• #๒๘ ก.ค.๒๕๖๘"รัฐบาลไทยไปเจรจาหยุดยิงที่มาเลย์ฯ"โดยไม่ถามทหารสักคำ ทำให้ไทยต้องสูญเสียกำลังพลไปจำนวนมากในคืนนั้นเพราะกัมพูชาละเมิดการหยุดยิง มันยิงไม่หยุดบุกเข้ามาประชิดทำให้เกิดการปะทะอย่างรุนแรง สงสารทหารทุกหน่วยฯลฯ,ตชด,เจ้าหน้าที่อาสาทหารพราน คนไทยหัวใจไทยเจ็บปวดหัวใจสุดๆ เจ็บนี้จำจนตาย สดุดีวีรชนทุกนายสละชีพเพื่อชาติ "ต่างกับไส้ศึกที่พร้อมสละชาติเพื่อชีพ
    #๒๘ ก.ค.๒๕๖๘"รัฐบาลไทยไปเจรจาหยุดยิงที่มาเลย์ฯ"โดยไม่ถามทหารสักคำ ทำให้ไทยต้องสูญเสียกำลังพลไปจำนวนมากในคืนนั้นเพราะกัมพูชาละเมิดการหยุดยิง มันยิงไม่หยุดบุกเข้ามาประชิดทำให้เกิดการปะทะอย่างรุนแรง สงสารทหารทุกหน่วยฯลฯ,ตชด,เจ้าหน้าที่อาสาทหารพราน คนไทยหัวใจไทยเจ็บปวดหัวใจสุดๆ เจ็บนี้จำจนตาย สดุดีวีรชนทุกนายสละชีพเพื่อชาติ "ต่างกับไส้ศึกที่พร้อมสละชาติเพื่อชีพ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ข้อถกเถียงอันน่าปวดหัวของคำว่า ขอม เขมร สยาม ไท ไต กับมุมมองความแตกต่างทางพันธุกรรม
    =================================================================
    ผมมักอ่านพบการโต้เถียงในเรื่องว่า ขอม เป็นใคร อยู่บ่อยๆ บ้างว่าคือ สยาม.. บ้างว่า คือ เขมร.. ทั้งที่ต่างก็เป็นชื่อสมมุติ มีความยืดหยุ่นมาก ชื่อส่วนใหญ่มักเป็นชื่อที่ผู้อื่นเรียก โดยมากมีความหมายไม่ดีมาก่อนและมีการเปลี่ยนผันไปตามกาลเวลา จึงอยากขออนุญาติเสนอความเห็นสักสองสตางค์ในมุมมองที่แตกต่างออกไป อาจจะยาวไปหน่อย ปกติมันควรใช้เวลาอธิบายสักสองชั่วโมง แต่ผมจะพยายามย่อให้สั้น
    .
    ผมคิดแบบเอาวิทยาศาสตร์เป็นตัวตั้ง ใช้ชีววิทยาพันธุกรรมเป็นแผนที่หลักในการสำรวจสิ่งต่างๆ ก็ด้วยเหตุผลว่า ดีเอ็นเอมนุษย์สามารถเชื่อมโยงมนุษย์ทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ว่าใครสืบสายเลือดมาทางสาแหรกไหนหรือใครมีอายุเก่าใหม่กว่ากัน เพราะในดีเอ็นเอมี time stamp อยู่ในสิ่งที่เรียกว่า “genetic marker” ในมนุษย์ผู้ชายมียีนพ่อ Y chromosome DNA และยีนแม่ Mitochondreal DNA ปรากฏอยู่ในโครงสร้างของโปรตีนในเลือดเนื้อ.. ส่วนผู้หญิงมีแต่ยีนแม่ Mitochondrea DNA. ยีนพ่อและยีนแม่เหล่านี้มันไม่เคยหายไป มันอยู่ในตัวเราและสาวลึกไปสู่บรรพบุรุษต้นทางได้ ข้อมูลของความหนาแน่นของดีเอ็นเอประชากรโลกและ time stamp ที่บอกอายุของดีเอ็นเอ ก่อให้เกิดการคำนวณเส้นทางการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์โบราณได้ ทีมวิจัยด้านพันธุกรรมศาสตร์ของสแตนฟอร์ดที่บุกเบิกโดยศาสตราจารย์ Luca Cavalli Sforza ทำการพลอตเส้นทางอพยพของมนุษย์จากฐานข้อมูลนี้. ดังนั้นสำหรับผม… ชื่อทุกชื่อเป็นเพียงสิ่งสมมุติ ภาษาพูดไม่ใช่สิ่งยืนยันทางพันธุกรรม.
    .
    แสนกว่าปีก่อนมนุษย์อพยพออกจากบริเวณที่เป็นซาฮารันโบราณในแอฟริกา ห้าหมื่นกว่าปีก่อน… มนุษย์กลุ่มแรกที่อพยพออกจากแอฟริกาใช้เส้นทางเลาะชายฝั่งทะเลและอพยพมาถึงเอเชียโบราณบริเวณที่เรียกว่าแผ่นดินซุนดา ซึ่งผืนดินเชื่อมถึงกันหมดทั้งอุษาคเนย์ ไม่มีทะเลบริเวณอ่าวไทย ยีนพ่อหรือมนุษย์ผู้ชายที่มาถึงก่อนเป็นพวก YDNA Haplogroup C และยีนแม่คือ Mitochondreal M และ B คนพวกนี้เคยถูกเรียกว่าอะไรหรือพูดภาษาอะไรมาก่อนไม่รู้ได้ นักวิชาการสมัยใหม่นิยามว่าภาษาซาฮารันโบราณหรือโปรโตซาฮารันอนุมานจากบริเวณถิ่นฐานในแอฟริกาโบราณที่พวกเขาจากมา ส่วนหนึ่งจากคลื่นอพยพของพวกเขากลายเป็นพวกที่เริ่มอารยะธรรมสินธุที่บริเวณฮารัปปา-โมฮันจดาโรเมื่ออพยพผ่านอินเดียโบราณ ซึ่งต่อมาพวกนี้กลายเป็นสาแหรกของกลุ่มดราวิเดียน ทมิฬ สิงหล… ส่วนหนึ่งพลัดข้ามไปสู่เกาะเซนทิเนียล นิโคบาร์ ในอันดามัน ถูกกักกั้นตัดขาดอยู่กลางทะเล รู้จักกันในชื่อพวกอันดามันนิส… ส่วนหนึ่งเข้าสู่เมนแลนด์ซุนดากลายเป็นพวกปาปวน แล้วข้ามไปแผ่นดินซาฮุลโบราณหรือออสเตรเลียปัจจุบันกลายเป็นพวกที่เรียกว่าอะบอริจินิสท์… ส่วนหนึ่งอพยพขึ้นเหนือ แล้วกลับเข้าสู่เอเชียตะวันออกทางตอนบนเคลื่อนย้อนมาทางตะวันตกกลายเป็นพวกมองโกล ส่วนหนึ่งข้ามไปบุกเบิกเกาะญี่ปุ่นกลายเป็นพวกไอนุ ส่วนหนึ่งขึ้นเหนือไปและข้ามทะเลแบริ่งไปทวีปอเมริกาโบราณกลายเป็นพวกอินุอิตที่พบในอะลาสก้า… ไม่ว่าพวกเขาทั้งหมดนี้จะมีหรือเคยมีชื่อชาติพันธุ์อะไร เคยพูดภาษาอะไรและในที่สุดพูดภาษาอะไร พวกเขาล้วนมีบรรพบุรุษร่วมกัน มาจากมดลูกของบรรพบุรุษสาแหรกเดียวกันทั้งสิ้น มนุษย์ผู้ชายทั้งหมดจากชาติพันธุ์ที่กล่าวไปนี้ทั้งหมด แครี่ Y Chromosome DNA Haplogroup C. และเมื่อลองพิจารณาดูปัจจุบันนี้ เฉพาะพวกไอนุอย่างเดียว วันนี้พูดภาษาญี่ปุ่นและสำมะโนประชากรระบุว่าเป็นคนญี่ปุ่น จะเห็นว่าชื่อทางชาติพันธุ์หรือภาษาพูดไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าพวกเขาเป็นใคร (ไม่ต่างกับการพูดภาษาขอม ภาษาเขมร ภาษาไทย ก็ไม่ได้เป็นตัวชี้ว่าพวกเขาเป็นใครมาก่อนกันแน่)
    .
    สามหมื่นห้าพันกว่าปีก่อน คลื่นอพยพระลอกที่สองประกอบด้วยยีนพ่อคือ Y Chromosome Hg O ยีนแม่คือ Mt DNA Hg F และ D. อพยพมาตามเส้นทางโบราณสายอนาโตเลีย ยูเครน สู่เอเชียกลาง มาถึงบริเวณที่รู้จักกันในชื่อ Pamir Knot ซึ่งมีภูเขายักษ์สามลูกคือ ฮินดูกูช หิมาลัย และเทียนซานขวางหน้าพวกเขา อุปสรรคทางภูมิศาสตร์นี้บีบให้เส้นทางอพยพแตกออกเป็นสามทาง พวกหนึ่งขึ้นเหนือเลาะเทียนซานมุ่งสู่ไซบีเรียและอพยพข้ามแบริ่งไปทวีปอเมริกากลายเป็นพวกนาดิเนอินเดียนและอะมาไรด์อินเดียน… พวกหนึ่งผ่าที่ราบสูงทิเบตแล้วกระจายกันสู่บริเวณที่เป็นเสฉวน หยุนหนาน กวางสี ในปัจจุบัน กลายเป็นพวกชนเผ่าหิมาลายัน และชนเผ่ามากมายที่บันทึกจีนเรียกเยว่ร้อยเผ่า ในบรรดาพวกนี้ ผลการสำรวจดีเอ็นเอในประเทศจีนตอนใต้โดยศาสตราจารย์จินลีของประเทศจีน ปรากฏว่าไม่มีใครมียีนเก่าไปกว่าพวกข่าว้าและพวกผู้ยีซึ่งเป็นชนเผ่าหนึ่งในตระกูลจ้วงเหนือ… พวกสุดท้ายกลุ่มที่สาม อพยพเลาะเทือกตะนาวศรีเข้าสู่ซุนดาโบราณ ลงมาปะทะสังสรรค์และผสานกับพวกอพยพคลื่นลูกแรกที่มาถึงก่อน ในบรรดาพวกนี้ทั้งหมด จากฐานข้อมูลดีเอ็นเอปัจุบันไม่มีใครมียีนเก่าไปกว่าพวกโอรังอัสลิ (นักวิชาการรุ่นใหม่เรียกว่า aslian) โดยเฉพาะกลุ่มที่อาศัยในซาบาห์ บอร์เนียว ที่สำคัญไปกว่านั้น แม่พันธุ์ของพวกอพยพระลอกแรก คือ mt DNA B และ M เลือกพวกผู้ชายอัสเลียนเป็นพ่อพันธุ์ด้วนเหตุผลใดไม่ทราบ ทำให้ยีนพ่อเดิมของพวกคลื่นอพยพแรกคือพวก Y DNA Hg C ถูกเบียดผลักให้ออกจากเมนแลนด์ไปสู่เกาะแก่งโดยรอบ... ด้วยการที่ตระกูลนี้มีแม่พันธ์ุใหญ่ถึงสี่สาแหรก คือ mt DNA hg B / M / D / F ทำให้ยีนพ่อ Y DNA hg O กลายเป็นสาแหรกที่ใหญ่ที่สุดและมีลูกหลานยึดครองแผ่นดินเอเชียที่มีปริมาณประชากรมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเอเชียทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน
    .
    ปัจจัยสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเกือบหมื่นปีที่แล้ว สิ้นสุดยุคน้ำแข็ง น้ำแข็งละลายและระดับน้ำสูงขึ้นจนท่วมแผ่นดินซุนดาโบราณสามครั้ง รวมแล้วประมาณ 120 เมตร ทำให้แผ่นดินซุนดาหายไปกว่าครึ่ง และทำให้เอเชียมีรูปร่างอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ผลจากน้ำท่วมโลกนี้ ทำให้ประชากรอัสเลียนโบราณ Y DNA O ในตอนล่างของคาบสมุทร อพยพหนีขึ้นเหนือไปรวมกับพวก Y DNA O ที่อยู่ทางตอนเหนือ บางส่วนอพยพหนีไปสู่เกาะต่างๆ โดยรอบ เกิดปรากฏการณ์ของ cultural transmission ที่หลากหลายและน่าทึ่ง
    .
    ทั้งหมดนี้คือวิทยาศาสตร์ที่บอกว่าเราเป็นใคร คนอุษาคเนย์ที่อยู่บนคาบสมุทรตอนล่างไม่ว่าจะถูกเรียกด้วยชื่ออะไร พูดภาษาอะไร พวกเขาล้วนมาจากพวกอัสเลียนอย่างเช่น เซมังซาไก มานิ โอรังลาโว้ย ดยัค อิฟูเกา บอนทอค…ฯลฯ ไม่ว่าต่อมาลูกหลานของพวกเขาจะกลายเป็นเซนอย เป็นข่า เป็นมอญ เป็นขอม เป็นละโว้ เป็นสยาม เป็นอโยธยา เป็นทวารวดี เป็นศรีโพธิ์ เป็นเขมรพระนคร…ฯลฯ. ชื่ออะไรก็ตามแต่... ผู้ชายของชื่อสมมุติพวกนี้ทั้งหมดล้วนมาจาก 'aslian' และบางกลุ่มยังมียีนแม่เป็นอะบอริจินิสท์ พวกเขาล้วนมีโครงสร้างทางโปรตีนในดีเอ็นเหมือนกันกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ต่างกันเพียงมิวเทชั่นเล็กน้อย ดังนั้น fact ง่ายๆ สำหรับผมพวกเขาคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O . สาแหรกวงศ์ตระกูลทีใหญ่ที่สุดในโลก
    .
    คนมอญ คนสยาม คนเขมร ไม่ว่าเก่าใหม่ มีชื่อเรียกว่าอะไร เคยมีชื่อเรียกว่าอะไร.. มนุษย์ผู้ชาย 'ส่วนใหญ่' แชร์ยีนพ่อ sub clan จาก Y DNA hg O2 คนพื้นถิ่นพวกนี้ที่เป็นประชากรทั่วไป โดยธรรมชาติจะแทบไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ถ้าไม่มีภัยพิบัติคุกคาม โรคระบาด หรือถูกกวาดต้อนย้ายไปเพราะมีสงคราม… เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนเขมรพระนครยุคโบราณพากันย้ายไปไหนบ้าง เพราะเมืองนครวัดประสบปัญหาเรื่องชลประทาน สุขาภิบาลและสุขอนามัย ในที่สุดมันล่มสลายและถูกทิ้งให้ร้างอยู่ในป่า จนแม้แต่คนเขมรส่วนใหญ่ในยุคอาณานิคมก็ไม่รู้ว่ามีนครโบราณอยู่ตรงนั้นตอนที่พวกทีมสำรวจของฝรั่งเศสไปพบเข้า เป็นไปได้ว่ายังอาจมีเชื้อพันธุ์จากประชากรโบราณบางส่วนยังคงอยู่ในบริเวณนั้นบ้าง แต่ไม่ได้แปลว่าคนกัมพูชาปัจจุบันสืบสายมาจากประชากรเมืองพระนคร
    .
    ลองคิดดูว่า สมมุติว่าหลังพระนครล่มสลาย ถ้าพวกเขาส่วนหนึ่งย้ายถิ่นฐานมาอยู่แถบลุ่มน้ำเจ้าพระยาส่วนหนึ่ง ในขณะที่บางส่วนที่อาจยังคงอยู่ในบริเวณโตนเลสาปส่วนหนึ่ง หากวันนี้มีการนำลูกหลานของทั้งสองพวกนี้มาตรวจดีเอ็นเอ ก็จะไม่แปลกใจเลยเมื่อพบว่าพวกเขาส่วนใหญ่มียีน O2 เหมือนกัน แต่พวกหนึ่งพูดไทย พวกหนึ่งพูดกัมพูชา ทั้งที่เมื่อสาวย้อนไปไกลขึ้นอีกล้วนมีรากลึกที่สุดมาจากอัสเลียนและพูดภาษาอัสเลียนมาก่อนทั้งคู่ วิทยาศาสตร์จะบอกอย่างตรงไปตรงมาอย่างนี้โดยไม่สนความสมมุติทั้งหลาย.. หากเป็นเช่นนี้ คำพูดที่ว่า ขอมพระนครคือสยาม และขอมพระนครคือเขมร ก็จะถูกต้องทั้งสองแง่
    .
    ถ้าเราลองมองดูเฉพาะ อยุธยา ที่จีนเรียกว่า "เสียน-หลอ" เพราะเป็นการรวมกันของสุโขทัยและละโว้ในความคิดจีน พวกสุโขทัยหรือที่จีนเรียก 'เสียน' อาศัยอยู่ทางเหนือ พวกนี้ก็เป็น Y DNA hg O เช่นกัน จัดเป็นกลุ่มเยว่ พูดภาษาจ้วงไต... ขณะที่พวกละโว้อโยธยาที่จีนเรียกหลอหู่ อาศัยอยู่ตอนกลางคาบสมุทรแถบลุ่มน้ำเจ้าพระยา พวกนี้ก็เป็น Y DNA hg O เช่นกันอีก จัดเป็นสาแหรกอัสเลียนที่ไม่ต่างกับพวกอื่นที่อยู่ในคาบสมุทรมาเลย์ และพวกมอญ-เขมร. จะด้วยสาเหตุใดก็ตามที่พวกนี้ได้ปกครองเหนือชนพื้นเมืองหลายพงศ์เผ่า จะเป็นเพราะพวกเยว่รูปหล่อผิวขาวร่ำรวยกว่าหรืออย่างไรก็ไม่อาจทราบ คนพวกนี้ได้เป็นชนชั้นปกครองและเป็นผลให้ภาษาสกุลจ้วงไทกลายเป็นภาษากลางของหลอหู่ ทั้งที่คนพื้นเมืองหลายกลุ่มปะปนมีทั้งพูดอัสเลียนมาก่อน พูดขอมมาก่อน พูดข่ามาก่อน พูดมอญมาก่อน และประชากรชาวบ้านพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ย้ายไปไหน ชื่อเมืองอาจเปลี่ยน ชื่อคนอาจเปลี่ยน ชื่ออาณาจักรอาจเปลี่ยน ภาษาอาจเปลี่ยน แต่สาแหรกพันธุกรรมและความเชื่อมโยงกลับไม่เปลี่ยน ที่อัศจรรย์กว่านั้นคือ พวกที่อยู่ไกลกันมากอย่างเช่นพวกนากาในอัสสัม พวกอดิในอรุณาจัลประเทศ พวกดยัคในบอร์เนียว พวกบอนทอคในฟิลิปปินส์ พวกอตายาลในฟอร์โมซา พวกข่าว้าในหยุนหนานมีความเชื่อมโยงทางดีเอ็นเอใกล้ชิดกันมากอย่างน่าแปลกใจ แน่นอนผู้ชายของพวกเขาล้วนมียีน Y DNA hg O
    .
    เคสที่น่าสนใจ เคสนึงที่จะทำให้เห็นภาพปัจจัยทางสังคมศาสตร์มากขึ้นคือกรณีของพระนางจามเทวี พระนางไม่ได้เป็นเจ้านางของชนเผ่าไฮโซที่ไหน แต่เป็นผู้หญิงระดับสูงของพวกลั๊วะ และแน่ๆ คือเป็นนักรบด้วยเพราะนางพุ่งหอกชนะนักรบลั๊วะผู้ชายคนนึงที่หมายปองนาง แต่นางไปเลือกแต่งกับเจ้าชายจากเมืองเหนือแทน นักรบผู้นั้นก็เลยไปท้านางแข่งพุ่งหอกเดิมพันแต่งงานกันแต่ไม่อาจเอาชนะนางได้ การดองกันนี้ของเจ้าหญิงเผ่าลั๊วะกับเจ้านายหริภุญไชยเป็นการเมืองที่ทำให้คนเมืองเหนือที่พูดไทปกครองชนเผ่าเชื้อสายอัสเลียนที่พูดออสโตรเอเชียติคได้ ผ่านกาลเวลายาวนาน อัสเลียนกับไทดองกันเป็นประชากรชาติเดียวกันและพูดภาษาเดียวกัน ยาวมาจนทุกวันนี้
    .
    สำหรับผม การเอาข้อมูลเหล่านี้เป็นแผนที่วิจัย จะเห็นความเชื่อมโยงในอีกแง่มุมที่เราไม่เคยคิดมาก่อน ผมทำอย่างนี้ในเกือบทุกเรื่องที่ผมค้นคว้า และเมื่อใช้มันประกบเข้ากับสาขาความรู้อื่น เช่น ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ภาษาศาสตร์ นิรุกติศาสตร์ ธรณีวิทยา ศิลปะวัฒนธรรม หรือแม้แต่ปรัมปราคติ ถ้ามันเข้ากันได้ทั้งหมดโดยไม่มีข้อขัดแย้งซึ่งกันและกัน ในความเห็นผม มันน่าจะเป็นประวัติศาสตร์ที่มั่นคงที่สุด
    .
    เมื่อพิจารณาอย่างนี้ แนวคิดหนึ่งที่ถูกนำเสนอและดูจะมีน้ำหนักสุด คือแนวคิดที่เห็นว่า ขอม เป็นชื่อที่คนพื้นเมืองทางเหนือเรียกคนพื้นเมืองทางใต้ ประชากรพวกนี้บ้างอาจเคยเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นโบราณสักแคว้นหนึ่งหรือหลายแคว้น อาจปะปน เคลื่อนย้ายถ่ายเทไปมา บางพวกอาจเคยเป็นส่วนหนึ่งของฟูนัน อาจเป็นส่วนหนึ่งของมอญทวารวดี อาจเป็นส่วนหนึ่งของเขมรพระนคร เป็นส่วนหนึ่งของละโว้ เป็นส่วนหนึ่งอโยธยา เป็นส่วนหนึ่งของจาม.... แต่ความสมมุตินี้ได้จบสิ้นไปแล้วหลายร้อยปี ไม่ควรเอามาเป็นตัวชี้วัดปัจจุบัน ความเป็นจริงแท้เดียวที่ไม่เปลี่ยนแปรไป แม้ความสมมุติเหล่านั้นจะสิ้นสลายไปแล้วก็คือ ทั้งอุษาคเนย์ล้วนมียีนพ่อเดียวกันกว่า 70 เปอร์เซ็นต์คือ Y Chromosome DNA Haplogroup O เป็นสายพันธ์ุตระกูลใหญ่ที่มีรากมาจากหิมาลายัน ไป่เยว่และอัสเลียน และยังมีแม่จากต่างสาแหรกร่วมกับพวกดราวิเดียน อะบอริจินิสท์ ไอนุ โพลินิเชียน มองโกล และอินุอิต ถ้ายอมรับความจริงข้อนี้ ความขัดแย้งน่าจะยุติลง
    .
    อยากรู้ว่าประชากรเขมร หรือประชากรสยามคนไหนเคยเป็นส่วนหนึ่งของประชากรที่อาศัยในพื้นที่ใด มีความเก่าแก่แค่ไหนในตัวเขา และเขามาจากสาแหรกไหน เก่าแก่มากน้อยเพียงใด... ไม่ยาก สามารถอ่านได้จากรหัสมิวเทชั่นในพันธุกรรมของพวกเขา ที่ซึ่งจากฐานข้อมูลที่มีการรวบรวมอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมากว่าสามสิบปี อย่างเช่นของ familytreedna.org เราจะสามารถระบุความหนาแน่นของดีเอ็นเอในกลุ่มประชากรแต่ละพื้นที่ได้ ถ้าดีเอ็นเอของใครที่มาจากมิวเทชั่นของสาแหรกเก่าแก่นับพันปี (อย่างที่บอก ดีเอ็นเอมี time stamp) และพบหนาแน่นอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาไปจนจรดแถบตะวันออกของกัมพูชาเวียตนามปัจจุบัน และพบว่าไม่เคยย้ายถิ่นฐานไปไกลจากพื้นที่แถบนั้นเลยมาหลายชั่วคนเกินกว่าสองสามร้อยปีมาแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าบรรพบุรุษพวกเขาอาจอยู่ในเขมรพระนครมาก่อน
    .
    เอา fact นี้เป็นตัวตั้ง แล้วเอาประวัติศาสตร์วางทาบลงไป
    =========================================================
    ข้อถกเถียงอันน่าปวดหัวของคำว่า ขอม เขมร สยาม ไท ไต กับมุมมองความแตกต่างทางพันธุกรรม ================================================================= ผมมักอ่านพบการโต้เถียงในเรื่องว่า ขอม เป็นใคร อยู่บ่อยๆ บ้างว่าคือ สยาม.. บ้างว่า คือ เขมร.. ทั้งที่ต่างก็เป็นชื่อสมมุติ มีความยืดหยุ่นมาก ชื่อส่วนใหญ่มักเป็นชื่อที่ผู้อื่นเรียก โดยมากมีความหมายไม่ดีมาก่อนและมีการเปลี่ยนผันไปตามกาลเวลา จึงอยากขออนุญาติเสนอความเห็นสักสองสตางค์ในมุมมองที่แตกต่างออกไป อาจจะยาวไปหน่อย ปกติมันควรใช้เวลาอธิบายสักสองชั่วโมง แต่ผมจะพยายามย่อให้สั้น . ผมคิดแบบเอาวิทยาศาสตร์เป็นตัวตั้ง ใช้ชีววิทยาพันธุกรรมเป็นแผนที่หลักในการสำรวจสิ่งต่างๆ ก็ด้วยเหตุผลว่า ดีเอ็นเอมนุษย์สามารถเชื่อมโยงมนุษย์ทั้งหมดเข้าด้วยกันได้ว่าใครสืบสายเลือดมาทางสาแหรกไหนหรือใครมีอายุเก่าใหม่กว่ากัน เพราะในดีเอ็นเอมี time stamp อยู่ในสิ่งที่เรียกว่า “genetic marker” ในมนุษย์ผู้ชายมียีนพ่อ Y chromosome DNA และยีนแม่ Mitochondreal DNA ปรากฏอยู่ในโครงสร้างของโปรตีนในเลือดเนื้อ.. ส่วนผู้หญิงมีแต่ยีนแม่ Mitochondrea DNA. ยีนพ่อและยีนแม่เหล่านี้มันไม่เคยหายไป มันอยู่ในตัวเราและสาวลึกไปสู่บรรพบุรุษต้นทางได้ ข้อมูลของความหนาแน่นของดีเอ็นเอประชากรโลกและ time stamp ที่บอกอายุของดีเอ็นเอ ก่อให้เกิดการคำนวณเส้นทางการอพยพย้ายถิ่นของมนุษย์โบราณได้ ทีมวิจัยด้านพันธุกรรมศาสตร์ของสแตนฟอร์ดที่บุกเบิกโดยศาสตราจารย์ Luca Cavalli Sforza ทำการพลอตเส้นทางอพยพของมนุษย์จากฐานข้อมูลนี้. ดังนั้นสำหรับผม… ชื่อทุกชื่อเป็นเพียงสิ่งสมมุติ ภาษาพูดไม่ใช่สิ่งยืนยันทางพันธุกรรม. . แสนกว่าปีก่อนมนุษย์อพยพออกจากบริเวณที่เป็นซาฮารันโบราณในแอฟริกา ห้าหมื่นกว่าปีก่อน… มนุษย์กลุ่มแรกที่อพยพออกจากแอฟริกาใช้เส้นทางเลาะชายฝั่งทะเลและอพยพมาถึงเอเชียโบราณบริเวณที่เรียกว่าแผ่นดินซุนดา ซึ่งผืนดินเชื่อมถึงกันหมดทั้งอุษาคเนย์ ไม่มีทะเลบริเวณอ่าวไทย ยีนพ่อหรือมนุษย์ผู้ชายที่มาถึงก่อนเป็นพวก YDNA Haplogroup C และยีนแม่คือ Mitochondreal M และ B คนพวกนี้เคยถูกเรียกว่าอะไรหรือพูดภาษาอะไรมาก่อนไม่รู้ได้ นักวิชาการสมัยใหม่นิยามว่าภาษาซาฮารันโบราณหรือโปรโตซาฮารันอนุมานจากบริเวณถิ่นฐานในแอฟริกาโบราณที่พวกเขาจากมา ส่วนหนึ่งจากคลื่นอพยพของพวกเขากลายเป็นพวกที่เริ่มอารยะธรรมสินธุที่บริเวณฮารัปปา-โมฮันจดาโรเมื่ออพยพผ่านอินเดียโบราณ ซึ่งต่อมาพวกนี้กลายเป็นสาแหรกของกลุ่มดราวิเดียน ทมิฬ สิงหล… ส่วนหนึ่งพลัดข้ามไปสู่เกาะเซนทิเนียล นิโคบาร์ ในอันดามัน ถูกกักกั้นตัดขาดอยู่กลางทะเล รู้จักกันในชื่อพวกอันดามันนิส… ส่วนหนึ่งเข้าสู่เมนแลนด์ซุนดากลายเป็นพวกปาปวน แล้วข้ามไปแผ่นดินซาฮุลโบราณหรือออสเตรเลียปัจจุบันกลายเป็นพวกที่เรียกว่าอะบอริจินิสท์… ส่วนหนึ่งอพยพขึ้นเหนือ แล้วกลับเข้าสู่เอเชียตะวันออกทางตอนบนเคลื่อนย้อนมาทางตะวันตกกลายเป็นพวกมองโกล ส่วนหนึ่งข้ามไปบุกเบิกเกาะญี่ปุ่นกลายเป็นพวกไอนุ ส่วนหนึ่งขึ้นเหนือไปและข้ามทะเลแบริ่งไปทวีปอเมริกาโบราณกลายเป็นพวกอินุอิตที่พบในอะลาสก้า… ไม่ว่าพวกเขาทั้งหมดนี้จะมีหรือเคยมีชื่อชาติพันธุ์อะไร เคยพูดภาษาอะไรและในที่สุดพูดภาษาอะไร พวกเขาล้วนมีบรรพบุรุษร่วมกัน มาจากมดลูกของบรรพบุรุษสาแหรกเดียวกันทั้งสิ้น มนุษย์ผู้ชายทั้งหมดจากชาติพันธุ์ที่กล่าวไปนี้ทั้งหมด แครี่ Y Chromosome DNA Haplogroup C. และเมื่อลองพิจารณาดูปัจจุบันนี้ เฉพาะพวกไอนุอย่างเดียว วันนี้พูดภาษาญี่ปุ่นและสำมะโนประชากรระบุว่าเป็นคนญี่ปุ่น จะเห็นว่าชื่อทางชาติพันธุ์หรือภาษาพูดไม่ได้เป็นตัวชี้วัดว่าพวกเขาเป็นใคร (ไม่ต่างกับการพูดภาษาขอม ภาษาเขมร ภาษาไทย ก็ไม่ได้เป็นตัวชี้ว่าพวกเขาเป็นใครมาก่อนกันแน่) . สามหมื่นห้าพันกว่าปีก่อน คลื่นอพยพระลอกที่สองประกอบด้วยยีนพ่อคือ Y Chromosome Hg O ยีนแม่คือ Mt DNA Hg F และ D. อพยพมาตามเส้นทางโบราณสายอนาโตเลีย ยูเครน สู่เอเชียกลาง มาถึงบริเวณที่รู้จักกันในชื่อ Pamir Knot ซึ่งมีภูเขายักษ์สามลูกคือ ฮินดูกูช หิมาลัย และเทียนซานขวางหน้าพวกเขา อุปสรรคทางภูมิศาสตร์นี้บีบให้เส้นทางอพยพแตกออกเป็นสามทาง พวกหนึ่งขึ้นเหนือเลาะเทียนซานมุ่งสู่ไซบีเรียและอพยพข้ามแบริ่งไปทวีปอเมริกากลายเป็นพวกนาดิเนอินเดียนและอะมาไรด์อินเดียน… พวกหนึ่งผ่าที่ราบสูงทิเบตแล้วกระจายกันสู่บริเวณที่เป็นเสฉวน หยุนหนาน กวางสี ในปัจจุบัน กลายเป็นพวกชนเผ่าหิมาลายัน และชนเผ่ามากมายที่บันทึกจีนเรียกเยว่ร้อยเผ่า ในบรรดาพวกนี้ ผลการสำรวจดีเอ็นเอในประเทศจีนตอนใต้โดยศาสตราจารย์จินลีของประเทศจีน ปรากฏว่าไม่มีใครมียีนเก่าไปกว่าพวกข่าว้าและพวกผู้ยีซึ่งเป็นชนเผ่าหนึ่งในตระกูลจ้วงเหนือ… พวกสุดท้ายกลุ่มที่สาม อพยพเลาะเทือกตะนาวศรีเข้าสู่ซุนดาโบราณ ลงมาปะทะสังสรรค์และผสานกับพวกอพยพคลื่นลูกแรกที่มาถึงก่อน ในบรรดาพวกนี้ทั้งหมด จากฐานข้อมูลดีเอ็นเอปัจุบันไม่มีใครมียีนเก่าไปกว่าพวกโอรังอัสลิ (นักวิชาการรุ่นใหม่เรียกว่า aslian) โดยเฉพาะกลุ่มที่อาศัยในซาบาห์ บอร์เนียว ที่สำคัญไปกว่านั้น แม่พันธุ์ของพวกอพยพระลอกแรก คือ mt DNA B และ M เลือกพวกผู้ชายอัสเลียนเป็นพ่อพันธุ์ด้วนเหตุผลใดไม่ทราบ ทำให้ยีนพ่อเดิมของพวกคลื่นอพยพแรกคือพวก Y DNA Hg C ถูกเบียดผลักให้ออกจากเมนแลนด์ไปสู่เกาะแก่งโดยรอบ... ด้วยการที่ตระกูลนี้มีแม่พันธ์ุใหญ่ถึงสี่สาแหรก คือ mt DNA hg B / M / D / F ทำให้ยีนพ่อ Y DNA hg O กลายเป็นสาแหรกที่ใหญ่ที่สุดและมีลูกหลานยึดครองแผ่นดินเอเชียที่มีปริมาณประชากรมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเอเชียทั้งหมดจนถึงปัจจุบัน . ปัจจัยสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเกือบหมื่นปีที่แล้ว สิ้นสุดยุคน้ำแข็ง น้ำแข็งละลายและระดับน้ำสูงขึ้นจนท่วมแผ่นดินซุนดาโบราณสามครั้ง รวมแล้วประมาณ 120 เมตร ทำให้แผ่นดินซุนดาหายไปกว่าครึ่ง และทำให้เอเชียมีรูปร่างอย่างที่เห็นทุกวันนี้ ผลจากน้ำท่วมโลกนี้ ทำให้ประชากรอัสเลียนโบราณ Y DNA O ในตอนล่างของคาบสมุทร อพยพหนีขึ้นเหนือไปรวมกับพวก Y DNA O ที่อยู่ทางตอนเหนือ บางส่วนอพยพหนีไปสู่เกาะต่างๆ โดยรอบ เกิดปรากฏการณ์ของ cultural transmission ที่หลากหลายและน่าทึ่ง . ทั้งหมดนี้คือวิทยาศาสตร์ที่บอกว่าเราเป็นใคร คนอุษาคเนย์ที่อยู่บนคาบสมุทรตอนล่างไม่ว่าจะถูกเรียกด้วยชื่ออะไร พูดภาษาอะไร พวกเขาล้วนมาจากพวกอัสเลียนอย่างเช่น เซมังซาไก มานิ โอรังลาโว้ย ดยัค อิฟูเกา บอนทอค…ฯลฯ ไม่ว่าต่อมาลูกหลานของพวกเขาจะกลายเป็นเซนอย เป็นข่า เป็นมอญ เป็นขอม เป็นละโว้ เป็นสยาม เป็นอโยธยา เป็นทวารวดี เป็นศรีโพธิ์ เป็นเขมรพระนคร…ฯลฯ. ชื่ออะไรก็ตามแต่... ผู้ชายของชื่อสมมุติพวกนี้ทั้งหมดล้วนมาจาก 'aslian' และบางกลุ่มยังมียีนแม่เป็นอะบอริจินิสท์ พวกเขาล้วนมีโครงสร้างทางโปรตีนในดีเอ็นเหมือนกันกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ต่างกันเพียงมิวเทชั่นเล็กน้อย ดังนั้น fact ง่ายๆ สำหรับผมพวกเขาคือ Y Chromosome DNA Haplogroup O . สาแหรกวงศ์ตระกูลทีใหญ่ที่สุดในโลก . คนมอญ คนสยาม คนเขมร ไม่ว่าเก่าใหม่ มีชื่อเรียกว่าอะไร เคยมีชื่อเรียกว่าอะไร.. มนุษย์ผู้ชาย 'ส่วนใหญ่' แชร์ยีนพ่อ sub clan จาก Y DNA hg O2 คนพื้นถิ่นพวกนี้ที่เป็นประชากรทั่วไป โดยธรรมชาติจะแทบไม่เคลื่อนย้ายไปไหน ถ้าไม่มีภัยพิบัติคุกคาม โรคระบาด หรือถูกกวาดต้อนย้ายไปเพราะมีสงคราม… เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าคนเขมรพระนครยุคโบราณพากันย้ายไปไหนบ้าง เพราะเมืองนครวัดประสบปัญหาเรื่องชลประทาน สุขาภิบาลและสุขอนามัย ในที่สุดมันล่มสลายและถูกทิ้งให้ร้างอยู่ในป่า จนแม้แต่คนเขมรส่วนใหญ่ในยุคอาณานิคมก็ไม่รู้ว่ามีนครโบราณอยู่ตรงนั้นตอนที่พวกทีมสำรวจของฝรั่งเศสไปพบเข้า เป็นไปได้ว่ายังอาจมีเชื้อพันธุ์จากประชากรโบราณบางส่วนยังคงอยู่ในบริเวณนั้นบ้าง แต่ไม่ได้แปลว่าคนกัมพูชาปัจจุบันสืบสายมาจากประชากรเมืองพระนคร . ลองคิดดูว่า สมมุติว่าหลังพระนครล่มสลาย ถ้าพวกเขาส่วนหนึ่งย้ายถิ่นฐานมาอยู่แถบลุ่มน้ำเจ้าพระยาส่วนหนึ่ง ในขณะที่บางส่วนที่อาจยังคงอยู่ในบริเวณโตนเลสาปส่วนหนึ่ง หากวันนี้มีการนำลูกหลานของทั้งสองพวกนี้มาตรวจดีเอ็นเอ ก็จะไม่แปลกใจเลยเมื่อพบว่าพวกเขาส่วนใหญ่มียีน O2 เหมือนกัน แต่พวกหนึ่งพูดไทย พวกหนึ่งพูดกัมพูชา ทั้งที่เมื่อสาวย้อนไปไกลขึ้นอีกล้วนมีรากลึกที่สุดมาจากอัสเลียนและพูดภาษาอัสเลียนมาก่อนทั้งคู่ วิทยาศาสตร์จะบอกอย่างตรงไปตรงมาอย่างนี้โดยไม่สนความสมมุติทั้งหลาย.. หากเป็นเช่นนี้ คำพูดที่ว่า ขอมพระนครคือสยาม และขอมพระนครคือเขมร ก็จะถูกต้องทั้งสองแง่ . ถ้าเราลองมองดูเฉพาะ อยุธยา ที่จีนเรียกว่า "เสียน-หลอ" เพราะเป็นการรวมกันของสุโขทัยและละโว้ในความคิดจีน พวกสุโขทัยหรือที่จีนเรียก 'เสียน' อาศัยอยู่ทางเหนือ พวกนี้ก็เป็น Y DNA hg O เช่นกัน จัดเป็นกลุ่มเยว่ พูดภาษาจ้วงไต... ขณะที่พวกละโว้อโยธยาที่จีนเรียกหลอหู่ อาศัยอยู่ตอนกลางคาบสมุทรแถบลุ่มน้ำเจ้าพระยา พวกนี้ก็เป็น Y DNA hg O เช่นกันอีก จัดเป็นสาแหรกอัสเลียนที่ไม่ต่างกับพวกอื่นที่อยู่ในคาบสมุทรมาเลย์ และพวกมอญ-เขมร. จะด้วยสาเหตุใดก็ตามที่พวกนี้ได้ปกครองเหนือชนพื้นเมืองหลายพงศ์เผ่า จะเป็นเพราะพวกเยว่รูปหล่อผิวขาวร่ำรวยกว่าหรืออย่างไรก็ไม่อาจทราบ คนพวกนี้ได้เป็นชนชั้นปกครองและเป็นผลให้ภาษาสกุลจ้วงไทกลายเป็นภาษากลางของหลอหู่ ทั้งที่คนพื้นเมืองหลายกลุ่มปะปนมีทั้งพูดอัสเลียนมาก่อน พูดขอมมาก่อน พูดข่ามาก่อน พูดมอญมาก่อน และประชากรชาวบ้านพวกนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้ย้ายไปไหน ชื่อเมืองอาจเปลี่ยน ชื่อคนอาจเปลี่ยน ชื่ออาณาจักรอาจเปลี่ยน ภาษาอาจเปลี่ยน แต่สาแหรกพันธุกรรมและความเชื่อมโยงกลับไม่เปลี่ยน ที่อัศจรรย์กว่านั้นคือ พวกที่อยู่ไกลกันมากอย่างเช่นพวกนากาในอัสสัม พวกอดิในอรุณาจัลประเทศ พวกดยัคในบอร์เนียว พวกบอนทอคในฟิลิปปินส์ พวกอตายาลในฟอร์โมซา พวกข่าว้าในหยุนหนานมีความเชื่อมโยงทางดีเอ็นเอใกล้ชิดกันมากอย่างน่าแปลกใจ แน่นอนผู้ชายของพวกเขาล้วนมียีน Y DNA hg O . เคสที่น่าสนใจ เคสนึงที่จะทำให้เห็นภาพปัจจัยทางสังคมศาสตร์มากขึ้นคือกรณีของพระนางจามเทวี พระนางไม่ได้เป็นเจ้านางของชนเผ่าไฮโซที่ไหน แต่เป็นผู้หญิงระดับสูงของพวกลั๊วะ และแน่ๆ คือเป็นนักรบด้วยเพราะนางพุ่งหอกชนะนักรบลั๊วะผู้ชายคนนึงที่หมายปองนาง แต่นางไปเลือกแต่งกับเจ้าชายจากเมืองเหนือแทน นักรบผู้นั้นก็เลยไปท้านางแข่งพุ่งหอกเดิมพันแต่งงานกันแต่ไม่อาจเอาชนะนางได้ การดองกันนี้ของเจ้าหญิงเผ่าลั๊วะกับเจ้านายหริภุญไชยเป็นการเมืองที่ทำให้คนเมืองเหนือที่พูดไทปกครองชนเผ่าเชื้อสายอัสเลียนที่พูดออสโตรเอเชียติคได้ ผ่านกาลเวลายาวนาน อัสเลียนกับไทดองกันเป็นประชากรชาติเดียวกันและพูดภาษาเดียวกัน ยาวมาจนทุกวันนี้ . สำหรับผม การเอาข้อมูลเหล่านี้เป็นแผนที่วิจัย จะเห็นความเชื่อมโยงในอีกแง่มุมที่เราไม่เคยคิดมาก่อน ผมทำอย่างนี้ในเกือบทุกเรื่องที่ผมค้นคว้า และเมื่อใช้มันประกบเข้ากับสาขาความรู้อื่น เช่น ประวัติศาสตร์ โบราณคดี ภาษาศาสตร์ นิรุกติศาสตร์ ธรณีวิทยา ศิลปะวัฒนธรรม หรือแม้แต่ปรัมปราคติ ถ้ามันเข้ากันได้ทั้งหมดโดยไม่มีข้อขัดแย้งซึ่งกันและกัน ในความเห็นผม มันน่าจะเป็นประวัติศาสตร์ที่มั่นคงที่สุด . เมื่อพิจารณาอย่างนี้ แนวคิดหนึ่งที่ถูกนำเสนอและดูจะมีน้ำหนักสุด คือแนวคิดที่เห็นว่า ขอม เป็นชื่อที่คนพื้นเมืองทางเหนือเรียกคนพื้นเมืองทางใต้ ประชากรพวกนี้บ้างอาจเคยเป็นส่วนหนึ่งของแคว้นโบราณสักแคว้นหนึ่งหรือหลายแคว้น อาจปะปน เคลื่อนย้ายถ่ายเทไปมา บางพวกอาจเคยเป็นส่วนหนึ่งของฟูนัน อาจเป็นส่วนหนึ่งของมอญทวารวดี อาจเป็นส่วนหนึ่งของเขมรพระนคร เป็นส่วนหนึ่งของละโว้ เป็นส่วนหนึ่งอโยธยา เป็นส่วนหนึ่งของจาม.... แต่ความสมมุตินี้ได้จบสิ้นไปแล้วหลายร้อยปี ไม่ควรเอามาเป็นตัวชี้วัดปัจจุบัน ความเป็นจริงแท้เดียวที่ไม่เปลี่ยนแปรไป แม้ความสมมุติเหล่านั้นจะสิ้นสลายไปแล้วก็คือ ทั้งอุษาคเนย์ล้วนมียีนพ่อเดียวกันกว่า 70 เปอร์เซ็นต์คือ Y Chromosome DNA Haplogroup O เป็นสายพันธ์ุตระกูลใหญ่ที่มีรากมาจากหิมาลายัน ไป่เยว่และอัสเลียน และยังมีแม่จากต่างสาแหรกร่วมกับพวกดราวิเดียน อะบอริจินิสท์ ไอนุ โพลินิเชียน มองโกล และอินุอิต ถ้ายอมรับความจริงข้อนี้ ความขัดแย้งน่าจะยุติลง . อยากรู้ว่าประชากรเขมร หรือประชากรสยามคนไหนเคยเป็นส่วนหนึ่งของประชากรที่อาศัยในพื้นที่ใด มีความเก่าแก่แค่ไหนในตัวเขา และเขามาจากสาแหรกไหน เก่าแก่มากน้อยเพียงใด... ไม่ยาก สามารถอ่านได้จากรหัสมิวเทชั่นในพันธุกรรมของพวกเขา ที่ซึ่งจากฐานข้อมูลที่มีการรวบรวมอยู่ตลอดเวลาที่ผ่านมากว่าสามสิบปี อย่างเช่นของ familytreedna.org เราจะสามารถระบุความหนาแน่นของดีเอ็นเอในกลุ่มประชากรแต่ละพื้นที่ได้ ถ้าดีเอ็นเอของใครที่มาจากมิวเทชั่นของสาแหรกเก่าแก่นับพันปี (อย่างที่บอก ดีเอ็นเอมี time stamp) และพบหนาแน่นอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาไปจนจรดแถบตะวันออกของกัมพูชาเวียตนามปัจจุบัน และพบว่าไม่เคยย้ายถิ่นฐานไปไกลจากพื้นที่แถบนั้นเลยมาหลายชั่วคนเกินกว่าสองสามร้อยปีมาแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าบรรพบุรุษพวกเขาอาจอยู่ในเขมรพระนครมาก่อน . เอา fact นี้เป็นตัวตั้ง แล้วเอาประวัติศาสตร์วางทาบลงไป =========================================================
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • SMÅ: เครื่องพิมพ์เล็กแต่ทรงพลัง ที่เปลี่ยนภาพจำของ “เครื่องพิมพ์ยุ่งยาก” ไปตลอดกาล

    ถ้าคุณเคยหงุดหงิดกับเครื่องพิมพ์ที่มีปุ่มเยอะ ถาดกระดาษหลายชั้น และต้องงัดแงะเวลาหมึกหมด—SMÅ คือคำตอบที่ตรงข้ามทุกอย่างนั้น

    Jakob Höxtermann นักออกแบบจากมหาวิทยาลัย Bergische Universität Wuppertal ได้สร้าง SMÅ ขึ้นมาโดยเน้น 3 สิ่ง: ความเรียบง่าย ความยั่งยืน และความกะทัดรัด

    เครื่องนี้มีแค่ 3 ปุ่ม: เปิด/ปิด, หยุด, และตั้งค่าเบื้องต้น พร้อมไฟ LED สีเดียวที่บอกสถานะได้ครบ—ขาวคือพร้อมใช้งาน, ส้มคือหมึกใกล้หมด, แดงคือกระดาษติด

    ดีไซน์แนวตั้งช่วยประหยัดพื้นที่โต๊ะ และสามารถใส่กระดาษได้ถึง 120 แผ่นโดยไม่ต้องมีถาดเสริม แถมมีแผ่นใสกันกระดาษหล่นอย่างชาญฉลาด

    การเปลี่ยนหมึกก็ง่ายสุด ๆ แค่ยกฝาครอบขึ้นแล้วสอดตลับใหม่ด้วยมือเดียว—ไม่มีเลอะ ไม่มีงัด ไม่มีปวดหัว

    ที่สำคัญคือ SMÅ ใช้สกรูแทนกาวในการประกอบ ทำให้แยกชิ้นส่วนเพื่อรีไซเคิลได้ง่าย และช่วยลดการใช้หมึกและกระดาษโดยรวม

    https://www.techradar.com/pro/this-is-the-most-exciting-printer-design-ive-seen-in-years-and-it-reminds-me-of-an-obscure-vertical-panasonic-printer
    🧠 SMÅ: เครื่องพิมพ์เล็กแต่ทรงพลัง ที่เปลี่ยนภาพจำของ “เครื่องพิมพ์ยุ่งยาก” ไปตลอดกาล ถ้าคุณเคยหงุดหงิดกับเครื่องพิมพ์ที่มีปุ่มเยอะ ถาดกระดาษหลายชั้น และต้องงัดแงะเวลาหมึกหมด—SMÅ คือคำตอบที่ตรงข้ามทุกอย่างนั้น Jakob Höxtermann นักออกแบบจากมหาวิทยาลัย Bergische Universität Wuppertal ได้สร้าง SMÅ ขึ้นมาโดยเน้น 3 สิ่ง: ความเรียบง่าย ความยั่งยืน และความกะทัดรัด เครื่องนี้มีแค่ 3 ปุ่ม: เปิด/ปิด, หยุด, และตั้งค่าเบื้องต้น พร้อมไฟ LED สีเดียวที่บอกสถานะได้ครบ—ขาวคือพร้อมใช้งาน, ส้มคือหมึกใกล้หมด, แดงคือกระดาษติด ดีไซน์แนวตั้งช่วยประหยัดพื้นที่โต๊ะ และสามารถใส่กระดาษได้ถึง 120 แผ่นโดยไม่ต้องมีถาดเสริม แถมมีแผ่นใสกันกระดาษหล่นอย่างชาญฉลาด การเปลี่ยนหมึกก็ง่ายสุด ๆ แค่ยกฝาครอบขึ้นแล้วสอดตลับใหม่ด้วยมือเดียว—ไม่มีเลอะ ไม่มีงัด ไม่มีปวดหัว ที่สำคัญคือ SMÅ ใช้สกรูแทนกาวในการประกอบ ทำให้แยกชิ้นส่วนเพื่อรีไซเคิลได้ง่าย และช่วยลดการใช้หมึกและกระดาษโดยรวม https://www.techradar.com/pro/this-is-the-most-exciting-printer-design-ive-seen-in-years-and-it-reminds-me-of-an-obscure-vertical-panasonic-printer
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณคิดอย่างไร?คะ...#ฉันจะไม่ยอมฉีดยาพิษเข้าร่างกายอีกต่อไปแล้วคราวก่อนจำเป็นต้องฉีด"วซ.โดยสังคมบังคับเดินทางไม่ได้ เข้าห้างไม่ได้ ใช้ชีวิตปกติไม่ได้เลย และต้องเซ็นยินยอมรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ฉีดวซ.เข็มแรกตอนบ่าย3โมงอาการเริ่มผิดปกติตอน5โมงเย็น.ตอน2ทุ่มเป็นไข้ตัวร้อนเป็นไฟในขณะที่หนาวมากผ้านวมถูกห่ม2ผืนพันตัวไว้แทบเอาไม่อยู่ปวดหัวจะแตกเป็นเสี่ยงๆทั้งๆที่ปกติเป็นคนแข็งแรงไม่เคยป่วยเลย ต้องทานยาไทลีนอล2เม็ดทุกๆ3ชม.มันแย่มากคิดว่าคงตายแน่ภาวนาอะไรไม่ได้เลยเพราะปวดหัวมากๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลย หลับไปด้วยฤทธิยาตื่นมาอีกทีลุกขึ้นไม่ไหว ลุกได้ประมาณบ่าย3โมงเย็นต้องฝืนทานข้าวทานยา ไปทำงานวันจันทร์รู้สึกร่างกายอ่อนแรงแขนขาจับอะไรไม่อยู่จะหลุดจากมือบ่อยครั้ง ไม่ค่อยมีแรงเลยๆพยายามทานเยอะๆเพื่อให้ร่างกายมีกำลังขึ้นมา อ้วนก็ช่างมันขอให้มีแรงขึ้นมาก่อน หัวใจเริ่มเต้นผิดจังหวะบางครั้งเร็วมากเหมือนหัวใจจะวาย พยายามฟื้นฟูร่างกายตัวเองจากนั้นอีก3เดือนไปฉีดเข็มที่2คราวนี้ทานยาดักไว้ก่อนเลย ทานยาแก้ไขทุกๆ3ชม.รอ4ชมไม่ไหวปวดหัวเป็นไข้อยู่2อาทิตย์เต็มๆแต่บอกใครไม่ได้ต้องทำงานตามปกติ วูบล้มไป3ครั้งที่บ้านในห้องน้ำ1ครั้งแต่ติดประตูหัวเลยไม่ฟาดก็แต่งตัวไปทำงานปกติ ล้มครั้งที่2ที่ลานจอดรถคิ้วซ้ายกระแทกรถค้ำอยู่หัวไม่ฟาด วูบครั้งที่3ในบ้านตรงประตูทางเข้าดีมีสตินั่งลงกับพื้นไม่ล้ม..ต่อไปนี้ฉันจะไม่ยอมฉีด วซ.ใดๆอีกต่อไปแล้วจะตายเพราะไม่ฉีดก็ให้มันตายไปเถอะดีกว่าทรมานเพราะ วซ.
    คุณคิดอย่างไร?คะ...#ฉันจะไม่ยอมฉีดยาพิษเข้าร่างกายอีกต่อไปแล้วคราวก่อนจำเป็นต้องฉีด"วซ.โดยสังคมบังคับเดินทางไม่ได้ เข้าห้างไม่ได้ ใช้ชีวิตปกติไม่ได้เลย และต้องเซ็นยินยอมรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับตัวเอง ฉีดวซ.เข็มแรกตอนบ่าย3โมงอาการเริ่มผิดปกติตอน5โมงเย็น.ตอน2ทุ่มเป็นไข้ตัวร้อนเป็นไฟในขณะที่หนาวมากผ้านวมถูกห่ม2ผืนพันตัวไว้แทบเอาไม่อยู่ปวดหัวจะแตกเป็นเสี่ยงๆทั้งๆที่ปกติเป็นคนแข็งแรงไม่เคยป่วยเลย ต้องทานยาไทลีนอล2เม็ดทุกๆ3ชม.มันแย่มากคิดว่าคงตายแน่ภาวนาอะไรไม่ได้เลยเพราะปวดหัวมากๆอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลย หลับไปด้วยฤทธิยาตื่นมาอีกทีลุกขึ้นไม่ไหว ลุกได้ประมาณบ่าย3โมงเย็นต้องฝืนทานข้าวทานยา ไปทำงานวันจันทร์รู้สึกร่างกายอ่อนแรงแขนขาจับอะไรไม่อยู่จะหลุดจากมือบ่อยครั้ง ไม่ค่อยมีแรงเลยๆพยายามทานเยอะๆเพื่อให้ร่างกายมีกำลังขึ้นมา อ้วนก็ช่างมันขอให้มีแรงขึ้นมาก่อน หัวใจเริ่มเต้นผิดจังหวะบางครั้งเร็วมากเหมือนหัวใจจะวาย พยายามฟื้นฟูร่างกายตัวเองจากนั้นอีก3เดือนไปฉีดเข็มที่2คราวนี้ทานยาดักไว้ก่อนเลย ทานยาแก้ไขทุกๆ3ชม.รอ4ชมไม่ไหวปวดหัวเป็นไข้อยู่2อาทิตย์เต็มๆแต่บอกใครไม่ได้ต้องทำงานตามปกติ วูบล้มไป3ครั้งที่บ้านในห้องน้ำ1ครั้งแต่ติดประตูหัวเลยไม่ฟาดก็แต่งตัวไปทำงานปกติ ล้มครั้งที่2ที่ลานจอดรถคิ้วซ้ายกระแทกรถค้ำอยู่หัวไม่ฟาด วูบครั้งที่3ในบ้านตรงประตูทางเข้าดีมีสตินั่งลงกับพื้นไม่ล้ม..ต่อไปนี้ฉันจะไม่ยอมฉีด วซ.ใดๆอีกต่อไปแล้วจะตายเพราะไม่ฉีดก็ให้มันตายไปเถอะดีกว่าทรมานเพราะ วซ.
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ภูมิธรรม ไหนว่าจะเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอไง นี่เล่นเอาเด็กสีน้ำเงินออก เอาเด็กสีแดงออกมาแทนที่ เออเข้าท่าว่ะ ง่ายกว่าจัดการเลือกตั้งเยอะ กลัวผู้ว่าสายสีส้มจนขึ้นสมองเลยไม่จัดเลือกตั้งผู้ว่าซะเลย
    เมื่อวานกับวันนี้เจอแต่เรื่องปวดหัวรัวๆเลยไม่มีหยุดพัก แต่ก็จุดไฟให้ผมสตาร์ทเครื่องทำงานง่ายๆขนาดนั้นเลย แต่ดีกว่านอนจนลืมตื่น แต่ถือว่าตื่นตัวกว่าครั้งก่อนๆแล้วนะครับ และได้วางแผนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    ภูมิธรรม ไหนว่าจะเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอไง นี่เล่นเอาเด็กสีน้ำเงินออก เอาเด็กสีแดงออกมาแทนที่ เออเข้าท่าว่ะ ง่ายกว่าจัดการเลือกตั้งเยอะ กลัวผู้ว่าสายสีส้มจนขึ้นสมองเลยไม่จัดเลือกตั้งผู้ว่าซะเลย เมื่อวานกับวันนี้เจอแต่เรื่องปวดหัวรัวๆเลยไม่มีหยุดพัก แต่ก็จุดไฟให้ผมสตาร์ทเครื่องทำงานง่ายๆขนาดนั้นเลย แต่ดีกว่านอนจนลืมตื่น แต่ถือว่าตื่นตัวกว่าครั้งก่อนๆแล้วนะครับ และได้วางแผนใหม่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 12
    พี่เบิ้มหายไปไหน ถึงได้ตกข่าวขนาดนั้น ก็พี่เบิ้มกำลังไปขุดเผือกขุดน้ำมันไง
    ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1973 (พ.ศ.2516) ระหว่างที่เห็นลางว่า รบกับพวกแกวนี่ท่าทางกูจะเหนื่อย เอาเครื่องบินไล่ถล่มอยู่ดีๆ มันทะลึ่งหนีลงรูไปหมด พี่เบิ้มไม่โง่นี่ จะได้มุดรูดตาม พี่เบิ้มก็เลยหาทางไปรับประทานทางอื่นต่อดีกว่า
    พี่เบิ้มก็เข้าไปยุให้อิรัก อิหร่าน มันรบกัน ป่วนเรื่องอียิปต์ อิสราเอล และซาอุหนุนคูเวต สารพัดละก็แถวนั้นมันบ่อน้ำมันทั้งนั้น
    จำง่ายๆ เวลาพี่เบิ้มเขาอยากได้อะไร …เขาก็ต้องสร้างเรื่องให้ประเทศเจ้าของบ้าน มันวุ่น มันงง แล้วในที่สุดก็เละ… เขาจะได้เข้าไปได้สะดวกโดยเจ้าของบ้านไม่รู้ตัว ก็สูตรธรรมดา จะไปขโมยของบ้านเขา รอบรั้วการป้อง กันเขาแข็งแรง จะขโมยได้ง่ายยังไง เสือใบ เสือดำ นักปล้นรุ่นโบราณของบ้านเรายังรู้เลย จะปล้นเขา ก็ต้องรอให้มันมืด มอมเหล้าเด็กแถวบ้านมันบ้าง ปล่อยหมาให้มันไปกัดกันหน้าบ้านบ้าง ปาก้อนอิฐใส่บ้าง พอเจ้า ของบ้านมันงง ก็ค่อยเขย่งเก็งกอย เข้าไปหยิบฉวยสมบัติเจ้าคุณปู่เขาออกมา ก็เท่านั้น
    ทุกเรื่องที่พี่เบิ้มเขาทำ มันก็สูตรทำนองนี้ ทั้งนั้น แต่มันสร้างเรื่อง ทำฉากให้ใหญ่โต ก็ติดนิสัยนักสร้างหนังฮอลลีวู้ดไง ถ้าเราดูอะไรแบบตรงไปตรงมา อย่าไปตื่นเต้นกับฉากมโหฬาร ถามตัวเองก่อน… ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยใครได้ ใครเสีย วิเคราะห์เองบ้าง ก็จะมองเห็นละนะคุณโยม ไม่ต้องไปหาหมอดู ถามมันวันละ 3 ครั้งให้เสียเงินเปล่าๆ ว่าบ้านเมืองมันเราจะเป็นยังไง มันจะแย่ไหมค้า
    เอ้ากลับมาที่คุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์
    ไอ้เรื่องดาวเทียม เรื่องโทรศัพท์ 3 ล้านเลขหมาย นี่มันเรื่องใหญ่นะ ใหญ่ยังไง ก็แหม ดาวเทียมนี่ เอามาลอยตุ๊บป่องจัดวางให้ถูกองศา ส่องไปที่ไหนนี่นะ ไม่อยากพูดเลย เหมือนดูหนังโป๊ สิว ไฝ ฝ้า หูด แผล มีตรงไหนเห็นหมดแล้วไอ้การกำหนดองศา slot ของดาวเทียมนี้ มันมีองค์การที่ทำหน้าที่กำหนดตำแหน่งดาวเทียม ที่แต่ละประเทศก็มีสิทธิจองกัน
    นี่ถ้าเราให้สมันน้อย จององศาให้ถูกที่เราต้องการนะ อาเฮียกำลังนั่งแทะเม็ดกวยจี้เกาหูด ไอก็เห็นทุกช็อต เฮ้อ! แล้วจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง
    ส่วนไอ้ 3 ล้านเลขหมายนะ มันเรื่องจ้อย มันอยากจะจ้อกันทั้งวันก็ช่างหัวมันเต๊อะ
    แต่การจะใช้ 3 ล้านเลขหมายนี้นะ มันต้องวางเครือข่ายไฟเบอร์ออพติกทั้งประเทศ ทั้งใต้ดิน บนดิน ใต้น้ำ ใครกระซิบ ใครส่งข่าวอะไร ไอ้สายบ้านี่มันจับได้หมด
    แหม! มีทั้งบนฟ้า มีทั้งบนดิน ใต้ดิน บวกกับค่ายรามสูรที่ไอแกล้งทำลืม ไม่เอากลับตอนเลิกรบกับ เวียต นามนะ ไทยแลนด์ ไอไม่ต้องจ่ายค่าวิ่งผลัด อย่างเมื่อก่อน ไอก็คุมได้ เข้าใจไหมสมันน้อย
    แล้วจะปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ยังไง ต้องเล่าให้ชัดกว่านี้มั้ย
    อ่านนิทานมาจนบัดนี้แล้วน่ะ หัดตอบโจทย์เองบ้าง ไม่ต้องไปรอใครทำหน้าฉลาดตอบให้หรอก
    แล้วมันจะบังเอิญไปหน่อยไหม อยู่ดีๆ ก็เกิดเรื่องพฤษภาทมิฬ
    คุณทหารทั้งหลายก็ลุกขึ้นมาแย่งอำนาจกัน บี้กันไปบี้กันมา เหล่าม๊อบมือถือแห่งไทยแลนด์แดนสวรรค์ ก็หน้ามุ่ยออกไปประท้วง ทั้งลุงจำลอง ลุงฉลาด แย่งกันอดข้าว อดน้ำ
    แล้วไง พอถึงเวลา ต้ายตาย ดร.อาทิตย์หน้าแฉล้ม ปล่อยให้คุณน้าสมบุญเป็นพ่อสายบัว แต่งชุดขาว ภู่ระหงส์ เหี่ยวรออยู่กับบ้าน แต่ดันไปอุ้มคุณน้านัน technocrat แห่งซิบวีนัส ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี
    คิดแล้ว ไม่แปลกใจบ้างหรือจ๊ะ เมืองไทยนี้สมกับเป็นแดนแห่ง Amazing Thailand จริ๊ง จริง คุณน้านัน ผู้ดีเก่า นี่น่าสนใจ
    สมัยสงครามเวียตนามช่วงท้าย ระหว่างที่คุณลุงถนัดออกมาอาละวาด ฟาดงวงงา เรื่องพี่เบิ้มไม่ยอมทำสัญญาจริงๆ จังๆกับไทย คุณน้านันเป็นทูตไทยประจำ UN คุณน้าเลยต้องเป็นตัวแทนฝ่ายไทยไปเจรจากับพี่เบิ้มตลอดเวลา (สมัยนั้นท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นนายกฯ)
    เสร็จการเจรจา รายงานฝ่ายอเมริกาบอก Mr. A นี่ เป็นคนที่เราจะต้องจับตามอง เขาเป็นคนที่เราจะพูดคุยได้รู้เรื่อง (เหมือนกับ Mr. P รุ่นปู่เจ้าพ่อน้ำดำเลยนะ) เอ้า! ก็อย่างว่า แล้วคุณน้านัน ก็มาเป็นนายก เป็นแล้วเป็นอีก ช่วงปี พ.ศ.2531 ถึง พ.ศ.2535 เขาว่า งานแรกที่คุณน้านัน มาจัดการก็คือเรื่องที่ค้างคา (คาใจพี่เบิ้ม!) เป็นที่เรียบร้อย
    ไอ้ 3 ล้านเลขหมาย เขาว่า (อีกแล้ว) คุณน้าเรียกมาแบ่งเค้ก เอ้ย! เจรจาเองเลยนะ บริษัทของพี่เบิ้มตกรอบ ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการ 3 ล้านเลขหมาย ไม่เป็นไรยูรับเหมาวาง fiber optic ไปแล้วกันนะ แหะแหะ สมใจนึกบางลำพู ทำท่าหงอยๆ รับ ok ok กลับไปรายงานข้ามโลกว่า We win! แล้วดาวเทียมล่ะ เสร็จโก๋ท้องถิ่นหน้าใหม่เอี่ยมเหลี่ยมพราว นายหน้าเหลี่ยมแจ้งเกิด ได้สัมปทานดาวเทียมเอาไปกอดอยู่ 15 ปี ต่อมาขายให้สิงคโปร์ กำไรบานตะเกียงไม่เสียภาษีซักกะแดง ไอ้หนุ่ยลูกป้าเหน่ง ทำงานเป็นเสมียน เงินเดือนๆ ละ 20,000 ยังเสียภาษีเดือนละ 2,000 บาทเลย เป็นงงเอาฝ่าเท้าก่ายหน้าผากรำพึง มันทำได้ไงวะ
    พูดถึงดาวเทียม ข้อมูลมันน่าสนใจ ไม่รู้ลืมกันหมดหรือยัง ไม่เล่าสู่กันฟัง มารู้ภายหลัง เดี๋ยวจะมาต่อว่ามีของดีแล้วไม่บอก
    ไอ้ดาวเทียมไทยคมนี้ นายหน้าเหลี่ยมเขาได้ไปก็จริง แต่ขบวนการมันน่าคิดนะ ตอนไปขอสัมปทานกับรัฐน่ะ
    ยังต้องให้เจ๊กระบัง ตากหน้าไปแลกเช็คอยู่เลย เอาเงินจากไหนมาคิดสร้างดาวเทียมน่ะ มันดวงละ 100, 200 บาท ซะเมื่อไหร่ ไม่ใช่ลูกโป่งนะ
    อ๋อ! ก็กู้เงินจากเอ็กซิม แบงค์ (Exim Bank, Export Import Bank) ของพี่เบิ้ม ที่สนง.ใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี ซิ คร้าบ อา! มาแล้ว เริ่มเห็นหัวโผล่ๆ มาแล้วใช่ไหม เดี๋ยวนี้คนอ่านนิทานฉลาดจะตาย อ่านนิทานไปไม่เท่าไหร่ พอจะปะติดปะต่อกันได้ อิ! อิ!
    มันไม่เท่านั้นนะนาย กู้เงินจากเอ็กซิม แบงค์ แล้วยังมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้อีก เอ! แล้วธนาคารนี้มาเกี่ยวอะไร เขาถ้าจะรักฝังใจ เสียดายดาวเทียม ตอนแรกก็ทำคลอดให้ ตอนจบก็ช่วยแต่งศพให้ ..เอ๊ะ! เล่าให้มันรู้เรื่องหน่อยซีลุง
    ก็คืองี้ ตอนกู้เงินสร้างดาวเทียม ธนาคารไทยพาณิชย์ก็กรุณาค้ำประกันให้ตอนจะขายให้ Temasek ของสิงคโปร์ บริษัทลูกของไทยพาณิชย์ ก็เป็นที่ปรึกษาการเงินให้เสร็จ แล้วเพื่อไม่ให้ผิดสัญญาที่สัมปทานกำหนด เกณฑ์คนต่างด้าวถือหุ้นเอาไว้ ก็ต้องสร้างนอมินี (nominee) ไทยมาถือแทนต่างด้าว (อีนอมาอีกแล้ว) อีนอก็ดันไม่มีเงินซื้อ ไปกู้เงินจากไทยพาณิชย์ เป็นทุนมาซื้อหุ้นดาวเทียม
    บริษัทนี้ชื่อกุหลาบแก้วไงจ๊ะ ลืมกันแล้วหรือ แล้วใครเป็นประธานบริษัทกุหลาบแก้วนะ แหม! ไม่อยากบอกเล้ย ! เขาชื่อมิสเตอร์พงส์ ลูกมิสเตอร์ พี แห่งน้ำดำจ๊ะ มันก็คงเป็นเรื่องบังเอิญอีกน่ะนะ แล้วตอนนี้เรื่องมันถึงไหน ผิดถูกอย่างไร ไปตามหากันต่อเองเน้อ เอ้า ! ยังมีบังเอิญอีก แล้วธนาคารไทยพาณิชย์นี่นะ อีตอนที่ให้กุหลาบแก้วกู้เงินน่ะ ข่าวว่า ประธานธนาคารชื่อ คุณน้านัน! โอ้ย! มันบังเอิญทั้งนั้น Amazing Thailand นี่น่ะ
    แล้วตกลงไอ้ดาวเทียมไทยคม นี่มันเป็นของไอ้เหลี่ยมตั้งแต่ต้น หรือไอ้เหลี่ยมก็มีนอกันแน่ …คิดมากแล้วปวดหัวนิ
    เรื่องบ้านเมืองนี้ มันมีแยะ ตั้งกะพี่เบิ้มมันเดินยิ้ม จมูกโด่งงุ้ม ย้ายพุงไปมาในบ้านเราน่ะ ถึงว่าจะดูอะไร ดูให้ชัดๆ จะฟังอะไร ก็หัดกรอง สมองมีให้คิด ไม่ใช่มีไว้กั้นหูอย่างเดียว


    คนเล่านิทาน
    ตอน 12 พี่เบิ้มหายไปไหน ถึงได้ตกข่าวขนาดนั้น ก็พี่เบิ้มกำลังไปขุดเผือกขุดน้ำมันไง ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.1973 (พ.ศ.2516) ระหว่างที่เห็นลางว่า รบกับพวกแกวนี่ท่าทางกูจะเหนื่อย เอาเครื่องบินไล่ถล่มอยู่ดีๆ มันทะลึ่งหนีลงรูไปหมด พี่เบิ้มไม่โง่นี่ จะได้มุดรูดตาม พี่เบิ้มก็เลยหาทางไปรับประทานทางอื่นต่อดีกว่า พี่เบิ้มก็เข้าไปยุให้อิรัก อิหร่าน มันรบกัน ป่วนเรื่องอียิปต์ อิสราเอล และซาอุหนุนคูเวต สารพัดละก็แถวนั้นมันบ่อน้ำมันทั้งนั้น จำง่ายๆ เวลาพี่เบิ้มเขาอยากได้อะไร …เขาก็ต้องสร้างเรื่องให้ประเทศเจ้าของบ้าน มันวุ่น มันงง แล้วในที่สุดก็เละ… เขาจะได้เข้าไปได้สะดวกโดยเจ้าของบ้านไม่รู้ตัว ก็สูตรธรรมดา จะไปขโมยของบ้านเขา รอบรั้วการป้อง กันเขาแข็งแรง จะขโมยได้ง่ายยังไง เสือใบ เสือดำ นักปล้นรุ่นโบราณของบ้านเรายังรู้เลย จะปล้นเขา ก็ต้องรอให้มันมืด มอมเหล้าเด็กแถวบ้านมันบ้าง ปล่อยหมาให้มันไปกัดกันหน้าบ้านบ้าง ปาก้อนอิฐใส่บ้าง พอเจ้า ของบ้านมันงง ก็ค่อยเขย่งเก็งกอย เข้าไปหยิบฉวยสมบัติเจ้าคุณปู่เขาออกมา ก็เท่านั้น ทุกเรื่องที่พี่เบิ้มเขาทำ มันก็สูตรทำนองนี้ ทั้งนั้น แต่มันสร้างเรื่อง ทำฉากให้ใหญ่โต ก็ติดนิสัยนักสร้างหนังฮอลลีวู้ดไง ถ้าเราดูอะไรแบบตรงไปตรงมา อย่าไปตื่นเต้นกับฉากมโหฬาร ถามตัวเองก่อน… ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยใครได้ ใครเสีย วิเคราะห์เองบ้าง ก็จะมองเห็นละนะคุณโยม ไม่ต้องไปหาหมอดู ถามมันวันละ 3 ครั้งให้เสียเงินเปล่าๆ ว่าบ้านเมืองมันเราจะเป็นยังไง มันจะแย่ไหมค้า เอ้ากลับมาที่คุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ ไอ้เรื่องดาวเทียม เรื่องโทรศัพท์ 3 ล้านเลขหมาย นี่มันเรื่องใหญ่นะ ใหญ่ยังไง ก็แหม ดาวเทียมนี่ เอามาลอยตุ๊บป่องจัดวางให้ถูกองศา ส่องไปที่ไหนนี่นะ ไม่อยากพูดเลย เหมือนดูหนังโป๊ สิว ไฝ ฝ้า หูด แผล มีตรงไหนเห็นหมดแล้วไอ้การกำหนดองศา slot ของดาวเทียมนี้ มันมีองค์การที่ทำหน้าที่กำหนดตำแหน่งดาวเทียม ที่แต่ละประเทศก็มีสิทธิจองกัน นี่ถ้าเราให้สมันน้อย จององศาให้ถูกที่เราต้องการนะ อาเฮียกำลังนั่งแทะเม็ดกวยจี้เกาหูด ไอก็เห็นทุกช็อต เฮ้อ! แล้วจะปล่อยให้หลุดมือไปได้ยังไง ส่วนไอ้ 3 ล้านเลขหมายนะ มันเรื่องจ้อย มันอยากจะจ้อกันทั้งวันก็ช่างหัวมันเต๊อะ แต่การจะใช้ 3 ล้านเลขหมายนี้นะ มันต้องวางเครือข่ายไฟเบอร์ออพติกทั้งประเทศ ทั้งใต้ดิน บนดิน ใต้น้ำ ใครกระซิบ ใครส่งข่าวอะไร ไอ้สายบ้านี่มันจับได้หมด แหม! มีทั้งบนฟ้า มีทั้งบนดิน ใต้ดิน บวกกับค่ายรามสูรที่ไอแกล้งทำลืม ไม่เอากลับตอนเลิกรบกับ เวียต นามนะ ไทยแลนด์ ไอไม่ต้องจ่ายค่าวิ่งผลัด อย่างเมื่อก่อน ไอก็คุมได้ เข้าใจไหมสมันน้อย แล้วจะปล่อยให้มันหลุดมือไปได้ยังไง ต้องเล่าให้ชัดกว่านี้มั้ย อ่านนิทานมาจนบัดนี้แล้วน่ะ หัดตอบโจทย์เองบ้าง ไม่ต้องไปรอใครทำหน้าฉลาดตอบให้หรอก แล้วมันจะบังเอิญไปหน่อยไหม อยู่ดีๆ ก็เกิดเรื่องพฤษภาทมิฬ คุณทหารทั้งหลายก็ลุกขึ้นมาแย่งอำนาจกัน บี้กันไปบี้กันมา เหล่าม๊อบมือถือแห่งไทยแลนด์แดนสวรรค์ ก็หน้ามุ่ยออกไปประท้วง ทั้งลุงจำลอง ลุงฉลาด แย่งกันอดข้าว อดน้ำ แล้วไง พอถึงเวลา ต้ายตาย ดร.อาทิตย์หน้าแฉล้ม ปล่อยให้คุณน้าสมบุญเป็นพ่อสายบัว แต่งชุดขาว ภู่ระหงส์ เหี่ยวรออยู่กับบ้าน แต่ดันไปอุ้มคุณน้านัน technocrat แห่งซิบวีนัส ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี คิดแล้ว ไม่แปลกใจบ้างหรือจ๊ะ เมืองไทยนี้สมกับเป็นแดนแห่ง Amazing Thailand จริ๊ง จริง คุณน้านัน ผู้ดีเก่า นี่น่าสนใจ สมัยสงครามเวียตนามช่วงท้าย ระหว่างที่คุณลุงถนัดออกมาอาละวาด ฟาดงวงงา เรื่องพี่เบิ้มไม่ยอมทำสัญญาจริงๆ จังๆกับไทย คุณน้านันเป็นทูตไทยประจำ UN คุณน้าเลยต้องเป็นตัวแทนฝ่ายไทยไปเจรจากับพี่เบิ้มตลอดเวลา (สมัยนั้นท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นนายกฯ) เสร็จการเจรจา รายงานฝ่ายอเมริกาบอก Mr. A นี่ เป็นคนที่เราจะต้องจับตามอง เขาเป็นคนที่เราจะพูดคุยได้รู้เรื่อง (เหมือนกับ Mr. P รุ่นปู่เจ้าพ่อน้ำดำเลยนะ) เอ้า! ก็อย่างว่า แล้วคุณน้านัน ก็มาเป็นนายก เป็นแล้วเป็นอีก ช่วงปี พ.ศ.2531 ถึง พ.ศ.2535 เขาว่า งานแรกที่คุณน้านัน มาจัดการก็คือเรื่องที่ค้างคา (คาใจพี่เบิ้ม!) เป็นที่เรียบร้อย ไอ้ 3 ล้านเลขหมาย เขาว่า (อีกแล้ว) คุณน้าเรียกมาแบ่งเค้ก เอ้ย! เจรจาเองเลยนะ บริษัทของพี่เบิ้มตกรอบ ไม่ได้เป็นผู้ให้บริการ 3 ล้านเลขหมาย ไม่เป็นไรยูรับเหมาวาง fiber optic ไปแล้วกันนะ แหะแหะ สมใจนึกบางลำพู ทำท่าหงอยๆ รับ ok ok กลับไปรายงานข้ามโลกว่า We win! แล้วดาวเทียมล่ะ เสร็จโก๋ท้องถิ่นหน้าใหม่เอี่ยมเหลี่ยมพราว นายหน้าเหลี่ยมแจ้งเกิด ได้สัมปทานดาวเทียมเอาไปกอดอยู่ 15 ปี ต่อมาขายให้สิงคโปร์ กำไรบานตะเกียงไม่เสียภาษีซักกะแดง ไอ้หนุ่ยลูกป้าเหน่ง ทำงานเป็นเสมียน เงินเดือนๆ ละ 20,000 ยังเสียภาษีเดือนละ 2,000 บาทเลย เป็นงงเอาฝ่าเท้าก่ายหน้าผากรำพึง มันทำได้ไงวะ พูดถึงดาวเทียม ข้อมูลมันน่าสนใจ ไม่รู้ลืมกันหมดหรือยัง ไม่เล่าสู่กันฟัง มารู้ภายหลัง เดี๋ยวจะมาต่อว่ามีของดีแล้วไม่บอก ไอ้ดาวเทียมไทยคมนี้ นายหน้าเหลี่ยมเขาได้ไปก็จริง แต่ขบวนการมันน่าคิดนะ ตอนไปขอสัมปทานกับรัฐน่ะ ยังต้องให้เจ๊กระบัง ตากหน้าไปแลกเช็คอยู่เลย เอาเงินจากไหนมาคิดสร้างดาวเทียมน่ะ มันดวงละ 100, 200 บาท ซะเมื่อไหร่ ไม่ใช่ลูกโป่งนะ อ๋อ! ก็กู้เงินจากเอ็กซิม แบงค์ (Exim Bank, Export Import Bank) ของพี่เบิ้ม ที่สนง.ใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี ซี ซิ คร้าบ อา! มาแล้ว เริ่มเห็นหัวโผล่ๆ มาแล้วใช่ไหม เดี๋ยวนี้คนอ่านนิทานฉลาดจะตาย อ่านนิทานไปไม่เท่าไหร่ พอจะปะติดปะต่อกันได้ อิ! อิ! มันไม่เท่านั้นนะนาย กู้เงินจากเอ็กซิม แบงค์ แล้วยังมีธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้ให้อีก เอ! แล้วธนาคารนี้มาเกี่ยวอะไร เขาถ้าจะรักฝังใจ เสียดายดาวเทียม ตอนแรกก็ทำคลอดให้ ตอนจบก็ช่วยแต่งศพให้ ..เอ๊ะ! เล่าให้มันรู้เรื่องหน่อยซีลุง ก็คืองี้ ตอนกู้เงินสร้างดาวเทียม ธนาคารไทยพาณิชย์ก็กรุณาค้ำประกันให้ตอนจะขายให้ Temasek ของสิงคโปร์ บริษัทลูกของไทยพาณิชย์ ก็เป็นที่ปรึกษาการเงินให้เสร็จ แล้วเพื่อไม่ให้ผิดสัญญาที่สัมปทานกำหนด เกณฑ์คนต่างด้าวถือหุ้นเอาไว้ ก็ต้องสร้างนอมินี (nominee) ไทยมาถือแทนต่างด้าว (อีนอมาอีกแล้ว) อีนอก็ดันไม่มีเงินซื้อ ไปกู้เงินจากไทยพาณิชย์ เป็นทุนมาซื้อหุ้นดาวเทียม บริษัทนี้ชื่อกุหลาบแก้วไงจ๊ะ ลืมกันแล้วหรือ แล้วใครเป็นประธานบริษัทกุหลาบแก้วนะ แหม! ไม่อยากบอกเล้ย ! เขาชื่อมิสเตอร์พงส์ ลูกมิสเตอร์ พี แห่งน้ำดำจ๊ะ มันก็คงเป็นเรื่องบังเอิญอีกน่ะนะ แล้วตอนนี้เรื่องมันถึงไหน ผิดถูกอย่างไร ไปตามหากันต่อเองเน้อ เอ้า ! ยังมีบังเอิญอีก แล้วธนาคารไทยพาณิชย์นี่นะ อีตอนที่ให้กุหลาบแก้วกู้เงินน่ะ ข่าวว่า ประธานธนาคารชื่อ คุณน้านัน! โอ้ย! มันบังเอิญทั้งนั้น Amazing Thailand นี่น่ะ แล้วตกลงไอ้ดาวเทียมไทยคม นี่มันเป็นของไอ้เหลี่ยมตั้งแต่ต้น หรือไอ้เหลี่ยมก็มีนอกันแน่ …คิดมากแล้วปวดหัวนิ เรื่องบ้านเมืองนี้ มันมีแยะ ตั้งกะพี่เบิ้มมันเดินยิ้ม จมูกโด่งงุ้ม ย้ายพุงไปมาในบ้านเราน่ะ ถึงว่าจะดูอะไร ดูให้ชัดๆ จะฟังอะไร ก็หัดกรอง สมองมีให้คิด ไม่ใช่มีไว้กั้นหูอย่างเดียว คนเล่านิทาน
    3 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจาก Firefox: อัปเดต 141.0.2 กับภารกิจแก้บั๊ก Nvidia และอีกมากมาย

    Mozilla ปล่อยอัปเดตเล็ก ๆ สำหรับ Firefox เวอร์ชัน 141.0.2 ซึ่งแม้จะดูเหมือน minor patch แต่ก็แก้ปัญหาสำคัญที่สร้างความปวดหัวให้ผู้ใช้หลายคน โดยเฉพาะผู้ใช้ Linux ที่ใช้การ์ดจอ Nvidia รุ่นเก่า

    ผู้ใช้บางรายรายงานว่า Firefox crash ทันทีเมื่อเปิดใช้งานบน Linux ที่ใช้ไดรเวอร์ Nvidia รุ่น 560.35.03 ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่เกิดบน Windows อัปเดตนี้จึงเข้ามาแก้บั๊ก startup crash โดยตรง

    นอกจากนี้ยังมีการแก้ปัญหาเกี่ยวกับ canvas object ที่กลายเป็น draggable โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งส่งผลต่อความเข้ากันได้ของเว็บไซต์ และอีกหนึ่งบั๊กที่ทำให้ Web Developer Tools crash เมื่อ inspect หน้าเว็บที่มี iframe

    แม้จะยังไม่ปล่อยผ่าน auto-update แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก FTP ของ Mozilla หรือเข้าไปที่เมนู Help > About Firefox เพื่อเช็กและติดตั้งอัปเดตได้ทันที

    และถ้าใครพลาดอัปเดตใหญ่ใน Firefox 141 เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ก็มีฟีเจอร์ใหม่เพียบ เช่น AI-powered tab groups, การปรับปรุง vertical tab, memory optimization สำหรับ Linux และ WebGPU บน Windows

    Firefox 141.0.2 แก้บั๊ก crash บน Linux ที่ใช้ Nvidia driver รุ่นเก่า
    ปัญหาเกิดกับ driver 560.35.03 แต่ไม่ส่งผลต่อผู้ใช้ Windows

    แก้ปัญหา canvas object ที่กลายเป็น draggable โดยไม่ตั้งใจ
    ส่งผลต่อความเข้ากันได้ของเว็บไซต์บางแห่ง

    แก้บั๊ก Web Developer Tools crash เมื่อ inspect หน้า iframe
    ปัญหาเกิดจากการจัดการ DOM ที่ไม่สมบูรณ์

    อัปเดตยังไม่ปล่อยผ่าน auto-update
    ต้องดาวน์โหลดจาก FTP หรือเช็กผ่านเมนู Help > About Firefox

    Firefox 141 ก่อนหน้านี้มีฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง
    เช่น AI tab groups, vertical tab improvements, WebGPU บน Windows

    Firefox 141.0.2 ยังแก้บั๊กอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับ GTK+ และ UI
    เช่นปัญหา focus stealing และ visual glitches

    WebGPU เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้เว็บแอปใช้ GPU ได้โดยตรง
    เพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกในแอปที่ใช้ WebGL หรือ 3D rendering

    AI-powered tab groups ใช้ machine learning จัดกลุ่มแท็บอัตโนมัติ
    ช่วยให้ผู้ใช้จัดการงานหลายอย่างได้ง่ายขึ้น

    Firefox ยังคงรองรับการใช้งานบน Windows ผ่าน Microsoft Store
    เพิ่มช่องทางให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้สะดวก

    https://www.neowin.net/news/firefox-14102-is-out-fixes-crashes-on-systems-with-nvidia-gpus-and-more/
    🦊💥 เรื่องเล่าจาก Firefox: อัปเดต 141.0.2 กับภารกิจแก้บั๊ก Nvidia และอีกมากมาย Mozilla ปล่อยอัปเดตเล็ก ๆ สำหรับ Firefox เวอร์ชัน 141.0.2 ซึ่งแม้จะดูเหมือน minor patch แต่ก็แก้ปัญหาสำคัญที่สร้างความปวดหัวให้ผู้ใช้หลายคน โดยเฉพาะผู้ใช้ Linux ที่ใช้การ์ดจอ Nvidia รุ่นเก่า ผู้ใช้บางรายรายงานว่า Firefox crash ทันทีเมื่อเปิดใช้งานบน Linux ที่ใช้ไดรเวอร์ Nvidia รุ่น 560.35.03 ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่เกิดบน Windows อัปเดตนี้จึงเข้ามาแก้บั๊ก startup crash โดยตรง นอกจากนี้ยังมีการแก้ปัญหาเกี่ยวกับ canvas object ที่กลายเป็น draggable โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งส่งผลต่อความเข้ากันได้ของเว็บไซต์ และอีกหนึ่งบั๊กที่ทำให้ Web Developer Tools crash เมื่อ inspect หน้าเว็บที่มี iframe แม้จะยังไม่ปล่อยผ่าน auto-update แต่ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดได้จาก FTP ของ Mozilla หรือเข้าไปที่เมนู Help > About Firefox เพื่อเช็กและติดตั้งอัปเดตได้ทันที และถ้าใครพลาดอัปเดตใหญ่ใน Firefox 141 เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ก็มีฟีเจอร์ใหม่เพียบ เช่น AI-powered tab groups, การปรับปรุง vertical tab, memory optimization สำหรับ Linux และ WebGPU บน Windows ✅ Firefox 141.0.2 แก้บั๊ก crash บน Linux ที่ใช้ Nvidia driver รุ่นเก่า ➡️ ปัญหาเกิดกับ driver 560.35.03 แต่ไม่ส่งผลต่อผู้ใช้ Windows ✅ แก้ปัญหา canvas object ที่กลายเป็น draggable โดยไม่ตั้งใจ ➡️ ส่งผลต่อความเข้ากันได้ของเว็บไซต์บางแห่ง ✅ แก้บั๊ก Web Developer Tools crash เมื่อ inspect หน้า iframe ➡️ ปัญหาเกิดจากการจัดการ DOM ที่ไม่สมบูรณ์ ✅ อัปเดตยังไม่ปล่อยผ่าน auto-update ➡️ ต้องดาวน์โหลดจาก FTP หรือเช็กผ่านเมนู Help > About Firefox ✅ Firefox 141 ก่อนหน้านี้มีฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง ➡️ เช่น AI tab groups, vertical tab improvements, WebGPU บน Windows ✅ Firefox 141.0.2 ยังแก้บั๊กอื่น ๆ ที่เกี่ยวกับ GTK+ และ UI ➡️ เช่นปัญหา focus stealing และ visual glitches ✅ WebGPU เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้เว็บแอปใช้ GPU ได้โดยตรง ➡️ เพิ่มประสิทธิภาพกราฟิกในแอปที่ใช้ WebGL หรือ 3D rendering ✅ AI-powered tab groups ใช้ machine learning จัดกลุ่มแท็บอัตโนมัติ ➡️ ช่วยให้ผู้ใช้จัดการงานหลายอย่างได้ง่ายขึ้น ✅ Firefox ยังคงรองรับการใช้งานบน Windows ผ่าน Microsoft Store ➡️ เพิ่มช่องทางให้ผู้ใช้ทั่วไปเข้าถึงได้สะดวก https://www.neowin.net/news/firefox-14102-is-out-fixes-crashes-on-systems-with-nvidia-gpus-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Firefox 141.0.2 is out, fixes crashes on systems with Nvidia GPUs and more
    Mozilla is rolling out a small Firefox update to address startup crashes on systems with Nvidia cards, fix compatibility issues, and more.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตอน 8
    พ.ศ.2506 คุณป๋าสฤษดิ์ก็หมดบุญ น้าหนอมของป้าจงก็ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 อีกครั้งหนึ่ง พี่เบิ้มบอกว่า น้าหนอมน่าเอ็นดู แต่เด็ดไม่ขาด ไม่มีบารมี การสั่งการจากที่เคยคุยแต่กับคุณป๋าคนเดียวก็รู้เรื่อง ที่นี้ก็ต้องคุยเป็นพวง ถนอม ประภาส จิตติ ทวี กฤษณ์ฯลฯ
    แล้วไง ทำเป็นไม่รู้เรื่อง คุย 1 คน จ่าย 100 คุย 5 คน ก็เอา 5 คูณ
    พี่เบิ้มถึงจะรวยก็ขี้เหนียวนะ มาเล่นวิ่งผลัด 100 x 5 กับไอนี่ ไอไม่ชอบนะ
    ช่วงนั้นสถานการณ์ด้านการรบก็กำลังเข้ม การบริหารประเทศไทยแลนด์ของยูก็ไม่มีเอกภาพ แบ่งชามข้าวกันอยู่นั้น เอ้า! พจน์ สารสิน (อีกแล้ว!) ยูมาคุมกระทรวงพัฒนาแห่งชาติหน่อย อย่างน้อยไอก็ไม่ต้องปวดหมองด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เดี๋ยวเงินไหลเข้าไหลออกมันจะสะดุด แล้วพจน์ ยูก็มาทำหน้า ที่เป็นกระบอกเสียงระหว่างน้าหนอมกับไอด้วยนะ เวลาพี่เบิ้มจะเอาอะไรก็บอก good boy ชื่อ พจน์ พจน์ก็ไปบอกน้าหนอม ไม่งั้นสั่งอะไรน้าหนอมก็พยักหน้าอย่างเดียว ไม่รู้ว่ารู้เรื่องหรือเปล่า
    สถานการณ์วิ่งผลัดก็ดำเนินไปเรื่อยๆ เขาเข้ามาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพทั้งบก เรือ อากาศ นี่ดีว่าไม่มีเรือดำนำนะ ถามว่า ภายใต้พันธะอะไร ข้อตกลงอะไร เคยรู้กันบ้างไหมว่า เขาเข้ามากันเปล่าๆ ไม่เคยมีสัญญาข้อตกลงเป็นรูปธรรมเลยระหว่างสหรัฐกับไทย ก็มันสมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย สหรัฐก็ไม่ต้องแจงรัฐสภาของตัวเอง ไทยก็ไม่ต้องแจงรัฐสภาของไทย เพราะทุกอย่างอยู่ในกำมือ บอกแล้วเงินช่วย เหลือเข้ามา ก็คนละหนุบละหนับ เขียนแล้วมันเศร้าใจ
    ทหารอเมริกันก็ไม่ต้องขึ้นศาลไทย เครื่องบินจะบินขึ้นไปทิ้งบอมบ์เขาก็เป็นคนอนุมัติ เขาจะขนทหารเข้ามาเท่าไหร่ เราก็ o.k, o.k
    นี่คือสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ยุคสงครามเวียตนาม แล้วนึกว่าหมดแล้วหรือ เปล่าเลยแล้วให้จำสัญญาJUSMAC ปี ค.ศ.1950 ที่ท่านนายพลคนแปลก เป็นผู้ลงนามไว้ บอกไว้แล้วว่า สัญญานั้นยังมีชีวิตอยู่ สัญญานี้มีผลอย่างไร เกี่ยวกับปัจจุบันหรือไม่ โปรดติดตาม อย่าได้ขาดตอนเชียว
    ช่วงปี พ.ศ.2507 – 2511 คอมมิวนิสต์เริ่มรุกเข้าอีสานบ้านเรา พี่เบิ้มก็ทุ่มเงินใส่ให้พัฒนาหมู่บ้านและตชด. กับตำรวจภูธรเพื่อดูแลหมู่บ้าน ตอนนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม ทำไมเขาต้องตั้งตชด.และตั้งตำรวจ ภูธรให้เรา ทหารนั้นเอาไว้ไปรบกับเวียดกง โว้ย! สั่งทุกอย่างเหมือนเป็นบ้านตัวเองเลยนะ
    เงินที่พี่เบิ้มให้มาผ่านโครงการ MAP (Military Assistance Program) โดยให้ผ่านหน่วยงาน USIS และ USOM ปีละตั้งหลาย (ประมาณ 100 ล้านเหรียญต่อปีพี่เบิ้มเขาก็เป็นห่วงว่าเงิน MAP นี่มันจะไปใช้สนับสนุนกีฬาวิ่งผลัด 100 x 5 เท่าไหร่ จะถึงตชด.เท่าไหร่  เขาเลยเข้ามาวางแผนเข้าไปถึงระบบพัฒนาหมู่บ้านเราเอง จัดสรรงบเอง เพื่อไม่ให้กีฬาวิ่งผลัดเบิกบานเกินไป และเพื่อให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ สามารถรับใช้การปฏิบัติงานของเจ้าของเงินได้อย่างราบรื่น พี่เบิ้มก็ต้องการให้ไทยแลนด์มีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เสียที เพราะว่า ค่าใช้จ่ายกีฬาวิ่งผลัดมันชักจะสูงไปแล้วนะ แทน ที่จะคุยกับนักกีฬาวิ่งผลัด คุยกับรัฐบาลมันน่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายไอมากกว่านะ แต่ต้องเป็นรัฐบาลจากพรรคที่ไอเลือกให้ เป็นรัฐบาลนะ
    คิดกลับไปกลับมา พี่เบิ้มก็ปวดหัวว่าจะใช้บริการของใครดีหนอ น้าหนอมน่าจะดีที่สุด ท่าทางนอนง่ายสอนง่าย ไม่ค่อยมีพยศ รายงานของ CIA ระบุว่า สหรัฐมีแผนที่จะให้กลุ่มถนอมเป็นผู้บริหารประเทศไทยต่อไป ดังนั้นจึงมีการเจรจากับทูตอเมริกันนามว่าคุณมาร์ติน ให้อเมริกาสนับสนุนการตั้งพรรคของ กลุ่มถนอม
    ได้ยินเสียงตัวแทนฝ่ายไทย คล้ายๆ เสียงนายพจน์ สารสิน บอกเลือกตั้งน่ะนะ มันต้องใช้ทุนแยะอยู่ ถ้ายูช่วยพวกไอก็จะดี จะได้ไม่ต้องไปเอาจากพ่อค้า ซึ่งส่วนมากเป็นคนจีน มันยากจะเดาว่าจะเอียงหน้าไปอยู่ข้างไหน
    รายงาน CIA บอกว่าทูตมาร์ตินนำเรื่องนี้ไปเสนอต่อ 303 Committee ปรากฏว่าทางวอชิงตัน (Washington) ก็ถามกลับมาว่า คุ้มแน่นะ คำตอบก็อยู่ในสายลมที่พัดไป แล้วก็เงียบหาย ระหว่างนั้นไทยแลนด์ก็เลยมีข่าวลือว่า จะมีการปฎิวัติน้าหนอมโดยกลุ่มทวี จิตติ กฤษณ์บ้าง ลุงตุ๊บ้าง แต่ระยะหลังข่าวปฎิวัติโดยลุงตุ๊มาแรง แหม มันประจวบเหมาะอะไรเช่นนั้น บังเอิญจริงนะ
    ช่วงข่าวปฏิวัติโดยลุงตุ๊ ทูตมาร์ตินก็หมดวาระกลับบ้าน ทูตอังเกอร์ (Unger) มาแทน คุณ good boy นามพจน์ ก็ไปเตือนทูตใหม่อีกว่า ยูจะเอายังไง ข่าวปฎิวัติมาแรงนะ ถ้ายูจะให้ถนอมเป็นนายกนี่ต้องเร่งๆ หน่อย เราจะตั้งพรรคแล้วหนา เงินที่ว่าจะช่วยยังไม่มาเลย
    ทูตตั้งคำถาม 20 คำถาม แล้วก็มีประโยคทองตอบไปเป็นเกียรติประวัติว่า “Trust us-We know what to do” เชื่อเราน่า เรารู้ว่าจะต้องทำยังไง …ไอรวยจะตาย ยูไม่ต้องห่วง ธุรกิจแยะไปหมด น้ำดำไทยแลนด์นี่ก็ของไอนะ (ไม่ได้ค่าโฆษณาไม่เขียนให้รอบสอง!)
    ทูตอังเกอร์ (Unger) ได้ยินประโยคทอง แล้วก็อ่อนระทวยเขียนรายงานชื่อว่า “Lotus Project” ส่งด่วนจี๋ไปยังวอชิงตัน (Washington) ทันทีอีกรอบ การเลือกตั้งในวันที่ 11 ก.พ. พ.ศ.2512 ปรากฏว่า พรรคสหประชาไทยของน้าหนอม ได้รับชัยชนะเฉียดฉิวมากคือ 75 ที่นั่งจากสส.ทั้งหมด 215 คน เก่งจังเลย!
    การเลือกตั้งครั้งนี้สมควร บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่าอำนวยการสร้างโดย CIA ของแท้ ภายใต้ชื่อว่า Lotus Project  มีนายพจน์ สารสินเป็น project manger ทั้งนี้เพราะพี่เบิ้มกลัวว่า ถ้าการเมืองไทยไม่นิ่ง Pax Americana ที่วางไว้ซับซ้อนก็จะ ฉ.ห. ดังนั้นพรรคสหประชาไทย ภายใต้การดำเนินงานของนายพจน์ จึงเกิด ขึ้น และชนะการเลือกตั้งและได้นายกชื่อ พล.อ. ถนอม!
    ไอ้ที่เขียนเกี่ยวกับ Lotus Project มาทั้งหมดนี้นี้ อยู่ในรายงานลับของทูตมาร์ติน และทูตอังเกอร์ เองนะ ไม่ ได้ยกเมฆ แหม ลับยังไงก็หลุดมาได้น่า สีมือระดับนี่แล้ว เดี๋ยวว่าคุย (ฮา)
    โม้มาก สงสัย คงมีพวกซีมาคอยรับตัวไปเที่ยวแน่
    Lotus Project ใช้เงินหลวงของพี่เบิ้มอุดหนุน ภายใต้การพิจารณาอนุมัติของ Committer 303 ไปหาดูแล้วกัน ไอ้ Committee นี้มันทำอะไร แล้วอย่ามาพูดอีกนะ ยูต้องเป็นประชาธิปไตย เหม็นขี้ฟันจริงๆ


    คนเล่านิทาน
    ตอน 8 พ.ศ.2506 คุณป๋าสฤษดิ์ก็หมดบุญ น้าหนอมของป้าจงก็ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 อีกครั้งหนึ่ง พี่เบิ้มบอกว่า น้าหนอมน่าเอ็นดู แต่เด็ดไม่ขาด ไม่มีบารมี การสั่งการจากที่เคยคุยแต่กับคุณป๋าคนเดียวก็รู้เรื่อง ที่นี้ก็ต้องคุยเป็นพวง ถนอม ประภาส จิตติ ทวี กฤษณ์ฯลฯ แล้วไง ทำเป็นไม่รู้เรื่อง คุย 1 คน จ่าย 100 คุย 5 คน ก็เอา 5 คูณ พี่เบิ้มถึงจะรวยก็ขี้เหนียวนะ มาเล่นวิ่งผลัด 100 x 5 กับไอนี่ ไอไม่ชอบนะ ช่วงนั้นสถานการณ์ด้านการรบก็กำลังเข้ม การบริหารประเทศไทยแลนด์ของยูก็ไม่มีเอกภาพ แบ่งชามข้าวกันอยู่นั้น เอ้า! พจน์ สารสิน (อีกแล้ว!) ยูมาคุมกระทรวงพัฒนาแห่งชาติหน่อย อย่างน้อยไอก็ไม่ต้องปวดหมองด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ เดี๋ยวเงินไหลเข้าไหลออกมันจะสะดุด แล้วพจน์ ยูก็มาทำหน้า ที่เป็นกระบอกเสียงระหว่างน้าหนอมกับไอด้วยนะ เวลาพี่เบิ้มจะเอาอะไรก็บอก good boy ชื่อ พจน์ พจน์ก็ไปบอกน้าหนอม ไม่งั้นสั่งอะไรน้าหนอมก็พยักหน้าอย่างเดียว ไม่รู้ว่ารู้เรื่องหรือเปล่า สถานการณ์วิ่งผลัดก็ดำเนินไปเรื่อยๆ เขาเข้ามาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพทั้งบก เรือ อากาศ นี่ดีว่าไม่มีเรือดำนำนะ ถามว่า ภายใต้พันธะอะไร ข้อตกลงอะไร เคยรู้กันบ้างไหมว่า เขาเข้ามากันเปล่าๆ ไม่เคยมีสัญญาข้อตกลงเป็นรูปธรรมเลยระหว่างสหรัฐกับไทย ก็มันสมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย สหรัฐก็ไม่ต้องแจงรัฐสภาของตัวเอง ไทยก็ไม่ต้องแจงรัฐสภาของไทย เพราะทุกอย่างอยู่ในกำมือ บอกแล้วเงินช่วย เหลือเข้ามา ก็คนละหนุบละหนับ เขียนแล้วมันเศร้าใจ ทหารอเมริกันก็ไม่ต้องขึ้นศาลไทย เครื่องบินจะบินขึ้นไปทิ้งบอมบ์เขาก็เป็นคนอนุมัติ เขาจะขนทหารเข้ามาเท่าไหร่ เราก็ o.k, o.k นี่คือสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ยุคสงครามเวียตนาม แล้วนึกว่าหมดแล้วหรือ เปล่าเลยแล้วให้จำสัญญาJUSMAC ปี ค.ศ.1950 ที่ท่านนายพลคนแปลก เป็นผู้ลงนามไว้ บอกไว้แล้วว่า สัญญานั้นยังมีชีวิตอยู่ สัญญานี้มีผลอย่างไร เกี่ยวกับปัจจุบันหรือไม่ โปรดติดตาม อย่าได้ขาดตอนเชียว ช่วงปี พ.ศ.2507 – 2511 คอมมิวนิสต์เริ่มรุกเข้าอีสานบ้านเรา พี่เบิ้มก็ทุ่มเงินใส่ให้พัฒนาหมู่บ้านและตชด. กับตำรวจภูธรเพื่อดูแลหมู่บ้าน ตอนนี้เข้าใจแล้วใช่ไหม ทำไมเขาต้องตั้งตชด.และตั้งตำรวจ ภูธรให้เรา ทหารนั้นเอาไว้ไปรบกับเวียดกง โว้ย! สั่งทุกอย่างเหมือนเป็นบ้านตัวเองเลยนะ เงินที่พี่เบิ้มให้มาผ่านโครงการ MAP (Military Assistance Program) โดยให้ผ่านหน่วยงาน USIS และ USOM ปีละตั้งหลาย (ประมาณ 100 ล้านเหรียญต่อปีพี่เบิ้มเขาก็เป็นห่วงว่าเงิน MAP นี่มันจะไปใช้สนับสนุนกีฬาวิ่งผลัด 100 x 5 เท่าไหร่ จะถึงตชด.เท่าไหร่  เขาเลยเข้ามาวางแผนเข้าไปถึงระบบพัฒนาหมู่บ้านเราเอง จัดสรรงบเอง เพื่อไม่ให้กีฬาวิ่งผลัดเบิกบานเกินไป และเพื่อให้การเมืองไทยมีเสถียรภาพ สามารถรับใช้การปฏิบัติงานของเจ้าของเงินได้อย่างราบรื่น พี่เบิ้มก็ต้องการให้ไทยแลนด์มีการเลือกตั้ง เป็นประชาธิปไตยจริงๆ เสียที เพราะว่า ค่าใช้จ่ายกีฬาวิ่งผลัดมันชักจะสูงไปแล้วนะ แทน ที่จะคุยกับนักกีฬาวิ่งผลัด คุยกับรัฐบาลมันน่าจะประหยัดค่าใช้จ่ายไอมากกว่านะ แต่ต้องเป็นรัฐบาลจากพรรคที่ไอเลือกให้ เป็นรัฐบาลนะ คิดกลับไปกลับมา พี่เบิ้มก็ปวดหัวว่าจะใช้บริการของใครดีหนอ น้าหนอมน่าจะดีที่สุด ท่าทางนอนง่ายสอนง่าย ไม่ค่อยมีพยศ รายงานของ CIA ระบุว่า สหรัฐมีแผนที่จะให้กลุ่มถนอมเป็นผู้บริหารประเทศไทยต่อไป ดังนั้นจึงมีการเจรจากับทูตอเมริกันนามว่าคุณมาร์ติน ให้อเมริกาสนับสนุนการตั้งพรรคของ กลุ่มถนอม ได้ยินเสียงตัวแทนฝ่ายไทย คล้ายๆ เสียงนายพจน์ สารสิน บอกเลือกตั้งน่ะนะ มันต้องใช้ทุนแยะอยู่ ถ้ายูช่วยพวกไอก็จะดี จะได้ไม่ต้องไปเอาจากพ่อค้า ซึ่งส่วนมากเป็นคนจีน มันยากจะเดาว่าจะเอียงหน้าไปอยู่ข้างไหน รายงาน CIA บอกว่าทูตมาร์ตินนำเรื่องนี้ไปเสนอต่อ 303 Committee ปรากฏว่าทางวอชิงตัน (Washington) ก็ถามกลับมาว่า คุ้มแน่นะ คำตอบก็อยู่ในสายลมที่พัดไป แล้วก็เงียบหาย ระหว่างนั้นไทยแลนด์ก็เลยมีข่าวลือว่า จะมีการปฎิวัติน้าหนอมโดยกลุ่มทวี จิตติ กฤษณ์บ้าง ลุงตุ๊บ้าง แต่ระยะหลังข่าวปฎิวัติโดยลุงตุ๊มาแรง แหม มันประจวบเหมาะอะไรเช่นนั้น บังเอิญจริงนะ ช่วงข่าวปฏิวัติโดยลุงตุ๊ ทูตมาร์ตินก็หมดวาระกลับบ้าน ทูตอังเกอร์ (Unger) มาแทน คุณ good boy นามพจน์ ก็ไปเตือนทูตใหม่อีกว่า ยูจะเอายังไง ข่าวปฎิวัติมาแรงนะ ถ้ายูจะให้ถนอมเป็นนายกนี่ต้องเร่งๆ หน่อย เราจะตั้งพรรคแล้วหนา เงินที่ว่าจะช่วยยังไม่มาเลย ทูตตั้งคำถาม 20 คำถาม แล้วก็มีประโยคทองตอบไปเป็นเกียรติประวัติว่า “Trust us-We know what to do” เชื่อเราน่า เรารู้ว่าจะต้องทำยังไง …ไอรวยจะตาย ยูไม่ต้องห่วง ธุรกิจแยะไปหมด น้ำดำไทยแลนด์นี่ก็ของไอนะ (ไม่ได้ค่าโฆษณาไม่เขียนให้รอบสอง!) ทูตอังเกอร์ (Unger) ได้ยินประโยคทอง แล้วก็อ่อนระทวยเขียนรายงานชื่อว่า “Lotus Project” ส่งด่วนจี๋ไปยังวอชิงตัน (Washington) ทันทีอีกรอบ การเลือกตั้งในวันที่ 11 ก.พ. พ.ศ.2512 ปรากฏว่า พรรคสหประชาไทยของน้าหนอม ได้รับชัยชนะเฉียดฉิวมากคือ 75 ที่นั่งจากสส.ทั้งหมด 215 คน เก่งจังเลย! การเลือกตั้งครั้งนี้สมควร บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่าอำนวยการสร้างโดย CIA ของแท้ ภายใต้ชื่อว่า Lotus Project  มีนายพจน์ สารสินเป็น project manger ทั้งนี้เพราะพี่เบิ้มกลัวว่า ถ้าการเมืองไทยไม่นิ่ง Pax Americana ที่วางไว้ซับซ้อนก็จะ ฉ.ห. ดังนั้นพรรคสหประชาไทย ภายใต้การดำเนินงานของนายพจน์ จึงเกิด ขึ้น และชนะการเลือกตั้งและได้นายกชื่อ พล.อ. ถนอม! ไอ้ที่เขียนเกี่ยวกับ Lotus Project มาทั้งหมดนี้นี้ อยู่ในรายงานลับของทูตมาร์ติน และทูตอังเกอร์ เองนะ ไม่ ได้ยกเมฆ แหม ลับยังไงก็หลุดมาได้น่า สีมือระดับนี่แล้ว เดี๋ยวว่าคุย (ฮา) โม้มาก สงสัย คงมีพวกซีมาคอยรับตัวไปเที่ยวแน่ Lotus Project ใช้เงินหลวงของพี่เบิ้มอุดหนุน ภายใต้การพิจารณาอนุมัติของ Committer 303 ไปหาดูแล้วกัน ไอ้ Committee นี้มันทำอะไร แล้วอย่ามาพูดอีกนะ ยูต้องเป็นประชาธิปไตย เหม็นขี้ฟันจริงๆ คนเล่านิทาน
    9 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 382 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากข่าว: Virtual Boy กลับมาในสีสันสดใส บน 3DS ผ่านอีมูเลเตอร์ Red Viper

    ย้อนกลับไปเมื่อปี 1995 Nintendo เปิดตัว Virtual Boy เครื่องเกมพกพาแบบ VR ที่ใช้จอ LED สีแดงสองจอเพื่อสร้างภาพสามมิติ แม้จะล้ำยุค แต่ก็ล้มเหลวอย่างรวดเร็วเพราะภาพสีแดง-ดำที่ทำให้ผู้เล่นปวดหัว และข้อจำกัดด้านการพกพา

    แต่ในปี 2025 นี้ Red Viper—a Virtual Boy emulator สำหรับ 3DS—ได้ออกเวอร์ชัน 1.0 เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของเครื่องเกมนี้ โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เปลี่ยนประสบการณ์เดิมให้สดใสขึ้น:
    - รองรับการปรับแต่งสีได้ถึง 4 ระดับ
    - เล่นเกมได้เต็มความเร็วทุกเกม
    - รองรับ Circle Pad Pro และการควบคุมแบบใหม่
    - ใช้จอ 3DS แบบ glasses-free เพื่อสร้างภาพสามมิติที่ใกล้เคียงต้นฉบับ

    ผู้ใช้สามารถเลือกสีใหม่ผ่านหน้าจอสัมผัส และบันทึกพาเลตต์เฉพาะสำหรับแต่ละเกมได้ ทำให้เกมอย่าง Red Alarm หรือ Wario Land ดูมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

    Red Viper เวอร์ชัน 1.0 เปิดตัวบน 3DS เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของ Virtual Boy
    รองรับการเล่นเกมทุกเกมอย่างเต็มความเร็ว
    ใช้จอ 3DS เพื่อจำลองภาพสามมิติแบบต้นฉบับ

    เพิ่มฟีเจอร์ปรับแต่งสีแบบเต็มรูปแบบ
    ผู้เล่นสามารถเลือกสีได้ 4 ระดับ: Darkest, Dark, Light, Lightest
    ปรับความสว่างและความอิ่มสีได้ผ่านหน้าจอสัมผัส

    รองรับการควบคุมใหม่ เช่น Circle Pad Pro และการแมปปุ่มแบบกำหนดเอง
    เพิ่มความสะดวกในการเล่นเกมที่ต้องการความแม่นยำ
    รองรับการบันทึกสถานะเกมและเซฟไฟล์

    สามารถติดตั้งผ่าน Universal Updater หรือ GitHub สำหรับผู้ใช้ 3DS ที่ติดตั้ง custom firmware แล้ว
    ต้องมี ROM ของ Virtual Boy ที่ถูกต้องตามกฎหมาย
    รองรับการสร้าง “forwarder” เพื่อให้เกมปรากฏบนเมนูหลักของ 3DS

    มีการปรับปรุงประสิทธิภาพ เช่น double buffering และ interrupt prediction
    ลดการกระตุกและปรับความเร็วให้ใกล้เคียงเครื่องจริง
    แก้บั๊กในเกมอย่าง Space Invaders และ Golf

    Virtual Boy มีเกมเพียง 22 เกม และถูกยกเลิกภายใน 1 ปีหลังเปิดตัว
    เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวที่สุดของ Nintendo
    แต่กลายเป็นของสะสมที่หายากในหมู่แฟนเกม

    Red Viper เป็นอีมูเลเตอร์ที่แม่นยำที่สุดสำหรับ Virtual Boy บนทุกแพลตฟอร์ม
    รองรับการจำลองเวลา render และเสียงแบบต้นฉบับ
    มีโหมด anaglyph สำหรับผู้ใช้ 2DS ที่ไม่มีจอสามมิติ

    การเพิ่มสีช่วยให้เกม Virtual Boy เล่นง่ายขึ้นและดูมีชีวิตชีวา
    เช่น การใช้สีเหลือง-เขียวเพื่อแยกศัตรูออกจากฉากหลัง
    ช่วยให้เกมอย่าง Red Alarm และ Jack Bros. เล่นสนุกขึ้นมาก

    ยังมีอีมูเลเตอร์ Virtual Boy สำหรับ Meta Quest และ Apple Vision Pro
    ให้ประสบการณ์ VR ที่ใกล้เคียงต้นฉบับมากขึ้น
    เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเล่นในรูปแบบ immersive

    ต้องใช้เครื่อง 3DS ที่ติดตั้ง custom firmware เท่านั้น
    ไม่สามารถใช้งานบนเครื่องที่ไม่ได้เจลเบรก
    อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหากติดตั้งผิดวิธี

    ผู้ใช้ต้องหา ROM ด้วยตนเอง ซึ่งอาจมีข้อกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์
    การดาวน์โหลด ROM โดยไม่ได้เป็นเจ้าของอาจผิดกฎหมาย
    ควรใช้เฉพาะ ROM ที่ได้จากการสำรองข้อมูลของตนเอง

    ไม่มีพาเลตต์สีสำเร็จรูป ต้องปรับแต่งเองในแต่ละเกม
    อาจต้องใช้เวลาในการทดลองเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม
    หากไม่บันทึกพาเลตต์ อาจต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง

    ภาพที่ได้อาจไม่ตรงกับศิลปะต้นฉบับของเกม 8-bit หรือ pixel art
    สีที่เลือกอาจทำให้ภาพดูผิดเพี้ยนจากต้นฉบับ
    ต้องเลือกสีอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เสียอรรถรส

    https://www.techspot.com/news/108892-30-years-later-virtual-boy-games-finally-playable.html
    🎮 เรื่องเล่าจากข่าว: Virtual Boy กลับมาในสีสันสดใส บน 3DS ผ่านอีมูเลเตอร์ Red Viper ย้อนกลับไปเมื่อปี 1995 Nintendo เปิดตัว Virtual Boy เครื่องเกมพกพาแบบ VR ที่ใช้จอ LED สีแดงสองจอเพื่อสร้างภาพสามมิติ แม้จะล้ำยุค แต่ก็ล้มเหลวอย่างรวดเร็วเพราะภาพสีแดง-ดำที่ทำให้ผู้เล่นปวดหัว และข้อจำกัดด้านการพกพา แต่ในปี 2025 นี้ Red Viper—a Virtual Boy emulator สำหรับ 3DS—ได้ออกเวอร์ชัน 1.0 เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของเครื่องเกมนี้ โดยเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่เปลี่ยนประสบการณ์เดิมให้สดใสขึ้น: - รองรับการปรับแต่งสีได้ถึง 4 ระดับ - เล่นเกมได้เต็มความเร็วทุกเกม - รองรับ Circle Pad Pro และการควบคุมแบบใหม่ - ใช้จอ 3DS แบบ glasses-free เพื่อสร้างภาพสามมิติที่ใกล้เคียงต้นฉบับ ผู้ใช้สามารถเลือกสีใหม่ผ่านหน้าจอสัมผัส และบันทึกพาเลตต์เฉพาะสำหรับแต่ละเกมได้ ทำให้เกมอย่าง Red Alarm หรือ Wario Land ดูมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ✅ Red Viper เวอร์ชัน 1.0 เปิดตัวบน 3DS เพื่อฉลองครบรอบ 30 ปีของ Virtual Boy ➡️ รองรับการเล่นเกมทุกเกมอย่างเต็มความเร็ว ➡️ ใช้จอ 3DS เพื่อจำลองภาพสามมิติแบบต้นฉบับ ✅ เพิ่มฟีเจอร์ปรับแต่งสีแบบเต็มรูปแบบ ➡️ ผู้เล่นสามารถเลือกสีได้ 4 ระดับ: Darkest, Dark, Light, Lightest ➡️ ปรับความสว่างและความอิ่มสีได้ผ่านหน้าจอสัมผัส ✅ รองรับการควบคุมใหม่ เช่น Circle Pad Pro และการแมปปุ่มแบบกำหนดเอง ➡️ เพิ่มความสะดวกในการเล่นเกมที่ต้องการความแม่นยำ ➡️ รองรับการบันทึกสถานะเกมและเซฟไฟล์ ✅ สามารถติดตั้งผ่าน Universal Updater หรือ GitHub สำหรับผู้ใช้ 3DS ที่ติดตั้ง custom firmware แล้ว ➡️ ต้องมี ROM ของ Virtual Boy ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ➡️ รองรับการสร้าง “forwarder” เพื่อให้เกมปรากฏบนเมนูหลักของ 3DS ✅ มีการปรับปรุงประสิทธิภาพ เช่น double buffering และ interrupt prediction ➡️ ลดการกระตุกและปรับความเร็วให้ใกล้เคียงเครื่องจริง ➡️ แก้บั๊กในเกมอย่าง Space Invaders และ Golf ✅ Virtual Boy มีเกมเพียง 22 เกม และถูกยกเลิกภายใน 1 ปีหลังเปิดตัว ➡️ เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ล้มเหลวที่สุดของ Nintendo ➡️ แต่กลายเป็นของสะสมที่หายากในหมู่แฟนเกม ✅ Red Viper เป็นอีมูเลเตอร์ที่แม่นยำที่สุดสำหรับ Virtual Boy บนทุกแพลตฟอร์ม ➡️ รองรับการจำลองเวลา render และเสียงแบบต้นฉบับ ➡️ มีโหมด anaglyph สำหรับผู้ใช้ 2DS ที่ไม่มีจอสามมิติ ✅ การเพิ่มสีช่วยให้เกม Virtual Boy เล่นง่ายขึ้นและดูมีชีวิตชีวา ➡️ เช่น การใช้สีเหลือง-เขียวเพื่อแยกศัตรูออกจากฉากหลัง ➡️ ช่วยให้เกมอย่าง Red Alarm และ Jack Bros. เล่นสนุกขึ้นมาก ✅ ยังมีอีมูเลเตอร์ Virtual Boy สำหรับ Meta Quest และ Apple Vision Pro ➡️ ให้ประสบการณ์ VR ที่ใกล้เคียงต้นฉบับมากขึ้น ➡️ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเล่นในรูปแบบ immersive ‼️ ต้องใช้เครื่อง 3DS ที่ติดตั้ง custom firmware เท่านั้น ⛔ ไม่สามารถใช้งานบนเครื่องที่ไม่ได้เจลเบรก ⛔ อาจมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหากติดตั้งผิดวิธี ‼️ ผู้ใช้ต้องหา ROM ด้วยตนเอง ซึ่งอาจมีข้อกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ ⛔ การดาวน์โหลด ROM โดยไม่ได้เป็นเจ้าของอาจผิดกฎหมาย ⛔ ควรใช้เฉพาะ ROM ที่ได้จากการสำรองข้อมูลของตนเอง ‼️ ไม่มีพาเลตต์สีสำเร็จรูป ต้องปรับแต่งเองในแต่ละเกม ⛔ อาจต้องใช้เวลาในการทดลองเพื่อให้ได้ภาพที่สวยงาม ⛔ หากไม่บันทึกพาเลตต์ อาจต้องตั้งค่าใหม่ทุกครั้ง ‼️ ภาพที่ได้อาจไม่ตรงกับศิลปะต้นฉบับของเกม 8-bit หรือ pixel art ⛔ สีที่เลือกอาจทำให้ภาพดูผิดเพี้ยนจากต้นฉบับ ⛔ ต้องเลือกสีอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เสียอรรถรส https://www.techspot.com/news/108892-30-years-later-virtual-boy-games-finally-playable.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    30 years later, Virtual Boy games are finally playable in color
    Nintendo 3DS owners who install custom firmware can now play Virtual Boy games in colors other than black and red. The functionality comes with a significant update...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 291 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ใช้สมองและความคิดเยอะและหนักไปก่อน แต่ยังมีของกินเหลือๆ แต่คิดเยอะๆคิดได้ แต่อย่าคิดมากจะดีกว่า
    อยากคิดเยอะๆแบบไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัวกังวล ก็คงต้องจดเขียนบันทึกความคิดในรูปของสรุปย่อเพื่อให้ความคิดที่มีอยู่มากได้ถูกจัดเก็บไว้อย่างกะทัดรัด เมื่อถึงเวลาที่ต้องคิดอีกรอบก็สามารถหยิบยกความคิดเป็นส่วนๆไปใช้ และค่อยๆเก็บบันทึกทีละส่วนๆ
    เรียงลำดับความคิดและความสำคัญ เริ่มจากการเขียนบันทึกเป็น Mind Mapping เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ และเขียนลำดับความคิดโดยย่อไปก่อน ค่อยคิดขยายความทีหลัง
    วันนี้ใช้สมองและความคิดเยอะและหนักไปก่อน แต่ยังมีของกินเหลือๆ แต่คิดเยอะๆคิดได้ แต่อย่าคิดมากจะดีกว่า อยากคิดเยอะๆแบบไม่ต้องคิดมากให้ปวดหัวกังวล ก็คงต้องจดเขียนบันทึกความคิดในรูปของสรุปย่อเพื่อให้ความคิดที่มีอยู่มากได้ถูกจัดเก็บไว้อย่างกะทัดรัด เมื่อถึงเวลาที่ต้องคิดอีกรอบก็สามารถหยิบยกความคิดเป็นส่วนๆไปใช้ และค่อยๆเก็บบันทึกทีละส่วนๆ เรียงลำดับความคิดและความสำคัญ เริ่มจากการเขียนบันทึกเป็น Mind Mapping เพื่อให้ง่ายต่อการทำความเข้าใจ และเขียนลำดับความคิดโดยย่อไปก่อน ค่อยคิดขยายความทีหลัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทุกข์ไปก่อน…สุดท้ายไม่เกิดขึ้นจริง”
    แล้วเราทำร้ายตัวเองไปเพื่ออะไร?

    หนึ่งชีวิตของคนขี้กังวล
    คือการสะสม “ความทุกข์ล่วงหน้า” แบบไม่รู้ตัว

    กี่ครั้งที่เราเครียดจนปวดหัว…แต่เรื่องนั้นไม่เกิด
    กี่คืนที่นอนไม่หลับ…กับปัญหาที่ไม่มาถึง
    กี่ปีที่เสียดาย…ในสิ่งที่ต่อมารู้ว่า “ดีแล้วที่พลาด”

    เมื่อมองย้อนกลับ…
    เราจะพบว่า “ความทุกข์ส่วนใหญ่” คือ
    การด่วนสรุปอนาคตในแง่ร้าย
    ทั้งที่อนาคตนั้น…
    ยังไม่เกิดขึ้นเลย

    “ทุกข์ที่ยังมาไม่ถึง”
    มักทำร้ายเรามากกว่า “ทุกข์ที่เกิดขึ้นจริง”

    แล้วทำไมเราต้องเสียเวลากับมัน?

    ธรรมะมุมลึก

    > แม้เราไม่มีญาณหยั่งรู้
    แต่เราสามารถหยั่งรู้ “ความจริงของใจตัวเอง” ได้

    และความจริงนั้นก็คือ—
    ความกังวลล่วงหน้า
    ความกลัวล่วงหน้า
    ความเสียใจล่วงหน้า

    ล้วน เป็นความสูญเปล่าของชีวิต

    🪷 ข้อคิดปิดท้าย

    ❝ เมื่อใจเริ่มทุกข์…ให้เตือนตัวเองว่า
    “นี่อาจเป็นความทุกข์ที่สูญเปล่าของวันพรุ่งนี้”

    แล้วค่อยๆ หายใจเข้า
    แล้วปล่อย…ความคิดที่ยังมาไม่ถึงนั้นไป ❞

    "ทุกข์ล่วงหน้า คือความสูญเปล่าที่เราเลือกเอง"
    – ธรรมะจากการรู้ทันความคิด –
    ✨ “ทุกข์ไปก่อน…สุดท้ายไม่เกิดขึ้นจริง” แล้วเราทำร้ายตัวเองไปเพื่ออะไร? 📝 หนึ่งชีวิตของคนขี้กังวล คือการสะสม “ความทุกข์ล่วงหน้า” แบบไม่รู้ตัว ❓ กี่ครั้งที่เราเครียดจนปวดหัว…แต่เรื่องนั้นไม่เกิด ❓ กี่คืนที่นอนไม่หลับ…กับปัญหาที่ไม่มาถึง ❓ กี่ปีที่เสียดาย…ในสิ่งที่ต่อมารู้ว่า “ดีแล้วที่พลาด” เมื่อมองย้อนกลับ… เราจะพบว่า “ความทุกข์ส่วนใหญ่” คือ การด่วนสรุปอนาคตในแง่ร้าย ทั้งที่อนาคตนั้น… ยังไม่เกิดขึ้นเลย “ทุกข์ที่ยังมาไม่ถึง” มักทำร้ายเรามากกว่า “ทุกข์ที่เกิดขึ้นจริง” แล้วทำไมเราต้องเสียเวลากับมัน? 🔎 ธรรมะมุมลึก > แม้เราไม่มีญาณหยั่งรู้ แต่เราสามารถหยั่งรู้ “ความจริงของใจตัวเอง” ได้ และความจริงนั้นก็คือ— ความกังวลล่วงหน้า ความกลัวล่วงหน้า ความเสียใจล่วงหน้า ล้วน เป็นความสูญเปล่าของชีวิต 🪷 ข้อคิดปิดท้าย ❝ เมื่อใจเริ่มทุกข์…ให้เตือนตัวเองว่า “นี่อาจเป็นความทุกข์ที่สูญเปล่าของวันพรุ่งนี้” แล้วค่อยๆ หายใจเข้า แล้วปล่อย…ความคิดที่ยังมาไม่ถึงนั้นไป ❞ 🎨 "ทุกข์ล่วงหน้า คือความสูญเปล่าที่เราเลือกเอง" – ธรรมะจากการรู้ทันความคิด –
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?
    #12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง

    สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว

    เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย

    บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย

    จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน

    นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์

    ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”

    การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง

    การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย

    ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน

    อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน

    “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ”

    แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง

    นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย

    ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น

    อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ

    ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา

    ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา

    เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย

    แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?

    คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น

    ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม?

    นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป

    โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก

    แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ

    โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้

    ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"

    โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด

    ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้

    ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ

    หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก

    แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ

    ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา

    ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง"

    คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า

    หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้

    ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย

    ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ

    การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้

    ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา

    การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น

    ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน

    การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้

    แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด

    จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง

    สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา

    การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน

    นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย

    เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน

    โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า

    กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ
    🤠#เหตุใดโจโฉจึงยืนกรานที่จะฆ่าหมอฮวาโถว(华佗)?🤠 🤠#12ปีต่อมาเขาก็พบว่าการตัดสินใจของเขาถูกต้อง🤠 สามก๊ก หรือ ซานกั๋วเหยี่ยนอี้(Romance of the Three Kingdoms三国演义)เป็นผลงานชิ้นเอกในประวัติศาสตร์วรรณกรรมจีนที่ใครๆ ก็รู้จัก หนังสือเล่มนี้มีโครงเรื่องที่ยอดเยี่ยมมากมายซึ่งชวนติดตาม ในงานนี้ ผู้เขียนไม่ได้แยกแยะระหว่างตัวเอกและตัวประกอบอย่างชัดเจน เพราะในใจของผู้อ่านที่ชื่นชอบผลงานชิ้นนี้ ตัวละครแต่ละตัวจะเปล่งประกายด้วยความเฉลียวฉลาดและเสน่ห์เฉพาะตัว เชื่อว่าหลายๆ คนคิดเหมือนกันว่าตัวละครที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งมากที่สุดคือโจโฉ(曹操) บางคนมองว่าเขาเป็นรัฐมนตรีที่ฉลาดและสามารถควบคุมสถานการณ์ในยามยากลำบากได้ ในขณะที่บางคนมองว่าเขาเป็นคนร้ายที่ทรยศและวางแผนร้าย บางทีในสายตาของโจโฉ(曹操) ความซื่อสัตย์ภักดีและการทรยศคตโกงอาจไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด สิ่งที่เขาแสวงหาคือการรวมประเทศเป็นหนึ่ง และปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการบรรลุการรวมกันเป็นหนึ่งคือความแข็งแกร่งและความสามารถ ด้วยค่านิยมที่ว่า “ผู้มีความสามารถคือประมุข” เขาจึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์มากกว่าที่จะยึดติดกับข้อจำกัดทางศีลธรรมแบบเดิมๆ สิ่งนี้ยังทำให้วิธีการทำสิ่งต่างๆ (曹操) มีความพิเศษ มีเอกลักษณ์และมักจะผสมผสาน และไม่ยึดหลักเกณฑ์ธรรมดาด้วย จากมุมมองของผู้คนในปัจจุบัน เขาสามารถถูกมองว่าเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้าและแนวคิดทางเลือกอีกแนวทางหนึ่ง หากต้องการเข้าใจความซับซ้อนของสามก๊ก(三国)อย่างแท้จริง ต้องเข้าใจความภายในใจของโจโฉ(曹操)และวิธีการจัดการกับผู้คนพร้อมกับการปฏิบัติวานของเขาเสียก่อน นอกจากนี้ บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จำนวนมากในช่วงยุคสามก๊ก(三国)มีปฏิสัมพันธ์สำคัญกับโจโฉ(曹操) และทั้งหมดนี้คนที่คลาสสิกที่สุดคือหมอฮวาโถว(华佗)ผู้โด่งดัง ดังที่เราทราบกันดีว่า ฮวาโถว(华佗)เสียชีวิตในท้ายที่สุดจากน้ำมือของโจโฉ(曹操) แต่หากเราหยุดอยู่แค่คำคร่ำครวญเรื่อง "หมอชื่อดังถูกฆ่า" เท่านั้น มันก็จะดูผิวเผินเกินไป ภูมิหลังทางประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ของตัวละครที่อยู่เบื้องหลัง มันดูจะซับซ้อนกว่าการที่จะเอาแต่แค่ระบายอารมณ์เพียงอย่างเดียว แม้จากมุมมองบางประการ การตัดสินใจเช่นนี้อาจสมเหตุสมผลในสมัยขณะนั้น เพื่อที่จะชี้แจงประวัติศาสตร์เรื่องนี้ให้ชัดเจนขึ้น จำเป็นจะต้องเริ่มต้นจากฮวาโถว(华佗) ปราชญ์ทางการแพทย์ 🥰ฮวาโถว(华佗) เป็นหนึ่งในสี่หมอผู้ยิ่งใหญ่ในจีนโบราณ ผลงานที่มีชื่อเสียงที่สุดของฮฮวาโถว(华佗)ได้แก่ การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”และนิทานปรัมปราเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”🥰 การออกกำลังกายห้าอย่างลอกเลียนท่าทางตามสัตว์ “อู๋ชินซี(Wuqinxi五禽戏)” เป็นการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่เก่าแก่ที่สุดที่คิดค้นโดยฮวาโถว(华佗)ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี ฮวาโถว(华佗)ทราบดีถึงความสำคัญของการออกกำลังกายของมนุษย์ต่อสุขภาพ และสนับสนุนให้การออกกำลังกายเป็นจังหวะและสอดประสานกัน และเน้นย้ำถึงการผสมผสานระหว่างการรับประทานอาหารที่เหมาะสมและการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง การออกกำลังกายชุดนี้จะช่วยยืดเหยียดและออกกำลังกายไหล่ คอ ท้อง หลัง และแขนขาได้อย่างเต็มที่ โดยเลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ เสือ กวาง หมี ลิง และนก ฮวาโถว(华佗)สนับสนุนให้ “เดินตามธรรมชาติ เดินตามทางแห่งสวรรค์” ซึ่งไม่เพียงป้องกันโรคได้เท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายกายและใจและเพิ่มความอยากอาหารอีกด้วย ศิษย์ของท่านอาจารย์หวู่ปู้(吴普)ยืนกรานที่จะฝึกท่าบริหารสัตว์ทั้งห้าทุกวัน และในที่สุดก็ได้มีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดี โดยมีอายุยืนยาวถึง 90 ปี คงทราบดีว่าในสมัยโบราณ เมื่ออายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 หรือ 50 ปีเท่านั้น การมีชีวิตที่ยืนยาวและมีพลังมากขนาดนี้ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่าบริหารสัตว์ทั้งห้ายังคงได้รับความนิยมตลอดหลายปีที่ผ่านมา และยังคงได้รับการเคารพและสืบทอดโดยแพทย์แผนจีนแบบดั้งเดิมหลายคน อย่างไรก็ตาม เรื่องราวของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ยังคงเป็นที่ถกเถียงกัน “ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”ที่ฮวาโถว(华佗)คิดค้นขึ้นเป็นยาชาที่รับประทานร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งสามารถทำให้คนไข้หมดสติชั่วคราว ช่วยให้ทำการผ่าตัดรักษาผู้บาดเจ็บได้ง่ายขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วยยาแผนจีนแบบดั้งเดิม วิธีนี้ถือว่ามีประสิทธิภาพมากกว่าและสามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้ และถือได้ว่าเป็นผลงานบุกเบิกของการผ่าตัดแบบจีนโบราณ อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่อง “กวนอู(关羽)ขูดกระดูกรักษาพิษ”เขาไม่ได้รับใช้“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)” ตามบันทึกทางประวัติศาสตร์ ฮวาโถว(华佗)และกวนอูกำลังดื่มเหล้าและเล่นหมากรุกเพื่อผ่อนคลายก่อนที่เขาจะกล้าขูดพิษลูกศรออกจากกระดูก หนังสือเล่มนี้บรรยายว่าใบมีดเสียดสีกับกระดูก ทำให้เกิดเสียง “เสียดสี” และเลือดออก แต่กวนอู(关羽)ไม่แสดงความกลัว ทำให้ฮวาโถว(华佗)อุทานออกมาว่า “ท่านแม่ทัพเป็นเทพเจ้าจริงๆ” แม้ว่า“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”จะไม่ได้ถูกใช้กับกวนอู(关羽) แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและกล้าหาญของเขา น่าเสียดายที่ปฏิบัติการนี้อาจเป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดของ“ผง หม่าเฟยซาน( Chinese Canna Med麻沸散)”แต่ก็ไม่เคยเกิดขึ้นจริง นอกเหนือจากทักษะทางการแพทย์แล้ว ฮวาโถว(华佗)ยังเป็นบุคคลที่มีความรู้และความสามารถอีกด้วย ในช่วงต้นยุคสามก๊ก(三国) ผู้ที่ต้องการเข้าสู่ตำแหน่งทางการมักจะอาศัยระบบการแนะนำมากกว่าระบบการสอบของจักรพรรดิในยุคหลัง ระบบการแนะนำไม่เพียงแต่ประเมินระดับความรู้การศึกษาเท่านั้น แต่ยังกำหนดให้ต้องได้รับการแนะนำจากเจ้าหน้าที่ข้าราชการที่มีฐานะหรือบุคคลที่มีคุณธรรมสูง ยิ่งตำแหน่งทางการของผู้แนะนำสูงขึ้นเท่าใด ผู้ที่ได้รับการแนะนำก็จะได้รับตำแหน่งที่สูงขึ้นตามไปด้วยเท่านั้น อย่างไรก็ตาม แพทย์ไม่ได้มีสถานะทางสังคมที่สูงส่งในสมัยนั้น ภายใต้แนวคิดดั้งเดิมที่ว่า นักวิชาการ ชาวนา พ่อค้า และช่างฝีมือ มีเพียงเจ้าหน้าที่ทางข้าราชการเท่านั้นที่ได้รับการเคารพนับถือ แพทย์ไม่ได้รับการพิจารณาให้เป็นหนึ่งในสี่ชนชั้น ได้แก่ นักวิชาการ เกษตรกร พ่อค้า และช่างฝีมือเสียด้วยซ้ำ และสถานะของพวกเขาก็คล้ายคลึงกับพ่อมดแม่มด นักแสดง และอาชีพบริการอื่นๆ ฮวาโถว(华佗)มีความขยันพรากเพียรเรียนหนักมาตั้งแต่เด็ก และมีความต้องการที่จะประกอบอาชีพข้าราชการ ครั้งหนึ่งเขาเคยทิ้งบันทึกไว้ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ว่า "แต่ก่อนข้าเป็นนักวิชาการ แต่ข้าหาเลี้ยงชีพด้วยการประกอบวิชาชีพทางการแพทย์ และข้าก็มักจะรู้สึกผิดหวังเสียใจ" นั่นหมายความว่าเขาต้องการมีอาชีพทางข้าราชการที่ราบรื่น อย่างไรก็ตาม เขาพลาดโอกาสที่จะเข้าสู่ตำแหน่งทางข้าราชการเพราะมีอาชีพทางการแพทย์ของเขา ทักษะทางการแพทย์ของเขาทำให้เขามีชื่อเสียง ผู้คนมากมายต่างเข้ามาหาเขาราวกับว่าเขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ อย่างไรก็ตาม ฮวาโถว(华佗)ยังไม่พอใจที่เจ้าหน้าที่ข้าราชการท้องถิ่นเหล่านั้นจะเป็นผู้แนะนำ โดยคิดว่าคำแนะนำเหล่านั้นจะไม่ช่วยให้เขาได้ไปสู่ตำแหน่งสูงได้ จึงละทิ้งโอกาสที่จะเป็นข้าราชการระดับล่างซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถึงกระนั้น เขาก็ยังคงปรารถนาที่จะประกอบอาชีพในสายข้าราชการ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงจิตวิทยาที่ขัดแย้งกันในสมัยโบราณที่ว่า "หมอไม่รักษาให้ตัวเอง" แม้ว่าคนๆ หนึ่งจะประสบความสำเร็จก็ตาม มันเป็นเรื่องยากที่จะหลุดพ้นจากความคิดเรื่องลำดับชั้นของสังคมศักดินา เมื่อชื่อเสียงเลื่องลือแพร่กระจายออกไปทั่ว ระดับตำแหน่งคนไข้ของฮวาโถว(华佗)ก็กลายเป็นผู้มีอำนาจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยรวมไปถึงผู้ปกครองสูงสุดอย่างโจโฉ(曹操)ด้วย 🥰แล้วฮวาโถว(华佗)ถูกโจโฉ(曹操)บังคับให้รักษาจริงหรือ? เขาเป็นคนริเริ่มสมยอมในเรื่องนี้หรือเปล่า?🥰 คำตอบอาจจะใช่ก็ได้ เพราะฮวาโถว(华佗)ก็หวังที่จะได้ทำงานในหน่วยงานรัฐบาล แต่เนื่องจากคนที่แนะนำเขามีฐานะต่ำต้อย เขาจึงหางานได้ยาก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงขยายเครือข่ายด้วยการประกอบวิชาชีพแพทย์เท่านั้น 🥰ใครจะมีพลังอำนาจมากกว่าโจโฉในเวลานี้? ถ้าเขาได้รับการชื่นชมจากโจโฉ(曹操)นั่นไม่ใช่เหมือนกับว่าเขาจะต้องโด่งดังชั่วข้ามคืนใช่ไหม? 🥰 นอกจากนี้ ฮวาโถว(华佗)ยังมั่นใจในทักษะทางการแพทย์ของตน และเชื่อว่าตนสามารถรักษาอาการปวดหัวของโจโฉ(曹操)ได้ ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยคำเชิญอย่างเป็นทางการของโจโฉ(曹操) ฮวาโถว(华佗)จึงอาสาไป โจโฉ(曹操)ต้องทนทุกข์ทรมานจากอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากการทำงานหนักในกิจการราชการและสงครามเป็นเวลานาน หลังจากที่ฮวาโถว(华佗)เดินทางมาถึง เขาได้ใช้การฝังเข็มเพื่อบรรเทาอาการป่วยลงอย่างมาก ซึ่งทำให้โจโฉ(曹操)มีความสุขมาก แต่โจโฉ(曹操)ต้องการการรักษาให้หายขาด ไม่ใช่แค่บรรเทาให้หายลงชั่วคราวเท่านั้น เมื่อได้รับคำร้องขอนี้ ฮวาโถว(华佗)ยอมรับว่าเขาสามารถใช้การฝังเข็มเพื่อชะลอโรคลงเท่านั้น ถ้าต้องการรักษาให้หายขาด จำเป็นต้องทำการผ่าตัดกระโหลกศีรษะ โจโฉ(曹操)โกรธมากเมื่อฮวาโถว(华佗)พูดเช่นนี้ การผ่าตัดกระโหลกศีรษะถือเป็นเรื่องที่พบได้ยากและอันตรายมากในสมัยนั้น และไม่มีใครกล้าลองโดยง่าย นิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操)ทำให้เขาไม่อาจยอมรับข้อเสนอของฮวาโถว(华佗)ได้ 🥰ใน "บันทึกซานกั๋วจื้อ(Records of the Three Kingdoms三国志)" ได้บันทึกไว้ในหลายตอนถึงลักษณะบุคลิกนิสัยขี้ระแวงของโจโฉ(曹操) ในช่วงแรกๆ เขาล้มเหลวในการลอบสังหารตั๋งโต๊ะ(Dong Zhuo董卓) ขณะที่กำลังหลบหนี เขาได้ฆ่า ลิแปะเฉีย หรือ ลฺหวี่โป๋เชอ (Lü Boshe呂伯奢) เพื่อนที่ดีของพ่อของเขาและครอบครัวทั้งหมดโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาอันโหดร้ายของเขาที่ว่า "ข้ายอมทรยศโลก ดีกว่าปล่อยให้โลกทรยศข้า"🥰 โจโฉ(曹操)ระมัดระวังชีวิตของตนเองอย่างมาก และถึงขั้นระแวงการกระทำอันดีงามขององครักษ์ ครั้งหนึ่งเขาเคยฆ่าองครักษ์ส่วนตัวเพราะความเข้าใจผิด ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ใครมาคุกคามความปลอดภัยของเขา และการผ่าตัดกระโหลกศีรษะเป็นเพียงภัยคุกคามในสายตาของเขาและเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ ในทางกลับกัน โจโฉ(曹操)ก็มีความสงสัยในนิสัยของฮวาโถว(华佗)เช่นกัน โดยคิดว่าเขาเป็นคนหยิ่งยโสและหลงตัวเอง และเขาอาจมีเจตนาอื่นใดที่เสนอวิธีการรักษาที่รุนแรงเช่นนี้ ดังนั้น โจโฉ(曹操)จึงเลือกการรักษาแบบประคับประคองและให้ฮวาโถว(华佗)ทำการฝังเข็มเป็นประจำเพื่อบรรเทาอาการ หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวาโถว(华佗)เห็นว่าโจโฉไม่ยอมรับการผ่าตัด และไม่มีความตั้งใจที่จะให้เขาได้รับตำแหน่งสูงๆ และเงินเดือนที่สูง จึงขอลาและกลับบ้านโดยอ้างว่าภรรยาของเขาป่วยหนัก แม้ว่าโจโฉ(曹操)จะไม่เต็มใจ แต่เขาก็ยังคงเห็นชอบ ต่อมาอาการปวดหัวของโจโฉก็กลับมาอีก เขาจึงส่งคนไปขอให้ฮัวโต่วกลับมารักษาให้อีกหลายครั้ง แต่ฮวาโถว(华佗)กลับปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดโจโฉ(曹操)ก็ส่งคนไปตรวจสอบและพบว่าภรรยาของฮวาโถว(华佗)ไม่ได้ป่วย แต่ฮวาโถว(华佗)ไม่เต็มใจที่จะกลับมา ด้วยความโกรธ โจโฉ(曹操)จึงให้ควบคุมตัวฮวาโถว(华佗)และจำคุกในข้อกล่าวหา "ไม่ให้ความเคารพอย่างยิ่ง" และ "ฝ่าฝืนคำสั่ง" คนใกล้ชิดของเขาได้แนะนำให้โจโฉ(曹操)เมตตา แต่โจโฉ(曹操)กลับมุ่งมั่นที่จะฆ่าเขา หมอผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้จึงได้เสียชีวิตลงอย่างน่าเศร้า 🥰หลังจากสังหารฮัวโตวแล้ว โจโฉเคยเสียใจบ้างไหม? อย่างไรก็ตาม อาการปวดหัวของเขาก็ยังไม่สามารถรักษาหายได้🥰 ความขี้ระแวงสงสัยและความโกรธในเรื่องทางจิตใจนั้นเลวร้ายยิ่งกว่าความเจ็บปวดทางกายเสียอีก อาจจะบางทีเมื่อความเจ็บปวดกลับมาอีกครั้ง เขาอาจจะนึกถึงฮวาโถว(华佗) แต่เขาไม่เคยนึกเสียใจเลย ในสายตาของโจโฉ(曹操) หมอเป็นเพียงเครื่องมือและคนรับใช้ ไม่คู่ควรแก่การเคารพนับถือ หากฮวาโถว(华佗)กล้าคุกคามชีวิตตนเอง มันจะเป็นความท้าทายต่ออำนาจของเขา และจะไม่มีวันได้รับการยอมรับ การฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นเพียงการแสดงอำนาจและเป็นการเตือนทุกคนว่าไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ไม่มีใครสามารถล่วงเกินเขาได้ 🥰ในเวลานั้น โจโฉ(曹操)กำลังเตรียมตัวสำหรับการรบที่เซ็กเพ็ก ผาแดง (Red Cliffs or Chib赤壁之戰) และจำเป็นต้องรักษาขวัญกำลังใจของกองทหารของเขา เสริมสร้างชื่อเสียง และสร้างศักดิ์ศรีที่ไม่สามารถละเมิดได้ของเขา🥰 การไม่ควรปล่อยให้แพทย์ควบคุมร่างกายและชีวิตของตนเองโดยเด็ดขาด ดังนั้นการฆ่าฮวาโถว(华佗)จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางจิตวิทยาที่จำเป็น ขณะที่สงครามกำลังใกล้เข้ามา โจโฉ(曹操)ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ขอให้ฆ่าฮวาโถว(华佗)อยู่เคียงข้างเพื่อรับการรักษา แม้ภายนอกจะแสดงให้เห็นว่าเขาใส่ใจสุขภาพของตนเอง แต่แท้จริงแล้ว นี่ถือเป็นการประกาศถึงความแข็งแกร่งของเขาต่อโลกภายนอกด้วยเช่นกัน การสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)เป็นการส่งสัญญาณทางอ้อมว่า "ฉันไม่กลัว" ทำให้ขวัญกำลังใจของกองทัพมั่นคงและปราบปรามศัตรูได้ แม้ว่าสุดท้ายแล้วจะพ่ายแพ้ในยุทธการที่ผาแดง (Red Cliffs 赤壁之戰)แต่ก็ถือเป็นความผิดพลาดทางยุทธวิธี และไม่มีผลต่อเสถียรภาพของสงครามจิตวิทยาแต่อย่างใด 🥰จากมุมมองทางประวัติศาสตร์ การตัดสินใจของโจโฉ(曹操)ที่จะสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)นั้นถูกต้องหรือไม่นั้นเป็นคำถามที่ควรค่าแก่การหารือถกเถียง🥰 สิบสองปีต่อมา โจผี หรือ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ได้สืบทอดบัลลังก์และสืบสานสไตล์ที่เด็ดขาดและเข้มแข็งของบิดาของเขา การกระทำของบิดาของเขาในการสังหารฆ่าฮวาโถว(华佗)แสดงให้โลกเห็นถึงการควบคุมที่แท้จริงของตระกูลเฉา(Cao曹)และสถานะการปกครองที่ไม่อาจท้าทายได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังกลายมาเป็นหลักสูตรเบื้องต้นของ เฉาพี (Cao Pi曹丕)ในหัวข้อ"ศิลปศาสตร์ของจักรพรรดิ(帝王学)" อีกด้วย เฉาพี (Cao Pi曹丕)สืบทอดเจตนารมณ์ และใช้การยับยั้งป้องปรามเพื่อปราบปราม สุมาอี้ หรือ ซือหม่าอี้(Sima Yi司马懿) เพื่อให้แน่ใจว่าการสืบทอดบัลลังก์ของตระกูลเฉา(Cao曹)จะมั่นคงและสืบสานราชวงศ์ต่อไปเป็นเวลาสามชั่วอายุคน 💓โปรดติดตามบทความที่น่าสนใจต่อไป.ในโอกาสหน้า💓 😍กราบขออภัยในความผิดพลาดและกราบขอบพระคุณของข้อชี้แนะ😍
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 696 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นายกฯพระราชทานคือทางออก.
    ..ยุควิกฤตินี้หรือนักการเมืองบัดสบในยุคนี้สุดเสื่อมเลวชั่วแล้วก็ว่า,
    ..นายกฯใหม่ที่มาจากอำนาจพระราชทานจึงสามารถกำหนดทิศทางของประเทศไทยได้ชัดเจนกว่า น่าเชื่อถือกว่า และเด็ดขาดไม่เกรงใจใครได้ด้วย ประชาชนต้องมาก่อนนั้นเอง
    ..เช่นกัน นายกฯใหม่เรา ในมุมมองการสร้างตลาดฟื้นฟูการเงินการตังการเศรษฐกิจการสัมมาชีวิตการสัมมาอาชีพใดๆต่างๆทั่วไทยจะช่วยทำให้การค้าการขายเราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ไม่ยากจากการสนับสนุนช่องทางตลาดช่องทางทำเงินหรือจัดหาตลาดกลางไร้เอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางได้จริงด้วย,ตลอดจนอำนวยสะดวกระเบียนเงื่อนไขลดต้นทุนค่าขนส่ง เพิ่มกำไรแก่ทุกๆคนไทยในรากฐานสัมมาอาชีพต่างๆนั้นด้วย,พูดเสียยาวคือนายกฯใหม่ไทยจะเป็นเป็นก่อตั้งตลาดซื้อขายออนไลน์กลางระดับชาติไทยแก่คนไทยนั้นเองบนแพลตฟอร์มที่คนไทยสร้างเองเป็นแอปของคนไทยจริงๆ นอกจากshopeeของdeep stateสิงคโปร์หรือ lazada มีdeep stateตัวแม่ทั่วโลกให้นอมินีอย่างalibaba groupเป็นเจ้าของที่เหนียวแน่นบนแผ่นดินไทยเรา ,นายกฯเราสามารถสร้างแพลตฟอร์มเราเองได้แน่นอน กระแสเงินสดมากมายทั้งภายในเราเองคนไทยหันมาใช้แอปเราเอง ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเอง ไม่มีการหักอะไร กินค่านั้นค่านี้สาระพัดอีก คนขายกำไร คนซื้อได้ของถูกมีคุณภาพจริงไม่ถูกเอาเปรียบทั้งจากคนขายและเจ้าของแอป,รัฐบาลอัดโปรโมตใดๆได้อีก กระตุ้นการซื้อขาย อัดบัตรสวัสดิการช่วยค่าครองชีพผ่านแพลตฟอร์มนี้ก็ได้ เสมือนร้านค้ากองทุนหมู่บ้านออนไลน์ทั่วไทย ร่วมกันเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มร้านค้าร้านตลาดนี้ร่วมกันอีก จะซื้อจะขายได้ทุกๆที่ทุกเวลา มีทั้งตลาดออฟไลน์มีสถานที่จริง จุดรับสินค้าส่งสินค้าฮับประจำหมู่บ้านสายออฟไลน์และออนไลน์ก็ได้ เข้าไปซื้อจริงจับจริงที่ร้านกองทุนหมู่บ้านก็ได้ สบู่ยาสีฟันยันเรือรบที่ตลาดออนไลน์ได้อีก,ขายข้ามโลกทั่วโลกก็ได้อีก โดยมีรัฐบาลอำนวยงานสร้างให้ตรวจสอบจับกุมจริงในคนไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์เพราะล็อกอินคือบัตรประชาชนตัวเป็นจริงนั้นล่ะ,ตลาดออนไลน์นี้ระดับประเทศไทยทั่วโลกรู้จักชัดเจน ขายสาระพัดได้หมด ค่าห้องพักโรงแรม ตั๋วสาระพัดตั๋ว ตั๋วบอลตั๋วเครื่องบินขายได้หมด ทุกๆภาคอุตสาหกรรม ขายซื้อขายได้หมด GtG ,GtB ,BtB,BtC,CtCผู้บริโภคเจอกับผู้บริโภคทางตรงค้าขายได้หมดบนแพลตฟอร์มของไทยเรา,ค้ำประกันโดยรัฐบาลไทยเราด้วย,นี้เราต้องสร้างหน่วยทัพทำตังจริงแบบนี้,ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี กลยุทธ นายกฯสั่งตรงทีมเฉพาะกิจพิเศษควบคุมอำนวยการได้หมด,บริหารจัดการได้หมด ลดภาวะประชาชนไม่ต้องปวดหัวอะไร ค้าขายเต็มที่สร้างรายได้สัมมาอาชีพอย่างสุจริตเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถใครมัน,และสามารถให้โอกาสคนทั่วโลกมาร่วมใช้บริการได้ฟรีๆค้าขายเสรีร่วมกันได้อีกเมื่อเราสามารถขนาดงานดาต้าควอนตัมพร้อมรับการไหลผ่านข้อมูลมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลกได้แล้ว,รายได้ของแพลตฟอร์มนายกฯใหม่ของคนไทยเราริเริ่มปฐมบทงานสร้าง ตังสะพัดกว่า50ล้านล้านเหรียญทั่วโลกจากปกติอาจอยู่ที่25-30ล้านล้านเหรียญทั่วโลกในทุกๆแพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์รวมกันก็ว่า,คนไทยเราไม่ธรรมดา แพลตฟอร์มเรามันคือโลกเสมือนจริงที่เป็นบ้านใหญ่ของคนไทยและประเทศอื่นๆที่เข้ามาโลกออนไลน์อาจติดความรู้สึกว่าบ้านตนเองคือจีนคืออเมริกาคือคนอาหรับคือคนฝรั่งคือคนผิวสี คือใดๆ แต่เมื่อเข้ามาใช้บนแพลตฟอร์มคนไทย เสมือนว่าคุณทั้งหมดคือคนไทย อยู่ประเทศไทย บ้านนี้คือบ้านคุณ บ้านนี้คือเป็นของคุณด้วยคือคุณเป็นคนไทยเช่นกันนั้นเอง,การต้อนรับมาบ้านกลับบ้านบนโลกเสมือนจริงนี้คือบ้านเราร่วมกันกันทุกๆคน ไร้การแบ่งแยกเชิงสัญลักษณ์ใดๆอีกต่อไป,มันมิใช่นัยยะแค่ตลาดออนไลน์การค้าขายแต่คือจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นชาวโลกเราได้มีพื้นที่พอยึดเหนี่ยวนั่งพักจิตพักใจพักกายนั้นเอง มีตัวตนจริงเป็นโลกเสมือนที่คนไทยเราสร้างขึ้นและจะเป็นอารยะธรรมดีงามบนโลกเสมือนจริงอีกแห่งด้วยเช่นกันแม้ไม่ใช่โลกแห่งความจริงก็ตาม รอยยิ้ม ความอิ่มอกอิ่มใจจะเหมือนว่าได้มาเยือนประเทศไทยอยู่ที่ประเทศไทยเราจริงนั้นเอง,เราไม่ได้ขายแค่วัตถุสิ่งของ แต่เราเสมอความสุขด้วยจิตวิญญาณไปด้วย,เบิกบานจิตใจยกจิตยกใจผ่านเน็ตเวิคส์นั้นเองทั่วโลก,เพราะอนาคตมาแน่นอนแว่นเรียลไทม์,และวาล์ปจริงไปโลกเสมือนนั้น ตลอดซื้อสินค้าเสร็จบนโลกเสมือน ออกมาสแกนรอรับสินค้าที่วาล์ปมาได้เลยนั้นล่ะที่จุดบริการรอรับสินค้า ขนส่งเดินรถอาจไม่มีอีกต่อไป,ท่องเที่ยวผ่านแว่นเรียล,ไปได้ทั่วจักรวาลบนโลกเสมือนจริงที่สร้างเสมือนจักรวาลที่ต้องการไปนั่นๆ,ซื้อสินค้าเสร็จจ่ายตัง กลับมาบ้าน รอรับสินค้าทันทีผ่านเครื่องพิมพ์สินค้าวาล์ปเรียลไทม์ก็ว่า,นี้จึงวิถีการบุกเบิกโคตรๆของผู้นำใหม่ประจำประเทศไทยเราจริงๆ,กากๆกระจอกอย่าเสนอตัวออกมาแดกชาติโกงกินบ้านเมืองอีกเลย,ยุคอนาคตตังติดตามเรียลไทม์การผ่านมือใครได้หมดล่ะควอนตัมบันทึกทุกกิจกรรมธุรกรรมการเงินย้อนหลังโคตรๆลบไม่ได้ด้วย,มีหนาวมีอักเสบมีดับอนาถแน่นอนในอนาคตเร็วๆนี้,กอบโกยโกงกินหมูๆหมาๆง่ายๆแบบๆเดิมๆตกยุคแน่นอน,โลกเรากำลังอัพเรเวลคัดกรองคนด้วย,จักรวาลจัดสรรนั่นล่ะ ธรรมะจักรวาลธรรมดาที่ไหน.
    ..นายกฯพระราชทานคือหนทางออกทางเดียวในจังหวะเวลานี้,ยุคใหม่ไม่ธรรมดานะ,และเรามีเวลาเหลือแค่ก่อนพ.ศ.5,000นะ นี้ก็2568แล้ว,มนุษยสมบัติเราสมควรจบที่โลกุตระสมบัติเป็นเบื้องต้น อรหันต์เป็นเบื้องกลาง นิพพานคือที่สุดก็ว่า,ผู้นำผู้ปกครองไทยเราอย่าขัดขวางอย่าเป็นมหามารมหาปีศาจมหาอสูรโคตรเลวโคตรชั่วอีกเลย อย่างน้อยคนไทยโดยมากเป็นผู้มากบุญบารมีพร้อมเลื่อนขั้นสาระพัดมากมายแน่แห่งจิตวิญญาณใครมัน,ท่านทั้งหลายอย่าแสวงหามหานรกโดยกระทำชั่วเลวแก่ผู้มากบุญบารมีประจำประเทศไทยคือประชาชนชาวไทยเลย,โสดาบันเต็มแผ่นดินนะนั้น กรรมใหญ่หลวงนักไปขัดขวางคนไทยตนเองในนามผีบ้าบ้าตำแหน่งอำนาจชื่อสมมุติว่าผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยนี้,คนไทยทั้งหลายแค่มาเสวยเศษกรรมตนนิดหน่อยๆแค่นั้นล่ะ,ประเทศไทยนี้จึงมีสิทธิ์ศักดิ์เป็นอันมากเพราะมาปกป้องเจ้านายตนเองด้วยก็ว่าก็มีที่มาเสวยกรรม บ้างก็ลงมาเล่นเพลินๆสาระพัพมุกมาเกิดบนอาณาเขตราชอาณาจักรมหาพุทธภูมินี้.
    ..ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์โคตรๆ เงินทองมากมายเต็มแผ่นดิน,วิกฤติเศรษฐกิจนี้แก้ไม่ยาก แก้ได้มากมาย นี้ก็อีกบริบทหนึ่ง,หรือไปยึดทรัพยากรมีค่ามากมายคืนมาทั้งหมดก็ได้ เอาบ่อน้ำมันคืนมาทุกๆสัมปทานก่อน จากต่างชาติจากเอกชนใดๆทั้งหมด ยึดคืนก่อนก็ได้ มาทำเองเลย ต้นทุนทุกๆมิติของไทยเราจะลดลงทันที,ขายน้ำมันก็ขายนอกประเทศในราคาตลาดโลกก็ได้แต่ขายในไทยถูกๆลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านก็สบายมาก,เศรษฐกิจไทยจะฟื้นฟูทันที บวกอัดเศรษฐกิจพอเพียงสมถะเราไปด้วย,เพียงพอพอเพียงไม่ละโมภโลภมาก ความยัางยืนรอบด้านหลากหลายมิติจะเต็มประเทศไทยเราและขยายไปทั่วโลก,โลกจะมีต่างดาวดีๆมากมายมาเยือนโลกเราและปกป้องคุ้มครองภัยศัตรูช่วยเราได้สบายๆด้วยบนจักรวาลเรานี้.
    ..ให้มันจบที่รุ่นเรา.

    https://www.tiktok.com/@amp.sarun/video/7476739522403798279

    ..นายกฯพระราชทานคือทางออก. ..ยุควิกฤตินี้หรือนักการเมืองบัดสบในยุคนี้สุดเสื่อมเลวชั่วแล้วก็ว่า, ..นายกฯใหม่ที่มาจากอำนาจพระราชทานจึงสามารถกำหนดทิศทางของประเทศไทยได้ชัดเจนกว่า น่าเชื่อถือกว่า และเด็ดขาดไม่เกรงใจใครได้ด้วย ประชาชนต้องมาก่อนนั้นเอง ..เช่นกัน นายกฯใหม่เรา ในมุมมองการสร้างตลาดฟื้นฟูการเงินการตังการเศรษฐกิจการสัมมาชีวิตการสัมมาอาชีพใดๆต่างๆทั่วไทยจะช่วยทำให้การค้าการขายเราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ไม่ยากจากการสนับสนุนช่องทางตลาดช่องทางทำเงินหรือจัดหาตลาดกลางไร้เอาเปรียบจากพ่อค้าคนกลางได้จริงด้วย,ตลอดจนอำนวยสะดวกระเบียนเงื่อนไขลดต้นทุนค่าขนส่ง เพิ่มกำไรแก่ทุกๆคนไทยในรากฐานสัมมาอาชีพต่างๆนั้นด้วย,พูดเสียยาวคือนายกฯใหม่ไทยจะเป็นเป็นก่อตั้งตลาดซื้อขายออนไลน์กลางระดับชาติไทยแก่คนไทยนั้นเองบนแพลตฟอร์มที่คนไทยสร้างเองเป็นแอปของคนไทยจริงๆ นอกจากshopeeของdeep stateสิงคโปร์หรือ lazada มีdeep stateตัวแม่ทั่วโลกให้นอมินีอย่างalibaba groupเป็นเจ้าของที่เหนียวแน่นบนแผ่นดินไทยเรา ,นายกฯเราสามารถสร้างแพลตฟอร์มเราเองได้แน่นอน กระแสเงินสดมากมายทั้งภายในเราเองคนไทยหันมาใช้แอปเราเอง ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันเอง ไม่มีการหักอะไร กินค่านั้นค่านี้สาระพัดอีก คนขายกำไร คนซื้อได้ของถูกมีคุณภาพจริงไม่ถูกเอาเปรียบทั้งจากคนขายและเจ้าของแอป,รัฐบาลอัดโปรโมตใดๆได้อีก กระตุ้นการซื้อขาย อัดบัตรสวัสดิการช่วยค่าครองชีพผ่านแพลตฟอร์มนี้ก็ได้ เสมือนร้านค้ากองทุนหมู่บ้านออนไลน์ทั่วไทย ร่วมกันเป็นเจ้าของแพลตฟอร์มร้านค้าร้านตลาดนี้ร่วมกันอีก จะซื้อจะขายได้ทุกๆที่ทุกเวลา มีทั้งตลาดออฟไลน์มีสถานที่จริง จุดรับสินค้าส่งสินค้าฮับประจำหมู่บ้านสายออฟไลน์และออนไลน์ก็ได้ เข้าไปซื้อจริงจับจริงที่ร้านกองทุนหมู่บ้านก็ได้ สบู่ยาสีฟันยันเรือรบที่ตลาดออนไลน์ได้อีก,ขายข้ามโลกทั่วโลกก็ได้อีก โดยมีรัฐบาลอำนวยงานสร้างให้ตรวจสอบจับกุมจริงในคนไม่ซื่อตรงซื่อสัตย์เพราะล็อกอินคือบัตรประชาชนตัวเป็นจริงนั้นล่ะ,ตลาดออนไลน์นี้ระดับประเทศไทยทั่วโลกรู้จักชัดเจน ขายสาระพัดได้หมด ค่าห้องพักโรงแรม ตั๋วสาระพัดตั๋ว ตั๋วบอลตั๋วเครื่องบินขายได้หมด ทุกๆภาคอุตสาหกรรม ขายซื้อขายได้หมด GtG ,GtB ,BtB,BtC,CtCผู้บริโภคเจอกับผู้บริโภคทางตรงค้าขายได้หมดบนแพลตฟอร์มของไทยเรา,ค้ำประกันโดยรัฐบาลไทยเราด้วย,นี้เราต้องสร้างหน่วยทัพทำตังจริงแบบนี้,ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธี กลยุทธ นายกฯสั่งตรงทีมเฉพาะกิจพิเศษควบคุมอำนวยการได้หมด,บริหารจัดการได้หมด ลดภาวะประชาชนไม่ต้องปวดหัวอะไร ค้าขายเต็มที่สร้างรายได้สัมมาอาชีพอย่างสุจริตเต็มกำลังสติปัญญาความสามารถใครมัน,และสามารถให้โอกาสคนทั่วโลกมาร่วมใช้บริการได้ฟรีๆค้าขายเสรีร่วมกันได้อีกเมื่อเราสามารถขนาดงานดาต้าควอนตัมพร้อมรับการไหลผ่านข้อมูลมหาศาลจากทั่วทุกมุมโลกได้แล้ว,รายได้ของแพลตฟอร์มนายกฯใหม่ของคนไทยเราริเริ่มปฐมบทงานสร้าง ตังสะพัดกว่า50ล้านล้านเหรียญทั่วโลกจากปกติอาจอยู่ที่25-30ล้านล้านเหรียญทั่วโลกในทุกๆแพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์รวมกันก็ว่า,คนไทยเราไม่ธรรมดา แพลตฟอร์มเรามันคือโลกเสมือนจริงที่เป็นบ้านใหญ่ของคนไทยและประเทศอื่นๆที่เข้ามาโลกออนไลน์อาจติดความรู้สึกว่าบ้านตนเองคือจีนคืออเมริกาคือคนอาหรับคือคนฝรั่งคือคนผิวสี คือใดๆ แต่เมื่อเข้ามาใช้บนแพลตฟอร์มคนไทย เสมือนว่าคุณทั้งหมดคือคนไทย อยู่ประเทศไทย บ้านนี้คือบ้านคุณ บ้านนี้คือเป็นของคุณด้วยคือคุณเป็นคนไทยเช่นกันนั้นเอง,การต้อนรับมาบ้านกลับบ้านบนโลกเสมือนจริงนี้คือบ้านเราร่วมกันกันทุกๆคน ไร้การแบ่งแยกเชิงสัญลักษณ์ใดๆอีกต่อไป,มันมิใช่นัยยะแค่ตลาดออนไลน์การค้าขายแต่คือจิตวิญญาณคุณค่าความเป็นชาวโลกเราได้มีพื้นที่พอยึดเหนี่ยวนั่งพักจิตพักใจพักกายนั้นเอง มีตัวตนจริงเป็นโลกเสมือนที่คนไทยเราสร้างขึ้นและจะเป็นอารยะธรรมดีงามบนโลกเสมือนจริงอีกแห่งด้วยเช่นกันแม้ไม่ใช่โลกแห่งความจริงก็ตาม รอยยิ้ม ความอิ่มอกอิ่มใจจะเหมือนว่าได้มาเยือนประเทศไทยอยู่ที่ประเทศไทยเราจริงนั้นเอง,เราไม่ได้ขายแค่วัตถุสิ่งของ แต่เราเสมอความสุขด้วยจิตวิญญาณไปด้วย,เบิกบานจิตใจยกจิตยกใจผ่านเน็ตเวิคส์นั้นเองทั่วโลก,เพราะอนาคตมาแน่นอนแว่นเรียลไทม์,และวาล์ปจริงไปโลกเสมือนนั้น ตลอดซื้อสินค้าเสร็จบนโลกเสมือน ออกมาสแกนรอรับสินค้าที่วาล์ปมาได้เลยนั้นล่ะที่จุดบริการรอรับสินค้า ขนส่งเดินรถอาจไม่มีอีกต่อไป,ท่องเที่ยวผ่านแว่นเรียล,ไปได้ทั่วจักรวาลบนโลกเสมือนจริงที่สร้างเสมือนจักรวาลที่ต้องการไปนั่นๆ,ซื้อสินค้าเสร็จจ่ายตัง กลับมาบ้าน รอรับสินค้าทันทีผ่านเครื่องพิมพ์สินค้าวาล์ปเรียลไทม์ก็ว่า,นี้จึงวิถีการบุกเบิกโคตรๆของผู้นำใหม่ประจำประเทศไทยเราจริงๆ,กากๆกระจอกอย่าเสนอตัวออกมาแดกชาติโกงกินบ้านเมืองอีกเลย,ยุคอนาคตตังติดตามเรียลไทม์การผ่านมือใครได้หมดล่ะควอนตัมบันทึกทุกกิจกรรมธุรกรรมการเงินย้อนหลังโคตรๆลบไม่ได้ด้วย,มีหนาวมีอักเสบมีดับอนาถแน่นอนในอนาคตเร็วๆนี้,กอบโกยโกงกินหมูๆหมาๆง่ายๆแบบๆเดิมๆตกยุคแน่นอน,โลกเรากำลังอัพเรเวลคัดกรองคนด้วย,จักรวาลจัดสรรนั่นล่ะ ธรรมะจักรวาลธรรมดาที่ไหน. ..นายกฯพระราชทานคือหนทางออกทางเดียวในจังหวะเวลานี้,ยุคใหม่ไม่ธรรมดานะ,และเรามีเวลาเหลือแค่ก่อนพ.ศ.5,000นะ นี้ก็2568แล้ว,มนุษยสมบัติเราสมควรจบที่โลกุตระสมบัติเป็นเบื้องต้น อรหันต์เป็นเบื้องกลาง นิพพานคือที่สุดก็ว่า,ผู้นำผู้ปกครองไทยเราอย่าขัดขวางอย่าเป็นมหามารมหาปีศาจมหาอสูรโคตรเลวโคตรชั่วอีกเลย อย่างน้อยคนไทยโดยมากเป็นผู้มากบุญบารมีพร้อมเลื่อนขั้นสาระพัดมากมายแน่แห่งจิตวิญญาณใครมัน,ท่านทั้งหลายอย่าแสวงหามหานรกโดยกระทำชั่วเลวแก่ผู้มากบุญบารมีประจำประเทศไทยคือประชาชนชาวไทยเลย,โสดาบันเต็มแผ่นดินนะนั้น กรรมใหญ่หลวงนักไปขัดขวางคนไทยตนเองในนามผีบ้าบ้าตำแหน่งอำนาจชื่อสมมุติว่าผู้นำผู้ปกครองประเทศไทยนี้,คนไทยทั้งหลายแค่มาเสวยเศษกรรมตนนิดหน่อยๆแค่นั้นล่ะ,ประเทศไทยนี้จึงมีสิทธิ์ศักดิ์เป็นอันมากเพราะมาปกป้องเจ้านายตนเองด้วยก็ว่าก็มีที่มาเสวยกรรม บ้างก็ลงมาเล่นเพลินๆสาระพัพมุกมาเกิดบนอาณาเขตราชอาณาจักรมหาพุทธภูมินี้. ..ประเทศไทยอุดมสมบูรณ์โคตรๆ เงินทองมากมายเต็มแผ่นดิน,วิกฤติเศรษฐกิจนี้แก้ไม่ยาก แก้ได้มากมาย นี้ก็อีกบริบทหนึ่ง,หรือไปยึดทรัพยากรมีค่ามากมายคืนมาทั้งหมดก็ได้ เอาบ่อน้ำมันคืนมาทุกๆสัมปทานก่อน จากต่างชาติจากเอกชนใดๆทั้งหมด ยึดคืนก่อนก็ได้ มาทำเองเลย ต้นทุนทุกๆมิติของไทยเราจะลดลงทันที,ขายน้ำมันก็ขายนอกประเทศในราคาตลาดโลกก็ได้แต่ขายในไทยถูกๆลิตรละ1-2บาทแบบอิหร่านก็สบายมาก,เศรษฐกิจไทยจะฟื้นฟูทันที บวกอัดเศรษฐกิจพอเพียงสมถะเราไปด้วย,เพียงพอพอเพียงไม่ละโมภโลภมาก ความยัางยืนรอบด้านหลากหลายมิติจะเต็มประเทศไทยเราและขยายไปทั่วโลก,โลกจะมีต่างดาวดีๆมากมายมาเยือนโลกเราและปกป้องคุ้มครองภัยศัตรูช่วยเราได้สบายๆด้วยบนจักรวาลเรานี้. ..ให้มันจบที่รุ่นเรา. https://www.tiktok.com/@amp.sarun/video/7476739522403798279
    @amp.sarun

    ขายของออนไลน์ อย่าทำที่เดียวแพลทฟอร์มเดียว ทำทุกที่ ดีทุกทาง กการตลาดการเตลิดก#การตลาดวันละคลิปสสอนการตลาดออนไลน์สสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์สสร้างตัวตนบนtiktokคครูแอ๊มการตลาดการเตลิดttiktokสายความรู้คครูลูกแอ๊มสสร้างแบรนด์bbrandingแแบรนด์ดิ้งกการตลาดออนไลน์กกลยุทธ์การตลาดสสร้างแบรนด์กการตลาดคอนเทนต์ธธุรกิจออนไลน์ดดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งddigitalmarketingก#การตลาดTikTokT#TikTokMarketing

    ♬ เสียงต้นฉบับ - การตลาดการเตลิด - การตลาดการเตลิด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 650 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยแลนด์ลุ้นหนัก เตรียมรับแรงกระแทก มาตรการภาษีสหรัฐ
    .
    สถานการณ์ของประเทศไทยตอนนี้ นอกจากต้องมาปวดหัวกับประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นเพื่อนที่ดีอย่างกัมพูชาแล้ว ปรากฎว่าปัญหาเรื่องการกำหนดมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกาก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลไทยยังแก้ไม่ตกเช่นกัน ภายหลังแม้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจามาตรกรทางภาษีของสหรัฐอเมริกาด้วยตัวเอง แต่กลับยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ขณะที่ ผู้นำสหรัฐเตรียมส่งจดหมายให้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐเตรียมรับแรงกระแทกในวันจันทร์นี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000063551

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ไทยแลนด์ลุ้นหนัก เตรียมรับแรงกระแทก มาตรการภาษีสหรัฐ . สถานการณ์ของประเทศไทยตอนนี้ นอกจากต้องมาปวดหัวกับประเทศเพื่อนบ้านที่ไม่เป็นเพื่อนที่ดีอย่างกัมพูชาแล้ว ปรากฎว่าปัญหาเรื่องการกำหนดมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกาก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่รัฐบาลไทยยังแก้ไม่ตกเช่นกัน ภายหลังแม้นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อเจรจามาตรกรทางภาษีของสหรัฐอเมริกาด้วยตัวเอง แต่กลับยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ขณะที่ ผู้นำสหรัฐเตรียมส่งจดหมายให้ประเทศคู่ค้าของสหรัฐเตรียมรับแรงกระแทกในวันจันทร์นี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000063551 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1369 มุมมอง 0 รีวิว
  • Vivaldi นั้นขึ้นชื่อเรื่อง “การให้ผู้ใช้ควบคุมหน้าตา–ฟีเจอร์ได้ละเอียดสุดในโลกเบราว์เซอร์” และในเวอร์ชัน 7.5 นี้ ก็เน้นการปรับปรุงจากเสียงเรียกร้องของผู้ใช้จริง

    ไฮไลต์ของรอบนี้คือ:
    - Colorful Tab Stacks: ปกติการรวมแท็บในกลุ่มจะช่วยลดความรก แต่ตอนนี้เราสามารถใส่สีให้แต่ละกลุ่มได้ด้วย — ยิ่งถ้าคุณเปิดแท็บสิบยี่สิบเว็บพร้อมกัน (แบบผมเวลาเปิดหาข่าวให้คุณนี่แหละ ) สีจะช่วยให้ตาเราจับกลุ่มได้ง่ายขึ้น → คลิกขวาที่ Stack → Edit Stack → ตั้งชื่อ + สีเองได้เลย
    - Tab Context Menu ที่ปรับใหม่: เมนูคลิกขวาที่แท็บตอนนี้อ่านง่ายขึ้น จัดระเบียบใหม่ → ไม่ต้องไล่หาเมนูเล็ก ๆ ให้ปวดหัว

    นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงเบื้องหลังอีกหลายจุด เช่น:
    - รองรับ DNS over HTTPS แบบกำหนดเอง เพื่อความเป็นส่วนตัว
    - ปรับ UI ของ Settings, แถบ Quick Command, และการลากวาง bookmarks
    - ปรับปรุงระบบ Email, Calendar, Dashboard, Ad blocker ฯลฯ ให้ลื่นขึ้น

    https://www.neowin.net/news/vivaldi-75-is-out-with-colorful-tab-stacks-improved-tab-menu-and-more/
    Vivaldi นั้นขึ้นชื่อเรื่อง “การให้ผู้ใช้ควบคุมหน้าตา–ฟีเจอร์ได้ละเอียดสุดในโลกเบราว์เซอร์” และในเวอร์ชัน 7.5 นี้ ก็เน้นการปรับปรุงจากเสียงเรียกร้องของผู้ใช้จริง ไฮไลต์ของรอบนี้คือ: - Colorful Tab Stacks: ปกติการรวมแท็บในกลุ่มจะช่วยลดความรก แต่ตอนนี้เราสามารถใส่สีให้แต่ละกลุ่มได้ด้วย — ยิ่งถ้าคุณเปิดแท็บสิบยี่สิบเว็บพร้อมกัน (แบบผมเวลาเปิดหาข่าวให้คุณนี่แหละ 😆) สีจะช่วยให้ตาเราจับกลุ่มได้ง่ายขึ้น → คลิกขวาที่ Stack → Edit Stack → ตั้งชื่อ + สีเองได้เลย - Tab Context Menu ที่ปรับใหม่: เมนูคลิกขวาที่แท็บตอนนี้อ่านง่ายขึ้น จัดระเบียบใหม่ → ไม่ต้องไล่หาเมนูเล็ก ๆ ให้ปวดหัว นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงเบื้องหลังอีกหลายจุด เช่น: - รองรับ DNS over HTTPS แบบกำหนดเอง เพื่อความเป็นส่วนตัว - ปรับ UI ของ Settings, แถบ Quick Command, และการลากวาง bookmarks - ปรับปรุงระบบ Email, Calendar, Dashboard, Ad blocker ฯลฯ ให้ลื่นขึ้น https://www.neowin.net/news/vivaldi-75-is-out-with-colorful-tab-stacks-improved-tab-menu-and-more/
    WWW.NEOWIN.NET
    Vivaldi 7.5 is out with colorful tab stacks, improved tab menu, and more
    Vivaldi has been updated to version 7.5 with some much-requested features, privacy improvements, and plenty of fixes.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดิมทีเรามักคิดว่า “ดาต้าเซ็นเตอร์ = อาหารของ AI = โรงไฟฟ้าขนาดย่อม” เพราะมันกินไฟมหาศาล โดยเฉพาะเมื่อ AI ต้องเรนเดอร์และประมวลผลแบบ real-time — นี่แหละครับคือปัญหาที่โลกกำลังปวดหัวอยู่

    แต่ Crusoe ไม่รอให้ปัญหาขยาย พวกเขาร่วมมือกับ Redwood Materials (บริษัทที่ก่อตั้งโดย JB Straubel — ผู้ร่วมก่อตั้ง Tesla) เพื่อแก้ปัญหาให้ครบวงจร:
    - ใช้แบตเตอรี่จากรถ EV เก่าที่ยังเหลือความจุ ~50% มารวมเป็นระบบแบตสำรองขนาดยักษ์
    - ผสานเข้ากับแผงโซลาร์เซลล์ สร้างเป็น microgrid ขนาด 12 เมกะวัตต์ + ความจุไฟ 63 MWh
    - ใช้เวลาสร้างแค่ 4 เดือนเท่านั้น — ไวกว่าสร้างโรงไฟฟ้าหรือเดินสายส่งหลายปี!
    - ปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลที่รันด้วยแบตพวกนี้ ใช้ GPU กว่า 2,000 ตัว สำหรับงาน AI โดยไม่แตะไฟจากสายส่งเลย

    และที่เจ๋งคือ เมื่อแบตหมดอายุลงไปอีก…ก็ส่งกลับไปรีไซเคิลเพื่อดึงแร่ลิเธียม โคบอลต์ นิกเกิล กลับเข้าสายพานการผลิตอีก — ครบลูปแบบ zero-waste!

    Redwood Materials นำแบตรถ EV เก่าที่มีประจุเหลือเกินครึ่ง มาทำเป็นระบบกักเก็บพลังงานแบบอยู่กับที่  
    • ช่วยให้ไม่ต้องรีไซเคิลทันที  
    • ต่ออายุการใช้งานก่อนนำไปสกัดแร่กลับมาหมุนเวียน

    Crusoe ใช้ microgrid ที่ประกอบด้วยแบต EV มือสอง + พลังแสงอาทิตย์ รันศูนย์ข้อมูล AI เต็มรูปแบบ  
    • ให้พลังงาน 12 เมกะวัตต์ เก็บได้ 63 MWh  
    • ใหญ่สุดในอเมริกาเหนือในด้านแบตรีไซเคิล  
    • ใช้ GPU 2,000 ตัวประมวลผล AI โดยไม่พึ่งกริดกลาง

    ระบบ microgrid ใช้งานแบตในลักษณะ “ไม่เร่ง” มากเท่ารถ EV  
    • แบต EV ต้องรับแรงเร่ง–ชาร์จเร็ว แต่ศูนย์ข้อมูล discharge ช้า → แบตอยู่ได้นาน  
    • ต้นทุนถูกกว่าซื้อแบตใหม่ครึ่งหนึ่ง

    Redwood มีเครือข่ายเก็บแบตใช้แล้วจากทั่วอเมริกาเหนือ (มากกว่า 70%)  
    • ประเมินว่าบรรดาแบต EV มือสองเหล่านี้อาจกลายเป็น 50% ของตลาดแบตสำรองในอนาคต

    เมื่อแบตหมดอายุลงอีกครั้ง → นำไปรีไซเคิลเพื่อคืนแร่หายากกลับสู่อุตสาหกรรม

    โครงการนี้เกิดขึ้นภายใน 4 เดือน เร็วกว่าโครงการพลังงานทั่วไปหลายเท่า

    https://www.techspot.com/news/108487-data-center-nevada-runs-solar-power-reused-ev.html
    เดิมทีเรามักคิดว่า “ดาต้าเซ็นเตอร์ = อาหารของ AI = โรงไฟฟ้าขนาดย่อม” เพราะมันกินไฟมหาศาล โดยเฉพาะเมื่อ AI ต้องเรนเดอร์และประมวลผลแบบ real-time — นี่แหละครับคือปัญหาที่โลกกำลังปวดหัวอยู่ แต่ Crusoe ไม่รอให้ปัญหาขยาย พวกเขาร่วมมือกับ Redwood Materials (บริษัทที่ก่อตั้งโดย JB Straubel — ผู้ร่วมก่อตั้ง Tesla) เพื่อแก้ปัญหาให้ครบวงจร: - ใช้แบตเตอรี่จากรถ EV เก่าที่ยังเหลือความจุ ~50% มารวมเป็นระบบแบตสำรองขนาดยักษ์ - ผสานเข้ากับแผงโซลาร์เซลล์ สร้างเป็น microgrid ขนาด 12 เมกะวัตต์ + ความจุไฟ 63 MWh - ใช้เวลาสร้างแค่ 4 เดือนเท่านั้น — ไวกว่าสร้างโรงไฟฟ้าหรือเดินสายส่งหลายปี! - ปัจจุบัน ศูนย์ข้อมูลที่รันด้วยแบตพวกนี้ ใช้ GPU กว่า 2,000 ตัว สำหรับงาน AI โดยไม่แตะไฟจากสายส่งเลย และที่เจ๋งคือ เมื่อแบตหมดอายุลงไปอีก…ก็ส่งกลับไปรีไซเคิลเพื่อดึงแร่ลิเธียม โคบอลต์ นิกเกิล กลับเข้าสายพานการผลิตอีก — ครบลูปแบบ zero-waste! ✅ Redwood Materials นำแบตรถ EV เก่าที่มีประจุเหลือเกินครึ่ง มาทำเป็นระบบกักเก็บพลังงานแบบอยู่กับที่   • ช่วยให้ไม่ต้องรีไซเคิลทันที   • ต่ออายุการใช้งานก่อนนำไปสกัดแร่กลับมาหมุนเวียน ✅ Crusoe ใช้ microgrid ที่ประกอบด้วยแบต EV มือสอง + พลังแสงอาทิตย์ รันศูนย์ข้อมูล AI เต็มรูปแบบ   • ให้พลังงาน 12 เมกะวัตต์ เก็บได้ 63 MWh   • ใหญ่สุดในอเมริกาเหนือในด้านแบตรีไซเคิล   • ใช้ GPU 2,000 ตัวประมวลผล AI โดยไม่พึ่งกริดกลาง ✅ ระบบ microgrid ใช้งานแบตในลักษณะ “ไม่เร่ง” มากเท่ารถ EV   • แบต EV ต้องรับแรงเร่ง–ชาร์จเร็ว แต่ศูนย์ข้อมูล discharge ช้า → แบตอยู่ได้นาน   • ต้นทุนถูกกว่าซื้อแบตใหม่ครึ่งหนึ่ง ✅ Redwood มีเครือข่ายเก็บแบตใช้แล้วจากทั่วอเมริกาเหนือ (มากกว่า 70%)   • ประเมินว่าบรรดาแบต EV มือสองเหล่านี้อาจกลายเป็น 50% ของตลาดแบตสำรองในอนาคต ✅ เมื่อแบตหมดอายุลงอีกครั้ง → นำไปรีไซเคิลเพื่อคืนแร่หายากกลับสู่อุตสาหกรรม ✅ โครงการนี้เกิดขึ้นภายใน 4 เดือน เร็วกว่าโครงการพลังงานทั่วไปหลายเท่า https://www.techspot.com/news/108487-data-center-nevada-runs-solar-power-reused-ev.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    This data center in Nevada runs on solar power and reused EV batteries in groundbreaking project
    Redwood Energy, a Redwood Materials venture, aims to change how people use lithium-ion batteries. Instead of sending batteries from electric vehicles straight to recycling, the company gives...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • จะวันศุกร์แล้ว! ปาตี้กำลังมันส์… อยู่ดีๆ ระบบดับ!?
    อย่าเพิ่งช็อก!
    เราดูแลให้ได้ ด้วยบริการ MA & IT Support 24/7
    จะระบบล่ม ไฟล์หาย เครื่องพัง หรือเซิร์ฟเวอร์งอแง — เรียกเราได้ตลอด!
    Thinkable Innovation
    ครบทุกเรื่อง IT ที่คุณไม่อยากปวดหัวเอง
    #ศุกร์แห่งความพัง
    #เราอยู่ข้างระบบของคุณ
    #MAมันส์ๆไม่มีพัง
    🎉 จะวันศุกร์แล้ว! ปาตี้กำลังมันส์… อยู่ดีๆ ระบบดับ!? อย่าเพิ่งช็อก! เราดูแลให้ได้ ด้วยบริการ MA & IT Support 24/7 จะระบบล่ม ไฟล์หาย เครื่องพัง หรือเซิร์ฟเวอร์งอแง — เรียกเราได้ตลอด! 🔧 Thinkable Innovation ครบทุกเรื่อง IT ที่คุณไม่อยากปวดหัวเอง #ศุกร์แห่งความพัง #เราอยู่ข้างระบบของคุณ #MAมันส์ๆไม่มีพัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าใครเคยอยากเล่น Mario Kart 64 บนพีซีให้ภาพลื่น ๆ ปรับแต่งได้เต็มที่ โดยไม่ต้องใช้ emulator ที่ปวดหัวกับ input lag หรือบั๊กแปลก ๆ — ตอนนี้ฝันเป็นจริงแล้วครับ!

    ทีม Harbour Masters ที่เคยแฮก Zelda: Ocarina of Time และ Star Fox 64 มาแล้ว ได้ทำการ decompile โค้ดต้นฉบับของ Mario Kart 64 และ compile ใหม่เป็นแอปเนทีฟบน Windows, Linux และแม้แต่ Nintendo Switch

    ตัวเกมชื่อ “SpaghettiKart” (น่าจะล้อกับโค้ดแบบ spaghetti ที่ Nintendo เขียนไว้ในยุค 90) — ผู้เล่นต้องมี ROM แท้ของตัวเกม แล้วใช้เครื่องมือชื่อว่า Spaghettify.exe แปลงไฟล์ให้พร้อมเล่น

    ตัวเกมรองรับ:
    - DirectX 11 (Windows), Metal (macOS), และ OpenGL (Linux)
    - Custom Mods และทรัพยากรกราฟิกปรับแต่งเองได้
    - การ import track เอง (แม้จะยังไม่สมบูรณ์)
    - Cross-platform บางส่วน (ลองรันบน Switch ได้ด้วย!)

    แต่อย่าลืมว่า SpaghettiKart ยังอยู่ในช่วงพัฒนา บางเครื่องอาจเจอ crash ได้บ้างนาน ๆ ทีครับ

    https://www.techspot.com/news/108419-mario-kart-64-races-onto-pc-native-form.html
    ถ้าใครเคยอยากเล่น Mario Kart 64 บนพีซีให้ภาพลื่น ๆ ปรับแต่งได้เต็มที่ โดยไม่ต้องใช้ emulator ที่ปวดหัวกับ input lag หรือบั๊กแปลก ๆ — ตอนนี้ฝันเป็นจริงแล้วครับ! ทีม Harbour Masters ที่เคยแฮก Zelda: Ocarina of Time และ Star Fox 64 มาแล้ว ได้ทำการ decompile โค้ดต้นฉบับของ Mario Kart 64 และ compile ใหม่เป็นแอปเนทีฟบน Windows, Linux และแม้แต่ Nintendo Switch ตัวเกมชื่อ “SpaghettiKart” (น่าจะล้อกับโค้ดแบบ spaghetti ที่ Nintendo เขียนไว้ในยุค 90) — ผู้เล่นต้องมี ROM แท้ของตัวเกม แล้วใช้เครื่องมือชื่อว่า Spaghettify.exe แปลงไฟล์ให้พร้อมเล่น ตัวเกมรองรับ: - DirectX 11 (Windows), Metal (macOS), และ OpenGL (Linux) - Custom Mods และทรัพยากรกราฟิกปรับแต่งเองได้ - การ import track เอง (แม้จะยังไม่สมบูรณ์) - Cross-platform บางส่วน (ลองรันบน Switch ได้ด้วย!) แต่อย่าลืมว่า SpaghettiKart ยังอยู่ในช่วงพัฒนา บางเครื่องอาจเจอ crash ได้บ้างนาน ๆ ทีครับ https://www.techspot.com/news/108419-mario-kart-64-races-onto-pc-native-form.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Mario Kart 64 races onto PC with unofficial port, no emulation necessary
    The Harbour Masters collective has once again achieved the impossible. The team of developers that brought The Legend of Zelda: Ocarina of Time and Star Fox 64...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • สาย Linux อาจเคยปวดหัวกับการลงระบบเอง ปรับไดรเวอร์ให้ตรงโน่นนี่นั่นใช่ไหมครับ? แต่ Tuxedo เค้าแก้ตรงนั้นให้เลย — เพราะโน้ตบุ๊กรุ่นนี้มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Tuxedo OS (Linux) ที่ปรับแต่งมาเรียบร้อย ใช้งานได้ทันทีแบบไร้ปัญหา

    สเปกก็ไม่ธรรมดา: ใช้ซีพียู Ryzen AI 300 เลือกได้ตั้งแต่ Ryzen AI 7 350, Ryzen AI 9 365 ไปจนถึงตัวท็อป Ryzen AI 9 HX 370 ที่ให้ 12 คอร์ 24 เธรด, พร้อมหน้าจอ 14 นิ้ว ความละเอียด 3K, ความสว่างสูงถึง 500 nits ตัวเครื่องใช้อลูมิเนียมน้ำหนักเบาแค่ 1.45 กก. แต่ใส่แบตมาให้ 80Wh ใช้งานเว็บได้ถึง 9 ชั่วโมง!

    ความเจ๋งคือมี RAM และ SSD แบบอัปเกรดได้ทั้งคู่ (dual-slot), พอร์ตเชื่อมต่อมีครบทั้ง USB4, HDMI 2.1 และแม้แต่ Ethernet ก็มีให้ด้วย

    แต่…ราคานี่สิครับ — รุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ €1,000++ (ประมาณ 42,000 บาท) สำหรับรุ่น Ryzen 7 + RAM 16GB + SSD 500GB ซึ่งแพงกว่าพีซีสเปกใกล้กันบน Windows เยอะมาก แถมถ้าซื้อในยุโรป ราคายังสูงขึ้นอีก

    แม้จะเป็น Linux สายพันธุ์แท้ แต่หลายคนอาจเลือก ซื้อโน้ตบุ๊ก Windows ราคาย่อมเยากว่า แล้วลง Linux เอง ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยครับ

    Tuxedo เปิดตัว InfinityBook Pro 14 Gen10 โน้ตบุ๊ก Linux ตัวแรง ใช้ชิป Ryzen AI 300 รุ่นล่าสุด  
    • เลือกได้ตั้งแต่ Ryzen AI 7 350, AI 9 365 ถึง AI 9 HX 370 (12 คอร์)  
    • ประสิทธิภาพสูงกว่า Gen9 ถึง 40%

    หน้าจอ 14” ความละเอียด 3K, สว่าง 500 nits, ตัวเครื่องบางเบาแค่ 1.45 กก.  
    • ทำจากอลูมิเนียม พร้อมแบต 80Wh ใช้งานเว็บได้นาน 9 ชั่วโมง

    อัดแน่นด้วยพอร์ต: USB4, HDMI 2.1, LAN, รองรับอัปเกรด RAM และ SSD สองช่อง

    ระบบปฏิบัติการเป็น Tuxedo OS (Linux) ที่ปรับแต่งมาเฉพาะ พร้อมใช้งานทันที  
    • ทดสอบไดรเวอร์และระบบเรียบร้อยจากโรงงาน

    แม้จะแพง แต่ก็ถือเป็น Linux laptop ที่ “คลีนที่สุด” สำหรับ power user สายเปิดโอเพ่นซอร์ส

    https://www.techradar.com/pro/this-is-probably-the-fastest-linux-laptop-you-can-buy-right-now-but-while-i-love-the-open-source-creds-its-far-too-expensive-compared-to-the-competition
    สาย Linux อาจเคยปวดหัวกับการลงระบบเอง ปรับไดรเวอร์ให้ตรงโน่นนี่นั่นใช่ไหมครับ? แต่ Tuxedo เค้าแก้ตรงนั้นให้เลย — เพราะโน้ตบุ๊กรุ่นนี้มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Tuxedo OS (Linux) ที่ปรับแต่งมาเรียบร้อย ใช้งานได้ทันทีแบบไร้ปัญหา สเปกก็ไม่ธรรมดา: ใช้ซีพียู Ryzen AI 300 เลือกได้ตั้งแต่ Ryzen AI 7 350, Ryzen AI 9 365 ไปจนถึงตัวท็อป Ryzen AI 9 HX 370 ที่ให้ 12 คอร์ 24 เธรด, พร้อมหน้าจอ 14 นิ้ว ความละเอียด 3K, ความสว่างสูงถึง 500 nits ตัวเครื่องใช้อลูมิเนียมน้ำหนักเบาแค่ 1.45 กก. แต่ใส่แบตมาให้ 80Wh ใช้งานเว็บได้ถึง 9 ชั่วโมง! ความเจ๋งคือมี RAM และ SSD แบบอัปเกรดได้ทั้งคู่ (dual-slot), พอร์ตเชื่อมต่อมีครบทั้ง USB4, HDMI 2.1 และแม้แต่ Ethernet ก็มีให้ด้วย แต่…ราคานี่สิครับ — รุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ €1,000++ (ประมาณ 42,000 บาท) สำหรับรุ่น Ryzen 7 + RAM 16GB + SSD 500GB ซึ่งแพงกว่าพีซีสเปกใกล้กันบน Windows เยอะมาก แถมถ้าซื้อในยุโรป ราคายังสูงขึ้นอีก แม้จะเป็น Linux สายพันธุ์แท้ แต่หลายคนอาจเลือก ซื้อโน้ตบุ๊ก Windows ราคาย่อมเยากว่า แล้วลง Linux เอง ก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยครับ ✅ Tuxedo เปิดตัว InfinityBook Pro 14 Gen10 โน้ตบุ๊ก Linux ตัวแรง ใช้ชิป Ryzen AI 300 รุ่นล่าสุด   • เลือกได้ตั้งแต่ Ryzen AI 7 350, AI 9 365 ถึง AI 9 HX 370 (12 คอร์)   • ประสิทธิภาพสูงกว่า Gen9 ถึง 40% ✅ หน้าจอ 14” ความละเอียด 3K, สว่าง 500 nits, ตัวเครื่องบางเบาแค่ 1.45 กก.   • ทำจากอลูมิเนียม พร้อมแบต 80Wh ใช้งานเว็บได้นาน 9 ชั่วโมง ✅ อัดแน่นด้วยพอร์ต: USB4, HDMI 2.1, LAN, รองรับอัปเกรด RAM และ SSD สองช่อง ✅ ระบบปฏิบัติการเป็น Tuxedo OS (Linux) ที่ปรับแต่งมาเฉพาะ พร้อมใช้งานทันที   • ทดสอบไดรเวอร์และระบบเรียบร้อยจากโรงงาน ✅ แม้จะแพง แต่ก็ถือเป็น Linux laptop ที่ “คลีนที่สุด” สำหรับ power user สายเปิดโอเพ่นซอร์ส https://www.techradar.com/pro/this-is-probably-the-fastest-linux-laptop-you-can-buy-right-now-but-while-i-love-the-open-source-creds-its-far-too-expensive-compared-to-the-competition
    WWW.TECHRADAR.COM
    Tuxedo InfinityBook Pro 14 Gen10 ships with Linux but pricing may deter many buyers
    Tuxedo’s InfinityBook Pro 14 Gen10 is powered by AMD’s new Ryzen AI 300 series processors
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 307 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ส่วนตัว ทหารพระราชายึดอำนาจเถอะ,มีอะไรมากมายต้องเร่งดำเนินการด้วยกฎอัยการศึกพิเศษ,เช่นในมุมอธิปไตยชาติไทยมากมายหรือการฟื้นฟูเศรษฐตังเศรษฐเงินทำมาหาเลี้ยงชีพสัมมาอาชีพของประชาชน,หรือมิติมุมการเยี่ยวยาดูแลสุขภาพคนไทยภายในประเทศมากกว่าคนต่างชาติต่างด้าวในประเทศและสมควรผลักดันกลับประเทศมันเองทั้งหมดเหลือแต่คนไทยสัญชาติไทยจริงๆ,มิติต่างชาติต่างด้าวคือภัยคุกคามอธิปไตยประชาชนคนไทยอีกกรณีหนึ่ง,เมื่อระบบสัมมาชีวิตแบบวิถีล้ำๆยังไม่เกิดเราคตไทยก็จัดการปัจจุบันกันก่อน,สุขภาพคนไทยอันดับแรกต้องหาเหตุการไม่สบายจริงก่อนจากปกติไม่เคยเป็นแบบนี้จนรับวัคซีนโควิดกันหมดบ้านหมดเมืองโรคผีบ้าต่างๆจึงอุบัติขึ้นแปลกๆจำนวนมาก,ต่างชาติต่างด้าวอพยพมาไทยจะค้าแรงงานหรือใดๆก็ตามพวกนี้คือตัวนำพาโรคแปลกๆมาได้จึงอย่ารับต่างชาติต่างด้าวเข้ามาในไทยอีกทุกๆกรณี,เพราะคนไทยฉีดวัคซีนโควิดmRNAเกือบหมดทั้งประเทศในรัฐบาลทหารdeep state ยึดอำนาจ,ภูมิคุ้มกันธรรมชาติตนเองแต่ละคนจึงถูกทำลายลงตลอดเวลาจนสิ้นชีพตัวคุ้มกัน,โรคผีบ้าปัญญาอ่อนกากกระจอกๆน้อยนิดในอดีตร่างกายนั้นต่อต้านได้สบาย,แต่ปัจจุบันภูมิคุ้มกันตนถูกทำลายลง เมื่อเจอหรือติดเชื้อโรคกากๆกระจอกๆแบบเดิมๆนั้นก็ไม่สามารถต้านทานต่อต้านอะไรปกติๆแบบเดิมๆครั้งก่อนๆได้เลย,คนไทยบ้านชาวบ้านตอนนี้ทยอยตายลงไปเรื่อยๆมากขึ้นแล้ว,ลูกเป็นเด็กกำพร้ามากขึ้นอยู่กับตายายปู่ย่า,พ่อแม่สูญเสียลูกหลานก็มากขึ้นด้วย ยิ่งเจ็บป่วยอักเสบไม่สบายของร่างกายเป็นไข้ปวดหัวตัวร้อนเป็นบ่อยขึ้นลาโรงเรียนเยอะแยะมากขึ้นเป็นอันมาก,หลายเคสหลายคนแล้วกินดื่มอะไรก็เป็นพิษเป็นแพ้ ไม่สบายร่างกายสาระพัดพร้อมตุยได้หลายลักษณะนั้นเอง,ตายายปู่ย่าตุยจากลูกหลานอีก,เป็นเด็กกำพร้าเต็มสูบเลย,แต่ด้วยรัฐบาลไร้คุณสมบัติขาดภาวะการเป็นผู้นำไปแล้วจึงเสี่ยงสูงที่จะมีมาตราการรับมือจริงจังช่วยเหลทอเยียวยาดูแลคนที่อยู่ที่กำพร้าในหลายลักษณะของคนไทยจริงจังแบบใด,นี้คืองานช้างที่จะเกิดขึ้นแน่นอน,จะรอจับค้าหมวกกันน็อค2,000บาทมาเยียวยาก็ใช่ทีรับมือ,และต้นเหตุความจริงของโรคตัวก่อโรคก็ต้องจริงใจบอกความจริงแก่ประชาชนด้วยประกาศอย่างเป็นทางการว่ารัฐบาลผีบ้านั้นกระทำผิดต่อประชาชนและยุคล่าสุดที่ละเลยละเมิดไม่สนใจในชีวิตประชาชนที่ความจริงอ่านคาดเห็นผลชัดเจนแน่นอนว่าชาวบ้านประชาชนคนไทยต้องเสียสุขภาพเสื่อมสุขภาพเจ็บป่วยต่อร่างกายอักเสบในสุขภาพบาดเจ็บในร่างกายสุขภาพและกระทั่งเสียชีวิตในที่สุดแน่นอน,ซึ่งสามารถเตรียมรับมือช่วยเหลือเยียวยาประชาชนทันเวลาขับพิษออกเท่าที่สามารถขับได้ให้ดีที่สุด,มิให้เสียชีวิตก่อนเทคโนโลยีผีบ้าล้ำๆมาช่วยเหลือคนไทยทันก่อนตายอีกช่องตัวช่วยเหลือก็ว่าที่มโนว่าอาจมานั้นเอง.
    ..นายกฯจากทหารยึดอำนาจจึงสำคัญมาก,สั่งการอะไรๆตัดสินใจเด็ดขาดรวดเร็วไม่เป็นภัยต่อชาติไทยบ้านเมืองตนและประชาชนแน่นอนนั้นเอง,ถ้าแบบปัจจุบันก็เห็นแล้วว่าเหี้ย จะแบ่งผลประโยชน์บ่อน้ำมันอ่าวไทยคนละครึ่งตามที่เป็นข่าวจนถูกคนไทยกดดันให้ถอยโน้น,พื้นที่เขตแดนดินประเทศไทยแท้ๆเสือกยังจะยอมให้เขมรมาแย่งชิงอย่างง่ายๆแบบหน้าด้านๆอีก,ทหารไทยส้นตีนหากคิดไม่ได้จะยึดอำนาจมันมั้ยก็ให้สิ้นชาติไทยไปเถอะสิ้นสถาบันสามเสาหลักไปเลยให้สมสมองมี่คิดอ่านความเป็นจริงแท้ไม่ได้,จิตสำนึกพื้นฐานหรือพื้นๆก็ว่า,ให้มันจบที่รุ่นนี้ล่ะ จบแบบพังพินาศสิ้นชาติไทยก็เอาเลย,เสียดายอำนาจตำแหน่งทางระบบปกครองหรือทางราชการเพื่อรักษาไว้ซึ่งบ้านเมืองจริงๆ,รัฐบาลที่มาจากนักการเมืองเลวชั่วเป็นเดอะแก๊งชั่วเลวจะเก็บไว้ทำซากอะไร,ขึ้นหิงบูชาเป็นกษัตริย์ยุคต่อไปเหรอ.

    ..
    ..https://youtube.com/shorts/Z2H-Kkr_mc0?si=gCwymuajzLdWsq29
    ..ส่วนตัว ทหารพระราชายึดอำนาจเถอะ,มีอะไรมากมายต้องเร่งดำเนินการด้วยกฎอัยการศึกพิเศษ,เช่นในมุมอธิปไตยชาติไทยมากมายหรือการฟื้นฟูเศรษฐตังเศรษฐเงินทำมาหาเลี้ยงชีพสัมมาอาชีพของประชาชน,หรือมิติมุมการเยี่ยวยาดูแลสุขภาพคนไทยภายในประเทศมากกว่าคนต่างชาติต่างด้าวในประเทศและสมควรผลักดันกลับประเทศมันเองทั้งหมดเหลือแต่คนไทยสัญชาติไทยจริงๆ,มิติต่างชาติต่างด้าวคือภัยคุกคามอธิปไตยประชาชนคนไทยอีกกรณีหนึ่ง,เมื่อระบบสัมมาชีวิตแบบวิถีล้ำๆยังไม่เกิดเราคตไทยก็จัดการปัจจุบันกันก่อน,สุขภาพคนไทยอันดับแรกต้องหาเหตุการไม่สบายจริงก่อนจากปกติไม่เคยเป็นแบบนี้จนรับวัคซีนโควิดกันหมดบ้านหมดเมืองโรคผีบ้าต่างๆจึงอุบัติขึ้นแปลกๆจำนวนมาก,ต่างชาติต่างด้าวอพยพมาไทยจะค้าแรงงานหรือใดๆก็ตามพวกนี้คือตัวนำพาโรคแปลกๆมาได้จึงอย่ารับต่างชาติต่างด้าวเข้ามาในไทยอีกทุกๆกรณี,เพราะคนไทยฉีดวัคซีนโควิดmRNAเกือบหมดทั้งประเทศในรัฐบาลทหารdeep state ยึดอำนาจ,ภูมิคุ้มกันธรรมชาติตนเองแต่ละคนจึงถูกทำลายลงตลอดเวลาจนสิ้นชีพตัวคุ้มกัน,โรคผีบ้าปัญญาอ่อนกากกระจอกๆน้อยนิดในอดีตร่างกายนั้นต่อต้านได้สบาย,แต่ปัจจุบันภูมิคุ้มกันตนถูกทำลายลง เมื่อเจอหรือติดเชื้อโรคกากๆกระจอกๆแบบเดิมๆนั้นก็ไม่สามารถต้านทานต่อต้านอะไรปกติๆแบบเดิมๆครั้งก่อนๆได้เลย,คนไทยบ้านชาวบ้านตอนนี้ทยอยตายลงไปเรื่อยๆมากขึ้นแล้ว,ลูกเป็นเด็กกำพร้ามากขึ้นอยู่กับตายายปู่ย่า,พ่อแม่สูญเสียลูกหลานก็มากขึ้นด้วย ยิ่งเจ็บป่วยอักเสบไม่สบายของร่างกายเป็นไข้ปวดหัวตัวร้อนเป็นบ่อยขึ้นลาโรงเรียนเยอะแยะมากขึ้นเป็นอันมาก,หลายเคสหลายคนแล้วกินดื่มอะไรก็เป็นพิษเป็นแพ้ ไม่สบายร่างกายสาระพัดพร้อมตุยได้หลายลักษณะนั้นเอง,ตายายปู่ย่าตุยจากลูกหลานอีก,เป็นเด็กกำพร้าเต็มสูบเลย,แต่ด้วยรัฐบาลไร้คุณสมบัติขาดภาวะการเป็นผู้นำไปแล้วจึงเสี่ยงสูงที่จะมีมาตราการรับมือจริงจังช่วยเหลทอเยียวยาดูแลคนที่อยู่ที่กำพร้าในหลายลักษณะของคนไทยจริงจังแบบใด,นี้คืองานช้างที่จะเกิดขึ้นแน่นอน,จะรอจับค้าหมวกกันน็อค2,000บาทมาเยียวยาก็ใช่ทีรับมือ,และต้นเหตุความจริงของโรคตัวก่อโรคก็ต้องจริงใจบอกความจริงแก่ประชาชนด้วยประกาศอย่างเป็นทางการว่ารัฐบาลผีบ้านั้นกระทำผิดต่อประชาชนและยุคล่าสุดที่ละเลยละเมิดไม่สนใจในชีวิตประชาชนที่ความจริงอ่านคาดเห็นผลชัดเจนแน่นอนว่าชาวบ้านประชาชนคนไทยต้องเสียสุขภาพเสื่อมสุขภาพเจ็บป่วยต่อร่างกายอักเสบในสุขภาพบาดเจ็บในร่างกายสุขภาพและกระทั่งเสียชีวิตในที่สุดแน่นอน,ซึ่งสามารถเตรียมรับมือช่วยเหลือเยียวยาประชาชนทันเวลาขับพิษออกเท่าที่สามารถขับได้ให้ดีที่สุด,มิให้เสียชีวิตก่อนเทคโนโลยีผีบ้าล้ำๆมาช่วยเหลือคนไทยทันก่อนตายอีกช่องตัวช่วยเหลือก็ว่าที่มโนว่าอาจมานั้นเอง. ..นายกฯจากทหารยึดอำนาจจึงสำคัญมาก,สั่งการอะไรๆตัดสินใจเด็ดขาดรวดเร็วไม่เป็นภัยต่อชาติไทยบ้านเมืองตนและประชาชนแน่นอนนั้นเอง,ถ้าแบบปัจจุบันก็เห็นแล้วว่าเหี้ย จะแบ่งผลประโยชน์บ่อน้ำมันอ่าวไทยคนละครึ่งตามที่เป็นข่าวจนถูกคนไทยกดดันให้ถอยโน้น,พื้นที่เขตแดนดินประเทศไทยแท้ๆเสือกยังจะยอมให้เขมรมาแย่งชิงอย่างง่ายๆแบบหน้าด้านๆอีก,ทหารไทยส้นตีนหากคิดไม่ได้จะยึดอำนาจมันมั้ยก็ให้สิ้นชาติไทยไปเถอะสิ้นสถาบันสามเสาหลักไปเลยให้สมสมองมี่คิดอ่านความเป็นจริงแท้ไม่ได้,จิตสำนึกพื้นฐานหรือพื้นๆก็ว่า,ให้มันจบที่รุ่นนี้ล่ะ จบแบบพังพินาศสิ้นชาติไทยก็เอาเลย,เสียดายอำนาจตำแหน่งทางระบบปกครองหรือทางราชการเพื่อรักษาไว้ซึ่งบ้านเมืองจริงๆ,รัฐบาลที่มาจากนักการเมืองเลวชั่วเป็นเดอะแก๊งชั่วเลวจะเก็บไว้ทำซากอะไร,ขึ้นหิงบูชาเป็นกษัตริย์ยุคต่อไปเหรอ. .. ..https://youtube.com/shorts/Z2H-Kkr_mc0?si=gCwymuajzLdWsq29
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 444 มุมมอง 0 รีวิว
  • อนิจจัง…ของความเป็นคน
    มีทั้ง ขาขึ้น และ ขาลง

    บางวันคุณเห็นเขาสดชื่น
    บางวันคุณเห็นเขาหม่นหมอง
    บางวันเขาพูดดี มีเมตตา
    บางวันเขาเย็นชา น่าปวดหัว

    บางวันเขาคิดดี ทำดี
    บางวันเขามืดมนจนคุณไม่อยากเข้าใกล้

    นี่คือ "อนิจจัง" ในเวอร์ชันมีชีวิต
    เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เดินได้ หายใจได้
    และกำลังอยู่ใกล้คุณในรูปของ “คนคนหนึ่ง”

    ---

    ลองมองย้อนกลับมาที่ตัวคุณ
    หากคุณเป็นคนที่อยู่ข้างเขา
    ในช่วงเวลาที่เขาค่อยๆดีขึ้น
    แปลว่าคุณกำลังสร้างอนิจจังขาขึ้นให้กับใครคนหนึ่ง

    แต่ถ้าคุณอยู่ในช่วงที่เขาค่อยๆถดถอย
    และคุณมีส่วนในนั้นไม่มากก็น้อย
    แปลว่าคุณกำลังสร้างอนิจจังขาลงโดยไม่รู้ตัว

    ---

    ธรรมชาติไม่เคยให้ใคร "คงที่"
    แต่ให้เรารู้เท่าทันความไม่คงที่
    คุณจะไม่ตกใจเมื่อคนเปลี่ยนไป
    ไม่เสียดายเมื่อสิ่งดีๆหายไป
    ไม่หลงระเริงเมื่ออะไรดีขึ้นมา

    เพราะคุณจะเข้าใจว่า…
    “คนหนึ่งคน” จะต้องเปลี่ยนเป็น “อีกคนหนึ่ง” เสมอ
    และคุณ...มีส่วนให้เขาเป็นเช่นนั้น

    ---

    บทเรียนจากความใกล้ชิด
    อยู่ใกล้ใครนานพอ
    เขาจะกลายเป็นครูโดยไม่ตั้งใจ
    ถ้าคุณตั้งใจเรียนรู้

    อยู่ใกล้กันนานแค่ไหนไม่สำคัญ
    แต่ถ้าคุณมีสติและใส่ใจ
    ความเป็น “อนิจจัง” ของเขา
    จะกลายเป็น “ปัญญา” ของคุณ
    ทั้งทางโลก และทางธรรม

    อย่าเพิ่งสรุปว่าเขาดีหรือร้าย
    แค่ถามตัวเองว่า…
    “เราอยู่ข้างเขาในช่วงที่เขากำลังขึ้น หรือกำลังลง?”
    และ “เราเป็นแรงส่ง หรือแรงฉุด?”

    #อนิจจังขาขึ้น
    #อนิจจังขาลง
    #ธรรมะใกล้ตัว
    #ความเข้าใจเปลี่ยนทุกอย่าง
    🌪️ อนิจจัง…ของความเป็นคน มีทั้ง ขาขึ้น และ ขาลง บางวันคุณเห็นเขาสดชื่น บางวันคุณเห็นเขาหม่นหมอง บางวันเขาพูดดี มีเมตตา บางวันเขาเย็นชา น่าปวดหัว บางวันเขาคิดดี ทำดี บางวันเขามืดมนจนคุณไม่อยากเข้าใกล้ 🌀 นี่คือ "อนิจจัง" ในเวอร์ชันมีชีวิต เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เดินได้ หายใจได้ และกำลังอยู่ใกล้คุณในรูปของ “คนคนหนึ่ง” --- 🪞 ลองมองย้อนกลับมาที่ตัวคุณ หากคุณเป็นคนที่อยู่ข้างเขา ในช่วงเวลาที่เขาค่อยๆดีขึ้น แปลว่าคุณกำลังสร้างอนิจจังขาขึ้นให้กับใครคนหนึ่ง แต่ถ้าคุณอยู่ในช่วงที่เขาค่อยๆถดถอย และคุณมีส่วนในนั้นไม่มากก็น้อย แปลว่าคุณกำลังสร้างอนิจจังขาลงโดยไม่รู้ตัว --- 🧘‍♀️ ธรรมชาติไม่เคยให้ใคร "คงที่" แต่ให้เรารู้เท่าทันความไม่คงที่ คุณจะไม่ตกใจเมื่อคนเปลี่ยนไป ไม่เสียดายเมื่อสิ่งดีๆหายไป ไม่หลงระเริงเมื่ออะไรดีขึ้นมา เพราะคุณจะเข้าใจว่า… “คนหนึ่งคน” จะต้องเปลี่ยนเป็น “อีกคนหนึ่ง” เสมอ และคุณ...มีส่วนให้เขาเป็นเช่นนั้น --- 💡 บทเรียนจากความใกล้ชิด อยู่ใกล้ใครนานพอ เขาจะกลายเป็นครูโดยไม่ตั้งใจ ถ้าคุณตั้งใจเรียนรู้ อยู่ใกล้กันนานแค่ไหนไม่สำคัญ แต่ถ้าคุณมีสติและใส่ใจ ความเป็น “อนิจจัง” ของเขา จะกลายเป็น “ปัญญา” ของคุณ ทั้งทางโลก และทางธรรม 📌 อย่าเพิ่งสรุปว่าเขาดีหรือร้าย แค่ถามตัวเองว่า… “เราอยู่ข้างเขาในช่วงที่เขากำลังขึ้น หรือกำลังลง?” และ “เราเป็นแรงส่ง หรือแรงฉุด?” #อนิจจังขาขึ้น #อนิจจังขาลง #ธรรมะใกล้ตัว #ความเข้าใจเปลี่ยนทุกอย่าง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าใจไม่ใส... อะไรก็ขุ่นได้ง่ายๆ

    เคยไหม...
    อยู่ดีๆ ก็ขุ่นเคือง
    แม้กับเรื่องเล็กน้อยไม่เป็นเรื่อง?

    เคยไหม...
    ใจหนักอึ้ง ทั้งที่ไม่มีเรื่องอะไรใหญ่โต?

    เพราะเมื่อจิตไม่ใส
    แม้เพียงสายลมเฉี่ยวผ่าน
    เราก็พร้อมจะหงุดหงิด…
    แค่มีเสียงดังนิดเดียว ก็อยากพ่นคำแรงกลับไป

    เพราะเมื่อใจไม่เบา
    เราก็อยู่ดีไม่ว่าดี
    พร้อมจะไปพัวพันกับเรื่องน่าปวดหัวเสียทุกอย่าง

    ความสุขที่แท้ ไม่ได้อยู่ที่โลกเบา

    แต่อยู่ที่ “ใจเบา”

    ความอ่อนโยน
    คือสัญญาณของจิตที่เบา

    ใจอ่อนโยน ไม่ได้แปลว่าอ่อนแอ
    แต่คือความนิ่งสงบ ที่ไม่แพ้ต่อแรงลมจากโลกภายนอก
    ยังวุ่นอยู่กับงานได้ — โดยไม่วุ่นวายภายใน

    การเปลี่ยนจิตให้เบา

    เริ่มจากการ “อยากให้”
    ไม่ใช่ “อยากได้”

    เมื่อเรารู้จักให้
    เพราะอยากเผื่อแผ่ความสุข
    จิตจะเริ่มเปิดกว้าง อ่อนนุ่ม และเย็นสบาย

    ไม่ต้องรอให้เรื่องข้างนอกมาเอาใจ
    เราก็รู้จักเอาใจตัวเองเป็น

    คนที่รักใจที่ใสเย็นของตัวเอง

    จะรู้จักรักผู้อื่นเป็น

    และ “รักเป็น” นั้น
    คือรักที่ไม่เหนื่อย ไม่เร่ง ไม่รอการตอบแทน
    แต่ชะโลมให้อีกฝ่ายเย็นขึ้น... โดยไม่รู้ตัว

    ใครเจอคุณก็อยากอยู่ใกล้
    เพราะเขารู้สึก “เย็นขึ้น” โดยไม่ต้องมีคำพูดใด

    ความสุขอันแท้จริง
    เริ่มจากใจที่ “ไม่ต้องเบียดเบียนใคร”
    แม้แต่ตัวเอง
    ☁️ ถ้าใจไม่ใส... อะไรก็ขุ่นได้ง่ายๆ เคยไหม... อยู่ดีๆ ก็ขุ่นเคือง แม้กับเรื่องเล็กน้อยไม่เป็นเรื่อง? เคยไหม... ใจหนักอึ้ง ทั้งที่ไม่มีเรื่องอะไรใหญ่โต? เพราะเมื่อจิตไม่ใส แม้เพียงสายลมเฉี่ยวผ่าน เราก็พร้อมจะหงุดหงิด… แค่มีเสียงดังนิดเดียว ก็อยากพ่นคำแรงกลับไป เพราะเมื่อใจไม่เบา เราก็อยู่ดีไม่ว่าดี พร้อมจะไปพัวพันกับเรื่องน่าปวดหัวเสียทุกอย่าง 🕊️ ความสุขที่แท้ ไม่ได้อยู่ที่โลกเบา แต่อยู่ที่ “ใจเบา” ความอ่อนโยน คือสัญญาณของจิตที่เบา ใจอ่อนโยน ไม่ได้แปลว่าอ่อนแอ แต่คือความนิ่งสงบ ที่ไม่แพ้ต่อแรงลมจากโลกภายนอก ยังวุ่นอยู่กับงานได้ — โดยไม่วุ่นวายภายใน 🌱 การเปลี่ยนจิตให้เบา เริ่มจากการ “อยากให้” ไม่ใช่ “อยากได้” เมื่อเรารู้จักให้ เพราะอยากเผื่อแผ่ความสุข จิตจะเริ่มเปิดกว้าง อ่อนนุ่ม และเย็นสบาย ไม่ต้องรอให้เรื่องข้างนอกมาเอาใจ เราก็รู้จักเอาใจตัวเองเป็น 💗 คนที่รักใจที่ใสเย็นของตัวเอง จะรู้จักรักผู้อื่นเป็น และ “รักเป็น” นั้น คือรักที่ไม่เหนื่อย ไม่เร่ง ไม่รอการตอบแทน แต่ชะโลมให้อีกฝ่ายเย็นขึ้น... โดยไม่รู้ตัว ใครเจอคุณก็อยากอยู่ใกล้ เพราะเขารู้สึก “เย็นขึ้น” โดยไม่ต้องมีคำพูดใด 🌤️ ความสุขอันแท้จริง เริ่มจากใจที่ “ไม่ต้องเบียดเบียนใคร” แม้แต่ตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลอันตรายของวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122116163210647289/?
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115608906647289/?
    ผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV ในเด็ก
    https://childrenshealthdefense.org/wp-content/uploads/02-20-2020-Facts-about-HPV.pdf
    วัคซีนป้องกันไวรัส Gardasil HPV ดูเหมือนจะเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มอายุที่ได้รับวัคซีน เช่นเดียวกับวัคซีน COVID ที่เพิ่มความเสี่ยงของ COVID ❗️❗️
    https://x.com/RobertKennedyJr/status/1618279143468306435?t=xz8ynSvBVa4atUraKqxh_Q&s=19
    https://t.co/WoqyxrRQya
    วัคซีนป้องกันไวรัส HPV มีอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนที่สูงที่สุด ไม่มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าวัคซีนป้องกันไวรัส HPV จะช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก
    มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าวัคซีนทำให้เกิดหรือมีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น ภาวะมีบุตรยาก
    https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=apFnO-o92obhiggFF7nqAw&s=19
    หากคุณกำลังคิดที่จะให้ลูกของคุณ ฉีดวัคซีน HPV (หูดหงอนไก่) คุณต้องดูวิดีโอนี้
    https://t.me/thailand_covid_vaccine_chat/77370
    คลิปการสัมภาษณ์ ดร. เชอรรี่ เทนเพนนี่ เรื่องวัคซีน HPV & วัคซีนในเด็ก
    https://fb.watch/xc2Iq0xYu4/?
    https://www.rookon.com/?p=1173
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122110664030647289/?
    คลิป 4 นาทีอธิบายเรื่องการสัมภาษณ์ในครั้งนี้
    https://vt.tiktok.com/ZSYCGuqoM/
    ข่าวเรื่องญี่ปุ่นประกาศไม่แนะนำว่าต้องฉีด HPV Vaccine หาอ่านได้ที่นี่ครับ(เข้าถึงเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556)
    http://sanevax.org/breaking-news-japan-and-hpv-vaccines/
    http://sanevax.org/hpv-vaccines-japan-requires-disclosure-of-side-effects/
    บทความทางวิชาการที่สำรวจความคิดเห็นของผู้ที่ไม่ต้องการฉีด HPV Vaccine ในสหรัฐครับ(เข้าถึงเมื่อ 11 กันยายน 2556)
    http://pediatrics.aappublications.org/content/early/2013/03/12/peds.2012-2384.abstract
    Merck ถูกฟ้องปิดบังผลข้างเคียงร้ายแรง
    https://www.facebook.com/photo.php?fbid=122200589258234582&set=a.122096260418234582&type=3
    เด็กในอินเดียถูกฉีดวัคซีน HPV 24,000 คน ตายทันที
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122110761038647289/?
    https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=apFnO-o92obhiggFF7nqAw&s=19
    ดร. พอล โธมัส เตือนว่า “จะมีผู้เสียชีวิตจากวัคซีน [HPV] มากกว่ามะเร็งปากมดลูกเสียอีก แค่ดูจำนวนงานวิจัย และจำนวนผู้เสียชีวิต ก็น่ากลัวมากแล้ว”
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122109699794647289/?
    คดีนี้เกี่ยวข้องกับการอ้างว่า Merck ให้ข้อมูลเกินจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน
    https://www.facebook.com/share/p/1G2MxNMeWm/
    มาดูคำตอบเมื่ออาจารย์หมออรรถพลถาม AI
    https://www.facebook.com/share/p/1AVyV3JELE/
    คดีนี้เกี่ยวข้องกับการอ้างว่า Merck ให้ข้อมูลเกินจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน
    https://www.facebook.com/share/p/1G2MxNMeWm/
    คุณรับได้ไหมกับผลลัพธ์หลังจากพาลูกไปรับวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV
    ลูกสาว11ปีเสียชีวิตหลังฉีด
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108855318647289/?
    https://www.thairath.co.th/news/local/central/1921241
    ปวดหัวเป็นสัปดาห์หลังฉีดสุดท้ายเสียชีวิต พ่อแต่งกลอนอาลัยลูกสาว
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122107354964647289/?
    ลูกสาวเสียชีวิตทันทีหลังโรงเรียนพาหมอมาฉีด
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108861930647289/?
    นักเรียนไทย 11 ราย ได้รับผลกระทบทันที
    https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108858174647289/?
    เคสต่างประเทศ ลูกสาวเสียชีวิต
    https://www.facebook.com/332186880241439/photos/a.332188263574634/554864934640298/?type=3
    เคสต่างประเทศ โคม่า
    https://www.facebook.com/652558728/posts/10156341599408729/?
    เคสต่างประเทศ ชักกระตุกรุนแรง
    https://www.facebook.com/share/v/1AB8rFrmXA/
    เคสต่างประเทศ หลังฉีดทำให้ลูกชายพิการต่อมาฆ่าตัวตาย
    https://www.facebook.com/share/p/1CH5aU5TvM/

    ศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจ
    แพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    ✅ข้อมูลอันตรายของวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122116163210647289/? https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122115608906647289/? ✍️ผลกระทบจากการฉีดวัคซีนป้องกันไวรัส HPV ในเด็ก https://childrenshealthdefense.org/wp-content/uploads/02-20-2020-Facts-about-HPV.pdf ✍️ วัคซีนป้องกันไวรัส Gardasil HPV ดูเหมือนจะเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกในกลุ่มอายุที่ได้รับวัคซีน เช่นเดียวกับวัคซีน COVID ที่เพิ่มความเสี่ยงของ COVID ❗️❗️ https://x.com/RobertKennedyJr/status/1618279143468306435?t=xz8ynSvBVa4atUraKqxh_Q&s=19 https://t.co/WoqyxrRQya ✍️ วัคซีนป้องกันไวรัส HPV มีอัตราการเกิดอาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนที่สูงที่สุด ไม่มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าวัคซีนป้องกันไวรัส HPV จะช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก ✍️มีหลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่าวัคซีนทำให้เกิดหรือมีส่วนทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว เช่น ภาวะมีบุตรยาก https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=apFnO-o92obhiggFF7nqAw&s=19 ✍️หากคุณกำลังคิดที่จะให้ลูกของคุณ ฉีดวัคซีน HPV (หูดหงอนไก่) คุณต้องดูวิดีโอนี้ https://t.me/thailand_covid_vaccine_chat/77370 ✍️คลิปการสัมภาษณ์ ดร. เชอรรี่ เทนเพนนี่ เรื่องวัคซีน HPV & วัคซีนในเด็ก https://fb.watch/xc2Iq0xYu4/? https://www.rookon.com/?p=1173 https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122110664030647289/? คลิป 4 นาทีอธิบายเรื่องการสัมภาษณ์ในครั้งนี้ https://vt.tiktok.com/ZSYCGuqoM/ ✍️ข่าวเรื่องญี่ปุ่นประกาศไม่แนะนำว่าต้องฉีด HPV Vaccine หาอ่านได้ที่นี่ครับ(เข้าถึงเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556) http://sanevax.org/breaking-news-japan-and-hpv-vaccines/ http://sanevax.org/hpv-vaccines-japan-requires-disclosure-of-side-effects/ ✍️บทความทางวิชาการที่สำรวจความคิดเห็นของผู้ที่ไม่ต้องการฉีด HPV Vaccine ในสหรัฐครับ(เข้าถึงเมื่อ 11 กันยายน 2556) http://pediatrics.aappublications.org/content/early/2013/03/12/peds.2012-2384.abstract ✍️Merck ถูกฟ้องปิดบังผลข้างเคียงร้ายแรง https://www.facebook.com/photo.php?fbid=122200589258234582&set=a.122096260418234582&type=3 ✍️เด็กในอินเดียถูกฉีดวัคซีน HPV 24,000 คน ตายทันที https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122110761038647289/? https://x.com/Thaipithaksith/status/1816343960094400787?t=apFnO-o92obhiggFF7nqAw&s=19 ✍️ดร. พอล โธมัส เตือนว่า “จะมีผู้เสียชีวิตจากวัคซีน [HPV] มากกว่ามะเร็งปากมดลูกเสียอีก แค่ดูจำนวนงานวิจัย และจำนวนผู้เสียชีวิต ก็น่ากลัวมากแล้ว” https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122109699794647289/? ✍️คดีนี้เกี่ยวข้องกับการอ้างว่า Merck ให้ข้อมูลเกินจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน https://www.facebook.com/share/p/1G2MxNMeWm/ ✍️มาดูคำตอบเมื่ออาจารย์หมออรรถพลถาม AI https://www.facebook.com/share/p/1AVyV3JELE/ ✍️คดีนี้เกี่ยวข้องกับการอ้างว่า Merck ให้ข้อมูลเกินจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีน https://www.facebook.com/share/p/1G2MxNMeWm/ ✍️คุณรับได้ไหมกับผลลัพธ์หลังจากพาลูกไปรับวัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV 🍎ลูกสาว11ปีเสียชีวิตหลังฉีด https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108855318647289/? https://www.thairath.co.th/news/local/central/1921241 🍎ปวดหัวเป็นสัปดาห์หลังฉีดสุดท้ายเสียชีวิต พ่อแต่งกลอนอาลัยลูกสาว https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122107354964647289/? 🍎ลูกสาวเสียชีวิตทันทีหลังโรงเรียนพาหมอมาฉีด https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108861930647289/? 🍎นักเรียนไทย 11 ราย ได้รับผลกระทบทันที https://www.facebook.com/61569418676886/posts/122108858174647289/? 🍎เคสต่างประเทศ ลูกสาวเสียชีวิต https://www.facebook.com/332186880241439/photos/a.332188263574634/554864934640298/?type=3 🍎เคสต่างประเทศ โคม่า https://www.facebook.com/652558728/posts/10156341599408729/? 🍎เคสต่างประเทศ ชักกระตุกรุนแรง https://www.facebook.com/share/v/1AB8rFrmXA/ 🍎เคสต่างประเทศ หลังฉีดทำให้ลูกชายพิการต่อมาฆ่าตัวตาย https://www.facebook.com/share/p/1CH5aU5TvM/ ศึกษาข้อมูลให้รอบด้านก่อนการตัดสินใจ แพทย์และจิตอาสาคนไทยพิทักษ์สิทธิ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 811 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในขณะที่หลาย ๆ ประเทศมีการป้องกันพรมแดนที่แน่นหนาและมีการตรวจตราที่เข้มงวด แต่สำหรับประเทศในยุโรปกลับมีการแบ่งพรมแดนที่ชิลกว่านั้นมาก

    และเหนือไปกว่านั้นก็คือ พรมแดนระหว่างเมือง Baarle-Nassau ของเนเธอร์แลนด์และเมือง Baarle-Hertog ของเบลเยียมที่ได้ชื่อว่ามี "พรมแดนสลับซับซ้อนที่สุดในโลก"

    • ความซับซ้อนในมุมนักท่องเที่ยว

    เมื่อคุณก้าวเข้าไปในพื้นที่แห่งนี้ คุณจะเห็นเส้นแบ่งเขตแดนที่เป็นรูปเครื่องหมายบวกหรือกากบาทบนพื้น พาดไปพาดมาตามท้องถนนทั่วทั้งเมือง

    ดังนั้น คุณสามารถก้าวข้ามประเทศกลับไปกลับมาได้ตลอดเวลา และอาจเดินข้ามประเทศไปมาแบบไม่รู้ตัว

    • ความซับซ้อนในมุมผู้อยู่อาศัย

    แน่นอนว่าย่อมปวดหัวกว่านักท่องเที่ยวมากนัก เพราะทั้งสองประเทศมีกฎหมายควบคุมที่แตกต่างกัน การจัดการบริหารต่าง ๆ ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งระบบไปรษณีย์ ระบบขนส่งสาธารณะ

    ส่วนบ้านบางหลังที่ถูกผ่ากลางด้วยเส้นแบ่งพรมแดนจะต้องดูว่า ประตูบ้านหลังนั้นอยู่บนพื้นที่ประเทศไหน แล้วจึงใช้กฎหมายของประเทศนั้น

    เคยมีอยู่กรณีหนึ่งที่เจ้าของบ้านขออนุมัติซ่อมแซมบ้าน แต่ทางการเนเธอร์แลนด์ไม่อนุมัติสักที เขาจึงสร้างประตูหน้าบ้านเพิ่มอีกบานให้ตรงกับเส้นแบ่งพรมแดน (ภาพที่ 2) เพื่อให้สามารถใช้กฎหมายฝั่งเบลเยียมได้ จากนั้นเขาจึงขอขออนุมัติกับทางการเบลเยียมแทน ซึ่งก็ได้ผล

    ยังมีบ้านอีกหลัง (ภาพที่ 1) ที่ถูกเส้นแบ่งพรมแดนผ่ากลางประตูเป๊ะ ๆ บ้านหลังนี้จึงเป็นของทั้งสองประเทศ และมีบ้านเลขที่ที่แตกต่างกันสำหรับสองประเทศ

    สิ่งที่พีกไปกว่านั้นก็คือ...

    มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอดีตเจ้าของบ้านหลังนี้ที่ถูกใช้เป็นที่ทำการทางทหารของเนเธอร์แลนด์ แต่ตอนย้ายเข้ามาเขาไม่รู้ว่าห้องทำงานดันไปอยู่ฝั่งเบลเยียม และปัญหาคือเขาไม่มีใบอนุญาตทำงานในเบลเยียม

    ดังนั้นเขาจึงต้องย้ายห้องทำงานไปยังฝั่งเนเธอร์แลนด์ และย้ายห้องนอนไปฝั่งเบลเยียมแทน
    ข้อมูลและรูปอ้างอิงจากเฟซบุ๊คเพจ เพชร
    มายา
    ในขณะที่หลาย ๆ ประเทศมีการป้องกันพรมแดนที่แน่นหนาและมีการตรวจตราที่เข้มงวด แต่สำหรับประเทศในยุโรปกลับมีการแบ่งพรมแดนที่ชิลกว่านั้นมาก และเหนือไปกว่านั้นก็คือ พรมแดนระหว่างเมือง Baarle-Nassau ของเนเธอร์แลนด์และเมือง Baarle-Hertog ของเบลเยียมที่ได้ชื่อว่ามี "พรมแดนสลับซับซ้อนที่สุดในโลก" • ความซับซ้อนในมุมนักท่องเที่ยว เมื่อคุณก้าวเข้าไปในพื้นที่แห่งนี้ คุณจะเห็นเส้นแบ่งเขตแดนที่เป็นรูปเครื่องหมายบวกหรือกากบาทบนพื้น พาดไปพาดมาตามท้องถนนทั่วทั้งเมือง ดังนั้น คุณสามารถก้าวข้ามประเทศกลับไปกลับมาได้ตลอดเวลา และอาจเดินข้ามประเทศไปมาแบบไม่รู้ตัว • ความซับซ้อนในมุมผู้อยู่อาศัย แน่นอนว่าย่อมปวดหัวกว่านักท่องเที่ยวมากนัก เพราะทั้งสองประเทศมีกฎหมายควบคุมที่แตกต่างกัน การจัดการบริหารต่าง ๆ ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งระบบไปรษณีย์ ระบบขนส่งสาธารณะ ส่วนบ้านบางหลังที่ถูกผ่ากลางด้วยเส้นแบ่งพรมแดนจะต้องดูว่า ประตูบ้านหลังนั้นอยู่บนพื้นที่ประเทศไหน แล้วจึงใช้กฎหมายของประเทศนั้น เคยมีอยู่กรณีหนึ่งที่เจ้าของบ้านขออนุมัติซ่อมแซมบ้าน แต่ทางการเนเธอร์แลนด์ไม่อนุมัติสักที เขาจึงสร้างประตูหน้าบ้านเพิ่มอีกบานให้ตรงกับเส้นแบ่งพรมแดน (ภาพที่ 2) เพื่อให้สามารถใช้กฎหมายฝั่งเบลเยียมได้ จากนั้นเขาจึงขอขออนุมัติกับทางการเบลเยียมแทน ซึ่งก็ได้ผล ยังมีบ้านอีกหลัง (ภาพที่ 1) ที่ถูกเส้นแบ่งพรมแดนผ่ากลางประตูเป๊ะ ๆ บ้านหลังนี้จึงเป็นของทั้งสองประเทศ และมีบ้านเลขที่ที่แตกต่างกันสำหรับสองประเทศ สิ่งที่พีกไปกว่านั้นก็คือ... มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอดีตเจ้าของบ้านหลังนี้ที่ถูกใช้เป็นที่ทำการทางทหารของเนเธอร์แลนด์ แต่ตอนย้ายเข้ามาเขาไม่รู้ว่าห้องทำงานดันไปอยู่ฝั่งเบลเยียม และปัญหาคือเขาไม่มีใบอนุญาตทำงานในเบลเยียม ดังนั้นเขาจึงต้องย้ายห้องทำงานไปยังฝั่งเนเธอร์แลนด์ และย้ายห้องนอนไปฝั่งเบลเยียมแทน ข้อมูลและรูปอ้างอิงจากเฟซบุ๊คเพจ เพชร มายา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • งูสวัดมีเรื่อง อันตรายอีกเยอะนอกจากผื่น.

    • ไนตำแหน่งหน้า ศีรษะ คอ บ่าไหล่ ไม่ว่าจะอายุเท่าไร เป็นภูมิคุ้มกันปกติก็ตาม
    เป็นเรื่องต้องให้การรักษาทันที โอกาศไวรัสลามเข้าสมองผ่านทางเส้นเลือดสูงมาก

    ถ้ามาช้า และเริ่มผิดปกติมากกว่านอกจากที่ผิวหนัง มีไข้ ปวดหัว ไม่ต้องรอให้โคม่า หรือตาบอด หรือเส้นเลือดอักเสบตัน ให้เป็น IV acyclovir 10 mg/kg ทุก 8 ชั่วโมงทันที ไป 14 วัน

    ในขณะที่ตำแหน่งอื่นอาจใช้เป็นยากินแทน
    และ acyclovir กิน แม้ว่าต้องกินวันละห้าครั้งทุก 4 ชั่วโมงไปเป็นเวลาอย่างน้อยเจ็ดวันและอาจถึง 14 วัน ประสิทธิภาพดีกว่า ยาที่ทาน วันละสองครั้ง เพราะสามารถควบคุมไม่ให้ไวรัสวิ่งย้อนกลับเข้าไปตามเส้นประสาทเข้าในไขสันหลัง หรือสมอง

    ยกเว้นการมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ต้องเป็นยาฉีดทั้งหมด

    • และงูสวัดไม่ว่าอยู่ตำแหน่งใดของร่างกายมีความเสี่ยงอัมพฤกษ์ เส้นเลือดหัวใจตัน ถึง 6 เดือน จนถึงหลายปี

    ประการสำคัญ การรักษาไม่ใช่พอใจที่ทายาพอกที่ผื่น แม้ว่าทาแล้วหายเร็ว ก็ตาม
    อยู่ที่การป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบที่ปมประสาท และจะเจ็บปวดไปหลายเดือน ปี หรือไม่หาย
    และเพื่อต้องกันไม่ให้ไวรัสย้อนกลับตามเส้นประสาทเข้าไปที่ไขสันหลัง เกิตขาอัมพาต เข้าสมอง ติดเกิดเส้นเลือดอักเสบ และไวรัสทะลักเข้าไปติดเชื้อในสมอง

    • ย้ำๆๆๆ ไม่ว่างูสวัดขึ้นที่ใดต้องรักษาทั้งสิ้น ไม่ใช่เพื่อผื่นหายอย่างเดียวเท่านั้นเช่นจาก ยาทา พอก หรือกินยาสมุนไพร ต้องกันที่ร้ายแรงกว่านั้นอีกเยอะ

    • ในปัจจุบันมีวัคซีนงูสวัดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงที่เป็นโปรตีนสับยูนิต และสามารถใช้ได้กับคนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ต่างจากวัคซีนยุคแรกที่เป็นเชื้ออ่อนกำลัง แต่อย่างไรก็ตามสารที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันดีมาก จนอาจทำให้มีปฏิกิริยาข้างเคียง ระดับน้อยจนรุนแรงแต่ไม่ได้เกิดทุกคน และในบางกรณีเกิดการกระตุ้นทำให้เกิดเส้นประสาทอักเสบได้
    • ดังนั้นการได้วัคซีน ควรต้องให้แพทย์ ให้คำแนะนำ และถ้าเกิดมีปฏิกิริยาข้างเคียงจะได้รีบรักษาได้ทัน

    ลักษณะอาการของงูสวัดและผลแทรกซ้อนไม่ได้เกิดขึ้นแต่ในระยะนั้นอย่างเดียว จะเกิดขึ้นตามหลังได้อย่างน้อยหกเดือนและอาจเป็นปีโดยเฉพาะออกอาการเป็นเส้นเลือดในสมองและเส้นเลือดในหัวใจตัน

    เพราะฉะนั้นถ้าเกิดมีอาการของเส้นเลือดหัวใจเจ็บหน้าอก หรือเส้นเลือดสมองอัมพฤกษ์ ต้องบอกคุณหมอว่าเคยเป็นงูสวัดในช่วงก่อนหน้า ซึ่งต้องพิจารณาว่าควรต้องรักษางูสวัดควบคู่กันไปด้วย ให้ทางเส้นเลือด ร่วมกับการรักษาสมองหรือหัวใจที่ผิดปกติ
    ทั้งนี้เนื่องจากยังมีความเป็นไปได้ว่าไวรัสยังไม่ได้สงบเสงี่ยมนิ่งอยู่กับที่ แต่ ยังมีการกระตุ้นการอักเสบอยู่เรื่อยๆ จนเกิดเส้นเลือดหัวใจหรือสมองตัน

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข
    และ
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    งูสวัดมีเรื่อง อันตรายอีกเยอะนอกจากผื่น. • ไนตำแหน่งหน้า ศีรษะ คอ บ่าไหล่ ไม่ว่าจะอายุเท่าไร เป็นภูมิคุ้มกันปกติก็ตาม เป็นเรื่องต้องให้การรักษาทันที โอกาศไวรัสลามเข้าสมองผ่านทางเส้นเลือดสูงมาก ถ้ามาช้า และเริ่มผิดปกติมากกว่านอกจากที่ผิวหนัง มีไข้ ปวดหัว ไม่ต้องรอให้โคม่า หรือตาบอด หรือเส้นเลือดอักเสบตัน ให้เป็น IV acyclovir 10 mg/kg ทุก 8 ชั่วโมงทันที ไป 14 วัน ในขณะที่ตำแหน่งอื่นอาจใช้เป็นยากินแทน และ acyclovir กิน แม้ว่าต้องกินวันละห้าครั้งทุก 4 ชั่วโมงไปเป็นเวลาอย่างน้อยเจ็ดวันและอาจถึง 14 วัน ประสิทธิภาพดีกว่า ยาที่ทาน วันละสองครั้ง เพราะสามารถควบคุมไม่ให้ไวรัสวิ่งย้อนกลับเข้าไปตามเส้นประสาทเข้าในไขสันหลัง หรือสมอง ยกเว้นการมีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ต้องเป็นยาฉีดทั้งหมด • และงูสวัดไม่ว่าอยู่ตำแหน่งใดของร่างกายมีความเสี่ยงอัมพฤกษ์ เส้นเลือดหัวใจตัน ถึง 6 เดือน จนถึงหลายปี ประการสำคัญ การรักษาไม่ใช่พอใจที่ทายาพอกที่ผื่น แม้ว่าทาแล้วหายเร็ว ก็ตาม อยู่ที่การป้องกันไม่ให้เกิดการอักเสบที่ปมประสาท และจะเจ็บปวดไปหลายเดือน ปี หรือไม่หาย และเพื่อต้องกันไม่ให้ไวรัสย้อนกลับตามเส้นประสาทเข้าไปที่ไขสันหลัง เกิตขาอัมพาต เข้าสมอง ติดเกิดเส้นเลือดอักเสบ และไวรัสทะลักเข้าไปติดเชื้อในสมอง • ย้ำๆๆๆ ไม่ว่างูสวัดขึ้นที่ใดต้องรักษาทั้งสิ้น ไม่ใช่เพื่อผื่นหายอย่างเดียวเท่านั้นเช่นจาก ยาทา พอก หรือกินยาสมุนไพร ต้องกันที่ร้ายแรงกว่านั้นอีกเยอะ • ในปัจจุบันมีวัคซีนงูสวัดที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงที่เป็นโปรตีนสับยูนิต และสามารถใช้ได้กับคนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง ต่างจากวัคซีนยุคแรกที่เป็นเชื้ออ่อนกำลัง แต่อย่างไรก็ตามสารที่กระตุ้นภูมิคุ้มกันดีมาก จนอาจทำให้มีปฏิกิริยาข้างเคียง ระดับน้อยจนรุนแรงแต่ไม่ได้เกิดทุกคน และในบางกรณีเกิดการกระตุ้นทำให้เกิดเส้นประสาทอักเสบได้ • ดังนั้นการได้วัคซีน ควรต้องให้แพทย์ ให้คำแนะนำ และถ้าเกิดมีปฏิกิริยาข้างเคียงจะได้รีบรักษาได้ทัน ลักษณะอาการของงูสวัดและผลแทรกซ้อนไม่ได้เกิดขึ้นแต่ในระยะนั้นอย่างเดียว จะเกิดขึ้นตามหลังได้อย่างน้อยหกเดือนและอาจเป็นปีโดยเฉพาะออกอาการเป็นเส้นเลือดในสมองและเส้นเลือดในหัวใจตัน เพราะฉะนั้นถ้าเกิดมีอาการของเส้นเลือดหัวใจเจ็บหน้าอก หรือเส้นเลือดสมองอัมพฤกษ์ ต้องบอกคุณหมอว่าเคยเป็นงูสวัดในช่วงก่อนหน้า ซึ่งต้องพิจารณาว่าควรต้องรักษางูสวัดควบคู่กันไปด้วย ให้ทางเส้นเลือด ร่วมกับการรักษาสมองหรือหัวใจที่ผิดปกติ ทั้งนี้เนื่องจากยังมีความเป็นไปได้ว่าไวรัสยังไม่ได้สงบเสงี่ยมนิ่งอยู่กับที่ แต่ ยังมีการกระตุ้นการอักเสบอยู่เรื่อยๆ จนเกิดเส้นเลือดหัวใจหรือสมองตัน ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศูนย์ความเป็นเลิศ ด้านการแพทย์บูรณาการและสาธารณสุข และ ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 702 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts