• 19-09-68/01 : หมี CNN / "FRIDAY JASON" ศุกร์ สยิวกิ้ว! EP35 (มาตามนัด)

    ปิดด่าน สำคัญกว่าที่คิด สกัดเงินฟอก สกัดเงินมืด มีเงินแต่เอาไปใช้ไม่ได้ ที่ผ่านมา มันเอามาฟอกที่ไทยเนี่ยแหละ เงินบาทไทยสดสด ที่อีขะแมร์ต้องการ ขนทองคำไปส่งขะแมร์ แผนลับตั้งแต่อีแม่กะบังลมสั่ง ในที่สุด ตัวการใหญ่ก็อยู่ไม่ได้โผล่ ส่งทั้งกระเช้าดอกไม้ บอกนัยยะ อำนาจมันอยู่ไม่นานดอกน่ะ ออกหน้าสั่งการพรรค เพราะอีผัวเหี้ยหมดสภาพไปแล้ว นอนกระดิกตรีนในคุกคลองเปรม อีลูกส่ายหัว ไม่มีใครกล้ามาเป็นเหยื่อให้อีพ่อแล้ว ตายยกโคตร วันนี้ เสื้อแดงรู้เช่นเห็นชาติแล้ว เลวกว่า เหี้ยกว่า ระยำสลัดหมากว่าอีเหลี่ยม มีเพียงตัวเดียว นั่นคือ "อีกะบังลม" เงินที่โกงแผ่นดินทั้งหมดอยู่ที่มัน โยกย้ายไปตามหมู่เกาะแคริบเบี้ยน

    อีโง่ยุโรป หมดท่า กลายร่างเป็นหมาบ้าแล้ว! ไล่งับทั้ง BRICS รัสเซีย อีแขก อ้าว..เว้นจีนไว้ทำไมล่ะจ๊ะ? อ๋อ..จะเสี้ยมจีนให้แตกเหรอ เหี้ยมะกันจะดึงรัสเซีย แยกจากจีนยังทำไม่ได้ แล้วไอ้โง่อย่างมรึงที่สติปัญญา IQ 18 จะมาหลอกจีน IQ 180 เนี่ยน่ะ ควายจ๋า..ไปแดร๊กหญ้าให้อิ่มเหอะ พรุ่งนี้ก็โดนเชือดแล้ว มันต้องการอะไร ก่อนจะริท้าสู่ขั้วใหม่ ช่วยแหกตาดูด้วยว่า วันนี้ มรึงเองยังต้องแบมือขอพลังงานรัสเซีย แบมือขอโลจิสติคจากจีน แบมือขอตลาดจากอาหรับ แล้วมรึงคลั่งจนลืมสิ่งที่จำเป็นต้องมี นั่นคือ "การคลัง" EURO อ่อนค่า พิมพ์แบงค์มั่วซั่วตามอีวอชิงตัน ทองคำจะเอาจากไหนล่ะ รัสเซียผูกสัมปทานในแอฟริกาสิ้น จะขอใคร

    เปลี่ยนปุ๊บ ออกสื่อปั๊บ! อะไรน่ะ? กูหูไม่ฟาดชิมิ? ภาค 1 ขู่ขะแมร์โว๊ย? อย่ายั่วยุ ใช้กฎหมายไทยบังคับคดีทั้งหมด เข้ามาเหยียบก็แผ่นดินกู ใช้กฎหมายกู พอเอาจริง ม็อบตอแหลวงแตกทันที ถูกจับไปขังคุกไม่ต้องรอนาน แล้วทำไม? มรึงไม่ทำตั้งแต่แรกล่ะ? คำตอบคือ บ่อนคือต้นเหตุ ส่วยเดือนล่ะ 100 ล้านคือสาเหตุ แหล่งฟอกเงินคือหม้อข้าวของบรรดา BIG เขียวขายชาติ ชัดพอมั้ย? แต่ตอนนี้ เกิดการปฎิวัติเงียบ ระดับนายพัน จับกลุ่มขู่นายพล นายจ๊ะ อันนี้อธิปไตยของชาติน่ะ นายอย่าแตะ เดี๋ยวพวกผมเอาจริง! (เสียงในฟิล์มจากชายแแดน) มรึงถึงได้เห็นภาพวันนี้ไง กูบอกให้รู้ไว้ ใหญ่แค่ไหน แค่วังสั่งคำเดียว หัวหลุดทั้งยวงบูรพาสุนัข บูรพาพยัคฆ์ของจริงมีเยอะ แต่ถูกบูรพาสุนัขคาบไปแดร๊ก ถึงเวลาเปลี่ยนหัวเหี้ยแล้วจ๊ะ

    ส่งสัญญาน เอาโต๊ะลุงตู่กลับมาใช้ต่อในทำเนียบ หันทิศทางเดียวกัน จะบอกอะไรรึจ๊ะ? บ้างก็อ้าง โต๊ะที่บ้านใหญ่ หรู ไม่เข้ากับสไตล์ห้อง เดี๋ยวผิดสังเกตุ แค่ 4 เดือน จะทำอะไรให้หมั่นไส้มากไม่ดี สร้างภาพสิจ๊ะ อยู่ให้คนเค้ารัก ไปให้คนเค้าคิดถึง อีเพ่นู๋ มันอยู่เป็น ไม่งั้นคงไม่มีวาสนาขึ้นแท่นบังลังก์เมฆดอก ขนาดอีลุงป้อมรอคอยมาทั้งชีวิต ยังไม่ได้เป็น กระแสตีกลับ จนป่านนี้ ยังตั้งครม.ไม่ได้ ติดเรื่องคุณสมบัติ เพราะมีแต่เหี้ยไปจัญไรมา สภาพแค่เอาตัวรอดไปวันวัน จะเอา จะเอา แต่ไม่มีใครคิดถึงเรื่องของชาติ ปากท้องประชาชนก่อน นี่ไง "นักการเมือง" อีส้มเน่ามั่น งวดหน้ากูแลนด์สไลด์หนักกว่านี้แน่ อ๋อ..เหรอ หายไป 70% น่ะสิ เดี๋ยวรู้กัน

    ฮาแตก! อีฮุน จอมตอแหล สร้างภาพตลอด จีนหนุน จีนให้อภัย จีนเปิดทางเดินให้ต่อ แต่ของจริง จีนไม่เปิดระบบยิงขีปนาวุธให้อีขะแมร์มาทำร้ายไทย จีนไม่สร้างอะไรเพิ่มทั้งนั้น จีนถอนการลงทุนออกมา จีนห้ามนักท่องเที่ยวไปขะแมร์ นี่เหรอ ที่เค้าเรียกว่าหนุน เสพสื่อ ให้ดูของจริง อย่าเชื่อแค่เค้าเล่าอ้าง? สติทำให้ฉลาด เพราะคิดขัดแย้งไว้ก่อน จะได้คำตอบ ตั้งคำถามก่อน จะได้คำตอบ อย่าเชื่อ ให้ใช้ปัญญา ว่าข้อเท็จจริงคือ สื่อเล่าอ้างคือ กองทัพไทย เริ่มลงมือปิดกั้นทุกทางเชื่อมไทย-ขะแมร์ ส่งสัญญาน งานนี้ กูเอามรึงถึงตายคาตรีน พนมเปญแค่ขนมกรุบ

    ฝั่งโลกอาหรับก็ไม่เบา MBS ล่าสุดจับมือปากีฯ เซ็นต์ควมร่วมมือแผนความมั่นคง แปลว่าอะไร? อียิวจะโดนหนักไงล่ะ? ดอกนี้ ปากีขอมา กูจะเอาคืนมรึง ที่ไปหนุนอีแขกมารุกรานกูก่อน รออิมราน ข่านขึ้นแท่นเมื่อไหร่ กูบอกเลย ประกาศศักดาแน่ QATAR เจ็บแค้น ทั้งอียิว เหี้ยมะกัน ส่งผลให้ ราชวงศ์ในอาหรับ ลงมติเชือดอียิวแบบไม่ให้เหลือซาก อิหร่านมาเต็ม ต้องถามแบบนี้ว่า ยังจะเหลือใครที่เอาอียิวล่ะ ขนาดอีจอร์แดง ขี้ข้าชั้นสวะ ที่อะไรก็แล้วแต่นายใหญ่ ยังฉี่แตก เค้าลงขันมุสลิมปาร์ตี้อียิวโดยตรงแล้ว คนย้ายออกจากเยรูซาเล็มแล้ว รู้ตัวแล้ว อิหร่านนำทัพ เตรียมยกพลขึ้นบก ไม่ต้องถามน่ะ ยังจะเหลือเหี้ยยิวรอต้อนรับอีกมั้ย?

    เวรกรรมทันตาเห็น อีเศษฝรั่ง บ้านเมืองลุกเป็นไฟแล้ว ขนส่งปิด รถสาธารณะปิด รถไม่วิ่ง ร้านค้าปิด ธนาคารไม่มีคน มันหายไปไหนกันหมดล่ะ? ลงถนนกันหมดทั้งแผ่นดินแล้ว กูว่าแล้ว สุดท้าย ปากท้องชาวบ้าน คือสิ่งที่อันตรายที่สุด จีน รัสเซีย มองเห็น แต่มรึงมันโง่ไงล่ะ อีมาครง งานนี้เอาถึง "กิโยติน" เลยน่ะ ย้อนภาพประวัติศาสตร์กลับมาทันที เมื่องานไม่มี ไร้บ้าน อาหารไม่พอ ข้าวยาก หมากแพง ชีวิตอยู่ไปวันวัน ใครล่ะ ที่ทำให้มรึงจนตรอก "ประชาธิปไตย" ที่มรึงเลือกกันเองไงล่ะ มันช่วยให้มรึงหายอิ่มมั้ย มีแต่จะเอาสงครามท่าเดียว ตามใบสั่งนายจ้าง แดร๊กเข้าไปสิ ยุโรปสิ้นแล้ววันนี้ VISA น่ะเหรอ? ให้เข้าฟรี ยังไม่เอาเลย มีแต่โจรกับโจร

    มอ 144 มาเต็มตรีน ไวฟ้าผ่า โยกเงินเหรอ เงิน 10000 เหรอ เดี๋ยวตามด้วยชั้น 14 มาตามสเตป ไล่เบี้ยขี้ข้าหมารับใช้ทุกองค์กร ทุกไอ้อี อย่าคิดว่ายุบสภา แล้วจบน่ะ เปลี่ยนรัฐบาลแล้วปล้วกันไปน่ะ คำฟ้อง อยู่ที่ศาลยังมีครบทุกข้อหา เป้าแท้จริงคือ ล้างบางพรรคขายชาติให้สิ้นซาก ทั้งอีแดง อีส้มเน่า อีน้ำเงิน และบรรดาพรรคตัวปลากรอบทั้งหลาย โดนหมดจ๊ะ พายเรือให้โจรนั่ง เซ็นต์ MOU43/44 ของเก่าก็โดน เพราะมันเป็นผลพ่วงมาจนถึงปัจจุบัน มรึงดู ทุกความระยำอัปรีย์จัญไรของไอ้อีขายชาติทั้งหลาย มันมาผูกปมเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด แม้แต่คดีผีน้องโม สีเทา สีดำ มีเอี่ยวหมด ที่ศาลใจเย็น เพราะมันผูกกันทั้ง 3 ศาลไงล่ะ จับมัดเผาทีเดียว!

    มรึงดูความอดอยากของคนสิ? อีปารี แจกไก่ทอด เป็นเหตุชุลมุนกลายเป็นเรื่องใหญ่ นี่มัน "โกลาหล" ดูเปลือกภายนอก คือวัยรุ่นตามอินฟลูเอนเซอร์ แต่โดยเนื้อแท้แล้ว แค่ร้านไทยเปิดใหม่โปรโมต แจกฟรี ข้าวหน้าไก่ทอด 1000 ชุด มรึงถึงกับต้องแย่งกันอย่างกะหมา มันใช่เหรอ? แล้วไอ้หน่วยควบคุมมาได้ยังไง เร็วปร๊ีด! ทุกอย่างคือการจัดฉาก ไม่ต้องถามว่าฝ่ายการเมืองเล่นเหี้ยอาไยอีก? มรึงเลือกตั้งใหม่ ยุบสภา กันให้ตาย เลือกกี่รอบก็เหมือนเดิม เพราะนายทุนใหญ่ใครล่ะ? ทำไมต้องเป็นร้านอาหารไทย? หากเป็นร้านอื่นจะไวปานนี้มั้ย? อย่ามองข้ามรายละเอียดเล็กน้อย คนเริ่มแค่ไม่กี่คน สร้างปัญหาเป็นข่าวไปทั่วโลกได้ ด้วยเงินลงทุนนิดหน่อย เข้าใจเล่นน่ะมรึง? ร้านก็ดังไปเลย สื่อก็ได้ตีข่าว เจ้าหน้าที่ได้ออกแรง ส่งสัญญานซ้อมกันไว้ก่อนสิน่ะ ก่อนจะแตกจริง เพราะชาวปารี คือนักปฎิวัติอยู่แล้ว

    เนปาลโมเดล ไฟไหม้ฟางซะงั้น? อ้าวทำไมล่ะ? เพราะมันของปลอมไงล่ะ ทุกอย่างถูกจัดฉากขึ้นมา ตามใบสั่ง เหตุผลเดียวคือเปลี่ยนรัฐบาล ไอ้ที่มีอยู่ก่อน คืออิงขั้วใหม่ สูตรสำเร็จความใคร่เหี้ย เมื่อมรึงตีตัวห่าง กูก็ต้องส่ง เหี้ย C ไปเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำกันมาเป็นศตวรรษ ชาวบ้านถูกปั่นหัว ใครให้มรึงแตะโซเชี่ยล ปิดปุ๊บ อาละวาดปั๊บ แปลว่า โซเชี่ยลกำหนดความบ้าคลั่งของคนได้จริง ทุกชาติกลัวเนปาลโมเดล สั่งคุมเข้มความมั่นคงทันที จากนี้ไป ความวุ่นวายจะไม่จบ ไม่มีกษัตริย์ ไม่มีศูนย์รวมจิตใจ เหลือแต่ดูแลกันเอง ก็อ้อยเข้าปากเหี้ยไงล่ะ? และนี่ คือสิ่งที่เหี้ย C รอคอยมานานกว่า 93 ปี วังไทย ตียังไงก็ไม่แตก เพราะมีทศพิธราชธรรมเป็นเสาหลัก ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์คือเป้าหมายของพวกมัน เงินถุงแดง ที่เก็บกันมาจนวันนี้ รู้มั้ยว่า มันมากมายมหาศาลขนาดไหน เหี้ยเลียปาก?

    ปล.ชัดเจน! เมื่อ 3 ปีก่อน ปูตินพูดชัด "ไม่ยึด แต่จะทำลายให้สิ้นซาก" คราวนั้นหลายคนเข้าใจว่ายูเครน แต่วันนี้ ถึงบางอ้อ ปูตินหมายหัว "ยุโรปจ๊ะ" เพราะเนื้อแท้แล้ว เพราะมีพวกมรึง ก็จะมียูเครน 2..3..4 ไม่สิ้นสุด แล้วทำไม ไม่จัดการที่ต้นตอเลยล่ะ แผนถึงถูกออกแบบมาเพื่อดันเบลารุสขึ้นแท่นหัวหมู่ทะลวงฟัน ISKANDER ใช่ว่าจะให้ใครไปง่ายๆ หากไม่มั่นใจ และซี๊ปึกกันจริง วันนี้ เป็นที่ประจักษ์ WAGNER อยู่กันเต็มแผ่นดินอีโปล ตามพรมแดนเพี๊ยบ เพื่อเปิดทาง ปูทางให้ กองทัพ Z ดาหน้าเข้ายึดยุโรปในไม่ช้านี้ จับตาให้ดีดี ปูติน เคยพูดอะไรไว้ แล้วทำได้จริงเสมอ อีโง่ยุโรป ดิ้นให้ตาย หมาก็ไม่แล เหี้ยวอชิงตัน มันถูกปูตินสะกดไว้แล้วที่อลาสก้า "อย่าเสือก" ยุ่งเมื่อไหร่ ถึงวอชิงตันแน่ มรึงกล้าวัดมั้ยล่ะ? เมื่อรัสเซียบุกยึดยุโรป แล้วโลกอาหรับ บุกขยี้เยรูซาเล็ม เป็นจังหวะเดียวที่จีนจะดาหน้าปูพรมยึดไต้หวัน ถามว่า อะไรจะเกิดขึ้น? อเมริกาจะไม่เสือกเพราะถังแตก และรอดูผลลัพธ์ กูไม่ต้องเหนื่อย มีคนขยี้อียิวและยุดรปให้กูฟรีๆ แต่ช้าก่อน เค้าอ่านมรึงทะลุ สุดท้ายมรึงก็ต้องมาเอี่ยวอยู่ดี เพราะเค้าจ้องหลังบ้านมรึงแล้วไงล่ะ ทันที ที่วอชิงตันแตก มันคือโอกาสทองที่ปูตินจะเข้ายึดอลาสก้า ดินแดนที่เป็นของรัสเซียเก่า โดยอ้างว่ายังมีชาวพื้นเมืองรัสเซียอยู่ที่นั่น ต้องการแยกตัวกลับบ้าน แผนนี้จะใช้เมื่อเหี้ยไม่ตกลงยอมขายแต่โดยดี สงครามไม่ต้องการเหตุผล ทุกอย่างวัดกันที่ปากกระบอกปืน ใครใหญ่กว่าก็งาบไปแดร๊ก โลกเรียนรู้จากสิ่งนี้มาเป็น 1000 ปีแล้ว สงครามจะกระจายไปทั่วโลก แต่จะไม่บ้าคลั่งเท่า WWII จะไม่มีการใช้นุ๊กจริง ใช้แค่มินิคุ๊กกี้ ตามพื้นที่จำเพาะแต่ละเป้าหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงความวินาศฉิบหายทั้งโลก ไอ้สัส! แค่มินิคุ๊กกี้ ก็อ่วมแล้วน่ะมรึง เพราะขนาดความเสียหาย มันแรงกว่าที่ฮิโรชิม่า นางาซากิ ซะอีก แค่มลพิษน้อยกว่าเท่านั้นเอง แต่อาวุธร้ายรัสเซีย ไม่ใช่แบบนั้น มันจ้องทำลายโสตประสาทของมนุษย์ พิการทั้งกองทัพ แบบที่ทหารอเมริกันโดนมาแล้วหลายพันตัว อยากรู้ให้ไปถามที่สวนสัตว์มอสโคว์

    หมี CNN(อะไรน่ะ อียิวเตรียมใช้เสียงเลเซอร์ยิงสกัดไฮเปอร์โซนิค อ๋อเหรอ? มีเท่าไหร่กันล่ะ ยิงได้จริงเหรอ รัศมีทำการแค่ไหน อะไรที่มรึงมี รัสเซีย จีน อิหร่าน แม้แต่โสมแดงก็มี ไอ้ควาย? ทำไม หน่วยข่าวกรองเค้าจะไม่รู้ ว่ามรึงมีของเหี้ยอะไรอีก ระยะคือข้อจำกัดของเลเซอร์ยิว ระบบดาวเทียมนำร่องสั่งการ คือคีย์ของการทำงานทั้งระบบ แค่จัดสัญญาน GPS มรึง คือจบทันที และหากจะล่อจริง เค้าใช้ ไฮเปอร์โซนิค15 มัคขึ้นไป มรึงยิงยังไงก็ไม่ทัน เพราะมันมีปล่อยลูกหลอกด้วยไงล่ะ มรึงมีปัญญายิงพร้อมกัน 5 เป้าหมายมั้ยล่ะ? จุดอ่อนเพี๊ยบ มันใช้ได้กับโดรน เพื่อกวาด แต่ใช้กับไฮเปอร์โซนิคจริงยาก เค้าคำนวณกันมาก่อนแล้ว ไอ้ควาย)
    19 กันยายน 68
    09.30 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    19-09-68/01 : หมี CNN / "FRIDAY JASON" ศุกร์ สยิวกิ้ว! EP35 (มาตามนัด) ปิดด่าน สำคัญกว่าที่คิด สกัดเงินฟอก สกัดเงินมืด มีเงินแต่เอาไปใช้ไม่ได้ ที่ผ่านมา มันเอามาฟอกที่ไทยเนี่ยแหละ เงินบาทไทยสดสด ที่อีขะแมร์ต้องการ ขนทองคำไปส่งขะแมร์ แผนลับตั้งแต่อีแม่กะบังลมสั่ง ในที่สุด ตัวการใหญ่ก็อยู่ไม่ได้โผล่ ส่งทั้งกระเช้าดอกไม้ บอกนัยยะ อำนาจมันอยู่ไม่นานดอกน่ะ ออกหน้าสั่งการพรรค เพราะอีผัวเหี้ยหมดสภาพไปแล้ว นอนกระดิกตรีนในคุกคลองเปรม อีลูกส่ายหัว ไม่มีใครกล้ามาเป็นเหยื่อให้อีพ่อแล้ว ตายยกโคตร วันนี้ เสื้อแดงรู้เช่นเห็นชาติแล้ว เลวกว่า เหี้ยกว่า ระยำสลัดหมากว่าอีเหลี่ยม มีเพียงตัวเดียว นั่นคือ "อีกะบังลม" เงินที่โกงแผ่นดินทั้งหมดอยู่ที่มัน โยกย้ายไปตามหมู่เกาะแคริบเบี้ยน อีโง่ยุโรป หมดท่า กลายร่างเป็นหมาบ้าแล้ว! ไล่งับทั้ง BRICS รัสเซีย อีแขก อ้าว..เว้นจีนไว้ทำไมล่ะจ๊ะ? อ๋อ..จะเสี้ยมจีนให้แตกเหรอ เหี้ยมะกันจะดึงรัสเซีย แยกจากจีนยังทำไม่ได้ แล้วไอ้โง่อย่างมรึงที่สติปัญญา IQ 18 จะมาหลอกจีน IQ 180 เนี่ยน่ะ ควายจ๋า..ไปแดร๊กหญ้าให้อิ่มเหอะ พรุ่งนี้ก็โดนเชือดแล้ว มันต้องการอะไร ก่อนจะริท้าสู่ขั้วใหม่ ช่วยแหกตาดูด้วยว่า วันนี้ มรึงเองยังต้องแบมือขอพลังงานรัสเซีย แบมือขอโลจิสติคจากจีน แบมือขอตลาดจากอาหรับ แล้วมรึงคลั่งจนลืมสิ่งที่จำเป็นต้องมี นั่นคือ "การคลัง" EURO อ่อนค่า พิมพ์แบงค์มั่วซั่วตามอีวอชิงตัน ทองคำจะเอาจากไหนล่ะ รัสเซียผูกสัมปทานในแอฟริกาสิ้น จะขอใคร เปลี่ยนปุ๊บ ออกสื่อปั๊บ! อะไรน่ะ? กูหูไม่ฟาดชิมิ? ภาค 1 ขู่ขะแมร์โว๊ย? อย่ายั่วยุ ใช้กฎหมายไทยบังคับคดีทั้งหมด เข้ามาเหยียบก็แผ่นดินกู ใช้กฎหมายกู พอเอาจริง ม็อบตอแหลวงแตกทันที ถูกจับไปขังคุกไม่ต้องรอนาน แล้วทำไม? มรึงไม่ทำตั้งแต่แรกล่ะ? คำตอบคือ บ่อนคือต้นเหตุ ส่วยเดือนล่ะ 100 ล้านคือสาเหตุ แหล่งฟอกเงินคือหม้อข้าวของบรรดา BIG เขียวขายชาติ ชัดพอมั้ย? แต่ตอนนี้ เกิดการปฎิวัติเงียบ ระดับนายพัน จับกลุ่มขู่นายพล นายจ๊ะ อันนี้อธิปไตยของชาติน่ะ นายอย่าแตะ เดี๋ยวพวกผมเอาจริง! (เสียงในฟิล์มจากชายแแดน) มรึงถึงได้เห็นภาพวันนี้ไง กูบอกให้รู้ไว้ ใหญ่แค่ไหน แค่วังสั่งคำเดียว หัวหลุดทั้งยวงบูรพาสุนัข บูรพาพยัคฆ์ของจริงมีเยอะ แต่ถูกบูรพาสุนัขคาบไปแดร๊ก ถึงเวลาเปลี่ยนหัวเหี้ยแล้วจ๊ะ ส่งสัญญาน เอาโต๊ะลุงตู่กลับมาใช้ต่อในทำเนียบ หันทิศทางเดียวกัน จะบอกอะไรรึจ๊ะ? บ้างก็อ้าง โต๊ะที่บ้านใหญ่ หรู ไม่เข้ากับสไตล์ห้อง เดี๋ยวผิดสังเกตุ แค่ 4 เดือน จะทำอะไรให้หมั่นไส้มากไม่ดี สร้างภาพสิจ๊ะ อยู่ให้คนเค้ารัก ไปให้คนเค้าคิดถึง อีเพ่นู๋ มันอยู่เป็น ไม่งั้นคงไม่มีวาสนาขึ้นแท่นบังลังก์เมฆดอก ขนาดอีลุงป้อมรอคอยมาทั้งชีวิต ยังไม่ได้เป็น กระแสตีกลับ จนป่านนี้ ยังตั้งครม.ไม่ได้ ติดเรื่องคุณสมบัติ เพราะมีแต่เหี้ยไปจัญไรมา สภาพแค่เอาตัวรอดไปวันวัน จะเอา จะเอา แต่ไม่มีใครคิดถึงเรื่องของชาติ ปากท้องประชาชนก่อน นี่ไง "นักการเมือง" อีส้มเน่ามั่น งวดหน้ากูแลนด์สไลด์หนักกว่านี้แน่ อ๋อ..เหรอ หายไป 70% น่ะสิ เดี๋ยวรู้กัน ฮาแตก! อีฮุน จอมตอแหล สร้างภาพตลอด จีนหนุน จีนให้อภัย จีนเปิดทางเดินให้ต่อ แต่ของจริง จีนไม่เปิดระบบยิงขีปนาวุธให้อีขะแมร์มาทำร้ายไทย จีนไม่สร้างอะไรเพิ่มทั้งนั้น จีนถอนการลงทุนออกมา จีนห้ามนักท่องเที่ยวไปขะแมร์ นี่เหรอ ที่เค้าเรียกว่าหนุน เสพสื่อ ให้ดูของจริง อย่าเชื่อแค่เค้าเล่าอ้าง? สติทำให้ฉลาด เพราะคิดขัดแย้งไว้ก่อน จะได้คำตอบ ตั้งคำถามก่อน จะได้คำตอบ อย่าเชื่อ ให้ใช้ปัญญา ว่าข้อเท็จจริงคือ สื่อเล่าอ้างคือ กองทัพไทย เริ่มลงมือปิดกั้นทุกทางเชื่อมไทย-ขะแมร์ ส่งสัญญาน งานนี้ กูเอามรึงถึงตายคาตรีน พนมเปญแค่ขนมกรุบ ฝั่งโลกอาหรับก็ไม่เบา MBS ล่าสุดจับมือปากีฯ เซ็นต์ควมร่วมมือแผนความมั่นคง แปลว่าอะไร? อียิวจะโดนหนักไงล่ะ? ดอกนี้ ปากีขอมา กูจะเอาคืนมรึง ที่ไปหนุนอีแขกมารุกรานกูก่อน รออิมราน ข่านขึ้นแท่นเมื่อไหร่ กูบอกเลย ประกาศศักดาแน่ QATAR เจ็บแค้น ทั้งอียิว เหี้ยมะกัน ส่งผลให้ ราชวงศ์ในอาหรับ ลงมติเชือดอียิวแบบไม่ให้เหลือซาก อิหร่านมาเต็ม ต้องถามแบบนี้ว่า ยังจะเหลือใครที่เอาอียิวล่ะ ขนาดอีจอร์แดง ขี้ข้าชั้นสวะ ที่อะไรก็แล้วแต่นายใหญ่ ยังฉี่แตก เค้าลงขันมุสลิมปาร์ตี้อียิวโดยตรงแล้ว คนย้ายออกจากเยรูซาเล็มแล้ว รู้ตัวแล้ว อิหร่านนำทัพ เตรียมยกพลขึ้นบก ไม่ต้องถามน่ะ ยังจะเหลือเหี้ยยิวรอต้อนรับอีกมั้ย? เวรกรรมทันตาเห็น อีเศษฝรั่ง บ้านเมืองลุกเป็นไฟแล้ว ขนส่งปิด รถสาธารณะปิด รถไม่วิ่ง ร้านค้าปิด ธนาคารไม่มีคน มันหายไปไหนกันหมดล่ะ? ลงถนนกันหมดทั้งแผ่นดินแล้ว กูว่าแล้ว สุดท้าย ปากท้องชาวบ้าน คือสิ่งที่อันตรายที่สุด จีน รัสเซีย มองเห็น แต่มรึงมันโง่ไงล่ะ อีมาครง งานนี้เอาถึง "กิโยติน" เลยน่ะ ย้อนภาพประวัติศาสตร์กลับมาทันที เมื่องานไม่มี ไร้บ้าน อาหารไม่พอ ข้าวยาก หมากแพง ชีวิตอยู่ไปวันวัน ใครล่ะ ที่ทำให้มรึงจนตรอก "ประชาธิปไตย" ที่มรึงเลือกกันเองไงล่ะ มันช่วยให้มรึงหายอิ่มมั้ย มีแต่จะเอาสงครามท่าเดียว ตามใบสั่งนายจ้าง แดร๊กเข้าไปสิ ยุโรปสิ้นแล้ววันนี้ VISA น่ะเหรอ? ให้เข้าฟรี ยังไม่เอาเลย มีแต่โจรกับโจร มอ 144 มาเต็มตรีน ไวฟ้าผ่า โยกเงินเหรอ เงิน 10000 เหรอ เดี๋ยวตามด้วยชั้น 14 มาตามสเตป ไล่เบี้ยขี้ข้าหมารับใช้ทุกองค์กร ทุกไอ้อี อย่าคิดว่ายุบสภา แล้วจบน่ะ เปลี่ยนรัฐบาลแล้วปล้วกันไปน่ะ คำฟ้อง อยู่ที่ศาลยังมีครบทุกข้อหา เป้าแท้จริงคือ ล้างบางพรรคขายชาติให้สิ้นซาก ทั้งอีแดง อีส้มเน่า อีน้ำเงิน และบรรดาพรรคตัวปลากรอบทั้งหลาย โดนหมดจ๊ะ พายเรือให้โจรนั่ง เซ็นต์ MOU43/44 ของเก่าก็โดน เพราะมันเป็นผลพ่วงมาจนถึงปัจจุบัน มรึงดู ทุกความระยำอัปรีย์จัญไรของไอ้อีขายชาติทั้งหลาย มันมาผูกปมเป็นเรื่องเดียวกันทั้งหมด แม้แต่คดีผีน้องโม สีเทา สีดำ มีเอี่ยวหมด ที่ศาลใจเย็น เพราะมันผูกกันทั้ง 3 ศาลไงล่ะ จับมัดเผาทีเดียว! มรึงดูความอดอยากของคนสิ? อีปารี แจกไก่ทอด เป็นเหตุชุลมุนกลายเป็นเรื่องใหญ่ นี่มัน "โกลาหล" ดูเปลือกภายนอก คือวัยรุ่นตามอินฟลูเอนเซอร์ แต่โดยเนื้อแท้แล้ว แค่ร้านไทยเปิดใหม่โปรโมต แจกฟรี ข้าวหน้าไก่ทอด 1000 ชุด มรึงถึงกับต้องแย่งกันอย่างกะหมา มันใช่เหรอ? แล้วไอ้หน่วยควบคุมมาได้ยังไง เร็วปร๊ีด! ทุกอย่างคือการจัดฉาก ไม่ต้องถามว่าฝ่ายการเมืองเล่นเหี้ยอาไยอีก? มรึงเลือกตั้งใหม่ ยุบสภา กันให้ตาย เลือกกี่รอบก็เหมือนเดิม เพราะนายทุนใหญ่ใครล่ะ? ทำไมต้องเป็นร้านอาหารไทย? หากเป็นร้านอื่นจะไวปานนี้มั้ย? อย่ามองข้ามรายละเอียดเล็กน้อย คนเริ่มแค่ไม่กี่คน สร้างปัญหาเป็นข่าวไปทั่วโลกได้ ด้วยเงินลงทุนนิดหน่อย เข้าใจเล่นน่ะมรึง? ร้านก็ดังไปเลย สื่อก็ได้ตีข่าว เจ้าหน้าที่ได้ออกแรง ส่งสัญญานซ้อมกันไว้ก่อนสิน่ะ ก่อนจะแตกจริง เพราะชาวปารี คือนักปฎิวัติอยู่แล้ว เนปาลโมเดล ไฟไหม้ฟางซะงั้น? อ้าวทำไมล่ะ? เพราะมันของปลอมไงล่ะ ทุกอย่างถูกจัดฉากขึ้นมา ตามใบสั่ง เหตุผลเดียวคือเปลี่ยนรัฐบาล ไอ้ที่มีอยู่ก่อน คืออิงขั้วใหม่ สูตรสำเร็จความใคร่เหี้ย เมื่อมรึงตีตัวห่าง กูก็ต้องส่ง เหี้ย C ไปเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำกันมาเป็นศตวรรษ ชาวบ้านถูกปั่นหัว ใครให้มรึงแตะโซเชี่ยล ปิดปุ๊บ อาละวาดปั๊บ แปลว่า โซเชี่ยลกำหนดความบ้าคลั่งของคนได้จริง ทุกชาติกลัวเนปาลโมเดล สั่งคุมเข้มความมั่นคงทันที จากนี้ไป ความวุ่นวายจะไม่จบ ไม่มีกษัตริย์ ไม่มีศูนย์รวมจิตใจ เหลือแต่ดูแลกันเอง ก็อ้อยเข้าปากเหี้ยไงล่ะ? และนี่ คือสิ่งที่เหี้ย C รอคอยมานานกว่า 93 ปี วังไทย ตียังไงก็ไม่แตก เพราะมีทศพิธราชธรรมเป็นเสาหลัก ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์คือเป้าหมายของพวกมัน เงินถุงแดง ที่เก็บกันมาจนวันนี้ รู้มั้ยว่า มันมากมายมหาศาลขนาดไหน เหี้ยเลียปาก? ปล.ชัดเจน! เมื่อ 3 ปีก่อน ปูตินพูดชัด "ไม่ยึด แต่จะทำลายให้สิ้นซาก" คราวนั้นหลายคนเข้าใจว่ายูเครน แต่วันนี้ ถึงบางอ้อ ปูตินหมายหัว "ยุโรปจ๊ะ" เพราะเนื้อแท้แล้ว เพราะมีพวกมรึง ก็จะมียูเครน 2..3..4 ไม่สิ้นสุด แล้วทำไม ไม่จัดการที่ต้นตอเลยล่ะ แผนถึงถูกออกแบบมาเพื่อดันเบลารุสขึ้นแท่นหัวหมู่ทะลวงฟัน ISKANDER ใช่ว่าจะให้ใครไปง่ายๆ หากไม่มั่นใจ และซี๊ปึกกันจริง วันนี้ เป็นที่ประจักษ์ WAGNER อยู่กันเต็มแผ่นดินอีโปล ตามพรมแดนเพี๊ยบ เพื่อเปิดทาง ปูทางให้ กองทัพ Z ดาหน้าเข้ายึดยุโรปในไม่ช้านี้ จับตาให้ดีดี ปูติน เคยพูดอะไรไว้ แล้วทำได้จริงเสมอ อีโง่ยุโรป ดิ้นให้ตาย หมาก็ไม่แล เหี้ยวอชิงตัน มันถูกปูตินสะกดไว้แล้วที่อลาสก้า "อย่าเสือก" ยุ่งเมื่อไหร่ ถึงวอชิงตันแน่ มรึงกล้าวัดมั้ยล่ะ? เมื่อรัสเซียบุกยึดยุโรป แล้วโลกอาหรับ บุกขยี้เยรูซาเล็ม เป็นจังหวะเดียวที่จีนจะดาหน้าปูพรมยึดไต้หวัน ถามว่า อะไรจะเกิดขึ้น? อเมริกาจะไม่เสือกเพราะถังแตก และรอดูผลลัพธ์ กูไม่ต้องเหนื่อย มีคนขยี้อียิวและยุดรปให้กูฟรีๆ แต่ช้าก่อน เค้าอ่านมรึงทะลุ สุดท้ายมรึงก็ต้องมาเอี่ยวอยู่ดี เพราะเค้าจ้องหลังบ้านมรึงแล้วไงล่ะ ทันที ที่วอชิงตันแตก มันคือโอกาสทองที่ปูตินจะเข้ายึดอลาสก้า ดินแดนที่เป็นของรัสเซียเก่า โดยอ้างว่ายังมีชาวพื้นเมืองรัสเซียอยู่ที่นั่น ต้องการแยกตัวกลับบ้าน แผนนี้จะใช้เมื่อเหี้ยไม่ตกลงยอมขายแต่โดยดี สงครามไม่ต้องการเหตุผล ทุกอย่างวัดกันที่ปากกระบอกปืน ใครใหญ่กว่าก็งาบไปแดร๊ก โลกเรียนรู้จากสิ่งนี้มาเป็น 1000 ปีแล้ว สงครามจะกระจายไปทั่วโลก แต่จะไม่บ้าคลั่งเท่า WWII จะไม่มีการใช้นุ๊กจริง ใช้แค่มินิคุ๊กกี้ ตามพื้นที่จำเพาะแต่ละเป้าหมาย เพื่อหลีกเลี่ยงความวินาศฉิบหายทั้งโลก ไอ้สัส! แค่มินิคุ๊กกี้ ก็อ่วมแล้วน่ะมรึง เพราะขนาดความเสียหาย มันแรงกว่าที่ฮิโรชิม่า นางาซากิ ซะอีก แค่มลพิษน้อยกว่าเท่านั้นเอง แต่อาวุธร้ายรัสเซีย ไม่ใช่แบบนั้น มันจ้องทำลายโสตประสาทของมนุษย์ พิการทั้งกองทัพ แบบที่ทหารอเมริกันโดนมาแล้วหลายพันตัว อยากรู้ให้ไปถามที่สวนสัตว์มอสโคว์ หมี CNN(อะไรน่ะ อียิวเตรียมใช้เสียงเลเซอร์ยิงสกัดไฮเปอร์โซนิค อ๋อเหรอ? มีเท่าไหร่กันล่ะ ยิงได้จริงเหรอ รัศมีทำการแค่ไหน อะไรที่มรึงมี รัสเซีย จีน อิหร่าน แม้แต่โสมแดงก็มี ไอ้ควาย? ทำไม หน่วยข่าวกรองเค้าจะไม่รู้ ว่ามรึงมีของเหี้ยอะไรอีก ระยะคือข้อจำกัดของเลเซอร์ยิว ระบบดาวเทียมนำร่องสั่งการ คือคีย์ของการทำงานทั้งระบบ แค่จัดสัญญาน GPS มรึง คือจบทันที และหากจะล่อจริง เค้าใช้ ไฮเปอร์โซนิค15 มัคขึ้นไป มรึงยิงยังไงก็ไม่ทัน เพราะมันมีปล่อยลูกหลอกด้วยไงล่ะ มรึงมีปัญญายิงพร้อมกัน 5 เป้าหมายมั้ยล่ะ? จุดอ่อนเพี๊ยบ มันใช้ได้กับโดรน เพื่อกวาด แต่ใช้กับไฮเปอร์โซนิคจริงยาก เค้าคำนวณกันมาก่อนแล้ว ไอ้ควาย) 19 กันยายน 68 09.30 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    LINE.ME
    title
    description
    1 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
  • 18-09-68/02​ : หมี CNN / ฝันเปียกอีกแล้ว! มรึงน่ะเหรอ? ให้กูหยุดสั่งซื้อน้ำมันรัสเซีย? ถามจริง? ตัวมรึงเองยังแอบสั่งอยู่เลย ผ่านอีไก่งวง ฟาโรห์ ยังมีหน้ามาสั่งกูห้ามซื้อ กูไม่ใช่ ไอ้โง่ยุโรปน่ะเฟ้ย? อีแขกขรรมกลิ้ง จะคุยกับกูเพื่อ? กูส่งออกที่อื่นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นมรึง สิ่งที่สำคัญกว่าเงินคือพลังงาน ประเทศกูจะพัฒนาต่อเนื่องได้อย่างไรหากขาดพลังงาน มรึงคิดว่าแค่การค้าประเทศเดียวกับมรึง กับพลังงาน กูยังต้องคิดเยอะอีกเหรอ? ทุกวันนี้ เหี้ยมะกันเตะหมูเข้าปากหมี และพญามังกร โดยที่ขั้วใหม่ ไม่ต้องทำเหี้ยอาไยเลย เห็นมาเยอะแล้ว ยืนเคียงข้างเหี้ย แล้วสุดท้ายย้ายขั้วออกหมด เพราะแม้แต่พวกเดียวกันมรึงยังจะแดร๊กกันเอง ใครจะคบล่ะจ๊ะ? ล่าสุด อีแขก จีน รัสเซีย จับมือกันแล้ว ไม่คิดถึงอดีตที่ผ่านมา ที่อีแขกมัวแต่ลีลาเป็นกระเบื้อง วันนี้ ไม่มีจีน ไม่มีรัสเซีย ไม่มี BRICS อีแขกจะอยู่ได้ยังไง? อิทธิพลก็ต้องแข่งขันกันไป อำนาจเป็นสิ่งที่ต้องแย่งชิง แต่ไม่โง่พอที่จะรีบชิงตายห่าก่อนเวลาอันควร มีถอยเพื่อรุก มีรุกเพื่อต้าน กฎเหล็กขาใหญ่ต่างรู้กันดี ประเด็นคือ ทำไม ทั้งโลกต่างต้องการพลังงานรัสเซีย เพราะว่ามันถูกและดีจริง มรึงจะไปหาพลังงานราคาถูกที่ไหนได้อีก แค่ที่มรึงมียังไม่พอใช้เลย ไอ้สัส! แม้แต่อเมริกาเอง พลังงานสำรองหมดไปเยอะ สุ่มเสี่ยงหนัก หากจะเปิดสงคราม ทำไม รัสเซีย จีน จะดูไม่ออก มรึงจะรบเนี่ย พลังงานสำรองมรึงมีใช้ได้กี่เดือน กูลากเป็นปี มรึงก็ฉิบหายแล้ว ไม่ต้องฆ่ามรึงดอก เดี๋ยวชาวบ้านลงถนนตามไปไล่ล่ามรึงถึงที่เอง เพราะไม่มีไฟฟ้าจะใช้ อีโง่ยุโรปแบกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20% เหตุเพราะดันไปซื้อพลังงานแพงจากเหี้ยด้วยกันไงล่ะ? มรึงถึงได้พากันตายห่ายกคอก ทั้งหมดคือเกมส์การเมือง สหรัฐแค่ต้องการทำให้โลกยังเห็นว่า "สั่งอีแขกได้อยู่" ส่วนอีแขก ก็เล่นบท "กูไม่ใช่ขี้ข้ามรึงอีกต่อไป" หลังเป็นทาสเหี้ยสิงโตมาช้านาน อดีตขี้ข้า วันนี้ก็ต้องเป็นขี้ข้ากูต่อ จะสลัดหลุดออกจกวังวนเหี้ย มรึงต้องยืนด้วยขาตัวเอง จีน รัสเซีย อิหร่าน โสมแดง ทำสำเร็จ แต่อีแขกยังไม่สะเด็ดน้ำ เพราะมรึงมันลังเล หลายใจ ลีลา เอาแต่ได้ ไม่ยอมเสีย ถึงไปไม่สุดซักกะเรื่อง ไม่แปลกที่ตามหลังจีนแบบไม่เห็นฝุ่น ไปแก้ที่ MIND SET มรึงก่อนดีกว่ามั้ย?

    US will ‘sort out’ trade deal with India after it stops buying Russian oil – commerce secretary รัฐมนตรีพาณิชย์ระบุว่า สหรัฐจะ “แก้ปัญหา” ข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียหลังหยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : รัฐมนตรีพาณิชย์ระบุว่า สหรัฐจะ “แก้ปัญหา” ข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียหลังหยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย

    รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ โฮวาร์ด ลุตนิคระบุว่า สหรัฐจะ “แก้ปัญหา” ข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียหลังประเทศหยุดซื้อน้ำมันรัสเซียและเปิดตลาด

    ความเห็นของลุตนิคเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์และนายกรัฐมนตรีอินเดียนเรนทรา โมดียืนยันว่า สหรัฐและอินเดียยังคงเจรจาทางการค้าและแสดงความมั่นใจว่า การเจรจาจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้

    รัสเซียกลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันหลักให้อินเดียตั้งแต่เกิดความรุนแรงจากความขัดแย้งยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 ที่คิดเป็นเกือบ 40% ของการนำเข้าน้ำมันดิบอินเดีย ในขณะเดียวกัน อินเดียกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของน้ำมันกลั่นให้ยุโรปตั้งแต่ปี 2023

    เมื่อเดือนที่แล้ว สหรัฐกำหนดอัตราภาษี 25% ของการนำเข้าสินค้าอินเดียทั้งหมดต่อการนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียของอินเดีย ถือเป็นส่วนที่เพิ่มจาก 25% หลังอินเดียและสหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในช่วงต้นเดือนสิงหาคมได้

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในการพิจารณาคดีของวุฒิสมาชิก ตัวแทนของทรัมป์หรือทูตอินเดียเซอร์จิโอ กอร์แสดงความรู้สึกแบบเดียวกันในการค้าน้ำมันของอินเดียกับรัสเซีย

    เขากล่าวขณะที่กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นทางการค้าจะได้รับการแก้ปัญหาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้ว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์มีความชัดเจนในเรื่องนี้ ดังนั้นอินเดียต้องหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย”

    กอร์กล่าวว่า “เรามีมาตรฐานที่แตกต่างสำหรับอินเดีย เราจึงคาดหวังว่าจะได้มากกว่าประเทศอื่น”

    https://www.rt.com/india/624557-us-will-sort-out-trade/

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    18-09-68/02​ : หมี CNN / ฝันเปียกอีกแล้ว! มรึงน่ะเหรอ? ให้กูหยุดสั่งซื้อน้ำมันรัสเซีย? ถามจริง? ตัวมรึงเองยังแอบสั่งอยู่เลย ผ่านอีไก่งวง ฟาโรห์ ยังมีหน้ามาสั่งกูห้ามซื้อ กูไม่ใช่ ไอ้โง่ยุโรปน่ะเฟ้ย? อีแขกขรรมกลิ้ง จะคุยกับกูเพื่อ? กูส่งออกที่อื่นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นมรึง สิ่งที่สำคัญกว่าเงินคือพลังงาน ประเทศกูจะพัฒนาต่อเนื่องได้อย่างไรหากขาดพลังงาน มรึงคิดว่าแค่การค้าประเทศเดียวกับมรึง กับพลังงาน กูยังต้องคิดเยอะอีกเหรอ? ทุกวันนี้ เหี้ยมะกันเตะหมูเข้าปากหมี และพญามังกร โดยที่ขั้วใหม่ ไม่ต้องทำเหี้ยอาไยเลย เห็นมาเยอะแล้ว ยืนเคียงข้างเหี้ย แล้วสุดท้ายย้ายขั้วออกหมด เพราะแม้แต่พวกเดียวกันมรึงยังจะแดร๊กกันเอง ใครจะคบล่ะจ๊ะ? ล่าสุด อีแขก จีน รัสเซีย จับมือกันแล้ว ไม่คิดถึงอดีตที่ผ่านมา ที่อีแขกมัวแต่ลีลาเป็นกระเบื้อง วันนี้ ไม่มีจีน ไม่มีรัสเซีย ไม่มี BRICS อีแขกจะอยู่ได้ยังไง? อิทธิพลก็ต้องแข่งขันกันไป อำนาจเป็นสิ่งที่ต้องแย่งชิง แต่ไม่โง่พอที่จะรีบชิงตายห่าก่อนเวลาอันควร มีถอยเพื่อรุก มีรุกเพื่อต้าน กฎเหล็กขาใหญ่ต่างรู้กันดี ประเด็นคือ ทำไม ทั้งโลกต่างต้องการพลังงานรัสเซีย เพราะว่ามันถูกและดีจริง มรึงจะไปหาพลังงานราคาถูกที่ไหนได้อีก แค่ที่มรึงมียังไม่พอใช้เลย ไอ้สัส! แม้แต่อเมริกาเอง พลังงานสำรองหมดไปเยอะ สุ่มเสี่ยงหนัก หากจะเปิดสงคราม ทำไม รัสเซีย จีน จะดูไม่ออก มรึงจะรบเนี่ย พลังงานสำรองมรึงมีใช้ได้กี่เดือน กูลากเป็นปี มรึงก็ฉิบหายแล้ว ไม่ต้องฆ่ามรึงดอก เดี๋ยวชาวบ้านลงถนนตามไปไล่ล่ามรึงถึงที่เอง เพราะไม่มีไฟฟ้าจะใช้ อีโง่ยุโรปแบกค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีกกว่า 20% เหตุเพราะดันไปซื้อพลังงานแพงจากเหี้ยด้วยกันไงล่ะ? มรึงถึงได้พากันตายห่ายกคอก ทั้งหมดคือเกมส์การเมือง สหรัฐแค่ต้องการทำให้โลกยังเห็นว่า "สั่งอีแขกได้อยู่" ส่วนอีแขก ก็เล่นบท "กูไม่ใช่ขี้ข้ามรึงอีกต่อไป" หลังเป็นทาสเหี้ยสิงโตมาช้านาน อดีตขี้ข้า วันนี้ก็ต้องเป็นขี้ข้ากูต่อ จะสลัดหลุดออกจกวังวนเหี้ย มรึงต้องยืนด้วยขาตัวเอง จีน รัสเซีย อิหร่าน โสมแดง ทำสำเร็จ แต่อีแขกยังไม่สะเด็ดน้ำ เพราะมรึงมันลังเล หลายใจ ลีลา เอาแต่ได้ ไม่ยอมเสีย ถึงไปไม่สุดซักกะเรื่อง ไม่แปลกที่ตามหลังจีนแบบไม่เห็นฝุ่น ไปแก้ที่ MIND SET มรึงก่อนดีกว่ามั้ย? US will ‘sort out’ trade deal with India after it stops buying Russian oil – commerce secretary รัฐมนตรีพาณิชย์ระบุว่า สหรัฐจะ “แก้ปัญหา” ข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียหลังหยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : รัฐมนตรีพาณิชย์ระบุว่า สหรัฐจะ “แก้ปัญหา” ข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียหลังหยุดซื้อน้ำมันรัสเซีย รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ โฮวาร์ด ลุตนิคระบุว่า สหรัฐจะ “แก้ปัญหา” ข้อตกลงทางการค้ากับอินเดียหลังประเทศหยุดซื้อน้ำมันรัสเซียและเปิดตลาด ความเห็นของลุตนิคเกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐ โดนัลด์ ทรัมป์และนายกรัฐมนตรีอินเดียนเรนทรา โมดียืนยันว่า สหรัฐและอินเดียยังคงเจรจาทางการค้าและแสดงความมั่นใจว่า การเจรจาจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้ รัสเซียกลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันหลักให้อินเดียตั้งแต่เกิดความรุนแรงจากความขัดแย้งยูเครนในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2022 ที่คิดเป็นเกือบ 40% ของการนำเข้าน้ำมันดิบอินเดีย ในขณะเดียวกัน อินเดียกลายเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ของน้ำมันกลั่นให้ยุโรปตั้งแต่ปี 2023 เมื่อเดือนที่แล้ว สหรัฐกำหนดอัตราภาษี 25% ของการนำเข้าสินค้าอินเดียทั้งหมดต่อการนำเข้าน้ำมันดิบรัสเซียของอินเดีย ถือเป็นส่วนที่เพิ่มจาก 25% หลังอินเดียและสหรัฐไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าในช่วงต้นเดือนสิงหาคมได้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ในการพิจารณาคดีของวุฒิสมาชิก ตัวแทนของทรัมป์หรือทูตอินเดียเซอร์จิโอ กอร์แสดงความรู้สึกแบบเดียวกันในการค้าน้ำมันของอินเดียกับรัสเซีย เขากล่าวขณะที่กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นทางการค้าจะได้รับการแก้ปัญหาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้ว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์มีความชัดเจนในเรื่องนี้ ดังนั้นอินเดียต้องหยุดซื้อน้ำมันจากรัสเซีย” กอร์กล่าวว่า “เรามีมาตรฐานที่แตกต่างสำหรับอินเดีย เราจึงคาดหวังว่าจะได้มากกว่าประเทศอื่น” https://www.rt.com/india/624557-us-will-sort-out-trade/ ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า https://www.facebook.com/profile.php?id=61573193903186
    WWW.RT.COM
    US will ‘sort out’ trade deal with India after it stops buying Russian oil – commerce secretary
    Howard Lutnick has called on New Delhi to open its markets and refrain from importing crude from Russia
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • เปิดด่านมาตรการสุดท้าย ผลประโยชน์บางคน? : [NEWS UPDATE]
    พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เผยถึงการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้สิ่งผิดกฎหมายข้ามไปข้ามมาไม่ได้ เช่น สแกมเมอร์หลอกลวงข้ามไปแล้วมาหลอกคนไทย แรงงานผิดกฎหมายข้ามไปสิ่งไม่ดีก็ตามมา
    มันเป็นผลประโยชน์ของใครบางคน การเปิดด่านจึงควรเป็นมาตรการสุดท้ายของการเจรจา ควรเปิดในช่วงที่เหมาะสม เมื่อผู้นำประเทศเขมรเข้าใจเรา ไม่ดื้อกับเราแล้ว ส่วนคำถามที่ว่าทำไมเราไม่โจมตีกาสิโนแหล่งเงินทุนเขา เราไม่โจมตีพลเรือน เราโจมตีเฉพาะทหาร หากเรายิงพลเรือน สันดานเราก็เหมือนเขมร ปัจจุบันประชาคมโลกก็โจมตีเขา เขาได้รับกรรมแล้ว ใครจะเข้าไปลงทุน ไปเชื่อมสัมพันธ์ ก็ต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะเขาไม่มีจริยธรรม ไม่เคารพกฎกติกาสากล


    แก๊งบัญชีม้าตระเวนกดเงิน

    "ทักษิณ"คิดถึงหลาน

    อย่าสร้างภาระผูกพันงบ

    ออมสินเร่ง Soft Loan
    เปิดด่านมาตรการสุดท้าย ผลประโยชน์บางคน? : [NEWS UPDATE] พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เผยถึงการปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้สิ่งผิดกฎหมายข้ามไปข้ามมาไม่ได้ เช่น สแกมเมอร์หลอกลวงข้ามไปแล้วมาหลอกคนไทย แรงงานผิดกฎหมายข้ามไปสิ่งไม่ดีก็ตามมา มันเป็นผลประโยชน์ของใครบางคน การเปิดด่านจึงควรเป็นมาตรการสุดท้ายของการเจรจา ควรเปิดในช่วงที่เหมาะสม เมื่อผู้นำประเทศเขมรเข้าใจเรา ไม่ดื้อกับเราแล้ว ส่วนคำถามที่ว่าทำไมเราไม่โจมตีกาสิโนแหล่งเงินทุนเขา เราไม่โจมตีพลเรือน เราโจมตีเฉพาะทหาร หากเรายิงพลเรือน สันดานเราก็เหมือนเขมร ปัจจุบันประชาคมโลกก็โจมตีเขา เขาได้รับกรรมแล้ว ใครจะเข้าไปลงทุน ไปเชื่อมสัมพันธ์ ก็ต้องคิดแล้วคิดอีก เพราะเขาไม่มีจริยธรรม ไม่เคารพกฎกติกาสากล แก๊งบัญชีม้าตระเวนกดเงิน "ทักษิณ"คิดถึงหลาน อย่าสร้างภาระผูกพันงบ ออมสินเร่ง Soft Loan
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 311 Views 0 0 Reviews
  • 'ราชทัณฑ์' อัปเดตล่าสุด! 'ทักษิณ' ยังพัก 'แดนพยาบาล'ตามเกณฑ์ผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว เผยมีบ่นคิดถึงหลาน
    https://www.thai-tai.tv/news/21490/
    .
    #ไทยไท #ทักษิณชินวัตร #ราชทัณฑ์ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    'ราชทัณฑ์' อัปเดตล่าสุด! 'ทักษิณ' ยังพัก 'แดนพยาบาล'ตามเกณฑ์ผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว เผยมีบ่นคิดถึงหลาน https://www.thai-tai.tv/news/21490/ . #ไทยไท #ทักษิณชินวัตร #ราชทัณฑ์ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 Comments 0 Shares 57 Views 0 Reviews
  • "เรือนจำ" มิใช่ที่คุมขัง
    แต่เป็นที่ฟื้นสัมพันธ์ในครอบครัว
    พราก17 ปีกลับมาดีกัน
    ช่วยให้เมียคิดถึงผัว
    ช่วยให้ตาคิดถึงหลาน
    #7ดอกจิก
    "เรือนจำ" มิใช่ที่คุมขัง แต่เป็นที่ฟื้นสัมพันธ์ในครอบครัว พราก17 ปีกลับมาดีกัน ช่วยให้เมียคิดถึงผัว ช่วยให้ตาคิดถึงหลาน #7ดอกจิก
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 66 Views 0 Reviews
  • “คิดลบซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น — งานวิจัยจากจีนชี้ชัด ความเครียดทางใจส่งผลต่อความจำและการตัดสินใจในผู้สูงอายุ”

    ในยุคที่ผู้สูงอายุเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและสังคม งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแพทย์จีนแห่งหูเป่ย (Hubei University of Chinese Medicine) ได้เปิดเผยความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่าง “การคิดลบซ้ำ ๆ” หรือ Repetitive Negative Thinking (RNT) กับการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางปัญญาในผู้สูงอายุ

    การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 424 คน อายุ 60 ปีขึ้นไปในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้แบบสอบถาม Perseverative Thinking Questionnaire (PTQ) เพื่อวัดระดับการคิดลบ และใช้แบบทดสอบ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) เพื่อประเมินความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจ

    ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่มีคะแนน RNT สูง (กลุ่ม Q3 และ Q4) มีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะควบคุมปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ การศึกษา และโรคประจำตัวแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ความสัมพันธ์นี้ยิ่งชัดเจน

    นักวิจัยอธิบายว่า การคิดลบซ้ำ ๆ เช่น การกังวลเรื่องอนาคต หรือการครุ่นคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด จะกระตุ้นระบบความเครียดในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์

    นอกจากนี้ยังมีแนวคิด “หนี้สมอง” (Cognitive Debt) ที่อธิบายว่า การใช้ทรัพยากรสมองไปกับความคิดลบอย่างต่อเนื่อง จะลดความสามารถในการจดจำและตัดสินใจในระยะยาว

    ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย
    ศึกษาในผู้สูงอายุ 424 คนในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน
    ใช้แบบสอบถาม PTQ วัดระดับการคิดลบ และ MoCA วัดความสามารถทางสมอง
    ผู้ที่มี RNT สูงมีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำ
    ความสัมพันธ์ชัดเจนในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป

    กลไกที่อธิบายผลกระทบ
    การคิดลบซ้ำ ๆ กระตุ้นระบบความเครียด ทำให้คอร์ติซอลสูงขึ้น
    เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมโปรตีนอะไมลอยด์และเทา
    แนวคิด “หนี้สมอง” อธิบายว่าความคิดลบใช้ทรัพยากรสมองจนหมด
    ส่งผลต่อความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจในระยะยาว

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    งานวิจัยจาก UCL พบว่า RNT เชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะ 4 ปี
    RNT เป็นอาการร่วมในโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคนอนไม่หลับ
    การลด RNT ด้วย CBT, mindfulness และกิจกรรมทางสังคมช่วยป้องกันสมองเสื่อม
    การตรวจสอบ RNT ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุ

    https://bmcpsychiatry.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12888-025-06815-2
    🧠 “คิดลบซ้ำ ๆ อาจทำให้สมองเสื่อมเร็วขึ้น — งานวิจัยจากจีนชี้ชัด ความเครียดทางใจส่งผลต่อความจำและการตัดสินใจในผู้สูงอายุ” ในยุคที่ผู้สูงอายุเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงทั้งทางร่างกายและสังคม งานวิจัยล่าสุดจากมหาวิทยาลัยแพทย์จีนแห่งหูเป่ย (Hubei University of Chinese Medicine) ได้เปิดเผยความเชื่อมโยงที่น่าตกใจระหว่าง “การคิดลบซ้ำ ๆ” หรือ Repetitive Negative Thinking (RNT) กับการเสื่อมถอยของสมรรถภาพทางปัญญาในผู้สูงอายุ การศึกษานี้เก็บข้อมูลจากผู้เข้าร่วม 424 คน อายุ 60 ปีขึ้นไปในเมืองอู่ฮั่น โดยใช้แบบสอบถาม Perseverative Thinking Questionnaire (PTQ) เพื่อวัดระดับการคิดลบ และใช้แบบทดสอบ Montreal Cognitive Assessment (MoCA) เพื่อประเมินความสามารถทางสมอง เช่น ความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจ ผลการวิเคราะห์พบว่า ผู้ที่มีคะแนน RNT สูง (กลุ่ม Q3 และ Q4) มีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำอย่างมีนัยสำคัญ แม้จะควบคุมปัจจัยอื่น ๆ เช่น อายุ รายได้ การศึกษา และโรคประจำตัวแล้วก็ตาม โดยเฉพาะในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้ที่มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ความสัมพันธ์นี้ยิ่งชัดเจน นักวิจัยอธิบายว่า การคิดลบซ้ำ ๆ เช่น การกังวลเรื่องอนาคต หรือการครุ่นคิดถึงอดีตที่เจ็บปวด จะกระตุ้นระบบความเครียดในร่างกาย ทำให้ระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงขึ้น เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมของโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ซึ่งเป็นสัญญาณของโรคอัลไซเมอร์ นอกจากนี้ยังมีแนวคิด “หนี้สมอง” (Cognitive Debt) ที่อธิบายว่า การใช้ทรัพยากรสมองไปกับความคิดลบอย่างต่อเนื่อง จะลดความสามารถในการจดจำและตัดสินใจในระยะยาว ✅ ข้อมูลสำคัญจากงานวิจัย ➡️ ศึกษาในผู้สูงอายุ 424 คนในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ➡️ ใช้แบบสอบถาม PTQ วัดระดับการคิดลบ และ MoCA วัดความสามารถทางสมอง ➡️ ผู้ที่มี RNT สูงมีคะแนน MoCA ต่ำกว่ากลุ่มที่มี RNT ต่ำ ➡️ ความสัมพันธ์ชัดเจนในกลุ่มอายุ 60–79 ปี และผู้มีการศึกษาระดับมัธยมขึ้นไป ✅ กลไกที่อธิบายผลกระทบ ➡️ การคิดลบซ้ำ ๆ กระตุ้นระบบความเครียด ทำให้คอร์ติซอลสูงขึ้น ➡️ เกิดการอักเสบในสมอง และอาจนำไปสู่การสะสมโปรตีนอะไมลอยด์และเทา ➡️ แนวคิด “หนี้สมอง” อธิบายว่าความคิดลบใช้ทรัพยากรสมองจนหมด ➡️ ส่งผลต่อความจำ ความสนใจ และการตัดสินใจในระยะยาว ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ งานวิจัยจาก UCL พบว่า RNT เชื่อมโยงกับการเสื่อมของสมองในระยะ 4 ปี ➡️ RNT เป็นอาการร่วมในโรคซึมเศร้า วิตกกังวล PTSD และโรคนอนไม่หลับ ➡️ การลด RNT ด้วย CBT, mindfulness และกิจกรรมทางสังคมช่วยป้องกันสมองเสื่อม ➡️ การตรวจสอบ RNT ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลสุขภาพจิตผู้สูงอายุ https://bmcpsychiatry.biomedcentral.com/articles/10.1186/s12888-025-06815-2
    0 Comments 0 Shares 152 Views 0 Reviews
  • กู้ศรัทธาประชาธิปัตย์ เหล้าเก่าในขวดเก่า

    เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว สู่รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย จึงไม่แปลกที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะยื่นใบลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) แม้อ้างว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ที่ผ่านมา ปชป. ยุคนายเฉลิมชัยถูกวิจารณ์ว่า จุดยืนทางการเมืองเปลี่ยนไป นับตั้งแต่นายเฉลิมชัยนำ สส. 21 คนเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้งที่สองพรรคนี้ไม่ถูกกันยาวนานกว่า 20 ปี โดยมีข่าวว่านายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ไปดีลกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกงเอาไว้ นับจากนั้นเป็นต้นมาเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างหนัก บรรดาสมาชิกพรรคเก่าแก่หลายคนลาออก

    เมื่อนายเฉลิมชัยลาออกแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ปชป. ชุดใหม่ รายงานข่าวแจ้งว่ามีความพยายามในการดึงแกนนำพรรค ที่เว้นวรรคทางการเมือง หรือลาออกจากพรรคไปแล้ว มาร่วมกลับบ้านเก่า ฟื้นฟูพรรคกันใหม่ เพื่อกู้วิกฤตศรัทธา และเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าที่กำลังจะมาถึง เพราะที่ผ่านมาฐานเสียง ปชป. ในภาคใต้ ถูกเจาะยางจากพรรคคู่แข่งในหลายพื้นที่ เช่น นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค และ สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ภาพคู่กับนายกรณ์ จาติกวณิช ที่โรงแรมอนันตรา พร้อมระบุว่า "คิดถึงเลยเจอกันครับ #ฟ้าวันใหม่สดใสเสมอ"

    หรือจะเป็นการจุดกระแสชูนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมานำพรรคอีกครั้ง หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ตัดสินใจเว้นวรรคทางการเมือง มาตั้งแต่หลังการเลือกตั้งปี 2562 เพราะได้ สส.ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง อีกทั้งมติพรรค ปชป.ขณะนั้นสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ผันตัวไปเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์เคยกล่าวบนเวทีผ่าทางตันประเทศไทย จัดโดยสื่อเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า “คุณไม่ต้องมาชวนผมกลับไปพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าคุณเอาอุดมการณ์กลับมาได้ ผมกลับไปแน่นอน”

    เมื่อวันก่อน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล จัดรายการหัวข้อ "คืน ปชป. ให้นายกฯ อภิสิทธิ์เถอะ" คนดูส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า ปชป. ควรให้นายอภิสิทธิ์กลับมาบริหารพรรค อดีตสมาชิกพรรคบางคน เริ่มคิดอยากฟื้นฟูอุดมการณ์ประชาธิปัตย์กลับคืนมา บางคนตั้งคำถามว่า ที่พรรคอยู่ในจุดตกต่ำเป็นเพราะคน ผู้นำพรรค หรือเป็นเพราะโครงสร้างและอุดมการณ์ของพรรคกันแน่ ถึงกระนั้น ก็มีอีกส่วนหนึ่งก็เห็นว่า หากพรรคยังคงชูแกนนำพรรคชุดเก่าซึ่งมีชนักติดหลัง พรรคก็คงไม่ไปถึงไหน จึงเสนอให้คนรุ่นใหม่ออกมานำพรรค แล้วให้นายอภิสิทธิ์ และแกนนำคนอื่น เป็นที่ปรึกษาก็พอ

    #Newskit

    (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 15 ก.ย.2568)
    กู้ศรัทธาประชาธิปัตย์ เหล้าเก่าในขวดเก่า เมื่อการเมืองเปลี่ยนขั้ว สู่รัฐบาลพรรคภูมิใจไทย จึงไม่แปลกที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะยื่นใบลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (12 ก.ย.) แม้อ้างว่ามีปัญหาเรื่องสุขภาพ แต่ที่ผ่านมา ปชป. ยุคนายเฉลิมชัยถูกวิจารณ์ว่า จุดยืนทางการเมืองเปลี่ยนไป นับตั้งแต่นายเฉลิมชัยนำ สส. 21 คนเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้งที่สองพรรคนี้ไม่ถูกกันยาวนานกว่า 20 ปี โดยมีข่าวว่านายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา ไปดีลกับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกงเอาไว้ นับจากนั้นเป็นต้นมาเกิดวิกฤตศรัทธาอย่างหนัก บรรดาสมาชิกพรรคเก่าแก่หลายคนลาออก เมื่อนายเฉลิมชัยลาออกแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการประชุมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรค ปชป. ชุดใหม่ รายงานข่าวแจ้งว่ามีความพยายามในการดึงแกนนำพรรค ที่เว้นวรรคทางการเมือง หรือลาออกจากพรรคไปแล้ว มาร่วมกลับบ้านเก่า ฟื้นฟูพรรคกันใหม่ เพื่อกู้วิกฤตศรัทธา และเตรียมความพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้าที่กำลังจะมาถึง เพราะที่ผ่านมาฐานเสียง ปชป. ในภาคใต้ ถูกเจาะยางจากพรรคคู่แข่งในหลายพื้นที่ เช่น นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรค และ สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ภาพคู่กับนายกรณ์ จาติกวณิช ที่โรงแรมอนันตรา พร้อมระบุว่า "คิดถึงเลยเจอกันครับ #ฟ้าวันใหม่สดใสเสมอ" หรือจะเป็นการจุดกระแสชูนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมานำพรรคอีกครั้ง หลังจากที่นายอภิสิทธิ์ตัดสินใจเว้นวรรคทางการเมือง มาตั้งแต่หลังการเลือกตั้งปี 2562 เพราะได้ สส.ต่ำกว่า 100 ที่นั่ง อีกทั้งมติพรรค ปชป.ขณะนั้นสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ผันตัวไปเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์เคยกล่าวบนเวทีผ่าทางตันประเทศไทย จัดโดยสื่อเครือเนชั่น เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่า “คุณไม่ต้องมาชวนผมกลับไปพรรคประชาธิปัตย์ ถ้าคุณเอาอุดมการณ์กลับมาได้ ผมกลับไปแน่นอน” เมื่อวันก่อน ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เทวกุล จัดรายการหัวข้อ "คืน ปชป. ให้นายกฯ อภิสิทธิ์เถอะ" คนดูส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า ปชป. ควรให้นายอภิสิทธิ์กลับมาบริหารพรรค อดีตสมาชิกพรรคบางคน เริ่มคิดอยากฟื้นฟูอุดมการณ์ประชาธิปัตย์กลับคืนมา บางคนตั้งคำถามว่า ที่พรรคอยู่ในจุดตกต่ำเป็นเพราะคน ผู้นำพรรค หรือเป็นเพราะโครงสร้างและอุดมการณ์ของพรรคกันแน่ ถึงกระนั้น ก็มีอีกส่วนหนึ่งก็เห็นว่า หากพรรคยังคงชูแกนนำพรรคชุดเก่าซึ่งมีชนักติดหลัง พรรคก็คงไม่ไปถึงไหน จึงเสนอให้คนรุ่นใหม่ออกมานำพรรค แล้วให้นายอภิสิทธิ์ และแกนนำคนอื่น เป็นที่ปรึกษาก็พอ #Newskit (ลงวันที่ล่วงหน้า เพราะจะตีพิมพ์ใน Facebook และ Instagram วันจันทร์ที่ 15 ก.ย.2568)
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 303 Views 0 Reviews
  • คดีแตงโมคืบหน้า 90% พบความน่าสงสัย!? : [THE MESSAGE]

    นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน และ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่แตงโม นำพยานเอกสารเพิ่มซึ่งได้จากศาลจังหวัดนนทบุรี มอบให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนคดีแตงโม โดยนายปานเทพ เผย เอกสารที่นำมามอบให้ อาทิ วัตถุพยานโจทก์-จำเลยอ้างส่ง 14 ชิ้น, หนังสือนำส่งวัตถุพยาน สำเนารายงานผลการตรวจชันสูตรศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยได้คัดมาเกือบทั้งหมดขาดเพียง 3 ชิ้น ด้านคุณแม่แตงโม เผย ยังคิดถึงลูกสาวยังพูดกับน้องทุกวัน เชื่อน้องโดนสะกดวิญญาณอยู่ที่วัดค้างคาว อีกไม่กี่วันจะเป็นวันเกิดของน้องโมจะทำบุญให้ลูก ความหวังของแม่ตอนนี้อยู่ที่พยานเอกสารเหล่านี้ทั้งหมด อยากรู้ว่าใครทำลูกเรา หากทำจริงทำเพราะเหตุผลใด ขณะที่ พ.ต.ต.ณฐพล เผยความคืบหน้าสำนวนการสืบสวนมีถึง 90% ซึ่งได้ส่งภาพถ่ายสำคัญ 4 ภาพ ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบว่าภาพมีการแก้ไขดัดแปลงหรือไม่ สำหรับข้อมูลการกู้โทรศัพท์ของคุณแตงโมได้มาบางส่วนแล้ว แต่ได้ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจซ้ำอีก เตรียมลงพื้นที่อีกครั้งต้นเดือน ต.ค. นี้
    คดีแตงโมคืบหน้า 90% พบความน่าสงสัย!? : [THE MESSAGE] นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน และ นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน คุณแม่แตงโม นำพยานเอกสารเพิ่มซึ่งได้จากศาลจังหวัดนนทบุรี มอบให้ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนคดีแตงโม โดยนายปานเทพ เผย เอกสารที่นำมามอบให้ อาทิ วัตถุพยานโจทก์-จำเลยอ้างส่ง 14 ชิ้น, หนังสือนำส่งวัตถุพยาน สำเนารายงานผลการตรวจชันสูตรศพจากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ โดยได้คัดมาเกือบทั้งหมดขาดเพียง 3 ชิ้น ด้านคุณแม่แตงโม เผย ยังคิดถึงลูกสาวยังพูดกับน้องทุกวัน เชื่อน้องโดนสะกดวิญญาณอยู่ที่วัดค้างคาว อีกไม่กี่วันจะเป็นวันเกิดของน้องโมจะทำบุญให้ลูก ความหวังของแม่ตอนนี้อยู่ที่พยานเอกสารเหล่านี้ทั้งหมด อยากรู้ว่าใครทำลูกเรา หากทำจริงทำเพราะเหตุผลใด ขณะที่ พ.ต.ต.ณฐพล เผยความคืบหน้าสำนวนการสืบสวนมีถึง 90% ซึ่งได้ส่งภาพถ่ายสำคัญ 4 ภาพ ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบว่าภาพมีการแก้ไขดัดแปลงหรือไม่ สำหรับข้อมูลการกู้โทรศัพท์ของคุณแตงโมได้มาบางส่วนแล้ว แต่ได้ส่งให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ตรวจซ้ำอีก เตรียมลงพื้นที่อีกครั้งต้นเดือน ต.ค. นี้
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 412 Views 0 0 Reviews
  • “AI สร้างอดีตที่เราไม่เคยมี — เมื่อความคิดถึงยุค 90 กลายเป็นภาพจำปลอมที่คนรุ่นใหม่หลงรัก”

    ในยุคที่โลกจริงเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความไม่แน่นอน ผู้คนจำนวนมากหันกลับไปหาความทรงจำในอดีตเพื่อปลอบใจตนเอง และตอนนี้ AI ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักในการสร้าง “อดีตจำลอง” ที่ทั้งสวยงามและน่าหลงใหล แม้จะไม่เคยเกิดขึ้นจริงก็ตาม

    บน TikTok และ Instagram มีคลิปวิดีโอจำนวนมากที่จำลองบรรยากาศยุค 80 และ 90 ด้วยภาพที่ดูเหมือนหลุดมาจากเทป VHS หรือโฆษณาเก่า — แต่ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วย AI เช่น Midjourney, DaVinci Resolve และ Photoshop โดยผู้สร้างเนื้อหาชื่อดังอย่าง Nostalgia Cat, Purest Nostalgia และ Maximal Nostalgia

    คลิปเหล่านี้มักมีตัวละครวัยรุ่นที่พูดประโยคชวนฝัน เช่น “ไม่มีแชต ไม่มี DM มีแต่เรื่องราวรอบกองไฟจนเช้า” ทั้งที่ยุค 2000 ก็มีมือถือแล้วก็ตาม ความย้อนแยงนี้ไม่ได้ทำให้ผู้ชมรู้สึกแปลก — กลับยิ่งเพิ่มความรู้สึก “คิดถึง” ที่ไม่ต้องอิงความจริง

    ผู้สร้างเนื้อหาอย่าง Josh Crowe และ Tavaius Dawson ยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจให้เนื้อหาถูกต้องทางประวัติศาสตร์ แต่เน้น “ความรู้สึกดี” และ “พื้นที่ปลอดภัย” สำหรับผู้ชม โดยมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นหลักแสนต่อเดือน และบางคลิปมียอดวิวถึง 27 ล้านครั้ง

    นักวิจารณ์วัฒนธรรมบางคน เช่น Christine Rosen เตือนว่า การจมอยู่กับภาพจำปลอมอาจทำให้เรายิ่งห่างจากความจริง และความรู้สึกคิดถึงนั้นอาจไม่ได้ช่วยเยียวยา แต่กลับทำให้รู้สึกแย่ลงเมื่อกลับสู่โลกจริง

    การสร้างเนื้อหาแนวย้อนยุคด้วย AI
    ใช้เครื่องมืออย่าง Midjourney, DaVinci Resolve และ Photoshop
    สร้างภาพจำยุค 80–90 ด้วยเทคนิค VHS, Polaroid และ 35mm film
    ตัวละครในคลิปเป็น AI ทั้งหมด รวมถึงบทพูดและฉาก
    เน้นความรู้สึก “คิดถึง” มากกว่าความถูกต้องทางประวัติศาสตร์

    ผู้สร้างเนื้อหาและกระแสตอบรับ
    Nostalgia Cat, Purest Nostalgia และ Maximal Nostalgia มีผู้ติดตามหลักแสน
    Josh Crowe ใช้ภาพจริงผสมกับ prompt engineering เพื่อสร้างฉาก
    Tavaius Dawson เขียนสคริปต์และ storyboard สำหรับแต่ละคลิป
    ผู้ชมจากทั่วโลก เช่น ยูเครนและอิสราเอล ส่งข้อความขอบคุณที่ช่วยเยียวยาจิตใจ

    ความรู้สึกคิดถึงในยุคดิจิทัล
    คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้นกลับรู้สึกผูกพันกับภาพจำที่สร้างขึ้น
    นักวิจัยเช่น Clay Routledge พบว่าเยาวชนมีแนวโน้ม “คิดถึงอดีต” มากขึ้น
    AI กลายเป็นเครื่องมือสร้าง “ความทรงจำจำลอง” ที่มีพลังทางอารมณ์
    ความนิยมของเนื้อหาแนวย้อนยุคเพิ่มขึ้นในช่วงที่โลกจริงเต็มไปด้วยความเครียด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Vanilla Ice แสดงความคิดเห็นว่า “คอมพิวเตอร์ทำลายโลก” ในคลิป AI ย้อนยุค
    นักพัฒนาเว็บอย่าง Scott Anderson พบว่าตนเองดูคลิป AI โดยไม่รู้ตัว
    Christine Rosen เตือนว่า “ความคิดถึงที่สร้างด้วย AI อาจทำให้เรารู้สึกแย่ลง”
    ความนิยมของคลิปแนวย้อนยุคสะท้อนความต้องการ “ความมั่นคงทางอารมณ์”

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/11/remember-when-things-were-better-in-the-90s-ai-does-too
    📼 “AI สร้างอดีตที่เราไม่เคยมี — เมื่อความคิดถึงยุค 90 กลายเป็นภาพจำปลอมที่คนรุ่นใหม่หลงรัก” ในยุคที่โลกจริงเต็มไปด้วยความวุ่นวายและความไม่แน่นอน ผู้คนจำนวนมากหันกลับไปหาความทรงจำในอดีตเพื่อปลอบใจตนเอง และตอนนี้ AI ได้กลายเป็นเครื่องมือหลักในการสร้าง “อดีตจำลอง” ที่ทั้งสวยงามและน่าหลงใหล แม้จะไม่เคยเกิดขึ้นจริงก็ตาม บน TikTok และ Instagram มีคลิปวิดีโอจำนวนมากที่จำลองบรรยากาศยุค 80 และ 90 ด้วยภาพที่ดูเหมือนหลุดมาจากเทป VHS หรือโฆษณาเก่า — แต่ทั้งหมดถูกสร้างขึ้นด้วย AI เช่น Midjourney, DaVinci Resolve และ Photoshop โดยผู้สร้างเนื้อหาชื่อดังอย่าง Nostalgia Cat, Purest Nostalgia และ Maximal Nostalgia คลิปเหล่านี้มักมีตัวละครวัยรุ่นที่พูดประโยคชวนฝัน เช่น “ไม่มีแชต ไม่มี DM มีแต่เรื่องราวรอบกองไฟจนเช้า” ทั้งที่ยุค 2000 ก็มีมือถือแล้วก็ตาม ความย้อนแยงนี้ไม่ได้ทำให้ผู้ชมรู้สึกแปลก — กลับยิ่งเพิ่มความรู้สึก “คิดถึง” ที่ไม่ต้องอิงความจริง ผู้สร้างเนื้อหาอย่าง Josh Crowe และ Tavaius Dawson ยอมรับว่าไม่ได้ตั้งใจให้เนื้อหาถูกต้องทางประวัติศาสตร์ แต่เน้น “ความรู้สึกดี” และ “พื้นที่ปลอดภัย” สำหรับผู้ชม โดยมีผู้ติดตามเพิ่มขึ้นหลักแสนต่อเดือน และบางคลิปมียอดวิวถึง 27 ล้านครั้ง นักวิจารณ์วัฒนธรรมบางคน เช่น Christine Rosen เตือนว่า การจมอยู่กับภาพจำปลอมอาจทำให้เรายิ่งห่างจากความจริง และความรู้สึกคิดถึงนั้นอาจไม่ได้ช่วยเยียวยา แต่กลับทำให้รู้สึกแย่ลงเมื่อกลับสู่โลกจริง ✅ การสร้างเนื้อหาแนวย้อนยุคด้วย AI ➡️ ใช้เครื่องมืออย่าง Midjourney, DaVinci Resolve และ Photoshop ➡️ สร้างภาพจำยุค 80–90 ด้วยเทคนิค VHS, Polaroid และ 35mm film ➡️ ตัวละครในคลิปเป็น AI ทั้งหมด รวมถึงบทพูดและฉาก ➡️ เน้นความรู้สึก “คิดถึง” มากกว่าความถูกต้องทางประวัติศาสตร์ ✅ ผู้สร้างเนื้อหาและกระแสตอบรับ ➡️ Nostalgia Cat, Purest Nostalgia และ Maximal Nostalgia มีผู้ติดตามหลักแสน ➡️ Josh Crowe ใช้ภาพจริงผสมกับ prompt engineering เพื่อสร้างฉาก ➡️ Tavaius Dawson เขียนสคริปต์และ storyboard สำหรับแต่ละคลิป ➡️ ผู้ชมจากทั่วโลก เช่น ยูเครนและอิสราเอล ส่งข้อความขอบคุณที่ช่วยเยียวยาจิตใจ ✅ ความรู้สึกคิดถึงในยุคดิจิทัล ➡️ คนรุ่นใหม่ที่ไม่เคยอยู่ในยุคนั้นกลับรู้สึกผูกพันกับภาพจำที่สร้างขึ้น ➡️ นักวิจัยเช่น Clay Routledge พบว่าเยาวชนมีแนวโน้ม “คิดถึงอดีต” มากขึ้น ➡️ AI กลายเป็นเครื่องมือสร้าง “ความทรงจำจำลอง” ที่มีพลังทางอารมณ์ ➡️ ความนิยมของเนื้อหาแนวย้อนยุคเพิ่มขึ้นในช่วงที่โลกจริงเต็มไปด้วยความเครียด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Vanilla Ice แสดงความคิดเห็นว่า “คอมพิวเตอร์ทำลายโลก” ในคลิป AI ย้อนยุค ➡️ นักพัฒนาเว็บอย่าง Scott Anderson พบว่าตนเองดูคลิป AI โดยไม่รู้ตัว ➡️ Christine Rosen เตือนว่า “ความคิดถึงที่สร้างด้วย AI อาจทำให้เรารู้สึกแย่ลง” ➡️ ความนิยมของคลิปแนวย้อนยุคสะท้อนความต้องการ “ความมั่นคงทางอารมณ์” https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/11/remember-when-things-were-better-in-the-90s-ai-does-too
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Remember when things were better in the '90s? AI does, too
    Dubious videos about the glory of bygone eras are creating nostalgia for those too young to fact check them.
    0 Comments 0 Shares 216 Views 0 Reviews
  • “AI Data Center: เบื้องหลังเทคโนโลยีล้ำยุคที่อาจกลายเป็นจุดอ่อนด้านความมั่นคงไซเบอร์ระดับโลก”

    ลองนึกภาพว่าคุณกำลังพัฒนาโมเดล AI ที่ซับซ้อนระดับ GPT-5 หรือระบบวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ที่ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล คุณอาจคิดถึง GPU, TPU หรือคลาวด์ที่เร็วแรง แต่สิ่งที่คุณอาจมองข้ามคือ “AI Data Center” ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด — และนั่นคือจุดที่ภัยคุกคามไซเบอร์กำลังพุ่งเป้าเข้าใส่

    ในปี 2025 การลงทุนใน AI Data Center พุ่งสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น Amazon ทุ่มเงินกว่า $20 พันล้านในเพนซิลเวเนีย และ Meta เตรียมเปิดศูนย์ Prometheus ขนาดหลายกิกะวัตต์ในปี 2026 ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ออกแผน AI Action Plan เพื่อเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

    แต่เบื้องหลังความก้าวหน้าเหล่านี้คือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทั้งด้านพลังงาน (คาดว่าใช้ไฟฟ้ากว่า 612 เทราวัตต์ชั่วโมงใน 5 ปี) และด้านความปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะการโจมตีแบบ side-channel, memory-level, model exfiltration และ supply chain sabotage ที่กำลังกลายเป็นเรื่องจริง

    AI Data Center ไม่ได้แค่เก็บข้อมูล แต่ยังเป็นที่อยู่ของโมเดล, น้ำหนักการเรียนรู้, และชุดข้อมูลฝึก ซึ่งหากถูกขโมยหรือถูกแก้ไข อาจส่งผลต่อความแม่นยำ ความน่าเชื่อถือ และแม้แต่ความมั่นคงของประเทศ

    การเติบโตของ AI Data Center
    Amazon ลงทุน $20 พันล้านในเพนซิลเวเนีย
    Meta เตรียมเปิดศูนย์ Prometheus ขนาดหลายกิกะวัตต์ในปี 2026
    รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนผ่าน AI Action Plan โดยประธานาธิบดีทรัมป์
    ความต้องการพลังงานสูงถึง 612 เทราวัตต์ชั่วโมงใน 5 ปี
    คาดว่าจะเพิ่มการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก 3–4%

    ความเสี่ยงด้านไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น
    โจมตีแบบ DDoS, ransomware, supply chain และ social engineering
    side-channel attack จากฮาร์ดแวร์ เช่น CPU, GPU, TPU
    ตัวอย่าง: AMD พบช่องโหว่ 4 จุดในเดือนกรกฎาคม 2025
    TPUXtract โจมตี TPU โดยเจาะข้อมูลโมเดล AI โดยตรง
    GPU เสี่ยงต่อ memory-level attack และ malware ที่รันในหน่วยความจำ GPU
    ความเสี่ยงจาก model exfiltration, data poisoning, model inversion และ model stealing

    ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และ supply chain
    การโจมตีจากรัฐต่างชาติ เช่น การแทรกซึมจากจีนผ่าน Digital Silk Road 2.0
    การใช้เทคโนโลยี 5G และระบบเฝ้าระวังในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย
    ความเสี่ยงจากการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตโดยบริษัทจีน
    การโจมตี supply chain ก่อนศูนย์จะเปิดใช้งานจริง

    แนวทางที่ผู้บริหารด้านความปลอดภัยควรพิจารณา
    ตรวจสอบนโยบายของผู้ให้บริการ AI Data Center อย่างละเอียด
    ใช้ Faraday cage หรือ shield chamber เพื่อลด side-channel attack
    ทำ AI audit อย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจหาช่องโหว่และ backdoor
    ตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งของศูนย์และแหล่งที่มาของอุปกรณ์
    คัดกรองบุคลากรเพื่อป้องกันการแทรกซึมจากรัฐต่างชาติ

    https://www.csoonline.com/article/4051849/the-importance-of-reviewing-ai-data-centers-policies.html
    🏭 “AI Data Center: เบื้องหลังเทคโนโลยีล้ำยุคที่อาจกลายเป็นจุดอ่อนด้านความมั่นคงไซเบอร์ระดับโลก” ลองนึกภาพว่าคุณกำลังพัฒนาโมเดล AI ที่ซับซ้อนระดับ GPT-5 หรือระบบวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ที่ต้องใช้พลังประมวลผลมหาศาล คุณอาจคิดถึง GPU, TPU หรือคลาวด์ที่เร็วแรง แต่สิ่งที่คุณอาจมองข้ามคือ “AI Data Center” ที่อยู่เบื้องหลังทั้งหมด — และนั่นคือจุดที่ภัยคุกคามไซเบอร์กำลังพุ่งเป้าเข้าใส่ ในปี 2025 การลงทุนใน AI Data Center พุ่งสูงอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่น Amazon ทุ่มเงินกว่า $20 พันล้านในเพนซิลเวเนีย และ Meta เตรียมเปิดศูนย์ Prometheus ขนาดหลายกิกะวัตต์ในปี 2026 ขณะเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯ โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ได้ออกแผน AI Action Plan เพื่อเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน AI ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แต่เบื้องหลังความก้าวหน้าเหล่านี้คือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ทั้งด้านพลังงาน (คาดว่าใช้ไฟฟ้ากว่า 612 เทราวัตต์ชั่วโมงใน 5 ปี) และด้านความปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะการโจมตีแบบ side-channel, memory-level, model exfiltration และ supply chain sabotage ที่กำลังกลายเป็นเรื่องจริง AI Data Center ไม่ได้แค่เก็บข้อมูล แต่ยังเป็นที่อยู่ของโมเดล, น้ำหนักการเรียนรู้, และชุดข้อมูลฝึก ซึ่งหากถูกขโมยหรือถูกแก้ไข อาจส่งผลต่อความแม่นยำ ความน่าเชื่อถือ และแม้แต่ความมั่นคงของประเทศ ✅ การเติบโตของ AI Data Center ➡️ Amazon ลงทุน $20 พันล้านในเพนซิลเวเนีย ➡️ Meta เตรียมเปิดศูนย์ Prometheus ขนาดหลายกิกะวัตต์ในปี 2026 ➡️ รัฐบาลสหรัฐฯ สนับสนุนผ่าน AI Action Plan โดยประธานาธิบดีทรัมป์ ➡️ ความต้องการพลังงานสูงถึง 612 เทราวัตต์ชั่วโมงใน 5 ปี ➡️ คาดว่าจะเพิ่มการปล่อยคาร์บอนทั่วโลก 3–4% ✅ ความเสี่ยงด้านไซเบอร์ที่เพิ่มขึ้น ➡️ โจมตีแบบ DDoS, ransomware, supply chain และ social engineering ➡️ side-channel attack จากฮาร์ดแวร์ เช่น CPU, GPU, TPU ➡️ ตัวอย่าง: AMD พบช่องโหว่ 4 จุดในเดือนกรกฎาคม 2025 ➡️ TPUXtract โจมตี TPU โดยเจาะข้อมูลโมเดล AI โดยตรง ➡️ GPU เสี่ยงต่อ memory-level attack และ malware ที่รันในหน่วยความจำ GPU ➡️ ความเสี่ยงจาก model exfiltration, data poisoning, model inversion และ model stealing ✅ ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และ supply chain ➡️ การโจมตีจากรัฐต่างชาติ เช่น การแทรกซึมจากจีนผ่าน Digital Silk Road 2.0 ➡️ การใช้เทคโนโลยี 5G และระบบเฝ้าระวังในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซีย ➡️ ความเสี่ยงจากการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตโดยบริษัทจีน ➡️ การโจมตี supply chain ก่อนศูนย์จะเปิดใช้งานจริง ✅ แนวทางที่ผู้บริหารด้านความปลอดภัยควรพิจารณา ➡️ ตรวจสอบนโยบายของผู้ให้บริการ AI Data Center อย่างละเอียด ➡️ ใช้ Faraday cage หรือ shield chamber เพื่อลด side-channel attack ➡️ ทำ AI audit อย่างต่อเนื่องเพื่อตรวจหาช่องโหว่และ backdoor ➡️ ตรวจสอบตำแหน่งที่ตั้งของศูนย์และแหล่งที่มาของอุปกรณ์ ➡️ คัดกรองบุคลากรเพื่อป้องกันการแทรกซึมจากรัฐต่างชาติ https://www.csoonline.com/article/4051849/the-importance-of-reviewing-ai-data-centers-policies.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    The importance of reviewing AI data centers’ policies
    As the race to invest in AI tools, technologies and capabilities continues, it is critical for cybersecurity leaders to not only look at whether the AI-embedded software is secure but also to scrutinize whether the AI data centers are secure as well.
    0 Comments 0 Shares 203 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจาก dopamine hit ถึง debugging: เมื่อคนเขียนโค้ดรุ่นเก๋าใช้ AI อย่างมีชั้นเชิง

    จากผลสำรวจของ Fastly ที่เผยแพร่ผ่าน TechRadar และ The Register พบว่า นักพัฒนาอาวุโส (มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี) ใช้เครื่องมือสร้างโค้ดด้วย AI เช่น Copilot, Claude, Gemini มากกว่านักพัฒนารุ่นใหม่ถึง 2.5 เท่า โดยประมาณหนึ่งในสามของนักพัฒนาอาวุโสระบุว่า “มากกว่าครึ่ง” ของโค้ดที่พวกเขาส่งขึ้น production มาจาก AI

    แต่การใช้ AI ไม่ได้หมายถึงการพึ่งพาแบบไร้การตรวจสอบ—นักพัฒนาอาวุโสกลับใช้เวลา “มากขึ้น” ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่เกิดจาก AI และแก้ไขให้เหมาะสมกับบริบทของระบบจริง โดยเฉพาะในงานที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีผลกระทบต่อธุรกิจ

    Austin Spires จาก Fastly อธิบายว่า นักพัฒนาอาวุโสไม่ได้เขียนโค้ดทั้งวัน แต่ต้องดูแล testing, architecture และ mentoring ด้วย การใช้ AI เพื่อสร้าง prototype อย่างรวดเร็วจึงช่วยให้พวกเขา “ได้ความรู้สึกสนุกแบบเดิมกลับมา”—คล้ายกับ dopamine hit ที่เคยได้จากการเขียนโค้ดด้วยมือในยุคแรก

    ในทางกลับกัน นักพัฒนารุ่นใหม่ (ประสบการณ์ต่ำกว่า 2 ปี) กลับใช้ AI น้อยกว่า และมักเลือกเขียนโค้ดด้วยมือ เพราะรู้สึกว่า AI ยังไม่เข้าใจบริบทหรือเจตนาของโค้ดที่ต้องการได้ดีพอ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในฝีมือและความต้องการเรียนรู้เชิงลึก

    ที่น่าสนใจคือ นักพัฒนาอาวุโสยังให้ความสำคัญกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโค้ดที่เขียน—กว่า 80% ระบุว่าพวกเขาคำนึงถึงพลังงานที่ใช้ในการรันโค้ด ขณะที่นักพัฒนารุ่นใหม่มีเพียงครึ่งเดียวที่คิดถึงเรื่องนี้ และเกือบ 10% ยอมรับว่า “ไม่รู้เลยว่าระบบใช้พลังงานเท่าไหร่”

    การใช้งาน AI coding tools ในกลุ่มนักพัฒนาอาวุโส
    32% ของนักพัฒนาอาวุโสใช้ AI สร้างโค้ดมากกว่าครึ่งของงานที่ deploy
    ใช้ AI เพื่อสร้าง prototype และเร่งงานที่ไม่ต้องการความละเอียดสูง
    ใช้เวลาเพิ่มในการตรวจสอบข้อผิดพลาดจาก AI เพื่อความมั่นใจ

    พฤติกรรมของนักพัฒนารุ่นใหม่
    มีเพียง 13% ที่ใช้ AI coding tools ในระดับเดียวกัน
    มักเลือกเขียนโค้ดด้วยมือเพื่อความเข้าใจและควบคุมที่มากกว่า
    มองว่า AI ยังไม่สามารถเข้าใจเจตนาของโค้ดได้ดีพอ

    ความรู้สึกและแรงจูงใจ
    นักพัฒนาอาวุโสรู้สึกว่า AI coding ให้ dopamine hit คล้ายกับการเขียนโค้ดยุคแรก
    นักพัฒนารุ่นใหม่ยังให้คุณค่ากับ “craftsmanship” ของการเขียนโค้ดด้วยมือ
    ทั้งสองกลุ่มมากกว่า 70% เห็นว่า AI ทำให้การทำงานสนุกขึ้น

    ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม
    80% ของนักพัฒนาอาวุโสคำนึงถึงพลังงานที่ใช้ในการรันโค้ด
    นักพัฒนารุ่นใหม่มีเพียงครึ่งเดียวที่คิดถึงเรื่องนี้
    เกือบ 10% ยอมรับว่าไม่รู้ว่าระบบใช้พลังงานเท่าไหร่

    https://www.techradar.com/pro/they-dont-make-em-like-they-used-to-older-coders-are-more-in-tune-with-vibe-coding-study-claims
    🎙️ เรื่องเล่าจาก dopamine hit ถึง debugging: เมื่อคนเขียนโค้ดรุ่นเก๋าใช้ AI อย่างมีชั้นเชิง จากผลสำรวจของ Fastly ที่เผยแพร่ผ่าน TechRadar และ The Register พบว่า นักพัฒนาอาวุโส (มีประสบการณ์มากกว่า 10 ปี) ใช้เครื่องมือสร้างโค้ดด้วย AI เช่น Copilot, Claude, Gemini มากกว่านักพัฒนารุ่นใหม่ถึง 2.5 เท่า โดยประมาณหนึ่งในสามของนักพัฒนาอาวุโสระบุว่า “มากกว่าครึ่ง” ของโค้ดที่พวกเขาส่งขึ้น production มาจาก AI แต่การใช้ AI ไม่ได้หมายถึงการพึ่งพาแบบไร้การตรวจสอบ—นักพัฒนาอาวุโสกลับใช้เวลา “มากขึ้น” ในการตรวจสอบข้อผิดพลาดที่เกิดจาก AI และแก้ไขให้เหมาะสมกับบริบทของระบบจริง โดยเฉพาะในงานที่มีความเสี่ยงสูงหรือมีผลกระทบต่อธุรกิจ Austin Spires จาก Fastly อธิบายว่า นักพัฒนาอาวุโสไม่ได้เขียนโค้ดทั้งวัน แต่ต้องดูแล testing, architecture และ mentoring ด้วย การใช้ AI เพื่อสร้าง prototype อย่างรวดเร็วจึงช่วยให้พวกเขา “ได้ความรู้สึกสนุกแบบเดิมกลับมา”—คล้ายกับ dopamine hit ที่เคยได้จากการเขียนโค้ดด้วยมือในยุคแรก ในทางกลับกัน นักพัฒนารุ่นใหม่ (ประสบการณ์ต่ำกว่า 2 ปี) กลับใช้ AI น้อยกว่า และมักเลือกเขียนโค้ดด้วยมือ เพราะรู้สึกว่า AI ยังไม่เข้าใจบริบทหรือเจตนาของโค้ดที่ต้องการได้ดีพอ ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในฝีมือและความต้องการเรียนรู้เชิงลึก ที่น่าสนใจคือ นักพัฒนาอาวุโสยังให้ความสำคัญกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของโค้ดที่เขียน—กว่า 80% ระบุว่าพวกเขาคำนึงถึงพลังงานที่ใช้ในการรันโค้ด ขณะที่นักพัฒนารุ่นใหม่มีเพียงครึ่งเดียวที่คิดถึงเรื่องนี้ และเกือบ 10% ยอมรับว่า “ไม่รู้เลยว่าระบบใช้พลังงานเท่าไหร่” ✅ การใช้งาน AI coding tools ในกลุ่มนักพัฒนาอาวุโส ➡️ 32% ของนักพัฒนาอาวุโสใช้ AI สร้างโค้ดมากกว่าครึ่งของงานที่ deploy ➡️ ใช้ AI เพื่อสร้าง prototype และเร่งงานที่ไม่ต้องการความละเอียดสูง ➡️ ใช้เวลาเพิ่มในการตรวจสอบข้อผิดพลาดจาก AI เพื่อความมั่นใจ ✅ พฤติกรรมของนักพัฒนารุ่นใหม่ ➡️ มีเพียง 13% ที่ใช้ AI coding tools ในระดับเดียวกัน ➡️ มักเลือกเขียนโค้ดด้วยมือเพื่อความเข้าใจและควบคุมที่มากกว่า ➡️ มองว่า AI ยังไม่สามารถเข้าใจเจตนาของโค้ดได้ดีพอ ✅ ความรู้สึกและแรงจูงใจ ➡️ นักพัฒนาอาวุโสรู้สึกว่า AI coding ให้ dopamine hit คล้ายกับการเขียนโค้ดยุคแรก ➡️ นักพัฒนารุ่นใหม่ยังให้คุณค่ากับ “craftsmanship” ของการเขียนโค้ดด้วยมือ ➡️ ทั้งสองกลุ่มมากกว่า 70% เห็นว่า AI ทำให้การทำงานสนุกขึ้น ✅ ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม ➡️ 80% ของนักพัฒนาอาวุโสคำนึงถึงพลังงานที่ใช้ในการรันโค้ด ➡️ นักพัฒนารุ่นใหม่มีเพียงครึ่งเดียวที่คิดถึงเรื่องนี้ ➡️ เกือบ 10% ยอมรับว่าไม่รู้ว่าระบบใช้พลังงานเท่าไหร่ https://www.techradar.com/pro/they-dont-make-em-like-they-used-to-older-coders-are-more-in-tune-with-vibe-coding-study-claims
    0 Comments 0 Shares 203 Views 0 Reviews
  • Yesterday Once More: เสียงเพลงที่พาย้อนเวลา

    ย้อนกลับไปในวัยเด็กของผม ช่วงเวลาที่บ้านเต็มไปด้วยเสียงดนตรีจากชุดเครื่องเสียงสุดหรูของพ่อ เขามักจะเปิดเพลงเพื่อโชว์ลำโพงที่ให้เสียงใสกิ๊งราวกับคริสตัล แม้ว่าตอนนั้นจะเล่นจากเทปคาสเซ็ทเก่าๆ แต่สุนทรียภาพของดนตรีที่ไหลออกมานั้นไม่ได้ต่างอะไรจากการเล่นแผ่นเสียงไวนิลหรือซีดีสมัยนี้เลยครับ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่นและความทรงจำดีๆ โดยเฉพาะเพลงหนึ่งที่พ่อชอบเปิดบ่อยๆ นั่นคือ "Yesterday Once More" ของ The Carpenters เพลงนี้ไม่ใช่แค่เสียงเพลงธรรมดา แต่เป็นเหมือนประตูเวลาที่พาผมย้อนกลับไปหาช่วงเวลาที่เรียบง่ายและเต็มไปด้วยความสุข

    วง The Carpenters เกิดจากสองพี่น้องคู่บุญอย่าง Karen และ Richard Carpenter ที่เติบโตมาในเมือง New Haven รัฐ Connecticut สหรัฐอเมริกา ก่อนจะย้ายมาอยู่ Downey ใน California เมื่อปี 1963 เพื่อไล่ตามความฝันทางดนตรี Richard ผู้พี่ชายเกิดปี 1946 เป็นนักเปียโนตัวฉกาจและชอบจัดเรียงเสียงประสาน เขาเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่เด็กและต่อมาเข้าเรียนที่ California State University, Long Beach ส่วน Karen น้องสาวเกิดปี 1950 เดิมทีเล่นกลองก่อนจะค้นพบพรสวรรค์ในเสียงร้องคอนทราลโตที่อบอุ่นและนุ่มนวลราวกับกำมะหยี่ พวกเขาเริ่มเล่นดนตรีด้วยกันตั้งแต่ปี 1965 ในรูปแบบวงแจ๊สชื่อ Richard Carpenter Trio ร่วมกับเพื่อน Wesley Jacobs จากนั้นพัฒนามาเป็นวง Spectrum ที่เล่นเพลงแนว middle-of-the-road แต่ยังไม่ดังเปรี้ยง จนกระทั่งปี 1969 พวกเขาตัดสินใจเป็นดูโอ้อย่างเป็นทางการและเซ็นสัญญากับค่าย A&M Records โดยใช้ชื่อ "Carpenters" แบบไม่มี "The" นำหน้า เพื่อให้ดูทันสมัยเหมือนวงร็อกดังๆ อย่าง Buffalo Springfield หรือ Jefferson Airplane

    จากจุดเริ่มต้นที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก The Carpenters ค่อยๆ สร้างชื่อเสียงด้วยสไตล์ซอฟต์ร็อกที่ผสมผสานฮาร์โมนีใกล้ชิดและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Karen เพลงฮิตแรกๆ อย่าง "(They Long to Be) Close to You" และ "We've Only Just Begun" ในปี 1970 ทำให้พวกเขาพุ่งขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเพลงดังอีกเพียบ เช่น "Superstar", "Rainy Days and Mondays" และ "Top of the World" ที่ทำให้พวกเขาได้รับรางวัล Grammy ถึง 3 ตัว รวมถึง Best New Artist และ Best Contemporary Performance by a Duo, Group or Chorus ตลอดช่วงทศวรรษ 1970 พวกเขาออกอัลบั้มถึง 10 ชุด โดยแต่ละชุดขายได้มากกว่า 1 ล้านแผ่น โดยเฉพาะอัลบั้มรวบฮิต "The Singles: 1969-1973" ที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Top 200 พวกเขาทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก ออกทีวีสเปเชียล และกลายเป็นศิลปินขายดีที่สุดในแนว easy listening และ adult contemporary ด้วยยอดขายแผ่นเสียงรวมกว่า 100 ล้านแผ่นทั่วโลก ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายดีที่สุดตลอดกาล

    แต่เพลงที่ทำให้ผมหลงรักวงนี้อย่างหัวปักหัวปำคือ "Yesterday Once More" ที่ออกมาในปี 1973 จากอัลบั้ม "Now & Then" เพลงนี้เขียนโดย Richard ร่วมกับ John Bettis เพื่อเล่าเรื่องความคิดถึงเพลงเก่าๆ ที่เคยฟังในวัยเยาว์ เหมือนกับที่ผมฟังจากเครื่องเสียงของพ่อ มันเริ่มต้นด้วยเสียงเปียโนนุ่มๆ ตามด้วยเสียงร้องของ Karen ที่ชวนให้หวนนึกถึงวันเก่าๆ และยังมีเซกเวย์เชื่อมไปยังเมดเลย์เพลงคลาสสิกยุค 60s ที่ทำเหมือนรายการวิทยุเก่าๆ บนข้าง B ของอัลบั้ม เพลงนี้ถูกบันทึกที่ A&M Studios ใน Los Angeles และปล่อยซิงเกิลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1973 ด้วยความยาว 3:56 นาที มันเดบิวต์บนชาร์ต Cash Box ที่อันดับ 71 ก่อนพุ่งขึ้นสู่อันดับ 1 ในเดือนสิงหาคม และติดอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 (ถูก "Bad, Bad Leroy Brown" ของ Jim Croce เบียดตก) แต่ครองอันดับ 1 บน Adult Contemporary Chart ซึ่งเป็นเพลงที่ 8 ของพวกเขาที่ทำได้ในรอบ 4 ปี

    ความดังของ "Yesterday Once More" ไม่ได้จำกัดแค่ในอเมริกา มันขึ้นอันดับ 2 ใน UK ซึ่งเป็นซิงเกิลขายดีที่สุดของพวกเขาในเกาะอังกฤษ ขายได้กว่า 250,000 แผ่น และได้รับการรับรอง Silver จาก BPI ในญี่ปุ่นเพลงนี้ฮิตระเบิด ขายได้กว่า 600,000 แผ่นภายในกลางปี 1974 และกลายเป็นเพลงที่ขายดีที่สุดของ The Carpenters ในประเทศนั้น ตามด้วยอันดับ 1 ในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และแคนาดา รวมถึงอันดับสูงๆ ในออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ และนิวซีแลนด์ มันได้รับการรับรอง Gold จาก RIAA ในอเมริกาด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านแผ่น Richard เองเคยบอกในสารคดีญี่ปุ่นว่านี่คือเพลงโปรดที่เขาแต่ง และเขายังเล่นเวอร์ชันบรรเลงในคอนเสิร์ตหลายครั้ง เพลงนี้ถูกคัฟเวอร์โดยศิลปินมากมาย เช่น วง Candies ในญี่ปุ่นปี 1974, Redd Kross ในเวอร์ชันร็อก และ Priscilla Chan ในคอนเสิร์ต farewell ปี 1989 มันยังถูกใช้ในสื่อต่างๆ เพื่อถ่ายทอดความคิดถึง เช่น ในภาพยนตร์หรือโฆษณาที่ชวนนึกถึงอดีต

    แม้ The Carpenters จะดังเปรี้ยงปร้าง แต่ชีวิตของพวกเขาก็มีด้านมืด Richard เคยติด Quaalude ในช่วงปลาย 1970s จนต้องหยุดทัวร์และเข้ารับการบำบัด ส่วน Karen ต่อสู้กับโรค anorexia nervosa ที่ทำให้เธอผอมแห้งและสุขภาพทรุดโทรม จนเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1983 ขณะอายุเพียง 32 ปี เหตุการณ์นี้ทำให้โลกช็อกและจุดประกายให้คนหันมาสนใจโรคการกินผิดปกติมากขึ้น หลังจากนั้น Richard ยังคงทำงานเดี่ยวและออกอัลบั้ม posthumous เช่น "Voice of the Heart" ในปี 1983 แต่ไม่มีอะไรแทนที่เสียงร้องของ Karen ได้ มรดกของ The Carpenters ยังคงอยู่ พวกเขาอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังอย่าง Michael Jackson, Scott Weiland และศิลปินญี่ปุ่นหลายคน Rolling Stone จัดให้พวกเขาเป็นหนึ่งใน 20 Greatest Duos of All Time และ Karen เป็นหนึ่งในนักร้องหญิงยอดเยี่ยม เพลงของพวกเขามักถูกใช้ในงานแต่งงานหรือเพลงประกอบชีวิต เพราะความงดงามและความโรแมนติกที่เหนือกาลเวลา

    ทุกครั้งที่ผมได้ยิน "Yesterday Once More" มันไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นเรื่องราวของความทรงจำ ของพี่น้องคู่นี้ที่สร้างเสียงเพลงอมตะ และของช่วงเวลาที่ผมใช้กับพ่อ มันทำให้ผมรู้สึกว่า อดีตยังคงกลับมาอีกครั้ง เหมือนชื่อเพลง.. Yesterday Once More

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/ywB8vjMnoEw
    Yesterday Once More: 🎵 เสียงเพลงที่พาย้อนเวลา ⌛ 🎵 ย้อนกลับไปในวัยเด็กของผม ช่วงเวลาที่บ้านเต็มไปด้วยเสียงดนตรีจากชุดเครื่องเสียงสุดหรูของพ่อ เขามักจะเปิดเพลงเพื่อโชว์ลำโพงที่ให้เสียงใสกิ๊งราวกับคริสตัล แม้ว่าตอนนั้นจะเล่นจากเทปคาสเซ็ทเก่าๆ แต่สุนทรียภาพของดนตรีที่ไหลออกมานั้นไม่ได้ต่างอะไรจากการเล่นแผ่นเสียงไวนิลหรือซีดีสมัยนี้เลยครับ มันทำให้ผมรู้สึกเหมือนถูกห่อหุ้มด้วยความอบอุ่นและความทรงจำดีๆ โดยเฉพาะเพลงหนึ่งที่พ่อชอบเปิดบ่อยๆ นั่นคือ "Yesterday Once More" ของ The Carpenters เพลงนี้ไม่ใช่แค่เสียงเพลงธรรมดา แต่เป็นเหมือนประตูเวลาที่พาผมย้อนกลับไปหาช่วงเวลาที่เรียบง่ายและเต็มไปด้วยความสุข 📻 วง The Carpenters เกิดจากสองพี่น้องคู่บุญอย่าง Karen และ Richard Carpenter ที่เติบโตมาในเมือง New Haven รัฐ Connecticut สหรัฐอเมริกา ก่อนจะย้ายมาอยู่ Downey ใน California เมื่อปี 1963 เพื่อไล่ตามความฝันทางดนตรี Richard ผู้พี่ชายเกิดปี 1946 เป็นนักเปียโนตัวฉกาจและชอบจัดเรียงเสียงประสาน เขาเริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่เด็กและต่อมาเข้าเรียนที่ California State University, Long Beach ส่วน Karen น้องสาวเกิดปี 1950 เดิมทีเล่นกลองก่อนจะค้นพบพรสวรรค์ในเสียงร้องคอนทราลโตที่อบอุ่นและนุ่มนวลราวกับกำมะหยี่ 🎹🥁 พวกเขาเริ่มเล่นดนตรีด้วยกันตั้งแต่ปี 1965 ในรูปแบบวงแจ๊สชื่อ Richard Carpenter Trio ร่วมกับเพื่อน Wesley Jacobs จากนั้นพัฒนามาเป็นวง Spectrum ที่เล่นเพลงแนว middle-of-the-road แต่ยังไม่ดังเปรี้ยง จนกระทั่งปี 1969 พวกเขาตัดสินใจเป็นดูโอ้อย่างเป็นทางการและเซ็นสัญญากับค่าย A&M Records โดยใช้ชื่อ "Carpenters" แบบไม่มี "The" นำหน้า เพื่อให้ดูทันสมัยเหมือนวงร็อกดังๆ อย่าง Buffalo Springfield หรือ Jefferson Airplane จากจุดเริ่มต้นที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก The Carpenters ค่อยๆ สร้างชื่อเสียงด้วยสไตล์ซอฟต์ร็อกที่ผสมผสานฮาร์โมนีใกล้ชิดและเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์ของ Karen เพลงฮิตแรกๆ อย่าง "(They Long to Be) Close to You" และ "We've Only Just Begun" ในปี 1970 ทำให้พวกเขาพุ่งขึ้นชาร์ต Billboard Hot 100 อย่างรวดเร็ว ตามมาด้วยเพลงดังอีกเพียบ เช่น "Superstar", "Rainy Days and Mondays" และ "Top of the World" ที่ทำให้พวกเขาได้รับรางวัล Grammy ถึง 3 ตัว รวมถึง Best New Artist และ Best Contemporary Performance by a Duo, Group or Chorus 🌟 ตลอดช่วงทศวรรษ 1970 พวกเขาออกอัลบั้มถึง 10 ชุด โดยแต่ละชุดขายได้มากกว่า 1 ล้านแผ่น โดยเฉพาะอัลบั้มรวบฮิต "The Singles: 1969-1973" ที่ขึ้นอันดับ 1 บนชาร์ต Billboard Top 200 พวกเขาทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก ออกทีวีสเปเชียล และกลายเป็นศิลปินขายดีที่สุดในแนว easy listening และ adult contemporary ด้วยยอดขายแผ่นเสียงรวมกว่า 100 ล้านแผ่นทั่วโลก ทำให้พวกเขาเป็นหนึ่งในศิลปินที่ขายดีที่สุดตลอดกาล แต่เพลงที่ทำให้ผมหลงรักวงนี้อย่างหัวปักหัวปำคือ "Yesterday Once More" ที่ออกมาในปี 1973 จากอัลบั้ม "Now & Then" เพลงนี้เขียนโดย Richard ร่วมกับ John Bettis เพื่อเล่าเรื่องความคิดถึงเพลงเก่าๆ ที่เคยฟังในวัยเยาว์ เหมือนกับที่ผมฟังจากเครื่องเสียงของพ่อ มันเริ่มต้นด้วยเสียงเปียโนนุ่มๆ ตามด้วยเสียงร้องของ Karen ที่ชวนให้หวนนึกถึงวันเก่าๆ และยังมีเซกเวย์เชื่อมไปยังเมดเลย์เพลงคลาสสิกยุค 60s ที่ทำเหมือนรายการวิทยุเก่าๆ บนข้าง B ของอัลบั้ม 🎸 เพลงนี้ถูกบันทึกที่ A&M Studios ใน Los Angeles และปล่อยซิงเกิลเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1973 ด้วยความยาว 3:56 นาที มันเดบิวต์บนชาร์ต Cash Box ที่อันดับ 71 ก่อนพุ่งขึ้นสู่อันดับ 1 ในเดือนสิงหาคม และติดอันดับ 2 บน Billboard Hot 100 (ถูก "Bad, Bad Leroy Brown" ของ Jim Croce เบียดตก) แต่ครองอันดับ 1 บน Adult Contemporary Chart ซึ่งเป็นเพลงที่ 8 ของพวกเขาที่ทำได้ในรอบ 4 ปี ความดังของ "Yesterday Once More" ไม่ได้จำกัดแค่ในอเมริกา มันขึ้นอันดับ 2 ใน UK ซึ่งเป็นซิงเกิลขายดีที่สุดของพวกเขาในเกาะอังกฤษ ขายได้กว่า 250,000 แผ่น และได้รับการรับรอง Silver จาก BPI ในญี่ปุ่นเพลงนี้ฮิตระเบิด ขายได้กว่า 600,000 แผ่นภายในกลางปี 1974 และกลายเป็นเพลงที่ขายดีที่สุดของ The Carpenters ในประเทศนั้น ตามด้วยอันดับ 1 ในฮ่องกง สิงคโปร์ มาเลเซีย และแคนาดา รวมถึงอันดับสูงๆ ในออสเตรเลีย เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ และนิวซีแลนด์ 📈 มันได้รับการรับรอง Gold จาก RIAA ในอเมริกาด้วยยอดขายกว่า 1 ล้านแผ่น Richard เองเคยบอกในสารคดีญี่ปุ่นว่านี่คือเพลงโปรดที่เขาแต่ง และเขายังเล่นเวอร์ชันบรรเลงในคอนเสิร์ตหลายครั้ง เพลงนี้ถูกคัฟเวอร์โดยศิลปินมากมาย เช่น วง Candies ในญี่ปุ่นปี 1974, Redd Kross ในเวอร์ชันร็อก และ Priscilla Chan ในคอนเสิร์ต farewell ปี 1989 มันยังถูกใช้ในสื่อต่างๆ เพื่อถ่ายทอดความคิดถึง เช่น ในภาพยนตร์หรือโฆษณาที่ชวนนึกถึงอดีต แม้ The Carpenters จะดังเปรี้ยงปร้าง แต่ชีวิตของพวกเขาก็มีด้านมืด Richard เคยติด Quaalude ในช่วงปลาย 1970s จนต้องหยุดทัวร์และเข้ารับการบำบัด ส่วน Karen ต่อสู้กับโรค anorexia nervosa ที่ทำให้เธอผอมแห้งและสุขภาพทรุดโทรม จนเสียชีวิตด้วยภาวะหัวใจล้มเหลวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 1983 ขณะอายุเพียง 32 ปี เหตุการณ์นี้ทำให้โลกช็อกและจุดประกายให้คนหันมาสนใจโรคการกินผิดปกติมากขึ้น 💔 หลังจากนั้น Richard ยังคงทำงานเดี่ยวและออกอัลบั้ม posthumous เช่น "Voice of the Heart" ในปี 1983 แต่ไม่มีอะไรแทนที่เสียงร้องของ Karen ได้ มรดกของ The Carpenters ยังคงอยู่ พวกเขาอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังอย่าง Michael Jackson, Scott Weiland และศิลปินญี่ปุ่นหลายคน Rolling Stone จัดให้พวกเขาเป็นหนึ่งใน 20 Greatest Duos of All Time และ Karen เป็นหนึ่งในนักร้องหญิงยอดเยี่ยม เพลงของพวกเขามักถูกใช้ในงานแต่งงานหรือเพลงประกอบชีวิต เพราะความงดงามและความโรแมนติกที่เหนือกาลเวลา ทุกครั้งที่ผมได้ยิน "Yesterday Once More" มันไม่ใช่แค่เพลง แต่เป็นเรื่องราวของความทรงจำ ของพี่น้องคู่นี้ที่สร้างเสียงเพลงอมตะ และของช่วงเวลาที่ผมใช้กับพ่อ มันทำให้ผมรู้สึกว่า อดีตยังคงกลับมาอีกครั้ง เหมือนชื่อเพลง.. Yesterday Once More 🌹 #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/ywB8vjMnoEw
    0 Comments 0 Shares 432 Views 0 Reviews
  • เพื่อนบ้านส่งรูปไทก้ามา แจ้งยังพักที่นี่ อืม..ตามใจไทก้า คิดถึงกันก้อแวะมานะ
    เพื่อนบ้านส่งรูปไทก้ามา แจ้งยังพักที่นี่ อืม..ตามใจไทก้า คิดถึงกันก้อแวะมานะ
    0 Comments 0 Shares 76 Views 0 Reviews
  • รั้วไฟฟ้าที่ไม่มีไฟ: ความกลัวที่ขังเราไว้ แม้มันจะพังไปนานแล้ว

    บทความเริ่มจากเรื่องของสุนัขตัวหนึ่งที่ไม่กล้าออกจากระเบียงบ้าน แม้ว่า “รั้วไฟฟ้า” ที่เคยฝึกมันไว้จะเสียมานานแล้ว เจ้าของบอกว่า “มันไม่ออกไปหรอก รั้วไฟฟ้าเสียมาหลายปีแล้ว แต่มันยังไม่กล้าเดินข้าม” นั่นคือภาพของการถูกขังด้วยความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งกีดขวางจริง

    รั้วไฟฟ้าในชีวิตจริงของเราก็มีลักษณะคล้ายกัน—ความกลัวที่จะถูกปฏิเสธ ความรู้สึกว่าเราไม่ควรเป็นฝ่ายเริ่มต้น ความคิดว่า “ถ้าเขาไม่ทักมา แสดงว่าเขาไม่แคร์” ทั้งหมดนี้คือรั้วที่ไม่มีไฟ แต่เรายังไม่กล้าข้าม

    บทความชวนให้เรากล้าทำสิ่งเล็ก ๆ ที่อาจเปลี่ยนชีวิต เช่น ส่งข้อความ “คิดถึงนะ สบายดีไหม” หรือโทรหาใครสักคนที่เราห่างเหินไปนาน เพราะการเชื่อมโยงไม่ใช่เรื่องของการนับแต้ม แต่เป็นเรื่องของความกล้า

    และคนที่กล้าทำก่อน ไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่คือคนที่รู้ว่ารั้วนั้นพังไปนานแล้ว และเลือกที่จะวิ่งออกไปสู่โลกที่เปิดกว้าง

    ภาพเปรียบเทียบของรั้วไฟฟ้า
    สุนัขไม่กล้าออกจากระเบียง แม้รั้วไฟฟ้าจะเสียไปแล้ว
    ความทรงจำของความเจ็บปวดทำให้มันยังคงอยู่ในกรอบเดิม
    เปรียบเทียบกับมนุษย์ที่ถูกขังด้วยความกลัวในอดีต

    รั้วไฟฟ้าในชีวิตจริง
    ความคิดว่า “ถ้าเราทักไป เขาจะคิดว่าเราน่ารำคาญ”
    ความกลัวที่จะเป็นฝ่ายเริ่มต้น หรือถูกมองว่าอ่อนแอ
    ความเชื่อว่าการไม่ถูกทักคือการไม่ถูกแคร์

    การเชื่อมโยงที่แท้จริง
    ไม่มีใครรำคาญเมื่อมีคนทักมาถามว่า “เป็นยังไงบ้าง”
    การเชื่อมโยงไม่ใช่การนับแต้ม แต่คือความกล้า
    แค่ 20 วินาทีของความกล้า อาจเปลี่ยนความสัมพันธ์ได้

    ข้อเสนอจาก Soonly
    แอป Soonly ส่งข้อความเตือนให้ “ทักใครสักคนวันนี้”
    ช่วยให้การเชื่อมโยงกลายเป็นนิสัย ไม่ใช่แค่แรงบันดาลใจชั่วคราว
    สร้างผลลัพธ์ที่เปลี่ยนความสัมพันธ์ได้จริง

    ความคิดว่า “ถ้าเขาไม่ทักมา แสดงว่าเขาไม่แคร์” เป็นกับดักทางใจ
    การรอให้คนอื่นเริ่มก่อน อาจทำให้เรายืนอยู่บนระเบียงไปตลอดชีวิต
    ความกล้าเล็ก ๆ ที่ไม่กล้าทำ อาจเป็นสิ่งเดียวที่ขวางเราไว้จากความสุข

    https://soonly.com/electric-fences/
    🧠 รั้วไฟฟ้าที่ไม่มีไฟ: ความกลัวที่ขังเราไว้ แม้มันจะพังไปนานแล้ว บทความเริ่มจากเรื่องของสุนัขตัวหนึ่งที่ไม่กล้าออกจากระเบียงบ้าน แม้ว่า “รั้วไฟฟ้า” ที่เคยฝึกมันไว้จะเสียมานานแล้ว เจ้าของบอกว่า “มันไม่ออกไปหรอก รั้วไฟฟ้าเสียมาหลายปีแล้ว แต่มันยังไม่กล้าเดินข้าม” นั่นคือภาพของการถูกขังด้วยความทรงจำ ไม่ใช่สิ่งกีดขวางจริง รั้วไฟฟ้าในชีวิตจริงของเราก็มีลักษณะคล้ายกัน—ความกลัวที่จะถูกปฏิเสธ ความรู้สึกว่าเราไม่ควรเป็นฝ่ายเริ่มต้น ความคิดว่า “ถ้าเขาไม่ทักมา แสดงว่าเขาไม่แคร์” ทั้งหมดนี้คือรั้วที่ไม่มีไฟ แต่เรายังไม่กล้าข้าม บทความชวนให้เรากล้าทำสิ่งเล็ก ๆ ที่อาจเปลี่ยนชีวิต เช่น ส่งข้อความ “คิดถึงนะ สบายดีไหม” หรือโทรหาใครสักคนที่เราห่างเหินไปนาน เพราะการเชื่อมโยงไม่ใช่เรื่องของการนับแต้ม แต่เป็นเรื่องของความกล้า และคนที่กล้าทำก่อน ไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่คือคนที่รู้ว่ารั้วนั้นพังไปนานแล้ว และเลือกที่จะวิ่งออกไปสู่โลกที่เปิดกว้าง ✅ ภาพเปรียบเทียบของรั้วไฟฟ้า ➡️ สุนัขไม่กล้าออกจากระเบียง แม้รั้วไฟฟ้าจะเสียไปแล้ว ➡️ ความทรงจำของความเจ็บปวดทำให้มันยังคงอยู่ในกรอบเดิม ➡️ เปรียบเทียบกับมนุษย์ที่ถูกขังด้วยความกลัวในอดีต ✅ รั้วไฟฟ้าในชีวิตจริง ➡️ ความคิดว่า “ถ้าเราทักไป เขาจะคิดว่าเราน่ารำคาญ” ➡️ ความกลัวที่จะเป็นฝ่ายเริ่มต้น หรือถูกมองว่าอ่อนแอ ➡️ ความเชื่อว่าการไม่ถูกทักคือการไม่ถูกแคร์ ✅ การเชื่อมโยงที่แท้จริง ➡️ ไม่มีใครรำคาญเมื่อมีคนทักมาถามว่า “เป็นยังไงบ้าง” ➡️ การเชื่อมโยงไม่ใช่การนับแต้ม แต่คือความกล้า ➡️ แค่ 20 วินาทีของความกล้า อาจเปลี่ยนความสัมพันธ์ได้ ✅ ข้อเสนอจาก Soonly ➡️ แอป Soonly ส่งข้อความเตือนให้ “ทักใครสักคนวันนี้” ➡️ ช่วยให้การเชื่อมโยงกลายเป็นนิสัย ไม่ใช่แค่แรงบันดาลใจชั่วคราว ➡️ สร้างผลลัพธ์ที่เปลี่ยนความสัมพันธ์ได้จริง ⛔ ความคิดว่า “ถ้าเขาไม่ทักมา แสดงว่าเขาไม่แคร์” เป็นกับดักทางใจ ⛔ การรอให้คนอื่นเริ่มก่อน อาจทำให้เรายืนอยู่บนระเบียงไปตลอดชีวิต ⛔ ความกล้าเล็ก ๆ ที่ไม่กล้าทำ อาจเป็นสิ่งเดียวที่ขวางเราไว้จากความสุข https://soonly.com/electric-fences/
    SOONLY.COM
    The Electric Fence Stopped Working Years Ago
    "Don't worry, he won't leave the porch. The electric fence hasn't worked in years, but he still won't go past it."
    0 Comments 0 Shares 145 Views 0 Reviews
  • จริงๆก็ไม่อยากให้ค่าอะไรแล้ว,ไร้ค่าไร้ราคาด้วย,ฝ่ายศาลฝ่ายกฎหมายเราเล่นงานรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้จริงๆแน่ๆ ลากยาวจากพฤษภาก็เห็นชัดแล้ว,เพจต่างๆฟันธงตัดสินจบ30-31สิ้นเดือนพฤษภาตามกูรูคุย,มีพลิกจนลากมาถึงปัจจุบัน ถึงก.ย.ด้วย,อีลิทมีทุกๆวงการ,deep stateมีทุกๆวงการที่เป็นคนของมันหรือคนของต่างชาติล็อบบี้ได้,กลไกทั้งหมดเราพึ่งพาไม่ได้แล้วจริงๆ,มีแค่ทหารพระราชาเท่านั้น เพราะพวกอนุรักษ์นิยมอำมาตย์นิยมเจ้าสัวนิยมทุนนิยมมันคือเดอะแก๊งพวกเดี๋ยวกันจนฝังรากทั้งระบบหมดแล้ว,เช่นนั้นจะตัดตอนปัญหาทันทีนานแล้ว เด็บ7-8ขวบยังดูออกเลย ทิ้งพวกนี้ไว้จะสามารถก่อโกลาหลวุ่นวายในบ้านในเมืองไทยไม่ให้สงบได้ไม่น้อย,จะให้ประเทศสงบไม่ได้ cia ต้องเป็นมือที่สามก่อความวุ่นวายวางแผนการใส่ไทยไว้ตลอดเวลานะ,ทหารพระราชากำลังจะชนะเด็ดขาดสงครามเขมรเปิดก่อนในการรุกรานไทยก่อน,กลัวไทยควบคุมความสงบสุขเด็ดขาดได้ก็ไม่สามารถยอมได้จึงเร่งรีบหักดิบสั่งไทยกับเขมรเจรจากันก่อนเพื่อช่วยเขมร,เขมรจึงสามารถกลับมาสร้างความโกลาหลวุ่นวายได้ต่อเนื่องต่อไปได้อีก,เพราะรัฐบาลไทย รัฐบาลเขมรพวกนี้สั่งได้หมดก็ขี้ข้ารับใช้มันทั้งนั้นรวมถึงมาเลย์ด้วย,สรุปพวกเดียวกันหมด จึงมีสอดไส้ให้ไทยต้องรับคนเขมรมารักษาที่โรงพยาบาลไทยจนได้ ถ้ารัฐบาลไทยซื่อสัตย์ต่อหัวจิตหัวใจคิดถึงจิตใจคนไทยเป็นสำคัญ ไม่เหยียบหัวใจคนไทย แคร์อธิปไตยไทยตนจริงจะไม่ตกลงกับเขมรแม้สอดไส้แม้นิดเดียวก็ไม่ได้โน้น,รัฐบาลนี้จึงต้องสิ้นอำนาจทันที สส.พรรคหลักพรรคร่วมทุกๆคนอาจโทษประหารชีวิตด้วย ตลอดกรรมการพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลทั้งหมดที่ร่วมกอดmou1:200,000ไว้ ไม่ใช้แบบทหารไทยยึดมาโดยตลอดเหมือนลาวเวียดนามทำเหมือนกันที่1:50,000 มีเจตนาร่วมกันกระทำการให้ประเทศไทยสูญเสียดินแดนอธิปไตยความมั่นคงของชาติไทยนั้นเอง,ถ้าลงดาบเชือดจริงๆพวกนี้ไม่รอดสักคน เห็นชัดเป็นประจักษ์จริงขนาดนั้น.
    https://youtube.com/shorts/QMkFX-HVe5A?si=GewhoQ6HA9OqMm94
    จริงๆก็ไม่อยากให้ค่าอะไรแล้ว,ไร้ค่าไร้ราคาด้วย,ฝ่ายศาลฝ่ายกฎหมายเราเล่นงานรัฐบาลชุดนี้ไม่ได้จริงๆแน่ๆ ลากยาวจากพฤษภาก็เห็นชัดแล้ว,เพจต่างๆฟันธงตัดสินจบ30-31สิ้นเดือนพฤษภาตามกูรูคุย,มีพลิกจนลากมาถึงปัจจุบัน ถึงก.ย.ด้วย,อีลิทมีทุกๆวงการ,deep stateมีทุกๆวงการที่เป็นคนของมันหรือคนของต่างชาติล็อบบี้ได้,กลไกทั้งหมดเราพึ่งพาไม่ได้แล้วจริงๆ,มีแค่ทหารพระราชาเท่านั้น เพราะพวกอนุรักษ์นิยมอำมาตย์นิยมเจ้าสัวนิยมทุนนิยมมันคือเดอะแก๊งพวกเดี๋ยวกันจนฝังรากทั้งระบบหมดแล้ว,เช่นนั้นจะตัดตอนปัญหาทันทีนานแล้ว เด็บ7-8ขวบยังดูออกเลย ทิ้งพวกนี้ไว้จะสามารถก่อโกลาหลวุ่นวายในบ้านในเมืองไทยไม่ให้สงบได้ไม่น้อย,จะให้ประเทศสงบไม่ได้ cia ต้องเป็นมือที่สามก่อความวุ่นวายวางแผนการใส่ไทยไว้ตลอดเวลานะ,ทหารพระราชากำลังจะชนะเด็ดขาดสงครามเขมรเปิดก่อนในการรุกรานไทยก่อน,กลัวไทยควบคุมความสงบสุขเด็ดขาดได้ก็ไม่สามารถยอมได้จึงเร่งรีบหักดิบสั่งไทยกับเขมรเจรจากันก่อนเพื่อช่วยเขมร,เขมรจึงสามารถกลับมาสร้างความโกลาหลวุ่นวายได้ต่อเนื่องต่อไปได้อีก,เพราะรัฐบาลไทย รัฐบาลเขมรพวกนี้สั่งได้หมดก็ขี้ข้ารับใช้มันทั้งนั้นรวมถึงมาเลย์ด้วย,สรุปพวกเดียวกันหมด จึงมีสอดไส้ให้ไทยต้องรับคนเขมรมารักษาที่โรงพยาบาลไทยจนได้ ถ้ารัฐบาลไทยซื่อสัตย์ต่อหัวจิตหัวใจคิดถึงจิตใจคนไทยเป็นสำคัญ ไม่เหยียบหัวใจคนไทย แคร์อธิปไตยไทยตนจริงจะไม่ตกลงกับเขมรแม้สอดไส้แม้นิดเดียวก็ไม่ได้โน้น,รัฐบาลนี้จึงต้องสิ้นอำนาจทันที สส.พรรคหลักพรรคร่วมทุกๆคนอาจโทษประหารชีวิตด้วย ตลอดกรรมการพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลทั้งหมดที่ร่วมกอดmou1:200,000ไว้ ไม่ใช้แบบทหารไทยยึดมาโดยตลอดเหมือนลาวเวียดนามทำเหมือนกันที่1:50,000 มีเจตนาร่วมกันกระทำการให้ประเทศไทยสูญเสียดินแดนอธิปไตยความมั่นคงของชาติไทยนั้นเอง,ถ้าลงดาบเชือดจริงๆพวกนี้ไม่รอดสักคน เห็นชัดเป็นประจักษ์จริงขนาดนั้น. https://youtube.com/shorts/QMkFX-HVe5A?si=GewhoQ6HA9OqMm94
    0 Comments 0 Shares 254 Views 0 Reviews
  • คิดถึงพ่อหลวงร.๙"พระองค์คง เพ่งมอง จ้องดวงตา วันสิ้นข้า แล้วสั่งลา เจ้าได้ไหม จะนำพา ประเทศชาติ กันต่อไป นาวาไทย มีเจ้านั้น กัปตันเรือ ล่องนที มหาสมุทร สุดขอบฟ้า แล่นถลา มรสุมทิศใต้เหนือ ถ้าเรือล่ม จมหาย คงตายเบื่อ อาจจะเหลือ เพียงประวัติ ชื่อชาติไทย สายพระเนตร คงพอเห็น เป็นความหวัง ทหารเอก ของข้ายัง พอหวังได้ แย้มสรวล ด้วยเมตตา และวางใจ สังเกตุได้ จากพระพักตร์ ของพระองค์ ต้องมีเรื่อง รับสั่ง ให้สดับ ให้รับทราบ ถึงสิ่งซึ้ง พึ่งประสงค์ คงไม่พ้น เรื่องชาติ ที่มั่นคง สายตาส่ง สบกัน ก่อนวันลา#คิดถึงจังเลย..บทความนี้อยู่ในภาพไม่รู้ใครแต่งแต่มันไพเราะมาก#"ท่านนายกประยุทธุ์ จันทร์โอชา เป็นนายกที่ดีที่สุด "เป็นรองก็แค่พลเอกเปรม คนเดียว..!!กรุณาหยุดโจรตีให้ร้ายลุงตู่ได้แล้วท่านเป็นคนดีเป็นดาวอังคารขยันอดทนสูงดวงชะตาราชาโชคด้วย ท่านมีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ชายชาตรีไม่ชอบประจบสอพอจริงใจ พูดไม่เก่ง ทำงานเก่ง รักษาสุขภาพด้วยนะคะ"รักลุงตู่
    🇹🇭คิดถึงพ่อหลวงร.๙💛"พระองค์คง เพ่งมอง จ้องดวงตา วันสิ้นข้า แล้วสั่งลา เจ้าได้ไหม จะนำพา ประเทศชาติ กันต่อไป นาวาไทย มีเจ้านั้น กัปตันเรือ ล่องนที มหาสมุทร สุดขอบฟ้า แล่นถลา มรสุมทิศใต้เหนือ ถ้าเรือล่ม จมหาย คงตายเบื่อ อาจจะเหลือ เพียงประวัติ ชื่อชาติไทย สายพระเนตร คงพอเห็น เป็นความหวัง ทหารเอก ของข้ายัง พอหวังได้ แย้มสรวล ด้วยเมตตา และวางใจ สังเกตุได้ จากพระพักตร์ ของพระองค์ ต้องมีเรื่อง รับสั่ง ให้สดับ ให้รับทราบ ถึงสิ่งซึ้ง พึ่งประสงค์ คงไม่พ้น เรื่องชาติ ที่มั่นคง สายตาส่ง สบกัน ก่อนวันลา#คิดถึงจังเลย..บทความนี้อยู่ในภาพไม่รู้ใครแต่งแต่มันไพเราะมาก🎧#"ท่านนายกประยุทธุ์ จันทร์โอชา เป็นนายกที่ดีที่สุด "เป็นรองก็แค่พลเอกเปรม คนเดียว..!!🔊กรุณาหยุดโจรตีให้ร้ายลุงตู่ได้แล้วท่านเป็นคนดีเป็นดาวอังคารขยันอดทนสูงดวงชะตาราชาโชคด้วย ท่านมีเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ชายชาตรีไม่ชอบประจบสอพอจริงใจ พูดไม่เก่ง ทำงานเก่ง รักษาสุขภาพด้วยนะคะ"รักลุงตู่🙇‍♀️💖
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 226 Views 0 Reviews
  • ประชาชน ช่วยกันสะสมเงินซื้ออุปกรณ์ป้องกันชาติ เทียบกับงบเทศกาลดนตรี EDM

    บ้านเมืองกำลังสุ่มเสี่ยง ยังคงใช้เงิน เพื่อหาเงิน ให้จิตสำนึกคนที่ไม่คิด มีสติคิดถึงหัวอกคนเดือดร้อนระดับประเทศ วิสัยทัศน์ช่างกว้างไกลเท่าตามด
    ประชาชน ช่วยกันสะสมเงินซื้ออุปกรณ์ป้องกันชาติ เทียบกับงบเทศกาลดนตรี EDM บ้านเมืองกำลังสุ่มเสี่ยง ยังคงใช้เงิน เพื่อหาเงิน ให้จิตสำนึกคนที่ไม่คิด มีสติคิดถึงหัวอกคนเดือดร้อนระดับประเทศ วิสัยทัศน์ช่างกว้างไกลเท่าตามด
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • ไม่มีใครอีกแล้วที่จะมารักกัน เท่าคนไทยด้วยกัน

    “คนไทยเราเป็นคนกล้าหาญ เป็นคนอดทนเชื่อว่าไม่แพ้ชาติอื่นแน่ ๆ ที่มาคราวนี้ พี่ก็อยากจะบอกให้ทุกคนทราบว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงฝากมาคิดถึงทุกคนด้วยที่นี้ พี่ก็มีของเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก แล้วก็ถ้ามีอะไรที่เหลือบ่ากว่าแรงก็ให้ท่านผู้ว่าติดต่อมาได้ เพราะว่าพี่ก็ต้องการจะช่วยเหลือประเทศไทย คนไทยด้วยกันขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า คนไทยด้วยกันขอให้รักกัน ไม่มีใครอีกแล้วที่จะมารักกันเท่าคนไทยด้วยกัน พี่ขออวยพรให้ทั้งพี่ ทั้งน้อง ทั้งเด็ก ๆ ณ ที่นี้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง แล้วก็หวังว่าเหตุการณ์ที่ร้าย ๆ จะผ่านไป และพวกเราจะได้อยู่กันอย่างสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง”

    พระดำรัส สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางวัฒน วรขัตติยราชนารี ในโอกาสเสด็จไปทรงเยี่ยมประชาชน และหน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ถือเป็นสิ่งเตือนใจประชาชนคนไทย ผู้รักชาติรักแผ่นดินในยามนี้

    สถานการณ์การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา นำมาซึ่งความสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์ 15 ราย ทหารไทยเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตอีก 15 นาย ความเสียหายทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน บ้านเรือนราษฎรและทรัพย์สินเสียหายอีกจำนวนมาก แม้สงบศึกจากข้อตกลงหยุดยิงนับตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันที่ 29 ก.ค. แต่สิ่งที่คนไทยผู้รักชาติต้องรับมือคือการแทรกแซงจากต่างชาติ

    กัมพูชาเดินเกมเชิงรุกกับต่างชาติ พาทูตทหาร ทูตประเทศต่างๆ และสื่อต่างประเทศลงพื้นที่ชายแดน พยายามใช้ความสงสารในฐานะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่าไทย ดึงชาติต่างๆ เข้ามาเป็นพวก ขณะที่มาเลเซียที่แสดงบทบาทเป็นคนกลาง ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาสนับสนุน ตั้งเงื่อนไขว่าถ้าไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาภาษี ส่งทูตทหารประจำกัมพูชาและทูตทหารประจำประเทศไทยเป็นผู้สังเกตการณ์จากมาตรการหยุดยิง เท่ากับว่าไทยกำลังถูกจับตามองอย่างโดดเดี่ยว

    ในขณะที่ประเทศไทย ที่แม้สงครามด้วยอาวุธสงบลง ยังต้องเจอปฎิบัติการข้อมูลข่าวสารที่เต็มไปด้วยข่าวปลอม และสงครามไซเบอร์เข้าโจมตี นักการเมืองคือตัวปัญหาของแผ่นดินอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลที่นิ่งเฉยกับสถานการณ์เหมือนรู้เห็นเป็นใจอีกฝ่าย และฝ่ายค้านที่ด่าว่ากองทัพส้นตีน ไม่เหลือใครแล้วแม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้แทนราษฎรให้พึ่งพา กินภาษีประชาชน แต่เลือกเฉพาะประชาชนที่เลือกเขาเขามา คนที่เลือกแบบนี้ ถึงได้ สส.แบบนี้

    ไม่มีใครอีกแล้วที่จะรักกัน เท่ากับคนไทยผู้รักชาติรักแผ่นดินด้วยกัน จนกว่าจะมีความชัดเจนทางการเมืองจากศาลรัฐธรรมนูญ

    #Newskit
    ไม่มีใครอีกแล้วที่จะมารักกัน เท่าคนไทยด้วยกัน “คนไทยเราเป็นคนกล้าหาญ เป็นคนอดทนเชื่อว่าไม่แพ้ชาติอื่นแน่ ๆ ที่มาคราวนี้ พี่ก็อยากจะบอกให้ทุกคนทราบว่าพระเจ้าอยู่หัวทรงฝากมาคิดถึงทุกคนด้วยที่นี้ พี่ก็มีของเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก แล้วก็ถ้ามีอะไรที่เหลือบ่ากว่าแรงก็ให้ท่านผู้ว่าติดต่อมาได้ เพราะว่าพี่ก็ต้องการจะช่วยเหลือประเทศไทย คนไทยด้วยกันขอให้จำไว้อย่างหนึ่งว่า คนไทยด้วยกันขอให้รักกัน ไม่มีใครอีกแล้วที่จะมารักกันเท่าคนไทยด้วยกัน พี่ขออวยพรให้ทั้งพี่ ทั้งน้อง ทั้งเด็ก ๆ ณ ที่นี้ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง แล้วก็หวังว่าเหตุการณ์ที่ร้าย ๆ จะผ่านไป และพวกเราจะได้อยู่กันอย่างสงบสุขอีกครั้งหนึ่ง” พระดำรัส สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางวัฒน วรขัตติยราชนารี ในโอกาสเสด็จไปทรงเยี่ยมประชาชน และหน่วยแพทย์พระราชทาน โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ในพื้นที่จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ถือเป็นสิ่งเตือนใจประชาชนคนไทย ผู้รักชาติรักแผ่นดินในยามนี้ สถานการณ์การปะทะกันระหว่างไทย-กัมพูชา นำมาซึ่งความสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์ 15 ราย ทหารไทยเสียสละเลือดเนื้อและชีวิตอีก 15 นาย ความเสียหายทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน บ้านเรือนราษฎรและทรัพย์สินเสียหายอีกจำนวนมาก แม้สงบศึกจากข้อตกลงหยุดยิงนับตั้งแต่หลังเที่ยงคืนวันที่ 29 ก.ค. แต่สิ่งที่คนไทยผู้รักชาติต้องรับมือคือการแทรกแซงจากต่างชาติ กัมพูชาเดินเกมเชิงรุกกับต่างชาติ พาทูตทหาร ทูตประเทศต่างๆ และสื่อต่างประเทศลงพื้นที่ชายแดน พยายามใช้ความสงสารในฐานะประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กกว่าไทย ดึงชาติต่างๆ เข้ามาเป็นพวก ขณะที่มาเลเซียที่แสดงบทบาทเป็นคนกลาง ซึ่งมีสหรัฐอเมริกาสนับสนุน ตั้งเงื่อนไขว่าถ้าไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาภาษี ส่งทูตทหารประจำกัมพูชาและทูตทหารประจำประเทศไทยเป็นผู้สังเกตการณ์จากมาตรการหยุดยิง เท่ากับว่าไทยกำลังถูกจับตามองอย่างโดดเดี่ยว ในขณะที่ประเทศไทย ที่แม้สงครามด้วยอาวุธสงบลง ยังต้องเจอปฎิบัติการข้อมูลข่าวสารที่เต็มไปด้วยข่าวปลอม และสงครามไซเบอร์เข้าโจมตี นักการเมืองคือตัวปัญหาของแผ่นดินอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายรัฐบาลที่นิ่งเฉยกับสถานการณ์เหมือนรู้เห็นเป็นใจอีกฝ่าย และฝ่ายค้านที่ด่าว่ากองทัพส้นตีน ไม่เหลือใครแล้วแม้แต่คนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้แทนราษฎรให้พึ่งพา กินภาษีประชาชน แต่เลือกเฉพาะประชาชนที่เลือกเขาเขามา คนที่เลือกแบบนี้ ถึงได้ สส.แบบนี้ ไม่มีใครอีกแล้วที่จะรักกัน เท่ากับคนไทยผู้รักชาติรักแผ่นดินด้วยกัน จนกว่าจะมีความชัดเจนทางการเมืองจากศาลรัฐธรรมนูญ #Newskit
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 446 Views 0 Reviews
  • คิดถึงพ่อหลวงรัชกาลที่๙ ท่านคือจอมทัพไทยคุ้มครองลูกหลานทหารแนวหน้าด้วยเทอญพ่อ
    คิดถึงพ่อหลวงรัชกาลที่๙ ท่านคือจอมทัพไทยคุ้มครองลูกหลานทหารแนวหน้าด้วยเทอญพ่อ
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • อาเซียนการละคร หยุดยิงหลังเที่ยงคืน

    เคยมีคำกล่าวว่า ปลายทางของสงครามมักจะจบลงที่การเจรจา เฉกเช่นการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ระหว่างนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี กับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนเป็นคนกลาง เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ได้ข้อสรุปว่าไทยและกัมพูชาจะหยุดยิงหลังเที่ยงคืนวันที่ 29 ก.ค.

    จากนั้นจะหารือระหว่างกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 ของไทย กับภูมิภาคทหารที่ 4 และภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา ในวันที่ 29 ก.ค. เวลา 07.00 น. ต่อด้วยประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ในวันที่ 4 ส.ค.โดยมีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ อีกทั้งจะมีการเชิญผู้ช่วยทูตทหารของอาเซียนมารับฟังการหารือของทั้งสองฝ่ายด้วย ท่ามกลางสักขีพยานทั้งจากตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลจีน

    อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงไม่น่าไว้วางใจ เพราะยังตรวจพบทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดในพื้นที่แนวหน้า มีการเพิ่มเติมกำลังเข้ามาหลายหน่วย มีการคุกคามทางไซเบอร์ และมีแนวโน้มใช้อาวุธทางลึกอย่างขีปนาวุธ PHL03 ขณะที่สังคมไทยยังคาใจกับการกระทำของกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ความสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์และทหารจะถูกลืมหรือไม่ นอกจากต้องเจ็บปวดกับการเจรจาแทบจะไม่คิดถึงหัวใจคนไทยแล้ว ไทยจะเสียดินแดนโดยพฤตินัยให้กับกัมพูชาเพราะถูกยึดพื้นที่บางส่วนหรือไม่

    หรือท้ายที่สุดอาจเป็นเพียงละครฉากหนึ่งของการเมืองโลก ที่ต่างฝ่ายสมประโยชน์ซึ่งกันและกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ยื่นคำขาดว่าถ้าสองฝ่ายไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จะใช้เป็นผลงานชูเรื่องสันติภาพ เช่นเดียวกับนายกฯ อันวาร์ของมาเลเซีย จะสร้างผลงานเป็นพระเอกในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นที่ปรึกษา ส่วนนายกฯ ฮุน มาเนต ของกัมพูชาก็ได้คะแนนนิยมจากการปลุกกระแสชาตินิยม ทิ้งบาดแผลความสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยกับกัมพูชาไม่มีวันเหมือนเดิม

    ทหารกัมพูชาใช้อาวุธหนักอย่าง BM-21 โจมตีพลเรือนในไทยอย่างไม่เลือกหน้า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ก่อนปะทะกันของทหารทั้งสองฝ่าย ตลอดแนวชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.ค. ประชาชนเสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 38 ราย (สาหัส 11 ราย) โรงพยาบาลเสียหาย 19 แห่ง ชาวบ้านต้องอพยพกว่า 150,000 คน บ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก ส่วนทหารเสียชีวิตนับสิบราย

    #Newskit
    อาเซียนการละคร หยุดยิงหลังเที่ยงคืน เคยมีคำกล่าวว่า ปลายทางของสงครามมักจะจบลงที่การเจรจา เฉกเช่นการประชุมหารือแนวทางสันติภาพในภูมิภาค เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เมืองปุตราจายา ประเทศมาเลเซีย ระหว่างนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาราชการนายกรัฐมนตรี กับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนเป็นคนกลาง เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ได้ข้อสรุปว่าไทยและกัมพูชาจะหยุดยิงหลังเที่ยงคืนวันที่ 29 ก.ค. จากนั้นจะหารือระหว่างกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 ของไทย กับภูมิภาคทหารที่ 4 และภูมิภาคทหารที่ 5 ของกัมพูชา ในวันที่ 29 ก.ค. เวลา 07.00 น. ต่อด้วยประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ในวันที่ 4 ส.ค.โดยมีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ อีกทั้งจะมีการเชิญผู้ช่วยทูตทหารของอาเซียนมารับฟังการหารือของทั้งสองฝ่ายด้วย ท่ามกลางสักขีพยานทั้งจากตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐอเมริกาและรัฐบาลจีน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชายังคงไม่น่าไว้วางใจ เพราะยังตรวจพบทหารกัมพูชาวางทุ่นระเบิดในพื้นที่แนวหน้า มีการเพิ่มเติมกำลังเข้ามาหลายหน่วย มีการคุกคามทางไซเบอร์ และมีแนวโน้มใช้อาวุธทางลึกอย่างขีปนาวุธ PHL03 ขณะที่สังคมไทยยังคาใจกับการกระทำของกัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา ความสูญเสียของประชาชนผู้บริสุทธิ์และทหารจะถูกลืมหรือไม่ นอกจากต้องเจ็บปวดกับการเจรจาแทบจะไม่คิดถึงหัวใจคนไทยแล้ว ไทยจะเสียดินแดนโดยพฤตินัยให้กับกัมพูชาเพราะถูกยึดพื้นที่บางส่วนหรือไม่ หรือท้ายที่สุดอาจเป็นเพียงละครฉากหนึ่งของการเมืองโลก ที่ต่างฝ่ายสมประโยชน์ซึ่งกันและกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ที่ยื่นคำขาดว่าถ้าสองฝ่ายไม่หยุดยิงจะไม่เจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จะใช้เป็นผลงานชูเรื่องสันติภาพ เช่นเดียวกับนายกฯ อันวาร์ของมาเลเซีย จะสร้างผลงานเป็นพระเอกในฐานะประธานอาเซียน ซึ่งมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเป็นที่ปรึกษา ส่วนนายกฯ ฮุน มาเนต ของกัมพูชาก็ได้คะแนนนิยมจากการปลุกกระแสชาตินิยม ทิ้งบาดแผลความสัมพันธ์ระหว่างชาวไทยกับกัมพูชาไม่มีวันเหมือนเดิม ทหารกัมพูชาใช้อาวุธหนักอย่าง BM-21 โจมตีพลเรือนในไทยอย่างไม่เลือกหน้า ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ก่อนปะทะกันของทหารทั้งสองฝ่าย ตลอดแนวชายแดนจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.ค. ประชาชนเสียชีวิต 14 ราย บาดเจ็บ 38 ราย (สาหัส 11 ราย) โรงพยาบาลเสียหาย 19 แห่ง ชาวบ้านต้องอพยพกว่า 150,000 คน บ้านเรือนและทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก ส่วนทหารเสียชีวิตนับสิบราย #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 601 Views 0 Reviews
  • นาฬิกาปลุก
    ปี พศ 2568

    วันหนึ่งนานประมาณยี่สิบปีมาแล้ว ผมนั่งรถลงใต้ มันเป็นช่วงต้นหน้าฝนฟ้าครึ้ม
    อากาศกำลังสบาย ผมนั่งเหม่อ ๆ ดู 2 ข้างทางไปเรื่อย ๆ
    สัก 4 โมงเย็นรถก็ผ่านตรงช่วงเขาวัง เพชรบุรี ผมมองขึ้นไปที่พระราชวังบนยอดเขา
    เห็นแสงแดดกำลังส่องทะลุเมฆไปต้องพระราชวัง ทำให้พระราชวังงดงามเหลือเกิน
    ผมยกมือไหว้สักการะอย่างที่ทำทุกครั้งที่ผ่าน …
    ความรู้สึกของผมตอนนั้นบอกไม่ถูก เหมือนข้ามเวลา ข้ามมิติ
    ผมนึกในใจ นี่คงเหมือนเราเห็นสวรรค์กระมังนะ …ยังไม่เคยไป ได้แต่เดา

    แล้วรถก็แล่นผ่านทุ่งนากับต้นตาล ที่ยังพอมีให้เห็นชื่นใจ
    ดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสงออกมามากขึ้น มันเป็นเวลาที่เขาเรียกว่าแดดสวย
    ผมมองทุ่งนาสีเขียวสดผืนใหญ่ กับทิวเขายาวอยู่ไกล ๆ
    เมฆที่ยอดเขาสะท้อนกับแสงอาทิตย์ สีสวยจัด มันสวยสงบและรู้สึกอบอุ่น
    เป็นภาพที่อยู่ในใจผมอย่างไม่มีวันจาง ทุกครั้งที่ผมนึกถึงวันนั้น
    ผมจะมีอาการตื้นตันบอกตัวเอง นี่ คือ … วาสนาของชาวสยาม…
    วาสนาที่บางทีเราลืมที่จะนึกถึงและรับรู้… เพราะถูกบดบังจากสิ่งลวงตา

    เราอยู่ในแผ่นดิน ที่เคยได้รับคำกล่าวขานว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีความอุดมสมบูรณ์
    มีศาสนา มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการศึกษา การอบรมเลี้ยงดู ศิลปะ วัฒนธรรมประเพณี
    ชีวิตความเป็นอยู่ที่สอดคล้องกับธรรมชาติของบ้านเรามาเป็นเวลานานแล้ว …

    แต่ปัจจุบันนี้ ดูเหมือนเราจะมองข้าม หรือไม่ใส่ใจจริง
    กับความโชคดีและวาสนาของเรานัก …เรามักจะหลงไหลได้ปลื้ม
    กับบรรดาสรรพสิ่งไม่ว่าเป็นรูปแบบใด ที่ “พวกตะวันตก” เขาเอามาฝังหัวลวงหลอกเราไว้
    แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนจะแกะลอกล้างสิ่งที่พวกเขาฝั่งเอาไว้ไม่ออก
    ไม่สะอาดหมดจดเสียที

    ผมตั้งข้อสังเกต ปนสงสัยมานานแล้วว่าเหตุการณ์ในบ้านเมืองเรา
    ที่เกิดขึ้นอย่างน้อยก็ตั้งแต่ช่วงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง น่าจะมีส่วนเกี่ยวโยง
    กับปัจจัยนอกบ้าน มากกว่าที่เราคิด
    ผมค่อย ๆ หาข้อมูลมาอ่านแก้ความสงสัยของตัวเองไปเรื่อย ๆ แต่มันไปไม่ได้
    ไกลอย่างที่ต้องการ เพราะเวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการทำงานเพื่อดำรงชีพ
    และก็ไปทำเรื่องอื่น ๆ ที่สุดท้ายแล้ว ก็เลยยังไม่ได้คำตอบมาแก้ข้อสงสัยที่ค้างอยู่นั้น

    หลายสิบปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ในบ้านเราเกิดขึ้นมากมาย มีความพยายามแก้ปัญหา
    แต่เหมือนแก้ไม่ถูกจุด เหมือนเรามองข้าม หรือเรามองปัญหาไม่แตก
    มันทำให้ผมย้อนกลับมาคิดถึงข้อสงสัย เกี่ยวกับปัจจัยนอกบ้านที่ยังคาใจผมอยู่

    และถ้ามันเป็นอย่างที่ผมสงสัยจริง…และถ้าเราไม่ตื่นมารู้เรื่องด้วยกัน
    อีกไม่นานหรอก ประเทศเราอาจจะตกเป็นเหยื่อ เป็นอาณานิคมในรูปแบบใหม่ต่อไป
    และวันนั้น สีของธงชาติเราไม่รู้จะยังอยู่ครบไหม
    สถาบันที่เรารักเคารพ วัดพระแก้ว เขาวัง ท้องนาสีเขียวและอีกหลาย ๆ อย่าง ฯลฯ
    ไม่รู้จะเหลืออยู่แค่ไหน แบบไหน…หรือมันจะกลายเป็นเหมือนหลายๆเมือง
    ที่เราเห็นในข่าว !?!

    คำถามเกิดขึ้นในหัวเต็มไปหมด

    ผมบอกตัวเองว่า มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าชาวสยามรับรู้ถึงวาสนาของตนเอง
    และทำความเข้าใจกับความเป็นไปทั้งนอกบ้านและในบ้านเมืองของเราให้มากขึ้น
    จะได้มีความหวงและห่วงใยบ้านเมืองของเรา…บ้านของเรานะครับ

    ผมนึกถึงวันที่ผมเห็นแดดทอแสงสวยบนเขาวัง กับท้องนาที่เขียวชอุ่มกับเมฆสีสวย

    แล้วผมก็ตัดสินใจเขียนนิทาน เกี่ยวกับการเมืองโลก ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยเขียนอะไร
    เป็นเรื่องเป็นราวมาก่อนเลย ผมเล่ามุมมองของผม แบบอ่านง่าย ๆ และนำมาลง
    ให้อ่านผ่านเพจนิทานเรื่องจริง ตำนานการลวงหลอกล่อฯ ทางเฟสบุ๊ก
    ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2556 …
    ผมเขียนไปและอ่านข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมไปเรื่อย ๆทุกวันๆละประมาณ 10 ชั่วโมง
    มาตลอด เว้นแต่ช่วงเวลาที่สุขภาพของผมไม่อำนวย จนถึงตอนนี้ (พศ 2568)
    ผมมีเอกสารและหนังสือที่ใช้เขียนนิทาน ถึง 4 ตู้ใหญ่ 5 ตู้เล็ก กับอีก 20 กล่อง

    เมื่อผมเริ่มเขียนนิทาน ผมมีความเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย ว่าการล่าเหยื่อ
    ล่าอาณานิคมยังมีอยู่ เพียงแต่มีการพรางตัวเปลี่ยนรูปแบบการล่าไปตามยุคสมัย
    มันไม่ใช่เป็นเพียงข้อสังเกตหรือข้อสงสัยอีกแล้ว …สำหรับผมมันเป็นข้อเท็จจริง…
    บ้านเมืองเราตกเป็นเหยื่อของต่างชาติ มานานเต็มทีแล้ว!!

    และมาถึงวันนี้ ผมเชื่อว่าโลกเรากำลังจะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่
    ในอีกไม่นานนัก และการเปลี่ยนแปลงนั้น อาจจะมาเร็วจนเราตั้งตัวตั้งสติไม่ทัน

    บ้านเรามีการเตรียมการอะไรไหม ผมตอบไม่ได้ ผมไม่ได้เป็นผู้บริหารประเทศ
    สิ่งที่ผมพอทำได้ในฐานะประชาชน และกำลังทำอยู่ คือ เล่านิทาน
    เพื่อให้ทำหน้าที่เหมือนเป็นนาฬิกาปลุก ให้เพื่อนร่วมชาติตื่นขึ้นมาสนใจ
    เหตุการณ์นอกบ้าน ที่อาจกระทบกับบ้านเมืองเรา และเกิดความรู้สึกห่วงใย
    หวงแหนบ้านเมืองของเราบ้าง พร้อมกับเตรียมการเตรียมตัวรับมือ
    กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก…
    ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ว่าอาจจะหนักหนาสาหัสยิ่งนัก !!!

    นิทานแต่ละเรื่อง แม้จะเขียนเรื่องต่างประเทศ แต่ผมได้พยายามเขียนระหว่างบรรทัด
    ให้ข้อคิดเกี่ยวกับบ้านเมืองของเราไปด้วย ผมพยายามร้อยเรียงนิทาน
    โดยเริ่มจากเรื่องในบ้านเรา เล่ามาเรื่อย ๆ ถึง การล่าการตกเป็นเหยื่อ
    การต่อสู้ดิ้นรนของเหยื่อ และวิธีการของนักล่าในการงับเหยื่อในรูปแบบต่างๆ
    เพื่อไม่ให้เหยื่อมีโอกาสหลุดออกจากปากของมัน และตัวละครสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

    มาถึงปัจจุบันนี้ (เดือน เมษายน พศ 2568)
    ผมไม่แน่ใจว่าผมจะมีกำลังเขียนนิทานลงในเพจไปได้อีกหรือไม่
    หรือเขียนได้อีกนานเท่าไหร่ เนื่องจากสภาพสังขารของผมเอง
    และปัจจัยอื่น ที่มันเกินการควบคุมของผม …

    ผมคาดว่านิทานเรื่องจริงฯ ที่ผมเขียนมานั้น น่าจะเป็นที่สนใจสำหรับผู้ที่ติดตาม
    การเมืองโลก และเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการรักษาชาติบ้านเมือง รักษาแผ่นดิน
    และสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา…
    และยังทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุกที่ไม่ล้าสมัยเกินไป
    ผมจึงเอานิทานเรื่องจริงฯ เล่มที่ 1 ถึง 9 (หน้าปกสีส้ม)ที่เคยได้ตีพิมพ์มาครั้งหนึ่ง
    เมื่อเดือนตุลาคม พศ 2559 และเล่มที่ 10 (หน้าปกสีส้ม) เมื่อเดือนมีนาคม พศ 2560
    รวมทั้งนิทานที่เขียนและลงโพสต์ไปแล้วทั้งหมด จนถึงเรื่องสุดท้าย (ปี พศ 2567)
    (หน้าปกสีน้ำเงิน) แต่ยังไม่ได้มีโอกาสตีพิมพ์เป็นเล่ม มาจัดให้อยู่ในรูปเว็บไซต์
    อย่างเป็นระบบ เพื่อผู้ที่มีความสนใจ จะได้เข้าถึงอย่างสะดวกขึ้น…

    ขอบคุณครับ
    จากคนเล่านิทาน
    20 เมษายน 2568
    นาฬิกาปลุก ปี พศ 2568 วันหนึ่งนานประมาณยี่สิบปีมาแล้ว ผมนั่งรถลงใต้ มันเป็นช่วงต้นหน้าฝนฟ้าครึ้ม อากาศกำลังสบาย ผมนั่งเหม่อ ๆ ดู 2 ข้างทางไปเรื่อย ๆ สัก 4 โมงเย็นรถก็ผ่านตรงช่วงเขาวัง เพชรบุรี ผมมองขึ้นไปที่พระราชวังบนยอดเขา เห็นแสงแดดกำลังส่องทะลุเมฆไปต้องพระราชวัง ทำให้พระราชวังงดงามเหลือเกิน ผมยกมือไหว้สักการะอย่างที่ทำทุกครั้งที่ผ่าน … ความรู้สึกของผมตอนนั้นบอกไม่ถูก เหมือนข้ามเวลา ข้ามมิติ ผมนึกในใจ นี่คงเหมือนเราเห็นสวรรค์กระมังนะ …ยังไม่เคยไป ได้แต่เดา แล้วรถก็แล่นผ่านทุ่งนากับต้นตาล ที่ยังพอมีให้เห็นชื่นใจ ดวงอาทิตย์เริ่มส่องแสงออกมามากขึ้น มันเป็นเวลาที่เขาเรียกว่าแดดสวย ผมมองทุ่งนาสีเขียวสดผืนใหญ่ กับทิวเขายาวอยู่ไกล ๆ เมฆที่ยอดเขาสะท้อนกับแสงอาทิตย์ สีสวยจัด มันสวยสงบและรู้สึกอบอุ่น เป็นภาพที่อยู่ในใจผมอย่างไม่มีวันจาง ทุกครั้งที่ผมนึกถึงวันนั้น ผมจะมีอาการตื้นตันบอกตัวเอง นี่ คือ … วาสนาของชาวสยาม… วาสนาที่บางทีเราลืมที่จะนึกถึงและรับรู้… เพราะถูกบดบังจากสิ่งลวงตา เราอยู่ในแผ่นดิน ที่เคยได้รับคำกล่าวขานว่า ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีความอุดมสมบูรณ์ มีศาสนา มีสถาบันพระมหากษัตริย์ มีการศึกษา การอบรมเลี้ยงดู ศิลปะ วัฒนธรรมประเพณี ชีวิตความเป็นอยู่ที่สอดคล้องกับธรรมชาติของบ้านเรามาเป็นเวลานานแล้ว … แต่ปัจจุบันนี้ ดูเหมือนเราจะมองข้าม หรือไม่ใส่ใจจริง กับความโชคดีและวาสนาของเรานัก …เรามักจะหลงไหลได้ปลื้ม กับบรรดาสรรพสิ่งไม่ว่าเป็นรูปแบบใด ที่ “พวกตะวันตก” เขาเอามาฝังหัวลวงหลอกเราไว้ แม้เวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ ก็ดูเหมือนจะแกะลอกล้างสิ่งที่พวกเขาฝั่งเอาไว้ไม่ออก ไม่สะอาดหมดจดเสียที ผมตั้งข้อสังเกต ปนสงสัยมานานแล้วว่าเหตุการณ์ในบ้านเมืองเรา ที่เกิดขึ้นอย่างน้อยก็ตั้งแต่ช่วงก่อนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง น่าจะมีส่วนเกี่ยวโยง กับปัจจัยนอกบ้าน มากกว่าที่เราคิด ผมค่อย ๆ หาข้อมูลมาอ่านแก้ความสงสัยของตัวเองไปเรื่อย ๆ แต่มันไปไม่ได้ ไกลอย่างที่ต้องการ เพราะเวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการทำงานเพื่อดำรงชีพ และก็ไปทำเรื่องอื่น ๆ ที่สุดท้ายแล้ว ก็เลยยังไม่ได้คำตอบมาแก้ข้อสงสัยที่ค้างอยู่นั้น หลายสิบปีที่ผ่านมา มีเหตุการณ์ในบ้านเราเกิดขึ้นมากมาย มีความพยายามแก้ปัญหา แต่เหมือนแก้ไม่ถูกจุด เหมือนเรามองข้าม หรือเรามองปัญหาไม่แตก มันทำให้ผมย้อนกลับมาคิดถึงข้อสงสัย เกี่ยวกับปัจจัยนอกบ้านที่ยังคาใจผมอยู่ และถ้ามันเป็นอย่างที่ผมสงสัยจริง…และถ้าเราไม่ตื่นมารู้เรื่องด้วยกัน อีกไม่นานหรอก ประเทศเราอาจจะตกเป็นเหยื่อ เป็นอาณานิคมในรูปแบบใหม่ต่อไป และวันนั้น สีของธงชาติเราไม่รู้จะยังอยู่ครบไหม สถาบันที่เรารักเคารพ วัดพระแก้ว เขาวัง ท้องนาสีเขียวและอีกหลาย ๆ อย่าง ฯลฯ ไม่รู้จะเหลืออยู่แค่ไหน แบบไหน…หรือมันจะกลายเป็นเหมือนหลายๆเมือง ที่เราเห็นในข่าว !?! คำถามเกิดขึ้นในหัวเต็มไปหมด ผมบอกตัวเองว่า มันคงจะดีไม่น้อย ถ้าชาวสยามรับรู้ถึงวาสนาของตนเอง และทำความเข้าใจกับความเป็นไปทั้งนอกบ้านและในบ้านเมืองของเราให้มากขึ้น จะได้มีความหวงและห่วงใยบ้านเมืองของเรา…บ้านของเรานะครับ ผมนึกถึงวันที่ผมเห็นแดดทอแสงสวยบนเขาวัง กับท้องนาที่เขียวชอุ่มกับเมฆสีสวย แล้วผมก็ตัดสินใจเขียนนิทาน เกี่ยวกับการเมืองโลก ทั้ง ๆ ที่ผมไม่เคยเขียนอะไร เป็นเรื่องเป็นราวมาก่อนเลย ผมเล่ามุมมองของผม แบบอ่านง่าย ๆ และนำมาลง ให้อ่านผ่านเพจนิทานเรื่องจริง ตำนานการลวงหลอกล่อฯ ทางเฟสบุ๊ก ตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ.2556 … ผมเขียนไปและอ่านข้อมูลศึกษาเพิ่มเติมไปเรื่อย ๆทุกวันๆละประมาณ 10 ชั่วโมง มาตลอด เว้นแต่ช่วงเวลาที่สุขภาพของผมไม่อำนวย จนถึงตอนนี้ (พศ 2568) ผมมีเอกสารและหนังสือที่ใช้เขียนนิทาน ถึง 4 ตู้ใหญ่ 5 ตู้เล็ก กับอีก 20 กล่อง เมื่อผมเริ่มเขียนนิทาน ผมมีความเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย ว่าการล่าเหยื่อ ล่าอาณานิคมยังมีอยู่ เพียงแต่มีการพรางตัวเปลี่ยนรูปแบบการล่าไปตามยุคสมัย มันไม่ใช่เป็นเพียงข้อสังเกตหรือข้อสงสัยอีกแล้ว …สำหรับผมมันเป็นข้อเท็จจริง… บ้านเมืองเราตกเป็นเหยื่อของต่างชาติ มานานเต็มทีแล้ว!! และมาถึงวันนี้ ผมเชื่อว่าโลกเรากำลังจะก้าวไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหญ่ ในอีกไม่นานนัก และการเปลี่ยนแปลงนั้น อาจจะมาเร็วจนเราตั้งตัวตั้งสติไม่ทัน บ้านเรามีการเตรียมการอะไรไหม ผมตอบไม่ได้ ผมไม่ได้เป็นผู้บริหารประเทศ สิ่งที่ผมพอทำได้ในฐานะประชาชน และกำลังทำอยู่ คือ เล่านิทาน เพื่อให้ทำหน้าที่เหมือนเป็นนาฬิกาปลุก ให้เพื่อนร่วมชาติตื่นขึ้นมาสนใจ เหตุการณ์นอกบ้าน ที่อาจกระทบกับบ้านเมืองเรา และเกิดความรู้สึกห่วงใย หวงแหนบ้านเมืองของเราบ้าง พร้อมกับเตรียมการเตรียมตัวรับมือ กับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลก… ที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ว่าอาจจะหนักหนาสาหัสยิ่งนัก !!! นิทานแต่ละเรื่อง แม้จะเขียนเรื่องต่างประเทศ แต่ผมได้พยายามเขียนระหว่างบรรทัด ให้ข้อคิดเกี่ยวกับบ้านเมืองของเราไปด้วย ผมพยายามร้อยเรียงนิทาน โดยเริ่มจากเรื่องในบ้านเรา เล่ามาเรื่อย ๆ ถึง การล่าการตกเป็นเหยื่อ การต่อสู้ดิ้นรนของเหยื่อ และวิธีการของนักล่าในการงับเหยื่อในรูปแบบต่างๆ เพื่อไม่ให้เหยื่อมีโอกาสหลุดออกจากปากของมัน และตัวละครสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาถึงปัจจุบันนี้ (เดือน เมษายน พศ 2568) ผมไม่แน่ใจว่าผมจะมีกำลังเขียนนิทานลงในเพจไปได้อีกหรือไม่ หรือเขียนได้อีกนานเท่าไหร่ เนื่องจากสภาพสังขารของผมเอง และปัจจัยอื่น ที่มันเกินการควบคุมของผม … ผมคาดว่านิทานเรื่องจริงฯ ที่ผมเขียนมานั้น น่าจะเป็นที่สนใจสำหรับผู้ที่ติดตาม การเมืองโลก และเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการรักษาชาติบ้านเมือง รักษาแผ่นดิน และสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา… และยังทำหน้าที่เป็นนาฬิกาปลุกที่ไม่ล้าสมัยเกินไป ผมจึงเอานิทานเรื่องจริงฯ เล่มที่ 1 ถึง 9 (หน้าปกสีส้ม)ที่เคยได้ตีพิมพ์มาครั้งหนึ่ง เมื่อเดือนตุลาคม พศ 2559 และเล่มที่ 10 (หน้าปกสีส้ม) เมื่อเดือนมีนาคม พศ 2560 รวมทั้งนิทานที่เขียนและลงโพสต์ไปแล้วทั้งหมด จนถึงเรื่องสุดท้าย (ปี พศ 2567) (หน้าปกสีน้ำเงิน) แต่ยังไม่ได้มีโอกาสตีพิมพ์เป็นเล่ม มาจัดให้อยู่ในรูปเว็บไซต์ อย่างเป็นระบบ เพื่อผู้ที่มีความสนใจ จะได้เข้าถึงอย่างสะดวกขึ้น… ขอบคุณครับ จากคนเล่านิทาน 20 เมษายน 2568
    0 Comments 0 Shares 424 Views 0 Reviews
  • สวัสดีคะคุณอาสนธิหลายวันมานี้ เครียดนอนไม่หลับเลย "ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้ยังไงกัน รัฐบาลเป็นฝ่ายตรงข้ามกับประเทศตัวเอง ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ยังไม่หยุดยิ่งใหญ่มาก ตัวประสาทไทยขึ้นทะเบียนมานานก่อนมีประเทศกัมพูชาซะอีกมันจะมาเคลมได้ยังไง คนขายชาติมุ่งหมายลากแผ่นดินบนบกลงทะเลเพื่อแลกผลประโยชน์ส่วนตัว ฉากละครกัมพูชาเปิดการยิงไทยก่อน "แล้วนายภูมิธรรมจะไปเจรจากับฮุนมาเนตที่มาเลย์เพื่อใช้แผนที่1:200,000 เท่ากับยกแผ่นดินให้กัมพูชาเพื่อแลกกับการหยุดยิง กองทัพไทยสู้กัมพูชาไม่ได้ต้องยอมยกดินแดนให้เพราะกลัวกัมพูชายิงโถอนาถใจแท้ๆ#นักการเมืองมันเอาชีวิตทหารและประชาชนแลกผลประโยชน์ส่วนตน "อับอายขายหน้าไทยแพ้กัมพูชา ฮุนมาเนตได้เป็นวีรบุรุษ...คนไทยประเทศไทยจะเหลือศักดิ์ศรีอะไรบนเวทีโลกคนทั้งโลกแม้แต่อาจารย์ที่สหรัฐฯเองยังแปลกใจเลยว่าไทยมีกองทัพที่มีศักดิ์ยภาพมากในอาเซียนแต่ทำไมกัมพูชาถึงกล้าเปิดศึกยิงไทยก่อนแบบนี้ "หมดแล้วศักดิ์ศรีประเทศไทยและกองทัพไทยมันจบแล้วจริงๆยุคนี้มันยุคอะไรกาลีบ้านกาลีเมืองคนไทยหันหน้าไปพึ่งใครไม่ได้เลยยามนี้ไทยตกต่ำถึงขีดสุดขณะที่พี่น้องประชาชนต้องตายทรัพย์สินเสียหาย ทหารดีๆต้องมาพิกลพิการเสียชีวิต นี้หรือคือผลตอบแทนของเขาๆสละชีพเพื่อเสียดินแดนหรือละครฉากหนึ่งเท่านั้น"โคตรช้ำใจเลย เขาน่าจะมีแบ็คใหญ่มากๆเขาไม่เห็นหัวประชาชนเลย คุณอาสนธิคุยในรายการพรุ่งนี้หนูฝากถามหน่อยนะคะว่า "นายภูมิธรรมและรัฐบาลจะไปเจรจากันที่มาเลย์กับนายอีนวาร์,ฮุนมาเนตให้เขมรหยุดยิงไทยจะใช้แผนที่ตามที่ตกลงไว้ใน "MOU43-44ให้ประสาทมัน ลากลงเกาะกูดแบ่งผลประโยชน์50-50เพื่อขอร้องให้กัมพูชาหยุดยิงไทยเถอะได้โปรดไทยๆยอมแล้วกลัวมากๆเลยงั้นเหรอไปตกลงเจรจาโดยไม่ต้องผ่านสภาแบบนี้เหมือนดิวงานบริษัทส่วนตัวใช่หรือ มีอะไรอยู่เบื้องหลัง??เหตุการณ์นี้ไหมดูแปลกๆ"อายชาวปาเลสไตน์เขาไม่ยอมเสียบ้านแผ่นดินตรงนั้น้ขายอมตายเพื่อบ้านของเขา"#แต่ประเทศไทยมีไส้ศึกขายชาติยกแผ่นดินให่ต่างชาติง่ายโดยไร้เหตุผล ถ้ารัฐบาลไม่มาแทรกแซงกองทัพๆมีเอกภาพจริงๆกัมพูชามันไม่กล้าผยองแบบนี้หรอก ขนาดกับลาว,เวียดนามมันยังกลัวหัวหดเลย#""คิดถึงพ่อหลวง ร.๙..จอมทัพไทยเหลือเกิน สิ้นท่านไปคนหนึ่งบ้านเมืองก็แตกสาแหรกขาดหมดแล้วสิ้นหวังกับทุกๆสิ่งในประเทศนี้แล้ว
    สวัสดีคะคุณอาสนธิหลายวันมานี้ เครียดนอนไม่หลับเลย "ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้ยังไงกัน รัฐบาลเป็นฝ่ายตรงข้ามกับประเทศตัวเอง ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ยังไม่หยุดยิ่งใหญ่มาก ตัวประสาทไทยขึ้นทะเบียนมานานก่อนมีประเทศกัมพูชาซะอีกมันจะมาเคลมได้ยังไง คนขายชาติมุ่งหมายลากแผ่นดินบนบกลงทะเลเพื่อแลกผลประโยชน์ส่วนตัว ฉากละครกัมพูชาเปิดการยิงไทยก่อน "แล้วนายภูมิธรรมจะไปเจรจากับฮุนมาเนตที่มาเลย์เพื่อใช้แผนที่1:200,000 เท่ากับยกแผ่นดินให้กัมพูชาเพื่อแลกกับการหยุดยิง กองทัพไทยสู้กัมพูชาไม่ได้ต้องยอมยกดินแดนให้เพราะกลัวกัมพูชายิงโถอนาถใจแท้ๆ#นักการเมืองมันเอาชีวิตทหารและประชาชนแลกผลประโยชน์ส่วนตน "อับอายขายหน้าไทยแพ้กัมพูชา ฮุนมาเนตได้เป็นวีรบุรุษ...คนไทยประเทศไทยจะเหลือศักดิ์ศรีอะไรบนเวทีโลกคนทั้งโลกแม้แต่อาจารย์ที่สหรัฐฯเองยังแปลกใจเลยว่าไทยมีกองทัพที่มีศักดิ์ยภาพมากในอาเซียนแต่ทำไมกัมพูชาถึงกล้าเปิดศึกยิงไทยก่อนแบบนี้ "หมดแล้วศักดิ์ศรีประเทศไทยและกองทัพไทยมันจบแล้วจริงๆยุคนี้มันยุคอะไรกาลีบ้านกาลีเมืองคนไทยหันหน้าไปพึ่งใครไม่ได้เลยยามนี้ไทยตกต่ำถึงขีดสุดขณะที่พี่น้องประชาชนต้องตายทรัพย์สินเสียหาย ทหารดีๆต้องมาพิกลพิการเสียชีวิต นี้หรือคือผลตอบแทนของเขาๆสละชีพเพื่อเสียดินแดนหรือละครฉากหนึ่งเท่านั้น"โคตรช้ำใจเลย เขาน่าจะมีแบ็คใหญ่มากๆเขาไม่เห็นหัวประชาชนเลย คุณอาสนธิคุยในรายการพรุ่งนี้หนูฝากถามหน่อยนะคะว่า "นายภูมิธรรมและรัฐบาลจะไปเจรจากันที่มาเลย์กับนายอีนวาร์,ฮุนมาเนตให้เขมรหยุดยิงไทยจะใช้แผนที่ตามที่ตกลงไว้ใน "MOU43-44ให้ประสาทมัน ลากลงเกาะกูดแบ่งผลประโยชน์50-50เพื่อขอร้องให้กัมพูชาหยุดยิงไทยเถอะได้โปรดไทยๆยอมแล้วกลัวมากๆเลยงั้นเหรอไปตกลงเจรจาโดยไม่ต้องผ่านสภาแบบนี้เหมือนดิวงานบริษัทส่วนตัวใช่หรือ มีอะไรอยู่เบื้องหลัง??เหตุการณ์นี้ไหมดูแปลกๆ"อายชาวปาเลสไตน์เขาไม่ยอมเสียบ้านแผ่นดินตรงนั้น้ขายอมตายเพื่อบ้านของเขา"#แต่ประเทศไทยมีไส้ศึกขายชาติยกแผ่นดินให่ต่างชาติง่ายโดยไร้เหตุผล ถ้ารัฐบาลไม่มาแทรกแซงกองทัพๆมีเอกภาพจริงๆกัมพูชามันไม่กล้าผยองแบบนี้หรอก ขนาดกับลาว,เวียดนามมันยังกลัวหัวหดเลย#""คิดถึงพ่อหลวง ร.๙..จอมทัพไทยเหลือเกิน สิ้นท่านไปคนหนึ่งบ้านเมืองก็แตกสาแหรกขาดหมดแล้วสิ้นหวังกับทุกๆสิ่งในประเทศนี้แล้ว😔
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 379 Views 0 Reviews
  • เรื่องนี้เก่าไปนิด แต่เป็นเรื่องที่ Storyฯ ประทับใจไม่ลืม
    ความมีอยู่ว่า

    ... “ซื้อตั๋วเครื่องบินเถอะ”
    เวยเวยตะลึงไป
    ภายในห้องทำงานของผู้ที่อยู่อีกปลายสาย เซียวไน่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สายตาหยุดลงอยู่ที่กระถางต้นกระบองเพชรที่กำลังมีดอกบาน แววตาที่จับจ้องอยู่บนกลีบดอกไม้สีเหลืองนวลนั้นทอประกายอ่อนโยน
    “เวยเวย ดอกไม้ริมทางผลิบาน ค่อยๆ เดินทางกลับมาได้แล้ว” ...

    - จากเรื่อง <เวยเวย ยิ้มนี้พิชิตใจ> ผู้แต่ง กู้ม่าน

    ไม่ทราบยังพอจะจำกันได้บ้างไหม? ลูกเพจท่านที่อ่านหนังสือจะทราบว่าผู้แต่งมีแปลความหมายของประโยคสุดท้ายข้างต้นไว้สั้นๆ แต่ผู้ที่ดูแต่ละครจะงงหรือไม่... ทำไมนางเอกต้องทำหน้า “อิน” ขนาดนั้นเมื่อได้ยินประโยคนี้?

    “ดอกไม้ริมทางผลิบาน ค่อยๆ เดินทางกลับมาได้แล้ว” หรือ “陌上花开 可缓缓归矣” (ม่อซ่างฮวาคาย เข่อหวนห่วนกุยอี่) ประโยคนี้เป็นวลีที่ปรากฏในประวัติศาสตร์จริง อยู่ใน "จดหมายรัก" ขององค์เฉียนหลิว

    องค์เฉียนหลิวคืออ๋องผู้ก่อตั้งและเจ้าผู้ปกครองแคว้นอู๋เยวี่ย สมัยปีค.ศ. 852-932 (ยุคสมัยห้าราชวงศ์สิบแคว้น) มีพระชายาที่ทรงรักมากคือจวงมู่ฟูเหริน เพราะเป็นภรรยาที่เข้าหอร่วมพิธีแต่งงานและติดสอยห้อยตามพระองค์ไปทุกที่ จวงมู่ฟูเหรินมักจะเสด็จกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองหลิงอันทุกปีในช่วงฤดูหนาว จวบจนฤดูใบไม้ผลิจึงเสด็จกลับมาหาพระสวามี

    มีอยู่ปีหนึ่ง อ๋องอู๋เยวี่ยทรงพระราชหัตถเลขาถึงพระนาง ส่วนหนึ่งของใจความนั้นมีวลีนี้ เป็นประโยคสั้นแต่แฝงด้วยความหมายประมาณว่า 1) ดอกไม้เริ่มผลิบานแล้ว ไฉนยังไม่กลับมา? คิดถึงนัก 2) ไม่ต้องรอจนเข้าฤดูใบไม้ผลิเต็มที่ก็ได้ เริ่มเดินทางกลับมาก็จะสัมผัสมันได้ในระหว่างทาง

    จวงมู่ฟูเหรินทรงเข้าพระทัยในความหมาย จึงเสด็จกลับโดยทันที (เอิ่ม... อ้อนสำเร็จด้วยเพียงอักษรเก้าตัว) เหตุการณ์นี้เป็นที่เล่าขานกันต่อมา เป็นวลีที่มีความหมายว่า สามีรักและคิดถึงภรรยายิ่งนัก รอคอยเธออยู่

    ในเรื่อง “เวยเวยฯ” นี้ เซียวไน่ใช้วลีนี้เพื่อชวนให้เวยเวยกลับไปหา Storyฯ ทึ่งที่ว่า ทั้งเซียวไน่และเวยเวยต่างเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ แต่เป็นสองคนที่ผิดแปลกจากเพื่อนฝูงตรงที่ต่างมีความชอบในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์จีน ลูกเพจลองคิดสิคะ ถ้าเป็นคนอื่นในคณะเดียวกัน เซียวไน่ใช้วลีนี้ คนฟังจะ “เก๊ท” ไหมนะ

    Credit เนื้อหารวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com
    https://www.sohu.com/a/350631198_120260771

    #เวยเวยยิ้มนี้พิชิตใจ #บทกวีจีนโบราณ StoryfromStory
    เรื่องนี้เก่าไปนิด แต่เป็นเรื่องที่ Storyฯ ประทับใจไม่ลืม ความมีอยู่ว่า ... “ซื้อตั๋วเครื่องบินเถอะ” เวยเวยตะลึงไป ภายในห้องทำงานของผู้ที่อยู่อีกปลายสาย เซียวไน่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ สายตาหยุดลงอยู่ที่กระถางต้นกระบองเพชรที่กำลังมีดอกบาน แววตาที่จับจ้องอยู่บนกลีบดอกไม้สีเหลืองนวลนั้นทอประกายอ่อนโยน “เวยเวย ดอกไม้ริมทางผลิบาน ค่อยๆ เดินทางกลับมาได้แล้ว” ... - จากเรื่อง <เวยเวย ยิ้มนี้พิชิตใจ> ผู้แต่ง กู้ม่าน ไม่ทราบยังพอจะจำกันได้บ้างไหม? ลูกเพจท่านที่อ่านหนังสือจะทราบว่าผู้แต่งมีแปลความหมายของประโยคสุดท้ายข้างต้นไว้สั้นๆ แต่ผู้ที่ดูแต่ละครจะงงหรือไม่... ทำไมนางเอกต้องทำหน้า “อิน” ขนาดนั้นเมื่อได้ยินประโยคนี้? “ดอกไม้ริมทางผลิบาน ค่อยๆ เดินทางกลับมาได้แล้ว” หรือ “陌上花开 可缓缓归矣” (ม่อซ่างฮวาคาย เข่อหวนห่วนกุยอี่) ประโยคนี้เป็นวลีที่ปรากฏในประวัติศาสตร์จริง อยู่ใน "จดหมายรัก" ขององค์เฉียนหลิว องค์เฉียนหลิวคืออ๋องผู้ก่อตั้งและเจ้าผู้ปกครองแคว้นอู๋เยวี่ย สมัยปีค.ศ. 852-932 (ยุคสมัยห้าราชวงศ์สิบแคว้น) มีพระชายาที่ทรงรักมากคือจวงมู่ฟูเหริน เพราะเป็นภรรยาที่เข้าหอร่วมพิธีแต่งงานและติดสอยห้อยตามพระองค์ไปทุกที่ จวงมู่ฟูเหรินมักจะเสด็จกลับไปเยี่ยมบ้านเกิดที่เมืองหลิงอันทุกปีในช่วงฤดูหนาว จวบจนฤดูใบไม้ผลิจึงเสด็จกลับมาหาพระสวามี มีอยู่ปีหนึ่ง อ๋องอู๋เยวี่ยทรงพระราชหัตถเลขาถึงพระนาง ส่วนหนึ่งของใจความนั้นมีวลีนี้ เป็นประโยคสั้นแต่แฝงด้วยความหมายประมาณว่า 1) ดอกไม้เริ่มผลิบานแล้ว ไฉนยังไม่กลับมา? คิดถึงนัก 2) ไม่ต้องรอจนเข้าฤดูใบไม้ผลิเต็มที่ก็ได้ เริ่มเดินทางกลับมาก็จะสัมผัสมันได้ในระหว่างทาง จวงมู่ฟูเหรินทรงเข้าพระทัยในความหมาย จึงเสด็จกลับโดยทันที (เอิ่ม... อ้อนสำเร็จด้วยเพียงอักษรเก้าตัว) เหตุการณ์นี้เป็นที่เล่าขานกันต่อมา เป็นวลีที่มีความหมายว่า สามีรักและคิดถึงภรรยายิ่งนัก รอคอยเธออยู่ ในเรื่อง “เวยเวยฯ” นี้ เซียวไน่ใช้วลีนี้เพื่อชวนให้เวยเวยกลับไปหา Storyฯ ทึ่งที่ว่า ทั้งเซียวไน่และเวยเวยต่างเป็นนักศึกษาคณะวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ แต่เป็นสองคนที่ผิดแปลกจากเพื่อนฝูงตรงที่ต่างมีความชอบในวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์จีน ลูกเพจลองคิดสิคะ ถ้าเป็นคนอื่นในคณะเดียวกัน เซียวไน่ใช้วลีนี้ คนฟังจะ “เก๊ท” ไหมนะ Credit เนื้อหารวบรวมจาก: https://baike.baidu.com https://www.sohu.com/a/350631198_120260771 #เวยเวยยิ้มนี้พิชิตใจ #บทกวีจีนโบราณ StoryfromStory
    百度百科_全球领先的中文百科全书
    百度百科是一部内容开放、自由的网络百科全书,旨在创造一个涵盖所有领域知识,服务所有互联网用户的中文知识性百科全书。在这里你可以参与词条编辑,分享贡献你的知识。
    1 Comments 0 Shares 398 Views 0 Reviews
  • เปิดหลักฐานแชตหลุด อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ส่งข้อความสัมพันธ์เชิงชู้สาวบอกคิดถึง "สีกากอล์ฟ" กำชับห้ามภาพหลุด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000066235

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    เปิดหลักฐานแชตหลุด อดีตเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร ส่งข้อความสัมพันธ์เชิงชู้สาวบอกคิดถึง "สีกากอล์ฟ" กำชับห้ามภาพหลุด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000066235 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Love
    Haha
    Sad
    Angry
    4
    0 Comments 0 Shares 462 Views 0 Reviews
  • ฟรีพักเดี่ยว! ด่วนจำนวนจำกัด
    เหลือ*4 ที่สุดท้าย เท่านั้น
    หมดเขต*พุธที่ 16 ก.ค. 2568*

    กำแพงเพชร 3 วัน 2 คืน
    เดินทาง 26-28 ก.ค. 68
    เพียง 3,999.- / ท่าน

    ไฮไลท์การเดินทาง
    วัดพระธาตุนครชุม
    อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
    วัดพระสี่อิริยาบถ – วัดพระแก้ว – วัดช้างรอบ – วัดพระนอน
    จุดเช็คอินศาลหลักเมือง & ถนนคนเดินกำแพง
    เที่ยวธรรมชาติ คลองลาน – ช่องเย็น – โมโกจูน้อย – กิ่วกระทิง
    น้ำตกคลองลาน – น้ำตกคลองน้ำไหล – จุดชมอ่าง
    พักสบายที่ "กำแพงเพชรเดอะรูม" และ "คลองลานมากบุญรีสอร์ท" หรือเทียบเท่า
    ช้อปปิ้งตลาดมอกกล้วยไข่

    รีบจองก่อนเต็มนะจ๊ะ

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ed904c

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #เที่ยวกำแพงเพชร #ทัวร์ถูกและดี #ฟรีพักเดี่ยว #โปรไฟไหม้ #ที่พักดีวิวสวย #ธรรมชาติบำบัด #เที่ยวไทยให้หายคิดถึง #ไฮไลท์ครบจบในทริปเดียว
    🎉 ฟรีพักเดี่ยว! ด่วนจำนวนจำกัด เหลือ*4 ที่สุดท้าย เท่านั้น ⏳หมดเขต*พุธที่ 16 ก.ค. 2568* 📍 กำแพงเพชร 3 วัน 2 คืน 🗓️ เดินทาง 26-28 ก.ค. 68 💰 เพียง 3,999.- / ท่าน 🌟 ไฮไลท์การเดินทาง 🛕 วัดพระธาตุนครชุม 🏛️ อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร 🙏 วัดพระสี่อิริยาบถ – วัดพระแก้ว – วัดช้างรอบ – วัดพระนอน 📸 จุดเช็คอินศาลหลักเมือง & ถนนคนเดินกำแพง 🌳 เที่ยวธรรมชาติ คลองลาน – ช่องเย็น – โมโกจูน้อย – กิ่วกระทิง 💦 น้ำตกคลองลาน – น้ำตกคลองน้ำไหล – จุดชมอ่าง 🏡 พักสบายที่ "กำแพงเพชรเดอะรูม" และ "คลองลานมากบุญรีสอร์ท" หรือเทียบเท่า 🛍️ ช้อปปิ้งตลาดมอกกล้วยไข่ 📌 รีบจองก่อนเต็มนะจ๊ะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ed904c LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #เที่ยวกำแพงเพชร #ทัวร์ถูกและดี #ฟรีพักเดี่ยว #โปรไฟไหม้ #ที่พักดีวิวสวย #ธรรมชาติบำบัด #เที่ยวไทยให้หายคิดถึง #ไฮไลท์ครบจบในทริปเดียว 🌿🚌✨
    0 Comments 0 Shares 526 Views 0 Reviews
More Results