• จับตา "การประชุมสองสภา 2025 " ในบริบทพลวัตด้านอำนาจของจีนที่เปลี่ยนไป #การประชุมสองสภา (Two sessions) กิจกรรมทางการเมืองซึ่งมีความสำคัญที่สุดในรอบปีของจีน จะเปิดฉากขึ้นด้วยการประชุมของ #สภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน ( CPPCC ) ในวันอังคาร ( 4 มี.ค.) ตามด้วยการประชุม #สภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ในวันพุธ ( 5 มี.ค.)การประชุมสองสภาถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเฝ้าสังเกตการณ์แผนพัฒนาของจีน โดยในปีนี้จะมีการพิจารณาทบทวน #แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีฉบับที่ 14 ( 2564-2568 ) เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายของประเทศต่อไปด้านนักวิเคราะห์มองว่า การประชุมสองสภาในปี 2568 เกิดขึ้นท่ามกลางบริบทที่พลวัตหรือพลังการเคลื่อนไหวทางอำนาจ ( #power dynamics) ระหว่างสหรัฐฯกับจีนมีความแตกต่างไปอย่างมากจากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งจีนประกาศยุทธศาสตร์การพัฒนาและเป็นช่วงรอยต่อระหว่างการสิ้นสุดวาระการบริหารประเทศของรัฐบาลประธานาธิบดี #โดนัลด์ ทรัมป์สมัยแรก การเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และการกลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยที่ 2 ของทรัมป์เมื่อเดือนมกราคมปีนี้แม้ทรัมป์และไบเดนขับเคี่ยวกันในทางการเมือง แต่ก็มีจุดยืนร่วมกันอย่างหนึ่งนั่นก็คือพยายามขัดขวางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีนทุกวิถีทาง สหรัฐฯ มีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรและข้อจำกัดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนต่อจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลี่ เฉิง อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์และผู้อำนวยการก่อตั้งศูนย์จีนร่วมสมัยและโลกแห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกงมองว่า แม้ความท้าทายทางเศรษฐกิจภายในประเทศและแรงกดดันจากภายนอกกำลังรุมเร้าจีน แต่การเปลี่ยนแปลงอำนาจบนเวทีโลกไปในทิศทางที่เอื้อต่อจีนนั้นปรากฏชัดเจนยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา“ตะวันออกกำลังรุ่งเรือง และตะวันตกกำลังเสื่อมถอย” ตามที่ชาวจีนหลายคนเชื่อนั้นคือสิ่งที่เรากำลังเห็นอยู่ในขณะนี้“จีนได้เปรียบตรงที่เน้นการพัฒนาในระยะยาวมากกว่าผลกำไรในระยะสั้น” อาจารย์เฉิงระบุตามรายงานเผยแพร่เมื่อปีที่แล้วของมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม ( Information Technology and Innovation Foundation) ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองในกรุงวอชิงตันนั้น ความพยายามที่ดำเนินมาหลายปีดูเหมือนว่าจะได้รับผลตอบแทนด้วยการที่จีนกลายเป็นผู้นำหรือคู่แข่งขันระดับโลกในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง 5 ภาคส่วน ได้แก่ หุ่นยนต์ พลังงานนิวเคลียร์ ยานยนต์ไฟฟ้า ปัญญาประดิษฐ์ และคอมพิวเตอร์ควอนตัม นอกจากนี้จีนยังกำลังตามทันในอีก 4 ด้าน ได้แก่ สารเคมี เครื่องมือเครื่องจักร ยาชีวเภสัชภัณฑ์ ( biopharmaceuticals ) และเซมิคอนดักเตอร์อี้ว์ โจว อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลกาภิวัตน์และเทคโนโลยีจีนประจำวิทยาลัยวาสซาร์ในสหรัฐฯ มองว่า การประกาศแผนยุทธศาสตร์ Made in China 2025 ของจีนเมื่อปี 2558 ทำให้ความสำเร็จด้านเทคโนโลยีของจีนได้ก้าวไปไกลเกินกว่าที่ใครๆ เคยคาดคิด และเกินความคาดหวังของผู้วางแผนยุทธศาสตร์เองในตอนนั้นด้วยซ้ำนอกจากนี้ จีนยังเพิ่มการใช้อุปกรณ์ขั้นสูง เช่น โดรน เพื่อเร่งขับเคลื่อนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยและใช้จุดยืนที่กล้าแสดงออกมากขึ้นในการเผชิญหน้าทางทะเลกับสหรัฐฯจึงคาดกันว่า ความพยายามในการรับมือกับนโยบายของทรัมป์และการพยายามรักษาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้เพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นวาระสำคัญในการประชุมสองสมัยครั้งนี้และด้วยบริบทของพลวัตทางอำนาจระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่เปลี่ยนไป จึงน่าจับตามองว่า ที่ประชุมจะมีการตัดสินใจและการประกาศนโยบายอย่างใดบ้างการตั้งเป้าหมายจีดีพีเติบโตเป็นหนึ่งในการตั้งเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่ถูกจับตามองมากที่สุด รวมถึงการประกาศมาตรการเชิงนโยบายของรัฐบาลที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการประกาศนโยบายด้านต่างประเทศ นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์ ( เอไอ ) และนวัตกรรม นโยบายที่คาดว่าจะประกาศเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อชีวิตของชาวจีน 1,400 ล้านคนและส่งกระทบต่อต่างชาติด้วยอย่างแน่นอนที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ /โกลบอลไทมส์ภาพประกอบข่าว1 ภาพ : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์2 นักข่าวกำลังทำงานที่ศูนย์สื่อมวลชนเพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมสองสภาประจำปีของจีนที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 - ภาพ : ซินหัว
    จับตา "การประชุมสองสภา 2025 " ในบริบทพลวัตด้านอำนาจของจีนที่เปลี่ยนไป #การประชุมสองสภา (Two sessions) กิจกรรมทางการเมืองซึ่งมีความสำคัญที่สุดในรอบปีของจีน จะเปิดฉากขึ้นด้วยการประชุมของ #สภาที่ปรึกษาการเมืองแห่งประชาชนจีน ( CPPCC ) ในวันอังคาร ( 4 มี.ค.) ตามด้วยการประชุม #สภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ในวันพุธ ( 5 มี.ค.)การประชุมสองสภาถือเป็นช่วงเวลาสำคัญในการเฝ้าสังเกตการณ์แผนพัฒนาของจีน โดยในปีนี้จะมีการพิจารณาทบทวน #แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะ 5 ปีฉบับที่ 14 ( 2564-2568 ) เพื่อกำหนดทิศทางนโยบายของประเทศต่อไปด้านนักวิเคราะห์มองว่า การประชุมสองสภาในปี 2568 เกิดขึ้นท่ามกลางบริบทที่พลวัตหรือพลังการเคลื่อนไหวทางอำนาจ ( #power dynamics) ระหว่างสหรัฐฯกับจีนมีความแตกต่างไปอย่างมากจากเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ซึ่งจีนประกาศยุทธศาสตร์การพัฒนาและเป็นช่วงรอยต่อระหว่างการสิ้นสุดวาระการบริหารประเทศของรัฐบาลประธานาธิบดี #โดนัลด์ ทรัมป์สมัยแรก การเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน และการกลับมารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯสมัยที่ 2 ของทรัมป์เมื่อเดือนมกราคมปีนี้แม้ทรัมป์และไบเดนขับเคี่ยวกันในทางการเมือง แต่ก็มีจุดยืนร่วมกันอย่างหนึ่งนั่นก็คือพยายามขัดขวางความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีนทุกวิถีทาง สหรัฐฯ มีการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรและข้อจำกัดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนต่อจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีหลี่ เฉิง อาจารย์ด้านรัฐศาสตร์และผู้อำนวยการก่อตั้งศูนย์จีนร่วมสมัยและโลกแห่งมหาวิทยาลัยฮ่องกงมองว่า แม้ความท้าทายทางเศรษฐกิจภายในประเทศและแรงกดดันจากภายนอกกำลังรุมเร้าจีน แต่การเปลี่ยนแปลงอำนาจบนเวทีโลกไปในทิศทางที่เอื้อต่อจีนนั้นปรากฏชัดเจนยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา“ตะวันออกกำลังรุ่งเรือง และตะวันตกกำลังเสื่อมถอย” ตามที่ชาวจีนหลายคนเชื่อนั้นคือสิ่งที่เรากำลังเห็นอยู่ในขณะนี้“จีนได้เปรียบตรงที่เน้นการพัฒนาในระยะยาวมากกว่าผลกำไรในระยะสั้น” อาจารย์เฉิงระบุตามรายงานเผยแพร่เมื่อปีที่แล้วของมูลนิธิเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม ( Information Technology and Innovation Foundation) ซึ่งเป็นสถาบันคลังสมองในกรุงวอชิงตันนั้น ความพยายามที่ดำเนินมาหลายปีดูเหมือนว่าจะได้รับผลตอบแทนด้วยการที่จีนกลายเป็นผู้นำหรือคู่แข่งขันระดับโลกในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง 5 ภาคส่วน ได้แก่ หุ่นยนต์ พลังงานนิวเคลียร์ ยานยนต์ไฟฟ้า ปัญญาประดิษฐ์ และคอมพิวเตอร์ควอนตัม นอกจากนี้จีนยังกำลังตามทันในอีก 4 ด้าน ได้แก่ สารเคมี เครื่องมือเครื่องจักร ยาชีวเภสัชภัณฑ์ ( biopharmaceuticals ) และเซมิคอนดักเตอร์อี้ว์ โจว อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโลกาภิวัตน์และเทคโนโลยีจีนประจำวิทยาลัยวาสซาร์ในสหรัฐฯ มองว่า การประกาศแผนยุทธศาสตร์ Made in China 2025 ของจีนเมื่อปี 2558 ทำให้ความสำเร็จด้านเทคโนโลยีของจีนได้ก้าวไปไกลเกินกว่าที่ใครๆ เคยคาดคิด และเกินความคาดหวังของผู้วางแผนยุทธศาสตร์เองในตอนนั้นด้วยซ้ำนอกจากนี้ จีนยังเพิ่มการใช้อุปกรณ์ขั้นสูง เช่น โดรน เพื่อเร่งขับเคลื่อนการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยและใช้จุดยืนที่กล้าแสดงออกมากขึ้นในการเผชิญหน้าทางทะเลกับสหรัฐฯจึงคาดกันว่า ความพยายามในการรับมือกับนโยบายของทรัมป์และการพยายามรักษาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้เพิ่มมากขึ้น ควบคู่ไปกับความพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ จะเป็นวาระสำคัญในการประชุมสองสมัยครั้งนี้และด้วยบริบทของพลวัตทางอำนาจระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่เปลี่ยนไป จึงน่าจับตามองว่า ที่ประชุมจะมีการตัดสินใจและการประกาศนโยบายอย่างใดบ้างการตั้งเป้าหมายจีดีพีเติบโตเป็นหนึ่งในการตั้งเป้าหมายทางเศรษฐกิจที่ถูกจับตามองมากที่สุด รวมถึงการประกาศมาตรการเชิงนโยบายของรัฐบาลที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ตลอดจนการประกาศนโยบายด้านต่างประเทศ นโยบายด้านปัญญาประดิษฐ์ ( เอไอ ) และนวัตกรรม นโยบายที่คาดว่าจะประกาศเหล่านี้ย่อมส่งผลต่อชีวิตของชาวจีน 1,400 ล้านคนและส่งกระทบต่อต่างชาติด้วยอย่างแน่นอนที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ /โกลบอลไทมส์ภาพประกอบข่าว1 ภาพ : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์2 นักข่าวกำลังทำงานที่ศูนย์สื่อมวลชนเพื่อเตรียมความพร้อมในการประชุมสองสภาประจำปีของจีนที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 27 ก.พ. 2568 - ภาพ : ซินหัว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 35 มุมมอง 0 รีวิว
  • VTT Technical Research Centre of Finland ร่วมกับ IQM Quantum Computers ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบใหม่ที่มีขนาด 50-qubit เป็นครั้งแรกในยุโรป โดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้จะเปิดให้ใช้งานสำหรับนักวิจัยและบริษัทต่างๆ ผ่านบริการ VTT QX quantum computing service การเปิดตัวครั้งนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฟินแลนด์ในฐานะประเทศที่สามารถพัฒนาและลงทุนในเทคโนโลยีควอนตัมได้อย่างยิ่งใหญ่

    ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 รัฐบาลฟินแลนด์ได้ประกาศแผนการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50-qubit ด้วยงบประมาณทั้งหมด 20.7 ล้านยูโร และในวันนี้คอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว เพื่อให้บริษัทและนักวิจัยสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันควอนตัมคอมพิวติ้งในด้านต่างๆ อย่างการจำลองและโมเดลลิ่งวัสดุ การแก้ปัญหาการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปัญญาประดิษฐ์

    รองประธานบริหารของ VTT, Erja Turunen, กล่าวว่าการพัฒนาและสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50-qubit แสดงให้เห็นว่าฟินแลนด์เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนี้ คอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้จะช่วยให้พัฒนาการแอปพลิเคชันและอัลกอริทึมใหม่ๆ สำหรับการจำลองและโมเดลลิ่งวัสดุ ปัญหาการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมาก

    การพัฒนาโครงการนี้แบ่งออกเป็นสามช่วง เริ่มจากการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 5-qubit ในปี 2021 และต่อมาในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 ได้มีการเชื่อมต่อกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ LUMI ของ CSC สำหรับการใช้งานของนักวิจัยชาวฟินแลนด์ และยังเปิดใช้งานให้กับผู้ใช้งานทางธุรกิจอีกด้วย คอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 20-qubit ได้รับการพัฒนาในปี 2023 และในขั้นตอนสุดท้ายได้ถูกยกระดับเป็น 50 qubits ทำให้สามารถทำการคำนวณที่ไม่สามารถทำได้ด้วยคอมพิวเตอร์คลาสสิก

    การเปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50 qubits เป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีนี้ โดยทำให้สามารถลดเสียงรบกวนของคอมพิวเตอร์และเพิ่มจำนวน qubits ที่ใช้ในการคำนวณอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techpowerup.com/333563/vtt-and-iqm-launch-first-50-qubit-quantum-computer-developed-in-europe
    VTT Technical Research Centre of Finland ร่วมกับ IQM Quantum Computers ได้เปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมแบบใหม่ที่มีขนาด 50-qubit เป็นครั้งแรกในยุโรป โดยคอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้จะเปิดให้ใช้งานสำหรับนักวิจัยและบริษัทต่างๆ ผ่านบริการ VTT QX quantum computing service การเปิดตัวครั้งนี้ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับฟินแลนด์ในฐานะประเทศที่สามารถพัฒนาและลงทุนในเทคโนโลยีควอนตัมได้อย่างยิ่งใหญ่ ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2020 รัฐบาลฟินแลนด์ได้ประกาศแผนการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50-qubit ด้วยงบประมาณทั้งหมด 20.7 ล้านยูโร และในวันนี้คอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้ก็พร้อมใช้งานแล้ว เพื่อให้บริษัทและนักวิจัยสามารถพัฒนาแอปพลิเคชันควอนตัมคอมพิวติ้งในด้านต่างๆ อย่างการจำลองและโมเดลลิ่งวัสดุ การแก้ปัญหาการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปัญญาประดิษฐ์ รองประธานบริหารของ VTT, Erja Turunen, กล่าวว่าการพัฒนาและสร้างคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50-qubit แสดงให้เห็นว่าฟินแลนด์เป็นผู้นำระดับโลกในด้านนี้ คอมพิวเตอร์ควอนตัมตัวใหม่นี้จะช่วยให้พัฒนาการแอปพลิเคชันและอัลกอริทึมใหม่ๆ สำหรับการจำลองและโมเดลลิ่งวัสดุ ปัญหาการปรับปรุงประสิทธิภาพ และปัญญาประดิษฐ์ได้อย่างมาก การพัฒนาโครงการนี้แบ่งออกเป็นสามช่วง เริ่มจากการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 5-qubit ในปี 2021 และต่อมาในฤดูใบไม้ผลิปี 2022 ได้มีการเชื่อมต่อกับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ LUMI ของ CSC สำหรับการใช้งานของนักวิจัยชาวฟินแลนด์ และยังเปิดใช้งานให้กับผู้ใช้งานทางธุรกิจอีกด้วย คอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 20-qubit ได้รับการพัฒนาในปี 2023 และในขั้นตอนสุดท้ายได้ถูกยกระดับเป็น 50 qubits ทำให้สามารถทำการคำนวณที่ไม่สามารถทำได้ด้วยคอมพิวเตอร์คลาสสิก การเปิดตัวคอมพิวเตอร์ควอนตัมขนาด 50 qubits เป็นก้าวสำคัญในเทคโนโลยีนี้ โดยทำให้สามารถลดเสียงรบกวนของคอมพิวเตอร์และเพิ่มจำนวน qubits ที่ใช้ในการคำนวณอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techpowerup.com/333563/vtt-and-iqm-launch-first-50-qubit-quantum-computer-developed-in-europe
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    VTT and IQM Launch First 50-Qubit Quantum Computer Developed in Europe
    VTT Technical Research Centre of Finland and IQM Quantum Computers, one of the global leaders in superconducting quantum computers, have completed and launched Europe's first 50-qubit superconducting quantum computer, now open to researchers and companies through the VTT QX quantum computing service...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 32 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการรายงานเกี่ยวกับปัญหาการใช้งาน Microsoft 365 ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Teams ทำให้ไม่สามารถรับสายและเกิดปัญหาในการยืนยันตัวตนได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังรายงานว่ามีปัญหาในการเชื่อมต่อกับบริการอื่น ๆ เช่น Outlook, OneDrive และ Exchange โดยเหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้วและยังคงดำเนินต่อไป

    Microsoft ได้ออกประกาศในศูนย์ดูแลระบบ Microsoft 365 โดยระบุว่า "ผู้ใช้อาจไม่สามารถรับสายผ่านระบบรับสายอัตโนมัติและคิวสายของ Microsoft Teams ได้" และกล่าวว่ากำลังวิเคราะห์ข้อมูลการบริการและเมทาดาท้าของสายเพื่อทำความเข้าใจลักษณะของผลกระทบและกำหนดขั้นตอนถัดไป

    แม้ว่า Microsoft จะบอกว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลเฉพาะกับแพลตฟอร์มการสื่อสารของ Teams แต่ผู้ใช้รายงานว่าผลกระทบกว้างขวางมากกว่านั้น และยังพบปัญหาการเชื่อมต่อกับ Outlook, OneDrive และ Exchange

    วันนี้ บริษัทยังได้เตือนในหน้าสถานะสุขภาพการบริการว่า ลูกค้าในแคนาดากำลังประสบปัญหาการยืนยันตัวตนและการเชื่อมต่อเมื่อพยายามเข้าถึงบริการ Microsoft 365 หลายรายการ เช่น Exchange Online, Microsoft Teams และศูนย์ดูแลระบบ Microsoft 365

    ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Microsoft ได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Outlook และ Exchange Online ซึ่งส่งผลกระทบต่อการยืนยันตัวตนและทำให้การใช้งาน Teams และ Power Platform ลดลง ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมโยงเหตุการณ์นี้กับปัญหาการเขียนโค้ดในอัปเดตล่าสุดของระบบการยืนยันตัวตนของ Microsoft 365

    นอกจากนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Microsoft ได้แก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลง DNS ซึ่งทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการยืนยันตัวตนของ Entra ID สำหรับลูกค้าที่ใช้ Seamless SSO และ Microsoft Entra Connect Sync

    https://www.bleepingcomputer.com/news/microsoft/new-microsoft-365-outage-impacts-teams-causes-call-failures/
    มีการรายงานเกี่ยวกับปัญหาการใช้งาน Microsoft 365 ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ใช้ Teams ทำให้ไม่สามารถรับสายและเกิดปัญหาในการยืนยันตัวตนได้ นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังรายงานว่ามีปัญหาในการเชื่อมต่อกับบริการอื่น ๆ เช่น Outlook, OneDrive และ Exchange โดยเหตุการณ์นี้เริ่มต้นขึ้นเมื่อประมาณหนึ่งชั่วโมงที่แล้วและยังคงดำเนินต่อไป Microsoft ได้ออกประกาศในศูนย์ดูแลระบบ Microsoft 365 โดยระบุว่า "ผู้ใช้อาจไม่สามารถรับสายผ่านระบบรับสายอัตโนมัติและคิวสายของ Microsoft Teams ได้" และกล่าวว่ากำลังวิเคราะห์ข้อมูลการบริการและเมทาดาท้าของสายเพื่อทำความเข้าใจลักษณะของผลกระทบและกำหนดขั้นตอนถัดไป แม้ว่า Microsoft จะบอกว่าเหตุการณ์นี้ส่งผลเฉพาะกับแพลตฟอร์มการสื่อสารของ Teams แต่ผู้ใช้รายงานว่าผลกระทบกว้างขวางมากกว่านั้น และยังพบปัญหาการเชื่อมต่อกับ Outlook, OneDrive และ Exchange วันนี้ บริษัทยังได้เตือนในหน้าสถานะสุขภาพการบริการว่า ลูกค้าในแคนาดากำลังประสบปัญหาการยืนยันตัวตนและการเชื่อมต่อเมื่อพยายามเข้าถึงบริการ Microsoft 365 หลายรายการ เช่น Exchange Online, Microsoft Teams และศูนย์ดูแลระบบ Microsoft 365 ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Microsoft ได้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับ Outlook และ Exchange Online ซึ่งส่งผลกระทบต่อการยืนยันตัวตนและทำให้การใช้งาน Teams และ Power Platform ลดลง ทั้งนี้ บริษัทเชื่อมโยงเหตุการณ์นี้กับปัญหาการเขียนโค้ดในอัปเดตล่าสุดของระบบการยืนยันตัวตนของ Microsoft 365 นอกจากนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา Microsoft ได้แก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลง DNS ซึ่งทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการยืนยันตัวตนของ Entra ID สำหรับลูกค้าที่ใช้ Seamless SSO และ Microsoft Entra Connect Sync https://www.bleepingcomputer.com/news/microsoft/new-microsoft-365-outage-impacts-teams-causes-call-failures/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    New Microsoft 365 outage impacts Teams, causes call failures
    Microsoft is investigating a new Microsoft 365 outage that is affecting Teams customers and causing call failures.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในข่าวจาก TechPowerUp นี้ มีการกล่าวถึงการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Dragonwing Fixed Wireless Access Gen 4 Elite ของ Qualcomm ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม FWA (Fixed Wireless Access) ที่รองรับ 5G Advanced แพลตฟอร์มนี้ใช้โมเด็ม Qualcomm X85 5G Modem-RF ที่สามารถให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 12.5 Gbps

    แพลตฟอร์ม Dragonwing FWA Gen 4 Elite มีการปรับปรุงด้วย AI ที่ครอบคลุมและมีการรวมโคโปรเซสเซอร์ Edge AI ที่มีพลังการประมวลผล NPU สูงถึง 40 TOPS ทำให้การเชื่อมต่อไร้สายผ่าน 5G และ Wi-Fi มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังสามารถใช้พลังของ Generative AI ในอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น ทำให้ประสบการณ์การใช้งานมีความเสถียรและเป็นเอกภาพมากขึ้น

    แพลตฟอร์มนี้ยังมีความสามารถในการสื่อสารผ่านดาวเทียม NTN และรองรับการใช้งาน Dual SIM Dual Active (DSDA) เพื่อเพิ่มความเสถียรและการจัดการระยะไกล นอกจากนี้ยังมีโปรเซสเซอร์แบบควอดคอร์ที่มีการเร่งความเร็วเครือข่ายเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อ 5G, Ethernet และ Wi-Fi

    แพลตฟอร์ม Dragonwing Fixed Wireless Access Gen 4 Elite นี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับอุปกรณ์ที่ต้องการการเชื่อมต่อไร้สายที่มีความเร็วสูงและมีประสิทธิภาพมาก เช่น:

    1) อุปกรณ์เครือข่ายภายในบ้านและสำนักงาน - เพื่อให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายที่เร็วและเสถียร ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ 5G ทำให้ผู้ใช้สามารถมีประสบการณ์การใช้งานที่มีคุณภาพสูง
    2) อุปกรณ์ IoT และอุตสาหกรรม - เช่น เซ็นเซอร์อัจฉริยะ กล้องวงจรปิด และอุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ ที่ต้องการการเชื่อมต่อที่มั่นคงและเสถียร ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การเกษตร การแพทย์ และการผลิต
    3) เครือข่ายสาธารณะและการสื่อสารทางไกล - รองรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายยาก เช่น พื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ที่มีความต้องการการเชื่อมต่อที่มากขึ้น เช่น สนามบิน โรงพยาบาล และโรงเรียน
    4) ยานพาหนะและระบบขนส่ง - เพื่อให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนยานพาหนะ เช่น รถบัส รถไฟ และเรือ โดยใช้การเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม NTN และ 5G เพื่อให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียร

    การเปิดตัว Dragonwing FWA Gen 4 Elite นี้เป็นการก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี FWA ที่สามารถให้ความเร็วสูงและความเสถียรในการเชื่อมต่อในระยะทางไกลถึง 14 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรในราคาที่ต่ำกว่าการใช้บรอดแบนด์แบบมีสาย

    https://www.techpowerup.com/333528/qualcomm-launches-the-dragonwing-fixed-wireless-access-gen-4-elite-platform
    ในข่าวจาก TechPowerUp นี้ มีการกล่าวถึงการเปิดตัวแพลตฟอร์ม Dragonwing Fixed Wireless Access Gen 4 Elite ของ Qualcomm ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม FWA (Fixed Wireless Access) ที่รองรับ 5G Advanced แพลตฟอร์มนี้ใช้โมเด็ม Qualcomm X85 5G Modem-RF ที่สามารถให้ความเร็วในการดาวน์โหลดสูงสุดถึง 12.5 Gbps แพลตฟอร์ม Dragonwing FWA Gen 4 Elite มีการปรับปรุงด้วย AI ที่ครอบคลุมและมีการรวมโคโปรเซสเซอร์ Edge AI ที่มีพลังการประมวลผล NPU สูงถึง 40 TOPS ทำให้การเชื่อมต่อไร้สายผ่าน 5G และ Wi-Fi มีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังสามารถใช้พลังของ Generative AI ในอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากขึ้น ทำให้ประสบการณ์การใช้งานมีความเสถียรและเป็นเอกภาพมากขึ้น แพลตฟอร์มนี้ยังมีความสามารถในการสื่อสารผ่านดาวเทียม NTN และรองรับการใช้งาน Dual SIM Dual Active (DSDA) เพื่อเพิ่มความเสถียรและการจัดการระยะไกล นอกจากนี้ยังมีโปรเซสเซอร์แบบควอดคอร์ที่มีการเร่งความเร็วเครือข่ายเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการเชื่อมต่อ 5G, Ethernet และ Wi-Fi แพลตฟอร์ม Dragonwing Fixed Wireless Access Gen 4 Elite นี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานกับอุปกรณ์ที่ต้องการการเชื่อมต่อไร้สายที่มีความเร็วสูงและมีประสิทธิภาพมาก เช่น: 1) อุปกรณ์เครือข่ายภายในบ้านและสำนักงาน - เพื่อให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายที่เร็วและเสถียร ด้วยความสามารถในการเชื่อมต่อ Wi-Fi และ 5G ทำให้ผู้ใช้สามารถมีประสบการณ์การใช้งานที่มีคุณภาพสูง 2) อุปกรณ์ IoT และอุตสาหกรรม - เช่น เซ็นเซอร์อัจฉริยะ กล้องวงจรปิด และอุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ ที่ต้องการการเชื่อมต่อที่มั่นคงและเสถียร ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น การเกษตร การแพทย์ และการผลิต 3) เครือข่ายสาธารณะและการสื่อสารทางไกล - รองรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายยาก เช่น พื้นที่ห่างไกล หรือพื้นที่ที่มีความต้องการการเชื่อมต่อที่มากขึ้น เช่น สนามบิน โรงพยาบาล และโรงเรียน 4) ยานพาหนะและระบบขนส่ง - เพื่อให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนยานพาหนะ เช่น รถบัส รถไฟ และเรือ โดยใช้การเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม NTN และ 5G เพื่อให้การเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียร การเปิดตัว Dragonwing FWA Gen 4 Elite นี้เป็นการก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี FWA ที่สามารถให้ความเร็วสูงและความเสถียรในการเชื่อมต่อในระยะทางไกลถึง 14 กิโลเมตร ซึ่งเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและเสถียรในราคาที่ต่ำกว่าการใช้บรอดแบนด์แบบมีสาย https://www.techpowerup.com/333528/qualcomm-launches-the-dragonwing-fixed-wireless-access-gen-4-elite-platform
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Qualcomm Launches the Dragonwing Fixed Wireless Access Gen 4 Elite Platform
    Qualcomm Technologies, Inc. today announced the Dragonwing FWA Gen 4 Elite, the world's first 5G Advanced-capable FWA platform. Powered by the Qualcomm X85 5G Modem-RF, the platform sets a new benchmark for 5G broadband performance with downlink speeds up to 12.5 Gbps. The Dragonwing FWA Gen 4 Elite...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 66 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวล่าสุดจากการประชุม 2025 China RISC-V Ecosystem Conference ที่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2025 โดยบริษัท SOPHGO ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรุ่นที่พัฒนาขึ้นจากชิป SG2044 ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพสูงที่ใช้ในเซิร์ฟเวอร์และการประมวลผล AI นอกจากนี้ SOPHGO ยังได้นำเสนอการพัฒนาในด้านการรวมกันของสถาปัตยกรรม RISC-V และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ก้าวหน้าอย่างมาก

    รองประธานของ SOPHGO RISC-V ได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับ "การบุกเบิกของ RISC-V ด้วย AI: การรวมกันและนวัตกรรมเฮเทอโรจีนัส" (heterogeneous) โดยได้เน้นถึงความสำเร็จในการรวมสถาปัตยกรรม RISC-V กับเทคโนโลยี AI ซึ่งได้เปิดทางให้การประมวลผลและการใช้พลังงานคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล รวมถึงการพัฒนาโมเดลการทำนายขนาดใหญ่

    SOPHGO ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ที่ใช้ชิป SG2044 แบ่งเป็น 3 ซีรีส์ ได้แก่:
    1) เซิร์ฟเวอร์การประมวลผล SRA3-40: รองรับการประมวลผลหลายแกน และการคำนวณที่แม่นยำหลากหลายรูปแบบ
    2) เซิร์ฟเวอร์การเก็บข้อมูล SRB3-40: รองรับไดรฟ์หลายตัว ความจุใหญ่ และการโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง
    3) เซิร์ฟเวอร์รวมการทำงาน SRM3-40: รองรับการทำนายโมเดลขนาดใหญ่ พลังการประมวลผลสูง และประหยัดพลังงาน

    เซิร์ฟเวอร์รุ่น SRA3-40 จะเป็นเซิร์ฟเวอร์ RISC-V สมรรถนะสูงรุ่นแรกที่รวมเข้ากับเฟรมเวิร์ก DeepSeek อย่างลึกซึ้ง การใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ชิป RISC-V นี้จะเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับบริษัทที่ต้องการใช้พลังการประมวลผลในระดับสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการการคำนวณที่รวดเร็วและแม่นยำ

    ในงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้น SOPHGO ได้มีการแสดงสินค้าและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายการใช้งานของ RISC-V ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การประมวลผลประสิทธิภาพสูงและเทอร์มินัลอัจฉริยะ

    การพัฒนาเทคโนโลยีของ SOPHGO นี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการก้าวสู่การเป็นผู้นำในด้านการรวมเทคโนโลยี RISC-V และ AI

    https://www.techpowerup.com/333496/sophgo-unveils-new-products-at-the-2025-china-risc-v-ecosystem-conference
    มีข่าวล่าสุดจากการประชุม 2025 China RISC-V Ecosystem Conference ที่จัดขึ้นในกรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์ 2025 โดยบริษัท SOPHGO ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรุ่นที่พัฒนาขึ้นจากชิป SG2044 ซึ่งเป็นชิปประสิทธิภาพสูงที่ใช้ในเซิร์ฟเวอร์และการประมวลผล AI นอกจากนี้ SOPHGO ยังได้นำเสนอการพัฒนาในด้านการรวมกันของสถาปัตยกรรม RISC-V และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ก้าวหน้าอย่างมาก รองประธานของ SOPHGO RISC-V ได้กล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับ "การบุกเบิกของ RISC-V ด้วย AI: การรวมกันและนวัตกรรมเฮเทอโรจีนัส" (heterogeneous) โดยได้เน้นถึงความสำเร็จในการรวมสถาปัตยกรรม RISC-V กับเทคโนโลยี AI ซึ่งได้เปิดทางให้การประมวลผลและการใช้พลังงานคอมพิวเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล รวมถึงการพัฒนาโมเดลการทำนายขนาดใหญ่ SOPHGO ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ที่ใช้ชิป SG2044 แบ่งเป็น 3 ซีรีส์ ได้แก่: 1) เซิร์ฟเวอร์การประมวลผล SRA3-40: รองรับการประมวลผลหลายแกน และการคำนวณที่แม่นยำหลากหลายรูปแบบ 2) เซิร์ฟเวอร์การเก็บข้อมูล SRB3-40: รองรับไดรฟ์หลายตัว ความจุใหญ่ และการโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง 3) เซิร์ฟเวอร์รวมการทำงาน SRM3-40: รองรับการทำนายโมเดลขนาดใหญ่ พลังการประมวลผลสูง และประหยัดพลังงาน เซิร์ฟเวอร์รุ่น SRA3-40 จะเป็นเซิร์ฟเวอร์ RISC-V สมรรถนะสูงรุ่นแรกที่รวมเข้ากับเฟรมเวิร์ก DeepSeek อย่างลึกซึ้ง การใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ใช้ชิป RISC-V นี้จะเปิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ให้กับบริษัทที่ต้องการใช้พลังการประมวลผลในระดับสูง โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องการการคำนวณที่รวดเร็วและแม่นยำ ในงานแสดงสินค้าที่จัดขึ้น SOPHGO ได้มีการแสดงสินค้าและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ดึงดูดความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายการใช้งานของ RISC-V ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การประมวลผลประสิทธิภาพสูงและเทอร์มินัลอัจฉริยะ การพัฒนาเทคโนโลยีของ SOPHGO นี้สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและการก้าวสู่การเป็นผู้นำในด้านการรวมเทคโนโลยี RISC-V และ AI https://www.techpowerup.com/333496/sophgo-unveils-new-products-at-the-2025-china-risc-v-ecosystem-conference
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    SOPHGO Unveils New Products at the 2025 China RISC-V Ecosystem Conference
    On February 27-28, the 2025 China RISC-V Ecosystem Conference was grandly held at the Zhongguancun International Innovation Center in Beijing. As a core promoter in the RISC-V field, SOPHGO was invited to deliver a speech and prominently launch a series of new products based on the SG2044 chip, shar...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASUS ได้เปิดตัว ExpertCenter PN54 ซึ่งเป็นมินิพีซี Copilot+ ที่ใช้หน่วยประมวลผล AMD Ryzen AI 300 Series โดยการ์ดกราฟิก AMD Radeon ก็มาพร้อมกับพีซีรุ่นนี้ด้วย

    ExpertCenter PN54 ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานที่ต้องใช้ข้อมูลมากและแอปพลิเคชันที่ใช้ AI เช่น การสร้างเนื้อหาด้วย AI การคอมไพล์โค้ด การวิเคราะห์ข้อมูล และการประชุม ด้วยหน่วยประมวลผล AMD Ryzen AI 300 Series รุ่นใหม่ที่มีแรมในชิปเพิ่มขึ้นถึง 50% และใช้เทคโนโลยี AMD Zen 5 ที่ออกแบบมาจากหน่วยประมวลผลเดสก์ท็อป ทำให้พีซีนี้มีประสิทธิภาพสูงและรองรับการทำงานที่หลากหลาย

    นอกจากนี้ ExpertCenter PN54 ยังมีการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมมาก เช่น WiFi 7, Bluetooth 5.4, และพอร์ต USB ถึง 6 พอร์ต รวมถึงยังรองรับการแสดงผลถึง 4 หน้าจอ 4K ทำให้การใช้งานในพื้นที่จำกัดหรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายตัวสามารถทำได้ง่ายขึ้น

    จุดเด่นคือคุณสมบัติ AI ของ Copilot+ ที่สามารถทำงานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การค้นหาข้อความและอีเมลเก่า การแปลคำบรรยายแบบเรียลไทม์ถึง 44 ภาษา และการสร้างงานศิลปะกราฟิกด้วยการพิมพ์คำสั่งง่าย ๆ คุณสมบัติเหล่านี้สามารถเปิดใช้งานได้ผ่านปุ่ม Copilot หรือใช้คำสั่งเสียงผ่านลำโพงและไมโครโฟนในตัว

    ที่น่าสนใจคือ ExpertCenter PN54 มีการออกแบบที่แข็งแรงทนทานและผ่านการทดสอบความคงทนในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อย่างเข้มงวด รวมถึงยังมีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น การล็อกอินด้วยลายนิ้วมือและเทคโนโลยี Trusted Platform Module (TPM) เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตและการปกป้องข้อมูลสำคัญ

    https://www.techpowerup.com/333490/asus-intros-expertcenter-pn54-copilot-mini-pc-with-amd-ryzen-ai-300-series-processors
    ASUS ได้เปิดตัว ExpertCenter PN54 ซึ่งเป็นมินิพีซี Copilot+ ที่ใช้หน่วยประมวลผล AMD Ryzen AI 300 Series โดยการ์ดกราฟิก AMD Radeon ก็มาพร้อมกับพีซีรุ่นนี้ด้วย ExpertCenter PN54 ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำงานที่ต้องใช้ข้อมูลมากและแอปพลิเคชันที่ใช้ AI เช่น การสร้างเนื้อหาด้วย AI การคอมไพล์โค้ด การวิเคราะห์ข้อมูล และการประชุม ด้วยหน่วยประมวลผล AMD Ryzen AI 300 Series รุ่นใหม่ที่มีแรมในชิปเพิ่มขึ้นถึง 50% และใช้เทคโนโลยี AMD Zen 5 ที่ออกแบบมาจากหน่วยประมวลผลเดสก์ท็อป ทำให้พีซีนี้มีประสิทธิภาพสูงและรองรับการทำงานที่หลากหลาย นอกจากนี้ ExpertCenter PN54 ยังมีการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมมาก เช่น WiFi 7, Bluetooth 5.4, และพอร์ต USB ถึง 6 พอร์ต รวมถึงยังรองรับการแสดงผลถึง 4 หน้าจอ 4K ทำให้การใช้งานในพื้นที่จำกัดหรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์หลายตัวสามารถทำได้ง่ายขึ้น จุดเด่นคือคุณสมบัติ AI ของ Copilot+ ที่สามารถทำงานต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว เช่น การค้นหาข้อความและอีเมลเก่า การแปลคำบรรยายแบบเรียลไทม์ถึง 44 ภาษา และการสร้างงานศิลปะกราฟิกด้วยการพิมพ์คำสั่งง่าย ๆ คุณสมบัติเหล่านี้สามารถเปิดใช้งานได้ผ่านปุ่ม Copilot หรือใช้คำสั่งเสียงผ่านลำโพงและไมโครโฟนในตัว ที่น่าสนใจคือ ExpertCenter PN54 มีการออกแบบที่แข็งแรงทนทานและผ่านการทดสอบความคงทนในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ อย่างเข้มงวด รวมถึงยังมีระบบความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น การล็อกอินด้วยลายนิ้วมือและเทคโนโลยี Trusted Platform Module (TPM) เพื่อป้องกันการเข้าถึงที่ไม่ได้รับอนุญาตและการปกป้องข้อมูลสำคัญ https://www.techpowerup.com/333490/asus-intros-expertcenter-pn54-copilot-mini-pc-with-amd-ryzen-ai-300-series-processors
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    ASUS Intros ExpertCenter PN54 Copilot+ mini PC with AMD Ryzen AI 300 Series Processors
    ASUS today announced ExpertCenter PN54, a high-performance Copilot+ mini PC powered by AMD Ryzen AI 300 Series processors and AMD Radeon graphics. ExpertCenter PN54 offers extensive connectivity, including WiFi 7 and Bluetooth 5.4, and is able to support up to four 4K displays. This mini PC enables ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia และ Broadcom ยังคงทดลองใช้ชิปที่ผลิตโดยใช้กระบวนการ 18A ของ Intel การทดสอบนี้เริ่มต้นจากช่วงต้นปี 2024 โดยรายงานจาก Reuters ระบุว่าทั้งสองบริษัทกำลังทำความเข้าใจกับประสิทธิภาพและพฤติกรรมของกระบวนการ 18A ของ Intel

    กระบวนการผลิต 18A ของ Intel เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ RibbonFET และการจ่ายพลังงานผ่านด้านหลังชิปที่เรียกว่า PowerVia ซึ่งมีการเปรียบเทียบกับกระบวนการผลิต N2 ของ TSMC โดยกระบวนการ 18A ของ Intel จะมีความเร็วที่สูงกว่า ในขณะที่ N2 ของ TSMC จะมีความหนาแน่นมากกว่า

    แม้ว่าจะมีการทดลองใช้ชิปจากกระบวนการ 18A อย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัญหาที่พบกับการสนับสนุนจากบริษัท IP บุคคลที่สามบางราย ซึ่งอาจทำให้การส่งมอบชิปสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการการผลิตชิปของ Intel ล่าช้าออกไปจนถึงกลางปี 2026

    Intel ได้เปิดเว็บไซต์ใหม่เพื่อแสดงกระบวนการ 18A และกำลังเตรียมเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Panther Lake สำหรับผู้บริโภคในช่วงกลางปี 2025

    สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ Broadcom และ Nvidia ยังคงให้ความสนใจและทดลองใช้กระบวนการผลิตนี้ โดยทั้งสองบริษัทกำลังพยายามเข้าใจและประเมินความสามารถของกระบวนการ 18A ในการผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพสูง

    นอกจากนี้ Intel ยังต้องการล็อกลูกค้ารายใหญ่สำหรับกระบวนการผลิตใหม่ของพวกเขาเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ และพวกเขาคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการสร้างกำ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidia-and-broadcom-continue-trialing-intel-18a-test-chips-report
    Nvidia และ Broadcom ยังคงทดลองใช้ชิปที่ผลิตโดยใช้กระบวนการ 18A ของ Intel การทดสอบนี้เริ่มต้นจากช่วงต้นปี 2024 โดยรายงานจาก Reuters ระบุว่าทั้งสองบริษัทกำลังทำความเข้าใจกับประสิทธิภาพและพฤติกรรมของกระบวนการ 18A ของ Intel กระบวนการผลิต 18A ของ Intel เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ใช้ทรานซิสเตอร์ RibbonFET และการจ่ายพลังงานผ่านด้านหลังชิปที่เรียกว่า PowerVia ซึ่งมีการเปรียบเทียบกับกระบวนการผลิต N2 ของ TSMC โดยกระบวนการ 18A ของ Intel จะมีความเร็วที่สูงกว่า ในขณะที่ N2 ของ TSMC จะมีความหนาแน่นมากกว่า แม้ว่าจะมีการทดลองใช้ชิปจากกระบวนการ 18A อย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีปัญหาที่พบกับการสนับสนุนจากบริษัท IP บุคคลที่สามบางราย ซึ่งอาจทำให้การส่งมอบชิปสำหรับลูกค้าที่ใช้บริการการผลิตชิปของ Intel ล่าช้าออกไปจนถึงกลางปี 2026 Intel ได้เปิดเว็บไซต์ใหม่เพื่อแสดงกระบวนการ 18A และกำลังเตรียมเปิดตัวโปรเซสเซอร์ Panther Lake สำหรับผู้บริโภคในช่วงกลางปี 2025 สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ Broadcom และ Nvidia ยังคงให้ความสนใจและทดลองใช้กระบวนการผลิตนี้ โดยทั้งสองบริษัทกำลังพยายามเข้าใจและประเมินความสามารถของกระบวนการ 18A ในการผลิตชิปที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ Intel ยังต้องการล็อกลูกค้ารายใหญ่สำหรับกระบวนการผลิตใหม่ของพวกเขาเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดได้ และพวกเขาคาดว่าจะต้องใช้เวลาในการสร้างกำ https://www.tomshardware.com/tech-industry/nvidia-and-broadcom-continue-trialing-intel-18a-test-chips-report
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • กทม.ยกเลิกสัญญาผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเพื่อสร้าง Landmark และผลักดัน Soft power ที่แท้อาจเป็นเพียงข้ออ้างในการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้ามาจัดการได้อย่างเบ็ดเสร็จ #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #จัตุจักร #ตลาดนัดจัตุจักร #สัญญาทาส #เอื้อประโยชน์ให้นายทุน
    กทม.ยกเลิกสัญญาผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรเพื่อสร้าง Landmark และผลักดัน Soft power ที่แท้อาจเป็นเพียงข้ออ้างในการเอื้อประโยชน์ให้กับนายทุนเข้ามาจัดการได้อย่างเบ็ดเสร็จ #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ #จัตุจักร #ตลาดนัดจัตุจักร #สัญญาทาส #เอื้อประโยชน์ให้นายทุน
    Like
    Angry
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 801 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • ชักแม่น้ำแจงเศรษฐกิจไม่โต 'แพทองธาร' อ้างลงทุนน้อย วอนขอความเชื่อมั่น
    .
    ณ จุดนี้ต้องบอกว่าปัจจัยแวดล้อมดูจะไม่เป็นประโยชน์ต่อตัว 'แพทองธาร ชินวัตร' นายกรัฐมนตรี เท่าใดนัก โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ภายหลังตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่ประกาศออกมาไม่ได้เป็นไปอย่างที่รัฐบาลตั้งความหวังเอาไว้ จึงส่งผลต่อมายังตลาดหุ้นของไทยที่ตัวเลขแดงกันเกือบทั้งกระดาน
    .
    ในเรื่องนี้ แพทองธาร อธิบายผ่านรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” #EmpoweringThais ตอนหนึ่งว่า อยากพูดเรื่องของเศรษฐกิจมีตัวเลขจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ซึ่งมีหลายฝ่ายรู้สึกกังวลว่าเศรษฐกิจของเราไม่โต และรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน ซึ่งความจริงแล้วเศรษฐกิจภาพใหญ่ไตรมาส4 ปี 2567 จีดีพีเราขึ้น 3.2% รวมทั้งหมด ทั้งปีจีดีพีขึ้นอยู่ที่ 2.5% แค่ไตรมาส 4 อย่างเดียวขึ้นพอสมควร เกิดจากนโยบายฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐ และการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ)
    .
    "แต่มีคำถามว่าทำไมประเทศของเราจีดีพีขึ้นน้อย รั้งท้ายอาเซียน เพราะความจริง 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราไม่ค่อยมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ หากเราไม่ทำให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า เราจะตามคนอื่นไม่ทัน ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องดันจีดีพีประเทศไทยขึ้นด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนดันต้องใช้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย" นายกฯ ระบุ
    .
    "ก็ขอกำลังใจเยอะๆบางทีก็มีท้อบ้าง แต่ว่าไม่ท้อนานแน่นอน สู้ค่ะ ประเทศยังต้องการพัฒนา การผลักดันอีกเยอะ คนยังต้องการการสนับสนุนอีกเยอะ ดิฉันเองวันนี้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯทำหน้าที่เต็มที่ที่สุด เพราะฉะนั้นปีแห่งโอกาส ทุกคนต้องมีความหวังและต้องได้รับโอกาสแน่นอน”
    .
    ด้าน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “6 เดือน รัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊ง” จำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วย โดยเมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า ร้อยละ 34.58 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 32.60 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.00 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 12.82 ระบุว่า พอใจมาก
    .
    ส่วนความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 32.60 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 31.76 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.28 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 13.36 ระบุว่า พอใจมาก
    .............
    Sondhi X
    ชักแม่น้ำแจงเศรษฐกิจไม่โต 'แพทองธาร' อ้างลงทุนน้อย วอนขอความเชื่อมั่น . ณ จุดนี้ต้องบอกว่าปัจจัยแวดล้อมดูจะไม่เป็นประโยชน์ต่อตัว 'แพทองธาร ชินวัตร' นายกรัฐมนตรี เท่าใดนัก โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ภายหลังตัวเลขเศรษฐกิจของไทยที่ประกาศออกมาไม่ได้เป็นไปอย่างที่รัฐบาลตั้งความหวังเอาไว้ จึงส่งผลต่อมายังตลาดหุ้นของไทยที่ตัวเลขแดงกันเกือบทั้งกระดาน . ในเรื่องนี้ แพทองธาร อธิบายผ่านรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” #EmpoweringThais ตอนหนึ่งว่า อยากพูดเรื่องของเศรษฐกิจมีตัวเลขจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ซึ่งมีหลายฝ่ายรู้สึกกังวลว่าเศรษฐกิจของเราไม่โต และรั้งท้ายในกลุ่มอาเซียน ซึ่งความจริงแล้วเศรษฐกิจภาพใหญ่ไตรมาส4 ปี 2567 จีดีพีเราขึ้น 3.2% รวมทั้งหมด ทั้งปีจีดีพีขึ้นอยู่ที่ 2.5% แค่ไตรมาส 4 อย่างเดียวขึ้นพอสมควร เกิดจากนโยบายฟรีวีซ่า การลงทุนของภาครัฐ และการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) . "แต่มีคำถามว่าทำไมประเทศของเราจีดีพีขึ้นน้อย รั้งท้ายอาเซียน เพราะความจริง 10 กว่าปีที่ผ่านมา เราไม่ค่อยมีการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมใหม่ๆ หากเราไม่ทำให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้า เราจะตามคนอื่นไม่ทัน ทุกฝ่ายทั้งภาครัฐและเอกชนจะต้องดันจีดีพีประเทศไทยขึ้นด้วยกัน ไม่ใช่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นคนดันต้องใช้ความร่วมมือจากทุกฝ่าย" นายกฯ ระบุ . "ก็ขอกำลังใจเยอะๆบางทีก็มีท้อบ้าง แต่ว่าไม่ท้อนานแน่นอน สู้ค่ะ ประเทศยังต้องการพัฒนา การผลักดันอีกเยอะ คนยังต้องการการสนับสนุนอีกเยอะ ดิฉันเองวันนี้ที่มีโอกาสเป็นนายกฯทำหน้าที่เต็มที่ที่สุด เพราะฉะนั้นปีแห่งโอกาส ทุกคนต้องมีความหวังและต้องได้รับโอกาสแน่นอน” . ด้าน ศูนย์สำรวจความคิดเห็น “นิด้าโพล” สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “6 เดือน รัฐบาลนายกฯ อุ๊งอิ๊ง” จำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วย โดยเมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า ร้อยละ 34.58 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 32.60 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 20.00 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 12.82 ระบุว่า พอใจมาก . ส่วนความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ในรอบ 6 เดือน พบว่า ตัวอย่าง ร้อยละ 32.60 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ รองลงมา ร้อยละ 31.76 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ ร้อยละ 22.28 ระบุว่า ไม่พอใจเลย และร้อยละ 13.36 ระบุว่า พอใจมาก ............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Angry
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 830 มุมมอง 0 รีวิว
  • Lenovo ได้นำเสนอแลปท็อปพลังงานแสงอาทิตย์รุ่นใหม่จากสาย Yoga ที่เรียกว่า "Yoga Solar PC" ที่งาน Mobile World Congress (MWC) ที่บาร์เซโลนา รุ่นนี้มีความพิเศษเพราะมันใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งนับเป็นก้าวใหม่ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

    Yoga Solar PC มีน้ำหนักเบาเพียง 2.6 ปอนด์ (ประมาณ 1.22 กิโลกรัม) และมีความหนาเพียง 15 มิลลิเมตร ทำให้มันมีความพกพาสะดวกมาก ซึ่งต่างจากแลปท็อปพลังงานแสงอาทิตย์รุ่นเก่าที่มักจะมีน้ำหนักมากและมีราคาแพง

    แผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนตัวเครื่องใช้เทคโนโลยี "back contact cell" ซึ่งทำให้การดูดซับแสงมีประสิทธิภาพสูงถึงกว่า 24% ต่อแผง โดยแผงเหล่านี้จะอยู่หลังพื้นผิวสีดำมันวาว ทำให้แลปท็อปดูเหมือนกับแลปท็อปทั่วไป

    สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้ว่าเราจะไม่ได้นำแลปท็อปไปใช้กลางแสงแดด แผงโซลาร์เซลล์ยังสามารถดูดซับแสงจากแสงในออฟฟิศหรือหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้ แม้ว่าแสงจะน้อยลงแต่ก็ยังคงช่วยเพิ่มระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ได้

    แผงโซลาร์เซลล์สามารถดูดซับและแปลงแสงเป็นพลังงานได้เพียงพอใน 20 นาที เพื่อให้สามารถเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้ประมาณ 1 ชั่วโมง นับว่าเป็นพลังงานที่ได้รับฟรีจากแสงที่เราสัมผัสในชีวิตประจำวัน

    นอกจากนั้น Lenovo ยังได้เปิดตัวชุดพลังงานแสงอาทิตย์แบบถอดได้ที่สามารถชาร์จแยกตัวได้เหมือนกับแบตเตอรี่พกพา และสามารถเชื่อมต่อกับแลปท็อปเพื่อเพิ่มพลังงานได้อีกด้วย

    แม้ว่า Yoga Solar PC ยังเป็นแค่คอนเซปต์ที่ยังไม่มีวันเปิดตัวแน่นอน แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงการที่เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์สามารถใช้งานได้อย่างเป็นจริงและมีประสิทธิภาพในชีวิตประจำวัน

    https://www.zdnet.com/article/lenovos-solar-powered-laptop-at-mwc-stole-the-show-for-me-and-its-surprisingly-practical/
    Lenovo ได้นำเสนอแลปท็อปพลังงานแสงอาทิตย์รุ่นใหม่จากสาย Yoga ที่เรียกว่า "Yoga Solar PC" ที่งาน Mobile World Congress (MWC) ที่บาร์เซโลนา รุ่นนี้มีความพิเศษเพราะมันใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งนับเป็นก้าวใหม่ในการพัฒนาเทคโนโลยีที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม Yoga Solar PC มีน้ำหนักเบาเพียง 2.6 ปอนด์ (ประมาณ 1.22 กิโลกรัม) และมีความหนาเพียง 15 มิลลิเมตร ทำให้มันมีความพกพาสะดวกมาก ซึ่งต่างจากแลปท็อปพลังงานแสงอาทิตย์รุ่นเก่าที่มักจะมีน้ำหนักมากและมีราคาแพง แผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนตัวเครื่องใช้เทคโนโลยี "back contact cell" ซึ่งทำให้การดูดซับแสงมีประสิทธิภาพสูงถึงกว่า 24% ต่อแผง โดยแผงเหล่านี้จะอยู่หลังพื้นผิวสีดำมันวาว ทำให้แลปท็อปดูเหมือนกับแลปท็อปทั่วไป สิ่งที่น่าสนใจคือ แม้ว่าเราจะไม่ได้นำแลปท็อปไปใช้กลางแสงแดด แผงโซลาร์เซลล์ยังสามารถดูดซับแสงจากแสงในออฟฟิศหรือหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้ แม้ว่าแสงจะน้อยลงแต่ก็ยังคงช่วยเพิ่มระยะเวลาการใช้งานของแบตเตอรี่ได้ แผงโซลาร์เซลล์สามารถดูดซับและแปลงแสงเป็นพลังงานได้เพียงพอใน 20 นาที เพื่อให้สามารถเล่นวิดีโอต่อเนื่องได้ประมาณ 1 ชั่วโมง นับว่าเป็นพลังงานที่ได้รับฟรีจากแสงที่เราสัมผัสในชีวิตประจำวัน นอกจากนั้น Lenovo ยังได้เปิดตัวชุดพลังงานแสงอาทิตย์แบบถอดได้ที่สามารถชาร์จแยกตัวได้เหมือนกับแบตเตอรี่พกพา และสามารถเชื่อมต่อกับแลปท็อปเพื่อเพิ่มพลังงานได้อีกด้วย แม้ว่า Yoga Solar PC ยังเป็นแค่คอนเซปต์ที่ยังไม่มีวันเปิดตัวแน่นอน แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงการที่เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์สามารถใช้งานได้อย่างเป็นจริงและมีประสิทธิภาพในชีวิตประจำวัน https://www.zdnet.com/article/lenovos-solar-powered-laptop-at-mwc-stole-the-show-for-me-and-its-surprisingly-practical/
    WWW.ZDNET.COM
    Lenovo's solar-powered laptop at MWC stole the show for me - and it's surprisingly practical
    The company announced a thin-and-light solar-powered laptop at MWC 2025, and it's way more useful than I assumed. Here's how it works.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวจาก Tom's Hardware นี้เกี่ยวกับการที่ DeepSeek บริษัท AI ชั้นนำจากจีน ได้ปล่อยระบบไฟล์แบบขนาน Fire-Flyer (3FS) ให้เป็นโอเพนซอร์สอย่างเต็มที่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมสัปดาห์โอเพนซอร์สของบริษัท

    3FS เป็นระบบไฟล์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในเซิร์ฟเวอร์ AI-HPC (High-Performance Computing) ซึ่งเน้นที่การอ่านข้อมูลแบบสุ่มเป็นหลัก โดยมีความสามารถในการอ่านข้อมูลได้ถึง 7.3 TB/s ในคลัสเตอร์เซิร์ฟเวอร์ของ DeepSeek ซึ่งใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มี 180 โหนดเก็บข้อมูล แต่ละโหนดมี SSD ขนาด 16 TB และเครือข่าย 200 Gbps ทำงานร่วมกับ GPU Nvidia A100 ที่ราคาถูกกว่าเซิร์ฟเวอร์ DGX-A100 ของ Nvidia ประสิทธิภาพของ 3FS อยู่ที่ 80% ของเซิร์ฟเวอร์ DGX-A100 แต่ใช้พลังงานเพียง 60% และมีราคาถูกกว่า 50%

    หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของ 3FS คือการไม่ใช้แคชการอ่าน เนื่องจากการฝึกอบรมโมเดล AI จำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลแบบสุ่มอยู่เสมอ และการอ่านข้อมูลซ้ำ ๆ อาจเป็นอันตรายต่อการฝึกอบรม LLMs (Large Language Models) เนื่องจากอาจทำให้โมเดลเรียนรู้ข้อมูลที่ผิดพลาดได้

    การเปิดให้เป็นโอเพนซอร์สของ 3FS คาดว่าจะได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วไปและผู้ใช้งาน AI-HPC ระดับองค์กร แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีจากจีนก็ตาม

    https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/deepseek-releases-powerful-new-parallel-file-system-fire-flyer-fire-system-made-open-source
    ข่าวจาก Tom's Hardware นี้เกี่ยวกับการที่ DeepSeek บริษัท AI ชั้นนำจากจีน ได้ปล่อยระบบไฟล์แบบขนาน Fire-Flyer (3FS) ให้เป็นโอเพนซอร์สอย่างเต็มที่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมสัปดาห์โอเพนซอร์สของบริษัท 3FS เป็นระบบไฟล์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานในเซิร์ฟเวอร์ AI-HPC (High-Performance Computing) ซึ่งเน้นที่การอ่านข้อมูลแบบสุ่มเป็นหลัก โดยมีความสามารถในการอ่านข้อมูลได้ถึง 7.3 TB/s ในคลัสเตอร์เซิร์ฟเวอร์ของ DeepSeek ซึ่งใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มี 180 โหนดเก็บข้อมูล แต่ละโหนดมี SSD ขนาด 16 TB และเครือข่าย 200 Gbps ทำงานร่วมกับ GPU Nvidia A100 ที่ราคาถูกกว่าเซิร์ฟเวอร์ DGX-A100 ของ Nvidia ประสิทธิภาพของ 3FS อยู่ที่ 80% ของเซิร์ฟเวอร์ DGX-A100 แต่ใช้พลังงานเพียง 60% และมีราคาถูกกว่า 50% หนึ่งในคุณสมบัติที่สำคัญของ 3FS คือการไม่ใช้แคชการอ่าน เนื่องจากการฝึกอบรมโมเดล AI จำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลแบบสุ่มอยู่เสมอ และการอ่านข้อมูลซ้ำ ๆ อาจเป็นอันตรายต่อการฝึกอบรม LLMs (Large Language Models) เนื่องจากอาจทำให้โมเดลเรียนรู้ข้อมูลที่ผิดพลาดได้ การเปิดให้เป็นโอเพนซอร์สของ 3FS คาดว่าจะได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานทั่วไปและผู้ใช้งาน AI-HPC ระดับองค์กร แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีจากจีนก็ตาม https://www.tomshardware.com/pc-components/storage/deepseek-releases-powerful-new-parallel-file-system-fire-flyer-fire-system-made-open-source
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    DeepSeek brings disruption to AI-optimized parallel file systems, releases powerful new open-source Fire-Flyer File System
    3FS brings a new paradigm for AI-HPC training servers, prioritizing random reads above all else
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 110 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีข่าวเกี่ยวกับความก้าวหน้าของ Samsung ในการผลิตชิป 2 นาโนเมตร (2 nm) โดยบริษัทนี้กำลังเตรียมที่จะเริ่มการผลิตในระดับอุตสาหกรรมในช่วงปลายปี 2025

    ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา โรงงานของ Samsung ประสบปัญหามากมายในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปแบบ Gate-All-Around (GAA) ขนาด 3 นาโนเมตร ทำให้บริษัทต้องเลิกพัฒนาชิป 3 นาโนเมตรและหันไปพัฒนาชิป 2 นาโนเมตรแทน ซึ่งขณะนี้ทีมงาน Samsung กำลังอยู่ในกระบวนการปรับปรุงสายการผลิตที่โรงงานใน Hwaseong และคาดว่าจะเริ่มการผลิตในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้

    ที่น่าสนใจคือ ทาง TSMC ซึ่งเป็นคู่แข่งหลักของ Samsung ก็กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาชิป 2 นาโนเมตรเช่นกัน และคาดว่าจะเริ่มการผลิตในช่วงเวลาเดียวกัน แม้ว่าขณะนี้ TSMC จะมีผลสำเร็จในการพัฒนาชิปนี้มากกว่า แต่ก็ยังไม่มีอะไรแน่นอนจนกว่าจะถึงช่วงเวลาการผลิตจริง

    นอกจากนั้น การที่ Samsung ได้ยกระดับการผลิตชิป 4 นาโนเมตร ซึ่งมีอัตราสำเร็จสูงถึง 80% ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าการพัฒนาชิป 2 นาโนเมตรอาจเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

    https://www.techpowerup.com/333329/samsung-reportedly-progressing-well-with-2-nm-gaa-yields-late-2025-mass-production-phase-looms
    มีข่าวเกี่ยวกับความก้าวหน้าของ Samsung ในการผลิตชิป 2 นาโนเมตร (2 nm) โดยบริษัทนี้กำลังเตรียมที่จะเริ่มการผลิตในระดับอุตสาหกรรมในช่วงปลายปี 2025 ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา โรงงานของ Samsung ประสบปัญหามากมายในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปแบบ Gate-All-Around (GAA) ขนาด 3 นาโนเมตร ทำให้บริษัทต้องเลิกพัฒนาชิป 3 นาโนเมตรและหันไปพัฒนาชิป 2 นาโนเมตรแทน ซึ่งขณะนี้ทีมงาน Samsung กำลังอยู่ในกระบวนการปรับปรุงสายการผลิตที่โรงงานใน Hwaseong และคาดว่าจะเริ่มการผลิตในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ที่น่าสนใจคือ ทาง TSMC ซึ่งเป็นคู่แข่งหลักของ Samsung ก็กำลังอยู่ในระหว่างการพัฒนาชิป 2 นาโนเมตรเช่นกัน และคาดว่าจะเริ่มการผลิตในช่วงเวลาเดียวกัน แม้ว่าขณะนี้ TSMC จะมีผลสำเร็จในการพัฒนาชิปนี้มากกว่า แต่ก็ยังไม่มีอะไรแน่นอนจนกว่าจะถึงช่วงเวลาการผลิตจริง นอกจากนั้น การที่ Samsung ได้ยกระดับการผลิตชิป 4 นาโนเมตร ซึ่งมีอัตราสำเร็จสูงถึง 80% ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าการพัฒนาชิป 2 นาโนเมตรอาจเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น https://www.techpowerup.com/333329/samsung-reportedly-progressing-well-with-2-nm-gaa-yields-late-2025-mass-production-phase-looms
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Samsung Reportedly Progressing Well with 2 nm GAA Yields, Late 2025 Mass Production Phase Looms
    Samsung's foundry operation has experienced many setbacks over the past six months, according to a steady feed of insider reports. Last November, industry moles leaked details of an apparent abandonment of the company's 3 nm Gate-All-Around (GAA) process. Significant yield problems prompted an alleg...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • Sam Altman CEO ของ OpenAI ได้กล่าวว่าการเปิดตัวของ GPT-4.5 ต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากขาดแคลนหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) ที่จำเป็นต่อการใช้งานโมเดลนี้ อย่างไรก็ตาม มีการเตรียมส่งมอบ GPUs หลายหมื่นตัวในสัปดาห์หน้าเพื่อรองรับการขยายโมเดล GPT-4.5 ให้แก่ผู้ใช้ทั่วไป

    เรื่องที่น่าสนใจคือ OpenAI และ Microsoft กำลังสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่มีมูลค่าสูงถึง 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีโครงการขยายศูนย์ข้อมูลอื่น ๆ ทั่วโลกที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผล AI อย่างมากมาย

    นอกจากนั้น บริษัทผู้ผลิตชิป Nvidia ก็กำลังมีความต้องการสูงเนื่องจากหน่วยประมวลผลรุ่น Blackwell ของพวกเขาถูกขายหมดจนถึงเดือนตุลาคมปีนี้ การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ Microsoft CEO Satya Nadella กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการสร้างระบบ AI มากเกินไป แต่ในขณะเดียวกันโมเดล AI ก็กำลังพัฒนาและต้องการพลังการประมวลผลมากขึ้นเรื่อย ๆ

    ความเป็นจริงที่น่าตื่นเต้นคือการพัฒนา AI อย่าง GPT-4.5 ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก แต่มีค่าใช้จ่ายสูงอย่างมากเช่นกัน ทำให้การใช้งานโมเดลนี้จะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการพัฒนา AI ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/openai-has-run-out-of-gpus-says-sam-altman-gpt-4-5-rollout-delayed-due-to-lack-of-processing-power
    Sam Altman CEO ของ OpenAI ได้กล่าวว่าการเปิดตัวของ GPT-4.5 ต้องถูกเลื่อนออกไป เนื่องจากขาดแคลนหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPUs) ที่จำเป็นต่อการใช้งานโมเดลนี้ อย่างไรก็ตาม มีการเตรียมส่งมอบ GPUs หลายหมื่นตัวในสัปดาห์หน้าเพื่อรองรับการขยายโมเดล GPT-4.5 ให้แก่ผู้ใช้ทั่วไป เรื่องที่น่าสนใจคือ OpenAI และ Microsoft กำลังสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI ที่มีมูลค่าสูงถึง 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังมีโครงการขยายศูนย์ข้อมูลอื่น ๆ ทั่วโลกที่จะเพิ่มขีดความสามารถในการประมวลผล AI อย่างมากมาย นอกจากนั้น บริษัทผู้ผลิตชิป Nvidia ก็กำลังมีความต้องการสูงเนื่องจากหน่วยประมวลผลรุ่น Blackwell ของพวกเขาถูกขายหมดจนถึงเดือนตุลาคมปีนี้ การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐาน AI ทำให้ Microsoft CEO Satya Nadella กล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่จะมีการสร้างระบบ AI มากเกินไป แต่ในขณะเดียวกันโมเดล AI ก็กำลังพัฒนาและต้องการพลังการประมวลผลมากขึ้นเรื่อย ๆ ความเป็นจริงที่น่าตื่นเต้นคือการพัฒนา AI อย่าง GPT-4.5 ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก แต่มีค่าใช้จ่ายสูงอย่างมากเช่นกัน ทำให้การใช้งานโมเดลนี้จะมีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและการพัฒนา AI ในอนาคต https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/openai-has-run-out-of-gpus-says-sam-altman-gpt-4-5-rollout-delayed-due-to-lack-of-processing-power
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 111 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานว่า SK Hynix กำลังพัฒนาเทคโนโลยีหน่วยความจำใหม่ชื่อ "LPDDR5M" ที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีกว่ามาตรฐาน LPDDR5X ในปัจจุบัน

    รายละเอียดเกี่ยวกับ LPDDR5M ตามรายงานของ Money Today จากเกาหลีใต้, LPDDR5M เป็นหน่วยความจำที่มีความสามารถในการทำงานที่แรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า (ประมาณ 0.98V) เมื่อเทียบกับ LPDDR5X (1.05V) ซึ่งหมายความว่ามันมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงกว่า ประมาณ 8% ที่ความเร็วสูงสุด

    เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในอุปกรณ์มือถือ เนื่องจากมีการออกแบบเพื่อประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องใช้งานแบตเตอรี่

    การพัฒนาของ SK Hynix SK Hynix ได้เปิดเผยการออกแบบ LPDDR5 Turbo (T) ตั้งแต่ปลายปี 2023 โดยเทคโนโลยีนี้ถูกโฆษณาว่าเป็นหน่วยความจำที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับอุปกรณ์มือถือ ตอนนี้พวกเขากำลังพัฒนา LPDDR5M เพื่อเสริมสร้างและขยายกลยุทธ์ในด้านหน่วยความจำ โดย LPDDR5M ถูกคาดหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์สมาร์ทโฟนในอนาคตที่มีความสามารถ AI ในตัว

    แนวโน้มในอุตสาหกรรมหน่วยความจำ ตามรายงานของผู้เฝ้าดูอุตสาหกรรมหน่วยความจำ LPDDR5M จะเป็นการเสริมสร้างกลยุทธ์ของ SK Hynix ที่รวมถึง LPDDR5X และ LPDDR5T ที่มีอยู่ โดยหน่วยความจำ LPDDR5 รุ่นใหม่ถูกมองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง

    https://www.techpowerup.com/333261/sk-hynix-reportedly-developing-lpddr5m-memory-more-power-efficient-than-lpddr5x-standard
    มีรายงานว่า SK Hynix กำลังพัฒนาเทคโนโลยีหน่วยความจำใหม่ชื่อ "LPDDR5M" ที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานดีกว่ามาตรฐาน LPDDR5X ในปัจจุบัน รายละเอียดเกี่ยวกับ LPDDR5M ตามรายงานของ Money Today จากเกาหลีใต้, LPDDR5M เป็นหน่วยความจำที่มีความสามารถในการทำงานที่แรงดันไฟฟ้าต่ำกว่า (ประมาณ 0.98V) เมื่อเทียบกับ LPDDR5X (1.05V) ซึ่งหมายความว่ามันมีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงกว่า ประมาณ 8% ที่ความเร็วสูงสุด เทคโนโลยีนี้เหมาะสำหรับการใช้งานในอุปกรณ์มือถือ เนื่องจากมีการออกแบบเพื่อประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องใช้งานแบตเตอรี่ การพัฒนาของ SK Hynix SK Hynix ได้เปิดเผยการออกแบบ LPDDR5 Turbo (T) ตั้งแต่ปลายปี 2023 โดยเทคโนโลยีนี้ถูกโฆษณาว่าเป็นหน่วยความจำที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับอุปกรณ์มือถือ ตอนนี้พวกเขากำลังพัฒนา LPDDR5M เพื่อเสริมสร้างและขยายกลยุทธ์ในด้านหน่วยความจำ โดย LPDDR5M ถูกคาดหวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งของอุปกรณ์สมาร์ทโฟนในอนาคตที่มีความสามารถ AI ในตัว แนวโน้มในอุตสาหกรรมหน่วยความจำ ตามรายงานของผู้เฝ้าดูอุตสาหกรรมหน่วยความจำ LPDDR5M จะเป็นการเสริมสร้างกลยุทธ์ของ SK Hynix ที่รวมถึง LPDDR5X และ LPDDR5T ที่มีอยู่ โดยหน่วยความจำ LPDDR5 รุ่นใหม่ถูกมองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าเพิ่มสูง https://www.techpowerup.com/333261/sk-hynix-reportedly-developing-lpddr5m-memory-more-power-efficient-than-lpddr5x-standard
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    SK hynix Reportedly Developing "LPDDR5M" Memory, More Power Efficient than LPDDR5X Standard
    According to South Korea's Money Today, SK hynix is currently engaged in the development of yet another variation of LPDDR5. The mega supplier of DRAM and flash memory chips has publicly disclosed its LPDDR5 Turbo (T) design—going back to late 2023; this iteration was advertised as the "world's fast...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมงาน iFixit ได้ทำการรื้อคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปแบบโมดูลาร์ขนาดเล็กใหม่ของ Framework ซึ่งมีขนาด 4.5 ลิตรที่สามารถถอดแยกส่วนได้ง่าย iFixit ไม่ได้ทำการประเมินแบบเต็มรูปแบบเนื่องจากเป็นหน่วยต้นแบบ แต่คาดว่าจะได้คะแนนสูงในการซ่อมแซมหลังจากทดสอบฮาร์ดแวร์จริง

    สิ่งที่น่าสนใจคือ Framework Desktop มาพร้อมกับตัวเลือกหลายแบบ แต่ที่สำคัญคือการเลือก APU ที่ใช้ AMD's 16-core Ryzen AI Max+ 395 "Strix Halo" ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงเพื่อรองรับการใช้งานหนัก แม้ว่า iFixit จะไม่พบการเปิดเผยที่สำคัญในเรื่องของการปรากฏตัวของ APU แต่อย่างไรก็ตาม Press Release ของ Framework ก็ได้แสดงภาพชัดเจนของตัวประมวลผลนี้

    นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตเรื่อง RAM ที่บัดกรีไว้บนเมนบอร์ด ซึ่งอาจทำให้ผู้ซื้อบางคนกังวล แต่ Framework ได้ชี้แจงว่าการใช้ RAM แบบถอดเปลี่ยนได้จะทำให้ประสิทธิภาพลดลงอย่างมาก ซึ่งทีมงาน iFixit ก็เห็นด้วยและเคารพในการโปร่งใสนี้

    การร่วมมือกันระหว่าง Framework กับ Cooler Master และ Noctua ในการออกแบบระบบระบายความร้อน ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้มีความเป็นไปได้สูงในการซ่อมแซมและการถอดแยกส่วน ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถอัพเกรดหรือซ่อมแซมได้ง่ายขึ้น

    https://www.techpowerup.com/333256/ifixit-documents-early-teardown-of-frameworks-modular-mini-desktop-pc
    ทีมงาน iFixit ได้ทำการรื้อคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อปแบบโมดูลาร์ขนาดเล็กใหม่ของ Framework ซึ่งมีขนาด 4.5 ลิตรที่สามารถถอดแยกส่วนได้ง่าย iFixit ไม่ได้ทำการประเมินแบบเต็มรูปแบบเนื่องจากเป็นหน่วยต้นแบบ แต่คาดว่าจะได้คะแนนสูงในการซ่อมแซมหลังจากทดสอบฮาร์ดแวร์จริง สิ่งที่น่าสนใจคือ Framework Desktop มาพร้อมกับตัวเลือกหลายแบบ แต่ที่สำคัญคือการเลือก APU ที่ใช้ AMD's 16-core Ryzen AI Max+ 395 "Strix Halo" ซึ่งได้รับการออกแบบให้มีประสิทธิภาพสูงเพื่อรองรับการใช้งานหนัก แม้ว่า iFixit จะไม่พบการเปิดเผยที่สำคัญในเรื่องของการปรากฏตัวของ APU แต่อย่างไรก็ตาม Press Release ของ Framework ก็ได้แสดงภาพชัดเจนของตัวประมวลผลนี้ นอกจากนี้ยังมีข้อสังเกตเรื่อง RAM ที่บัดกรีไว้บนเมนบอร์ด ซึ่งอาจทำให้ผู้ซื้อบางคนกังวล แต่ Framework ได้ชี้แจงว่าการใช้ RAM แบบถอดเปลี่ยนได้จะทำให้ประสิทธิภาพลดลงอย่างมาก ซึ่งทีมงาน iFixit ก็เห็นด้วยและเคารพในการโปร่งใสนี้ การร่วมมือกันระหว่าง Framework กับ Cooler Master และ Noctua ในการออกแบบระบบระบายความร้อน ทำให้ผลิตภัณฑ์นี้มีความเป็นไปได้สูงในการซ่อมแซมและการถอดแยกส่วน ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้สามารถอัพเกรดหรือซ่อมแซมได้ง่ายขึ้น https://www.techpowerup.com/333256/ifixit-documents-early-teardown-of-frameworks-modular-mini-desktop-pc
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    iFixit Documents Early Teardown of Framework's Modular Mini Desktop PC
    Shahram Mokhtari and Elizabeth Chamberlain—members of the iFixit Teardown Team—spent hands-on time with Framework's freshly introduced 4.5 liter Mini-ITX "Desktop" PC system. Official press material revealed cooling solution partnerships with Cooler Master and Noctua, but only a minority of "2nd Gen...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • Arm ได้เปิดตัวซีพียู Cortex-A320 รุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม Armv9 ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในแอปพลิเคชัน IoT และ AI ที่เน้นความมีประสิทธิภาพสูง ซีพียูนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่า Cortex-A520 ถึง 50% ด้วยการปรับปรุงในระดับไมโครอาร์คิเทกเจอร์

    Cortex-A320 ยังมีประสิทธิภาพในด้านการประมวลผลสเกลาร์สูงกว่า Cortex-A35 ถึง 30% ด้วยการใช้ตัวคาดเดาสาขาที่มีประสิทธิภาพ, การดึงข้อมูลล่วงหน้า, และการปรับปรุงระบบหน่วยความจำ ซีพียูรุ่นนี้สามารถรองรับการกำหนดค่าแบบซิงเกิลคอร์ถึงควอดคอร์ และมีหน่วย DSU-120T ที่ช่วยให้สามารถสร้างกลุ่มซีพียู Cortex-A320 เท่านั้น

    จุดเด่นของ Cortex-A320 คือการรองรับแคช L1 ขนาดสูงสุด 64 KB และแคช L2 ขนาดสูงสุด 512 KB รวมถึงอินเตอร์เฟซ AMBA5 AXI ขนาด 256 บิตสำหรับเชื่อมต่อหน่วยความจำภายนอก ซีพียูนี้ยังมีหน่วยประมวลผลเวกเตอร์ที่รองรับเทคโนโลยี NEON และ SVE2 ซึ่งสามารถใช้ร่วมกันได้ในระบบคอร์เดียวหรือระบบคอร์คู่และควอดคอร์

    ซีพียูรุ่นนี้ไม่เพียงแค่เน้นตลาด IoT เท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นตลาด AI ด้วยการรวมการปรับปรุงสถาปัตยกรรม Armv9 ในหน่วยประมวลผลเวกเตอร์ NEON และ SVE2 Cortex-A320 มีการเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล ML ถึงสิบเท่าเมื่อเทียบกับ Cortex-A35 และหกเท่าเมื่อเทียบกับ Cortex-A53 ที่ใช้งานแพร่หลาย

    นอกจากนี้ Cortex-A320 ยังรองรับประเภทข้อมูลใหม่เช่น BF16 และมีการปรับปรุงคำสั่งการคูณจุดและการคูณเมตริกซ์ ทำให้เป็นซีพียู Cortex-A ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดสำหรับแอปพลิเคชัน ML

    https://www.techpowerup.com/333194/arm-intros-cortex-a320-armv9-cpu-for-iot-and-edge-ai-applications
    Arm ได้เปิดตัวซีพียู Cortex-A320 รุ่นใหม่ที่ใช้สถาปัตยกรรม Armv9 ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับการใช้งานในแอปพลิเคชัน IoT และ AI ที่เน้นความมีประสิทธิภาพสูง ซีพียูนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่า Cortex-A520 ถึง 50% ด้วยการปรับปรุงในระดับไมโครอาร์คิเทกเจอร์ Cortex-A320 ยังมีประสิทธิภาพในด้านการประมวลผลสเกลาร์สูงกว่า Cortex-A35 ถึง 30% ด้วยการใช้ตัวคาดเดาสาขาที่มีประสิทธิภาพ, การดึงข้อมูลล่วงหน้า, และการปรับปรุงระบบหน่วยความจำ ซีพียูรุ่นนี้สามารถรองรับการกำหนดค่าแบบซิงเกิลคอร์ถึงควอดคอร์ และมีหน่วย DSU-120T ที่ช่วยให้สามารถสร้างกลุ่มซีพียู Cortex-A320 เท่านั้น จุดเด่นของ Cortex-A320 คือการรองรับแคช L1 ขนาดสูงสุด 64 KB และแคช L2 ขนาดสูงสุด 512 KB รวมถึงอินเตอร์เฟซ AMBA5 AXI ขนาด 256 บิตสำหรับเชื่อมต่อหน่วยความจำภายนอก ซีพียูนี้ยังมีหน่วยประมวลผลเวกเตอร์ที่รองรับเทคโนโลยี NEON และ SVE2 ซึ่งสามารถใช้ร่วมกันได้ในระบบคอร์เดียวหรือระบบคอร์คู่และควอดคอร์ ซีพียูรุ่นนี้ไม่เพียงแค่เน้นตลาด IoT เท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นตลาด AI ด้วยการรวมการปรับปรุงสถาปัตยกรรม Armv9 ในหน่วยประมวลผลเวกเตอร์ NEON และ SVE2 Cortex-A320 มีการเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล ML ถึงสิบเท่าเมื่อเทียบกับ Cortex-A35 และหกเท่าเมื่อเทียบกับ Cortex-A53 ที่ใช้งานแพร่หลาย นอกจากนี้ Cortex-A320 ยังรองรับประเภทข้อมูลใหม่เช่น BF16 และมีการปรับปรุงคำสั่งการคูณจุดและการคูณเมตริกซ์ ทำให้เป็นซีพียู Cortex-A ที่มีประสิทธิภาพสูงที่สุดสำหรับแอปพลิเคชัน ML https://www.techpowerup.com/333194/arm-intros-cortex-a320-armv9-cpu-for-iot-and-edge-ai-applications
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Arm Intros Cortex-A320 Armv9 CPU for IoT and Edge AI Applications
    Arm's new Cortex-A320 represents its first ultra-efficient CPU using the advanced Armv9 architecture dedicated to the needs of IoT and AI applications. The processor achieves over 50% higher efficiency compared to the Cortex-A520 through several microarchitecture optimizations, together with a narro...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในข่าวจาก TechPowerUp, Huawei ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการผลิตชิปเร่งความเร็วสำหรับงาน AI โดยมีรายงานว่าอัตราผลผลิตของชิป Ascend AI เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วงต้นปี 2025 จาก 20% เป็น 40% ทำให้เกิดความสำเร็จที่น่าประทับใจสำหรับ Huawei และพันธมิตรผู้ผลิตของพวกเขา SMIC

    ชิปเร่งความเร็วรุ่นใหม่ Ascend 910C ของ Huawei ถูกคาดการณ์ว่าจะสามารถแข่งขันได้กับ NVIDIA H100 AI GPU ซึ่งถือเป็นการก้าวเข้าสู่การแข่งขันในตลาด AI ระดับสูง นอกจากนี้ มีแผนการผลิตชิป Ascend 910C ประมาณ 100,000 หน่วย และชิป Ascend 910B รุ่นปัจจุบันถึง 300,000 หน่วยในปี 2025

    แผนการที่สำคัญของ Huawei และ SMIC คือการเพิ่มอัตราผลผลิตให้ถึง 60% ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยการใช้กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.techpowerup.com/333186/huawei-ascend-ai-accelerator-production-yields-reportedly-doubled-in-early-2025
    ในข่าวจาก TechPowerUp, Huawei ได้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการผลิตชิปเร่งความเร็วสำหรับงาน AI โดยมีรายงานว่าอัตราผลผลิตของชิป Ascend AI เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วงต้นปี 2025 จาก 20% เป็น 40% ทำให้เกิดความสำเร็จที่น่าประทับใจสำหรับ Huawei และพันธมิตรผู้ผลิตของพวกเขา SMIC ชิปเร่งความเร็วรุ่นใหม่ Ascend 910C ของ Huawei ถูกคาดการณ์ว่าจะสามารถแข่งขันได้กับ NVIDIA H100 AI GPU ซึ่งถือเป็นการก้าวเข้าสู่การแข่งขันในตลาด AI ระดับสูง นอกจากนี้ มีแผนการผลิตชิป Ascend 910C ประมาณ 100,000 หน่วย และชิป Ascend 910B รุ่นปัจจุบันถึง 300,000 หน่วยในปี 2025 แผนการที่สำคัญของ Huawei และ SMIC คือการเพิ่มอัตราผลผลิตให้ถึง 60% ในอนาคตอันใกล้นี้ โดยการใช้กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.techpowerup.com/333186/huawei-ascend-ai-accelerator-production-yields-reportedly-doubled-in-early-2025
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Huawei Ascend AI Accelerator Production Yields Reportedly "Doubled" in Early 2025
    Huawei is likely celebrating milestones on multiple fronts—as reported earlier this month, the Chinese technology manufacture has pulled in record revenues and experienced consistent growth. Additionally, industry insiders believe that things are going well within the company's production pipeline. ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรอาจเผชิญกับความตึงเครียดมากขึ้น หลังจากที่มีข่าวว่าหน่วยงานของสหรัฐฯ กำลังสอบสวนว่าพันธมิตรของตนละเมิดข้อตกลงด้านข้อมูลหรือไม่ โดยการเรียกร้องให้ Apple สร้างทางเข้าสำหรับการสอดแนมใน iCloud

    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Apple ได้ลบฟีเจอร์ Advanced Data Protection สำหรับผู้ใช้ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มชั้นการเข้ารหัสข้อมูลให้กับเนื้อหาที่ซิงค์ใน iCloud เช่น รูปถ่าย, โน้ต, การเตือนความจำ, ที่คั่นหน้า, และการสำรองข้อมูล iCloud ทำให้มีเพียงผู้ใช้เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้บนอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ แม้ว่า Apple เองจะไม่สามารถถอดรหัสข้อมูลลูกค้าได้ก็ตาม

    การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจาก Apple ได้ใช้เวลาหลายเดือนปฏิเสธคำขอจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรในการสร้างทางเข้าสำหรับให้หน่วยงานสามารถสอดแนมข้อมูลที่เข้ารหัสของผู้ใช้ได้ กรมมหาดไทยของสหราชอาณาจักรได้ออกประกาศความสามารถทางเทคนิคภายใต้กฎหมาย Investigatory Powers Act ปี 2016 หรือที่เรียกกันว่า "Snoopers' Charter"

    แทนที่จะปฏิบัติตามคำขอที่อาจส่งผลกระทบในระดับโลกต่อมาตรฐานความปลอดภัยของตน Apple เลือกที่จะลบตัวเลือก Advanced Data Protection สำหรับผู้ใช้ใหม่ในสหราชอาณาจักร – ผู้ใช้ ADP ที่มีอยู่แล้วจะต้องปิดฟีเจอร์นี้ด้วยตนเองในช่วงเวลาผ่อนผัน

    ตอนนี้ Reuters รายงานว่า Tulsi Gabbard ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้กล่าวในจดหมายถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ สองคนว่า สหรัฐฯ กำลังตรวจสอบว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรละเมิดข้อตกลง Cloud Act หรือไม่

    ข้อตกลง Cloud Act ระบุว่าสหราชอาณาจักรไม่สามารถออกคำขอข้อมูลของพลเมืองสหรัฐฯ หรือผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรอย่างถูกกฎหมาย และไม่สามารถเรียกร้องข้อมูลจากบุคคลที่อยู่ในสหรัฐฯ ได้

    https://www.techspot.com/news/106948-us-officials-reviewing-whether-uk-violated-treaty-apple.html
    ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรอาจเผชิญกับความตึงเครียดมากขึ้น หลังจากที่มีข่าวว่าหน่วยงานของสหรัฐฯ กำลังสอบสวนว่าพันธมิตรของตนละเมิดข้อตกลงด้านข้อมูลหรือไม่ โดยการเรียกร้องให้ Apple สร้างทางเข้าสำหรับการสอดแนมใน iCloud เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Apple ได้ลบฟีเจอร์ Advanced Data Protection สำหรับผู้ใช้ในสหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่เพิ่มชั้นการเข้ารหัสข้อมูลให้กับเนื้อหาที่ซิงค์ใน iCloud เช่น รูปถ่าย, โน้ต, การเตือนความจำ, ที่คั่นหน้า, และการสำรองข้อมูล iCloud ทำให้มีเพียงผู้ใช้เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้บนอุปกรณ์ที่เชื่อถือได้ แม้ว่า Apple เองจะไม่สามารถถอดรหัสข้อมูลลูกค้าได้ก็ตาม การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจาก Apple ได้ใช้เวลาหลายเดือนปฏิเสธคำขอจากรัฐบาลสหราชอาณาจักรในการสร้างทางเข้าสำหรับให้หน่วยงานสามารถสอดแนมข้อมูลที่เข้ารหัสของผู้ใช้ได้ กรมมหาดไทยของสหราชอาณาจักรได้ออกประกาศความสามารถทางเทคนิคภายใต้กฎหมาย Investigatory Powers Act ปี 2016 หรือที่เรียกกันว่า "Snoopers' Charter" แทนที่จะปฏิบัติตามคำขอที่อาจส่งผลกระทบในระดับโลกต่อมาตรฐานความปลอดภัยของตน Apple เลือกที่จะลบตัวเลือก Advanced Data Protection สำหรับผู้ใช้ใหม่ในสหราชอาณาจักร – ผู้ใช้ ADP ที่มีอยู่แล้วจะต้องปิดฟีเจอร์นี้ด้วยตนเองในช่วงเวลาผ่อนผัน ตอนนี้ Reuters รายงานว่า Tulsi Gabbard ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้กล่าวในจดหมายถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐฯ สองคนว่า สหรัฐฯ กำลังตรวจสอบว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรละเมิดข้อตกลง Cloud Act หรือไม่ ข้อตกลง Cloud Act ระบุว่าสหราชอาณาจักรไม่สามารถออกคำขอข้อมูลของพลเมืองสหรัฐฯ หรือผู้มีถิ่นที่อยู่ถาวรอย่างถูกกฎหมาย และไม่สามารถเรียกร้องข้อมูลจากบุคคลที่อยู่ในสหรัฐฯ ได้ https://www.techspot.com/news/106948-us-officials-reviewing-whether-uk-violated-treaty-apple.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US investigates UK's push for Apple backdoor amid data treaty concerns
    Last week, Apple removed its Advanced Data Protection feature for UK users. The extra layer of security encrypted synced iCloud content such as photos, notes, reminders, bookmarks,...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • ได้มีการเปิดตัว Nextcloud Hub 10 ซึ่งเป็นโซลูชันคลาวด์แบบทำเอง (DIY cloud) ที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร Nextcloud Hub 10 มาพร้อมกับเครื่องมือและแอปพลิเคชันสำหรับการทำงานสำนักงานทุกประเภท เช่น การจัดเก็บไฟล์ วิดีโอคอลและแชท การจัดการปฏิทินและอีเมล รวมถึงผู้ช่วย AI ที่เชื่อมต่อกับโมเดลภาษา AI ได้หลากหลาย

    หนึ่งในจุดเด่นของ Nextcloud Hub 10 คือความสามารถในการเชื่อมต่อกับบริการ AI เช่น OpenAI รวมถึงการใช้งาน LocalAI และ Ollama ที่สามารถรันโมเดลภาษา AI เช่น LLama 3.1, DeepSeek R1, หรือ Mistral ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสรุปการสนทนาอีเมล แนะนำการเขียนเอกสาร แปลงและแปลข้อความแชท รวมถึงสร้างภาพได้

    Nextcloud Hub 10 ยังมาพร้อมกับการปรับปรุงด้านความปลอดภัยที่สำคัญ เช่น การเข้ารหัสแบบ end-to-end สำหรับการเข้าถึงไฟล์ที่เข้ารหัสผ่านเว็บและการสนทนาวิดีโอ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มและการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มความสามารถในการแชร์ไฟล์และจัดการทีม

    Dirk Schrödter รัฐมนตรีว่าการดิจิทัลของรัฐ Schleswig-Holstein ประเทศเยอรมนี กล่าวถึง Nextcloud ว่า "เราจะให้บริการ AI แก่เพื่อนร่วมงานในรัฐโดยตรงที่สถานที่ทำงาน เราต้องการส่งเสริมการพัฒนาบริการที่มีความเป็นส่วนตัวและเปิดเผย รวมถึงการใช้บริการ AI ที่มีอยู่ เช่น ChatGPT"

    อย่างไรก็ตาม การติดตั้ง Nextcloud Hub 10 อาจมีความซับซ้อนอยู่บ้าง ผู้ใช้บางคนอาจพบปัญหาในการติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์บางประเภท ดังนั้นจึงแนะนำให้รอการอัปเดตครั้งถัดไปก่อนที่จะติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานอยู่

    https://www.zdnet.com/article/nextcloud-challenges-cloud-powers-with-hub-10-release/
    ได้มีการเปิดตัว Nextcloud Hub 10 ซึ่งเป็นโซลูชันคลาวด์แบบทำเอง (DIY cloud) ที่มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวและการรักษาความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้ทั่วไปและองค์กร Nextcloud Hub 10 มาพร้อมกับเครื่องมือและแอปพลิเคชันสำหรับการทำงานสำนักงานทุกประเภท เช่น การจัดเก็บไฟล์ วิดีโอคอลและแชท การจัดการปฏิทินและอีเมล รวมถึงผู้ช่วย AI ที่เชื่อมต่อกับโมเดลภาษา AI ได้หลากหลาย หนึ่งในจุดเด่นของ Nextcloud Hub 10 คือความสามารถในการเชื่อมต่อกับบริการ AI เช่น OpenAI รวมถึงการใช้งาน LocalAI และ Ollama ที่สามารถรันโมเดลภาษา AI เช่น LLama 3.1, DeepSeek R1, หรือ Mistral ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถสรุปการสนทนาอีเมล แนะนำการเขียนเอกสาร แปลงและแปลข้อความแชท รวมถึงสร้างภาพได้ Nextcloud Hub 10 ยังมาพร้อมกับการปรับปรุงด้านความปลอดภัยที่สำคัญ เช่น การเข้ารหัสแบบ end-to-end สำหรับการเข้าถึงไฟล์ที่เข้ารหัสผ่านเว็บและการสนทนาวิดีโอ นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มและการใช้งานให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเพิ่มความสามารถในการแชร์ไฟล์และจัดการทีม Dirk Schrödter รัฐมนตรีว่าการดิจิทัลของรัฐ Schleswig-Holstein ประเทศเยอรมนี กล่าวถึง Nextcloud ว่า "เราจะให้บริการ AI แก่เพื่อนร่วมงานในรัฐโดยตรงที่สถานที่ทำงาน เราต้องการส่งเสริมการพัฒนาบริการที่มีความเป็นส่วนตัวและเปิดเผย รวมถึงการใช้บริการ AI ที่มีอยู่ เช่น ChatGPT" อย่างไรก็ตาม การติดตั้ง Nextcloud Hub 10 อาจมีความซับซ้อนอยู่บ้าง ผู้ใช้บางคนอาจพบปัญหาในการติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์บางประเภท ดังนั้นจึงแนะนำให้รอการอัปเดตครั้งถัดไปก่อนที่จะติดตั้งบนเซิร์ฟเวอร์ที่ใช้งานอยู่ https://www.zdnet.com/article/nextcloud-challenges-cloud-powers-with-hub-10-release/
    WWW.ZDNET.COM
    Nextcloud challenges cloud powers with Hub 10 release
    Don't trust Google Docs or Microsoft 365 with your work, but still want to use the cloud for your personal or professional work? Then give Nextcloud Hub 10 a try and run your own software-as-a-service cloud.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้เผยถึงการปรับปรุงหน่วยประมวลผลข้อมูล (Data Processing Unit - DPU) รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า BlueField-3 ซึ่งไม่เพียงเป็นซุปเปอร์นิกส์ (SuperNIC) แบบปกติ แต่ยังเป็นแบบ self-hosted ที่ถูกออกแบบมาเน้นการใช้งานในงานเก็บข้อมูล

    SuperNIC เป็นคำที่ใช้เรียกอุปกรณ์เครือข่ายชนิดหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อเร่งความเร็วในการประมวลผลข้อมูลในศูนย์ข้อมูลที่ใช้ AI โดยเฉพาะ SuperNIC เป็นตัวเร่งเครือข่ายที่มีความสามารถสูงในการเชื่อมต่อระหว่างเซิร์ฟเวอร์ GPU ทำให้การสื่อสารระหว่าง GPU เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง

    BlueField-3 รุ่นใหม่นี้ได้เพิ่มความเร็วของหน่วยความจำอย่างมาก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดย BlueField-2 DPU ใช้การออกแบบแบบช่องเดียวซึ่งทำให้ความเร็วหน่วยความจำต่ำกว่า แต่ BlueField-3 รุ่นใหม่นี้มีอินเตอร์เฟซหน่วยความจำ DDR5-5600 แบบคู่ขนาด 64 บิต ทำให้มีความเร็วหน่วยความจำถึง 80GB/s ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานที่ต้องการการเข้าถึงข้อมูลความเร็วสูง

    BlueField-3 B3220SH เป็นเวอร์ชันพิเศษที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์โดยตรง โดยสามารถเชื่อมต่อกับ NVMe SSDs และ GPUs ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาซีพียูภายนอก ความสามารถนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นโดยไม่ต้องพึ่งพาซีพียู x86 หรือ Arm แบบดั้งเดิม ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนของการไหลข้อมูลและลดเวลาแฝง ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมในงานที่ต้องการเก็บข้อมูลมาก

    การออกแบบนี้ยังสนับสนุนการใช้งานในหลากหลายเซ็กเตอร์ เช่น การประมวลผลประสิทธิภาพสูง (High-Performance Computing - HPC) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) BlueField-3 สามารถลดงานที่ซ้ำซ้อนจากซีพียู ทำให้ทรัพยากรในการประมวลผลถูกปล่อยให้ใช้งานในงานที่สร้างรายได้ได้มากขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/security/nvidias-bluefield-3-supernic-morphs-into-a-special-self-hosted-storage-powerhouse-with-an-80gbps-memory-boost-and-pcie-ready-architecture
    Nvidia ได้เผยถึงการปรับปรุงหน่วยประมวลผลข้อมูล (Data Processing Unit - DPU) รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า BlueField-3 ซึ่งไม่เพียงเป็นซุปเปอร์นิกส์ (SuperNIC) แบบปกติ แต่ยังเป็นแบบ self-hosted ที่ถูกออกแบบมาเน้นการใช้งานในงานเก็บข้อมูล SuperNIC เป็นคำที่ใช้เรียกอุปกรณ์เครือข่ายชนิดหนึ่งที่ออกแบบมาเพื่อเร่งความเร็วในการประมวลผลข้อมูลในศูนย์ข้อมูลที่ใช้ AI โดยเฉพาะ SuperNIC เป็นตัวเร่งเครือข่ายที่มีความสามารถสูงในการเชื่อมต่อระหว่างเซิร์ฟเวอร์ GPU ทำให้การสื่อสารระหว่าง GPU เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูง BlueField-3 รุ่นใหม่นี้ได้เพิ่มความเร็วของหน่วยความจำอย่างมาก เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า โดย BlueField-2 DPU ใช้การออกแบบแบบช่องเดียวซึ่งทำให้ความเร็วหน่วยความจำต่ำกว่า แต่ BlueField-3 รุ่นใหม่นี้มีอินเตอร์เฟซหน่วยความจำ DDR5-5600 แบบคู่ขนาด 64 บิต ทำให้มีความเร็วหน่วยความจำถึง 80GB/s ซึ่งช่วยเพิ่มความเร็วในการประมวลผลข้อมูลและประสิทธิภาพการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการใช้งานที่ต้องการการเข้าถึงข้อมูลความเร็วสูง BlueField-3 B3220SH เป็นเวอร์ชันพิเศษที่มีความสามารถในการเชื่อมต่อฮาร์ดแวร์โดยตรง โดยสามารถเชื่อมต่อกับ NVMe SSDs และ GPUs ได้โดยไม่ต้องพึ่งพาซีพียูภายนอก ความสามารถนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถกำหนดค่าโซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลได้อย่างยืดหยุ่นโดยไม่ต้องพึ่งพาซีพียู x86 หรือ Arm แบบดั้งเดิม ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนของการไหลข้อมูลและลดเวลาแฝง ช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมในงานที่ต้องการเก็บข้อมูลมาก การออกแบบนี้ยังสนับสนุนการใช้งานในหลากหลายเซ็กเตอร์ เช่น การประมวลผลประสิทธิภาพสูง (High-Performance Computing - HPC) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) BlueField-3 สามารถลดงานที่ซ้ำซ้อนจากซีพียู ทำให้ทรัพยากรในการประมวลผลถูกปล่อยให้ใช้งานในงานที่สร้างรายได้ได้มากขึ้น https://www.techradar.com/pro/security/nvidias-bluefield-3-supernic-morphs-into-a-special-self-hosted-storage-powerhouse-with-an-80gbps-memory-boost-and-pcie-ready-architecture
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท SK hynix กำลังจะเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการหน่วยความจำแฟลช NAND และธุรกิจจัดเก็บข้อมูลของ Intel ซึ่งกระบวนการนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ห้าปีก่อน ด้วยมูลค่าข้อตกลง 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    การซื้อกิจการครั้งนี้ได้ดำเนินการเป็นระยะ ๆ โดยเฟสแรกเสร็จสิ้นในปลายปี 2021 โดยได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในเอเชีย การดำเนินการในครั้งนี้ทำให้ SK hynix ได้รับการออกแบบ SSD NAND ของ Intel และพนักงานในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยจัดตั้งเป็นหน่วยงานใหม่ชื่อว่า Solidigm

    รายงานจาก BusinessKorea ระบุว่า SK hynix กำลังจะชำระเงินงวดสุดท้ายเป็นจำนวนเงิน 2.235 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการซื้อกิจการนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ การสำเร็จการซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้ SK hynix เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Samsung ในตลาด NAND flash

    การขยายกิจการของ SK hynix นี้ยังมีการเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ SSD สำหรับองค์กร เช่น Google และ Meta ที่กำลังดำเนินการอัพเกรดศูนย์ข้อมูลทั่วโลก BusinessKorea เชื่อว่าการขยายกิจการนี้จะช่วยให้ SK hynix มีความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยใช้ AI เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโต

    https://www.techpowerup.com/333108/reports-suggest-sk-hynix-finalizing-acquisition-of-intel-nand-business
    บริษัท SK hynix กำลังจะเสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการหน่วยความจำแฟลช NAND และธุรกิจจัดเก็บข้อมูลของ Intel ซึ่งกระบวนการนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ห้าปีก่อน ด้วยมูลค่าข้อตกลง 9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ การซื้อกิจการครั้งนี้ได้ดำเนินการเป็นระยะ ๆ โดยเฟสแรกเสร็จสิ้นในปลายปี 2021 โดยได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในเอเชีย การดำเนินการในครั้งนี้ทำให้ SK hynix ได้รับการออกแบบ SSD NAND ของ Intel และพนักงานในด้านการวิจัยและพัฒนา (R&D) โดยจัดตั้งเป็นหน่วยงานใหม่ชื่อว่า Solidigm รายงานจาก BusinessKorea ระบุว่า SK hynix กำลังจะชำระเงินงวดสุดท้ายเป็นจำนวนเงิน 2.235 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการซื้อกิจการนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ การสำเร็จการซื้อกิจการครั้งนี้จะทำให้ SK hynix เป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Samsung ในตลาด NAND flash การขยายกิจการของ SK hynix นี้ยังมีการเน้นไปที่การตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์ SSD สำหรับองค์กร เช่น Google และ Meta ที่กำลังดำเนินการอัพเกรดศูนย์ข้อมูลทั่วโลก BusinessKorea เชื่อว่าการขยายกิจการนี้จะช่วยให้ SK hynix มีความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยใช้ AI เป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการเติบโต https://www.techpowerup.com/333108/reports-suggest-sk-hynix-finalizing-acquisition-of-intel-nand-business
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Reports Suggest SK hynix Finalizing Acquisition of Intel NAND Business
    Almost five years ago, SK hynix announced a planned $9 billion acquisition of Intel's NAND flash memory and storage business. The semiconductor giant's takeover process has been a gradual affair; the first phase was complete by the end of 2021, with Asian governing bodies—just before Christmas—givin...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Micron Technology ได้ประกาศความสำเร็จในการส่งตัวอย่างหน่วยความจำ 1γ (1-gamma) DRAM รุ่นแรกในอุตสาหกรรม โดยใช้กระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญในด้านการผลิตหน่วยความจำ DRAM ที่มีประสิทธิภาพสูง

    หน่วยความจำ 1γ DRAM ของ Micron ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูง โดยมีความสามารถในการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 9200 MT/s และลดการใช้พลังงานลงถึง 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีความหนาแน่นของบิตสูงขึ้นถึง 30% ซึ่งทำให้สามารถผลิตหน่วยความจำในปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    Scott DeBoer รองประธานบริหารและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของ Micron กล่าวว่า "ความเชี่ยวชาญของ Micron ในการพัฒนาหน่วยความจำ DRAM ที่เป็นเอกลักษณ์ ร่วมกับการใช้เทคโนโลยี EUV ช่วยให้เราสามารถสร้างหน่วยความจำที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความยั่งยืน"

    การเปลี่ยนมาใช้กระบวนการผลิต 1γ DRAM จะช่วยให้ Micron สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านการประมวลผลในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในศูนย์ข้อมูล (Data Center) อุปกรณ์ AI บน Edge คอมพิวเตอร์พีซีสมาร์ทโฟน และรถยนต์

    นอกจากนี้ 1γ DRAM ยังมีการใช้งาน CMOS เทคโนโลยีใหม่ที่มีความสามารถสูง และมีการปรับปรุงการออกแบบเพื่อลดขนาดของฟีเจอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน

    Micron ยังระบุว่าจะนำหน่วยความจำ 1γ DRAM นี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์หน่วยความจำประเภทอื่นๆ เช่น GDDR7, LPDDR5X และหน่วยความจำสำหรับศูนย์ข้อมูลในอนาคต

    https://www.techpowerup.com/333111/micron-announces-shipment-of-1g-1-gamma-dram-companys-first-euv-memory-node
    บริษัท Micron Technology ได้ประกาศความสำเร็จในการส่งตัวอย่างหน่วยความจำ 1γ (1-gamma) DRAM รุ่นแรกในอุตสาหกรรม โดยใช้กระบวนการผลิตที่ใช้เทคโนโลยี EUV (Extreme Ultraviolet Lithography) ซึ่งถือเป็นการก้าวกระโดดครั้งสำคัญในด้านการผลิตหน่วยความจำ DRAM ที่มีประสิทธิภาพสูง หน่วยความจำ 1γ DRAM ของ Micron ถูกออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสูง โดยมีความสามารถในการส่งข้อมูลสูงสุดถึง 9200 MT/s และลดการใช้พลังงานลงถึง 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ยังมีความหนาแน่นของบิตสูงขึ้นถึง 30% ซึ่งทำให้สามารถผลิตหน่วยความจำในปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น Scott DeBoer รองประธานบริหารและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ของ Micron กล่าวว่า "ความเชี่ยวชาญของ Micron ในการพัฒนาหน่วยความจำ DRAM ที่เป็นเอกลักษณ์ ร่วมกับการใช้เทคโนโลยี EUV ช่วยให้เราสามารถสร้างหน่วยความจำที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความยั่งยืน" การเปลี่ยนมาใช้กระบวนการผลิต 1γ DRAM จะช่วยให้ Micron สามารถตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นในด้านการประมวลผลในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในศูนย์ข้อมูล (Data Center) อุปกรณ์ AI บน Edge คอมพิวเตอร์พีซีสมาร์ทโฟน และรถยนต์ นอกจากนี้ 1γ DRAM ยังมีการใช้งาน CMOS เทคโนโลยีใหม่ที่มีความสามารถสูง และมีการปรับปรุงการออกแบบเพื่อลดขนาดของฟีเจอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้พลังงาน Micron ยังระบุว่าจะนำหน่วยความจำ 1γ DRAM นี้ไปใช้ในผลิตภัณฑ์หน่วยความจำประเภทอื่นๆ เช่น GDDR7, LPDDR5X และหน่วยความจำสำหรับศูนย์ข้อมูลในอนาคต https://www.techpowerup.com/333111/micron-announces-shipment-of-1g-1-gamma-dram-companys-first-euv-memory-node
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Micron Announces Shipment of 1γ (1-gamma) DRAM: Company's First EUV Memory Node
    Micron Technology, Inc., today announced it is the first in the industry to ship samples of its 1γ (1-gamma), sixth-generation (10 nm-class) DRAM node-based DDR5 memory designed for next-generation CPUs to ecosystem partners and select customers. This 1γ DRAM milestone builds on Micron's previous 1α...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • บริษัท Imagination Technologies ได้ประกาศเปิดตัว GPU IP รุ่นใหม่ Imagination DXTP ที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า DXT โดย DXTP นี้มุ่งเน้นการใช้งานในตลาดที่ต้องการพลังงานต่ำ เช่น แล็ปท็อป และอุปกรณ์มือถือ

    Imagination DXTP จะมีสองรุ่นย่อย คือ DXTP-48-1536 และ DXTP-64-2048 ทั้งสองรุ่นมีการสนับสนุนซอฟต์แวร์และเฟิร์มแวร์ที่เหมือนกัน โดยรองรับ Vulkan 1.4 และ OpenGL 4.6 และ OpenCL 3.0 ที่ถูกปรับปรุงอย่างดีเยี่ยม เพื่อให้สามารถใช้งาน GPU ได้ถึง 80% ในงานประจำวัน

    GPU เหล่านี้มีความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (asynchronous multitasking) ทำให้สามารถทำงานกราฟิกและ AI พร้อมกันได้ นอกจากนี้ DXTP ยังมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่ 1 GHz และมีประสิทธิภาพในการประมวลผล FP32 FLOPs/Clock อยู่ที่ 1,536 และ 2,048 สำหรับรุ่น DXTP-48-1536 และ DXTP-64-2048 ตามลำดับ

    Imagination DXTP ยังรองรับระบบปฏิบัติการ Linux และ Android แต่ยังไม่มีการสนับสนุน Windows และ MacOS เนื่องจากเป็นฝันที่ยังไม่เป็นจริงสำหรับ Windows บน RISC-V อย่างไรก็ตาม คอมพิวเตอร์ Linux ที่ใช้พลังงานต่ำอาจเป็นเป้าหมายหนึ่งสำหรับการใช้งาน DXTP ในอนาคต

    Imagination หวังว่า DXTP จะนำความสามารถ AI ไปสู่ผลิตภัณฑ์ของพันธมิตรหลายราย เช่น สมาร์ทโฟน และพีซี โดย DXTP จะเป็นสมาชิกใหม่ของตระกูล D-Series GPU ของ Imagination ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้การเล่นเกมบนเดสก์ท็อปที่มีพลังงานต่ำเป็นไปได้

    แม้ว่า DXTP จะยังอยู่ในระยะเริ่มต้นการผลิต แต่ Imagination คาดหวังว่าจะเห็นการใช้งานในผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคในปีต่อไป บริษัทหวังว่าเทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ที่ใช้พลังงานต่ำ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/imagination-reveals-new-power-efficient-dxtp-gpu-for-laptops-and-mobile-devices
    บริษัท Imagination Technologies ได้ประกาศเปิดตัว GPU IP รุ่นใหม่ Imagination DXTP ที่มีประสิทธิภาพการใช้พลังงานสูงขึ้นถึง 20% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า DXT โดย DXTP นี้มุ่งเน้นการใช้งานในตลาดที่ต้องการพลังงานต่ำ เช่น แล็ปท็อป และอุปกรณ์มือถือ Imagination DXTP จะมีสองรุ่นย่อย คือ DXTP-48-1536 และ DXTP-64-2048 ทั้งสองรุ่นมีการสนับสนุนซอฟต์แวร์และเฟิร์มแวร์ที่เหมือนกัน โดยรองรับ Vulkan 1.4 และ OpenGL 4.6 และ OpenCL 3.0 ที่ถูกปรับปรุงอย่างดีเยี่ยม เพื่อให้สามารถใช้งาน GPU ได้ถึง 80% ในงานประจำวัน GPU เหล่านี้มีความสามารถในการทำงานหลายอย่างพร้อมกัน (asynchronous multitasking) ทำให้สามารถทำงานกราฟิกและ AI พร้อมกันได้ นอกจากนี้ DXTP ยังมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาที่ 1 GHz และมีประสิทธิภาพในการประมวลผล FP32 FLOPs/Clock อยู่ที่ 1,536 และ 2,048 สำหรับรุ่น DXTP-48-1536 และ DXTP-64-2048 ตามลำดับ Imagination DXTP ยังรองรับระบบปฏิบัติการ Linux และ Android แต่ยังไม่มีการสนับสนุน Windows และ MacOS เนื่องจากเป็นฝันที่ยังไม่เป็นจริงสำหรับ Windows บน RISC-V อย่างไรก็ตาม คอมพิวเตอร์ Linux ที่ใช้พลังงานต่ำอาจเป็นเป้าหมายหนึ่งสำหรับการใช้งาน DXTP ในอนาคต Imagination หวังว่า DXTP จะนำความสามารถ AI ไปสู่ผลิตภัณฑ์ของพันธมิตรหลายราย เช่น สมาร์ทโฟน และพีซี โดย DXTP จะเป็นสมาชิกใหม่ของตระกูล D-Series GPU ของ Imagination ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำให้การเล่นเกมบนเดสก์ท็อปที่มีพลังงานต่ำเป็นไปได้ แม้ว่า DXTP จะยังอยู่ในระยะเริ่มต้นการผลิต แต่ Imagination คาดหวังว่าจะเห็นการใช้งานในผลิตภัณฑ์ผู้บริโภคในปีต่อไป บริษัทหวังว่าเทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของอุปกรณ์มือถือและคอมพิวเตอร์ที่ใช้พลังงานต่ำ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/imagination-reveals-new-power-efficient-dxtp-gpu-for-laptops-and-mobile-devices
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบดแห้ง (PULVERIZER) บดพริกแห้งเม็ดใหญ่ ความละเอียด 2 มม.
    #พริกป่น #บดพริกแห้ง
    เครื่องบดผง สแตนเลส "BONNY" บดหยาบ บดละเอียดได้ตามต้องการ
    โดยปรับเปลี่ยนแผ่นตะแกรงภายในตัวเครื่อง
    ใช้งานง่าย ทำความสะอาดง่าย👍 บดได้หลาก เช่น ข้าวสาร ถั่ว เม็ดข้าวโพด ธัญพืชต่างๆ ใบชา พริกไทย สมุนไพร นิยมใช้ในอุตสาหกรรมยา สมุนไพร เคมี เครื่องสำอาง ยิปซั่ม ปูนซีเมนต์ เครื่องเทศ ถ่านหิน แร่ เป็นต้o

    ลักษณะพิเศษ เปลี่ยนฟันตี เฉพาะฟันได้ แตกต่างจากเครื่องบดแห้งทั่วไป เมื่อเกิดความเสียหาย เช่นฟันตีหักจะต้องเปลี่ยนจานฟันตีใหม่ทั้งหมด แต่เครื่องBONNY สามารถเปลี่ยนเฉพาะฟันตีที่หัก
    จึงช่วยท่านประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่ได้มากกว่า
    เครื่องได้มาตรฐานยุโรปCE รองรับมาตรฐาน GMP, HACCP
    เหมาะใช้ในงานวิจัย โรงงาน หรือในครัวเรือน

    Model : YWF-10B-6P-JCXT-S
    Capacity : 5-30 KG./H.
    Power : 3 HP , 380V
    Speed : 4,500 RPM
    Dimensions : 64x45x142 cm.
    Weight : 100 KG

    สามารถเข้ามาดูสินค้าจริงที่หน้าร้านได้เลยนะคะ
    เวลาเปิดทำการ :
    จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00
    และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00
    แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7

    #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY
    ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน
    m.me/yonghahheng 👈👈 แชทเลย
    LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า)
    หรือ https://lin.ee/HV4lSKp
    02-215-3515-9 หรือ 081-3189098
    www.yoryonghahheng.com
    E-mail : sales@yoryonghahheng.com
    yonghahheng@gmail.com

    #สไลด์ชาบู #สไลซ์เนื้อแช่แข็ง #สไลซ์พูทุเรียนดิบ #ขอดเกล็ดปลา #ลอกหนังปลา #ผ่าซีกปลา #เครื่องทำน้ำจิ้ม #ทำเครื่องปรุงรส #ทำเครื่องสำอาง #เครื่องแกะเม็ดข้าวโพด #แกะเมล็ดข้าวโพด #เครื่องย่อย #ย่อยกาก #ย่อยกากอาหาร #บดพริกคั่ว #บีดอัดกระป๋องสี #บีดอัดกระดาษ #บีบอัดลัง #เครื่องทำซอส #oilscrewpress #สกัดน้ำมัน #เครื่องปอก #ปอกเปลือกกระเทียม #ปอกเปลือกหอมแดง #บดพริกป่น #บดพริกผง
    เครื่องบดแห้ง (PULVERIZER) บดพริกแห้งเม็ดใหญ่ ความละเอียด 2 มม. #พริกป่น #บดพริกแห้ง เครื่องบดผง สแตนเลส "BONNY" บดหยาบ บดละเอียดได้ตามต้องการ โดยปรับเปลี่ยนแผ่นตะแกรงภายในตัวเครื่อง ใช้งานง่าย ทำความสะอาดง่าย👍 บดได้หลาก เช่น ข้าวสาร ถั่ว เม็ดข้าวโพด ธัญพืชต่างๆ ใบชา พริกไทย สมุนไพร นิยมใช้ในอุตสาหกรรมยา สมุนไพร เคมี เครื่องสำอาง ยิปซั่ม ปูนซีเมนต์ เครื่องเทศ ถ่านหิน แร่ เป็นต้o ลักษณะพิเศษ เปลี่ยนฟันตี เฉพาะฟันได้ แตกต่างจากเครื่องบดแห้งทั่วไป เมื่อเกิดความเสียหาย เช่นฟันตีหักจะต้องเปลี่ยนจานฟันตีใหม่ทั้งหมด แต่เครื่องBONNY สามารถเปลี่ยนเฉพาะฟันตีที่หัก จึงช่วยท่านประหยัดค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะไหล่ได้มากกว่า เครื่องได้มาตรฐานยุโรปCE รองรับมาตรฐาน GMP, HACCP เหมาะใช้ในงานวิจัย โรงงาน หรือในครัวเรือน Model : YWF-10B-6P-JCXT-S Capacity : 5-30 KG./H. Power : 3 HP , 380V Speed : 4,500 RPM Dimensions : 64x45x142 cm. Weight : 100 KG สามารถเข้ามาดูสินค้าจริงที่หน้าร้านได้เลยนะคะ เวลาเปิดทำการ : จันทร์-ศุกร์ เวลา 8.00-17.00 และวันเสาร์ เวลา 8.00-16.00 แผนที่ https://maps.app.goo.gl/9oLTmzwbArzJy5wc7 #เลือกคุณภาพ #เลือกBONNY ย่งฮะเฮง เครื่องบด ย่อย หั่น สับ สไลซ์ คั้น อัด เลื่อย สำหรับ อาหาร ยา พลังงานหมุนเวียน m.me/yonghahheng 👈👈 แชทเลย LINE Business ID : @yonghahheng (มี@ข้างหน้า) หรือ https://lin.ee/HV4lSKp 02-215-3515-9 หรือ 081-3189098 www.yoryonghahheng.com E-mail : sales@yoryonghahheng.com yonghahheng@gmail.com #สไลด์ชาบู #สไลซ์เนื้อแช่แข็ง #สไลซ์พูทุเรียนดิบ #ขอดเกล็ดปลา #ลอกหนังปลา #ผ่าซีกปลา #เครื่องทำน้ำจิ้ม #ทำเครื่องปรุงรส #ทำเครื่องสำอาง #เครื่องแกะเม็ดข้าวโพด #แกะเมล็ดข้าวโพด #เครื่องย่อย #ย่อยกาก #ย่อยกากอาหาร #บดพริกคั่ว #บีดอัดกระป๋องสี #บีดอัดกระดาษ #บีบอัดลัง #เครื่องทำซอส #oilscrewpress #สกัดน้ำมัน #เครื่องปอก #ปอกเปลือกกระเทียม #ปอกเปลือกหอมแดง #บดพริกป่น #บดพริกผง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 480 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Microsoft เพิ่งเปิดตัวแอป Office เวอร์ชันฟรีที่รองรับโฆษณา สำหรับผู้ใช้ Windows 11 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Microsoft นำเสนอบริการนี้ฟรี นอกจากการใช้งานผ่านเว็บ ซึ่งมีให้ใช้ฟรีมาระยะหนึ่งแล้ว ผู้ใช้สามารถใช้งาน Word, Excel, และ PowerPoint ได้ฟรี แต่จะมีโฆษณาแบบแบนเนอร์และวิดีโอ 15 วินาทีเล่นเป็นระยะ

    อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดหลายประการในการใช้แอปฟรีนี้ เช่น ผู้ใช้ไม่สามารถบันทึกไฟล์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ แต่ต้องบันทึกใน OneDrive แทน และยังมีการตัดฟีเจอร์การจัดรูปแบบและตกแต่งเอกสารออกไปมากกว่า 30 ฟีเจอร์ เช่น การจัดช่องว่างระหว่างบรรทัด การห่อข้อความ หัวกระดาษและท้ายกระดาษ การบุ๊คมาร์ค และฟิลด์วันที่และเวลา เป็นต้น

    แม้แอปนี้จะมีฟีเจอร์พื้นฐานที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่การขาดฟีเจอร์สำคัญหลายอย่างทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สะดวก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการใช้งานแอป Office เพื่อความเข้ากันได้กับงานที่ต้องการความเรียบร้อยในรูปแบบเดิม หากต้องการฟีเจอร์ที่ครบครัน ผู้ใช้ยังคงต้องหันไปใช้แอป Office แบบเสียเงิน หรือเลือกใช้แอปฟรีอื่นๆ อย่าง LibreOffice หรือ Google Docs

    การเปิดตัวแอป Office ฟรีที่รองรับโฆษณานี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Microsoft ในการทำให้บริการของตนเข้าถึงผู้ใช้มากขึ้น แต่ก็ต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากข้อจำกัดหลายประการที่มาพร้อมกับแอปเวอร์ชันนี้

    https://www.tomshardware.com/software/microsoft-office/microsofts-ad-supported-version-of-office-only-saves-to-onedrive
    Microsoft เพิ่งเปิดตัวแอป Office เวอร์ชันฟรีที่รองรับโฆษณา สำหรับผู้ใช้ Windows 11 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ Microsoft นำเสนอบริการนี้ฟรี นอกจากการใช้งานผ่านเว็บ ซึ่งมีให้ใช้ฟรีมาระยะหนึ่งแล้ว ผู้ใช้สามารถใช้งาน Word, Excel, และ PowerPoint ได้ฟรี แต่จะมีโฆษณาแบบแบนเนอร์และวิดีโอ 15 วินาทีเล่นเป็นระยะ อย่างไรก็ตาม มีข้อจำกัดหลายประการในการใช้แอปฟรีนี้ เช่น ผู้ใช้ไม่สามารถบันทึกไฟล์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ แต่ต้องบันทึกใน OneDrive แทน และยังมีการตัดฟีเจอร์การจัดรูปแบบและตกแต่งเอกสารออกไปมากกว่า 30 ฟีเจอร์ เช่น การจัดช่องว่างระหว่างบรรทัด การห่อข้อความ หัวกระดาษและท้ายกระดาษ การบุ๊คมาร์ค และฟิลด์วันที่และเวลา เป็นต้น แม้แอปนี้จะมีฟีเจอร์พื้นฐานที่เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่การขาดฟีเจอร์สำคัญหลายอย่างทำให้ผู้ใช้รู้สึกไม่สะดวก โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการใช้งานแอป Office เพื่อความเข้ากันได้กับงานที่ต้องการความเรียบร้อยในรูปแบบเดิม หากต้องการฟีเจอร์ที่ครบครัน ผู้ใช้ยังคงต้องหันไปใช้แอป Office แบบเสียเงิน หรือเลือกใช้แอปฟรีอื่นๆ อย่าง LibreOffice หรือ Google Docs การเปิดตัวแอป Office ฟรีที่รองรับโฆษณานี้แสดงให้เห็นถึงความพยายามของ Microsoft ในการทำให้บริการของตนเข้าถึงผู้ใช้มากขึ้น แต่ก็ต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากข้อจำกัดหลายประการที่มาพร้อมกับแอปเวอร์ชันนี้ https://www.tomshardware.com/software/microsoft-office/microsofts-ad-supported-version-of-office-only-saves-to-onedrive
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 149 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts