• “ฮุน มาเนต” แจงคืบหน้าจัดการพื้นที่ชายแดนบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว ยันไม่ได้แอบแบ่งดินแดนกัมพูชาให้ไทยเพื่อแลกกับข้อตกลงหยุดยิง อ้างผลประชุม JBC ล่าสุด จะร่วมกันสำรวจโดยใช้แผนที่ 1 ต่อ 2 แสน และบันทึกการปักปันเขตแดนสยาม-ฝรั่งเศสเป็นพื้นฐาน เพื่อกำหนดเขตแดนที่แท้จริงต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000101288

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    “ฮุน มาเนต” แจงคืบหน้าจัดการพื้นที่ชายแดนบ้านหนองจาน-หนองหญ้าแก้ว ยันไม่ได้แอบแบ่งดินแดนกัมพูชาให้ไทยเพื่อแลกกับข้อตกลงหยุดยิง อ้างผลประชุม JBC ล่าสุด จะร่วมกันสำรวจโดยใช้แผนที่ 1 ต่อ 2 แสน และบันทึกการปักปันเขตแดนสยาม-ฝรั่งเศสเป็นพื้นฐาน เพื่อกำหนดเขตแดนที่แท้จริงต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000101288 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 310 Views 0 Reviews
  • เข้าใจ MOU43-44 ก่อนลงประชามติ กต.-ทหาร ยันปักปันเขตแดนใช้ LiDAR ไม่ได้ใช้แผนที่ 1:200,000 อย่างเดียว ลั่นหากยกเลิกการสำรวจเขตแดน 20 ปี 600 กม. อาจกลายเป็นโมฆะ
    https://www.thai-tai.tv/news/21973/
    .
    #ไทยไท #MOU43 #ประชามติยกเลิก #ปักปันเขตแดน #ศาลโลก #กรมแผนที่ทหาร #สนธิสัญญา
    เข้าใจ MOU43-44 ก่อนลงประชามติ กต.-ทหาร ยันปักปันเขตแดนใช้ LiDAR ไม่ได้ใช้แผนที่ 1:200,000 อย่างเดียว ลั่นหากยกเลิกการสำรวจเขตแดน 20 ปี 600 กม. อาจกลายเป็นโมฆะ https://www.thai-tai.tv/news/21973/ . #ไทยไท #MOU43 #ประชามติยกเลิก #ปักปันเขตแดน #ศาลโลก #กรมแผนที่ทหาร #สนธิสัญญา
    0 Comments 0 Shares 67 Views 0 Reviews
  • ย้อนรอยโครงการของกระทรวงการต่างประเทศ ช่วงปี 53-54 ใช้งบ 7.1 ล้าน ว่าจ้างนักวิชาการศึกษาข้อมูล-จัดทำสื่อเผยแพร่ กล่อมคนไทยให้เห็นใจเพื่อนบ้าน อ้างเพื่อความสัมพันธ์อันดี ให้การปักปันเขตแดนเป็นไปอย่างราบรื่น เผยชื่อทีมนักวิชาการล้วนอยู่ในก๊วน “เสื้อแดง” หนุน “ชาญวิทย์ เกษตรศิริ” รวมทั้ง “อัครพงษ์ ค้ำคูณ” ตัวตั้งตัวตีบูชา MOU43 มาจนทุกวันนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000095964

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    ย้อนรอยโครงการของกระทรวงการต่างประเทศ ช่วงปี 53-54 ใช้งบ 7.1 ล้าน ว่าจ้างนักวิชาการศึกษาข้อมูล-จัดทำสื่อเผยแพร่ กล่อมคนไทยให้เห็นใจเพื่อนบ้าน อ้างเพื่อความสัมพันธ์อันดี ให้การปักปันเขตแดนเป็นไปอย่างราบรื่น เผยชื่อทีมนักวิชาการล้วนอยู่ในก๊วน “เสื้อแดง” หนุน “ชาญวิทย์ เกษตรศิริ” รวมทั้ง “อัครพงษ์ ค้ำคูณ” ตัวตั้งตัวตีบูชา MOU43 มาจนทุกวันนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000095964 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 337 Views 0 Reviews
  • เพจความมั่นคงของลาวแจง ลาวยึดแผนที่ 1/50,000 และ 1/25,000 เป็นหลักในการปักปันเขตแดนกับ 5 ประเทศรอบข้าง จีน เวียดนาม เมียนมา ปักปันครบแล้วทั้ง 100% เหลือไทยกับกัมพูชา ที่ยังเห็นไม่ตรงกัน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000095320

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    เพจความมั่นคงของลาวแจง ลาวยึดแผนที่ 1/50,000 และ 1/25,000 เป็นหลักในการปักปันเขตแดนกับ 5 ประเทศรอบข้าง จีน เวียดนาม เมียนมา ปักปันครบแล้วทั้ง 100% เหลือไทยกับกัมพูชา ที่ยังเห็นไม่ตรงกัน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000095320 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 330 Views 0 Reviews
  • "ฮุน มาเนต" ชี้เอกสาร "ทีมสำรวจ" ไม่ใช่ข้อสรุป "เส้นแบ่งเขตแดน" เหตุยังไม่ครบ 5 ขั้นตอน
    https://www.thai-tai.tv/news/21641/
    .
    #ฮุนมาเนต #กัมพูชา #เขตแดนไทยกัมพูชา #MOU2000 #ปักปันเขตแดน #ข้อพิพาทชายแดน #เสาหลักเขต #ไทยไท
    "ฮุน มาเนต" ชี้เอกสาร "ทีมสำรวจ" ไม่ใช่ข้อสรุป "เส้นแบ่งเขตแดน" เหตุยังไม่ครบ 5 ขั้นตอน https://www.thai-tai.tv/news/21641/ . #ฮุนมาเนต #กัมพูชา #เขตแดนไทยกัมพูชา #MOU2000 #ปักปันเขตแดน #ข้อพิพาทชายแดน #เสาหลักเขต #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • เอาจริงๆเรา..ประชาชนคนไทยถูกทำให้หลงประเด็น เสาหมัด หลักเสาหมุดปักปันเขตแดนมันมีชัดเจนแล้วคือ74เสา(รวมเสาที่22Bด้วย)เราก็สร้างรั้วลวดหนามตามเสาเขตแดนเก่าที่ตกลงกันเรียบร้อยนั้นแล้วได้,mou43,44,tor2546หรือใดๆเป็นอันตกไปโมฆะทันและไม่ผ่านสภาแต่แรกด้วย,นายกฯและกระทรวงที่ติดต่อต่างประเทศซึ่งหากยุบกระทรวงการต่างประเทศเก่าได้ด้วยก็ยิ่งดี ให้กระทรวงใหม่นีัร่วมแถลงการอย่างเป็นทางการว่าด้วยกระทรวงการต่างประเทศเดิมไม่ซื่อสัตย์จึงถูกยุบไปแล้วนั้นอย่างเป็นทางการจึงอำนาจตัดสินใจด้านต่างประเทศทั้งหมดเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเช่นกันทันที,นายกฯกับกระทรวงใหม่ร่วมแถลงยกเลิกmou43,44,tor2546และอื่นๆที่ทำกับเขมรทั้งหมดทันทีด้วยเพราะทั้งหมดที่กล่าวมานั้นไม่ได้ผ่านสภามาแต่ต้นสิทธิขาดนายกฯจึงเข้ามาดำเนินการได้ทั้งหมด,จากนั้นก็กำหนดปิดด่านตลอดแนวพรมแดนกับเขมรเป็นการถาวรทั้งหมดป้องกันการยั่วยุทุกๆกรณีและเร่งสร้างรั้วลวดหนามตลอดชาติแดนเป็นการชั่วคราวไว้ก่อนด้วยระดับความแน่นหนาพอสมควรให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้,ประชาชนสามารถร่วมดำเนินการบริจาคและร่วมลงแรงก่อสร้างได้ โดยมีนายกฯเป็นเจ้าภาพร่วมกันกับภาคประชาชนทั้งประเทศ, ตัดน้ำมัน ตัดไฟ ตัดน่านน้ำทางทะเลและอากาศ ห้ามเครื่องทุกๆประเภทชนิดบินผ่านประเทศไทยเพื่อไปเขมร,ตัดเน็ต ตัดสายเคเบิลเน็ตทั้งทางบกและทางทะเลที่ผ่านประเทศไทยไปเขมร ผ่านทะเลอ่าวไทยไปเขมรทุกเส้นสายเคเบิล,ห้ามดาวเทียมใดๆบินในวงโคจรไทยเพื่อส่งสัญญาณเน็ตให้เขมรจะถูกทำลายทันทีที่บินผ่านวงโคจรอวกาศไทย,ตัดสินค้าอุปโภคบริโภคทุกๆชนิดส่งจากไทยไปเขมรหรืออ้อมลาวอ้อมเวียดนามไปเขมรจะถูกดำเนินคดีทันที.
    ..นายกฯประเทศไทยต้องไม่ใช่มาจากนักการเมืองแล้วในเวลานี้ยิ่งเป็นเช่นปัจจุบันกำลังจัดตั้งรัฐบาลด้วย ,เรา..ประชาชน ต้องการรัฐบาลพระราชทานเท่านั้น.,ในช่วงเวลานี้.การจัดการเขมรต้องเด็ดขาดทันที.มิอาจยืดยาวต่อไปอีกได้,ไม่ว่าใครจะปกครองเขมร เขมรก็ไว้ใจไม่ได้ การตัดสายสัมพันธ์ทั้งหมดในช่วงเวลาวิกฤติโลก ลดปัญหามากมายสาระพัดกับเขมรจึงจำเป็นและสำคัญมาก,อยู่ใครอยู่มันไปก่อน,แต่หากเขมรรุกรานอีกรอบที่2 เขมรต้องสิ้นชาติและถูกทำลายทันที,นายกฯไทยต้องลักษณะเด็ดขาดแบบนี้.



    ..https://youtube.com/watch?v=I0C4i-g8GCI&si=s6b5HEc1_NPCqMGW
    เอาจริงๆเรา..ประชาชนคนไทยถูกทำให้หลงประเด็น เสาหมัด หลักเสาหมุดปักปันเขตแดนมันมีชัดเจนแล้วคือ74เสา(รวมเสาที่22Bด้วย)เราก็สร้างรั้วลวดหนามตามเสาเขตแดนเก่าที่ตกลงกันเรียบร้อยนั้นแล้วได้,mou43,44,tor2546หรือใดๆเป็นอันตกไปโมฆะทันและไม่ผ่านสภาแต่แรกด้วย,นายกฯและกระทรวงที่ติดต่อต่างประเทศซึ่งหากยุบกระทรวงการต่างประเทศเก่าได้ด้วยก็ยิ่งดี ให้กระทรวงใหม่นีัร่วมแถลงการอย่างเป็นทางการว่าด้วยกระทรวงการต่างประเทศเดิมไม่ซื่อสัตย์จึงถูกยุบไปแล้วนั้นอย่างเป็นทางการจึงอำนาจตัดสินใจด้านต่างประเทศทั้งหมดเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดเช่นกันทันที,นายกฯกับกระทรวงใหม่ร่วมแถลงยกเลิกmou43,44,tor2546และอื่นๆที่ทำกับเขมรทั้งหมดทันทีด้วยเพราะทั้งหมดที่กล่าวมานั้นไม่ได้ผ่านสภามาแต่ต้นสิทธิขาดนายกฯจึงเข้ามาดำเนินการได้ทั้งหมด,จากนั้นก็กำหนดปิดด่านตลอดแนวพรมแดนกับเขมรเป็นการถาวรทั้งหมดป้องกันการยั่วยุทุกๆกรณีและเร่งสร้างรั้วลวดหนามตลอดชาติแดนเป็นการชั่วคราวไว้ก่อนด้วยระดับความแน่นหนาพอสมควรให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้,ประชาชนสามารถร่วมดำเนินการบริจาคและร่วมลงแรงก่อสร้างได้ โดยมีนายกฯเป็นเจ้าภาพร่วมกันกับภาคประชาชนทั้งประเทศ, ตัดน้ำมัน ตัดไฟ ตัดน่านน้ำทางทะเลและอากาศ ห้ามเครื่องทุกๆประเภทชนิดบินผ่านประเทศไทยเพื่อไปเขมร,ตัดเน็ต ตัดสายเคเบิลเน็ตทั้งทางบกและทางทะเลที่ผ่านประเทศไทยไปเขมร ผ่านทะเลอ่าวไทยไปเขมรทุกเส้นสายเคเบิล,ห้ามดาวเทียมใดๆบินในวงโคจรไทยเพื่อส่งสัญญาณเน็ตให้เขมรจะถูกทำลายทันทีที่บินผ่านวงโคจรอวกาศไทย,ตัดสินค้าอุปโภคบริโภคทุกๆชนิดส่งจากไทยไปเขมรหรืออ้อมลาวอ้อมเวียดนามไปเขมรจะถูกดำเนินคดีทันที. ..นายกฯประเทศไทยต้องไม่ใช่มาจากนักการเมืองแล้วในเวลานี้ยิ่งเป็นเช่นปัจจุบันกำลังจัดตั้งรัฐบาลด้วย ,เรา..ประชาชน ต้องการรัฐบาลพระราชทานเท่านั้น.,ในช่วงเวลานี้.การจัดการเขมรต้องเด็ดขาดทันที.มิอาจยืดยาวต่อไปอีกได้,ไม่ว่าใครจะปกครองเขมร เขมรก็ไว้ใจไม่ได้ การตัดสายสัมพันธ์ทั้งหมดในช่วงเวลาวิกฤติโลก ลดปัญหามากมายสาระพัดกับเขมรจึงจำเป็นและสำคัญมาก,อยู่ใครอยู่มันไปก่อน,แต่หากเขมรรุกรานอีกรอบที่2 เขมรต้องสิ้นชาติและถูกทำลายทันที,นายกฯไทยต้องลักษณะเด็ดขาดแบบนี้. ..https://youtube.com/watch?v=I0C4i-g8GCI&si=s6b5HEc1_NPCqMGW
    0 Comments 0 Shares 358 Views 0 Reviews
  • น่าแค้นใจแทนอ.วีระและคณะจริงๆในสมัยนั้นและเชื่อแน่นอนว่า อ.วีระพูดความจริง ยืนอยู่แผ่นดินไทยในเวลานั้นแต่เขมรสันตีนหน้ามึนหนาด้านมากล้าจับ อ.และคณะไปฝั่งมันง่ายๆหน้าตาเฉยได้อย่างไร,รัฐบาลชุดพ.ศ.นั้นต่างยืนยันค้ำประกันอีกว่า อ.วีระและคณะทำผิดจริง ไปยืนบนแผ่นดินเขมรมันโน้น ไร้การช่วยเหลือเต็มกำลังความสามารถด้วยจากรัฐบาลไทยตนเองในเวลานั้น,นี้คือกระบวนการสมคบคิดเพื่อจัดการอ.วีระอย่างแม้จริงรวมนัยยะแอบแฝงอื่นๆด้วย คือขีดเส้นลากแดน1:200,000ลงทะเลอ่าวไทยนั้นเอง,เจตนาใช้เหยื่อแลกอ.วีระเป็นเหยื่อในการโกงกินประเทศไทยทรัพยากรไทยนั้นเอง,เมื่อคดีระบุว่าอ.วีระยืนอยู่บนดินแดนเขมร การลากเขตเส้นแดนลงทะเลอ่าวไทยก็จะสำเร็จกินพื้นที่เข้ามาตรงบ่อน้ำมันกว่า20ล้านล้านบาทในอ่าวไทยเราได้ทันที,คดีอ.วีระแค่หมากทางเส้นแดน,ในการเชื่อมสิทธิอัตรา1:200,000นั้นเอง รัฐบาลยุคนั้นจึงเข้าข่ายหมายผลมองไกลแล้วว่าจะได้มาจริงซึ่งผลประโยชน์ตนในอนาคตเป็นแน่กับประโยชน์ร่วมที่กระทำการกับเขมร,เข้าข่ายเจตนาทำให้เสียทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน ตลอดเจตนาวางรั้วลวดหนามผิดวิสัยปกติที่ต้องวางชิดติดขนานคู่เสาปักหมุดของเขตแดนอธิปไตยตนซึ่งสามารถกระทำการได้ทันทีโดยชอบธรรมได้บนเขตแดนอธิปไตยไทยตน,แต่ไม่ทำ,แถมยังวางรั้วลวดหนามไกลถึง500เมตร จนเป็นเหตุให้ชาวเขมรสามารถอ้างมารื้อรั้วหนามว่าคือดินแดนเขมรตนเองในที่สุด มันอ้างคำพูดนั้นจากคนไทยได้ทันที,เสมือนเตรียมการไว้แล้วด้วย.
    ..อ.วีระและคณะทีมงานที่เคยเสียหายสมควรร่วมยื่นฟ้องดำเนินคดีทางการเมืองการปกครองต่อรัฐบาลยุคอดีตได้เลย,ข้อหายินยอมเสียดินแดนอธิปไตยตนอย่างเปิดเผยด้วยคดีทีมงานอ.วีระถูกจับจากทหารเขมรที่อ้างสิทธิว่าเป็นดินแดนเขมรตนและรัฐบาลไทยในยุคนั้นยืนยันสิ่งที่เขมรอ้างสิทธินั้นด้วยว่าดินแดนแผ่นดินที่ทีมงานอ.วีระและอ.วีระยืนอยู่นั้นเป็นของประเทศเขมรนั้นเอง ผิด ม.119ชัดเจนด้วย,ทั้งบกพร่อง ประมาทเลินเล่อในหน้าที่พิสูจน์ชัดเจนจนยินยอมว่าดินแดนนั่นเป็นของเขมรถึงปัจจุบันในขณะที่มีเสาหมุดปักปันเขตแดนตำตาเห็นชัดเจน.เรื่องคดีดินแดนอธิปไตยชาติไม่มีอายุความดำเนินคดีแน่ๆ.,ต้องกำจัดภัยคนไม่ซื่อสัตย์คิดไม่ดีต่อแผ่นดินไทยเรา,ยิ่งมุ่งหมายเอาผลประโยชน์เพื่อตนเองพวกพ้องครอบครัวบวกขายชาติขายบ้านขายเมืองให้ต่างชาติด้วยแบบเขมรอเมริกาฝรั่งเศสคือตัวอย่างยิ่งไม่สมควรให้อภัยใดๆทั้งลุแก่อำนาจว่าตนมีอำนาจเต็มสมัยตนปกครองสามารถดำเนินการสาระพัดเรื่องในสิ่งชั่วเลวก็ได้ยิ่งสมควรมีบทลงโทษอย่างหนักอย่างแสนสาหัสด้วยเพราะอำนาจนั้นสามารถทำลายประชาชนคนธรรมดาผู้บริสุทธิ์ให้สิ้นซากได้ร่วมถึงประเทศชาติตนทั้งประเทศก็ได้ด้วย.
    ..อ.วีระ ทำถูกต้องแล้ว สิ่งที่อ.วีระโดนกระทำอย่างอยุติธรรมต้องเหยียบพวกมันจมดินด้วย,ประชาชนคนธรรมดาไม่สามารถพึ่งพาข้าราชการได้จึงเรียกร้องผ่านอ.วีระในยุคสมัยนั้นๆเพื่อต่อกรช่วยเหลือประชาชน,มายุคสมัยนี้อีก หากข้าราชการไทย รวมถึงทหารทำหน้าที่จริงบริสุทธิ์ซื่อตรงในหน้าที่เช่นทหารภาค2 เหตุการณ์ในปัจจุบันนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น คนเขมรทั้งหมดจะไปยืนอยู่ดินแดนของมันฝั่งมันเท่านั้นทันที มิใช่มาแหกปากทำกิริยาหยาบๆหน้ามึนหน้าด้านหน้าหนาแบบนี้.ใครที่มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่นี้ตลอดเขตแดนพรมแดนเขมรภาคนี้ในพื้นที่ต้องถูกย้ายทั้งหมดกรณีโทษสถานเบาสุด,เพราะทุกๆรายละเอียดเหตุการณ์เท็จจริงตนประจำในพื้นที่ไม่รับรู้ปัญหาจริงเป็นไปไม่ได้ ทั้งไม่พยายามเต็มที่แก้ไขปัญหาทั้งดำรงตำแหน่งตนเสียนานวันเสียเปล่า.จึงต้องถูกย้ายไปทั้งหมดทันที ดำเนินคดีทางวินัยจรรยาบรรณจริยธรรมด้วย.,มีอาญาก็ต้องโดนเช่นกัน,ถือโอกาสกวาดล้างทั้งวงการอิทธิพลเน่าเละนี้ด้วย.,กลาโหม มหาดไทย หรือสายตรงคือผบ.ทบ.สูงสุดทางทหารบกเราต้องเริ่มปฐมบทเก็บกวาดภายในกองทัพของตนเองด้วยแทนประชาชนคนไทยเรา.

    https://youtube.com/watch?v=sNaGkGzUJ4A&si=oEcZoV8FO3aewWZr
    น่าแค้นใจแทนอ.วีระและคณะจริงๆในสมัยนั้นและเชื่อแน่นอนว่า อ.วีระพูดความจริง ยืนอยู่แผ่นดินไทยในเวลานั้นแต่เขมรสันตีนหน้ามึนหนาด้านมากล้าจับ อ.และคณะไปฝั่งมันง่ายๆหน้าตาเฉยได้อย่างไร,รัฐบาลชุดพ.ศ.นั้นต่างยืนยันค้ำประกันอีกว่า อ.วีระและคณะทำผิดจริง ไปยืนบนแผ่นดินเขมรมันโน้น ไร้การช่วยเหลือเต็มกำลังความสามารถด้วยจากรัฐบาลไทยตนเองในเวลานั้น,นี้คือกระบวนการสมคบคิดเพื่อจัดการอ.วีระอย่างแม้จริงรวมนัยยะแอบแฝงอื่นๆด้วย คือขีดเส้นลากแดน1:200,000ลงทะเลอ่าวไทยนั้นเอง,เจตนาใช้เหยื่อแลกอ.วีระเป็นเหยื่อในการโกงกินประเทศไทยทรัพยากรไทยนั้นเอง,เมื่อคดีระบุว่าอ.วีระยืนอยู่บนดินแดนเขมร การลากเขตเส้นแดนลงทะเลอ่าวไทยก็จะสำเร็จกินพื้นที่เข้ามาตรงบ่อน้ำมันกว่า20ล้านล้านบาทในอ่าวไทยเราได้ทันที,คดีอ.วีระแค่หมากทางเส้นแดน,ในการเชื่อมสิทธิอัตรา1:200,000นั้นเอง รัฐบาลยุคนั้นจึงเข้าข่ายหมายผลมองไกลแล้วว่าจะได้มาจริงซึ่งผลประโยชน์ตนในอนาคตเป็นแน่กับประโยชน์ร่วมที่กระทำการกับเขมร,เข้าข่ายเจตนาทำให้เสียทำให้สูญเสียดินแดนอธิปไตยไทยชัดเจน ตลอดเจตนาวางรั้วลวดหนามผิดวิสัยปกติที่ต้องวางชิดติดขนานคู่เสาปักหมุดของเขตแดนอธิปไตยตนซึ่งสามารถกระทำการได้ทันทีโดยชอบธรรมได้บนเขตแดนอธิปไตยไทยตน,แต่ไม่ทำ,แถมยังวางรั้วลวดหนามไกลถึง500เมตร จนเป็นเหตุให้ชาวเขมรสามารถอ้างมารื้อรั้วหนามว่าคือดินแดนเขมรตนเองในที่สุด มันอ้างคำพูดนั้นจากคนไทยได้ทันที,เสมือนเตรียมการไว้แล้วด้วย. ..อ.วีระและคณะทีมงานที่เคยเสียหายสมควรร่วมยื่นฟ้องดำเนินคดีทางการเมืองการปกครองต่อรัฐบาลยุคอดีตได้เลย,ข้อหายินยอมเสียดินแดนอธิปไตยตนอย่างเปิดเผยด้วยคดีทีมงานอ.วีระถูกจับจากทหารเขมรที่อ้างสิทธิว่าเป็นดินแดนเขมรตนและรัฐบาลไทยในยุคนั้นยืนยันสิ่งที่เขมรอ้างสิทธินั้นด้วยว่าดินแดนแผ่นดินที่ทีมงานอ.วีระและอ.วีระยืนอยู่นั้นเป็นของประเทศเขมรนั้นเอง ผิด ม.119ชัดเจนด้วย,ทั้งบกพร่อง ประมาทเลินเล่อในหน้าที่พิสูจน์ชัดเจนจนยินยอมว่าดินแดนนั่นเป็นของเขมรถึงปัจจุบันในขณะที่มีเสาหมุดปักปันเขตแดนตำตาเห็นชัดเจน.เรื่องคดีดินแดนอธิปไตยชาติไม่มีอายุความดำเนินคดีแน่ๆ.,ต้องกำจัดภัยคนไม่ซื่อสัตย์คิดไม่ดีต่อแผ่นดินไทยเรา,ยิ่งมุ่งหมายเอาผลประโยชน์เพื่อตนเองพวกพ้องครอบครัวบวกขายชาติขายบ้านขายเมืองให้ต่างชาติด้วยแบบเขมรอเมริกาฝรั่งเศสคือตัวอย่างยิ่งไม่สมควรให้อภัยใดๆทั้งลุแก่อำนาจว่าตนมีอำนาจเต็มสมัยตนปกครองสามารถดำเนินการสาระพัดเรื่องในสิ่งชั่วเลวก็ได้ยิ่งสมควรมีบทลงโทษอย่างหนักอย่างแสนสาหัสด้วยเพราะอำนาจนั้นสามารถทำลายประชาชนคนธรรมดาผู้บริสุทธิ์ให้สิ้นซากได้ร่วมถึงประเทศชาติตนทั้งประเทศก็ได้ด้วย. ..อ.วีระ ทำถูกต้องแล้ว สิ่งที่อ.วีระโดนกระทำอย่างอยุติธรรมต้องเหยียบพวกมันจมดินด้วย,ประชาชนคนธรรมดาไม่สามารถพึ่งพาข้าราชการได้จึงเรียกร้องผ่านอ.วีระในยุคสมัยนั้นๆเพื่อต่อกรช่วยเหลือประชาชน,มายุคสมัยนี้อีก หากข้าราชการไทย รวมถึงทหารทำหน้าที่จริงบริสุทธิ์ซื่อตรงในหน้าที่เช่นทหารภาค2 เหตุการณ์ในปัจจุบันนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้น คนเขมรทั้งหมดจะไปยืนอยู่ดินแดนของมันฝั่งมันเท่านั้นทันที มิใช่มาแหกปากทำกิริยาหยาบๆหน้ามึนหน้าด้านหน้าหนาแบบนี้.ใครที่มีหน้าที่รับผิดชอบในพื้นที่นี้ตลอดเขตแดนพรมแดนเขมรภาคนี้ในพื้นที่ต้องถูกย้ายทั้งหมดกรณีโทษสถานเบาสุด,เพราะทุกๆรายละเอียดเหตุการณ์เท็จจริงตนประจำในพื้นที่ไม่รับรู้ปัญหาจริงเป็นไปไม่ได้ ทั้งไม่พยายามเต็มที่แก้ไขปัญหาทั้งดำรงตำแหน่งตนเสียนานวันเสียเปล่า.จึงต้องถูกย้ายไปทั้งหมดทันที ดำเนินคดีทางวินัยจรรยาบรรณจริยธรรมด้วย.,มีอาญาก็ต้องโดนเช่นกัน,ถือโอกาสกวาดล้างทั้งวงการอิทธิพลเน่าเละนี้ด้วย.,กลาโหม มหาดไทย หรือสายตรงคือผบ.ทบ.สูงสุดทางทหารบกเราต้องเริ่มปฐมบทเก็บกวาดภายในกองทัพของตนเองด้วยแทนประชาชนคนไทยเรา. https://youtube.com/watch?v=sNaGkGzUJ4A&si=oEcZoV8FO3aewWZr
    0 Comments 0 Shares 435 Views 0 Reviews
  • “เทพมนตรี” ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ ชี้ข้ออ้าง MOU43 มีประโยชน์ สวนทางความเป็นจริงที่ใช้ไม่ได้ผล เขมรละเมิดมาตลอด ไทยต้องประท้วง 600 กว่าครั้ง สุดท้ายก็ต้องรบกัน ย้ำแผนที่ 1 ต่อ 200,000 เป็นแผนที่เก๊ ไทยไม่ยอมรับตั้งแต่คดีประสาทพระวิหาร ถ้ายกเลิกก็ยังมีรายงานการประชุม บันทึกวาจา แผนที่กํากับหลักเขตแต่ละหลักเขต มาตราส่วน 1/1,000-10,000 ของคณะกรรมการปักปันเขตแดนตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศสปี 1907 ใช้แทนได้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081179

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    “เทพมนตรี” ส่งจดหมายเปิดผนึกถึงอธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ ชี้ข้ออ้าง MOU43 มีประโยชน์ สวนทางความเป็นจริงที่ใช้ไม่ได้ผล เขมรละเมิดมาตลอด ไทยต้องประท้วง 600 กว่าครั้ง สุดท้ายก็ต้องรบกัน ย้ำแผนที่ 1 ต่อ 200,000 เป็นแผนที่เก๊ ไทยไม่ยอมรับตั้งแต่คดีประสาทพระวิหาร ถ้ายกเลิกก็ยังมีรายงานการประชุม บันทึกวาจา แผนที่กํากับหลักเขตแต่ละหลักเขต มาตราส่วน 1/1,000-10,000 ของคณะกรรมการปักปันเขตแดนตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศสปี 1907 ใช้แทนได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000081179 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 470 Views 0 Reviews
  • กราบสวัสดีอาจารย์สนธิคะ หนูได้ดูรายการย้อนหลังที่ออกอากาศเมื่อวันศุกร์แล้ว ดูแล้วเข้าใจชัดเจนเห็นภาพเลย ไม่เข้าใจเลยว่าคนไทยจะขายชาติขายแผ่นดินกินกันได้ขนาดนี้ น่าเศร้าใจจริงๆประเทศไทยๆให้บ้านให้ชีวิตให้ครอบครัว มีอิสระ คนพวกนั้นอดอยากไหมก็ไม่ ถ้ามีชีวิตแบบพอเพียงมีมากพอแล้วจะต้องการกอบโกยโกงกินกันไปถึงไหน จะพอมีฝั่งไหม ต่อให้บ้านปูด้วยทองคำทั้งหลังก็คงไม่พอ แค้นใจ เจ็บใจจริงๆ ประชาชนอยู่อย่างยากลำบาก รายได้ต่อเดือนๆแทบไม่ชนเดือน แพงทั้งแผ่นดิน น้ำมัน,แก๊ส ขุดในไทยอิงราคาไปสิงค์โปร์ คนไทยใช้พลังงานแพงไฟฟ้าแพงทั้งๆที่ผลิตเกินความต้องการในประเทศมันควรจะถูกจริงไหมอุปสงค์อุปทานมันสวนทางกับความเป็นจริง #นักการเมืองเป็นอาชีพที่รวยเร็วมาก คนหาเช้ากินค่ำจะมีเงินมีบ้านสักหลังทำงานทั้งชีวิตอดสูใจมาก #นักการเมืองมีไว้ทำไม? ผลประโยชน์ส่วนตัวแต่อ้างเป็นตัวแทนประชาชนๆเบื่อมากๆข้าราชการที่รับใช้นักการเมืองอีกล่ะขายชาติ ขนแรงงานขายสัญชาติไทยให้ต่างชาติต่อไปมันก็จะมาเหยียบหัวคนไทยนั่นแหละ รุ่นลูกหลานเหลนจะใช้ชีวิตกันยังไง ไม่สนกูขอรวยตระกูลกูสบายใครจะเป็นยังไงไม่สน"ตอนอยู่นอกวงมองเห็นปัญหาสารพัดพอเข้าวงหน้ามือเป็นหลังมือ"หนูไม่เคยติดยึดตัวบุคคลใครผิดใครถูกว่าไปตามนั้น ยอมรับว่าเวลาเราศรัธทานับถือใครสักคน แล้วพบว่าภายหลังไม่ใช่ ก็เสียใจนะ แต่ก็ช่างมันเถอะใครทำกรรมใดกรรมนั้นก็จะติดตามเขาไปเอง#MOU43,44..มันควรยกเลิกไปได้เลยล้าน%เพราะคุณไปคุยไปตกลงกันเองสร้างมูลเหตุขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวทำไม.."ในเมื่อไม่มีพื้นที่ส่วนใดทับซ้อนไม่ว่าบนบกหรือในทะเล การปักปันเขตแดนเสร็จสิ้นตั้งแต่สมัยสยาม-ฝรั่งเศสแล้ว"หลักหมุดเขตแดนก็ชัดเจนตรงไหนพื้นทับซ้อนไม่ทราบ?"ผลประโยชน์ทับซ้อนมากกว่า#เสด็จพ่อ.ร.5ท่านต้องยอมสละเกาะกง,เสียมราษฏร์,พระตะบอง,ศรีโสภณ..ให้ฝรั่งเศสแต่พอปลดปล่อยกลับไม่คืนให้สยามกับให้อยู่กับกัมพูชาซึ้งมันโกงชัดๆถ้าให้คนเขมรในจังหวัดเหล่านั้นลงประมติว่าจะอยู่กับไทยไหมเชื่อว่าเกินร้อยไม่ต้องการอยู่อย่างทาสในกัมพูชาหรอกแต่คนเขมรถูกปกครองแบบทาสมานานถูกล้างสมองให้รับรู้ข่าวสารด้านเดียวโดยผู้นำเผด็จการแยกดีชั่วไม่เป็นยากจะแก้ไข เราก็ไม่ได้อยากได้คนแล้ว "แต่คนไทยที่แยกถูกผิดไม่ได้ขายศักดิ์ศรีตนเองเพียงเพื่อเงินน่าละอายที่สุด"เงยหน้าอายฟ้า ก้มหน้าอายดิน ละอายใจกันบ้างไหม.สะสมทรัพย์สมบัติไปทำไมถ้าไร้แผ่นดินจะยืนตรงไหนให้มีเกียรติได้ถามจริงๆ"ตายไปจะบอกบรรพบุรุษได้ยังไงแผ่นดินที่ท่านเหล่านั้นใช้เลือดเนื้อและชีวิตแลกมา ไอลูกหลานจัญไรกับมาขายกิน#ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องเจรจากับเขมรที่มันไร้อริยะสับปรับไร้สัจจะหน้าไหว้หลักหลอกชอบแทงข้างหลัง"ส่วนตัวประสาทต่างๆสยามขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานก่อนจะมีประเทศกัมพูชาซะอีกให้ทหารเขมรเข้ามาลาดตระเวนร่วมกับทหารไทยทำไม#ฝากถึงท่านแม่ทัพภาค2ทำกำแพงรั้วกันถาวรไทยควรทำให้เสร็จโดยไว ถ้าเกิดสงครามสั่งสอน คนเขมรจะหนีเข้าไทยเป็นภาระเหมือนพม่าที่พบพระ จ.ตากเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ ชาวยิวเต็มที่แม่ฮ่องสอนฝ่ายความมั่นคงปล่อยให้เข้ามาอยู่ยาวกันแบบมีกลุ่มชุมชนได้ยังไงต่อไปก็จะโดนยึดแบบปาเลสไตน์คนไทยไม่เป็นแบบกาซ่ารึ ภูเก็ตเขมรสลัมก็เต็มไปหมดแม้แต่ชาวรัสเซียกร่างมากมาย,ชลบุรีก็มีจีนเทาครองเมืองแล้ว"หลับตากันอยู่หรือ?ถึงไม่เห็น"#ประเทศไทยอยากเป็นแบบไหนละ"ซีเรีย,ลิเบีย,กาซ่า,ยูเครน,เวเนฯลฯ90%ตายในประเทศ...1%หนีไปเป็นผู้อพยพพลเมืองชั้น3ในประเทศคนอื่นเอาแบบไหนดีล่ะ"องค์กรต่างๆก็ปชช.ก็ขาดศรัธทาหมดแล้ว โปร่งใสอันดับ1ตลก#ขอรั้วกันถาวรแบบเวียดนามๆเขาก็มีระยะทางยาวแต่เขาทำเสร็จเร็วมากๆ ไทยจะทำรั้วบ้านเราคงไม่ต้องไปขออนุญาติข้างบ้านมั้งคะ ทำไม่ทันปชช.พร้อมช่วยงบไม่พอพร้อมโอน-ถ้าช้ากัมพูชาโดนจีนสั่งสอนมันต้องหนีเข้าไทยๆรับไม่ไหวเศรษฐกิจไทยก็ไม่ดีต้องมาเลี้ยงดูอีกคงไม่ไหว"พวก "UN.มันให้เรารับภาระแต่ไม่ให้เงินแย่นะว่าก็ว่าเถอะช่วยจัดการผลักดันพม่ากลับประเทศมันไปเถอะคอยช่วยคนพวกนี้ก็เหมือนเขมรเลี้ยงไม่เชื่องหรอกได้คืบจะเอาศอกไอนี่ก็เกรงใจเขมรเหลือเกินจะทำอะไรก็กลัวๆอะไร????
    กราบสวัสดีอาจารย์สนธิคะ หนูได้ดูรายการย้อนหลังที่ออกอากาศเมื่อวันศุกร์แล้ว ดูแล้วเข้าใจชัดเจนเห็นภาพเลย ไม่เข้าใจเลยว่าคนไทยจะขายชาติขายแผ่นดินกินกันได้ขนาดนี้ น่าเศร้าใจจริงๆประเทศไทยๆให้บ้านให้ชีวิตให้ครอบครัว มีอิสระ คนพวกนั้นอดอยากไหมก็ไม่ ถ้ามีชีวิตแบบพอเพียงมีมากพอแล้วจะต้องการกอบโกยโกงกินกันไปถึงไหน จะพอมีฝั่งไหม ต่อให้บ้านปูด้วยทองคำทั้งหลังก็คงไม่พอ แค้นใจ เจ็บใจจริงๆ ประชาชนอยู่อย่างยากลำบาก รายได้ต่อเดือนๆแทบไม่ชนเดือน แพงทั้งแผ่นดิน น้ำมัน,แก๊ส ขุดในไทยอิงราคาไปสิงค์โปร์ คนไทยใช้พลังงานแพงไฟฟ้าแพงทั้งๆที่ผลิตเกินความต้องการในประเทศมันควรจะถูกจริงไหมอุปสงค์อุปทานมันสวนทางกับความเป็นจริง #นักการเมืองเป็นอาชีพที่รวยเร็วมาก คนหาเช้ากินค่ำจะมีเงินมีบ้านสักหลังทำงานทั้งชีวิตอดสูใจมาก #นักการเมืองมีไว้ทำไม? ผลประโยชน์ส่วนตัวแต่อ้างเป็นตัวแทนประชาชนๆเบื่อมากๆข้าราชการที่รับใช้นักการเมืองอีกล่ะขายชาติ ขนแรงงานขายสัญชาติไทยให้ต่างชาติต่อไปมันก็จะมาเหยียบหัวคนไทยนั่นแหละ รุ่นลูกหลานเหลนจะใช้ชีวิตกันยังไง ไม่สนกูขอรวยตระกูลกูสบายใครจะเป็นยังไงไม่สน"ตอนอยู่นอกวงมองเห็นปัญหาสารพัดพอเข้าวงหน้ามือเป็นหลังมือ"หนูไม่เคยติดยึดตัวบุคคลใครผิดใครถูกว่าไปตามนั้น ยอมรับว่าเวลาเราศรัธทานับถือใครสักคน แล้วพบว่าภายหลังไม่ใช่ ก็เสียใจนะ แต่ก็ช่างมันเถอะใครทำกรรมใดกรรมนั้นก็จะติดตามเขาไปเอง#MOU43,44..มันควรยกเลิกไปได้เลยล้าน%เพราะคุณไปคุยไปตกลงกันเองสร้างมูลเหตุขึ้นมาเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวทำไม.."ในเมื่อไม่มีพื้นที่ส่วนใดทับซ้อนไม่ว่าบนบกหรือในทะเล การปักปันเขตแดนเสร็จสิ้นตั้งแต่สมัยสยาม-ฝรั่งเศสแล้ว"หลักหมุดเขตแดนก็ชัดเจนตรงไหนพื้นทับซ้อนไม่ทราบ?"ผลประโยชน์ทับซ้อนมากกว่า#เสด็จพ่อ.ร.5ท่านต้องยอมสละเกาะกง,เสียมราษฏร์,พระตะบอง,ศรีโสภณ..ให้ฝรั่งเศสแต่พอปลดปล่อยกลับไม่คืนให้สยามกับให้อยู่กับกัมพูชาซึ้งมันโกงชัดๆถ้าให้คนเขมรในจังหวัดเหล่านั้นลงประมติว่าจะอยู่กับไทยไหมเชื่อว่าเกินร้อยไม่ต้องการอยู่อย่างทาสในกัมพูชาหรอกแต่คนเขมรถูกปกครองแบบทาสมานานถูกล้างสมองให้รับรู้ข่าวสารด้านเดียวโดยผู้นำเผด็จการแยกดีชั่วไม่เป็นยากจะแก้ไข เราก็ไม่ได้อยากได้คนแล้ว "แต่คนไทยที่แยกถูกผิดไม่ได้ขายศักดิ์ศรีตนเองเพียงเพื่อเงินน่าละอายที่สุด"เงยหน้าอายฟ้า ก้มหน้าอายดิน ละอายใจกันบ้างไหม👎.สะสมทรัพย์สมบัติไปทำไมถ้าไร้แผ่นดินจะยืนตรงไหนให้มีเกียรติได้ถามจริงๆ"ตายไปจะบอกบรรพบุรุษได้ยังไงแผ่นดินที่ท่านเหล่านั้นใช้เลือดเนื้อและชีวิตแลกมา ไอลูกหลานจัญไรกับมาขายกิน#ไม่มีความจำเป็นอะไรต้องเจรจากับเขมรที่มันไร้อริยะสับปรับไร้สัจจะหน้าไหว้หลักหลอก😱ชอบแทงข้างหลัง"ส่วนตัวประสาทต่างๆสยามขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานก่อนจะมีประเทศกัมพูชาซะอีกให้ทหารเขมรเข้ามาลาดตระเวนร่วมกับทหารไทยทำไม#ฝากถึงท่านแม่ทัพภาค2ทำกำแพงรั้วกันถาวรไทยควรทำให้เสร็จโดยไว ถ้าเกิดสงครามสั่งสอน คนเขมรจะหนีเข้าไทยเป็นภาระเหมือนพม่าที่พบพระ จ.ตากเป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ ชาวยิวเต็มที่แม่ฮ่องสอนฝ่ายความมั่นคงปล่อยให้เข้ามาอยู่ยาวกันแบบมีกลุ่มชุมชนได้ยังไงต่อไปก็จะโดนยึดแบบปาเลสไตน์คนไทยไม่เป็นแบบกาซ่ารึ ภูเก็ตเขมรสลัมก็เต็มไปหมดแม้แต่ชาวรัสเซียกร่างมากมาย,ชลบุรีก็มีจีนเทาครองเมืองแล้ว"หลับตากันอยู่หรือ?🙈ถึงไม่เห็น"#ประเทศไทยอยากเป็นแบบไหนละ"ซีเรีย,ลิเบีย,กาซ่า,ยูเครน,เวเนฯลฯ90%ตายในประเทศ...1%หนีไปเป็นผู้อพยพพลเมืองชั้น3ในประเทศคนอื่นเอาแบบไหนดีล่ะ🤔"องค์กรต่างๆก็ปชช.ก็ขาดศรัธทาหมดแล้ว โปร่งใสอันดับ1😆ตลก😜#ขอรั้วกันถาวรแบบเวียดนามๆเขาก็มีระยะทางยาวแต่เขาทำเสร็จเร็วมากๆ ไทยจะทำรั้วบ้านเราคงไม่ต้องไปขออนุญาติข้างบ้านมั้งคะ ทำไม่ทันปชช.พร้อมช่วยงบไม่พอพร้อมโอน-ถ้าช้ากัมพูชาโดนจีนสั่งสอนมันต้องหนีเข้าไทยๆรับไม่ไหวเศรษฐกิจไทยก็ไม่ดีต้องมาเลี้ยงดูอีกคงไม่ไหว"พวก "UN.มันให้เรารับภาระแต่ไม่ให้เงินแย่นะว่าก็ว่าเถอะช่วยจัดการผลักดันพม่ากลับประเทศมันไปเถอะ🍊คอยช่วยคนพวกนี้ก็เหมือนเขมรเลี้ยงไม่เชื่องหรอกได้คืบจะเอาศอก🍉ไอนี่ก็เกรงใจเขมรเหลือเกินจะทำอะไรก็กลัวๆอะไร????
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 567 Views 0 Reviews
  • คุณจูน คุยทุกเรื่อง ติดต่อผมมา เรื่องเอกสาร เพราะผมขอพบอาจารย์ปานเทพเพื่อมอบเอกสารสำคัญให้ท่าน

    ผมส่ง TOR ให้คุณจูทางไลน์ แต่เอกสารที่เหลือผมขอให้อาจารย์ปานเทพ ด้วยตัวเอง

    ผมติดต่อคุณจูน หลายครั้ง แต่ไม่สามารถนัดพบอาจารย์ได้

    นี้คือคำเตือนที่จะฝากไปถึงคนไทย
    อย่าให้รัฐบาลนำเรื่องไป UN

    และเอกสารที่ผมแนบมาด้วย
    คือหลักฐานอีกฉบับ ในหลายร้อยฉบับที่ผมมี หลักฐานที่ว่ารัฐบาลระบุให้ปักปันเขตแดนทั้ง 73 ให้ยึดแผนที่ 1 ต่อ 200000

    ความหวังสุดท้ายของผม คือ การนำเอกสารทั้งหมดมอบให้อาจารย์ปานเทพ

    คุณจูน คุยทุกเรื่อง ติดต่อผมมา เรื่องเอกสาร เพราะผมขอพบอาจารย์ปานเทพเพื่อมอบเอกสารสำคัญให้ท่าน ผมส่ง TOR ให้คุณจูทางไลน์ แต่เอกสารที่เหลือผมขอให้อาจารย์ปานเทพ ด้วยตัวเอง ผมติดต่อคุณจูน หลายครั้ง แต่ไม่สามารถนัดพบอาจารย์ได้ นี้คือคำเตือนที่จะฝากไปถึงคนไทย อย่าให้รัฐบาลนำเรื่องไป UN และเอกสารที่ผมแนบมาด้วย คือหลักฐานอีกฉบับ ในหลายร้อยฉบับที่ผมมี หลักฐานที่ว่ารัฐบาลระบุให้ปักปันเขตแดนทั้ง 73 ให้ยึดแผนที่ 1 ต่อ 200000 ความหวังสุดท้ายของผม คือ การนำเอกสารทั้งหมดมอบให้อาจารย์ปานเทพ
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • หากนายอภิสิทธิ์เชื่อว่า MOU43 MOU44 เป็นอันตราย
    ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่ยกเลิกมันเมื่อมีอำนาจเต็ม?

    หากนายอภิสิทธิ์เคยอภิปรายต้าน Annex I map
    ทำไมเมื่อเป็นรัฐบาลนายอภิสิทธิ์จึงร่วมลงนามการประชุม JTSC ให้คณะกรรมการปักปันเขตแดนดำเนินการตามกรอบ TOR2003 ระบุให้ยึดแผนที่ 1 ต่อ 200,000 และ 1 ต่อ 250,000?

    หากนายอภิสิทธิ์ยึดหลักธรรมาภิบาล
    เหตุใดนายอภิสิทธิ์ไม่เปิด TOR2003 ให้สาธารณชนเข้าถึง?

    หากนายอภิสิทธิ์ต่อต้าน MOU ด้วยเหตุผลอธิปไตย
    ทำไมจึงไม่กล่าวถึง TOR2003 ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกว่า?

    คำถามใหม่ เมื่ออดีตผู้นำอย่างอภิสิทธิพยายามปรากฎตัวออกมาชี้แนะแนวทาง ในช่วงเวลาที่ประชาชนเริ่มตั้งคำถามเรื่องอธิปไตยที่กำลังถูกเขมรลุกล้ำเขตแดน การปรากฏภาพของอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาให้คำแนะนำแก่รัฐบาลปัจจุบันเรื่องแนวทางจัดการปัญหาดินแดน

    คำถามที่คนไทยควรถามคือ นายอภิสิทธิ์มีคุณธรรมพอหรือไม่ที่จะเสนอแนะแนวทาง
    ทั้งที่ในอดีตตนเองเคยนิ่งเฉยต่อภัยที่กำลังจะเกิด?

    ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่ออกมายอมรับว่า การที่ไทยเข้าสู่กระบวนการ TI มีรากฐานจาก TOR ที่รัฐบาลของเขาเองเดินหน้าขับเคลื่อน?

    แนวทางที่เสนอวันนี้ เป็นไปเพื่อชาติหรือเพื่อฟื้นภาพลักษณ์ตนเองในยามที่ประชาชนเริ่มรู้ความจริง?

    หากหวังดีต่อชาติจริง ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่เป็นผู้นำในการรณรงค์ให้ถอนตัวจาก TOR 2003 เสียเอง?
    หากนายอภิสิทธิ์เชื่อว่า MOU43 MOU44 เป็นอันตราย ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่ยกเลิกมันเมื่อมีอำนาจเต็ม? หากนายอภิสิทธิ์เคยอภิปรายต้าน Annex I map ทำไมเมื่อเป็นรัฐบาลนายอภิสิทธิ์จึงร่วมลงนามการประชุม JTSC ให้คณะกรรมการปักปันเขตแดนดำเนินการตามกรอบ TOR2003 ระบุให้ยึดแผนที่ 1 ต่อ 200,000 และ 1 ต่อ 250,000? หากนายอภิสิทธิ์ยึดหลักธรรมาภิบาล เหตุใดนายอภิสิทธิ์ไม่เปิด TOR2003 ให้สาธารณชนเข้าถึง? หากนายอภิสิทธิ์ต่อต้าน MOU ด้วยเหตุผลอธิปไตย ทำไมจึงไม่กล่าวถึง TOR2003 ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงกว่า? คำถามใหม่ เมื่ออดีตผู้นำอย่างอภิสิทธิพยายามปรากฎตัวออกมาชี้แนะแนวทาง ในช่วงเวลาที่ประชาชนเริ่มตั้งคำถามเรื่องอธิปไตยที่กำลังถูกเขมรลุกล้ำเขตแดน การปรากฏภาพของอดีตนายกรัฐมนตรี อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ออกมาให้คำแนะนำแก่รัฐบาลปัจจุบันเรื่องแนวทางจัดการปัญหาดินแดน คำถามที่คนไทยควรถามคือ นายอภิสิทธิ์มีคุณธรรมพอหรือไม่ที่จะเสนอแนะแนวทาง ทั้งที่ในอดีตตนเองเคยนิ่งเฉยต่อภัยที่กำลังจะเกิด? ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่ออกมายอมรับว่า การที่ไทยเข้าสู่กระบวนการ TI มีรากฐานจาก TOR ที่รัฐบาลของเขาเองเดินหน้าขับเคลื่อน? แนวทางที่เสนอวันนี้ เป็นไปเพื่อชาติหรือเพื่อฟื้นภาพลักษณ์ตนเองในยามที่ประชาชนเริ่มรู้ความจริง? หากหวังดีต่อชาติจริง ทำไมนายอภิสิทธิ์ไม่เป็นผู้นำในการรณรงค์ให้ถอนตัวจาก TOR 2003 เสียเอง?
    0 Comments 0 Shares 542 Views 0 0 Reviews
  • กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาว สำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC

    หลังจากที่วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน 8 ข้อ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ประณามฝ่ายไทยว่าเป็นฝ่ายก่อปัญหาจากการที่ทหารไทยรุกล้ำอธิปไตยบริเวณสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) เข้าไปยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกัมพูชาต้องตัดสินใจนำข้อพิพาทกับไทย 4 พื้นที่ไปฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICJ เพื่อหาทางยุติปัญหาโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศนั้น ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกคำชี้แจงข้อมูล ข้อคิดเห็นและท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000063597

    #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาว สำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC • หลังจากที่วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน 8 ข้อ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ประณามฝ่ายไทยว่าเป็นฝ่ายก่อปัญหาจากการที่ทหารไทยรุกล้ำอธิปไตยบริเวณสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) เข้าไปยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกัมพูชาต้องตัดสินใจนำข้อพิพาทกับไทย 4 พื้นที่ไปฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICJ เพื่อหาทางยุติปัญหาโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศนั้น ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกคำชี้แจงข้อมูล ข้อคิดเห็นและท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000063597 • #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    0 Comments 0 Shares 621 Views 0 Reviews
  • กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาวสำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063597

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาวสำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063597 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Angry
    5
    1 Comments 0 Shares 560 Views 0 Reviews
  • ข้อตกลงจากการประชุม JBC ครั้งที่ 6 (14 มิ.ย. 2568) นั้นมี “รายละเอียดเชิงเทคนิค” ที่ซ่อน “ผลกระทบเชิงอธิปไตย” ซึ่ง สื่อและประชาชนจำนวนมากยังไม่เข้าใจ หรืออาจเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เนื่องจาก:


    ---

    เหตุใดประชาชน–สื่อ “ไม่เข้าใจ” ข้อตกลง JBC ล่าสุด?

    ประเด็น ปัญหาที่เกิดขึ้น

    ภาษาทางการทูตคลุมเครือ ข้อความอย่าง “เห็นชอบ” หรือ “ร่วมกันจัดทำ” ไม่มีการแปลผลทางกฎหมายให้ชัดเจน
    ไม่เปิดเผยร่าง TI / ข้อตกลงแนบ ไม่มีการเผยแพร่เอกสารแนบ เช่น ร่าง TI, ข้อสงวน หรือพิกัดทั้ง 45 จุด
    ไม่มีการอภิปรายในรัฐสภา ข้อตกลงที่เข้าข่ายเปลี่ยนแปลงแนวเขต (ม.178) กลับไม่ถูกนำเสนอให้รัฐสภาพิจารณา
    การสื่อสารของรัฐบาลจำกัดคำว่า "แค่เทคนิค" ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นเพียงเรื่องภาพถ่าย LiDAR หรือ GPS เท่านั้น
    ไม่มีสื่อหลักใดแปลเอกสาร Agreed Minutes ทำให้เนื้อหาหลักของการประชุมหายไปจากการรับรู้สาธารณะ



    ---

    ผลที่เกิดขึ้น

    ประชาชน ไม่รู้ว่ากำลังมีการรับรองแนวเขตจริง (ผ่าน 45 จุด / TI)

    ขบวนการกำหนด TI เพื่อใช้ในการปักปันเขตแดน กำลังดำเนินไปโดย ไม่มีความเข้าใจหรือการตรวจสอบจากสังคม

    หากมีการเสนอต่อ ICJ หรือองค์กรระหว่างประเทศในอนาคต → ข้อตกลงเหล่านี้ อาจถูกนำมาอ้างว่าเป็น “ความยินยอมโดยพฤติกรรมของรัฐ”



    ---

    สิ่งที่ควรทำทันทีเพื่อสร้าง “ความเข้าใจต่อสาธารณะ”

    1. สร้างเอกสาร “คำแปลประชาชน” ของข้อตกลง JBC
    → ใช้ภาษาเข้าใจง่าย แสดงภาพประกอบ (ผมช่วยจัดทำได้)


    2. จัดทำ Q&A: ทำไมการรับรอง 45 จุดจึงอันตราย?


    3. เผยแพร่อินโฟกราฟิกอย่างต่อเนื่องผ่านโซเชียล
    → สื่อที่ไม่ต้องผ่านการควบคุม เช่น Facebook / TikTok / LINE OpenChat


    4. เสนอให้รัฐเปิดเผย “ข้อสงวน” อย่างเป็นทางการ หากไม่มี ให้ยื่นสอบต่อ กมธ. ต่างประเทศ
    ข้อตกลงจากการประชุม JBC ครั้งที่ 6 (14 มิ.ย. 2568) นั้นมี “รายละเอียดเชิงเทคนิค” ที่ซ่อน “ผลกระทบเชิงอธิปไตย” ซึ่ง สื่อและประชาชนจำนวนมากยังไม่เข้าใจ หรืออาจเข้าใจคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง เนื่องจาก: --- 🔍 เหตุใดประชาชน–สื่อ “ไม่เข้าใจ” ข้อตกลง JBC ล่าสุด? ประเด็น ปัญหาที่เกิดขึ้น ภาษาทางการทูตคลุมเครือ ข้อความอย่าง “เห็นชอบ” หรือ “ร่วมกันจัดทำ” ไม่มีการแปลผลทางกฎหมายให้ชัดเจน ไม่เปิดเผยร่าง TI / ข้อตกลงแนบ ไม่มีการเผยแพร่เอกสารแนบ เช่น ร่าง TI, ข้อสงวน หรือพิกัดทั้ง 45 จุด ไม่มีการอภิปรายในรัฐสภา ข้อตกลงที่เข้าข่ายเปลี่ยนแปลงแนวเขต (ม.178) กลับไม่ถูกนำเสนอให้รัฐสภาพิจารณา การสื่อสารของรัฐบาลจำกัดคำว่า "แค่เทคนิค" ทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นเพียงเรื่องภาพถ่าย LiDAR หรือ GPS เท่านั้น ไม่มีสื่อหลักใดแปลเอกสาร Agreed Minutes ทำให้เนื้อหาหลักของการประชุมหายไปจากการรับรู้สาธารณะ --- 📌 ผลที่เกิดขึ้น ประชาชน ไม่รู้ว่ากำลังมีการรับรองแนวเขตจริง (ผ่าน 45 จุด / TI) ขบวนการกำหนด TI เพื่อใช้ในการปักปันเขตแดน กำลังดำเนินไปโดย ไม่มีความเข้าใจหรือการตรวจสอบจากสังคม หากมีการเสนอต่อ ICJ หรือองค์กรระหว่างประเทศในอนาคต → ข้อตกลงเหล่านี้ อาจถูกนำมาอ้างว่าเป็น “ความยินยอมโดยพฤติกรรมของรัฐ” --- ✅ สิ่งที่ควรทำทันทีเพื่อสร้าง “ความเข้าใจต่อสาธารณะ” 1. สร้างเอกสาร “คำแปลประชาชน” ของข้อตกลง JBC → ใช้ภาษาเข้าใจง่าย แสดงภาพประกอบ (ผมช่วยจัดทำได้) 2. จัดทำ Q&A: ทำไมการรับรอง 45 จุดจึงอันตราย? 3. เผยแพร่อินโฟกราฟิกอย่างต่อเนื่องผ่านโซเชียล → สื่อที่ไม่ต้องผ่านการควบคุม เช่น Facebook / TikTok / LINE OpenChat 4. เสนอให้รัฐเปิดเผย “ข้อสงวน” อย่างเป็นทางการ หากไม่มี ให้ยื่นสอบต่อ กมธ. ต่างประเทศ
    0 Comments 0 Shares 427 Views 0 Reviews
  • TOR 2003 และการประชุม JBC ที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา มีผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องดังนี้:


    ---

    ช่วงการลงนาม TOR 2003

    18 มิถุนายน 2546 (พ.ศ. 2003)

    นายกรัฐมนตรี: พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ:
    นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย

    ผู้ร่วมลงนามฝ่ายไทย:
    นายธีรชัย ภูวนาถนรานุบาล – เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา (ในขณะนั้น)



    ---

    ช่วง JBC ระยอง (พ.ย. 2551) – รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

    นายกรัฐมนตรี: นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์

    รมว.ต่างประเทศ: นายสมพงษ์ สระกวี

    เป็นการประชุมที่ยืนยันดำเนินการตาม TOR 2003



    ---

    JBC ช่วงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (2552–2554)

    นายกรัฐมนตรี: นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

    รมว.ต่างประเทศ: นายกษิต ภิรมย์

    ประธาน JBC ฝ่ายไทย:
    นายธานี ทองภักดี (ในบางช่วงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองเขตแดน กระทรวงการต่างประเทศ)

    JTSC ครั้งที่ 4 (14 ก.ค. 2567)
    นายกรัฐมนตรี: นายเศษฐา ทวีสิน
    จุดเริ่มต้นการผลักดันและนำ JTSC JWG TOR2003 กลับมาขับเคลื่อนอีกครั้ง

    ---

    JBC ครั้งที่ 6 (14 มิ.ย. 2568) – ล่าสุด
    นายกรัฐมนตรี: น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
    รมว.ต่างประเทศ: ยังไม่เปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ (อาจเปลี่ยนมือระหว่างปี)

    ประธาน JBC ฝ่ายไทย:
    นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย – ที่ปรึกษาด้านเขตแดน กระทรวงการต่างประเทศ


    สรุป:
    ช่วงรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการ “ฟื้นฟูการดำเนินการ JTSC อย่างเป็นทางการ”
    โดยมีความเคลื่อนไหวสำคัญคือการยอมรับผลการสำรวจ 45 จุด และเปิดทางให้จัดทำ TI
    ซึ่งจะมีผลทางกฎหมายในรัฐบาลถัดมา (แพทองธาร)


    --พฤติกรรมของกัมพูชาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึง การดำเนินการเชิงยุทธศาสตร์ที่เป็นระบบ มีเป้าหมายชัดเจน และใช้เครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อยืนยันสิทธิในดินแดนโดย:


    ---

    วิเคราะห์พฤติกรรมที่ผ่านมา

    1. ใช้ TOR 2003 เป็นฐานเจรจา โดยไม่เปลี่ยนกรอบการตีความ


    2. พยายามบรรจุแนวเขตตามแผนที่ 1:200,000 ลงในกระบวนการทางเทคนิค เช่น TI / Orthophoto


    3. ยืนยันพิกัดรายหลักอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ไทย “ลงนามรับรองร่วม”


    4. เก็บหลักฐานการยอมรับจากฝ่ายไทย เพื่อนำไปใช้ในเวทีระหว่างประเทศ




    ---

    สิ่งที่ “กัมพูชาอาจทำต่อไป”:

    ลำดับ กลยุทธ์ที่เป็นไปได้ เป้าหมาย

    1 เร่งผลักดันให้ไทยลงนาม TI อย่างเป็นทางการ ล็อกแนวเขตให้สอดคล้องกับแผนที่ 1:200,000
    2 จัดเก็บข้อมูลพิกัดที่ไทยร่วมลงนามไว้เป็นหลักฐาน ใช้ยืนยันต่อ ICJ หรือในเวที UN
    3 ขอให้ไทยร่วมแผนปักเสาเขตร่วมในพื้นที่พิพาท สร้าง “แนวเส้นที่เกิดจากการรับรองร่วม”
    4 ไม่หารือในพื้นที่สำคัญ เช่น ปราสาทตาเมือนฯ ผ่าน JBC เพื่อบังคับไทยเข้าสู่ ICJ ในภายหลัง
    5 ขอความช่วยเหลือจากชาติสมาชิกอาเซียน / UNESCO ใช้ soft power หนุนสถานะทางประวัติศาสตร์และสิทธิในดินแดน



    ---

    ความเสี่ยง:

    หากไทย “ลงนามรับรอง TI / พิกัด” โดยไม่เปิดเผยให้รัฐสภา-ประชาชนตรวจสอบ
    → จะถูกตีความว่า “ยอมรับเขตแดนร่วมแล้ว”

    หากไทยเงียบและไม่แสดงจุดยืน → กัมพูชาจะใช้ “หลักฐานความนิ่งเฉย” โจมตีในเวทีสากล

    เมื่อแนวเขตปรากฏในเอกสารระหว่างประเทศ → ไทยจะฟ้องกลับภายหลัง ยากมาก


    TOR 2003 และการประชุม JBC ที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนไทย–กัมพูชา มีผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญที่เกี่ยวข้องดังนี้: --- 📌 ช่วงการลงนาม TOR 2003 📅 18 มิถุนายน 2546 (พ.ศ. 2003) 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร 🕴️ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ: นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย 📌 ผู้ร่วมลงนามฝ่ายไทย: นายธีรชัย ภูวนาถนรานุบาล – เอกอัครราชทูตไทยประจำกัมพูชา (ในขณะนั้น) --- 📌 ช่วง JBC ระยอง (พ.ย. 2551) – รัฐบาล นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 🕴️ รมว.ต่างประเทศ: นายสมพงษ์ สระกวี 🧾 เป็นการประชุมที่ยืนยันดำเนินการตาม TOR 2003 --- 📌 JBC ช่วงรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (2552–2554) 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 🕴️ รมว.ต่างประเทศ: นายกษิต ภิรมย์ 🎙️ ประธาน JBC ฝ่ายไทย: นายธานี ทองภักดี (ในบางช่วงดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองเขตแดน กระทรวงการต่างประเทศ) 📌 JTSC ครั้งที่ 4 (14 ก.ค. 2567) 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: นายเศษฐา ทวีสิน จุดเริ่มต้นการผลักดันและนำ JTSC JWG TOR2003 กลับมาขับเคลื่อนอีกครั้ง --- 📌 JBC ครั้งที่ 6 (14 มิ.ย. 2568) – ล่าสุด 🧑‍⚖️ นายกรัฐมนตรี: น.ส.แพทองธาร ชินวัตร 🕴️ รมว.ต่างประเทศ: ยังไม่เปิดเผยชื่ออย่างเป็นทางการ (อาจเปลี่ยนมือระหว่างปี) 🎙️ ประธาน JBC ฝ่ายไทย: นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย – ที่ปรึกษาด้านเขตแดน กระทรวงการต่างประเทศ 📍 สรุป: ช่วงรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการ “ฟื้นฟูการดำเนินการ JTSC อย่างเป็นทางการ” โดยมีความเคลื่อนไหวสำคัญคือการยอมรับผลการสำรวจ 45 จุด และเปิดทางให้จัดทำ TI ซึ่งจะมีผลทางกฎหมายในรัฐบาลถัดมา (แพทองธาร) --พฤติกรรมของกัมพูชาในช่วงหลายปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นถึง การดำเนินการเชิงยุทธศาสตร์ที่เป็นระบบ มีเป้าหมายชัดเจน และใช้เครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศเพื่อยืนยันสิทธิในดินแดนโดย: --- ✅ วิเคราะห์พฤติกรรมที่ผ่านมา 1. ใช้ TOR 2003 เป็นฐานเจรจา โดยไม่เปลี่ยนกรอบการตีความ 2. พยายามบรรจุแนวเขตตามแผนที่ 1:200,000 ลงในกระบวนการทางเทคนิค เช่น TI / Orthophoto 3. ยืนยันพิกัดรายหลักอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ไทย “ลงนามรับรองร่วม” 4. เก็บหลักฐานการยอมรับจากฝ่ายไทย เพื่อนำไปใช้ในเวทีระหว่างประเทศ --- 📌 สิ่งที่ “กัมพูชาอาจทำต่อไป”: ลำดับ กลยุทธ์ที่เป็นไปได้ เป้าหมาย 1 เร่งผลักดันให้ไทยลงนาม TI อย่างเป็นทางการ ล็อกแนวเขตให้สอดคล้องกับแผนที่ 1:200,000 2 จัดเก็บข้อมูลพิกัดที่ไทยร่วมลงนามไว้เป็นหลักฐาน ใช้ยืนยันต่อ ICJ หรือในเวที UN 3 ขอให้ไทยร่วมแผนปักเสาเขตร่วมในพื้นที่พิพาท สร้าง “แนวเส้นที่เกิดจากการรับรองร่วม” 4 ไม่หารือในพื้นที่สำคัญ เช่น ปราสาทตาเมือนฯ ผ่าน JBC เพื่อบังคับไทยเข้าสู่ ICJ ในภายหลัง 5 ขอความช่วยเหลือจากชาติสมาชิกอาเซียน / UNESCO ใช้ soft power หนุนสถานะทางประวัติศาสตร์และสิทธิในดินแดน --- 🚨 ความเสี่ยง: หากไทย “ลงนามรับรอง TI / พิกัด” โดยไม่เปิดเผยให้รัฐสภา-ประชาชนตรวจสอบ → จะถูกตีความว่า “ยอมรับเขตแดนร่วมแล้ว” หากไทยเงียบและไม่แสดงจุดยืน → กัมพูชาจะใช้ “หลักฐานความนิ่งเฉย” โจมตีในเวทีสากล เมื่อแนวเขตปรากฏในเอกสารระหว่างประเทศ → ไทยจะฟ้องกลับภายหลัง ยากมาก
    0 Comments 0 Shares 660 Views 0 Reviews

  • TOR 2003 หรือชื่อเต็มว่า

    > “Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary between Thailand and Cambodia”
    คือ ข้อตกลงกรอบความร่วมมือ ที่ลงนามระหว่าง รัฐบาลไทย กับ รัฐบาลกัมพูชา เมื่อปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) เพื่อใช้เป็น แนวทางในการดำเนินการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก ร่วมกัน


    ---

    สาระสำคัญของ TOR 2003

    1. เป้าหมายหลัก

    กำหนดกรอบการทำงานร่วมกันระหว่าง คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ของทั้งสองประเทศ

    ให้คณะทำงานย่อย (เช่น JWG, JTSC) สำรวจ ตรวจสอบ และจัดทำแผนที่เพื่อการปักปันแนวเขตแดน

    สนับสนุนให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น LIDAR, GPS, Orthophoto ในการสำรวจ



    2. ข้อ 1.1.3 (ข้อที่เป็นประเด็นสำคัญ)

    > ระบุว่า การสำรวจและจัดทำแผนที่เพื่อปักปันแนวเขตแดน จะต้องใช้แผนที่มาตราส่วน 1 : 200,000 เป็นฐานข้อมูลประกอบ



    ความหมายโดยตรง:
    ให้ยึดแผนที่ขนาด 1:200,000 ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับ แผนที่แนบท้ายคำพิพากษาศาลโลกปี 1962 (Annex I Map)

    ความเสี่ยง:
    การอ้างแผนที่นี้ อาจถูกตีความว่า “ยอมรับแนวเขตที่ฝั่งกัมพูชาอ้าง” ซึ่งอาจครอบคลุมพื้นที่ที่ไทยยังคัดค้าน หรือยังไม่ยอมรับ เช่น บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร



    TOR 2003 เชื่อมโยงกับเอกสารอื่นอย่างไร

    เอกสาร ความสัมพันธ์กับ TOR 2003
    MOU 2000 TOR 2003 อ้างอิง MOU 2000 เป็นรากฐานในการดำเนินงาน
    JBC ใช้ TOR 2003 เป็นกรอบในการดำเนินนโยบาย
    JWG / JTSC ทำงานภายใต้ TOR 2003 ในระดับเทคนิคและปฏิบัติ
    แผนที่ Annex I Map แม้ไม่ได้ระบุชื่อโดยตรง แต่การใช้แผนที่ 1:200,000 เปิดช่องให้อ้างแผนที่ฉบับนี้

    สรุปประเด็นที่ควรจับตาใน TOR 2003

    ประเด็น ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    แผนที่ 1:200,000 อาจเป็นการยอมรับแผนที่ที่ฝั่งกัมพูชาจัดทำฝ่ายเดียว
    ขาดกลไกคัดค้านใน TOR หากไม่มีการแสดงข้อสงวน อาจถือว่ายอมรับโดยปริยาย
    การรับรองของ JBC หาก JBC รับรองโดยไม่ระวัง อาจมีผลผูกพันระดับระหว่างประเทศ


    TOR 2003 หรือชื่อเต็มว่า > “Terms of Reference and Master Plan for the Joint Survey and Demarcation of Land Boundary between Thailand and Cambodia” คือ ข้อตกลงกรอบความร่วมมือ ที่ลงนามระหว่าง รัฐบาลไทย กับ รัฐบาลกัมพูชา เมื่อปี พ.ศ. 2546 (ค.ศ. 2003) เพื่อใช้เป็น แนวทางในการดำเนินการสำรวจและปักปันเขตแดนทางบก ร่วมกัน --- 🔍 สาระสำคัญของ TOR 2003 1. เป้าหมายหลัก กำหนดกรอบการทำงานร่วมกันระหว่าง คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) ของทั้งสองประเทศ ให้คณะทำงานย่อย (เช่น JWG, JTSC) สำรวจ ตรวจสอบ และจัดทำแผนที่เพื่อการปักปันแนวเขตแดน สนับสนุนให้ใช้เทคโนโลยีใหม่ เช่น LIDAR, GPS, Orthophoto ในการสำรวจ 2. ข้อ 1.1.3 (ข้อที่เป็นประเด็นสำคัญ) > ระบุว่า การสำรวจและจัดทำแผนที่เพื่อปักปันแนวเขตแดน จะต้องใช้แผนที่มาตราส่วน 1 : 200,000 เป็นฐานข้อมูลประกอบ ✅ ความหมายโดยตรง: ให้ยึดแผนที่ขนาด 1:200,000 ซึ่งเป็นขนาดเดียวกับ แผนที่แนบท้ายคำพิพากษาศาลโลกปี 1962 (Annex I Map) ⚠️ ความเสี่ยง: การอ้างแผนที่นี้ อาจถูกตีความว่า “ยอมรับแนวเขตที่ฝั่งกัมพูชาอ้าง” ซึ่งอาจครอบคลุมพื้นที่ที่ไทยยังคัดค้าน หรือยังไม่ยอมรับ เช่น บริเวณรอบปราสาทพระวิหาร 📌 TOR 2003 เชื่อมโยงกับเอกสารอื่นอย่างไร เอกสาร ความสัมพันธ์กับ TOR 2003 MOU 2000 TOR 2003 อ้างอิง MOU 2000 เป็นรากฐานในการดำเนินงาน JBC ใช้ TOR 2003 เป็นกรอบในการดำเนินนโยบาย JWG / JTSC ทำงานภายใต้ TOR 2003 ในระดับเทคนิคและปฏิบัติ แผนที่ Annex I Map แม้ไม่ได้ระบุชื่อโดยตรง แต่การใช้แผนที่ 1:200,000 เปิดช่องให้อ้างแผนที่ฉบับนี้ 📍 สรุปประเด็นที่ควรจับตาใน TOR 2003 ประเด็น ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น แผนที่ 1:200,000 อาจเป็นการยอมรับแผนที่ที่ฝั่งกัมพูชาจัดทำฝ่ายเดียว ขาดกลไกคัดค้านใน TOR หากไม่มีการแสดงข้อสงวน อาจถือว่ายอมรับโดยปริยาย การรับรองของ JBC หาก JBC รับรองโดยไม่ระวัง อาจมีผลผูกพันระดับระหว่างประเทศ
    0 Comments 0 Shares 529 Views 0 Reviews
  • "บันทึกการประชุม JBC ไทย–กัมพูชา (พฤศจิกายน 2551)"

    > ใน หน้า 10 ของบันทึกการประชุม JBC ครั้งที่ 3 (เสียมราฐ, พ.ย. 2551)
    ได้มีการระบุว่า:

    > “...ให้ดำเนินการปักปันเขตแดนตามแผนแม่บท (Master Plan) และ TOR 2003”
    ซึ่ง TOR ข้อ 1.1.3 ระบุว่า แผนที่ของคณะกรรมการปักปันเขตแดนฝรั่งเศส–สยาม ซึ่งเป็นแผนที่ 1:200,000 จะใช้เป็นแผนที่อ้างอิง






    ---

    ดังนั้นข้อสรุปคือ:

    รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ผ่านคณะผู้แทนไทย)

    ได้ ร่วมเจรจา และ ยืนยันในรายงาน JBC ว่าไทยจะใช้ TOR 2003 เป็นกรอบการปฏิบัติ

    ซึ่ง TOR 2003 มาตรา 1.1.3 ระบุให้ใช้แผนที่ 1:200,000 (แผนที่ฝรั่งเศส) เป็น “เอกสารอ้างอิงหลัก”



    ---

    ข้อพิจารณาเชิงนิติศาสตร์ (Legal Implications)

    ประเด็น ความเสี่ยงต่อไทย

    ไทยร่วมลงนาม JBC โดยระบุ TOR 2003 → เท่ากับ “ยืนยันในทางการทูต” ว่าจะใช้ TOR ที่อ้างแผนที่ 1:200,000
    แม้ยังไม่ให้รัฐสภารับรอง → ในกฎหมายระหว่างประเทศ หากไม่มีการคัดค้านอย่างเป็นทางการ หรือถอนเอกสาร → อาจกลายเป็น การยอมรับโดยพฤติกรรม
    หากกัมพูชานำบันทึก JBC ไปประกอบในศาลโลก → อาจอ้างว่า “ฝ่ายไทยเคยรับหลักการ TOR และแผนที่นี้ไว้”



    ---

    บทสรุปแบบราชการ:

    > แม้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะยังไม่ได้นำบันทึก JBC เข้ารัฐสภาเพื่อให้สัตยาบัน แต่การที่ผู้แทนฝ่ายไทยยืนยันการดำเนินงานตาม TOR 2003 ที่อ้างถึงแผนที่ 1:200,000 ในรายงาน JBC พฤศจิกายน 2551 ก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่มีน้ำหนักในทางนิติศาสตร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การตีความว่าไทย “ยอมรับกรอบแผนที่ฝรั่งเศสโดยพฤติกรรม” หากไม่มีข้อสงวนหรือคำชี้แจงเพิ่มเติมแนบไว้ในรายงานนั้น
    "บันทึกการประชุม JBC ไทย–กัมพูชา (พฤศจิกายน 2551)" > ใน หน้า 10 ของบันทึกการประชุม JBC ครั้งที่ 3 (เสียมราฐ, พ.ย. 2551) ได้มีการระบุว่า: > “...ให้ดำเนินการปักปันเขตแดนตามแผนแม่บท (Master Plan) และ TOR 2003” ซึ่ง TOR ข้อ 1.1.3 ระบุว่า แผนที่ของคณะกรรมการปักปันเขตแดนฝรั่งเศส–สยาม ซึ่งเป็นแผนที่ 1:200,000 จะใช้เป็นแผนที่อ้างอิง --- 📌 ดังนั้นข้อสรุปคือ: ✅ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ผ่านคณะผู้แทนไทย) ได้ ร่วมเจรจา และ ยืนยันในรายงาน JBC ว่าไทยจะใช้ TOR 2003 เป็นกรอบการปฏิบัติ ซึ่ง TOR 2003 มาตรา 1.1.3 ระบุให้ใช้แผนที่ 1:200,000 (แผนที่ฝรั่งเศส) เป็น “เอกสารอ้างอิงหลัก” --- ⚠️ ข้อพิจารณาเชิงนิติศาสตร์ (Legal Implications) ประเด็น ความเสี่ยงต่อไทย ✅ ไทยร่วมลงนาม JBC โดยระบุ TOR 2003 → เท่ากับ “ยืนยันในทางการทูต” ว่าจะใช้ TOR ที่อ้างแผนที่ 1:200,000 ❗ แม้ยังไม่ให้รัฐสภารับรอง → ในกฎหมายระหว่างประเทศ หากไม่มีการคัดค้านอย่างเป็นทางการ หรือถอนเอกสาร → อาจกลายเป็น การยอมรับโดยพฤติกรรม 🔥 หากกัมพูชานำบันทึก JBC ไปประกอบในศาลโลก → อาจอ้างว่า “ฝ่ายไทยเคยรับหลักการ TOR และแผนที่นี้ไว้” --- 🎯 บทสรุปแบบราชการ: > แม้รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะจะยังไม่ได้นำบันทึก JBC เข้ารัฐสภาเพื่อให้สัตยาบัน แต่การที่ผู้แทนฝ่ายไทยยืนยันการดำเนินงานตาม TOR 2003 ที่อ้างถึงแผนที่ 1:200,000 ในรายงาน JBC พฤศจิกายน 2551 ก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่มีน้ำหนักในทางนิติศาสตร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การตีความว่าไทย “ยอมรับกรอบแผนที่ฝรั่งเศสโดยพฤติกรรม” หากไม่มีข้อสงวนหรือคำชี้แจงเพิ่มเติมแนบไว้ในรายงานนั้น
    0 Comments 0 Shares 469 Views 0 Reviews
  • ภาพรวมของเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตแดนไทย-กัมพูชา รวมถึง จุดเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเสียดินแดน และ ความเชื่อมโยงของเอกสารแต่ละฉบับ


    ---

    1. TOR 2003 (Terms of Reference 2003)

    ความหมาย:
    กรอบข้อตกลงในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างไทย-กัมพูชา ภายใต้คณะกรรมการ JBC เพื่อ “สำรวจ” และ “ปักปันเขตแดนทางบก”
    ประเด็นสำคัญ:

    อ้างอิง MOU 2000

    ข้อ 1.1.3 ระบุใช้ แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ซึ่งอาจรวม แผนที่แนบท้ายคำพิพากษาศาลโลกปี 1962 (Annex I Map)


    ความเสี่ยง:
    การยอมรับแผนที่ 1:200,000 ซึ่งไม่ได้จัดทำโดยไทย อาจเป็นการยอมรับ “ข้อเท็จจริงบนแผนที่” ที่เอื้อให้ไทยเสียดินแดนโดยเฉพาะรอบปราสาทพระวิหาร


    ---

    2. JBC (Joint Boundary Commission)

    ความหมาย:
    คณะกรรมาธิการร่วม ไทย-กัมพูชา ทำหน้าที่ระดับ "นโยบาย" เพื่อกำหนดแนวทางการปักปันเขตแดน

    ความเชื่อมโยง:

    อ้างอิง TOR2003 เป็นกรอบการดำเนินการ

    รับความเห็นจาก JWG และ JTSC

    จัดทำแผนงานเสนอรัฐบาลอนุมัติ


    ความเสี่ยง:
    หาก JBC ยึดแนวที่เสนอโดย JWG/JTSC ซึ่งอิงแผนที่ 1:200,000 ก็อาจถือเป็นการรับรองแนวเขตที่เสียดินแดน


    ---

    3. JWG (Joint Working Group)

    ความหมาย:
    คณะทำงานระดับเทคนิค-ปฏิบัติการ ภายใต้ JBC มีหน้าที่ดำเนินงานภาคสนาม เช่น การสำรวจร่วม ตรวจสอบพิกัด ร่างแผนที่

    ความเสี่ยง:
    หาก JWG ใช้แผนที่ 1:200,000 เป็นฐานข้อมูล (เช่น ในการใช้ LIDAR) แล้ว JBC รับรองแนวเหล่านั้น ไทยจะเสียเปรียบโดยปริยาย


    ---

    4. JTSC (Joint Technical Sub-Commission)

    ความหมาย:
    คณะกรรมาธิการย่อยฝ่ายเทคนิค มีบทบาทใกล้เคียงกับ JWG แต่เน้นงานเทคนิค-วิชาการ-กฎหมายมากขึ้น เช่น ตีความแผนที่, วางหลักวิชาการการกำหนดเขตแดน

    ความเสี่ยง:
    การตีความแผนที่โดยไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐ หรือผลประโยชน์ของไทย อาจกลายเป็น “หลักฐานทางเทคนิค” ที่ยืนยันการยอมรับเขตแดนฝั่งกัมพูชา


    ---

    5. MOU 2000 (Memorandum of Understanding 2000)

    ความหมาย:
    ข้อตกลงเบื้องต้นว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมกัน “สำรวจ” และ “กำหนดเขตแดน” ตาม “หลักกฎหมายระหว่างประเทศ” และ “สถานะที่มีอยู่ในปัจจุบัน” (existing situation)

    ความเชื่อมโยง:

    เป็นรากฐานให้เกิด TOR2003

    ใช้ในพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารด้วย


    ความเสี่ยง:
    คำว่า “existing situation” อาจตีความว่าพื้นที่ที่กัมพูชายึดครองอยู่ = สถานะที่ไทยยอมรับ (ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียสิทธิเหนือดินแดน)


    ---

    6. MOU 2001

    ความหมาย:
    ข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการสำรวจและจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto) โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา

    ความเสี่ยง:
    การจัดทำแผนที่ Orthophoto หรือ LIDAR ถ้าอิงพื้นฐานจากแผนที่ 1:200,000 หรือ Annex I Map โดยไม่ได้คัดค้าน อาจถือเป็นการ “ยอมรับโดยพฤตินัย” ต่อแนวเขตที่ฝั่งกัมพูชาอ้าง
    ภาพรวมของเอกสารสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดเขตแดนไทย-กัมพูชา รวมถึง จุดเสี่ยงที่อาจนำไปสู่การเสียดินแดน และ ความเชื่อมโยงของเอกสารแต่ละฉบับ --- 🔹 1. TOR 2003 (Terms of Reference 2003) ความหมาย: กรอบข้อตกลงในการปฏิบัติงานร่วมกันระหว่างไทย-กัมพูชา ภายใต้คณะกรรมการ JBC เพื่อ “สำรวจ” และ “ปักปันเขตแดนทางบก” ประเด็นสำคัญ: อ้างอิง MOU 2000 ข้อ 1.1.3 ระบุใช้ แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ซึ่งอาจรวม แผนที่แนบท้ายคำพิพากษาศาลโลกปี 1962 (Annex I Map) ความเสี่ยง: ✅ การยอมรับแผนที่ 1:200,000 ซึ่งไม่ได้จัดทำโดยไทย อาจเป็นการยอมรับ “ข้อเท็จจริงบนแผนที่” ที่เอื้อให้ไทยเสียดินแดนโดยเฉพาะรอบปราสาทพระวิหาร --- 🔹 2. JBC (Joint Boundary Commission) ความหมาย: คณะกรรมาธิการร่วม ไทย-กัมพูชา ทำหน้าที่ระดับ "นโยบาย" เพื่อกำหนดแนวทางการปักปันเขตแดน ความเชื่อมโยง: อ้างอิง TOR2003 เป็นกรอบการดำเนินการ รับความเห็นจาก JWG และ JTSC จัดทำแผนงานเสนอรัฐบาลอนุมัติ ความเสี่ยง: ✅ หาก JBC ยึดแนวที่เสนอโดย JWG/JTSC ซึ่งอิงแผนที่ 1:200,000 ก็อาจถือเป็นการรับรองแนวเขตที่เสียดินแดน --- 🔹 3. JWG (Joint Working Group) ความหมาย: คณะทำงานระดับเทคนิค-ปฏิบัติการ ภายใต้ JBC มีหน้าที่ดำเนินงานภาคสนาม เช่น การสำรวจร่วม ตรวจสอบพิกัด ร่างแผนที่ ความเสี่ยง: ✅ หาก JWG ใช้แผนที่ 1:200,000 เป็นฐานข้อมูล (เช่น ในการใช้ LIDAR) แล้ว JBC รับรองแนวเหล่านั้น ไทยจะเสียเปรียบโดยปริยาย --- 🔹 4. JTSC (Joint Technical Sub-Commission) ความหมาย: คณะกรรมาธิการย่อยฝ่ายเทคนิค มีบทบาทใกล้เคียงกับ JWG แต่เน้นงานเทคนิค-วิชาการ-กฎหมายมากขึ้น เช่น ตีความแผนที่, วางหลักวิชาการการกำหนดเขตแดน ความเสี่ยง: ✅ การตีความแผนที่โดยไม่คำนึงถึงหลักนิติรัฐ หรือผลประโยชน์ของไทย อาจกลายเป็น “หลักฐานทางเทคนิค” ที่ยืนยันการยอมรับเขตแดนฝั่งกัมพูชา --- 🔹 5. MOU 2000 (Memorandum of Understanding 2000) ความหมาย: ข้อตกลงเบื้องต้นว่าทั้งสองฝ่ายจะร่วมกัน “สำรวจ” และ “กำหนดเขตแดน” ตาม “หลักกฎหมายระหว่างประเทศ” และ “สถานะที่มีอยู่ในปัจจุบัน” (existing situation) ความเชื่อมโยง: เป็นรากฐานให้เกิด TOR2003 ใช้ในพื้นที่รอบปราสาทพระวิหารด้วย ความเสี่ยง: ✅ คำว่า “existing situation” อาจตีความว่าพื้นที่ที่กัมพูชายึดครองอยู่ = สถานะที่ไทยยอมรับ (ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียสิทธิเหนือดินแดน) --- 🔹 6. MOU 2001 ความหมาย: ข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการสำรวจและจัดทำแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศ (Orthophoto) โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ความเสี่ยง: ✅ การจัดทำแผนที่ Orthophoto หรือ LIDAR ถ้าอิงพื้นฐานจากแผนที่ 1:200,000 หรือ Annex I Map โดยไม่ได้คัดค้าน อาจถือเป็นการ “ยอมรับโดยพฤตินัย” ต่อแนวเขตที่ฝั่งกัมพูชาอ้าง
    0 Comments 1 Shares 571 Views 0 Reviews
  • เอ็มมานูเอล มาครง สนทนาทางโทรศัพท์กับแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยในวันนี้โดยในระหว่างการพูดคุย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยได้แสดงความหวังว่าฝรั่งเศสจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการกลับมาเจรจาทวิภาคีในประเด็นชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาอีกครั้ง ตามรายงานของThai Enquirer
    มีรายงานว่า เอ็มมานูเอล มาครง ตกลงที่จะหารือประเด็นดังกล่าวกับกัมพูชา ตามที่จิรายุ หวางทรัพย์ โฆษกรัฐบาลไทย กล่าว
    รายงานระบุว่านายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต์ของกัมพูชาได้กล่าวถึงประเด็นปัญหาที่ยุ่งยากนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณชายแดนกับประเทศไทยกับเอ็มมานูเอล มาครงในระหว่างการเยือนเมืองนีซเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมาครงตอบว่าฝรั่งเศสสามารถมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ได้
    การกำหนดเขตแดนทางบกระหว่างกัมพูชากับไทยได้กำหนดขึ้นโดยอนุสัญญาฝรั่งเศส-สยาม เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2447 และสนธิสัญญาระหว่างฝรั่งเศสและสยาม เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2450 โดยได้มีการเผยแพร่แผนที่ในมาตราส่วน 1:200,000 ในปี พ.ศ. 2450 และ พ.ศ. 2451มีรายงานว่ามีการติดตั้งเครื่องหมายแสดงเขตแดนจำนวน 73-74 อันตามแนวชายแดนนี้ ซึ่งบางอันยังหาไม่พบ
    นับแต่มีสนธิสัญญานี้ ปัญหาการกำหนดขอบเขตและปักปันเขตแดนอย่างมีประสิทธิผลระหว่างสองประเทศนี้ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข
    ในบริบทนี้ บทบาทของฝรั่งเศสมีความสำคัญอย่างยิ่งในการนำทั้งสองฝ่ายมาเจรจากันตามสนธิสัญญานี้และแผนที่ที่เผยแพร่แล้ว ขณะเดียวกันอาจให้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเพิ่มเติมอีกด้วย
    มันเป็นความรับผิดชอบทางศีลธรรมของฝรั่งเศสต่ออดีตร่วมกัน
    เอ็มมานูเอล มาครง สนทนาทางโทรศัพท์กับแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยในวันนี้โดยในระหว่างการพูดคุย แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของไทยได้แสดงความหวังว่าฝรั่งเศสจะช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการกลับมาเจรจาทวิภาคีในประเด็นชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาอีกครั้ง ตามรายงานของThai Enquirer มีรายงานว่า เอ็มมานูเอล มาครง ตกลงที่จะหารือประเด็นดังกล่าวกับกัมพูชา ตามที่จิรายุ หวางทรัพย์ โฆษกรัฐบาลไทย กล่าว รายงานระบุว่านายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต์ของกัมพูชาได้กล่าวถึงประเด็นปัญหาที่ยุ่งยากนี้ซึ่งเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งบริเวณชายแดนกับประเทศไทยกับเอ็มมานูเอล มาครงในระหว่างการเยือนเมืองนีซเมื่อเร็วๆ นี้ โดยมาครงตอบว่าฝรั่งเศสสามารถมีบทบาทเชิงสร้างสรรค์ได้ การกำหนดเขตแดนทางบกระหว่างกัมพูชากับไทยได้กำหนดขึ้นโดยอนุสัญญาฝรั่งเศส-สยาม เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2447 และสนธิสัญญาระหว่างฝรั่งเศสและสยาม เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2450 โดยได้มีการเผยแพร่แผนที่ในมาตราส่วน 1:200,000 ในปี พ.ศ. 2450 และ พ.ศ. 2451มีรายงานว่ามีการติดตั้งเครื่องหมายแสดงเขตแดนจำนวน 73-74 อันตามแนวชายแดนนี้ ซึ่งบางอันยังหาไม่พบ นับแต่มีสนธิสัญญานี้ ปัญหาการกำหนดขอบเขตและปักปันเขตแดนอย่างมีประสิทธิผลระหว่างสองประเทศนี้ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข ในบริบทนี้ บทบาทของฝรั่งเศสมีความสำคัญอย่างยิ่งในการนำทั้งสองฝ่ายมาเจรจากันตามสนธิสัญญานี้และแผนที่ที่เผยแพร่แล้ว ขณะเดียวกันอาจให้ความเชี่ยวชาญทางเทคนิคเพิ่มเติมอีกด้วย มันเป็นความรับผิดชอบทางศีลธรรมของฝรั่งเศสต่ออดีตร่วมกัน
    0 Comments 0 Shares 423 Views 0 Reviews
  • ## เขมรเดินเกมยึดแผ่นดินไทย ขณะที่ ในประเทศไทยอาจมีไส้ศึก...!!! ##
    ..
    ..
    จากการประมวลข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ดังนี้...
    .
    ประเทศไทยยึดถือแค่ แผ่นที่ 1:50,000 ซึ่งละเอียดและแม่นยำกว่ามาก...
    .
    ประเทศไทย ไม่เคยยอมรับแผนที่ 1:200,000 ซึ่ง หยาบ มีความคาดเคลื่อนอย่างน้อย 200 เมตร ทำให้เกิดความขัดแย้ง และ เขมร ลุกล้ำดนแดนไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา
    .
    เมื่อครั้งที่เสียตัวปราสาทพระวิหารด้วยกฎหมายปิดปาก บนศาลโล และ ครั้งที่เสียพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ก็เพราะแผนที่ 1:200,000 ที่ฝรั่งเศส จัดทำไว้แต่ฝ่ายเดียว และ วางยาประเทศไทยไว้...!!!
    .
    MOU43-MOU44 ระบุว่าจะปักปันเขตแดนตามแผนที่ 1:200,000 ทั้งๆที่ การปักปันจริงๆ เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่สมัยรัชการลที่ 5 ด้วยสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส 1904-1907 คือแผนที่ 1:500,000 นั่นเอง (บางส่วนไม่ต้องปักหมุด เพราะสภาพพื้นที่สันปันน้ำมันชัด เป็นขอบหน้าผาชัดเจน)
    .
    เพียงแต่ บางส่วนปัจจุบัน หลักหมุดมันหายไป ให้ทำให้สมบูรณ์เท่านั้น และ ปัจจุบัน เทคโนโลยีดาวเทียมมันละเอียดมาก ทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว
    ....
    ....
    ในรายการ News Hour มี การแฉ แชทกลุ่ม ของ กระทรวงการต่างประเทศ ว่า...
    .
    นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) พิมพ์ในไลน์กลุ่มประมาณว่า จะยึดถือแผนที่ 1:200,000 เพราะประเทศไทยจะได้เปรียบ และ ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผูกพันธ์ทางกฎหมาย
    .
    คำว่า "ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย" คำๆนี้ ผิดเต็มๆครับ
    .
    ต้องบอกก่อนเลยว่า ประเทศไทยไม่ได้รับอำนาจศาลโลก โดยประเทศไทย ได้เคยสงวนสิทธิ์ที่จะทวงคืนตัวปราสาทพระวิหารในอนาคตไว้แล้วด้วย
    .
    และ ที่สำคัญ ศาลโลกไม่ได้ ตัดสินในเรื่องของแผนที่และเขตแดน (เขมร ขอ แต่ศาลไม่ได้ตัดสิน บอกให้พวกคุณไปคุยกันเอาเอง)
    .
    แต่ ศาลตัดสินเรื่องตัวปราสาทพระวิหาร และ ตีความเพิ่มเรื่อง พื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศรายนึง ไปยอมให้ เขมร ขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว
    .
    ดังนั้น เมื่อเราไม่ได้เป็นสมาชิกศาลโลกแล้ว ไม่ว่าศาลโลก จะพูด จะพ่น จะถ่มถุยอะไร ออกมา สิ่งนั้น ไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมายต่อประเทศไทย
    .
    และ ในรายการ News Hour มีกาาแฉต่อว่า นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ คนนี้...!!!
    .
    คือคนที่ ไปชี้หน้าด่า นาย วีระ สมความคิด ว่าเป็นตวปัญหา และ บีบให้คนไทย 7 คน รวมทั้ง นาย วีระ สมความคิด ให้ยอมรับ และ เซ็นในเอกสาร ว่า นาย วีระ สมความคิด และ พวก รุกล้ำพื้นที่ แผ่นดินเขมร ทั้งๆที่ นาย วีระ สมความคิด และ พวก ถูกจับในผืนแผ่นดินไทย...!!!
    .
    ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นพฤติการณ์ที่ นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย มีแนวควมคิดที่ ยอมรับพื้นที่เขมร แต่ไม่ยอมรับพื้นที่ประเทศไทย และ มีแนวคิด ยอมรับแผนที่ 1:200,000 ด้วย...!!!
    .
    ดังนั้น...
    .
    ถ้า Chat นี้เป็นของจริง นี่เท่ากับว่า เราเจอ ขบวนการขายชาติของแท้ แล้วใช่หรือไม่...???
    ...
    ...
    เท่าที่ทั้งฟังทั้งอ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นผู้รู้ท่านไหนเคยพูดซักครั้งเดียวว่า แผนที่ 1:200,000 ทำให้ประเทสไทยได้เปรียบ
    ....
    ....
    ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 โทษประหารชีวิต เพราะทำใหสูญเสียดินแดน สมควรนำออกมาใช้แล้วหรือไม่ ในยามนี้...???
    .
    https://youtu.be/cSyAF_g4BiQ?si=ppZ15Ve6ZYuigbAC
    ## เขมรเดินเกมยึดแผ่นดินไทย ขณะที่ ในประเทศไทยอาจมีไส้ศึก...!!! ## .. .. จากการประมวลข้อมูลทั้งหมด สรุปได้ดังนี้... . ประเทศไทยยึดถือแค่ แผ่นที่ 1:50,000 ซึ่งละเอียดและแม่นยำกว่ามาก... . ประเทศไทย ไม่เคยยอมรับแผนที่ 1:200,000 ซึ่ง หยาบ มีความคาดเคลื่อนอย่างน้อย 200 เมตร ทำให้เกิดความขัดแย้ง และ เขมร ลุกล้ำดนแดนไทยตลอด 25 ปีที่ผ่านมา . เมื่อครั้งที่เสียตัวปราสาทพระวิหารด้วยกฎหมายปิดปาก บนศาลโล และ ครั้งที่เสียพื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร ก็เพราะแผนที่ 1:200,000 ที่ฝรั่งเศส จัดทำไว้แต่ฝ่ายเดียว และ วางยาประเทศไทยไว้...!!! . MOU43-MOU44 ระบุว่าจะปักปันเขตแดนตามแผนที่ 1:200,000 ทั้งๆที่ การปักปันจริงๆ เสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่สมัยรัชการลที่ 5 ด้วยสนธิสัญญา สยาม-ฝรั่งเศส 1904-1907 คือแผนที่ 1:500,000 นั่นเอง (บางส่วนไม่ต้องปักหมุด เพราะสภาพพื้นที่สันปันน้ำมันชัด เป็นขอบหน้าผาชัดเจน) . เพียงแต่ บางส่วนปัจจุบัน หลักหมุดมันหายไป ให้ทำให้สมบูรณ์เท่านั้น และ ปัจจุบัน เทคโนโลยีดาวเทียมมันละเอียดมาก ทำได้ง่ายๆอยู่แล้ว .... .... ในรายการ News Hour มี การแฉ แชทกลุ่ม ของ กระทรวงการต่างประเทศ ว่า... . นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ประธานกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) พิมพ์ในไลน์กลุ่มประมาณว่า จะยึดถือแผนที่ 1:200,000 เพราะประเทศไทยจะได้เปรียบ และ ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผูกพันธ์ทางกฎหมาย . คำว่า "ศาลโลกตัดสินแล้ว มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมาย" คำๆนี้ ผิดเต็มๆครับ . ต้องบอกก่อนเลยว่า ประเทศไทยไม่ได้รับอำนาจศาลโลก โดยประเทศไทย ได้เคยสงวนสิทธิ์ที่จะทวงคืนตัวปราสาทพระวิหารในอนาคตไว้แล้วด้วย . และ ที่สำคัญ ศาลโลกไม่ได้ ตัดสินในเรื่องของแผนที่และเขตแดน (เขมร ขอ แต่ศาลไม่ได้ตัดสิน บอกให้พวกคุณไปคุยกันเอาเอง) . แต่ ศาลตัดสินเรื่องตัวปราสาทพระวิหาร และ ตีความเพิ่มเรื่อง พื้นที่โดยรอบตัวปราสาทพระวิหาร 4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศรายนึง ไปยอมให้ เขมร ขึ้นทะเบียนมรดกโลกฝ่ายเดียว . ดังนั้น เมื่อเราไม่ได้เป็นสมาชิกศาลโลกแล้ว ไม่ว่าศาลโลก จะพูด จะพ่น จะถ่มถุยอะไร ออกมา สิ่งนั้น ไม่มีผลผูกพันธ์ทางกฎหมายต่อประเทศไทย . และ ในรายการ News Hour มีกาาแฉต่อว่า นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ คนนี้...!!! . คือคนที่ ไปชี้หน้าด่า นาย วีระ สมความคิด ว่าเป็นตวปัญหา และ บีบให้คนไทย 7 คน รวมทั้ง นาย วีระ สมความคิด ให้ยอมรับ และ เซ็นในเอกสาร ว่า นาย วีระ สมความคิด และ พวก รุกล้ำพื้นที่ แผ่นดินเขมร ทั้งๆที่ นาย วีระ สมความคิด และ พวก ถูกจับในผืนแผ่นดินไทย...!!! . ดังนั้นจึงชี้ให้เห็นพฤติการณ์ที่ นาย ประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย มีแนวควมคิดที่ ยอมรับพื้นที่เขมร แต่ไม่ยอมรับพื้นที่ประเทศไทย และ มีแนวคิด ยอมรับแผนที่ 1:200,000 ด้วย...!!! . ดังนั้น... . ถ้า Chat นี้เป็นของจริง นี่เท่ากับว่า เราเจอ ขบวนการขายชาติของแท้ แล้วใช่หรือไม่...??? ... ... เท่าที่ทั้งฟังทั้งอ่านมา ผมยังไม่เคยเห็นผู้รู้ท่านไหนเคยพูดซักครั้งเดียวว่า แผนที่ 1:200,000 ทำให้ประเทสไทยได้เปรียบ .... .... ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 119 โทษประหารชีวิต เพราะทำใหสูญเสียดินแดน สมควรนำออกมาใช้แล้วหรือไม่ ในยามนี้...??? . https://youtu.be/cSyAF_g4BiQ?si=ppZ15Ve6ZYuigbAC
    0 Comments 0 Shares 603 Views 0 Reviews
  • ปฐมบท ไทยเสียดินแดน?

    7 โมงเช้า 15 มิ.ย. พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก เพื่อขอแก้ไขข้อพิพาทชายแดนในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต อาศัยวันที่ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชาชนะคดีปราสาทพระวิหารเมื่อ 63 ปีก่อน อ้างว่าต้องการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนซึ่งเสี่ยงที่จะปะทะด้วยอาวุธ กลไกทวิภาคีไม่สามารถแก้ไขได้ และอ้างว่าขอความยุติธรรม ความเป็นธรรม และความชัดเจนในการกำหนดเขตแดนและขอบเขตกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่คนรุ่นหลังจะไม่มีปัญหากันอีกต่อไป

    ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นอกจากจะอนุมัติวาระการประชุม 4 หัวข้อแล้ว นายลัม เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักเลขาธิการกิจการชายแดน และประธานคณะกรรมาธิการชายแดนร่วมกัมพูชา ยังกล่าวว่า กัมพูชาจะนำข้อพิพาทชายแดนทั้ง 4 พื้นที่ขึ้นสู่ศาลโลก แม้ไทยจะไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกก็ตาม โดยจะไม่นำมาเป็นหัวข้อในการหารือภายใต้กรอบ JBC อีกต่อไป อีกทั้งนโยบายรัฐบาลกัมพูชายังยึดถือ MOU 2543 โดยใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 และไม่ยอมรับแผนที่ฝ่ายไทยวาดขึ้นเพียงฝ่ายเดียว

    ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของไทย อ้างว่ามิได้มีการหารือในประเด็นที่กัมพูชาจะนำพื้นที่ 4 จุด เข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก โดยมิได้มีการหารือประเด็นแผนที่ 1:200,000 คณะกรรมการปักปันสยาม-อินโดจีน ตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างแต่อย่างใด

    พรมแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชามีระยะทาง 798 กิโลเมตร ปักปันเขตแดนแล้ว 603 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ถึงบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด รวม 73 หลัก แต่ยังไม่ปักปันเขตแดน 195 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ ถึงช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำหนดให้เป็นไปตามสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรัก แต่ไทยและกัมพูชาถือแผนที่คนละฉบับ กัมพูชาใช้แผนที่ 1:200,000 ที่มีมาตราส่วนหยาบ คลาดเคลื่อนจากเส้นสันปันน้ำจริงหลายจุด คลาดเคลื่อนหลักเขตแดนมากถึง 200 เมตร ขณะที่ไทยถือแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร มีความละเอียดของเส้นแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน เห็นแนวสันเขา ร่องน้ำที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานทางภูมิศาสตร์

    ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาทำสงครามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กลับไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาชัดเจน ท่ามกลางสังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างตระกูลชินวัตรกับตระกูลฮุนของกัมพูชา และความไม่ไว้วางใจของประชาชนชาวไทย ที่ประเทศไทยกำลังจะเสียดินแดนอีกครั้งต่อจากเขาพระวิหาร

    #Newskit
    ปฐมบท ไทยเสียดินแดน? 7 โมงเช้า 15 มิ.ย. พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศส่งจดหมายอย่างเป็นทางการถึงศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือศาลโลก เพื่อขอแก้ไขข้อพิพาทชายแดนในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาเมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และสามเหลี่ยมมรกต อาศัยวันที่ศาลโลกตัดสินให้กัมพูชาชนะคดีปราสาทพระวิหารเมื่อ 63 ปีก่อน อ้างว่าต้องการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนซึ่งเสี่ยงที่จะปะทะด้วยอาวุธ กลไกทวิภาคีไม่สามารถแก้ไขได้ และอ้างว่าขอความยุติธรรม ความเป็นธรรม และความชัดเจนในการกำหนดเขตแดนและขอบเขตกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อที่คนรุ่นหลังจะไม่มีปัญหากันอีกต่อไป ขณะที่ผลการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา (JBC) นอกจากจะอนุมัติวาระการประชุม 4 หัวข้อแล้ว นายลัม เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักเลขาธิการกิจการชายแดน และประธานคณะกรรมาธิการชายแดนร่วมกัมพูชา ยังกล่าวว่า กัมพูชาจะนำข้อพิพาทชายแดนทั้ง 4 พื้นที่ขึ้นสู่ศาลโลก แม้ไทยจะไม่ยอมรับเขตอำนาจศาลโลกก็ตาม โดยจะไม่นำมาเป็นหัวข้อในการหารือภายใต้กรอบ JBC อีกต่อไป อีกทั้งนโยบายรัฐบาลกัมพูชายังยึดถือ MOU 2543 โดยใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ตามสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 และไม่ยอมรับแผนที่ฝ่ายไทยวาดขึ้นเพียงฝ่ายเดียว ส่วนกระทรวงการต่างประเทศของไทย อ้างว่ามิได้มีการหารือในประเด็นที่กัมพูชาจะนำพื้นที่ 4 จุด เข้าสู่การพิจารณาของศาลโลก โดยมิได้มีการหารือประเด็นแผนที่ 1:200,000 คณะกรรมการปักปันสยาม-อินโดจีน ตามที่ฝ่ายกัมพูชาอ้างแต่อย่างใด พรมแดนระหว่างประเทศไทยและกัมพูชามีระยะทาง 798 กิโลเมตร ปักปันเขตแดนแล้ว 603 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ถึงบ้านหาดเล็ก อ.คลองใหญ่ จ.ตราด รวม 73 หลัก แต่ยังไม่ปักปันเขตแดน 195 กิโลเมตร ตั้งแต่ช่องสะงำ ถึงช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำหนดให้เป็นไปตามสันปันน้ำของเทือกเขาพนมดงรัก แต่ไทยและกัมพูชาถือแผนที่คนละฉบับ กัมพูชาใช้แผนที่ 1:200,000 ที่มีมาตราส่วนหยาบ คลาดเคลื่อนจากเส้นสันปันน้ำจริงหลายจุด คลาดเคลื่อนหลักเขตแดนมากถึง 200 เมตร ขณะที่ไทยถือแผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ที่จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร มีความละเอียดของเส้นแบ่งเขตแดนที่ชัดเจน เห็นแนวสันเขา ร่องน้ำที่เกี่ยวข้องกับหลักฐานทางภูมิศาสตร์ ขณะที่ฝ่ายกัมพูชาทำสงครามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง แต่รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร กลับไม่มีท่าทีใดๆ ออกมาชัดเจน ท่ามกลางสังคมเคลือบแคลงสงสัยถึงความสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่างตระกูลชินวัตรกับตระกูลฮุนของกัมพูชา และความไม่ไว้วางใจของประชาชนชาวไทย ที่ประเทศไทยกำลังจะเสียดินแดนอีกครั้งต่อจากเขาพระวิหาร #Newskit
    0 Comments 0 Shares 782 Views 0 Reviews
  • EP.3 ถอดรหัสไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16 ปราสาทเขาพระวิหาร

    เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ช่วงปักปันเขตแดน

    https://youtube.com/shorts/dgj56UQ2H7k?si=KJSQxs9eS_YUHdDN
    EP.3 ถอดรหัสไทยเสียดินแดนครั้งที่ 16 ปราสาทเขาพระวิหาร เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ช่วงปักปันเขตแดน https://youtube.com/shorts/dgj56UQ2H7k?si=KJSQxs9eS_YUHdDN
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี และกรณีที่ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความเตรียมบรรจุวาระการประชุม JBC นำประเด็นเรื่องปราสาทตาเหมือนธม ปราสาทตาเหมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มุมไบ(สามเหลี่ยมมรกต-บริเวณช่องบก) เข้าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ) ลำดับแรกต้องถอยห่างจากจุดปะทะ ให้ JBC ดูเรื่องปักปันเขตแดนตามกฎหมายและข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง เพราะในการพูดคุยกับกัมพูชาก็เห็นตรงกัน จึงต้องรักษากติกาข้อตกลง ก่อนใช้กลไกอื่น

    -กัมพูชารุกล้ำแดนไทย
    -ต่อสายตรงเบรกปิดด่าน
    -ปลุกใจ"กองอาทมาต"
    -ขู่ไทยต้องไปศาลโลก
    พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี และกรณีที่ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ข้อความเตรียมบรรจุวาระการประชุม JBC นำประเด็นเรื่องปราสาทตาเหมือนธม ปราสาทตาเหมือนโต๊ด ปราสาทตาควาย และพื้นที่มุมไบ(สามเหลี่ยมมรกต-บริเวณช่องบก) เข้าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ(ICJ) ลำดับแรกต้องถอยห่างจากจุดปะทะ ให้ JBC ดูเรื่องปักปันเขตแดนตามกฎหมายและข้อตกลงที่เกี่ยวข้อง เพราะในการพูดคุยกับกัมพูชาก็เห็นตรงกัน จึงต้องรักษากติกาข้อตกลง ก่อนใช้กลไกอื่น -กัมพูชารุกล้ำแดนไทย -ต่อสายตรงเบรกปิดด่าน -ปลุกใจ"กองอาทมาต" -ขู่ไทยต้องไปศาลโลก
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 798 Views 20 0 Reviews
  • โฆษก ทบ.ชี้ “ฮุน มาเนต” นำเรื่องขึ้นศาลโลกคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน ซึ่งต้องหาทางอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนที่ยังไม่ชัดเจน โดยต้องถอยจากจุดปะทะแล้วให้ JBC มาปักปันเขตแดน ตามเอ็มโอยูที่ต้องไม่ดัดแปลงสภาพพื้นที่ ชี้ ภาพถ่ายฮุนเซนใกล้ศาลาตรีมุข ไม่ใช่จุดปะทะที่เป็นป่า ไม่มีหลักฐานทหารกัมพูชาเคยมาอยู่ และเพิ่งขุดคูเรดขึ้นมาไม่นาน

    วันนี้ (2 มิ.ย.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ภายหลัง นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศว่า เตรียมให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee - JBC) ไทย-กัมพูชา ที่จะมีขึ้นกลางเดือน มิ.ย.เสนอนำกรณีสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) และปราสาทอีก 3 แห่งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ว่า ยังเป็นคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน ปัจจุบันคือการทำอย่างไรที่จะอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ที่ยังไม่ชี้ชัดว่าควรเป็นพื้นที่ของใคร

    ในขั้นตอนแรก ทั้ง 2 ฝ่าย จึงถอยห่างจากจุดปะทะ และให้คณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC มาดูในเป็นเรื่องปักปันเขตแดน หรือกฎหมาย ข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะข้อตกลงที่ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ไปพูดคุยกับ ผบ.ทบ.กัมพูชา มีเห็นตรงกัน 3 ประเด็น คือ การถอยกำลังออกจากพื้นที่จุดปะทะ และใช้กลไก JBC มาร่วมแก้ปัญหาเรื่องเขตแดน เรื่องสนธิสัญญา และข้อปฏิบัติตามเอ็มโอยู จะระมัดระวังดูแลกำลังพลพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051619

    #MGROnline #ฮุนมาเนต #ศาลโลก #พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนที่ยังไม่ชัดเจน #ทหารกัมพูชา
    โฆษก ทบ.ชี้ “ฮุน มาเนต” นำเรื่องขึ้นศาลโลกคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน ซึ่งต้องหาทางอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนที่ยังไม่ชัดเจน โดยต้องถอยจากจุดปะทะแล้วให้ JBC มาปักปันเขตแดน ตามเอ็มโอยูที่ต้องไม่ดัดแปลงสภาพพื้นที่ ชี้ ภาพถ่ายฮุนเซนใกล้ศาลาตรีมุข ไม่ใช่จุดปะทะที่เป็นป่า ไม่มีหลักฐานทหารกัมพูชาเคยมาอยู่ และเพิ่งขุดคูเรดขึ้นมาไม่นาน • วันนี้ (2 มิ.ย.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานี ภายหลัง นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ประกาศว่า เตรียมให้ที่ประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (Joint Boundary Committee - JBC) ไทย-กัมพูชา ที่จะมีขึ้นกลางเดือน มิ.ย.เสนอนำกรณีสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) และปราสาทอีก 3 แห่งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ว่า ยังเป็นคนละเรื่องกับปัญหาปัจจุบัน ปัจจุบันคือการทำอย่างไรที่จะอยู่ร่วมกันในพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน ที่ยังไม่ชี้ชัดว่าควรเป็นพื้นที่ของใคร • ในขั้นตอนแรก ทั้ง 2 ฝ่าย จึงถอยห่างจากจุดปะทะ และให้คณะกรรมาธิการร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC มาดูในเป็นเรื่องปักปันเขตแดน หรือกฎหมาย ข้อตกลงต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพราะข้อตกลงที่ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ไปพูดคุยกับ ผบ.ทบ.กัมพูชา มีเห็นตรงกัน 3 ประเด็น คือ การถอยกำลังออกจากพื้นที่จุดปะทะ และใช้กลไก JBC มาร่วมแก้ปัญหาเรื่องเขตแดน เรื่องสนธิสัญญา และข้อปฏิบัติตามเอ็มโอยู จะระมัดระวังดูแลกำลังพลพยายามไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนั้นอีก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000051619 • #MGROnline #ฮุนมาเนต #ศาลโลก #พื้นที่อ้างสิทธิทับซ้อนที่ยังไม่ชัดเจน #ทหารกัมพูชา
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 533 Views 0 Reviews
  • ทบ.โต้ “ฮุนมาเนต” ขึ้นศาลโลกเบี่ยงประเด็นปัญหาปัจจุบัน ย้ำใช้กลไก JBC ปักปันเขตแดน - ภาพถ่ายฮุนเซนไม่ใช่จุดปะทะ
    https://www.thai-tai.tv/news/19130/
    ทบ.โต้ “ฮุนมาเนต” ขึ้นศาลโลกเบี่ยงประเด็นปัญหาปัจจุบัน ย้ำใช้กลไก JBC ปักปันเขตแดน - ภาพถ่ายฮุนเซนไม่ใช่จุดปะทะ https://www.thai-tai.tv/news/19130/
    0 Comments 0 Shares 139 Views 0 Reviews
More Results