• กองปราบ ส่งสำนวนให้อัยการ สั่งฟ้องทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน พี่อ้อย 17/01/68 #กองปราบ #ทนายตั้ม #คดีฉ้อโกง-ฟอกเงิน #พี่อ้อย
    กองปราบ ส่งสำนวนให้อัยการ สั่งฟ้องทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน พี่อ้อย 17/01/68 #กองปราบ #ทนายตั้ม #คดีฉ้อโกง-ฟอกเงิน #พี่อ้อย
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1060 มุมมอง 51 0 รีวิว
  • ‘วัชรินทร์’ รอง อธ.อัยการสอบสวน เรียกสอบ "เจ๊อ้อย" พร้อมเลขาฯ คดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน เพิ่มเติม แย้มอาจมีคนโดนคดีเพิ่ม เร่งสรุปสำนวนส่ง อสส.สั่งคดี 15 ม.ค.นี้ เผยยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก 15 ปาก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001772

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ‘วัชรินทร์’ รอง อธ.อัยการสอบสวน เรียกสอบ "เจ๊อ้อย" พร้อมเลขาฯ คดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน เพิ่มเติม แย้มอาจมีคนโดนคดีเพิ่ม เร่งสรุปสำนวนส่ง อสส.สั่งคดี 15 ม.ค.นี้ เผยยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก 15 ปาก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000001772 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    13
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1089 มุมมอง 1 รีวิว
  • ‘วัชรินทร์’ รอง อธ.อัยการสอบสวน เรียกสอบ "เจ๊อ้อย" พร้อมเลขาฯ คดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน เพิ่มเติม แย้มอาจมีคนโดนคดีเพิ่ม เร่งสรุปสำนวนส่ง อสส.สั่งคดี 15 ม.ค.นี้ เผยยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก 15 ปาก

    วันนี้ (7 ม.ค.) ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี คณะทำงานอัยการเเละพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม ร่วมสอบสวนคดี นอกราชอาณาจักร ในคดีที่ นางจตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เจ้าของธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศส กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ผู้ต้องหา ในความผิดฐาน ฉ้อโกงฯร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง

    โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงานคดีนอกราชอาณาจักร

    โดยวันนี้ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐินีพร้อมด้วย น.ส.ปัทมพร แสงฤทธิ์ หรือคุณน้อย เลขานุการส่วนตัวเดินทางมาตามนัดสอบสวนเพิ่มเติม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001772

    #MGROnline #เจ๊อ้อย #ทนายตั้ม #ฉ้อโกง #ฟอกเงิน
    ‘วัชรินทร์’ รอง อธ.อัยการสอบสวน เรียกสอบ "เจ๊อ้อย" พร้อมเลขาฯ คดีทนายตั้มฉ้อโกง-ฟอกเงิน เพิ่มเติม แย้มอาจมีคนโดนคดีเพิ่ม เร่งสรุปสำนวนส่ง อสส.สั่งคดี 15 ม.ค.นี้ เผยยังต้องสอบพยานเพิ่มอีก 15 ปาก • วันนี้ (7 ม.ค.) ที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด อาคารถนนบรมราชชนนี คณะทำงานอัยการเเละพนักงานสอบสวนกองบังคับการกองปราบปราม ร่วมสอบสวนคดี นอกราชอาณาจักร ในคดีที่ นางจตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เจ้าของธุรกิจที่ประเทศฝรั่งเศส กล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด กับพวก ผู้ต้องหา ในความผิดฐาน ฉ้อโกงฯร่วมกันฟอกเงิน และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง • โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน เป็นหัวหน้าคณะทำงานคดีนอกราชอาณาจักร • โดยวันนี้ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย เศรษฐินีพร้อมด้วย น.ส.ปัทมพร แสงฤทธิ์ หรือคุณน้อย เลขานุการส่วนตัวเดินทางมาตามนัดสอบสวนเพิ่มเติม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000001772 • #MGROnline #เจ๊อ้อย #ทนายตั้ม #ฉ้อโกง #ฟอกเงิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 309 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปาเกียวเกียร์อาร์ เดชาเกียร์ดี เกาะคอตั้มเข้าซังเต
    หลังจากหลบหน้าไปหลายวัน ทนายปาเกียว ก็ร้องเพลงถอยดีกว่าไม่เอาดีกว่า ขอถอนตัวจากการเป็นทนายความแก้ต่างให้ทนายตั้มนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เพราะสุดจะรับไหว ต่อวิธีการสู้คดีแบบหัวชนฝา
    ทนายปาเกียวตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่า ทนายตั้มมีการปลอมแปลงเอกสารสัญญาที่เคยทําไว้กับพี่อ้อยจตุพร หวังใช้เป็นหมัดเด็ดในศาล ว่ากันว่าการใช้หลักฐานปลอมเป็นงานถนัดของใครบางคนจนถูกร้องเรียนมาแล้วหลายต่อหลายคดี ซึ่งทนายปาเกียว ไม่อยากโดนหางเลข เป็นทนายที่ต้องมาพลอยติดคุกตามจําเลยไปด้วย ยิ่งมีตัวอย่างให้ดูเป็นขวัญตาหมาดๆ คือ ทนายปากแดงที่ติดคุกในการว่าความให้ แอมไซยาไนด์ ยิ่งเหมือนรายการเชือดไก่ให้ลิงดูตอนนี้
    จึงเป็นนาทีทองแล้วของทนายเดชา ที่จะพิสูจน์ให้โลกรู้ว่า มีจุดยืนเป็นมิตรแท้ทนายโจรมาตั้งแต่เริ่ม โลกนี้ก็แทบจะเหลือในเดชาคนเดียวที่จะต้องรับเป็นทนายให้ตั้มเพื่อนรัก ต้องบอกว่าคดีใหญ่ระดับนี้เหมาะที่สุดแล้วกับทนายบิ๊กเนม จบเนติบัณฑิต พร่ําสอนกฎหมายให้ประชาชนผ่านจอทุกเช้าค่ํา
    แม้ที่ผ่านมาสดๆร้อนๆจะเสียรังวัด จนโดนล้อไปทั้งประเทศ อีท่าไหนไม่ทราบ ดันไปแพ้คดีให้กับทนายไม่จบเน อย่าง ทนายนิด้าเจ็บนี้ยิ่งต้องแปรความอัปยศอดสู เป็นพลังให้โลกตะลึงว่าไม่ได้เก่งแต่ปาก แต่เก่งหน้าบัลลังก์ด้วยช่วยทนายแบรนด์เนมให้รอดทุกข์ให้ได้
    เมื่อได้เป็นทนายให้ทนายตั้มเต็มตัวคราวนี้ จะเรียกสื่อมาแถลงทางคดีอะไรก็เหมาะสมชอบธรรมไม่มีใครว่าได้อีกแล้วว่าหิวแสงไปเผือกในเรื่องที่ตัวเอง แต่คดีฉ้อโกงเป็นปกติธุระสะท้านเมืองขึ้นมา จะเห็นว่าผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์วิเคราะห์สอดคล้องกันว่าทนายตั้มรอดยากในทุกกระทงความผิด ทนายเกิดผลแก้วเกิดเพื่อนคนหนึ่งของทนายตั้มพูดชัดว่าเขาเชื่อหลักฐานของพี่อ้อยมากกว่า วิญญูชนย่อมรู้ว่าทนายตั้มฉ้อโกงทนายเกิดผลบอกว่า เพื่อนก็คือเพื่อน แต่เมื่อเห็นเพื่อนกระทําผิดก็กล้าวิจารณ์ซึ่งเป็นการนิยามความเป็นเพื่อนที่น่าชื่นชม ไม่ใช่แบบคนที่เล่นพวกจนหลงทาง
    ทนายรณรงค์แก้วเพชร เพื่อนอีกคนกล่าวว่ามองไม่เห็นทางเลยที่ทนายตั้มจะรอดได้ทนายอาคม คงสวัสดิ์ อดีตคนกันเอง ที่ให้ทนายตั้มยอมสารภาพเพื่อลดโทษจะดีต่อตัวเองและคนรอบข้างมากกว่า
    ทนายตั้มเสี่ยงติดคุกอีกคดีคือคดีทําลายพินัยกรรมของพี่อ้อยโดยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 188 บัญญัติว่าผู้ใดทําลายซ่อนเร้นพินัยกรรมให้เสียหายถือว่ามีความผิดโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปีเพราะฉะนั้นพี่อ้อยและทีมกฎหมายของนายสนธิลิ้มทองกุลคงจะดําเนินคดีทนายตั้มข้อหาทําลายพินัยกรรมอย่างแน่นอนเพราะโทษหนักเสียยิ่งกว่าคดีฉ้อโกงด้วยซ้ํา ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    ปาเกียวเกียร์อาร์ เดชาเกียร์ดี เกาะคอตั้มเข้าซังเต หลังจากหลบหน้าไปหลายวัน ทนายปาเกียว ก็ร้องเพลงถอยดีกว่าไม่เอาดีกว่า ขอถอนตัวจากการเป็นทนายความแก้ต่างให้ทนายตั้มนายษิทรา เบี้ยบังเกิด เพราะสุดจะรับไหว ต่อวิธีการสู้คดีแบบหัวชนฝา ทนายปาเกียวตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่า ทนายตั้มมีการปลอมแปลงเอกสารสัญญาที่เคยทําไว้กับพี่อ้อยจตุพร หวังใช้เป็นหมัดเด็ดในศาล ว่ากันว่าการใช้หลักฐานปลอมเป็นงานถนัดของใครบางคนจนถูกร้องเรียนมาแล้วหลายต่อหลายคดี ซึ่งทนายปาเกียว ไม่อยากโดนหางเลข เป็นทนายที่ต้องมาพลอยติดคุกตามจําเลยไปด้วย ยิ่งมีตัวอย่างให้ดูเป็นขวัญตาหมาดๆ คือ ทนายปากแดงที่ติดคุกในการว่าความให้ แอมไซยาไนด์ ยิ่งเหมือนรายการเชือดไก่ให้ลิงดูตอนนี้ จึงเป็นนาทีทองแล้วของทนายเดชา ที่จะพิสูจน์ให้โลกรู้ว่า มีจุดยืนเป็นมิตรแท้ทนายโจรมาตั้งแต่เริ่ม โลกนี้ก็แทบจะเหลือในเดชาคนเดียวที่จะต้องรับเป็นทนายให้ตั้มเพื่อนรัก ต้องบอกว่าคดีใหญ่ระดับนี้เหมาะที่สุดแล้วกับทนายบิ๊กเนม จบเนติบัณฑิต พร่ําสอนกฎหมายให้ประชาชนผ่านจอทุกเช้าค่ํา แม้ที่ผ่านมาสดๆร้อนๆจะเสียรังวัด จนโดนล้อไปทั้งประเทศ อีท่าไหนไม่ทราบ ดันไปแพ้คดีให้กับทนายไม่จบเน อย่าง ทนายนิด้าเจ็บนี้ยิ่งต้องแปรความอัปยศอดสู เป็นพลังให้โลกตะลึงว่าไม่ได้เก่งแต่ปาก แต่เก่งหน้าบัลลังก์ด้วยช่วยทนายแบรนด์เนมให้รอดทุกข์ให้ได้ เมื่อได้เป็นทนายให้ทนายตั้มเต็มตัวคราวนี้ จะเรียกสื่อมาแถลงทางคดีอะไรก็เหมาะสมชอบธรรมไม่มีใครว่าได้อีกแล้วว่าหิวแสงไปเผือกในเรื่องที่ตัวเอง แต่คดีฉ้อโกงเป็นปกติธุระสะท้านเมืองขึ้นมา จะเห็นว่าผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายถึงเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์วิเคราะห์สอดคล้องกันว่าทนายตั้มรอดยากในทุกกระทงความผิด ทนายเกิดผลแก้วเกิดเพื่อนคนหนึ่งของทนายตั้มพูดชัดว่าเขาเชื่อหลักฐานของพี่อ้อยมากกว่า วิญญูชนย่อมรู้ว่าทนายตั้มฉ้อโกงทนายเกิดผลบอกว่า เพื่อนก็คือเพื่อน แต่เมื่อเห็นเพื่อนกระทําผิดก็กล้าวิจารณ์ซึ่งเป็นการนิยามความเป็นเพื่อนที่น่าชื่นชม ไม่ใช่แบบคนที่เล่นพวกจนหลงทาง ทนายรณรงค์แก้วเพชร เพื่อนอีกคนกล่าวว่ามองไม่เห็นทางเลยที่ทนายตั้มจะรอดได้ทนายอาคม คงสวัสดิ์ อดีตคนกันเอง ที่ให้ทนายตั้มยอมสารภาพเพื่อลดโทษจะดีต่อตัวเองและคนรอบข้างมากกว่า ทนายตั้มเสี่ยงติดคุกอีกคดีคือคดีทําลายพินัยกรรมของพี่อ้อยโดยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 188 บัญญัติว่าผู้ใดทําลายซ่อนเร้นพินัยกรรมให้เสียหายถือว่ามีความผิดโทษจําคุกไม่เกิน 5 ปีเพราะฉะนั้นพี่อ้อยและทีมกฎหมายของนายสนธิลิ้มทองกุลคงจะดําเนินคดีทนายตั้มข้อหาทําลายพินัยกรรมอย่างแน่นอนเพราะโทษหนักเสียยิ่งกว่าคดีฉ้อโกงด้วยซ้ํา ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 763 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ.ปานเทพเปิดหลักฐานเด็ด ! มัดทนายตั้มฉ้อโกง (13/11/67) #news1 #อ.ปานเทพ #หลักฐานเด็ด #ทนายตั้มฉ้อโกง
    อ.ปานเทพเปิดหลักฐานเด็ด ! มัดทนายตั้มฉ้อโกง (13/11/67) #news1 #อ.ปานเทพ #หลักฐานเด็ด #ทนายตั้มฉ้อโกง
    Like
    Love
    Haha
    40
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2426 มุมมอง 395 1 รีวิว
  • คุณอ้อยสบายใจ คดีทนายตั้มฉ้อโกงคืบ ย้ำไม่ยอมความให้ศาลตัดสิน
    .
    วันนี้ (1 พ.ย.) ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ คุณอ้อย เศรษฐินีชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งแจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ข้อหาฉ้อโกง จากการชักชวนลงทุนแพลตฟอร์มลอตเตอรี่ออนไลน์ เสียหายกว่า 71 ล้านบาท ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอสัมภาษณ์นานกว่า 11 ชั่วโมง หลังให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งการให้ปากคำยังไม่เสร็จสิ้น ยังคงต้องมาอีกครั้ง โดยพนักงานสอบสวนจะเป็นผู้นัดหมาย
    .
    คุณอ้อย กล่าวว่า รายละเอียดได้ให้ตำรวจไปหมดแล้ว ไม่อยากให้สัมภาษณ์อะไรมากเพราะจะกระทบรูปคดี แต่ยืนยันว่าไม่ได้ให้เงิน 71 ล้านบาทโดยเสน่หา ทั้งนี้ ตนมีความรู้สึกสบายใจมากขึ้น และรู้สึกดีมาก หลังจากเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ไม่มีความกังวลใดๆ ส่วนนายษิทราติดต่อเข้ามาหาหรือไม่ คุณอ้อย กล่าวว่า ไม่ติดต่อมาเลย เพราะยื่นโนติสให้เขาแล้วแต่ไม่ติดต่อกลับมา พอเห็นว่านานมาแล้วจึงเรียกทนายความ
    .
    ถามว่า รู้สึกผิดหวังกับทนายคนดังไหม คุณอ้อย กล่าวว่า รู้สึกใจสลาย ถามว่าอยากจะฝากบอกอะไรถึงนายษิทรา คุณอ้อย กล่าวว่า เมื่อก่อนเคยช่วยเหลือทุกอย่าง การเดินทางท่องเที่ยว เหมือนคนในครอบครัว ถามว่าจุดแตกหักคือเรื่องเงินหรือเรื่องรถ คุณอ้อยกล่าวว่า รู้ระแคะระคาย รายละเอียดเดี๋ยวให้ทนายความชี้แจง ถามว่าถ้านายษิทรามาเจรจาหรือขอคืนเงิน คุณอ้อย กล่าวว่า ไม่ เพราะให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่มียอมความ
    .
    ด้านนายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความ เปิดเผยว่า การให้ปากคำในวันนี้เนื้อหาไม่แตกต่างจากเมื่อวาน แต่มีการข้อมูลเพิ่มเติมให้พนักงานสอบสวน ลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งการให้ปากคำตลอด 2 วันที่ผ่านมา ถือว่าคืบหน้าไปแล้ว 60% นอกจากนี้ ยังได้นำพยานหลักฐานซึ่งเป็นเอกสารมาให้พนักงานสอบสวนด้วย ส่วนปมแตกหักระหว่างคุณอ้อยและนายษิทรานั้น มีปัญหาบาดหมางระหองระแหง แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นเรื่องใด คุณอ้อยยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด นั่นหมายถึงให้ศาลฯ เป็นผู้พิพากษา
    .
    ส่วนกรณีที่นายษิทราออกมายืนยันว่า จะไม่มีทางคืนเงิน 71 ล้านบาท พร้อมต่อสู้ในชั้นศาลฯ ก็เป็นแนวทางการต่อสู้ของเขา แต่ทางเรามีพยานหลักฐานและมีแนวทางการต่อสู้คดีเหมือนกัน ไม่ใช่ให้เงินโดยเสน่หาอย่างแน่นอน
    .
    ส่วนกรณีรถเบนซ์สีดำ ก่อนหน้านี้คุณอ้อยเป็นเจ้าของรถ แต่มีการหยิบยืมไปใช้บ้างเป็นครั้งคราว ส่วนกระแสข่าวคนใช้รถตัวจริงไม่ใช่คู่กรณี แต่มีการนำไปให้ชาวต่างชาติ หรือกลุ่มจีนเทาเป็นผู้ใช้รถนั้น ยอมรับว่าตนได้ข้อมูลเหมือนกับสื่อมวลชน ซึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ส่วนกรณีที่มีคนพบว่านายษิทรา คู่กรณีมีการไปยื่นขอหนังสือเดินทางเพื่อไปยุโรปนั้น ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่ยืนยันว่าต่อให้หลบหนีไปต่างประเทศก็ไม่ทำให้หนักใจ เพราะเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ
    ..............
    Sondhi X
    คุณอ้อยสบายใจ คดีทนายตั้มฉ้อโกงคืบ ย้ำไม่ยอมความให้ศาลตัดสิน . วันนี้ (1 พ.ย.) ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ คุณอ้อย เศรษฐินีชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส ซึ่งแจ้งความดำเนินคดีกับนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ข้อหาฉ้อโกง จากการชักชวนลงทุนแพลตฟอร์มลอตเตอรี่ออนไลน์ เสียหายกว่า 71 ล้านบาท ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนที่มาเฝ้ารอสัมภาษณ์นานกว่า 11 ชั่วโมง หลังให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ตั้งแต่เวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งการให้ปากคำยังไม่เสร็จสิ้น ยังคงต้องมาอีกครั้ง โดยพนักงานสอบสวนจะเป็นผู้นัดหมาย . คุณอ้อย กล่าวว่า รายละเอียดได้ให้ตำรวจไปหมดแล้ว ไม่อยากให้สัมภาษณ์อะไรมากเพราะจะกระทบรูปคดี แต่ยืนยันว่าไม่ได้ให้เงิน 71 ล้านบาทโดยเสน่หา ทั้งนี้ ตนมีความรู้สึกสบายใจมากขึ้น และรู้สึกดีมาก หลังจากเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมาย ไม่มีความกังวลใดๆ ส่วนนายษิทราติดต่อเข้ามาหาหรือไม่ คุณอ้อย กล่าวว่า ไม่ติดต่อมาเลย เพราะยื่นโนติสให้เขาแล้วแต่ไม่ติดต่อกลับมา พอเห็นว่านานมาแล้วจึงเรียกทนายความ . ถามว่า รู้สึกผิดหวังกับทนายคนดังไหม คุณอ้อย กล่าวว่า รู้สึกใจสลาย ถามว่าอยากจะฝากบอกอะไรถึงนายษิทรา คุณอ้อย กล่าวว่า เมื่อก่อนเคยช่วยเหลือทุกอย่าง การเดินทางท่องเที่ยว เหมือนคนในครอบครัว ถามว่าจุดแตกหักคือเรื่องเงินหรือเรื่องรถ คุณอ้อยกล่าวว่า รู้ระแคะระคาย รายละเอียดเดี๋ยวให้ทนายความชี้แจง ถามว่าถ้านายษิทรามาเจรจาหรือขอคืนเงิน คุณอ้อย กล่าวว่า ไม่ เพราะให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่มียอมความ . ด้านนายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความ เปิดเผยว่า การให้ปากคำในวันนี้เนื้อหาไม่แตกต่างจากเมื่อวาน แต่มีการข้อมูลเพิ่มเติมให้พนักงานสอบสวน ลงลึกในรายละเอียดมากขึ้น ซึ่งการให้ปากคำตลอด 2 วันที่ผ่านมา ถือว่าคืบหน้าไปแล้ว 60% นอกจากนี้ ยังได้นำพยานหลักฐานซึ่งเป็นเอกสารมาให้พนักงานสอบสวนด้วย ส่วนปมแตกหักระหว่างคุณอ้อยและนายษิทรานั้น มีปัญหาบาดหมางระหองระแหง แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดว่าเป็นเรื่องใด คุณอ้อยยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด นั่นหมายถึงให้ศาลฯ เป็นผู้พิพากษา . ส่วนกรณีที่นายษิทราออกมายืนยันว่า จะไม่มีทางคืนเงิน 71 ล้านบาท พร้อมต่อสู้ในชั้นศาลฯ ก็เป็นแนวทางการต่อสู้ของเขา แต่ทางเรามีพยานหลักฐานและมีแนวทางการต่อสู้คดีเหมือนกัน ไม่ใช่ให้เงินโดยเสน่หาอย่างแน่นอน . ส่วนกรณีรถเบนซ์สีดำ ก่อนหน้านี้คุณอ้อยเป็นเจ้าของรถ แต่มีการหยิบยืมไปใช้บ้างเป็นครั้งคราว ส่วนกระแสข่าวคนใช้รถตัวจริงไม่ใช่คู่กรณี แต่มีการนำไปให้ชาวต่างชาติ หรือกลุ่มจีนเทาเป็นผู้ใช้รถนั้น ยอมรับว่าตนได้ข้อมูลเหมือนกับสื่อมวลชน ซึ่งเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง ส่วนกรณีที่มีคนพบว่านายษิทรา คู่กรณีมีการไปยื่นขอหนังสือเดินทางเพื่อไปยุโรปนั้น ตนยังไม่ทราบเรื่องดังกล่าว แต่ยืนยันว่าต่อให้หลบหนีไปต่างประเทศก็ไม่ทำให้หนักใจ เพราะเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจ .............. Sondhi X
    Like
    Love
    21
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1001 มุมมอง 3 รีวิว