• ก็เพราะว่าจินตนาการคือการ * จุดประกายความคิดสร้างสรรค์: จินตนาการเป็นรากฐานของความคิดสร้างสรรค์ ช่วยให้เราคิดนอกกรอบ คิดค้นสิ่งใหม่ๆ และมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ * พัฒนาการแก้ปัญหา: เมื่อเราจินตนาการถึงสถานการณ์ต่างๆ เราสามารถฝึกฝนทักษะการแก้ปัญหาและคิดหาวิธีที่จะเอาชนะอุปสรรคได้และจินตนาการยังทำให้เรามีภาพยนตร์ดีๆมีซีรีส์ให้ดู มีหนังสือให้อ่าน และมีงานศิลปะให้เสพอีกเยอะแยะมากมาย #จินตนาการ #ติดเทรนด์ #ช้างเรื่องเยอะ #ลุงช้างหญ่าย
    ก็เพราะว่าจินตนาการคือการ * จุดประกายความคิดสร้างสรรค์: จินตนาการเป็นรากฐานของความคิดสร้างสรรค์ ช่วยให้เราคิดนอกกรอบ คิดค้นสิ่งใหม่ๆ และมองเห็นโอกาสที่ซ่อนอยู่ * พัฒนาการแก้ปัญหา: เมื่อเราจินตนาการถึงสถานการณ์ต่างๆ เราสามารถฝึกฝนทักษะการแก้ปัญหาและคิดหาวิธีที่จะเอาชนะอุปสรรคได้และจินตนาการยังทำให้เรามีภาพยนตร์ดีๆมีซีรีส์ให้ดู มีหนังสือให้อ่าน และมีงานศิลปะให้เสพอีกเยอะแยะมากมาย #จินตนาการ #ติดเทรนด์ #ช้างเรื่องเยอะ #ลุงช้างหญ่าย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 220 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แบนแม่หยัว ติดเทรนด์x "ผกก.สันต์"โร่แจง-อัพเดตอาการแมวดำ! 09/11/67 #แบนแม่หยัว #ผกก.สันต์ #ทาสแมว #แมวดำ #ละครแม่หยัว
    #แบนแม่หยัว ติดเทรนด์x "ผกก.สันต์"โร่แจง-อัพเดตอาการแมวดำ! 09/11/67 #แบนแม่หยัว #ผกก.สันต์ #ทาสแมว #แมวดำ #ละครแม่หยัว
    Like
    Haha
    Angry
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1104 มุมมอง 657 0 รีวิว
  • เปิด 9 อาณาจักร "บอสพอล" หรือ วรัทย์พล วรัตน์วรกุล เจ้าของธุรกิจออนไลน์ The iCon Group 5 ปีรวยหมื่นล้าน

    จากกรณีกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ต หลังหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ดารานักแสดง ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรชื่อดังออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก หนุ่ม กรรชัย เพียงสั้นๆ ระบุว่า "เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดังเริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็ก เซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียหายบ้างเหรอ?" อันเนื่องมาจากมีคนระดมติดแฮชแท็ก #Saveบอส จนติดเทรนด์

    ต่อมา นายไกรภพ จันทร์ดี หรือ กบ ไมโคร นักร้องร็อกเกอร์รุ่นใหญ่ ออกมาแฉพฤติกรรมธุรกิจเครือข่ายแห่งหนึ่งที่เจ้าตัวร่วมลงทุนเพื่อหารายได้อีกทางแต่สุดท้ายสูญเงินหลายแสนบาท อีกทั้งพบข้อเท็จจริงสุดเศร้า ว่ามีผู้สูงวัยที่หลงเชื่อใช้เงินก้อนสุดท้ายของชีวิตมาลงทุนจนสิ้นเนื้อประดาตัว รวมถึงเจ้าตัวพยายามเรียกร้องกลับพบข้อกฎหมายที่ทางบริษัททำไว้รัดกุมจนคิดว่าเอาผิดเขาไม่ได้


    หลายคนจับจ้องไปที่ "บอสพอล" หรือ วรัทย์พล วรัตน์วรกุล นักธุรกิจขายตรงชื่อดัง ผู้ก่อตั้งและเจ้าของอาณาจักร “ดิไอคอนกรุ๊ป” (The iCon Group)

    วันนี้ (9 ต.ค.) จาการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า นายวรัทย์พล วรัตน์วรกุล เป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นในบริษัทอย่างน้อย 9 แห่ง เลิกกิจการไปแล้ว 1 แห่ง ได้แก่
    1. บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 1 มิ.ย. 2561 ทุนปัจจุบัน 50 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/42-46 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจการขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" เป็นกรรมการรายเดียว

    รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" ถือหุ้นใหญ่ 74.9998%, จินดา แซ่ก๊อก ถือหุ้น 21% และ ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 4.0002%

    สำหรับงบการเงิน ปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 2,402,677,947 บาท หนี้สินรวม 1,554,377,393 บาท มีรายได้รวม 1,891,032,251 บาท รายจ่ายรวม 1,862,137,799 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 3,346 บาท เสียภาษีเงินได้ 9,113,250 บาท กำไรสุทธิ 19,777,855 บาท

    หากนับรวมรายได้ ย้อนหลัง 5 ปี (ปีงบ 2562-2566) พบว่ามีรายได้รวมกัน 10,613,171,865 บาท (ราว 1 หมื่นล้านบาท)
    ในปี 2562 มีรายได้รวม 322,679,743 บาท กำไรสุทธิ 5,947,795 บาท

    ปี 2563 รายได้รวม 378,119,566 บาท กำไรสุทธิ 9,044,857 บาท
    ปี 2564 รายได้รวม 4,950,055,693 บาท กำไรสุทธิ 813,444,976 บาท
    ปีงบ 2565 รายได้รวม 3,071,284,612 บาท กำไรสุทธิ 188,084,851 บาท
    ปี 2566 รายได้รวม 1,891,032,251 บาท กำไรสุทธิ 19,777,855 บาท

    2. บริษัท ดิ ไอคอน เวลเนส จำกัด

    จดทะเบียนวันที่ 3 ส.ค. 2565 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/45-46 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจ คลินิกโรคเฉพาะทาง โดย "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" เป็นกรรมการรายเดียว

    โดยรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 99.98%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือ 0.01% และ จินดา แซ่ก๊อก ถือ 0.01% ซึ่งงบการเงินปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 236,339 บาท หนี้สินรวม 13,000 บาท รายได้รวม 339 บาท รายจ่ายรวม 27,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 26,660 บาท

    3. บริษัท ดิไอคอนการบัญชี จำกัด

    จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2565 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/43 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ การทำบัญชี การตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี มี วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร วิสูตร อภิญโญวิเชียร เป็นกรรมการ

    รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 50%, วิสูตร อภิญโญวิเชียร ถือหุ้น 49%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 1% โดยงบการเงิน ปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 968,097 บาท หนี้สินรวม 631,696 บาท รายได้รวม 617,448 บาท รายจ่ายรวม 1,243,903 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 1,964 บาท ขาดทุนสุทธิ 628,419 บาท

    4. บริษัท นิรมิตร โกลบอล จำกัด

    จดทะเบียนเมื่อ 15 ก.ค. 2563 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/42-44 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ ขายสินค้าหรือบริการทางอินเทอร์เน็ต วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เป็นกรรมการรายเดียว

    รายชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อ 30 เม.ย. 2567 "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" ถือหุ้นใหญ่ 94.99%, จินดา แซ่ก๊อก ถือหุ้น 5%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 0.01%

    5. บริษัท เดอะไอคอน แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด

    จดทะเบียนเมื่อ 14 ต.ค. 2554 แจ้งเลิกกิจการ 15 พ.ย. 2564 ตั้งอยู่ที่ 158/23 ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ เป็นนายหน้าตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เครื่องมือเครื่องใช้เสริมความงาม อาหารเสริม ทุกประเภท "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" เป็นกรรมการ

    6. บริษัท เฟรนด์ชิป ฟูลฟิลเม้นท์ จำกัด

    จดทะเบียนเมื่อ 15 พ.ค. 2562 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/43 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้าทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ โดยมีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร และ จิระวัฒน์ แสงภักดี เป็นกรรมการ

    รายชื่อผู้ถือหุ้นเมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนริช จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 34%, บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือหุ้น 33%, บริษัท เซิร์ฟริช จำกัด ถือหุ้น 33%

    7. บริษัท ดิไอคอนริช จำกัด

    ทุน 1 ล้านบาท ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร เป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่สุด 99.98% ทำธุรกิจนายหน้าจากการขายสินค้า แจ้งรายได้ปี 66 กว่า 88.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.1 ล้านบาท

    8. บริษัท เซิร์ฟริช จำกัด

    ทุน 1 ล้านบาท จิระวัฒน์ แสงภักดี (ถือหุ้น 45%) วัชรา งามจัตุรัส (ถือหุ้น 45%) พรรทิพา งามจัตุรัส (ถือหุ้น 10%) เป็นกรรมการ ทำธุรกิจออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ ติดตั้งระบบเครือข่าย และให้เช่าพื้นที่เซิร์ฟแวร์

    แจ้งรายได้ปี 66 กว่า 33.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 9.7 ล้านบาท โดยงบการเงินล่าสุดปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 7,976,108 บาท หนี้สินรวม 2,156,548 บาท รายได้รวม 20,073,858 บาท รายจ่ายรวม 15,088,783 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 5,796 บาท เสียภาษีเงินได้ 997,117 บาท กำไรสุทธิ 3,982,160 บาท

    9. บริษัท ไอคอน ซูวีเนียร์ จำกัด

    จดทะเบียนเมื่อ 6 ส.ค. 2567 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/43 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ การขายปลีกสินค้าอื่นๆซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่นบนแผงลอยและตลาด วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เป็นกรรมการรายเดียว

    รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด 29 ก.ค. 2567 วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ถือหุ้นใหญ่ 99%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 1% ยังไม่พบข้อมูลงบการเงิน

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000096392

    #Thaitimes
    เปิด 9 อาณาจักร "บอสพอล" หรือ วรัทย์พล วรัตน์วรกุล เจ้าของธุรกิจออนไลน์ The iCon Group 5 ปีรวยหมื่นล้าน จากกรณีกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ต หลังหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ดารานักแสดง ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรชื่อดังออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก หนุ่ม กรรชัย เพียงสั้นๆ ระบุว่า "เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดังเริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็ก เซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียหายบ้างเหรอ?" อันเนื่องมาจากมีคนระดมติดแฮชแท็ก #Saveบอส จนติดเทรนด์ ต่อมา นายไกรภพ จันทร์ดี หรือ กบ ไมโคร นักร้องร็อกเกอร์รุ่นใหญ่ ออกมาแฉพฤติกรรมธุรกิจเครือข่ายแห่งหนึ่งที่เจ้าตัวร่วมลงทุนเพื่อหารายได้อีกทางแต่สุดท้ายสูญเงินหลายแสนบาท อีกทั้งพบข้อเท็จจริงสุดเศร้า ว่ามีผู้สูงวัยที่หลงเชื่อใช้เงินก้อนสุดท้ายของชีวิตมาลงทุนจนสิ้นเนื้อประดาตัว รวมถึงเจ้าตัวพยายามเรียกร้องกลับพบข้อกฎหมายที่ทางบริษัททำไว้รัดกุมจนคิดว่าเอาผิดเขาไม่ได้ หลายคนจับจ้องไปที่ "บอสพอล" หรือ วรัทย์พล วรัตน์วรกุล นักธุรกิจขายตรงชื่อดัง ผู้ก่อตั้งและเจ้าของอาณาจักร “ดิไอคอนกรุ๊ป” (The iCon Group) วันนี้ (9 ต.ค.) จาการตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า นายวรัทย์พล วรัตน์วรกุล เป็นกรรมการ และผู้ถือหุ้นในบริษัทอย่างน้อย 9 แห่ง เลิกกิจการไปแล้ว 1 แห่ง ได้แก่ 1. บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 1 มิ.ย. 2561 ทุนปัจจุบัน 50 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/42-46 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจการขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" เป็นกรรมการรายเดียว รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" ถือหุ้นใหญ่ 74.9998%, จินดา แซ่ก๊อก ถือหุ้น 21% และ ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 4.0002% สำหรับงบการเงิน ปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 2,402,677,947 บาท หนี้สินรวม 1,554,377,393 บาท มีรายได้รวม 1,891,032,251 บาท รายจ่ายรวม 1,862,137,799 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 3,346 บาท เสียภาษีเงินได้ 9,113,250 บาท กำไรสุทธิ 19,777,855 บาท หากนับรวมรายได้ ย้อนหลัง 5 ปี (ปีงบ 2562-2566) พบว่ามีรายได้รวมกัน 10,613,171,865 บาท (ราว 1 หมื่นล้านบาท) ในปี 2562 มีรายได้รวม 322,679,743 บาท กำไรสุทธิ 5,947,795 บาท ปี 2563 รายได้รวม 378,119,566 บาท กำไรสุทธิ 9,044,857 บาท ปี 2564 รายได้รวม 4,950,055,693 บาท กำไรสุทธิ 813,444,976 บาท ปีงบ 2565 รายได้รวม 3,071,284,612 บาท กำไรสุทธิ 188,084,851 บาท ปี 2566 รายได้รวม 1,891,032,251 บาท กำไรสุทธิ 19,777,855 บาท 2. บริษัท ดิ ไอคอน เวลเนส จำกัด จดทะเบียนวันที่ 3 ส.ค. 2565 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/45-46 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจ คลินิกโรคเฉพาะทาง โดย "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" เป็นกรรมการรายเดียว โดยรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด เมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 99.98%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือ 0.01% และ จินดา แซ่ก๊อก ถือ 0.01% ซึ่งงบการเงินปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 236,339 บาท หนี้สินรวม 13,000 บาท รายได้รวม 339 บาท รายจ่ายรวม 27,000 บาท ขาดทุนสุทธิ 26,660 บาท 3. บริษัท ดิไอคอนการบัญชี จำกัด จดทะเบียนเมื่อวันที่ 9 ส.ค. 2565 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/43 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ การทำบัญชี การตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี มี วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร วิสูตร อภิญโญวิเชียร เป็นกรรมการ รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 50%, วิสูตร อภิญโญวิเชียร ถือหุ้น 49%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 1% โดยงบการเงิน ปี 2565 มีสินทรัพย์รวม 968,097 บาท หนี้สินรวม 631,696 บาท รายได้รวม 617,448 บาท รายจ่ายรวม 1,243,903 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 1,964 บาท ขาดทุนสุทธิ 628,419 บาท 4. บริษัท นิรมิตร โกลบอล จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 15 ก.ค. 2563 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/42-44 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ ขายสินค้าหรือบริการทางอินเทอร์เน็ต วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เป็นกรรมการรายเดียว รายชื่อผู้ถือหุ้น เมื่อ 30 เม.ย. 2567 "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" ถือหุ้นใหญ่ 94.99%, จินดา แซ่ก๊อก ถือหุ้น 5%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 0.01% 5. บริษัท เดอะไอคอน แอดเวอร์ไทซิ่ง จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 14 ต.ค. 2554 แจ้งเลิกกิจการ 15 พ.ย. 2564 ตั้งอยู่ที่ 158/23 ถนนกัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ เป็นนายหน้าตัวแทนจำหน่ายเครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์เครื่องมือเครื่องใช้เสริมความงาม อาหารเสริม ทุกประเภท "วรัตน์พล วรัทย์วรกุล" เป็นกรรมการ 6. บริษัท เฟรนด์ชิป ฟูลฟิลเม้นท์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 15 พ.ค. 2562 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/43 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร ทำธุรกิจขนส่งและขนถ่ายสินค้าทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ โดยมีนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร และ จิระวัฒน์ แสงภักดี เป็นกรรมการ รายชื่อผู้ถือหุ้นเมื่อ 30 เม.ย. 2567 บริษัท ดิไอคอนริช จำกัด ถือหุ้นใหญ่ 34%, บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ถือหุ้น 33%, บริษัท เซิร์ฟริช จำกัด ถือหุ้น 33% 7. บริษัท ดิไอคอนริช จำกัด ทุน 1 ล้านบาท ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร เป็นกรรมการและถือหุ้นใหญ่สุด 99.98% ทำธุรกิจนายหน้าจากการขายสินค้า แจ้งรายได้ปี 66 กว่า 88.7 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.1 ล้านบาท 8. บริษัท เซิร์ฟริช จำกัด ทุน 1 ล้านบาท จิระวัฒน์ แสงภักดี (ถือหุ้น 45%) วัชรา งามจัตุรัส (ถือหุ้น 45%) พรรทิพา งามจัตุรัส (ถือหุ้น 10%) เป็นกรรมการ ทำธุรกิจออกแบบพัฒนาเว็บไซต์ ติดตั้งระบบเครือข่าย และให้เช่าพื้นที่เซิร์ฟแวร์ แจ้งรายได้ปี 66 กว่า 33.1 ล้านบาท กำไรสุทธิ 9.7 ล้านบาท โดยงบการเงินล่าสุดปี 2566 มีสินทรัพย์รวม 7,976,108 บาท หนี้สินรวม 2,156,548 บาท รายได้รวม 20,073,858 บาท รายจ่ายรวม 15,088,783 บาท ดอกเบี้ยจ่าย 5,796 บาท เสียภาษีเงินได้ 997,117 บาท กำไรสุทธิ 3,982,160 บาท 9. บริษัท ไอคอน ซูวีเนียร์ จำกัด จดทะเบียนเมื่อ 6 ส.ค. 2567 ทุนปัจจุบัน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 165/43 ถนนรามอินทรา แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร วัตถุประสงค์ การขายปลีกสินค้าอื่นๆซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่นบนแผงลอยและตลาด วรัตน์พล วรัทย์วรกุล เป็นกรรมการรายเดียว รายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุด 29 ก.ค. 2567 วรัตน์พล วรัทย์วรกุล ถือหุ้นใหญ่ 99%, ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร ถือหุ้น 1% ยังไม่พบข้อมูลงบการเงิน https://mgronline.com/onlinesection/detail/9670000096392 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ส่องอาณาจักร "บอสพอล" เจ้าของธุรกิจออนไลน์ The iCon Group เผย 5 ปีรวยหมื่นล้าน
    เปิด 9 อาณาจักร บอสพอล หรือ วรัทย์พล วรัตน์วรกุล เจ้าของธุรกิจออนไลน์ The iCon Group 5 ปีรวยหมื่นล้าน จากกรณี กลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ต หลังหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ดารานักแสดง ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรชื่อดังออกมาโพสต์ข้อ
    Like
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 617 มุมมอง 0 รีวิว
  • "วรัทย์พล วรัตน์วรกุล" บอสพอล นักธุรกิจขายตรงชื่อดัง เคลื่อนไหวแล้ว หลังเจอดรามาหนัก ย้ำมั่นใจดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใส มาโดยตลอด วอนขอเวลาตรวจสอบข้อมูล อันไหน เป็นการกลั่นแกล้ง ใส่ความ ปลุกปั่น ยันไม่รู้มีผู้เสียหายเสียชีวิต เผยพร้อมช่วยเหลือ เยียวยา ครอบครัวผู้ที่สูญเสีย และขออย่าด่วนตัดสินกัน

    จากกรณีกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ต หลังหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ดารานักแสดง ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรชื่อดังออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก หนุ่ม กรรชัย เพียงสั้นๆ ระบุว่า "เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดังเริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็ก เซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียหายบ้างเหรอ?" อันเนื่องมาจากมีคนระดมติดแฮชแท็ก #Saveบอส จนติดเทรนด์ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

    9 ตุลาคม 2567- เฟซบุ๊ก "วรัทย์พล วรัตน์วรกุล" หรือ บอสพอล นักธุรกิจขายตรงชื่อดัง ผู้ก่อตั้งและเจ้าของอาณาจักร “ดิไอคอนกรุ๊ป” (The iCon Group) ได้ออกมาชี้แจงกรณีดรามา โดยระบุข้อความว่า

    “สวัสดีทุกท่านครับ ผมขอเรียนชี้แจง ผ่านทางช่องทางนี้นะครับ ตลอดระยะเวลาที่ผมทำธุรกิจ ขายปลีก-ขายส่ง ผ่านระบบตัวแทน ภายใต้ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ปมาเป็นระยะเวลา 6 ปีกว่าแล้ว ผมเชื่อมั่นว่า ผมดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใส มาโดยตลอด แต่จากเหตุการณ์ ที่เกิดเป็นกระแสสังคมขึ้น ณ ขณะนี้ ผมติดตามข้อมูลต่อเนื่องมา และรู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่เกิดเหตุว่ามีผู้เสียหายเกิดขึ้น เนื่องจากการทำธุรกิจกับบริษัทของผม

    ผมได้ให้ทีมงานตรวจสอบข้อมูล ปรากฏมีหลายเคส ตามที่เกิดดราม่า ที่ออกมา ต่อว่า ด่าทอบริษัท กลับไม่ได้เป็น ตัวแทนจำหน่ายของผม แบบที่เค้ากล่าวอ้างเลยและมีอีกหลายเคส ที่ ขายของ กับบริษัทผม แล้วได้เงินกำไรไปจำนวนมาก แต่ก็กลับมาต่อว่า ด่าทอในโลกโซเชียลฯ เช่นเดียวกัน ผมยอมรับตรงๆว่าผม งง และ สับสนมากครับ พยามตั้งสติ พยามติดตาม ดูข้อมูล ว่าอันไหนเป็นข้อมูลจริง อันไหน เป็นการกลั่นแกล้ง ใส่ความ ปลุกปั่นบ้างก็ด่าเอามัน เอาสะใจ

    โดยมีข้อมูลถึงขั้นที่ว่าทำธุรกิจกับบริษัทของผม แล้วฆ่าตัวตาย อันนี้คือประเด็นใหญ่ที่สุด ที่ผมเองไม่เคย ได้รู้มาก่อนเลยครับ และยังคงสงสัยอยู่ว่า ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แล้วทำไม ? ถึงไม่มีใครในองค์กร รู้มาก่อนบ้างเลย อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องจริง ผมคงรู้สึกเสียใจมาก และอยากที่จะ ช่วยเหลือ เยียวยา ครอบครัวผู้ที่สูญเสีย อย่างเต็มที่ครับ ขอเพียง ท่านติดต่อกลับมา ที่บริษัท

    แต่ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่า ผมไม่เคยทราบข้อมูลมาก่อนจริงๆ ส่วนที่ถามว่าทำไม ผมถึงยังไม่ออกมาพูดอะไร ผมขอตอบตรงๆว่า เมื่อไตร่ตรองโดยสติแล้ว ผมคิดว่าไม่ว่าจะตอบ อะไร ออกมา ในช่วงที่กระแสสังคม เปรียบเหมือนน้ำเชี่ยว จากการรับข้อมูล “ทางเดียว” ในตอนนี้ ยิ่งจะเป็นการทำให้สถานการณ์ ที่หนักอยู่แล้ว หนักยิ่งขึ้น ผมจึงใช้เวลาทั้งหมดในการเตรียม ข้อมูล ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง รวมทั้งหลักฐานต่างๆ ที่จะชี้แจงให้ทราบ ผ่านกระบวนการยุติธรรม ทางกฏหมาย

    ผมพร้อมเข้าสู่กระบวนการ เพราะผมเชื่อว่า เราต่างเป็นสุจริตชน ที่อยู่ภายใต้“กฎหมาย” ไม่ใช่การใช้ “กฎหมู่” หรือกระแสสังคม ในการทำลายกัน ผมพร้อมจะเข้าไป แสดงตัว ”มอบตัวกับตำรวจ“ตามที่ตำรวจจะแจ้งให้ทราบทุกเมื่อ ผมรอพิสูจน์ความจริง อยู่ตรงนี้ไม่หนีไปไหน แน่นอนครับ และพร้อม นำข้อเท็จจริงและหลักฐานทั้งหมด เข้าชี้แจงผ่าน “กระบวนการยุติธรรม” ทุกท่านอดใจรอหน่อยนะครับ เดี๋ยวความจริงก็จะเปิดเผยออกมาให้ทุกท่านทราบ

    ถ้าผมทำผิด ตามที่ถูกกล่าวหาผมย่อมจะต้องได้รับโทษทางกฏหมายอย่างถึงที่สุด แน่นอนครับ เมื่อถึงวันนั้นค่อยด่าทอ ประนาม เหยียบย่ำผมได้เลยครับ เชื่อว่าไม่ช้าเกินไป แต่วันนี้ ผมเป็นผู้บริสุทธิ์ ครับและผมเชื่อ ในความบริสุทธิ์ ของผมผมส่องกระจกดูตัวเองแล้วผมยังสามารถ สบตาตัวเองได้“อย่างเต็มตา” ในขณะเดียวกันผมก็สลดใจ ที่ตัวเอง และ องค์กรต้องมาถูกเหยียบย่ำ ทำลาย ต่างๆ นาๆในขณะที่ยังไม่ได้มีการตัดสินจากกระบวนการยุติธรรม ที่พวกเรา เชื่อมั่น เชื่อถือผมอยาก ข้อร้อง วิงวอนให้ทุกท่าน โปรดให้โอกาสผมและองค์กรได้พิสูจน์ตัวเองผ่านกระบวนการยุติธรรมก่อนที่จะด่วนตัดสินกัน นะครับ ขอบคุณครับ”

    อย่างไรก็ตาม ยอดประเมินผู้เสียหายเฉพาะกลุ่มดีเลอร์กลุ่มเดียว30,000 ราย ยอดเสียหาย 7,500 ล้านบาท และในอดีตเมื่อปี2563 ผู้เสียหายส่วนหนึ่งออกมาเป็นเจ้าทุกข์และร้องเรียน สคบ.ตั้งแต่ปี2563แต่ สคบ.แจ้งว่าไม่เข้าเกณฑ์เป็นผู้บริโภค และสคบ.เคยมอบรางวัลให้บริษัทนี้ในปี2565ทั้งๆที่เคยโดนถูกร้องเรียน

    #Thaitimes
    "วรัทย์พล วรัตน์วรกุล" บอสพอล นักธุรกิจขายตรงชื่อดัง เคลื่อนไหวแล้ว หลังเจอดรามาหนัก ย้ำมั่นใจดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใส มาโดยตลอด วอนขอเวลาตรวจสอบข้อมูล อันไหน เป็นการกลั่นแกล้ง ใส่ความ ปลุกปั่น ยันไม่รู้มีผู้เสียหายเสียชีวิต เผยพร้อมช่วยเหลือ เยียวยา ครอบครัวผู้ที่สูญเสีย และขออย่าด่วนตัดสินกัน จากกรณีกลายเป็นที่สนใจของชาวเน็ต หลังหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย ดารานักแสดง ผู้ประกาศข่าว และพิธีกรชื่อดังออกมาโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก หนุ่ม กรรชัย เพียงสั้นๆ ระบุว่า "เหล่าแม่ข่ายของบริษัทธุรกิจเครือข่ายดังเริ่มมีการข่มขู่ไปทั่ว กลัวโดนเปิดแผล มีการระดมคนติดแฮชแท็ก เซฟบอส เซฟบริษัทตัวเอง ไม่เซฟผู้เสียหายบ้างเหรอ?" อันเนื่องมาจากมีคนระดมติดแฮชแท็ก #Saveบอส จนติดเทรนด์ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 9 ตุลาคม 2567- เฟซบุ๊ก "วรัทย์พล วรัตน์วรกุล" หรือ บอสพอล นักธุรกิจขายตรงชื่อดัง ผู้ก่อตั้งและเจ้าของอาณาจักร “ดิไอคอนกรุ๊ป” (The iCon Group) ได้ออกมาชี้แจงกรณีดรามา โดยระบุข้อความว่า “สวัสดีทุกท่านครับ ผมขอเรียนชี้แจง ผ่านทางช่องทางนี้นะครับ ตลอดระยะเวลาที่ผมทำธุรกิจ ขายปลีก-ขายส่ง ผ่านระบบตัวแทน ภายใต้ บริษัทดิไอคอนกรุ๊ปมาเป็นระยะเวลา 6 ปีกว่าแล้ว ผมเชื่อมั่นว่า ผมดำเนินธุรกิจอย่างถูกต้องโปร่งใส มาโดยตลอด แต่จากเหตุการณ์ ที่เกิดเป็นกระแสสังคมขึ้น ณ ขณะนี้ ผมติดตามข้อมูลต่อเนื่องมา และรู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่เกิดเหตุว่ามีผู้เสียหายเกิดขึ้น เนื่องจากการทำธุรกิจกับบริษัทของผม ผมได้ให้ทีมงานตรวจสอบข้อมูล ปรากฏมีหลายเคส ตามที่เกิดดราม่า ที่ออกมา ต่อว่า ด่าทอบริษัท กลับไม่ได้เป็น ตัวแทนจำหน่ายของผม แบบที่เค้ากล่าวอ้างเลยและมีอีกหลายเคส ที่ ขายของ กับบริษัทผม แล้วได้เงินกำไรไปจำนวนมาก แต่ก็กลับมาต่อว่า ด่าทอในโลกโซเชียลฯ เช่นเดียวกัน ผมยอมรับตรงๆว่าผม งง และ สับสนมากครับ พยามตั้งสติ พยามติดตาม ดูข้อมูล ว่าอันไหนเป็นข้อมูลจริง อันไหน เป็นการกลั่นแกล้ง ใส่ความ ปลุกปั่นบ้างก็ด่าเอามัน เอาสะใจ โดยมีข้อมูลถึงขั้นที่ว่าทำธุรกิจกับบริษัทของผม แล้วฆ่าตัวตาย อันนี้คือประเด็นใหญ่ที่สุด ที่ผมเองไม่เคย ได้รู้มาก่อนเลยครับ และยังคงสงสัยอยู่ว่า ถ้าเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ แล้วทำไม ? ถึงไม่มีใครในองค์กร รู้มาก่อนบ้างเลย อย่างไรก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องจริง ผมคงรู้สึกเสียใจมาก และอยากที่จะ ช่วยเหลือ เยียวยา ครอบครัวผู้ที่สูญเสีย อย่างเต็มที่ครับ ขอเพียง ท่านติดต่อกลับมา ที่บริษัท แต่ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่า ผมไม่เคยทราบข้อมูลมาก่อนจริงๆ ส่วนที่ถามว่าทำไม ผมถึงยังไม่ออกมาพูดอะไร ผมขอตอบตรงๆว่า เมื่อไตร่ตรองโดยสติแล้ว ผมคิดว่าไม่ว่าจะตอบ อะไร ออกมา ในช่วงที่กระแสสังคม เปรียบเหมือนน้ำเชี่ยว จากการรับข้อมูล “ทางเดียว” ในตอนนี้ ยิ่งจะเป็นการทำให้สถานการณ์ ที่หนักอยู่แล้ว หนักยิ่งขึ้น ผมจึงใช้เวลาทั้งหมดในการเตรียม ข้อมูล ซึ่งเป็นข้อเท็จจริง รวมทั้งหลักฐานต่างๆ ที่จะชี้แจงให้ทราบ ผ่านกระบวนการยุติธรรม ทางกฏหมาย ผมพร้อมเข้าสู่กระบวนการ เพราะผมเชื่อว่า เราต่างเป็นสุจริตชน ที่อยู่ภายใต้“กฎหมาย” ไม่ใช่การใช้ “กฎหมู่” หรือกระแสสังคม ในการทำลายกัน ผมพร้อมจะเข้าไป แสดงตัว ”มอบตัวกับตำรวจ“ตามที่ตำรวจจะแจ้งให้ทราบทุกเมื่อ ผมรอพิสูจน์ความจริง อยู่ตรงนี้ไม่หนีไปไหน แน่นอนครับ และพร้อม นำข้อเท็จจริงและหลักฐานทั้งหมด เข้าชี้แจงผ่าน “กระบวนการยุติธรรม” ทุกท่านอดใจรอหน่อยนะครับ เดี๋ยวความจริงก็จะเปิดเผยออกมาให้ทุกท่านทราบ ถ้าผมทำผิด ตามที่ถูกกล่าวหาผมย่อมจะต้องได้รับโทษทางกฏหมายอย่างถึงที่สุด แน่นอนครับ เมื่อถึงวันนั้นค่อยด่าทอ ประนาม เหยียบย่ำผมได้เลยครับ เชื่อว่าไม่ช้าเกินไป แต่วันนี้ ผมเป็นผู้บริสุทธิ์ ครับและผมเชื่อ ในความบริสุทธิ์ ของผมผมส่องกระจกดูตัวเองแล้วผมยังสามารถ สบตาตัวเองได้“อย่างเต็มตา” ในขณะเดียวกันผมก็สลดใจ ที่ตัวเอง และ องค์กรต้องมาถูกเหยียบย่ำ ทำลาย ต่างๆ นาๆในขณะที่ยังไม่ได้มีการตัดสินจากกระบวนการยุติธรรม ที่พวกเรา เชื่อมั่น เชื่อถือผมอยาก ข้อร้อง วิงวอนให้ทุกท่าน โปรดให้โอกาสผมและองค์กรได้พิสูจน์ตัวเองผ่านกระบวนการยุติธรรมก่อนที่จะด่วนตัดสินกัน นะครับ ขอบคุณครับ” อย่างไรก็ตาม ยอดประเมินผู้เสียหายเฉพาะกลุ่มดีเลอร์กลุ่มเดียว30,000 ราย ยอดเสียหาย 7,500 ล้านบาท และในอดีตเมื่อปี2563 ผู้เสียหายส่วนหนึ่งออกมาเป็นเจ้าทุกข์และร้องเรียน สคบ.ตั้งแต่ปี2563แต่ สคบ.แจ้งว่าไม่เข้าเกณฑ์เป็นผู้บริโภค และสคบ.เคยมอบรางวัลให้บริษัทนี้ในปี2565ทั้งๆที่เคยโดนถูกร้องเรียน #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 547 มุมมอง 0 รีวิว