• ตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการทลายโกดังพักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ย่านพุทธมณฑลสาย 2 หลังผู้เสียหายแจ้งความรถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ถูกลักขโมย ก่อนสืบสวนพบสัญญาณ GPS ชี้เป้าถึงโกดังดังกล่าว

    เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย พร้อมรถต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 10 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คาดเป็นรถที่ถูกลักขโมยมาแล้วรอส่งต่อไปขายตามแนวชายแดนเมียนมา

    เบื้องต้นจับกุมชายวัย 36 ปี ทำหน้าที่ดูแลโกดัง ดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์หรือลักของโจร” พร้อมยึดรถของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ขยายผลหาขบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป

    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123383

    #News1live #News1 #ตำรวจนครบาล #รถจักรยานยนต์หาย #พุทธมณฑลสาย2 #ชายแดนพม่า
    ตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการทลายโกดังพักรถจักรยานยนต์รายใหญ่ ย่านพุทธมณฑลสาย 2 หลังผู้เสียหายแจ้งความรถจักรยานยนต์ฮอนด้า พีซีเอ็กซ์ ถูกลักขโมย ก่อนสืบสวนพบสัญญาณ GPS ชี้เป้าถึงโกดังดังกล่าว เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นพบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย พร้อมรถต้องสงสัยเพิ่มเติมอีก 10 คัน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน คาดเป็นรถที่ถูกลักขโมยมาแล้วรอส่งต่อไปขายตามแนวชายแดนเมียนมา เบื้องต้นจับกุมชายวัย 36 ปี ทำหน้าที่ดูแลโกดัง ดำเนินคดีในข้อหา “ลักทรัพย์หรือลักของโจร” พร้อมยึดรถของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน ขยายผลหาขบวนการที่เกี่ยวข้องต่อไป อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123383 #News1live #News1 #ตำรวจนครบาล #รถจักรยานยนต์หาย #พุทธมณฑลสาย2 #ชายแดนพม่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • “อาจารย์ช้าง” ออกโรงวิจารณ์ระบบการศึกษาไทย หลังพบข้อสอบแข่งขันวิทยาศาสตร์ระดับ ป.5 ใช้เนื้อหาฟิสิกส์ ม.4 ทั้งการแตกแรงเวกเตอร์ กฎของนิวตัน และตรีโกณมิติ ชี้ไม่ใช่ความเก่งของเด็ก แต่คือความล้มเหลวของผู้ใหญ่ที่ออกแบบการวัดผลผิดวัย

    อาจารย์ช้างระบุ ข้อสอบลักษณะนี้ไม่ได้วัดไหวพริบหรือการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ แต่กำลังวัดเพียงว่า “ใครมีเงินเรียนพิเศษล่วงหน้าได้มากกว่า” ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ และเปลี่ยนสนามแข่งขันทางปัญญาให้กลายเป็นการแข่งขันทางฐานะครอบครัว

    พร้อมเตือนว่าการออกข้อสอบยากเกินหลักสูตร คือวิธีที่มักง่ายที่สุดของผู้ออกข้อสอบ และกำลังทำลายทั้งความมั่นใจ ความรักในการเรียนรู้ และความเชื่อของเด็กว่า ความพยายามมีความหมาย

    อาจารย์ช้างย้ำว่า การศึกษาที่ดีไม่ใช่ทำให้เด็ก “อึ้ง” แต่ต้องทำให้เด็ก “คิดได้” ในระดับวัยของเขา หากระบบยังยึดติดว่าข้อสอบยากคือเด็กเก่ง สังคมอาจได้ผู้ใหญ่ที่ท่องสูตรได้เร็ว แต่ไม่เข้าใจความยุติธรรมของสังคมในวันข้างหน้า

    อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123397

    #News1live #News1 #การศึกษาไทย #ข้อสอบผิดวัย #ความเหลื่อมล้ำ #เด็กไม่ใช่ปัญหา
    “อาจารย์ช้าง” ออกโรงวิจารณ์ระบบการศึกษาไทย หลังพบข้อสอบแข่งขันวิทยาศาสตร์ระดับ ป.5 ใช้เนื้อหาฟิสิกส์ ม.4 ทั้งการแตกแรงเวกเตอร์ กฎของนิวตัน และตรีโกณมิติ ชี้ไม่ใช่ความเก่งของเด็ก แต่คือความล้มเหลวของผู้ใหญ่ที่ออกแบบการวัดผลผิดวัย อาจารย์ช้างระบุ ข้อสอบลักษณะนี้ไม่ได้วัดไหวพริบหรือการคิดเชิงวิทยาศาสตร์ แต่กำลังวัดเพียงว่า “ใครมีเงินเรียนพิเศษล่วงหน้าได้มากกว่า” ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ และเปลี่ยนสนามแข่งขันทางปัญญาให้กลายเป็นการแข่งขันทางฐานะครอบครัว พร้อมเตือนว่าการออกข้อสอบยากเกินหลักสูตร คือวิธีที่มักง่ายที่สุดของผู้ออกข้อสอบ และกำลังทำลายทั้งความมั่นใจ ความรักในการเรียนรู้ และความเชื่อของเด็กว่า ความพยายามมีความหมาย อาจารย์ช้างย้ำว่า การศึกษาที่ดีไม่ใช่ทำให้เด็ก “อึ้ง” แต่ต้องทำให้เด็ก “คิดได้” ในระดับวัยของเขา หากระบบยังยึดติดว่าข้อสอบยากคือเด็กเก่ง สังคมอาจได้ผู้ใหญ่ที่ท่องสูตรได้เร็ว แต่ไม่เข้าใจความยุติธรรมของสังคมในวันข้างหน้า อ่านเพิ่มเติม >> https://news1live.com/detail/9680000123397 #News1live #News1 #การศึกษาไทย #ข้อสอบผิดวัย #ความเหลื่อมล้ำ #เด็กไม่ใช่ปัญหา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบตเตอรี่ยักษ์เปลี่ยนโลกพลังงาน: จากการทดลองกลางทะเลทราย สู่โครงข่ายไฟฟ้าทั่วโลก

    ลิเธียมไอออนเคยเป็นเทคโนโลยีที่ถูกมองว่า “แพงและเสี่ยงเกินไป” สำหรับระบบไฟฟ้า แต่วันนี้มันกลายเป็นหัวใจสำคัญของโครงข่ายพลังงานทั่วโลก แบตเตอรี่ขนาดเท่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกติดตั้งข้างฟาร์มโซลาร์และกังหันลม เพื่อกักเก็บพลังงานในช่วงที่ผลิตได้มาก และปล่อยออกมาในช่วงที่ความต้องการพุ่งสูง ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับอย่างมีนัยสำคัญ

    จุดเปลี่ยนสำคัญเริ่มขึ้นกว่า 15 ปีก่อน เมื่อทีมวิศวกรของบริษัท AES ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชุดแรกในทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี บนพื้นที่สูงเกือบ 9,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล การทดลองนี้พิสูจน์ว่าแบตเตอรี่สามารถทำงานร่วมกับโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ตอบสนองช้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าที่เคยล้มเหลวจากความต้องการพลังงานที่ผันผวนของเหมืองแร่

    ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์ข้อมูลทั่วโลก รวมถึงการเติบโตของพลังงานหมุนเวียน ทำให้แบตเตอรี่กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานจำเป็น” ไม่ใช่แค่ตัวเลือกอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น แคลิฟอร์เนียสามารถลดการประกาศเตือนประชาชนให้ประหยัดไฟในฤดูร้อนลงได้อย่างมาก เพราะมีแบตเตอรี่ช่วยเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ใช้ในช่วงค่ำ ขณะที่ราคาของแบตเตอรี่ลดลงถึง 90% ในรอบ 15 ปี ทำให้หลายประเทศเร่งติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่

    แม้จะมีความสำเร็จ แต่ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงอยู่ โดยเฉพาะเหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ เช่น เหตุการณ์ในมอนเทอเรย์ เคาน์ตี ที่ทำให้เกิดควันพิษ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าระบบรุ่นใหม่ปลอดภัยกว่าเดิมมาก และส่วนใหญ่ติดตั้งกลางแจ้งเพื่อลดความเสี่ยงการลุกลามของไฟ ปัจจุบันประเทศต่างๆ ตั้งแต่ชิลี ออสเตรเลีย จนถึงจีนและอินเดีย ต่างเร่งขยายการใช้แบตเตอรี่เพื่อรองรับพลังงานสะอาดในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบไฟฟ้า
    ใช้กักเก็บพลังงานจากโซลาร์และลมเพื่อใช้ในช่วงความต้องการสูง
    ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับ

    จุดเริ่มต้นสำคัญเกิดขึ้นที่ทะเลทรายอาตากามาในชิลี
    การติดตั้งแบตเตอรี่ครั้งแรกพิสูจน์ว่าระบบไฟฟ้าสามารถเสถียรขึ้นได้อย่างมาก
    แบตเตอรี่ตอบสนองเร็วกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เวลาสตาร์ทถึง 12 นาที

    ราคาลดลง 90% ทำให้การใช้งานทั่วโลกพุ่งสูง
    แคลิฟอร์เนียเพิ่มความจุแบตเตอรี่ 30 เท่าใน 7 ปี
    จีนเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุด แต่ยุโรป อินเดีย และสหรัฐฯ กำลังเร่งผลิตตาม

    ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงเป็นอุปสรรค
    เหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ทำให้ชุมชนบางแห่งต่อต้านการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
    แบตเตอรี่รุ่นเก่ามีความเสี่ยงลุกลามไฟสูงกว่ารุ่นใหม่ที่ออกแบบให้ปลอดภัยกว่า

    การยอมรับของผู้ให้บริการไฟฟ้ายังไม่ทั่วถึง
    ผู้ให้บริการในบางรัฐของสหรัฐฯ ยังลังเลเพราะขาดประสบการณ์กับระบบกักเก็บพลังงาน
    ความคุ้นชินกับโรงไฟฟ้าแบบเดิมทำให้บางองค์กรต่อต้านเทคโนโลยีใหม่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/once-a-gamble-in-the-desert-electric-grid-batteries-are-everywhere
    ⚡ แบตเตอรี่ยักษ์เปลี่ยนโลกพลังงาน: จากการทดลองกลางทะเลทราย สู่โครงข่ายไฟฟ้าทั่วโลก ลิเธียมไอออนเคยเป็นเทคโนโลยีที่ถูกมองว่า “แพงและเสี่ยงเกินไป” สำหรับระบบไฟฟ้า แต่วันนี้มันกลายเป็นหัวใจสำคัญของโครงข่ายพลังงานทั่วโลก แบตเตอรี่ขนาดเท่าตู้คอนเทนเนอร์ถูกติดตั้งข้างฟาร์มโซลาร์และกังหันลม เพื่อกักเก็บพลังงานในช่วงที่ผลิตได้มาก และปล่อยออกมาในช่วงที่ความต้องการพุ่งสูง ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับอย่างมีนัยสำคัญ จุดเปลี่ยนสำคัญเริ่มขึ้นกว่า 15 ปีก่อน เมื่อทีมวิศวกรของบริษัท AES ติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนชุดแรกในทะเลทรายอาตากามา ประเทศชิลี บนพื้นที่สูงเกือบ 9,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล การทดลองนี้พิสูจน์ว่าแบตเตอรี่สามารถทำงานร่วมกับโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ตอบสนองช้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าที่เคยล้มเหลวจากความต้องการพลังงานที่ผันผวนของเหมืองแร่ ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากศูนย์ข้อมูลทั่วโลก รวมถึงการเติบโตของพลังงานหมุนเวียน ทำให้แบตเตอรี่กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานจำเป็น” ไม่ใช่แค่ตัวเลือกอีกต่อไป ตัวอย่างเช่น แคลิฟอร์เนียสามารถลดการประกาศเตือนประชาชนให้ประหยัดไฟในฤดูร้อนลงได้อย่างมาก เพราะมีแบตเตอรี่ช่วยเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ไว้ใช้ในช่วงค่ำ ขณะที่ราคาของแบตเตอรี่ลดลงถึง 90% ในรอบ 15 ปี ทำให้หลายประเทศเร่งติดตั้งระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ แม้จะมีความสำเร็จ แต่ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงอยู่ โดยเฉพาะเหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ เช่น เหตุการณ์ในมอนเทอเรย์ เคาน์ตี ที่ทำให้เกิดควันพิษ อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าระบบรุ่นใหม่ปลอดภัยกว่าเดิมมาก และส่วนใหญ่ติดตั้งกลางแจ้งเพื่อลดความเสี่ยงการลุกลามของไฟ ปัจจุบันประเทศต่างๆ ตั้งแต่ชิลี ออสเตรเลีย จนถึงจีนและอินเดีย ต่างเร่งขยายการใช้แบตเตอรี่เพื่อรองรับพลังงานสะอาดในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบไฟฟ้า ➡️ ใช้กักเก็บพลังงานจากโซลาร์และลมเพื่อใช้ในช่วงความต้องการสูง ➡️ ช่วยลดการพึ่งพาโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่และลดความเสี่ยงไฟดับ ✅ จุดเริ่มต้นสำคัญเกิดขึ้นที่ทะเลทรายอาตากามาในชิลี ➡️ การติดตั้งแบตเตอรี่ครั้งแรกพิสูจน์ว่าระบบไฟฟ้าสามารถเสถียรขึ้นได้อย่างมาก ➡️ แบตเตอรี่ตอบสนองเร็วกว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ใช้เวลาสตาร์ทถึง 12 นาที ✅ ราคาลดลง 90% ทำให้การใช้งานทั่วโลกพุ่งสูง ➡️ แคลิฟอร์เนียเพิ่มความจุแบตเตอรี่ 30 เท่าใน 7 ปี ➡️ จีนเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ที่สุด แต่ยุโรป อินเดีย และสหรัฐฯ กำลังเร่งผลิตตาม ‼️ ความกังวลด้านความปลอดภัยยังคงเป็นอุปสรรค ⛔ เหตุไฟไหม้ในบางพื้นที่ทำให้ชุมชนบางแห่งต่อต้านการติดตั้งแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ⛔ แบตเตอรี่รุ่นเก่ามีความเสี่ยงลุกลามไฟสูงกว่ารุ่นใหม่ที่ออกแบบให้ปลอดภัยกว่า ‼️ การยอมรับของผู้ให้บริการไฟฟ้ายังไม่ทั่วถึง ⛔ ผู้ให้บริการในบางรัฐของสหรัฐฯ ยังลังเลเพราะขาดประสบการณ์กับระบบกักเก็บพลังงาน ⛔ ความคุ้นชินกับโรงไฟฟ้าแบบเดิมทำให้บางองค์กรต่อต้านเทคโนโลยีใหม่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/22/once-a-gamble-in-the-desert-electric-grid-batteries-are-everywhere
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Once a gamble in the desert, electric grid batteries are everywhere
    An early grid battery was installed in the Atacama Desert in Chile 15 years ago. Now, as prices have tumbled, they are increasingly being used around the world.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar

    RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล
    รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย
    https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams

    “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI
    CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย
    https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai

    ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล
    รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030
    https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate

    GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน
    นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก
    https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard

    วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน
    วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์
    https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills

    หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม
    ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away

    LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่
    LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า
    https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name

    Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย
    Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย
    https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful

    ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม
    https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more

    NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin
    NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers

    Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI
    รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด
    https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees

    Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ
    Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel

    ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา
    ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why

    ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์
    DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร
    https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware

    iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์
    หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026
    https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover

    ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ
    OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251222 #TechRadar 💾 RAM ปลอมระบาดหนัก — ผู้ใช้ถูกหลอกด้วยสเปกเกินจริงและชิปรีไซเคิล รายงานเตือนว่าตลาดกำลังเผชิญปัญหา RAM ปลอมที่ถูกขายในแพลตฟอร์มออนไลน์ โดยผู้ผลิตเถื่อนใช้ชิปรีไซเคิลหรือชิปคุณภาพต่ำมารีแบรนด์เป็นรุ่นความเร็วสูง ทำให้ผู้ใช้พบอาการเครื่องล่ม ประสิทธิภาพตก หรืออายุการใช้งานสั้นลงอย่างมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นเพราะความต้องการ RAM ความเร็วสูงเพิ่มขึ้นจากงาน AI และเกมมิ่ง แต่ผู้ซื้อจำนวนมากไม่รู้วิธีตรวจสอบของแท้ ส่งผลให้มิจฉาชีพฉวยโอกาสได้ง่าย 🔗 https://www.techradar.com/computing/memory/watch-out-ram-rip-offs-are-now-in-vogue-so-heres-how-to-avoid-falling-for-high-end-memory-scams 🧠 “Data คือเลือดหล่อเลี้ยงองค์กร” — Veeam ชี้ความมั่นคงของข้อมูลคือเงื่อนไขสำคัญของ AI CEO ของ Veeam อธิบายว่าทุกอุตสาหกรรมกำลังพึ่งพา AI มากขึ้น แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้นตาม ทั้งจากมัลแวร์ที่ใช้ AI, ปริมาณข้อมูลที่ไม่เป็นโครงสร้างมหาศาล และการขาดระบบควบคุมข้อมูลที่เชื่อถือได้ ทำให้หลายโปรเจกต์ล้มเหลว เขาย้ำว่า “ไม่มี AI หากไม่มีความปลอดภัยของข้อมูล” และชูแพลตฟอร์มของ Veeam ที่รวมความปลอดภัย การกำกับดูแล และความยืดหยุ่นของข้อมูลไว้ในระบบเดียว เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ AI ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัย 🔗 https://www.techradar.com/pro/it-doesnt-matter-which-industry-you-belong-to-data-is-your-lifeblood-veeam-ceo-tells-us-why-getting-security-and-resiliency-right-is-the-key-to-unleashing-the-power-of-ai 🌡️ ศูนย์ข้อมูลทั่วโลกสร้างใน “สภาพอากาศผิดประเภท” ทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมหาศาล รายงานใหม่เผยว่าเกือบ 7,000 จาก 8,808 ดาต้าเซ็นเตอร์ทั่วโลกตั้งอยู่ในพื้นที่ที่อุณหภูมิไม่เหมาะสมต่อการทำงาน (ต่ำกว่า 18°C หรือสูงกว่า 27°C) ทำให้ต้องใช้พลังงานในการทำความเย็นมากเกินจำเป็น โดยเฉพาะในประเทศร้อนอย่างสิงคโปร์ที่มีศูนย์ข้อมูลกว่า 1.4GW แม้อุณหภูมิแตะ 33°C ตลอดปี แนวโน้มนี้กำลังสร้างภาระต่อโครงข่ายไฟฟ้า และคาดว่าความต้องการพลังงานของดาต้าเซ็นเตอร์อาจเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวภายในปี 2030 🔗 https://www.techradar.com/pro/no-wonder-theres-a-bubble-study-claims-nearly-all-of-the-worlds-data-centers-are-built-in-the-wrong-climate 🕵️‍♂️ GhostPairing — เทคนิคใหม่ที่แฮ็ก WhatsApp ได้โดยไม่ต้องเจาะรหัสผ่าน นักวิจัยเตือนถึงการโจมตีแบบ GhostPairing ที่อาศัยฟีเจอร์ “Linked Devices” ของ WhatsApp เอง โดยหลอกเหยื่อผ่านลิงก์ปลอมให้กรอกเบอร์โทรและยืนยันรหัสเชื่อมอุปกรณ์ ทำให้แฮ็กเกอร์ผูกเบราว์เซอร์ของตนเข้ากับบัญชีเหยื่อได้ทันที เมื่อสำเร็จ ผู้โจมตีสามารถอ่านข้อความ ส่งข้อความแทนเหยื่อ และดึงข้อมูลได้แบบเรียลไทม์ วิธีตรวจสอบเดียวที่เชื่อถือได้คือเข้าไปดูรายชื่ออุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในเมนู Linked Devices แล้วลบสิ่งที่ไม่รู้จัก 🔗 https://www.techradar.com/pro/whatsapp-user-warning-hackers-are-hijacking-accounts-without-any-need-to-crack-the-authentication-so-be-on-your-guard ⚡ วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ กล่าวหา Big Tech ผลักภาระค่าไฟของศูนย์ข้อมูลให้ประชาชน วุฒิสมาชิก 3 คนส่งจดหมายถึงบริษัทเทคยักษ์ใหญ่ถามเหตุผลที่ค่าไฟในพื้นที่ที่มีดาต้าเซ็นเตอร์จำนวนมากพุ่งสูงขึ้น แม้บริษัทจะอ้างว่ารับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง แต่โครงสร้างค่าไฟของรัฐกลับผลักต้นทุนการขยายโครงข่ายไฟฟ้าไปยังผู้ใช้ทั่วไป ขณะที่ศูนย์ข้อมูล AI สมัยใหม่ใช้ไฟระดับ “เมืองหนึ่งทั้งเมือง” ทำให้หลายรัฐต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเป็นพันล้านดอลลาร์ 🔗 https://www.techradar.com/pro/tech-companies-have-paid-lip-service-us-government-is-asking-ai-giants-why-data-centers-are-leading-to-rising-bills 📱 หลุดใหม่ชี้ Samsung Galaxy S26 จะเปิดตัวกุมภาพันธ์ แต่ขายจริงอาจต้องรอถึงมีนาคม ข้อมูลจากแหล่งข่าววงในระบุว่า Galaxy S26 Series จะเปิดตัวในงาน Unpacked เดือนกุมภาพันธ์ แต่จะวางขายจริงในเดือนมีนาคม ซึ่งช้ากว่ารุ่น S25 ที่เปิดตัวตั้งแต่มกราคม สาเหตุคาดว่ามาจากการปรับไลน์ผลิตภัณฑ์ เช่น การยกเลิก S26 Edge แล้วนำ S26+ กลับมา รวมถึงความไม่ลงตัวด้านชื่อรุ่นและสเปกภายใน ทำให้กำหนดการเลื่อนออกไปเล็กน้อย 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-leak-may-have-revealed-samsungs-launch-window-for-the-galaxy-s26-series-but-they-might-not-go-on-sale-right-away 🖥️ LG เปิดตัวเทคโนโลยี OLED รุ่นใหม่ “Tandem WOLED / RGB Tandem 2.0” พร้อมรีแบรนด์ครั้งใหญ่ LG Display เตรียมยกระดับตลาดทีวีและมอนิเตอร์ปี 2026 ด้วยการรีแบรนด์เทคโนโลยีจอเป็น “Tandem WOLED” และ “Tandem OLED” พร้อมโชว์ Primary RGB Tandem 2.0 ที่คาดว่าจะเพิ่มความสว่างและประสิทธิภาพอย่างมีนัยสำคัญ โดยยังเผยพาเนลใหม่หลายรุ่น เช่น มอนิเตอร์โค้ง 39 นิ้ว 5K และจอ 27 นิ้วความหนาแน่นสูง ซึ่งทั้งหมดสะท้อนทิศทางการผลักดัน OLED ให้ตอบโจทย์ทั้งเกมมิ่งและทีวีระดับพรีเมียมในปีหน้า 🔗 https://www.techradar.com/televisions/lg-announces-next-gen-version-of-its-best-oled-tv-tech-oh-and-its-changing-the-name 🧊 Google Gemini กำลังจะเข้าไปอยู่ในตู้เย็น Samsung เพื่อช่วยจัดการอาหารและลดของเสีย Samsung เตรียมเปิดตัวตู้เย็น Bespoke AI Family Hub ที่ติดตั้ง Google Gemini ซึ่งจะใช้กล้องภายในวิเคราะห์อาหารที่มีอยู่ แนะนำเมนู แจ้งเตือนของใกล้หมดอายุ และจัดการพลังงานให้เหมาะสม รวมถึงรองรับสั่งงานด้วยเสียง ฟีเจอร์นี้อาจเป็นหนึ่งในตัวอย่างแรกของ “AI ในเครื่องใช้ไฟฟ้า” ที่ให้ประโยชน์จริงในชีวิตประจำวัน พร้อมขยายไปยังตู้แช่ไวน์รุ่นใหม่ด้วย 🔗 https://www.techradar.com/home/smart-home/google-gemini-is-now-heading-to-fridges-and-it-might-actually-be-useful 🚨 ช่องโหว่ในแชตบอท Eurostar เกือบทำให้ข้อมูลลูกค้าเสี่ยงถูกโจมตี นักวิจัยด้านความปลอดภัยพบว่าแชตบอท AI ของ Eurostar มีช่องโหว่หลายจุด เช่น การตรวจสอบข้อความย้อนหลังไม่ดีพอ ทำให้ผู้โจมตีสามารถฝังคำสั่งอันตรายหรือสคริปต์ HTML ได้ แม้บริษัทจะยืนยันว่าข้อมูลลูกค้าไม่เคยเชื่อมต่อกับระบบนี้ แต่เหตุการณ์สะท้อนความเสี่ยงจากการนำ AI มาใช้เร็วเกินไปในองค์กร โดยเฉพาะเมื่อระบบยังไม่ผ่านการตรวจสอบด้านความปลอดภัยอย่างรัดกุม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/eurostar-chatbot-security-flaws-almost-left-customers-exposed-to-data-theft-and-more 🔐 NordVPN เปิดแพ็กเกจ OpenWrt แบบโอเพ่นซอร์สสำหรับเราท์เตอร์ ปรับแต่งได้ลึกระดับ sysadmin NordVPN เปิดตัวแพ็กเกจ Linux แบบ headless สำหรับ OpenWrt ช่วยให้ผู้ใช้ติดตั้ง VPN ครอบคลุมทั้งเครือข่ายได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับการตั้งค่าผ่านไฟล์ JSON และเลือกเซิร์ฟเวอร์ที่เหมาะสมอัตโนมัติผ่าน API สะท้อนทิศทางของ NordVPN ที่ผลักดันความโปร่งใสและโอเพ่นซอร์สอย่างจริงจัง รวมถึงเตรียมเพิ่ม UI แบบเว็บในอนาคตเพื่อให้เข้าถึงได้กว้างขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/nord-vpn-ups-its-game-in-open-source-with-linux-based-package-for-openwrt-routers 🔄 Google ดึงอดีตพนักงานกลับเข้าบริษัทจำนวนมากเพื่อเร่งเกม AI รายงานเผยว่า 20% ของวิศวกร AI ที่ Google จ้างในปี 2025 เป็น “boomerang hires” หรืออดีตพนักงานที่กลับมาใหม่ สะท้อนการแข่งขันด้าน AI ที่รุนแรงจนบริษัทต้องดึงบุคลากรที่คุ้นเคยกับระบบภายในกลับมาเสริมทัพ พร้อมทั้งเพิ่มการดึงตัวจากคู่แข่งอย่าง Microsoft, Amazon และ Apple ขณะที่ตลาดยังจับตาว่า Google จะเร่งพัฒนา Gemini และโครงสร้างพื้นฐาน AI ให้ทันคู่แข่งได้เร็วเพียงใด 🔗 https://www.techradar.com/pro/quite-a-few-of-the-ai-software-engineers-hired-by-google-in-2025-were-actually-ex-employees 🛂 Google–Apple เตือนพนักงาน H‑1B หลีกเลี่ยงการเดินทางออกนอกสหรัฐ Google และ Apple ส่งสัญญาณเตือนพนักงานที่ถือวีซ่า H‑1B ให้หยุดเดินทางต่างประเทศชั่วคราว เพราะกระบวนการตรวจสอบวีซ่ากลับเข้าประเทศเข้มงวดขึ้นและอาจล่าช้านานหลายเดือน โดยเฉพาะหลังมาตรการตรวจสอบโซเชียลมีเดียใหม่ของรัฐบาล ทำให้หลายคนเสี่ยง “ติดค้าง” ต่างประเทศ ขณะเดียวกันสถานทูตบางแห่งมีคิวสัมภาษณ์ยาวถึง 12 เดือน สะท้อนแรงกดดันด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองที่กระทบแรงงานทักษะสูงจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/pro/google-and-apple-employees-on-us-visas-apparently-told-to-avoid-international-travel ⚖️ ศาลสหรัฐบล็อกกฎหมายตรวจสอบอายุผู้ใช้โซเชียลของรัฐลุยเซียนา ผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางมีคำสั่งระงับกฎหมาย Act 456 ของรัฐลุยเซียนาอย่างถาวร หลังพบว่ากฎหมายที่บังคับให้แพลตฟอร์มโซเชียลตรวจสอบอายุผู้ใช้ทุกคนและขอความยินยอมจากผู้ปกครองนั้นละเมิดเสรีภาพในการแสดงออกและสร้างความเสี่ยงด้านความเป็นส่วนตัว โดยศาลชี้ว่ารัฐไม่สามารถใช้อำนาจ “ควบคุมความคิดที่เด็กควรเข้าถึง” ได้ และมีวิธีปกป้องเด็กที่จำกัดสิทธิน้อยกว่านี้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/federal-judge-blocks-louisianas-social-media-age-verification-law-heres-why 🏥 ผู้ให้บริการเทคโนโลยี NHS England ถูกโจมตีด้วยแรนซัมแวร์ DXS International ผู้ให้บริการระบบข้อมูลให้ NHS England เปิดเผยว่าเผชิญเหตุแรนซัมแวร์โจมตีเซิร์ฟเวอร์สำนักงาน แม้บริการทางคลินิกยังทำงานได้ตามปกติ แต่กลุ่มแฮ็กเกอร์ DevMan อ้างว่าขโมยข้อมูลกว่า 300GB ซึ่งอาจนำไปสู่การเรียกค่าไถ่หรือการรั่วไหลในอนาคต เหตุการณ์นี้สะท้อนความเสี่ยงต่อซัพพลายเชนด้านสาธารณสุขที่เคยเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสหราชอาณาจักร 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/nhs-england-tech-provider-reveals-data-breach-dxs-international-hit-by-ransomware 🤖 iRobot ยืนยัน Roomba ยังใช้งานได้ปกติหลังการเทกโอเวอร์ หลัง iRobot ถูกเทกโอเวอร์โดยบริษัท Picea ท่ามกลางกระบวนการล้มละลาย ผู้ใช้ Roomba จำนวนมากกังวลเรื่องแอป การอัปเดต และการรับประกัน แต่ CEO ของ iRobot ออกมายืนยันว่าทุกอย่าง “ยังเป็นปกติ” ทั้งแอป การสนับสนุน และการอัปเดตเฟิร์มแวร์จะดำเนินต่อไป พร้อมเผยว่าบริษัทกำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะเปิดตัวในปี 2026 🔗 https://www.techradar.com/home/robot-vacuums/its-business-as-usual-the-app-is-working-warranties-will-be-honored-irobot-ceo-reassures-roomba-owners-following-takeover 🎭 ChatGPT เพิ่มโหมดปรับบุคลิก เลือกได้ตั้งแต่สุภาพมืออาชีพถึงเพื่อนสายแซ่บ OpenAI เปิดตัวฟีเจอร์ Personalization ใหม่ใน ChatGPT ให้ผู้ใช้ปรับ “บุคลิก” ของโมเดลได้ เช่น ระดับความอบอุ่น ความกระตือรือร้น การใช้หัวข้อย่อย และอีโมจิ ทำให้ผู้ใช้ควบคุมโทนการตอบได้ละเอียดขึ้น ตั้งแต่สไตล์คอร์ปอเรตจริงจังไปจนถึงเพื่อนสนิทสายเมาท์ พร้อมผสานกับ Base Style เดิม เช่น Professional, Friendly หรือ Cynical เพื่อสร้างคาแรกเตอร์เฉพาะตัว 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-new-personality-settings-let-you-pick-the-vibe-and-it-ranges-from-corporate-calm-to-chaotic-bestie
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251222 #securityonline

    Dify Side-Door Exposure: ช่องโหว่เปิดคอนฟิกระบบ LLM ให้คนแปลกหน้าเห็น
    ช่องโหว่ CVE‑2025‑63387 ใน Dify เวอร์ชัน 1.9.1 เปิดให้ผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในของระบบ LLM ถูกเปิดเผยแบบไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นในการวางแผนโจมตีต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการรั่วไหลข้อมูล แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงระดับสูงสำหรับทีมที่กำลังนำ LLM ไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมโปรดักชัน
    https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users

    BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้บริการฟรีอย่าง ngrok และ Mocky ลอบขโมยอีเมลยูเครน
    กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่โดยใช้บริการฟรี เช่น Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET ผ่าน PDF ล่อเหยื่อและหน้าเว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ด้วย header พิเศษ ทำให้การโจมตีแนบเนียนและตรวจจับยากขึ้น
    https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky

    Caminho to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ
    BlindEagle (APT‑C‑36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงแนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง
    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia

    DOCSWAP 2.0: Kimsuky ใช้ QR Code แพร่มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่
    Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบน Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมหลักฐานเชื่อมโยง DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” บนโครงสร้างพื้นฐาน
    https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes

    Shadows of the North: แผนที่โครงสร้างไซเบอร์ DPRK ที่เชื่อมโยงทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน
    รายงานร่วมของ Hunt.io และ Acronis เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา โดยพบว่า Lazarus, Kimsuky และ Bluenoroff แม้จะมีภารกิจต่างกัน แต่กลับใช้เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือ และโครงสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ staging servers, credential-harvesting nodes ไปจนถึง FRP tunneling และโครงสร้างที่ผูกกับใบรับรอง SSL เดียวกัน เผยให้เห็น ecosystem ที่ทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อการจารกรรม การขโมยเงิน และปฏิบัติการทำลายล้างในระดับรัฐ
    https://securityonline.info/shadows-of-the-north-unmasking-the-sprawling-cyber-infrastructure-of-the-dprk

    ResidentBat: สปายแวร์ KGB ที่ติดตั้งผ่านการยึดมือถือจริง ไม่ต้องพึ่ง zero‑click
    การสืบสวนโดย RESIDENT.NGO และ RSF พบว่า KGB เบลารุสใช้สปายแวร์ชื่อ ResidentBat ที่ติดตั้งด้วยการยึดโทรศัพท์จากนักข่าวและนักกิจกรรมระหว่างการสอบสวน ก่อนบังคับให้ปลดล็อกเครื่องเพื่อดู PIN จากนั้นเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกไปติดตั้งแอปที่ขอสิทธิ์สูงถึง 38 รายการ รวมถึงการใช้ Accessibility Service เพื่ออ่านข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง Signal และ Telegram ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบที่สามารถบันทึกหน้าจอ คีย์บอร์ด และข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด
    https://securityonline.info/the-kgbs-all-seeing-eye-how-residentbat-spyware-turns-seized-phones-into-total-surveillance-tools

    AuraStealer: มัลแวร์ที่หลอกให้เหยื่อ “แฮ็กตัวเอง” ผ่านคลิป TikTok
    AuraStealer มัลแวร์แบบ MaaS ที่กำลังระบาด ใช้กลยุทธ์ “Scam‑Yourself” โดยหลอกเหยื่อผ่านคลิป TikTok ที่สอนปลดล็อกซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อเหยื่อตามขั้นตอนและรันคำสั่ง PowerShell เอง มัลแวร์จะถูกดาวน์โหลดและรันทันที ตัวมันใช้เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น indirect control flow และ exception‑driven API hashing พร้อมความสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 110 ตัวและวอลเล็ตคริปโตจำนวนมาก แม้บางฟีเจอร์ยังทำงานไม่เสถียร แต่ความเสี่ยงยังสูงมาก
    https://securityonline.info/tiktoks-scam-yourself-trap-how-aurastealer-malware-tricks-users-into-hacking-their-own-pcs

    ClickFix Trap: หน้าตรวจสอบมนุษย์ปลอมที่นำไปสู่ Qilin Ransomware
    แคมเปญ ClickFix ใช้หน้า “ยืนยันว่าเป็นมนุษย์” ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลด batch file ที่ติดตั้ง NetSupport RAT จากนั้นผู้โจมตีใช้ RAT เพื่อดึง StealC V2 ลงเครื่อง ก่อนใช้ข้อมูลที่ขโมยได้เจาะ VPN ขององค์กรและปล่อย Qilin ransomware ซึ่งเป็นหนึ่งใน RaaS ที่ทำเหยื่อมากที่สุดในช่วงปี 2024–2025 โซ่การโจมตีนี้เริ่มจากสคริปต์บนเว็บที่ถูกแฮ็กและจบลงด้วยการเข้ารหัสระบบทั้งองค์กร
    https://securityonline.info/clickfix-trap-fake-human-verification-leads-to-qilin-ransomware-infection

    Cellik Android RAT: มัลแวร์ที่แฝงตัวในแอป Google Play อย่างแนบเนียน
    Cellik เป็น Android RAT แบบบริการเช่า ที่ให้ผู้โจมตีเลือกแอปจาก Google Play แล้ว “ฉีด” payload ลงไปผ่านระบบ APK Builder ทำให้แอปที่ดูปกติกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมเต็มรูปแบบ มันรองรับการสตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ ควบคุมเครื่องจากระยะไกล เปิดกล้อง/ไมค์ และใช้ hidden browser เพื่อทำธุรกรรมหรือขโมยข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่เห็นอะไรบนหน้าจอ ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามมือถือให้เข้าถึงได้แม้กับอาชญากรทักษะต่ำ
    https://securityonline.info/the-silent-hijacker-new-cellik-android-rat-turns-legitimate-google-play-apps-into-surveillance-tools

    110 Milliseconds of Truth: Amazon ใช้ “ดีเลย์คีย์บอร์ด” เปิดโปงสายลับเกาหลีเหนือ
    Amazon เปิดเผยปฏิบัติการสกัดแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือที่ปลอมตัวเป็นพนักงานรีโมต โดยใช้ “laptop farms” ในสหรัฐฯ เพื่อสมัครงานและแทรกซึมองค์กร ความผิดปกติถูกจับได้จากค่า latency การพิมพ์ที่สูงถึง 110 มิลลิวินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการควบคุมเครื่องจากต่างประเทศ พร้อมสัญญาณอื่นอย่างภาษาอังกฤษที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหตุการณ์นี้สะท้อนการเปลี่ยนยุทธวิธีของ DPRK ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เพื่อหลบการตรวจจับ และ Amazon ระบุว่าพยายามโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส
    https://securityonline.info/110-milliseconds-of-truth-how-amazon-used-lag-to-catch-a-north-korean-spy

    Dify’s Exposed Side Door: ช่องโหว่เปิดให้คนแปลกหน้าดูค่าคอนฟิกระบบ AI ได้
    แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Dify รุ่น 1.9.1 ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-63387 ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินก็เข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้ ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการโจมตีขั้นต่อไป ช่องโหว่นี้จัดเป็นระดับ High และเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงเมื่อระบบ LLM ถูกนำไปใช้จริงโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด
    https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users

    BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้ ngrok + Mocky ลอบขโมยอีเมลชาวยูเครน
    กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้บริการฟรีอย่าง Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET โดยแนบลิงก์ใน PDF เพื่อหลบระบบสแกนอีเมล ก่อนพาเหยื่อเข้าสู่เว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ผ่าน header พิเศษ แสดงให้เห็นการปรับตัวของ GRU หลังถูกกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานในปี 2024
    https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky

    “Caminho” to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ
    BlindEagle (APT-C-36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงที่แนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงกับตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนการยกระดับความซับซ้อนของกลุ่มในภูมิภาคละตินอเมริกา
    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia

    Kimsuky DOCSWAP 2.0: มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ติดผ่าน QR Code
    Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบนมือถือ Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับ DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” และคอมเมนต์ภาษาเกาหลีบนโครงสร้างพื้นฐาน
    https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes

    Exim’s Poisoned Record: แพตช์ที่พลาดเปิดช่อง SQL Injection สู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต
    รายงานใหม่เผยว่า Exim 4.99 ยังมีช่องโหว่ลึกที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากแพตช์ก่อนหน้า ทำให้ SQL injection ผ่านระบบ ratelimit สามารถนำไปสู่ heap overflow ขนาดใหญ่ถึง 1.5MB ซึ่งอาจเปิดทางสู่ RCE แม้ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้เกิดจากการ sanitize คีย์ฐานข้อมูลไม่ครบถ้วนและการอ่านค่า bloom_size โดยไม่ตรวจสอบ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถวาง “ระเบิดเวลา” ในฐานข้อมูลและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มหรือถูกควบคุมได้ในบางเงื่อนไข
    https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows

    HPE OneView RCE: ช่องโหว่ CVSS 10.0 เปิดประตูให้รันคำสั่งโดยไม่ต้องล็อกอิน
    ช่องโหว่ร้ายแรงใน HPE OneView (CVE-2025-37164) เปิดให้ผู้โจมตีเรียกใช้ API ลับ /rest/id-pools/executeCommand ที่ตั้งค่าเป็น NO_AUTH ทำให้สามารถส่งคำสั่งระบบผ่าน Runtime.exec ได้ทันที นักวิจัยพบว่าเฉพาะบางเวอร์ชัน—โดยเฉพาะ OneView for VMs 6.x และ OneView for Synergy—ได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบ และมี PoC พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผู้ดูแลต้องเร่งอัปเดตหรือใช้ hotfix โดยด่วน
    https://securityonline.info/poc-available-unauthenticated-hpe-oneview-rce-cvss-10-0-exploits-hidden-id-pools-api

    Meta พลิกทิศ: หยุดพาร์ตเนอร์ VR เพื่อทุ่มทรัพยากรสู่แว่น AI
    Meta ตัดสินใจ “พัก” โครงการเปิด Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น ASUS และ Lenovo หลังพบว่าทิศทางตลาด VR ยังไม่ชัดเจน ขณะที่แว่นอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta กลับเติบโตแรง บริษัทจึงหันไปโฟกัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเอง โดยเฉพาะสาย AI glasses และโปรเจกต์ Orion ซึ่งอาจเป็นเส้นทางสู่การใช้งานจริงในวงกว้างมากกว่า VR แบบเดิม
    https://securityonline.info/vr-vision-shift-meta-pauses-third-party-partnerships-to-pivot-toward-ai-smart-glasses

    Kimwolf Botnet: กองทัพ IoT 1.8 ล้านเครื่องที่ยิงทราฟฟิกแซง Google
    บอตเน็ต Kimwolf ที่โจมตีอุปกรณ์ Android TV และกล่องรับสัญญาณกว่า 1.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ถูกพบว่าส่งคำสั่ง DDoS มากถึง 1.7 พันล้านครั้งในช่วงไม่กี่วัน ทำให้โดเมน C2 ของมันขึ้นอันดับหนึ่งบน Cloudflare DNS แซง Google ชั่วคราว มัลแวร์นี้ไม่เพียงยิง DDoS แต่ยังมี reverse shell และ proxy forwarding ทำให้ผู้โจมตีใช้เป็นฐานปฏิบัติการขยายผลได้อย่างกว้างขวาง
    https://securityonline.info/the-wolf-among-tvs-1-8-million-strong-kimwolf-botnet-surpasses-google-traffic-to-rule-the-iot

    Windows Server 2025 ปลดล็อก NVMe Native I/O เร็วขึ้น 70% ลดโหลด CPU เกือบครึ่ง
    Microsoft เปิดใช้ Native NVMe I/O ใน Windows Server 2025 ซึ่งตัดชั้นแปลคำสั่ง SCSI/SATA ออก ทำให้ IOPS เพิ่มขึ้นสูงสุด 70% และลด CPU load ได้ถึง 45% ในงาน I/O หนัก โดยเฉพาะฐานข้อมูลและงาน AI แม้ผลลัพธ์ในชุมชนยังหลากหลาย แต่การออกแบบ pipeline ใหม่ทั้งหมดบ่งชี้ว่าระบบที่ใช้ SSD PCIe 5.0 จะได้ประโยชน์สูงสุด
    https://securityonline.info/the-end-of-scsi-windows-server-2025-unlocks-70-faster-storage-with-native-nvme-i-o

    The $100M Stalker: เครือข่าย Nefilim ล่ม—แก๊ง Big Game Hunting สารภาพผิด
    คดีใหญ่ของกลุ่มแรนซัมแวร์ Nefilim เดินหน้าเข้าสู่ตอนสำคัญเมื่อ Artem Stryzhak แฮ็กเกอร์ชาวยูเครนยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีองค์กรรายได้เกิน 100–200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้โมเดลแบ่งกำไรและระบบ “panel” ในการจัดการเหยื่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ double extortion ขโมยข้อมูลก่อนล็อกไฟล์ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังล่าตัวหัวโจกอีกคนพร้อมตั้งค่าหัว 11 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความซับซ้อนและความระแวงภายในโลกอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังถูกบีบเข้ามาเรื่อย ๆ
    https://securityonline.info/the-100m-stalker-nefilim-ransomware-affiliate-pleads-guilty-as-doj-hunts-fugitive-leader

    Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation—เข้าสู่ยุคยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บเต็มรูปแบบ
    ไมโครซอฟท์ยุติระบบโทรศัพท์สำหรับการ Activate Windows/Office ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ โดยผู้ใช้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังพอร์ทัลออนไลน์แทน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าการคำนวณ Activation ID แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกจริงหรือเพียงย้ายไปอยู่บนเว็บ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้อาจกระทบองค์กรที่ต้องการระบบ Activate แบบไม่พึ่งอินเทอร์เน็ต และสะท้อนทิศทางใหม่ที่เน้นการควบคุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น
    https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal

    OpenAI เปิดสไลเดอร์ปรับ “อารมณ์” ChatGPT—ยุติภาพลักษณ์หุ่นยนต์
    OpenAI ปรับประสบการณ์ใช้งาน ChatGPT ครั้งใหญ่ด้วยตัวเลือกปรับโทนเสียง อารมณ์ การใช้หัวข้อ/ลิสต์ และจำนวนอีโมจิ เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้มองว่า GPT-5 เย็นชาเกินไปหรือบางครั้งก็ประจบเกินเหตุ การเปิดให้ผู้ใช้ควบคุมบุคลิกของโมเดลเองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลกลางสู่ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม
    https://securityonline.info/the-end-of-robotic-ai-openai-unlocks-sliders-to-control-chatgpts-warmth-and-tone

    n8n เจอช่องโหว่ CVSS 10.0—Expression Injection พาไปสู่ยึดเซิร์ฟเวอร์เต็มตัว
    แพลตฟอร์ม workflow automation ยอดนิยม n8n เผชิญช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 10.0 ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินได้สามารถฉีดโค้ดผ่านระบบ Expression Evaluation และหลุดออกจาก sandbox ไปสั่งคำสั่งระดับระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูล แก้ไข workflow หรือยึดเครื่องแม่ข่ายได้ทันที ผู้ดูแลระบบถูกเร่งให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.122.0 โดยด่วน
    https://securityonline.info/n8n-under-fire-critical-cvss-10-0-rce-vulnerability-grants-total-server-access

    Device Code Phishing: แฮ็กเกอร์ใช้ฟีเจอร์จริงของ Microsoft 365 เพื่อยึดบัญชี
    แคมเปญโจมตีรูปแบบใหม่ใช้ “Device Code” ซึ่งเป็นฟีเจอร์จริงของ Microsoft OAuth 2.0 หลอกให้เหยื่อกรอกรหัสบนเว็บ Microsoft ที่ถูกต้อง ทำให้แอปของผู้โจมตีได้รับสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน วิธีนี้หลบการตรวจสอบ URL ปลอมได้อย่างแนบเนียน และถูกใช้โดยทั้งกลุ่มรัฐหนุนและอาชญากรไซเบอร์เพื่อยึดบัญชีองค์กรในวงกว้าง
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/hackers-abuse-device-codes-to-bypass-security-and-seize-microsoft-365-accounts
    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251222 #securityonline 🧩 Dify Side-Door Exposure: ช่องโหว่เปิดคอนฟิกระบบ LLM ให้คนแปลกหน้าเห็น ช่องโหว่ CVE‑2025‑63387 ใน Dify เวอร์ชัน 1.9.1 เปิดให้ผู้ไม่ผ่านการยืนยันตัวตนเข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้โดยตรง ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในของระบบ LLM ถูกเปิดเผยแบบไม่ตั้งใจ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นในการวางแผนโจมตีต่อเนื่อง แม้จะเป็นเพียงการรั่วไหลข้อมูล แต่ก็ถือเป็นความเสี่ยงระดับสูงสำหรับทีมที่กำลังนำ LLM ไปใช้งานจริงในสภาพแวดล้อมโปรดักชัน 🔗 https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users 🎯 BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้บริการฟรีอย่าง ngrok และ Mocky ลอบขโมยอีเมลยูเครน กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่โดยใช้บริการฟรี เช่น Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET ผ่าน PDF ล่อเหยื่อและหน้าเว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ด้วย header พิเศษ ทำให้การโจมตีแนบเนียนและตรวจจับยากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky 📨 Caminho to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ BlindEagle (APT‑C‑36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงแนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง 🔗 https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia 📱 DOCSWAP 2.0: Kimsuky ใช้ QR Code แพร่มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบน Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ พร้อมหลักฐานเชื่อมโยง DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” บนโครงสร้างพื้นฐาน 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes 🕶️ Shadows of the North: แผนที่โครงสร้างไซเบอร์ DPRK ที่เชื่อมโยงทุกกลุ่มเข้าด้วยกัน รายงานร่วมของ Hunt.io และ Acronis เปิดโปงโครงสร้างพื้นฐานไซเบอร์ของเกาหลีเหนือที่ซับซ้อนและเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา โดยพบว่า Lazarus, Kimsuky และ Bluenoroff แม้จะมีภารกิจต่างกัน แต่กลับใช้เซิร์ฟเวอร์ เครื่องมือ และโครงสร้างเครือข่ายร่วมกันอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ staging servers, credential-harvesting nodes ไปจนถึง FRP tunneling และโครงสร้างที่ผูกกับใบรับรอง SSL เดียวกัน เผยให้เห็น ecosystem ที่ทำงานแบบ “รวมศูนย์” เพื่อการจารกรรม การขโมยเงิน และปฏิบัติการทำลายล้างในระดับรัฐ 🔗 https://securityonline.info/shadows-of-the-north-unmasking-the-sprawling-cyber-infrastructure-of-the-dprk 📱 ResidentBat: สปายแวร์ KGB ที่ติดตั้งผ่านการยึดมือถือจริง ไม่ต้องพึ่ง zero‑click การสืบสวนโดย RESIDENT.NGO และ RSF พบว่า KGB เบลารุสใช้สปายแวร์ชื่อ ResidentBat ที่ติดตั้งด้วยการยึดโทรศัพท์จากนักข่าวและนักกิจกรรมระหว่างการสอบสวน ก่อนบังคับให้ปลดล็อกเครื่องเพื่อดู PIN จากนั้นเจ้าหน้าที่นำเครื่องออกไปติดตั้งแอปที่ขอสิทธิ์สูงถึง 38 รายการ รวมถึงการใช้ Accessibility Service เพื่ออ่านข้อความจากแอปเข้ารหัสอย่าง Signal และ Telegram ทำให้มือถือกลายเป็นอุปกรณ์สอดแนมเต็มรูปแบบที่สามารถบันทึกหน้าจอ คีย์บอร์ด และข้อมูลส่วนตัวทั้งหมด 🔗 https://securityonline.info/the-kgbs-all-seeing-eye-how-residentbat-spyware-turns-seized-phones-into-total-surveillance-tools 🎭 AuraStealer: มัลแวร์ที่หลอกให้เหยื่อ “แฮ็กตัวเอง” ผ่านคลิป TikTok AuraStealer มัลแวร์แบบ MaaS ที่กำลังระบาด ใช้กลยุทธ์ “Scam‑Yourself” โดยหลอกเหยื่อผ่านคลิป TikTok ที่สอนปลดล็อกซอฟต์แวร์เถื่อน เมื่อเหยื่อตามขั้นตอนและรันคำสั่ง PowerShell เอง มัลแวร์จะถูกดาวน์โหลดและรันทันที ตัวมันใช้เทคนิคป้องกันการวิเคราะห์ขั้นสูง เช่น indirect control flow และ exception‑driven API hashing พร้อมความสามารถขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์กว่า 110 ตัวและวอลเล็ตคริปโตจำนวนมาก แม้บางฟีเจอร์ยังทำงานไม่เสถียร แต่ความเสี่ยงยังสูงมาก 🔗 https://securityonline.info/tiktoks-scam-yourself-trap-how-aurastealer-malware-tricks-users-into-hacking-their-own-pcs 🧪 ClickFix Trap: หน้าตรวจสอบมนุษย์ปลอมที่นำไปสู่ Qilin Ransomware แคมเปญ ClickFix ใช้หน้า “ยืนยันว่าเป็นมนุษย์” ปลอมเพื่อหลอกให้เหยื่อดาวน์โหลด batch file ที่ติดตั้ง NetSupport RAT จากนั้นผู้โจมตีใช้ RAT เพื่อดึง StealC V2 ลงเครื่อง ก่อนใช้ข้อมูลที่ขโมยได้เจาะ VPN ขององค์กรและปล่อย Qilin ransomware ซึ่งเป็นหนึ่งใน RaaS ที่ทำเหยื่อมากที่สุดในช่วงปี 2024–2025 โซ่การโจมตีนี้เริ่มจากสคริปต์บนเว็บที่ถูกแฮ็กและจบลงด้วยการเข้ารหัสระบบทั้งองค์กร 🔗 https://securityonline.info/clickfix-trap-fake-human-verification-leads-to-qilin-ransomware-infection 🐾 Cellik Android RAT: มัลแวร์ที่แฝงตัวในแอป Google Play อย่างแนบเนียน Cellik เป็น Android RAT แบบบริการเช่า ที่ให้ผู้โจมตีเลือกแอปจาก Google Play แล้ว “ฉีด” payload ลงไปผ่านระบบ APK Builder ทำให้แอปที่ดูปกติกลายเป็นเครื่องมือสอดแนมเต็มรูปแบบ มันรองรับการสตรีมหน้าจอแบบเรียลไทม์ ควบคุมเครื่องจากระยะไกล เปิดกล้อง/ไมค์ และใช้ hidden browser เพื่อทำธุรกรรมหรือขโมยข้อมูลโดยที่ผู้ใช้ไม่เห็นอะไรบนหน้าจอ ถือเป็นการยกระดับภัยคุกคามมือถือให้เข้าถึงได้แม้กับอาชญากรทักษะต่ำ 🔗 https://securityonline.info/the-silent-hijacker-new-cellik-android-rat-turns-legitimate-google-play-apps-into-surveillance-tools 🕵️‍♀️ 110 Milliseconds of Truth: Amazon ใช้ “ดีเลย์คีย์บอร์ด” เปิดโปงสายลับเกาหลีเหนือ Amazon เปิดเผยปฏิบัติการสกัดแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือที่ปลอมตัวเป็นพนักงานรีโมต โดยใช้ “laptop farms” ในสหรัฐฯ เพื่อสมัครงานและแทรกซึมองค์กร ความผิดปกติถูกจับได้จากค่า latency การพิมพ์ที่สูงถึง 110 มิลลิวินาที ซึ่งบ่งชี้ว่ามีการควบคุมเครื่องจากต่างประเทศ พร้อมสัญญาณอื่นอย่างภาษาอังกฤษที่ไม่เป็นธรรมชาติ เหตุการณ์นี้สะท้อนการเปลี่ยนยุทธวิธีของ DPRK ที่ใช้โครงสร้างพื้นฐานในสหรัฐฯ เพื่อหลบการตรวจจับ และ Amazon ระบุว่าพยายามโจมตีเพิ่มขึ้นกว่า 27% ต่อไตรมาส 🔗 https://securityonline.info/110-milliseconds-of-truth-how-amazon-used-lag-to-catch-a-north-korean-spy 🧩 Dify’s Exposed Side Door: ช่องโหว่เปิดให้คนแปลกหน้าดูค่าคอนฟิกระบบ AI ได้ แพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส Dify รุ่น 1.9.1 ถูกพบช่องโหว่ CVE-2025-63387 ที่ปล่อยให้ผู้ใช้ไม่ต้องล็อกอินก็เข้าถึง endpoint /console/api/system-features ได้ ทำให้ข้อมูลคอนฟิกภายในหลุดออกสู่สาธารณะ ซึ่งอาจถูกใช้เป็นจุดตั้งต้นของการโจมตีขั้นต่อไป ช่องโหว่นี้จัดเป็นระดับ High และเป็นตัวอย่างของความเสี่ยงเมื่อระบบ LLM ถูกนำไปใช้จริงโดยไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์ที่เข้มงวด 🔗 https://securityonline.info/ais-exposed-side-door-dify-flaw-cve-2025-63387-leaks-system-configs-to-anonymous-users 🎯 BlueDelta’s Silent Shift: GRU ใช้ ngrok + Mocky ลอบขโมยอีเมลชาวยูเครน กลุ่ม BlueDelta (APT28) ของรัสเซียปรับยุทธวิธีใหม่ ใช้บริการฟรีอย่าง Mocky, DNS EXIT และ ngrok เพื่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชั่วคราวสำหรับขโมยบัญชี UKR.NET โดยแนบลิงก์ใน PDF เพื่อหลบระบบสแกนอีเมล ก่อนพาเหยื่อเข้าสู่เว็บปลอมที่ดักทั้งรหัสผ่านและ 2FA แบบเรียลไทม์ พร้อมเทคนิคข้ามหน้าเตือนของ ngrok ผ่าน header พิเศษ แสดงให้เห็นการปรับตัวของ GRU หลังถูกกวาดล้างโครงสร้างพื้นฐานในปี 2024 🔗 https://securityonline.info/the-grus-silent-shift-how-bluedelta-hijacks-ukrainian-webmail-using-ngrok-and-mocky 📨 “Caminho” to Compromise: BlindEagle ใช้อีเมลภายในรัฐโคลอมเบียโจมตีแบบเนียนกริบ BlindEagle (APT-C-36) ใช้บัญชีอีเมลภายในหน่วยงานรัฐโคลอมเบียที่ถูกยึดไปแล้ว ส่งฟิชชิงที่แนบ SVG เพื่อนำเหยื่อไปยังเว็บปลอมของศาลแรงงาน ก่อนเรียกใช้ JavaScript + PowerShell แบบ fileless และดาวน์โหลดภาพที่ซ่อนโค้ดผ่าน steganography เพื่อติดตั้ง Caminho downloader ซึ่งเชื่อมโยงกับตลาดมืดบราซิล และสุดท้ายดึง DCRAT ลงเครื่อง เหตุการณ์นี้สะท้อนการยกระดับความซับซ้อนของกลุ่มในภูมิภาคละตินอเมริกา 🔗 https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia 📱 Kimsuky DOCSWAP 2.0: มัลแวร์มือถือเวอร์ชันใหม่ติดผ่าน QR Code Kimsuky กลุ่มแฮ็กเกอร์เกาหลีเหนือเปิดตัว DOCSWAP รุ่นอัปเกรดที่แพร่ผ่าน QR code และ smishing เพื่อหลอกให้เหยื่อติดตั้งแอปปลอมบนมือถือ Android ตัวมัลแวร์ใช้ native decryption และ decoy behavior ใหม่เพื่อหลบการวิเคราะห์ ก่อนปลดล็อก RAT ที่สามารถขโมยไฟล์ ควบคุมเครื่อง และส่งข้อมูลกลับเซิร์ฟเวอร์ โดยมีหลักฐานเชื่อมโยงกับ DPRK ผ่านข้อความ “Million OK!!!” และคอมเมนต์ภาษาเกาหลีบนโครงสร้างพื้นฐาน 🔗 https://securityonline.info/north-koreas-kimsuky-upgrades-docswap-malware-to-hijack-smartphones-via-qr-codes 📡 Exim’s Poisoned Record: แพตช์ที่พลาดเปิดช่อง SQL Injection สู่ Heap Overflow ระดับวิกฤต รายงานใหม่เผยว่า Exim 4.99 ยังมีช่องโหว่ลึกที่ไม่ได้รับการแก้ไขจากแพตช์ก่อนหน้า ทำให้ SQL injection ผ่านระบบ ratelimit สามารถนำไปสู่ heap overflow ขนาดใหญ่ถึง 1.5MB ซึ่งอาจเปิดทางสู่ RCE แม้ยังไม่ยืนยันเต็มรูปแบบ ช่องโหว่นี้เกิดจากการ sanitize คีย์ฐานข้อมูลไม่ครบถ้วนและการอ่านค่า bloom_size โดยไม่ตรวจสอบ ส่งผลให้ผู้โจมตีสามารถวาง “ระเบิดเวลา” ในฐานข้อมูลและทำให้เซิร์ฟเวอร์ล่มหรือถูกควบคุมได้ในบางเงื่อนไข 🔗 https://securityonline.info/exims-poisoned-record-how-a-failed-patch-and-sql-injection-lead-to-critical-heap-overflows 🖥️ HPE OneView RCE: ช่องโหว่ CVSS 10.0 เปิดประตูให้รันคำสั่งโดยไม่ต้องล็อกอิน ช่องโหว่ร้ายแรงใน HPE OneView (CVE-2025-37164) เปิดให้ผู้โจมตีเรียกใช้ API ลับ /rest/id-pools/executeCommand ที่ตั้งค่าเป็น NO_AUTH ทำให้สามารถส่งคำสั่งระบบผ่าน Runtime.exec ได้ทันที นักวิจัยพบว่าเฉพาะบางเวอร์ชัน—โดยเฉพาะ OneView for VMs 6.x และ OneView for Synergy—ได้รับผลกระทบเต็มรูปแบบ และมี PoC พร้อมใช้งานแล้ว ทำให้ผู้ดูแลต้องเร่งอัปเดตหรือใช้ hotfix โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/poc-available-unauthenticated-hpe-oneview-rce-cvss-10-0-exploits-hidden-id-pools-api 🕶️ Meta พลิกทิศ: หยุดพาร์ตเนอร์ VR เพื่อทุ่มทรัพยากรสู่แว่น AI Meta ตัดสินใจ “พัก” โครงการเปิด Horizon OS ให้ผู้ผลิตรายอื่น เช่น ASUS และ Lenovo หลังพบว่าทิศทางตลาด VR ยังไม่ชัดเจน ขณะที่แว่นอัจฉริยะอย่าง Ray-Ban Meta กลับเติบโตแรง บริษัทจึงหันไปโฟกัสฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของตัวเอง โดยเฉพาะสาย AI glasses และโปรเจกต์ Orion ซึ่งอาจเป็นเส้นทางสู่การใช้งานจริงในวงกว้างมากกว่า VR แบบเดิม 🔗 https://securityonline.info/vr-vision-shift-meta-pauses-third-party-partnerships-to-pivot-toward-ai-smart-glasses 🐺 Kimwolf Botnet: กองทัพ IoT 1.8 ล้านเครื่องที่ยิงทราฟฟิกแซง Google บอตเน็ต Kimwolf ที่โจมตีอุปกรณ์ Android TV และกล่องรับสัญญาณกว่า 1.8 ล้านเครื่องทั่วโลก ถูกพบว่าส่งคำสั่ง DDoS มากถึง 1.7 พันล้านครั้งในช่วงไม่กี่วัน ทำให้โดเมน C2 ของมันขึ้นอันดับหนึ่งบน Cloudflare DNS แซง Google ชั่วคราว มัลแวร์นี้ไม่เพียงยิง DDoS แต่ยังมี reverse shell และ proxy forwarding ทำให้ผู้โจมตีใช้เป็นฐานปฏิบัติการขยายผลได้อย่างกว้างขวาง 🔗 https://securityonline.info/the-wolf-among-tvs-1-8-million-strong-kimwolf-botnet-surpasses-google-traffic-to-rule-the-iot ⚡ Windows Server 2025 ปลดล็อก NVMe Native I/O เร็วขึ้น 70% ลดโหลด CPU เกือบครึ่ง Microsoft เปิดใช้ Native NVMe I/O ใน Windows Server 2025 ซึ่งตัดชั้นแปลคำสั่ง SCSI/SATA ออก ทำให้ IOPS เพิ่มขึ้นสูงสุด 70% และลด CPU load ได้ถึง 45% ในงาน I/O หนัก โดยเฉพาะฐานข้อมูลและงาน AI แม้ผลลัพธ์ในชุมชนยังหลากหลาย แต่การออกแบบ pipeline ใหม่ทั้งหมดบ่งชี้ว่าระบบที่ใช้ SSD PCIe 5.0 จะได้ประโยชน์สูงสุด 🔗 https://securityonline.info/the-end-of-scsi-windows-server-2025-unlocks-70-faster-storage-with-native-nvme-i-o 🕵️‍♂️ The $100M Stalker: เครือข่าย Nefilim ล่ม—แก๊ง Big Game Hunting สารภาพผิด คดีใหญ่ของกลุ่มแรนซัมแวร์ Nefilim เดินหน้าเข้าสู่ตอนสำคัญเมื่อ Artem Stryzhak แฮ็กเกอร์ชาวยูเครนยอมรับสารภาพว่ามีส่วนร่วมในปฏิบัติการโจมตีองค์กรรายได้เกิน 100–200 ล้านดอลลาร์ โดยใช้โมเดลแบ่งกำไรและระบบ “panel” ในการจัดการเหยื่อ พร้อมใช้กลยุทธ์ double extortion ขโมยข้อมูลก่อนล็อกไฟล์ ขณะเดียวกันสหรัฐฯ ยังล่าตัวหัวโจกอีกคนพร้อมตั้งค่าหัว 11 ล้านดอลลาร์ สะท้อนความซับซ้อนและความระแวงภายในโลกอาชญากรรมไซเบอร์ที่กำลังถูกบีบเข้ามาเรื่อย ๆ 🔗 https://securityonline.info/the-100m-stalker-nefilim-ransomware-affiliate-pleads-guilty-as-doj-hunts-fugitive-leader ☎️ Microsoft ปิดฉาก Telephone Activation—เข้าสู่ยุคยืนยันสิทธิ์ผ่านเว็บเต็มรูปแบบ ไมโครซอฟท์ยุติระบบโทรศัพท์สำหรับการ Activate Windows/Office ที่เคยเป็นทางเลือกสำคัญในสภาพแวดล้อมออฟไลน์ โดยผู้ใช้ถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังพอร์ทัลออนไลน์แทน แม้ยังไม่ชัดเจนว่าการคำนวณ Activation ID แบบออฟไลน์ถูกยกเลิกจริงหรือเพียงย้ายไปอยู่บนเว็บ แต่การเปลี่ยนผ่านนี้อาจกระทบองค์กรที่ต้องการระบบ Activate แบบไม่พึ่งอินเทอร์เน็ต และสะท้อนทิศทางใหม่ที่เน้นการควบคุมผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น 🔗 https://securityonline.info/hang-up-the-phone-microsoft-retires-telephone-activation-for-an-online-portal 🤖 OpenAI เปิดสไลเดอร์ปรับ “อารมณ์” ChatGPT—ยุติภาพลักษณ์หุ่นยนต์ OpenAI ปรับประสบการณ์ใช้งาน ChatGPT ครั้งใหญ่ด้วยตัวเลือกปรับโทนเสียง อารมณ์ การใช้หัวข้อ/ลิสต์ และจำนวนอีโมจิ เพื่อแก้ปัญหาที่ผู้ใช้มองว่า GPT-5 เย็นชาเกินไปหรือบางครั้งก็ประจบเกินเหตุ การเปิดให้ผู้ใช้ควบคุมบุคลิกของโมเดลเองสะท้อนการเปลี่ยนผ่านจากโมเดลกลางสู่ประสบการณ์เฉพาะบุคคลที่ยืดหยุ่นกว่าเดิม 🔗 https://securityonline.info/the-end-of-robotic-ai-openai-unlocks-sliders-to-control-chatgpts-warmth-and-tone ⚠️ n8n เจอช่องโหว่ CVSS 10.0—Expression Injection พาไปสู่ยึดเซิร์ฟเวอร์เต็มตัว แพลตฟอร์ม workflow automation ยอดนิยม n8n เผชิญช่องโหว่ร้ายแรงระดับ 10.0 ที่เปิดทางให้ผู้ใช้ที่ล็อกอินได้สามารถฉีดโค้ดผ่านระบบ Expression Evaluation และหลุดออกจาก sandbox ไปสั่งคำสั่งระดับระบบปฏิบัติการ ส่งผลให้ผู้โจมตีเข้าถึงข้อมูล แก้ไข workflow หรือยึดเครื่องแม่ข่ายได้ทันที ผู้ดูแลระบบถูกเร่งให้อัปเดตเป็นเวอร์ชัน 1.122.0 โดยด่วน 🔗 https://securityonline.info/n8n-under-fire-critical-cvss-10-0-rce-vulnerability-grants-total-server-access 🔐 Device Code Phishing: แฮ็กเกอร์ใช้ฟีเจอร์จริงของ Microsoft 365 เพื่อยึดบัญชี แคมเปญโจมตีรูปแบบใหม่ใช้ “Device Code” ซึ่งเป็นฟีเจอร์จริงของ Microsoft OAuth 2.0 หลอกให้เหยื่อกรอกรหัสบนเว็บ Microsoft ที่ถูกต้อง ทำให้แอปของผู้โจมตีได้รับสิทธิ์เข้าถึงบัญชีโดยไม่ต้องใช้รหัสผ่าน วิธีนี้หลบการตรวจสอบ URL ปลอมได้อย่างแนบเนียน และถูกใช้โดยทั้งกลุ่มรัฐหนุนและอาชญากรไซเบอร์เพื่อยึดบัญชีองค์กรในวงกว้าง ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/hackers-abuse-device-codes-to-bypass-security-and-seize-microsoft-365-accounts
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • Schedule: แอป Kanban แบบออฟไลน์สำหรับ Linux — เมื่อ “ความเรียบง่าย” กลายเป็นจุดแข็ง

    Schedule คือแอปจัดการงานส่วนตัวที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ Linux ที่ต้องการระบบที่เบา เรียบง่าย และไม่ต้องพึ่งพา Cloud เลยแม้แต่นิดเดียว ตัวแอปสร้างบน GTK4 และ Libadwaita ทำให้หน้าตากลมกลืนกับ GNOME อย่างเป็นธรรมชาติ จุดเด่นคือมันทำหน้าที่เหมือน “กระดานโพสต์อิทดิจิทัล” ที่คุณสามารถลากการ์ดไปมาระหว่างคอลัมน์ได้อย่างลื่นไหล โดยไม่ต้องผ่าน onboarding หรือเมนูซับซ้อนใดๆ

    ความยืดหยุ่นของ Schedule ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับกระดานให้เข้ากับ workflow ของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็น Kanban แบบคลาสสิก, ปฏิทินคอนเทนต์, หรือกระดานงานบ้าน คุณสามารถเพิ่มคอลัมน์ใหม่ เปลี่ยนชื่อคอลัมน์ และจัดเรียงการ์ดได้ตามใจชอบ พร้อมระบบ autosave ที่บันทึกทุกการเปลี่ยนแปลงทันทีโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ

    อีกหนึ่งจุดแข็งคือการทำงานแบบ “offline‑first” อย่างแท้จริง ไม่มีบัญชีผู้ใช้ ไม่มีการซิงก์ข้อมูลขึ้นคลาวด์ และไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโฟกัสแบบลึก (deep work) หรือผู้ที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ export กระดานออกมาเป็นไฟล์เพื่อสำรองข้อมูลได้ง่ายๆ

    อย่างไรก็ตาม ความเรียบง่ายนี้ก็มาพร้อมข้อจำกัด เช่น ไม่มีระบบแจ้งเตือน ไม่มีการซิงก์ข้ามอุปกรณ์ และไม่มีแอปมือถือ หากคุณต้องการระบบที่ซับซ้อนแบบ Sunsama หรือ Notion อาจรู้สึกว่ามัน “เบาเกินไป” แต่สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องมือที่ไม่รบกวนสมาธิและไม่พยายามเป็นทุกอย่างในเวลาเดียวกัน Schedule คือคำตอบที่ตรงไปตรงมาที่สุดในโลก Linux

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Schedule เป็นแอป Kanban แบบออฟไลน์สำหรับ Linux
    ใช้ GTK4 + Libadwaita ทำงานลื่นและกลมกลืนกับ GNOME
    ไม่มี onboarding ซับซ้อน เปิดมาก็ใช้งานได้ทันที

    ยืดหยุ่นและปรับแต่ง workflow ได้ตามใจ
    เปลี่ยนชื่อคอลัมน์ เพิ่มลิสต์ใหม่ และลากการ์ดได้อย่างลื่นไหล
    เหมาะกับ Kanban, content planning, หรือ life admin board

    ออกแบบแบบ offline‑first และเน้นความเป็นส่วนตัว
    ไม่มีบัญชี ไม่มีคลาวด์ ไม่มีการเก็บข้อมูล
    autosave และ export กระดานได้ง่าย

    ข้อจำกัดที่ผู้ใช้ต้องพิจารณา
    ไม่มีระบบแจ้งเตือนหรือ reminder
    ไม่มีการซิงก์ข้ามอุปกรณ์และไม่มีแอปมือถือ

    อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ระดับโปร
    ไม่รองรับ workflow ซับซ้อนแบบ Sunsama หรือ Notion
    ใช้ได้ดีเฉพาะงานส่วนตัว ไม่เหมาะกับทีมขนาดใหญ่

    https://itsfoss.com/schedule-kanban-board/
    🗂️ Schedule: แอป Kanban แบบออฟไลน์สำหรับ Linux — เมื่อ “ความเรียบง่าย” กลายเป็นจุดแข็ง Schedule คือแอปจัดการงานส่วนตัวที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ Linux ที่ต้องการระบบที่เบา เรียบง่าย และไม่ต้องพึ่งพา Cloud เลยแม้แต่นิดเดียว ตัวแอปสร้างบน GTK4 และ Libadwaita ทำให้หน้าตากลมกลืนกับ GNOME อย่างเป็นธรรมชาติ จุดเด่นคือมันทำหน้าที่เหมือน “กระดานโพสต์อิทดิจิทัล” ที่คุณสามารถลากการ์ดไปมาระหว่างคอลัมน์ได้อย่างลื่นไหล โดยไม่ต้องผ่าน onboarding หรือเมนูซับซ้อนใดๆ ความยืดหยุ่นของ Schedule ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับกระดานให้เข้ากับ workflow ของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็น Kanban แบบคลาสสิก, ปฏิทินคอนเทนต์, หรือกระดานงานบ้าน คุณสามารถเพิ่มคอลัมน์ใหม่ เปลี่ยนชื่อคอลัมน์ และจัดเรียงการ์ดได้ตามใจชอบ พร้อมระบบ autosave ที่บันทึกทุกการเปลี่ยนแปลงทันทีโดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ อีกหนึ่งจุดแข็งคือการทำงานแบบ “offline‑first” อย่างแท้จริง ไม่มีบัญชีผู้ใช้ ไม่มีการซิงก์ข้อมูลขึ้นคลาวด์ และไม่มีการเก็บข้อมูลส่วนตัวใดๆ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโฟกัสแบบลึก (deep work) หรือผู้ที่กังวลเรื่องความเป็นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ export กระดานออกมาเป็นไฟล์เพื่อสำรองข้อมูลได้ง่ายๆ อย่างไรก็ตาม ความเรียบง่ายนี้ก็มาพร้อมข้อจำกัด เช่น ไม่มีระบบแจ้งเตือน ไม่มีการซิงก์ข้ามอุปกรณ์ และไม่มีแอปมือถือ หากคุณต้องการระบบที่ซับซ้อนแบบ Sunsama หรือ Notion อาจรู้สึกว่ามัน “เบาเกินไป” แต่สำหรับผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องมือที่ไม่รบกวนสมาธิและไม่พยายามเป็นทุกอย่างในเวลาเดียวกัน Schedule คือคำตอบที่ตรงไปตรงมาที่สุดในโลก Linux 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Schedule เป็นแอป Kanban แบบออฟไลน์สำหรับ Linux ➡️ ใช้ GTK4 + Libadwaita ทำงานลื่นและกลมกลืนกับ GNOME ➡️ ไม่มี onboarding ซับซ้อน เปิดมาก็ใช้งานได้ทันที ✅ ยืดหยุ่นและปรับแต่ง workflow ได้ตามใจ ➡️ เปลี่ยนชื่อคอลัมน์ เพิ่มลิสต์ใหม่ และลากการ์ดได้อย่างลื่นไหล ➡️ เหมาะกับ Kanban, content planning, หรือ life admin board ✅ ออกแบบแบบ offline‑first และเน้นความเป็นส่วนตัว ➡️ ไม่มีบัญชี ไม่มีคลาวด์ ไม่มีการเก็บข้อมูล ➡️ autosave และ export กระดานได้ง่าย ‼️ ข้อจำกัดที่ผู้ใช้ต้องพิจารณา ⛔ ไม่มีระบบแจ้งเตือนหรือ reminder ⛔ ไม่มีการซิงก์ข้ามอุปกรณ์และไม่มีแอปมือถือ ‼️ อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการฟีเจอร์ระดับโปร ⛔ ไม่รองรับ workflow ซับซ้อนแบบ Sunsama หรือ Notion ⛔ ใช้ได้ดีเฉพาะงานส่วนตัว ไม่เหมาะกับทีมขนาดใหญ่ https://itsfoss.com/schedule-kanban-board/
    ITSFOSS.COM
    Away from Cloud: This Local, Offline Tool is Perfect for Personal Project Management on Linux Desktop
    We have all been there. You start the week with a massive to-do list, only to feel overwhelmed by Tuesday afternoon. While heavy-duty project management tools exist, sometimes you just need a digital version of "sticky notes on a wall".
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • สั่ง DDR5 แต่ได้ DDR4 ซ่อนใต้ฮีตสเปรดเดอร์ — สัญญาณเตือนใหม่ของ “supply‑chain fraud” ในยุคแรมแพง

    ราคาของ DDR5 ที่พุ่งสูงและสินค้าขาดตลาดทำให้การหลอกลวงในตลาดฮาร์ดแวร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งในยุโรปพบว่าแรม DDR5 ที่สั่งจาก Amazon (ขายและจัดส่งโดย Amazon เอง) ถูกสลับไส้ในเป็น DDR4 โดยมีการนำฮีตสเปรดเดอร์ของ DDR5 มาครอบทับเพื่อให้ดูเหมือนของแท้ เมื่อเขาพยายามเสียบลงเมนบอร์ด ร่องบน PCB กลับไม่ตรงกัน ทำให้รู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ

    ที่น่าตกใจคือสินค้าชิ้นนี้ไม่ได้ถูกระบุว่าเป็นของมือสองหรือ open‑box แต่เป็นของใหม่ทั้งหมด ซึ่งบ่งชี้ว่าการสลับสินค้าอาจเกิดขึ้น “ภายในซัพพลายเชนของ Amazon เอง” ไม่ใช่จากผู้ขายภายนอก ผู้ใช้รายนี้โชคดีที่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน และยังได้คืนมากกว่าที่จ่ายไป เนื่องจากราคาปัจจุบันสูงขึ้นกว่าเดิมราว £100

    เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้มีผู้ซื้อในสเปนที่ได้ DDR2 ใส่ตุ้มน้ำหนักปลอมเป็น DDR5 และอีกคนที่สั่งแรมโน้ตบุ๊กแล้วถูกขโมยของในพัสดุ เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนปัญหาใหญ่ของตลาดฮาร์ดแวร์ที่กำลังเผชิญ “return fraud” และ “component swapping” มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสินค้าที่มีราคาสูงและขาดตลาดอย่าง DDR5

    Tom’s Hardware จึงเตือนผู้ใช้ให้ “ถ่ายวิดีโอทุกครั้งที่แกะกล่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์” เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดปัญหา เพราะแม้จะซื้อจากผู้ค้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ก็ยังมีความเสี่ยงจากการสลับสินค้าในขั้นตอนโลจิสติกส์ที่ผู้ซื้อไม่สามารถมองเห็นได้เลย

    สรุปประเด็นสำคัญ
    พบการสลับ DDR5 เป็น DDR4 ภายใต้ฮีตสเปรดเดอร์
    ผู้ซื้อสังเกตว่าฮีตสเปรดเดอร์หลวมและร่อง PCB ไม่ตรง
    เป็นการปลอมแปลงที่ทำให้ดูเหมือนของใหม่สมบูรณ์

    สินค้าถูกขายและจัดส่งโดย Amazon เอง
    ไม่ใช่สินค้ามือสองหรือ open‑box
    บ่งชี้ว่าการสลับอาจเกิดในซัพพลายเชนของ Amazon

    มีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นหลายครั้ง
    เคยมีผู้ได้ DDR2 ใส่ตุ้มน้ำหนักปลอมเป็น DDR5
    มีเคสพัสดุถูกขโมยหรือสลับของในระหว่างขนส่ง

    ความเสี่ยงจากการหลอกลวงในตลาดฮาร์ดแวร์
    ราคาสูงและสินค้าขาดตลาดทำให้ DDR5 เป็นเป้าหมายหลัก
    การสลับสินค้าในซัพพลายเชนเป็นภัยที่ผู้ซื้อควบคุมไม่ได้

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/unlucky-amazon-shopper-orders-ddr5-memory-but-gets-ddr4-hidden-under-the-heatspreader-ram-sold-as-new-was-a-switcharoo
    🧨 สั่ง DDR5 แต่ได้ DDR4 ซ่อนใต้ฮีตสเปรดเดอร์ — สัญญาณเตือนใหม่ของ “supply‑chain fraud” ในยุคแรมแพง ราคาของ DDR5 ที่พุ่งสูงและสินค้าขาดตลาดทำให้การหลอกลวงในตลาดฮาร์ดแวร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด ผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งในยุโรปพบว่าแรม DDR5 ที่สั่งจาก Amazon (ขายและจัดส่งโดย Amazon เอง) ถูกสลับไส้ในเป็น DDR4 โดยมีการนำฮีตสเปรดเดอร์ของ DDR5 มาครอบทับเพื่อให้ดูเหมือนของแท้ เมื่อเขาพยายามเสียบลงเมนบอร์ด ร่องบน PCB กลับไม่ตรงกัน ทำให้รู้ทันทีว่ามีบางอย่างผิดปกติ ที่น่าตกใจคือสินค้าชิ้นนี้ไม่ได้ถูกระบุว่าเป็นของมือสองหรือ open‑box แต่เป็นของใหม่ทั้งหมด ซึ่งบ่งชี้ว่าการสลับสินค้าอาจเกิดขึ้น “ภายในซัพพลายเชนของ Amazon เอง” ไม่ใช่จากผู้ขายภายนอก ผู้ใช้รายนี้โชคดีที่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน และยังได้คืนมากกว่าที่จ่ายไป เนื่องจากราคาปัจจุบันสูงขึ้นกว่าเดิมราว £100 เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก ก่อนหน้านี้มีผู้ซื้อในสเปนที่ได้ DDR2 ใส่ตุ้มน้ำหนักปลอมเป็น DDR5 และอีกคนที่สั่งแรมโน้ตบุ๊กแล้วถูกขโมยของในพัสดุ เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนปัญหาใหญ่ของตลาดฮาร์ดแวร์ที่กำลังเผชิญ “return fraud” และ “component swapping” มากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะสินค้าที่มีราคาสูงและขาดตลาดอย่าง DDR5 Tom’s Hardware จึงเตือนผู้ใช้ให้ “ถ่ายวิดีโอทุกครั้งที่แกะกล่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์” เพื่อใช้เป็นหลักฐานหากเกิดปัญหา เพราะแม้จะซื้อจากผู้ค้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ก็ยังมีความเสี่ยงจากการสลับสินค้าในขั้นตอนโลจิสติกส์ที่ผู้ซื้อไม่สามารถมองเห็นได้เลย 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ พบการสลับ DDR5 เป็น DDR4 ภายใต้ฮีตสเปรดเดอร์ ➡️ ผู้ซื้อสังเกตว่าฮีตสเปรดเดอร์หลวมและร่อง PCB ไม่ตรง ➡️ เป็นการปลอมแปลงที่ทำให้ดูเหมือนของใหม่สมบูรณ์ ✅ สินค้าถูกขายและจัดส่งโดย Amazon เอง ➡️ ไม่ใช่สินค้ามือสองหรือ open‑box ➡️ บ่งชี้ว่าการสลับอาจเกิดในซัพพลายเชนของ Amazon ✅ มีเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นหลายครั้ง ➡️ เคยมีผู้ได้ DDR2 ใส่ตุ้มน้ำหนักปลอมเป็น DDR5 ➡️ มีเคสพัสดุถูกขโมยหรือสลับของในระหว่างขนส่ง ‼️ ความเสี่ยงจากการหลอกลวงในตลาดฮาร์ดแวร์ ⛔ ราคาสูงและสินค้าขาดตลาดทำให้ DDR5 เป็นเป้าหมายหลัก ⛔ การสลับสินค้าในซัพพลายเชนเป็นภัยที่ผู้ซื้อควบคุมไม่ได้ https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/unlucky-amazon-shopper-orders-ddr5-memory-but-gets-ddr4-hidden-under-the-heatspreader-ram-sold-as-new-was-a-switcharoo
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • Atari Hotel เปิดระดมทุนสาธารณะ — โรงแรมธีมเกมยุคคลาสสิกมูลค่า $124M ที่คุณเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินเพียง $500

    โครงการ Atari Hotel ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งหลังจากเงียบไปหลายปี โดยตอนนี้โครงการแรกกำลังจะถูกสร้างขึ้นที่ Phoenix, Arizona พร้อมเปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุนผ่าน Regulation A Tier 2 ของ SEC ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง $500 การลงทุนนี้ไม่ใช่การซื้อของที่ระลึก แต่เป็นการถือหุ้นจริงในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีธีมเกมยุคเรโทรและวัฒนธรรมป๊อปเป็นแกนกลาง

    แม้ชื่อ Atari จะถูกใช้เป็นแบรนด์หลัก แต่โรงแรมนี้ไม่ได้สร้างโดยบริษัท Atari เอง หากเป็นผลงานของ Intersection Development และดีไซเนอร์ räkkhaus ที่ได้รับสิทธิ์ใช้แบรนด์ Atari เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ “cyberpunk arena” ที่ผสมผสานเกม เทคโนโลยี และศิลปะเข้าด้วยกัน ภาพเรนเดอร์ของโครงการเผยให้เห็นพื้นที่กว่า 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์ ร้านค้า และล็อบบี้ที่เต็มไปด้วย LED walls ขนาดใหญ่

    โครงการนี้มีงบประมาณรวม $124 ล้าน โดยระดมทุนไปแล้ว $14 ล้าน และตั้งเป้าเพิ่มอีก $35–40 ล้าน แต่ตามกฎของ SEC สามารถรับเงินได้สูงสุดถึง $75 ล้าน นักลงทุนจะได้รับสิทธิ์เข้าชมไซต์แบบ virtual ก่อนเปิดจริง และมี “digital brick” ของตัวเองในล็อบบี้ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนอสังหาฯ กับวัฒนธรรมแฟนคลับในยุคดิจิทัล

    โรงแรมมีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปีหน้า และตั้งเป้าเปิดให้บริการช่วงกลางถึงปลายปี 2028 แม้จะมีความเสี่ยงด้านเงินทุนและความไม่แน่นอนของตลาดอสังหาฯ แต่โครงการนี้สะท้อนความพยายามของแบรนด์ Atari ที่กำลังทดลองเส้นทางใหม่ๆ ตั้งแต่ NFT ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อฟื้นบทบาทของตนในโลกสมัยใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    โครงการ Atari Hotel เปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุน
    ใช้ Regulation A Tier 2 ของ SEC
    เริ่มลงทุนได้ที่ $500 และสูงสุดกว่า $50,000

    โรงแรมธีมเกมและวัฒนธรรมป๊อปมูลค่า $124 ล้าน
    พื้นที่รวม 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์และร้านค้า
    ล็อบบี้มี LED walls และงานศิลปะตามธีม Atari

    สิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุน
    virtual tour ก่อนเปิดจริง
    “digital brick” ในล็อบบี้เป็นสัญลักษณ์การมีส่วนร่วม

    ความเสี่ยงด้านเงินทุนและการก่อสร้าง
    ต้องการเงินอย่างน้อย ~$8.7M เพื่อให้ข้อเสนอเดินหน้าต่อ
    แม้จะรับได้สูงสุด $75M แต่ยังต้องหาเงินเพิ่มจากแหล่งอื่น

    ความไม่แน่นอนของแบรนด์ Atari ในยุคใหม่
    เคยทดลองธุรกิจหลากหลาย เช่น crypto และ NFT ที่ไม่ประสบความสำเร็จ
    โครงการอาจถูกมองว่าใช้แบรนด์ Atari เพื่อดึงดูดนักลงทุนมากกว่าการสร้างคุณค่าจริง

    https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/you-can-own-a-piece-of-the-first-usd124-million-atari-hotel-in-phoenix-for-as-little-as-usd500-developer-launches-sec-backed-fundraiser-with-construction-set-to-begin-next-year
    🏨 Atari Hotel เปิดระดมทุนสาธารณะ — โรงแรมธีมเกมยุคคลาสสิกมูลค่า $124M ที่คุณเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินเพียง $500 โครงการ Atari Hotel ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 กลับมาเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งหลังจากเงียบไปหลายปี โดยตอนนี้โครงการแรกกำลังจะถูกสร้างขึ้นที่ Phoenix, Arizona พร้อมเปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุนผ่าน Regulation A Tier 2 ของ SEC ด้วยเงินเริ่มต้นเพียง $500 การลงทุนนี้ไม่ใช่การซื้อของที่ระลึก แต่เป็นการถือหุ้นจริงในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่มีธีมเกมยุคเรโทรและวัฒนธรรมป๊อปเป็นแกนกลาง แม้ชื่อ Atari จะถูกใช้เป็นแบรนด์หลัก แต่โรงแรมนี้ไม่ได้สร้างโดยบริษัท Atari เอง หากเป็นผลงานของ Intersection Development และดีไซเนอร์ räkkhaus ที่ได้รับสิทธิ์ใช้แบรนด์ Atari เพื่อสร้างประสบการณ์แบบ “cyberpunk arena” ที่ผสมผสานเกม เทคโนโลยี และศิลปะเข้าด้วยกัน ภาพเรนเดอร์ของโครงการเผยให้เห็นพื้นที่กว่า 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์ ร้านค้า และล็อบบี้ที่เต็มไปด้วย LED walls ขนาดใหญ่ โครงการนี้มีงบประมาณรวม $124 ล้าน โดยระดมทุนไปแล้ว $14 ล้าน และตั้งเป้าเพิ่มอีก $35–40 ล้าน แต่ตามกฎของ SEC สามารถรับเงินได้สูงสุดถึง $75 ล้าน นักลงทุนจะได้รับสิทธิ์เข้าชมไซต์แบบ virtual ก่อนเปิดจริง และมี “digital brick” ของตัวเองในล็อบบี้ ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างการลงทุนอสังหาฯ กับวัฒนธรรมแฟนคลับในยุคดิจิทัล โรงแรมมีกำหนดเริ่มก่อสร้างในปีหน้า และตั้งเป้าเปิดให้บริการช่วงกลางถึงปลายปี 2028 แม้จะมีความเสี่ยงด้านเงินทุนและความไม่แน่นอนของตลาดอสังหาฯ แต่โครงการนี้สะท้อนความพยายามของแบรนด์ Atari ที่กำลังทดลองเส้นทางใหม่ๆ ตั้งแต่ NFT ไปจนถึงสินค้าไลฟ์สไตล์ เพื่อฟื้นบทบาทของตนในโลกสมัยใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ โครงการ Atari Hotel เปิดให้บุคคลทั่วไปลงทุน ➡️ ใช้ Regulation A Tier 2 ของ SEC ➡️ เริ่มลงทุนได้ที่ $500 และสูงสุดกว่า $50,000 ✅ โรงแรมธีมเกมและวัฒนธรรมป๊อปมูลค่า $124 ล้าน ➡️ พื้นที่รวม 118,770 ตารางฟุต พร้อมสปอร์ตเซ็นเตอร์และร้านค้า ➡️ ล็อบบี้มี LED walls และงานศิลปะตามธีม Atari ✅ สิทธิพิเศษสำหรับนักลงทุน ➡️ virtual tour ก่อนเปิดจริง ➡️ “digital brick” ในล็อบบี้เป็นสัญลักษณ์การมีส่วนร่วม ‼️ ความเสี่ยงด้านเงินทุนและการก่อสร้าง ⛔ ต้องการเงินอย่างน้อย ~$8.7M เพื่อให้ข้อเสนอเดินหน้าต่อ ⛔ แม้จะรับได้สูงสุด $75M แต่ยังต้องหาเงินเพิ่มจากแหล่งอื่น ‼️ ความไม่แน่นอนของแบรนด์ Atari ในยุคใหม่ ⛔ เคยทดลองธุรกิจหลากหลาย เช่น crypto และ NFT ที่ไม่ประสบความสำเร็จ ⛔ โครงการอาจถูกมองว่าใช้แบรนด์ Atari เพื่อดึงดูดนักลงทุนมากกว่าการสร้างคุณค่าจริง https://www.tomshardware.com/video-games/retro-gaming/you-can-own-a-piece-of-the-first-usd124-million-atari-hotel-in-phoenix-for-as-little-as-usd500-developer-launches-sec-backed-fundraiser-with-construction-set-to-begin-next-year
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 140
    SET + DELTA หน้าตาสดใส ดูบรรยายในคลิป
    BY.
    EP 140 SET + DELTA หน้าตาสดใส ดูบรรยายในคลิป BY.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Flock และ Cyble ใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” เป็นอาวุธเพื่อปิดปากนักวิจารณ์

    ในเหตุการณ์ที่สะท้อนปัญหาความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐและบริษัทเทคโนโลยี Cyble Inc. ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ “Disrupt Cybercrime” ได้ยื่นรายงานเท็จต่อ Cloudflare เพื่อให้ลบเว็บไซต์ HaveIBeenFlocked ออกจากอินเทอร์เน็ต โดยอ้างว่ามีการ “ฟิชชิง” และ “ละเมิดเครื่องหมายการค้า” ทั้งที่เนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นเพียงการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวังของ Flock

    รายงานที่ Cyble ส่งไปเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่ชัดเจน ตั้งแต่การกล่าวหาว่าเว็บไซต์เป็นของปลอม ไปจนถึงการอ้างว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลที่ “ได้มาจาก Flock” ทั้งที่ข้อมูลเหล่านั้นเป็นบันทึกสาธารณะอยู่แล้ว ผู้เขียนบทความตั้งข้อสังเกตว่าการกล่าวหาแบบหว่านแหเช่นนี้อาจเป็นความพยายามปิดปากผู้วิจารณ์มากกว่าจะเป็นการป้องกันภัยไซเบอร์จริงๆ

    Cloudflare เองตอบกลับด้วยคำขอให้แสดงหลักฐานว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสาธารณะหรือได้รับความยินยอม ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิงเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายเว็บไซต์ได้ย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare และยังคงเผยแพร่ข้อมูลต่อไป โดยผู้เขียนย้ำว่าจะไม่ยอมให้การคุกคามเช่นนี้หยุดการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและบริษัทเอกชน

    เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก: บริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบเฝ้าระวังพยายามใช้กฎหมายไซเบอร์หรือข้อกล่าวหาเท็จเพื่อปิดกั้นการตรวจสอบสาธารณะ ซึ่งเป็นประเด็นที่นักสิทธิมนุษยชนและองค์กรตรวจสอบหลายแห่งจับตามองอย่างใกล้ชิด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Cyble ส่งรายงานเท็จเพื่อให้ลบเว็บไซต์ออกจากอินเทอร์เน็ต
    กล่าวหาว่าเว็บไซต์ฟิชชิงและละเมิดเครื่องหมายการค้า
    ข้อกล่าวหาไม่สอดคล้องกับเนื้อหาจริงบนเว็บไซต์

    เป้าหมายคือการปิดปากผู้วิจารณ์ Flock
    เว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวัง
    การกล่าวหาอาจเป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นจากการตรวจสอบ

    Cloudflare ขอหลักฐานเพิ่มเติมแต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริง
    คำถามของ Cloudflare ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิง
    เว็บไซต์จึงย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare

    ความเสี่ยงต่อเสรีภาพในการตรวจสอบอำนาจรัฐและบริษัทเทคโนโลยี
    การใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” แบบผิดๆ อาจกลายเป็นเครื่องมือปิดปากสาธารณะ
    แนวโน้มนี้อาจขยายไปสู่การคุกคามผู้สื่อข่าว นักวิจัย และนักสิทธิมนุษยชน

    ผลกระทบต่อความโปร่งใสของระบบเฝ้าระวัง
    หากบริษัทสามารถปิดกั้นข้อมูลได้ง่าย ความรับผิดชอบต่อสังคมจะลดลง
    สังคมอาจไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตของรัฐหรือเอกชนได้

    https://haveibeenflocked.com/news/cyble-downtime
    🛡️ Flock และ Cyble ใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” เป็นอาวุธเพื่อปิดปากนักวิจารณ์ ในเหตุการณ์ที่สะท้อนปัญหาความโปร่งใสของหน่วยงานรัฐและบริษัทเทคโนโลยี Cyble Inc. ซึ่งอ้างตัวว่าเป็นผู้ “Disrupt Cybercrime” ได้ยื่นรายงานเท็จต่อ Cloudflare เพื่อให้ลบเว็บไซต์ HaveIBeenFlocked ออกจากอินเทอร์เน็ต โดยอ้างว่ามีการ “ฟิชชิง” และ “ละเมิดเครื่องหมายการค้า” ทั้งที่เนื้อหาบนเว็บไซต์เป็นเพียงการเผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวังของ Flock รายงานที่ Cyble ส่งไปเต็มไปด้วยข้อกล่าวหาที่ไม่ชัดเจน ตั้งแต่การกล่าวหาว่าเว็บไซต์เป็นของปลอม ไปจนถึงการอ้างว่ามีการเผยแพร่ข้อมูลที่ “ได้มาจาก Flock” ทั้งที่ข้อมูลเหล่านั้นเป็นบันทึกสาธารณะอยู่แล้ว ผู้เขียนบทความตั้งข้อสังเกตว่าการกล่าวหาแบบหว่านแหเช่นนี้อาจเป็นความพยายามปิดปากผู้วิจารณ์มากกว่าจะเป็นการป้องกันภัยไซเบอร์จริงๆ Cloudflare เองตอบกลับด้วยคำขอให้แสดงหลักฐานว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นข้อมูลสาธารณะหรือได้รับความยินยอม ซึ่งผู้เขียนมองว่าเป็นคำถามที่ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิงเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายเว็บไซต์ได้ย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare และยังคงเผยแพร่ข้อมูลต่อไป โดยผู้เขียนย้ำว่าจะไม่ยอมให้การคุกคามเช่นนี้หยุดการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐและบริษัทเอกชน เหตุการณ์นี้สะท้อนแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก: บริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบเฝ้าระวังพยายามใช้กฎหมายไซเบอร์หรือข้อกล่าวหาเท็จเพื่อปิดกั้นการตรวจสอบสาธารณะ ซึ่งเป็นประเด็นที่นักสิทธิมนุษยชนและองค์กรตรวจสอบหลายแห่งจับตามองอย่างใกล้ชิด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Cyble ส่งรายงานเท็จเพื่อให้ลบเว็บไซต์ออกจากอินเทอร์เน็ต ➡️ กล่าวหาว่าเว็บไซต์ฟิชชิงและละเมิดเครื่องหมายการค้า ➡️ ข้อกล่าวหาไม่สอดคล้องกับเนื้อหาจริงบนเว็บไซต์ ✅ เป้าหมายคือการปิดปากผู้วิจารณ์ Flock ➡️ เว็บไซต์เผยแพร่ข้อมูลสาธารณะเกี่ยวกับการใช้งานระบบเฝ้าระวัง ➡️ การกล่าวหาอาจเป็นความพยายามเบี่ยงเบนประเด็นจากการตรวจสอบ ✅ Cloudflare ขอหลักฐานเพิ่มเติมแต่ไม่ได้แก้ปัญหาที่แท้จริง ➡️ คำถามของ Cloudflare ไม่เกี่ยวข้องกับข้อกล่าวหาเรื่องฟิชชิง ➡️ เว็บไซต์จึงย้ายออกจากโครงสร้างพื้นฐานของ Cloudflare ‼️ ความเสี่ยงต่อเสรีภาพในการตรวจสอบอำนาจรัฐและบริษัทเทคโนโลยี ⛔ การใช้ข้อกล่าวหา “Cybercrime” แบบผิดๆ อาจกลายเป็นเครื่องมือปิดปากสาธารณะ ⛔ แนวโน้มนี้อาจขยายไปสู่การคุกคามผู้สื่อข่าว นักวิจัย และนักสิทธิมนุษยชน ‼️ ผลกระทบต่อความโปร่งใสของระบบเฝ้าระวัง ⛔ หากบริษัทสามารถปิดกั้นข้อมูลได้ง่าย ความรับผิดชอบต่อสังคมจะลดลง ⛔ สังคมอาจไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจที่เกินขอบเขตของรัฐหรือเอกชนได้ https://haveibeenflocked.com/news/cyble-downtime
    HAVEIBEENFLOCKED.COM
    Have I Been Flocked? - License Plate Privacy Check
    Check if your license plate has been searched in the Flock mass surveillance database
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • GnuCash 5.14 อัปเดตใหญ่: เพิ่มการรองรับ US Bonds และยกระดับระบบดึงข้อมูลการเงิน

    GnuCash 5.14 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญอย่างการรองรับ US Bonds ผ่านโมดูล Finance::Quote ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดึงราคาของพันธบัตรสหรัฐฯ ประเภท E, EE และ I ได้โดยตรงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ การเพิ่มความสามารถนี้สะท้อนทิศทางของ GnuCash ที่ต้องการเป็นเครื่องมือบัญชีส่วนบุคคลและธุรกิจขนาดเล็กที่ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ต้องการติดตามสินทรัพย์หลากหลายประเภทในพอร์ตเดียว

    การอัปเดตครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามต่อเนื่องในการทำให้ GnuCash รองรับสินทรัพย์ทางการเงินที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เติบโตในปี 2025 เมื่อผู้ใช้ทั่วไปเริ่มลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น ทั้งเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพื่อรับผลตอบแทนที่มั่นคงกว่าในสภาวะเศรษฐกิจผันผวน การรองรับ US Bonds จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ GnuCash แข่งขันกับซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ได้ดีขึ้น

    นอกจากนี้ การอัปเดตยังคงเน้นความเสถียรและการแก้ไขบั๊กในหลายส่วน ซึ่งเป็นจุดแข็งของโครงการโอเพ่นซอร์สที่มีชุมชนผู้ใช้และผู้พัฒนาขนาดใหญ่ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ GnuCash ยังคงเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์บัญชีฟรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน Linux, Windows และ macOS โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังอย่างละเอียด

    ในภาพรวม GnuCash 5.14 เป็นอัปเดตที่แม้จะดูเล็ก แต่มีผลต่อผู้ใช้ที่ลงทุนในตราสารหนี้อย่างชัดเจน และยังเป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนากำลังผลักดันให้ซอฟต์แวร์รองรับสินทรัพย์ทางการเงินที่หลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ทันกับความต้องการของผู้ใช้ยุคใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ฟีเจอร์ใหม่ใน GnuCash 5.14
    รองรับ US Bonds (E, EE, I) ผ่าน Finance::Quote
    ดึงข้อมูลราคาพันธบัตรได้โดยตรงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์

    ทิศทางการพัฒนา
    เน้นรองรับสินทรัพย์การเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น
    ปรับปรุงเสถียรภาพและแก้ไขบั๊กอย่างต่อเนื่อง

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    การดึงข้อมูล Finance::Quote อาจขึ้นกับความพร้อมของแหล่งข้อมูลภายนอก
    ผู้ใช้ที่ไม่อัปเดตโมดูล Perl อาจพบปัญหาการดึงข้อมูล

    คำแนะนำสำหรับผู้ใช้
    อัปเดต GnuCash และ Finance::Quote ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด
    ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลพันธบัตรก่อนบันทึกในบัญชี

    https://9to5linux.com/gnucash-5-14-open-source-accounting-software-adds-support-for-us-bonds
    💵 GnuCash 5.14 อัปเดตใหญ่: เพิ่มการรองรับ US Bonds และยกระดับระบบดึงข้อมูลการเงิน GnuCash 5.14 มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญอย่างการรองรับ US Bonds ผ่านโมดูล Finance::Quote ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถดึงราคาของพันธบัตรสหรัฐฯ ประเภท E, EE และ I ได้โดยตรงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ การเพิ่มความสามารถนี้สะท้อนทิศทางของ GnuCash ที่ต้องการเป็นเครื่องมือบัญชีส่วนบุคคลและธุรกิจขนาดเล็กที่ตอบโจทย์การลงทุนยุคใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ใช้ที่ต้องการติดตามสินทรัพย์หลากหลายประเภทในพอร์ตเดียว การอัปเดตครั้งนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามต่อเนื่องในการทำให้ GnuCash รองรับสินทรัพย์ทางการเงินที่ซับซ้อนขึ้น ซึ่งเป็นเทรนด์ที่เติบโตในปี 2025 เมื่อผู้ใช้ทั่วไปเริ่มลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น ทั้งเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพื่อรับผลตอบแทนที่มั่นคงกว่าในสภาวะเศรษฐกิจผันผวน การรองรับ US Bonds จึงเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ GnuCash แข่งขันกับซอฟต์แวร์เชิงพาณิชย์ได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การอัปเดตยังคงเน้นความเสถียรและการแก้ไขบั๊กในหลายส่วน ซึ่งเป็นจุดแข็งของโครงการโอเพ่นซอร์สที่มีชุมชนผู้ใช้และผู้พัฒนาขนาดใหญ่ การพัฒนาอย่างต่อเนื่องนี้ทำให้ GnuCash ยังคงเป็นหนึ่งในซอฟต์แวร์บัญชีฟรีที่ได้รับความนิยมสูงสุดบน Linux, Windows และ macOS โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการความโปร่งใสและความสามารถในการตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังอย่างละเอียด ในภาพรวม GnuCash 5.14 เป็นอัปเดตที่แม้จะดูเล็ก แต่มีผลต่อผู้ใช้ที่ลงทุนในตราสารหนี้อย่างชัดเจน และยังเป็นสัญญาณว่าทีมพัฒนากำลังผลักดันให้ซอฟต์แวร์รองรับสินทรัพย์ทางการเงินที่หลากหลายขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ทันกับความต้องการของผู้ใช้ยุคใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ฟีเจอร์ใหม่ใน GnuCash 5.14 ➡️ รองรับ US Bonds (E, EE, I) ผ่าน Finance::Quote ➡️ ดึงข้อมูลราคาพันธบัตรได้โดยตรงจากแหล่งข้อมูลออนไลน์ ✅ ทิศทางการพัฒนา ➡️ เน้นรองรับสินทรัพย์การเงินที่ซับซ้อนมากขึ้น ➡️ ปรับปรุงเสถียรภาพและแก้ไขบั๊กอย่างต่อเนื่อง ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ การดึงข้อมูล Finance::Quote อาจขึ้นกับความพร้อมของแหล่งข้อมูลภายนอก ⛔ ผู้ใช้ที่ไม่อัปเดตโมดูล Perl อาจพบปัญหาการดึงข้อมูล ‼️ คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ ⛔ อัปเดต GnuCash และ Finance::Quote ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุด ⛔ ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลพันธบัตรก่อนบันทึกในบัญชี https://9to5linux.com/gnucash-5-14-open-source-accounting-software-adds-support-for-us-bonds
    9TO5LINUX.COM
    GnuCash 5.14 Open-Source Accounting Software Adds Support for US Bonds - 9to5Linux
    GnuCash 5.14 open-source, free, and cross-platform accounting software is now available for download with various improvements and bug fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • Linux Gaming พุ่งแรงรับปลายปี: 13 เกมเด่นใน Steam Winter Sale ที่คอ Linux ไม่ควรพลาด

    Steam Winter Sale ปี 2025 กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของวงการเกมบน Linux เพราะจำนวนเกมที่รองรับ Proton และ Steam Deck เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ Linux สามารถเข้าถึงเกมระดับ AAA ได้มากกว่ายุคก่อนหลายเท่า รายชื่อเกมที่ถูกคัดมาบนหน้าเว็บนี้สะท้อนภาพรวมของ ecosystem ที่โตขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่เกมอินดี้ราคาประหยัดไปจนถึงเกมฟอร์มยักษ์ที่เคยเป็นไปไม่ได้สำหรับ Linux เมื่อหลายปีก่อน

    สิ่งที่โดดเด่นคือเกมหลากหลายแนว ทั้ง RPG, Survival Horror, Extraction Shooter, Sandbox และ Adventure ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับสถานะ Verified บน Steam Deck แสดงให้เห็นว่าการปรับแต่ง compatibility layer อย่าง Proton ทำงานได้ดีขึ้นมาก นอกจากนี้ เกมอย่าง Dying Light, The Last of Us Part I และ Metal Gear Solid Δ ยังเป็นตัวอย่างของเกมที่แม้ไม่รองรับ Linux แบบ native แต่ก็เล่นได้ดีผ่าน Proton ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเลือกเกมตามระบบปฏิบัติการอีกต่อไปเหมือนในอดีต

    อีกเทรนด์ที่น่าสนใจคือเกมอินดี้คุณภาพสูง เช่น Tiny Glade, R.E.P.O., และ Escape From Duckov ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในชุมชน Linux เพราะราคาเข้าถึงง่ายและรองรับ Steam Deck ได้ดี การเติบโตของเกมอินดี้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างขึ้นสำหรับนักพัฒนาเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องพึ่ง engine หรือระบบ DRM ที่ผูกกับ Windows แบบเดิม ๆ

    ท้ายที่สุด รายการนี้ยังชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้ Linux มีตัวเลือกมากขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งเกม native และเกมที่เล่นผ่าน Proton โดยมีส่วนลดแรงในช่วง Winter Sale ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการขยายคลังเกมของผู้ใช้ Linux โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้ Steam Deck หรือเครื่อง Linux แบบ custom build

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทรนด์ Linux Gaming ปี 2025
    Proton และ Steam Deck ทำให้เกม AAA เล่นได้ง่ายขึ้น
    เกมอินดี้คุณภาพสูงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

    เกมเด่นที่ลดราคาแรง
    The Last of Us Part I, Dying Light, Expedition 33 ลดสูงสุดถึง 50–85%
    เกม native Linux เช่น Tiny Glade และ Dying Light (ภาคแรก) ทำงานได้ดีมาก

    ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง
    เกมบางเกมยังเป็น “Unsupported” บน Steam Deck เช่น Mafia: The Old Country และ MGS Δ
    ประสบการณ์การเล่นอาจขึ้นกับเวอร์ชัน Proton และสเปกเครื่อง

    คำแนะนำก่อนซื้อ
    ตรวจสอบ ProtonDB ก่อนซื้อเกม AAA
    อัปเดต SteamOS/Proton ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความเสถียร

    https://itsfoss.com/news/linux-games-steam-winter-sale-2025/
    🎮 Linux Gaming พุ่งแรงรับปลายปี: 13 เกมเด่นใน Steam Winter Sale ที่คอ Linux ไม่ควรพลาด Steam Winter Sale ปี 2025 กลายเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของวงการเกมบน Linux เพราะจำนวนเกมที่รองรับ Proton และ Steam Deck เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ใช้ Linux สามารถเข้าถึงเกมระดับ AAA ได้มากกว่ายุคก่อนหลายเท่า รายชื่อเกมที่ถูกคัดมาบนหน้าเว็บนี้สะท้อนภาพรวมของ ecosystem ที่โตขึ้นอย่างชัดเจน ตั้งแต่เกมอินดี้ราคาประหยัดไปจนถึงเกมฟอร์มยักษ์ที่เคยเป็นไปไม่ได้สำหรับ Linux เมื่อหลายปีก่อน สิ่งที่โดดเด่นคือเกมหลากหลายแนว ทั้ง RPG, Survival Horror, Extraction Shooter, Sandbox และ Adventure ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับสถานะ Verified บน Steam Deck แสดงให้เห็นว่าการปรับแต่ง compatibility layer อย่าง Proton ทำงานได้ดีขึ้นมาก นอกจากนี้ เกมอย่าง Dying Light, The Last of Us Part I และ Metal Gear Solid Δ ยังเป็นตัวอย่างของเกมที่แม้ไม่รองรับ Linux แบบ native แต่ก็เล่นได้ดีผ่าน Proton ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องเลือกเกมตามระบบปฏิบัติการอีกต่อไปเหมือนในอดีต อีกเทรนด์ที่น่าสนใจคือเกมอินดี้คุณภาพสูง เช่น Tiny Glade, R.E.P.O., และ Escape From Duckov ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในชุมชน Linux เพราะราคาเข้าถึงง่ายและรองรับ Steam Deck ได้ดี การเติบโตของเกมอินดี้สะท้อนความเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมที่เปิดกว้างขึ้นสำหรับนักพัฒนาเล็ก ๆ ที่ไม่ต้องพึ่ง engine หรือระบบ DRM ที่ผูกกับ Windows แบบเดิม ๆ ท้ายที่สุด รายการนี้ยังชี้ให้เห็นว่าผู้ใช้ Linux มีตัวเลือกมากขึ้นกว่าเดิมมาก ทั้งเกม native และเกมที่เล่นผ่าน Proton โดยมีส่วนลดแรงในช่วง Winter Sale ทำให้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดสำหรับการขยายคลังเกมของผู้ใช้ Linux โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ใช้ Steam Deck หรือเครื่อง Linux แบบ custom build 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทรนด์ Linux Gaming ปี 2025 ➡️ Proton และ Steam Deck ทำให้เกม AAA เล่นได้ง่ายขึ้น ➡️ เกมอินดี้คุณภาพสูงได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ✅ เกมเด่นที่ลดราคาแรง ➡️ The Last of Us Part I, Dying Light, Expedition 33 ลดสูงสุดถึง 50–85% ➡️ เกม native Linux เช่น Tiny Glade และ Dying Light (ภาคแรก) ทำงานได้ดีมาก ‼️ ประเด็นที่ผู้ใช้ควรระวัง ⛔ เกมบางเกมยังเป็น “Unsupported” บน Steam Deck เช่น Mafia: The Old Country และ MGS Δ ⛔ ประสบการณ์การเล่นอาจขึ้นกับเวอร์ชัน Proton และสเปกเครื่อง ‼️ คำแนะนำก่อนซื้อ ⛔ ตรวจสอบ ProtonDB ก่อนซื้อเกม AAA ⛔ อัปเดต SteamOS/Proton ให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อความเสถียร https://itsfoss.com/news/linux-games-steam-winter-sale-2025/
    ITSFOSS.COM
    13 Awesome Games Linux Users Can Grab in Steam Winter Sale 🎮 (Ends 5 January)
    End 2025 on a winning note by grabbing some fun games for your Linux gaming rig!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • BlindEagle ยกระดับการโจมตี: ใช้อีเมลภายใน + Steganography + Caminho Downloader เจาะรัฐบาลโคลอมเบีย

    กลุ่ม BlindEagle (APT‑C‑36) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เล่นหลักด้านไซเบอร์สอดแนมในละตินอเมริกา ได้เปิดปฏิบัติการใหม่ที่ซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป้าหมายคือหน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ของโคลอมเบีย โดยใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดครองเพื่อหลอกระบบป้องกันขององค์กรให้เชื่อว่าเป็นการสื่อสารที่ถูกต้องตามปกติ การโจมตีครั้งนี้สะท้อนเทรนด์ใหญ่ของปี 2025 ที่กลุ่ม APT หันมาใช้ “trusted channel compromise” มากขึ้น เพราะสามารถหลบ SPF, DKIM, DMARC ได้อย่างแนบเนียน

    แคมเปญนี้เริ่มจากอีเมลปลอมที่อ้างว่าเป็นประกาศจากศาลแรงงานของโคลอมเบีย พร้อมแนบไฟล์ SVG ที่ดูไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อเหยื่อคลิก ระบบจะพาไปยังเว็บปลอมที่เลียนแบบศาลจริง และดาวน์โหลด “ใบเสร็จ” ที่เป็นตัวจุดชนวนการโจมตีแบบ file‑less ประกอบด้วย JavaScript สามชุดและ PowerShell หนึ่งชุด ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อหลบการตรวจจับของ endpoint security รุ่นเก่าอย่างมีประสิทธิภาพ

    BlindEagle ยังใช้เทคนิค steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ภาพที่ดาวน์โหลดจาก Internet Archive โดยซ่อน payload ไว้ระหว่าง BaseStart–BaseEnd ซึ่งเป็นเทคนิคที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมในหมู่กลุ่ม APT เพราะ bypass ระบบตรวจจับ signature‑based ได้ดีมาก จากนั้นจึงดึง Caminho — downloader ที่คาดว่ามาจากตลาดใต้ดินบราซิล — เพื่อโหลด DCRAT จาก Discord CDN ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ผู้โจมตีใช้บริการ cloud ปกติเป็นโครงสร้างพื้นฐานโจมตี (legitimate‑service abuse)

    การผสานกันของ internal account compromise, steganography และ modular malware ทำให้ BlindEagle ก้าวสู่ระดับความซับซ้อนใหม่อย่างชัดเจน และสะท้อนว่ากลุ่มนี้กำลังขยายขีดความสามารถจากการโจมตีแบบ single‑payload ไปสู่ multi‑stage attack chain ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิมอย่างมาก องค์กรในภูมิภาคละตินอเมริกาจึงต้องเตรียมรับมือกับภัยคุกคามที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วนี้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เทคนิคโจมตีที่ BlindEagle ใช้
    ใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดเพื่อหลบ SPF/DKIM/DMARC
    ส่งไฟล์ SVG ที่ redirect ไปเว็บปลอมของศาล

    โซ่การโจมตีแบบหลายชั้น
    JavaScript 3 ชุด + PowerShell 1 ชุดแบบ file‑less
    ใช้ steganography ซ่อนโค้ดในไฟล์ภาพจาก Internet Archive

    ความเสี่ยงระดับสูงต่อองค์กร
    การใช้ trusted internal accounts ทำให้ระบบตรวจจับแทบไม่ทำงาน
    Abuse Discord CDN เพื่อโหลด DCRAT ทำให้บล็อกยากขึ้น

    คำแนะนำเชิงปฏิบัติ
    ตรวจสอบบัญชีภายในที่มีพฤติกรรมผิดปกติอย่างเข้มงวด
    ปรับปรุง email security ให้ตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่ authentication

    https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia/
    🕵️‍♂️ BlindEagle ยกระดับการโจมตี: ใช้อีเมลภายใน + Steganography + Caminho Downloader เจาะรัฐบาลโคลอมเบีย กลุ่ม BlindEagle (APT‑C‑36) ซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้เล่นหลักด้านไซเบอร์สอดแนมในละตินอเมริกา ได้เปิดปฏิบัติการใหม่ที่ซับซ้อนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เป้าหมายคือหน่วยงานภายใต้กระทรวงพาณิชย์ของโคลอมเบีย โดยใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดครองเพื่อหลอกระบบป้องกันขององค์กรให้เชื่อว่าเป็นการสื่อสารที่ถูกต้องตามปกติ การโจมตีครั้งนี้สะท้อนเทรนด์ใหญ่ของปี 2025 ที่กลุ่ม APT หันมาใช้ “trusted channel compromise” มากขึ้น เพราะสามารถหลบ SPF, DKIM, DMARC ได้อย่างแนบเนียน แคมเปญนี้เริ่มจากอีเมลปลอมที่อ้างว่าเป็นประกาศจากศาลแรงงานของโคลอมเบีย พร้อมแนบไฟล์ SVG ที่ดูไม่เป็นอันตราย แต่เมื่อเหยื่อคลิก ระบบจะพาไปยังเว็บปลอมที่เลียนแบบศาลจริง และดาวน์โหลด “ใบเสร็จ” ที่เป็นตัวจุดชนวนการโจมตีแบบ file‑less ประกอบด้วย JavaScript สามชุดและ PowerShell หนึ่งชุด ซึ่งทั้งหมดถูกออกแบบมาเพื่อหลบการตรวจจับของ endpoint security รุ่นเก่าอย่างมีประสิทธิภาพ BlindEagle ยังใช้เทคนิค steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ภาพที่ดาวน์โหลดจาก Internet Archive โดยซ่อน payload ไว้ระหว่าง BaseStart–BaseEnd ซึ่งเป็นเทคนิคที่กำลังกลับมาได้รับความนิยมในหมู่กลุ่ม APT เพราะ bypass ระบบตรวจจับ signature‑based ได้ดีมาก จากนั้นจึงดึง Caminho — downloader ที่คาดว่ามาจากตลาดใต้ดินบราซิล — เพื่อโหลด DCRAT จาก Discord CDN ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่ผู้โจมตีใช้บริการ cloud ปกติเป็นโครงสร้างพื้นฐานโจมตี (legitimate‑service abuse) การผสานกันของ internal account compromise, steganography และ modular malware ทำให้ BlindEagle ก้าวสู่ระดับความซับซ้อนใหม่อย่างชัดเจน และสะท้อนว่ากลุ่มนี้กำลังขยายขีดความสามารถจากการโจมตีแบบ single‑payload ไปสู่ multi‑stage attack chain ที่ยืดหยุ่นกว่าเดิมอย่างมาก องค์กรในภูมิภาคละตินอเมริกาจึงต้องเตรียมรับมือกับภัยคุกคามที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็วนี้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เทคนิคโจมตีที่ BlindEagle ใช้ ➡️ ใช้บัญชีอีเมลภายในที่ถูกยึดเพื่อหลบ SPF/DKIM/DMARC ➡️ ส่งไฟล์ SVG ที่ redirect ไปเว็บปลอมของศาล ✅ โซ่การโจมตีแบบหลายชั้น ➡️ JavaScript 3 ชุด + PowerShell 1 ชุดแบบ file‑less ➡️ ใช้ steganography ซ่อนโค้ดในไฟล์ภาพจาก Internet Archive ‼️ ความเสี่ยงระดับสูงต่อองค์กร ⛔ การใช้ trusted internal accounts ทำให้ระบบตรวจจับแทบไม่ทำงาน ⛔ Abuse Discord CDN เพื่อโหลด DCRAT ทำให้บล็อกยากขึ้น ‼️ คำแนะนำเชิงปฏิบัติ ⛔ ตรวจสอบบัญชีภายในที่มีพฤติกรรมผิดปกติอย่างเข้มงวด ⛔ ปรับปรุง email security ให้ตรวจจับพฤติกรรม ไม่ใช่แค่ authentication https://securityonline.info/caminho-to-compromise-blindeagle-hackers-hijack-government-emails-in-colombia/
    SECURITYONLINE.INFO
    "Caminho" to Compromise: BlindEagle Hackers Hijack Government Emails in Colombia
    A notorious cyber-espionage group known for terrorizing South American institutions has launched a new campaign against the Colombian
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นอีกครั้งที่อเมริกา พยายามเข้ามาแทรกแซงยุติการสู้รบรอบ 2 ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตามคราวนี้ วอชิงตัน ได้ส่งเสียงเพิ่มเติมเข้ามา เรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศ ถอนอาวุธหนักและหยุดวางทุ่นระเบิด ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของไทยมาช้านาน ตั้งแต่ก่อนการปะทะรอบ 2 และปฏิบัติตามปฏิญญาสันติภาพกัวลาลัมเปอร์เต็มรูปแบบ
    .
    "เรายินดีที่พวกผู้นำอาเซียน กำลังมารวมตัวกันในสัปดาห์นี้ เพื่อสนับสนุนกัมพูชาและไทย ยึดถือพันธสัญญาของพวกเขาอย่างเต็มที่ เพื่อยุติความขัดแย้ง" ทอมมี พิกกอตต์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าว
    .
    เสียงเรียกร้องครั้งใหม่นี้ มีขึ้นก่อนหน้าการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะมีขึ้นในวันจันทร์(22ธ.ค.) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
    .
    นายสีหศักดิ์​พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เน้นย้ำก่อนออกเดินทางไปยังกัวลาลัมเปอร์ ว่าการประชุมของอาเซียนในครั้งนี้ จะเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศอื่น ๆ ไม่สามารถใช้ในการกดดันไทยได้ เนื่องจากไทยมีจุดยืน ท่าที และแนวปฏิบัติที่ตั้งอยู่บนหลักการสากล ความชอบธรรม ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ โดยไทยมิได้เป็นผู้ริเริ่มการปะทะในครั้งนี้ และเงื่อนไขของไทยในการยุติความขัดแย้งมีความชัดเจนมาโดยตลอด
    .
    กระทรวงการต่างประเทศของไทยเน้นย้ำจุดยืน 2 ข้อ ก็คือ 1 กัมพูชาต้องเป็นฝ่ายประกาศหยุดยิงก่อน 2.การหยุดยิงจะต้องเกิดขึ้นจริง อย่างต่อเนื่องและมีการสังเกตการณ์ และ3.ฝ่ายกัมพูชาต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับฝ่ายไทยอย่างจริงจัง
    .
    เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุรัฐบาลอเมริกา คาดหวังว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้งภายในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อยุติการสู้รบระลอกล่าสุดระหว่างไทยและกัมพูชา
    .
    ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้อ้างความสำเร็จในการผลักดันให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงก่อนหน้านี้ และจัดให้ข้อพิพาทไทย-กัมพูชาอยู่ในรายชื่อสงครามที่เขาอ้างว่า "ได้รับการแก้ไขแล้ว"
    .
    "ทั้งสองฝ่ายได้ให้คำมั่นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรและลงนามแล้ว" รูบิโอ กล่าว "ปัจจุบันคำมั่นสัญญาเหล่านั้นไม่ได้รับการปฏิบัติตาม เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันและกัน ดังนั้น ภารกิจในตอนนี้คือการนำพวกเขากลับมาเจรจากันอีกครั้ง"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123011

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    เป็นอีกครั้งที่อเมริกา พยายามเข้ามาแทรกแซงยุติการสู้รบรอบ 2 ที่ยืดเยื้อมาตั้งแต่ช่วงต้นเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตามคราวนี้ วอชิงตัน ได้ส่งเสียงเพิ่มเติมเข้ามา เรียกร้องให้ทั้ง 2 ประเทศ ถอนอาวุธหนักและหยุดวางทุ่นระเบิด ซึ่งเคยเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของไทยมาช้านาน ตั้งแต่ก่อนการปะทะรอบ 2 และปฏิบัติตามปฏิญญาสันติภาพกัวลาลัมเปอร์เต็มรูปแบบ . "เรายินดีที่พวกผู้นำอาเซียน กำลังมารวมตัวกันในสัปดาห์นี้ เพื่อสนับสนุนกัมพูชาและไทย ยึดถือพันธสัญญาของพวกเขาอย่างเต็มที่ เพื่อยุติความขัดแย้ง" ทอมมี พิกกอตต์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯกล่าว . เสียงเรียกร้องครั้งใหม่นี้ มีขึ้นก่อนหน้าการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งจะมีขึ้นในวันจันทร์(22ธ.ค.) ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย . นายสีหศักดิ์​พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เน้นย้ำก่อนออกเดินทางไปยังกัวลาลัมเปอร์ ว่าการประชุมของอาเซียนในครั้งนี้ จะเป็นเวทีที่ประเทศสมาชิกอาเซียน รวมถึงประเทศอื่น ๆ ไม่สามารถใช้ในการกดดันไทยได้ เนื่องจากไทยมีจุดยืน ท่าที และแนวปฏิบัติที่ตั้งอยู่บนหลักการสากล ความชอบธรรม ข้อมูลและหลักฐานเชิงประจักษ์ โดยไทยมิได้เป็นผู้ริเริ่มการปะทะในครั้งนี้ และเงื่อนไขของไทยในการยุติความขัดแย้งมีความชัดเจนมาโดยตลอด . กระทรวงการต่างประเทศของไทยเน้นย้ำจุดยืน 2 ข้อ ก็คือ 1 กัมพูชาต้องเป็นฝ่ายประกาศหยุดยิงก่อน 2.การหยุดยิงจะต้องเกิดขึ้นจริง อย่างต่อเนื่องและมีการสังเกตการณ์ และ3.ฝ่ายกัมพูชาต้องร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับฝ่ายไทยอย่างจริงจัง . เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุรัฐบาลอเมริกา คาดหวังว่าจะมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงอีกครั้งภายในต้นสัปดาห์หน้า เพื่อยุติการสู้รบระลอกล่าสุดระหว่างไทยและกัมพูชา . ก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้อ้างความสำเร็จในการผลักดันให้ไทยและกัมพูชาหยุดยิงก่อนหน้านี้ และจัดให้ข้อพิพาทไทย-กัมพูชาอยู่ในรายชื่อสงครามที่เขาอ้างว่า "ได้รับการแก้ไขแล้ว" . "ทั้งสองฝ่ายได้ให้คำมั่นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรและลงนามแล้ว" รูบิโอ กล่าว "ปัจจุบันคำมั่นสัญญาเหล่านั้นไม่ได้รับการปฏิบัติตาม เนื่องจากทั้งสองฝ่ายต่างกล่าวโทษกันและกัน ดังนั้น ภารกิจในตอนนี้คือการนำพวกเขากลับมาเจรจากันอีกครั้ง" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000123011 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 244 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251221 #TechRadar

    AI ช่วยลดอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพงานภาคสนาม
    AI กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของงานปฏิบัติการภาคสนาม โดยช่วยตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่แบบเรียลไทม์ ลดอุบัติเหตุ เพิ่มประสิทธิภาพ และปิดช่องว่างข้อมูลที่เคยทำให้การตัดสินใจล่าช้า ทั้งยังช่วยให้การโค้ชคนขับทำได้เร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น ทำให้องค์กรมีความปลอดภัยและความพร้อมเชิงปฏิบัติการสูงกว่าเดิม
    https://www.techradar.com/pro/how-ai-is-preventing-collisions-driving-productivity-and-transforming-physical-operations

    iPhone พับได้ยังไม่ไร้รอยพับ เพราะ Apple ยังแก้ “ความท้าทายทางเทคนิค” ไม่สำเร็จ
    ข่าวลือใหม่เผยว่า iPhone แบบพับได้ของ Apple ยังติดปัญหาเรื่องการทำให้หน้าจอ “ไร้รอยพับจริง ๆ” แม้จะทดลองกระจก UFG หลายแบบแล้วก็ตาม ทำให้กำหนดเปิดตัวในปี 2026 ยังต้องลุ้นต่อไปว่า Apple จะทำสำเร็จหรือไม่
    https://www.techradar.com/phones/iphone/apple-is-rumored-to-still-be-facing-technical-challenges-in-producing-its-crease-free-foldable-iphone

    ช่องว่างลับระหว่าง “ข้อมูล” กับ “การตัดสินใจ” ในยุค AI
    หลายองค์กรลงทุนจัดระเบียบข้อมูลอย่างหนัก แต่กลับไม่สามารถเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ เพราะขาดสถาปัตยกรรม ระบบ และทักษะด้านข้อมูลที่เชื่อมโยงไปสู่การใช้งานจริง ทำให้ AI ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้ตามที่คาดหวัง
    https://www.techradar.com/pro/bridging-the-hidden-gap-between-data-and-decisions-in-the-age-of-ai

    เจาะลึกตลาด HDD ยุคใหม่—จาก 8TB เป็นมาตรฐาน ไปจนถึงรุ่น 30TB+
    การสำรวจ HDD จำนวน 167 รุ่นเผยให้เห็นว่าตลาดฮาร์ดดิสก์ยังคงสำคัญ โดยเฉพาะในงานดาต้าเซ็นเตอร์และ NAS ที่ต้องการความจุสูง ราคาคุ้มค่า และความทนทาน แม้ SSD จะครองตลาดผู้ใช้ทั่วไปไปแล้วก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/i-compiled-a-list-of-167-hard-disk-drives-worth-buying-here-are-six-things-i-found-out

    Samsung Galaxy Z Flip 8 อาจใช้ชิป Exynos 2600
    ข่าวหลุดใหม่ชี้ว่า Z Flip 8 อาจหันมาใช้ชิป Exynos 2600 แบบเต็มตัว ซึ่งเป็นชิป 2nm รุ่นแรกของ Samsung ที่เน้นประสิทธิภาพและพลังงานดีขึ้น แม้ Snapdragon ยังถูกมองว่าแรงกว่าในหลายงานก็ตาม
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-samsung-galaxy-z-flip-8-leak-may-have-revealed-the-chipset-its-going-to-run-on

    การเปลี่ยนจาก Google Assistant ไป Gemini ถูกเลื่อนเป็นปีหน้า
    Google ประกาศเลื่อนการเปลี่ยนผู้ช่วยบน Android จาก Assistant ไป Gemini ออกไปถึงปี 2026 เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านราบรื่นขึ้น โดยสุดท้าย Assistant จะถูกยกเลิกใช้งานทั้งหมด
    https://www.techradar.com/phones/android/the-switch-from-google-assistant-to-gemini-on-android-devices-has-been-pushed-back-to-next-year

    รีวิว MSI Pro MP165 E6 จอพกพางานดี ราคาประหยัด
    จอพกพาน้ำหนักเบา ใช้งานง่ายด้วยสาย USB‑C เส้นเดียว เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการพื้นที่หน้าจอเพิ่มระหว่างเดินทาง แม้สเปกจะไม่หวือหวา แต่คุ้มค่ามากในงบไม่ถึง $100
    https://www.techradar.com/pro/msi-pro-mp165-e6-portable-monitor-review

    5 วิธีเสริมความแกร่งหลังเหตุการณ์ระบบล่ม
    องค์กรจำนวนมากทำแค่ “ปิดงานเอกสารหลังเหตุการณ์” แต่ความยืดหยุ่นจริงเกิดจากการมองเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในระบบ การควบคุมการแก้ไขฉุกเฉิน และการสร้างวัฒนธรรมที่เน้นความโปร่งใสของข้อมูล
    https://www.techradar.com/pro/five-post-incident-improvements-that-actually-strengthen-resilience

    ทดสอบหูฟัง SomniPods 3—บางที่สุด พร้อมสถิติที่น่าสนใจ
    ผู้เขียนทดลองใช้หูฟังตัดเสียงรบกวนสำหรับนอนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ พบว่ามีฟีเจอร์ดีและบางมากจนใส่นอนได้สบาย แต่ยังมีจุดที่ต้องพัฒนา ทั้งยังต้องใช้คู่กับแอป Fitnexa เพื่อปลดล็อกฟีเจอร์เต็ม
    https://www.techradar.com/health-fitness/sleep/i-used-the-thinnest-noise-cancelling-sleep-earbuds-for-two-weeks-and-it-had-one-fascinating-statistic

    Claude บน Chrome—สะดวกมาก แต่ชวนให้รู้สึกถูกจับตามอง
    ส่วนขยาย Claude ใหม่สามารถเข้าถึงแท็บ ประวัติ และไฟล์ของผู้ใช้เพื่อช่วยทำงานอัตโนมัติได้อย่างทรงพลัง แต่ก็สร้างความรู้สึก “ระแวง” เพราะต้องให้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/i-tried-the-new-claude-in-chrome-extension-and-it-delivered-convenience-with-a-side-of-digital-paranoia

    Soverli สตาร์ทอัพสวิสสร้างเลเยอร์ OS ปลอดภัยที่สุดบนมือถือ
    Soverli พัฒนาเลเยอร์ระบบปฏิบัติการที่ทำงานคู่กับ Android/iOS เพื่อให้ยังใช้งานได้แม้ระบบหลักถูกโจมตี เหมาะกับงานภาครัฐ หน่วยกู้ภัย และองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง
    https://www.techradar.com/pro/this-intriguing-startup-wants-to-create-the-worlds-most-secure-smartphones-and-its-doing-it-proton-style

    มาตรฐานบัส HP อายุ 53 ปี ได้ไดรเวอร์ Linux แล้ว
    GPIB มาตรฐานเก่าแก่จากปี 1972 ได้รับไดรเวอร์เสถียรใน Linux 6.19 ทำให้อุปกรณ์ห้องแล็บรุ่นเก่าสามารถใช้งานกับระบบสมัยใหม่ได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/pro/security/better-late-than-never-53-year-old-hp-bus-standard-finally-gets-a-linux-driver-boasting-8mb-s-bandwidth

    แฮ็กเกอร์ล่าค่าจ้างปลายปี ด้วยการหลอก Help Desk
    อาชญากรไซเบอร์ใช้การโทรหลอกพนักงาน Help Desk เพื่อรีเซ็ตรหัสผ่านและเปลี่ยนบัญชีรับเงินเดือนของพนักงานแบบเงียบ ๆ ทำให้เงินเดือนถูกโอนออกโดยไม่รู้ตัว
    https://www.techradar.com/pro/security/watch-out-hackers-are-coming-after-your-christmas-bonus-as-paychecks-come-under-threat

    Chrome Split View—ฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้การเปิดสองแท็บง่ายขึ้นมาก
    Chrome เพิ่มฟีเจอร์ Split View ให้เปิดสองแท็บเคียงกันในหน้าต่างเดียว เหมาะกับคนที่ต้องเทียบข้อมูลบ่อย ๆ และช่วยลดความวุ่นวายของแท็บจำนวนมาก
    https://www.techradar.com/computing/chrome/split-view-tabs-in-chrome-are-a-game-changer-i-cant-believe-i-wasnt-using-this-before

    React2Shell ช่องโหว่ร้ายแรงกำลังถูกโจมตีหนัก
    ช่องโหว่ React2Shell (คะแนน 10/10) ถูกใช้โจมตีหลายร้อยระบบทั่วโลก โดยกลุ่มจากจีนและเกาหลีเหนือ ทั้งเพื่อวางมัลแวร์ ขุดคริปโต และสอดแนมองค์กร
    https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-exploitation-continues-to-escalate-posing-significant-risk

    บริษัทแห่จ้าง AI Specialist แทน Data Engineer—ปัญหาใหญ่ที่กำลังก่อตัว
    ข้อมูลใหม่เผยว่าบริษัทในสหรัฐจ้างงานด้าน AI มากกว่างานด้านข้อมูลเกือบ 50% ทั้งที่ AI จะทำงานไม่ได้เลยหากข้อมูลไม่พร้อม ทำให้หลายโปรเจกต์เสี่ยงล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
    https://www.techradar.com/pro/businesses-are-hiring-ai-specialists-instead-of-data-engineers-and-its-a-big-problem

    Cisco ถูกโจมตีด้วย Zero‑Day บนระบบอีเมล
    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco Secure Email ถูกใช้โดยกลุ่มที่เชื่อมโยงกับจีนเพื่อวาง backdoor และเครื่องมือเจาะระบบ ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งอุดช่องโหว่ก่อนเส้นตาย
    https://www.techradar.com/pro/security/cisco-email-security-products-actively-targeted-in-zero-day-campaign

    รีวิว Checkr ระบบตรวจประวัติผู้สมัครงานแบบอัตโนมัติ
    Checkr เป็นแพลตฟอร์มตรวจประวัติที่เน้นความเร็วและการทำงานอัตโนมัติ เหมาะกับองค์กรที่ต้องคัดคนจำนวนมาก แม้จะไม่เหมาะกับอุตสาหกรรมที่มีกฎระเบียบเข้มงวด
    https://www.techradar.com/pro/checkr-review
    📌📡🔴 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🔴📡📌 #รวมข่าวIT #20251221 #TechRadar 🧠🚚 AI ช่วยลดอุบัติเหตุและเพิ่มประสิทธิภาพงานภาคสนาม AI กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของงานปฏิบัติการภาคสนาม โดยช่วยตรวจจับพฤติกรรมเสี่ยงของผู้ขับขี่แบบเรียลไทม์ ลดอุบัติเหตุ เพิ่มประสิทธิภาพ และปิดช่องว่างข้อมูลที่เคยทำให้การตัดสินใจล่าช้า ทั้งยังช่วยให้การโค้ชคนขับทำได้เร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น ทำให้องค์กรมีความปลอดภัยและความพร้อมเชิงปฏิบัติการสูงกว่าเดิม 🔗 https://www.techradar.com/pro/how-ai-is-preventing-collisions-driving-productivity-and-transforming-physical-operations 📱✨ iPhone พับได้ยังไม่ไร้รอยพับ เพราะ Apple ยังแก้ “ความท้าทายทางเทคนิค” ไม่สำเร็จ ข่าวลือใหม่เผยว่า iPhone แบบพับได้ของ Apple ยังติดปัญหาเรื่องการทำให้หน้าจอ “ไร้รอยพับจริง ๆ” แม้จะทดลองกระจก UFG หลายแบบแล้วก็ตาม ทำให้กำหนดเปิดตัวในปี 2026 ยังต้องลุ้นต่อไปว่า Apple จะทำสำเร็จหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/apple-is-rumored-to-still-be-facing-technical-challenges-in-producing-its-crease-free-foldable-iphone 📊🔍 ช่องว่างลับระหว่าง “ข้อมูล” กับ “การตัดสินใจ” ในยุค AI หลายองค์กรลงทุนจัดระเบียบข้อมูลอย่างหนัก แต่กลับไม่สามารถเปลี่ยนข้อมูลให้เป็นผลลัพธ์ทางธุรกิจได้ เพราะขาดสถาปัตยกรรม ระบบ และทักษะด้านข้อมูลที่เชื่อมโยงไปสู่การใช้งานจริง ทำให้ AI ไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้ตามที่คาดหวัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/bridging-the-hidden-gap-between-data-and-decisions-in-the-age-of-ai 💾📦 เจาะลึกตลาด HDD ยุคใหม่—จาก 8TB เป็นมาตรฐาน ไปจนถึงรุ่น 30TB+ การสำรวจ HDD จำนวน 167 รุ่นเผยให้เห็นว่าตลาดฮาร์ดดิสก์ยังคงสำคัญ โดยเฉพาะในงานดาต้าเซ็นเตอร์และ NAS ที่ต้องการความจุสูง ราคาคุ้มค่า และความทนทาน แม้ SSD จะครองตลาดผู้ใช้ทั่วไปไปแล้วก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/i-compiled-a-list-of-167-hard-disk-drives-worth-buying-here-are-six-things-i-found-out 📱⚙️ Samsung Galaxy Z Flip 8 อาจใช้ชิป Exynos 2600 ข่าวหลุดใหม่ชี้ว่า Z Flip 8 อาจหันมาใช้ชิป Exynos 2600 แบบเต็มตัว ซึ่งเป็นชิป 2nm รุ่นแรกของ Samsung ที่เน้นประสิทธิภาพและพลังงานดีขึ้น แม้ Snapdragon ยังถูกมองว่าแรงกว่าในหลายงานก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/a-new-samsung-galaxy-z-flip-8-leak-may-have-revealed-the-chipset-its-going-to-run-on 🤖➡️📱 การเปลี่ยนจาก Google Assistant ไป Gemini ถูกเลื่อนเป็นปีหน้า Google ประกาศเลื่อนการเปลี่ยนผู้ช่วยบน Android จาก Assistant ไป Gemini ออกไปถึงปี 2026 เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านราบรื่นขึ้น โดยสุดท้าย Assistant จะถูกยกเลิกใช้งานทั้งหมด 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/the-switch-from-google-assistant-to-gemini-on-android-devices-has-been-pushed-back-to-next-year 🖥️✈️ รีวิว MSI Pro MP165 E6 จอพกพางานดี ราคาประหยัด จอพกพาน้ำหนักเบา ใช้งานง่ายด้วยสาย USB‑C เส้นเดียว เหมาะกับคนทำงานที่ต้องการพื้นที่หน้าจอเพิ่มระหว่างเดินทาง แม้สเปกจะไม่หวือหวา แต่คุ้มค่ามากในงบไม่ถึง $100 🔗 https://www.techradar.com/pro/msi-pro-mp165-e6-portable-monitor-review 🛡️🔥 5 วิธีเสริมความแกร่งหลังเหตุการณ์ระบบล่ม องค์กรจำนวนมากทำแค่ “ปิดงานเอกสารหลังเหตุการณ์” แต่ความยืดหยุ่นจริงเกิดจากการมองเห็นการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดในระบบ การควบคุมการแก้ไขฉุกเฉิน และการสร้างวัฒนธรรมที่เน้นความโปร่งใสของข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/pro/five-post-incident-improvements-that-actually-strengthen-resilience 😴🎧 ทดสอบหูฟัง SomniPods 3—บางที่สุด พร้อมสถิติที่น่าสนใจ ผู้เขียนทดลองใช้หูฟังตัดเสียงรบกวนสำหรับนอนเป็นเวลา 2 สัปดาห์ พบว่ามีฟีเจอร์ดีและบางมากจนใส่นอนได้สบาย แต่ยังมีจุดที่ต้องพัฒนา ทั้งยังต้องใช้คู่กับแอป Fitnexa เพื่อปลดล็อกฟีเจอร์เต็ม 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/sleep/i-used-the-thinnest-noise-cancelling-sleep-earbuds-for-two-weeks-and-it-had-one-fascinating-statistic 🧩🕵️ Claude บน Chrome—สะดวกมาก แต่ชวนให้รู้สึกถูกจับตามอง ส่วนขยาย Claude ใหม่สามารถเข้าถึงแท็บ ประวัติ และไฟล์ของผู้ใช้เพื่อช่วยทำงานอัตโนมัติได้อย่างทรงพลัง แต่ก็สร้างความรู้สึก “ระแวง” เพราะต้องให้สิทธิ์เข้าถึงข้อมูลจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/claude/i-tried-the-new-claude-in-chrome-extension-and-it-delivered-convenience-with-a-side-of-digital-paranoia 🔐📱 Soverli สตาร์ทอัพสวิสสร้างเลเยอร์ OS ปลอดภัยที่สุดบนมือถือ Soverli พัฒนาเลเยอร์ระบบปฏิบัติการที่ทำงานคู่กับ Android/iOS เพื่อให้ยังใช้งานได้แม้ระบบหลักถูกโจมตี เหมาะกับงานภาครัฐ หน่วยกู้ภัย และองค์กรที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-intriguing-startup-wants-to-create-the-worlds-most-secure-smartphones-and-its-doing-it-proton-style 🖥️📡 มาตรฐานบัส HP อายุ 53 ปี ได้ไดรเวอร์ Linux แล้ว GPIB มาตรฐานเก่าแก่จากปี 1972 ได้รับไดรเวอร์เสถียรใน Linux 6.19 ทำให้อุปกรณ์ห้องแล็บรุ่นเก่าสามารถใช้งานกับระบบสมัยใหม่ได้อย่างราบรื่นอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/better-late-than-never-53-year-old-hp-bus-standard-finally-gets-a-linux-driver-boasting-8mb-s-bandwidth 💸🎄 แฮ็กเกอร์ล่าค่าจ้างปลายปี ด้วยการหลอก Help Desk อาชญากรไซเบอร์ใช้การโทรหลอกพนักงาน Help Desk เพื่อรีเซ็ตรหัสผ่านและเปลี่ยนบัญชีรับเงินเดือนของพนักงานแบบเงียบ ๆ ทำให้เงินเดือนถูกโอนออกโดยไม่รู้ตัว 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/watch-out-hackers-are-coming-after-your-christmas-bonus-as-paychecks-come-under-threat 🖥️🪟 Chrome Split View—ฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้การเปิดสองแท็บง่ายขึ้นมาก Chrome เพิ่มฟีเจอร์ Split View ให้เปิดสองแท็บเคียงกันในหน้าต่างเดียว เหมาะกับคนที่ต้องเทียบข้อมูลบ่อย ๆ และช่วยลดความวุ่นวายของแท็บจำนวนมาก 🔗 https://www.techradar.com/computing/chrome/split-view-tabs-in-chrome-are-a-game-changer-i-cant-believe-i-wasnt-using-this-before ⚠️💥 React2Shell ช่องโหว่ร้ายแรงกำลังถูกโจมตีหนัก ช่องโหว่ React2Shell (คะแนน 10/10) ถูกใช้โจมตีหลายร้อยระบบทั่วโลก โดยกลุ่มจากจีนและเกาหลีเหนือ ทั้งเพื่อวางมัลแวร์ ขุดคริปโต และสอดแนมองค์กร 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/react2shell-exploitation-continues-to-escalate-posing-significant-risk 🤖👷 บริษัทแห่จ้าง AI Specialist แทน Data Engineer—ปัญหาใหญ่ที่กำลังก่อตัว ข้อมูลใหม่เผยว่าบริษัทในสหรัฐจ้างงานด้าน AI มากกว่างานด้านข้อมูลเกือบ 50% ทั้งที่ AI จะทำงานไม่ได้เลยหากข้อมูลไม่พร้อม ทำให้หลายโปรเจกต์เสี่ยงล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่ม 🔗 https://www.techradar.com/pro/businesses-are-hiring-ai-specialists-instead-of-data-engineers-and-its-a-big-problem 📧🔓 Cisco ถูกโจมตีด้วย Zero‑Day บนระบบอีเมล ช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco Secure Email ถูกใช้โดยกลุ่มที่เชื่อมโยงกับจีนเพื่อวาง backdoor และเครื่องมือเจาะระบบ ทำให้หน่วยงานรัฐต้องเร่งอุดช่องโหว่ก่อนเส้นตาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/cisco-email-security-products-actively-targeted-in-zero-day-campaign 🧩👤 รีวิว Checkr ระบบตรวจประวัติผู้สมัครงานแบบอัตโนมัติ Checkr เป็นแพลตฟอร์มตรวจประวัติที่เน้นความเร็วและการทำงานอัตโนมัติ เหมาะกับองค์กรที่ต้องคัดคนจำนวนมาก แม้จะไม่เหมาะกับอุตสาหกรรมที่มีกฎระเบียบเข้มงวด 🔗 https://www.techradar.com/pro/checkr-review
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • AltaVista: ตำนานเสิร์ชเอนจินผู้บุกเบิก UI สะอาด–เร็วแรง แต่พ่ายแพ้ต่อยุคเว็บพอร์ทัลและการเปลี่ยนมือหลายครั้ง

    สามทศวรรษก่อน AltaVista ถือเป็นหนึ่งในเสิร์ชเอนจินที่ล้ำสมัยที่สุดในยุคแรกของอินเทอร์เน็ต ด้วยอินเทอร์เฟซที่สะอาด รวดเร็ว และระบบจัดทำดัชนีเว็บที่เหนือกว่าคู่แข่งในเวลานั้น เปิดตัวในปี 1995 พร้อมฐานข้อมูลเว็บกว่า 16 ล้านหน้า ซึ่งถือว่าใหญ่โตมากในยุคนั้น AltaVista กลายเป็นประตูสู่โลกออนไลน์ของผู้ใช้จำนวนมหาศาล และเป็นแรงผลักดันสำคัญให้การค้นหาข้อมูลบนเว็บกลายเป็นกิจกรรมหลักของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก

    ความสำเร็จของ AltaVista ส่วนหนึ่งมาจากพลังประมวลผลของ DEC Alpha 8400 Turbolaser ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ระดับสูงสุดในยุคนั้น ทำให้สามารถรองรับคำค้นจากหลักแสนสู่หลักสิบล้านครั้งต่อวันได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้สถาปัตยกรรมที่ผสานระหว่างเว็บครอว์เลอร์ “Scooter” และระบบจัดทำดัชนี “TurboVista” ทำให้ผลลัพธ์การค้นหามีความแม่นยำและรวดเร็วกว่าเสิร์ชเอนจินแบบไดเรกทอรีที่ครองตลาดในเวลานั้น เช่น Yahoo Directory หรือ Lycos

    อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ Google เปิดตัว PageRank ในปี 1998 ซึ่งเป็นอัลกอริทึมที่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของลิงก์ ทำให้ผลลัพธ์การค้นหามีคุณภาพสูงกว่า AltaVista อย่างชัดเจน ประกอบกับการที่ AltaVista ถูกขายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่ DEC → Compaq → CMGI → Overture → Yahoo! ทำให้ทิศทางผลิตภัณฑ์ขาดความเสถียร และถูกบังคับให้เปลี่ยนจากเสิร์ชเอนจินเรียบง่ายไปเป็น “เว็บพอร์ทัล” ที่เต็มไปด้วยโฆษณาและฟีเจอร์เกินจำเป็น จนสูญเสียเอกลักษณ์ดั้งเดิมไปในที่สุด

    แม้ AltaVista จะถูกปิดตัวในปี 2013 แต่ร่องรอยของมันยังคงอยู่ในประวัติศาสตร์อินเทอร์เน็ต ทั้งในฐานะผู้บุกเบิก UI แบบมินิมอลที่ Google นำไปต่อยอด และในฐานะบทเรียนสำคัญของการบริหารผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ต้องรักษาแก่นหลักของตัวเองให้มั่นคงท่ามกลางการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    AltaVista คือเสิร์ชเอนจินผู้บุกเบิกยุคแรกของอินเทอร์เน็ต
    เปิดตัวปี 1995 พร้อมฐานข้อมูล 16 ล้านหน้า
    UI สะอาด รวดเร็ว และเหนือกว่าเสิร์ชแบบไดเรกทอรีในยุคนั้น

    พลังของ DEC Alpha ทำให้ AltaVista เร็วกว่าใคร
    ใช้เซิร์ฟเวอร์ DEC Alpha 8400 Turbolaser
    รองรับคำค้นจากหลักแสนสู่หลักสิบล้านครั้งต่อวัน

    Google เปลี่ยนเกมด้วย PageRank
    อัลกอริทึมให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของลิงก์
    ผลลัพธ์แม่นยำกว่า ทำให้ผู้ใช้ย้ายไป Google อย่างรวดเร็ว

    การเปลี่ยนมือหลายครั้งทำให้ทิศทางผลิตภัณฑ์สั่นคลอน
    ถูกบังคับให้กลายเป็นเว็บพอร์ทัลที่สูญเสียเอกลักษณ์
    ปิดตัวในปี 2013 หลังถูก Yahoo! ซื้อกิจการ

    ประเด็นที่ควรระวัง / ข้อจำกัด
    การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์บ่อยครั้งคือความเสี่ยงใหญ่
    ทำให้แบรนด์สูญเสียเอกลักษณ์และฐานผู้ใช้

    การไล่ตามคู่แข่งโดยไม่ยึดจุดแข็งของตัวเอง
    AltaVista พยายามเป็นเว็บพอร์ทัลเหมือน Yahoo จนลืมจุดเด่นด้านการค้นหา

    เทคโนโลยีใหม่สามารถล้มยักษ์ได้เสมอ
    PageRank ของ Google คือบทเรียนว่าความแม่นยำสำคัญกว่า “ความเร็วเพียงอย่างเดียว”

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/search-pioneer-altavistas-star-shone-bright-with-a-clean-and-minimal-ui-30-years-ago-engine-lost-momentum-after-multiple-ownership-changes-and-the-embrace-of-the-web-portal-trend
    🔍 AltaVista: ตำนานเสิร์ชเอนจินผู้บุกเบิก UI สะอาด–เร็วแรง แต่พ่ายแพ้ต่อยุคเว็บพอร์ทัลและการเปลี่ยนมือหลายครั้ง สามทศวรรษก่อน AltaVista ถือเป็นหนึ่งในเสิร์ชเอนจินที่ล้ำสมัยที่สุดในยุคแรกของอินเทอร์เน็ต ด้วยอินเทอร์เฟซที่สะอาด รวดเร็ว และระบบจัดทำดัชนีเว็บที่เหนือกว่าคู่แข่งในเวลานั้น เปิดตัวในปี 1995 พร้อมฐานข้อมูลเว็บกว่า 16 ล้านหน้า ซึ่งถือว่าใหญ่โตมากในยุคนั้น AltaVista กลายเป็นประตูสู่โลกออนไลน์ของผู้ใช้จำนวนมหาศาล และเป็นแรงผลักดันสำคัญให้การค้นหาข้อมูลบนเว็บกลายเป็นกิจกรรมหลักของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก ความสำเร็จของ AltaVista ส่วนหนึ่งมาจากพลังประมวลผลของ DEC Alpha 8400 Turbolaser ซึ่งเป็นเซิร์ฟเวอร์ระดับสูงสุดในยุคนั้น ทำให้สามารถรองรับคำค้นจากหลักแสนสู่หลักสิบล้านครั้งต่อวันได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้สถาปัตยกรรมที่ผสานระหว่างเว็บครอว์เลอร์ “Scooter” และระบบจัดทำดัชนี “TurboVista” ทำให้ผลลัพธ์การค้นหามีความแม่นยำและรวดเร็วกว่าเสิร์ชเอนจินแบบไดเรกทอรีที่ครองตลาดในเวลานั้น เช่น Yahoo Directory หรือ Lycos อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ Google เปิดตัว PageRank ในปี 1998 ซึ่งเป็นอัลกอริทึมที่ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของลิงก์ ทำให้ผลลัพธ์การค้นหามีคุณภาพสูงกว่า AltaVista อย่างชัดเจน ประกอบกับการที่ AltaVista ถูกขายต่อหลายครั้ง ตั้งแต่ DEC → Compaq → CMGI → Overture → Yahoo! ทำให้ทิศทางผลิตภัณฑ์ขาดความเสถียร และถูกบังคับให้เปลี่ยนจากเสิร์ชเอนจินเรียบง่ายไปเป็น “เว็บพอร์ทัล” ที่เต็มไปด้วยโฆษณาและฟีเจอร์เกินจำเป็น จนสูญเสียเอกลักษณ์ดั้งเดิมไปในที่สุด แม้ AltaVista จะถูกปิดตัวในปี 2013 แต่ร่องรอยของมันยังคงอยู่ในประวัติศาสตร์อินเทอร์เน็ต ทั้งในฐานะผู้บุกเบิก UI แบบมินิมอลที่ Google นำไปต่อยอด และในฐานะบทเรียนสำคัญของการบริหารผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีที่ต้องรักษาแก่นหลักของตัวเองให้มั่นคงท่ามกลางการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ AltaVista คือเสิร์ชเอนจินผู้บุกเบิกยุคแรกของอินเทอร์เน็ต ➡️ เปิดตัวปี 1995 พร้อมฐานข้อมูล 16 ล้านหน้า ➡️ UI สะอาด รวดเร็ว และเหนือกว่าเสิร์ชแบบไดเรกทอรีในยุคนั้น ✅ พลังของ DEC Alpha ทำให้ AltaVista เร็วกว่าใคร ➡️ ใช้เซิร์ฟเวอร์ DEC Alpha 8400 Turbolaser ➡️ รองรับคำค้นจากหลักแสนสู่หลักสิบล้านครั้งต่อวัน ✅ Google เปลี่ยนเกมด้วย PageRank ➡️ อัลกอริทึมให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือของลิงก์ ➡️ ผลลัพธ์แม่นยำกว่า ทำให้ผู้ใช้ย้ายไป Google อย่างรวดเร็ว ✅ การเปลี่ยนมือหลายครั้งทำให้ทิศทางผลิตภัณฑ์สั่นคลอน ➡️ ถูกบังคับให้กลายเป็นเว็บพอร์ทัลที่สูญเสียเอกลักษณ์ ➡️ ปิดตัวในปี 2013 หลังถูก Yahoo! ซื้อกิจการ ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / ข้อจำกัด ‼️ การเปลี่ยนทิศทางผลิตภัณฑ์บ่อยครั้งคือความเสี่ยงใหญ่ ⛔ ทำให้แบรนด์สูญเสียเอกลักษณ์และฐานผู้ใช้ ‼️ การไล่ตามคู่แข่งโดยไม่ยึดจุดแข็งของตัวเอง ⛔ AltaVista พยายามเป็นเว็บพอร์ทัลเหมือน Yahoo จนลืมจุดเด่นด้านการค้นหา ‼️ เทคโนโลยีใหม่สามารถล้มยักษ์ได้เสมอ ⛔ PageRank ของ Google คือบทเรียนว่าความแม่นยำสำคัญกว่า “ความเร็วเพียงอย่างเดียว” https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/search-pioneer-altavistas-star-shone-bright-with-a-clean-and-minimal-ui-30-years-ago-engine-lost-momentum-after-multiple-ownership-changes-and-the-embrace-of-the-web-portal-trend
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียเพิ่มพิสัยโดรนใยแก้วนำแสงแตะ 65 กม. — เผยความร่วมมือจีน–รัสเซียเร่งพัฒนาเทคโนโลยีต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์

    รายงานล่าสุดเผยว่ารัสเซียได้ทดสอบโดรน FPV แบบใช้สายใยแก้วนำแสง (optical fiber tethered drone) ที่มีพิสัยไกลถึง 65 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยภาพและวิดีโอที่หลุดออกมาจากช่อง Telegram ของรัสเซียแสดงให้เห็นม้วนสายใยแก้วขนาดใหญ่ที่ถูกผลิตโดย PGI Technology บริษัทลูกผสมจีน–รัสเซียที่เชี่ยวชาญด้านเส้นใยเสริมแรงสำหรับงานทหาร การเพิ่มพิสัยนี้ทำให้โดรนสามารถเจาะลึกเข้าไปในพื้นที่ศัตรูได้มากขึ้นโดยไม่ถูกรบกวนจากสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW)

    โดรนแบบใช้สายกำลังกลายเป็นอาวุธสำคัญในสงครามยุคใหม่ เพราะสัญญาณควบคุมผ่านใยแก้วนำแสงไม่สามารถถูก Jam หรือดักฟังได้ง่าย ต่างจากโดรนไร้สายทั่วไปที่มักถูกปิดสัญญาณหรือแฮ็กได้ในสนามรบที่มี EW หนาแน่น การเพิ่มพิสัยจาก 30–50 กม. ไปสู่ระดับ 65 กม. จึงถือเป็น “ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์” ที่อาจเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีระยะลึกของรัสเซียในปี 2026 เป็นต้นไป

    ข้อมูลเพิ่มเติมจากวงการความมั่นคงระบุว่า จีนเองก็มีความสนใจในเทคโนโลยีนี้เช่นกัน เนื่องจากโดรนแบบ tethered สามารถใช้เป็นแพลตฟอร์มสอดแนมระยะไกลที่ทนทานต่อการรบกวนสัญญาณ ซึ่งเหมาะกับการปฏิบัติการในพื้นที่ที่มีการป้องกันทางอิเล็กทรอนิกส์สูง เช่น ไต้หวันหรือทะเลจีนใต้ การที่ PGI Technology ผลิตสายใยแก้วหลายระดับความยาวตั้งแต่ 1–60 กม. แสดงให้เห็นถึงการเตรียมกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการในอนาคตทั้งสองประเทศ

    แม้เทคโนโลยีนี้จะมีข้อได้เปรียบด้านความเสถียร แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น น้ำหนักของสายที่อาจลด payload ของโดรน และความเสี่ยงของการพันกันเมื่อใช้งานในพื้นที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเส้นใยเสริม Kevlar และการพันสายแบบใหม่ที่ PGI โชว์ในภาพหลุด ทำให้เห็นว่าจีน–รัสเซียกำลังพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจังเพื่อให้โดรน tethered กลายเป็นอาวุธหลักในสนามรบยุคใหม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    รัสเซียทดสอบโดรนใยแก้วนำแสงพิสัย 65 กม.
    เพิ่มจากรุ่นก่อนหน้าที่ทำได้ประมาณ 30–50 กม.
    ใช้ควบคุมผ่านใยแก้วนำแสง ทำให้ต้านการรบกวน EW ได้ดี

    PGI Technology มีบทบาทสำคัญในสายการผลิต
    บริษัทจีน–รัสเซียที่ผลิตสายใยแก้วเสริมแรงสำหรับงานทหาร
    มีสายหลายระดับความยาว 1–60 กม. รองรับการใช้งานหลากหลาย

    โดรนแบบ tethered กลายเป็นอาวุธยุทธศาสตร์
    ใช้ควบคุมแบบ FPV ได้แม่นยำและปลอดภัยจากการ Jam
    เหมาะกับการโจมตีระยะลึกและสอดแนมในพื้นที่ที่มี EW หนาแน่น

    https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/russia-has-reportedly-improved-the-range-of-its-jam-proof-optical-drones-to-over-40-miles-purported-chinese-russian-collaborative-production-imagery-reveals-dramatically-increased-tethered-drone-range
    🚁 รัสเซียเพิ่มพิสัยโดรนใยแก้วนำแสงแตะ 65 กม. — เผยความร่วมมือจีน–รัสเซียเร่งพัฒนาเทคโนโลยีต้านสงครามอิเล็กทรอนิกส์ รายงานล่าสุดเผยว่ารัสเซียได้ทดสอบโดรน FPV แบบใช้สายใยแก้วนำแสง (optical fiber tethered drone) ที่มีพิสัยไกลถึง 65 กิโลเมตร ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างมีนัยสำคัญ โดยภาพและวิดีโอที่หลุดออกมาจากช่อง Telegram ของรัสเซียแสดงให้เห็นม้วนสายใยแก้วขนาดใหญ่ที่ถูกผลิตโดย PGI Technology บริษัทลูกผสมจีน–รัสเซียที่เชี่ยวชาญด้านเส้นใยเสริมแรงสำหรับงานทหาร การเพิ่มพิสัยนี้ทำให้โดรนสามารถเจาะลึกเข้าไปในพื้นที่ศัตรูได้มากขึ้นโดยไม่ถูกรบกวนจากสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (EW) โดรนแบบใช้สายกำลังกลายเป็นอาวุธสำคัญในสงครามยุคใหม่ เพราะสัญญาณควบคุมผ่านใยแก้วนำแสงไม่สามารถถูก Jam หรือดักฟังได้ง่าย ต่างจากโดรนไร้สายทั่วไปที่มักถูกปิดสัญญาณหรือแฮ็กได้ในสนามรบที่มี EW หนาแน่น การเพิ่มพิสัยจาก 30–50 กม. ไปสู่ระดับ 65 กม. จึงถือเป็น “ก้าวกระโดดเชิงยุทธศาสตร์” ที่อาจเปลี่ยนรูปแบบการโจมตีระยะลึกของรัสเซียในปี 2026 เป็นต้นไป ข้อมูลเพิ่มเติมจากวงการความมั่นคงระบุว่า จีนเองก็มีความสนใจในเทคโนโลยีนี้เช่นกัน เนื่องจากโดรนแบบ tethered สามารถใช้เป็นแพลตฟอร์มสอดแนมระยะไกลที่ทนทานต่อการรบกวนสัญญาณ ซึ่งเหมาะกับการปฏิบัติการในพื้นที่ที่มีการป้องกันทางอิเล็กทรอนิกส์สูง เช่น ไต้หวันหรือทะเลจีนใต้ การที่ PGI Technology ผลิตสายใยแก้วหลายระดับความยาวตั้งแต่ 1–60 กม. แสดงให้เห็นถึงการเตรียมกำลังผลิตเพื่อรองรับความต้องการในอนาคตทั้งสองประเทศ แม้เทคโนโลยีนี้จะมีข้อได้เปรียบด้านความเสถียร แต่ก็ยังมีข้อจำกัด เช่น น้ำหนักของสายที่อาจลด payload ของโดรน และความเสี่ยงของการพันกันเมื่อใช้งานในพื้นที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเส้นใยเสริม Kevlar และการพันสายแบบใหม่ที่ PGI โชว์ในภาพหลุด ทำให้เห็นว่าจีน–รัสเซียกำลังพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจังเพื่อให้โดรน tethered กลายเป็นอาวุธหลักในสนามรบยุคใหม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ รัสเซียทดสอบโดรนใยแก้วนำแสงพิสัย 65 กม. ➡️ เพิ่มจากรุ่นก่อนหน้าที่ทำได้ประมาณ 30–50 กม. ➡️ ใช้ควบคุมผ่านใยแก้วนำแสง ทำให้ต้านการรบกวน EW ได้ดี ✅ PGI Technology มีบทบาทสำคัญในสายการผลิต ➡️ บริษัทจีน–รัสเซียที่ผลิตสายใยแก้วเสริมแรงสำหรับงานทหาร ➡️ มีสายหลายระดับความยาว 1–60 กม. รองรับการใช้งานหลากหลาย ✅ โดรนแบบ tethered กลายเป็นอาวุธยุทธศาสตร์ ➡️ ใช้ควบคุมแบบ FPV ได้แม่นยำและปลอดภัยจากการ Jam ➡️ เหมาะกับการโจมตีระยะลึกและสอดแนมในพื้นที่ที่มี EW หนาแน่น https://www.tomshardware.com/peripherals/cables-connectors/russia-has-reportedly-improved-the-range-of-its-jam-proof-optical-drones-to-over-40-miles-purported-chinese-russian-collaborative-production-imagery-reveals-dramatically-increased-tethered-drone-range
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • Moore Threads เปิดตัวสถาปัตยกรรม GPU รุ่นใหม่ “Huagang” พร้อมอ้างพลังแรงก้าวกระโดดครั้งใหญ่

    วงการจีพียูในจีนกำลังร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อ Moore Threads เปิดตัวสถาปัตยกรรม “Huagang” ที่ตั้งเป้าท้าชนค่ายใหญ่ระดับโลก ทั้งในตลาดเกมและ AI โดยเฉพาะรุ่นเกมมิ่ง “Lushan” ที่บริษัทอ้างว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเกม AAA ได้สูงถึง 15 เท่า และเพิ่มพลัง Ray Tracing มากถึง 50 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดที่สร้างความสนใจอย่างมากในอุตสาหกรรม

    นอกจากด้านเกมแล้ว Moore Threads ยังเผยโฉม “Huashan” ชิป AI แบบชิปเล็ตคู่ พร้อมโมดูล HBM ถึง 8 ก้อน ที่บริษัทระบุว่ามีประสิทธิภาพระดับใกล้เคียงกับ Nvidia Hopper และ Blackwell โดยเฉพาะแบนด์วิดท์หน่วยความจำที่สูงกว่า B200 อีกด้วย ทำให้จีนมีความหวังใหม่ในการพัฒนา GPU ภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาต่างชาติในยุคที่การแข่งขันด้าน AI ทวีความเข้มข้น

    ในเชิงเทคนิค Lushan ยังมาพร้อมการเพิ่มพลัง AI compute ถึง 64 เท่า การประมวลผล geometry 16 เท่า และเพิ่มความจุ VRAM สูงสุดถึง 64GB ซึ่งถือว่าเกินมาตรฐานการ์ดเกมทั่วไปในตลาดปัจจุบันอย่างมาก ขณะเดียวกัน Huashan ยังรองรับรูปแบบตัวเลขความแม่นยำต่ำแบบใหม่ เช่น MTFP4/6/8 ที่ออกแบบมาเพื่อเร่งงาน AI โดยเฉพาะ ทำให้ Moore Threads พยายามยกระดับสถาปัตยกรรมให้เทียบชั้นผู้เล่นระดับโลกทั้ง Nvidia, AMD และ Intel

    แม้ยังไม่มีผลทดสอบจริง แต่บริษัทได้โชว์ประสิทธิภาพ DeepSeek V3 บน MTT S5000 ที่ทำได้ถึง 1000 tokens/s ในโหมด Decode และ 4000 tokens/s ใน Prefill ซึ่งสูงกว่าชิป Hopper ที่เคยเป็นเพดานสูงสุดในตลาดจีน นับเป็นสัญญาณว่าจีนกำลังเร่งสปีดเพื่อสร้างระบบนิเวศ GPU ของตัวเองอย่างจริงจัง และอาจกลายเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดโลกในอนาคตอันใกล้

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Moore Threads เปิดตัวสถาปัตยกรรม “Huagang”
    เน้นทั้งงานเกมและ AI ในเจเนอเรชันเดียว
    เปิดตัว GPU สองสายหลัก: Lushan (เกม) และ Huashan (AI)

    ประสิทธิภาพ Lushan เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด
    อ้างเพิ่มพลังเกม AAA ได้ 15 เท่า
    เพิ่ม Ray Tracing ได้ 50 เท่า
    VRAM สูงสุด 64GB

    Huashan AI GPU ท้าชน Hopper–Blackwell
    ใช้ชิปเล็ตคู่ + HBM 8 ก้อน
    แบนด์วิดท์สูงกว่า Nvidia B200
    รองรับรูปแบบตัวเลข MTFP4/6/8

    เดโม DeepSeek V3 บน MTT S5000
    ทำได้ 1000 tokens/s (Decode) และ 4000 tokens/s (Prefill)
    สูงกว่าชิป Hopper ที่เคยเป็นเพดานในจีน

    ประเด็นที่ควรระวัง / ข้อจำกัด
    ยังไม่มีผลทดสอบจริง (Benchmark)
    ตัวเลขทั้งหมดเป็น “คำอ้างจากบริษัท” ยังไม่ผ่านการพิสูจน์ภายนอก

    ความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์ยังเป็นคำถาม
    แม้รองรับ DirectX 12 Ultimate แต่ ecosystem ของ Moore Threads ยังไม่แข็งแรงเท่าค่ายใหญ่

    การแข่งขันกับ Nvidia/AMD ยังต้องใช้เวลา
    แม้ตัวเลขดูดี แต่ตลาดระดับโลกต้องการเสถียรภาพและไดรเวอร์ที่พิสูจน์แล้ว

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/moore-threads-unveils-next-gen-gaming-gpu-with-15x-performance-and-50x-ray-tracing-improvement-ai-gpu-with-claimed-performance-between-hopper-and-blackwell-also-in-the-works
    ⚡ Moore Threads เปิดตัวสถาปัตยกรรม GPU รุ่นใหม่ “Huagang” พร้อมอ้างพลังแรงก้าวกระโดดครั้งใหญ่ วงการจีพียูในจีนกำลังร้อนแรงขึ้นอีกครั้ง เมื่อ Moore Threads เปิดตัวสถาปัตยกรรม “Huagang” ที่ตั้งเป้าท้าชนค่ายใหญ่ระดับโลก ทั้งในตลาดเกมและ AI โดยเฉพาะรุ่นเกมมิ่ง “Lushan” ที่บริษัทอ้างว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพเกม AAA ได้สูงถึง 15 เท่า และเพิ่มพลัง Ray Tracing มากถึง 50 เท่าเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดที่สร้างความสนใจอย่างมากในอุตสาหกรรม นอกจากด้านเกมแล้ว Moore Threads ยังเผยโฉม “Huashan” ชิป AI แบบชิปเล็ตคู่ พร้อมโมดูล HBM ถึง 8 ก้อน ที่บริษัทระบุว่ามีประสิทธิภาพระดับใกล้เคียงกับ Nvidia Hopper และ Blackwell โดยเฉพาะแบนด์วิดท์หน่วยความจำที่สูงกว่า B200 อีกด้วย ทำให้จีนมีความหวังใหม่ในการพัฒนา GPU ภายในประเทศเพื่อลดการพึ่งพาต่างชาติในยุคที่การแข่งขันด้าน AI ทวีความเข้มข้น ในเชิงเทคนิค Lushan ยังมาพร้อมการเพิ่มพลัง AI compute ถึง 64 เท่า การประมวลผล geometry 16 เท่า และเพิ่มความจุ VRAM สูงสุดถึง 64GB ซึ่งถือว่าเกินมาตรฐานการ์ดเกมทั่วไปในตลาดปัจจุบันอย่างมาก ขณะเดียวกัน Huashan ยังรองรับรูปแบบตัวเลขความแม่นยำต่ำแบบใหม่ เช่น MTFP4/6/8 ที่ออกแบบมาเพื่อเร่งงาน AI โดยเฉพาะ ทำให้ Moore Threads พยายามยกระดับสถาปัตยกรรมให้เทียบชั้นผู้เล่นระดับโลกทั้ง Nvidia, AMD และ Intel แม้ยังไม่มีผลทดสอบจริง แต่บริษัทได้โชว์ประสิทธิภาพ DeepSeek V3 บน MTT S5000 ที่ทำได้ถึง 1000 tokens/s ในโหมด Decode และ 4000 tokens/s ใน Prefill ซึ่งสูงกว่าชิป Hopper ที่เคยเป็นเพดานสูงสุดในตลาดจีน นับเป็นสัญญาณว่าจีนกำลังเร่งสปีดเพื่อสร้างระบบนิเวศ GPU ของตัวเองอย่างจริงจัง และอาจกลายเป็นผู้เล่นสำคัญในตลาดโลกในอนาคตอันใกล้ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Moore Threads เปิดตัวสถาปัตยกรรม “Huagang” ➡️ เน้นทั้งงานเกมและ AI ในเจเนอเรชันเดียว ➡️ เปิดตัว GPU สองสายหลัก: Lushan (เกม) และ Huashan (AI) ✅ ประสิทธิภาพ Lushan เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด ➡️ อ้างเพิ่มพลังเกม AAA ได้ 15 เท่า ➡️ เพิ่ม Ray Tracing ได้ 50 เท่า ➡️ VRAM สูงสุด 64GB ✅ Huashan AI GPU ท้าชน Hopper–Blackwell ➡️ ใช้ชิปเล็ตคู่ + HBM 8 ก้อน ➡️ แบนด์วิดท์สูงกว่า Nvidia B200 ➡️ รองรับรูปแบบตัวเลข MTFP4/6/8 ✅ เดโม DeepSeek V3 บน MTT S5000 ➡️ ทำได้ 1000 tokens/s (Decode) และ 4000 tokens/s (Prefill) ➡️ สูงกว่าชิป Hopper ที่เคยเป็นเพดานในจีน ⚠️ ประเด็นที่ควรระวัง / ข้อจำกัด ‼️ ยังไม่มีผลทดสอบจริง (Benchmark) ⛔ ตัวเลขทั้งหมดเป็น “คำอ้างจากบริษัท” ยังไม่ผ่านการพิสูจน์ภายนอก ‼️ ความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์ยังเป็นคำถาม ⛔ แม้รองรับ DirectX 12 Ultimate แต่ ecosystem ของ Moore Threads ยังไม่แข็งแรงเท่าค่ายใหญ่ ‼️ การแข่งขันกับ Nvidia/AMD ยังต้องใช้เวลา ⛔ แม้ตัวเลขดูดี แต่ตลาดระดับโลกต้องการเสถียรภาพและไดรเวอร์ที่พิสูจน์แล้ว https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/moore-threads-unveils-next-gen-gaming-gpu-with-15x-performance-and-50x-ray-tracing-improvement-ai-gpu-with-claimed-performance-between-hopper-and-blackwell-also-in-the-works
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tencent ใช้ “ช่องโหว่การเช่าเซิร์ฟเวอร์” เพื่อเข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 แม้ถูกสหรัฐแบน

    รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Tencent สามารถเข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 ซึ่งเป็นหนึ่งในชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดของ NVIDIA แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐ โดยอาศัย “ช่องโหว่การเช่า (rental loophole)” ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์นอกจีนที่ยังสามารถซื้อและให้เช่าเซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปต้องห้ามได้

    แม้สหรัฐจะห้ามไม่ให้ NVIDIA ส่งออกชิประดับสูง เช่น H100, H200, B100 และ B200 ไปยังจีนโดยตรง แต่กฎไม่ได้ห้ามบริษัทจีนจากการ เช่า เซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปเหล่านี้จากผู้ให้บริการในต่างประเทศ นี่คือช่องว่างที่ Tencent ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่

    รายงานชี้ว่า Tencent ได้เข้าถึง B200 ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์ในสิงคโปร์และยุโรป ซึ่งยังสามารถซื้อชิป Blackwell ได้ตามปกติ และให้บริการเช่า GPU cluster แบบ remote access ทำให้ Tencent สามารถฝึกโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องนำฮาร์ดแวร์เข้าประเทศจีนโดยตรง

    นี่เป็นตัวอย่างล่าสุดของ “AI export control cat‑and‑mouse game” ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อบริษัทจีนใช้วิธีเช่า GPU cluster ในต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ขณะที่สหรัฐพยายามปิดช่องโหว่เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิ่งที่เกิดขึ้น
    Tencent เข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 ผ่านการเช่าเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ
    แม้สหรัฐแบนการส่งออก แต่กฎไม่ได้ห้ามการ “เช่า” GPU cluster
    ผู้ให้บริการคลาวด์ในสิงคโปร์และยุโรปยังสามารถซื้อและให้เช่า B200 ได้

    ทำไมช่องโหว่นี้ถึงเกิดขึ้น
    Export control ของสหรัฐเน้น “การส่งออกฮาร์ดแวร์” ไม่ใช่ “การเข้าถึงระยะไกล”
    บริษัทจีนสามารถใช้บริการคลาวด์นอกประเทศได้โดยไม่ผิดกฎหมาย
    NVIDIA ไม่สามารถควบคุมการใช้งานชิปหลังจากขายให้ผู้ให้บริการคลาวด์แล้ว

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    บริษัทจีนยังสามารถฝึกโมเดลขนาดใหญ่ได้แม้ถูกแบน
    ผู้ให้บริการคลาวด์นอกจีนได้ประโยชน์จากดีมานด์ GPU ที่สูงขึ้น
    สหรัฐอาจต้องออกกฎใหม่เพื่อปิดช่องโหว่นี้

    บริบทเชิงภูมิรัฐศาสตร์
    การแข่งขัน AI ระหว่างสหรัฐ–จีนกำลังย้ายจาก “ฮาร์ดแวร์” ไปสู่ “การควบคุมการเข้าถึง”
    ช่องโหว่การเช่าอาจกลายเป็นประเด็นถกเถียงระดับนโยบายในปี 2026
    NVIDIA อยู่ในตำแหน่งลำบาก เพราะต้องขายชิปให้ได้ แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎสหรัฐ

    https://wccftech.com/china-tencent-gains-access-to-nvidia-blackwell-ai-chips-by-leveraging-the-rental-loophole/
    🧩 Tencent ใช้ “ช่องโหว่การเช่าเซิร์ฟเวอร์” เพื่อเข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 แม้ถูกสหรัฐแบน รายงานจาก Wccftech ระบุว่า Tencent สามารถเข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 ซึ่งเป็นหนึ่งในชิป AI ที่ทรงพลังที่สุดของ NVIDIA แม้จะอยู่ภายใต้ข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐ โดยอาศัย “ช่องโหว่การเช่า (rental loophole)” ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์นอกจีนที่ยังสามารถซื้อและให้เช่าเซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปต้องห้ามได้ แม้สหรัฐจะห้ามไม่ให้ NVIDIA ส่งออกชิประดับสูง เช่น H100, H200, B100 และ B200 ไปยังจีนโดยตรง แต่กฎไม่ได้ห้ามบริษัทจีนจากการ เช่า เซิร์ฟเวอร์ที่มีชิปเหล่านี้จากผู้ให้บริการในต่างประเทศ นี่คือช่องว่างที่ Tencent ใช้ประโยชน์อย่างเต็มที่ รายงานชี้ว่า Tencent ได้เข้าถึง B200 ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์ในสิงคโปร์และยุโรป ซึ่งยังสามารถซื้อชิป Blackwell ได้ตามปกติ และให้บริการเช่า GPU cluster แบบ remote access ทำให้ Tencent สามารถฝึกโมเดลขนาดใหญ่ได้โดยไม่ต้องนำฮาร์ดแวร์เข้าประเทศจีนโดยตรง นี่เป็นตัวอย่างล่าสุดของ “AI export control cat‑and‑mouse game” ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก เมื่อบริษัทจีนใช้วิธีเช่า GPU cluster ในต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดด้านฮาร์ดแวร์ ขณะที่สหรัฐพยายามปิดช่องโหว่เหล่านี้อย่างต่อเนื่อง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิ่งที่เกิดขึ้น ➡️ Tencent เข้าถึงชิป NVIDIA Blackwell B200 ผ่านการเช่าเซิร์ฟเวอร์ในต่างประเทศ ➡️ แม้สหรัฐแบนการส่งออก แต่กฎไม่ได้ห้ามการ “เช่า” GPU cluster ➡️ ผู้ให้บริการคลาวด์ในสิงคโปร์และยุโรปยังสามารถซื้อและให้เช่า B200 ได้ ✅ ทำไมช่องโหว่นี้ถึงเกิดขึ้น ➡️ Export control ของสหรัฐเน้น “การส่งออกฮาร์ดแวร์” ไม่ใช่ “การเข้าถึงระยะไกล” ➡️ บริษัทจีนสามารถใช้บริการคลาวด์นอกประเทศได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ➡️ NVIDIA ไม่สามารถควบคุมการใช้งานชิปหลังจากขายให้ผู้ให้บริการคลาวด์แล้ว ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ บริษัทจีนยังสามารถฝึกโมเดลขนาดใหญ่ได้แม้ถูกแบน ➡️ ผู้ให้บริการคลาวด์นอกจีนได้ประโยชน์จากดีมานด์ GPU ที่สูงขึ้น ➡️ สหรัฐอาจต้องออกกฎใหม่เพื่อปิดช่องโหว่นี้ ✅ บริบทเชิงภูมิรัฐศาสตร์ ➡️ การแข่งขัน AI ระหว่างสหรัฐ–จีนกำลังย้ายจาก “ฮาร์ดแวร์” ไปสู่ “การควบคุมการเข้าถึง” ➡️ ช่องโหว่การเช่าอาจกลายเป็นประเด็นถกเถียงระดับนโยบายในปี 2026 ➡️ NVIDIA อยู่ในตำแหน่งลำบาก เพราะต้องขายชิปให้ได้ แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฎสหรัฐ https://wccftech.com/china-tencent-gains-access-to-nvidia-blackwell-ai-chips-by-leveraging-the-rental-loophole/
    WCCFTECH.COM
    China's Tencent Gains Access to the "Banned" NVIDIA's Blackwell B200 AI Chips by Leveraging the Rental Loophole in U.S. Export Controls
    While Blackwell is banned from being exported to China, domestic AI giants have found their workarounds to access NVIDIA's latest technology.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 136 มุมมอง 0 รีวิว
  • CSS Grid Lanes: อนาคตของ Masonry Layout ที่ทำงานได้จริงในเบราว์เซอร์

    CSS Grid Lanes คือความพยายามครั้งสำคัญของทีม WebKit และกลุ่มทำงาน CSS ที่ต้องการสร้าง “Masonry layout แบบเนทีฟ” โดยไม่ต้องพึ่ง JavaScript หรือไลบรารีเสริมอีกต่อไป ฟีเจอร์นี้เกิดจากการทำงานร่วมกันหลายปีระหว่าง Mozilla, Apple และสมาชิกใน CSS Working Group เพื่อหาวิธีสร้างเลย์เอาต์แบบ Pinterest‑style ที่ทั้งยืดหยุ่นและเข้าถึงได้ง่ายในทุกเบราว์เซอร์

    หัวใจของ Grid Lanes คือการใช้พลังของ CSS Grid เดิม แต่เพิ่มความสามารถให้เบราว์เซอร์จัดวางไอเท็มตาม “ช่องว่างที่ใกล้ด้านบนที่สุด” คล้ายการขับรถเปลี่ยนเลนเพื่อไปให้ไกลที่สุดในสภาพจราจรติดขัด แนวคิดนี้ทำให้เกิดเลย์เอาต์แบบ waterfall โดยไม่ต้องเขียนสคริปต์ใดๆ และยังรองรับ infinite scroll ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะเบราว์เซอร์จัดการตำแหน่งให้เองทั้งหมด

    นอกจากนี้ Grid Lanes ยังเปิดประตูสู่ดีไซน์ใหม่ๆ เช่น การกำหนดเลนกว้าง‑แคบสลับกัน การให้บางไอเท็ม span หลายคอลัมน์ หรือแม้แต่การสลับทิศทางของเลย์เอาต์จากแนวตั้งเป็นแนวนอนได้เพียงแค่เปลี่ยนจาก grid-template-columns เป็น grid-template-rows โดยไม่ต้องแก้โค้ดส่วนอื่นเลย ฟีเจอร์ “item‑tolerance” ยังช่วยควบคุมความไวของอัลกอริทึมในการจัดวาง ทำให้ดีไซเนอร์เลือกได้ว่าจะให้เลย์เอาต์ “นิ่ง” หรือ “ไหลลื่น” มากแค่ไหน

    แม้สเปกยังมีบางส่วนที่กำลังถกเถียง เช่น ชื่อ property ที่จะใช้ควบคุมทิศทาง แต่โดยรวมฟีเจอร์นี้ถือว่า “พร้อมใช้งาน” แล้วใน Safari Technology Preview และกำลังถูกผลักดันให้เป็นมาตรฐานเว็บในอนาคต หากถูกนำไปใช้จริงในทุกเบราว์เซอร์ Grid Lanes จะกลายเป็นหนึ่งในก้าวกระโดดสำคัญของ CSS ที่ช่วยลดภาระ JavaScript และทำให้เว็บเร็วขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น และออกแบบได้อิสระมากขึ้นกว่าเดิม

    สรุปประเด็นสำคัญ
    แนวคิดหลักของ CSS Grid Lanes
    สร้าง Masonry layout แบบเนทีฟโดยไม่ต้องใช้ JavaScript
    ใช้พลังของ CSS Grid เดิม แต่เพิ่มอัลกอริทึมจัดวางแบบ “closest to the top”
    รองรับ infinite scroll และการเข้าถึง (accessibility) ได้ดีกว่าไลบรารีเดิม

    ความสามารถใหม่ที่โดดเด่น
    สร้างเลนกว้าง‑แคบสลับกันด้วย grid-template-*
    ให้ไอเท็ม span หลายคอลัมน์ได้อย่างยืดหยุ่น
    สลับทิศทางเลย์เอาต์ได้ง่ายเพียงเปลี่ยน columns ↔ rows

    ฟีเจอร์ item‑tolerance
    ควบคุมความไวของอัลกอริทึมในการจัดวางไอเท็ม
    ลดการ “กระโดดเลย์เอาต์” หรือทำให้เลย์เอาต์ไหลลื่นขึ้นตามต้องการ

    สถานะปัจจุบันของสเปก
    พร้อมทดลองใช้ใน Safari Technology Preview 234
    CSS Working Group ยังถกเรื่องชื่อ property บางส่วน
    ฟีเจอร์โดยรวมถือว่า “พร้อมใช้งานจริง” ในอนาคตอันใกล้

    ประเด็นที่ต้องระวัง
    สเปกยังไม่เสถียร 100% อาจมีการเปลี่ยนชื่อ property
    รองรับเฉพาะบางเบราว์เซอร์ในตอนนี้
    ต้องตรวจสอบ grid-auto-flow หากเลย์เอาต์ไม่ทำงานตามคาด

    https://webkit.org/blog/17660/introducing-css-grid-lanes/
    🧩 CSS Grid Lanes: อนาคตของ Masonry Layout ที่ทำงานได้จริงในเบราว์เซอร์ CSS Grid Lanes คือความพยายามครั้งสำคัญของทีม WebKit และกลุ่มทำงาน CSS ที่ต้องการสร้าง “Masonry layout แบบเนทีฟ” โดยไม่ต้องพึ่ง JavaScript หรือไลบรารีเสริมอีกต่อไป ฟีเจอร์นี้เกิดจากการทำงานร่วมกันหลายปีระหว่าง Mozilla, Apple และสมาชิกใน CSS Working Group เพื่อหาวิธีสร้างเลย์เอาต์แบบ Pinterest‑style ที่ทั้งยืดหยุ่นและเข้าถึงได้ง่ายในทุกเบราว์เซอร์ หัวใจของ Grid Lanes คือการใช้พลังของ CSS Grid เดิม แต่เพิ่มความสามารถให้เบราว์เซอร์จัดวางไอเท็มตาม “ช่องว่างที่ใกล้ด้านบนที่สุด” คล้ายการขับรถเปลี่ยนเลนเพื่อไปให้ไกลที่สุดในสภาพจราจรติดขัด แนวคิดนี้ทำให้เกิดเลย์เอาต์แบบ waterfall โดยไม่ต้องเขียนสคริปต์ใดๆ และยังรองรับ infinite scroll ได้อย่างเป็นธรรมชาติ เพราะเบราว์เซอร์จัดการตำแหน่งให้เองทั้งหมด นอกจากนี้ Grid Lanes ยังเปิดประตูสู่ดีไซน์ใหม่ๆ เช่น การกำหนดเลนกว้าง‑แคบสลับกัน การให้บางไอเท็ม span หลายคอลัมน์ หรือแม้แต่การสลับทิศทางของเลย์เอาต์จากแนวตั้งเป็นแนวนอนได้เพียงแค่เปลี่ยนจาก grid-template-columns เป็น grid-template-rows โดยไม่ต้องแก้โค้ดส่วนอื่นเลย ฟีเจอร์ “item‑tolerance” ยังช่วยควบคุมความไวของอัลกอริทึมในการจัดวาง ทำให้ดีไซเนอร์เลือกได้ว่าจะให้เลย์เอาต์ “นิ่ง” หรือ “ไหลลื่น” มากแค่ไหน แม้สเปกยังมีบางส่วนที่กำลังถกเถียง เช่น ชื่อ property ที่จะใช้ควบคุมทิศทาง แต่โดยรวมฟีเจอร์นี้ถือว่า “พร้อมใช้งาน” แล้วใน Safari Technology Preview และกำลังถูกผลักดันให้เป็นมาตรฐานเว็บในอนาคต หากถูกนำไปใช้จริงในทุกเบราว์เซอร์ Grid Lanes จะกลายเป็นหนึ่งในก้าวกระโดดสำคัญของ CSS ที่ช่วยลดภาระ JavaScript และทำให้เว็บเร็วขึ้น เข้าถึงง่ายขึ้น และออกแบบได้อิสระมากขึ้นกว่าเดิม 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ แนวคิดหลักของ CSS Grid Lanes ➡️ สร้าง Masonry layout แบบเนทีฟโดยไม่ต้องใช้ JavaScript ➡️ ใช้พลังของ CSS Grid เดิม แต่เพิ่มอัลกอริทึมจัดวางแบบ “closest to the top” ➡️ รองรับ infinite scroll และการเข้าถึง (accessibility) ได้ดีกว่าไลบรารีเดิม ✅ ความสามารถใหม่ที่โดดเด่น ➡️ สร้างเลนกว้าง‑แคบสลับกันด้วย grid-template-* ➡️ ให้ไอเท็ม span หลายคอลัมน์ได้อย่างยืดหยุ่น ➡️ สลับทิศทางเลย์เอาต์ได้ง่ายเพียงเปลี่ยน columns ↔ rows ✅ ฟีเจอร์ item‑tolerance ➡️ ควบคุมความไวของอัลกอริทึมในการจัดวางไอเท็ม ➡️ ลดการ “กระโดดเลย์เอาต์” หรือทำให้เลย์เอาต์ไหลลื่นขึ้นตามต้องการ ✅ สถานะปัจจุบันของสเปก ➡️ พร้อมทดลองใช้ใน Safari Technology Preview 234 ➡️ CSS Working Group ยังถกเรื่องชื่อ property บางส่วน ➡️ ฟีเจอร์โดยรวมถือว่า “พร้อมใช้งานจริง” ในอนาคตอันใกล้ ‼️ ประเด็นที่ต้องระวัง ⛔ สเปกยังไม่เสถียร 100% อาจมีการเปลี่ยนชื่อ property ⛔ รองรับเฉพาะบางเบราว์เซอร์ในตอนนี้ ⛔ ต้องตรวจสอบ grid-auto-flow หากเลย์เอาต์ไม่ทำงานตามคาด https://webkit.org/blog/17660/introducing-css-grid-lanes/
    WEBKIT.ORG
    Introducing CSS Grid Lanes
    It’s here, the future of masonry layouts on the web!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง แตกคอ แตกคอ
    “แตกคอ แตกคอก”
    ตอน 1
    กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เหตุการณ์แถวบ้านยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย แต่วงพนันแถวบ้านผม เขาเอียงไปทางออกก้อยมากกว่านะ เอะ พูดถึงใครกันลุง ก็จะใครเสียอีกล่ะ เสี่ยปั๊มคนใหญ่ คนถูกข่าวลือเล่นใส่นั่นไงครับ วันนี้มาอีกแล้ว สื่ออังกฤษยังเล่นไม่เลิก บอกว่าพระญาติพระวงศ์กำลังร่วมกันทำหนังสือ เสนอให้ปลดกษัตริย์ ซาลมาน จากตำแหน่งกษัตริย์ คราวนี้ในหนังสือบอกชื่อมาเลยว่า ต้องการใครมาแทน แน่จริงๆ แถม 2 วันนี้ ยังเพิ่มข่าวให้อีกว่า มีเจ้าชายชาวซาอุดิ หลานกษัตริย์ ถูกจับที่เลบานอน เพราะขนยาบ้าหนักกว่า 2 ตัน มาในเครื่องบินส่วนตัว
    เล่นกันแรงจริง กลัวคุณพี่ปูตินเขาจะฉกเอาปั๊มไปครองก่อนหรือครับ
    ตะวันออกกลางกำลังระส่ำจริงๆ เอาแค่เฉพาะพวกที่ลากกันมาจับมือ เมื่อปี ค.ศ.1981 ต้ังก๊วนชาวอ่าว the Gulf Cooperation Council (GCC) กันไม่ให้ใครออกอ่าวไปลำพัง ดูเผินๆ เหมือนรักกันจัง แต่เขาว่า นั้นมันหน้าฉาก ของจริงไม่ใช่อย่างที่ภาพออกมาหรอก
    ก๊วนริมอ่าวมีกัน 6 ประเทศ ลูกพี่ใหญ่ หรือปั๊มใหญ่สุด ก็ซาอุดิอารเบียนั่นเอง ที่มีเพื่อนรักในก๊วนอีกราย เป็นเหมือนลูกกระเดือกติดคอหอยคือ บาห์เรน 2 เสี่ยปั๊มนี่ เกลียดอิหร่านอย่างที่สุด มองว่าอิหร่านคือ นักล่า… อ้าว นั่นมันสมญาคู่รักคู่ขุด ของเสี่ยเองนะครับ อย่าไปปนกัน เดี๋ยวงอนผิดคน (ฮา) 2 เสี่ยปั๊มใหญ่บอกว่า อิหร่านเป็นตัวร้าย ความปั่นป่วนในตะวันกลางน่ะ มาจากฝีมือของอิหร่านทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ลง ถึงขนาดนั้นเอาเลย
    ซาอุดิ ถูกหลอนทั้งเวลาหลับเวลาตื่นว่า อิหร่านคู่แข่งตัวสำคัญ ในตะวันออกกลาง ทำทุกอย่างเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ ในตะวันออกกลางไปจากซาอุดิอารเบีย ยิ่งอเมริกาไปเสียเวลามากมาย ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซาอุก็มองว่า อเมริกากำลังอ่อนข้อ แถมเสียเชิงให้อิหร่านไปแล้วด้วย ทำเอาเสี่ยปั๊มใหญ่งอนกับอเมริกา จนถูกนินทาไปค่อนโลก
    แต่ชาวอ่าวอีก 3 รายคือ โอมาน การ์ตา และเอมิเรต ดูไบ บอกว่า เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นนะ อิหร่านตกลงหยุดผลิตนิวเคลียร์ ก็ดีกับพวกเราไม่ใช่หรือ เราน่าคุยกับอิหร่านดีๆ ยังไงก็เป็นชาวตะวันออกกลางด้วยกัน จับมือกัน ทำการค้าด้วยกัน แบ่งพลังงานกันใช้ (ฮั่นแน่..) และร่วมมือกันเรื่องความมั่นคง
    ตั้งแต่มีกลุ่ม Islamic State หรือ IS เกิดขึ้นในอิรัคและซีเรีย ซึ่งนับว่าเป็นการคุกคาม ทั้งฝ่ายก๊วนชาวอ่าว ทั้งฝ่ายอิหร่าน ก็ทำให้บางประเทศในก๊วนชาวอ่าวเอง พยายามหาทางจับมือคุยกับอิหร่าน แหม ใครจะอยากเปิดศึกมันทุกด้าน
    เมื่อ ฮัสซัน รูฮานี่ Hassan Rouhani เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.2013 เขาบอกว่าภาระกิจสำคัญอันดับแรกของเขาคือ การพยายามที่จะคุยกับประเทศเล็กๆในก๊วนชาวอ่าว ให้มาร่วมมือกับอิหร่าน ในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค และคูเวต เป็นประเทศแรกใน
ก๊วนชาวอ่าว ที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยี่ยม หลังจากเสร็จการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกลุ่มพี่เบิ้ม แต่ถ้าดูแผนที่ ว่าคูเวต ตั้งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า อิหร่านคิดไกล…
    อิหร่านบอกกับคูเวตว่า ประเทศเดียวจะแก้ปัญหาของภูมิภาคไม่ได้หรอก มันต้องร่วมมือกัน และต้องถือว่าการคุกคามประเทศใด คือการคุกคามทั้งภูมิภาค เราจึงต้องร่วมต่อสู้ด้วยกัน
    แต่การบอกกล่าวแบบนี้ของอิหร่าน กลับเจอศอกกลับ จากบางเสี้ยวของก๊วนชาวอ่าว ที่ซัดกลับว่า อิหร่านต่างหาก เป็นผู้สนับสนุนอาวุธ และให้การฝึกกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กำลังแซะความมั่นคงของบางประเทศในก๊วนชาวอ่าว แล้วแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่องไหม อย่าว่าแต่จะร่วมมือกันเลย
    และอเมริกาก็คงยิ้มอยู่ในหน้า โอกาสเอาแต่ปั้มไม่เอาคน ยิ่งใกล้ความเป็นจริง … ถ้ารัสเซียไม่โผล่เข้ามาแทรกเรื่องซีเรียเสียก่อน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตื่นไม่ทัน
    ###############
ตอน 2
    เมื่อซาอุดิอารเบีย เกิดอาการหน้ามืด ขานชื่อเรียกรวมพล เพื่อถล่มเยเมน ในปลายเดือนมีนาคม ต้นปี ค.ศ.2015 นั้น มีก๊วนชาวอ่าว 1 ราย คือ โอมาน ไม่มาร่วมรายการด้วย เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันทำให้เห็นว่า แม้ในตะวันออกกลางเอง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วอำนาจ
    โอมานเป็นประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์ถือว่า อยู่ในจุดที่ทั้งสำคัญและอันตราย เพราะโอมานอยู่ตรงปากอ่าวโอมาน ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน คุมเชิงช่องแคบฮอร์มุส เส้นทางเดินของน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลกด้วยกัน
    โอมาน แม้จะสังกัดก๊วนชาวอ่าว แต่การที่โอมานอยู่ฝั่งตรงกันข้าม กับปากอิหร่าน โอมานจึงมีสภาพเหมือนคนขี่รถจักรยานสองล้อ ถีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถสิบล้อ 2 คัน ที่กำลังวิ่งแข่งกัน รักษาระยะไม่ดี มีหวังถูกเบียดบี้แหลกคาถนน แต่โอมาน ก็ดูเหมือนจะรักษาระยะได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากเกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่เสี่ยปั้มใหญ่ซาอุดิอารเบีย พยายามบีบมือชาวอ่าวตัวเล็กๆให้แน่นขึ้น เพราะไม่ไว้ใจ กลัวจะหลุดมือไปอิงฝั่งอิหร่าน ถึงขนาดยอมควักกระเป๋าหลายหน เพื่อสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและด้านเศรษฐกิจให้ชาวอ่าวตัวเล็กๆ
    แต่โอมาน ถึงจะไม่รวย และเหมือนอยู่ใต้มือของซาอุ และแถมยังเป็นเพื่อนกับอเมริกาอีกด้วย แต่โอมานน่าจะขี่จักรยานระหว่างทางแคบเก่ง จึงยังคงค้าขาย และผูกสัมพันธ์กับอิหร่านไว้สม่ำเสมอ แม้อเมริกาจะพยายามทัดทาน ไม่ให้โอมานไปมีสัมพันธ์กับอิหร่าน แต่ดูเหมือนอเมริกาก็จะห้ามไม่สำเร็จ ยิ่งจะไปถามว่า เมื่อไหร่โอมานจะเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง อเมริกาคงไม่กล้าเสือก เพราะอะไร ก็ลองนึกดูกันนะครับ ใครมีของดี ก็ต้องรู้ตัว รู้จักใช้
    เพราะฉะนั้นใครที่ว่าอเมริกายิ่งใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม แห่งค่ายประชาธิปไตย ใครไม่เป็นประชาธิปไตย กูคว่ำบาตรหมด ผมว่าน่าทุเรศครับ ถ้ามีใครมาเสือกยุ่ง ถามว่า เมื่อไหร่แดนสยามเราจะมีการเลือกตั้ง ฝากลุงตู่ศอกกลับด้วยนะครับ ว่า ไอ้ 6 ประเทศชาวอ่าว นอกจากไม่มีเลือกตั้ง ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ยังใช้การปกครองแบบ ที่ผู้มีอำนาจปกครอง เป็นกษัตริย์ หรือสุลต่าน มีอำนาจสูงสุด ยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ทำไมพวกมีงไม่ชวนกันไปคว่ำบาตรให้หมด มายุ่งอะไรกับประเทศผม
    จากข้อมูลของ Oil and Gas Journal ระบุว่า โอมานมีแหล่งพลังงานมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แต่โอมานเอาไว้ขายเป็นรายได้ให้ประเทศ มากกว่าจะเอามาใช้ในประเทศ ย้อนไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โอมานเรื่มซื้อแก๊สจากอิหร่านแล้ว และในปี ค.ศ.2007 โอมานก็ซื้อแก๊ส LNG จากอิหร่านด้วย ในช่วงนั้น โอมานเป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ยังคงค้าขายกับอิหร่าน ขี่จักรยานในทางแคบไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจการกดดันของอเมริกา ที่จะให้โอมานไปซื้อแก๊สจากการ์ตาแทน
    และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า โอมานกับอิหร่านกำลังเดินหน้า ที่จะร่วมมือกันสร้างท่อส่งแก๊ส วิ่งตรงระหว่าง 2 ประเทศ ยาว 173 ไมล์ รอดใต้ทะเล เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 ว่า ทั้ง 2 ประเทศ ทำบันทึกความเข้าใจกันไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ
    แค่ไม่กี่วันหลังจาก การลงนามเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ โอมานก็ทำบันทึกข้อตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านประมาณ 20 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญ! และตัวเลขนี้คงมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อท่อส่งแก๊สสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ค่าก่อสร้างท่อประมาณมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เป็นการลงทุนของโอมาน ที่เหมือนโอมานตัดสินใจโหนสิบล้อยี่ห้ออิหร่านไปแล้ว
    ###############
ตอน 3
    ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียขายทั้งน้ำมันและแก๊สให้แก่โอมาน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญต่อปี ไม่มีการลดราคา ไม่มีการแบ่งส่วนกำไร เสี่ยปั๊มใหญ่ หน้าใหญ่จริงเพื่อความมั่นคงของตัว แต่เค็มจังเวลาค้าขาย โอมานคงคิดแล้วว่า จ่ายค่าน้ำมันแก๊สทุกปีอย่างนี้ให้ลูกพี่ใหญ่ ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ข้อเสนอของอิหร่าน เป็นการร่วมลงทุนในบริษัทที่จะตั้งร่วมกัน เพื่อขายแก็สอิหร่านที่ส่งมาตามท่อส่ง กำไรจากการขายแก๊สก็แบ่งกัน ด้วยวิธีนี้ โอมานจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการขายแก๊ส และมีแก๊สพอใช้ในประเทศด้วย
    สรุปว่า ค่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน ใช้แผนยุทธศาสตร์ สู่ด้วยท่อส่งเหมือนกัน ท่อส่งไปที่ไหน เจ้าของบริเวณที่ท่อส่งไปถึง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็ต้องช่วยดูแลให้ เพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน แบบนี้ น่าจะดีกว่า สร้างขบวนการจราจล การแตกแยกขึ้นในประเทศเขา ระหว่างเขารบกัน ก็ถือโอกาสปล้นทรัพยากรเขาไปจนเกลี้ยง
    การที่โอมานไปตกลงกับอิหร่านแบบนี้ แน่นอน คงยิ่งทำให้ซาอุดิอารเบียหงุดหงิด อาการหลอนเรื่องอิหร่าน ยิ่งกำเริบหนัก แต่หลอนเรื่องอิหร่านจะเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะไม่น่าเสียวไส้เท่าเรื่อง กระเป๋าเสี่ยปั๊มใหญ่จะเบาหวิว…
    หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยปั๊มใหญ่ถือว่ามีน้ำมันแยะ ขยายตลาดไปทั่ว และในราคาที่สูงลิ่ว ไม่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เสี่ยปั๊มใหญ่เล่นเต็มอัตรา ถือว่าน้ำกำลังขึ้น แต่วันนี้ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มลงเสียแล้ว น้ำมันเหลือประมาณ 44.2 และ 46.65 ต่อบาเรล (เป็นราคาที่แสดงของ ICE และ NYMEX ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลลงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผมอ่าน ครับ) และทำให้ บัญชีรายรับของซาอุดิอารเบีย เริ่มแสดงรายการ ขาดทุน !!!
    แต่น้ำมันและแก๊สของอิหร่าน กำลังจะมีตลาดเพิ่มขึ้น (ขณะนี้ EU ยกเลิก การคว่ำบาตร ให้ผู้ผลิตน้ำมันของอิหร่านไป 2 รายแล้ว) ไม่ใช่แค่ว่า จะเป็นการเข้ามาเบียดตลาดของซาอุดิอารเบียเท่านั้น ถ้าอิหร่านยังสามารถรักษา ราคาขายที่ต่ำในระดับนี้ได้ต่อไปอีก ซาอุดิอารเบียมีหวังกระอัก และจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย อย่างรุนแรง เพราะเศรษฐกิจของซาอุ พึ่งอยู่กับการขายน้ำมันอย่างเดียว และตอนนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ ประเมินสถานะของซาอุแล้วว่า ถ้าสภาพตลาดน้ำมันยังเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงได้เห็นเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบีย ล้มละลายแน่นอน….ฮู้ย….เดี๋ยวได้ขายอูฐแน่
    การจับมือระหว่างโอมานกับอิหร่าน สร้างท่อส่งแก๊ส จึงเหมือนหมัดชกใส่หน้าเสี่ยปั๊มใหญ่ แม้ไม่คว่ำ แต่ทำให้เซเหมือนกัน โอมาน เป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ในความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ เหมือนโอมาน จะเอียงออกมานอกกลุ่มชาวอ่าวค่อนข้างชัด เมื่อตอนที่เสี่ยปั๊มใหญ่เรียก ระดมพลไปถล่มเยเมน โอมานไม่ไปร่วม พอมีข้ออ้างได้ว่า โอมานเป็นกลาง ไม่อยากเข้าไปยุ่งในกิจการบ้านคนอื่น แต่การที่โอมานตกลงจับมือกับอิหร่าน เพื่อสร้างท่อส่งเแก๊ส นี่ เหมือนโอมานกำลังบอกใครว่า การคบกับอิหร่าน นอกจากไม่เป็นการคุกคามบ้านตัวแล้ว ดูเหมือนจะดีกับเศรษฐกิจของบ้านตัวเองเสียอีกด้วย
    เรื่องโอมาน คงไม่ทำให้ซาอุดิอารเบียกลุ้มใจรายเดียว คู่รักคู่ขุด ก็น่าจะกลุ้มใจด้วย ถ้าโอมานเอียงไปจับมือกับอิหร่าน โอกาสที่อเมริกาจะควบคุม ช่องแคบฮอร์มุส คงแทบจะเป็นเรื่องเพ้อ และเรื่องกลับเข้าไปใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะเป็นเรื่องหลอนอเมริกาบ้าง คราวนี้ จะได้สมเป็นคู่รักคู่หลอนกันเลย ฮาจังวุ้ย
    แค่เรื่องโอมานนี่ ก็ทำให้เสียปั้มใหญ่เซแล้วนะ แต่เขาว่าข่าวร้ายเวลามา มันไม่มาเรื่องเดียวหรอก
    การ์ตา เสี่ยปั้มซ่าหนุ่มสำอางค์ ตอนแรกทำคึกคักไปร่วมกับเสี่ยปั้มใหญ่ ไล่ถล่มซีเรียจนเละ มาวันนี้ วันที่คุณพี่ปูตินเดินท่าหล่อ พากองทัพเรือ บก อากาศ ยาตราเข้าเข้ามาในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า ที่กำลังถูกรุมทึ้ง เขาว่า ตอนนี้การ์ตาเอง ก็กำลังเตรียมกลับลำ แอบไปเจรจากับอิหร่านแล้ว
    …พี่ครับ หลุมแก๊สเราหลุมเดียวกันนะครับ ลงทุนทำท่อส่งแก๊สร่วมกัน รวยด้วยกัน แทนที่จะรบกัน ดีไหมครับ เอาแบบ แฟร์ แฟร์ เลยนะพี่นะ ( นี่ผมเดาเอานะ ว่า เสี่ยรุ่นใหม่เขาคงจะพูดแบบนี้)
    ส่วน อินเดีย อีนี่ ก็มีข่าวว่า กำลังเจรจากับอิหร่านและโอมาน ให้ต่อท่อส่งแก๊ส ยาวไปถึงฝั่งอินเดียเสียด้วยเลย ตัดหน้าปากีสถาน ที่ก็มีแผนสร้างท่อส่งเหมือนกัน
    โอ้ย… ตอนนี้ใครไม่รู้จักยุทธศาสตร์ท่อส่ง โน่น ไปอยู่หลังเขา กับค่ายประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งได้เลย เชยฉิบหาย โลกหมุนไปทุกวัน มึงคิดได้แต่ทวงเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง….
    ซาอุดิอารเบีย ส่งน้ำมันให้อินเดียประมาณ ปีละ 29.2 พันล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้ อาจหายไปจากบัญชีรายรับของเสี่ยปั้มใหญ่ และก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุ อ๋อ…. มิน่า เสี่ยปั๊มใหญ่ถึงไม่พอใจ ดิ้นเร้าๆ ….. ผมนี่คิดช้าจัง ถ้าเขาตกลงเรื่องนิวเคลียร์กันได้ และมีการยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านก็ติดปีก ยึดตลาดพลังงาน ซาอุดิอารเบีย ก็คงถลาลงดิน และอีก อ๋อ… มิน่า ตอนนี้อเมริกา ถึงเอาใจอีนี่แขกอินเดียจัง แต่เรื่องแขกอินเดียนี่ สุภาษิตไทยว่าไว้อย่างไร อเมริกาคงไม่รู้จัก ฮา อีกแล้ว แหม เขียนเรื่องนี้สนุกดีจัง เห็นความฉลาดของคุณพ่ออเมริกาของใครไม่รู้ หายเหี้ยนเลย
    ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียกล่าวหาว่าอิหร่านยุแยงเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง นี่ถ้าเรื่องการ์ตาจะไปจับมือกับอิหร่าน เป็นจริง อาจมีชาวอ่าว ทะยอยแตกคอก ออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องประสาทหลอนแล้ว เรื่องหลอนจะกลายเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยๆ การที่รัสเซียเดินเข้ามายืนเคียงอิหร่านในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า และอื่นๆ ผมว่า แค่นี้ก็คงทำให้เสี่ยปั๊มใหญ่ ระทมอยู่ในอกเอาเรื่อง นอกจากไม่มีเพื่อนรัก คู่รักมายืนเคียงแล้ว ยังมีแต่ข่าวลือ ข่าวร้ายออกมาเพิ่มไม่จบ เสี่ยปั๊มใหญ่จะทนระทมต่อไปไหวหรือครับ เป็นผมมีคู่รักใจจืดใส่ ยามยากแบบนี้ ถีบให้ตกเตียงไปเลยครับ
    สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
30 ต.ค. 2558
    เรื่อง แตกคอ แตกคอ “แตกคอ แตกคอก” ตอน 1 กำลังหน้าสิ่วหน้าขวาน เหตุการณ์แถวบ้านยังไม่รู้จะออกหัวออกก้อย แต่วงพนันแถวบ้านผม เขาเอียงไปทางออกก้อยมากกว่านะ เอะ พูดถึงใครกันลุง ก็จะใครเสียอีกล่ะ เสี่ยปั๊มคนใหญ่ คนถูกข่าวลือเล่นใส่นั่นไงครับ วันนี้มาอีกแล้ว สื่ออังกฤษยังเล่นไม่เลิก บอกว่าพระญาติพระวงศ์กำลังร่วมกันทำหนังสือ เสนอให้ปลดกษัตริย์ ซาลมาน จากตำแหน่งกษัตริย์ คราวนี้ในหนังสือบอกชื่อมาเลยว่า ต้องการใครมาแทน แน่จริงๆ แถม 2 วันนี้ ยังเพิ่มข่าวให้อีกว่า มีเจ้าชายชาวซาอุดิ หลานกษัตริย์ ถูกจับที่เลบานอน เพราะขนยาบ้าหนักกว่า 2 ตัน มาในเครื่องบินส่วนตัว เล่นกันแรงจริง กลัวคุณพี่ปูตินเขาจะฉกเอาปั๊มไปครองก่อนหรือครับ ตะวันออกกลางกำลังระส่ำจริงๆ เอาแค่เฉพาะพวกที่ลากกันมาจับมือ เมื่อปี ค.ศ.1981 ต้ังก๊วนชาวอ่าว the Gulf Cooperation Council (GCC) กันไม่ให้ใครออกอ่าวไปลำพัง ดูเผินๆ เหมือนรักกันจัง แต่เขาว่า นั้นมันหน้าฉาก ของจริงไม่ใช่อย่างที่ภาพออกมาหรอก ก๊วนริมอ่าวมีกัน 6 ประเทศ ลูกพี่ใหญ่ หรือปั๊มใหญ่สุด ก็ซาอุดิอารเบียนั่นเอง ที่มีเพื่อนรักในก๊วนอีกราย เป็นเหมือนลูกกระเดือกติดคอหอยคือ บาห์เรน 2 เสี่ยปั๊มนี่ เกลียดอิหร่านอย่างที่สุด มองว่าอิหร่านคือ นักล่า… อ้าว นั่นมันสมญาคู่รักคู่ขุด ของเสี่ยเองนะครับ อย่าไปปนกัน เดี๋ยวงอนผิดคน (ฮา) 2 เสี่ยปั๊มใหญ่บอกว่า อิหร่านเป็นตัวร้าย ความปั่นป่วนในตะวันกลางน่ะ มาจากฝีมือของอิหร่านทั้งนั้น เชื่อถือไม่ได้ ไว้ใจไม่ลง ถึงขนาดนั้นเอาเลย ซาอุดิ ถูกหลอนทั้งเวลาหลับเวลาตื่นว่า อิหร่านคู่แข่งตัวสำคัญ ในตะวันออกกลาง ทำทุกอย่างเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ ในตะวันออกกลางไปจากซาอุดิอารเบีย ยิ่งอเมริกาไปเสียเวลามากมาย ในการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่าน ซาอุก็มองว่า อเมริกากำลังอ่อนข้อ แถมเสียเชิงให้อิหร่านไปแล้วด้วย ทำเอาเสี่ยปั๊มใหญ่งอนกับอเมริกา จนถูกนินทาไปค่อนโลก แต่ชาวอ่าวอีก 3 รายคือ โอมาน การ์ตา และเอมิเรต ดูไบ บอกว่า เรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ ไม่น่าจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นนะ อิหร่านตกลงหยุดผลิตนิวเคลียร์ ก็ดีกับพวกเราไม่ใช่หรือ เราน่าคุยกับอิหร่านดีๆ ยังไงก็เป็นชาวตะวันออกกลางด้วยกัน จับมือกัน ทำการค้าด้วยกัน แบ่งพลังงานกันใช้ (ฮั่นแน่..) และร่วมมือกันเรื่องความมั่นคง ตั้งแต่มีกลุ่ม Islamic State หรือ IS เกิดขึ้นในอิรัคและซีเรีย ซึ่งนับว่าเป็นการคุกคาม ทั้งฝ่ายก๊วนชาวอ่าว ทั้งฝ่ายอิหร่าน ก็ทำให้บางประเทศในก๊วนชาวอ่าวเอง พยายามหาทางจับมือคุยกับอิหร่าน แหม ใครจะอยากเปิดศึกมันทุกด้าน เมื่อ ฮัสซัน รูฮานี่ Hassan Rouhani เข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีอิหร่าน เมื่อปี ค.ศ.2013 เขาบอกว่าภาระกิจสำคัญอันดับแรกของเขาคือ การพยายามที่จะคุยกับประเทศเล็กๆในก๊วนชาวอ่าว ให้มาร่วมมือกับอิหร่าน ในการแก้ปัญหาความมั่นคงของภูมิภาค และคูเวต เป็นประเทศแรกใน
ก๊วนชาวอ่าว ที่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านไปเยี่ยม หลังจากเสร็จการเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับกลุ่มพี่เบิ้ม แต่ถ้าดูแผนที่ ว่าคูเวต ตั้งอยู่ที่ไหนแล้ว ก็ต้องยอมรับว่า อิหร่านคิดไกล… อิหร่านบอกกับคูเวตว่า ประเทศเดียวจะแก้ปัญหาของภูมิภาคไม่ได้หรอก มันต้องร่วมมือกัน และต้องถือว่าการคุกคามประเทศใด คือการคุกคามทั้งภูมิภาค เราจึงต้องร่วมต่อสู้ด้วยกัน แต่การบอกกล่าวแบบนี้ของอิหร่าน กลับเจอศอกกลับ จากบางเสี้ยวของก๊วนชาวอ่าว ที่ซัดกลับว่า อิหร่านต่างหาก เป็นผู้สนับสนุนอาวุธ และให้การฝึกกับกลุ่มกองกำลังติดอาวุธ ที่กำลังแซะความมั่นคงของบางประเทศในก๊วนชาวอ่าว แล้วแบบนี้จะพูดกันรู้เรื่องไหม อย่าว่าแต่จะร่วมมือกันเลย และอเมริกาก็คงยิ้มอยู่ในหน้า โอกาสเอาแต่ปั้มไม่เอาคน ยิ่งใกล้ความเป็นจริง … ถ้ารัสเซียไม่โผล่เข้ามาแทรกเรื่องซีเรียเสียก่อน อย่างไม่ทันรู้ตัว ตื่นไม่ทัน ###############
ตอน 2 เมื่อซาอุดิอารเบีย เกิดอาการหน้ามืด ขานชื่อเรียกรวมพล เพื่อถล่มเยเมน ในปลายเดือนมีนาคม ต้นปี ค.ศ.2015 นั้น มีก๊วนชาวอ่าว 1 ราย คือ โอมาน ไม่มาร่วมรายการด้วย เรื่องนี้น่าสนใจมาก มันทำให้เห็นว่า แม้ในตะวันออกกลางเอง ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับขั้วอำนาจ โอมานเป็นประเทศไม่ใหญ่ ไม่เล็ก แต่โดยสภาพภูมิศาสตร์ถือว่า อยู่ในจุดที่ทั้งสำคัญและอันตราย เพราะโอมานอยู่ตรงปากอ่าวโอมาน ฝั่งตรงกันข้ามกับอิหร่าน คุมเชิงช่องแคบฮอร์มุส เส้นทางเดินของน้ำมัน ที่แออัดที่สุดในโลกด้วยกัน โอมาน แม้จะสังกัดก๊วนชาวอ่าว แต่การที่โอมานอยู่ฝั่งตรงกันข้าม กับปากอิหร่าน โอมานจึงมีสภาพเหมือนคนขี่รถจักรยานสองล้อ ถีบอยู่ตรงกลาง ระหว่างรถสิบล้อ 2 คัน ที่กำลังวิ่งแข่งกัน รักษาระยะไม่ดี มีหวังถูกเบียดบี้แหลกคาถนน แต่โอมาน ก็ดูเหมือนจะรักษาระยะได้ดีพอสมควร โดยเฉพาะหลังจากเกิดเทศกาลอาหรับสปริง ที่เสี่ยปั้มใหญ่ซาอุดิอารเบีย พยายามบีบมือชาวอ่าวตัวเล็กๆให้แน่นขึ้น เพราะไม่ไว้ใจ กลัวจะหลุดมือไปอิงฝั่งอิหร่าน ถึงขนาดยอมควักกระเป๋าหลายหน เพื่อสนับสนุนทั้งด้านอาวุธและด้านเศรษฐกิจให้ชาวอ่าวตัวเล็กๆ แต่โอมาน ถึงจะไม่รวย และเหมือนอยู่ใต้มือของซาอุ และแถมยังเป็นเพื่อนกับอเมริกาอีกด้วย แต่โอมานน่าจะขี่จักรยานระหว่างทางแคบเก่ง จึงยังคงค้าขาย และผูกสัมพันธ์กับอิหร่านไว้สม่ำเสมอ แม้อเมริกาจะพยายามทัดทาน ไม่ให้โอมานไปมีสัมพันธ์กับอิหร่าน แต่ดูเหมือนอเมริกาก็จะห้ามไม่สำเร็จ ยิ่งจะไปถามว่า เมื่อไหร่โอมานจะเป็นประชาธิปไตย เมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง อเมริกาคงไม่กล้าเสือก เพราะอะไร ก็ลองนึกดูกันนะครับ ใครมีของดี ก็ต้องรู้ตัว รู้จักใช้ เพราะฉะนั้นใครที่ว่าอเมริกายิ่งใหญ่ เป็นพี่เบิ้ม แห่งค่ายประชาธิปไตย ใครไม่เป็นประชาธิปไตย กูคว่ำบาตรหมด ผมว่าน่าทุเรศครับ ถ้ามีใครมาเสือกยุ่ง ถามว่า เมื่อไหร่แดนสยามเราจะมีการเลือกตั้ง ฝากลุงตู่ศอกกลับด้วยนะครับ ว่า ไอ้ 6 ประเทศชาวอ่าว นอกจากไม่มีเลือกตั้ง ไม่รู้จักรัฐธรรมนูญ ยังใช้การปกครองแบบ ที่ผู้มีอำนาจปกครอง เป็นกษัตริย์ หรือสุลต่าน มีอำนาจสูงสุด ยิ่งกว่าเผด็จการเสียอีก ทำไมพวกมีงไม่ชวนกันไปคว่ำบาตรให้หมด มายุ่งอะไรกับประเทศผม จากข้อมูลของ Oil and Gas Journal ระบุว่า โอมานมีแหล่งพลังงานมากเป็นอันดับที่ 23 ของโลก แต่โอมานเอาไว้ขายเป็นรายได้ให้ประเทศ มากกว่าจะเอามาใช้ในประเทศ ย้อนไปตั้งแต่ ปี ค.ศ.2005 โอมานเรื่มซื้อแก๊สจากอิหร่านแล้ว และในปี ค.ศ.2007 โอมานก็ซื้อแก๊ส LNG จากอิหร่านด้วย ในช่วงนั้น โอมานเป็น 1 ใน 3 ประเทศ ที่ยังคงค้าขายกับอิหร่าน ขี่จักรยานในทางแคบไปเรื่อยๆ โดยไม่สนใจการกดดันของอเมริกา ที่จะให้โอมานไปซื้อแก๊สจากการ์ตาแทน และเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีข่าวว่า โอมานกับอิหร่านกำลังเดินหน้า ที่จะร่วมมือกันสร้างท่อส่งแก๊ส วิ่งตรงระหว่าง 2 ประเทศ ยาว 173 ไมล์ รอดใต้ทะเล เรื่องนี้เป็นข่าวมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ค.ศ.2013 ว่า ทั้ง 2 ประเทศ ทำบันทึกความเข้าใจกันไว้ แต่ยังไม่ได้ลงมือ แค่ไม่กี่วันหลังจาก การลงนามเรื่องอิหร่านนิวเคลียร์ โอมานก็ทำบันทึกข้อตกลงที่จะซื้อแก๊สจากอิหร่านประมาณ 20 ล้านคิวบิกเมตรต่อวัน เป็นระยะเวลา 25 ปี คิดเป็นมูลค่าทั้งหมด ประมาณ 6 หมื่นล้านเหรียญ! และตัวเลขนี้คงมีการเพิ่มขึ้นอีกมาก เมื่อท่อส่งแก๊สสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 2018 ค่าก่อสร้างท่อประมาณมูลค่า 1 พันล้านเหรียญ เป็นการลงทุนของโอมาน ที่เหมือนโอมานตัดสินใจโหนสิบล้อยี่ห้ออิหร่านไปแล้ว ###############
ตอน 3 ปัจจุบัน ซาอุดิอารเบียขายทั้งน้ำมันและแก๊สให้แก่โอมาน มูลค่าประมาณ 1 พันล้านเหรียญต่อปี ไม่มีการลดราคา ไม่มีการแบ่งส่วนกำไร เสี่ยปั๊มใหญ่ หน้าใหญ่จริงเพื่อความมั่นคงของตัว แต่เค็มจังเวลาค้าขาย โอมานคงคิดแล้วว่า จ่ายค่าน้ำมันแก๊สทุกปีอย่างนี้ให้ลูกพี่ใหญ่ ก็คงอยู่เท่านี้ แต่ข้อเสนอของอิหร่าน เป็นการร่วมลงทุนในบริษัทที่จะตั้งร่วมกัน เพื่อขายแก็สอิหร่านที่ส่งมาตามท่อส่ง กำไรจากการขายแก๊สก็แบ่งกัน ด้วยวิธีนี้ โอมานจะได้รับส่วนแบ่งกำไรจากการขายแก๊ส และมีแก๊สพอใช้ในประเทศด้วย สรุปว่า ค่ายรัสเซีย จีน อิหร่าน ใช้แผนยุทธศาสตร์ สู่ด้วยท่อส่งเหมือนกัน ท่อส่งไปที่ไหน เจ้าของบริเวณที่ท่อส่งไปถึง ที่เป็นเจ้าของร่วมกัน ก็ต้องช่วยดูแลให้ เพราะเป็นผลประโยชน์ร่วมกัน แบบนี้ น่าจะดีกว่า สร้างขบวนการจราจล การแตกแยกขึ้นในประเทศเขา ระหว่างเขารบกัน ก็ถือโอกาสปล้นทรัพยากรเขาไปจนเกลี้ยง การที่โอมานไปตกลงกับอิหร่านแบบนี้ แน่นอน คงยิ่งทำให้ซาอุดิอารเบียหงุดหงิด อาการหลอนเรื่องอิหร่าน ยิ่งกำเริบหนัก แต่หลอนเรื่องอิหร่านจะเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง ดูเหมือนจะไม่น่าเสียวไส้เท่าเรื่อง กระเป๋าเสี่ยปั๊มใหญ่จะเบาหวิว… หลายปีที่ผ่านมา เสี่ยปั๊มใหญ่ถือว่ามีน้ำมันแยะ ขยายตลาดไปทั่ว และในราคาที่สูงลิ่ว ไม่มีโปรโมชั่นลดแลกแจกแถม เสี่ยปั๊มใหญ่เล่นเต็มอัตรา ถือว่าน้ำกำลังขึ้น แต่วันนี้ ดูเหมือนน้ำจะเริ่มลงเสียแล้ว น้ำมันเหลือประมาณ 44.2 และ 46.65 ต่อบาเรล (เป็นราคาที่แสดงของ ICE และ NYMEX ซึ่งปรากฏอยู่ในข้อมูลลงวันที่ 6 ตุลาคมที่ผมอ่าน ครับ) และทำให้ บัญชีรายรับของซาอุดิอารเบีย เริ่มแสดงรายการ ขาดทุน !!! แต่น้ำมันและแก๊สของอิหร่าน กำลังจะมีตลาดเพิ่มขึ้น (ขณะนี้ EU ยกเลิก การคว่ำบาตร ให้ผู้ผลิตน้ำมันของอิหร่านไป 2 รายแล้ว) ไม่ใช่แค่ว่า จะเป็นการเข้ามาเบียดตลาดของซาอุดิอารเบียเท่านั้น ถ้าอิหร่านยังสามารถรักษา ราคาขายที่ต่ำในระดับนี้ได้ต่อไปอีก ซาอุดิอารเบียมีหวังกระอัก และจะมีผลกระทบกับเศรษฐกิจของซาอุดิอารเบีย อย่างรุนแรง เพราะเศรษฐกิจของซาอุ พึ่งอยู่กับการขายน้ำมันอย่างเดียว และตอนนี้ เริ่มมีนักวิเคราะห์ ประเมินสถานะของซาอุแล้วว่า ถ้าสภาพตลาดน้ำมันยังเป็นอยู่เช่นนี้ต่อไปอีก 2 ปี โดยไม่มีการเปลี่ยนแปลง คงได้เห็นเสี่ยปั๊มใหญ่ ซาอุดิอารเบีย ล้มละลายแน่นอน….ฮู้ย….เดี๋ยวได้ขายอูฐแน่ การจับมือระหว่างโอมานกับอิหร่าน สร้างท่อส่งแก๊ส จึงเหมือนหมัดชกใส่หน้าเสี่ยปั๊มใหญ่ แม้ไม่คว่ำ แต่ทำให้เซเหมือนกัน โอมาน เป็นที่ยอมรับจากผู้คนส่วนใหญ่ในความเป็นกลาง แต่ตอนนี้ เหมือนโอมาน จะเอียงออกมานอกกลุ่มชาวอ่าวค่อนข้างชัด เมื่อตอนที่เสี่ยปั๊มใหญ่เรียก ระดมพลไปถล่มเยเมน โอมานไม่ไปร่วม พอมีข้ออ้างได้ว่า โอมานเป็นกลาง ไม่อยากเข้าไปยุ่งในกิจการบ้านคนอื่น แต่การที่โอมานตกลงจับมือกับอิหร่าน เพื่อสร้างท่อส่งเแก๊ส นี่ เหมือนโอมานกำลังบอกใครว่า การคบกับอิหร่าน นอกจากไม่เป็นการคุกคามบ้านตัวแล้ว ดูเหมือนจะดีกับเศรษฐกิจของบ้านตัวเองเสียอีกด้วย เรื่องโอมาน คงไม่ทำให้ซาอุดิอารเบียกลุ้มใจรายเดียว คู่รักคู่ขุด ก็น่าจะกลุ้มใจด้วย ถ้าโอมานเอียงไปจับมือกับอิหร่าน โอกาสที่อเมริกาจะควบคุม ช่องแคบฮอร์มุส คงแทบจะเป็นเรื่องเพ้อ และเรื่องกลับเข้าไปใหญ่ในตะวันออกกลาง อาจจะเป็นเรื่องหลอนอเมริกาบ้าง คราวนี้ จะได้สมเป็นคู่รักคู่หลอนกันเลย ฮาจังวุ้ย แค่เรื่องโอมานนี่ ก็ทำให้เสียปั้มใหญ่เซแล้วนะ แต่เขาว่าข่าวร้ายเวลามา มันไม่มาเรื่องเดียวหรอก การ์ตา เสี่ยปั้มซ่าหนุ่มสำอางค์ ตอนแรกทำคึกคักไปร่วมกับเสี่ยปั้มใหญ่ ไล่ถล่มซีเรียจนเละ มาวันนี้ วันที่คุณพี่ปูตินเดินท่าหล่อ พากองทัพเรือ บก อากาศ ยาตราเข้าเข้ามาในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า ที่กำลังถูกรุมทึ้ง เขาว่า ตอนนี้การ์ตาเอง ก็กำลังเตรียมกลับลำ แอบไปเจรจากับอิหร่านแล้ว …พี่ครับ หลุมแก๊สเราหลุมเดียวกันนะครับ ลงทุนทำท่อส่งแก๊สร่วมกัน รวยด้วยกัน แทนที่จะรบกัน ดีไหมครับ เอาแบบ แฟร์ แฟร์ เลยนะพี่นะ ( นี่ผมเดาเอานะ ว่า เสี่ยรุ่นใหม่เขาคงจะพูดแบบนี้) ส่วน อินเดีย อีนี่ ก็มีข่าวว่า กำลังเจรจากับอิหร่านและโอมาน ให้ต่อท่อส่งแก๊ส ยาวไปถึงฝั่งอินเดียเสียด้วยเลย ตัดหน้าปากีสถาน ที่ก็มีแผนสร้างท่อส่งเหมือนกัน โอ้ย… ตอนนี้ใครไม่รู้จักยุทธศาสตร์ท่อส่ง โน่น ไปอยู่หลังเขา กับค่ายประชาธิปไตยคือการเลือกตั้งได้เลย เชยฉิบหาย โลกหมุนไปทุกวัน มึงคิดได้แต่ทวงเมื่อไหร่จะมีเลือกตั้ง…. ซาอุดิอารเบีย ส่งน้ำมันให้อินเดียประมาณ ปีละ 29.2 พันล้านเหรียญ เงินจำนวนนี้ อาจหายไปจากบัญชีรายรับของเสี่ยปั้มใหญ่ และก็คงเป็นเรื่องใหญ่สำหรับซาอุ อ๋อ…. มิน่า เสี่ยปั๊มใหญ่ถึงไม่พอใจ ดิ้นเร้าๆ ….. ผมนี่คิดช้าจัง ถ้าเขาตกลงเรื่องนิวเคลียร์กันได้ และมีการยกเลิกการคว่ำบาตร อิหร่านก็ติดปีก ยึดตลาดพลังงาน ซาอุดิอารเบีย ก็คงถลาลงดิน และอีก อ๋อ… มิน่า ตอนนี้อเมริกา ถึงเอาใจอีนี่แขกอินเดียจัง แต่เรื่องแขกอินเดียนี่ สุภาษิตไทยว่าไว้อย่างไร อเมริกาคงไม่รู้จัก ฮา อีกแล้ว แหม เขียนเรื่องนี้สนุกดีจัง เห็นความฉลาดของคุณพ่ออเมริกาของใครไม่รู้ หายเหี้ยนเลย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ซาอุดิอารเบียกล่าวหาว่าอิหร่านยุแยงเพื่อแย่งความเป็นใหญ่ในตะวันออกกลาง นี่ถ้าเรื่องการ์ตาจะไปจับมือกับอิหร่าน เป็นจริง อาจมีชาวอ่าว ทะยอยแตกคอก ออกไปอีก มันไม่ใช่เรื่องประสาทหลอนแล้ว เรื่องหลอนจะกลายเป็นเรื่องจริง อย่างน้อยๆ การที่รัสเซียเดินเข้ามายืนเคียงอิหร่านในตะวันออกกลาง เพื่อช่วยซีเรียเพื่อนเก่า และอื่นๆ ผมว่า แค่นี้ก็คงทำให้เสี่ยปั๊มใหญ่ ระทมอยู่ในอกเอาเรื่อง นอกจากไม่มีเพื่อนรัก คู่รักมายืนเคียงแล้ว ยังมีแต่ข่าวลือ ข่าวร้ายออกมาเพิ่มไม่จบ เสี่ยปั๊มใหญ่จะทนระทมต่อไปไหวหรือครับ เป็นผมมีคู่รักใจจืดใส่ ยามยากแบบนี้ ถีบให้ตกเตียงไปเลยครับ สวัสดีครับ
คนเล่านิทาน
30 ต.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 259 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Chromebook ที่ควรเลิกเชื่อได้แล้ว

    แม้ Chromebook จะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2011 ในฐานะแล็ปท็อปราคาประหยัดสำหรับงานพื้นฐาน แต่ภาพจำในยุคแรกยังคงติดอยู่ในหัวของผู้ใช้จำนวนมาก ทั้งเรื่องอายุการใช้งานสั้น ทำอะไรไม่ได้มาก และต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม Chromebook ในปี 2025 ได้พัฒนาไปไกลกว่านั้นมาก ทั้งในด้านซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และ ecosystem ที่รองรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันมากขึ้น

    หนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือ “Chromebook อยู่ได้ไม่นาน” ซึ่งเคยเป็นจริงในยุคแรก แต่ปัจจุบัน Google ให้การอัปเดตยาวถึง 10 ปี สำหรับรุ่นที่ผลิตตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป ทำให้เทียบชั้นกับ Windows และ macOS ได้อย่างสบาย นอกจากนี้ยังมีทางเลือกอย่าง ChromeOS Flex หรือการติดตั้งลินุกซ์เพื่อยืดอายุเครื่องเก่าได้อีกด้วย

    อีกความเชื่อที่ยังวนเวียนคือ “Chromebook เล่นเกมไม่ได้” แม้จะไม่ใช่เครื่องเกมโดยตรง แต่ Chromebook รุ่นใหม่รองรับ Linux apps, Android games และบริการสตรีมเกมอย่าง GeForce Now ทำให้เล่นเกมอินดี้หรือเกมเบาๆ ได้มากกว่าที่หลายคนคิด รวมถึงการติดตั้ง Steam เวอร์ชันลินุกซ์ในบางรุ่น แม้จะต้องอาศัยความพยายามเพิ่มขึ้นเล็กน้อยก็ตาม

    สุดท้าย ความเชื่อว่า “Chromebook ไม่ใช่แล็ปท็อปจริง” ก็เริ่มไม่ตรงกับความเป็นจริงอีกต่อไป เพราะ Chromebook รองรับอุปกรณ์เสริมหลากหลาย ตั้งแต่จอภาพภายนอก 2 จอ ไปจนถึง drawing tablet และยังรองรับไฟล์หลากหลายประเภท รวมถึงแอป Android และเว็บแอปที่ครอบคลุมการใช้งานส่วนใหญ่ของผู้ใช้ทั่วไปแล้ว

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Chromebook วันนี้ไม่เหมือนเมื่อสิบปีก่อน
    ได้รับอัปเดตยาว 10 ปีสำหรับรุ่นใหม่
    มีตัวเลือกยืดอายุ เช่น ChromeOS Flex และลินุกซ์

    เรื่องเล่นเกมไม่ใช่จุดอ่อนเสมอไป
    รองรับ Android games, Linux apps และ GeForce Now
    สามารถติดตั้ง Steam เวอร์ชันลินุกซ์ในบางรุ่น

    รองรับการใช้งานจริงมากกว่าที่คิด
    ใช้อุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย เช่น external monitors, drawing tablets
    รองรับไฟล์และแอปพื้นฐานที่ผู้ใช้ทั่วไปต้องการ

    เรื่อง “คุ้มค่าเสมอ” ไม่จริงในทุกช่วงราคา
    รุ่นราคาถูกคุ้มมาก แต่รุ่นราคา 500 ดอลลาร์ขึ้นไปเริ่มสู้ Windows ไม่ได้

    สิ่งที่ต้องระวัง
    Chromebook ยังพึ่งอินเทอร์เน็ตในหลายงาน แม้จะดีขึ้นมากแล้ว
    ไม่เหมาะกับงานเฉพาะทาง เช่น Photoshop หรือซอฟต์แวร์ระดับโปร
    รุ่นแพงอาจไม่คุ้มเมื่อเทียบกับแล็ปท็อป Windows ในราคาใกล้เคียง

    https://www.slashgear.com/2054499/chromebook-myths-stop-believing/
    💻 5 ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Chromebook ที่ควรเลิกเชื่อได้แล้ว แม้ Chromebook จะเปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2011 ในฐานะแล็ปท็อปราคาประหยัดสำหรับงานพื้นฐาน แต่ภาพจำในยุคแรกยังคงติดอยู่ในหัวของผู้ใช้จำนวนมาก ทั้งเรื่องอายุการใช้งานสั้น ทำอะไรไม่ได้มาก และต้องพึ่งอินเทอร์เน็ตตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม Chromebook ในปี 2025 ได้พัฒนาไปไกลกว่านั้นมาก ทั้งในด้านซอฟต์แวร์ ฮาร์ดแวร์ และ ecosystem ที่รองรับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันมากขึ้น หนึ่งในความเข้าใจผิดที่พบบ่อยคือ “Chromebook อยู่ได้ไม่นาน” ซึ่งเคยเป็นจริงในยุคแรก แต่ปัจจุบัน Google ให้การอัปเดตยาวถึง 10 ปี สำหรับรุ่นที่ผลิตตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นไป ทำให้เทียบชั้นกับ Windows และ macOS ได้อย่างสบาย นอกจากนี้ยังมีทางเลือกอย่าง ChromeOS Flex หรือการติดตั้งลินุกซ์เพื่อยืดอายุเครื่องเก่าได้อีกด้วย อีกความเชื่อที่ยังวนเวียนคือ “Chromebook เล่นเกมไม่ได้” แม้จะไม่ใช่เครื่องเกมโดยตรง แต่ Chromebook รุ่นใหม่รองรับ Linux apps, Android games และบริการสตรีมเกมอย่าง GeForce Now ทำให้เล่นเกมอินดี้หรือเกมเบาๆ ได้มากกว่าที่หลายคนคิด รวมถึงการติดตั้ง Steam เวอร์ชันลินุกซ์ในบางรุ่น แม้จะต้องอาศัยความพยายามเพิ่มขึ้นเล็กน้อยก็ตาม สุดท้าย ความเชื่อว่า “Chromebook ไม่ใช่แล็ปท็อปจริง” ก็เริ่มไม่ตรงกับความเป็นจริงอีกต่อไป เพราะ Chromebook รองรับอุปกรณ์เสริมหลากหลาย ตั้งแต่จอภาพภายนอก 2 จอ ไปจนถึง drawing tablet และยังรองรับไฟล์หลากหลายประเภท รวมถึงแอป Android และเว็บแอปที่ครอบคลุมการใช้งานส่วนใหญ่ของผู้ใช้ทั่วไปแล้ว 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Chromebook วันนี้ไม่เหมือนเมื่อสิบปีก่อน ➡️ ได้รับอัปเดตยาว 10 ปีสำหรับรุ่นใหม่ ➡️ มีตัวเลือกยืดอายุ เช่น ChromeOS Flex และลินุกซ์ ✅ เรื่องเล่นเกมไม่ใช่จุดอ่อนเสมอไป ➡️ รองรับ Android games, Linux apps และ GeForce Now ➡️ สามารถติดตั้ง Steam เวอร์ชันลินุกซ์ในบางรุ่น ✅ รองรับการใช้งานจริงมากกว่าที่คิด ➡️ ใช้อุปกรณ์เสริมได้หลากหลาย เช่น external monitors, drawing tablets ➡️ รองรับไฟล์และแอปพื้นฐานที่ผู้ใช้ทั่วไปต้องการ ✅ เรื่อง “คุ้มค่าเสมอ” ไม่จริงในทุกช่วงราคา ➡️ รุ่นราคาถูกคุ้มมาก แต่รุ่นราคา 500 ดอลลาร์ขึ้นไปเริ่มสู้ Windows ไม่ได้ ‼️ สิ่งที่ต้องระวัง ⛔ Chromebook ยังพึ่งอินเทอร์เน็ตในหลายงาน แม้จะดีขึ้นมากแล้ว ⛔ ไม่เหมาะกับงานเฉพาะทาง เช่น Photoshop หรือซอฟต์แวร์ระดับโปร ⛔ รุ่นแพงอาจไม่คุ้มเมื่อเทียบกับแล็ปท็อป Windows ในราคาใกล้เคียง https://www.slashgear.com/2054499/chromebook-myths-stop-believing/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    5 Chromebook Myths You Need To Stop Believing - SlashGear
    Chromebooks evolved past web-only basics. Debunking five big myths on updates, peripherals, app hacks, and when they beat pricier Windows rigs for most folks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • QuantWare เปิดตัว VIO‑40K: โปรเซสเซอร์ควอนตัม 10,000 คิวบิตที่พลิกเกมอุตสาหกรรม

    QuantWare สตาร์ทอัพจากเนเธอร์แลนด์สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการควอนตัมคอมพิวติ้งด้วยการเปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ VIO‑40K ซึ่งสามารถบรรจุคิวบิตได้ถึง 10,000 คิวบิตบนชิปเดียว มากกว่าชิปของ Google และ IBM ในปัจจุบันกว่า 100 เท่า ความก้าวหน้านี้เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแนวคิดการออกแบบจากระบบสายสัญญาณแบบ 2D ไปสู่ โครงสร้าง 3D พร้อมการเดินสายแบบแนวตั้ง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาคอขวดด้านการเชื่อมต่อที่เป็นอุปสรรคใหญ่ของวงการมานานหลายปี

    หัวใจของสถาปัตยกรรมนี้คือการใช้ chiplets—โมดูลชิปขนาดเล็กที่นำมาต่อกันเป็นระบบใหญ่—ทำให้ QuantWare สามารถสร้าง QPU ที่รองรับ 40,000 I/O lines ได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดชิปอย่างไร้ขีดจำกัด แนวทางนี้คล้ายกับการแก้ปัญหาความแออัดของเมือง: แทนที่จะขยายออกด้านข้าง ก็สร้างตึกสูงขึ้นแทน เป็นการพลิกวิธีคิดที่ช่วยให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถสเกลได้จริงในระดับอุตสาหกรรม

    สิ่งที่ทำให้ QuantWare น่าสนใจยิ่งขึ้นคือกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แตกต่างจากยักษ์ใหญ่ในวงการ Google และ IBM ที่สร้างทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เองทั้งหมด QuantWare เลือกเดินเส้นทางแบบ “Intel ของวงการควอนตัม” โดยเน้นขายชิปให้ผู้ผลิตรายอื่น และผลักดันแนวคิด Quantum Open Architecture เพื่อให้ฮาร์ดแวร์ของตนเชื่อมต่อกับ ecosystem ที่มีอยู่แล้ว เช่น Nvidia NVQLink และ CUDA‑Q ซึ่งอาจเปิดประตูสู่ระบบไฮบริดที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์คลาสสิกสามารถส่งงานบางส่วนให้ QPU ทำได้อย่างไร้รอยต่อ

    แม้จะเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ แต่คำถามสำคัญยังคงอยู่: “ชิปที่ใหญ่ขึ้นคือชิปที่ดีกว่าหรือไม่?” ในขณะที่ Google และ IBM มุ่งเน้นการแก้ปัญหา error correction และ fault tolerance QuantWare เลือกใช้แนวทาง brute‑force scaling ซึ่งอาจได้ผลในระยะสั้น แต่ต้องพิสูจน์ความเสถียรในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การประกาศว่าจะเริ่มขายชิปให้ลูกค้าในปี 2028 ทำให้วงการจับตามองว่า QuantWare จะสามารถรักษาความได้เปรียบนี้ไว้ได้หรือไม่ เมื่อเทียบกับ Big Tech ที่มีทรัพยากรมหาศาล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไฮไลต์จากสถาปัตยกรรม VIO‑40K
    รองรับ 10,000 คิวบิต มากกว่า Google/IBM ประมาณ 100 เท่า
    ใช้ 3D vertical wiring แทน 2D เพื่อลดคอขวดด้านการเชื่อมต่อ
    ใช้ chiplets เพื่อสร้างระบบขนาดใหญ่แบบโมดูลาร์
    รองรับ 40,000 I/O lines ซึ่งเป็นระดับอุตสาหกรรม

    กลยุทธ์ทางธุรกิจที่แตกต่าง
    ตั้งเป้าเป็น “Intel ของควอนตัม” โดยขายชิปแทนสร้างระบบเอง
    ผลักดัน Quantum Open Architecture เพื่อให้ ecosystem เปิดกว้าง
    ทำงานร่วมกับ Nvidia NVQLink และ CUDA‑Q ได้โดยตรง

    บริบทจากวงการควอนตัมคอมพิวติ้ง
    Google และ IBM เน้น error correction มากกว่า brute‑force scaling
    การสเกลคิวบิตเป็นปัญหาใหญ่ของวงการมานาน
    การใช้ chiplets อาจเป็นแนวทางใหม่ของการสร้าง QPU ขนาดใหญ่

    ประเด็นที่ต้องจับตา
    จำนวนคิวบิตมากขึ้นไม่ได้แปลว่าประสิทธิภาพดีขึ้นเสมอไป
    ความเสถียรและ error rate ยังต้องพิสูจน์ในงานจริง
    Big Tech อาจไล่ทันหรือแซงได้ด้วยทรัพยากรที่เหนือกว่า

    https://www.slashgear.com/2053448/quantware-quantum-computer-processor-10000-qubit/
    ⚛️ QuantWare เปิดตัว VIO‑40K: โปรเซสเซอร์ควอนตัม 10,000 คิวบิตที่พลิกเกมอุตสาหกรรม QuantWare สตาร์ทอัพจากเนเธอร์แลนด์สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ในวงการควอนตัมคอมพิวติ้งด้วยการเปิดตัวสถาปัตยกรรมใหม่ชื่อ VIO‑40K ซึ่งสามารถบรรจุคิวบิตได้ถึง 10,000 คิวบิตบนชิปเดียว มากกว่าชิปของ Google และ IBM ในปัจจุบันกว่า 100 เท่า ความก้าวหน้านี้เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแนวคิดการออกแบบจากระบบสายสัญญาณแบบ 2D ไปสู่ โครงสร้าง 3D พร้อมการเดินสายแบบแนวตั้ง ซึ่งช่วยแก้ปัญหาคอขวดด้านการเชื่อมต่อที่เป็นอุปสรรคใหญ่ของวงการมานานหลายปี หัวใจของสถาปัตยกรรมนี้คือการใช้ chiplets—โมดูลชิปขนาดเล็กที่นำมาต่อกันเป็นระบบใหญ่—ทำให้ QuantWare สามารถสร้าง QPU ที่รองรับ 40,000 I/O lines ได้โดยไม่ต้องเพิ่มขนาดชิปอย่างไร้ขีดจำกัด แนวทางนี้คล้ายกับการแก้ปัญหาความแออัดของเมือง: แทนที่จะขยายออกด้านข้าง ก็สร้างตึกสูงขึ้นแทน เป็นการพลิกวิธีคิดที่ช่วยให้ควอนตัมคอมพิวเตอร์สามารถสเกลได้จริงในระดับอุตสาหกรรม สิ่งที่ทำให้ QuantWare น่าสนใจยิ่งขึ้นคือกลยุทธ์ทางธุรกิจที่แตกต่างจากยักษ์ใหญ่ในวงการ Google และ IBM ที่สร้างทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เองทั้งหมด QuantWare เลือกเดินเส้นทางแบบ “Intel ของวงการควอนตัม” โดยเน้นขายชิปให้ผู้ผลิตรายอื่น และผลักดันแนวคิด Quantum Open Architecture เพื่อให้ฮาร์ดแวร์ของตนเชื่อมต่อกับ ecosystem ที่มีอยู่แล้ว เช่น Nvidia NVQLink และ CUDA‑Q ซึ่งอาจเปิดประตูสู่ระบบไฮบริดที่ซูเปอร์คอมพิวเตอร์คลาสสิกสามารถส่งงานบางส่วนให้ QPU ทำได้อย่างไร้รอยต่อ แม้จะเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ แต่คำถามสำคัญยังคงอยู่: “ชิปที่ใหญ่ขึ้นคือชิปที่ดีกว่าหรือไม่?” ในขณะที่ Google และ IBM มุ่งเน้นการแก้ปัญหา error correction และ fault tolerance QuantWare เลือกใช้แนวทาง brute‑force scaling ซึ่งอาจได้ผลในระยะสั้น แต่ต้องพิสูจน์ความเสถียรในระยะยาว อย่างไรก็ตาม การประกาศว่าจะเริ่มขายชิปให้ลูกค้าในปี 2028 ทำให้วงการจับตามองว่า QuantWare จะสามารถรักษาความได้เปรียบนี้ไว้ได้หรือไม่ เมื่อเทียบกับ Big Tech ที่มีทรัพยากรมหาศาล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไฮไลต์จากสถาปัตยกรรม VIO‑40K ➡️ รองรับ 10,000 คิวบิต มากกว่า Google/IBM ประมาณ 100 เท่า ➡️ ใช้ 3D vertical wiring แทน 2D เพื่อลดคอขวดด้านการเชื่อมต่อ ➡️ ใช้ chiplets เพื่อสร้างระบบขนาดใหญ่แบบโมดูลาร์ ➡️ รองรับ 40,000 I/O lines ซึ่งเป็นระดับอุตสาหกรรม ✅ กลยุทธ์ทางธุรกิจที่แตกต่าง ➡️ ตั้งเป้าเป็น “Intel ของควอนตัม” โดยขายชิปแทนสร้างระบบเอง ➡️ ผลักดัน Quantum Open Architecture เพื่อให้ ecosystem เปิดกว้าง ➡️ ทำงานร่วมกับ Nvidia NVQLink และ CUDA‑Q ได้โดยตรง ✅ บริบทจากวงการควอนตัมคอมพิวติ้ง ➡️ Google และ IBM เน้น error correction มากกว่า brute‑force scaling ➡️ การสเกลคิวบิตเป็นปัญหาใหญ่ของวงการมานาน ➡️ การใช้ chiplets อาจเป็นแนวทางใหม่ของการสร้าง QPU ขนาดใหญ่ ‼️ ประเด็นที่ต้องจับตา ⛔ จำนวนคิวบิตมากขึ้นไม่ได้แปลว่าประสิทธิภาพดีขึ้นเสมอไป ⛔ ความเสถียรและ error rate ยังต้องพิสูจน์ในงานจริง ⛔ Big Tech อาจไล่ทันหรือแซงได้ด้วยทรัพยากรที่เหนือกว่า https://www.slashgear.com/2053448/quantware-quantum-computer-processor-10000-qubit/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Company Unveils New Quantum Processor 100x Denser Than Any Other - SlashGear
    There has been a break through in the quantum industry with a company unveiling a new processor that is 100x denser than any other.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • Darktable 5.4: อัปเดตใหม่ เพิ่มการรองรับกล้องรุ่นล่าสุดและยกระดับเวิร์กโฟลว์ RAW

    Darktable 5.4 มาพร้อมการอัปเดตสำคัญที่เน้นการรองรับกล้องรุ่นใหม่จาก Canon หลายรุ่น ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ช่างภาพที่ต้องการเวิร์กโฟลว์ RAW ที่เสถียรและแม่นยำมากขึ้นบน Linux การเพิ่มการรองรับกล้องใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำไฟล์ RAW จากกล้องระดับโปรเข้ามาแก้ไขได้ทันทีโดยไม่ต้องรอแพตช์เสริมเหมือนในอดีต ทำให้ Darktable ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ช่างภาพสาย Linux ไว้ใจมากที่สุด

    แม้เนื้อหาในหน้าเว็บจะเน้นไปที่การรองรับกล้องใหม่ แต่ในภาพรวม Darktable 5.4 ยังสะท้อนถึงแนวโน้มของซอฟต์แวร์แต่งภาพโอเพ่นซอร์สที่พยายามไล่ตามความเร็วของวงการกล้องที่ออกโมเดลใหม่แทบทุกปี การอัปเดตแบบต่อเนื่องนี้ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และยังทำให้ Darktable เป็นตัวเลือกที่แข็งแรงขึ้นเมื่อเทียบกับ Lightroom หรือ Capture One ในมุมของความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ล่าสุด

    ในมุมของ ecosystem การที่ Darktable รองรับกล้องใหม่ได้เร็วขึ้นเป็นผลจากการร่วมมือของชุมชนผู้พัฒนาและผู้ใช้ที่ช่วยส่งตัวอย่างไฟล์ RAW เพื่อให้ทีมงานปรับปรุงโมดูล demosaic และ color profile ได้แม่นยำขึ้น นี่คือพลังของโอเพ่นซอร์สที่ทำให้ซอฟต์แวร์เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอค่ายกล้องปล่อย SDK อย่างเป็นทางการ

    สุดท้าย การอัปเดตครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณว่าซอฟต์แวร์แต่งภาพบน Linux กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้ใช้ต้องการเครื่องมือที่ทั้งฟรี ทรงพลัง และรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่อย่างรวดเร็ว ซึ่ง Darktable 5.4 ก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันยังคงเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่ตอบโจทย์สายถ่ายภาพได้ดีที่สุดในโลกโอเพ่นซอร์ส

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไฮไลต์จาก Darktable 5.4
    เพิ่มการรองรับกล้อง Canon EOS R1, R5 Mark II, PowerShot D10, S100V และ S2 IS
    ปรับปรุงความเข้ากันได้ของไฟล์ RAW สำหรับกล้องรุ่นใหม่
    ยกระดับเวิร์กโฟลว์สำหรับช่างภาพที่ใช้ Linux

    ความสำคัญต่อผู้ใช้
    ผู้ใช้สามารถนำไฟล์ RAW จากกล้องใหม่มาใช้งานได้ทันที
    ลดความจำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ proprietary บนระบบอื่น
    ทำให้ Darktable เป็นตัวเลือกที่มั่นคงสำหรับงานถ่ายภาพระดับโปร

    บริบทจากโลกโอเพ่นซอร์ส
    การอัปเดตเร็วขึ้นเกิดจากความร่วมมือของชุมชน
    การรองรับกล้องใหม่ช่วยให้ Darktable แข่งขันกับ Lightroom ได้ดีขึ้น
    Ecosystem ของซอฟต์แวร์แต่งภาพบน Linux แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ

    สิ่งที่ต้องระวัง
    การรองรับกล้องใหม่อาจยังไม่สมบูรณ์ในบางกรณี ต้องรอการปรับปรุงเพิ่มเติม
    ผู้ใช้บางรายอาจพบความคลาดเคลื่อนของ color profile ในช่วงแรก
    ฟีเจอร์ใหม่อาจยังไม่รองรับปลั๊กอินบางตัว

    https://9to5linux.com/darktable-5-4-open-source-raw-image-editor-improves-camera-support
    📸 Darktable 5.4: อัปเดตใหม่ เพิ่มการรองรับกล้องรุ่นล่าสุดและยกระดับเวิร์กโฟลว์ RAW Darktable 5.4 มาพร้อมการอัปเดตสำคัญที่เน้นการรองรับกล้องรุ่นใหม่จาก Canon หลายรุ่น ซึ่งเป็นการตอบโจทย์ช่างภาพที่ต้องการเวิร์กโฟลว์ RAW ที่เสถียรและแม่นยำมากขึ้นบน Linux การเพิ่มการรองรับกล้องใหม่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถนำไฟล์ RAW จากกล้องระดับโปรเข้ามาแก้ไขได้ทันทีโดยไม่ต้องรอแพตช์เสริมเหมือนในอดีต ทำให้ Darktable ยังคงเป็นหนึ่งในเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ช่างภาพสาย Linux ไว้ใจมากที่สุด แม้เนื้อหาในหน้าเว็บจะเน้นไปที่การรองรับกล้องใหม่ แต่ในภาพรวม Darktable 5.4 ยังสะท้อนถึงแนวโน้มของซอฟต์แวร์แต่งภาพโอเพ่นซอร์สที่พยายามไล่ตามความเร็วของวงการกล้องที่ออกโมเดลใหม่แทบทุกปี การอัปเดตแบบต่อเนื่องนี้ช่วยให้ผู้ใช้ไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง และยังทำให้ Darktable เป็นตัวเลือกที่แข็งแรงขึ้นเมื่อเทียบกับ Lightroom หรือ Capture One ในมุมของความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์ล่าสุด ในมุมของ ecosystem การที่ Darktable รองรับกล้องใหม่ได้เร็วขึ้นเป็นผลจากการร่วมมือของชุมชนผู้พัฒนาและผู้ใช้ที่ช่วยส่งตัวอย่างไฟล์ RAW เพื่อให้ทีมงานปรับปรุงโมดูล demosaic และ color profile ได้แม่นยำขึ้น นี่คือพลังของโอเพ่นซอร์สที่ทำให้ซอฟต์แวร์เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอค่ายกล้องปล่อย SDK อย่างเป็นทางการ สุดท้าย การอัปเดตครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณว่าซอฟต์แวร์แต่งภาพบน Linux กำลังพัฒนาไปในทิศทางที่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้ใช้ต้องการเครื่องมือที่ทั้งฟรี ทรงพลัง และรองรับฮาร์ดแวร์ใหม่อย่างรวดเร็ว ซึ่ง Darktable 5.4 ก็พิสูจน์ให้เห็นว่ามันยังคงเป็นหนึ่งในโปรเจกต์ที่ตอบโจทย์สายถ่ายภาพได้ดีที่สุดในโลกโอเพ่นซอร์ส 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไฮไลต์จาก Darktable 5.4 ➡️ เพิ่มการรองรับกล้อง Canon EOS R1, R5 Mark II, PowerShot D10, S100V และ S2 IS ➡️ ปรับปรุงความเข้ากันได้ของไฟล์ RAW สำหรับกล้องรุ่นใหม่ ➡️ ยกระดับเวิร์กโฟลว์สำหรับช่างภาพที่ใช้ Linux ✅ ความสำคัญต่อผู้ใช้ ➡️ ผู้ใช้สามารถนำไฟล์ RAW จากกล้องใหม่มาใช้งานได้ทันที ➡️ ลดความจำเป็นต้องใช้ซอฟต์แวร์ proprietary บนระบบอื่น ➡️ ทำให้ Darktable เป็นตัวเลือกที่มั่นคงสำหรับงานถ่ายภาพระดับโปร ✅ บริบทจากโลกโอเพ่นซอร์ส ➡️ การอัปเดตเร็วขึ้นเกิดจากความร่วมมือของชุมชน ➡️ การรองรับกล้องใหม่ช่วยให้ Darktable แข่งขันกับ Lightroom ได้ดีขึ้น ➡️ Ecosystem ของซอฟต์แวร์แต่งภาพบน Linux แข็งแรงขึ้นเรื่อยๆ ‼️ สิ่งที่ต้องระวัง ⛔ การรองรับกล้องใหม่อาจยังไม่สมบูรณ์ในบางกรณี ต้องรอการปรับปรุงเพิ่มเติม ⛔ ผู้ใช้บางรายอาจพบความคลาดเคลื่อนของ color profile ในช่วงแรก ⛔ ฟีเจอร์ใหม่อาจยังไม่รองรับปลั๊กอินบางตัว https://9to5linux.com/darktable-5-4-open-source-raw-image-editor-improves-camera-support
    9TO5LINUX.COM
    Darktable 5.4 Open-Source RAW Image Editor Improves Camera Support - 9to5Linux
    Darktable 5.4 open-source RAW image editor is now available for download with support for new cameras, new noise profiles, and bug fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื้อว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรก พิมพ์สี่เหลี่ยมใหญ่ วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2505
    เนื้อว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรก พิมพ์สี่เหลี่ยมใหญ่ (พิมพ์พิเศษ นิยมสุด!!) วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2505 //พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้ จัดสร้าง มวรสารหลักในการจัดสร้างเฉกเช่นเดียวกับ พระเครื่องเนื้อว่านหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี 2497 พืธีปลุกเสก รวม 3 วัน 3 คืน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ //

    ** พระสถาพสวยมาก พระไม่ร้าว ไม่ราน ไม่บิ่น ไม่หัก ไม่ซ่อม พระสถาพสมบูรณ์ หายากก !! ** หาหลวงปู่ทวด รุ่นแรก 2497 ไม่ได้ ใช้หลวงพ่อไกรรุ่นแรก แทนได้เลยครับ เนื้อหามวลสาร เหมือนกัน พิธิปลุกเสก ก็มีเกจิ ชุดเดียวกันที่ ปลุกเสก หลวงปู่ทวด 2497 มีส่วนผสมของเนื้อว่าน หลวงปู่ทวด ปี2497 จำนวนมาก !!

    ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** พระดีพิธีใหญ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ หลายท่าน พืธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2505 ถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2505 รวม 3 วัน 3 คืน โดยพระอาจารย์ทิม เป็นประธานนั่งบริกรรมตลอดพืธี ร่วมด้วย ท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว...พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์...พ่อท่านฉิ้น วัดเมือง ยะลา และ คณาจารย์สายใต้อีกหลายท่าน... โดย พระว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรกนี้ มีวัตถุธาติส่วนผสม 9 ชนิด ดังนี้ คือ

    1.ว่าน 108 จากเทือกเขากาลาคีรี
    2.ดินเถ้าถ่านที่บูชาเพลิงพ่อท่านไกร
    3.ดินชนวนพระในถ้ำศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ
    4.ดินดำกากยายักษ์(ดินชนิดนี้มีแห่งเดียวที่ลำพะยาเท่านั้น)
    5.ดินเบ้าหล่อพ่อท่านไกร(พระประธาน)
    6.รากไม้ยาศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในบริเวณเขื่อนพ่อท่านไกร
    7.กระเบื้องศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้มุงเขื่อน
    8.ไม้เสาเขื่อนพ่อท่านไกร
    9.อัฐิธาตุ(กระดูก) ของพ่อท่านไกร

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เนื้อว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรก พิมพ์สี่เหลี่ยมใหญ่ วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2505 เนื้อว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรก พิมพ์สี่เหลี่ยมใหญ่ (พิมพ์พิเศษ นิยมสุด!!) วัดลำพะยา จ.ยะลา ปี2505 //พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ทิมวัดช้างให้ จัดสร้าง มวรสารหลักในการจัดสร้างเฉกเช่นเดียวกับ พระเครื่องเนื้อว่านหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ ปี 2497 พืธีปลุกเสก รวม 3 วัน 3 คืน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ // ** พระสถาพสวยมาก พระไม่ร้าว ไม่ราน ไม่บิ่น ไม่หัก ไม่ซ่อม พระสถาพสมบูรณ์ หายากก !! ** หาหลวงปู่ทวด รุ่นแรก 2497 ไม่ได้ ใช้หลวงพ่อไกรรุ่นแรก แทนได้เลยครับ เนื้อหามวลสาร เหมือนกัน พิธิปลุกเสก ก็มีเกจิ ชุดเดียวกันที่ ปลุกเสก หลวงปู่ทวด 2497 มีส่วนผสมของเนื้อว่าน หลวงปู่ทวด ปี2497 จำนวนมาก !! ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** พระดีพิธีใหญ ปลุกเสกโดยพระเกจิสายหลวงพ่อทวด - สายเขาอ้อ หลายท่าน พืธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2505 ถึงวันที่ 2 ตุลาคม 2505 รวม 3 วัน 3 คืน โดยพระอาจารย์ทิม เป็นประธานนั่งบริกรรมตลอดพืธี ร่วมด้วย ท่านอาจารย์นอง วัดทรายขาว...พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์...พ่อท่านฉิ้น วัดเมือง ยะลา และ คณาจารย์สายใต้อีกหลายท่าน... โดย พระว่านหลวงพ่อไกร รุ่นแรกนี้ มีวัตถุธาติส่วนผสม 9 ชนิด ดังนี้ คือ 1.ว่าน 108 จากเทือกเขากาลาคีรี 2.ดินเถ้าถ่านที่บูชาเพลิงพ่อท่านไกร 3.ดินชนวนพระในถ้ำศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ 4.ดินดำกากยายักษ์(ดินชนิดนี้มีแห่งเดียวที่ลำพะยาเท่านั้น) 5.ดินเบ้าหล่อพ่อท่านไกร(พระประธาน) 6.รากไม้ยาศักดิ์สิทธิ์ต่าง ๆ ในบริเวณเขื่อนพ่อท่านไกร 7.กระเบื้องศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้มุงเขื่อน 8.ไม้เสาเขื่อนพ่อท่านไกร 9.อัฐิธาตุ(กระดูก) ของพ่อท่านไกร ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts