• นักวิจัยชาวจีนได้พัฒนาเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลชนิดใหม่ที่เรียกว่า "Molecular HDD" ซึ่งใช้โมเลกุลอินทรีย์เป็นตัวกลางในการจัดเก็บและเข้ารหัสข้อมูล เทคโนโลยีนี้เปิดโอกาสให้เกิดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงเป็นพิเศษ และช่วยลดความต้องการพื้นที่จัดเก็บ รวมถึงลดการใช้พลังงานอย่างมาก

    ข้อมูลใน Molecular HDD ถูกอ่านและเขียนโดยใช้กล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม (Atomic Force Microscope - AFM) ที่สามารถเปลี่ยนสถานะทางไฟฟ้าของโมเลกุลเพื่อบันทึกข้อมูล เทคโนโลยีนี้สามารถรองรับสถานะการนำไฟฟ้าได้ถึง 96 สถานะต่อหน่วย (เทียบเท่ากับการเก็บข้อมูล 6 บิต) ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยี NAND แบบหลายระดับเซลล์ (Multi-Level Cell NAND)

    == จุดเด่นและความท้าทาย ==
    - พลังงานต่ำ: ระบบนี้ไม่ต้องใช้สนามแม่เหล็กแรงสูงหรือความร้อนในการเขียนข้อมูล ทำให้การอ่านและเขียนข้อมูลใช้พลังงานเพียงระดับ pW/บิต
    - ความหนาแน่นสูง: Molecular HDD สามารถเก็บข้อมูลได้ประมาณ 9.6Gbit ต่อตารางนิ้ว ซึ่งใกล้เคียงกับฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เทคโนโลยี HDMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) ที่จะวางจำหน่ายในอนาคต
    - การเข้ารหัสในตัว: รองรับการเข้ารหัสข้อมูลด้วยการดำเนินการ XOR ที่โมเลกุลโดยตรง เช่น การเข้ารหัสภาพโมเสกของ Mogao Grottoes ที่ข้อมูลของแต่ละพิกเซลถูกเข้ารหัสและถอดรหัสในระดับโมเลกุล

    อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังมีข้อจำกัดสำคัญ เช่น อายุการใช้งานที่สั้นของปลายกล้อง AFM ซึ่งสามารถใช้งานได้เพียง 50-200 ชั่วโมงในการใช้งานเป็นครั้งคราว และ 5-50 ชั่วโมงในการใช้งานต่อเนื่อง นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับ HDMR ซึ่งคาดว่าจะพร้อมสำหรับการผลิตในปี 2030 Molecular HDD อาจใช้เวลานานกว่าที่จะปรับปรุงและเข้าถึงระดับการผลิตเชิงพาณิชย์

    หากปัญหาด้านความทนทานของปลายกล้อง AFM ได้รับการแก้ไข เทคโนโลยี Molecular HDD อาจก้าวเข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ในฐานะตัวเลือกใหม่ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ในความจุสูงกว่าฮาร์ดดิสก์รุ่นปัจจุบัน รวมถึงมีศักยภาพสำหรับการจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกอย่างปลอดภัยในยุคดิจิทัล

    https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/chinese-researchers-reveal-self-encrypting-molecular-hdd-technology-supporting-100tb-capacities
    นักวิจัยชาวจีนได้พัฒนาเทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลชนิดใหม่ที่เรียกว่า "Molecular HDD" ซึ่งใช้โมเลกุลอินทรีย์เป็นตัวกลางในการจัดเก็บและเข้ารหัสข้อมูล เทคโนโลยีนี้เปิดโอกาสให้เกิดอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความหนาแน่นสูงเป็นพิเศษ และช่วยลดความต้องการพื้นที่จัดเก็บ รวมถึงลดการใช้พลังงานอย่างมาก ข้อมูลใน Molecular HDD ถูกอ่านและเขียนโดยใช้กล้องจุลทรรศน์แรงอะตอม (Atomic Force Microscope - AFM) ที่สามารถเปลี่ยนสถานะทางไฟฟ้าของโมเลกุลเพื่อบันทึกข้อมูล เทคโนโลยีนี้สามารถรองรับสถานะการนำไฟฟ้าได้ถึง 96 สถานะต่อหน่วย (เทียบเท่ากับการเก็บข้อมูล 6 บิต) ซึ่งคล้ายกับเทคโนโลยี NAND แบบหลายระดับเซลล์ (Multi-Level Cell NAND) == จุดเด่นและความท้าทาย == - พลังงานต่ำ: ระบบนี้ไม่ต้องใช้สนามแม่เหล็กแรงสูงหรือความร้อนในการเขียนข้อมูล ทำให้การอ่านและเขียนข้อมูลใช้พลังงานเพียงระดับ pW/บิต - ความหนาแน่นสูง: Molecular HDD สามารถเก็บข้อมูลได้ประมาณ 9.6Gbit ต่อตารางนิ้ว ซึ่งใกล้เคียงกับฮาร์ดดิสก์ที่ใช้เทคโนโลยี HDMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) ที่จะวางจำหน่ายในอนาคต - การเข้ารหัสในตัว: รองรับการเข้ารหัสข้อมูลด้วยการดำเนินการ XOR ที่โมเลกุลโดยตรง เช่น การเข้ารหัสภาพโมเสกของ Mogao Grottoes ที่ข้อมูลของแต่ละพิกเซลถูกเข้ารหัสและถอดรหัสในระดับโมเลกุล อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังมีข้อจำกัดสำคัญ เช่น อายุการใช้งานที่สั้นของปลายกล้อง AFM ซึ่งสามารถใช้งานได้เพียง 50-200 ชั่วโมงในการใช้งานเป็นครั้งคราว และ 5-50 ชั่วโมงในการใช้งานต่อเนื่อง นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับ HDMR ซึ่งคาดว่าจะพร้อมสำหรับการผลิตในปี 2030 Molecular HDD อาจใช้เวลานานกว่าที่จะปรับปรุงและเข้าถึงระดับการผลิตเชิงพาณิชย์ หากปัญหาด้านความทนทานของปลายกล้อง AFM ได้รับการแก้ไข เทคโนโลยี Molecular HDD อาจก้าวเข้าสู่การใช้งานเชิงพาณิชย์ในฐานะตัวเลือกใหม่ที่สามารถเก็บข้อมูลได้ในความจุสูงกว่าฮาร์ดดิสก์รุ่นปัจจุบัน รวมถึงมีศักยภาพสำหรับการจัดเก็บข้อมูลเชิงลึกอย่างปลอดภัยในยุคดิจิทัล https://www.tomshardware.com/pc-components/hdds/chinese-researchers-reveal-self-encrypting-molecular-hdd-technology-supporting-100tb-capacities
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • SBI Holdings หรือที่รู้จักในชื่อ Strategic Business Innovator Group เป็นกลุ่มบริษัทด้านบริการทางการเงินที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กำลังอยู่ในระหว่างเจรจากับ SK Hynix จากเกาหลีใต้ และ UMC จากไต้หวัน เพื่อความร่วมมือในการสร้างโรงงานชิปแห่งใหม่ในจังหวัดมิยากิ ประเทศญี่ปุ่น โรงงานแห่งนี้มุ่งเน้นไปที่กระบวนการ DRAM ขั้นปลาย (back-end DRAM processes) ร่วมกับ SK Hynix และการผลิตชิปสำหรับยานยนต์ร่วมกับ UMC ซึ่งเป็นการเสริมศักยภาพในอุตสาหกรรมชิปที่กำลังเติบโตในญี่ปุ่น

    SBI ได้ประกาศยุบโครงการร่วมทุนกับ Powerchip Semiconductor Manufacturing Corp. ของไต้หวันเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยในตอนนั้น SBI ระบุว่าจะมองหาพันธมิตรใหม่ในธุรกิจที่เกี่ยวกับชิป การเจรจากับ SK Hynix และ UMC ครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่บ่งบอกถึงทิศทางใหม่ในการขยายธุรกิจ

    สิ่งที่น่าสังเกตคือโครงการนี้อาจได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น เนื่องจากรัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสามารถในการผลิตชิปภายในประเทศเพื่อรับมือกับความท้าทายจากวิกฤตซัพพลายเชนระดับโลก

    การสร้างโรงงานในญี่ปุ่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาดชิปในประเทศ แต่ยังเป็นตัวอย่างของการสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าและ AI ต้องการชิปประสิทธิภาพสูงมากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/07/sbi-negotiating-with-sk-hynix-umc-on-japan-chip-plant-collaboration-report-says
    SBI Holdings หรือที่รู้จักในชื่อ Strategic Business Innovator Group เป็นกลุ่มบริษัทด้านบริการทางการเงินที่มีสำนักงานใหญ่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กำลังอยู่ในระหว่างเจรจากับ SK Hynix จากเกาหลีใต้ และ UMC จากไต้หวัน เพื่อความร่วมมือในการสร้างโรงงานชิปแห่งใหม่ในจังหวัดมิยากิ ประเทศญี่ปุ่น โรงงานแห่งนี้มุ่งเน้นไปที่กระบวนการ DRAM ขั้นปลาย (back-end DRAM processes) ร่วมกับ SK Hynix และการผลิตชิปสำหรับยานยนต์ร่วมกับ UMC ซึ่งเป็นการเสริมศักยภาพในอุตสาหกรรมชิปที่กำลังเติบโตในญี่ปุ่น SBI ได้ประกาศยุบโครงการร่วมทุนกับ Powerchip Semiconductor Manufacturing Corp. ของไต้หวันเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยในตอนนั้น SBI ระบุว่าจะมองหาพันธมิตรใหม่ในธุรกิจที่เกี่ยวกับชิป การเจรจากับ SK Hynix และ UMC ครั้งนี้จึงเป็นก้าวสำคัญที่บ่งบอกถึงทิศทางใหม่ในการขยายธุรกิจ สิ่งที่น่าสังเกตคือโครงการนี้อาจได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น เนื่องจากรัฐบาลกำลังให้ความสำคัญกับการพัฒนาความสามารถในการผลิตชิปภายในประเทศเพื่อรับมือกับความท้าทายจากวิกฤตซัพพลายเชนระดับโลก การสร้างโรงงานในญี่ปุ่นนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งของตลาดชิปในประเทศ แต่ยังเป็นตัวอย่างของการสร้างความร่วมมือในระดับนานาชาติที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เทคโนโลยีเกี่ยวกับยานยนต์ไฟฟ้าและ AI ต้องการชิปประสิทธิภาพสูงมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/07/sbi-negotiating-with-sk-hynix-umc-on-japan-chip-plant-collaboration-report-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    SBI negotiating with SK Hynix, UMC on Japan chip plant collaboration, report says
    TOKYO (Reuters) - SBI Holdings is negotiating with South Korea's SK Hynix and Taiwan's UMC about collaboration on a chips plant the financial firm is planning in Japan's Miyagi prefecture, Nikkan Kogyo newspaper reported on Friday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชะตากรรมของประเทศไทย ที่ฝากไว้ในมือของนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000021941
    ชะตากรรมของประเทศไทย ที่ฝากไว้ในมือของนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ บทความโดย : สุรวิชช์ วีรวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000021941
    MGRONLINE.COM
    ชะตากรรมของประเทศไทย ที่ฝากไว้ในมือของนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์
    หลังการขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร ที่เธอรับบทบาทเป็นนายกรัฐมนตรี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • Good morning Friday🩵my dear friends🥰
    Hope you have a great day 👍💯🤩
    #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    Good morning Friday🩵my dear friends🥰 Hope you have a great day 👍💯🤩 #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/yL4W6MuMXGA?si=grYRWOCato4G-7FT
    https://youtu.be/yL4W6MuMXGA?si=grYRWOCato4G-7FT
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/kXgCUqVGRQs?si=pFc5c5K9Kkpze5-x
    https://youtu.be/kXgCUqVGRQs?si=pFc5c5K9Kkpze5-x
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://youtu.be/kXgCUqVGRQs?si=R6Wovn0r-k1uEuHX
    https://youtu.be/kXgCUqVGRQs?si=R6Wovn0r-k1uEuHX
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • 6 มี.ค. 2568 นสพ.South China Morning Post ของฮ่องกง รายงานข่าว Chinese credit ratings firm downgrades Thailand over crime scandals and economic prospects ระบุว่า ไชนา เฉิงซิน (China Chengxin) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่งของจีน ได้ลดระดับ “ความน่าเชื่อถือ (Credit)” ของประเทศไทยจาก A- เป็น BBB+ หลังจากเกิดเหตุการณ์อาชญากรรมข้ามพรมแดนที่เป็นข่าวโด่งดังหลายครั้งการที่ระดับลดลง หมายความว่าความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือของไทยได้รับการจัดประเภทเป็น “ปานกลาง (Normal)” แทนที่จะเป็น "ต่ำ (Low)" ในขณะที่สถานะทางเศรษฐกิจและการเงินของไทยได้รับการจัดอันดับเป็น “ปกติ (Fine)” แทนที่จะเป็น “แข็งแกร่ง (Strong)”
    6 มี.ค. 2568 นสพ.South China Morning Post ของฮ่องกง รายงานข่าว Chinese credit ratings firm downgrades Thailand over crime scandals and economic prospects ระบุว่า ไชนา เฉิงซิน (China Chengxin) บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือระหว่างประเทศ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกรุงปักกิ่งของจีน ได้ลดระดับ “ความน่าเชื่อถือ (Credit)” ของประเทศไทยจาก A- เป็น BBB+ หลังจากเกิดเหตุการณ์อาชญากรรมข้ามพรมแดนที่เป็นข่าวโด่งดังหลายครั้งการที่ระดับลดลง หมายความว่าความเสี่ยงด้านความน่าเชื่อถือของไทยได้รับการจัดประเภทเป็น “ปานกลาง (Normal)” แทนที่จะเป็น "ต่ำ (Low)" ในขณะที่สถานะทางเศรษฐกิจและการเงินของไทยได้รับการจัดอันดับเป็น “ปกติ (Fine)” แทนที่จะเป็น “แข็งแกร่ง (Strong)”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • THE GREATEST SPIRITS 🪷วันพระ พฤหัสบดี ที่ 6 มีนาคม พ.ศ 2568 . ท่าน ว. วชิรเมธี
    THE GREATEST SPIRITS 🪷วันพระ พฤหัสบดี ที่ 6 มีนาคม พ.ศ 2568 . ท่าน ว. วชิรเมธี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เฮลโล กระทรวง DE กับ กสทช อยู่ไหน มาโปรโมทหน่อยเร็ว !!!

    Electronic Frontier Foundation (EFF) ได้เปิดตัวเครื่องมือโอเพ่นซอร์สชื่อ 'Rayhunter' เพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจจับเครื่องจำลองเซลล์ไซต์ (CSS) หรือที่รู้จักกันในชื่อ IMSI catchers หรือ Stingrays เครื่องมือเหล่านี้สามารถปลอมเป็นสถานีฐานโทรศัพท์มือถือเพื่อหลอกให้โทรศัพท์เชื่อมต่อ และสามารถจับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ตำแหน่งที่แม่นยำของผู้ใช้ และอาจดักจับการสื่อสารได้

    เครื่องมือ Rayhunter ทำงานโดยจับและวิเคราะห์การจราจรสัญญาณควบคุมระหว่างจุดเชื่อมต่อเคลื่อนที่กับสถานีฐานที่เชื่อมต่ออยู่ โดยไม่ตรวจสอบกิจกรรมของผู้ใช้ Rayhunter จะตรวจสอบการสื่อสารในแบบเรียลไทม์และค้นหาเหตุการณ์ที่น่าสงสัย เช่น การที่สถานีฐานพยายามลดระดับการเชื่อมต่อของคุณเป็น 2G ที่อ่อนแอต่อการโจมตี หรือการที่สถานีฐานขอ IMSI ของคุณในสภาวะที่น่าสงสัย

    เครื่องมือนี้สามารถใช้งานบนอุปกรณ์พกพา Orbic RC400L ซึ่งเป็นโมเด็ม 4G LTE ที่มีราคาถูกเพียง 20 ดอลลาร์ และมีจำหน่ายทั่วไป การใช้เครื่องมือ Rayhunter นี้ไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ที่มีการรูทหรือซอฟต์แวร์วิทยุที่มีราคาแพง

    เมื่อ Rayhunter ตรวจพบการสื่อสารเครือข่ายที่น่าสงสัย หน้าจอของ Orbic จะเปลี่ยนเป็นสีแดงจากสีเขียว/น้ำเงินปกติ เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้ถึงการโจมตี Stingray ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดบันทึก PCAP จากอุปกรณ์เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือใช้เพื่อสนับสนุนการสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/open-source-tool-rayhunter-helps-users-detect-stingray-attacks/
    เฮลโล กระทรวง DE กับ กสทช อยู่ไหน มาโปรโมทหน่อยเร็ว !!! Electronic Frontier Foundation (EFF) ได้เปิดตัวเครื่องมือโอเพ่นซอร์สชื่อ 'Rayhunter' เพื่อช่วยผู้ใช้ตรวจจับเครื่องจำลองเซลล์ไซต์ (CSS) หรือที่รู้จักกันในชื่อ IMSI catchers หรือ Stingrays เครื่องมือเหล่านี้สามารถปลอมเป็นสถานีฐานโทรศัพท์มือถือเพื่อหลอกให้โทรศัพท์เชื่อมต่อ และสามารถจับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน ตำแหน่งที่แม่นยำของผู้ใช้ และอาจดักจับการสื่อสารได้ เครื่องมือ Rayhunter ทำงานโดยจับและวิเคราะห์การจราจรสัญญาณควบคุมระหว่างจุดเชื่อมต่อเคลื่อนที่กับสถานีฐานที่เชื่อมต่ออยู่ โดยไม่ตรวจสอบกิจกรรมของผู้ใช้ Rayhunter จะตรวจสอบการสื่อสารในแบบเรียลไทม์และค้นหาเหตุการณ์ที่น่าสงสัย เช่น การที่สถานีฐานพยายามลดระดับการเชื่อมต่อของคุณเป็น 2G ที่อ่อนแอต่อการโจมตี หรือการที่สถานีฐานขอ IMSI ของคุณในสภาวะที่น่าสงสัย เครื่องมือนี้สามารถใช้งานบนอุปกรณ์พกพา Orbic RC400L ซึ่งเป็นโมเด็ม 4G LTE ที่มีราคาถูกเพียง 20 ดอลลาร์ และมีจำหน่ายทั่วไป การใช้เครื่องมือ Rayhunter นี้ไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ที่มีการรูทหรือซอฟต์แวร์วิทยุที่มีราคาแพง เมื่อ Rayhunter ตรวจพบการสื่อสารเครือข่ายที่น่าสงสัย หน้าจอของ Orbic จะเปลี่ยนเป็นสีแดงจากสีเขียว/น้ำเงินปกติ เพื่อแจ้งเตือนผู้ใช้ถึงการโจมตี Stingray ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงและดาวน์โหลดบันทึก PCAP จากอุปกรณ์เพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์หรือใช้เพื่อสนับสนุนการสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/open-source-tool-rayhunter-helps-users-detect-stingray-attacks/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Open-source tool 'Rayhunter' helps users detect Stingray attacks
    The Electronic Frontier Foundation (EFF) has released a free, open-source tool named Rayhunter that is designed to detect cell-site simulators (CSS), also known as IMSI catchers or Stingrays.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาหากใครได้ขับรถไปทางเส้นสุขุมวิท บริเวณจุดเชื่อมต่อระยอง – จันทบุรี เราอาจได้เห็นล้งทุเรียนมากมายริมถนนสุขุมวิท และยิ่งใครได้เดินทางมาช่วงมีนาคม – เมษายน ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยรถขนทุเรียนรายล้อม ล้งทุเรียนที่คึกคักตลอดวันตลอดคืน หรือแม้แต่การชิงตัดราคากันบนถนนระหว่างรถจอดติดไฟแดงเอง ก็เป็นเหตุการณ์ที่คนในพื้นที่คุ้นเคยกันดี หรือหลายคนอาจจะเคยได้ยินอย่างอาชีพคนวิ่งทุเรียนย้อนกลับไปก่อนการเฟื่องฟูของล้งทุเรียนที่หมายถึงพ่อค้าคนกลางที่เป็นเหมือนโรงคัดแยกและบรรจุทุเรียนเพื่อส่งไปขายต่อ จริงๆ แล้ว ‘ล้ง’ นั้นถูกใช้งานกับการเป็นพ่อค้าคนกลางสำหรับผลไม้ประเภทอื่นๆ ด้วยจากข้อมูลในรายงานศึกษา ได้ชี้ให้เห็นตัวเลขว่า ก่อนปี พ.ศ. 2550 ทุเรียนส่วนใหญ่ยังเน้นบริโภคในประเทศ โดยส่งออกน้อยกว่า 30% ของผลผลิตทั้งหมด แต่หลังปี พ.ศ. 2555 เป็นต้นมา เมื่อเริ่มมีความต้องการจากตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ทำให้ล้งเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยแรกเริ่มมีล้งของคนไทย ล้งของคนจีน และล้งของคนเวียดนาม จนกระทั่งตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 70% ของผลผลิตทั้งหมด นำไปสู่การเปลี่ยนวิถีการขายทุเรียนที่เน้นเหมาสวนส่งให้ล้ง มีนายหน้าตกลงราคาก่อนผลผลิตจะออกผลและส่งขายโดยข้อมูลในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร ได้แสดงสถิติไว้ว่า ล้งที่ส่งออกไปขายที่จีนทั่วประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 2,122 ราย หากสโคปลงมาที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออกแบ่งเป็น จันทบุรี 909 ราย ระยอง 50 ราย และตราด 29 ราย รวมเป็น 988 ราย หรือคิดเป็น 42.84% ของจำนวนล้งทั้งประเทศแต่นี่เป็นเพียงตัวเลขที่มีการขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานรัฐเท่านั้น เพราะตามรายงานศึกษาของ Land Watch และ EEC Watch พบว่า ในการรายงานข่าวจากสำนักข่าว ThaiPBS ได้ลงพื้นที่สอบถามเจ้าของสวนทุเรียน และพบว่าจำนวนล้งใน 3 จังหวัด จันทบุรี ระยอง ตราด นั้นมีมากกว่า 1,200 ล้งในรายงานศึกษายังได้อธิบายรูปแบบการทำธุรกิจของล้ง โดยแบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ ล้งจีน ล้งไทย และล้งไทยที่มีการร่วมทุนกับต่างชาติ (ซึ่งก็คือจีน) โดยในรูปแบบที่เป็นการร่วมทุน จะมาในลักษณะของ ทุนต่างชาติเป็นผู้ลงเงิน ส่วนคนไทยจะเป็นคนจัดหาลูกทุเรียน และจัดการเรื่องส่งออกโดยข้อมูลจากแหล่งข้อมูลในพื้นที่กรณีศึกษา พบว่า ล้งที่เป็นการร่วมทุนจะตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี ในขณะที่ล้งจีน 100% จะพบได้ที่อำเภอท่าใหม่ และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี โดยใช้ทุนหมุนเวียนวันละไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท โดยใน 3 จังหวัดภาคตะวันออกมีการคาดการณ์ว่ามีล้งจีนกว่า 600 ล้ง ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร แต่ก็ยังมีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอีกมากเช่นกันในขณะที่ล้งไทยส่วนใหญ่ จะเป็นคนมีตำแหน่งอย่างผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนัน โดยจะเป็นพ่อค้าคนกลางส่งต่อให้กับบริษัทส่งออกของจีนอีกทอดหนึ่ง และมักใช้วิธีการซื้อผ่านการ ‘เกี๊ยว’ หรือมัดจำเอาไว้กับสวนทุเรียนตั้งแต่ช่วงออกดอกหรือที่เรียกว่าช่วง หางแย้ โดยอาศัยความเป็นคนในพื้นที่ในการมีข้อมูลว่าบ้านไหนทำสวน และล้งไทยจะต้องหาให้ได้ตามดีลที่มักนับหน่วยเป็นเต็ม 1 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือประมาณ 18 ตันปัจจุบันจากรายงานข่าวของ ThaiPBS ในเดือนมีนาคม 2567 พบว่าในจังหวัดจันทบุรีมีล้งไทยเหลือไม่ถึง 10% ของจำนวนล้งในจันทบุรี ส่วนใหญ่ได้ผันตัวเป็นล้งที่ร่วมทุนระหว่างไทย-จีน ไปแล้วแต่ดูเหมือนว่าแม้ล้งจะเป็นผู้กำหนดราคาคนสำคัญ แต่ทุนจีนมองการณ์ไกลกว่านั้น โดยเริ่มทำล้งที่มีสวนทุเรียนไปด้วยนั่นเอง‘เขา’ มาซื้อสวนทุเรียนจากปลายน้ำอย่างการรับซื้อผลทุเรียน สู่กลางน้ำที่เป็นพ่อค้าคนกลางเองในการเป็นล้ง การทำธุรกิจทุเรียนของจีนได้รุกคืบเข้ามาในอุตสาหกรรมทุเรียนของไทยสู่ต้นน้ำ หรือคือการเป็นผู้ผลิตเสียเอง โดยเริ่มมีการครอบครองสวนทุเรียนโดยทุนจีน ซึ่งจากรายงานศึกษานี้พบว่ากลุ่มทุนจีนที่มาทำธุรกิจล้งทุเรียนมักเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่มาซื้อสวนทุเรียนและทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะมีผลผลิตสำหรับการส่งออกที่เพียงพอ แต่อีกเหตุผลที่สำคัญกว่าก็คือการทำกำไรมหาศาล เนื่องจากสามารถกำหนดราคาได้เอง และควบคุมตลาดได้เบ็ดเสร็จโดยในรายงานศึกษาได้นำเสนอวิธีการครอบครองที่ดินของทุนจีน โดยพื้นที่ที่ทุนจีนเล็งไว้มักมีลักษณะที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำเนื่องจากทุเรียนต้องใช้น้ำจำนวนมากในการดูแล นอกจากนี้ทุนจีนมักไม่สนใจที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์เนื่องจากมีราคาสูง แต่มักเลือกที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เช่นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติซึ่งการเริ่มต้นเข้าไปครอบครองทำสวนทุเรียนจะเริ่มจากมีนายหน้าคนไทยที่คอยเป็นนอมินีให้ทุนจีนโพสต์ตามหาที่ดินตามกบุ่มซื้อ-ขายที่ดินในโซเชียลมีเดีย และมีนายหน้าคนไทยเข้ามาคอมเมนต์เสนอขายที่ดิน ซึ่งนายหน้าที่มาขายที่ดินส่วนใหญ่ก็มักเป็นผู้นำชุมชน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนันที่รู้จักพื้นที่เป็นอย่างดีหลังจากได้ข้อมูลที่ดินก็จะมีการนัดแนะ และคนจีนจะเข้าไปดูพื้นที่และตัดสินใจด้วยตัวเองทันทีไม่ผ่านนายหน้า โดยมีข้อสังเกตว่าบางครั้งในการซื้อขายบนโซเชียลมีเดียเอง ก็อาจเป็นคนจีนที่ใช้แอคเคาต์อวตารเป็นคนไทยเพื่อลดค่าใช้จ่ายผ่านนายหน้า ซึ่งที่ดินที่ทุนจีนสนใจมักเป็นสวนที่ต้นทุเรียนให้ผลผลิตแล้ว หลังจากถูกใจในที่ดินก็มีการตกลงซื้อขาย ทำสัญญาเป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษ มีทนายมาร่วมในกระบวนการ โดยจะดำเนินการทำสัญญาที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน และมีผู้ใหญ่บ้านเป็นพยาน เพื่อเป็นหลักประกันว่าที่ดินนี้เชื่อถือได้ โดยผู้ใหญ่บ้านก็จะได้รับเงินในการทำสัญญาครั้งละ 3,000 – 5,000 บาทhttps://epigramnews.co/environment/cross-border-land-acquisition-by-chinese-capital/
    ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาหากใครได้ขับรถไปทางเส้นสุขุมวิท บริเวณจุดเชื่อมต่อระยอง – จันทบุรี เราอาจได้เห็นล้งทุเรียนมากมายริมถนนสุขุมวิท และยิ่งใครได้เดินทางมาช่วงมีนาคม – เมษายน ก็จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่เต็มไปด้วยรถขนทุเรียนรายล้อม ล้งทุเรียนที่คึกคักตลอดวันตลอดคืน หรือแม้แต่การชิงตัดราคากันบนถนนระหว่างรถจอดติดไฟแดงเอง ก็เป็นเหตุการณ์ที่คนในพื้นที่คุ้นเคยกันดี หรือหลายคนอาจจะเคยได้ยินอย่างอาชีพคนวิ่งทุเรียนย้อนกลับไปก่อนการเฟื่องฟูของล้งทุเรียนที่หมายถึงพ่อค้าคนกลางที่เป็นเหมือนโรงคัดแยกและบรรจุทุเรียนเพื่อส่งไปขายต่อ จริงๆ แล้ว ‘ล้ง’ นั้นถูกใช้งานกับการเป็นพ่อค้าคนกลางสำหรับผลไม้ประเภทอื่นๆ ด้วยจากข้อมูลในรายงานศึกษา ได้ชี้ให้เห็นตัวเลขว่า ก่อนปี พ.ศ. 2550 ทุเรียนส่วนใหญ่ยังเน้นบริโภคในประเทศ โดยส่งออกน้อยกว่า 30% ของผลผลิตทั้งหมด แต่หลังปี พ.ศ. 2555 เป็นต้นมา เมื่อเริ่มมีความต้องการจากตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะจีน ทำให้ล้งเพิ่มจำนวนมากขึ้น โดยแรกเริ่มมีล้งของคนไทย ล้งของคนจีน และล้งของคนเวียดนาม จนกระทั่งตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นเป็น 70% ของผลผลิตทั้งหมด นำไปสู่การเปลี่ยนวิถีการขายทุเรียนที่เน้นเหมาสวนส่งให้ล้ง มีนายหน้าตกลงราคาก่อนผลผลิตจะออกผลและส่งขายโดยข้อมูลในวันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 กองพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าพืช กรมวิชาการเกษตร ได้แสดงสถิติไว้ว่า ล้งที่ส่งออกไปขายที่จีนทั่วประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 2,122 ราย หากสโคปลงมาที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออกแบ่งเป็น จันทบุรี 909 ราย ระยอง 50 ราย และตราด 29 ราย รวมเป็น 988 ราย หรือคิดเป็น 42.84% ของจำนวนล้งทั้งประเทศแต่นี่เป็นเพียงตัวเลขที่มีการขึ้นทะเบียนกับหน่วยงานรัฐเท่านั้น เพราะตามรายงานศึกษาของ Land Watch และ EEC Watch พบว่า ในการรายงานข่าวจากสำนักข่าว ThaiPBS ได้ลงพื้นที่สอบถามเจ้าของสวนทุเรียน และพบว่าจำนวนล้งใน 3 จังหวัด จันทบุรี ระยอง ตราด นั้นมีมากกว่า 1,200 ล้งในรายงานศึกษายังได้อธิบายรูปแบบการทำธุรกิจของล้ง โดยแบ่งเป็น 3 รูปแบบ คือ ล้งจีน ล้งไทย และล้งไทยที่มีการร่วมทุนกับต่างชาติ (ซึ่งก็คือจีน) โดยในรูปแบบที่เป็นการร่วมทุน จะมาในลักษณะของ ทุนต่างชาติเป็นผู้ลงเงิน ส่วนคนไทยจะเป็นคนจัดหาลูกทุเรียน และจัดการเรื่องส่งออกโดยข้อมูลจากแหล่งข้อมูลในพื้นที่กรณีศึกษา พบว่า ล้งที่เป็นการร่วมทุนจะตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเขาคิชกูฏ จ.จันทบุรี ในขณะที่ล้งจีน 100% จะพบได้ที่อำเภอท่าใหม่ และอำเภอนายายอาม จังหวัดจันทบุรี โดยใช้ทุนหมุนเวียนวันละไม่ต่ำกว่าหนึ่งล้านบาท โดยใน 3 จังหวัดภาคตะวันออกมีการคาดการณ์ว่ามีล้งจีนกว่า 600 ล้ง ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมวิชาการเกษตร แต่ก็ยังมีที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนอีกมากเช่นกันในขณะที่ล้งไทยส่วนใหญ่ จะเป็นคนมีตำแหน่งอย่างผู้ใหญ่บ้าน หรือกำนัน โดยจะเป็นพ่อค้าคนกลางส่งต่อให้กับบริษัทส่งออกของจีนอีกทอดหนึ่ง และมักใช้วิธีการซื้อผ่านการ ‘เกี๊ยว’ หรือมัดจำเอาไว้กับสวนทุเรียนตั้งแต่ช่วงออกดอกหรือที่เรียกว่าช่วง หางแย้ โดยอาศัยความเป็นคนในพื้นที่ในการมีข้อมูลว่าบ้านไหนทำสวน และล้งไทยจะต้องหาให้ได้ตามดีลที่มักนับหน่วยเป็นเต็ม 1 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือประมาณ 18 ตันปัจจุบันจากรายงานข่าวของ ThaiPBS ในเดือนมีนาคม 2567 พบว่าในจังหวัดจันทบุรีมีล้งไทยเหลือไม่ถึง 10% ของจำนวนล้งในจันทบุรี ส่วนใหญ่ได้ผันตัวเป็นล้งที่ร่วมทุนระหว่างไทย-จีน ไปแล้วแต่ดูเหมือนว่าแม้ล้งจะเป็นผู้กำหนดราคาคนสำคัญ แต่ทุนจีนมองการณ์ไกลกว่านั้น โดยเริ่มทำล้งที่มีสวนทุเรียนไปด้วยนั่นเอง‘เขา’ มาซื้อสวนทุเรียนจากปลายน้ำอย่างการรับซื้อผลทุเรียน สู่กลางน้ำที่เป็นพ่อค้าคนกลางเองในการเป็นล้ง การทำธุรกิจทุเรียนของจีนได้รุกคืบเข้ามาในอุตสาหกรรมทุเรียนของไทยสู่ต้นน้ำ หรือคือการเป็นผู้ผลิตเสียเอง โดยเริ่มมีการครอบครองสวนทุเรียนโดยทุนจีน ซึ่งจากรายงานศึกษานี้พบว่ากลุ่มทุนจีนที่มาทำธุรกิจล้งทุเรียนมักเป็นกลุ่มเดียวกันกับที่มาซื้อสวนทุเรียนและทั้งหมดนี้ก็เพื่อเป็นการรับประกันว่าจะมีผลผลิตสำหรับการส่งออกที่เพียงพอ แต่อีกเหตุผลที่สำคัญกว่าก็คือการทำกำไรมหาศาล เนื่องจากสามารถกำหนดราคาได้เอง และควบคุมตลาดได้เบ็ดเสร็จโดยในรายงานศึกษาได้นำเสนอวิธีการครอบครองที่ดินของทุนจีน โดยพื้นที่ที่ทุนจีนเล็งไว้มักมีลักษณะที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำเนื่องจากทุเรียนต้องใช้น้ำจำนวนมากในการดูแล นอกจากนี้ทุนจีนมักไม่สนใจที่ดินที่มีเอกสารสิทธิ์เนื่องจากมีราคาสูง แต่มักเลือกที่ดินที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ เช่นในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติซึ่งการเริ่มต้นเข้าไปครอบครองทำสวนทุเรียนจะเริ่มจากมีนายหน้าคนไทยที่คอยเป็นนอมินีให้ทุนจีนโพสต์ตามหาที่ดินตามกบุ่มซื้อ-ขายที่ดินในโซเชียลมีเดีย และมีนายหน้าคนไทยเข้ามาคอมเมนต์เสนอขายที่ดิน ซึ่งนายหน้าที่มาขายที่ดินส่วนใหญ่ก็มักเป็นผู้นำชุมชน ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่บ้าน กำนันที่รู้จักพื้นที่เป็นอย่างดีหลังจากได้ข้อมูลที่ดินก็จะมีการนัดแนะ และคนจีนจะเข้าไปดูพื้นที่และตัดสินใจด้วยตัวเองทันทีไม่ผ่านนายหน้า โดยมีข้อสังเกตว่าบางครั้งในการซื้อขายบนโซเชียลมีเดียเอง ก็อาจเป็นคนจีนที่ใช้แอคเคาต์อวตารเป็นคนไทยเพื่อลดค่าใช้จ่ายผ่านนายหน้า ซึ่งที่ดินที่ทุนจีนสนใจมักเป็นสวนที่ต้นทุเรียนให้ผลผลิตแล้ว หลังจากถูกใจในที่ดินก็มีการตกลงซื้อขาย ทำสัญญาเป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษ มีทนายมาร่วมในกระบวนการ โดยจะดำเนินการทำสัญญาที่บ้านของผู้ใหญ่บ้าน และมีผู้ใหญ่บ้านเป็นพยาน เพื่อเป็นหลักประกันว่าที่ดินนี้เชื่อถือได้ โดยผู้ใหญ่บ้านก็จะได้รับเงินในการทำสัญญาครั้งละ 3,000 – 5,000 บาทhttps://epigramnews.co/environment/cross-border-land-acquisition-by-chinese-capital/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • และแล้วเราก็คุยกันมาถึงภาพสุดท้ายของสิบสองภาพวาดกงซวิ่นถู (宫训图) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดาพระภรรยาแห่งสิบสองตำหนัก โดยเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวของพระภรรยาในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ซึ่งคุณงามความดี

    ภาพที่จะกล่าวถึงในวันนี้เป็นภาพที่ถูกพระราชทานไปยังพระตำหนักจิ่งเหรินกง ดูจากไทม์ไลน์แล้วน่าจะเป็นที่ประทับของฉุนเฟย แต่ในเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฉุนเฟยประทับที่พระตำหนักจงชุ่ยกง ภาพนี้มีชื่อว่า ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ (燕姞梦兰图) หน้าตาแท้จริงเป็นอย่างไรไม่ทราบได้ เพราะว่าสูญหายไปแล้ว ภาพที่แปะมาให้ดูเป็นภาพวาดโดยจิตรกรญี่ปุ่น

    เรื่องราวของภาพคือเรื่องของเยี่ยนจี๋ อนุภรรยาของเจิ้งเหวินกง เจ้าผู้ปกครองแคว้นเจิ้งในยุคสมัยชุนชิว (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความ) นางฝันว่ามีเทพธิดานำดอกหลันฮวามามอบให้และบอกว่าดอกไม้นี้จะทำให้นางได้รับความรักจากเจิ้งเหวินกงและจะได้บุตรที่โดดเด่นมาเป็นผู้สืบทอดแผ่นดินต่อไป และวลี ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ ต่อมาถูกใช้เปรียบเปรยถึงความรักที่ออกดอกออกผลเป็นลูกหลาน และสะท้อนความนัยว่า ฝันที่ดีนำมาซึ่งเรื่องราวดีๆ และภาพนี้ถูกตีความว่า หมายถึงการทำสิ่งที่ฝันให้เป็นจริง

    เรื่องนี้คุ้นหูกันบ้างไหม? Storyฯ เคยเล่าถึงเรื่องนี้แล้วตอนที่คุยถึงวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ลองกลับไปอ่านดูกันนะคะ (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/731814662280162)

    ป้ายที่พระราชทานคู่กับภาพนี้คือ ‘จ้านเต๋อกงเหวย’ (赞德宫闱) แปลได้ประมาณว่า ศีลธรรมดีงามได้รับการยกย่องไปทั่วพระราชฐานนางใน

    จบแล้วกับสิบสองภาพวาด Storyฯ นำมาเรียบเรียงอีกครั้ง โดยเรียงลำดับจากพระตำหนักที่อยู่ใกล้พระที่นั่งหยั่งซินเตี้ยน (ที่ประทับฮ่องเต้) ตามนี้ค่ะ

    1. ตำหนักฉี่เสียงกง หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ไท่จี๋เตี้ยน (Hall of Supreme Principle) ภาพ ‘เจียงโฮ่วทัวจาน’ (姜后脱簪 / มเหสีเจียงปลดปิ่น) ความหมายคือคล้อยตามสามี ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/791887496272878)
    2. ตำหนักฉางชุนกง (Palace of Eternal Spring) ภาพ ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ (太姒诲子/ไท่ซึสอนบุตร) ความหมายคือ สั่งสอนบุตร ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/746257530835875)
    3. ตำหนักหย่งโซ่วกง (Palace of Eternal Longevity) ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (班姬辞辇图 / ปันจีผู้งามมารยาท) ความหมายคือ รู้มารยาทและพิธีการ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/750792533715708)
    4. ตำหนักอี้คุนกง (Palace of Earthly Honor) ภาพ ‘จาวหรงผิงซือ’ (昭容评诗图 / จาวหรงตัดสินบทกวี) ความหมายคือ การศึกษา ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/764297899031838)
    5. ตำหนักเสียนฝูกง (Palace of Universal Happiness) ภาพ ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ (婕妤当熊图 / เจี๋ยอวี๋ขวางหมี) ความหมายคือ กล้าหาญ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/768864935241801)
    6. ตำหนักฉู่ซิ่วกง (Palace of Gathered Elegance) ภาพ ‘ซีหลิงเจียวฉาน’ (西陵教蚕图 /ซีหลิงสอนเลี้ยงไหม) ความหมายคือ นวัตกรรม ภาพจริงสูญหายไปแล้ว(https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/754042176724077)
    7. ตำหนักจิ่งเหรินกง (Palace of Great Benevolence) ภาพ ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ (燕姞梦兰 / เยี่ยนจี๋ฝันถึงหลันฮวา) ความหมายคือ วิสัยทัศน์ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว ก็คือบทความที่เล่าถึงข้างต้นในวันนี้
    8. ตำหนักเฉินเฉียนกง (Palace of Celestial Favor) ภาพ ‘สวีเฟยจื๋อเจี้ยน’ (徐妃直谏 / สวีเฟยวิพากษ์) ความหมายคือ จงรักภักดีตรงไปตรงมา ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/759313216196973)
    9. ตำหนักจงชุ่ยกง (Palace of Accumulated Purity) ภาพ ‘สวี่โฮ่วเฟิ่งอ้าน’ (许后奉案/ สวี่ฮองเฮาถวายพระกระยาหาร) ความหมายคือ เคารพผู้อาวุโส ภาพจริงเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กู้พระราชวังต้องห้าม (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/773395164788778)
    10. ตำหนักจิ่งหยางกง (Palace of Great Brilliance) ภาพ ‘หม่าโฮ่วเลี่ยนอี’ (马后练衣图 / หม่าฮองเฮาสวมผ้า) ความหมายคือ มัธยัสถ์ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://web.facebook.com/StoryfromStory/posts/797174585744169)
    11. ตำหนักหย่งเหอกง (Palace of Eternal Harmony) ภาพ ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ (樊姬谏猎 / ฝานจีเตือนสติให้หยุดล่าสัตว์) ความหมายคือเตือนสติ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/786677160127245)
    12. ตำหนักเหยียนสี่กง (Palace of Prolonging Happiness) ภาพ ‘เฉาโฮ่วจ้งหนง’ (曹后重农图 / เฉาฮองเฮาให้ความสำคัญกับการเกษตร) ความหมายคือ ขยันขันแข็ง ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/777707414357553)

    สรุปว่าในบรรดาสิบสองภาพวาดนี้ เหลือของจริงอยู่เพียงภาพเดียวคือ ‘สวี่โฮ่วเฟิ่งอ้าน’ ภาพจริงเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กู้กง Storyฯ อาจเล่าสะเปะสะปะไปหน่อยและใช้เวลาเล่านานกว่าจะจบครบสิบสองภาพ หวังว่าเรื่องราวในภาพวาดกงซวิ่นถูจะเป็นที่เพลิดเพลินของเพื่อนเพจไม่มากก็น้อย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)
    (ป.ล. 2 ชื่อพระตำหนัก Storyฯ แปลเป็นไทยแล้วรู้สึกว่าจั๊กจี้ เลยเอาเป็นคำแปลภาษาอังกฤษมาฝากแทน)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.baike.com/wikiid/2576687878101900972?view_id=y3t51nqv02o00
    Metropolitan Museum of Arts
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.163.com/dy/article/G0GD3GUH0537ML11.html
    https://www.xiumu.cn/ts/2018/0824/4278239.html
    https://www.travelchinaguide.com/attraction/beijing/forbidden/six_eastern.htm
    https://www.travelchinaguide.com/attraction/beijing/forbidden/six_western.htm

    #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #เยี่ยนจี๋ #เจิ้งเหวินกง #เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน #หลันอินซวี่กั่ว #กงซวิ่นถู #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    และแล้วเราก็คุยกันมาถึงภาพสุดท้ายของสิบสองภาพวาดกงซวิ่นถู (宫训图) ที่ในละคร <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ทรงพระราชทานให้บรรดาพระภรรยาแห่งสิบสองตำหนัก โดยเป็นภาพที่เล่าเรื่องราวของพระภรรยาในประวัติศาสตร์ที่ถูกจารึกไว้ซึ่งคุณงามความดี ภาพที่จะกล่าวถึงในวันนี้เป็นภาพที่ถูกพระราชทานไปยังพระตำหนักจิ่งเหรินกง ดูจากไทม์ไลน์แล้วน่าจะเป็นที่ประทับของฉุนเฟย แต่ในเรื่อง <เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่> ฉุนเฟยประทับที่พระตำหนักจงชุ่ยกง ภาพนี้มีชื่อว่า ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ (燕姞梦兰图) หน้าตาแท้จริงเป็นอย่างไรไม่ทราบได้ เพราะว่าสูญหายไปแล้ว ภาพที่แปะมาให้ดูเป็นภาพวาดโดยจิตรกรญี่ปุ่น เรื่องราวของภาพคือเรื่องของเยี่ยนจี๋ อนุภรรยาของเจิ้งเหวินกง เจ้าผู้ปกครองแคว้นเจิ้งในยุคสมัยชุนชิว (ขออภัยไม่ใช้ราชาศัพท์ในบทความ) นางฝันว่ามีเทพธิดานำดอกหลันฮวามามอบให้และบอกว่าดอกไม้นี้จะทำให้นางได้รับความรักจากเจิ้งเหวินกงและจะได้บุตรที่โดดเด่นมาเป็นผู้สืบทอดแผ่นดินต่อไป และวลี ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ ต่อมาถูกใช้เปรียบเปรยถึงความรักที่ออกดอกออกผลเป็นลูกหลาน และสะท้อนความนัยว่า ฝันที่ดีนำมาซึ่งเรื่องราวดีๆ และภาพนี้ถูกตีความว่า หมายถึงการทำสิ่งที่ฝันให้เป็นจริง เรื่องนี้คุ้นหูกันบ้างไหม? Storyฯ เคยเล่าถึงเรื่องนี้แล้วตอนที่คุยถึงวลี ‘หลันอินซวี่กั่ว’ ลองกลับไปอ่านดูกันนะคะ (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/731814662280162) ป้ายที่พระราชทานคู่กับภาพนี้คือ ‘จ้านเต๋อกงเหวย’ (赞德宫闱) แปลได้ประมาณว่า ศีลธรรมดีงามได้รับการยกย่องไปทั่วพระราชฐานนางใน จบแล้วกับสิบสองภาพวาด Storyฯ นำมาเรียบเรียงอีกครั้ง โดยเรียงลำดับจากพระตำหนักที่อยู่ใกล้พระที่นั่งหยั่งซินเตี้ยน (ที่ประทับฮ่องเต้) ตามนี้ค่ะ 1. ตำหนักฉี่เสียงกง หรืออีกชื่อหนึ่งคือ ไท่จี๋เตี้ยน (Hall of Supreme Principle) ภาพ ‘เจียงโฮ่วทัวจาน’ (姜后脱簪 / มเหสีเจียงปลดปิ่น) ความหมายคือคล้อยตามสามี ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/791887496272878) 2. ตำหนักฉางชุนกง (Palace of Eternal Spring) ภาพ ‘ไท่ซึฮุ่ยจื่อ’ (太姒诲子/ไท่ซึสอนบุตร) ความหมายคือ สั่งสอนบุตร ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/746257530835875) 3. ตำหนักหย่งโซ่วกง (Palace of Eternal Longevity) ภาพ ‘ปันจีฉือเหนี่ยน’ (班姬辞辇图 / ปันจีผู้งามมารยาท) ความหมายคือ รู้มารยาทและพิธีการ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/750792533715708) 4. ตำหนักอี้คุนกง (Palace of Earthly Honor) ภาพ ‘จาวหรงผิงซือ’ (昭容评诗图 / จาวหรงตัดสินบทกวี) ความหมายคือ การศึกษา ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/764297899031838) 5. ตำหนักเสียนฝูกง (Palace of Universal Happiness) ภาพ ‘เจี๋ยอวี๋ตั่งสยง’ (婕妤当熊图 / เจี๋ยอวี๋ขวางหมี) ความหมายคือ กล้าหาญ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/768864935241801) 6. ตำหนักฉู่ซิ่วกง (Palace of Gathered Elegance) ภาพ ‘ซีหลิงเจียวฉาน’ (西陵教蚕图 /ซีหลิงสอนเลี้ยงไหม) ความหมายคือ นวัตกรรม ภาพจริงสูญหายไปแล้ว(https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/754042176724077) 7. ตำหนักจิ่งเหรินกง (Palace of Great Benevolence) ภาพ ‘เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน’ (燕姞梦兰 / เยี่ยนจี๋ฝันถึงหลันฮวา) ความหมายคือ วิสัยทัศน์ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว ก็คือบทความที่เล่าถึงข้างต้นในวันนี้ 8. ตำหนักเฉินเฉียนกง (Palace of Celestial Favor) ภาพ ‘สวีเฟยจื๋อเจี้ยน’ (徐妃直谏 / สวีเฟยวิพากษ์) ความหมายคือ จงรักภักดีตรงไปตรงมา ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/759313216196973) 9. ตำหนักจงชุ่ยกง (Palace of Accumulated Purity) ภาพ ‘สวี่โฮ่วเฟิ่งอ้าน’ (许后奉案/ สวี่ฮองเฮาถวายพระกระยาหาร) ความหมายคือ เคารพผู้อาวุโส ภาพจริงเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กู้พระราชวังต้องห้าม (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/773395164788778) 10. ตำหนักจิ่งหยางกง (Palace of Great Brilliance) ภาพ ‘หม่าโฮ่วเลี่ยนอี’ (马后练衣图 / หม่าฮองเฮาสวมผ้า) ความหมายคือ มัธยัสถ์ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://web.facebook.com/StoryfromStory/posts/797174585744169) 11. ตำหนักหย่งเหอกง (Palace of Eternal Harmony) ภาพ ‘ฝานจีเจี้ยนเลี่ย’ (樊姬谏猎 / ฝานจีเตือนสติให้หยุดล่าสัตว์) ความหมายคือเตือนสติ ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/786677160127245) 12. ตำหนักเหยียนสี่กง (Palace of Prolonging Happiness) ภาพ ‘เฉาโฮ่วจ้งหนง’ (曹后重农图 / เฉาฮองเฮาให้ความสำคัญกับการเกษตร) ความหมายคือ ขยันขันแข็ง ภาพจริงสูญหายไปแล้ว (https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/777707414357553) สรุปว่าในบรรดาสิบสองภาพวาดนี้ เหลือของจริงอยู่เพียงภาพเดียวคือ ‘สวี่โฮ่วเฟิ่งอ้าน’ ภาพจริงเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑ์กู้กง Storyฯ อาจเล่าสะเปะสะปะไปหน่อยและใช้เวลาเล่านานกว่าจะจบครบสิบสองภาพ หวังว่าเรื่องราวในภาพวาดกงซวิ่นถูจะเป็นที่เพลิดเพลินของเพื่อนเพจไม่มากก็น้อย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) (ป.ล. 2 ชื่อพระตำหนัก Storyฯ แปลเป็นไทยแล้วรู้สึกว่าจั๊กจี้ เลยเอาเป็นคำแปลภาษาอังกฤษมาฝากแทน) Credit รูปภาพจาก: https://www.baike.com/wikiid/2576687878101900972?view_id=y3t51nqv02o00 Metropolitan Museum of Arts Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.163.com/dy/article/G0GD3GUH0537ML11.html https://www.xiumu.cn/ts/2018/0824/4278239.html https://www.travelchinaguide.com/attraction/beijing/forbidden/six_eastern.htm https://www.travelchinaguide.com/attraction/beijing/forbidden/six_western.htm #เล่ห์รักตำหนักเหยียนสี่ #เยี่ยนจี๋ #เจิ้งเหวินกง #เยี่ยนจี๋เมิ่งหลัน #หลันอินซวี่กั่ว #กงซวิ่นถู #เฉียนหลงสิบสองภาพวาด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • อนาคตมัวในมือนายกGen Y

    บทความโดย : สุรวิชช์ วีวรรณ

    คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000021618
    อนาคตมัวในมือนายกGen Y บทความโดย : สุรวิชช์ วีวรรณ คลิก>> https://mgronline.com/daily/detail/9680000021618
    MGRONLINE.COM
    อนาคตมัวในมือนายกฯ Gen Y
    อุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มักพูดถึงสถานการณ์เป็นคนรุ่น Gen Y หลายครั้ง ล่าสุดเธอตอบคำถามที่ถูกพรรคฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า “เป็นเวทีที่ดีที่จะได้ให้ประชาชนเข้าใจในข้อมูลที่แท้จริงและเข้าใจความเป็นดิฉันด้วยซ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • คาเฟ่ของเราเปิดให้บริการทุกวัน มาทานเค้กอร่อยๆ พร้อมปล่อยใจชมท้องฟ้ากว้าง ที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 ⛱️

    𝐒𝐰𝐞𝐞𝐭 𝐭𝐫𝐞𝐚𝐭𝐬 𝐚𝐧𝐝 𝐬𝐭𝐮𝐧𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐯𝐢𝐞𝐰𝐬—𝐩𝐮𝐫𝐞 𝐛𝐥𝐢𝐬𝐬 𝐢𝐧 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐛𝐢𝐭𝐞.🍩🧁

    เมนูแนะนำ:
    ☕ อเมริกาโน่มะพร้าว, คาราเมล มัคคิอาโต้, มัจฉะลาเต้
    🍹 บลูโอเชี่ยน สมูทตี้, คุกกี้แอนด์ครีมมิลค์เชค
    🍝 สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ
    🥞 ฮันนี่โทสต์ เค้กตามฤดูกาล

    📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น.
    • Call: 065-081-0581
    🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้
    ...................................
    #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    คาเฟ่ของเราเปิดให้บริการทุกวัน มาทานเค้กอร่อยๆ พร้อมปล่อยใจชมท้องฟ้ากว้าง ที่ 𝐀𝐨 𝐋𝐮𝐞𝐤 𝐎𝐜𝐞𝐚𝐧 𝐕𝐢𝐞𝐰 ⛱️ 𝐒𝐰𝐞𝐞𝐭 𝐭𝐫𝐞𝐚𝐭𝐬 𝐚𝐧𝐝 𝐬𝐭𝐮𝐧𝐧𝐢𝐧𝐠 𝐯𝐢𝐞𝐰𝐬—𝐩𝐮𝐫𝐞 𝐛𝐥𝐢𝐬𝐬 𝐢𝐧 𝐞𝐯𝐞𝐫𝐲 𝐛𝐢𝐭𝐞.🍩🧁 เมนูแนะนำ: ☕ อเมริกาโน่มะพร้าว, คาราเมล มัคคิอาโต้, มัจฉะลาเต้ 🍹 บลูโอเชี่ยน สมูทตี้, คุกกี้แอนด์ครีมมิลค์เชค 🍝 สปาเก็ตตี้ซอสมะเขือเทศ 🥞 ฮันนี่โทสต์ เค้กตามฤดูกาล 📍ร้านเปิดบริการทุกวัน เวลา 09:30-19:30 น. • Call: 065-081-0581 🚗 รถยนต์ส่วนตัวสามารถขึ้นมาได้ ................................... #AoLuekOceanViewKrabi #AoLuekOceanView #aoluek #krabi #view #food #cake #cafekrabi #sunset #อ่าวลึกโอเชี่ยนวิว #อ่าวลึก #โอเชี่ยนวิว #coffeetime #coffeeaddict #cafe #คาเฟ่ #panoramaview #ไทยแลนด์ #AmazingThailand #Thailand #VisitThailand #Travel #Vacation #Travelphotography #Traveladdict #อย่าปิดการมองเห็น #อย่าปิดกั้นการมองเห็น #sunsetlover #skylover #sky
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • Good morning Thursday🧡my dear friends🥰
    Hope you have a great day 👍💯🤩
    #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    Good morning Thursday🧡my dear friends🥰 Hope you have a great day 👍💯🤩 #AiImage #IamAmatureAiCreator #ตามหากลุ่มAiCreator
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • เคล็ดลับจัดการสิวให้อยู่หมัด
    👇👇👇👇👇
    direct IG Instagram: lookatmebybp
    facebook fanpage: Look At Me by BP
    LINE OFFICIAL: @lookatme_bp
    Tiktok: look@me by BP
    Shopee:look@me by BP.
    เคล็ดลับจัดการสิวให้อยู่หมัด 👇👇👇👇👇 direct IG Instagram: lookatmebybp facebook fanpage: Look At Me by BP LINE OFFICIAL: @lookatme_bp Tiktok: look@me by BP Shopee:look@me by BP.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โซเชียลได้แห่แชร์คลิปของ “น้องพลูโต” นกเงือกหนุ่มจากสวนสัตว์เชียงใหม่ ที่มีพฤติกรรมสุดน่ารักที่ชอบแบ่งปันอาหารให้นักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมชม จนเกิดเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก

    ครั้งนี้จะขอพามาส่องอีกด้านของความน่ารักแฝงด้วยความคิดถึงของน้องพลูโต ที่พี่เลี้ยงบอกว่าการแบ่งอาหารให้คนเช่นนั้น อาจเพราะคิดว่านักท่องเที่ยวคือ “เนปจูน” คู่รักที่จากไปก็เป็นได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/travel/detail/9680000021466

    #MGROnline #น้องพลูโต #นกเงือก #สวนสัตว์เชียงใหม่
    ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โซเชียลได้แห่แชร์คลิปของ “น้องพลูโต” นกเงือกหนุ่มจากสวนสัตว์เชียงใหม่ ที่มีพฤติกรรมสุดน่ารักที่ชอบแบ่งปันอาหารให้นักท่องเที่ยวที่แวะมาเยี่ยมชม จนเกิดเป็นกระแสที่ถูกพูดถึงกันเป็นอย่างมาก • ครั้งนี้จะขอพามาส่องอีกด้านของความน่ารักแฝงด้วยความคิดถึงของน้องพลูโต ที่พี่เลี้ยงบอกว่าการแบ่งอาหารให้คนเช่นนั้น อาจเพราะคิดว่านักท่องเที่ยวคือ “เนปจูน” คู่รักที่จากไปก็เป็นได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/travel/detail/9680000021466 • #MGROnline #น้องพลูโต #นกเงือก #สวนสัตว์เชียงใหม่
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • การสู้รบดุเดือดนาน 2 สัปดาห์ระหว่างกองทัพพม่าและกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารใกล้กับพื้นที่พัฒนาของจีนในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ ทำให้พลเรือนมากกว่า 20,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนตนเอง และทำให้เกิดความต้องการด้านอาหารและยาอย่างเร่งด่วน ตามการระบุของคนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์

    กองทัพอาระกัน (AA) เป็นหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพม่า และกำลังต่อสู้เพื่อเข้าควบคุมเมืองจอก์พยู เมืองท่าชายฝั่งตะวันตก โดยกลุ่มติดอาวุธใกล้จะบรรลุเป้าหมายในการเอาชนะกองกำลังทหารของรัฐบาลที่เข้ายึดอำนาจในปี 2564 ได้หมดทั้งรัฐ

    เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในเมืองจอก์พยูกล่าวว่าการปะทะกันระหว่างกองทัพอาระกันและกองทัพได้ทวีความรุนแรงขึ้นใกล้กับฐานทัพเรือธัญญาวดี ของรัฐบาลทหารใกล้เมืองจอก์พยู ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างน้อย 10 แห่ง ต้องอพยพออกไป

    “จำนวนผู้พลัดถิ่นเพิ่มขึ้นจาก 10,000 คน เป็นประมาณ 20,000 คน นับตั้งแต่การสู้รบทวีความรุนแรงขึ้น” เจ้าหน้าที่ ระบุ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000021489

    #MGROnline #กองทัพพม่า #กลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหาร
    การสู้รบดุเดือดนาน 2 สัปดาห์ระหว่างกองทัพพม่าและกลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหารใกล้กับพื้นที่พัฒนาของจีนในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศ ทำให้พลเรือนมากกว่า 20,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือนตนเอง และทำให้เกิดความต้องการด้านอาหารและยาอย่างเร่งด่วน ตามการระบุของคนในพื้นที่และเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ • กองทัพอาระกัน (AA) เป็นหนึ่งในกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของพม่า และกำลังต่อสู้เพื่อเข้าควบคุมเมืองจอก์พยู เมืองท่าชายฝั่งตะวันตก โดยกลุ่มติดอาวุธใกล้จะบรรลุเป้าหมายในการเอาชนะกองกำลังทหารของรัฐบาลที่เข้ายึดอำนาจในปี 2564 ได้หมดทั้งรัฐ • เจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ในเมืองจอก์พยูกล่าวว่าการปะทะกันระหว่างกองทัพอาระกันและกองทัพได้ทวีความรุนแรงขึ้นใกล้กับฐานทัพเรือธัญญาวดี ของรัฐบาลทหารใกล้เมืองจอก์พยู ตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. ทำให้ชาวบ้านในหมู่บ้านใกล้เคียงอย่างน้อย 10 แห่ง ต้องอพยพออกไป • “จำนวนผู้พลัดถิ่นเพิ่มขึ้นจาก 10,000 คน เป็นประมาณ 20,000 คน นับตั้งแต่การสู้รบทวีความรุนแรงขึ้น” เจ้าหน้าที่ ระบุ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000021489 • #MGROnline #กองทัพพม่า #กลุ่มติดอาวุธต่อต้านรัฐบาลทหาร
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบช.ไซเบอร์แถลงผลทลายเครือข่ายเว็บพนันจับกุม “มินนี่” รอบ 2 ยืนยันมีหลักฐานเพียงพอออกหมายจับ พบตั้งแต่ปี 67 จนถึงปัจจุบัน พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท

    วันนี้ (5 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลทลายเครือข่ายเจ้าแม่เว็บพนัน “มินนี่” ภาค 2 โดนจับแล้วไม่เข็ดแถมยังกล้าถอนเงินจากเว็บ ขณะไปรายงานตัวที่ศาล

    สืบเนื่องจากตำรวจได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์การพนันออนไลน์เครือข่าย “Betflik” ประกอบด้วยเว็บไซต์ จำนวน 7 เว็บไซต์ ได้ลักลอบเปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เปิดให้บุคคลทั่วไปสมัครเป็นสมาชิกและเข้าเล่นพนันออนไลน์จนเกิดการเสียทรัพย์สินกันจริง จึงได้ทำการ สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์เครือข่ายดังกล่าวเรื่อยมา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021445

    #MGROnline #เครือข่ายเว็บพนัน #มินนี่
    ผบช.ไซเบอร์แถลงผลทลายเครือข่ายเว็บพนันจับกุม “มินนี่” รอบ 2 ยืนยันมีหลักฐานเพียงพอออกหมายจับ พบตั้งแต่ปี 67 จนถึงปัจจุบัน พบมีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท • วันนี้ (5 มี.ค.) ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงผลทลายเครือข่ายเจ้าแม่เว็บพนัน “มินนี่” ภาค 2 โดนจับแล้วไม่เข็ดแถมยังกล้าถอนเงินจากเว็บ ขณะไปรายงานตัวที่ศาล • สืบเนื่องจากตำรวจได้ตรวจสอบพบเว็บไซต์การพนันออนไลน์เครือข่าย “Betflik” ประกอบด้วยเว็บไซต์ จำนวน 7 เว็บไซต์ ได้ลักลอบเปิดเว็บไซต์การพนันออนไลน์ เปิดให้บุคคลทั่วไปสมัครเป็นสมาชิกและเข้าเล่นพนันออนไลน์จนเกิดการเสียทรัพย์สินกันจริง จึงได้ทำการ สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับเว็บไซต์การพนันออนไลน์เครือข่ายดังกล่าวเรื่อยมา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021445 • #MGROnline #เครือข่ายเว็บพนัน #มินนี่
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทีมแรกในโรงงานผลิตรถยนต์! ยูบีเทคโรโบติกส์ บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์สัญชาติจีนในนครเซินเจิ้น สร้างปรากฏการณ์ ติดตั้ง“วอล์กเกอร์ เอส 1” ( Walker S1) หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ “หลายสิบตัว” ที่โรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของซีเคอร์ (Zeekr) ในเมืองท่าหนิงโป เพื่อปฏิบัติงานในหลายภารกิจหลายพื้นที่ภายในโรงงาน

    ซีเคอร์ เป็นแบรนด์รถไฟฟ้าของจีลี่ออโต้ (Geely Auto) หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน

    ความสำเร็จในการทดสอบติดตั้งการใช้งานหุ่นยนต์นี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของจีนในการยกระดับขีดความสามารถด้านการผลิตอย่างมโหฬาร

    ตามการแถลงเมื่อวันจันทร์ (3 มี.ค.) ของยูบีเทค ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงนั้น บริษัทได้พัฒนาโมเดลการให้เหตุผลแบบหลายรูปแบบ (multimodal reasoning model) โดยเป็นการต่อยอดจากโมเดล R1 ของบริษัทดีปซีก (DeepSeek) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส หุ่นยนต์จึงสามารถ "วิเคราะห์ วางแผน และประสานงานต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ"

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000021081

    #MGROnline #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ #ทีมแรก #โรงงานผลิตรถยนต์
    หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ทีมแรกในโรงงานผลิตรถยนต์! ยูบีเทคโรโบติกส์ บริษัทผู้ผลิตหุ่นยนต์สัญชาติจีนในนครเซินเจิ้น สร้างปรากฏการณ์ ติดตั้ง“วอล์กเกอร์ เอส 1” ( Walker S1) หุ่นยนต์คล้ายมนุษย์ “หลายสิบตัว” ที่โรงงานผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของซีเคอร์ (Zeekr) ในเมืองท่าหนิงโป เพื่อปฏิบัติงานในหลายภารกิจหลายพื้นที่ภายในโรงงาน • ซีเคอร์ เป็นแบรนด์รถไฟฟ้าของจีลี่ออโต้ (Geely Auto) หนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของจีน • ความสำเร็จในการทดสอบติดตั้งการใช้งานหุ่นยนต์นี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของจีนในการยกระดับขีดความสามารถด้านการผลิตอย่างมโหฬาร • ตามการแถลงเมื่อวันจันทร์ (3 มี.ค.) ของยูบีเทค ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงนั้น บริษัทได้พัฒนาโมเดลการให้เหตุผลแบบหลายรูปแบบ (multimodal reasoning model) โดยเป็นการต่อยอดจากโมเดล R1 ของบริษัทดีปซีก (DeepSeek) ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์ส หุ่นยนต์จึงสามารถ "วิเคราะห์ วางแผน และประสานงานต่างๆ ได้โดยอัตโนมัติ" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000021081 • #MGROnline #หุ่นยนต์ฮิวแมนนอยด์ #ทีมแรก #โรงงานผลิตรถยนต์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ป.ป.ส. ร่วมภาคี เปิดปฏิบัติการ "ตัดไฟแต่ต้นลม" ครั้งที่ 3 ทลายเครือข่ายส่งออกไอซ์-เฮโรอีนข้ามชาติ ยึดทรัพย์สินรวม มูลค่า 80 ล้านบาท

    วันนี้ (5 มี.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. , นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย , นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. , นายธันวา ผุดผ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 , พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย , พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 บช.ปส. , พ.อ.จักรพงษ์ สอดสี รอง ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก และ พ.อ.ปริญญา วีระศรีนารา หัวหน้าศูนย์ข่าวยาเสพติด ฝ่ายข่าวศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ ตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 3 ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 10 จุดปฏิบัติการ 6 จังหวัด (จ.เชียงราย 2 จุด/ จ.เชียงใหม่ 2 จุด/ จ.สุพรรณบุรี 2 จุด/ จ.อ่างทอง 2 จุด/ จ.สุโขทัย 1 จุด / จ.พระนครศรีอยุธยา 1 จุด) เพื่อติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ 3 คน

    พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ เครือข่ายส่งออกไอซ์ - เฮโรอีน ข้ามชาติ สืบเนื่องจาก คดีการจับกุมเมื่อวันที่ 22 ต.ค.67 สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ หน่วยงานภาคี จับกุมผู้ต้องหารวม 3 คน พร้อมเฮโรอีน 154 กิโลกรัม เหตุเกิดที่ จ.ชัยนาท ต่อเนื่อง จ.สุพรรณบุรี เครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ซุกซ่อนเฮโรอีนในช่องลับภายในรถตู้ โดยลักลอบลำเลียงมาจากพื้นที่ชายแดน ด้าน จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศก่อนจะส่งต่อไปยังปลายทางประเทศที่สาม ในครั้งนั้นสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้กว่า 7.6 ล้านบาท

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021390

    #MGROnline #ตัดไฟแต่ต้นลม
    ป.ป.ส. ร่วมภาคี เปิดปฏิบัติการ "ตัดไฟแต่ต้นลม" ครั้งที่ 3 ทลายเครือข่ายส่งออกไอซ์-เฮโรอีนข้ามชาติ ยึดทรัพย์สินรวม มูลค่า 80 ล้านบาท • วันนี้ (5 มี.ค.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. , นายชรินทร์ ทองสุข ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย , นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. , นายธันวา ผุดผ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 5 , พล.ต.ต.มานพ เสนากูล ผบก.ภ.จว.เชียงราย , พล.ต.ต.อดิศ เจริญสวัสดิ์ ผบก.ปส.3 บช.ปส. , พ.อ.จักรพงษ์ สอดสี รอง ผบ.ฉก.ทัพเจ้าตาก และ พ.อ.ปริญญา วีระศรีนารา หัวหน้าศูนย์ข่าวยาเสพติด ฝ่ายข่าวศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก ร่วมแถลงผลปฏิบัติการ ตัดไฟแต่ต้นลม ครั้งที่ 3 ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ 10 จุดปฏิบัติการ 6 จังหวัด (จ.เชียงราย 2 จุด/ จ.เชียงใหม่ 2 จุด/ จ.สุพรรณบุรี 2 จุด/ จ.อ่างทอง 2 จุด/ จ.สุโขทัย 1 จุด / จ.พระนครศรีอยุธยา 1 จุด) เพื่อติดตามจับกุมบุคคลตามหมายจับ 3 คน • พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเกี่ยวข้องกับ เครือข่ายส่งออกไอซ์ - เฮโรอีน ข้ามชาติ สืบเนื่องจาก คดีการจับกุมเมื่อวันที่ 22 ต.ค.67 สำนักปราบปรามยาเสพติด สำนักงาน ป.ป.ส. ร่วมกับ หน่วยงานภาคี จับกุมผู้ต้องหารวม 3 คน พร้อมเฮโรอีน 154 กิโลกรัม เหตุเกิดที่ จ.ชัยนาท ต่อเนื่อง จ.สุพรรณบุรี เครือข่ายดังกล่าวมีพฤติการณ์ซุกซ่อนเฮโรอีนในช่องลับภายในรถตู้ โดยลักลอบลำเลียงมาจากพื้นที่ชายแดน ด้าน จ.เชียงราย เข้าสู่พื้นที่ตอนในของประเทศก่อนจะส่งต่อไปยังปลายทางประเทศที่สาม ในครั้งนั้นสามารถตรวจยึดทรัพย์สินได้กว่า 7.6 ล้านบาท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021390 • #MGROnline #ตัดไฟแต่ต้นลม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • “พุดเดิ้ล” เข้าพบดีเอสไอ เผยมี 5 คนคอยรับงานให้ "แตงโม" คือ "แอนนา-พุดเดิ้ล-กระติก-ฮิปโป-อุ้ย" ในไลน์กลุ่ม แต่วันลงเรือไม่ทราบว่าเจ้าตัวไปรับรีวิวเรือหรือไม่

    วันนี้ (5 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ห้องคณะพนักงานสืบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เพื่อนสนิทของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสืบสวนที่ 20/2568 กรณี คดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง เพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ

    โดย นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เปิดเผยว่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ.65 คืนวันเกิดเหตุตอนนั้นตนอยู่ในรถกับแอนนา (นายวรินทร วัตรสังข์) ซึ่งตนได้โทรศัพท์หาแตงโมแต่ไม่รับสาย จึงทักไปว่าทำอะไร ตนจะโอนเงินค่างานให้ แต่แตงโมตอบกลับมาตอนเวลา 22.21 น. ว่า ”แพ๊พ ๆ“ อย่างไรก็ตาม ตนจำเวลาตอนโทรศัพท์ไปไม่ได้ แต่ตนได้ทักไปตอนประมาณ 21.00 น. นอกจากนั้น ตนตั้งข้อสังเกตว่าแตงโมไม่เคยพิมพ์คำแบบนี้เลย แต่ตอนนั้นก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นแตงโมตอบเองหรือไม่ จากนั้น 2 ชม. หลังจากแตงโมตอบกลับ ตนเห็นกลุ่มนางงามโพสต์ว่าแตงโมตกเรือเสียชีวิต ซึ่งตนคิดว่าโพสต์เล่น กระทั่งผ่านไปครึ่ง ชม. ก็มีคนทักมาหาเยอะ ตนเริ่มตะหงิดใจ จึงใช้เบอร์ส่วนตัวโทรศัพท์หาแตงโมหลายสายก็ไม่มีใครรับ ตนเริ่มกระวนกระวาย ทางแอนนาจึงโทรศัพท์หากระติก (น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์) ถามว่าจริงหรือไม่ กระติกตอบกลับว่า “รู้ได้ไง” ตนจึงถามต่อว่า “ตกจริงใช่ไหม” ก่อนกระติกยอมรับว่าจริง จากนั้นทั้งตนและแอนนาก็ไปตามหา ตอนประมาณเวลา 00.00 น.

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021401

    #MGROnline #พุดเดิ้ล #ดีเอสไอ
    “พุดเดิ้ล” เข้าพบดีเอสไอ เผยมี 5 คนคอยรับงานให้ "แตงโม" คือ "แอนนา-พุดเดิ้ล-กระติก-ฮิปโป-อุ้ย" ในไลน์กลุ่ม แต่วันลงเรือไม่ทราบว่าเจ้าตัวไปรับรีวิวเรือหรือไม่ • วันนี้ (5 มี.ค.) เวลา 10.00 น. ที่ห้องคณะพนักงานสืบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ศูนย์ราชการฯ อาคารเอ ชั้น 2 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เพื่อนสนิทของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสืบสวนที่ 20/2568 กรณี คดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม นักแสดงชื่อดัง เพื่อให้ข้อมูลข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ • โดย นายวีระพงศ์ กลั่นประเสริฐ หรือพุดเดิ้ล เปิดเผยว่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 24 ก.พ.65 คืนวันเกิดเหตุตอนนั้นตนอยู่ในรถกับแอนนา (นายวรินทร วัตรสังข์) ซึ่งตนได้โทรศัพท์หาแตงโมแต่ไม่รับสาย จึงทักไปว่าทำอะไร ตนจะโอนเงินค่างานให้ แต่แตงโมตอบกลับมาตอนเวลา 22.21 น. ว่า ”แพ๊พ ๆ“ อย่างไรก็ตาม ตนจำเวลาตอนโทรศัพท์ไปไม่ได้ แต่ตนได้ทักไปตอนประมาณ 21.00 น. นอกจากนั้น ตนตั้งข้อสังเกตว่าแตงโมไม่เคยพิมพ์คำแบบนี้เลย แต่ตอนนั้นก็ไม่สามารถตอบได้ว่าเป็นแตงโมตอบเองหรือไม่ จากนั้น 2 ชม. หลังจากแตงโมตอบกลับ ตนเห็นกลุ่มนางงามโพสต์ว่าแตงโมตกเรือเสียชีวิต ซึ่งตนคิดว่าโพสต์เล่น กระทั่งผ่านไปครึ่ง ชม. ก็มีคนทักมาหาเยอะ ตนเริ่มตะหงิดใจ จึงใช้เบอร์ส่วนตัวโทรศัพท์หาแตงโมหลายสายก็ไม่มีใครรับ ตนเริ่มกระวนกระวาย ทางแอนนาจึงโทรศัพท์หากระติก (น.ส.อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์) ถามว่าจริงหรือไม่ กระติกตอบกลับว่า “รู้ได้ไง” ตนจึงถามต่อว่า “ตกจริงใช่ไหม” ก่อนกระติกยอมรับว่าจริง จากนั้นทั้งตนและแอนนาก็ไปตามหา ตอนประมาณเวลา 00.00 น. • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000021401 • #MGROnline #พุดเดิ้ล #ดีเอสไอ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • เช้าวันที่ 3 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) กึกก้องไปด้วยเสียงระฆังเมื่อ "มี่เสวี่ยปิงเฉิง" แบรนด์เครื่องดื่มชานมและน้ำแข็งไสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกงอย่างเป็นทางการภายใต้รหัสหุ้น HK02097 โดยเปิดตัวที่ราคา 284.4 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้น ดันมูลค่าบริษัทพุ่งแตะ 1,071 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 4.88 ล้านล้านบาท)

    สิ่งที่แตกต่างจากพิธีเปิดตัวบริษัทจดทะเบียนทั่วไป คือ ผู้ก่อตั้งบริษัท "จางหงเชา" และ "จางหงฝู่" ไม่ได้ปรากฏตัวในพิธี รวมถึงผู้บริหารระดับสูงก็ไม่มีใครขึ้นเวทีเคาะระฆังเปิดตลาด โดยตัวแทนที่ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์กลับเป็น "ราชาหิมะ" มาสคอตประจำแบรนด์ที่เดินขึ้นเวทีพร้อมกับตัวละครอื่นๆ ในแฟรนไชส์

    "ราชาหิมะ" กล่าวระหว่างพิธีว่า "การเข้าตลาดหุ้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น รหัสหุ้น 2097 ไม่ใช่จุดสิ้นสุด" พร้อมกันนี้ ทีมงานได้เปิดเพลงธีมของแบรนด์ซึ่งเป็นเพลงที่ติดหูผู้บริโภคไปทั่วจีน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020914

    #MGROnline #มี่เสวี่ยปิงเฉิง
    เช้าวันที่ 3 มีนาคม 2568 เวลา 09.30 น. ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEX) กึกก้องไปด้วยเสียงระฆังเมื่อ "มี่เสวี่ยปิงเฉิง" แบรนด์เครื่องดื่มชานมและน้ำแข็งไสที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เข้าสู่ตลาดหุ้นฮ่องกงอย่างเป็นทางการภายใต้รหัสหุ้น HK02097 โดยเปิดตัวที่ราคา 284.4 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อหุ้น ดันมูลค่าบริษัทพุ่งแตะ 1,071 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ประมาณ 4.88 ล้านล้านบาท) • สิ่งที่แตกต่างจากพิธีเปิดตัวบริษัทจดทะเบียนทั่วไป คือ ผู้ก่อตั้งบริษัท "จางหงเชา" และ "จางหงฝู่" ไม่ได้ปรากฏตัวในพิธี รวมถึงผู้บริหารระดับสูงก็ไม่มีใครขึ้นเวทีเคาะระฆังเปิดตลาด โดยตัวแทนที่ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์กลับเป็น "ราชาหิมะ" มาสคอตประจำแบรนด์ที่เดินขึ้นเวทีพร้อมกับตัวละครอื่นๆ ในแฟรนไชส์ • "ราชาหิมะ" กล่าวระหว่างพิธีว่า "การเข้าตลาดหุ้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้น รหัสหุ้น 2097 ไม่ใช่จุดสิ้นสุด" พร้อมกันนี้ ทีมงานได้เปิดเพลงธีมของแบรนด์ซึ่งเป็นเพลงที่ติดหูผู้บริโภคไปทั่วจีน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000020914 • #MGROnline #มี่เสวี่ยปิงเฉิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นข่าวร้อนๆ อยู่ในตอนนี้กรณีความสัมพันธ์ของนักร้องหญิง "ลำไย ไหทองคำ" กับแฟนหนุ่ม "ปุ้ย" นักร้องวง "L.กฮ." (แอลกอฮอล์) หลังนักร้องหญิงยอมรับว่าช่วงห่างแฟนหนุ่มเธอเคยคบหากับแดนเซอร์ในวง "บอส มณเฑียร เดชตระกูล" โดยเข้าใจว่าอีกฝ่ายได้เลิกรากับแฟนสาวแล้ว

    ก่อนที่เรื่องจะจบลงตรงที่ทั้งสามต่างตกลงยุติความสัมพันธ์กันและกัน โดยแดนเซอร์คนดังกล่าวยอมจ่ายเงินสองล้านให้แฟนสาวเป็นค่าที่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจจนเรื่องนี้ถูกพูดถึงอย่างมาก

    สำหรับฝ่ายญิงที่เป็นแฟนกับแดนเซอร์นั้นเจ้าตัวมีชื่อว่า "โม" (หรือ "แตงโม") ณิชกุล รอดสัมฤทธิ์ ทำช่องยูทูบชื่อ Moni Girl

    ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าเจ้าตัวนั้นเพิ่งจะเลิกรากับแฟนหนุ่มเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง นอกจากนี้ล่าสุดเธอยังได้มีการลบโพสต์และลบภาพบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับข่าวนักร้องหญิงรวมถึงอดีตแฟนหนุ่มแดนเซอร์ไปแล้วซึ่งคาดว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับสัญญาที่เธอเซ็นเพื่อแลกกับเงิน 2 ล้านมานั่นเอง

    #MGROnline #ลําไยไหทองคํา
    เป็นข่าวร้อนๆ อยู่ในตอนนี้กรณีความสัมพันธ์ของนักร้องหญิง "ลำไย ไหทองคำ" กับแฟนหนุ่ม "ปุ้ย" นักร้องวง "L.กฮ." (แอลกอฮอล์) หลังนักร้องหญิงยอมรับว่าช่วงห่างแฟนหนุ่มเธอเคยคบหากับแดนเซอร์ในวง "บอส มณเฑียร เดชตระกูล" โดยเข้าใจว่าอีกฝ่ายได้เลิกรากับแฟนสาวแล้ว • ก่อนที่เรื่องจะจบลงตรงที่ทั้งสามต่างตกลงยุติความสัมพันธ์กันและกัน โดยแดนเซอร์คนดังกล่าวยอมจ่ายเงินสองล้านให้แฟนสาวเป็นค่าที่ทำให้อีกฝ่ายเสียใจจนเรื่องนี้ถูกพูดถึงอย่างมาก • สำหรับฝ่ายญิงที่เป็นแฟนกับแดนเซอร์นั้นเจ้าตัวมีชื่อว่า "โม" (หรือ "แตงโม") ณิชกุล รอดสัมฤทธิ์ ทำช่องยูทูบชื่อ Moni Girl • ทั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่าเจ้าตัวนั้นเพิ่งจะเลิกรากับแฟนหนุ่มเมื่อช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง นอกจากนี้ล่าสุดเธอยังได้มีการลบโพสต์และลบภาพบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับข่าวนักร้องหญิงรวมถึงอดีตแฟนหนุ่มแดนเซอร์ไปแล้วซึ่งคาดว่าเรื่องนี้น่าจะเกี่ยวกับสัญญาที่เธอเซ็นเพื่อแลกกับเงิน 2 ล้านมานั่นเอง • #MGROnline #ลําไยไหทองคํา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • รอยเตอร์เผยรายงานพิเศษ อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า แคนาดาและสหรัฐฯ เคยเสนอให้ที่พักพิงที่ชาวอุยกูร์ 48 คนที่ถูกกักอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี ทว่ารัฐบาลไทยไม่ดำเนินการใดๆ เนื่องจากเกรงจะผิดใจกับ “จีน” จนสุดท้ายชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ได้ถูกบังคับเนรเทศกลับไปยังแดนมังกรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

    รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ออกมาปกป้องการตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงคัดค้านจากผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โดยทางการไทยยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายและพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนทุกประการ

    องค์กรสิทธิมนุษยชนกล่าวหาจีนว่ากระทำการละเมิดกดขี่อย่างกว้างขวางต่อชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยมุสลิมที่มีอยู่ราวๆ 10 ล้านคนในภูมิภาคซินเจียง ขณะที่ปักกิ่งปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้มีการละเมิดสิทธิคนเหล่านี้

    ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีไทย ได้แถลงเมื่อวันจันทร์ (3) ว่า ไม่มีประเทศใดแสดงความจำนงอย่างหนักแน่นที่จะรับชาวอุยกูร์ 48 คนเข้าไปตั้งถิ่นฐาน

    “เรารอมานานกว่า 10 ปี และผมก็ได้พูดคุยกับประเทศใหญ่ๆ หลายชาติ แต่ไม่มีใครให้คำตอบที่ชัดเจน” เขาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน

    อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ คนหนึ่งยืนยันกับรอยเตอร์ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เคยยื่นข้อเสนอรับชาวอุยกูร์ทั้ง 48 คนแล้ว

    “สหรัฐฯ พยายาทำงานร่วมกับไทยมาหลายปีเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนี้ รวมถึงได้มีการย้ำข้อเสนออย่างต่อเนื่องว่าจะรับชาวอุยกูร์ไปตั้งถิ่นฐานในประเทศอื่น แม้แต่ในสหรัฐฯ เองด้วย ณ จุดหนึ่ง” เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามกล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000021368

    #MGROnline #ชาวอุยกูร์
    รอยเตอร์เผยรายงานพิเศษ อ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ซึ่งระบุว่า แคนาดาและสหรัฐฯ เคยเสนอให้ที่พักพิงที่ชาวอุยกูร์ 48 คนที่ถูกกักอยู่ในประเทศไทยมานานกว่า 10 ปี ทว่ารัฐบาลไทยไม่ดำเนินการใดๆ เนื่องจากเกรงจะผิดใจกับ “จีน” จนสุดท้ายชาวอุยกูร์กลุ่มนี้ได้ถูกบังคับเนรเทศกลับไปยังแดนมังกรเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว • รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ออกมาปกป้องการตัดสินใจส่งชาวอุยกูร์กลับจีน ซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางเสียงคัดค้านจากผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ โดยทางการไทยยืนยันว่าได้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมายและพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนทุกประการ • องค์กรสิทธิมนุษยชนกล่าวหาจีนว่ากระทำการละเมิดกดขี่อย่างกว้างขวางต่อชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยมุสลิมที่มีอยู่ราวๆ 10 ล้านคนในภูมิภาคซินเจียง ขณะที่ปักกิ่งปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้มีการละเมิดสิทธิคนเหล่านี้ • ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีไทย ได้แถลงเมื่อวันจันทร์ (3) ว่า ไม่มีประเทศใดแสดงความจำนงอย่างหนักแน่นที่จะรับชาวอุยกูร์ 48 คนเข้าไปตั้งถิ่นฐาน • “เรารอมานานกว่า 10 ปี และผมก็ได้พูดคุยกับประเทศใหญ่ๆ หลายชาติ แต่ไม่มีใครให้คำตอบที่ชัดเจน” เขาให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน • อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่จากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ คนหนึ่งยืนยันกับรอยเตอร์ว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เคยยื่นข้อเสนอรับชาวอุยกูร์ทั้ง 48 คนแล้ว • “สหรัฐฯ พยายาทำงานร่วมกับไทยมาหลายปีเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์เช่นนี้ รวมถึงได้มีการย้ำข้อเสนออย่างต่อเนื่องว่าจะรับชาวอุยกูร์ไปตั้งถิ่นฐานในประเทศอื่น แม้แต่ในสหรัฐฯ เองด้วย ณ จุดหนึ่ง” เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์ออกนามกล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000021368 • #MGROnline #ชาวอุยกูร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts