• “ทักษิณ” โผล่บ้านพิษณุโลก ร่วมวงถกรับมือภาษีสหรัฐฯ “พิชัย” แถลงนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มแต่ต้องไม่กระทบคนไทย ตั้งเป้าภาษีไม่ให้น้อยกว่าคู่แข่ง บอกเชิญ “ทักษิณ” มาให้ข้อคิดเห็น แจงจดหมายทรัมป์เป็นการเลื่อนวันให้เรา เพราะยังไม่ได้เจราจาถึงที่สุด โดยฝ่ายไทยยื่นรายละเอียดไปแล้วตั้งแต่ 6 ก.ค.อาจต้องปรับปรุงและยื่นเพิ่มเติม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065305

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ทักษิณ” โผล่บ้านพิษณุโลก ร่วมวงถกรับมือภาษีสหรัฐฯ “พิชัย” แถลงนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ เพิ่มแต่ต้องไม่กระทบคนไทย ตั้งเป้าภาษีไม่ให้น้อยกว่าคู่แข่ง บอกเชิญ “ทักษิณ” มาให้ข้อคิดเห็น แจงจดหมายทรัมป์เป็นการเลื่อนวันให้เรา เพราะยังไม่ได้เจราจาถึงที่สุด โดยฝ่ายไทยยื่นรายละเอียดไปแล้วตั้งแต่ 6 ก.ค.อาจต้องปรับปรุงและยื่นเพิ่มเติม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065305 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 482 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดร.เสรี จวกคนทำผิดซ้ำซากแต่ไม่เคยยอมรับ ทั้งที่ศาลชี้ผิดชัด ยังมีคนเชิดชูจนประเทศวิกฤต เตือนถ้าปล่อยให้นำต่อ “เรือหายแน่”
    https://www.thai-tai.tv/news/20172/
    .
    #ดรเสรีวงษ์มณฑา #การเมืองไทย #ทักษิณ #ประเทศไทย #นักวิชาการ #ข้อคิดเห็น #ข่าวการเมือง
    ดร.เสรี จวกคนทำผิดซ้ำซากแต่ไม่เคยยอมรับ ทั้งที่ศาลชี้ผิดชัด ยังมีคนเชิดชูจนประเทศวิกฤต เตือนถ้าปล่อยให้นำต่อ “เรือหายแน่” https://www.thai-tai.tv/news/20172/ . #ดรเสรีวงษ์มณฑา #การเมืองไทย #ทักษิณ #ประเทศไทย #นักวิชาการ #ข้อคิดเห็น #ข่าวการเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาว สำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC

    หลังจากที่วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน 8 ข้อ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ประณามฝ่ายไทยว่าเป็นฝ่ายก่อปัญหาจากการที่ทหารไทยรุกล้ำอธิปไตยบริเวณสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) เข้าไปยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกัมพูชาต้องตัดสินใจนำข้อพิพาทกับไทย 4 พื้นที่ไปฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICJ เพื่อหาทางยุติปัญหาโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศนั้น ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกคำชี้แจงข้อมูล ข้อคิดเห็นและท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000063597

    #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาว สำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC • หลังจากที่วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน 8 ข้อ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ประณามฝ่ายไทยว่าเป็นฝ่ายก่อปัญหาจากการที่ทหารไทยรุกล้ำอธิปไตยบริเวณสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) เข้าไปยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกัมพูชาต้องตัดสินใจนำข้อพิพาทกับไทย 4 พื้นที่ไปฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICJ เพื่อหาทางยุติปัญหาโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศนั้น ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกคำชี้แจงข้อมูล ข้อคิดเห็นและท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000063597 • #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 255 มุมมอง 0 รีวิว
  • น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยถึงแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวงเงิน 157,000 ล้านบาท ได้รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหลายฝ่าย ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ที่ขอให้รัฐบาลทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก จำเป็นต้องเร่งปรับนโยบาย เพื่อสร้างรากฐานการเติบโตระยะยาว โดยลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่ตัวกระตุ้นที่ดีที่สุด ตอนหาเสียงประเมินแล้วว่าทำได้ ซึ่งทำไปแล้วสองเฟส แต่ตอนนี้มีเรื่องภาษีของสหรัฐ จึงต้องจัดลำดับความสำคัญการใช้เงิน ไม่ห่วงกระทบเสียงพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด

    -ขยาดติดบ่วง ม.157
    -สว.อินเตอร์
    -นักท่องเที่ยวต่ำสุดในรอบปี
    -แค่หยดน้ำในมหาสมุทร
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยถึงแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวงเงิน 157,000 ล้านบาท ได้รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหลายฝ่าย ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ที่ขอให้รัฐบาลทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก จำเป็นต้องเร่งปรับนโยบาย เพื่อสร้างรากฐานการเติบโตระยะยาว โดยลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่ตัวกระตุ้นที่ดีที่สุด ตอนหาเสียงประเมินแล้วว่าทำได้ ซึ่งทำไปแล้วสองเฟส แต่ตอนนี้มีเรื่องภาษีของสหรัฐ จึงต้องจัดลำดับความสำคัญการใช้เงิน ไม่ห่วงกระทบเสียงพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด -ขยาดติดบ่วง ม.157 -สว.อินเตอร์ -นักท่องเที่ยวต่ำสุดในรอบปี -แค่หยดน้ำในมหาสมุทร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 712 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น แยกแยะยังไงก่อนลงทุน ?
    ข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น แยกแยะยังไงก่อนลงทุน ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • คีธ เคลล็อกก์ (Keith Kellogg) ผู้แทนพิเศษของทรัมป์ประจำยูเครนกล่าวในการประชุมด้านความมั่นคงที่เมืองมิวนิก "Munich Security Conference"(MSC) ระบุอย่างชัดเจนว่ายุโรปจะไม่ได้เข้าร่วมการเจรจาเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย

    - ยุโรปจะไม่มีส่วนร่วมในการเจรจาอย่างแน่นอน แต่ยูเครนยังสามารถมีส่วนร่วมได้

    - เคลล็อกก์ต้องการให้ยุโรปมีส่วนร่วมเพียงแค่การเสนอแนะแนวทาง ให้ข้อคิดเห็น ดีกว่าจะมาส่งเสียงร้องโวยวายว่าตัวเองจะได้เข้าร่วมโต๊ะเจรจาหรือไม่หรือไม่ได้เข้าร่วม

    - นอกจากนี้เคลล็อกก์ยังแนะนำให้ยุโรปเอาเวลาไปคิดหาทางเพิ่มงบประมาณด้านการทหารของตัวเองจะดีกว่า
    สหรัฐมีเป้าหมายสูงสุดคือยุติสงครามโดยเร็วที่สุด การเจรจาจะไม่ยืดเยื้อเป็นเวลาหลายเดือน สหรัฐต้องการใช้เวลาเพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์

    - ในการเจรจาข้อตกลงที่ผ่านมา การมีหลายประเทศเข้าร่วมมากเกินไปส่งผลเสียมากกว่า เคลล็อกก์ยกตัวอย่างข้อตกลงมินสค์ว่า ล้มเหลว เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากเข้าร่วม ทำให้การดำเนินกระบวนการสันติภาพเป็นไปได้ยากในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง

    - เคลล็อกก์ยังโจมตีไบเดนว่า การปล่อยปละละเลยและความอ่อนแอของเขา ทำให้รัสเซีย-จีน-อิหร่าน-เกาหลีเหนือ แข็งแกร่งขึ้นมากในเวลาไม่กี่ปี

    - สหรัฐจะช่วยยูเครนต่อไป แต่เพื่อการฟื้นฟู โดยมีเงื่อนไขว่าสงครามจะต้องหยุดลงทันทีก่อน
    คีธ เคลล็อกก์ (Keith Kellogg) ผู้แทนพิเศษของทรัมป์ประจำยูเครนกล่าวในการประชุมด้านความมั่นคงที่เมืองมิวนิก "Munich Security Conference"(MSC) ระบุอย่างชัดเจนว่ายุโรปจะไม่ได้เข้าร่วมการเจรจาเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างยูเครนกับรัสเซีย - ยุโรปจะไม่มีส่วนร่วมในการเจรจาอย่างแน่นอน แต่ยูเครนยังสามารถมีส่วนร่วมได้ - เคลล็อกก์ต้องการให้ยุโรปมีส่วนร่วมเพียงแค่การเสนอแนะแนวทาง ให้ข้อคิดเห็น ดีกว่าจะมาส่งเสียงร้องโวยวายว่าตัวเองจะได้เข้าร่วมโต๊ะเจรจาหรือไม่หรือไม่ได้เข้าร่วม - นอกจากนี้เคลล็อกก์ยังแนะนำให้ยุโรปเอาเวลาไปคิดหาทางเพิ่มงบประมาณด้านการทหารของตัวเองจะดีกว่า สหรัฐมีเป้าหมายสูงสุดคือยุติสงครามโดยเร็วที่สุด การเจรจาจะไม่ยืดเยื้อเป็นเวลาหลายเดือน สหรัฐต้องการใช้เวลาเพียงไม่กี่วันหรือไม่กี่สัปดาห์ - ในการเจรจาข้อตกลงที่ผ่านมา การมีหลายประเทศเข้าร่วมมากเกินไปส่งผลเสียมากกว่า เคลล็อกก์ยกตัวอย่างข้อตกลงมินสค์ว่า ล้มเหลว เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากเข้าร่วม ทำให้การดำเนินกระบวนการสันติภาพเป็นไปได้ยากในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง - เคลล็อกก์ยังโจมตีไบเดนว่า การปล่อยปละละเลยและความอ่อนแอของเขา ทำให้รัสเซีย-จีน-อิหร่าน-เกาหลีเหนือ แข็งแกร่งขึ้นมากในเวลาไม่กี่ปี - สหรัฐจะช่วยยูเครนต่อไป แต่เพื่อการฟื้นฟู โดยมีเงื่อนไขว่าสงครามจะต้องหยุดลงทันทีก่อน
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ภูมิธรรม’ เผยยังไม่เห็น 6 ข้อเรียกร้องของ ‘สนธิ’ ปม MOU44 แต่เป็นสิทธิของผู้เสนอ รัฐบาลจะรับฟังและดูว่าทำได้มากน้อยเพัยงใด ขอดูก่อนจัดเวทีสาธารณะได้หรือไม่ ย้ำรัฐบาลพร้อมรับฟังทุกฝ่าย ไม่โฟกัสที่คนคนเดียว โอดรัฐบาลเพิ่งทำงาน 100 วันมีม็อบจำนวนมากแล้ว

    เมื่อเวลา 09.03 น. วันที่ 11 ธ.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับ MOU2544 6 ข้อต่อรัฐบาล ได้เห็นแล้วหรือยัง ว่า ตนยังไม่เห็นเงื่อนไข ซึ่งเป็นสิทธิของผู้เสนอ โดยไม่ใช่เฉพาะนายสนธิ แต่ประชาชนหรือผู้สื่อข่าวใครมีข้อคิดเห็นอย่างไรก็สามารถเสนอได้ รัฐบาลก็จะรับฟัง และมาดูว่าจะสามารถทำได้มากน้อยขนาดไหน และเห็นพ้องต้องกันหรือไม่อย่างไร

    นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่หมิ่นประมาทการจัดม็อบ เพราะถือเป็นสิทธิของประชาชน ภายใต้กฏหมายรัฐธรรมนูญ ขอเพียงอย่างเดียวคือดำเนินการให้เหมาะสม และพูดให้ตรงข้อเท็จจริง ทั้งนี้รัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก ฯ ทำงานไม่ถึง 100 วัน ก็มีม็อบมาเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งตนมองว่าหากมีเรื่องที่อึดอัดก็สามารถเสนอเรื่องได้เรายินดีรับฟัง แม้จะเป็นความเห็นที่แตกต่าง เพราะบางคนเห็นมุมที่ต่างกัน เปรียบเหมือนปี๊บ 1 ใบ ก็เห็นได้หลายด้าน และแต่ละด้านก็แตกต่างกันจึงมองได้หลายมุม แต่ว่าสิ่งที่เห็นเพียงด้านเดียวของปี๊บ ไม่ใช่การเห็นปี๊บทั้งใบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000118796

    #MGROnline #ภูมิธรรม #สนธิ
    ‘ภูมิธรรม’ เผยยังไม่เห็น 6 ข้อเรียกร้องของ ‘สนธิ’ ปม MOU44 แต่เป็นสิทธิของผู้เสนอ รัฐบาลจะรับฟังและดูว่าทำได้มากน้อยเพัยงใด ขอดูก่อนจัดเวทีสาธารณะได้หรือไม่ ย้ำรัฐบาลพร้อมรับฟังทุกฝ่าย ไม่โฟกัสที่คนคนเดียว โอดรัฐบาลเพิ่งทำงาน 100 วันมีม็อบจำนวนมากแล้ว • เมื่อเวลา 09.03 น. วันที่ 11 ธ.ค. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ยื่นข้อเรียกร้องเกี่ยวกับ MOU2544 6 ข้อต่อรัฐบาล ได้เห็นแล้วหรือยัง ว่า ตนยังไม่เห็นเงื่อนไข ซึ่งเป็นสิทธิของผู้เสนอ โดยไม่ใช่เฉพาะนายสนธิ แต่ประชาชนหรือผู้สื่อข่าวใครมีข้อคิดเห็นอย่างไรก็สามารถเสนอได้ รัฐบาลก็จะรับฟัง และมาดูว่าจะสามารถทำได้มากน้อยขนาดไหน และเห็นพ้องต้องกันหรือไม่อย่างไร • นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่หมิ่นประมาทการจัดม็อบ เพราะถือเป็นสิทธิของประชาชน ภายใต้กฏหมายรัฐธรรมนูญ ขอเพียงอย่างเดียวคือดำเนินการให้เหมาะสม และพูดให้ตรงข้อเท็จจริง ทั้งนี้รัฐบาลของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายก ฯ ทำงานไม่ถึง 100 วัน ก็มีม็อบมาเป็นจำนวนมากแล้ว ซึ่งตนมองว่าหากมีเรื่องที่อึดอัดก็สามารถเสนอเรื่องได้เรายินดีรับฟัง แม้จะเป็นความเห็นที่แตกต่าง เพราะบางคนเห็นมุมที่ต่างกัน เปรียบเหมือนปี๊บ 1 ใบ ก็เห็นได้หลายด้าน และแต่ละด้านก็แตกต่างกันจึงมองได้หลายมุม แต่ว่าสิ่งที่เห็นเพียงด้านเดียวของปี๊บ ไม่ใช่การเห็นปี๊บทั้งใบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000118796 • #MGROnline #ภูมิธรรม #สนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 472 มุมมอง 0 รีวิว
  • Hakan Fidan รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกียืนยันอีกครั้งว่าตุรกีพยายามยื่นไมตรีให้ซีเรียมาตลอด และสิ่งที่ตุรกีทำลงไปนั้นเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้ว:

    “ข้อตกลงในการเจรจาที่กรุงอัสตานา(ปี 2017) ทำให้เราสามารถยุติความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ในซีเรียได้ และช่วยให้รัฐบาลได้มีเวลาสร้างสันติภาพกับประชาชน แต่อัสซาดไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เลยตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี

    โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การที่รัฐบาลซีเรียปฏิเสธความคิดริเริ่มที่ประธานาธิบดีของเราริเริ่มขึ้นเพื่อเตรียมการสำหรับกระบวนการที่จะเกิดขึ้นในซีเรีย ทำให้เกิดการพัฒนาแนวทางของเราในสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องที่สุด”

    (นี่เป็นข้อคิดเห็นของต้นโพสต์) บางทีอัสซาดอาจจะเป็นเซเลนสกีในอีกมิติหนึ่ง เพียงแต่ครั้งนี้เขาเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย และอยู่ตรงข้ามตะวันตก อัสซาดอาจจะอ่อนแอเกินไป ซึ่งไม่สามารถควบคุมรัฐบาลของเขาได้ (ซึ่งก็เหมือนกับเซเลนสกี) แม้ว่ารัสเซียและอิหร่านพยายามประคับประคองเขา แต่เมื่อถึงเวลา ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไป
    Hakan Fidan รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกียืนยันอีกครั้งว่าตุรกีพยายามยื่นไมตรีให้ซีเรียมาตลอด และสิ่งที่ตุรกีทำลงไปนั้นเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุดแล้ว: “ข้อตกลงในการเจรจาที่กรุงอัสตานา(ปี 2017) ทำให้เราสามารถยุติความขัดแย้งที่ดำเนินอยู่ในซีเรียได้ และช่วยให้รัฐบาลได้มีเวลาสร้างสันติภาพกับประชาชน แต่อัสซาดไม่ได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้เลยตลอดระยะเวลาเกือบ 10 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา การที่รัฐบาลซีเรียปฏิเสธความคิดริเริ่มที่ประธานาธิบดีของเราริเริ่มขึ้นเพื่อเตรียมการสำหรับกระบวนการที่จะเกิดขึ้นในซีเรีย ทำให้เกิดการพัฒนาแนวทางของเราในสิ่งที่เราคิดว่าถูกต้องที่สุด” (นี่เป็นข้อคิดเห็นของต้นโพสต์) บางทีอัสซาดอาจจะเป็นเซเลนสกีในอีกมิติหนึ่ง เพียงแต่ครั้งนี้เขาเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย และอยู่ตรงข้ามตะวันตก อัสซาดอาจจะอ่อนแอเกินไป ซึ่งไม่สามารถควบคุมรัฐบาลของเขาได้ (ซึ่งก็เหมือนกับเซเลนสกี) แม้ว่ารัสเซียและอิหร่านพยายามประคับประคองเขา แต่เมื่อถึงเวลา ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่าพบฝูงบินรบและเรือรบของจีน ดำเนินการลาดตระเวนรบใกล้ๆ เกาะของพวกเขา หลังปักกิ่งขู่ใช้มาตรการตอบโต้ กรณีที่สหรัฐฯ อนุมัติขายแพกเกจอาวุธรอบล่าสุดมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ แก่ไทเป
    .
    สหรัฐฯ มีพันธสัญญาภายใต้กฎหมายในการมอบหนทางแห่งการป้องกันตนเองแก่ไต้หวัน ที่จีนกล่าวอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน แม้ทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการระหว่งกัน จุดยืนที่ก่อความเดือดดาลแก่จีนมาอย่างต่อเนื่อง
    .
    เมื่อวันศุกร์ (25 ต.ค.) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) เปิดเผยว่าอเมริกาได้อนุมัติความเป็นไปได้ในแพกเกจขายอาวุธมูลค่า 2,000 ดอลลาร์แก่ไต้หวัน ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ในการส่งมอบระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศล้ำสมัย ที่ผ่านการทดสอบในสมรภูมิรบในยูเครนมาแล้วให้แก่เกาะแห่งนี้เป็นครั้งแรก
    .
    กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่าพวกเขาตรวจพบเครื่องบินทหารจีน 19 ลำ ในนั้นรวมถึงเครื่องบินขับไล่ Su-30 ทำการลาดตระเวนเตรียมพร้อมสู้รบร่วมรอบๆ เกาะไต้หวัน ร่วมกับกองเรือรบของจีน เริ่มต้นขึ้นในตอนเช้าวันอาทิตย์ (27 ต.ค.)
    .
    ถ้อยแถลงระบุว่าเครื่องบินของจีนบินอยู่ในน่านฟ้าทางเหนือ ตอนกลาง ทางตะวันตกเฉียงใต้และตะวันออกของไต้หวัน และกระตุ้นให้ต้องส่งกองกำลังไต้หวันออกไปเฝ้าจับตา
    .
    จีนมักดำเนินการลาดตระเวนลักษณะนี้รอบไต้หวันหลายครั้งในรอบ 1 เดือน แต่คราวนี้ถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปักกิ่งจัดการซ้อมรบเต็มรูปแบบรอบใหม่ใกล้เกาะไต้หวัน เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา
    .
    ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (27 ต.ค.) กระทรวงการต่างประเทศจีน ประณามอย่างหนักหน่วงและคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการขายอาวุธรอบล่าสุดของสหรัฐฯ และยื่นประท้วงและแสดงข้อคิดเห็นที่จริงจังไปยังวอชิงตัน
    .
    จีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดป้อนอาวุธแก่ไต้หวันในทันที และหยุดความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เป็นอันตราย ที่บ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน "จีนจะใช้มาตรการตอบโต้ที่แน่วแน่และใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นสำหรับปกป้องอธิปไตยของชาติ ความมั่นคงและบูรณภาพแห่งดินแดน" กระทรวงการต่างประเทศระบุ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม
    .
    ในช่วง 5 ปีหลังสุด จีนยกระดับความเคลื่อนไหวทางทหารรอบๆ ไต้หวัน เกาะปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยที่ปฏิเสธคำกล่าวอ้าวอำนาจอธิปไตยของจีน
    .
    รัฐบาลไต้หวันแสดงความยินดีเกี่ยวกับการขายอาวุธรอบใหม่ ซึ่งเป็นครั้งที่ 17 แล้ว ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จัดหาอาวุธให้แก่เกาะแห่งนี้ "ในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามต่างๆ จากจีน ไต้หวันมีหน้าที่รับผิดชอบปกป้องผืนแผ่นดินของตนเอง และจะเดินหน้าพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการป้องกันตนเอง" กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันระบุในวันเสาร์ (26 ต.ค.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103589
    ..............
    Sondhi X
    กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่าพบฝูงบินรบและเรือรบของจีน ดำเนินการลาดตระเวนรบใกล้ๆ เกาะของพวกเขา หลังปักกิ่งขู่ใช้มาตรการตอบโต้ กรณีที่สหรัฐฯ อนุมัติขายแพกเกจอาวุธรอบล่าสุดมูลค่า 2,000 ล้านดอลลาร์ แก่ไทเป . สหรัฐฯ มีพันธสัญญาภายใต้กฎหมายในการมอบหนทางแห่งการป้องกันตนเองแก่ไต้หวัน ที่จีนกล่าวอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน แม้ทั้ง 2 ฝ่ายไม่มีความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการระหว่งกัน จุดยืนที่ก่อความเดือดดาลแก่จีนมาอย่างต่อเนื่อง . เมื่อวันศุกร์ (25 ต.ค.) กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) เปิดเผยว่าอเมริกาได้อนุมัติความเป็นไปได้ในแพกเกจขายอาวุธมูลค่า 2,000 ดอลลาร์แก่ไต้หวัน ในนั้นรวมถึงความเป็นไปได้ในการส่งมอบระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศล้ำสมัย ที่ผ่านการทดสอบในสมรภูมิรบในยูเครนมาแล้วให้แก่เกาะแห่งนี้เป็นครั้งแรก . กระทรวงกลาโหมไต้หวันเปิดเผยว่าพวกเขาตรวจพบเครื่องบินทหารจีน 19 ลำ ในนั้นรวมถึงเครื่องบินขับไล่ Su-30 ทำการลาดตระเวนเตรียมพร้อมสู้รบร่วมรอบๆ เกาะไต้หวัน ร่วมกับกองเรือรบของจีน เริ่มต้นขึ้นในตอนเช้าวันอาทิตย์ (27 ต.ค.) . ถ้อยแถลงระบุว่าเครื่องบินของจีนบินอยู่ในน่านฟ้าทางเหนือ ตอนกลาง ทางตะวันตกเฉียงใต้และตะวันออกของไต้หวัน และกระตุ้นให้ต้องส่งกองกำลังไต้หวันออกไปเฝ้าจับตา . จีนมักดำเนินการลาดตระเวนลักษณะนี้รอบไต้หวันหลายครั้งในรอบ 1 เดือน แต่คราวนี้ถือเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ปักกิ่งจัดการซ้อมรบเต็มรูปแบบรอบใหม่ใกล้เกาะไต้หวัน เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา . ในถ้อยแถลงที่เผยแพร่ในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (27 ต.ค.) กระทรวงการต่างประเทศจีน ประณามอย่างหนักหน่วงและคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการขายอาวุธรอบล่าสุดของสหรัฐฯ และยื่นประท้วงและแสดงข้อคิดเห็นที่จริงจังไปยังวอชิงตัน . จีนเรียกร้องให้สหรัฐฯ หยุดป้อนอาวุธแก่ไต้หวันในทันที และหยุดความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่เป็นอันตราย ที่บ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน "จีนจะใช้มาตรการตอบโต้ที่แน่วแน่และใช้ทุกมาตรการที่จำเป็นสำหรับปกป้องอธิปไตยของชาติ ความมั่นคงและบูรณภาพแห่งดินแดน" กระทรวงการต่างประเทศระบุ โดยไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม . ในช่วง 5 ปีหลังสุด จีนยกระดับความเคลื่อนไหวทางทหารรอบๆ ไต้หวัน เกาะปกครองตนเองตามระบอบประชาธิปไตยที่ปฏิเสธคำกล่าวอ้าวอำนาจอธิปไตยของจีน . รัฐบาลไต้หวันแสดงความยินดีเกี่ยวกับการขายอาวุธรอบใหม่ ซึ่งเป็นครั้งที่ 17 แล้ว ที่รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน จัดหาอาวุธให้แก่เกาะแห่งนี้ "ในการเผชิญหน้ากับภัยคุกคามต่างๆ จากจีน ไต้หวันมีหน้าที่รับผิดชอบปกป้องผืนแผ่นดินของตนเอง และจะเดินหน้าพิสูจน์ให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการป้องกันตนเอง" กระทรวงการต่างประเทศไต้หวันระบุในวันเสาร์ (26 ต.ค.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103589 .............. Sondhi X
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1967 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวน่าสนใจจากสื่อ The Kyiv Independent ของยูเครน วันนี้ Dmytro Pletenchuk โฆษกกองทัพเรือยูเครนแถลงว่าช่วงที่ผ่านมา รัสเซียลดการใช้จรวดร่อนยิงจากเรือรบในทะเลดำลง โดยรัสเซียมักจะใช้เรือรบในทะเลดำล่อให้หน่วยป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนไขว้เขว ต้องแบ่งกำลังไปเผื่อรับมือจรวดร่อนที่รัสเซียอาจยิงจากเรือรบ ไม่สามารถป้องกันการโจมตีทางอากาศของรัสเซียจากทิศทางอื่นๆ ได้เต็มที่ โดยโฆษกกองทัพเรือยูเครนบอกว่าการที่รัสเซียใช้เรือรบในลักษณะนี้แสดงให้เห็นว่า "การใช้จรวดร่อนยิงจากเรือรบรัสเซียไม่มีประสิทธิภาพ"

    https://kyivindependent.com/russian-warships-missile-strikes/

    จากข่าวนี้ สังเกตอะไรมั้ยครับ ในส่วนที่โฆษกกองทัพเรือยูเครนพูดถึงยุทธวิธีของรัสเซีย ว่ามีการส่งเรือรบออกทะเลไปหลอกล่อให้ยูเครนต้องแบ่งระบบป้องกันภัยทางอากาศส่วนหนึ่งมาเตรียมรับมือ ไม่สามารถป้องกันการโจมตีทางอากาศจากทิศทางอื่นได้เต็มที่ แล้วสุดท้ายเรือรบเหล่านั้นก็ไม่ได้ยิงจรวดร่อน เช่น Kalibr ออกมาแต่อย่างใด เท่ากับว่าทหารยูเครนที่ไปรอรับมืออยู่ก็เท่ากับไปเสียเที่ยวเปล่าๆ ตรงส่วนนี้ถือว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ สามารถนำมาเป็นบทเรียนกรณีศึกษายุทธวิธีทางทหารได้ แต่พอยูเครนออกข่าวเสริมว่ายุทธวิธีนี้แสดงให้เห็นว่าเรือรบรัสเซียไม่มีประสิทธิภาพ เรื่องนี้ก็กลายเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ Propaganda ไปเลย

    ลองคิดดูนะครับ เมื่อรัสเซียใช้เรือรบในทะเลดำหลอกล่อให้ยูเครนไขว้เขว ก็เท่ากับว่าภารกิจในการทำลายเป้าหมายการโจมตีทางอากาศครั้งนั้นไม่ได้เป็นของเรือรบดังกล่าวอยู่แล้ว อาจจะเป็นภารกิจของขีปนาวุธที่มีฐานยิงบนบกเช่น Iskander-M หรืออาจเป็นของเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Tu-95 Bear ทำการยิงจรวดร่อน Kh-101 เป็นต้น ภารกิจของเรือรบรัสเซียในทะเลดำคือการล่อให้ยูเครนต้องกระจายกำลังระบบป้องกันภัยทางอากาศออก ซึ่งถ้าสามารถทำได้โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองจรวดร่อน Kalibr เลยแม้แต่ลูกเดียว ก็ดี (สำหรับรัสเซีย) ไม่ใช่หรือครับ

    นี่ก็เป็นบทเรียนในการอ่านข่าวเหมือนกันครับว่าในข่าวเดียวกัน อาจจะมีทั้งข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ข่าวจริง ข่าวลวง การโฆษณาชวนเชื่อปะปนกัน เวลาอ่านข่าวก็ต้องแยกให้ออก ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ

    สวัสดี

    การทูตและการทหาร
    Military and Diplomacy

    17.10.2024

    มีข่าวน่าสนใจจากสื่อ The Kyiv Independent ของยูเครน วันนี้ Dmytro Pletenchuk โฆษกกองทัพเรือยูเครนแถลงว่าช่วงที่ผ่านมา รัสเซียลดการใช้จรวดร่อนยิงจากเรือรบในทะเลดำลง โดยรัสเซียมักจะใช้เรือรบในทะเลดำล่อให้หน่วยป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนไขว้เขว ต้องแบ่งกำลังไปเผื่อรับมือจรวดร่อนที่รัสเซียอาจยิงจากเรือรบ ไม่สามารถป้องกันการโจมตีทางอากาศของรัสเซียจากทิศทางอื่นๆ ได้เต็มที่ โดยโฆษกกองทัพเรือยูเครนบอกว่าการที่รัสเซียใช้เรือรบในลักษณะนี้แสดงให้เห็นว่า "การใช้จรวดร่อนยิงจากเรือรบรัสเซียไม่มีประสิทธิภาพ" https://kyivindependent.com/russian-warships-missile-strikes/ จากข่าวนี้ สังเกตอะไรมั้ยครับ ในส่วนที่โฆษกกองทัพเรือยูเครนพูดถึงยุทธวิธีของรัสเซีย ว่ามีการส่งเรือรบออกทะเลไปหลอกล่อให้ยูเครนต้องแบ่งระบบป้องกันภัยทางอากาศส่วนหนึ่งมาเตรียมรับมือ ไม่สามารถป้องกันการโจมตีทางอากาศจากทิศทางอื่นได้เต็มที่ แล้วสุดท้ายเรือรบเหล่านั้นก็ไม่ได้ยิงจรวดร่อน เช่น Kalibr ออกมาแต่อย่างใด เท่ากับว่าทหารยูเครนที่ไปรอรับมืออยู่ก็เท่ากับไปเสียเที่ยวเปล่าๆ ตรงส่วนนี้ถือว่าเป็นข้อมูลที่น่าสนใจ สามารถนำมาเป็นบทเรียนกรณีศึกษายุทธวิธีทางทหารได้ แต่พอยูเครนออกข่าวเสริมว่ายุทธวิธีนี้แสดงให้เห็นว่าเรือรบรัสเซียไม่มีประสิทธิภาพ เรื่องนี้ก็กลายเป็นการโฆษณาชวนเชื่อ Propaganda ไปเลย ลองคิดดูนะครับ เมื่อรัสเซียใช้เรือรบในทะเลดำหลอกล่อให้ยูเครนไขว้เขว ก็เท่ากับว่าภารกิจในการทำลายเป้าหมายการโจมตีทางอากาศครั้งนั้นไม่ได้เป็นของเรือรบดังกล่าวอยู่แล้ว อาจจะเป็นภารกิจของขีปนาวุธที่มีฐานยิงบนบกเช่น Iskander-M หรืออาจเป็นของเครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Tu-95 Bear ทำการยิงจรวดร่อน Kh-101 เป็นต้น ภารกิจของเรือรบรัสเซียในทะเลดำคือการล่อให้ยูเครนต้องกระจายกำลังระบบป้องกันภัยทางอากาศออก ซึ่งถ้าสามารถทำได้โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองจรวดร่อน Kalibr เลยแม้แต่ลูกเดียว ก็ดี (สำหรับรัสเซีย) ไม่ใช่หรือครับ นี่ก็เป็นบทเรียนในการอ่านข่าวเหมือนกันครับว่าในข่าวเดียวกัน อาจจะมีทั้งข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ข่าวจริง ข่าวลวง การโฆษณาชวนเชื่อปะปนกัน เวลาอ่านข่าวก็ต้องแยกให้ออก ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่านครับ สวัสดี การทูตและการทหาร Military and Diplomacy 17.10.2024
    KYIVINDEPENDENT.COM
    Russian ships ineffective for missile strikes, used to distract Ukraine's defenses, Navy says
    Dmytro Pletenchuk, a spokesperson for the Ukrainian Navy, said that if Russia deploys several cruise missile carriers to the sea, it does not mean they will be used for an attack.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 668 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัญหาไฟไหม้รถบัส ต้นตอจากนโยบายรัฐ เอื้อประโยชน์ทุนพลังงาน
    .
    หากจะมีประเด็นให้พูดถึงอยู่บ้างสำหรับกรณีรถบัสเพลิงไหม้ที่คร่าครูและเด็กนักเรียนไปมากกว่า 20 ชีวิต นอกเหนือไปจากเรื่องคดีความแล้วนั้นน่าจะเป็นมาตรกระบวนการล้อมคอกของหน่วยงานภาครัฐ ที่เวลาดูเหมือนว่ากำลังจะใกล้เป็นปรากฎการณ์ไฟไหม้ฟางมากขึ้นไปทุกที
    .
    โดยจากที่เคยขึงขังประกาศโรดแมปจัดระเบียบรถโดยสารขับเคลื่อนพลังก๊าซของ 'สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ' รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปรากฎว่าความขึงขังที่เคยมีนั้นกำลังมีแนวโน้มไปสู่การหย่อนยานมากขึ้นตามลำดับ
    .
    อย่างไรก็ตาม แก่นแท้ของปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่ความประมาทของเจ้าของรถบัสต้นเหตุแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ด้านหนึ่งต้องยอมรับว่านโยบายของภาครัฐในภาพใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนให้รถโดยสารใช้ก๊าซ ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาไม่ต่างกัน โดยในเรื่องนี้มีการแสดงความคิดเห็นและให้แง่มุมมาจาก หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ
    .
    โดยนักวิชาการด้านพลังงานรายนี้ เป็นคนแรกๆที่ออกมาฉายภาพของปัญหาผ่านเฟซบุ๊กตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า เนื่องจากรัฐมุ่งโปรโมตขายก๊าซ NGV ใช้ในรถขนส่งผู้โดยสาร จนชะล่าใจ วางมาตรฐานความปลอดภัยต่ำ โดยเฉพาะมาตรฐานวาล์วที่หัวถังอันตรายมาก ดังนั้นการโยนความผิดให้เอกชนฝ่ายเดียวจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ก่อนอื่นเลยเราต้องเข้าใจว่า หลายประเทศในทวีปยุโรป นั้นใช้ก๊าซในยานยนต์มานานก่อนประเทศไทย ได้มีบทเรียนและสร้างมาตรฐานยุโรป ที่เรียกว่า ECE R110 ซึ่งกำหนดว่า ยานพาหนะที่ติดก๊าซ NGV ทุกชนิด จะต้องใช้วาล์วที่ต้องปิดเปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า โซลินอยด์ วาล์ว และเมื่อเกิดเหตุก๊าซรั่ว หรือปิดเครื่องยนต์ หรือใช้น้ำมัน จะต้องปิดวาล์ทันทีแบบอัตโนมัติ ซึ่งช้าสุดต้องไม่เกิน 2 วินาที
    .
    มาตรฐานการติดตั้งก๊าซ LPG ในยานยนต์ของประเทศไทยนั้น ได้ปรากฏเป็นประกาศกรมขนส่งทางบก ลงประกาศราชกิจจานุเบกษามีมาตั้งแต่ วันที่ 17 ธันวาคม 2551 กำหนดให้รถที่ติดก๊าซ LPG ใช้ “ลิ้นปิดเปิดอัตโนมัติ” ที่หัวถัง หากก๊าซรั่วแม้แต่เพียงเล็กน้อย หากสลับใช้น้ำมัน และหากดับเครื่องยนต์ วาล์วโซลินอยด์จะปิดอัตโนมัติทันที แต่การติดก๊าซ NGV ในยานยนต์ของประเทศไทยนั้น กลับเป็นเรื่องแปลกประหลาด
    .
    เพราะได้มีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยต่ำกว่ายุโรป และต่ำกว่าก๊าซ LPG ด้วย คือ กำหนดให้ผู้ติดตั้งก๊าซ NGV ในยานยนต์เลือกได้ ว่าจะใช้วาล์วแบบไหนก็คือ จะเป็น “วาล์วแบบอัตโนมัติ” ก็ได้ หรือจะเป็น “วาล์วแบบใช้มือปิดเปิด” ก็ได้
    .
    "เมื่อกำหนดให้เลือกได้ว่าจะให้มีมาตรฐานความปลอดภัยปิดเปิดแก๊สอัตโนมัติตามแบบยุโรปก็ได้ หรือจะเป็นวาล์วที่ใช้มือปิดเปิดก็ได้ ผู้ติดตั้งก๊าซ NGV ในเมืองไทย ส่วนใหญ่จึงเลือก “วาล์วอัตโนมือ - ที่ใช้มือปิดเปิด” เกือบทั้งหมด เพราะ ถูกกว่า-ประหยัดกว่า และภาครัฐอนุญาตให้ทำอย่างนั้น" ประเด็นสำคัญที่หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ ชี้ให้เห็น
    .
    ไม่เพียงเท่านี้ นโยบายดังกล่าวยังได้มาซึ่งความอู้ฟู่อของปตท.อีกด้วยภายใต้แผนการขยายการใช้ NGV เพื่อเป็นทางเลือกเชื้อเพลิงในภาคขนส่งในปี 2548 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ขณะนั้น โดยเป็นสารตั้งต้นที่นำมาซึ่งการส่งเสริมการใช้ก๊าซNGVครั้งใหญ่
    .
    โดยหม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ อธิบายในประเด็นนี้ว่า สามารถทำให้รัฐบาลมีมาตรการสั่งไปได้หลายกระทรวง รวมถึงมาตรการบังคับ ให้ยานยนต์ขนส่งมวลชน ให้มาติดก๊าซ NGV ให้หมด คือ แท็กซี่ในกรุงเทพ, รถให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิ, รถเมล์, รถบขส., รถตู้โดยสาร, รถบัส, รถเก็บขยะใน กทม., รถของหน่วยราชการ, รถของรัฐวิสากิจ ปตท. และรัฐบาลถึงขนาดประชาสัมพันธ์ว่า ก๊าซ NGV ทนความร้อนได้สูงกว่า ก๊าซลอยตัวขึ้นสูงจึงปลอดภัยกว่า ทำให้คนหลงเชื่อผิด ๆ และอยากติดก๊าซ NGV มากขึ้น
    .
    ไม่รู้เหมือนกันว่าข้อคิดเห็นของหม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ ซึ่งมีความน่าสนใจและชี้ให้เห็นถึงประเด็นปัญหานั้นจะไปถึงผู้มีอำนาจในรัฐบาลหรือไม่ในยามที่เรื่องนี้กำลังจะเลือนหายไปจากสังคม หรือบางทีอาจจะไปถึงโต๊ะของรัฐมนตรี แต่ก็ถูกโยนทิ้งเพราะมองว่าเป็นข้อเสนอจากคนของพรรคพลังประชารัฐที่เป็นคู่แข่งในทางการเมืองเท่านั้น
    ..............
    Sondhi X
    ปัญหาไฟไหม้รถบัส ต้นตอจากนโยบายรัฐ เอื้อประโยชน์ทุนพลังงาน . หากจะมีประเด็นให้พูดถึงอยู่บ้างสำหรับกรณีรถบัสเพลิงไหม้ที่คร่าครูและเด็กนักเรียนไปมากกว่า 20 ชีวิต นอกเหนือไปจากเรื่องคดีความแล้วนั้นน่าจะเป็นมาตรกระบวนการล้อมคอกของหน่วยงานภาครัฐ ที่เวลาดูเหมือนว่ากำลังจะใกล้เป็นปรากฎการณ์ไฟไหม้ฟางมากขึ้นไปทุกที . โดยจากที่เคยขึงขังประกาศโรดแมปจัดระเบียบรถโดยสารขับเคลื่อนพลังก๊าซของ 'สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ' รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ปรากฎว่าความขึงขังที่เคยมีนั้นกำลังมีแนวโน้มไปสู่การหย่อนยานมากขึ้นตามลำดับ . อย่างไรก็ตาม แก่นแท้ของปัญหานี้ไม่ได้อยู่ที่ความประมาทของเจ้าของรถบัสต้นเหตุแต่เพียงฝ่ายเดียว แต่ด้านหนึ่งต้องยอมรับว่านโยบายของภาครัฐในภาพใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับการสนับสนุนให้รถโดยสารใช้ก๊าซ ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุของปัญหาไม่ต่างกัน โดยในเรื่องนี้มีการแสดงความคิดเห็นและให้แง่มุมมาจาก หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการและกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ . โดยนักวิชาการด้านพลังงานรายนี้ เป็นคนแรกๆที่ออกมาฉายภาพของปัญหาผ่านเฟซบุ๊กตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมาว่า เนื่องจากรัฐมุ่งโปรโมตขายก๊าซ NGV ใช้ในรถขนส่งผู้โดยสาร จนชะล่าใจ วางมาตรฐานความปลอดภัยต่ำ โดยเฉพาะมาตรฐานวาล์วที่หัวถังอันตรายมาก ดังนั้นการโยนความผิดให้เอกชนฝ่ายเดียวจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ ก่อนอื่นเลยเราต้องเข้าใจว่า หลายประเทศในทวีปยุโรป นั้นใช้ก๊าซในยานยนต์มานานก่อนประเทศไทย ได้มีบทเรียนและสร้างมาตรฐานยุโรป ที่เรียกว่า ECE R110 ซึ่งกำหนดว่า ยานพาหนะที่ติดก๊าซ NGV ทุกชนิด จะต้องใช้วาล์วที่ต้องปิดเปิดอัตโนมัติด้วยระบบไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า โซลินอยด์ วาล์ว และเมื่อเกิดเหตุก๊าซรั่ว หรือปิดเครื่องยนต์ หรือใช้น้ำมัน จะต้องปิดวาล์ทันทีแบบอัตโนมัติ ซึ่งช้าสุดต้องไม่เกิน 2 วินาที . มาตรฐานการติดตั้งก๊าซ LPG ในยานยนต์ของประเทศไทยนั้น ได้ปรากฏเป็นประกาศกรมขนส่งทางบก ลงประกาศราชกิจจานุเบกษามีมาตั้งแต่ วันที่ 17 ธันวาคม 2551 กำหนดให้รถที่ติดก๊าซ LPG ใช้ “ลิ้นปิดเปิดอัตโนมัติ” ที่หัวถัง หากก๊าซรั่วแม้แต่เพียงเล็กน้อย หากสลับใช้น้ำมัน และหากดับเครื่องยนต์ วาล์วโซลินอยด์จะปิดอัตโนมัติทันที แต่การติดก๊าซ NGV ในยานยนต์ของประเทศไทยนั้น กลับเป็นเรื่องแปลกประหลาด . เพราะได้มีการกำหนดมาตรฐานความปลอดภัยต่ำกว่ายุโรป และต่ำกว่าก๊าซ LPG ด้วย คือ กำหนดให้ผู้ติดตั้งก๊าซ NGV ในยานยนต์เลือกได้ ว่าจะใช้วาล์วแบบไหนก็คือ จะเป็น “วาล์วแบบอัตโนมัติ” ก็ได้ หรือจะเป็น “วาล์วแบบใช้มือปิดเปิด” ก็ได้ . "เมื่อกำหนดให้เลือกได้ว่าจะให้มีมาตรฐานความปลอดภัยปิดเปิดแก๊สอัตโนมัติตามแบบยุโรปก็ได้ หรือจะเป็นวาล์วที่ใช้มือปิดเปิดก็ได้ ผู้ติดตั้งก๊าซ NGV ในเมืองไทย ส่วนใหญ่จึงเลือก “วาล์วอัตโนมือ - ที่ใช้มือปิดเปิด” เกือบทั้งหมด เพราะ ถูกกว่า-ประหยัดกว่า และภาครัฐอนุญาตให้ทำอย่างนั้น" ประเด็นสำคัญที่หม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ ชี้ให้เห็น . ไม่เพียงเท่านี้ นโยบายดังกล่าวยังได้มาซึ่งความอู้ฟู่อของปตท.อีกด้วยภายใต้แผนการขยายการใช้ NGV เพื่อเป็นทางเลือกเชื้อเพลิงในภาคขนส่งในปี 2548 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ขณะนั้น โดยเป็นสารตั้งต้นที่นำมาซึ่งการส่งเสริมการใช้ก๊าซNGVครั้งใหญ่ . โดยหม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ อธิบายในประเด็นนี้ว่า สามารถทำให้รัฐบาลมีมาตรการสั่งไปได้หลายกระทรวง รวมถึงมาตรการบังคับ ให้ยานยนต์ขนส่งมวลชน ให้มาติดก๊าซ NGV ให้หมด คือ แท็กซี่ในกรุงเทพ, รถให้บริการในสนามบินสุวรรณภูมิ, รถเมล์, รถบขส., รถตู้โดยสาร, รถบัส, รถเก็บขยะใน กทม., รถของหน่วยราชการ, รถของรัฐวิสากิจ ปตท. และรัฐบาลถึงขนาดประชาสัมพันธ์ว่า ก๊าซ NGV ทนความร้อนได้สูงกว่า ก๊าซลอยตัวขึ้นสูงจึงปลอดภัยกว่า ทำให้คนหลงเชื่อผิด ๆ และอยากติดก๊าซ NGV มากขึ้น . ไม่รู้เหมือนกันว่าข้อคิดเห็นของหม่อมหลวงกรกสิวัฒน์ ซึ่งมีความน่าสนใจและชี้ให้เห็นถึงประเด็นปัญหานั้นจะไปถึงผู้มีอำนาจในรัฐบาลหรือไม่ในยามที่เรื่องนี้กำลังจะเลือนหายไปจากสังคม หรือบางทีอาจจะไปถึงโต๊ะของรัฐมนตรี แต่ก็ถูกโยนทิ้งเพราะมองว่าเป็นข้อเสนอจากคนของพรรคพลังประชารัฐที่เป็นคู่แข่งในทางการเมืองเท่านั้น .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1628 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อคิดเห็นใดของเลขาธิการนาโต้ สตอลเทนเบิร์ก จะถูกจดจำบ้าง?

    เลขาธิการนาโต้ เยนส์ สตอลเทนเบิร์ก จะส่งมอบอำนาจให้กับ มาร์ก รุตเต้ อดีตนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ ๑ ตุลาคม

    สปุตนิกได้เล่าถึงคำพูดที่น่าจดจำบางส่วนของสตอลเทนเบิร์กที่กล่าวระหว่างดำรงตำแหน่งนาโต้:

    ชัยชนะของรัสเซียในความขัดแย้งกับยูเครน "จะไม่เพียงแต่เป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของชาวยูเครนเท่านั้น, แต่ยังเป็นความพ่ายแพ้และอันตรายสำหรับเราทุกคนด้วย," สตอลเทนเบิร์ก เน้นย้ำในเดือนตุลาคม ๒๐๒๒ คำแถลงดังกล่าวอาจถือเป็นการยอมรับความจริงที่ว่านาโต้กำลังสู้รบในยูเครน, ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินกล่าวในขณะนั้น

    สตอลเทนเบิร์ก เริ่มต้นปี 2024 ด้วยการกล่าวว่า การสนับสนุนยูเครน "ไม่ใช่การกุศล, แต่เป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงของเราเอง,"

    หัวหน้า NATO เรียกร้องให้พันธมิตรปล่อยให้เคียฟใช้อาวุธระยะไกลจากชาติตะวันตกโจมตีลึกเข้าไปในรัสเซีย "ก่อนหน้านี้ เขาได้กำหนดเส้นแบ่งไว้หลายเส้นโดย [ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย] และเขาไม่ได้เพิ่มระดับความรุนแรง," สโตลเทนเบิร์ก กล่าวกับผู้สื่อข่าว

    สโตลเทนเบิร์กปฏิเสธที่จะยอมรับว่ายูเครนได้ประสานงานการโจมตีพื้นที่ชายแดนรัสเซียที่เมืองเคิร์สก์กับตัวแทนจากชาติตะวันตก "ในเรื่องนี้, นาโต้ไม่ได้มีบทบาทใดๆ," สโตลเทนเบิร์ก กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อของเยอรมนี

    สโตลเทนเบิร์กกล่าวหาอย่างโด่งดังว่ารัสเซีย "พยายามแทรกแซงและทำลายความไว้วางใจของสถาบันประชาธิปไตยในประเทศพันธมิตรนาโตหลายแห่งและที่อื่นๆ" ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่ศูนย์การศึกษากลยุทธ์ในนิวซีแลนด์ในปี ๒๐๑๙ ในความเป็นจริง, สหรัฐฯและนาโตต่างก็อวดอ้างประวัติการทำสงครามที่ไร้เหตุผลและนองเลือด

    คาบสมุทรไครเมียได้กลับมารวมกับรัสเซียอีกครั้งอันเป็นผลจาก "การแข่งขันของมหาอำนาจ," ที่เพิ่มขึ้น สโตลเทนเบิร์กกล่าว ในทางปฏิบัติ, ไครเมียลงคะแนนเสียงเพื่อกลับเข้าร่วมกับรัสเซียในการลงประชามติในปี ๒๐๑๔ หลังจากการรัฐประหารที่สหรัฐฯยุยงให้โค่นล้มรัฐบาลเคียฟที่ถูกต้องตามกฎหมาย และกลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับความขัดแย้งในยูเครน

    สโตลเทนเบิร์กย้ำว่า "ประตูของนาโตเปิดอยู่ ยูเครนจะเข้าร่วม," ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เบอร์ลินเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน
    .
    What remarks will NATO’s outgoing chief Stoltenberg be remembered for?

    NATO Secretary General Jens Stoltenberg is to hand over the reins to former Dutch Prime Minister Mark Rutte on October 1.

    Sputnik has recalled some of the memorable remarks Stoltenberg made during his NATO stint:

    Russia’s victory in the Ukraine conflict would be “not only a big defeat for Ukrainians, but it will be a defeat and dangerous for all of us," Stoltenberg stressed in October 2022. The statement could be considered recognition of the fact that NATO is fighting in Ukraine, Kremlin spokesman Dmitry Peskov said at the time.

    Supporting Ukraine “is not a charity, it is an investment in our own security," Stoltenberg started out 2024 by saying.

    The NATO chief egged on allies to let Kiev use long-range Western weapons to strike deep inside Russia. "There have been many red lines declared by him [Russia’s President Vladimir Putin] before, and he has not escalated," Stoltenberg told reporters.

    Stoltenberg refused to admit that Ukraine had coordinated its attack on the Russian border region of Kursk with its Western proxies. "In this respect, NATO played no role," Stoltenberg said in a German media interview.

    Stoltenberg famously accused Russia of "trying to meddle in and undermining the trust of democratic institutions in several NATO allied countries and also elsewhere” during a speech at the Center for Strategic Studies in New Zealand in 2019. In fact, the US and NATO boast a track record of senseless and bloody wars.

    The Crimean Peninsula was reunited with Russia as a result of increased "great power competition," Stoltenberg said. In effect, Crimea voted to rejoin Russia in a 2014 referendum after a US-instigated coup ousted the legitimate Kiev government and became a catalyst for the Ukraine conflagration.

    Stoltenberg doubled down on the fact that “NATO’s door is open. Ukraine will join,” during a speech in Berlin on September 19.
    .
    1:31 AM · Sep 21, 2024 · 3,210 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1837197843531968526
    ข้อคิดเห็นใดของเลขาธิการนาโต้ สตอลเทนเบิร์ก จะถูกจดจำบ้าง? เลขาธิการนาโต้ เยนส์ สตอลเทนเบิร์ก จะส่งมอบอำนาจให้กับ มาร์ก รุตเต้ อดีตนายกรัฐมนตรีเนเธอร์แลนด์ ในวันที่ ๑ ตุลาคม สปุตนิกได้เล่าถึงคำพูดที่น่าจดจำบางส่วนของสตอลเทนเบิร์กที่กล่าวระหว่างดำรงตำแหน่งนาโต้: ◻️ ชัยชนะของรัสเซียในความขัดแย้งกับยูเครน "จะไม่เพียงแต่เป็นความพ่ายแพ้ครั้งใหญ่ของชาวยูเครนเท่านั้น, แต่ยังเป็นความพ่ายแพ้และอันตรายสำหรับเราทุกคนด้วย," สตอลเทนเบิร์ก เน้นย้ำในเดือนตุลาคม ๒๐๒๒ คำแถลงดังกล่าวอาจถือเป็นการยอมรับความจริงที่ว่านาโต้กำลังสู้รบในยูเครน, ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินกล่าวในขณะนั้น ◻️ สตอลเทนเบิร์ก เริ่มต้นปี 2024 ด้วยการกล่าวว่า การสนับสนุนยูเครน "ไม่ใช่การกุศล, แต่เป็นการลงทุนเพื่อความมั่นคงของเราเอง," ◻️ หัวหน้า NATO เรียกร้องให้พันธมิตรปล่อยให้เคียฟใช้อาวุธระยะไกลจากชาติตะวันตกโจมตีลึกเข้าไปในรัสเซีย "ก่อนหน้านี้ เขาได้กำหนดเส้นแบ่งไว้หลายเส้นโดย [ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย] และเขาไม่ได้เพิ่มระดับความรุนแรง," สโตลเทนเบิร์ก กล่าวกับผู้สื่อข่าว ◻️ สโตลเทนเบิร์กปฏิเสธที่จะยอมรับว่ายูเครนได้ประสานงานการโจมตีพื้นที่ชายแดนรัสเซียที่เมืองเคิร์สก์กับตัวแทนจากชาติตะวันตก "ในเรื่องนี้, นาโต้ไม่ได้มีบทบาทใดๆ," สโตลเทนเบิร์ก กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสื่อของเยอรมนี ◻️ สโตลเทนเบิร์กกล่าวหาอย่างโด่งดังว่ารัสเซีย "พยายามแทรกแซงและทำลายความไว้วางใจของสถาบันประชาธิปไตยในประเทศพันธมิตรนาโตหลายแห่งและที่อื่นๆ" ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่ศูนย์การศึกษากลยุทธ์ในนิวซีแลนด์ในปี ๒๐๑๙ 🤣ในความเป็นจริง, สหรัฐฯและนาโตต่างก็อวดอ้างประวัติการทำสงครามที่ไร้เหตุผลและนองเลือด🤣 ◻️ คาบสมุทรไครเมียได้กลับมารวมกับรัสเซียอีกครั้งอันเป็นผลจาก "การแข่งขันของมหาอำนาจ," ที่เพิ่มขึ้น สโตลเทนเบิร์กกล่าว 📌ในทางปฏิบัติ, ไครเมียลงคะแนนเสียงเพื่อกลับเข้าร่วมกับรัสเซียในการลงประชามติในปี ๒๐๑๔ หลังจากการรัฐประหารที่สหรัฐฯยุยงให้โค่นล้มรัฐบาลเคียฟที่ถูกต้องตามกฎหมาย และกลายเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับความขัดแย้งในยูเครน📌 ◻️ สโตลเทนเบิร์กย้ำว่า "ประตูของนาโตเปิดอยู่ ยูเครนจะเข้าร่วม," ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ที่เบอร์ลินเมื่อวันที่ ๑๙ กันยายน . What remarks will NATO’s outgoing chief Stoltenberg be remembered for? NATO Secretary General Jens Stoltenberg is to hand over the reins to former Dutch Prime Minister Mark Rutte on October 1. Sputnik has recalled some of the memorable remarks Stoltenberg made during his NATO stint: ◻️ Russia’s victory in the Ukraine conflict would be “not only a big defeat for Ukrainians, but it will be a defeat and dangerous for all of us," Stoltenberg stressed in October 2022. The statement could be considered recognition of the fact that NATO is fighting in Ukraine, Kremlin spokesman Dmitry Peskov said at the time. ◻️ Supporting Ukraine “is not a charity, it is an investment in our own security," Stoltenberg started out 2024 by saying. ◻️ The NATO chief egged on allies to let Kiev use long-range Western weapons to strike deep inside Russia. "There have been many red lines declared by him [Russia’s President Vladimir Putin] before, and he has not escalated," Stoltenberg told reporters. ◻️ Stoltenberg refused to admit that Ukraine had coordinated its attack on the Russian border region of Kursk with its Western proxies. "In this respect, NATO played no role," Stoltenberg said in a German media interview. ◻️ Stoltenberg famously accused Russia of "trying to meddle in and undermining the trust of democratic institutions in several NATO allied countries and also elsewhere” during a speech at the Center for Strategic Studies in New Zealand in 2019. In fact, the US and NATO boast a track record of senseless and bloody wars. ◻️ The Crimean Peninsula was reunited with Russia as a result of increased "great power competition," Stoltenberg said. In effect, Crimea voted to rejoin Russia in a 2014 referendum after a US-instigated coup ousted the legitimate Kiev government and became a catalyst for the Ukraine conflagration. ◻️ Stoltenberg doubled down on the fact that “NATO’s door is open. Ukraine will join,” during a speech in Berlin on September 19. . 1:31 AM · Sep 21, 2024 · 3,210 Views https://x.com/SputnikInt/status/1837197843531968526
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1402 มุมมอง 176 0 รีวิว