้ำ เช่น ปลา จะทำให้จำนวนหรือประเภทของสัตว์หน้าดินลดลง ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศลดลง สัตว์น้ำลดจำนวนลง และชาวบ้านจับสัตว์น้ำได้น้อยลง แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์ที่กินสัตว์น้ำ แต่ไม่แน่ว่าหากมีการสะสมในปลา ถ้าชาวบ้านบริโภคปลาเป็นจำนวนมากและเป็นประจำ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย เช่น ชาที่ปลายมือปลายเท้า (ไข้ดำ: ผิวหนังหนาและเข้ม) มีอาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ สัญญาณที่สาม 30 เมษายน ผลตรวจสารหนูเบื้องต้นในแม่น้ำ อ.แม่สาย - อ.เชียงแสน จังหวัดเชียงราย พบเกินค่ามาตรฐานสูงสุด 19 เท่า มีหมายเหตุ ผลดังกล่าวเป็นเพียงผลการตรวจเบื้องต้นทางทีมวิจัยจะนำตัวอย่างน้ำส่งตรวจใน Lab มาตรฐานต่อไป ................. แรงกระเพื่อมต่อถึงทำเนียบ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานการประชุม ติดตามสถานการณ์และแนวทางการแก้ไขปัญหาสารปนเปื้อนเกินค่ามาตรฐานในแม่น้ำกก ณ ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล องค์ประชุมประกอบด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ ในการประชุม กระจายหน้าที่แต่ละกระทรวง กระทรวงมหาดไทย เร่งสั่งการการประปาส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในพื้นที่ เพื่อเฝ้าระวังและควบคุมการใช้น้ำดิบในการผลิตน้ำประปา พร้อมทั้งกำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ บูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับข้อมูลสารปนเปื้อนในน้ำ แนวทางการกรองน้ำเพื่อการบริโภคที่ปลอดภัย รวมถึงการเร่งตรวจสอบแหล่งน้ำในพื้นที่อย่างเข้มข้น ประธานในการประชุมมีข้อสั่งการด้านการแก้ไขปัญหา 6 ประเด็น ดังนี้ 1. มอบหมายกระทรวงกลาโหม กระทรวงการต่างประเทศ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติบูรณาการร่วมกัน เร่งประสานประเทศเพื่อนบ้าน ใช้กลไกความร่วมมือทุกระดับเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดภายนอกประเทศที่อาจส่งผลให้เกิดสารปนเปื้อนในแม่น้ำกก 2. มอบหมายสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติใช้กลไกลุ่มน้ำโขงเหนือ บริหารจัดการปริมาณน้ำเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ เพิ่มน้ำต้นทุนเข้าสู่แม่น้ำกก 3. มอบหมายกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ใช้นวัตกรรมดาวเทียม และเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ ช่วยประเมินความขุ่น สารแขวนลอยในแม่น้ำกกทั้งในเขตประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้าน 4. มอบหมายกระทรวงมหาดไทยสั่งการผู้ว่าราชการจังหวัดบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและสื่อสาร ประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจไม่ให้ประชาชนตื่นตระหนก 5. มอบหมายกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข ติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนในแม่น้ำกก และลำน้ำสาขา การปนเปื้อนในสัตว์น้ำและการสะสมในร่างกายมนุษย์อย่างต่อเนื่อง 6. มอบหมายกระทรวงอุตสาหกรรม จัดทำแนวทางการลดผลกระทบจากการทำเหมืองและประสานความร่วมมือในการเผยแพร่ให้ประเทศเพื่อนบ้านผ่านกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศ คำถามที่ท้าทาย จะปล่อยให้ภาวะสะสมเกิดกับประชาชนชาวเชียงราย และประชาชนลุ่มน้ำสาย กก โขงแบบนี้เรื่อย ๆ ใช่หรือไม่ ................. เสียงประชาชนต้องดังกว่านี้ เครือข่ายข้อมูลอุทกภัยแม่น้ำกก (ค.อ.ก) ก็ได้จัดเวทีความร่วมมือเตือนภัยน้ำกกหลากท่วมปี 2568 โดยมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ หรือ “ครูแดง” ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ พชภ. เป็นประธานการประชุม โดยมีองค์กรพัฒนาเอกชนที่ดำเนินงานในพื้นที่แม่น้ำกก และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมแลกเปลี่ยนพร้อมนำเสนอ ถึงนายกรรัฐมนตรี 1.แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษข้ามพรมแดน โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาชน และนักวิชาการ เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาทั้งในแหล่งกำเนิดมลพิษ ระหว่างทาง และผู้รับผลพิษ จัดตั้งศูนย์ตรวจสอบคุณภาพน้ำในจังหวัดเชียงราย 2. เปิดเผยและซักซ้อมมาตรการรับมืออุทกภัยลุ่มน้ำกก และลุ่มน้ำสาย อย่างเป็นระบบ มีส่วนร่วม และมีประสิทธิภาพ 3. สร้างความร่วมมือกับประเทศเมียนมา หรือกองกำลังที่ดูแลในพื้นที่ เพื่อเพิ่มจุดเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจสอบแหล่งที่มาของสารปนเปื้อน ตลอดลำน้ำกก น้ำสาย ทั้ง พื้นที่ต้นน้ำ ก่อนเหมืองในรัฐฉาน 4 .สร้างระบบสื่อสารสาธารณะที่โปร่งใส เพื่อให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจุบัน 5. ขยายขอบเขตการศึกษาและวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์ที่ดินที่เป็นการลุกล้ำหรือทำลายสิ่งแวดล้อม ตลอดลุ่มน้ำกกและลุ่มน้ำสาย 6. เปิดการเจรจา 4 ฝ่ายคือ ไทย เมียนมา กองกำลังชาติพันธุ์ที่ควบคุมพื้นที่สัมปทานเหมือง และประเทศจีน เพื่อร่วมกันหาทางออกอย่างสร้างสรรค์และรับผิดชอบ สรุปคือการส่งเสียงว่ารัฐบาลจะต้องแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ การทำเหมืองทองต้องกระตุ้นให้หน่วยงานรัฐไปเจรจา ทุกฝ่ายร่วมกัน ทั้งฝ่ายความมั่นคง รัฐบาล สื่อมวลชน ชาวบ้าน ประเทศเพื่อนบ้าน ถ้าระดับประเทศแก้ไม่ได้ก็ต้องเป็นระดับอาเซียน ภูมิภาค หรือระดับนานาชาติร่วมกันแก้ไข ต้องคุยกับรัฐบาลพม่ารวมถึงรัฐบาลจีน เพราะเป็นพื้นที่ของกลุ่มว้า เป็นการเมืองระหว่างประเทศ เปิดพื้นที่ผ่านการเล่าเรื่องของแม่น้ำกกระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ สร้างความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับสิทธิของแม่น้ำ และ การเจรจาระหว่างรัฐกับธรรมชาติ ข้ามเขตแดนรัฐและแนวคิดการจัดการสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดน (Transboundary Environmental Governance)” ................. ดร.สืบสกุล กิจนุกร อาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงกล่าวว่า รัฐบาลต้องใช้แนวคิดการทูตสิ่งแวดล้อมสร้างความร่วมมือแก้ปัญหามลพิษข้ามพรมแดนให้เป็นรูปธรรมมากที่สุด นอกจากนี้ต้องเสนอให้เมียนมาเข้าใจด้วยว่า เหมืองแร่อยู่ในเขตควบคุมของกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์ที่การเจรจาสันติภาพในเมียนมา ต้องหยิบยกเอาประเด็นมลพิษข้ามพรมแดนเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาด้วย น.ส.เพียงพร ดีเทศน์ เลขาธิการมูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา(พชภ.) และผู้อำนวยการฝ่ายรณรงรงค์ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ องค์กรแม่น้ำนานาชาติ (International Rivers) กล่าวว่า ทั้งแม่น้ำกกและแม่น้ำสายเป็นแม่น้ำระหว่างประเทศ โดยมีต้นน้ำอยู่ในเขตรัฐฉาน ประเทศพม่า การสร้างเหมืองทองที่บริเวณต้นน้ำ ทำให้ประชาชนและระบบนิเวศท้ายน้ำซึ่งอยู่ในประเทศไทยได้รับความเดือดร้อนกันถ้วนหน้า ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องเร่งหาทางยุติการทำเหมืองและเปิดหน้าดินในวงกว้างให้ได้ เพราะนอกจากส่งผลในเรื่องการปนเปื้อนสารโลหะหนักลงแม่น้ำแล้ว ยังส่งผลต่ออุทกภัยที่มีดินโคลนปนมาด้วย กลายเป็นภัยพิบัติร้ายแรงที่คนท้ายน้ำต้องเผชิญและหวาดผวาอยู่ตลอดเวลา ก่อนหน้านี้กระแสกระเพื่อมขึ้นในพื้นที่ที่ดีมาก ที่ทาง พล.ท.ณัฐพงษ์ เพราแก้ว เจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร เลขานุการคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา ร่วมรับฟังปัญหาสารโลหะหนักในแม่น้ำกกและแม่น้ำสาย เนื้อหาจึงเจาะประเด็นเชิงความมั่นคงทันทีในมิติของผลกระทบข้ามแดน ตามที่ได้นำเสนอในตอนต้น ๆ เป็นเรื่องของกระบวนการขุมเหมืองแร่สีเลือกเพื่อนำผลประโยชน์มาห่ำหั่นกันทางการเมือง ที่รัฐบาลทหารพม่า อนุญาตให้ทำเหมืองแร่ต่าง ๆ ในรัฐฉาน ส่วนใหญ่จะเป็นนักลงทุนจีน แต่ก็มีประเทศออสเตรเลีย รัสเซีย และอิตาลีด้วย เหมืองทั้งหมดอยู่เหนือน้ำกก น้ำสาย น้ำรวก ................. มิติทางแม่น้ำระหว่างประเทศ เป็นวิกฤติมลพิษข้ามแดนที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับฝุ่นควันข้ามแดน ที่มีปลายทางด้านเศรษฐศาสตร์การเมืองอยู่เบื้องหลัง ต้องใช้เวลาเกลี่ย ล๊อบบี้ กดดัน การตีโอบ เพื่อกระทบ อันจะให้การกดดันทุน และอำนาจรัฐเข้ามาเร่งรัดจัดการปัญหาข้ามพรมแดนไมว่าจะเป็น การทำระบบบำบัดน้ำเสีย ที่ต้องเพิ่มต้นทุนก็ต้องทำ กรองน้ำที่มีสารหนูปนเปื้อน การให้ความสำคัญมิติ สาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อม การเกษตร การสื่อสาร กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อสร้างสัมพันธ์และความเข้าใจนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์ประสานงานทุกฝ่ายต่อการโต้ตอบเหตุสารเคมีปนเปื้อน เพื่อสื่อสารและการประสานความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ทั้งนี้เจ้ากรมกิจการชายแดนทหารได้รับฟังข้อมูลจากผู้เข้าร่วมให้ข้อมูลเพื่อนำไปศึกษาการจัดทำรายงานนำเสนอต้นสังกัดและรัฐบาลในการดำเนินการงานร่วมทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการแก้ปัญหาต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 725 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามชิป AI ร้อนระอุ จีนดัน Huawei ผลิตชิปสู้ NVIDIA
    .
    ผลกระทบของ "สงครามการค้า" ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ รัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้บริษัทไอที และโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง "หัวเว่ย" หันมาเร่งพัฒนา และดำเนินการผลิตชิป AI ขึ้นมาทดแทนชิปจากบริษัทอเมริกันบ้างแล้ว
    .
    ล่าสุดมีข่าวว่า "หัวเว่ย" กำลังเปิดทดสอบชิป AI รุ่น Ascend 910B เพื่อมาแข่งขันกับชิป AI รุ่น H100 ของ NVIDIA โดย "หัวเว่ย" ทยอยนำชิป 910B นี้ไปให้บริษัทไอทีจีนต่าง ๆ ทดลองใช้งานแล้ว
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #NVIDIA #Huawei #หัวเว่ย #สงครามการค้า #ชิปAI #AI #ArtificialIntelligence #ปัญญาประดิษฐ์ #Ascend910B
    สงครามชิป AI ร้อนระอุ จีนดัน Huawei ผลิตชิปสู้ NVIDIA . ผลกระทบของ "สงครามการค้า" ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ รัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้บริษัทไอที และโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง "หัวเว่ย" หันมาเร่งพัฒนา และดำเนินการผลิตชิป AI ขึ้นมาทดแทนชิปจากบริษัทอเมริกันบ้างแล้ว . ล่าสุดมีข่าวว่า "หัวเว่ย" กำลังเปิดทดสอบชิป AI รุ่น Ascend 910B เพื่อมาแข่งขันกับชิป AI รุ่น H100 ของ NVIDIA โดย "หัวเว่ย" ทยอยนำชิป 910B นี้ไปให้บริษัทไอทีจีนต่าง ๆ ทดลองใช้งานแล้ว . #บูรพาไม่แพ้ #NVIDIA #Huawei #หัวเว่ย #สงครามการค้า #ชิปAI #AI #ArtificialIntelligence #ปัญญาประดิษฐ์ #Ascend910B
    @thedongfangbubai

    สงครามชิป AI ร้อนระอุ จีนดัน Huawei ผลิตชิปสู้ NVIDIA . ผลกระทบของ "สงครามการค้า" ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ทำให้ รัฐบาลจีนพยายามผลักดันให้บริษัทไอที และโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง "หัวเว่ย" หันมาเร่งพัฒนา และดำเนินการผลิตชิป AI ขึ้นมาทดแทนชิปจากบริษัทอเมริกันบ้างแล้ว . ล่าสุดมีข่าวว่า "หัวเว่ย" กำลังเปิดทดสอบชิป AI รุ่น Ascend 910B เพื่อมาแข่งขันกับชิป AI รุ่น H100 ของ NVIDIA โดย "หัวเว่ย" ทยอยนำชิป 910B นี้ไปให้บริษัทไอทีจีนต่าง ๆ ทดลองใช้งานแล้ว . #บูรพาไม่แพ้ #NVIDIA #Huawei #หัวเว่ย #สงครามการค้า #ชิปAI #AI #ArtificialIntelligence #ปัญญาประดิษฐ์ #Ascend910B

    ♬ original sound - บูรพาไม่แพ้ - บูรพาไม่แพ้
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงคำเตือนจาก FBI เกี่ยวกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีเป้าหมายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน FBI ระบุว่ากลุ่มเหล่านี้ใช้ AI ในทุกขั้นตอนของการโจมตี ตั้งแต่การค้นหาช่องโหว่ไปจนถึงการเคลื่อนย้ายภายในระบบ

    ตัวอย่างที่น่าสนใจคือกลุ่ม Volt Typhoon ที่ใช้เราเตอร์รุ่นเก่าเพื่อสร้างเครือข่ายบอตเน็ตสำหรับการโจมตี และกลุ่ม Salt Typhoon ที่เจาะระบบของบริษัทโทรคมนาคมและรัฐบาลสหรัฐฯ โดยใช้ช่องโหว่ที่ไม่ได้รับการแก้ไข

    นอกจากนี้ FBI ยังเตือนถึงการใช้เทคโนโลยี deepfake ในการหลอกลวง เช่น การปลอมตัวเป็นผู้บริหารเพื่อขอการโอนเงินหรือจัดประชุมออนไลน์

    ✅ การใช้ AI ในการโจมตี
    - กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนใช้ AI ในทุกขั้นตอนของการโจมตี
    - ตัวอย่างเช่น Volt Typhoon และ Salt Typhoon ที่ใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์เก่า

    ✅ เป้าหมายของการโจมตี
    - โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โทรคมนาคม พลังงาน และน้ำ
    - การเคลื่อนย้ายภายในระบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ

    ✅ การใช้ deepfake ในการหลอกลวง
    - การปลอมตัวเป็นผู้บริหารเพื่อขอการโอนเงินหรือจัดประชุมออนไลน์
    - การใช้ deepfake เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในข้อความหลอกลวง

    ✅ คำแนะนำจาก FBI
    - ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA)
    - ป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตและจำกัดการเคลื่อนย้ายในระบบ

    https://www.techspot.com/news/107730-fbi-warns-china-using-ai-sharpen-cyberattacks-us.html
    บทความนี้กล่าวถึงคำเตือนจาก FBI เกี่ยวกับการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการโจมตีทางไซเบอร์ที่มีเป้าหมายเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะจากกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน FBI ระบุว่ากลุ่มเหล่านี้ใช้ AI ในทุกขั้นตอนของการโจมตี ตั้งแต่การค้นหาช่องโหว่ไปจนถึงการเคลื่อนย้ายภายในระบบ ตัวอย่างที่น่าสนใจคือกลุ่ม Volt Typhoon ที่ใช้เราเตอร์รุ่นเก่าเพื่อสร้างเครือข่ายบอตเน็ตสำหรับการโจมตี และกลุ่ม Salt Typhoon ที่เจาะระบบของบริษัทโทรคมนาคมและรัฐบาลสหรัฐฯ โดยใช้ช่องโหว่ที่ไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากนี้ FBI ยังเตือนถึงการใช้เทคโนโลยี deepfake ในการหลอกลวง เช่น การปลอมตัวเป็นผู้บริหารเพื่อขอการโอนเงินหรือจัดประชุมออนไลน์ ✅ การใช้ AI ในการโจมตี - กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีนใช้ AI ในทุกขั้นตอนของการโจมตี - ตัวอย่างเช่น Volt Typhoon และ Salt Typhoon ที่ใช้ช่องโหว่ในอุปกรณ์เก่า ✅ เป้าหมายของการโจมตี - โครงสร้างพื้นฐานสำคัญ เช่น โทรคมนาคม พลังงาน และน้ำ - การเคลื่อนย้ายภายในระบบเพื่อเข้าถึงข้อมูลสำคัญ ✅ การใช้ deepfake ในการหลอกลวง - การปลอมตัวเป็นผู้บริหารเพื่อขอการโอนเงินหรือจัดประชุมออนไลน์ - การใช้ deepfake เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในข้อความหลอกลวง ✅ คำแนะนำจาก FBI - ใช้การยืนยันตัวตนแบบหลายขั้นตอน (MFA) - ป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตและจำกัดการเคลื่อนย้ายในระบบ https://www.techspot.com/news/107730-fbi-warns-china-using-ai-sharpen-cyberattacks-us.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    FBI warns China is using AI to sharpen cyberattacks on US infrastructure
    In an interview with The Register, FBI Deputy Assistant Director Cynthia Kaiser explained how Chinese state-backed cyber groups use artificial intelligence at every stage of their attack...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการที่ FBI ได้ประกาศตั้งรางวัลมูลค่าสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การระบุตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮกเกอร์ Salt Typhoon ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน กลุ่มนี้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ เช่น การขโมยข้อมูลการโทรและการเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งศาล

    นอกจากนี้ FBI ยังระบุว่ารางวัลนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Rewards for Justice (RFJ) ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมุ่งเน้นการป้องกันกิจกรรมไซเบอร์ที่เป็นอันตรายต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ

    ✅ การตั้งรางวัลมูลค่าสูง
    - รางวัลมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การระบุตัวบุคคลในกลุ่ม Salt Typhoon
    - กลุ่มนี้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ

    ✅ เป้าหมายของการประกาศ
    - ป้องกันกิจกรรมไซเบอร์ที่เป็นอันตรายต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
    - สนับสนุนการสืบสวนและการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์

    ✅ การโจมตีที่เกี่ยวข้อง
    - การขโมยข้อมูลการโทรและการเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งศาล
    - การโจมตีที่มีผลกระทบในระดับโลก

    ✅ โครงการ Rewards for Justice (RFJ)
    - มุ่งเน้นการป้องกันกิจกรรมไซเบอร์ที่เป็นอันตราย
    - เสนอรางวัลสำหรับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามไซเบอร์

    https://www.techradar.com/pro/security/fbi-places-bounty-on-salt-typhoon-usd10-million-for-info-on-infamous-chinese-hacking-group
    บทความนี้กล่าวถึงการที่ FBI ได้ประกาศตั้งรางวัลมูลค่าสูงถึง 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การระบุตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮกเกอร์ Salt Typhoon ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน กลุ่มนี้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ เช่น การขโมยข้อมูลการโทรและการเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งศาล นอกจากนี้ FBI ยังระบุว่ารางวัลนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Rewards for Justice (RFJ) ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ซึ่งมุ่งเน้นการป้องกันกิจกรรมไซเบอร์ที่เป็นอันตรายต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ✅ การตั้งรางวัลมูลค่าสูง - รางวัลมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับข้อมูลที่นำไปสู่การระบุตัวบุคคลในกลุ่ม Salt Typhoon - กลุ่มนี้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ ✅ เป้าหมายของการประกาศ - ป้องกันกิจกรรมไซเบอร์ที่เป็นอันตรายต่อโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ - สนับสนุนการสืบสวนและการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ ✅ การโจมตีที่เกี่ยวข้อง - การขโมยข้อมูลการโทรและการเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคำสั่งศาล - การโจมตีที่มีผลกระทบในระดับโลก ✅ โครงการ Rewards for Justice (RFJ) - มุ่งเน้นการป้องกันกิจกรรมไซเบอร์ที่เป็นอันตราย - เสนอรางวัลสำหรับข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามไซเบอร์ https://www.techradar.com/pro/security/fbi-places-bounty-on-salt-typhoon-usd10-million-for-info-on-infamous-chinese-hacking-group
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ เผยได้พูดคุยกับสี จิ้นผิง แล้ว และการเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรเป็นไปด้วยดี
    “เรากำลังหารือกับจีน เราทำได้ดีกับทุกๆ คน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผมก็ทำข้อตกลงทั้งหมดได้” ทรัมป์กล่าวกับนิตยสารไทม์

    ทางด้านรัฐบาลจีนได้ได้ออกมาตอบโต้ทันทีว่า “จีนและสหรัฐไม่เคยปรึกษาหารือหรือเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรใดๆ สหรัฐควรหยุดสร้างความสับสนเสียที”

    หมายเหตุ : ถือเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่จีนปฏิเสธการเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ
    ขณะที่ทรัมป์ก็ยังคงอ้างว่าการหารือการค้ากับจีนยังคงดำเนินต่อไป
    ทรัมป์ เผยได้พูดคุยกับสี จิ้นผิง แล้ว และการเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรเป็นไปด้วยดี “เรากำลังหารือกับจีน เราทำได้ดีกับทุกๆ คน แต่ท้ายที่สุดแล้ว ผมก็ทำข้อตกลงทั้งหมดได้” ทรัมป์กล่าวกับนิตยสารไทม์ ทางด้านรัฐบาลจีนได้ได้ออกมาตอบโต้ทันทีว่า “จีนและสหรัฐไม่เคยปรึกษาหารือหรือเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรใดๆ สหรัฐควรหยุดสร้างความสับสนเสียที” หมายเหตุ : ถือเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่จีนปฏิเสธการเจรจาข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ขณะที่ทรัมป์ก็ยังคงอ้างว่าการหารือการค้ากับจีนยังคงดำเนินต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • คดีตึกถล่มอยู่ใต้กม.ไทย จีนแทรกแซงไม่ได้ : [NEWS UPDATE]
    พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เผยกรณีบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด อนุมัติเงิน 120 ล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม ไม่มีผลเรื่องการลดโทษ ส่วนกรณีที่ นายชวนหลิง จาง กรรมการ ไชน่า เรลเวย์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ ที่รัฐบาลจีนส่งมาลงทุนในไทย เราได้ผู้กระทำผิดที่กล่าวหาครบแล้ว มีคนไทย 3 คน และคนจีน 1 คน เชื่อรัฐบาลจีนไม่เข้าแทรกแซงคดี ซึ่งก็แทรกแซงไม่ได้ เพราะยึดตามกฎหมาย โดยทำคดีแยกกันระหว่างคดีตึกถล่ม และคดีฮั้วประมูลจัดซื้อจัดจ้างกับคดีนอมินี
    ทั้งนี้ ทราบว่ารัฐบาลจีนส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบชาวจีนว่าทำถูกกฎหมายหรือไม่ รวมถึงสาเหตุของตึกถล่มด้วย


    ต่างชาติต้องขออนุญาต

    โล่งใจพ้นมลทิน

    กล่อมประชาชนเรื่องสำคัญ

    เร็วเกินไปไม่ดี ช้าเกินไปลไม่ได้
    คดีตึกถล่มอยู่ใต้กม.ไทย จีนแทรกแซงไม่ได้ : [NEWS UPDATE] พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เผยกรณีบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด อนุมัติเงิน 120 ล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจากเหตุตึกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม ไม่มีผลเรื่องการลดโทษ ส่วนกรณีที่ นายชวนหลิง จาง กรรมการ ไชน่า เรลเวย์ อ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจ ที่รัฐบาลจีนส่งมาลงทุนในไทย เราได้ผู้กระทำผิดที่กล่าวหาครบแล้ว มีคนไทย 3 คน และคนจีน 1 คน เชื่อรัฐบาลจีนไม่เข้าแทรกแซงคดี ซึ่งก็แทรกแซงไม่ได้ เพราะยึดตามกฎหมาย โดยทำคดีแยกกันระหว่างคดีตึกถล่ม และคดีฮั้วประมูลจัดซื้อจัดจ้างกับคดีนอมินี ทั้งนี้ ทราบว่ารัฐบาลจีนส่งผู้เชี่ยวชาญมาร่วมตรวจสอบชาวจีนว่าทำถูกกฎหมายหรือไม่ รวมถึงสาเหตุของตึกถล่มด้วย ต่างชาติต้องขออนุญาต โล่งใจพ้นมลทิน กล่อมประชาชนเรื่องสำคัญ เร็วเกินไปไม่ดี ช้าเกินไปลไม่ได้
    Like
    Haha
    Yay
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 684 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • กลุ่มแฮกเกอร์ Lotus Panda ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ได้ดำเนินการโจมตีองค์กรในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้เครื่องมือแฮกและมัลแวร์ที่ไม่เคยมีมาก่อน การโจมตีนี้มีเป้าหมายที่หน่วยงานรัฐบาล องค์กรควบคุมการจราจรทางอากาศ บริษัทโทรคมนาคม และบริษัทขนส่งสินค้าในหลายประเทศ โดยกลุ่มนี้ยังใช้เครื่องมือที่ถูกพัฒนาขึ้นเฉพาะเพื่อขโมยข้อมูลสำคัญและเข้าถึงระบบภายใน

    ✅ Lotus Panda ใช้มัลแวร์และเครื่องมือที่ไม่เคยมีมาก่อน
    - รวมถึง infostealers เช่น ChromeKatz และ CredentialKatz
    - ใช้เครื่องมือ reverse SSH และ loaders ที่ช่วยเข้าถึงระบบภายใน

    ✅ เป้าหมายของการโจมตีรวมถึงองค์กรในหลายประเทศ
    - หน่วยงานรัฐบาล องค์กรควบคุมการจราจรทางอากาศ และบริษัทโทรคมนาคม
    - บริษัทขนส่งสินค้าและสำนักข่าวในประเทศต่างๆ

    ✅ การใช้เครื่องมือที่ถูกพัฒนาขึ้นเฉพาะ
    - เช่น Sagerunex ที่สามารถขโมยข้อมูลและส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่สาม
    - ใช้ executable จากบริษัทแอนตี้ไวรัส เช่น Trend Micro และ Bitdefender เพื่อ sideload malicious DLL files

    ✅ Lotus Panda เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีประวัติยาวนาน
    - กลุ่มนี้มีชื่อเรียกอื่นๆ เช่น Billbug, Lotus Blossom และ Thrip
    - มีเป้าหมายหลักคือการจารกรรมข้อมูลจากหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

    https://www.techradar.com/pro/security/lotus-panda-hits-unnamed-government-with-bespoke-hacking-tools-and-malware
    กลุ่มแฮกเกอร์ Lotus Panda ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน ได้ดำเนินการโจมตีองค์กรในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยใช้เครื่องมือแฮกและมัลแวร์ที่ไม่เคยมีมาก่อน การโจมตีนี้มีเป้าหมายที่หน่วยงานรัฐบาล องค์กรควบคุมการจราจรทางอากาศ บริษัทโทรคมนาคม และบริษัทขนส่งสินค้าในหลายประเทศ โดยกลุ่มนี้ยังใช้เครื่องมือที่ถูกพัฒนาขึ้นเฉพาะเพื่อขโมยข้อมูลสำคัญและเข้าถึงระบบภายใน ✅ Lotus Panda ใช้มัลแวร์และเครื่องมือที่ไม่เคยมีมาก่อน - รวมถึง infostealers เช่น ChromeKatz และ CredentialKatz - ใช้เครื่องมือ reverse SSH และ loaders ที่ช่วยเข้าถึงระบบภายใน ✅ เป้าหมายของการโจมตีรวมถึงองค์กรในหลายประเทศ - หน่วยงานรัฐบาล องค์กรควบคุมการจราจรทางอากาศ และบริษัทโทรคมนาคม - บริษัทขนส่งสินค้าและสำนักข่าวในประเทศต่างๆ ✅ การใช้เครื่องมือที่ถูกพัฒนาขึ้นเฉพาะ - เช่น Sagerunex ที่สามารถขโมยข้อมูลและส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่สาม - ใช้ executable จากบริษัทแอนตี้ไวรัส เช่น Trend Micro และ Bitdefender เพื่อ sideload malicious DLL files ✅ Lotus Panda เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีประวัติยาวนาน - กลุ่มนี้มีชื่อเรียกอื่นๆ เช่น Billbug, Lotus Blossom และ Thrip - มีเป้าหมายหลักคือการจารกรรมข้อมูลจากหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ https://www.techradar.com/pro/security/lotus-panda-hits-unnamed-government-with-bespoke-hacking-tools-and-malware
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จีนส่งสัญญาณเปิดกว้างต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ"

    และทันทีที่มีข่าวนี้ออกมาเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หุ้นดีดตัวสูงขึ้นทันที
    ดูเหมือนว่าแหล่งข่าวเดียวที่นำเสนอรายงานนี้มาจากสำนักข่าว Bloomberg

    Bloomberg ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าจีนจะแสดงความพร้อมเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐแต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขบางประการ:

    👉ประการที่แรก ปักกิ่งต้องการให้สหรัฐแต่งตั้งบุคคลสำคัญในการเจรจาที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีและสามารถช่วยเตรียมข้อตกลงที่ทรัมป์และสีจิ้นผิง ผู้นำจีนสามารถลงนามได้เมื่อพวกเขาพบกัน

    👉ประการที่สอง จีนต้องการให้สหรัฐแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและดำเนินการที่สอดคล้องกันให้มากขึ้นในการตอบสนองต่อประเด็นความกังวลของปักกิ่งเกี่ยวกับไต้หวัน

    👉ประการที่สาม ปักกิ่งต้องการให้รัฐบาลของทรัมป์แสดง "ความเคารพ" ต่อจีนให้มากขึ้น ด้วยการควบคุมคำพูดดูหมิ่นของสมาชิกคณะรัฐมนตรีบางคน

    สำหรับประเด็นที่สาม แม้ว่าจีนไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าคือ รองประธานาธิบดีสหรัฐ "เจดี แวนซ์" เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แวนซ์ เรียกชาวจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกว่าเป็นเพียง "ชาวนาจีน" (“Chinese peasants) ที่ทำหน้าที่ผลิตสิ่งของป้อนให้สหรัฐ “เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย เราขอยืมเงินจากชาวนาจีนเพื่อซื้อสิ่งของที่ชาวนาจีนผลิตขึ้น นั่นไม่ใช่สูตรสำหรับความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ” ( "To make it a little more crystal clear, we borrow money from Chinese peasants to buy the things those Chinese peasants manufacture. That is not a recipe for economic prosperity.")

    คำพูดของแวนซ์ ที่เรียกชาวจีนว่า "ชาวนา" ถือเป็นคำดูหมื่นชาวจีนอย่างมาก เนื่องจากถูกมองว่าเป็นประเทศที่ล้าหลัง ด้อยพัฒนา ทำให้เกิดการต่อต้านจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก และมีการโต้กลับคำพูดดูหมิ่นนี้จากชาวเน็ตจีน โดยชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ประเทศของพวกเขาได้พัฒนาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เช่น การสื่อสาร 5G และรถไฟความเร็วสูง

    นอกจากนี้รัฐบาลจีน โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน "หลิน เจี้ยน" เรียกคำพูดดังกล่าวของแวนซ์ว่า “ไร้ความรู้และไม่ให้เกียรติ” ซึ่งถือเป็นการตำหนิผู้นำระดับสูงของสหรัฐโดยตรง ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่นัก


    เจ้าหน้าที่ปักกิ่งเชื่อว่า ไม่ว่าใครในคณะทำงานของทรัมป์ออกมากล่าวบางอย่างเกี่ยวกับจีน และหากทรัมป์ไม่ปฏิเสธความเห็นเหล่านั้น เจ้าหน้าที่จีนก็ถือว่าทรัมป์เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเช่นกัน
    "จีนส่งสัญญาณเปิดกว้างต่อการเจรจาการค้ากับสหรัฐ" และทันทีที่มีข่าวนี้ออกมาเมื่อหลายชั่วโมงก่อน หุ้นดีดตัวสูงขึ้นทันที ดูเหมือนว่าแหล่งข่าวเดียวที่นำเสนอรายงานนี้มาจากสำนักข่าว Bloomberg Bloomberg ยังกล่าวอีกว่า แม้ว่าจีนจะแสดงความพร้อมเข้าสู่การเจรจากับสหรัฐแต่ต้องอยู่บนเงื่อนไขบางประการ: 👉ประการที่แรก ปักกิ่งต้องการให้สหรัฐแต่งตั้งบุคคลสำคัญในการเจรจาที่ได้รับการสนับสนุนจากประธานาธิบดีและสามารถช่วยเตรียมข้อตกลงที่ทรัมป์และสีจิ้นผิง ผู้นำจีนสามารถลงนามได้เมื่อพวกเขาพบกัน 👉ประการที่สอง จีนต้องการให้สหรัฐแสดงจุดยืนที่ชัดเจนและดำเนินการที่สอดคล้องกันให้มากขึ้นในการตอบสนองต่อประเด็นความกังวลของปักกิ่งเกี่ยวกับไต้หวัน 👉ประการที่สาม ปักกิ่งต้องการให้รัฐบาลของทรัมป์แสดง "ความเคารพ" ต่อจีนให้มากขึ้น ด้วยการควบคุมคำพูดดูหมิ่นของสมาชิกคณะรัฐมนตรีบางคน สำหรับประเด็นที่สาม แม้ว่าจีนไม่ได้เอ่ยชื่อใคร แต่หลายฝ่ายเชื่อว่าคือ รองประธานาธิบดีสหรัฐ "เจดี แวนซ์" เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แวนซ์ เรียกชาวจีนซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตรายใหญ่ของโลกว่าเป็นเพียง "ชาวนาจีน" (“Chinese peasants) ที่ทำหน้าที่ผลิตสิ่งของป้อนให้สหรัฐ “เพื่อให้ชัดเจนยิ่งขึ้นอีกเล็กน้อย เราขอยืมเงินจากชาวนาจีนเพื่อซื้อสิ่งของที่ชาวนาจีนผลิตขึ้น นั่นไม่ใช่สูตรสำหรับความเจริญรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจ” ( "To make it a little more crystal clear, we borrow money from Chinese peasants to buy the things those Chinese peasants manufacture. That is not a recipe for economic prosperity.") คำพูดของแวนซ์ ที่เรียกชาวจีนว่า "ชาวนา" ถือเป็นคำดูหมื่นชาวจีนอย่างมาก เนื่องจากถูกมองว่าเป็นประเทศที่ล้าหลัง ด้อยพัฒนา ทำให้เกิดการต่อต้านจากชาวจีนเป็นจำนวนมาก และมีการโต้กลับคำพูดดูหมิ่นนี้จากชาวเน็ตจีน โดยชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ประเทศของพวกเขาได้พัฒนาในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา เช่น การสื่อสาร 5G และรถไฟความเร็วสูง นอกจากนี้รัฐบาลจีน โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน "หลิน เจี้ยน" เรียกคำพูดดังกล่าวของแวนซ์ว่า “ไร้ความรู้และไม่ให้เกียรติ” ซึ่งถือเป็นการตำหนิผู้นำระดับสูงของสหรัฐโดยตรง ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยเท่าไหร่นัก เจ้าหน้าที่ปักกิ่งเชื่อว่า ไม่ว่าใครในคณะทำงานของทรัมป์ออกมากล่าวบางอย่างเกี่ยวกับจีน และหากทรัมป์ไม่ปฏิเสธความเห็นเหล่านั้น เจ้าหน้าที่จีนก็ถือว่าทรัมป์เห็นด้วยกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นเช่นกัน
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 485 มุมมอง 0 รีวิว

  • ตามรอยย้อนกลับ Supply Chain แร่หายากจากพม่ามหาศาลสู่จีน
    ______________________________
    23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 บริษัท China Rare Earth Group Co., Ltd. ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ จากการควบรวมของ 3 กิจการด้านอุตสาหกรรมแร่หายากในจีน China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. เป้าคือพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายาก วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี
    China Rare Earth Group อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของรัฐ-คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ที่เป็นเจ้าของของสภาแห่งรัฐ ถือหุ้นร้อยละ 31.21 China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. แต่ละบริษัทถือหุ้นร้อยละ 20.33; China Iron and Steel Research Technology Group Co., Ltd. และ Youyan Technology Group Co., Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 3.90
    ปัจจุบันจีนมีปริมาณการผลิตแร่ธาตุ หายากสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่ที่ 132,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 63 ของปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 210,000 ตัน โดยประเทศอื่น ๆ ที่มีปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากในลำดับถัดมา ได้แก่ สหรัฐฯ (26,000 ตัน) เมียนมา (22,000 ตัน) ออสเตรเลีย (21,000 ตัน) อินเดีย (3,000 ตัน) รัสเซีย (2,700 ตัน) มาดากัสการ์ (2,000 ตัน) ไทย (1,800 ตัน) บราซิล (1,000 ตัน) เวียดนาม (900 ตัน) และบุรุนดี (600 ตัน)
    ______________________________
    ระฆังกำแพงภาษีลั่นขึ้นห้วงเมษายน 2568 โดยสหรัฐอเมริกา การตอบโต้กลับของจีนเปิดหน้าชก สวนกลับทุกเม็ด รวมถึงได้ขยายการใช้ "แร่หายาก" (rare earths) เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการค้า โดยประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในอุดสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเป็นการตอบโต้ต่อมาดรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ
    สำหรับแร่หายาก 7 ชนิดได้แก่ ชามาเรียม (Samarium) แกโดลิเนียม (Gadolinium) เทอร์เมียม (Terbium) ดิสโพรเซียม (Dysprosium) ลูทีเซียม (Lutetium) สแกนเดียม (Scandium) และอิดเทรียม (Yttrium) สำหรับแร่หายากยอดนิยมอย่าง นี่โอไดเมียม (Neodymium) และ พราเชโอไดเมียม (Praseodymium) ซึ่งใช้ผลิตแม่เหล็กประสิทธิภาพสูง ยังไม่อยู่ในรายชื่อควบคุม
    หลังการรัฐประหารปี 2021 การส่งออกแร่ธาตุหายากจากพม่าไปจีนเพิ่มขึ้น 5 เท่า สูงถึง 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการการพึ่งพาจีน 90% ของการแปรรูปแร่หายากโลกอยู่ในจีน แบ่งเป็น แร่กลุ่มหายาก (Rare Earth Elements) มูลค่า: 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2025) ส่วนแบ่งการนำเข้า: กว่า 50% ของการนำเข้าแร่หายากทั้งหมดของจีน ชนิดแร่หลัก: เทอร์เบียม (Terbium) และดีสโพรเซียม (Dysprosium) ในกลุ่ม Heavy Rare Earth Elements (HREE) พื้นที่ทำเหมืองหลักที่คะฉิ่น ที่เหมือง Chipwi และ Momauk: มีบ่อแร่มากกว่า 2,700 บ่อ เมือง Panwa: แหล่งผลิตหลักภายใต้การควบคุมของ Kachin Independence Army (KIA) การขยายตัว: จำนวนไซต์ทำเหมืองเพิ่มขึ้น 40% นับตั้งแต่ปี 2021 โดยพื้นที่ KIA: เก็บภาษี 35,000 หยวน/ตัน (ประมาณ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐ)
    บริษัทจีนผู้รับซื้อหลัก คือ China Rare Earths Group (REGCC) ควบคุมการประมูลแร่กว่า 80% China Northern Rare Earth Group ผู้ประมูลแร่รายใหญ่ของโลก และ JL Mag Rare-Earth: ผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ ใช้แร่จากพม่าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และยังมีบริษัท Rising Nonferrous บริษัทที่ได้รับอนุมัติให้นำเข้าแร่หายากจากเมียนมาโดยตรง
    นอกจากนั้นก็จะมี China Nonferrous Metal Mining Group (CNMC) รับซื้อ: ทองแดง, นิกเกิล พื้นที่รับซื้อคือเหมือง Monywa ในเขตสะกาย บริษัท China Minmetals Corporation: รับซื้อ: แร่หายาก, ดีบุก, ทังสเตน Aluminum Corporation of China (CHINALCO): รับซื้อ: แร่ที่เกี่ยวข้องกับอะลูมิเนียมและโลหะผสม Yunnan Tin Company: รับซื้อ: ดีบุก เพราะเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ของจีน Pangang Group: รับซื้อ: ทังสเตน, พลวง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโลหะหนัก
    ______________________________
    การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนมีป้อนอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้จีน และแน่นอนต้องใช้ฐานของกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นตลาดหลักและบายพาสไปยังกลุ่มประเทศที่มีกำแพงภาษีสูงไม่ว่าจะเป็น
    • อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles)แร่ธาตุหายาก เช่น ดิสโพรเซียม (Dysprosium) และเทอร์เบียม (Terbium) ที่นำเข้าจากพม่าใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจีนมีความต้องการสูงมากในช่วงหลังเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV
    • อุตสาหกรรมพลังงานลม (Wind Power)แม่เหล็กถาวรที่ผลิตจากแร่ธาตุหายากเหล่านี้ยังถูกใช้ในกังหันลมเพื่อผลิตพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพลังงานทดแทนของจีน
    • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics)แร่ธาตุหายากจากพม่าถูกนำไปใช้ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ต้องการแม่เหล็กและวัสดุพิเศษ
    • อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets) บริษัทจีนใหญ่ เช่น China Southern Rare Earth ใช้แร่ธาตุจากพม่าในการผลิตแม่เหล็กถาวรที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม
    • อาวุธยุทโธปกรณ์ (Defence Industry) และอุตสาหกรรมอวกาศ และอากาศยาน (Aerospace Industry)
    สถานการณ์ความต้องการแร่ธาตุหายากงวดขึ้นเพราะนับวันแร่ธาตุเหล่านั้นย่อมลดลง ตามชื่อเพราะยิ่งหายากขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 จีนเพิ่มการนำเข้าแร่หายากจากพม่าเกิน 9 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นกว่า 70% ของแร่ธาตุหายากที่จีนใช้ทั้งหมด ซึ่งทำให้พม่าเป็นแหล่งผลิตแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดของจีนในปัจจุบัน
    ______________________________
    ความต้องการสูงและความไม่แน่นอนของซัพพลายเชน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความขัดข้องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้จีนพึ่งพาแหล่งแร่จากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะพม่าเป็นสัดส่วนถึง 70% ของวัตถุดิบที่ใช้ เนื่องจากเหมืองในจีนผลิตไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบาย
    ปัญหาจึงอยู่ที่แร่ธาตุหายากจากพม่าส่วนใหญ่ถูกขุดอย่างผิดกฎหมายและผ่านช่องทางที่ไม่โปร่งใส ทำให้บริษัทจีนที่แปรรูปแร่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ชัดเจน ส่งผลต่อความยั่งยืนและความน่าเชื่อถือของตลาด รวมถึงสร้างปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมต่อพม่าอย่างมหาศาล
    หากเจาะพื้นที่การทำเหมืองในรัฐต่าง ๆ การทำเหมืองในเมียนมามักอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมีผลต่อการส่งออกและการจัดการทรัพยากร ดังนี้:
    • รัฐคะฉิ่น (Kachin State): แร่หลัก: แร่หายาก (REEs), พลวง, ทองคำ, อิตเทรียม พื้นที่ป่าทางตอนเหนือ อุดมไปด้วยแร่หายาก แต่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมาและกองทัพปลดปล่อยคะฉิ่น (KIA) ส่วนใหญ่ทำลายสิ่งแวดล้อม น้ำกลายเป็นโคลน และสัตว์ป่าลดลง
    • รัฐฉาน (Shan State): แร่หลัก: ดีบุก, ตะกั่ว, สังกะสี, ทังสเตน,ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ เช่น เหมือง Man Maw การควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้เงินจากเหมือง สนับสนุนกองทัพ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาลเช่นกันและลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย
    • เขตสะกาย (Sagaing Region): แร่หลัก: ทองแดง, นิกเกิล, ทองคำพื้นที่ที่มีการสู้รบหนักระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลัง PDF
    • เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region): แร่หลัก: แร่หายาก, พลวง, อิตเทรียม, ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองขนาดเล็กกระจายอยู่
    • เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region): แร่หลัก: ดีบุก เป็นเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่ง
    • รัฐมอญ (Mon State): แร่หลัก: ทองแดง เป็นเหมืองขนาดเล็กถึงปานกลาง
    • รัฐกะยา (Kayah State): แร่หลัก: ตะกั่ว พื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูง
    ______________________________
    สอบทานต้นทาง-ย้อนกลับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของแร่ธาตุจากเมียนมาไปจีนมีลักษณะดังนี้ เริ่มต้นสำรวจแหล่ง แน่นอนฐานข้อมูลมีอยู่แล้วในมือรัฐบาลทหารพม่า และในกำมือเทคโนโลยีจีน ก่อนจะให้บริษัทเอกชนในแต่ละความถนัดของจีน และของพม่าเอง ขุดและแปรรูปเบื้องต้น เหมืองส่วนใหญ่ในพม่าดำเนินการโดยบริษัทท้องถิ่นหรือบริษัทจีนร่วมทุน การแปรรูปขั้นต้น (เช่น การถลุงแร่ดีบุก) มักทำในเมียนมาก่อนส่งออก ส่วนใหญ่ในพื้นที่ขัดแย้งทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน
    การขนส่ง เส้นทางหลัก: จากเหมืองในรัฐคะฉิ่นและฉานไปยังชายแดนจีน (มณฑลยูนนาน) ผ่านทางรถไฟหรือถนน เช่น เส้นทางรถไฟเจ้าผิ่ว-มูเซ บางส่วนส่งออกผ่านท่าเรือในเขตตะนาวศรีและย่างกุ้ง
    การแปรรูปขั้นสูงในจีน ปลายทางคือโรงงานแปรรูปอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง, เจียงซู, และแถบเศรษฐกิจแยงซีเกียง โดยแร่หายากถูกกลั่นเป็นโลหะบริสุทธิ์หรือสารประกอบ เช่น นีโอดิเมียมสำหรับแม่เหล็ก หรืออิตเทรียมสำหรับ LED
    สายพานอุตสาหกรรมที่ใช้งานแบ่งตามแร่ธาตุอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: แร่หายาก (REEs) และดีบุกใช้ในสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า: แร่หายาก (นีโอดิเมียม, ดิสโพรเซียม) และนิกเกิลใช้ในมอเตอร์และแบตเตอรี่ พลังงานสะอาด: ทังสเตนและพลวงใช้ในกังหันลมและแผงโซลาร์ อุตสาหกรรมทหาร: แร่หายากและพลวงใช้ในขีปนาวุธ, เรดาร์, และเลเซอร์ การก่อสร้างและเครื่องจักร: ทองแดงและสังกะสีใช้ในสายไฟและโครงสร้าง
    ความท้าทายในระบบ Supply Chain ส่วนใหญ่คือความขัดแย้งในเมียนมาอาจขัดขวางการขนส่ง จากผลประโยชน์มหาศาลเพื่อนำมาเป็นอาวุธและจุนเจือเสบียงในการรบ ขณะที่นานาชาติได้เรียกร้องให้ตรวจสอบแร่จากพื้นที่ขัดแย้ง แต่จีนเป็นประเทศเดียวที่บังคับให้แยกแร่จากเมียนมาและจีน
    ______________________________
    ล่าสุด กองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independent Organization, Kachin Independent Army- KIA) ซึ่งได้เป็นเจ้าของใหม่ของเหมืองแร่หายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน (ราว 160,000 บาท) พื้นที่แหล่งแร่หายากที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเขตปางวาและชิพเว (Pang Wa, Chi Pwi) ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งกลุ่ม KIA เข้ายึดครองในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ได้รับอนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังจีนหลังจากควบคุมพื้นที่มาได้ 6 เดือน
    สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 KIO/KIA ได้อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่น ๆ ในหนังสืออนุญาตของ KIO ยังไม่ได้รับการเปิดเผย เจ้าหน้าที่ KIA เขตปางวาให้ข้อมูลว่าKIO/KIA และรัฐบาลจีน ยังคงเจรจาเกี่ยวกับการใช้จุดผ่านแดนเดียวในการส่งออกแร่หายาก และจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายน ยังไม่มีการส่งออกอย่างเป็นทางการ
    KIA สามารถควบคุมจุดผ่านแดนทางการค้าระหว่างจีน-พม่าในรัฐคะฉิ่นทั้งหมด ได้แก่ กานปายตี Kan Pai Ti, ล่วยเจ Loi Je และปางวา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะใช้จุดผ่านแดนใดในการส่งออก หลังจากที่ KIA ควบคุมพื้นที่ปางวาและชิพเว รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด ทำให้บริษัทเหมืองแร่ส่วนใหญ่หยุดดำเนินการ มีเพียงบางบริษัทที่ยังคงขุดแร่ต่อไป เนื่องจากยังมีวัตถุดิบหลงเหลืออยู่
    รายงานของ Global Witness ระบุว่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาเริ่มขึ้นในปี 2016 โดยนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งส่งออกแร่ไปยังจีนเป็นหลัก ตามข้อมูลปัจจุบัน พม่าติดอันดับ 3 ของประเทศผู้ผลิตแร่แรร์เอิร์ท และคิดเป็น 50% ของการส่งออกแร่หายากทั่วโลก หลังจากการรัฐประหารของกองทัพพม่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาและชิพเวเพิ่มขึ้น 40% และจำนวนเหมืองแร่เพิ่มขึ้นกว่า 300 แห่ง ในปี 2566 เพียงปีเดียว มีการส่งออกแร่หายากไปยังจีนมากถึง 41,700 ตัน สร้างรายได้ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
    ______________________________
    สรุปขมวดปม การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนช่วยเสริมความมั่นคงของซัพพลายเชนแร่หายากในจีน ลดภาวะขาดแคลนและสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้านความโปร่งใสและความยั่งยืนในตลาดแร่ธาตุของจีน แร่ธาตุหายากจากพม่ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงและพลังงานสะอาด ซึ่งจีนพึ่งพาการนำเข้าแร่จากพม่าเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของแร่หายากที่ใช้ในประเทศ เหมืองแร่หายากเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงแร่ทองคำ และอื่น ๆ ที่ปักหมุดขุดหลุมร่อนตระแกรง ทุกรัฐในเมียนมาก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ป่าเขา แม่น้ำ ลำธาร โดยคนงานบางรายถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างโหดร้าย หญิงคนงานถูกล่วงละเมิดทางเพศ และหลายคนได้รับอันตรายทางสุขภาพอย่างร้ายแรงจากสารเคมีที่ใช้ในเหมือง และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นรวมถึงประเทศไทย และลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน คำถามคือจีนมีส่วนสำคัญในการสร้างมลภาวะในพื้นที่ ควรจะร่วมรับผิดชอบหรือไม่ ไม่ใช่การสูบทรัพยากรในพื้นที่แต่ไม่ได้เหลียวแลผลกระทบที่จะตามมา อันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาใหญ่ให้กับจีนในอนาคต
    อ้างอิง : https://www.facebook.com/GlobalWitness/ และสำนักข่าวชายขอบ
    https://shorturl.asia/6GnqX
    ประชาไท https://prachatai.com/journal/2025/01/111942
    ______________________________

    10 อันดับแร่ธาตุที่ส่งออกจากเมียนมาไปจีน (เรียงตามมูลค่าประเมิน)
    1. แร่ดีบุก (Tin)
    o มูลค่า: สูงสุด เนื่องจากเมียนมาเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และจีนนำเข้า 95% ของหัวแร่ดีบุกจากเมียนมาในปี 2563
    o การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (บัดกรีแผงวงจร), การผลิตโลหะผสม
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน (Shan State), เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region)
    2. แร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs)
    o มูลค่า: สูง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน
    o การใช้งาน: ผลิตแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets), แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า, อุปกรณ์เลเซอร์, เซมิคอนดักเตอร์
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น (Kachin State), เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region)
    3. ทองแดง (Copper)
    o มูลค่า: สูง เนื่องจากราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งสูงหลังรัฐประหาร
    o การใช้งาน: สายไฟ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง
    o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย (Sagaing Region), รัฐมอญ (Mon State)
    4. ตะกั่ว (Lead)
    o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ใช้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
    o การใช้งาน: แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด, อุตสาหกรรมยานยนต์
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐกะยา (Kayah State)
    5. สังกะสี (Zinc)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมเคลือบโลหะ
    o การใช้งาน: การชุบกัลวาไนซ์, โลหะผสม
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, เขตย่างกุ้ง (Yangon Region)
    6. นิกเกิล (Nickel)
    o มูลค่า: ปานกลาง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่
    o การใช้งาน: แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน, สแตนเลส
    o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย, รัฐฉาน
    7. พลวง (Antimony)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมทหารและพลังงาน
    o การใช้งาน: สารหน่วงไฟ, โลหะผสม, อุปกรณ์ทหาร
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์
    8. ทังสเตน (Tungsten)
    o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความแข็งสูง
    o การใช้งาน: โลหะผสม, เครื่องมือตัด, อุปกรณ์ทหาร
    o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐคะฉิ่น
    9. ทองคำ (Gold)
    o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก
    o การใช้งาน: อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับ
    o พื้นที่เหมือง: เขตมัณฑะเลย์, รัฐคะฉิ่น, เขตสะกาย
    10. อิตเทรียม (Yttrium)
    o มูลค่า: ต่ำถึงปานกลาง แต่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเฉพาะ
    o การใช้งาน: สารเรืองแสงใน LED, อุปกรณ์ MRI, เซรามิก
    o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์
    หมายเหตุ: มูลค่าที่ระบุเป็นการประเมินจากความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานและปริมาณการส่งออก เนื่องจากไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่นอนหลังรัฐประหาร
    ______________________________
    ตามรอยย้อนกลับ Supply Chain แร่หายากจากพม่ามหาศาลสู่จีน ______________________________ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2564 บริษัท China Rare Earth Group Co., Ltd. ก่อตัวขึ้นอย่างเป็นทางการ จากการควบรวมของ 3 กิจการด้านอุตสาหกรรมแร่หายากในจีน China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. เป้าคือพัฒนาอุตสาหกรรมแร่หายาก วิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี China Rare Earth Group อยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยตรงของรัฐ-คณะกรรมการกำกับดูแลและบริหารสินทรัพย์ที่เป็นเจ้าของของสภาแห่งรัฐ ถือหุ้นร้อยละ 31.21 China Aluminium Corporation, China Minmetals Corporation และ Ganzhou Rare Earth Group Co., Ltd. แต่ละบริษัทถือหุ้นร้อยละ 20.33; China Iron and Steel Research Technology Group Co., Ltd. และ Youyan Technology Group Co., Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 3.90 ปัจจุบันจีนมีปริมาณการผลิตแร่ธาตุ หายากสูงเป็นอันดับ 1 ของโลกอยู่ที่ 132,000 ตัน คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 63 ของปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากทั่วโลก ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 210,000 ตัน โดยประเทศอื่น ๆ ที่มีปริมาณการผลิตแร่ธาตุหายากในลำดับถัดมา ได้แก่ สหรัฐฯ (26,000 ตัน) เมียนมา (22,000 ตัน) ออสเตรเลีย (21,000 ตัน) อินเดีย (3,000 ตัน) รัสเซีย (2,700 ตัน) มาดากัสการ์ (2,000 ตัน) ไทย (1,800 ตัน) บราซิล (1,000 ตัน) เวียดนาม (900 ตัน) และบุรุนดี (600 ตัน) ______________________________ ระฆังกำแพงภาษีลั่นขึ้นห้วงเมษายน 2568 โดยสหรัฐอเมริกา การตอบโต้กลับของจีนเปิดหน้าชก สวนกลับทุกเม็ด รวมถึงได้ขยายการใช้ "แร่หายาก" (rare earths) เป็นเครื่องมือตอบโต้ทางการค้า โดยประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายาก 7 ชนิด ซึ่งเป็นวัสดุสำคัญในอุดสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงอาวุธยุทโธปกรณ์ โดยเป็นการตอบโต้ต่อมาดรการภาษีนำเข้าของสหรัฐ สำหรับแร่หายาก 7 ชนิดได้แก่ ชามาเรียม (Samarium) แกโดลิเนียม (Gadolinium) เทอร์เมียม (Terbium) ดิสโพรเซียม (Dysprosium) ลูทีเซียม (Lutetium) สแกนเดียม (Scandium) และอิดเทรียม (Yttrium) สำหรับแร่หายากยอดนิยมอย่าง นี่โอไดเมียม (Neodymium) และ พราเชโอไดเมียม (Praseodymium) ซึ่งใช้ผลิตแม่เหล็กประสิทธิภาพสูง ยังไม่อยู่ในรายชื่อควบคุม หลังการรัฐประหารปี 2021 การส่งออกแร่ธาตุหายากจากพม่าไปจีนเพิ่มขึ้น 5 เท่า สูงถึง 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการการพึ่งพาจีน 90% ของการแปรรูปแร่หายากโลกอยู่ในจีน แบ่งเป็น แร่กลุ่มหายาก (Rare Earth Elements) มูลค่า: 3.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2025) ส่วนแบ่งการนำเข้า: กว่า 50% ของการนำเข้าแร่หายากทั้งหมดของจีน ชนิดแร่หลัก: เทอร์เบียม (Terbium) และดีสโพรเซียม (Dysprosium) ในกลุ่ม Heavy Rare Earth Elements (HREE) พื้นที่ทำเหมืองหลักที่คะฉิ่น ที่เหมือง Chipwi และ Momauk: มีบ่อแร่มากกว่า 2,700 บ่อ เมือง Panwa: แหล่งผลิตหลักภายใต้การควบคุมของ Kachin Independence Army (KIA) การขยายตัว: จำนวนไซต์ทำเหมืองเพิ่มขึ้น 40% นับตั้งแต่ปี 2021 โดยพื้นที่ KIA: เก็บภาษี 35,000 หยวน/ตัน (ประมาณ 4,800 ดอลลาร์สหรัฐ) บริษัทจีนผู้รับซื้อหลัก คือ China Rare Earths Group (REGCC) ควบคุมการประมูลแร่กว่า 80% China Northern Rare Earth Group ผู้ประมูลแร่รายใหญ่ของโลก และ JL Mag Rare-Earth: ผู้ผลิตแม่เหล็กถาวรรายใหญ่ ใช้แร่จากพม่าในอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และยังมีบริษัท Rising Nonferrous บริษัทที่ได้รับอนุมัติให้นำเข้าแร่หายากจากเมียนมาโดยตรง นอกจากนั้นก็จะมี China Nonferrous Metal Mining Group (CNMC) รับซื้อ: ทองแดง, นิกเกิล พื้นที่รับซื้อคือเหมือง Monywa ในเขตสะกาย บริษัท China Minmetals Corporation: รับซื้อ: แร่หายาก, ดีบุก, ทังสเตน Aluminum Corporation of China (CHINALCO): รับซื้อ: แร่ที่เกี่ยวข้องกับอะลูมิเนียมและโลหะผสม Yunnan Tin Company: รับซื้อ: ดีบุก เพราะเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่ของจีน Pangang Group: รับซื้อ: ทังสเตน, พลวง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมโลหะหนัก ______________________________ การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนมีป้อนอุตสาหกรรมหลักที่สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้จีน และแน่นอนต้องใช้ฐานของกลุ่มประเทศอาเซียนเป็นตลาดหลักและบายพาสไปยังกลุ่มประเทศที่มีกำแพงภาษีสูงไม่ว่าจะเป็น • อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicles)แร่ธาตุหายาก เช่น ดิสโพรเซียม (Dysprosium) และเทอร์เบียม (Terbium) ที่นำเข้าจากพม่าใช้เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแม่เหล็กถาวรสำหรับมอเตอร์ในรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งจีนมีความต้องการสูงมากในช่วงหลังเพื่อรองรับการเติบโตของตลาด EV • อุตสาหกรรมพลังงานลม (Wind Power)แม่เหล็กถาวรที่ผลิตจากแร่ธาตุหายากเหล่านี้ยังถูกใช้ในกังหันลมเพื่อผลิตพลังงานสะอาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายพลังงานทดแทนของจีน • อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (Electronics)แร่ธาตุหายากจากพม่าถูกนำไปใช้ในชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ที่ต้องการแม่เหล็กและวัสดุพิเศษ • อุตสาหกรรมแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets) บริษัทจีนใหญ่ เช่น China Southern Rare Earth ใช้แร่ธาตุจากพม่าในการผลิตแม่เหล็กถาวรที่เป็นวัตถุดิบสำคัญในหลายอุตสาหกรรม • อาวุธยุทโธปกรณ์ (Defence Industry) และอุตสาหกรรมอวกาศ และอากาศยาน (Aerospace Industry) สถานการณ์ความต้องการแร่ธาตุหายากงวดขึ้นเพราะนับวันแร่ธาตุเหล่านั้นย่อมลดลง ตามชื่อเพราะยิ่งหายากขึ้น โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2024 จีนเพิ่มการนำเข้าแร่หายากจากพม่าเกิน 9 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และคิดเป็นกว่า 70% ของแร่ธาตุหายากที่จีนใช้ทั้งหมด ซึ่งทำให้พม่าเป็นแหล่งผลิตแร่หายากที่ใหญ่ที่สุดของจีนในปัจจุบัน ______________________________ ความต้องการสูงและความไม่แน่นอนของซัพพลายเชน โดยเฉพาะในช่วงที่มีความขัดข้องจากสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้จีนพึ่งพาแหล่งแร่จากต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะพม่าเป็นสัดส่วนถึง 70% ของวัตถุดิบที่ใช้ เนื่องจากเหมืองในจีนผลิตไม่เพียงพอและมีข้อจำกัดด้านสิ่งแวดล้อมและนโยบาย ปัญหาจึงอยู่ที่แร่ธาตุหายากจากพม่าส่วนใหญ่ถูกขุดอย่างผิดกฎหมายและผ่านช่องทางที่ไม่โปร่งใส ทำให้บริษัทจีนที่แปรรูปแร่ไม่สามารถระบุแหล่งที่มาได้ชัดเจน ส่งผลต่อความยั่งยืนและความน่าเชื่อถือของตลาด รวมถึงสร้างปัญหาสุขภาพและสิ่งแวดล้อมต่อพม่าอย่างมหาศาล หากเจาะพื้นที่การทำเหมืองในรัฐต่าง ๆ การทำเหมืองในเมียนมามักอยู่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้งหรือควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธ ซึ่งมีผลต่อการส่งออกและการจัดการทรัพยากร ดังนี้: • รัฐคะฉิ่น (Kachin State): แร่หลัก: แร่หายาก (REEs), พลวง, ทองคำ, อิตเทรียม พื้นที่ป่าทางตอนเหนือ อุดมไปด้วยแร่หายาก แต่ได้รับผลกระทบจากความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมาและกองทัพปลดปล่อยคะฉิ่น (KIA) ส่วนใหญ่ทำลายสิ่งแวดล้อม น้ำกลายเป็นโคลน และสัตว์ป่าลดลง • รัฐฉาน (Shan State): แร่หลัก: ดีบุก, ตะกั่ว, สังกะสี, ทังสเตน,ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ เช่น เหมือง Man Maw การควบคุมโดยกลุ่มติดอาวุธที่เชื่อมโยงกับกองทัพเมียนมา ทำให้เงินจากเหมือง สนับสนุนกองทัพ สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมหาศาลเช่นกันและลุกลามไปยังประเทศเพื่อนบ้านคือประเทศไทย • เขตสะกาย (Sagaing Region): แร่หลัก: ทองแดง, นิกเกิล, ทองคำพื้นที่ที่มีการสู้รบหนักระหว่างกองทัพเมียนมาและกองกำลัง PDF • เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region): แร่หลัก: แร่หายาก, พลวง, อิตเทรียม, ทองคำพื้นที่ที่มีเหมืองขนาดเล็กกระจายอยู่ • เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region): แร่หลัก: ดีบุก เป็นเหมืองดีบุกขนาดใหญ่ใกล้ชายฝั่ง • รัฐมอญ (Mon State): แร่หลัก: ทองแดง เป็นเหมืองขนาดเล็กถึงปานกลาง • รัฐกะยา (Kayah State): แร่หลัก: ตะกั่ว พื้นที่ที่มีความขัดแย้งสูง ______________________________ สอบทานต้นทาง-ย้อนกลับห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) ของแร่ธาตุจากเมียนมาไปจีนมีลักษณะดังนี้ เริ่มต้นสำรวจแหล่ง แน่นอนฐานข้อมูลมีอยู่แล้วในมือรัฐบาลทหารพม่า และในกำมือเทคโนโลยีจีน ก่อนจะให้บริษัทเอกชนในแต่ละความถนัดของจีน และของพม่าเอง ขุดและแปรรูปเบื้องต้น เหมืองส่วนใหญ่ในพม่าดำเนินการโดยบริษัทท้องถิ่นหรือบริษัทจีนร่วมทุน การแปรรูปขั้นต้น (เช่น การถลุงแร่ดีบุก) มักทำในเมียนมาก่อนส่งออก ส่วนใหญ่ในพื้นที่ขัดแย้งทำให้เกิดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการละเมิดสิทธิมนุษยชน การขนส่ง เส้นทางหลัก: จากเหมืองในรัฐคะฉิ่นและฉานไปยังชายแดนจีน (มณฑลยูนนาน) ผ่านทางรถไฟหรือถนน เช่น เส้นทางรถไฟเจ้าผิ่ว-มูเซ บางส่วนส่งออกผ่านท่าเรือในเขตตะนาวศรีและย่างกุ้ง การแปรรูปขั้นสูงในจีน ปลายทางคือโรงงานแปรรูปอยู่ในมณฑลกวางตุ้ง, เจียงซู, และแถบเศรษฐกิจแยงซีเกียง โดยแร่หายากถูกกลั่นเป็นโลหะบริสุทธิ์หรือสารประกอบ เช่น นีโอดิเมียมสำหรับแม่เหล็ก หรืออิตเทรียมสำหรับ LED สายพานอุตสาหกรรมที่ใช้งานแบ่งตามแร่ธาตุอุตสาหกรรมเทคโนโลยี: แร่หายาก (REEs) และดีบุกใช้ในสมาร์ทโฟน, คอมพิวเตอร์, เซมิคอนดักเตอร์ ยานยนต์ไฟฟ้า: แร่หายาก (นีโอดิเมียม, ดิสโพรเซียม) และนิกเกิลใช้ในมอเตอร์และแบตเตอรี่ พลังงานสะอาด: ทังสเตนและพลวงใช้ในกังหันลมและแผงโซลาร์ อุตสาหกรรมทหาร: แร่หายากและพลวงใช้ในขีปนาวุธ, เรดาร์, และเลเซอร์ การก่อสร้างและเครื่องจักร: ทองแดงและสังกะสีใช้ในสายไฟและโครงสร้าง ความท้าทายในระบบ Supply Chain ส่วนใหญ่คือความขัดแย้งในเมียนมาอาจขัดขวางการขนส่ง จากผลประโยชน์มหาศาลเพื่อนำมาเป็นอาวุธและจุนเจือเสบียงในการรบ ขณะที่นานาชาติได้เรียกร้องให้ตรวจสอบแร่จากพื้นที่ขัดแย้ง แต่จีนเป็นประเทศเดียวที่บังคับให้แยกแร่จากเมียนมาและจีน ______________________________ ล่าสุด กองกำลังเอกราชคะฉิ่น (Kachin Independent Organization, Kachin Independent Army- KIA) ซึ่งได้เป็นเจ้าของใหม่ของเหมืองแร่หายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth) อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน (ราว 160,000 บาท) พื้นที่แหล่งแร่หายากที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ในเขตปางวาและชิพเว (Pang Wa, Chi Pwi) ในรัฐคะฉิ่น ซึ่งกลุ่ม KIA เข้ายึดครองในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 ได้รับอนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังจีนหลังจากควบคุมพื้นที่มาได้ 6 เดือน สำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 KIO/KIA ได้อนุญาตให้ส่งออกแร่หายากไปยังประเทศจีน โดยเก็บภาษีในอัตรา 30,500 หยวนต่อหนึ่งตัน อย่างไรก็ตาม รายละเอียดอื่น ๆ ในหนังสืออนุญาตของ KIO ยังไม่ได้รับการเปิดเผย เจ้าหน้าที่ KIA เขตปางวาให้ข้อมูลว่าKIO/KIA และรัฐบาลจีน ยังคงเจรจาเกี่ยวกับการใช้จุดผ่านแดนเดียวในการส่งออกแร่หายาก และจนถึงสัปดาห์ที่สองของเดือนเมษายน ยังไม่มีการส่งออกอย่างเป็นทางการ KIA สามารถควบคุมจุดผ่านแดนทางการค้าระหว่างจีน-พม่าในรัฐคะฉิ่นทั้งหมด ได้แก่ กานปายตี Kan Pai Ti, ล่วยเจ Loi Je และปางวา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบว่าจะใช้จุดผ่านแดนใดในการส่งออก หลังจากที่ KIA ควบคุมพื้นที่ปางวาและชิพเว รัฐบาลจีนได้มีคำสั่งปิดจุดผ่านแดนทั้งหมด ทำให้บริษัทเหมืองแร่ส่วนใหญ่หยุดดำเนินการ มีเพียงบางบริษัทที่ยังคงขุดแร่ต่อไป เนื่องจากยังมีวัตถุดิบหลงเหลืออยู่ รายงานของ Global Witness ระบุว่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาเริ่มขึ้นในปี 2016 โดยนักธุรกิจชาวจีน ซึ่งส่งออกแร่ไปยังจีนเป็นหลัก ตามข้อมูลปัจจุบัน พม่าติดอันดับ 3 ของประเทศผู้ผลิตแร่แรร์เอิร์ท และคิดเป็น 50% ของการส่งออกแร่หายากทั่วโลก หลังจากการรัฐประหารของกองทัพพม่า การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ทในพื้นที่ปางวาและชิพเวเพิ่มขึ้น 40% และจำนวนเหมืองแร่เพิ่มขึ้นกว่า 300 แห่ง ในปี 2566 เพียงปีเดียว มีการส่งออกแร่หายากไปยังจีนมากถึง 41,700 ตัน สร้างรายได้ถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ______________________________ สรุปขมวดปม การส่งออกแร่ธาตุจากพม่าไปจีนช่วยเสริมความมั่นคงของซัพพลายเชนแร่หายากในจีน ลดภาวะขาดแคลนและสนับสนุนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็เพิ่มความเสี่ยงด้านความโปร่งใสและความยั่งยืนในตลาดแร่ธาตุของจีน แร่ธาตุหายากจากพม่ามีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานของจีน โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีขั้นสูงและพลังงานสะอาด ซึ่งจีนพึ่งพาการนำเข้าแร่จากพม่าเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของแร่หายากที่ใช้ในประเทศ เหมืองแร่หายากเหล่านี้ทั้งหมด รวมถึงแร่ทองคำ และอื่น ๆ ที่ปักหมุดขุดหลุมร่อนตระแกรง ทุกรัฐในเมียนมาก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรงต่อสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ ป่าเขา แม่น้ำ ลำธาร โดยคนงานบางรายถูกเอารัดเอาเปรียบอย่างโหดร้าย หญิงคนงานถูกล่วงละเมิดทางเพศ และหลายคนได้รับอันตรายทางสุขภาพอย่างร้ายแรงจากสารเคมีที่ใช้ในเหมือง และส่งผลกระทบต่อพื้นที่ที่กว้างขวางขึ้นรวมถึงประเทศไทย และลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน คำถามคือจีนมีส่วนสำคัญในการสร้างมลภาวะในพื้นที่ ควรจะร่วมรับผิดชอบหรือไม่ ไม่ใช่การสูบทรัพยากรในพื้นที่แต่ไม่ได้เหลียวแลผลกระทบที่จะตามมา อันจะกลายเป็นการสร้างปัญหาใหญ่ให้กับจีนในอนาคต อ้างอิง : https://www.facebook.com/GlobalWitness/ และสำนักข่าวชายขอบ https://shorturl.asia/6GnqX ประชาไท https://prachatai.com/journal/2025/01/111942 ______________________________ 10 อันดับแร่ธาตุที่ส่งออกจากเมียนมาไปจีน (เรียงตามมูลค่าประเมิน) 1. แร่ดีบุก (Tin) o มูลค่า: สูงสุด เนื่องจากเมียนมาเป็นผู้ผลิตดีบุกรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก และจีนนำเข้า 95% ของหัวแร่ดีบุกจากเมียนมาในปี 2563 o การใช้งาน: ใช้ในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (บัดกรีแผงวงจร), การผลิตโลหะผสม o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน (Shan State), เขตตะนาวศรี (Tanintharyi Region) 2. แร่หายาก (Rare Earth Elements: REEs) o มูลค่า: สูง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของจีน o การใช้งาน: ผลิตแม่เหล็กถาวร (Permanent Magnets), แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า, อุปกรณ์เลเซอร์, เซมิคอนดักเตอร์ o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น (Kachin State), เขตมัณฑะเลย์ (Mandalay Region) 3. ทองแดง (Copper) o มูลค่า: สูง เนื่องจากราคาทองแดงในตลาดโลกพุ่งสูงหลังรัฐประหาร o การใช้งาน: สายไฟ, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์, การก่อสร้าง o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย (Sagaing Region), รัฐมอญ (Mon State) 4. ตะกั่ว (Lead) o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ใช้ในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ o การใช้งาน: แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด, อุตสาหกรรมยานยนต์ o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐกะยา (Kayah State) 5. สังกะสี (Zinc) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมเคลือบโลหะ o การใช้งาน: การชุบกัลวาไนซ์, โลหะผสม o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, เขตย่างกุ้ง (Yangon Region) 6. นิกเกิล (Nickel) o มูลค่า: ปานกลาง เนื่องจากความต้องการในอุตสาหกรรมแบตเตอรี่ o การใช้งาน: แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออน, สแตนเลส o พื้นที่เหมือง: เขตสะกาย, รัฐฉาน 7. พลวง (Antimony) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมทหารและพลังงาน o การใช้งาน: สารหน่วงไฟ, โลหะผสม, อุปกรณ์ทหาร o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์ 8. ทังสเตน (Tungsten) o มูลค่า: ปานกลาง ใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความแข็งสูง o การใช้งาน: โลหะผสม, เครื่องมือตัด, อุปกรณ์ทหาร o พื้นที่เหมือง: รัฐฉาน, รัฐคะฉิ่น 9. ทองคำ (Gold) o มูลค่า: ปานกลางถึงสูง ขึ้นอยู่กับราคาตลาดโลก o การใช้งาน: อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องประดับ o พื้นที่เหมือง: เขตมัณฑะเลย์, รัฐคะฉิ่น, เขตสะกาย 10. อิตเทรียม (Yttrium) o มูลค่า: ต่ำถึงปานกลาง แต่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมเฉพาะ o การใช้งาน: สารเรืองแสงใน LED, อุปกรณ์ MRI, เซรามิก o พื้นที่เหมือง: รัฐคะฉิ่น, เขตมัณฑะเลย์ หมายเหตุ: มูลค่าที่ระบุเป็นการประเมินจากความสำคัญในห่วงโซ่อุปทานและปริมาณการส่งออก เนื่องจากไม่มีข้อมูลตัวเลขที่แน่นอนหลังรัฐประหาร ______________________________
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1139 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไนเจอร์ (Niger) ประเทศในทวีปแอฟริกามีคำสั่งขับผู้บริหารจีนของบริษัทน้ำมันจีนสามแห่งในไนเจอร์ออกจากประเทศ สาเหตุเพราะละเมิดกฎระเบียบภายในของไนเจอร์

    ผู้บริหารบริษัทน้ำมันของจีน 3 แห่ง ที่ถูกให้ออกจากประเทศ ได้แก่บริษัท SORAZ (Société de Raffinage de Zinder), CNPC (China National Petroleum Corporation) และ WAPCO

    รัฐบาลไนเจอร์ต้องการให้บริษัทที่เข้ามาทำกิจการในประเทศ รวมทั้งบริษัทน้ำมันจากจีนทั้งสามแห่งนี้ ต้องกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม โดยจ่ายค่าแรงคนงานจีนและไนเจอร์อย่างเท่าเทียม ปฎิบัติตามกฎหมายแรงงานของไนเจอร์ และต้องการเข้าถึงบัญชีของบริษัทเพื่อให้แน่ใจว่าได้ชำระภาษีอย่างโปร่งใส

    รัฐบาลไนเจอร์กำหนดเงื่อนไขเหล่านี้กับบริษัทต่างชาติทั้งหมด หากจีนต้องการให้บริษัทน้ำมันของพวกเขาดำเนินการต่อในประเทศ จะต้องปฏิบัติตามกฎและพันธกรณีของประเทศ

    ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงปิโตรเลียมของไนเจอร์ ดร. ซาฮาบี โอมารู ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไนเจอร์และจีน - ไม่มีการแตกหัก แต่เป็นการปรับเปลี่ยนที่จำเป็น "นี่ไม่ใช่การแตกหักด้านความร่วมมือทางเทคนิคระหว่างรัฐบาลไนเจอร์และรัฐบาลจีน หรือเป็นการประณามสัญญาที่ทำกับบริษัทของจีน" แต่เป็นความพยายามแก้ไขความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในการกระจายความมั่งคั่งอย่างทั่วถึงทั้งประชาชนไนเจอร์และบริษัทรับเหมาขุดเจาะน้ำมัน ของจีน
    "ความแข็งแกร่งของความร่วมมืออยู่ที่การเคารพกฎหมายและคำมั่นสัญญาของทั้งสองฝ่ายเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม เราเพียงแค่ต้องการกระจายความมั่งคั่งของบริษัทจีนทั้งสาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากเงินเดือนของชาวไนเจอร์เมื่อเทียบกับพนักงานของจีน ตำแหน่งสำคัญบางอย่างควรเป็นชาวไนเจอร์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และส่วนแบ่งการตลาดที่จัดสรรให้กับประชาชนในพื้นที่"

    ที่ผ่านมารัฐบาลจีนให้ความสำคัญประเทศในแอฟริกามาตลอดหลายสิบปี มีการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบให้เปล่าหลายแห่งในประเทศแอฟริกา รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน มีการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ บางกรณีก็ไม่มีดอกเบี้ย บางครั้งยกหนี้ให้ประเทศเหล่านั้น


    ผลจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในช่วงหลังหลายปี บ่งบอกได้ชัดเจนว่าคนรุ่นใหม่ทวีปแอฟริกามีความคิดแง่บวกกับจีนมากกว่าสหรัฐ


    รัฐบาลจีนอาจต้องเร่งมือกับรัฐบาลในแต่ละประเทศ เพื่อร่วมมือปราบปรามผู้บริหาร เจ้าของวิสาหกิจ บริษัทห้างร้านเอกชนที่เอาเปรียบและมุ่งหาผลประโยชน์ ก่อนที่ภาพลักษณ์ของรัฐบาลจีนจะตกต่ำลงไป ซึ่งจะทำให้สิ่งที่จีนลงทุนไว้สูญเปล่า
    ไนเจอร์ (Niger) ประเทศในทวีปแอฟริกามีคำสั่งขับผู้บริหารจีนของบริษัทน้ำมันจีนสามแห่งในไนเจอร์ออกจากประเทศ สาเหตุเพราะละเมิดกฎระเบียบภายในของไนเจอร์ ผู้บริหารบริษัทน้ำมันของจีน 3 แห่ง ที่ถูกให้ออกจากประเทศ ได้แก่บริษัท SORAZ (Société de Raffinage de Zinder), CNPC (China National Petroleum Corporation) และ WAPCO รัฐบาลไนเจอร์ต้องการให้บริษัทที่เข้ามาทำกิจการในประเทศ รวมทั้งบริษัทน้ำมันจากจีนทั้งสามแห่งนี้ ต้องกระจายรายได้อย่างเป็นธรรม โดยจ่ายค่าแรงคนงานจีนและไนเจอร์อย่างเท่าเทียม ปฎิบัติตามกฎหมายแรงงานของไนเจอร์ และต้องการเข้าถึงบัญชีของบริษัทเพื่อให้แน่ใจว่าได้ชำระภาษีอย่างโปร่งใส รัฐบาลไนเจอร์กำหนดเงื่อนไขเหล่านี้กับบริษัทต่างชาติทั้งหมด หากจีนต้องการให้บริษัทน้ำมันของพวกเขาดำเนินการต่อในประเทศ จะต้องปฏิบัติตามกฎและพันธกรณีของประเทศ ทางด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงปิโตรเลียมของไนเจอร์ ดร. ซาฮาบี โอมารู ยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างไนเจอร์และจีน - ไม่มีการแตกหัก แต่เป็นการปรับเปลี่ยนที่จำเป็น "นี่ไม่ใช่การแตกหักด้านความร่วมมือทางเทคนิคระหว่างรัฐบาลไนเจอร์และรัฐบาลจีน หรือเป็นการประณามสัญญาที่ทำกับบริษัทของจีน" แต่เป็นความพยายามแก้ไขความไม่สมดุลที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในการกระจายความมั่งคั่งอย่างทั่วถึงทั้งประชาชนไนเจอร์และบริษัทรับเหมาขุดเจาะน้ำมัน ของจีน "ความแข็งแกร่งของความร่วมมืออยู่ที่การเคารพกฎหมายและคำมั่นสัญญาของทั้งสองฝ่ายเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม เราเพียงแค่ต้องการกระจายความมั่งคั่งของบริษัทจีนทั้งสาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากเงินเดือนของชาวไนเจอร์เมื่อเทียบกับพนักงานของจีน ตำแหน่งสำคัญบางอย่างควรเป็นชาวไนเจอร์ การถ่ายทอดเทคโนโลยี และส่วนแบ่งการตลาดที่จัดสรรให้กับประชาชนในพื้นที่" ที่ผ่านมารัฐบาลจีนให้ความสำคัญประเทศในแอฟริกามาตลอดหลายสิบปี มีการลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐานแบบให้เปล่าหลายแห่งในประเทศแอฟริกา รวมทั้งการให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุน มีการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ บางกรณีก็ไม่มีดอกเบี้ย บางครั้งยกหนี้ให้ประเทศเหล่านั้น ผลจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนในช่วงหลังหลายปี บ่งบอกได้ชัดเจนว่าคนรุ่นใหม่ทวีปแอฟริกามีความคิดแง่บวกกับจีนมากกว่าสหรัฐ รัฐบาลจีนอาจต้องเร่งมือกับรัฐบาลในแต่ละประเทศ เพื่อร่วมมือปราบปรามผู้บริหาร เจ้าของวิสาหกิจ บริษัทห้างร้านเอกชนที่เอาเปรียบและมุ่งหาผลประโยชน์ ก่อนที่ภาพลักษณ์ของรัฐบาลจีนจะตกต่ำลงไป ซึ่งจะทำให้สิ่งที่จีนลงทุนไว้สูญเปล่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 603 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานข่าวจากเพจแบไต๋ระบุว่ารัฐบาลจีนออกมาเผยว่าข้อตกลงใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับ TikTok จะต้องเป็นไปตามกฎหมายของจีน เป็นการตอบกลับกรณีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต้องการขยายกำหนดเวลาที่ ByteDance จะต้องขายกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ ไป 75 วันสำหรับกรณีการขาย TikTok นั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ทำการขยายกำหนดเวลาที่ TikTok จะต้องขายกิจการให้บริษัทที่ไม่ได้มาจากจีน ไม่เช่นนั้น TikTok จะถูกแบนห้ามใช้ในประเทศอย่างไรก็ดี ความเป็นไปได้ที่ดีลนี้จะสำเร็จก็ยากขึ้น เพราะรัฐบาลจีนระบุว่าจะไม่อนุมัติการเข้าซื้อ TikTok หลังจากที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนที่ตอนนี้สูงถึง 104% แล้วเมื่อถูกถามถึงการขยายเวลาซื้อ TikTok โฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ชี้ว่า จีนต่อต้านการดำเนินการที่ไม่สนใจกฎหมายของเศรษฐกิจในตลาด การเข้าปล้นด้วยกำลัง และการสร้างความเสียหายให้กับสิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงยังชี้ด้วยว่าการดำเนินการในกรณีของ TikTok ซึ่งรวมถึงการส่งออกเทคโนโลยี (ในที่นี้หมายถึงอัลกอริทึม) จะต้องเป็นไปตามกฎหมายจีน
    รายงานข่าวจากเพจแบไต๋ระบุว่ารัฐบาลจีนออกมาเผยว่าข้อตกลงใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับ TikTok จะต้องเป็นไปตามกฎหมายของจีน เป็นการตอบกลับกรณีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต้องการขยายกำหนดเวลาที่ ByteDance จะต้องขายกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ ไป 75 วันสำหรับกรณีการขาย TikTok นั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ทำการขยายกำหนดเวลาที่ TikTok จะต้องขายกิจการให้บริษัทที่ไม่ได้มาจากจีน ไม่เช่นนั้น TikTok จะถูกแบนห้ามใช้ในประเทศอย่างไรก็ดี ความเป็นไปได้ที่ดีลนี้จะสำเร็จก็ยากขึ้น เพราะรัฐบาลจีนระบุว่าจะไม่อนุมัติการเข้าซื้อ TikTok หลังจากที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนที่ตอนนี้สูงถึง 104% แล้วเมื่อถูกถามถึงการขยายเวลาซื้อ TikTok โฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ชี้ว่า จีนต่อต้านการดำเนินการที่ไม่สนใจกฎหมายของเศรษฐกิจในตลาด การเข้าปล้นด้วยกำลัง และการสร้างความเสียหายให้กับสิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงยังชี้ด้วยว่าการดำเนินการในกรณีของ TikTok ซึ่งรวมถึงการส่งออกเทคโนโลยี (ในที่นี้หมายถึงอัลกอริทึม) จะต้องเป็นไปตามกฎหมายจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 429 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sarah Wynn-Williams อดีตผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Meta ได้ให้การต่อหน้าคณะกรรมการวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Meta และ Zuckerberg พร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าถึงตลาดจีนที่มีประชากร 1.4 พันล้านคน รวมถึงการเสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน

    Meta ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ โดยโฆษกของ Meta ระบุว่าข้อกล่าวหานั้น "ไม่เป็นความจริงและห่างไกลจากความเป็นจริง" และยืนยันว่า Meta ไม่ได้ดำเนินการในประเทศจีน

    นอกจากนี้ Wynn-Williams ยังกล่าวว่า Meta มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI ของจีนผ่านการเปิดเผยโมเดล Llama AI และยังร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเครื่องมือเซ็นเซอร์

    ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Mark Zuckerberg และ Meta
    - Sarah Wynn-Williams กล่าวหาว่า Zuckerberg เสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน
    - Meta ปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการในประเทศจีน

    ✅ การพัฒนา AI และเครื่องมือเซ็นเซอร์
    - Wynn-Williams อ้างว่า Meta มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI ของจีน
    - Meta ถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเครื่องมือเซ็นเซอร์

    ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล
    - การเสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีนอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล
    - การเปิดเผยโมเดล AI อาจเพิ่มความสามารถของจีนในด้านเทคโนโลยี

    ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นใน Meta
    - ข้อกล่าวหาเหล่านี้อาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้และนักลงทุนใน Meta
    - การจัดการข้อกล่าวหาอย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น

    https://www.techradar.com/pro/security/zuckerberg-offered-us-data-to-china-in-bid-to-enter-market-ex-meta-exec-tells-senate
    Sarah Wynn-Williams อดีตผู้อำนวยการฝ่ายนโยบายสาธารณะของ Meta ได้ให้การต่อหน้าคณะกรรมการวุฒิสภาสหรัฐฯ โดยกล่าวหาว่า Meta และ Zuckerberg พร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อเข้าถึงตลาดจีนที่มีประชากร 1.4 พันล้านคน รวมถึงการเสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน Meta ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาเหล่านี้ โดยโฆษกของ Meta ระบุว่าข้อกล่าวหานั้น "ไม่เป็นความจริงและห่างไกลจากความเป็นจริง" และยืนยันว่า Meta ไม่ได้ดำเนินการในประเทศจีน นอกจากนี้ Wynn-Williams ยังกล่าวว่า Meta มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI ของจีนผ่านการเปิดเผยโมเดล Llama AI และยังร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเครื่องมือเซ็นเซอร์ ✅ ข้อกล่าวหาต่อ Mark Zuckerberg และ Meta - Sarah Wynn-Williams กล่าวหาว่า Zuckerberg เสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีน - Meta ปฏิเสธข้อกล่าวหาและยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการในประเทศจีน ✅ การพัฒนา AI และเครื่องมือเซ็นเซอร์ - Wynn-Williams อ้างว่า Meta มีส่วนช่วยในการพัฒนา AI ของจีน - Meta ถูกกล่าวหาว่าร่วมมือกับรัฐบาลจีนในการพัฒนาเครื่องมือเซ็นเซอร์ ℹ️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล - การเสนอข้อมูลของผู้ใช้ชาวอเมริกันให้กับรัฐบาลจีนอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของข้อมูล - การเปิดเผยโมเดล AI อาจเพิ่มความสามารถของจีนในด้านเทคโนโลยี ℹ️ ผลกระทบต่อความเชื่อมั่นใน Meta - ข้อกล่าวหาเหล่านี้อาจลดความเชื่อมั่นของผู้ใช้และนักลงทุนใน Meta - การจัดการข้อกล่าวหาอย่างโปร่งใสเป็นสิ่งสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่น https://www.techradar.com/pro/security/zuckerberg-offered-us-data-to-china-in-bid-to-enter-market-ex-meta-exec-tells-senate
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • โครงการ Jiachen Project ในจีนกำลังจัดการแข่งขันเพื่อพัฒนามัลโค้ด (microcode) สำหรับซีพียู AMD Zen รุ่นใหม่ เพื่อให้สามารถรันโปรแกรม RISC-V ได้โดยตรง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ท้าทายและน่าสนใจในวงการเทคโนโลยี

    ✅ การแข่งขันพัฒนามัลโค้ด:
    - ทีมวิจัยของ Google ได้ปล่อยเครื่องมือ Zentool ที่สามารถแก้ไขมัลโค้ดของซีพียู AMD Zen 1 ถึง Zen 4
    - โครงการ Jiachen ต้องการพัฒนามัลโค้ดเพื่อให้ซีพียู AMD Zen สามารถรันโปรแกรม RISC-V ได้โดยตรงหรือเพิ่มความเร็วในการรันโปรแกรม RISC-V ผ่านการจำลอง

    ✅ เป้าหมายของการแข่งขัน:
    - การพัฒนามัลโค้ดที่สามารถรันโปรแกรม RISC-V ได้โดยตรงบนซีพียู AMD Zen เช่น EPYC 9004-series
    - ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล ¥20,000 (ประมาณ $2,735)

    ✅ ความซับซ้อนของมัลโค้ด:
    - มัลโค้ดของซีพียู AMD Zen ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องภายใน ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนชุดคำสั่ง (ISA)
    - ความเป็นไปได้ในการเขียนมัลโค้ดใหม่ทั้งหมดยังคงเป็นที่ถกเถียงในวงการ

    ✅ ความสำคัญของ RISC-V:
    - RISC-V เป็นสถาปัตยกรรมแบบเปิดที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน เพื่อเพิ่มความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยี

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความท้าทายด้านเทคนิค:
    - การพัฒนามัลโค้ดที่สามารถเปลี่ยน ISA ได้ทั้งหมดอาจเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ เนื่องจากข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์

    ⚠️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย:
    - การแก้ไขมัลโค้ดอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัย หากเครื่องมือถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม

    ⚠️ การแข่งขันและผลตอบแทน:
    - การแข่งขันนี้อาจถูกวิจารณ์ว่าเป็นการใช้แรงงานทางปัญญาในราคาที่ต่ำเกินไป

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/google-tool-spurs-contest-to-run-risc-v-on-amd-zen-cpus-but-is-it-possible
    โครงการ Jiachen Project ในจีนกำลังจัดการแข่งขันเพื่อพัฒนามัลโค้ด (microcode) สำหรับซีพียู AMD Zen รุ่นใหม่ เพื่อให้สามารถรันโปรแกรม RISC-V ได้โดยตรง ซึ่งเป็นแนวคิดที่ท้าทายและน่าสนใจในวงการเทคโนโลยี ✅ การแข่งขันพัฒนามัลโค้ด: - ทีมวิจัยของ Google ได้ปล่อยเครื่องมือ Zentool ที่สามารถแก้ไขมัลโค้ดของซีพียู AMD Zen 1 ถึง Zen 4 - โครงการ Jiachen ต้องการพัฒนามัลโค้ดเพื่อให้ซีพียู AMD Zen สามารถรันโปรแกรม RISC-V ได้โดยตรงหรือเพิ่มความเร็วในการรันโปรแกรม RISC-V ผ่านการจำลอง ✅ เป้าหมายของการแข่งขัน: - การพัฒนามัลโค้ดที่สามารถรันโปรแกรม RISC-V ได้โดยตรงบนซีพียู AMD Zen เช่น EPYC 9004-series - ผู้ชนะจะได้รับเงินรางวัล ¥20,000 (ประมาณ $2,735) ✅ ความซับซ้อนของมัลโค้ด: - มัลโค้ดของซีพียู AMD Zen ถูกออกแบบมาเพื่อแก้ไขข้อบกพร่องภายใน ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนชุดคำสั่ง (ISA) - ความเป็นไปได้ในการเขียนมัลโค้ดใหม่ทั้งหมดยังคงเป็นที่ถกเถียงในวงการ ✅ ความสำคัญของ RISC-V: - RISC-V เป็นสถาปัตยกรรมแบบเปิดที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลจีน เพื่อเพิ่มความเป็นอิสระด้านเทคโนโลยี == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความท้าทายด้านเทคนิค: - การพัฒนามัลโค้ดที่สามารถเปลี่ยน ISA ได้ทั้งหมดอาจเป็นไปไม่ได้ในทางปฏิบัติ เนื่องจากข้อจำกัดของฮาร์ดแวร์ ⚠️ ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: - การแก้ไขมัลโค้ดอาจเพิ่มความเสี่ยงด้านความปลอดภัย หากเครื่องมือถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ⚠️ การแข่งขันและผลตอบแทน: - การแข่งขันนี้อาจถูกวิจารณ์ว่าเป็นการใช้แรงงานทางปัญญาในราคาที่ต่ำเกินไป https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/google-tool-spurs-contest-to-run-risc-v-on-amd-zen-cpus-but-is-it-possible
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel CEO Lip-Bu Tan กำลังเผชิญกับข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีจีนกว่า 600 แห่ง ซึ่งบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิป เช่น SMIC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปชั้นนำของจีน

    ✅ การลงทุนในบริษัทจีน:
    - Lip-Bu Tan มีการลงทุนในบริษัทจีนกว่า 600 แห่งผ่านบริษัท Walden International และบริษัทในฮ่องกง เช่น Sakarya Limited และ Seine Limited
    - บริษัทที่ลงทุนบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับ PLA และรัฐบาลจีน เช่น Dapu Technologies และ HAI Robotics

    ✅ ความกังวลด้านความมั่นคง:
    - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ PLA และการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียสร้างความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของสหรัฐฯ
    - การถือหุ้นใน SMIC ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Intel ในการผลิตชิป อาจสร้างความขัดแย้งในบทบาทของ Tan

    ✅ การตอบสนองของ Intel:
    - Intel ระบุว่า Tan ได้กรอกแบบฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลตามข้อกำหนดของ SEC แต่ไม่ได้ให้ความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับการลงทุน

    ✅ ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ:
    - ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าประสบการณ์ของ Tan ในการลงทุนในจีนเป็นข้อได้เปรียบ ในขณะที่บางคนมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของ Intel

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์:
    - การลงทุนในบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับ PLA อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Intel ในสายตาสาธารณชน

    ⚠️ การตรวจสอบความโปร่งใส:
    - Intel ควรเพิ่มความโปร่งใสในการจัดการข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของ CEO เพื่อรักษาความเชื่อมั่นจากนักลงทุน

    ⚠️ การพิจารณาด้านจริยธรรม:
    - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียอาจสร้างคำถามด้านจริยธรรมที่ Intel ต้องพิจารณา

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ceo-lip-bu-tan-has-invested-in-600-chinese-firms-some-linked-to-the-chinese-military
    Intel CEO Lip-Bu Tan กำลังเผชิญกับข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยีจีนกว่า 600 แห่ง ซึ่งบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิป เช่น SMIC ซึ่งเป็นบริษัทผลิตชิปชั้นนำของจีน ✅ การลงทุนในบริษัทจีน: - Lip-Bu Tan มีการลงทุนในบริษัทจีนกว่า 600 แห่งผ่านบริษัท Walden International และบริษัทในฮ่องกง เช่น Sakarya Limited และ Seine Limited - บริษัทที่ลงทุนบางแห่งมีความเชื่อมโยงกับ PLA และรัฐบาลจีน เช่น Dapu Technologies และ HAI Robotics ✅ ความกังวลด้านความมั่นคง: - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ PLA และการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียสร้างความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงของสหรัฐฯ - การถือหุ้นใน SMIC ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Intel ในการผลิตชิป อาจสร้างความขัดแย้งในบทบาทของ Tan ✅ การตอบสนองของ Intel: - Intel ระบุว่า Tan ได้กรอกแบบฟอร์มการเปิดเผยข้อมูลตามข้อกำหนดของ SEC แต่ไม่ได้ให้ความคิดเห็นโดยตรงเกี่ยวกับการลงทุน ✅ ความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ: - ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าประสบการณ์ของ Tan ในการลงทุนในจีนเป็นข้อได้เปรียบ ในขณะที่บางคนมองว่าเป็นความเสี่ยงต่อความมั่นคงของ Intel == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความเสี่ยงด้านภาพลักษณ์: - การลงทุนในบริษัทที่มีความเชื่อมโยงกับ PLA อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Intel ในสายตาสาธารณชน ⚠️ การตรวจสอบความโปร่งใส: - Intel ควรเพิ่มความโปร่งใสในการจัดการข้อกังวลเกี่ยวกับการลงทุนของ CEO เพื่อรักษาความเชื่อมั่นจากนักลงทุน ⚠️ การพิจารณาด้านจริยธรรม: - การลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการผลิตชิปสำหรับกองทัพรัสเซียอาจสร้างคำถามด้านจริยธรรมที่ Intel ต้องพิจารณา https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intel-ceo-lip-bu-tan-has-invested-in-600-chinese-firms-some-linked-to-the-chinese-military
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel CEO Lip-Bu Tan has invested in 600 Chinese firms, some linked to the Chinese military
    Some believe it makes Lip-Bu Tan an experienced investor, others think it is unacceptable for an Intel CEO.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts