• หลวงพ่อทวดหลังเตารีด พิมพ์พิเศษสองหน้า วัดช้างให้
    หลวงพ่อทวดหลังเตารีด หล่อโบราณ พิมพ์พิเศษสองหน้า วัดช้างให้ // "หลวงปู่ทวด วัดช้างให้" ตำนานเหยียบน้ำทะเลจืด สุดยอดพระเครื่องตลอดกาล เลื่องลือพุทธคุณแคล้วคลาด // พระสถาพสวยมาก สมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >>

    **หลวงพ่อทวดหลังเตารีด พิมพ์พิเศษ 2หน้า วัดช้างให้ เนื้อโลหะผสมมีทั้งกระแสสีแดงและสีเหลือง เพราะโลหะที่ใช้ผสมส่วนใหญ่เป็นทองแดงและทองเหลือง และเป็นที่ยอมรับแล้วว่ามีเนื้อโลหะหลายชนิด เช่น ทองคำ นวะ เมฆพัตร แร่ เป็นต้น ฉะนั้น ธรรมชาติผิวพระที่เกิดจากการหล่อจึงเหมือนกันมากเพราะใช้วิธีการสร้างหรือหล่อแบบเดียวกัน >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อทวดหลังเตารีด พิมพ์พิเศษสองหน้า วัดช้างให้ หลวงพ่อทวดหลังเตารีด หล่อโบราณ พิมพ์พิเศษสองหน้า วัดช้างให้ // "หลวงปู่ทวด วัดช้างให้" ตำนานเหยียบน้ำทะเลจืด สุดยอดพระเครื่องตลอดกาล เลื่องลือพุทธคุณแคล้วคลาด // พระสถาพสวยมาก สมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณครบทุกด้านให้คุณทางด้านอำนวยโชคลาภ ความมั่งคั่งทรัพย์สินเงินทอง อุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดีนักแล” ทั้งเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้ >> **หลวงพ่อทวดหลังเตารีด พิมพ์พิเศษ 2หน้า วัดช้างให้ เนื้อโลหะผสมมีทั้งกระแสสีแดงและสีเหลือง เพราะโลหะที่ใช้ผสมส่วนใหญ่เป็นทองแดงและทองเหลือง และเป็นที่ยอมรับแล้วว่ามีเนื้อโลหะหลายชนิด เช่น ทองคำ นวะ เมฆพัตร แร่ เป็นต้น ฉะนั้น ธรรมชาติผิวพระที่เกิดจากการหล่อจึงเหมือนกันมากเพราะใช้วิธีการสร้างหรือหล่อแบบเดียวกัน >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 11 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระปิดตาสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2540
    พระปิดตาสมเด็จพระสังฆราช ครบรอบ ๘๔ ปี วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2540 //พระดีพิธีใหญ่ พิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณช่วยเสริมโชคลาภ การเงิน เมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ขจัดอุปสรรคภยันตรายต่างๆ โดยเฉพาะผู้ทำธุรกิจหรือทำอาชีพค้าขายก็จะร่ำรวย ตลอดจนช่วยเสริมเรื่องเดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย >>

    พระปิดตา สมเด็จพระสังฆราช ครบรอบ ๘๔ ปี วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2540 เป็นพระที่น่าสะสมเป็นอย่างมาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศ เป็นประธานในการจัดสร้าง โดยท่านสร้างตามแบบฉบับของหลวงปู่โต๊ะ มีความสวยงามไม่แพ้พระปิดตาของหลวงปู่โต๊ะ สามารถนำมาใช้แทนกันได้ครับ พุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย และอธิฐานจิต หลวงพ่อเมี๊ยน อยุธยา ดับเทียนชัย พระเกจิ อาจารย์ปลุกเสกได้แก่
    -พระมหารัชมงคลดิลก วัดบวรฯ
    -หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา
    -หลวงปู่บุญมี วัดมารวิชัย อยุธยา
    -หลวงพ่อรวย วัดตะโก ท่าเรือ อยุธยา
    -หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม
    -หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม
    -หลวงปู่สำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท
    -หลวงปู่ถม วัดเชิงท่า ลพบุรี
    -หลวงพ่อสรเดช วัดคีรีธรรมาราม ลพบุรี เป็นต้น
    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงอธิษฐานจิต

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระปิดตาสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2540 พระปิดตาสมเด็จพระสังฆราช ครบรอบ ๘๔ ปี วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2540 //พระดีพิธีใหญ่ พิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆ พระหายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณช่วยเสริมโชคลาภ การเงิน เมตตามหาเสน่ห์ โชคลาภ แคล้วคลาดปลอดภัย ขจัดอุปสรรคภยันตรายต่างๆ โดยเฉพาะผู้ทำธุรกิจหรือทำอาชีพค้าขายก็จะร่ำรวย ตลอดจนช่วยเสริมเรื่องเดินทางแคล้วคลาด ปลอดภัย >> พระปิดตา สมเด็จพระสังฆราช ครบรอบ ๘๔ ปี วัดบวรนิเวศวิหาร ปี2540 เป็นพระที่น่าสะสมเป็นอย่างมาก สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศ เป็นประธานในการจัดสร้าง โดยท่านสร้างตามแบบฉบับของหลวงปู่โต๊ะ มีความสวยงามไม่แพ้พระปิดตาของหลวงปู่โต๊ะ สามารถนำมาใช้แทนกันได้ครับ พุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระสังฆราชทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย และอธิฐานจิต หลวงพ่อเมี๊ยน อยุธยา ดับเทียนชัย พระเกจิ อาจารย์ปลุกเสกได้แก่ -พระมหารัชมงคลดิลก วัดบวรฯ -หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา -หลวงปู่บุญมี วัดมารวิชัย อยุธยา -หลวงพ่อรวย วัดตะโก ท่าเรือ อยุธยา -หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม -หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ นครปฐม -หลวงปู่สำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า ชัยนาท -หลวงปู่ถม วัดเชิงท่า ลพบุรี -หลวงพ่อสรเดช วัดคีรีธรรมาราม ลพบุรี เป็นต้น สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ทรงอธิษฐานจิต ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อนุ่ม วัดดอนมะปราง จ.นครศรีธรรมราช ปี2537
    เหรียญหลวงพ่อนุ่ม วัดดอนมะปราง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ปี2537 // สร้างน้อยหายากครับ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน โชคลาภ ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ ภูตผี กันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร >>

    ** วัดดอนมะปราง เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๖ ตำบลท่าประจะ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐ เป็นวัดโบราณที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยโบราณ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อนุ่ม วัดดอนมะปราง จ.นครศรีธรรมราช ปี2537 เหรียญหลวงพ่อนุ่ม วัดดอนมะปราง อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ปี2537 // สร้างน้อยหายากครับ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย คงกระพัน โชคลาภ ป้องกันภัย มหาเสน่ห์ มหาอุด รวมทั้งไล่ ภูตผี กันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร >> ** วัดดอนมะปราง เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ ๖ ตำบลท่าประจะ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งวัด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๐ เป็นวัดโบราณที่มีประวัติยาวนานมาตั้งแต่สมัยโบราณ >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงปู่สุ่ม วัดโคกมะขาม จ.สระบุรี ปี2524
    เหรียญหลวงปู่สุ่ม วัดโคกมะขาม ต.ตลาดน้อย.อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ปี2524 //ที่ระลึกสร้างหอสวดมนต์ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเสริมมงคลบารมี คงกระพัน บังปืน แคล้วคลาด มหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ป้องกันอันตรายก็ดีเยี่ยม คุ้มกันสารพัดภัย แคล้วคลาดจากอันตราย >>

    ** วัดโคกมะขาม สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ พ.ศ. 2415 โดยพื้นตั้งวัดเป็นที่ราบ มีอาคารเสนาสนะต่าง ๆ เช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กุฎีสงฆ์ และสำหรับปูชนียวัตถุ มีพระประธานในอุโบสถ ปางมารวิชัย วัดโคกมะขามได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาวันที่ 16 ก.ย. พ.ศ. 2471 >>


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงปู่สุ่ม วัดโคกมะขาม จ.สระบุรี ปี2524 เหรียญหลวงปู่สุ่ม วัดโคกมะขาม ต.ตลาดน้อย.อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ปี2524 //ที่ระลึกสร้างหอสวดมนต์ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเสริมมงคลบารมี คงกระพัน บังปืน แคล้วคลาด มหาเสน่ห์ เมตตามหานิยม ป้องกันอันตรายก็ดีเยี่ยม คุ้มกันสารพัดภัย แคล้วคลาดจากอันตราย >> ** วัดโคกมะขาม สร้างขึ้นเป็นวัดนับตั้งแต่ พ.ศ. 2415 โดยพื้นตั้งวัดเป็นที่ราบ มีอาคารเสนาสนะต่าง ๆ เช่น อุโบสถ ศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ กุฎีสงฆ์ และสำหรับปูชนียวัตถุ มีพระประธานในอุโบสถ ปางมารวิชัย วัดโคกมะขามได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาวันที่ 16 ก.ย. พ.ศ. 2471 >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อหงษ์ รุ่น1 วัดใหม่ราษฎร์บำรุง ปี2539
    เหรียญหลวงพ่อหงษ์ รุ่น1 วัดใหม่ราษฎร์บำรุง ปี2539 // สร้างอุโบสถ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณทางเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด มหาอุด ปกป้องคุ้มครอง ผู้ใหญ่เจ้านาย รักใคร่เอ็นดู ส่งเสริมชีวิตให้มีความสุข มหาเสน่ห์เมตตามหานิยม >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อหงษ์ รุ่น1 วัดใหม่ราษฎร์บำรุง ปี2539 เหรียญหลวงพ่อหงษ์ รุ่น1 วัดใหม่ราษฎร์บำรุง ปี2539 // สร้างอุโบสถ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณทางเมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด มหาอุด ปกป้องคุ้มครอง ผู้ใหญ่เจ้านาย รักใคร่เอ็นดู ส่งเสริมชีวิตให้มีความสุข มหาเสน่ห์เมตตามหานิยม >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อทองสัตตะโลหะ.....เลข.....545.....848.....*****

    *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....*****

    *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....*****
    *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....*****
    *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....*****

    *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....*****

    #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    *****.....28.....ประสบการณ์จริง.....เหตุการณ์จริง.....ครบทุกด้าน.....เนื้อทองสัตตะโลหะ.....เลข.....545.....848.....***** *****.....ขอน้อมนำ.....3.....สิ่งศักดิ์สิทธิ์.....แห่งแดนใต้.....มารวมไว้.....ในเหรียญเดียวกัน.....รุ่น.....ไตรบารมี 56.....***** *****.....1.หลวงปู่ทวด.....เหยียบน้ำทะเลจืด.....***** *****.....2.พ่อท่าน คล้าย วาจาสิทธิ์.....***** *****.....3.ปลุกเสกภายใต้ร่มเงาบารมี.....พระบรมสารีริกธาตุ.....ของ.....สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า.....ประดิษฐานอยู่ที่.....วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร.....จ.นครศรีธรรมราช.....มานานนับ.....1,000.....ปี.....พระบารมีแผ่ไพศาล.....ไปทั้ง.....3....โลก.....***** *****.....line : oak_999.....หรือ.....โทร.....089-471-5666.....***** #พระเก๊มีทุกรุ่น #พระใหม่ดีกว่าพระเก๊แน่นอน #พระใหม่พิธีดี #เจตนาการสร้างดี #พระใหม่ยอดนิยม #พระสายใต้ #พระเครื่อง #พระเครื่องยอดนิยม #หลวงปู่ทวด #หลวงพ่อทวด #พ่อท่านคล้าย #ไตรบารมี56 #ทวดคล้าย #หน้าทวดหลังคล้าย #ประสบการณ์จริงเพียบ #รับประกันพระแท้ตลอดชีพ #ทุกเหรียญตอกโค๊ดตอกเลขรันนัมเบอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • MediaTek เตรียมเปิดตัว Dimensity 9500 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตเรือธงที่ใช้ กระบวนการผลิต 3nm (N3P) ของ TSMC รุ่นที่สาม โดยคาดว่าจะให้ประสิทธิภาพเหนือกว่า Apple A19 Pro ในด้านมัลติคอร์ นอกจากนี้ยังมีการอัปเกรดโครงสร้าง L3 cache และ SLC cache รวมถึงเพิ่มความสามารถด้าน AI ผ่าน NPU รุ่นใหม่

    ✅ Dimensity 9500 ใช้เทคโนโลยี 3nm รุ่นล่าสุดของ TSMC
    - MediaTek เลือกใช้กระบวนการ N3P ซึ่งเป็น 3nm รุ่นที่สาม ของ TSMC
    - เพิ่มประสิทธิภาพของ L3 cache เป็น 16MB และ SLC cache เป็น 10MB
    - คาดว่าจะช่วยลดการใช้พลังงาน ในขณะที่เพิ่มความสามารถในการประมวลผล

    ✅ มัลติคอร์เร็วกว่า Apple A19 Pro
    - ผลการทดสอบระบุว่า Dimensity 9500 อาจให้คะแนนมัลติคอร์สูงกว่า 11,000+
    - แม้ Apple A19 Pro จะมี ประสิทธิภาพสูงกว่าในงานแบบซิงเกิลคอร์ แต่ Dimensity 9500 มีจุดเด่นเรื่องมัลติคอร์

    ✅ ใช้ ARM Cortex-X930 สำหรับความเร็วและ AI
    - คาดว่า Dimensity 9500 จะใช้ Cortex-X930 ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าชิปของ Apple และ Snapdragon
    - รองรับ ARM SME (Scalable Matrix Extension) ทำให้การจัดการงาน AI มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ‼️ การเลือกชิปเซ็ตต้องดูการใช้งานจริง ไม่ใช่แค่ตัวเลข
    - แม้ Dimensity 9500 จะมีประสิทธิภาพมัลติคอร์สูง แต่ต้องดูการใช้งานจริง ในแอปและเกมที่ต้องใช้ CPU หนัก
    - การทดสอบชิปเซ็ตในสถานการณ์จริง เช่น การรันโมเดล AI หรือการเล่นเกมต่อเนื่อง จะให้ข้อมูลที่แม่นยำกว่า

    ‼️ การใช้ชิป ARM ทั่วไปอาจมีข้อจำกัดเมื่อเทียบกับชิปแบบปรับแต่งเอง
    - Apple และ Qualcomm ใช้ ชิปแบบปรับแต่งเอง ขณะที่ MediaTek ยังคงใช้โครงสร้างของ ARM มาตรฐาน
    - อาจส่งผลต่อความเร็วในการประมวลผลบางอย่าง เช่น งานที่ต้องการการเพิ่มประสิทธิภาพเฉพาะทาง

    https://wccftech.com/dimensity-9500-tipped-to-be-faster-than-a19-pro-in-multi-core-claims-tipster/
    MediaTek เตรียมเปิดตัว Dimensity 9500 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตเรือธงที่ใช้ กระบวนการผลิต 3nm (N3P) ของ TSMC รุ่นที่สาม โดยคาดว่าจะให้ประสิทธิภาพเหนือกว่า Apple A19 Pro ในด้านมัลติคอร์ นอกจากนี้ยังมีการอัปเกรดโครงสร้าง L3 cache และ SLC cache รวมถึงเพิ่มความสามารถด้าน AI ผ่าน NPU รุ่นใหม่ ✅ Dimensity 9500 ใช้เทคโนโลยี 3nm รุ่นล่าสุดของ TSMC - MediaTek เลือกใช้กระบวนการ N3P ซึ่งเป็น 3nm รุ่นที่สาม ของ TSMC - เพิ่มประสิทธิภาพของ L3 cache เป็น 16MB และ SLC cache เป็น 10MB - คาดว่าจะช่วยลดการใช้พลังงาน ในขณะที่เพิ่มความสามารถในการประมวลผล ✅ มัลติคอร์เร็วกว่า Apple A19 Pro - ผลการทดสอบระบุว่า Dimensity 9500 อาจให้คะแนนมัลติคอร์สูงกว่า 11,000+ - แม้ Apple A19 Pro จะมี ประสิทธิภาพสูงกว่าในงานแบบซิงเกิลคอร์ แต่ Dimensity 9500 มีจุดเด่นเรื่องมัลติคอร์ ✅ ใช้ ARM Cortex-X930 สำหรับความเร็วและ AI - คาดว่า Dimensity 9500 จะใช้ Cortex-X930 ซึ่งมีประสิทธิภาพเหนือกว่าชิปของ Apple และ Snapdragon - รองรับ ARM SME (Scalable Matrix Extension) ทำให้การจัดการงาน AI มีประสิทธิภาพมากขึ้น ‼️ การเลือกชิปเซ็ตต้องดูการใช้งานจริง ไม่ใช่แค่ตัวเลข - แม้ Dimensity 9500 จะมีประสิทธิภาพมัลติคอร์สูง แต่ต้องดูการใช้งานจริง ในแอปและเกมที่ต้องใช้ CPU หนัก - การทดสอบชิปเซ็ตในสถานการณ์จริง เช่น การรันโมเดล AI หรือการเล่นเกมต่อเนื่อง จะให้ข้อมูลที่แม่นยำกว่า ‼️ การใช้ชิป ARM ทั่วไปอาจมีข้อจำกัดเมื่อเทียบกับชิปแบบปรับแต่งเอง - Apple และ Qualcomm ใช้ ชิปแบบปรับแต่งเอง ขณะที่ MediaTek ยังคงใช้โครงสร้างของ ARM มาตรฐาน - อาจส่งผลต่อความเร็วในการประมวลผลบางอย่าง เช่น งานที่ต้องการการเพิ่มประสิทธิภาพเฉพาะทาง https://wccftech.com/dimensity-9500-tipped-to-be-faster-than-a19-pro-in-multi-core-claims-tipster/
    WCCFTECH.COM
    Dimensity 9500’s Partial Specifications & Performance Numbers Shared By Tipster; MediaTek’s Flagship SoC Tipped To Be Faster Than Apple’s A19 Pro In Multi-Core Capabilities
    A few specifications of the Dimensity 9500 and its estimated cores from a tipster reveals that the A19 Pro stands no chance of beating it in multi-core performance
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 41 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📱 การเติบโตของการใช้งานเว็บบนมือถือแตะระดับสูงสุดที่ 64%
    การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด คิดเป็น 64% ของทราฟฟิกเว็บทั้งหมด ซึ่งเป็น การเติบโตติดต่อกันเป็นไตรมาสที่แปด

    🔍 ปัจจัยที่ทำให้การใช้งานเว็บบนมือถือเพิ่มขึ้น
    ✅ การเติบโตของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในเอเชีย
    - ในเอเชีย การใช้งานเว็บผ่านมือถือคิดเป็น 71.3% ของทราฟฟิกทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 7%
    - ยุโรปและอเมริกามีสัดส่วนการใช้งานมือถืออยู่ที่ประมาณ 50%

    ✅ Android ครองตลาดการใช้งานเว็บบนมือถือ
    - Android มีส่วนแบ่งตลาด 72.72% ในการเข้าถึงเว็บผ่านมือถือ
    - iOS มีส่วนแบ่ง 26.92% โดยได้รับความนิยมมากกว่าในสหรัฐฯ
    - Android ครองตลาดในประเทศที่มีประชากรสูง เช่น อินเดียและจีน

    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีมือถือช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น
    - สมาร์ทโฟนระดับกลางและราคาประหยัดรองรับ 4G/5G และโหมดประหยัดข้อมูล
    - Cloudflare รายงานว่า Android มีส่วนแบ่งมากกว่า 90% ของทราฟฟิกมือถือในกว่า 25 ประเทศ

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต
    ‼️ การพึ่งพาอุปกรณ์มือถืออาจทำให้การพัฒนาเว็บต้องปรับตัว
    - เว็บไซต์ต้องออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานบนมือถือมากขึ้น

    ‼️ การแข่งขันระหว่าง Android และ iOS ยังคงดำเนินต่อไป
    - Apple อาจต้องพัฒนา iOS ให้สามารถแข่งขันกับ Android ในตลาดโลกได้ดีขึ้น

    ‼️ ต้องติดตามว่าแนวโน้มนี้จะส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตอย่างไร
    - การเพิ่มขึ้นของทราฟฟิกมือถืออาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต

    🚀 อนาคตของการใช้งานเว็บบนมือถือ
    ✅ การพัฒนาเทคโนโลยี 5G และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศกำลังพัฒนา ✅ แนวโน้มการใช้งานมือถืออาจทำให้บริษัทเทคโนโลยีต้องปรับกลยุทธ์การตลาดและพัฒนาแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับมือถือมากขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108305-global-mobile-web-traffic-hits-record-high-64.html
    📱 การเติบโตของการใช้งานเว็บบนมือถือแตะระดับสูงสุดที่ 64% การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด คิดเป็น 64% ของทราฟฟิกเว็บทั้งหมด ซึ่งเป็น การเติบโตติดต่อกันเป็นไตรมาสที่แปด 🔍 ปัจจัยที่ทำให้การใช้งานเว็บบนมือถือเพิ่มขึ้น ✅ การเติบโตของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตในเอเชีย - ในเอเชีย การใช้งานเว็บผ่านมือถือคิดเป็น 71.3% ของทราฟฟิกทั้งหมด ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 7% - ยุโรปและอเมริกามีสัดส่วนการใช้งานมือถืออยู่ที่ประมาณ 50% ✅ Android ครองตลาดการใช้งานเว็บบนมือถือ - Android มีส่วนแบ่งตลาด 72.72% ในการเข้าถึงเว็บผ่านมือถือ - iOS มีส่วนแบ่ง 26.92% โดยได้รับความนิยมมากกว่าในสหรัฐฯ - Android ครองตลาดในประเทศที่มีประชากรสูง เช่น อินเดียและจีน ✅ การพัฒนาเทคโนโลยีมือถือช่วยให้ผู้ใช้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่ายขึ้น - สมาร์ทโฟนระดับกลางและราคาประหยัดรองรับ 4G/5G และโหมดประหยัดข้อมูล - Cloudflare รายงานว่า Android มีส่วนแบ่งมากกว่า 90% ของทราฟฟิกมือถือในกว่า 25 ประเทศ 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต ‼️ การพึ่งพาอุปกรณ์มือถืออาจทำให้การพัฒนาเว็บต้องปรับตัว - เว็บไซต์ต้องออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานบนมือถือมากขึ้น ‼️ การแข่งขันระหว่าง Android และ iOS ยังคงดำเนินต่อไป - Apple อาจต้องพัฒนา iOS ให้สามารถแข่งขันกับ Android ในตลาดโลกได้ดีขึ้น ‼️ ต้องติดตามว่าแนวโน้มนี้จะส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตอย่างไร - การเพิ่มขึ้นของทราฟฟิกมือถืออาจทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ต 🚀 อนาคตของการใช้งานเว็บบนมือถือ ✅ การพัฒนาเทคโนโลยี 5G และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตในประเทศกำลังพัฒนา ✅ แนวโน้มการใช้งานมือถืออาจทำให้บริษัทเทคโนโลยีต้องปรับกลยุทธ์การตลาดและพัฒนาแอปพลิเคชันให้เหมาะสมกับมือถือมากขึ้น https://www.techspot.com/news/108305-global-mobile-web-traffic-hits-record-high-64.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Mobile web traffic hits record 64%, with Android leading the way
    Since 2015, the amount of web traffic to come from smartphones has more than doubled from 31.16% to 64%. There have been quarters during the decade when...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์
    สัทธรรมลำดับที่ : 1021
    ชื่อบทธรรม :- องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1021
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์-(อุปกรณ์แห่งการปฏิบัติมรรค)
    --ภิกษุ ท. ! คนเลี้ยงโค ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ อย่างแล้ว
    ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. องคคุณ ๑๑ อย่าง อะไรบ้างเล่า ?
    --สิบเอ็ดอย่างคือ คนเลี้ยงโคในกรณีนี้
    เป็นผู้รู้จักเรื่องร่างกายของโค,
    เป็นผู้ฉลาดในลักษณะของโค, เป็นผู้เขี่ยไข่ขาง, เป็นผู้ปิดแผล,
    เป็นผู้สุมควัน, เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรนำโคไป, เป็นผู้รู้จักน้ำที่โคควรดื่ม,
    เป็นผู้รู้จักทางที่โค ควรเดิน,
    เป็นผู้ฉลาดในที่ที่โค ควรไป,
    เป็นผู้รู้จักรีดนมโค ให้มีเหลือไว้บ้าง,
    เป็นผู้ให้เกียรติแก่โคอุสภ อันเป็นโคพ่อฝูง
    เป็นโคนำฝูง ด้วยการเอาใจใส่เป็นพิเศษ.
    --ภิกษุ ท. ! คนเลี้ยงโคที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ อย่างนี้แล้ว
    ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. ข้อนี้ฉันใด ;
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ ประการแล้ว
    ย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย (พรหมจรรย์) นี้ได้ ฉันนั้น.
    องคคุณ ๑๑ ประการ อย่างไรบ้างเล่า?
    +--สิบเอ็ดประการคือ ภิกษุ ในกรณีนี้
    ๑.เป็นผู้รู้จักรูป,
    ๒.เป็นผู้ฉลาดในลักษณะ,
    ๓.เป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง,
    ๔.เป็นผู้ปิดแผล,
    ๕.เป็นผู้สุมควัน,
    ๖.เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรไป,
    ๗.เป็นผู้รู้จักน้ำที่ควรดื่ม,
    ๘.เป็นผู้รู้จักทางที่ควรเดิน,
    ๙.เป็นผู้ฉลาดในที่ที่ควรไป,
    ๑๐.พเป็นผู้รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง,
    ๑๑.เป็นผู้บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลาย ผู้เถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน เป็นบิดาสงฆ์ เป็นผู้นำสงฆ์ ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ.

    ๑--พวกรู้จักรูป
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักรูป เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า
    “รูปชนิดใดก็ตาม ทั้งหมดนั้น
    ชื่อว่า รูป คือ มหาภูตรูปมี ๔
    และอุปาทายรูปคือรูปที่อาศัยมหาภูตรูปทั้งสี่”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักรูป เป็นอย่างนี้แล.

    ๒--พวกฉลาดในลักษณะ
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ฉลาดในลักษณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า
    “คนพาล มีกรรม (มโน​ วจี​ กาย) เป็นเครื่องหมาย,
    บัณฑิต ก็มีกรรม (มโน​ วจี​ กาย) เป็นเครื่องหมาย”
    ดังนี้เป็นต้น.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้ฉลาดในลักษณะ เป็นอย่างนี้แล.

    ๓--พวกคอยเขี่ยไข่ขาง
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    อดกลั้นได้ ละ บรรเทา ทำให้สิ้นสุด ทำให้หมดสิ้น
    ซึ่งความตรึกเกี่ยวด้วยกาม,
    ความตรึกเกี่ยวด้วยความมุ่งร้าย,
    ความตรึกเกี่ยวด้วยการทำความลำบากให้แก่ตนเองและผู้อื่นแม้โดยไม่เจตนา
    ที่เกิดขึ้นแล้ว;
    และอดกลั้นได้ ละ บรรเทา ทำให้สิ้นสุด ทำให้หมดสิ้น
    ซึ่งสิ่งอันเป็น &อกุศลลามกทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นแล้ว.
    ภิกษุ ท. ! ภิกษุ​#เป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างนี้ แล.

    ๔--พวกปิดแผล
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ปิดแผล เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เห็นรูปด้วยตา,
    ฟังเสียงด้วยหู,
    ดมกลิ่นด้วยจมูก,
    ลิ้มรสด้วยลิ้น,
    สัมผัสโผฏฐัพพะด้วยกาย,
    รู้ธรรมมารมณ์ด้วยใจ,
    แล้วไม่มีจิตยึดถือเอาทั้งโดยลักษณะที่เป็นการรวบถือทั้งหมด
    และการถือเอาโดยการแยกเป็นส่วน ๆ,
    สิ่งที่ อกุศลลามกคือ อภิชฌาและโทมนัส
    จะพึงไหลไปตามผู้ที่ ไม่สำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
    เพราะ &การไม่สำรวมอินทรีย์ใดเป็นเหตุ,
    เธอก็ปฏิบัติ เพื่อปิดกั้นอินทรีย์นั้นไว้,
    เธอรักษาและถึงการสำรวม ตา หู จมูกลิ้น กาย ใจ.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้ปิดแผล เป็นอย่างนี้แล.

    ๕--พวกสุมควัน
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ สุมควัน เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เป็นผู้แสดงธรรม ตามที่ได้ฟัง ได้เล่าเรียนมาแล้ว
    แก่ผู้อื่นโดยพิสดาร.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้สุมควัน เป็นอย่างนี้แล.

    ๖--พวกรู้จักท่าที่ควรไป
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักท่าที่ควรไป เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เมื่อเข้าไปหาภิกษุผู้เป็นพหุสูต คล่องแคล่วในหลักพระพุทธวจนะ
    ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา (แม่บท),
    ก็ไต่ถาม ไล่เลียงโดยทำนองนี้ว่า
    “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! พระพุทธวจนะนี้ เป็นอย่างไร ?
    ความหมายแห่งพระพุทธวจนะนี้มีอย่างไร ?”
    ดังนี้เป็นต้น ตามเวลาอันสมควร ;
    ท่านพหุสูตเหล่านั้น จึงทำข้อความที่ยังลี้ลับให้เปิดเผย
    ทำข้อความอันลึกซึ้ง ให้ตื้น และบรรเทา ถ่ายถอน
    ความสงสัยในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยนานาประการให้แก่ภิกษุนั้นได้.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรไป เป็นอย่างนี้แล.

    ๗--พวกที่รู้จักน้ำที่ควรดื่ม
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักน้ำที่ควรดื่ม เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
    เมื่อธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศไว้แล้ว
    อันผู้ใดผู้หนึ่งแสดงอยู่ เธอได้ความรู้อรรถ ได้ความรู้ธรรม
    และได้ความปราโมทย์อันอาศัยธรรม.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักน้ำที่ควรดื่ม เป็นอย่างนี้แล.

    ๘--พวกรู้จักทางที่ควรเดิน
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักทางที่ควรเดิน เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดแจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่ง &อริยมรรคมีองค์ ๘.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักทางที่ควรเดิน เป็นอย่างนี้แล.

    ๙--พวกฉลาดในที่ที่ควรไป
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ฉลาดในที่ที่ควรไป เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดแจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่ง &สติปัฏฐาน ๔.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้ฉลาดในที่ที่ควรไป เป็นอย่างนี้แล.

    ๑๐--พวกรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือ
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! พวกคฤหัสถ์ผู้มีศรัทธา ย่อมปวารณาไม่มีขีดขั้น แก่ภิกษุในกรณีนี้
    +--ด้วยจีวร
    +--บิณฑบาต
    +--เสนาสนะ และ
    +--คิลานปัจจัยเภสัช บริกขาร.
    ในการที่เขาปวารณาเช่นนั้น,
    ภิกษุ เป็นผู้รู้จักประมาณในการรับปัจจัย ๔ มีจีวรเป็นต้นเหล่านั้น.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักรีดนมโคให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง เป็นอย่างนี้แล.

    ๑๑--พวกบูชาผู้เฒ่า
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ มีพรรษายุกาล
    เป็นผู้นำสงฆ์เป็นบิดาสงฆ์... ฯลฯ...
    ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เข้าไปตั้งไว้ซึ่ง
    การกระทำทางกาย การกระทำทางวาจา และการกระทำทางใจ
    อันประกอบด้วยเมตตา
    ในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน
    เป็นบิดาสงฆ์ เป็นผู้นำสงฆ์ ทั้งในที่แจ้งและทั้งในที่ลับ.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ
    #เป็นผู้บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ... ฯลฯ...
    ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ เป็นอย่างนี้แล.

    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ ประการเหล่านี้แล้ว
    #ย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย (พรหมจรรย์-ธมฺมวินเย)​
    http://etipitaka.com/read/pali/12/417/?keywords=ธมฺมวินเย
    นี้ได้แท้.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/292 -293/386 - 387.
    http://etipitaka.com/read/thai/12/292/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๔๑๓ - ๔๑๔/๓๘๖ - ๓๘๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/413/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%96
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=88&id=1021
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=88
    ลำดับสาธยายธรรม : 88 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_88.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์ สัทธรรมลำดับที่ : 1021 ชื่อบทธรรม :- องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1021 เนื้อความทั้งหมด :- --องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์-(อุปกรณ์แห่งการปฏิบัติมรรค) --ภิกษุ ท. ! คนเลี้ยงโค ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ อย่างแล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. องคคุณ ๑๑ อย่าง อะไรบ้างเล่า ? --สิบเอ็ดอย่างคือ คนเลี้ยงโคในกรณีนี้ เป็นผู้รู้จักเรื่องร่างกายของโค, เป็นผู้ฉลาดในลักษณะของโค, เป็นผู้เขี่ยไข่ขาง, เป็นผู้ปิดแผล, เป็นผู้สุมควัน, เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรนำโคไป, เป็นผู้รู้จักน้ำที่โคควรดื่ม, เป็นผู้รู้จักทางที่โค ควรเดิน, เป็นผู้ฉลาดในที่ที่โค ควรไป, เป็นผู้รู้จักรีดนมโค ให้มีเหลือไว้บ้าง, เป็นผู้ให้เกียรติแก่โคอุสภ อันเป็นโคพ่อฝูง เป็นโคนำฝูง ด้วยการเอาใจใส่เป็นพิเศษ. --ภิกษุ ท. ! คนเลี้ยงโคที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ อย่างนี้แล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. ข้อนี้ฉันใด ; --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ ประการแล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย (พรหมจรรย์) นี้ได้ ฉันนั้น. องคคุณ ๑๑ ประการ อย่างไรบ้างเล่า? +--สิบเอ็ดประการคือ ภิกษุ ในกรณีนี้ ๑.เป็นผู้รู้จักรูป, ๒.เป็นผู้ฉลาดในลักษณะ, ๓.เป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง, ๔.เป็นผู้ปิดแผล, ๕.เป็นผู้สุมควัน, ๖.เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรไป, ๗.เป็นผู้รู้จักน้ำที่ควรดื่ม, ๘.เป็นผู้รู้จักทางที่ควรเดิน, ๙.เป็นผู้ฉลาดในที่ที่ควรไป, ๑๐.พเป็นผู้รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง, ๑๑.เป็นผู้บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลาย ผู้เถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน เป็นบิดาสงฆ์ เป็นผู้นำสงฆ์ ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ. ๑--พวกรู้จักรูป --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักรูป เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า “รูปชนิดใดก็ตาม ทั้งหมดนั้น ชื่อว่า รูป คือ มหาภูตรูปมี ๔ และอุปาทายรูปคือรูปที่อาศัยมหาภูตรูปทั้งสี่” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักรูป เป็นอย่างนี้แล. ๒--พวกฉลาดในลักษณะ --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ฉลาดในลักษณะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า “คนพาล มีกรรม (มโน​ วจี​ กาย) เป็นเครื่องหมาย, บัณฑิต ก็มีกรรม (มโน​ วจี​ กาย) เป็นเครื่องหมาย” ดังนี้เป็นต้น. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้ฉลาดในลักษณะ เป็นอย่างนี้แล. ๓--พวกคอยเขี่ยไข่ขาง --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ อดกลั้นได้ ละ บรรเทา ทำให้สิ้นสุด ทำให้หมดสิ้น ซึ่งความตรึกเกี่ยวด้วยกาม, ความตรึกเกี่ยวด้วยความมุ่งร้าย, ความตรึกเกี่ยวด้วยการทำความลำบากให้แก่ตนเองและผู้อื่นแม้โดยไม่เจตนา ที่เกิดขึ้นแล้ว; และอดกลั้นได้ ละ บรรเทา ทำให้สิ้นสุด ทำให้หมดสิ้น ซึ่งสิ่งอันเป็น &อกุศลลามกทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นแล้ว. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ​#เป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างนี้ แล. ๔--พวกปิดแผล --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ปิดแผล เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เห็นรูปด้วยตา, ฟังเสียงด้วยหู, ดมกลิ่นด้วยจมูก, ลิ้มรสด้วยลิ้น, สัมผัสโผฏฐัพพะด้วยกาย, รู้ธรรมมารมณ์ด้วยใจ, แล้วไม่มีจิตยึดถือเอาทั้งโดยลักษณะที่เป็นการรวบถือทั้งหมด และการถือเอาโดยการแยกเป็นส่วน ๆ, สิ่งที่ อกุศลลามกคือ อภิชฌาและโทมนัส จะพึงไหลไปตามผู้ที่ ไม่สำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะ &การไม่สำรวมอินทรีย์ใดเป็นเหตุ, เธอก็ปฏิบัติ เพื่อปิดกั้นอินทรีย์นั้นไว้, เธอรักษาและถึงการสำรวม ตา หู จมูกลิ้น กาย ใจ. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้ปิดแผล เป็นอย่างนี้แล. ๕--พวกสุมควัน --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ สุมควัน เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้แสดงธรรม ตามที่ได้ฟัง ได้เล่าเรียนมาแล้ว แก่ผู้อื่นโดยพิสดาร. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้สุมควัน เป็นอย่างนี้แล. ๖--พวกรู้จักท่าที่ควรไป --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักท่าที่ควรไป เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เมื่อเข้าไปหาภิกษุผู้เป็นพหุสูต คล่องแคล่วในหลักพระพุทธวจนะ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา (แม่บท), ก็ไต่ถาม ไล่เลียงโดยทำนองนี้ว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! พระพุทธวจนะนี้ เป็นอย่างไร ? ความหมายแห่งพระพุทธวจนะนี้มีอย่างไร ?” ดังนี้เป็นต้น ตามเวลาอันสมควร ; ท่านพหุสูตเหล่านั้น จึงทำข้อความที่ยังลี้ลับให้เปิดเผย ทำข้อความอันลึกซึ้ง ให้ตื้น และบรรเทา ถ่ายถอน ความสงสัยในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยนานาประการให้แก่ภิกษุนั้นได้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรไป เป็นอย่างนี้แล. ๗--พวกที่รู้จักน้ำที่ควรดื่ม --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักน้ำที่ควรดื่ม เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เมื่อธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศไว้แล้ว อันผู้ใดผู้หนึ่งแสดงอยู่ เธอได้ความรู้อรรถ ได้ความรู้ธรรม และได้ความปราโมทย์อันอาศัยธรรม. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักน้ำที่ควรดื่ม เป็นอย่างนี้แล. ๘--พวกรู้จักทางที่ควรเดิน --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักทางที่ควรเดิน เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดแจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่ง &อริยมรรคมีองค์ ๘. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักทางที่ควรเดิน เป็นอย่างนี้แล. ๙--พวกฉลาดในที่ที่ควรไป --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ฉลาดในที่ที่ควรไป เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดแจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่ง &สติปัฏฐาน ๔. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้ฉลาดในที่ที่ควรไป เป็นอย่างนี้แล. ๑๐--พวกรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือ --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! พวกคฤหัสถ์ผู้มีศรัทธา ย่อมปวารณาไม่มีขีดขั้น แก่ภิกษุในกรณีนี้ +--ด้วยจีวร +--บิณฑบาต +--เสนาสนะ และ +--คิลานปัจจัยเภสัช บริกขาร. ในการที่เขาปวารณาเช่นนั้น, ภิกษุ เป็นผู้รู้จักประมาณในการรับปัจจัย ๔ มีจีวรเป็นต้นเหล่านั้น. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้รู้จักรีดนมโคให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง เป็นอย่างนี้แล. ๑๑--พวกบูชาผู้เฒ่า --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ มีพรรษายุกาล เป็นผู้นำสงฆ์เป็นบิดาสงฆ์... ฯลฯ... ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เข้าไปตั้งไว้ซึ่ง การกระทำทางกาย การกระทำทางวาจา และการกระทำทางใจ อันประกอบด้วยเมตตา ในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน เป็นบิดาสงฆ์ เป็นผู้นำสงฆ์ ทั้งในที่แจ้งและทั้งในที่ลับ. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ #เป็นผู้บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ... ฯลฯ... ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ เป็นอย่างนี้แล. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ ประการเหล่านี้แล้ว #ย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย (พรหมจรรย์-ธมฺมวินเย)​ http://etipitaka.com/read/pali/12/417/?keywords=ธมฺมวินเย นี้ได้แท้.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/292 -293/386 - 387. http://etipitaka.com/read/thai/12/292/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๔๑๓ - ๔๑๔/๓๘๖ - ๓๘๗. http://etipitaka.com/read/pali/12/413/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%96 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=88&id=1021 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=88 ลำดับสาธยายธรรม : 88 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_88.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์--(อุปกรณ์แห่งการปฏิบัติมรรค)
    -(รายชื่อแห่งธรรมเป็นเครื่องขูดเกลา ๔๔ คู่นี้ ไม่ได้ใช้เพื่ออธิบายเกี่ยวกับการขูดเกลาอย่างเดียว แต่ใช้เพื่ออธิบายในการประพฤติกระทำอย่างอื่นด้วย ดังที่ได้แยกไว้เป็น ข้อ ก. ข. ค. ง. ในตอนท้าย; ผู้ที่ตั้งใจจะศึกษาจริงๆ พึงกำหนดให้ชัดเจนว่ามีลำดับอย่างไร เป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกอย่างไร ก็จะสามารถเข้าใจข้อความที่ละไว้ โดยไม่นำมาใส่ไว้ให้เต็ม เช่น อ้างถึงแต่ข้อต้น และ ข้อสุดท้าย เป็นต้น, ก็จะสำเร็จประโยชน์ได้ตามปรารถนา). องค์คุณที่ทำให้เจริญงอกงามไพบูลย์ในพรหมจรรย์ (อุปกรณ์แห่งการปฏิบัติมรรค) ภิกษุ ท. ! คนเลี้ยงโค ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ อย่างแล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. องคคุณ ๑๑ อย่าง อะไรบ้างเล่า ? สิบเอ็ดอย่างคือ คนเลี้ยงโคในกรณีนี้ เป็นผู้รู้จักเรื่องร่างกายของโค, เป็นผู้ ฉลาดในลักษณะของโค, เป็นผู้เขี่ยไข่ขาง, เป็นผู้ปิดแผล, เป็นผู้สุมควัน, เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรนำโคไป, เป็นผู้รู้จักน้ำที่โคควรดื่ม, เป็นผู้รู้จักทางที่โค ควรเดิน, เป็นผู้ฉลาดในที่ที่โคควรไป, เป็นผู้รู้จักรีดนมโคให้มีเหลือไว้บ้าง, เป็นผู้ให้เกียรติแก่โคอุสภ อันเป็นโคพ่อฝูง เป็นโคนำฝูง ด้วยการเอาใจใส่เป็นพิเศษ. ภิกษุ ท. ! คนเลี้ยงโคที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ อย่างนี้แล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะเลี้ยงโค ทำให้เพิ่มกำไรได้. ข้อนี้ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ ประการแล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย (พรหมจรรย์) นี้ได้ ฉันนั้น. องคคุณ ๑๑ ประการ อย่างไรบ้างเล่า? สิบเอ็ดประการคือ ภิกษุ ในกรณีนี้ เป็นผู้รู้จักรูป, เป็นผู้ฉลาดในลักษณะ, เป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง, เป็นผู้ปิดแผล, เป็นผู้สุมควัน, เป็นผู้รู้จักท่าที่ควรไป, เป็นผู้รู้จักน้ำที่ควรดื่ม, เป็นผู้รู้จักทางที่ควรเดิน, เป็นผู้ฉลาดในที่ที่ควรไป, เป็นผู้รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง, เป็นผู้บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลาย ผู้เถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน เป็นบิดาสงฆ์ เป็นผู้นำสงฆ์ ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ. พวกรู้จักรูป ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักรูป เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า “รูปชนิดใดก็ตาม ทั้งหมดนั้น ชื่อว่า รูป คือ มหาภูตรูปมี ๔ และอุปาทายรูปคือรูปที่อาศัยมหาภูตรูปทั้งสี่” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้รู้จักรูป เป็นอย่างนี้แล. พวกฉลาดในลักษณะ ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ฉลาดในลักษณะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามที่เป็นจริงว่า “คนพาล มีกรรม (การกระทำ) เป็นเครื่องหมาย, บัณฑิต ก็มีกรรม (การกระทำ) เป็นเครื่องหมาย” ดังนี้เป็นต้น. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ฉลาดในลักษณะ เป็นอย่างนี้แล. พวกคอยเขี่ยไข่ขาง ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ อดกลั้นได้ ละ บรรเทา ทำให้สิ้นสุด ทำให้หมดสิ้น ซึ่งความ ตรึกเกี่ยวด้วยกาม, ความตรึกเกี่ยวด้วยความมุ่งร้าย, ความตรึกเกี่ยวด้วยการทำความลำบากให้แก่ตนเองและผู้อื่นแม้โดยไม่เจตนา ที่เกิดขึ้นแล้ว; และอดกลั้นได้ ละ บรรเทา ทำให้สิ้นสุด ทำให้หมดสิ้น ซึ่งสิ่งอันเป็นอกุศลลามกทั้งหลาย ที่เกิดขึ้นแล้ว. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้คอยเขี่ยไข่ขาง เป็นอย่างนี้ แล. พวกปิดแผล ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ปิดแผล เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เห็นรูปด้วยตา, ฟังเสียงด้วยหู, ดมกลิ่นด้วยจมูก, ลิ้มรสด้วยลิ้น, สัมผัสโผฏฐัพพะด้วยกาย, รู้ธรรมมารมณ์ด้วยใจ, แล้วไม่มีจิตยึดถือเอาทั้งโดยลักษณะที่เป็นการรวบถือทั้งหมด และการถือเอาโดยการแยกเป็นส่วน ๆ, สิ่งที่อกุศลลามกคืออภิชฌาและโทมนัส จะพึงไหลไปตามผู้ที่ ไม่สำรวม ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เพราะการไม่สำรวมอินทรีย์ใดเป็นเหตุ, เธอ ก็ปฏิบัติ เพื่อปิดกั้นอินทรีย์นั้นไว้, เธอรักษาและถึงการสำรวม ตา หู จมูกลิ้น กาย ใจ. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ปิดแผล เป็นอย่างนี้แล. พวกสุมควัน ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ สุมควัน เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้แสดงธรรม ตามที่ได้ฟัง ได้เล่าเรียนมาแล้ว แก่ผู้อื่นโดยพิสดาร. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้สุมควัน เป็นอย่างนี้แล. พวกรู้จักท่าที่ควรไป ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักท่าที่ควรไป เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เมื่อเข้าไปหาภิกษุผู้เป็นพหุสูต คล่องแคล่วในหลักพระพุทธวจนะ ทรงธรรม ทรงวินัย ทรงมาติกา (แม่บท), ก็ไต่ถาม ไล่เลียงโดยทำนองนี้ว่า “ท่านผู้เจริญทั้งหลาย ! พระพุทธวจนะนี้ เป็นอย่างไร ? ความหมายแห่งพระพุทธวจนะนี้มีอย่างไร ?” ดังนี้เป็นต้น ตามเวลาอันสมควร ; ท่านพหุสูตเหล่านั้น จึงทำข้อความที่ยังลี้ลับให้เปิดเผย ทำข้อความอันลึกซึ้ง ให้ตื้น และบรรเทา ถ่ายถอน ความสงสัยในธรรมทั้งหลายอันเป็นที่ตั้งแห่งความสงสัยนานาประการให้แก่ภิกษุนั้นได้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้รู้จักท่าที่ควรไปเป็นอย่างนี้แล. พวกที่รู้จักน้ำที่ควรดื่ม ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักน้ำที่ควรดื่ม เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เมื่อธรรมวินัยที่ตถาคตประกาศไว้แล้ว อันผู้ใดผู้หนึ่งแสดง อยู่ เธอได้ความรู้อรรถ ได้ความรู้ธรรม และได้ความปราโมทย์อันอาศัยธรรม. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้รู้จักน้ำที่ควรดื่ม เป็นอย่างนี้แล. พวกรู้จักทางที่ควรเดิน ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักทางที่ควรเดิน เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้ชัดแจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่งอริยมรรคมีองค์ ๘. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้รู้จักทางที่ควรเดิน เป็นอย่างนี้แล. พวกฉลาดในที่ที่ควรไป ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ ฉลาดในที่ที่ควรไป เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดแจ้งตามที่เป็นจริง ซึ่งสติปัฏฐาน ๔. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ฉลาดในที่ที่ควรไป เป็นอย่างนี้แล. พวกรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือ ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! พวกคฤหัสถ์ผู้มีศรัทธา ย่อมปวารณาไม่มีขีดขั้น แก่ภิกษุในกรณีนี้ ด้วยจีวร บิณฑบาต เสนาสนะ และคิลานปัจจัยเภสัช บริกขาร. ในการที่เขาปวารณาเช่นนั้น, ภิกษุ เป็นผู้รู้จักประมาณในการรับปัจจัย ๔ มีจีวรเป็นต้นเหล่านั้น. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้รู้จักรีด “นมโค” ให้มีส่วนเหลือไว้บ้าง เป็นอย่างนี้แล. พวกบูชาผู้เฒ่า ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้ บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ มีพรรษายุกาล เป็นผู้นำสงฆ์เป็นบิดาสงฆ์ ฯลฯ ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เข้าไปตั้งไว้ซึ่งการกระทำทางกาย การกระทำทางวาจา และการกระทำทางใจ อันประกอบด้วยเมตตา ในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ มีพรรษายุกาล บวชนาน เป็นบิดาสงฆ์ เป็นผู้นำสงฆ์ ทั้งในที่แจ้งและทั้งในที่ลับ. ภิกษุ ท. ! ภิกษุเป็นผู้บูชาอย่างยิ่งในภิกษุทั้งหลายผู้เถระ ฯลฯ ด้วยการบูชาเป็นพิเศษ เป็นอย่างนี้แล. ภิกษุ ท. ! ภิกษุ ที่ประกอบด้วยองคคุณ ๑๑ ประการเหล่านี้แล้ว ย่อมเหมาะสมที่จะถึงความเจริญ งอกงาม ไพบูลย์ ในธรรมวินัย (พรหมจรรย์) นี้ได้แท้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาฟองไข่ออกเป็นตัว มิใช่โดยเจตนาของแม่ไก่ง
    สัทธรรมลำดับที่ : 653
    ชื่อบทธรรม :- ฟองไข่ออกเป็นตัว มิใช่โดยเจตนาของแม่ไก่
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=653
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ฟองไข่ออกเป็นตัว มิใช่โดยเจตนาของแม่ไก่-(เหมือนอาสวะสิ้นเอง เมื่อปฏิบัติชอบ)
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุตามประกอบการเจริญภาวนาอยู่,
    โดยแน่นอน เธอไม่ต้องปรารถนา ว่า
    “ โอหนอ ! จิตของเราถึงหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่มีอุปาทานเถิด”
    ดังนี้.
    จิตของเธอนั้นก็ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่มีอุปาทานได้เป็นแน่.
    ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ข้อนั้นเพราะเหตุว่า
    เธอมีการเจริญ
    +--สติปัฏฐานสี่
    +--สัมมัปปธานสี่
    +--อิทธิบาทสี่
    +--อินทรีย์ห้า
    +--พละห้า
    +--โพชฌงค์เจ็ด
    ด้วย​ #อริยมรรคมีองค์แปด(อริยสฺส อฏฺฐงฺคิกสฺส มคฺคสฺส)​.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/127/?keywords=อริยสฺส+อฏฺฐงฺคิกสฺส+มคฺคสฺส

    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน ฟองไข่ ๘ ฟอง ๑๐ ฟอง หรือ ๑๒ ฟอง
    http://etipitaka.com/read/pali/23/127/?keywords=กุกฺกุฏิยา+อณฺฑานิ
    อันแม่ไก่กกดีแล้ว พลิกให้ทั่วดีแล้ว คือฟักดีแล้ว,
    โดยแน่นอน แม่ไก่ ไม่ต้องปรารถนา ว่า
    “โอหนอ ! ลูกไก่ของเรา จงทำลายกระเปาะฟอง
    ด้วยปลายเล็บเท้า หรือจะงอยปาก ออกมาโดยสวัสดีเถิด”
    ดังนี้,
    ลูกไก่เหล่านั้นก็สามารถทำลายกระเปาะด้วยปลายเล็บเท้า
    หรือจะงอยปาก ออกมาโดยสวัสดีได้ โดยแท้,
    ฉันใดก็ฉันนั้น.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตตก.อํ. 23/98/68.
    http://etipitaka.com/read/thai/23/98/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตตก.อํ. ๒๓/๑๒๗/๖๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/127/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%98
    ศึกษาเพิ่มเติม..
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=653
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=45&id=653
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=45
    ลำดับสาธยายธรรม : 45 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_45.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาฟองไข่ออกเป็นตัว มิใช่โดยเจตนาของแม่ไก่ง สัทธรรมลำดับที่ : 653 ชื่อบทธรรม :- ฟองไข่ออกเป็นตัว มิใช่โดยเจตนาของแม่ไก่ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=653 เนื้อความทั้งหมด :- --ฟองไข่ออกเป็นตัว มิใช่โดยเจตนาของแม่ไก่-(เหมือนอาสวะสิ้นเอง เมื่อปฏิบัติชอบ) --ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุตามประกอบการเจริญภาวนาอยู่, โดยแน่นอน เธอไม่ต้องปรารถนา ว่า “ โอหนอ ! จิตของเราถึงหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่มีอุปาทานเถิด” ดังนี้. จิตของเธอนั้นก็ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่มีอุปาทานได้เป็นแน่. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ข้อนั้นเพราะเหตุว่า เธอมีการเจริญ +--สติปัฏฐานสี่ +--สัมมัปปธานสี่ +--อิทธิบาทสี่ +--อินทรีย์ห้า +--พละห้า +--โพชฌงค์เจ็ด ด้วย​ #อริยมรรคมีองค์แปด(อริยสฺส อฏฺฐงฺคิกสฺส มคฺคสฺส)​. http://etipitaka.com/read/pali/23/127/?keywords=อริยสฺส+อฏฺฐงฺคิกสฺส+มคฺคสฺส --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน ฟองไข่ ๘ ฟอง ๑๐ ฟอง หรือ ๑๒ ฟอง http://etipitaka.com/read/pali/23/127/?keywords=กุกฺกุฏิยา+อณฺฑานิ อันแม่ไก่กกดีแล้ว พลิกให้ทั่วดีแล้ว คือฟักดีแล้ว, โดยแน่นอน แม่ไก่ ไม่ต้องปรารถนา ว่า “โอหนอ ! ลูกไก่ของเรา จงทำลายกระเปาะฟอง ด้วยปลายเล็บเท้า หรือจะงอยปาก ออกมาโดยสวัสดีเถิด” ดังนี้, ลูกไก่เหล่านั้นก็สามารถทำลายกระเปาะด้วยปลายเล็บเท้า หรือจะงอยปาก ออกมาโดยสวัสดีได้ โดยแท้, ฉันใดก็ฉันนั้น.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตตก.อํ. 23/98/68. http://etipitaka.com/read/thai/23/98/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตตก.อํ. ๒๓/๑๒๗/๖๘. http://etipitaka.com/read/pali/23/127/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม.. https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=653 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=45&id=653 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=45 ลำดับสาธยายธรรม : 45 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_45.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (เป็นที่น่าสังเกตว่า พระพุทธองค์ทรงมีถิ่นฐานอยู่ทางภาคเหนือของอินเดีย ซึ่งดูตามแผนที่แล้ว จะไม่มีโอกาสเกี่ยวข้องกับทะเล แต่ก็ยังทรงทราบเรื่องเรือเดินทะเล, เป็นบุคคลในระดับกษัตริย์ ก็ยังทรงรู้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของชาวบ้าน เช่นหวายที่ผูกเรือแพเดินทะเลสิ้นอายุผุพังไปตามฤดูกาลได้ ; แสดงว่าทรงมีพื้นเพแห่งสติปัญญาสมกับที่จะเป็นพระพุทธเจ้าเสียจริงๆ).
    -(เป็นที่น่าสังเกตว่า พระพุทธองค์ทรงมีถิ่นฐานอยู่ทางภาคเหนือของอินเดีย ซึ่งดูตามแผนที่แล้ว จะไม่มีโอกาสเกี่ยวข้องกับทะเล แต่ก็ยังทรงทราบเรื่องเรือเดินทะเล, เป็นบุคคลในระดับกษัตริย์ ก็ยังทรงรู้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของชาวบ้าน เช่นหวายที่ผูกเรือแพเดินทะเลสิ้นอายุผุพังไปตามฤดูกาลได้ ; แสดงว่าทรงมีพื้นเพแห่งสติปัญญาสมกับที่จะเป็นพระพุทธเจ้าเสียจริงๆ). ฟองไข่ออกเป็นตัว มิใช่โดยเจตนาของแม่ไก่ (เหมือนอาสวะสิ้นเอง เมื่อปฏิบัติชอบ) ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุตามประกอบการเจริญภาวนาอยู่, โดยแน่นอน เธอไม่ต้องปรารถนา ว่า “ โอหนอ ! จิตของเราถึงหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่มีอุปาทานเถิด” ดังนี้. จิตของเธอนั้นก็ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่มีอุปาทานได้เป็นแน่. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? ข้อนั้นเพราะเหตุว่า เธอมีการเจริญสติปัฏฐานสี่ สัมมัปปธานสี่ อิทธิบาทสี่ อินทรีย์ห้า พละห้า โพชฌงค์เจ็ด อริยมรรคมีองค์แปด. ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน ฟองไข่ ๘ ฟอง ๑๐ ฟอง หรือ ๑๒ ฟอง อันแม่ไก่กกดีแล้ว พลิกให้ทั่วดีแล้ว คือฟักดีแล้ว, โดยแน่นอน แม่ไก่ ไม่ต้องปรารถนา ว่า “โอหนอ ! ลูกไก่ของเรา จงทำลายกระเปาะฟอง ด้วยปลายเล็บเท้า หรือจะงอยปาก ออกมาโดยสวัสดีเถิด” ดังนี้, ลูกไก่เหล่านั้นก็สามารถทำลายกระเปาะด้วยปลายเล็บเท้า หรือจะงอยปาก ออกมาโดยสวัสดีได้ โดยแท้, ฉันใดก็ฉันนั้น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยบุคคลพึงศึกษาว่าวิภาค(รายละเอียด)​แห่งปฏิจจสมุปบาท
    สัทธรรมลำดับที่ : 286
    ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
    --ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
    เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
    เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;--
    เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
    เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์(ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย)​ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย
    --ภิกษุ ท. ! ชรา มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    ชรา คือ ความแก่ ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว
    ความเสื่อมไปแห่งอายุ ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ
    ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ;
    +-นี้เรียกว่า #ชรา.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรา
    --ภิกษุ ท. ! มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย
    การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต
    จากสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ;
    นี้ เรียกว่า #มรณะ ;
    ด้วยเหตุนี้แหละ ชราอันนี้ด้วย มรณะอันนี้ด้วย.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชรามรณะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรามรณ
    --ภิกษุ ท. ! ชาติ เป็นอย่างไรเล่า ?
    ชาติ คือ การเกิด การกำเนิด การก้าวลง (สู่ครรภ์) การบังเกิด การบังเกิดโดยยิ่ง
    ความปรากฏของขันธ์ทั้งหลาย การที่สัตว์ได้ซึ่งอายตนะทั้งหลาย
    ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชาติ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชาติ
    --ภิกษุ ท. ! ภพ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภพมีสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ภพ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ภโว
    --ภิกษุ ท. ! อุปาทาน เป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่าง เหล่านี้ คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน
    และอัตตวาทุปาทาน.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อุปาทาน.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=อุปาทา
    --ภิกษุ ท. ! ตัณหา เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งตัณหา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือตัณหาในรูป ตัณหาในเสียง ตัณหาในกลิ่น ตัณหาในรส ตัณหาในโผฏฐัพพะ และตัณหาในธรรมารมณ์.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ตัณหา.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ตณฺหา
    --ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย และเวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #เวทนา.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=เวทนา
    --ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งผัสสะ มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ สัมผัสทางตา สัมผัสทางหู สัมผัสทางจมูก สัมผัสทางลิ้น สัมผัสทางกาย และสัมผัสทางใจ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ผัสสะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=ผสฺส
    --ภิกษุ ท. ! อายตนะหก เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งอายตนะ มีหกอย่าง เหล่านี้คือ อายตนะคือตา อายตนะคือหู อายตนะคือจมูก อายตนะคือลิ้น อายตนะคือกาย และอายตนะคือใจ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อายตนะหก(สฬายตนํ)​.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สฬายตนํ
    --ภิกษุ ท. ! นามรูป เป็นอย่างไรเล่า ?
    นาม คือ เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ และมนสิการ.
    นี้ เรียกว่า #นาม.
    รูป คือ มหาภูตทั้งสี่ด้วยและรูปที่อาศัยมหาภูตทั้งสี่ด้วย.
    นี้ เรียกว่า #รูป.
    ด้วยเหตุนี้แหละ นามอันนี้ด้วย รูปอันนี้ด้วย.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #นามรูป.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=นามรูป
    --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณ มีหกอย่างเหล่านี้ คือ
    วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก วิญญาณทางลิ้น วิญญาณทางกาย
    และวิญญาณทางใจ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #วิญญาณ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=วิญฺญาณ
    --ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลายเหล่านี้ คือ กายสังขาร วจีสังขาร และจิตตสังขาร.
    +-ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ เรียกว่า #สังขารทั้งหลาย.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สงฺขาร
    --ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! ความไม่รู้อันใด
    เป็นความไม่รู้ในทุกข์,
    เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์,
    เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์, และ
    เป็นไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อวิชชา.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=อวิชฺชา
    --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ,
    เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
    เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
    เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;
    เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
    เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้
    http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย
    ด้วยอาการอย่างนี้ แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/2-5/5-18.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/2/?keywords=%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒-๕/๕-๑๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=%E0%B9%95
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=286
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
    ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    อริยบุคคลพึงศึกษาว่าวิภาค(รายละเอียด)​แห่งปฏิจจสมุปบาท สัทธรรมลำดับที่ : 286 ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286 เนื้อความทั้งหมด :- --วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท --ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;-- เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์(ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย)​ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย --ภิกษุ ท. ! ชรา มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ? ชรา คือ ความแก่ ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว ความเสื่อมไปแห่งอายุ ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ; +-นี้เรียกว่า #ชรา. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรา --ภิกษุ ท. ! มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ? มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต จากสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ; นี้ เรียกว่า #มรณะ ; ด้วยเหตุนี้แหละ ชราอันนี้ด้วย มรณะอันนี้ด้วย. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชรามรณะ. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรามรณ --ภิกษุ ท. ! ชาติ เป็นอย่างไรเล่า ? ชาติ คือ การเกิด การกำเนิด การก้าวลง (สู่ครรภ์) การบังเกิด การบังเกิดโดยยิ่ง ความปรากฏของขันธ์ทั้งหลาย การที่สัตว์ได้ซึ่งอายตนะทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชาติ. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชาติ --ภิกษุ ท. ! ภพ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภพมีสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ภพ. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ภโว --ภิกษุ ท. ! อุปาทาน เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่าง เหล่านี้ คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน และอัตตวาทุปาทาน. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อุปาทาน. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=อุปาทา --ภิกษุ ท. ! ตัณหา เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งตัณหา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือตัณหาในรูป ตัณหาในเสียง ตัณหาในกลิ่น ตัณหาในรส ตัณหาในโผฏฐัพพะ และตัณหาในธรรมารมณ์. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ตัณหา. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ตณฺหา --ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย และเวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #เวทนา. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=เวทนา --ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งผัสสะ มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ สัมผัสทางตา สัมผัสทางหู สัมผัสทางจมูก สัมผัสทางลิ้น สัมผัสทางกาย และสัมผัสทางใจ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ผัสสะ. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=ผสฺส --ภิกษุ ท. ! อายตนะหก เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งอายตนะ มีหกอย่าง เหล่านี้คือ อายตนะคือตา อายตนะคือหู อายตนะคือจมูก อายตนะคือลิ้น อายตนะคือกาย และอายตนะคือใจ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อายตนะหก(สฬายตนํ)​. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สฬายตนํ --ภิกษุ ท. ! นามรูป เป็นอย่างไรเล่า ? นาม คือ เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ และมนสิการ. นี้ เรียกว่า #นาม. รูป คือ มหาภูตทั้งสี่ด้วยและรูปที่อาศัยมหาภูตทั้งสี่ด้วย. นี้ เรียกว่า #รูป. ด้วยเหตุนี้แหละ นามอันนี้ด้วย รูปอันนี้ด้วย. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #นามรูป. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=นามรูป --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณ มีหกอย่างเหล่านี้ คือ วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก วิญญาณทางลิ้น วิญญาณทางกาย และวิญญาณทางใจ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #วิญญาณ. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=วิญฺญาณ --ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลายเหล่านี้ คือ กายสังขาร วจีสังขาร และจิตตสังขาร. +-ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ เรียกว่า #สังขารทั้งหลาย. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สงฺขาร --ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! ความไม่รู้อันใด เป็นความไม่รู้ในทุกข์, เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์, เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์, และ เป็นไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อวิชชา. http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=อวิชฺชา --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ, เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ; เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย ด้วยอาการอย่างนี้ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/2-5/5-18. http://etipitaka.com/read/thai/16/2/?keywords=%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒-๕/๕-๑๘. http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=286 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19 ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
    -วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ; เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! ชรา มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ? ชรา คือ ความแก่ ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว ความเสื่อมไปแห่งอายุ ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ; นี้เรียกว่า ชรา. ภิกษุ ท. ! มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ? มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต จากสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ; นี้ เรียกว่า มรณะ ; ด้วยเหตุนี้แหละ ชราอันนี้ด้วย มรณะอันนี้ด้วย. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ชรามรณะ. ภิกษุ ท. ! ชาติ เป็นอย่างไรเล่า ? ชาติ คือ การเกิด การกำเนิด การก้าวลง (สู่ครรภ์) การบังเกิด การบังเกิดโดยยิ่ง ความปรากฏของขันธ์ทั้งหลาย การที่สัตว์ได้ซึ่งอายตนะทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ชาติ. ภิกษุ ท. ! ภพ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภพมีสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ภพ. ภิกษุ ท. ! อุปาทาน เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่าง เหล่านี้ คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน และอัตตวาทุปาทาน. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า อุปาทาน. ภิกษุ ท. ! ตัณหา เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งตัณหา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือตัณหาในรูป ตัณหาในเสียง ตัณหาในกลิ่น ตัณหาในรส ตัณหาในโผฏฐัพพะ และตัณหาในธรรมารมณ์. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ตัณหา. ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย และเวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า เวทนา. ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งผัสสะ มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ สัมผัสทางตา สัมผัสทางหู สัมผัสทางจมูก สัมผัสทางลิ้น สัมผัสทางกาย และสัมผัสทางใจ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ผัสสะ. ภิกษุ ท. ! อายตนะหก เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งอายตนะ มีหกอย่าง เหล่านี้คือ อายตนะคือตา อายตนะคือหู อายตนะคือจมูก อายตนะคือลิ้น อายตนะคือกาย และอายตนะคือใจ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่าอายตนะหก. ภิกษุ ท. ! นามรูป เป็นอย่างไรเล่า ? นาม คือ เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ และมนสิการ. นี้ เรียกว่า นาม. รูป คือ มหาภูตทั้งสี่ด้วยและรูปที่อาศัยมหาภูตทั้งสี่ด้วย. นี้ เรียกว่า รูป. ด้วยเหตุนี้แหละ นามอันนี้ด้วย รูปอันนี้ด้วย. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า นามรูป. ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณ มีหกอย่างเหล่านี้ คือ วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก วิญญาณทางลิ้น วิญญาณทางกาย และวิญญาณทางใจ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า วิญญาณ. ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลายเหล่านี้ คือ กายสังขาร วจีสังขาร และจิตตสังขาร. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ เรียกว่า สังขารทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ความไม่รู้อันใด เป็นความไม่รู้ในทุกข์, เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์, เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์, ละเป็นไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า อวิชชา. ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ, เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ; เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะ อุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 29 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมสหรัฐมีคำสั่งส่งกองเรือรบไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในตะวันออกกลาง หนึ่งในนั้นคือเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี USS Thomas Hudner

    เรือพิฆาต USS Thomas Hudner ชั้นอาลีห์เบิร์ก (Arleign Burke Class) (DDG-116) ของกองทัพเรือสหรัฐ มีจุดเด่นด้านการป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกล (BMD - Ballistic Missile Defense) มีระบบอำนวยการรบเอจีส (AEGIS Combat System - ACS) และยังมีการติดตั้งระบบอาวุธนำสมัยต่างๆมากมาย

    กองเรือรบที่ถูกส่งไปครั้งนี้มีศักยภาพหลากหลายตั้งแต่การต่อต้านอากาศยาน ต่อต้านเรือ มีอำนาจการยิงไกลกำหนดเป้าหมายภาคพื้นดิน ไปจนถึงระบบตรวจการณ์และสงครามอิเล็กทรอนิกส์
    กระทรวงกลาโหมสหรัฐมีคำสั่งส่งกองเรือรบไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในตะวันออกกลาง หนึ่งในนั้นคือเรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี USS Thomas Hudner เรือพิฆาต USS Thomas Hudner ชั้นอาลีห์เบิร์ก (Arleign Burke Class) (DDG-116) ของกองทัพเรือสหรัฐ มีจุดเด่นด้านการป้องกันขีปนาวุธพิสัยไกล (BMD - Ballistic Missile Defense) มีระบบอำนวยการรบเอจีส (AEGIS Combat System - ACS) และยังมีการติดตั้งระบบอาวุธนำสมัยต่างๆมากมาย กองเรือรบที่ถูกส่งไปครั้งนี้มีศักยภาพหลากหลายตั้งแต่การต่อต้านอากาศยาน ต่อต้านเรือ มีอำนาจการยิงไกลกำหนดเป้าหมายภาคพื้นดิน ไปจนถึงระบบตรวจการณ์และสงครามอิเล็กทรอนิกส์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระสังกัจจายน์หลวงพ่อทอง วัดหลักห้า จ.ยะลา
    พระสังกัจจายน์ ( หลังปั้ม ว.ห้า ) เนื้อผงวิเศษผสมว่าน108 หลวงพ่อทอง วัดหลักห้า จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เมตตา ความสุข และความอุดมสมบูรณ์ //พระสถาพสวยมาก สมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม โภคทรัพย์ ประสบโชคลาภ ร่ำรวย และ ความอุดมสมบูรณ์ เป็นมหามงคลอุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดี ร่ำรวยมั่งคั่ง เป็นเลิศในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านการงาน การเงินค้าขาย โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย >>

    ** ของดีจากตาหลวงทอง วัดหลักห้า พุทธคุณ เมตตา แคล้วคลาด กันตัว กันสรรพอันตราย กันอำนาจอภิญญาสายดำ...พ่อท่านทอง ศิษย์สายสำนักเขาอ้อ เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งของเมืองยะลา ชื่อเสียงของท่าน เป็นที่รับรู้กันทั่วถึง ประสบการณ์ที่เล่าขานด้านวัตถุมงคล และมีคาถาขลัง ทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    พระสังกัจจายน์หลวงพ่อทอง วัดหลักห้า จ.ยะลา พระสังกัจจายน์ ( หลังปั้ม ว.ห้า ) เนื้อผงวิเศษผสมว่าน108 หลวงพ่อทอง วัดหลักห้า จ.ยะลา //พระดีพิธีใหญ่ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ เมตตา ความสุข และความอุดมสมบูรณ์ //พระสถาพสวยมาก สมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม โภคทรัพย์ ประสบโชคลาภ ร่ำรวย และ ความอุดมสมบูรณ์ เป็นมหามงคลอุดมด้วย ลาภ ยศ ความเจริญรุ่งเรืองดี ร่ำรวยมั่งคั่ง เป็นเลิศในทุกๆ ด้าน ทั้งด้านการงาน การเงินค้าขาย โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย >> ** ของดีจากตาหลวงทอง วัดหลักห้า พุทธคุณ เมตตา แคล้วคลาด กันตัว กันสรรพอันตราย กันอำนาจอภิญญาสายดำ...พ่อท่านทอง ศิษย์สายสำนักเขาอ้อ เป็นพระเถระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งของเมืองยะลา ชื่อเสียงของท่าน เป็นที่รับรู้กันทั่วถึง ประสบการณ์ที่เล่าขานด้านวัตถุมงคล และมีคาถาขลัง ทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื้อว่านหลวงปู่อิ่มวัดในวัง จ.สงขลา ปี2539
    เนื้อว่านหลวงปู่อิ่มหลังครองราชย์ 50 ปี วัดในวัง จ.สงขลา ปี2539 // พระดีพิธีใหญ่ ที่ระลึกในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชย์ ครบ 50 ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านนิรันตรายเป็นเลิศ ”แคล้วคาด” เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม มหาอำนาจ ดีนัก >>

    ** หลวงปู่อิ่ม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกและมรณภาพแล้ว เป็นที่สักการะบูชา มีผู้คนนิยมมาเที่ยวชมและเช่าวัตถุมงคล เหตุที่เรียกวัดในวัง เพราะในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของเจ้าเมืองผู้ครองเมืองจะนะ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เนื้อว่านหลวงปู่อิ่มวัดในวัง จ.สงขลา ปี2539 เนื้อว่านหลวงปู่อิ่มหลังครองราชย์ 50 ปี วัดในวัง จ.สงขลา ปี2539 // พระดีพิธีใหญ่ ที่ระลึกในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชย์ ครบ 50 ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านนิรันตรายเป็นเลิศ ”แคล้วคาด” เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม มหาอำนาจ ดีนัก >> ** หลวงปู่อิ่ม ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสองค์แรกและมรณภาพแล้ว เป็นที่สักการะบูชา มีผู้คนนิยมมาเที่ยวชมและเช่าวัตถุมงคล เหตุที่เรียกวัดในวัง เพราะในอดีตเคยเป็นที่ตั้งของเจ้าเมืองผู้ครองเมืองจะนะ >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡ อนาคตของซูเปอร์คอมพิวเตอร์: พลังงานจะเป็นปัจจัยสำคัญกว่าประสิทธิภาพ
    Mark Papermaster, CTO ของ AMD เน้นย้ำว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอนาคตจะต้องให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพด้านพลังงานมากกว่าความเร็วในการประมวลผล โดยอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับ ความท้าทายด้านการใช้พลังงานและระบบระบายความร้อน

    Papermaster ชี้ให้เห็นว่าความต้องการด้าน AI และการคำนวณประสิทธิภาพสูง (HPC) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ ข้อจำกัดด้านพลังงานและแบนด์วิดท์หน่วยความจำกำลังกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - AMD CTO ระบุว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ต้องให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพด้านพลังงานมากกว่าความเร็ว
    - การใช้พลังงานของ AI data centers อาจสูงถึงหลายร้อยเมกะวัตต์
    - หน่วยความจำต้องเพิ่มแบนด์วิดท์เป็นสองเท่าทุกสองปีเพื่อรองรับความต้องการของ AI
    - AMD กำลังพัฒนา Instinct MI355X ซึ่งให้ประสิทธิภาพ inference สูงกว่ารุ่นก่อนถึง 35 เท่า
    - เทคโนโลยี Ultra Ethernet อาจช่วยลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC
    Papermaster เตือนว่าการใช้พลังงานของ accelerators อาจสูงถึง 1,600W ภายในปี 2026 และอาจแตะ 2,000W ในอนาคต ทำให้ อุตสาหกรรมต้องพัฒนาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานมากขึ้น

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้พลังงานของ AI data centers อาจเพิ่มขึ้นจนต้องใช้พลังงานระดับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
    - AMD ยอมรับว่าการพัฒนา 2nm chip มีต้นทุนสูงมาก และต้องใช้เครื่องมือที่เป็นกรรมสิทธิ์
    - Nvidia กำลังเปิด NVLink ให้ผู้ผลิตรายอื่นเพื่อแข่งขันกับ Ultra Ethernet
    - ต้องติดตามว่า RISC-V จะสามารถพัฒนาไปถึงระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้หรือไม่

    🚀 อนาคตของซูเปอร์คอมพิวเตอร์
    Papermaster มองว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอนาคตจะต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับงานที่หลากหลาย โดย โมเดลการสร้างแบบโมดูลาร์ เช่น Jupiter อาจเป็นแนวทางที่ช่วยให้สามารถปรับแต่งระบบได้ดีขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108283-amd-cto-foresees-smarter-greener-more-flexible-era.html
    ⚡ อนาคตของซูเปอร์คอมพิวเตอร์: พลังงานจะเป็นปัจจัยสำคัญกว่าประสิทธิภาพ Mark Papermaster, CTO ของ AMD เน้นย้ำว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอนาคตจะต้องให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพด้านพลังงานมากกว่าความเร็วในการประมวลผล โดยอุตสาหกรรมกำลังเผชิญกับ ความท้าทายด้านการใช้พลังงานและระบบระบายความร้อน Papermaster ชี้ให้เห็นว่าความต้องการด้าน AI และการคำนวณประสิทธิภาพสูง (HPC) กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ ข้อจำกัดด้านพลังงานและแบนด์วิดท์หน่วยความจำกำลังกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ ✅ ข้อมูลจากข่าว - AMD CTO ระบุว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ต้องให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพด้านพลังงานมากกว่าความเร็ว - การใช้พลังงานของ AI data centers อาจสูงถึงหลายร้อยเมกะวัตต์ - หน่วยความจำต้องเพิ่มแบนด์วิดท์เป็นสองเท่าทุกสองปีเพื่อรองรับความต้องการของ AI - AMD กำลังพัฒนา Instinct MI355X ซึ่งให้ประสิทธิภาพ inference สูงกว่ารุ่นก่อนถึง 35 เท่า - เทคโนโลยี Ultra Ethernet อาจช่วยลดต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานของศูนย์ข้อมูล 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และ HPC Papermaster เตือนว่าการใช้พลังงานของ accelerators อาจสูงถึง 1,600W ภายในปี 2026 และอาจแตะ 2,000W ในอนาคต ทำให้ อุตสาหกรรมต้องพัฒนาโซลูชันที่มีประสิทธิภาพด้านพลังงานมากขึ้น ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้พลังงานของ AI data centers อาจเพิ่มขึ้นจนต้องใช้พลังงานระดับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ - AMD ยอมรับว่าการพัฒนา 2nm chip มีต้นทุนสูงมาก และต้องใช้เครื่องมือที่เป็นกรรมสิทธิ์ - Nvidia กำลังเปิด NVLink ให้ผู้ผลิตรายอื่นเพื่อแข่งขันกับ Ultra Ethernet - ต้องติดตามว่า RISC-V จะสามารถพัฒนาไปถึงระดับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ได้หรือไม่ 🚀 อนาคตของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ Papermaster มองว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอนาคตจะต้องมีความยืดหยุ่นและสามารถรองรับงานที่หลากหลาย โดย โมเดลการสร้างแบบโมดูลาร์ เช่น Jupiter อาจเป็นแนวทางที่ช่วยให้สามารถปรับแต่งระบบได้ดีขึ้น https://www.techspot.com/news/108283-amd-cto-foresees-smarter-greener-more-flexible-era.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    AMD CTO: power constraints, not compute, will shape tomorrow's supercomputers
    Papermaster began by highlighting the continued surge in demand for high-performance computing, driven primarily by artificial intelligence. He pointed to the emergence of new systems in Germany...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เปลี่ยนรัฐบาลเถอะ,ไร้น้ำยาพอแล้ว,เด็ดขาดเหี้ยอะไรก็ไม่ทำ,ปิดด่านคือปิดด่าน ห้ามการเข้าออก เสือกผีบ้าอะไร เข้าออกปกติตอรกลางวันเหมือนเดิม ปาหี่ละครลิงโชว์ ทหารไทยเราก็พอเถอะอย่าไปร่วมเล่นกับเหี้ยรัฐบาลเครือญาติแต่งงานกับฮุนเซนด้วยเลย,ปิดด่าน ตัดน้ำมันตัดอาหาร ตัดเครื่องใช้ตัดเสบียงมันทั้งหมดสิ เหี้ยทำห่าอะไรแบบนีั,ตัดเน็ตตัดคลื่นความถี่ใช้เครื่องตัดสัญญาณทุกๆความถี่ของทหารด้วย อย่าให้ความถี่คลื่อมือถือสัญญาณวิทยุใดเข้ามาในไทยได้,มันอ้างตัดเน็ตมัน แล้วไทยเสือกอ้างว่าเขมรตัดเน็ตแล้ว ไทยไม่จำเป็นต้องตัดเน็ตเขมรอย่างเป็นทางการพะนะ อาจมามุกช่วยเหลือทางอ้อมแบบนีัอีก,ไทยจึงต้องทำเป็นหนังสือประกาศเป็นทางการว่าตัดเน็ตเขมรและหน้างานทำจริงด้วย เพราะมันอาจมาใช้ของเราลับหลังนั้นล่ะ ทำทีอ้างตัดเน็ตตนบังหน้าเพื่อยังคงจะได้ใช้เน็ตไทยที่ไม่ตัดเน็ตเขมรส่งมาเขมรนั้นล่ะ,
    ..ปิดด่านคือเปิดด่าน อาจเปิดแค่11:00-13:00น.พอ,และปิดถาวรเลย อย่ามาเหี้ยส่งท่อน้ำเลี้ยงห่าเหวปกติแบบนี้,กลยุทธผีบ้าจัดการภัยคุกคามกับศัตรูรุกรานเด็ดขาดห่าอะไรแบบนี้,ถ้าเทียบสงครามสนามรบสมัยอยุธยา ไทยมิส่งเสบียงให้ข้าศึกพม่าสบายๆเลี้ยงทหารพม่าให้มีเรี่ยวแรงแล้วมาทำสงครามกับไทยจนชนะเหรอ,ตรรกะปิดด่านผีบ้า เด็กๆปัญญาอ่อนก็ดูออกว่า ทำเล่นขายของ,แอ็คชั่นแสดงหลอกคนไทยไปวันๆเอง.งี่เหง้าเลอะเทอะ ปิดด่านคือปิดเส้นทางเสบียงข้าศึกภัยรุกรานชาติตน,ชาติมันจะเป็นอะไรสนใจทำพ่อทำแม่มันทำไมเมื่อรุกรานอธิปไตยภัยความมั่นคงเรา.
    https://youtu.be/ANeE2ZbTDiU?si=MWozmVGAO_iXeZm5
    ..เปลี่ยนรัฐบาลเถอะ,ไร้น้ำยาพอแล้ว,เด็ดขาดเหี้ยอะไรก็ไม่ทำ,ปิดด่านคือปิดด่าน ห้ามการเข้าออก เสือกผีบ้าอะไร เข้าออกปกติตอรกลางวันเหมือนเดิม ปาหี่ละครลิงโชว์ ทหารไทยเราก็พอเถอะอย่าไปร่วมเล่นกับเหี้ยรัฐบาลเครือญาติแต่งงานกับฮุนเซนด้วยเลย,ปิดด่าน ตัดน้ำมันตัดอาหาร ตัดเครื่องใช้ตัดเสบียงมันทั้งหมดสิ เหี้ยทำห่าอะไรแบบนีั,ตัดเน็ตตัดคลื่นความถี่ใช้เครื่องตัดสัญญาณทุกๆความถี่ของทหารด้วย อย่าให้ความถี่คลื่อมือถือสัญญาณวิทยุใดเข้ามาในไทยได้,มันอ้างตัดเน็ตมัน แล้วไทยเสือกอ้างว่าเขมรตัดเน็ตแล้ว ไทยไม่จำเป็นต้องตัดเน็ตเขมรอย่างเป็นทางการพะนะ อาจมามุกช่วยเหลือทางอ้อมแบบนีัอีก,ไทยจึงต้องทำเป็นหนังสือประกาศเป็นทางการว่าตัดเน็ตเขมรและหน้างานทำจริงด้วย เพราะมันอาจมาใช้ของเราลับหลังนั้นล่ะ ทำทีอ้างตัดเน็ตตนบังหน้าเพื่อยังคงจะได้ใช้เน็ตไทยที่ไม่ตัดเน็ตเขมรส่งมาเขมรนั้นล่ะ, ..ปิดด่านคือเปิดด่าน อาจเปิดแค่11:00-13:00น.พอ,และปิดถาวรเลย อย่ามาเหี้ยส่งท่อน้ำเลี้ยงห่าเหวปกติแบบนี้,กลยุทธผีบ้าจัดการภัยคุกคามกับศัตรูรุกรานเด็ดขาดห่าอะไรแบบนี้,ถ้าเทียบสงครามสนามรบสมัยอยุธยา ไทยมิส่งเสบียงให้ข้าศึกพม่าสบายๆเลี้ยงทหารพม่าให้มีเรี่ยวแรงแล้วมาทำสงครามกับไทยจนชนะเหรอ,ตรรกะปิดด่านผีบ้า เด็กๆปัญญาอ่อนก็ดูออกว่า ทำเล่นขายของ,แอ็คชั่นแสดงหลอกคนไทยไปวันๆเอง.งี่เหง้าเลอะเทอะ ปิดด่านคือปิดเส้นทางเสบียงข้าศึกภัยรุกรานชาติตน,ชาติมันจะเป็นอะไรสนใจทำพ่อทำแม่มันทำไมเมื่อรุกรานอธิปไตยภัยความมั่นคงเรา. https://youtu.be/ANeE2ZbTDiU?si=MWozmVGAO_iXeZm5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • แถลงการณ์ของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลเกี่ยวกับการโจมตีอิหร่านในคืนนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านครอบครองนิวเคลียร์:

    “กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลเพิ่งเปิดฉากโจมตีแบบผสมผสานที่แม่นยำตามคำสั่งของฝ่ายการเมือง โดยอาศัยข้อมูลข่าวกรองคุณภาพสูงเพื่อโจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และเพื่อตอบโต้การรุกรานอิสราเอลอย่างต่อเนื่องของอิหร่าน

    ในช่วงเวลาสั้นๆเครื่องบินรบของกองทัพอากาศอิสราเอลหลายสิบลำได้เสร็จสิ้นขั้นตอนแรก ซึ่งรวมถึงการโจมตีเป้าหมายทางทหารหลายสิบเป้าหมาย รวมถึงเป้าหมายนิวเคลียร์ในพื้นที่ต่างๆ ของอิหร่าน

    ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของกองบัญชาการแนวหน้าภายในประเทศของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล ซึ่งจะได้รับการอัปเดตตามความจำเป็น และดำเนินการอย่างสงบและมีความรับผิดชอบ กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ต่างๆ มากมายในการป้องกันและโจมตีที่อาจจำเป็น

    เป็นเวลาหลายปีที่อิหร่านได้ดำเนินการก่อการร้ายทั้งทางตรงและทางอ้อมต่ออิสราเอล โดยให้ทุนและสั่งการกิจกรรมก่อการร้ายผ่านตัวแทนที่มีทั่วตะวันออกกลาง

    ขณะเดียวกันก็มุ่งหน้าสู่การครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ระบอบการปกครองอิหร่านเป็นผู้นำ ของแกนที่รับผิดชอบต่อการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายต่อรัฐอิสราเอลตั้งแต่เริ่มต้นสงคราม "ดาบเหล็ก" (Swords of Iron) รวมถึงการติดอาวุธและจัดหาเงินทุนให้กับองค์กรก่อการร้ายฮามาสที่รับผิดชอบต่อการสังหารหมู่ในวันที่ 7 ตุลาคม ระหว่างสงคราม "ดาบเหล็ก" (Swords of Iron) อิหร่านโจมตีอิสราเอลโดยตรงถึงสองครั้ง โดยยิงขีปนาวุธหลายร้อยลูกไปที่อิสราเอล

    รัฐบาลอิหร่านประกาศอย่างชัดเจนว่าเป้าหมายคือการทำลายอิสราเอล เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลอิหร่านได้ประกาศต่อสาธารณะถึงความตั้งใจที่จะทำลายอิสราเอล และกำลังดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ร่วมกับตัวแทนในตะวันออกกลาง

    ปัจจุบัน อิหร่านใกล้ที่จะได้อาวุธนิวเคลียร์มากกว่าที่เคย อาวุธทำลายล้างสูงในมือของระบอบอิหร่านเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของรัฐอิสราเอล และเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อโลกภายนอก อิสราเอลจะไม่อนุญาตให้ระบอบการปกครองที่มีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายพวกเราได้ครอบครองอาวุธทำลายล้างสูง

    กองกำลังอิสราเอลพร้อมที่จะดำเนินการตามที่จำเป็นต่อไป โดยมีภาระผูกพันที่จะต้องดำเนินการเพื่อปกป้องพลเมืองของตน และจะดำเนินการต่อทุกอย่างที่จำเป็นต้องทำ เช่นเดียวกับที่เคยทำมาในอดีต

    กองกำลังอิสราเอลกำลังดำเนินการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และจะอัปเดตความคืบหน้าต่อไป”
    แถลงการณ์ของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลเกี่ยวกับการโจมตีอิหร่านในคืนนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้อิหร่านครอบครองนิวเคลียร์: “กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลเพิ่งเปิดฉากโจมตีแบบผสมผสานที่แม่นยำตามคำสั่งของฝ่ายการเมือง โดยอาศัยข้อมูลข่าวกรองคุณภาพสูงเพื่อโจมตีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน และเพื่อตอบโต้การรุกรานอิสราเอลอย่างต่อเนื่องของอิหร่าน ในช่วงเวลาสั้นๆเครื่องบินรบของกองทัพอากาศอิสราเอลหลายสิบลำได้เสร็จสิ้นขั้นตอนแรก ซึ่งรวมถึงการโจมตีเป้าหมายทางทหารหลายสิบเป้าหมาย รวมถึงเป้าหมายนิวเคลียร์ในพื้นที่ต่างๆ ของอิหร่าน ขอให้ประชาชนปฏิบัติตามคำแนะนำของกองบัญชาการแนวหน้าภายในประเทศของกองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอล ซึ่งจะได้รับการอัปเดตตามความจำเป็น และดำเนินการอย่างสงบและมีความรับผิดชอบ กองกำลังป้องกันประเทศอิสราเอลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ต่างๆ มากมายในการป้องกันและโจมตีที่อาจจำเป็น เป็นเวลาหลายปีที่อิหร่านได้ดำเนินการก่อการร้ายทั้งทางตรงและทางอ้อมต่ออิสราเอล โดยให้ทุนและสั่งการกิจกรรมก่อการร้ายผ่านตัวแทนที่มีทั่วตะวันออกกลาง ขณะเดียวกันก็มุ่งหน้าสู่การครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ ระบอบการปกครองอิหร่านเป็นผู้นำ ของแกนที่รับผิดชอบต่อการโจมตีของกลุ่มก่อการร้ายต่อรัฐอิสราเอลตั้งแต่เริ่มต้นสงคราม "ดาบเหล็ก" (Swords of Iron) รวมถึงการติดอาวุธและจัดหาเงินทุนให้กับองค์กรก่อการร้ายฮามาสที่รับผิดชอบต่อการสังหารหมู่ในวันที่ 7 ตุลาคม ระหว่างสงคราม "ดาบเหล็ก" (Swords of Iron) อิหร่านโจมตีอิสราเอลโดยตรงถึงสองครั้ง โดยยิงขีปนาวุธหลายร้อยลูกไปที่อิสราเอล รัฐบาลอิหร่านประกาศอย่างชัดเจนว่าเป้าหมายคือการทำลายอิสราเอล เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลอิหร่านได้ประกาศต่อสาธารณะถึงความตั้งใจที่จะทำลายอิสราเอล และกำลังดำเนินการเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ร่วมกับตัวแทนในตะวันออกกลาง ปัจจุบัน อิหร่านใกล้ที่จะได้อาวุธนิวเคลียร์มากกว่าที่เคย อาวุธทำลายล้างสูงในมือของระบอบอิหร่านเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของรัฐอิสราเอล และเป็นภัยคุกคามที่สำคัญต่อโลกภายนอก อิสราเอลจะไม่อนุญาตให้ระบอบการปกครองที่มีวัตถุประสงค์เพื่อทำลายพวกเราได้ครอบครองอาวุธทำลายล้างสูง กองกำลังอิสราเอลพร้อมที่จะดำเนินการตามที่จำเป็นต่อไป โดยมีภาระผูกพันที่จะต้องดำเนินการเพื่อปกป้องพลเมืองของตน และจะดำเนินการต่อทุกอย่างที่จำเป็นต้องทำ เช่นเดียวกับที่เคยทำมาในอดีต กองกำลังอิสราเอลกำลังดำเนินการประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และจะอัปเดตความคืบหน้าต่อไป”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • ⚫️ 9 บทเรียนจาก “ความตาย” ที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง

    บางคนต้อง “ตายจริง” ถึงจะเข้าใจชีวิต
    แต่บางคนแค่ “กล้าฟัง” ก็เริ่มเปลี่ยนได้แล้ว

    เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
    แต่คือบทเรียนที่อาจเปลี่ยน “วิธีอยู่” ของคุณไปตลอดกาล

    1. ความตายไม่ใช่จุดจบ...แค่เปลี่ยนสถานะ
    เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ใช่การสูญหาย
    ชีวิตหลังตายยังมีอยู่ เพียงแค่ไม่ใช่ในร่างนี้

    2. เราไม่ได้ถูกส่งมา...เราเลือกมาเอง
    ทุกข์ที่เจอ พ่อแม่ที่ได้ บาดแผลที่เคยมี
    ล้วนเป็น “บทเรียนที่วิญญาณเลือก” เพื่อเติบโต
    เพราะ “วิญญาณไม่ได้เกิดมาเพื่อสบาย แต่มาเพื่อเรียนรู้”

    3. โรคบางโรค...มาจากความรู้สึกในอดีต
    บางคนเจ็บป่วยเพราะใจไม่เคยหาย
    แผลที่ไม่เยียวยาในชาติก่อน กลายเป็นความป่วยในชาตินี้
    บางที...สิ่งที่เราต้องรักษา อาจไม่ใช่ร่างกาย แต่คือ “ใจที่ให้อภัยตัวเอง”

    4. คนที่ทำให้เจ็บ...อาจคือคนที่เคยรักที่สุดในอีกภพหนึ่ง
    เขาอาจคือ “คู่สัญญาทางวิญญาณ”
    ที่ตกลงกันไว้ว่า เราจะเจ็บ เพื่อเราจะโต
    ไม่ใช่ทุกความเจ็บที่ไร้ค่า ถ้าเรามองเห็นบทเรียน

    5. ทุกเรื่องในชีวิต...ไม่เคยเกิดแบบสุ่ม
    คนที่มาเจอ เหตุการณ์ที่เจอ ล้วนเป็น “แผนการเรียนรู้”
    แทนที่จะถามว่า “ทำไมต้องเกิดกับฉัน”
    ลองถามว่า “ฉันควรเรียนรู้อะไรจากมัน” แทน

    6. โลกหลังความตาย...ไม่มีอะไรนอกจาก “ความรัก”
    คนที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายบอกตรงกันว่า
    สิ่งที่ชัดที่สุด คือ “ความรักบริสุทธิ์”
    ไม่มีโกรธ ไม่มีเกลียด
    บางทีเราอาจเริ่มใช้ “คุณภาพของโลกหน้า” มาเติมเต็มโลกนี้ได้แล้ว

    7. การให้อภัย...คือการปลดปล่อยจิตตัวเอง
    ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายถูก
    แต่เพราะเราพอแล้วกับการจองจำตัวเองไว้กับอดีต
    ถ้าไม่ให้อภัย เราจะต้องแบก “ปม” ไปข้ามภพข้ามชาติ

    8. คนที่กลัวตาย...มักเป็นคนที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตให้คุ้ม
    ยังไม่ได้รัก
    ยังไม่ได้ขอโทษ
    ยังไม่ได้ให้อภัย
    ยังไม่ได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง
    เมื่อเรา “ใช้ชีวิตจนเต็ม” ความตายจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป

    9. เราไม่ได้เกิดมาเพื่อหาเงิน...แต่เพื่อหาความหมาย
    เงินแค่เครื่องมือ
    แต่สิ่งที่วิญญาณตามหา คือ “ความหมาย” ของการมีชีวิต
    ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เราตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วรู้ว่า…
    "เราตื่นมาเพื่ออะไร"

    🖤 ถ้าโพสต์นี้ทำให้คุณรู้สึกบางอย่าง
    อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านแบบเดิม ๆ
    ลองหยุดเพื่อทบทวน
    และ “เลือกอยู่” อย่างคนที่เข้าใจการจากไป

    #อ่านไปเรื่อยๆสรุปให้
    #ธรรมะเข้าใจง่าย
    #บทเรียนจากความตาย
    #อยู่ให้คุ้มก่อนจาก
    #โพสต์ธรรมะแบบมีชีวิต
    ⚫️ 9 บทเรียนจาก “ความตาย” ที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง บางคนต้อง “ตายจริง” ถึงจะเข้าใจชีวิต แต่บางคนแค่ “กล้าฟัง” ก็เริ่มเปลี่ยนได้แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่คือบทเรียนที่อาจเปลี่ยน “วิธีอยู่” ของคุณไปตลอดกาล 1. ความตายไม่ใช่จุดจบ...แค่เปลี่ยนสถานะ เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ใช่การสูญหาย ชีวิตหลังตายยังมีอยู่ เพียงแค่ไม่ใช่ในร่างนี้ 2. เราไม่ได้ถูกส่งมา...เราเลือกมาเอง ทุกข์ที่เจอ พ่อแม่ที่ได้ บาดแผลที่เคยมี ล้วนเป็น “บทเรียนที่วิญญาณเลือก” เพื่อเติบโต เพราะ “วิญญาณไม่ได้เกิดมาเพื่อสบาย แต่มาเพื่อเรียนรู้” 3. โรคบางโรค...มาจากความรู้สึกในอดีต บางคนเจ็บป่วยเพราะใจไม่เคยหาย แผลที่ไม่เยียวยาในชาติก่อน กลายเป็นความป่วยในชาตินี้ บางที...สิ่งที่เราต้องรักษา อาจไม่ใช่ร่างกาย แต่คือ “ใจที่ให้อภัยตัวเอง” 4. คนที่ทำให้เจ็บ...อาจคือคนที่เคยรักที่สุดในอีกภพหนึ่ง เขาอาจคือ “คู่สัญญาทางวิญญาณ” ที่ตกลงกันไว้ว่า เราจะเจ็บ เพื่อเราจะโต ไม่ใช่ทุกความเจ็บที่ไร้ค่า ถ้าเรามองเห็นบทเรียน 5. ทุกเรื่องในชีวิต...ไม่เคยเกิดแบบสุ่ม คนที่มาเจอ เหตุการณ์ที่เจอ ล้วนเป็น “แผนการเรียนรู้” แทนที่จะถามว่า “ทำไมต้องเกิดกับฉัน” ลองถามว่า “ฉันควรเรียนรู้อะไรจากมัน” แทน 6. โลกหลังความตาย...ไม่มีอะไรนอกจาก “ความรัก” คนที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายบอกตรงกันว่า สิ่งที่ชัดที่สุด คือ “ความรักบริสุทธิ์” ไม่มีโกรธ ไม่มีเกลียด บางทีเราอาจเริ่มใช้ “คุณภาพของโลกหน้า” มาเติมเต็มโลกนี้ได้แล้ว 7. การให้อภัย...คือการปลดปล่อยจิตตัวเอง ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายถูก แต่เพราะเราพอแล้วกับการจองจำตัวเองไว้กับอดีต ถ้าไม่ให้อภัย เราจะต้องแบก “ปม” ไปข้ามภพข้ามชาติ 8. คนที่กลัวตาย...มักเป็นคนที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตให้คุ้ม ยังไม่ได้รัก ยังไม่ได้ขอโทษ ยังไม่ได้ให้อภัย ยังไม่ได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง เมื่อเรา “ใช้ชีวิตจนเต็ม” ความตายจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป 9. เราไม่ได้เกิดมาเพื่อหาเงิน...แต่เพื่อหาความหมาย เงินแค่เครื่องมือ แต่สิ่งที่วิญญาณตามหา คือ “ความหมาย” ของการมีชีวิต ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เราตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วรู้ว่า… "เราตื่นมาเพื่ออะไร" 🖤 ถ้าโพสต์นี้ทำให้คุณรู้สึกบางอย่าง อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านแบบเดิม ๆ ลองหยุดเพื่อทบทวน และ “เลือกอยู่” อย่างคนที่เข้าใจการจากไป #อ่านไปเรื่อยๆสรุปให้ #ธรรมะเข้าใจง่าย #บทเรียนจากความตาย #อยู่ให้คุ้มก่อนจาก #โพสต์ธรรมะแบบมีชีวิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมอชนะ

    ที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. มีมติมากกว่า 2 ใน 3 ไม่รับการยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภา จากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ยืนยันตามมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ค. พักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 ราย และตักเตือน 1 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวและรักษาอาการป่วยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษคดีทุจริต จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มายังชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว และไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้น โดยมีกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุม 68 คน จากจำนวนกรรมการที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน

    แม้นายสมศักดิ์พยายามเข้าไปชี้แจงในที่ประชุมแพทยสภา ซึ่งให้เวลาเพียง 15 นาที และออกหนังสือยับยั้งมติ (วีโต้) อ้างว่าเป็นการตีวัวกระทบคราดนายทักษิณ ที่ได้รับการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพรักษาเฉพาะทาง ทำให้แพทย์อีกหลายคนไม่กล้าเสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตคนไข้ให้ดีที่สุด กล่าวหาว่าเป็นการลงโทษที่เกิดจากอคติในใจ โทษรุนแรงเกินไป อาจมีบางอย่างไม่ถูกต้องในกระบวนการนี้ และหากเป็นแพทย์รุ่นหลังที่อ่อนประสบการณ์ที่สุด จะเมตตาหรือเย็นชาโดยมีปัจจัยภายนอกชี้นำ แต่ที่ประชุมแพทยสภาได้นำข้อมูลมาเปรียบเทียบมติของกรรมการแพทยสภา และมีบทวิเคราะห์ออกมา

    ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา คนที่ 1 ยืนยันว่า กรณีจริยธรรมทางการแพทย์ไม่สามารถเปรียบเทียบข้อมูลวิชาชีพไม่เหมือนกัน วิชาการไม่เหมือนกัน คอนเซปต์ไม่เหมือนกัน จะเอามาเทียบเคียงกันคงไม่เหมาะสม ขณะเดียวกันมีบางกลุ่มที่ใช้กลไกบางอย่างพยายามจะทำให้กรรมการแพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือขัดกับจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ บางกรณีเข้าเกณฑ์เหมือนข่มขู่ด้วยซ้ำ

    ส่วนที่นายสมศักดิ์อ้างว่าจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้แพทย์รุ่นใหม่มีความกลัวหรือไม่ เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นแพทย์รุ่นใหม่หรือแพทย์รุ่นเดิม เราได้รับการอบรมสั่งสอนมาเหมือนกัน เราเข้าใจจรรยาบรรณวิชาชีพ เข้าใจความถูกต้อง เข้าใจบทบาทและหน้าที่เหมือนกัน อยากจะย้ำว่าวันนี้เราทำตามสิ่งที่เราถูกสอนมา และคิดว่าวันนี้แพทย์ทั้งหลายที่เรียนอยู่ก็ได้เห็นกรณีนี้เป็นกรณีศึกษาต่อไปว่า บทบาทของแพทย์มากมายกว่ารักษาคนไข้อย่างเดียว คือการรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานการรักษา

    สำหรับแพทย์ที่ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ได้แก่ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ และ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ จากโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนแพทย์ที่ถูกว่ากล่าวตักเตือน คือ พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์

    #Newskit
    หมอชนะ ที่ประชุมคณะกรรมการแพทยสภา เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. มีมติมากกว่า 2 ใน 3 ไม่รับการยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภา จากนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ยืนยันตามมติเดิมเมื่อวันที่ 8 พ.ค. พักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 ราย และตักเตือน 1 ราย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งตัวและรักษาอาการป่วยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนักโทษคดีทุจริต จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ มายังชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว และไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้น โดยมีกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุม 68 คน จากจำนวนกรรมการที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน แม้นายสมศักดิ์พยายามเข้าไปชี้แจงในที่ประชุมแพทยสภา ซึ่งให้เวลาเพียง 15 นาที และออกหนังสือยับยั้งมติ (วีโต้) อ้างว่าเป็นการตีวัวกระทบคราดนายทักษิณ ที่ได้รับการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลที่มีศักยภาพรักษาเฉพาะทาง ทำให้แพทย์อีกหลายคนไม่กล้าเสี่ยงเพื่อช่วยชีวิตคนไข้ให้ดีที่สุด กล่าวหาว่าเป็นการลงโทษที่เกิดจากอคติในใจ โทษรุนแรงเกินไป อาจมีบางอย่างไม่ถูกต้องในกระบวนการนี้ และหากเป็นแพทย์รุ่นหลังที่อ่อนประสบการณ์ที่สุด จะเมตตาหรือเย็นชาโดยมีปัจจัยภายนอกชี้นำ แต่ที่ประชุมแพทยสภาได้นำข้อมูลมาเปรียบเทียบมติของกรรมการแพทยสภา และมีบทวิเคราะห์ออกมา ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา คนที่ 1 ยืนยันว่า กรณีจริยธรรมทางการแพทย์ไม่สามารถเปรียบเทียบข้อมูลวิชาชีพไม่เหมือนกัน วิชาการไม่เหมือนกัน คอนเซปต์ไม่เหมือนกัน จะเอามาเทียบเคียงกันคงไม่เหมาะสม ขณะเดียวกันมีบางกลุ่มที่ใช้กลไกบางอย่างพยายามจะทำให้กรรมการแพทยสภาไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง หรือขัดกับจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ บางกรณีเข้าเกณฑ์เหมือนข่มขู่ด้วยซ้ำ ส่วนที่นายสมศักดิ์อ้างว่าจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานใหม่ให้แพทย์รุ่นใหม่มีความกลัวหรือไม่ เห็นว่า ไม่ว่าจะเป็นแพทย์รุ่นใหม่หรือแพทย์รุ่นเดิม เราได้รับการอบรมสั่งสอนมาเหมือนกัน เราเข้าใจจรรยาบรรณวิชาชีพ เข้าใจความถูกต้อง เข้าใจบทบาทและหน้าที่เหมือนกัน อยากจะย้ำว่าวันนี้เราทำตามสิ่งที่เราถูกสอนมา และคิดว่าวันนี้แพทย์ทั้งหลายที่เรียนอยู่ก็ได้เห็นกรณีนี้เป็นกรณีศึกษาต่อไปว่า บทบาทของแพทย์มากมายกว่ารักษาคนไข้อย่างเดียว คือการรักษาไว้ซึ่งมาตรฐานการรักษา สำหรับแพทย์ที่ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม ได้แก่ พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ และ พล.ต.ท.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ จากโรงพยาบาลตำรวจ ส่วนแพทย์ที่ถูกว่ากล่าวตักเตือน คือ พญ.รวมทิพย์ สุภานันท์ จากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 87 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อุปกรณ์การปฏิบัติมรรค
    สัทธรรมลำดับที่ : 1020
    ชื่อบทธรรม :- อุปกรณ์การปฏิบัติมรรค-รายชื่อแห่งธรรมเป็นที่ตั้งแห่งการขูดเกลา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1020
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --หมวด ช. ว่าด้วย อุปกรณ์การปฏิบัติมรรค
    --รายชื่อแห่งธรรมเป็นที่ตั้งแห่งการขูดเกลา
    --จุนทะ ! สัลเลขธรรม (ความขูดเกลา) เป็นสิ่งที่เธอทั้งหลายพึงกระทำ
    ในธรรมทั้งหลายเหล่านี้ กล่าวคือ : -
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น เป็นผู้ เบียดเบียน เราจักเป็นผู้ ไม่เบียดเบียน;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น กระทำปาณาติบาต เราจัก เว้นขาดจากปาณาติบาต;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น กระทำอทินนาทาน เราจัก เว้นขาดจากอทินนาทาน;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นไม่ประพฤติพรหมจรรย์ เราจักเป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น พูดเท็จ เราจัก เว้นขาดจากการพูดท็จ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น พูดส่อเสียด เราจัก เว้นขาดจากการพูดส่อเสียด;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น พูดคำหยาบ เราจัก เว้นขาดจากการพูดคำหยาบ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น พูดเพ้อเจ้อ เราจัก เว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มากด้วยอภิชฌา เราจักเป็นผู้ ไม่มากด้วยอภิชฌา;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีจิตพยาบาท เราจักเป็นผู้ ไม่มีจิตพยาบาท;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาทิฏิฐิ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาทิฏิฐิ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาสังกัปปะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาสังกัปปะ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาวาจา เราจักเป็นผู้ มีสัมมาวาจา;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉากัมมันตะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมากัมมันตะ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาอาชีวะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาอาชีวะ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาวายามะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาวายามะ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาสติ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาสติ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาสมาธิ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาสมาธิ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาญาณะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาญาณะ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาวิมุตติ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาวิมุตติ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีถีนมิทธะกลุ้มรุม เราจักเป็นผู้ ปราศจากถีนมิทธะ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น เป็นผู้ฟุ้งซ่าน เราจักเป็นผู้ ไม่ฟุ้งซ่าน;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีวิจิกิจฉา เราจักเป็นผู้ ข้ามพ้นวิจิกิจฉา;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มักโกรธ เราจักเป็นผู้ ไม่มักโกรธ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ผูกโกรธ เราจักเป็นผู้ ไม่ผูกโกรธ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ลบหลู่คุณ เราจักเป็นผู้ ไม่ลบหลู่คุณ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ แข่งดี เราจักเป็นผู้ ไม่แข่งดี;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ริษยา เราจักเป็นผู้ ไม่ริษยา;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ตระหนี่ เราจักเป็นผู้ ไม่ตระหนี่;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ โอ้อวด เราจักเป็นผู้ ไม่โอ้อวด;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีมารยา เราจักเป็นผู้ ไม่มีมารยา;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ กระด้าง เราจักเป็นผู้ ไม่กระด้าง;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ดูหมิ่นท่าน เราจักเป็นผู้ ไม่ดูหมิ่นท่าน;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ว่ายาก เราจักเป็นผู้ ว่าง่าย;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีมิตรชั่ว เราจักเป็นผู้ มีมิตรดี;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ประมาท เราจักเป็นผู้ ไม่ประมาท;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ไม่มีสัทธา เราจักเป็นผู้ มีสัทธา;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ไม่มีหิริ เราจักเป็นผู้ มีหิริ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ไม่มีโอตตัปปะ เราจักเป็นผู้ มีโอตตัปปะ;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีสุตะน้อย เราจักเป็นผู้ มีสุตะมาก;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ขี้เกียจ เราจักเป็นผู้ ปรารภความเพียร;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีสติหลงลืม เราจักเป็นผู้ มีสติตั้งมั่น;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีปัญญาทราม เราจักเป็นผู้ ถึงพร้อมด้วยปัญญา;
    +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (สนฺทิฏฺฐิปรามาสี)
    เป็น ผู้ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อาธานคาหี) และ
    เป็นผู้ยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน (ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี)
    http://etipitaka.com/read/pali/12/78/?keywords=ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี

    ++--เราจักเป็นผู้ ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (อสนฺทิฏฺฐิปรามาสี)
    เป็นผู้ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อนาธานคาหี) และ
    เป็นผู้ง่ายที่จะสลัดคืนซึ่ง อุปทาน (สุปฺปฏินิสฺสคฺคี).
    http://etipitaka.com/read/pali/12/78/?keywords=สุปฏินิสฺสคฺคี

    (ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ธรรมที่ทรงแสดงไว้ในบาลีเกี่ยวกับการขูดเกลานี้
    มีอยู่ ๔๔ คู่ เป็นคู่แห่งความตรงกันข้าม คือ
    ฝ่ายหนึ่งเป็นอกุศลไม่ควรกระทำ ฝ่ายหนึ่งเป็นกุศลที่ควรกระทำ
    ดังนั้นจึงเป็นการขูดเกลากันอยู่ในตัว เพราะความเป็นของตรงกันข้าม
    เรียกว่าธรรมเป็นเครื่องขูดเกลา ๔๔ อย่าง
    กับธรรมที่ควรขูดเกลา ๔๔ อย่างเป็นคู่กันไป.
    โดยอาศัยหลักที่มีอยู่ ๔๔ คู่นี้
    พระองค์ได้ตรัสถึงธรรมปริยายอื่นๆ ต่อไปอีกคือ : -)

    ก. จิตตุปปาทปริยาย
    +--การกระทำจิตให้เกิดขึ้นโดยนัยยะ ๔๔ คู่ เป็นต้นว่า
    “เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ เบียดเบียน เราจักเป็นผู้ ไม่เบียดเบียน” ...
    เรื่อยไปจนกระทั่งถึงคู่สุดท้าย ว่า
    “เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (สนฺทิฏฺฐิปรามาสี)
    เป็นผู้ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อาธานคาหี) และ
    เป็นผู้ยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน (ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี)
    เราจักเป็นผู้ ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (อสนฺทิฏฺฐิปรามาสี)
    เป็นผู้ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อนาธานคาหี) และ
    เป็นผู้ง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน (สุปฺปฏินิสฺสคฺคี)”
    ดังนี้นั้น
    ยังได้ตรัสอีกว่า เพียงแต่ ตั้งจิตตุปบาทไว้ดังนี้ ก็เป็นการทำที่มีอุปการะมาก เสียแล้ว
    ไม่ต้องกล่าวถึง การที่ได้ทำสำเร็จลงไปตามนั้นด้วยกายและด้วยวาจา.
    การเอาธรรม ๔๔ คู่นั้นมาทำไว้ในความคิดใคร่ครวญ เรียกว่า #จิตตุปปาทธัมมปริยาย.

    ข. ปริกกมนปริยาย
    +--การทำจิตให้หลีกออกมาเสียจากธรรมฝ่ายอกุศล มาอยู่ในธรรมฝ่ายกุศล
    เช่นคนหลีกทางผิดมาเดินอยู่ในทางถูก ดังนี้เรียกว่า ปริกกมนา.
    ธรรม ๔๔ คู่ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนั่นเอง
    ฝ่ายแรกเป็นฝ่ายผิด ฝ่ายหลังเป็นฝ่ายถูก จึงมีพระบาลีวางไว้เป็นคู่แรก ว่า
    “ความไม่เบียดเบียน เป็นการหลีกออกจากทางผิดของบุคคลผู้มีการเบียดเบียน”
    เรื่อยไปจนถึงคู่สุดท้ายที่ว่า ความเป็นผู้ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน
    ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน
    เป็นการหลีกออกจากทางผิดของบุคคลผู้ลูบคลำ
    ด้วยทิฏฐิของตน ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปทาน”
    การกระทำอย่างนี้ทั้ง ๔๔ คู่ เรียกว่า #ปริกกมนธัมปริยาย.

    ค. อุปริภาวังคมนปริยาย
    +--ในธรรม ๔๔ คู่ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น
    ฝ่ายแรกหรือฝ่ายผิด เป็น อโธภาวังคมนียธรรม (นำไปสู่ฝ่ายต่ำ)
    ฝ่ายหลังหรือฝ่ายถูก เป็น อุปริภาวังคมนียธรรม (นำไปสู่ฝ่ายสูง)
    จึงมีพระบาลีวางไว้เป็นคู่แรกว่า
    “ความไม่เบียดเบียน เป็นธรรมนำไปสู่ภาวะฝ่ายสูง ของบุคคลผู้มีการเบียดเบียน”
    ดังนี้เรื่อยไปจนถึงคู่สุดท้ายว่า
    “ความไม่เป็นผู้ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น
    และง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน
    เป็นธรรมนำไปสู่ภาวะฝ่ายสูงของบุคคลผู้ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน
    ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน”.
    การกระทำอย่างนี้ทั้ง ๔๔ คู่ เรียกว่า #อุปริภาวังคมนธัมมปริยาย.

    ง. ปรินิพพานปริยาย
    +--ในธรรม ๔๔ คู่ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนั้น
    ฝ่ายแรกหรือฝ่ายผิดเป็นฝ่ายไม่ดับเย็น
    ฝ่ายหลังหรือฝ่ายถูกเป็นฝ่ายดับเย็น (ปรินิพพาน)
    ดังนั้นจึงมีพระบาลีวางไว้เป็นคู่แรก ว่า
    “ความไม่เบียดเบียน เป็นไปเพื่อความดับเย็นของบุคคลผู้มีการเบียดเบียน”
    ดังนี้เรื่อยไปจนถึงคู่สุดท้าย ว่า
    “ความเป็นผู้ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น
    และง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน
    เป็นไปเพื่อความดับเย็นของบุคคลผู้ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน
    ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และยากที่จะสลัดคืนซึ่ง อุปาทาน”
    การกระทำอย่างนี้ทั้ง ๔๔ คู่ เรียกว่า #ปรินิพพานปริยาย.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/82/?keywords=ปรินิพฺพาน
    ข้อความตอนนี้ มีตรัสไว้พิเศษ ว่า
    ผู้ไม่ดับเย็นจะช่วยให้ผู้อื่นดับเย็นนั้นเป็นไปไม่ได้
    เช่นเดียวกับผู้ติดหล่ม จะยกผู้อื่นขึ้นจากหล่มไม่ได้
    ฉันใดก็ฉันนั้น.-

    (รายชื่อแห่งธรรมเป็นเครื่องขูดเกลา ๔๔ คู่นี้
    ไม่ได้ใช้เพื่ออธิบายเกี่ยวกับการขูดเกลาอย่างเดียว
    แต่ใช้เพื่ออธิบายในการประพฤติกระทำอย่างอื่นด้วย
    ดังที่ได้แยกไว้เป็น ข้อ ก. ข. ค. ง. ในตอนท้าย;
    ผู้ที่ตั้งใจจะศึกษาจริงๆ พึงกำหนดให้ชัดเจนว่ามีลำดับอย่างไร
    เป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกอย่างไร ก็จะสามารถเข้าใจข้อความที่ละไว้
    โดยไม่นำมาใส่ไว้ให้เต็ม เช่น อ้างถึงแต่ข้อต้น และ ข้อสุดท้าย เป็นต้น,
    ก็จะสำเร็จประโยชน์ได้ตามปรารถนา).

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/54 - 62/104 - 108.
    http://etipitaka.com/read/thai/12/54/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๗๕ - ๘๓/๑๐๔ - ๑๐๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/75/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1020
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=88&id=1020
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=88
    ลำดับสาธยายธรรม : 88 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_88.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อุปกรณ์การปฏิบัติมรรค สัทธรรมลำดับที่ : 1020 ชื่อบทธรรม :- อุปกรณ์การปฏิบัติมรรค-รายชื่อแห่งธรรมเป็นที่ตั้งแห่งการขูดเกลา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1020 เนื้อความทั้งหมด :- --หมวด ช. ว่าด้วย อุปกรณ์การปฏิบัติมรรค --รายชื่อแห่งธรรมเป็นที่ตั้งแห่งการขูดเกลา --จุนทะ ! สัลเลขธรรม (ความขูดเกลา) เป็นสิ่งที่เธอทั้งหลายพึงกระทำ ในธรรมทั้งหลายเหล่านี้ กล่าวคือ : - +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น เป็นผู้ เบียดเบียน เราจักเป็นผู้ ไม่เบียดเบียน; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น กระทำปาณาติบาต เราจัก เว้นขาดจากปาณาติบาต; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น กระทำอทินนาทาน เราจัก เว้นขาดจากอทินนาทาน; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นไม่ประพฤติพรหมจรรย์ เราจักเป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น พูดเท็จ เราจัก เว้นขาดจากการพูดท็จ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น พูดส่อเสียด เราจัก เว้นขาดจากการพูดส่อเสียด; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น พูดคำหยาบ เราจัก เว้นขาดจากการพูดคำหยาบ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น พูดเพ้อเจ้อ เราจัก เว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มากด้วยอภิชฌา เราจักเป็นผู้ ไม่มากด้วยอภิชฌา; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีจิตพยาบาท เราจักเป็นผู้ ไม่มีจิตพยาบาท; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาทิฏิฐิ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาทิฏิฐิ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาสังกัปปะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาสังกัปปะ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาวาจา เราจักเป็นผู้ มีสัมมาวาจา; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉากัมมันตะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมากัมมันตะ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาอาชีวะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาอาชีวะ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาวายามะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาวายามะ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาสติ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาสติ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาสมาธิ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาสมาธิ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาญาณะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาญาณะ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาวิมุตติ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาวิมุตติ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีถีนมิทธะกลุ้มรุม เราจักเป็นผู้ ปราศจากถีนมิทธะ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น เป็นผู้ฟุ้งซ่าน เราจักเป็นผู้ ไม่ฟุ้งซ่าน; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีวิจิกิจฉา เราจักเป็นผู้ ข้ามพ้นวิจิกิจฉา; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มักโกรธ เราจักเป็นผู้ ไม่มักโกรธ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ผูกโกรธ เราจักเป็นผู้ ไม่ผูกโกรธ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ลบหลู่คุณ เราจักเป็นผู้ ไม่ลบหลู่คุณ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ แข่งดี เราจักเป็นผู้ ไม่แข่งดี; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ริษยา เราจักเป็นผู้ ไม่ริษยา; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ตระหนี่ เราจักเป็นผู้ ไม่ตระหนี่; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ โอ้อวด เราจักเป็นผู้ ไม่โอ้อวด; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีมารยา เราจักเป็นผู้ ไม่มีมารยา; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ กระด้าง เราจักเป็นผู้ ไม่กระด้าง; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ดูหมิ่นท่าน เราจักเป็นผู้ ไม่ดูหมิ่นท่าน; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ว่ายาก เราจักเป็นผู้ ว่าง่าย; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีมิตรชั่ว เราจักเป็นผู้ มีมิตรดี; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ประมาท เราจักเป็นผู้ ไม่ประมาท; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ไม่มีสัทธา เราจักเป็นผู้ มีสัทธา; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ไม่มีหิริ เราจักเป็นผู้ มีหิริ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ไม่มีโอตตัปปะ เราจักเป็นผู้ มีโอตตัปปะ; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีสุตะน้อย เราจักเป็นผู้ มีสุตะมาก; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ขี้เกียจ เราจักเป็นผู้ ปรารภความเพียร; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีสติหลงลืม เราจักเป็นผู้ มีสติตั้งมั่น; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีปัญญาทราม เราจักเป็นผู้ ถึงพร้อมด้วยปัญญา; +--ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (สนฺทิฏฺฐิปรามาสี) เป็น ผู้ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อาธานคาหี) และ เป็นผู้ยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน (ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี) http://etipitaka.com/read/pali/12/78/?keywords=ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี ++--เราจักเป็นผู้ ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (อสนฺทิฏฺฐิปรามาสี) เป็นผู้ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อนาธานคาหี) และ เป็นผู้ง่ายที่จะสลัดคืนซึ่ง อุปทาน (สุปฺปฏินิสฺสคฺคี). http://etipitaka.com/read/pali/12/78/?keywords=สุปฏินิสฺสคฺคี (ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ธรรมที่ทรงแสดงไว้ในบาลีเกี่ยวกับการขูดเกลานี้ มีอยู่ ๔๔ คู่ เป็นคู่แห่งความตรงกันข้าม คือ ฝ่ายหนึ่งเป็นอกุศลไม่ควรกระทำ ฝ่ายหนึ่งเป็นกุศลที่ควรกระทำ ดังนั้นจึงเป็นการขูดเกลากันอยู่ในตัว เพราะความเป็นของตรงกันข้าม เรียกว่าธรรมเป็นเครื่องขูดเกลา ๔๔ อย่าง กับธรรมที่ควรขูดเกลา ๔๔ อย่างเป็นคู่กันไป. โดยอาศัยหลักที่มีอยู่ ๔๔ คู่นี้ พระองค์ได้ตรัสถึงธรรมปริยายอื่นๆ ต่อไปอีกคือ : -) ก. จิตตุปปาทปริยาย +--การกระทำจิตให้เกิดขึ้นโดยนัยยะ ๔๔ คู่ เป็นต้นว่า “เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ เบียดเบียน เราจักเป็นผู้ ไม่เบียดเบียน” ... เรื่อยไปจนกระทั่งถึงคู่สุดท้าย ว่า “เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (สนฺทิฏฺฐิปรามาสี) เป็นผู้ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อาธานคาหี) และ เป็นผู้ยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน (ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี) เราจักเป็นผู้ ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (อสนฺทิฏฺฐิปรามาสี) เป็นผู้ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อนาธานคาหี) และ เป็นผู้ง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน (สุปฺปฏินิสฺสคฺคี)” ดังนี้นั้น ยังได้ตรัสอีกว่า เพียงแต่ ตั้งจิตตุปบาทไว้ดังนี้ ก็เป็นการทำที่มีอุปการะมาก เสียแล้ว ไม่ต้องกล่าวถึง การที่ได้ทำสำเร็จลงไปตามนั้นด้วยกายและด้วยวาจา. การเอาธรรม ๔๔ คู่นั้นมาทำไว้ในความคิดใคร่ครวญ เรียกว่า #จิตตุปปาทธัมมปริยาย. ข. ปริกกมนปริยาย +--การทำจิตให้หลีกออกมาเสียจากธรรมฝ่ายอกุศล มาอยู่ในธรรมฝ่ายกุศล เช่นคนหลีกทางผิดมาเดินอยู่ในทางถูก ดังนี้เรียกว่า ปริกกมนา. ธรรม ๔๔ คู่ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนั่นเอง ฝ่ายแรกเป็นฝ่ายผิด ฝ่ายหลังเป็นฝ่ายถูก จึงมีพระบาลีวางไว้เป็นคู่แรก ว่า “ความไม่เบียดเบียน เป็นการหลีกออกจากทางผิดของบุคคลผู้มีการเบียดเบียน” เรื่อยไปจนถึงคู่สุดท้ายที่ว่า ความเป็นผู้ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน เป็นการหลีกออกจากทางผิดของบุคคลผู้ลูบคลำ ด้วยทิฏฐิของตน ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปทาน” การกระทำอย่างนี้ทั้ง ๔๔ คู่ เรียกว่า #ปริกกมนธัมปริยาย. ค. อุปริภาวังคมนปริยาย +--ในธรรม ๔๔ คู่ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ฝ่ายแรกหรือฝ่ายผิด เป็น อโธภาวังคมนียธรรม (นำไปสู่ฝ่ายต่ำ) ฝ่ายหลังหรือฝ่ายถูก เป็น อุปริภาวังคมนียธรรม (นำไปสู่ฝ่ายสูง) จึงมีพระบาลีวางไว้เป็นคู่แรกว่า “ความไม่เบียดเบียน เป็นธรรมนำไปสู่ภาวะฝ่ายสูง ของบุคคลผู้มีการเบียดเบียน” ดังนี้เรื่อยไปจนถึงคู่สุดท้ายว่า “ความไม่เป็นผู้ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน เป็นธรรมนำไปสู่ภาวะฝ่ายสูงของบุคคลผู้ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน”. การกระทำอย่างนี้ทั้ง ๔๔ คู่ เรียกว่า #อุปริภาวังคมนธัมมปริยาย. ง. ปรินิพพานปริยาย +--ในธรรม ๔๔ คู่ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนั้น ฝ่ายแรกหรือฝ่ายผิดเป็นฝ่ายไม่ดับเย็น ฝ่ายหลังหรือฝ่ายถูกเป็นฝ่ายดับเย็น (ปรินิพพาน) ดังนั้นจึงมีพระบาลีวางไว้เป็นคู่แรก ว่า “ความไม่เบียดเบียน เป็นไปเพื่อความดับเย็นของบุคคลผู้มีการเบียดเบียน” ดังนี้เรื่อยไปจนถึงคู่สุดท้าย ว่า “ความเป็นผู้ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน เป็นไปเพื่อความดับเย็นของบุคคลผู้ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และยากที่จะสลัดคืนซึ่ง อุปาทาน” การกระทำอย่างนี้ทั้ง ๔๔ คู่ เรียกว่า #ปรินิพพานปริยาย. http://etipitaka.com/read/pali/12/82/?keywords=ปรินิพฺพาน ข้อความตอนนี้ มีตรัสไว้พิเศษ ว่า ผู้ไม่ดับเย็นจะช่วยให้ผู้อื่นดับเย็นนั้นเป็นไปไม่ได้ เช่นเดียวกับผู้ติดหล่ม จะยกผู้อื่นขึ้นจากหล่มไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น.- (รายชื่อแห่งธรรมเป็นเครื่องขูดเกลา ๔๔ คู่นี้ ไม่ได้ใช้เพื่ออธิบายเกี่ยวกับการขูดเกลาอย่างเดียว แต่ใช้เพื่ออธิบายในการประพฤติกระทำอย่างอื่นด้วย ดังที่ได้แยกไว้เป็น ข้อ ก. ข. ค. ง. ในตอนท้าย; ผู้ที่ตั้งใจจะศึกษาจริงๆ พึงกำหนดให้ชัดเจนว่ามีลำดับอย่างไร เป็นฝ่ายผิดหรือฝ่ายถูกอย่างไร ก็จะสามารถเข้าใจข้อความที่ละไว้ โดยไม่นำมาใส่ไว้ให้เต็ม เช่น อ้างถึงแต่ข้อต้น และ ข้อสุดท้าย เป็นต้น, ก็จะสำเร็จประโยชน์ได้ตามปรารถนา). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/54 - 62/104 - 108. http://etipitaka.com/read/thai/12/54/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๗๕ - ๘๓/๑๐๔ - ๑๐๘. http://etipitaka.com/read/pali/12/75/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%94 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=1020 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=88&id=1020 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=88 ลำดับสาธยายธรรม : 88 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_88.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - หมวด ช. ว่าด้วย อุปกรณ์การปฏิบัติมรรค--รายชื่อแห่งธรรมเป็นที่ตั้งแห่งการขูดเกลา
    -[ในสูตรนี้ตรัสเรียกพิธีกรรมนี้ว่า “ปัจโจโรหณีในอริยวินัย”; ส่วนในสูตรอื่นๆ (๒๔/๒๕๓,๒๖๙/๑๒๐ ,๑๕๗) ตรัสเรียกว่า “ปัจโจโรหณีอันเป็นอริยะ” ก็มี. ในสูตรอื่นทรงยกเอากุศลกรรมบถสิบ มาเป็นธรรมเครื่องปลงบาปแทนสัมมัตตะสิบ ก็มี ( ๒๔/๒๖๗ - ๒๖๙/๑๕๖) ]. หมวด ช. ว่าด้วย อุปกรณ์การปฏิบัติมรรค รายชื่อแห่งธรรมเป็นที่ตั้งแห่งการขูดเกลา (เรื่องควรดูประกอบในหน้า ๙๑๑, ๙๒๖, ๑๓๐๐, ๑๓๔๑, ๑๓๖๔, ๑๔๑๒, ๑๔๑๔ และในขุม.โอ.หน้า ๓๒๒) จุนทะ ! สัลเลขธรรม (ความขูดเกลา) เป็นสิ่งที่เธอทั้งหลายพึงกระทำ ในธรรมทั้งหลายเหล่านี้ กล่าวคือ : ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ เบียดเบียน เราจักเป็นผู้ ไม่เบียดเบียน; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น กระทำปาณาติบาต เราจัก เว้นขาดจากปาณาติบาต; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น กระทำอทินนาทาน เราจัก เว้นขาดจากอทินนาทาน; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นไม่ประพฤติพรหมจรรย์ เราจักเป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น พูดเท็จ เราจัก เว้นขาดจากการพูดท็จ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น พูดส่อเสียด เราจัก เว้นขาดจากการพูดส่อเสียด; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น พูดคำหยาบ เราจัก เว้นขาดจากการพูดคำหยาบ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น พูดเพ้อเจ้อ เราจัก เว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มากด้วยอภิชฌา เราจักเป็นผู้ ไม่มากด้วยอภิชฌา; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีจิตพยาบาท เราจักเป็นผู้ ไม่มีจิตพยาบาท; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาทิฏิฐิ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาทิฏิฐิ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาสังกัปปะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาสังกัปปะ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาวาจา เราจักเป็นผู้ มีสัมมาวาจา; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉากัมมันตะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมากัมมันตะ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาอาชีวะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาอาชีวะ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาวายามะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาวายามะ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาสติ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาสติ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาสมาธิ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาสมาธิ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาญาณะ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาญาณะ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีมิจฉาวิมุตติ เราจักเป็นผู้ มีสัมมาวิมุตติ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีถีนมิทธะกลุ้มรุม เราจักเป็นผู้ ปราศจากถีนมิทธะ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ฟุ้งซ่าน เราจักเป็นผู้ ไม่ฟุ้งซ่าน; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่น มีวิจิกิจฉา เราจักเป็นผู้ ข้ามพ้นวิจิกิจฉา; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มักโกรธ เราจักเป็นผู้ ไม่มักโกรธ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ผูกโกรธ เราจักเป็นผู้ ไม่ผูกโกรธ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ลบหลู่คุณ เราจักเป็นผู้ ไม่ลบหลู่คุณ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ แข่งดี เราจักเป็นผู้ ไม่แข่งดี; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ริษยา เราจักเป็นผู้ ไม่ริษยา; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ตระหนี่ เราจักเป็นผู้ ไม่ตระหนี่; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ โอ้อวด เราจักเป็นผู้ ไม่โอ้อวด; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีมารยา เราจักเป็นผู้ ไม่มีมารยา; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ กระด้าง เราจักเป็นผู้ ไม่กระด้าง; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ดูหมิ่นท่าน เราจักเป็นผู้ ไม่ดูหมิ่นท่าน; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ว่ายาก เราจักเป็นผู้ ว่าง่าย; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีมิตรชั่ว เราจักเป็นผู้ มีมิตรดี; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ประมาท เราจักเป็นผู้ ไม่ประมาท; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ไม่มีสัทธา เราจักเป็นผู้ มีสัทธา; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ไม่มีหิริ เราจักเป็นผู้ มีหิริ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ไม่มีโอตตัปปะ เราจักเป็นผู้ มีโอตตัปปะ; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีสุตะน้อย เราจักเป็นผู้ มีสุตะมาก; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ขี้เกียจ เราจักเป็นผู้ ปรารภความเพียร; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีสติหลงลืม เราจักเป็นผู้ มีสติตั้งมั่น; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ มีปัญญาทราม เราจักเป็นผู้ ถึงพร้อมด้วยปัญญา; ทำสัลเลขะว่า เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (สนฺทิฏฺฐิปรามาสี) เป็น ผู้ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อาธานคาหี) และเป็นผู้ยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน (ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี) เราจักเป็นผู้ ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (อสนฺทิฏฺฐิปรามาสี) เป็นผู้ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อนาธานคาหี) และเป็นผู้ง่ายที่จะสลัดคืนซึ่ง อุปทาน (สุปฺปฏินิสฺสคฺคี). (ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ธรรมที่ทรงแสดงไว้ในบาลีเกี่ยวกับการขูดเกลานี้ มีอยู่ ๔๔ คู่ เป็นคู่แห่งความตรงกันข้าม คือฝ่ายหนึ่งเป็นอกุศลไม่ควรกระทำ ฝ่ายหนึ่งเป็นกุศลที่ควรกระทำ ดังนั้นจึงเป็นการขูดเกลากันอยู่ในตัว เพราะความเป็นของตรงกันข้าม เรียกว่าธรรมเป็นเครื่องขูดเกลา ๔๔ อย่าง กับธรรมที่ควรขูดเกลา ๔๔ อย่างเป็นคู่กันไป. โดยอาศัยหลักที่มีอยู่ ๔๔ คู่นี้ พระองค์ได้ตรัสถึงธรรมปริยายอื่นๆ ต่อไปอีกคือ : -) ก. จิตตุปปาทปริยาย การกระทำจิตให้เกิดขึ้นโดยนัยยะ ๔๔ คู่ เป็นต้นว่า “เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ เบียดเบียน เราจักเป็นผู้ ไม่เบียดเบียน” เรื่อยไปจนกระทั่งถึงคู่สุดท้าย ว่า “เมื่อผู้อื่นเป็นผู้ ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน (สนฺทิฏฺฐิปรามาสี) เป็นผู้ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อาธานคาหี) และเป็นผู้ยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน (ทุปฺปฏินิสฺสคฺคี) เราจักเป็นผู้ ไม่ลูบคลำ ด้วยทิฏฐิของตน (อสนฺทิฏฺฐิปรามาสี) เป็นผู้ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น (อนาธานคาหี) และเป็นผู้ง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน (สุปฺปฏินิสฺสคฺคี)” ดังนี้นั้น ยังได้ตรัสอีกว่า เพียงแต่ ตั้งจิตตุปบาทไว้ดังนี้ ก็เป็นการทำที่มีอุปการะมาก เสียแล้ว ไม่ต้องกล่าวถึง การที่ได้ทำสำเร็จลงไปตามนั้นด้วยกายและด้วยวาจา. การเอาธรรม ๔๔ คู่นั้นมาทำไว้ในความคิด เรียกว่า จิตตุปปาทธัมมปริยาย. ข. ปริกกมนปริยาย การทำจิตให้หลีกออกมาเสียจากธรรมฝ่ายอกุศล มาอยู่ในธรรมฝ่ายกุศล เช่นคนหลีกทางผิดมาเดินอยู่ในทางถูก ดังนี้เรียกว่า ปริกกมนา. ธรรม ๔๔ คู่ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนั่นเอง ฝ่ายแรกเป็นฝ่ายผิด ฝ่ายหลังเป็นฝ่ายถูก จึงมีพระบาลีวางไว้เป็นคู่แรก ว่า “ความไม่เบียดเบียน เป็นการหลีกออกจากทางผิดของบุคคลผู้มีการเบียดเบียน” เรื่อยไปจนถึงคู่สุดท้ายที่ว่า ความเป็นผู้ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน เป็นการหลีกออกจากทางผิดของบุคคลผู้ลูบคลำ ด้วยทิฏฐิของตน ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปทาน” การกระทำอย่างนี้ทั้ง ๔๔ คู่ เรียกว่า ปริกกมนธัมปริยาย. ค. อุปริภาวังคมนปริยาย ในธรรม ๔๔ คู่ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น ฝ่ายแรกหรือฝ่ายผิด เป็น อโธภาวังคมนียธรรม (นำไปสู่ฝ่ายต่ำ) ฝ่ายหลังหรือฝ่ายถูก เป็น อุปริภาวังคมนียธรรม (นำไปสู่ฝ่ายสูง) จึงมีพระบาลีวางไว้เป็นคู่แรกว่า “ความไม่เบียดเบียน เป็นธรรมนำไปสู่ภาวะฝ่ายสูง ของบุคคลผู้มีการเบียดเบียน” ดังนี้เรื่อยไปจนถึงคู่สุดท้ายว่า “ความไม่เป็นผู้ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน เป็นธรรมนำไปสู่ภาวะฝ่ายสูงของบุคคลผู้ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน ยึดถืออย่าง เหนียวแน่น และยากที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน”. การกระทำอย่างนี้ทั้ง ๔๔ คู่ เรียกว่า อุปริภาวังคมนธัมมปริยาย. ง. ปรินิพพานปริยาย ในธรรม ๔๔ คู่ ดังกล่าวมาแล้วข้างต้นนั้น ฝ่ายแรกหรือฝ่ายผิดเป็นฝ่ายไม่ดับเย็น ฝ่ายหลังหรือฝ่ายถูกเป็นฝ่ายดับเย็น (ปรินิพพาน) ดังนั้นจึงมีพระบาลีวางไว้เป็นคู่แรก ว่า “ความไม่เบียดเบียน เป็นไปเพื่อความดับเย็นของบุคคลผู้มีการเบียดเบียน” ดังนี้เรื่อยไปจนถึงคู่สุดท้าย ว่า “ความเป็นผู้ไม่ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน ไม่ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และง่ายที่จะสลัดคืนซึ่งอุปาทาน เป็นไปเพื่อความดับเย็นของบุคคลผู้ลูบคลำด้วยทิฏฐิของตน ยึดถืออย่างเหนียวแน่น และยากที่จะสลัดคืนซึ่ง อุปาทาน” การกระทำอย่างนี้ทั้ง ๔๔ คู่ เรียกว่า ปรินิพพานปริยาย. ข้อความตอนนี้ มีตรัสไว้พิเศษ ว่า ผู้ไม่ดับเย็นจะช่วยให้ผู้อื่นดับเย็นนั้นเป็นไปไม่ได้ เช่นเดียวกับผู้ติดหล่ม จะยกผู้อื่นขึ้นจากหล่มไม่ได้ ฉันใดก็ฉันนั้น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าวิถีทางในการบรรถึงวิมุตตธรรมเมื่อสิ้นสังโยชน์เหมือนเครื่องหวายสิ้นอายุ
    สัทธรรมลำดับที่ : 652
    ชื่อบทธรรม :- เมื่อสิ้นสังโยชน์เหมือนเครื่องหวายสิ้นอายุ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=652
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --เมื่อสิ้นสังโยชน์เหมือนเครื่องหวายสิ้นอายุ
    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนเรือเดินสมุทรที่มีเครื่องผูกทำด้วยหวาย
    อยู่ในน้ำตลอดหกเดือนแล้ว เขายกขึ้นบกในฤดูหนาว
    เครื่องผูกเหล่านั้นผึ่งอยู่กับลมและแดด ชุ่มแฉะอยู่ด้วยหมอกอันชื้น
    ย่อมยุบตัว เปื่อยพังไปโดยไม่ยากเลย, นี้ ฉันใด ;
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุตามประกอบการเจริญภาวนาอยู่
    #สังโยชน์(สญฺโญ)​ทั้งหลาย (ซึ่งเสมือนเครื่องหวายที่อบอยู่กับแดดลมและความชื้น)
    ย่อมระงับลง ๆ กระทั่งสูญเสียไป ฉันนั้นเหมือนกัน.-
    http://etipitaka.com/read/pali/23/129/?keywords=สญฺโญชนานิ

    (*--ท่านพุทธทาสอธิบายความว่า
    เป็นที่น่าสังเกตว่า พระพุทธองค์ทรงมีถิ่นฐานอยู่ทางภาคเหนือของอินเดีย ซึ่งดูตามแผนที่แล้ว จะไม่มีโอกาสเกี่ยวข้องกับทะเล แต่ก็ยังทรงทราบเรื่องเรือเดินทะเล, เป็นบุคคลในระดับกษัตริย์ ก็ยังทรงรู้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของชาวบ้าน เช่นหวายที่ผูกเรือแพเดินทะเลสิ้นอายุผุพังไปตามฤดูกาลได้ ; แสดงว่าทรงมีพื้นเพแห่งสติปัญญาสมกับที่จะเป็นพระพุทธเจ้าเสียจริงๆ
    --*).

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. 23/126/68.
    http://etipitaka.com/read/thai/23/98/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. ๒๓/๑๒๖/๖๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/23/126/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%98
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=652
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=45&id=652
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=45
    ลำดับสาธยายธรรม : 45 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_45.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าวิถีทางในการบรรถึงวิมุตตธรรมเมื่อสิ้นสังโยชน์เหมือนเครื่องหวายสิ้นอายุ สัทธรรมลำดับที่ : 652 ชื่อบทธรรม :- เมื่อสิ้นสังโยชน์เหมือนเครื่องหวายสิ้นอายุ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=652 เนื้อความทั้งหมด :- --เมื่อสิ้นสังโยชน์เหมือนเครื่องหวายสิ้นอายุ --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนเรือเดินสมุทรที่มีเครื่องผูกทำด้วยหวาย อยู่ในน้ำตลอดหกเดือนแล้ว เขายกขึ้นบกในฤดูหนาว เครื่องผูกเหล่านั้นผึ่งอยู่กับลมและแดด ชุ่มแฉะอยู่ด้วยหมอกอันชื้น ย่อมยุบตัว เปื่อยพังไปโดยไม่ยากเลย, นี้ ฉันใด ; --ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุตามประกอบการเจริญภาวนาอยู่ #สังโยชน์(สญฺโญ)​ทั้งหลาย (ซึ่งเสมือนเครื่องหวายที่อบอยู่กับแดดลมและความชื้น) ย่อมระงับลง ๆ กระทั่งสูญเสียไป ฉันนั้นเหมือนกัน.- http://etipitaka.com/read/pali/23/129/?keywords=สญฺโญชนานิ (*--ท่านพุทธทาสอธิบายความว่า เป็นที่น่าสังเกตว่า พระพุทธองค์ทรงมีถิ่นฐานอยู่ทางภาคเหนือของอินเดีย ซึ่งดูตามแผนที่แล้ว จะไม่มีโอกาสเกี่ยวข้องกับทะเล แต่ก็ยังทรงทราบเรื่องเรือเดินทะเล, เป็นบุคคลในระดับกษัตริย์ ก็ยังทรงรู้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ของชาวบ้าน เช่นหวายที่ผูกเรือแพเดินทะเลสิ้นอายุผุพังไปตามฤดูกาลได้ ; แสดงว่าทรงมีพื้นเพแห่งสติปัญญาสมกับที่จะเป็นพระพุทธเจ้าเสียจริงๆ --*). #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. 23/126/68. http://etipitaka.com/read/thai/23/98/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. ๒๓/๑๒๖/๖๘. http://etipitaka.com/read/pali/23/126/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=652 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=45&id=652 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=45 ลำดับสาธยายธรรม : 45 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_45.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - เมื่อสังโยชน์เหมือนเครื่องหวายสิ้นอายุ
    -เมื่อสังโยชน์เหมือนเครื่องหวายสิ้นอายุ ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนเรือเดินสมุทรที่มีเครื่องผูกทำด้วยหวายอยู่ในน้ำตลอดหกเดือนแล้ว เขายกขึ้นบกในฤดูหนาว เครื่องผูกเหล่านั้นผึ่งอยู่กับลมและแดด ชุ่มแฉะอยู่ด้วยหมอกอันชื้น ย่อมยุบตัว เปื่อยพังไปโดยไม่ยากเลย, นี้ ฉันใด ; ภิกษุ ท. ! เมื่อภิกษุตามประกอบการเจริญภาวนาอยู่ สังโยชน์ ทั้งหลาย (ซึ่งเสมือนเครื่องหวายที่อบอยู่กับแดดลมและความชื้น) ย่อมระงับลง ๆ กระทั่งสูญเสียไป ฉันนั้นเหมือนกัน.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..การแสดงกำลังจะเริ่มอีกครั้งและนี้คือฉากจบ ,กินข้าวโพดคั่วกันระหว่างหนังดูหนัง,ทั้งในอเมริกาและในไทย.
    ..ความหมายของทรัมป์ คนดีๆนั่งกินป๊อบคอร์นกันให้สบายๆมั้ง,ทำใจให้โล่งๆ,มีอะไรพอดีพอทำพอดำรงชีวิตให้รอดไปก่อนก็พอ,พ้นนีัมีแต่ความร่ำรวยมั่งคั่งสงบสุขสันติกันทุกๆคนและทั่วโลก,คนชั่วเลวในระบบเก่ากำลังถูกลงโทษกวาดล้างเก็บกวาดในทุกๆประเทศทั่วโลกนั้นเอง,คณะผู้นำผิวโลกได้ลงนามกับสภากาแลกติกจักรวาลแล้ว,ช้ากว่านี้จะลงมากำจัดเอง,และจะไม่อ่อนโยนใดๆแก่ญาติใครหน้าไหนแบบปัจจุบันนี้เปิดเมตตากรุณาชี้ช่องช่วยให้ด้วย.
    ..การแสดงกำลังจะเริ่มอีกครั้งและนี้คือฉากจบ ,กินข้าวโพดคั่วกันระหว่างหนังดูหนัง,ทั้งในอเมริกาและในไทย. ..ความหมายของทรัมป์ คนดีๆนั่งกินป๊อบคอร์นกันให้สบายๆมั้ง,ทำใจให้โล่งๆ,มีอะไรพอดีพอทำพอดำรงชีวิตให้รอดไปก่อนก็พอ,พ้นนีัมีแต่ความร่ำรวยมั่งคั่งสงบสุขสันติกันทุกๆคนและทั่วโลก,คนชั่วเลวในระบบเก่ากำลังถูกลงโทษกวาดล้างเก็บกวาดในทุกๆประเทศทั่วโลกนั้นเอง,คณะผู้นำผิวโลกได้ลงนามกับสภากาแลกติกจักรวาลแล้ว,ช้ากว่านี้จะลงมากำจัดเอง,และจะไม่อ่อนโยนใดๆแก่ญาติใครหน้าไหนแบบปัจจุบันนี้เปิดเมตตากรุณาชี้ช่องช่วยให้ด้วย.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ⚡ Qualcomm อาจเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 3 สองเวอร์ชัน เพื่อลดต้นทุนการผลิต
    Qualcomm กำลังพิจารณา เปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 3 สองเวอร์ชัน เนื่องจาก ต้นทุนการผลิตเวเฟอร์ 2nm สูงถึง $30,000 ต่อหน่วย ทำให้ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนบางรายไม่สามารถใช้ชิปตัวท็อปได้

    Qualcomm อาจใช้ กลยุทธ์เดียวกับ Apple ที่เปิดตัว A18 และ A18 Pro โดยแบ่งชิปเป็น รุ่น SM8950 สำหรับเรือธง และรุ่น SM8945 ที่มีสเปกลดลง

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Qualcomm อาจเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 3 สองเวอร์ชัน เพื่อลดต้นทุนการผลิต
    - TSMC เริ่มรับคำสั่งซื้อเวเฟอร์ 2nm ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2025 โดยมีราคาสูงถึง $30,000 ต่อหน่วย
    - SM8950 จะเป็นรุ่นเรือธงที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
    - SM8945 อาจมีสเปกลดลง เช่น ลดขนาดแคชและลดความเร็วของ CPU/GPU
    - Qualcomm อาจใช้กลยุทธ์ dual-sourcing โดยร่วมมือกับ Samsung เพื่อผลิตบางส่วนของ Snapdragon 8 Elite Gen 3

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิปเซ็ต
    Samsung กำลังพยายามเพิ่มอัตราผลิตของกระบวนการ 2nm GAA เป็น 50% เพื่อให้สามารถ แข่งขันกับ TSMC และดึงดูดลูกค้าอย่าง Qualcomm

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ต้นทุนการผลิตเวเฟอร์ 2nm สูงมาก อาจทำให้ราคาสมาร์ทโฟนระดับเรือธงเพิ่มขึ้น
    - Samsung ยังมีปัญหาเรื่องอัตราผลิตต่ำ ซึ่งอาจส่งผลต่อการผลิต Snapdragon 8 Elite Gen 3
    - ต้องติดตามว่า Qualcomm จะเลือกใช้ Samsung เป็นผู้ผลิตชิปบางส่วนหรือไม่
    - ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องเลือกใช้รุ่น SM8945 ที่มีสเปกลดลงเพื่อลดต้นทุน

    🚀 อนาคตของ Snapdragon 8 Elite Gen 3
    Qualcomm ต้องตัดสินใจว่าจะใช้ TSMC หรือ Samsung เป็นผู้ผลิตหลัก และ ต้องติดตามว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะเลือกใช้รุ่นเรือธงหรือรุ่นที่มีสเปกลดลง

    https://wccftech.com/snapdragon-8-elite-gen-3-coming-in-two-version-to-give-qualcomm-partners-choices/
    ⚡ Qualcomm อาจเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 3 สองเวอร์ชัน เพื่อลดต้นทุนการผลิต Qualcomm กำลังพิจารณา เปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 3 สองเวอร์ชัน เนื่องจาก ต้นทุนการผลิตเวเฟอร์ 2nm สูงถึง $30,000 ต่อหน่วย ทำให้ ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนบางรายไม่สามารถใช้ชิปตัวท็อปได้ Qualcomm อาจใช้ กลยุทธ์เดียวกับ Apple ที่เปิดตัว A18 และ A18 Pro โดยแบ่งชิปเป็น รุ่น SM8950 สำหรับเรือธง และรุ่น SM8945 ที่มีสเปกลดลง ✅ ข้อมูลจากข่าว - Qualcomm อาจเปิดตัว Snapdragon 8 Elite Gen 3 สองเวอร์ชัน เพื่อลดต้นทุนการผลิต - TSMC เริ่มรับคำสั่งซื้อเวเฟอร์ 2nm ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2025 โดยมีราคาสูงถึง $30,000 ต่อหน่วย - SM8950 จะเป็นรุ่นเรือธงที่มีประสิทธิภาพสูงสุด - SM8945 อาจมีสเปกลดลง เช่น ลดขนาดแคชและลดความเร็วของ CPU/GPU - Qualcomm อาจใช้กลยุทธ์ dual-sourcing โดยร่วมมือกับ Samsung เพื่อผลิตบางส่วนของ Snapdragon 8 Elite Gen 3 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมชิปเซ็ต Samsung กำลังพยายามเพิ่มอัตราผลิตของกระบวนการ 2nm GAA เป็น 50% เพื่อให้สามารถ แข่งขันกับ TSMC และดึงดูดลูกค้าอย่าง Qualcomm ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ต้นทุนการผลิตเวเฟอร์ 2nm สูงมาก อาจทำให้ราคาสมาร์ทโฟนระดับเรือธงเพิ่มขึ้น - Samsung ยังมีปัญหาเรื่องอัตราผลิตต่ำ ซึ่งอาจส่งผลต่อการผลิต Snapdragon 8 Elite Gen 3 - ต้องติดตามว่า Qualcomm จะเลือกใช้ Samsung เป็นผู้ผลิตชิปบางส่วนหรือไม่ - ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอาจต้องเลือกใช้รุ่น SM8945 ที่มีสเปกลดลงเพื่อลดต้นทุน 🚀 อนาคตของ Snapdragon 8 Elite Gen 3 Qualcomm ต้องตัดสินใจว่าจะใช้ TSMC หรือ Samsung เป็นผู้ผลิตหลัก และ ต้องติดตามว่าผู้ผลิตสมาร์ทโฟนจะเลือกใช้รุ่นเรือธงหรือรุ่นที่มีสเปกลดลง https://wccftech.com/snapdragon-8-elite-gen-3-coming-in-two-version-to-give-qualcomm-partners-choices/
    WCCFTECH.COM
    Qualcomm’s Snapdragon 8 Elite Gen 3 Could Arrive In Two Versions, Similar To Apple’s A18 & A18 Pro Releases, As Exorbitant 2nm Wafer Costs Will Force The Company To Offer A Less Expensive Variant
    A rumor claims that the Snapdragon 8 Elite Gen 3 will launch in two versions because the high 2nm wafer cost will mean that Qualcomm will need to offer more options
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ Zettascale อาจต้องใช้พลังงานเทียบเท่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
    AMD ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ แนวโน้มการใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอนาคต โดยคาดการณ์ว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ Zettascale จะต้องใช้พลังงานถึง 500 เมกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับ การใช้ไฟฟ้าของบ้าน 375,000 หลัง

    AMD ระบุว่า หน่วยความจำและระบบระบายความร้อนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น เนื่องจาก AI accelerators ต้องการแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้นและระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - AMD คาดการณ์ว่า Zettascale supercomputers จะต้องใช้พลังงานถึง 500 เมกะวัตต์
    - กราฟแสดงแนวโน้มการใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2035
    - การพัฒนา AI accelerators มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก 2.2 ปี
    - FP128 และ FP64 ให้ความแม่นยำสูง แต่ FP16 และ FP8 มีประโยชน์สำหรับบางงาน
    - Nvidia B200 มี TDP 1,000W และ AMD MI355X มี TDP 1,400W

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และพลังงาน
    รัฐบาลสหรัฐฯ และบริษัทเทคโนโลยี กำลังลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์และฟิวชัน เพื่อรองรับ ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นของศูนย์ข้อมูล AI

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - การใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์อาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2035
    - ต้องติดตามว่าการลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์จะสามารถรองรับความต้องการของศูนย์ข้อมูล AI ได้หรือไม่
    - บริษัทเทคโนโลยีต้องพัฒนาโซลูชันที่ช่วยลดการใช้พลังงานของ AI accelerators
    - ต้องรอดูว่า Nvidia และ AMD จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ AI accelerators โดยไม่เพิ่มการใช้พลังงานมากเกินไป

    แม้ว่าการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้น แต่การพัฒนา AI accelerators และระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อาจช่วยให้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้โดยใช้พลังงานน้อยลงในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-says-zettascale-supercomputers-will-need-half-a-gigawatt-to-operate-enough-for-375-000-homes
    ⚡ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ Zettascale อาจต้องใช้พลังงานเทียบเท่าโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ AMD ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับ แนวโน้มการใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในอนาคต โดยคาดการณ์ว่า ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ระดับ Zettascale จะต้องใช้พลังงานถึง 500 เมกะวัตต์ ซึ่งเทียบเท่ากับ การใช้ไฟฟ้าของบ้าน 375,000 หลัง AMD ระบุว่า หน่วยความจำและระบบระบายความร้อนเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้การใช้พลังงานเพิ่มขึ้น เนื่องจาก AI accelerators ต้องการแบนด์วิดท์ที่สูงขึ้นและระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ✅ ข้อมูลจากข่าว - AMD คาดการณ์ว่า Zettascale supercomputers จะต้องใช้พลังงานถึง 500 เมกะวัตต์ - กราฟแสดงแนวโน้มการใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์ตั้งแต่ปี 2010 ถึง 2035 - การพัฒนา AI accelerators มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 2 เท่าทุก 2.2 ปี - FP128 และ FP64 ให้ความแม่นยำสูง แต่ FP16 และ FP8 มีประโยชน์สำหรับบางงาน - Nvidia B200 มี TDP 1,000W และ AMD MI355X มี TDP 1,400W 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และพลังงาน รัฐบาลสหรัฐฯ และบริษัทเทคโนโลยี กำลังลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์และฟิวชัน เพื่อรองรับ ความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นของศูนย์ข้อมูล AI ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - การใช้พลังงานของซูเปอร์คอมพิวเตอร์อาจเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปี 2035 - ต้องติดตามว่าการลงทุนในพลังงานนิวเคลียร์จะสามารถรองรับความต้องการของศูนย์ข้อมูล AI ได้หรือไม่ - บริษัทเทคโนโลยีต้องพัฒนาโซลูชันที่ช่วยลดการใช้พลังงานของ AI accelerators - ต้องรอดูว่า Nvidia และ AMD จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของ AI accelerators โดยไม่เพิ่มการใช้พลังงานมากเกินไป แม้ว่าการใช้พลังงานจะเพิ่มขึ้น แต่การพัฒนา AI accelerators และระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น อาจช่วยให้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์สามารถทำงานได้โดยใช้พลังงานน้อยลงในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/amd-says-zettascale-supercomputers-will-need-half-a-gigawatt-to-operate-enough-for-375-000-homes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌍 Nvidia สร้างคลาวด์ AI อุตสาหกรรมแห่งแรกของโลกในเยอรมนี
    Nvidia ประกาศสร้าง คลาวด์ AI อุตสาหกรรมแห่งแรกของโลก ในยุโรป โดยตั้งอยู่ใน เยอรมนี เพื่อช่วยให้ ผู้ผลิตสามารถใช้ AI ในการออกแบบ วิศวกรรม การวางแผน การจำลอง และหุ่นยนต์

    โครงการนี้จะใช้ 10,000 GPUs รวมถึง DGX B200 และ RTX Pro Servers เพื่อรองรับ CUDA-X libraries และ Omniverse-accelerated workloads

    ✅ ข้อมูลจากข่าว
    - Nvidia สร้างคลาวด์ AI อุตสาหกรรมแห่งแรกของโลกในเยอรมนี
    - ใช้ 10,000 GPUs รวมถึง DGX B200 และ RTX Pro Servers
    - รองรับ CUDA-X libraries และ Omniverse-accelerated workloads
    - ผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น BMW, Maserati และ Mercedes-Benz จะใช้โครงสร้างพื้นฐานนี้
    - โครงการนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ AI gigafactories ในยุโรป

    🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และการผลิต
    Nvidia เชื่อว่า ผู้ผลิตต้องมีโรงงานสองแห่ง—หนึ่งสำหรับการผลิต และอีกหนึ่งสำหรับการสร้าง AI ที่ขับเคลื่อนการผลิต

    ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ยังไม่มีข้อมูลว่าใครเป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนโครงการนี้
    - ต้องติดตามว่าโครงการนี้จะช่วยให้ยุโรปแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีนในด้าน AI ได้หรือไม่
    - การใช้ AI ในอุตสาหกรรมต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่เข้มงวด
    - ต้องรอดูว่า Nvidia จะขยายโครงการนี้ไปยังภูมิภาคอื่น ๆ หรือไม่

    🚀 อนาคตของ AI ในยุโรป
    Nvidia กำลัง ผลักดันให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางของ AI อุตสาหกรรม โดยโครงการนี้อาจช่วยให้ บริษัทต่าง ๆ สามารถพัฒนา AI ที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-is-building-the-worlds-first-industrial-ai-cloud-german-facility-to-leverage-10-000-gpus-dgx-b200-and-rtx-pro-servers
    🌍 Nvidia สร้างคลาวด์ AI อุตสาหกรรมแห่งแรกของโลกในเยอรมนี Nvidia ประกาศสร้าง คลาวด์ AI อุตสาหกรรมแห่งแรกของโลก ในยุโรป โดยตั้งอยู่ใน เยอรมนี เพื่อช่วยให้ ผู้ผลิตสามารถใช้ AI ในการออกแบบ วิศวกรรม การวางแผน การจำลอง และหุ่นยนต์ โครงการนี้จะใช้ 10,000 GPUs รวมถึง DGX B200 และ RTX Pro Servers เพื่อรองรับ CUDA-X libraries และ Omniverse-accelerated workloads ✅ ข้อมูลจากข่าว - Nvidia สร้างคลาวด์ AI อุตสาหกรรมแห่งแรกของโลกในเยอรมนี - ใช้ 10,000 GPUs รวมถึง DGX B200 และ RTX Pro Servers - รองรับ CUDA-X libraries และ Omniverse-accelerated workloads - ผู้ผลิตรายใหญ่ เช่น BMW, Maserati และ Mercedes-Benz จะใช้โครงสร้างพื้นฐานนี้ - โครงการนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ AI gigafactories ในยุโรป 🔥 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI และการผลิต Nvidia เชื่อว่า ผู้ผลิตต้องมีโรงงานสองแห่ง—หนึ่งสำหรับการผลิต และอีกหนึ่งสำหรับการสร้าง AI ที่ขับเคลื่อนการผลิต ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ยังไม่มีข้อมูลว่าใครเป็นผู้ให้ทุนสนับสนุนโครงการนี้ - ต้องติดตามว่าโครงการนี้จะช่วยให้ยุโรปแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีนในด้าน AI ได้หรือไม่ - การใช้ AI ในอุตสาหกรรมต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยข้อมูลที่เข้มงวด - ต้องรอดูว่า Nvidia จะขยายโครงการนี้ไปยังภูมิภาคอื่น ๆ หรือไม่ 🚀 อนาคตของ AI ในยุโรป Nvidia กำลัง ผลักดันให้ยุโรปเป็นศูนย์กลางของ AI อุตสาหกรรม โดยโครงการนี้อาจช่วยให้ บริษัทต่าง ๆ สามารถพัฒนา AI ที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-is-building-the-worlds-first-industrial-ai-cloud-german-facility-to-leverage-10-000-gpus-dgx-b200-and-rtx-pro-servers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts