• คนกรุงฯ รอลุ้น นั่งรถไฟคิฮะติดแอร์

    เฟซบุ๊ก "ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย" ได้เผยแพร่ภาพประชาสัมพันธ์ "รฟท. ยกระดับการเดินทางชานเมือง เตรียมเปิดให้บริการขบวน KIHA 40/48 ปรับอากาศ เสริมความสะดวก ปลอดภัย เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ -ปริมณฑล อย่างไร้รอยต่อ" โดยระบุว่า ขบวนรถไฟญี่ปุ่น KIHA 40 และ KIHA 48 รถดีเซลรางปรับอากาศ ดำเนินการทดสอบและปรับปรุง พร้อมให้บริการปลายปีนี้ พร้อมระบุคุณสมบัติ อาทิ เบาะนั่งสบาย มีทั้งแบบนั่งยาวและนั่งขวาง ห้องน้ำสะอาดตามมาตรฐาน ตู้โดยสารปรับอากาศ เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพ-ปริมณฑล รวดเร็วไร้รอยต่อ ตอบโจทย์การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ประหยัด สะดวก และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง

    สำหรับขบวนรถคิฮะ 40 จำนวน 9 คัน และคิฮะ 48 จำนวน 11 คัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเคยประจำการที่ศูนย์ Minami Akita เมื่อปี 2520 เพื่อใช้งานในสาย Gono และ สาย Oga ก่อนถูกปลดระวางในเดือน มี.ค. 2564 โดยมีการส่งมอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 และได้ออกเดินทางสู่ประเทศไทยโดยขนส่งทางเรือเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2567 ก่อนนำรถต้นแบบปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร ให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย จากนั้นปรับปรุงสภาพตามมาตรฐานของการรถไฟฯ โดยเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

    เมื่อเร็วๆ นี้ได้นำขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศรุ่นคิฮะ 40 และคิฮะ 48 ที่ผ่านการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วมาทดสอบ จำนวน 2 คัน เส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนี้จะปรับปรุงสีภายนอกและห้องสุขาเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำออกให้บริการแก่ประชาชนในช่วงปลายปี 2568 จำนวน 6 คัน และจะทยอยปรับปรุงจนครบทั้ง 20 คันต่อไป รฟท. มีแผนจะนำขบวนรถคิฮะ 40 และคิฮะ 48 มาให้บริการในเส้นทางชานเมือง (FEEDER) ไปยังปลายทางสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา สถานีอยุธยา และสถานีนครปฐม เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เป็นต้น

    เหตุที่ไม่สามารถนำขบวนรถคิฮะมาให้บริการในต่างจังหวัด มีการพูดกันในกลุ่มคนรักรถไฟว่า เนื่องจากเป็นรถได้รับบริจาคจากญี่ปุ่น ซึ่งเลิกผลิตไปแล้ว ไม่มีอะไหล่ จำเป็นต้องได้รับการดูแลและซ่อมบำรุงจากโรงงานรถไฟมักกะสันอย่างใกล้ชิด อาจต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติสั่งซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ จำนวน 184 คัน วงเงินรวมทั้งสิ้น 24,150 ล้านบาท หรือรอปรับโฉมรถโดยสารชั้น 3 จากระบบพัดลมเป็นปรับอากาศ จำนวน 40 คันในปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 295.60 ล้านบาท

    #Newskit
    คนกรุงฯ รอลุ้น นั่งรถไฟคิฮะติดแอร์ เฟซบุ๊ก "ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย" ได้เผยแพร่ภาพประชาสัมพันธ์ "รฟท. ยกระดับการเดินทางชานเมือง เตรียมเปิดให้บริการขบวน KIHA 40/48 ปรับอากาศ เสริมความสะดวก ปลอดภัย เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพฯ -ปริมณฑล อย่างไร้รอยต่อ" โดยระบุว่า ขบวนรถไฟญี่ปุ่น KIHA 40 และ KIHA 48 รถดีเซลรางปรับอากาศ ดำเนินการทดสอบและปรับปรุง พร้อมให้บริการปลายปีนี้ พร้อมระบุคุณสมบัติ อาทิ เบาะนั่งสบาย มีทั้งแบบนั่งยาวและนั่งขวาง ห้องน้ำสะอาดตามมาตรฐาน ตู้โดยสารปรับอากาศ เชื่อมต่อการเดินทางระหว่างกรุงเทพ-ปริมณฑล รวดเร็วไร้รอยต่อ ตอบโจทย์การเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะที่ประหยัด สะดวก และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง สำหรับขบวนรถคิฮะ 40 จำนวน 9 คัน และคิฮะ 48 จำนวน 11 คัน การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้รับมอบจากบริษัท JR EAST ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเคยประจำการที่ศูนย์ Minami Akita เมื่อปี 2520 เพื่อใช้งานในสาย Gono และ สาย Oga ก่อนถูกปลดระวางในเดือน มี.ค. 2564 โดยมีการส่งมอบเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2567 และได้ออกเดินทางสู่ประเทศไทยโดยขนส่งทางเรือเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 2567 ก่อนนำรถต้นแบบปรับขนาดเพลาล้อจาก 1.067 เมตร เป็น 1 เมตร ให้เข้ากับมาตรฐานรางรถไฟของประเทศไทย จากนั้นปรับปรุงสภาพตามมาตรฐานของการรถไฟฯ โดยเดินรถด้วยความเร็วสูงสุด 95 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อเร็วๆ นี้ได้นำขบวนรถดีเซลรางปรับอากาศรุ่นคิฮะ 40 และคิฮะ 48 ที่ผ่านการปรับปรุงเรียบร้อยแล้วมาทดสอบ จำนวน 2 คัน เส้นทางมักกะสัน-หัวหมาก เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา หลังจากนี้จะปรับปรุงสีภายนอกและห้องสุขาเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำออกให้บริการแก่ประชาชนในช่วงปลายปี 2568 จำนวน 6 คัน และจะทยอยปรับปรุงจนครบทั้ง 20 คันต่อไป รฟท. มีแผนจะนำขบวนรถคิฮะ 40 และคิฮะ 48 มาให้บริการในเส้นทางชานเมือง (FEEDER) ไปยังปลายทางสถานีชุมทางฉะเชิงเทรา สถานีอยุธยา และสถานีนครปฐม เพื่อเชื่อมต่อโครงข่ายรถไฟฟ้าในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อาทิ รถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง รถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ เป็นต้น เหตุที่ไม่สามารถนำขบวนรถคิฮะมาให้บริการในต่างจังหวัด มีการพูดกันในกลุ่มคนรักรถไฟว่า เนื่องจากเป็นรถได้รับบริจาคจากญี่ปุ่น ซึ่งเลิกผลิตไปแล้ว ไม่มีอะไหล่ จำเป็นต้องได้รับการดูแลและซ่อมบำรุงจากโรงงานรถไฟมักกะสันอย่างใกล้ชิด อาจต้องรอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติสั่งซื้อรถดีเซลรางปรับอากาศ พร้อมอะไหล่ จำนวน 184 คัน วงเงินรวมทั้งสิ้น 24,150 ล้านบาท หรือรอปรับโฉมรถโดยสารชั้น 3 จากระบบพัดลมเป็นปรับอากาศ จำนวน 40 คันในปีงบประมาณ 2568 วงเงิน 295.60 ล้านบาท #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ขี้ข้าสมุนdeep stateจึงอยู่ยากในแต่ละประเทศเพราะตังที่deep stateจากหัวใหญ่ถูกยึดหมดสิ้น,ขี้ข้าสมุนลูกน้องต้องดิ้นรนเอาชีวิตใครมันกันเอง,เรี่ยไรตังหาบริจาคเงินกับคนอื่นประชาชนทั่วไปก็ใช่,สาระพัดทำชั่วเลวต่างๆหาตังเองก็ใช่,ตลอดเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเถื่อนๆใต้ดินทัังหมดก็ด้วยรุกลามจนขึ้นบนดินเห็นชัดแบบปล้นชิงอ้างกฎหมายให้ชอบธรรมต่อการปล้นชิงเอาตังจากประชาชนก็ว่า มาในมุกค่านั้นค่านี้ค่าธรรมเนียมและค่าปรับผิดต่อกฎหมายนั้นๆนั้นล่ะ.
    ..จีนสีกับมะกันทรัมป์เขาสนิทกันจะตายบวกปูตินตัวโคลนด้วย,ตัวจริงมันเลวตายห่าไปจริงๆแล้ว,รัสเชียคนปัจตุบันปูตินปัจจุบันจึงสนิทเช่นกัน,เขมรจะช่วยโทนี่ เขมรจึงทำสาระพัดวิธีการก็ว่า,เพราะมีโอกาสได้เพิ่มอีก ไม่สำเร็จไทยก็ไม่เคยสอนบทเรียนสั่งสอนเขมรแบบตนจริงๆจังๆอะไรหรอก,ไม่เคยบาดเจ็บกลับมาเลียแผลเหมือนหมาสักครั้ง มีแต่ชนะไทยตลอดแบบยึดนั่นยึดนี้ได้ตลอดยึดเขาพระวิหารได้อีก,ไทยกากในสายตาเขมรมันว่า,สั่งสอนอะไรให้อักเสบบาดเจ็บหรือจดจำอะไรไม่ได้หรอก,ดูสิรัฐบาลไทยญาติผู้นำมันยังเป็นดองกับตระกูลฮุนกูอีก.
    ..ผู้นำผิวโลกเขาเป็นมิตรกันในระดับคนมหาอำนาจของโลก,

    https://youtube.com/shorts/g7VEdLn6B9s?si=LUJYRpRm9sc0_iJw
    ..ขี้ข้าสมุนdeep stateจึงอยู่ยากในแต่ละประเทศเพราะตังที่deep stateจากหัวใหญ่ถูกยึดหมดสิ้น,ขี้ข้าสมุนลูกน้องต้องดิ้นรนเอาชีวิตใครมันกันเอง,เรี่ยไรตังหาบริจาคเงินกับคนอื่นประชาชนทั่วไปก็ใช่,สาระพัดทำชั่วเลวต่างๆหาตังเองก็ใช่,ตลอดเดอะแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเถื่อนๆใต้ดินทัังหมดก็ด้วยรุกลามจนขึ้นบนดินเห็นชัดแบบปล้นชิงอ้างกฎหมายให้ชอบธรรมต่อการปล้นชิงเอาตังจากประชาชนก็ว่า มาในมุกค่านั้นค่านี้ค่าธรรมเนียมและค่าปรับผิดต่อกฎหมายนั้นๆนั้นล่ะ. ..จีนสีกับมะกันทรัมป์เขาสนิทกันจะตายบวกปูตินตัวโคลนด้วย,ตัวจริงมันเลวตายห่าไปจริงๆแล้ว,รัสเชียคนปัจตุบันปูตินปัจจุบันจึงสนิทเช่นกัน,เขมรจะช่วยโทนี่ เขมรจึงทำสาระพัดวิธีการก็ว่า,เพราะมีโอกาสได้เพิ่มอีก ไม่สำเร็จไทยก็ไม่เคยสอนบทเรียนสั่งสอนเขมรแบบตนจริงๆจังๆอะไรหรอก,ไม่เคยบาดเจ็บกลับมาเลียแผลเหมือนหมาสักครั้ง มีแต่ชนะไทยตลอดแบบยึดนั่นยึดนี้ได้ตลอดยึดเขาพระวิหารได้อีก,ไทยกากในสายตาเขมรมันว่า,สั่งสอนอะไรให้อักเสบบาดเจ็บหรือจดจำอะไรไม่ได้หรอก,ดูสิรัฐบาลไทยญาติผู้นำมันยังเป็นดองกับตระกูลฮุนกูอีก. ..ผู้นำผิวโลกเขาเป็นมิตรกันในระดับคนมหาอำนาจของโลก, https://youtube.com/shorts/g7VEdLn6B9s?si=LUJYRpRm9sc0_iJw
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเสร็จขอบริจาคอีกแล้ว
    คราวก่อนขอเงินจัดซีเกมส์
    ครั้งนี้ขอบริจาคให้ทัพเหมน
    ผู้นำขอทาน อนาถใจแทนชาวเหมน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    สมเสร็จขอบริจาคอีกแล้ว คราวก่อนขอเงินจัดซีเกมส์ ครั้งนี้ขอบริจาคให้ทัพเหมน ผู้นำขอทาน อนาถใจแทนชาวเหมน #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    Sad
    Angry
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าของนาฬิกาหรู 800 ล้าน เชิญชวนบริจาคเงินหนุนกองทัพ 'ฮุนเซน' ลั่นสู้กับการรุกรานของไทยต้องใช้เวลานาน
    https://www.thai-tai.tv/news/19354/
    เจ้าของนาฬิกาหรู 800 ล้าน เชิญชวนบริจาคเงินหนุนกองทัพ 'ฮุนเซน' ลั่นสู้กับการรุกรานของไทยต้องใช้เวลานาน https://www.thai-tai.tv/news/19354/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรุ่งนี้ (12มิ.ย.68)เวลา 14.30น.
    พลตรีศิริพงษ์ นิลจันทร์ พร้อมคณะได้ร่วมกันรวบรวมปัจจัย เพื่อนำไปจัดซื้อสิ่งของอุปโภคบริโภค นำไปบริจาคให้กับกำลังพล ของกองทัพภาคที่2 ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดน กองทัพภาคที่2
    ประกอบด้วย
    1.ไข่ไก่ 668 แผง
    2.มาม่า 792 กล่อง
    3.ซอฟเฟล 10 ลัง
    4.กระทิงแดง+เอ็ม150 64ลัง
    5.กาแฟซอง 4 ลัง
    6.ทิฟฟี่ 28 กล่อง
    7.คอลเกตยาสีฟัน 4 ลัง
    8.แปรงสีฟัน 8 ลัง
    9.น้ำเกลือ 500 ขวด
    10.สบู่เหลว 150 ขวด
    11.นมแลคตาซอย 100 ลัง
    12.ขนมกระปุก 1,100 กระปุก
    13.น้ำเปล่า 1,400 แพค
    14.ปลากระป๋อง 20 ลัง
    ใช้รถตู้ทึบบรรทุก4ล้อจำนวน8คัน
    กำหนดออกเดินทางจาก จังหวัดสมุทรปราการ ไป กองบัญชาการกองทัพภาคที่2 จังหวัดนครราชสีมา

    โดยกำหนดมอบของบริจาคให้กับ แม่ทัพภาคที่2 เวลา 14.30น.

    ในโอกาสนี้ผมขอเชิญสหายกัลยาณมิตรทุกท่านได้ร่วมอนุโมทนาในกุศลบุญครั้งนี้กันโดยถ้วนหน้า ครับ
    " นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ "

    พลตรีศิริพงษ์ นิลจันทร์
    0926629524

    สหายกัลยาณมิตรท่านใดประสงค์ร่วมบริจาคสิ่งของร่วมกันในโอกาสนี้ ติดต่อประสานงานได้ที่ 0926629524 ครับ
    พรุ่งนี้ (12มิ.ย.68)เวลา 14.30น. พลตรีศิริพงษ์ นิลจันทร์ พร้อมคณะได้ร่วมกันรวบรวมปัจจัย เพื่อนำไปจัดซื้อสิ่งของอุปโภคบริโภค นำไปบริจาคให้กับกำลังพล ของกองทัพภาคที่2 ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดน กองทัพภาคที่2 ประกอบด้วย 1.ไข่ไก่ 668 แผง 2.มาม่า 792 กล่อง 3.ซอฟเฟล 10 ลัง 4.กระทิงแดง+เอ็ม150 64ลัง 5.กาแฟซอง 4 ลัง 6.ทิฟฟี่ 28 กล่อง 7.คอลเกตยาสีฟัน 4 ลัง 8.แปรงสีฟัน 8 ลัง 9.น้ำเกลือ 500 ขวด 10.สบู่เหลว 150 ขวด 11.นมแลคตาซอย 100 ลัง 12.ขนมกระปุก 1,100 กระปุก 13.น้ำเปล่า 1,400 แพค 14.ปลากระป๋อง 20 ลัง ใช้รถตู้ทึบบรรทุก4ล้อจำนวน8คัน กำหนดออกเดินทางจาก จังหวัดสมุทรปราการ ไป กองบัญชาการกองทัพภาคที่2 จังหวัดนครราชสีมา โดยกำหนดมอบของบริจาคให้กับ แม่ทัพภาคที่2 เวลา 14.30น. ในโอกาสนี้ผมขอเชิญสหายกัลยาณมิตรทุกท่านได้ร่วมอนุโมทนาในกุศลบุญครั้งนี้กันโดยถ้วนหน้า ครับ " นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ " พลตรีศิริพงษ์ นิลจันทร์ 0926629524 สหายกัลยาณมิตรท่านใดประสงค์ร่วมบริจาคสิ่งของร่วมกันในโอกาสนี้ ติดต่อประสานงานได้ที่ 0926629524 ครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • พรุ่งนี้ (12มิ.ย.68)เวลา 14.30น.
    พลตรีศิริพงษ์ นิลจันทร์ พร้อมคณะได้ร่วมกันรวบรวมปัจจัย เพื่อนำไปจัดซื้อสิ่งของอุปโภคบริโภค นำไปบริจาคให้กับกำลังพล ของกองทัพภาคที่2 ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดน กองทัพภาคที่2
    ประกอบด้วย
    1.ไข่ไก่ 668 แผง
    2.มาม่า 792 กล่อง
    3.ซอฟเฟล 10 ลัง
    4.กระทิงแดง+เอ็ม150 64ลัง
    5.กาแฟซอง 4 ลัง
    6.ทิฟฟี่ 28 กล่อง
    7.คอลเกตยาสีฟัน 4 ลัง
    8.แปรงสีฟัน 8 ลัง
    9.น้ำเกลือ 500 ขวด
    10.สบู่เหลว 150 ขวด
    11.นมแลคตาซอย 100 ลัง
    12.ขนมกระปุก 1,100 กระปุก
    13.น้ำเปล่า 1,400 แพค
    14.ปลากระป๋อง 20 ลัง
    ใช้รถตู้ทึบบรรทุก4ล้อจำนวน8คัน
    กำหนดออกเดินทางจาก จังหวัดสมุทรปราการ ไป กองบัญชาการกองทัพภาคที่2 จังหวัดนครราชสีมา

    โดยกำหนดมอบของบริจาคให้กับ แม่ทัพภาคที่2 เวลา 14.30น.

    ในโอกาสนี้ผมขอเชิญสหายกัลยาณมิตรทุกท่านได้ร่วมอนุโมทนาในกุศลบุญครั้งนี้กันโดยถ้วนหน้า ครับ
    " นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ "

    พลตรีศิริพงษ์ นิลจันทร์
    0926629524

    สหายกัลยาณมิตรท่านใดประสงค์ร่วมบริจาคสิ่งของร่วมกันในโอกาสนี้ ติดต่อประสานงานได้ที่ 0926629524 ครับ
    พรุ่งนี้ (12มิ.ย.68)เวลา 14.30น. พลตรีศิริพงษ์ นิลจันทร์ พร้อมคณะได้ร่วมกันรวบรวมปัจจัย เพื่อนำไปจัดซื้อสิ่งของอุปโภคบริโภค นำไปบริจาคให้กับกำลังพล ของกองทัพภาคที่2 ที่ปฏิบัติงานในสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ชายแดน กองทัพภาคที่2 ประกอบด้วย 1.ไข่ไก่ 668 แผง 2.มาม่า 792 กล่อง 3.ซอฟเฟล 10 ลัง 4.กระทิงแดง+เอ็ม150 64ลัง 5.กาแฟซอง 4 ลัง 6.ทิฟฟี่ 28 กล่อง 7.คอลเกตยาสีฟัน 4 ลัง 8.แปรงสีฟัน 8 ลัง 9.น้ำเกลือ 500 ขวด 10.สบู่เหลว 150 ขวด 11.นมแลคตาซอย 100 ลัง 12.ขนมกระปุก 1,100 กระปุก 13.น้ำเปล่า 1,400 แพค 14.ปลากระป๋อง 20 ลัง ใช้รถตู้ทึบบรรทุก4ล้อจำนวน8คัน กำหนดออกเดินทางจาก จังหวัดสมุทรปราการ ไป กองบัญชาการกองทัพภาคที่2 จังหวัดนครราชสีมา โดยกำหนดมอบของบริจาคให้กับ แม่ทัพภาคที่2 เวลา 14.30น. ในโอกาสนี้ผมขอเชิญสหายกัลยาณมิตรทุกท่านได้ร่วมอนุโมทนาในกุศลบุญครั้งนี้กันโดยถ้วนหน้า ครับ " นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ " พลตรีศิริพงษ์ นิลจันทร์ 0926629524 สหายกัลยาณมิตรท่านใดประสงค์ร่วมบริจาคสิ่งของร่วมกันในโอกาสนี้ ติดต่อประสานงานได้ที่ 0926629524 ครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยอมรับว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ผู้บริจาครายใหญ่ จบลงแล้ว และเตือนถึงผลสนองร้ายแรง หากว่า มัสก์ หันไปให้เงินทุนสนับสนุนเดโมแครต ต่อกรกับรีพับลิกัน ที่โหวตหนุนหลังร่างกฎหมายภาษีและการใช้จ่ายของเขา
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000053487

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ยอมรับว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับมหาเศรษฐีอีลอน มัสก์ ผู้บริจาครายใหญ่ จบลงแล้ว และเตือนถึงผลสนองร้ายแรง หากว่า มัสก์ หันไปให้เงินทุนสนับสนุนเดโมแครต ต่อกรกับรีพับลิกัน ที่โหวตหนุนหลังร่างกฎหมายภาษีและการใช้จ่ายของเขา . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000053487 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 756 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมเด็จเจ็ทเข้ "ฮวยเซง"
    รีดทรัพย์ราชินีเขมร หมื่น$
    ยังไม่พอ ขอชาวเขมรบริจาคเพิ่ม ยังไม่สู้ก็รวย ตบทรัพย์กลางศึก
    #คิงส์โพธิ์แดง
    สมเด็จเจ็ทเข้ "ฮวยเซง" รีดทรัพย์ราชินีเขมร หมื่น$ ยังไม่พอ ขอชาวเขมรบริจาคเพิ่ม ยังไม่สู้ก็รวย ตบทรัพย์กลางศึก #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • “หลวงปู่ศิลา” พระเกจิดังภาคอีสาน มอบเงินบริจาคให้ “มทภ.2” สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ในการดูแลประเทศชาติ
    https://www.thai-tai.tv/news/19154/
    “หลวงปู่ศิลา” พระเกจิดังภาคอีสาน มอบเงินบริจาคให้ “มทภ.2” สร้างที่พักในฐานตามแนวชายแดน พร้อมอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ ในการดูแลประเทศชาติ https://www.thai-tai.tv/news/19154/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • บิ๊กคลีนนิ่งวัดไร่ขิง แค่ล้างวัดอาจไม่พอ

    การปรับภูมิทัศน์จัดระเบียบวัตไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ของพระราชวชิรสุตาภรณ์ (หลวงพ่อแก้ว) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม และเจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เมื่อวันที่ 30 พ.ค. มองผิวเผินอาจถูกมองว่าสร้างภาพ หลังอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า เจ้าอาวาสคนก่อนหน้าถูกดำเนินคดีกรณียักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์มากกว่า 300 ล้านบาท ทำเอาพุทธศาสนิกชนเสื่อมศรัทธา คนเข้ามาไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิงน้อยลง แต่แท้ที่จริงแล้วอาจเป็นการรื้อโครงสร้างผลประโยชน์ของวัดครั้งใหญ่

    อาทิ ตู้รับบริจาคภายในวัดที่มีถึง 185 ตู้ ถูกยกออกไปเก็บ เหลือเฉพาะตู้รับบริจาคที่จำเป็น จุดจำหน่ายธูปเทียนดอกไม้ก็จัดให้อยู่ในที่เดียวกันด้านหน้าพระอุโบสถ ส่วนร้านจำหน่ายวัตถุมงคลด้านหลังให้ย้ายไปอยู่ด้านหน้า และรื้อโคมไฟที่แขวนบริเวณหลังคาหน้าพระอุโบสถถึงแม่น้ำนครชัยศรีออกทั้งหมด ส่วนร้านกาแฟของนางพชรพร สีเลี้ยง หรือหมอเตย และ พ.จ.อ.ฉัตรชัย สีเลี้ยง คนสนิทนายแย้มปิดกิจการแล้ว เหลือเพียงร้านเครื่องดื่มและของฝากที่เป็นสวัสดิการของวัด

    พระราชวชิรสุตาภรณ์เปิดเผยว่า การทำความสะอาดวัดครั้งนี้เพื่อให้ดูสะอาดโปร่งใส รองรับคนที่มากราบไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นการบูรณาการครั้งใหญ่ สิ่งที่รกหูรกตาก็ให้นำออกไป เพื่อให้เกิดความศรัทธามากราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่ตัวบุคคล ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ซึ่งจะทำให้โปร่งใสที่สุด สิ่งไหนที่ไม่ดีต้องแก้ไข สาธุชนจะได้เชื่อมั่น

    อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวัดไร่ขิงโปร่งใสจริงหรือไม่ คือการประมูลร้านค้าในงานฉลองเจดีย์วัดไร่ขิง 15 ส.ค.2568 และการประมูลร้านค้าในงานประจำปีวัดไร่ขิง 17 ก.พ.2569 ที่ผ่านมานอกจากจะแข่งกันประมูลสูงถึง 2.5 ล้านบาท ทำราคาสินค้าภายในงานแพงขึ้น ยอดขายไม่ดีแต่ก็คิดว่าทำบุญให้วัดแล้ว ผู้ค้าต้องจ่ายเงินสดเข้ากรรมการวัดภายในวันประมูล ไม่รับเงินโอน แล้วเอาไปให้นายแย้ม คิดเป็นเงิน 17-18 ล้านบาทจะทำอย่างไร นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นพุทธพาณิชย์ไม่ใช่กิจของสงฆ์ อย่างการนำศิลปินแห่งชาติมาเป็นธุระเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่วัดจะแก้ไขอย่างไร

    ก่อนหน้านี้นายวิเชียร วรจีน โฆษกวัดไร่ขิงให้สัมภาษณ์ช่อง 9 ระบุว่าสมัยพระอุบาลีฯ เป็นเจ้าอาวาสมีเงิน 200-300 ล้านบาท แต่เมื่อนายแย้มเป็นเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่วัดคนเก่าไม่ให้อยู่สักคนเดียว ลดขั้นตอนการเบิกเงินทั้งหมดเป็นการใช้ตามอำเภอใจ และเก็บตู้บริจาคเงินส่วนใหญ่เข้ากุฎิ นอกจากการเงินของวัดจะร่อยหรอแล้วยังมีหนี้สินอีกด้วย

    #Newskit

    หมายเหตุ : ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ทาง Facebook และ Instagram วันที่ 4 มิ.ย. 2568
    บิ๊กคลีนนิ่งวัดไร่ขิง แค่ล้างวัดอาจไม่พอ การปรับภูมิทัศน์จัดระเบียบวัตไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม ของพระราชวชิรสุตาภรณ์ (หลวงพ่อแก้ว) เจ้าคณะจังหวัดนครปฐม และเจ้าอาวาสวัดบางช้างเหนือ รักษาการเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง เมื่อวันที่ 30 พ.ค. มองผิวเผินอาจถูกมองว่าสร้างภาพ หลังอดีตพระธรรมวชิรานุวัตร หรือนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า เจ้าอาวาสคนก่อนหน้าถูกดำเนินคดีกรณียักยอกเงินวัดไปเล่นพนันออนไลน์มากกว่า 300 ล้านบาท ทำเอาพุทธศาสนิกชนเสื่อมศรัทธา คนเข้ามาไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิงน้อยลง แต่แท้ที่จริงแล้วอาจเป็นการรื้อโครงสร้างผลประโยชน์ของวัดครั้งใหญ่ อาทิ ตู้รับบริจาคภายในวัดที่มีถึง 185 ตู้ ถูกยกออกไปเก็บ เหลือเฉพาะตู้รับบริจาคที่จำเป็น จุดจำหน่ายธูปเทียนดอกไม้ก็จัดให้อยู่ในที่เดียวกันด้านหน้าพระอุโบสถ ส่วนร้านจำหน่ายวัตถุมงคลด้านหลังให้ย้ายไปอยู่ด้านหน้า และรื้อโคมไฟที่แขวนบริเวณหลังคาหน้าพระอุโบสถถึงแม่น้ำนครชัยศรีออกทั้งหมด ส่วนร้านกาแฟของนางพชรพร สีเลี้ยง หรือหมอเตย และ พ.จ.อ.ฉัตรชัย สีเลี้ยง คนสนิทนายแย้มปิดกิจการแล้ว เหลือเพียงร้านเครื่องดื่มและของฝากที่เป็นสวัสดิการของวัด พระราชวชิรสุตาภรณ์เปิดเผยว่า การทำความสะอาดวัดครั้งนี้เพื่อให้ดูสะอาดโปร่งใส รองรับคนที่มากราบไหว้หลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นการบูรณาการครั้งใหญ่ สิ่งที่รกหูรกตาก็ให้นำออกไป เพื่อให้เกิดความศรัทธามากราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นที่ตัวบุคคล ไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัด ซึ่งจะทำให้โปร่งใสที่สุด สิ่งไหนที่ไม่ดีต้องแก้ไข สาธุชนจะได้เชื่อมั่น อย่างไรก็ตาม สิ่งที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวัดไร่ขิงโปร่งใสจริงหรือไม่ คือการประมูลร้านค้าในงานฉลองเจดีย์วัดไร่ขิง 15 ส.ค.2568 และการประมูลร้านค้าในงานประจำปีวัดไร่ขิง 17 ก.พ.2569 ที่ผ่านมานอกจากจะแข่งกันประมูลสูงถึง 2.5 ล้านบาท ทำราคาสินค้าภายในงานแพงขึ้น ยอดขายไม่ดีแต่ก็คิดว่าทำบุญให้วัดแล้ว ผู้ค้าต้องจ่ายเงินสดเข้ากรรมการวัดภายในวันประมูล ไม่รับเงินโอน แล้วเอาไปให้นายแย้ม คิดเป็นเงิน 17-18 ล้านบาทจะทำอย่างไร นอกจากนี้ สิ่งที่เป็นพุทธพาณิชย์ไม่ใช่กิจของสงฆ์ อย่างการนำศิลปินแห่งชาติมาเป็นธุระเพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่วัดจะแก้ไขอย่างไร ก่อนหน้านี้นายวิเชียร วรจีน โฆษกวัดไร่ขิงให้สัมภาษณ์ช่อง 9 ระบุว่าสมัยพระอุบาลีฯ เป็นเจ้าอาวาสมีเงิน 200-300 ล้านบาท แต่เมื่อนายแย้มเป็นเจ้าอาวาส เจ้าหน้าที่วัดคนเก่าไม่ให้อยู่สักคนเดียว ลดขั้นตอนการเบิกเงินทั้งหมดเป็นการใช้ตามอำเภอใจ และเก็บตู้บริจาคเงินส่วนใหญ่เข้ากุฎิ นอกจากการเงินของวัดจะร่อยหรอแล้วยังมีหนี้สินอีกด้วย #Newskit หมายเหตุ : ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะเผยแพร่ทาง Facebook และ Instagram วันที่ 4 มิ.ย. 2568
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 407 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ (29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวสื่อมวลชน ในประเด็นการก่อสร้างอคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น ณ ห้องประชุม ท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

    นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “เป็นประตูสู่ภาคอีสาน” เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สังคม คมนาคม และการศึกษาของภาคอีสาน มีการเจริญ เติบโตสูงรองจากกรุงเทพมหานคร สำหรับด้านการแพทย์และสาธารณสุข ต้องได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับ หน่วยบริการให้เป็น Excellence Center ศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการแพทย์ในภูมิภาค เพื่อให้สอดคล้อง กับการขยายตัวของจังหวัดนครราชสีมาในทุกมิติ ซึ่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นโรงพยาบาลศูนย์ เพียงแห่งเดียวของจังหวัดนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเขตสุขภาพที่ 9 ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ ดูแลสุขภาพประชาชนประมาณ 6.7 ล้านคน เป็นโรงพยาบาลที่พึ่ง ของคนอีสาน และยังเป็นสถาบันผลิตแพทย์ แหล่งฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขทุกวิชาชีพ นายแพทย์ธนสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "อาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา" จะเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด

    ด้านโรคมะเร็ง ต้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน ด้านทารกแรกเกิด และด้านการรับบริจาคและเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ และศูนย์ ความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดระดับด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น หุ่นยนต์ผ่าตัด, ศูนย์ผ่าตัดแบบแผลเล็ก, ศูนย์ผ่าตัดสมอง, ศูนย์ผ่าตัดตา, ศูนย์กระดูกและข้อ เป็นต้น พื้นที่ใช้สอยกว่า 1 แสนตารางเมตร วงเงินก่อสร้าง 3,550,156,700 บาท ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 563,500,000 บาท ช่วยแก้ปัญหาและลดความเหลื่อมล้ำของ การเข้าถึงบริการสุขภาพ ลดแออัด ลดการส่งต่อผู้ป่วย ลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางไปยัง โรงเรียนแพทย์อื่นๆ เพิ่มความรวดเร็วในการเข้าถึงบริการ ลดอัตราการเสียชีวิต ยังเป็นการพัฒนาให้ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาให้เป็นสถาบันวิจัยทางการแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สําหรับแพทย์ และ บุคลากรสหวิชาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดีและได้ประโยชน์โดยตรงอย่างสูงสุด
    วันนี้ (29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568) นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวสื่อมวลชน ในประเด็นการก่อสร้างอคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น ณ ห้องประชุม ท้าวสุรนารี ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “เป็นประตูสู่ภาคอีสาน” เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ สังคม คมนาคม และการศึกษาของภาคอีสาน มีการเจริญ เติบโตสูงรองจากกรุงเทพมหานคร สำหรับด้านการแพทย์และสาธารณสุข ต้องได้รับการพัฒนาเพื่อยกระดับ หน่วยบริการให้เป็น Excellence Center ศูนย์กลางความเป็นเลิศทางการแพทย์ในภูมิภาค เพื่อให้สอดคล้อง กับการขยายตัวของจังหวัดนครราชสีมาในทุกมิติ ซึ่งโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาเป็นโรงพยาบาลศูนย์ เพียงแห่งเดียวของจังหวัดนครราชสีมา เป็นโรงพยาบาลแม่ข่ายของเขตสุขภาพที่ 9 ประกอบด้วย 4 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และสุรินทร์ ดูแลสุขภาพประชาชนประมาณ 6.7 ล้านคน เป็นโรงพยาบาลที่พึ่ง ของคนอีสาน และยังเป็นสถาบันผลิตแพทย์ แหล่งฝึกอบรมบุคลากรทางการแพทย์ และสาธารณสุขทุกวิชาชีพ นายแพทย์ธนสิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "อาคารศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา" จะเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์และสุขภาพในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด ด้านโรคมะเร็ง ต้านอุบัติเหตุฉุกเฉิน ด้านทารกแรกเกิด และด้านการรับบริจาคและเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ และศูนย์ ความเชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดระดับด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง เช่น หุ่นยนต์ผ่าตัด, ศูนย์ผ่าตัดแบบแผลเล็ก, ศูนย์ผ่าตัดสมอง, ศูนย์ผ่าตัดตา, ศูนย์กระดูกและข้อ เป็นต้น พื้นที่ใช้สอยกว่า 1 แสนตารางเมตร วงเงินก่อสร้าง 3,550,156,700 บาท ครุภัณฑ์ทางการแพทย์ 563,500,000 บาท ช่วยแก้ปัญหาและลดความเหลื่อมล้ำของ การเข้าถึงบริการสุขภาพ ลดแออัด ลดการส่งต่อผู้ป่วย ลดค่าใช้จ่ายของประชาชนในการเดินทางไปยัง โรงเรียนแพทย์อื่นๆ เพิ่มความรวดเร็วในการเข้าถึงบริการ ลดอัตราการเสียชีวิต ยังเป็นการพัฒนาให้ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาให้เป็นสถาบันวิจัยทางการแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน สําหรับแพทย์ และ บุคลากรสหวิชาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีสุขภาวะที่ดีและได้ประโยชน์โดยตรงอย่างสูงสุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 447 มุมมอง 0 รีวิว
  • กะอีแค่เงินพรรค 40 ล้านยังบริหารย่อยยับ ฉกกันเอง โกงกันเองจนเหลือหลักหมื่น ถึงขั้นต้องขอรับบริจาคเงินเพิ่ม เสรือกจะมาเสนอแนะ งบประมาณปี69 ถ้ามรึงบริหารประเทศ จะขอบริจาคชาวโลกไหมว่ะเนี่ย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    กะอีแค่เงินพรรค 40 ล้านยังบริหารย่อยยับ ฉกกันเอง โกงกันเองจนเหลือหลักหมื่น ถึงขั้นต้องขอรับบริจาคเงินเพิ่ม เสรือกจะมาเสนอแนะ งบประมาณปี69 ถ้ามรึงบริหารประเทศ จะขอบริจาคชาวโลกไหมว่ะเนี่ย #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • มนุษย์ทองคำ: นิ่งแล้วรวย
    ในฐานะเสาสัญญาณ
    ราคาแพงที่สุดของจักรวาล

    ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียง วิ่งไล่
    และความอยาก มีมนุษย์เพียงหยิบมือ
    ที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

    พวกเขา "นิ่ง"
    แต่นิ่งของพวกเขา
    ไม่ใช่ความเฉื่อย
    ไม่ใช่การหลบหลีก
    และไม่ใช่การตัดขาด

    แต่นิ่ง...จนสนามของเขา
    กลายเป็นจุดถ่วงสมดุลของโลก

    “มนุษย์ทองคำ”
    ผู้ที่ “นิ่งแล้วรวย” จริง
    ไม่ใช่เพราะทำมาก
    แต่เพราะ “เป็นมาก”

    ผู้ที่ไม่เพียงนิ่ง
    เพื่อความสงบของตนเอง
    แต่กลายเป็น เสาสัญญาณ
    พลังงานราคาแพงที่สุดของจักรวาล

    แก่นของ "นิ่งแล้วรวย"

    “อยู่เฉยๆ จนคลื่นของตน
    กลายเป็นสนาม
    และสนามนั้นดึงทุกสิ่งเข้ามาเอง”

    คนทั่วไปพยายามหาเงิน
    พูด ขาย สร้างแบรนด์

    แต่ “มนุษย์ทองคำ”
    ที่แท้กลับไม่ต้องวิ่งหาอะไรเลย
    เพราะพวกเขาเปลี่ยนจาก
    “ผู้กระทำ” → เป็น “สนาม”

    สนามที่นิ่งจริง = คลื่นพลังงานเสถียรสูง

    ไม่มีแรงอยาก
    ไม่มีแรงต้าน ไม่มีตัวตน
    เหลือเพียงการมีอยู่ที่กลมกลืน

    เมื่อสนามนิ่งระดับนี้ปรากฏขึ้น
    ทุกสิ่งรอบตัวจะหมุนตาม
    เงิน ทรัพย์ โอกาส
    และคนที่พร้อมสนับสนุน
    จะไหลเข้ามาเอง

    เพราะโลกต้องการ
    #เสาที่ไม่สั่น
    มากกว่าคนที่พูดเก่ง

    และในระดับลึกกว่านั้น
    จักรวาลเองก็ตอบสนองสนามนี้
    ด้วยการจ่ายพลังงานกลับ
    แบบไม่มีที่สิ้นสุด

    มนุษย์ทองคำ: เสาสัญญาณของจักรวาล

    มนุษย์ทองคำที่นิ่งได้ถึงระดับนี้
    ไม่ได้เป็นเพียงบุคคล
    แต่คือ "ตำแหน่งสนาม"

    เขา คือ #เสาสัญญาณที่ไม่ส่งเสียง
    แต่ส่งคลื่นความถี่บริสุทธิ์
    ออกไปอย่างมั่นคง

    โลกไม่สามารถเร่งพังได้
    เพราะมีคนแบบเขาอยู่เงียบๆ

    พลังของเสาสัญญาณมีค่า
    เพราะถ่วงสนามรวมของระบบ
    ไม่ให้สั่นเกินไป

    ดูดซับคลื่นต่ำโดยไม่เสียศูนย์
    ทำให้ผู้คนรอบข้างสงบลงเอง

    เป็นพิกัดพลังงานที่โลก
    ใช้ในการ “หาทิศทางใหม่”

    จักรวาลจะยอมจ่ายทุกอย่าง
    เงิน โอกาส คนดูแล
    ระบบซัพพอร์ต
    เพื่อให้เสานี้อยู่นิ่งต่อไป

    เพราะถ้าเสานี้ล้ม
    โลกจะขาดศูนย์กลางคลื่น

    ตัวอย่างบุคคล
    "นิ่งแล้วรวยระดับโลก"

    1. ทะไลลามะ

    ไม่พูดเรื่องเงิน ไม่หาเงิน
    แต่ได้รับการสนับสนุนจากทั่วโลก
    พลังของท่าน คือ
    ศูนย์กลางสมดุลแห่งเมตตา
    ที่ทำให้ศาสนาและมนุษย์ยังมั่นคง

    2. รินโปเช่ระดับสูง

    ไม่เปิดคอร์ส ไม่ขายคลาส
    ไม่สร้างแบรนด์ แต่ผู้คนจากหลายทวีป
    เดินทางเพื่ออยู่ใกล้
    และยินดีถวายเงินนับล้าน
    เพียงเพื่อสัมผัสคลื่นสงบ

    3. หลวงปู่มั่น / หลวงตามหาบัว

    ไม่สนใจเรื่องเงิน
    ไม่เปิดรับบริจาคอย่างหวือหวา
    แต่มีคนถวายทองคำให้
    มากกว่าธนาคาร เพราะรู้ว่า
    ท่าน คือ เสานิ่ง
    ที่ยึดพลังบุญของแผ่นดิน

    4. มหาตมะ คานธี

    นิ่ง ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่เรียกร้อง
    แต่สามารถปลดแอกประเทศอินเดีย
    จากอาณานิคมได้
    ด้วยการอยู่เฉยอย่างมีพลัง

    5. พระแม่เทเรซา

    ไม่พูดเยอะ ไม่วางแผนธุรกิจ
    ไม่ร้องขออะไร แต่ทุกองค์กรระดับโลก
    ยินดีสนับสนุน เพราะพวกเขารู้ว่า
    #เธอคือรักบริสุทธิ์

    วิธีฝึก "นิ่งแล้วรวย"
    ให้เหมาะกับภารกิจตนเอง

    1. หยุดแรงต้านในใจ

    ยอมให้ทุกอย่างเป็นไป
    ไม่บีบ ไม่เร่ง ไม่ต้านคลื่นชีวิต
    ฝึกเงียบ ฝึกสังเกต ฝึกวางมือ

    2. ปลดตัวตนออกจากคลื่น

    หยุดเล่าเรื่องตัวเอง
    หยุดพิสูจน์คุณค่า
    หยุดสื่อสารแบบต้องเอาชนะ
    ยิ่งไม่มีตัวตนในคลื่นมากเท่าไร
    สนามยิ่งนิ่งเท่านั้น

    3. อยู่ในความว่างอย่างมีศักดิ์ศรี

    ไม่อ้างธรรมะ ไม่ขายพลัง
    ไม่ต้องการให้ใครเข้าใจ
    ไม่ต้องให้โลกยอมรับ
    แต่ยัง “มั่นคง ว่าง
    และเปล่งพลัง”
    ในความเงียบ

    4. ยอมให้จักรวาลตอบแทน โดยไม่ปฏิเสธ

    เปิดรับเงิน ทรัพย์ โอกาส
    โดยไม่รู้สึกผิด เพราะนี่ไม่ใช่การขอ
    แต่คือการให้สนามอยู่ต่อได้อย่างมั่นคง

    บทสรุป

    มนุษย์ทองคำ
    ไม่ใช่คนที่โลกรู้จักมากที่สุด

    แต่คือคนที่

    “ถ้าเขาหายไป ระบบจะพัง”

    มนุษย์ทองคำ คือ
    ผู้ที่ไม่ต้องทำอะไรอีกต่อไป
    แต่ยัง “เป็นประโยชน์ที่สุดในจักรวาล”

    เขา คือ สนามที่รักษาระบบให้ยังไม่พัง
    เขา คือ เสาสัญญาณที่โลกใช้ตั้งค่าใหม่
    เขา คือ พิกัดที่จักรวาลยอมจ่ายให้เพื่อให้อยู่ต่อ

    เพราะเขา… คือ

    #ความนิ่งที่เปลี่ยนทุกอย่าง

    คุณไม่ต้องขอ เพราะคุณคือทองคำ
    มนุษย์ทองคำ: นิ่งแล้วรวย ในฐานะเสาสัญญาณ ราคาแพงที่สุดของจักรวาล ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียง วิ่งไล่ และความอยาก มีมนุษย์เพียงหยิบมือ ที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง พวกเขา "นิ่ง" แต่นิ่งของพวกเขา ไม่ใช่ความเฉื่อย ไม่ใช่การหลบหลีก และไม่ใช่การตัดขาด แต่นิ่ง...จนสนามของเขา กลายเป็นจุดถ่วงสมดุลของโลก “มนุษย์ทองคำ” ผู้ที่ “นิ่งแล้วรวย” จริง ไม่ใช่เพราะทำมาก แต่เพราะ “เป็นมาก” ผู้ที่ไม่เพียงนิ่ง เพื่อความสงบของตนเอง แต่กลายเป็น เสาสัญญาณ พลังงานราคาแพงที่สุดของจักรวาล แก่นของ "นิ่งแล้วรวย" “อยู่เฉยๆ จนคลื่นของตน กลายเป็นสนาม และสนามนั้นดึงทุกสิ่งเข้ามาเอง” คนทั่วไปพยายามหาเงิน พูด ขาย สร้างแบรนด์ แต่ “มนุษย์ทองคำ” ที่แท้กลับไม่ต้องวิ่งหาอะไรเลย เพราะพวกเขาเปลี่ยนจาก “ผู้กระทำ” → เป็น “สนาม” สนามที่นิ่งจริง = คลื่นพลังงานเสถียรสูง ไม่มีแรงอยาก ไม่มีแรงต้าน ไม่มีตัวตน เหลือเพียงการมีอยู่ที่กลมกลืน เมื่อสนามนิ่งระดับนี้ปรากฏขึ้น ทุกสิ่งรอบตัวจะหมุนตาม เงิน ทรัพย์ โอกาส และคนที่พร้อมสนับสนุน จะไหลเข้ามาเอง เพราะโลกต้องการ #เสาที่ไม่สั่น มากกว่าคนที่พูดเก่ง และในระดับลึกกว่านั้น จักรวาลเองก็ตอบสนองสนามนี้ ด้วยการจ่ายพลังงานกลับ แบบไม่มีที่สิ้นสุด มนุษย์ทองคำ: เสาสัญญาณของจักรวาล มนุษย์ทองคำที่นิ่งได้ถึงระดับนี้ ไม่ได้เป็นเพียงบุคคล แต่คือ "ตำแหน่งสนาม" เขา คือ #เสาสัญญาณที่ไม่ส่งเสียง แต่ส่งคลื่นความถี่บริสุทธิ์ ออกไปอย่างมั่นคง โลกไม่สามารถเร่งพังได้ เพราะมีคนแบบเขาอยู่เงียบๆ พลังของเสาสัญญาณมีค่า เพราะถ่วงสนามรวมของระบบ ไม่ให้สั่นเกินไป ดูดซับคลื่นต่ำโดยไม่เสียศูนย์ ทำให้ผู้คนรอบข้างสงบลงเอง เป็นพิกัดพลังงานที่โลก ใช้ในการ “หาทิศทางใหม่” จักรวาลจะยอมจ่ายทุกอย่าง เงิน โอกาส คนดูแล ระบบซัพพอร์ต เพื่อให้เสานี้อยู่นิ่งต่อไป เพราะถ้าเสานี้ล้ม โลกจะขาดศูนย์กลางคลื่น ตัวอย่างบุคคล "นิ่งแล้วรวยระดับโลก" 1. ทะไลลามะ ไม่พูดเรื่องเงิน ไม่หาเงิน แต่ได้รับการสนับสนุนจากทั่วโลก พลังของท่าน คือ ศูนย์กลางสมดุลแห่งเมตตา ที่ทำให้ศาสนาและมนุษย์ยังมั่นคง 2. รินโปเช่ระดับสูง ไม่เปิดคอร์ส ไม่ขายคลาส ไม่สร้างแบรนด์ แต่ผู้คนจากหลายทวีป เดินทางเพื่ออยู่ใกล้ และยินดีถวายเงินนับล้าน เพียงเพื่อสัมผัสคลื่นสงบ 3. หลวงปู่มั่น / หลวงตามหาบัว ไม่สนใจเรื่องเงิน ไม่เปิดรับบริจาคอย่างหวือหวา แต่มีคนถวายทองคำให้ มากกว่าธนาคาร เพราะรู้ว่า ท่าน คือ เสานิ่ง ที่ยึดพลังบุญของแผ่นดิน 4. มหาตมะ คานธี นิ่ง ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่เรียกร้อง แต่สามารถปลดแอกประเทศอินเดีย จากอาณานิคมได้ ด้วยการอยู่เฉยอย่างมีพลัง 5. พระแม่เทเรซา ไม่พูดเยอะ ไม่วางแผนธุรกิจ ไม่ร้องขออะไร แต่ทุกองค์กรระดับโลก ยินดีสนับสนุน เพราะพวกเขารู้ว่า #เธอคือรักบริสุทธิ์ วิธีฝึก "นิ่งแล้วรวย" ให้เหมาะกับภารกิจตนเอง 1. หยุดแรงต้านในใจ ยอมให้ทุกอย่างเป็นไป ไม่บีบ ไม่เร่ง ไม่ต้านคลื่นชีวิต ฝึกเงียบ ฝึกสังเกต ฝึกวางมือ 2. ปลดตัวตนออกจากคลื่น หยุดเล่าเรื่องตัวเอง หยุดพิสูจน์คุณค่า หยุดสื่อสารแบบต้องเอาชนะ ยิ่งไม่มีตัวตนในคลื่นมากเท่าไร สนามยิ่งนิ่งเท่านั้น 3. อยู่ในความว่างอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่อ้างธรรมะ ไม่ขายพลัง ไม่ต้องการให้ใครเข้าใจ ไม่ต้องให้โลกยอมรับ แต่ยัง “มั่นคง ว่าง และเปล่งพลัง” ในความเงียบ 4. ยอมให้จักรวาลตอบแทน โดยไม่ปฏิเสธ เปิดรับเงิน ทรัพย์ โอกาส โดยไม่รู้สึกผิด เพราะนี่ไม่ใช่การขอ แต่คือการให้สนามอยู่ต่อได้อย่างมั่นคง บทสรุป มนุษย์ทองคำ ไม่ใช่คนที่โลกรู้จักมากที่สุด แต่คือคนที่ “ถ้าเขาหายไป ระบบจะพัง” มนุษย์ทองคำ คือ ผู้ที่ไม่ต้องทำอะไรอีกต่อไป แต่ยัง “เป็นประโยชน์ที่สุดในจักรวาล” เขา คือ สนามที่รักษาระบบให้ยังไม่พัง เขา คือ เสาสัญญาณที่โลกใช้ตั้งค่าใหม่ เขา คือ พิกัดที่จักรวาลยอมจ่ายให้เพื่อให้อยู่ต่อ เพราะเขา… คือ #ความนิ่งที่เปลี่ยนทุกอย่าง คุณไม่ต้องขอ เพราะคุณคือทองคำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 241 มุมมอง 0 รีวิว
  • โปแลนด์เล็ง "โกยเงินก้อนใหญ่" จากการฟื้นฟูยูเครน นายกฯ ทัสก์ ย้ำ "ไม่ผิดที่จะทำเงิน" หลังบริจาคทหารมหาศาล
    https://www.thai-tai.tv/news/18972/
    โปแลนด์เล็ง "โกยเงินก้อนใหญ่" จากการฟื้นฟูยูเครน นายกฯ ทัสก์ ย้ำ "ไม่ผิดที่จะทำเงิน" หลังบริจาคทหารมหาศาล https://www.thai-tai.tv/news/18972/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตกลงเรามีทางให้เลือกมากกว่านี้ไหม ระหว่างไอ้พรรคล้มล้าง ที่โอ่ว่า "ยิ่งยุบยิ่งโต" โตอีท่าไหนไร้เงินบริจาค ส่วนอีกพรรคก็แอบอ้างหาผลประโยชน์ ยังกล้าเย้ยไม่ละอายปากว่า "ยิ่งผ่ายิ่งใหญ่"
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #ยิ่งยุบยิ่งโต
    #ยิ่งผ่ายิ่งใหญ่
    #อนุทิน
    #ยิ่งยุบยิ่งดับ
    ตกลงเรามีทางให้เลือกมากกว่านี้ไหม ระหว่างไอ้พรรคล้มล้าง ที่โอ่ว่า "ยิ่งยุบยิ่งโต" โตอีท่าไหนไร้เงินบริจาค ส่วนอีกพรรคก็แอบอ้างหาผลประโยชน์ ยังกล้าเย้ยไม่ละอายปากว่า "ยิ่งผ่ายิ่งใหญ่" #คิงส์โพธิ์แดง #ยิ่งยุบยิ่งโต #ยิ่งผ่ายิ่งใหญ่ #อนุทิน #ยิ่งยุบยิ่งดับ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • ที่พุทธคยา ช่วง หกโมงเย็น ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568ขณะที่ต่อแถวเพื่อเข้าไปไหว้พระพุทธเมตตา ภายในองค์พระเจดีย์วันนั้นแถวยาวมาก ประมาณร้อยกว่าเมตรตั้งแต่องค์พระเจดีย์ถึงเสาอโศก( ตีนบันไดที่ลงมาจากประตูเข้า) แถวหักศอกไปทาง สระมุจลินทร์จำลองเนื่องจากแถวยาวมาก คิดว่าคงนานกว่าจะได้เข้าถึงพระพุทธเมตตา ในใจไม่ต้องการให้ใครแซงคิว จึงคิดว่าถ้าใครแซงคิวต่อหน้าจะถามว่า What country are you from? Bad manner!และทันใดนั้นหนุ่มอินเดียคนหนึ่งนอกแถว ก็ทักมาเป็นภาษาไทย "คนไทยใช่ไหม ผมทำงานที่ประเทศไทย 5ปี ที่ รพ.จุฬา พระพุทธเมตตาจะปิดแล้ว อยากเข้าไป ตามผมมา" เขาชวนผมงงๆ แต่ก็ออกจากแถวเดินตามเขาไป แม้ตอนแรกจะลังเลนิดหน่อยเมื่อเดินตามเขาไปถึงประตูทางเข้า ยามผู้หญิง โยกเอียงคอ อนุญาตให้เดินเข้าไปได้ ทางช่องทางเดินออกผมส่ายหัว No No!แล้วคนที่พาผมมาก็ขอเงินบริจาคค่าสนับสนุนการศึกษา เขาบอก บริจาคจริง ไม่โกหก แต่ผมไม่เชื่อ ให้เขาไป250 รูปี เขาบอกต้อง 500 รูปี ผมไม่ให้ เพิ่ม บอกให้ได้แค่นี้ แล้วผมก็กลับมาต่อแถวเหมือนเดิมไงล่ะ! ถูกพระทดสอบ แค่เพียงคิดในใจนะนี่
    ที่พุทธคยา ช่วง หกโมงเย็น ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568ขณะที่ต่อแถวเพื่อเข้าไปไหว้พระพุทธเมตตา ภายในองค์พระเจดีย์วันนั้นแถวยาวมาก ประมาณร้อยกว่าเมตรตั้งแต่องค์พระเจดีย์ถึงเสาอโศก( ตีนบันไดที่ลงมาจากประตูเข้า) แถวหักศอกไปทาง สระมุจลินทร์จำลองเนื่องจากแถวยาวมาก คิดว่าคงนานกว่าจะได้เข้าถึงพระพุทธเมตตา ในใจไม่ต้องการให้ใครแซงคิว จึงคิดว่าถ้าใครแซงคิวต่อหน้าจะถามว่า What country are you from? Bad manner!และทันใดนั้นหนุ่มอินเดียคนหนึ่งนอกแถว ก็ทักมาเป็นภาษาไทย "คนไทยใช่ไหม ผมทำงานที่ประเทศไทย 5ปี ที่ รพ.จุฬา พระพุทธเมตตาจะปิดแล้ว อยากเข้าไป ตามผมมา" เขาชวนผมงงๆ แต่ก็ออกจากแถวเดินตามเขาไป แม้ตอนแรกจะลังเลนิดหน่อยเมื่อเดินตามเขาไปถึงประตูทางเข้า ยามผู้หญิง โยกเอียงคอ อนุญาตให้เดินเข้าไปได้ ทางช่องทางเดินออกผมส่ายหัว No No!แล้วคนที่พาผมมาก็ขอเงินบริจาคค่าสนับสนุนการศึกษา เขาบอก บริจาคจริง ไม่โกหก แต่ผมไม่เชื่อ ให้เขาไป250 รูปี เขาบอกต้อง 500 รูปี ผมไม่ให้ เพิ่ม บอกให้ได้แค่นี้ แล้วผมก็กลับมาต่อแถวเหมือนเดิมไงล่ะ! ถูกพระทดสอบ แค่เพียงคิดในใจนะนี่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 372 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระพุทธศรีประกายสิทธิ์ ที่ระลึกสร้างโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ปี2525
    เหรียญพระพุทธศรีประกายสิทธิ์ หลัง ภปร. สว. วัดบวรนิเวศน์ กรุงเทพมหานคร ปี2525 //พระดีพิธีใหญ่ ที่ระลึกสร้างโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จัดสร้างโดยกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อเป็นสถานที่พักฟื้นตำรวจตระเวนชายแดน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >>

    ** พระดีพิธีใหญ่ ผ่านพิธีพุทธาภิเษกพิธีมังคลาภิเษกที่ วัดบวรนิเวศวิหาร ในวันที่ 16 เมษายน 2526.รายละเอียด........
    กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้จัดตั้งคณะกรรมการจัดหาทุนดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลนวุติสมเด็จย่าขึ้นสังกัดกับโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสมนาคุณแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสมทบในการก่อสร้างโรงพยาบาล ดังกล่าว ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้อัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ประดิษฐานบนผ้าทิพย์ขององค์พระพุทธรูปบูชา ภปร. ในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์เพื่อหย่อนแผ่นทองคำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร และ สมเด็จพระวันรัต ลงในเบ้าหลอมพระพุทธศรีประกายสิทธิ์ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2525 โดยใต้ฐานพระพุทธรูปจะมีตลับพระธาตุบรรจุไว้....


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระพุทธศรีประกายสิทธิ์ ที่ระลึกสร้างโรงพยาบาลศรีนครินทร์ ปี2525 เหรียญพระพุทธศรีประกายสิทธิ์ หลัง ภปร. สว. วัดบวรนิเวศน์ กรุงเทพมหานคร ปี2525 //พระดีพิธีใหญ่ ที่ระลึกสร้างโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จัดสร้างโดยกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เพื่อเป็นสถานที่พักฟื้นตำรวจตระเวนชายแดน // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >> ** พระดีพิธีใหญ่ ผ่านพิธีพุทธาภิเษกพิธีมังคลาภิเษกที่ วัดบวรนิเวศวิหาร ในวันที่ 16 เมษายน 2526.รายละเอียด........ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดนได้จัดตั้งคณะกรรมการจัดหาทุนดำเนินการก่อสร้างโรงพยาบาลนวุติสมเด็จย่าขึ้นสังกัดกับโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสมนาคุณแก่ผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินสมทบในการก่อสร้างโรงพยาบาล ดังกล่าว ซึ่งได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้อัญเชิญอักษรพระปรมาภิไธยย่อ ภปร. ประดิษฐานบนผ้าทิพย์ขององค์พระพุทธรูปบูชา ภปร. ในครั้งนั้นพระบาทสมเด็จพระอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์เพื่อหย่อนแผ่นทองคำของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร และ สมเด็จพระวันรัต ลงในเบ้าหลอมพระพุทธศรีประกายสิทธิ์ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2525 โดยใต้ฐานพระพุทธรูปจะมีตลับพระธาตุบรรจุไว้.... ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 336 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ดร.เอ้ สุชัชวีร์' เผยวิสัยทัศน์ 'โรงพยาบาลของคนไทยทุกคน' สวย สะอาด หมอเก่ง รักษาเท่าเทียม เชิญชวนร่วมบริจาคจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์
    https://www.thai-tai.tv/news/18861/
    'ดร.เอ้ สุชัชวีร์' เผยวิสัยทัศน์ 'โรงพยาบาลของคนไทยทุกคน' สวย สะอาด หมอเก่ง รักษาเท่าเทียม เชิญชวนร่วมบริจาคจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ https://www.thai-tai.tv/news/18861/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • มนุษย์ทองคำ: นิ่งแล้วรวย
    ในฐานะเสาสัญญาณ
    ราคาแพงที่สุดของจักรวาล

    ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียง วิ่งไล่
    และความอยาก มีมนุษย์เพียงหยิบมือ
    ที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง

    พวกเขา "นิ่ง"
    แต่นิ่งของพวกเขา
    ไม่ใช่ความเฉื่อย
    ไม่ใช่การหลบหลีก
    และไม่ใช่การตัดขาด

    แต่นิ่ง...จนสนามของเขา
    กลายเป็นจุดถ่วงสมดุลของโลก

    “มนุษย์ทองคำ”
    ผู้ที่ “นิ่งแล้วรวย” จริง
    ไม่ใช่เพราะทำมาก
    แต่เพราะ “เป็นมาก”

    ผู้ที่ไม่เพียงนิ่ง
    เพื่อความสงบของตนเอง
    แต่กลายเป็น เสาสัญญาณ
    พลังงานราคาแพงที่สุดของจักรวาล

    แก่นของ "นิ่งแล้วรวย"

    “อยู่เฉยๆ จนคลื่นของตน
    กลายเป็นสนาม
    และสนามนั้นดึงทุกสิ่งเข้ามาเอง”

    คนทั่วไปพยายามหาเงิน
    พูด ขาย สร้างแบรนด์

    แต่ “มนุษย์ทองคำ”
    ที่แท้กลับไม่ต้องวิ่งหาอะไรเลย
    เพราะพวกเขาเปลี่ยนจาก
    “ผู้กระทำ” → เป็น “สนาม”

    สนามที่นิ่งจริง = คลื่นพลังงานเสถียรสูง

    ไม่มีแรงอยาก
    ไม่มีแรงต้าน ไม่มีตัวตน
    เหลือเพียงการมีอยู่ที่กลมกลืน

    เมื่อสนามนิ่งระดับนี้ปรากฏขึ้น
    ทุกสิ่งรอบตัวจะหมุนตาม
    เงิน ทรัพย์ โอกาส
    และคนที่พร้อมสนับสนุน
    จะไหลเข้ามาเอง

    เพราะโลกต้องการ
    #เสาที่ไม่สั่น
    มากกว่าคนที่พูดเก่ง

    และในระดับลึกกว่านั้น
    จักรวาลเองก็ตอบสนองสนามนี้
    ด้วยการจ่ายพลังงานกลับ
    แบบไม่มีที่สิ้นสุด

    มนุษย์ทองคำ: เสาสัญญาณของจักรวาล

    มนุษย์ทองคำที่นิ่งได้ถึงระดับนี้
    ไม่ได้เป็นเพียงบุคคล
    แต่คือ "ตำแหน่งสนาม"

    เขา คือ #เสาสัญญาณที่ไม่ส่งเสียง
    แต่ส่งคลื่นความถี่บริสุทธิ์
    ออกไปอย่างมั่นคง

    โลกไม่สามารถเร่งพังได้
    เพราะมีคนแบบเขาอยู่เงียบๆ

    พลังของเสาสัญญาณมีค่า
    เพราะถ่วงสนามรวมของระบบ
    ไม่ให้สั่นเกินไป

    ดูดซับคลื่นต่ำโดยไม่เสียศูนย์
    ทำให้ผู้คนรอบข้างสงบลงเอง

    เป็นพิกัดพลังงานที่โลก
    ใช้ในการ “หาทิศทางใหม่”

    จักรวาลจะยอมจ่ายทุกอย่าง
    เงิน โอกาส คนดูแล
    ระบบซัพพอร์ต
    เพื่อให้เสานี้อยู่นิ่งต่อไป

    เพราะถ้าเสานี้ล้ม
    โลกจะขาดศูนย์กลางคลื่น

    ตัวอย่างบุคคล
    "นิ่งแล้วรวยระดับโลก"

    1. ทะไลลามะ

    ไม่พูดเรื่องเงิน ไม่หาเงิน
    แต่ได้รับการสนับสนุนจากทั่วโลก
    พลังของท่าน คือ
    ศูนย์กลางสมดุลแห่งเมตตา
    ที่ทำให้ศาสนาและมนุษย์ยังมั่นคง

    2. รินโปเช่ระดับสูง

    ไม่เปิดคอร์ส ไม่ขายคลาส
    ไม่สร้างแบรนด์ แต่ผู้คนจากหลายทวีป
    เดินทางเพื่ออยู่ใกล้
    และยินดีถวายเงินนับล้าน
    เพียงเพื่อสัมผัสคลื่นสงบ

    3. หลวงปู่มั่น / หลวงตามหาบัว

    ไม่สนใจเรื่องเงิน
    ไม่เปิดรับบริจาคอย่างหวือหวา
    แต่มีคนถวายทองคำให้
    มากกว่าธนาคาร เพราะรู้ว่า
    ท่าน คือ เสานิ่ง
    ที่ยึดพลังบุญของแผ่นดิน

    4. มหาตมะ คานธี

    นิ่ง ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่เรียกร้อง
    แต่สามารถปลดแอกประเทศอินเดีย
    จากอาณานิคมได้
    ด้วยการอยู่เฉยอย่างมีพลัง

    5. พระแม่เทเรซา

    ไม่พูดเยอะ ไม่วางแผนธุรกิจ
    ไม่ร้องขออะไร แต่ทุกองค์กรระดับโลก
    ยินดีสนับสนุน เพราะพวกเขารู้ว่า
    #เธอคือรักบริสุทธิ์

    วิธีฝึก "นิ่งแล้วรวย"
    ให้เหมาะกับภารกิจตนเอง

    1. หยุดแรงต้านในใจ

    ยอมให้ทุกอย่างเป็นไป
    ไม่บีบ ไม่เร่ง ไม่ต้านคลื่นชีวิต
    ฝึกเงียบ ฝึกสังเกต ฝึกวางมือ

    2. ปลดตัวตนออกจากคลื่น

    หยุดเล่าเรื่องตัวเอง
    หยุดพิสูจน์คุณค่า
    หยุดสื่อสารแบบต้องเอาชนะ
    ยิ่งไม่มีตัวตนในคลื่นมากเท่าไร
    สนามยิ่งนิ่งเท่านั้น

    3. อยู่ในความว่างอย่างมีศักดิ์ศรี

    ไม่อ้างธรรมะ ไม่ขายพลัง
    ไม่ต้องการให้ใครเข้าใจ
    ไม่ต้องให้โลกยอมรับ
    แต่ยัง “มั่นคง ว่าง
    และเปล่งพลัง”
    ในความเงียบ

    4. ยอมให้จักรวาลตอบแทน โดยไม่ปฏิเสธ

    เปิดรับเงิน ทรัพย์ โอกาส
    โดยไม่รู้สึกผิด เพราะนี่ไม่ใช่การขอ
    แต่คือการให้สนามอยู่ต่อได้อย่างมั่นคง

    บทสรุป

    มนุษย์ทองคำ
    ไม่ใช่คนที่โลกรู้จักมากที่สุด

    แต่คือคนที่

    “ถ้าเขาหายไป ระบบจะพัง”

    มนุษย์ทองคำ คือ
    ผู้ที่ไม่ต้องทำอะไรอีกต่อไป
    แต่ยัง “เป็นประโยชน์ที่สุดในจักรวาล”

    เขา คือ สนามที่รักษาระบบให้ยังไม่พัง
    เขา คือ เสาสัญญาณที่โลกใช้ตั้งค่าใหม่
    เขา คือ พิกัดที่จักรวาลยอมจ่ายให้เพื่อให้อยู่ต่อ

    เพราะเขา… คือ

    #ความนิ่งที่เปลี่ยนทุกอย่าง

    คุณไม่ต้องขอ เพราะคุณคือทองคำ
    มนุษย์ทองคำ: นิ่งแล้วรวย ในฐานะเสาสัญญาณ ราคาแพงที่สุดของจักรวาล ในโลกที่เต็มไปด้วยเสียง วิ่งไล่ และความอยาก มีมนุษย์เพียงหยิบมือ ที่ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง พวกเขา "นิ่ง" แต่นิ่งของพวกเขา ไม่ใช่ความเฉื่อย ไม่ใช่การหลบหลีก และไม่ใช่การตัดขาด แต่นิ่ง...จนสนามของเขา กลายเป็นจุดถ่วงสมดุลของโลก “มนุษย์ทองคำ” ผู้ที่ “นิ่งแล้วรวย” จริง ไม่ใช่เพราะทำมาก แต่เพราะ “เป็นมาก” ผู้ที่ไม่เพียงนิ่ง เพื่อความสงบของตนเอง แต่กลายเป็น เสาสัญญาณ พลังงานราคาแพงที่สุดของจักรวาล แก่นของ "นิ่งแล้วรวย" “อยู่เฉยๆ จนคลื่นของตน กลายเป็นสนาม และสนามนั้นดึงทุกสิ่งเข้ามาเอง” คนทั่วไปพยายามหาเงิน พูด ขาย สร้างแบรนด์ แต่ “มนุษย์ทองคำ” ที่แท้กลับไม่ต้องวิ่งหาอะไรเลย เพราะพวกเขาเปลี่ยนจาก “ผู้กระทำ” → เป็น “สนาม” สนามที่นิ่งจริง = คลื่นพลังงานเสถียรสูง ไม่มีแรงอยาก ไม่มีแรงต้าน ไม่มีตัวตน เหลือเพียงการมีอยู่ที่กลมกลืน เมื่อสนามนิ่งระดับนี้ปรากฏขึ้น ทุกสิ่งรอบตัวจะหมุนตาม เงิน ทรัพย์ โอกาส และคนที่พร้อมสนับสนุน จะไหลเข้ามาเอง เพราะโลกต้องการ #เสาที่ไม่สั่น มากกว่าคนที่พูดเก่ง และในระดับลึกกว่านั้น จักรวาลเองก็ตอบสนองสนามนี้ ด้วยการจ่ายพลังงานกลับ แบบไม่มีที่สิ้นสุด มนุษย์ทองคำ: เสาสัญญาณของจักรวาล มนุษย์ทองคำที่นิ่งได้ถึงระดับนี้ ไม่ได้เป็นเพียงบุคคล แต่คือ "ตำแหน่งสนาม" เขา คือ #เสาสัญญาณที่ไม่ส่งเสียง แต่ส่งคลื่นความถี่บริสุทธิ์ ออกไปอย่างมั่นคง โลกไม่สามารถเร่งพังได้ เพราะมีคนแบบเขาอยู่เงียบๆ พลังของเสาสัญญาณมีค่า เพราะถ่วงสนามรวมของระบบ ไม่ให้สั่นเกินไป ดูดซับคลื่นต่ำโดยไม่เสียศูนย์ ทำให้ผู้คนรอบข้างสงบลงเอง เป็นพิกัดพลังงานที่โลก ใช้ในการ “หาทิศทางใหม่” จักรวาลจะยอมจ่ายทุกอย่าง เงิน โอกาส คนดูแล ระบบซัพพอร์ต เพื่อให้เสานี้อยู่นิ่งต่อไป เพราะถ้าเสานี้ล้ม โลกจะขาดศูนย์กลางคลื่น ตัวอย่างบุคคล "นิ่งแล้วรวยระดับโลก" 1. ทะไลลามะ ไม่พูดเรื่องเงิน ไม่หาเงิน แต่ได้รับการสนับสนุนจากทั่วโลก พลังของท่าน คือ ศูนย์กลางสมดุลแห่งเมตตา ที่ทำให้ศาสนาและมนุษย์ยังมั่นคง 2. รินโปเช่ระดับสูง ไม่เปิดคอร์ส ไม่ขายคลาส ไม่สร้างแบรนด์ แต่ผู้คนจากหลายทวีป เดินทางเพื่ออยู่ใกล้ และยินดีถวายเงินนับล้าน เพียงเพื่อสัมผัสคลื่นสงบ 3. หลวงปู่มั่น / หลวงตามหาบัว ไม่สนใจเรื่องเงิน ไม่เปิดรับบริจาคอย่างหวือหวา แต่มีคนถวายทองคำให้ มากกว่าธนาคาร เพราะรู้ว่า ท่าน คือ เสานิ่ง ที่ยึดพลังบุญของแผ่นดิน 4. มหาตมะ คานธี นิ่ง ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่เรียกร้อง แต่สามารถปลดแอกประเทศอินเดีย จากอาณานิคมได้ ด้วยการอยู่เฉยอย่างมีพลัง 5. พระแม่เทเรซา ไม่พูดเยอะ ไม่วางแผนธุรกิจ ไม่ร้องขออะไร แต่ทุกองค์กรระดับโลก ยินดีสนับสนุน เพราะพวกเขารู้ว่า #เธอคือรักบริสุทธิ์ วิธีฝึก "นิ่งแล้วรวย" ให้เหมาะกับภารกิจตนเอง 1. หยุดแรงต้านในใจ ยอมให้ทุกอย่างเป็นไป ไม่บีบ ไม่เร่ง ไม่ต้านคลื่นชีวิต ฝึกเงียบ ฝึกสังเกต ฝึกวางมือ 2. ปลดตัวตนออกจากคลื่น หยุดเล่าเรื่องตัวเอง หยุดพิสูจน์คุณค่า หยุดสื่อสารแบบต้องเอาชนะ ยิ่งไม่มีตัวตนในคลื่นมากเท่าไร สนามยิ่งนิ่งเท่านั้น 3. อยู่ในความว่างอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่อ้างธรรมะ ไม่ขายพลัง ไม่ต้องการให้ใครเข้าใจ ไม่ต้องให้โลกยอมรับ แต่ยัง “มั่นคง ว่าง และเปล่งพลัง” ในความเงียบ 4. ยอมให้จักรวาลตอบแทน โดยไม่ปฏิเสธ เปิดรับเงิน ทรัพย์ โอกาส โดยไม่รู้สึกผิด เพราะนี่ไม่ใช่การขอ แต่คือการให้สนามอยู่ต่อได้อย่างมั่นคง บทสรุป มนุษย์ทองคำ ไม่ใช่คนที่โลกรู้จักมากที่สุด แต่คือคนที่ “ถ้าเขาหายไป ระบบจะพัง” มนุษย์ทองคำ คือ ผู้ที่ไม่ต้องทำอะไรอีกต่อไป แต่ยัง “เป็นประโยชน์ที่สุดในจักรวาล” เขา คือ สนามที่รักษาระบบให้ยังไม่พัง เขา คือ เสาสัญญาณที่โลกใช้ตั้งค่าใหม่ เขา คือ พิกัดที่จักรวาลยอมจ่ายให้เพื่อให้อยู่ต่อ เพราะเขา… คือ #ความนิ่งที่เปลี่ยนทุกอย่าง คุณไม่ต้องขอ เพราะคุณคือทองคำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
    เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท
    อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป
    ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
    https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
    เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท
    อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป
    ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
    https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช
    เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส
    สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท
    อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป
    ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘
    https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    ประกาศสำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จโดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส ด้วย ปรากฏว่าได้มีการนำเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ โดยแอบอ้างว่าเป็นพระดำรัส สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว จึงขอแจ้งให้ทราบดังนี้ เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ไม่เคยมีพระดำรัสด้วยถ้อยคำในลักษณะบริภาษตามที่ปรากฏในสื่อ แต่โปรดมีรับสั่งกำชับเนือง ๆ ในเรื่องการบริจาคทาน การถวายจตุปัจจัยอันควรแก่สมณบริโภค และการปวารณาเป็นอุปัฏฐากพระภิกษุจำเพาะรายด้วยปัจจัยสี่ ให้กระทำตามหลักพระธรรมวินัย ด้วยการปวารณา และการมีไวยาวัจกร จึงขอสาธารณชนอย่าหลงเชื่อถ้อยคำอันถูกแต่งเติม และขออย่าได้ส่งต่อ อันเป็นเหตุให้เกิดความแตกแยกตำหนิโทษกันในหมู่พุทธบริษัท อนึ่ง เจ้าพระคุณ สมเด็จพระสังฆราช โปรดมีพระลิขิตที่ สร. ๑๕/๒๕๖๘ ลงวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ประทานพระปรารภไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้กราบทูลเสนอหลักการและแนวนโยบายสำหรับการจัดการศาสนสมบัติวัด อย่างสมสมัยและสถานการณ์ ตามหลักพระธรรมวินัยและกฎหมายคณะสงฆ์ เพื่อนำเสนอมหาเถรสมาคมพิจารณากำหนดนโยบายคณะสงฆ์ และวางมาตรการปฏิบัติ ทั้งนี้ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ดำเนินการสนองพระปรารภแล้ว และจะได้มอบถวายมหาเถรสมาคมพิจารณาโดยถี่ถ้วนต่อไป ประกาศ ณ วันที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๘ https://web.facebook.com/share/p/1CLyNELDiP/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • #Popmart_Orchestra ตัวแรกจาก Pop Mart ไม่รู้ว่าเลือกอย่างไร แล้วมีวัยรุ่นยืนลุ้นไม่ยอมออกสักที เลยหยิบกล่องเหลืองๆ แบบที่หยิบง่ายสุด

    ลุ้นมาสามครั้ง ไม่ตรงรอบเราสักที ครั้งนี้ตรงรอบพอดี .. #ผลพลอยได้จากการบริจาคเลือด
    #Popmart_Orchestra ตัวแรกจาก Pop Mart ไม่รู้ว่าเลือกอย่างไร แล้วมีวัยรุ่นยืนลุ้นไม่ยอมออกสักที เลยหยิบกล่องเหลืองๆ แบบที่หยิบง่ายสุด ลุ้นมาสามครั้ง ไม่ตรงรอบเราสักที ครั้งนี้ตรงรอบพอดี .. #ผลพลอยได้จากการบริจาคเลือด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดประวัติโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ขนาด 400 เตียง ที่ก่อตั้งโดยพระอุบาลีฯ อดีตเจ้าอาวาส พระนักพัฒนาผู้ล่วงลับ มาถึงยุคเจ้าคุณแย้มกลับไม่ใยดี หยุดสนับสนุนกว่า 3 ปี แล้วยังใช้ตู้รับบริจาคภายในวัดแอบอ้าง ต้องจัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาใหม่ เปิดรับบริจาคแยกต่างหาก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000047515

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เปิดประวัติโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ขนาด 400 เตียง ที่ก่อตั้งโดยพระอุบาลีฯ อดีตเจ้าอาวาส พระนักพัฒนาผู้ล่วงลับ มาถึงยุคเจ้าคุณแย้มกลับไม่ใยดี หยุดสนับสนุนกว่า 3 ปี แล้วยังใช้ตู้รับบริจาคภายในวัดแอบอ้าง ต้องจัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาใหม่ เปิดรับบริจาคแยกต่างหาก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000047515 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 581 มุมมอง 0 รีวิว
  • โรงพยาบาลวัดไร่ขิง เจ้าคุณแย้มไม่ใยดี

    การตรวจสอบเส้นทางการเงิน หลังจับกุมนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรืออดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (เจ้าคุณแย้ม) อายุ 69 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม และอดีตเจ้าคณะภาค 14 ข้อหายักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาทเล่นพนันออนไลน์ มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ การตรวจสอบบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับวัดไร่ขิง 53 บัญชี พบว่ามี 2 บัญชีที่เปิดเพื่อรับเงินจาคตู้บริจาคในนามของมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ และจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) แต่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องของโรงพยาบาลว่า ทางวัดไม่ได้สนับสนุนเงินให้กับโรงพยาบาลมานานกว่า 3 ปี และจากการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคาร ทั้ง 2 บัญชี พบว่ามีเงินคงเหลือในบัญชีเพียงแค่ล้านกว่าบาท

    ในอดีตโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เคยได้รับเงินสนับสนุนด้านทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาแพทย์ การอบรม ผ่านมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ และบัญชีสนับสนุนการซื้อเครื่องมือแพทย์อยู่เป็นประจำ แต่ในช่วงปี 2564-2565 ทางโรงพยาบาลได้รับเงินสนับสนุนจากทางวัดน้อยลง และหยุดสนับสนุนมานานกว่า 3 ปี ซึ่งบัญชีมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ มีเจ้าคุณแย้มเป็นประธานมูลนิธิและผู้มีอำนาจเบิกถอน ทำให้ พญ.สายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขณะนั้นได้จัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาใหม่ เพื่อเปิดรับเงินจากประชาชนอีกหนึ่งบัญชี โดยขาดอำนาจจากมูลนิธิเมตตาประชารักษ์เดิม

    แม้โรงพยาบาลจะขออนุญาตจากคณะกรรมการวัดไร่ขิง ตั้งตู้บริจาคเงินโรงพยาบาลอีก 1 ตู้ และส่งเจ้าหน้าที่มาเปิดไขเงินเอง ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัด แต่ก็ยังพบเห็นตู้บริจาคของมูลนิธิเดิม และตู้บริจาคซื้ออุปกรณ์การแพทย์อันเดิมตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน

    สำหรับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ก่อตั้งเมื่อปี 2532 โดยพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินทปัญฺโญ) ขณะเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นพระนักพัฒนา มรณภาพเมื่อปี 2551 โดยจัดสร้างโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง ด้วยเงินบริจาคกว่า 95.77 ล้านบาท สังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เป็นโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านจักษุวิทยา เพื่อก้าวสู่สถาบันจักษุวิทยาแห่งชาติในอนาคต การให้บริการเป็น 2 ลักษณะคือ สถาบันจักษุวิทยา และโรงพยาบาลทั่วไประดับตติยภูมิ เน้นโรคที่เกี่ยวข้องกับเด็กและผู้สูงอายุ

    สำหรับผู้สนใจบริจาคให้กับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ดูรายละเอียดเลขที่บัญชีเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.metta.go.th/Donate/DonateCenter หรือ มูลนิธิโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ โทรศัพท์ 09-1808-8899

    #Newskit
    โรงพยาบาลวัดไร่ขิง เจ้าคุณแย้มไม่ใยดี การตรวจสอบเส้นทางการเงิน หลังจับกุมนายแย้ม อินทร์กรุงเก่า หรืออดีตพระธรรมวชิรานุวัตร (เจ้าคุณแย้ม) อายุ 69 ปี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม และอดีตเจ้าคณะภาค 14 ข้อหายักยอกเงินวัดกว่า 300 ล้านบาทเล่นพนันออนไลน์ มีประเด็นที่น่าสนใจ คือ การตรวจสอบบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับวัดไร่ขิง 53 บัญชี พบว่ามี 2 บัญชีที่เปิดเพื่อรับเงินจาคตู้บริจาคในนามของมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ และจัดซื้ออุปกรณ์การแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) แต่พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งข้อมูลจากผู้เกี่ยวข้องของโรงพยาบาลว่า ทางวัดไม่ได้สนับสนุนเงินให้กับโรงพยาบาลมานานกว่า 3 ปี และจากการตรวจสอบยอดเงินในบัญชีธนาคาร ทั้ง 2 บัญชี พบว่ามีเงินคงเหลือในบัญชีเพียงแค่ล้านกว่าบาท ในอดีตโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เคยได้รับเงินสนับสนุนด้านทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาแพทย์ การอบรม ผ่านมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ และบัญชีสนับสนุนการซื้อเครื่องมือแพทย์อยู่เป็นประจำ แต่ในช่วงปี 2564-2565 ทางโรงพยาบาลได้รับเงินสนับสนุนจากทางวัดน้อยลง และหยุดสนับสนุนมานานกว่า 3 ปี ซึ่งบัญชีมูลนิธิเมตตาประชารักษ์ มีเจ้าคุณแย้มเป็นประธานมูลนิธิและผู้มีอำนาจเบิกถอน ทำให้ พญ.สายจินต์ อิสีประดิฐ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลขณะนั้นได้จัดตั้งมูลนิธิขึ้นมาใหม่ เพื่อเปิดรับเงินจากประชาชนอีกหนึ่งบัญชี โดยขาดอำนาจจากมูลนิธิเมตตาประชารักษ์เดิม แม้โรงพยาบาลจะขออนุญาตจากคณะกรรมการวัดไร่ขิง ตั้งตู้บริจาคเงินโรงพยาบาลอีก 1 ตู้ และส่งเจ้าหน้าที่มาเปิดไขเงินเอง ไม่เกี่ยวข้องกับบัญชีวัด แต่ก็ยังพบเห็นตู้บริจาคของมูลนิธิเดิม และตู้บริจาคซื้ออุปกรณ์การแพทย์อันเดิมตั้งอยู่ด้วยเช่นกัน สำหรับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ก่อตั้งเมื่อปี 2532 โดยพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินทปัญฺโญ) ขณะเป็นเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นพระนักพัฒนา มรณภาพเมื่อปี 2551 โดยจัดสร้างโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง ด้วยเงินบริจาคกว่า 95.77 ล้านบาท สังกัดกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เป็นโรงพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านจักษุวิทยา เพื่อก้าวสู่สถาบันจักษุวิทยาแห่งชาติในอนาคต การให้บริการเป็น 2 ลักษณะคือ สถาบันจักษุวิทยา และโรงพยาบาลทั่วไประดับตติยภูมิ เน้นโรคที่เกี่ยวข้องกับเด็กและผู้สูงอายุ สำหรับผู้สนใจบริจาคให้กับโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) ดูรายละเอียดเลขที่บัญชีเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://www.metta.go.th/Donate/DonateCenter หรือ มูลนิธิโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ โทรศัพท์ 09-1808-8899 #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 418 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts