• ฉลองพระองค์ไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบปักลูกปัด
    พระภูษาผ้าไหมยกดอก ลายกลีบบงกช

    ภูฏานเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ยอมรับนับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ เป็นศาสนาประจำชาติอย่างเป็นทางการ นิกายตันตรยานหรือวัชรยานถือกำเนิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของพัฒนาการอันยาวนานของพุทธศาสนา พุทธศาสนาตันตรายานสูญหายไปจากอินเดียซึ่งเป็นดินแดนต้นกำเนิดในช่วงที่พวกมุสลิมยกมารุกรานในต้นศตวรรษที่ ๑๓ และไปรุ่งเรืองอยู่ในทิเบต ลาดัคห์ สิกขิม มองโกเลีย ภาคเหนือของเนปาล ภูฏาน จีน และญี่ปุ่นแทน

    สิ่งที่ชาวภูฏานถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคล ๘ ประการ ของชีวิตตามความเชื่อและความศรัทธา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะปรากฎเป็นรูปเคารพตามโบราณสถาน ตลอดจนในบ้านเรือน ของผู้นับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ หนึ่งสิ่งนั้นคือ ปัทมะ

    ปัทมะ หรือ ดอกบัว (Lotus หรือ meto pema) ดอกบัวมีความหมายเหมือนสังข์ขาว ดอกบัวถือเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ดังพุทธวัจนะที่ว่า “ดอกบัวเกิดแต่โคลนตมในนน้ำ แต่ไม่เปียกน้ำ พระพุทธเจ้าก็เช่นกัน เกิดในโลก แต่ไม่เปรอะเปื้อนด้วยมลทินของโลกฉันนั้น”
    -------
    HER ROYAL ATTIRE IN THAI AMARIN
    EMBROIDERED BEADS LUMPHUN BROCADE SILK
    PETALS OF LOTUS MOTIF

    Bhutan is the only country in the world to accept Tantric Mahayana Buddhism as its official state religion. Tantric or Vajrayana Buddhism emerged at the end of a long development of Buddhism. Tantric Buddhism disappeared from its homeland of India during the Muslim invasions in the early 13th century and flourished instead in Tibet, Ladakh, Sikkim, Mongolia, northern Nepal, Bhutan, China and Japan.

    The Bhutanese believe in the Eight Auspicious Symbols of Life, which are often depicted in ancient monuments and in the homes of Tantric Mahayana Buddhists. One of these is the Padma.

    The Padma or Lotus (meto pema) is like a white conch shell. The lotus is considered to represent the Buddha, as the Buddha said: “A lotus flower is born from the mud in the water, but it is not wet with water. Similarly, the Buddha was born in the world, but it was not stained by the world’s impurities.”
    _________________________________
    #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida
    Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    ฉลองพระองค์ไทยอมรินทร์ ผ้าไหมพื้นเรียบปักลูกปัด พระภูษาผ้าไหมยกดอก ลายกลีบบงกช ภูฏานเป็นเพียงประเทศเดียวในโลกที่ยอมรับนับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ เป็นศาสนาประจำชาติอย่างเป็นทางการ นิกายตันตรยานหรือวัชรยานถือกำเนิดขึ้นในช่วงสุดท้ายของพัฒนาการอันยาวนานของพุทธศาสนา พุทธศาสนาตันตรายานสูญหายไปจากอินเดียซึ่งเป็นดินแดนต้นกำเนิดในช่วงที่พวกมุสลิมยกมารุกรานในต้นศตวรรษที่ ๑๓ และไปรุ่งเรืองอยู่ในทิเบต ลาดัคห์ สิกขิม มองโกเลีย ภาคเหนือของเนปาล ภูฏาน จีน และญี่ปุ่นแทน สิ่งที่ชาวภูฏานถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคล ๘ ประการ ของชีวิตตามความเชื่อและความศรัทธา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มักจะปรากฎเป็นรูปเคารพตามโบราณสถาน ตลอดจนในบ้านเรือน ของผู้นับถือพุทธศาสนามหายานแบบตันตระ หนึ่งสิ่งนั้นคือ ปัทมะ ปัทมะ หรือ ดอกบัว (Lotus หรือ meto pema) ดอกบัวมีความหมายเหมือนสังข์ขาว ดอกบัวถือเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้า ดังพุทธวัจนะที่ว่า “ดอกบัวเกิดแต่โคลนตมในนน้ำ แต่ไม่เปียกน้ำ พระพุทธเจ้าก็เช่นกัน เกิดในโลก แต่ไม่เปรอะเปื้อนด้วยมลทินของโลกฉันนั้น” ------- HER ROYAL ATTIRE IN THAI AMARIN EMBROIDERED BEADS LUMPHUN BROCADE SILK PETALS OF LOTUS MOTIF Bhutan is the only country in the world to accept Tantric Mahayana Buddhism as its official state religion. Tantric or Vajrayana Buddhism emerged at the end of a long development of Buddhism. Tantric Buddhism disappeared from its homeland of India during the Muslim invasions in the early 13th century and flourished instead in Tibet, Ladakh, Sikkim, Mongolia, northern Nepal, Bhutan, China and Japan. The Bhutanese believe in the Eight Auspicious Symbols of Life, which are often depicted in ancient monuments and in the homes of Tantric Mahayana Buddhists. One of these is the Padma. The Padma or Lotus (meto pema) is like a white conch shell. The lotus is considered to represent the Buddha, as the Buddha said: “A lotus flower is born from the mud in the water, but it is not wet with water. Similarly, the Buddha was born in the world, but it was not stained by the world’s impurities.” _________________________________ #พระราชินีสุทิดา #苏提达王后 #QueenSuthida Cr. FB : สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี : We Love Her Majesty Queen Suthida Fanpage
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • Huawei เปิดตัว MateBook Fold Ultimate Design: นวัตกรรมแล็ปท็อปพับได้

    Huawei เปิดตัว MateBook Fold Ultimate Design ในงาน Computex 2025 ซึ่งเป็นแล็ปท็อปพับได้ที่มาพร้อม หน้าจอ OLED ขนาด 18 นิ้ว และ กลไกบานพับแบบ "water-drop hinge" ที่ช่วยให้สามารถกางออกเป็นหน้าจอเดียวได้อย่างสมบูรณ์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MateBook Fold Ultimate Design
    ✅ หน้าจอ OLED 3K ขนาด 18 นิ้วเมื่อกางออกเต็มที่
    - ให้ ประสบการณ์การใช้งานที่คล้ายแท็บเล็ตขนาดใหญ่

    ✅ กลไกบานพับแบบ "water-drop hinge" ช่วยให้เปิด-ปิดได้อย่างราบรื่น
    - แตกต่างจาก แล็ปท็อปพับได้ทั่วไปที่ใช้บานพับแบบมาตรฐาน

    ✅ MateBook Fold Ultimate Design ใช้ระบบปฏิบัติการ Harmony OS 5
    - รองรับ การทำงานแบบมัลติทาสก์และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Huawei

    ✅ มีความสว่างสูงสุด 1,600 nits และแบตเตอรี่ 74.69WHr
    - ช่วยให้ สามารถใช้งานได้ยาวนานและมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในที่กลางแจ้ง

    ✅ เริ่มวางจำหน่ายในจีนที่ราคา ¥23,999 (ประมาณ $3,330 / £2,490 / AU$5,200)
    - คาดว่า อาจมีการเปิดตัวในตลาดโลกเร็ว ๆ นี้

    https://www.techradar.com/computing/laptops/huaweis-new-foldable-laptop-looks-like-it-was-ripped-straight-out-of-a-mission-impossible-movie-this-is-the-future
    Huawei เปิดตัว MateBook Fold Ultimate Design: นวัตกรรมแล็ปท็อปพับได้ Huawei เปิดตัว MateBook Fold Ultimate Design ในงาน Computex 2025 ซึ่งเป็นแล็ปท็อปพับได้ที่มาพร้อม หน้าจอ OLED ขนาด 18 นิ้ว และ กลไกบานพับแบบ "water-drop hinge" ที่ช่วยให้สามารถกางออกเป็นหน้าจอเดียวได้อย่างสมบูรณ์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ MateBook Fold Ultimate Design ✅ หน้าจอ OLED 3K ขนาด 18 นิ้วเมื่อกางออกเต็มที่ - ให้ ประสบการณ์การใช้งานที่คล้ายแท็บเล็ตขนาดใหญ่ ✅ กลไกบานพับแบบ "water-drop hinge" ช่วยให้เปิด-ปิดได้อย่างราบรื่น - แตกต่างจาก แล็ปท็อปพับได้ทั่วไปที่ใช้บานพับแบบมาตรฐาน ✅ MateBook Fold Ultimate Design ใช้ระบบปฏิบัติการ Harmony OS 5 - รองรับ การทำงานแบบมัลติทาสก์และการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ของ Huawei ✅ มีความสว่างสูงสุด 1,600 nits และแบตเตอรี่ 74.69WHr - ช่วยให้ สามารถใช้งานได้ยาวนานและมองเห็นได้ชัดเจนแม้ในที่กลางแจ้ง ✅ เริ่มวางจำหน่ายในจีนที่ราคา ¥23,999 (ประมาณ $3,330 / £2,490 / AU$5,200) - คาดว่า อาจมีการเปิดตัวในตลาดโลกเร็ว ๆ นี้ https://www.techradar.com/computing/laptops/huaweis-new-foldable-laptop-looks-like-it-was-ripped-straight-out-of-a-mission-impossible-movie-this-is-the-future
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • HUAWEI MateBook Fold | ULTIMATE DESIGN หน้าจอ LTPO OLED แบบสองชั้น (จอแสดงผลแบบยืดหยุ่น) ขนาด 13 นิ้ว (2472 × 1648 พิกเซล) 3:2 (พับ) / 18 นิ้ว (3296 × 2472 พิกเซล) 4:3 (กางออก) ความสว่างปกติสูงสุด 700nits ความสว่าง HDR สูงสุด 1600nits หรี่แสงความถี่สูง PWM 1440HzCPU : Hisilicon Kirin X90RAM : 32GBSSD NVMe PCIe : 1 TB / 2TBกล้องหน้า : 8MPปุ่มเปิดปิดแบบสแกนลายนิ้วมือรองรับ Wi-Fi 6E 802.11ax 2.4 GHz/5 GHz/6 GHz, Bluetooth 5.2, USB-C 2 ช่องลำโพง 6 ตัว, ไมโครโฟน 4 ตัวขนาด: 382.5 x 288.5 x 7.6 มม. (ซ้าย) / 7.3 มม. (ขวา) (เมื่อกางออก) / 288.5 x 193.7 x 14.9 มม. (เมื่อปิด) น้ำหนัก: 1.16 กก.แบตเตอรี่ 74.69 วัตต์ชั่วโมง ชาร์จเร็ว USB-C 140 วัตต์ระบบปฎิบัติการ : HarmonyOS 5.0ราคาและการวางจำหน่ายHUAWEI MateBook Fold | ULTIMATE DESIGN มาในสี Forging Shadow Black, Cloud Water Blue และ Skyline White ราคา 23,999 หยวน (ประมาณ 110,300 บาท) สำหรับรุ่น 32GB + 1TB และ รุ่น 32GB + 2TB มีราคา 26,999 หยวน (ประมาณ 124,000 บาท) https://youtu.be/9cr33w9jbJw?si=MeFh7_-FU-X6VO4ihttps://youtu.be/9cr33w9jbJw?si=MeFh7_-FU-X6VO4i
    HUAWEI MateBook Fold | ULTIMATE DESIGN หน้าจอ LTPO OLED แบบสองชั้น (จอแสดงผลแบบยืดหยุ่น) ขนาด 13 นิ้ว (2472 × 1648 พิกเซล) 3:2 (พับ) / 18 นิ้ว (3296 × 2472 พิกเซล) 4:3 (กางออก) ความสว่างปกติสูงสุด 700nits ความสว่าง HDR สูงสุด 1600nits หรี่แสงความถี่สูง PWM 1440HzCPU : Hisilicon Kirin X90RAM : 32GBSSD NVMe PCIe : 1 TB / 2TBกล้องหน้า : 8MPปุ่มเปิดปิดแบบสแกนลายนิ้วมือรองรับ Wi-Fi 6E 802.11ax 2.4 GHz/5 GHz/6 GHz, Bluetooth 5.2, USB-C 2 ช่องลำโพง 6 ตัว, ไมโครโฟน 4 ตัวขนาด: 382.5 x 288.5 x 7.6 มม. (ซ้าย) / 7.3 มม. (ขวา) (เมื่อกางออก) / 288.5 x 193.7 x 14.9 มม. (เมื่อปิด) น้ำหนัก: 1.16 กก.แบตเตอรี่ 74.69 วัตต์ชั่วโมง ชาร์จเร็ว USB-C 140 วัตต์ระบบปฎิบัติการ : HarmonyOS 5.0ราคาและการวางจำหน่ายHUAWEI MateBook Fold | ULTIMATE DESIGN มาในสี Forging Shadow Black, Cloud Water Blue และ Skyline White ราคา 23,999 หยวน (ประมาณ 110,300 บาท) สำหรับรุ่น 32GB + 1TB และ รุ่น 32GB + 2TB มีราคา 26,999 หยวน (ประมาณ 124,000 บาท) https://youtu.be/9cr33w9jbJw?si=MeFh7_-FU-X6VO4ihttps://youtu.be/9cr33w9jbJw?si=MeFh7_-FU-X6VO4i
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • KDE เตรียมเปิดตัว "Karton" ระบบจัดการเครื่องเสมือนแบบเนทีฟ

    KDE กำลังพัฒนา Karton ซึ่งเป็น Virtual Machine Manager (VMM) ที่ออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบภายใน Plasma Desktop โดยโครงการนี้เริ่มต้นจาก Aaron Rainbolt ที่พัฒนา QEMU frontend และต่อมาถูกพัฒนาโดย Harald Sitter ในโครงการ Google Summer of Code (GSoC) ปัจจุบัน Derek Lin นักศึกษาจาก University of Waterloo กำลังพัฒนา Karton ใน GSoC 2025

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Karton
    ✅ Karton ใช้ Qt Quick และ Kirigami เพื่อให้เข้ากับ KDE Plasma
    - ทำให้ UI มีความสวยงามและใช้งานง่าย

    ✅ ใช้ libvirt API ในการจัดการเครื่องเสมือน
    - รองรับ การตั้งค่า VM อย่างละเอียดและสามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้

    ✅ พัฒนา SPICE viewer แบบกำหนดเองโดยใช้ Qt Quick
    - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถดูและโต้ตอบกับ VM ได้โดยไม่ต้องใช้ virt-viewer

    ✅ เพิ่มฟีเจอร์ snapshot เพื่อให้สามารถกู้คืนสถานะก่อนหน้าได้
    - ทำให้ การสำรองข้อมูลและการกู้คืน VM ทำได้ง่ายขึ้น

    ✅ รองรับการติดตั้ง OS ผ่าน libosinfo แทน virt-install CLI
    - ช่วยให้ สามารถตรวจจับ OS images และสร้าง libvirt XML ได้แม่นยำขึ้น

    ✅ มี UI ที่ออกแบบให้ใช้งานง่ายและรองรับอุปกรณ์พกพา
    - อ้างอิงดีไซน์จาก MacOS UTM และปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของชุมชน KDE

    ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับ QEMU hypervisor ทั้งแบบ session (user) และ system (root)
    - GNOME Boxes รองรับเฉพาะ session แต่ Karton จะเพิ่มการรองรับ system เพื่อให้ใช้งานกับ Hyper-V และ bhyve ได้

    https://www.neowin.net/news/kde-is-finally-getting-a-native-virtual-machine-manager-called-karton/
    KDE เตรียมเปิดตัว "Karton" ระบบจัดการเครื่องเสมือนแบบเนทีฟ KDE กำลังพัฒนา Karton ซึ่งเป็น Virtual Machine Manager (VMM) ที่ออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบภายใน Plasma Desktop โดยโครงการนี้เริ่มต้นจาก Aaron Rainbolt ที่พัฒนา QEMU frontend และต่อมาถูกพัฒนาโดย Harald Sitter ในโครงการ Google Summer of Code (GSoC) ปัจจุบัน Derek Lin นักศึกษาจาก University of Waterloo กำลังพัฒนา Karton ใน GSoC 2025 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Karton ✅ Karton ใช้ Qt Quick และ Kirigami เพื่อให้เข้ากับ KDE Plasma - ทำให้ UI มีความสวยงามและใช้งานง่าย ✅ ใช้ libvirt API ในการจัดการเครื่องเสมือน - รองรับ การตั้งค่า VM อย่างละเอียดและสามารถทำงานข้ามแพลตฟอร์มได้ ✅ พัฒนา SPICE viewer แบบกำหนดเองโดยใช้ Qt Quick - ช่วยให้ ผู้ใช้สามารถดูและโต้ตอบกับ VM ได้โดยไม่ต้องใช้ virt-viewer ✅ เพิ่มฟีเจอร์ snapshot เพื่อให้สามารถกู้คืนสถานะก่อนหน้าได้ - ทำให้ การสำรองข้อมูลและการกู้คืน VM ทำได้ง่ายขึ้น ✅ รองรับการติดตั้ง OS ผ่าน libosinfo แทน virt-install CLI - ช่วยให้ สามารถตรวจจับ OS images และสร้าง libvirt XML ได้แม่นยำขึ้น ✅ มี UI ที่ออกแบบให้ใช้งานง่ายและรองรับอุปกรณ์พกพา - อ้างอิงดีไซน์จาก MacOS UTM และปรับปรุงตามข้อเสนอแนะของชุมชน KDE ✅ รองรับการเชื่อมต่อกับ QEMU hypervisor ทั้งแบบ session (user) และ system (root) - GNOME Boxes รองรับเฉพาะ session แต่ Karton จะเพิ่มการรองรับ system เพื่อให้ใช้งานกับ Hyper-V และ bhyve ได้ https://www.neowin.net/news/kde-is-finally-getting-a-native-virtual-machine-manager-called-karton/
    WWW.NEOWIN.NET
    KDE is finally getting a native virtual machine manager called "Karton"
    For years, KDE users had to use Virtual Machine Managers outside the KDE ecosystem, like GNOME Boxes. Now that's changing with a new native VMM in development for KDE.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google, Microsoft และ Meta นำเทคโนโลยีจากรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในศูนย์ข้อมูล

    ศูนย์ข้อมูลกำลังเผชิญกับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI workloads ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ต้องปรับโครงสร้างพื้นฐาน โดยนำ ระบบไฟฟ้า 400VDC และระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ซึ่งเคยใช้ใน รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) มาปรับใช้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการพลังงานสูง

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในศูนย์ข้อมูล
    ✅ Google ใช้ระบบไฟฟ้า 400VDC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
    - ลดพื้นที่ที่ใช้สำหรับระบบจ่ายไฟ ทำให้มีพื้นที่สำหรับเซิร์ฟเวอร์มากขึ้น

    ✅ Meta, Microsoft และ Open Compute Project (OCP) สนับสนุนมาตรฐาน Mt. Diablo
    - เป็น มาตรฐานใหม่สำหรับการจ่ายไฟในศูนย์ข้อมูล

    ✅ Google TPU Supercomputers ทำงานที่ระดับกิกะวัตต์ พร้อม uptime 99.999%
    - ใช้ ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแทนฮีตซิงค์แบบเดิม

    ✅ ชิป AI รุ่นใหม่ใช้พลังงานมากกว่า 1,000 วัตต์ต่อชิป
    - ทำให้ ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศเริ่มไม่เพียงพอ

    ✅ การใช้เทคโนโลยีจาก EVs ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานขึ้น 3%
    - ลด การสูญเสียพลังงานจากการแปลงไฟฟ้า

    https://www.techradar.com/pro/microsoft-google-and-meta-have-borrowed-ev-tech-for-the-next-big-thing-in-data-center-1mw-watercooled-racks
    Google, Microsoft และ Meta นำเทคโนโลยีจากรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในศูนย์ข้อมูล ศูนย์ข้อมูลกำลังเผชิญกับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI workloads ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ต้องปรับโครงสร้างพื้นฐาน โดยนำ ระบบไฟฟ้า 400VDC และระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ซึ่งเคยใช้ใน รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) มาปรับใช้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการพลังงานสูง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในศูนย์ข้อมูล ✅ Google ใช้ระบบไฟฟ้า 400VDC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน - ลดพื้นที่ที่ใช้สำหรับระบบจ่ายไฟ ทำให้มีพื้นที่สำหรับเซิร์ฟเวอร์มากขึ้น ✅ Meta, Microsoft และ Open Compute Project (OCP) สนับสนุนมาตรฐาน Mt. Diablo - เป็น มาตรฐานใหม่สำหรับการจ่ายไฟในศูนย์ข้อมูล ✅ Google TPU Supercomputers ทำงานที่ระดับกิกะวัตต์ พร้อม uptime 99.999% - ใช้ ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแทนฮีตซิงค์แบบเดิม ✅ ชิป AI รุ่นใหม่ใช้พลังงานมากกว่า 1,000 วัตต์ต่อชิป - ทำให้ ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศเริ่มไม่เพียงพอ ✅ การใช้เทคโนโลยีจาก EVs ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานขึ้น 3% - ลด การสูญเสียพลังงานจากการแปลงไฟฟ้า https://www.techradar.com/pro/microsoft-google-and-meta-have-borrowed-ev-tech-for-the-next-big-thing-in-data-center-1mw-watercooled-racks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel คาดว่าแผนก Foundry จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2027 พร้อมเปิดตัวเทคโนโลยี 14A

    Intel กำลังลงทุนมหาศาลใน เทคโนโลยีการผลิตชิปและขยายกำลังการผลิต แม้ว่าปัจจุบันแผนก Foundry จะขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์ต่อไตรมาส แต่บริษัทคาดว่า จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2027 ซึ่งเป็นช่วงที่ เทคโนโลยีการผลิต 14A (1.4nm-class) จะเริ่มใช้งานจริง

    ✅ Intel คาดว่าแผนก Foundry จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2027
    - เป็นช่วงที่ เทคโนโลยี 14A จะเริ่มใช้งานจริง

    ✅ ชิปแรกที่ใช้กระบวนการผลิต 18A (1.8nm-class) คือ Panther Lake
    - จะเปิดตัว ปลายปีนี้และเริ่มผลิตเต็มรูปแบบในปีหน้า

    ✅ เทคโนโลยี 18A จะถูกใช้ใน Xeon 'Clearwater Forest' และผลิตภัณฑ์ของลูกค้าภายนอก
    - เป็น การพิสูจน์แนวคิดสำหรับลูกค้าภายนอก

    ✅ Intel วางแผนใช้ High-NA EUV lithography กับกระบวนการผลิต 14A
    - แม้ว่าจะเพิ่มต้นทุน แต่บริษัทเชื่อว่าข้อดีของเทคโนโลยีนี้จะคุ้มค่า

    ✅ Intel ตั้งเป้าให้ Foundry มีรายได้จากลูกค้าภายนอกระดับพันล้านดอลลาร์ต่อปี
    - รวมถึง รายได้จากแพ็กเกจขั้นสูงและกระบวนการผลิตรุ่นเก่า เช่น Intel 16

    ‼️ Intel ต้องพิสูจน์ความสามารถของเทคโนโลยี 18A ก่อนที่ลูกค้าจะยอมรับ 14A
    - หาก 18A ไม่ประสบความสำเร็จ ลูกค้าอาจลังเลที่จะใช้ 14A

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-says-foundry-business-wont-break-even-until-14a-in-2027
    Intel คาดว่าแผนก Foundry จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2027 พร้อมเปิดตัวเทคโนโลยี 14A Intel กำลังลงทุนมหาศาลใน เทคโนโลยีการผลิตชิปและขยายกำลังการผลิต แม้ว่าปัจจุบันแผนก Foundry จะขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์ต่อไตรมาส แต่บริษัทคาดว่า จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2027 ซึ่งเป็นช่วงที่ เทคโนโลยีการผลิต 14A (1.4nm-class) จะเริ่มใช้งานจริง ✅ Intel คาดว่าแผนก Foundry จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2027 - เป็นช่วงที่ เทคโนโลยี 14A จะเริ่มใช้งานจริง ✅ ชิปแรกที่ใช้กระบวนการผลิต 18A (1.8nm-class) คือ Panther Lake - จะเปิดตัว ปลายปีนี้และเริ่มผลิตเต็มรูปแบบในปีหน้า ✅ เทคโนโลยี 18A จะถูกใช้ใน Xeon 'Clearwater Forest' และผลิตภัณฑ์ของลูกค้าภายนอก - เป็น การพิสูจน์แนวคิดสำหรับลูกค้าภายนอก ✅ Intel วางแผนใช้ High-NA EUV lithography กับกระบวนการผลิต 14A - แม้ว่าจะเพิ่มต้นทุน แต่บริษัทเชื่อว่าข้อดีของเทคโนโลยีนี้จะคุ้มค่า ✅ Intel ตั้งเป้าให้ Foundry มีรายได้จากลูกค้าภายนอกระดับพันล้านดอลลาร์ต่อปี - รวมถึง รายได้จากแพ็กเกจขั้นสูงและกระบวนการผลิตรุ่นเก่า เช่น Intel 16 ‼️ Intel ต้องพิสูจน์ความสามารถของเทคโนโลยี 18A ก่อนที่ลูกค้าจะยอมรับ 14A - หาก 18A ไม่ประสบความสำเร็จ ลูกค้าอาจลังเลที่จะใช้ 14A https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-says-foundry-business-wont-break-even-until-14a-in-2027
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • การพัฒนาควอนตัมคอมพิพิวติ้ง (Quantum Computing) เป็นหนึ่งในความท้าทายทางเทคโนโลยีที่สำคัญของโลกในปัจจุบัน และสภาพอากาศที่หนาวเย็นอาจมีบทบาทในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนี้ เนื่องจาก:

    ### 1. **ความต้องการสภาพแวดล้อมที่เย็นจัด**
    - ควอนตัมคอมพิวเตอร์บางประเภท โดยเฉพาะ **ซูเปอร์คอนดักติ้งควอนตัมบิต (Superconducting Qubits)** จำเป็นต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ศูนย์สัมบูรณ์ (−273.15°C หรือ 0 เคลวิน) เพื่อลดสัญญาณรบกวนทางความร้อน (Thermal Noise) ที่อาจรบกวนสถานะควอนตัม (Quantum State) ของคิวบิต
    - ประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นโดยธรรมชาติอาจช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนของระบบทำความเย็น (Cryogenic Systems) ที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ

    ### 2. **ประเทศที่มีศักยภาพจากสภาพอากาศหนาวเย็น**
    - **แคนาดา, รัสเซีย, สแกนดิเนเวีย (นอร์เวย์, สวีเดน, ฟินแลนด์), ไอซ์แลนด์** และบางส่วนของ **สหรัฐอเมริกา (อลาสกา)** มีภูมิอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการทดลองควอนตัมบางประเภท
    - ตัวอย่างเช่น:
    - **แคนาดา** มีบริษัทและสถาบันวิจัยชั้นนำด้านควอนตัม เช่น **D-Wave Systems** (บริษัทแรกของโลกที่ขายควอนตัมคอมพิวเตอร์เชิงพาณิชย์) และ **University of Waterloo** ซึ่งเป็นศูนย์กลางของ **Quantum Valley**
    - **สวีเดนและฟินแลนด์** มีโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่งและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการวิจัย

    ### 3. **แต่...สภาพอากาศหนาวไม่ใช่ปัจจัยหลัก**
    - เทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้งยังต้องพึ่งพา **ระบบทำความเย็นขั้นสูง** (เช่น Dilution Refrigerators) อยู่ดี แม้ในประเทศที่หนาวเย็น ดังนั้น ข้อได้เปรียบทางภูมิอากาศอาจมีจำกัด
    - ปัจจัยที่สำคัญกว่าคือ:
    - **การลงทุนในวิจัยและพัฒนา** (เช่น จีน, สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป)
    - **ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและอุตสาหกรรม**
    - **โครงสร้างพื้นฐานด้านวิศวกรรมและวัสดุศาสตร์**

    ### 4. **ประเทศที่นำด้านควอนตัมคอมพิวติ้งในปัจจุบัน**
    - **สหรัฐอเมริกา** (Google, IBM, Microsoft)
    - **จีน** (ความก้าวหน้าด้วยควอนตัมคอมพิวเตอร์เช่น **Jiuzhang** และ **Zuchongzhi**)
    - **สหภาพยุโรป** (โปรแกรม Quantum Flagship)
    - **แคนาดา** (D-Wave, Xanadu)
    - **ออสเตรเลีย** (Silicon Quantum Computing)

    ### สรุป
    แม้สภาพอากาศหนาวเย็นอาจช่วยในบางแง่มุม (เช่น ลดพลังงานในการทำความเย็น) แต่ความสำเร็จของควอนตัมคอมพิวติ้งขึ้นอยู่กับ **ความสามารถทางวิศวกรรม, การลงทุน, และการพัฒนาอัลกอริธึมควอนตัม** มากกว่า ประเทศที่มีอากาศหนาวอาจได้เปรียบในบางกรณี แต่ไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดที่ทำให้ควอนตัมคอมพิวติ้งประสบความสำเร็จในระดับโลก
    การพัฒนาควอนตัมคอมพิพิวติ้ง (Quantum Computing) เป็นหนึ่งในความท้าทายทางเทคโนโลยีที่สำคัญของโลกในปัจจุบัน และสภาพอากาศที่หนาวเย็นอาจมีบทบาทในการสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีนี้ เนื่องจาก: ### 1. **ความต้องการสภาพแวดล้อมที่เย็นจัด** - ควอนตัมคอมพิวเตอร์บางประเภท โดยเฉพาะ **ซูเปอร์คอนดักติ้งควอนตัมบิต (Superconducting Qubits)** จำเป็นต้องทำงานที่อุณหภูมิใกล้ศูนย์สัมบูรณ์ (−273.15°C หรือ 0 เคลวิน) เพื่อลดสัญญาณรบกวนทางความร้อน (Thermal Noise) ที่อาจรบกวนสถานะควอนตัม (Quantum State) ของคิวบิต - ประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นโดยธรรมชาติอาจช่วยลดต้นทุนและความซับซ้อนของระบบทำความเย็น (Cryogenic Systems) ที่ใช้ในห้องปฏิบัติการ ### 2. **ประเทศที่มีศักยภาพจากสภาพอากาศหนาวเย็น** - **แคนาดา, รัสเซีย, สแกนดิเนเวีย (นอร์เวย์, สวีเดน, ฟินแลนด์), ไอซ์แลนด์** และบางส่วนของ **สหรัฐอเมริกา (อลาสกา)** มีภูมิอากาศที่หนาวเย็น ซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการทดลองควอนตัมบางประเภท - ตัวอย่างเช่น: - **แคนาดา** มีบริษัทและสถาบันวิจัยชั้นนำด้านควอนตัม เช่น **D-Wave Systems** (บริษัทแรกของโลกที่ขายควอนตัมคอมพิวเตอร์เชิงพาณิชย์) และ **University of Waterloo** ซึ่งเป็นศูนย์กลางของ **Quantum Valley** - **สวีเดนและฟินแลนด์** มีโครงสร้างพื้นฐานด้านวิทยาศาสตร์ที่แข็งแกร่งและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการวิจัย ### 3. **แต่...สภาพอากาศหนาวไม่ใช่ปัจจัยหลัก** - เทคโนโลยีควอนตัมคอมพิวติ้งยังต้องพึ่งพา **ระบบทำความเย็นขั้นสูง** (เช่น Dilution Refrigerators) อยู่ดี แม้ในประเทศที่หนาวเย็น ดังนั้น ข้อได้เปรียบทางภูมิอากาศอาจมีจำกัด - ปัจจัยที่สำคัญกว่าคือ: - **การลงทุนในวิจัยและพัฒนา** (เช่น จีน, สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป) - **ความร่วมมือระหว่างมหาวิทยาลัยและอุตสาหกรรม** - **โครงสร้างพื้นฐานด้านวิศวกรรมและวัสดุศาสตร์** ### 4. **ประเทศที่นำด้านควอนตัมคอมพิวติ้งในปัจจุบัน** - **สหรัฐอเมริกา** (Google, IBM, Microsoft) - **จีน** (ความก้าวหน้าด้วยควอนตัมคอมพิวเตอร์เช่น **Jiuzhang** และ **Zuchongzhi**) - **สหภาพยุโรป** (โปรแกรม Quantum Flagship) - **แคนาดา** (D-Wave, Xanadu) - **ออสเตรเลีย** (Silicon Quantum Computing) ### สรุป แม้สภาพอากาศหนาวเย็นอาจช่วยในบางแง่มุม (เช่น ลดพลังงานในการทำความเย็น) แต่ความสำเร็จของควอนตัมคอมพิวติ้งขึ้นอยู่กับ **ความสามารถทางวิศวกรรม, การลงทุน, และการพัฒนาอัลกอริธึมควอนตัม** มากกว่า ประเทศที่มีอากาศหนาวอาจได้เปรียบในบางกรณี แต่ไม่ใช่ปัจจัยชี้ขาดที่ทำให้ควอนตัมคอมพิวติ้งประสบความสำเร็จในระดับโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เกาะโลซิน"  เป็นเกาะหินปูนขนาดเล็ก ที่มีมูลค่าแสนล้าน  ขึ้นอยู่กับจังหวัด ปัตตานี

    ลักษณะของตัวเกาะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาไม่เกิน 50 ตารางเมตร สภาพส่วนใหญ่เป็นหินล้วนไม่มีต้นไม้ใบหญ้า รอบเกาะน้ำตื้น หากจะขึ้นเกาะต้องนำเรือเล็กเข้าไป
    บนเกาะมีประภาคาร ที่ส่งไฟสัญญาณเตือนอยู่บนยอด และตัวประภาคารตั้งอยู่บนหินโผล่น้ำที่มีขนาดประมาณ 10 เมตร
    บริเวณรอบเกาะเป็นแหล่งปะการังที่อุดมสมบูรณ์กินพื้นที่ยาวหนึ่งกิโลเมตร มีพืชใต้น้ำและฝูงปลานานาชนิดโดยเฉพาะฉลามวาฬ ด้วยเหตุนี้เกาะโลซินเป็นที่นิยมของนักดำน้ำและนักตกปลา

    และเพราะเกาะโลซินนี่เอง ทำให้เรามี 'น่านน้ำอาณาเขต' ขยายออกไปจากชายฝั่งอีก 22.2 กิโลเมตร
    ในวิกิพีเดียอธิบายน่านน้ำอาณาเขต (Territorial Waters) หรือทะเลอาณาเขต (Territorial Sea) ว่าเป็นแนวน่านน้ำชายฝั่งวัดจากเส้นฐาน ปกติของน้ำทะเลในช่วงลงเต็มที่จนถึงปานกลางของชายฝั่งไปไกลสุดที่ 22.2 กิโลเมตร 

    พูดง่ายๆ ก็คือ ตำแหน่งไหนที่เป็นปลายทางที่อยู่ติดกับทะเลหรือในทะเล ถ้าใครได้เป็นเจ้าของ ประเทศนั้นก็จะได้ครอบครองน่านน้ำเพิ่มออกไปจากจุดนั้นอีก 22.2 กิโลเมตร รวมถึงบนฟ้าและใต้ดินที่อยู่ในอาณาเขตด้วย

    ก็แปลว่าประเทศไทย นอกจากจะเป็นเจ้าของพื้นที่รูปขวานใน Map โลกแล้ว หลายๆ เกาะในที่อยู่ไกลจากผืนดินมากที่สุด บวกเพิ่มไปอีก 22.2 กิโลเมตร ก็นับเป็นโซนของประเทศไทยเหมือนกัน

    นั่นแปลว่า พื้นที่ใต้น่านน้ำอาณาเขต หากมีทรัพยากรธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น แหล่งก๊าซธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติใต้น้ำนั้นจะเป็นของประเทศนั้น ๆ 

    แต่ก่อนทั้งไทยและมาเลเซียต่างก็เคยออกมาอ้างสิทธิในพื้นที่ทะเล ทำให้เกิดข้อถกเถียงกันขึ้น จนต้องเจรจากันอย่างจริงจังใน พ.ศ. 2515 โดยมีข้อสรุปในครั้งนั้น คือ 

    แบ่งเขตแดนทางทะเลด้วยวิธีการลากเส้นตั้งฉากจากแนวโค้งของผืนดินแต่ละฝ่าย หรือเรียกว่าเขตไหล่ทวีปตามหลักสากล
    การแบ่งด้วยวิธีนั้นทำให้พื้นที่แหล่งก๊าซธรรมชาติกลายเป็นของมาเลเซียทั้งหมด 

    แต่โชคดีของไทย ที่ยังมีเกาะโลซิน โดยไทยยืนยันว่าได้ก่อสร้างประภาคารไว้บนเกาะนี้เพื่อแสดงอาณาเขตไว้แล้ว

    ตามอนุสัญญาเจนีวา กฎหมายทางทะเล ค.ศ.1958 ที่ไทยเป็นสมาชิกในอนุสัญญา ได้ระบุความหมายของเกาะไว้ว่า "แผ่นดินที่มีน้ำล้อมรอบ" ซึ่งหมายถึงเกาะที่เป็นหิน หรือกองหินโผล่จากน้ำขึ้นมาด้วย
    ดังนั้น เกาะโลซินก็เลยกลายเป็นเกาะสุดท้ายของประเทศไทยที่ทำให้ฝ่ายมาเลเซียต้องยอมให้

    ในปี 2522 ประเทศไทยและมาเลเซียเจรจาตกลงกำหนดพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลให้เป็นพื้นที่พัฒนาร่วม (Joint Development Area) ครอบคลุมประมาณ 7,250 ตร.กม. โดยตั้งองค์กรขึ้นมาบริหารจัดการร่วมกันแล้วแบ่งผลประโยชน์คนละครึ่ง เป็นระยะเวลา 50 ปี

    เมื่อมีการสำรวจขุดเจาะก๊าซธรรมชาติขึ้นมาก็พบว่า แหล่งก๊าซที่มีปริมาณมากถึงราว 75% นั้น อยู่ในซีกพื้นที่ใกล้ชายฝั่งมาเลเซีย 
    แต่ไทยเราได้รับผลประโยชน์ไปด้วย เพราะ การอ้างอาณาเขตจากเกาะโลซินที่เป็นแค่กองหินเล็กๆ ขนาดไม่เกิน 50 ตร.ม. นั้นแหละ
    จนหลายคนตั้งชื่อเกาะโลซินใหม่ว่า "กองหินแสนล้าน" ตามมูลค่าของแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สำรวจพบใต้น่านน้ำอาณาเขตนั่นเอง

    แต่ในปี 2572 ข้อตกลงเจรจาระหว่างไทย-มาเลเซีย ที่กำหนดพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลให้เป็นพื้นที่พัฒนาร่วมจะหมดอายุลง เกาะโลซินยังจะถูกเรียกเหมือนเดิมไหมไม่รู้ เพื่อนบ้านของเรา จะเปิดการเจรจาเพื่อตกลงผลประโยชน์ใหม่หรือเปล่า คงต้องรอกันจนถึงวันนั้น 

    และหากเรามาดูเป้าหมายของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่อยากจะแบ่งแยกตั้งตัวเองเป็นรัฐใหม่ ซึ่งประกอบไปด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และอีกสามอำเภอของสงขลา โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่า
    ในปี 2570 จะทำให้เกิดสงครามกลางเมือง จนแบ่งแยกดินแดนสำเร็จ ด้วยความช่วยเหลือจากนานาชาติ และนักการเมืองแนวร่วม ในปี 2580 

    ซึ่งหากกระทำการสำเร็จ เราจะไม่ได้เสียแค่ดินแดนบนผืนแผ่นดิน แต่เราจะสูญเสียเกาะโลซินที่รวมอยู่กับจังหวัดปัตตานี รวมถึงทรัพยากรแสนล้านใต้น่านน้ำอาณาเขต ที่เราได้จากการเป็นเจ้าของเกาะโลซินแห่งนี้ด้วยเช่นกัน

    https://www.facebook.com/share/p/1BdTQSpXHd/?mibextid=wwXIfr
    "เกาะโลซิน"  เป็นเกาะหินปูนขนาดเล็ก ที่มีมูลค่าแสนล้าน  ขึ้นอยู่กับจังหวัด ปัตตานี ลักษณะของตัวเกาะโผล่พ้นน้ำขึ้นมาไม่เกิน 50 ตารางเมตร สภาพส่วนใหญ่เป็นหินล้วนไม่มีต้นไม้ใบหญ้า รอบเกาะน้ำตื้น หากจะขึ้นเกาะต้องนำเรือเล็กเข้าไป บนเกาะมีประภาคาร ที่ส่งไฟสัญญาณเตือนอยู่บนยอด และตัวประภาคารตั้งอยู่บนหินโผล่น้ำที่มีขนาดประมาณ 10 เมตร บริเวณรอบเกาะเป็นแหล่งปะการังที่อุดมสมบูรณ์กินพื้นที่ยาวหนึ่งกิโลเมตร มีพืชใต้น้ำและฝูงปลานานาชนิดโดยเฉพาะฉลามวาฬ ด้วยเหตุนี้เกาะโลซินเป็นที่นิยมของนักดำน้ำและนักตกปลา และเพราะเกาะโลซินนี่เอง ทำให้เรามี 'น่านน้ำอาณาเขต' ขยายออกไปจากชายฝั่งอีก 22.2 กิโลเมตร ในวิกิพีเดียอธิบายน่านน้ำอาณาเขต (Territorial Waters) หรือทะเลอาณาเขต (Territorial Sea) ว่าเป็นแนวน่านน้ำชายฝั่งวัดจากเส้นฐาน ปกติของน้ำทะเลในช่วงลงเต็มที่จนถึงปานกลางของชายฝั่งไปไกลสุดที่ 22.2 กิโลเมตร  พูดง่ายๆ ก็คือ ตำแหน่งไหนที่เป็นปลายทางที่อยู่ติดกับทะเลหรือในทะเล ถ้าใครได้เป็นเจ้าของ ประเทศนั้นก็จะได้ครอบครองน่านน้ำเพิ่มออกไปจากจุดนั้นอีก 22.2 กิโลเมตร รวมถึงบนฟ้าและใต้ดินที่อยู่ในอาณาเขตด้วย ก็แปลว่าประเทศไทย นอกจากจะเป็นเจ้าของพื้นที่รูปขวานใน Map โลกแล้ว หลายๆ เกาะในที่อยู่ไกลจากผืนดินมากที่สุด บวกเพิ่มไปอีก 22.2 กิโลเมตร ก็นับเป็นโซนของประเทศไทยเหมือนกัน นั่นแปลว่า พื้นที่ใต้น่านน้ำอาณาเขต หากมีทรัพยากรธรรมชาติ ยกตัวอย่างเช่น แหล่งก๊าซธรรมชาติ ทรัพยากรธรรมชาติใต้น้ำนั้นจะเป็นของประเทศนั้น ๆ  แต่ก่อนทั้งไทยและมาเลเซียต่างก็เคยออกมาอ้างสิทธิในพื้นที่ทะเล ทำให้เกิดข้อถกเถียงกันขึ้น จนต้องเจรจากันอย่างจริงจังใน พ.ศ. 2515 โดยมีข้อสรุปในครั้งนั้น คือ  แบ่งเขตแดนทางทะเลด้วยวิธีการลากเส้นตั้งฉากจากแนวโค้งของผืนดินแต่ละฝ่าย หรือเรียกว่าเขตไหล่ทวีปตามหลักสากล การแบ่งด้วยวิธีนั้นทำให้พื้นที่แหล่งก๊าซธรรมชาติกลายเป็นของมาเลเซียทั้งหมด  แต่โชคดีของไทย ที่ยังมีเกาะโลซิน โดยไทยยืนยันว่าได้ก่อสร้างประภาคารไว้บนเกาะนี้เพื่อแสดงอาณาเขตไว้แล้ว ตามอนุสัญญาเจนีวา กฎหมายทางทะเล ค.ศ.1958 ที่ไทยเป็นสมาชิกในอนุสัญญา ได้ระบุความหมายของเกาะไว้ว่า "แผ่นดินที่มีน้ำล้อมรอบ" ซึ่งหมายถึงเกาะที่เป็นหิน หรือกองหินโผล่จากน้ำขึ้นมาด้วย ดังนั้น เกาะโลซินก็เลยกลายเป็นเกาะสุดท้ายของประเทศไทยที่ทำให้ฝ่ายมาเลเซียต้องยอมให้ ในปี 2522 ประเทศไทยและมาเลเซียเจรจาตกลงกำหนดพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลให้เป็นพื้นที่พัฒนาร่วม (Joint Development Area) ครอบคลุมประมาณ 7,250 ตร.กม. โดยตั้งองค์กรขึ้นมาบริหารจัดการร่วมกันแล้วแบ่งผลประโยชน์คนละครึ่ง เป็นระยะเวลา 50 ปี เมื่อมีการสำรวจขุดเจาะก๊าซธรรมชาติขึ้นมาก็พบว่า แหล่งก๊าซที่มีปริมาณมากถึงราว 75% นั้น อยู่ในซีกพื้นที่ใกล้ชายฝั่งมาเลเซีย  แต่ไทยเราได้รับผลประโยชน์ไปด้วย เพราะ การอ้างอาณาเขตจากเกาะโลซินที่เป็นแค่กองหินเล็กๆ ขนาดไม่เกิน 50 ตร.ม. นั้นแหละ จนหลายคนตั้งชื่อเกาะโลซินใหม่ว่า "กองหินแสนล้าน" ตามมูลค่าของแหล่งก๊าซธรรมชาติที่สำรวจพบใต้น่านน้ำอาณาเขตนั่นเอง แต่ในปี 2572 ข้อตกลงเจรจาระหว่างไทย-มาเลเซีย ที่กำหนดพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลให้เป็นพื้นที่พัฒนาร่วมจะหมดอายุลง เกาะโลซินยังจะถูกเรียกเหมือนเดิมไหมไม่รู้ เพื่อนบ้านของเรา จะเปิดการเจรจาเพื่อตกลงผลประโยชน์ใหม่หรือเปล่า คงต้องรอกันจนถึงวันนั้น  และหากเรามาดูเป้าหมายของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน ที่อยากจะแบ่งแยกตั้งตัวเองเป็นรัฐใหม่ ซึ่งประกอบไปด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และอีกสามอำเภอของสงขลา โดยตั้งเป้าเอาไว้ว่า ในปี 2570 จะทำให้เกิดสงครามกลางเมือง จนแบ่งแยกดินแดนสำเร็จ ด้วยความช่วยเหลือจากนานาชาติ และนักการเมืองแนวร่วม ในปี 2580  ซึ่งหากกระทำการสำเร็จ เราจะไม่ได้เสียแค่ดินแดนบนผืนแผ่นดิน แต่เราจะสูญเสียเกาะโลซินที่รวมอยู่กับจังหวัดปัตตานี รวมถึงทรัพยากรแสนล้านใต้น่านน้ำอาณาเขต ที่เราได้จากการเป็นเจ้าของเกาะโลซินแห่งนี้ด้วยเช่นกัน https://www.facebook.com/share/p/1BdTQSpXHd/?mibextid=wwXIfr
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 405 มุมมอง 0 รีวิว
  • “Brake” vs. “Break”: Halt Everything And Learn The Difference

    Let’s hit the brakes and take a quick break to break down the difference between brake and break. We’ll answer all your questions, including:

    - Did we just use all of those words correctly?
    - What’s the difference between break and brake?
    - Is it break down or brake down?
    - Is it a break pedal or a brake pedal?

    In this article, we’ll cover multiple meanings of these two words, including their most common uses as both verbs and nouns as well as their use in several common phrases.

    Quick summary

    The verb break is the one used in the context of something being broken or divided into pieces or fragments. It’s also commonly used to refer to a rest period, which is the sense used in the phrase take a break. The noun brake is the one that refers to the device used to slow down vehicles like cars (in which it’s called the brake pedal) and bikes. As a verb, it means to use a brake to slow down or stop.

    break vs. brake

    The word break has many, many different meanings as both a noun and a verb. As a verb, break commonly means “to become or cause to be broken” (as in Please don’t break that lamp) or “to become or cause to be divided into pieces or fragments” (as in I’ll break it into two pieces so you can each have one).

    Break is an irregular verb: the past tense is broke and the past participle is broken. The continuous form is breaking.

    As a noun, break can refer to an instance of something being broken (as in Luckily it was a clean break) or the spot at which it has been broken (as in You can see the break in the glass right there). It also commonly refers to a pause from working or exertion (as in It’s almost time for a break). It has many other meanings, including the ones used in expressions like Make a break for it! and This is your big break!

    The word brake can also be used as a noun or a verb, but both usually relate to the same thing: slowing down or stopping a vehicle or a machine. The noun brake refers to the device that’s used to do this. In cars, this is sometimes called the brake pedal. In this sense, brake is often used in the plural, as in Hit the brakes! As a verb, brake most often means to slow or stop something using brakes, as in You should brake when you’re going down the hill.

    The past tense and past participle of brake is braked and the continuous form is braking.

    Looking for more? Review all the verb tenses here.

    The word break is used in many different common phrases such as break down, break off, break up, break in, and break out (and related noun phrases like breakdown and outbreak). The word brake is often used in figurative expressions related to slowing down or stopping something, as in Let’s hit the brakes for a moment and think about this.

    While break and brake aren’t commonly used in the same contexts, things could possibly get confusing when dealing with mechanical failures, such as when a vehicle’s brakes happen to … break.

    Take a brake? Or break?

    The commonly used phrase meaning “to take a pause from doing something” is take a break. This idiomatic expression uses the sense of break meaning “a brief rest.” This same sense is used in common phrases such as lunch break, coffee break, and snack break.

    breaking vs. braking

    Breaking is the continuous form of all of the many different senses of the verb break, including both literal ones (as in I keep breaking dishes) and more figurative ones (as in They’re breaking the rules).

    Braking is the continuous form of brake, as in You should be braking when you round the curves or Engineers are trained to start braking the train well before it reaches the station.

    Examples of brake and break used in a sentence

    Let’s break things down by looking at different examples of how we use break and brake in a sentence.

    - I used the hammer carefully so that I wouldn’t break the window.
    - The water was rushing in through the break in the wall.
    - He managed to brake the truck just in time.
    - The mechanic fixed a small flaw in the roller coaster’s brakes.
    - She didn’t intend to break the rules—she just needed to take a break. So let’s hit the brakes on any punishment.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    “Brake” vs. “Break”: Halt Everything And Learn The Difference Let’s hit the brakes and take a quick break to break down the difference between brake and break. We’ll answer all your questions, including: - Did we just use all of those words correctly? - What’s the difference between break and brake? - Is it break down or brake down? - Is it a break pedal or a brake pedal? In this article, we’ll cover multiple meanings of these two words, including their most common uses as both verbs and nouns as well as their use in several common phrases. Quick summary The verb break is the one used in the context of something being broken or divided into pieces or fragments. It’s also commonly used to refer to a rest period, which is the sense used in the phrase take a break. The noun brake is the one that refers to the device used to slow down vehicles like cars (in which it’s called the brake pedal) and bikes. As a verb, it means to use a brake to slow down or stop. break vs. brake The word break has many, many different meanings as both a noun and a verb. As a verb, break commonly means “to become or cause to be broken” (as in Please don’t break that lamp) or “to become or cause to be divided into pieces or fragments” (as in I’ll break it into two pieces so you can each have one). Break is an irregular verb: the past tense is broke and the past participle is broken. The continuous form is breaking. As a noun, break can refer to an instance of something being broken (as in Luckily it was a clean break) or the spot at which it has been broken (as in You can see the break in the glass right there). It also commonly refers to a pause from working or exertion (as in It’s almost time for a break). It has many other meanings, including the ones used in expressions like Make a break for it! and This is your big break! The word brake can also be used as a noun or a verb, but both usually relate to the same thing: slowing down or stopping a vehicle or a machine. The noun brake refers to the device that’s used to do this. In cars, this is sometimes called the brake pedal. In this sense, brake is often used in the plural, as in Hit the brakes! As a verb, brake most often means to slow or stop something using brakes, as in You should brake when you’re going down the hill. The past tense and past participle of brake is braked and the continuous form is braking. Looking for more? Review all the verb tenses here. The word break is used in many different common phrases such as break down, break off, break up, break in, and break out (and related noun phrases like breakdown and outbreak). The word brake is often used in figurative expressions related to slowing down or stopping something, as in Let’s hit the brakes for a moment and think about this. While break and brake aren’t commonly used in the same contexts, things could possibly get confusing when dealing with mechanical failures, such as when a vehicle’s brakes happen to … break. Take a brake? Or break? The commonly used phrase meaning “to take a pause from doing something” is take a break. This idiomatic expression uses the sense of break meaning “a brief rest.” This same sense is used in common phrases such as lunch break, coffee break, and snack break. breaking vs. braking Breaking is the continuous form of all of the many different senses of the verb break, including both literal ones (as in I keep breaking dishes) and more figurative ones (as in They’re breaking the rules). Braking is the continuous form of brake, as in You should be braking when you round the curves or Engineers are trained to start braking the train well before it reaches the station. Examples of brake and break used in a sentence Let’s break things down by looking at different examples of how we use break and brake in a sentence. - I used the hammer carefully so that I wouldn’t break the window. - The water was rushing in through the break in the wall. - He managed to brake the truck just in time. - The mechanic fixed a small flaw in the roller coaster’s brakes. - She didn’t intend to break the rules—she just needed to take a break. So let’s hit the brakes on any punishment. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 0 รีวิว
  • Colossus ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Elon Musk พร้อมใช้งานเต็มรูปแบบแล้ว Elon Musk ได้เปิดตัว Colossus ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ xAI ซึ่งตอนนี้ ทำงานเต็มรูปแบบด้วย 200,000 Nvidia H100 GPUs และใช้ แบตเตอรี่ Tesla Megapack เพื่อสำรองพลังงาน

    Colossus ตั้งอยู่ที่ Memphis Supercluster และได้รับพลังงาน 150 MW จาก Memphis Light, Gas, and Water (MLGW) และ Tennessee Valley Authority (TVA) พร้อมแบตเตอรี่สำรองอีก 150 MW ทำให้สามารถ ทำงานต่อเนื่องแม้เกิดไฟฟ้าดับ

    ✅ Colossus ใช้ 200,000 Nvidia H100 GPUs และแบตเตอรี่ Tesla Megapack
    - ช่วยให้ สามารถประมวลผล AI ได้อย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพ

    ✅ ได้รับพลังงาน 150 MW จาก MLGW และ TVA พร้อมแบตเตอรี่สำรองอีก 150 MW
    - ทำให้ สามารถทำงานต่อเนื่องแม้เกิดไฟฟ้าดับ

    ✅ Musk ต้องการขยายซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้มี 1 ล้าน GPUs
    - กำลังระดมทุนเพื่อ เพิ่มขนาดของ Memphis Supercluster

    ✅ TVA ใช้พลังงานหมุนเวียน 60% รวมถึงพลังงานน้ำ, แสงอาทิตย์, ลม และนิวเคลียร์
    - ทำให้ Colossus มีความยั่งยืนด้านพลังงานมากขึ้น

    ✅ การติดตั้ง Colossus ใช้เวลาเพียง 19 วัน ซึ่งเร็วกว่าปกติที่ใช้เวลาถึง 4 ปี
    - Nvidia CEO Jensen Huang กล่าวว่านี่เป็น ความเร็วที่น่าทึ่งในการตั้งค่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/musks-colossus-is-fully-operational-with-200-000-gpus-backed-by-tesla-batteries-phase-2-to-consume-300-mw-enough-to-power-300-000-homes
    Colossus ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Elon Musk พร้อมใช้งานเต็มรูปแบบแล้ว Elon Musk ได้เปิดตัว Colossus ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ xAI ซึ่งตอนนี้ ทำงานเต็มรูปแบบด้วย 200,000 Nvidia H100 GPUs และใช้ แบตเตอรี่ Tesla Megapack เพื่อสำรองพลังงาน Colossus ตั้งอยู่ที่ Memphis Supercluster และได้รับพลังงาน 150 MW จาก Memphis Light, Gas, and Water (MLGW) และ Tennessee Valley Authority (TVA) พร้อมแบตเตอรี่สำรองอีก 150 MW ทำให้สามารถ ทำงานต่อเนื่องแม้เกิดไฟฟ้าดับ ✅ Colossus ใช้ 200,000 Nvidia H100 GPUs และแบตเตอรี่ Tesla Megapack - ช่วยให้ สามารถประมวลผล AI ได้อย่างรวดเร็วและมีเสถียรภาพ ✅ ได้รับพลังงาน 150 MW จาก MLGW และ TVA พร้อมแบตเตอรี่สำรองอีก 150 MW - ทำให้ สามารถทำงานต่อเนื่องแม้เกิดไฟฟ้าดับ ✅ Musk ต้องการขยายซูเปอร์คอมพิวเตอร์ให้มี 1 ล้าน GPUs - กำลังระดมทุนเพื่อ เพิ่มขนาดของ Memphis Supercluster ✅ TVA ใช้พลังงานหมุนเวียน 60% รวมถึงพลังงานน้ำ, แสงอาทิตย์, ลม และนิวเคลียร์ - ทำให้ Colossus มีความยั่งยืนด้านพลังงานมากขึ้น ✅ การติดตั้ง Colossus ใช้เวลาเพียง 19 วัน ซึ่งเร็วกว่าปกติที่ใช้เวลาถึง 4 ปี - Nvidia CEO Jensen Huang กล่าวว่านี่เป็น ความเร็วที่น่าทึ่งในการตั้งค่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/musks-colossus-is-fully-operational-with-200-000-gpus-backed-by-tesla-batteries-phase-2-to-consume-300-mw-enough-to-power-300-000-homes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • Gigabyte ได้เปิดตัว AI TOP 100 Z890 Desktop PC ซึ่งเป็น คอมพิวเตอร์ระดับสูงที่ออกแบบมาสำหรับงาน AI และเกมมิ่ง โดยมาพร้อมกับ GeForce RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 285K

    นอกจากนี้ ระบบยังมี SSD Cache ขนาด 320GB ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้ การประมวลผล AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมกับ ระบบระบายความร้อน AORUS WATERFORCE II 360 ที่ช่วยให้ สามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่เกิดความร้อนสะสม

    ✅ มาพร้อมกับ GeForce RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 285K
    - รองรับ DLSS 4.0 และ Multi Frame Generation
    - เหมาะสำหรับ งาน AI และเกมมิ่งระดับสูง

    ✅ มี SSD Cache ขนาด 320GB และ AORUS Gen4 7300 SSD ขนาด 2TB
    - ช่วยให้ การประมวลผล AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
    - SSD มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าปกติถึง 150 เท่า

    ✅ รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย
    - มี Thunderbolt 5, USB 3.2 Gen 2, HDMI, DisplayPort และ Wi-Fi 7
    - รองรับ Linux และ Windows 11 Pro

    ✅ ระบบระบายความร้อน AORUS WATERFORCE II 360
    - ช่วยให้ สามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่เกิดความร้อนสะสม

    ✅ AI TOP Utility รองรับโมเดล AI ขนาด 405B parameters
    - มี เครื่องมือสำหรับการสร้างชุดข้อมูลและการตรวจสอบโมเดลแบบเรียลไทม์

    https://www.techradar.com/pro/gigabyte-jumps-on-the-ai-bandwagon-with-rtx5090-toting-desktop-pc-that-has-a-mysterious-320gb-cache-ssd
    Gigabyte ได้เปิดตัว AI TOP 100 Z890 Desktop PC ซึ่งเป็น คอมพิวเตอร์ระดับสูงที่ออกแบบมาสำหรับงาน AI และเกมมิ่ง โดยมาพร้อมกับ GeForce RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 285K นอกจากนี้ ระบบยังมี SSD Cache ขนาด 320GB ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยให้ การประมวลผล AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น พร้อมกับ ระบบระบายความร้อน AORUS WATERFORCE II 360 ที่ช่วยให้ สามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่เกิดความร้อนสะสม ✅ มาพร้อมกับ GeForce RTX 5090 และ Intel Core Ultra 9 285K - รองรับ DLSS 4.0 และ Multi Frame Generation - เหมาะสำหรับ งาน AI และเกมมิ่งระดับสูง ✅ มี SSD Cache ขนาด 320GB และ AORUS Gen4 7300 SSD ขนาด 2TB - ช่วยให้ การประมวลผล AI มีประสิทธิภาพสูงขึ้น - SSD มีอายุการใช้งานยาวนานกว่าปกติถึง 150 เท่า ✅ รองรับการเชื่อมต่อที่หลากหลาย - มี Thunderbolt 5, USB 3.2 Gen 2, HDMI, DisplayPort และ Wi-Fi 7 - รองรับ Linux และ Windows 11 Pro ✅ ระบบระบายความร้อน AORUS WATERFORCE II 360 - ช่วยให้ สามารถทำงานต่อเนื่องโดยไม่เกิดความร้อนสะสม ✅ AI TOP Utility รองรับโมเดล AI ขนาด 405B parameters - มี เครื่องมือสำหรับการสร้างชุดข้อมูลและการตรวจสอบโมเดลแบบเรียลไทม์ https://www.techradar.com/pro/gigabyte-jumps-on-the-ai-bandwagon-with-rtx5090-toting-desktop-pc-that-has-a-mysterious-320gb-cache-ssd
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย

    เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง

    ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต

    ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก

    The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต

    1. การวิเคราะห์สถานการณ์
    บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้:

    สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ

    ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม.
    ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล

    ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต.

    อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ

    กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง:

    กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ.

    กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย.

    กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน.

    กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล.

    แนวโน้มในอนาคต:
    การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา.

    ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่.

    ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว.

    ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ.

    ผลกระทบทางเศรษฐกิจ
    ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว

    รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม

    ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia.

    การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook

    การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง

    แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024.
    ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์

    ท่าทีของไทย
    ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ:

    การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC.

    ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center

    การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction.

    มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News.

    นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น.

    การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera.

    ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network.

    ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure.

    ข้อสรุป
    สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ


    การอ้างอิง:
    Laotian Civil War - Wikipedia
    Insurgency in Laos - Wikipedia
    Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations
    Assessment for Hmong in Laos | Refworld
    Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica
    From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters
    Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR
    Laos country profile - BBC News
    Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations
    Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post
    Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic
    Laos | AP News






    ชนวนปะทุเดือดชายแดนไทย-สปป.ลาว ความสุ่มเสี่ยงความมั่นคงลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนที่จะลุกลามรอบไทย เสียงปืนลั่นแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย และนับเป็นปัญหาเฉพาะในแผ่นดินลาวที่ไม่ได้มีชายแดนติดกับเมียนมาร์ การปะทะเริ่มเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ในฝั่ง สปป.ลาว บริเวณค่ายภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ปัจจุบันกรมทหารพรานที่ 31 และกองกำลังผาเมือง ตรึงกำลังเฝ้าระวัง ทั้งแถบชายแดนทยอดปิดแหล่งท่องเที่ยวจุดชมวิวภูชี้ฟ้า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย ตั้งแต่วันที่ 5 พฤษภาคม 68 เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะฝั่งตรงข้ามมีการใช้อาวุธปืนขนาด 7.62 ใช้สำหรับปืนอาก้า และอาวุธหนักกระทั่งมีเจ้าหน้าทีทหารของสปป.ลาวเสียชีวิต ความสุ่มเสี่ยงของสถานการณ์นี้คือจุดเริ่มที่ต้องสืบสาวหาต้นตอต้นเหตุ เพราะพื้นที่สถานการณ์ติดกับชายแดนไทยอย่างมาก The Analyzt ขอนำเสนอข้อมูลประกอบความเป็นไปได้ในการวิเคราะห์สถานการณ์นี้ที่จะส่งผลต่อความมั่นคงชายแดนฝั่งตะวันออกของไทยที่ติดกับจังหวัดเชียงราย ที่จะไม่เป็นผลดีต่อภาคเศรษฐกิจ ความมั่นคงในอนาคต 1. การวิเคราะห์สถานการณ์ บริบททางประวัติศาสตร์และสาเหตุที่อาจเป็นไปได้: สงครามกลางเมืองลาว (พ.ศ. 2502-2518): ในอดีต ลาวตอนเหนือเป็นพื้นที่ที่มีการสู้รบอย่างหนักระหว่างฝ่ายปะเทดลาว (คอมมิวนิสต์) และรัฐบาลราชอาณาจักรลาว โดยมีมหาอำนาจในสงครามเย็น (สหรัฐฯ และสหภาพโซเวีย ศูนย์กลางของการสู้รบอยู่ในพื้นที่เช่น แขวงเชียงขวาง ซึ่งกองพันปะเทดลาวเคยตั้งมั่น. สาเหตุหลักมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ระหว่างคอมมิวนิสต์และฝ่ายโลกเสรี รวมถึงการแทรกแซงจากต่างชาติ เช่น เวียดนามเหนือและสหรัฐฯ ความขัดแย้งชาติพันธุ์: ลาวตอนเหนือเป็นที่อยู่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์หลากหลาย เช่น ชาวม้ง ลาวสูง และอื่นๆ ซึ่งบางครั้งเกิดความขัดแย้งกับรัฐบาลกลางเนื่องจากความต้องการปกครองตนเองหรือความไม่เท่าเทียมทางเศรษฐกิจและสังคม. ยาเสพติดและการค้ามนุษย์: พื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงตอนบน โดยเฉพาะบริเวณสามเหลี่ยมทองคำ (รอยต่อระหว่างลาว เมียนมา และไทย) เป็นแหล่งผลิตและลักลอบขนส่งยาเสพติด เช่น ไอซ์และยาบ้า ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะระหว่างกลุ่มค้ายาและกองกำลังรัฐบาล ข้อพิพาทชายแดน: ความไม่ชัดเจนของเขตแดนในลุ่มแม่น้ำโขงระหว่างลาวและไทยอาจก่อให้เกิดความตึงเครียด โดยเฉพาะในพื้นที่เกาะกลางน้ำ ซึ่งเคยเกิดข้อพิพาทในอดีต. อิทธิพลจากเพื่อนบ้าน: สถานการณ์ในเมียนมา เช่น การสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกลุ่มชาติพันธุ์ (เช่น KIA, MNDAA) อาจส่งผลกระทบข้ามพรมแดนมายังลาวตอนเหนือ กลุ่มกองกำลังที่อาจเกี่ยวข้อง: กองทัพประชาชนลาว (LPAF): เป็นกองทัพอย่างเป็นทางการของลาว มีบทบาทในการรักษาความมั่นคงภายในและปกป้องพรมแดน อาจเกี่ยวข้องหากมีการปะทะกับกลุ่มค้ายาหรือกลุ่มกบฏ. กลุ่มชาติพันธุ์: เช่น ชาวม้งหรือกลุ่มลาวสูง ซึ่งในอดีตเคยต่อสู้เพื่อปกครองตนเอง อาจยังคงมีความเคลื่อนไหวในระดับเล็กน้อย. กลุ่มค้ายาเสพติด: กลุ่มอาชญากรข้ามชาติที่ใช้ลาวตอนเหนือเป็นเส้นทางลำเลียงยาเสพติด มักปะทะกับกองกำลังรัฐบาลหรือทหารไทยบริเวณชายแดน. กลุ่มกบฏหรือกลุ่มต่อต้านรัฐบาล: แม้ว่าปะเทดลาวจะสิ้นสุดบทบาทในฐานะกองกำลังติดอาวุธหลังสงครามกลางเมือง แต่กลุ่มเล็กๆ ที่ไม่พอใจรัฐบาลอาจยังคงเคลื่อนไหวในพื้นที่ห่างไกล. แนวโน้มในอนาคต: การปะทะจากยาเสพติด: พื้นที่สามเหลี่ยมทองคำและลุ่มแม่น้ำโขงตอนบนจะยังคงเป็นจุดร้อนของการค้ายา ซึ่งอาจนำไปสู่การปะทะเป็นระยะๆ ระหว่างกองกำลังรัฐบาลและกลุ่มค้ายา. ผลกระทบจากเมียนมา: หากสถานการณ์ในเมียนมา (เช่น ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตร 3 พี่น้อง) ทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้กลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนเข้าสู่ลาว สร้างความตึงเครียดในพื้นที่. ความร่วมมือในภูมิภาค: ลาวอาจเพิ่มความร่วมมือกับจีนและไทยในการควบคุมยาเสพติดและความมั่นคงชายแดน ซึ่งอาจลดการปะทะในระยะยาว. ข้อพิพาทแม่น้ำโขง: ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนในแม่น้ำโขงอาจทวีความรุนแรงหากมีการอ้างสิทธิ์ในเกาะกลางน้ำหรือทรัพยากรในแม่น้ำ. ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ความเชื่อมโยงด้านพลังงานระหว่างลาวและไทยเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ แต่ปัญหาหนี้สินของลาวและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากเขื่อนอาจเป็นความเสี่ยงในระยะยาว รายงานระบุว่าลาวมีหนี้สูงและต้องชำระหนี้ต่อจีน ซึ่งอาจกระทบต่อความสามารถในการผลิตไฟฟ้า Opportunities for Development Cooperation in Lao Strategic Sectors | CSIS. นอกจากนี้ การอพยพแรงงานจากลาวอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานในไทย แต่ก็อาจสร้างความตึงเครียดทางสังคม ความเชื่อมโยงทางพลังงาน: ลาวถูกเรียกว่า "แบตเตอรี่ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้" เนื่องจากส่งออกไฟฟ้าจากเขื่อนไฮโดรพาวเวอร์ไปยังไทยเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย Energy in Laos - Wikipedia. การค้าข้ามพรมแดน: ลาวและไทยมีความเชื่อมโยงผ่านการค้าข้ามพรมแดน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและสินค้าอุปโภคบริโภค หากลาวประสบปัญหาเศรษฐกิจ เช่น การลดลงของการลงทุนหรือการชะลอตัวของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อาจส่งผลให้การค้าข้ามพรมแดนลดลง ซึ่งจะกระทบต่อเศรษฐกิจของชุมชนในพื้นที่ชายแดนของไทย เช่น จังหวัดเชียงรายและหนองคาย Laos - The World Factbook การปรับตัวของระบบการค้าในภูมิภาคอาจเกิดการปรับเปลี่ยนเส้นทางการค้าและการลงทุนไทยอาจลดการพึ่งพาเส้นทางผ่านลาวไปยังจีน โดยหันไปใช้เส้นทางอื่นมากขึ้นอาจมีการพัฒนาเส้นทางการค้าทางทะเลเพิ่มเติมเพื่อลดความเสี่ยง แรงงานข้ามชาติ: ปัญหาเศรษฐกิจในลาวอาจทำให้มีแรงงานชาวลาวเข้ามาทำงานในไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในภาคเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งอาจช่วยลดต้นทุนแรงงานให้กับนายจ้างไทย แต่ในทางกลับกันอาจสร้างความตึงเครียดทางสังคมและแรงกดดันต่อระบบสวัสดิการของไทย BTI 2024 Laos Country Report: BTI 2024. ท่าทีของไทยและการประเมินสถานการณ์ ท่าทีของไทย ไทยมีแนวโน้มร่วมมือกับลาวในการแก้ไขปัญหาความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ: การปราบปรามยาเสพติด: ไทยและลาวมีความร่วมมือกันในการปราบปรามยาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำ เช่น การจัดตั้งจุดตรวจชายแดนร่วมและการลาดตระเวนร่วม Fighting drug trafficking in the Golden Triangle: a UN Resident Coordinator blog | UN News. นอกจากนี้ ไทยยังทำงานร่วมกับองค์กรระหว่างประเทศ เช่น UNODC เพื่อลดการลักลอบขนยา Thai authorities and UNODC meet about precursor chemical trafficking in the Golden Triangle - UNODC. ความร่วมมือด้านพลังงาน: ไทยยังคงเป็นตลาดหลักในการซื้อไฟฟ้าจากลาว และอาจผลักดันการพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนร่วมกันเพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม Alternative Development Pathways for Thailand’s Sustainable Electricity Trade with Laos • Stimson Center การเตรียมพร้อมรับมือ: ไทยควรเพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันชายแดน เช่น การติดตั้งกล้องวงจรปิดและเพิ่มกำลังทหารในพื้นที่ชายแดน เพื่อป้องกันผลกระทบจากความไม่สงบในลาว Guide to Investigating Organized Crime in the Golden Triangle — Introduction. มิติความมั่นคง: ดูเหมือนว่าปัญหายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีการผลิตและลักลอบขนส่งเพิ่มขึ้น รายงานระบุว่ากลุ่มเครือข่ายค้ายาเสพติดสามารถปรับตัวได้รวดเร็ว เช่น การเปลี่ยนเส้นทางผ่านลาวและกลับเข้ามาในไทย Asia's infamous Golden Triangle and the soldiers tracking down the drug smugglers who rule its narcotics trade - ABC News. นอกจากนี้ หากสถานการณ์ในเมียนมาทวีความรุนแรง อาจส่งผลให้มีกลุ่มชาติพันธุ์หรือผู้ลี้ภัยเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนมายังไทยเพิ่มขึ้น. การค้ายาเสพติด: ดูเหมือนว่าการค้ายาเสพติดในสามเหลี่ยมทองคำจะยังคงเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อ โดยเฉพาะยาเสพติดสังเคราะห์ที่มีตลาดเพิ่มขึ้นในภูมิภาค Q&A: The opium surge in Southeast Asia’s ‘Golden Triangle’ | Drugs News | Al Jazeera. ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ไทยและลาวจะยังคงมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะด้านพลังงาน แต่ไทยควรพิจารณาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจากโครงการเขื่อนในลาวด้วย Locked In – Why Thailand Buys Electricity from Laos | Earth Journalism Network. ความมั่นคงชายแดน: ไทยควรเสริมสร้างความร่วมมือกับลาวและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ เช่น เมียนมาและจีน เพื่อรับมือกับภัยคุกคามทางความมั่นคงข้ามพรมแดน Lao delegation explores renewable energy in Thailand | Partnerships for Infrastructure. ข้อสรุป สถานการณ์ในลาวตอนเหนือกำลังส่งผลกระทบและจะยังคงส่งผลต่อไทยในหลายมิติ หากประเมินแล้วสถานการณ์ในลาวตอนเหนือมีผลกระทบต่อไทยทั้งด้านความมั่นคงและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากการค้ายาเสพติดและความเชื่อมโยงด้านพลังงาน ไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการป้องกันภัยคุกคามข้ามพรมแดนและพิจารณาผลกระทบจากโครงการพัฒนาในลาวอย่างรอบคอบ เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศ การอ้างอิง: Laotian Civil War - Wikipedia Insurgency in Laos - Wikipedia Unprecedented Protests Are Putting Laos in Uncharted Waters | Council on Foreign Relations Assessment for Hmong in Laos | Refworld Laos | History, Flag, Map, Capital, Population, & Facts | Britannica From jungles to suburbs, warlord led Hmong struggle | Reuters Apocalypse Laos: The devastating legacy of the ‘Secret War’ | CEPR Laos country profile - BBC News Violence Flares in Laos | Council on Foreign Relations Laos: Latest News and Updates | South China Morning Post Collateral Damage: The Legacy of the Secret War in Laos | The Economic Journal | Oxford Academic Laos | AP News
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 834 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้เปิดตัว RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งเป็น GPU ระดับเวิร์กสเตชัน ที่มาพร้อมกับ 24,064 CUDA Cores และ GDDR7 96GB โดยออกแบบมาเพื่อรองรับ AI, การเรนเดอร์ 3D และงานคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง

    RTX Pro 6000 Blackwell มีราคาสูงถึง $11,000 ซึ่งมากกว่ารุ่น RTX 5090 ถึงสามเท่า แม้ว่าจะมี CUDA Cores มากกว่าและหน่วยความจำที่ใหญ่กว่า แต่ผลการทดสอบเบื้องต้นพบว่า ประสิทธิภาพยังไม่เหนือกว่า RTX 5090 อย่างชัดเจน เนื่องจากข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์และการเข้าถึงหน่วยความจำ

    ✅ RTX Pro 6000 Blackwell เป็น GPU ระดับเวิร์กสเตชัน
    - ใช้ GB202 Chip พร้อม 24,064 CUDA Cores
    - มี GDDR7 96GB และ Boost Clock 2,617MHz

    ✅ เปรียบเทียบกับ RTX 5090
    - RTX 5090 มี 21,760 CUDA Cores และ GDDR7 32GB
    - RTX Pro 6000 มี CUDA Cores มากกว่า แต่ผลการทดสอบยังไม่เหนือกว่าอย่างชัดเจน

    ✅ ผลการทดสอบเบื้องต้น
    - RTX Pro 6000 ทำคะแนน 368,219 ใน Geekbench OpenCL Benchmark
    - RTX 5090 ทำคะแนน 376,858 ซึ่งสูงกว่าเล็กน้อย

    ✅ ราคาและการวางจำหน่าย
    - ราคาสูงถึง $11,000 ในญี่ปุ่นและยุโรป
    - มีจำหน่ายผ่าน PNY และผู้ค้าปลีกระดับองค์กร

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-pro-6000-blackwell-appears-online-with-an-eye-watering-price-tag-of-over-usd11-000
    Nvidia ได้เปิดตัว RTX Pro 6000 Blackwell ซึ่งเป็น GPU ระดับเวิร์กสเตชัน ที่มาพร้อมกับ 24,064 CUDA Cores และ GDDR7 96GB โดยออกแบบมาเพื่อรองรับ AI, การเรนเดอร์ 3D และงานคอมพิวเตอร์ประสิทธิภาพสูง RTX Pro 6000 Blackwell มีราคาสูงถึง $11,000 ซึ่งมากกว่ารุ่น RTX 5090 ถึงสามเท่า แม้ว่าจะมี CUDA Cores มากกว่าและหน่วยความจำที่ใหญ่กว่า แต่ผลการทดสอบเบื้องต้นพบว่า ประสิทธิภาพยังไม่เหนือกว่า RTX 5090 อย่างชัดเจน เนื่องจากข้อจำกัดด้านซอฟต์แวร์และการเข้าถึงหน่วยความจำ ✅ RTX Pro 6000 Blackwell เป็น GPU ระดับเวิร์กสเตชัน - ใช้ GB202 Chip พร้อม 24,064 CUDA Cores - มี GDDR7 96GB และ Boost Clock 2,617MHz ✅ เปรียบเทียบกับ RTX 5090 - RTX 5090 มี 21,760 CUDA Cores และ GDDR7 32GB - RTX Pro 6000 มี CUDA Cores มากกว่า แต่ผลการทดสอบยังไม่เหนือกว่าอย่างชัดเจน ✅ ผลการทดสอบเบื้องต้น - RTX Pro 6000 ทำคะแนน 368,219 ใน Geekbench OpenCL Benchmark - RTX 5090 ทำคะแนน 376,858 ซึ่งสูงกว่าเล็กน้อย ✅ ราคาและการวางจำหน่าย - ราคาสูงถึง $11,000 ในญี่ปุ่นและยุโรป - มีจำหน่ายผ่าน PNY และผู้ค้าปลีกระดับองค์กร https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-rtx-pro-6000-blackwell-appears-online-with-an-eye-watering-price-tag-of-over-usd11-000
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Nvidia RTX Pro 6000 Blackwell appears online with an eye-watering price tag of over $11,000
    Over three-times the cost of a price-inflated RTX 5090, but it has more CUDA cores and a massive 96GB of GDDR7 memory.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 141 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัว 100 Zeros ซึ่งเป็นโครงการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ใหม่ โดยร่วมมือกับ Range Media Partners ซึ่งเป็นบริษัทด้านความสามารถและการผลิตที่มีผลงานในภาพยนตร์ เช่น A Complete Unknown และ Longlegs

    โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อ สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่สามารถใช้เทคโนโลยี AI และ Spatial Computing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผสานโลกจริงกับโลกเสมือน นอกจากนี้ Google ยังต้องการ เพิ่มการยอมรับและการใช้งานบริการใหม่ ๆ เช่น Gemini ซึ่งเป็นคู่แข่งของ ChatGPT

    แม้ว่าจะมีการลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิง แต่ Google ไม่ได้วางแผนให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักในการเผยแพร่ผลงานของ 100 Zeros โดยตั้งเป้าหมายที่จะ ขายโปรเจกต์ให้กับสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix

    ✅ Google เปิดตัวโครงการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ใหม่
    - ร่วมมือกับ Range Media Partners
    - สนับสนุน การใช้เทคโนโลยี AI และ Spatial Computing

    ✅ เป้าหมายของโครงการ
    - เพิ่มการยอมรับและการใช้งาน บริการใหม่ ๆ เช่น Gemini
    - สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย

    ✅ ตัวอย่างภาพยนตร์ที่ได้รับการสนับสนุน
    - Cuckoo ซึ่งเป็นภาพยนตร์สยองขวัญอินดี้
    - Sweetwater และ LUCID ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับ AI

    ✅ Google ไม่ได้วางแผนให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักของโครงการ
    - ตั้งเป้าหมายที่จะ ขายโปรเจกต์ให้กับสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/google-has-launched-new-film-and-tv-production-wing-business-insider-reports
    Google ได้เปิดตัว 100 Zeros ซึ่งเป็นโครงการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ใหม่ โดยร่วมมือกับ Range Media Partners ซึ่งเป็นบริษัทด้านความสามารถและการผลิตที่มีผลงานในภาพยนตร์ เช่น A Complete Unknown และ Longlegs โครงการนี้มีเป้าหมายเพื่อ สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่สามารถใช้เทคโนโลยี AI และ Spatial Computing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ผสานโลกจริงกับโลกเสมือน นอกจากนี้ Google ยังต้องการ เพิ่มการยอมรับและการใช้งานบริการใหม่ ๆ เช่น Gemini ซึ่งเป็นคู่แข่งของ ChatGPT แม้ว่าจะมีการลงทุนในอุตสาหกรรมบันเทิง แต่ Google ไม่ได้วางแผนให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักในการเผยแพร่ผลงานของ 100 Zeros โดยตั้งเป้าหมายที่จะ ขายโปรเจกต์ให้กับสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix ✅ Google เปิดตัวโครงการผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ใหม่ - ร่วมมือกับ Range Media Partners - สนับสนุน การใช้เทคโนโลยี AI และ Spatial Computing ✅ เป้าหมายของโครงการ - เพิ่มการยอมรับและการใช้งาน บริการใหม่ ๆ เช่น Gemini - สนับสนุนการผลิตภาพยนตร์ที่ใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ✅ ตัวอย่างภาพยนตร์ที่ได้รับการสนับสนุน - Cuckoo ซึ่งเป็นภาพยนตร์สยองขวัญอินดี้ - Sweetwater และ LUCID ซึ่งเป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับ AI ✅ Google ไม่ได้วางแผนให้ YouTube เป็นแพลตฟอร์มหลักของโครงการ - ตั้งเป้าหมายที่จะ ขายโปรเจกต์ให้กับสตูดิโอและแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง เช่น Netflix https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/06/google-has-launched-new-film-and-tv-production-wing-business-insider-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Google has launched new film and TV production wing, Business Insider reports
    (Reuters) -Google has launched a new film and TV production initiative to scout projects it could fund or co-produce, Business Insider reported, a move that could help it capitalize on an industry reeling from rising production costs and potential U.S. tariffs.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • Cerabyte บริษัทสตาร์ทอัพด้านการจัดเก็บข้อมูล ได้เผยแพร่วิดีโอทดสอบความทนทานของ สื่อจัดเก็บข้อมูลแบบแก้วเซรามิก โดยนำไป ต้มในน้ำเกลือเดือด และ อบในเตาอบที่อุณหภูมิสูง เพื่อพิสูจน์ว่า ข้อมูลยังคงอยู่ครบถ้วนแม้ผ่านการทดสอบสุดโหด

    Cerabyte อ้างว่า สื่อจัดเก็บข้อมูลนี้สามารถคงอยู่ได้นานถึง 5,000 ปี และมีความทนทานต่อ ไฟ, น้ำ, รังสี และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMP) ซึ่งอาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับ การจัดเก็บข้อมูลระยะยาว

    ✅ การทดสอบความทนทานของสื่อจัดเก็บข้อมูล
    - นำไป ต้มในน้ำเกลือเดือด (100°C) และ อบในเตาอบที่ 250°C
    - ข้อมูลยังคงอยู่ครบถ้วนหลังจากผ่านการทดสอบ

    ✅ เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบแก้วเซรามิก
    - ใช้ Femtosecond Laser ในการสร้างรูระดับนาโนบนแผ่นเซรามิก
    - Femtosecond Laser) เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่สามารถปล่อยพลังงานในช่วงเวลาสั้นมาก โดยมีความเร็วระดับ หนึ่งในพันล้านล้านวินาที (10⁻¹⁵ วินาที) หรือเฟมโตวินาที ซึ่งทำให้สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำโดยไม่สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ
    - แผ่นแก้วบางเฉียบขนาด 9 ซม. สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ 1GB ต่อด้าน

    ✅ ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม
    - ทนต่อ ไฟ, น้ำ, รังสี และ EMP
    - ไม่เสื่อมสภาพง่ายเหมือน ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD

    ✅ แผนการพัฒนาในอนาคต
    - ตั้งเป้าลดต้นทุนให้ต่ำกว่า $1 ต่อ TB ภายในปี 2030
    - พัฒนา CeraTape ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลระดับ Exabyte

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/firm-boils-storage-device-in-salt-water-then-grills-it-as-proof-of-durability-cerabytes-glass-storage-media-claimed-to-be-ultra-rugged
    Cerabyte บริษัทสตาร์ทอัพด้านการจัดเก็บข้อมูล ได้เผยแพร่วิดีโอทดสอบความทนทานของ สื่อจัดเก็บข้อมูลแบบแก้วเซรามิก โดยนำไป ต้มในน้ำเกลือเดือด และ อบในเตาอบที่อุณหภูมิสูง เพื่อพิสูจน์ว่า ข้อมูลยังคงอยู่ครบถ้วนแม้ผ่านการทดสอบสุดโหด Cerabyte อ้างว่า สื่อจัดเก็บข้อมูลนี้สามารถคงอยู่ได้นานถึง 5,000 ปี และมีความทนทานต่อ ไฟ, น้ำ, รังสี และคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMP) ซึ่งอาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับ การจัดเก็บข้อมูลระยะยาว ✅ การทดสอบความทนทานของสื่อจัดเก็บข้อมูล - นำไป ต้มในน้ำเกลือเดือด (100°C) และ อบในเตาอบที่ 250°C - ข้อมูลยังคงอยู่ครบถ้วนหลังจากผ่านการทดสอบ ✅ เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบแก้วเซรามิก - ใช้ Femtosecond Laser ในการสร้างรูระดับนาโนบนแผ่นเซรามิก - Femtosecond Laser) เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่สามารถปล่อยพลังงานในช่วงเวลาสั้นมาก โดยมีความเร็วระดับ หนึ่งในพันล้านล้านวินาที (10⁻¹⁵ วินาที) หรือเฟมโตวินาที ซึ่งทำให้สามารถทำงานได้อย่างแม่นยำโดยไม่สร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ - แผ่นแก้วบางเฉียบขนาด 9 ซม. สามารถจัดเก็บข้อมูลได้ 1GB ต่อด้าน ✅ ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม - ทนต่อ ไฟ, น้ำ, รังสี และ EMP - ไม่เสื่อมสภาพง่ายเหมือน ฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ✅ แผนการพัฒนาในอนาคต - ตั้งเป้าลดต้นทุนให้ต่ำกว่า $1 ต่อ TB ภายในปี 2030 - พัฒนา CeraTape ที่สามารถจัดเก็บข้อมูลระดับ Exabyte https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/firm-boils-storage-device-in-salt-water-then-grills-it-as-proof-of-durability-cerabytes-glass-storage-media-claimed-to-be-ultra-rugged
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Gemini ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขภาพได้โดยตรงภายในแอป ซึ่งเป็นการนำความสามารถด้านการปรับแต่งภาพมาไว้ในบทสนทนากับ AI

    ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขภาพที่สร้างขึ้นด้วย Gemini หรืออัปโหลดภาพจากโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์เพื่อปรับแต่งได้ โดยใช้ ข้อความคำสั่ง เช่น เปลี่ยนสีผมในภาพส่วนตัว เปลี่ยนพื้นหลัง หรือเพิ่มองค์ประกอบใหม่ๆ

    Google ระบุว่าฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่มีบริบทมากขึ้น โดยสามารถรวมข้อความและภาพเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ ภาพที่สร้างหรือแก้ไขโดย Gemini จะมี SynthID watermark แบบมองไม่เห็นเพื่อระบุว่าเป็นภาพที่สร้างโดย AI และ Google กำลังทดลองเพิ่ม watermark แบบมองเห็น ให้กับภาพทั้งหมดที่สร้างโดย Gemini

    ฟีเจอร์นี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้งานในกว่า 45 ภาษา และในหลายประเทศทั่วโลก แต่ยังไม่สามารถใช้ได้กับบัญชี Google Workspace หรือ Education

    ✅ การแก้ไขภาพโดยใช้ข้อความคำสั่ง
    - ผู้ใช้สามารถแก้ไขภาพที่สร้างด้วย Gemini หรืออัปโหลดภาพเพื่อปรับแต่ง
    - สามารถเปลี่ยนสีผม เปลี่ยนพื้นหลัง หรือเพิ่มองค์ประกอบใหม่ๆ

    ✅ การรวมข้อความและภาพในบทสนทนา
    - ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่มีบริบทมากขึ้น
    - สามารถสร้างภาพประกอบสำหรับเรื่องราวหรือเนื้อหาที่ต้องการ

    ✅ การใช้ SynthID watermark
    - ภาพที่สร้างหรือแก้ไขโดย Gemini จะมี SynthID watermark แบบมองไม่เห็น
    - Google กำลังทดลองเพิ่ม watermark แบบมองเห็นให้กับภาพทั้งหมด

    ✅ การเปิดใช้งานทั่วโลก
    - ฟีเจอร์นี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้งานในกว่า 45 ภาษา
    - ยังไม่สามารถใช้ได้กับบัญชี Google Workspace หรือ Education

    https://www.neowin.net/news/the-gemini-app-now-lets-you-edit-images-directly/
    Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Gemini ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขภาพได้โดยตรงภายในแอป ซึ่งเป็นการนำความสามารถด้านการปรับแต่งภาพมาไว้ในบทสนทนากับ AI ฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแก้ไขภาพที่สร้างขึ้นด้วย Gemini หรืออัปโหลดภาพจากโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์เพื่อปรับแต่งได้ โดยใช้ ข้อความคำสั่ง เช่น เปลี่ยนสีผมในภาพส่วนตัว เปลี่ยนพื้นหลัง หรือเพิ่มองค์ประกอบใหม่ๆ Google ระบุว่าฟีเจอร์นี้ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่มีบริบทมากขึ้น โดยสามารถรวมข้อความและภาพเข้าด้วยกัน นอกจากนี้ ภาพที่สร้างหรือแก้ไขโดย Gemini จะมี SynthID watermark แบบมองไม่เห็นเพื่อระบุว่าเป็นภาพที่สร้างโดย AI และ Google กำลังทดลองเพิ่ม watermark แบบมองเห็น ให้กับภาพทั้งหมดที่สร้างโดย Gemini ฟีเจอร์นี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้งานในกว่า 45 ภาษา และในหลายประเทศทั่วโลก แต่ยังไม่สามารถใช้ได้กับบัญชี Google Workspace หรือ Education ✅ การแก้ไขภาพโดยใช้ข้อความคำสั่ง - ผู้ใช้สามารถแก้ไขภาพที่สร้างด้วย Gemini หรืออัปโหลดภาพเพื่อปรับแต่ง - สามารถเปลี่ยนสีผม เปลี่ยนพื้นหลัง หรือเพิ่มองค์ประกอบใหม่ๆ ✅ การรวมข้อความและภาพในบทสนทนา - ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคำตอบที่มีบริบทมากขึ้น - สามารถสร้างภาพประกอบสำหรับเรื่องราวหรือเนื้อหาที่ต้องการ ✅ การใช้ SynthID watermark - ภาพที่สร้างหรือแก้ไขโดย Gemini จะมี SynthID watermark แบบมองไม่เห็น - Google กำลังทดลองเพิ่ม watermark แบบมองเห็นให้กับภาพทั้งหมด ✅ การเปิดใช้งานทั่วโลก - ฟีเจอร์นี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้งานในกว่า 45 ภาษา - ยังไม่สามารถใช้ได้กับบัญชี Google Workspace หรือ Education https://www.neowin.net/news/the-gemini-app-now-lets-you-edit-images-directly/
    WWW.NEOWIN.NET
    The Gemini app now lets you edit images directly
    Do you use the Gemini chatbot? Google says it is now possible to edit images just by using text prompts.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการค้นพบที่สำคัญเกี่ยวกับการสร้างน้ำบนดวงจันทร์ โดย NASA ได้ยืนยันว่าลมสุริยะ (Solar Wind) มีบทบาทสำคัญในการสร้างโมเลกุลน้ำบนพื้นผิวดวงจันทร์ การค้นพบนี้เกิดจากการทดลองที่จำลองสภาพแวดล้อมของดวงจันทร์ในห้องปฏิบัติการ โดยใช้ดินจากดวงจันทร์ที่เก็บมาจากภารกิจ Apollo 17 ในปี 1972

    ลมสุริยะซึ่งประกอบด้วยโปรตอนที่เดินทางด้วยความเร็วสูงกว่า 1 ล้านไมล์ต่อชั่วโมง จะชนกับดินบนดวงจันทร์และเปลี่ยนโปรตอนเป็นอะตอมไฮโดรเจน จากนั้นไฮโดรเจนจะจับกับอะตอมออกซิเจนในแร่ธาตุของดวงจันทร์ เช่น ซิลิกา เพื่อสร้างโมเลกุลน้ำและไฮดรอกซิล

    การค้นพบนี้มีความสำคัญต่อโครงการ Artemis ของ NASA ที่มุ่งเน้นการสร้างฐานมนุษย์บนดวงจันทร์ โดยน้ำที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนี้สามารถนำไปใช้เป็นทรัพยากรที่ยั่งยืนสำหรับการดื่ม การผลิตออกซิเจน และเชื้อเพลิงจรวด

    ✅ บทบาทของลมสุริยะ
    - ลมสุริยะชนกับดินบนดวงจันทร์และเปลี่ยนโปรตอนเป็นอะตอมไฮโดรเจน
    - ไฮโดรเจนจับกับออกซิเจนในแร่ธาตุเพื่อสร้างโมเลกุลน้ำและไฮดรอกซิล

    ✅ การทดลองของ NASA
    - ใช้ดินจากดวงจันทร์ที่เก็บมาจากภารกิจ Apollo 17
    - จำลองสภาพแวดล้อมของดวงจันทร์ในห้องปฏิบัติการ

    ✅ ผลกระทบต่อโครงการ Artemis
    - น้ำที่เกิดขึ้นสามารถนำไปใช้เป็นทรัพยากรที่ยั่งยืนสำหรับการดื่ม การผลิตออกซิเจน และเชื้อเพลิงจรวด
    - ช่วยสนับสนุนการสร้างฐานมนุษย์บนดวงจันทร์

    ✅ ความสำคัญของการค้นพบ
    - ยืนยันว่าลมสุริยะเป็นแหล่งสำคัญในการสร้างน้ำบนดวงจันทร์
    - ช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรบนดวงจันทร์

    https://www.techspot.com/news/107714-moon-surface-can-make-water-thanks-solar-wind.html
    บทความนี้กล่าวถึงการค้นพบที่สำคัญเกี่ยวกับการสร้างน้ำบนดวงจันทร์ โดย NASA ได้ยืนยันว่าลมสุริยะ (Solar Wind) มีบทบาทสำคัญในการสร้างโมเลกุลน้ำบนพื้นผิวดวงจันทร์ การค้นพบนี้เกิดจากการทดลองที่จำลองสภาพแวดล้อมของดวงจันทร์ในห้องปฏิบัติการ โดยใช้ดินจากดวงจันทร์ที่เก็บมาจากภารกิจ Apollo 17 ในปี 1972 ลมสุริยะซึ่งประกอบด้วยโปรตอนที่เดินทางด้วยความเร็วสูงกว่า 1 ล้านไมล์ต่อชั่วโมง จะชนกับดินบนดวงจันทร์และเปลี่ยนโปรตอนเป็นอะตอมไฮโดรเจน จากนั้นไฮโดรเจนจะจับกับอะตอมออกซิเจนในแร่ธาตุของดวงจันทร์ เช่น ซิลิกา เพื่อสร้างโมเลกุลน้ำและไฮดรอกซิล การค้นพบนี้มีความสำคัญต่อโครงการ Artemis ของ NASA ที่มุ่งเน้นการสร้างฐานมนุษย์บนดวงจันทร์ โดยน้ำที่เกิดขึ้นจากกระบวนการนี้สามารถนำไปใช้เป็นทรัพยากรที่ยั่งยืนสำหรับการดื่ม การผลิตออกซิเจน และเชื้อเพลิงจรวด ✅ บทบาทของลมสุริยะ - ลมสุริยะชนกับดินบนดวงจันทร์และเปลี่ยนโปรตอนเป็นอะตอมไฮโดรเจน - ไฮโดรเจนจับกับออกซิเจนในแร่ธาตุเพื่อสร้างโมเลกุลน้ำและไฮดรอกซิล ✅ การทดลองของ NASA - ใช้ดินจากดวงจันทร์ที่เก็บมาจากภารกิจ Apollo 17 - จำลองสภาพแวดล้อมของดวงจันทร์ในห้องปฏิบัติการ ✅ ผลกระทบต่อโครงการ Artemis - น้ำที่เกิดขึ้นสามารถนำไปใช้เป็นทรัพยากรที่ยั่งยืนสำหรับการดื่ม การผลิตออกซิเจน และเชื้อเพลิงจรวด - ช่วยสนับสนุนการสร้างฐานมนุษย์บนดวงจันทร์ ✅ ความสำคัญของการค้นพบ - ยืนยันว่าลมสุริยะเป็นแหล่งสำคัญในการสร้างน้ำบนดวงจันทร์ - ช่วยเพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ทรัพยากรบนดวงจันทร์ https://www.techspot.com/news/107714-moon-surface-can-make-water-thanks-solar-wind.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Moon's surface can make water thanks to solar wind, NASA experiment confirms
    The breakthrough comes from researchers at NASA's Goddard Space Flight Center, who set out to replicate the harsh lunar environment in the most realistic laboratory simulation to...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงปัญหาการใช้ AI ในการโกงการแข่งขันเขียนโค้ดที่มหาวิทยาลัย Waterloo ประเทศแคนาดา โดยการแข่งขัน Canadian Computing Competition (CCC) ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียงและช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ชนะเข้าสู่โปรแกรมคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย รวมถึงการเป็นตัวแทนของแคนาดาในเวทีระดับนานาชาติ

    ในปี 2025 มหาวิทยาลัยตัดสินใจไม่เผยแพร่ผลการแข่งขัน เนื่องจากพบว่ามีผู้เข้าร่วมใช้ AI ในการเขียนโค้ด ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎการแข่งขัน การใช้ AI เช่น Copilot ใน GitHub ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถโกงได้โดยไม่ต้องปิดโปรแกรม

    มหาวิทยาลัย Waterloo วางแผนที่จะเพิ่มมาตรการป้องกันในอนาคต เช่น การปรับปรุงเทคโนโลยี การเพิ่มการดูแล และการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างนักเรียนและครู

    ✅ การแข่งขัน Canadian Computing Competition (CCC)
    - เป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียงและช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ชนะเข้าสู่โปรแกรมคอมพิวเตอร์และวิศวกรรม
    - ผู้ชนะสามารถเป็นตัวแทนของแคนาดาในเวทีระดับนานาชาติ

    ✅ การใช้ AI ในการโกง
    - พบว่าผู้เข้าร่วมใช้ AI เช่น Copilot ใน GitHub ในการเขียนโค้ด
    - การใช้ AI ถือเป็นการละเมิดกฎการแข่งขัน

    ✅ มาตรการป้องกันในอนาคต
    - การปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อป้องกันการโกง
    - การเพิ่มการดูแลและการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างนักเรียนและครู

    ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขัน
    - มหาวิทยาลัยตัดสินใจไม่เผยแพร่ผลการแข่งขันในปี 2025

    https://www.techspot.com/news/107701-ai-cheating-forces-university-waterloo-withhold-coding-competition.html
    บทความนี้กล่าวถึงปัญหาการใช้ AI ในการโกงการแข่งขันเขียนโค้ดที่มหาวิทยาลัย Waterloo ประเทศแคนาดา โดยการแข่งขัน Canadian Computing Competition (CCC) ซึ่งเป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียงและช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ชนะเข้าสู่โปรแกรมคอมพิวเตอร์และวิศวกรรมที่มีชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย รวมถึงการเป็นตัวแทนของแคนาดาในเวทีระดับนานาชาติ ในปี 2025 มหาวิทยาลัยตัดสินใจไม่เผยแพร่ผลการแข่งขัน เนื่องจากพบว่ามีผู้เข้าร่วมใช้ AI ในการเขียนโค้ด ซึ่งถือเป็นการละเมิดกฎการแข่งขัน การใช้ AI เช่น Copilot ใน GitHub ทำให้ผู้เข้าร่วมสามารถโกงได้โดยไม่ต้องปิดโปรแกรม มหาวิทยาลัย Waterloo วางแผนที่จะเพิ่มมาตรการป้องกันในอนาคต เช่น การปรับปรุงเทคโนโลยี การเพิ่มการดูแล และการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างนักเรียนและครู ✅ การแข่งขัน Canadian Computing Competition (CCC) - เป็นการแข่งขันที่มีชื่อเสียงและช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ชนะเข้าสู่โปรแกรมคอมพิวเตอร์และวิศวกรรม - ผู้ชนะสามารถเป็นตัวแทนของแคนาดาในเวทีระดับนานาชาติ ✅ การใช้ AI ในการโกง - พบว่าผู้เข้าร่วมใช้ AI เช่น Copilot ใน GitHub ในการเขียนโค้ด - การใช้ AI ถือเป็นการละเมิดกฎการแข่งขัน ✅ มาตรการป้องกันในอนาคต - การปรับปรุงเทคโนโลยีเพื่อป้องกันการโกง - การเพิ่มการดูแลและการสื่อสารที่ชัดเจนระหว่างนักเรียนและครู ✅ ผลกระทบต่อการแข่งขัน - มหาวิทยาลัยตัดสินใจไม่เผยแพร่ผลการแข่งขันในปี 2025 https://www.techspot.com/news/107701-ai-cheating-forces-university-waterloo-withhold-coding-competition.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    University cancels publication of coding competition results over AI cheating fears
    Those who do well in the University of Waterloo's CCC are often accepted into the University's prestigious computing and engineering programs, or are even selected to represent...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการดัดแปลง Integrated Heat Spreader (IHS) ของ CPU Intel Core i9-14900KS ให้กลายเป็น water block สำหรับระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ โดย YouTuber ชาวจีนชื่อ octppus ได้ใช้เครื่อง CNC ในการแกะสลัก IHS เพื่อสร้างช่องทางน้ำที่เชื่อมต่อกัน พร้อมติดตั้งจุดเชื่อมต่อสำหรับน้ำเข้าและออก และปิดผนึกด้วยปะเก็นเพื่อป้องกันการรั่วซึม

    การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าการดัดแปลง IHS ช่วยลดระยะทางจาก die ของ CPU ไปยังน้ำหล่อเย็นถึง 4 เท่า ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนในบางสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม การออกแบบนี้ยังมีข้อจำกัด เช่น พื้นที่ผิวสัมผัสที่เล็กลงและการกระจายความร้อนที่ไม่สม่ำเสมอ

    แม้ว่าการดัดแปลงนี้จะไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการปรับแต่งฮาร์ดแวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    ✅ การออกแบบและการดัดแปลง
    - ใช้เครื่อง CNC ในการแกะสลัก IHS เพื่อสร้างช่องทางน้ำ
    - ติดตั้งจุดเชื่อมต่อสำหรับน้ำเข้าและออก พร้อมปิดผนึกด้วยปะเก็น

    ✅ ผลการทดลอง
    - ลดระยะทางจาก die ของ CPU ไปยังน้ำหล่อเย็นถึง 4 เท่า
    - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนในบางสถานการณ์

    ✅ ข้อจำกัดของการออกแบบ
    - พื้นที่ผิวสัมผัสเล็กลงและการกระจายความร้อนไม่สม่ำเสมอ
    - อุณหภูมิอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อความเร็วปั๊มน้ำลดลง

    ✅ ความน่าสนใจของการทดลอง
    - เป็นตัวอย่างของการปรับแต่งฮาร์ดแวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/core-i9-14900ks-heatspreader-transformed-into-cpu-water-block-clever-machining-yields-a-functioning-water-block
    มีการดัดแปลง Integrated Heat Spreader (IHS) ของ CPU Intel Core i9-14900KS ให้กลายเป็น water block สำหรับระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ โดย YouTuber ชาวจีนชื่อ octppus ได้ใช้เครื่อง CNC ในการแกะสลัก IHS เพื่อสร้างช่องทางน้ำที่เชื่อมต่อกัน พร้อมติดตั้งจุดเชื่อมต่อสำหรับน้ำเข้าและออก และปิดผนึกด้วยปะเก็นเพื่อป้องกันการรั่วซึม การทดลองนี้แสดงให้เห็นว่าการดัดแปลง IHS ช่วยลดระยะทางจาก die ของ CPU ไปยังน้ำหล่อเย็นถึง 4 เท่า ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนในบางสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม การออกแบบนี้ยังมีข้อจำกัด เช่น พื้นที่ผิวสัมผัสที่เล็กลงและการกระจายความร้อนที่ไม่สม่ำเสมอ แม้ว่าการดัดแปลงนี้จะไม่เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป แต่ก็เป็นตัวอย่างที่น่าสนใจของการปรับแต่งฮาร์ดแวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ✅ การออกแบบและการดัดแปลง - ใช้เครื่อง CNC ในการแกะสลัก IHS เพื่อสร้างช่องทางน้ำ - ติดตั้งจุดเชื่อมต่อสำหรับน้ำเข้าและออก พร้อมปิดผนึกด้วยปะเก็น ✅ ผลการทดลอง - ลดระยะทางจาก die ของ CPU ไปยังน้ำหล่อเย็นถึง 4 เท่า - ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อนในบางสถานการณ์ ✅ ข้อจำกัดของการออกแบบ - พื้นที่ผิวสัมผัสเล็กลงและการกระจายความร้อนไม่สม่ำเสมอ - อุณหภูมิอาจเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อความเร็วปั๊มน้ำลดลง ✅ ความน่าสนใจของการทดลอง - เป็นตัวอย่างของการปรับแต่งฮาร์ดแวร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/core-i9-14900ks-heatspreader-transformed-into-cpu-water-block-clever-machining-yields-a-functioning-water-block
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานที่มีอาวุธนิวเคลียร์ท้ังคู่กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลังเหตุก่อการร้ายในแค้วนแคชเมียร์ จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย


    👉 ปากีสถานประกาศ 'เขตห้ามบิน' (NO-FLY ZONE) บริเวณที่เรือบรรทุกเครื่องบินของอินเดียจอดลอยลำอยู่ นอกจากนี้ยังเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก

    ทางด้านอินเดียทะยอยออกมาตรการตอบโต้ปากีสถานดังต่อไปนี้:
    👉ระงับการดำเนินการตามสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960)
    👉ยกเลิกวีซ่าทั้งหมดของชาวปากีสถาน ส่งผลให้พลเมืองปากีสถานต้องออกจากอินเดียภายใน 48 ชั่วโมง
    👉ที่ปรึกษาฝ่ายกลาโหม ทหาร กองทัพเรือ และอากาศของสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานถูกสั่งให้ออกจากประเทศ
    👉สั่งปิดสถานทูตปากีสถาน
    👉สั่งปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border)
    👉นายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดีย ประกาศจะตามล่าและล้างแค้นการกระทำครั้งนี้ให้ถึงที่สุด

    สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอินเดียกับปากีสถานที่มีอาวุธนิวเคลียร์ท้ังคู่กำลังทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น หลังเหตุก่อการร้ายในแค้วนแคชเมียร์ จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย 👉 ปากีสถานประกาศ 'เขตห้ามบิน' (NO-FLY ZONE) บริเวณที่เรือบรรทุกเครื่องบินของอินเดียจอดลอยลำอยู่ นอกจากนี้ยังเรียกประชุมเจ้าหน้าที่ความมั่นคงที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนัก ทางด้านอินเดียทะยอยออกมาตรการตอบโต้ปากีสถานดังต่อไปนี้: 👉ระงับการดำเนินการตามสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960) 👉ยกเลิกวีซ่าทั้งหมดของชาวปากีสถาน ส่งผลให้พลเมืองปากีสถานต้องออกจากอินเดียภายใน 48 ชั่วโมง 👉ที่ปรึกษาฝ่ายกลาโหม ทหาร กองทัพเรือ และอากาศของสถานเอกอัครราชทูตปากีสถานถูกสั่งให้ออกจากประเทศ 👉สั่งปิดสถานทูตปากีสถาน 👉สั่งปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border) 👉นายกรัฐมนตรีโมดีของอินเดีย ประกาศจะตามล่าและล้างแค้นการกระทำครั้งนี้ให้ถึงที่สุด
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • อินเดียประกาศมาตรการตอบโต้ต่อปากีสถานหลังเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายต่อนักท่องเที่ยวชาวฮินดู จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย โดยผู้ก่อการร้ายเชื่อมโยงกับปากีสถาน:

    1. ยกเลิกวีซ่าสำหรับชาวปากีสถานทุกคน
    2. ระงับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960)
    3. ปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border)

    เมื่อวันอังคารที่ 22 เม.ย. เกิดเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บอีก 17 ราย ในแคว้นแคชเมียร์ ซึ่งถือเป็นเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับอินเดียในรอบเกือบ 20 ปี โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาวอินเดีย 25 คน และชาวเนปาลอีก 1 คน

    กลุ่มต่อต้านแห่งแคชเมียร์ (Kashmir Resistance) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีครั้งนี้ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยมีสาเหตุการโจมตีมาจากความไม่พอใจที่มีผู้คนต่างเชื้อชาติกว่า 85,000 คน อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในจัมมูและแคชเมียร์ จนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางค่านิยมเดิยของท้องถิ่น

    หน่วยงานความมั่นคงอินเดียระบุว่ากลุ่มก่อการร้าย Kashmir Resistance เป็นกองกำลังในสังกัดขององค์กรติดอาวุธในปากีสถานอย่าง Lashkar-e-Taiba และ Hizbul Mujahideen

    ทางด้านรัฐบาลปากีสถานไม่ได้ออกมาปฏิเสธอย่างเต็มตัว โดยพวกเขาอ้างว่าถึงความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้าย มีเพียงทางกาทูตเท่านั้น ไม่ได้มีการสนับสนุนด้านอาวุธแต่อย่างใด

    สำหรับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ปากีสถานเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า การยุติสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ (IWT) อาจเท่ากับการประกาศสงคราม

    สนธิสัญญาฉบับนี้ มีธนาคารโลกเป็นตัวกลางในการจัดสรรน้ำจากแม่น้ำ 6 สายหลักในลุ่มแม่น้ำสินธุ

    อินเดียควบคุมแม่น้ำสายตะวันออก (Sutlej, Beas, Ravi) โดยไม่มีข้อจำกัด ในขณะที่ปากีสถานมีสิทธิ์หลักเหนือแม่น้ำสายตะวันตก (Indus, Jhelum, Chenab) แม้ว่าอินเดียจะใช้แม่น้ำเหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การบริโภค เช่น พลังงานน้ำก็ตาม

    หากอินเดียเริ่มปิดกั้นการเข้าถึงน้ำจากแม่น้ำทั้ง 6 สาย ปากีสถานจะประสบกับวิกฤตขาดแคลนน้ำและเศรษฐกิจจะประสบปัญหาใหญ่เนื่องจากความต้องการน้ำของปากีสถาน 70% มาจากแม่น้ำเหล่านี้
    อินเดียประกาศมาตรการตอบโต้ต่อปากีสถานหลังเกิดเหตุการณ์ก่อการร้ายต่อนักท่องเที่ยวชาวฮินดู จนมีผู้เสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บ 17 ราย โดยผู้ก่อการร้ายเชื่อมโยงกับปากีสถาน: 1. ยกเลิกวีซ่าสำหรับชาวปากีสถานทุกคน 2. ระงับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ( Indus Waters Treaty 1960) 3. ปิดจุดผ่านแดนวากาห์ (Wagah border) เมื่อวันอังคารที่ 22 เม.ย. เกิดเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวเสียชีวิต 26 ราย บาดเจ็บอีก 17 ราย ในแคว้นแคชเมียร์ ซึ่งถือเป็นเหตุโจมตีครั้งเลวร้ายที่สุดที่เกิดขึ้นกับอินเดียในรอบเกือบ 20 ปี โดยผู้เสียชีวิตเป็นชาวอินเดีย 25 คน และชาวเนปาลอีก 1 คน กลุ่มต่อต้านแห่งแคชเมียร์ (Kashmir Resistance) ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีครั้งนี้ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยมีสาเหตุการโจมตีมาจากความไม่พอใจที่มีผู้คนต่างเชื้อชาติกว่า 85,000 คน อพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในจัมมูและแคชเมียร์ จนทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางค่านิยมเดิยของท้องถิ่น หน่วยงานความมั่นคงอินเดียระบุว่ากลุ่มก่อการร้าย Kashmir Resistance เป็นกองกำลังในสังกัดขององค์กรติดอาวุธในปากีสถานอย่าง Lashkar-e-Taiba และ Hizbul Mujahideen ทางด้านรัฐบาลปากีสถานไม่ได้ออกมาปฏิเสธอย่างเต็มตัว โดยพวกเขาอ้างว่าถึงความสัมพันธ์กับกลุ่มก่อการร้าย มีเพียงทางกาทูตเท่านั้น ไม่ได้มีการสนับสนุนด้านอาวุธแต่อย่างใด สำหรับสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ ปากีสถานเคยประกาศไว้ก่อนหน้านี้ว่า การยุติสนธิสัญญาอินดัสวอเทอร์ (IWT) อาจเท่ากับการประกาศสงคราม สนธิสัญญาฉบับนี้ มีธนาคารโลกเป็นตัวกลางในการจัดสรรน้ำจากแม่น้ำ 6 สายหลักในลุ่มแม่น้ำสินธุ อินเดียควบคุมแม่น้ำสายตะวันออก (Sutlej, Beas, Ravi) โดยไม่มีข้อจำกัด ในขณะที่ปากีสถานมีสิทธิ์หลักเหนือแม่น้ำสายตะวันตก (Indus, Jhelum, Chenab) แม้ว่าอินเดียจะใช้แม่น้ำเหล่านี้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นที่ไม่ใช่การบริโภค เช่น พลังงานน้ำก็ตาม หากอินเดียเริ่มปิดกั้นการเข้าถึงน้ำจากแม่น้ำทั้ง 6 สาย ปากีสถานจะประสบกับวิกฤตขาดแคลนน้ำและเศรษฐกิจจะประสบปัญหาใหญ่เนื่องจากความต้องการน้ำของปากีสถาน 70% มาจากแม่น้ำเหล่านี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 445 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้เปิดตัวระบบระบายความร้อนแบบใหม่ที่เรียกว่า Direct-to-Chip Liquid Cooling เพื่อแก้ปัญหาการใช้พลังงานและน้ำในศูนย์ข้อมูล AI โดยระบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ถึง 25 เท่า และลดการใช้น้ำได้ถึง 300 เท่า เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบระเหยทั่วไป อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ยังมีข้อจำกัดด้านการออกแบบและค่าใช้จ่ายที่สูง

    ✅ ระบบระบายความร้อนแบบ Direct-to-Chip Liquid Cooling
    - ใช้แผ่นเย็น (cold plates) ที่ติดตั้งบน GPU, CPU และส่วนประกอบที่สร้างความร้อน
    - ระบบนี้เป็นแบบวงจรปิด (closed-loop) ซึ่งช่วยลดการสูญเสียน้ำจากการระเหย

    ✅ ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในศูนย์ข้อมูล AI
    - ระบบนี้ช่วยลดความจำเป็นในการใช้เครื่องทำความเย็นแบบกลไก (mechanical chillers)
    - รองรับการใช้น้ำอุ่นในการระบายความร้อน ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน

    ✅ การออกแบบที่รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่
    - ใช้ตัวแลกเปลี่ยนความร้อนแบบของเหลวต่อของเหลว (liquid-to-liquid heat exchangers)
    - รองรับการจัดการความร้อนสูงถึง 2 เมกะวัตต์

    ✅ ความร่วมมือกับ Schneider Electric
    - Nvidia ได้พัฒนาการออกแบบร่วมกับ Schneider Electric เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกในการติดตั้ง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-aims-to-solve-ais-water-consumption-problems-with-direct-to-chip-cooling-claims-300x-improvement-with-closed-loop-systems
    Nvidia ได้เปิดตัวระบบระบายความร้อนแบบใหม่ที่เรียกว่า Direct-to-Chip Liquid Cooling เพื่อแก้ปัญหาการใช้พลังงานและน้ำในศูนย์ข้อมูล AI โดยระบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ถึง 25 เท่า และลดการใช้น้ำได้ถึง 300 เท่า เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบระเหยทั่วไป อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ยังมีข้อจำกัดด้านการออกแบบและค่าใช้จ่ายที่สูง ✅ ระบบระบายความร้อนแบบ Direct-to-Chip Liquid Cooling - ใช้แผ่นเย็น (cold plates) ที่ติดตั้งบน GPU, CPU และส่วนประกอบที่สร้างความร้อน - ระบบนี้เป็นแบบวงจรปิด (closed-loop) ซึ่งช่วยลดการสูญเสียน้ำจากการระเหย ✅ ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในศูนย์ข้อมูล AI - ระบบนี้ช่วยลดความจำเป็นในการใช้เครื่องทำความเย็นแบบกลไก (mechanical chillers) - รองรับการใช้น้ำอุ่นในการระบายความร้อน ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน ✅ การออกแบบที่รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ - ใช้ตัวแลกเปลี่ยนความร้อนแบบของเหลวต่อของเหลว (liquid-to-liquid heat exchangers) - รองรับการจัดการความร้อนสูงถึง 2 เมกะวัตต์ ✅ ความร่วมมือกับ Schneider Electric - Nvidia ได้พัฒนาการออกแบบร่วมกับ Schneider Electric เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกในการติดตั้ง https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-aims-to-solve-ais-water-consumption-problems-with-direct-to-chip-cooling-claims-300x-improvement-with-closed-loop-systems
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ เทคโนโลยีการผลิต 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำหน้าที่สุดของบริษัท โดยมีการปรับปรุงด้าน ประสิทธิภาพ, การใช้พลังงาน และความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ เมื่อเทียบกับ Intel 3 เทคโนโลยีนี้ใช้ RibbonFET (GAA) และ PowerVia (BSPDN) ซึ่งช่วยให้การส่งพลังงานมีเสถียรภาพมากขึ้น และลดปัญหา voltage droop ที่เกิดขึ้นในชิปประสิทธิภาพสูง

    ✅ Intel 18A มีการปรับปรุงด้านความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์กว่า 30%
    - ใช้เทคโนโลยี RibbonFET (GAA) และ PowerVia (BSPDN)
    - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พื้นที่น้อยลง

    ✅ Intel 18A มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 25% และใช้พลังงานน้อยลง 36%
    - ทดสอบบน Arm core sub-block ที่แรงดันไฟฟ้า 1.1V
    - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงาน

    ✅ Intel 18A มีความสามารถในการแข่งขันกับ TSMC N2
    - มีความหนาแน่นของ SRAM เทียบเท่ากับกระบวนการผลิต N2 ของ TSMC
    - แสดงให้เห็นว่า Intel สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกได้

    ✅ Intel 18A จะถูกนำไปใช้ในชิป Panther Lake และ Xeon "Clearwater Forest"
    - คาดว่าจะเริ่มใช้งานในผลิตภัณฑ์จริงภายในปี 2026

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-details-next-gen-18a-fab-tech-significantly-more-performance-lower-power-higher-density
    Intel ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ เทคโนโลยีการผลิต 18A ซึ่งเป็นกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำหน้าที่สุดของบริษัท โดยมีการปรับปรุงด้าน ประสิทธิภาพ, การใช้พลังงาน และความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ เมื่อเทียบกับ Intel 3 เทคโนโลยีนี้ใช้ RibbonFET (GAA) และ PowerVia (BSPDN) ซึ่งช่วยให้การส่งพลังงานมีเสถียรภาพมากขึ้น และลดปัญหา voltage droop ที่เกิดขึ้นในชิปประสิทธิภาพสูง ✅ Intel 18A มีการปรับปรุงด้านความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์กว่า 30% - ใช้เทคโนโลยี RibbonFET (GAA) และ PowerVia (BSPDN) - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พื้นที่น้อยลง ✅ Intel 18A มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 25% และใช้พลังงานน้อยลง 36% - ทดสอบบน Arm core sub-block ที่แรงดันไฟฟ้า 1.1V - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงาน ✅ Intel 18A มีความสามารถในการแข่งขันกับ TSMC N2 - มีความหนาแน่นของ SRAM เทียบเท่ากับกระบวนการผลิต N2 ของ TSMC - แสดงให้เห็นว่า Intel สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกได้ ✅ Intel 18A จะถูกนำไปใช้ในชิป Panther Lake และ Xeon "Clearwater Forest" - คาดว่าจะเริ่มใช้งานในผลิตภัณฑ์จริงภายในปี 2026 https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-details-next-gen-18a-fab-tech-significantly-more-performance-lower-power-higher-density
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ กระบวนการผลิต 18A ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำหน้าที่สุดของบริษัท โดยมีการปรับปรุงด้าน ประสิทธิภาพ, การใช้พลังงาน และความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ เมื่อเทียบกับ Intel 3 เทคโนโลยีนี้ใช้ PowerVia ซึ่งช่วยให้การส่งพลังงานมีเสถียรภาพมากขึ้น และช่วยลดปัญหา voltage droop ที่เกิดขึ้นในชิปประสิทธิภาพสูง

    ✅ Intel 18A มีการปรับปรุงด้านความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์กว่า 30%
    - ใช้เทคโนโลยี RibbonFET (GAA) และ PowerVia (BSPDN)
    - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พื้นที่น้อยลง

    ✅ Intel 18A มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 25% และใช้พลังงานน้อยลง 36%
    - ทดสอบบน Arm core sub-block ที่แรงดันไฟฟ้า 1.1V
    - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงาน

    ✅ Intel 18A มีความสามารถในการแข่งขันกับ TSMC N2
    - มีความหนาแน่นของ SRAM เทียบเท่ากับกระบวนการผลิต N2 ของ TSMC
    - แสดงให้เห็นว่า Intel สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกได้

    ✅ Intel 18A จะถูกนำไปใช้ในชิป Panther Lake และ Xeon "Clearwater Forest"
    - คาดว่าจะเริ่มใช้งานในผลิตภัณฑ์จริงภายในปี 2026

    https://wccftech.com/intels-18a-process-outperforms-intel-3-with-breakthrough-technologies/
    Intel ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับ กระบวนการผลิต 18A ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ที่ล้ำหน้าที่สุดของบริษัท โดยมีการปรับปรุงด้าน ประสิทธิภาพ, การใช้พลังงาน และความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์ เมื่อเทียบกับ Intel 3 เทคโนโลยีนี้ใช้ PowerVia ซึ่งช่วยให้การส่งพลังงานมีเสถียรภาพมากขึ้น และช่วยลดปัญหา voltage droop ที่เกิดขึ้นในชิปประสิทธิภาพสูง ✅ Intel 18A มีการปรับปรุงด้านความหนาแน่นของทรานซิสเตอร์กว่า 30% - ใช้เทคโนโลยี RibbonFET (GAA) และ PowerVia (BSPDN) - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและใช้พื้นที่น้อยลง ✅ Intel 18A มีประสิทธิภาพสูงขึ้น 25% และใช้พลังงานน้อยลง 36% - ทดสอบบน Arm core sub-block ที่แรงดันไฟฟ้า 1.1V - ช่วยให้สามารถออกแบบชิปที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นและประหยัดพลังงาน ✅ Intel 18A มีความสามารถในการแข่งขันกับ TSMC N2 - มีความหนาแน่นของ SRAM เทียบเท่ากับกระบวนการผลิต N2 ของ TSMC - แสดงให้เห็นว่า Intel สามารถแข่งขันกับผู้ผลิตชิปชั้นนำของโลกได้ ✅ Intel 18A จะถูกนำไปใช้ในชิป Panther Lake และ Xeon "Clearwater Forest" - คาดว่าจะเริ่มใช้งานในผลิตภัณฑ์จริงภายในปี 2026 https://wccftech.com/intels-18a-process-outperforms-intel-3-with-breakthrough-technologies/
    WCCFTECH.COM
    Intel's 18A Process Outperforms Intel 3 with Breakthrough Technologies; Superior PPA & Density Scaling Credits To PowerVia
    Intel's 18A process is by far one of the most anticipated ones in the industry, and Team Blue has shown intentions to take leadership status.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้รายงานเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้เครื่องมือ ClickFix ซึ่งพัฒนาโดยอาชญากรไซเบอร์และถูกนำไปใช้โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เช่น Kimsuky จากเกาหลีเหนือ, MuddyWater จากอิหร่าน และ APT28 จากรัสเซีย เครื่องมือนี้เป็นการพัฒนาจากเทคนิควิศวกรรมสังคมแบบเก่า โดยเริ่มต้นด้วยป๊อปอัปที่หลอกลวงให้ผู้ใช้ดำเนินการ เช่น การคัดลอกและวางคำสั่งในโปรแกรม Run ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถติดตั้งมัลแวร์ได้

    ✅ ClickFix เป็นเครื่องมือที่พัฒนาโดยอาชญากรไซเบอร์
    - ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคม เช่น ป๊อปอัปที่หลอกลวงให้ผู้ใช้ดำเนินการ
    - ผู้ใช้บางครั้งถูกขอให้ทำ CAPTCHA หรือยืนยันตัวตน

    ✅ กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐนำ ClickFix ไปใช้ในแคมเปญโจมตี
    - กลุ่มที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ Kimsuky, MuddyWater, และ APT28
    - การโจมตีส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการจารกรรมไซเบอร์

    ✅ ClickFix เป็นการพัฒนาจากเทคนิคหลอกลวงแบบเก่า
    - เดิมทีใช้ป๊อปอัปที่หลอกให้ดาวน์โหลดโปรแกรมแอนตี้ไวรัสปลอม
    - ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นการหลอกให้คัดลอกคำสั่งเพื่อรันในระบบ

    ✅ Proofpoint รายงานว่า ClickFix ถูกใช้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024
    - การโจมตีมุ่งเป้าไปที่องค์กรสำคัญ เช่น โครงสร้างพื้นฐานและหน่วยงานทางการทูต

    https://www.techradar.com/pro/security/state-sponsored-actors-spotted-using-clickfix-hacking-tool-developed-by-criminals
    บทความนี้รายงานเกี่ยวกับการโจมตีทางไซเบอร์ที่ใช้เครื่องมือ ClickFix ซึ่งพัฒนาโดยอาชญากรไซเบอร์และถูกนำไปใช้โดยกลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เช่น Kimsuky จากเกาหลีเหนือ, MuddyWater จากอิหร่าน และ APT28 จากรัสเซีย เครื่องมือนี้เป็นการพัฒนาจากเทคนิควิศวกรรมสังคมแบบเก่า โดยเริ่มต้นด้วยป๊อปอัปที่หลอกลวงให้ผู้ใช้ดำเนินการ เช่น การคัดลอกและวางคำสั่งในโปรแกรม Run ซึ่งช่วยให้แฮกเกอร์สามารถติดตั้งมัลแวร์ได้ ✅ ClickFix เป็นเครื่องมือที่พัฒนาโดยอาชญากรไซเบอร์ - ใช้เทคนิควิศวกรรมสังคม เช่น ป๊อปอัปที่หลอกลวงให้ผู้ใช้ดำเนินการ - ผู้ใช้บางครั้งถูกขอให้ทำ CAPTCHA หรือยืนยันตัวตน ✅ กลุ่มที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐนำ ClickFix ไปใช้ในแคมเปญโจมตี - กลุ่มที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ Kimsuky, MuddyWater, และ APT28 - การโจมตีส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการจารกรรมไซเบอร์ ✅ ClickFix เป็นการพัฒนาจากเทคนิคหลอกลวงแบบเก่า - เดิมทีใช้ป๊อปอัปที่หลอกให้ดาวน์โหลดโปรแกรมแอนตี้ไวรัสปลอม - ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นการหลอกให้คัดลอกคำสั่งเพื่อรันในระบบ ✅ Proofpoint รายงานว่า ClickFix ถูกใช้ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 - การโจมตีมุ่งเป้าไปที่องค์กรสำคัญ เช่น โครงสร้างพื้นฐานและหน่วยงานทางการทูต https://www.techradar.com/pro/security/state-sponsored-actors-spotted-using-clickfix-hacking-tool-developed-by-criminals
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts