• 🚀 พร้อมลุยทุกโปรเจกต์ IT แบบครบวงจร – กับ Thinkable Innovation
    เราคือทีมเล็กแต่โคตรตั้งใจ ที่รวม Developer และฝ่ายเทคนิคเข้าด้วยกัน
    เชี่ยวชาญทั้ง Web/App และระบบ Network สำหรับองค์กรโดยเฉพาะ
    🔧 บริการของเรา:
    1️⃣ System Integration & IT Infrastructure
    วางระบบ Server, Storage, Virtualization (VMware, Proxmox, Sangfor)
    2️⃣ Enterprise Network & Security
    Wi-Fi องค์กร, Firewall, RADIUS, WAF, Zero Trust, SD-WAN
    3️⃣ Software & Application Development
    Web & Mobile App, ERP, Dashboard, ระบบจอง/ทะเบียน/คลินิก พร้อมเชื่อมต่อ API ภาครัฐ (MOPH, GIN, MFA TH)
    4️⃣ Monitoring & Automation
    ติดตั้ง Zabbix, FreeRADIUS, IoT, Docker, Git, Portainer พร้อม Alert ผ่าน MS Teams, Telegram
    5️⃣ IT Support & Managed Services
    บริการ MA, Outsourcing, Preventive Maintenance, Remote Support 24/7
    💬 สนใจบริการไหน? ทักมาคุยกันได้เลย!
    ✅ www.thinkable-inn.com | พร้อมช่วยเหลือทุกสายงาน
    🚀 พร้อมลุยทุกโปรเจกต์ IT แบบครบวงจร – กับ Thinkable Innovation เราคือทีมเล็กแต่โคตรตั้งใจ ที่รวม Developer และฝ่ายเทคนิคเข้าด้วยกัน เชี่ยวชาญทั้ง Web/App และระบบ Network สำหรับองค์กรโดยเฉพาะ 🔧 บริการของเรา: 1️⃣ System Integration & IT Infrastructure วางระบบ Server, Storage, Virtualization (VMware, Proxmox, Sangfor) 2️⃣ Enterprise Network & Security Wi-Fi องค์กร, Firewall, RADIUS, WAF, Zero Trust, SD-WAN 3️⃣ Software & Application Development Web & Mobile App, ERP, Dashboard, ระบบจอง/ทะเบียน/คลินิก พร้อมเชื่อมต่อ API ภาครัฐ (MOPH, GIN, MFA TH) 4️⃣ Monitoring & Automation ติดตั้ง Zabbix, FreeRADIUS, IoT, Docker, Git, Portainer พร้อม Alert ผ่าน MS Teams, Telegram 5️⃣ IT Support & Managed Services บริการ MA, Outsourcing, Preventive Maintenance, Remote Support 24/7 💬 สนใจบริการไหน? ทักมาคุยกันได้เลย! ✅ www.thinkable-inn.com | พร้อมช่วยเหลือทุกสายงาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลายคนใช้ CapCut เพราะมันฟรี ใช้ง่าย และมีลูกเล่นที่ดีมาก…แต่หลังจากอัปเดตข้อกำหนดการใช้งาน (Terms of Service) ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวเตือนว่า ผู้ใช้แทบไม่ได้เป็นเจ้าของเนื้อหาของตัวเองแล้ว

    CapCut เขียนเงื่อนไขว่า เมื่อคุณอัปโหลดวิดีโอ รูปภาพ หรือเสียงใด ๆ เข้าไปในระบบ (แม้แต่อันที่ไม่ได้กดเผยแพร่ก็ตาม) คุณจะมอบ สิทธิใช้งานแบบ “ทั่วโลก, ถาวร, โอนต่อได้, และไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์” ให้ CapCut ใช้ผลงานของคุณ — ทั้งใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และผลงานสร้างสรรค์ของคุณ เพื่อทำอะไรก็ได้ รวมถึงการใช้ในโฆษณา โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้าหรือให้ค่าตอบแทนใด ๆ

    สิ่งที่น่ากังวลยิ่งขึ้นคือ ถึงคุณจะลบบัญชี CapCut ไปแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นก็ยังเป็นของ CapCut ตลอดไป เพราะเขาเขียนว่า "perpetual" — ไม่มีหมดอายุ

    แถมไม่มีวิธี opt-out ด้วย...หมายความว่าแค่คุณใช้งานก็ถือว่ายอมรับโดยอัตโนมัติ

    ✅ CapCut อัปเดตข้อตกลงการใช้งาน โดยอ้างสิทธิในผลงานของผู้ใช้แบบถาวรและโอนต่อได้  
    • ครอบคลุมถึงภาพใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และงานตัดต่อทั้งหมด  
    • ใช้ได้แม้ผู้ใช้จะลบบัญชีแล้ว

    ✅ ข้อตกลงใหม่นี้ครอบคลุมถึงเนื้อหาทั้งหมดที่อัปโหลด — แม้จะไม่ได้เผยแพร่ก็ตาม  
    • รวมถึงคลิป draft, voiceover, หรือไฟล์ชั่วคราว

    ✅ CapCut ไม่มีระบบ opt-out — หากใช้งานถือว่ายอมรับข้อตกลงทันที  
    • ใช้กับทั้งผู้ใช้งานส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้เนื้อหาของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจละเมิดกฎหมายสิทธิภาพลักษณ์ (right of publicity)  
    • แต่การบังคับใช้ลำบากมากเพราะผู้ใช้กดยอมรับแล้วใน ToS

    ✅ ทางเลือกของผู้ใช้งานคือเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่น เช่น DaVinci Resolve หรือ Adobe Premiere ที่ให้ความเป็นเจ้าของผลงานแก่ผู้ใช้ชัดเจนกว่า

    https://www.techradar.com/pro/popular-video-editing-app-capcut-wants-to-use-any-content-you-produce-for-free-forever-heres-what-you-should-know
    หลายคนใช้ CapCut เพราะมันฟรี ใช้ง่าย และมีลูกเล่นที่ดีมาก…แต่หลังจากอัปเดตข้อกำหนดการใช้งาน (Terms of Service) ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัวเตือนว่า ผู้ใช้แทบไม่ได้เป็นเจ้าของเนื้อหาของตัวเองแล้ว CapCut เขียนเงื่อนไขว่า เมื่อคุณอัปโหลดวิดีโอ รูปภาพ หรือเสียงใด ๆ เข้าไปในระบบ (แม้แต่อันที่ไม่ได้กดเผยแพร่ก็ตาม) คุณจะมอบ สิทธิใช้งานแบบ “ทั่วโลก, ถาวร, โอนต่อได้, และไม่ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์” ให้ CapCut ใช้ผลงานของคุณ — ทั้งใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และผลงานสร้างสรรค์ของคุณ เพื่อทำอะไรก็ได้ รวมถึงการใช้ในโฆษณา โดยไม่ต้องบอกล่วงหน้าหรือให้ค่าตอบแทนใด ๆ สิ่งที่น่ากังวลยิ่งขึ้นคือ ถึงคุณจะลบบัญชี CapCut ไปแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นก็ยังเป็นของ CapCut ตลอดไป เพราะเขาเขียนว่า "perpetual" — ไม่มีหมดอายุ แถมไม่มีวิธี opt-out ด้วย...หมายความว่าแค่คุณใช้งานก็ถือว่ายอมรับโดยอัตโนมัติ ✅ CapCut อัปเดตข้อตกลงการใช้งาน โดยอ้างสิทธิในผลงานของผู้ใช้แบบถาวรและโอนต่อได้   • ครอบคลุมถึงภาพใบหน้า เสียง ลักษณะท่าทาง และงานตัดต่อทั้งหมด   • ใช้ได้แม้ผู้ใช้จะลบบัญชีแล้ว ✅ ข้อตกลงใหม่นี้ครอบคลุมถึงเนื้อหาทั้งหมดที่อัปโหลด — แม้จะไม่ได้เผยแพร่ก็ตาม   • รวมถึงคลิป draft, voiceover, หรือไฟล์ชั่วคราว ✅ CapCut ไม่มีระบบ opt-out — หากใช้งานถือว่ายอมรับข้อตกลงทันที   • ใช้กับทั้งผู้ใช้งานส่วนบุคคลและเชิงพาณิชย์ ✅ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการใช้เนื้อหาของผู้ใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อาจละเมิดกฎหมายสิทธิภาพลักษณ์ (right of publicity)   • แต่การบังคับใช้ลำบากมากเพราะผู้ใช้กดยอมรับแล้วใน ToS ✅ ทางเลือกของผู้ใช้งานคือเปลี่ยนไปใช้โปรแกรมอื่น เช่น DaVinci Resolve หรือ Adobe Premiere ที่ให้ความเป็นเจ้าของผลงานแก่ผู้ใช้ชัดเจนกว่า https://www.techradar.com/pro/popular-video-editing-app-capcut-wants-to-use-any-content-you-produce-for-free-forever-heres-what-you-should-know
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงนี้อิสราเอลกำลังเผชิญการโจมตีจากอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือปฏิบัติการไซเบอร์ หนึ่งในแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามคือ... แฮ็กกล้องวงจรปิดตามบ้านของประชาชน โดยเฉพาะกล้องที่ใช้รหัสผ่านเดิมจากโรงงาน หรือรหัสง่าย ๆ เดาง่าย เช่น “123456”

    สิ่งที่แฮกเกอร์ทำคือ เจาะกล้องเพื่อ ดูว่า “มิสไซล์ที่ยิงไปตกตรงไหน”, มีการเคลื่อนไหวของรถทหารหรือไม่ หรือแม้แต่ตรวจสอบจุดยุทธศาสตร์ที่ถูก blackout ข้อมูลในสื่อ กระทรวงไซเบอร์ของอิสราเอลยอมรับว่า มีความพยายามเจาะระบบกล้องเพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่วันหลังการยิงขีปนาวุธ

    ย้อนไปปี 2022 เคยมีการเตือนแล้วว่า “กล้องกว่า 66,000 ตัวในอิสราเอลยังใช้รหัสผ่านเริ่มต้น” — และหลายหมู่บ้านที่ถูกบุกในปีถัดมาก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร จนกลายเป็นปัญหาข้อมูลรั่ววงกว้าง

    รัฐบาลจึงขอให้ประชาชน ปิดกล้องที่ไม่จำเป็น, เปลี่ยนรหัสผ่าน, เปิด two-factor authentication และถ้าเป็นไปได้... อย่าติดตั้งกล้องที่ “สตรีมออนไลน์” ได้เอง เพราะอาจกลายเป็นหน้าต่างเปิดให้ศัตรูมองย้อนกลับมา

    กรณีนี้ไม่ได้เกิดแค่ในอิสราเอล — ในยูเครน เคยมีการแบนกล้องวงจรปิด เพราะพบว่ารัสเซียใช้วิดีโอแบบ live มา “ปรับทิศการโจมตีอากาศ” แบบทันทีได้เช่นกัน

    ✅ รัฐบาลอิสราเอลเตือนประชาชนให้ “ปิดกล้องวงจรปิดที่ไม่จำเป็น” หรืออย่างน้อยให้เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่  
    • ลดความเสี่ยงที่กลุ่มอิหร่านเจาะเข้าไปดู live feed เพื่อเก็บข้อมูล

    ✅ พบว่าแฮกเกอร์จากอิหร่านพยายามแฮกกล้องเพื่อดูผลกระทบของมิสไซล์ และการเคลื่อนไหวทางทหาร  
    • เป็นการเจาะระบบในช่วงสื่อถูกจำกัดการเผยข้อมูล

    ✅ เคยมีการเตือนเมื่อปี 2022 ว่ามีกล้อง 66,000 ตัวใช้รหัสผ่านจากโรงงาน (default password)  
    • ส่วนใหญ่ไม่ถูกเปลี่ยนแม้มีคำเตือน

    ✅ รัฐบาลสามารถปิดการทำงานของกล้องภาครัฐและส่วนบุคคลในพื้นที่อ่อนไหว เช่น พรมแดน หรือโครงสร้างสำคัญแล้ว
    • ใช้กฎหมายพิเศษในช่วงภัยพิบัติ

    ✅ กรณีคล้ายกันเคยเกิดในยูเครน — เมื่อรัสเซียใช้วิดีโอจากกล้องสาธารณะเพื่อเจาะพิกัดเป้าหมาย

    ✅ ผู้เชี่ยวชาญแนะให้เลือกกล้องที่มีระบบความปลอดภัยดี รองรับการตั้งค่ารหัส, การเข้ารหัส และปิดการสตรีมออนไลน์ได้

    https://www.techspot.com/news/108401-israel-urges-citizens-turn-off-home-cameras-iran.html
    ช่วงนี้อิสราเอลกำลังเผชิญการโจมตีจากอิหร่าน ไม่ว่าจะเป็นขีปนาวุธหรือปฏิบัติการไซเบอร์ หนึ่งในแนวรุกของฝ่ายตรงข้ามคือ... แฮ็กกล้องวงจรปิดตามบ้านของประชาชน โดยเฉพาะกล้องที่ใช้รหัสผ่านเดิมจากโรงงาน หรือรหัสง่าย ๆ เดาง่าย เช่น “123456” สิ่งที่แฮกเกอร์ทำคือ เจาะกล้องเพื่อ ดูว่า “มิสไซล์ที่ยิงไปตกตรงไหน”, มีการเคลื่อนไหวของรถทหารหรือไม่ หรือแม้แต่ตรวจสอบจุดยุทธศาสตร์ที่ถูก blackout ข้อมูลในสื่อ กระทรวงไซเบอร์ของอิสราเอลยอมรับว่า มีความพยายามเจาะระบบกล้องเพิ่มขึ้นมากในช่วงไม่กี่วันหลังการยิงขีปนาวุธ ย้อนไปปี 2022 เคยมีการเตือนแล้วว่า “กล้องกว่า 66,000 ตัวในอิสราเอลยังใช้รหัสผ่านเริ่มต้น” — และหลายหมู่บ้านที่ถูกบุกในปีถัดมาก็ไม่เปลี่ยนแปลงอะไร จนกลายเป็นปัญหาข้อมูลรั่ววงกว้าง รัฐบาลจึงขอให้ประชาชน ปิดกล้องที่ไม่จำเป็น, เปลี่ยนรหัสผ่าน, เปิด two-factor authentication และถ้าเป็นไปได้... อย่าติดตั้งกล้องที่ “สตรีมออนไลน์” ได้เอง เพราะอาจกลายเป็นหน้าต่างเปิดให้ศัตรูมองย้อนกลับมา กรณีนี้ไม่ได้เกิดแค่ในอิสราเอล — ในยูเครน เคยมีการแบนกล้องวงจรปิด เพราะพบว่ารัสเซียใช้วิดีโอแบบ live มา “ปรับทิศการโจมตีอากาศ” แบบทันทีได้เช่นกัน ✅ รัฐบาลอิสราเอลเตือนประชาชนให้ “ปิดกล้องวงจรปิดที่ไม่จำเป็น” หรืออย่างน้อยให้เปลี่ยนรหัสผ่านใหม่   • ลดความเสี่ยงที่กลุ่มอิหร่านเจาะเข้าไปดู live feed เพื่อเก็บข้อมูล ✅ พบว่าแฮกเกอร์จากอิหร่านพยายามแฮกกล้องเพื่อดูผลกระทบของมิสไซล์ และการเคลื่อนไหวทางทหาร   • เป็นการเจาะระบบในช่วงสื่อถูกจำกัดการเผยข้อมูล ✅ เคยมีการเตือนเมื่อปี 2022 ว่ามีกล้อง 66,000 ตัวใช้รหัสผ่านจากโรงงาน (default password)   • ส่วนใหญ่ไม่ถูกเปลี่ยนแม้มีคำเตือน ✅ รัฐบาลสามารถปิดการทำงานของกล้องภาครัฐและส่วนบุคคลในพื้นที่อ่อนไหว เช่น พรมแดน หรือโครงสร้างสำคัญแล้ว • ใช้กฎหมายพิเศษในช่วงภัยพิบัติ ✅ กรณีคล้ายกันเคยเกิดในยูเครน — เมื่อรัสเซียใช้วิดีโอจากกล้องสาธารณะเพื่อเจาะพิกัดเป้าหมาย ✅ ผู้เชี่ยวชาญแนะให้เลือกกล้องที่มีระบบความปลอดภัยดี รองรับการตั้งค่ารหัส, การเข้ารหัส และปิดการสตรีมออนไลน์ได้ https://www.techspot.com/news/108401-israel-urges-citizens-turn-off-home-cameras-iran.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Israel urges citizens to turn off home cameras as Iran hacks surveillance systems
    In the aftermath of recent Iranian missile strikes on Tel Aviv, concerns about the vulnerability of internet-connected cameras have intensified. "We know that in the past two...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 47 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในอดีต NASCAR คือเกมของทักษะและช่างฝีมือ แต่วันนี้ทีมแข่งระดับท็อปใช้ AI มาวิเคราะห์ทุกอย่าง ตั้งแต่เสียงแชทระหว่างนักขับกับวิศวกร จนถึงการปรับแต่งรถ และวางกลยุทธ์การแข่งขันแบบเรียลไทม์

    Tom Gray จากทีม Hendrick Motorsports พูดไว้ชัดเจนว่า: “Information is speed…ใครรวบรวม วิเคราะห์ และตัดสินใจได้เร็วกว่า คนนั้นคือผู้ชนะ”

    ทีมนำ AI มาช่วยทำสิ่งที่คนเคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เช่น นั่งไล่ดูวิดีโอหรือภาพนิ่ง กลายเป็นงานที่ทำได้ในเวลาไม่กี่นาที เพราะซอฟต์แวร์จะ “หาสิ่งสำคัญให้เอง” อย่างเช่นจุดที่รถคู่แข่งเปลี่ยนไลน์ หรือปัญหาในช่วงพิทสต็อป

    นอกจากนี้ AI ยังถูกใช้ฝึกทีมงาน — ถ้าใครไม่ถนัดเรื่องใด ก็ให้ AI อธิบายวิธีทำงาน หรือให้โค้ดสำหรับพัฒนาเครื่องมือได้เลย เหมือนมีที่ปรึกษาด้านเทคนิคส่วนตัวอยู่ตลอดเวลา

    Hendrick Motorsports ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เพราะมี AWS เป็นพาร์ทเนอร์ เลยใช้ AI มาวิเคราะห์ข้อมูลจากอดีต 40 ปี ทั้งหมด เอามา “ทดสอบย้อนหลัง” ว่าอะไรเคยได้ผล แล้วใช้ข้อมูลนั้นวางแผนการแข่งในอนาคต

    ✅ ทีม NASCAR ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์, ตัดสินใจเร็ว และออกแบบกลยุทธ์การแข่งขันแบบแม่นยำขึ้น  
    • เช่น ตรวจจับคำสั่งที่ดี/พลาดจากวิทยุทีม  
    • วิเคราะห์ tone/urgency แบบเรียลไทม์

    ✅ AI ช่วยลดเวลางานซ้ำ เช่น การดูภาพและวิดีโอจำนวนมากเพื่อหา key moment  
    • ทีมอย่าง RFK Racing ใช้ลดเวลาทำงานจาก 3 ชม. เหลือ 1 ชม.

    ✅ AI ถูกนำมาใช้ฝึกคนในทีม ให้เรียนรู้ทักษะที่ไม่เชี่ยวชาญผ่านการโต้ตอบกับโมเดล LLM เช่น ChatGPT  
    • ช่วยเร่งความเร็วในการเขียนซอฟต์แวร์หรือแก้โค้ด

    ✅ ทีม Hendrick ใช้ AI จาก AWS เพื่อสร้าง visualisation สื่อสารแนวคิดระหว่างทีมได้ดียิ่งขึ้น  
    • ใช้ภาพจำลองช่วยสื่อสารแผนเทคนิคและชิ้นส่วน

    ✅ ข้อมูลจากอดีตกว่า 40 ปีถูกนำมา “ทดสอบย้อนหลัง” ด้วย AI เพื่อตรวจสอบกลยุทธ์ในอนาคต  
    • เปิดโอกาสสร้างโมเดลวิเคราะห์ความสำเร็จจากอดีต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/21/information-is-speed-nascar-teams-use-ai-to-find-winning-edges
    ในอดีต NASCAR คือเกมของทักษะและช่างฝีมือ แต่วันนี้ทีมแข่งระดับท็อปใช้ AI มาวิเคราะห์ทุกอย่าง ตั้งแต่เสียงแชทระหว่างนักขับกับวิศวกร จนถึงการปรับแต่งรถ และวางกลยุทธ์การแข่งขันแบบเรียลไทม์ Tom Gray จากทีม Hendrick Motorsports พูดไว้ชัดเจนว่า: “Information is speed…ใครรวบรวม วิเคราะห์ และตัดสินใจได้เร็วกว่า คนนั้นคือผู้ชนะ” ทีมนำ AI มาช่วยทำสิ่งที่คนเคยต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง เช่น นั่งไล่ดูวิดีโอหรือภาพนิ่ง กลายเป็นงานที่ทำได้ในเวลาไม่กี่นาที เพราะซอฟต์แวร์จะ “หาสิ่งสำคัญให้เอง” อย่างเช่นจุดที่รถคู่แข่งเปลี่ยนไลน์ หรือปัญหาในช่วงพิทสต็อป นอกจากนี้ AI ยังถูกใช้ฝึกทีมงาน — ถ้าใครไม่ถนัดเรื่องใด ก็ให้ AI อธิบายวิธีทำงาน หรือให้โค้ดสำหรับพัฒนาเครื่องมือได้เลย เหมือนมีที่ปรึกษาด้านเทคนิคส่วนตัวอยู่ตลอดเวลา Hendrick Motorsports ก็ไม่ยอมน้อยหน้า เพราะมี AWS เป็นพาร์ทเนอร์ เลยใช้ AI มาวิเคราะห์ข้อมูลจากอดีต 40 ปี ทั้งหมด เอามา “ทดสอบย้อนหลัง” ว่าอะไรเคยได้ผล แล้วใช้ข้อมูลนั้นวางแผนการแข่งในอนาคต ✅ ทีม NASCAR ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์, ตัดสินใจเร็ว และออกแบบกลยุทธ์การแข่งขันแบบแม่นยำขึ้น   • เช่น ตรวจจับคำสั่งที่ดี/พลาดจากวิทยุทีม   • วิเคราะห์ tone/urgency แบบเรียลไทม์ ✅ AI ช่วยลดเวลางานซ้ำ เช่น การดูภาพและวิดีโอจำนวนมากเพื่อหา key moment   • ทีมอย่าง RFK Racing ใช้ลดเวลาทำงานจาก 3 ชม. เหลือ 1 ชม. ✅ AI ถูกนำมาใช้ฝึกคนในทีม ให้เรียนรู้ทักษะที่ไม่เชี่ยวชาญผ่านการโต้ตอบกับโมเดล LLM เช่น ChatGPT   • ช่วยเร่งความเร็วในการเขียนซอฟต์แวร์หรือแก้โค้ด ✅ ทีม Hendrick ใช้ AI จาก AWS เพื่อสร้าง visualisation สื่อสารแนวคิดระหว่างทีมได้ดียิ่งขึ้น   • ใช้ภาพจำลองช่วยสื่อสารแผนเทคนิคและชิ้นส่วน ✅ ข้อมูลจากอดีตกว่า 40 ปีถูกนำมา “ทดสอบย้อนหลัง” ด้วย AI เพื่อตรวจสอบกลยุทธ์ในอนาคต   • เปิดโอกาสสร้างโมเดลวิเคราะห์ความสำเร็จจากอดีต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/21/information-is-speed-nascar-teams-use-ai-to-find-winning-edges
    WWW.THESTAR.COM.MY
    ‘Information is speed’: Nascar teams use AI to find winning edges
    From performance analysis to data visualisations, AI is playing an increasingly pivotal role in how race teams operate across the Nascar garage.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลจากฝั่งอิหร่าน:

    👉แหล่งข่าวจากซีบีเอส: วอชิงตันติดต่อเตหะรานเพื่อแจ้งว่าแผนการโจมตีจำกัดอยู่แค่การโจมตีเท่านั้น และนั่นคือทั้งหมดที่เตหะรานมี และไม่ได้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง

    อิหร่าน: ที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัฐสภาอิหร่าน มะห์ดี โมฮัมมาดี: ฐานทัพนิวเคลียร์ทั้งสามแห่ง "ไม่ได้รับความเสียหาย" ถึงระดับที่ซ่อมแซมไม่ได้จากการโจมตีของสหรัฐฯ

    👉รายงานผู้สื่อข่าว IRNA – ภูมิภาคฟอร์โดว์:
    ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงฟอร์โดว์รายงานว่าไม่พบสิ่งบ่งชี้ถึงการระเบิดครั้งใหญ่ สภาพในพื้นที่ยังคงสงบและปกติ คาดว่าผู้เชี่ยวชาญอย่างเป็นทางการจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อการสืบสวนดำเนินไป
    ข้อมูลจากฝั่งอิหร่าน: 👉แหล่งข่าวจากซีบีเอส: วอชิงตันติดต่อเตหะรานเพื่อแจ้งว่าแผนการโจมตีจำกัดอยู่แค่การโจมตีเท่านั้น และนั่นคือทั้งหมดที่เตหะรานมี และไม่ได้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง อิหร่าน: ที่ปรึกษาประธานาธิบดีรัฐสภาอิหร่าน มะห์ดี โมฮัมมาดี: ฐานทัพนิวเคลียร์ทั้งสามแห่ง "ไม่ได้รับความเสียหาย" ถึงระดับที่ซ่อมแซมไม่ได้จากการโจมตีของสหรัฐฯ 👉รายงานผู้สื่อข่าว IRNA – ภูมิภาคฟอร์โดว์: ประชาชนในพื้นที่ใกล้เคียงฟอร์โดว์รายงานว่าไม่พบสิ่งบ่งชี้ถึงการระเบิดครั้งใหญ่ สภาพในพื้นที่ยังคงสงบและปกติ คาดว่าผู้เชี่ยวชาญอย่างเป็นทางการจะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเมื่อการสืบสวนดำเนินไป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญา NPT อย่างโจ่งแจ้ง” และกล่าวว่า “การกระทำดังกล่าวจะไม่สามารถหยุดการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติของอิหร่านลงได้”

    .

    แถลงการณ์ฉบับเต็มขององค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (AEOI - The Atomic Energy Organization of Iran):

    'หลังจากการโจมตีอย่างโหดร้ายโดยศัตรูไซออนิสต์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฐานปฏิบัติการนิวเคลียร์ของประเทศที่ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน ถูกโจมตีเมื่อเช้านี้โดยศัตรูของอิหร่าน ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT)

    การกระทำนี้เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศนั้นอย่าง
    ชัดเจน และช่างน่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นท่ามกลางความเฉยเมย และยังเป็นการสมรู้ร่วมคิดของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)

    ศัตรูของเราออกมาอ้างความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีฐานปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลอย่างต่อเนื่องของ IAEA ตามข้อตกลงการป้องกันและสนธิสัญญา NPT

    เราหวังว่าจะได้เห็นการประณามจากนานาประเทศ และสนับสนุนอิหร่านในการบรรลุสิทธิอันชอบธรรมของตน

    องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านขอรับรองต่อชาติอิหร่านที่ยิ่งใหญ่ว่า แม้จะมีแผนการชั่วร้ายของศัตรู แต่ด้วยความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่ปฏิวัติวงการและกระตือรือร้นนับพันคน องค์การจะไม่ยอมให้การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติซึ่งเป็นผลจากเลือดของผู้พลีชีพเพื่อนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลง
    องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านของสหรัฐฯ ว่าเป็น “การละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญา NPT อย่างโจ่งแจ้ง” และกล่าวว่า “การกระทำดังกล่าวจะไม่สามารถหยุดการพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติของอิหร่านลงได้” . แถลงการณ์ฉบับเต็มขององค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่าน (AEOI - The Atomic Energy Organization of Iran): 'หลังจากการโจมตีอย่างโหดร้ายโดยศัตรูไซออนิสต์ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ฐานปฏิบัติการนิวเคลียร์ของประเทศที่ฟอร์โดว์ นาตันซ์ และอิสฟาฮาน ถูกโจมตีเมื่อเช้านี้โดยศัตรูของอิหร่าน ซึ่งเป็นการกระทำที่โหดร้ายที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ (NPT) การกระทำนี้เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศนั้นอย่าง ชัดเจน และช่างน่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นท่ามกลางความเฉยเมย และยังเป็นการสมรู้ร่วมคิดของสำนักงานพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) ศัตรูของเราออกมาอ้างความรับผิดชอบสำหรับการโจมตีฐานปฏิบัติการดังกล่าว ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลอย่างต่อเนื่องของ IAEA ตามข้อตกลงการป้องกันและสนธิสัญญา NPT เราหวังว่าจะได้เห็นการประณามจากนานาประเทศ และสนับสนุนอิหร่านในการบรรลุสิทธิอันชอบธรรมของตน องค์การพลังงานปรมาณูแห่งอิหร่านขอรับรองต่อชาติอิหร่านที่ยิ่งใหญ่ว่า แม้จะมีแผนการชั่วร้ายของศัตรู แต่ด้วยความพยายามของนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญที่ปฏิวัติวงการและกระตือรือร้นนับพันคน องค์การจะไม่ยอมให้การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งชาติซึ่งเป็นผลจากเลือดของผู้พลีชีพเพื่อนิวเคลียร์ต้องหยุดชะงักลง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • "จงฟังและพิจารณา!"
    👉ประธานาธิบดีปูตินกล่าวถึงผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ของรัสเซียที่กำลังทำงานอยู่ในโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน และนี่อาจเป็นคำเตือนเงียบๆ แต่ชัดเจนของปูติน เพราะรัสเซียไม่ได้อพยพเจ้าหน้าที่ด้านนิวเคลียร์ออกจากอิหร่าน


    “เราไม่ได้อพยพบุคลากรออกไป เราได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาหารือกับอิสราเอลและประธานาธิบดีทรัมป์แล้ว เราปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศและเรียกร้องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ของเรา แม้จะมีความเสี่ยง แต่เราก็ได้ดำเนินการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ที่เมืองบูเชห์ร(อิหร่าน)และลงนามในสัญญาก่อสร้างอีกสองเครื่อง”

    “เราจะปกป้องผู้ที่เป็นภัยคุกคามต่อสหพันธรัฐรัสเซีย และที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในอิหร่านหรือที่ไหนสักแห่งในแนวหลัง หรือเบื้องหลัง พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรา”
    "จงฟังและพิจารณา!" 👉ประธานาธิบดีปูตินกล่าวถึงผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ของรัสเซียที่กำลังทำงานอยู่ในโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน และนี่อาจเป็นคำเตือนเงียบๆ แต่ชัดเจนของปูติน เพราะรัสเซียไม่ได้อพยพเจ้าหน้าที่ด้านนิวเคลียร์ออกจากอิหร่าน “เราไม่ได้อพยพบุคลากรออกไป เราได้หยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมาหารือกับอิสราเอลและประธานาธิบดีทรัมป์แล้ว เราปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศและเรียกร้องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ของเรา แม้จะมีความเสี่ยง แต่เราก็ได้ดำเนินการสร้างเครื่องปฏิกรณ์ที่เมืองบูเชห์ร(อิหร่าน)และลงนามในสัญญาก่อสร้างอีกสองเครื่อง” “เราจะปกป้องผู้ที่เป็นภัยคุกคามต่อสหพันธรัฐรัสเซีย และที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะอยู่ในอิหร่านหรือที่ไหนสักแห่งในแนวหลัง หรือเบื้องหลัง พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของเรา”
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • บริษัทต่าง ๆ ทุ่มงบกับ Cybersecurity เป็นพันล้าน แต่สุดท้ายระบบกลับถูกทะลวงด้วย “มนุษย์” ที่อยู่ด่านหน้าอย่างพนักงาน Call Center — ที่มักจะเป็นแรงงาน outsource ค่าแรงต่ำ และเข้าถึงข้อมูลลูกค้าโดยตรง

    เคสที่เด่นชัดที่สุดคือการโจมตี Call Center ที่ดูแลบัญชีลูกค้า Coinbase ซึ่งรับงานจากบริษัท TaskUs แฮกเกอร์เสนอสินบนอย่างน้อย $2,500 แลกกับการเปิดทางเข้าระบบหลังบ้าน และทำให้ข้อมูลลูกค้า มากถึง 97,000 ราย ถูกขโมยไป

    จากนั้นแฮกเกอร์ใช้ข้อมูลดังกล่าว ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ Coinbase โทรหาลูกค้า พร้อมข้อมูลจริงครบถ้วน จนเหยื่อหลงเชื่อและโอนคริปโตให้กับกระเป๋าของคนร้าย

    วิธีโจมตีไม่ได้มีแค่การติดสินบน—บางกรณีแฮกเกอร์แค่ถามพนักงานว่ารันซอฟต์แวร์อะไร แล้วไปเจอว่า มี Extension ที่มีช่องโหว่ ก็ใช้ช่องนั้น inject script เพื่อดูดข้อมูลแบบ mass

    นอกจากนั้นยังมีเคสใน UK ที่กลุ่มโจรไซเบอร์ปลอมเป็นผู้บริหารจาก M&S และ Harrods เพื่อสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายซัพพอร์ตเปิดทางเข้าระบบ (เทคนิคแบบเดียวกับที่ใช้โจมตี MGM Resorts ปี 2023)

    ✅ แฮกเกอร์เปลี่ยนเป้าหมายจากระบบ มาเป็น “คน” ในสายซัพพอร์ตค่าแรงต่ำ  
    • เสนอสินบนหลักพันดอลลาร์เพื่อให้เข้าถึงระบบบริษัท

    ✅ Coinbase ถูกเจาะข้อมูลผ่านพนักงาน TaskUs จนกระทั่งลูกค้าเสียหายกว่า 97,000 ราย  
    • แฮกเกอร์ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่จริง พร้อมข้อมูลละเอียด

    ✅ มีการใช้เทคนิคอื่น เช่นแอบ inject code ผ่าน Extension ที่พนักงานใช้ใน Call Center  
    • เริ่มจากการถามว่านายใช้ซอฟต์แวร์อะไร

    ✅ UK ก็มีเคสที่แฮกเกอร์ปลอมเป็นผู้บริหารโทรหาเจ้าหน้าที่ให้เปิดระบบให้  
    • เป็น “วิศวกรรมสังคม” แบบสายตรง

    ✅ บริษัทบางแห่งพบว่า แม้จะไล่พนักงานออกแล้ว คน ๆ นั้นสามารถหางานใหม่ได้ง่ายมากในตลาด outsource  
    • ทำให้การป้องกันด้านบุคคลทวีความยากขึ้น

    ✅ แม้มี Cybersecurity ขั้นสูง แต่ Human Interaction ยังคงเป็นจุดอ่อนที่สุดของระบบ  
    • กล่าวโดยผู้เชี่ยวชาญจาก ReliaQuest

    ‼️ การจ้าง outsource ที่ไม่มีระบบตรวจสอบจริยธรรมอาจเปิดทางให้คนในขายข้อมูล  
    • ความเสี่ยงไม่ได้อยู่แค่ในเทคโนโลยี แต่เป็นการจัดการแรงงาน

    ‼️ แฮกเกอร์เริ่มเก่งในการปลอมตัวและใช้ข้อมูลจริงโทรหลอกลูกค้า  
    • ต้องเพิ่มการยืนยันตัวตนหลายขั้น แม้จะดูยุ่งยาก

    ‼️ พนักงานที่ถูกไล่ออกมักหางานในบริษัท outsource อื่นได้ง่าย  
    • ขาดระบบ blacklist หรือ shared warning system ระหว่างบริษัท

    ‼️ การละเลยการอัปเดตซอฟต์แวร์ หรือใช้ Extension ที่มีช่องโหว่ในเครื่อง Call Center อาจเปิดช่องให้โดนดูดข้อมูลแบบ mass scale

    https://www.techspot.com/news/108387-low-wage-support-workers-become-new-gateway-cyberattacks.html
    บริษัทต่าง ๆ ทุ่มงบกับ Cybersecurity เป็นพันล้าน แต่สุดท้ายระบบกลับถูกทะลวงด้วย “มนุษย์” ที่อยู่ด่านหน้าอย่างพนักงาน Call Center — ที่มักจะเป็นแรงงาน outsource ค่าแรงต่ำ และเข้าถึงข้อมูลลูกค้าโดยตรง เคสที่เด่นชัดที่สุดคือการโจมตี Call Center ที่ดูแลบัญชีลูกค้า Coinbase ซึ่งรับงานจากบริษัท TaskUs แฮกเกอร์เสนอสินบนอย่างน้อย $2,500 แลกกับการเปิดทางเข้าระบบหลังบ้าน และทำให้ข้อมูลลูกค้า มากถึง 97,000 ราย ถูกขโมยไป จากนั้นแฮกเกอร์ใช้ข้อมูลดังกล่าว ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ Coinbase โทรหาลูกค้า พร้อมข้อมูลจริงครบถ้วน จนเหยื่อหลงเชื่อและโอนคริปโตให้กับกระเป๋าของคนร้าย วิธีโจมตีไม่ได้มีแค่การติดสินบน—บางกรณีแฮกเกอร์แค่ถามพนักงานว่ารันซอฟต์แวร์อะไร แล้วไปเจอว่า มี Extension ที่มีช่องโหว่ ก็ใช้ช่องนั้น inject script เพื่อดูดข้อมูลแบบ mass นอกจากนั้นยังมีเคสใน UK ที่กลุ่มโจรไซเบอร์ปลอมเป็นผู้บริหารจาก M&S และ Harrods เพื่อสั่งให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายซัพพอร์ตเปิดทางเข้าระบบ (เทคนิคแบบเดียวกับที่ใช้โจมตี MGM Resorts ปี 2023) ✅ แฮกเกอร์เปลี่ยนเป้าหมายจากระบบ มาเป็น “คน” ในสายซัพพอร์ตค่าแรงต่ำ   • เสนอสินบนหลักพันดอลลาร์เพื่อให้เข้าถึงระบบบริษัท ✅ Coinbase ถูกเจาะข้อมูลผ่านพนักงาน TaskUs จนกระทั่งลูกค้าเสียหายกว่า 97,000 ราย   • แฮกเกอร์ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่จริง พร้อมข้อมูลละเอียด ✅ มีการใช้เทคนิคอื่น เช่นแอบ inject code ผ่าน Extension ที่พนักงานใช้ใน Call Center   • เริ่มจากการถามว่านายใช้ซอฟต์แวร์อะไร ✅ UK ก็มีเคสที่แฮกเกอร์ปลอมเป็นผู้บริหารโทรหาเจ้าหน้าที่ให้เปิดระบบให้   • เป็น “วิศวกรรมสังคม” แบบสายตรง ✅ บริษัทบางแห่งพบว่า แม้จะไล่พนักงานออกแล้ว คน ๆ นั้นสามารถหางานใหม่ได้ง่ายมากในตลาด outsource   • ทำให้การป้องกันด้านบุคคลทวีความยากขึ้น ✅ แม้มี Cybersecurity ขั้นสูง แต่ Human Interaction ยังคงเป็นจุดอ่อนที่สุดของระบบ   • กล่าวโดยผู้เชี่ยวชาญจาก ReliaQuest ‼️ การจ้าง outsource ที่ไม่มีระบบตรวจสอบจริยธรรมอาจเปิดทางให้คนในขายข้อมูล   • ความเสี่ยงไม่ได้อยู่แค่ในเทคโนโลยี แต่เป็นการจัดการแรงงาน ‼️ แฮกเกอร์เริ่มเก่งในการปลอมตัวและใช้ข้อมูลจริงโทรหลอกลูกค้า   • ต้องเพิ่มการยืนยันตัวตนหลายขั้น แม้จะดูยุ่งยาก ‼️ พนักงานที่ถูกไล่ออกมักหางานในบริษัท outsource อื่นได้ง่าย   • ขาดระบบ blacklist หรือ shared warning system ระหว่างบริษัท ‼️ การละเลยการอัปเดตซอฟต์แวร์ หรือใช้ Extension ที่มีช่องโหว่ในเครื่อง Call Center อาจเปิดช่องให้โดนดูดข้อมูลแบบ mass scale https://www.techspot.com/news/108387-low-wage-support-workers-become-new-gateway-cyberattacks.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Low-wage tech support workers become a new gateway for cyberattacks
    Hackers are increasingly turning the very systems designed to help customers – outsourced tech support and call centers – into powerful tools for cybercrime. Recent incidents in...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุณอาจเคยได้ยินว่า AI เริ่มใช้ในการวินิจฉัยโรค หรือแต่งเนื้อเพลง…แต่ตอนนี้มันเดินเข้าศาลแล้วแบบจริงจัง! หลายคดีในสหรัฐฯ เริ่มเห็น GenAI ถูกใช้ในหลายรูปแบบ เช่น:

    - ผู้พิพากษาใช้ AI ช่วยค้นคว้าคำพิพากษาเก่า ๆ
    - ทนายใช้ ChatGPT หรือ AI ผู้ช่วยอย่าง LexisNexis Protege, CoCounsel จาก Thomson Reuters ช่วยร่างคำร้อง
    - ฝ่ายที่ไม่มีทนาย (pro se) ใช้ AI เขียนคำร้องเอง

    หนึ่งในกรณีที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดคือคดีที่เหยื่อถูกยิงเสียชีวิต และญาติของเขาสร้าง “อวตาร AI” ขึ้นมาให้ผู้ตายกล่าวคำอำลาและแสดงความให้อภัยในศาลด้วยตัวเอง ผ่านหน้าจอ—ผู้พิพากษาถึงกับบอกว่า “มันรู้สึกเหมือนจริง” มาก

    แต่ในอีกมุม GenAI ก็มีปัญหาเหมือนกัน — มีคดีหนึ่งที่ทนายใช้ AI ช่วยร่างคำฟ้องจนเกิดการอ้างคำพิพากษาปลอม (hallucination) จนโดนปรับไปกว่า $31,000 แบบไม่มีข้อแก้ตัว

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าถึงแม้ GenAI จะช่วยให้คนเข้าถึงระบบยุติธรรมง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนไม่มีทนาย แต่ระบบศาลต้องเตรียมรับมือกับ “คดีที่ถูกสร้างด้วยปุ่มเดียว” เพราะ GenAI ทำให้คนสามารถร่างคำฟ้องได้เร็วและมากขึ้นหลายเท่า ซึ่งอาจเพิ่มภาระให้กับศาลที่มีคดีล้นอยู่แล้ว

    ✅ GenAI เริ่มถูกใช้จริงจังในศาลสหรัฐฯ ทั้งโดยผู้พิพากษา ทนาย และประชาชนทั่วไป  
    • ผู้พิพากษาใช้เพื่อค้นข้อมูลทางกฎหมาย  
    • ทนายใช้ AI ผู้ช่วย เช่น LexisNexis Protege และ CoCounsel  
    • ผู้ที่ไม่มีทนายใช้ AI ยื่นคำร้องเอง

    ✅ มีการใช้ Avatar AI เป็นครั้งแรกในศาลอเมริกาเพื่อให้เหยื่อ “กล่าวคำอำลา” หลังเสียชีวิต  
    • เหยื่อถูกยิงเสียชีวิตในปี 2021  
    • พี่สาวสร้างวิดีโอ AI ให้พูดในศาลตอนตัดสินคนร้าย

    ✅ AI ช่วยลดภาระและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม  
    • โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่สามารถจ้างทนายได้  
    • อาจเพิ่มความเป็นธรรมและลดต้นทุนระบบ

    ✅ นักวิชาการเสนอให้ศาลเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรองรับ AI อย่างจริงจัง  
    • เช่น การฝึกอบรมผู้พิพากษาให้เข้าใจ AI  
    • อาจช่วยให้คำพิพากษาแม่นยำและไม่ถูกยื่นอุทธรณ์ง่าย

    ‼️ GenAI ยังมีปัญหาเรื่อง “ความเที่ยงตรงของข้อมูล” (hallucination)  
    • มีกรณีอ้างคำพิพากษาปลอมแล้วศาลลงโทษจริง  
    • ต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนใช้เอกสารที่ AI สร้างขึ้น

    ‼️ การเปิดให้ใช้ AI อย่างเสรี อาจทำให้ “คดีที่ไม่มีเนื้อหา” ท่วมศาล  
    • คนสามารถสร้างคำฟ้องด้วย AI ได้ง่ายและเร็วเกินไป  
    • เพิ่มภาระต่อระบบที่มีทรัพยากรจำกัด

    ‼️ ผู้ที่ไม่มีทนายอาจเชื่อใจ AI มากเกินไปจนทำผิดพลาด  
    • โดยเฉพาะหากไม่เข้าใจว่า AI ไม่ใช่ที่ปรึกษาทางกฎหมาย

    ‼️ อาจเกิดการโน้มน้าวผู้พิพากษาจากข้อมูลที่ AI คัดเลือกมา “โดยไม่ได้ตั้งใจ”  
    • เช่น ถ้า AI เลือกคำพิพากษาเก่าที่บางเฉียบ แต่อิทธิพลสูง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/justice-at-stake-as-generative-ai-enters-the-courtroom
    คุณอาจเคยได้ยินว่า AI เริ่มใช้ในการวินิจฉัยโรค หรือแต่งเนื้อเพลง…แต่ตอนนี้มันเดินเข้าศาลแล้วแบบจริงจัง! หลายคดีในสหรัฐฯ เริ่มเห็น GenAI ถูกใช้ในหลายรูปแบบ เช่น: - ผู้พิพากษาใช้ AI ช่วยค้นคว้าคำพิพากษาเก่า ๆ - ทนายใช้ ChatGPT หรือ AI ผู้ช่วยอย่าง LexisNexis Protege, CoCounsel จาก Thomson Reuters ช่วยร่างคำร้อง - ฝ่ายที่ไม่มีทนาย (pro se) ใช้ AI เขียนคำร้องเอง หนึ่งในกรณีที่สะเทือนอารมณ์ที่สุดคือคดีที่เหยื่อถูกยิงเสียชีวิต และญาติของเขาสร้าง “อวตาร AI” ขึ้นมาให้ผู้ตายกล่าวคำอำลาและแสดงความให้อภัยในศาลด้วยตัวเอง ผ่านหน้าจอ—ผู้พิพากษาถึงกับบอกว่า “มันรู้สึกเหมือนจริง” มาก แต่ในอีกมุม GenAI ก็มีปัญหาเหมือนกัน — มีคดีหนึ่งที่ทนายใช้ AI ช่วยร่างคำฟ้องจนเกิดการอ้างคำพิพากษาปลอม (hallucination) จนโดนปรับไปกว่า $31,000 แบบไม่มีข้อแก้ตัว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าถึงแม้ GenAI จะช่วยให้คนเข้าถึงระบบยุติธรรมง่ายขึ้น โดยเฉพาะคนไม่มีทนาย แต่ระบบศาลต้องเตรียมรับมือกับ “คดีที่ถูกสร้างด้วยปุ่มเดียว” เพราะ GenAI ทำให้คนสามารถร่างคำฟ้องได้เร็วและมากขึ้นหลายเท่า ซึ่งอาจเพิ่มภาระให้กับศาลที่มีคดีล้นอยู่แล้ว ✅ GenAI เริ่มถูกใช้จริงจังในศาลสหรัฐฯ ทั้งโดยผู้พิพากษา ทนาย และประชาชนทั่วไป   • ผู้พิพากษาใช้เพื่อค้นข้อมูลทางกฎหมาย   • ทนายใช้ AI ผู้ช่วย เช่น LexisNexis Protege และ CoCounsel   • ผู้ที่ไม่มีทนายใช้ AI ยื่นคำร้องเอง ✅ มีการใช้ Avatar AI เป็นครั้งแรกในศาลอเมริกาเพื่อให้เหยื่อ “กล่าวคำอำลา” หลังเสียชีวิต   • เหยื่อถูกยิงเสียชีวิตในปี 2021   • พี่สาวสร้างวิดีโอ AI ให้พูดในศาลตอนตัดสินคนร้าย ✅ AI ช่วยลดภาระและเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม   • โดยเฉพาะสำหรับคนที่ไม่สามารถจ้างทนายได้   • อาจเพิ่มความเป็นธรรมและลดต้นทุนระบบ ✅ นักวิชาการเสนอให้ศาลเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรองรับ AI อย่างจริงจัง   • เช่น การฝึกอบรมผู้พิพากษาให้เข้าใจ AI   • อาจช่วยให้คำพิพากษาแม่นยำและไม่ถูกยื่นอุทธรณ์ง่าย ‼️ GenAI ยังมีปัญหาเรื่อง “ความเที่ยงตรงของข้อมูล” (hallucination)   • มีกรณีอ้างคำพิพากษาปลอมแล้วศาลลงโทษจริง   • ต้องตรวจสอบทุกครั้งก่อนใช้เอกสารที่ AI สร้างขึ้น ‼️ การเปิดให้ใช้ AI อย่างเสรี อาจทำให้ “คดีที่ไม่มีเนื้อหา” ท่วมศาล   • คนสามารถสร้างคำฟ้องด้วย AI ได้ง่ายและเร็วเกินไป   • เพิ่มภาระต่อระบบที่มีทรัพยากรจำกัด ‼️ ผู้ที่ไม่มีทนายอาจเชื่อใจ AI มากเกินไปจนทำผิดพลาด   • โดยเฉพาะหากไม่เข้าใจว่า AI ไม่ใช่ที่ปรึกษาทางกฎหมาย ‼️ อาจเกิดการโน้มน้าวผู้พิพากษาจากข้อมูลที่ AI คัดเลือกมา “โดยไม่ได้ตั้งใจ”   • เช่น ถ้า AI เลือกคำพิพากษาเก่าที่บางเฉียบ แต่อิทธิพลสูง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/justice-at-stake-as-generative-ai-enters-the-courtroom
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Justice at stake as generative AI enters the courtroom
    Generative artificial intelligence (GenAI) is making its way into courts despite early stumbles, raising questions about how it will influence the legal system and justice itself.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • การยื่นขออนุญาตจัดตั้ง Virtual Bank หรือ ธนาคารไร้สาขาในประทเศไทย ล่าสุดเมื่อ19 มิถุนายน 2568 กระทรวงการคลัง โดยคำแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ได้ประกาศรายชื่อ 3 กลุ่มที่ได้รับไฟเขียวให้เดินหน้าจัดตั้ง Virtual Bank อย่างเป็นทางการแล้ว .โดย 3 กลุ่มที่ได้รับความเห็นชอบ ได้แก่.1. บริษัท เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด”.บริษัทนี้คือบริษัทในเครือ Ascend Money ผู้ให้บริการ TrueMoney ที่มีฐานผู้ใช้บริการจำนวนมากและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงินในระบบธนาคารแบบเดิมได้ ผนึกกำลังกับ CP Group ที่มีความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายค้าปลีก และ Ant Financial บริษัทภายใต้ Alibaba ที่สนับสนุนด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน) กลุ่มนี้เรียกว่าเป็นกลุ่มที่มีฐานผู้ใช้บริการจำนวนมาก การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงินได้ และมีเทคโนโลยีสินเชื่อและเครือข่ายค้าปลีกที่แข็งแกร่งเช่นกัน.2. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน).กลุ่มนี้เป็นการรวมตัวของธนาคารใหญ่ของรัฐอย่างธนาคารกรุงไทย ที่มีฐานลูกค้าจำนวนมากและประสบการณ์ด้านการเงิน พร้อมด้วย AIS ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายใหญ่ ที่มีฐานลูกค้าจำนวนมหาศาลและเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล รวมถึง PTTOR หรือ โออาร์ ที่มีเครือข่ายปั๊มน้ำมันและร้านค้าปลีกครอบคลุมทั่วประเทศ ลองนึกภาพว่าเราเติมน้ำมันที่ปั๊มโออาร์ แล้วใช้แอป Virtual Bank ของกลุ่มนี้สแกนจ่าย หรือรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ทันที สะดวกสุดๆ เลยใช่ไหมคะ.3. บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ WeTechnology Limited และ KakaoBank Corp..กลุ่มนี้เป็นการรวมตัวกันของ SCBX ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีศักยภาพด้านการเงินและเทคโนโลยีสูง จับมือกับ WeTechnology Limited และ KakaoBank Corp. ซึ่ง KakaoBank เป็นธนาคารดิจิทัลชั้นนำจากเกาหลีใต้ ที่มีประสบการณ์ตรงและเชี่ยวชาญในการทำ Virtual Bank .แล้วยังไงต่อ?.กลุ่มที่ได้รับความเห็นชอบทั้ง 3 รายนี้ จะต้องดำเนินการจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัด และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด รวมถึงต้องผ่านการประเมินความพร้อมจาก ธปท. ก่อนที่จะยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Virtual Bank จากนั้นจะต้องเปิดดำเนินการภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันนี้ ก็คือภายในวันที่ 19 มิถุนายน 2569 นั่นเอง.สำหรับใครที่สงสัยว่า Virtual Bank คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และจะเข้ามาเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเงินไทยได้อย่างไรบ้าง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.marketingoops.com/reports/fast-fact-reports/what-is-virtual-bank-thailand/ ที่มา MarketingOops
    การยื่นขออนุญาตจัดตั้ง Virtual Bank หรือ ธนาคารไร้สาขาในประทเศไทย ล่าสุดเมื่อ19 มิถุนายน 2568 กระทรวงการคลัง โดยคำแนะนำของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ได้ประกาศรายชื่อ 3 กลุ่มที่ได้รับไฟเขียวให้เดินหน้าจัดตั้ง Virtual Bank อย่างเป็นทางการแล้ว .โดย 3 กลุ่มที่ได้รับความเห็นชอบ ได้แก่.1. บริษัท เอซีเอ็ม โฮลดิ้ง จำกัด”.บริษัทนี้คือบริษัทในเครือ Ascend Money ผู้ให้บริการ TrueMoney ที่มีฐานผู้ใช้บริการจำนวนมากและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงินในระบบธนาคารแบบเดิมได้ ผนึกกำลังกับ CP Group ที่มีความแข็งแกร่งด้านเครือข่ายค้าปลีก และ Ant Financial บริษัทภายใต้ Alibaba ที่สนับสนุนด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐาน) กลุ่มนี้เรียกว่าเป็นกลุ่มที่มีฐานผู้ใช้บริการจำนวนมาก การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เข้าไม่ถึงบริการทางการเงินได้ และมีเทคโนโลยีสินเชื่อและเครือข่ายค้าปลีกที่แข็งแกร่งเช่นกัน.2. ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน).กลุ่มนี้เป็นการรวมตัวของธนาคารใหญ่ของรัฐอย่างธนาคารกรุงไทย ที่มีฐานลูกค้าจำนวนมากและประสบการณ์ด้านการเงิน พร้อมด้วย AIS ผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือรายใหญ่ ที่มีฐานลูกค้าจำนวนมหาศาลและเชี่ยวชาญด้านดิจิทัล รวมถึง PTTOR หรือ โออาร์ ที่มีเครือข่ายปั๊มน้ำมันและร้านค้าปลีกครอบคลุมทั่วประเทศ ลองนึกภาพว่าเราเติมน้ำมันที่ปั๊มโออาร์ แล้วใช้แอป Virtual Bank ของกลุ่มนี้สแกนจ่าย หรือรับสิทธิพิเศษต่างๆ ได้ทันที สะดวกสุดๆ เลยใช่ไหมคะ.3. บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ WeTechnology Limited และ KakaoBank Corp..กลุ่มนี้เป็นการรวมตัวกันของ SCBX ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของธนาคารไทยพาณิชย์ ที่มีศักยภาพด้านการเงินและเทคโนโลยีสูง จับมือกับ WeTechnology Limited และ KakaoBank Corp. ซึ่ง KakaoBank เป็นธนาคารดิจิทัลชั้นนำจากเกาหลีใต้ ที่มีประสบการณ์ตรงและเชี่ยวชาญในการทำ Virtual Bank .แล้วยังไงต่อ?.กลุ่มที่ได้รับความเห็นชอบทั้ง 3 รายนี้ จะต้องดำเนินการจัดตั้งบริษัทมหาชนจำกัด และปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กระทรวงการคลังกำหนด รวมถึงต้องผ่านการประเมินความพร้อมจาก ธปท. ก่อนที่จะยื่นขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจ Virtual Bank จากนั้นจะต้องเปิดดำเนินการภายใน 1 ปี นับตั้งแต่วันนี้ ก็คือภายในวันที่ 19 มิถุนายน 2569 นั่นเอง.สำหรับใครที่สงสัยว่า Virtual Bank คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร และจะเข้ามาเปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเงินไทยได้อย่างไรบ้าง สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.marketingoops.com/reports/fast-fact-reports/what-is-virtual-bank-thailand/ ที่มา MarketingOops
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปูตินกล่าวว่าอิสราเอลรับประกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้านนิวเคลียร์รัสเซียที่โรงงานนิวเคลียร์บูเชห์ของอิหร่าน

    โรงงานที่รัสเซียสร้างนี้เป็นโครงการร่วมระหว่างมอสโกวและเตหะรานมานานกว่า 30 ปี

    มีผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ของรัสเซียมากกว่า 200 คนอยู่ในอิหร่านเพื่อสร้างหน่วยเพิ่มเติมอีก 2 หน่วยที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของอิหร่าน
    ปูตินกล่าวว่าอิสราเอลรับประกันความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ด้านนิวเคลียร์รัสเซียที่โรงงานนิวเคลียร์บูเชห์ของอิหร่าน โรงงานที่รัสเซียสร้างนี้เป็นโครงการร่วมระหว่างมอสโกวและเตหะรานมานานกว่า 30 ปี มีผู้เชี่ยวชาญด้านนิวเคลียร์ของรัสเซียมากกว่า 200 คนอยู่ในอิหร่านเพื่อสร้างหน่วยเพิ่มเติมอีก 2 หน่วยที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ของอิหร่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • Texas Instruments เป็นผู้ผลิตชิปอนาล็อกรายใหญ่ระดับโลก (ใช้ควบคุมพลังงาน, สัญญาณ, sensor ต่าง ๆ) ซึ่งเจ้าใหญ่ ๆ อย่าง Apple, NVIDIA, Ford, Medtronic และ SpaceX ต่างเป็นลูกค้าหลัก คราวนี้ TI ออกมาประกาศว่าจะลงทุนรวมกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ใน “สายการผลิตขนาด 300 มม.” ทั้งหมด 7 แห่ง ทั่วสหรัฐฯ ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า

    ไฮไลต์ของแผนคือ “การยกระดับ 3 mega-site” ได้แก่ที่เมือง Sherman (เทกซัส), Richardson (เทกซัส), และ Lehi (ยูทาห์) — โดยเฉพาะ ไซต์ Sherman ได้งบถึง 40,000 ล้านดอลลาร์! เพื่อสร้างโรงงาน SM1 และ SM2 ให้เสร็จ และวางแผนเริ่ม SM3 และ SM4 เพื่อรองรับ “ดีมานด์ในอนาคต”

    ฝั่ง Lehi กับ Richardson ก็ไม่น้อยหน้า — TI เตรียมอัปเกรดสายการผลิต พร้อมเร่งสร้างโรงงานน้องใหม่อย่าง LFAB2 ไปพร้อมกัน

    แม้ TI จะเคยได้รับคำสัญญาจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะสนับสนุนเงิน $1.6 พันล้านภายใต้ CHIPS Act (เพื่อขยายไลน์ผลิตให้ทันสมัยขึ้น) แต่ครั้งนี้ TI ไม่ได้พูดถึงเงินสนับสนุนใด ๆ — ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่านี่อาจเป็น “เกมการเมืองล่วงหน้า” เพื่อแสดงความร่วมมือก่อนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ตัดสินใจรอบใหม่ว่าจะจ่ายจริงหรือไม่

    แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แผนนี้จะสร้างงานหลายหมื่นตำแหน่ง และเป็นประโยชน์ต่อระบบการศึกษาในพื้นที่โดยตรง เช่น สนับสนุนโรงเรียนในพื้นที่ให้สร้าง pipeline ป้อนเด็กเข้าโรงงานของ TI โดยตรงเลย!

    ✅ Texas Instruments จะลงทุนกว่า $60 พันล้านในโรงงานผลิตชิป 7 แห่งในสหรัฐฯ  
    • ถือเป็นการลงทุนด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

    ✅ เน้นที่โรงงานขนาด 300 มม. (wafer)  
    • ใช้ผลิต “ชิปอนาล็อกพื้นฐาน” ที่จำเป็นกับอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภท

    ✅ ไซต์หลัก 3 แห่ง: Sherman, Richardson (เทกซัส) และ Lehi (ยูทาห์)  
    • Sherman ได้งบกว่า $40B สร้าง SM1–SM4  
    • Lehi จะเร่งสร้าง LFAB2 และเร่งกำลังผลิต  
    • Richardson เพิ่ม output ของ fab ที่ 2

    ✅ มีลูกค้ารายใหญ่อย่าง Apple, NVIDIA, Medtronic, Ford, SpaceX ออกมาหนุน  
    • แสดงให้เห็นว่าแผนนี้ “ได้รับการสนับสนุนระดับ ecosystem”

    ✅ ตั้งเป้าเสริม supply chain ภายในประเทศ ไม่พึ่งพาต่างชาติ  
    • สอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ

    ‼️ ยังไม่ชัดว่าเงินทุนทั้งหมดจะมาจาก TI จริง หรือรอ CHIPS Act อนุมัติอยู่เบื้องหลัง  
    • มีผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสงสัยว่าแผนนี้อาจมี “กลยุทธ์การเมือง” แฝงอยู่

    ‼️ TI ไม่พูดถึงการพัฒนา node ขั้นสูง (เช่น sub-7nm หรือ AI chip)  
    • ชิปของ TI ยังอยู่ในหมวด “foundational analog” ซึ่งแม้จำเป็น แต่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเท่าคู่แข่ง

    ‼️ แรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในการตั้งโรงงานในประเทศ อาจสร้างภาระด้านต้นทุนกับบริษัท  
    • โดยเฉพาะหากต้องแข่งขันด้านราคากับผู้ผลิตในเอเชีย

    ‼️ ยังไม่มีไทม์ไลน์ชัดเจนสำหรับสายผลิตใหม่หลายแห่ง เช่น SM3/SM4 ที่อยู่ในขั้น “แผนล่วงหน้า”  
    • อาจล่าช้าหากเงินทุนไม่มากพอ หรือเงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยน

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/texas-instruments-commits-usd60-billion-to-u-s-semiconductor-manufacturing-includes-planned-expansions-to-texas-utah-fabs
    Texas Instruments เป็นผู้ผลิตชิปอนาล็อกรายใหญ่ระดับโลก (ใช้ควบคุมพลังงาน, สัญญาณ, sensor ต่าง ๆ) ซึ่งเจ้าใหญ่ ๆ อย่าง Apple, NVIDIA, Ford, Medtronic และ SpaceX ต่างเป็นลูกค้าหลัก คราวนี้ TI ออกมาประกาศว่าจะลงทุนรวมกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์ใน “สายการผลิตขนาด 300 มม.” ทั้งหมด 7 แห่ง ทั่วสหรัฐฯ ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า ไฮไลต์ของแผนคือ “การยกระดับ 3 mega-site” ได้แก่ที่เมือง Sherman (เทกซัส), Richardson (เทกซัส), และ Lehi (ยูทาห์) — โดยเฉพาะ ไซต์ Sherman ได้งบถึง 40,000 ล้านดอลลาร์! เพื่อสร้างโรงงาน SM1 และ SM2 ให้เสร็จ และวางแผนเริ่ม SM3 และ SM4 เพื่อรองรับ “ดีมานด์ในอนาคต” ฝั่ง Lehi กับ Richardson ก็ไม่น้อยหน้า — TI เตรียมอัปเกรดสายการผลิต พร้อมเร่งสร้างโรงงานน้องใหม่อย่าง LFAB2 ไปพร้อมกัน แม้ TI จะเคยได้รับคำสัญญาจากรัฐบาลสหรัฐฯ ว่าจะสนับสนุนเงิน $1.6 พันล้านภายใต้ CHIPS Act (เพื่อขยายไลน์ผลิตให้ทันสมัยขึ้น) แต่ครั้งนี้ TI ไม่ได้พูดถึงเงินสนับสนุนใด ๆ — ทำให้หลายคนตั้งข้อสังเกตว่านี่อาจเป็น “เกมการเมืองล่วงหน้า” เพื่อแสดงความร่วมมือก่อนกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ตัดสินใจรอบใหม่ว่าจะจ่ายจริงหรือไม่ แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด แผนนี้จะสร้างงานหลายหมื่นตำแหน่ง และเป็นประโยชน์ต่อระบบการศึกษาในพื้นที่โดยตรง เช่น สนับสนุนโรงเรียนในพื้นที่ให้สร้าง pipeline ป้อนเด็กเข้าโรงงานของ TI โดยตรงเลย! ✅ Texas Instruments จะลงทุนกว่า $60 พันล้านในโรงงานผลิตชิป 7 แห่งในสหรัฐฯ   • ถือเป็นการลงทุนด้านการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ในประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ✅ เน้นที่โรงงานขนาด 300 มม. (wafer)   • ใช้ผลิต “ชิปอนาล็อกพื้นฐาน” ที่จำเป็นกับอุตสาหกรรมเกือบทุกประเภท ✅ ไซต์หลัก 3 แห่ง: Sherman, Richardson (เทกซัส) และ Lehi (ยูทาห์)   • Sherman ได้งบกว่า $40B สร้าง SM1–SM4   • Lehi จะเร่งสร้าง LFAB2 และเร่งกำลังผลิต   • Richardson เพิ่ม output ของ fab ที่ 2 ✅ มีลูกค้ารายใหญ่อย่าง Apple, NVIDIA, Medtronic, Ford, SpaceX ออกมาหนุน   • แสดงให้เห็นว่าแผนนี้ “ได้รับการสนับสนุนระดับ ecosystem” ✅ ตั้งเป้าเสริม supply chain ภายในประเทศ ไม่พึ่งพาต่างชาติ   • สอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงด้านเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ‼️ ยังไม่ชัดว่าเงินทุนทั้งหมดจะมาจาก TI จริง หรือรอ CHIPS Act อนุมัติอยู่เบื้องหลัง   • มีผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสงสัยว่าแผนนี้อาจมี “กลยุทธ์การเมือง” แฝงอยู่ ‼️ TI ไม่พูดถึงการพัฒนา node ขั้นสูง (เช่น sub-7nm หรือ AI chip)   • ชิปของ TI ยังอยู่ในหมวด “foundational analog” ซึ่งแม้จำเป็น แต่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยเท่าคู่แข่ง ‼️ แรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ ในการตั้งโรงงานในประเทศ อาจสร้างภาระด้านต้นทุนกับบริษัท   • โดยเฉพาะหากต้องแข่งขันด้านราคากับผู้ผลิตในเอเชีย ‼️ ยังไม่มีไทม์ไลน์ชัดเจนสำหรับสายผลิตใหม่หลายแห่ง เช่น SM3/SM4 ที่อยู่ในขั้น “แผนล่วงหน้า”   • อาจล่าช้าหากเงินทุนไม่มากพอ หรือเงื่อนไขทางการเมืองเปลี่ยน https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/texas-instruments-commits-usd60-billion-to-u-s-semiconductor-manufacturing-includes-planned-expansions-to-texas-utah-fabs
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Texas Instruments commits $60 billion to U.S. semiconductor manufacturing — includes planned expansions to Texas, Utah fabs
    Texas Instruments announces investments in seven upcoming U.S. 300mm fabs, though we already knew about five
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • ช่วงหลังมีงานวิจัยหลายชิ้นเตือนเรื่อง “เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไป” ว่าทำให้เด็กเศร้า หวาดระแวง หรือเสี่ยงคิดสั้น แต่การศึกษาใหม่ในวารสาร JAMA ชี้ว่า เวลาอาจไม่ใช่ตัวการหลัก เพราะเด็กที่ใช้มือถือหรือโซเชียลแค่วันละนิด แต่ใช้แบบ “เลิกไม่ได้” ก็เสี่ยงสูงเช่นกัน

    ทีมนักวิจัยจาก Weill Cornell Medical College ตามข้อมูลเด็กกว่า 4,000 คน ตั้งแต่อายุ 10–14 ปี พบว่าเด็กที่มีพฤติกรรม “เสพติดมือถือ” (เช่น วางไม่ลง ขาดแล้วกระวนกระวาย หรือใช้เพิ่มเรื่อย ๆ) มีโอกาสคิดสั้นหรือทำร้ายตัวเองเพิ่มขึ้น 2–3 เท่า แม้จะไม่ได้ใช้หน้าจอนานมาก

    กลุ่มเสี่ยงมากที่สุดคือเด็กที่เริ่มติดตั้งแต่อายุ 11 ปี และยิ่งแย่ขึ้นในช่วงวัย 14 ปี ซึ่งสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ โดยเฉพาะส่วน prefrontal cortex ที่คุมการหักห้ามใจ

    และที่น่าคิดคือ…การเอามือถือออกจากมือลูกแบบหักดิบ อาจไม่ได้ช่วย แถมสร้างความขัดแย้งในบ้านอีกต่างหาก นักวิจัยแนะนำให้เน้น “บำบัดพฤติกรรมเสพติด” เช่น Cognitive Behavioral Therapy (CBT) แทนการห้ามใช้อย่างเดียว

    ✅ งานวิจัยใหญ่ชี้ว่า “พฤติกรรมเสพติด” ไม่ใช่ “เวลาอยู่หน้าจอ” คือปัจจัยเสี่ยงหลักของสุขภาพจิตเด็ก  
    • การวางไม่ลง / ต้องใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสัญญาณอันตราย  
    • เด็กที่มีพฤติกรรมนี้เสี่ยงคิดสั้นมากขึ้น 2–3 เท่า

    ✅ เกือบครึ่งของเด็กในงานวิจัยมีพฤติกรรมติดมือถือระดับสูงตั้งแต่อายุ 11  
    • อีก 25% เริ่มติดภายหลังและพุ่งขึ้นเร็วในช่วงวัยรุ่น

    ✅ การวัด screen time อย่างเดียวอาจพลาดกลุ่มเสี่ยงที่ใช้ “น้อยแต่ติด”  
    • ต้องติดตามพฤติกรรมแบบ “ต่อเนื่อง” เพื่อจับสัญญาณก่อนสาย

    ✅ ทีมวิจัยแนะนำให้เน้นการบำบัดพฤติกรรมแทนการยึดมือถือ  
    • เช่น การใช้ CBT เพื่อช่วยเด็กควบคุมการใช้งาน  
    • พ่อแม่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่จัดการเองอย่างหักดิบ

    ✅ มีการเรียกร้องให้ผู้ให้บริการออกแบบแอป/อุปกรณ์ให้เหมาะกับวัย (Age-Appropriate Design)  
    • ลดกลไกดึงดูดแบบ loop ไม่มีที่สิ้นสุด เช่น infinite scroll  
    • อังกฤษมีการออกโค้ดแนวทางนี้แล้วตั้งแต่ปี 2020

    ✅ ความเสี่ยงติดมือถือพบบ่อยในกลุ่มครอบครัวยากจนหรือพ่อแม่ไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย  
    • เป็นภาระซ้อนของสภาพแวดล้อมทางสังคม

    ‼️ ผลวิจัยยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่า “ติดมือถือทำให้คิดสั้น” หรือไม่  
    • เพราะเป็นงานแบบสังเกต ไม่ใช่ทดลองควบคุม  • แต่พบว่าพฤติกรรมเสพติดมาก่อนอาการทางจิตชัดเจน

    ‼️ การจำกัด screen time โดยไม่เข้าใจ “เหตุผลที่เด็กใช้งาน” อาจไม่แก้ปัญหา  
    • ต้องดูว่าเด็กใช้เพื่อหนีปัญหาในชีวิตจริงหรือไม่

    ‼️ การพูดเรื่อง screen time อย่างเดียว อาจโยนภาระทั้งหมดให้พ่อแม่  
    • ทั้งที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการออกแบบแอปให้ดึงดูดเกินพอดี

    ‼️ การตัดสินจากแค่ “ชั่วโมงหน้าจอ” อาจพลาดกลุ่มเด็กที่เสพติดเชิงพฤติกรรมแบบลึก ๆ  
    • เช่น ใช้น้อยแต่รู้สึกหงุดหงิดมากถ้าขาดมือถือ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/real-risk-to-youth-mental-health-is-addictive-use-not-screen-time-alone-study-finds
    ช่วงหลังมีงานวิจัยหลายชิ้นเตือนเรื่อง “เวลาอยู่หน้าจอมากเกินไป” ว่าทำให้เด็กเศร้า หวาดระแวง หรือเสี่ยงคิดสั้น แต่การศึกษาใหม่ในวารสาร JAMA ชี้ว่า เวลาอาจไม่ใช่ตัวการหลัก เพราะเด็กที่ใช้มือถือหรือโซเชียลแค่วันละนิด แต่ใช้แบบ “เลิกไม่ได้” ก็เสี่ยงสูงเช่นกัน ทีมนักวิจัยจาก Weill Cornell Medical College ตามข้อมูลเด็กกว่า 4,000 คน ตั้งแต่อายุ 10–14 ปี พบว่าเด็กที่มีพฤติกรรม “เสพติดมือถือ” (เช่น วางไม่ลง ขาดแล้วกระวนกระวาย หรือใช้เพิ่มเรื่อย ๆ) มีโอกาสคิดสั้นหรือทำร้ายตัวเองเพิ่มขึ้น 2–3 เท่า แม้จะไม่ได้ใช้หน้าจอนานมาก กลุ่มเสี่ยงมากที่สุดคือเด็กที่เริ่มติดตั้งแต่อายุ 11 ปี และยิ่งแย่ขึ้นในช่วงวัย 14 ปี ซึ่งสมองยังพัฒนาไม่เต็มที่ โดยเฉพาะส่วน prefrontal cortex ที่คุมการหักห้ามใจ และที่น่าคิดคือ…การเอามือถือออกจากมือลูกแบบหักดิบ อาจไม่ได้ช่วย แถมสร้างความขัดแย้งในบ้านอีกต่างหาก นักวิจัยแนะนำให้เน้น “บำบัดพฤติกรรมเสพติด” เช่น Cognitive Behavioral Therapy (CBT) แทนการห้ามใช้อย่างเดียว ✅ งานวิจัยใหญ่ชี้ว่า “พฤติกรรมเสพติด” ไม่ใช่ “เวลาอยู่หน้าจอ” คือปัจจัยเสี่ยงหลักของสุขภาพจิตเด็ก   • การวางไม่ลง / ต้องใช้มากขึ้นเรื่อย ๆ เป็นสัญญาณอันตราย   • เด็กที่มีพฤติกรรมนี้เสี่ยงคิดสั้นมากขึ้น 2–3 เท่า ✅ เกือบครึ่งของเด็กในงานวิจัยมีพฤติกรรมติดมือถือระดับสูงตั้งแต่อายุ 11   • อีก 25% เริ่มติดภายหลังและพุ่งขึ้นเร็วในช่วงวัยรุ่น ✅ การวัด screen time อย่างเดียวอาจพลาดกลุ่มเสี่ยงที่ใช้ “น้อยแต่ติด”   • ต้องติดตามพฤติกรรมแบบ “ต่อเนื่อง” เพื่อจับสัญญาณก่อนสาย ✅ ทีมวิจัยแนะนำให้เน้นการบำบัดพฤติกรรมแทนการยึดมือถือ   • เช่น การใช้ CBT เพื่อช่วยเด็กควบคุมการใช้งาน   • พ่อแม่ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ไม่ใช่จัดการเองอย่างหักดิบ ✅ มีการเรียกร้องให้ผู้ให้บริการออกแบบแอป/อุปกรณ์ให้เหมาะกับวัย (Age-Appropriate Design)   • ลดกลไกดึงดูดแบบ loop ไม่มีที่สิ้นสุด เช่น infinite scroll   • อังกฤษมีการออกโค้ดแนวทางนี้แล้วตั้งแต่ปี 2020 ✅ ความเสี่ยงติดมือถือพบบ่อยในกลุ่มครอบครัวยากจนหรือพ่อแม่ไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัย   • เป็นภาระซ้อนของสภาพแวดล้อมทางสังคม ‼️ ผลวิจัยยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่า “ติดมือถือทำให้คิดสั้น” หรือไม่   • เพราะเป็นงานแบบสังเกต ไม่ใช่ทดลองควบคุม  • แต่พบว่าพฤติกรรมเสพติดมาก่อนอาการทางจิตชัดเจน ‼️ การจำกัด screen time โดยไม่เข้าใจ “เหตุผลที่เด็กใช้งาน” อาจไม่แก้ปัญหา   • ต้องดูว่าเด็กใช้เพื่อหนีปัญหาในชีวิตจริงหรือไม่ ‼️ การพูดเรื่อง screen time อย่างเดียว อาจโยนภาระทั้งหมดให้พ่อแม่   • ทั้งที่ส่วนหนึ่งเกิดจากการออกแบบแอปให้ดึงดูดเกินพอดี ‼️ การตัดสินจากแค่ “ชั่วโมงหน้าจอ” อาจพลาดกลุ่มเด็กที่เสพติดเชิงพฤติกรรมแบบลึก ๆ   • เช่น ใช้น้อยแต่รู้สึกหงุดหงิดมากถ้าขาดมือถือ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/real-risk-to-youth-mental-health-is-addictive-use-not-screen-time-alone-study-finds
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Real risk to youth mental health is ‘addictive use’, not screen time alone, study finds
    Researchers found children with highly addictive use of phones, video games or social media were two to three times as likely to have thoughts of suicide or to harm themselves.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 86 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ดูเหมือนการเจรจาใดๆที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่มีผลอีกต่อไป"

    คำปราศรัยทางโทรทัศน์ครั้งที่สองของผู้นำสูงสุดอิหร่าน อาลี คาเมเนอี ต่อประชาชนอิหร่าน หลังจากที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่ออิหร่านอย่างรุนแรง โดยที่อิหร่านยังไม่มีการยั่วยุใดๆ

    18 มิถุนายน 2025
    .

    “ในนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาปรานี

    ข้าพเจ้าขอส่งคำทักทายไปยังประชาชาติอิหร่านอันยิ่งใหญ่

    หัวข้อแรกที่ข้าพเจ้าอยากจะพูดถึงคือการยกย่องประชาชนอันเป็นที่รักของเรา เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราโดยศัตรูที่เพิ่งเกิดขึ้น ประชาชนอิหร่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีสติ กล้าหาญ และตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบัน การเคลื่อนไหวที่ประชาชนของเราได้นำเสนอต่อโลกในวันอีดอัล-กาดิรนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษมาก การรวมตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่พวกเขาเข้าร่วมละหมาดวันศุกร์และการเดินขบวนหลังจากนั้น ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานของความเป็นผู้ใหญ่ของประชาชนอิหร่าน และการผสมผสานที่หยั่งรากลึกระหว่างเหตุผลและจิตวิญญาณกับความกล้าหาญและจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบในหมู่ประชาชาติอันเป็นที่รักของเรา

    ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานความสามารถทางศีลธรรมและวัตถุแก่ประชาชนผู้ศรัทธาเหล่านี้ด้วยพระคุณของพระองค์ ข้าพเจ้าต้องกล่าวถึงการกระทำอันทรงพลังและเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์หญิงที่ยืนหยัดมั่นคงต่อหน้าความเย่อหยิ่งของศัตรูด้วย การตักบีร (พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่) ของเธอและการแสดง ความเข้มแข็งของประชาชนต่อทั้งโลกเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และมีค่าอย่างยิ่ง

    หัวข้อที่สองคือเหตุการณ์วันนี้ การโจมตีประเทศของเราอย่างโง่เขลาและร้ายกาจโดยกลุ่มไซออนิสต์ เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังเจรจาทางอ้อมผ่านคนกลางกับฝ่ายอเมริกา ไม่มีอะไรจากอิหร่านที่บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวทางทหารที่ก้าวร้าวหรือยั่วยุ

    แน่นอนว่าตั้งแต่แรก คาดว่าสหรัฐฯ มีส่วนรู้เห็นในการกระทำอันชั่วร้ายของกลุ่มไซออนิสต์ แต่ด้วยแถลงการณ์ครั้งแรกที่ออกมา ความคาดหวังนี้ก็ยิ่งได้รับการยืนยันมากขึ้นทุกวัน

    ประชาชนอิหร่านยืนหยัดต่อต้านสงครามที่ถูกบังคับ เช่นเดียวกับที่พวกเขายืนหยัดต่อต้านสันติภาพที่ถูกบังคับ ประชาชนอิหร่านไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของใคร ฉันคาดหวังว่าปัญญาชน นักเขียน และบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะผู้ที่มีผู้ชมทั่วโลก จะชี้แจงและอธิบายความจริงเหล่านี้ พวกเขาต้องไม่อนุญาตให้ศัตรูบิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านการโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวง

    ศัตรูไซออนิสต์ได้กระทำความผิดพลาดร้ายแรงและอาชญากรรมร้ายแรง และจะต้องถูกลงโทษ—และกำลังถูกลงโทษ ถูกลงโทษ การลงโทษที่ประชาชนอิหร่านและกองกำลังติดอาวุธของเราได้รับ การลงโทษที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และการลงโทษที่เตรียมไว้สำหรับอนาคต ถือเป็นการลงโทษที่รุนแรงซึ่งทำให้อิหร่านอ่อนแอลงแล้ว แม้แต่การแทรกแซงและถ้อยแถลงของพันธมิตรอเมริกันก็เป็นสัญญาณของความอ่อนแอและไร้ความสามารถ

    ประการสุดท้ายคือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำขู่ เขาขู่เรา และในเวลาเดียวกัน—อย่างน่าขันและไร้ยางอาย—เรียกร้องให้ประชาชนอิหร่านยอมจำนนต่อเขา พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างแท้จริง

    ประการแรก คำขู่มีผลเฉพาะกับผู้ที่กลัวเท่านั้น ประชาชนอิหร่านได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หวั่นไหวเมื่อเผชิญกับคำขู่ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า:
    “อย่าทำให้อ่อนแอหรือเสียใจ เพราะเจ้าจะได้เปรียบหากเจ้าเป็นผู้ศรัทธา” (อัลกุรอาน 3:139)

    การคุกคามไม่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมหรือความคิดของชาวอิหร่าน

    ประการที่สอง การบอกให้ชาวอิหร่านมาและยอมจำนน นี่ไม่ใช่คำพูดที่มีเหตุผล ผู้ที่รู้จักอิหร่าน รู้จักชาวอิหร่านและประวัติศาสตร์ของอิหร่าน จะไม่มีวันพูดคำดังกล่าว ยอมจำนนต่ออะไร? ชาวอิหร่านไม่ต้องยอมจำนน เราไม่ได้โจมตีใคร และภายใต้สถานการณ์ใดๆ เราจะไม่ยอมรับการรุกรานจากใคร และเราจะไม่ยอมจำนนต่อมัน นี่คือเหตุผลและจิตวิญญาณของชาติอิหร่าน

    แน่นอนว่าชาวอเมริกันที่คุ้นเคยกับการเมืองในภูมิภาคนี้รู้ดีว่าการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลเสียต่อพวกเขาเองโดยสิ้นเชิง ความสูญเสียที่พวกเขาจะต้องเผชิญจะมากกว่าที่อิหร่านจะทนได้ หากอเมริกาเข้าสู่สนามรบนี้ด้วยกำลังทหาร พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างไม่สามารถแก้ไขได้

    ฉันขอให้คนที่รักของเราจำโองการอันสูงส่งนี้ไว้เสมอ:
    “ชัยชนะมาจาก “อัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัลกุรอาน 3:126)

    ขอบคุณพระเจ้า ชีวิตยังคงดำเนินไปตามปกติ อย่าให้ศัตรูรู้สึกถึงความกลัวหรือความอ่อนแอจากคุณ”
    "ดูเหมือนการเจรจาใดๆที่กำลังจะเกิดขึ้น ไม่มีผลอีกต่อไป" คำปราศรัยทางโทรทัศน์ครั้งที่สองของผู้นำสูงสุดอิหร่าน อาลี คาเมเนอี ต่อประชาชนอิหร่าน หลังจากที่อิสราเอลโจมตีทางอากาศต่ออิหร่านอย่างรุนแรง โดยที่อิหร่านยังไม่มีการยั่วยุใดๆ 18 มิถุนายน 2025 . “ในนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงกรุณาปรานี ผู้ทรงเมตตาปรานี ข้าพเจ้าขอส่งคำทักทายไปยังประชาชาติอิหร่านอันยิ่งใหญ่ หัวข้อแรกที่ข้าพเจ้าอยากจะพูดถึงคือการยกย่องประชาชนอันเป็นที่รักของเรา เมื่อพิจารณาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศของเราโดยศัตรูที่เพิ่งเกิดขึ้น ประชาชนอิหร่านได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามีสติ กล้าหาญ และตระหนักถึงสถานการณ์ปัจจุบัน การเคลื่อนไหวที่ประชาชนของเราได้นำเสนอต่อโลกในวันอีดอัล-กาดิรนั้นเป็นสิ่งที่พิเศษมาก การรวมตัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา การที่พวกเขาเข้าร่วมละหมาดวันศุกร์และการเดินขบวนหลังจากนั้น ทั้งหมดนี้เป็นหลักฐานของความเป็นผู้ใหญ่ของประชาชนอิหร่าน และการผสมผสานที่หยั่งรากลึกระหว่างเหตุผลและจิตวิญญาณกับความกล้าหาญและจังหวะเวลาที่สมบูรณ์แบบในหมู่ประชาชาติอันเป็นที่รักของเรา ข้าพเจ้าขอขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ประทานความสามารถทางศีลธรรมและวัตถุแก่ประชาชนผู้ศรัทธาเหล่านี้ด้วยพระคุณของพระองค์ ข้าพเจ้าต้องกล่าวถึงการกระทำอันทรงพลังและเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศข่าวโทรทัศน์หญิงที่ยืนหยัดมั่นคงต่อหน้าความเย่อหยิ่งของศัตรูด้วย การตักบีร (พระเจ้าผู้ยิ่งใหญ่) ของเธอและการแสดง ความเข้มแข็งของประชาชนต่อทั้งโลกเป็นเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์และมีค่าอย่างยิ่ง หัวข้อที่สองคือเหตุการณ์วันนี้ การโจมตีประเทศของเราอย่างโง่เขลาและร้ายกาจโดยกลุ่มไซออนิสต์ เกิดขึ้นในขณะที่เจ้าหน้าที่ของรัฐกำลังเจรจาทางอ้อมผ่านคนกลางกับฝ่ายอเมริกา ไม่มีอะไรจากอิหร่านที่บ่งชี้ถึงการเคลื่อนไหวทางทหารที่ก้าวร้าวหรือยั่วยุ แน่นอนว่าตั้งแต่แรก คาดว่าสหรัฐฯ มีส่วนรู้เห็นในการกระทำอันชั่วร้ายของกลุ่มไซออนิสต์ แต่ด้วยแถลงการณ์ครั้งแรกที่ออกมา ความคาดหวังนี้ก็ยิ่งได้รับการยืนยันมากขึ้นทุกวัน ประชาชนอิหร่านยืนหยัดต่อต้านสงครามที่ถูกบังคับ เช่นเดียวกับที่พวกเขายืนหยัดต่อต้านสันติภาพที่ถูกบังคับ ประชาชนอิหร่านไม่ยอมจำนนต่อคำสั่งของใคร ฉันคาดหวังว่าปัญญาชน นักเขียน และบุคคลสาธารณะ โดยเฉพาะผู้ที่มีผู้ชมทั่วโลก จะชี้แจงและอธิบายความจริงเหล่านี้ พวกเขาต้องไม่อนุญาตให้ศัตรูบิดเบือนข้อเท็จจริงผ่านการโฆษณาชวนเชื่อที่หลอกลวง ศัตรูไซออนิสต์ได้กระทำความผิดพลาดร้ายแรงและอาชญากรรมร้ายแรง และจะต้องถูกลงโทษ—และกำลังถูกลงโทษ ถูกลงโทษ การลงโทษที่ประชาชนอิหร่านและกองกำลังติดอาวุธของเราได้รับ การลงโทษที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน และการลงโทษที่เตรียมไว้สำหรับอนาคต ถือเป็นการลงโทษที่รุนแรงซึ่งทำให้อิหร่านอ่อนแอลงแล้ว แม้แต่การแทรกแซงและถ้อยแถลงของพันธมิตรอเมริกันก็เป็นสัญญาณของความอ่อนแอและไร้ความสามารถ ประการสุดท้ายคือ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกคำขู่ เขาขู่เรา และในเวลาเดียวกัน—อย่างน่าขันและไร้ยางอาย—เรียกร้องให้ประชาชนอิหร่านยอมจำนนต่อเขา พฤติกรรมเช่นนี้ทำให้ผู้คนตกตะลึงอย่างแท้จริง ประการแรก คำขู่มีผลเฉพาะกับผู้ที่กลัวเท่านั้น ประชาชนอิหร่านได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขาไม่หวั่นไหวเมื่อเผชิญกับคำขู่ ดังที่พระเจ้าตรัสไว้ว่า: “อย่าทำให้อ่อนแอหรือเสียใจ เพราะเจ้าจะได้เปรียบหากเจ้าเป็นผู้ศรัทธา” (อัลกุรอาน 3:139) การคุกคามไม่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมหรือความคิดของชาวอิหร่าน ประการที่สอง การบอกให้ชาวอิหร่านมาและยอมจำนน นี่ไม่ใช่คำพูดที่มีเหตุผล ผู้ที่รู้จักอิหร่าน รู้จักชาวอิหร่านและประวัติศาสตร์ของอิหร่าน จะไม่มีวันพูดคำดังกล่าว ยอมจำนนต่ออะไร? ชาวอิหร่านไม่ต้องยอมจำนน เราไม่ได้โจมตีใคร และภายใต้สถานการณ์ใดๆ เราจะไม่ยอมรับการรุกรานจากใคร และเราจะไม่ยอมจำนนต่อมัน นี่คือเหตุผลและจิตวิญญาณของชาติอิหร่าน แน่นอนว่าชาวอเมริกันที่คุ้นเคยกับการเมืองในภูมิภาคนี้รู้ดีว่าการที่สหรัฐฯ เข้าร่วมในความขัดแย้งครั้งนี้จะส่งผลเสียต่อพวกเขาเองโดยสิ้นเชิง ความสูญเสียที่พวกเขาจะต้องเผชิญจะมากกว่าที่อิหร่านจะทนได้ หากอเมริกาเข้าสู่สนามรบนี้ด้วยกำลังทหาร พวกเขาจะต้องสูญเสียอย่างไม่สามารถแก้ไขได้ ฉันขอให้คนที่รักของเราจำโองการอันสูงส่งนี้ไว้เสมอ: “ชัยชนะมาจาก “อัลลอฮ์ ผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงปรีชาญาณ” (อัลกุรอาน 3:126) ขอบคุณพระเจ้า ชีวิตยังคงดำเนินไปตามปกติ อย่าให้ศัตรูรู้สึกถึงความกลัวหรือความอ่อนแอจากคุณ”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • ที่ผ่านมา เวลาพูดถึงเทคโนโลยีในกองทัพ คนก็มักนึกถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้า เช่น Lockheed Martin หรือ Palantir แต่ Oracle ตอนนี้กำลังเปิดประตูใหม่ให้ “บริษัทเล็ก ๆ ที่มีของดี” ได้เข้าถึงโอกาสในวงการนี้ผ่านโครงการใหม่ชื่อ Oracle Defense Ecosystem

    ใจความหลักคือ Oracle จะสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีเล็ก-กลางให้มีโอกาสเข้าร่วมประกวดราคา (bidding) ในโครงการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DoD) โดยช่วยตั้งแต่ที่ทำงาน, เครื่องมือ, การให้คำปรึกษา และแม้แต่ส่วนลดในการใช้แพลตฟอร์มจาก Oracle และ Palantir

    เป้าหมายคือทำให้บริษัทที่เคยหมดหวังกับความยุ่งยากของระบบจัดซื้อของรัฐ – มีทางลัด มีคนแนะนำ และเข้าใจวิธีการเข้าถึงตลาดมูลค่าสูงระดับชาติ ที่เดิมเคยสงวนไว้แค่กับบริษัท “สายตรงเพนตากอน” เท่านั้น

    เบื้องหลังของความเคลื่อนไหวนี้ยังบอกถึงการปรับตัวครั้งใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการเลิกพึ่งพาเจ้าเดิม ๆ และเปิดรับนวัตกรรมจากภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความหลากหลายของเทคโนโลยีป้องกันประเทศ

    ✅ Oracle เปิดตัวโปรแกรม “Defense Ecosystem” สำหรับบริษัทเทคโนโลยี SMB  
    • ช่วยเข้าถึงสัญญาโครงการจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DoD)  
    • เริ่มต้นมี 10 บริษัทเข้าร่วม เช่น Blackshar.ai, SensusQ, Arqit

    ✅ สิทธิประโยชน์สำหรับผู้เข้าร่วมโปรแกรม  
    • ใช้พื้นที่สำนักงานของ Oracle  
    • ได้ส่วนลดการใช้งาน Palantir Cloud/AI Tools และ Oracle NetSuite  
    • รับคำปรึกษาเฉพาะจากผู้เชี่ยวชาญด้านจัดซื้อของรัฐบาล

    ✅ เป้าหมายของโครงการ  
    • ปรับสมดุลให้บริษัทเล็กสามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี-กลาโหม  
    • ผลักดัน Oracle Cloud ให้แทรกซึมในการใช้งานของภาครัฐโดยอ้อม

    ✅ รัฐบาลสหรัฐกำลังปฏิรูประบบจัดซื้อเทคโนโลยีภาครัฐ  
    • ยกเลิกแนวโน้มผูกขาดกับรายเดิม ๆ  
    • สนับสนุนการประหยัดงบประมาณและเพิ่มความคล่องตัวในนโยบายความมั่นคง

    ✅ Oracle วางตัวเป็นแกนกลางใหม่ของ AI และ Defense Tech Ecosystem  
    • ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชนและหน่วยงานพันธมิตรของสหรัฐฯ

    ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง:
    ‼️ แม้จะเปิดรับบริษัทเล็ก แต่ขั้นตอนจัดซื้อของกระทรวงกลาโหมยังซับซ้อนมาก  
    • ต้องเข้าใจขั้นตอนการขออนุญาต ความปลอดภัย และ compliance ขั้นสูง  
    • บริษัทที่ขาดแผนงานระยะยาวอาจเสียเวลาโดยไม่ประสบผลสำเร็จ

    ‼️ การผูกความร่วมมือกับ Oracle อาจสร้างความผูกพันทางเทคโนโลยี (vendor lock-in)  
    • บริษัทอาจต้องพึ่งพาเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มเฉพาะมากเกินไป  
    • ควรวางแผนใช้เทคโนโลยีแบบเปิดเพื่อยืดหยุ่นในอนาคต

    ‼️ การแข่งขันภายในโปรแกรมอาจสูงขึ้นเรื่อย ๆ  
    • หากบริษัทเข้าร่วมมากขึ้น ความโดดเด่นของแต่ละรายอาจลดลง  
    • จำเป็นต้องมีจุดขายเฉพาะที่ชัดเจน

    https://www.techradar.com/pro/oracle-wants-to-help-smaller-firms-sell-their-tech-to-the-us-government
    ที่ผ่านมา เวลาพูดถึงเทคโนโลยีในกองทัพ คนก็มักนึกถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ไม่กี่เจ้า เช่น Lockheed Martin หรือ Palantir แต่ Oracle ตอนนี้กำลังเปิดประตูใหม่ให้ “บริษัทเล็ก ๆ ที่มีของดี” ได้เข้าถึงโอกาสในวงการนี้ผ่านโครงการใหม่ชื่อ Oracle Defense Ecosystem ใจความหลักคือ Oracle จะสนับสนุนบริษัทเทคโนโลยีเล็ก-กลางให้มีโอกาสเข้าร่วมประกวดราคา (bidding) ในโครงการของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DoD) โดยช่วยตั้งแต่ที่ทำงาน, เครื่องมือ, การให้คำปรึกษา และแม้แต่ส่วนลดในการใช้แพลตฟอร์มจาก Oracle และ Palantir เป้าหมายคือทำให้บริษัทที่เคยหมดหวังกับความยุ่งยากของระบบจัดซื้อของรัฐ – มีทางลัด มีคนแนะนำ และเข้าใจวิธีการเข้าถึงตลาดมูลค่าสูงระดับชาติ ที่เดิมเคยสงวนไว้แค่กับบริษัท “สายตรงเพนตากอน” เท่านั้น เบื้องหลังของความเคลื่อนไหวนี้ยังบอกถึงการปรับตัวครั้งใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ต้องการเลิกพึ่งพาเจ้าเดิม ๆ และเปิดรับนวัตกรรมจากภาคเอกชนมากขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มความหลากหลายของเทคโนโลยีป้องกันประเทศ ✅ Oracle เปิดตัวโปรแกรม “Defense Ecosystem” สำหรับบริษัทเทคโนโลยี SMB   • ช่วยเข้าถึงสัญญาโครงการจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (DoD)   • เริ่มต้นมี 10 บริษัทเข้าร่วม เช่น Blackshar.ai, SensusQ, Arqit ✅ สิทธิประโยชน์สำหรับผู้เข้าร่วมโปรแกรม   • ใช้พื้นที่สำนักงานของ Oracle   • ได้ส่วนลดการใช้งาน Palantir Cloud/AI Tools และ Oracle NetSuite   • รับคำปรึกษาเฉพาะจากผู้เชี่ยวชาญด้านจัดซื้อของรัฐบาล ✅ เป้าหมายของโครงการ   • ปรับสมดุลให้บริษัทเล็กสามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี-กลาโหม   • ผลักดัน Oracle Cloud ให้แทรกซึมในการใช้งานของภาครัฐโดยอ้อม ✅ รัฐบาลสหรัฐกำลังปฏิรูประบบจัดซื้อเทคโนโลยีภาครัฐ   • ยกเลิกแนวโน้มผูกขาดกับรายเดิม ๆ   • สนับสนุนการประหยัดงบประมาณและเพิ่มความคล่องตัวในนโยบายความมั่นคง ✅ Oracle วางตัวเป็นแกนกลางใหม่ของ AI และ Defense Tech Ecosystem   • ร่วมกับพันธมิตรภาคเอกชนและหน่วยงานพันธมิตรของสหรัฐฯ ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง: ‼️ แม้จะเปิดรับบริษัทเล็ก แต่ขั้นตอนจัดซื้อของกระทรวงกลาโหมยังซับซ้อนมาก   • ต้องเข้าใจขั้นตอนการขออนุญาต ความปลอดภัย และ compliance ขั้นสูง   • บริษัทที่ขาดแผนงานระยะยาวอาจเสียเวลาโดยไม่ประสบผลสำเร็จ ‼️ การผูกความร่วมมือกับ Oracle อาจสร้างความผูกพันทางเทคโนโลยี (vendor lock-in)   • บริษัทอาจต้องพึ่งพาเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มเฉพาะมากเกินไป   • ควรวางแผนใช้เทคโนโลยีแบบเปิดเพื่อยืดหยุ่นในอนาคต ‼️ การแข่งขันภายในโปรแกรมอาจสูงขึ้นเรื่อย ๆ   • หากบริษัทเข้าร่วมมากขึ้น ความโดดเด่นของแต่ละรายอาจลดลง   • จำเป็นต้องมีจุดขายเฉพาะที่ชัดเจน https://www.techradar.com/pro/oracle-wants-to-help-smaller-firms-sell-their-tech-to-the-us-government
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • ใครที่ตามวงการ AI มาสักพักคงเคยได้ยินว่า OpenAI เคยมีจุดยืนชัดเจนว่า "ไม่พัฒนา AI เพื่อใช้ในการสู้รบ" แต่ในปี 2024 พวกเขาแอบปรับนโยบายเงียบ ๆ แล้วตัดคำว่า “military and warfare” ออกจากรายการข้อห้าม

    แล้วล่าสุดนี่เอง—รัฐบาลสหรัฐผ่านกระทรวงกลาโหม (DoD) ก็ประกาศว่าได้มอบ “สัญญาจ้าง” มูลค่า $200 ล้านแก่ OpenAI เพื่อพัฒนา AI สำหรับ “ความมั่นคงแห่งชาติ” ทั้งฝั่งการทหารและการบริหารองค์กรภาครัฐ

    OpenAI ระบุว่าสัญญานี้จะเน้นการสร้างระบบ AI ขั้นสูง เช่น:
    - การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงรุกสำหรับป้องกันไซเบอร์
    - ระบบช่วยวางแผนด้านสุขภาพทหารผ่านศึก
    - โมเดลวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากสำหรับผู้บัญชาการ

    ขอบเขตโครงการจะกินเวลาถึงกลางปี 2036 และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหม่ชื่อ “OpenAI for Government” ที่จะรวมความร่วมมือกับ NASA, NIH, กระทรวงการคลัง และหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว

    แม้จะเป็นดีลใหญ่ที่สุดของ OpenAI กับภาครัฐ แต่รายได้จากดีลนี้คิดเป็นสัดส่วนน้อยมาก เพราะรายได้ของ OpenAI ปี 2025 คาดว่าจะทะลุ $12.7 พันล้านดอลลาร์แล้ว

    ✅ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มอบสัญญามูลค่า $200 ล้านให้ OpenAI  
    • เพื่อวิจัย พัฒนา และทดสอบต้นแบบ AI ใช้กับงานด้านความมั่นคง  
    • มุ่งเน้นทั้งด้าน “สงคราม” และ “องค์กรภาครัฐ (enterprise)”

    ✅ ขอบเขตงานเน้น AI เชิงปฏิบัติ เช่น  
    • วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพทหาร  
    • คาดการณ์และตอบสนองภัยไซเบอร์  
    • ประมวลข้อมูลข่าวกรองจำนวนมากแบบ near real-time

    ✅ OpenAI เปิดโครงการใหม่: “OpenAI for Government”  
    • ให้บริการ AI แก่หน่วยงานรัฐ เช่น ChatGPT Enterprise และ ChatGPT Gov  
    • สัญญานี้รวมระบบ “custom AI” สำหรับภาครัฐโดยเฉพาะ

    ✅ แม้ได้สัญญากับ DoD แต่รายได้ส่วนน้อยเมื่อเทียบกับรายรับรวมของบริษัท  
    • รายได้ของ OpenAI โตจาก $5.5B → $10B ในช่วง 6 เดือน  
    • เป้ารายได้ปี 2025 ตั้งไว้ที่ $12.7B

    ‼️ OpenAI เคยห้ามใช้ AI เพื่อจุดประสงค์ทางทหาร แต่ตอนนี้เปลี่ยนนโยบายแล้ว  
    • คำว่า “military and warfare” ถูกลบจากนโยบายการใช้งานตั้งแต่ปี 2024  
    • แม้ยังห้ามสร้าง “อาวุธ” โดยตรง แต่เปิดทางใช้ในงานด้านการสู้รบทางอ้อม

    ‼️ การเปิดให้หน่วยงานกลาโหมเข้าถึง AI ขั้นสูง อาจเกิดช่องโหว่ด้านจริยธรรม  
    • มีความเสี่ยงที่โมเดลจะถูกนำไปใช้เกินขอบเขตหรือเกิดความคลุมเครือในการใช้งาน

    ‼️ ตลาด AI ในภาครัฐกำลังแข่งขันสูง  
    • บริษัทคู่แข่งอย่าง Anthropic ได้ร่วมมือกับ Palantir และ Amazon ในภารกิจลักษณะเดียวกัน  
    • การแข่งขันอาจเร่งการพัฒนา AI สำหรับความมั่นคงเกินขอบเขตที่ควบคุมได้

    ‼️ ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่ากระบวนการตรวจสอบ/ควบคุมการใช้งาน AI ในภาครัฐเป็นอย่างไร  
    • ผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมและ AI governance ตั้งข้อสังเกตว่าควรมี oversight ที่โปร่งใส

    https://www.techspot.com/news/108344-openai-lands-200-million-us-defense-contract.html
    ใครที่ตามวงการ AI มาสักพักคงเคยได้ยินว่า OpenAI เคยมีจุดยืนชัดเจนว่า "ไม่พัฒนา AI เพื่อใช้ในการสู้รบ" แต่ในปี 2024 พวกเขาแอบปรับนโยบายเงียบ ๆ แล้วตัดคำว่า “military and warfare” ออกจากรายการข้อห้าม แล้วล่าสุดนี่เอง—รัฐบาลสหรัฐผ่านกระทรวงกลาโหม (DoD) ก็ประกาศว่าได้มอบ “สัญญาจ้าง” มูลค่า $200 ล้านแก่ OpenAI เพื่อพัฒนา AI สำหรับ “ความมั่นคงแห่งชาติ” ทั้งฝั่งการทหารและการบริหารองค์กรภาครัฐ OpenAI ระบุว่าสัญญานี้จะเน้นการสร้างระบบ AI ขั้นสูง เช่น: - การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงรุกสำหรับป้องกันไซเบอร์ - ระบบช่วยวางแผนด้านสุขภาพทหารผ่านศึก - โมเดลวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากสำหรับผู้บัญชาการ ขอบเขตโครงการจะกินเวลาถึงกลางปี 2036 และเป็นส่วนหนึ่งของโครงการใหม่ชื่อ “OpenAI for Government” ที่จะรวมความร่วมมือกับ NASA, NIH, กระทรวงการคลัง และหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ไว้ในแพลตฟอร์มเดียว แม้จะเป็นดีลใหญ่ที่สุดของ OpenAI กับภาครัฐ แต่รายได้จากดีลนี้คิดเป็นสัดส่วนน้อยมาก เพราะรายได้ของ OpenAI ปี 2025 คาดว่าจะทะลุ $12.7 พันล้านดอลลาร์แล้ว ✅ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ มอบสัญญามูลค่า $200 ล้านให้ OpenAI   • เพื่อวิจัย พัฒนา และทดสอบต้นแบบ AI ใช้กับงานด้านความมั่นคง   • มุ่งเน้นทั้งด้าน “สงคราม” และ “องค์กรภาครัฐ (enterprise)” ✅ ขอบเขตงานเน้น AI เชิงปฏิบัติ เช่น   • วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพทหาร   • คาดการณ์และตอบสนองภัยไซเบอร์   • ประมวลข้อมูลข่าวกรองจำนวนมากแบบ near real-time ✅ OpenAI เปิดโครงการใหม่: “OpenAI for Government”   • ให้บริการ AI แก่หน่วยงานรัฐ เช่น ChatGPT Enterprise และ ChatGPT Gov   • สัญญานี้รวมระบบ “custom AI” สำหรับภาครัฐโดยเฉพาะ ✅ แม้ได้สัญญากับ DoD แต่รายได้ส่วนน้อยเมื่อเทียบกับรายรับรวมของบริษัท   • รายได้ของ OpenAI โตจาก $5.5B → $10B ในช่วง 6 เดือน   • เป้ารายได้ปี 2025 ตั้งไว้ที่ $12.7B ‼️ OpenAI เคยห้ามใช้ AI เพื่อจุดประสงค์ทางทหาร แต่ตอนนี้เปลี่ยนนโยบายแล้ว   • คำว่า “military and warfare” ถูกลบจากนโยบายการใช้งานตั้งแต่ปี 2024   • แม้ยังห้ามสร้าง “อาวุธ” โดยตรง แต่เปิดทางใช้ในงานด้านการสู้รบทางอ้อม ‼️ การเปิดให้หน่วยงานกลาโหมเข้าถึง AI ขั้นสูง อาจเกิดช่องโหว่ด้านจริยธรรม   • มีความเสี่ยงที่โมเดลจะถูกนำไปใช้เกินขอบเขตหรือเกิดความคลุมเครือในการใช้งาน ‼️ ตลาด AI ในภาครัฐกำลังแข่งขันสูง   • บริษัทคู่แข่งอย่าง Anthropic ได้ร่วมมือกับ Palantir และ Amazon ในภารกิจลักษณะเดียวกัน   • การแข่งขันอาจเร่งการพัฒนา AI สำหรับความมั่นคงเกินขอบเขตที่ควบคุมได้ ‼️ ยังไม่มีรายละเอียดชัดเจนว่ากระบวนการตรวจสอบ/ควบคุมการใช้งาน AI ในภาครัฐเป็นอย่างไร   • ผู้เชี่ยวชาญด้านจริยธรรมและ AI governance ตั้งข้อสังเกตว่าควรมี oversight ที่โปร่งใส https://www.techspot.com/news/108344-openai-lands-200-million-us-defense-contract.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    OpenAI lands $200 million Pentagon contract to develop AI for national security
    The Department of Defense said OpenAI will receive $2 million immediately for research and development purposes. The company will also use the funds to test and evaluate...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nintendo Switch 2 ถูกสแกน CT เผยให้เห็นโครงสร้างภายใน
    ชุมชนเกมเมอร์ได้ทำการ สแกน CT (Computed Tomography) ของ Nintendo Switch 2 เพื่อดูโครงสร้างภายในแบบละเอียด ซึ่งเผยให้เห็น ชิป Nvidia Tegra SoC และส่วนประกอบอื่นๆ ที่สำคัญ.

    รายละเอียดการสแกน
    ✅ Nintendo Switch 2 ใช้ชิป Nvidia Tegra GGMLX30-A1 ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นสำหรับเครื่องนี้โดยเฉพาะ.
    ✅ แบตเตอรี่ขนาด 5220mAh อยู่ทางซ้ายของชิปเสียง Realtek audio codec.
    ✅ มีโมดูล Wi-Fi และ Bluetooth จาก MediaTek เพื่อรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย.
    ✅ หน่วยความจำประกอบด้วย 256GB UFS storage และ RAM LPDDR5X ขนาด 12GB จาก SK Hynix.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    ‼️ การสแกน CT อาจทำให้เครื่องได้รับความเสียหาย หากไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง.
    ‼️ การเปิดเผยโครงสร้างภายในอาจนำไปสู่การดัดแปลงเครื่อง ซึ่งอาจส่งผลต่อการรับประกัน.
    ‼️ การใช้ชิป Tegra อาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับชิปที่ใช้ในคอนโซลรุ่นใหม่อื่นๆ.

    แนวทางสำหรับผู้ใช้
    ✅ ติดตามการวิเคราะห์เพิ่มเติมเกี่ยวกับชิป GGMLX30-A1 เพื่อดูว่ามีฟีเจอร์ที่ซ่อนอยู่หรือไม่.
    ✅ ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมหากต้องการเปิดเครื่อง เพื่อป้องกันความเสียหายต่อฮาร์ดแวร์.
    ✅ ตรวจสอบข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการดัดแปลงเครื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผลกระทบต่อการใช้งาน.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nintendo Switch 2
    ✅ Nintendo Switch 2 รองรับ DLSS และ Ray Tracing ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพกราฟิก.
    ✅ GPU ของเครื่องมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 2050 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่จากรุ่นก่อน.
    ‼️ หน้าจอของ Switch 2 ถูกทดสอบความทนทานโดยการทุบด้วยคีม 50 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของวัสดุ.

    https://www.tomshardware.com/video-games/nintendo/nintendo-switch-2-gets-a-ct-scan-that-shows-off-internals-layer-by-layer-including-a-scan-of-the-nvidia-tegra-soc
    Nintendo Switch 2 ถูกสแกน CT เผยให้เห็นโครงสร้างภายใน ชุมชนเกมเมอร์ได้ทำการ สแกน CT (Computed Tomography) ของ Nintendo Switch 2 เพื่อดูโครงสร้างภายในแบบละเอียด ซึ่งเผยให้เห็น ชิป Nvidia Tegra SoC และส่วนประกอบอื่นๆ ที่สำคัญ. รายละเอียดการสแกน ✅ Nintendo Switch 2 ใช้ชิป Nvidia Tegra GGMLX30-A1 ซึ่งเป็นรุ่นที่พัฒนาขึ้นสำหรับเครื่องนี้โดยเฉพาะ. ✅ แบตเตอรี่ขนาด 5220mAh อยู่ทางซ้ายของชิปเสียง Realtek audio codec. ✅ มีโมดูล Wi-Fi และ Bluetooth จาก MediaTek เพื่อรองรับการเชื่อมต่อไร้สาย. ✅ หน่วยความจำประกอบด้วย 256GB UFS storage และ RAM LPDDR5X ขนาด 12GB จาก SK Hynix. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ การสแกน CT อาจทำให้เครื่องได้รับความเสียหาย หากไม่ได้ดำเนินการอย่างถูกต้อง. ‼️ การเปิดเผยโครงสร้างภายในอาจนำไปสู่การดัดแปลงเครื่อง ซึ่งอาจส่งผลต่อการรับประกัน. ‼️ การใช้ชิป Tegra อาจมีข้อจำกัดด้านประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับชิปที่ใช้ในคอนโซลรุ่นใหม่อื่นๆ. แนวทางสำหรับผู้ใช้ ✅ ติดตามการวิเคราะห์เพิ่มเติมเกี่ยวกับชิป GGMLX30-A1 เพื่อดูว่ามีฟีเจอร์ที่ซ่อนอยู่หรือไม่. ✅ ใช้เครื่องมือที่เหมาะสมหากต้องการเปิดเครื่อง เพื่อป้องกันความเสียหายต่อฮาร์ดแวร์. ✅ ตรวจสอบข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการดัดแปลงเครื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีผลกระทบต่อการใช้งาน. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Nintendo Switch 2 ✅ Nintendo Switch 2 รองรับ DLSS และ Ray Tracing ซึ่งช่วยเพิ่มคุณภาพกราฟิก. ✅ GPU ของเครื่องมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 2050 ซึ่งเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่จากรุ่นก่อน. ‼️ หน้าจอของ Switch 2 ถูกทดสอบความทนทานโดยการทุบด้วยคีม 50 ครั้ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของวัสดุ. https://www.tomshardware.com/video-games/nintendo/nintendo-switch-2-gets-a-ct-scan-that-shows-off-internals-layer-by-layer-including-a-scan-of-the-nvidia-tegra-soc
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อร้องเรียนต่อ FTC: แชทบอท "บำบัด" ของ Character.AI และ Meta
    กลุ่มสิทธิด้านสุขภาพจิตและสิทธิทางดิจิทัลได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ FTC (Federal Trade Commission) เกี่ยวกับแชทบอทของ Character.AI และ Meta ที่อ้างว่าให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจเป็นการละเมิดกฎหมายและก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ใช้.

    รายละเอียดข้อร้องเรียน
    ✅ Character.AI และ Meta AI Studio ถูกกล่าวหาว่าให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจเข้าข่ายการแอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญ.
    ✅ แชทบอทบางตัวอ้างว่าเป็นนักบำบัดที่ได้รับใบอนุญาต เช่น "Therapist: I'm a licensed CBT therapist" ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนข้อความกว่า 46 ล้านครั้ง.
    ✅ Meta มีแชทบอทที่ชื่อ "therapy: your trusted ear, always here" ซึ่งมีการโต้ตอบกว่า 2 ล้านครั้ง.
    ✅ FTC ได้รับการร้องเรียนจากองค์กรต่างๆ เช่น Consumer Federation of America (CFA), AI Now Institute, Tech Justice Law Project และอื่นๆ.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    ‼️ แชทบอทอาจให้คำแนะนำที่ผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีการควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาต.
    ‼️ ข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนอาจถูกนำไปใช้เพื่อการโฆษณาหรือขายให้บริษัทอื่น แม้ว่าจะมีการรับรองว่าข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับ.
    ‼️ แชทบอทอาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่ากำลังพูดคุยกับนักบำบัดที่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้.

    แนวทางป้องกันสำหรับผู้ใช้
    ✅ ตรวจสอบแหล่งที่มาของคำแนะนำด้านสุขภาพจิต และหลีกเลี่ยงการพึ่งพา AI ในการตัดสินใจที่สำคัญ.
    ✅ ใช้บริการจากนักบำบัดที่ได้รับใบอนุญาตจริง แทนการใช้แชทบอทที่ไม่มีการรับรอง.
    ✅ ติดตามการดำเนินการของ FTC และหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อดูว่ามีมาตรการควบคุมเพิ่มเติมหรือไม่.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI
    ✅ FTC กำลังพิจารณากฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับ AI เพื่อป้องกันการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด.
    ✅ Senator Cory Booker และสมาชิกวุฒิสภาอีก 3 คน ได้ส่งจดหมายถึง Meta เพื่อสอบถามเกี่ยวกับแชทบอทที่อ้างว่าเป็นนักบำบัด.
    ‼️ Character.AI กำลังเผชิญกับคดีความจากแม่ของเด็กวัย 14 ปี ที่ฆ่าตัวตายหลังจากมีความผูกพันทางอารมณ์กับแชทบอทที่จำลองบุคลิกของ Daenerys Targaryen จาก Game of Thrones.

    https://www.techspot.com/news/108325-meta-characterai-therapy-chatbots-spark-ftc-complaint-over.html
    ข้อร้องเรียนต่อ FTC: แชทบอท "บำบัด" ของ Character.AI และ Meta กลุ่มสิทธิด้านสุขภาพจิตและสิทธิทางดิจิทัลได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ FTC (Federal Trade Commission) เกี่ยวกับแชทบอทของ Character.AI และ Meta ที่อ้างว่าให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจเป็นการละเมิดกฎหมายและก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ใช้. รายละเอียดข้อร้องเรียน ✅ Character.AI และ Meta AI Studio ถูกกล่าวหาว่าให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจเข้าข่ายการแอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญ. ✅ แชทบอทบางตัวอ้างว่าเป็นนักบำบัดที่ได้รับใบอนุญาต เช่น "Therapist: I'm a licensed CBT therapist" ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนข้อความกว่า 46 ล้านครั้ง. ✅ Meta มีแชทบอทที่ชื่อ "therapy: your trusted ear, always here" ซึ่งมีการโต้ตอบกว่า 2 ล้านครั้ง. ✅ FTC ได้รับการร้องเรียนจากองค์กรต่างๆ เช่น Consumer Federation of America (CFA), AI Now Institute, Tech Justice Law Project และอื่นๆ. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ แชทบอทอาจให้คำแนะนำที่ผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีการควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาต. ‼️ ข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนอาจถูกนำไปใช้เพื่อการโฆษณาหรือขายให้บริษัทอื่น แม้ว่าจะมีการรับรองว่าข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับ. ‼️ แชทบอทอาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่ากำลังพูดคุยกับนักบำบัดที่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้. แนวทางป้องกันสำหรับผู้ใช้ ✅ ตรวจสอบแหล่งที่มาของคำแนะนำด้านสุขภาพจิต และหลีกเลี่ยงการพึ่งพา AI ในการตัดสินใจที่สำคัญ. ✅ ใช้บริการจากนักบำบัดที่ได้รับใบอนุญาตจริง แทนการใช้แชทบอทที่ไม่มีการรับรอง. ✅ ติดตามการดำเนินการของ FTC และหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อดูว่ามีมาตรการควบคุมเพิ่มเติมหรือไม่. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI ✅ FTC กำลังพิจารณากฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับ AI เพื่อป้องกันการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด. ✅ Senator Cory Booker และสมาชิกวุฒิสภาอีก 3 คน ได้ส่งจดหมายถึง Meta เพื่อสอบถามเกี่ยวกับแชทบอทที่อ้างว่าเป็นนักบำบัด. ‼️ Character.AI กำลังเผชิญกับคดีความจากแม่ของเด็กวัย 14 ปี ที่ฆ่าตัวตายหลังจากมีความผูกพันทางอารมณ์กับแชทบอทที่จำลองบุคลิกของ Daenerys Targaryen จาก Game of Thrones. https://www.techspot.com/news/108325-meta-characterai-therapy-chatbots-spark-ftc-complaint-over.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Character.AI and Meta "therapy" chatbots spark FTC complaint over unlicensed mental health advice
    The complaint, which has also been submitted to Attorneys General and Mental Health Licensing Boards of all 50 states and the District of Columbia, claims the AI...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเปลี่ยนอะไหล่แท็บเล็ต: วิธีประหยัดเงินและยืดอายุการใช้งาน
    แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะใช้ทำงาน เรียน หรือเพื่อความบันเทิง แต่เมื่อเกิดปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ เช่น หน้าจอแตก แบตเตอรี่เสื่อม หรือพอร์ตชาร์จเสีย การเปลี่ยนอะไหล่แทนการซื้อเครื่องใหม่สามารถช่วยประหยัดเงินได้มาก

    เหตุผลที่ควรซ่อมแทนการซื้อใหม่
    ✅ แท็บเล็ตใหม่มีราคาสูง โดยเฉพาะรุ่นพรีเมียม เช่น iPad Pro หรือ Galaxy Tab S9 Ultra.
    ✅ การเปลี่ยนอะไหล่ช่วยลดค่าใช้จ่าย เช่น การเปลี่ยนหน้าจอหรือแบตเตอรี่มีราคาถูกกว่าการซื้อเครื่องใหม่หลายเท่า.
    ✅ ชุดซ่อม DIY มีจำหน่ายพร้อมเครื่องมือและคู่มือ ทำให้การซ่อมเองเป็นเรื่องง่ายขึ้น แม้แต่ผู้เริ่มต้น.

    อะไหล่แท็บเล็ตที่ควรเปลี่ยนและข้อควรระวัง
    ✅ หน้าจอ เป็นอะไหล่ที่เปลี่ยนบ่อยที่สุดหลังจากการตกกระแทก ควรเลือกหน้าจอที่มีกาวติดตั้งมาให้แล้ว.
    ✅ แบตเตอรี่ มีอายุการใช้งานประมาณ 300-500 รอบการชาร์จ ก่อนที่จะเริ่มเสื่อม.
    ✅ พอร์ตชาร์จ อาจหลวมจากการใช้งานบ่อย ควรตรวจสอบว่าพอร์ตเป็นแบบโมดูลหรือแบบต้องบัดกรี.
    ‼️ การเปลี่ยนหน้าจอและพอร์ตชาร์จต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะอาจทำให้สายแพรภายในเสียหาย.
    ‼️ บางอะไหล่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น ปืนลมร้อนหรือแผ่นแม่เหล็กสำหรับจัดเรียงสกรู.

    เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการซ่อม
    ✅ ไขควงความละเอียดสูง สำหรับเปิดฝาแท็บเล็ต.
    ✅ เครื่องมืองัดพลาสติก เพื่อถอดหน้าจอโดยไม่ทำให้เกิดรอย.
    ✅ ถุงมือป้องกันไฟฟ้าสถิต เพื่อป้องกันความเสียหายต่อวงจรภายใน.

    เคล็ดลับการซ่อมให้สำเร็จ
    ✅ ดูวิดีโอสอนก่อนเริ่มซ่อม เพื่อเข้าใจขั้นตอนอย่างละเอียด.
    ✅ ใช้พื้นที่ทำงานที่สะอาดและไม่มีไฟฟ้าสถิต เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์.
    ‼️ อย่าประกอบเครื่องกลับก่อนทดสอบอะไหล่ใหม่ เพราะอาจต้องแกะออกมาแก้ไขอีกครั้ง.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซ่อมแท็บเล็ต
    ✅ อะไหล่แท็บเล็ตที่ได้รับความนิยม เช่น หน้าจอ iPad 9, พอร์ตชาร์จ Galaxy Tab A7 และแบตเตอรี่แท็บเล็ต Onn.
    ✅ การเลือกอะไหล่ที่เหมาะสม ควรตรวจสอบรุ่นแท็บเล็ตก่อนซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากันได้.
    ‼️ การซ่อมบางประเภทอาจต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ เช่น การเปลี่ยนพอร์ตชาร์จที่ต้องบัดกรี.

    https://computercity.com/tablets/tablet-replacement-parts
    การเปลี่ยนอะไหล่แท็บเล็ต: วิธีประหยัดเงินและยืดอายุการใช้งาน แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะใช้ทำงาน เรียน หรือเพื่อความบันเทิง แต่เมื่อเกิดปัญหาด้านฮาร์ดแวร์ เช่น หน้าจอแตก แบตเตอรี่เสื่อม หรือพอร์ตชาร์จเสีย การเปลี่ยนอะไหล่แทนการซื้อเครื่องใหม่สามารถช่วยประหยัดเงินได้มาก เหตุผลที่ควรซ่อมแทนการซื้อใหม่ ✅ แท็บเล็ตใหม่มีราคาสูง โดยเฉพาะรุ่นพรีเมียม เช่น iPad Pro หรือ Galaxy Tab S9 Ultra. ✅ การเปลี่ยนอะไหล่ช่วยลดค่าใช้จ่าย เช่น การเปลี่ยนหน้าจอหรือแบตเตอรี่มีราคาถูกกว่าการซื้อเครื่องใหม่หลายเท่า. ✅ ชุดซ่อม DIY มีจำหน่ายพร้อมเครื่องมือและคู่มือ ทำให้การซ่อมเองเป็นเรื่องง่ายขึ้น แม้แต่ผู้เริ่มต้น. อะไหล่แท็บเล็ตที่ควรเปลี่ยนและข้อควรระวัง ✅ หน้าจอ เป็นอะไหล่ที่เปลี่ยนบ่อยที่สุดหลังจากการตกกระแทก ควรเลือกหน้าจอที่มีกาวติดตั้งมาให้แล้ว. ✅ แบตเตอรี่ มีอายุการใช้งานประมาณ 300-500 รอบการชาร์จ ก่อนที่จะเริ่มเสื่อม. ✅ พอร์ตชาร์จ อาจหลวมจากการใช้งานบ่อย ควรตรวจสอบว่าพอร์ตเป็นแบบโมดูลหรือแบบต้องบัดกรี. ‼️ การเปลี่ยนหน้าจอและพอร์ตชาร์จต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะอาจทำให้สายแพรภายในเสียหาย. ‼️ บางอะไหล่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เช่น ปืนลมร้อนหรือแผ่นแม่เหล็กสำหรับจัดเรียงสกรู. เครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการซ่อม ✅ ไขควงความละเอียดสูง สำหรับเปิดฝาแท็บเล็ต. ✅ เครื่องมืองัดพลาสติก เพื่อถอดหน้าจอโดยไม่ทำให้เกิดรอย. ✅ ถุงมือป้องกันไฟฟ้าสถิต เพื่อป้องกันความเสียหายต่อวงจรภายใน. เคล็ดลับการซ่อมให้สำเร็จ ✅ ดูวิดีโอสอนก่อนเริ่มซ่อม เพื่อเข้าใจขั้นตอนอย่างละเอียด. ✅ ใช้พื้นที่ทำงานที่สะอาดและไม่มีไฟฟ้าสถิต เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์. ‼️ อย่าประกอบเครื่องกลับก่อนทดสอบอะไหล่ใหม่ เพราะอาจต้องแกะออกมาแก้ไขอีกครั้ง. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการซ่อมแท็บเล็ต ✅ อะไหล่แท็บเล็ตที่ได้รับความนิยม เช่น หน้าจอ iPad 9, พอร์ตชาร์จ Galaxy Tab A7 และแบตเตอรี่แท็บเล็ต Onn. ✅ การเลือกอะไหล่ที่เหมาะสม ควรตรวจสอบรุ่นแท็บเล็ตก่อนซื้อเพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากันได้. ‼️ การซ่อมบางประเภทอาจต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญ เช่น การเปลี่ยนพอร์ตชาร์จที่ต้องบัดกรี. https://computercity.com/tablets/tablet-replacement-parts
    COMPUTERCITY.COM
    Tablet Replacement Parts Guide: Save Money and Extend Your Device’s Life
    Tablets have become indispensable for work, school, entertainment, and even creative tasks. From iPads to Galaxy Tabs and Amazon Fire tablets, these compact
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลเพลี่ยงพล้ำจะใช้นิวเคลียร์ เป็นทางออกสุดท้าย? : คนเคาะข่าว 16-06-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    #คนเคาะข่าว #อิสราเอล #นิวเคลียร์ #สงครามตะวันออกกลาง #ทางออกสุดท้าย #Geopolitics #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #ข่าวต่างประเทศ #ภัยคุกคามโลก #สงครามโลก #วิเคราะห์ความมั่นคง #การเมืองโลก #thaitimes #อาวุธนิวเคลียร์ #ความมั่นคงระหว่างประเทศ
    อิสราเอลเพลี่ยงพล้ำจะใช้นิวเคลียร์ เป็นทางออกสุดท้าย? : คนเคาะข่าว 16-06-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #อิสราเอล #นิวเคลียร์ #สงครามตะวันออกกลาง #ทางออกสุดท้าย #Geopolitics #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #ข่าวต่างประเทศ #ภัยคุกคามโลก #สงครามโลก #วิเคราะห์ความมั่นคง #การเมืองโลก #thaitimes #อาวุธนิวเคลียร์ #ความมั่นคงระหว่างประเทศ
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • รอง ผบ.ทบ.เขมรฉุนโดนเย้ย ถ้ารบกับไทยก็จะเหมือนเอาไข่ไปกระทบกับหิน ลั่นกองทัพกัมพูชาเป็นไข่เหล็กที่ทำลายหินไทยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้อย่างง่ายดาย ด้วยกลยุทธ์อันเฉียบคมของฮุนเซน และการนำอันชาญฉลาดของนายกฯ กัมพูชา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000056654

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    รอง ผบ.ทบ.เขมรฉุนโดนเย้ย ถ้ารบกับไทยก็จะเหมือนเอาไข่ไปกระทบกับหิน ลั่นกองทัพกัมพูชาเป็นไข่เหล็กที่ทำลายหินไทยเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้อย่างง่ายดาย ด้วยกลยุทธ์อันเฉียบคมของฮุนเซน และการนำอันชาญฉลาดของนายกฯ กัมพูชา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000056654 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Haha
    Like
    7
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 468 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🤖 AI กับอนาคตของงาน: มุมมองที่แตกต่าง
    Jensen Huang และ Dario Amodei มีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อการจ้างงาน โดยเฉพาะงานระดับเริ่มต้นในสายงานปกขาว

    ✅ มุมมองของ Dario Amodei
    - Amodei เตือนว่า AI อาจทำให้ งานระดับเริ่มต้นในสายงานปกขาวหายไปถึง 50% ในอีก 5 ปีข้างหน้า
    - เขาคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานอาจเพิ่มขึ้นถึง 20% เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน
    - เขาเสนอให้มี มาตรฐานความโปร่งใสระดับประเทศ เพื่อให้ประชาชนและผู้กำหนดนโยบายเข้าใจความสามารถและความเสี่ยงของ AI

    ✅ มุมมองของ Jensen Huang
    - Huang ไม่เห็นด้วยกับคำเตือนของ Amodei และมองว่า AI จะสร้างงานใหม่ เช่น วิศวกรด้าน AI และผู้เชี่ยวชาญด้านการตั้งค่าระบบ
    - เขาเชื่อว่า การเรียนรู้ทักษะด้านโปรแกรมมิ่งจะมีความสำคัญน้อยลง และควรเน้นไปที่ทักษะอื่น เช่น ชีววิทยา การศึกษา การผลิต และเกษตรกรรม
    - Huang เน้นว่า AI ควรพัฒนาอย่างเปิดเผย ไม่ใช่ในลักษณะที่ปิดกั้นโดยบริษัทใดบริษัทหนึ่ง

    ‼️ ข้อควรระวัง
    - การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด ทำให้บางอาชีพหายไปก่อนที่ระบบเศรษฐกิจจะปรับตัวทัน
    - Universal Basic Income (UBI) อาจไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะ Amodei มองว่าเป็นแนวคิดที่ "ดิสโทเปีย" และไม่ใช่โลกที่เราควรตั้งเป้าหมายไว้
    - การพัฒนา AI อย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ระหว่างผู้ที่สามารถปรับตัวได้กับผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

    🔍 ข้อพิพาทระหว่าง Nvidia และ Anthropic
    ✅ ความขัดแย้งเกี่ยวกับการควบคุม AI
    - Anthropic สนับสนุน กฎควบคุมการส่งออกเทคโนโลยี AI ไปยังประเทศต่างๆ เช่น จีน
    - Nvidia โต้แย้งว่า ชิปของบริษัทไม่เคยถูกลักลอบนำเข้าจีน ผ่านวิธีแปลกๆ เช่น ซ่อนในท้องปลาหรือพุงปลอมของหญิงตั้งครรภ์

    ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการควบคุม AI
    - การควบคุมที่เข้มงวดอาจทำให้เกิดการลักลอบนำเข้าเทคโนโลยี ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงระดับโลก
    - การพัฒนา AI ในลักษณะที่ปิดกั้นอาจทำให้เกิดการผูกขาด และลดโอกาสในการแข่งขันของบริษัทอื่นๆ
    - ต้องมีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน เพื่อให้ AI ถูกพัฒนาอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ

    🌍 แนวโน้มของ AI และตลาดแรงงาน
    ✅ โอกาสใหม่ที่เกิดขึ้น
    - AI อาจช่วยให้เกิด อาชีพใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน เช่น นักออกแบบการโต้ตอบกับ AI
    - การใช้ AI ในภาคการศึกษาอาจช่วยให้ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - AI อาจช่วยให้ การผลิตและเกษตรกรรมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต

    ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับอนาคตของ AI
    - ต้องมีการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม เพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด
    - ต้องมีการเตรียมความพร้อมของแรงงาน เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาด
    - ต้องมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน เพื่อให้ AI ถูกนำมาใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

    https://www.techspot.com/news/108317-jensen-huang-hits-back-anthropic-ceo-warning-ai.html
    🤖 AI กับอนาคตของงาน: มุมมองที่แตกต่าง Jensen Huang และ Dario Amodei มีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับผลกระทบของ AI ต่อการจ้างงาน โดยเฉพาะงานระดับเริ่มต้นในสายงานปกขาว ✅ มุมมองของ Dario Amodei - Amodei เตือนว่า AI อาจทำให้ งานระดับเริ่มต้นในสายงานปกขาวหายไปถึง 50% ในอีก 5 ปีข้างหน้า - เขาคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานอาจเพิ่มขึ้นถึง 20% เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงาน - เขาเสนอให้มี มาตรฐานความโปร่งใสระดับประเทศ เพื่อให้ประชาชนและผู้กำหนดนโยบายเข้าใจความสามารถและความเสี่ยงของ AI ✅ มุมมองของ Jensen Huang - Huang ไม่เห็นด้วยกับคำเตือนของ Amodei และมองว่า AI จะสร้างงานใหม่ เช่น วิศวกรด้าน AI และผู้เชี่ยวชาญด้านการตั้งค่าระบบ - เขาเชื่อว่า การเรียนรู้ทักษะด้านโปรแกรมมิ่งจะมีความสำคัญน้อยลง และควรเน้นไปที่ทักษะอื่น เช่น ชีววิทยา การศึกษา การผลิต และเกษตรกรรม - Huang เน้นว่า AI ควรพัฒนาอย่างเปิดเผย ไม่ใช่ในลักษณะที่ปิดกั้นโดยบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ‼️ ข้อควรระวัง - การเปลี่ยนแปลงของตลาดแรงงานอาจเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คาด ทำให้บางอาชีพหายไปก่อนที่ระบบเศรษฐกิจจะปรับตัวทัน - Universal Basic Income (UBI) อาจไม่ใช่ทางออกที่ดี เพราะ Amodei มองว่าเป็นแนวคิดที่ "ดิสโทเปีย" และไม่ใช่โลกที่เราควรตั้งเป้าหมายไว้ - การพัฒนา AI อย่างรวดเร็วอาจทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำ ระหว่างผู้ที่สามารถปรับตัวได้กับผู้ที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง 🔍 ข้อพิพาทระหว่าง Nvidia และ Anthropic ✅ ความขัดแย้งเกี่ยวกับการควบคุม AI - Anthropic สนับสนุน กฎควบคุมการส่งออกเทคโนโลยี AI ไปยังประเทศต่างๆ เช่น จีน - Nvidia โต้แย้งว่า ชิปของบริษัทไม่เคยถูกลักลอบนำเข้าจีน ผ่านวิธีแปลกๆ เช่น ซ่อนในท้องปลาหรือพุงปลอมของหญิงตั้งครรภ์ ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการควบคุม AI - การควบคุมที่เข้มงวดอาจทำให้เกิดการลักลอบนำเข้าเทคโนโลยี ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงระดับโลก - การพัฒนา AI ในลักษณะที่ปิดกั้นอาจทำให้เกิดการผูกขาด และลดโอกาสในการแข่งขันของบริษัทอื่นๆ - ต้องมีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน เพื่อให้ AI ถูกพัฒนาอย่างปลอดภัยและมีความรับผิดชอบ 🌍 แนวโน้มของ AI และตลาดแรงงาน ✅ โอกาสใหม่ที่เกิดขึ้น - AI อาจช่วยให้เกิด อาชีพใหม่ที่ยังไม่เคยมีมาก่อน เช่น นักออกแบบการโต้ตอบกับ AI - การใช้ AI ในภาคการศึกษาอาจช่วยให้ นักเรียนสามารถเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น - AI อาจช่วยให้ การผลิตและเกษตรกรรมมีประสิทธิภาพสูงขึ้น ลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับอนาคตของ AI - ต้องมีการพัฒนา AI อย่างมีจริยธรรม เพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด - ต้องมีการเตรียมความพร้อมของแรงงาน เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของตลาด - ต้องมีการกำหนดนโยบายที่ชัดเจน เพื่อให้ AI ถูกนำมาใช้ในทางที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม https://www.techspot.com/news/108317-jensen-huang-hits-back-anthropic-ceo-warning-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Jensen Huang hits back at Anthropic CEO's warning that AI will eliminate half of white-collar jobs
    Amodei made his ominous prediction about AI's impact on entry-level, white-collar jobs in May, warning that the eradication of these positions will lead to unemployment spikes of 20%.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • โยสซี เมลแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของอิสราเอล:

    "ผมแนะนำให้เรายอมรับความสูญเสีย และหันไปหาทรัมป์เพื่อยุติสถานการณ์ที่มีแต่ความบ้าคลั่งนี้ด้วยข้อตกลงที่สมเหตุสมผล มิฉะนั้น เราจะลงเอยด้วยการเป็นฝ่ายร้องขอการหยุดยิง และอิหร่านจะปฏิเสธ"
    โยสซี เมลแมน ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของอิสราเอล: "ผมแนะนำให้เรายอมรับความสูญเสีย และหันไปหาทรัมป์เพื่อยุติสถานการณ์ที่มีแต่ความบ้าคลั่งนี้ด้วยข้อตกลงที่สมเหตุสมผล มิฉะนั้น เราจะลงเอยด้วยการเป็นฝ่ายร้องขอการหยุดยิง และอิหร่านจะปฏิเสธ"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • การโจมตีตอบโต้ของอิหร่านทำให้หลายประเทศได้เห็นแล้วว่า "ทรงพลังมากกว่าที่คาดไว้"

    ที่ผ่านมา ตะวันตกมักจะประเมินฝ่ายตรงข้ามต่ำเกินไปอยู่เสมอ เช่น ระบอบการปกครองของอิหร่านจะล่มสลาย รัสเซียจะพ่ายแพ้ได้ง่าย อาวุธใกล้จะหมด เศรษฐกิจจะล่มสลาย จีนประเทศชาวนนาไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้ เหล่านี้เป็นต้น

    ตะวันตกไม่เคยประเมินสถานการณ์จริงอย่างมีข้อมูล เพราะอะไร!?! เพราะพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงความเห็นต่าง ทั้งๆที่ปากพร่ำสอนเรื่องประชาธิปไตย ยอมรับความเห็นต่าง แต่กลายเป็นว่าการเปิดปากพูดเพื่อยอมรับความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม จะถูกประณามทันทีว่าเป็นผู้ "สนับสนุนอิหร่าน" "สนับสนุนรัสเซีย" หรือ "สนับสนุนจีน"

    ทำให้ทุกคนในโลกประชาธิปไตย ต้องชื่นชมกันเอง และกดฝ่ายตรงข้ามให้ต่ำเข้าไว้ แต่นั่นคือการวิเคราะห์ที่ไม่ดีส่งผลให้เกิดนโยบายที่ไม่ดีออกมาปฏิบัติ

    เราจะได้นโยบายแบบไหน หากเมื่อไม่ได้รับอนุญาตให้พูดความจริง ไม่ได้รับอนุญาตให้มีการอภิปรายอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับฝ่ายตรงข้ามอย่างตรงไปตรงมาเพื่อศึกษาพวกเขา วัฒนธรรมการปิดกั้นและการไม่คบค้าสมาคมกับพวกเขา กลับทำให้เราตาบอด หูหนวก และใบ้

    Glenn Diesen
    ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย ยูเรเซีย
    การโจมตีตอบโต้ของอิหร่านทำให้หลายประเทศได้เห็นแล้วว่า "ทรงพลังมากกว่าที่คาดไว้" ที่ผ่านมา ตะวันตกมักจะประเมินฝ่ายตรงข้ามต่ำเกินไปอยู่เสมอ เช่น ระบอบการปกครองของอิหร่านจะล่มสลาย รัสเซียจะพ่ายแพ้ได้ง่าย อาวุธใกล้จะหมด เศรษฐกิจจะล่มสลาย จีนประเทศชาวนนาไม่สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆได้ เหล่านี้เป็นต้น ตะวันตกไม่เคยประเมินสถานการณ์จริงอย่างมีข้อมูล เพราะอะไร!?! เพราะพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงความเห็นต่าง ทั้งๆที่ปากพร่ำสอนเรื่องประชาธิปไตย ยอมรับความเห็นต่าง แต่กลายเป็นว่าการเปิดปากพูดเพื่อยอมรับความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม จะถูกประณามทันทีว่าเป็นผู้ "สนับสนุนอิหร่าน" "สนับสนุนรัสเซีย" หรือ "สนับสนุนจีน" ทำให้ทุกคนในโลกประชาธิปไตย ต้องชื่นชมกันเอง และกดฝ่ายตรงข้ามให้ต่ำเข้าไว้ แต่นั่นคือการวิเคราะห์ที่ไม่ดีส่งผลให้เกิดนโยบายที่ไม่ดีออกมาปฏิบัติ เราจะได้นโยบายแบบไหน หากเมื่อไม่ได้รับอนุญาตให้พูดความจริง ไม่ได้รับอนุญาตให้มีการอภิปรายอย่างตรงไปตรงมาเกี่ยวกับความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้าม ไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับฝ่ายตรงข้ามอย่างตรงไปตรงมาเพื่อศึกษาพวกเขา วัฒนธรรมการปิดกั้นและการไม่คบค้าสมาคมกับพวกเขา กลับทำให้เราตาบอด หูหนวก และใบ้ Glenn Diesen ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายต่างประเทศของรัสเซีย ยูเรเซีย
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • ผู้สื่อข่าวของ Al Mayadeen ในกรุงเตหะรานรายงานว่าอิหร่านได้ปล่อยโดรนโจมตี Arash-2 ไปยังเป้าหมายในอิสราเอล และโดรนเหล่านี้สามารถเจาะผ่านระบบป้องกันภัยทางอากาศเข้าสู่น่านฟ้าอิสราเอลและโจมตีเป้าหมายสำเร็จหลายเป้าหมาย

    "Arash-2" เป็นหนึ่งในโดรนโจมตีพลีชีพระยะไกลชั้นนำของอิหร่านที่มีระยะโจมตี 2,000 กม. มีความแม่นยำสูง และมีพลังทำลายล้างสูง สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ขนาด 150 กก. ได้ ถูกออกแบบและผลิตจากทีมผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของอิหร่าน ประจำการในกองทัพอิหร่านตั้งแต่ปี 2020 ( IRGC ไม่มีใช้)

    นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าเป็นโดรนอีกรุ่นหนึ่งที่รัสเซียให้ความสนใจอยากซื้อมาก
    ผู้สื่อข่าวของ Al Mayadeen ในกรุงเตหะรานรายงานว่าอิหร่านได้ปล่อยโดรนโจมตี Arash-2 ไปยังเป้าหมายในอิสราเอล และโดรนเหล่านี้สามารถเจาะผ่านระบบป้องกันภัยทางอากาศเข้าสู่น่านฟ้าอิสราเอลและโจมตีเป้าหมายสำเร็จหลายเป้าหมาย "Arash-2" เป็นหนึ่งในโดรนโจมตีพลีชีพระยะไกลชั้นนำของอิหร่านที่มีระยะโจมตี 2,000 กม. มีความแม่นยำสูง และมีพลังทำลายล้างสูง สามารถติดหัวรบนิวเคลียร์ขนาด 150 กก. ได้ ถูกออกแบบและผลิตจากทีมผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของอิหร่าน ประจำการในกองทัพอิหร่านตั้งแต่ปี 2020 ( IRGC ไม่มีใช้) นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าเป็นโดรนอีกรุ่นหนึ่งที่รัสเซียให้ความสนใจอยากซื้อมาก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 138 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts