• Hashcards: เครื่องมือทบทวนความรู้แบบเรียบง่าย

    บทความจาก borretti.me แนะนำ Hashcards ซึ่งเป็นระบบ Spaced Repetition ที่ใช้ไฟล์ Plain Text ในการจัดเก็บข้อมูลการ์ดคำถาม-คำตอบ ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและแก้ไขได้ง่ายโดยไม่ต้องพึ่งพาโปรแกรมซับซ้อนหรือฐานข้อมูลปิด การออกแบบนี้ช่วยให้ผู้เรียนสามารถใช้เครื่องมือใดก็ได้ที่รองรับข้อความธรรมดา เช่น Git หรือโปรแกรมแก้ไขข้อความทั่วไป

    จุดเด่นของ Hashcards
    Hashcards ถูกออกแบบมาเพื่อความโปร่งใสและความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถดูและแก้ไขข้อมูลการ์ดได้โดยตรง ไม่ต้องกังวลเรื่องการล็อกอินหรือการผูกติดกับแพลตฟอร์มใดๆ อีกทั้งยังสามารถซิงก์ไฟล์กับระบบควบคุมเวอร์ชัน เช่น Git เพื่อเก็บประวัติการเรียนรู้และแชร์กับผู้อื่นได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีการใช้ อัลกอริทึม Spaced Repetition ที่ช่วยให้การทบทวนมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเน้นการทบทวนในช่วงเวลาที่เหมาะสม

    หลักการสำคัญของ Spaced Repetition
    Spacing Effect: งานวิจัยด้านจิตวิทยาพบว่า การทบทวนข้อมูลแบบเว้นระยะ (เช่น 1 วัน, 3 วัน, 1 สัปดาห์) จะช่วยให้สมองจดจำได้ดีกว่าการท่องจำติดกันในช่วงสั้นๆ
    Active Recall: การดึงข้อมูลออกมาใช้จริง เช่น การตอบคำถามหรือทำแฟลชการ์ด จะช่วยให้สมองสร้างการเชื่อมโยงที่แข็งแรงกว่าการอ่านซ้ำเฉยๆ
    Feedback: แอปมักให้ผลตอบกลับทันทีว่าคุณจำถูกหรือผิด ซึ่งช่วยปรับการเรียนรู้ให้แม่นยำขึ้น
    Prioritization: เน้นทบทวนสิ่งที่จำยากบ่อยกว่า ส่วนสิ่งที่จำได้แล้วจะถูกเลื่อนออกไปทบทวนห่างขึ้น

    ความแตกต่างจากระบบปิด
    ต่างจากแอป Spaced Repetition ที่นิยมอย่าง Anki หรือ Quizlet ซึ่งมักใช้ฐานข้อมูลเฉพาะและมีข้อจำกัดในการเข้าถึง Hashcards เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสียข้อมูลหากแพลตฟอร์มปิดตัวลง อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปแบบการเรียนรู้ได้ตามความต้องการ โดยไม่ถูกจำกัดด้วย UI หรือฟีเจอร์ที่ตายตัว

    ผลกระทบต่อการเรียนรู้และชุมชน
    Hashcards เป็นตัวอย่างของการนำแนวคิดโอเพ่นซอร์สมาประยุกต์ใช้กับการศึกษา ทำให้ผู้เรียนสามารถสร้างระบบทบทวนที่เหมาะกับตนเองได้จริง และยังเปิดโอกาสให้ชุมชนร่วมกันพัฒนา ปรับปรุง หรือแชร์ชุดการ์ดความรู้ได้อย่างอิสระ ถือเป็นการคืนอำนาจการเรียนรู้ให้กับผู้ใช้โดยตรง

    สรุปสาระสำคัญ
    คุณสมบัติของ Hashcards
    ใช้ Plain Text ในการจัดเก็บข้อมูล
    รองรับการซิงก์กับ Git และเครื่องมือทั่วไป

    ข้อดีของระบบ
    โปร่งใสและยืดหยุ่น
    ไม่ผูกติดกับแพลตฟอร์มใดๆ
    ใช้อัลกอริทึม Spaced Repetition เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้

    ข้อควรระวัง
    ต้องการความเข้าใจพื้นฐานด้านการจัดการไฟล์และข้อความ
    อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ UI สำเร็จรูปและใช้งานง่ายทันที

    https://borretti.me/article/hashcards-plain-text-spaced-repetition
    📝 Hashcards: เครื่องมือทบทวนความรู้แบบเรียบง่าย บทความจาก borretti.me แนะนำ Hashcards ซึ่งเป็นระบบ Spaced Repetition ที่ใช้ไฟล์ Plain Text ในการจัดเก็บข้อมูลการ์ดคำถาม-คำตอบ ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและแก้ไขได้ง่ายโดยไม่ต้องพึ่งพาโปรแกรมซับซ้อนหรือฐานข้อมูลปิด การออกแบบนี้ช่วยให้ผู้เรียนสามารถใช้เครื่องมือใดก็ได้ที่รองรับข้อความธรรมดา เช่น Git หรือโปรแกรมแก้ไขข้อความทั่วไป ⚡ จุดเด่นของ Hashcards Hashcards ถูกออกแบบมาเพื่อความโปร่งใสและความยืดหยุ่น ผู้ใช้สามารถดูและแก้ไขข้อมูลการ์ดได้โดยตรง ไม่ต้องกังวลเรื่องการล็อกอินหรือการผูกติดกับแพลตฟอร์มใดๆ อีกทั้งยังสามารถซิงก์ไฟล์กับระบบควบคุมเวอร์ชัน เช่น Git เพื่อเก็บประวัติการเรียนรู้และแชร์กับผู้อื่นได้ง่าย นอกจากนี้ยังมีการใช้ อัลกอริทึม Spaced Repetition ที่ช่วยให้การทบทวนมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเน้นการทบทวนในช่วงเวลาที่เหมาะสม 🧠 หลักการสำคัญของ Spaced Repetition 💠 Spacing Effect: งานวิจัยด้านจิตวิทยาพบว่า การทบทวนข้อมูลแบบเว้นระยะ (เช่น 1 วัน, 3 วัน, 1 สัปดาห์) จะช่วยให้สมองจดจำได้ดีกว่าการท่องจำติดกันในช่วงสั้นๆ 💠 Active Recall: การดึงข้อมูลออกมาใช้จริง เช่น การตอบคำถามหรือทำแฟลชการ์ด จะช่วยให้สมองสร้างการเชื่อมโยงที่แข็งแรงกว่าการอ่านซ้ำเฉยๆ 💠 Feedback: แอปมักให้ผลตอบกลับทันทีว่าคุณจำถูกหรือผิด ซึ่งช่วยปรับการเรียนรู้ให้แม่นยำขึ้น 💠 Prioritization: เน้นทบทวนสิ่งที่จำยากบ่อยกว่า ส่วนสิ่งที่จำได้แล้วจะถูกเลื่อนออกไปทบทวนห่างขึ้น 🔒 ความแตกต่างจากระบบปิด ต่างจากแอป Spaced Repetition ที่นิยมอย่าง Anki หรือ Quizlet ซึ่งมักใช้ฐานข้อมูลเฉพาะและมีข้อจำกัดในการเข้าถึง Hashcards เปิดโอกาสให้ผู้ใช้ควบคุมข้อมูลได้เต็มที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสียข้อมูลหากแพลตฟอร์มปิดตัวลง อีกทั้งยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับแต่งรูปแบบการเรียนรู้ได้ตามความต้องการ โดยไม่ถูกจำกัดด้วย UI หรือฟีเจอร์ที่ตายตัว 🌍 ผลกระทบต่อการเรียนรู้และชุมชน Hashcards เป็นตัวอย่างของการนำแนวคิดโอเพ่นซอร์สมาประยุกต์ใช้กับการศึกษา ทำให้ผู้เรียนสามารถสร้างระบบทบทวนที่เหมาะกับตนเองได้จริง และยังเปิดโอกาสให้ชุมชนร่วมกันพัฒนา ปรับปรุง หรือแชร์ชุดการ์ดความรู้ได้อย่างอิสระ ถือเป็นการคืนอำนาจการเรียนรู้ให้กับผู้ใช้โดยตรง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ คุณสมบัติของ Hashcards ➡️ ใช้ Plain Text ในการจัดเก็บข้อมูล ➡️ รองรับการซิงก์กับ Git และเครื่องมือทั่วไป ✅ ข้อดีของระบบ ➡️ โปร่งใสและยืดหยุ่น ➡️ ไม่ผูกติดกับแพลตฟอร์มใดๆ ➡️ ใช้อัลกอริทึม Spaced Repetition เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ต้องการความเข้าใจพื้นฐานด้านการจัดการไฟล์และข้อความ ⛔ อาจไม่เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการ UI สำเร็จรูปและใช้งานง่ายทันที https://borretti.me/article/hashcards-plain-text-spaced-repetition
    BORRETTI.ME
    Hashcards: A Plain-Text Spaced Repetition System
    Announcing my latest open-source project.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • Adafruit โต้ Arduino หลังเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานใหม่ที่ถูกมองว่า “ไม่สอดคล้องกับโอเพ่นซอร์ส”

    หลังจากที่ Arduino ถูก Qualcomm เข้าซื้อกิจการเมื่อเดือนตุลาคม 2025 บริษัทได้ปรับปรุง Terms and Conditions ใหม่ ซึ่งรวมถึงการห้ามผู้ใช้ทำการ Reverse Engineering บริการคลาวด์, การกำหนดสิทธิ์การใช้งานแบบถาวรเหนือเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด และการเพิ่มระบบตรวจสอบการใช้งาน AI ภายในแพลตฟอร์ม ข้อกำหนดเหล่านี้สร้างความไม่พอใจในชุมชนโอเพ่นซอร์ส โดยเฉพาะคู่แข่งอย่าง Adafruit ที่มองว่ากฎใหม่เป็นการจำกัดเสรีภาพของผู้ใช้

    มุมมองจาก Arduino และ Adafruit
    Arduino ชี้แจงว่าการห้าม Reverse Engineering ใช้เฉพาะกับ บริการ SaaS บนคลาวด์ ไม่ได้กระทบกับบอร์ดหรือเฟิร์มแวร์ที่ยังคงเปิดซอร์สเหมือนเดิม ขณะที่ Adafruit โดยผู้ก่อตั้ง Limor “Ladyada” Fried โต้ว่า การบังคับให้ผู้ใช้พึ่งพาเครื่องมือบนคลาวด์เป็นการจำกัดทางเลือก และทำให้การอ้างว่า “ยังคงโอเพ่นซอร์ส” ไม่สมบูรณ์ เพราะผู้ใช้ใหม่จำนวนมากถูกบังคับให้ใช้เครื่องมือออนไลน์เป็นหลัก

    ประเด็นด้านสิทธิ์และข้อมูลผู้ใช้
    หนึ่งในข้อถกเถียงใหญ่คือการที่ Arduino กำหนดสิทธิ์การใช้งานแบบ Irrevocable License เหนือเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด เช่น โค้ดหรือโปรเจกต์ แม้ Arduino ยืนยันว่าผู้ใช้ยังคงเป็นเจ้าของเนื้อหา แต่สิทธิ์ที่ให้บริษัทถือครองอย่างถาวรทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะถูกนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์โดยไม่สามารถเพิกถอนได้ นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเรื่องการเก็บข้อมูลผู้ใช้และการตรวจสอบการใช้งาน AI ที่อาจกลายเป็นการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง

    ผลกระทบต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    Adafruit และนักวิจัยจาก EFF เตือนว่าการเพิ่มข้อจำกัดเช่นนี้อาจทำให้ Arduino สูญเสียความเชื่อมั่นจากชุมชนผู้พัฒนาและนักเรียนที่เคยใช้บอร์ด Arduino เป็นสัญลักษณ์ของการเรียนรู้แบบเปิด หากบริษัทต้องการควบคุมการใช้งานมากขึ้น ควรซื่อสัตย์และประกาศว่าเป็น “Source-Available” ไม่ใช่โอเพ่นซอร์สอย่างแท้จริง

    สรุปสาระสำคัญ
    การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของ Arduino
    ห้าม Reverse Engineering บริการคลาวด์
    กำหนดสิทธิ์การใช้งานถาวรเหนือเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด
    เพิ่มระบบตรวจสอบการใช้งาน AI

    การชี้แจงจาก Arduino
    ยืนยันว่าบอร์ดและเฟิร์มแวร์ยังคงเปิดซอร์ส
    การห้าม Reverse Engineering ใช้เฉพาะบริการ SaaS

    ข้อกังวลจาก Adafruit และชุมชน
    ผู้ใช้ใหม่ถูกบังคับให้ใช้เครื่องมือคลาวด์เป็นหลัก
    สิทธิ์การใช้งานถาวรอาจนำไปสู่การใช้ข้อมูลเชิงพาณิชย์
    การตรวจสอบ AI อาจกลายเป็นการเฝ้าระวังต่อเนื่อง

    ผลกระทบต่ออนาคตโอเพ่นซอร์ส
    เสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นจากผู้พัฒนาและนักเรียน
    อาจต้องเปลี่ยนการนิยามเป็น “Source-Available” แทนโอเพ่นซอร์ส

    https://thenewstack.io/adafruit-arduinos-rules-are-incompatible-with-open-source/
    ⚡ Adafruit โต้ Arduino หลังเปลี่ยนเงื่อนไขการใช้งานใหม่ที่ถูกมองว่า “ไม่สอดคล้องกับโอเพ่นซอร์ส” หลังจากที่ Arduino ถูก Qualcomm เข้าซื้อกิจการเมื่อเดือนตุลาคม 2025 บริษัทได้ปรับปรุง Terms and Conditions ใหม่ ซึ่งรวมถึงการห้ามผู้ใช้ทำการ Reverse Engineering บริการคลาวด์, การกำหนดสิทธิ์การใช้งานแบบถาวรเหนือเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด และการเพิ่มระบบตรวจสอบการใช้งาน AI ภายในแพลตฟอร์ม ข้อกำหนดเหล่านี้สร้างความไม่พอใจในชุมชนโอเพ่นซอร์ส โดยเฉพาะคู่แข่งอย่าง Adafruit ที่มองว่ากฎใหม่เป็นการจำกัดเสรีภาพของผู้ใช้ 🧩 มุมมองจาก Arduino และ Adafruit Arduino ชี้แจงว่าการห้าม Reverse Engineering ใช้เฉพาะกับ บริการ SaaS บนคลาวด์ ไม่ได้กระทบกับบอร์ดหรือเฟิร์มแวร์ที่ยังคงเปิดซอร์สเหมือนเดิม ขณะที่ Adafruit โดยผู้ก่อตั้ง Limor “Ladyada” Fried โต้ว่า การบังคับให้ผู้ใช้พึ่งพาเครื่องมือบนคลาวด์เป็นการจำกัดทางเลือก และทำให้การอ้างว่า “ยังคงโอเพ่นซอร์ส” ไม่สมบูรณ์ เพราะผู้ใช้ใหม่จำนวนมากถูกบังคับให้ใช้เครื่องมือออนไลน์เป็นหลัก 🔒 ประเด็นด้านสิทธิ์และข้อมูลผู้ใช้ หนึ่งในข้อถกเถียงใหญ่คือการที่ Arduino กำหนดสิทธิ์การใช้งานแบบ Irrevocable License เหนือเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด เช่น โค้ดหรือโปรเจกต์ แม้ Arduino ยืนยันว่าผู้ใช้ยังคงเป็นเจ้าของเนื้อหา แต่สิทธิ์ที่ให้บริษัทถือครองอย่างถาวรทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะถูกนำไปใช้ในเชิงพาณิชย์โดยไม่สามารถเพิกถอนได้ นอกจากนี้ยังมีข้อกังวลเรื่องการเก็บข้อมูลผู้ใช้และการตรวจสอบการใช้งาน AI ที่อาจกลายเป็นการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง 🌍 ผลกระทบต่อชุมชนโอเพ่นซอร์ส Adafruit และนักวิจัยจาก EFF เตือนว่าการเพิ่มข้อจำกัดเช่นนี้อาจทำให้ Arduino สูญเสียความเชื่อมั่นจากชุมชนผู้พัฒนาและนักเรียนที่เคยใช้บอร์ด Arduino เป็นสัญลักษณ์ของการเรียนรู้แบบเปิด หากบริษัทต้องการควบคุมการใช้งานมากขึ้น ควรซื่อสัตย์และประกาศว่าเป็น “Source-Available” ไม่ใช่โอเพ่นซอร์สอย่างแท้จริง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของ Arduino ➡️ ห้าม Reverse Engineering บริการคลาวด์ ➡️ กำหนดสิทธิ์การใช้งานถาวรเหนือเนื้อหาที่ผู้ใช้อัปโหลด ➡️ เพิ่มระบบตรวจสอบการใช้งาน AI ✅ การชี้แจงจาก Arduino ➡️ ยืนยันว่าบอร์ดและเฟิร์มแวร์ยังคงเปิดซอร์ส ➡️ การห้าม Reverse Engineering ใช้เฉพาะบริการ SaaS ‼️ ข้อกังวลจาก Adafruit และชุมชน ⛔ ผู้ใช้ใหม่ถูกบังคับให้ใช้เครื่องมือคลาวด์เป็นหลัก ⛔ สิทธิ์การใช้งานถาวรอาจนำไปสู่การใช้ข้อมูลเชิงพาณิชย์ ⛔ การตรวจสอบ AI อาจกลายเป็นการเฝ้าระวังต่อเนื่อง ✅ ผลกระทบต่ออนาคตโอเพ่นซอร์ส ➡️ เสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นจากผู้พัฒนาและนักเรียน ➡️ อาจต้องเปลี่ยนการนิยามเป็น “Source-Available” แทนโอเพ่นซอร์ส https://thenewstack.io/adafruit-arduinos-rules-are-incompatible-with-open-source/
    THENEWSTACK.IO
    Adafruit: Arduino's Rules Are 'Incompatible With Open Source'
    Arduino has defended the changes, claiming its commitment to open source hardware remains unchanged.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • การรั่วไหลครั้งใหญ่ของฐานข้อมูล MongoDB

    นักวิจัยด้านความปลอดภัย Bob Diachenko ร่วมกับทีมจาก nexos.ai ได้ค้นพบฐานข้อมูล MongoDB ที่ไม่ได้รับการป้องกันเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2025 ฐานข้อมูลนี้มีขนาดมหึมา 16TB และบรรจุข้อมูลกว่า 4.3 พันล้านเรคคอร์ด ซึ่งรวมถึงชื่อ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ประวัติการทำงาน การศึกษา และลิงก์ไปยังโปรไฟล์ LinkedIn ของผู้ใช้จำนวนมหาศาล

    แม้เจ้าของฐานข้อมูลจะรีบปิดการเข้าถึงภายในสองวันหลังถูกแจ้งเตือน แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครได้เข้าถึงข้อมูลไปแล้วบ้าง ข้อมูลที่รั่วไหลถูกแบ่งออกเป็น 9 คอลเลกชัน เช่น “profiles”, “people” และ “unique_profiles” โดยเฉพาะคอลเลกชัน “unique_profiles” ที่มีมากกว่า 732 ล้านเรคคอร์ดพร้อมรูปภาพ

    ความเสี่ยงและผลกระทบ
    นักวิจัย Cybernews ระบุว่าข้อมูลที่รั่วไหลนี้มีโครงสร้างชัดเจนและละเอียดมาก จึงเป็น ขุมทองสำหรับอาชญากรไซเบอร์ เพราะสามารถนำไปใช้สร้างฐานข้อมูลค้นหาเพื่อทำการโจมตีแบบเจาะจง เช่น ฟิชชิ่ง (Phishing) หรือ CEO Fraud ที่เลียนแบบผู้บริหารเพื่อหลอกให้พนักงานโอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ

    นอกจากนี้ยังพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจถูกเก็บมาจากการ Scraping หรือการดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง รวมถึงการรั่วไหลก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2021 ทำให้ยากต่อการระบุเจ้าของที่แท้จริงของฐานข้อมูล แต่มีหลักฐานบางอย่างชี้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับบริษัทด้าน Lead Generation ที่ทำธุรกิจหาลูกค้าให้กับองค์กรต่างๆ

    วิธีป้องกันสำหรับผู้ใช้
    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้ ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน พร้อมเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่ออุดช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตี การรั่วไหลครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่เราฝากไว้กับแพลตฟอร์มออนไลน์อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ทุกเมื่อ

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบฐานข้อมูลรั่วไหล
    ขนาด 16TB มีข้อมูลกว่า 4.3 พันล้านเรคคอร์ด
    รวมชื่อ อีเมล เบอร์โทร ประวัติการทำงาน และ LinkedIn

    รายละเอียดคอลเลกชันข้อมูล
    “profiles” กว่า 1.1 พันล้านเรคคอร์ด
    “unique_profiles” กว่า 732 ล้านเรคคอร์ดพร้อมรูปภาพ

    ความเสี่ยงจากการรั่วไหล
    อาชญากรสามารถใช้ข้อมูลทำฟิชชิ่งและ CEO Fraud
    ข้อมูลอาจถูก Scraping จากหลายแหล่ง ทำให้ระบุเจ้าของยาก

    คำแนะนำด้านความปลอดภัย
    ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน
    เปิดใช้งาน 2FA และอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ

    https://hackread.com/mongodb-database-expose-lead-gen-records/
    🔐 การรั่วไหลครั้งใหญ่ของฐานข้อมูล MongoDB นักวิจัยด้านความปลอดภัย Bob Diachenko ร่วมกับทีมจาก nexos.ai ได้ค้นพบฐานข้อมูล MongoDB ที่ไม่ได้รับการป้องกันเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2025 ฐานข้อมูลนี้มีขนาดมหึมา 16TB และบรรจุข้อมูลกว่า 4.3 พันล้านเรคคอร์ด ซึ่งรวมถึงชื่อ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ ประวัติการทำงาน การศึกษา และลิงก์ไปยังโปรไฟล์ LinkedIn ของผู้ใช้จำนวนมหาศาล แม้เจ้าของฐานข้อมูลจะรีบปิดการเข้าถึงภายในสองวันหลังถูกแจ้งเตือน แต่ก็ไม่สามารถยืนยันได้ว่าใครได้เข้าถึงข้อมูลไปแล้วบ้าง ข้อมูลที่รั่วไหลถูกแบ่งออกเป็น 9 คอลเลกชัน เช่น “profiles”, “people” และ “unique_profiles” โดยเฉพาะคอลเลกชัน “unique_profiles” ที่มีมากกว่า 732 ล้านเรคคอร์ดพร้อมรูปภาพ ⚠️ ความเสี่ยงและผลกระทบ นักวิจัย Cybernews ระบุว่าข้อมูลที่รั่วไหลนี้มีโครงสร้างชัดเจนและละเอียดมาก จึงเป็น ขุมทองสำหรับอาชญากรไซเบอร์ เพราะสามารถนำไปใช้สร้างฐานข้อมูลค้นหาเพื่อทำการโจมตีแบบเจาะจง เช่น ฟิชชิ่ง (Phishing) หรือ CEO Fraud ที่เลียนแบบผู้บริหารเพื่อหลอกให้พนักงานโอนเงินหรือเปิดเผยข้อมูลสำคัญ นอกจากนี้ยังพบว่าข้อมูลบางส่วนอาจถูกเก็บมาจากการ Scraping หรือการดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง รวมถึงการรั่วไหลก่อนหน้านี้ตั้งแต่ปี 2021 ทำให้ยากต่อการระบุเจ้าของที่แท้จริงของฐานข้อมูล แต่มีหลักฐานบางอย่างชี้ว่าอาจเกี่ยวข้องกับบริษัทด้าน Lead Generation ที่ทำธุรกิจหาลูกค้าให้กับองค์กรต่างๆ 🛡️ วิธีป้องกันสำหรับผู้ใช้ ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้ผู้ใช้ ตั้งรหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน พร้อมเปิดใช้งาน Two-Factor Authentication (2FA) เพื่อเพิ่มความปลอดภัย รวมถึงการอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอเพื่ออุดช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตี การรั่วไหลครั้งนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลที่เราฝากไว้กับแพลตฟอร์มออนไลน์อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ทุกเมื่อ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบฐานข้อมูลรั่วไหล ➡️ ขนาด 16TB มีข้อมูลกว่า 4.3 พันล้านเรคคอร์ด ➡️ รวมชื่อ อีเมล เบอร์โทร ประวัติการทำงาน และ LinkedIn ✅ รายละเอียดคอลเลกชันข้อมูล ➡️ “profiles” กว่า 1.1 พันล้านเรคคอร์ด ➡️ “unique_profiles” กว่า 732 ล้านเรคคอร์ดพร้อมรูปภาพ ‼️ ความเสี่ยงจากการรั่วไหล ⛔ อาชญากรสามารถใช้ข้อมูลทำฟิชชิ่งและ CEO Fraud ⛔ ข้อมูลอาจถูก Scraping จากหลายแหล่ง ทำให้ระบุเจ้าของยาก ‼️ คำแนะนำด้านความปลอดภัย ⛔ ใช้รหัสผ่านที่แข็งแรงและไม่ซ้ำกัน ⛔ เปิดใช้งาน 2FA และอัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ https://hackread.com/mongodb-database-expose-lead-gen-records/
    HACKREAD.COM
    16TB of MongoDB Database Exposes 4.3 Billion Lead Gen Records
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • เทคโนโลยีไร้สายในรถ: ความสะดวกที่มาพร้อมข้อจำกัด

    Wireless CarPlay กำลังเป็นที่นิยมในรถยนต์รุ่นใหม่ เพราะช่วยให้ผู้ใช้ เชื่อมต่อ iPhone กับระบบ Infotainment โดยไม่ต้องใช้สาย Lightning เพียงเปิดเครื่องยนต์ โทรศัพท์จะเชื่อมต่ออัตโนมัติทันที ทำให้การใช้งานแอปนำทาง การโทร และการฟังเพลงสะดวกขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ห้องโดยสารดูเรียบร้อย ไม่มีสายระโยงระยางให้รำคาญสายตา

    นอกจากความสะดวกแล้ว Wireless CarPlay ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยเล็กน้อย เพราะลดสิ่งรบกวนสายตาและมือขณะขับรถ ผู้ใช้สามารถเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าโดยไม่ต้องหยิบจับบ่อยๆ ซึ่งถือเป็นข้อดีที่หลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งรีบที่ต้องการการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว

    อย่างไรก็ตาม Wireless CarPlay ก็มีข้อเสียที่ไม่ควรมองข้าม การเชื่อมต่อขึ้นอยู่กับสัญญาณ Wi-Fi หรือ Bluetooth หากสัญญาณไม่เสถียรอาจเกิดอาการหน่วง เสียงกระตุก หรือการหลุดการเชื่อมต่อ ซึ่งสร้างความหงุดหงิดให้ผู้ใช้ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปพื้นที่ห่างไกลที่อินเทอร์เน็ตไม่แรงพอ

    อีกปัญหาสำคัญคือ การใช้พลังงานแบตเตอรี่สูงกว่าการเชื่อมต่อแบบสาย เนื่องจากโทรศัพท์ต้องทำงานผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth ตลอดเวลา ทำให้แบตหมดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดด้านการรองรับ เพราะไม่ใช่รถทุกคันที่ติดตั้ง Wireless CarPlay มาให้ แม้จะมีอุปกรณ์เสริมเช่น Wireless Adapter แต่ก็อาจเจอปัญหาประสิทธิภาพไม่เสถียร

    สรุปสาระสำคัญ
    ข้อดีของ Wireless CarPlay
    เชื่อมต่ออัตโนมัติทันทีเมื่อสตาร์ทรถ
    ลดความยุ่งเหยิงของสาย ทำให้ห้องโดยสารดูเรียบร้อย
    เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย ลดการหยิบจับโทรศัพท์

    ข้อเสียของ Wireless CarPlay
    ขึ้นอยู่กับสัญญาณ Wi-Fi/Bluetooth อาจเกิดการหน่วงหรือหลุดการเชื่อมต่อ
    ใช้พลังงานแบตเตอรี่มากกว่าแบบสาย
    รถบางรุ่นไม่รองรับ ต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่อาจไม่เสถียร

    https://www.slashgear.com/2050302/pros-cons-using-wireless-carplay/
    🚗 เทคโนโลยีไร้สายในรถ: ความสะดวกที่มาพร้อมข้อจำกัด Wireless CarPlay กำลังเป็นที่นิยมในรถยนต์รุ่นใหม่ เพราะช่วยให้ผู้ใช้ เชื่อมต่อ iPhone กับระบบ Infotainment โดยไม่ต้องใช้สาย Lightning เพียงเปิดเครื่องยนต์ โทรศัพท์จะเชื่อมต่ออัตโนมัติทันที ทำให้การใช้งานแอปนำทาง การโทร และการฟังเพลงสะดวกขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้ห้องโดยสารดูเรียบร้อย ไม่มีสายระโยงระยางให้รำคาญสายตา นอกจากความสะดวกแล้ว Wireless CarPlay ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยเล็กน้อย เพราะลดสิ่งรบกวนสายตาและมือขณะขับรถ ผู้ใช้สามารถเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋าโดยไม่ต้องหยิบจับบ่อยๆ ซึ่งถือเป็นข้อดีที่หลายคนชื่นชอบ โดยเฉพาะในช่วงเวลาเร่งรีบที่ต้องการการเชื่อมต่อที่รวดเร็ว อย่างไรก็ตาม Wireless CarPlay ก็มีข้อเสียที่ไม่ควรมองข้าม การเชื่อมต่อขึ้นอยู่กับสัญญาณ Wi-Fi หรือ Bluetooth หากสัญญาณไม่เสถียรอาจเกิดอาการหน่วง เสียงกระตุก หรือการหลุดการเชื่อมต่อ ซึ่งสร้างความหงุดหงิดให้ผู้ใช้ โดยเฉพาะผู้ที่เดินทางไปพื้นที่ห่างไกลที่อินเทอร์เน็ตไม่แรงพอ อีกปัญหาสำคัญคือ การใช้พลังงานแบตเตอรี่สูงกว่าการเชื่อมต่อแบบสาย เนื่องจากโทรศัพท์ต้องทำงานผ่าน Wi-Fi และ Bluetooth ตลอดเวลา ทำให้แบตหมดเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังมีข้อจำกัดด้านการรองรับ เพราะไม่ใช่รถทุกคันที่ติดตั้ง Wireless CarPlay มาให้ แม้จะมีอุปกรณ์เสริมเช่น Wireless Adapter แต่ก็อาจเจอปัญหาประสิทธิภาพไม่เสถียร 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ข้อดีของ Wireless CarPlay ➡️ เชื่อมต่ออัตโนมัติทันทีเมื่อสตาร์ทรถ ➡️ ลดความยุ่งเหยิงของสาย ทำให้ห้องโดยสารดูเรียบร้อย ➡️ เพิ่มความสะดวกและความปลอดภัย ลดการหยิบจับโทรศัพท์ ‼️ ข้อเสียของ Wireless CarPlay ⛔ ขึ้นอยู่กับสัญญาณ Wi-Fi/Bluetooth อาจเกิดการหน่วงหรือหลุดการเชื่อมต่อ ⛔ ใช้พลังงานแบตเตอรี่มากกว่าแบบสาย ⛔ รถบางรุ่นไม่รองรับ ต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่อาจไม่เสถียร https://www.slashgear.com/2050302/pros-cons-using-wireless-carplay/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    The Pros And Cons Of Using Wireless CarPlay - SlashGear
    Wireless CarPlay is safer, more convenient, and helps keep your car interior tidy. However, it's prone to lag and is killer on your iPhone's battery.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • GNOME ปรับนโยบายใหม่ ปฏิเสธโค้ด AI Slop

    ทีมตรวจสอบ Extensions ของ GNOME ประกาศปรับแนวทางการรีวิว โดยจะ ไม่อนุมัติ Extensions ที่มีโค้ดจาก AI โดยตรง หลังพบว่ามีจำนวนมากที่เต็มไปด้วยโค้ดไม่จำเป็น เช่น try-catch block ที่ซ้ำซ้อน หรือการเรียกใช้ API ที่ไม่มีอยู่จริง ทำให้เสียเวลาในการตรวจสอบและเสี่ยงต่อคุณภาพของระบบ

    เหตุผลที่ต้องเข้มงวด
    ผู้ตรวจสอบบางรายเล่าว่า ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการอ่านโค้ดนับหมื่นบรรทัดที่มาจาก AI ซึ่งมักมีสไตล์ไม่สอดคล้องกัน และบางครั้งมีคอมเมนต์ที่ดูเหมือน prompt ของ LLM แทรกอยู่ในโค้ด สิ่งเหล่านี้ทำให้การดูแล ecosystem ของ GNOME ยากขึ้น และอาจเปิดช่องให้เกิดบั๊กหรือช่องโหว่ด้านความปลอดภัย

    อะไรที่ยังอนุญาตได้
    GNOME ยืนยันว่า การใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยเรียนรู้หรือทำ code completion ยังสามารถทำได้ แต่หากนักพัฒนาสร้าง Extensions ทั้งหมดด้วย AI โดยไม่เข้าใจโค้ด จะถูกปฏิเสธทันที แนวทางนี้จึงไม่ใช่การ “แบน AI” แต่เป็นการป้องกันไม่ให้ ecosystem ถูกท่วมด้วยโค้ดคุณภาพต่ำ

    มุมมองจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส
    หลายโครงการโอเพ่นซอร์สเริ่มออกมาตรการคล้ายกัน เพื่อป้องกันไม่ให้โค้ดที่สร้างด้วย AI โดยไม่ตรวจสอบเข้ามาทำลายคุณภาพของระบบ GNOME ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การใช้ AI ต้องมีความรับผิดชอบและความเข้าใจจริง ไม่ใช่เพียงการกดปุ่ม generate แล้วส่งขึ้น repository

    สรุปประเด็นสำคัญ
    นโยบายใหม่ของ GNOME
    ปฏิเสธ Extensions ที่สร้างด้วย AI โดยตรง
    ตรวจพบโค้ดไม่จำเป็นและ API สมมติ

    เหตุผลที่ต้องเข้มงวด
    โค้ดจาก AI ใช้เวลาตรวจสอบมาก
    สไตล์ไม่สอดคล้องและเสี่ยงต่อความปลอดภัย

    สิ่งที่ยังอนุญาต
    ใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยเรียนรู้
    ใช้ AI ทำ code completion ได้

    คำเตือนสำหรับนักพัฒนา
    หากสร้าง Extensions ด้วย AI โดยไม่เข้าใจโค้ด จะถูกปฏิเสธ
    โค้ดคุณภาพต่ำอาจทำลาย ecosystem และเพิ่มภาระให้ทีมตรวจสอบ

    https://itsfoss.com/news/no-ai-extension-gnome/
    🖥️ GNOME ปรับนโยบายใหม่ ปฏิเสธโค้ด AI Slop ทีมตรวจสอบ Extensions ของ GNOME ประกาศปรับแนวทางการรีวิว โดยจะ ไม่อนุมัติ Extensions ที่มีโค้ดจาก AI โดยตรง หลังพบว่ามีจำนวนมากที่เต็มไปด้วยโค้ดไม่จำเป็น เช่น try-catch block ที่ซ้ำซ้อน หรือการเรียกใช้ API ที่ไม่มีอยู่จริง ทำให้เสียเวลาในการตรวจสอบและเสี่ยงต่อคุณภาพของระบบ ⚡ เหตุผลที่ต้องเข้มงวด ผู้ตรวจสอบบางรายเล่าว่า ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงในการอ่านโค้ดนับหมื่นบรรทัดที่มาจาก AI ซึ่งมักมีสไตล์ไม่สอดคล้องกัน และบางครั้งมีคอมเมนต์ที่ดูเหมือน prompt ของ LLM แทรกอยู่ในโค้ด สิ่งเหล่านี้ทำให้การดูแล ecosystem ของ GNOME ยากขึ้น และอาจเปิดช่องให้เกิดบั๊กหรือช่องโหว่ด้านความปลอดภัย 🔒 อะไรที่ยังอนุญาตได้ GNOME ยืนยันว่า การใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยเรียนรู้หรือทำ code completion ยังสามารถทำได้ แต่หากนักพัฒนาสร้าง Extensions ทั้งหมดด้วย AI โดยไม่เข้าใจโค้ด จะถูกปฏิเสธทันที แนวทางนี้จึงไม่ใช่การ “แบน AI” แต่เป็นการป้องกันไม่ให้ ecosystem ถูกท่วมด้วยโค้ดคุณภาพต่ำ 🌍 มุมมองจากชุมชนโอเพ่นซอร์ส หลายโครงการโอเพ่นซอร์สเริ่มออกมาตรการคล้ายกัน เพื่อป้องกันไม่ให้โค้ดที่สร้างด้วย AI โดยไม่ตรวจสอบเข้ามาทำลายคุณภาพของระบบ GNOME ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนว่า การใช้ AI ต้องมีความรับผิดชอบและความเข้าใจจริง ไม่ใช่เพียงการกดปุ่ม generate แล้วส่งขึ้น repository 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ นโยบายใหม่ของ GNOME ➡️ ปฏิเสธ Extensions ที่สร้างด้วย AI โดยตรง ➡️ ตรวจพบโค้ดไม่จำเป็นและ API สมมติ ✅ เหตุผลที่ต้องเข้มงวด ➡️ โค้ดจาก AI ใช้เวลาตรวจสอบมาก ➡️ สไตล์ไม่สอดคล้องและเสี่ยงต่อความปลอดภัย ✅ สิ่งที่ยังอนุญาต ➡️ ใช้ AI เป็นเครื่องมือช่วยเรียนรู้ ➡️ ใช้ AI ทำ code completion ได้ ‼️ คำเตือนสำหรับนักพัฒนา ⛔ หากสร้าง Extensions ด้วย AI โดยไม่เข้าใจโค้ด จะถูกปฏิเสธ ⛔ โค้ดคุณภาพต่ำอาจทำลาย ecosystem และเพิ่มภาระให้ทีมตรวจสอบ https://itsfoss.com/news/no-ai-extension-gnome/
    ITSFOSS.COM
    No AI Slops! GNOME Now Forbids Vibe Coded Extensions
    New policy targets low-quality AI-generated code while still allowing AI as a learning tool.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องมือใหม่ SnapScope ตรวจสอบ Snap Packages

    Snap packages เป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันในชุมชน Linux มานาน ทั้งเรื่องการเปิดโปรแกรมช้า การพึ่งพา Snap Store ที่เป็น proprietary และการที่ dependency ไม่ได้รับการอัปเดตทันเวลา ล่าสุด Alan Pope นักพัฒนาในชุมชน Ubuntu ได้สร้างเครื่องมือชื่อ SnapScope เพื่อแก้ปัญหาด้านความปลอดภัย โดยสามารถสแกนแพ็กเกจ Snap เพื่อหาช่องโหว่ที่มีการบันทึกไว้ในฐานข้อมูล CVE

    วิธีการทำงานของ SnapScope
    ผู้ใช้เพียงแค่ใส่ชื่อแพ็กเกจหรือ publisher ลงในช่องค้นหา SnapScope จะสแกนและแสดงผลช่องโหว่ที่พบ พร้อมแบ่งระดับความรุนแรงเป็น KEV, CRITICAL, HIGH, MEDIUM และ LOW ข้อมูลเหล่านี้ดึงมาจาก Grype ซึ่งเป็น open-source scanner สำหรับ container และ filesystem โดยปัจจุบันรองรับเฉพาะแพ็กเกจ x86_64 แต่มีแผนจะขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่นในอนาคต

    ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
    หน้าแรกของ SnapScope ยังมีกราฟแสดงแพ็กเกจที่ถูกสแกนล่าสุด และแพ็กเกจที่มีจำนวนช่องโหว่มากที่สุด ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถติดตามแนวโน้มความเสี่ยงได้ง่ายขึ้น เครื่องมือนี้ถูกสร้างขึ้นในงาน Chainguard’s Vibelympics ซึ่งเป็นการแข่งขันที่นักพัฒนาสร้างโปรเจกต์สร้างสรรค์เพื่อการกุศล

    ใครควรใช้ SnapScope
    ผู้ดูแลระบบ (Sys Admins): ใช้ตรวจสอบ Snap ที่ติดตั้งในองค์กร
    นักพัฒนา: ตรวจสอบแพ็กเกจที่ดูแลว่ามี CVE ใดต้องแก้ไข
    ผู้ใช้ทั่วไปที่ใส่ใจความปลอดภัย: ตรวจสอบก่อนติดตั้ง Snap ใหม่ ๆ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SnapScope คือเครื่องมือสแกน Snap
    ตรวจสอบช่องโหว่จากฐานข้อมูล CVE
    แสดงผลตามระดับความรุนแรง

    ฟีเจอร์หลัก
    รองรับ x86_64 packages
    ใช้ข้อมูลจาก Grype scanner
    มีกราฟแสดงแพ็กเกจที่เสี่ยงสูงสุด

    กลุ่มผู้ใช้เป้าหมาย
    Sys Admins ที่ต้อง audit ระบบ
    นักพัฒนาที่ดูแล Snap packages
    ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความมั่นใจ

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    Snap ที่มี dependency ไม่อัปเดตอาจเสี่ยงต่อการโจมตี
    หากไม่ตรวจสอบก่อนติดตั้ง อาจนำช่องโหว่เข้าสู่ระบบโดยไม่รู้ตัว

    https://itsfoss.com/news/check-snap-packages-vulnerabilities/
    🔍 เครื่องมือใหม่ SnapScope ตรวจสอบ Snap Packages Snap packages เป็นหัวข้อที่ถกเถียงกันในชุมชน Linux มานาน ทั้งเรื่องการเปิดโปรแกรมช้า การพึ่งพา Snap Store ที่เป็น proprietary และการที่ dependency ไม่ได้รับการอัปเดตทันเวลา ล่าสุด Alan Pope นักพัฒนาในชุมชน Ubuntu ได้สร้างเครื่องมือชื่อ SnapScope เพื่อแก้ปัญหาด้านความปลอดภัย โดยสามารถสแกนแพ็กเกจ Snap เพื่อหาช่องโหว่ที่มีการบันทึกไว้ในฐานข้อมูล CVE ⚙️ วิธีการทำงานของ SnapScope ผู้ใช้เพียงแค่ใส่ชื่อแพ็กเกจหรือ publisher ลงในช่องค้นหา SnapScope จะสแกนและแสดงผลช่องโหว่ที่พบ พร้อมแบ่งระดับความรุนแรงเป็น KEV, CRITICAL, HIGH, MEDIUM และ LOW ข้อมูลเหล่านี้ดึงมาจาก Grype ซึ่งเป็น open-source scanner สำหรับ container และ filesystem โดยปัจจุบันรองรับเฉพาะแพ็กเกจ x86_64 แต่มีแผนจะขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่นในอนาคต 📊 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ หน้าแรกของ SnapScope ยังมีกราฟแสดงแพ็กเกจที่ถูกสแกนล่าสุด และแพ็กเกจที่มีจำนวนช่องโหว่มากที่สุด ทำให้ผู้ดูแลระบบสามารถติดตามแนวโน้มความเสี่ยงได้ง่ายขึ้น เครื่องมือนี้ถูกสร้างขึ้นในงาน Chainguard’s Vibelympics ซึ่งเป็นการแข่งขันที่นักพัฒนาสร้างโปรเจกต์สร้างสรรค์เพื่อการกุศล 🌐 ใครควรใช้ SnapScope ผู้ดูแลระบบ (Sys Admins): ใช้ตรวจสอบ Snap ที่ติดตั้งในองค์กร นักพัฒนา: ตรวจสอบแพ็กเกจที่ดูแลว่ามี CVE ใดต้องแก้ไข ผู้ใช้ทั่วไปที่ใส่ใจความปลอดภัย: ตรวจสอบก่อนติดตั้ง Snap ใหม่ ๆ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SnapScope คือเครื่องมือสแกน Snap ➡️ ตรวจสอบช่องโหว่จากฐานข้อมูล CVE ➡️ แสดงผลตามระดับความรุนแรง ✅ ฟีเจอร์หลัก ➡️ รองรับ x86_64 packages ➡️ ใช้ข้อมูลจาก Grype scanner ➡️ มีกราฟแสดงแพ็กเกจที่เสี่ยงสูงสุด ✅ กลุ่มผู้ใช้เป้าหมาย ➡️ Sys Admins ที่ต้อง audit ระบบ ➡️ นักพัฒนาที่ดูแล Snap packages ➡️ ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการความมั่นใจ ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ Snap ที่มี dependency ไม่อัปเดตอาจเสี่ยงต่อการโจมตี ⛔ หากไม่ตรวจสอบก่อนติดตั้ง อาจนำช่องโหว่เข้าสู่ระบบโดยไม่รู้ตัว https://itsfoss.com/news/check-snap-packages-vulnerabilities/
    ITSFOSS.COM
    Check Your Snap Packages for Vulnerabilities With This Vibe-Coded Tool
    Snapscope makes it easy to scan any Snap package for security issues.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่องโหว่ macOS LPE กลับมาอีกครั้ง
    นักวิจัยด้านความปลอดภัย Csaba Fitzl พบว่าช่องโหว่ Local Privilege Escalation (LPE) ใน macOS ที่เคยถูกพูดถึงตั้งแต่ปี 2018 ได้กลับมาอีกครั้งในปี 2025 โดยใช้วิธีใหม่ผ่านโฟลเดอร์ .localized ซึ่งเป็นฟีเจอร์ของระบบไฟล์ macOS ที่ใช้จัดการชื่อแอปพลิเคชันซ้ำกัน ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถหลอกตัวติดตั้งแอปพลิเคชันให้วางไฟล์ผิดตำแหน่ง และเปิดทางให้รันโค้ดในสิทธิ์ root ได้

    วิธีการโจมตี
    ขั้นตอนการโจมตีมีลักษณะดังนี้:
    ผู้โจมตีสร้างแอปปลอมชื่อเดียวกับแอปจริงในโฟลเดอร์ /Applications
    เมื่อผู้ใช้ติดตั้งแอปจริง macOS จะไม่เขียนทับ แต่ย้ายไปไว้ในโฟลเดอร์ /Applications/App.localized/
    ตัวติดตั้งยังคงเชื่อว่าแอปอยู่ในตำแหน่งเดิม และลงทะเบียน LaunchDaemon ชี้ไปที่แอปปลอม
    แอปปลอมที่ผู้โจมตีสร้างจึงถูกเรียกใช้งานด้วยสิทธิ์ root

    สถานการณ์และผลกระทบ
    แม้ Apple เคยแก้ไขช่องโหว่เดิมใน macOS Sonoma และมีการออก CVE ใหม่ (CVE-2025-24099) แต่การใช้ .localized ทำให้ยังสามารถโจมตีได้อีกครั้ง ช่องโหว่นี้กระทบโดยตรงต่อ third-party installers ที่ต้องใช้สิทธิ์สูงในการติดตั้งเครื่องมือหรือ daemon หากผู้ใช้หรือองค์กรไม่ตรวจสอบเส้นทางการติดตั้งอย่างละเอียด อาจถูกยึดเครื่องได้ทันที

    มุมมองจากวงการไซเบอร์
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ปัญหานี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของระบบไฟล์ macOS และการที่ Apple ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างครอบคลุม การโจมตีลักษณะนี้ง่ายต่อการนำไปใช้จริง เพียงแค่หลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปที่มีชื่อซ้ำกับแอปปลอม จึงเป็นภัยคุกคามที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ที่ค้นพบ
    ใช้โฟลเดอร์ .localized เพื่อหลอกตำแหน่งติดตั้ง
    ทำให้โค้ดปลอมรันในสิทธิ์ root

    วิธีการโจมตี
    สร้างแอปปลอมชื่อเดียวกับแอปจริง
    ตัวติดตั้งลงทะเบียน LaunchDaemon ชี้ไปที่แอปปลอม

    ผลกระทบ
    กระทบ third-party installers ที่ต้องใช้สิทธิ์สูง
    เสี่ยงต่อการถูกยึดเครื่องและขโมยข้อมูล

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    Apple ยังไม่แก้ไขได้อย่างครอบคลุม แม้มี CVE ใหม่
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบเส้นทางติดตั้งและหลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

    https://securityonline.info/macos-lpe-flaw-resurfaces-localized-directory-exploited-to-hijack-installers-and-gain-root-access/
    🖥️ ช่องโหว่ macOS LPE กลับมาอีกครั้ง นักวิจัยด้านความปลอดภัย Csaba Fitzl พบว่าช่องโหว่ Local Privilege Escalation (LPE) ใน macOS ที่เคยถูกพูดถึงตั้งแต่ปี 2018 ได้กลับมาอีกครั้งในปี 2025 โดยใช้วิธีใหม่ผ่านโฟลเดอร์ .localized ซึ่งเป็นฟีเจอร์ของระบบไฟล์ macOS ที่ใช้จัดการชื่อแอปพลิเคชันซ้ำกัน ช่องโหว่นี้ทำให้ผู้โจมตีสามารถหลอกตัวติดตั้งแอปพลิเคชันให้วางไฟล์ผิดตำแหน่ง และเปิดทางให้รันโค้ดในสิทธิ์ root ได้ ⚡ วิธีการโจมตี ขั้นตอนการโจมตีมีลักษณะดังนี้: 💠 ผู้โจมตีสร้างแอปปลอมชื่อเดียวกับแอปจริงในโฟลเดอร์ /Applications 💠 เมื่อผู้ใช้ติดตั้งแอปจริง macOS จะไม่เขียนทับ แต่ย้ายไปไว้ในโฟลเดอร์ /Applications/App.localized/ 💠 ตัวติดตั้งยังคงเชื่อว่าแอปอยู่ในตำแหน่งเดิม และลงทะเบียน LaunchDaemon ชี้ไปที่แอปปลอม 💠 แอปปลอมที่ผู้โจมตีสร้างจึงถูกเรียกใช้งานด้วยสิทธิ์ root 🔒 สถานการณ์และผลกระทบ แม้ Apple เคยแก้ไขช่องโหว่เดิมใน macOS Sonoma และมีการออก CVE ใหม่ (CVE-2025-24099) แต่การใช้ .localized ทำให้ยังสามารถโจมตีได้อีกครั้ง ช่องโหว่นี้กระทบโดยตรงต่อ third-party installers ที่ต้องใช้สิทธิ์สูงในการติดตั้งเครื่องมือหรือ daemon หากผู้ใช้หรือองค์กรไม่ตรวจสอบเส้นทางการติดตั้งอย่างละเอียด อาจถูกยึดเครื่องได้ทันที 🌍 มุมมองจากวงการไซเบอร์ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ปัญหานี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของระบบไฟล์ macOS และการที่ Apple ยังไม่สามารถแก้ไขได้อย่างครอบคลุม การโจมตีลักษณะนี้ง่ายต่อการนำไปใช้จริง เพียงแค่หลอกให้ผู้ใช้ติดตั้งแอปที่มีชื่อซ้ำกับแอปปลอม จึงเป็นภัยคุกคามที่ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ที่ค้นพบ ➡️ ใช้โฟลเดอร์ .localized เพื่อหลอกตำแหน่งติดตั้ง ➡️ ทำให้โค้ดปลอมรันในสิทธิ์ root ✅ วิธีการโจมตี ➡️ สร้างแอปปลอมชื่อเดียวกับแอปจริง ➡️ ตัวติดตั้งลงทะเบียน LaunchDaemon ชี้ไปที่แอปปลอม ✅ ผลกระทบ ➡️ กระทบ third-party installers ที่ต้องใช้สิทธิ์สูง ➡️ เสี่ยงต่อการถูกยึดเครื่องและขโมยข้อมูล ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ Apple ยังไม่แก้ไขได้อย่างครอบคลุม แม้มี CVE ใหม่ ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบเส้นทางติดตั้งและหลีกเลี่ยงการติดตั้งแอปจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ https://securityonline.info/macos-lpe-flaw-resurfaces-localized-directory-exploited-to-hijack-installers-and-gain-root-access/
    SECURITYONLINE.INFO
    macOS LPE Flaw Resurfaces: .localized Directory Exploited to Hijack Installers and Gain Root Access
    A macOS LPE flaw resurfaces after 7 years, allowing unprivileged users to hijack third-party installers and gain root access. The exploit leverages the hidden .localized directory to confuse the installation path.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 6 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกฤติช่องโหว่ FortiGate SSO ถูกโจมตีจริง

    เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2025 มีรายงานว่าแฮกเกอร์เริ่มใช้ช่องโหว่ CVE-2025-59718 และ CVE-2025-59719 ซึ่งมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.1–9.8 เพื่อเจาะระบบ FortiGate และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Fortinet ผ่านการปลอมแปลงข้อความ SAML ทำให้สามารถเข้าสู่ระบบในสิทธิ์ผู้ดูแลได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่านใด ๆ การโจมตีนี้ถูกยืนยันว่าเกิดขึ้นจริงและมีการขโมยการตั้งค่าระบบออกไป ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลบัญชี VPN และผู้ใช้ภายในองค์กร

    สาเหตุและความเสี่ยงที่แท้จริง
    แม้ Fortinet ระบุว่า FortiCloud SSO ถูกปิดเป็นค่าเริ่มต้น แต่เมื่อผู้ดูแลลงทะเบียนอุปกรณ์ผ่าน FortiCare ฟีเจอร์นี้จะถูกเปิดโดยอัตโนมัติหากไม่ได้ปิดสวิตช์ “Allow administrative login using FortiCloud SSO” ทำให้หลายองค์กรไม่รู้ตัวว่ากำลังเปิดช่องโหว่ไว้โดยตรง การโจมตีที่พบมีรูปแบบชัดเจนคือเจาะเข้าบัญชี admin แล้วดึงการตั้งค่าผ่าน GUI ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี

    การแก้ไขและแพตช์ล่าสุด
    Fortinet ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในหลายเวอร์ชัน เช่น FortiOS 7.6.4, 7.4.9, 7.2.12 และ 7.0.18 รวมถึง FortiProxy, FortiWeb และ FortiSwitchManager รุ่นใหม่ ผู้ดูแลระบบที่ไม่สามารถอัปเดตได้ทันทีสามารถใช้วิธีแก้ไขชั่วคราวโดยปิดการใช้งาน FortiCloud SSO ผ่าน CLI หรือ GUI เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม

    มุมมองจากวงการไซเบอร์
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า ช่องโหว่ลักษณะนี้เป็นตัวอย่างของการที่ “ฟีเจอร์สะดวก” กลายเป็น “ประตูหลัง” ให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบได้โดยตรง หากองค์กรไม่ตรวจสอบการตั้งค่าอย่างละเอียด การโจมตีที่เกิดขึ้นยังสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการใช้ MFA (Multi-Factor Authentication) และการตรวจสอบ log อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ผิดปกติ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ช่องโหว่ที่ถูกโจมตี
    CVE-2025-59718 และ CVE-2025-59719 มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.1–9.8
    ใช้การปลอมแปลง SAML เพื่อข้ามการยืนยันตัวตน SSO

    สาเหตุที่ฟีเจอร์เสี่ยง
    FortiCloud SSO ถูกเปิดอัตโนมัติเมื่อสมัคร FortiCare หากไม่ปิดสวิตช์
    ทำให้ผู้ดูแลหลายคนไม่รู้ว่ากำลังเปิดช่องโหว่ไว้

    การแก้ไขและแพตช์
    อัปเดตเป็น FortiOS 7.6.4, 7.4.9, 7.2.12, 7.0.18
    ปิด FortiCloud SSO ผ่าน CLI หากยังไม่สามารถอัปเดตได้

    คำเตือนด้านความปลอดภัย
    การตั้งค่า firewall ที่ถูกขโมยอาจมีข้อมูลบัญชี VPN และผู้ใช้ภายใน
    หากไม่อัปเดตหรือปิดฟีเจอร์ทันที อาจถูกยึดสิทธิ์ผู้ดูแลและควบคุมระบบทั้งหมด

    https://securityonline.info/critical-fortigate-sso-flaw-under-active-exploitation-attackers-bypass-auth-and-exfiltrate-configs/
    🔐 วิกฤติช่องโหว่ FortiGate SSO ถูกโจมตีจริง เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2025 มีรายงานว่าแฮกเกอร์เริ่มใช้ช่องโหว่ CVE-2025-59718 และ CVE-2025-59719 ซึ่งมีคะแนนความรุนแรงสูงถึง 9.1–9.8 เพื่อเจาะระบบ FortiGate และผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของ Fortinet ผ่านการปลอมแปลงข้อความ SAML ทำให้สามารถเข้าสู่ระบบในสิทธิ์ผู้ดูแลได้โดยไม่ต้องมีรหัสผ่านใด ๆ การโจมตีนี้ถูกยืนยันว่าเกิดขึ้นจริงและมีการขโมยการตั้งค่าระบบออกไป ซึ่งอาจรวมถึงข้อมูลบัญชี VPN และผู้ใช้ภายในองค์กร ⚙️ สาเหตุและความเสี่ยงที่แท้จริง แม้ Fortinet ระบุว่า FortiCloud SSO ถูกปิดเป็นค่าเริ่มต้น แต่เมื่อผู้ดูแลลงทะเบียนอุปกรณ์ผ่าน FortiCare ฟีเจอร์นี้จะถูกเปิดโดยอัตโนมัติหากไม่ได้ปิดสวิตช์ “Allow administrative login using FortiCloud SSO” ทำให้หลายองค์กรไม่รู้ตัวว่ากำลังเปิดช่องโหว่ไว้โดยตรง การโจมตีที่พบมีรูปแบบชัดเจนคือเจาะเข้าบัญชี admin แล้วดึงการตั้งค่าผ่าน GUI ไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่ควบคุมโดยผู้โจมตี 🛡️ การแก้ไขและแพตช์ล่าสุด Fortinet ได้ออกแพตช์แก้ไขแล้วในหลายเวอร์ชัน เช่น FortiOS 7.6.4, 7.4.9, 7.2.12 และ 7.0.18 รวมถึง FortiProxy, FortiWeb และ FortiSwitchManager รุ่นใหม่ ผู้ดูแลระบบที่ไม่สามารถอัปเดตได้ทันทีสามารถใช้วิธีแก้ไขชั่วคราวโดยปิดการใช้งาน FortiCloud SSO ผ่าน CLI หรือ GUI เพื่อป้องกันการโจมตีเพิ่มเติม 🌍 มุมมองจากวงการไซเบอร์ นักวิจัยด้านความปลอดภัยเตือนว่า ช่องโหว่ลักษณะนี้เป็นตัวอย่างของการที่ “ฟีเจอร์สะดวก” กลายเป็น “ประตูหลัง” ให้ผู้โจมตีเข้าถึงระบบได้โดยตรง หากองค์กรไม่ตรวจสอบการตั้งค่าอย่างละเอียด การโจมตีที่เกิดขึ้นยังสะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการใช้ MFA (Multi-Factor Authentication) และการตรวจสอบ log อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ผิดปกติ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ช่องโหว่ที่ถูกโจมตี ➡️ CVE-2025-59718 และ CVE-2025-59719 มีคะแนน CVSS สูงถึง 9.1–9.8 ➡️ ใช้การปลอมแปลง SAML เพื่อข้ามการยืนยันตัวตน SSO ✅ สาเหตุที่ฟีเจอร์เสี่ยง ➡️ FortiCloud SSO ถูกเปิดอัตโนมัติเมื่อสมัคร FortiCare หากไม่ปิดสวิตช์ ➡️ ทำให้ผู้ดูแลหลายคนไม่รู้ว่ากำลังเปิดช่องโหว่ไว้ ✅ การแก้ไขและแพตช์ ➡️ อัปเดตเป็น FortiOS 7.6.4, 7.4.9, 7.2.12, 7.0.18 ➡️ ปิด FortiCloud SSO ผ่าน CLI หากยังไม่สามารถอัปเดตได้ ‼️ คำเตือนด้านความปลอดภัย ⛔ การตั้งค่า firewall ที่ถูกขโมยอาจมีข้อมูลบัญชี VPN และผู้ใช้ภายใน ⛔ หากไม่อัปเดตหรือปิดฟีเจอร์ทันที อาจถูกยึดสิทธิ์ผู้ดูแลและควบคุมระบบทั้งหมด https://securityonline.info/critical-fortigate-sso-flaw-under-active-exploitation-attackers-bypass-auth-and-exfiltrate-configs/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical FortiGate SSO Flaw Under Active Exploitation: Attackers Bypass Auth and Exfiltrate Configs
    A critical FortiGate SSO flaw (CVSS 9.1) is under active exploitation, letting unauthenticated attackers bypass login via crafted SAML. The flaw is armed by default registration, risking config exfiltration. Patch immediately.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยังปากกล้า! รมต.เขมรออกมาดูแคลนกองทัพไทย อ้างหากไม่มีเครื่องบินรบ กองทัพไทยไม่ใช่คู่ต่อกรของทหารกัมพูชา
    .
    เขียว รามี รัฐมนตรีอาวุโสและประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กโจมตีการปฏิบัติการของไทย พร้อมยกย่องความกล้าหาญของทหารกัมพูชา และอ้างว่ากองทัพไทยจะยอมจำนน หากไม่ได้ใช้เครื่องบินขับไล่สนับสนุน
    .
    รมต.เขมรยังกล่าวหาว่า ไทยขาดประสบการณ์การทำสงคราม และจะเกิดความแตกแยกภายใน พร้อมปลุกระดมให้ทหารกัมพูชาเดินหน้าสู้ต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนที่ยังตึงเครียด
    .
    ขณะเดียวกัน สื่อกัมพูชาบางสำนักยังเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน กล่าวหาไทยใช้อาวุธหนักโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยึดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120788
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพไทย #ข่าวต่างประเทศ #สงครามข้อมูลข่าวสาร
    ยังปากกล้า! รมต.เขมรออกมาดูแคลนกองทัพไทย อ้างหากไม่มีเครื่องบินรบ กองทัพไทยไม่ใช่คู่ต่อกรของทหารกัมพูชา . เขียว รามี รัฐมนตรีอาวุโสและประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊กโจมตีการปฏิบัติการของไทย พร้อมยกย่องความกล้าหาญของทหารกัมพูชา และอ้างว่ากองทัพไทยจะยอมจำนน หากไม่ได้ใช้เครื่องบินขับไล่สนับสนุน . รมต.เขมรยังกล่าวหาว่า ไทยขาดประสบการณ์การทำสงคราม และจะเกิดความแตกแยกภายใน พร้อมปลุกระดมให้ทหารกัมพูชาเดินหน้าสู้ต่อไป ท่ามกลางสถานการณ์สู้รบตามแนวชายแดนที่ยังตึงเครียด . ขณะเดียวกัน สื่อกัมพูชาบางสำนักยังเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน กล่าวหาไทยใช้อาวุธหนักโจมตีพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งฝ่ายไทยยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และยึดหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120788 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพไทย #ข่าวต่างประเทศ #สงครามข้อมูลข่าวสาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • ออสเตรเลียเล็งปรับกฎหมายควบคุมอาวุธปืน หลังเหตุกราดยิงสะเทือนขวัญที่หาดบอนได นครซิดนีย์ พ่อ-ลูกมือปืนบุกก่อเหตุขณะจัดงานเทศกาลของชาวยิว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย ถือเป็นเหตุกราดยิงเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีของประเทศ
    .
    ผู้นำออสเตรเลียเห็นพ้องต้องเข้มงวดกฎหมายปืนทั่วประเทศ โดยเตรียมปรับเกณฑ์ตรวจสอบประวัติผู้ครอบครอง ห้ามผู้ไม่ใช่พลเมืองออสเตรเลียถือครองอาวุธ และจำกัดจำนวนรวมถึงประเภทปืนที่อนุญาตให้มีได้
    .
    ในบรรดาผู้เสียชีวิตมีทั้งเด็กหญิงวัย 10 ปี แรบไบท้องถิ่น และผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยุคนาซี ขณะที่มีผู้บาดเจ็บกว่า 40 คน เหตุจูงใจยังอยู่ระหว่างสอบสวนแต่ผู้นำออสเตรเลียชี้เป็นการก่อการร้ายและการต่อต้านชาวยิว
    .
    เหตุการณ์นี้ทำให้ออสเตรเลียกลับมาตั้งคำถามถึงช่องโหว่ของกฎหมายอาวุธปืน แม้ประเทศเคยได้รับการยกย่องเป็นต้นแบบโลกหลังการปฏิรูปครั้งใหญ่จากเหตุกราดยิงพอร์ตอาร์เธอร์เมื่อปี 1996
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120764
    .
    #News1live #News1 #ออสเตรเลีย #กราดยิง #คุมปืน #ความมั่นคง #ข่าวต่างประเทศ
    ออสเตรเลียเล็งปรับกฎหมายควบคุมอาวุธปืน หลังเหตุกราดยิงสะเทือนขวัญที่หาดบอนได นครซิดนีย์ พ่อ-ลูกมือปืนบุกก่อเหตุขณะจัดงานเทศกาลของชาวยิว ทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย ถือเป็นเหตุกราดยิงเลวร้ายที่สุดในรอบเกือบ 30 ปีของประเทศ . ผู้นำออสเตรเลียเห็นพ้องต้องเข้มงวดกฎหมายปืนทั่วประเทศ โดยเตรียมปรับเกณฑ์ตรวจสอบประวัติผู้ครอบครอง ห้ามผู้ไม่ใช่พลเมืองออสเตรเลียถือครองอาวุธ และจำกัดจำนวนรวมถึงประเภทปืนที่อนุญาตให้มีได้ . ในบรรดาผู้เสียชีวิตมีทั้งเด็กหญิงวัย 10 ปี แรบไบท้องถิ่น และผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ยุคนาซี ขณะที่มีผู้บาดเจ็บกว่า 40 คน เหตุจูงใจยังอยู่ระหว่างสอบสวนแต่ผู้นำออสเตรเลียชี้เป็นการก่อการร้ายและการต่อต้านชาวยิว . เหตุการณ์นี้ทำให้ออสเตรเลียกลับมาตั้งคำถามถึงช่องโหว่ของกฎหมายอาวุธปืน แม้ประเทศเคยได้รับการยกย่องเป็นต้นแบบโลกหลังการปฏิรูปครั้งใหญ่จากเหตุกราดยิงพอร์ตอาร์เธอร์เมื่อปี 1996 . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120764 . #News1live #News1 #ออสเตรเลีย #กราดยิง #คุมปืน #ความมั่นคง #ข่าวต่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหาร ร.17 พัน 2 ยึดอาวุธสัญชาติจีนอีกจำนวนมาก ที่ทหารกัมพูชาทิ้งไว้บนเนิน 500 ช่องอานม้า ทั้งเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพา กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120790

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทหาร ร.17 พัน 2 ยึดอาวุธสัญชาติจีนอีกจำนวนมาก ที่ทหารกัมพูชาทิ้งไว้บนเนิน 500 ช่องอานม้า ทั้งเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพา กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120790 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • สะพานเกอร์นีย์ ปีนัง เข้าสู่เกาะเทียมอันดามัน

    อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงบนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นายโจว คอน เยียว (Chow Kon Yeow) มุขมนตรีรัฐปีนัง เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานเกอร์นีย์ (Gurney Bridge) เชื่อมระหว่างเกาะปีนัง บริเวณวงเวียนเกอร์นีย์ ไดร์ฟ (Gurney Drive) กับอันดามันไอส์แลนด์ (Andaman Island) โครงการอสังหาริมทรัพย์บนเกาะเทียมที่ผ่านการถมทะเล ของบริษัทอีสเทิร์น แอนด์ โอเรียนทัล (E&O) เป็นสะพานขนาด 8 ช่องจราจร ความยาว 1.2 กิโลเมตร พร้อมทางเดินเท้ากว้าง 4 เมตร มูลค่าโครงการ 350 ล้านริงกิต (2,700 ล้านบาท)

    นอกจากเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คริมชายฝั่งของอ่าวเกอร์นีย์แล้ว ยังช่วยย่นเวลาเดินทางเข้าโครงการฯ จากเดิมต้องเข้าจากถนนใหญ่ (ถนนตันจง โตคง) บริเวณห้างโลตัส ตันจงปีนัง ได้เพิ่มอีกหนึ่งช่องทางไปออกย่านเกอร์นีย์ไดร์ฟ บริเวณศูนย์การค้าเกอร์นีย์พลาซ่าได้ทันที ซึ่งนายก๊ก ตั๊ก เชียง (Kok Tuck Cheong) กรรมการผู้จัดการของ E&O ตั้งใจว่าจะสร้างเมืองที่เข้าถึงได้ภายใน 15 นาที เชื่อมต่อถึงกัน และมุ่งเน้นอนาคต นับจากนี้จะพัฒนาโครงการบนเกาะ ทั้งที่อยู่อาศัยและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในระยะต่อไป ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากรัฐบาล

    นายก๊กยังกล่าวกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น บูเลทิน มูเทียรา (Buletin Mutiara) ระบุว่า โครงการนี้เริ่มต้นในปี 2533 ที่รัฐบาลมอบสิทธิ์สัมปทานในการถมทะเลทั้งหมด 960 เอเคอร์ โดยพื้นที่แรก สเตรตส์คีย์ (Straits Quay) แล้วเสร็จมาหลายปี ตามมาด้วยเฟส 2A เปิดตัวห้องชุดไปแล้ว 3,700 ยูนิต กำลังขายแก่ผู้สนใจ รวมถึงที่ดินเปล่าที่หันหน้าไปทางสเตรตส์คีย์ด้วย ส่วนเฟส 2B ยังอยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ รวมทั้งหมด 506 เอเคอร์ พื้นที่ถมทะเลบางส่วนจะถูกส่งมอบให้แก่รัฐตามข้อตกลงการพัฒนาพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีถนนด้านข้างโครงการคอนโดมิเนียมซิตี้ออฟดรีม (COD) ที่มีแผนจะสร้างสะพานไปยังถนนเกอร์นีย์ในอนาคต

    อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวปีนังอีกส่วนหนึ่งวิจารณ์ว่า โครงการนี้จะก่อให้เกิดการจราจรติดขัด ซึ่งมุขมนตรีรัฐปีนังยืนยันว่า กำลังให้ความสำคัญกับการจัดการจราจรอย่างมีความรับผิดชอบ ย้ำว่าสะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับเกาะอันดามัน บรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด ถึงกระนั้น เนื่องจากย่านเกอร์นีย์ไดร์ฟเป็นย่านศูนย์การค้า ทั้งเกอร์นีย์พลาซา เกอร์นีย์พารากอนมอลล์ แหล่งรวมสตรีทฟู้ด (Gurney Drive Hawker Center) และคอนโดมิเนียมจำนวนมาก รถติดทุกวันไม่เว้นวันหยุด ชาวปีนังจึงยังคงกังวลถึงปัญหาการจราจร จากโครงการมิกซ์ยูสมูลค่า 6 หมื่นล้านริงกิต (462,000 ล้านบาท) กันต่อไป

    #Newskit
    สะพานเกอร์นีย์ ปีนัง เข้าสู่เกาะเทียมอันดามัน อีกหนึ่งความเปลี่ยนแปลงบนเกาะปีนัง ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. นายโจว คอน เยียว (Chow Kon Yeow) มุขมนตรีรัฐปีนัง เป็นประธานในพิธีเปิดสะพานเกอร์นีย์ (Gurney Bridge) เชื่อมระหว่างเกาะปีนัง บริเวณวงเวียนเกอร์นีย์ ไดร์ฟ (Gurney Drive) กับอันดามันไอส์แลนด์ (Andaman Island) โครงการอสังหาริมทรัพย์บนเกาะเทียมที่ผ่านการถมทะเล ของบริษัทอีสเทิร์น แอนด์ โอเรียนทัล (E&O) เป็นสะพานขนาด 8 ช่องจราจร ความยาว 1.2 กิโลเมตร พร้อมทางเดินเท้ากว้าง 4 เมตร มูลค่าโครงการ 350 ล้านริงกิต (2,700 ล้านบาท) นอกจากเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คริมชายฝั่งของอ่าวเกอร์นีย์แล้ว ยังช่วยย่นเวลาเดินทางเข้าโครงการฯ จากเดิมต้องเข้าจากถนนใหญ่ (ถนนตันจง โตคง) บริเวณห้างโลตัส ตันจงปีนัง ได้เพิ่มอีกหนึ่งช่องทางไปออกย่านเกอร์นีย์ไดร์ฟ บริเวณศูนย์การค้าเกอร์นีย์พลาซ่าได้ทันที ซึ่งนายก๊ก ตั๊ก เชียง (Kok Tuck Cheong) กรรมการผู้จัดการของ E&O ตั้งใจว่าจะสร้างเมืองที่เข้าถึงได้ภายใน 15 นาที เชื่อมต่อถึงกัน และมุ่งเน้นอนาคต นับจากนี้จะพัฒนาโครงการบนเกาะ ทั้งที่อยู่อาศัยและพื้นที่เชิงพาณิชย์ในระยะต่อไป ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากรัฐบาล นายก๊กยังกล่าวกับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น บูเลทิน มูเทียรา (Buletin Mutiara) ระบุว่า โครงการนี้เริ่มต้นในปี 2533 ที่รัฐบาลมอบสิทธิ์สัมปทานในการถมทะเลทั้งหมด 960 เอเคอร์ โดยพื้นที่แรก สเตรตส์คีย์ (Straits Quay) แล้วเสร็จมาหลายปี ตามมาด้วยเฟส 2A เปิดตัวห้องชุดไปแล้ว 3,700 ยูนิต กำลังขายแก่ผู้สนใจ รวมถึงที่ดินเปล่าที่หันหน้าไปทางสเตรตส์คีย์ด้วย ส่วนเฟส 2B ยังอยู่ระหว่างปรับปรุงพื้นที่ รวมทั้งหมด 506 เอเคอร์ พื้นที่ถมทะเลบางส่วนจะถูกส่งมอบให้แก่รัฐตามข้อตกลงการพัฒนาพื้นที่ นอกจากนี้ ยังมีถนนด้านข้างโครงการคอนโดมิเนียมซิตี้ออฟดรีม (COD) ที่มีแผนจะสร้างสะพานไปยังถนนเกอร์นีย์ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ยังมีชาวปีนังอีกส่วนหนึ่งวิจารณ์ว่า โครงการนี้จะก่อให้เกิดการจราจรติดขัด ซึ่งมุขมนตรีรัฐปีนังยืนยันว่า กำลังให้ความสำคัญกับการจัดการจราจรอย่างมีความรับผิดชอบ ย้ำว่าสะพานแห่งนี้สร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับเกาะอันดามัน บรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด ถึงกระนั้น เนื่องจากย่านเกอร์นีย์ไดร์ฟเป็นย่านศูนย์การค้า ทั้งเกอร์นีย์พลาซา เกอร์นีย์พารากอนมอลล์ แหล่งรวมสตรีทฟู้ด (Gurney Drive Hawker Center) และคอนโดมิเนียมจำนวนมาก รถติดทุกวันไม่เว้นวันหยุด ชาวปีนังจึงยังคงกังวลถึงปัญหาการจราจร จากโครงการมิกซ์ยูสมูลค่า 6 หมื่นล้านริงกิต (462,000 ล้านบาท) กันต่อไป #Newskit
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารกองทัพบกไทยยังคงพบหลักฐานด้านยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง หลังปฏิบัติการยึดคืน “เนิน 500” พื้นที่ช่องอานม้าได้สำเร็จ ล่าสุดตรวจยึดอาวุธสัญชาติจีนจำนวนมาก ซึ่งทหารกัมพูชาทิ้งไว้ขณะถอนกำลัง
    .
    เมื่อเวลา 22.44 น. วันที่ 15 ธ.ค. เพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและข้อมูลว่า ทหาร ร.17 พัน 2 ตรวจพบอาวุธหลายรายการบนเนิน 500 อาทิ กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิงขนาด 82 มม. (82mm Type 65 projected-grenade) ซึ่งใช้งานร่ว.มกับเครื่องยิงลูกระเบิดไร้แรงสะท้อนแบบ Type 65 หรือ Type 65-1 ของจีน รวมถึงกระสุนชนิดต่างๆ
    .
    นอกจากนี้ ยังพบเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพาไม่นำวิถี รุ่น Norinco PF-89 หรือ Type 89 ขนาด 80 มม. ซึ่งเป็นอาวุธสำหรับทหารราบ น้ำหนักเบา ใช้งานแบบนัดเดียวทิ้ง ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายยานเกราะ บังเกอร์ และที่มั่นทางทหาร โดยมีทั้งรุ่นหัวรบเจาะเกราะและหัวรบแรงดันสูงสำหรับการรบในพื้นที่ปิด
    .
    การตรวจพบอาวุธดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะยุทโธปกรณ์ที่ฝ่ายกัมพูชานำมาใช้ในพื้นที่ปะทะ และกลายเป็นหลักฐานสำคัญภายหลังฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120774
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #เนิน500 #อาวุธจีน #กองทัพบก #อธิปไตยไทย #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    ทหารกองทัพบกไทยยังคงพบหลักฐานด้านยุทโธปกรณ์อย่างต่อเนื่อง หลังปฏิบัติการยึดคืน “เนิน 500” พื้นที่ช่องอานม้าได้สำเร็จ ล่าสุดตรวจยึดอาวุธสัญชาติจีนจำนวนมาก ซึ่งทหารกัมพูชาทิ้งไว้ขณะถอนกำลัง . เมื่อเวลา 22.44 น. วันที่ 15 ธ.ค. เพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและข้อมูลว่า ทหาร ร.17 พัน 2 ตรวจพบอาวุธหลายรายการบนเนิน 500 อาทิ กระบอกบรรจุลูกระเบิดยิงขนาด 82 มม. (82mm Type 65 projected-grenade) ซึ่งใช้งานร่ว.มกับเครื่องยิงลูกระเบิดไร้แรงสะท้อนแบบ Type 65 หรือ Type 65-1 ของจีน รวมถึงกระสุนชนิดต่างๆ . นอกจากนี้ ยังพบเครื่องยิงจรวดต่อต้านรถถังแบบพกพาไม่นำวิถี รุ่น Norinco PF-89 หรือ Type 89 ขนาด 80 มม. ซึ่งเป็นอาวุธสำหรับทหารราบ น้ำหนักเบา ใช้งานแบบนัดเดียวทิ้ง ถูกออกแบบมาเพื่อทำลายยานเกราะ บังเกอร์ และที่มั่นทางทหาร โดยมีทั้งรุ่นหัวรบเจาะเกราะและหัวรบแรงดันสูงสำหรับการรบในพื้นที่ปิด . การตรวจพบอาวุธดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงลักษณะยุทโธปกรณ์ที่ฝ่ายกัมพูชานำมาใช้ในพื้นที่ปะทะ และกลายเป็นหลักฐานสำคัญภายหลังฝ่ายไทยสามารถควบคุมพื้นที่ยุทธศาสตร์ได้อย่างสมบูรณ์ . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120774 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #เนิน500 #อาวุธจีน #กองทัพบก #อธิปไตยไทย #ทำลายให้สิ้นสภาพ
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดภาพปฏิบัติการกองทัพบกไทย เข้าตีและยึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ “เนิน 677” และ “เนิน 500” บริเวณช่องอานม้า ได้สำเร็จ ก่อนส่งโดรนติดธงชาติไทยบินเหนือพื้นที่ เพื่อประกาศอธิปไตยเหนือดินแดนอย่างเป็นทางการ
    .
    เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ธ.ค. เพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอการปฏิบัติการของกองพันทหารราบที่ 172 (พัน.ร.172) ซึ่งเปิดฉากเข้ายึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์ทั้งสองเนิน หลังการควบคุมพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์ ทหารไทยได้อัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาเหนือเนิน 677 และเนิน 500 ท่ามกลางสมรภูมิที่ยังตึงเครียด
    .
    นอกจากนี้ ยังมีการส่งอากาศยานไร้คนขับติดธงชาติไทยขึ้นบินเหนือพื้นที่ช่องอานม้า เพื่อยืนยันเขตอธิปไตยของประเทศไทย และเทิดเกียรติวีรบุรุษทหารไทยที่สละชีพปกป้องผืนแผ่นดินในสมรภูมินี้
    .
    ปฏิบัติการครั้งนี้สะท้อนถึงการยืนหยัดของกองทัพไทยในการปกป้องอธิปไตยชาติ ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดนที่ยังคงเปราะบาง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120760
    .
    #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #เนิน677 #เนิน500 #กองทัพบก #อธิปไตยไทย #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    เปิดภาพปฏิบัติการกองทัพบกไทย เข้าตีและยึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญ “เนิน 677” และ “เนิน 500” บริเวณช่องอานม้า ได้สำเร็จ ก่อนส่งโดรนติดธงชาติไทยบินเหนือพื้นที่ เพื่อประกาศอธิปไตยเหนือดินแดนอย่างเป็นทางการ . เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 ธ.ค. เพจ Army Military Force เผยแพร่ภาพและคลิปวิดีโอการปฏิบัติการของกองพันทหารราบที่ 172 (พัน.ร.172) ซึ่งเปิดฉากเข้ายึดคืนพื้นที่ยุทธศาสตร์ทั้งสองเนิน หลังการควบคุมพื้นที่ได้อย่างสมบูรณ์ ทหารไทยได้อัญเชิญธงชาติไทยขึ้นสู่ยอดเสาเหนือเนิน 677 และเนิน 500 ท่ามกลางสมรภูมิที่ยังตึงเครียด . นอกจากนี้ ยังมีการส่งอากาศยานไร้คนขับติดธงชาติไทยขึ้นบินเหนือพื้นที่ช่องอานม้า เพื่อยืนยันเขตอธิปไตยของประเทศไทย และเทิดเกียรติวีรบุรุษทหารไทยที่สละชีพปกป้องผืนแผ่นดินในสมรภูมินี้ . ปฏิบัติการครั้งนี้สะท้อนถึงการยืนหยัดของกองทัพไทยในการปกป้องอธิปไตยชาติ ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดนที่ยังคงเปราะบาง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000120760 . #News1live #News1 #ชายแดนไทยกัมพูชา #ช่องอานม้า #เนิน677 #เนิน500 #กองทัพบก #อธิปไตยไทย #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพบรรยากาศ live เมื่อวานนี้ ลูกค้าแวะเข้ามาทักทายเยอะมาก เข้ามาชมสินค้า เข้ามาชมแม่ค้า เกิดความสนุกและ ความสุขทุกครั้ง ที่ได้ ที่ได้เจอทุกคนค่ะ …. จิ๊งจ๊างไม่งา สินค้าขายดีของเรา … อาหารทานเล่นยอดฮิต ของร้านเรา เชิญชวนเชิญชิมค่ะ

    ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู้ครอบครัวกินจุ๊บจิ๊บค่าาาา

    ร้านเราจำหน่ายอาหารทะเลแห้ง อาหารแห้ง และถุงพลาสติกตราปูค่ะ …

    คัดพิเศษด้วยคุณภาพของอาหารแห้งทุกอย่างในร้าน…คืออร่อยมากๆ ทานแล้วติดใจทุกรายค่ะ

    หรือจะเป็นถุงพลาสติกตราปู ก็คือ ราคาโรงงานมาเองเลยค่ะ อย่าลืมนะคะ…ใช้ถุงดีคือกำไรแฝงแบบไม่รู้ตัวเลยค่าาาาา


    ⭕️ กดดูรายละเอียดและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง
    1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop
    2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_

    เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ

    #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา

    #tiktoklive #livehighlights #ปลาจิ้งจ้างไม่งา #ปลาข้าวสาร #ปลาซิวทอดกรอบ
    ภาพบรรยากาศ live เมื่อวานนี้ ลูกค้าแวะเข้ามาทักทายเยอะมาก เข้ามาชมสินค้า เข้ามาชมแม่ค้า เกิดความสนุกและ ความสุขทุกครั้ง ที่ได้ ที่ได้เจอทุกคนค่ะ …. จิ๊งจ๊างไม่งา สินค้าขายดีของเรา … อาหารทานเล่นยอดฮิต ของร้านเรา เชิญชวนเชิญชิมค่ะ ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู้ครอบครัวกินจุ๊บจิ๊บค่าาาา ร้านเราจำหน่ายอาหารทะเลแห้ง อาหารแห้ง และถุงพลาสติกตราปูค่ะ … ✅คัดพิเศษด้วยคุณภาพของอาหารแห้งทุกอย่างในร้าน…คืออร่อยมากๆ ทานแล้วติดใจทุกรายค่ะ ✅หรือจะเป็นถุงพลาสติกตราปู ก็คือ ราคาโรงงานมาเองเลยค่ะ อย่าลืมนะคะ…ใช้ถุงดีคือกำไรแฝงแบบไม่รู้ตัวเลยค่าาาาา 🌶️♨️⭕️ กดดูรายละเอียดและเลือกชมสินค้าอื่นๆของเราได้ทั้งสองช่องทาง 1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop 2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_ เลือกช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ #นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ปลาจิ๊งจ๊างไม่งา #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #กุนเชียงปลา #กุนเชียงหมู #ของอร่อยต้องลอง #อร่อยดีบอกต่อ #อร่อยกี่โมง #คือจึ้งมาก #ปลาซิวกรอบ #ปลาซิวกรอบ #ปลากระพงทุบ #ปลาเกล็ดขาว #ปลาข้างเหลือง #กิมสั่วงา #tiktoklive #livehighlights #ปลาจิ้งจ้างไม่งา #ปลาข้าวสาร #ปลาซิวทอดกรอบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รูปหล่อหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2511
    รูปหล่อหลวงพ่อทวด #พิมพ์หน้าแก่ ก้นอุดกริ่ง โค๊ตนะ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี​ ปี​2511 // พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ทิม​ วัดช้างให้​ ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธทั้งหลาย อยู่ยงคงกระพัน เสริมลาภทรัพย์ให้เพิ่มพูน เจรจาธุรกิจก็จะสำเร็จ ป้องกันคุณไสย มีอำนาจ บารมี **

    ** #ประวัติการสร้าง ระบุว่าเป็นรูปหล่อหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ ปี 2511 สร้างขึ้นที่วัดช้างให้โดยคุณสุเทพ สิงหเสม คนพัทลุง สร้างขึ้นพร้อมกับวัตถุมงคลอื่นๆอีกหลายอย่าง พระกริ่งหลวงพ่อทวดรุ่นนี้มีเนื้อโลหะสีแดงคล้ายๆกับหลวงพ่อทวดเนื้อโลหะครึ่งซีกแบบหลังเตารีด ชุบทองจำนวนหนึ่ง ชุบเงินจำนวนหนึ่งกับเนื้อทองแดงไม่ได้ชุบอะไรเลยอีกจำนวนหนึ่งเป็นพระพิมพ์เดียวกันและขนาดเดียวกันทุกอย่างแต่ทำให้สีขององค์พระแตกต่างกันเป็น3อย่างดังกล่าวแล้วขนาดขององค์พระรุ่นนี้ฐานกว้างประมาณ1ซม.ส่วนสูงขององค์พระประมาณ1.8ซม.เป็นรูปหลวงพ่อทวดท่านนั่งลอยองค์อยู่บนแท่นฐานเขียงที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า"วัดช้างให้" บรรจุเม็ดกริ่งเข้าไปภายในเย่ามีเสียงดังขลุกๆรูที่บรรจุเม็ดกริ่งใต้ฐานใช้โลหะย้ำปิดและตอกโค๊ตเป็นตัวอักษรขอมไว้ลึกลงไปในเนื้อพระ **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    รูปหล่อหลวงพ่อทวด วัดช้างให้ จ.ปัตตานี ปี2511 รูปหล่อหลวงพ่อทวด #พิมพ์หน้าแก่ ก้นอุดกริ่ง โค๊ตนะ วัดช้างให้ จ.ปัตตานี​ ปี​2511 // พระดีพิธีใหญ่ พระอาจารย์ทิม​ วัดช้างให้​ ปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดปลอดภัย เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ ป้องกันภัยอันตรายจากศาสตราวุธทั้งหลาย อยู่ยงคงกระพัน เสริมลาภทรัพย์ให้เพิ่มพูน เจรจาธุรกิจก็จะสำเร็จ ป้องกันคุณไสย มีอำนาจ บารมี ** ** #ประวัติการสร้าง ระบุว่าเป็นรูปหล่อหลวงพ่อทวด วัดช้างไห้ ปี 2511 สร้างขึ้นที่วัดช้างให้โดยคุณสุเทพ สิงหเสม คนพัทลุง สร้างขึ้นพร้อมกับวัตถุมงคลอื่นๆอีกหลายอย่าง พระกริ่งหลวงพ่อทวดรุ่นนี้มีเนื้อโลหะสีแดงคล้ายๆกับหลวงพ่อทวดเนื้อโลหะครึ่งซีกแบบหลังเตารีด ชุบทองจำนวนหนึ่ง ชุบเงินจำนวนหนึ่งกับเนื้อทองแดงไม่ได้ชุบอะไรเลยอีกจำนวนหนึ่งเป็นพระพิมพ์เดียวกันและขนาดเดียวกันทุกอย่างแต่ทำให้สีขององค์พระแตกต่างกันเป็น3อย่างดังกล่าวแล้วขนาดขององค์พระรุ่นนี้ฐานกว้างประมาณ1ซม.ส่วนสูงขององค์พระประมาณ1.8ซม.เป็นรูปหลวงพ่อทวดท่านนั่งลอยองค์อยู่บนแท่นฐานเขียงที่ฐานด้านหน้าเขียนว่า"วัดช้างให้" บรรจุเม็ดกริ่งเข้าไปภายในเย่ามีเสียงดังขลุกๆรูที่บรรจุเม็ดกริ่งใต้ฐานใช้โลหะย้ำปิดและตอกโค๊ตเป็นตัวอักษรขอมไว้ลึกลงไปในเนื้อพระ ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่นแรก หลวงพ่อฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2539
    หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ เนื้อนวะโลหะ (ตอกโค้ด) หลวงพ่อฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2539 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว พระอาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย และพระเกจิสายหลวงพ่อทวดและสายเขาอ้อ หลายท่าน // พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ

    ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย

    ** พระดีพิธีใหญ่ เป็นเหรียญหลวงปู่ทวดพิมพ์หลังเตารีด รุ่นแรกของวัดเมืองยะลา ออกปี 2539 ปลุกเสกโดยพ่อท่านฉิ้น และเกจิสายหลวงพ่อทวดและสายเขาอ้อ หลายท่าน ณ พระอุโบสถ วัดเมืองยะลา มีเกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้
    1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง
    2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี
    3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว
    4. พ่อท่านสุก วัดตุยง
    5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่
    6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย
    7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา
    8. พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา

    “หลวงพ่อฉิ้น โชติโก” ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายตรง “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” และเป็นทั้งศิษย์และสหธรรมิกของ พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร แห่งวัดช้างไห้ **

    ** พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่นแรก หลวงพ่อฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2539 หลวงปู่ทวดหลังเตารีด รุ่นแรก พิมพ์ใหญ่ เนื้อนวะโลหะ (ตอกโค้ด) หลวงพ่อฉิ้น วัดเมืองยะลา ปี2539 // พระดีพิธีใหญ่ ปลุกเสกโดยพ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว พระอาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย และพระเกจิสายหลวงพ่อทวดและสายเขาอ้อ หลายท่าน // พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ## รับประกันพระแท้คลอดชีพครับ ** พุทธคุณครอบจักวาล เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ประสบการณ์มากมาย ทั้งระเบิดด้าน รถคว่ำ ตกตึก รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย ** พระดีพิธีใหญ่ เป็นเหรียญหลวงปู่ทวดพิมพ์หลังเตารีด รุ่นแรกของวัดเมืองยะลา ออกปี 2539 ปลุกเสกโดยพ่อท่านฉิ้น และเกจิสายหลวงพ่อทวดและสายเขาอ้อ หลายท่าน ณ พระอุโบสถ วัดเมืองยะลา มีเกจิสายใต้เข้าร่วมปลุกเสกดังนี้ 1. พ่อท่านมณฑล เจ้าคณะจังหวัดพัทลุง 2. พ่อท่านแดง เจ้าคณะจังหวัดปัตตานี 3. อาจารย์นอง วัดทรายขาว 4. พ่อท่านสุก วัดตุยง 5. พ่อท่านพล วัดนาประดู่ 6. อาจารย์ทอง วัดสำเภาเชย 7. พ่อท่านสิงห์ วัดลำพะยา 8. พ่อท่านฉิ้น วัดเมืองยะลา เจ้าคณะจังหวัดยะลา “หลวงพ่อฉิ้น โชติโก” ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์สายตรง “หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” และเป็นทั้งศิษย์และสหธรรมิกของ พระอาจารย์ทิม ธัมมธโร แห่งวัดช้างไห้ ** ** พระสถาพสวย พระสถาพสมบูรณ์ พร้อมกล่องเดิมๆจากวัด หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์จ้อง สำนักสงฆ์สำนักหว้า จ.สงขลา ปี2540
    เหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์จ้อง สำนักสงฆ์สำนักหว้า ตำบลเขามีเกียรติ อำเภอสะเดา จ.สงขลา ปี2540 // พระดีพิธีขลัง!! สวยๆ พบเจอน้อย มีประสบการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้าน"แคล้วคลาดปลอดภัย" คุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย โภคทรัพย์ เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัย ดีนัก **


    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์จ้อง สำนักสงฆ์สำนักหว้า จ.สงขลา ปี2540 เหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์จ้อง สำนักสงฆ์สำนักหว้า ตำบลเขามีเกียรติ อำเภอสะเดา จ.สงขลา ปี2540 // พระดีพิธีขลัง!! สวยๆ พบเจอน้อย มีประสบการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้าน"แคล้วคลาดปลอดภัย" คุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย โภคทรัพย์ เรียกทรัพย์และคุ้มครองป้องกันภัย ดีนัก ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • หัวนะโมพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช
    หัวนะโมพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช // พระดีพิธีขลัง !! พระมีขนาดเล็กจิ๋ว น่าให้เด็กแขวนมากครับ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // รับประักันความแท้ตลอดชีพ >>

    ** เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก จิ๋ว !! นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ เหมาะสำหรับคนพิเศษ พระเล็กๆ น่ารักครับ **

    ** พุทธคุณครอบจักรวาล เครื่องรางช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เสริมดวงชะตา พลิกร้ายกลายเป็นดี เมตตามหานิยม ป้องกันภัยไข้เจ็บ และนำโชคลาภมาให้ เรียกทรัพย์ บูชาเพื่อเป็นสิริมงคล คุ้มครอง จากสิ่งชั่วร้าย คุณไสยมนต์ดำ เสริมกำลัง หนุนดวง **

    ** หัวนะโม จึงเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ สำหรับชาวนครศรีธรรมราช ชาวนครศรีธรรมราชถือว่าหัวนะโมเป็นของมงคล มักมีไว้ติดตัวเสมอ เพราะเชื่อว่าหัวนะโมมีพุทธคุณครอบจักรวาล ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย พลิกร้ายกลายเป็นดี จากดีแล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ยิ่งในยุคที่บ้านเมืองเกิดกลียุคครั้งแล้วครั้งเล่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นไม่เว้นวัน ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม และรวมถึงโรคร้ายที่กำลังกลืนกินผู้คนทั้งโลกอยู่ในขณะนี้ ครั้งหนึ่งในอดีตพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ได้ใช้หัวนะโม คุ้มครองชาวเมืองนครศรีธรรมราช ด้วยความเชื่อและศรัทธาเฉกเช่นเดียวกัน ครั้งนี้ให้หัวนะโมช่วยปัดเป่าคุ้มครอง จากสิ่งชั่วร้าย คุณไสยมนต์ดำ เสริมกำลัง หนุนดวง พลิกร้ายกลายเป็นดี จากที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งๆขึ้นไป **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หัวนะโมพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช หัวนะโมพ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์ วัดสวนขัน จ.นครศรีธรรมราช // พระดีพิธีขลัง !! พระมีขนาดเล็กจิ๋ว น่าให้เด็กแขวนมากครับ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ // รับประักันความแท้ตลอดชีพ >> ** เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก จิ๋ว !! นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ เหมาะสำหรับคนพิเศษ พระเล็กๆ น่ารักครับ ** ** พุทธคุณครอบจักรวาล เครื่องรางช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย เสริมดวงชะตา พลิกร้ายกลายเป็นดี เมตตามหานิยม ป้องกันภัยไข้เจ็บ และนำโชคลาภมาให้ เรียกทรัพย์ บูชาเพื่อเป็นสิริมงคล คุ้มครอง จากสิ่งชั่วร้าย คุณไสยมนต์ดำ เสริมกำลัง หนุนดวง ** ** หัวนะโม จึงเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ สำหรับชาวนครศรีธรรมราช ชาวนครศรีธรรมราชถือว่าหัวนะโมเป็นของมงคล มักมีไว้ติดตัวเสมอ เพราะเชื่อว่าหัวนะโมมีพุทธคุณครอบจักรวาล ช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย พลิกร้ายกลายเป็นดี จากดีแล้วให้ดียิ่งขึ้นไปอีก ยิ่งในยุคที่บ้านเมืองเกิดกลียุคครั้งแล้วครั้งเล่า ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นไม่เว้นวัน ส่งผลกระทบต่อสภาพเศรษฐกิจโดยรวม และรวมถึงโรคร้ายที่กำลังกลืนกินผู้คนทั้งโลกอยู่ในขณะนี้ ครั้งหนึ่งในอดีตพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช ได้ใช้หัวนะโม คุ้มครองชาวเมืองนครศรีธรรมราช ด้วยความเชื่อและศรัทธาเฉกเช่นเดียวกัน ครั้งนี้ให้หัวนะโมช่วยปัดเป่าคุ้มครอง จากสิ่งชั่วร้าย คุณไสยมนต์ดำ เสริมกำลัง หนุนดวง พลิกร้ายกลายเป็นดี จากที่ดีอยู่แล้วให้ดียิ่งๆขึ้นไป ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อลำใย วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม วัดตีนเป็ด จ.สุพรรณบุรี ปี2546 // // พระดีพิธีขลัง!! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ โชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อลำใย วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม วัดตีนเป็ด จ.สุพรรณบุรี ปี2546 // // พระดีพิธีขลัง!! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ โชคลาภ สุดยอดโภคทรัพย์ เมตตามหานิยม และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญใบโพธิ์หลวงปู่ทวด 5 แชะ หลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2538
    เหรียญใบโพธิ์หลวงปู่ทวด รุ่น 5 แชะ พิมพ์ใหญ่ ( หลังตอกโค็ด ) หลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2538 // พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกโดย อาจารย์นองวัดทรายขาว พ่อท่านทองวัดสำเภาเชย พ่อท่านเขียววัดห้วยเงาะ พ่อท่านทองวัดป่ากอ โดยมีพ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์ เป็นเจ้าพิธี เหรียญรุ่นนี้ สร้างปีเดียวกับรุ่น 5 แชะ อยากแนะนำ!!! // สุดยอดพระประสบการณ์ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี โด่งดังไปทั่วประเทศ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** พระดี พิธีใหญ่ ปลุกเสกโดย อาจารย์นองวัดทรายขาว พ่อท่านทองวัดสำเภาเชย พ่อท่านเขียววัดห้วยเงาะ พ่อท่านทองวัดป่ากอ โดยมีพ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์ เป็นเจ้าพิธี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังวิทยาคม ทั้งสิ้น มีหนุ่มธนาคารนำไปใช้ติดตัว เกิดเหตุโดนคนร้ายจ่อยิงถึง 5 นัด แต่กระสุนด้านทั้งสิ้น เป็นข่าวใหญ่ฮือฮามากในช่วงนั้น จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่ารุ่น 5 แชะมาจนทุกวันนี้ครับ>>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญใบโพธิ์หลวงปู่ทวด 5 แชะ หลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2538 เหรียญใบโพธิ์หลวงปู่ทวด รุ่น 5 แชะ พิมพ์ใหญ่ ( หลังตอกโค็ด ) หลวงปู่แดง วัดศรีมหาโพธิ์ จ.ปัตตานี ปี2538 // พระดีพิธีใหญ๋ ปลุกเสกโดย อาจารย์นองวัดทรายขาว พ่อท่านทองวัดสำเภาเชย พ่อท่านเขียววัดห้วยเงาะ พ่อท่านทองวัดป่ากอ โดยมีพ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์ เป็นเจ้าพิธี เหรียญรุ่นนี้ สร้างปีเดียวกับรุ่น 5 แชะ อยากแนะนำ!!! // สุดยอดพระประสบการณ์ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด ทั้งคงกระพันชาตรี โด่งดังไปทั่วประเทศ เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม ประสบการณ์มากมาย รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** พระดี พิธีใหญ่ ปลุกเสกโดย อาจารย์นองวัดทรายขาว พ่อท่านทองวัดสำเภาเชย พ่อท่านเขียววัดห้วยเงาะ พ่อท่านทองวัดป่ากอ โดยมีพ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์ เป็นเจ้าพิธี ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นเกจิอาจารย์ผู้เข้มขลังวิทยาคม ทั้งสิ้น มีหนุ่มธนาคารนำไปใช้ติดตัว เกิดเหตุโดนคนร้ายจ่อยิงถึง 5 นัด แต่กระสุนด้านทั้งสิ้น เป็นข่าวใหญ่ฮือฮามากในช่วงนั้น จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกว่ารุ่น 5 แชะมาจนทุกวันนี้ครับ>> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ พระดูง่าย หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 76 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.45

    ข้อพิพาทชายแดนอันเป็นความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกระหว่างรัฐอธิปไตยอย่างน้อยสองรัฐเกี่ยวกับการกำหนดเส้นเขตแดน การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดน หรือการควบคุมพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงนั้น ถือเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาในมิติทางกฎหมาย ข้อพิพาทเหล่านี้มักไม่ได้มีสาเหตุเพียงเพราะความคลุมเครือทางภูมิศาสตร์หรือความแตกต่างทางชาติพันธุ์เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลพวงโดยตรงจากความไม่ชัดเจนหรือการตีความที่แตกต่างกันของเครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศ อันได้แก่ สนธิสัญญาเก่าแก่ ข้อตกลงเขตแดน หรือแม้กระทั่งหลักการทางกฎหมายจารีตประเพณี การวิเคราะห์เชิงกฎหมายถือเป็นหัวใจสำคัญในการคลี่คลายความขัดแย้งเหล่านี้ เนื่องจากการกำหนดเขตแดนระหว่างประเทศนั้นเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งผูกพันอยู่กับหลักการพื้นฐานเรื่องอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน (Territorial Sovereignty) และหลักการความศักดิ์สิทธิ์ของเขตแดน (Principle of Utis Possidetis Juris) กล่าวคือเมื่อมีการกำหนดเขตแดนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เขตแดนนั้นย่อมได้รับการยอมรับและไม่สามารถถูกละเมิดได้โดยง่าย หลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสนธิสัญญาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพิจารณาข้อพิพาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญาและพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนในอดีต ซึ่งบางครั้งอาจขาดความชัดเจนทางเทคนิค หรือถูกเขียนขึ้นในบริบททางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากปัจจุบัน ทำให้เกิดช่องว่างในการตีความตามหลักกฎหมายปัจจุบัน นอกจากนี้ บทบาทของแผนที่ที่มีการอ้างอิงถึงในสนธิสัญญา แต่มีความแตกต่างหรือขัดแย้งกันเอง ก็นับเป็นแหล่งที่มาของปัญหาทางกฎหมายที่ต้องมีการวินิจฉัยอย่างถี่ถ้วนตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเจตจำนงร่วมของคู่สัญญาในขณะทำสนธิสัญญา นอกเหนือจากสนธิสัญญาแล้ว การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนยังเกี่ยวข้องกับการใช้หลักการเข้าถือครองดินแดน (Acquisition of Territory) ซึ่งรวมถึงการเข้าถือครองอย่างสันติและต่อเนื่อง (Effective Occupation) ในบางพื้นที่ที่ยังไม่มีการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน การแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยของรัฐ (Effectivités) อย่างเป็นทางการและต่อเนื่อง เช่น การบริหารราชการ การเก็บภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่พิพาท จึงอาจถูกนำมาเป็นหลักฐานสำคัญในการสนับสนุนการอ้างสิทธิ์ทางกฎหมาย การตัดสินใจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือคณะอนุญาโตตุลาการในคดีพิพาทชายแดนในอดีต ได้สร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายที่สำคัญหลายประการ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานทางภูมิศาสตร์ และความสมเหตุสมผลในการใช้ชีวิตของประชากรในพื้นที่เป็นองค์ประกอบเสริมในการตีความเครื่องมือทางกฎหมาย การแก้ไขข้อพิพาทชายแดนจึงเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการประยุกต์ใช้หลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดและเป็นกลาง โดยเริ่มต้นจากการเจรจาทางการทูต การใช้กระบวนการไกล่เกลี่ย หรือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อยุติที่อยู่บนพื้นฐานของความชอบด้วยกฎหมายและความเป็นธรรม

    ในทางปฏิบัติ ข้อพิพาทชายแดนเป็นมากกว่าเรื่องของการตีความเส้นบนแผนที่ แต่เป็นประเด็นที่ผูกโยงกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของชาติอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า เช่น แหล่งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือการเข้าถึงเส้นทางการเดินเรือที่สำคัญ ผลประโยชน์เหล่านี้มักเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ข้อพิพาททวีความรุนแรงขึ้นและซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม หลักกฎหมายระหว่างประเทศจึงต้องเข้ามามีบทบาทในการสร้างกรอบการแก้ไขปัญหาที่ไม่ใช่เพียงการกำหนดเส้นเขตแดน แต่ต้องรวมถึงการจัดการทรัพยากรข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมผ่านข้อตกลงความร่วมมือ หรือการจัดตั้งเขตพัฒนาร่วม (Joint Development Zone) ซึ่งเป็นการแยกการจัดการผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจออกจากการอ้างสิทธิ์เหนืออำนาจอธิปไตย เพื่อลดความตึงเครียดและส่งเสริมสันติภาพในระยะยาว ข้อพิพาทเขตแดนจึงมีความท้าทายในทางกฎหมายที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการตีความเอกสารทางกฎหมายและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีความซับซ้อนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่การตีความตามตัวอักษรของสนธิสัญญาอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมหรือขัดแย้งกับหลักการเข้าถือครองดินแดนที่มีมายาวนาน ดังนั้น การตัดสินใจทางกฎหมายจึงมักจะต้องพิจารณาหลักความเท่าเทียม (Equity) และความเป็นธรรมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการประยุกต์ใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายและนำไปสู่ความมั่นคงในภูมิภาค

    โดยสรุปแล้ว ข้อพิพาทชายแดนเป็นปรากฏการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ถูกควบคุมและกำหนดทิศทางโดยกฎหมายระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความขัดแย้งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงการปะทะกันทางทหารหรือทางการเมืองเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการพิสูจน์ความชอบธรรมของการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนบนพื้นฐานของสนธิสัญญา หลักกฎหมายจารีตประเพณี และการแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยอย่างมีประสิทธิภาพ การแก้ไขอย่างสันติและยั่งยืนจึงต้องยึดมั่นในหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ โดยการนำเครื่องมือทางกฎหมายมาใช้ในการตีความเอกสารที่คลุมเครือ การพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างรอบด้าน และการใช้กลไกการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการทูต หรือการพึ่งพาอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนทางกฎหมายที่นำไปสู่การเคารพซึ่งกันและกันในอำนาจอธิปไตยเหนือพรมแดน และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมั่นคงในประชาคมโลก
    บทความกฎหมาย EP.45 ข้อพิพาทชายแดนอันเป็นความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกระหว่างรัฐอธิปไตยอย่างน้อยสองรัฐเกี่ยวกับการกำหนดเส้นเขตแดน การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดน หรือการควบคุมพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงนั้น ถือเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาในมิติทางกฎหมาย ข้อพิพาทเหล่านี้มักไม่ได้มีสาเหตุเพียงเพราะความคลุมเครือทางภูมิศาสตร์หรือความแตกต่างทางชาติพันธุ์เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลพวงโดยตรงจากความไม่ชัดเจนหรือการตีความที่แตกต่างกันของเครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศ อันได้แก่ สนธิสัญญาเก่าแก่ ข้อตกลงเขตแดน หรือแม้กระทั่งหลักการทางกฎหมายจารีตประเพณี การวิเคราะห์เชิงกฎหมายถือเป็นหัวใจสำคัญในการคลี่คลายความขัดแย้งเหล่านี้ เนื่องจากการกำหนดเขตแดนระหว่างประเทศนั้นเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งผูกพันอยู่กับหลักการพื้นฐานเรื่องอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน (Territorial Sovereignty) และหลักการความศักดิ์สิทธิ์ของเขตแดน (Principle of Utis Possidetis Juris) กล่าวคือเมื่อมีการกำหนดเขตแดนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เขตแดนนั้นย่อมได้รับการยอมรับและไม่สามารถถูกละเมิดได้โดยง่าย หลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสนธิสัญญาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพิจารณาข้อพิพาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญาและพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนในอดีต ซึ่งบางครั้งอาจขาดความชัดเจนทางเทคนิค หรือถูกเขียนขึ้นในบริบททางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากปัจจุบัน ทำให้เกิดช่องว่างในการตีความตามหลักกฎหมายปัจจุบัน นอกจากนี้ บทบาทของแผนที่ที่มีการอ้างอิงถึงในสนธิสัญญา แต่มีความแตกต่างหรือขัดแย้งกันเอง ก็นับเป็นแหล่งที่มาของปัญหาทางกฎหมายที่ต้องมีการวินิจฉัยอย่างถี่ถ้วนตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเจตจำนงร่วมของคู่สัญญาในขณะทำสนธิสัญญา นอกเหนือจากสนธิสัญญาแล้ว การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนยังเกี่ยวข้องกับการใช้หลักการเข้าถือครองดินแดน (Acquisition of Territory) ซึ่งรวมถึงการเข้าถือครองอย่างสันติและต่อเนื่อง (Effective Occupation) ในบางพื้นที่ที่ยังไม่มีการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน การแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยของรัฐ (Effectivités) อย่างเป็นทางการและต่อเนื่อง เช่น การบริหารราชการ การเก็บภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่พิพาท จึงอาจถูกนำมาเป็นหลักฐานสำคัญในการสนับสนุนการอ้างสิทธิ์ทางกฎหมาย การตัดสินใจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือคณะอนุญาโตตุลาการในคดีพิพาทชายแดนในอดีต ได้สร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายที่สำคัญหลายประการ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานทางภูมิศาสตร์ และความสมเหตุสมผลในการใช้ชีวิตของประชากรในพื้นที่เป็นองค์ประกอบเสริมในการตีความเครื่องมือทางกฎหมาย การแก้ไขข้อพิพาทชายแดนจึงเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการประยุกต์ใช้หลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดและเป็นกลาง โดยเริ่มต้นจากการเจรจาทางการทูต การใช้กระบวนการไกล่เกลี่ย หรือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อยุติที่อยู่บนพื้นฐานของความชอบด้วยกฎหมายและความเป็นธรรม ในทางปฏิบัติ ข้อพิพาทชายแดนเป็นมากกว่าเรื่องของการตีความเส้นบนแผนที่ แต่เป็นประเด็นที่ผูกโยงกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของชาติอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า เช่น แหล่งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือการเข้าถึงเส้นทางการเดินเรือที่สำคัญ ผลประโยชน์เหล่านี้มักเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ข้อพิพาททวีความรุนแรงขึ้นและซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม หลักกฎหมายระหว่างประเทศจึงต้องเข้ามามีบทบาทในการสร้างกรอบการแก้ไขปัญหาที่ไม่ใช่เพียงการกำหนดเส้นเขตแดน แต่ต้องรวมถึงการจัดการทรัพยากรข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมผ่านข้อตกลงความร่วมมือ หรือการจัดตั้งเขตพัฒนาร่วม (Joint Development Zone) ซึ่งเป็นการแยกการจัดการผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจออกจากการอ้างสิทธิ์เหนืออำนาจอธิปไตย เพื่อลดความตึงเครียดและส่งเสริมสันติภาพในระยะยาว ข้อพิพาทเขตแดนจึงมีความท้าทายในทางกฎหมายที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการตีความเอกสารทางกฎหมายและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีความซับซ้อนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่การตีความตามตัวอักษรของสนธิสัญญาอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมหรือขัดแย้งกับหลักการเข้าถือครองดินแดนที่มีมายาวนาน ดังนั้น การตัดสินใจทางกฎหมายจึงมักจะต้องพิจารณาหลักความเท่าเทียม (Equity) และความเป็นธรรมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการประยุกต์ใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายและนำไปสู่ความมั่นคงในภูมิภาค โดยสรุปแล้ว ข้อพิพาทชายแดนเป็นปรากฏการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ถูกควบคุมและกำหนดทิศทางโดยกฎหมายระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความขัดแย้งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงการปะทะกันทางทหารหรือทางการเมืองเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการพิสูจน์ความชอบธรรมของการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนบนพื้นฐานของสนธิสัญญา หลักกฎหมายจารีตประเพณี และการแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยอย่างมีประสิทธิภาพ การแก้ไขอย่างสันติและยั่งยืนจึงต้องยึดมั่นในหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ โดยการนำเครื่องมือทางกฎหมายมาใช้ในการตีความเอกสารที่คลุมเครือ การพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างรอบด้าน และการใช้กลไกการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการทูต หรือการพึ่งพาอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนทางกฎหมายที่นำไปสู่การเคารพซึ่งกันและกันในอำนาจอธิปไตยเหนือพรมแดน และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมั่นคงในประชาคมโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251215 #securityonline

    NANOREMOTE: มัลแวร์ใหม่ที่ซ่อนตัวผ่าน Google Drive
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบของ Elastic Security Labs ที่เจอม้าโทรจันตัวใหม่ชื่อว่า NANOREMOTE ซึ่งทำงานบน Windows และใช้ Google Drive API เป็นช่องทางสื่อสารลับกับผู้โจมตี ทำให้การขโมยข้อมูลและสั่งงานแฝงตัวไปกับทราฟฟิกปกติได้อย่างแนบเนียน จุดเด่นคือมันสามารถใช้ OAuth 2.0 token เพื่อสร้างช่องทางลับในการส่งข้อมูล โดยมีตัวโหลดชื่อ WMLOADER ที่ปลอมตัวเป็นโปรแกรมของ Bitdefender แต่จริง ๆ แล้วเป็นตัวนำมัลแวร์เข้าสู่ระบบ จากนั้นจะถอดรหัสไฟล์ที่ซ่อนอยู่และปล่อยตัว NANOREMOTE ทำงานในหน่วยความจำโดยตรง นักวิจัยยังพบหลักฐานว่ามีการใช้โค้ดและคีย์เข้ารหัสเดียวกันกับมัลแวร์ตระกูล FINALDRAFT ซึ่งบ่งชี้ว่ามีรากฐานการพัฒนาร่วมกัน
    https://securityonline.info/new-nanoremote-backdoor-uses-google-drive-api-for-covert-c2-and-links-to-finaldraft-espionage-group

    SHADOW-VOID-042: แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็น Trend Micro
    กลุ่มผู้โจมตีที่ถูกเรียกว่า SHADOW-VOID-042 ใช้ชื่อเสียงของ Trend Micro มาหลอกเหยื่อ โดยส่งอีเมลฟิชชิ่งที่ดูเหมือนเป็นประกาศเตือนด้านความปลอดภัย เหยื่อที่เชื่อจะถูกพาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบสไตล์ของ Trend Micro และถูกติดตั้ง payload แบบเจาะจงเป้าหมาย การโจมตีนี้ไม่ใช่การสุ่ม แต่ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละเหยื่อ และมีการใช้ทั้งเทคนิคเก่าและใหม่ เช่น exploit ช่องโหว่ Chrome ปี 2018 รวมถึงการใช้ zero-day ที่ใหม่กว่าสำหรับเป้าหมายสำคัญ นักวิจัยเชื่อว่ากลุ่มนี้อาจเชื่อมโยงกับ Void Rabisu ซึ่งมีประวัติทำงานใกล้ชิดกับผลประโยชน์รัสเซีย
    https://securityonline.info/shadow-void-042-impersonates-trend-micro-in-phishing-campaign-to-breach-critical-infrastructure

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Plesk (CVE-2025-66430)
    แพลตฟอร์ม Plesk ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการโฮสต์เว็บไซต์ ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น root ได้ ช่องโหว่นี้อยู่ในฟีเจอร์ Password-Protected Directories ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ฉีดข้อมูลเข้าไปใน Apache configuration ได้โดยตรง ผลคือสามารถสั่งรันคำสั่งใด ๆ ในระดับสูงสุดบนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกยึดครองทั้งระบบ Plesk ได้ออก micro-update เร่งด่วนเพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันที
    https://securityonline.info/critical-plesk-flaw-cve-2025-66430-risks-full-server-takeover-via-lpe-and-apache-config-injection

    Ashen Lepus: กลุ่ม APT ที่เชื่อมโยงกับ Hamas เปิดตัว AshTag Malware
    ในขณะที่สงครามกาซายังคงดำเนินอยู่ กลุ่มแฮกเกอร์ Ashen Lepus หรือ WIRTE ที่เชื่อมโยงกับ Hamas ยังคงทำงานด้านไซเบอร์สอดแนมอย่างต่อเนื่อง และได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ชื่อว่า AshTag ซึ่งเป็นชุดมัลแวร์แบบโมดูลาร์ที่ซ่อนตัวเก่งมาก ใช้ไฟล์ PDF หลอกเหยื่อให้เปิดเอกสารทางการทูตปลอม แล้วโหลด DLL อันตรายเข้ามา จากนั้น payload จะถูกดึงจาก HTML ที่ซ่อนอยู่และทำงานในหน่วยความจำโดยไม่แตะดิสก์ ทำให้ตรวจจับได้ยาก กลุ่มนี้ยังขยายเป้าหมายไปยังประเทศอาหรับอื่น ๆ เช่น โอมานและโมร็อกโก โดยมุ่งเน้นข้อมูลทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    https://securityonline.info/hamas-affiliated-apt-ashen-lepus-unveils-ashtag-malware-suite-for-wider-cyber-espionage

    ช่องโหว่ RasMan บน Windows ที่ยังไม่ได้แพตช์
    นักวิจัยจาก 0patch พบช่องโหว่ใหม่ในบริการ Remote Access Connection Manager (RasMan) ของ Windows ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้ Microsoft จะเพิ่งแพตช์ช่องโหว่อื่นที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่พบว่ามีบั๊กที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำให้บริการ RasMan crash ได้ และใช้ช่องทางนี้เพื่อยึดสิทธิ์ Local System ได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ linked list ที่ผิดพลาด ทำให้เกิด NULL pointer และ crash ทันที 0patch ได้ออก micropatch ชั่วคราวเพื่อแก้ไข แต่ Microsoft ยังต้องออกแพตช์อย่างเป็นทางการในอนาคต
    https://securityonline.info/unpatched-windows-rasman-flaw-allows-unprivileged-crash-enabling-local-system-privilege-escalation-exploit

    ImageMagick พบช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงเปิดเผยข้อมูลหน่วยความจำ
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใน ImageMagick ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลภาพ ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นจากการจัดการไฟล์รูปแบบ PSX TIM ที่มาจากยุคเครื่อง PlayStation รุ่นแรก แต่กลับสร้างความเสี่ยงในระบบ 32-bit ปัจจุบัน เนื่องจากการคำนวณขนาดภาพโดยไม่ตรวจสอบการ overflow ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างไฟล์ที่บิดเบือนค่าและนำไปสู่การอ่านข้อมูลหน่วยความจำที่ไม่ควรเข้าถึงได้ ข้อมูลที่รั่วไหลอาจรวมถึงรหัสผ่านหรือคีย์สำคัญต่าง ๆ ทีมพัฒนาได้แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 7.1.2-10 และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันที
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/imagemagick-flaw-risks-arbitrary-memory-disclosure-via-psx-tim-file-integer-overflow-on-32-bit-systems

    GOLD SALEM ใช้เครื่องมือ Velociraptor เป็นตัวช่วยโจมตี ransomware กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ GOLD SALEM ถูกพบว่ามีการนำเครื่องมือด้านดิจิทัลฟอเรนสิกอย่าง Velociraptor ซึ่งปกติใช้สำหรับการตรวจสอบและตอบสนองเหตุการณ์ มาใช้เป็นเครื่องมือเตรียมการโจมตี ransomware โดยพวกเขาใช้วิธีดาวน์โหลดตัวติดตั้งจากโดเมนที่ควบคุมเอง และนำไปใช้สร้างช่องทางควบคุมระบบ รวมถึงการเจาะช่องโหว่ใน SharePoint ที่เรียกว่า ToolShell เพื่อเข้าถึงระบบองค์กร เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่แค่การเงิน แต่ยังรวมถึงองค์กรในด้านโทรคมนาคม พลังงานนิวเคลียร์ และอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งมีนัยยะด้านการสอดแนมด้วย
    https://securityonline.info/gold-salem-abuses-velociraptor-dfir-tool-as-ransomware-precursor-following-sharepoint-toolshell-exploitation

    Apache StreamPark พบการใช้ key แบบ hard-coded และโหมดเข้ารหัสที่ล้าสมัย
    แพลตฟอร์ม Apache StreamPark ซึ่งใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชันสตรีมมิ่ง ถูกพบว่ามีการใช้คีย์เข้ารหัสที่ถูกฝังตายตัวในซอฟต์แวร์ และยังใช้โหมด AES ECB ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงโทเคนและถอดรหัสข้อมูลได้ง่าย ช่องโหว่นี้กระทบตั้งแต่เวอร์ชัน 2.0.0 ถึง 2.1.7 และอาจส่งผลต่อระบบคลาวด์ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ ผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยง
    https://securityonline.info/apache-streampark-flaw-risks-data-decryption-token-forgery-via-hard-coded-key-and-aes-ecb-mode

    Storm-0249 ใช้ DLL sideloading แฝงตัวในกระบวนการ EDR เพื่อเปิดทาง ransomware
    กลุ่ม Storm-0249 ซึ่งเป็น initial access broker ได้เปลี่ยนกลยุทธ์จากการส่งฟิชชิ่งทั่วไปมาเป็นการโจมตีแบบเจาะจง โดยใช้ DLL sideloading กับโปรเซสของ SentinelOne ที่เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัย ทำให้ดูเหมือนเป็นการทำงานปกติของระบบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นการเปิดทางให้มัลแวร์เข้ามาได้ พวกเขายังใช้เทคนิค “living off the land” เช่นการใช้ curl.exe และ PowerShell เพื่อรันโค้ดโดยไม่ทิ้งร่องรอยในดิสก์ เป้าหมายคือการขายสิทธิ์เข้าถึงให้กับกลุ่ม ransomware อย่าง LockBit และ ALPHV
    https://securityonline.info/storm-0249-abuses-edr-process-via-dll-sideloading-to-cloak-ransomware-access

    VS Code Marketplace ถูกโจมตี supply chain ผ่าน 19 extensions ปลอม
    นักวิจัยพบว่ามีการปล่อยส่วนขยาย VS Code ที่แฝงมัลแวร์จำนวน 19 ตัว โดยใช้เทคนิค typosquatting และ steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ dependency ภายใน node_modules รวมถึงการปลอมไฟล์ภาพ banner.png ที่จริงเป็น archive บรรจุ binary อันตราย เมื่อส่วนขยายถูกใช้งาน มัลแวร์จะถูกโหลดขึ้นมาและใช้เครื่องมือของ Windows อย่าง cmstp.exe เพื่อรันโค้ดโดยเลี่ยงการตรวจจับ หนึ่งใน payload เป็น Rust trojan ที่ซับซ้อนและยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์ที่นักพัฒนาต้องระวัง
    https://securityonline.info/vs-code-supply-chain-attack-19-extensions-used-typosquatting-steganography-to-deploy-rust-trojan



    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251215 #securityonline 🖥️ NANOREMOTE: มัลแวร์ใหม่ที่ซ่อนตัวผ่าน Google Drive เรื่องนี้เป็นการค้นพบของ Elastic Security Labs ที่เจอม้าโทรจันตัวใหม่ชื่อว่า NANOREMOTE ซึ่งทำงานบน Windows และใช้ Google Drive API เป็นช่องทางสื่อสารลับกับผู้โจมตี ทำให้การขโมยข้อมูลและสั่งงานแฝงตัวไปกับทราฟฟิกปกติได้อย่างแนบเนียน จุดเด่นคือมันสามารถใช้ OAuth 2.0 token เพื่อสร้างช่องทางลับในการส่งข้อมูล โดยมีตัวโหลดชื่อ WMLOADER ที่ปลอมตัวเป็นโปรแกรมของ Bitdefender แต่จริง ๆ แล้วเป็นตัวนำมัลแวร์เข้าสู่ระบบ จากนั้นจะถอดรหัสไฟล์ที่ซ่อนอยู่และปล่อยตัว NANOREMOTE ทำงานในหน่วยความจำโดยตรง นักวิจัยยังพบหลักฐานว่ามีการใช้โค้ดและคีย์เข้ารหัสเดียวกันกับมัลแวร์ตระกูล FINALDRAFT ซึ่งบ่งชี้ว่ามีรากฐานการพัฒนาร่วมกัน 🔗 https://securityonline.info/new-nanoremote-backdoor-uses-google-drive-api-for-covert-c2-and-links-to-finaldraft-espionage-group 📧 SHADOW-VOID-042: แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็น Trend Micro กลุ่มผู้โจมตีที่ถูกเรียกว่า SHADOW-VOID-042 ใช้ชื่อเสียงของ Trend Micro มาหลอกเหยื่อ โดยส่งอีเมลฟิชชิ่งที่ดูเหมือนเป็นประกาศเตือนด้านความปลอดภัย เหยื่อที่เชื่อจะถูกพาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบสไตล์ของ Trend Micro และถูกติดตั้ง payload แบบเจาะจงเป้าหมาย การโจมตีนี้ไม่ใช่การสุ่ม แต่ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละเหยื่อ และมีการใช้ทั้งเทคนิคเก่าและใหม่ เช่น exploit ช่องโหว่ Chrome ปี 2018 รวมถึงการใช้ zero-day ที่ใหม่กว่าสำหรับเป้าหมายสำคัญ นักวิจัยเชื่อว่ากลุ่มนี้อาจเชื่อมโยงกับ Void Rabisu ซึ่งมีประวัติทำงานใกล้ชิดกับผลประโยชน์รัสเซีย 🔗 https://securityonline.info/shadow-void-042-impersonates-trend-micro-in-phishing-campaign-to-breach-critical-infrastructure ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Plesk (CVE-2025-66430) แพลตฟอร์ม Plesk ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการโฮสต์เว็บไซต์ ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น root ได้ ช่องโหว่นี้อยู่ในฟีเจอร์ Password-Protected Directories ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ฉีดข้อมูลเข้าไปใน Apache configuration ได้โดยตรง ผลคือสามารถสั่งรันคำสั่งใด ๆ ในระดับสูงสุดบนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกยึดครองทั้งระบบ Plesk ได้ออก micro-update เร่งด่วนเพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/critical-plesk-flaw-cve-2025-66430-risks-full-server-takeover-via-lpe-and-apache-config-injection 🌐 Ashen Lepus: กลุ่ม APT ที่เชื่อมโยงกับ Hamas เปิดตัว AshTag Malware ในขณะที่สงครามกาซายังคงดำเนินอยู่ กลุ่มแฮกเกอร์ Ashen Lepus หรือ WIRTE ที่เชื่อมโยงกับ Hamas ยังคงทำงานด้านไซเบอร์สอดแนมอย่างต่อเนื่อง และได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ชื่อว่า AshTag ซึ่งเป็นชุดมัลแวร์แบบโมดูลาร์ที่ซ่อนตัวเก่งมาก ใช้ไฟล์ PDF หลอกเหยื่อให้เปิดเอกสารทางการทูตปลอม แล้วโหลด DLL อันตรายเข้ามา จากนั้น payload จะถูกดึงจาก HTML ที่ซ่อนอยู่และทำงานในหน่วยความจำโดยไม่แตะดิสก์ ทำให้ตรวจจับได้ยาก กลุ่มนี้ยังขยายเป้าหมายไปยังประเทศอาหรับอื่น ๆ เช่น โอมานและโมร็อกโก โดยมุ่งเน้นข้อมูลทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 🔗 https://securityonline.info/hamas-affiliated-apt-ashen-lepus-unveils-ashtag-malware-suite-for-wider-cyber-espionage 🛠️ ช่องโหว่ RasMan บน Windows ที่ยังไม่ได้แพตช์ นักวิจัยจาก 0patch พบช่องโหว่ใหม่ในบริการ Remote Access Connection Manager (RasMan) ของ Windows ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้ Microsoft จะเพิ่งแพตช์ช่องโหว่อื่นที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่พบว่ามีบั๊กที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำให้บริการ RasMan crash ได้ และใช้ช่องทางนี้เพื่อยึดสิทธิ์ Local System ได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ linked list ที่ผิดพลาด ทำให้เกิด NULL pointer และ crash ทันที 0patch ได้ออก micropatch ชั่วคราวเพื่อแก้ไข แต่ Microsoft ยังต้องออกแพตช์อย่างเป็นทางการในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/unpatched-windows-rasman-flaw-allows-unprivileged-crash-enabling-local-system-privilege-escalation-exploit 🖼️ ImageMagick พบช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงเปิดเผยข้อมูลหน่วยความจำ เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใน ImageMagick ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลภาพ ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นจากการจัดการไฟล์รูปแบบ PSX TIM ที่มาจากยุคเครื่อง PlayStation รุ่นแรก แต่กลับสร้างความเสี่ยงในระบบ 32-bit ปัจจุบัน เนื่องจากการคำนวณขนาดภาพโดยไม่ตรวจสอบการ overflow ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างไฟล์ที่บิดเบือนค่าและนำไปสู่การอ่านข้อมูลหน่วยความจำที่ไม่ควรเข้าถึงได้ ข้อมูลที่รั่วไหลอาจรวมถึงรหัสผ่านหรือคีย์สำคัญต่าง ๆ ทีมพัฒนาได้แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 7.1.2-10 และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันที ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/imagemagick-flaw-risks-arbitrary-memory-disclosure-via-psx-tim-file-integer-overflow-on-32-bit-systems 🕵️ GOLD SALEM ใช้เครื่องมือ Velociraptor เป็นตัวช่วยโจมตี ransomware กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ GOLD SALEM ถูกพบว่ามีการนำเครื่องมือด้านดิจิทัลฟอเรนสิกอย่าง Velociraptor ซึ่งปกติใช้สำหรับการตรวจสอบและตอบสนองเหตุการณ์ มาใช้เป็นเครื่องมือเตรียมการโจมตี ransomware โดยพวกเขาใช้วิธีดาวน์โหลดตัวติดตั้งจากโดเมนที่ควบคุมเอง และนำไปใช้สร้างช่องทางควบคุมระบบ รวมถึงการเจาะช่องโหว่ใน SharePoint ที่เรียกว่า ToolShell เพื่อเข้าถึงระบบองค์กร เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่แค่การเงิน แต่ยังรวมถึงองค์กรในด้านโทรคมนาคม พลังงานนิวเคลียร์ และอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งมีนัยยะด้านการสอดแนมด้วย 🔗 https://securityonline.info/gold-salem-abuses-velociraptor-dfir-tool-as-ransomware-precursor-following-sharepoint-toolshell-exploitation 🔐 Apache StreamPark พบการใช้ key แบบ hard-coded และโหมดเข้ารหัสที่ล้าสมัย แพลตฟอร์ม Apache StreamPark ซึ่งใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชันสตรีมมิ่ง ถูกพบว่ามีการใช้คีย์เข้ารหัสที่ถูกฝังตายตัวในซอฟต์แวร์ และยังใช้โหมด AES ECB ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงโทเคนและถอดรหัสข้อมูลได้ง่าย ช่องโหว่นี้กระทบตั้งแต่เวอร์ชัน 2.0.0 ถึง 2.1.7 และอาจส่งผลต่อระบบคลาวด์ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ ผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยง 🔗 https://securityonline.info/apache-streampark-flaw-risks-data-decryption-token-forgery-via-hard-coded-key-and-aes-ecb-mode ⚔️ Storm-0249 ใช้ DLL sideloading แฝงตัวในกระบวนการ EDR เพื่อเปิดทาง ransomware กลุ่ม Storm-0249 ซึ่งเป็น initial access broker ได้เปลี่ยนกลยุทธ์จากการส่งฟิชชิ่งทั่วไปมาเป็นการโจมตีแบบเจาะจง โดยใช้ DLL sideloading กับโปรเซสของ SentinelOne ที่เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัย ทำให้ดูเหมือนเป็นการทำงานปกติของระบบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นการเปิดทางให้มัลแวร์เข้ามาได้ พวกเขายังใช้เทคนิค “living off the land” เช่นการใช้ curl.exe และ PowerShell เพื่อรันโค้ดโดยไม่ทิ้งร่องรอยในดิสก์ เป้าหมายคือการขายสิทธิ์เข้าถึงให้กับกลุ่ม ransomware อย่าง LockBit และ ALPHV 🔗 https://securityonline.info/storm-0249-abuses-edr-process-via-dll-sideloading-to-cloak-ransomware-access 💻 VS Code Marketplace ถูกโจมตี supply chain ผ่าน 19 extensions ปลอม นักวิจัยพบว่ามีการปล่อยส่วนขยาย VS Code ที่แฝงมัลแวร์จำนวน 19 ตัว โดยใช้เทคนิค typosquatting และ steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ dependency ภายใน node_modules รวมถึงการปลอมไฟล์ภาพ banner.png ที่จริงเป็น archive บรรจุ binary อันตราย เมื่อส่วนขยายถูกใช้งาน มัลแวร์จะถูกโหลดขึ้นมาและใช้เครื่องมือของ Windows อย่าง cmstp.exe เพื่อรันโค้ดโดยเลี่ยงการตรวจจับ หนึ่งใน payload เป็น Rust trojan ที่ซับซ้อนและยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์ที่นักพัฒนาต้องระวัง 🔗 https://securityonline.info/vs-code-supply-chain-attack-19-extensions-used-typosquatting-steganography-to-deploy-rust-trojan
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 168 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพภาคที่ 2 สั่งห้ามส่งออกน้ำมันจากไทยไปประเทศลาว เพราะหวั่นจะมีการส่งต่อไปให้ทหารในเขมรใช้ ส่งผลให้วันนี้ใมีรถบรรทุกน้ำมันตกค้างที่ด่านช่องเม็กกว่า 10 คัน เพื่อรอคำสั่งบริษัทให้นำกลับหรือไปส่งไว้ที่ไหน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120422

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กองทัพภาคที่ 2 สั่งห้ามส่งออกน้ำมันจากไทยไปประเทศลาว เพราะหวั่นจะมีการส่งต่อไปให้ทหารในเขมรใช้ ส่งผลให้วันนี้ใมีรถบรรทุกน้ำมันตกค้างที่ด่านช่องเม็กกว่า 10 คัน เพื่อรอคำสั่งบริษัทให้นำกลับหรือไปส่งไว้ที่ไหน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000120422 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 164 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลำโพงผ้าแห่งอนาคตจากญี่ปุ่น

    บริษัทสตาร์ทอัพ Sensia Technology ของญี่ปุ่นได้เปิดตัวลำโพงผ้า (Fabric Speaker Portable) ที่ใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์แบบยืดหยุ่น ซึ่งพัฒนามาจากงานวิจัยของสถาบัน AIST ตั้งแต่ปี 2018 จุดเด่นคือสามารถกระจายเสียงได้ทั่วทั้งพื้นผิวผ้า ทำให้ลำโพงมีความบาง เบา และยืดหยุ่นกว่าลำโพงทั่วไป

    กลไกการทำงาน
    ลำโพงนี้ถูกทอขึ้นจากเส้นใยนำไฟฟ้าที่จัดเรียงในโครงสร้างคล้ายตัวเก็บประจุ (capacitor) เมื่อมีสัญญาณเสียงเข้ามา สนามไฟฟ้าจะทำให้เส้นใยสั่นสะเทือนและผลักอากาศจนเกิดเสียงออกมาทั่วทั้งผืนผ้า เทคโนโลยีนี้ต่างจากลำโพงซ่อนในหมอนหรือเบาะที่มักมี “ก้อนแข็ง” อยู่ภายใน เพราะ Fabric Speaker ไม่มีจุด lump ทำให้เสียงกระจายสม่ำเสมอ

    การใช้งานที่หลากหลาย
    Sensia Technology โปรโมตว่าลำโพงสามารถแขวนบนผนังเหมือนผ้าตกแต่ง หรือซ่อนใต้หมอนและผ้าห่มเพื่อฟังเพลงขณะพักผ่อน โดยมีโมดูลเล็ก ๆ ติดอยู่ที่ขอบผ้า ทำหน้าที่เป็นวงจรขับเคลื่อนพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายและพลังงาน เสียงสูงสุดที่ทำได้คือประมาณ 68–71 dB ซึ่งใกล้เคียงกับเสียงเครื่องดูดฝุ่นหรือเครื่องซักผ้าที่กำลังหมุน

    ข้อจำกัดและคำถาม
    แม้เทคโนโลยีจะน่าตื่นเต้น แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเรื่องคุณภาพเสียงระดับ “audiophile” หากนำไปใช้จริง เช่น การตอบสนองความถี่หรือความคมชัดของเสียง นอกจากนี้การใช้งานใต้หมอนหรือในพื้นที่ปิดอาจทำให้คุณภาพเสียงลดลง จึงยังต้องรอการทดสอบเพิ่มเติมก่อนจะยืนยันได้ว่าลำโพงผ้านี้เหมาะสำหรับนักฟังเพลงจริงจังหรือไม่

    สรุปสาระสำคัญ
    เทคโนโลยี Fabric Speaker
    ใช้อิเล็กทรอนิกส์ยืดหยุ่นจากงานวิจัย AIST
    กระจายเสียงทั่วทั้งพื้นผิวผ้า

    การใช้งาน
    แขวนบนผนังเหมือนผ้าตกแต่ง
    ซ่อนใต้หมอนหรือผ้าห่มเพื่อฟังเพลง

    คุณสมบัติ
    เบา บาง ยืดหยุ่น
    ระดับเสียงสูงสุด 68–71 dB

    ข้อจำกัด
    ยังไม่มีข้อมูลคุณภาพเสียงระดับสูง
    การใช้งานในพื้นที่ปิดอาจลดคุณภาพเสียง

    https://www.tomshardware.com/speakers/new-fabric-speakers-use-flexible-electronics-to-be-thin-light-and-flexible-aist-japans-latest-breakthrough-audiophile-ready-or-only-suitable-for-cloth-ears
    🎶 ลำโพงผ้าแห่งอนาคตจากญี่ปุ่น บริษัทสตาร์ทอัพ Sensia Technology ของญี่ปุ่นได้เปิดตัวลำโพงผ้า (Fabric Speaker Portable) ที่ใช้เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์แบบยืดหยุ่น ซึ่งพัฒนามาจากงานวิจัยของสถาบัน AIST ตั้งแต่ปี 2018 จุดเด่นคือสามารถกระจายเสียงได้ทั่วทั้งพื้นผิวผ้า ทำให้ลำโพงมีความบาง เบา และยืดหยุ่นกว่าลำโพงทั่วไป 🧵 กลไกการทำงาน ลำโพงนี้ถูกทอขึ้นจากเส้นใยนำไฟฟ้าที่จัดเรียงในโครงสร้างคล้ายตัวเก็บประจุ (capacitor) เมื่อมีสัญญาณเสียงเข้ามา สนามไฟฟ้าจะทำให้เส้นใยสั่นสะเทือนและผลักอากาศจนเกิดเสียงออกมาทั่วทั้งผืนผ้า เทคโนโลยีนี้ต่างจากลำโพงซ่อนในหมอนหรือเบาะที่มักมี “ก้อนแข็ง” อยู่ภายใน เพราะ Fabric Speaker ไม่มีจุด lump ทำให้เสียงกระจายสม่ำเสมอ 🖼️ การใช้งานที่หลากหลาย Sensia Technology โปรโมตว่าลำโพงสามารถแขวนบนผนังเหมือนผ้าตกแต่ง หรือซ่อนใต้หมอนและผ้าห่มเพื่อฟังเพลงขณะพักผ่อน โดยมีโมดูลเล็ก ๆ ติดอยู่ที่ขอบผ้า ทำหน้าที่เป็นวงจรขับเคลื่อนพร้อมการเชื่อมต่อไร้สายและพลังงาน เสียงสูงสุดที่ทำได้คือประมาณ 68–71 dB ซึ่งใกล้เคียงกับเสียงเครื่องดูดฝุ่นหรือเครื่องซักผ้าที่กำลังหมุน ⚠️ ข้อจำกัดและคำถาม แม้เทคโนโลยีจะน่าตื่นเต้น แต่ยังไม่มีข้อมูลชัดเจนเรื่องคุณภาพเสียงระดับ “audiophile” หากนำไปใช้จริง เช่น การตอบสนองความถี่หรือความคมชัดของเสียง นอกจากนี้การใช้งานใต้หมอนหรือในพื้นที่ปิดอาจทำให้คุณภาพเสียงลดลง จึงยังต้องรอการทดสอบเพิ่มเติมก่อนจะยืนยันได้ว่าลำโพงผ้านี้เหมาะสำหรับนักฟังเพลงจริงจังหรือไม่ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ เทคโนโลยี Fabric Speaker ➡️ ใช้อิเล็กทรอนิกส์ยืดหยุ่นจากงานวิจัย AIST ➡️ กระจายเสียงทั่วทั้งพื้นผิวผ้า ✅ การใช้งาน ➡️ แขวนบนผนังเหมือนผ้าตกแต่ง ➡️ ซ่อนใต้หมอนหรือผ้าห่มเพื่อฟังเพลง ✅ คุณสมบัติ ➡️ เบา บาง ยืดหยุ่น ➡️ ระดับเสียงสูงสุด 68–71 dB ‼️ ข้อจำกัด ⛔ ยังไม่มีข้อมูลคุณภาพเสียงระดับสูง ⛔ การใช้งานในพื้นที่ปิดอาจลดคุณภาพเสียง https://www.tomshardware.com/speakers/new-fabric-speakers-use-flexible-electronics-to-be-thin-light-and-flexible-aist-japans-latest-breakthrough-audiophile-ready-or-only-suitable-for-cloth-ears
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts