• ออกมาบอกชัดเจนแล้วว่ารายการโหนกระแส ในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.68) จะเป็นรายการสดเปิดใจ หนุ่มที่ถูกแฟนสาวนอกใจไปคบกับ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ซึ่ง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้พูดกับพิธีกรร่วม “หมวย อริสรา กำธรเจริญ” ถึงกระแสตอนนี้ว่าคนทั้งประเทศไม่มีใครอยากให้ “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” กลับไปคืนดีกับ โตโน่ รวมถึง หมวย เอง ก็ไม่อยากให้ ณิชา กลับไปคืนดีเช่นกัน

    หนุ่ม กรรชัย : “อดใจรอพรุ่งนี้รายการโหนกระแสจะทำเรื่องนี้ฝ่ายชาย เพชรจะมาออก และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด วันต่อไปผมจะพยายามตามมายด์มาออกรายการ เขาสมควรจะได้พูด โตโน่ ไม่ต้องพูดถึงมันชัดเจนอยู่แล้วในสิ่งที่เขาพูด ณิชาเธอคือผู้ถูกกระทำตัวจริง แล้วคนก็คงจับตาดูว่าความสัมพันธ์ของโตโน่กับณิชาจะเป็นอย่างไร ผมเชื่อว่าคนทั้งประเทศก็คงไม่อยากจะให้ณิชากลับไป อันนี้ผมขอโทษนะ ผมอาจจะสอ ที่มาพูดแบบนี้ พี่หมวยรู้สึกยังไง…”

    หมวย อริสรา : “ก็ไม่อยาก“

    หนุ่ม กรรชัย : “มันหลายคน แต่สุดท้ายก็ต้องเผื่อใจไว้นะ มันเป็นเรื่องของเขาสองคนว่าเขาจะกลับไปดีกันไหม หรือ ณิชาจะให้โอกาสไหม มันเป็นสิทธิ์ของ ณิชา ไง อย่าเพิ่งไปคาดเดาอะไรกันเอง รอเวลา ต้องให้เขาคุยกันก่อน เขาอาจจะมีการให้อภัยก็ได้ ก็แล้วแต่ มันก็เป็นเรื่องของเขา อย่าเพิ่งไปฝังใจว่าไม่ได้นะ อย่ากลับไป ไม่งั้นกับคุณต้องไปหาอาหารร่วมกันกินนะ ปล่อยให้เขาไปเคลียร์กันเอง”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035713

    #MGROnline #หนุ่มกรรชัย #โตโน่ภาคิณ #โตโน่ณิชา #โตโน่ภาคิน #โตโน่
    ออกมาบอกชัดเจนแล้วว่ารายการโหนกระแส ในวันพรุ่งนี้ (16 เม.ย.68) จะเป็นรายการสดเปิดใจ หนุ่มที่ถูกแฟนสาวนอกใจไปคบกับ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ซึ่ง “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ได้พูดกับพิธีกรร่วม “หมวย อริสรา กำธรเจริญ” ถึงกระแสตอนนี้ว่าคนทั้งประเทศไม่มีใครอยากให้ “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” กลับไปคืนดีกับ โตโน่ รวมถึง หมวย เอง ก็ไม่อยากให้ ณิชา กลับไปคืนดีเช่นกัน • หนุ่ม กรรชัย : “อดใจรอพรุ่งนี้รายการโหนกระแสจะทำเรื่องนี้ฝ่ายชาย เพชรจะมาออก และถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด วันต่อไปผมจะพยายามตามมายด์มาออกรายการ เขาสมควรจะได้พูด โตโน่ ไม่ต้องพูดถึงมันชัดเจนอยู่แล้วในสิ่งที่เขาพูด ณิชาเธอคือผู้ถูกกระทำตัวจริง แล้วคนก็คงจับตาดูว่าความสัมพันธ์ของโตโน่กับณิชาจะเป็นอย่างไร ผมเชื่อว่าคนทั้งประเทศก็คงไม่อยากจะให้ณิชากลับไป อันนี้ผมขอโทษนะ ผมอาจจะสอ ที่มาพูดแบบนี้ พี่หมวยรู้สึกยังไง…” • หมวย อริสรา : “ก็ไม่อยาก“ • หนุ่ม กรรชัย : “มันหลายคน แต่สุดท้ายก็ต้องเผื่อใจไว้นะ มันเป็นเรื่องของเขาสองคนว่าเขาจะกลับไปดีกันไหม หรือ ณิชาจะให้โอกาสไหม มันเป็นสิทธิ์ของ ณิชา ไง อย่าเพิ่งไปคาดเดาอะไรกันเอง รอเวลา ต้องให้เขาคุยกันก่อน เขาอาจจะมีการให้อภัยก็ได้ ก็แล้วแต่ มันก็เป็นเรื่องของเขา อย่าเพิ่งไปฝังใจว่าไม่ได้นะ อย่ากลับไป ไม่งั้นกับคุณต้องไปหาอาหารร่วมกันกินนะ ปล่อยให้เขาไปเคลียร์กันเอง” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035713 • #MGROnline #หนุ่มกรรชัย #โตโน่ภาคิณ #โตโน่ณิชา #โตโน่ภาคิน #โตโน่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญพระแก่หลังหลวงพ่อเลียบ วัดก้างปลา จ.นครศรีธรรมราช ปี2536
    เหรียญพระแก่หลังหลวงพ่อเลียบ วัดก้างปลา ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ปี2536 //“ขอได้ ไหว้รับ” แม่แก่ หรือ พระแก่ หรือ หลวงพ่อแก่ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อายุกว่า 700ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    **** พุทธคุณ “ขอได้ ไหว้รับ” เมตตามหานิยม โชคลาภและแคล้วคลาด เสริมศิริมงคล ทำมาหากินรุ่งเรือง มีแต่ความร่ำรวย ประกอบธุรกิจ เงินๆทองๆ จะเจริญขึ้น มีเงินใหลมาเทมา การงานรับราชการ จะได้เลื่อนตำแหน่ง คุ้มครองป้องกัน แคล้วคลาดปลอดภัย >>

    ** ที่เรียกกันไปหลายชื่อก็เพราะสาเหตุดังนี้
    ** แม่แก่ เรียกตามสมัยโบราณ เพราะเมื่อมีคนบนบานศาลกล่าวขอพรเมื่อได้สำเร็จสมตามปรารถนาก็เรียกตามความ รู้สึกของตนด้วยความเคารพ ว่าแม่แก่ ( แม่เฒ่า )เพราะอยู่มานานไม่มีใครรู้จักชื่อ

    ** พระแก่ เรียกว่าพระแก่เพราะนั้นเพราะชาวบ้านมีความรู้สึกว่าท่านเป็นผู้ทรงศีลทรง ธรรมมีความบริสุทธิ์เช่นเดียวกับพระ เป็นที่พึ่งได้ในยามเขามีทุกข์ จึงเรียกว่าพระแก่

    ** หลวงพ่อแก่ ที่เรียกว่าหลวงพ่อแก่นั้นเป็นชื่อที่เรียกกันในสมัยที่พระครูวิฑิตธรรมโสภณ ( มหาเลียบ ฐิตธมฺโม ) อดีตเจ้าอาวาสชึ่งเป็นพระที่เก่งในทางไสยศาสตร์วิชาอาคมมีคนมาสักการะท่าน มากและก็ถามถึงเรื่องพระแก่ แม่แก่ ท่านจึงสร้างวิหารและเขียนไว้ที่หน้าวิหารว่า วิหารหลวงพ่อแก่ เพื่อให้เป็นสากลเพราะเป็นชื่อที่เรียกง่ายและเป็นคำพูดที่ไพเราะ คนสมัยปัจจุบันจึงเรียกว่า หลวงพ่อแก่ กันทั่วหน้า
    ของแก้บนในสมัยก่อน ใช้เผือก มัน กล้วย ปิดทอง ถ้าบนหนัก ๆ และสำเร็จส่วนใหญ่ก็จะเป็นมโนราห์ ปิดทอง สตางค์ใส่ตู้
    ปัจจุบันของแก้บน ประทัด บนบวช >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญพระแก่หลังหลวงพ่อเลียบ วัดก้างปลา จ.นครศรีธรรมราช ปี2536 เหรียญพระแก่หลังหลวงพ่อเลียบ วัดก้างปลา ต.ที่วัง อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ปี2536 //“ขอได้ ไหว้รับ” แม่แก่ หรือ พระแก่ หรือ หลวงพ่อแก่ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ อายุกว่า 700ปี // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> **** พุทธคุณ “ขอได้ ไหว้รับ” เมตตามหานิยม โชคลาภและแคล้วคลาด เสริมศิริมงคล ทำมาหากินรุ่งเรือง มีแต่ความร่ำรวย ประกอบธุรกิจ เงินๆทองๆ จะเจริญขึ้น มีเงินใหลมาเทมา การงานรับราชการ จะได้เลื่อนตำแหน่ง คุ้มครองป้องกัน แคล้วคลาดปลอดภัย >> ** ที่เรียกกันไปหลายชื่อก็เพราะสาเหตุดังนี้ ** แม่แก่ เรียกตามสมัยโบราณ เพราะเมื่อมีคนบนบานศาลกล่าวขอพรเมื่อได้สำเร็จสมตามปรารถนาก็เรียกตามความ รู้สึกของตนด้วยความเคารพ ว่าแม่แก่ ( แม่เฒ่า )เพราะอยู่มานานไม่มีใครรู้จักชื่อ ** พระแก่ เรียกว่าพระแก่เพราะนั้นเพราะชาวบ้านมีความรู้สึกว่าท่านเป็นผู้ทรงศีลทรง ธรรมมีความบริสุทธิ์เช่นเดียวกับพระ เป็นที่พึ่งได้ในยามเขามีทุกข์ จึงเรียกว่าพระแก่ ** หลวงพ่อแก่ ที่เรียกว่าหลวงพ่อแก่นั้นเป็นชื่อที่เรียกกันในสมัยที่พระครูวิฑิตธรรมโสภณ ( มหาเลียบ ฐิตธมฺโม ) อดีตเจ้าอาวาสชึ่งเป็นพระที่เก่งในทางไสยศาสตร์วิชาอาคมมีคนมาสักการะท่าน มากและก็ถามถึงเรื่องพระแก่ แม่แก่ ท่านจึงสร้างวิหารและเขียนไว้ที่หน้าวิหารว่า วิหารหลวงพ่อแก่ เพื่อให้เป็นสากลเพราะเป็นชื่อที่เรียกง่ายและเป็นคำพูดที่ไพเราะ คนสมัยปัจจุบันจึงเรียกว่า หลวงพ่อแก่ กันทั่วหน้า ของแก้บนในสมัยก่อน ใช้เผือก มัน กล้วย ปิดทอง ถ้าบนหนัก ๆ และสำเร็จส่วนใหญ่ก็จะเป็นมโนราห์ ปิดทอง สตางค์ใส่ตู้ ปัจจุบันของแก้บน ประทัด บนบวช >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • **นิยายเรื่อง *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*

    ### **Prologue: เงามรณะบนพิธีกรรม
    **สถานที่ : วิหารลับใต้ภูเขาหลวงพระบาง, ลาว**
    **เวลา : 1632 ปีก่อน**

    หมอกควันพิษสีม่วงคลุ้งรอบแท่นบูชาหิน บรรพบุรุษแห่ง 7 ตระกูลยืนเป็นวงกลมรอบ **"ดวงแก้วจตุรภุช"** แสงแก้วสะท้อนภาพหญิงสาวในชุดขาวถูกมัดไว้กลางแท่น—เธอคือ **หยวนเยี่ยน** หญิงร่างวิญญาณอมตะ

    **"เลือดบริสุทธิ์ของเธอจะผนึกคำสาปให้เราชั่วนิรันดร์!"** หัวหน้าตระกูลหลงร้องประกาศ แต่แล้วดวงแก้วก็ระเบิดเป็นแสงวาบวับ ภาพสุดท้ายที่ทุกคนเห็นคือหยวนเยี่ยนยิ้มอย่างเศร้าสร้อย ก่อนวิญญาณทั้งหมดถูกดูดเข้าไปในประตูมิติ...

    ---

    ### **ตอนที่ 1 : เสี้ยวผลึกแก้วแห่งโชคชะตา**
    **สถานที่ : ปักกิ่ง, จีน**
    **เวลา : ปัจจุบัน - 3 วันหลังพิธีล่มสลาย**

    **หลงเหมย** ฝันเห็นแม่ตาบอดส่งเสียงร้องในความมืด เธอตื่นขึ้นมาในห้องแล็บใต้ดินของตระกูลหลง ที่แขนขวาถูกติดตั้งท่อส่งเลือดสีม่วงเชื่อมกับ **หลงเจี้ยน**

    **"เลือดของฉันมีพิษ...พี่จะตายเพราะช่วยฉัน!"** เหมยพยายามดึงสายยางออก
    เจี้ยนจับมือเธอไว้แน่น : **"นี่คือคำขอโทษ...สำหรับเรื่องที่พี่ทำกับหยวนเยี่ยน"**

    บนจอคอมพิวเตอร์ ภาพแผนที่ 7 ทิศเริ่มเชื่อมโยงกัน แสดงตำแหน่ง **"ผอบศิลาทิศเหนือ"** ซ่อนอยู่ใน **ห้องอ่านหนังสือต้องห้าม** ของพระราชวังโบราณ แต่แล้วสัญญาณก็ถูกขัดจังหวะด้วยข้อความจาก **อสรพิษดำ*(blakeMemba)
    *"ม้ามืดคือผู้อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง...และเธอไว้ใจเขา!"*

    ---

    ### **ตอนที่ 2 : ดาบสลักรักที่เกียวโต**
    **สถานที่ : ปราสาทนินจาลับ, เกียวโต**
    **เวลา : ฤดูร้อนคืนจันทร์เสี้ยว**

    **ทาเคดะ ฮารุโตะ** ฝึกดาบกับเงาสีแดงที่ปรากฏในกระจก ทุกครั้งที่ฟันถูกต้อง เงาจะกลายเป็นภาพ **ซากุระ** น้องสาวตัวเองที่ถูกแทงกลางใจ

    **"หยุดเล่นละครเสียที!"** ซากุระกระโจนเข้ามาหยุดพี่ชาย พร้อมชูสมุดภาพวาดโบราณที่เพิ่งขโมยมาได้ : **"ดูสิ...ราชปุตกับทาเคดะเคยเป็นพันธมิตร!"**

    ภาพในสมุดแสดงพิธี **"สละสายเลือด"** เมื่อ 500 ปีก่อน หญิงชาวอินเดียในชุดกิโมโนกำลังตัดเส้นเลือดบนแขนสองเด็กชาย—ฮารุโตะจำได้ทันทีว่านั้นคือแม่ของเขา!

    ทันใดนั้น กระจกทุกบานในห้องแตกเป็นเสี่ยงๆ **วีร ราชปุต** ปรากฏตัวพร้อมปืนจ่อมาที่หัวฮารุโตะ :
    *"ยอมแพ้...หรืออยากรู้ความจริงว่าทำไมเลือดเราจึงดึงดูดกัน?"*

    ---

    ### **ตอนที่ 3 : ไฟใต้ธุลีวงเวียน**
    **สถานที่ : ตลาดเครื่องเทศมุมไบ, อินเดีย**
    **เวลา : ตอนเที่ยงวันที่แดดร้อนแรงที่สุด**

    **เดีย วิชายา** ซ่อนตัวอยู่หลังรถบรรทุกเครื่องเทศ ตามหาพยานหลักฐานที่เชื่อมโยง **อานยา** น้องสาวกับองค์กรอสรพิษดำ(blakeMemba) เธอใช้กล้องส่องเห็น **อานยา** กำลังเจาะห้องนิรภัยในตึกระฟ้า

    **"นั่นไม่ใช่น้องฉัน..."** เดียกระซิบด้วยความหวาดหวั่นเมื่อเห็นอานยาฉีดสารสีดำเข้าหลอดเลือดตัวเอง ก่อนที่ร่างเธอจะบิดเบี้ยวเหมือนงูยักษ์

    เดียรีบส่งข้อมูลให้ **อาริ** พี่ชายในบาหลี แต่กลับถูกจับกุมโดย **เหงียนล็อง** สถาปนิกหนุ่มผู้ถือพิมพ์เขียวประหลาด :
    *"คุณคือตัวเชื่อม...แผนที่ทุกอันชี้มาที่คุณ!"*

    ---

    ### **ตอนที่ 4 : ศึกสายฟ้าในสายฝน**
    **สถานที่ : เกาะภูเขาไฟบาหลี, อินโดนีเซีย**
    **เวลา : ขณะภูเขาไฟเริ่มคำรามปะทุ**

    **อาริ วิชายา** ต่อสู้กับปีศาจุตนุคลายเต่าตัวขนาดใหญ่มีเกล็ดแขงปกคลุมทั่วตัวที่หลุดมาจากพิธีกรรมโบราณ เขาใช้มีดกรีดแขนตัวเองให้เลือดไหลลงลาวา :
    *"กินฉันไป...แต่ปล่อยน้องสาวฉันด้วย!"*

    ปีศาจตนุหัวเราะคราง : *"มนุษย์จอมปลอม...เจ้าคือลูกหลานของข้าเอง!"*
    ภาพหลอนแสดงให้อาริเห็นว่า เขาคือทายาทรุ่นที่ 100 ของการผสมพันธุ์ระหว่างมนุษย์กับปีศาจ

    ท่ามกลางความสับสน **เหงียนลาน** ปรากฏตัวพร้อมกระทะไฟ :
    *"ช่วยกันทำอาหารปราบปีศาจศักดิ์สิทธิ์ไหม? สูตรนี้ต้องใช้เลือดคนรักแท้...ซึ่งเราทั้งคู่ไม่มี!"*

    ---

    ### **ตอนที่ 5 : เพลงคำสาปในวงวัตธจักรโคจร**
    **สถานที่ : ห้องสตูดิโอใต้ดินโซล, เกาหลีใต้**
    **เวลา : ตอนเที่ยงคืนตรง**

    **คิมจีอู** กำลังอัดเพลงลับ *"Starlight Requiem"** ในห้องซาวด์พรูฟที่เต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ **แทฮยอน** นั่งเฝ้าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แฮ็กข้อมูลจากดาวเทียม

    **"Oppa...ฉันได้ยินเสียงแม่ในไมโครโฟน"** จีอูสะอื้นขณะเสียงประสานหลอนเริ่มดังขึ้น
    แทฮยอนสแกนคลื่นเสียงแล้วตกใจ : **"นี่ไม่ใช่เสียงแม่...มันเป็นคำสาปจากผลึกดวงแก้ว!"**

    จอคอมพิวเตอร์ระเบิดเป็นไฟสีคราม **อสรพิษดำ**(bmb) บุกเข้ามาพร้อมประกาศ :
    *"เราจะใช้เพลงนี้เปิดประตูมิติ...และนางจะตายในวันที่เสียงเพลงจบลง!"*

    ---

    ### **ตอนที่ 6 : ระบำไฟแห่งอาถรรพณ์**
    **สถานที่ : เรือนแพกลางแม่น้ำเจ้าพระยา, ไทย**
    **เวลา : งานสงกรานต์**

    **ณัฐ ศรีสุวรรณ** ต่อสู้กับนักมวยปริศนาบนสะพานเรือ ทุกหมัดที่ต่อยโดนทำให้เขามองเห็นภาพ **พิมพ์ลดา** น้องสาวกำลังเต้นระบำหน้ากากกลางไฟ

    **"นี่ไม่ใช่การต่อสู้...แต่เป็นการเซ่นสังเวย!"** ณัฐตะโกนขณะรอยสักนาคราชลุกเป็นไฟ
    เขาใช้หมัดสุดท้ายทุบแท่นบูชา จนชิ้นแก้วทิศใต้หลุดออกมา—แต่กลับพบศพ **เดีย วิชายา** ถูกมัดไว้ใต้แท่น!

    พิมพ์ลดาปรากฏตัวในร่างเทพธิดา :
    *"เลือกเถิด...ระหว่างชีวิตนาง กับพลังปราบอสรพิษ?"*

    ---

    ### **ตอนที่ 7 : จุดชนวนอรุณกรรม**
    **สถานที่ : ยอดเขาหลวงพระบาง**
    **เวลา : รุ่งสางวันที่ดวงอาทิตย์อ่อนแสง

    ทุกตระกูลมาบรรจบกันที่ปล่องไฟโบราณ **เหงียนล็อง** ต่อจิ๊กซอว์ชิ้นผลึกแก้วจนสมบูรณ์ แต่กลับพบว่าต้องการ **"เลือดบริสุทธิ์ 7 หยดจากผู้มีรักแท้"**

    - **เจี้ยนกับหยวนเยี่ยน** : แม้เป็นศัตรูแต่เลือดกลับเข้ากัน
    - **ฮารุโตะกับวีร** : พี่น้องต่างมารดาที่เกลียดชังกัน
    - **จีอูกับแทฮยอน** : ความรักพี่น้องที่เกินขอบเขต
    - **ณัฐกับพิมพ์ลดา** : รักที่ถูกสาปให้เป็นสายเลือด
    - **ล็องกับลาน** : ผู้เห็นความฝันร้ายของกันและกัน

    เมื่อเลือดหยดสุดท้ายถูกเติมเต็ม **ประตูมิติวิญญาณ** เปิดออก เผยให้เห็น **หยวนเยี่ยนตัวจริง** ที่ถูกกักขังมานับพันปี :
    *"ขอบคุณ...ที่ทำให้ฉันได้ตายอย่างมนุษย์คนหนึ่งเสียที*

    ---

    ### **Epilogue: สายลมใหม่แห่งเอเชีย**
    **1 ปีต่อมา**
    - **เจี้ยน** เปิดโรงเรียนสอนแพทย์แผนโบราณที่ปักกิ่ง โดยมี **เหมย** เป็นผู้ช่วย
    - **ฮารุโตะกับวีร** ร่วมกันสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ตระกูลที่เกียวโต
    - **จีอู** กลายเป็นครูสอนดนตรีให้เด็กด้อยโอกาส โดยมี **แทฮยอน** คอยปกป้อง
    - **ณัฐ** สร้างคณะระบำหน้ากากที่ใช้การเต้นรักษาคำสาป
    - **ล็องกับลาน** ค้นพบสูตรอาหารที่ช่วยลบความฝันร้าย

    บนยอดเขาหลวงพระบาง **ดวงแก้วจตุรภุช** ถูกแปรสภาพเป็นอนุสาวรีย์แก้วสีรุ้ง ที่ฐานเขียนไว้ว่า :
    *"ชะตากรรมไม่ใช่สิ่งที่กำหนดไว้...แต่คือสิ่งที่เราเลือกจะเชื่อ"*

    ---

    **Preview ตอนต่อไป :**
    - ความลับสุดท้ายของ "ม้ามืด" ที่แฝงตัวใน 7 ตระกูล
    - การกลับมาของพลังปีศาจตนุในร่างใหม่
    - ความสัมพันธ์ลึกลับระหว่างพิมพ์ลดากับจีอูข้ามชาติภพ...
    **นิยายเรื่อง *The Seven Heirs: Bonds of the Compass* ### **Prologue: เงามรณะบนพิธีกรรม **สถานที่ : วิหารลับใต้ภูเขาหลวงพระบาง, ลาว** **เวลา : 1632 ปีก่อน** หมอกควันพิษสีม่วงคลุ้งรอบแท่นบูชาหิน บรรพบุรุษแห่ง 7 ตระกูลยืนเป็นวงกลมรอบ **"ดวงแก้วจตุรภุช"** แสงแก้วสะท้อนภาพหญิงสาวในชุดขาวถูกมัดไว้กลางแท่น—เธอคือ **หยวนเยี่ยน** หญิงร่างวิญญาณอมตะ **"เลือดบริสุทธิ์ของเธอจะผนึกคำสาปให้เราชั่วนิรันดร์!"** หัวหน้าตระกูลหลงร้องประกาศ แต่แล้วดวงแก้วก็ระเบิดเป็นแสงวาบวับ ภาพสุดท้ายที่ทุกคนเห็นคือหยวนเยี่ยนยิ้มอย่างเศร้าสร้อย ก่อนวิญญาณทั้งหมดถูกดูดเข้าไปในประตูมิติ... --- ### **ตอนที่ 1 : เสี้ยวผลึกแก้วแห่งโชคชะตา** **สถานที่ : ปักกิ่ง, จีน** **เวลา : ปัจจุบัน - 3 วันหลังพิธีล่มสลาย** **หลงเหมย** ฝันเห็นแม่ตาบอดส่งเสียงร้องในความมืด เธอตื่นขึ้นมาในห้องแล็บใต้ดินของตระกูลหลง ที่แขนขวาถูกติดตั้งท่อส่งเลือดสีม่วงเชื่อมกับ **หลงเจี้ยน** **"เลือดของฉันมีพิษ...พี่จะตายเพราะช่วยฉัน!"** เหมยพยายามดึงสายยางออก เจี้ยนจับมือเธอไว้แน่น : **"นี่คือคำขอโทษ...สำหรับเรื่องที่พี่ทำกับหยวนเยี่ยน"** บนจอคอมพิวเตอร์ ภาพแผนที่ 7 ทิศเริ่มเชื่อมโยงกัน แสดงตำแหน่ง **"ผอบศิลาทิศเหนือ"** ซ่อนอยู่ใน **ห้องอ่านหนังสือต้องห้าม** ของพระราชวังโบราณ แต่แล้วสัญญาณก็ถูกขัดจังหวะด้วยข้อความจาก **อสรพิษดำ*(blakeMemba) *"ม้ามืดคือผู้อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง...และเธอไว้ใจเขา!"* --- ### **ตอนที่ 2 : ดาบสลักรักที่เกียวโต** **สถานที่ : ปราสาทนินจาลับ, เกียวโต** **เวลา : ฤดูร้อนคืนจันทร์เสี้ยว** **ทาเคดะ ฮารุโตะ** ฝึกดาบกับเงาสีแดงที่ปรากฏในกระจก ทุกครั้งที่ฟันถูกต้อง เงาจะกลายเป็นภาพ **ซากุระ** น้องสาวตัวเองที่ถูกแทงกลางใจ **"หยุดเล่นละครเสียที!"** ซากุระกระโจนเข้ามาหยุดพี่ชาย พร้อมชูสมุดภาพวาดโบราณที่เพิ่งขโมยมาได้ : **"ดูสิ...ราชปุตกับทาเคดะเคยเป็นพันธมิตร!"** ภาพในสมุดแสดงพิธี **"สละสายเลือด"** เมื่อ 500 ปีก่อน หญิงชาวอินเดียในชุดกิโมโนกำลังตัดเส้นเลือดบนแขนสองเด็กชาย—ฮารุโตะจำได้ทันทีว่านั้นคือแม่ของเขา! ทันใดนั้น กระจกทุกบานในห้องแตกเป็นเสี่ยงๆ **วีร ราชปุต** ปรากฏตัวพร้อมปืนจ่อมาที่หัวฮารุโตะ : *"ยอมแพ้...หรืออยากรู้ความจริงว่าทำไมเลือดเราจึงดึงดูดกัน?"* --- ### **ตอนที่ 3 : ไฟใต้ธุลีวงเวียน** **สถานที่ : ตลาดเครื่องเทศมุมไบ, อินเดีย** **เวลา : ตอนเที่ยงวันที่แดดร้อนแรงที่สุด** **เดีย วิชายา** ซ่อนตัวอยู่หลังรถบรรทุกเครื่องเทศ ตามหาพยานหลักฐานที่เชื่อมโยง **อานยา** น้องสาวกับองค์กรอสรพิษดำ(blakeMemba) เธอใช้กล้องส่องเห็น **อานยา** กำลังเจาะห้องนิรภัยในตึกระฟ้า **"นั่นไม่ใช่น้องฉัน..."** เดียกระซิบด้วยความหวาดหวั่นเมื่อเห็นอานยาฉีดสารสีดำเข้าหลอดเลือดตัวเอง ก่อนที่ร่างเธอจะบิดเบี้ยวเหมือนงูยักษ์ เดียรีบส่งข้อมูลให้ **อาริ** พี่ชายในบาหลี แต่กลับถูกจับกุมโดย **เหงียนล็อง** สถาปนิกหนุ่มผู้ถือพิมพ์เขียวประหลาด : *"คุณคือตัวเชื่อม...แผนที่ทุกอันชี้มาที่คุณ!"* --- ### **ตอนที่ 4 : ศึกสายฟ้าในสายฝน** **สถานที่ : เกาะภูเขาไฟบาหลี, อินโดนีเซีย** **เวลา : ขณะภูเขาไฟเริ่มคำรามปะทุ** **อาริ วิชายา** ต่อสู้กับปีศาจุตนุคลายเต่าตัวขนาดใหญ่มีเกล็ดแขงปกคลุมทั่วตัวที่หลุดมาจากพิธีกรรมโบราณ เขาใช้มีดกรีดแขนตัวเองให้เลือดไหลลงลาวา : *"กินฉันไป...แต่ปล่อยน้องสาวฉันด้วย!"* ปีศาจตนุหัวเราะคราง : *"มนุษย์จอมปลอม...เจ้าคือลูกหลานของข้าเอง!"* ภาพหลอนแสดงให้อาริเห็นว่า เขาคือทายาทรุ่นที่ 100 ของการผสมพันธุ์ระหว่างมนุษย์กับปีศาจ ท่ามกลางความสับสน **เหงียนลาน** ปรากฏตัวพร้อมกระทะไฟ : *"ช่วยกันทำอาหารปราบปีศาจศักดิ์สิทธิ์ไหม? สูตรนี้ต้องใช้เลือดคนรักแท้...ซึ่งเราทั้งคู่ไม่มี!"* --- ### **ตอนที่ 5 : เพลงคำสาปในวงวัตธจักรโคจร** **สถานที่ : ห้องสตูดิโอใต้ดินโซล, เกาหลีใต้** **เวลา : ตอนเที่ยงคืนตรง** **คิมจีอู** กำลังอัดเพลงลับ *"Starlight Requiem"** ในห้องซาวด์พรูฟที่เต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ **แทฮยอน** นั่งเฝ้าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แฮ็กข้อมูลจากดาวเทียม **"Oppa...ฉันได้ยินเสียงแม่ในไมโครโฟน"** จีอูสะอื้นขณะเสียงประสานหลอนเริ่มดังขึ้น แทฮยอนสแกนคลื่นเสียงแล้วตกใจ : **"นี่ไม่ใช่เสียงแม่...มันเป็นคำสาปจากผลึกดวงแก้ว!"** จอคอมพิวเตอร์ระเบิดเป็นไฟสีคราม **อสรพิษดำ**(bmb) บุกเข้ามาพร้อมประกาศ : *"เราจะใช้เพลงนี้เปิดประตูมิติ...และนางจะตายในวันที่เสียงเพลงจบลง!"* --- ### **ตอนที่ 6 : ระบำไฟแห่งอาถรรพณ์** **สถานที่ : เรือนแพกลางแม่น้ำเจ้าพระยา, ไทย** **เวลา : งานสงกรานต์** **ณัฐ ศรีสุวรรณ** ต่อสู้กับนักมวยปริศนาบนสะพานเรือ ทุกหมัดที่ต่อยโดนทำให้เขามองเห็นภาพ **พิมพ์ลดา** น้องสาวกำลังเต้นระบำหน้ากากกลางไฟ **"นี่ไม่ใช่การต่อสู้...แต่เป็นการเซ่นสังเวย!"** ณัฐตะโกนขณะรอยสักนาคราชลุกเป็นไฟ เขาใช้หมัดสุดท้ายทุบแท่นบูชา จนชิ้นแก้วทิศใต้หลุดออกมา—แต่กลับพบศพ **เดีย วิชายา** ถูกมัดไว้ใต้แท่น! พิมพ์ลดาปรากฏตัวในร่างเทพธิดา : *"เลือกเถิด...ระหว่างชีวิตนาง กับพลังปราบอสรพิษ?"* --- ### **ตอนที่ 7 : จุดชนวนอรุณกรรม** **สถานที่ : ยอดเขาหลวงพระบาง** **เวลา : รุ่งสางวันที่ดวงอาทิตย์อ่อนแสง ทุกตระกูลมาบรรจบกันที่ปล่องไฟโบราณ **เหงียนล็อง** ต่อจิ๊กซอว์ชิ้นผลึกแก้วจนสมบูรณ์ แต่กลับพบว่าต้องการ **"เลือดบริสุทธิ์ 7 หยดจากผู้มีรักแท้"** - **เจี้ยนกับหยวนเยี่ยน** : แม้เป็นศัตรูแต่เลือดกลับเข้ากัน - **ฮารุโตะกับวีร** : พี่น้องต่างมารดาที่เกลียดชังกัน - **จีอูกับแทฮยอน** : ความรักพี่น้องที่เกินขอบเขต - **ณัฐกับพิมพ์ลดา** : รักที่ถูกสาปให้เป็นสายเลือด - **ล็องกับลาน** : ผู้เห็นความฝันร้ายของกันและกัน เมื่อเลือดหยดสุดท้ายถูกเติมเต็ม **ประตูมิติวิญญาณ** เปิดออก เผยให้เห็น **หยวนเยี่ยนตัวจริง** ที่ถูกกักขังมานับพันปี : *"ขอบคุณ...ที่ทำให้ฉันได้ตายอย่างมนุษย์คนหนึ่งเสียที* --- ### **Epilogue: สายลมใหม่แห่งเอเชีย** **1 ปีต่อมา** - **เจี้ยน** เปิดโรงเรียนสอนแพทย์แผนโบราณที่ปักกิ่ง โดยมี **เหมย** เป็นผู้ช่วย - **ฮารุโตะกับวีร** ร่วมกันสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ตระกูลที่เกียวโต - **จีอู** กลายเป็นครูสอนดนตรีให้เด็กด้อยโอกาส โดยมี **แทฮยอน** คอยปกป้อง - **ณัฐ** สร้างคณะระบำหน้ากากที่ใช้การเต้นรักษาคำสาป - **ล็องกับลาน** ค้นพบสูตรอาหารที่ช่วยลบความฝันร้าย บนยอดเขาหลวงพระบาง **ดวงแก้วจตุรภุช** ถูกแปรสภาพเป็นอนุสาวรีย์แก้วสีรุ้ง ที่ฐานเขียนไว้ว่า : *"ชะตากรรมไม่ใช่สิ่งที่กำหนดไว้...แต่คือสิ่งที่เราเลือกจะเชื่อ"* --- **Preview ตอนต่อไป :** - ความลับสุดท้ายของ "ม้ามืด" ที่แฝงตัวใน 7 ตระกูล - การกลับมาของพลังปีศาจตนุในร่างใหม่ - ความสัมพันธ์ลึกลับระหว่างพิมพ์ลดากับจีอูข้ามชาติภพ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌊 113 ปี “เรือไททานิค” ล่ม! 🚢 โศกนาฏกรรมกลางมหาสมุทรจาก “ความประมาท” ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ ปิดตำนาน "เรือที่ไม่มีวันจม

    💡 ย้อนรอยโศกนาฏกรรม "RMS Titanic" ความทรงจำล่มกลางมหาสมุทร จาก "เรือที่ไม่มีวันจม" สู่บทเรียนครั้งใหญ่ของโลก ✍️

    📌 เรือไททานิคที่ถูกขนานนามว่า “เรือที่ไม่มีวันจม” ได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมทางมหาสมุทร ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 ศพ จะพาย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ในคืนนั้น พร้อมไขทุกข้อเท็จจริง ที่ถูกซ่อนไว้ ทั้งเรื่องความประมาท การจัดการผิดพลาด และผลกระทบต่อโลกใบนี้จนถึงทุกวันนี้ 🔗

    🧭 จากความยิ่งใหญ่ สู่ความอับปางกลางมหาสมุทร ในโลกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ "มนุษย์" สร้างขึ้นด้วยความมั่นใจสุดขีดว่า "ไม่มีทางพัง" และในบรรดาเรื่องราวเหล่านั้น "ไททานิค" คือหนึ่งในตำนาน ที่ยังคงตราตรึงใจผู้คนทั่วโลก แม้ผ่านมาแล้ว 113 ปี

    "เรือที่ไม่มีวันจม" กลายเป็น ซากใต้น้ำลึกกว่า 3,800 เมตร ภายในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง หลังจากชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง กลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ 💥

    คำถามที่ยังคงหลอกหลอนประวัติศาสตร์คือ... เรือใหญ่ขนาดนี้จมได้ยังไง? เป็นเพราะโชคร้าย หรือเป็นเพราะความประมาท?

    🚢 "ไททานิค" สุดยอดเรือเดินสมุทรที่โลกเคยรู้จัก จุดเริ่มต้นของความทะเยอทะยาน "อาร์เอ็มเอส ไททานิค" (RMS Titanic ) สร้างโดยบริษัท Harland and Wolff ในเมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ และเป็นเรือของสายการเดินเรือ White Star Line เปิดตัวในปี 1912 ด้วยความตั้งใจให้เป็นเรือเดินสมุทรที่ "หรูหราและปลอดภัยที่สุดในโลก" ✨

    เรือมีความยาวถึง 882.5 ฟุต หรือประมาณ 269 เมตร น้ำหนักมากกว่า 46,000 ตัน และสามารถรองรับผู้โดยสาร และลูกเรือได้ถึง 3,547 คน

    ✅ เครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น สูงกว่า 4 ชั้น

    ✅ ระบบผนังกันน้ำในห้องใต้ท้องเรือ

    ✅ ระบบขับเคลื่อนด้วยกังหัน และใบจักรขนาดยักษ์

    ✅ ห้องโดยสารเฟิร์สต์คลาส หรูหราระดับพระราชวัง

    ✅ มีห้องอ่านหนังสือ, ห้องยิม, ร้านตัดผม, ห้องอาบน้ำตุรกี และลิฟต์ไฟฟ้า

    🛳️ แต่สิ่งที่ผู้คนจดจำ ไม่ใช่ความอลังการ แต่คือ "จุดจบ" ของไททานิค…

    🧊 ชนกับภูเขาน้ำแข็ง จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์

    🚨 คำเตือนที่ถูกมองข้าม ตลอดวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2455 ไททานิคได้รับ 6 คำเตือน เรื่องภูเขาน้ำแข็งลอยทะเล จากเรือลำอื่น

    แต่คำเตือนเหล่านั้น...
    ❌ บางข้อความไม่ได้ถูกส่งถึงกัปตัน
    ❌ บางข้อความถูกพนักงานวิทยุละเลย เพราะมัวส่งข้อความส่วนตัวของผู้โดยสาร
    ❌ ความเร็วของเรือยังคงอยู่ที่ 22 นอต หรือ 41 กม./ชม. ใกล้ความเร็วสูงสุดที่ 24 นอต

    “แล่นไปข้างหน้า และไว้ใจคนเฝ้าระวัง” แนวคิดของการเดินเรือในยุคนั้น

    🕰️ 23.40 น. คืนวันอาทิตย์ เวลาแห่งหายนะ เมื่อพนักงานเฝ้าระวังเห็นภูเขาน้ำแข็ง ก็สายเกินไปแล้ว... ต้นเรือสั่ง "หักหลบขวาเต็มที่ และถอยเครื่อง" แต่กลไกเรือ และขนาดของไททานิค ทำให้ไม่ทัน ⛔️

    เรือไถลเฉี่ยวภูเขาน้ำแข็งทางกราบขวา ก่อให้เกิดรอยรั่วใน 5 ห้องใต้ท้องเรือ ทั้งที่ไททานิครองรับน้ำได้เพียง 4 ห้องเท่านั้น! 😨

    🧱 ความผิดพลาดในการออกแบบ และการตัดสินใจ 📉 ผนังกันน้ำที่ "ไม่กันจริง" แม้มีห้องผนังกั้นน้ำ 16 ห้อง แต่ผนังสูงไม่พอ เมื่อห้องแรกเต็ม น้ำก็ไหลล้นไปห้องต่อไป… 📌 คล้ายกับน้ำในถาดน้ำแข็งเมื่อเอียง ค่อย ๆ ล้นทีละช่อง

    🪓 เหล็กและหมุดตอกตัวเรือ การวิจัยพบว่า เหล็กที่ใช้ในบางจุดเปราะแตกง่าย หมุดบางตัวไม่ได้มาตรฐาน แผ่นเหล็กในบริเวณหัวเรือ หลุดออกเมื่อชน ทำให้น้ำทะลัก

    🆘 เรือชูชีพไม่พอ การอพยพที่โกลาหล 🚤 เรือลำใหญ่แต่เรือชูชีพมีแค่ 20 ลำ ไททานิคออกแบบให้ติดตั้งเรือชูชีพได้ถึง 68 ลำ แต่เพื่อความ “สวยงาม” ของดาดฟ้า ผู้บริหารสั่งให้ติดแค่ 20 ลำ รองรับคนได้เพียง 1,178 คน จาก 2,224 คน ทั้งที่ต้นทุนเรือชูชีพ แค่เศษเสี้ยวของมูลค่าทั้งเรือ!

    💔 การอพยพที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ บางลำปล่อยทั้งที่ยังไม่เต็มคน ผู้โดยสารชั้นสามเข้าไม่ถึงจุดรวมพล เจ้าหน้าที่ไม่มีการฝึกซ้อมมาก่อน ผู้หญิงและเด็กบางคน ไม่ได้รับแจ้งว่าควรขึ้นเรือชูชีพ และ... หลายคน “ปฏิเสธ” ที่จะลงเรือ เพราะไม่เชื่อว่าเรือจะจมจริง 😔

    ❄️ น้ำเย็น = ความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 🌡️ อุณหภูมิน้ำทะเลในคืนนั้นคือ -2°C ภายในไม่กี่นาทีหลังจากตกน้ำ ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ Hypothermia กล้ามเนื้อหยุดทำงาน หัวใจเต้นช้าลง หมดสติและเสียชีวิตภายใน 15-20 นาที เสียงกรีดร้องของผู้คนค่อย ๆ เบาลง… จนกระทั่ง เงียบสงัด 🕯️

    🧑‍✈️ เสียงจากผู้รอดชีวิต เรื่องเล่าจากคืนที่โลกเปลี่ยนไป แม้จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,500 คน แต่ยังมีผู้รอดชีวิตราว 700 คน ที่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลายคนได้ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมา พร้อมเล่าประสบการณ์ตรงสุดสะเทือนใจ...

    “การตกลงไปในน้ำเย็น มันเหมือนถูกมีดนับพันเล่มแทงเข้าใส่” : "ชาร์ล ไลท์โทลเลอร์" (Charles Lightoller) ผู้ช่วยต้นเรือคนที่ 2

    บางคนรอดเพราะโชคช่วย บางคนรอดเพราะสัญชาตญาณ แต่...คนส่วนใหญ่รอดเพราะอยู่ในชั้นหนึ่ง ซึ่งเข้าถึงเรือชูชีพได้ก่อน 😢

    ⚖️ ความเหลื่อมล้ำที่ฆ่าคน เด็กและผู้หญิงชั้นหนึ่ง รอดมากกว่า 90% เด็กชั้นสาม เสียชีวิตมากกว่า 66% ผู้ชายชั้นสอง เสียชีวิตถึง 92% ลูกเรือเกือบ 80% เสียชีวิต

    🚸 มีแม้กระทั่งแม่ชาวไอริชที่เล่านิทานให้ลูกฟัง ก่อนจะจมน้ำไปพร้อมกันทั้งครอบครัว

    🎬 Titanic (2540) จากเรือที่จม สู่หนังที่ตราตรึง แม้โศกนาฏกรรมจะผ่านไปกว่าศตวรรษ แต่ชื่อ "Titanic" กลับดังขึ้นอีกครั้งในปี 2540 จากภาพยนตร์โดย "เจมส์ คาเมรอน" (James Cameron) ที่ทำให้โลกทั้งใบสะเทือนใจ 😭🌍

    🎥 หนังทำรายได้ทะลุ 1.8 พันล้านเหรียญ คว้า 11 รางวัลออสการ์ รวมทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม เพลงประกอบ "My Heart Will Go On" กลายเป็นตำนาน ผู้ชมจดจำฉาก “I'm the king of the world!” และ “You jump, I jump” อย่างไม่มีวันลืม

    🤔 ความจริงกับสิ่งแต่งเติม เรือไททานิคล่มเวลา 02.20 น. ของเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 ตัวละครแจ็ค ดอว์สัน ไม่มีอยู่จริง มีคู่สามีภรรยานอนกอดกันในห้อง โรสเป็นการรวมคาแรกเตอร์จากหลายบุคคล พ่อครัว Charles Joughin รอดจากการจมน้ำ ฉากโรแมนติกบนกระดานไม้ ถูกสร้างเพิ่ม

    🤯 จริง ๆ แล้วภาพวาดโรส "สวมแต่สร้อย" นั้น "เจมส์ คาเมรอน" เป็นคนวาดเอง!

    🕵️‍♂️ 25 เกร็ดลับเบื้องหลังหนัง Titanic ที่อาจไม่เคยรู้

    1. ภาพวาดโรส เป็นฝีมือของเจมส์ คาเมรอน ✍️
    2. ฉากที่โรสถ่มน้ำลายใส่คาล...เคต วินสเล็ต ด้นสดเอง 😆
    3. น้ำที่ใช้ถ่ายฉากท้ายเรื่อง เย็นจนทำให้นักแสดงป่วย Hypothermia ❄️
    4. พรมในหนัง ทอจากโรงงานเดียวกับพรมเรือจริง 🧶
    5. ฉากบันไดหลักถ่ายได้เพียงครั้งเดียว 💦
    6. ฉากเด็กเล่นลูกข่าง อ้างอิงจากภาพถ่ายจริง 👦🏻
    4. แจ็คพูดว่า "น้ำเย็นเหมือนโดนแทงด้วยมีดพันเล่ม" มาจากคำบอกเล่าจริงของผู้รอดชีวิต
    8. รถเรโนลต์ในหนังคือรถจริงที่อยู่บนไททานิค 🚗
    9. หมาของโรสพันธุ์พอเมอเรเนียน — รอดจริงในเหตุการณ์ 🐶
    10. มีดพับของฟาบริซิโอใช้ตัดเชือกเรือชูชีพจริง 🗡️
    11. มาดอนนา เคยเกือบได้เล่นเป็นโรส
    12. พ่อครัวที่เมาเหล้ารอดชีวิตเพราะ “แอลกอฮอล์” 🔥
    13. ดวงดาวบนฟ้าผิด คาเมรอนจึงแก้ไขในเวอร์ชัน 3D 🌌
    14. กล้อง Close-Up มือที่วาดโรส คือมือของคาเมรอนเอง
    15. กลับซ้ายเป็นขวาในฉากเรือออกจากท่า 🔄
    16. โรสขี่ม้าที่ซานตาโมนิกา ตามสัญญาของแจ็ค 🐎
    17. มีการใช้คาเวียร์ของจริงในการถ่ายฉากดินเนอร์ 🥂
    18. เสื้อโค้ตของเคต วินสเล็ตเคยติดประตูเกือบจมน้ำ
    19. ซากเรือจริงในหนัง คาเมรอนดำน้ำไปถ่ายเอง 🛥️
    20. แจ็คพูดถึงทะเลสาบที่ยังไม่สร้างตอนปี 2455 ❌
    21. ปล่องไฟที่ 4 ของเรือ ไม่มีควันเพราะไม่ต่อกับเตาไฟ
    22. เรือพับได้ในหนังมีจริง และถูกใช้จริง
    23. ชุดที่โรสใส่ขณะหนีไฟไหม้ ทำซ้ำกว่า 30 ชุด
    24. ทรายใต้กระดานไม้ฉากสุดท้าย เป็นทรายจริง
    25. แฟนหนังจำนวนมากไปเยี่ยม “หลุมศพ J. Dawson” จริง 🪦

    📜 มรดกจากโศกนาฏกรรม บทเรียนราคาแพง 🚢 SOLAS กฎแห่งท้องทะเล หลังโศกนาฏกรรมไททานิค โลกทั้งใบตื่นรู้ว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ" และได้นำไปสู่การจัดตั้ง อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล (SOLAS) ปี 2457

    SOLAS กำหนดให้เรือทุกลำต้องมีเรือชูชีพเพียงพอ ระบบวิทยุต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีการซ้อมหนีภัยจริงจัง ปรับปรุงการออกแบบเรือให้รัดกุมยิ่งขึ้น

    ✨ 113 ปี แห่งการเตือนใจ เรือไททานิคคือเครื่องเตือนใจของโลก ว่า “ความมั่นใจมากเกินไป” นั้นอันตราย “ความประมาท” สามารถพรากชีวิตผู้คนได้เกินพัน ภายในไม่กี่ชั่วโมง แม้จะใช้เทคโนโลยีล้ำหน้า แต่หากไร้การวางแผน และความระมัดระวัง ก็อาจนำสู่หายนะ ไททานิคจม แต่บทเรียน… ยังคงลอยอยู่เหนือผิวน้ำเสมอ

    📌 เรื่องราวของไททานิค ไม่ใช่เพียงตำนานเรือใหญ่ล่ม แต่คือสัญลักษณ์ของ “ความมั่นใจเกินขีดจำกัด” ของมนุษย์ ที่นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ความประมาท ความละเลย และระบบที่ไม่พร้อม คือสาเหตุหลักของการสูญเสียชีวิตนับพัน ในเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 และยังคงเตือนใจมนุษย์ในทุกยุคว่า “ไม่มีสิ่งใดในโลกที่ไม่มีวันจม” 🌊🕯️

    🔚 เมื่อ “ไม่มีวันจม” กลายเป็น “จมจริง” 🚢 จุดจบของเรือที่เคยถูกยกย่องว่า “ไม่มีวันจม”

    ...แต่คือจุดเริ่มต้นของกฎหมายความปลอดภัยทางทะเล ที่ช่วยชีวิตผู้คนนับล้านในศตวรรษต่อมา 🌍

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 151322 เม.ย. 2568

    📲 #ไททานิค #Titanic #เรือไททานิคล่ม #เรื่องจริงไททานิค #แจ็คโรส #โศกนาฏกรรมไททานิค #TitanicFacts #ไททานิค113ปี #หนังTitanic #MyHeartWillGoOn

    🌊 113 ปี “เรือไททานิค” ล่ม! 🚢 โศกนาฏกรรมกลางมหาสมุทรจาก “ความประมาท” ไม่ใช่ภัยธรรมชาติ ปิดตำนาน "เรือที่ไม่มีวันจม 💡 ย้อนรอยโศกนาฏกรรม "RMS Titanic" ความทรงจำล่มกลางมหาสมุทร จาก "เรือที่ไม่มีวันจม" สู่บทเรียนครั้งใหญ่ของโลก ✍️ 📌 เรือไททานิคที่ถูกขนานนามว่า “เรือที่ไม่มีวันจม” ได้กลายเป็นโศกนาฏกรรมทางมหาสมุทร ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตกว่า 1,500 ศพ จะพาย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ในคืนนั้น พร้อมไขทุกข้อเท็จจริง ที่ถูกซ่อนไว้ ทั้งเรื่องความประมาท การจัดการผิดพลาด และผลกระทบต่อโลกใบนี้จนถึงทุกวันนี้ 🔗 🧭 จากความยิ่งใหญ่ สู่ความอับปางกลางมหาสมุทร ในโลกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ "มนุษย์" สร้างขึ้นด้วยความมั่นใจสุดขีดว่า "ไม่มีทางพัง" และในบรรดาเรื่องราวเหล่านั้น "ไททานิค" คือหนึ่งในตำนาน ที่ยังคงตราตรึงใจผู้คนทั่วโลก แม้ผ่านมาแล้ว 113 ปี "เรือที่ไม่มีวันจม" กลายเป็น ซากใต้น้ำลึกกว่า 3,800 เมตร ภายในเวลาไม่ถึง 3 ชั่วโมง หลังจากชนเข้ากับภูเขาน้ำแข็ง กลางมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ 💥 คำถามที่ยังคงหลอกหลอนประวัติศาสตร์คือ... เรือใหญ่ขนาดนี้จมได้ยังไง? เป็นเพราะโชคร้าย หรือเป็นเพราะความประมาท? 🚢 "ไททานิค" สุดยอดเรือเดินสมุทรที่โลกเคยรู้จัก จุดเริ่มต้นของความทะเยอทะยาน "อาร์เอ็มเอส ไททานิค" (RMS Titanic ) สร้างโดยบริษัท Harland and Wolff ในเมืองเบลฟาสต์ ประเทศไอร์แลนด์เหนือ และเป็นเรือของสายการเดินเรือ White Star Line เปิดตัวในปี 1912 ด้วยความตั้งใจให้เป็นเรือเดินสมุทรที่ "หรูหราและปลอดภัยที่สุดในโลก" ✨ เรือมีความยาวถึง 882.5 ฟุต หรือประมาณ 269 เมตร น้ำหนักมากกว่า 46,000 ตัน และสามารถรองรับผู้โดยสาร และลูกเรือได้ถึง 3,547 คน ✅ เครื่องยนต์ใหญ่ที่สุดในยุคนั้น สูงกว่า 4 ชั้น ✅ ระบบผนังกันน้ำในห้องใต้ท้องเรือ ✅ ระบบขับเคลื่อนด้วยกังหัน และใบจักรขนาดยักษ์ ✅ ห้องโดยสารเฟิร์สต์คลาส หรูหราระดับพระราชวัง ✅ มีห้องอ่านหนังสือ, ห้องยิม, ร้านตัดผม, ห้องอาบน้ำตุรกี และลิฟต์ไฟฟ้า 🛳️ แต่สิ่งที่ผู้คนจดจำ ไม่ใช่ความอลังการ แต่คือ "จุดจบ" ของไททานิค… 🧊 ชนกับภูเขาน้ำแข็ง จุดเปลี่ยนประวัติศาสตร์ 🚨 คำเตือนที่ถูกมองข้าม ตลอดวันอาทิตย์ที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2455 ไททานิคได้รับ 6 คำเตือน เรื่องภูเขาน้ำแข็งลอยทะเล จากเรือลำอื่น แต่คำเตือนเหล่านั้น... ❌ บางข้อความไม่ได้ถูกส่งถึงกัปตัน ❌ บางข้อความถูกพนักงานวิทยุละเลย เพราะมัวส่งข้อความส่วนตัวของผู้โดยสาร ❌ ความเร็วของเรือยังคงอยู่ที่ 22 นอต หรือ 41 กม./ชม. ใกล้ความเร็วสูงสุดที่ 24 นอต “แล่นไปข้างหน้า และไว้ใจคนเฝ้าระวัง” แนวคิดของการเดินเรือในยุคนั้น 🕰️ 23.40 น. คืนวันอาทิตย์ เวลาแห่งหายนะ เมื่อพนักงานเฝ้าระวังเห็นภูเขาน้ำแข็ง ก็สายเกินไปแล้ว... ต้นเรือสั่ง "หักหลบขวาเต็มที่ และถอยเครื่อง" แต่กลไกเรือ และขนาดของไททานิค ทำให้ไม่ทัน ⛔️ เรือไถลเฉี่ยวภูเขาน้ำแข็งทางกราบขวา ก่อให้เกิดรอยรั่วใน 5 ห้องใต้ท้องเรือ ทั้งที่ไททานิครองรับน้ำได้เพียง 4 ห้องเท่านั้น! 😨 🧱 ความผิดพลาดในการออกแบบ และการตัดสินใจ 📉 ผนังกันน้ำที่ "ไม่กันจริง" แม้มีห้องผนังกั้นน้ำ 16 ห้อง แต่ผนังสูงไม่พอ เมื่อห้องแรกเต็ม น้ำก็ไหลล้นไปห้องต่อไป… 📌 คล้ายกับน้ำในถาดน้ำแข็งเมื่อเอียง ค่อย ๆ ล้นทีละช่อง 🪓 เหล็กและหมุดตอกตัวเรือ การวิจัยพบว่า เหล็กที่ใช้ในบางจุดเปราะแตกง่าย หมุดบางตัวไม่ได้มาตรฐาน แผ่นเหล็กในบริเวณหัวเรือ หลุดออกเมื่อชน ทำให้น้ำทะลัก 🆘 เรือชูชีพไม่พอ การอพยพที่โกลาหล 🚤 เรือลำใหญ่แต่เรือชูชีพมีแค่ 20 ลำ ไททานิคออกแบบให้ติดตั้งเรือชูชีพได้ถึง 68 ลำ แต่เพื่อความ “สวยงาม” ของดาดฟ้า ผู้บริหารสั่งให้ติดแค่ 20 ลำ รองรับคนได้เพียง 1,178 คน จาก 2,224 คน ทั้งที่ต้นทุนเรือชูชีพ แค่เศษเสี้ยวของมูลค่าทั้งเรือ! 💔 การอพยพที่แย่ที่สุดในประวัติศาสตร์ บางลำปล่อยทั้งที่ยังไม่เต็มคน ผู้โดยสารชั้นสามเข้าไม่ถึงจุดรวมพล เจ้าหน้าที่ไม่มีการฝึกซ้อมมาก่อน ผู้หญิงและเด็กบางคน ไม่ได้รับแจ้งว่าควรขึ้นเรือชูชีพ และ... หลายคน “ปฏิเสธ” ที่จะลงเรือ เพราะไม่เชื่อว่าเรือจะจมจริง 😔 ❄️ น้ำเย็น = ความตายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ 🌡️ อุณหภูมิน้ำทะเลในคืนนั้นคือ -2°C ภายในไม่กี่นาทีหลังจากตกน้ำ ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ Hypothermia กล้ามเนื้อหยุดทำงาน หัวใจเต้นช้าลง หมดสติและเสียชีวิตภายใน 15-20 นาที เสียงกรีดร้องของผู้คนค่อย ๆ เบาลง… จนกระทั่ง เงียบสงัด 🕯️ 🧑‍✈️ เสียงจากผู้รอดชีวิต เรื่องเล่าจากคืนที่โลกเปลี่ยนไป แม้จะมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 1,500 คน แต่ยังมีผู้รอดชีวิตราว 700 คน ที่รอดมาได้อย่างปาฏิหาริย์ หลายคนได้ให้สัมภาษณ์ในเวลาต่อมา พร้อมเล่าประสบการณ์ตรงสุดสะเทือนใจ... “การตกลงไปในน้ำเย็น มันเหมือนถูกมีดนับพันเล่มแทงเข้าใส่” : "ชาร์ล ไลท์โทลเลอร์" (Charles Lightoller) ผู้ช่วยต้นเรือคนที่ 2 บางคนรอดเพราะโชคช่วย บางคนรอดเพราะสัญชาตญาณ แต่...คนส่วนใหญ่รอดเพราะอยู่ในชั้นหนึ่ง ซึ่งเข้าถึงเรือชูชีพได้ก่อน 😢 ⚖️ ความเหลื่อมล้ำที่ฆ่าคน เด็กและผู้หญิงชั้นหนึ่ง รอดมากกว่า 90% เด็กชั้นสาม เสียชีวิตมากกว่า 66% ผู้ชายชั้นสอง เสียชีวิตถึง 92% ลูกเรือเกือบ 80% เสียชีวิต 🚸 มีแม้กระทั่งแม่ชาวไอริชที่เล่านิทานให้ลูกฟัง ก่อนจะจมน้ำไปพร้อมกันทั้งครอบครัว 🎬 Titanic (2540) จากเรือที่จม สู่หนังที่ตราตรึง แม้โศกนาฏกรรมจะผ่านไปกว่าศตวรรษ แต่ชื่อ "Titanic" กลับดังขึ้นอีกครั้งในปี 2540 จากภาพยนตร์โดย "เจมส์ คาเมรอน" (James Cameron) ที่ทำให้โลกทั้งใบสะเทือนใจ 😭🌍 🎥 หนังทำรายได้ทะลุ 1.8 พันล้านเหรียญ คว้า 11 รางวัลออสการ์ รวมทั้ง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผู้กำกับยอดเยี่ยม เพลงประกอบ "My Heart Will Go On" กลายเป็นตำนาน ผู้ชมจดจำฉาก “I'm the king of the world!” และ “You jump, I jump” อย่างไม่มีวันลืม 🤔 ความจริงกับสิ่งแต่งเติม เรือไททานิคล่มเวลา 02.20 น. ของเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 ตัวละครแจ็ค ดอว์สัน ไม่มีอยู่จริง มีคู่สามีภรรยานอนกอดกันในห้อง โรสเป็นการรวมคาแรกเตอร์จากหลายบุคคล พ่อครัว Charles Joughin รอดจากการจมน้ำ ฉากโรแมนติกบนกระดานไม้ ถูกสร้างเพิ่ม 🤯 จริง ๆ แล้วภาพวาดโรส "สวมแต่สร้อย" นั้น "เจมส์ คาเมรอน" เป็นคนวาดเอง! 🕵️‍♂️ 25 เกร็ดลับเบื้องหลังหนัง Titanic ที่อาจไม่เคยรู้ 1. ภาพวาดโรส เป็นฝีมือของเจมส์ คาเมรอน ✍️ 2. ฉากที่โรสถ่มน้ำลายใส่คาล...เคต วินสเล็ต ด้นสดเอง 😆 3. น้ำที่ใช้ถ่ายฉากท้ายเรื่อง เย็นจนทำให้นักแสดงป่วย Hypothermia ❄️ 4. พรมในหนัง ทอจากโรงงานเดียวกับพรมเรือจริง 🧶 5. ฉากบันไดหลักถ่ายได้เพียงครั้งเดียว 💦 6. ฉากเด็กเล่นลูกข่าง อ้างอิงจากภาพถ่ายจริง 👦🏻 4. แจ็คพูดว่า "น้ำเย็นเหมือนโดนแทงด้วยมีดพันเล่ม" มาจากคำบอกเล่าจริงของผู้รอดชีวิต 8. รถเรโนลต์ในหนังคือรถจริงที่อยู่บนไททานิค 🚗 9. หมาของโรสพันธุ์พอเมอเรเนียน — รอดจริงในเหตุการณ์ 🐶 10. มีดพับของฟาบริซิโอใช้ตัดเชือกเรือชูชีพจริง 🗡️ 11. มาดอนนา เคยเกือบได้เล่นเป็นโรส 12. พ่อครัวที่เมาเหล้ารอดชีวิตเพราะ “แอลกอฮอล์” 🔥 13. ดวงดาวบนฟ้าผิด คาเมรอนจึงแก้ไขในเวอร์ชัน 3D 🌌 14. กล้อง Close-Up มือที่วาดโรส คือมือของคาเมรอนเอง 15. กลับซ้ายเป็นขวาในฉากเรือออกจากท่า 🔄 16. โรสขี่ม้าที่ซานตาโมนิกา ตามสัญญาของแจ็ค 🐎 17. มีการใช้คาเวียร์ของจริงในการถ่ายฉากดินเนอร์ 🥂 18. เสื้อโค้ตของเคต วินสเล็ตเคยติดประตูเกือบจมน้ำ 19. ซากเรือจริงในหนัง คาเมรอนดำน้ำไปถ่ายเอง 🛥️ 20. แจ็คพูดถึงทะเลสาบที่ยังไม่สร้างตอนปี 2455 ❌ 21. ปล่องไฟที่ 4 ของเรือ ไม่มีควันเพราะไม่ต่อกับเตาไฟ 22. เรือพับได้ในหนังมีจริง และถูกใช้จริง 23. ชุดที่โรสใส่ขณะหนีไฟไหม้ ทำซ้ำกว่า 30 ชุด 24. ทรายใต้กระดานไม้ฉากสุดท้าย เป็นทรายจริง 25. แฟนหนังจำนวนมากไปเยี่ยม “หลุมศพ J. Dawson” จริง 🪦 📜 มรดกจากโศกนาฏกรรม บทเรียนราคาแพง 🚢 SOLAS กฎแห่งท้องทะเล หลังโศกนาฏกรรมไททานิค โลกทั้งใบตื่นรู้ว่า "ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ" และได้นำไปสู่การจัดตั้ง อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยความปลอดภัยแห่งชีวิตในทะเล (SOLAS) ปี 2457 SOLAS กำหนดให้เรือทุกลำต้องมีเรือชูชีพเพียงพอ ระบบวิทยุต้องเปิดตลอด 24 ชั่วโมง มีการซ้อมหนีภัยจริงจัง ปรับปรุงการออกแบบเรือให้รัดกุมยิ่งขึ้น ✨ 113 ปี แห่งการเตือนใจ เรือไททานิคคือเครื่องเตือนใจของโลก ว่า “ความมั่นใจมากเกินไป” นั้นอันตราย “ความประมาท” สามารถพรากชีวิตผู้คนได้เกินพัน ภายในไม่กี่ชั่วโมง แม้จะใช้เทคโนโลยีล้ำหน้า แต่หากไร้การวางแผน และความระมัดระวัง ก็อาจนำสู่หายนะ ไททานิคจม แต่บทเรียน… ยังคงลอยอยู่เหนือผิวน้ำเสมอ 📌 เรื่องราวของไททานิค ไม่ใช่เพียงตำนานเรือใหญ่ล่ม แต่คือสัญลักษณ์ของ “ความมั่นใจเกินขีดจำกัด” ของมนุษย์ ที่นำมาซึ่งโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ ความประมาท ความละเลย และระบบที่ไม่พร้อม คือสาเหตุหลักของการสูญเสียชีวิตนับพัน ในเช้าตรู่วันจันทร์ที่ 15 เมษายน พ.ศ. 2455 และยังคงเตือนใจมนุษย์ในทุกยุคว่า “ไม่มีสิ่งใดในโลกที่ไม่มีวันจม” 🌊🕯️ 🔚 เมื่อ “ไม่มีวันจม” กลายเป็น “จมจริง” 🚢 จุดจบของเรือที่เคยถูกยกย่องว่า “ไม่มีวันจม” ...แต่คือจุดเริ่มต้นของกฎหมายความปลอดภัยทางทะเล ที่ช่วยชีวิตผู้คนนับล้านในศตวรรษต่อมา 🌍 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 151322 เม.ย. 2568 📲 #ไททานิค #Titanic #เรือไททานิคล่ม #เรื่องจริงไททานิค #แจ็คโรส #โศกนาฏกรรมไททานิค #TitanicFacts #ไททานิค113ปี #หนังTitanic #MyHeartWillGoOn
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • หม้อไฟชาบู MozCoff #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ของดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #noodles #eating #food #thaifood #streetfood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    หม้อไฟชาบู MozCoff #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ของดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #noodles #eating #food #thaifood #streetfood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Radeon RX 9060 XT ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 โดยมีข่าวลือว่าการ์ดรุ่นนี้สามารถ เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาได้สูงสุดถึง 3.3 GHz และอาจเปิดตัวในงาน Computex 2025

    ✅ สเปคและประสิทธิภาพของ RX 9060 XT
    - ใช้ชิป Navi 44 XT ซึ่งเป็นรุ่นลดสเปคจาก Navi 48
    - มี 2048 Stream Processors ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของ Navi 48
    - ความเร็วสัญญาณนาฬิกา Game Clock อยู่ที่ 2620 MHz และ Boost Clock สูงสุด 3230 MHz
    - รุ่นที่โอเวอร์คล็อกอาจสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 3.3 GHz

    ✅ การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง
    - คาดว่า RX 9060 XT จะถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti
    - อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4070 Non-SUPER ในบางสถานการณ์

    ✅ ข้อกำหนดด้านพลังงาน
    - ต้องใช้ Power Supply ขั้นต่ำ 500W และอาจต้องใช้ 550W สำหรับรุ่นที่โอเวอร์คล็อก
    - ใช้ 8-pin power connectors เป็นมาตรฐาน

    ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม
    ℹ️ ผลกระทบต่อการตลาดของ AMD
    - หากราคาสูงเกินไป อาจทำให้ RX 9060 XT สูญเสียความได้เปรียบด้านความคุ้มค่า
    - ต้องจับตาว่า AMD จะตั้งราคาที่แข่งขันได้หรือไม่

    ℹ️ ความท้าทายด้านการผลิต
    - การใช้ชิป Navi 44 XT อาจหมายถึงการนำชิปที่มีข้อบกพร่องจาก RX 9070 มาใช้ใหม่
    - ต้องดูว่า AMD จะสามารถรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดีแค่ไหน

    ℹ️ แนวโน้มของตลาด GPU ในปี 2025
    - NVIDIA และ AMD ต่างกำลังแข่งขันกันในตลาดกราฟิกการ์ดระดับกลาง
    - อาจมีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ เช่น FSR 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม

    https://www.techpowerup.com/335455/amd-radeon-rx-9060-xt-reportedly-capable-of-boosting-up-to-3-3-ghz-new-leak-suggests-navi-44-xt-gpu
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว Radeon RX 9060 XT ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 โดยมีข่าวลือว่าการ์ดรุ่นนี้สามารถ เพิ่มความเร็วสัญญาณนาฬิกาได้สูงสุดถึง 3.3 GHz และอาจเปิดตัวในงาน Computex 2025 ✅ สเปคและประสิทธิภาพของ RX 9060 XT - ใช้ชิป Navi 44 XT ซึ่งเป็นรุ่นลดสเปคจาก Navi 48 - มี 2048 Stream Processors ซึ่งเป็นครึ่งหนึ่งของ Navi 48 - ความเร็วสัญญาณนาฬิกา Game Clock อยู่ที่ 2620 MHz และ Boost Clock สูงสุด 3230 MHz - รุ่นที่โอเวอร์คล็อกอาจสามารถเพิ่มความเร็วได้ถึง 3.3 GHz ✅ การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง - คาดว่า RX 9060 XT จะถูกออกแบบมาเพื่อแข่งขันกับ NVIDIA GeForce RTX 5060 Ti - อาจมีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 4070 Non-SUPER ในบางสถานการณ์ ✅ ข้อกำหนดด้านพลังงาน - ต้องใช้ Power Supply ขั้นต่ำ 500W และอาจต้องใช้ 550W สำหรับรุ่นที่โอเวอร์คล็อก - ใช้ 8-pin power connectors เป็นมาตรฐาน ⚠️ ข้อควรระวังและประเด็นที่ต้องติดตาม ℹ️ ผลกระทบต่อการตลาดของ AMD - หากราคาสูงเกินไป อาจทำให้ RX 9060 XT สูญเสียความได้เปรียบด้านความคุ้มค่า - ต้องจับตาว่า AMD จะตั้งราคาที่แข่งขันได้หรือไม่ ℹ️ ความท้าทายด้านการผลิต - การใช้ชิป Navi 44 XT อาจหมายถึงการนำชิปที่มีข้อบกพร่องจาก RX 9070 มาใช้ใหม่ - ต้องดูว่า AMD จะสามารถรักษาคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ได้ดีแค่ไหน ℹ️ แนวโน้มของตลาด GPU ในปี 2025 - NVIDIA และ AMD ต่างกำลังแข่งขันกันในตลาดกราฟิกการ์ดระดับกลาง - อาจมีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ เช่น FSR 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม https://www.techpowerup.com/335455/amd-radeon-rx-9060-xt-reportedly-capable-of-boosting-up-to-3-3-ghz-new-leak-suggests-navi-44-xt-gpu
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    AMD Radeon RX 9060 XT Reportedly Capable of Boosting Up To 3.3 GHz, New Leak Suggests "Navi 44 XT" GPU
    AMD has not publicly announced its Radeon RX 9060 XT 16 GB and 8 GB graphics cards, but board partners have inadvertently "revealed" the existence of forthcoming custom designs. Team Red's RDNA 4 kick-off events did tease a second quarter launch of a Radeon RX 9060 Series cards, but have remained co...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • “แรงดึงดูดสูง” จะไม่แสดงออกมากเกินควร คำพูดของพวกเขาฟังดูถ่อมตัวเช่นเดียวกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ คนที่มีเสน่ห์มากที่สุดไม่ใช่คนที่ดูหรูหราที่สุด คนเหล่านี้มีแรงดึงดูดแต่ก็ยังแฝงไปด้วยความสุขุมเสมอเสน่ห์จะเพิ่มพูนขึ้นเมื่อคุณซื่อสัตย์กับตัวเองและผู้อื่น เมื่อคุณยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นโดยไม่หันไปสวมบทบาทที่ไม่เหมาะกับตัวตนที่แท้จริงของคุณ

    บุคลิกที่ดูมีเสน่ห์ดึงดูดมีหลายรูปแบบและเราแต่ละคนสามารถเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดได้ตราบใดที่เราเป็นตัวของตัวเองใน ทุก ๆ สถานการณ์เช่นเดียวกับแมว

    แผ่เสน่ห์และแรงดึงดูดของคุณออกมา โดยเป็นตัวคุณที่จริงใจ สุขุม ไม่เติมแต่ง และเป็นตัวเองอย่างแท้จริง

    จากหนังสือ #HowToLiveLikeYourCat
    “แรงดึงดูดสูง” จะไม่แสดงออกมากเกินควร คำพูดของพวกเขาฟังดูถ่อมตัวเช่นเดียวกับเสื้อผ้าที่สวมใส่ คนที่มีเสน่ห์มากที่สุดไม่ใช่คนที่ดูหรูหราที่สุด คนเหล่านี้มีแรงดึงดูดแต่ก็ยังแฝงไปด้วยความสุขุมเสมอเสน่ห์จะเพิ่มพูนขึ้นเมื่อคุณซื่อสัตย์กับตัวเองและผู้อื่น เมื่อคุณยอมรับในสิ่งที่คุณเป็นโดยไม่หันไปสวมบทบาทที่ไม่เหมาะกับตัวตนที่แท้จริงของคุณ บุคลิกที่ดูมีเสน่ห์ดึงดูดมีหลายรูปแบบและเราแต่ละคนสามารถเพิ่มเสน่ห์ดึงดูดได้ตราบใดที่เราเป็นตัวของตัวเองใน ทุก ๆ สถานการณ์เช่นเดียวกับแมว แผ่เสน่ห์และแรงดึงดูดของคุณออกมา โดยเป็นตัวคุณที่จริงใจ สุขุม ไม่เติมแต่ง และเป็นตัวเองอย่างแท้จริง จากหนังสือ #HowToLiveLikeYourCat
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💦💦💦💦💦ส่งท้าย 2025 เทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ไทย… ลูกค้าจะสาดน้ำมาทางนี้…หรือจะสาดใจมาให้เราเลยก็ดีค่ะ 💦💦💦🙏🏻 สวัสดีวันปีใหม่ไทยนะคะลูกค้าที่น่ารักทุกคนนนน 🙏🏻คลิปนี้มัดรวมสินค้าร้านกินจุ๊บจิ๊บ…ที่ต้องบอกเลยว่า ควรค่าของการฟังให้จบค่ะ ถ้าพลาดจะเสียดายมากกกก ที่จะได้รู้ความจริง…ความจริงคือ เลิศเลอเพอร์เฟ็คมากกกก🌶️ ความอร่อย อร่อยมาก ถึงอร่อยที่สุด♨️ สินค้าขายดี ขายดีมาก ถึงขายดีที่สุดเลือกชมสินค้าของเราร้านได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1ช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #ปลาเกล็ดขาวสามรส #ปลาเกล็ดขาว #songkran2025
    💦💦💦💦💦ส่งท้าย 2025 เทศกาลสงกรานต์ ปีใหม่ไทย… ลูกค้าจะสาดน้ำมาทางนี้…หรือจะสาดใจมาให้เราเลยก็ดีค่ะ 💦💦💦🙏🏻 สวัสดีวันปีใหม่ไทยนะคะลูกค้าที่น่ารักทุกคนนนน 🙏🏻คลิปนี้มัดรวมสินค้าร้านกินจุ๊บจิ๊บ…ที่ต้องบอกเลยว่า ควรค่าของการฟังให้จบค่ะ ถ้าพลาดจะเสียดายมากกกก ที่จะได้รู้ความจริง…ความจริงคือ เลิศเลอเพอร์เฟ็คมากกกก🌶️ ความอร่อย อร่อยมาก ถึงอร่อยที่สุด♨️ สินค้าขายดี ขายดีมาก ถึงขายดีที่สุดเลือกชมสินค้าของเราร้านได้ทั้งสองช่องทาง1. Shopee : shopee.co.th/kinjubjibshop2. TikTok : https://www.tiktok.com/@kinjubjibshop?_t=ZS-8txYHQWejyM&_r=1ช้อปได้ตามความชอบและคูปองของแต่ละช่องทางได้เลยค่ะ#นึกถึงอาหารทะเลแห้งนึกถึงเราร้านกินจุ๊บจิ๊บ #ร้านกินจุ๊บจิ๊บ #kinjubjibshop #อร่อยดีบอกต่อ #ของอร่อยต้องลอง #ปลาเกล็ดขาวอบกรอบ #ปลาเกล็ดขาวสามรส #ปลาเกล็ดขาว #songkran2025
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รักร้าว อีลอน-ทรัมป์ ดีได้แต่อย่าเด่นเกิน : [คุยผ่าโลก worldtalk]
    รักร้าว อีลอน-ทรัมป์ ดีได้แต่อย่าเด่นเกิน : [คุยผ่าโลก worldtalk]
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 120 มุมมอง 0 1 รีวิว
  • พีระพันธุ์→ พลังงานกับคาสิโน→ “การเล่นเกมซ้อนเกม”
    #อัษฎางค์ยมนาค

    “เรื่องการเมืองมันซับซ้อนเกินกว่าจะตัดสินเพียงสิ่งที่เห็นหรือได้ยิน” และกรณีของ คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ก็สะท้อนความซับซ้อนเชิงกลยุทธ์ของการเมืองไทยในปัจจุบันได้อย่างชัดเจน

    วิเคราะห์ในเชิงการเมือง-ยุทธศาสตร์

    1. ความซับซ้อนของ "พีระพันธุ์": นักการเมืองสายเทคนิค-กฎหมายในโลกของเกมอำนาจ

    คุณพีระพันธุ์ เป็นนักการเมืองที่มีภาพลักษณ์ "สายระบบราชการ" มากกว่านักพูด นักปลุกใจ หรือป๊อปปูลาร์ในโซเชียล เขาไม่ใช่นักการเมืองที่เน้นลงพื้นที่ แต่ถูกวางตัวให้ “แบกรับภารกิจเชิงนโยบาย” ที่ซับซ้อน เช่น พลังงาน กฎหมาย คาสิโน หรือแม้แต่โครงสร้างรัฐ

    จุดแข็ง: เข้าใจระบบ, ต่อรองกับเทคนิคของรัฐได้ดี
    จุดอ่อน: ขาดฐานมวลชนที่เหนียวแน่นทางอารมณ์ → ทำให้ถูกกดดันง่ายจาก "อินฟลูฯ" และโซเชียลมีเดีย

    2. ข้อกล่าวหา “สนับสนุนคาสิโน” และ “ถอด DNA ลุงตู่” คือสงครามทางสัญลักษณ์

    สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องคาสิโนหรือการตอบคำถามนักข่าว แต่คือ “สงครามตีตราทางการเมือง” ที่มีเป้าหมายหลักคือทำลายความชอบธรรม

    กลุ่มที่ว่า “หยุดเรียกเขาว่าเป็น DNA ลุงตู่” พยายามบอกว่าเขาทรยศต่อฐานอนุรักษ์นิยม

    กลุ่มที่โยงเขากับ “คาสิโน” ก็พยายามสร้างภาพว่าเขาสนับสนุนสิ่งผิดศีลธรรม

    ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้ มีน้ำหนักทางจิตวิทยามวลชนสูงมากในหมู่ฐานเสียงฝ่ายอนุรักษ์นิยม

    3. ประเด็นที่ซ่อนอยู่: ศึกใหญ่คือ "พลังงาน" ไม่ใช่คาสิโน

    คุณพีระพันธุ์ถูกตั้งเป้าโจมตีไม่ใช่เพราะคาสิโนเพียงอย่างเดียว แต่เพราะ เขาเริ่มลงมือในนโยบายพลังงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ขนาดใหญ่มากของหลายกลุ่มทุน

    “พลังงานคืออาณาจักรของอำนาจที่ซ่อนอยู่”

    และการที่คุณพีระพันธุ์กำลังรื้อโครงสร้างบางอย่าง → ย่อมทำให้เขาถูกโจมตีแบบ "ตีวงล้อม"

    วิเคราะห์ในเชิงจิตวิทยาการเมือง

    1. การถอดความนัยของคำว่า “DNA ลุงตู่”

    การใช้คำว่า “DNA ลุงตู่” สื่อถึงการสืบทอดจิตวิญญาณหรือแนวทางทางการเมือง แต่เมื่อกลุ่มอินฟลูฯ ออกมาพูดว่าเขา “ไม่ใช่” → ก็เท่ากับตัดเขาออกจากเครือข่ายทางอำนาจเดิมทันที เป็นการ “ถอนรากอุดมการณ์” ซึ่งส่งผลแรงในระดับฐานเสียง

    2. อินฟลูเอนเซอร์กับการควบคุมทิศทางของฝูงชน

    กรณีของ"อินฟลูฯ" โจมตีผ่านโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นว่า “อิทธิพลของเสียงในโซเชียล” วันนี้มีอำนาจไม่แพ้การอภิปรายในสภา เพราะ เขาสามารถตีกรอบให้คนมองพีระพันธุ์ในทิศทางใดก็ได้ โดยไม่ต้องรอข้อเท็จจริง

    สรุป:
    เกมหลัก→ โยงคุณพีระพันธุ์เข้ากับคาสิโน เพื่อทำลายภาพลักษณ์อนุรักษ์นิยม
    เกมลับ→ เขากำลังแตะโครงสร้างพลังงาน ซึ่งคือผลประโยชน์มหาศาล
    เทคนิคที่ใช้→ ตีวงล้อมผ่านสื่อ → ดึงฐานเสียงอนุรักษ์นิยมออกห่าง
    ความเสี่ยง→ หากขาดการสื่อสารที่ชัดเจน อาจกลายเป็น “คนกลางที่โดนล้อมจากทุกด้าน”

    ข้อเสนอแนะของผม:
    → อย่าตัดสินนักการเมืองจากคลิปเดียวหรือข้อความเดียว → การเมืองเป็นกลยุทธ์ และคำบางคำมีหน้าที่เบี่ยงเบนเกม ไม่ใช่แสดงเจตนาจริง

    → กลุ่มผู้สนับสนุนคุณพีระพันธุ์ควรสื่อสารเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องพลังงานและเป้าหมายทางนโยบายที่แท้จริง

    → ฐานเสียงฝ่ายขวา/อนุรักษ์นิยมควรใช้หลักคิดมากกว่าความรู้สึก ในการประเมินผู้นำ เพราะอารมณ์สามารถถูกสร้างได้ แต่ผลประโยชน์ของชาติคือของจริง

    ฝากคำถามไว้ให้ขบคิด:
    → คุณคิดว่า “การเล่นเกมซ้อนเกม” แบบนี้ สุดท้ายจะทำให้คุณพีระพันธุ์กลายเป็นเบี้ยที่ถูกเขี่ย หรือเป็นหมากลับที่น่ากลัวสำหรับทุกฝ่ายครับ?
    พีระพันธุ์→ พลังงานกับคาสิโน→ “การเล่นเกมซ้อนเกม” #อัษฎางค์ยมนาค “เรื่องการเมืองมันซับซ้อนเกินกว่าจะตัดสินเพียงสิ่งที่เห็นหรือได้ยิน” และกรณีของ คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ก็สะท้อนความซับซ้อนเชิงกลยุทธ์ของการเมืองไทยในปัจจุบันได้อย่างชัดเจน วิเคราะห์ในเชิงการเมือง-ยุทธศาสตร์ 1. ความซับซ้อนของ "พีระพันธุ์": นักการเมืองสายเทคนิค-กฎหมายในโลกของเกมอำนาจ คุณพีระพันธุ์ เป็นนักการเมืองที่มีภาพลักษณ์ "สายระบบราชการ" มากกว่านักพูด นักปลุกใจ หรือป๊อปปูลาร์ในโซเชียล เขาไม่ใช่นักการเมืองที่เน้นลงพื้นที่ แต่ถูกวางตัวให้ “แบกรับภารกิจเชิงนโยบาย” ที่ซับซ้อน เช่น พลังงาน กฎหมาย คาสิโน หรือแม้แต่โครงสร้างรัฐ จุดแข็ง: เข้าใจระบบ, ต่อรองกับเทคนิคของรัฐได้ดี จุดอ่อน: ขาดฐานมวลชนที่เหนียวแน่นทางอารมณ์ → ทำให้ถูกกดดันง่ายจาก "อินฟลูฯ" และโซเชียลมีเดีย 2. ข้อกล่าวหา “สนับสนุนคาสิโน” และ “ถอด DNA ลุงตู่” คือสงครามทางสัญลักษณ์ สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้ไม่ใช่แค่เรื่องคาสิโนหรือการตอบคำถามนักข่าว แต่คือ “สงครามตีตราทางการเมือง” ที่มีเป้าหมายหลักคือทำลายความชอบธรรม กลุ่มที่ว่า “หยุดเรียกเขาว่าเป็น DNA ลุงตู่” พยายามบอกว่าเขาทรยศต่อฐานอนุรักษ์นิยม กลุ่มที่โยงเขากับ “คาสิโน” ก็พยายามสร้างภาพว่าเขาสนับสนุนสิ่งผิดศีลธรรม ซึ่งทั้งสองประเด็นนี้ มีน้ำหนักทางจิตวิทยามวลชนสูงมากในหมู่ฐานเสียงฝ่ายอนุรักษ์นิยม 3. ประเด็นที่ซ่อนอยู่: ศึกใหญ่คือ "พลังงาน" ไม่ใช่คาสิโน คุณพีระพันธุ์ถูกตั้งเป้าโจมตีไม่ใช่เพราะคาสิโนเพียงอย่างเดียว แต่เพราะ เขาเริ่มลงมือในนโยบายพลังงาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ขนาดใหญ่มากของหลายกลุ่มทุน “พลังงานคืออาณาจักรของอำนาจที่ซ่อนอยู่” และการที่คุณพีระพันธุ์กำลังรื้อโครงสร้างบางอย่าง → ย่อมทำให้เขาถูกโจมตีแบบ "ตีวงล้อม" วิเคราะห์ในเชิงจิตวิทยาการเมือง 1. การถอดความนัยของคำว่า “DNA ลุงตู่” การใช้คำว่า “DNA ลุงตู่” สื่อถึงการสืบทอดจิตวิญญาณหรือแนวทางทางการเมือง แต่เมื่อกลุ่มอินฟลูฯ ออกมาพูดว่าเขา “ไม่ใช่” → ก็เท่ากับตัดเขาออกจากเครือข่ายทางอำนาจเดิมทันที เป็นการ “ถอนรากอุดมการณ์” ซึ่งส่งผลแรงในระดับฐานเสียง 2. อินฟลูเอนเซอร์กับการควบคุมทิศทางของฝูงชน กรณีของ"อินฟลูฯ" โจมตีผ่านโซเชียลมีเดีย แสดงให้เห็นว่า “อิทธิพลของเสียงในโซเชียล” วันนี้มีอำนาจไม่แพ้การอภิปรายในสภา เพราะ เขาสามารถตีกรอบให้คนมองพีระพันธุ์ในทิศทางใดก็ได้ โดยไม่ต้องรอข้อเท็จจริง สรุป: เกมหลัก→ โยงคุณพีระพันธุ์เข้ากับคาสิโน เพื่อทำลายภาพลักษณ์อนุรักษ์นิยม เกมลับ→ เขากำลังแตะโครงสร้างพลังงาน ซึ่งคือผลประโยชน์มหาศาล เทคนิคที่ใช้→ ตีวงล้อมผ่านสื่อ → ดึงฐานเสียงอนุรักษ์นิยมออกห่าง ความเสี่ยง→ หากขาดการสื่อสารที่ชัดเจน อาจกลายเป็น “คนกลางที่โดนล้อมจากทุกด้าน” ข้อเสนอแนะของผม: → อย่าตัดสินนักการเมืองจากคลิปเดียวหรือข้อความเดียว → การเมืองเป็นกลยุทธ์ และคำบางคำมีหน้าที่เบี่ยงเบนเกม ไม่ใช่แสดงเจตนาจริง → กลุ่มผู้สนับสนุนคุณพีระพันธุ์ควรสื่อสารเชิงรุกมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่องพลังงานและเป้าหมายทางนโยบายที่แท้จริง → ฐานเสียงฝ่ายขวา/อนุรักษ์นิยมควรใช้หลักคิดมากกว่าความรู้สึก ในการประเมินผู้นำ เพราะอารมณ์สามารถถูกสร้างได้ แต่ผลประโยชน์ของชาติคือของจริง ฝากคำถามไว้ให้ขบคิด: → คุณคิดว่า “การเล่นเกมซ้อนเกม” แบบนี้ สุดท้ายจะทำให้คุณพีระพันธุ์กลายเป็นเบี้ยที่ถูกเขี่ย หรือเป็นหมากลับที่น่ากลัวสำหรับทุกฝ่ายครับ?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทวดโคตรเศรษฐี พ่อปู่นริศ สถานธรรมบารมีศรีปทุมแสงธรรมหนอ จ.พังงา
    ทวดโคตรเศรษฐี ( พิเศษพระองค์นี้มีเศษธนบัตร ติดที่องค์พระ ) พ่อปู่นริศ สถานธรรมบารมีศรีปทุมแสงธรรมหนอ จ.พังงา // พระขนาด 3 ซม. ไม่ใหญมาก น่าใช้ครับ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //รับประกันความแท้ตลอดชีพ >>

    ** พุทธคุณเด่นดีทุกทางครบสูตร เน้นๆ มหาโชค มหาลาภผลพูนทวี มหาอุดมโชค โภคทรัพย์ การเงิน การงาน ความอยู่ดีกินดี เป็นต้น ยิ่งหากผู้ใดมีไว้บูชา เป็นผู้ขยันทำมาหากิน ยิ่งส่งเสริมให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    ทวดโคตรเศรษฐี พ่อปู่นริศ สถานธรรมบารมีศรีปทุมแสงธรรมหนอ จ.พังงา ทวดโคตรเศรษฐี ( พิเศษพระองค์นี้มีเศษธนบัตร ติดที่องค์พระ ) พ่อปู่นริศ สถานธรรมบารมีศรีปทุมแสงธรรมหนอ จ.พังงา // พระขนาด 3 ซม. ไม่ใหญมาก น่าใช้ครับ //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //รับประกันความแท้ตลอดชีพ >> ** พุทธคุณเด่นดีทุกทางครบสูตร เน้นๆ มหาโชค มหาลาภผลพูนทวี มหาอุดมโชค โภคทรัพย์ การเงิน การงาน ความอยู่ดีกินดี เป็นต้น ยิ่งหากผู้ใดมีไว้บูชา เป็นผู้ขยันทำมาหากิน ยิ่งส่งเสริมให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • Blood Gold เหมืองทองคำสีเลือดแห่งลุ่มน้ำโขง ตอนที่ 1
    .
    ฉากทัศน์ปัจจุบันในลุ่มแม่น้ำโขง ไม่ต่างมากนักกับหนังเรื่อง Blood Diamond ที่สร้างจากเรื่องจริงที่ที่แอฟริกา ว่าด้วยการด้านมืดของทำเหมืองเพชร ฉายในปีค.ศ. 2006 ดารานำคือ ลีโอนาโด ดิคาปริโอ แสดงคู่กับ โซโลมอน แวนดี้ ชาวประมงผู้ถูกจับตัวไปเป็นแรงงานในเหมืองเพชรของกลุ่มกบฏ
    .
    Blood Diamond ในเรื่องถือเป็นขุมทรัพย์ของกลุ่มกบฏ กระบวนการคือการกดขี่แรงงาน สังหารชาวบ้าน ที่ต่อต้าน ล้างสมองใช้แรงงานเด็กถืออาวุธเคี่ยวเข่น ฟอกเงินจากขายเพชรไปซื้ออาวุธ เสริมสร้างกองทัพ การค้าอาวุธและของเถื่อน เรียกว่าเถื่อนครบวงจร
    .
    หลังจากน้ำท่วมแม่สายอย่างสาหัส ด้วยมวลขุ่นชี้โคลนมหาศาลโถมทับพื้นที่ลุ่มน้ำแม่สาย ท่าขี้เหล็ก ทางมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation ; SHRF) ได้เปิดผลการศึกษา ว่าด้วย “การขยายตัวของเหมืองแร่ในรัฐฉาน เมียนมา กับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนในเมียนมาและไทย”
    .
    เสียงสะท้อนจากเรื่องนี้ดังมาจากฝั่งเมียนมาร์ถือเป็นครั้งแรกห้วงเดือนพฤศจิกายน 2567 นอกจากโคลนคือการได้รับของแถมคือ สารหนู นิเกิลและสังกะสีปนเปื้อนในระดับสูง โดยระดับปนเปื้อนของสังกะสีในแม่น้ำสายสูงงกว่าระดับปลอดภัยถึง 18 เท่า
    .
    ประเด็นชี้เป้าไปที่ 4 พื้นที่หลักภายใต้การคือ การขยายตัวของเหมืองทองคำด้านตะวันออกของเมืองสาด รัฐฉาน การทำเหมืองแร่ริมฝั่งแม่น้ำกก รัฐฉาน การทำเหมืองแร่ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำรวก รัฐฉาน การทำเหมืองแร่ตามริมฝั่งน้ำเลน รัฐฉาน
    .
    Deep State ที่ตัวแสดงหลักคือกองทัพสหรัฐว้า United Wa State Army ทำขอตกลงกับรัฐบาลเมียนมาคือ เขตปกครองพิเศษที่ 2 มีพื้นที่อิทธิพลในเขตเปกครองตนเองว้า ภาคเหนือติดชายแดนจีน และทางภาคใต้-ตะวันออกของรัฐฉาน ติดกับประเทศไทย และการพันลึกกับจีน
    .
    ปมปัญหามลพิษทางน้ำข้ามพรมแดนไทย-เมียนมาร์ ประเด็นร้อนล่าสุดที่ผลกระทบได้ขยายวงแผ่ไปตามกระแสน้ำที่มีมลพิษจากการทำเหมืองทองคำเป็นต้นเหตุหลักในพื้นที่รัฐฉาน ที่ไหลลงแม่น้ำลัดเลาะลงอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านจังหวัดเชียงราย ลงแม่น้ำโขง
    .
    เรื่องนี้มีความน่าสนใจเชิงทรัพยากรเหมืองแร่ที่มีทุนจีนเข้ามาโอบล้อมภาคเหนือของไทยสูบแร่ ที่คิดว่าไม่ใช่เฉพาะทองคำ แต่จะกินไปถึงถ่านหิน และแมงกานีส เป็นอุตสาหกรรมที่มีความลึกลับซับซ้อนเป็นทองคำสีเลือดที่สร้างผลกระทบชีวิตคนลุ่มแม่น้ำโขง สุขภาพตายผ่อนส่ง ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่ยังไม่รวมเรื่องฝุ่นควันข้ามแดนจากการบายพาสสินค้าไปตลาดจีน คาสิโน บ่อนที่ประชิดชายแดนไทย ทั้งพม่าและคิงส์โรมัน
    .
    ทั้งหมดล้วนพัวพันเป็นเนื้อเดียวที่ส่งสัญญาณอนาคตประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ลุ่มนํ้าสาละวิน กก สาย และอิง ไม่รวมแม่น้ำสาขา น้ำแม่ฝาง น้ำแม่ลาว และน้ำแม่สรวย กำลังเผชิญวิกฤติที่ลุกลามเป็นกินพื้นที่ภาคเหนือ
    .
    ต้องยอมรับว่าการ Reaction ของรัฐไทยช้า และไม่มีพลังที่จะชน Deep State ประเทศเพื่อนบ้าน ภาพปรากฎเป็นการตั้งรับเกือบ 100% และไม่ทันการณ์
    .
    ความอ่อนแอเชิงพื้นที่ที่ได้ถูกกัดกร่อน ทำให้พลังการแสดงออกของพื้นที่เชียงรายอ่อนแรง ทั้งภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชน มิได้ส่งเสียงส่งพลังให้เกิดการมีปฏิกิริยาเชิงรุกกับรัฐบาลไทยเพื่อปกป้องผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของภาคเหนือ
    .
    หากประมวลมอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวของไทย นอกจากการเกาะติดของสื่อ ก็จะมีข้อเรียกร้องทางให้เปิดโต๊ะเจรจาจีน-เมียนมา-ว้า ประสานพี่ใหญ่จีนด้วยที่มีบริษัทจีนส่วนใหญ่เข้าไปสัมปทาน ทั้งรูปแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ร่วมกันหาทางออกทั้งการยุติการทำเหมืองทอง หรือการควบคุมการปล่อยสารพิษลงแม่น้ำ
    .
    จังหวัดเชียงรายต้องทำฉากทัศน์ (Scenarios) หลายระดับ 1.ในช่วง 5 ปี หน้าดินที่เสื่อมสลายไป จะทำอย่างไรในเรื่องตะกอน น้ำท่วม และสารพิษในแม่น้ำ 2.ในช่วง 10 ปีข้างหน้า หากเหมืองทองขยายตัวมากกว่านี้ ขยายเหมือนไร่ข้าวโพดในเมียนมา จะมีการบริหารจัดการอย่างไร 3.ประเด็นการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment : SEA)
    .
    ก่อนหน้านี้กลางเดือนมีนาคมมีการรวมตัวของชุมชน 700 คน ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ รวมตัวกันเพื่อรณรงค์ปกป้องแม่น้ำกก ที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทองคำบนต้นน้ำกกที่ห่างจากชายแดนไทยไป 30 กิโลเมตรทางทิศใต้ของเมืองสาด ที่ดำเนินขุดต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง โดยให้ข้อมูลว่าตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา การขุดทองในวงกว้างเกิดขึ้นริมแม่น้ำกกในเมืองยอน ตอนใต้ของอำเภอเมืองสาด
    .
    ในแถลงการณ์ระบุว่ามีบริษัทจีนหลัก 4 แห่ง ที่ดำเนินการขุดเหมือง มีซับคอนแทรกอีก 20 ราย มีพนักงานมากกว่า 300 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน บริษัทเหล่านี้ทำเหมืองบนเนินเขาและริมฝั่งแม่น้ำกก รวมถึงการใช้เรือขุดทองและสกัดบนแม่น้ำกกโดยตรง ทำให้ชาวบ้านไม่มั่นใจการบริโภคในครัวเรือน และทำให้ปลาแทบสูญพันธุ์
    .
    ล่าสุดมีการขยับของ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกหนังสือไปยังหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong Committee Secretariat: MRCS) เสนอจัดตั้ง “กลไกความร่วมมือทวิภาคี” สำหรับการตรวจสอบคุณภาพน้ำ โดยมี MRCS ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งต้องติดตามต่อไป
    .
    หลังจากการเปิดฉากเรื่อง Blood Gold เหมืองทองคำสีเลือดแห่งลุ่มน้ำโขง ตอนต่อไปคือการเจาะลึกการขยายอุตสาหกรรมเหมืองทองคำในลุ่มแม่น้ำโขงในเงื้อมมือทุนจีน การเล่นแร่แปรธาตุสู่อาวุธ บ่อน และสงคราม ไปจนทางถึง Supply Chain การเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการเหมืองในลุ่มแม่น้ำโขง ผลประโยชน์ขนาดไหน ความสูญเสียของคนลุ่มแม่น้ำโขงในอนาคตภายใต้ความเสี่ยงของมลพิษข้ามแดนจะวิกฤติอย่างไร มีทางออกอย่างไรโปรดติดตาม

    อ้างอิง :
    • มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ https://shanhumanrights.org/
    • วิกฤตสารหนู ‘แม่น้ำกก’ จี้รัฐถก 3 ชาติ ป้องเศรษฐกิจเชียงรายพัง https://www.prachachat.net/local-economy/news-1792140
    • สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 1 https://www.facebook.com/share/p/1D8ZwWYsN1/
    • ไทยกับว้าแดง https://www.facebook.com/share/p/15KvYRaDH1/
    • Toxic Waters, Dysfunctional States The Destruction of the Kok and Sai Rivers
    By Paskorn Jumlongrach https://transbordernews.in.th/home/?p=42108
    Blood Gold เหมืองทองคำสีเลือดแห่งลุ่มน้ำโขง ตอนที่ 1 . ฉากทัศน์ปัจจุบันในลุ่มแม่น้ำโขง ไม่ต่างมากนักกับหนังเรื่อง Blood Diamond ที่สร้างจากเรื่องจริงที่ที่แอฟริกา ว่าด้วยการด้านมืดของทำเหมืองเพชร ฉายในปีค.ศ. 2006 ดารานำคือ ลีโอนาโด ดิคาปริโอ แสดงคู่กับ โซโลมอน แวนดี้ ชาวประมงผู้ถูกจับตัวไปเป็นแรงงานในเหมืองเพชรของกลุ่มกบฏ . Blood Diamond ในเรื่องถือเป็นขุมทรัพย์ของกลุ่มกบฏ กระบวนการคือการกดขี่แรงงาน สังหารชาวบ้าน ที่ต่อต้าน ล้างสมองใช้แรงงานเด็กถืออาวุธเคี่ยวเข่น ฟอกเงินจากขายเพชรไปซื้ออาวุธ เสริมสร้างกองทัพ การค้าอาวุธและของเถื่อน เรียกว่าเถื่อนครบวงจร . หลังจากน้ำท่วมแม่สายอย่างสาหัส ด้วยมวลขุ่นชี้โคลนมหาศาลโถมทับพื้นที่ลุ่มน้ำแม่สาย ท่าขี้เหล็ก ทางมูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ (Shan Human Rights Foundation ; SHRF) ได้เปิดผลการศึกษา ว่าด้วย “การขยายตัวของเหมืองแร่ในรัฐฉาน เมียนมา กับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและชุมชนในเมียนมาและไทย” . เสียงสะท้อนจากเรื่องนี้ดังมาจากฝั่งเมียนมาร์ถือเป็นครั้งแรกห้วงเดือนพฤศจิกายน 2567 นอกจากโคลนคือการได้รับของแถมคือ สารหนู นิเกิลและสังกะสีปนเปื้อนในระดับสูง โดยระดับปนเปื้อนของสังกะสีในแม่น้ำสายสูงงกว่าระดับปลอดภัยถึง 18 เท่า . ประเด็นชี้เป้าไปที่ 4 พื้นที่หลักภายใต้การคือ การขยายตัวของเหมืองทองคำด้านตะวันออกของเมืองสาด รัฐฉาน การทำเหมืองแร่ริมฝั่งแม่น้ำกก รัฐฉาน การทำเหมืองแร่ส่งผลกระทบต่อแม่น้ำรวก รัฐฉาน การทำเหมืองแร่ตามริมฝั่งน้ำเลน รัฐฉาน . Deep State ที่ตัวแสดงหลักคือกองทัพสหรัฐว้า United Wa State Army ทำขอตกลงกับรัฐบาลเมียนมาคือ เขตปกครองพิเศษที่ 2 มีพื้นที่อิทธิพลในเขตเปกครองตนเองว้า ภาคเหนือติดชายแดนจีน และทางภาคใต้-ตะวันออกของรัฐฉาน ติดกับประเทศไทย และการพันลึกกับจีน . ปมปัญหามลพิษทางน้ำข้ามพรมแดนไทย-เมียนมาร์ ประเด็นร้อนล่าสุดที่ผลกระทบได้ขยายวงแผ่ไปตามกระแสน้ำที่มีมลพิษจากการทำเหมืองทองคำเป็นต้นเหตุหลักในพื้นที่รัฐฉาน ที่ไหลลงแม่น้ำลัดเลาะลงอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ผ่านจังหวัดเชียงราย ลงแม่น้ำโขง . เรื่องนี้มีความน่าสนใจเชิงทรัพยากรเหมืองแร่ที่มีทุนจีนเข้ามาโอบล้อมภาคเหนือของไทยสูบแร่ ที่คิดว่าไม่ใช่เฉพาะทองคำ แต่จะกินไปถึงถ่านหิน และแมงกานีส เป็นอุตสาหกรรมที่มีความลึกลับซับซ้อนเป็นทองคำสีเลือดที่สร้างผลกระทบชีวิตคนลุ่มแม่น้ำโขง สุขภาพตายผ่อนส่ง ผลกระทบเชิงเศรษฐกิจที่ยังไม่รวมเรื่องฝุ่นควันข้ามแดนจากการบายพาสสินค้าไปตลาดจีน คาสิโน บ่อนที่ประชิดชายแดนไทย ทั้งพม่าและคิงส์โรมัน . ทั้งหมดล้วนพัวพันเป็นเนื้อเดียวที่ส่งสัญญาณอนาคตประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ลุ่มนํ้าสาละวิน กก สาย และอิง ไม่รวมแม่น้ำสาขา น้ำแม่ฝาง น้ำแม่ลาว และน้ำแม่สรวย กำลังเผชิญวิกฤติที่ลุกลามเป็นกินพื้นที่ภาคเหนือ . ต้องยอมรับว่าการ Reaction ของรัฐไทยช้า และไม่มีพลังที่จะชน Deep State ประเทศเพื่อนบ้าน ภาพปรากฎเป็นการตั้งรับเกือบ 100% และไม่ทันการณ์ . ความอ่อนแอเชิงพื้นที่ที่ได้ถูกกัดกร่อน ทำให้พลังการแสดงออกของพื้นที่เชียงรายอ่อนแรง ทั้งภาคเอกชน ภาคการศึกษา ภาคประชาชน มิได้ส่งเสียงส่งพลังให้เกิดการมีปฏิกิริยาเชิงรุกกับรัฐบาลไทยเพื่อปกป้องผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมของภาคเหนือ . หากประมวลมอนิเตอร์ความเคลื่อนไหวของไทย นอกจากการเกาะติดของสื่อ ก็จะมีข้อเรียกร้องทางให้เปิดโต๊ะเจรจาจีน-เมียนมา-ว้า ประสานพี่ใหญ่จีนด้วยที่มีบริษัทจีนส่วนใหญ่เข้าไปสัมปทาน ทั้งรูปแบบเป็นทางการและไม่เป็นทางการ ร่วมกันหาทางออกทั้งการยุติการทำเหมืองทอง หรือการควบคุมการปล่อยสารพิษลงแม่น้ำ . จังหวัดเชียงรายต้องทำฉากทัศน์ (Scenarios) หลายระดับ 1.ในช่วง 5 ปี หน้าดินที่เสื่อมสลายไป จะทำอย่างไรในเรื่องตะกอน น้ำท่วม และสารพิษในแม่น้ำ 2.ในช่วง 10 ปีข้างหน้า หากเหมืองทองขยายตัวมากกว่านี้ ขยายเหมือนไร่ข้าวโพดในเมียนมา จะมีการบริหารจัดการอย่างไร 3.ประเด็นการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment : SEA) . ก่อนหน้านี้กลางเดือนมีนาคมมีการรวมตัวของชุมชน 700 คน ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ รวมตัวกันเพื่อรณรงค์ปกป้องแม่น้ำกก ที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองทองคำบนต้นน้ำกกที่ห่างจากชายแดนไทยไป 30 กิโลเมตรทางทิศใต้ของเมืองสาด ที่ดำเนินขุดต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง โดยให้ข้อมูลว่าตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมา การขุดทองในวงกว้างเกิดขึ้นริมแม่น้ำกกในเมืองยอน ตอนใต้ของอำเภอเมืองสาด . ในแถลงการณ์ระบุว่ามีบริษัทจีนหลัก 4 แห่ง ที่ดำเนินการขุดเหมือง มีซับคอนแทรกอีก 20 ราย มีพนักงานมากกว่า 300 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีน บริษัทเหล่านี้ทำเหมืองบนเนินเขาและริมฝั่งแม่น้ำกก รวมถึงการใช้เรือขุดทองและสกัดบนแม่น้ำกกโดยตรง ทำให้ชาวบ้านไม่มั่นใจการบริโภคในครัวเรือน และทำให้ปลาแทบสูญพันธุ์ . ล่าสุดมีการขยับของ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) โดย ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกหนังสือไปยังหัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารสำนักงานเลขาธิการคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Mekong Committee Secretariat: MRCS) เสนอจัดตั้ง “กลไกความร่วมมือทวิภาคี” สำหรับการตรวจสอบคุณภาพน้ำ โดยมี MRCS ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงาน ซึ่งต้องติดตามต่อไป . หลังจากการเปิดฉากเรื่อง Blood Gold เหมืองทองคำสีเลือดแห่งลุ่มน้ำโขง ตอนต่อไปคือการเจาะลึกการขยายอุตสาหกรรมเหมืองทองคำในลุ่มแม่น้ำโขงในเงื้อมมือทุนจีน การเล่นแร่แปรธาตุสู่อาวุธ บ่อน และสงคราม ไปจนทางถึง Supply Chain การเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบการเหมืองในลุ่มแม่น้ำโขง ผลประโยชน์ขนาดไหน ความสูญเสียของคนลุ่มแม่น้ำโขงในอนาคตภายใต้ความเสี่ยงของมลพิษข้ามแดนจะวิกฤติอย่างไร มีทางออกอย่างไรโปรดติดตาม อ้างอิง : • มูลนิธิสิทธิมนุษยชนไทใหญ่ https://shanhumanrights.org/ • วิกฤตสารหนู ‘แม่น้ำกก’ จี้รัฐถก 3 ชาติ ป้องเศรษฐกิจเชียงรายพัง https://www.prachachat.net/local-economy/news-1792140 • สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติภาค 1 https://www.facebook.com/share/p/1D8ZwWYsN1/ • ไทยกับว้าแดง https://www.facebook.com/share/p/15KvYRaDH1/ • Toxic Waters, Dysfunctional States The Destruction of the Kok and Sai Rivers By Paskorn Jumlongrach https://transbordernews.in.th/home/?p=42108
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงผลการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโมเดล โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น Carnegie Mellon, Stanford, Harvard และ Princeton ได้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Catastrophic Overtraining”

    นักวิจัยพบว่าเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมากเกินไป เช่น การเพิ่มจำนวนโทเค็นจาก 2.3 ล้านล้านเป็น 3 ล้านล้านในโมเดล OLMo-1B ประสิทธิภาพของโมเดลกลับลดลงถึง 3% ในการทดสอบมาตรฐาน เช่น AlpacaEval และ ARC สาเหตุหลักมาจาก “Progressive Sensitivity” ซึ่งทำให้โมเดลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งหรือการเพิ่มเสียงรบกวน

    นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า “Inflection Point” หรือจุดที่การฝึกอบรมเพิ่มเติมเริ่มส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้านในโมเดลขนาดเล็ก การค้นพบนี้เรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับขนาดโมเดล AI โดยเน้นที่กระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว

    ✅ การค้นพบปรากฏการณ์ Catastrophic Overtraining
    - การฝึกอบรม AI มากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของโมเดล
    - Progressive Sensitivity ทำให้โมเดลเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย

    ✅ ผลกระทบของการฝึกอบรมเพิ่มเติม
    - โมเดล OLMo-1B ที่ฝึกอบรมด้วยข้อมูล 3 ล้านล้านโทเค็นมีประสิทธิภาพลดลงถึง 3%
    - Inflection Point มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้าน

    ✅ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย
    - ควรพิจารณากระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนการเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว
    - การปรับขนาดโมเดล AI ควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร

    ℹ️ ความเสี่ยงจากการฝึกอบรมมากเกินไป
    - การฝึกอบรมมากเกินไปอาจทำให้โมเดลเปราะบางและลดประสิทธิภาพ
    - การเพิ่มเสียงรบกวนหรือการปรับแต่งอาจส่งผลเสียต่อโมเดลที่ฝึกอบรมมากเกินไป

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา AI
    - ควรพิจารณาจำนวนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม
    - การพัฒนาโมเดล AI ควรเน้นที่ความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร

    https://www.techradar.com/pro/catastrophic-overtraining-could-harm-large-language-ai-models-that-are-trained-on-more-data-for-the-sake-of-training
    ข่าวนี้เล่าถึงผลการวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า การฝึกอบรมปัญญาประดิษฐ์ (AI) มากเกินไป อาจส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพของโมเดล โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยชั้นนำในสหรัฐฯ เช่น Carnegie Mellon, Stanford, Harvard และ Princeton ได้ค้นพบปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “Catastrophic Overtraining” นักวิจัยพบว่าเมื่อโมเดล AI ถูกฝึกอบรมด้วยข้อมูลจำนวนมากเกินไป เช่น การเพิ่มจำนวนโทเค็นจาก 2.3 ล้านล้านเป็น 3 ล้านล้านในโมเดล OLMo-1B ประสิทธิภาพของโมเดลกลับลดลงถึง 3% ในการทดสอบมาตรฐาน เช่น AlpacaEval และ ARC สาเหตุหลักมาจาก “Progressive Sensitivity” ซึ่งทำให้โมเดลมีความเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เช่น การปรับแต่งหรือการเพิ่มเสียงรบกวน นักวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า “Inflection Point” หรือจุดที่การฝึกอบรมเพิ่มเติมเริ่มส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพ มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้านในโมเดลขนาดเล็ก การค้นพบนี้เรียกร้องให้มีการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับขนาดโมเดล AI โดยเน้นที่กระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนที่จะมุ่งเน้นที่การเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว ✅ การค้นพบปรากฏการณ์ Catastrophic Overtraining - การฝึกอบรม AI มากเกินไปอาจลดประสิทธิภาพของโมเดล - Progressive Sensitivity ทำให้โมเดลเปราะบางต่อการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย ✅ ผลกระทบของการฝึกอบรมเพิ่มเติม - โมเดล OLMo-1B ที่ฝึกอบรมด้วยข้อมูล 3 ล้านล้านโทเค็นมีประสิทธิภาพลดลงถึง 3% - Inflection Point มักเกิดขึ้นเมื่อจำนวนโทเค็นเกิน 2.5 ล้านล้าน ✅ ข้อเสนอแนะจากนักวิจัย - ควรพิจารณากระบวนการฝึกอบรมทั้งหมดแทนการเพิ่มข้อมูลเพียงอย่างเดียว - การปรับขนาดโมเดล AI ควรคำนึงถึงความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร ℹ️ ความเสี่ยงจากการฝึกอบรมมากเกินไป - การฝึกอบรมมากเกินไปอาจทำให้โมเดลเปราะบางและลดประสิทธิภาพ - การเพิ่มเสียงรบกวนหรือการปรับแต่งอาจส่งผลเสียต่อโมเดลที่ฝึกอบรมมากเกินไป ℹ️ คำแนะนำสำหรับนักพัฒนา AI - ควรพิจารณาจำนวนข้อมูลที่เหมาะสมสำหรับการฝึกอบรม - การพัฒนาโมเดล AI ควรเน้นที่ความสมดุลระหว่างข้อมูลและความเสถียร https://www.techradar.com/pro/catastrophic-overtraining-could-harm-large-language-ai-models-that-are-trained-on-more-data-for-the-sake-of-training
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถั่วลิสงทองเหลือง อุดกริ่ง หลวงปู่หนู รุ่นแรก วัดป่าศิริวัฒนา จ.อุดรธานี
    ถั่วลิสงหล่อโบราณ เนื้อเหลือง อุดกริ่ง ( กริ่งดังกังวาน ) หลวงปู่หนู รุ่นแรก วัดป่าศิริวัฒนา จ.อุดรธานี //เครื่องรางของขลังด้านโภคทรัพย์ มีกินมีใช้ เรียกเงินเรียกทอง ดูดทรัพย์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณพกพาติดตัวเดินทาง แคล้วคลาดปลอดภัย ทำมาค้าขึ้น เจริญงอกงาม เครื่องรางแห่งความอุดมสมบูรณ์ บูชาก็จะช่วยให้ผู้ที่บูชามีความอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวย ผู้คนจึงนิยมนำมาบูชา เพื่อเสริมโชคกิจการ และการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ จะได้ก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง >>

    ** ถั่วลิสงหล่อโบราณ อุดกริ่งสภาพสุดคลาสสิค กริ่งดังกังวาน ผู้ใดได้บูชา จะเป็น สิริมงคล จะได้ค้าขายดีดี. ทำมาค้าคล่อง เงินทองไหลมาเทมา.เรียกเงินเรียกทอง เมตตา แคล้วคลาด คนโบราณนิยมเก็บใส่ไว้ ในกระป๋อง ใส่สตางค์ เพื่อเอาเคล็ดให้ เงินทองเจริญงอกงามอุดมสมบูรณ์ เหมือนกับถั่วลิสงนัั้นเอง >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    ถั่วลิสงทองเหลือง อุดกริ่ง หลวงปู่หนู รุ่นแรก วัดป่าศิริวัฒนา จ.อุดรธานี ถั่วลิสงหล่อโบราณ เนื้อเหลือง อุดกริ่ง ( กริ่งดังกังวาน ) หลวงปู่หนู รุ่นแรก วัดป่าศิริวัฒนา จ.อุดรธานี //เครื่องรางของขลังด้านโภคทรัพย์ มีกินมีใช้ เรียกเงินเรียกทอง ดูดทรัพย์ // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณพกพาติดตัวเดินทาง แคล้วคลาดปลอดภัย ทำมาค้าขึ้น เจริญงอกงาม เครื่องรางแห่งความอุดมสมบูรณ์ บูชาก็จะช่วยให้ผู้ที่บูชามีความอุดมสมบูรณ์ ร่ำรวย ผู้คนจึงนิยมนำมาบูชา เพื่อเสริมโชคกิจการ และการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ จะได้ก้าวหน้าเจริญรุ่งเรือง >> ** ถั่วลิสงหล่อโบราณ อุดกริ่งสภาพสุดคลาสสิค กริ่งดังกังวาน ผู้ใดได้บูชา จะเป็น สิริมงคล จะได้ค้าขายดีดี. ทำมาค้าคล่อง เงินทองไหลมาเทมา.เรียกเงินเรียกทอง เมตตา แคล้วคลาด คนโบราณนิยมเก็บใส่ไว้ ในกระป๋อง ใส่สตางค์ เพื่อเอาเคล็ดให้ เงินทองเจริญงอกงามอุดมสมบูรณ์ เหมือนกับถั่วลิสงนัั้นเอง >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🌸 14 เมษายน “วันเนา” วันอยู่บ้าน วันว่างสงกรานต์ ตำนานความเชื่อ… ห้ามทะเลาะ! เผลอด่าใคร ซวยไปทั้งปี!

    ✍️ "วันเนา" มีความหมายลึกซึ้งกว่าเป็นเพียงวันว่าง กลางเทศกาลสงกรานต์ เพราะวันนี้คือวันแห่งการทำสิ่งดีงาม งดด่าทอ งดทะเลาะ และตระเตรียมทำบุญ เพื่อสิริมงคลตลอดปี เจาะลึกตำนานวันที่ห้ามด่า ห้ามทะเลาะ หากฝ่าฝืนจะพบเคราะห์ทั้งปี พร้อมเล่าความเชื่อ วิถีชีวิต และกิจกรรมจาก 4 ภาค ทั่วไทย 🌈

    🧘‍♀️ วันเนา… ไม่ใช่แค่วันว่าง แต่คือ “วันสำคัญที่ต้องสำรวมใจ” 🕊️ ทุกๆ วันที่ 14 เมษายนของทุกปี คนไทยจำนวนมาก รู้จักกันว่าเป็น "วันว่าง" กลางเทศกาลสงกรานต์ แต่ทราบหรือไม่ว่า วันนี้เรียกว่า "วันเนา" และซ่อนความหมาย ความเชื่อ และพิธีกรรมที่ลึกซึ้งไว้มากมาย ตั้งแต่ความเชื่อโบราณ โหราศาสตร์ ไปจนถึงวิถีชีวิตคนไทย ที่แสดงความรักต่อครอบครัว 💖

    📚 คำว่า “เนา” เป็นภาษาเขมร แปลว่า “อยู่” หรือ “ตั้งอยู่” ดังนั้น "วันเนา" จึงหมายถึง วันที่ดวงอาทิตย์ “อยู่ประจำที่” ภายหลังย้ายจากราศีมีน เข้าสู่ราศีเมษตามคัมภีร์สุริยยาตร์ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 เมษายนพอดี 🔍

    โดยในทางโหราศาสตร์ วันเนาคือวันที่ “พระอาทิตย์ยังไม่เปลี่ยนศักราชใหม่ อย่างสมบูรณ์” เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจุลศักราช ที่คนโบราณให้ความสำคัญอย่างมาก 🌓

    💡 “วันเนา” ถือว่าเป็นวันมงคล ต้องงดเว้นสิ่งอัปมงคล เช่น การด่าทอ การทะเลาะวิวาท และการพูดคำหยาบ

    🔮 ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับวันเนา ห้ามทะเลาะ ห้ามด่า ไม่งั้น...ปากเน่า! 😷

    ❗ ห้ามด่าทอ หรือทะเลาะกับใคร ในวันนี้ ความเชื่อหนึ่งที่โด่งดังมากในวันเนา คือ ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามทะเลาะวิวาท เพราะเชื่อกันว่า หากฝ่าฝืนจะพบเคราะห์ร้ายตลอดทั้งปี และบางตำนานถึงกับบอกว่า “ปากจะเน่า” จริงๆ! 🧟

    🌱 ทำบุญให้มากในวันเนา จะได้เก็บบุญไว้ใช้ตลอดปี ในช่วงบ่ายของวันเนา ชาวบ้านจะร่วมกันขนทรายเข้าวัด เพื่อก่อ “เจดีย์ทราย” สื่อถึงการนำสิ่งไม่ดีออกจากบ้าน และทดแทนทรายที่ติดเท้าออกมาจากวัด ซึ่งถือว่าเป็นการ “คืนของ” ด้วยความเคารพ

    🧘‍♂️ วันเนากับการเตรียมทำบุญ ความเชื่อในชีวิตประจำวัน กิจกรรมหลักที่ควรทำในวันเนา ทำความสะอาดบ้าน งดการใช้คำหยาบมเตรียมอาหาร ขนม และเครื่องไทยธรรม ขนทรายเข้าวัด สร้างเจดีย์ทราย ตระเตรียมของเพื่อทำบุญในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันเถลิงศก

    🌟 เคล็ดความเชื่อเสริมมงคล ผู้ที่ต้องการปลูกบ้านด้วยไม้ไผ่ ให้ตัดไม้ในวันเนา เพราะเชื่อว่า “ไม้จะไม่เน่า และปลวกไม่กิน” ถือเป็น “วันเตรียมของทำบุญ” หรือ “วันดา” ชาวบ้านจะ “ดา” หรือ “จัดเตรียม” ของเพื่อความพร้อมในวันพญาวัน

    👨‍👩‍👧‍👦 “วันครอบครัว” สร้างความอบอุ่น เริ่มต้นปีใหม่ด้วยใจที่มั่นคง ในปี พ.ศ.2532 รัฐบาลไทยได้กำหนดให้วันที่ 14 เมษายนของทุกปีเป็น “วันครอบครัว” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ สนับสนุนความสัมพันธ์ในครอบครัว 👪 ให้คนไทยใช้วันหยุดเทศกาลรวมญาติ กลับบ้าน และอยู่พร้อมหน้ากัน ส่งเสริมการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การกราบขอพร และการทำกิจกรรมร่วมกัน

    🌸 ความรัก ความเคารพ และความผูกพันในครอบครัว จึงถูกยกระดับให้เป็นคุณค่าหลักในวันเนา

    📆 ปฏิทินสงกรานต์ จากมหาสงกรานต์ สู่วันเนา และวันเถลิงศก

    13 เมษายน วันมหาสงกรานต์ ดวงอาทิตย์เริ่มเข้าสู่ราศีเมษ
    14 เมษายน วันเนา ดวงอาทิตย์ตั้งอยู่ในราศีเมษ
    15 เมษายน วันเถลิงศก วันขึ้นปีใหม่ไทยแบบจุลศักราช

    บางปี วันเถลิงศกอาจเลื่อนเป็น 16 เมษายน ขึ้นกับการคำนวณทางโหราศาสตร์

    🌍 สงกรานต์ 4 ภาค กับความเชื่อเกี่ยวกับ “วันเนา”

    🏔️ ภาคเหนือเรียกว่า “วันดา” มีพิธีขนทรายเข้าวัด และทำตุงสีสันสวยงาม ห้ามทะเลาะหรือมีปากเสียง เตรียมตัวทำบุญในวันพญาวัน

    🛕 ภาคอีสานเรียกว่า “มื้อเนา” ชาวบ้านจะแต่งกายงดงาม ออกไปทำบุญ รดน้ำพระ ฟังธรรมตอนกลางคืน มีการบายศรีสู่ขวัญผู้ใหญ่

    🏙️ ภาคกลางเรียกวันเนา เตรียมของทำบุญ ตักบาตร สรงน้ำพระ กิจกรรมดัง เช่น สงกรานต์มอญ และสงกรานต์พระประแดง มีขบวนแห่นางสงกรานต์ สวยงามตระการตา 💃

    🌴 ภาคใต้เรียกว่า “วันว่าง” ห้ามทำงาน ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามตัดผม วันสำหรับทำบุญใหญ่ เรียกว่า “ทำขวัญข้าวใหญ่” ถือเป็นวันสำคัญของการอุทิศส่วนกุศล ให้บรรพบุรุษ

    🚿 ถนนสายสงกรานต์ ความสนุกที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม 🎉 "ถนนข้าวสาร" กรุงเทพฯ ถือเป็นถนนสายสงกรานต์แห่งแรกของไทย ที่จัดงานสงกรานต์ในรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว 🎈 และต่อมาจังหวัดต่าง ๆ ได้พัฒนาแนวคิด ถนนสายสงกรานต์ของตนเอง เช่น ถนนข้าวเหนียวขอนแก่น ถนนข้าวแช่ปทุมธานี ถนนข้าวกล่ำกาฬสินธุ์ ถนนข้าวหมากนราธิวาส

    🧠 วันเนา วันว่าง หรือวันศักดิ์สิทธิ์? อยู่ที่จะเลือก “อยู่” อย่างไร?

    📌 สิ่งที่ควรทำในวันเนา
    ✅ พูดจาไพเราะ
    ✅ ทำบุญ ขนทรายเข้าวัด
    ✅ อยู่กับครอบครัว
    ✅ เตรียมของทำบุญ
    ✅ ขอพรผู้ใหญ่

    ❌ สิ่งที่ควรเลี่ยงในวันเนา
    🚫 ด่าทอคนอื่น
    🚫 ทะเลาะวิวาท
    🚫 ใช้คำพูดไม่สุภาพ
    🚫 ทำร้ายสัตว์
    🚫 ตัดเล็บ ตัดผม

    วันเนาไม่ใช่แค่วันหยุดธรรมดา แต่คือวันแห่งการ “พักใจ” และ “ทำดี” เพื่อสะสมสิ่งมงคลรับปีใหม่แบบไทยๆ 🧡

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 141313 เม.ย. 2568

    📌 #วันเนา #สงกรานต์ #วันครอบครัว #วันว่าง #ไม่ทะเลาะวันเนา #เจดีย์ทราย #รดน้ำดำหัว #ปีใหม่ไทย #วัฒนธรรมไทย #ประเพณีสงกรานต์

    🌸 14 เมษายน “วันเนา” วันอยู่บ้าน วันว่างสงกรานต์ ตำนานความเชื่อ… ห้ามทะเลาะ! เผลอด่าใคร ซวยไปทั้งปี! ✍️ "วันเนา" มีความหมายลึกซึ้งกว่าเป็นเพียงวันว่าง กลางเทศกาลสงกรานต์ เพราะวันนี้คือวันแห่งการทำสิ่งดีงาม งดด่าทอ งดทะเลาะ และตระเตรียมทำบุญ เพื่อสิริมงคลตลอดปี เจาะลึกตำนานวันที่ห้ามด่า ห้ามทะเลาะ หากฝ่าฝืนจะพบเคราะห์ทั้งปี พร้อมเล่าความเชื่อ วิถีชีวิต และกิจกรรมจาก 4 ภาค ทั่วไทย 🌈 🧘‍♀️ วันเนา… ไม่ใช่แค่วันว่าง แต่คือ “วันสำคัญที่ต้องสำรวมใจ” 🕊️ ทุกๆ วันที่ 14 เมษายนของทุกปี คนไทยจำนวนมาก รู้จักกันว่าเป็น "วันว่าง" กลางเทศกาลสงกรานต์ แต่ทราบหรือไม่ว่า วันนี้เรียกว่า "วันเนา" และซ่อนความหมาย ความเชื่อ และพิธีกรรมที่ลึกซึ้งไว้มากมาย ตั้งแต่ความเชื่อโบราณ โหราศาสตร์ ไปจนถึงวิถีชีวิตคนไทย ที่แสดงความรักต่อครอบครัว 💖 📚 คำว่า “เนา” เป็นภาษาเขมร แปลว่า “อยู่” หรือ “ตั้งอยู่” ดังนั้น "วันเนา" จึงหมายถึง วันที่ดวงอาทิตย์ “อยู่ประจำที่” ภายหลังย้ายจากราศีมีน เข้าสู่ราศีเมษตามคัมภีร์สุริยยาตร์ ซึ่งตรงกับวันที่ 14 เมษายนพอดี 🔍 โดยในทางโหราศาสตร์ วันเนาคือวันที่ “พระอาทิตย์ยังไม่เปลี่ยนศักราชใหม่ อย่างสมบูรณ์” เป็นช่วงเปลี่ยนผ่านจุลศักราช ที่คนโบราณให้ความสำคัญอย่างมาก 🌓 💡 “วันเนา” ถือว่าเป็นวันมงคล ต้องงดเว้นสิ่งอัปมงคล เช่น การด่าทอ การทะเลาะวิวาท และการพูดคำหยาบ 🔮 ความเชื่อโบราณเกี่ยวกับวันเนา ห้ามทะเลาะ ห้ามด่า ไม่งั้น...ปากเน่า! 😷 ❗ ห้ามด่าทอ หรือทะเลาะกับใคร ในวันนี้ ความเชื่อหนึ่งที่โด่งดังมากในวันเนา คือ ห้ามพูดคำหยาบ ห้ามทะเลาะวิวาท เพราะเชื่อกันว่า หากฝ่าฝืนจะพบเคราะห์ร้ายตลอดทั้งปี และบางตำนานถึงกับบอกว่า “ปากจะเน่า” จริงๆ! 🧟 🌱 ทำบุญให้มากในวันเนา จะได้เก็บบุญไว้ใช้ตลอดปี ในช่วงบ่ายของวันเนา ชาวบ้านจะร่วมกันขนทรายเข้าวัด เพื่อก่อ “เจดีย์ทราย” สื่อถึงการนำสิ่งไม่ดีออกจากบ้าน และทดแทนทรายที่ติดเท้าออกมาจากวัด ซึ่งถือว่าเป็นการ “คืนของ” ด้วยความเคารพ 🧘‍♂️ วันเนากับการเตรียมทำบุญ ความเชื่อในชีวิตประจำวัน กิจกรรมหลักที่ควรทำในวันเนา ทำความสะอาดบ้าน งดการใช้คำหยาบมเตรียมอาหาร ขนม และเครื่องไทยธรรม ขนทรายเข้าวัด สร้างเจดีย์ทราย ตระเตรียมของเพื่อทำบุญในวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันเถลิงศก 🌟 เคล็ดความเชื่อเสริมมงคล ผู้ที่ต้องการปลูกบ้านด้วยไม้ไผ่ ให้ตัดไม้ในวันเนา เพราะเชื่อว่า “ไม้จะไม่เน่า และปลวกไม่กิน” ถือเป็น “วันเตรียมของทำบุญ” หรือ “วันดา” ชาวบ้านจะ “ดา” หรือ “จัดเตรียม” ของเพื่อความพร้อมในวันพญาวัน 👨‍👩‍👧‍👦 “วันครอบครัว” สร้างความอบอุ่น เริ่มต้นปีใหม่ด้วยใจที่มั่นคง ในปี พ.ศ.2532 รัฐบาลไทยได้กำหนดให้วันที่ 14 เมษายนของทุกปีเป็น “วันครอบครัว” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ สนับสนุนความสัมพันธ์ในครอบครัว 👪 ให้คนไทยใช้วันหยุดเทศกาลรวมญาติ กลับบ้าน และอยู่พร้อมหน้ากัน ส่งเสริมการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ การกราบขอพร และการทำกิจกรรมร่วมกัน 🌸 ความรัก ความเคารพ และความผูกพันในครอบครัว จึงถูกยกระดับให้เป็นคุณค่าหลักในวันเนา 📆 ปฏิทินสงกรานต์ จากมหาสงกรานต์ สู่วันเนา และวันเถลิงศก 13 เมษายน วันมหาสงกรานต์ ดวงอาทิตย์เริ่มเข้าสู่ราศีเมษ 14 เมษายน วันเนา ดวงอาทิตย์ตั้งอยู่ในราศีเมษ 15 เมษายน วันเถลิงศก วันขึ้นปีใหม่ไทยแบบจุลศักราช บางปี วันเถลิงศกอาจเลื่อนเป็น 16 เมษายน ขึ้นกับการคำนวณทางโหราศาสตร์ 🌍 สงกรานต์ 4 ภาค กับความเชื่อเกี่ยวกับ “วันเนา” 🏔️ ภาคเหนือเรียกว่า “วันดา” มีพิธีขนทรายเข้าวัด และทำตุงสีสันสวยงาม ห้ามทะเลาะหรือมีปากเสียง เตรียมตัวทำบุญในวันพญาวัน 🛕 ภาคอีสานเรียกว่า “มื้อเนา” ชาวบ้านจะแต่งกายงดงาม ออกไปทำบุญ รดน้ำพระ ฟังธรรมตอนกลางคืน มีการบายศรีสู่ขวัญผู้ใหญ่ 🏙️ ภาคกลางเรียกวันเนา เตรียมของทำบุญ ตักบาตร สรงน้ำพระ กิจกรรมดัง เช่น สงกรานต์มอญ และสงกรานต์พระประแดง มีขบวนแห่นางสงกรานต์ สวยงามตระการตา 💃 🌴 ภาคใต้เรียกว่า “วันว่าง” ห้ามทำงาน ห้ามฆ่าสัตว์ ห้ามตัดผม วันสำหรับทำบุญใหญ่ เรียกว่า “ทำขวัญข้าวใหญ่” ถือเป็นวันสำคัญของการอุทิศส่วนกุศล ให้บรรพบุรุษ 🚿 ถนนสายสงกรานต์ ความสนุกที่ยังคงไว้ซึ่งวัฒนธรรม 🎉 "ถนนข้าวสาร" กรุงเทพฯ ถือเป็นถนนสายสงกรานต์แห่งแรกของไทย ที่จัดงานสงกรานต์ในรูปแบบใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว 🎈 และต่อมาจังหวัดต่าง ๆ ได้พัฒนาแนวคิด ถนนสายสงกรานต์ของตนเอง เช่น ถนนข้าวเหนียวขอนแก่น ถนนข้าวแช่ปทุมธานี ถนนข้าวกล่ำกาฬสินธุ์ ถนนข้าวหมากนราธิวาส 🧠 วันเนา วันว่าง หรือวันศักดิ์สิทธิ์? อยู่ที่จะเลือก “อยู่” อย่างไร? 📌 สิ่งที่ควรทำในวันเนา ✅ พูดจาไพเราะ ✅ ทำบุญ ขนทรายเข้าวัด ✅ อยู่กับครอบครัว ✅ เตรียมของทำบุญ ✅ ขอพรผู้ใหญ่ ❌ สิ่งที่ควรเลี่ยงในวันเนา 🚫 ด่าทอคนอื่น 🚫 ทะเลาะวิวาท 🚫 ใช้คำพูดไม่สุภาพ 🚫 ทำร้ายสัตว์ 🚫 ตัดเล็บ ตัดผม วันเนาไม่ใช่แค่วันหยุดธรรมดา แต่คือวันแห่งการ “พักใจ” และ “ทำดี” เพื่อสะสมสิ่งมงคลรับปีใหม่แบบไทยๆ 🧡 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 141313 เม.ย. 2568 📌 #วันเนา #สงกรานต์ #วันครอบครัว #วันว่าง #ไม่ทะเลาะวันเนา #เจดีย์ทราย #รดน้ำดำหัว #ปีใหม่ไทย #วัฒนธรรมไทย #ประเพณีสงกรานต์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ "Finfluencers" หรือผู้มีอิทธิพลด้านการเงินบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจในหมู่คนรุ่นใหม่ที่ต้องการคำแนะนำด้านการลงทุน

    ในโลกของ TikTok และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ มีผู้สร้างเนื้อหาที่เรียกว่า "Finfluencers" ซึ่งมักนำเสนอคำแนะนำด้านการเงินและการลงทุนผ่านวิดีโอสั้นๆ เช่น การแนะนำวิธีเป็นนักเทรดฟรี หรือการสร้างรายได้แบบ Passive Income อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (SC) ได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากคำแนะนำเหล่านี้ โดยเฉพาะในกรณีที่คำแนะนำไม่ได้รับการตรวจสอบหรืออาจเป็นการหลอกลวง

    ในขณะเดียวกัน มีการเรียกร้องให้ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียเพิ่มความระมัดระวังในการติดตามคำแนะนำจาก Finfluencers และตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน

    ✅ ความนิยมของ Finfluencers
    - Finfluencers นำเสนอคำแนะนำด้านการเงินและการลงทุนผ่านโซเชียลมีเดีย
    - เนื้อหามักเน้นการสร้างรายได้แบบ Passive Income และการเป็นนักเทรด

    ✅ คำเตือนจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (SC)
    - SC เตือนถึงความเสี่ยงจากคำแนะนำที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ
    - อาจมีกรณีของการหลอกลวงหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง

    ✅ การเรียกร้องให้เพิ่มความระมัดระวัง
    - ผู้ใช้งานควรตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน
    - การติดตามคำแนะนำจาก Finfluencers ควรทำอย่างมีวิจารณญาณ

    ℹ️ ความเสี่ยงจากคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง
    - คำแนะนำที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอาจนำไปสู่การสูญเสียทางการเงิน
    - การหลอกลวงผ่านโซเชียลมีเดียอาจเพิ่มขึ้น

    ℹ️ คำแนะนำสำหรับผู้ใช้งาน
    - ควรศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อนลงทุน
    - หลีกเลี่ยงการลงทุนที่ดูเหมือนจะให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/14/money-talks---but-should-you-listen-when-finfluencers-offer-investment-tips
    ข่าวนี้เล่าถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ "Finfluencers" หรือผู้มีอิทธิพลด้านการเงินบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจในหมู่คนรุ่นใหม่ที่ต้องการคำแนะนำด้านการลงทุน ในโลกของ TikTok และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่นๆ มีผู้สร้างเนื้อหาที่เรียกว่า "Finfluencers" ซึ่งมักนำเสนอคำแนะนำด้านการเงินและการลงทุนผ่านวิดีโอสั้นๆ เช่น การแนะนำวิธีเป็นนักเทรดฟรี หรือการสร้างรายได้แบบ Passive Income อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (SC) ได้ออกมาเตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากคำแนะนำเหล่านี้ โดยเฉพาะในกรณีที่คำแนะนำไม่ได้รับการตรวจสอบหรืออาจเป็นการหลอกลวง ในขณะเดียวกัน มีการเรียกร้องให้ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียเพิ่มความระมัดระวังในการติดตามคำแนะนำจาก Finfluencers และตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน ✅ ความนิยมของ Finfluencers - Finfluencers นำเสนอคำแนะนำด้านการเงินและการลงทุนผ่านโซเชียลมีเดีย - เนื้อหามักเน้นการสร้างรายได้แบบ Passive Income และการเป็นนักเทรด ✅ คำเตือนจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ (SC) - SC เตือนถึงความเสี่ยงจากคำแนะนำที่ไม่ได้รับการตรวจสอบ - อาจมีกรณีของการหลอกลวงหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ✅ การเรียกร้องให้เพิ่มความระมัดระวัง - ผู้ใช้งานควรตรวจสอบข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน - การติดตามคำแนะนำจาก Finfluencers ควรทำอย่างมีวิจารณญาณ ℹ️ ความเสี่ยงจากคำแนะนำที่ไม่ถูกต้อง - คำแนะนำที่ไม่ได้รับการตรวจสอบอาจนำไปสู่การสูญเสียทางการเงิน - การหลอกลวงผ่านโซเชียลมีเดียอาจเพิ่มขึ้น ℹ️ คำแนะนำสำหรับผู้ใช้งาน - ควรศึกษาข้อมูลจากแหล่งที่เชื่อถือได้ก่อนลงทุน - หลีกเลี่ยงการลงทุนที่ดูเหมือนจะให้ผลตอบแทนสูงเกินจริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/14/money-talks---but-should-you-listen-when-finfluencers-offer-investment-tips
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Money talks – but should you listen when ‘finfluencers’ offer investment tips?
    Why the Securities Commission is reminding the public to be wary of online financial advice that offer unrealistically huge returns on investment in the short term.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 31 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านตี๋หมี่ แพรกษา #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ของดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #noodles #eating #food #thaifood #streetfood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    ร้านตี๋หมี่ แพรกษา #สมุทรปราการ #กินอะไรดี #ของดีบอกต่อ #พิกัดของอร่อย #อร่อยบอกต่อ #noodles #eating #food #thaifood #streetfood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เตือนในวันอาทิตย์(13เม.ย.) จะไม่มีประเทศไหนรอดพ้นจากมาตรการรีดภาษี แม้ระงับความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นการชั่วคราว 90 วัน ขณะที่รัฐบาลของเขาบ่งชี้ว่าข้อยกเว้นที่ถูกมองว่าเอื้ออำนวยกับจีน จะมีอายุไม่ยืนยาวนัก

    ตลาดหุ้นโลกหกคะเมนตีลังกามาตั้งแต่ ทรัมป์ ประกาศรีดภาษีเมื่อวันที่ 2 เมษายน โดยเบื้องต้นดิ่งลงหนัก ก่อนฟื้นตัวบางส่วนจากกรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระงับอัตราสูงสุดเป็นเวลา 90 วัน ในสัปดาห์ที่แล้ว

    เวลานี้ประเทศต่างๆเกือบทั้งหมดต้องเชผิญกับเพดานภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับช่วงเวลาดังกล่าว ยกเว้น จีน ที่ยกระดับตอบโต้ทางภาษีแบบต่อต่อตาฟันต่อฟัน

    การตอบโต้กันไปมา พบเห็นสหรัฐฯรีดภาษีสินค้านำจากจีนเพิ่มเป็น 145% ส่วนปักกิ่งกำหนดเพดานภาษี 125% กับสินค้านำเข้าจากอเมริกา

    รัฐบาลทรัมป์ บอกว่าพวกเขามีความตั้งใจเจรจาข้อตกลงการค้ากับนานาประเทศ ในนั้นรวมถึงจีน แต่ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าประธานาธิบดีรายนี้มีเงื่อนไขใดบ้างสำหรับตอบรับข้อตกลง

    ทรัมป์ พูดมาช้านานว่าตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯเป็นผลลัพธ์จากแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่ยุติธรรม ที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตามมาตรการรีดภาษีที่เขาเล่นงานชาติต่างๆนั้น รวมไปถึงบรรดาประเทศที่อเมริกาเกินดุลการค้าด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035381

    #MGROnline #โดนัลด์ทรัมป์
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เตือนในวันอาทิตย์(13เม.ย.) จะไม่มีประเทศไหนรอดพ้นจากมาตรการรีดภาษี แม้ระงับความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่วนใหญ่เป็นการชั่วคราว 90 วัน ขณะที่รัฐบาลของเขาบ่งชี้ว่าข้อยกเว้นที่ถูกมองว่าเอื้ออำนวยกับจีน จะมีอายุไม่ยืนยาวนัก • ตลาดหุ้นโลกหกคะเมนตีลังกามาตั้งแต่ ทรัมป์ ประกาศรีดภาษีเมื่อวันที่ 2 เมษายน โดยเบื้องต้นดิ่งลงหนัก ก่อนฟื้นตัวบางส่วนจากกรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระงับอัตราสูงสุดเป็นเวลา 90 วัน ในสัปดาห์ที่แล้ว • เวลานี้ประเทศต่างๆเกือบทั้งหมดต้องเชผิญกับเพดานภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับช่วงเวลาดังกล่าว ยกเว้น จีน ที่ยกระดับตอบโต้ทางภาษีแบบต่อต่อตาฟันต่อฟัน • การตอบโต้กันไปมา พบเห็นสหรัฐฯรีดภาษีสินค้านำจากจีนเพิ่มเป็น 145% ส่วนปักกิ่งกำหนดเพดานภาษี 125% กับสินค้านำเข้าจากอเมริกา • รัฐบาลทรัมป์ บอกว่าพวกเขามีความตั้งใจเจรจาข้อตกลงการค้ากับนานาประเทศ ในนั้นรวมถึงจีน แต่ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าประธานาธิบดีรายนี้มีเงื่อนไขใดบ้างสำหรับตอบรับข้อตกลง • ทรัมป์ พูดมาช้านานว่าตัวเลขขาดดุลการค้าของสหรัฐฯเป็นผลลัพธ์จากแนวทางปฏิบัติทางการค้าที่ไม่ยุติธรรม ที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขให้ถูกต้อง อย่างไรก็ตามมาตรการรีดภาษีที่เขาเล่นงานชาติต่างๆนั้น รวมไปถึงบรรดาประเทศที่อเมริกาเกินดุลการค้าด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000035381 • #MGROnline #โดนัลด์ทรัมป์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • “โตโน่ ภาคิน” เปิดใจบนเวทีคอนเสิร์ต ขอโทษทุกคนที่ทำเรื่องไม่ดี ฉันมันชั่วเกินไป ขอให้ทุกคนเจอรักที่ดีงาม อย่าทำผิดพลาดเหมือนตน จากนี้ไม่รู้จะเป็นไงต่อ อาจกลับไปอยู่นาเหมือนเดิม

    กำลังเป็นดรามาร้อนระอุ กับเรื่องราวความรักของ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ที่ห่างแฟนสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ และไปซุ่มคบกับผู้ช่วยผู้จัดการส่วนตัวของตนเอง แต่สุดท้าย ถูกหนุ่มคนหนึ่งออกมาแฉว่าเป็นชู้กับแฟนของตน ซึ่ง “เมย์” ผู้จัดการส่วนตัวของ โตโน่ บอกว่าพระเอกดังจะไม่ออกมาพูดเรื่องนี้หรือตั้งโต๊ะแถลงข่าวแน่นอน

    เมื่อวันที่ 13 เม.ย. โตโน่ ได้มาเล่นคอนเสิร์ตที่ สุโขทัย เจ้าตัวได้ร้องเพลงไประบายความในใจไป เวลา 19.00 น. โตโน่ ภาคิน ขึ้นเวทีที่ถนนข้าวตอก สุโขทัย ในเทศกาลสงกรานต์ที่จัดขึ้น โดยเพลงแรกที่ โตโน่ ร้องคือ “เพลงไม่รักดี” ของ “อุ๊ หฤทัย” จากนั้นก่อนร้องเพลงที่ 2 โตโน่ พูดกับแฟนเพลงว่า “สุโขทัย…ขอโทษที่ทำให้มีแต่เรื่องเสียๆ เด้อ” เพลงที่ 2 ฅนกับควาย โดยก่อนเข้าเพลงที่ 3 เพลงสู้ โตโน่ ได้บอกว่า “เพลงต่อไปขอมอบให้คนที่กำลังมีปัญหาในชีวิต”

    จบเพลง เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ มากมายที่มาชมคอนเสิร์ต โตโน่ ได้พูดกับประชาชนที่มาชมคอนเสิร์ตว่า… “ทุกคน ขอเสียงคนที่เคยเจอกับความรักที่ดีๆ แต่เราที่มันเลว ขอเสียงคนที่เคยทำผิดพลาดในชีวิตหน่อยได้ไหม เพลงนี้ขอมอบให้กับคนที่เคยทำให้คนที่เรารักเสียใจ ชื่อเพลง เพิ่งรู้หัวใจตัวเอง” จากนั้น โตโน่ ก็ร้องเพลงต่อรัวๆ เลือกได้ไหม , ขอให้เธอใจดี เพลงนี้มีท่อนฮุกจิ๊ดใจ…

    “โปรดบอกฉันว่าโลกนี้มันยังไม่เลวร้ายเกินไปและพรุ่งนี้โลกใบนี้มันยังไม่แตกสลายไป ขอให้เธอใจดีกับฉัน ในวันที่โลกทั้งใบใจร้าย” ทำ โตโน่ เงยหน้ามองบนอยู่หลายครั้ง และจบเพลง โตโน่ ยังพูดกับแฟนเพลงว่า “ขอให้เจอกับรักดีๆ เน้อ สุโขทัย”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035344

    #MGROnline #โตโน่ภาคิน
    “โตโน่ ภาคิน” เปิดใจบนเวทีคอนเสิร์ต ขอโทษทุกคนที่ทำเรื่องไม่ดี ฉันมันชั่วเกินไป ขอให้ทุกคนเจอรักที่ดีงาม อย่าทำผิดพลาดเหมือนตน จากนี้ไม่รู้จะเป็นไงต่อ อาจกลับไปอยู่นาเหมือนเดิม • กำลังเป็นดรามาร้อนระอุ กับเรื่องราวความรักของ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” ที่ห่างแฟนสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่มีใครรู้ และไปซุ่มคบกับผู้ช่วยผู้จัดการส่วนตัวของตนเอง แต่สุดท้าย ถูกหนุ่มคนหนึ่งออกมาแฉว่าเป็นชู้กับแฟนของตน ซึ่ง “เมย์” ผู้จัดการส่วนตัวของ โตโน่ บอกว่าพระเอกดังจะไม่ออกมาพูดเรื่องนี้หรือตั้งโต๊ะแถลงข่าวแน่นอน • เมื่อวันที่ 13 เม.ย. โตโน่ ได้มาเล่นคอนเสิร์ตที่ สุโขทัย เจ้าตัวได้ร้องเพลงไประบายความในใจไป เวลา 19.00 น. โตโน่ ภาคิน ขึ้นเวทีที่ถนนข้าวตอก สุโขทัย ในเทศกาลสงกรานต์ที่จัดขึ้น โดยเพลงแรกที่ โตโน่ ร้องคือ “เพลงไม่รักดี” ของ “อุ๊ หฤทัย” จากนั้นก่อนร้องเพลงที่ 2 โตโน่ พูดกับแฟนเพลงว่า “สุโขทัย…ขอโทษที่ทำให้มีแต่เรื่องเสียๆ เด้อ” เพลงที่ 2 ฅนกับควาย โดยก่อนเข้าเพลงที่ 3 เพลงสู้ โตโน่ ได้บอกว่า “เพลงต่อไปขอมอบให้คนที่กำลังมีปัญหาในชีวิต” • จบเพลง เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ มากมายที่มาชมคอนเสิร์ต โตโน่ ได้พูดกับประชาชนที่มาชมคอนเสิร์ตว่า… “ทุกคน ขอเสียงคนที่เคยเจอกับความรักที่ดีๆ แต่เราที่มันเลว ขอเสียงคนที่เคยทำผิดพลาดในชีวิตหน่อยได้ไหม เพลงนี้ขอมอบให้กับคนที่เคยทำให้คนที่เรารักเสียใจ ชื่อเพลง เพิ่งรู้หัวใจตัวเอง” จากนั้น โตโน่ ก็ร้องเพลงต่อรัวๆ เลือกได้ไหม , ขอให้เธอใจดี เพลงนี้มีท่อนฮุกจิ๊ดใจ… • “โปรดบอกฉันว่าโลกนี้มันยังไม่เลวร้ายเกินไปและพรุ่งนี้โลกใบนี้มันยังไม่แตกสลายไป ขอให้เธอใจดีกับฉัน ในวันที่โลกทั้งใบใจร้าย” ทำ โตโน่ เงยหน้ามองบนอยู่หลายครั้ง และจบเพลง โตโน่ ยังพูดกับแฟนเพลงว่า “ขอให้เจอกับรักดีๆ เน้อ สุโขทัย” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035344 • #MGROnline #โตโน่ภาคิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านเมืองดอกฝ้าย เย็นตาโฟ #สมุทรปราการ #ร้านดีบอกต่อ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #ร้านอร่อย #อร่อย #พาชิม #noodles #eating #food #thaifood #streetfood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    ร้านเมืองดอกฝ้าย เย็นตาโฟ #สมุทรปราการ #ร้านดีบอกต่อ #กินอะไรดี #ร้านดีบอกต่อ #ร้านอร่อย #อร่อย #พาชิม #noodles #eating #food #thaifood #streetfood #thailand #กินง่ายริมทาง #thaitimes #kaiaminute
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • รีโพสต์บทความของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ “คานงัดประเทศไทยหลายประเทศมีการผลักดัน “การปฏิรูปเชิงโครงสร้าง” อย่างจริงจังและต่อเนื่อง จนสามารถพลิกฟื้นตัวเองจากรัฐที่ตามหลัง (Following State) สู่รัฐที่ล้ำหน้า (Forefront State) อย่างจีน สิงค์โปร์ หรือ เกาหลีใต้ ผิดกับประเทศไทย ที่ปัจจุบันยังเป็นเพียงรัฐที่ตามหลัง และกำลังมีแนวโน้มถดถอยไปสู่รัฐที่กำลังล้มเหลว (Falling State)ที่ผ่านมา ประเทศไทยนั้นมีการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง (Great Reform) เพียงครั้งเดียว คือในสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 แต่เงื่อนไขในการเปลี่ยนแปลงในสมัยนั้นกับในยุคปัจจุบันมีความแตกต่างกัน ทั้งเงื่อนไขที่มาจากปัจจัยภายในและภายนอก ในสมัยล้นเกล้าฯ รัชการที่ 5 น้ำหนักจะอยู่ที่การพัฒนาเพื่อไปสู่ความทันสมัย เพื่อที่จะแสดงให้ประชาคมโลกตระหนักว่าประเทศของเรานั้นไม่ได้ล้าหลัง เนื่องจากต้องเผชิญกับการล่าอาณานิคม ประเด็นท้าทายในยุคปัจจุบัน คือจะมุ่งการพัฒนาเพื่อไปสู่ความยั่งยืน ความเท่าเทียมในสังคม และความเท่าทันเทคโนโลยี ได้อย่างไร~แรงเฉื่อยต่อการเปลี่ยนแปลงหลังกระแสการล่าอาณานิคมผ่านพ้นไป ประเทศไทยไม่เคยต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างรุนแรง เราเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 1 แล 2 น้อยมาก ดังนั้น ระบบและโครงสร้างเก่า แนวคิดและจารีตนิยมจึงไม่ได้ถูกทำลาย ทำให้อิทธิพลของระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชนยังคงอยู่ ระบบคุณค่าดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการพลิกโฉมประเทศไปสู่สังคมสมัยใหม่ ที่เน้นความเป็นระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ตระหนักในหน้าที่พลเมือง มีจิตอาสา กล้าที่จะเสนอความเห็น มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และความเสมอภาคระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชน ยังได้หล่อหลอมคนไทยให้เป็น “ปัจเจกบุคคลที่ไร้บรรทัดฐานและคุณค่าร่วมในสังคม” (Anomic Individualism) สะท้อนผ่านพฤติกรรมตัวใครตัวมัน ไม่ชอบถูกบังคับ ไร้ระเบียบวินัย และขาดความรับผิดชอบ ผลข้างเคียงที่ตามมา คือคนไทยโดยส่วนใหญ่จะเรียกร้องสิทธิมากกว่าหน้าที่ เน้นถูกใจมากกว่าถูกต้อง เน้นมองเพื่อตัวเองมากกว่ามองเพื่อส่วนรวม เน้นชิงสุกก่อนห่ามมากกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เน้นรูปแบบมากกว่าสาระ เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ เน้นมูลค่ามากกว่าคุณค่า และเน้นคอนเนคชั่นมากกว่าเนื้องานความไร้บรรทัดฐานและคุณค่าร่วมในสังคม ทำให้คนไทยโดยส่วนใหญ่มักตัดสินใจเลือกเส้นทางหรือวิธีการที่ “มักง่าย” ทำให้เรื่องที่ “ผิดปกติ” กลายเป็นเรื่อง “ไม่ผิดปกติ” และกระทำลงไปโดยปราศจาก “ความรู้สึกผิด” อาทิ นักการเมืองโกงกินไม่เป็นไร ขอเพียงให้มีผลงานบ้าง การทำปฏิวัติรัฐประหาร การใช้กำลังยุติความขัดแย้ง เชื่อในอำนาจเหนือธรรมชาติ ไสยศาสตร์ และความมหัศจรรย์ ไม่รักษาเวลา ขาดความรับผิดชอบในหน้าที่ ทิ้งงานโดยไม่มีเหตุผล เป็นต้น ~ค้นหาจุดคานงัด ทลายวงจรอุบาทว์หากพวกเราไม่คิดแก้ไขปรับเปลี่ยนค่านิยมและพฤติกรรมเหล่านี้ ก็ยากที่ประเทศไทยจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ประเทศอื่น ๆ ในประชาคมโลกในศตวรรษที่ 21 นี้ได้ในการทลายวงจรอุบาทว์เชิงซ้อน จุดคานงัดของการเปลี่ยนแปลง (Leveraging Point) อาจจะอยู่ทึ่ “การปฏิรูประบบคุณค่า” (Value System Reform) ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในค่านิยม 2 ชุดหลักด้วยกัน คือชุดที่ 1: อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยมชุดที่ 2: บริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยมบริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยม เป็นด้านลบของระบอบทุนนิยม แต่ในด้านบวกของระบอบทุนนิยม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแข่งขันอย่างเสรี การยึดธรรมาภิบาล กฎกติกา กลับไม่ได้ถูกสังคมไทยนำมาใช้อย่างเต็มที่ เพราะถูกอิทธิพลของระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยมเข้าบดบังระบบคุณค่าทั้ง 2 ชุด ยังคงแทรกซึมลึกอยู่ในเกือบทุกอณูของสังคมไทย เป็น Counter-Productive Value ที่นอกจากจะไม่สอดรับกับรูปแบบการพัฒนาและโครงสร้างเศรษฐกิจสังคมในโลกปัจจุบัน ยังเป็นอุปสรรคตัวสำคัญที่สุดของการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ระบบคุณค่าทั้งสองชุดได้ทำให้ธรรมาภิบาล โครงสร้าง ตลอดจนพฤติกรรมของผู้คนในสังคม เกิดการบิดเบี้ยวเชิงระบบ ไม่ว่าจะเป็น• การบิดเบี้ยวเชิงการเมือง ที่ก่อให้เกิดการเมืองที่มีผู้มีอิทธิพลครอบงำ และก่อให้เกิดระบอบธนาธิปไตย และระบอบอมาตยาธิปไตย แทนที่จะเป็นระบอบประชาธิปไตย • การบิดเบี้ยวเชิงบริหารราชการแผ่นดิน ที่การบริหารจัดการภาครัฐถูกแทรกแซง บิดเบือน ไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและระบบคุณธรรม • การบิดเบี้ยวเชิงสังคม ที่ก่อให้เกิด Contra-Individuals มากกว่า Collective Individuals รวมถึงเกิดความกระชับแน่นของคนในกลุ่มเดียวกัน (Bonding) เพิ่มขึ้น ในขณะที่ความสัมพันธ์ของคนต่างกลุ่ม (Bridging) ลดลง เกิดเป็น “สังคมของพวกกู” มากกว่า “สังคมของพวกเรา”• ความบิดเบี้ยวเชิงเศรษฐกิจ ที่ก่อให้เกิดระบบทุนนิยมแบบพวกพ้อง (Crony Capitalism) นำมาสู่ระบบเศรษฐกิจปรสิต (Parasite Economy) และสังคมพึ่งพิงประชานิยม (Dependent Society) • ความบิดเบี้ยวของผู้นำ ที่ก่อให้เกิดการขาดแคลนผู้นำที่เป็นต้นแบบที่ดี มีแต่ผู้นำที่คิดอย่าง พูดอย่าง ทำอย่างอยู่มากมาย เกิดผู้นำที่ใส่ใจในวาระซ่อนเร้นของตน มากกว่า วาระของชาติ• ความบิดเบี้ยวเชิงสถาบัน ที่สถาบันต่าง ๆ ไม่ได้ทำหน้าที่ตามภารกิจอย่างเป็นอิสระ อย่างที่สังคมคาดหวังที่สำคัญ ระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชน ยังก่อให้เกิดความย้อนแย้งระหว่างอำนาจที่แท้จริงและอำนาจทางการ หรือที่เรียกว่า “Power Paradox” กล่าวคือ การที่เรายังมองประชาชนเป็นผู้ถูกปกครอง โดยมีผู้ปกครองคือรัฐ ทั้งที่จริง ๆ แล้วรัฐต้องเป็นผู้รับใช้ประชาชน เป็นความย้อนแย้งระหว่างพฤตินัยและนิตินัยดังนั้น หากปราศจากการปรับเปลี่ยนระบบคุณค่า เพื่อทำให้เกิดความสอดคล้องกับธรรมาภิบาลและโครงสร้างส่วนอื่นๆของสังคม วาระการปฎิรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูประบบเศรษฐกิจ จะไม่มีทางตอบโจทย์ประเด็นปัญหาฐานรากที่เกิดขึ้นในสังคมไทย~ประชาธิปไตยเทียม ทุนนิยมพวกพ้อง ระบบเศรษฐกิจปรสิต และสังคมพึ่งพิงรัฐระบบคุณค่าทั้ง 2 ชุด: อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยม; บริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยม เป็นปฐมบทของการเกิดโครงสร้างเศรษฐกิจการเมืองแบบ Extractive Political Economy ที่มีผู้คนเพียงบางกลุ่ม ได้ประโยชน์จากอำนาจการปกครองและอำนาจทางเศรษฐกิจ โดยความพยายามที่จะกีดกั้น เอารัดเอาเปรียบ และทำให้เกิดการกระจุกตัวของอำนาจและความมั่งคั่ง และนำพาสู่การอุบัติขึ้นของ ประชาธิปไตยเทียม ทุนนิยมพวกพ้อง ระบบเศรษฐกิจปรสิต และสังคมพึ่งพิงรัฐ ในที่สุดโครงสร้าง Extractive Political Economy ได้นำพาประเทศไทยสู่ “ทศวรรษแห่งความสูญเปล่า” เกิดสังคมที่ไม่ Clean & Clear ไม่ Free & Fair และไม่ Care & Share สังคมดังกล่าวนำมาซึ่งความเสื่อมถอยของทุนทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นทุนมนุษย์ที่อ่อนแอ ทุนเศรษฐกิจที่อ่อนด้อย ทุนสังคมที่เปราะบาง ทุนคุณธรรมจริยธรรมที่เสื่อมทราม และทุนทรัพยากรธรรมชาติที่เสื่อมโทรมถึงเวลาปฎิรูประบบคุณค่า เพื่อใช้เป็นจุดคานงัดในการก้าวพ้นกับดัก และปรับเปลี่ยนไทยสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วในโลกที่หนึ่ง”
    รีโพสต์บทความของ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ “คานงัดประเทศไทยหลายประเทศมีการผลักดัน “การปฏิรูปเชิงโครงสร้าง” อย่างจริงจังและต่อเนื่อง จนสามารถพลิกฟื้นตัวเองจากรัฐที่ตามหลัง (Following State) สู่รัฐที่ล้ำหน้า (Forefront State) อย่างจีน สิงค์โปร์ หรือ เกาหลีใต้ ผิดกับประเทศไทย ที่ปัจจุบันยังเป็นเพียงรัฐที่ตามหลัง และกำลังมีแนวโน้มถดถอยไปสู่รัฐที่กำลังล้มเหลว (Falling State)ที่ผ่านมา ประเทศไทยนั้นมีการปฏิรูปเชิงโครงสร้าง (Great Reform) เพียงครั้งเดียว คือในสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 แต่เงื่อนไขในการเปลี่ยนแปลงในสมัยนั้นกับในยุคปัจจุบันมีความแตกต่างกัน ทั้งเงื่อนไขที่มาจากปัจจัยภายในและภายนอก ในสมัยล้นเกล้าฯ รัชการที่ 5 น้ำหนักจะอยู่ที่การพัฒนาเพื่อไปสู่ความทันสมัย เพื่อที่จะแสดงให้ประชาคมโลกตระหนักว่าประเทศของเรานั้นไม่ได้ล้าหลัง เนื่องจากต้องเผชิญกับการล่าอาณานิคม ประเด็นท้าทายในยุคปัจจุบัน คือจะมุ่งการพัฒนาเพื่อไปสู่ความยั่งยืน ความเท่าเทียมในสังคม และความเท่าทันเทคโนโลยี ได้อย่างไร~แรงเฉื่อยต่อการเปลี่ยนแปลงหลังกระแสการล่าอาณานิคมผ่านพ้นไป ประเทศไทยไม่เคยต้องเผชิญกับแรงกดดันอย่างรุนแรง เราเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 1 แล 2 น้อยมาก ดังนั้น ระบบและโครงสร้างเก่า แนวคิดและจารีตนิยมจึงไม่ได้ถูกทำลาย ทำให้อิทธิพลของระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชนยังคงอยู่ ระบบคุณค่าดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการพลิกโฉมประเทศไปสู่สังคมสมัยใหม่ ที่เน้นความเป็นระเบียบวินัย มีความรับผิดชอบ ตระหนักในหน้าที่พลเมือง มีจิตอาสา กล้าที่จะเสนอความเห็น มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และความเสมอภาคระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชน ยังได้หล่อหลอมคนไทยให้เป็น “ปัจเจกบุคคลที่ไร้บรรทัดฐานและคุณค่าร่วมในสังคม” (Anomic Individualism) สะท้อนผ่านพฤติกรรมตัวใครตัวมัน ไม่ชอบถูกบังคับ ไร้ระเบียบวินัย และขาดความรับผิดชอบ ผลข้างเคียงที่ตามมา คือคนไทยโดยส่วนใหญ่จะเรียกร้องสิทธิมากกว่าหน้าที่ เน้นถูกใจมากกว่าถูกต้อง เน้นมองเพื่อตัวเองมากกว่ามองเพื่อส่วนรวม เน้นชิงสุกก่อนห่ามมากกว่าอดเปรี้ยวไว้กินหวาน เน้นรูปแบบมากกว่าสาระ เน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพ เน้นมูลค่ามากกว่าคุณค่า และเน้นคอนเนคชั่นมากกว่าเนื้องานความไร้บรรทัดฐานและคุณค่าร่วมในสังคม ทำให้คนไทยโดยส่วนใหญ่มักตัดสินใจเลือกเส้นทางหรือวิธีการที่ “มักง่าย” ทำให้เรื่องที่ “ผิดปกติ” กลายเป็นเรื่อง “ไม่ผิดปกติ” และกระทำลงไปโดยปราศจาก “ความรู้สึกผิด” อาทิ นักการเมืองโกงกินไม่เป็นไร ขอเพียงให้มีผลงานบ้าง การทำปฏิวัติรัฐประหาร การใช้กำลังยุติความขัดแย้ง เชื่อในอำนาจเหนือธรรมชาติ ไสยศาสตร์ และความมหัศจรรย์ ไม่รักษาเวลา ขาดความรับผิดชอบในหน้าที่ ทิ้งงานโดยไม่มีเหตุผล เป็นต้น ~ค้นหาจุดคานงัด ทลายวงจรอุบาทว์หากพวกเราไม่คิดแก้ไขปรับเปลี่ยนค่านิยมและพฤติกรรมเหล่านี้ ก็ยากที่ประเทศไทยจะยืนเคียงบ่าเคียงไหล่ประเทศอื่น ๆ ในประชาคมโลกในศตวรรษที่ 21 นี้ได้ในการทลายวงจรอุบาทว์เชิงซ้อน จุดคานงัดของการเปลี่ยนแปลง (Leveraging Point) อาจจะอยู่ทึ่ “การปฏิรูประบบคุณค่า” (Value System Reform) ครั้งใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในค่านิยม 2 ชุดหลักด้วยกัน คือชุดที่ 1: อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยมชุดที่ 2: บริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยมบริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยม เป็นด้านลบของระบอบทุนนิยม แต่ในด้านบวกของระบอบทุนนิยม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแข่งขันอย่างเสรี การยึดธรรมาภิบาล กฎกติกา กลับไม่ได้ถูกสังคมไทยนำมาใช้อย่างเต็มที่ เพราะถูกอิทธิพลของระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยมเข้าบดบังระบบคุณค่าทั้ง 2 ชุด ยังคงแทรกซึมลึกอยู่ในเกือบทุกอณูของสังคมไทย เป็น Counter-Productive Value ที่นอกจากจะไม่สอดรับกับรูปแบบการพัฒนาและโครงสร้างเศรษฐกิจสังคมในโลกปัจจุบัน ยังเป็นอุปสรรคตัวสำคัญที่สุดของการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า ระบบคุณค่าทั้งสองชุดได้ทำให้ธรรมาภิบาล โครงสร้าง ตลอดจนพฤติกรรมของผู้คนในสังคม เกิดการบิดเบี้ยวเชิงระบบ ไม่ว่าจะเป็น• การบิดเบี้ยวเชิงการเมือง ที่ก่อให้เกิดการเมืองที่มีผู้มีอิทธิพลครอบงำ และก่อให้เกิดระบอบธนาธิปไตย และระบอบอมาตยาธิปไตย แทนที่จะเป็นระบอบประชาธิปไตย • การบิดเบี้ยวเชิงบริหารราชการแผ่นดิน ที่การบริหารจัดการภาครัฐถูกแทรกแซง บิดเบือน ไม่เป็นไปตามหลักธรรมาภิบาลและระบบคุณธรรม • การบิดเบี้ยวเชิงสังคม ที่ก่อให้เกิด Contra-Individuals มากกว่า Collective Individuals รวมถึงเกิดความกระชับแน่นของคนในกลุ่มเดียวกัน (Bonding) เพิ่มขึ้น ในขณะที่ความสัมพันธ์ของคนต่างกลุ่ม (Bridging) ลดลง เกิดเป็น “สังคมของพวกกู” มากกว่า “สังคมของพวกเรา”• ความบิดเบี้ยวเชิงเศรษฐกิจ ที่ก่อให้เกิดระบบทุนนิยมแบบพวกพ้อง (Crony Capitalism) นำมาสู่ระบบเศรษฐกิจปรสิต (Parasite Economy) และสังคมพึ่งพิงประชานิยม (Dependent Society) • ความบิดเบี้ยวของผู้นำ ที่ก่อให้เกิดการขาดแคลนผู้นำที่เป็นต้นแบบที่ดี มีแต่ผู้นำที่คิดอย่าง พูดอย่าง ทำอย่างอยู่มากมาย เกิดผู้นำที่ใส่ใจในวาระซ่อนเร้นของตน มากกว่า วาระของชาติ• ความบิดเบี้ยวเชิงสถาบัน ที่สถาบันต่าง ๆ ไม่ได้ทำหน้าที่ตามภารกิจอย่างเป็นอิสระ อย่างที่สังคมคาดหวังที่สำคัญ ระบบอุปถัมภ์ อำนาจนิยม และอภิสิทธิชน ยังก่อให้เกิดความย้อนแย้งระหว่างอำนาจที่แท้จริงและอำนาจทางการ หรือที่เรียกว่า “Power Paradox” กล่าวคือ การที่เรายังมองประชาชนเป็นผู้ถูกปกครอง โดยมีผู้ปกครองคือรัฐ ทั้งที่จริง ๆ แล้วรัฐต้องเป็นผู้รับใช้ประชาชน เป็นความย้อนแย้งระหว่างพฤตินัยและนิตินัยดังนั้น หากปราศจากการปรับเปลี่ยนระบบคุณค่า เพื่อทำให้เกิดความสอดคล้องกับธรรมาภิบาลและโครงสร้างส่วนอื่นๆของสังคม วาระการปฎิรูปต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการปฏิรูปการเมือง ปฏิรูประบบราชการ ปฏิรูประบบเศรษฐกิจ จะไม่มีทางตอบโจทย์ประเด็นปัญหาฐานรากที่เกิดขึ้นในสังคมไทย~ประชาธิปไตยเทียม ทุนนิยมพวกพ้อง ระบบเศรษฐกิจปรสิต และสังคมพึ่งพิงรัฐระบบคุณค่าทั้ง 2 ชุด: อุปถัมภ์นิยม อำนาจนิยม และอภิสิทธินิยม; บริโภคนิยม วัตถุนิยม และสุขนิยม เป็นปฐมบทของการเกิดโครงสร้างเศรษฐกิจการเมืองแบบ Extractive Political Economy ที่มีผู้คนเพียงบางกลุ่ม ได้ประโยชน์จากอำนาจการปกครองและอำนาจทางเศรษฐกิจ โดยความพยายามที่จะกีดกั้น เอารัดเอาเปรียบ และทำให้เกิดการกระจุกตัวของอำนาจและความมั่งคั่ง และนำพาสู่การอุบัติขึ้นของ ประชาธิปไตยเทียม ทุนนิยมพวกพ้อง ระบบเศรษฐกิจปรสิต และสังคมพึ่งพิงรัฐ ในที่สุดโครงสร้าง Extractive Political Economy ได้นำพาประเทศไทยสู่ “ทศวรรษแห่งความสูญเปล่า” เกิดสังคมที่ไม่ Clean & Clear ไม่ Free & Fair และไม่ Care & Share สังคมดังกล่าวนำมาซึ่งความเสื่อมถอยของทุนทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นทุนมนุษย์ที่อ่อนแอ ทุนเศรษฐกิจที่อ่อนด้อย ทุนสังคมที่เปราะบาง ทุนคุณธรรมจริยธรรมที่เสื่อมทราม และทุนทรัพยากรธรรมชาติที่เสื่อมโทรมถึงเวลาปฎิรูประบบคุณค่า เพื่อใช้เป็นจุดคานงัดในการก้าวพ้นกับดัก และปรับเปลี่ยนไทยสู่ประเทศที่พัฒนาแล้วในโลกที่หนึ่ง”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จิลล์ จักรพงศ์” เตือนคนแช่ว่าน ข้อห้ามเยอะ ต้องรักษาศีลห้ามผิดลูกผิดเมีย ห้ามหญิงค่อม ห้ามเลียX ห้ามกินของดิบ จะนอนยังมีข้อห้าม ถ้าผิดครูจะเน่าใน วิชานี้สำหรับอาชีพที่ต้องการความหนังเหนียว เช่น ทหาร ตำรวจ ไม่ใช่ด้านเสน่ห์เมตตา หากผิดครูแล้วต้องล้างอาคม

    กำลังเป็นข่าวฮือฮากับเรื่องราวของ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” เจอแฉแอบนอกใจแฟนสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” โดยแฟนหนุ่มของผู้หญิงที่มีข่าวกับโตโน่จับได้ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ทั้งยังมีคลิปเสียงในรถถูกปล่อยออกมา ซึ่งก็เริ่มมีการทยอยแฉถ้อยคำในคลิป อาทิ , ตอนนี้พี่กลายเป็นชู้รึเปล่า , ระหว่างพากันหนีออกจากคอนโด เรียกกัน ที่รัก….นี่มันขับตามมามั้ย“

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035190

    #MGROnline #จิลล์จักรพงศ์ #โตโน่ภาคิน
    “จิลล์ จักรพงศ์” เตือนคนแช่ว่าน ข้อห้ามเยอะ ต้องรักษาศีลห้ามผิดลูกผิดเมีย ห้ามหญิงค่อม ห้ามเลียX ห้ามกินของดิบ จะนอนยังมีข้อห้าม ถ้าผิดครูจะเน่าใน วิชานี้สำหรับอาชีพที่ต้องการความหนังเหนียว เช่น ทหาร ตำรวจ ไม่ใช่ด้านเสน่ห์เมตตา หากผิดครูแล้วต้องล้างอาคม • กำลังเป็นข่าวฮือฮากับเรื่องราวของ “โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์” เจอแฉแอบนอกใจแฟนสาว “ณิชา ณัฏฐณิชา ดังวัธนาวณิชย์” โดยแฟนหนุ่มของผู้หญิงที่มีข่าวกับโตโน่จับได้ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ ทั้งยังมีคลิปเสียงในรถถูกปล่อยออกมา ซึ่งก็เริ่มมีการทยอยแฉถ้อยคำในคลิป อาทิ , ตอนนี้พี่กลายเป็นชู้รึเปล่า , ระหว่างพากันหนีออกจากคอนโด เรียกกัน ที่รัก….นี่มันขับตามมามั้ย“ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000035190 • #MGROnline #จิลล์จักรพงศ์ #โตโน่ภาคิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวก​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​จิตตระหนี่ เป็นสิ่งที่ต่ำเกินไป
    สัทธรรมลำดับที่ : 959
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=959
    ชื่อบทธรรม :- จิตตระหนี่ เป็นสิ่งที่ต่ำเกินไป
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --จิตตระหนี่ เป็นสิ่งที่ต่ำเกินไป สำหรับการบรรลุฌาน และทำให้แจ้งมรรคผล
    --ภิกษุ ท. ! เพราะไม่ละธรรม ๕ อย่าง
    +--บุคคลจึงไม่ควรเข้าอยู่ ซึ่ง
    ปฐมฌาน
    ทุติยฌาน
    ตติยฌาน
    จตุตถฌาน
    +--ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้ง ซึ่ง
    โสดาปัตติผล
    สกทาคามิผล
    อนาคามิผล
    อรหัตตผล.
    ธรรม ๕ อย่าง อย่างไรเล่า ? ห้าอย่างคือ
    ๑--ความตระหนี่อาวาส
    http://etipitaka.com/read/pali/22/303/?keywords=อาวาสมจฺฉริยํ
    ๒--ความตระหนี่ตระกูล
    ๓--ความตระหนี่ลาภ
    ๔--ความตระหนี่วรรณะ (ความดี)
    ๕--ความตระหนี่ธรรม (เครื่องให้บรรลุมรรคผล).
    http://etipitaka.com/read/pali/22/303/?keywords=ธมฺมมจฺฉริยํ

    (ต่อจากนี้ ได้ตรัสโดยนัยตรงกันข้าม
    ถึงการละธรรม ๕ อย่างนั้นแล้ว
    ควรเพื่อเข้าอยู่ในฌานและกระทำให้แจ้งซึ่งมรรคผล).-

    #สัมมาสมาธิ
    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/251/256 - 357.
    http://etipitaka.com/read/thai/22/251/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๓๐๒/๒๕๖ - ๓๕๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/22/302/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%96
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=959
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=959
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82
    ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    อริยสาวก​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​จิตตระหนี่ เป็นสิ่งที่ต่ำเกินไป สัทธรรมลำดับที่ : 959 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=959 ชื่อบทธรรม :- จิตตระหนี่ เป็นสิ่งที่ต่ำเกินไป เนื้อความทั้งหมด :- --จิตตระหนี่ เป็นสิ่งที่ต่ำเกินไป สำหรับการบรรลุฌาน และทำให้แจ้งมรรคผล --ภิกษุ ท. ! เพราะไม่ละธรรม ๕ อย่าง +--บุคคลจึงไม่ควรเข้าอยู่ ซึ่ง ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน +--ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้ง ซึ่ง โสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตตผล. ธรรม ๕ อย่าง อย่างไรเล่า ? ห้าอย่างคือ ๑--ความตระหนี่อาวาส http://etipitaka.com/read/pali/22/303/?keywords=อาวาสมจฺฉริยํ ๒--ความตระหนี่ตระกูล ๓--ความตระหนี่ลาภ ๔--ความตระหนี่วรรณะ (ความดี) ๕--ความตระหนี่ธรรม (เครื่องให้บรรลุมรรคผล). http://etipitaka.com/read/pali/22/303/?keywords=ธมฺมมจฺฉริยํ (ต่อจากนี้ ได้ตรัสโดยนัยตรงกันข้าม ถึงการละธรรม ๕ อย่างนั้นแล้ว ควรเพื่อเข้าอยู่ในฌานและกระทำให้แจ้งซึ่งมรรคผล).- #สัมมาสมาธิ​ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/251/256 - 357. http://etipitaka.com/read/thai/22/251/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๓๐๒/๒๕๖ - ๓๕๗. http://etipitaka.com/read/pali/22/302/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%96 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=959 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82&id=959 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=82 ลำดับสาธยายธรรม : 82 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_82.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - จิตตระหนี่ เป็นสิ่งที่ต่ำเกินไป
    -จิตตระหนี่ เป็นสิ่งที่ต่ำเกินไป สำหรับการบรรลุฌาน และทำให้แจ้งมรรคผล ภิกษุ ท. ! เพราะไม่ละธรรม ๕ อย่าง บุคคลจึงไม่ควรเข้าอยู่ ซึ่ง ปฐมฌาน ทุติยฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน ไม่ควรเพื่อกระทำให้แจ้ง ซึ่งโสดาปัตติผล สกทาคามิผล อนาคามิผล อรหัตตผล. ธรรม ๕ อย่าง อย่างไรเล่า ? ห้าอย่างคือ ความตระหนี่อาวาส ความตระหนี่ตระกูล ความตระหนี่ลาภ ความตระหนี่วรรณะ (ความดี) ความตระหนี่ธรรม (เครื่องให้บรรลุมรรคผล). (ต่อจากนี้ ได้ตรัสโดยนัยตรงกันข้ามถึงการละธรรม ๕ อย่างนั้นแล้ว ควรเพื่อเข้าอยู่ในฌานและกระทำให้แจ้งซึ่งมรรคผล).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 เวลา 12.30 น. นายแพทย์ เฉก ธนะสิริ ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบที่บ้านพัก สิริอายุ 99 ปี ทั้งนี้ นายแพทย์ เฉก ได้แสดงความประสงค์บริจาคร่างกายให้แก่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อใช้ในการศึกษาและเป็น ‘อาจารย์ใหญ่’ แก่นักศึกษาแพทย์ ตามเจตนารมณ์ในการอุทิศตนเพื่อวงการแพทย์และสาธารณประโยชน์ จึงงดการจัดพิธีสวดอภิธรรมและพิธีศพรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายแพทย์ เฉก เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2468 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของหลวงจินดาสหกิจ (ละม้าย ธนะสิริ) กับนางประวัติ จินดาสหกิจ (สกุลเดิม สหัสสานนท์) สมรสกับแพทย์หญิง วิลิศ วีรานุวัตติ์ มีบุตรสาวชื่อ เฉลยลัคน์นายแพทย์ เฉก จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ปริญญาโทคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และศึกษาต่อด้านสาธารณสุขศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกานายแพทย์ เฉก รับราชการกองควบคุมกามโรคและคุดทะราด กรมอนามัย เป็นนายแพทย์อนามัยจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้อำนวยการสำนักอนามัย (นักบริหาร 10) กรุงเทพมหานคร และเป็นรองปลัดกรุงเทพมหานคร (นักบริหาร 10) เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 กรรมการอำนวยการสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการวางแผนสาธารณสุขแห่งชาติ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย นายกสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิม และได้รับรางวัลมหิดลทยากร จาก สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2546 เจ้าของรางวัลนราธิป ประจำปี พ.ศ. 2549 และรางวัลผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2564 ของกรมกิจการผู้สูงอายุ และผู้เขียนหนังสือ ‘อายุ 120 ปี ทำไมจะทำให้ไม่ได้’
    เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2568 เวลา 12.30 น. นายแพทย์ เฉก ธนะสิริ ได้ถึงแก่กรรมอย่างสงบที่บ้านพัก สิริอายุ 99 ปี ทั้งนี้ นายแพทย์ เฉก ได้แสดงความประสงค์บริจาคร่างกายให้แก่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อใช้ในการศึกษาและเป็น ‘อาจารย์ใหญ่’ แก่นักศึกษาแพทย์ ตามเจตนารมณ์ในการอุทิศตนเพื่อวงการแพทย์และสาธารณประโยชน์ จึงงดการจัดพิธีสวดอภิธรรมและพิธีศพรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า นายแพทย์ เฉก เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2468 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของหลวงจินดาสหกิจ (ละม้าย ธนะสิริ) กับนางประวัติ จินดาสหกิจ (สกุลเดิม สหัสสานนท์) สมรสกับแพทย์หญิง วิลิศ วีรานุวัตติ์ มีบุตรสาวชื่อ เฉลยลัคน์นายแพทย์ เฉก จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ปริญญาตรีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ปริญญาโทคณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และศึกษาต่อด้านสาธารณสุขศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยจอนส์ฮอปกินส์ รัฐแมริแลนด์ สหรัฐอเมริกานายแพทย์ เฉก รับราชการกองควบคุมกามโรคและคุดทะราด กรมอนามัย เป็นนายแพทย์อนามัยจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้อำนวยการสำนักอนามัย (นักบริหาร 10) กรุงเทพมหานคร และเป็นรองปลัดกรุงเทพมหานคร (นักบริหาร 10) เคยได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2516 กรรมการอำนวยการสภาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรรมการวางแผนสาธารณสุขแห่งชาติ กรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย นายกสมาคมศิษย์เก่าแพทย์ศิริราช ผู้ก่อตั้งมูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิม และได้รับรางวัลมหิดลทยากร จาก สมาคมศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยมหิดล ประจำปี พ.ศ. 2546 เจ้าของรางวัลนราธิป ประจำปี พ.ศ. 2549 และรางวัลผู้สูงอายุแห่งชาติ ประจำปี 2564 ของกรมกิจการผู้สูงอายุ และผู้เขียนหนังสือ ‘อายุ 120 ปี ทำไมจะทำให้ไม่ได้’
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ได้ขึ้นกระบะบรรทุกถังสาดหลังกระบะไปมามาหลายปีแล้ว เพราะผมมีอะไรที่ต้องลงมือทำและฝึกฝนอีกเยอะแยะ แต่ถ้าจะให้ Work-learn-life-study-relax balance ยังไงก็ต้องทำให้ได้ แม้จะขัดใจคนที่คาดหวังกับผมมากเกินไปก็เหอะ แต่อย่าไปสนใจมัน กลับบ้านชุมพรแม่ก็เหมือนจะไล่ แต่ผมขอไปเรื่มต้นชีวิตใหม่ที่บางแสนหรือพัทยา ดีกว่าไปใช้ชีวิตเยี่ยงทาสในบ่อน คิดแล้วโคตรเจ็บปวด
    ไม่ได้ขึ้นกระบะบรรทุกถังสาดหลังกระบะไปมามาหลายปีแล้ว เพราะผมมีอะไรที่ต้องลงมือทำและฝึกฝนอีกเยอะแยะ แต่ถ้าจะให้ Work-learn-life-study-relax balance ยังไงก็ต้องทำให้ได้ แม้จะขัดใจคนที่คาดหวังกับผมมากเกินไปก็เหอะ แต่อย่าไปสนใจมัน กลับบ้านชุมพรแม่ก็เหมือนจะไล่ แต่ผมขอไปเรื่มต้นชีวิตใหม่ที่บางแสนหรือพัทยา ดีกว่าไปใช้ชีวิตเยี่ยงทาสในบ่อน คิดแล้วโคตรเจ็บปวด
    สงกรานต์ "ถนนข้าวสาร" เริ่มแล้ว : [News story]

    เปิดไฮไลต์สงกรานต์ข้าวสาร 2568 อีกหนึ่งสถานที่เล่นน้ำสงกรานต์ยอดนิยมที่หนึ่งในกรุงเทพ พร้อมกฎข้อบังคับให้นักท่องเที่ยวได้เตรียมตัว และเล่นน้ำอย่างปลอดภัยในปีนี้
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 25 0 รีวิว
Pages Boosts