• อริยบุคคลพึงศึกษาว่าวิภาค(รายละเอียด)​แห่งปฏิจจสมุปบาท
    สัทธรรมลำดับที่ : 286
    ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
    --ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
    เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
    เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;--
    เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
    เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์(ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย)​ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย
    --ภิกษุ ท. ! ชรา มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    ชรา คือ ความแก่ ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว
    ความเสื่อมไปแห่งอายุ ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ
    ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ;
    +-นี้เรียกว่า #ชรา.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรา
    --ภิกษุ ท. ! มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย
    การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต
    จากสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ;
    นี้ เรียกว่า #มรณะ ;
    ด้วยเหตุนี้แหละ ชราอันนี้ด้วย มรณะอันนี้ด้วย.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชรามรณะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรามรณ
    --ภิกษุ ท. ! ชาติ เป็นอย่างไรเล่า ?
    ชาติ คือ การเกิด การกำเนิด การก้าวลง (สู่ครรภ์) การบังเกิด การบังเกิดโดยยิ่ง
    ความปรากฏของขันธ์ทั้งหลาย การที่สัตว์ได้ซึ่งอายตนะทั้งหลาย
    ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชาติ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชาติ
    --ภิกษุ ท. ! ภพ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! ภพมีสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ภพ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ภโว
    --ภิกษุ ท. ! อุปาทาน เป็นอย่างไรเล่า ?
    ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่าง เหล่านี้ คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน
    และอัตตวาทุปาทาน.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อุปาทาน.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=อุปาทา
    --ภิกษุ ท. ! ตัณหา เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งตัณหา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือตัณหาในรูป ตัณหาในเสียง ตัณหาในกลิ่น ตัณหาในรส ตัณหาในโผฏฐัพพะ และตัณหาในธรรมารมณ์.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ตัณหา.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ตณฺหา
    --ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย และเวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #เวทนา.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=เวทนา
    --ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งผัสสะ มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ สัมผัสทางตา สัมผัสทางหู สัมผัสทางจมูก สัมผัสทางลิ้น สัมผัสทางกาย และสัมผัสทางใจ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ผัสสะ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=ผสฺส
    --ภิกษุ ท. ! อายตนะหก เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งอายตนะ มีหกอย่าง เหล่านี้คือ อายตนะคือตา อายตนะคือหู อายตนะคือจมูก อายตนะคือลิ้น อายตนะคือกาย และอายตนะคือใจ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อายตนะหก(สฬายตนํ)​.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สฬายตนํ
    --ภิกษุ ท. ! นามรูป เป็นอย่างไรเล่า ?
    นาม คือ เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ และมนสิการ.
    นี้ เรียกว่า #นาม.
    รูป คือ มหาภูตทั้งสี่ด้วยและรูปที่อาศัยมหาภูตทั้งสี่ด้วย.
    นี้ เรียกว่า #รูป.
    ด้วยเหตุนี้แหละ นามอันนี้ด้วย รูปอันนี้ด้วย.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #นามรูป.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=นามรูป
    --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณ มีหกอย่างเหล่านี้ คือ
    วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก วิญญาณทางลิ้น วิญญาณทางกาย
    และวิญญาณทางใจ.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #วิญญาณ.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=วิญฺญาณ
    --ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
    --ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลายเหล่านี้ คือ กายสังขาร วจีสังขาร และจิตตสังขาร.
    +-ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ เรียกว่า #สังขารทั้งหลาย.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สงฺขาร
    --ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! ความไม่รู้อันใด
    เป็นความไม่รู้ในทุกข์,
    เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์,
    เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์, และ
    เป็นไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์.
    +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อวิชชา.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=อวิชฺชา
    --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ,
    เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ;
    เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ;
    เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;
    เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ;
    เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ;
    เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
    เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
    เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ;
    เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้
    http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย
    ด้วยอาการอย่างนี้ แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/2-5/5-18.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/2/?keywords=%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒-๕/๕-๑๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=%E0%B9%95
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=286
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19
    ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    อริยบุคคลพึงศึกษาว่าวิภาค(รายละเอียด)​แห่งปฏิจจสมุปบาท สัทธรรมลำดับที่ : 286 ชื่อบทธรรม :- วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286 เนื้อความทั้งหมด :- --วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท --ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ;-- เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์(ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย)​ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย --ภิกษุ ท. ! ชรา มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ? ชรา คือ ความแก่ ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว ความเสื่อมไปแห่งอายุ ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ; +-นี้เรียกว่า #ชรา. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรา --ภิกษุ ท. ! มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ? มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต จากสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ; นี้ เรียกว่า #มรณะ ; ด้วยเหตุนี้แหละ ชราอันนี้ด้วย มรณะอันนี้ด้วย. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชรามรณะ. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชรามรณ --ภิกษุ ท. ! ชาติ เป็นอย่างไรเล่า ? ชาติ คือ การเกิด การกำเนิด การก้าวลง (สู่ครรภ์) การบังเกิด การบังเกิดโดยยิ่ง ความปรากฏของขันธ์ทั้งหลาย การที่สัตว์ได้ซึ่งอายตนะทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ชาติ. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ชาติ --ภิกษุ ท. ! ภพ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภพมีสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ภพ. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ภโว --ภิกษุ ท. ! อุปาทาน เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่าง เหล่านี้ คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน และอัตตวาทุปาทาน. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อุปาทาน. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=อุปาทา --ภิกษุ ท. ! ตัณหา เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งตัณหา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือตัณหาในรูป ตัณหาในเสียง ตัณหาในกลิ่น ตัณหาในรส ตัณหาในโผฏฐัพพะ และตัณหาในธรรมารมณ์. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ตัณหา. http://etipitaka.com/read/pali/16/3/?keywords=ตณฺหา --ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย และเวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #เวทนา. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=เวทนา --ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งผัสสะ มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ สัมผัสทางตา สัมผัสทางหู สัมผัสทางจมูก สัมผัสทางลิ้น สัมผัสทางกาย และสัมผัสทางใจ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #ผัสสะ. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=ผสฺส --ภิกษุ ท. ! อายตนะหก เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งอายตนะ มีหกอย่าง เหล่านี้คือ อายตนะคือตา อายตนะคือหู อายตนะคือจมูก อายตนะคือลิ้น อายตนะคือกาย และอายตนะคือใจ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อายตนะหก(สฬายตนํ)​. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สฬายตนํ --ภิกษุ ท. ! นามรูป เป็นอย่างไรเล่า ? นาม คือ เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ และมนสิการ. นี้ เรียกว่า #นาม. รูป คือ มหาภูตทั้งสี่ด้วยและรูปที่อาศัยมหาภูตทั้งสี่ด้วย. นี้ เรียกว่า #รูป. ด้วยเหตุนี้แหละ นามอันนี้ด้วย รูปอันนี้ด้วย. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #นามรูป. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=นามรูป --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณ มีหกอย่างเหล่านี้ คือ วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก วิญญาณทางลิ้น วิญญาณทางกาย และวิญญาณทางใจ. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #วิญญาณ. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=วิญฺญาณ --ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลายเหล่านี้ คือ กายสังขาร วจีสังขาร และจิตตสังขาร. +-ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ เรียกว่า #สังขารทั้งหลาย. http://etipitaka.com/read/pali/16/4/?keywords=สงฺขาร --ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! ความไม่รู้อันใด เป็นความไม่รู้ในทุกข์, เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์, เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์, และ เป็นไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์. +-ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า #อวิชชา. http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=อวิชฺชา --ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ, เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ; เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+สมุทโย ด้วยอาการอย่างนี้ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/2-5/5-18. http://etipitaka.com/read/thai/16/2/?keywords=%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒-๕/๕-๑๘. http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=286 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19&id=286 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=19 ลำดับสาธยายธรรม : 19 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_19.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท
    -วิภาคแห่งปฏิจจสมุปบาท ภิกษุ ท. ! ปฏิจจสมุปบาท เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ; เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะอุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! ชรา มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ? ชรา คือ ความแก่ ความคร่ำคร่า ความมีฟันหลุด ความมีผมหงอก ความมีหนังเหี่ยว ความเสื่อมไปแห่งอายุ ความแก่รอบแห่งอินทรีย์ทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ; นี้เรียกว่า ชรา. ภิกษุ ท. ! มรณะ เป็นอย่างไรเล่า ? มรณะคือ การจุติ ความเคลื่อน การแตกสลาย การหายไป การวายชีพ การตาย การทำกาละ การแตกแห่งขันธ์ทั้งหลาย การทอดทิ้งร่าง การขาดแห่งอินทรีย์คือชีวิต จากสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ ; นี้ เรียกว่า มรณะ ; ด้วยเหตุนี้แหละ ชราอันนี้ด้วย มรณะอันนี้ด้วย. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ชรามรณะ. ภิกษุ ท. ! ชาติ เป็นอย่างไรเล่า ? ชาติ คือ การเกิด การกำเนิด การก้าวลง (สู่ครรภ์) การบังเกิด การบังเกิดโดยยิ่ง ความปรากฏของขันธ์ทั้งหลาย การที่สัตว์ได้ซึ่งอายตนะทั้งหลาย ในสัตวนิกายนั้น ๆ ของสัตว์เหล่านั้น ๆ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ชาติ. ภิกษุ ท. ! ภพ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภพมีสามเหล่านี้ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ภพ. ภิกษุ ท. ! อุปาทาน เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! อุปาทานมีสี่อย่าง เหล่านี้ คือ กามุปาทาน ทิฏฐุปาทาน สีลัพพตุปาทาน และอัตตวาทุปาทาน. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า อุปาทาน. ภิกษุ ท. ! ตัณหา เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งตัณหา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือตัณหาในรูป ตัณหาในเสียง ตัณหาในกลิ่น ตัณหาในรส ตัณหาในโผฏฐัพพะ และตัณหาในธรรมารมณ์. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ตัณหา. ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งเวทนา มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย และเวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า เวทนา. ภิกษุ ท. ! ผัสสะ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งผัสสะ มีหกอย่าง เหล่านี้ คือ สัมผัสทางตา สัมผัสทางหู สัมผัสทางจมูก สัมผัสทางลิ้น สัมผัสทางกาย และสัมผัสทางใจ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า ผัสสะ. ภิกษุ ท. ! อายตนะหก เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งอายตนะ มีหกอย่าง เหล่านี้คือ อายตนะคือตา อายตนะคือหู อายตนะคือจมูก อายตนะคือลิ้น อายตนะคือกาย และอายตนะคือใจ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่าอายตนะหก. ภิกษุ ท. ! นามรูป เป็นอย่างไรเล่า ? นาม คือ เวทนา สัญญา เจตนา ผัสสะ และมนสิการ. นี้ เรียกว่า นาม. รูป คือ มหาภูตทั้งสี่ด้วยและรูปที่อาศัยมหาภูตทั้งสี่ด้วย. นี้ เรียกว่า รูป. ด้วยเหตุนี้แหละ นามอันนี้ด้วย รูปอันนี้ด้วย. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า นามรูป. ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! หมู่แห่งวิญญาณ มีหกอย่างเหล่านี้ คือ วิญญาณทางตา วิญญาณทางหู วิญญาณทางจมูก วิญญาณทางลิ้น วิญญาณทางกาย และวิญญาณทางใจ. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า วิญญาณ. ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! สังขาร ทั้งหลายเหล่านี้ คือ กายสังขาร วจีสังขาร และจิตตสังขาร. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ เรียกว่า สังขารทั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! อวิชชา เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ความไม่รู้อันใด เป็นความไม่รู้ในทุกข์, เป็นความไม่รู้ในเหตุให้เกิดทุกข์, เป็นความไม่รู้ในความดับไม่เหลือของทุกข์, ละเป็นไม่รู้ในทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของทุกข์. ภิกษุ ท. ! นี้ เรียกว่า อวิชชา. ภิกษุ ท. ! ด้วยเหตุนี้แหละ, เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีสังขาร ; เพราะสังขารเป็นปัจจัย จึงเกิดมีวิญญาณ ; เพราะวิญญาณเป็นปัจจัย จึงเกิดมีนามรูป ; เพราะนามรูปเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอายตนะหก ; เพราะอายตนะหกเป็นปัจจัย จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะตัณหาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีอุปาทาน ; เพราะ อุปาทานเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกข์ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้ แล.
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • ..ว่าก็ว่านะ.
    ..เมื่อผู้ปกครองไทยเราสมยอมสมคบคิดหรือเข้าด้วยกับประเทศเขมร เรามีกฎลงโทษผู้ปกครองเราแบบไหน อย่างไรเพื่อมิให้ผู้ปกครองคนต่อไปมาปกครองเหี้ยบนตำแหน่งอำนาจหน้าที่โคตรสำคัญทางอธิปไตยของชาติ.
    ..น่าจะระบุชัดเจนว่าผู้นำคนนั้นของไทยในช่วงเวลานั้นคือใครเป็นใครอย่างชัดเจนด้วย,นี้คือกฎหมายไทยอีกตัวที่เขียนมิให้เปิดเผยคนผิดหรือคนที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์นั้นๆอย่างเปิดเผย,กฎหมายไทยเขียนเล่นงานลงโทษประชาชนใต้ปกครองตีตราออกมาบังคับใช้สาระพัดจากคนร่วมประชุมกันเขียนไม่กี่คน,และสมควรยกเลิกได้ด้วยเช่นกันจากคนประชุมขอยกเลิกไม่เห็นด้วยไม่กี่คนได้.
    ..มีบริบทมากมายของผู้นำผู้ปกครองไทยเราในอดีตสมควรต้องความผิดจากลักษณะเช่นนี้เป็นอันมาก ทั้งรู้เห็นชัดเจนไม่รีบดำเนินการแก้ไขก็ด้วย จงใจปล่อยปะละเลยก็ด้วย,มีเจตนาไม่ซื่อสัตย์สุจริตใจนั้นเองทัังกระทำเป็นทีมคณะและบุคคลก็เป็นไปได้หมด,ละเว้นไม่ปฏิบัติในหน้าที่ตำแหน่งในตอนนั้นก็ด้วย.
    ..https://youtube.com/shorts/f2oyQ_ehcE4?si=2yh-gBOVkIRh_w0s
    ..ว่าก็ว่านะ. ..เมื่อผู้ปกครองไทยเราสมยอมสมคบคิดหรือเข้าด้วยกับประเทศเขมร เรามีกฎลงโทษผู้ปกครองเราแบบไหน อย่างไรเพื่อมิให้ผู้ปกครองคนต่อไปมาปกครองเหี้ยบนตำแหน่งอำนาจหน้าที่โคตรสำคัญทางอธิปไตยของชาติ. ..น่าจะระบุชัดเจนว่าผู้นำคนนั้นของไทยในช่วงเวลานั้นคือใครเป็นใครอย่างชัดเจนด้วย,นี้คือกฎหมายไทยอีกตัวที่เขียนมิให้เปิดเผยคนผิดหรือคนที่มีส่วนร่วมในเหตุการณ์นั้นๆอย่างเปิดเผย,กฎหมายไทยเขียนเล่นงานลงโทษประชาชนใต้ปกครองตีตราออกมาบังคับใช้สาระพัดจากคนร่วมประชุมกันเขียนไม่กี่คน,และสมควรยกเลิกได้ด้วยเช่นกันจากคนประชุมขอยกเลิกไม่เห็นด้วยไม่กี่คนได้. ..มีบริบทมากมายของผู้นำผู้ปกครองไทยเราในอดีตสมควรต้องความผิดจากลักษณะเช่นนี้เป็นอันมาก ทั้งรู้เห็นชัดเจนไม่รีบดำเนินการแก้ไขก็ด้วย จงใจปล่อยปะละเลยก็ด้วย,มีเจตนาไม่ซื่อสัตย์สุจริตใจนั้นเองทัังกระทำเป็นทีมคณะและบุคคลก็เป็นไปได้หมด,ละเว้นไม่ปฏิบัติในหน้าที่ตำแหน่งในตอนนั้นก็ด้วย. ..https://youtube.com/shorts/f2oyQ_ehcE4?si=2yh-gBOVkIRh_w0s
    0 Comments 0 Shares 69 Views 0 Reviews
  • "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" เป็นสถาบันหลักที่สำคัญของประเทศไทย. ชาติ หมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนไทย, ศาสนา หมายถึง สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย, และพระมหากษัตริย์ หมายถึง ผู้ปกครองบ้านเมืองให้สงบสุข.
    ชาติ: ความรู้สึกรักชาติ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนไทย.
    ศาสนา: สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย เช่น พระพุทธศาสนา ซึ่งมีหลักธรรมคำสอนที่ส่งเสริมคุณธรรมและศีลธรรม.
    พระมหากษัตริย์: ผู้ปกครองบ้านเมือง เป็นประมุขของชาติ.
    สถาบันทั้งสามนี้มีความสำคัญต่อประเทศไทยมาก เพราะเป็นสถาบันที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย. การมีสถาบันเหล่านี้ช่วยให้ประเทศชาติมีความมั่นคงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง.
    "ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์" เป็นสถาบันหลักที่สำคัญของประเทศไทย. ชาติ หมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนไทย, ศาสนา หมายถึง สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย, และพระมหากษัตริย์ หมายถึง ผู้ปกครองบ้านเมืองให้สงบสุข. ชาติ: ความรู้สึกรักชาติ ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของคนไทย. ศาสนา: สิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทย เช่น พระพุทธศาสนา ซึ่งมีหลักธรรมคำสอนที่ส่งเสริมคุณธรรมและศีลธรรม. พระมหากษัตริย์: ผู้ปกครองบ้านเมือง เป็นประมุขของชาติ. สถาบันทั้งสามนี้มีความสำคัญต่อประเทศไทยมาก เพราะเป็นสถาบันที่อยู่คู่สังคมไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทย. การมีสถาบันเหล่านี้ช่วยให้ประเทศชาติมีความมั่นคงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง.
    0 Comments 0 Shares 80 Views 0 Reviews
  • ..นักการเมืองและข้าราชการ&เจ้าสัวในไทยมีตรึมล่ะ ,ใครมีรูปสมุนขี้ข้าฝ่ายมืด ร่วมกันโพสต์แจ้งบอกกันได้,สัญลักษณ์พวกเดอะแก๊งลัทธิตาเดียวซาตานต่างๆ.,หรือdeep stateข้ามชาติ.
    ..นักการเมืองและข้าราชการ&เจ้าสัวในไทยมีตรึมล่ะ ,ใครมีรูปสมุนขี้ข้าฝ่ายมืด ร่วมกันโพสต์แจ้งบอกกันได้,สัญลักษณ์พวกเดอะแก๊งลัทธิตาเดียวซาตานต่างๆ.,หรือdeep stateข้ามชาติ.
    0 Comments 0 Shares 107 Views 0 Reviews

  • ..ไม่มีใครทางกฎหมายเสนอยุบพรรคตัวพ่อและตัวรองจริงๆจังๆเหรอ,เล่นหมากแค่ทางสายการเมืองนักการเมือง ยุบสภาฯไม่พอ ยุบพรรคตัดสิทธ์ตลอดชีพ สส.และไม่ใช่สส.ในพรรคด้วยเลย ใครรับใช้กินเงินเดือนพรรคนั้นๆที่ถูกยุบพรรคกรณีบุคคลธรรมดาในพรรคนั้น สมควรตัดสิทธิสถานะการเมืองไปด้วย อาจ10ปีขึ้นไป,สส.ตลอดชีพ กับคณะกรรมพรรคคนปกครองพรรคนั้นๆ,ทุกๆคนในเดอะแก๊งพรรคนั้นต้องโดนจัดหนักทั้งหมดเสมือนเข้าร่วมกองโจรโดยรู้อยู่แก่ใจสมัครใจยินยอมแล้วจึงรับประโยชน์สิ่งตอบแทนมั่นคงคือเงินเดือนผ่านพรรคตนก่อนถูกยุบ.,หลังยุบพรรคทุกๆคนที่ยังอยู่ถูกตัดสินผิดทั้งหมด เสมือนคนเปิดประตูให้ข้าศึกตีชิงเอาเมืองแบบกรุงศรีอยุธยาล้มนั้นล่ะ,
    ..เมื่อมาเล่นการเมืองมันใช่ปกติธรรมดาที่ไหน ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งประโยชน์ ดีถูกต้องต้องเชิดชูสรรเสิญให้เกียรติพร้อมความั่งคั่งเพื่อการเสียสละต่อประชาชนต่อแผ่นดินตนในการปกป้องประชาชนและบ้านเมืองที่ทุ่มเทกายใจต่อแผ่นดินในการบริหารจัดการชาติ.,ให้เป็นพลังแรงกำลังใจขับเคลื่อนเติมพลังงานใจเพื่อทั้งแผ่นดินไทยเรา,แต่ตรงกันข้าม ไม่ซื่อตรงไม่ซื่อสัตย์จะเก็บไว้หนักแผ่นดินทำลายทั้งประเทศชาติพังพินาศทำบ้าอะไร.
    ..การปกครองเราผิดพลาดและไม่สำนึกปรับปรุงอะไรจริงๆโดยเฉพาะลงโทษตัวโคตรพ่อโคตรแมร่งตัวใหญ่ซึ่งแม้ถึงตัวก็บัดสบมากพากันปกป้องกันเอง,ทำให้แผ่นดินไทยเราเหี้ยจะสิ้นชาติพินาศบรรลัยแล้วในปัจจุบัน.
    ..ยุคนี้สมควรจบเถอะ,เวลาชีวิตของคนไทยทุกๆคน ควรพอแล้วกับต่างชาติต่างด้าวหรือใดๆมายึดครองอิสระภาพธิปไตยใดๆไปจากคนไทยเราทุกๆคน คนไทยและชาติไทยต้องมาก่อน.
    ..เราคือประชาชนคนไทย ชาติไทยคนไทยสร้างเองได้.


    https://m.youtube.com/watch?v=gs3IzIP9L1I
    ..ไม่มีใครทางกฎหมายเสนอยุบพรรคตัวพ่อและตัวรองจริงๆจังๆเหรอ,เล่นหมากแค่ทางสายการเมืองนักการเมือง ยุบสภาฯไม่พอ ยุบพรรคตัดสิทธ์ตลอดชีพ สส.และไม่ใช่สส.ในพรรคด้วยเลย ใครรับใช้กินเงินเดือนพรรคนั้นๆที่ถูกยุบพรรคกรณีบุคคลธรรมดาในพรรคนั้น สมควรตัดสิทธิสถานะการเมืองไปด้วย อาจ10ปีขึ้นไป,สส.ตลอดชีพ กับคณะกรรมพรรคคนปกครองพรรคนั้นๆ,ทุกๆคนในเดอะแก๊งพรรคนั้นต้องโดนจัดหนักทั้งหมดเสมือนเข้าร่วมกองโจรโดยรู้อยู่แก่ใจสมัครใจยินยอมแล้วจึงรับประโยชน์สิ่งตอบแทนมั่นคงคือเงินเดือนผ่านพรรคตนก่อนถูกยุบ.,หลังยุบพรรคทุกๆคนที่ยังอยู่ถูกตัดสินผิดทั้งหมด เสมือนคนเปิดประตูให้ข้าศึกตีชิงเอาเมืองแบบกรุงศรีอยุธยาล้มนั้นล่ะ, ..เมื่อมาเล่นการเมืองมันใช่ปกติธรรมดาที่ไหน ส่งผลกระทบต่อประชาชนทั้งประโยชน์ ดีถูกต้องต้องเชิดชูสรรเสิญให้เกียรติพร้อมความั่งคั่งเพื่อการเสียสละต่อประชาชนต่อแผ่นดินตนในการปกป้องประชาชนและบ้านเมืองที่ทุ่มเทกายใจต่อแผ่นดินในการบริหารจัดการชาติ.,ให้เป็นพลังแรงกำลังใจขับเคลื่อนเติมพลังงานใจเพื่อทั้งแผ่นดินไทยเรา,แต่ตรงกันข้าม ไม่ซื่อตรงไม่ซื่อสัตย์จะเก็บไว้หนักแผ่นดินทำลายทั้งประเทศชาติพังพินาศทำบ้าอะไร. ..การปกครองเราผิดพลาดและไม่สำนึกปรับปรุงอะไรจริงๆโดยเฉพาะลงโทษตัวโคตรพ่อโคตรแมร่งตัวใหญ่ซึ่งแม้ถึงตัวก็บัดสบมากพากันปกป้องกันเอง,ทำให้แผ่นดินไทยเราเหี้ยจะสิ้นชาติพินาศบรรลัยแล้วในปัจจุบัน. ..ยุคนี้สมควรจบเถอะ,เวลาชีวิตของคนไทยทุกๆคน ควรพอแล้วกับต่างชาติต่างด้าวหรือใดๆมายึดครองอิสระภาพธิปไตยใดๆไปจากคนไทยเราทุกๆคน คนไทยและชาติไทยต้องมาก่อน. ..เราคือประชาชนคนไทย ชาติไทยคนไทยสร้างเองได้. https://m.youtube.com/watch?v=gs3IzIP9L1I
    0 Comments 0 Shares 384 Views 0 Reviews
  • Sun. Apr. 6, 2025
    วันนี้คือวันจักรี
    ตรงกับวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่เราจะร่วมกันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รวมถึงมหาจักรีบรมราชวงศ์ค่ะ
    ...แต่อกอิแป้นจะแตกปุ้งแล้วจ้ะ
    ขอจดบันทึกระบายความอัดอั้นตันใจเรื่องการเมืองในวันจักรีหน่อยนะคะ

    Trump ขึ้นมาได้ 76 วัน
    คนเดินประท้วงกันทุก weekend
    ทำไมต้อง weekend เพราะทุกคนยังต้องไปทำงาน
    ที่สำคัญใครมีงานตอนนี้ ยิ่งต้องรักษาไว้ให้จงดี
    และการต่อต้านเพื่อปากท้องและความถูกต้อง จึงนำมาซึ่งการประท้วงใหญ่ในหลาย states และนำไปสู่การชุมนุมประท้วงทุกที่ทั่วโลก 👍

    ส่วนของเรา พรรคเพื่อไทย เจ้าพ่อแห่งพรรคการเมืองตระบัดสัตย์ ให้เศษถุย ทวีหนี้สิน ขึ้นมาสับขาหลอกประชาชนให้มาเป็นนายกโยนหินถามทาง ดูอาการประชาชน และดูอาการทหารก่อน ตั้งแต่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 – 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นเวลา 11 เดือน 23 วัน 👍

    และต่อด้วยนายกลูกแหง่ปากแจ๋ว ขึ้นตั้งแต่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นเวลาอีก 7 เดือน 19 วัน รวมทั้งสิ้น 1ปี 7เดือน 12วัน นำความเสื่อมทราม และความเสียหายให้ประเทศ และละทิ้งพลเมืองไทยขนาดไหน 🖕

    เรายังต้องทนสูดดมฝุ่น PM2.5 อยู่ดี จะหาที่พึ่งได้หน่อยก็คือนั่งรอฝนตก เรายังต้องทนกับต่างชาติถ่อยที่เข้ามาย่ำยีเมืองไทย ต่อยเตะดูหมิ่นคนไทย และ trash สถานท่องเที่ยวในไทย เรายังต้องทนกับทุนเทา ข้าราชการเทาๆ และคนในเครื่องแบบชั่วๆ ที่เอื้อประโยชน์ให้แต่ผู้ที่โยนเศษเงินมาให้งับเท่านั้น เรายังต้องทนกับการนั่งฟังข่าวจากผู้สื่อข่าวชั้นหัวกะทิ เอาแต่นั่งวิเคราะห์...ตีแผ่ ...วิเคราะห์...ตีแผ่... วิเคราะห์...ตีแผ่ วนๆไป ไอ้เหล่าคนในเครื่องแบบที่เปิดประตูให้คนชั่วกลับเข้ามาล้างแค้นประเทศไทยก็ทำนิ่งเฉยซะงั้น ก็ถ้าให้เลือกเงินกับอำนาจ คนกำลังจะลงจากอำนาจ...ก็ต้องเลือกเงินสินะ 🖕

    ภัยธรรมชาติทั้งหลาย ทั้งน้ำท่วม ทั้งโคลนถล่ม ทั้งไฟป่า ทั้งแผ่นดินไหว ก็พยายามมาช่วยเปิดโปงสันดานความคดโกง ความไม่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยใดๆของนักการเมือง...แต่ประชาชนคนไทยก็ยังเฉยว่ะ...เออ เฮ้ย เรางงนะ

    คือทหารชั่วรับอาหารหมาไปแบ่งกันแล้ว เขาก็นอนเงียบๆอยู่ในกรงกันไป พรรคฝ่ายค้านเด็กน้อย ข้อมูลแน่น...แล้วไง ตังก็ไม่มีให้โปรย หน้าก็ยังด้านและหนาน้อยอยู่ เอาความจริงมาแฉ แต่คนชั่วมือโปรแล้ว เขาไม่อายนิ แล้วให้ทุกฝ่ายร่วมกันลงคะเเนนเสียงดังฟังชัดว่า "ฉันไม่อายกันหรอกจ้า"
    อ้ะ...แล้วเอาไงต่อ

    เหลือก็แต่ประชาชนที่ต้องพึ่งพลังตัวเองอย่างเดียวแล้ว เพราะมันไม่มีใครให้พึ่งอีกต่อไปแล้ว ประชาชนใจอารีที่กลายเป็นคนหน้าโง่ ที่เลือกพวกตั่วเฮียเข้าไปนั่งห้องแอร์เย็นๆ รับเงินเดือนจากภาษีเราเป็นแสนๆ...คุณไม่เหลือใครให้พึ่งแล้วค่ะ

    ตอนนี้ยังไงก็ต้องหยุดระบอบทักษิณให้ได้ก่อน คนอื่นขึ้นมา แม่งชั่ว โลภ และเห็นแก่ตัวเท่ากันหมดนั่นแหละ แต่เล่ห์เหลี่ยมความฉลาดแกมโกงและเจ้าวางแผนสรรหาโครงการชั่วช้ามามอมเมาประชาชน ไม่มีใครทำได้ดีเท่าอีเหลี่ยม และตัวในทีมเก่าๆแก่ๆที่ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนขึ้น ก็ยังครองตำแหน่งเดิมๆไม่เปลี่ยนตัวเลยค่ะ ต้องล้มระบอบทักษิณให้จงได้ ไม่พูดเล่นแล้วนะ ชาวบ้านหนี้ท่วมหัว ตกงานย่ำแย่จริงจัง ทุนต่างชาติเข้ามาพร้อมแรงงานจากประเทศตัวเอง และแม้แต่วัสดุก่อสร้าง (คุณภาพต่ำ) มันยังเอามาจากประเทศตัวเองเลย ไม่มีอะไรถึงปากท้องคนไทยในแต่ละพื้นที่เลย มีแต่เศษเงินไว้อุดปากชาวบ้าน และอาหารหมาไว้ให้ตำรวจชั่วคุมชาวบ้านอีกที และช่วยเปิดทางทำชั่ว และปกป้องคุ้มครองมันด้วย ถุยชีวิตจริงจัง 😢

    ชุมนุมแค่ไม่กี่วัน มันคงไม่มีอะไรจะเสียหายไปกว่าที่เป็นอยู่แล้วมั้ยอ้ะ เอิ่ม...มันมี technology ที่เขาใช้กันมานานแล้วชื่อ WFH ค่ะ ช่วงประท้วง แล้วใครบ้างาน ก็ใช้ technology อันนั้นไปก่อนค่ะ นิ่งเงียบทนกันมาได้ตั้ง 1ปี 7เดือน 12วัน จนไฟลามทุ่ง ขรี้เต็มกุงเกงขนาดนี้ ประชาชนไม่ลุกฮือแล้วไปให้สุดทางตอนนี้ ก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะทำตอนไหน...และครั้งนี้ไม่ต้องมีทหาร ไม่ต้องมีแกนนำอะไรมาเ_ือกเลยนะคะ
    เอาแค่ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ประชาชนที่อดมื้อกินมื้อ ประชาชนที่ถูกมอมเมา ประชาชนที่ถูกเบียดเบียนกดขี่ ประชาชนที่มันไปถ่ายรูปปลอบประโลมสร้างภาพหลังจากภัยพิบัติผ่านไปแล้วหลายวัน และประชาชนที่หลวมตัวหลงเชื่อนักการเมืองขายฝันให้ vote มันเข้าไปโกงกินชาติ...ควรพร้อมใจกันส่งเสียงดังๆให้มันได้ยินชัดๆว่า
    "กูเหลืออดแล้วโว๊ยยยย"
    แหม...ถ้ามี ___ ซัก 50 ลูกตอนนี้
    จะเล็งไปที่ไหนดีน้ออ

    เสียดาย ถ้าอยู่ New York ตอนนี้ เราคงเข็นตัวเองไปร่วมขบวนแน่ๆ
    หรือถ้าอยู่บางกอกเมืองฟ้า มีชุมนุมเบอร์นั้น เราก็คงไปมีส่วนร่วมแน่นอน
    เอาเป็นว่า ถ้าภูเก็ตบ้านนา มีประท้วงใหญ่ตรงไหนก็แจ้งด้วยนะคะ...พร้อมมากค่า
    #พฤษภาทมิฬAlumni
    Sun. Apr. 6, 2025 วันนี้คือวันจักรี ตรงกับวันที่ 6 เมษายน ของทุกปี ซึ่งเป็นวันที่เราจะร่วมกันระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช รวมถึงมหาจักรีบรมราชวงศ์ค่ะ ...แต่อกอิแป้นจะแตกปุ้งแล้วจ้ะ ขอจดบันทึกระบายความอัดอั้นตันใจเรื่องการเมืองในวันจักรีหน่อยนะคะ Trump ขึ้นมาได้ 76 วัน คนเดินประท้วงกันทุก weekend ทำไมต้อง weekend เพราะทุกคนยังต้องไปทำงาน ที่สำคัญใครมีงานตอนนี้ ยิ่งต้องรักษาไว้ให้จงดี และการต่อต้านเพื่อปากท้องและความถูกต้อง จึงนำมาซึ่งการประท้วงใหญ่ในหลาย states และนำไปสู่การชุมนุมประท้วงทุกที่ทั่วโลก 👍 ส่วนของเรา พรรคเพื่อไทย เจ้าพ่อแห่งพรรคการเมืองตระบัดสัตย์ ให้เศษถุย ทวีหนี้สิน ขึ้นมาสับขาหลอกประชาชนให้มาเป็นนายกโยนหินถามทาง ดูอาการประชาชน และดูอาการทหารก่อน ตั้งแต่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2566 – 14 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นเวลา 11 เดือน 23 วัน 👍 และต่อด้วยนายกลูกแหง่ปากแจ๋ว ขึ้นตั้งแต่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2567 เป็นเวลาอีก 7 เดือน 19 วัน รวมทั้งสิ้น 1ปี 7เดือน 12วัน นำความเสื่อมทราม และความเสียหายให้ประเทศ และละทิ้งพลเมืองไทยขนาดไหน 🖕 เรายังต้องทนสูดดมฝุ่น PM2.5 อยู่ดี จะหาที่พึ่งได้หน่อยก็คือนั่งรอฝนตก เรายังต้องทนกับต่างชาติถ่อยที่เข้ามาย่ำยีเมืองไทย ต่อยเตะดูหมิ่นคนไทย และ trash สถานท่องเที่ยวในไทย เรายังต้องทนกับทุนเทา ข้าราชการเทาๆ และคนในเครื่องแบบชั่วๆ ที่เอื้อประโยชน์ให้แต่ผู้ที่โยนเศษเงินมาให้งับเท่านั้น เรายังต้องทนกับการนั่งฟังข่าวจากผู้สื่อข่าวชั้นหัวกะทิ เอาแต่นั่งวิเคราะห์...ตีแผ่ ...วิเคราะห์...ตีแผ่... วิเคราะห์...ตีแผ่ วนๆไป ไอ้เหล่าคนในเครื่องแบบที่เปิดประตูให้คนชั่วกลับเข้ามาล้างแค้นประเทศไทยก็ทำนิ่งเฉยซะงั้น ก็ถ้าให้เลือกเงินกับอำนาจ คนกำลังจะลงจากอำนาจ...ก็ต้องเลือกเงินสินะ 🖕 ภัยธรรมชาติทั้งหลาย ทั้งน้ำท่วม ทั้งโคลนถล่ม ทั้งไฟป่า ทั้งแผ่นดินไหว ก็พยายามมาช่วยเปิดโปงสันดานความคดโกง ความไม่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยใดๆของนักการเมือง...แต่ประชาชนคนไทยก็ยังเฉยว่ะ...เออ เฮ้ย เรางงนะ คือทหารชั่วรับอาหารหมาไปแบ่งกันแล้ว เขาก็นอนเงียบๆอยู่ในกรงกันไป พรรคฝ่ายค้านเด็กน้อย ข้อมูลแน่น...แล้วไง ตังก็ไม่มีให้โปรย หน้าก็ยังด้านและหนาน้อยอยู่ เอาความจริงมาแฉ แต่คนชั่วมือโปรแล้ว เขาไม่อายนิ แล้วให้ทุกฝ่ายร่วมกันลงคะเเนนเสียงดังฟังชัดว่า "ฉันไม่อายกันหรอกจ้า" อ้ะ...แล้วเอาไงต่อ เหลือก็แต่ประชาชนที่ต้องพึ่งพลังตัวเองอย่างเดียวแล้ว เพราะมันไม่มีใครให้พึ่งอีกต่อไปแล้ว ประชาชนใจอารีที่กลายเป็นคนหน้าโง่ ที่เลือกพวกตั่วเฮียเข้าไปนั่งห้องแอร์เย็นๆ รับเงินเดือนจากภาษีเราเป็นแสนๆ...คุณไม่เหลือใครให้พึ่งแล้วค่ะ ตอนนี้ยังไงก็ต้องหยุดระบอบทักษิณให้ได้ก่อน คนอื่นขึ้นมา แม่งชั่ว โลภ และเห็นแก่ตัวเท่ากันหมดนั่นแหละ แต่เล่ห์เหลี่ยมความฉลาดแกมโกงและเจ้าวางแผนสรรหาโครงการชั่วช้ามามอมเมาประชาชน ไม่มีใครทำได้ดีเท่าอีเหลี่ยม และตัวในทีมเก่าๆแก่ๆที่ไม่ว่าจะรัฐบาลไหนขึ้น ก็ยังครองตำแหน่งเดิมๆไม่เปลี่ยนตัวเลยค่ะ ต้องล้มระบอบทักษิณให้จงได้ ไม่พูดเล่นแล้วนะ ชาวบ้านหนี้ท่วมหัว ตกงานย่ำแย่จริงจัง ทุนต่างชาติเข้ามาพร้อมแรงงานจากประเทศตัวเอง และแม้แต่วัสดุก่อสร้าง (คุณภาพต่ำ) มันยังเอามาจากประเทศตัวเองเลย ไม่มีอะไรถึงปากท้องคนไทยในแต่ละพื้นที่เลย มีแต่เศษเงินไว้อุดปากชาวบ้าน และอาหารหมาไว้ให้ตำรวจชั่วคุมชาวบ้านอีกที และช่วยเปิดทางทำชั่ว และปกป้องคุ้มครองมันด้วย ถุยชีวิตจริงจัง 😢 ชุมนุมแค่ไม่กี่วัน มันคงไม่มีอะไรจะเสียหายไปกว่าที่เป็นอยู่แล้วมั้ยอ้ะ เอิ่ม...มันมี technology ที่เขาใช้กันมานานแล้วชื่อ WFH ค่ะ ช่วงประท้วง แล้วใครบ้างาน ก็ใช้ technology อันนั้นไปก่อนค่ะ นิ่งเงียบทนกันมาได้ตั้ง 1ปี 7เดือน 12วัน จนไฟลามทุ่ง ขรี้เต็มกุงเกงขนาดนี้ ประชาชนไม่ลุกฮือแล้วไปให้สุดทางตอนนี้ ก็นึกไม่ออกแล้วว่าจะทำตอนไหน...และครั้งนี้ไม่ต้องมีทหาร ไม่ต้องมีแกนนำอะไรมาเ_ือกเลยนะคะ เอาแค่ประชาชนที่หาเช้ากินค่ำ ประชาชนที่อดมื้อกินมื้อ ประชาชนที่ถูกมอมเมา ประชาชนที่ถูกเบียดเบียนกดขี่ ประชาชนที่มันไปถ่ายรูปปลอบประโลมสร้างภาพหลังจากภัยพิบัติผ่านไปแล้วหลายวัน และประชาชนที่หลวมตัวหลงเชื่อนักการเมืองขายฝันให้ vote มันเข้าไปโกงกินชาติ...ควรพร้อมใจกันส่งเสียงดังๆให้มันได้ยินชัดๆว่า "กูเหลืออดแล้วโว๊ยยยย" แหม...ถ้ามี ___ ซัก 50 ลูกตอนนี้ จะเล็งไปที่ไหนดีน้ออ เสียดาย ถ้าอยู่ New York ตอนนี้ เราคงเข็นตัวเองไปร่วมขบวนแน่ๆ หรือถ้าอยู่บางกอกเมืองฟ้า มีชุมนุมเบอร์นั้น เราก็คงไปมีส่วนร่วมแน่นอน เอาเป็นว่า ถ้าภูเก็ตบ้านนา มีประท้วงใหญ่ตรงไหนก็แจ้งด้วยนะคะ...พร้อมมากค่า #พฤษภาทมิฬAlumni
    0 Comments 0 Shares 728 Views 0 Reviews
  • ภัยร้ายแรงกำลังจะจ่อคอหอยแผ่นดินไทยอยู่แล้ว ยังคิดจะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อสนองตัณหาของพวกเศรษฐีกันอยู่อีก ลมหายใจเข้าออกทั้งตระกูลก็คิดแต่จะสร้างสิ่งของมอมเมาคนในชาติ แค่สร้างภาพให้ต่ะกูลตนเองให้มีชื่อเสียง มีอำนาจ แต่ปล่อยปะละเลยคนในแผ่นดินของตนเอง

    เอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็ค ใช้งบประมาณมากมายมหาศาล รวมไปถึงการทุ่มงบมากมายไปกับการใช้หินดินทรายถมทะเล เพื่อสร้างอาณาจักรแค่เรื่องความบันเทิง

    แต่คนในแผ่นดินตนเองกำลังเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากจากภัยร้ายของธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วมและแผ่นดินไหว แทนที่จะคิดใช้เงินมหาศาลไปกับการออกแบบและป้องกันภัยธรรมชาติ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้เป็นรูปธรรม

    และควรทุ่มแรงกายแรงใจทั้งหมด ส่งเสริมอาชีพและความเป็นอยู่ของประชาชนให้เกิดความมั่นคงภายในประเทศตนเองเสียก่อน ไม่ใช่คิดเอาแต่เรื่องที่มันแสวงหาแต่ผลประโยชน์ ที่มันเป็นเรื่องผิดศีลธรรม เอามาล่อหลอก นักการเมืองและผู้มีอำนาจที่สุ่มหัวกัน อยากกอบโกยผลประโยชน์ให้กับตนเอง จึงทำให้เกิดการปล่อยปะละเลยต่อประชาชนของตนเอง ไม่เข้าใจแม้กระทั่งพื้นฐานการเป็นผู้นำประเทศ เข้ามาเล่นการเมืองเพื่ออะไร ประชาชนทั้งประเทศจะได้อะไร

    หากเข้ามาเล่นการเมืองเพื่อตระกูลของตนเอง และคิดแต่เรื่องสกปรกโสโครก ที่นำเงินรายได้มาแบ่งพวกพร้องตนเอง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเรื่องสกปรกก็ตาม

    คุณสมบัติแบบนี้ คนตระกูลชิน ไม่มีความเหมาะสมสักอย่างที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศชาติ ตราบใดที่ยังไม่มีสมองที่จะคิดวางแผน ให้คนในประเทศชาติพบแต่ความสงบสุขและนอนหลับอุ่นใจได้

    ไม่ใช่การคิดสร้างบ่อนคาสิโนขึ้นมาในประเทศ เพื่อใช้ฟอกเงินที่สกปรกและผิดกฏหมาย และคิดจะนำเงินสกปรกพวกนั้นมาบริหารประเทศชาติ

    บ่อนคาสิโน หรือเอ็นเตอร์เม้นต์คอมเพล็ค ต้องเกิดขึ้นหลังจากคนในประเทศชาติมีความมั่งคั่ง และอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขให้ได้เสียก่อน

    นี่ถึงจะเรียกได้ว่า มีคุณสมบัติของผู้นำประเทศชาติ.

    เดชา นฤนารท.

    30/3/68 13.43 น.
    ภัยร้ายแรงกำลังจะจ่อคอหอยแผ่นดินไทยอยู่แล้ว ยังคิดจะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อสนองตัณหาของพวกเศรษฐีกันอยู่อีก ลมหายใจเข้าออกทั้งตระกูลก็คิดแต่จะสร้างสิ่งของมอมเมาคนในชาติ แค่สร้างภาพให้ต่ะกูลตนเองให้มีชื่อเสียง มีอำนาจ แต่ปล่อยปะละเลยคนในแผ่นดินของตนเอง เอ็นเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็ค ใช้งบประมาณมากมายมหาศาล รวมไปถึงการทุ่มงบมากมายไปกับการใช้หินดินทรายถมทะเล เพื่อสร้างอาณาจักรแค่เรื่องความบันเทิง แต่คนในแผ่นดินตนเองกำลังเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากจากภัยร้ายของธรรมชาติ ทั้งน้ำท่วมและแผ่นดินไหว แทนที่จะคิดใช้เงินมหาศาลไปกับการออกแบบและป้องกันภัยธรรมชาติ เพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้เป็นรูปธรรม และควรทุ่มแรงกายแรงใจทั้งหมด ส่งเสริมอาชีพและความเป็นอยู่ของประชาชนให้เกิดความมั่นคงภายในประเทศตนเองเสียก่อน ไม่ใช่คิดเอาแต่เรื่องที่มันแสวงหาแต่ผลประโยชน์ ที่มันเป็นเรื่องผิดศีลธรรม เอามาล่อหลอก นักการเมืองและผู้มีอำนาจที่สุ่มหัวกัน อยากกอบโกยผลประโยชน์ให้กับตนเอง จึงทำให้เกิดการปล่อยปะละเลยต่อประชาชนของตนเอง ไม่เข้าใจแม้กระทั่งพื้นฐานการเป็นผู้นำประเทศ เข้ามาเล่นการเมืองเพื่ออะไร ประชาชนทั้งประเทศจะได้อะไร หากเข้ามาเล่นการเมืองเพื่อตระกูลของตนเอง และคิดแต่เรื่องสกปรกโสโครก ที่นำเงินรายได้มาแบ่งพวกพร้องตนเอง ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นเรื่องสกปรกก็ตาม คุณสมบัติแบบนี้ คนตระกูลชิน ไม่มีความเหมาะสมสักอย่างที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศชาติ ตราบใดที่ยังไม่มีสมองที่จะคิดวางแผน ให้คนในประเทศชาติพบแต่ความสงบสุขและนอนหลับอุ่นใจได้ ไม่ใช่การคิดสร้างบ่อนคาสิโนขึ้นมาในประเทศ เพื่อใช้ฟอกเงินที่สกปรกและผิดกฏหมาย และคิดจะนำเงินสกปรกพวกนั้นมาบริหารประเทศชาติ บ่อนคาสิโน หรือเอ็นเตอร์เม้นต์คอมเพล็ค ต้องเกิดขึ้นหลังจากคนในประเทศชาติมีความมั่งคั่ง และอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุขให้ได้เสียก่อน นี่ถึงจะเรียกได้ว่า มีคุณสมบัติของผู้นำประเทศชาติ. เดชา นฤนารท. 30/3/68 13.43 น.
    0 Comments 0 Shares 499 Views 0 Reviews
  • "Huawei กำลังนำเสนอชิปรุ่นใหม่ที่ชื่อ Kirin X90 ซึ่งเป็นชิปที่คาดว่าจะมาแทนที่รุ่นเก่า Kunpeng 920 และถูกออกแบบให้ใช้กับทั้งเซิร์ฟเวอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล. ชิปนี้ถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีในประเทศจีนเอง ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ. สิ่งที่น่าสนใจคือ Huawei มีแผนจะใช้ชิปนี้กับระบบ HarmonyOS ที่พัฒนาเองด้วย เพื่อให้แล็ปท็อปทำงานได้แบบไหลลื่นเหมือนกับแนวทางที่ Apple ทำกับ MacBooks แต่แน่นอนว่าคงต้องรอติดตามกันว่าเมื่อเปิดตัวในเดือนเมษายนนี้จะทำได้ตามที่คาดหวังไว้หรือไม่

    พัฒนาการด้านเทคโนโลยี:
    - Kirin X90 อาจผลิตโดยใช้เทคโนโลยีขนาด 7 นาโนเมตรของ SMIC ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกควบคุมโดยมาตรการห้ามค้าของสหรัฐฯ.
    - ชิปนี้ใช้แกนประมวลผล Taishan V120 ซึ่งอ้างว่ามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Zen 3 ของ AMD.

    การใช้งานและระบบปฏิบัติการ:
    - Huawei เตรียมนำชิปรุ่นใหม่นี้มาใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้ระบบ HarmonyOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาเอง.
    - แม้ยังมีปัญหาเรื่องการรองรับซอฟต์แวร์และการพัฒนาแอปพลิเคชันเพิ่มเติม แต่ Huawei คาดว่าจะทำให้การใช้งานบนแล็ปท็อปราบรื่นยิ่งขึ้น.

    เปรียบเทียบกับคู่แข่ง:
    - Kirin X90 มีความคล้ายคลึงกับแนวทางการรวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบที่ Apple ทำกับ MacBooks.
    - อย่างไรก็ตาม ความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของชิปยังคงต้องรอดูจากการเปิดตัวในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/new-huawei-kirin-x90-chip-revealed-in-state-report-possibly-set-to-replace-the-aging-kunpeng-920-design
    "Huawei กำลังนำเสนอชิปรุ่นใหม่ที่ชื่อ Kirin X90 ซึ่งเป็นชิปที่คาดว่าจะมาแทนที่รุ่นเก่า Kunpeng 920 และถูกออกแบบให้ใช้กับทั้งเซิร์ฟเวอร์และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล. ชิปนี้ถูกผลิตด้วยเทคโนโลยีในประเทศจีนเอง ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างชาติ. สิ่งที่น่าสนใจคือ Huawei มีแผนจะใช้ชิปนี้กับระบบ HarmonyOS ที่พัฒนาเองด้วย เพื่อให้แล็ปท็อปทำงานได้แบบไหลลื่นเหมือนกับแนวทางที่ Apple ทำกับ MacBooks แต่แน่นอนว่าคงต้องรอติดตามกันว่าเมื่อเปิดตัวในเดือนเมษายนนี้จะทำได้ตามที่คาดหวังไว้หรือไม่ พัฒนาการด้านเทคโนโลยี: - Kirin X90 อาจผลิตโดยใช้เทคโนโลยีขนาด 7 นาโนเมตรของ SMIC ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตที่ไม่ถูกควบคุมโดยมาตรการห้ามค้าของสหรัฐฯ. - ชิปนี้ใช้แกนประมวลผล Taishan V120 ซึ่งอ้างว่ามีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Zen 3 ของ AMD. การใช้งานและระบบปฏิบัติการ: - Huawei เตรียมนำชิปรุ่นใหม่นี้มาใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่ใช้ระบบ HarmonyOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาเอง. - แม้ยังมีปัญหาเรื่องการรองรับซอฟต์แวร์และการพัฒนาแอปพลิเคชันเพิ่มเติม แต่ Huawei คาดว่าจะทำให้การใช้งานบนแล็ปท็อปราบรื่นยิ่งขึ้น. เปรียบเทียบกับคู่แข่ง: - Kirin X90 มีความคล้ายคลึงกับแนวทางการรวมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์แบบที่ Apple ทำกับ MacBooks. - อย่างไรก็ตาม ความน่าเชื่อถือและประสิทธิภาพของชิปยังคงต้องรอดูจากการเปิดตัวในอนาคต https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/new-huawei-kirin-x90-chip-revealed-in-state-report-possibly-set-to-replace-the-aging-kunpeng-920-design
    0 Comments 0 Shares 523 Views 0 Reviews
  • Choawalit Chotwattanaphong
    ***ราชา ***กษัตริย์ ราชา... เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยโคตร... ท่านผู้ถึง พร้อมด้วยวิชา และจรณะ... เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่เทวดา และมนุษย์...{อัมพัฏฐสูตร}


    {จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม11/หน้า511/บรรทัด18}
    {จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม11/หน้า434/บรรทัด9}
    {จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม15/หน้า165/บรรทัด3}
    {จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม15/หน้า161/บรรทัด17}
    http://www.tripitaka91.com/11-512-2.html
    http://www.tripitaka91.com/11-511-18.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/15-165-3.html
    http://www.tripitaka91.com/15-164-18.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/91book/book11/501_550.htm#512
    www.tripitaka91.com (เว็ปพระไตรปิฏก)








    >>>[จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม ม.ม.ร]






    ***[พระพุทธเจ้าตรัส]... ดูก่อนอัมพัฏฐะ...ก็คาถานี้นั้น สนังกุมารพรหมขับถูกไม่ผิด... กล่าวไว้ถูกไม่ผิด... ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่ใช่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์...
    [เราเห็นด้วย]








    ***[พระพุทธเจ้าตรัส]... ดูก่อนอัมพัฏฐะ... [ถึงเรา ก็กล่าวเช่นนี้ว่า กษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐที่สุด]... ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยโคตร ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้ประเสริฐที่สุดในหมู่เทวดา และมนุษย์.





    >>>จบ ภาณวาร ที่ ๑











    >>>>(หมายเหตุ)<<<<<

    ****[อกาลิโก]….หมายความว่า พระธรรมพระวินัยคำสอนของพระพุทธเจ้า ทุกสูตรทุกข้อนั้น….(ไม่มียุคสมัยไม่ประกอบด้วยกาล ไม่มีกำหนดจำกัดอายุกาลเวลา)…. ให้ผลทุกเมื่อทุกโอกาสทุกเวลา ทุกยุคทุกสมัยตามลำดับแห่งการปฏิบัติ…. (จริงแท้อยู่ตลอดอนันตกาล)….ด้วยเหตุนี้ พระธรรมพระวินัย จึงไม่ประกอบด้วยกาล ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา.




    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม34/หน้า186/บรรทัด12-13]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม34/หน้า189/บรรทัด13]
    www.tripitaka91.com {เว็ปพระไตรปิฏก}
    http://www.tripitaka91.com/34-186-12.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/34-186-13.html#middle
    http://www.tripitaka91.com/91book/book34/151_200.htm#186









    [2]
    >>>[จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม ม.ม.ร]






    ***[พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า]…. สาวิตฺติ ฉนฺทโส มุขํ ฉันท์ทั้งหลายมีสาวิตติฉันท์ เป็นประมุข เพราะอันผู้สาธยายพระเวททั้งหลายต้องสาธยายก่อน.



    ***พระราชาท่านกล่าวว่า… เป็นประมุข เพราะประเสริฐที่สุดกว่ามนุษย์ทั้งหลาย.



    >>>>เสลสูตรที่ ๗
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม47/หน้า554/บรรทัด8]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม47/หน้า451/บรรทัด23]
    http://www.tripitaka91.com/47-554-8.html
    www.tripitaka91.com {เว็ปพระไตรปิฏก}






    [3]

    >>>[จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม ม.ม.ร]







    ***อนึ่ง พระราชาผู้เป็นกษัตริย์ แม้ทรงพระเยาว์ … เป็นกษัตริย์ผู้ได้รับ มุรธาภิเษกแล้ว หรือจะเป็นพราหมณ์ก็ตาม ก็เป็นผู้ควรแก่การกราบไหว้ของชนที่เหลือ … ชื่อว่า ชาติวุฑฒะ ผู้เจริญโดยชาติ.




    >>>อ.กิงสีลสูตร
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม47/หน้า277/บรรทัด1]
    [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม47/หน้า221/บรรทัด1]
    http://www.tripitaka91.com/47-277-1.html#middle
    www.tripitaka91.com {เว็ปพระไตรปิฏก}
    [1] ***ราชา ***กษัตริย์ ราชา... เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยโคตร... ท่านผู้ถึง พร้อมด้วยวิชา และจรณะ... เป็นผู้ประเสริฐที่สุด ในหมู่เทวดา และมนุษย์...{อัมพัฏฐสูตร} {จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม11/หน้า511/บรรทัด18} {จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม11/หน้า434/บรรทัด9} {จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม15/หน้า165/บรรทัด3} {จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม15/หน้า161/บรรทัด17} http://www.tripitaka91.com/11-512-2.html http://www.tripitaka91.com/11-511-18.html#middle http://www.tripitaka91.com/15-165-3.html http://www.tripitaka91.com/15-164-18.html#middle http://www.tripitaka91.com/91book/book11/501_550.htm#512 www.tripitaka91.com (เว็ปพระไตรปิฏก) >>>[จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม ม.ม.ร] ***[พระพุทธเจ้าตรัส]... ดูก่อนอัมพัฏฐะ...ก็คาถานี้นั้น สนังกุมารพรหมขับถูกไม่ผิด... กล่าวไว้ถูกไม่ผิด... ประกอบด้วยประโยชน์ ไม่ใช่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์... [เราเห็นด้วย] ***[พระพุทธเจ้าตรัส]... ดูก่อนอัมพัฏฐะ... [ถึงเรา ก็กล่าวเช่นนี้ว่า กษัตริย์เป็นผู้ประเสริฐที่สุด]... ในหมู่ชนผู้รังเกียจด้วยโคตร ท่านผู้ถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เป็นผู้ประเสริฐที่สุดในหมู่เทวดา และมนุษย์. >>>จบ ภาณวาร ที่ ๑ >>>>(หมายเหตุ)<<<<< ****[อกาลิโก]….หมายความว่า พระธรรมพระวินัยคำสอนของพระพุทธเจ้า ทุกสูตรทุกข้อนั้น….(ไม่มียุคสมัยไม่ประกอบด้วยกาล ไม่มีกำหนดจำกัดอายุกาลเวลา)…. ให้ผลทุกเมื่อทุกโอกาสทุกเวลา ทุกยุคทุกสมัยตามลำดับแห่งการปฏิบัติ…. (จริงแท้อยู่ตลอดอนันตกาล)….ด้วยเหตุนี้ พระธรรมพระวินัย จึงไม่ประกอบด้วยกาล ไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา. [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม34/หน้า186/บรรทัด12-13] [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม34/หน้า189/บรรทัด13] www.tripitaka91.com {เว็ปพระไตรปิฏก} http://www.tripitaka91.com/34-186-12.html#middle http://www.tripitaka91.com/34-186-13.html#middle http://www.tripitaka91.com/91book/book34/151_200.htm#186 [2] >>>[จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม ม.ม.ร] ***[พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า]…. สาวิตฺติ ฉนฺทโส มุขํ ฉันท์ทั้งหลายมีสาวิตติฉันท์ เป็นประมุข เพราะอันผู้สาธยายพระเวททั้งหลายต้องสาธยายก่อน. ***พระราชาท่านกล่าวว่า… เป็นประมุข เพราะประเสริฐที่สุดกว่ามนุษย์ทั้งหลาย. >>>>เสลสูตรที่ ๗ [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม47/หน้า554/บรรทัด8] [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม47/หน้า451/บรรทัด23] http://www.tripitaka91.com/47-554-8.html www.tripitaka91.com {เว็ปพระไตรปิฏก} [3] >>>[จากพระไตรปิฏก มหามกุฏราชวิทยาลัย ชุด 91 เล่ม ม.ม.ร] ***อนึ่ง พระราชาผู้เป็นกษัตริย์ แม้ทรงพระเยาว์ … เป็นกษัตริย์ผู้ได้รับ มุรธาภิเษกแล้ว หรือจะเป็นพราหมณ์ก็ตาม ก็เป็นผู้ควรแก่การกราบไหว้ของชนที่เหลือ … ชื่อว่า ชาติวุฑฒะ ผู้เจริญโดยชาติ. >>>อ.กิงสีลสูตร [จากพระไตรปิฏกเล่มสีน้ำเงิน เล่ม47/หน้า277/บรรทัด1] [จากพระไตรปิฏกเล่มสีแดง เล่ม47/หน้า221/บรรทัด1] http://www.tripitaka91.com/47-277-1.html#middle www.tripitaka91.com {เว็ปพระไตรปิฏก}
    0 Comments 0 Shares 410 Views 0 Reviews
  • คำถามนี้ชี้ให้เห็นว่า การแผ่เมตตาอย่างแท้จริงต้องเริ่มต้นจากใจที่สงบและเป็นสุขก่อน และไม่สามารถบังคับจิตใจให้เป็นสุขหรือเมตตาได้ทันทีหากยังมีโทสะหรือความเกลียดชังตกค้างอยู่ในใจ คุณอาจลองพิจารณาและปรับกระบวนการแผ่เมตตาให้ถูกต้องดังนี้:


    ---

    1. เริ่มต้นจากการ "รู้ตัวเอง"

    ก่อนจะแผ่เมตตา ให้ถามตัวเองก่อนว่า ใจเราสงบและเป็นสุขหรือยัง?

    หากใจยังร้อน ยังโกรธ หรือยังมีความไม่พอใจอยู่ อย่าเพิ่งพยายามแผ่เมตตา เพราะนั่นอาจกลายเป็นการ "แผ่ความร้อน" หรือ "แผ่ความทุกข์" ออกไปโดยไม่รู้ตัว


    แทนที่จะแผ่เมตตา ให้เริ่มด้วยการพิจารณา ความรู้สึกของตัวเอง ก่อน เช่น:

    ทำไมเราถึงโกรธหรือเกลียด?

    เรารู้สึกอย่างไรเมื่อโกรธ? ทุกข์ไหม?

    เมื่อเข้าใจว่าความโกรธทำให้เราทุกข์ เราจะเริ่มมีแรงจูงใจที่จะ "ปล่อยวาง" ความโกรธนั้น




    ---

    2. สร้างสุขในใจเป็นพื้นฐาน

    ก่อนแผ่เมตตา ให้ทำจิตใจตัวเองให้สงบและเป็นสุขด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง เช่น:

    การนั่งสมาธิและกำหนดลมหายใจเข้า-ออก

    การนึกถึงสิ่งดีๆ หรือคนที่เรารักและทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจ

    การระลึกถึงพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เพื่อให้ใจสงบและมั่นคง


    เมื่อจิตใจเริ่มสงบและเป็นสุข คุณจะรู้สึก "พร้อมที่จะแผ่เมตตา" อย่างแท้จริง



    ---

    3. การแผ่เมตตาอย่างถูกต้อง

    การแผ่เมตตาเริ่มต้นจาก การส่งความสุขในใจออกไป ให้แก่ผู้อื่น ไม่ใช่เพียงการท่องบทสวดมนต์แบบกลไก

    หากยังมีความรู้สึกเกลียดชังอยู่ การแผ่เมตตาแบบเจาะจง (เช่น แผ่ให้คนที่เราเกลียด) อาจทำได้ยาก แนะนำให้เริ่มจาก:

    1. แผ่เมตตาให้ตัวเองก่อน:

    อธิษฐานขอให้ตัวเองมีความสุข ปราศจากทุกข์ และหลุดพ้นจากความโกรธ



    2. แผ่เมตตาให้คนที่เรารัก:

    นึกถึงคนที่เรารักและรู้สึกดีด้วย เช่น ครอบครัวหรือเพื่อนสนิท แล้วส่งความปรารถนาดีให้พวกเขา



    3. แผ่เมตตาให้คนที่เราเกลียดเป็นลำดับสุดท้าย:

    เมื่อใจเริ่มสงบและเบาลง ค่อยลองแผ่เมตตาให้คนที่เรามีปัญหาด้วย โดยไม่ต้องบังคับใจตัวเอง






    ---

    4. ฝึก "ปล่อยวาง" แทนการบังคับให้เมตตา

    หากยังแผ่เมตตาไม่ได้ ให้เริ่มด้วยการ "ไม่ยึดติด" กับความเกลียดก่อน

    แค่รู้ว่าเรายังเกลียดเขาอยู่ก็พอ ไม่ต้องพยายามบังคับตัวเองให้เมตตา

    ค่อยๆ ฝึกปล่อยวางความคิดลบ และบอกตัวเองว่า "การเกลียดเขาไม่ได้ทำให้เราเป็นสุข"




    ---

    5. สังเกตผลของการแผ่เมตตา

    การแผ่เมตตาที่ถูกต้องจะทำให้ ใจเราสงบและเบาสบายขึ้น

    หากแผ่เมตตาแล้วรู้สึกหนักใจหรือเกลียดมากขึ้น นั่นอาจเป็นเพราะใจเรายังไม่พร้อม ให้กลับมาสงบจิตใจตัวเองก่อน


    เมื่อฝึกไปเรื่อยๆ ความโกรธหรือเกลียดที่มีต่อคนอื่นจะค่อยๆ ลดลงเอง โดยไม่ต้องเร่งรัด



    ---

    สรุป: แผ่เมตตาอย่างมีสุขเป็นทุน

    การแผ่เมตตาเริ่มต้นจาก การสร้างสุขในใจตัวเอง

    อย่าฝืนแผ่เมตตาให้คนที่เราเกลียดในทันที แต่ให้เริ่มจากการทำใจสงบ และแผ่เมตตาให้ตัวเองก่อน

    เมื่อทำบ่อยๆ ใจจะเริ่มปล่อยวางและรู้สึกเมตตาต่อผู้อื่นได้เองตามธรรมชาติ.


    คำถามนี้ชี้ให้เห็นว่า การแผ่เมตตาอย่างแท้จริงต้องเริ่มต้นจากใจที่สงบและเป็นสุขก่อน และไม่สามารถบังคับจิตใจให้เป็นสุขหรือเมตตาได้ทันทีหากยังมีโทสะหรือความเกลียดชังตกค้างอยู่ในใจ คุณอาจลองพิจารณาและปรับกระบวนการแผ่เมตตาให้ถูกต้องดังนี้: --- 1. เริ่มต้นจากการ "รู้ตัวเอง" ก่อนจะแผ่เมตตา ให้ถามตัวเองก่อนว่า ใจเราสงบและเป็นสุขหรือยัง? หากใจยังร้อน ยังโกรธ หรือยังมีความไม่พอใจอยู่ อย่าเพิ่งพยายามแผ่เมตตา เพราะนั่นอาจกลายเป็นการ "แผ่ความร้อน" หรือ "แผ่ความทุกข์" ออกไปโดยไม่รู้ตัว แทนที่จะแผ่เมตตา ให้เริ่มด้วยการพิจารณา ความรู้สึกของตัวเอง ก่อน เช่น: ทำไมเราถึงโกรธหรือเกลียด? เรารู้สึกอย่างไรเมื่อโกรธ? ทุกข์ไหม? เมื่อเข้าใจว่าความโกรธทำให้เราทุกข์ เราจะเริ่มมีแรงจูงใจที่จะ "ปล่อยวาง" ความโกรธนั้น --- 2. สร้างสุขในใจเป็นพื้นฐาน ก่อนแผ่เมตตา ให้ทำจิตใจตัวเองให้สงบและเป็นสุขด้วยวิธีใดวิธีหนึ่ง เช่น: การนั่งสมาธิและกำหนดลมหายใจเข้า-ออก การนึกถึงสิ่งดีๆ หรือคนที่เรารักและทำให้เรารู้สึกอบอุ่นใจ การระลึกถึงพระพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ เพื่อให้ใจสงบและมั่นคง เมื่อจิตใจเริ่มสงบและเป็นสุข คุณจะรู้สึก "พร้อมที่จะแผ่เมตตา" อย่างแท้จริง --- 3. การแผ่เมตตาอย่างถูกต้อง การแผ่เมตตาเริ่มต้นจาก การส่งความสุขในใจออกไป ให้แก่ผู้อื่น ไม่ใช่เพียงการท่องบทสวดมนต์แบบกลไก หากยังมีความรู้สึกเกลียดชังอยู่ การแผ่เมตตาแบบเจาะจง (เช่น แผ่ให้คนที่เราเกลียด) อาจทำได้ยาก แนะนำให้เริ่มจาก: 1. แผ่เมตตาให้ตัวเองก่อน: อธิษฐานขอให้ตัวเองมีความสุข ปราศจากทุกข์ และหลุดพ้นจากความโกรธ 2. แผ่เมตตาให้คนที่เรารัก: นึกถึงคนที่เรารักและรู้สึกดีด้วย เช่น ครอบครัวหรือเพื่อนสนิท แล้วส่งความปรารถนาดีให้พวกเขา 3. แผ่เมตตาให้คนที่เราเกลียดเป็นลำดับสุดท้าย: เมื่อใจเริ่มสงบและเบาลง ค่อยลองแผ่เมตตาให้คนที่เรามีปัญหาด้วย โดยไม่ต้องบังคับใจตัวเอง --- 4. ฝึก "ปล่อยวาง" แทนการบังคับให้เมตตา หากยังแผ่เมตตาไม่ได้ ให้เริ่มด้วยการ "ไม่ยึดติด" กับความเกลียดก่อน แค่รู้ว่าเรายังเกลียดเขาอยู่ก็พอ ไม่ต้องพยายามบังคับตัวเองให้เมตตา ค่อยๆ ฝึกปล่อยวางความคิดลบ และบอกตัวเองว่า "การเกลียดเขาไม่ได้ทำให้เราเป็นสุข" --- 5. สังเกตผลของการแผ่เมตตา การแผ่เมตตาที่ถูกต้องจะทำให้ ใจเราสงบและเบาสบายขึ้น หากแผ่เมตตาแล้วรู้สึกหนักใจหรือเกลียดมากขึ้น นั่นอาจเป็นเพราะใจเรายังไม่พร้อม ให้กลับมาสงบจิตใจตัวเองก่อน เมื่อฝึกไปเรื่อยๆ ความโกรธหรือเกลียดที่มีต่อคนอื่นจะค่อยๆ ลดลงเอง โดยไม่ต้องเร่งรัด --- สรุป: แผ่เมตตาอย่างมีสุขเป็นทุน การแผ่เมตตาเริ่มต้นจาก การสร้างสุขในใจตัวเอง อย่าฝืนแผ่เมตตาให้คนที่เราเกลียดในทันที แต่ให้เริ่มจากการทำใจสงบ และแผ่เมตตาให้ตัวเองก่อน เมื่อทำบ่อยๆ ใจจะเริ่มปล่อยวางและรู้สึกเมตตาต่อผู้อื่นได้เองตามธรรมชาติ.
    0 Comments 0 Shares 421 Views 0 Reviews
  • มีคนเขียนว่า ทองคำ ไม่ได้มีค่าอะไร เป็นสิ่งสมมุติค่ากันขึ้นมาเอง...
    ..แนวคิด ..มันต้องมีอะไรสักอย่างที่แทนค่า การแลกเปลี่ยนได้..เปลือกหอยยังมี...หลักฐานเชิงประจักษ์ ในภาพ ค้นพบที่ กรีก อายุที่ทดสอบค่าตามกระบวนการแล้ว ยืนยัน ไม่น้อยกว่า 3000 ปี...และมีแบบนี้ในหลายอารยธรรม...และปัจจุบัน ทองคำ ก็ยังคงเป็นของที่หาไม่ง่ายนักตามธรรมชาติ...ฉะนั้น คู่ควรแล้ว ที่มีค่ามาจนถึงปัจจุบัน ..และต่อไปในอนาคต...ใครเงินเย็นเก็บเลย..ถ้าคาดหวังกำไรระยะสั้น...อย่าเพิ่ง....
    มีคนเขียนว่า ทองคำ ไม่ได้มีค่าอะไร เป็นสิ่งสมมุติค่ากันขึ้นมาเอง... ..แนวคิด ..มันต้องมีอะไรสักอย่างที่แทนค่า การแลกเปลี่ยนได้..เปลือกหอยยังมี...หลักฐานเชิงประจักษ์ ในภาพ ค้นพบที่ กรีก อายุที่ทดสอบค่าตามกระบวนการแล้ว ยืนยัน ไม่น้อยกว่า 3000 ปี...และมีแบบนี้ในหลายอารยธรรม...และปัจจุบัน ทองคำ ก็ยังคงเป็นของที่หาไม่ง่ายนักตามธรรมชาติ...ฉะนั้น คู่ควรแล้ว ที่มีค่ามาจนถึงปัจจุบัน ..และต่อไปในอนาคต...ใครเงินเย็นเก็บเลย..ถ้าคาดหวังกำไรระยะสั้น...อย่าเพิ่ง....
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 176 Views 0 Reviews
  • ต้องขอบคุณ ไทยไทมส์ ที่ก่อตั้งขึ้นมาให้พวกเราคนไทยได้มีโอกาสหายใจกันเอง โดยที่ไม่ต้องยืมจมูกต่างชาติ...นะครับ
    ต้องขอบคุณ ไทยไทมส์ ที่ก่อตั้งขึ้นมาให้พวกเราคนไทยได้มีโอกาสหายใจกันเอง โดยที่ไม่ต้องยืมจมูกต่างชาติ...นะครับ
    0 Comments 0 Shares 293 Views 0 Reviews
  • ✨LARIMER ลาริแมร์ อัญมณีแห่งท้องทะเล
    Pearl Powder ✨

    💜 LARIMER LARIMER Soft Gel Soap 🧼
    Facial Soap🧼
    💜💮สบู่เซรั่มล้างหน้า แร่ทองคำและผงมุก สบู่เนื้อนุ่มนิ่ม เพราะ LARIMER ยกสารสกัดมาทั่งมหาสมุทรเลยคร้า สารสกัดทั้งหมด 9 ชนิด ทองคำ, ไข่มุก, สาหร่ายแดง, พลงตอล, คลอลาเจน, องุ่น, ไนอะซีนนาไมท, Vitamic B3, ดอกกล้วยไม้ไทย..
    🧼เนื้อสบู่สูตรเจลเข้มข้น ล้างหน้าไปด้วยและบำรุงผิวไปในด้วย เหมือนทาเซรั่ม และมาส์กหน้า เพราะสารสกัดต่างๆๆ จะเข้าซึมไปในรูขุมขน ที่กำลังเปิดอยู่ด้วยการล้างหน้า และสารสกัดตัวอื่นๆ จะช้วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น ผิวหน้าแข็งแรง ปรับสีผิวที่หมองคล่ำ ให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ.

    💮💜✨6 ขั้นตอนการล้างหน้า อย่างถูกวิธี
    💜1 ล้างมือให้สะอาด
    💜2 เช็ดเครื่องสำอางให้หมด
    💜3 ชโลมหน้าให้เปียก
    💜4 ใช้สบู่ล้างหน้า LARIMER วนครีมฟองทั่วใบหน้าถึงลำคอ
    💜5 มาส์กทิ้งไว้ 1-2นาที
    💜6 ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด

    LARIMER Soft Gel Soap 🧼
    Facial Soap🧼
    ใบรับจดแจ้งเลขที่ : 10-1-6700032766
    ขนาด 55g ราคา 350 บ

    🎊🎉โปรโมชั่น
    🛒1ก้อน ราคา 290.--
    🚛ค่าส่ง40.--

    🛒 2 ก้อน ราคา 598.--
    🚛 ส่งฟรี

    🛒 5 ก้อน แถม 1 ก้อน แถมสบู่อาบน้ำ MONOI เพิ่มอีก 1ก้อน และถุงตาข่ายตีฟอง 1ใบ
    ราคา 1495.-- 🚛ส่งฟรี

    📍 ช่องทางการจัดจำหน่าย
    🛒 ช้อปออนไลน์
    💬 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ทักเลยค่ะ

    🌟🌸สนใจ รับสมัคเป็นตัวแทน
    จำหน่าย และ รีวิว Inbox เลยค่ะ🌟🌸
    ✨LARIMER ลาริแมร์ อัญมณีแห่งท้องทะเล Pearl Powder ✨ 💜 LARIMER LARIMER Soft Gel Soap 🧼 Facial Soap🧼 💜💮สบู่เซรั่มล้างหน้า แร่ทองคำและผงมุก สบู่เนื้อนุ่มนิ่ม เพราะ LARIMER ยกสารสกัดมาทั่งมหาสมุทรเลยคร้า สารสกัดทั้งหมด 9 ชนิด ทองคำ, ไข่มุก, สาหร่ายแดง, พลงตอล, คลอลาเจน, องุ่น, ไนอะซีนนาไมท, Vitamic B3, ดอกกล้วยไม้ไทย.. 🧼เนื้อสบู่สูตรเจลเข้มข้น ล้างหน้าไปด้วยและบำรุงผิวไปในด้วย เหมือนทาเซรั่ม และมาส์กหน้า เพราะสารสกัดต่างๆๆ จะเข้าซึมไปในรูขุมขน ที่กำลังเปิดอยู่ด้วยการล้างหน้า และสารสกัดตัวอื่นๆ จะช้วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื่น ผิวหน้าแข็งแรง ปรับสีผิวที่หมองคล่ำ ให้กระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ. 💮💜✨6 ขั้นตอนการล้างหน้า อย่างถูกวิธี 💜1 ล้างมือให้สะอาด 💜2 เช็ดเครื่องสำอางให้หมด 💜3 ชโลมหน้าให้เปียก 💜4 ใช้สบู่ล้างหน้า LARIMER วนครีมฟองทั่วใบหน้าถึงลำคอ 💜5 มาส์กทิ้งไว้ 1-2นาที 💜6 ล้างหน้าด้วยน้ำสะอาด LARIMER Soft Gel Soap 🧼 Facial Soap🧼 ใบรับจดแจ้งเลขที่ : 10-1-6700032766 ขนาด 55g ราคา 350 บ 🎊🎉โปรโมชั่น 🛒1ก้อน ราคา 290.-- 🚛ค่าส่ง40.-- 🛒 2 ก้อน ราคา 598.-- 🚛 ส่งฟรี 🛒 5 ก้อน แถม 1 ก้อน แถมสบู่อาบน้ำ MONOI เพิ่มอีก 1ก้อน และถุงตาข่ายตีฟอง 1ใบ ราคา 1495.-- 🚛ส่งฟรี 📍 ช่องทางการจัดจำหน่าย 🛒 ช้อปออนไลน์ 💬 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ทักเลยค่ะ 🌟🌸สนใจ รับสมัคเป็นตัวแทน จำหน่าย และ รีวิว Inbox เลยค่ะ🌟🌸
    0 Comments 0 Shares 749 Views 0 Reviews
  • 4 สัญญาณ-ธรรมชาติ..เตือน ก่อนตาย
    จากงานวิจัยใน British Medical Journal ความว่า
    หากว่า ร่างกายมีสัญญาณเตือนเหล่านี้ จะเสียชีวิตภายใน 10 ปี
    1. คนที่เดินเร็วจะมีอายุยืนกว่าคนเดินช้า 15-20 ปี
    ตัวชี้วัดนี้ เกี่ยวข้องกับ ระบบการเผาผลาญ ระบบกล้ามเนื้อ การทำงานของหัวใจและปอด การไหลเวียนของเลือด
    2. ความสามารถในการนั่ง และ ยืน เป็นผลมาจากความแข็งแรงของมวลกล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น ข้อต่อ ทดลอบได้ง่ายๆโดย กอดอกลุก+นั่งบนเก้าอี้ภายใน 30 วินาที ชายลุก+นั่งต้องได้ 14 ครั้ง หญิง 12 ครั้ง
    3. แรงบีบมือที่ดี สะท้อนถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยรวม วัดได้โดย Handgrip Dynamometer ผู้ชายวัดได้ไม่ต่ำกว่า 28.5 kg. หญิง 18.5 kg.
    4. กิจกรรมส่วนตัวทำด้วยตัวเอง เช่น ใส่กางเกงไม่ลืมรูดซิป ไปตลาด ทำครัว หุงหาอาหารเองได้ สวมถุงเท้าเองแลัวลุกขึ้นเอง***ต้องไม่มีอาการหน้ามืด**
    4 สัญญาณ-ธรรมชาติ..เตือน ก่อนตาย จากงานวิจัยใน British Medical Journal ความว่า หากว่า ร่างกายมีสัญญาณเตือนเหล่านี้ จะเสียชีวิตภายใน 10 ปี 1. คนที่เดินเร็วจะมีอายุยืนกว่าคนเดินช้า 15-20 ปี ตัวชี้วัดนี้ เกี่ยวข้องกับ ระบบการเผาผลาญ ระบบกล้ามเนื้อ การทำงานของหัวใจและปอด การไหลเวียนของเลือด 2. ความสามารถในการนั่ง และ ยืน เป็นผลมาจากความแข็งแรงของมวลกล้ามเนื้อ กระดูก เอ็น ข้อต่อ ทดลอบได้ง่ายๆโดย กอดอกลุก+นั่งบนเก้าอี้ภายใน 30 วินาที ชายลุก+นั่งต้องได้ 14 ครั้ง หญิง 12 ครั้ง 3. แรงบีบมือที่ดี สะท้อนถึงความแข็งแรงของกล้ามเนื้อโดยรวม วัดได้โดย Handgrip Dynamometer ผู้ชายวัดได้ไม่ต่ำกว่า 28.5 kg. หญิง 18.5 kg. 4. กิจกรรมส่วนตัวทำด้วยตัวเอง เช่น ใส่กางเกงไม่ลืมรูดซิป ไปตลาด ทำครัว หุงหาอาหารเองได้ สวมถุงเท้าเองแลัวลุกขึ้นเอง***ต้องไม่มีอาการหน้ามืด**
    0 Comments 0 Shares 385 Views 0 Reviews
  • เอาจริงๆ ผมชอบความ เผด็จการแบบจีนๆ ที่สุดละ...
    .
    เผด็จการ เพื่อประชาชน เพื่อประเทศชาติ...!!!
    เอาจริงๆ ผมชอบความ เผด็จการแบบจีนๆ ที่สุดละ... . เผด็จการ เพื่อประชาชน เพื่อประเทศชาติ...!!!
    ประเทศจีนเป็นเผด็จการถึงขนาดที่จัดเวทีใหญ่เพื่อหาทางแก้ไขข้อร้องเรียนจากประชาชน! นั่นคือฟอรั่มปักกิ่ง 2024 เกี่ยวกับการตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อข้อร้องเรียนของประชาชน

    ทั้งนี้ปักกิ่งมีสายด่วน "12345" ซึ่งผู้คนสามารถโทรร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ได้แทบทุกเรื่อง เช่น หลุมบ่อ ขยะ อาชญากรรม เป็นต้น ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมากจนมีนายกเทศมนตรีจากเอเธนส์และผู้ว่าเมืองอื่นๆ ทั่วโลกเข้าร่วมด้วย

    นี่เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ภายนอกประเทศจีนไม่เคยได้ยินมาก่อน: ในประเทศจีนจะมีหมายเลขโทรศัพท์ 12345 ซึ่งคุณสามารถกดได้จากทุกที่ในประเทศหากคุณมีคำถามหรือข้อร้องเรียนที่รัฐบาลท้องถิ่นสามารถตอบหรือแก้ไขได้

    พวกเขามีภาระผูกพันทางกฎหมายในการดำเนินการคดีของคุณและแก้ไขปัญหาให้เสร็จสิ้น ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 พวกเขาได้ดำเนินการคดีไปแล้ว 20 ล้านคดี โดยมีอัตราการแก้ไขปัญหาคดีได้ 95.5% ( beijing.gov.cn/hudong/jpzt/20… )

    การร้องเรียนที่พบบ่อยที่สุดครอบคลุมถึงปัญหาในชีวิตประจำวันมากมาย โดยปัญหาที่เรียกว่า "การจัดการตลาด" (เช่น ข้อพิพาททางการค้าออนไลน์) อยู่อันดับต้นๆ โดยมีจำนวน 3.66 ล้านกรณี รองลงมาคือปัญหาด้านสถาบันการศึกษา จำนวน 1.73 ล้านกรณี (ส่วนใหญ่เกี่ยวกับการคืนเงินจากสถาบันการศึกษา) และปัญหาด้านที่อยู่อาศัย จำนวน 1.27 ล้านกรณี (ครอบคลุมทุกอย่างตั้งแต่สิ่งอำนวยความสะดวกในละแวกใกล้เคียงไปจนถึงการซ่อมแซมบ้าน)

    ฉันเคยใช้มันหลายครั้ง ครั้งหนึ่งคือตอนที่โรงเรียนในเซี่ยงไฮ้ปิดทำการในช่วงต้นปี 2020 เนื่องจากโควิด เพราะโรงเรียนอนุบาลของลูกสาวฉันไม่ต้องการคืนเงินค่าเล่าเรียนแม้ว่ารัฐบาลจะสั่งให้จ่ายก็ตาม

    เราถูกส่งต่อไปยังคณะกรรมการการศึกษาเซี่ยงไฮ้ ซึ่งรับเรื่องร้องเรียนดังกล่าวอย่างจริงจัง และพยายามไกล่เกลี่ยหาข้อยุติระหว่างเราและโรงเรียน โดยหมายเลข 12345 จะแนะนำคุณไปยังเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง และติดตามผลเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าหน้าที่จะพิจารณาคดีของคุณ

    สุดท้ายแล้วเราไม่ได้รับเงินคืนเพราะเป็นโรงเรียนนานาชาติซึ่งทางการการศึกษาเซี่ยงไฮ้ไม่มีอำนาจบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งตรงกันข้ามกับโรงเรียนในจีน แต่ไม่ใช่เพราะไม่พยายาม!

    อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ยังช่วยทำให้แนวคิดที่ว่าหน่วยงานต่างชาติได้รับการปฏิบัติที่ไม่ดีในจีนดูชัดเจนขึ้น ในกรณีนั้น โรงเรียนนานาชาติจึงมีความคล่องตัวและอิสระมากกว่าโรงเรียนในจีนมาก!

    เราใช้หมายเลข 12345 เป็นจำนวนมากเมื่อเดินทางไปประเทศจีนในช่วงที่มีการระบาดของโควิด เนื่องจากนโยบายเกี่ยวกับโควิดมักจำกัดเฉพาะในประเทศจีน เราจึงโทรไปที่หมายเลข 12345 ของจุดหมายปลายทางทั้งหมดที่เราเดินทางไประหว่างการเดินทาง เพื่อทำความเข้าใจสถานการณ์โควิดในพื้นที่

    พวกเขามีหน้าที่ตอบคำถามของเราและให้คำอธิบายที่ถูกต้องเกี่ยวกับนโยบายที่บังคับใช้ในพื้นที่นั้น ๆ เสมือนเป็นคำแนะนำทางกฎหมายฟรี คุณสามารถถามพวกเขาเกี่ยวกับกฎหมายหรือแนวนโยบายใด ๆ ที่บังคับใช้ในประเทศจีนก็ได้

    เท่าที่ฉันทราบ หมายเลข 12345 นี้มีความพิเศษมาก ในฝรั่งเศส หากฉันมีเรื่องร้องเรียนที่รัฐบาลสามารถแก้ไขได้ เช่น โรงเรียนที่จงใจไม่ปฏิบัติตามนโยบาย ฉันก็ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มจากตรงไหน และฉันรู้ว่าปัญหาใดๆ ก็ตามอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีจึงจะได้รับการแก้ไข... ในจีน 12345 รวดเร็วอย่างเหลือเชื่อ ไม่ว่าปัญหาจะเป็นอะไร คุณก็จะสามารถสรุปผลได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันก็ได้ เรื่องเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับการสอบถามเกี่ยวกับนโยบายหรือกฎหมาย

    ในโลกตะวันตก "ไม่มีใครควรละเลยกฎหมาย" แต่คุณจะไปเรียนรู้กฎหมายได้ที่ไหน? โดยปกติแล้ว คุณจะต้องจ่ายเงินให้กับทนายความหรืออ่านกฎหมายที่คลุมเครือด้วยตัวเอง ซึ่งคนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางเข้าใจได้ ในประเทศจีน คุณสามารถโทรไปที่หมายเลข 12345 เพื่อรับคำตอบเฉพาะสำหรับกรณีของคุณโดยตรงจากเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ง่ายและฟรีอย่างไม่สิ้นสุด!

    และโดยบังเอิญ มันยังช่วยให้รัฐบาลปรับปรุงได้แบบเรียลไทม์ในระดับที่ละเอียดมากด้วย: ถ้าพวกเขาเริ่มได้รับสายโทรศัพท์จำนวนมากเกี่ยวกับปัญหาใดปัญหาหนึ่ง พวกเขาก็จะได้รับรู้ถึงปัญหานั้นและแก้ไขปัญหานั้น

    นี่คือตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของระดับความรับผิดชอบของรัฐบาลต่อประชาชนซึ่งไม่มีอยู่จริงในโลกตะวันตก ทำให้คุณไตร่ตรองถึงระบบการปกครองและว่าประชาธิปไตยเสรีนิยมในโลกตะวันตกได้แสดงพฤติกรรมมากเกินไปหรือไม่ - โดยยึดตามค่านิยมที่เป็นนามธรรม - เมื่อเทียบกับการปฏิบัติจริง
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • ธรรมชาติ...
    Cr.Wiwan
    ธรรมชาติ... Cr.Wiwan
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • ผมใช้เวลา 18 ปีเพื่อความจริงหนึ่งเดียว ให้ “ทักษิณ” สารภาพผิดคดโกงประเทศชาติ.บางคนพูดเรื่องเก่าว่าผมเป็นสารตั้งต้นความวุ่นวาย ประเทศไม่เดินหน้าเพราะการประท้วงของผม ผมจะถามกลับต่อว่า ที่กูประท้วงเมื่อปี 2548 กูประท้วงใคร ประท้วงเรื่องอะไร ผมใช้เวลา 18 ปี…18ปีที่ต่อสู้ว่าความจริงมีหนึ่งเดียว ให้ทักษิณ ชินวัตร สารภาพผิดบรรจุลงในพระราชกิจจานุเบกษา (ลงวันที่ 31สิงหาคม 2566) ว่า ได้คดโกงประเทศชาติไปอย่างไร ความจริงและประวัติศาสตร์รอตั้ง18ปี.ไอ้พวกปากหมาที่เที่ยวว่าผม ผมเข้าใจมันกินเงินเดือนนายของมัน ทุกอย่างนายมันให้หมด แต่มันพูดแบบสมองหมาปัญญาควาย .มีนักการเมืองพรรคเพื่อไทย พูดว่าถ้าเราไม่ตกลงผลประโยชน์แล้วเราจะรบทำไม ผมบอกว่ามึงกินยาผิดหรือเปล่า เพราะกูไม่ได้ทะเลาะกับใคร จะถามว่าอันนี้เป็นของกูใช่ไหม ถ้าเป็นของกูแล้วมึงจะเอาไปได้ยังไง ถ้าเป็นของกูถ้ามึงไม่ฟังจะมาเอาไปก็ต้องเจอกัน .พ่อแม่พี่น้องไม่ต้องรีบร้อน เราจะทำเป็นขั้นตอนไป ทำจนกระทั่งสุดซอยแล้ว ยังไม่รู้เรื่อง ก็จะทะลุซอยแม่งเลย.มันบอกว่าสนธิไม่มีมวลชนแล้ว ยังมีอยู่รึป่าวพี่น้อง ถึงวันนั้นถ้าจำเป็นต้องออกมาแสดงพลัง พร้อมหรือไม่พร้อม (เสียงขานรับตะโกนสู้ว่า พร้อม!!) .วันนี้ก่อนจะจบ ผมขอชมเชย นกเขา-นิติกร ล้ำเหลือ ที่สู้มาตลอด และขอชมเชยคุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรมที่รวบรวมรายชื่อแสนชื่อด้วยครับ
    ผมใช้เวลา 18 ปีเพื่อความจริงหนึ่งเดียว ให้ “ทักษิณ” สารภาพผิดคดโกงประเทศชาติ.บางคนพูดเรื่องเก่าว่าผมเป็นสารตั้งต้นความวุ่นวาย ประเทศไม่เดินหน้าเพราะการประท้วงของผม ผมจะถามกลับต่อว่า ที่กูประท้วงเมื่อปี 2548 กูประท้วงใคร ประท้วงเรื่องอะไร ผมใช้เวลา 18 ปี…18ปีที่ต่อสู้ว่าความจริงมีหนึ่งเดียว ให้ทักษิณ ชินวัตร สารภาพผิดบรรจุลงในพระราชกิจจานุเบกษา (ลงวันที่ 31สิงหาคม 2566) ว่า ได้คดโกงประเทศชาติไปอย่างไร ความจริงและประวัติศาสตร์รอตั้ง18ปี.ไอ้พวกปากหมาที่เที่ยวว่าผม ผมเข้าใจมันกินเงินเดือนนายของมัน ทุกอย่างนายมันให้หมด แต่มันพูดแบบสมองหมาปัญญาควาย .มีนักการเมืองพรรคเพื่อไทย พูดว่าถ้าเราไม่ตกลงผลประโยชน์แล้วเราจะรบทำไม ผมบอกว่ามึงกินยาผิดหรือเปล่า เพราะกูไม่ได้ทะเลาะกับใคร จะถามว่าอันนี้เป็นของกูใช่ไหม ถ้าเป็นของกูแล้วมึงจะเอาไปได้ยังไง ถ้าเป็นของกูถ้ามึงไม่ฟังจะมาเอาไปก็ต้องเจอกัน .พ่อแม่พี่น้องไม่ต้องรีบร้อน เราจะทำเป็นขั้นตอนไป ทำจนกระทั่งสุดซอยแล้ว ยังไม่รู้เรื่อง ก็จะทะลุซอยแม่งเลย.มันบอกว่าสนธิไม่มีมวลชนแล้ว ยังมีอยู่รึป่าวพี่น้อง ถึงวันนั้นถ้าจำเป็นต้องออกมาแสดงพลัง พร้อมหรือไม่พร้อม (เสียงขานรับตะโกนสู้ว่า พร้อม!!) .วันนี้ก่อนจะจบ ผมขอชมเชย นกเขา-นิติกร ล้ำเหลือ ที่สู้มาตลอด และขอชมเชยคุณหมอวรงค์ เดชกิจวิกรมที่รวบรวมรายชื่อแสนชื่อด้วยครับ
    Love
    1
    0 Comments 1 Shares 532 Views 0 Reviews
  • เมื่อวันพุธ (4 ธ.ค.) องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนเทศกาลฤดูใบไม้ผลิหรือเทศกาลตรุษจีนของประชาชนชาวจีนเข้าสู่รายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ.มติข้างต้นมีขึ้นที่การประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลด้านการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ สมัยที่ 19 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-7 ธ.ค. ในปารากวัย โดยคณะกรรมการฯ ให้การรับรองเทศกาลตรุษจีน เนื่องด้วยมีพิธีกรรมและองค์ประกอบทางวัฒนธรรมเฉพาะตัวอันเกี่ยวพันกับทั้งสังคมจีน.ยูเนสโกเน้นย้ำว่าเทศกาลตรุษจีนที่เป็นหมุดหมายการเริ่มต้นปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติจีนมีความเกี่ยวข้องกับพิธีปฏิบัติทางสังคมที่หลากหลาย ทั้งการกราบไหว้ขอพรและการกลับมารวมตัวกันของสมาชิกครอบครัว รวมถึงมีกิจกรรมต่างๆ ที่จัดแจงโดยผู้สูงอายุและงานสาธารณะตามเทศกาลที่จัดโดยชุมชน.เอกสารของยูเนสโกระบุว่าองค์ความรู้และขนบธรรมเนียมตามประเพณีดั้งเดิมที่เกี่ยวพันกับเทศกาลตรุษจีนถูกส่งต่อภายในครอบครัวและชุมชนอย่างไม่เป็นทางการ รวมถึงส่งต่ออย่างเป็นทางการผ่านระบบการศึกษา ขณะทักษะงานฝีมือและศิลปะที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้ถูกส่งต่อผ่านการฝึกฝน ส่งเสริมคุณค่าของครอบครัว ความสมานฉันท์ในสังคม และสันติภาพ.คณะกรรมการฯ สำทับว่าเทศกาลตรุษจีนที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมนั้นประกอบด้วยความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และมีส่วนส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านต่างๆ เช่น ความมั่นคงทางอาหารและการศึกษา ตลอดจนมีบทบาทหลักในการเพิ่มความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม.เหราเฉวียน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน ซึ่งนำคณะผู้แทนของจีนเข้าร่วมการประชุมของยูเนสโก กล่าวว่าเทศกาลตรุษจีนเป็นวันหยุดตามประเพณีที่สำคัญที่สุดของจีน เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังมีชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนชาวจีน สัมพันธ์กับครอบครัวและประเทศ และคุณค่าของความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ.เหราเสริมว่าเทศกาลตรุษจีนถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นและมอบความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณแก่ประชาชนชาวจีนเสมอมา มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความปรองดองของครอบครัวและสังคม ขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ปกป้องสิ่งแวดล้อม และบ่มเพาะการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมทั่วโลก.เหรากล่าวว่าการขึ้นทะเบียนเทศกาลตรุษจีนเข้าสู่รายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจะช่วยส่งเสริมคุณค่าสากลของสันติภาพและความสามัคคีปรองดอง และเน้นย้ำบทบาทสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในการพัฒนาที่ยั่งยืน.ปัจจุบันจีนมีองค์ประกอบหรือพิธีปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่ยูเนสโกให้การรับรองเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จำนวน 44 รายการแล้ว
    เมื่อวันพุธ (4 ธ.ค.) องค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนเทศกาลฤดูใบไม้ผลิหรือเทศกาลตรุษจีนของประชาชนชาวจีนเข้าสู่รายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ.มติข้างต้นมีขึ้นที่การประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลด้านการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ สมัยที่ 19 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 2-7 ธ.ค. ในปารากวัย โดยคณะกรรมการฯ ให้การรับรองเทศกาลตรุษจีน เนื่องด้วยมีพิธีกรรมและองค์ประกอบทางวัฒนธรรมเฉพาะตัวอันเกี่ยวพันกับทั้งสังคมจีน.ยูเนสโกเน้นย้ำว่าเทศกาลตรุษจีนที่เป็นหมุดหมายการเริ่มต้นปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติจีนมีความเกี่ยวข้องกับพิธีปฏิบัติทางสังคมที่หลากหลาย ทั้งการกราบไหว้ขอพรและการกลับมารวมตัวกันของสมาชิกครอบครัว รวมถึงมีกิจกรรมต่างๆ ที่จัดแจงโดยผู้สูงอายุและงานสาธารณะตามเทศกาลที่จัดโดยชุมชน.เอกสารของยูเนสโกระบุว่าองค์ความรู้และขนบธรรมเนียมตามประเพณีดั้งเดิมที่เกี่ยวพันกับเทศกาลตรุษจีนถูกส่งต่อภายในครอบครัวและชุมชนอย่างไม่เป็นทางการ รวมถึงส่งต่ออย่างเป็นทางการผ่านระบบการศึกษา ขณะทักษะงานฝีมือและศิลปะที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลนี้ถูกส่งต่อผ่านการฝึกฝน ส่งเสริมคุณค่าของครอบครัว ความสมานฉันท์ในสังคม และสันติภาพ.คณะกรรมการฯ สำทับว่าเทศกาลตรุษจีนที่มีเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมนั้นประกอบด้วยความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ และมีส่วนส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนในด้านต่างๆ เช่น ความมั่นคงทางอาหารและการศึกษา ตลอดจนมีบทบาทหลักในการเพิ่มความตระหนักรู้ด้านสิ่งแวดล้อม.เหราเฉวียน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของจีน ซึ่งนำคณะผู้แทนของจีนเข้าร่วมการประชุมของยูเนสโก กล่าวว่าเทศกาลตรุษจีนเป็นวันหยุดตามประเพณีที่สำคัญที่สุดของจีน เป็นสัญลักษณ์แห่งความหวังมีชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชนชาวจีน สัมพันธ์กับครอบครัวและประเทศ และคุณค่าของความกลมกลืนระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ.เหราเสริมว่าเทศกาลตรุษจีนถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นและมอบความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณแก่ประชาชนชาวจีนเสมอมา มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความปรองดองของครอบครัวและสังคม ขับเคลื่อนการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ปกป้องสิ่งแวดล้อม และบ่มเพาะการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมทั่วโลก.เหรากล่าวว่าการขึ้นทะเบียนเทศกาลตรุษจีนเข้าสู่รายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติจะช่วยส่งเสริมคุณค่าสากลของสันติภาพและความสามัคคีปรองดอง และเน้นย้ำบทบาทสำคัญของมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ในการพัฒนาที่ยั่งยืน.ปัจจุบันจีนมีองค์ประกอบหรือพิธีปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่ยูเนสโกให้การรับรองเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ จำนวน 44 รายการแล้ว
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 911 Views 0 Reviews
  • สนธิ ร้องรัฐฯ จี้ปม MOU ขายชาติ.#mgronline #สนธิ #MOUขายชาติ
    สนธิ ร้องรัฐฯ จี้ปม MOU ขายชาติ.#mgronline #สนธิ #MOUขายชาติ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 347 Views 0 Reviews
  • อ้วน...!!!
    เอาเท่าไร...???
    .
    ไม่อ้วน...!!!
    เอาเท่าไหร่...???
    .
    🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    .
    ร้องเพลงจนขาสั่นเลยแฮะ...!!!
    .
    (( มะ-ลิ-ลา บราซิลเลี่ยน ))
    ...
    ...
    เอาจริงๆข่าวที่ ฮุน มาเนต พูดหน่ะ ใช้เวลาเซิร์ชหา แค่ไม่กี่วินาทีก็เจอแล้ว...
    .
    แต่...คุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่ายังไม่รู้...???
    .
    น่าเศร้าจังเน๊าะ...
    .
    เวลา รัฐบาล เขาทำงานนี่ ไม่มีเจ้าหน้าระดับปฏิบัติงานที่คอยป้อนข่าวอะไรให้เลยเหรอ...???
    .
    สภาพเหมือน คนตาบอดคลำช้าง แบบนี้ จะมีความสามารถ มาบริหารประเทศได้แน่เหรอครับ...???
    .
    หึหึหึ...
    .
    ความหวังของประเทศชาติ...???
    .
    คนไทย มีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี...???
    .
    🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    .
    https://www.youtube.com/watch?v=1_4JBrHSY2U
    อ้วน...!!! เอาเท่าไร...??? . ไม่อ้วน...!!! เอาเท่าไหร่...??? . 🤣🤣🤣🤣🤣🤣 . ร้องเพลงจนขาสั่นเลยแฮะ...!!! . (( มะ-ลิ-ลา บราซิลเลี่ยน )) ... ... เอาจริงๆข่าวที่ ฮุน มาเนต พูดหน่ะ ใช้เวลาเซิร์ชหา แค่ไม่กี่วินาทีก็เจอแล้ว... . แต่...คุณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกว่ายังไม่รู้...??? . น่าเศร้าจังเน๊าะ... . เวลา รัฐบาล เขาทำงานนี่ ไม่มีเจ้าหน้าระดับปฏิบัติงานที่คอยป้อนข่าวอะไรให้เลยเหรอ...??? . สภาพเหมือน คนตาบอดคลำช้าง แบบนี้ จะมีความสามารถ มาบริหารประเทศได้แน่เหรอครับ...??? . หึหึหึ... . ความหวังของประเทศชาติ...??? . คนไทย มีกินมีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี...??? . 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣 . https://www.youtube.com/watch?v=1_4JBrHSY2U
    0 Comments 0 Shares 221 Views 0 Reviews
  • เห็นแก่ชาติ...เลิกเห็นแก่ตัว!
    เห็นแก่ชาติ...เลิกเห็นแก่ตัว!
    0 Comments 0 Shares 235 Views 0 Reviews
  • ความจริงมีหนึ่งเดียว..คนขายชาติก็คือคนขายชาติ....คนขายชาติจะเป็นคนคลั่งชาติไม่ได้...เพราะไม่ใช่ความจริง....ต้องไล่มันออกไป เอาประเทศไทยของเราคืนมา🎼🎼🎼🇹🇭🇹🇭❤️
    ความจริงมีหนึ่งเดียว..คนขายชาติก็คือคนขายชาติ....คนขายชาติจะเป็นคนคลั่งชาติไม่ได้...เพราะไม่ใช่ความจริง....ต้องไล่มันออกไป เอาประเทศไทยของเราคืนมา🎼🎼🎼🇹🇭🇹🇭❤️
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 304 Views 0 Reviews
  • #นาฬิกาชีวิต จังหวะเวลาที่กำหนดสุขภาพ
    ทุกวัน..จะชอบเขียนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ ละเว้นการเบียดเบียนตามหลักพุทธศาสนา คือ ถือศีลข้อที่๑(บริสุทธิ์) ทำให้เลือดในร่างกายไม่เป็นกรด ปัญหาเรื่องกระดูกพรุนไม่เกิด และมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระทางราชการ หรือ ต้องสูญเสียเงินทองมากมายเมื่อเข้าสู่วัยชรา.
    วันนี้..ที่บ้านมีพะโล้ฟองเต้าหู้ กับ ผักกาดจอ หม้อใหญ่ๆ เป็นอาหารหลัก ทำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คงกินได้หลายวัน
    วันนี้จึงไม่โม้เรื่องอาหาร เพราะเคยเขียนเผยแพร่แล้ว
    วันนี้พูดเรื่องสำคัญ..มากเท่ากับเรื่องอาหาร คือ
    วินัย ของ การทำงานในร่างกาย ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ ถูกที่ ถูกเวลา ตลอดเวลา ๒๔ชั่วโมง ก็ สำคัญมาก ซึ่งวันนี้ จะนำเสนอให้ทราบ ดังนี้
    เหตุผลตามธรรมชาติ
    #ทำไมต้องนอนสามทุ่มตื่นตีสาม?
    ต้องดื่มน้ำหลังตื่นนอน ขับถ่ายของเสีย กินอาหารให้ตรงเวลา
    #ทำไมเวลาเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงเช้า(ห้ามนอน..เด็ดขาด)
    บ่ายโมงถึงบ่ายสามไม่ควรกินอาหาร
    #บ่ายสามถึงห้าโมงเย็นเป็นเวลาออกกำลังกาย
    --->สามทุ่ม(ต้อง)เข้านอน(ห่มผ้า)ให้อบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น
    #สี่ทุ่มถึงตีสามคือเวลาของฮอร์โมนเมลาโทนิน(หลั่ง)
    --->ต้อง(ห่มผ้า)นอนหลับให้สนิท และ ปิดไฟให้มืด
    จึงจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาว 120 ปี
    #นาฬิกาชีวิต คือ การดูแลรักษาสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ให้มีสุขภาพที่ดีอายุยืนนาน ตามศาสตร์การแพทย์จีน อายุรเวทของอินเดีย และอียิปต์โบราณได้ค้นพบ และบันทึกตรงกันว่า
    #อวัยวะในร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ #อวัยวะตัน --->หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ และไต #อวัยวะกลวง --->กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบความร้อนในร่างกาย
    ทั้งหมดรวมได้ 12 อวัยวะ ควบคุมการไหลเวียนด้วยพลังชีวิตที่เรียกว่า.. “ #ลมปราณ” หมุนเวียนเป็นวัฏจักรทุก 2 ชั่วโมง ตามลำดับ
    ดังนั้นใน 1วัน=12อวัยวะX2ชั่วโมง จึงเท่ากับ 24ชั่วโมง (พอดีเป๊ะ)
    นี่แหละ คือ วัฏจักรของการทำงาน(ตามปกติ)ของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกว่า #นาฬิกาชีวิต นั่นเอง ค่ะ
    #ตารางการเดินลมปราณในแต่ละวัน จึงเป็นการดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ..”นาฬิกาชีวิต” ได้ดังนี้...
    เวลา 01.00-03.00น. ควรเป็นเวลาของ #ตับ มีหน้าที่เป็นโรงงานกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นในช่วงเวลานี้ร่างกาย #ควรนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ตับได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายหากไม่หลับในช่วงนี้จะทำให้สะสมพิษทำให้เกิดอาการเพลีย เหนื่อยง่าย
    โรคต่างที่เกิดจากพิษสารเคมีสะสมจะทำให้ป่วยง่าย+เรื้อรัง-ตายอย่างเวทนาและทุกข์ทรมาน นะคะ(ขอ บอก)
    เวลา 03.00-05.00น. #ควรตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก..ลึกๆ ช้าๆ..สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย ทำให้สุขภาพปอดและร่างกายโดยรวมจะดีไปด้วย
    #การดื่มน้ำอุ่นในช่วงนี้และการซิทอัป--->จะกระตุ้น(เร่ง)การทำงานของลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำงานในช่วงต่อไป..
    เวลา 05.00-07.00น. เป็นช่วงเวลาของ #การทำงานลำไส้ใหญ่ บีบรัดตัวได้ดีที่สุด เป็นเวลาขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับไป สะสมสารพิษ สะสม ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เวลา 05.45-06.00น.เป็นเวลาที่ดีที่สุด ของ #การฝึกสมาธิ เพราะในขณะที่ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ&แปรงฟัน..เสร็จ ปลอดโปร่ง..#โล่งทั้งกายและใจไม่มีเรื่องเครียด เรื่องงานมากวนใจ ฝึกนั่งสมาธิในช่วงนี้(ทุกวัน)สามารถเข้าถึงสมาธิได้สำเร็จ(ง่าย)มาก..ค่ะ
    เวลา 07.00-09.00น. คือช่วงเวลาของ #กระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้าเป็นมื้อหลักที่มีสารอาหารอย่างครบถ้วน หากไม่กินมื้อเช้า(มื้อสำคัญ)จะเป็นโรคกระเพาะอย่างรวดเร็ว และสะสมเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในระยะยาว
    เวลา 09.00-011.00น. เป็นเวลาของ #ม้าม ควบคุมเม็ดเลือดขาว กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ดังนั้นผู้ที่นอนในช่วงนี้จะส่งผลให้ม้ามอ่อนแอ มี #ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ติดเชื้อเป็นโรคต่างๆได้ง่าย
    เวลา 11.00-13.00น. ช่วงพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาของ #หัวใจ ควรพักผ่อน..สบายๆ งดน้ำชา กาแฟ หลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ทำงานหนักเกิน ส่งผลให้หัวใจวายได้อย่างง่ายๆ ในช่วงเวลาเที่ยง จ๊ะ
    เวลา 13.00-15.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ลำไส้เล็ก ในช่วงนี้ร่างกายส่งพลังงานทั้งหมดไปยังลำไส้เล็กเพื่อการดูดซึม #การกินอาหารในช่วงนี้จะไปขัดขวางโอกาสทองของระบบดูดซีมที่ต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วงนี้สมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีที่สุดในรอบวัน
    เวลา 15.00-17.00น. เวลาของ #กระเพาะปัสสาวะ และการขับเหงื่อ #จึงควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ เหมาะกับการอบซาวน่าเพื่อให้เหงื่อออก สำหรับหนุ่มสาวที่ทำงานในช่วงนี้ ก็สามารถใช้ท่าการออกกำลังกายในสำนักงาน หรือเดินไป-มา ขึ้น-ลงบันได เพื่อส่งเสริมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้..เช่นกัน
    เวลา 17.00-19.00น. #ช่วงเวลาของไต มีหน้าที่รักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย โดยกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเหงื่อ #เวลาช่วงนี้จึงควรทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง ไม่หลับ เป็นช่วงCool Down หรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากการออกกำลังกายอย่างหนัก..ในช่วงเวลาที่ผ่านมา
    เวลา 19.00-21.00น. ช่วงนี้เป็นเวลาที่ #เยื่อหุ้มหัวใจ..บางที่สุด จึงควรระวังอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจ โกรธ เสียใจ การที่ทำให้ตื่นตัวมากๆส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจฉีกขาดได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงควรปิดโทรศัพท์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ
    เวลา 21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ระบบความร้อนในร่างกาย ซึ่งตามธรรมชาติ..ในช่วงเวลานี้อากาศเริ่มเย็น ร่างกายคนเราต้องสร้างความร้อนขึ้น จึงไม่ควรอาบน้ำหรือดื่มน้ำเย็น และควรเข้านอนในช่วงเวลานี้ ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนเพื่อส่งเสริมการทำงานของถุงน้ำดีในเวลาถัดไป.
    เวลา 23.00-01.00น. เวลาของ #ถุงน้ำดี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำ อวัยวะต่างๆจะดึงน้ำจากถุงน้ำดี..แล้วนำไปใช้ หากน้ำในถุงน้ำดีข้นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติได้ #หากไม่นอนในช่วงนี้จะเกิดถุงไขมันใต้ตา และไขมันพอกตับ
    .
    .
    เจริญธรรม สำนึกดี
    Pachäree Wõng
    November21, 2024
    Sausalito, California.
    #นาฬิกาชีวิต จังหวะเวลาที่กำหนดสุขภาพ ทุกวัน..จะชอบเขียนเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ คือ ไม่กินเนื้อสัตว์ ละเว้นการเบียดเบียนตามหลักพุทธศาสนา คือ ถือศีลข้อที่๑(บริสุทธิ์) ทำให้เลือดในร่างกายไม่เป็นกรด ปัญหาเรื่องกระดูกพรุนไม่เกิด และมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง ไม่ต้องเป็นภาระทางราชการ หรือ ต้องสูญเสียเงินทองมากมายเมื่อเข้าสู่วัยชรา. วันนี้..ที่บ้านมีพะโล้ฟองเต้าหู้ กับ ผักกาดจอ หม้อใหญ่ๆ เป็นอาหารหลัก ทำเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา คงกินได้หลายวัน วันนี้จึงไม่โม้เรื่องอาหาร เพราะเคยเขียนเผยแพร่แล้ว วันนี้พูดเรื่องสำคัญ..มากเท่ากับเรื่องอาหาร คือ วินัย ของ การทำงานในร่างกาย ปฏิบัติตัวอย่างไร ให้ ถูกที่ ถูกเวลา ตลอดเวลา ๒๔ชั่วโมง ก็ สำคัญมาก ซึ่งวันนี้ จะนำเสนอให้ทราบ ดังนี้ เหตุผลตามธรรมชาติ #ทำไมต้องนอนสามทุ่มตื่นตีสาม? ต้องดื่มน้ำหลังตื่นนอน ขับถ่ายของเสีย กินอาหารให้ตรงเวลา #ทำไมเวลาเก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมงเช้า(ห้ามนอน..เด็ดขาด) บ่ายโมงถึงบ่ายสามไม่ควรกินอาหาร #บ่ายสามถึงห้าโมงเย็นเป็นเวลาออกกำลังกาย --->สามทุ่ม(ต้อง)เข้านอน(ห่มผ้า)ให้อบอุ่น ไม่ควรอาบน้ำเย็น #สี่ทุ่มถึงตีสามคือเวลาของฮอร์โมนเมลาโทนิน(หลั่ง) --->ต้อง(ห่มผ้า)นอนหลับให้สนิท และ ปิดไฟให้มืด จึงจะมีสุขภาพที่ดี แข็งแรง มีอายุขัยที่ยืนยาว 120 ปี #นาฬิกาชีวิต คือ การดูแลรักษาสุขภาพแบบธรรมชาติบำบัด ให้มีสุขภาพที่ดีอายุยืนนาน ตามศาสตร์การแพทย์จีน อายุรเวทของอินเดีย และอียิปต์โบราณได้ค้นพบ และบันทึกตรงกันว่า #อวัยวะในร่างกายมนุษย์ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ #อวัยวะตัน --->หัวใจ เยื่อหุ้มหัวใจ ปอด ม้าม ตับ และไต #อวัยวะกลวง --->กระเพาะอาหาร ถุงน้ำดี ลำไส้ใหญ่ ลำไส้เล็ก กระเพาะปัสสาวะ และ ระบบความร้อนในร่างกาย ทั้งหมดรวมได้ 12 อวัยวะ ควบคุมการไหลเวียนด้วยพลังชีวิตที่เรียกว่า.. “ #ลมปราณ” หมุนเวียนเป็นวัฏจักรทุก 2 ชั่วโมง ตามลำดับ ดังนั้นใน 1วัน=12อวัยวะX2ชั่วโมง จึงเท่ากับ 24ชั่วโมง (พอดีเป๊ะ) นี่แหละ คือ วัฏจักรของการทำงาน(ตามปกติ)ของอวัยวะในร่างกายมนุษย์ ที่เรียกว่า #นาฬิกาชีวิต นั่นเอง ค่ะ #ตารางการเดินลมปราณในแต่ละวัน จึงเป็นการดูแลสุขภาพอย่างง่ายๆ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ..”นาฬิกาชีวิต” ได้ดังนี้... เวลา 01.00-03.00น. ควรเป็นเวลาของ #ตับ มีหน้าที่เป็นโรงงานกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ดังนั้นในช่วงเวลานี้ร่างกาย #ควรนอนหลับให้สนิทเพื่อให้ตับได้ขจัดสารพิษออกจากร่างกายหากไม่หลับในช่วงนี้จะทำให้สะสมพิษทำให้เกิดอาการเพลีย เหนื่อยง่าย โรคต่างที่เกิดจากพิษสารเคมีสะสมจะทำให้ป่วยง่าย+เรื้อรัง-ตายอย่างเวทนาและทุกข์ทรมาน นะคะ(ขอ บอก) เวลา 03.00-05.00น. #ควรตื่นนอน ดื่มน้ำอุ่น ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก..ลึกๆ ช้าๆ..สูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายยืดเส้น ยืดสาย ทำให้สุขภาพปอดและร่างกายโดยรวมจะดีไปด้วย #การดื่มน้ำอุ่นในช่วงนี้และการซิทอัป--->จะกระตุ้น(เร่ง)การทำงานของลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำงานในช่วงต่อไป.. เวลา 05.00-07.00น. เป็นช่วงเวลาของ #การทำงานลำไส้ใหญ่ บีบรัดตัวได้ดีที่สุด เป็นเวลาขับถ่ายของเสียออกจากร่างกาย การไม่ขับถ่ายในช่วงเวลานี้ทำให้ลำไส้ใหญ่ดูดซึมกลับไป สะสมสารพิษ สะสม ไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เวลา 05.45-06.00น.เป็นเวลาที่ดีที่สุด ของ #การฝึกสมาธิ เพราะในขณะที่ตื่นนอน ทำธุระส่วนตัว อาบน้ำ&แปรงฟัน..เสร็จ ปลอดโปร่ง..#โล่งทั้งกายและใจไม่มีเรื่องเครียด เรื่องงานมากวนใจ ฝึกนั่งสมาธิในช่วงนี้(ทุกวัน)สามารถเข้าถึงสมาธิได้สำเร็จ(ง่าย)มาก..ค่ะ เวลา 07.00-09.00น. คือช่วงเวลาของ #กระเพาะอาหาร ต้องกินอาหารเช้าเป็นมื้อหลักที่มีสารอาหารอย่างครบถ้วน หากไม่กินมื้อเช้า(มื้อสำคัญ)จะเป็นโรคกระเพาะอย่างรวดเร็ว และสะสมเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้ในระยะยาว เวลา 09.00-011.00น. เป็นเวลาของ #ม้าม ควบคุมเม็ดเลือดขาว กำจัดเม็ดเลือดแดงที่หมดอายุ ดังนั้นผู้ที่นอนในช่วงนี้จะส่งผลให้ม้ามอ่อนแอ มี #ภูมิคุ้มกันโรคต่ำ ติดเชื้อเป็นโรคต่างๆได้ง่าย เวลา 11.00-13.00น. ช่วงพักเที่ยง เป็นช่วงเวลาของ #หัวใจ ควรพักผ่อน..สบายๆ งดน้ำชา กาแฟ หลีกเลี่ยงความเครียดซึ่งทำให้หัวใจเต้นแรง ทำงานหนักเกิน ส่งผลให้หัวใจวายได้อย่างง่ายๆ ในช่วงเวลาเที่ยง จ๊ะ เวลา 13.00-15.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ลำไส้เล็ก ในช่วงนี้ร่างกายส่งพลังงานทั้งหมดไปยังลำไส้เล็กเพื่อการดูดซึม #การกินอาหารในช่วงนี้จะไปขัดขวางโอกาสทองของระบบดูดซีมที่ต้องแบ่งพลังงานไปใช้ในการย่อยในกระเพาะอาหาร ช่วงนี้สมองในส่วนความจำจะทำงานได้ดีที่สุดในรอบวัน เวลา 15.00-17.00น. เวลาของ #กระเพาะปัสสาวะ และการขับเหงื่อ #จึงควรออกกำลังกายอย่างหนัก หรือ เหมาะกับการอบซาวน่าเพื่อให้เหงื่อออก สำหรับหนุ่มสาวที่ทำงานในช่วงนี้ ก็สามารถใช้ท่าการออกกำลังกายในสำนักงาน หรือเดินไป-มา ขึ้น-ลงบันได เพื่อส่งเสริมการทำงานของกระเพาะปัสสาวะได้..เช่นกัน เวลา 17.00-19.00น. #ช่วงเวลาของไต มีหน้าที่รักษาสมดุลเกลือแร่ในร่างกาย โดยกำจัดส่วนเกินออกทางปัสสาวะและเหงื่อ #เวลาช่วงนี้จึงควรทำให้ร่างกายตื่นตัว ไม่ง่วง ไม่หลับ เป็นช่วงCool Down หรือผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ต่อจากการออกกำลังกายอย่างหนัก..ในช่วงเวลาที่ผ่านมา เวลา 19.00-21.00น. ช่วงนี้เป็นเวลาที่ #เยื่อหุ้มหัวใจ..บางที่สุด จึงควรระวังอารมณ์ตื่นเต้น ดีใจ ตกใจ โกรธ เสียใจ การที่ทำให้ตื่นตัวมากๆส่งผลให้เยื่อหุ้มหัวใจฉีกขาดได้ง่าย ดังนั้นในช่วงเวลานี้จึงควรปิดโทรศัพท์ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำจิตใจให้สงบ เวลา 21.00-23.00น. เป็นช่วงเวลาของ #ระบบความร้อนในร่างกาย ซึ่งตามธรรมชาติ..ในช่วงเวลานี้อากาศเริ่มเย็น ร่างกายคนเราต้องสร้างความร้อนขึ้น จึงไม่ควรอาบน้ำหรือดื่มน้ำเย็น และควรเข้านอนในช่วงเวลานี้ ควรดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วก่อนนอนเพื่อส่งเสริมการทำงานของถุงน้ำดีในเวลาถัดไป. เวลา 23.00-01.00น. เวลาของ #ถุงน้ำดี ซึ่งช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่หลับ ร่างกายจะอยู่ในสภาพที่ขาดน้ำ อวัยวะต่างๆจะดึงน้ำจากถุงน้ำดี..แล้วนำไปใช้ หากน้ำในถุงน้ำดีข้นเกินไปอาจส่งผลให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติได้ #หากไม่นอนในช่วงนี้จะเกิดถุงไขมันใต้ตา และไขมันพอกตับ . . เจริญธรรม สำนึกดี Pachäree Wõng November21, 2024 Sausalito, California.
    0 Comments 0 Shares 2549 Views 0 Reviews
  • ตั้ง “กิตติรัตน์” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ “นายกฯอิ๊งค์” เสี่ยงหลุด ซ้ำรอยเศรษฐา.“ธีระชัย” ฟันธง “กิตติรัตน์” ขาดคุณสมบัติ ไม่สามารถนั่ง “ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ” เหตุ “ที่ปรึกษาของนายก” ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะงานที่ทำไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของนายกฯเศรษฐา และเบิกค่าใช้จ่ายจากสำนักนายกฯ เตือน นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯทั้งที่มีปัญหา เป็นเรื่องมิบังควร โป๊ะแตก ! “เสี่ยนิด” พูดเอง “โต้ง” ขาดคุณสมบัติ ด้าน “รศ.ดร.เจษฎ์” แจง หากมีผู้ร้อง “อุ๊งอิ๊งค์” อาจหลุดจากเก้าอี้นายกฯ เหมือนกรณีที่ “เศรษฐา” แต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน ลือสะพัด “เรืองไกร” เตรียมร้องเอาผิดคนเสนอชื่อ.หนึ่งในประเด็นร้อนขณะนี้ก็คือเรื่องการแต่งตั้ง “ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย” หรือประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งมีกระแสข่าวยืนยันว่าในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการตัดสินใจเลือก “โต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง” อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ตัวเต็งจากพรรคเพื่อไทย ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย ด้วยเกรงว่าจะเป็นการส่งคนจากฝั่งการเมืองเข้าไปแทรกแซงการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สำคัญยังมีการทักท้วงว่านายกิตติรัตน์ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากนายเขาเคยเป็น “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” นายเศรษฐา ทวีสิน โดยเพิ่งพ้นจากตำแหน่งมาไม่ถึง 1 ปี.แต่ทางด้าน นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ในฐานะประธานที่ทำหน้าที่คัดเลือกประธานบอร์ดและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ถือเป็นตำแหน่งทางการเมือง แต่ตำแหน่งของกิตติรัตน์คือ “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” ถือเป็นตำแหน่งส่วนตัว ซึ่งมิได้เป็นคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ.ขณะนี้สถานการณ์จึงยังอึมครึม คือเป็นการแต่งตั้งโดยไม่มีการประกาศรายชื่อ และจะเสนอรายชื่อดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับทราบ ในวันที่ 19 พ.ย. 2567 เพื่อเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป.ส่วนว่า นายกิตติรัตน์ จะขาดคุณสมบัติหรือไม่ ? และหากขาดคุณสมบัติจะมีผลอย่างไรตามมา ? คงต้องไปฟังความเห็นจากผู้รู้.อ่านเพิ่มเติม>>https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000109902.#กิตติรัตน์ณระนอง #นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ #แบงก์ชาติ
    ตั้ง “กิตติรัตน์” นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ “นายกฯอิ๊งค์” เสี่ยงหลุด ซ้ำรอยเศรษฐา.“ธีระชัย” ฟันธง “กิตติรัตน์” ขาดคุณสมบัติ ไม่สามารถนั่ง “ประธานบอร์ดแบงก์ชาติ” เหตุ “ที่ปรึกษาของนายก” ถือเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เพราะงานที่ทำไม่ใช่เรื่องส่วนตัวของนายกฯเศรษฐา และเบิกค่าใช้จ่ายจากสำนักนายกฯ เตือน นำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯทั้งที่มีปัญหา เป็นเรื่องมิบังควร โป๊ะแตก ! “เสี่ยนิด” พูดเอง “โต้ง” ขาดคุณสมบัติ ด้าน “รศ.ดร.เจษฎ์” แจง หากมีผู้ร้อง “อุ๊งอิ๊งค์” อาจหลุดจากเก้าอี้นายกฯ เหมือนกรณีที่ “เศรษฐา” แต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน ลือสะพัด “เรืองไกร” เตรียมร้องเอาผิดคนเสนอชื่อ.หนึ่งในประเด็นร้อนขณะนี้ก็คือเรื่องการแต่งตั้ง “ประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย” หรือประธานบอร์ดแบงก์ชาติ ซึ่งมีกระแสข่าวยืนยันว่าในการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกฯ เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการตัดสินใจเลือก “โต้ง-กิตติรัตน์ ณ ระนอง” อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง ตัวเต็งจากพรรคเพื่อไทย ให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย ด้วยเกรงว่าจะเป็นการส่งคนจากฝั่งการเมืองเข้าไปแทรกแซงการทำงานของธนาคารแห่งประเทศไทย ที่สำคัญยังมีการทักท้วงว่านายกิตติรัตน์ขาดคุณสมบัติ เนื่องจากนายเขาเคยเป็น “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” นายเศรษฐา ทวีสิน โดยเพิ่งพ้นจากตำแหน่งมาไม่ถึง 1 ปี.แต่ทางด้าน นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ในฐานะประธานที่ทำหน้าที่คัดเลือกประธานบอร์ดและกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุว่า ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ถือเป็นตำแหน่งทางการเมือง แต่ตำแหน่งของกิตติรัตน์คือ “ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี” ถือเป็นตำแหน่งส่วนตัว ซึ่งมิได้เป็นคุณสมบัติต้องห้ามในการเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ.ขณะนี้สถานการณ์จึงยังอึมครึม คือเป็นการแต่งตั้งโดยไม่มีการประกาศรายชื่อ และจะเสนอรายชื่อดังกล่าวให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรับทราบ ในวันที่ 19 พ.ย. 2567 เพื่อเสนอเข้าคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป.ส่วนว่า นายกิตติรัตน์ จะขาดคุณสมบัติหรือไม่ ? และหากขาดคุณสมบัติจะมีผลอย่างไรตามมา ? คงต้องไปฟังความเห็นจากผู้รู้.อ่านเพิ่มเติม>>https://mgronline.com/specialscoop/detail/9670000109902.#กิตติรัตน์ณระนอง #นั่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติ #แบงก์ชาติ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1603 Views 0 Reviews
  • #วันลอยกระทง #thaitimes #บทความ #ข้อคิด เนื่องในโอกาสพรุ่งนี้จะเป็นวันทิ้งขยะลงน้ำแห่งชาติ.......ตั้งจิตตั้งใจให้แน่วแน่เถิดครับ ว่าจะไม่เห็นแก่ตัวมักง่ายโยนขยะในมือลงตามลำน้ำสาธารณะ ถ้าอยากทิ้งให้เก็บกลับไปทิ้งที่บ้านตัวเอง ถือเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความสำนึกรู้คุณที่ทำได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องไปลอยกระทงให้รกลำน้ำ เป็นภาระแก่พนักงาน ที่ต้องมาตามเก็บให้เราในภายหลัง รวมถึงสร้างมลพิษต่อธรรมชาติ ต้องมาย่อยสลายสิ่งที่พวกเราก่อไว้ แม้จะขนมปังแต่เมื่อมีจำนวนมหาศาล ปลาก็กินไม่ทัน สุดท้ายจมน้ำไปก็เน่าเสียเกิดเป็นก๊าซพิษใต้น้ำ ทำให้ออกซิเจนลดต่ำ สัตว์น้ำจำนวนมากตกตายอีกกลายเป็นการซ้ำเติมต่อแม่คงคาไม่ใช่ขอขมา ถ้าอดไม่ได้อยากลอยมากจริงๆ ขอแนะนำว่าให้รับผิดชอบสิ่งที่ตนได้ลอยไปด้วยการตามเก็บกลับมาทิ้งในที่อันควรให้เรียบร้อยด้วย แล้ววิธีนี้จะมีสักกี่คนกันที่มีความใส่ใจเช่นนั้น แทบทุกคนพอลอยเสร็จ ก็สะบัดก้นหันไปทำกิจกรรมอื่นกันต่อวันพระทั้งที ควรเป็นวันที่ได้ปล่อยความไม่ดีในตนให้ลอยหายไป ไม่หวงแหนหน่วงเหนี่ยวเกี่ยวพันไว้อีก ลอยอย่างนี้น่าจะดีกว่า ทั้งดีต่อตน ดีต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ดีต่อใจ ดีต่อโลก เพราะเราจะกลายเป็นผู้ที่เบียดเบียนชีวิตน้อยลง แต่ถ้าอดไม่ไหวจริงๆ หากไม่ได้ลอยกระทงแล้วอาจจะลงแดงตาย งั้นขอเสนอความเห็นเผื่อไว้ให้ลองพิจารณาดังนี้ถ้าเทศกาลลอยกระทงสำหรับคุณคือ1. เพื่อได้ขอขมาต่อแม่คงคาปีละครั้งลองไม่ต้องลอย แต่ทุกครั้งที่ใช้น้ำ ขอให้ใช้อย่างมีสติ คุ้มค่าที่สุด และไม่ทิ้งอะไรลงน้ำในทุกๆวัน ถือเป็นการกตัญญูรู้คุณ น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าไหม2. การได้สนุกสนานเฮฮา ชมบรรยากาศกับเพื่อน คนรัก หรือครอบครัวปีละครั้งลองเปลี่ยนจากชวนกันไปเที่ยวชมบรรยากาศ แสง สี เสียง ลอยกระทง จุดพลุ ฯลฯ มาเป็นชวนกันไปช่วยช้อนกระทงที่ลอยมาติดตามขอบริมตลิ่งขึ้นจากลำน้ำ จะได้ประโยชน์ 2 ต่อ คือได้บรรยากาศตามที่หวัง และได้เก็บขยะขึ้นจากน้ำด้วยน่าสนกว่าไหม3. การได้ขายกระทง ขายของกิน ของเล่น พลุประทัด และอื่นๆที่เกี่ยวข้องให้คนที่มาเที่ยว เพื่อหารายได้ให้ตัวเองลองเปลี่ยนมาเป็นขายสวิงให้คนที่เขาอยากช่วยตักขยะขึ้นจากน้ำแต่ไม่มีอุปกรณ์สิ แล้วก็เขียนป้ายตัวโตๆหน่อย เช่น "สวิงกู้โลก" อุปกรณ์สำหรับยอดมนุษย์ ผู้ที่มีความปรารถนาเสียสละตน เพื่อความสุขมวลรวมประชาชาติ ออกแบบให้แจ๋วไปเลย ราคาไม่แพง แต่ใช้งานง่าย สะดวก เบามือ และแข็งแรง เทรนด์ใหม่ที่มุมมองพลิกด้าน คนอื่นเขาขายสวิงเป็นเครื่องมือทำบาป เราเปลี่ยนให้มาเป็นเครื่องมือในการทำกุศลแทน น่าสนใจกว่าไหม4. เพื่อหวังรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชน ทำผลงานเชิดหน้าชูตาอวดนาย หรือชนชั้นผู้มีอำนาจลองเปลี่ยนใหม่นิดเดียว แทนที่จะรณรงค์ประชาสัมพันธ์คนมาเที่ยวงานลอยกระทง ประกวดนางนพมาศ ก็ให้เป็นเที่ยวงานอนุรักษ์น่านน้ำ คืนความงดงามสู่ธรรมชาติ ประกวดความคิดในการประดิษฐ์เครื่องมือ อุปกรณ์ในการเก็บขยะตามแหล่งน้ำ ประกวดออกแบบผลิตภัณฑ์ ให้รางวัลเชิดชูพนักงานทำความสะอาดที่เขาต้องเหนื่อยหนัก ล่องเรือไปตามเก็บกวาดขยะในน้ำที่คุณๆสร้างไว้จะดีกว่าไหมแค่ช่วยคิดให้ ถ้าไม่สนใจ ไม่เห็นด้วย และไม่อยากทำก็ไม่ว่ากัน
    #วันลอยกระทง #thaitimes #บทความ #ข้อคิด เนื่องในโอกาสพรุ่งนี้จะเป็นวันทิ้งขยะลงน้ำแห่งชาติ.......ตั้งจิตตั้งใจให้แน่วแน่เถิดครับ ว่าจะไม่เห็นแก่ตัวมักง่ายโยนขยะในมือลงตามลำน้ำสาธารณะ ถ้าอยากทิ้งให้เก็บกลับไปทิ้งที่บ้านตัวเอง ถือเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความสำนึกรู้คุณที่ทำได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องไปลอยกระทงให้รกลำน้ำ เป็นภาระแก่พนักงาน ที่ต้องมาตามเก็บให้เราในภายหลัง รวมถึงสร้างมลพิษต่อธรรมชาติ ต้องมาย่อยสลายสิ่งที่พวกเราก่อไว้ แม้จะขนมปังแต่เมื่อมีจำนวนมหาศาล ปลาก็กินไม่ทัน สุดท้ายจมน้ำไปก็เน่าเสียเกิดเป็นก๊าซพิษใต้น้ำ ทำให้ออกซิเจนลดต่ำ สัตว์น้ำจำนวนมากตกตายอีกกลายเป็นการซ้ำเติมต่อแม่คงคาไม่ใช่ขอขมา ถ้าอดไม่ได้อยากลอยมากจริงๆ ขอแนะนำว่าให้รับผิดชอบสิ่งที่ตนได้ลอยไปด้วยการตามเก็บกลับมาทิ้งในที่อันควรให้เรียบร้อยด้วย แล้ววิธีนี้จะมีสักกี่คนกันที่มีความใส่ใจเช่นนั้น แทบทุกคนพอลอยเสร็จ ก็สะบัดก้นหันไปทำกิจกรรมอื่นกันต่อวันพระทั้งที ควรเป็นวันที่ได้ปล่อยความไม่ดีในตนให้ลอยหายไป ไม่หวงแหนหน่วงเหนี่ยวเกี่ยวพันไว้อีก ลอยอย่างนี้น่าจะดีกว่า ทั้งดีต่อตน ดีต่อสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ดีต่อใจ ดีต่อโลก เพราะเราจะกลายเป็นผู้ที่เบียดเบียนชีวิตน้อยลง แต่ถ้าอดไม่ไหวจริงๆ หากไม่ได้ลอยกระทงแล้วอาจจะลงแดงตาย งั้นขอเสนอความเห็นเผื่อไว้ให้ลองพิจารณาดังนี้ถ้าเทศกาลลอยกระทงสำหรับคุณคือ1. เพื่อได้ขอขมาต่อแม่คงคาปีละครั้งลองไม่ต้องลอย แต่ทุกครั้งที่ใช้น้ำ ขอให้ใช้อย่างมีสติ คุ้มค่าที่สุด และไม่ทิ้งอะไรลงน้ำในทุกๆวัน ถือเป็นการกตัญญูรู้คุณ น่าจะตอบโจทย์ได้ดีกว่าไหม2. การได้สนุกสนานเฮฮา ชมบรรยากาศกับเพื่อน คนรัก หรือครอบครัวปีละครั้งลองเปลี่ยนจากชวนกันไปเที่ยวชมบรรยากาศ แสง สี เสียง ลอยกระทง จุดพลุ ฯลฯ มาเป็นชวนกันไปช่วยช้อนกระทงที่ลอยมาติดตามขอบริมตลิ่งขึ้นจากลำน้ำ จะได้ประโยชน์ 2 ต่อ คือได้บรรยากาศตามที่หวัง และได้เก็บขยะขึ้นจากน้ำด้วยน่าสนกว่าไหม3. การได้ขายกระทง ขายของกิน ของเล่น พลุประทัด และอื่นๆที่เกี่ยวข้องให้คนที่มาเที่ยว เพื่อหารายได้ให้ตัวเองลองเปลี่ยนมาเป็นขายสวิงให้คนที่เขาอยากช่วยตักขยะขึ้นจากน้ำแต่ไม่มีอุปกรณ์สิ แล้วก็เขียนป้ายตัวโตๆหน่อย เช่น "สวิงกู้โลก" อุปกรณ์สำหรับยอดมนุษย์ ผู้ที่มีความปรารถนาเสียสละตน เพื่อความสุขมวลรวมประชาชาติ ออกแบบให้แจ๋วไปเลย ราคาไม่แพง แต่ใช้งานง่าย สะดวก เบามือ และแข็งแรง เทรนด์ใหม่ที่มุมมองพลิกด้าน คนอื่นเขาขายสวิงเป็นเครื่องมือทำบาป เราเปลี่ยนให้มาเป็นเครื่องมือในการทำกุศลแทน น่าสนใจกว่าไหม4. เพื่อหวังรายได้จากการท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชน ทำผลงานเชิดหน้าชูตาอวดนาย หรือชนชั้นผู้มีอำนาจลองเปลี่ยนใหม่นิดเดียว แทนที่จะรณรงค์ประชาสัมพันธ์คนมาเที่ยวงานลอยกระทง ประกวดนางนพมาศ ก็ให้เป็นเที่ยวงานอนุรักษ์น่านน้ำ คืนความงดงามสู่ธรรมชาติ ประกวดความคิดในการประดิษฐ์เครื่องมือ อุปกรณ์ในการเก็บขยะตามแหล่งน้ำ ประกวดออกแบบผลิตภัณฑ์ ให้รางวัลเชิดชูพนักงานทำความสะอาดที่เขาต้องเหนื่อยหนัก ล่องเรือไปตามเก็บกวาดขยะในน้ำที่คุณๆสร้างไว้จะดีกว่าไหมแค่ช่วยคิดให้ ถ้าไม่สนใจ ไม่เห็นด้วย และไม่อยากทำก็ไม่ว่ากัน
    0 Comments 0 Shares 1068 Views 0 Reviews
More Results