• บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง
    ----------------------------
    สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า
    นี่เป็นคำพยากรณ์...
    .
    อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น
    .
    แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น..
    .
    ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน.
    .
    เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
    และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง
    .
    คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง.
    .
    วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า
    .
    สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง..
    .
    ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ
    .
    ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป"..
    .
    งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ.
    .
    กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย.
    .
    ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้..
    .
    แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง
    .
    แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง.
    .
    นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป!
    .
    หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง
    .
    ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค.
    .
    นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต
    นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร?
    .
    ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น..
    .
    หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้.
    .
    แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา
    .
    พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย
    มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
    จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด
    .
    ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน
    - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา -
    .
    อัพเดทข้อมูลในปี 2566
    --------------------------
    - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ
    - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่
    - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก
    --------------------------
    บทความเก่าขอนำมาโพสอีกครั้ง ---------------------------- สงครามน้ำจะมาถึงในไม่ช้า นี่เป็นคำพยากรณ์... . อันที่จริงผมพูดเรื่องนี้มานานแล้วตั้งแต่ราวปี 2003 ผมเคยพยายามที่จะทำโครงการหนึ่งชื่อ Voices of Asia รวมทั้งเคยหาข้อมูลเพื่อทำสารคดีเรื่องแม่น้ำ.. มันไม่ได้รับการสนับสนุนให้ทำ แต่ยังคงเป็นสิ่งที่วนเวียนหลอกหลอนอยู่ในความคิดผมเสมอมา ความกังวลนี้มาจากการได้อ่านข้อมูลที่เกี่ยวกับปัญหาวิกฤติน้ำในเอธิโอเปียในช่วงเวลานั้น . แม่น้ำไนล์ เป็นที่รู้ดีมานานแล้วว่า คือกระแสโลหิตที่หล่อเลี้ยงแอฟริกาตอนบน และมันไม่เคยเพียงพอต่อความต้องการเลย นับแต่ซาฮาร่าโบราณที่เคยอุดมสมบูรณ์ในยุคโบราณได้แปรเปลี่ยนเป็นทะเลทราย และบรรพบุรุษของโฮโมเซเปี้ยนส์เริ่มอพยพหนีออกมาจากที่นั่น.. ซาฮาร่าแห้งแล้งลงเรื่อยๆ ผ่านเวลาแสนปีจนถึงปัจจุบัน.. ยิ่งเมื่อภาวะวิกฤติโลกร้อนและอุณหภูมิโลกและอากาศเปลี่ยนแปลงในทุกวันนี้ มันก็ยิ่งเหือดแห้งลงกว่าเดิม และยิ่งไม่เพียงพอต่อความต้องการมากยิ่งขึ้น.. . ต้นกำเนิดของแม่น้ำสายนี้อยู่ในเอธิโอเปีย. ประเทศอันแสนยากจน พวกเขาส่วนใหญ่ยากจนแสนเข็ญจริงๆ และแม้ว่าแม่น้ำนี้จะกำเนิดจากดินแดนแห่งนี้ แต่พวกเขาในพื้นที่ห่างไกลกลับยากลำบากและขาดแคลนน้ำที่จะนำมาเป็นปัจจัยพื้นฐานเพื่อเอาชีวิตรอด นั่นคือใช้ในการทำเกษตรกรรม. พวกเขาคงจะมีโอกาสรอดมากขึ้น ถ้าเพียงพวกเขาจะทำเขื่อนเพื่อที่จะกักและชะลอน้ำไว้บ้างสำหรับการเพาะปลูกเท่าที่จำเป็น แต่การทำเช่นนั้น.. สร้างความวิตกว่าน้ำจะยิ่งไม่เพียงพอแก่ประเทศอื่นที่ใช้แม่น้ำนี้ร่วมกัน เช่น อียิปต์ และ ซูดาน.. สองประเทศนี้มีแสนยานุภาพ มีขีปนาวุธ และเครื่องบินรบทันสมัยอย่างเอฟสิบหก ทันทีที่เอธิโอเปียสร้างเขื่อน มันจะถูกยิงถล่มเป็นผุยผง.. ประชาชนเอธิโอเปียไม่อาจทำอย่างไรได้ นอกจากจ้องมองแม่น้ำของพวกเขาด้วยความสิ้นหวังและล้มลงตายกับพื้นดิน. . เหตุการณ์แบบนี้อาจจะเกิดขึ้นที่อื่นอีก อย่างแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว และมันอาจเกิดขึ้นกับเรา คุณและผม... สักวันหนึ่ง . คนไทยอย่างเราอาจมองเรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องไกลตัว เราใช้น้ำอย่างสบายใจและฟุ่มเฟือย เราเดินเข้าห้าง เข้ามินิมาร์ตที่มีน้ำดื่มบรรจุขวดมากมายเรียงรายเต็มหิ้งให้เลือก จนเราอาจลืมข้อเท็จจริงและเผลอคิดไปได้ว่า น้ำนี้จะไม่มีวันหมด และมันจะรอเราอยู่บนหิ้งนั้นชั่วนิรันดร์.. นั่นเป็นความคิดที่โง่เขลาสิ้นดีและไม่เป็นความจริง. . วันนึง ..จะไม่มีน้ำแม้สักครึ่งขวดเหลืออยู่บนหิ้งพวกนั้น และวันนั้นอาจมาถึงในไม่ช้า . สมัยเด็ก ผมโตมาบนถนนพระอาทิตย์และถนนพระสุเมรุ บ้านพ่ออยู่ติดแม่น้ำหน้าท่าพระอาทิตย์ ส่วนบ้านแม่อยู่ตรอกวัดสังเวช อยู่บนริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย. ยุคนั้น ที่บ้านแม่ตักน้ำจากแม่น้ำแล้วกวนด้วยสารส้มใช้เป็นประจำ นำมาต้ม แล้วใช้ปรุงอาหารได้.. น้ำดื่มคือน้ำฝนที่รองใส่โอ่ง.. . ทุกวันนี้เราไม่สามารถทำเช่นนั้นได้อีกแล้ว แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบนอาจจะยังคงสะอาดพอควร แต่ตอนกลางนั้นมีการปนเปื้อนอยู่หลายจุดตลอดเส้นทาง.. ไม่ต้องพูดถึงแม่น้ำตอนล่าง ที่ไหลผ่านเมืองใหญ่อย่างอยุธยาและกรุงเทพเลย พวกมันล้วนอุดมด้วยสารพิษอย่างเช่น ปรอท โลหะหนัก และสารเคมีสารพัด เช่น แคดเมี่ยม ฯลฯ พวกมันถูกปล่อยจากโรงงานอุตสาหกรรมที่อยู่เรียงรายตามริมแม่น้ำ ผสมโรงด้วยขยะพิษที่ประชาชนปล่อยลงไป ทั้งจากเคมีที่ใช้ประจำวันและยาฆ่าแมลง จากวัตถุมีพิษอื่นๆ เช่น อุปกรณ์อีเลคโทรนิคส์ แบตเตอรี่ ฯลฯ . ขณะที่ทุกคนต่างใช้ชีวิตอย่างเคยชินกับสิ่งเหล่านี้และไม่สนใจเพิกเฉยปัญหาของมัน หายนะกำลังคืบคลานอย่างช้าๆ มาสู่เราโดยไม่รู้ตัว.. ในภาวะปกตินี้ บ้านเมืองที่มีระบบรองรับ ก็ขับเคลื่อนหน่วยงานกลไกของมันไปตามสถานะที่ยังคงเลื่อนไหลไปได้ตามสภาพที่มี คนทั่วไปนั้นไม่ได้สนใจจะไปรับรู้ว่า กลไกเหล่านั้นขับเคลื่อนได้ดีแค่ไหน? ปลอดภัยแค่ไหน? ได้มาตรฐานแค่ไหน?.. พวกเขาสนใจแค่เรื่องตัวเองและคงคิดแค่ว่า "มีใครสักคนที่รับผิดชอบสิ่งเหล่านี้อยู่ และไม่ใช่ภาระที่ฉันจะเอามาใส่ใจ.." คงมีใครกำลังดูแลมันอยู่และมันก็คงดำเนินไปได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร "ตลอดไป".. . งั้นสินะ? โอ้.. ฉันมีการประปานครหลวง กองบำบัดน้ำเสีย กระทรวงสาธารณะสุข กรมประมง เทศบาลเมือง การท่า.. ฯลฯ พวกเขาคงทำทุกอย่างได้ราบรื่นไม่มีปัญหา คนทั้งหลายไม่สำเหนียกว่า จักรเฟืองพวกนี้มีวันหยุดชะงักได้ และเมื่อวันนึงเกิดหายนะภัยพิบัติสักอย่างขึ้น เช่น สงครามโลก ภัยจากอวกาศภายนอกอย่างอุกกาบาต แผ่นดินไหวรุนแรง ซุปเปอร์อีรัพชั่น สภาพอากาศวิกฤติ ยุคน้ำแข็ง.. ฯ ระบบที่ขับเคลื่อนไปทั้งหมดนี้ อาจล่มสลายได้ในชั่วข้ามคืน และเมื่อมันเกิดขึ้น คำถามง่ายๆ ที่สุดที่ไม่มีใครคิดอย่างเช่น.. จะยังจะมีน้ำบรรจุขวดอยู่บนหิ้งในห้างร้านอยู่ไหม? อาจตามมาด้วยคำตอบที่แย่เกินกว่าจะยอมรับ. . กรณีนี้ ถ้าเราไม่มีน้ำดื่มให้ซื้อหาอีกต่อไป ถามว่าเราจะทำอย่างไร? จะดื่มน้ำจากแม่น้ำลำคลองอย่างที่คนโบราณเคยทำได้ไหม? ทำไม่ได้แน่นอน ถ้ามันเป็นพิษ.. เว้นแต่คนจะหมดสิ้นหนทางและความตายเป็นการปลดปล่อยจากความทุกข์ยาก.. ยิ่งเมื่อระบบเมืองและรัฐที่ขับเคลื่อนชาติต้องล่มสลายเพราะหายนะที่กล่าวไป จะเอางบประมาณ จะเอาอุปกรณ์ จะเอาวัตถุดิบ จะเอาเทคโนโลยี่ที่ไหนกัน มาเยียวยาแม่น้ำให้กลับมาดีดังเดิมและสามารถใช้กินใช้ดื่มได้อีก? ถ้าเราไม่แก้ไขเสียแต่ตอนนี้ จนกระทั่งเราไปถึงจุดนั้น แม่น้ำก็จะไม่สามารถกู้คืนได้อีกเลย. . ครั้งหนึ่ง แม่น้ำโวลกาในรัสเซียนั้น เคยวิกฤติถึงขั้นอันตรายจนกินใช้ไม่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง ปลาในแม่น้ำเต็มไปด้วยพิษ แต่ด้วยการร่วมแรงร่วมใจของภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชน แม้ใช้เวลานับสิบปีในการพยายามกู้แม่น้ำสายนี้ ในที่สุดแม่น้ำนี้ก็กลับมาดีจนใช้ได้ในที่สุด แม้มันจะไม่ดีพอที่จะดื่มมันได้ก็ตามในตอนนี้.. . แน่นอนว่า แม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น และมันเป็นไปได้อย่างแน่นอน ที่จะฟื้นคืนชีวิตแก่มันอย่างสมบูรณ์ หากเราจะถือว่านี่คือวาระแห่งชาติ และร่วมมือกันฟื้นฟูอย่างจริงจัง . แม่น้ำเจ้าพระยานั้น มีต้นกำเนิดจากป่าต้นน้ำทางภาคเหนือสี่แห่ง ซึ่งคือหัวใจที่ให้ชีวิตแก่แควทั้งสี่ คือ ปิง วัง ยม และ น่าน.. นี่นับเป็นความโชคดีของคนไทยเหลือคณานับ ที่ต้นแม่น้ำสายใหญ่นี้อยู่ในประเทศไทย ไม่ได้อยู่ในประเทศอื่น. นี่เป็นทรัพยากรเลอค่าที่สุด ที่จะพยุงชีวิตให้แก่ชาตินี้ แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ควรจะเห็นความสำคัญในจุดนี้ได้. การฟื้นฟูแม่น้ำต้องเริ่มจากป่าต้นน้ำของมัน จะต้องไม่มีการทำลายอีก จะต้องฟื้นฟูป่าเหล่านี้ให้กลับมา จากนั้นฟื้นฟูแม่น้ำแควทั้งสี่ เชื่อมไปสู่แม่น้ำเจ้าพระยาตอนบน จนจรดเจ้าพระยาตอนล่าง. . นี่แหละคือชีพจรชีวิตของสยามประเทศ นี่คือหนทางที่จะทำให้เราอยู่รอดได้ หากวันนึงหายนะน้ำเกิดขึ้นและนำไปสู่จุดที่กลายเป็นสงครามแย่งชิงน้ำ ดังนั้นฟื้นฟูมันเสียตั้งแต่บัดนี้ ก่อนที่จะสายเกินไป! . หากคุณติดตามข่าว พระเจ้าอยู่หัววชิราลงกรณ์ฯ ท่านทรงไล่ฟื้นฟูคลองในกรุงเทพไล่เรียงไปทีละสาย หลายสายบัดนี้ได้กลับมาสะอาดดังเดิม หากแม่น้ำฟื้นคืนชีวิต คลองทั้งหลายเหล่านี้จะยิ่งหล่อเลี้ยงไปยังแขนงน้อยใหญ่ให้แก่เมือง . ลองดูภาพแผนที่ เมื่อเราพิจารณาดูแผนที่ที่เห็นอยู่นี้ซึ่งแสดงแม่น้ำสายใหญ่ๆ ในเอเชีย มันต่างกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ต้นน้ำอยู่ในประเทศไทย ทั้งหมดนั้นล้วนมีต้นกำเนิดอยู่ในทิเบต แม่น้ำทั้งหมดนี้คือสายโลหิตที่เลี้ยงเอเชีย มันไม่ได้มีความสำคัญแค่เป็นจุดกำเนิดวัฒนธรรมอันเก่าแก่ลึกล้ำ มันเป็นหัวใจที่หล่อเลี้ยงความอุดมสมบูรณ์ของแผ่นดิน และมันยังเป็นปัจจัยสำคัญหลายอย่างโดยเฉพาะทางภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงของภูมิภาค. . นี่คือเหตุผลสำคัญที่ว่า ทำไมจีนจึงต้องปกป้องให้ทิเบตสุดชีวิต นี่เป็นอาณาเขตที่อ่อนไหวและหวงแหนยิ่งของจีน. เพราะอะไร? . ดินแดนนี้เป็นดังเขตกันชนที่ต้องเฝ้าระวังการรุกล้ำครอบงำจากโลกฝั่งตะวันตก ที่อาจแทรกทะลุผ่านเอเชียกลางเข้ามาได้. ดินแดนเปราะบางบางส่วนที่เป็นประตูเข้ามาสู่ดินแดนแถบนี้ ถูกแทรกแซงครอบงำจากตะวันตกไปบ้างแล้ว เช่น อัฟกานิสถาน คาซัคสถาน ทาจิกิสถาน... มหาอำนาจตะวันตกนั้นมุ่งหวังเป็นอย่างยิ่งที่จะเข้ามามีอิทธิพลเหนือทิเบตให้ได้ ด้วยกลยุทธมากมายหลายอย่าง แม้กระทั่งด้วยวิธีการใช้พรอพพาแกนดามากมาย เช่น ฟรีทิเบต เป็นต้น. แม้เราจะเคารพรักองค์ดาไลลามะและเห็นใจพุทธศาสนิกชน ประชากรชาวทิเบตเพียงใด แต่เราก็จำเป็นต้องไตร่ตรองในความเปราะบางของสถานะการณ์เช่นนี้อย่างระมัดระวัง. จีนนั้นมีเหตุผลเช่นไร ในการที่จะปกป้องพื้นที่นี้เอาไว้ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีนอย่างสุดกำลังความสามารถ เราสามารถพิจารณาได้จากแผนที่ที่เห็น.. . หากมหาอำนาจตะวันตกใดก็ตามเข้ามายึดครองควบคุมทิเบต ไม่เพียงแค่จีนเท่านั้นที่จะเส่ียงต่อความมั่นคง.. แต่ ไทย ลาว กัมพูชา พม่า และบางส่วนของอินเดีย อาจตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบากได้. ใครครอบครองทิเบต ผู้นั้นกุมชะตาเอเชีย เท่าที่ผ่านมานับพันปี แม้มีความไม่น่ายินดีกับการจัดการทรัพยากรต้นน้ำของจีนนัก แต่จีนก็แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่ได้ชั่วร้ายที่จะฉกฉวยประโยชน์จากสายเลือดใหญ่เหล่านี้แต่เพียงฝ่ายเดียว พวกเรายังอยู่ร่วมกันมาได้นับพันปี แต่เราไม่อาจคาดการได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากมหาอำนาจอื่น เข้ามามีอำนาจในการควบคุมแม่น้ำสายใหญ่เหล่านี้. . แน่นอนว่า เวลาเปลี่ยน ปัจจัยเปลี่ยน.. ทั้งมนุษย์ ทั้งปัจจัยทางธรรมชาติ ทั้งสถานะการณ์โลกและนอกโลก.. เราไม่อาจรู้ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราได้แต่ตัดสินใจจากพื้นฐานที่เป็นประสบการณ์ของเราจากประวัติศาสตร์และบทเรียนที่ผ่านมา . พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารนั้นไม่เที่ยง ย่อมเสื่อมไปตามเหตุและปัจจัย มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป จงมีสติปัญญาที่จะพิจารณาวิเคราะห์และแยกแยะสิ่งต่างๆ ให้ถี่ถ้วนและพร้อมที่จะตัดสินใจ แก้ไขมันอย่างทันท่วงที โดยเลือกทางเลือกที่ถูกต้องที่สุด . ด้วยความปรารถนาดีและห่วงใยทุกท่าน - พงศ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา - . อัพเดทข้อมูลในปี 2566 -------------------------- - แม่น้ำโวลก้าในเวลานี้มีสภาพที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม โลหะหนักเป็นพิษลดสู่ปริมาณที่ต่ำลงอย่างมีนัยยะ - พื้นที่ในเอเชียกลางที่เคยถูกแทรกแซงครอบงำจากอิทธิพลตะวันตก เช่นอัฟกานิสถานและปากีสถาน กำลังเป็นอิสระและฟื้นฟูโดยความช่วยเหลือของจีนและรัสเซีย เส้นทางลำเลียงยาเสพติดของซีไอเอในเอเชียกลางถูกกำจัด และเอเชียกลางทั้งหมดผนึกเป็นส่วนเดียวกับพันธมิตรรัสเซีย-จีน เดินหน้าไปสู่ความเจริญของโครงการ One Belt One Road นั่นหมายความว่าแหล่งน้ำในทิเบตในเวลานี้ ได้รอดพ้นจากความเสี่ยงในการเข้าแทรกแซงของมหาอำนาจตะวันตกแล้ว และมันจะกลายเป็นพื้นที่ที่จะได้รับการดูแลรักษาอย่างเอาใจใส่ - เอธิโอเปีย เข้าร่วมสมาขิก BRICS นั่นหมายความว่า ในที่สุดชาติที่น่าสงสารนี้จะได้ลืมตาอ้าปากเสียที และจีนกำลังเข้าช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ในแอฟริกา หลังจากหลายปีแห่งความทุกข์ทรมานจากการถูกเอาเปรียบขูดรีดทรัพยากรโดยมหาทุนตะวันตก --------------------------
    0 Comments 0 Shares 748 Views 0 Reviews
  • ผมไม่เคยลืม“ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ”คนทำชั่วลอบยิงผมแล้วหนีไปอยู่เขมร ผมรอ15ปีเต็มๆ .เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยลืม ให้ผมตายไป ผมก็ยังจะไม่ลืม แม้ว่าเวลาจะผ่านไป 15 ปีแล้วก็ตาม อีกเดือนกว่าๆ จะครบรอบ16ปีวันที่ 17 เมษายน 2552 ของการลอบสังหารผมบริเวณใกล้ๆ สี่แยกบางขุนพรหม ระหว่างเดินทางไปจัดรายการ Good Morning Thailand ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV ที่ถนนพระอาทิตย์แล้ว แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปีกว่าแล้ว แต่เหตุการณ์ยังเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานนี้อยู่เลย.ผู้ต้องหาลอบยิงผมนั้นมีอยู่ 3 คน จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา อดีตทหารหน่วยรบพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ ตอนนี้เสียชีวิตแล้วตั้งแต่ปี 2556 และ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรือนายอรรถพล ปาทาน เจ้าหน้าที่ศูนย์ข่าว กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการดักฟังโทรศัพท์อย่างมาก อดีตเคยเป็นคนขับรถของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ครั้งเป็นผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด และ ส.อ.สมชาย บุญนาค สังกัดกองร้อย กองบังคับการกรมรบพิเศษ ค่ายเอราวัณ จังหวัดลพบุรี.ล่าสุด มีความคืบหน้าเรื่องหนึ่งในผู้ต้องหาที่ยิงผม คือ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรือชื่อ นายอรรถพล ปาทาน จากแหล่งข่าวที่ผมมีอยู่ในประเทศกัมพูชา เขาบอกว่าเขาเพิ่งเจอมือปืนที่ยิงผมเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ทำงานอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เขาระบุว่า ส.ต.ท.วรวุฒิ ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศกัมพูชาเป็นสิบปีแล้ว เปลี่ยนชื่อตัวเองว่า "ฉัตร" มีบัตรประชาชนเป็นพลเมืองกัมพูชาไปแล้ว มีครอบครัว มีภรรยาเป็นชาวกัมพูชา มีลูกด้วยกันแต่เลิกรากันไปแล้ว และส่งเสียเงินมาเลี้ยงดูลูกเมียที่อยู่ฝั่งไทย ฐานะการเงินของ ส.ต.ท.วรวุฒิ ในปัจจุบันถือว่าใช้ได้ เพราะทำงานในบริษัทรับเหมาก่อสร้างอยู่ประเทศกัมพูชา มีรถราใช้ เป็นรถยนต์อีซูซุ รุ่น MUX ตอนนี้เห็นว่ารับงานก่อสร้างต่อเติมอยู่ที่กาสิโนฝั่งปอยเปต ของคุณวัฒนา อัศวเหม ที่โดนไฟไหม้ใหญ่ไปเมื่อปลายปี 2565 สายสืบผมเก็บข้อมูลเชิงลึกเห็นว่า มีนายทุนที่เป็นคนไทย มีแบ็กคอยดูแลอยู่ ชื่อ เสี่ยพัฒน์ เป็นเจ้าของโรงงานผลิตน้ำตาลในไทย คอยให้ความช่วยเหลือ เมื่อมกราคม 2568 ปีใหม่ที่ผ่านมา ส.ต.ท.วรวุฒิ บ่นอิจฉาเพื่อนๆว่าได้กลับบ้านเกิด ส่วนตัวคุณไม่มีปัญญาที่จะกลับบ้านเหมือนคนอื่นเขา เบอร์โทรศัพท์ที่ลงด้วยเลขหมาย 197 เป็นของคุณใช่ไหม ตอบผมหน่อย รอรับสายผมนะ ผมรอคุณมา 15 ปีเต็มๆ ผมอยากจะทราบว่านายคุณให้ค่าหัวผมเท่าไรวะ คุณถึงรับงานมายิงผม .ผมเคยพูดไปหลายครั้งแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมจะต้องร้องขอความเป็นธรรมกับรัฐบาลทุกๆ รัฐบาล คือเรื่องความเป็นธรรมของการดำเนินคดีกับคนที่ลอบฆ่าผม ซึ่งผมรู้ว่าใครเป็นคนลงมือและใครเป็นคนสั่ง ผมก็จะทำเรื่องร้องเรียนไปยังท่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ว่าบุคคลที่อยู่ภายใต้หมายจับนี้เป็นคนที่ยิงผม และผมมีหลักฐานชัดเจนว่าหลบอยู่ที่กัมพูชา ไม่ทราบว่าท่านนายกรัฐมนตรีท่านจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไรต่อไป.คนๆนี้มีหมายจับอยู่แล้ว เวรกรรมตามทันจริงๆ จากนี้ไปเขาคงไม่มีความสุขถ้ายังมีชีวิตอยู่ เพราะว่าผมรู้ตัวตน รู้แหล่งที่อยู่เขาเรียบร้อยแล้ว เชื่อผมสิ คนทำชั่วหนีไม่พ้นหรอก ในที่สุดจะต้องโดนเวรกรรมลงโทษ ช้าหรือเร็วเท่านั้น "สวัสดีคุณฉัตร" คุณฉัตรครับ ผมยังไม่ลืมคุณ.เผอิญมีตำรวจที่ให้สัมภาษณ์เรื่องผมโดนยิงกับ หนุ่ม คงกระพัน ทำเป็นรู้เรื่องดี คุยโวโอ้อวดแล้วบอกว่าเป็นคนทำคดีนี้เอง รู้ทุกอย่างนั้น ก็เป็นคนที่ติดตามคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทริดา ตำรวจคนนี้ชื่อเล่นว่า "ยาว" พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ อดีตเคยเป็นสืบนครบาล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 8 แต่ชอบมีคนอวยว่าเป็นเชอร์ล็อกโฮล์มของเมืองไทย ส่วนตัวเองก็อวดอ้างว่าไม่มีคดีไหนที่จับไม่ได้ และเผอิญว่าลูกเขยของ พล.ต.ต.วีระศักดิ์ ชื่ออะไร รู้ไหมท่านผู้ชม ? ชื่อว่า นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ นายปอ หนึ่งในจำเลยคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโมนั่นเอง เผอิญเห็นคุยนักคุยหนาว่าคุณทำคดีที่ลอบยิงผม รู้ทุกเรื่อง แล้วก็เคยบอกว่าไม่มีคดีไหนที่จับไม่ได้ น่าเสียดายที่คุณเกษียณอายุไปนานแล้ว 13-14 ปี ไม่อย่างนั้นผมก็อยากให้ไปตามเรื่องให้ผมหน่อย เพราะเป็นเรื่องที่ผมไม่มีวันจะลืม
    ผมไม่เคยลืม“ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ”คนทำชั่วลอบยิงผมแล้วหนีไปอยู่เขมร ผมรอ15ปีเต็มๆ .เป็นเรื่องที่ผมไม่เคยลืม ให้ผมตายไป ผมก็ยังจะไม่ลืม แม้ว่าเวลาจะผ่านไป 15 ปีแล้วก็ตาม อีกเดือนกว่าๆ จะครบรอบ16ปีวันที่ 17 เมษายน 2552 ของการลอบสังหารผมบริเวณใกล้ๆ สี่แยกบางขุนพรหม ระหว่างเดินทางไปจัดรายการ Good Morning Thailand ทางสถานีโทรทัศน์ ASTV ที่ถนนพระอาทิตย์แล้ว แม้เวลาจะผ่านไป 15 ปีกว่าแล้ว แต่เหตุการณ์ยังเหมือนเกิดขึ้นเมื่อวานนี้อยู่เลย.ผู้ต้องหาลอบยิงผมนั้นมีอยู่ 3 คน จ.ส.อ.ปัญญา ศรีเหรา อดีตทหารหน่วยรบพิเศษ ศูนย์สงครามพิเศษ ตอนนี้เสียชีวิตแล้วตั้งแต่ปี 2556 และ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรือนายอรรถพล ปาทาน เจ้าหน้าที่ศูนย์ข่าว กองบัญชาการปราบปรามยาเสพติดซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการดักฟังโทรศัพท์อย่างมาก อดีตเคยเป็นคนขับรถของ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ครั้งเป็นผู้บัญชาการปราบปรามยาเสพติด และ ส.อ.สมชาย บุญนาค สังกัดกองร้อย กองบังคับการกรมรบพิเศษ ค่ายเอราวัณ จังหวัดลพบุรี.ล่าสุด มีความคืบหน้าเรื่องหนึ่งในผู้ต้องหาที่ยิงผม คือ ส.ต.ท.วรวุฒิ มุ่งสันติ หรือชื่อ นายอรรถพล ปาทาน จากแหล่งข่าวที่ผมมีอยู่ในประเทศกัมพูชา เขาบอกว่าเขาเพิ่งเจอมือปืนที่ยิงผมเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ทำงานอยู่ที่ประเทศกัมพูชา เขาระบุว่า ส.ต.ท.วรวุฒิ ใช้ชีวิตอยู่ในประเทศกัมพูชาเป็นสิบปีแล้ว เปลี่ยนชื่อตัวเองว่า "ฉัตร" มีบัตรประชาชนเป็นพลเมืองกัมพูชาไปแล้ว มีครอบครัว มีภรรยาเป็นชาวกัมพูชา มีลูกด้วยกันแต่เลิกรากันไปแล้ว และส่งเสียเงินมาเลี้ยงดูลูกเมียที่อยู่ฝั่งไทย ฐานะการเงินของ ส.ต.ท.วรวุฒิ ในปัจจุบันถือว่าใช้ได้ เพราะทำงานในบริษัทรับเหมาก่อสร้างอยู่ประเทศกัมพูชา มีรถราใช้ เป็นรถยนต์อีซูซุ รุ่น MUX ตอนนี้เห็นว่ารับงานก่อสร้างต่อเติมอยู่ที่กาสิโนฝั่งปอยเปต ของคุณวัฒนา อัศวเหม ที่โดนไฟไหม้ใหญ่ไปเมื่อปลายปี 2565 สายสืบผมเก็บข้อมูลเชิงลึกเห็นว่า มีนายทุนที่เป็นคนไทย มีแบ็กคอยดูแลอยู่ ชื่อ เสี่ยพัฒน์ เป็นเจ้าของโรงงานผลิตน้ำตาลในไทย คอยให้ความช่วยเหลือ เมื่อมกราคม 2568 ปีใหม่ที่ผ่านมา ส.ต.ท.วรวุฒิ บ่นอิจฉาเพื่อนๆว่าได้กลับบ้านเกิด ส่วนตัวคุณไม่มีปัญญาที่จะกลับบ้านเหมือนคนอื่นเขา เบอร์โทรศัพท์ที่ลงด้วยเลขหมาย 197 เป็นของคุณใช่ไหม ตอบผมหน่อย รอรับสายผมนะ ผมรอคุณมา 15 ปีเต็มๆ ผมอยากจะทราบว่านายคุณให้ค่าหัวผมเท่าไรวะ คุณถึงรับงานมายิงผม .ผมเคยพูดไปหลายครั้งแล้วว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่ผมจะต้องร้องขอความเป็นธรรมกับรัฐบาลทุกๆ รัฐบาล คือเรื่องความเป็นธรรมของการดำเนินคดีกับคนที่ลอบฆ่าผม ซึ่งผมรู้ว่าใครเป็นคนลงมือและใครเป็นคนสั่ง ผมก็จะทำเรื่องร้องเรียนไปยังท่านนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธาน ก.ตร. ว่าบุคคลที่อยู่ภายใต้หมายจับนี้เป็นคนที่ยิงผม และผมมีหลักฐานชัดเจนว่าหลบอยู่ที่กัมพูชา ไม่ทราบว่าท่านนายกรัฐมนตรีท่านจะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไรต่อไป.คนๆนี้มีหมายจับอยู่แล้ว เวรกรรมตามทันจริงๆ จากนี้ไปเขาคงไม่มีความสุขถ้ายังมีชีวิตอยู่ เพราะว่าผมรู้ตัวตน รู้แหล่งที่อยู่เขาเรียบร้อยแล้ว เชื่อผมสิ คนทำชั่วหนีไม่พ้นหรอก ในที่สุดจะต้องโดนเวรกรรมลงโทษ ช้าหรือเร็วเท่านั้น "สวัสดีคุณฉัตร" คุณฉัตรครับ ผมยังไม่ลืมคุณ.เผอิญมีตำรวจที่ให้สัมภาษณ์เรื่องผมโดนยิงกับ หนุ่ม คงกระพัน ทำเป็นรู้เรื่องดี คุยโวโอ้อวดแล้วบอกว่าเป็นคนทำคดีนี้เอง รู้ทุกอย่างนั้น ก็เป็นคนที่ติดตามคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทริดา ตำรวจคนนี้ชื่อเล่นว่า "ยาว" พล.ต.ต.วีระศักดิ์ มีนะวาณิชย์ อดีตเคยเป็นสืบนครบาล ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 8 แต่ชอบมีคนอวยว่าเป็นเชอร์ล็อกโฮล์มของเมืองไทย ส่วนตัวเองก็อวดอ้างว่าไม่มีคดีไหนที่จับไม่ได้ และเผอิญว่าลูกเขยของ พล.ต.ต.วีระศักดิ์ ชื่ออะไร รู้ไหมท่านผู้ชม ? ชื่อว่า นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ นายปอ หนึ่งในจำเลยคดีการเสียชีวิตของน้องแตงโมนั่นเอง เผอิญเห็นคุยนักคุยหนาว่าคุณทำคดีที่ลอบยิงผม รู้ทุกเรื่อง แล้วก็เคยบอกว่าไม่มีคดีไหนที่จับไม่ได้ น่าเสียดายที่คุณเกษียณอายุไปนานแล้ว 13-14 ปี ไม่อย่างนั้นผมก็อยากให้ไปตามเรื่องให้ผมหน่อย เพราะเป็นเรื่องที่ผมไม่มีวันจะลืม
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 1216 Views 0 Reviews
  • เมื่อวานล้ม..วันนี้ล้ม พรุ่งนี้ก็ล้มอีก...ฟุตบาท กทม!! (28/01/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ฟุตบาท #ความปลอดภัยในการก่อสร้าง #ฟุตบาทถนนพระอาทิตย์
    เมื่อวานล้ม..วันนี้ล้ม พรุ่งนี้ก็ล้มอีก...ฟุตบาท กทม!! (28/01/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #ฟุตบาท #ความปลอดภัยในการก่อสร้าง #ฟุตบาทถนนพระอาทิตย์
    Sad
    Like
    5
    0 Comments 0 Shares 1103 Views 50 0 Reviews
  • เปิดรับอาสาสมัคร คนเหมือน “แตงโม” และ “แซน”ด่วน !!!

    เนื่องด้วยทางกระทรวงยุติธรรม ได้ทำหนังสือตอบคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 กรณีคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่ได้ทำหนังสือมาว่าพบพยานหลักฐานใหม่อันเป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโมนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ส่งเรื่องนี้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแล้ว

    ทั้งนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีนัดหมายกับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2568 เพื่อทดสอบจำลองสถานการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากจะมาร่วมเป็นสักขีพยานการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

    โดยการทดสอบจำลองสถานการณ์จำเป็นต้องมีอาสาสมัครที่มีความใกล้เคียงกับคุณแตงโม และคุณแซนในวันเกิดเหตุ ทั้ง “รูปร่างลักษณะ” และ “ชุดแต่งกาย” แต่จะต้องมีความพร้อมของร่างกายที่แข็งแรงและว่ายน้ำได้ดีด้วย เพราะต้องทดลองการนั่งท้ายเรือ และการตกน้ำที่กาบเรือด้านซ้ายด้วย

    จึงขอเปิดรับอาสาสมัคร เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมในการร่วมกันหาความจริงในคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม ดังต่อไปนี้

    1.ผู้หญิงคล้ายแตงโม ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง

    2.ผู้ที่มีความคล้ายแซน ผู้หญิง/ผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง

    ใครสนใจเข้าร่วมการเป็นอาสาสมัครครั้งนี้ สามารถส่งรูปถ่าย ชื่อ และเบอร์โทรในข้อความแฟนเพจนี้ หรือส่งไปรษณีย์หรือฝากไว้ที่ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ 10200

    หรือติดต่อชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โทร 093-1532423

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ กดไลค์ และช่วยกันแชร์หาคนเหมือนแตงโมและแซนด้วยครับ

    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    5 มกราคม 2568

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1129018321925200&id=100044511276276
    เปิดรับอาสาสมัคร คนเหมือน “แตงโม” และ “แซน”ด่วน !!! เนื่องด้วยทางกระทรวงยุติธรรม ได้ทำหนังสือตอบคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 กรณีคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่ได้ทำหนังสือมาว่าพบพยานหลักฐานใหม่อันเป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโมนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ส่งเรื่องนี้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแล้ว ทั้งนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีนัดหมายกับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2568 เพื่อทดสอบจำลองสถานการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากจะมาร่วมเป็นสักขีพยานการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย โดยการทดสอบจำลองสถานการณ์จำเป็นต้องมีอาสาสมัครที่มีความใกล้เคียงกับคุณแตงโม และคุณแซนในวันเกิดเหตุ ทั้ง “รูปร่างลักษณะ” และ “ชุดแต่งกาย” แต่จะต้องมีความพร้อมของร่างกายที่แข็งแรงและว่ายน้ำได้ดีด้วย เพราะต้องทดลองการนั่งท้ายเรือ และการตกน้ำที่กาบเรือด้านซ้ายด้วย จึงขอเปิดรับอาสาสมัคร เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมในการร่วมกันหาความจริงในคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม ดังต่อไปนี้ 1.ผู้หญิงคล้ายแตงโม ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง 2.ผู้ที่มีความคล้ายแซน ผู้หญิง/ผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง ใครสนใจเข้าร่วมการเป็นอาสาสมัครครั้งนี้ สามารถส่งรูปถ่าย ชื่อ และเบอร์โทรในข้อความแฟนเพจนี้ หรือส่งไปรษณีย์หรือฝากไว้ที่ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ 10200 หรือติดต่อชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โทร 093-1532423 จึงเรียนมาเพื่อทราบ กดไลค์ และช่วยกันแชร์หาคนเหมือนแตงโมและแซนด้วยครับ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 5 มกราคม 2568 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1129018321925200&id=100044511276276
    0 Comments 0 Shares 742 Views 0 Reviews
  • ประกาศจาก อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    เปิดรับอาสาสมัคร คนเหมือน “แตงโม” และ “แซน”ด่วน !!!

    เนื่องด้วยทางกระทรวงยุติธรรม ได้ทำหนังสือตอบคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 กรณีคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่ได้ทำหนังสือมาว่าพบพยานหลักฐานใหม่อันเป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโมนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ส่งเรื่องนี้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแล้ว

    ทั้งนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีนัดหมายกับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2568 เพื่อทดสอบจำลองสถานการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากจะมาร่วมเป็นสักขีพยานการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย

    โดยการทดสอบจำลองสถานการณ์จำเป็นต้องมีอาสาสมัครที่มีความใกล้เคียงกับคุณแตงโม และคุณแซนในวันเกิดเหตุ ทั้ง “รูปร่างลักษณะ” และ “ชุดแต่งกาย” แต่จะต้องมีความพร้อมของร่างกายที่แข็งแรงและว่ายน้ำได้ดีด้วย เพราะต้องทดลองการนั่งท้ายเรือ และการตกน้ำที่กาบเรือด้านซ้ายด้วย

    จึงขอเปิดรับอาสาสมัคร เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมในการร่วมกันหาความจริงในคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม ดังต่อไปนี้

    1.ผู้หญิงคล้ายแตงโม ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง

    2.ผู้ที่มีความคล้ายแซน ผู้หญิง/ผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง

    ใครสนใจเข้าร่วมการเป็นอาสาสมัครครั้งนี้ สามารถส่งรูปถ่าย ชื่อ และเบอร์โทรในข้อความแฟนเพจนี้ หรือส่งไปรษณีย์หรือฝากไว้ที่ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ 10200

    หรือติดต่อชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โทร 093-1532423

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ กดไลค์ และช่วยกันแชร์หาคนเหมือนแตงโมและแซนด้วยครับ

    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    5 มกราคม 2568

    https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1129018321925200&id=100044511276276
    ประกาศจาก อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เปิดรับอาสาสมัคร คนเหมือน “แตงโม” และ “แซน”ด่วน !!! เนื่องด้วยทางกระทรวงยุติธรรม ได้ทำหนังสือตอบคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2567 กรณีคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ที่ได้ทำหนังสือมาว่าพบพยานหลักฐานใหม่อันเป็นพยานหลักฐานสำคัญในคดีการเสียชีวิตของนางสาวภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโมนั้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมได้ส่งเรื่องนี้ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการแล้ว ทั้งนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ มีนัดหมายกับคุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ วันพฤหัสบดีที่ 16 มกราคม 2568 เพื่อทดสอบจำลองสถานการณ์ในวันเกิดเหตุ โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากจะมาร่วมเป็นสักขีพยานการจำลองเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย โดยการทดสอบจำลองสถานการณ์จำเป็นต้องมีอาสาสมัครที่มีความใกล้เคียงกับคุณแตงโม และคุณแซนในวันเกิดเหตุ ทั้ง “รูปร่างลักษณะ” และ “ชุดแต่งกาย” แต่จะต้องมีความพร้อมของร่างกายที่แข็งแรงและว่ายน้ำได้ดีด้วย เพราะต้องทดลองการนั่งท้ายเรือ และการตกน้ำที่กาบเรือด้านซ้ายด้วย จึงขอเปิดรับอาสาสมัคร เพื่อคัดเลือกบุคคลที่เหมาะสมในการร่วมกันหาความจริงในคดีการเสียชีวิตของคุณแตงโม ดังต่อไปนี้ 1.ผู้หญิงคล้ายแตงโม ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง 2.ผู้ที่มีความคล้ายแซน ผู้หญิง/ผู้ชายที่แปลงเพศเป็นหญิงแล้ว ความสูงระหว่าง 165-170 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 45-52 กิโลกรัม ว่ายน้ำได้แข็งแรง ใครสนใจเข้าร่วมการเป็นอาสาสมัครครั้งนี้ สามารถส่งรูปถ่าย ชื่อ และเบอร์โทรในข้อความแฟนเพจนี้ หรือส่งไปรษณีย์หรือฝากไว้ที่ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ บ้านพระอาทิตย์ ถนนพระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพ 10200 หรือติดต่อชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โทร 093-1532423 จึงเรียนมาเพื่อทราบ กดไลค์ และช่วยกันแชร์หาคนเหมือนแตงโมและแซนด้วยครับ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต 5 มกราคม 2568 https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1129018321925200&id=100044511276276
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 768 Views 0 Reviews
  • มา สนามหลวง กับครอบครัว สักการะพระเขี้ยวแก้ว ไหว้ศาลหลักเมือง จากนั้น เรียก Bolt นั่งผ่านถนนพระอาทิตย์
    .
    เห็น สำนักบ้านพระอาทิตย์ นึกถึง ASTV - News1 นึกถึง คุณลุงสนธิ และ ทีมบ้านพระอาทิตย์ ทุกท่าน
    .
    ขอให้บุญที่ทำ กุศลที่มี ช่วยโอบอุ้ม ค้ำชู ทุกๆท่าน ให้มีควาสุขกายสุขใจ ยิ้มรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง...
    .
    ขอให้ คุณลุงโสภณ ไปสู่สุขคติ สุขแล้ว สุขอยู่ สุขต่อไป...
    .
    มา สนามหลวง กับครอบครัว สักการะพระเขี้ยวแก้ว ไหว้ศาลหลักเมือง จากนั้น เรียก Bolt นั่งผ่านถนนพระอาทิตย์ . เห็น สำนักบ้านพระอาทิตย์ นึกถึง ASTV - News1 นึกถึง คุณลุงสนธิ และ ทีมบ้านพระอาทิตย์ ทุกท่าน . ขอให้บุญที่ทำ กุศลที่มี ช่วยโอบอุ้ม ค้ำชู ทุกๆท่าน ให้มีควาสุขกายสุขใจ ยิ้มรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง... . ขอให้ คุณลุงโสภณ ไปสู่สุขคติ สุขแล้ว สุขอยู่ สุขต่อไป... . 😊😊😊😊
    0 Comments 0 Shares 491 Views 0 Reviews
  • ดิ้นรนยำ..ถนนพระอาทิตย์!! เสน่ห์คนทำมาหากิน!! 16/11/67 #เสน่ห์คนทำมาหากิน #ร้านยำเคลื่อนที่ #ถนนพระอาทิตย์ #แม่ค้า
    ดิ้นรนยำ..ถนนพระอาทิตย์!! เสน่ห์คนทำมาหากิน!! 16/11/67 #เสน่ห์คนทำมาหากิน #ร้านยำเคลื่อนที่ #ถนนพระอาทิตย์ #แม่ค้า
    Like
    Love
    13
    0 Comments 0 Shares 2030 Views 150 0 Reviews
  • 7 ตุลาคม 2567- Live คุณสนธิ ลิ้มทองกุล วัน7ตุลารำลึก 16 ปี ที่บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์

    https://www.youtube.com/live/2FtcODoERxY?si=NI-YoYFb2lncPBaA

    #Thaitimes
    7 ตุลาคม 2567- Live คุณสนธิ ลิ้มทองกุล วัน7ตุลารำลึก 16 ปี ที่บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ https://www.youtube.com/live/2FtcODoERxY?si=NI-YoYFb2lncPBaA #Thaitimes
    Like
    Love
    23
    2 Comments 1 Shares 933 Views 0 Reviews
  • 16 ปี 7 ตุลาฯรำลึก ถ่ายทอดสดจากบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร
    .
    คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=HhW76m7P9sg
    16 ปี 7 ตุลาฯรำลึก ถ่ายทอดสดจากบ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร . คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=HhW76m7P9sg
    Like
    Love
    28
    0 Comments 1 Shares 793 Views 0 Reviews
  • 7 ตุลารำลึก 16 ปี ถึงความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4
    .
    งาน "ความจริงมีหนึ่งเดียว"ครั้งต่อไป ผมประกาศไปแล้วจะจัด วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 แต่งวดนี้เราจัดที่หอประชุมใหญ่ ธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เดิมทีค่าบัตรเราคิด 500 บาท แต่วันนี้เราจะลดเหลือแค่ 300 บาท เดิมทีตั้งไว้ 200 บาท แล้วก็ไปซื้อข้าวกินตอนเที่ยงกันเอง แต่ตอนนี้เป็น 300 บาทแล้ว เพื่ออะไร ? ใครซื้อบัตรจ่าย 300 บาท ได้อาหารกล่องที่เราทำให้ทานทุกครั้ง อร่อยมาก 1 กล่อง มูลค่า 100 บาท
    .
    ถ้าใครไม่อยากพลาด ตอนนี้เราเริ่มเปิดให้จองผ่านไลน์ (LINE) @sondhitalk ผมเตือนหน่อยครับ เพราะที่นั่งโซนหน้าเต็มเร็วมาก แล้วงานครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ ไปเลยนะครับ หอประชุมใหญ่ จะครื้นเครงมาก สิบโมงเช้า เราจะเปิดด้วยวงดนตรีหลายวง ซึ่งตอนนี้กำลังติดต่อมาลีฮวนนาอยู่ ยังไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ได้ แต่ว่าคาราวาน แฮมเมอร์ และศิลปินอีกหลายคนที่เคยเป็นแฟนเก่าๆ ของพวกเรา พอเที่ยงก็จะมีการรับประทานอาหารกันก่อน บ่ายโมงค่อยเริ่มรายการต่อไป และจะเป็นรายการที่มีความหลากหลายมาก ท่านผู้ชมจะไม่มีวันผิดหวังอย่างแน่นอน
    .
    วันที่ 7 ตุลาคมนี้ ครบรอบ 16 ปีของการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนที่เสียชีวิตไป จะเป็นการทำบุญใหญ่ ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ เจ็ดโมงเช้า ทำบุญตักบาตรพระป่า หลังจากนั้นจะมีการปราศรัยจากอดีตแกนนำ มีผม มีอาจารย์ปานเทพ มีคุณมาลีรัตน์ แก้วก่า โน่นนี่นั่น แล้วต่อด้วยคอนเสิร์ตแฮมเมอร์ พร้อมด้วยศิลปินอื่นๆ ท่านผู้ชมอย่าลืมนะครับ
    7 ตุลารำลึก 16 ปี ถึงความจริงมีหนึ่งเดียวครั้งที่ 4 . งาน "ความจริงมีหนึ่งเดียว"ครั้งต่อไป ผมประกาศไปแล้วจะจัด วันที่ 24 พฤศจิกายน 2567 แต่งวดนี้เราจัดที่หอประชุมใหญ่ ธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) เดิมทีค่าบัตรเราคิด 500 บาท แต่วันนี้เราจะลดเหลือแค่ 300 บาท เดิมทีตั้งไว้ 200 บาท แล้วก็ไปซื้อข้าวกินตอนเที่ยงกันเอง แต่ตอนนี้เป็น 300 บาทแล้ว เพื่ออะไร ? ใครซื้อบัตรจ่าย 300 บาท ได้อาหารกล่องที่เราทำให้ทานทุกครั้ง อร่อยมาก 1 กล่อง มูลค่า 100 บาท . ถ้าใครไม่อยากพลาด ตอนนี้เราเริ่มเปิดให้จองผ่านไลน์ (LINE) @sondhitalk ผมเตือนหน่อยครับ เพราะที่นั่งโซนหน้าเต็มเร็วมาก แล้วงานครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายของปีนี้ ไปเลยนะครับ หอประชุมใหญ่ จะครื้นเครงมาก สิบโมงเช้า เราจะเปิดด้วยวงดนตรีหลายวง ซึ่งตอนนี้กำลังติดต่อมาลีฮวนนาอยู่ ยังไม่รู้ว่าจะได้หรือไม่ได้ แต่ว่าคาราวาน แฮมเมอร์ และศิลปินอีกหลายคนที่เคยเป็นแฟนเก่าๆ ของพวกเรา พอเที่ยงก็จะมีการรับประทานอาหารกันก่อน บ่ายโมงค่อยเริ่มรายการต่อไป และจะเป็นรายการที่มีความหลากหลายมาก ท่านผู้ชมจะไม่มีวันผิดหวังอย่างแน่นอน . วันที่ 7 ตุลาคมนี้ ครบรอบ 16 ปีของการต่อสู้ของพี่น้องประชาชนที่เสียชีวิตไป จะเป็นการทำบุญใหญ่ ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ เจ็ดโมงเช้า ทำบุญตักบาตรพระป่า หลังจากนั้นจะมีการปราศรัยจากอดีตแกนนำ มีผม มีอาจารย์ปานเทพ มีคุณมาลีรัตน์ แก้วก่า โน่นนี่นั่น แล้วต่อด้วยคอนเสิร์ตแฮมเมอร์ พร้อมด้วยศิลปินอื่นๆ ท่านผู้ชมอย่าลืมนะครับ
    Like
    Love
    Yay
    44
    0 Comments 2 Shares 3265 Views 4 Reviews
  • รำลึก 16 ปี 7 ตุลา

    เชิญพี่น้องพันธมิตรทำบุญครบรอบ 16 ปี 7 ตุลา รำลึก
    ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์

    - ทำบุญตักบาตรพระป่า
    - ฟังการปราศรัยจากอดีตแกนนำพันธมิตรฯ
    อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ , รสนา โตสิตระกูล , มาลีรัตน์ แก้วก่า , ศิริชัย ไม้งาม
    - คอนเสิร์ตแฮมเมอร์ พร้อมด้วยศิลปินอื่นๆ

    16 ปี 7 ตุลา รำลึก 16 ปีแห่งการจากลาต้องไม่สูญเปล่า
    รำลึก 16 ปี 7 ตุลา เชิญพี่น้องพันธมิตรทำบุญครบรอบ 16 ปี 7 ตุลา รำลึก ณ บ้านเจ้าพระยา ถนนพระอาทิตย์ - ทำบุญตักบาตรพระป่า - ฟังการปราศรัยจากอดีตแกนนำพันธมิตรฯ อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ , รสนา โตสิตระกูล , มาลีรัตน์ แก้วก่า , ศิริชัย ไม้งาม - คอนเสิร์ตแฮมเมอร์ พร้อมด้วยศิลปินอื่นๆ 16 ปี 7 ตุลา รำลึก 16 ปีแห่งการจากลาต้องไม่สูญเปล่า
    Like
    Love
    6
    0 Comments 0 Shares 1119 Views 0 Reviews