• CXMT เปิดตัว DDR5 ผลิตในประเทศจีน

    ที่งาน China International Semiconductor Expo 2025 CXMT ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ DDR5 และ LPDDR5X ที่พัฒนาขึ้นเอง โดย DDR5 มีความหนาแน่น 16Gb และ 24Gb รองรับการใช้งานทั้งในเซิร์ฟเวอร์, เดสก์ท็อป และโน้ตบุ๊ก ส่วน LPDDR5X มีความหนาแน่น 12Gb และ 16Gb รองรับความจุสูงสุดถึง 32GB เหมาะสำหรับโน้ตบุ๊กและแพลตฟอร์ม AI

    ความเร็วและประสิทธิภาพ
    DDR5: ความเร็วสูงสุด 8000 MT/s

    LPDDR5X: ความเร็วสูงสุด 10,667 MT/s โมดูลเหล่านี้ถูกออกแบบให้รองรับการโอเวอร์คล็อกในชุดเกมมิ่ง เช่น ASGARD ที่นำ DDR5 ของ CXMT ไปใช้ในโมดูล CUDIMM เพื่อผลักดันความเร็วสูงขึ้นอีก

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาด DRAM โลกกำลังขาดแคลนอย่างหนักจากความต้องการด้าน AI ทำให้ราคาพุ่งสูง การที่จีนสามารถผลิต DDR5 ได้เองจะช่วยลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์ต่างชาติอย่าง Samsung, SK hynix และ Micron และสร้างความมั่นคงด้านซัพพลายภายในประเทศ

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    นอกจากจะช่วยเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยีแล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนพร้อมแข่งขันในตลาด DRAM ระดับโลก การเปิดตัว DDR5 และ LPDDR5X ของ CXMT อาจทำให้ผู้ผลิตรายใหญ่ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปิดตัว DDR5 และ LPDDR5X ของ CXMT
    DDR5 ความเร็วสูงสุด 8000 MT/s
    LPDDR5X ความเร็วสูงสุด 10,667 MT/s

    ความหนาแน่นและการใช้งาน
    DDR5: 16Gb และ 24Gb สำหรับเซิร์ฟเวอร์/PC/โน้ตบุ๊ก
    LPDDR5X: 12Gb และ 16Gb รองรับความจุสูงสุด 32GB

    ความหมายเชิงยุทธศาสตร์
    ลดการพึ่งพาผู้ผลิตต่างชาติ
    ตอบสนองความต้องการมหาศาลจากตลาด AI

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    เสริมความมั่นคงด้านซัพพลายของจีน
    กดดันผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ให้ปรับกลยุทธ์

    คำเตือนด้านข้อมูล
    การแข่งขันด้าน DRAM อาจทำให้เกิดสงครามราคาหรือการกีดกันทางการค้า
    ความเข้ากันได้กับระบบนานาชาติยังต้องพิสูจน์ในระยะยาว

    https://wccftech.com/cxmt-debuts-domestically-produced-ddr5-memory-8000-mtps-lpddr5-10667-mtps/
    🏭 CXMT เปิดตัว DDR5 ผลิตในประเทศจีน ที่งาน China International Semiconductor Expo 2025 CXMT ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ DDR5 และ LPDDR5X ที่พัฒนาขึ้นเอง โดย DDR5 มีความหนาแน่น 16Gb และ 24Gb รองรับการใช้งานทั้งในเซิร์ฟเวอร์, เดสก์ท็อป และโน้ตบุ๊ก ส่วน LPDDR5X มีความหนาแน่น 12Gb และ 16Gb รองรับความจุสูงสุดถึง 32GB เหมาะสำหรับโน้ตบุ๊กและแพลตฟอร์ม AI ⚡ ความเร็วและประสิทธิภาพ DDR5: ความเร็วสูงสุด 8000 MT/s LPDDR5X: ความเร็วสูงสุด 10,667 MT/s โมดูลเหล่านี้ถูกออกแบบให้รองรับการโอเวอร์คล็อกในชุดเกมมิ่ง เช่น ASGARD ที่นำ DDR5 ของ CXMT ไปใช้ในโมดูล CUDIMM เพื่อผลักดันความเร็วสูงขึ้นอีก 🌍 ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาด DRAM โลกกำลังขาดแคลนอย่างหนักจากความต้องการด้าน AI ทำให้ราคาพุ่งสูง การที่จีนสามารถผลิต DDR5 ได้เองจะช่วยลดการพึ่งพาซัพพลายเออร์ต่างชาติอย่าง Samsung, SK hynix และ Micron และสร้างความมั่นคงด้านซัพพลายภายในประเทศ 📜 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม นอกจากจะช่วยเสริมความมั่นคงด้านเทคโนโลยีแล้ว ยังเป็นการส่งสัญญาณว่าจีนพร้อมแข่งขันในตลาด DRAM ระดับโลก การเปิดตัว DDR5 และ LPDDR5X ของ CXMT อาจทำให้ผู้ผลิตรายใหญ่ต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปิดตัว DDR5 และ LPDDR5X ของ CXMT ➡️ DDR5 ความเร็วสูงสุด 8000 MT/s ➡️ LPDDR5X ความเร็วสูงสุด 10,667 MT/s ✅ ความหนาแน่นและการใช้งาน ➡️ DDR5: 16Gb และ 24Gb สำหรับเซิร์ฟเวอร์/PC/โน้ตบุ๊ก ➡️ LPDDR5X: 12Gb และ 16Gb รองรับความจุสูงสุด 32GB ✅ ความหมายเชิงยุทธศาสตร์ ➡️ ลดการพึ่งพาผู้ผลิตต่างชาติ ➡️ ตอบสนองความต้องการมหาศาลจากตลาด AI ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ เสริมความมั่นคงด้านซัพพลายของจีน ➡️ กดดันผู้ผลิต DRAM รายใหญ่ให้ปรับกลยุทธ์ ‼️ คำเตือนด้านข้อมูล ⛔ การแข่งขันด้าน DRAM อาจทำให้เกิดสงครามราคาหรือการกีดกันทางการค้า ⛔ ความเข้ากันได้กับระบบนานาชาติยังต้องพิสูจน์ในระยะยาว https://wccftech.com/cxmt-debuts-domestically-produced-ddr5-memory-8000-mtps-lpddr5-10667-mtps/
    WCCFTECH.COM
    CXMT Debuts Its Domestically-Produced DDR5 Memory: 8000 MT/s DDR5 & 10667 MT/s LP5X For Servers, Desktops, & Laptops
    CXMT has unveiled its first-ever DDR5 & LPDDR5X memory products for China, bringing in faster speeds & various options.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ผู้ใช้ Lenovo Legion รวมตัวแชร์เงินแก้บั๊กเสียง

    ผู้ใช้ Lenovo Legion Pro 7 ที่ใช้ Linux รวมตัวกันตั้งบั๊กบาวน์ตี้บน GitHub มูลค่า 2,000 ดอลลาร์ เพื่อแก้ปัญหาเสียงลำโพงที่ผิดปกติ และนักพัฒนาคนหนึ่งสามารถแก้ไขได้ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน

    กลุ่มผู้ใช้ Lenovo Legion Pro 7 (16IAX10H) ที่ใช้ Linux รู้สึกไม่พอใจกับคุณภาพเสียงลำโพงที่ “เบาและอู้อี้” ซึ่งเกิดจากการตรวจจับผิดพลาดของ Realtek ALC3306 codec พวกเขาจึงรวมตัวกันตั้งบั๊กบาวน์ตี้บน GitHub โดยเริ่มต้นจากเงินส่วนตัวของ Nadim Kobeissi จำนวน 500 ดอลลาร์ ก่อนจะมีผู้ร่วมสมทบจนรวมเป็น 2,000 ดอลลาร์

    การแก้ไขที่สำเร็จ
    นักพัฒนาที่ใช้ชื่อว่า Yakov Till (Lepsus) ได้เข้ามารับงานและทำงานแก้ไขกว่า 95% ของโค้ด จนสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ โดยการปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่าง codec และ amplifier ในระบบเสียงของเครื่อง ซึ่งมีทั้ง Tweeters และ Woofers ทำให้เสียงกลับมาทำงานได้อย่างถูกต้อง

    วิธีแก้ไขสำหรับผู้ใช้
    Kobeissi ได้เผยแพร่ คู่มือการติดตั้งแก้ไข สำหรับ Linux kernel เวอร์ชัน 6.17.8 และสัญญาว่าจะอัปเดตให้รองรับเวอร์ชันใหม่ ๆ จนกว่าการแก้ไขจะถูกบรรจุเข้าไปใน kernel อย่างเป็นทางการ ผู้ใช้ที่ทำตามขั้นตอนจะได้เสียงที่ถูกต้องและคงอยู่แม้รีบูตเครื่อง

    ความหมายต่อวงการโอเพนซอร์ส
    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า บั๊กบาวน์ตี้ในระดับชุมชน สามารถเป็นแรงผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่บริษัทใหญ่ไม่สนใจได้ และยังเป็นตัวอย่างของการร่วมมือกันในวงการโอเพนซอร์ส ที่ผู้ใช้สามารถรวมพลังเพื่อแก้ปัญหาที่กระทบกับชีวิตประจำวัน

    สรุปสาระสำคัญ
    ปัญหาลำโพง Lenovo Legion Pro 7 บน Linux
    เกิดจากการตรวจจับผิดพลาดของ Realtek ALC3306 codec
    เสียงลำโพงเบาและผิดเพี้ยน

    การตั้งบั๊กบาวน์ตี้
    เริ่มต้นด้วยเงิน 500 ดอลลาร์จาก Nadim Kobeissi
    รวมยอดเป็น 2,000 ดอลลาร์จากผู้ใช้หลายคน

    การแก้ไขโดย Yakov Till (Lepsus)
    ทำงานแก้ไขกว่า 95% ของโค้ด
    ปรับปรุงการเชื่อมต่อ codec และ amplifier

    คู่มือแก้ไขสำหรับผู้ใช้
    รองรับ Linux kernel 6.17.8 และจะอัปเดตต่อไป
    เสียงทำงานถูกต้องและคงอยู่แม้รีบูตเครื่อง

    คำเตือนด้านข้อมูล
    การแก้ไขด้วยวิธีชุมชนอาจยังไม่เสถียรเท่าการบรรจุใน kernel อย่างเป็นทางการ
    ผู้ใช้ที่ไม่ชำนาญการติดตั้ง Linux kernel อาจเจอความเสี่ยงในการทำตามขั้นตอน

    https://www.tomshardware.com/software/linux/frustrated-users-paid-usd2-000-dollars-to-fix-lenovo-legion-speakers-not-working-properly-error-by-posting-a-bug-bounty-coder-wins-the-cash-by-fixing-complex-audio-annoyance-eliminated-in-just-a-month
    💻 ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ผู้ใช้ Lenovo Legion รวมตัวแชร์เงินแก้บั๊กเสียง ผู้ใช้ Lenovo Legion Pro 7 ที่ใช้ Linux รวมตัวกันตั้งบั๊กบาวน์ตี้บน GitHub มูลค่า 2,000 ดอลลาร์ เพื่อแก้ปัญหาเสียงลำโพงที่ผิดปกติ และนักพัฒนาคนหนึ่งสามารถแก้ไขได้ภายในเวลาเพียงหนึ่งเดือน กลุ่มผู้ใช้ Lenovo Legion Pro 7 (16IAX10H) ที่ใช้ Linux รู้สึกไม่พอใจกับคุณภาพเสียงลำโพงที่ “เบาและอู้อี้” ซึ่งเกิดจากการตรวจจับผิดพลาดของ Realtek ALC3306 codec พวกเขาจึงรวมตัวกันตั้งบั๊กบาวน์ตี้บน GitHub โดยเริ่มต้นจากเงินส่วนตัวของ Nadim Kobeissi จำนวน 500 ดอลลาร์ ก่อนจะมีผู้ร่วมสมทบจนรวมเป็น 2,000 ดอลลาร์ 🛠️ การแก้ไขที่สำเร็จ นักพัฒนาที่ใช้ชื่อว่า Yakov Till (Lepsus) ได้เข้ามารับงานและทำงานแก้ไขกว่า 95% ของโค้ด จนสามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ โดยการปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่าง codec และ amplifier ในระบบเสียงของเครื่อง ซึ่งมีทั้ง Tweeters และ Woofers ทำให้เสียงกลับมาทำงานได้อย่างถูกต้อง 📑 วิธีแก้ไขสำหรับผู้ใช้ Kobeissi ได้เผยแพร่ คู่มือการติดตั้งแก้ไข สำหรับ Linux kernel เวอร์ชัน 6.17.8 และสัญญาว่าจะอัปเดตให้รองรับเวอร์ชันใหม่ ๆ จนกว่าการแก้ไขจะถูกบรรจุเข้าไปใน kernel อย่างเป็นทางการ ผู้ใช้ที่ทำตามขั้นตอนจะได้เสียงที่ถูกต้องและคงอยู่แม้รีบูตเครื่อง 🔮 ความหมายต่อวงการโอเพนซอร์ส เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า บั๊กบาวน์ตี้ในระดับชุมชน สามารถเป็นแรงผลักดันให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่บริษัทใหญ่ไม่สนใจได้ และยังเป็นตัวอย่างของการร่วมมือกันในวงการโอเพนซอร์ส ที่ผู้ใช้สามารถรวมพลังเพื่อแก้ปัญหาที่กระทบกับชีวิตประจำวัน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ปัญหาลำโพง Lenovo Legion Pro 7 บน Linux ➡️ เกิดจากการตรวจจับผิดพลาดของ Realtek ALC3306 codec ➡️ เสียงลำโพงเบาและผิดเพี้ยน ✅ การตั้งบั๊กบาวน์ตี้ ➡️ เริ่มต้นด้วยเงิน 500 ดอลลาร์จาก Nadim Kobeissi ➡️ รวมยอดเป็น 2,000 ดอลลาร์จากผู้ใช้หลายคน ✅ การแก้ไขโดย Yakov Till (Lepsus) ➡️ ทำงานแก้ไขกว่า 95% ของโค้ด ➡️ ปรับปรุงการเชื่อมต่อ codec และ amplifier ✅ คู่มือแก้ไขสำหรับผู้ใช้ ➡️ รองรับ Linux kernel 6.17.8 และจะอัปเดตต่อไป ➡️ เสียงทำงานถูกต้องและคงอยู่แม้รีบูตเครื่อง ‼️ คำเตือนด้านข้อมูล ⛔ การแก้ไขด้วยวิธีชุมชนอาจยังไม่เสถียรเท่าการบรรจุใน kernel อย่างเป็นทางการ ⛔ ผู้ใช้ที่ไม่ชำนาญการติดตั้ง Linux kernel อาจเจอความเสี่ยงในการทำตามขั้นตอน https://www.tomshardware.com/software/linux/frustrated-users-paid-usd2-000-dollars-to-fix-lenovo-legion-speakers-not-working-properly-error-by-posting-a-bug-bounty-coder-wins-the-cash-by-fixing-complex-audio-annoyance-eliminated-in-just-a-month
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 3 – 4

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด”
    ตอน 3
    อ่านมาถึงตรงนี้ คงมีหลายคนท้วงว่า นี่มันก็เรื่องธรรมดาของการล่าอาณานิคม จะนักล่าหน้าเก่า หน้าใหม่ มันก็ทำอย่างนี้ทั้งนั้น จีนจะต้องขมอะไรนานนักหนากับญี่ปุ่น
    งั้นคงต้องเอาเหตุการณ์ที่สะพานมาร์โคโปโล หรือที่ชาวจีน เรียกว่า ฆ่าโหดที่นานกิง Masscre of Nanking มาเล่าสู่กันฟังหน่อย
    ปี ค.ศ.1936 ญี่ปุ่นยังตัดสินใจไม่ตกว่า ควรจะขึ้นเหนือ ไปบุกไซบีเรียของโซเวียต เพื่อไปล่าทรัพยากรมาเพิ่ม เพราะของตนเอง (ที่กว้านมาจากเกาหลี และ แมนจูเรีย) กำลังร่อยหรอลงทุกวันจากการใช้เลี้ยงอุตสาหกรรม เและการเลี้ยงท้องพลเมืองญี่ปุ่น ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าบุกไซบีเรีย พวกตะวันตกอาจจะชื่นชมเราก็ได้นะ ที่ซัดหน้าสตาลินได้ ความคิดของตะวันตก โดยเฉพาะอังกฤษ ครอบงำญี่ปุ่นมานานแล้ว
    ปี ค.ศ.1937 องค์ชาย และองค์หญิง ชิชิบุ Chichibu น้องชายและน้องสะใภ้ของ จักรพรรดิ ฮิโรฮิโต Hirohoto เดินทางไปอังกฤษ เพื่อร่วมพิธีขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์จอร์จที่ 6 เป็นช่วงที่สังคมชั้นสูงของอังกฤษ กำลังโต้เถียงกันว่า ระหว่างเยอรมันกับโซเวียต ใครจะเป็นตัวป่วนความศิวิไลซ์ ของโลกมากกว่ากัน แปลง่ายๆ ใครเลวกว่ากัน น่ะครับ ส่วนใหญ่เห็นว่า ฮิตเลอร์ น่าจะเลวน้อยกว่าสตาลิน พวกขุนนางอังกฤษ บอกว่า ยังไง เงินเก่า ขุนนางเก่า น่าจะดีกว่าพวกบอลเชวิก ที่เผลอๆ อาจจะจับเอาพวกเราไปยืนข้างกำแพง แล้วจัดการเรา เหมือนที่ราชวงศ์โรมานอฟ ของรัสเซียโดนก็ได้นะ
    ฝ่ายอเมริกา ที่นำโดยกลุ่มเศรษฐี เช่น Herbert Hoover และ Lindberg ซึ่งต่างก็เป็นตัวเก็งว่า น่าจะเข้าป้าย ได้เป็นประธานาธิบดีสักสมัย ก็มีแนวคัดค้านลัทธิคอม
    มิวนิสม์ อย่างรุนแรง จึงออกจะเอนไปทางเลือกคบเยอรมัน ส่วนพวกนักการเงินแถววอลสตรีท โดยเฉพาะบรรดาเพื่อนของ นาย Thomas Lamont ยังไม่ลืมเรื่องบอลเชวิก ที่ยกหนี้ให้เยอรมัน( หลังสงครามโลกครั้งที่ 1) แถมไม่ยอมใช้หนี้ที่รัสเซียเป็นหนี้นักการเงินตะวันตก โดยอ้างว่า เป็นหนี้ที่ซาร์ก่อไว้ พวกปฏิวิติไม่รับรู้ เจ้าหนี้นักต้มจากตะวันตกบอก ประหารราชวงศ์ก็เรื่องนึง แต่เรื่องไม่ใช่หนี้ นี่เรื่องใหญ่ (กว่า) พวกนี้ จึงบอกว่าไม่เอาโซเวียตแล้ว
    ที่อังกฤษ ระหว่างการสนทนาของทูตญี่ปุ่นประจำ อังกฤษ นายโยชิดะ Yoshida กับบรรดาขุนนางอังกฤษ นายโยชิดะ บอกว่า น่าเป็นห่วงนะ เชื้อคอม นี่มันแพร่เร็วจริง ตอนนี้กระจายไปถึงแมนจูเรีย ที่กองทัพญี่ปุ่นไปตั้งอยู่แล้วนะ กองทัพญี่ปุ่นทำท่าจะติดเชื้อมาด้วย ทูตช่างเจรจาบอกว่า แต่พวกเราก็ไม่เอาสตาลินนะ และหวังจะเอาความเห็นของอังกฤษ ที่ไม่เอาสตาลิน มาอ้างกับฝ่ายบริหารที่โตเกียวด้วย
    ภาระกิจอย่างหนึ่งขององค์ชายชิชิบุ ในการไปอังกฤษ คือการไปสมานไมตรีระหว่างอังก ฤษกับญี่ปุ่น ที่เคยรักกันจี๊ แต่ตอนหลังๆจี๊หลวมไปหน่อย เลยต้องไปไขให้แน่นขึ้น นอกจากนี้ องค์ชาย ก็ต้องการยืมปากคำอังกฤษ มาใช้อ้างกับฝ่ายทหาร โดยเฉพาะกองทัพที่กวางตุ้ง ให้มุ่งหน้าไปพัฒนาแมนจูเรียกับเกาหลี แต่ถ้าคึกนักทนไม่ไหว ก็ให้เคลื่อนพลขึ้นเหนือไปโน่น ไปรบกับโซเวียตแทน ไม่ใช่ลงใต้มาเอเซีย และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
    แต่ที่โตเกียว อำนาจที่มองไม่เห็น กำลังบีบฝ่ายบริหารของญี่ปุ่น ไม่ให้มุ่งไปเหนือไปรบโซเวียต แต่ให้มุ่งลงใต้แทน โดย ให้กองทัพบุกยึดจีน และอาเซียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ ซึ่งจะทำให้ญี่ปุ่นได้ขยายตลาดการค้าที่มีอยู่ และขยายฐานการผลิตให้กว้างใหญ่ขึ้น และที่สำคัญ จะได้เข้าไป ยึดสมบัติของรัฐ และของชาวบ้าน รวมทั้งทรัพยากรมีค่าที่เปิดอ้ารออยู่แล้วในบรรดาประเทศอาณานิคมของพวกตะวันตก นี่มันเหมือนญี่ปุน แยกเป็น 2 ก๊ก ชัดเจนเชียวนะ
    ด้วยเป้าหมายแบบนี้ กองทัพญี่ปุ่นก็ไม่อยากจะปฏิเสธ เรื่องปล้นเอาสมบัติของพวกตะวันตก ที่อยู่ในเอเซีย มันน่าอร่อยจะตาย
    ในความเป็นจริง อำนาจแท้จริงที่แมนจูเรียอยู่ในกำมือของกองทัพญี่ปุ่นกวันตง หรือ คันโต (Kwangtung)ที่ประจำอยู่ที่แมนจูเรีย และกลุ่มพวกใต้ดิน ซึ่งดูแลโดยนายพลโตโจ Tojo Hideki เขาเป็นหัวหน้าหน่วยตำรวจลับ ที่มีแฟ้มประวัติของนายทหารทุก คน ที่ประจำอยู่ที่นั่น การใช้จ่ายของกองทัพคันโต ที่แมนจเรีย ดูแลจัดการโดยพวกนิสสัน Nissan zaibatzu ที่เพิ่งตั้งขึ้น กองทัพเจาะจงเลือกให้นิสสันมารับงาน เพราะกองทัพมีงานต้องทำมากมาย นาย คิชิ Kishi Nobusuke ผู้ชำนาญการ ถูกเลือกมาทำหน้าที่ดูแล รับผิดชอบ เจ้าของนิสสัน ไม่ใช่ใครอื่น เป็นลุงของ คิชิ นั่นเอง
    นิสสัน ย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ที่แมนจูเรีย และร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาล จากการทำให้กองทัพที่แมนจูเรีย ร่ำรวยอย่างมหาศาล เช่นเดียวกัน เมื่อรวยถึงขนาดนั้น กองทัพที่แมนจูเรียก็แทบจะเป็น เอกเทศ ไม่ต้องพึ่งงบหลวง ไม่มีสนใจเรื่องยศ เรื่องตำแหน่ง เพราะเลื่อนช้ันกันได้เอง และแม้แต่รัฐบาลญี่ปุ่น ก็ไม่กล้ามาออกเสียงดัง กับกองทัพที่แมนจูเรีย และนายพลโตโจ ก็กำลังเตรียมพร้อม ที่จะไปเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเอง
    ทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่มาจากมาจากฝีมือของนาย คิชิ ผู้ซึ่งดูแลจัดการ ธุรกิจของกองทัพ ซึ่งมีตั้งแต่ การถลุงเหล็ก การทำเหมืองถ่านหิน การทำป่าไม้ การปลูกและผลิตฝิ่น ธุรกิจของ กองทัพคันโต มีมูลค่าขณะนั้น ประมาณ 1.1 พันล้านเหรียญ มีทหาร และพลเรือนในความดูแลที่แมนจูเรีย 7 แสนคน ขณะที่โตเกียวต้องรัดเข็มขัด มีการปันส่วน แต่ที่แมนจูเรียอยู่กันอย่างสุขสบาย ของกินของใช้เหลือเฟือ ความสำเร็จของกองทัพคันโตทำให้ญี่ปุ่น ยิ่งเกิดความกระหาย ที่จะยึดสมบัติคนอื่นมากขึ้น ในสายตาของญี่ปุ่น จีน จึงยิ่งน่ายึดกว่าไซบีเรียของโซเวียต
    #############
    ตอน 4

    วันที่ 7 กรกฏาคม ค.ศ.1937 ระหว่างที่ ครอบครัวชิชิบุ กำลังฉอเลาะกับอังกฤษ กองทัพคันโตก็พร้อมที่จะมอบของขวัญ ให้แก่ชาวจีน ที่สะพานมาร์โคโปโล นอกกรุงปักกิ่ง
    ญี่ปุ่นอ้างว่า มีเสียงปืนดังขึ้น ยิงมาใส่ทหารญี่ปุ่น โดยชายไม่ทราบว่าเป็นใคร (รายงานแบบสื่อหัวสีบ้านเราเลย ฮา) ทหารญี่ปุ่นจึงยิงสวนกลับไป ยิงโต้กันไปโต้กันมาอยู่พักใหญ่ หลังจากนั้นก็บานปลาย ญี่ปุ่นบอก ต้องตามจับพวกคนจีนมาให้ได้ กองทัพญี่ปุ่น ประเมินว่าเรื่องนี้ น่าจะจบเร็ว ใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือนก็คงเสร็จญี่ปุ่น เหมือนเมื่อตอนรบในปี ค.ศ.1931
    ทั้ง 2 ฝ่ายยิงสู้รบกันอย่างดุเดือนถึง 3 เดือนจริงๆ เมื่อกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งใช้ ยุทธศาสตร์ การรบ “เผาให้เรียบ ฆ่าให้หมด ขนให้เกลี้ยง” ไล่ล่าพวกจีนไปถึงแม่น้ำแยงซี ข้ามแม่น้ำไปล้อมเมืองนานกิง ก็ได้ข่าวว่า ฝ่ายการทูตของญี่ปุ่นเอง แอบไปเจรจาสงบศึกกับฝ่ายจีนเรียบร้อยแล้ว โดยติดสินบนจะจ่ายเงินก้อนใหญ่ ให้แก่นายพลเจียงไคเช็คของจีน ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้นำพรรคชาติชาตินิยม หรือที่เราคุ้นกันว่า พรรคจีนก๊กมินตั๋ง เจียง พร้อมจะรับเงินแล้วทิ้งนานกิงเลิกรบกัน ฝ่ายทหารญี่ปุ่นรู้เรื่องเข้า ก็ไฟธาตุแตก ใครไปตกลง(วะ) ฝ่ายการทูตกับฝ่ายการทหารของญี่ปุ่น พูดกันเองไม่รู้เรื่อง จักรพรรดิฮิโรฮิโต จึงส่ง องค์ชาย อาซากะ Prince Asaka มาบัญชาการแทน
    อาซากะ เป็นอาเขยของจักรพรรดิ ซึ่งมีชื่อเสียงว่า ทั้งความประพฤติ และอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ในลู่ในทาง และองค์หญิงภรรยา ซึ่งเป็นอาแท้ๆของจักรพรรดิ เพิ่งตายจาก เนื่องจากใช้ชีวิตสังคมทั้งดื่มทั้งเต้นหนัก อาซากะ ก็เลยยิ่งกลับเข้าลู่ยากหน่อย ก็น่าแปลกใจที่จักรพรรดิ ส่งคนอย่างอาซากะไปบัญชาการรบ
    ผู้บัญชาการรบตัวจริง ประจำหน่วยรบที่แยงซี นายพล มัตซุย อิวาเน Matsui Iwane ป่วยเป็นวัณโรคนอนซม ก่อนที่อาซากะจะมาถึงแยงซี เขารู้กิตติศัพท์ของอาซากะดี จึงให้แนวทางการรบเอาไว้ โดยให้กองทัพญี่ปุ่น ยึดแนวอยู่รอบนอกเมืองนานกิง และให้เฉพาะกองพลปืนใหญ่ ที่ควบคุมได้ เข้าไปในเมืองเท่านั้น ห้ามหน่วยรบใด ที่ควบคุมไม่ได้ เข้าไปในเมืองเด็ดขาด และอย่าปฏิบัติการใดที่ผิดกฏหมาย
    ในเวลานั้น ที่เมืองนานกิง เจียงไคเช็ค จอมพลใหญ่ ถอนกองทัพของตัว หายหัวไปหมดแล้ว ชาวนานกิงถูกทิ้งให้ดูแลกันเอง เมื่ออาซากะมาถึง รู้ว่านานกิงถูกล้อม และพร้อมที่จะยอมแพ้ เพราะมีแต่ชาวบ้านเหลืออยู่ แต่อาซากะบอกว่า เราจะให้บทเรียนกับพี่น้องชาวจีน อย่างที่เขาจะไม่มีวันลืม.... We will teach our Chinese brothers a lesson they will never forget…. จีนไม่ลืมจริงๆ และด้วยตราประทับประจำตัว อาซากะ ก็สั่งฆ่าเชลยทั้งหมด … Kill all captives…
    แล้วการชำเรานานกิง หรือ The Rape of Nanking ประวัติศาสตร์ ของการทำร้ายชาวบ้านอย่างโหดเหี้ยมทารุณที่สุด ก็เกิดขึ้นในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ.1937
    ในวันนั้น กองทัพของญี่ปุ่น ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปในเมืองนานกิง ตามติดด้วยขบวนรถถัง ปืนใหญ่ และปืนกล ชาวต่างชาติที่ติดอยู่ในเมืองบอกว่า การยิงใส่ทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้า ของกองทัพญี่ปุ่น ดำเนินติดต่อกันอย่างไม่หยุด ไม่น้อยกว่า 10 วัน มันเหมือนนรกแตก ตลอดเวลานั้น ที่ยิงก็ยิงไป อีกส่วนก็ลากเอาชาวบ้านออกมารวม กัน ผู้หญิงทุกคน ตั้งแต่แก่คราวย่ายาย ถึงเด็กเล็ก ถูกรุมโทรม ซ้ำแล้วซ้ำอีก ต่อหน้าครอบครัว ที่ถูกบังคับให้ยืนดู และให้คนในครอบครัว ทำชำเราให้ดูด้วย ถูกชำเราเสร็จ ไม่ตายเอง ก็ถูกฆ่าทิ้ง คนท้องก็ถูกนำมาชำเราด้วย เมื่อชำเราเสร็จ ก็ผ่าท้องเอาทารก มาฆ่าต่อประมาณว่ามี ผู้หญิงและเด็ก กว่า 2 หมื่นคน บางข่าวว่า ถึง 8 หมื่นคน ถูกรุมโทรม และเสียชีวิต
    ส่วนพวกผู้ชาย ถูกนำมามัดไว้ด้วยกัน บ้างถูกโยนทิ้งน้ำทั้งที่ถูกมัด บ้างถูกไฟเผา และที่เหลือถูกปืนกลยิงกราดจนตาย ยังมีพวกผู้ชายบางส่วน อีกประมาณ 2 หมื่นคน ที่อายุรุ่นเกณท์ ถูกให้ฝึกเดินออกจากค่าย โดยทหารญี่ปุ่นใช้คนเหล่านั้น เป็นเป้าเคลื่อนที่ ทดสอบความแม่นยำ และหลายคนถูกใช้เป็นเป้า ทดสอบการตัดหัว
    เหตุการณ์เช่นนี้ ดำเนินอยู่ถึง 3 เดือน จนอากาศเริ่มร้อน และฝนเริ่มตก ชิ้นส่วนศพเป็นพันๆ ชิ้น ที่ถูกทิ้งไว้โผล่ขี้นเต็มเมือง แม่น้ำแยงซีกลายเป็นแม่น้ำเลือด
    สื่อตะวันตกรายงานเหตุการณ์ที่นานกิง อย่างละเอียด อาซากะ ไม่ใช่นายทหารสามัญ เขาเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้ใหญ่ ที่จักรพรรดิส่งไปบัญชาการเอง อาซากะถูกเรียกให้กลับโตเกียว แต่อาซากะไม่กลับ
    ระหว่างที่เหตุการณ์โหดที่นานกิงดำเนินอยู่ องค์ชายชิชิบุ ยังอยู่ในยุโรป ข่าวของนานกิง ทำให้ชิชิบฉอเลาะต่อไม่ออก ขณะเดียวกัน ทางวอชิงตันประณามญี่ปุ่นอย่างรุนแรง ส่วนนอร์เวย์และสวีเดน ยกเลิกหมายกำหนดการต้อนรับชิชิบุ มีแต่ราชินีวิลเฮลมมินา Willhelmina ของฮอลันดา ที่ยังต้อนรับชิชิบุ ตามหมายกำหนดการเดิม เพราะกองทัพเรือญี่ปุ่นใช้น้ำมันจากบริษัท Dutch East Indies
    จากฮอลันดา ชิชิบุ เดินทางไปนูเรมเบิร์ก เพื่อพบกับ อดอลฟ ฮิตเลอร์ ระหว่างทานอาหารกลางวัน ฮิตเลอร์ด่าสตาลินอย่างสาดเสี ยให้ชิชิบุฟัง แล้วชิชิบุก็เปลี่ยนแผน รีบเดินทางกลับญี่ปุ่น ผ่านอเมริกาโดยไม่แวะ มาขึ้นเรือที่แวนคูเวอร์ ระหว่างทาง เขาได้ยินข่าวว่า ประธานาธิบดี Roosevelt ของอเมริกา ขู่จะคว่ำบาตรญี่ปุ่น ประชาชนอเมริกันสนับสนุนให้ทำ แต่มันยังเป็นแค่คำขู่ เพราะกลุ่มการเงิน Wall Street นำโดย JP Morgan ไม่เห็นด้วย เพราะได้ให้เงินกู้ และลงทุนไปแยะในญี่ปุ่น แมนจูเรีย เกาหลี และไต้หวัน เอะ เรื่องทำท่า จะมาอีหรอบเดิมหรือไง
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    15 ส.ค. 2558
    ไม่ตกสะเก็ด ตอนที่ 3 – 4 นิทานเรื่องจริง เรื่อง “ไม่ตกสะเก็ด” ตอน 3 อ่านมาถึงตรงนี้ คงมีหลายคนท้วงว่า นี่มันก็เรื่องธรรมดาของการล่าอาณานิคม จะนักล่าหน้าเก่า หน้าใหม่ มันก็ทำอย่างนี้ทั้งนั้น จีนจะต้องขมอะไรนานนักหนากับญี่ปุ่น งั้นคงต้องเอาเหตุการณ์ที่สะพานมาร์โคโปโล หรือที่ชาวจีน เรียกว่า ฆ่าโหดที่นานกิง Masscre of Nanking มาเล่าสู่กันฟังหน่อย ปี ค.ศ.1936 ญี่ปุ่นยังตัดสินใจไม่ตกว่า ควรจะขึ้นเหนือ ไปบุกไซบีเรียของโซเวียต เพื่อไปล่าทรัพยากรมาเพิ่ม เพราะของตนเอง (ที่กว้านมาจากเกาหลี และ แมนจูเรีย) กำลังร่อยหรอลงทุกวันจากการใช้เลี้ยงอุตสาหกรรม เและการเลี้ยงท้องพลเมืองญี่ปุ่น ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ถ้าบุกไซบีเรีย พวกตะวันตกอาจจะชื่นชมเราก็ได้นะ ที่ซัดหน้าสตาลินได้ ความคิดของตะวันตก โดยเฉพาะอังกฤษ ครอบงำญี่ปุ่นมานานแล้ว ปี ค.ศ.1937 องค์ชาย และองค์หญิง ชิชิบุ Chichibu น้องชายและน้องสะใภ้ของ จักรพรรดิ ฮิโรฮิโต Hirohoto เดินทางไปอังกฤษ เพื่อร่วมพิธีขึ้นครองราชย์ของกษัตริย์จอร์จที่ 6 เป็นช่วงที่สังคมชั้นสูงของอังกฤษ กำลังโต้เถียงกันว่า ระหว่างเยอรมันกับโซเวียต ใครจะเป็นตัวป่วนความศิวิไลซ์ ของโลกมากกว่ากัน แปลง่ายๆ ใครเลวกว่ากัน น่ะครับ ส่วนใหญ่เห็นว่า ฮิตเลอร์ น่าจะเลวน้อยกว่าสตาลิน พวกขุนนางอังกฤษ บอกว่า ยังไง เงินเก่า ขุนนางเก่า น่าจะดีกว่าพวกบอลเชวิก ที่เผลอๆ อาจจะจับเอาพวกเราไปยืนข้างกำแพง แล้วจัดการเรา เหมือนที่ราชวงศ์โรมานอฟ ของรัสเซียโดนก็ได้นะ ฝ่ายอเมริกา ที่นำโดยกลุ่มเศรษฐี เช่น Herbert Hoover และ Lindberg ซึ่งต่างก็เป็นตัวเก็งว่า น่าจะเข้าป้าย ได้เป็นประธานาธิบดีสักสมัย ก็มีแนวคัดค้านลัทธิคอม มิวนิสม์ อย่างรุนแรง จึงออกจะเอนไปทางเลือกคบเยอรมัน ส่วนพวกนักการเงินแถววอลสตรีท โดยเฉพาะบรรดาเพื่อนของ นาย Thomas Lamont ยังไม่ลืมเรื่องบอลเชวิก ที่ยกหนี้ให้เยอรมัน( หลังสงครามโลกครั้งที่ 1) แถมไม่ยอมใช้หนี้ที่รัสเซียเป็นหนี้นักการเงินตะวันตก โดยอ้างว่า เป็นหนี้ที่ซาร์ก่อไว้ พวกปฏิวิติไม่รับรู้ เจ้าหนี้นักต้มจากตะวันตกบอก ประหารราชวงศ์ก็เรื่องนึง แต่เรื่องไม่ใช่หนี้ นี่เรื่องใหญ่ (กว่า) พวกนี้ จึงบอกว่าไม่เอาโซเวียตแล้ว ที่อังกฤษ ระหว่างการสนทนาของทูตญี่ปุ่นประจำ อังกฤษ นายโยชิดะ Yoshida กับบรรดาขุนนางอังกฤษ นายโยชิดะ บอกว่า น่าเป็นห่วงนะ เชื้อคอม นี่มันแพร่เร็วจริง ตอนนี้กระจายไปถึงแมนจูเรีย ที่กองทัพญี่ปุ่นไปตั้งอยู่แล้วนะ กองทัพญี่ปุ่นทำท่าจะติดเชื้อมาด้วย ทูตช่างเจรจาบอกว่า แต่พวกเราก็ไม่เอาสตาลินนะ และหวังจะเอาความเห็นของอังกฤษ ที่ไม่เอาสตาลิน มาอ้างกับฝ่ายบริหารที่โตเกียวด้วย ภาระกิจอย่างหนึ่งขององค์ชายชิชิบุ ในการไปอังกฤษ คือการไปสมานไมตรีระหว่างอังก ฤษกับญี่ปุ่น ที่เคยรักกันจี๊ แต่ตอนหลังๆจี๊หลวมไปหน่อย เลยต้องไปไขให้แน่นขึ้น นอกจากนี้ องค์ชาย ก็ต้องการยืมปากคำอังกฤษ มาใช้อ้างกับฝ่ายทหาร โดยเฉพาะกองทัพที่กวางตุ้ง ให้มุ่งหน้าไปพัฒนาแมนจูเรียกับเกาหลี แต่ถ้าคึกนักทนไม่ไหว ก็ให้เคลื่อนพลขึ้นเหนือไปโน่น ไปรบกับโซเวียตแทน ไม่ใช่ลงใต้มาเอเซีย และเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ที่โตเกียว อำนาจที่มองไม่เห็น กำลังบีบฝ่ายบริหารของญี่ปุ่น ไม่ให้มุ่งไปเหนือไปรบโซเวียต แต่ให้มุ่งลงใต้แทน โดย ให้กองทัพบุกยึดจีน และอาเซียตะวันออกเฉียงใต้ให้ได้ ซึ่งจะทำให้ญี่ปุ่นได้ขยายตลาดการค้าที่มีอยู่ และขยายฐานการผลิตให้กว้างใหญ่ขึ้น และที่สำคัญ จะได้เข้าไป ยึดสมบัติของรัฐ และของชาวบ้าน รวมทั้งทรัพยากรมีค่าที่เปิดอ้ารออยู่แล้วในบรรดาประเทศอาณานิคมของพวกตะวันตก นี่มันเหมือนญี่ปุน แยกเป็น 2 ก๊ก ชัดเจนเชียวนะ ด้วยเป้าหมายแบบนี้ กองทัพญี่ปุ่นก็ไม่อยากจะปฏิเสธ เรื่องปล้นเอาสมบัติของพวกตะวันตก ที่อยู่ในเอเซีย มันน่าอร่อยจะตาย ในความเป็นจริง อำนาจแท้จริงที่แมนจูเรียอยู่ในกำมือของกองทัพญี่ปุ่นกวันตง หรือ คันโต (Kwangtung)ที่ประจำอยู่ที่แมนจูเรีย และกลุ่มพวกใต้ดิน ซึ่งดูแลโดยนายพลโตโจ Tojo Hideki เขาเป็นหัวหน้าหน่วยตำรวจลับ ที่มีแฟ้มประวัติของนายทหารทุก คน ที่ประจำอยู่ที่นั่น การใช้จ่ายของกองทัพคันโต ที่แมนจเรีย ดูแลจัดการโดยพวกนิสสัน Nissan zaibatzu ที่เพิ่งตั้งขึ้น กองทัพเจาะจงเลือกให้นิสสันมารับงาน เพราะกองทัพมีงานต้องทำมากมาย นาย คิชิ Kishi Nobusuke ผู้ชำนาญการ ถูกเลือกมาทำหน้าที่ดูแล รับผิดชอบ เจ้าของนิสสัน ไม่ใช่ใครอื่น เป็นลุงของ คิชิ นั่นเอง นิสสัน ย้ายสำนักงานใหญ่มาอยู่ที่แมนจูเรีย และร่ำรวยขึ้นอย่างมหาศาล จากการทำให้กองทัพที่แมนจูเรีย ร่ำรวยอย่างมหาศาล เช่นเดียวกัน เมื่อรวยถึงขนาดนั้น กองทัพที่แมนจูเรียก็แทบจะเป็น เอกเทศ ไม่ต้องพึ่งงบหลวง ไม่มีสนใจเรื่องยศ เรื่องตำแหน่ง เพราะเลื่อนช้ันกันได้เอง และแม้แต่รัฐบาลญี่ปุ่น ก็ไม่กล้ามาออกเสียงดัง กับกองทัพที่แมนจูเรีย และนายพลโตโจ ก็กำลังเตรียมพร้อม ที่จะไปเป็นนายกรัฐมนตรีเสียเอง ทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่มาจากมาจากฝีมือของนาย คิชิ ผู้ซึ่งดูแลจัดการ ธุรกิจของกองทัพ ซึ่งมีตั้งแต่ การถลุงเหล็ก การทำเหมืองถ่านหิน การทำป่าไม้ การปลูกและผลิตฝิ่น ธุรกิจของ กองทัพคันโต มีมูลค่าขณะนั้น ประมาณ 1.1 พันล้านเหรียญ มีทหาร และพลเรือนในความดูแลที่แมนจูเรีย 7 แสนคน ขณะที่โตเกียวต้องรัดเข็มขัด มีการปันส่วน แต่ที่แมนจูเรียอยู่กันอย่างสุขสบาย ของกินของใช้เหลือเฟือ ความสำเร็จของกองทัพคันโตทำให้ญี่ปุ่น ยิ่งเกิดความกระหาย ที่จะยึดสมบัติคนอื่นมากขึ้น ในสายตาของญี่ปุ่น จีน จึงยิ่งน่ายึดกว่าไซบีเรียของโซเวียต ############# ตอน 4 วันที่ 7 กรกฏาคม ค.ศ.1937 ระหว่างที่ ครอบครัวชิชิบุ กำลังฉอเลาะกับอังกฤษ กองทัพคันโตก็พร้อมที่จะมอบของขวัญ ให้แก่ชาวจีน ที่สะพานมาร์โคโปโล นอกกรุงปักกิ่ง ญี่ปุ่นอ้างว่า มีเสียงปืนดังขึ้น ยิงมาใส่ทหารญี่ปุ่น โดยชายไม่ทราบว่าเป็นใคร (รายงานแบบสื่อหัวสีบ้านเราเลย ฮา) ทหารญี่ปุ่นจึงยิงสวนกลับไป ยิงโต้กันไปโต้กันมาอยู่พักใหญ่ หลังจากนั้นก็บานปลาย ญี่ปุ่นบอก ต้องตามจับพวกคนจีนมาให้ได้ กองทัพญี่ปุ่น ประเมินว่าเรื่องนี้ น่าจะจบเร็ว ใช้เวลาไม่เกิน 3 เดือนก็คงเสร็จญี่ปุ่น เหมือนเมื่อตอนรบในปี ค.ศ.1931 ทั้ง 2 ฝ่ายยิงสู้รบกันอย่างดุเดือนถึง 3 เดือนจริงๆ เมื่อกองทัพญี่ปุ่น ซึ่งใช้ ยุทธศาสตร์ การรบ “เผาให้เรียบ ฆ่าให้หมด ขนให้เกลี้ยง” ไล่ล่าพวกจีนไปถึงแม่น้ำแยงซี ข้ามแม่น้ำไปล้อมเมืองนานกิง ก็ได้ข่าวว่า ฝ่ายการทูตของญี่ปุ่นเอง แอบไปเจรจาสงบศึกกับฝ่ายจีนเรียบร้อยแล้ว โดยติดสินบนจะจ่ายเงินก้อนใหญ่ ให้แก่นายพลเจียงไคเช็คของจีน ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้นำพรรคชาติชาตินิยม หรือที่เราคุ้นกันว่า พรรคจีนก๊กมินตั๋ง เจียง พร้อมจะรับเงินแล้วทิ้งนานกิงเลิกรบกัน ฝ่ายทหารญี่ปุ่นรู้เรื่องเข้า ก็ไฟธาตุแตก ใครไปตกลง(วะ) ฝ่ายการทูตกับฝ่ายการทหารของญี่ปุ่น พูดกันเองไม่รู้เรื่อง จักรพรรดิฮิโรฮิโต จึงส่ง องค์ชาย อาซากะ Prince Asaka มาบัญชาการแทน อาซากะ เป็นอาเขยของจักรพรรดิ ซึ่งมีชื่อเสียงว่า ทั้งความประพฤติ และอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ในลู่ในทาง และองค์หญิงภรรยา ซึ่งเป็นอาแท้ๆของจักรพรรดิ เพิ่งตายจาก เนื่องจากใช้ชีวิตสังคมทั้งดื่มทั้งเต้นหนัก อาซากะ ก็เลยยิ่งกลับเข้าลู่ยากหน่อย ก็น่าแปลกใจที่จักรพรรดิ ส่งคนอย่างอาซากะไปบัญชาการรบ ผู้บัญชาการรบตัวจริง ประจำหน่วยรบที่แยงซี นายพล มัตซุย อิวาเน Matsui Iwane ป่วยเป็นวัณโรคนอนซม ก่อนที่อาซากะจะมาถึงแยงซี เขารู้กิตติศัพท์ของอาซากะดี จึงให้แนวทางการรบเอาไว้ โดยให้กองทัพญี่ปุ่น ยึดแนวอยู่รอบนอกเมืองนานกิง และให้เฉพาะกองพลปืนใหญ่ ที่ควบคุมได้ เข้าไปในเมืองเท่านั้น ห้ามหน่วยรบใด ที่ควบคุมไม่ได้ เข้าไปในเมืองเด็ดขาด และอย่าปฏิบัติการใดที่ผิดกฏหมาย ในเวลานั้น ที่เมืองนานกิง เจียงไคเช็ค จอมพลใหญ่ ถอนกองทัพของตัว หายหัวไปหมดแล้ว ชาวนานกิงถูกทิ้งให้ดูแลกันเอง เมื่ออาซากะมาถึง รู้ว่านานกิงถูกล้อม และพร้อมที่จะยอมแพ้ เพราะมีแต่ชาวบ้านเหลืออยู่ แต่อาซากะบอกว่า เราจะให้บทเรียนกับพี่น้องชาวจีน อย่างที่เขาจะไม่มีวันลืม.... We will teach our Chinese brothers a lesson they will never forget…. จีนไม่ลืมจริงๆ และด้วยตราประทับประจำตัว อาซากะ ก็สั่งฆ่าเชลยทั้งหมด … Kill all captives… แล้วการชำเรานานกิง หรือ The Rape of Nanking ประวัติศาสตร์ ของการทำร้ายชาวบ้านอย่างโหดเหี้ยมทารุณที่สุด ก็เกิดขึ้นในวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ.1937 ในวันนั้น กองทัพของญี่ปุ่น ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปในเมืองนานกิง ตามติดด้วยขบวนรถถัง ปืนใหญ่ และปืนกล ชาวต่างชาติที่ติดอยู่ในเมืองบอกว่า การยิงใส่ทุกอย่างที่อยู่ข้างหน้า ของกองทัพญี่ปุ่น ดำเนินติดต่อกันอย่างไม่หยุด ไม่น้อยกว่า 10 วัน มันเหมือนนรกแตก ตลอดเวลานั้น ที่ยิงก็ยิงไป อีกส่วนก็ลากเอาชาวบ้านออกมารวม กัน ผู้หญิงทุกคน ตั้งแต่แก่คราวย่ายาย ถึงเด็กเล็ก ถูกรุมโทรม ซ้ำแล้วซ้ำอีก ต่อหน้าครอบครัว ที่ถูกบังคับให้ยืนดู และให้คนในครอบครัว ทำชำเราให้ดูด้วย ถูกชำเราเสร็จ ไม่ตายเอง ก็ถูกฆ่าทิ้ง คนท้องก็ถูกนำมาชำเราด้วย เมื่อชำเราเสร็จ ก็ผ่าท้องเอาทารก มาฆ่าต่อประมาณว่ามี ผู้หญิงและเด็ก กว่า 2 หมื่นคน บางข่าวว่า ถึง 8 หมื่นคน ถูกรุมโทรม และเสียชีวิต ส่วนพวกผู้ชาย ถูกนำมามัดไว้ด้วยกัน บ้างถูกโยนทิ้งน้ำทั้งที่ถูกมัด บ้างถูกไฟเผา และที่เหลือถูกปืนกลยิงกราดจนตาย ยังมีพวกผู้ชายบางส่วน อีกประมาณ 2 หมื่นคน ที่อายุรุ่นเกณท์ ถูกให้ฝึกเดินออกจากค่าย โดยทหารญี่ปุ่นใช้คนเหล่านั้น เป็นเป้าเคลื่อนที่ ทดสอบความแม่นยำ และหลายคนถูกใช้เป็นเป้า ทดสอบการตัดหัว เหตุการณ์เช่นนี้ ดำเนินอยู่ถึง 3 เดือน จนอากาศเริ่มร้อน และฝนเริ่มตก ชิ้นส่วนศพเป็นพันๆ ชิ้น ที่ถูกทิ้งไว้โผล่ขี้นเต็มเมือง แม่น้ำแยงซีกลายเป็นแม่น้ำเลือด สื่อตะวันตกรายงานเหตุการณ์ที่นานกิง อย่างละเอียด อาซากะ ไม่ใช่นายทหารสามัญ เขาเป็นเชื้อพระวงศ์ผู้ใหญ่ ที่จักรพรรดิส่งไปบัญชาการเอง อาซากะถูกเรียกให้กลับโตเกียว แต่อาซากะไม่กลับ ระหว่างที่เหตุการณ์โหดที่นานกิงดำเนินอยู่ องค์ชายชิชิบุ ยังอยู่ในยุโรป ข่าวของนานกิง ทำให้ชิชิบฉอเลาะต่อไม่ออก ขณะเดียวกัน ทางวอชิงตันประณามญี่ปุ่นอย่างรุนแรง ส่วนนอร์เวย์และสวีเดน ยกเลิกหมายกำหนดการต้อนรับชิชิบุ มีแต่ราชินีวิลเฮลมมินา Willhelmina ของฮอลันดา ที่ยังต้อนรับชิชิบุ ตามหมายกำหนดการเดิม เพราะกองทัพเรือญี่ปุ่นใช้น้ำมันจากบริษัท Dutch East Indies จากฮอลันดา ชิชิบุ เดินทางไปนูเรมเบิร์ก เพื่อพบกับ อดอลฟ ฮิตเลอร์ ระหว่างทานอาหารกลางวัน ฮิตเลอร์ด่าสตาลินอย่างสาดเสี ยให้ชิชิบุฟัง แล้วชิชิบุก็เปลี่ยนแผน รีบเดินทางกลับญี่ปุ่น ผ่านอเมริกาโดยไม่แวะ มาขึ้นเรือที่แวนคูเวอร์ ระหว่างทาง เขาได้ยินข่าวว่า ประธานาธิบดี Roosevelt ของอเมริกา ขู่จะคว่ำบาตรญี่ปุ่น ประชาชนอเมริกันสนับสนุนให้ทำ แต่มันยังเป็นแค่คำขู่ เพราะกลุ่มการเงิน Wall Street นำโดย JP Morgan ไม่เห็นด้วย เพราะได้ให้เงินกู้ และลงทุนไปแยะในญี่ปุ่น แมนจูเรีย เกาหลี และไต้หวัน เอะ เรื่องทำท่า จะมาอีหรอบเดิมหรือไง สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 15 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญนั่งยันต์หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง ปี2537
    เหรียญนั่งยันต์ หลวงพ่อสาคร (ตอกโค๊ต) วัดหนองกรับ​ จ.ระยอง ปี2537 // พระดีพิธีใหญ่ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครอบจักรวาล เมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ยิงฟันไม่เข้า แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งขับไล่ภูตผีปีศาจ กันเสนียดจัญไร ป้องกันอันตรายสารพัด **

    ** หลวงพ่อสาคร ศิษย์เอกผู้สืบทอดพุทธาคมจาก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เป็นผู้ฝักใฝ่ในด้านเวทย์มนต์คาถาอาคมและวิชาแพทย์แผนโบราณ และได้ศึกษาวิชากับหลวงปู่โสม วัดบ้านช่อง อ.พานทอง จ.ชลบุรีซึ่งเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก่กล้าอีกองค์หนึ่งของภาคตะวันออก หลวงพ่อสาคร ก็ได้ศึกษาจนกระทั่งจบวิชาความรู้ต่างๆ ด้วยนิสัยใฝ่รู้หมั่นศึกษา **

    * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญนั่งยันต์หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง ปี2537 เหรียญนั่งยันต์ หลวงพ่อสาคร (ตอกโค๊ต) วัดหนองกรับ​ จ.ระยอง ปี2537 // พระดีพิธีใหญ่ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครอบจักรวาล เมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย ยิงฟันไม่เข้า แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งขับไล่ภูตผีปีศาจ กันเสนียดจัญไร ป้องกันอันตรายสารพัด ** ** หลวงพ่อสาคร ศิษย์เอกผู้สืบทอดพุทธาคมจาก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เป็นผู้ฝักใฝ่ในด้านเวทย์มนต์คาถาอาคมและวิชาแพทย์แผนโบราณ และได้ศึกษาวิชากับหลวงปู่โสม วัดบ้านช่อง อ.พานทอง จ.ชลบุรีซึ่งเป็นพระที่มีวิชาอาคมแก่กล้าอีกองค์หนึ่งของภาคตะวันออก หลวงพ่อสาคร ก็ได้ศึกษาจนกระทั่งจบวิชาความรู้ต่างๆ ด้วยนิสัยใฝ่รู้หมั่นศึกษา ** * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อคูณ มั่งมีเพิ่มพูน ครบรอบ 107 ปี ธนาคารไทยพาณิชย์
    เหรียญหลวงพ่อคูณ มั่งมีเพิ่มพูน (มีโค็ด มีหมายเลขกำกับ "พ ๑๑๒๗" ) ครบรอบ 107 ปี ธนาคารไทยพาณิชย์ ปี2556 // พระดีพิธีใหญ่ มหาพุทธาภิเษก 2 วาระ โดยพระเกจิอาจารย์ ร่วมพุทธาภิเษก 90 รูป อาทิ ท่านเจ้าคุณเที่ยง วัดระฆัง หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงปู่แขก วัดสมุห์ประดิษฐ์ ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วโพธิ์ญาณ //พระสถาพสวยมาก พร้อมกล่องเดิมๆ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณรอบด้านเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม ส่งเสริมการทำมาค้าขาย ประกอบธุรกิจให้ร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง ให้โชค ให้ลาภ ร่ำรวยเงินทอง ค้าขายร่ำรวย มหาเสน่ห์ ชัยชนะ คงกระพันชาตรี ใครมีไว้ติดตัวดีมากเลย เสริมดวงชะตา เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต **

    ** หลวงพ่อคูณ พระเกจิชื่อดัง เป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั้งประเทศ หลวงพ่อคูณเป็นพระชาวบ้านที่เข้าถึงมวลชนทุกระดับชั้น ตั้งแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน นักการเมืองไปจนถึงชาวบ้าน ด้วยท่านมีเมตตามหานิยม มีวิธีการสั่งสอนที่ตรงไปตรงมาง่ายแก่การเข้าใจ >> หลวงพ่อคูณ ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคมขลัง ท่านเป็นเกจิอาจารย์ดังภาคอีสาน เป็นพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีความครบเครื่องไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ซึ่งเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้าน **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อคูณ มั่งมีเพิ่มพูน ครบรอบ 107 ปี ธนาคารไทยพาณิชย์ เหรียญหลวงพ่อคูณ มั่งมีเพิ่มพูน (มีโค็ด มีหมายเลขกำกับ "พ ๑๑๒๗" ) ครบรอบ 107 ปี ธนาคารไทยพาณิชย์ ปี2556 // พระดีพิธีใหญ่ มหาพุทธาภิเษก 2 วาระ โดยพระเกจิอาจารย์ ร่วมพุทธาภิเษก 90 รูป อาทิ ท่านเจ้าคุณเที่ยง วัดระฆัง หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว หลวงพ่อรวย วัดตะโก หลวงปู่แขก วัดสมุห์ประดิษฐ์ ครูบาอริยชาติ วัดแสงแก้วโพธิ์ญาณ //พระสถาพสวยมาก พร้อมกล่องเดิมๆ พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณรอบด้านเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม ส่งเสริมการทำมาค้าขาย ประกอบธุรกิจให้ร่ำรวย เจริญรุ่งเรือง ให้โชค ให้ลาภ ร่ำรวยเงินทอง ค้าขายร่ำรวย มหาเสน่ห์ ชัยชนะ คงกระพันชาตรี ใครมีไว้ติดตัวดีมากเลย เสริมดวงชะตา เป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ** ** หลวงพ่อคูณ พระเกจิชื่อดัง เป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั้งประเทศ หลวงพ่อคูณเป็นพระชาวบ้านที่เข้าถึงมวลชนทุกระดับชั้น ตั้งแต่เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน นักการเมืองไปจนถึงชาวบ้าน ด้วยท่านมีเมตตามหานิยม มีวิธีการสั่งสอนที่ตรงไปตรงมาง่ายแก่การเข้าใจ >> หลวงพ่อคูณ ได้ชื่อว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีวิชาอาคมขลัง ท่านเป็นเกจิอาจารย์ดังภาคอีสาน เป็นพระเกจิอาจารย์ท่านหนึ่งที่มีความครบเครื่องไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคงกระพันชาตรี แคล้วคลาด เมตตามหานิยม ซึ่งเป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของชาวบ้าน ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระกริ่งปิยธรรมโสภิต วัดอ่างทอง จ.สงขลา
    พระกริ่งปิยธรรมโสภิต เนื้อนวะโลหะ วัดอ่างทอง ตำบลทุ่งหวัง จ.สงขลา // พระดีพิธีใหญ่ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครบเครื่อง แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี โชคลาภ เมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก **

    วัดอ่างทอง ทุ่งหวัง สงขลา สร้างขึ้นเป็นวัดตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2319 สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งกรุงธนบุรี ต่อมามีอุบาสิกาชื่อบุญมา ปลูกกระท่อมอยู่ใกล้วัด ได้ไปตกเบ็ดอยู่ที่หนองน้ำ ห่างจากวัดประมาณ 800 เมตร แทนที่จะได้ปลากลับได้อ่างโตเท่าบาตร อ่างที่ตกได้นั้นเป็นสีเหลืองทองอร่ามทั้งลูก ด้วยความดีใจผสมกับความตกใจ นางบุญมาจึงตะโกนขึ้นสุดเสียงว่าช่วยด้วย ฉันตกเบ็ดได้อ่างทองให้มาช่วยด้วย แต่ก็ไม่มีใครมาช่วย อ่างทองได้ติดเบ็ดของนางบุญมานานพอสมควร ก็ตกลงไปในหนองน้ำตามเดิม นางจึงเดินกลับกระท่อมของนาง พบใครก็พยายามบอกกล่าวว่านางตกเบ็ดได้อ่างทอง จนชื่อเสียงเล่าขานกันไปทั้งตำบล ว่านางบุญมาตกเบ็ดได้อ่างทอง ตกเย็นนางได้เข้านมัสการเล่าให้หลวงพ่อเฒ่าฟัง ท่านก็ดีใจเลยถือเอาเหตุการณ์ดั่งกล่าว ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์มหัศจรรย์มาตั้งชื่อวัดว่า “วัดอ่างทอง” และบ้านอ่างทอง ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ วัดอ่างทอง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2435

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระกริ่งปิยธรรมโสภิต วัดอ่างทอง จ.สงขลา พระกริ่งปิยธรรมโสภิต เนื้อนวะโลหะ วัดอ่างทอง ตำบลทุ่งหวัง จ.สงขลา // พระดีพิธีใหญ่ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครบเครื่อง แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพันชาตรี โชคลาภ เมตตามหานิยม เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก ** วัดอ่างทอง ทุ่งหวัง สงขลา สร้างขึ้นเป็นวัดตั้งแต่ประมาณ พ.ศ. 2319 สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชแห่งกรุงธนบุรี ต่อมามีอุบาสิกาชื่อบุญมา ปลูกกระท่อมอยู่ใกล้วัด ได้ไปตกเบ็ดอยู่ที่หนองน้ำ ห่างจากวัดประมาณ 800 เมตร แทนที่จะได้ปลากลับได้อ่างโตเท่าบาตร อ่างที่ตกได้นั้นเป็นสีเหลืองทองอร่ามทั้งลูก ด้วยความดีใจผสมกับความตกใจ นางบุญมาจึงตะโกนขึ้นสุดเสียงว่าช่วยด้วย ฉันตกเบ็ดได้อ่างทองให้มาช่วยด้วย แต่ก็ไม่มีใครมาช่วย อ่างทองได้ติดเบ็ดของนางบุญมานานพอสมควร ก็ตกลงไปในหนองน้ำตามเดิม นางจึงเดินกลับกระท่อมของนาง พบใครก็พยายามบอกกล่าวว่านางตกเบ็ดได้อ่างทอง จนชื่อเสียงเล่าขานกันไปทั้งตำบล ว่านางบุญมาตกเบ็ดได้อ่างทอง ตกเย็นนางได้เข้านมัสการเล่าให้หลวงพ่อเฒ่าฟัง ท่านก็ดีใจเลยถือเอาเหตุการณ์ดั่งกล่าว ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์มหัศจรรย์มาตั้งชื่อวัดว่า “วัดอ่างทอง” และบ้านอ่างทอง ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบันนี้ วัดอ่างทอง ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อ พ.ศ. 2435 ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ใช้รายงานว่าเฟรมเรตเพิ่มขึ้นถึง 50–65% ในบางเกม หลังติดตั้ง Nvidia ไดรเวอร์ Hotfix 581.94

    Nvidia ออกไดรเวอร์ Hotfix 581.94 เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ซึ่งทำให้เกมบางเกมเฟรมเรตตกลงอย่างหนัก หลังติดตั้งไดรเวอร์นี้ ผู้ใช้รายงานว่าเฟรมเรตเพิ่มขึ้นถึง 50–65% ในบางเกม เช่น Assassin’s Creed Shadows

    การอัปเดต Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 และ 25H2 (KB5066835) ทำให้เกิดบั๊กที่ลดประสิทธิภาพการเล่นเกมลงอย่างมาก โดยเฉพาะในเกมที่ใช้กราฟิกหนัก ๆ ผู้ใช้หลายคนพบว่า FPS ลดลงจนเล่นไม่ลื่น ซึ่งส่งผลกระทบทั้งกับการ์ดจอ Nvidia, AMD และ Intel

    Nvidia Hotfix Driver 581.94
    เพื่อแก้ปัญหานี้ Nvidia ได้ออกไดรเวอร์ Hotfix รุ่น 581.94 ซึ่งแม้จะเป็นเวอร์ชัน “เบต้า” แต่สามารถแก้บั๊กที่เกิดจาก Windows ได้ทันที ผู้ใช้รายงานว่า FPS เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เช่น จาก 55 FPS → 91 FPS ใน Assassin’s Creed Shadows และค่า 1% lows ดีขึ้นกว่า 40%

    ผลลัพธ์ที่ผู้ใช้รายงาน
    ผู้ใช้บางรายเห็นการเพิ่มขึ้นของ FPS ถึง 65% เมื่อเปรียบเทียบกับไดรเวอร์รุ่นก่อนหน้า
    การปรับปรุงนี้เกิดขึ้นเฉพาะในบางเกม ไม่ใช่ทุกเกม
    แม้จะช่วยแก้ปัญหา แต่ไดรเวอร์ Hotfix อาจมีบั๊กอื่น ๆ เพราะยังไม่ใช่เวอร์ชันเสถียร

    สถานการณ์ของคู่แข่ง
    AMD และ Intel ก็ได้รับผลกระทบจากบั๊ก Windows เช่นกัน แต่ยังไม่มีการออกไดรเวอร์แก้ไขในตอนนี้ ทำให้ผู้ใช้การ์ดจอค่ายอื่นต้องรอการอัปเดตจากผู้ผลิต

    สรุปเป็นหัวข้อ
    ปัญหาที่เกิดขึ้น
    Windows 11 KB5066835 ทำให้ FPS ลดลง
    กระทบทั้ง Nvidia, AMD และ Intel

    การแก้ไขจาก Nvidia
    Hotfix Driver 581.94 ออกมาแก้บั๊ก
    เพิ่ม FPS ได้ถึง 50–65% ในบางเกม

    ผลลัพธ์ที่ผู้ใช้พบ
    Assassin’s Creed Shadows FPS จาก 55 → 91
    ค่า 1% lows ดีขึ้นกว่า 40%

    สถานการณ์ของคู่แข่ง
    AMD และ Intel ยังไม่มีไดรเวอร์แก้ไข
    ผู้ใช้ต้องรอการอัปเดตเพิ่มเติม

    คำเตือนจากการใช้ Hotfix
    เป็นเวอร์ชันเบต้า อาจมีบั๊กอื่นตามมา
    ไม่จำเป็นต้องอัปเดต หากเกมที่เล่นไม่เจอปัญหา

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/users-celebrate-50-percent-performance-gains-following-nvidia-hotfix-driver-patch-fixes-october-windows-11-cumulative-update-that-broke-performance-in-some-games
    🎮 ผู้ใช้รายงานว่าเฟรมเรตเพิ่มขึ้นถึง 50–65% ในบางเกม หลังติดตั้ง Nvidia ไดรเวอร์ Hotfix 581.94 Nvidia ออกไดรเวอร์ Hotfix 581.94 เพื่อแก้ปัญหาที่เกิดจากอัปเดต Windows 11 เดือนตุลาคม ซึ่งทำให้เกมบางเกมเฟรมเรตตกลงอย่างหนัก หลังติดตั้งไดรเวอร์นี้ ผู้ใช้รายงานว่าเฟรมเรตเพิ่มขึ้นถึง 50–65% ในบางเกม เช่น Assassin’s Creed Shadows การอัปเดต Windows 11 เวอร์ชัน 24H2 และ 25H2 (KB5066835) ทำให้เกิดบั๊กที่ลดประสิทธิภาพการเล่นเกมลงอย่างมาก โดยเฉพาะในเกมที่ใช้กราฟิกหนัก ๆ ผู้ใช้หลายคนพบว่า FPS ลดลงจนเล่นไม่ลื่น ซึ่งส่งผลกระทบทั้งกับการ์ดจอ Nvidia, AMD และ Intel ⚡ Nvidia Hotfix Driver 581.94 เพื่อแก้ปัญหานี้ Nvidia ได้ออกไดรเวอร์ Hotfix รุ่น 581.94 ซึ่งแม้จะเป็นเวอร์ชัน “เบต้า” แต่สามารถแก้บั๊กที่เกิดจาก Windows ได้ทันที ผู้ใช้รายงานว่า FPS เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน เช่น จาก 55 FPS → 91 FPS ใน Assassin’s Creed Shadows และค่า 1% lows ดีขึ้นกว่า 40% 📈 ผลลัพธ์ที่ผู้ใช้รายงาน 💠 ผู้ใช้บางรายเห็นการเพิ่มขึ้นของ FPS ถึง 65% เมื่อเปรียบเทียบกับไดรเวอร์รุ่นก่อนหน้า 💠 การปรับปรุงนี้เกิดขึ้นเฉพาะในบางเกม ไม่ใช่ทุกเกม 💠 แม้จะช่วยแก้ปัญหา แต่ไดรเวอร์ Hotfix อาจมีบั๊กอื่น ๆ เพราะยังไม่ใช่เวอร์ชันเสถียร 🔮 สถานการณ์ของคู่แข่ง AMD และ Intel ก็ได้รับผลกระทบจากบั๊ก Windows เช่นกัน แต่ยังไม่มีการออกไดรเวอร์แก้ไขในตอนนี้ ทำให้ผู้ใช้การ์ดจอค่ายอื่นต้องรอการอัปเดตจากผู้ผลิต 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ ปัญหาที่เกิดขึ้น ➡️ Windows 11 KB5066835 ทำให้ FPS ลดลง ➡️ กระทบทั้ง Nvidia, AMD และ Intel ✅ การแก้ไขจาก Nvidia ➡️ Hotfix Driver 581.94 ออกมาแก้บั๊ก ➡️ เพิ่ม FPS ได้ถึง 50–65% ในบางเกม ✅ ผลลัพธ์ที่ผู้ใช้พบ ➡️ Assassin’s Creed Shadows FPS จาก 55 → 91 ➡️ ค่า 1% lows ดีขึ้นกว่า 40% ✅ สถานการณ์ของคู่แข่ง ➡️ AMD และ Intel ยังไม่มีไดรเวอร์แก้ไข ➡️ ผู้ใช้ต้องรอการอัปเดตเพิ่มเติม ‼️ คำเตือนจากการใช้ Hotfix ⛔ เป็นเวอร์ชันเบต้า อาจมีบั๊กอื่นตามมา ⛔ ไม่จำเป็นต้องอัปเดต หากเกมที่เล่นไม่เจอปัญหา https://www.tomshardware.com/pc-components/gpu-drivers/users-celebrate-50-percent-performance-gains-following-nvidia-hotfix-driver-patch-fixes-october-windows-11-cumulative-update-that-broke-performance-in-some-games
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • "AthenaEnv เปิดทางให้สร้างเกม PS2 ด้วย JavaScript"

    นักพัฒนาเกมชื่อ JSLegendDev ได้ค้นพบว่าเกมที่เขาสร้างด้วย JavaScript สามารถถูกพอร์ตไปยังเครื่อง PS2 ได้ โดยใช้โครงการโอเพนซอร์สชื่อ AthenaEnv ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ฝัง QuickJS ทำให้โค้ด JavaScript สามารถทำงานบนเครื่อง PS2 ได้โดยตรง. AthenaEnv ไม่ใช่เกมเอนจินเต็มรูปแบบ แต่มี API สำหรับงานเกม เช่น การเรนเดอร์ภาพ, โหลดไฟล์, จัดการอินพุตจากจอย, และเล่นเสียง.

    การทดลองเริ่มจากการนำเกม Sonic Infinite Runner ที่สร้างบนเว็บไปลองรันบน Emulator PCSX2 โดยใช้ไฟล์ athena.elf และการตั้งค่า athena.ini เพื่อชี้ไปยังสคริปต์หลัก (main.js). ผลลัพธ์คือเกมสามารถรันได้จริง แม้ภาพจะเบลอเล็กน้อยตามความละเอียดของ PS2 แต่สามารถปรับปรุงได้ในกราฟิกเซ็ตติ้งของ Emulator.

    นอกจากนี้ JSLegendDev ยังได้ทดลองสร้าง ไฟล์ .iso เพื่อแจกจ่ายเกมในรูปแบบเดียวกับเกม PS2 ทั่วไป โดยรวมไฟล์สำคัญ เช่น athena.elf, athena.ini, โค้ด JavaScript, และไฟล์ระบบที่ทำให้บูตได้ จากนั้นแปลงเป็น .iso เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเปิดเล่นได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องตั้งค่าเพิ่มเติม.

    สุดท้าย เขาได้สร้างตัวอย่าง “Hello World” ที่แสดงการโหลดฟอนต์, การเรนเดอร์สไปรต์, การจัดการอินพุตจากจอย, และการทำแอนิเมชันพื้นฐาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า AthenaEnv สามารถใช้สร้างเกม 2D ได้อย่างสมบูรณ์ และยังมีการพัฒนาเวอร์ชันใหม่ที่รองรับ 3D ในอนาคต.

    สรุปสาระสำคัญ
    AthenaEnv Project
    ใช้ QuickJS ทำให้รัน JavaScript บน PS2 ได้
    มี API สำหรับเรนเดอร์, โหลดไฟล์, อินพุต, และเสียง

    การทดลองใช้งาน
    เกม Sonic Infinite Runner ถูกพอร์ตไปยัง PS2 และรันบน Emulator PCSX2 ได้จริง
    ใช้ไฟล์ athena.elf และ athena.ini เป็นตัวตั้งค่า

    การแจกจ่ายเกม
    สามารถรวมไฟล์ทั้งหมดเป็น .iso เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปเล่นได้ง่ายขึ้น
    ลดความยุ่งยากในการตั้งค่า Emulator

    Hello World Example
    แสดงการโหลดฟอนต์, การเรนเดอร์สไปรต์, การจัดการอินพุต และการทำแอนิเมชัน
    ยืนยันว่า AthenaEnv รองรับการสร้างเกม 2D ได้เต็มรูปแบบ

    คำเตือนด้านการพัฒนา
    AthenaEnv ยังไม่ใช่เกมเอนจินเต็มรูปแบบ นักพัฒนาต้องเขียนระบบเสริมเอง เช่น collision detection

    คำเตือนด้านการแจกจ่าย
    การแปลงไฟล์เป็น .iso อาจมีข้อจำกัด เช่น ขนาดไฟล์ใหญ่หรือการเข้าถึงเครื่องมือที่ไม่ปลอดภัย

    https://jslegenddev.substack.com/p/you-can-now-make-ps2-games-in-javascript
    🎮 "AthenaEnv เปิดทางให้สร้างเกม PS2 ด้วย JavaScript" นักพัฒนาเกมชื่อ JSLegendDev ได้ค้นพบว่าเกมที่เขาสร้างด้วย JavaScript สามารถถูกพอร์ตไปยังเครื่อง PS2 ได้ โดยใช้โครงการโอเพนซอร์สชื่อ AthenaEnv ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ฝัง QuickJS ทำให้โค้ด JavaScript สามารถทำงานบนเครื่อง PS2 ได้โดยตรง. AthenaEnv ไม่ใช่เกมเอนจินเต็มรูปแบบ แต่มี API สำหรับงานเกม เช่น การเรนเดอร์ภาพ, โหลดไฟล์, จัดการอินพุตจากจอย, และเล่นเสียง. การทดลองเริ่มจากการนำเกม Sonic Infinite Runner ที่สร้างบนเว็บไปลองรันบน Emulator PCSX2 โดยใช้ไฟล์ athena.elf และการตั้งค่า athena.ini เพื่อชี้ไปยังสคริปต์หลัก (main.js). ผลลัพธ์คือเกมสามารถรันได้จริง แม้ภาพจะเบลอเล็กน้อยตามความละเอียดของ PS2 แต่สามารถปรับปรุงได้ในกราฟิกเซ็ตติ้งของ Emulator. นอกจากนี้ JSLegendDev ยังได้ทดลองสร้าง ไฟล์ .iso เพื่อแจกจ่ายเกมในรูปแบบเดียวกับเกม PS2 ทั่วไป โดยรวมไฟล์สำคัญ เช่น athena.elf, athena.ini, โค้ด JavaScript, และไฟล์ระบบที่ทำให้บูตได้ จากนั้นแปลงเป็น .iso เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเปิดเล่นได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องตั้งค่าเพิ่มเติม. สุดท้าย เขาได้สร้างตัวอย่าง “Hello World” ที่แสดงการโหลดฟอนต์, การเรนเดอร์สไปรต์, การจัดการอินพุตจากจอย, และการทำแอนิเมชันพื้นฐาน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า AthenaEnv สามารถใช้สร้างเกม 2D ได้อย่างสมบูรณ์ และยังมีการพัฒนาเวอร์ชันใหม่ที่รองรับ 3D ในอนาคต. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ AthenaEnv Project ➡️ ใช้ QuickJS ทำให้รัน JavaScript บน PS2 ได้ ➡️ มี API สำหรับเรนเดอร์, โหลดไฟล์, อินพุต, และเสียง ✅ การทดลองใช้งาน ➡️ เกม Sonic Infinite Runner ถูกพอร์ตไปยัง PS2 และรันบน Emulator PCSX2 ได้จริง ➡️ ใช้ไฟล์ athena.elf และ athena.ini เป็นตัวตั้งค่า ✅ การแจกจ่ายเกม ➡️ สามารถรวมไฟล์ทั้งหมดเป็น .iso เพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปเล่นได้ง่ายขึ้น ➡️ ลดความยุ่งยากในการตั้งค่า Emulator ✅ Hello World Example ➡️ แสดงการโหลดฟอนต์, การเรนเดอร์สไปรต์, การจัดการอินพุต และการทำแอนิเมชัน ➡️ ยืนยันว่า AthenaEnv รองรับการสร้างเกม 2D ได้เต็มรูปแบบ ‼️ คำเตือนด้านการพัฒนา ⛔ AthenaEnv ยังไม่ใช่เกมเอนจินเต็มรูปแบบ นักพัฒนาต้องเขียนระบบเสริมเอง เช่น collision detection ‼️ คำเตือนด้านการแจกจ่าย ⛔ การแปลงไฟล์เป็น .iso อาจมีข้อจำกัด เช่น ขนาดไฟล์ใหญ่หรือการเข้าถึงเครื่องมือที่ไม่ปลอดภัย https://jslegenddev.substack.com/p/you-can-now-make-ps2-games-in-javascript
    JSLEGENDDEV.SUBSTACK.COM
    You Can Now Make PS2 Games in JavaScript
    I recently discovered that you could make PS2 games in JavaScript.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกฟุตบอล พรีเมียใจร์ลีก อังกฤษ 2025-2026 วันเสาร์ 22 พฤศจิกายน 2568 เวลา 22:00 น. ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 8 เปิดแอนฟิลด์รับมือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมอันดับ 19
    ครึ่งแรก ฟอเรสต์ ออกนำลิเวอร์พูลก่อน 1 : 0 จากลูกยิงของ มูริลโล ในนาทีที่ 33
    ครึ่งหลัง ฟอเรสต์ ได้ลูกที่ 2 จากซาโวนา ในนาทีที่ 46 และนาทีที่ 78 กิบส์-ไวต์ มายิงเพิ่มเป็น 3 : 0 ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูลแพ้เป็นนัดที่ 6 ลงมาอยู่อันดับที่ 11 ของตาราง
    ศึกฟุตบอล พรีเมียใจร์ลีก อังกฤษ 2025-2026 วันเสาร์ 22 พฤศจิกายน 2568 เวลา 22:00 น. ลิเวอร์พูล ทีมอันดับ 8 เปิดแอนฟิลด์รับมือ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทีมอันดับ 19 ครึ่งแรก ฟอเรสต์ ออกนำลิเวอร์พูลก่อน 1 : 0 จากลูกยิงของ มูริลโล ในนาทีที่ 33 ครึ่งหลัง ฟอเรสต์ ได้ลูกที่ 2 จากซาโวนา ในนาทีที่ 46 และนาทีที่ 78 กิบส์-ไวต์ มายิงเพิ่มเป็น 3 : 0 ครบ 90 นาที ลิเวอร์พูลแพ้เป็นนัดที่ 6 ลงมาอยู่อันดับที่ 11 ของตาราง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรนโบว์ (Rainbow) – วงดนตรีป๊อปร็อกแห่งตำนาน กับความลับของเพลง "เลิกง้อ (พอกันที)"

    วงเรนโบว์ ถือกำเนิดขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ 1980s โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี พ.ศ. 2528 ในฐานะวงดนตรีป๊อปร็อกที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับวงการเพลงไทย ภายใต้สังกัด อาร์.เอส. โปรโมชั่น (RS Promotion) ซึ่งเป็นค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ในยุคนั้น วงนี้เกิดขึ้นจากการแยกตัวของสมาชิกบางส่วนจากวงอินทนิล (Inthanin) ซึ่งเป็นวงดนตรีวงแรกของค่าย RS ที่ยุบวงไปก่อนหน้านี้ สมาชิกผู้ก่อตั้งหลัก ได้แก่ พีระพงษ์ พลชนะ (ต้อม), เรวัติ สระแก้ว (ป๋อง) และธีระศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ (อุ๋น) ที่ตัดสินใจรวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์ดนตรีในสไตล์ใหม่ โดยผสมผสานองค์ประกอบจากดนตรีสตริงคอมโบแบบเก่ากับป๊อปร็อกที่ทันสมัย ทำให้เพลงของพวกเขาสามารถเข้าถึงผู้ฟังได้ทุกวัยและทุกกลุ่มสังคม

    สมาชิกหลักของวงเรนโบว์มีความสามารถรอบด้าน ทั้งด้านการร้อง การเล่นดนตรี และการแต่งเพลง โดยประกอบด้วย:
    ต้อม (พีระพงษ์ พลชนะ): นักร้องนำและมือกีตาร์ ผู้มีเสียงร้องหวานซึ้ง แหบเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ และได้รับฉายา "นักร้องเขี้ยวเสน่ห์" จากรูปลักษณ์และสไตล์การร้องที่ดึงดูดแฟนเพลง เขาเกิดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2507 และเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนวงมาตลอด
    อุ๋น (ธีระศักดิ์ วดีศิริศักดิ์): มือคีย์บอร์ดและร้องนำ สนับสนุนการร้องหลักและช่วยสร้างซาวด์ดนตรีที่หลากหลาย
    อ๊อด (ทวี ศรีประดิษฐ์): หัวหน้าวงและมือกลอง ผู้ล่วงลับไปแล้วในปี พ.ศ. 2548 ด้วยวัย 42 ปี เขาเกิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2505 และมีบทบาทสำคัญในการแต่งเพลงและผลิตอัลบั้ม

    นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกอื่นๆ ที่เข้าร่วมในภายหลัง เช่น สุชาติ จันทร์ต้น (อี๊ด) มือเบส และ อัมพร ชาวเวียง (พร) มือกีตาร์ ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับวง ส่วนสมาชิกอดีตอย่าง เรวัติ สระแก้ว (ป๋อง) ก็มีส่วนในการก่อตั้งแต่แรกเริ่ม วงเรนโบว์ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยการผสมผสานแนวเพลงที่ลงตัวระหว่างซาวด์แบบสตริงคอมโบยุคเก่ากับดนตรีป๊อปร็อกที่ทันสมัย ทำให้เพลงของพวกเขาสามารถเข้าถึงผู้ฟังได้ทุกกลุ่ม และกลายเป็นหนึ่งในวงดนตรีสตริงชื่อดังที่สร้างความสุขให้กับแฟนเพลงชาวไทยในยุค 80-90

    จากข้อมูลประวัติศาสตร์วงการเพลงไทย วงเรนโบว์เริ่มต้นจากการเป็นวงเล็กๆ ที่เล่นในคลับและงานแสดง แต่ด้วยพรสวรรค์และการสนับสนุนจาก RS ทำให้พวกเขาก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว โดยอัลบั้มแรกของพวกเขาออกวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2528 และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม.

    ยุคทองของเพลง Original และ Cover
    ผลงานของเรนโบว์โดดเด่นอย่างมากด้วยเพลงฮิตที่ขับร้องโดยต้อม พีระพงษ์ โดยเฉพาะเพลงในอัลบั้มแรกๆ ซึ่งถือเป็นเพลงต้นฉบับ (Original) ที่กลายเป็นลายเซ็นของวง เช่น "ความในใจ" และ "ยังหวัง" คือเพลงบัลลาดสุดคลาสสิกที่ทำให้วงเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีเพลงฮิตอื่นๆ ที่ยังคงถูกเปิดฟังจนถึงปัจจุบัน เช่น "อยากให้รู้ใจ", "อย่าหวั่นใจ", "ด้วยดวงใจ", และ "ข้ามเวลา" ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการแต่งเพลงที่เข้าถึงอารมณ์ผู้ฟัง

    กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้เรนโบว์ยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งคือการนำเพลงเก่าของไทยและเพลงต่างประเทศมาเรียบเรียงและขับร้องใหม่ได้อย่างไพเราะและร่วมสมัย โดยเฉพาะอัลบั้มชุด "ข้ามเวลา" และเพลงในอัลบั้มหลักที่นำทำนองจากญี่ปุ่นมาใช้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น วงเรนโบว์ออกอัลบั้มรวมกว่า 10 ชุดตลอดช่วงยุคทอง โดย discography หลักๆ ได้แก่:

    ความในใจ (พ.ศ. 2529): อัลบั้มสร้างชื่อที่รวมเพลงฮิตอย่าง "ความในใจ" และ "เลิกง้อ (พอกันที)"
    ข้ามเวลา (พ.ศ. 2530): อัลบั้มที่นำเพลงเก่ามาเรียบเรียงใหม่
    ยังหวัง (พ.ศ. 2531): รวมเพลงบัลลาดที่ได้รับความนิยมสูง
    RS Classic - เรนโบว์ (รีมาสเตอร์ในปี พ.ศ. 2556): รวมเพลงฮิตตลอดกาล

    ยุคทองของวงยังรวมถึงการแสดงคอนเสิร์ตและรายการทีวีมากมาย เช่น การปรากฏตัวในรายการ "Song of Fame เพลงคู่สยาม" ของ Thai PBS ในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งพวกเขาได้ถ่ายทอดเพลงดังผ่านเสียงร้องร่วมกับศิลปินรุ่นใหม่ ทำให้เพลงเก่ากลับมาฮิตอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีคอนเสิร์ตการกุศลอย่าง "Rainbow The Concert" ที่จัดขึ้นเพื่อระลึกถึงสมาชิกผู้ล่วงลับและช่วยเหลือสังคม.

    เจาะลึกเพลง "เลิกง้อ (พอกันที)" – เพลงดังจากอัลบั้ม "ความในใจ"
    เพลง "เลิกง้อ (พอกันที)" คือหนึ่งในเพลงที่ถูกบรรจุในอัลบั้มสร้างชื่อ "ความในใจ" (พ.ศ. 2529) เพลงนี้โดดเด่นด้วยเนื้อหาที่บาดใจเกี่ยวกับการตัดใจอย่างเด็ดเดี่ยวจากความรักที่เจ็บปวด โดยมี ชมพู ฟรุตตี้ (สุทธิพงษ์ วัฒนจัง) เป็นผู้ประพันธ์เนื้อร้องภาษาไทย แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือที่มาของทำนองเพลงนี้ ซึ่งเป็นที่ถกเถียงและเข้าใจผิดกันมานานหลายสิบปี

    ไขปริศนาทำนองเพลงญี่ปุ่น
    คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าทำนองเพลง "เลิกง้อ (พอกันที)" มาจากเพลงเปิดของอนิเมะดัง "Touch (ทัช ยอดรักนักกีฬา)" เนื่องจากความดังของอนิเมะในไทยและสไตล์ดนตรีที่ใกล้เคียงกัน ความจริงคือ พลงนี้มีที่มาจากเพลงญี่ปุ่นชื่อ "背中ごしにセンチメンタル (Senaka Goshi ni Sentimental)" ( https://www.youtube.com/watch?v=KejzDx1EjKA ) ซึ่งแปลว่า "Sentimental Over the Shoulder" หรือความรู้สึกเศร้าที่มองจากด้านหลัง เป็นเพลงเปิด (Opening Theme) ของแอนิเมชันแนวไซไฟเรื่อง Megazone 23 (พ.ศ. 2528) ขับร้องโดย มิยาซาโตะ คุมิ (Kumi Miyasato) นักร้องสาวชาวญี่ปุ่นที่อายุเพียง 14 ปีตอนบันทึกเสียงเพลงนี้ ทำให้เพลงมีเอกลักษณ์เสียงใสและสดใส

    🟰 สาเหตุของความเข้าใจผิด: ผู้สร้างสรรค์คนเดียวกัน
    ความสับสนที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากการที่ทั้งเพลง "Senaka Goshi ni Sentimental" (ต้นฉบับของ "เลิกง้อ") และเพลง "Touch" (เพลงเปิดของอนิเมะ Touch) ถูกแต่งทำนองโดยนักแต่งเพลงคนเดียวกัน คือ คุณฮิโรอากิ เซริซาว่า (Hiroaki Serizawa) ทำให้สไตล์การสร้างทำนองเพลงมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก จนแฟนเพลงในไทยมักจำสลับกัน นอกจากนี้ เพลงต้นฉบับยังมีเวอร์ชันรีมาสเตอร์และถูกนำไปใช้ในสื่ออื่นๆ เช่น YouTube และ Music Platforms ซึ่งยืนยันความนิยมที่ยาวนานของเพลงนี้ในญี่ปุ่นและไทย เพลง "เลิกง้อ" เองก็ถูกรีมาสเตอร์ในอัลบั้ม RS Classic ในปี พ.ศ. 2556 เพื่อให้แฟนเพลงรุ่นใหม่ได้ฟังในคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น.

    มรดกที่ยังคงอยู่และอิทธิพลต่อวงการเพลงไทย
    แม้เวลาจะผ่านไปหลายทศวรรษ วงเรนโบว์ก็ยังคงเป็นหนึ่งในวงดนตรีสำคัญที่สร้างมาตรฐานให้กับวงการเพลงไทย เพลงของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น Original หรือ Cover ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเลือกสรรและสร้างสรรค์ดนตรีที่เข้าถึงอารมณ์ผู้ฟังได้อย่างลึกซึ้ง และเพลง "เลิกง้อ (พอกันที)" ก็ยังคงเป็นเครื่องยืนยันความอมตะของวงดนตรีแห่งตำนานวงนี้

    หลังจากยุคทอง วงเรนโบว์เคยหยุดพักไปช่วงหนึ่ง แต่มีการ reunion ในช่วงปี 2000s โดยสมาชิกหลักอย่างต้อมและอุ๋นยังคงอยู่ เช่น การแสดงในคอนเสิร์ตและรายการทีวีล่าสุดในปี พ.ศ. 2568 การเสียชีวิตของอ๊อดในปี 2548 ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่สมาชิกที่เหลือยังคงสานต่อมรดกด้วยการออกอัลบั้มรวมฮิตและคอนเสิร์ตระลึกถึง อิทธิพลของวงยังเห็นได้จากศิลปินรุ่นใหม่ที่นำเพลงไป cover เช่น ในรายการ Song of Fame ซึ่งผสมผสานเพลงเก่ากับเสียงร้องสมัยใหม่

    นอกจากนี้ วงเรนโบว์ยังมีบทบาทในการเชื่อมโยงวัฒนธรรมดนตรีไทย-ญี่ปุ่น โดยการนำเพลงญี่ปุ่นมาปรับให้เข้ากับตลาดไทย ซึ่งเป็นแนวทางที่วงอื่นๆ นำไปใช้ตาม จนถึงปัจจุบัน เพลงของพวกเขายังถูกเปิดในสถานีวิทยุ สตรีมมิงแพลตฟอร์ม และงานสังสรรค์ต่างๆ สะท้อนถึงความอมตะที่แท้จริง.

    วงเรนโบว์ไม่เพียงแต่เป็นตำนาน แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีรุ่นหลังในการผสมผสานดนตรีข้ามวัฒนธรรม ทำให้วงการเพลงไทยมีความหลากหลายมากขึ้นจนถึงทุกวันนี้.

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://www.youtube.com/watch?v=9GBRiUhpT2E
    🌈 เรนโบว์ (Rainbow) – วงดนตรีป๊อปร็อกแห่งตำนาน กับความลับของเพลง "เลิกง้อ (พอกันที)" วงเรนโบว์ 🌈 ถือกำเนิดขึ้นในช่วงกลางทศวรรษ 1980s โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี พ.ศ. 2528 ในฐานะวงดนตรีป๊อปร็อกที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับวงการเพลงไทย ภายใต้สังกัด อาร์.เอส. โปรโมชั่น (RS Promotion) ซึ่งเป็นค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ในยุคนั้น วงนี้เกิดขึ้นจากการแยกตัวของสมาชิกบางส่วนจากวงอินทนิล (Inthanin) ซึ่งเป็นวงดนตรีวงแรกของค่าย RS ที่ยุบวงไปก่อนหน้านี้ สมาชิกผู้ก่อตั้งหลัก ได้แก่ พีระพงษ์ พลชนะ (ต้อม), เรวัติ สระแก้ว (ป๋อง) และธีระศักดิ์ วดีศิริศักดิ์ (อุ๋น) ที่ตัดสินใจรวมตัวกันเพื่อสร้างสรรค์ดนตรีในสไตล์ใหม่ โดยผสมผสานองค์ประกอบจากดนตรีสตริงคอมโบแบบเก่ากับป๊อปร็อกที่ทันสมัย ทำให้เพลงของพวกเขาสามารถเข้าถึงผู้ฟังได้ทุกวัยและทุกกลุ่มสังคม 👥 สมาชิกหลักของวงเรนโบว์มีความสามารถรอบด้าน ทั้งด้านการร้อง การเล่นดนตรี และการแต่งเพลง โดยประกอบด้วย: 💠 ต้อม (พีระพงษ์ พลชนะ): นักร้องนำและมือกีตาร์ ผู้มีเสียงร้องหวานซึ้ง แหบเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์ และได้รับฉายา "นักร้องเขี้ยวเสน่ห์" จากรูปลักษณ์และสไตล์การร้องที่ดึงดูดแฟนเพลง เขาเกิดเมื่อวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2507 และเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนวงมาตลอด 💠 อุ๋น (ธีระศักดิ์ วดีศิริศักดิ์): มือคีย์บอร์ดและร้องนำ สนับสนุนการร้องหลักและช่วยสร้างซาวด์ดนตรีที่หลากหลาย 💠 อ๊อด (ทวี ศรีประดิษฐ์): หัวหน้าวงและมือกลอง ผู้ล่วงลับไปแล้วในปี พ.ศ. 2548 ด้วยวัย 42 ปี เขาเกิดเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2505 และมีบทบาทสำคัญในการแต่งเพลงและผลิตอัลบั้ม นอกจากนี้ ยังมีสมาชิกอื่นๆ ที่เข้าร่วมในภายหลัง เช่น สุชาติ จันทร์ต้น (อี๊ด) มือเบส และ อัมพร ชาวเวียง (พร) มือกีตาร์ ซึ่งช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับวง ส่วนสมาชิกอดีตอย่าง เรวัติ สระแก้ว (ป๋อง) ก็มีส่วนในการก่อตั้งแต่แรกเริ่ม วงเรนโบว์ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว ด้วยการผสมผสานแนวเพลงที่ลงตัวระหว่างซาวด์แบบสตริงคอมโบยุคเก่ากับดนตรีป๊อปร็อกที่ทันสมัย ทำให้เพลงของพวกเขาสามารถเข้าถึงผู้ฟังได้ทุกกลุ่ม และกลายเป็นหนึ่งในวงดนตรีสตริงชื่อดังที่สร้างความสุขให้กับแฟนเพลงชาวไทยในยุค 80-90 จากข้อมูลประวัติศาสตร์วงการเพลงไทย วงเรนโบว์เริ่มต้นจากการเป็นวงเล็กๆ ที่เล่นในคลับและงานแสดง แต่ด้วยพรสวรรค์และการสนับสนุนจาก RS ทำให้พวกเขาก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดอย่างรวดเร็ว โดยอัลบั้มแรกของพวกเขาออกวางจำหน่ายในปี พ.ศ. 2528 และได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม. 🎵 ยุคทองของเพลง Original และ Cover ผลงานของเรนโบว์โดดเด่นอย่างมากด้วยเพลงฮิตที่ขับร้องโดยต้อม พีระพงษ์ โดยเฉพาะเพลงในอัลบั้มแรกๆ ซึ่งถือเป็นเพลงต้นฉบับ (Original) ที่กลายเป็นลายเซ็นของวง เช่น "ความในใจ" และ "ยังหวัง" คือเพลงบัลลาดสุดคลาสสิกที่ทำให้วงเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ นอกจากนี้ ยังมีเพลงฮิตอื่นๆ ที่ยังคงถูกเปิดฟังจนถึงปัจจุบัน เช่น "อยากให้รู้ใจ", "อย่าหวั่นใจ", "ด้วยดวงใจ", และ "ข้ามเวลา" ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการแต่งเพลงที่เข้าถึงอารมณ์ผู้ฟัง กลยุทธ์สำคัญที่ทำให้เรนโบว์ยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งคือการนำเพลงเก่าของไทยและเพลงต่างประเทศมาเรียบเรียงและขับร้องใหม่ได้อย่างไพเราะและร่วมสมัย โดยเฉพาะอัลบั้มชุด "ข้ามเวลา" และเพลงในอัลบั้มหลักที่นำทำนองจากญี่ปุ่นมาใช้ ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้รับความนิยมในยุคนั้น วงเรนโบว์ออกอัลบั้มรวมกว่า 10 ชุดตลอดช่วงยุคทอง โดย discography หลักๆ ได้แก่: 🎤 ความในใจ (พ.ศ. 2529): อัลบั้มสร้างชื่อที่รวมเพลงฮิตอย่าง "ความในใจ" และ "เลิกง้อ (พอกันที)" 🎤 ข้ามเวลา (พ.ศ. 2530): อัลบั้มที่นำเพลงเก่ามาเรียบเรียงใหม่ 🎤 ยังหวัง (พ.ศ. 2531): รวมเพลงบัลลาดที่ได้รับความนิยมสูง 🎤 RS Classic - เรนโบว์ (รีมาสเตอร์ในปี พ.ศ. 2556): รวมเพลงฮิตตลอดกาล ยุคทองของวงยังรวมถึงการแสดงคอนเสิร์ตและรายการทีวีมากมาย เช่น การปรากฏตัวในรายการ "Song of Fame เพลงคู่สยาม" ของ Thai PBS ในปี พ.ศ. 2568 ซึ่งพวกเขาได้ถ่ายทอดเพลงดังผ่านเสียงร้องร่วมกับศิลปินรุ่นใหม่ ทำให้เพลงเก่ากลับมาฮิตอีกครั้ง นอกจากนี้ ยังมีคอนเสิร์ตการกุศลอย่าง "Rainbow The Concert" ที่จัดขึ้นเพื่อระลึกถึงสมาชิกผู้ล่วงลับและช่วยเหลือสังคม. 💖 เจาะลึกเพลง "เลิกง้อ (พอกันที)" – เพลงดังจากอัลบั้ม "ความในใจ" เพลง "เลิกง้อ (พอกันที)" คือหนึ่งในเพลงที่ถูกบรรจุในอัลบั้มสร้างชื่อ "ความในใจ" (พ.ศ. 2529) เพลงนี้โดดเด่นด้วยเนื้อหาที่บาดใจเกี่ยวกับการตัดใจอย่างเด็ดเดี่ยวจากความรักที่เจ็บปวด โดยมี ชมพู ฟรุตตี้ (สุทธิพงษ์ วัฒนจัง) เป็นผู้ประพันธ์เนื้อร้องภาษาไทย แต่สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือที่มาของทำนองเพลงนี้ ซึ่งเป็นที่ถกเถียงและเข้าใจผิดกันมานานหลายสิบปี 🔎 ไขปริศนาทำนองเพลงญี่ปุ่น คนส่วนใหญ่มักเข้าใจว่าทำนองเพลง "เลิกง้อ (พอกันที)" มาจากเพลงเปิดของอนิเมะดัง "Touch (ทัช ยอดรักนักกีฬา)" เนื่องจากความดังของอนิเมะในไทยและสไตล์ดนตรีที่ใกล้เคียงกัน ความจริงคือ พลงนี้มีที่มาจากเพลงญี่ปุ่นชื่อ "背中ごしにセンチメンタル (Senaka Goshi ni Sentimental)" ( https://www.youtube.com/watch?v=KejzDx1EjKA ) ซึ่งแปลว่า "Sentimental Over the Shoulder" หรือความรู้สึกเศร้าที่มองจากด้านหลัง เป็นเพลงเปิด (Opening Theme) ของแอนิเมชันแนวไซไฟเรื่อง Megazone 23 (พ.ศ. 2528) ขับร้องโดย มิยาซาโตะ คุมิ (Kumi Miyasato) นักร้องสาวชาวญี่ปุ่นที่อายุเพียง 14 ปีตอนบันทึกเสียงเพลงนี้ ทำให้เพลงมีเอกลักษณ์เสียงใสและสดใส 🟰 สาเหตุของความเข้าใจผิด: ผู้สร้างสรรค์คนเดียวกัน ความสับสนที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากการที่ทั้งเพลง "Senaka Goshi ni Sentimental" (ต้นฉบับของ "เลิกง้อ") และเพลง "Touch" (เพลงเปิดของอนิเมะ Touch) ถูกแต่งทำนองโดยนักแต่งเพลงคนเดียวกัน คือ คุณฮิโรอากิ เซริซาว่า (Hiroaki Serizawa) ทำให้สไตล์การสร้างทำนองเพลงมีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก จนแฟนเพลงในไทยมักจำสลับกัน นอกจากนี้ เพลงต้นฉบับยังมีเวอร์ชันรีมาสเตอร์และถูกนำไปใช้ในสื่ออื่นๆ เช่น YouTube และ Music Platforms ซึ่งยืนยันความนิยมที่ยาวนานของเพลงนี้ในญี่ปุ่นและไทย เพลง "เลิกง้อ" เองก็ถูกรีมาสเตอร์ในอัลบั้ม RS Classic ในปี พ.ศ. 2556 เพื่อให้แฟนเพลงรุ่นใหม่ได้ฟังในคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น. 🌟 มรดกที่ยังคงอยู่และอิทธิพลต่อวงการเพลงไทย แม้เวลาจะผ่านไปหลายทศวรรษ วงเรนโบว์ก็ยังคงเป็นหนึ่งในวงดนตรีสำคัญที่สร้างมาตรฐานให้กับวงการเพลงไทย เพลงของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็น Original หรือ Cover ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการเลือกสรรและสร้างสรรค์ดนตรีที่เข้าถึงอารมณ์ผู้ฟังได้อย่างลึกซึ้ง และเพลง "เลิกง้อ (พอกันที)" ก็ยังคงเป็นเครื่องยืนยันความอมตะของวงดนตรีแห่งตำนานวงนี้ หลังจากยุคทอง วงเรนโบว์เคยหยุดพักไปช่วงหนึ่ง แต่มีการ reunion ในช่วงปี 2000s โดยสมาชิกหลักอย่างต้อมและอุ๋นยังคงอยู่ เช่น การแสดงในคอนเสิร์ตและรายการทีวีล่าสุดในปี พ.ศ. 2568 การเสียชีวิตของอ๊อดในปี 2548 ถือเป็นความสูญเสียครั้งใหญ่ แต่สมาชิกที่เหลือยังคงสานต่อมรดกด้วยการออกอัลบั้มรวมฮิตและคอนเสิร์ตระลึกถึง อิทธิพลของวงยังเห็นได้จากศิลปินรุ่นใหม่ที่นำเพลงไป cover เช่น ในรายการ Song of Fame ซึ่งผสมผสานเพลงเก่ากับเสียงร้องสมัยใหม่ นอกจากนี้ วงเรนโบว์ยังมีบทบาทในการเชื่อมโยงวัฒนธรรมดนตรีไทย-ญี่ปุ่น โดยการนำเพลงญี่ปุ่นมาปรับให้เข้ากับตลาดไทย ซึ่งเป็นแนวทางที่วงอื่นๆ นำไปใช้ตาม จนถึงปัจจุบัน เพลงของพวกเขายังถูกเปิดในสถานีวิทยุ สตรีมมิงแพลตฟอร์ม และงานสังสรรค์ต่างๆ สะท้อนถึงความอมตะที่แท้จริง. วงเรนโบว์ไม่เพียงแต่เป็นตำนาน แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักดนตรีรุ่นหลังในการผสมผสานดนตรีข้ามวัฒนธรรม ทำให้วงการเพลงไทยมีความหลากหลายมากขึ้นจนถึงทุกวันนี้. #ลุงเล่าหลานฟัง https://www.youtube.com/watch?v=9GBRiUhpT2E
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง ใครมาเยือนถึงเรือนชาน

    “ใครมาเยือนถึงเรือนชาน….“
    เมื่อวาน มีท่านผู้อ่านนิทานส่งข่าวบอกผมว่า นายทูตอเมรืกันคนใหม่ เขาจะมาแล้วนะ แล้วเราจะทำอย่างไร ผมรู้ข่าวแล้ว แต่บังเอิญผมกำลังติดพันกับการเขียนนิทานเรื่องใหม่อย่างขมักเขม้น เลยยังไม่อยากเขียนรับนายทูตนั่น ตอนบ่าย ตื่นมาไล่อ่านข่าว แหม อดไม่ได้ เจอบทความของสื่อใหญ่มาก ที่เคารพท่านหนึ่ง ท่านเขียนบทความเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นี้ เรื่อง … สหรัฐที่ ” กำลังจะเปลี่ยนไป” …
    ฮะ… นี่ผมตกข่าวอะไรหรือ ไอ้นักล่าใบตองแห้ง มันจะเปลี่ยนเป็นอะไร จากนักล่า จะเป็นนักล้วง หรือนักรัก หรือไง นักล้วงก็เป็นตลอดอยู่แล้วนี่หว่า สงสัยเป็น จะอย่างหลัง นักรัก … เพราะทน (หึง) ไม่ไหว เจอทหารไทยเบอร์ใหญ่มาก บอกรักจีนกลางเวทีอาเซียน เมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้ เล่นเอาสื่อฝรั่งช็อก ออกข่าวว่าไทยบอกรักจีนกลางเวทีอาเซียน ข่าวนี้ ทำให้ผมความครื้นเครงใจอย่างยิ่ง
    ผมเลยต้องแว๊บไปอ่านบทบทความของท่านสื่อใหญ่ ซึ่งผมก็เป็นแฟนท่านเหมือนกันนะ
    บทความท่านสื่อใหญ่เริ่มต้นซะ ผมนึกว่าท่านเอานิทานจิ๊กโก๋ปากซอยของผม มาช่วยโปรโมทให้ อ่านๆ ไป อ้าว แล้วกัน กลายเป็นคนละซอย ฮา…ไปหาอ่านกันเองแล้วกันครับ
    ผมแค่ติดใจ ตอนท่านจะจบบทความนั่นแหละ ท่านว่าสังคมไทยดูเหมือนจะวิพากษ์วิจารณ์ทูตอเมริกันคนใหม่ที่กำลังจะมา ด้วย”ทัศนคติลบ” มากอยู่ ในความเห็นของท่าน เอกลักษณ์แข็งของไทย เมื่อมีแขกไปใครมาเยือนถึงเรือ นชาน จะยิ้มแย้ม ยินดี ต้อนรับ… ดังนั้น เราอย่าใช่ “ใจขุ่น” สรุปการมาของเขาในแง่ร้าย ทันที่ทันใด จะดีไหม ท่านว่า ท่าทีของสหรัฐต่อไทยกำลังจะเปลี่ยนไป…?
    เอาละครับ ท่านเป็นสื่อใหญ่ที่ผมเคารพ ท่านจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน แต่ผมก็มีความเห็นของผม แถมให้เหมือนกัน
    ตามรายงานความประพฤติของเด็กชาย สยาม ที่ครูประจำชั้น ที่ดูแลแดนสยาม ต้องทำส่งครูใหญ่ คือสภาสูงของอเมริกา ทุกปี หรือที่เรียกว่า Congressional Sevice Report เรื่อง Thailand: Background and U.S. Relations ซึ่งออกมาเมื่อวันที่ 29 กรกฏาคม ที่ผ่านมานี้ นั้น ผมมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของอเมริกา… ในทางที่เป็นคุณ หรือเป็นบวกกับประเทศไทยแต่อย่างใดเลย
    เอกสารยาว 19 หน้า อ้างความสัมพันธ์ที่มีมาช้านาน ตั้งแต่ ปี ค.ศ.1954 รักกันจัง รวมมือกันจริง แต่ความรักมาสะดุดก็ตอนที่ แดนสยามมีปฏิวัติถี่หน่อย 2 ครั้ง ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา
    ข้อความอื่นๆ ก็เป็นไปตามแบบฟอร์มเดิม รวมทั้งเรื่องการเสือก เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพอย่างสูงสุดของเรา และเรื่องการสืบสันตติวงศ์ของพระราชวงศ์ ซึ่งเป็นเรื่องภายในและละเอียดอ่อนของเรา มันก็ยังเสือกเหมือนเดิม ผมยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของไอ้ใบตองแห้งเลยนะ
    ที่มีพิเศษเพิ่มเติม คือ เรื่องการปฏิวัติของลุงตู่ คุณครูประจำชั้น ที่ทำรายงานบอกว่า การที่ทหารไทยทำการปฏิวัติ ในปี ค.ศ.2014 ไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นเรื่องใหญ่สำหรับอเมริกา เป็นการท้าทายความสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับไทยว่า จะยังอยู่ในราง หรือจะตกราง ในหลายๆทาง ความสัมพันธ์ด้านกองทัพ กับกองทัพ military – to – military ระหว่างอเมริกากับไทย เป็นเสาหลักที่แข็งแรงที่สุด ในด้านความสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับไทย….
    ….นอกจากนี้ มีนักวิเคราะห์บอกว่า สัมพันธ์ไทย-อเมริกา เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องรักษาไว้ เพราะจะทำให้ อเมริกาอาจเสียโอกาส ในการเข้ามาใช้ฐานและเครื่องมือเครื่องใช้ทางทหารที่สำคัญในไทย โดยเฉพาะอู่ตะเภา ที่สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ ( ซึ่งรวมถึง C-17s และ C-130s) ได้ และอยู่ติดกับท่าเรือน้ำลึก และมีสาธารญูปโภคพร้อม ในการใช้บริหารและควบคุมระบบ เมื่อตอนอเมริกามีปฏิบัติการณ์อิรัค และอาฟกานิสถานกองทัพอมริกัน ใช้อู่ตะเภาเป็นที่แวะเติมน้ำมัน…….การเสียโอกาสนี้ จะทำให้ อิทธิพลของจีนในภูมิภาค เพิ่มสูงขึ้น….
    ….นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานหลายสิบหน่วย ของอเมริกา ที่ใช้ไทยเป็นสำนักงานใหญ่ (ปฏิบัติการ) ในภูมิภาค เจ้าหน้าที่เหล่านั้น ไม่สบายใจว่า การเมืองไทยที่ไม่สงบ จะทำให้การทำงานของพวกเขาสะดุด….
    เอาละครับ ไปอ่านส่วนที่เป็นน้ำกันเองต่อ ผมแกะส่วนที่เป็นเนื้อมาให้แล้ว ลองพิจารณากันดูนะครับ ไอ้ใบตองแห้ง มันมองเราอย่างไร และมันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง หรือถ้ามันจะเปลี่ยน เปลี่ยนตรงไหน เพราะอะไร
    มันอาจจะเพิ่งสำนึก ว่า กูโง่ กูบ้า ขนาดไหน ที่มาทำกร่างใส่สมันน้อย นึกไม่ถึงว่าสมันน้อย จะเปลี่ยนเป็นช้างไทยสู้ศึก แล้วนี่ กูจะบุกจีน ผ่านรูไหนดีวู้ย ไม่มีอะไรดีกว่า หน้าด้าน ด่าแล้ว ก็กลับมาตบหัวได้ เดี๋ยวคนไทยใจดี ใครมาเยือนถึงเรือนชาน ก็ต้อนรับเอง เหมียนเดิม
    ถ้าไม่แน่ใจ ว่าจะต้อนรับนายทูตตนใหม่ของไอ้ใบตองแห้งอย่างไรดี จะเอาพวกมาลัยไปคอยยืนคล้องคอ แถมโบกธงอเมริกัน ตะโกนร้อง พ่อกูมาแล้ว หรือ จะด่ามันต่อไปว่า กูรู้นะ ว่ามึงกำลังคิดจะทำอะไร หรือจะเฉยๆ ดูท่าทีกันไปก่อน
    ถ้าไม่แน่ใจนะครับ ก็โปรดอดใจ รออีกไม่กี่วัน ผมกำลังปั่นนิทานเรื่องใหม่ เกี่ยวกับความสัมพันธ์อันซับซ้อน ระหว่างจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา และ มันอาจจะมาเกี่ยวกับแดนสยามของเรา อ่านนิทานเรื่องนั้นแล้ว น่าจะได้คำตอบ ว่าจะรับนายทูตใบตองแห้งคนใหม่อย่างไร
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    8 ส.ค. 2558
    เรื่อง ใครมาเยือนถึงเรือนชาน “ใครมาเยือนถึงเรือนชาน….“ เมื่อวาน มีท่านผู้อ่านนิทานส่งข่าวบอกผมว่า นายทูตอเมรืกันคนใหม่ เขาจะมาแล้วนะ แล้วเราจะทำอย่างไร ผมรู้ข่าวแล้ว แต่บังเอิญผมกำลังติดพันกับการเขียนนิทานเรื่องใหม่อย่างขมักเขม้น เลยยังไม่อยากเขียนรับนายทูตนั่น ตอนบ่าย ตื่นมาไล่อ่านข่าว แหม อดไม่ได้ เจอบทความของสื่อใหญ่มาก ที่เคารพท่านหนึ่ง ท่านเขียนบทความเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม นี้ เรื่อง … สหรัฐที่ ” กำลังจะเปลี่ยนไป” … ฮะ… นี่ผมตกข่าวอะไรหรือ ไอ้นักล่าใบตองแห้ง มันจะเปลี่ยนเป็นอะไร จากนักล่า จะเป็นนักล้วง หรือนักรัก หรือไง นักล้วงก็เป็นตลอดอยู่แล้วนี่หว่า สงสัยเป็น จะอย่างหลัง นักรัก … เพราะทน (หึง) ไม่ไหว เจอทหารไทยเบอร์ใหญ่มาก บอกรักจีนกลางเวทีอาเซียน เมื่อต้นเดือนสิงหาคมนี้ เล่นเอาสื่อฝรั่งช็อก ออกข่าวว่าไทยบอกรักจีนกลางเวทีอาเซียน ข่าวนี้ ทำให้ผมความครื้นเครงใจอย่างยิ่ง ผมเลยต้องแว๊บไปอ่านบทบทความของท่านสื่อใหญ่ ซึ่งผมก็เป็นแฟนท่านเหมือนกันนะ บทความท่านสื่อใหญ่เริ่มต้นซะ ผมนึกว่าท่านเอานิทานจิ๊กโก๋ปากซอยของผม มาช่วยโปรโมทให้ อ่านๆ ไป อ้าว แล้วกัน กลายเป็นคนละซอย ฮา…ไปหาอ่านกันเองแล้วกันครับ ผมแค่ติดใจ ตอนท่านจะจบบทความนั่นแหละ ท่านว่าสังคมไทยดูเหมือนจะวิพากษ์วิจารณ์ทูตอเมริกันคนใหม่ที่กำลังจะมา ด้วย”ทัศนคติลบ” มากอยู่ ในความเห็นของท่าน เอกลักษณ์แข็งของไทย เมื่อมีแขกไปใครมาเยือนถึงเรือ นชาน จะยิ้มแย้ม ยินดี ต้อนรับ… ดังนั้น เราอย่าใช่ “ใจขุ่น” สรุปการมาของเขาในแง่ร้าย ทันที่ทันใด จะดีไหม ท่านว่า ท่าทีของสหรัฐต่อไทยกำลังจะเปลี่ยนไป…? เอาละครับ ท่านเป็นสื่อใหญ่ที่ผมเคารพ ท่านจะว่าอย่างไรก็แล้วแต่ท่าน แต่ผมก็มีความเห็นของผม แถมให้เหมือนกัน ตามรายงานความประพฤติของเด็กชาย สยาม ที่ครูประจำชั้น ที่ดูแลแดนสยาม ต้องทำส่งครูใหญ่ คือสภาสูงของอเมริกา ทุกปี หรือที่เรียกว่า Congressional Sevice Report เรื่อง Thailand: Background and U.S. Relations ซึ่งออกมาเมื่อวันที่ 29 กรกฏาคม ที่ผ่านมานี้ นั้น ผมมองไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของอเมริกา… ในทางที่เป็นคุณ หรือเป็นบวกกับประเทศไทยแต่อย่างใดเลย เอกสารยาว 19 หน้า อ้างความสัมพันธ์ที่มีมาช้านาน ตั้งแต่ ปี ค.ศ.1954 รักกันจัง รวมมือกันจริง แต่ความรักมาสะดุดก็ตอนที่ แดนสยามมีปฏิวัติถี่หน่อย 2 ครั้ง ในไม่กี่ปีที่ผ่านมา ข้อความอื่นๆ ก็เป็นไปตามแบบฟอร์มเดิม รวมทั้งเรื่องการเสือก เกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพอย่างสูงสุดของเรา และเรื่องการสืบสันตติวงศ์ของพระราชวงศ์ ซึ่งเป็นเรื่องภายในและละเอียดอ่อนของเรา มันก็ยังเสือกเหมือนเดิม ผมยังไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงของไอ้ใบตองแห้งเลยนะ ที่มีพิเศษเพิ่มเติม คือ เรื่องการปฏิวัติของลุงตู่ คุณครูประจำชั้น ที่ทำรายงานบอกว่า การที่ทหารไทยทำการปฏิวัติ ในปี ค.ศ.2014 ไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เป็นเรื่องใหญ่สำหรับอเมริกา เป็นการท้าทายความสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับไทยว่า จะยังอยู่ในราง หรือจะตกราง ในหลายๆทาง ความสัมพันธ์ด้านกองทัพ กับกองทัพ military – to – military ระหว่างอเมริกากับไทย เป็นเสาหลักที่แข็งแรงที่สุด ในด้านความสัมพันธ์ ระหว่างอเมริกากับไทย…. ….นอกจากนี้ มีนักวิเคราะห์บอกว่า สัมพันธ์ไทย-อเมริกา เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องรักษาไว้ เพราะจะทำให้ อเมริกาอาจเสียโอกาส ในการเข้ามาใช้ฐานและเครื่องมือเครื่องใช้ทางทหารที่สำคัญในไทย โดยเฉพาะอู่ตะเภา ที่สามารถรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่ ( ซึ่งรวมถึง C-17s และ C-130s) ได้ และอยู่ติดกับท่าเรือน้ำลึก และมีสาธารญูปโภคพร้อม ในการใช้บริหารและควบคุมระบบ เมื่อตอนอเมริกามีปฏิบัติการณ์อิรัค และอาฟกานิสถานกองทัพอมริกัน ใช้อู่ตะเภาเป็นที่แวะเติมน้ำมัน…….การเสียโอกาสนี้ จะทำให้ อิทธิพลของจีนในภูมิภาค เพิ่มสูงขึ้น…. ….นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานหลายสิบหน่วย ของอเมริกา ที่ใช้ไทยเป็นสำนักงานใหญ่ (ปฏิบัติการ) ในภูมิภาค เจ้าหน้าที่เหล่านั้น ไม่สบายใจว่า การเมืองไทยที่ไม่สงบ จะทำให้การทำงานของพวกเขาสะดุด…. เอาละครับ ไปอ่านส่วนที่เป็นน้ำกันเองต่อ ผมแกะส่วนที่เป็นเนื้อมาให้แล้ว ลองพิจารณากันดูนะครับ ไอ้ใบตองแห้ง มันมองเราอย่างไร และมันเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง หรือถ้ามันจะเปลี่ยน เปลี่ยนตรงไหน เพราะอะไร มันอาจจะเพิ่งสำนึก ว่า กูโง่ กูบ้า ขนาดไหน ที่มาทำกร่างใส่สมันน้อย นึกไม่ถึงว่าสมันน้อย จะเปลี่ยนเป็นช้างไทยสู้ศึก แล้วนี่ กูจะบุกจีน ผ่านรูไหนดีวู้ย ไม่มีอะไรดีกว่า หน้าด้าน ด่าแล้ว ก็กลับมาตบหัวได้ เดี๋ยวคนไทยใจดี ใครมาเยือนถึงเรือนชาน ก็ต้อนรับเอง เหมียนเดิม ถ้าไม่แน่ใจ ว่าจะต้อนรับนายทูตตนใหม่ของไอ้ใบตองแห้งอย่างไรดี จะเอาพวกมาลัยไปคอยยืนคล้องคอ แถมโบกธงอเมริกัน ตะโกนร้อง พ่อกูมาแล้ว หรือ จะด่ามันต่อไปว่า กูรู้นะ ว่ามึงกำลังคิดจะทำอะไร หรือจะเฉยๆ ดูท่าทีกันไปก่อน ถ้าไม่แน่ใจนะครับ ก็โปรดอดใจ รออีกไม่กี่วัน ผมกำลังปั่นนิทานเรื่องใหม่ เกี่ยวกับความสัมพันธ์อันซับซ้อน ระหว่างจีน ญี่ปุ่น อังกฤษ อเมริกา และ มันอาจจะมาเกี่ยวกับแดนสยามของเรา อ่านนิทานเรื่องนั้นแล้ว น่าจะได้คำตอบ ว่าจะรับนายทูตใบตองแห้งคนใหม่อย่างไร สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 8 ส.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตะกรุดลูกปืนหลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์
    ตะกรุดลูกปืนถักด้ายดิบ เก่าหิ้งๆ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์ // พระดีพิธีขลัง !! " แคล้วคลาด คงกระพัน " // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    พุทธคุณเด่นทางด้าน แคล้วคลาด ปลอดภัย จากอันตรายต่างๆ และคุ้มครองให้รอดพ้นจากภยันตราย เมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย และความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ดึงดูดผู้คนและทำให้เป็นที่รัก ส่งเสริมด้านธุรกิจการค้าให้เจริญรุ่งเรือง

    หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เป็นพระอริยสงฆ์ สุปฏิปันโน มีวัตรปฏิบัติที่งดงามสมเป็น “พระแท้” อย่างแท้งจริงสมควรค่าแก่การกราบไหว้บูชา ท่านเคร่งในพระธรรมวินัยถือการปฏิบัติ เจริญวิปัสสนากัมมัฎฐาน เจริญรอยตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กำหนดองค์ภาวนาทุกลมหายใจเข้า ออก ท่านสำเร็จญาณสมาบัติขั้นสูงเรียกว่า “อภิญญา”

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    ตะกรุดลูกปืนหลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์ ตะกรุดลูกปืนถักด้ายดิบ เก่าหิ้งๆ หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์ // พระดีพิธีขลัง !! " แคล้วคลาด คงกระพัน " // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> พุทธคุณเด่นทางด้าน แคล้วคลาด ปลอดภัย จากอันตรายต่างๆ และคุ้มครองให้รอดพ้นจากภยันตราย เมตตามหานิยม ค้าขายร่ำรวย และความเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ดึงดูดผู้คนและทำให้เป็นที่รัก ส่งเสริมด้านธุรกิจการค้าให้เจริญรุ่งเรือง หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ เป็นพระอริยสงฆ์ สุปฏิปันโน มีวัตรปฏิบัติที่งดงามสมเป็น “พระแท้” อย่างแท้งจริงสมควรค่าแก่การกราบไหว้บูชา ท่านเคร่งในพระธรรมวินัยถือการปฏิบัติ เจริญวิปัสสนากัมมัฎฐาน เจริญรอยตามคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กำหนดองค์ภาวนาทุกลมหายใจเข้า ออก ท่านสำเร็จญาณสมาบัติขั้นสูงเรียกว่า “อภิญญา” ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระงั่ง พระชัยเกศคดหลังยันต์สาม เนื้อผงพุทธคุณ
    พระงั่ง พระชัยเกศคดหลังยันต์สาม เนื้อผงพุทธคุณ พระแท้ไม่ทราบที่ //เครื่องรางของขลังประเภทหนึ่ง ที่เน้นในเรื่องของ เมตตามหานิยม เสน่ห์ ทำให้คนรอบข้างรักใคร่ นิยมชมชอบ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย และเมตตามหานิยม มหาละลวยจะเน้นด้านเมตตาค้าขาย ช่วยให้คนรัก เสริมดวงความรัก ทำให้เพศตรงข้ามรักหลง เมตตา เจรจาค้าขายคล่องแคล่ว และส่งเสริมโชคลาภ มีอานุภาพสูงในทางป้องกันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร ฯลฯ

    * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระงั่ง พระชัยเกศคดหลังยันต์สาม เนื้อผงพุทธคุณ พระงั่ง พระชัยเกศคดหลังยันต์สาม เนื้อผงพุทธคุณ พระแท้ไม่ทราบที่ //เครื่องรางของขลังประเภทหนึ่ง ที่เน้นในเรื่องของ เมตตามหานิยม เสน่ห์ ทำให้คนรอบข้างรักใคร่ นิยมชมชอบ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย และเมตตามหานิยม มหาละลวยจะเน้นด้านเมตตาค้าขาย ช่วยให้คนรัก เสริมดวงความรัก ทำให้เพศตรงข้ามรักหลง เมตตา เจรจาค้าขายคล่องแคล่ว และส่งเสริมโชคลาภ มีอานุภาพสูงในทางป้องกันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร ฯลฯ * พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • รูปหล่อหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี
    รูปหล่อหลวงปู่ทวด ก้นตัน เนื้อตะกั่วชุบทองแดงกะไหล่ทอง วัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี //พระดีพิธีใหญ่ พระเก่า พศ.ลึก พระแท้ดูง่ายสบายตา นานๆพบสักองศ์ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พระมหาเถระผู้ทรงอภิญญาที่รู้จักกันดีในประเทศไทย ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาในประเทศไทยที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก ซึ่งเป็นพระที่มีผู้เคารพ บูชานับถือทั่วประเทศไทย >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี รูปหล่อหลวงปู่ทวด ก้นตัน เนื้อตะกั่วชุบทองแดงกะไหล่ทอง วัดช้างให้ อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี //พระดีพิธีใหญ่ พระเก่า พศ.ลึก พระแท้ดูง่ายสบายตา นานๆพบสักองศ์ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ พระมหาเถระผู้ทรงอภิญญาที่รู้จักกันดีในประเทศไทย ผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่ทวดเชื่อกันว่าพระเครื่องที่สร้างเนื่องด้วยท่านจะมีอานุภาพสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองผู้มีพระเครื่องหลวงปู่ทวดในครอบครอง ปัจจุบันหลวงปู่ทวดถือได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงอภิญญาในประเทศไทยที่มีผู้ศรัทธาจำนวนมาก ซึ่งเป็นพระที่มีผู้เคารพ บูชานับถือทั่วประเทศไทย >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระพุทธนิรสรรพภัย ฉลององค์สมเด็จสมเด็จสังฆราช พระชันษา 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร กทม ปี2556
    เหรียญพระพุทธนิรสรรพภัย ฉลององค์สมเด็จสมเด็จสังฆราช พระชันษา 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร กทม ปี2556 // พระดีพิธีใหญ่ มหาพุทธาภิเษก 5 วาระ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณสูง "แคล้วคาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ " เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.**

    ** ในวาระอันเป็นมงคลนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานอนุญาตให้เชิญพระรูปฉลอง 100 ชันษา ของพระองค์ ประดิษฐานบน "เหรียญพระพุทธนิรสรรพภัย" อันมีความหมายว่า "พระพุทธเจ้าแห่งความปราศจากภัยทั้งปวง"นับเป็นเหรียญศักดิ์สิทธิ์เหรียญเดียวในโอกาสอันสำคัญยิ่งนี้ที่ประดิษฐาน ทั้งองค์พระพุทธรูป และพระรูปองค์สมเด็จพระสังฆราชฯ สังฆราชาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมูลนิธิรักษ์แผ่นดินไทย ในพระสังฆราชูปถัมภ์เหรียญได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกถึง 5 ครั้งด้วยกัน ครั้งที่ 1 จัดที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2556 ครั้งที่ 2 จัดที่สิมอีสาน วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2556 ครั้งที่ 3 ที่วัดพระสิงห์วรวิหาร จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2556 ครั้งที่ 4 ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2556

    และ จะมีพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งสุดท้าย ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ในวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2556 (เวลาบ่าย) โดยมีสมเด็จพระวันรัต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธี พุทธาภิเษก ภายในมณฑลพิธีพระอุโบสถ เพื่อประกอบพิธีเททอง-หล่อพระไพรีพินาศ พระพุทธนิรสรรพภัย และพุทธาภิเษกเหรียญพระพุทธนิรสรรพภัย **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระพุทธนิรสรรพภัย ฉลององค์สมเด็จสมเด็จสังฆราช พระชันษา 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร กทม ปี2556 เหรียญพระพุทธนิรสรรพภัย ฉลององค์สมเด็จสมเด็จสังฆราช พระชันษา 100 ปี วัดบวรนิเวศวิหาร กทม ปี2556 // พระดีพิธีใหญ่ มหาพุทธาภิเษก 5 วาระ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณสูง "แคล้วคาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ " เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก.** ** ในวาระอันเป็นมงคลนี้ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานอนุญาตให้เชิญพระรูปฉลอง 100 ชันษา ของพระองค์ ประดิษฐานบน "เหรียญพระพุทธนิรสรรพภัย" อันมีความหมายว่า "พระพุทธเจ้าแห่งความปราศจากภัยทั้งปวง"นับเป็นเหรียญศักดิ์สิทธิ์เหรียญเดียวในโอกาสอันสำคัญยิ่งนี้ที่ประดิษฐาน ทั้งองค์พระพุทธรูป และพระรูปองค์สมเด็จพระสังฆราชฯ สังฆราชาแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมูลนิธิรักษ์แผ่นดินไทย ในพระสังฆราชูปถัมภ์เหรียญได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษกถึง 5 ครั้งด้วยกัน ครั้งที่ 1 จัดที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2556 ครั้งที่ 2 จัดที่สิมอีสาน วัดป่าแสงอรุณ จ.ขอนแก่น เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.2556 ครั้งที่ 3 ที่วัดพระสิงห์วรวิหาร จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.2556 ครั้งที่ 4 ที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 24 ส.ค.2556 และ จะมีพิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งสุดท้าย ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ในวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2556 (เวลาบ่าย) โดยมีสมเด็จพระวันรัต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธี พุทธาภิเษก ภายในมณฑลพิธีพระอุโบสถ เพื่อประกอบพิธีเททอง-หล่อพระไพรีพินาศ พระพุทธนิรสรรพภัย และพุทธาภิเษกเหรียญพระพุทธนิรสรรพภัย ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญขวัญถุงหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม
    เหรียญขวัญถุงหลวงพ่อพูล เนื้อทองเเดง รุ่นเงินเพิ่มพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! สุดยอดเมตตาโชคลาภ มหาลาภ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม ติดต่อเจรจาค้าขายคล่องๆ มีเงินมีทองเหลือกินเหลือใช้ โชคลาภ และ เสี่ยงโชคดี ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงย คุ้มกันภัย คุ้มครอง ป้องกัน **

    ** หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมหลังจากท่านปลดประจำการ ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พ.ศ. 2480 โดยมี หลวงปู่สุข ปทฺวณฺโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังท่านบวช ได้พำนักอยู่ที่วัดพระงาม ศึกษาเล่าเรียนจนสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี เมื่อ พ.ศ. 2482 ในระหว่างนี้เองท่านได้ให้ความสนใจศึกษาด้านการเจริญสมาธิจิตฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐาน ตามคำสอนควบคู่กับการศึกษาวิชาอาคม ซึ่งได้รับมอบหมายจาก "ปู่แย้ม ปิ่นทอง" ที่วัดพระงามนี้ท่านจึงได้มีโอกาสได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อพร้อม วัดพระงาม พระเกจิที่ท่านเคราพมากที่สุดคือ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ได้รับคำแนะนำในการเจริญสมาธิภาวนา การเขียนอักขระเลขยันต์ ปลุกเสกวัตถุมงคล วิชาอาคมต่าง ๆ หลวงพ่อเงินเมตตาเป็นคนถ่ายทอดอย่างไม่ปิดบัง ต่อมาท่านได้ย้ายมาธุดงค์ที่ป่าเขาลำเนาไพรฝึกฝนสมาธิจิต และในปี พ.ศ. 2490 วัดไผ่ล้อมขาดเจ้าอาวาสในการปกครองเนื่องจากเจ้าอาวาสแต่ละรูปอยู่ปกครองวัดได้ไม่นานต้องลาสิกขาบทออกไป หลวงพ่อพูลจึงได้ย้ายมาจำพรรษาประจำอยู่ที่วัดไผ่ล้อม พร้อมกับทำการก่อสร้าง พัฒนาวัดเรื่อยตลอดเวลา **

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญขวัญถุงหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม เหรียญขวัญถุงหลวงพ่อพูล เนื้อทองเเดง รุ่นเงินเพิ่มพูล วัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! สุดยอดเมตตาโชคลาภ มหาลาภ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านเสน่ห์ เมตตามหานิยม ติดต่อเจรจาค้าขายคล่องๆ มีเงินมีทองเหลือกินเหลือใช้ โชคลาภ และ เสี่ยงโชคดี ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงย คุ้มกันภัย คุ้มครอง ป้องกัน ** ** หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อมหลังจากท่านปลดประจำการ ท่านได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พ.ศ. 2480 โดยมี หลวงปู่สุข ปทฺวณฺโณ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังท่านบวช ได้พำนักอยู่ที่วัดพระงาม ศึกษาเล่าเรียนจนสอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี เมื่อ พ.ศ. 2482 ในระหว่างนี้เองท่านได้ให้ความสนใจศึกษาด้านการเจริญสมาธิจิตฝึกฝนวิปัสสนากรรมฐาน ตามคำสอนควบคู่กับการศึกษาวิชาอาคม ซึ่งได้รับมอบหมายจาก "ปู่แย้ม ปิ่นทอง" ที่วัดพระงามนี้ท่านจึงได้มีโอกาสได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อพร้อม วัดพระงาม พระเกจิที่ท่านเคราพมากที่สุดคือ หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม ได้รับคำแนะนำในการเจริญสมาธิภาวนา การเขียนอักขระเลขยันต์ ปลุกเสกวัตถุมงคล วิชาอาคมต่าง ๆ หลวงพ่อเงินเมตตาเป็นคนถ่ายทอดอย่างไม่ปิดบัง ต่อมาท่านได้ย้ายมาธุดงค์ที่ป่าเขาลำเนาไพรฝึกฝนสมาธิจิต และในปี พ.ศ. 2490 วัดไผ่ล้อมขาดเจ้าอาวาสในการปกครองเนื่องจากเจ้าอาวาสแต่ละรูปอยู่ปกครองวัดได้ไม่นานต้องลาสิกขาบทออกไป หลวงพ่อพูลจึงได้ย้ายมาจำพรรษาประจำอยู่ที่วัดไผ่ล้อม พร้อมกับทำการก่อสร้าง พัฒนาวัดเรื่อยตลอดเวลา ** ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • พุทธาวาสแห่งอนัตตจักรวาล #เมืองโบราณ #สมุทรปราการ #ท่องเที่ยว #buddha #tample #travel #fun #happytime #thailand #thaitimes #kaiaminute
    พุทธาวาสแห่งอนัตตจักรวาล #เมืองโบราณ #สมุทรปราการ #ท่องเที่ยว #buddha #tample #travel #fun #happytime #thailand #thaitimes #kaiaminute
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ผลทดสอบ AnTuTu ของ Snapdragon 8 Gen 5

    Snapdragon 8 Gen 5 ใช้กระบวนการผลิต 3nm N3P เช่นเดียวกับรุ่น Elite แต่มีการปรับลดความเร็วสัญญาณนาฬิกาเพื่อควบคุมพลังงานและความร้อน ผลทดสอบ AnTuTu ล่าสุดทำได้ 3.56 ล้านคะแนน ขณะที่ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ทำได้ประมาณ 4 ล้านคะแนน ซึ่งต่างกันเพียง 14% ถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับชิปที่ไม่ใช่รุ่นท็อป

    สเปกและการใช้งานจริง
    ชิป Snapdragon 8 Gen 5 จะถูกใช้ครั้งแรกใน OnePlus Ace 6T ที่มาพร้อม Android 16, RAM 16GB LPDDR5X และ UFS 4.1 ขนาด 1TB โดย CPU ใช้โครงสร้าง 2+6 cluster ที่มีคอร์ประสิทธิภาพทำงานที่ 3.80GHz และคอร์ประหยัดพลังงานที่ 3.32GHz การออกแบบนี้ช่วยลดปัญหาความร้อนที่พบในรุ่น Elite

    จุดเด่นของ Snapdragon 8 Gen 5
    แม้จะไม่ใช่รุ่นเรือธง แต่ Snapdragon 8 Gen 5 ยังคงรองรับฟีเจอร์ระดับสูง เช่น การเล่นเกมกราฟิกหนัก, การถ่ายวิดีโอ 8K และการประมวลผล AI บนอุปกรณ์พกพา จุดเด่นคือการจัดสมดุลระหว่าง ประสิทธิภาพและการควบคุมความร้อน ซึ่งทำให้เหมาะกับผู้ผลิตที่ต้องการชิปพรีเมียมแต่ไม่อยากจ่ายราคาสูงสำหรับรุ่น Elite

    ผลกระทบต่อตลาดสมาร์ทโฟน
    การเปิดตัว Snapdragon 8 Gen 5 ทำให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น โดยสามารถนำไปใช้ในรุ่นพรีเมียมระดับกลางที่ยังคงให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับเรือธง การแข่งขันในตลาด Android จะยิ่งรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกับแบรนด์จีนที่มักใช้กลยุทธ์ “คุ้มค่าเกินราคา”

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Snapdragon 8 Gen 5 ทำคะแนน AnTuTu ได้ 3.56 ล้าน
    ต่ำกว่า Snapdragon 8 Elite Gen 5 เพียง 14%

    ใช้กระบวนการผลิต 3nm N3P เช่นเดียวกับรุ่น Elite
    แต่ลดความเร็วสัญญาณนาฬิกาเพื่อควบคุมพลังงานและความร้อน

    เปิดตัวครั้งแรกใน OnePlus Ace 6T
    มาพร้อม Android 16, RAM 16GB, UFS 4.1 ขนาด 1TB

    CPU ใช้โครงสร้าง 2+6 cluster
    คอร์ประสิทธิภาพ 3.80GHz และคอร์ประหยัดพลังงาน 3.32GHz

    ความเสี่ยงด้านความร้อนและการจัดการพลังงาน
    แม้จะลดความเร็ว แต่ยังต้องทดสอบเพิ่มเติมในงานจริง

    การแข่งขันในตลาด Android จะรุนแรงขึ้น
    ผู้ผลิตต้องหาจุดสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ

    https://wccftech.com/snapdragon-8-gen-5-antutu-results-only-slightly-lower-than-snapdragon-8-elite-gen-5/
    📊 ผลทดสอบ AnTuTu ของ Snapdragon 8 Gen 5 Snapdragon 8 Gen 5 ใช้กระบวนการผลิต 3nm N3P เช่นเดียวกับรุ่น Elite แต่มีการปรับลดความเร็วสัญญาณนาฬิกาเพื่อควบคุมพลังงานและความร้อน ผลทดสอบ AnTuTu ล่าสุดทำได้ 3.56 ล้านคะแนน ขณะที่ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ทำได้ประมาณ 4 ล้านคะแนน ซึ่งต่างกันเพียง 14% ถือเป็นตัวเลขที่น่าประทับใจสำหรับชิปที่ไม่ใช่รุ่นท็อป ⚙️ สเปกและการใช้งานจริง ชิป Snapdragon 8 Gen 5 จะถูกใช้ครั้งแรกใน OnePlus Ace 6T ที่มาพร้อม Android 16, RAM 16GB LPDDR5X และ UFS 4.1 ขนาด 1TB โดย CPU ใช้โครงสร้าง 2+6 cluster ที่มีคอร์ประสิทธิภาพทำงานที่ 3.80GHz และคอร์ประหยัดพลังงานที่ 3.32GHz การออกแบบนี้ช่วยลดปัญหาความร้อนที่พบในรุ่น Elite 🔥 จุดเด่นของ Snapdragon 8 Gen 5 แม้จะไม่ใช่รุ่นเรือธง แต่ Snapdragon 8 Gen 5 ยังคงรองรับฟีเจอร์ระดับสูง เช่น การเล่นเกมกราฟิกหนัก, การถ่ายวิดีโอ 8K และการประมวลผล AI บนอุปกรณ์พกพา จุดเด่นคือการจัดสมดุลระหว่าง ประสิทธิภาพและการควบคุมความร้อน ซึ่งทำให้เหมาะกับผู้ผลิตที่ต้องการชิปพรีเมียมแต่ไม่อยากจ่ายราคาสูงสำหรับรุ่น Elite 🌐 ผลกระทบต่อตลาดสมาร์ทโฟน การเปิดตัว Snapdragon 8 Gen 5 ทำให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนมีตัวเลือกที่หลากหลายมากขึ้น โดยสามารถนำไปใช้ในรุ่นพรีเมียมระดับกลางที่ยังคงให้ประสบการณ์ใกล้เคียงกับเรือธง การแข่งขันในตลาด Android จะยิ่งรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะกับแบรนด์จีนที่มักใช้กลยุทธ์ “คุ้มค่าเกินราคา” 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Snapdragon 8 Gen 5 ทำคะแนน AnTuTu ได้ 3.56 ล้าน ➡️ ต่ำกว่า Snapdragon 8 Elite Gen 5 เพียง 14% ✅ ใช้กระบวนการผลิต 3nm N3P เช่นเดียวกับรุ่น Elite ➡️ แต่ลดความเร็วสัญญาณนาฬิกาเพื่อควบคุมพลังงานและความร้อน ✅ เปิดตัวครั้งแรกใน OnePlus Ace 6T ➡️ มาพร้อม Android 16, RAM 16GB, UFS 4.1 ขนาด 1TB ✅ CPU ใช้โครงสร้าง 2+6 cluster ➡️ คอร์ประสิทธิภาพ 3.80GHz และคอร์ประหยัดพลังงาน 3.32GHz ‼️ ความเสี่ยงด้านความร้อนและการจัดการพลังงาน ⛔ แม้จะลดความเร็ว แต่ยังต้องทดสอบเพิ่มเติมในงานจริง ‼️ การแข่งขันในตลาด Android จะรุนแรงขึ้น ⛔ ผู้ผลิตต้องหาจุดสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพ https://wccftech.com/snapdragon-8-gen-5-antutu-results-only-slightly-lower-than-snapdragon-8-elite-gen-5/
    WCCFTECH.COM
    Snapdragon 8 Gen 5’s AnTuTu Results Are Just A Tier Below The Snapdragon 8 Elite Gen 5, Highlighting Qualcomm’s Incredible Progress With Non-Flagship SoCs
    The first AnTuTu results of the Snapdragon 8 Gen 5 are here, and the fact that it performs just slightly slower than the Snapdragon 8 Elite Gen 5 is downright impressive
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่อง สู่ทางน้ำเชี่ยว 1 – 2

    “สู่ทางน้ำเชี่ยว”
    (1)
    วันนี้ขอคุยกับท่านผู้อ่าน แบบตรงไปตรงมา จากความรู้สึกในใจของผมหน่อยเถิด ไม่ชอบใจ ก็ปิดเครื่อง หรือเปลี่ยนไปอ่านเพจอื่น ไม่พอใจ อยากจะด่า ก็เชิญตามสบาย
    แต่อย่าแรงนักแล้วกัน คนแก่ตกใจง่าย
    ผมเขียนนิทานเรื่องจริงให้อ่านกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว เอาข้อมูลเรื่องราวที่มองมาจากอีกมุมหนึ่ง รวมทั้งที่มองจากมุมเดิม ที่เห็นๆกันอยู่ซ้ำซาก แต่ผมมองลึกไปอีกแบบ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องราวที่สื่อฟอกย้อม ทั้งในบ้านและนอกบ้าน แทบไม่เคยพูดถึง หรือพูดแบบใส่สีเข้มตามใบสั่งของ เจ้าของสื่อ จนไม่รู้ว่า มีความจริงน้อยมากแค่ไหน หรือพูดแบบ มั่ว คลุมเคลือ ไม่รู้ที่มาและที่จะไปต่อ หรือพูดแบบครึ่งใบ ที่เหลือให้เดาเอา หรือแต่งกันเองสนุกดี
    จากการอ่านและการวิเคราะห์ของผมเอง ผมเชื่อว่า อีกไม่เกิน 2 ถึง 3 ปี จากที่ผมเริ่มเขียนนิทานเรื่อง แรก เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2556 ก็แปลว่า จากนี้ไป ไม่เกิน 1 ปี โลกเราจะเริ่มเข้าสู่อาการ ถ้าเปรียบกันคน ก็เป็นคนต้องเกณท์เปลี่ยนชะตานั่นแหละ มันจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเล็ก สิ่งน้อย ซึ่งถ้าเราไม่ทันสังเกต หรือไม่สนใจติดตาม เราก็จะไม่รู้ว่า มันมีการเปลี่ยนไปแล้ว และการเปลี่ยนนั้น จะเปลี่ยนมากขึ้น ด้วยอัตราที่เร็วขึ้น จนเราเริ่มรู้สึก แต่ก็อาจจะยังไม่รู้เรื่อง รู้เหตุ รู้ผล อยู่ดี กว่าจะรู้เรื่อง ก็อาจจะทำอะไรไม่ทันแล้ว
    เราเคยชินกับการมีอเมริกา ที่ทำตัวเหมือนเป็นจิ๊กโก๋ปากซอยตัวแสบ เบ่งกล้าม คุมทั้งซอยอยู่คนเดียว มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นานถึง 70 ปี เชียวนะครับ ที่ไอ้จิ๊กโก๋มันคุมโลก จนตัวมันก็ “ชิน” กับการที่ไม่ใครมากล้าหือกับมัน และเราๆ ก็ดัน “ชิน” กับการคุมของมัน แถมบางพวก ก็ชอบที่จะอยู่ใต้อุ้งมืออุ้งตีนของไอ้จิ๊กโก๋ ก็ของมันเคย มันชิน แต่สำหรับพวกที่ไม่ชอบ ก็ต้องทนยอมมันไป (ก่อน) ก็มันวางกฏเกณท์ของทั้งโลกทั้ง ใบ หันไปทางไหน จะทำอะไร ก็เจอกฏ เจอระบบ ที่มันวางไว้ทั้งนั้น ขนาดจะแต่งตัว ตัดผม ดูหนัง ฟังเพลง บันเทิงใจ ชอบ ไม่ชอบอะไร ยังต้องเป็นแบบที่มันจัดยัดใส่หัวมาให้เลย ใครที่ไม่อยู่ในระบบ ในรูปแบบที่มันเห็นชอบ มันก็จัดการเก็บกวาดจนเหี้ยน ในที่สุด ชาวโลกส่วนใหญ่ ก็เลยจำยอมอยู่ในกำมือ ในกฏ กติกา ความเห็น ที่ไอ้จิ๊กโก๋มันสร้าง มันวางเอาไว้ น่าสมเพชไหมครับ ที่ต้องมีใครมาจูงเราทุกเรื่อง หรือชอบใจกัน ที่ไม่ต้องคิดมาก จูงไปทางไหน ก็ไปทางนั้น…
    แต่ประมาณ 15 ปี มานี้ เริ่มมีพวกที่อยากดำเนินชีวิต ตามระบบ ตามแบบของตัวเอง อยากกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ทุกอย่างต้องขึ้นกับจิ๊กโก๋ปากซอยสั่ง กูจะหิว กูจะกิน กูจะนอน ฯลฯ ให้มันเป็นไปตามใจกูบ้างได้มั้ย กูเบื่อที่จะถูกจูงแล้ว….
    จิ๊กโก๋ บอก ไม่ได้ กูไม่เชื่อว่าพวกมึงตัดสินใจเป็น และตัดสินใจถูก ขอโทษนะครับ ต้องเขียนด้วยสรรพนาม เช่นนี้ เพราะลักษณะที่เขาออกอาการกัน มันดูจะไม่ใช่เป็นการพูดแบบคุณครับขอรับกระผมกัน ที่นี้ เรื่องมันก็เลยเริ่มวุ่น และบานไปเรื่อยๆ
    มาถึงวันนี้ โลกแบ่งชัดเจนแล้ว อำนาจของโลก ที่เคยมีขั้วอำนาจขั้วเดียว ที่คุมโดย ไอ้จิ๊กโก๋ปากซอย อเมริกาและพวกลูกกระเป๋ง กำลังเปลี่ยนไป ขั้วอำนาจอีกขั้ว ที่นำโดยรัสเซียและจีน กำลังรวมตัว และปรากฏตัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีจำนวนประเทศน้อยกว่า แต่ถ้านับเนื้อที่ของประเทศ กับจำนวนรวมของพลเมือง คงไม่ต่างกันมาก และขณะนี้ ทั้งสองขั้ว ต่างกำลังจ้องตาใส่กันอย่างไม่กระพริบ เพื่อค้นหา รวมไปถึงทดสอบ ศักยภาพทางเศรษฐกิจ และศักยภาพทางอาวุธ ของขั้วที่ต่างกัน ว่าใครจะเหนือกว่าใคร
    เศรษฐกิจเป็นเกมที่ทางขั้วอำนา จอเมริกาถนัดนัก เล่นกลอยู่เสมอ เล่นมา 100 ปีแล้วนี่ ปั่นขึ้น ปั่นลง ได้ทุกอย่าง ก็เป็นคนคุมระบบทั้งหมด มันก็เหมือนเป็นเจ้ามือคุมบ่อน นั่นแหล่ะ แจกไพ่เอง ทำเครื่องหมายไพ่ ให้ยืมเงินมาเล่น ใครทำอะไรไม่ถูกใจ ก็ไล่ออกจากวง คว่ำบาตรเสีย แบบนี้ เจ้ามือก็ไม่มีทางแพ้อยู่แล้ว (มีแต่ถูกเผาบ่อน หรือถูกยิง) เรื่องเศรษฐกิจ จึงเป็นเหมือนตัววัดตัวหนึ่ง เมื่อไหร่ที่เจ้ามือออกอาการ มีการใกล้จะล้มโต๊ะ เพราะเจ้ามือเล่นกลไม่ออก จะเพราะลูกมือเกิดดวงดี ดวงแข็ง หรือถูกลูกมือจับกลโกงของเจ้ามือได้ นั่นก็เป็นอาการที่เราๆ จะต้องระวัง แปลว่า เรื่องใหญ่ใกล้จะมา ดวงชะตาของโลกใกล้จะมีการเปลี่ยน
    เหตุการณ์ตลาดหุ้นจีน ที่เริ่มถูกปั่นลงดิ่ง ตั้งแต่เดือนมิถุนา กรกฏาคม จนแมงเม่าตาตี่ปีกหัก ร่วงผล่อยหล่นลงพื้นเต็มไปหมด แต่จีนก็ปล่อยให้เจ้ามือตาน้ำข้าวเล่นให้เพลิน ด้วยการปล่อยให้หล่นถึงพื้น และจีนก็ซื้อกลับ ส่วนเงินกองทุนของเจ้ามือตาน้ำข้าว รวมทั้งกำไรที่รวยมาจากเด็ดปีกแมงเม่าตาตี่ เจ้ามือตาน้ำข้าวเตรียมโอนกลับ บ้าน แต่จีนบอกรอแป๊บนึง อย่าเพิ่งใจร้อน รีบโอนกลับ ขอเราตรวจสอบก่อนว่า ทำผิดกฏอะไรบ้างหรือเปล่า ทำได้ไม่ไม่ใช่หรือ ก็ดันไปเปิดบ่อนเต๋าถ่วงที่บ้านคนอื่น โง่หรือฉลาด(วะ) ทุนก้อนใหญ่ เอาออกมาไม่ได้ ตลาดอื่นๆ ก็ค่อยๆร่วง ชาวบ้านนึกว่าร่วงเรื่องกรีซ ก็เพราะสื่อย้อมสีกับกองทุนตาน้ำข้าว มันบอกอย่างนั้น ก็เลยเชื่อกันอย่างนั้น…นี่การตรวจสอบจะนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้…. สื่อฟอกย้อม เรื่องนี้ ไม่ออกข่าวเลยนะ
    อเมริกาบอก โลกนี้หมุนด้วยน้ำมัน และมันต้องเป็นน้ำมัน ที่ค้าขายกันด้วยดอลล่าร์ (เปโตรดอลล่าร์) เท่านั้น โลกถึงจะหมุน วันนี้ จีนกับรัสเซียบอก ไม่จำเป็นนะ เปโตรหยวน หรือเปโตรรูเบิล ก็หมุนโลกได้เหมือนกัน
    อเมริกาบอก ระบบการเงินในโลก ต้องคุมด้วยระบบธนาคารกลางของอเมริกา จีนกับรัสเซียบอก ไม่จำเป็นนะ ถ้าเราสร้างระบบที่พวกเราเห็นพ้องกันว่ามันยุติธรรมได้ และตอนนี้ จีนกับรัสเซีย ก็กำลังค้าขายกันด้วยการแลกเปลี่ยนเงินสกุลของพวกเขา ตามค่าของเงินที่พวกเขาตกลงกันเอง อ้าว พวกเอ็งตกลงกันเองได้ พวกผมก็ตกลงกันได้เหมือนกัน มีปัญหาไหม
    อเมริกากับพวกสร้าง World Bank, IMF มาเป็นกลไกด้านการเงิน คุมโลกจนกระดิกแทบไม่ออก วันนี้ จีนกับรัสเซียและพวกสร้าง AIIB ขึ้นมาเป็นทางเลือก
    อเมริกาสร้างใอ้ 3 หมาไน เป็นตัววัดเครดิตเรตติ้งของธุรกิจ ของประเทศต่างๆ ตามหลักเกณท์ที่มีผู้ค้านมากมาย ว่าไม่เป็นธรรม วันนี้ จีนกับรัสเซีย ก็กำลังสร้างบริษัทวัดเครดิตเช่นนั้นเหมือนกัน และบอกว่าเป็นธรรมกว่า
    เราจะได้ยินเรื่องทำนองนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริง มันควรจะเป็นเรื่องน่ายินดี ที่มีการเพิ่มทางเลือกให้แก่มนุษยชาติ แต่ดูเหมือนอเมริกาไม่ยินดี นอกจากไม่ยินดีแล้ว อเมริกายังแสดงอาการ ทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วยว่า อเมริกาไม่พอใจอย่างยิ่ง อเมริกามองว่า การที่อีกฝ่าย และมนุษยชาติ มีทางเลือก มันเป็นการคุกคาม การเป็นผู้ครอบครองโลกใบนี้แต่ผู้เดียวของอเมริกา( America World Dominence) และ อเมริกาเท่านั้นนะ ที่จะเป็นผู้กำหนดชะตาของโลก มันต้องเป็นไปตามเส้นทาง วิธีการ ระบบ ที่อเมริกาเลือก และเห็นชอบสิ เข้าใจไหม
    และเพราะอเมริกา มีแนวคิด และแนวปฏิบัติเข่นนี้ โลกนี้ถึงได้ยุ่งเหยิงอย่างไม่ควรจะเป็น เมื่อใดที่เรื่องอะไร ที่ไหน ที่ไม่เป็นไปตามแนวที่อเมริกาเห็นชอบ หรือเมื่ออเมริกาอยากได้สมบัติของเขา ประเทศเหล่านั้นก็ถูกสื่อที่เป็นมือตีนของอเมริกา ฟอกย้อมให้เป็นคนเลว เป็นเผด็จการ เป็นผู้ร้าย เป็นโจร เมื่อสื่อย้อมจนได้ที่ อเมริกาก็ยาตราใช้อำนาจของอาวุธของตัวเองเข้าไปตัดสิน และประเทศเหล่านั้น ก็ถึงแก่การกาลวิบัติ ฉิบหาย จนถึงสิ้นชาติ โลกนี้จึงอยู่ในกำมือของอเมริกา ที่ใช้มาตรฐานของตน ที่มีหลายระดับ หลายแบบ ตามสันดานจิ๊กโก๋เป็นเครื่องตัดสิน

    (2)
    แดนสยามของสมันน้อย กำลังถูกอเมริกาจับตามองอย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่สมันน้อยเริ่มไม่ว่าง่าย เมื่อสมันน้อยทนมีรัฐบาลโคตรโกง ไม่ไหว ออกมาขับไล่ อเมริกายื่นหน้ามาถาม ไล่เขาทำไม เขามาจากการเลือกตั้ง เสือกไหม เสือกสิ ในความเห็นของผม ทำไมเอ็งต้องมาออกความเห็นเรื่องบ้านผมทุกเรื่อง วันนี้แดนสยาม มีทหารเป็นผู้ใช้อำนาจในการบริหาร โดยยังไม่มีการลือกตั้ง อเมริกาจะลงแดงตายเสียให้ได้ เมื่อไหร่ ไทยแลนด์จะมีการเลือกตั้ง อเมริการับไม่ได้กับการปฏิวัติ รับไม่ได้กับการไม่เลือกตั้ง รับไม่ได้กับการไม่เป็นประชาธิปไตย อเมริกาไม่ชอบ ไม่ชอบ และไม่ชอบ ทำไมไม่ลงไปดื้นเร่าๆกลิ้งกับพื้น ตอนด่าไทยแลนด์เลยละ (วะ) จะได้สมกับเป็นชาติมหาอำนาจใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก
    Wall Street Journal ลงบทความ เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคมนี้ เขียนโดย นาย Desmond Dalton ซึ่งเป็นนายทหารอเมริกัน ที่เกษียณแล้ว และเคยเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของอเมริกาในประเทศไทย บทความนั้นชื่อว่า ” Saving America’s Ties With Thailand” หลายท่านคงเห็นแล้ว และเข้าใจว่าสื่อไทยก็น่าจะลงแล้ว แต่ผมมีมุมมองของผม ที่อาจจะต่างไปบ้าง
    บทความดังกล่าว สรุปว่า อเมริกาไม่พอใจไทย ตั้งแต่มีการปฏิวัติเมื่อปี ค.ศ.2014 (ก็ปฏิวัติของลุงตู่นั่นแหละ) และความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับไทย ก็เสื่อมลงมากมายอย่างน่าใจหาย อเมริกาหันหลังให้กับรัฐบาลทหาร อย่างไม่ไว้หน้า แถมขู่ให้ไทยรีบมีการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว มิฉะนั้น สัมพันธ์อเมริกาไทยก็จะยิ่งเสื่อมลงไปอีกเรื่อยๆ (จะให้เสื่อมลงถึงไหน นี่ยังไม่ถึงดินหรือไง สงสัยอยากได้สัมพันธ์แบบใต้ดิน แบบนั้น ต้องไปแถวประเทศที่ถนัดแบกถาด ฮา)
    คุณทหารอดีตที่ปรึกษา บอกว่า การที่อเมริกาปฏิบัติต่อไทยเช่นนี้ ทำให้อเมริกาเสียโอกาสในไทยอย่างยิ่ง และทำให้นโยบายของรัฐบาลโอบามา ที่คิดจะมาถ่วงดุลอำนาจ ในเอเซียแปซิฟิกจะกลายเป็นแค่ราคาคุย ไม่ใช่ว่า อเมริกาควรจะหลับหู หลับตา กับสิ่งที่ไทยทำ แต่เพื่อรักษาโอกาสของอเมริกา อเมริกาก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่สร้างศัตรูกับไทย ด้วยการด่าว่าทหารไทยอย่างเอิกเกริก ไปพูด (ด่า) กันเงียบๆก็ได้นะ แถมการที่อเมริกาตัดงบอาวุธ ตัดงบการอบรม สาระพัดกับไทย กลายเป็นการผลักให้ไทยหันไปสร้างสัมพันธ์กับชาติอื่น เช่นจีนแทน…
    ….และไทย ก็เลยปิดประตูทางเข้า ที่อเมริกาเคยเข้ามาใช้ไทยอย่างอิสระ สะดวกสบายไปเรียบร้อย และจากการตัดสินใจซื้ออาวุธล่าสุดของไทย แสดงให้เห็นว่า ไทยไม่คิดจะพึ่งพาอเมริกาด้านอาวุธเพียงรายเดียว นี่เป็นก้าวที่พลาดอย่างยิ่งของอเมริกา แม้ไทยจะเป็นเพียงประเทศขนาดกลาง มีพลเมือง ประมาณ 70 ล้านคน มีเศรษฐกิจเพียงอันดับที่ 22 ของโลก … แต่ไทย มีความหมายในเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่งกับอเมริกา ……
    ….เส้นทางจากไทย เป็นเส้นทางเดียว ที่กองทัพอเมริกันเชื่อถือ ที่จะใช้เป็นจุดผ่านเข้าไปสู่แผ่นดินใหญ่ของเอเซีย…
    …It offers U.S forces the only reliable access point to mainland Asia…
    นอกจากนี้ อุตสาหกรรมด้านการผลิตอาวุธของอเมริกา ได้รับการอุดหนุนจากงบประมาณด้านความมั่นคงก้อนใหญ่ ของไทยทุกปี
    บทความที่เหลือ ก็เป็นการสรรเสริญ ถึงความเก่งกล้าสามารถด้านการทหารของไทย รวมทั้งด้านการเป็นผู้นำในภูมิภาคของไทย พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ ให้อเมริกากลับมาเจรจาโดยใช้คำหวานกับไทยเสียใหม่ ให้ไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย และเพื่อที่อเมริกาจะได้ใช้ประโยชน์จากการมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันให้มากที่สุด…โดยทำผ่านการพูดคุยกับผู้นำทหาร นักวิชาการ และราษฎรที่มีชื่อเสียง….อืม..
    พอเห็นไหมครับ ว่าบทความนี้มันสื่ออะไรกับเราบ้าง
    มันไม่มีส่วนไหนเลย ที่แสดงถึงความเข้าใจ และเห็นใจประเทศไทย มันมีแต่ว่า เขาจะใช้ประโยชน์จากเราได้อย่างไรบ้าง และจะ “ทำอย่างไร” ที่จะกลับมาจิกหัวเรา ได้อย่างเดิม
    บทความนี้ เป็นการโยนหินถามทางที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะ คำแนะนำ ว่า อเมริกาควร “ทำอย่างไร” เพื่อจะกลับมา
    อเมริกา น่าจะรู้ตัวแล้วว่า อเมริกากำลังเดินหมากผิดจนน่าโขกหัวตัวเอง ในยามที่โลกแบ่งชัดเป็น 2 ขั้ว เมื่อจีนและรัสเซียอยู่คนละขั้วกับอเมริกา แต่อเมริกาดันถีบหมากชื่อไทยแลนด์ กระเด็นออกไปนอกกระดานของอเมริกา และก็เป็นการถีบทิ้งอย่างเอิกเกริก เล่นงานกันทุกทาง ไม่ว่าจะโดยแสดงด้วยกริยา อาการ หรือการแสดงด้วยวาจา การด่า การเขียน ทั้งทางตรง ทางอ้อม แม้กระทั่งในบทความของถังขยะความคิด ไม่ว่าถังไหน เมื่อพูดถึงอเมริกาและพวก จะไม่ปรากฏชื่อไทยแลนด์ แดนสยามของสมันน้อยแม้แต่ครั้งเดียว คบกันมา กว่า 70 ปี บทจะถีบทิ้ง ก็ไม่เหลือใย เหลือหน้ากันไว้ อย่างนี้จะกลับมาเป็นเพื่อนกันใหม่ จะให้มองกันติดสนิทใจ จะใช้กาวยี่ห้อไหนดี(วะ)
    อเมริกา กำลังทดสอบไทย ตามสันดานจิ๊กโก๋ปากซอย ด้วยการบีบคั้นทุกรูปแบบ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาใช้ hard power (อาวุธ) อเมริกาจึงใช้ soft power (อำนาจที่ไม่ต้องใช้อาวุธ เช่น การคว่ำบาตร การกีดกัน การระงับ โดยอ้างว่าไม่ได้มาตรฐานการ และใช้มากที่สุดคือ ใช้สื่อโจมตี) เราจึงได้เห็นตั้งแต่ การโจมตีเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ การเลื่อนการเลือกตั้ง เรื่องการไม่มีมนุษยธรรม ตั้งแต่โรฮิงญา มาจนถึงอุยกูร์ การที่บริษักการบินไทยไม่ได้มาตรฐาน เรื่องส่งออกอาหารไม่ผ่านมาตรฐาน ใช้แรงงานผิดมาตรฐาน ข่าวเรื่องอียู คว่ำบาตรไทย การจ่าหน้าซองผิด ฯลฯ ยังจะมีสาระพัด ตะหวักตะบวยเลวไปกว่านี้อีกมากมาย ที่มันจะสรรหา ยกขึ้นตามมาอีก การก่อกวนในรูปแบบต่างๆ ก็ยังจะเกิดขึ้นอีก และอาจจะรุนแรงขึ้น เป้าหมายก็เพื่อสั่นคลอนเรา พยายามทุกอย่างให้สมันน้อยปอดแหก จะได้ไม่กล้า แหกคอก
    มาถึงวันนี้ วันที่ต่างก็เริ่มเห็นชัดแล้ว ว่าอะไรคอยอยู่ข้างหน้า อเมริกา คิดตกหรือยัง ว่า จะตบหน้าเพื่อนเก่า 70 ปีต่อไปอีก โทษฐานคิดแหกคอก หรือ อเมริกาจะทำไม่รู้ไม่ชี้ เดินกลับมา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะชักสำนึกได้ว่า ถ้าจะใช้ไอ้พวกลูกกระเป๋ง มาแบกถาดถือปืน อาจจะไม่ได้ผลอย่างที่คิด
    จิ๊กโก๋ทำได้ไหม ทำได้สบายมาก ถ้าจำเป็นจริงๆ อเมริกาก็หาวิธีกลับเข้ามาตบหลังลูบหัวไทยได้ ถ้าเดินเข้ามาตรงๆไม่ได้ หนอนในบ้าน ที่ยังเห็นอเมริกาเป็นพ่อ ยังมีอีกแยะ คงหาทางให้ สมันน้อยเดินจ๋อยๆกลับเข้าคอกเอง โดยนึกว่าอเมริกาไม่เกี่ยว แล้วเราจะว่ายังไงครับ….
    ตอนนี้ ลุงตู่กำลังทำหน้าที่เป็นกัปตัน พาเรือใหญ่ขนาดกลาง ขนคนประมาณ 70 ล้านคน มุ่งหน้าไปตามลำน้ำใหญ่ สายน้ำเริ่มเชี่ยวขึ้นทุกที แถมข้างหน้า มีวังน้ำวนเห็นอยู่ชัดๆ เรือจะผ่านวังน้ำวน ไปได้หรือเปล่ายังไม่รู้ ลุงตู่จะคัดท้าย นำเรือขนาดกลางนี้ ไปรอดไหม ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝีมือคัด ท้ายของลุงตู่เอง แต่อีกส่วน ก็ขึ้นอยู่กับผู้โดยสาร 70 ล้านคนนั่นด้วย จะเอาอย่างไรล่ะ จะให้กัปตันพาเรือเดินหน้า หรือเปลี่ยนใจ ไม่ไปต่อแล้ว กลัวน้ำวน กลัวโจรปล้น กลัวจิ๊กโก๋ขู่ ให้กัปตันทิ้งสมอ จอดมันริมฝั่งนั่นแหละ ใครจะมาเอาเรือก็เอาไป แล้วจะจอดฝั่งไหนล่ะ ฝั่งที่คุ้นๆกันมา 70 ปี เดี๋ยวดี เดียวด่า ทำเหมือนสมันน้อยเป็นขี้ข้า หรือจะจอดอีกฝั่ง จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แต่เท่าที่ดู เขาว่าเป็นประเภทไม่ชอบเป็นขี้ข้าใคร แต่จะทิ้งสมอจอดเรือ ยามน้ำเชี่ยว ก็ใช่ว่าจะทำง่าย เผลอๆ ล่มตอนจอดนี่แหละ สมันน้อย ได้เป็นสมันน้ำ ลอยคอกันเป็นแถว
    เออ..แล้ว อยู่ๆ จะจอดเรือ ยกประเทศให้เขาเลยงั้นหรือ จะมีคนไม่ยอม หรือ จะมีคนอยากให้เขาจูงกลับเข้าคอก ผมตอบไม่ได้ รู้แต่ว่า หนอนในที่ชอบอยู่คอก และชอบถูกจูงยังมีอยู่
    แต่ถ้าเราจะเลือกเดินหน้า ผู้โดยสารก็ต้องทำความเข้าใจ และปรับชีวิตตัวเองบ้าง ต้องรับรู้ว่า กำลังนั่งเรือไปในทางน้ำเชี่ยว ก็ต้องนั่งให้มีสติ เตรียมอุปกรณ์ทั้งด้านส่วนตัวและ ด้านสติปัญญาให้พร้อม เริ่มฝึกตัวเองให้มีวินัย ช่วยเหลือตัวเองได้ นั่งเรือไป ไม่ใช่วีดว้าย กระตู้วู้ ไปตลอดทาง อะไรนิดก็โวย อะไรหน่อยก็ด่า ฟังอะไรมาไม่ได้ยังไม่ทันกรอง ก็แชร์กัน ไลน์กัน เหมือนคนมีแต่นิ้ว แต่ไม่มีสมอง เป็นมนุษย์พันธ์ใหม่ และอย่าเป็นประเภทชอบเอามือราน้ำ แบบนี้ ต่อให้กัปตันเก่งยังไง เรือก็อาจล่ม…
    บ้านเมืองมาถึงจุดสำคัญ ตื่นกันได้แล้วครับ ลดเรื่องไร้สาระลงเสียบ้าง เอาใจใส่บ้านเมืองกันหน่อย อย่างที่ผมเคยบอก ความเข้าใจและเห็นพ้องกัน ระหว่างผู้บริหารบ้านเมืองกับพลเมือง เป็นความมั่นคงของชาติอย่างหนึ่ง ปิดทางไม่ให้ศัตรูทั้งภายนอกและภายในเข้ามาทำร้าย และทำลายบ้านเมืองเราได้ เราจะได้ช่วยกัน พาเรือผ่านน้ำเชี่ยวไปได้ เป็นสิ่งที่เราทำให้บ้านเมืองของเราได้นะครับ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    29 ก.ค. 2558
    เรื่อง สู่ทางน้ำเชี่ยว 1 – 2 “สู่ทางน้ำเชี่ยว” (1) วันนี้ขอคุยกับท่านผู้อ่าน แบบตรงไปตรงมา จากความรู้สึกในใจของผมหน่อยเถิด ไม่ชอบใจ ก็ปิดเครื่อง หรือเปลี่ยนไปอ่านเพจอื่น ไม่พอใจ อยากจะด่า ก็เชิญตามสบาย แต่อย่าแรงนักแล้วกัน คนแก่ตกใจง่าย ผมเขียนนิทานเรื่องจริงให้อ่านกันมาเกือบ 2 ปีแล้ว เอาข้อมูลเรื่องราวที่มองมาจากอีกมุมหนึ่ง รวมทั้งที่มองจากมุมเดิม ที่เห็นๆกันอยู่ซ้ำซาก แต่ผมมองลึกไปอีกแบบ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นเรื่องราวที่สื่อฟอกย้อม ทั้งในบ้านและนอกบ้าน แทบไม่เคยพูดถึง หรือพูดแบบใส่สีเข้มตามใบสั่งของ เจ้าของสื่อ จนไม่รู้ว่า มีความจริงน้อยมากแค่ไหน หรือพูดแบบ มั่ว คลุมเคลือ ไม่รู้ที่มาและที่จะไปต่อ หรือพูดแบบครึ่งใบ ที่เหลือให้เดาเอา หรือแต่งกันเองสนุกดี จากการอ่านและการวิเคราะห์ของผมเอง ผมเชื่อว่า อีกไม่เกิน 2 ถึง 3 ปี จากที่ผมเริ่มเขียนนิทานเรื่อง แรก เมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ.2556 ก็แปลว่า จากนี้ไป ไม่เกิน 1 ปี โลกเราจะเริ่มเข้าสู่อาการ ถ้าเปรียบกันคน ก็เป็นคนต้องเกณท์เปลี่ยนชะตานั่นแหละ มันจะค่อยๆเปลี่ยนแปลงจากสิ่งเล็ก สิ่งน้อย ซึ่งถ้าเราไม่ทันสังเกต หรือไม่สนใจติดตาม เราก็จะไม่รู้ว่า มันมีการเปลี่ยนไปแล้ว และการเปลี่ยนนั้น จะเปลี่ยนมากขึ้น ด้วยอัตราที่เร็วขึ้น จนเราเริ่มรู้สึก แต่ก็อาจจะยังไม่รู้เรื่อง รู้เหตุ รู้ผล อยู่ดี กว่าจะรู้เรื่อง ก็อาจจะทำอะไรไม่ทันแล้ว เราเคยชินกับการมีอเมริกา ที่ทำตัวเหมือนเป็นจิ๊กโก๋ปากซอยตัวแสบ เบ่งกล้าม คุมทั้งซอยอยู่คนเดียว มาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 นานถึง 70 ปี เชียวนะครับ ที่ไอ้จิ๊กโก๋มันคุมโลก จนตัวมันก็ “ชิน” กับการที่ไม่ใครมากล้าหือกับมัน และเราๆ ก็ดัน “ชิน” กับการคุมของมัน แถมบางพวก ก็ชอบที่จะอยู่ใต้อุ้งมืออุ้งตีนของไอ้จิ๊กโก๋ ก็ของมันเคย มันชิน แต่สำหรับพวกที่ไม่ชอบ ก็ต้องทนยอมมันไป (ก่อน) ก็มันวางกฏเกณท์ของทั้งโลกทั้ง ใบ หันไปทางไหน จะทำอะไร ก็เจอกฏ เจอระบบ ที่มันวางไว้ทั้งนั้น ขนาดจะแต่งตัว ตัดผม ดูหนัง ฟังเพลง บันเทิงใจ ชอบ ไม่ชอบอะไร ยังต้องเป็นแบบที่มันจัดยัดใส่หัวมาให้เลย ใครที่ไม่อยู่ในระบบ ในรูปแบบที่มันเห็นชอบ มันก็จัดการเก็บกวาดจนเหี้ยน ในที่สุด ชาวโลกส่วนใหญ่ ก็เลยจำยอมอยู่ในกำมือ ในกฏ กติกา ความเห็น ที่ไอ้จิ๊กโก๋มันสร้าง มันวางเอาไว้ น่าสมเพชไหมครับ ที่ต้องมีใครมาจูงเราทุกเรื่อง หรือชอบใจกัน ที่ไม่ต้องคิดมาก จูงไปทางไหน ก็ไปทางนั้น… แต่ประมาณ 15 ปี มานี้ เริ่มมีพวกที่อยากดำเนินชีวิต ตามระบบ ตามแบบของตัวเอง อยากกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองบ้าง ไม่ใช่ทุกอย่างต้องขึ้นกับจิ๊กโก๋ปากซอยสั่ง กูจะหิว กูจะกิน กูจะนอน ฯลฯ ให้มันเป็นไปตามใจกูบ้างได้มั้ย กูเบื่อที่จะถูกจูงแล้ว…. จิ๊กโก๋ บอก ไม่ได้ กูไม่เชื่อว่าพวกมึงตัดสินใจเป็น และตัดสินใจถูก ขอโทษนะครับ ต้องเขียนด้วยสรรพนาม เช่นนี้ เพราะลักษณะที่เขาออกอาการกัน มันดูจะไม่ใช่เป็นการพูดแบบคุณครับขอรับกระผมกัน ที่นี้ เรื่องมันก็เลยเริ่มวุ่น และบานไปเรื่อยๆ มาถึงวันนี้ โลกแบ่งชัดเจนแล้ว อำนาจของโลก ที่เคยมีขั้วอำนาจขั้วเดียว ที่คุมโดย ไอ้จิ๊กโก๋ปากซอย อเมริกาและพวกลูกกระเป๋ง กำลังเปลี่ยนไป ขั้วอำนาจอีกขั้ว ที่นำโดยรัสเซียและจีน กำลังรวมตัว และปรากฏตัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีจำนวนประเทศน้อยกว่า แต่ถ้านับเนื้อที่ของประเทศ กับจำนวนรวมของพลเมือง คงไม่ต่างกันมาก และขณะนี้ ทั้งสองขั้ว ต่างกำลังจ้องตาใส่กันอย่างไม่กระพริบ เพื่อค้นหา รวมไปถึงทดสอบ ศักยภาพทางเศรษฐกิจ และศักยภาพทางอาวุธ ของขั้วที่ต่างกัน ว่าใครจะเหนือกว่าใคร เศรษฐกิจเป็นเกมที่ทางขั้วอำนา จอเมริกาถนัดนัก เล่นกลอยู่เสมอ เล่นมา 100 ปีแล้วนี่ ปั่นขึ้น ปั่นลง ได้ทุกอย่าง ก็เป็นคนคุมระบบทั้งหมด มันก็เหมือนเป็นเจ้ามือคุมบ่อน นั่นแหล่ะ แจกไพ่เอง ทำเครื่องหมายไพ่ ให้ยืมเงินมาเล่น ใครทำอะไรไม่ถูกใจ ก็ไล่ออกจากวง คว่ำบาตรเสีย แบบนี้ เจ้ามือก็ไม่มีทางแพ้อยู่แล้ว (มีแต่ถูกเผาบ่อน หรือถูกยิง) เรื่องเศรษฐกิจ จึงเป็นเหมือนตัววัดตัวหนึ่ง เมื่อไหร่ที่เจ้ามือออกอาการ มีการใกล้จะล้มโต๊ะ เพราะเจ้ามือเล่นกลไม่ออก จะเพราะลูกมือเกิดดวงดี ดวงแข็ง หรือถูกลูกมือจับกลโกงของเจ้ามือได้ นั่นก็เป็นอาการที่เราๆ จะต้องระวัง แปลว่า เรื่องใหญ่ใกล้จะมา ดวงชะตาของโลกใกล้จะมีการเปลี่ยน เหตุการณ์ตลาดหุ้นจีน ที่เริ่มถูกปั่นลงดิ่ง ตั้งแต่เดือนมิถุนา กรกฏาคม จนแมงเม่าตาตี่ปีกหัก ร่วงผล่อยหล่นลงพื้นเต็มไปหมด แต่จีนก็ปล่อยให้เจ้ามือตาน้ำข้าวเล่นให้เพลิน ด้วยการปล่อยให้หล่นถึงพื้น และจีนก็ซื้อกลับ ส่วนเงินกองทุนของเจ้ามือตาน้ำข้าว รวมทั้งกำไรที่รวยมาจากเด็ดปีกแมงเม่าตาตี่ เจ้ามือตาน้ำข้าวเตรียมโอนกลับ บ้าน แต่จีนบอกรอแป๊บนึง อย่าเพิ่งใจร้อน รีบโอนกลับ ขอเราตรวจสอบก่อนว่า ทำผิดกฏอะไรบ้างหรือเปล่า ทำได้ไม่ไม่ใช่หรือ ก็ดันไปเปิดบ่อนเต๋าถ่วงที่บ้านคนอื่น โง่หรือฉลาด(วะ) ทุนก้อนใหญ่ เอาออกมาไม่ได้ ตลาดอื่นๆ ก็ค่อยๆร่วง ชาวบ้านนึกว่าร่วงเรื่องกรีซ ก็เพราะสื่อย้อมสีกับกองทุนตาน้ำข้าว มันบอกอย่างนั้น ก็เลยเชื่อกันอย่างนั้น…นี่การตรวจสอบจะนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้…. สื่อฟอกย้อม เรื่องนี้ ไม่ออกข่าวเลยนะ อเมริกาบอก โลกนี้หมุนด้วยน้ำมัน และมันต้องเป็นน้ำมัน ที่ค้าขายกันด้วยดอลล่าร์ (เปโตรดอลล่าร์) เท่านั้น โลกถึงจะหมุน วันนี้ จีนกับรัสเซียบอก ไม่จำเป็นนะ เปโตรหยวน หรือเปโตรรูเบิล ก็หมุนโลกได้เหมือนกัน อเมริกาบอก ระบบการเงินในโลก ต้องคุมด้วยระบบธนาคารกลางของอเมริกา จีนกับรัสเซียบอก ไม่จำเป็นนะ ถ้าเราสร้างระบบที่พวกเราเห็นพ้องกันว่ามันยุติธรรมได้ และตอนนี้ จีนกับรัสเซีย ก็กำลังค้าขายกันด้วยการแลกเปลี่ยนเงินสกุลของพวกเขา ตามค่าของเงินที่พวกเขาตกลงกันเอง อ้าว พวกเอ็งตกลงกันเองได้ พวกผมก็ตกลงกันได้เหมือนกัน มีปัญหาไหม อเมริกากับพวกสร้าง World Bank, IMF มาเป็นกลไกด้านการเงิน คุมโลกจนกระดิกแทบไม่ออก วันนี้ จีนกับรัสเซียและพวกสร้าง AIIB ขึ้นมาเป็นทางเลือก อเมริกาสร้างใอ้ 3 หมาไน เป็นตัววัดเครดิตเรตติ้งของธุรกิจ ของประเทศต่างๆ ตามหลักเกณท์ที่มีผู้ค้านมากมาย ว่าไม่เป็นธรรม วันนี้ จีนกับรัสเซีย ก็กำลังสร้างบริษัทวัดเครดิตเช่นนั้นเหมือนกัน และบอกว่าเป็นธรรมกว่า เราจะได้ยินเรื่องทำนองนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อันที่จริง มันควรจะเป็นเรื่องน่ายินดี ที่มีการเพิ่มทางเลือกให้แก่มนุษยชาติ แต่ดูเหมือนอเมริกาไม่ยินดี นอกจากไม่ยินดีแล้ว อเมริกายังแสดงอาการ ทั้งทางตรงและทางอ้อมอีกด้วยว่า อเมริกาไม่พอใจอย่างยิ่ง อเมริกามองว่า การที่อีกฝ่าย และมนุษยชาติ มีทางเลือก มันเป็นการคุกคาม การเป็นผู้ครอบครองโลกใบนี้แต่ผู้เดียวของอเมริกา( America World Dominence) และ อเมริกาเท่านั้นนะ ที่จะเป็นผู้กำหนดชะตาของโลก มันต้องเป็นไปตามเส้นทาง วิธีการ ระบบ ที่อเมริกาเลือก และเห็นชอบสิ เข้าใจไหม และเพราะอเมริกา มีแนวคิด และแนวปฏิบัติเข่นนี้ โลกนี้ถึงได้ยุ่งเหยิงอย่างไม่ควรจะเป็น เมื่อใดที่เรื่องอะไร ที่ไหน ที่ไม่เป็นไปตามแนวที่อเมริกาเห็นชอบ หรือเมื่ออเมริกาอยากได้สมบัติของเขา ประเทศเหล่านั้นก็ถูกสื่อที่เป็นมือตีนของอเมริกา ฟอกย้อมให้เป็นคนเลว เป็นเผด็จการ เป็นผู้ร้าย เป็นโจร เมื่อสื่อย้อมจนได้ที่ อเมริกาก็ยาตราใช้อำนาจของอาวุธของตัวเองเข้าไปตัดสิน และประเทศเหล่านั้น ก็ถึงแก่การกาลวิบัติ ฉิบหาย จนถึงสิ้นชาติ โลกนี้จึงอยู่ในกำมือของอเมริกา ที่ใช้มาตรฐานของตน ที่มีหลายระดับ หลายแบบ ตามสันดานจิ๊กโก๋เป็นเครื่องตัดสิน (2) แดนสยามของสมันน้อย กำลังถูกอเมริกาจับตามองอย่างไม่พอใจอย่างยิ่ง ตั้งแต่สมันน้อยเริ่มไม่ว่าง่าย เมื่อสมันน้อยทนมีรัฐบาลโคตรโกง ไม่ไหว ออกมาขับไล่ อเมริกายื่นหน้ามาถาม ไล่เขาทำไม เขามาจากการเลือกตั้ง เสือกไหม เสือกสิ ในความเห็นของผม ทำไมเอ็งต้องมาออกความเห็นเรื่องบ้านผมทุกเรื่อง วันนี้แดนสยาม มีทหารเป็นผู้ใช้อำนาจในการบริหาร โดยยังไม่มีการลือกตั้ง อเมริกาจะลงแดงตายเสียให้ได้ เมื่อไหร่ ไทยแลนด์จะมีการเลือกตั้ง อเมริการับไม่ได้กับการปฏิวัติ รับไม่ได้กับการไม่เลือกตั้ง รับไม่ได้กับการไม่เป็นประชาธิปไตย อเมริกาไม่ชอบ ไม่ชอบ และไม่ชอบ ทำไมไม่ลงไปดื้นเร่าๆกลิ้งกับพื้น ตอนด่าไทยแลนด์เลยละ (วะ) จะได้สมกับเป็นชาติมหาอำนาจใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก Wall Street Journal ลงบทความ เมื่อวันที่ 23 กรกฏาคมนี้ เขียนโดย นาย Desmond Dalton ซึ่งเป็นนายทหารอเมริกัน ที่เกษียณแล้ว และเคยเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของอเมริกาในประเทศไทย บทความนั้นชื่อว่า ” Saving America’s Ties With Thailand” หลายท่านคงเห็นแล้ว และเข้าใจว่าสื่อไทยก็น่าจะลงแล้ว แต่ผมมีมุมมองของผม ที่อาจจะต่างไปบ้าง บทความดังกล่าว สรุปว่า อเมริกาไม่พอใจไทย ตั้งแต่มีการปฏิวัติเมื่อปี ค.ศ.2014 (ก็ปฏิวัติของลุงตู่นั่นแหละ) และความสัมพันธ์ระหว่างอเมริกากับไทย ก็เสื่อมลงมากมายอย่างน่าใจหาย อเมริกาหันหลังให้กับรัฐบาลทหาร อย่างไม่ไว้หน้า แถมขู่ให้ไทยรีบมีการเลือกตั้งอย่างรวดเร็ว มิฉะนั้น สัมพันธ์อเมริกาไทยก็จะยิ่งเสื่อมลงไปอีกเรื่อยๆ (จะให้เสื่อมลงถึงไหน นี่ยังไม่ถึงดินหรือไง สงสัยอยากได้สัมพันธ์แบบใต้ดิน แบบนั้น ต้องไปแถวประเทศที่ถนัดแบกถาด ฮา) คุณทหารอดีตที่ปรึกษา บอกว่า การที่อเมริกาปฏิบัติต่อไทยเช่นนี้ ทำให้อเมริกาเสียโอกาสในไทยอย่างยิ่ง และทำให้นโยบายของรัฐบาลโอบามา ที่คิดจะมาถ่วงดุลอำนาจ ในเอเซียแปซิฟิกจะกลายเป็นแค่ราคาคุย ไม่ใช่ว่า อเมริกาควรจะหลับหู หลับตา กับสิ่งที่ไทยทำ แต่เพื่อรักษาโอกาสของอเมริกา อเมริกาก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธีที่สร้างศัตรูกับไทย ด้วยการด่าว่าทหารไทยอย่างเอิกเกริก ไปพูด (ด่า) กันเงียบๆก็ได้นะ แถมการที่อเมริกาตัดงบอาวุธ ตัดงบการอบรม สาระพัดกับไทย กลายเป็นการผลักให้ไทยหันไปสร้างสัมพันธ์กับชาติอื่น เช่นจีนแทน… ….และไทย ก็เลยปิดประตูทางเข้า ที่อเมริกาเคยเข้ามาใช้ไทยอย่างอิสระ สะดวกสบายไปเรียบร้อย และจากการตัดสินใจซื้ออาวุธล่าสุดของไทย แสดงให้เห็นว่า ไทยไม่คิดจะพึ่งพาอเมริกาด้านอาวุธเพียงรายเดียว นี่เป็นก้าวที่พลาดอย่างยิ่งของอเมริกา แม้ไทยจะเป็นเพียงประเทศขนาดกลาง มีพลเมือง ประมาณ 70 ล้านคน มีเศรษฐกิจเพียงอันดับที่ 22 ของโลก … แต่ไทย มีความหมายในเชิงยุทธศาสตร์อย่างยิ่งกับอเมริกา …… ….เส้นทางจากไทย เป็นเส้นทางเดียว ที่กองทัพอเมริกันเชื่อถือ ที่จะใช้เป็นจุดผ่านเข้าไปสู่แผ่นดินใหญ่ของเอเซีย… …It offers U.S forces the only reliable access point to mainland Asia… นอกจากนี้ อุตสาหกรรมด้านการผลิตอาวุธของอเมริกา ได้รับการอุดหนุนจากงบประมาณด้านความมั่นคงก้อนใหญ่ ของไทยทุกปี บทความที่เหลือ ก็เป็นการสรรเสริญ ถึงความเก่งกล้าสามารถด้านการทหารของไทย รวมทั้งด้านการเป็นผู้นำในภูมิภาคของไทย พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ ให้อเมริกากลับมาเจรจาโดยใช้คำหวานกับไทยเสียใหม่ ให้ไทยกลับสู่ความเป็นประชาธิปไตย และเพื่อที่อเมริกาจะได้ใช้ประโยชน์จากการมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันให้มากที่สุด…โดยทำผ่านการพูดคุยกับผู้นำทหาร นักวิชาการ และราษฎรที่มีชื่อเสียง….อืม.. พอเห็นไหมครับ ว่าบทความนี้มันสื่ออะไรกับเราบ้าง มันไม่มีส่วนไหนเลย ที่แสดงถึงความเข้าใจ และเห็นใจประเทศไทย มันมีแต่ว่า เขาจะใช้ประโยชน์จากเราได้อย่างไรบ้าง และจะ “ทำอย่างไร” ที่จะกลับมาจิกหัวเรา ได้อย่างเดิม บทความนี้ เป็นการโยนหินถามทางที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะ คำแนะนำ ว่า อเมริกาควร “ทำอย่างไร” เพื่อจะกลับมา อเมริกา น่าจะรู้ตัวแล้วว่า อเมริกากำลังเดินหมากผิดจนน่าโขกหัวตัวเอง ในยามที่โลกแบ่งชัดเป็น 2 ขั้ว เมื่อจีนและรัสเซียอยู่คนละขั้วกับอเมริกา แต่อเมริกาดันถีบหมากชื่อไทยแลนด์ กระเด็นออกไปนอกกระดานของอเมริกา และก็เป็นการถีบทิ้งอย่างเอิกเกริก เล่นงานกันทุกทาง ไม่ว่าจะโดยแสดงด้วยกริยา อาการ หรือการแสดงด้วยวาจา การด่า การเขียน ทั้งทางตรง ทางอ้อม แม้กระทั่งในบทความของถังขยะความคิด ไม่ว่าถังไหน เมื่อพูดถึงอเมริกาและพวก จะไม่ปรากฏชื่อไทยแลนด์ แดนสยามของสมันน้อยแม้แต่ครั้งเดียว คบกันมา กว่า 70 ปี บทจะถีบทิ้ง ก็ไม่เหลือใย เหลือหน้ากันไว้ อย่างนี้จะกลับมาเป็นเพื่อนกันใหม่ จะให้มองกันติดสนิทใจ จะใช้กาวยี่ห้อไหนดี(วะ) อเมริกา กำลังทดสอบไทย ตามสันดานจิ๊กโก๋ปากซอย ด้วยการบีบคั้นทุกรูปแบบ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาใช้ hard power (อาวุธ) อเมริกาจึงใช้ soft power (อำนาจที่ไม่ต้องใช้อาวุธ เช่น การคว่ำบาตร การกีดกัน การระงับ โดยอ้างว่าไม่ได้มาตรฐานการ และใช้มากที่สุดคือ ใช้สื่อโจมตี) เราจึงได้เห็นตั้งแต่ การโจมตีเรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ การเลื่อนการเลือกตั้ง เรื่องการไม่มีมนุษยธรรม ตั้งแต่โรฮิงญา มาจนถึงอุยกูร์ การที่บริษักการบินไทยไม่ได้มาตรฐาน เรื่องส่งออกอาหารไม่ผ่านมาตรฐาน ใช้แรงงานผิดมาตรฐาน ข่าวเรื่องอียู คว่ำบาตรไทย การจ่าหน้าซองผิด ฯลฯ ยังจะมีสาระพัด ตะหวักตะบวยเลวไปกว่านี้อีกมากมาย ที่มันจะสรรหา ยกขึ้นตามมาอีก การก่อกวนในรูปแบบต่างๆ ก็ยังจะเกิดขึ้นอีก และอาจจะรุนแรงขึ้น เป้าหมายก็เพื่อสั่นคลอนเรา พยายามทุกอย่างให้สมันน้อยปอดแหก จะได้ไม่กล้า แหกคอก มาถึงวันนี้ วันที่ต่างก็เริ่มเห็นชัดแล้ว ว่าอะไรคอยอยู่ข้างหน้า อเมริกา คิดตกหรือยัง ว่า จะตบหน้าเพื่อนเก่า 70 ปีต่อไปอีก โทษฐานคิดแหกคอก หรือ อเมริกาจะทำไม่รู้ไม่ชี้ เดินกลับมา เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะชักสำนึกได้ว่า ถ้าจะใช้ไอ้พวกลูกกระเป๋ง มาแบกถาดถือปืน อาจจะไม่ได้ผลอย่างที่คิด จิ๊กโก๋ทำได้ไหม ทำได้สบายมาก ถ้าจำเป็นจริงๆ อเมริกาก็หาวิธีกลับเข้ามาตบหลังลูบหัวไทยได้ ถ้าเดินเข้ามาตรงๆไม่ได้ หนอนในบ้าน ที่ยังเห็นอเมริกาเป็นพ่อ ยังมีอีกแยะ คงหาทางให้ สมันน้อยเดินจ๋อยๆกลับเข้าคอกเอง โดยนึกว่าอเมริกาไม่เกี่ยว แล้วเราจะว่ายังไงครับ…. ตอนนี้ ลุงตู่กำลังทำหน้าที่เป็นกัปตัน พาเรือใหญ่ขนาดกลาง ขนคนประมาณ 70 ล้านคน มุ่งหน้าไปตามลำน้ำใหญ่ สายน้ำเริ่มเชี่ยวขึ้นทุกที แถมข้างหน้า มีวังน้ำวนเห็นอยู่ชัดๆ เรือจะผ่านวังน้ำวน ไปได้หรือเปล่ายังไม่รู้ ลุงตู่จะคัดท้าย นำเรือขนาดกลางนี้ ไปรอดไหม ส่วนหนึ่งก็ขึ้นอยู่กับฝีมือคัด ท้ายของลุงตู่เอง แต่อีกส่วน ก็ขึ้นอยู่กับผู้โดยสาร 70 ล้านคนนั่นด้วย จะเอาอย่างไรล่ะ จะให้กัปตันพาเรือเดินหน้า หรือเปลี่ยนใจ ไม่ไปต่อแล้ว กลัวน้ำวน กลัวโจรปล้น กลัวจิ๊กโก๋ขู่ ให้กัปตันทิ้งสมอ จอดมันริมฝั่งนั่นแหละ ใครจะมาเอาเรือก็เอาไป แล้วจะจอดฝั่งไหนล่ะ ฝั่งที่คุ้นๆกันมา 70 ปี เดี๋ยวดี เดียวด่า ทำเหมือนสมันน้อยเป็นขี้ข้า หรือจะจอดอีกฝั่ง จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ แต่เท่าที่ดู เขาว่าเป็นประเภทไม่ชอบเป็นขี้ข้าใคร แต่จะทิ้งสมอจอดเรือ ยามน้ำเชี่ยว ก็ใช่ว่าจะทำง่าย เผลอๆ ล่มตอนจอดนี่แหละ สมันน้อย ได้เป็นสมันน้ำ ลอยคอกันเป็นแถว เออ..แล้ว อยู่ๆ จะจอดเรือ ยกประเทศให้เขาเลยงั้นหรือ จะมีคนไม่ยอม หรือ จะมีคนอยากให้เขาจูงกลับเข้าคอก ผมตอบไม่ได้ รู้แต่ว่า หนอนในที่ชอบอยู่คอก และชอบถูกจูงยังมีอยู่ แต่ถ้าเราจะเลือกเดินหน้า ผู้โดยสารก็ต้องทำความเข้าใจ และปรับชีวิตตัวเองบ้าง ต้องรับรู้ว่า กำลังนั่งเรือไปในทางน้ำเชี่ยว ก็ต้องนั่งให้มีสติ เตรียมอุปกรณ์ทั้งด้านส่วนตัวและ ด้านสติปัญญาให้พร้อม เริ่มฝึกตัวเองให้มีวินัย ช่วยเหลือตัวเองได้ นั่งเรือไป ไม่ใช่วีดว้าย กระตู้วู้ ไปตลอดทาง อะไรนิดก็โวย อะไรหน่อยก็ด่า ฟังอะไรมาไม่ได้ยังไม่ทันกรอง ก็แชร์กัน ไลน์กัน เหมือนคนมีแต่นิ้ว แต่ไม่มีสมอง เป็นมนุษย์พันธ์ใหม่ และอย่าเป็นประเภทชอบเอามือราน้ำ แบบนี้ ต่อให้กัปตันเก่งยังไง เรือก็อาจล่ม… บ้านเมืองมาถึงจุดสำคัญ ตื่นกันได้แล้วครับ ลดเรื่องไร้สาระลงเสียบ้าง เอาใจใส่บ้านเมืองกันหน่อย อย่างที่ผมเคยบอก ความเข้าใจและเห็นพ้องกัน ระหว่างผู้บริหารบ้านเมืองกับพลเมือง เป็นความมั่นคงของชาติอย่างหนึ่ง ปิดทางไม่ให้ศัตรูทั้งภายนอกและภายในเข้ามาทำร้าย และทำลายบ้านเมืองเราได้ เราจะได้ช่วยกัน พาเรือผ่านน้ำเชี่ยวไปได้ เป็นสิ่งที่เราทำให้บ้านเมืองของเราได้นะครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 29 ก.ค. 2558
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อทวดหลังพญาครุฑ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2539
    เหรียญหลวงพ่อทวดหลังพญาครุฑ รุ่นครองราชครบ 50 ปี​ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2539 //พระดีพิธีใหญ่ เฉียบ!!! ขลัง!! เป็นขวัญใจ ของ ข้าราชการ-ทหาร- ตำรวจ เป็นเหรียญที่น่าใช้มากครับ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมกับ เกจิสายใต้หลายท่าน ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ มหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอำนาจอันเฉียบขาด เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย **

    ** พระดีพิธิใหญ อาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมกับ เกจิสายใต้หลายท่าน มีเกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้ 1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง 2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี 3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว 4. พ่อท่านสุก วัดตุยง 5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่ 6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา 8.พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา>> ร่วมปลุกเสก..เหรียญหายากครับ ประวัติการสร้างชัดเจน เหรียญมีประสบการณ์มาก สถาพสวยย น่าใช้มากครับ **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทวดหลังพญาครุฑ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2539 เหรียญหลวงพ่อทวดหลังพญาครุฑ รุ่นครองราชครบ 50 ปี​ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2539 //พระดีพิธีใหญ่ เฉียบ!!! ขลัง!! เป็นขวัญใจ ของ ข้าราชการ-ทหาร- ตำรวจ เป็นเหรียญที่น่าใช้มากครับ พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมกับ เกจิสายใต้หลายท่าน ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณ มหาอำนาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอำนาจอันเฉียบขาด เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย ** ** พระดีพิธิใหญ อาจารย์นอง วัดทรายขาว ร่วมกับ เกจิสายใต้หลายท่าน มีเกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้ 1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง 2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี 3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว 4. พ่อท่านสุก วัดตุยง 5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่ 6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา 8.พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา>> ร่วมปลุกเสก..เหรียญหายากครับ ประวัติการสร้างชัดเจน เหรียญมีประสบการณ์มาก สถาพสวยย น่าใช้มากครับ ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • สว.ธนกร อดีตนักธุรกิจประมง ที่ชาวประมงไม่อยากคบค้า โดนศาลสั่งจำคุก 4 ปี เพราะจอดรถลงไปลักทรัพย์เหยื่อรถคว่ำ แถมไม่ช่วยเหลืออะไรเลย กวาดทรัพย์สินแล้วเผ่นทันที

    กวาดไปทั้ง สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พระเครื่องหลวงปู่ทวดเลี่ยมทองมูลค่าประเมินกว่า 1.2 ล้านบาท แว่นตาแบรนด์หรูราคาหลักแสน กระเป๋าแบรนด์เนม หลุยส์ วิตตอง เงินสดกว่า 2 แสนบาท และโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง

    จนได้มาเป็นสว.โควต้าอาชีพประมง และคบหาดูใจผูกมิตรกับพรรคการเมืองซั่วๆ เพราะมีเคมีและดีเอ็นเอเข้ากัน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    สว.ธนกร อดีตนักธุรกิจประมง ที่ชาวประมงไม่อยากคบค้า โดนศาลสั่งจำคุก 4 ปี เพราะจอดรถลงไปลักทรัพย์เหยื่อรถคว่ำ แถมไม่ช่วยเหลืออะไรเลย กวาดทรัพย์สินแล้วเผ่นทันที กวาดไปทั้ง สร้อยคอทองคำหนัก 3 บาท พระเครื่องหลวงปู่ทวดเลี่ยมทองมูลค่าประเมินกว่า 1.2 ล้านบาท แว่นตาแบรนด์หรูราคาหลักแสน กระเป๋าแบรนด์เนม หลุยส์ วิตตอง เงินสดกว่า 2 แสนบาท และโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง จนได้มาเป็นสว.โควต้าอาชีพประมง และคบหาดูใจผูกมิตรกับพรรคการเมืองซั่วๆ เพราะมีเคมีและดีเอ็นเอเข้ากัน #คิงส์โพธิ์แดง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื้อว่านหลวงปู่ทวดพระอาจารย์อุทัย วัดวิหารสูง จ.พัทลุง ปี2545
    หลวงปู่ทวดหลังอุดเม็ดแร่ เนื้อว่านผสมเหล็กไหล "รุ่น ขุนพันธ์ฯ" พระอาจารย์อุทัย วัดวิหารสูง จ.พัทลุง ปี2545 // พระดีพิธีขลัง!! พระอาจารย์อุทัยร่วมกับพระเกจิสายเขาอ้อ ปลุกเสกเมื่อ ๑๑ พ.ค. ๒๕๔๕ โดยมีท่านขุนพันธ์รักษราชเดช เจ้าพิธี ณ วัดวิหารสูง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านป้องกันภยันตรายทั้งปวง มหาอุตม์ คงกระพัน ชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย อุดมด้วยโภคทรัพย์ ค้าขายดี เลื่อนยศเลื่อนตําแหน่ง มีความเจริญรุ่งเรือง มหาอุตย์ คงกระพัน เมตตามหานิยม และเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง **

    ** พระอาจารย์อุทัย อุทโย เกจิชื่อดังของจังหวัดพัทลุง เป็นพระนักพัฒนา เป็นที่เลื่อมใสนับถือศรัทธาของชาวบ้านทั่วไปในจังหวัดพัทลุงและภาคใต้ ท่านยังได้ศึกษาวิชากับพระอาจารย์ปลอด วัดหัวป่า อ.ระโนด จ.สงขลา พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคใต้ นานกว่า 10 ปี และอีกหลายท่าน เช่น พระอาจารย์เศียร อดีตเจ้าอาวาสวัดวิหารสูง, พระอาจารย์ผัน วัดทรายขาว, พระอาจารย์ปาน แห่งวัดแสงอรุณ และอาจารย์ผ่อง วัดแจ้ง **


    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เนื้อว่านหลวงปู่ทวดพระอาจารย์อุทัย วัดวิหารสูง จ.พัทลุง ปี2545 หลวงปู่ทวดหลังอุดเม็ดแร่ เนื้อว่านผสมเหล็กไหล "รุ่น ขุนพันธ์ฯ" พระอาจารย์อุทัย วัดวิหารสูง จ.พัทลุง ปี2545 // พระดีพิธีขลัง!! พระอาจารย์อุทัยร่วมกับพระเกจิสายเขาอ้อ ปลุกเสกเมื่อ ๑๑ พ.ค. ๒๕๔๕ โดยมีท่านขุนพันธ์รักษราชเดช เจ้าพิธี ณ วัดวิหารสูง //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านป้องกันภยันตรายทั้งปวง มหาอุตม์ คงกระพัน ชาตรี แคล้วคลาดปลอดภัย อุดมด้วยโภคทรัพย์ ค้าขายดี เลื่อนยศเลื่อนตําแหน่ง มีความเจริญรุ่งเรือง มหาอุตย์ คงกระพัน เมตตามหานิยม และเสริมสิริมงคลให้กับตัวเอง ** ** พระอาจารย์อุทัย อุทโย เกจิชื่อดังของจังหวัดพัทลุง เป็นพระนักพัฒนา เป็นที่เลื่อมใสนับถือศรัทธาของชาวบ้านทั่วไปในจังหวัดพัทลุงและภาคใต้ ท่านยังได้ศึกษาวิชากับพระอาจารย์ปลอด วัดหัวป่า อ.ระโนด จ.สงขลา พระเกจิอาจารย์ชื่อดังของภาคใต้ นานกว่า 10 ปี และอีกหลายท่าน เช่น พระอาจารย์เศียร อดีตเจ้าอาวาสวัดวิหารสูง, พระอาจารย์ผัน วัดทรายขาว, พระอาจารย์ปาน แห่งวัดแสงอรุณ และอาจารย์ผ่อง วัดแจ้ง ** ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิงห์หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี2517
    สิงห์เนื้อโลหะชุบทอง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี2517 // พระดีพิธีขลัง !! แจกในงานผูกพัทธสีมา //พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณแรงมากๆ มีประสบการณ์สูงมาก เหมาะมากสำหรับ ผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย ดารา นักร้อง นักแสดง พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาด ผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า ด้านการเสี่ยงโชคลาภ **

    ** สิงห์หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี2517 ที่ระลึกเนื่องในงานผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตร พระอุโบสถวัดระหารไร่ จังหวัดระยอง พิธีปลุกเสก พร้อมกับการประกอบพิธีในการผูกพัทธสีมา โดยมีองค์หลวงปู่ทิม อิสริโก เป็นประธานในพิธี และปลุกเสกพร้อมคณะสงฆ์วัดละหารไร่ **

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    สิงห์หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี2517 สิงห์เนื้อโลหะชุบทอง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี2517 // พระดีพิธีขลัง !! แจกในงานผูกพัทธสีมา //พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเด่นในด้านเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัยพุทธคุณแรงมากๆ มีประสบการณ์สูงมาก เหมาะมากสำหรับ ผู้นำ นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย ดารา นักร้อง นักแสดง พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาด ผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า ด้านการเสี่ยงโชคลาภ ** ** สิงห์หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จ.ระยอง ปี2517 ที่ระลึกเนื่องในงานผูกพัทธสีมาฝังลูกนิมิตร พระอุโบสถวัดระหารไร่ จังหวัดระยอง พิธีปลุกเสก พร้อมกับการประกอบพิธีในการผูกพัทธสีมา โดยมีองค์หลวงปู่ทิม อิสริโก เป็นประธานในพิธี และปลุกเสกพร้อมคณะสงฆ์วัดละหารไร่ ** ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงพ่อทวด รุ่นพิเศษ 25 ปี มอ. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปี2537
    หลวงพ่อทวด เนื้อผงพุทธคุณ พิมพ์หยดน้ำ รุ่นพิเศษ 25 ปี มอ. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปี2537 // พระดีพิธีใหญ่ มวลสารและพิธีดีมาก พระมีประสบการณ์ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // พระแท้ ดูง่าย @"รับประกันพระแท้ตลอดชีพ"

    ** พุทธคุณครบเครื่อง "แคล้วคาด" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก. เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย **

    ** หลวงพ่อทวด รุ่นพิเศษ 25 ปี ม.อ. มีวัตถุประสงค์เพื่อตั้งกองทุน 25 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสร้างโอสถศาลาศูนย์ศึกษาหมอและยาแผนโบราณภาคใต้ เป็นอนุสรณ์แด่พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม ธมมธโร) แห่งวัดช้างให้

    พิธีปลุกเสก วาระที่ 1 ได้รับการอธิษฐานจิต โดยหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เมื่อคืนวันที่ 15 สิงหาคม 2537 ณ วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา

    พิธีปลุกเสก วาระที่ 2. พิธีมหาพุทธาภิเษกที่วัดมุจลินทวาปีวิหาร (วัดตุยง) จังหวัดปัตตานี เมื่อเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2537 ซึ่งสวดพุทธาภิเษก โดยพ่อท่านถวิล แห่งวัดหลักเมืองและคณะรวม 4 รูป และนั่งปรกโดยเกจิอาจารย์ชื่อดังในจังหวัดปัตตานีและจังหวัดยะลา ได้แก่ หลวงพ่อแดง วัดบูรพาราม หลวงพ่อสุข วัดตุยง หวงพ่อสิงห์ วัดลำพญา หลวงพ่อรักษ์ วัดโคกหมัก หลวงพ่อทอง วัดตะเคียนทอง หลวงพ่อพล วัดนาประดู่ หลวงพ่อบัว วัดกัมภาวาส หลวงพ่อจวบ วัดปทุมวารี **


    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อทวด รุ่นพิเศษ 25 ปี มอ. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปี2537 หลวงพ่อทวด เนื้อผงพุทธคุณ พิมพ์หยดน้ำ รุ่นพิเศษ 25 ปี มอ. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ปี2537 // พระดีพิธีใหญ่ มวลสารและพิธีดีมาก พระมีประสบการณ์ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // พระแท้ ดูง่าย @"รับประกันพระแท้ตลอดชีพ" ** พุทธคุณครบเครื่อง "แคล้วคาด" เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ดีนัก. เป็นมหามงคลและสุดยอดนิรันตราย ** ** หลวงพ่อทวด รุ่นพิเศษ 25 ปี ม.อ. มีวัตถุประสงค์เพื่อตั้งกองทุน 25 ปี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสร้างโอสถศาลาศูนย์ศึกษาหมอและยาแผนโบราณภาคใต้ เป็นอนุสรณ์แด่พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม ธมมธโร) แห่งวัดช้างให้ พิธีปลุกเสก วาระที่ 1 ได้รับการอธิษฐานจิต โดยหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เมื่อคืนวันที่ 15 สิงหาคม 2537 ณ วัดบ้านไร่ อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา พิธีปลุกเสก วาระที่ 2. พิธีมหาพุทธาภิเษกที่วัดมุจลินทวาปีวิหาร (วัดตุยง) จังหวัดปัตตานี เมื่อเสาร์ที่ 20 สิงหาคม 2537 ซึ่งสวดพุทธาภิเษก โดยพ่อท่านถวิล แห่งวัดหลักเมืองและคณะรวม 4 รูป และนั่งปรกโดยเกจิอาจารย์ชื่อดังในจังหวัดปัตตานีและจังหวัดยะลา ได้แก่ หลวงพ่อแดง วัดบูรพาราม หลวงพ่อสุข วัดตุยง หวงพ่อสิงห์ วัดลำพญา หลวงพ่อรักษ์ วัดโคกหมัก หลวงพ่อทอง วัดตะเคียนทอง หลวงพ่อพล วัดนาประดู่ หลวงพ่อบัว วัดกัมภาวาส หลวงพ่อจวบ วัดปทุมวารี ** ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ศูนย์ข้อมูล AI นอกโลก: ทางเลือกต้นทุนต่ำหรือแค่ภาพฝัน?”

    Elon Musk เชื่อว่าในอีก 4–5 ปีข้างหน้า การประมวลผล AI ในอวกาศจะมีต้นทุนต่ำที่สุด ขณะที่ Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia มองว่านี่เป็นเพียง “ความฝัน” เพราะยังมีอุปสรรคด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานมากมาย

    มุมมองของ Elon Musk
    Elon Musk กล่าวในงานประชุมการลงทุนว่า AI Compute ในอวกาศจะมีต้นทุนต่ำกว่าโลก เนื่องจากสามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ฟรีและการระบายความร้อนด้วยการแผ่รังสีในสุญญากาศโดยตรง เขาเชื่อว่าในอีกไม่เกิน 5 ปี การสร้างศูนย์ข้อมูล AI บนอวกาศจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด โดยชี้ว่าบนโลก การสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อรองรับความต้องการระดับเทรา-วัตต์นั้นแทบเป็นไปไม่ได้

    ความท้าทายด้านเทคนิค
    แม้แนวคิดจะน่าสนใจ แต่การสร้างศูนย์ข้อมูล AI ในอวกาศยังมีอุปสรรคมากมาย เช่น
    การควบคุมอุณหภูมิ: แม้ในอวกาศจะเย็น แต่การอยู่ในวงโคจรทำให้เกิดการแกว่งอุณหภูมิสูงถึง -65°C ถึง +125°C
    การระบายความร้อน: ต้องใช้โครงสร้างขนาดมหึมาเพื่อแผ่รังสีความร้อนออกไป ซึ่งยังไม่เคยมีการสร้างในระดับนี้มาก่อน
    การทนต่อรังสี: GPU และฮาร์ดแวร์ขั้นสูงยังไม่สามารถทนต่อรังสีในวงโคจร GEO ได้โดยไม่ใช้การป้องกันขั้นสูง ซึ่งจะลดประสิทธิภาพลง
    การขนส่งและบำรุงรักษา: ต้องใช้การปล่อยจรวดหลายพันเที่ยวเพื่อส่งอุปกรณ์ขึ้นไป และยังไม่มีระบบซ่อมบำรุงอัตโนมัติที่รองรับ

    มุมมองของ Jensen Huang
    Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia ยอมรับว่าปัญหาพลังงานและความเย็นเป็นความท้าทายใหญ่ แต่เขามองว่า ศูนย์ข้อมูล AI ในอวกาศยังเป็นเพียง “ความฝัน” เพราะเทคโนโลยีที่จำเป็น เช่น การเชื่อมต่อความเร็วสูงกับโลก การบำรุงรักษาด้วยหุ่นยนต์ และการสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ในอวกาศ ยังไม่พร้อมในช่วงเวลา 5 ปีตามที่ Musk คาดการณ์

    ผลกระทบต่ออนาคต AI
    แนวคิดนี้สะท้อนถึงความกังวลว่า โลกอาจไม่สามารถรองรับความต้องการพลังงานมหาศาลของ AI ได้ หากต้องการศูนย์ข้อมูลระดับเทรา-วัตต์ การหาทางเลือกใหม่ เช่น อวกาศ อาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต แต่ในปัจจุบันยังคงต้องพึ่งพาโครงสร้างบนโลกและการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีอยู่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    มุมมองของ Elon Musk
    AI Compute ในอวกาศจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ฟรีและระบายความร้อนง่าย
    คาดว่าจะเป็นต้นทุนต่ำที่สุดใน 4–5 ปี

    ความท้าทายด้านเทคนิค
    อุณหภูมิแกว่งแรงในวงโคจร
    ต้องใช้โครงสร้างขนาดใหญ่เพื่อระบายความร้อน
    GPU ยังไม่ทนรังสี
    ต้องใช้การขนส่งและบำรุงรักษามหาศาล

    มุมมองของ Jensen Huang
    มองว่าเป็น “ความฝัน” เพราะเทคโนโลยียังไม่พร้อม
    ปัญหาการเชื่อมต่อและบำรุงรักษายังไม่แก้ไข

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    ความต้องการพลังงาน AI อาจเกินขีดความสามารถของโลก
    การสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศยังไม่เป็นไปได้จริงในระยะสั้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/spacex-ceo-elon-musk-says-ai-compute-in-space-will-be-the-lowest-cost-option-in-5-years-but-nvidias-jensen-huang-says-its-a-dream
    🛰️ “ศูนย์ข้อมูล AI นอกโลก: ทางเลือกต้นทุนต่ำหรือแค่ภาพฝัน?” Elon Musk เชื่อว่าในอีก 4–5 ปีข้างหน้า การประมวลผล AI ในอวกาศจะมีต้นทุนต่ำที่สุด ขณะที่ Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia มองว่านี่เป็นเพียง “ความฝัน” เพราะยังมีอุปสรรคด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานมากมาย 🚀 มุมมองของ Elon Musk Elon Musk กล่าวในงานประชุมการลงทุนว่า AI Compute ในอวกาศจะมีต้นทุนต่ำกว่าโลก เนื่องจากสามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ฟรีและการระบายความร้อนด้วยการแผ่รังสีในสุญญากาศโดยตรง เขาเชื่อว่าในอีกไม่เกิน 5 ปี การสร้างศูนย์ข้อมูล AI บนอวกาศจะเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าที่สุด โดยชี้ว่าบนโลก การสร้างโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่เพื่อรองรับความต้องการระดับเทรา-วัตต์นั้นแทบเป็นไปไม่ได้ 🌌 ความท้าทายด้านเทคนิค แม้แนวคิดจะน่าสนใจ แต่การสร้างศูนย์ข้อมูล AI ในอวกาศยังมีอุปสรรคมากมาย เช่น 🎗️ การควบคุมอุณหภูมิ: แม้ในอวกาศจะเย็น แต่การอยู่ในวงโคจรทำให้เกิดการแกว่งอุณหภูมิสูงถึง -65°C ถึง +125°C 🎗️ การระบายความร้อน: ต้องใช้โครงสร้างขนาดมหึมาเพื่อแผ่รังสีความร้อนออกไป ซึ่งยังไม่เคยมีการสร้างในระดับนี้มาก่อน 🎗️ การทนต่อรังสี: GPU และฮาร์ดแวร์ขั้นสูงยังไม่สามารถทนต่อรังสีในวงโคจร GEO ได้โดยไม่ใช้การป้องกันขั้นสูง ซึ่งจะลดประสิทธิภาพลง 🎗️ การขนส่งและบำรุงรักษา: ต้องใช้การปล่อยจรวดหลายพันเที่ยวเพื่อส่งอุปกรณ์ขึ้นไป และยังไม่มีระบบซ่อมบำรุงอัตโนมัติที่รองรับ 💡 มุมมองของ Jensen Huang Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia ยอมรับว่าปัญหาพลังงานและความเย็นเป็นความท้าทายใหญ่ แต่เขามองว่า ศูนย์ข้อมูล AI ในอวกาศยังเป็นเพียง “ความฝัน” เพราะเทคโนโลยีที่จำเป็น เช่น การเชื่อมต่อความเร็วสูงกับโลก การบำรุงรักษาด้วยหุ่นยนต์ และการสร้างโครงสร้างขนาดใหญ่ในอวกาศ ยังไม่พร้อมในช่วงเวลา 5 ปีตามที่ Musk คาดการณ์ 🌐 ผลกระทบต่ออนาคต AI แนวคิดนี้สะท้อนถึงความกังวลว่า โลกอาจไม่สามารถรองรับความต้องการพลังงานมหาศาลของ AI ได้ หากต้องการศูนย์ข้อมูลระดับเทรา-วัตต์ การหาทางเลือกใหม่ เช่น อวกาศ อาจเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต แต่ในปัจจุบันยังคงต้องพึ่งพาโครงสร้างบนโลกและการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีอยู่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ มุมมองของ Elon Musk ➡️ AI Compute ในอวกาศจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ฟรีและระบายความร้อนง่าย ➡️ คาดว่าจะเป็นต้นทุนต่ำที่สุดใน 4–5 ปี ✅ ความท้าทายด้านเทคนิค ➡️ อุณหภูมิแกว่งแรงในวงโคจร ➡️ ต้องใช้โครงสร้างขนาดใหญ่เพื่อระบายความร้อน ➡️ GPU ยังไม่ทนรังสี ➡️ ต้องใช้การขนส่งและบำรุงรักษามหาศาล ✅ มุมมองของ Jensen Huang ➡️ มองว่าเป็น “ความฝัน” เพราะเทคโนโลยียังไม่พร้อม ➡️ ปัญหาการเชื่อมต่อและบำรุงรักษายังไม่แก้ไข ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ ความต้องการพลังงาน AI อาจเกินขีดความสามารถของโลก ⛔ การสร้างศูนย์ข้อมูลในอวกาศยังไม่เป็นไปได้จริงในระยะสั้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/spacex-ceo-elon-musk-says-ai-compute-in-space-will-be-the-lowest-cost-option-in-5-years-but-nvidias-jensen-huang-says-its-a-dream
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts