• บิตคอยน์ ดิ่งชั่วคราว! 04/06/68 #กะเทาะหุ้น #บิตคอยน์ #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    บิตคอยน์ ดิ่งชั่วคราว! 04/06/68 #กะเทาะหุ้น #บิตคอยน์ #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • เตรียมพร้อม รวย จาก SET 04/06/68 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #SET
    เตรียมพร้อม รวย จาก SET 04/06/68 #กะเทาะหุ้น #ตลาดหุ้น #หุ้นไทย #SET
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • ..มีกฎหมายกระทรวงทบวงกรมของไทยข้อไหนบ้างว่าห้ามปตท.ขายน้ำมันเกินลิตรละ10บาท,หรือห้ามขายเกินราคาก่อนสมัยเข้าตลาดหลักทรัพย์คือต้องบริหารจัดการควบคุมองค์รวมราคาน้ำมันทั้งประเทศให้ได้,แล้วใครทำไม่ได้ ปั้มไหนหรือปตท.ทำไม่ได้ จะมีโทษปรับลิตรละ2,000บาททุกๆการขายออกไปของยอดวันนั้นๆทันที,มิใช่กระทรวงทบวงกรมเขียนแต่กฎหมายลักษณะดูดตังออกจากกระเป๋าประชาชนคนไทยแบบกฎหมายปรับ2,000บาทหากคนขี่มอไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อคและคนนั่งมาด้วยก็ว่าไม่สวมอีกเสือกปรับเอาตังชาวบ้านชาวบ้านประชาขนคนธรรมดาอีก2เท่า,เก่งกาจกล้าหาญมากในการออกกฎหมายห่วงใยประชาชน,ไม่ออกกฎหมายห่วงใยเอกชนต่างชาติหรือเอกชนไทยบ้างอาทิห่วงใยในกำไรมากพอแล้ว เขียนกฎหมายให้ขายในประเทศลิตรละไม่เกิน10บาท,ห้ามส่งออกน้ำมันที่ดูดบนอ่าวไทยบนแผ่นดินไทยในราชอาณาจักรไทยไปต่างประเทศทุกๆกรณีทุกๆบริษัทสัมปทานหากไม่สามารถขายน้ำมันในราคาที่รัฐบาลไทยกำหนดให้ขายไม่ได้ในราคาต่ำกว่าลิตรละ10บาทยิ่งดี เป็นต้น

    ..https://youtube.com/shorts/7QPouq_qJDo?si=CnYh0SMf4zAap9zH
    ..มีกฎหมายกระทรวงทบวงกรมของไทยข้อไหนบ้างว่าห้ามปตท.ขายน้ำมันเกินลิตรละ10บาท,หรือห้ามขายเกินราคาก่อนสมัยเข้าตลาดหลักทรัพย์คือต้องบริหารจัดการควบคุมองค์รวมราคาน้ำมันทั้งประเทศให้ได้,แล้วใครทำไม่ได้ ปั้มไหนหรือปตท.ทำไม่ได้ จะมีโทษปรับลิตรละ2,000บาททุกๆการขายออกไปของยอดวันนั้นๆทันที,มิใช่กระทรวงทบวงกรมเขียนแต่กฎหมายลักษณะดูดตังออกจากกระเป๋าประชาชนคนไทยแบบกฎหมายปรับ2,000บาทหากคนขี่มอไซค์ไม่สวมหมวกกันน็อคและคนนั่งมาด้วยก็ว่าไม่สวมอีกเสือกปรับเอาตังชาวบ้านชาวบ้านประชาขนคนธรรมดาอีก2เท่า,เก่งกาจกล้าหาญมากในการออกกฎหมายห่วงใยประชาชน,ไม่ออกกฎหมายห่วงใยเอกชนต่างชาติหรือเอกชนไทยบ้างอาทิห่วงใยในกำไรมากพอแล้ว เขียนกฎหมายให้ขายในประเทศลิตรละไม่เกิน10บาท,ห้ามส่งออกน้ำมันที่ดูดบนอ่าวไทยบนแผ่นดินไทยในราชอาณาจักรไทยไปต่างประเทศทุกๆกรณีทุกๆบริษัทสัมปทานหากไม่สามารถขายน้ำมันในราคาที่รัฐบาลไทยกำหนดให้ขายไม่ได้ในราคาต่ำกว่าลิตรละ10บาทยิ่งดี เป็นต้น ..https://youtube.com/shorts/7QPouq_qJDo?si=CnYh0SMf4zAap9zH
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🏭 การควบรวมกิจการของ Hygon และ Sugon: ความท้าทายใหม่ต่ออุตสาหกรรมชิป
    สองบริษัทออกแบบชิปชั้นนำของจีน Hygon และ Sugon ได้ประกาศควบรวมกิจการ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันกับ Intel, AMD และ Nvidia โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนา ชิปประสิทธิภาพสูงสำหรับตลาดจีน

    Hygon มีรากฐานจาก ข้อตกลงการอนุญาตเทคโนโลยี Zen 1 กับ AMD ในปี 2016 ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา Dhyana CPU ที่ใช้สถาปัตยกรรม x86-64 และได้รับการสนับสนุนจาก นักพัฒนา Linux และ Tencent

    Sugon เคยใช้ Dhyana processors ในระบบต่าง ๆ รวมถึง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เคยติดอันดับ 38 ของ TOP500 อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัท อยู่ในรายชื่อ Entity List ของสหรัฐฯ ซึ่งจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีอเมริกัน

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Hygon และ Sugon ควบรวมกิจการเพื่อแข่งขันกับ Intel, AMD และ Nvidia
    - Hygon เคยได้รับสิทธิ์ใช้สถาปัตยกรรม Zen 1 จาก AMD ในปี 2016
    - Sugon ใช้ Dhyana processors ในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เคยติดอันดับ 38 ของ TOP500
    - ทั้งสองบริษัทอยู่ในรายชื่อ Entity List ของสหรัฐฯ ซึ่งจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีอเมริกัน
    - Hygon อาจพัฒนา SMT4 (Simultaneous Multithreading 4 threads per core) ซึ่งเคยใช้ใน IBM POWER7

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีการควบรวม แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าชิปใหม่จะสามารถแข่งขันกับ AMD Threadripper หรือ Intel Xeon ได้
    - การอยู่ใน Entity List อาจทำให้บริษัทต้องพัฒนาเทคโนโลยีโดยไม่มีการสนับสนุนจากสหรัฐฯ
    - ต้องติดตามว่าการพัฒนา SMT4 จะสามารถทำให้ Hygon ก้าวเข้าสู่ตลาด CPU ระดับสูงได้หรือไม่
    - การควบรวมอาจช่วยให้จีนมีทางเลือกด้านเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น แต่ยังต้องใช้เวลาในการพัฒนา

    การควบรวมของ Hygon และ Sugon อาจช่วยให้ จีนมีความสามารถในการพัฒนา CPU ที่แข่งขันกับแบรนด์ระดับโลก อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่จะสามารถลดช่องว่างกับ Intel และ AMD ได้หรือไม่

    https://www.techradar.com/pro/two-of-chinas-biggest-chip-designers-just-merged-to-compete-better-against-intel-amd-and-nvidia
    🏭 การควบรวมกิจการของ Hygon และ Sugon: ความท้าทายใหม่ต่ออุตสาหกรรมชิป สองบริษัทออกแบบชิปชั้นนำของจีน Hygon และ Sugon ได้ประกาศควบรวมกิจการ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งในการแข่งขันกับ Intel, AMD และ Nvidia โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนา ชิปประสิทธิภาพสูงสำหรับตลาดจีน Hygon มีรากฐานจาก ข้อตกลงการอนุญาตเทคโนโลยี Zen 1 กับ AMD ในปี 2016 ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา Dhyana CPU ที่ใช้สถาปัตยกรรม x86-64 และได้รับการสนับสนุนจาก นักพัฒนา Linux และ Tencent Sugon เคยใช้ Dhyana processors ในระบบต่าง ๆ รวมถึง ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เคยติดอันดับ 38 ของ TOP500 อย่างไรก็ตาม ทั้งสองบริษัท อยู่ในรายชื่อ Entity List ของสหรัฐฯ ซึ่งจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีอเมริกัน ✅ ข้อมูลจากข่าว - Hygon และ Sugon ควบรวมกิจการเพื่อแข่งขันกับ Intel, AMD และ Nvidia - Hygon เคยได้รับสิทธิ์ใช้สถาปัตยกรรม Zen 1 จาก AMD ในปี 2016 - Sugon ใช้ Dhyana processors ในซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เคยติดอันดับ 38 ของ TOP500 - ทั้งสองบริษัทอยู่ในรายชื่อ Entity List ของสหรัฐฯ ซึ่งจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีอเมริกัน - Hygon อาจพัฒนา SMT4 (Simultaneous Multithreading 4 threads per core) ซึ่งเคยใช้ใน IBM POWER7 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีการควบรวม แต่ยังไม่มีหลักฐานว่าชิปใหม่จะสามารถแข่งขันกับ AMD Threadripper หรือ Intel Xeon ได้ - การอยู่ใน Entity List อาจทำให้บริษัทต้องพัฒนาเทคโนโลยีโดยไม่มีการสนับสนุนจากสหรัฐฯ - ต้องติดตามว่าการพัฒนา SMT4 จะสามารถทำให้ Hygon ก้าวเข้าสู่ตลาด CPU ระดับสูงได้หรือไม่ - การควบรวมอาจช่วยให้จีนมีทางเลือกด้านเซมิคอนดักเตอร์มากขึ้น แต่ยังต้องใช้เวลาในการพัฒนา การควบรวมของ Hygon และ Sugon อาจช่วยให้ จีนมีความสามารถในการพัฒนา CPU ที่แข่งขันกับแบรนด์ระดับโลก อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่จะสามารถลดช่องว่างกับ Intel และ AMD ได้หรือไม่ https://www.techradar.com/pro/two-of-chinas-biggest-chip-designers-just-merged-to-compete-better-against-intel-amd-and-nvidia
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎮 RTX 50-Series X3W Max: นวัตกรรมใหม่ของ AX Gaming
    AX Gaming ได้เปิดตัว X3W Max series ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดในตระกูล RTX 50-Series ที่มาพร้อมกับ ดีไซน์พิเศษซ่อนสายไฟ 16-pin หลังแผงแม่เหล็ก

    X3W Max ใช้ พอร์ตจ่ายไฟ 16-pin (12VHPWR) ที่ถูกออกแบบให้ ซ่อนอยู่หลังแผงแม่เหล็ก ทำให้สามารถ ติดตั้งและถอดสายไฟได้ง่ายขึ้น

    แม้ว่าจะมีการออกแบบที่คล้ายกับกราฟิกการ์ด Blackwell รุ่นอื่น ๆ แต่ AX Gaming ได้เพิ่มการโอเวอร์คล็อกเล็กน้อย ประมาณ 2-3% เหนือกว่ามาตรฐานของ Nvidia

    นอกจากนี้ X3W Max ยังมีระบบระบายความร้อนแบบสามพัดลม และมาใน สีขาวล้วน ซึ่งช่วยให้ดูโดดเด่นกว่ารุ่นอื่น ๆ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - AX Gaming เปิดตัว X3W Max series ในตระกูล RTX 50-Series
    - ใช้พอร์ตจ่ายไฟ 16-pin ที่ซ่อนอยู่หลังแผงแม่เหล็ก
    - มีการโอเวอร์คล็อกเพิ่มขึ้น 2-3% จากมาตรฐานของ Nvidia
    - ระบบระบายความร้อนแบบสามพัดลม และดีไซน์สีขาวล้วน
    - แนะนำให้ใช้ PSU ขนาด 850W สำหรับ RTX 5080 X3W Max และ 800W สำหรับ RTX 5070 Ti X3W Max

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปลายสายไฟ 16-pin ว่าจะเป็นแบบ 16-pin หรือ 8-pin PCIe
    - AX Gaming ไม่ได้เปิดตัว RTX 5090D เนื่องจากถูกแบนในจีน
    - ต้องติดตามว่า Nvidia จะลดสเปคของ RTX 5090D เพื่อให้สามารถส่งออกไปยังจีนได้หรือไม่
    - AX Gaming ยังไม่ได้ประกาศราคาและวันวางจำหน่ายของ X3W Max series

    X3W Max เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ กราฟิกการ์ดที่มีดีไซน์เรียบหรูและระบบจัดการสายไฟที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการออกแบบนี้จะได้รับความนิยมในตลาดหรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/this-rtx-50-series-gpu-design-hides-its-custom-l-shaped-16-pin-power-cable-behind-a-magnetic-shroud
    🎮 RTX 50-Series X3W Max: นวัตกรรมใหม่ของ AX Gaming AX Gaming ได้เปิดตัว X3W Max series ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดในตระกูล RTX 50-Series ที่มาพร้อมกับ ดีไซน์พิเศษซ่อนสายไฟ 16-pin หลังแผงแม่เหล็ก X3W Max ใช้ พอร์ตจ่ายไฟ 16-pin (12VHPWR) ที่ถูกออกแบบให้ ซ่อนอยู่หลังแผงแม่เหล็ก ทำให้สามารถ ติดตั้งและถอดสายไฟได้ง่ายขึ้น แม้ว่าจะมีการออกแบบที่คล้ายกับกราฟิกการ์ด Blackwell รุ่นอื่น ๆ แต่ AX Gaming ได้เพิ่มการโอเวอร์คล็อกเล็กน้อย ประมาณ 2-3% เหนือกว่ามาตรฐานของ Nvidia นอกจากนี้ X3W Max ยังมีระบบระบายความร้อนแบบสามพัดลม และมาใน สีขาวล้วน ซึ่งช่วยให้ดูโดดเด่นกว่ารุ่นอื่น ๆ ✅ ข้อมูลจากข่าว - AX Gaming เปิดตัว X3W Max series ในตระกูล RTX 50-Series - ใช้พอร์ตจ่ายไฟ 16-pin ที่ซ่อนอยู่หลังแผงแม่เหล็ก - มีการโอเวอร์คล็อกเพิ่มขึ้น 2-3% จากมาตรฐานของ Nvidia - ระบบระบายความร้อนแบบสามพัดลม และดีไซน์สีขาวล้วน - แนะนำให้ใช้ PSU ขนาด 850W สำหรับ RTX 5080 X3W Max และ 800W สำหรับ RTX 5070 Ti X3W Max ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับปลายสายไฟ 16-pin ว่าจะเป็นแบบ 16-pin หรือ 8-pin PCIe - AX Gaming ไม่ได้เปิดตัว RTX 5090D เนื่องจากถูกแบนในจีน - ต้องติดตามว่า Nvidia จะลดสเปคของ RTX 5090D เพื่อให้สามารถส่งออกไปยังจีนได้หรือไม่ - AX Gaming ยังไม่ได้ประกาศราคาและวันวางจำหน่ายของ X3W Max series X3W Max เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการ กราฟิกการ์ดที่มีดีไซน์เรียบหรูและระบบจัดการสายไฟที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการออกแบบนี้จะได้รับความนิยมในตลาดหรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/this-rtx-50-series-gpu-design-hides-its-custom-l-shaped-16-pin-power-cable-behind-a-magnetic-shroud
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🏭 Intel และ SoftBank ร่วมมือพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้นเพื่อลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI
    Intel และ SoftBank ได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้น ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่แทน HBM (High-Bandwidth Memory) โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI

    โครงการนี้ดำเนินการโดย Saimemory ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนา ต้นแบบ DRAM แบบซ้อนชั้น โดยใช้เทคโนโลยีของ Intel และสิทธิบัตรจากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น เช่น University of Tokyo

    HBM เป็นหน่วยความจำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายใน AI GPUs แต่มีข้อเสียคือ ต้นทุนสูง, ผลิตยาก และใช้พลังงานมาก ดังนั้น Intel และ SoftBank จึงพยายามพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้น ที่สามารถลดการใช้พลังงานลง ครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับ HBM

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Intel และ SoftBank ร่วมมือกันพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้นเพื่อใช้แทน HBM
    - โครงการดำเนินการโดย Saimemory ซึ่งใช้เทคโนโลยีของ Intel และสิทธิบัตรจากมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น
    - HBM มีข้อเสียเรื่องต้นทุนสูงและใช้พลังงานมาก ทำให้ต้องหาทางเลือกใหม่
    - DRAM แบบซ้อนชั้นสามารถลดการใช้พลังงานลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับ HBM
    - SoftBank ต้องการสิทธิ์ในการจัดหาชิปเหล่านี้เป็นลำดับแรก หากโครงการประสบความสำเร็จ

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - โครงการนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ และต้องรอการประเมินความเป็นไปได้ในการผลิตจำนวนมากภายในปี 2027
    - HBM ยังคงเป็นมาตรฐานหลักในอุตสาหกรรม AI และต้องติดตามว่า DRAM แบบซ้อนชั้นจะสามารถแข่งขันได้หรือไม่
    - ตลาดหน่วยความจำมีการแข่งขันสูง โดยปัจจุบันมีเพียง Samsung, SK hynix และ Micron ที่ผลิต HBM
    - ญี่ปุ่นพยายามกลับเข้าสู่ตลาดหน่วยความจำหลังจากสูญเสียส่วนแบ่งไปในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

    หาก DRAM แบบซ้อนชั้นสามารถลดการใช้พลังงานได้จริง อาจช่วยให้ศูนย์ข้อมูล AI มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดต้นทุนด้านพลังงาน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะตอบสนองต่อเทคโนโลยีใหม่นี้อย่างไร

    https://www.tomshardware.com/news/live/chip-news
    🏭 Intel และ SoftBank ร่วมมือพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้นเพื่อลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI Intel และ SoftBank ได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้น ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่แทน HBM (High-Bandwidth Memory) โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI โครงการนี้ดำเนินการโดย Saimemory ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนา ต้นแบบ DRAM แบบซ้อนชั้น โดยใช้เทคโนโลยีของ Intel และสิทธิบัตรจากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น เช่น University of Tokyo HBM เป็นหน่วยความจำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายใน AI GPUs แต่มีข้อเสียคือ ต้นทุนสูง, ผลิตยาก และใช้พลังงานมาก ดังนั้น Intel และ SoftBank จึงพยายามพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้น ที่สามารถลดการใช้พลังงานลง ครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับ HBM ✅ ข้อมูลจากข่าว - Intel และ SoftBank ร่วมมือกันพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้นเพื่อใช้แทน HBM - โครงการดำเนินการโดย Saimemory ซึ่งใช้เทคโนโลยีของ Intel และสิทธิบัตรจากมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น - HBM มีข้อเสียเรื่องต้นทุนสูงและใช้พลังงานมาก ทำให้ต้องหาทางเลือกใหม่ - DRAM แบบซ้อนชั้นสามารถลดการใช้พลังงานลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับ HBM - SoftBank ต้องการสิทธิ์ในการจัดหาชิปเหล่านี้เป็นลำดับแรก หากโครงการประสบความสำเร็จ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - โครงการนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ และต้องรอการประเมินความเป็นไปได้ในการผลิตจำนวนมากภายในปี 2027 - HBM ยังคงเป็นมาตรฐานหลักในอุตสาหกรรม AI และต้องติดตามว่า DRAM แบบซ้อนชั้นจะสามารถแข่งขันได้หรือไม่ - ตลาดหน่วยความจำมีการแข่งขันสูง โดยปัจจุบันมีเพียง Samsung, SK hynix และ Micron ที่ผลิต HBM - ญี่ปุ่นพยายามกลับเข้าสู่ตลาดหน่วยความจำหลังจากสูญเสียส่วนแบ่งไปในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา หาก DRAM แบบซ้อนชั้นสามารถลดการใช้พลังงานได้จริง อาจช่วยให้ศูนย์ข้อมูล AI มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดต้นทุนด้านพลังงาน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะตอบสนองต่อเทคโนโลยีใหม่นี้อย่างไร https://www.tomshardware.com/news/live/chip-news
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 Nvidia พัฒนา AI Chip รุ่นใหม่สำหรับตลาดจีน
    หลังจากที่สหรัฐฯ สั่งห้ามส่งออกชิป H20 ไปยังจีน Nvidia กำลังพัฒนา B30 ซึ่งเป็น ชิป AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับข้อจำกัดด้านการส่งออก โดยใช้ สถาปัตยกรรม Blackwell และอาจรองรับ NVLink เพื่อสร้าง คลัสเตอร์ประสิทธิภาพสูง

    B30 เป็น หนึ่งในหลายรุ่นของตระกูล BXX ซึ่งมีการเปลี่ยนชื่อจาก RTX Pro 6000D เป็น B40 และล่าสุดเป็น B30 โดยคาดว่า จะมีหลายเวอร์ชันสำหรับตลาดจีน

    แม้ว่าหลายฝ่ายคาดว่า B30 จะรองรับ NVLink แต่ Nvidia ไม่ได้รวม NVLink ในชิปสำหรับผู้บริโภคตั้งแต่รุ่นก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจใช้ ConnectX-8 SuperNICs ที่มี PCIe 6.0 switches เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อ GPU หลายตัวได้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Nvidia พัฒนา B30 เพื่อให้สอดคล้องกับข้อจำกัดด้านการส่งออกของสหรัฐฯ
    - B30 ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell และอาจรองรับ NVLink หรือ ConnectX-8 SuperNICs
    - ชิปนี้ใช้ GDDR7 และ GB20X silicon ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับ RTX 50 GPUs
    - Nvidia เปิดตัว RTX Pro Blackwell servers ที่ใช้ ConnectX-8 SuperNICs สำหรับการเชื่อมต่อ GPU
    - Jensen Huang ระบุว่า Nvidia จะไม่พัฒนา Hopper-based alternatives สำหรับตลาดจีนอีกต่อไป

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - NVLink อาจไม่ถูกนำมาใช้ใน B30 เนื่องจาก Nvidia ไม่ได้รวมไว้ในชิปสำหรับผู้บริโภค
    - สหรัฐฯ กำหนดข้อจำกัดด้าน memory bandwidth และ interconnect bandwidth เพื่อป้องกันการใช้ชิป AI ในการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทางทหาร
    - AMD รายงานว่าการแบนชิป MI308 อาจทำให้สูญเสียรายได้สูงถึง $800 ล้าน
    - Jensen Huang เตือนว่าสหรัฐฯ อาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน หากจีนพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้

    B30 อาจช่วยให้ Nvidia สามารถรักษาตลาดจีนไว้ได้ แม้จะมีข้อจำกัดด้านการส่งออก อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าจีนจะพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเพื่อแข่งขันกับ Nvidia หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-reportedly-developing-new-ai-chip-for-china-that-meets-export-controls-b30-could-include-nvlink-for-creation-of-high-performance-clusters
    🚀 Nvidia พัฒนา AI Chip รุ่นใหม่สำหรับตลาดจีน หลังจากที่สหรัฐฯ สั่งห้ามส่งออกชิป H20 ไปยังจีน Nvidia กำลังพัฒนา B30 ซึ่งเป็น ชิป AI รุ่นใหม่ที่ออกแบบให้สอดคล้องกับข้อจำกัดด้านการส่งออก โดยใช้ สถาปัตยกรรม Blackwell และอาจรองรับ NVLink เพื่อสร้าง คลัสเตอร์ประสิทธิภาพสูง B30 เป็น หนึ่งในหลายรุ่นของตระกูล BXX ซึ่งมีการเปลี่ยนชื่อจาก RTX Pro 6000D เป็น B40 และล่าสุดเป็น B30 โดยคาดว่า จะมีหลายเวอร์ชันสำหรับตลาดจีน แม้ว่าหลายฝ่ายคาดว่า B30 จะรองรับ NVLink แต่ Nvidia ไม่ได้รวม NVLink ในชิปสำหรับผู้บริโภคตั้งแต่รุ่นก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจใช้ ConnectX-8 SuperNICs ที่มี PCIe 6.0 switches เพื่อให้สามารถเชื่อมต่อ GPU หลายตัวได้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Nvidia พัฒนา B30 เพื่อให้สอดคล้องกับข้อจำกัดด้านการส่งออกของสหรัฐฯ - B30 ใช้สถาปัตยกรรม Blackwell และอาจรองรับ NVLink หรือ ConnectX-8 SuperNICs - ชิปนี้ใช้ GDDR7 และ GB20X silicon ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเดียวกับ RTX 50 GPUs - Nvidia เปิดตัว RTX Pro Blackwell servers ที่ใช้ ConnectX-8 SuperNICs สำหรับการเชื่อมต่อ GPU - Jensen Huang ระบุว่า Nvidia จะไม่พัฒนา Hopper-based alternatives สำหรับตลาดจีนอีกต่อไป ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - NVLink อาจไม่ถูกนำมาใช้ใน B30 เนื่องจาก Nvidia ไม่ได้รวมไว้ในชิปสำหรับผู้บริโภค - สหรัฐฯ กำหนดข้อจำกัดด้าน memory bandwidth และ interconnect bandwidth เพื่อป้องกันการใช้ชิป AI ในการสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ทางทหาร - AMD รายงานว่าการแบนชิป MI308 อาจทำให้สูญเสียรายได้สูงถึง $800 ล้าน - Jensen Huang เตือนว่าสหรัฐฯ อาจสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน หากจีนพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถแข่งขันกับ Nvidia ได้ B30 อาจช่วยให้ Nvidia สามารถรักษาตลาดจีนไว้ได้ แม้จะมีข้อจำกัดด้านการส่งออก อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าจีนจะพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองเพื่อแข่งขันกับ Nvidia หรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-reportedly-developing-new-ai-chip-for-china-that-meets-export-controls-b30-could-include-nvlink-for-creation-of-high-performance-clusters
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 Qualcomm Snapdragon X2 Elite: ชิปใหม่ที่เพิ่มจำนวนคอร์ 50%
    Qualcomm กำลังพัฒนา Snapdragon X2 Elite ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดจาก Snapdragon X Elite โดยมีจำนวนคอร์เพิ่มขึ้น 50% และรองรับ RAM สูงสุด 64GB

    Snapdragon X2 Elite ใช้ สถาปัตยกรรม Oryon V3 และมี 18 คอร์ ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนที่มี 12 คอร์ โดยคาดว่า จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

    นอกจากนี้ Qualcomm กำลัง ทดสอบชิปนี้ในอุปกรณ์ที่มีระบบระบายความร้อนขั้นสูง เช่น หม้อน้ำ 120mm AiO ซึ่งอาจบ่งบอกว่า Snapdragon X2 Elite อาจถูกนำไปใช้ในเดสก์ท็อปหรือเซิร์ฟเวอร์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Snapdragon X2 Elite มี 18 คอร์ เพิ่มขึ้น 50% จากรุ่นก่อน
    - ใช้สถาปัตยกรรม Oryon V3 และรองรับ RAM สูงสุด 64GB
    - Qualcomm กำลังทดสอบชิปนี้ในอุปกรณ์ที่มีระบบระบายความร้อนขั้นสูง
    - อาจมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการใน Snapdragon Summit 2025 เดือนกันยายน
    - Qualcomm อาจพยายามขยายตลาดไปยังเดสก์ท็อปและเซิร์ฟเวอร์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลทางการจาก Qualcomm เกี่ยวกับประสิทธิภาพที่แท้จริงของชิปนี้
    - ต้องติดตามว่าการเพิ่มจำนวนคอร์จะส่งผลต่อการใช้พลังงานและความร้อนอย่างไร
    - AMD และ Intel อาจตอบโต้ด้วยชิปที่มี AI/NPU-enhanced เพื่อแข่งขันในตลาด
    - ต้องรอดูว่าผู้ผลิตอุปกรณ์จะนำ Snapdragon X2 Elite ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนหรือไม่

    Snapdragon X2 Elite อาจช่วยให้ Qualcomm แข่งขันกับ AMD และ Intel ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในตลาด Windows-on-Arm อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าชิปนี้จะสามารถสร้างความแตกต่างได้มากน้อยเพียงใด

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/qualcomm-snapdragon-x2-elite-variant-rumors-surface-new-chip-with-18-cores-and-64gb-ram-is-reportedly-already-in-testing
    🚀 Qualcomm Snapdragon X2 Elite: ชิปใหม่ที่เพิ่มจำนวนคอร์ 50% Qualcomm กำลังพัฒนา Snapdragon X2 Elite ซึ่งเป็นรุ่นอัปเกรดจาก Snapdragon X Elite โดยมีจำนวนคอร์เพิ่มขึ้น 50% และรองรับ RAM สูงสุด 64GB Snapdragon X2 Elite ใช้ สถาปัตยกรรม Oryon V3 และมี 18 คอร์ ซึ่งมากกว่ารุ่นก่อนที่มี 12 คอร์ โดยคาดว่า จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ Qualcomm กำลัง ทดสอบชิปนี้ในอุปกรณ์ที่มีระบบระบายความร้อนขั้นสูง เช่น หม้อน้ำ 120mm AiO ซึ่งอาจบ่งบอกว่า Snapdragon X2 Elite อาจถูกนำไปใช้ในเดสก์ท็อปหรือเซิร์ฟเวอร์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Snapdragon X2 Elite มี 18 คอร์ เพิ่มขึ้น 50% จากรุ่นก่อน - ใช้สถาปัตยกรรม Oryon V3 และรองรับ RAM สูงสุด 64GB - Qualcomm กำลังทดสอบชิปนี้ในอุปกรณ์ที่มีระบบระบายความร้อนขั้นสูง - อาจมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการใน Snapdragon Summit 2025 เดือนกันยายน - Qualcomm อาจพยายามขยายตลาดไปยังเดสก์ท็อปและเซิร์ฟเวอร์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลทางการจาก Qualcomm เกี่ยวกับประสิทธิภาพที่แท้จริงของชิปนี้ - ต้องติดตามว่าการเพิ่มจำนวนคอร์จะส่งผลต่อการใช้พลังงานและความร้อนอย่างไร - AMD และ Intel อาจตอบโต้ด้วยชิปที่มี AI/NPU-enhanced เพื่อแข่งขันในตลาด - ต้องรอดูว่าผู้ผลิตอุปกรณ์จะนำ Snapdragon X2 Elite ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนหรือไม่ Snapdragon X2 Elite อาจช่วยให้ Qualcomm แข่งขันกับ AMD และ Intel ได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในตลาด Windows-on-Arm อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าชิปนี้จะสามารถสร้างความแตกต่างได้มากน้อยเพียงใด https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/qualcomm-snapdragon-x2-elite-variant-rumors-surface-new-chip-with-18-cores-and-64gb-ram-is-reportedly-already-in-testing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌍 Microsoft ปรับนโยบาย Edge ในยุโรป: ผู้ใช้มีอิสระมากขึ้น
    Microsoft ได้ประกาศ ลดการบังคับใช้ Edge ในยุโรป โดยเป็นผลมาจาก Digital Markets Act (DMA) ซึ่งเป็นกฎหมายของสหภาพยุโรปที่มุ่งเน้นให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ใช้มีทางเลือกมากขึ้น

    ก่อนหน้านี้ Microsoft ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้ผู้ใช้ใช้ Edge เช่น ป๊อปอัปแจ้งเตือนหลังอัปเดต, การบล็อกการเปลี่ยนค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์ และการเปิดลิงก์ภายในแอปของ Windows ผ่าน Edge เท่านั้น

    แต่ภายใต้ DMA Microsoft ได้ปรับเปลี่ยนหลายอย่าง เช่น Edge จะไม่แจ้งเตือนให้ตั้งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้เปิด Edge โดยตรง และ Windows Widgets กับ Bing App จะเปิดลิงก์ในเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น

    นอกจากนี้ Windows Search ในยุโรปจะสามารถใช้ผู้ให้บริการค้นหาอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bing และ Microsoft Store จะสามารถถอนการติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft ปรับนโยบาย Edge ในยุโรปตามข้อบังคับของ Digital Markets Act (DMA)
    - Edge จะไม่แจ้งเตือนให้ตั้งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้เปิด Edge โดยตรง
    - Windows Widgets และ Bing App จะเปิดลิงก์ในเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น
    - Windows Search ในยุโรปสามารถใช้ผู้ให้บริการค้นหาอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bing
    - Microsoft Store สามารถถอนการติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลเฉพาะในยุโรป และผู้ใช้ในภูมิภาคอื่นยังคงต้องเผชิญกับข้อจำกัดเดิม
    - แม้จะมีการปรับปรุง แต่ Microsoft ยังคงควบคุมบางส่วนของ Windows Search และ Edge
    - ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดของ Edge อย่างไร
    - Microsoft อาจปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อรักษาผู้ใช้ Edge ในภูมิภาคอื่น ๆ

    การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ผู้ใช้ในยุโรปมีอิสระมากขึ้นในการเลือกเบราว์เซอร์และบริการค้นหา อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้ในภูมิภาคอื่น ๆ จะได้รับการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกันหรือไม่

    https://www.neowin.net/news/microsoft-will-finally-stop-shoving-edge-down-your-throat-on-one-condition/
    🌍 Microsoft ปรับนโยบาย Edge ในยุโรป: ผู้ใช้มีอิสระมากขึ้น Microsoft ได้ประกาศ ลดการบังคับใช้ Edge ในยุโรป โดยเป็นผลมาจาก Digital Markets Act (DMA) ซึ่งเป็นกฎหมายของสหภาพยุโรปที่มุ่งเน้นให้บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ใช้มีทางเลือกมากขึ้น ก่อนหน้านี้ Microsoft ใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อผลักดันให้ผู้ใช้ใช้ Edge เช่น ป๊อปอัปแจ้งเตือนหลังอัปเดต, การบล็อกการเปลี่ยนค่าเริ่มต้นของเบราว์เซอร์ และการเปิดลิงก์ภายในแอปของ Windows ผ่าน Edge เท่านั้น แต่ภายใต้ DMA Microsoft ได้ปรับเปลี่ยนหลายอย่าง เช่น Edge จะไม่แจ้งเตือนให้ตั้งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้เปิด Edge โดยตรง และ Windows Widgets กับ Bing App จะเปิดลิงก์ในเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น นอกจากนี้ Windows Search ในยุโรปจะสามารถใช้ผู้ให้บริการค้นหาอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bing และ Microsoft Store จะสามารถถอนการติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft ปรับนโยบาย Edge ในยุโรปตามข้อบังคับของ Digital Markets Act (DMA) - Edge จะไม่แจ้งเตือนให้ตั้งเป็นเบราว์เซอร์เริ่มต้น เว้นแต่ผู้ใช้เปิด Edge โดยตรง - Windows Widgets และ Bing App จะเปิดลิงก์ในเบราว์เซอร์ที่ผู้ใช้ตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น - Windows Search ในยุโรปสามารถใช้ผู้ให้บริการค้นหาอื่น ๆ นอกเหนือจาก Bing - Microsoft Store สามารถถอนการติดตั้งได้อย่างสมบูรณ์ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลเฉพาะในยุโรป และผู้ใช้ในภูมิภาคอื่นยังคงต้องเผชิญกับข้อจำกัดเดิม - แม้จะมีการปรับปรุง แต่ Microsoft ยังคงควบคุมบางส่วนของ Windows Search และ Edge - ต้องติดตามว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลต่อส่วนแบ่งตลาดของ Edge อย่างไร - Microsoft อาจปรับกลยุทธ์ใหม่เพื่อรักษาผู้ใช้ Edge ในภูมิภาคอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้ ผู้ใช้ในยุโรปมีอิสระมากขึ้นในการเลือกเบราว์เซอร์และบริการค้นหา อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ใช้ในภูมิภาคอื่น ๆ จะได้รับการเปลี่ยนแปลงแบบเดียวกันหรือไม่ https://www.neowin.net/news/microsoft-will-finally-stop-shoving-edge-down-your-throat-on-one-condition/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft will finally stop shoving Edge down your throat, on one condition
    Good news if you're tired of Microsoft's heavy-handed Edge promos. The company is backing off a bit, but of course, there's a catch.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้หญิงไม่อาจชดเชยความมั่นคงในการทำงานที่ผู้ชายสูญเสียไปได้ เพราะความเป็นหญิงทำให้ตำแหน่งงานของเธอไม่มั่นคงในสังคมที่กีดกันทางเพศฝังรากลึกอย่างญี่ปุ่น ประมาณร้อยละ 50 ของผู้หญิงไม่กลับเข้าสู่ตลาดงานอีกหลังจากมีลูกคนแรก” และหากกลับเข้ามาก็จะไม่ได้ รับค่าจ้างที่เป็นธรรม ความแตกต่างของค่าจ้างระหว่างผู้หญิงทำอาชีพเดียวกันในญี่ปุ่นนับว่าสูงที่สุดในโลก เรื่องนี้ญี่ปุ่นแย่ยิ่งกว่าอาเซอร์ไบจานเสียอีก” ครอบครัวของผู้หญิงจะกดดันอย่างมากเพื่อให้พวกเธออยู่บ้าน “ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนอื่นดูแลลูกๆ ขอให้ถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ค่ะ” ผู้หญิงอิสราเอลที่เคยอยู่ญี่ปุ่นมาหลายปี บอกกับผมเธอทำงานที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กเอกชนแห่งหนึ่ง “มีศูนย์รับเลี้ยงเด็กระหว่างวัน ทั้งของเอกชนและของรัฐบาล แต่ความคิดที่จะจ้างพี่เลี้ยงไว้ประจำแทบไม่มีเลย แปลว่าทันทีที่เด็กเกิด(การเป็นแม่) ก็กลายเป็น งานประจำทันที”

    จากหนังสือ #โลกาปฏิวัติ #Revolt
    ผู้หญิงไม่อาจชดเชยความมั่นคงในการทำงานที่ผู้ชายสูญเสียไปได้ เพราะความเป็นหญิงทำให้ตำแหน่งงานของเธอไม่มั่นคงในสังคมที่กีดกันทางเพศฝังรากลึกอย่างญี่ปุ่น ประมาณร้อยละ 50 ของผู้หญิงไม่กลับเข้าสู่ตลาดงานอีกหลังจากมีลูกคนแรก” และหากกลับเข้ามาก็จะไม่ได้ รับค่าจ้างที่เป็นธรรม ความแตกต่างของค่าจ้างระหว่างผู้หญิงทำอาชีพเดียวกันในญี่ปุ่นนับว่าสูงที่สุดในโลก เรื่องนี้ญี่ปุ่นแย่ยิ่งกว่าอาเซอร์ไบจานเสียอีก” ครอบครัวของผู้หญิงจะกดดันอย่างมากเพื่อให้พวกเธออยู่บ้าน “ผู้หญิงญี่ปุ่นไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนอื่นดูแลลูกๆ ขอให้ถือเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ค่ะ” ผู้หญิงอิสราเอลที่เคยอยู่ญี่ปุ่นมาหลายปี บอกกับผมเธอทำงานที่ศูนย์รับเลี้ยงเด็กเอกชนแห่งหนึ่ง “มีศูนย์รับเลี้ยงเด็กระหว่างวัน ทั้งของเอกชนและของรัฐบาล แต่ความคิดที่จะจ้างพี่เลี้ยงไว้ประจำแทบไม่มีเลย แปลว่าทันทีที่เด็กเกิด(การเป็นแม่) ก็กลายเป็น งานประจำทันที” จากหนังสือ #โลกาปฏิวัติ #Revolt
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบงค์ชาติเราสมควรผูกค่าเงินอ้างอิงค่าเงินใหม่,กำหนดทิศทางอ้างอิงราคาสินค้าช่วยเหลือการแลกเปลี่ยนซื้อขายทางธุรกรรมการเงินและการค้าการตลาดที่แท้จริงได้ด้วย,เช่นเมื่อเอาทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์ตังออกมา,ก็สู้สมควรทำสุดซอยใหม่ในยุคนี้คือผูกอ้างอิงการขึ้นลงจริงของราคาทองคำกำหนดเป็นมาตราฐานมูลค่าเงินบาทในตัวด้วยตัดอัตราเงินเฟ้อทิ้งไปเลยได้ด้วย,1บาททองคำจับวันที่ราคาทองคำสูงสุดเป็นราคาฐานเทียบเงินบาทแบบ50,000บาทเงินก็ว่า,หากราคาทองคำขึ้นลง ให้ราคาสินค้าปรับขึ้นลงให้เรียลไทม์แต่ไม่เกินขั้นสูงขั้นต่ำของวันนั้นๆก็ว่า,เช่น ข้าวปกติขายราคาตันละ15,000บาทเงิน,เทียบราคาทองคำฐานคือ50,000บาท,ราคาข้าวในตลาดที่แท้จริงต้องทำการซื้อขายจริงนับจากวันนี้ตลอดไปที่ราคาขึ้นลงอ้างอิงราคาทองคำในแต่ละวันคูณทันที2.34,เท่ากับ35,100บาท เอาไปบวกราคาเดิม15,000บาทคือ50,100บาทเงินต่อข้าว1ตัน.,เงินเดือนคนทำงานทุกๆคนในประเทศไทยจะเอกชนหรือต่างชาติต้องทำเช่นเดียวกันนี้,ทุกๆอย่างที่ตีมูลค่าเป็นเงินบาทยกเว้นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรากับชาติอื่นๆทั่วโลก ให้ทำเหมือนราคาขายข้าว สินค้าอุปโภคบริโภคและบริการตีมูลค่าใหม่ได้ทันที ส่วนใครจะพังจะล้มละลายต้องบริหารภายในกันเองให้ดี ปรับตัวให้ทัน,ก๋วยเตี๋ยวชามละ15บาท ขายทันทีชามละ50.10บาทหรือชามละ50บาทก็ราคาปกติทันที,เราจะทันค่าครองชีพที่แพง แก้อัตราเงินเฟ้อที่ทำลายมูลค่าเงินได้ทันทีด้วย.,ค่าเงินจะอ่อนค่าหรือแข็งค่าขึ้นมิใช่ใครจะเทขายหรือเข้าซื้อเงินบาทปั่นสาระพัดอิสระได้เสรีอีก,ค่าเงินบาทเสมือนอ้างอิงราคาทองคำจริงไปในตัวและสินค้าบริการทั้งประเทศไทยก็อ้างอิงราคาทองคำจริงสากลโลกด้วย.เมื่อเราเกาถูกที่คันก็แก้ไขทุกๆปัญหาได้ทันที,เช่นผีบ้าไทยที่เสือกไปอ้างอิงราคาน้ำมันสิงคโปร์ทั้งที่ประเทศไทยมีบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยมากกว่าอีกแม้ผู้นำผู้ปกครองและข้าราชการไทยจะขายบ่อน้ำมันขายชาติยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติก็ตามจากการให้สัมปทานเกินไปกว่า20ครั้งไปแล้วก็ว่า,ตลอดอ่าวไทยสดๆร้อนๆอีก2แปลงขนาดใหญ่ก็ยกให้คนอื่น,ผู้นำผู้ปกครองไทยชั่งชั่วโง่กากไร้ฝีมือสิ้นดีเสือกอยากเป็นผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจบนแผ่นดินไทย,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เสือกยกความร่ำรวยมั่งคั่งให้คนอื่นมิใช่คนในชาติไทยตนเอง.,กระบวนการปล่อยกู้ก็เอารัดเอาเปรียบประชาชน ทวงหนี้ ยึดสาระพัดขายอะไรต่อมิอะไรของคนกู้ยึดทรัพย์จนครบตังครบดอกเบี้ยครบสาระพัดตังที่คิดตังเอาเปรียบคนกู้,ต่างชาติซื้อรถยึดรถก็จบคดีกัน,ซื้อบ้านยึดบ้านก็จบภาระหนี้กัน,มาดูไทยแมร่งปล่อยเอกชนรังแกคนกู้คนไทยสาระพัด,เราปกครองล้มเหลวจริงๆ.
    แบงค์ชาติเราสมควรผูกค่าเงินอ้างอิงค่าเงินใหม่,กำหนดทิศทางอ้างอิงราคาสินค้าช่วยเหลือการแลกเปลี่ยนซื้อขายทางธุรกรรมการเงินและการค้าการตลาดที่แท้จริงได้ด้วย,เช่นเมื่อเอาทองคำไปค้ำประกันการพิมพ์ตังออกมา,ก็สู้สมควรทำสุดซอยใหม่ในยุคนี้คือผูกอ้างอิงการขึ้นลงจริงของราคาทองคำกำหนดเป็นมาตราฐานมูลค่าเงินบาทในตัวด้วยตัดอัตราเงินเฟ้อทิ้งไปเลยได้ด้วย,1บาททองคำจับวันที่ราคาทองคำสูงสุดเป็นราคาฐานเทียบเงินบาทแบบ50,000บาทเงินก็ว่า,หากราคาทองคำขึ้นลง ให้ราคาสินค้าปรับขึ้นลงให้เรียลไทม์แต่ไม่เกินขั้นสูงขั้นต่ำของวันนั้นๆก็ว่า,เช่น ข้าวปกติขายราคาตันละ15,000บาทเงิน,เทียบราคาทองคำฐานคือ50,000บาท,ราคาข้าวในตลาดที่แท้จริงต้องทำการซื้อขายจริงนับจากวันนี้ตลอดไปที่ราคาขึ้นลงอ้างอิงราคาทองคำในแต่ละวันคูณทันที2.34,เท่ากับ35,100บาท เอาไปบวกราคาเดิม15,000บาทคือ50,100บาทเงินต่อข้าว1ตัน.,เงินเดือนคนทำงานทุกๆคนในประเทศไทยจะเอกชนหรือต่างชาติต้องทำเช่นเดียวกันนี้,ทุกๆอย่างที่ตีมูลค่าเป็นเงินบาทยกเว้นอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรากับชาติอื่นๆทั่วโลก ให้ทำเหมือนราคาขายข้าว สินค้าอุปโภคบริโภคและบริการตีมูลค่าใหม่ได้ทันที ส่วนใครจะพังจะล้มละลายต้องบริหารภายในกันเองให้ดี ปรับตัวให้ทัน,ก๋วยเตี๋ยวชามละ15บาท ขายทันทีชามละ50.10บาทหรือชามละ50บาทก็ราคาปกติทันที,เราจะทันค่าครองชีพที่แพง แก้อัตราเงินเฟ้อที่ทำลายมูลค่าเงินได้ทันทีด้วย.,ค่าเงินจะอ่อนค่าหรือแข็งค่าขึ้นมิใช่ใครจะเทขายหรือเข้าซื้อเงินบาทปั่นสาระพัดอิสระได้เสรีอีก,ค่าเงินบาทเสมือนอ้างอิงราคาทองคำจริงไปในตัวและสินค้าบริการทั้งประเทศไทยก็อ้างอิงราคาทองคำจริงสากลโลกด้วย.เมื่อเราเกาถูกที่คันก็แก้ไขทุกๆปัญหาได้ทันที,เช่นผีบ้าไทยที่เสือกไปอ้างอิงราคาน้ำมันสิงคโปร์ทั้งที่ประเทศไทยมีบ่อน้ำมันบนแผ่นดินไทยมากกว่าอีกแม้ผู้นำผู้ปกครองและข้าราชการไทยจะขายบ่อน้ำมันขายชาติยกบ่อน้ำมันให้ต่างชาติก็ตามจากการให้สัมปทานเกินไปกว่า20ครั้งไปแล้วก็ว่า,ตลอดอ่าวไทยสดๆร้อนๆอีก2แปลงขนาดใหญ่ก็ยกให้คนอื่น,ผู้นำผู้ปกครองไทยชั่งชั่วโง่กากไร้ฝีมือสิ้นดีเสือกอยากเป็นผู้นำผู้ปกครองผู้มีอำนาจบนแผ่นดินไทย,นี้คือวิถีปกครองที่ล้มเหลว เสือกยกความร่ำรวยมั่งคั่งให้คนอื่นมิใช่คนในชาติไทยตนเอง.,กระบวนการปล่อยกู้ก็เอารัดเอาเปรียบประชาชน ทวงหนี้ ยึดสาระพัดขายอะไรต่อมิอะไรของคนกู้ยึดทรัพย์จนครบตังครบดอกเบี้ยครบสาระพัดตังที่คิดตังเอาเปรียบคนกู้,ต่างชาติซื้อรถยึดรถก็จบคดีกัน,ซื้อบ้านยึดบ้านก็จบภาระหนี้กัน,มาดูไทยแมร่งปล่อยเอกชนรังแกคนกู้คนไทยสาระพัด,เราปกครองล้มเหลวจริงๆ.
    พายุลูกใหญ่..ผู้ว่า ธปท.เตือนรับมือภาษีทรัมป์กระทบไทย : คนเคาะข่าว 02-06-68
    : เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
    ผู้ว่าการพบสื่อมวลชน (Meet the Press) ครั้งที่ 1/68 วันที่ 9 พ.ค.2568
    #คนเคาะข่าว #ภาษีทรัมป์ #ผลกระทบเศรษฐกิจไทย #ธปท #เศรษฐพุฒิสุทธิวาทนฤพุฒิ #ธนาคารแห่งประเทศไทย #นโยบายการเงิน #MeetThePress #เศรษฐกิจโลก #ข่าวเศรษฐกิจ #สงครามการค้า #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #thaitimes #การเงินไทย #พายุเศรษฐกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • 🚀 AMD เปิดตัว Ryzen AI Max 385: ตัวเลือกที่เข้าถึงได้มากขึ้นในตระกูล Strix Halo
    AMD กำลังขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ Ryzen AI Max 385 ซึ่งเป็นรุ่นที่มี 8 คอร์ และ 16 เธรด ในตระกูล Strix Halo โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาด แล็ปท็อปและมินิพีซี ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น

    Ryzen AI Max 385 ใช้ สถาปัตยกรรม Zen 5 พร้อม 32 Compute Units ใน Radeon 8050S GPU และ NPU ที่รองรับ 50 TOPS ซึ่งช่วยให้สามารถประมวลผล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    แม้ว่าจะมี ความเร็วสูงสุด 5 GHz ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่นเรือธง Ryzen AI Max+ 395 แต่ผลการทดสอบ Geekbench กลับแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพ ต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยทำคะแนน 2,489 (single-core) และ 14,136 (multi-core) ซึ่งต่ำกว่ารุ่น 395 ที่ทำได้ 2,900-3,000 คะแนน

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Ryzen AI Max 385 มี 8 คอร์ และ 16 เธรด ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5
    - มาพร้อมกับ Radeon 8050S GPU ที่มี 32 Compute Units และ NPU 50 TOPS
    - ความเร็วสูงสุด 5 GHz ใกล้เคียงกับ Ryzen AI Max+ 395
    - ผลทดสอบ Geekbench แสดงคะแนน 2,489 (single-core) และ 14,136 (multi-core)
    - HP ZBook Ultra G1a เป็นหนึ่งในแล็ปท็อปที่ใช้ Ryzen AI Max 385 และมีราคาเริ่มต้นที่ $2,599

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ผลทดสอบ Geekbench อาจไม่สะท้อนประสิทธิภาพจริง เนื่องจากขึ้นอยู่กับการตั้งค่าพลังงานของแล็ปท็อป
    - Ryzen AI Max 385 อาจไม่สามารถแข่งขันกับรุ่นเรือธงในด้านประสิทธิภาพ AI ได้
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำ Ryzen AI Max 385 ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนหรือไม่
    - ราคาของแล็ปท็อปที่ใช้ชิปนี้ยังค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่นในตลาด

    Ryzen AI Max 385 อาจช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องซื้อรุ่นเรือธง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพจริงจะสามารถตอบโจทย์ตลาดได้หรือไม่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/more-affordable-strix-halo-model-emerges-early-ryzen-ai-max-385-geekbench-result-reveals-an-eight-core-option
    🚀 AMD เปิดตัว Ryzen AI Max 385: ตัวเลือกที่เข้าถึงได้มากขึ้นในตระกูล Strix Halo AMD กำลังขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ Ryzen AI Max 385 ซึ่งเป็นรุ่นที่มี 8 คอร์ และ 16 เธรด ในตระกูล Strix Halo โดยมุ่งเน้นไปที่ตลาด แล็ปท็อปและมินิพีซี ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้มากขึ้น Ryzen AI Max 385 ใช้ สถาปัตยกรรม Zen 5 พร้อม 32 Compute Units ใน Radeon 8050S GPU และ NPU ที่รองรับ 50 TOPS ซึ่งช่วยให้สามารถประมวลผล AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมี ความเร็วสูงสุด 5 GHz ซึ่งใกล้เคียงกับรุ่นเรือธง Ryzen AI Max+ 395 แต่ผลการทดสอบ Geekbench กลับแสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพ ต่ำกว่าที่คาดไว้ โดยทำคะแนน 2,489 (single-core) และ 14,136 (multi-core) ซึ่งต่ำกว่ารุ่น 395 ที่ทำได้ 2,900-3,000 คะแนน ✅ ข้อมูลจากข่าว - Ryzen AI Max 385 มี 8 คอร์ และ 16 เธรด ใช้สถาปัตยกรรม Zen 5 - มาพร้อมกับ Radeon 8050S GPU ที่มี 32 Compute Units และ NPU 50 TOPS - ความเร็วสูงสุด 5 GHz ใกล้เคียงกับ Ryzen AI Max+ 395 - ผลทดสอบ Geekbench แสดงคะแนน 2,489 (single-core) และ 14,136 (multi-core) - HP ZBook Ultra G1a เป็นหนึ่งในแล็ปท็อปที่ใช้ Ryzen AI Max 385 และมีราคาเริ่มต้นที่ $2,599 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ผลทดสอบ Geekbench อาจไม่สะท้อนประสิทธิภาพจริง เนื่องจากขึ้นอยู่กับการตั้งค่าพลังงานของแล็ปท็อป - Ryzen AI Max 385 อาจไม่สามารถแข่งขันกับรุ่นเรือธงในด้านประสิทธิภาพ AI ได้ - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะนำ Ryzen AI Max 385 ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตนหรือไม่ - ราคาของแล็ปท็อปที่ใช้ชิปนี้ยังค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับตัวเลือกอื่นในตลาด Ryzen AI Max 385 อาจช่วยให้ ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องซื้อรุ่นเรือธง อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าประสิทธิภาพจริงจะสามารถตอบโจทย์ตลาดได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/more-affordable-strix-halo-model-emerges-early-ryzen-ai-max-385-geekbench-result-reveals-an-eight-core-option
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🏭 Intel และ SoftBank ร่วมมือพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้นเพื่อลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI
    Intel และ SoftBank ได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้น ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่แทน HBM (High-Bandwidth Memory) โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI

    โครงการนี้ดำเนินการโดย Saimemory ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนา ต้นแบบ DRAM แบบซ้อนชั้น โดยใช้เทคโนโลยีของ Intel และสิทธิบัตรจากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น เช่น University of Tokyo

    HBM เป็นหน่วยความจำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายใน AI GPUs แต่มีข้อเสียคือ ต้นทุนสูง, ผลิตยาก และใช้พลังงานมาก ดังนั้น Intel และ SoftBank จึงพยายามพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้น ที่สามารถลดการใช้พลังงานลง ครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับ HBM

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Intel และ SoftBank ร่วมมือกันพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้นเพื่อใช้แทน HBM
    - โครงการดำเนินการโดย Saimemory ซึ่งใช้เทคโนโลยีของ Intel และสิทธิบัตรจากมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น
    - HBM มีข้อเสียเรื่องต้นทุนสูงและใช้พลังงานมาก ทำให้ต้องหาทางเลือกใหม่
    - DRAM แบบซ้อนชั้นสามารถลดการใช้พลังงานลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับ HBM
    - SoftBank ต้องการสิทธิ์ในการจัดหาชิปเหล่านี้เป็นลำดับแรก หากโครงการประสบความสำเร็จ

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - โครงการนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ และต้องรอการประเมินความเป็นไปได้ในการผลิตจำนวนมากภายในปี 2027
    - HBM ยังคงเป็นมาตรฐานหลักในอุตสาหกรรม AI และต้องติดตามว่า DRAM แบบซ้อนชั้นจะสามารถแข่งขันได้หรือไม่
    - ตลาดหน่วยความจำมีการแข่งขันสูง โดยปัจจุบันมีเพียง Samsung, SK hynix และ Micron ที่ผลิต HBM
    - ญี่ปุ่นพยายามกลับเข้าสู่ตลาดหน่วยความจำหลังจากสูญเสียส่วนแบ่งไปในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา

    หาก DRAM แบบซ้อนชั้นสามารถลดการใช้พลังงานได้จริง อาจช่วยให้ศูนย์ข้อมูล AI มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดต้นทุนด้านพลังงาน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะตอบสนองต่อเทคโนโลยีใหม่นี้อย่างไร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/intel-and-softbank-collaborate-on-power-efficient-hbm-substitute-for-ai-data-centers-says-report
    🏭 Intel และ SoftBank ร่วมมือพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้นเพื่อลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI Intel และ SoftBank ได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้น ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่แทน HBM (High-Bandwidth Memory) โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการใช้พลังงานในศูนย์ข้อมูล AI โครงการนี้ดำเนินการโดย Saimemory ซึ่งเป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อพัฒนา ต้นแบบ DRAM แบบซ้อนชั้น โดยใช้เทคโนโลยีของ Intel และสิทธิบัตรจากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น เช่น University of Tokyo HBM เป็นหน่วยความจำที่ใช้กันอย่างแพร่หลายใน AI GPUs แต่มีข้อเสียคือ ต้นทุนสูง, ผลิตยาก และใช้พลังงานมาก ดังนั้น Intel และ SoftBank จึงพยายามพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้น ที่สามารถลดการใช้พลังงานลง ครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับ HBM ✅ ข้อมูลจากข่าว - Intel และ SoftBank ร่วมมือกันพัฒนา DRAM แบบซ้อนชั้นเพื่อใช้แทน HBM - โครงการดำเนินการโดย Saimemory ซึ่งใช้เทคโนโลยีของ Intel และสิทธิบัตรจากมหาวิทยาลัยญี่ปุ่น - HBM มีข้อเสียเรื่องต้นทุนสูงและใช้พลังงานมาก ทำให้ต้องหาทางเลือกใหม่ - DRAM แบบซ้อนชั้นสามารถลดการใช้พลังงานลงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับ HBM - SoftBank ต้องการสิทธิ์ในการจัดหาชิปเหล่านี้เป็นลำดับแรก หากโครงการประสบความสำเร็จ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - โครงการนี้ยังอยู่ในขั้นตอนต้นแบบ และต้องรอการประเมินความเป็นไปได้ในการผลิตจำนวนมากภายในปี 2027 - HBM ยังคงเป็นมาตรฐานหลักในอุตสาหกรรม AI และต้องติดตามว่า DRAM แบบซ้อนชั้นจะสามารถแข่งขันได้หรือไม่ - ตลาดหน่วยความจำมีการแข่งขันสูง โดยปัจจุบันมีเพียง Samsung, SK hynix และ Micron ที่ผลิต HBM - ญี่ปุ่นพยายามกลับเข้าสู่ตลาดหน่วยความจำหลังจากสูญเสียส่วนแบ่งไปในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา หาก DRAM แบบซ้อนชั้นสามารถลดการใช้พลังงานได้จริง อาจช่วยให้ศูนย์ข้อมูล AI มีประสิทธิภาพมากขึ้น และลดต้นทุนด้านพลังงาน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายอื่นจะตอบสนองต่อเทคโนโลยีใหม่นี้อย่างไร https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/intel-and-softbank-collaborate-on-power-efficient-hbm-substitute-for-ai-data-centers-says-report
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเทรดกราฟ EP.1: ศึก H4 – แดงปะทะเขียว
    ณ ดินแดนแห่งกราฟที่มีนามว่า “ตลาดโลก”
    ดินแดนที่เส้นทางแห่งราคาเปลี่ยนแปลงไม่สิ้นสุด
    กลางสนามรบโบราณชื่อว่า “H4”
    การต่อสู้ระหว่างสองขั้วพลังได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง...
    เขาคือ “พุ่งทะยาน” – แท่งเขียวผู้กล้าหาญ
    เกิดจากพลังความหวังของเทรดเดอร์ผู้ศรัทธาในแนวโน้มขาขึ้น
    ถือดาบแห่ง “Buy Momentum” อันเรืองแสง
    พร้อมผ้าคลุมแห่งเทรนด์ไลน์ที่พัดสะบัดด้วยแรงอารมณ์ตลาด
    อีกฝ่ายคือ “ถล่มร่วง” – แท่งแดงจอมโหด
    ถือขวานเพลิงแห่ง “แรงขาย” ที่ลุกโชนด้วยข่าวร้ายและความกลัว
    มันไม่เคยปรานีแม้แต่แท่งเล็ก ๆ
    ทุกครั้งที่มันปรากฏ เส้นแนวรับต่างก็สั่นคลอน
    ทั้งสองเผชิญหน้ากันกลางสมรภูมิ
    พื้นกราฟปูด้วยเส้น EMA และเส้นแนวโน้มที่บิดเบี้ยวจากความผันผวน
    เสียงตะโกนจากเหล่าอินดิเคเตอร์ดังก้อง...
    “RSI เริ่มโอเวอร์บ๊ายแล้ว!”
    “MACD กำลังจะตัดขึ้น!”
    แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าใครจะชนะศึกนี้
    นี่คือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์การต่อสู้
    ระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย
    ระหว่างความหวังและความกลัว
    ณ เวลานี้ H4 คือสมรภูมิที่ไม่มีผู้ใดถอย
    ---
    ในบริบทของการเทรดหรือการวิเคราะห์กราฟ “H4” หมายถึง:
    > 🔹 Timeframe 4 ชั่วโมง (H = Hour, 4 = 4 ชั่วโมง)
    รายละเอียด:
    ในกราฟ H4 แต่ละแท่งเทียน (candlestick) แสดงข้อมูลราคาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 4 ชั่วโมง
    ข้อมูลแต่ละแท่งจะประกอบด้วย:
    ราคาเปิด (Open)
    ราคาปิด (Close)
    ราคาสูงสุด (High)
    ราคาต่ำสุด (Low)
    ใช้ทำอะไร:
    เหมาะสำหรับการวิเคราะห์เทรนด์ระยะ กลาง
    นักเทรดนิยมใช้ H4 เพื่อดูแนวโน้มภาพรวมก่อนจะเข้าเทรดใน timeframe ย่อย (เช่น M15 หรือ H1)
    มักใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ เช่น EMA, MACD, RSI เพื่อดูความแข็งแรงของแนวโน้ม
    ตัวอย่าง:
    ถ้าแท่งเทียน H4 ปิดเป็นแท่งเขียวยาวหลายแท่งติดกัน แสดงว่าในช่วงหลายชั่วโมงล่าสุดมีแรงซื้อชัดเจน
    นิทานเทรดกราฟ EP.1: ศึก H4 – แดงปะทะเขียว ณ ดินแดนแห่งกราฟที่มีนามว่า “ตลาดโลก” ดินแดนที่เส้นทางแห่งราคาเปลี่ยนแปลงไม่สิ้นสุด กลางสนามรบโบราณชื่อว่า “H4” การต่อสู้ระหว่างสองขั้วพลังได้ปะทุขึ้นอีกครั้ง... เขาคือ “พุ่งทะยาน” – แท่งเขียวผู้กล้าหาญ เกิดจากพลังความหวังของเทรดเดอร์ผู้ศรัทธาในแนวโน้มขาขึ้น ถือดาบแห่ง “Buy Momentum” อันเรืองแสง พร้อมผ้าคลุมแห่งเทรนด์ไลน์ที่พัดสะบัดด้วยแรงอารมณ์ตลาด อีกฝ่ายคือ “ถล่มร่วง” – แท่งแดงจอมโหด ถือขวานเพลิงแห่ง “แรงขาย” ที่ลุกโชนด้วยข่าวร้ายและความกลัว มันไม่เคยปรานีแม้แต่แท่งเล็ก ๆ ทุกครั้งที่มันปรากฏ เส้นแนวรับต่างก็สั่นคลอน ทั้งสองเผชิญหน้ากันกลางสมรภูมิ พื้นกราฟปูด้วยเส้น EMA และเส้นแนวโน้มที่บิดเบี้ยวจากความผันผวน เสียงตะโกนจากเหล่าอินดิเคเตอร์ดังก้อง... “RSI เริ่มโอเวอร์บ๊ายแล้ว!” “MACD กำลังจะตัดขึ้น!” แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่าใครจะชนะศึกนี้ นี่คือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์การต่อสู้ ระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย ระหว่างความหวังและความกลัว ณ เวลานี้ H4 คือสมรภูมิที่ไม่มีผู้ใดถอย --- ในบริบทของการเทรดหรือการวิเคราะห์กราฟ “H4” หมายถึง: > 🔹 Timeframe 4 ชั่วโมง (H = Hour, 4 = 4 ชั่วโมง) รายละเอียด: ในกราฟ H4 แต่ละแท่งเทียน (candlestick) แสดงข้อมูลราคาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลา 4 ชั่วโมง ข้อมูลแต่ละแท่งจะประกอบด้วย: ราคาเปิด (Open) ราคาปิด (Close) ราคาสูงสุด (High) ราคาต่ำสุด (Low) ใช้ทำอะไร: เหมาะสำหรับการวิเคราะห์เทรนด์ระยะ กลาง นักเทรดนิยมใช้ H4 เพื่อดูแนวโน้มภาพรวมก่อนจะเข้าเทรดใน timeframe ย่อย (เช่น M15 หรือ H1) มักใช้ร่วมกับอินดิเคเตอร์ เช่น EMA, MACD, RSI เพื่อดูความแข็งแรงของแนวโน้ม ตัวอย่าง: ถ้าแท่งเทียน H4 ปิดเป็นแท่งเขียวยาวหลายแท่งติดกัน แสดงว่าในช่วงหลายชั่วโมงล่าสุดมีแรงซื้อชัดเจน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก,
    ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด.

    https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    ..มนุษย์โง่ลงจริงๆนั้นล่ะ,โง่จากกระบวนการปกครองเพื่อปกครองคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,ใช่กฎหมายปกครองคนโง่สะดวกสบายกว่าคนไม่โง่,ควบคุมคนโง่ง่ายกว่าคนไม่โง่,คนโง่มีลักษณะความเป็นทาสที่เชื่อฟังมากกว่าคนไม่โง่ในสายตาของชนชั้นปกครองแบบรัฐบาลที่ปกครองประเทศนั้นๆ,ปัจจุบันอีลิทdeep stateชั่วเลวได้ควบคุมปกครองผู้นำผู้ปกครองในแต่ละประเทศทั่วโลกแล้ว,จึงเป็นไปเพื่อปกครองมนุษย์ให้โง่แบบเชิงฝูงชนได้ง่าย ไปไหนไปด้วยกันไปทางเดียวกันแบบเหมือนคนโง่เข้าใจว่าตนเองตัดสินใจเองไร้บังคับและเต็มใจทำอย่างชาญฉลาดแล้วก็ว่าแต่หารู้ไม่ว่ามันคือกับดักในกรอบความโง่ขององค์รวมทั้งหมดรอบโลกหรือทั่วโลก,ใครที่หลุดงานฉลาดคิดค้นความฉลาดออกมาสาระพัดจะถูกรัฐบาลประเทศนั้นๆกำจัดทิ้งหรือปิดกั้นหรือสร้างเงื่อนไขกติกามิให้มีบริบทออกสู่สาธารณะเพื่อกระจายความฉลาดสร้งสรรค์ให้ขยายกว้างขวางหรือต่อยอดใดๆได้,จะปล่อยควบคุมให้รู้หรือไม่ให้รู้จากรัฐบาลสแกนก่อนเท่านัันจึงจะให้เผยแผ่ออกสู่สาธารณะได้,หรือสร้างกลไกราคาสิ่งนั้นๆแพงมหาศาลโดยอ้างความคิดสร้างสรรค์นัันทำราคารายได้หาผลประโยชน์แก่มันได้,นี้คือตย.วิถีปกครองควบคุมมนุษย์อีกมุมด้าน ทำโง่ลงแบบไม่รู้ตัวทีละนิดให้สะดวกแก่การปกครอง ใครต่อต้านไม่เห็นด้วยก็เอากฎหมายเขียนดักการกระทำลงโทษกำจัดคนแบบนั้นเนียนๆอย่างชอบธรรมในสายตาคนทั่วไปว่าปกครองตามกติกาซึ่งกติกาต่างๆมันเองตีตราออกมาเพื่อมิให้คนคัดค้านเพื่อมิให้เห็นต่างเพื่อสะดวกต่อการทำคนให้โง่ลงเรื่อยๆได้ดีผ่านกาลเวลาในแต่ละยุคสมัยจนควบคุมเบ็ดเสร็จ,ยิ่งถ้าไทยเราหรือย่อมาไทยหากdeep stateโลกปกครองประเทศไทยหลังฉากจริง เช่นบ่อน้ำมันเต็มประเทศไทยมันก็ยึดครอบครองเอาเองแทนคนไทยหมดบนแผ่นดินไทยที่อ้างว่าต่างชาติมาลงทุนในนามได้สัมปทานแดกจากต่างชาติ นักวิชาการเต็มบ้านเต็มเมืองไม่กล้าออกมาพูดผ่านสื่อหลักไทยสักแอะ,ข้าราชการและสส.เต็มบ้านเต็มเมืองก็ไม่ออกมาประชุมบอกความจริงอะไรแก่ประชาชนว่าคนไทยภูกเอาเปรียบและเสียเปรียบแต่แรก,ปตท.เข้าตลาดหลักทรัพย์กำไรกลับทำกำไรดีขึ้นเสมอ,แต่ประชาชนใช้น้ำมันราคาแพงเสีย สินค้าทั่วประเทศแบะบริการแพงทั่วหน้าพร้อมกันในทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันปรับขึ้นเพื่อทำกำไร,เมื่อผิดพลาดก็ไม่เอาปตท.ออกจากตลาดSETหรือยุบการทำหน้าที่ของปตท.ไปมิให้มีบทบาทใดๆต่อพลังงานไทยเพราะเสมือนเอกชนเต็มตัวไปแล้วในความเป็นจริงเช่นนั้นโรงเรียนหรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆก็เข้าตลาดsetไปหมดแล้ว,ตลาดsetจริงๆคือเอกชนเท่านั้นเข้าไปเล่น,หน่วยงานรัฐทุกๆกรณีห้ามเข้าไปยุ่งเกี่ยวทุกๆกรณี,เพราะในอำนาจหน้าที่ความรับผิดชอบมันส่งผลกระทบต่อภาพรวมของประชาชนทั้งประเทศ,นี้คือวิถีทำประชาชนให้โง่ให้การปกครองทำได้สำเร็จอีกมุม,ทรัพยากรมากมายมีค่าของประเทศไทยด้วยวิถีปกครองที่deep stateสากลโลกข้ามชาติปกครองหลังฉากเรื่อยมาจึงเป็นอันมากถูกผ่องถ่ายทัังความมั่งคั่งร่ำรวยจนมั่นคงจากประชาชนไทยไปเป็นของต่างชาติหรือเอกชนไทยเองที่เลวชั่วหรือเป็นสมุนรับใช้หรือเป็นนอมินีในหมากมุกอีกตัวในวางสนุ๊คสร้างภาพว่ามิใช่ของต่างชาตินะก็ว่า,ตลอดวิถีการออกกฎหมายมากมายเป็นไปเพื่อควบคุมทาสควบคุมให้คนโง่ขึ้น ตัดขาการพึ่งพาตนเอง และทำให้ยากจนยิ่งสะดวกปกครอง,อาทิ ค่าปรับมากๆในกฎหมายจราจรที่คนใช้มากๆง่ายๆวันนี้ปรับ2,000บาททั้งคนขับขี่และคนนั่งมาด้วยหากไม่สวมหมวกกันน็อค,จริงๆมันชีวิตเขา เขาสามารถทำวิถีชีวิตเขาอิสระเสรีได้หมด อยากใส่หรือไม่อยากใส่คือสิทธิ์อธิไปไตยส่วนตัวเขา ความเสี่ยงปัจเจกบุคคลเขา จะเป็นจะตายเขารับทราบรับรู้เองคนใช้มากๆคือกำไรคือผลประโยชน์แน่นอน ค่าไฟฟ้าเอยที่รัฐบาลผ่องถ่ายการผลิตไฟฟ้าหรือรับซื้อไฟฟ้าแพงๆจากเอกชนมาขายให้ครัวเรือนคนไทยแพงๆแทนได้ซึ่งกูรูมากมายออกมาแฉแล้ว ราคาน้ำมันขึ้นเอย การห้ามเผาฟางในนาข้าวอีกควบคุมคนทีละน้อยมิให้รู้ตัว หรือห้ามจับปลาของชาวบ้านในการเลี้ยงปากเลี้ยงท้องเองยิ่งในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจข้าวยากหมากแพงทำมาหากินลำบากเศรษฐกิจทั่วโลกพัง ตังขาดมือ ร่ำรวยหนี้สิน ตังหาลำบาก ทองแพงขึ้น คนตกงานมากมหาศาล โรงงานย้ายฐานการผลิตและปิดตัวในไทยมากมาย ร้านค้าร้านอาหารจำนวนมากปิดตัวลงเรื่อยๆคนตกงานในอัตราเร่งผิดปกติในขณะที่รายได้คนลงลดทันทีแน่นอน จำเป็นต้องพึ่งตนเองและธรรมชาติในอีกมุมมองของปากท้องของชาวบ้านเสือกห้ามพึ่งพาตนเองหากินในแหล่งธรรมชาติ มุกอีลิทปกครองต่อคนโง่จึงสร้างกติกาเนียนๆมากมายจริงๆนะ ลดบทบาทมิให้ผู้คนหากินพึ่งตนเองได้ ยิ่งคนชาวบ้านยากจนยิ่งสะดวกต่อเอาอ้างข้อกฎหมายเขียนกฎหมายออกมาไปบังคับใช้ประชาชน,เก็บเห็ดในป่าสงวนเอยกลัวคนเข้าไปเห็นการกระทำชั่วในป่า,อดีตถ้าพรบ.เมล็ดพันธ์เกิดขึ้นได้จริงประชาชนยิ่งอาจปลูกนั้นนี้กินเองลำบากอาจติดคุกอีกหากเอกชนเล่นงานเหมือนต่างชาติ ฉีกเมล็ดพันธ์เอกชนไว้ทำพันธ์ุปลูกต่อเป็นการผิดกฎหมายละอองเกษรปลิวไปผสมพันธุ์ไร่นาชาวบ้านต่างชาติมันยังฟ้องว่าชาวบ้านผิดได้,นี้เกิดในยุคยึดอำนาจนะถ้าพรบ.นี้ผ่านออกมาได้ ประชาชนประท้วงจึงถอนทิ้ง,พรบ.การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศอีกหรือพรบ.คาร์เครดิตก็ด้วยตัวควบคุมทาสมนุษย์อีกตัว ช่วงหนึ่งแบงค์โปรมาก หมายเอาคาร์บอนเครดิตใช้ร่วมกับการพิจารณาสินเชื่อเงินกู้เลยล่ะและอนาคตพวกมันเครือข่ายเอกชนในหลายๆวงการอุตสาหกรรมพร้อมใจกันร่วมเอาไปใช้เลยล่ะ คุณมีคาร์บอนเครดิตเท่าไรก็ว่า,แทนตังในอนาคตก็ว่าอีก, ..มันคือภัยเนียนๆที่ร้ายกาจมาก มิใช่คนโง่ลงแต่ถูกทำให้โง่ลงผ่านกระบวนการกฎหมาย ,และกฎหมายถูกบรรญัติขึ้นสมมุติขึ้นเพื่อเป็นข้ออ้างในการใช้ควบคุมผู้คนและอ้างว่าใช้บังคับร่วมกัน,จริงๆใช้บังคับคนโง่เพื่อควบคุมผู้คนปกครอง,ปกครองในวิถีปกครองได้ง่ายขึ้นของชนชั้นdeep stateอีลิทและเดอะแก๊งมันทั้งหมด. https://youtube.com/shorts/3ZRqhoMbdV4?si=kuUTM-AlatbhznZ_
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลจีนบรรลุข้อตกลงว่าด้วยกระบวนการรื้อฟื้นการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นอีกครั้ง ในความคืบหน้าสำคัญที่จะนำไปสู่การปลดคำสั่งแบนที่ใช้มานานเกือบ 2 ปี ตามข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นวานนี้ (30 พ.ค.)

    กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นแถลงว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงและสำนักงานศุลกากรของจีน (GACC) ได้บรรลุข้อตกลงระหว่างการประชุมหารือที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ (28) โดยคาดว่าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะสามารถส่งออกไปยังตลาดจีนได้อีกครั้ง “หลังจากที่ฝ่ายจีนดำเนินมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นแล้วเสร็จ”

    ด้าน GACC ระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศ “คืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” หลังจากที่ได้พูดคุยกันอีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผลิตภัณฑ์อาหารทะเลจากญี่ปุ่น

    ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่จีนและญี่ปุ่นต่างพยายามหาทางยุติความตึงเครียดจากกรณีที่โตเกียวตัดสินใจปล่อยน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อปี 2023

    โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุในงานแถลงข่าวว่า ข้อตกลงนี้ “ถือเป็นหมุดหมายที่สำคัญ”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000051111

    #MGROnline #ญี่ปุ่น
    รัฐบาลจีนบรรลุข้อตกลงว่าด้วยกระบวนการรื้อฟื้นการนำเข้าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นอีกครั้ง ในความคืบหน้าสำคัญที่จะนำไปสู่การปลดคำสั่งแบนที่ใช้มานานเกือบ 2 ปี ตามข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นวานนี้ (30 พ.ค.) • กระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของญี่ปุ่นแถลงว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงและสำนักงานศุลกากรของจีน (GACC) ได้บรรลุข้อตกลงระหว่างการประชุมหารือที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพุธ (28) โดยคาดว่าอาหารทะเลจากญี่ปุ่นจะสามารถส่งออกไปยังตลาดจีนได้อีกครั้ง “หลังจากที่ฝ่ายจีนดำเนินมาตรการต่างๆ ที่จำเป็นแล้วเสร็จ” • ด้าน GACC ระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศ “คืบหน้าอย่างมีนัยสำคัญ” หลังจากที่ได้พูดคุยกันอีกครั้งเกี่ยวกับประเด็นเรื่องผลิตภัณฑ์อาหารทะเลจากญี่ปุ่น • ข้อตกลงดังกล่าวมีขึ้น ในขณะที่จีนและญี่ปุ่นต่างพยายามหาทางยุติความตึงเครียดจากกรณีที่โตเกียวตัดสินใจปล่อยน้ำเสียที่ผ่านการบำบัดแล้วจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เมื่อปี 2023 • โยชิมาสะ ฮายาชิ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุในงานแถลงข่าวว่า ข้อตกลงนี้ “ถือเป็นหมุดหมายที่สำคัญ” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000051111 • #MGROnline #ญี่ปุ่น
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญรุ่น1หลวงพ่อคงหลังหลวงพ่อขัน วัดราษฎร์รังสรรค์ จ.กระบี่
    เหรียญรุ่น1หลวงพ่อคงหลังหลวงพ่อขัน วัดราษฎร์รังสรรค์ จ.กระบี่ // พระดีพิธีใหญ๋ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม โชคลาภ ร่ำรวย และคุ้มกันภัยพิบัติอันตรายทั้งปวง >>

    ** วัดราษฎร์รังสรรค์ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย อยู่ในตำบลอ่าวลึกใต้ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ วัดราษฎร์รังสรรค์ เดิมมีชื่อว่า วัดบ้านอ่าวลึกใต้ต้นประดู่ แต่ชาวบ้านเรียกว่า วัดหลาดใต้ (ตลาดใต้) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2456 โดยรองอำมาตย์ตรีลาวัณวุฒิกร (เอียด บุรนันท์) ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2516 นายรังสรรค์ บรรณกิจพีรพล นายอำเภอในขณะนั้น ได้อาราธนาพระครูสุเมธีธรรมประสาท (คง ฐิตธมฺโม) จากวัดในอำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา มาเป็นเจ้าอาวาส รวมถึงได้เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็น "วัดราษฎร์รังสรรค์" >>

    * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญรุ่น1หลวงพ่อคงหลังหลวงพ่อขัน วัดราษฎร์รังสรรค์ จ.กระบี่ เหรียญรุ่น1หลวงพ่อคงหลังหลวงพ่อขัน วัดราษฎร์รังสรรค์ จ.กระบี่ // พระดีพิธีใหญ๋ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณแคล้วคลาดปลอดภัย อยู่ยงคงกระพัน เมตตามหานิยม โชคลาภ ร่ำรวย และคุ้มกันภัยพิบัติอันตรายทั้งปวง >> ** วัดราษฎร์รังสรรค์ เป็นวัดราษฎร์สังกัดคณะสงฆ์ฝ่ายมหานิกาย อยู่ในตำบลอ่าวลึกใต้ อำเภออ่าวลึก จังหวัดกระบี่ วัดราษฎร์รังสรรค์ เดิมมีชื่อว่า วัดบ้านอ่าวลึกใต้ต้นประดู่ แต่ชาวบ้านเรียกว่า วัดหลาดใต้ (ตลาดใต้) สร้างเมื่อ พ.ศ. 2456 โดยรองอำมาตย์ตรีลาวัณวุฒิกร (เอียด บุรนันท์) ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2516 นายรังสรรค์ บรรณกิจพีรพล นายอำเภอในขณะนั้น ได้อาราธนาพระครูสุเมธีธรรมประสาท (คง ฐิตธมฺโม) จากวัดในอำเภอตะกั่วทุ่ง จังหวัดพังงา มาเป็นเจ้าอาวาส รวมถึงได้เปลี่ยนชื่อวัดมาเป็น "วัดราษฎร์รังสรรค์" >> * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 ชิป SM2324 ของ Silicon Motion: ก้าวใหม่ของ SSD ความจุสูง
    Silicon Motion เปิดตัว SM2324 ซึ่งเป็น ชิปควบคุม SSD แบบ USB4 ที่สามารถรองรับความจุสูงสุด 32TB และมีความเร็วในการอ่านข้อมูลถึง 4,000MB/s

    SM2324 ถูกออกแบบมาเพื่อ ลดจำนวนชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิต SSD ทำให้ต้นทุนของผู้ผลิตลดลง และช่วยให้สามารถสร้าง SSD ที่มีขนาดกะทัดรัดขึ้น

    นอกจากนี้ ชิปนี้ยังรองรับ 3D TLC และ QLC NAND รวมถึง Power Delivery 3.1 ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - SM2324 เป็นชิปควบคุม SSD แบบ USB4 ที่รองรับความจุสูงสุด 32TB
    - มีความเร็วในการอ่านข้อมูลถึง 4,000MB/s และเขียนข้อมูลสูงสุด 3,809MB/s
    - รองรับ 3D TLC และ QLC NAND รวมถึง Power Delivery 3.1
    - ใช้กระบวนการผลิต 12nm ของ TSMC เพื่อประหยัดพลังงาน
    - รองรับ Windows, macOS, Linux และ Apple ProRes workflows บน iPhone

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะลดต้นทุนการผลิต แต่ SSD ที่ใช้ SM2324 อาจยังมีราคาสูงสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    - ต้องมีระบบระบายความร้อนที่ดีเพื่อให้ SSD ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
    - ข้อจำกัดด้านพลังงานและการจัดการความร้อนอาจทำให้ SSD ขนาด 32TB ไม่เหมาะกับทุกการใช้งาน
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิต SSD รายใดจะนำ SM2324 ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตน

    SM2324 อาจช่วยให้ตลาด SSD ความจุสูงแบบพกพา เติบโตขึ้น โดยเฉพาะสำหรับ ผู้ใช้ระดับมืออาชีพ เช่น นักสร้างภาพยนตร์และผู้ที่ต้องการสำรองข้อมูลขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตจะสามารถทำให้ SSD ที่ใช้ชิปนี้มีราคาที่เข้าถึงได้หรือไม่

    📢📢 ไม่ต้องพูดมาก ลุงสู้ทุกราคา !! 😅😅

    https://www.techradar.com/pro/superfast-32tb-usb4-external-ssds-are-coming-thanks-to-a-new-chip-but-i-bet-they-wont-be-cheap
    🚀 ชิป SM2324 ของ Silicon Motion: ก้าวใหม่ของ SSD ความจุสูง Silicon Motion เปิดตัว SM2324 ซึ่งเป็น ชิปควบคุม SSD แบบ USB4 ที่สามารถรองรับความจุสูงสุด 32TB และมีความเร็วในการอ่านข้อมูลถึง 4,000MB/s SM2324 ถูกออกแบบมาเพื่อ ลดจำนวนชิ้นส่วนที่ใช้ในการผลิต SSD ทำให้ต้นทุนของผู้ผลิตลดลง และช่วยให้สามารถสร้าง SSD ที่มีขนาดกะทัดรัดขึ้น นอกจากนี้ ชิปนี้ยังรองรับ 3D TLC และ QLC NAND รวมถึง Power Delivery 3.1 ซึ่งช่วยให้สามารถจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ข้อมูลจากข่าว - SM2324 เป็นชิปควบคุม SSD แบบ USB4 ที่รองรับความจุสูงสุด 32TB - มีความเร็วในการอ่านข้อมูลถึง 4,000MB/s และเขียนข้อมูลสูงสุด 3,809MB/s - รองรับ 3D TLC และ QLC NAND รวมถึง Power Delivery 3.1 - ใช้กระบวนการผลิต 12nm ของ TSMC เพื่อประหยัดพลังงาน - รองรับ Windows, macOS, Linux และ Apple ProRes workflows บน iPhone ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะลดต้นทุนการผลิต แต่ SSD ที่ใช้ SM2324 อาจยังมีราคาสูงสำหรับผู้ใช้ทั่วไป - ต้องมีระบบระบายความร้อนที่ดีเพื่อให้ SSD ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ - ข้อจำกัดด้านพลังงานและการจัดการความร้อนอาจทำให้ SSD ขนาด 32TB ไม่เหมาะกับทุกการใช้งาน - ต้องติดตามว่าผู้ผลิต SSD รายใดจะนำ SM2324 ไปใช้ในผลิตภัณฑ์ของตน SM2324 อาจช่วยให้ตลาด SSD ความจุสูงแบบพกพา เติบโตขึ้น โดยเฉพาะสำหรับ ผู้ใช้ระดับมืออาชีพ เช่น นักสร้างภาพยนตร์และผู้ที่ต้องการสำรองข้อมูลขนาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตจะสามารถทำให้ SSD ที่ใช้ชิปนี้มีราคาที่เข้าถึงได้หรือไม่ 📢📢 ไม่ต้องพูดมาก ลุงสู้ทุกราคา !! 😅😅 https://www.techradar.com/pro/superfast-32tb-usb4-external-ssds-are-coming-thanks-to-a-new-chip-but-i-bet-they-wont-be-cheap
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚀 HighPoint RocketStor 8631CW: กล่อง eGPU ที่ให้พลัง RTX 5090 แบบไร้ข้อจำกัด

    HighPoint ได้เปิดตัว RocketStor 8631CW ซึ่งเป็น กล่อง eGPU ที่รองรับ PCIe Gen5 x16 โดยสามารถเชื่อมต่อกับ กราฟิกการ์ดระดับเดสก์ท็อป ผ่านสาย CopprLink CDFP ความยาว 1 เมตร

    RocketStor 8631CW ใช้ Rocket 1634D host interface card ซึ่งมี Broadcom PEX 89048 switch เพื่อรักษาการเชื่อมต่อ Gen5 x16 ที่มี ความเร็วสูงสุด 64GB/s

    ตัวกล่อง รองรับ GPU แบบ dual-slot และ triple-slot จาก Nvidia, AMD และ Intel โดยสามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 600W พร้อมระบบ ระบายความร้อนแบบ dual-fan และ การตรวจสอบพลังงานแบบเรียลไทม์

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - RocketStor 8631CW รองรับ PCIe Gen5 x16 และให้ความเร็วสูงสุด 64GB/s
    - ใช้สาย CopprLink CDFP ความยาว 1 เมตรเพื่อเชื่อมต่อกับ GPU
    - รองรับ GPU จาก Nvidia, AMD และ Intel แบบ dual-slot และ triple-slot
    - สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 600W พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ dual-fan
    - ไม่มีไดรเวอร์หรือซอฟต์แวร์เพิ่มเติม—เสียบแล้วใช้งานได้ทันที

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ราคาสูงถึง $1,999 ซึ่งอาจไม่คุ้มค่าสำหรับผู้ใช้ทั่วไป
    - ต้องมี PCIe slot ในระบบเพื่อใช้งาน Rocket 1634D host interface card
    - อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกและพกพาได้ง่าย
    - ตลาด eGPU กำลังเปลี่ยนแปลง และอาจมีตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าในอนาคต

    RocketStor 8631CW เป็นโซลูชันที่น่าสนใจสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการพลัง GPU ระดับเดสก์ท็อปบนแล็ปท็อป อย่างไรก็ตาม ราคาสูงและข้อจำกัดด้านการเชื่อมต่อ อาจทำให้ผู้ใช้ต้องพิจารณาทางเลือกอื่น

    https://www.techradar.com/pro/want-to-carry-an-nvidia-geforce-rtx-5090-to-your-laptop-heres-an-egpu-chassis-that-should-do-the-trick-and-it-aint-cheap
    🚀 HighPoint RocketStor 8631CW: กล่อง eGPU ที่ให้พลัง RTX 5090 แบบไร้ข้อจำกัด HighPoint ได้เปิดตัว RocketStor 8631CW ซึ่งเป็น กล่อง eGPU ที่รองรับ PCIe Gen5 x16 โดยสามารถเชื่อมต่อกับ กราฟิกการ์ดระดับเดสก์ท็อป ผ่านสาย CopprLink CDFP ความยาว 1 เมตร RocketStor 8631CW ใช้ Rocket 1634D host interface card ซึ่งมี Broadcom PEX 89048 switch เพื่อรักษาการเชื่อมต่อ Gen5 x16 ที่มี ความเร็วสูงสุด 64GB/s ตัวกล่อง รองรับ GPU แบบ dual-slot และ triple-slot จาก Nvidia, AMD และ Intel โดยสามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 600W พร้อมระบบ ระบายความร้อนแบบ dual-fan และ การตรวจสอบพลังงานแบบเรียลไทม์ ✅ ข้อมูลจากข่าว - RocketStor 8631CW รองรับ PCIe Gen5 x16 และให้ความเร็วสูงสุด 64GB/s - ใช้สาย CopprLink CDFP ความยาว 1 เมตรเพื่อเชื่อมต่อกับ GPU - รองรับ GPU จาก Nvidia, AMD และ Intel แบบ dual-slot และ triple-slot - สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 600W พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ dual-fan - ไม่มีไดรเวอร์หรือซอฟต์แวร์เพิ่มเติม—เสียบแล้วใช้งานได้ทันที ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ราคาสูงถึง $1,999 ซึ่งอาจไม่คุ้มค่าสำหรับผู้ใช้ทั่วไป - ต้องมี PCIe slot ในระบบเพื่อใช้งาน Rocket 1634D host interface card - อาจไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความสะดวกและพกพาได้ง่าย - ตลาด eGPU กำลังเปลี่ยนแปลง และอาจมีตัวเลือกที่คุ้มค่ากว่าในอนาคต RocketStor 8631CW เป็นโซลูชันที่น่าสนใจสำหรับ ผู้ใช้ที่ต้องการพลัง GPU ระดับเดสก์ท็อปบนแล็ปท็อป อย่างไรก็ตาม ราคาสูงและข้อจำกัดด้านการเชื่อมต่อ อาจทำให้ผู้ใช้ต้องพิจารณาทางเลือกอื่น https://www.techradar.com/pro/want-to-carry-an-nvidia-geforce-rtx-5090-to-your-laptop-heres-an-egpu-chassis-that-should-do-the-trick-and-it-aint-cheap
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💾 ราคาชิป DRAM พุ่งขึ้น 20% ติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง

    ราคาชิป DRAM และ NAND เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 8GB DDR4 ที่ราคาขยับจาก $1.65 ในเดือนเมษายน เป็น $2.10 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 27%

    การเพิ่มขึ้นของราคาชิป DRAM ส่วนหนึ่งเกิดจาก การกักตุนสินค้าของบริษัทต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจาก ภาษีนำเข้าที่กำหนดโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งให้ ระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้

    นอกจากนี้ Samsung, Micron และ SK hynix ได้ประกาศ ยุติการผลิต DDR4 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจาก ผู้ผลิตจีน เช่น CXMT และ Fujian Jinhua ที่สามารถขาย DDR4 ในราคาถูกกว่าหน่วยความจำที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จากผู้ผลิตรายใหญ่

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ราคาชิป DRAM และ NAND เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 8GB DDR4 ที่เพิ่มขึ้น 27% ในเดือนพฤษภาคม
    - บริษัทต่าง ๆ กักตุนสินค้าก่อนที่ภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้
    - Samsung, Micron และ SK hynix ประกาศยุติการผลิต DDR4
    - CXMT และ Fujian Jinhua ขาย DDR4 ในราคาถูกกว่าผู้ผลิตรายใหญ่
    - การลดลงของอุปทาน DDR4 อาจทำให้ราคาชิปเพิ่มขึ้นต่อไป

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - หากภาษีนำเข้ามีผลบังคับใช้ ราคาชิปอาจเพิ่มขึ้นอีกในไตรมาสถัดไป
    - การยุติการผลิต DDR4 อาจทำให้ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนไปใช้ DDR5 ซึ่งมีราคาสูงกว่า
    - ตลาดหน่วยความจำยังคงมีความไม่แน่นอน และอาจส่งผลต่อราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
    - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตจีนจะสามารถรักษาราคาที่ต่ำได้หรือไม่ในระยะยาว

    การเพิ่มขึ้นของราคาชิป DRAM อาจส่งผลต่อ ราคาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ที่ยังใช้ DDR4 อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะปรับกลยุทธ์อย่างไร เพื่อรับมือกับการแข่งขันจากจีน

    ℹ️ℹ️ ลุงแนะนำว่าใครอยาก Upgrade RAM DDR4 ให้รีบทำในช่วงนี้เลยครับ เพราะข่าวนี้ และยังมีข่าว บ.จีน จะเลิกผลิต DDR4 ในกลางปีหน้าอีกด้วย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/dram-prices-have-jumped-by-20-percent-for-the-second-month-in-a-row-surging-demand-is-likely-due-to-stockpiling
    💾 ราคาชิป DRAM พุ่งขึ้น 20% ติดต่อกันเป็นเดือนที่สอง ราคาชิป DRAM และ NAND เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 8GB DDR4 ที่ราคาขยับจาก $1.65 ในเดือนเมษายน เป็น $2.10 ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 27% การเพิ่มขึ้นของราคาชิป DRAM ส่วนหนึ่งเกิดจาก การกักตุนสินค้าของบริษัทต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจาก ภาษีนำเข้าที่กำหนดโดยอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งให้ ระยะเวลาผ่อนผัน 90 วัน ก่อนที่ภาษีจะมีผลบังคับใช้ นอกจากนี้ Samsung, Micron และ SK hynix ได้ประกาศ ยุติการผลิต DDR4 เนื่องจากการแข่งขันที่รุนแรงจาก ผู้ผลิตจีน เช่น CXMT และ Fujian Jinhua ที่สามารถขาย DDR4 ในราคาถูกกว่าหน่วยความจำที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จากผู้ผลิตรายใหญ่ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ราคาชิป DRAM และ NAND เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ 8GB DDR4 ที่เพิ่มขึ้น 27% ในเดือนพฤษภาคม - บริษัทต่าง ๆ กักตุนสินค้าก่อนที่ภาษีนำเข้าจะมีผลบังคับใช้ - Samsung, Micron และ SK hynix ประกาศยุติการผลิต DDR4 - CXMT และ Fujian Jinhua ขาย DDR4 ในราคาถูกกว่าผู้ผลิตรายใหญ่ - การลดลงของอุปทาน DDR4 อาจทำให้ราคาชิปเพิ่มขึ้นต่อไป ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - หากภาษีนำเข้ามีผลบังคับใช้ ราคาชิปอาจเพิ่มขึ้นอีกในไตรมาสถัดไป - การยุติการผลิต DDR4 อาจทำให้ผู้ใช้ต้องเปลี่ยนไปใช้ DDR5 ซึ่งมีราคาสูงกว่า - ตลาดหน่วยความจำยังคงมีความไม่แน่นอน และอาจส่งผลต่อราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ - ต้องติดตามว่าผู้ผลิตจีนจะสามารถรักษาราคาที่ต่ำได้หรือไม่ในระยะยาว การเพิ่มขึ้นของราคาชิป DRAM อาจส่งผลต่อ ราคาคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะในกลุ่ม ผลิตภัณฑ์ที่ยังใช้ DDR4 อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าผู้ผลิตรายใหญ่จะปรับกลยุทธ์อย่างไร เพื่อรับมือกับการแข่งขันจากจีน ℹ️ℹ️ ลุงแนะนำว่าใครอยาก Upgrade RAM DDR4 ให้รีบทำในช่วงนี้เลยครับ เพราะข่าวนี้ และยังมีข่าว บ.จีน จะเลิกผลิต DDR4 ในกลางปีหน้าอีกด้วย https://www.tomshardware.com/pc-components/dram/dram-prices-have-jumped-by-20-percent-for-the-second-month-in-a-row-surging-demand-is-likely-due-to-stockpiling
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔍 Western Digital เตรียมเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ HAMR ในปี 2027
    Western Digital หนึ่งในผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์รายใหญ่ของโลก ได้ประกาศแผนเปิดตัว ฮาร์ดไดรฟ์ที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ในปี 2027 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความจุของฮาร์ดไดรฟ์ให้สูงขึ้น

    🔬 เทคโนโลยี HAMR และการพัฒนา
    HAMR เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ ความร้อนเพื่อช่วยให้วัสดุบนจานแม่เหล็กสามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ก่อนที่จะเปิดตัว HAMR อย่างเต็มรูปแบบ Western Digital จะยังคงพัฒนา ePMR 2 (energy-assisted Perpendicular Magnetic Recording) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลโดยใช้กระแสไฟฟ้าเพิ่มเติมที่หัวเขียน

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Western Digital จะเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ HAMR ในปี 2027
    - HAMR ใช้ความร้อนเพื่อช่วยให้วัสดุบนจานแม่เหล็กสามารถบันทึกข้อมูลได้แม่นยำขึ้น
    - ก่อนเปิดตัว HAMR บริษัทจะยังคงพัฒนา ePMR 2 เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูล
    - ฮาร์ดไดรฟ์ HAMR รุ่นแรกจะมีความจุ 36TB และ 40TB
    - Western Digital ตั้งเป้าผลิตฮาร์ดไดรฟ์ 100TB ภายในปี 2030

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - HAMR เป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาพัฒนาเพิ่มเติมก่อนเปิดตัว
    - Seagate กำลังนำหน้า Western Digital ในการพัฒนา HAMR และเริ่มทดสอบผลิตภัณฑ์แล้ว
    - SMR (Shingled Magnetic Recording) อาจมีปัญหาด้านประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือเมื่อเทียบกับ CMR (Conventional Magnetic Recording)
    - ต้องติดตามว่า Western Digital จะสามารถแข่งขันกับ Seagate ได้หรือไม่ในตลาดฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูง

    🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมจัดเก็บข้อมูล
    การเปิดตัว HAMR ของ Western Digital อาจช่วยให้ตลาดฮาร์ดไดรฟ์สามารถแข่งขันกับ SSD ที่มีความเร็วสูงขึ้น ได้ โดยเฉพาะในกลุ่ม

    https://www.techspot.com/news/108125-western-digital-plans-hamr-hard-disk-drives-materialize.html
    🔍 Western Digital เตรียมเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ HAMR ในปี 2027 Western Digital หนึ่งในผู้ผลิตฮาร์ดไดรฟ์รายใหญ่ของโลก ได้ประกาศแผนเปิดตัว ฮาร์ดไดรฟ์ที่ใช้เทคโนโลยี Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) ในปี 2027 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเพิ่มความจุของฮาร์ดไดรฟ์ให้สูงขึ้น 🔬 เทคโนโลยี HAMR และการพัฒนา HAMR เป็นเทคโนโลยีที่ใช้ ความร้อนเพื่อช่วยให้วัสดุบนจานแม่เหล็กสามารถบันทึกข้อมูลได้อย่างแม่นยำมากขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก่อนที่จะเปิดตัว HAMR อย่างเต็มรูปแบบ Western Digital จะยังคงพัฒนา ePMR 2 (energy-assisted Perpendicular Magnetic Recording) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูลโดยใช้กระแสไฟฟ้าเพิ่มเติมที่หัวเขียน ✅ ข้อมูลจากข่าว - Western Digital จะเปิดตัวฮาร์ดไดรฟ์ HAMR ในปี 2027 - HAMR ใช้ความร้อนเพื่อช่วยให้วัสดุบนจานแม่เหล็กสามารถบันทึกข้อมูลได้แม่นยำขึ้น - ก่อนเปิดตัว HAMR บริษัทจะยังคงพัฒนา ePMR 2 เพื่อเพิ่มความหนาแน่นของข้อมูล - ฮาร์ดไดรฟ์ HAMR รุ่นแรกจะมีความจุ 36TB และ 40TB - Western Digital ตั้งเป้าผลิตฮาร์ดไดรฟ์ 100TB ภายในปี 2030 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - HAMR เป็นเทคโนโลยีที่ซับซ้อนและต้องใช้เวลาพัฒนาเพิ่มเติมก่อนเปิดตัว - Seagate กำลังนำหน้า Western Digital ในการพัฒนา HAMR และเริ่มทดสอบผลิตภัณฑ์แล้ว - SMR (Shingled Magnetic Recording) อาจมีปัญหาด้านประสิทธิภาพและความน่าเชื่อถือเมื่อเทียบกับ CMR (Conventional Magnetic Recording) - ต้องติดตามว่า Western Digital จะสามารถแข่งขันกับ Seagate ได้หรือไม่ในตลาดฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูง 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมจัดเก็บข้อมูล การเปิดตัว HAMR ของ Western Digital อาจช่วยให้ตลาดฮาร์ดไดรฟ์สามารถแข่งขันกับ SSD ที่มีความเร็วสูงขึ้น ได้ โดยเฉพาะในกลุ่ม https://www.techspot.com/news/108125-western-digital-plans-hamr-hard-disk-drives-materialize.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Western Digital's plans for HAMR hard disk drives will materialize in 2027
    At the recent Computex trade show in Taipei, Western Digital confirmed that its first hard drives based on Heat-Assisted Magnetic Recording (HAMR) technology are scheduled to debut...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎮 GPU รุ่นใหม่ของจีน: ก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี
    Lisuan Technology บริษัทสตาร์ทอัพด้านกราฟิกการ์ดของจีน ประกาศว่า G100 GPU ซึ่งเป็น กราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในประเทศ ได้เปิดใช้งานสำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ

    Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Dongxin Semiconductor ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา G100 ต่อไปได้แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงิน

    G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาเอง แตกต่างจากบริษัทจีนอื่น ๆ ที่มักใช้ IP จาก Imagination Technologies นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - G100 เป็นกราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในจีน
    - Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley
    - G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งพัฒนาเองโดยไม่ใช้ IP จากบริษัทอื่น
    - Dongxin Semiconductor สนับสนุนเงินทุน 27.7 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการต่อไป
    - G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 6nm จาก Samsung หรือ TSMC เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ
    - G100 อาจผลิตโดย SMIC ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตชิประดับโลก
    - ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ G100
    - การพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดความสามารถของ G100 ในตลาด

    🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU
    การเปิดตัว G100 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการผลิตและซอฟต์แวร์ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไขก่อนที่ G100 จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกได้

    https://www.techspot.com/news/108122-china-first-6nm-gpu-boots-up-targets-performance.html
    🎮 GPU รุ่นใหม่ของจีน: ก้าวสำคัญสู่ความเป็นอิสระทางเทคโนโลยี Lisuan Technology บริษัทสตาร์ทอัพด้านกราฟิกการ์ดของจีน ประกาศว่า G100 GPU ซึ่งเป็น กราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในประเทศ ได้เปิดใช้งานสำเร็จ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีภายในประเทศ Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley และได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก Dongxin Semiconductor ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถพัฒนา G100 ต่อไปได้แม้จะเผชิญกับปัญหาทางการเงิน G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่พัฒนาเอง แตกต่างจากบริษัทจีนอื่น ๆ ที่มักใช้ IP จาก Imagination Technologies นอกจากนี้ ยังมีข่าวลือว่า G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060 ✅ ข้อมูลจากข่าว - G100 เป็นกราฟิกการ์ด 6nm ตัวแรกที่ผลิตในจีน - Lisuan Technology ก่อตั้งขึ้นในปี 2021 โดยมีทีมงานที่มีประสบการณ์กว่า 25 ปีใน Silicon Valley - G100 ใช้ TrueGPU architecture ซึ่งพัฒนาเองโดยไม่ใช้ IP จากบริษัทอื่น - Dongxin Semiconductor สนับสนุนเงินทุน 27.7 ล้านเหรียญ เพื่อช่วยให้บริษัทดำเนินการต่อไป - G100 อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ GeForce RTX 4060 ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - จีนไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 6nm จาก Samsung หรือ TSMC เนื่องจากข้อจำกัดการส่งออกของสหรัฐฯ - G100 อาจผลิตโดย SMIC ซึ่งมีข้อจำกัดด้านเทคโนโลยี เมื่อเทียบกับโรงงานผลิตชิประดับโลก - ยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคที่ชัดเจนเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ G100 - การพัฒนาไดรเวอร์และซอฟต์แวร์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะกำหนดความสามารถของ G100 ในตลาด 🚀 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม GPU การเปิดตัว G100 แสดงให้เห็นถึงความพยายามของจีนในการลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ความท้าทายด้านการผลิตและซอฟต์แวร์ ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ต้องแก้ไขก่อนที่ G100 จะสามารถแข่งขันกับแบรนด์ระดับโลกได้ https://www.techspot.com/news/108122-china-first-6nm-gpu-boots-up-targets-performance.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    China's first 6nm GPU boots up, targets performance parity with RTX 4060
    Lisuan was founded in 2021 by a crew of ex-Silicon Valley GPU veterans and is a part of the new wave of Chinese chipmakers like Moore Threads...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 139 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💰 Meliuz เปิดขายหุ้นเพื่อซื้อ Bitcoin
    บริษัทฟินเทค Meliuz จากบราซิลได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin โดยมีการกำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025

    Meliuz เป็นบริษัทที่ให้บริการ แคชแบ็กและโซลูชันทางการเงิน ในบราซิล และการลงทุนใน Bitcoin ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงแนวโน้มของบริษัทฟินเทคที่หันมาใช้ สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงิน

    นอกจากนี้ การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก ซึ่งหมายความว่าบริษัทอาจสามารถระดมทุนได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Meliuz ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin
    - กำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025
    - การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก
    - มูลค่าการเสนอขายหุ้นเริ่มต้นอยู่ที่ 150 ล้านเรียลบราซิล (ประมาณ 26.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)
    - อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 5.6704 เรียลบราซิล

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การลงทุนใน Bitcoin มีความผันผวนสูง และอาจส่งผลต่อมูลค่าของหุ้น Meliuz
    - ต้องติดตามว่าการเสนอขายหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากน้อยเพียงใด
    - ตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในหลายประเทศ
    - Meliuz อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล

    การที่ Meliuz หันมาลงทุนใน Bitcoin อาจเป็นสัญญาณว่า บริษัทฟินเทคในละตินอเมริกากำลังให้ความสนใจสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/brazil039s-meliuz-launches-share-offering-for-bitcoin-purchase
    💰 Meliuz เปิดขายหุ้นเพื่อซื้อ Bitcoin บริษัทฟินเทค Meliuz จากบราซิลได้ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin โดยมีการกำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025 Meliuz เป็นบริษัทที่ให้บริการ แคชแบ็กและโซลูชันทางการเงิน ในบราซิล และการลงทุนใน Bitcoin ครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่สะท้อนถึงแนวโน้มของบริษัทฟินเทคที่หันมาใช้ สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทางการเงิน นอกจากนี้ การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก ซึ่งหมายความว่าบริษัทอาจสามารถระดมทุนได้มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Meliuz ยื่นขอเสนอขายหุ้นเพื่อระดมทุนสำหรับการซื้อ Bitcoin - กำหนดราคาหุ้นในวันที่ 12 มิถุนายน 2025 - การเสนอขายหุ้นครั้งนี้อาจขยายขนาดได้ถึง 200% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในตอนแรก - มูลค่าการเสนอขายหุ้นเริ่มต้นอยู่ที่ 150 ล้านเรียลบราซิล (ประมาณ 26.45 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) - อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุดอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 5.6704 เรียลบราซิล ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การลงทุนใน Bitcoin มีความผันผวนสูง และอาจส่งผลต่อมูลค่าของหุ้น Meliuz - ต้องติดตามว่าการเสนอขายหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนมากน้อยเพียงใด - ตลาดคริปโตยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในหลายประเทศ - Meliuz อาจต้องเผชิญกับความท้าทายในการบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล การที่ Meliuz หันมาลงทุนใน Bitcoin อาจเป็นสัญญาณว่า บริษัทฟินเทคในละตินอเมริกากำลังให้ความสนใจสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น อย่างไรก็ตาม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/brazil039s-meliuz-launches-share-offering-for-bitcoin-purchase
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Brazil's Meliuz launches share offering for bitcoin purchase
    SAO PAULO (Reuters) - Brazilian fintech Meliuz said it has filed for a primary offering of shares with the aim of raising funds for the acquisition of bitcoin, with pricing scheduled for June 12.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔍 อนาคตของการค้นหาข้อมูลท่ามกลางการเติบโตของ AI
    ผู้พิพากษา Amit Mehta ตั้งคำถามต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร ในขณะที่คดีต่อต้านการผูกขาดของ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย

    Mehta กำลังพิจารณาว่า AI ควรถือเป็นเทคโนโลยีที่แข่งขันกับการค้นหาข้อมูล หรือเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดย DOJ ต้องการให้ Google หยุดการจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น

    นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - ผู้พิพากษา Mehta ตั้งคำถามว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร
    - DOJ ต้องการให้ Google หยุดจ่ายเงินให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น
    - Google ได้ยกเลิกข้อตกลงพิเศษกับ Samsung และผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปค้นหาของคู่แข่งได้
    - DOJ เสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งแข่งขันได้
    - OpenAI สนใจซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การบังคับให้ Google แบ่งปันข้อมูลการค้นหาอาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
    - AI อาจไม่สามารถแทนที่เครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด
    - Google อาจใช้ข้อได้เปรียบจากการผูกขาดการค้นหาเพื่อพัฒนา AI ของตนเอง เช่น Gemini
    - ต้องติดตามว่าผู้พิพากษาจะตัดสินอย่างไรในเดือนสิงหาคม

    คดีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดการค้นหาข้อมูล หาก DOJ ประสบความสำเร็จ Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ และเปิดโอกาสให้บริษัท AI เช่น OpenAI และ Perplexity เข้ามาแข่งขัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/google-and-doj-to-make-final-push-in-us-search-antitrust-case
    🔍 อนาคตของการค้นหาข้อมูลท่ามกลางการเติบโตของ AI ผู้พิพากษา Amit Mehta ตั้งคำถามต่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร ในขณะที่คดีต่อต้านการผูกขาดของ Google กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้าย Mehta กำลังพิจารณาว่า AI ควรถือเป็นเทคโนโลยีที่แข่งขันกับการค้นหาข้อมูล หรือเป็นเพียงเครื่องมือที่ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดย DOJ ต้องการให้ Google หยุดการจ่ายเงินหลายพันล้านดอลลาร์ให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น นอกจากนี้ DOJ ยังเสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งสามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม ✅ ข้อมูลจากข่าว - ผู้พิพากษา Mehta ตั้งคำถามว่า AI จะส่งผลต่อการแข่งขันในตลาดการค้นหาข้อมูลอย่างไร - DOJ ต้องการให้ Google หยุดจ่ายเงินให้ Apple และบริษัทอื่น ๆ เพื่อเป็นเครื่องมือค้นหาเริ่มต้น - Google ได้ยกเลิกข้อตกลงพิเศษกับ Samsung และผู้ให้บริการเครือข่าย เพื่อให้สามารถติดตั้งแอปค้นหาของคู่แข่งได้ - DOJ เสนอให้ Google ขาย Chrome และแบ่งปันข้อมูลการค้นหา เพื่อเปิดโอกาสให้คู่แข่งแข่งขันได้ - OpenAI สนใจซื้อ Chrome หาก Google ถูกบังคับให้ขาย ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การบังคับให้ Google แบ่งปันข้อมูลการค้นหาอาจส่งผลต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ - AI อาจไม่สามารถแทนที่เครื่องมือค้นหาแบบดั้งเดิมได้ทั้งหมด - Google อาจใช้ข้อได้เปรียบจากการผูกขาดการค้นหาเพื่อพัฒนา AI ของตนเอง เช่น Gemini - ต้องติดตามว่าผู้พิพากษาจะตัดสินอย่างไรในเดือนสิงหาคม คดีนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับตลาดการค้นหาข้อมูล หาก DOJ ประสบความสำเร็จ Google อาจต้องปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ และเปิดโอกาสให้บริษัท AI เช่น OpenAI และ Perplexity เข้ามาแข่งขัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/30/google-and-doj-to-make-final-push-in-us-search-antitrust-case
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Judge in Google case questions future of search amid rise of AI
    WASHINGTON (Reuters) -A judge asked the U.S. Department of Justice on Friday how much room there would be for new search engines to emerge given the rise of artificial intelligence, as antitrust enforcers press for Alphabet's Google to take dramatic measures to restore competition in online search.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • project 3 ล้อ จ่ายตลาด 🤣
    project 3 ล้อ จ่ายตลาด 🤣
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts