• นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ มูลนิธิร่วมกตัญญู ผู้ร่วมปฏิบัติภารกิจกู้ภัยอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เผยจุดที่สแกนพบร่างผู้ติดค้าง อยู่ระหว่างชั้นที่ 17 ถึงชั้นที่ 21 กว่า 70 ราย กระจุกรวมกัน คิดเป็นเกือบทั้งหมดของผู้ที่ยังสูญหาย ขณะที่รอบข้างอาคารที่ถล่มไม่พบร่างผู้ติดค้างแล้ว ปัญหาอุปสรรคคือการเจาะผนังแต่ละชั้นที่มีความหนากว่า 1 เมตร เป็นเรื่องยาก ตอนนี้เป็นขั้นตอนค่อยๆ ยกเศษซากปรักหักพังออกทีละชั้นจากด้านบน เพื่อให้ง่ายต่อการช่วยเหลือ ยอมรับเป็นการกู้ภัยตึกถล่มยากที่สุดเท่าที่เคยทำมา
    นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษ มูลนิธิร่วมกตัญญู ผู้ร่วมปฏิบัติภารกิจกู้ภัยอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เผยจุดที่สแกนพบร่างผู้ติดค้าง อยู่ระหว่างชั้นที่ 17 ถึงชั้นที่ 21 กว่า 70 ราย กระจุกรวมกัน คิดเป็นเกือบทั้งหมดของผู้ที่ยังสูญหาย ขณะที่รอบข้างอาคารที่ถล่มไม่พบร่างผู้ติดค้างแล้ว ปัญหาอุปสรรคคือการเจาะผนังแต่ละชั้นที่มีความหนากว่า 1 เมตร เป็นเรื่องยาก ตอนนี้เป็นขั้นตอนค่อยๆ ยกเศษซากปรักหักพังออกทีละชั้นจากด้านบน เพื่อให้ง่ายต่อการช่วยเหลือ ยอมรับเป็นการกู้ภัยตึกถล่มยากที่สุดเท่าที่เคยทำมา
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 709 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • จากการตรวจสอบของ The Better ทราบว่า บุคคลที่เป็นผู้นำแม่บ้านชาวกัมพูชาไปร้องเพลงชาติบนปราสาทตาเมือนธมของประเทศไทย คือ 'อุตตมะเสนีย์ตรี (พลจัตวา) นัก วงส์' (ឧត្តមសេនីយ៍ត្រី នាក់ វង្ស) นายทหารของกัมพูชา วึ่งนอกจากจะพาคนเขมรกัมพูชาไปกระทำการล่วงละเมิดอธิปไตยของไทยในดินแดนของไทยแล้ว ยังท้าทายเจ้าหน้าที่ไทยอย่างร้ายแรงด้วย พลจัตตวา นัก วงษ์ มีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ภาคทหาร 4 ซึ่งภาคทหารที่ 4 หรือ โยธภูมิภาค 4 (យោធភូមិភាគទី៤) กินพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร จังหวัดเสียมราฐ และจังหวัดกำปงธม ทางตอนเหนือละกลางส่วนเหนือของกัมพูชา โดยเฉพาะจังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร เป็นพื้นที่ที่ความขัดแย้งด้านพรมแดนกับไทยจำนวนหนึ่ง รวมถึงบริเวณปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และปราสาทเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 พลจัตวา นัก วงส์ เพิ่งจะได้นำข้าราชการกองพลเยี่ยมเยียนกองกำลังที่ประจำการในพื้นที่ประจำการของทหารกัมพูชาที่ประจันหน้ากับปราสาทตาเมือนธมของไทย และมอบสารอวยพรจาก ฮุน เซน และนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต แก่ประชาชนเนื่องในโอกาสเทศกาลฉลองเทศกาลเทศกาลผชุมบิณฑ์ หรือเทศกาลเซ่นไหว้ลรรพบุรุษของชาวเขมรการกระทำของพลจัตวา นัก วงส์ที่ลุกล้ำอธิปไตยของไทยได้รับการชื่นชมจากชาวกัมพูชาในโซเชียลมีเดีย เช่น Sambath Khat กล่าวว่า "ในฐานะประชาชนชาวกัมพูชา ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการตัดสินใจสั่งการให้กองทัพรักชาติเข้มแข็งและมุ่งมั่นในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนสุวรรณภูมิเขมร โดยได้รับคำสั่งโดยตรงจากอุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ภาคทหารที่ 4"ส่วนคนเขมรกัมพูชาที่ใช้ชื่อว่า Phan Nith กล่าวอ้างคำพูดของ พลจัตวา นัก วงส์ที่ว่า "ถ้าจะยิงก็ยิงเลย อย่ากลัว!" และบอกต่อไปว่า อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ได้สั่งห้ามคนไทยยืนต่อแถวร้องเพลงบริเวณปราสาทตาเมือนธม เช่นเดียวกับทหารสยามที่สั่งห้ามพลเมืองเขมรยืนร้องเพลงชาติบริเวณปราสาทตาเมือนธม นี่คือคำพูดของอุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ที่กล่าวและชี้ไปที่ใบหน้าของพวกอันธพาลสยามเหล่านั้น เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทหารเขมรของเราอย่างอุตมะเสนีย์ตรี (นัก วงส์)ผู้บัญชาเขมรแห้งการกองพลทหารราบที่ 42 เป็นผู้กล้าหาญและกล้าหาญในการปกป้องดินแดนกัมพูชาบริเวณปราสาทตาเมือนธม เขาไม่ยอมให้กับพวกอันธพาลสยามที่กำลังโจมตีคนเขมรเรา"ขณะที่บล็อเกอร์ชาวกัมพูชสอีกรายกล่าวยกย่องว่า "อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ เป็นคนรักชาติจริงๆ พวกเขาขวางเรา เราก็ขวางพวกเขา อย่าไปกลัว" แม้แต่สื่อกัมพูชาก็ยกย่องการกระทำของบุคคลนี้ โดย Beemax TV กล่าวว่า "คำพูดของ อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาชายแดน ทำให้ชาวกัมพูชาดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขากล้าพูดประโยคนี้กับกองทัพไทย โดยห้ามชาวกัมพูชาร้องเพลงชาติที่ปราสาทตาเมือนธม" โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
    จากการตรวจสอบของ The Better ทราบว่า บุคคลที่เป็นผู้นำแม่บ้านชาวกัมพูชาไปร้องเพลงชาติบนปราสาทตาเมือนธมของประเทศไทย คือ 'อุตตมะเสนีย์ตรี (พลจัตวา) นัก วงส์' (ឧត្តមសេនីយ៍ត្រី នាក់ វង្ស) นายทหารของกัมพูชา วึ่งนอกจากจะพาคนเขมรกัมพูชาไปกระทำการล่วงละเมิดอธิปไตยของไทยในดินแดนของไทยแล้ว ยังท้าทายเจ้าหน้าที่ไทยอย่างร้ายแรงด้วย พลจัตตวา นัก วงษ์ มีตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ภาคทหาร 4 ซึ่งภาคทหารที่ 4 หรือ โยธภูมิภาค 4 (យោធភូមិភាគទី៤) กินพื้นที่ 3 จังหวัด คือ จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร จังหวัดเสียมราฐ และจังหวัดกำปงธม ทางตอนเหนือละกลางส่วนเหนือของกัมพูชา โดยเฉพาะจังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร เป็นพื้นที่ที่ความขัดแย้งด้านพรมแดนกับไทยจำนวนหนึ่ง รวมถึงบริเวณปราสาทตาเมือนธม ตำบลตาเมียง อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ และปราสาทเขาพระวิหาร อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 พลจัตวา นัก วงส์ เพิ่งจะได้นำข้าราชการกองพลเยี่ยมเยียนกองกำลังที่ประจำการในพื้นที่ประจำการของทหารกัมพูชาที่ประจันหน้ากับปราสาทตาเมือนธมของไทย และมอบสารอวยพรจาก ฮุน เซน และนายกรัฐมนตรี ฮุน มาเนต แก่ประชาชนเนื่องในโอกาสเทศกาลฉลองเทศกาลเทศกาลผชุมบิณฑ์ หรือเทศกาลเซ่นไหว้ลรรพบุรุษของชาวเขมรการกระทำของพลจัตวา นัก วงส์ที่ลุกล้ำอธิปไตยของไทยได้รับการชื่นชมจากชาวกัมพูชาในโซเชียลมีเดีย เช่น Sambath Khat กล่าวว่า "ในฐานะประชาชนชาวกัมพูชา ผมมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งกับการตัดสินใจสั่งการให้กองทัพรักชาติเข้มแข็งและมุ่งมั่นในการปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนสุวรรณภูมิเขมร โดยได้รับคำสั่งโดยตรงจากอุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 42 ภาคทหารที่ 4"ส่วนคนเขมรกัมพูชาที่ใช้ชื่อว่า Phan Nith กล่าวอ้างคำพูดของ พลจัตวา นัก วงส์ที่ว่า "ถ้าจะยิงก็ยิงเลย อย่ากลัว!" และบอกต่อไปว่า อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ได้สั่งห้ามคนไทยยืนต่อแถวร้องเพลงบริเวณปราสาทตาเมือนธม เช่นเดียวกับทหารสยามที่สั่งห้ามพลเมืองเขมรยืนร้องเพลงชาติบริเวณปราสาทตาเมือนธม นี่คือคำพูดของอุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ที่กล่าวและชี้ไปที่ใบหน้าของพวกอันธพาลสยามเหล่านั้น เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ฉันมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ทหารเขมรของเราอย่างอุตมะเสนีย์ตรี (นัก วงส์)ผู้บัญชาเขมรแห้งการกองพลทหารราบที่ 42 เป็นผู้กล้าหาญและกล้าหาญในการปกป้องดินแดนกัมพูชาบริเวณปราสาทตาเมือนธม เขาไม่ยอมให้กับพวกอันธพาลสยามที่กำลังโจมตีคนเขมรเรา"ขณะที่บล็อเกอร์ชาวกัมพูชสอีกรายกล่าวยกย่องว่า "อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ เป็นคนรักชาติจริงๆ พวกเขาขวางเรา เราก็ขวางพวกเขา อย่าไปกลัว" แม้แต่สื่อกัมพูชาก็ยกย่องการกระทำของบุคคลนี้ โดย Beemax TV กล่าวว่า "คำพูดของ อุตตมะเสนีย์ตรี นัก วงส์ ผู้บังคับการกองกำลังรักษาชายแดน ทำให้ชาวกัมพูชาดีใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่เขากล้าพูดประโยคนี้กับกองทัพไทย โดยห้ามชาวกัมพูชาร้องเพลงชาติที่ปราสาทตาเมือนธม" โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 929 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตามที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ ว่าทาง DSI หรือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ อยู่ระหว่างกระบวนการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ถ้อยคำเกี่ยวกับคดี “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ซึ่งมีประมาณ 20 ปาก โดยจะทยอยนัดหมายมาพบภายในเดือนกุมภาพันธ์ และในจำนวนดังกล่าว มีเหล่าคนดังรวมอยู่ด้วย ได้แก่ (3 ก.พ. 68) มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เข้าให้ปากคำแล้ว, (11 ก.พ. 68) กรรมการบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด และ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย, (13 ก.พ. 68) บิณฑ์ - เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์, (18 ก.พ. 68) พ.ต.ต.ปภิณวิช รอดบางยาง, (19 ก.พ. 68 ) ชัช ตลาดไท ตามลำดับ

    แต่ในวันนี้ที่ถึงคิวของ “หนุ่ม กรรชัย” ก็มีหลายคำถามถาโถมมาว่าทำไมถึงไม่พบดีเอสไอตามที่นัดหมาย จนเจ้าตัวต้องร่ายยาวกลางรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ว่าไม่ใช่เป็นการนัด

    “ขอชี้แจงสักนิดนึงนะครับ ผมรำคาญเรื่องนี้มากเลยครับ ขออนุญาต คนมาถามผมเยอะมากว่าทำไมวันนี้ผมถึงไม่ไปดีเอสไอ ขอความร่วมมือให้ผมเข้าไปพบ ต้องเรียนแบบนี้ครับในกรณีของคุณแตงโม ทางดีเอสไอได้ออกหนังสือเพื่อจะเรียกผม ผมขอใช้คำว่าตามในหนังสือขอความร่วมมือ ไม่ใช่เป็นการเรียกตัวให้ไปพบ อันนี้เอาไปลง กรุณาใช้วิจารณญาณในการนำเสนอด้วย เป็นการขอความร่วมมือ อย่างที่เห็นอยู่ว่าผมเองก็ต้องทำงาน ผมก็ไปไม่ได้หรอก ผมก็เลยให้ทางฝั่งของทนายความ ประสานไป 2-3 วันแล้ว ว่าผมเองไม่ว่าง ต้องอ่านข่าว ต้องขอเลื่อนไปก่อน ถ้าได้วันไหนจะแจ้งให้ทราบอีกที หรือท่าทางดีเอสไอจะเข้ามาพบผม ผมก็ยินดี ยินดีที่จะให้ความร่วมมืออยู่แล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000013711

    #MGROnline #DSI #กรมสอบสวนคดีพิเศษ #หนุ่มกรรชัย #แตงโมนิดา #แตงโมต้องได้รับความยุติธรรม
    ตามที่มีข่าวออกไปก่อนหน้านี้ ว่าทาง DSI หรือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ อยู่ระหว่างกระบวนการเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ถ้อยคำเกี่ยวกับคดี “แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์” ซึ่งมีประมาณ 20 ปาก โดยจะทยอยนัดหมายมาพบภายในเดือนกุมภาพันธ์ และในจำนวนดังกล่าว มีเหล่าคนดังรวมอยู่ด้วย ได้แก่ (3 ก.พ. 68) มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เข้าให้ปากคำแล้ว, (11 ก.พ. 68) กรรมการบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด และ หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย, (13 ก.พ. 68) บิณฑ์ - เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์, (18 ก.พ. 68) พ.ต.ต.ปภิณวิช รอดบางยาง, (19 ก.พ. 68 ) ชัช ตลาดไท ตามลำดับ • แต่ในวันนี้ที่ถึงคิวของ “หนุ่ม กรรชัย” ก็มีหลายคำถามถาโถมมาว่าทำไมถึงไม่พบดีเอสไอตามที่นัดหมาย จนเจ้าตัวต้องร่ายยาวกลางรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ว่าไม่ใช่เป็นการนัด • “ขอชี้แจงสักนิดนึงนะครับ ผมรำคาญเรื่องนี้มากเลยครับ ขออนุญาต คนมาถามผมเยอะมากว่าทำไมวันนี้ผมถึงไม่ไปดีเอสไอ ขอความร่วมมือให้ผมเข้าไปพบ ต้องเรียนแบบนี้ครับในกรณีของคุณแตงโม ทางดีเอสไอได้ออกหนังสือเพื่อจะเรียกผม ผมขอใช้คำว่าตามในหนังสือขอความร่วมมือ ไม่ใช่เป็นการเรียกตัวให้ไปพบ อันนี้เอาไปลง กรุณาใช้วิจารณญาณในการนำเสนอด้วย เป็นการขอความร่วมมือ อย่างที่เห็นอยู่ว่าผมเองก็ต้องทำงาน ผมก็ไปไม่ได้หรอก ผมก็เลยให้ทางฝั่งของทนายความ ประสานไป 2-3 วันแล้ว ว่าผมเองไม่ว่าง ต้องอ่านข่าว ต้องขอเลื่อนไปก่อน ถ้าได้วันไหนจะแจ้งให้ทราบอีกที หรือท่าทางดีเอสไอจะเข้ามาพบผม ผมก็ยินดี ยินดีที่จะให้ความร่วมมืออยู่แล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000013711 • #MGROnline #DSI #กรมสอบสวนคดีพิเศษ #หนุ่มกรรชัย #แตงโมนิดา #แตงโมต้องได้รับความยุติธรรม
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 726 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิณฑ์-เอกพันธ์ ลั่นไม่กลัว เชื่อมีขบวนการกดสำนวนคดีแตงโม (24/01/68) #news1 #คดีแตงโม #บิณฑ์-เอกพันธ์
    บิณฑ์-เอกพันธ์ ลั่นไม่กลัว เชื่อมีขบวนการกดสำนวนคดีแตงโม (24/01/68) #news1 #คดีแตงโม #บิณฑ์-เอกพันธ์
    Like
    Love
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1071 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • "พระสุวรรณเจดีย์ " วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อท่านเดินเข้าทางประตูทางทิศตะวันออกจะเห็นปราสาทพระเทพบิดร แต่ปัจจุบันก่อนที่เค้าจะปิดโควิด-๑๙ ประตูทิศนี้จะเป็นทางออกนะครับ พระสุวรรณเจดีย์ หรือเจดีย์ทองจะมีอยู่ ๒ องค์ อยู่ด้านหน้า"ปราสาทพระเทพบิดร"สองข้างบันไดตรงทางขึ้น ความเป็นมาดังนี้ รัชกาลที่ ๑ ทรงโปรดเกล้าให้สร้างเขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่สมเด็จพระบรมราชชนกและสมเด็จพระบรมราชชนนี องค์ด้านทิศเหนืออุทิศถวายพระราชมารดา เจดีย์ทั้งสององค์มีลักษณะและขนาดเหมือนกันทุกอย่างเป็นเจดีย์ทรงเครื่องย่อมุมไม้สิบสอง หุ้มด้วยแผ่นทองแดง หรือ จังโก้ ลงรักปิดทองทับอีกชั้นตลอดองค์เจดีย์ ตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยม ฐานกว้าง ๘.๕๐ เมตร สูงจากพื้นประมาณ ๑๖ เมตร แต่ละชั้นลดสูงประมาณ๑ เมตร บุด้วยหินอ่อนจำหลักลายกากบาท เหนือฐานขึ้นไปเป็นรูปพญามาร(ยักษ์)และขุนกระบี่(ลิง) ทำด้วยปูนปั้นปิดกระจกสีแบกพระเจดีย์ทั้งหมด ๒๐ ตน เฉพาะตรงกลางฐานทั้ง ๔ ด้าน เป็นรูปขุนกระบี่ เหนือขึ้นไปเป็นฐานสิงห์ ๓ ชั้น แต่ละชั้นคั่นด้วยหน้ากระดาน ๖ ชั้น เป็นฐานบัวหงายรองรับองค์ครรภธาตุทรงจอมแห แต่งลายรูปดอกบัวอยู่กึ่งกลางทั้ง ๔ ต้น ถัดไปเป็นยอดรัตนบัลลังก์ทำเป็นบัวกลุ่ม ๙ ชั้น ยอดนภศูลเป็นโลหะฉลุโปร่งปิดทองทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ---------------------- #gr#grandpalacea#bangkokgrandpalaceh#thegrandpalaceh#thegrandpalacebangkokร#พระบรมมหาราชวังร#พระราชวังa#watphrakaewa#watphrasirattanasatsadarame#templeoftheemeraldbuddhah#theemeraldbuddhatempleั#วัดพระแก้วั#วัดพระแก้วมรกตั#วัดพระศรีรัตนศาสดารามร#พระแก้วร#พระแก้วมรกตa#bangkokh#thailandiampiya
    "พระสุวรรณเจดีย์ " วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อท่านเดินเข้าทางประตูทางทิศตะวันออกจะเห็นปราสาทพระเทพบิดร แต่ปัจจุบันก่อนที่เค้าจะปิดโควิด-๑๙ ประตูทิศนี้จะเป็นทางออกนะครับ พระสุวรรณเจดีย์ หรือเจดีย์ทองจะมีอยู่ ๒ องค์ อยู่ด้านหน้า"ปราสาทพระเทพบิดร"สองข้างบันไดตรงทางขึ้น ความเป็นมาดังนี้ รัชกาลที่ ๑ ทรงโปรดเกล้าให้สร้างเขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่สมเด็จพระบรมราชชนกและสมเด็จพระบรมราชชนนี องค์ด้านทิศเหนืออุทิศถวายพระราชมารดา เจดีย์ทั้งสององค์มีลักษณะและขนาดเหมือนกันทุกอย่างเป็นเจดีย์ทรงเครื่องย่อมุมไม้สิบสอง หุ้มด้วยแผ่นทองแดง หรือ จังโก้ ลงรักปิดทองทับอีกชั้นตลอดองค์เจดีย์ ตั้งอยู่บนฐานแปดเหลี่ยม ฐานกว้าง ๘.๕๐ เมตร สูงจากพื้นประมาณ ๑๖ เมตร แต่ละชั้นลดสูงประมาณ๑ เมตร บุด้วยหินอ่อนจำหลักลายกากบาท เหนือฐานขึ้นไปเป็นรูปพญามาร(ยักษ์)และขุนกระบี่(ลิง) ทำด้วยปูนปั้นปิดกระจกสีแบกพระเจดีย์ทั้งหมด ๒๐ ตน เฉพาะตรงกลางฐานทั้ง ๔ ด้าน เป็นรูปขุนกระบี่ เหนือขึ้นไปเป็นฐานสิงห์ ๓ ชั้น แต่ละชั้นคั่นด้วยหน้ากระดาน ๖ ชั้น เป็นฐานบัวหงายรองรับองค์ครรภธาตุทรงจอมแห แต่งลายรูปดอกบัวอยู่กึ่งกลางทั้ง ๔ ต้น ถัดไปเป็นยอดรัตนบัลลังก์ทำเป็นบัวกลุ่ม ๙ ชั้น ยอดนภศูลเป็นโลหะฉลุโปร่งปิดทองทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ---------------------- #gr#grandpalacea#bangkokgrandpalaceh#thegrandpalaceh#thegrandpalacebangkokร#พระบรมมหาราชวังร#พระราชวังa#watphrakaewa#watphrasirattanasatsadarame#templeoftheemeraldbuddhah#theemeraldbuddhatempleั#วัดพระแก้วั#วัดพระแก้วมรกตั#วัดพระศรีรัตนศาสดารามร#พระแก้วร#พระแก้วมรกตa#bangkokh#thailandiampiya
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 799 มุมมอง 25 0 รีวิว
  • ฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน
    ผ้าไหมพื้นเรียบ ทอพิเศษ ถมดิ้นทอง พระภูษาลายพุ่มข้าวบินฑ์ยกทอง
    ทรงห่มผ้าทรงสะพักประจำเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์
    [28 กรกฎาคม 2567]
    .
    คำว่าพุ่มข้าวบิณฑ์ในทางช่างศิลป์ไทยแต่เดิมกำหนดเอารูปแบบ สวดทรงจากบาตรพระ โดยใช้สมมุติฐานเอาไว้ว่าถ้าพระภิกษุนำเอาบาตรออกบิณฑบาตตอนเช้าตรู่เพื่อเลี้ยง ชีพอันเป็นกิจวัตรหากผู้คนที่ตัก ข้าวใส่บาตรพระจนเต็มและพูนสูงขึ้นจนถึงที่สุดแล้ว(เป็น การสมมุติ เชิงศิลปะ) ทั้งนี้ไม่ต้องปิดฝาบาตรรูปทรงภายนอกของบาตรและข้าวที่บิณฑบาตได้ก็จะเข้ารูปส่งท้ายกับดอกบัวตูม เพราะถ้าพิจารณาดู แล้วส่วนก้นบาดของพระเป็นแบบมนๆ ค่อนข้างแหลมแหลม ถ้าวางไว้เฉพาะบาทบาทจะเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งวางให้ตรงๆไม่ได้ จึงต้องเชิงบาทเข้ารอบ รับจึงจะวางตรงได้ ช่วงที่เกิดจาก ท่าบิณฑบาตนี้ ท่านโบราณอาจารย์ในทางการช่างศิลปะไทยได้ขนานนามไว้ว่า “ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์”
    .
    ชุดไทยบรมพิมาน : ตั้งตามชื่อพระที่นั่งบรมพิมานในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพระราชพิธีและงานพิธีกลางคืน เสื้อแขนยาว คอกลมมีขอบตั้ง ตัวเสื้อและซิ่นติดกันเป็นชุดเดียว ตัดเย็บด้วยผ้าไหมที่มีทองแกมหรือ ยกทองทั้งตัวก็ได้ นุ่งจีบแล้วใช้เข็มขัดไทยคาด
    ----
    THAI NATIONAL ATTIRE IN THAI BOROMPHIMAN WITH
    THAI METAL-THREAD BROCADE PHUM KAO BIN MOTIF
    AND DECORATE’ S SHOULDER SASH OF THE MOST ILLUSTIOUS ORDER OF THE ROYAL HOUSE OF CHAKRI
    .
    Phum Khao Bin In Thai artisans, originally the style was specified. Praying from the monk's bowl Using the assumption that if the monks took their alms bowls to go out for alms early in the morning to earn a living as a routine practice, if the people who scooped rice into the monk's alms bowls were full and piled up to the max (this is an artistic supposition). There is no need to close the lid of the alms bowl. The outer shape of the alms bowl and the rice received will be shaped like a lotus bud. Because if you look at it, the bottom of the bowl is round and rather pointed. If placed only on the footpath, it will tilt to one side and cannot be placed straight. Therefore, you have to put your feet around it to be able to place it straight. The part that occurs from this alms-giving posture, the ancient teachers in Thai art called it the “rice bundle shape”.
    .
    Thai Boromphiman is a one-piece dress with long- sleeved plain bodice and stand collar. The silk and metal-thread brocade skirt with a sewn-in front pleat reflects the pleated hip wrappers worn by the women of the court in the nineteenth century. The style is named after Borom Phiman Mansion, on the grounds of the Grand Palace, and is worn for formal events and official ceremonies; it can also be worn by royal brides.
    ____________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินี
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    ฉลองพระองค์ชุดไทยบรมพิมาน ผ้าไหมพื้นเรียบ ทอพิเศษ ถมดิ้นทอง พระภูษาลายพุ่มข้าวบินฑ์ยกทอง ทรงห่มผ้าทรงสะพักประจำเครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์ [28 กรกฎาคม 2567] . คำว่าพุ่มข้าวบิณฑ์ในทางช่างศิลป์ไทยแต่เดิมกำหนดเอารูปแบบ สวดทรงจากบาตรพระ โดยใช้สมมุติฐานเอาไว้ว่าถ้าพระภิกษุนำเอาบาตรออกบิณฑบาตตอนเช้าตรู่เพื่อเลี้ยง ชีพอันเป็นกิจวัตรหากผู้คนที่ตัก ข้าวใส่บาตรพระจนเต็มและพูนสูงขึ้นจนถึงที่สุดแล้ว(เป็น การสมมุติ เชิงศิลปะ) ทั้งนี้ไม่ต้องปิดฝาบาตรรูปทรงภายนอกของบาตรและข้าวที่บิณฑบาตได้ก็จะเข้ารูปส่งท้ายกับดอกบัวตูม เพราะถ้าพิจารณาดู แล้วส่วนก้นบาดของพระเป็นแบบมนๆ ค่อนข้างแหลมแหลม ถ้าวางไว้เฉพาะบาทบาทจะเอียงไปข้างใดข้างหนึ่งวางให้ตรงๆไม่ได้ จึงต้องเชิงบาทเข้ารอบ รับจึงจะวางตรงได้ ช่วงที่เกิดจาก ท่าบิณฑบาตนี้ ท่านโบราณอาจารย์ในทางการช่างศิลปะไทยได้ขนานนามไว้ว่า “ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์” . ชุดไทยบรมพิมาน : ตั้งตามชื่อพระที่นั่งบรมพิมานในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพระราชพิธีและงานพิธีกลางคืน เสื้อแขนยาว คอกลมมีขอบตั้ง ตัวเสื้อและซิ่นติดกันเป็นชุดเดียว ตัดเย็บด้วยผ้าไหมที่มีทองแกมหรือ ยกทองทั้งตัวก็ได้ นุ่งจีบแล้วใช้เข็มขัดไทยคาด ---- THAI NATIONAL ATTIRE IN THAI BOROMPHIMAN WITH THAI METAL-THREAD BROCADE PHUM KAO BIN MOTIF AND DECORATE’ S SHOULDER SASH OF THE MOST ILLUSTIOUS ORDER OF THE ROYAL HOUSE OF CHAKRI . Phum Khao Bin In Thai artisans, originally the style was specified. Praying from the monk's bowl Using the assumption that if the monks took their alms bowls to go out for alms early in the morning to earn a living as a routine practice, if the people who scooped rice into the monk's alms bowls were full and piled up to the max (this is an artistic supposition). There is no need to close the lid of the alms bowl. The outer shape of the alms bowl and the rice received will be shaped like a lotus bud. Because if you look at it, the bottom of the bowl is round and rather pointed. If placed only on the footpath, it will tilt to one side and cannot be placed straight. Therefore, you have to put your feet around it to be able to place it straight. The part that occurs from this alms-giving posture, the ancient teachers in Thai art called it the “rice bundle shape”. . Thai Boromphiman is a one-piece dress with long- sleeved plain bodice and stand collar. The silk and metal-thread brocade skirt with a sewn-in front pleat reflects the pleated hip wrappers worn by the women of the court in the nineteenth century. The style is named after Borom Phiman Mansion, on the grounds of the Grand Palace, and is worn for formal events and official ceremonies; it can also be worn by royal brides. ____________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida พระราชินี Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1289 มุมมอง 0 รีวิว