• เจนัว เมืองท่าประวัติศาสตร์แห่งอิตาลี จุดเริ่มต้นของการเดินทางระดับโลก
    แหล่งรวมสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า 🛳

    Acquario di Genova ⭐️ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเจนัว
    พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเจนัว สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง งาน Expo 1992 ซึ่งเป็นนิทรรศการระดับโลกที่จัดขึ้นเพื่อระลึกถึง 500 ปีแห่งการเดินทางของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ไปยังทวีปอเมริกา

    Casa di Colombo ⭐️ บ้านคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส
    บ้านหลังนี้เชื่อกันว่าเป็น บ้านที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส อาศัยอยู่เมื่อตอนเด็ก นักเดินเรือที่มีชื่อเสียงซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกษัตริย์สเปนให้ออกเดินทางเพื่อค้นหาเส้นทางใหม่ไปยังเอเชีย

    Cattedrale di San Lorenzo ⭐️ มหาวิหารซานลอเรนโซ
    โบสถ์หลักของเมืองเจนัว สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยโรมัน มหาวิหารนี้เคยถูก ระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยระเบิดลูกหนึ่งตกลงมาแต่ ไม่ระเบิด ทำให้เกิดความเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์

    Boccadasse ⭐️ หมู่บ้านชาวประมง
    หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ อายุหลายร้อยปี โดยชื่อ Boccadasse หมายถึง “ปากของลา” มีเสน่ห์แบบดั้งเดิม บ้านสีพาสเทลริมทะเลของที่นี่เป็นภาพที่มีชื่อเสียงมาก

    สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที!
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696

    #GenoaCruisePort #ITALY #AcquariodiGenova #CasadiColombo #CattedralediSanLorenzo #Boccadasse #Genoa #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #แชร์ที่เที่ยว #ไอเดียทริป #EuropeTravel
    ⚓ เจนัว เมืองท่าประวัติศาสตร์แห่งอิตาลี จุดเริ่มต้นของการเดินทางระดับโลก แหล่งรวมสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่ทรงคุณค่า 🏰🛳 ✅ Acquario di Genova ⭐️ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเจนัว พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำเจนัว สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลอง งาน Expo 1992 ซึ่งเป็นนิทรรศการระดับโลกที่จัดขึ้นเพื่อระลึกถึง 500 ปีแห่งการเดินทางของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส ไปยังทวีปอเมริกา ✅ Casa di Colombo ⭐️ บ้านคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส บ้านหลังนี้เชื่อกันว่าเป็น บ้านที่คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส อาศัยอยู่เมื่อตอนเด็ก นักเดินเรือที่มีชื่อเสียงซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกษัตริย์สเปนให้ออกเดินทางเพื่อค้นหาเส้นทางใหม่ไปยังเอเชีย ✅ Cattedrale di San Lorenzo ⭐️ มหาวิหารซานลอเรนโซ โบสถ์หลักของเมืองเจนัว สร้างขึ้นครั้งแรกในสมัยโรมัน มหาวิหารนี้เคยถูก ระเบิดในสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยระเบิดลูกหนึ่งตกลงมาแต่ ไม่ระเบิด ทำให้เกิดความเชื่อว่าเป็นปาฏิหาริย์ ✅ Boccadasse ⭐️ หมู่บ้านชาวประมง หมู่บ้านชาวประมงเก่าแก่ อายุหลายร้อยปี โดยชื่อ Boccadasse หมายถึง “ปากของลา” มีเสน่ห์แบบดั้งเดิม บ้านสีพาสเทลริมทะเลของที่นี่เป็นภาพที่มีชื่อเสียงมาก 📩 สอบถามเพิ่มเติมหรือจองแพ็คเกจได้ทันที! https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 #GenoaCruisePort #ITALY #AcquariodiGenova #CasadiColombo #CattedralediSanLorenzo #Boccadasse #Genoa #port #cruisedomain #thaitimes #News1 #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #แชร์ที่เที่ยว #ไอเดียทริป #EuropeTravel
    0 Comments 0 Shares 75 Views 0 Reviews
  • เริดเกิน!! ยุโรปตะวันออก 48,888

    🗓 จำนวนวัน 6วัน 4คืน
    ✈ G9-แอร์อาระเบีย
    พักโรงแรม &

    มหาวิหารดูโอโม่
    Casa di Giulietta
    สะพานถอนหายใจ
    มหาวิหารซานมาร์โก
    จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โก
    หอนาฬิกาเซนต์มาร์ก
    อนุสาวรีย์พระนางมาเรียเทเรซา
    พระราชวังฮอฟบวร์ก
    มหาวิหารเซนต์สตีเฟน
    บราติสลาวา
    รูปปั้น umil

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #easterneurope #europe #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เริดเกิน!! ยุโรปตะวันออก 🍁 48,888 🔥😍 🗓 จำนวนวัน 6วัน 4คืน ✈ G9-แอร์อาระเบีย 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ & ⭐⭐⭐⭐ 📍 มหาวิหารดูโอโม่ 📍 Casa di Giulietta 📍 สะพานถอนหายใจ 📍 มหาวิหารซานมาร์โก 📍 จัตุรัสเปียซซ่าซานมาร์โก 📍 หอนาฬิกาเซนต์มาร์ก 📍 อนุสาวรีย์พระนางมาเรียเทเรซา 📍 พระราชวังฮอฟบวร์ก 📍 มหาวิหารเซนต์สตีเฟน 📍 บราติสลาวา 📍 รูปปั้น umil รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #easterneurope #europe #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 78 Views 0 0 Reviews
  • Viking River Cruise เส้นทาง 3 แม่น้ำยุโรป เปิดประตูสู่หัวใจของยุโรปกลาง ผ่านไรน์ ไมน์ และดานูบ
    18 วัน 17 คืน ล่องผ่าน 4 ประเทศ ชมเมืองประวัติศาสตร์ & มรดกโลก UNESCO
    เส้นทาง Switzerland - Germany - France - Netherland

    เดินทาง เม.ย. - ต.ค. 2569

    ⭕️ ราคาเริ่มต้น : AUD 11,495
    โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม

    ราคานี้รวมครบ
    ทัวร์ชายฝั่ง 1 รายการทุกเมืองที่เรือจอด
    Wi-Fi บนเรือสำราญ
    เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ
    ค่าภาษีและค่าทิปพนักงานบนเรือ

    รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-18D17N-BSL-BUD-2610281
    คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e63bfa

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    https://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 0 2116 9696 (Auto)

    #VikingRiverCruise #DanubeRiver #RhineRiver #MainRiver #Austria #Hungary #LuxuryCruise #ล่องเรือยุโรป #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #โปรโมชั่นพิเศษ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #แชร์ที่เที่ยว #ไอเดียทริป #EuropeTravel
    🚢 Viking River Cruise เส้นทาง 3 แม่น้ำยุโรป เปิดประตูสู่หัวใจของยุโรปกลาง ผ่านไรน์ ไมน์ และดานูบ 18 วัน 17 คืน ล่องผ่าน 4 ประเทศ ชมเมืองประวัติศาสตร์ & มรดกโลก UNESCO เส้นทาง Switzerland - Germany - France - Netherland 📅 เดินทาง เม.ย. - ต.ค. 2569 ⭕️ ราคาเริ่มต้น : AUD 11,495 โปรโมชั่น รับส่วนลดสูงสุดถึง 4,000AUD ต่อห้องพักคู่ เมื่อจองภายใน 1 ก.ย. 2568 หรือ จนกว่าห้องจะเต็ม 💥 ✨ ราคานี้รวมครบ ✅ ทัวร์ชายฝั่ง 1 รายการทุกเมืองที่เรือจอด ✅ Wi-Fi บนเรือสำราญ ✅ เบียร์ ไวน์ และเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอลล์ เสริ์ฟพร้อมมื้อกลางวัน และมื้อเย็นบนเรือ ✅ ค่าภาษีและค่าทิปพนักงานบนเรือ ➡️ รหัสแพคเกจทัวร์ : VKRP-18D17N-BSL-BUD-2610281 คลิกดูรายละเอียดโปรแกรม : 78s.me/e63bfa ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด https://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 0 2116 9696 (Auto) #VikingRiverCruise #DanubeRiver #RhineRiver #MainRiver #Austria #Hungary #LuxuryCruise #ล่องเรือยุโรป #แพ็คเกจเรือล่องแม่น้ำ #โปรโมชั่นพิเศษ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #แชร์ที่เที่ยว #ไอเดียทริป #EuropeTravel
    0 Comments 0 Shares 74 Views 0 Reviews
  • น้ำที่ไม่ปลอดภัย – เมื่อไซเบอร์สงครามเริ่มจากก๊อกน้ำ

    ในเดือนสิงหาคม 2025 เกิดเหตุการณ์สองครั้งที่สะท้อนถึงภัยคุกคามไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำในยุโรป ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซีย

    เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ เมื่อมีผู้เจาะระบบควบคุมและเปิดวาล์วปล่อยน้ำเป็นเวลาราว 4 ชั่วโมง แม้จะไม่มีความเสียหาย แต่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมระบบจริงได้ โดยมีวิดีโอเผยแพร่บน Telegram ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Z-Pentest Alliance ที่มีแนวโน้มสนับสนุนรัสเซีย

    เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในโปแลนด์ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี Krzysztof Gawkowski เปิดเผยว่ามีความพยายามโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ทันเวลา เขาเปรียบเทียบว่า “รัสเซียอาจไม่ส่งรถถัง แต่ส่งมัลแวร์แทน”

    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การโจมตีลักษณะนี้เป็น “การหยั่งเชิง” ที่อาจนำไปสู่การโจมตีขนาดใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะระบบน้ำที่มักขาดงบประมาณและบุคลากรด้านไซเบอร์

    แม้ผู้โจมตีจะดูเหมือนมือสมัครเล่น แต่การควบคุมระบบจริงได้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก และการใช้ช่องโหว่ เช่น รหัสผ่านอ่อนแอ หรือ HMI ที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นจุดอ่อนที่พบได้ทั่วไป

    สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ
    เกิดเหตุโจมตีไซเบอร์ที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ โดยเปิดวาล์วปล่อยน้ำ 4 ชั่วโมง
    โปแลนด์สกัดการโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่ได้ทันเวลา
    กลุ่ม Z-Pentest Alliance ถูกเชื่อมโยงกับการโจมตีในนอร์เวย์
    วิดีโอการโจมตีถูกเผยแพร่บน Telegram พร้อมเพลงรัสเซีย
    ผู้โจมตีใช้ HMI ที่เปิดผ่านอินเทอร์เน็ตและรหัสผ่านอ่อนแอ
    ไม่มีความเสียหายทางกายภาพ แต่มีการควบคุมระบบจริง
    ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเป็นการ “หยั่งเชิง” ก่อนการโจมตีใหญ่
    ระบบน้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญแต่ขาดการป้องกัน
    สหรัฐฯ และยุโรปควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือน
    โครงการ Cyber Peace Initiative และ DEF CON Franklin เสนอความช่วยเหลือฟรีแก่ระบบน้ำ

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    โปแลนด์เผชิญการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียวันละ 300 ครั้ง
    ในปี 2024 รัสเซียเคยโจมตีระบบน้ำในเท็กซัสจนถังน้ำล้น
    ระบบน้ำในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบไซเบอร์เต็มรูปแบบ
    การโจมตีระบบ OT (Operational Technology) มักใช้กลุ่มแฮกเกอร์มือสมัครเล่นเป็นตัวแทน
    การโจมตีระบบน้ำสามารถสร้างความหวาดกลัวและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน
    การควบคุมวาล์วแบบเรียลไทม์แสดงถึงความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการที่ร้ายแรง

    https://www.csoonline.com/article/4042449/russia-linked-european-attacks-renew-concerns-over-water-cybersecurity.html
    🕵️‍♂️ น้ำที่ไม่ปลอดภัย – เมื่อไซเบอร์สงครามเริ่มจากก๊อกน้ำ ในเดือนสิงหาคม 2025 เกิดเหตุการณ์สองครั้งที่สะท้อนถึงภัยคุกคามไซเบอร์ต่อโครงสร้างพื้นฐานด้านน้ำในยุโรป ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ที่สนับสนุนรัสเซีย เหตุการณ์แรกเกิดขึ้นที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ เมื่อมีผู้เจาะระบบควบคุมและเปิดวาล์วปล่อยน้ำเป็นเวลาราว 4 ชั่วโมง แม้จะไม่มีความเสียหาย แต่แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีสามารถควบคุมระบบจริงได้ โดยมีวิดีโอเผยแพร่บน Telegram ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่ม Z-Pentest Alliance ที่มีแนวโน้มสนับสนุนรัสเซีย เหตุการณ์ที่สองเกิดขึ้นในโปแลนด์ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี Krzysztof Gawkowski เปิดเผยว่ามีความพยายามโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่แห่งหนึ่ง แต่ถูกสกัดไว้ได้ทันเวลา เขาเปรียบเทียบว่า “รัสเซียอาจไม่ส่งรถถัง แต่ส่งมัลแวร์แทน” ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การโจมตีลักษณะนี้เป็น “การหยั่งเชิง” ที่อาจนำไปสู่การโจมตีขนาดใหญ่ในอนาคต โดยเฉพาะระบบน้ำที่มักขาดงบประมาณและบุคลากรด้านไซเบอร์ แม้ผู้โจมตีจะดูเหมือนมือสมัครเล่น แต่การควบคุมระบบจริงได้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก และการใช้ช่องโหว่ เช่น รหัสผ่านอ่อนแอ หรือ HMI ที่เปิดให้เข้าถึงผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นจุดอ่อนที่พบได้ทั่วไป 📌 สรุปเนื้อหาเป็นหัวข้อ ➡️ เกิดเหตุโจมตีไซเบอร์ที่เขื่อน Bremanger ในนอร์เวย์ โดยเปิดวาล์วปล่อยน้ำ 4 ชั่วโมง ➡️ โปแลนด์สกัดการโจมตีระบบน้ำของเมืองใหญ่ได้ทันเวลา ➡️ กลุ่ม Z-Pentest Alliance ถูกเชื่อมโยงกับการโจมตีในนอร์เวย์ ➡️ วิดีโอการโจมตีถูกเผยแพร่บน Telegram พร้อมเพลงรัสเซีย ➡️ ผู้โจมตีใช้ HMI ที่เปิดผ่านอินเทอร์เน็ตและรหัสผ่านอ่อนแอ ➡️ ไม่มีความเสียหายทางกายภาพ แต่มีการควบคุมระบบจริง ➡️ ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าเป็นการ “หยั่งเชิง” ก่อนการโจมตีใหญ่ ➡️ ระบบน้ำเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญแต่ขาดการป้องกัน ➡️ สหรัฐฯ และยุโรปควรใช้เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณเตือน ➡️ โครงการ Cyber Peace Initiative และ DEF CON Franklin เสนอความช่วยเหลือฟรีแก่ระบบน้ำ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ โปแลนด์เผชิญการโจมตีไซเบอร์จากรัสเซียวันละ 300 ครั้ง ➡️ ในปี 2024 รัสเซียเคยโจมตีระบบน้ำในเท็กซัสจนถังน้ำล้น ➡️ ระบบน้ำในสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ไม่ได้รับการตรวจสอบไซเบอร์เต็มรูปแบบ ➡️ การโจมตีระบบ OT (Operational Technology) มักใช้กลุ่มแฮกเกอร์มือสมัครเล่นเป็นตัวแทน ➡️ การโจมตีระบบน้ำสามารถสร้างความหวาดกลัวและบั่นทอนความเชื่อมั่นของประชาชน ➡️ การควบคุมวาล์วแบบเรียลไทม์แสดงถึงความเสี่ยงเชิงปฏิบัติการที่ร้ายแรง https://www.csoonline.com/article/4042449/russia-linked-european-attacks-renew-concerns-over-water-cybersecurity.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Russia-linked European attacks renew concerns over water cybersecurity
    Suspected sabotage in Norway and a foiled cyberattack in Poland highlight the growing risk to under-protected water utilities, experts warn.
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • Autumn is lovely Germany Switzerland Italy
    มิวนิค – ปราสาทนอยชวานสไตน์ – ล่องเรือลูเซิร์น – เขาริกิ – โคโม่ – มิลาน
    7 วัน 4 คืน เดินทาง 24-30 ก.ย. 68
    สายการบิน Emirates (EK) โหลดสัมภาระ 30 Kg + Carry On 7 Kg
    น้ำดื่มวันละ 1 ขวด + แจกปลั๊กไฟยูนิเวอร์แซลฟรี
    ราคาพิเศษ 64,888.- จาก 67,888.- (ไม่รวมวีซ่า 6,900.-) รับได้ 14 ที่เท่านั้น!

    GERMANY
    ▪ จัตุรัสมาเรียนพลัทซ์
    ▪ ศาลาว่าการใหม่ – ศาลาว่าการเก่า
    ▪ ปราสาทนอยชวานสไตน์

    SWITZERLAND
    ▪ โบสถ์นักบุญออสวอลด์
    ▪ สิงโตหินแกะสลัก – สะพานไม้ชาเปล
    ▪ ล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น
    ▪ รถไฟไต่เขายอดเขาริกิ
    ช้อปปิ้ง Lohri AG Store

    ITALY
    ▪ ทะเลสาบโคโม่
    ▪ มหาวิหารดูโอโม่แห่งมิลาน
    ▪ ห้างกัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซคอนโด
    ช้อปปิ้ง McArthurGlen Outlet

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e8b1ab

    ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7e5d16

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #AutumnTrip #Germany #Switzerland #Italy #Emirates #ปราสาทนอยชวานสไตน์ #ลูเซิร์น #โคโม่ #มิลาน #ทัวร์ยุโรป #เที่ยวต่างประเทศ #EuropeTour #โปรทัวร์ยุโรป
    🍂 Autumn is lovely Germany Switzerland Italy ✈️ มิวนิค – ปราสาทนอยชวานสไตน์ – ล่องเรือลูเซิร์น – เขาริกิ – โคโม่ – มิลาน 7 วัน 4 คืน เดินทาง 24-30 ก.ย. 68 สายการบิน Emirates (EK) 🛄 โหลดสัมภาระ 30 Kg + Carry On 7 Kg 💧 น้ำดื่มวันละ 1 ขวด + แจกปลั๊กไฟยูนิเวอร์แซลฟรี 🔥 ราคาพิเศษ 64,888.- จาก 67,888.- (ไม่รวมวีซ่า 6,900.-) รับได้ 14 ที่เท่านั้น! 🇩🇪 GERMANY ▪ จัตุรัสมาเรียนพลัทซ์ ▪ ศาลาว่าการใหม่ – ศาลาว่าการเก่า ▪ ปราสาทนอยชวานสไตน์ 🇨🇭 SWITZERLAND ▪ โบสถ์นักบุญออสวอลด์ ▪ สิงโตหินแกะสลัก – สะพานไม้ชาเปล ▪ ล่องเรือทะเลสาบลูเซิร์น ▪ รถไฟไต่เขายอดเขาริกิ 🛍️ ช้อปปิ้ง Lohri AG Store 🇮🇹 ITALY ▪ ทะเลสาบโคโม่ ▪ มหาวิหารดูโอโม่แห่งมิลาน ▪ ห้างกัลเลรีอาวิตโตรีโยเอมานูเอเลเซคอนโด 🛍️ ช้อปปิ้ง McArthurGlen Outlet ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e8b1ab ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7e5d16 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #AutumnTrip #Germany #Switzerland #Italy #Emirates #ปราสาทนอยชวานสไตน์ #ลูเซิร์น #โคโม่ #มิลาน #ทัวร์ยุโรป #เที่ยวต่างประเทศ #EuropeTour #โปรทัวร์ยุโรป
    0 Comments 0 Shares 359 Views 0 Reviews
  • Great Britain vs. UK vs. England: Keep Calm And Learn The Difference

    If you sail off the coast of northwestern Europe and keep to the east of Ireland, you’ll find yourself in a country rich with history and royal magnificence. But what, exactly, is this country called? England? The United Kingdom? Great Britain? Or just Britain? Are any of these names correct? Are all of them?

    In this article, we’ll take a tour of the British Isles and discuss the technical differences between the terms Great Britain, United Kingdom, and England and explain how these terms often overlap with each other in casual use.

    Quick summary

    The United Kingdom (UK) is a country that consists of England, Scotland, Wales, and Northern Ireland. The name Great Britain refers to the island on which most of the non-sovereign countries of England, Scotland, and Wales are situated. In casual use, the names Great Britain and Britain (and even sometimes England) are often used to refer to the UK even though Northern Ireland isn’t geographically part of the island of Great Britain.

    Is the UK a country?

    The United Kingdom, officially known as The United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland, is a country located off the northwestern coast of the European mainland. The United Kingdom is a sovereign nation that exists as a political union between the countries of England, Scotland, Wales, and Northern Ireland. These countries, while they do have their own local governments and autonomy, are not considered sovereign nations. This means that, for example, the government of Scotland cannot negotiate international treaties or declare war.

    United Kingdom vs. Great Britain

    The United Kingdom, popularly abbreviated as the UK, is a sovereign nation spread across multiple islands on the coast of northwestern Europe.

    It consists of the countries of England, Scotland, Wales, and Northern Ireland.

    Great Britain is a large island on which most of England, Scotland, and Wales are located. It is geographically located to the east of the smaller island of Ireland, which consists of Northern Ireland and the separate, independent nation known as the Republic of Ireland. The term Great Britain does not include the Isle of Man or the many smaller islands located nearby that are part of the UK.

    In technical language, United Kingdom is a political term while Great Britain is a geographical one. However, these two terms overlap heavily in popular usage. Notably, the term Great Britain is popularly used as a synonym of United Kingdom, meaning Northern Ireland is included.

    Britain vs. England

    Some people, especially those who live in other countries, may casually use the terms Britain and England interchangeably. The word Britain is often used as a shortened form of Great Britain either to refer geographically to the island or to refer politically to the United Kingdom. Like Great Britain, the word Britain is often used as more than a geographical term.

    In addition to being used to refer to the modern UK, the word Britain is commonly used to refer to the historical British Empire. In this context, the name Britain is often used to refer to the nations or political entities that controlled Great Britain throughout British history, some of which also claimed rule over the entirety of the island of Ireland as well.

    So, Britain is often used in geographical contexts or to refer to the modern nation of the UK. In most of these uses, England is considered a part of Britain, but the two terms may sometimes be used synonymously in casual use.

    UK vs. England

    England is one of the four countries, along with Scotland, Wales, and Northern Ireland, that make up the sovereign nation of the UK. In fact, the union of these nations is what the United in United Kingdom refers to. Geographically, England spans the central and southern parts of Great Britain. Like the other three countries of the UK, England is not a sovereign state and cannot participate in international affairs by itself. Prior to the existence of the UK and the British Empire, England was a sovereign monarchy ruled by the same royal family that continues to act as the constitutional monarchs of the UK today.

    The national government of the UK is located in its capital city of London, England, which is likely one of the reasons why England is often conflated with the UK as a whole. While England specifically has had and continues to have significant political influence, it alone doesn’t decide the political actions of the UK. For example, the UK Parliament includes representatives from all four of its constituent countries.

    © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    Great Britain vs. UK vs. England: Keep Calm And Learn The Difference If you sail off the coast of northwestern Europe and keep to the east of Ireland, you’ll find yourself in a country rich with history and royal magnificence. But what, exactly, is this country called? England? The United Kingdom? Great Britain? Or just Britain? Are any of these names correct? Are all of them? In this article, we’ll take a tour of the British Isles and discuss the technical differences between the terms Great Britain, United Kingdom, and England and explain how these terms often overlap with each other in casual use. 🇬🇧 Quick summary The United Kingdom (UK) is a country that consists of England, Scotland, Wales, and Northern Ireland. The name Great Britain refers to the island on which most of the non-sovereign countries of England, Scotland, and Wales are situated. In casual use, the names Great Britain and Britain (and even sometimes England) are often used to refer to the UK even though Northern Ireland isn’t geographically part of the island of Great Britain. Is the UK a country? The United Kingdom, officially known as The United Kingdom of Great Britain and Northern Ireland, is a country located off the northwestern coast of the European mainland. The United Kingdom is a sovereign nation that exists as a political union between the countries of England, Scotland, Wales, and Northern Ireland. These countries, while they do have their own local governments and autonomy, are not considered sovereign nations. This means that, for example, the government of Scotland cannot negotiate international treaties or declare war. United Kingdom vs. Great Britain The United Kingdom, popularly abbreviated as the UK, is a sovereign nation spread across multiple islands on the coast of northwestern Europe. It consists of the countries of England, Scotland, Wales, and Northern Ireland. Great Britain is a large island on which most of England, Scotland, and Wales are located. It is geographically located to the east of the smaller island of Ireland, which consists of Northern Ireland and the separate, independent nation known as the Republic of Ireland. The term Great Britain does not include the Isle of Man or the many smaller islands located nearby that are part of the UK. In technical language, United Kingdom is a political term while Great Britain is a geographical one. However, these two terms overlap heavily in popular usage. Notably, the term Great Britain is popularly used as a synonym of United Kingdom, meaning Northern Ireland is included. Britain vs. England Some people, especially those who live in other countries, may casually use the terms Britain and England interchangeably. The word Britain is often used as a shortened form of Great Britain either to refer geographically to the island or to refer politically to the United Kingdom. Like Great Britain, the word Britain is often used as more than a geographical term. In addition to being used to refer to the modern UK, the word Britain is commonly used to refer to the historical British Empire. In this context, the name Britain is often used to refer to the nations or political entities that controlled Great Britain throughout British history, some of which also claimed rule over the entirety of the island of Ireland as well. So, Britain is often used in geographical contexts or to refer to the modern nation of the UK. In most of these uses, England is considered a part of Britain, but the two terms may sometimes be used synonymously in casual use. UK vs. England England is one of the four countries, along with Scotland, Wales, and Northern Ireland, that make up the sovereign nation of the UK. In fact, the union of these nations is what the United in United Kingdom refers to. Geographically, England spans the central and southern parts of Great Britain. Like the other three countries of the UK, England is not a sovereign state and cannot participate in international affairs by itself. Prior to the existence of the UK and the British Empire, England was a sovereign monarchy ruled by the same royal family that continues to act as the constitutional monarchs of the UK today. The national government of the UK is located in its capital city of London, England, which is likely one of the reasons why England is often conflated with the UK as a whole. While England specifically has had and continues to have significant political influence, it alone doesn’t decide the political actions of the UK. For example, the UK Parliament includes representatives from all four of its constituent countries. © 2025, Aakkhra, All rights reserved.
    0 Comments 0 Shares 402 Views 0 Reviews
  • รัฐสภายุโรป (European Parliament) ยืนยันชัดเจนว่าจอร์เจียจะไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป(European Union) จนกว่าจะมีการเลือกตั้งที่ "สุจริต" ภายในประเทศ

    จากรายงานข่าวระบุว่า สหภาพยุโรปไม่ยอมรับรัฐบาลจอร์เจียชุดปัจจุบัน เนื่องจากมองว่าเป็นรัฐบาลที่แข็งกร้าวต่อค่านิยมของยุโรป และมีนโยบายผูกมิตรกับรัสเซีย

    อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีคำอธิบายเพิ่มเติมว่า "การเลือกตั้งที่สุจริต" หมายถึงอะไร!!
    รัฐสภายุโรป (European Parliament) ยืนยันชัดเจนว่าจอร์เจียจะไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป(European Union) จนกว่าจะมีการเลือกตั้งที่ "สุจริต" ภายในประเทศ จากรายงานข่าวระบุว่า สหภาพยุโรปไม่ยอมรับรัฐบาลจอร์เจียชุดปัจจุบัน เนื่องจากมองว่าเป็นรัฐบาลที่แข็งกร้าวต่อค่านิยมของยุโรป และมีนโยบายผูกมิตรกับรัสเซีย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีคำอธิบายเพิ่มเติมว่า "การเลือกตั้งที่สุจริต" หมายถึงอะไร!!
    Haha
    1
    0 Comments 0 Shares 267 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกซีพียู: เมื่อความร้อนทำให้ Firefox ล่มเพราะ Intel Raptor Lake

    Gabriele Svelto วิศวกรอาวุโสของ Mozilla เปิดเผยว่า Firefox crash จำนวนมากในช่วงฤดูร้อนปี 2025 มาจากเครื่องที่ใช้ซีพียู Intel Raptor Lake โดยเฉพาะรุ่น Core i7-14700K ซึ่งมีปัญหาความไม่เสถียรที่รุนแรงขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูง

    ทีม Mozilla พบว่ารายงาน crash จาก Firefox สามารถบอกได้เลยว่าประเทศไหนในยุโรปกำลังเผชิญคลื่นความร้อน เพราะจำนวน crash จาก Raptor Lake พุ่งสูงในพื้นที่เหล่านั้น

    ปัญหานี้เคยเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2023 และ Intel ใช้เวลาหลายเดือนในการหาสาเหตุ ซึ่งพบว่าเป็นการเสื่อมสภาพทางกายภาพของซิลิคอน ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยซอฟต์แวร์ มีเพียงการอัปเดต microcode เพื่อ “ลดโอกาส” ที่จะเกิดเท่านั้น

    ล่าสุด Intel ปล่อย microcode เวอร์ชัน 0x12F เพื่อแก้ปัญหา Vmin shift (แรงดันไฟต่ำผิดปกติ) แต่กลับทำให้บั๊กกลับมาอีกครั้งอย่างรุนแรง

    Mozilla จึงตัดสินใจปิดระบบ bot ที่ส่ง crash report อัตโนมัติ เพราะข้อมูลจาก Raptor Lake ล้นระบบ และไม่สามารถแยกแยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    Firefox crash จำนวนมากเกิดจากเครื่องที่ใช้ Intel Raptor Lake
    โดยเฉพาะรุ่น Core i7-14700K ในพื้นที่ที่มีคลื่นความร้อน

    Mozilla พบว่ารายงาน crash สะท้อนสภาพอากาศในยุโรปได้
    เพราะจำนวน crash พุ่งสูงในประเทศที่มีอุณหภูมิสูง

    ปัญหาความไม่เสถียรของ Raptor Lake เกิดจากการเสื่อมสภาพของซิลิคอน
    ไม่สามารถแก้ด้วย patch หรือซอฟต์แวร์

    Intel ปล่อย microcode 0x12F เพื่อแก้ Vmin shift
    แต่กลับทำให้บั๊กกลับมาอีกครั้ง

    Mozilla ปิดระบบ bot ที่ส่ง crash report อัตโนมัติ
    เพราะข้อมูลจาก Raptor Lake ล้นระบบและทำให้การวิเคราะห์ผิดเพี้ยน

    Intel ขยายระยะประกันจาก 3 ปีเป็น 5 ปีสำหรับชิปที่ได้รับผลกระทบ
    ผู้ใช้สามารถ RMA เพื่อขอเปลี่ยนชิปได้

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/firefox-dev-says-intel-raptor-lake-crashes-are-increasing-with-rising-temperatures-in-record-european-heat-wave-mozilla-staffs-tracking-overwhelmed-by-intel-crash-reports-team-disables-the-function
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกซีพียู: เมื่อความร้อนทำให้ Firefox ล่มเพราะ Intel Raptor Lake Gabriele Svelto วิศวกรอาวุโสของ Mozilla เปิดเผยว่า Firefox crash จำนวนมากในช่วงฤดูร้อนปี 2025 มาจากเครื่องที่ใช้ซีพียู Intel Raptor Lake โดยเฉพาะรุ่น Core i7-14700K ซึ่งมีปัญหาความไม่เสถียรที่รุนแรงขึ้นเมื่ออุณหภูมิสูง ทีม Mozilla พบว่ารายงาน crash จาก Firefox สามารถบอกได้เลยว่าประเทศไหนในยุโรปกำลังเผชิญคลื่นความร้อน เพราะจำนวน crash จาก Raptor Lake พุ่งสูงในพื้นที่เหล่านั้น ปัญหานี้เคยเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2023 และ Intel ใช้เวลาหลายเดือนในการหาสาเหตุ ซึ่งพบว่าเป็นการเสื่อมสภาพทางกายภาพของซิลิคอน ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยซอฟต์แวร์ มีเพียงการอัปเดต microcode เพื่อ “ลดโอกาส” ที่จะเกิดเท่านั้น ล่าสุด Intel ปล่อย microcode เวอร์ชัน 0x12F เพื่อแก้ปัญหา Vmin shift (แรงดันไฟต่ำผิดปกติ) แต่กลับทำให้บั๊กกลับมาอีกครั้งอย่างรุนแรง Mozilla จึงตัดสินใจปิดระบบ bot ที่ส่ง crash report อัตโนมัติ เพราะข้อมูลจาก Raptor Lake ล้นระบบ และไม่สามารถแยกแยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ Firefox crash จำนวนมากเกิดจากเครื่องที่ใช้ Intel Raptor Lake ➡️ โดยเฉพาะรุ่น Core i7-14700K ในพื้นที่ที่มีคลื่นความร้อน ✅ Mozilla พบว่ารายงาน crash สะท้อนสภาพอากาศในยุโรปได้ ➡️ เพราะจำนวน crash พุ่งสูงในประเทศที่มีอุณหภูมิสูง ✅ ปัญหาความไม่เสถียรของ Raptor Lake เกิดจากการเสื่อมสภาพของซิลิคอน ➡️ ไม่สามารถแก้ด้วย patch หรือซอฟต์แวร์ ✅ Intel ปล่อย microcode 0x12F เพื่อแก้ Vmin shift ➡️ แต่กลับทำให้บั๊กกลับมาอีกครั้ง ✅ Mozilla ปิดระบบ bot ที่ส่ง crash report อัตโนมัติ ➡️ เพราะข้อมูลจาก Raptor Lake ล้นระบบและทำให้การวิเคราะห์ผิดเพี้ยน ✅ Intel ขยายระยะประกันจาก 3 ปีเป็น 5 ปีสำหรับชิปที่ได้รับผลกระทบ ➡️ ผู้ใช้สามารถ RMA เพื่อขอเปลี่ยนชิปได้ https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/firefox-dev-says-intel-raptor-lake-crashes-are-increasing-with-rising-temperatures-in-record-european-heat-wave-mozilla-staffs-tracking-overwhelmed-by-intel-crash-reports-team-disables-the-function
    0 Comments 0 Shares 298 Views 0 Reviews
  • ESMA เตือนบริษัทคริปโต – อย่าใช้คำว่า “ถูกกำกับดูแล” หลอกผู้บริโภค

    เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 ESMA (European Securities and Markets Authority) ได้ออกแถลงการณ์เตือนบริษัทคริปโตทั่วสหภาพยุโรปว่าไม่ควรใช้สถานะ “ได้รับใบอนุญาต” ภายใต้กฎ MiCA (Markets in Crypto-Assets) เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้บริโภค

    หลายบริษัทคริปโต (CASPs) เสนอทั้งผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA บนแพลตฟอร์มเดียวกัน เช่น การลงทุนในทองคำหรือการให้กู้ยืมคริปโต ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าทุกบริการได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย

    ESMA ระบุว่าบางบริษัทถึงขั้นใช้ใบอนุญาต MiCA เป็น “เครื่องมือส่งเสริมการขาย” และสร้างความสับสนระหว่างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการกำกับกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการกำกับ

    นอกจากนี้ ESMA ยังออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับความรู้และความสามารถของพนักงานที่ทำหน้าที่ประเมินบริษัทคริปโต เพื่อให้การออกใบอนุญาตมีความรัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากพบว่า Malta Financial Services Authority มีการประเมินความเสี่ยงของบริษัทคริปโตบางแห่งอย่างไม่ละเอียดพอ

    ข้อมูลจากข่าว
    - ESMA เตือนบริษัทคริปโตว่าไม่ควรใช้สถานะ “ได้รับการกำกับ” เป็นเครื่องมือทางการตลาด
    - กฎ MiCA ของ EU มีข้อกำหนดด้านการคุ้มครองผู้ลงทุน เช่น การจัดการสินทรัพย์และการรับเรื่องร้องเรียน
    - CASPs บางแห่งเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA เช่น การลงทุนในทองคำหรือการให้กู้ยืมคริปโต
    - ESMA ระบุว่าการเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งแบบกำกับและไม่กำกับบนแพลตฟอร์มเดียวกันสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค
    - ESMA ออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับความรู้ของพนักงานที่ประเมินบริษัทคริปโต
    - การตรวจสอบในมอลตาพบว่ามีการอนุญาตบริษัทคริปโตโดยไม่ประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียด

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - ผู้บริโภคอาจเข้าใจผิดว่าทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทคริปโตได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย
    - การใช้ใบอนุญาต MiCA เป็นเครื่องมือส่งเสริมการขายอาจนำไปสู่การหลอกลวง
    - ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA เช่น crypto lending ไม่มีการคุ้มครองหากเกิดปัญหา
    - การออกใบอนุญาตที่ไม่รัดกุมอาจเปิดช่องให้บริษัทที่มีความเสี่ยงสูงเข้าสู่ตลาด
    - นักลงทุนควรตรวจสอบว่าแต่ละบริการของบริษัทคริปโตอยู่ภายใต้กฎ MiCA หรือไม่ ก่อนตัดสินใจลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/11/european-securities-regulator-warns-about-crypto-firms-misleading-customers
    ESMA เตือนบริษัทคริปโต – อย่าใช้คำว่า “ถูกกำกับดูแล” หลอกผู้บริโภค เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2025 ESMA (European Securities and Markets Authority) ได้ออกแถลงการณ์เตือนบริษัทคริปโตทั่วสหภาพยุโรปว่าไม่ควรใช้สถานะ “ได้รับใบอนุญาต” ภายใต้กฎ MiCA (Markets in Crypto-Assets) เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อสร้างความเข้าใจผิดแก่ผู้บริโภค หลายบริษัทคริปโต (CASPs) เสนอทั้งผลิตภัณฑ์ที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA บนแพลตฟอร์มเดียวกัน เช่น การลงทุนในทองคำหรือการให้กู้ยืมคริปโต ซึ่งอาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่าทุกบริการได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ESMA ระบุว่าบางบริษัทถึงขั้นใช้ใบอนุญาต MiCA เป็น “เครื่องมือส่งเสริมการขาย” และสร้างความสับสนระหว่างผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการกำกับกับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับการกำกับ นอกจากนี้ ESMA ยังออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับความรู้และความสามารถของพนักงานที่ทำหน้าที่ประเมินบริษัทคริปโต เพื่อให้การออกใบอนุญาตมีความรัดกุมมากขึ้น โดยเฉพาะหลังจากพบว่า Malta Financial Services Authority มีการประเมินความเสี่ยงของบริษัทคริปโตบางแห่งอย่างไม่ละเอียดพอ ✅ ข้อมูลจากข่าว - ESMA เตือนบริษัทคริปโตว่าไม่ควรใช้สถานะ “ได้รับการกำกับ” เป็นเครื่องมือทางการตลาด - กฎ MiCA ของ EU มีข้อกำหนดด้านการคุ้มครองผู้ลงทุน เช่น การจัดการสินทรัพย์และการรับเรื่องร้องเรียน - CASPs บางแห่งเสนอผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA เช่น การลงทุนในทองคำหรือการให้กู้ยืมคริปโต - ESMA ระบุว่าการเสนอผลิตภัณฑ์ทั้งแบบกำกับและไม่กำกับบนแพลตฟอร์มเดียวกันสร้างความเสี่ยงต่อผู้บริโภค - ESMA ออกแนวทางใหม่เกี่ยวกับความรู้ของพนักงานที่ประเมินบริษัทคริปโต - การตรวจสอบในมอลตาพบว่ามีการอนุญาตบริษัทคริปโตโดยไม่ประเมินความเสี่ยงอย่างละเอียด ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - ผู้บริโภคอาจเข้าใจผิดว่าทุกผลิตภัณฑ์ของบริษัทคริปโตได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย - การใช้ใบอนุญาต MiCA เป็นเครื่องมือส่งเสริมการขายอาจนำไปสู่การหลอกลวง - ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้ MiCA เช่น crypto lending ไม่มีการคุ้มครองหากเกิดปัญหา - การออกใบอนุญาตที่ไม่รัดกุมอาจเปิดช่องให้บริษัทที่มีความเสี่ยงสูงเข้าสู่ตลาด - นักลงทุนควรตรวจสอบว่าแต่ละบริการของบริษัทคริปโตอยู่ภายใต้กฎ MiCA หรือไม่ ก่อนตัดสินใจลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/11/european-securities-regulator-warns-about-crypto-firms-misleading-customers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    European securities regulator warns about crypto firms misleading customers
    PARIS (Reuters) -Europe's securities regulator warned crypto companies on Friday not to mislead customers about the extent to which their products are regulated - the latest sign of European authorities trying to limit crypto-related risks.
    0 Comments 0 Shares 422 Views 0 Reviews
  • ยูเครนเตรียมใช้ Starlink ส่งข้อความผ่านดาวเทียม – สื่อสารได้แม้ไม่มีสัญญาณมือถือ

    ในช่วงสงครามที่ยังดำเนินอยู่ ยูเครนต้องเผชิญกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมอย่างต่อเนื่อง ทำให้การสื่อสารขัดข้องบ่อยครั้ง ล่าสุด Kyivstar จึงจับมือกับ SpaceX เพื่อเปิดบริการ “Direct-to-Cell” โดยใช้เครือข่ายดาวเทียม Starlink ส่งข้อความโดยตรงถึงมือถือของผู้ใช้ แม้ไม่มีสัญญาณจากเสาสัญญาณปกติ

    บริการนี้จะเริ่มให้ใช้งานในรูปแบบการส่งข้อความผ่านแอป เช่น WhatsApp และ Signal ภายในสิ้นปี 2025 และจะขยายเป็นบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียมสำหรับมือถือในช่วงกลางปี 2026

    นอกจากการส่งข้อความแล้ว Kyivstar ยังมีแผนให้บริการเสียงและข้อมูลผ่านดาวเทียมในอนาคต โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่ T-Mobile ในสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้

    Kyivstar เคยให้บริการฟรีหลายอย่างแก่ประชาชนในช่วงสงคราม เช่น อินเทอร์เน็ต 80 Mbps ฟรีในบางพื้นที่, ขยายเวลาชำระเงิน และติดตั้ง Wi-Fi ในบังเกอร์หลบภัยหลายร้อยแห่ง

    การร่วมมือกับ Starlink ครั้งนี้จะช่วยให้เครือข่ายของ Kyivstar มีความทนทานมากขึ้น โดยสามารถให้บริการได้แม้ในช่วงไฟดับระดับประเทศนานถึง 10 ชั่วโมง

    ข้อมูลจากข่าว
    - ยูเครนจะเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ใช้บริการ Starlink Direct-to-Cell
    - Kyivstar ร่วมมือกับ SpaceX เพื่อให้บริการส่งข้อความผ่านดาวเทียมภายในสิ้นปี 2025
    - บริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียมสำหรับมือถือจะเริ่มในไตรมาส 2 ปี 2026
    - ใช้ Starlink เป็นเสาสัญญาณเสมือน ส่งข้อความผ่านแอปแม้ไม่มีสัญญาณมือถือ
    - Kyivstar เคยให้บริการฟรีในช่วงสงคราม เช่น อินเทอร์เน็ตในบังเกอร์และขยายเวลาชำระเงิน
    - เครือข่ายสามารถทำงานได้ถึง 10 ชั่วโมงในช่วงไฟดับระดับประเทศ
    - T-Mobile ในสหรัฐฯ ก็เตรียมเปิดบริการคล้ายกันในเดือนตุลาคม 2025

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - บริการ Direct-to-Cell ยังจำกัดเฉพาะการส่งข้อความ ไม่รองรับการโทรหรือใช้งานอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบในช่วงแรก
    - ต้องอยู่ในพื้นที่ที่สามารถมองเห็นดาวเทียม Starlink จึงจะใช้งานได้
    - ความเร็วและความเสถียรของบริการอาจยังไม่เทียบเท่าการเชื่อมต่อมือถือทั่วไป
    - การพึ่งพาเทคโนโลยีจากบริษัทต่างชาติในช่วงสงครามอาจมีข้อจำกัดด้านความมั่นคง
    - ผู้ใช้ควรติดตามเงื่อนไขการใช้งานและความปลอดภัยของข้อมูลจากผู้ให้บริการ

    https://www.tomshardware.com/networking/ukraine-to-become-first-european-country-with-starlink-direct-to-cell-service-messaging-by-year-end-with-mobile-satellite-broadband-expected-mid-2026
    ยูเครนเตรียมใช้ Starlink ส่งข้อความผ่านดาวเทียม – สื่อสารได้แม้ไม่มีสัญญาณมือถือ ในช่วงสงครามที่ยังดำเนินอยู่ ยูเครนต้องเผชิญกับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมอย่างต่อเนื่อง ทำให้การสื่อสารขัดข้องบ่อยครั้ง ล่าสุด Kyivstar จึงจับมือกับ SpaceX เพื่อเปิดบริการ “Direct-to-Cell” โดยใช้เครือข่ายดาวเทียม Starlink ส่งข้อความโดยตรงถึงมือถือของผู้ใช้ แม้ไม่มีสัญญาณจากเสาสัญญาณปกติ บริการนี้จะเริ่มให้ใช้งานในรูปแบบการส่งข้อความผ่านแอป เช่น WhatsApp และ Signal ภายในสิ้นปี 2025 และจะขยายเป็นบริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียมสำหรับมือถือในช่วงกลางปี 2026 นอกจากการส่งข้อความแล้ว Kyivstar ยังมีแผนให้บริการเสียงและข้อมูลผ่านดาวเทียมในอนาคต โดยใช้เทคโนโลยีเดียวกับที่ T-Mobile ในสหรัฐฯ เตรียมเปิดตัวในเดือนตุลาคมนี้ Kyivstar เคยให้บริการฟรีหลายอย่างแก่ประชาชนในช่วงสงคราม เช่น อินเทอร์เน็ต 80 Mbps ฟรีในบางพื้นที่, ขยายเวลาชำระเงิน และติดตั้ง Wi-Fi ในบังเกอร์หลบภัยหลายร้อยแห่ง การร่วมมือกับ Starlink ครั้งนี้จะช่วยให้เครือข่ายของ Kyivstar มีความทนทานมากขึ้น โดยสามารถให้บริการได้แม้ในช่วงไฟดับระดับประเทศนานถึง 10 ชั่วโมง ✅ ข้อมูลจากข่าว - ยูเครนจะเป็นประเทศแรกในยุโรปที่ใช้บริการ Starlink Direct-to-Cell - Kyivstar ร่วมมือกับ SpaceX เพื่อให้บริการส่งข้อความผ่านดาวเทียมภายในสิ้นปี 2025 - บริการอินเทอร์เน็ตดาวเทียมสำหรับมือถือจะเริ่มในไตรมาส 2 ปี 2026 - ใช้ Starlink เป็นเสาสัญญาณเสมือน ส่งข้อความผ่านแอปแม้ไม่มีสัญญาณมือถือ - Kyivstar เคยให้บริการฟรีในช่วงสงคราม เช่น อินเทอร์เน็ตในบังเกอร์และขยายเวลาชำระเงิน - เครือข่ายสามารถทำงานได้ถึง 10 ชั่วโมงในช่วงไฟดับระดับประเทศ - T-Mobile ในสหรัฐฯ ก็เตรียมเปิดบริการคล้ายกันในเดือนตุลาคม 2025 ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - บริการ Direct-to-Cell ยังจำกัดเฉพาะการส่งข้อความ ไม่รองรับการโทรหรือใช้งานอินเทอร์เน็ตเต็มรูปแบบในช่วงแรก - ต้องอยู่ในพื้นที่ที่สามารถมองเห็นดาวเทียม Starlink จึงจะใช้งานได้ - ความเร็วและความเสถียรของบริการอาจยังไม่เทียบเท่าการเชื่อมต่อมือถือทั่วไป - การพึ่งพาเทคโนโลยีจากบริษัทต่างชาติในช่วงสงครามอาจมีข้อจำกัดด้านความมั่นคง - ผู้ใช้ควรติดตามเงื่อนไขการใช้งานและความปลอดภัยของข้อมูลจากผู้ให้บริการ https://www.tomshardware.com/networking/ukraine-to-become-first-european-country-with-starlink-direct-to-cell-service-messaging-by-year-end-with-mobile-satellite-broadband-expected-mid-2026
    0 Comments 0 Shares 278 Views 0 Reviews
  • ยุโรปเป็นภูมิภาคแรกของโลกที่ออกกฎหมาย AI แบบครอบคลุมทั้งระบบ โดยเรียกว่า AI Act ซึ่งเน้นความปลอดภัย–ความโปร่งใส–และสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก

    ฟังดูดีใช่ไหมครับ?

    แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายแห่งกลับบอกว่า... “มันดีเกินไปจนทำให้นวัตกรรมไปไม่ถึงไหน” → เพราะกฎที่ซับซ้อน อาจทำให้สตาร์ทอัพ–องค์กรขนาดกลาง ไปจนถึง “European Champion” อย่าง Airbus หรือ ASML ไม่สามารถพัฒนา–ใช้งาน–ทดสอบ AI ได้ทันคู่แข่งในจีนและสหรัฐฯ → พวกเขาเลยเสนอให้ “หยุดพัก 2 ปี” สำหรับข้อบังคับที่เกี่ยวกับ AI แบบ “General-purpose” (เช่น ChatGPT, Gemini, Le Chat) และ AI แบบ “High-risk” (เช่น AI ในระบบสุขภาพ, กฎหมาย, ความมั่นคง)

    โดยเฉพาะกฎของ EU ที่ให้ AI ที่เสี่ยงต่อสุขภาพหรือสิทธิผู้ใช้ ต้องผ่านมาตรฐานหลายขั้นมาก (risk-based approach) → ยังไม่มีกำหนดแน่ชัดของ “code of practice” สำหรับ General-purpose AI ด้วยซ้ำ → แถมประธานาธิบดี Donald Trump และรองประธาน JD Vance ของสหรัฐฯ ยังเคยวิจารณ์ AI Act ว่า “เข้มจนเป็นภัยต่อการแข่งขัน”

    46 บริษัทใหญ่ของยุโรปยื่นจดหมายขอให้ EU ชะลอกฎหมาย AI Act ออกไป 2 ปี  
    • รวมถึง Airbus (ฝรั่งเศส), ASML (เนเธอร์แลนด์), Lufthansa และ Mercedes-Benz (เยอรมนี), Mistral (AI จากฝรั่งเศส)

    เสนอให้เลื่อนข้อกำหนด 2 กลุ่มหลักออกไปก่อน:  
    • General-purpose AI models (เช่น GPT, Gemini, Le Chat): เดิมจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2025  
    • High-risk AI systems: เดิมจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2026

    ให้เหตุผลว่ากฎเหล่านี้ “ทำลายความสามารถในการแข่งขันเชิงอุตสาหกรรม”  
    • ทั้งในด้านความเร็ว, งบวิจัย, การทดสอบ, และการสเกลโมเดลไปใช้จริง

    AI Act ใช้หลัก “ความเสี่ยงสูง–ความรับผิดสูง” (risk-based approach)  
    • ถ้าใช้ AI ในระบบสุขภาพ, กฎหมาย, ระบบคะแนนสังคม → ต้องผ่านเกณฑ์เข้มมาก  
    • General-purpose AI ยังไม่มี code of practice อย่างเป็นทางการ

    คณะกรรมาธิการยุโรปจะเผยแพร่แนวปฏิบัติ (code of practice) สำหรับ GPAI ภายในกรกฎาคม 2025 นี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/european-companies-urge-eu-to-delay-ai-rules
    ยุโรปเป็นภูมิภาคแรกของโลกที่ออกกฎหมาย AI แบบครอบคลุมทั้งระบบ โดยเรียกว่า AI Act ซึ่งเน้นความปลอดภัย–ความโปร่งใส–และสิทธิมนุษยชนเป็นหลัก ฟังดูดีใช่ไหมครับ? แต่บริษัทยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายแห่งกลับบอกว่า... “มันดีเกินไปจนทำให้นวัตกรรมไปไม่ถึงไหน” → เพราะกฎที่ซับซ้อน อาจทำให้สตาร์ทอัพ–องค์กรขนาดกลาง ไปจนถึง “European Champion” อย่าง Airbus หรือ ASML ไม่สามารถพัฒนา–ใช้งาน–ทดสอบ AI ได้ทันคู่แข่งในจีนและสหรัฐฯ → พวกเขาเลยเสนอให้ “หยุดพัก 2 ปี” สำหรับข้อบังคับที่เกี่ยวกับ AI แบบ “General-purpose” (เช่น ChatGPT, Gemini, Le Chat) และ AI แบบ “High-risk” (เช่น AI ในระบบสุขภาพ, กฎหมาย, ความมั่นคง) โดยเฉพาะกฎของ EU ที่ให้ AI ที่เสี่ยงต่อสุขภาพหรือสิทธิผู้ใช้ ต้องผ่านมาตรฐานหลายขั้นมาก (risk-based approach) → ยังไม่มีกำหนดแน่ชัดของ “code of practice” สำหรับ General-purpose AI ด้วยซ้ำ → แถมประธานาธิบดี Donald Trump และรองประธาน JD Vance ของสหรัฐฯ ยังเคยวิจารณ์ AI Act ว่า “เข้มจนเป็นภัยต่อการแข่งขัน” ✅ 46 บริษัทใหญ่ของยุโรปยื่นจดหมายขอให้ EU ชะลอกฎหมาย AI Act ออกไป 2 ปี   • รวมถึง Airbus (ฝรั่งเศส), ASML (เนเธอร์แลนด์), Lufthansa และ Mercedes-Benz (เยอรมนี), Mistral (AI จากฝรั่งเศส) ✅ เสนอให้เลื่อนข้อกำหนด 2 กลุ่มหลักออกไปก่อน:   • General-purpose AI models (เช่น GPT, Gemini, Le Chat): เดิมจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2025   • High-risk AI systems: เดิมจะเริ่มเดือนสิงหาคม 2026 ✅ ให้เหตุผลว่ากฎเหล่านี้ “ทำลายความสามารถในการแข่งขันเชิงอุตสาหกรรม”   • ทั้งในด้านความเร็ว, งบวิจัย, การทดสอบ, และการสเกลโมเดลไปใช้จริง ✅ AI Act ใช้หลัก “ความเสี่ยงสูง–ความรับผิดสูง” (risk-based approach)   • ถ้าใช้ AI ในระบบสุขภาพ, กฎหมาย, ระบบคะแนนสังคม → ต้องผ่านเกณฑ์เข้มมาก   • General-purpose AI ยังไม่มี code of practice อย่างเป็นทางการ ✅ คณะกรรมาธิการยุโรปจะเผยแพร่แนวปฏิบัติ (code of practice) สำหรับ GPAI ภายในกรกฎาคม 2025 นี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/04/european-companies-urge-eu-to-delay-ai-rules
    WWW.THESTAR.COM.MY
    European companies urge EU to delay AI rules
    Dozens of Europe's biggest companies urged the EU to hit the pause button on its landmark AI rules on July 3, warning that going too fast could harm the bloc's ability to lead in the global AI race.
    0 Comments 0 Shares 359 Views 0 Reviews
  • “CVE” ย่อมาจาก Common Vulnerabilities and Exposures เป็นฐานข้อมูลกลางที่ใช้ระบุชื่อช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ เช่น CVE-2023-12345 เป็นต้น ทุกทีมความปลอดภัยทั่วโลกใช้มันในการแพตช์ ประสานงาน จัดการความเสี่ยง ฯลฯ

    เมื่อเร็ว ๆ นี้ MITRE (ผู้ดูแล CVE) ส่งจดหมายแจ้งว่าจะหมดสัญญากับรัฐบาลกลางในเดือนเมษายน 2025 และหากไม่มีการต่อสัญญา จะส่งผลให้ระบบแจ้งช่องโหว่ทั่วโลกหยุดชะงัก → โชคดีที่ CISA ขยายสัญญาอีก 11 เดือนทัน

    แม้ระเบิดจะยังไม่ลง แต่เหตุการณ์นี้ทำให้หลายฝ่ายรู้ว่า “ควรเริ่มหาแหล่งข้อมูลช่องโหว่สำรอง” เพราะ:
    - CVE มี backlog เพียบ (หลายช่องโหว่ยังไม่มีรหัส)
    - ช่องโหว่จำนวนมากถูกใช้โจมตีก่อนจะถูกใส่ใน CVE
    - การอัปเดตจาก NVD (หน่วยงานที่ใส่รายละเอียดให้ CVE) ช้ากว่าความเป็นจริงมาก

    ยุโรปจึงเร่งเปิดตัว EU Vulnerability Database (EUVD) เพื่อสร้างระบบแจ้งเตือนในภูมิภาคของตนเอง และหลายองค์กรเริ่มหันไปใช้บริการจากผู้ให้ข้อมูลเชิงลึกอื่น ๆ เช่น Flashpoint, VulnCheck, GitHub Advisory, HackerOne, BitSight เป็นต้น

    CVE ยังเป็นมาตรฐานกลางที่ใช้ระบุช่องโหว่ในระบบทั่วโลก  
    • เช่น CVE-2024-12345  
    • ทุกซอฟต์แวร์และเครื่องมือ patch management พึ่งพามัน

    เมื่อเมษายน 2025 CVE เกือบหยุดทำงานเพราะหมดสัญญา → CISA ต่ออายุอีก 11 เดือนทันเวลา
    • ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงด้าน “ความพึ่งพิงมากเกินไป”

    ปัญหาที่ CVE เจอ:  
    • Backlog ช่องโหว่ที่รอยืนยันจาก NVD จำนวนมาก  
    • ความล่าช้าในการใส่รายละเอียด CVSS, CWE, CPE  
    • ช่องโหว่บางอันถูกใช้โจมตีก่อนจะมี CVE ID

    ข้อมูลจาก Google GTIG ระบุว่า มีช่องโหว่ zero-day ถึง 75 รายการในปี 2024  
    • ส่วนใหญ่ถูกใช้โจมตีก่อนจะถูกเผยแพร่ใน CVE

    ยุโรปจึงเปิดตัว European Vulnerability Database (EUVD) ในปี 2025  
    • ดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง  
    • มีหมวดแสดง critical, exploited, และช่องโหว่ที่ประสานในระดับ EU  
    • เน้นลดการพึ่ง CVE และสร้างความเป็นอิสระระดับภูมิภาค

    ผู้ให้บริการอื่นที่องค์กรควรพิจารณา:  
    • GitHub Advisory Database  
    • Flashpoint, VulnCheck, BitSight  
    • HackerOne / Bugcrowd  
    • ฐานข้อมูลระดับชาติ เช่น JPCERT, CNNVD, AusCERT  
    • CISA KEV (Known Exploited Vulnerabilities)

    แนวโน้ม: ต้องพึ่ง “Threat-informed prioritization” มากกว่ารอ CVE อย่างเดียว  
    • ใช้ปัจจัยเช่น exploit availability, asset exposure, ransomware targeting ในการตัดสินใจ patch

    https://www.csoonline.com/article/4008708/beyond-cve-the-hunt-for-other-sources-of-vulnerability-intel.html
    “CVE” ย่อมาจาก Common Vulnerabilities and Exposures เป็นฐานข้อมูลกลางที่ใช้ระบุชื่อช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ เช่น CVE-2023-12345 เป็นต้น ทุกทีมความปลอดภัยทั่วโลกใช้มันในการแพตช์ ประสานงาน จัดการความเสี่ยง ฯลฯ เมื่อเร็ว ๆ นี้ MITRE (ผู้ดูแล CVE) ส่งจดหมายแจ้งว่าจะหมดสัญญากับรัฐบาลกลางในเดือนเมษายน 2025 และหากไม่มีการต่อสัญญา จะส่งผลให้ระบบแจ้งช่องโหว่ทั่วโลกหยุดชะงัก → โชคดีที่ CISA ขยายสัญญาอีก 11 เดือนทัน แม้ระเบิดจะยังไม่ลง แต่เหตุการณ์นี้ทำให้หลายฝ่ายรู้ว่า “ควรเริ่มหาแหล่งข้อมูลช่องโหว่สำรอง” เพราะ: - CVE มี backlog เพียบ (หลายช่องโหว่ยังไม่มีรหัส) - ช่องโหว่จำนวนมากถูกใช้โจมตีก่อนจะถูกใส่ใน CVE - การอัปเดตจาก NVD (หน่วยงานที่ใส่รายละเอียดให้ CVE) ช้ากว่าความเป็นจริงมาก ยุโรปจึงเร่งเปิดตัว EU Vulnerability Database (EUVD) เพื่อสร้างระบบแจ้งเตือนในภูมิภาคของตนเอง และหลายองค์กรเริ่มหันไปใช้บริการจากผู้ให้ข้อมูลเชิงลึกอื่น ๆ เช่น Flashpoint, VulnCheck, GitHub Advisory, HackerOne, BitSight เป็นต้น ✅ CVE ยังเป็นมาตรฐานกลางที่ใช้ระบุช่องโหว่ในระบบทั่วโลก   • เช่น CVE-2024-12345   • ทุกซอฟต์แวร์และเครื่องมือ patch management พึ่งพามัน ✅ เมื่อเมษายน 2025 CVE เกือบหยุดทำงานเพราะหมดสัญญา → CISA ต่ออายุอีก 11 เดือนทันเวลา • ทำให้หลายฝ่ายเริ่มตระหนักถึงความเสี่ยงด้าน “ความพึ่งพิงมากเกินไป” ✅ ปัญหาที่ CVE เจอ:   • Backlog ช่องโหว่ที่รอยืนยันจาก NVD จำนวนมาก   • ความล่าช้าในการใส่รายละเอียด CVSS, CWE, CPE   • ช่องโหว่บางอันถูกใช้โจมตีก่อนจะมี CVE ID ✅ ข้อมูลจาก Google GTIG ระบุว่า มีช่องโหว่ zero-day ถึง 75 รายการในปี 2024   • ส่วนใหญ่ถูกใช้โจมตีก่อนจะถูกเผยแพร่ใน CVE ✅ ยุโรปจึงเปิดตัว European Vulnerability Database (EUVD) ในปี 2025   • ดึงข้อมูลจากหลายแหล่ง   • มีหมวดแสดง critical, exploited, และช่องโหว่ที่ประสานในระดับ EU   • เน้นลดการพึ่ง CVE และสร้างความเป็นอิสระระดับภูมิภาค ✅ ผู้ให้บริการอื่นที่องค์กรควรพิจารณา:   • GitHub Advisory Database   • Flashpoint, VulnCheck, BitSight   • HackerOne / Bugcrowd   • ฐานข้อมูลระดับชาติ เช่น JPCERT, CNNVD, AusCERT   • CISA KEV (Known Exploited Vulnerabilities) ✅ แนวโน้ม: ต้องพึ่ง “Threat-informed prioritization” มากกว่ารอ CVE อย่างเดียว   • ใช้ปัจจัยเช่น exploit availability, asset exposure, ransomware targeting ในการตัดสินใจ patch https://www.csoonline.com/article/4008708/beyond-cve-the-hunt-for-other-sources-of-vulnerability-intel.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Beyond CVE: The hunt for other sources of vulnerability intel
    Were the CVE program to be discontinued, security teams would have a hard time finding one resource that would function with the same impact across the board. Here are current issues of relying on CVE and some existing options to look into.
    0 Comments 0 Shares 331 Views 0 Reviews
  • ประเด็นนี้เกิดในงานสัมมนาเทคโนโลยีของ Bosch ที่จัดขึ้นที่เมือง Stuttgart เยอรมนี โดย Hartung ชี้ว่า ยุโรปแม้จะมีทรัพยากรด้านเทคโนโลยี AI และสิทธิบัตรเยอะ (Bosch เองเป็นเจ้าของสิทธิบัตร AI มากสุดในยุโรป!) แต่กลับถูกรั้งไว้ด้วย กฎระเบียบที่ทั้งเข้มงวดและ “คลุมเครือ” ซึ่งทำให้ยุโรปกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่น่าดึงดูดสำหรับการพัฒนา AI เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ หรือจีน

    ขณะเดียวกัน สหรัฐก็เร่งเครื่องแบบสุดขีด — โดยมีนโยบายทุ่มลงทุนภาคเอกชนกว่า $500,000 ล้านสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI ส่วนสหภาพยุโรปเองก็พยายามตามด้วยงบประมาณประมาณ €200,000 ล้าน แต่ Hartung ยังมองว่าถ้าไม่แก้ปัญหาเรื่อง “กฎหมายเกินความจำเป็น” ก็อาจจะไล่ไม่ทันอยู่ดี

    เขาเสนอให้ยุโรปวางกรอบกฎหมาย AI เฉพาะประเด็นหลัก และให้พื้นที่กับนวัตกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่อง AI ด้านอุตสาหกรรมและยานยนต์อัตโนมัติ ที่ Bosch กำลังลงทุนอย่างจริงจัง

    Bosch ชี้ว่ายุโรปมีสิทธิบัตร AI มาก แต่กำลังล้าหลังเพราะออกกฎหมายเยอะเกินไป  
    • Hartung ใช้คำว่า “เรากำลังออกกฎหมายต่อต้านความก้าวหน้าเทคโนโลยีของเราเอง”

    Bosch เตรียมลงทุนเพิ่ม €2.5 พันล้าน ใน AI ภายในปี 2027  
    • มุ่งเน้น AI สำหรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติและระบบอุตสาหกรรม

    ยุโรปถูกมองว่ามีความล่าช้าและซับซ้อนในแง่กฎหมายเทียบกับสหรัฐฯ หรือจีน  
    • ทำให้บริษัทเทคโนโลยีลังเลที่จะลงหลักปักฐานในภูมิภาคนี้

    Hartung แนะให้จำกัดกฎ AI เฉพาะหัวข้อสำคัญเท่านั้น  
    • เพื่อลดความเสี่ยงที่กฎหมายจะขัดขวางนวัตกรรมโดยไม่ตั้งใจ

    เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ และอียูแข่งขันอัดงบพัฒนา AI ในระดับหลายแสนล้าน  
    • สหรัฐเสนอกรอบการลงทุนเอกชนสูงถึง $500B  
    • อียูตั้งเป้า mobilize งบประมาณรวม €200B สำหรับภาค AI

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/25/bosch-ceo-warns-europe-against-regulating-039itself-to-death039-on-ai
    ประเด็นนี้เกิดในงานสัมมนาเทคโนโลยีของ Bosch ที่จัดขึ้นที่เมือง Stuttgart เยอรมนี โดย Hartung ชี้ว่า ยุโรปแม้จะมีทรัพยากรด้านเทคโนโลยี AI และสิทธิบัตรเยอะ (Bosch เองเป็นเจ้าของสิทธิบัตร AI มากสุดในยุโรป!) แต่กลับถูกรั้งไว้ด้วย กฎระเบียบที่ทั้งเข้มงวดและ “คลุมเครือ” ซึ่งทำให้ยุโรปกลายเป็นพื้นที่ที่ไม่น่าดึงดูดสำหรับการพัฒนา AI เมื่อเทียบกับสหรัฐฯ หรือจีน ขณะเดียวกัน สหรัฐก็เร่งเครื่องแบบสุดขีด — โดยมีนโยบายทุ่มลงทุนภาคเอกชนกว่า $500,000 ล้านสำหรับโครงสร้างพื้นฐาน AI ส่วนสหภาพยุโรปเองก็พยายามตามด้วยงบประมาณประมาณ €200,000 ล้าน แต่ Hartung ยังมองว่าถ้าไม่แก้ปัญหาเรื่อง “กฎหมายเกินความจำเป็น” ก็อาจจะไล่ไม่ทันอยู่ดี เขาเสนอให้ยุโรปวางกรอบกฎหมาย AI เฉพาะประเด็นหลัก และให้พื้นที่กับนวัตกรรมมากขึ้น โดยเฉพาะในเรื่อง AI ด้านอุตสาหกรรมและยานยนต์อัตโนมัติ ที่ Bosch กำลังลงทุนอย่างจริงจัง ✅ Bosch ชี้ว่ายุโรปมีสิทธิบัตร AI มาก แต่กำลังล้าหลังเพราะออกกฎหมายเยอะเกินไป   • Hartung ใช้คำว่า “เรากำลังออกกฎหมายต่อต้านความก้าวหน้าเทคโนโลยีของเราเอง” ✅ Bosch เตรียมลงทุนเพิ่ม €2.5 พันล้าน ใน AI ภายในปี 2027   • มุ่งเน้น AI สำหรับการขับเคลื่อนอัตโนมัติและระบบอุตสาหกรรม ✅ ยุโรปถูกมองว่ามีความล่าช้าและซับซ้อนในแง่กฎหมายเทียบกับสหรัฐฯ หรือจีน   • ทำให้บริษัทเทคโนโลยีลังเลที่จะลงหลักปักฐานในภูมิภาคนี้ ✅ Hartung แนะให้จำกัดกฎ AI เฉพาะหัวข้อสำคัญเท่านั้น   • เพื่อลดความเสี่ยงที่กฎหมายจะขัดขวางนวัตกรรมโดยไม่ตั้งใจ ✅ เกิดขึ้นในช่วงที่สหรัฐฯ และอียูแข่งขันอัดงบพัฒนา AI ในระดับหลายแสนล้าน   • สหรัฐเสนอกรอบการลงทุนเอกชนสูงถึง $500B   • อียูตั้งเป้า mobilize งบประมาณรวม €200B สำหรับภาค AI https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/25/bosch-ceo-warns-europe-against-regulating-039itself-to-death039-on-ai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bosch CEO warns Europe against regulating 'itself to death' on AI
    FRANKFURT (Reuters) -Bosch CEO Stefan Hartung warned on Wednesday that Europe risks hindering its progress in artificial intelligence compared with other parts of the world through over-regulation.
    0 Comments 0 Shares 263 Views 0 Reviews
  • Data centre คือหัวใจของยุค AI เพราะใช้เก็บและประมวลผลข้อมูลจากทั้งแอปฯ แชต, รูป, โมเดลปัญญาประดิษฐ์ยักษ์ ๆ อย่าง GPT, Gemini และ Llama — และมันกินไฟมหาศาล!

    ทุกวันนี้ศูนย์ข้อมูลใหญ่ ๆ ของยุโรปกระจุกอยู่ใน 5 เมืองหลัก: แฟรงก์เฟิร์ต, ลอนดอน, อัมสเตอร์ดัม, ปารีส และดับลิน แต่ปัญหาคือ... จะเชื่อมศูนย์ข้อมูลใหม่เข้ากับระบบไฟฟ้าในเมืองเหล่านี้ ต้องใช้เวลา 7–13 ปี! ทำให้ผู้พัฒนาจำนวนมากหันไปหาประเทศที่วางแผนโครงสร้างพื้นฐานได้เร็วกว่า เช่น อิตาลี เชื่อมไฟได้ภายใน 3 ปีเท่านั้น

    รายงานเตือนว่า ถ้าแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ภายในปี 2035 มีโอกาสสูงที่ศูนย์ข้อมูล ครึ่งหนึ่ง ของยุโรปจะย้ายไปอยู่นอกฮับหลักเดิมเลย — นี่หมายถึงการสูญเสียการลงทุนระดับพันล้านยูโรต่อประเทศ และตำแหน่งงานจำนวนมาก เช่นในเยอรมนี ปี 2024 ศูนย์ข้อมูลสร้าง GDP ได้กว่า €10.4B และคาดว่าจะมากกว่าสองเท่าในปี 2029 หากไม่มีอุปสรรค

    เฉพาะฝรั่งเศสเท่านั้นที่ยังรักษาเสถียรภาพได้ เพราะระบบสายส่งไฟยังไม่ติดคอขวดมากเท่าประเทศอื่น

    Ember ชี้การวางแผนระบบไฟฟ้าช้า กระทบการกระจายศูนย์ข้อมูลในยุโรป  
    • การเชื่อม Data Centre เข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าใช้เวลานาน 7–13 ปีในฮับหลัก  
    • ทำให้นักลงทุนเบนเข็มไปยังประเทศที่เชื่อมได้เร็ว เช่น อิตาลี ใช้แค่ 3 ปี

    คาดว่าภายในปี 2035 ครึ่งหนึ่งของศูนย์ข้อมูลยุโรปจะอยู่นอกฮับหลักเดิม  
    • อาจกระทบเศรษฐกิจในประเทศอย่างเยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ

    ฝรั่งเศสอาจเป็นประเทศเดียวที่รักษาการลงทุนไว้ได้อย่างต่อเนื่อง  
    • เพราะระบบไฟฟ้าไม่ติดปัญหาขัดข้องเหมือนชาติอื่นในกลุ่ม

    ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดในยุโรปเหนือและตะวันออก  
    • เช่น สวีเดน, นอร์เวย์, เดนมาร์ก: คาดว่า demand จะ เพิ่ม 3 เท่าภายในปี 2030  
    • ออสเตรีย, กรีซ, ฟินแลนด์, ฮังการี, อิตาลี, โปรตุเกส, สโลวาเกีย: คาดว่า ไฟที่ใช้กับ data centre จะเพิ่ม 3–5 เท่าในปี 2035

    Ember ระบุว่า “โครงข่ายไฟ” คือเครื่องมือดึงดูดการลงทุนระดับชาติในยุค AI  
    • ไม่ใช่แค่ data centre — อุตสาหกรรมทุกชนิดที่ต้องการใช้พลังงานสูงจะได้รับผล

    หากประเทศไม่เร่งลงทุนในโครงข่ายไฟและระบบอนุมัติ จะสูญเสียโอกาสหลายพันล้านยูโร  
    • ประเทศที่การเชื่อมไฟฟ้าช้า อาจถูกมองข้ามโดยผู้พัฒนา AI/data centre

    การกระจุกตัวของ data centre ในไม่กี่เมืองกำลังถึงทางตัน  
    • เกิดปัญหาคอขวด การใช้ไฟฟ้าเกินพิกัด และต้นทุนที่สูงขึ้น

    หากปล่อยให้ผู้พัฒนาเลือกที่ตั้งตามความสะดวกเรื่องไฟ โดยไม่มีแผนระดับภูมิภาค อาจเกิดการกระจายตัวแบบไม่สมดุล  
    • กระทบภาระด้านพลังงาน–สิ่งแวดล้อม และแผนเมืองในระยะยาว

    ศูนย์ข้อมูลต้องใช้ไฟฟ้าอย่างมั่นคง หากไม่มีแผนสำรองอาจกลายเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์  
    • โดยเฉพาะเมื่อระบบ cloud และ AI เข้าไปอยู่ในทุกธุรกิจภาครัฐและการเงิน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/poor-grid-planning-could-shift-europe039s-data-centre-geography-report-says
    Data centre คือหัวใจของยุค AI เพราะใช้เก็บและประมวลผลข้อมูลจากทั้งแอปฯ แชต, รูป, โมเดลปัญญาประดิษฐ์ยักษ์ ๆ อย่าง GPT, Gemini และ Llama — และมันกินไฟมหาศาล! ทุกวันนี้ศูนย์ข้อมูลใหญ่ ๆ ของยุโรปกระจุกอยู่ใน 5 เมืองหลัก: แฟรงก์เฟิร์ต, ลอนดอน, อัมสเตอร์ดัม, ปารีส และดับลิน แต่ปัญหาคือ... จะเชื่อมศูนย์ข้อมูลใหม่เข้ากับระบบไฟฟ้าในเมืองเหล่านี้ ต้องใช้เวลา 7–13 ปี! ทำให้ผู้พัฒนาจำนวนมากหันไปหาประเทศที่วางแผนโครงสร้างพื้นฐานได้เร็วกว่า เช่น อิตาลี เชื่อมไฟได้ภายใน 3 ปีเท่านั้น รายงานเตือนว่า ถ้าแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ภายในปี 2035 มีโอกาสสูงที่ศูนย์ข้อมูล ครึ่งหนึ่ง ของยุโรปจะย้ายไปอยู่นอกฮับหลักเดิมเลย — นี่หมายถึงการสูญเสียการลงทุนระดับพันล้านยูโรต่อประเทศ และตำแหน่งงานจำนวนมาก เช่นในเยอรมนี ปี 2024 ศูนย์ข้อมูลสร้าง GDP ได้กว่า €10.4B และคาดว่าจะมากกว่าสองเท่าในปี 2029 หากไม่มีอุปสรรค เฉพาะฝรั่งเศสเท่านั้นที่ยังรักษาเสถียรภาพได้ เพราะระบบสายส่งไฟยังไม่ติดคอขวดมากเท่าประเทศอื่น ✅ Ember ชี้การวางแผนระบบไฟฟ้าช้า กระทบการกระจายศูนย์ข้อมูลในยุโรป   • การเชื่อม Data Centre เข้ากับโครงข่ายไฟฟ้าใช้เวลานาน 7–13 ปีในฮับหลัก   • ทำให้นักลงทุนเบนเข็มไปยังประเทศที่เชื่อมได้เร็ว เช่น อิตาลี ใช้แค่ 3 ปี ✅ คาดว่าภายในปี 2035 ครึ่งหนึ่งของศูนย์ข้อมูลยุโรปจะอยู่นอกฮับหลักเดิม   • อาจกระทบเศรษฐกิจในประเทศอย่างเยอรมนี, เนเธอร์แลนด์, อังกฤษ ✅ ฝรั่งเศสอาจเป็นประเทศเดียวที่รักษาการลงทุนไว้ได้อย่างต่อเนื่อง   • เพราะระบบไฟฟ้าไม่ติดปัญหาขัดข้องเหมือนชาติอื่นในกลุ่ม ✅ ความต้องการไฟฟ้าเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดในยุโรปเหนือและตะวันออก   • เช่น สวีเดน, นอร์เวย์, เดนมาร์ก: คาดว่า demand จะ เพิ่ม 3 เท่าภายในปี 2030   • ออสเตรีย, กรีซ, ฟินแลนด์, ฮังการี, อิตาลี, โปรตุเกส, สโลวาเกีย: คาดว่า ไฟที่ใช้กับ data centre จะเพิ่ม 3–5 เท่าในปี 2035 ✅ Ember ระบุว่า “โครงข่ายไฟ” คือเครื่องมือดึงดูดการลงทุนระดับชาติในยุค AI   • ไม่ใช่แค่ data centre — อุตสาหกรรมทุกชนิดที่ต้องการใช้พลังงานสูงจะได้รับผล ‼️ หากประเทศไม่เร่งลงทุนในโครงข่ายไฟและระบบอนุมัติ จะสูญเสียโอกาสหลายพันล้านยูโร   • ประเทศที่การเชื่อมไฟฟ้าช้า อาจถูกมองข้ามโดยผู้พัฒนา AI/data centre ‼️ การกระจุกตัวของ data centre ในไม่กี่เมืองกำลังถึงทางตัน   • เกิดปัญหาคอขวด การใช้ไฟฟ้าเกินพิกัด และต้นทุนที่สูงขึ้น ‼️ หากปล่อยให้ผู้พัฒนาเลือกที่ตั้งตามความสะดวกเรื่องไฟ โดยไม่มีแผนระดับภูมิภาค อาจเกิดการกระจายตัวแบบไม่สมดุล   • กระทบภาระด้านพลังงาน–สิ่งแวดล้อม และแผนเมืองในระยะยาว ‼️ ศูนย์ข้อมูลต้องใช้ไฟฟ้าอย่างมั่นคง หากไม่มีแผนสำรองอาจกลายเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงไซเบอร์   • โดยเฉพาะเมื่อระบบ cloud และ AI เข้าไปอยู่ในทุกธุรกิจภาครัฐและการเงิน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/19/poor-grid-planning-could-shift-europe039s-data-centre-geography-report-says
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Poor grid planning could shift Europe's data centre geography, report says
    PARIS (Reuters) -Europe's leading data centre hubs face a major shift as developers will go wherever connection times are shortest, unless there is more proactive electricity grid planning, a report on Thursday by energy think-tank Ember showed.
    0 Comments 0 Shares 480 Views 0 Reviews
  • เยอรมนีเตรียมเลิกใช้ Microsoft: "เราพอแล้วกับ Teams!"
    รัฐ Schleswig-Holstein ทางตอนเหนือของเยอรมนี กำลังดำเนินการเปลี่ยนจากซอฟต์แวร์ของ Microsoft ไปใช้ โอเพ่นซอร์ส อย่างเต็มรูปแบบ โดยเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 60,000 คน จะเลิกใช้ Teams, Word, Excel และ Outlook ภายในสามเดือนข้างหน้า เพื่อเพิ่มความเป็นอิสระ ความยั่งยืน และความปลอดภัย.

    เหตุผลที่เยอรมนีเลิกใช้ Microsoft
    ลดค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ที่มีมูลค่าหลายล้านยูโรต่อปี.
    ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากบริษัทสหรัฐฯ.
    ปฏิบัติตามกฎหมาย "Interoperable Europe Act" ที่สนับสนุนการใช้โอเพ่นซอร์สในหน่วยงานรัฐ.
    ปัญหาด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยเฉพาะการจัดเก็บข้อมูลของพลเมือง.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    การเปลี่ยนระบบอาจมีความยุ่งยากในช่วงแรก เนื่องจากต้องฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้คุ้นเคยกับซอฟต์แวร์ใหม่.
    อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้กับเอกสารและระบบเดิม ที่ยังใช้ Microsoft Office.
    ต้องมีการสนับสนุนทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น.

    แนวทางการเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์ส
    ใช้ LibreOffice แทน Microsoft Office ซึ่งรองรับไฟล์เอกสารส่วนใหญ่.
    เปลี่ยนจาก Windows เป็น Linux เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดค่าใช้จ่าย.
    ใช้ Nextcloud แทน OneDrive และ Google Drive สำหรับการจัดเก็บและแชร์ไฟล์.
    ใช้ Open-Xchange แทน Outlook เพื่อการจัดการอีเมลและปฏิทิน.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลเยอรมนี
    รัฐบาลฝรั่งเศสและอินเดียก็เริ่มเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์ส เช่นเดียวกับเยอรมนี.
    เมืองมิวนิกเคยเปลี่ยนไปใช้ Linux ในปี 2004 แต่กลับมาใช้ Windows ในปี 2017 เนื่องจากปัญหาด้านการสนับสนุน.
    องค์กรที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์สควรมีแผนรองรับ เพื่อป้องกันปัญหาด้านความเข้ากันได้.

    https://www.techspot.com/news/108327-german-state-moves-closer-ditching-microsoft-products-government.html
    เยอรมนีเตรียมเลิกใช้ Microsoft: "เราพอแล้วกับ Teams!" รัฐ Schleswig-Holstein ทางตอนเหนือของเยอรมนี กำลังดำเนินการเปลี่ยนจากซอฟต์แวร์ของ Microsoft ไปใช้ โอเพ่นซอร์ส อย่างเต็มรูปแบบ โดยเจ้าหน้าที่รัฐกว่า 60,000 คน จะเลิกใช้ Teams, Word, Excel และ Outlook ภายในสามเดือนข้างหน้า เพื่อเพิ่มความเป็นอิสระ ความยั่งยืน และความปลอดภัย. เหตุผลที่เยอรมนีเลิกใช้ Microsoft ✅ ลดค่าใช้จ่ายด้านไลเซนส์ ที่มีมูลค่าหลายล้านยูโรต่อปี. ✅ ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากบริษัทสหรัฐฯ. ✅ ปฏิบัติตามกฎหมาย "Interoperable Europe Act" ที่สนับสนุนการใช้โอเพ่นซอร์สในหน่วยงานรัฐ. ✅ ปัญหาด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวของข้อมูล โดยเฉพาะการจัดเก็บข้อมูลของพลเมือง. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ การเปลี่ยนระบบอาจมีความยุ่งยากในช่วงแรก เนื่องจากต้องฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้คุ้นเคยกับซอฟต์แวร์ใหม่. ‼️ อาจเกิดปัญหาความเข้ากันได้กับเอกสารและระบบเดิม ที่ยังใช้ Microsoft Office. ‼️ ต้องมีการสนับสนุนทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง เพื่อให้การเปลี่ยนแปลงเป็นไปอย่างราบรื่น. แนวทางการเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์ส ✅ ใช้ LibreOffice แทน Microsoft Office ซึ่งรองรับไฟล์เอกสารส่วนใหญ่. ✅ เปลี่ยนจาก Windows เป็น Linux เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดค่าใช้จ่าย. ✅ ใช้ Nextcloud แทน OneDrive และ Google Drive สำหรับการจัดเก็บและแชร์ไฟล์. ✅ ใช้ Open-Xchange แทน Outlook เพื่อการจัดการอีเมลและปฏิทิน. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของรัฐบาลเยอรมนี ✅ รัฐบาลฝรั่งเศสและอินเดียก็เริ่มเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์ส เช่นเดียวกับเยอรมนี. ✅ เมืองมิวนิกเคยเปลี่ยนไปใช้ Linux ในปี 2004 แต่กลับมาใช้ Windows ในปี 2017 เนื่องจากปัญหาด้านการสนับสนุน. ‼️ องค์กรที่ต้องการเปลี่ยนไปใช้โอเพ่นซอร์สควรมีแผนรองรับ เพื่อป้องกันปัญหาด้านความเข้ากันได้. https://www.techspot.com/news/108327-german-state-moves-closer-ditching-microsoft-products-government.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    German government moves closer to ditching Microsoft: "We're done with Teams!"
    Plans to go open-source were drawn up by Schleswig-Holstein as far back as 2017. In 2021, the state found another incentive to make the switch: Windows 11's...
    0 Comments 0 Shares 396 Views 0 Reviews
  • Oktoberfest-Eastern Europe 9 Days
    🗓 เดินทาง 23 ก.ย. – 01 ต.ค. 68
    สายการบินเอมิเรตส์ (Emirates)
    ราคาท่านละ 109,900.-
    ⭕️ รวมทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีก!

    เทศกาลเบียร์สุดยิ่งใหญ่แห่งเยอรมัน
    ดื่มด่ำบรรยากาศสุดคลาสสิก!

    เที่ยวยุโรปตะวันออก 5 ประเทศ
    เยอรมัน
    ออสเตรีย
    เช็ก
    ฮังการี
    สโลวาเกีย

    ครบจบในทริปเดียว 9 วันเต็ม!
    #Oktoberfest2025 #เที่ยวเยอรมัน #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เทศกาลเบียร์ #GermanyTrip #EasternEuropeTour #เที่ยวฟินอินยุโรป #Emirates #ทัวร์ดีไม่ต้องจ่ายเพิ่ม

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e0b145

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🍻 Oktoberfest-Eastern Europe 9 Days 🗓 เดินทาง 23 ก.ย. – 01 ต.ค. 68 ✈️ สายการบินเอมิเรตส์ (Emirates) 💸 ราคาท่านละ 109,900.- ⭕️ รวมทุกอย่างแล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่มอีก! เทศกาลเบียร์สุดยิ่งใหญ่แห่งเยอรมัน 🇩🇪 ดื่มด่ำบรรยากาศสุดคลาสสิก! 🌍 เที่ยวยุโรปตะวันออก 5 ประเทศ 🇩🇪 เยอรมัน 🇦🇹 ออสเตรีย 🇨🇿 เช็ก 🇭🇺 ฮังการี 🇸🇰 สโลวาเกีย 📌 ครบจบในทริปเดียว 9 วันเต็ม! #Oktoberfest2025 #เที่ยวเยอรมัน #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เทศกาลเบียร์ #GermanyTrip #EasternEuropeTour #เที่ยวฟินอินยุโรป #Emirates #ทัวร์ดีไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e0b145 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 Comments 0 Shares 638 Views 0 Reviews
  • Microsoft เปิดตัวโครงการความปลอดภัยไซเบอร์ฟรีสำหรับรัฐบาลยุโรป
    Microsoft ได้เปิดตัว European Security Program ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยให้รัฐบาลยุโรปสามารถ รับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ใช้ AI โดยไม่มีค่าใช้จ่าย

    โครงการนี้มุ่งเน้นไปที่ การแบ่งปันข้อมูลภัยคุกคามที่ใช้ AI และ การเพิ่มขีดความสามารถด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ให้กับรัฐบาลยุโรป

    Microsoft ยังได้ร่วมมือกับ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในยุโรป เพื่อจัดการกับ มัลแวร์ Lumma infostealer ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่สามารถ ขโมยรหัสผ่าน, ข้อมูลทางการเงิน และกระเป๋าเงินคริปโต โดยในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา Lumma infostealer ได้ติดไวรัสไปแล้วกว่า 400,000 เครื่องทั่วโลก

    นอกจากนี้ Microsoft ยังเตือนว่า อาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ AI เพื่อสร้างอีเมลฟิชชิ่ง, ปลอมแปลงตัวตน และสร้างวิดีโอ deepfake ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ข้อมูลจากข่าว
    - Microsoft เปิดตัว European Security Program เพื่อช่วยรัฐบาลยุโรปรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ใช้ AI
    - โครงการนี้เน้นการแบ่งปันข้อมูลภัยคุกคามและเพิ่มขีดความสามารถด้านความปลอดภัยไซเบอร์
    - Microsoft ร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในยุโรปเพื่อจัดการกับมัลแวร์ Lumma infostealer
    - Lumma infostealer ติดไวรัสไปแล้วกว่า 400,000 เครื่องทั่วโลกในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา
    - อาชญากรไซเบอร์ใช้ AI เพื่อสร้างอีเมลฟิชชิ่ง, ปลอมแปลงตัวตน และสร้างวิดีโอ deepfake

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้โครงการนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่รัฐบาลยุโรปยังต้องพัฒนาแนวทางป้องกันเพิ่มเติม
    - AI ที่ใช้ในอาชญากรรมไซเบอร์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้การป้องกันต้องปรับตัวตาม
    - ต้องติดตามว่ารัฐบาลยุโรปจะนำข้อมูลภัยคุกคามที่ Microsoft แบ่งปันไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่
    - การใช้ AI ในการโจมตีไซเบอร์อาจทำให้เกิดภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ยังไม่มีมาตรการรับมือ

    โครงการนี้ช่วยให้ รัฐบาลยุโรปสามารถรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ใช้ AI ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการแบ่งปันข้อมูลภัยคุกคามจะช่วยลดจำนวนการโจมตีได้มากน้อยเพียงใด

    https://www.neowin.net/news/microsoft-offers-free-cybersecurity-programs-to-european-governments/
    🛡️ Microsoft เปิดตัวโครงการความปลอดภัยไซเบอร์ฟรีสำหรับรัฐบาลยุโรป Microsoft ได้เปิดตัว European Security Program ซึ่งเป็นโครงการที่ช่วยให้รัฐบาลยุโรปสามารถ รับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ใช้ AI โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โครงการนี้มุ่งเน้นไปที่ การแบ่งปันข้อมูลภัยคุกคามที่ใช้ AI และ การเพิ่มขีดความสามารถด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ให้กับรัฐบาลยุโรป Microsoft ยังได้ร่วมมือกับ หน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในยุโรป เพื่อจัดการกับ มัลแวร์ Lumma infostealer ซึ่งเป็นมัลแวร์ที่สามารถ ขโมยรหัสผ่าน, ข้อมูลทางการเงิน และกระเป๋าเงินคริปโต โดยในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา Lumma infostealer ได้ติดไวรัสไปแล้วกว่า 400,000 เครื่องทั่วโลก นอกจากนี้ Microsoft ยังเตือนว่า อาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ AI เพื่อสร้างอีเมลฟิชชิ่ง, ปลอมแปลงตัวตน และสร้างวิดีโอ deepfake ซึ่งเป็นภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ✅ ข้อมูลจากข่าว - Microsoft เปิดตัว European Security Program เพื่อช่วยรัฐบาลยุโรปรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ใช้ AI - โครงการนี้เน้นการแบ่งปันข้อมูลภัยคุกคามและเพิ่มขีดความสามารถด้านความปลอดภัยไซเบอร์ - Microsoft ร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในยุโรปเพื่อจัดการกับมัลแวร์ Lumma infostealer - Lumma infostealer ติดไวรัสไปแล้วกว่า 400,000 เครื่องทั่วโลกในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา - อาชญากรไซเบอร์ใช้ AI เพื่อสร้างอีเมลฟิชชิ่ง, ปลอมแปลงตัวตน และสร้างวิดีโอ deepfake ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้โครงการนี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัย แต่รัฐบาลยุโรปยังต้องพัฒนาแนวทางป้องกันเพิ่มเติม - AI ที่ใช้ในอาชญากรรมไซเบอร์กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว ทำให้การป้องกันต้องปรับตัวตาม - ต้องติดตามว่ารัฐบาลยุโรปจะนำข้อมูลภัยคุกคามที่ Microsoft แบ่งปันไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพหรือไม่ - การใช้ AI ในการโจมตีไซเบอร์อาจทำให้เกิดภัยคุกคามรูปแบบใหม่ที่ยังไม่มีมาตรการรับมือ โครงการนี้ช่วยให้ รัฐบาลยุโรปสามารถรับมือกับภัยคุกคามไซเบอร์ที่ใช้ AI ได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการแบ่งปันข้อมูลภัยคุกคามจะช่วยลดจำนวนการโจมตีได้มากน้อยเพียงใด https://www.neowin.net/news/microsoft-offers-free-cybersecurity-programs-to-european-governments/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft offers free cybersecurity programs to European governments
    Microsoft has launched a cybersecurity enhancement program for European countries to help them repel AI-powered attacks.
    0 Comments 0 Shares 321 Views 0 Reviews
  • ครั้งแรกที่ทดลองเขียนบทความโดยใช้ ChatGPT หาข้อมูล ช่วยตรวจ และทำภาพประกอบ แต่ยังคงสำนวนของเราเอง

    ลองแปลภาษาอังกฤษ อันนี้โคตรตื่นเต้น ใช้ ChatGPT แปล

    ChatGPT in the ASEAN Market

    Artificial intelligence (AI) is playing an increasingly significant role in everyday life—especially through platforms like ChatGPT, an interactive assistant capable of understanding and responding to human language in a wide variety of contexts. From planning and problem-solving to providing daily advice, ChatGPT has become a go-to tool for many. Currently, it boasts around 800 million users worldwide, with approximately 122 million daily active users. It operates in a competitive field alongside major technology platforms such as Google, Microsoft, and Meta, as well as rising competitors from Asia like DeepSeek, Baidu, Alibaba, and Tencent.

    In Thailand, while the core user base consists of coders, programmers, and those generating AI visuals, ChatGPT is gradually gaining broader recognition for its role in content creation and ideation. About 14% of Thailand's population of 65.89 million are estimated to be users.

    Looking across the ASEAN region, which has a combined population of roughly 600 million, Indonesia leads in user share with around 32% of its 283.48 million citizens using the platform. The Philippines follows with an estimated 28% of its population (roughly 119 million) engaging with ChatGPT. In Singapore, usage is widespread among high-income, well-educated groups, while Malaysia is seeing steady growth, particularly among tech-savvy users. However, the region still faces significant challenges, including disparities in access to high-speed internet, AI-compatible devices, and the relatively high cost of AI services for certain demographics.

    To address these barriers, OpenAI, the US-based AI company behind ChatGPT, has begun collaborating with telecom providers across Southeast Asia. For example, in Laos, ChatGPT is accessible via the Unitel network; in Malaysia, CelcomDigi is planning to introduce AI-powered add-on services; and in Singapore, Singtel has started bundling AI services into consumer packages. In the Philippines, usage remains limited, while Indonesia is piloting AI services with select customer groups.

    Although Thailand has not yet officially launched ChatGPT service packages, interest is high and discussions with major telecom providers are reportedly underway. Meanwhile, Vietnam, Cambodia, Myanmar, and Brunei remain in the early or pilot phases of deployment.

    Overall, ASEAN markets are showing increased interest and activity around AI services, even though adoption rates have yet to match those in Europe or the United States. Partnerships between OpenAI and regional telecom providers are expected to be key in expanding ChatGPT’s accessibility and integration across broader segments of the population.
    ครั้งแรกที่ทดลองเขียนบทความโดยใช้ ChatGPT หาข้อมูล ช่วยตรวจ และทำภาพประกอบ แต่ยังคงสำนวนของเราเอง ลองแปลภาษาอังกฤษ อันนี้โคตรตื่นเต้น ใช้ ChatGPT แปล ChatGPT in the ASEAN Market Artificial intelligence (AI) is playing an increasingly significant role in everyday life—especially through platforms like ChatGPT, an interactive assistant capable of understanding and responding to human language in a wide variety of contexts. From planning and problem-solving to providing daily advice, ChatGPT has become a go-to tool for many. Currently, it boasts around 800 million users worldwide, with approximately 122 million daily active users. It operates in a competitive field alongside major technology platforms such as Google, Microsoft, and Meta, as well as rising competitors from Asia like DeepSeek, Baidu, Alibaba, and Tencent. In Thailand, while the core user base consists of coders, programmers, and those generating AI visuals, ChatGPT is gradually gaining broader recognition for its role in content creation and ideation. About 14% of Thailand's population of 65.89 million are estimated to be users. Looking across the ASEAN region, which has a combined population of roughly 600 million, Indonesia leads in user share with around 32% of its 283.48 million citizens using the platform. The Philippines follows with an estimated 28% of its population (roughly 119 million) engaging with ChatGPT. In Singapore, usage is widespread among high-income, well-educated groups, while Malaysia is seeing steady growth, particularly among tech-savvy users. However, the region still faces significant challenges, including disparities in access to high-speed internet, AI-compatible devices, and the relatively high cost of AI services for certain demographics. To address these barriers, OpenAI, the US-based AI company behind ChatGPT, has begun collaborating with telecom providers across Southeast Asia. For example, in Laos, ChatGPT is accessible via the Unitel network; in Malaysia, CelcomDigi is planning to introduce AI-powered add-on services; and in Singapore, Singtel has started bundling AI services into consumer packages. In the Philippines, usage remains limited, while Indonesia is piloting AI services with select customer groups. Although Thailand has not yet officially launched ChatGPT service packages, interest is high and discussions with major telecom providers are reportedly underway. Meanwhile, Vietnam, Cambodia, Myanmar, and Brunei remain in the early or pilot phases of deployment. Overall, ASEAN markets are showing increased interest and activity around AI services, even though adoption rates have yet to match those in Europe or the United States. Partnerships between OpenAI and regional telecom providers are expected to be key in expanding ChatGPT’s accessibility and integration across broader segments of the population.
    ChatGPT ในตลาดอาเซียน

    เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะแพลตฟอร์ม ChatGPT ซึ่งเป็นผู้ช่วยโต้ตอบที่สามารถเข้าใจและตอบสนองภาษามนุษย์ได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในด้านการวางแผน แก้ปัญหา และให้คำแนะนำในชีวิตประจำวัน ปัจจุบันมีผู้ใช้งานทั่วโลกประมาณ 800 ล้านคน โดยมีผู้ใช้งานประจำวันราว 122 ล้านคน ท่ามกลางการแข่งขันกับแพลตฟอร์มจากค่ายเทคโนโลยีรายใหญ่อย่าง Google, Microsoft, Meta ตลอดจนคู่แข่งจากฝั่งเอเชีย เช่น DeepSeek, Baidu, Alibaba และ Tencent

    สำหรับประเทศไทย แม้กลุ่มผู้ใช้งานหลักจะอยู่ในสายโค้ดดิ้ง โปรแกรมมิ่ง หรือการสร้างภาพ AI แต่ ChatGPT ก็เริ่มเป็นที่รู้จักในวงกว้างด้านการใช้สร้างสรรค์เนื้อหาและแนวคิดใหม่ๆ โดยมีสัดส่วนผู้ใช้งานประมาณ 14% จากประชากร 65.89 ล้านคน

    หากพิจารณาภาพรวมของตลาดอาเซียน ซึ่งมีประชากรรวมราว 600 ล้านคน พบว่า อินโดนีเซียมีสัดส่วนผู้ใช้งานสูงที่สุด ประมาณ 32% ของประชากร 283.48 ล้านคน รองลงมาคือฟิลิปปินส์ ที่มีผู้ใช้งานประมาณ 28% จากประชากรราว 119 ล้านคน ส่วนสิงคโปร์มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในกลุ่มที่มีรายได้สูงและการศึกษาดี ขณะที่มาเลเซียมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในกลุ่มผู้สนใจเทคโนโลยีใหม่ อย่างไรก็ตาม อุปสรรคสำคัญของภูมิภาคนี้ยังอยู่ที่ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อุปกรณ์ที่รองรับ AI และต้นทุนบริการที่ยังถือว่าสูงสำหรับประชากรบางส่วน

    ที่ผ่านมา OpenAI ซึ่งเป็นบริษัทด้าน AI จากสหรัฐอเมริกา ได้เปิดตัวโครงการ “OpenAI for Countries” ซึ่งเป็นความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI และการเข้าถึง ChatGPT ในระดับประเทศ ขณะที่สิงคโปร์ OpenAI ได้ประกาศความร่วมมือกับโครงการ AI Singapore ซึ่งเป็นโครงการร่วมระหว่างรัฐบาลและสถาบันการศึกษา เพื่อส่งเสริมการนำ AI มาใช้ในประเทศ ส่วนประเทศอื่นๆ สามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ และผ่านเว็บไซต์

    โดยรวมแล้ว ตลาดอาเซียนกำลังตื่นตัวต่อบริการ AI มากขึ้น แม้ยังไม่เทียบเท่าตลาดยุโรปหรือสหรัฐฯ ความร่วมมือระหว่าง OpenAI กับผู้ให้บริการโทรคมนาคมในภูมิภาค จึงเป็นกุญแจสำคัญในการขยายการเข้าถึง ChatGPT ให้ครอบคลุมประชากรในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

    #Newskit
    0 Comments 0 Shares 752 Views 0 Reviews
  • บริษัทลุงไหวตัวทัน หันไปใช้ Hyper-V ของ Microsoft คุ้มค่ากว่า

    Broadcom ปรับขึ้นราคาค่าลิขสิทธิ์ VMware สูงถึง 1,500% สร้างแรงกดดันต่อผู้ให้บริการคลาวด์

    Broadcom ถูกกล่าวหาว่าปรับขึ้นราคาค่าลิขสิทธิ์ VMware สูงถึง 800–1,500% หลังจาก ยกเลิกไลเซนส์แบบถาวรและแบบจ่ายตามการใช้งาน แล้วเปลี่ยนเป็น ระบบสมัครสมาชิกแบบบังคับขั้นต่ำ 3 ปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อ ผู้ให้บริการคลาวด์ในยุโรปที่ต้องต่อสัญญาใหม่ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาของ Broadcom
    Broadcom ยกเลิกไลเซนส์แบบถาวรและแบบจ่ายตามการใช้งาน
    - ผู้ใช้ต้อง จ่ายค่าลิขสิทธิ์ล่วงหน้าเป็นเวลา 3 ปีแทน

    European Cloud Competition Observatory (ECCO) วิจารณ์ว่า Broadcomใช้เงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม
    - เปรียบเทียบว่า เป็นการบังคับให้จ่ายเงินเต็มจำนวนโดยไม่คำนึงถึงการใช้งานจริง

    องค์กร CISPE ระบุว่าผู้ให้บริการคลาวด์ถูกบีบให้ต่อสัญญาใหม่เพื่อรักษาการให้บริการ
    - สัญญาเดิมบางฉบับ ถูกยกเลิกทันทีแม้จะมีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี

    VOICE องค์กรด้าน IT ของเยอรมนี ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป
    - เรียกร้องให้ ตรวจสอบพฤติกรรมการตั้งราคาของ Broadcom

    CISPE วิจารณ์ว่า Broadcom ไม่ให้ความร่วมมือในการหาทางออกกับผู้ให้บริการคลาวด์ยุโรป
    - เปรียบเทียบกับ Microsoft ที่มีการเจรจาหาทางออกกับผู้ให้บริการคลาวด์

    https://www.techradar.com/pro/broadcom-has-allegedly-hiked-vmware-costs-between-800-and-1-500-percent
    ℹ️ℹ️ บริษัทลุงไหวตัวทัน หันไปใช้ Hyper-V ของ Microsoft คุ้มค่ากว่า Broadcom ปรับขึ้นราคาค่าลิขสิทธิ์ VMware สูงถึง 1,500% สร้างแรงกดดันต่อผู้ให้บริการคลาวด์ Broadcom ถูกกล่าวหาว่าปรับขึ้นราคาค่าลิขสิทธิ์ VMware สูงถึง 800–1,500% หลังจาก ยกเลิกไลเซนส์แบบถาวรและแบบจ่ายตามการใช้งาน แล้วเปลี่ยนเป็น ระบบสมัครสมาชิกแบบบังคับขั้นต่ำ 3 ปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อ ผู้ให้บริการคลาวด์ในยุโรปที่ต้องต่อสัญญาใหม่ภายใต้เงื่อนไขที่เข้มงวด 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการปรับขึ้นราคาของ Broadcom ✅ Broadcom ยกเลิกไลเซนส์แบบถาวรและแบบจ่ายตามการใช้งาน - ผู้ใช้ต้อง จ่ายค่าลิขสิทธิ์ล่วงหน้าเป็นเวลา 3 ปีแทน ✅ European Cloud Competition Observatory (ECCO) วิจารณ์ว่า Broadcomใช้เงื่อนไขที่ไม่เป็นธรรม - เปรียบเทียบว่า เป็นการบังคับให้จ่ายเงินเต็มจำนวนโดยไม่คำนึงถึงการใช้งานจริง ✅ องค์กร CISPE ระบุว่าผู้ให้บริการคลาวด์ถูกบีบให้ต่อสัญญาใหม่เพื่อรักษาการให้บริการ - สัญญาเดิมบางฉบับ ถูกยกเลิกทันทีแม้จะมีอายุการใช้งานมากกว่า 10 ปี ✅ VOICE องค์กรด้าน IT ของเยอรมนี ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป - เรียกร้องให้ ตรวจสอบพฤติกรรมการตั้งราคาของ Broadcom ✅ CISPE วิจารณ์ว่า Broadcom ไม่ให้ความร่วมมือในการหาทางออกกับผู้ให้บริการคลาวด์ยุโรป - เปรียบเทียบกับ Microsoft ที่มีการเจรจาหาทางออกกับผู้ให้บริการคลาวด์ https://www.techradar.com/pro/broadcom-has-allegedly-hiked-vmware-costs-between-800-and-1-500-percent
    WWW.TECHRADAR.COM
    Broadcom has allegedly hiked VMware costs between 800 and 1,500%
    CISPE's ECCO isn't happy about Broadcom's pricing for VMware
    0 Comments 0 Shares 467 Views 0 Reviews
  • Broadcom อาจเผชิญค่าปรับจากสหภาพยุโรป กรณีสัญญา VMware ที่ไม่เป็นธรรม

    Broadcom กำลังถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรป หลังจากที่ บริษัทถูกกล่าวหาว่าบังคับใช้เงื่อนไขสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับลูกค้า VMware ซึ่งอาจนำไปสู่ ค่าปรับด้านการต่อต้านการผูกขาดที่มีมูลค่าสูง

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกรณี Broadcom และ VMware
    Broadcom ถูกกล่าวหาว่าบังคับให้ลูกค้า VMware เปลี่ยนไปใช้ระบบสมัครสมาชิกออนไลน์
    - ส่งผลให้ ลูกค้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมต่อเนื่องแทนการซื้อไลเซนส์แบบถาวร

    European Cloud Competition Observatory (ECCO) เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสัญญาของ Broadcom
    - พบว่า Broadcom ใช้เงื่อนไขที่เข้มงวดและไม่เป็นธรรมกับผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานในยุโรป

    Broadcom ส่งจดหมายแจ้งหยุดให้บริการแก่ลูกค้า VMware ที่ใช้ไลเซนส์แบบถาวร
    - ลูกค้าต้องจ่ายเงินเพื่อรับการสนับสนุนต่อไป มิฉะนั้นอาจเผชิญผลทางกฎหมาย

    องค์กร VOICE ของเยอรมนียื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป
    - เรียกร้องให้มีการสอบสวนและดำเนินมาตรการต่อต้าน Broadcom

    ECCO สนับสนุนให้ Broadcom ปรับปรุงแนวทางการดำเนินธุรกิจ
    - รวมถึง การกำหนดราคาที่โปร่งใสและการปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า

    https://www.techspot.com/news/108041-broadcom-could-face-eu-antitrust-fines-over-punitive.html
    Broadcom อาจเผชิญค่าปรับจากสหภาพยุโรป กรณีสัญญา VMware ที่ไม่เป็นธรรม Broadcom กำลังถูกตรวจสอบโดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหภาพยุโรป หลังจากที่ บริษัทถูกกล่าวหาว่าบังคับใช้เงื่อนไขสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับลูกค้า VMware ซึ่งอาจนำไปสู่ ค่าปรับด้านการต่อต้านการผูกขาดที่มีมูลค่าสูง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกรณี Broadcom และ VMware ✅ Broadcom ถูกกล่าวหาว่าบังคับให้ลูกค้า VMware เปลี่ยนไปใช้ระบบสมัครสมาชิกออนไลน์ - ส่งผลให้ ลูกค้าต้องจ่ายค่าธรรมเนียมต่อเนื่องแทนการซื้อไลเซนส์แบบถาวร ✅ European Cloud Competition Observatory (ECCO) เผยแพร่รายงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสัญญาของ Broadcom - พบว่า Broadcom ใช้เงื่อนไขที่เข้มงวดและไม่เป็นธรรมกับผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานในยุโรป ✅ Broadcom ส่งจดหมายแจ้งหยุดให้บริการแก่ลูกค้า VMware ที่ใช้ไลเซนส์แบบถาวร - ลูกค้าต้องจ่ายเงินเพื่อรับการสนับสนุนต่อไป มิฉะนั้นอาจเผชิญผลทางกฎหมาย ✅ องค์กร VOICE ของเยอรมนียื่นเรื่องร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป - เรียกร้องให้มีการสอบสวนและดำเนินมาตรการต่อต้าน Broadcom ✅ ECCO สนับสนุนให้ Broadcom ปรับปรุงแนวทางการดำเนินธุรกิจ - รวมถึง การกำหนดราคาที่โปร่งใสและการปกป้องความเป็นส่วนตัวของลูกค้า https://www.techspot.com/news/108041-broadcom-could-face-eu-antitrust-fines-over-punitive.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Broadcom could face EU antitrust fines over 'punitive' VMware contract terms
    The European Cloud Competition Observatory (ECCO) is a monitoring group founded by CISPE, a non-profit trade association of European cloud providers. Created as part of CISPE's antitrust...
    0 Comments 0 Shares 353 Views 0 Reviews
  • CERN ทดสอบการขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นครั้งแรก

    นักวิจัยจาก CERN (European Organization for Nuclear Research) ได้ทำการทดลอง ขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยใช้ อุปกรณ์กักเก็บพิเศษที่ไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาปฏิสสารนอกห้องทดลอง

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการทดลองขนส่งปฏิสสาร
    ปฏิสสารเป็นอนุภาคที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกับสสารปกติ
    - พบได้จาก การชนกันของรังสีคอสมิกหรือการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี

    CERN เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งบนโลกที่สามารถผลิตปฏิสสารได้เป็นประจำ
    - ใช้ เครื่องเร่งอนุภาคพลังงานสูงเพื่อสร้างปฏิสสารจากการชนกันของอนุภาค

    นักวิจัยพัฒนาอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารขนาด 2 เมตร
    - สามารถ กักเก็บอนุภาคปฏิสสารได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก

    ทดลองขนส่งอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร
    - หลังจากเดินทาง นักวิจัยยืนยันว่าอนุภาคปฏิสสารยังคงอยู่ในอุปกรณ์

    การทดลองนี้พิสูจน์ว่าปฏิสสารสามารถขนส่งไปยังห้องทดลองภายนอกได้
    - อาจช่วยให้ สามารถศึกษาปฏิสสารได้แม่นยำขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีการรบกวนน้อยกว่า

    CERN เตรียมส่งปฏิสสารไปยังมหาวิทยาลัย Heinrich Heine ในเยอรมนี
    - อนุภาคจะเดินทาง เป็นระยะทาง 800 กิโลเมตรเพื่อการทดลองเพิ่มเติม

    https://www.techspot.com/news/108031-cern-researchers-took-few-antimatter-particles-walk-unprecedented.html
    CERN ทดสอบการขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นครั้งแรก นักวิจัยจาก CERN (European Organization for Nuclear Research) ได้ทำการทดลอง ขนส่งอนุภาคปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร โดยใช้ อุปกรณ์กักเก็บพิเศษที่ไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการศึกษาปฏิสสารนอกห้องทดลอง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการทดลองขนส่งปฏิสสาร ✅ ปฏิสสารเป็นอนุภาคที่มีคุณสมบัติตรงข้ามกับสสารปกติ - พบได้จาก การชนกันของรังสีคอสมิกหรือการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี ✅ CERN เป็นหนึ่งในไม่กี่แห่งบนโลกที่สามารถผลิตปฏิสสารได้เป็นประจำ - ใช้ เครื่องเร่งอนุภาคพลังงานสูงเพื่อสร้างปฏิสสารจากการชนกันของอนุภาค ✅ นักวิจัยพัฒนาอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารขนาด 2 เมตร - สามารถ กักเก็บอนุภาคปฏิสสารได้โดยไม่ต้องใช้พลังงานภายนอก ✅ ทดลองขนส่งอุปกรณ์กักเก็บปฏิสสารเป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร - หลังจากเดินทาง นักวิจัยยืนยันว่าอนุภาคปฏิสสารยังคงอยู่ในอุปกรณ์ ✅ การทดลองนี้พิสูจน์ว่าปฏิสสารสามารถขนส่งไปยังห้องทดลองภายนอกได้ - อาจช่วยให้ สามารถศึกษาปฏิสสารได้แม่นยำขึ้นในสภาพแวดล้อมที่มีการรบกวนน้อยกว่า ✅ CERN เตรียมส่งปฏิสสารไปยังมหาวิทยาลัย Heinrich Heine ในเยอรมนี - อนุภาคจะเดินทาง เป็นระยะทาง 800 กิโลเมตรเพื่อการทดลองเพิ่มเติม https://www.techspot.com/news/108031-cern-researchers-took-few-antimatter-particles-walk-unprecedented.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    CERN researchers took a few antimatter particles for a walk in an unprecedented transportation test
    The European Organization for Nuclear Research, better known as CERN, is one of the few places on Earth capable of routinely producing antimatter from high-energy collisions with...
    0 Comments 0 Shares 251 Views 0 Reviews
  • สหราชอาณาจักรเป็นผู้นำในการนำ AI มาใช้ในภาครัฐของยุโรป

    รายงานจาก Capgemini ระบุว่า 75% ขององค์กรภาครัฐในสหราชอาณาจักรกำลังสำรวจหรือใช้งาน Generative AI (GenAI) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 64% โดยภาค กลาโหม, สาธารณสุข และความมั่นคง เป็นกลุ่มที่มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการนำ AI มาใช้ในภาครัฐของสหราชอาณาจักร
    75% ขององค์กรภาครัฐในสหราชอาณาจักรใช้งานหรือกำลังสำรวจ GenAI
    - สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 64%

    ภาคกลาโหม (82%), สาธารณสุข (75%) และความมั่นคง (70%) เป็นกลุ่มที่ใช้ AI มากที่สุด
    - เนื่องจาก ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจ

    องค์กรภาครัฐกำลังมองหาผู้บริหารด้านข้อมูลและ AI
    - 24% วางแผนแต่งตั้ง Chief Data Officer (CDO)
    - 41% วางแผนแต่งตั้ง Chief AI Officer (CAIO)

    องค์กรภาครัฐเผชิญข้อจำกัดด้านข้อมูลและความสามารถในการฝึก AI
    - มีเพียง 21% ที่มีข้อมูลเพียงพอสำหรับการฝึกโมเดล AI
    - 12% มีความพร้อมในการใช้ข้อมูล และเพียง 7% มีทักษะด้าน AI ที่เพียงพอ

    AI ช่วยให้ภาครัฐสามารถให้บริการประชาชนได้ดีขึ้น
    - เช่น การวิเคราะห์นโยบาย, การตัดสินใจ และการตอบคำถามของประชาชน

    https://www.techradar.com/pro/uk-is-paving-the-way-for-european-government-ai-adoption
    สหราชอาณาจักรเป็นผู้นำในการนำ AI มาใช้ในภาครัฐของยุโรป รายงานจาก Capgemini ระบุว่า 75% ขององค์กรภาครัฐในสหราชอาณาจักรกำลังสำรวจหรือใช้งาน Generative AI (GenAI) ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 64% โดยภาค กลาโหม, สาธารณสุข และความมั่นคง เป็นกลุ่มที่มีการนำ AI มาใช้มากที่สุด 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการนำ AI มาใช้ในภาครัฐของสหราชอาณาจักร ✅ 75% ขององค์กรภาครัฐในสหราชอาณาจักรใช้งานหรือกำลังสำรวจ GenAI - สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 64% ✅ ภาคกลาโหม (82%), สาธารณสุข (75%) และความมั่นคง (70%) เป็นกลุ่มที่ใช้ AI มากที่สุด - เนื่องจาก ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจ ✅ องค์กรภาครัฐกำลังมองหาผู้บริหารด้านข้อมูลและ AI - 24% วางแผนแต่งตั้ง Chief Data Officer (CDO) - 41% วางแผนแต่งตั้ง Chief AI Officer (CAIO) ✅ องค์กรภาครัฐเผชิญข้อจำกัดด้านข้อมูลและความสามารถในการฝึก AI - มีเพียง 21% ที่มีข้อมูลเพียงพอสำหรับการฝึกโมเดล AI - 12% มีความพร้อมในการใช้ข้อมูล และเพียง 7% มีทักษะด้าน AI ที่เพียงพอ ✅ AI ช่วยให้ภาครัฐสามารถให้บริการประชาชนได้ดีขึ้น - เช่น การวิเคราะห์นโยบาย, การตัดสินใจ และการตอบคำถามของประชาชน https://www.techradar.com/pro/uk-is-paving-the-way-for-european-government-ai-adoption
    0 Comments 0 Shares 255 Views 0 Reviews
  • ยุโรปเตรียมทดลอง Open Web Index เพื่อลดการพึ่งพา Google และ Bing

    ยุโรปกำลังเดินหน้าสร้าง Open Web Index ซึ่งเป็นฐานข้อมูลเว็บแบบสาธารณะที่ช่วยให้สามารถพัฒนาเครื่องมือค้นหาใหม่โดยไม่ต้องพึ่งพา Google หรือ Bing โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก OpenWebSearch.eu และจะเริ่มทดลองใช้งานในเดือนหน้า

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Open Web Index
    Open Web Index ไม่ใช่เครื่องมือค้นหา แต่เป็นฐานข้อมูลเว็บแบบสาธารณะ
    - ทำหน้าที่ เป็นคลังข้อมูลที่เครื่องมือค้นหาสามารถใช้เพื่อดึงข้อมูลเว็บเพจ

    โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก OpenWebSearch.eu และองค์กรยุโรปหลายแห่ง
    - รวมถึง มหาวิทยาลัย, ศูนย์ข้อมูล, บริษัทเทคโนโลยี และ CERN

    เป้าหมายคือการลดการพึ่งพาเครื่องมือค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วยโฆษณา
    - เช่น Google และ Bing ที่มุ่งเน้นการสร้างรายได้จากโฆษณาและ AI

    การทดลองแรกจะเปิดตัวผ่าน Zoom ในวันที่ 6 มิถุนายน 2025
    - ผู้เข้าร่วมจะสามารถเข้าถึง ข้อมูลประมาณ 1 เพตะไบต์

    Open Web Index คาดว่าจะมีข้อมูลประมาณ 5 เพตะไบต์ และอาจขยายเป็น 10 เพตะไบต์ในอนาคต
    - เพื่อ รองรับการพัฒนาเครื่องมือค้นหาที่เป็นอิสระจากบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ

    https://www.techspot.com/news/107950-europe-prepares-trial-open-web-index-reduce-reliance.html
    ยุโรปเตรียมทดลอง Open Web Index เพื่อลดการพึ่งพา Google และ Bing ยุโรปกำลังเดินหน้าสร้าง Open Web Index ซึ่งเป็นฐานข้อมูลเว็บแบบสาธารณะที่ช่วยให้สามารถพัฒนาเครื่องมือค้นหาใหม่โดยไม่ต้องพึ่งพา Google หรือ Bing โดยโครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก OpenWebSearch.eu และจะเริ่มทดลองใช้งานในเดือนหน้า 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Open Web Index ✅ Open Web Index ไม่ใช่เครื่องมือค้นหา แต่เป็นฐานข้อมูลเว็บแบบสาธารณะ - ทำหน้าที่ เป็นคลังข้อมูลที่เครื่องมือค้นหาสามารถใช้เพื่อดึงข้อมูลเว็บเพจ ✅ โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจาก OpenWebSearch.eu และองค์กรยุโรปหลายแห่ง - รวมถึง มหาวิทยาลัย, ศูนย์ข้อมูล, บริษัทเทคโนโลยี และ CERN ✅ เป้าหมายคือการลดการพึ่งพาเครื่องมือค้นหาที่ขับเคลื่อนด้วยโฆษณา - เช่น Google และ Bing ที่มุ่งเน้นการสร้างรายได้จากโฆษณาและ AI ✅ การทดลองแรกจะเปิดตัวผ่าน Zoom ในวันที่ 6 มิถุนายน 2025 - ผู้เข้าร่วมจะสามารถเข้าถึง ข้อมูลประมาณ 1 เพตะไบต์ ✅ Open Web Index คาดว่าจะมีข้อมูลประมาณ 5 เพตะไบต์ และอาจขยายเป็น 10 เพตะไบต์ในอนาคต - เพื่อ รองรับการพัฒนาเครื่องมือค้นหาที่เป็นอิสระจากบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ https://www.techspot.com/news/107950-europe-prepares-trial-open-web-index-reduce-reliance.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Europe prepares trial for Open Web Index to reduce reliance on Google and Bing
    Early trials of the Open Web Index are set to begin next month. This emerging project could help European countries move away from dominant, ad-driven search engines....
    0 Comments 0 Shares 134 Views 0 Reviews
  • Microsoft พลาดกำหนดเส้นตายในการเปิดตัว Azure เวอร์ชันเฉพาะสำหรับ EU

    Microsoft ล้มเหลวในการส่งมอบ Azure เวอร์ชันเฉพาะสำหรับสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ให้สำเร็จภายใน กลางเดือนเมษายน 2025 โดยโครงการนี้เป็นผลมาจาก ข้อร้องเรียนด้านการต่อต้านการแข่งขันจาก CISPE ซึ่งกล่าวหาว่า Microsoft ให้สิทธิพิเศษแก่ Azure มากกว่าคู่แข่ง

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกรณีของ Microsoft และ CISPE
    Microsoft เคยให้คำมั่นว่าจะสร้าง Hoster Product สำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ใน EU
    - ฟีเจอร์ที่สัญญาไว้ ได้แก่ การรองรับ multi-tenancy, การจำกัดการใช้งานเสมือนแบบไม่จำกัด และการให้สิทธิ์ใช้งาน SQL Server แบบจ่ายตามการใช้งาน

    CISPE เคยร้องเรียนว่า Microsoft ทำให้การใช้ซอฟต์แวร์ของตนบนคลาวด์คู่แข่งมีต้นทุนสูงขึ้น
    - ทำให้ Microsoft ต้องปรับเงื่อนไขการให้สิทธิ์ใช้งานเพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น

    European Cloud Competition Observatory (ECCO) ออกรายงานฉบับที่สองเกี่ยวกับ Microsoft
    - ECCO ยังคงให้คะแนน "amber" ซึ่งหมายถึงยังมีข้อกังวลอยู่

    Microsoft ต้องเสนอทางเลือกใหม่ (Plan B) ภายในวันที่ 10 กรกฎาคม 2025
    - หากไม่สามารถทำได้ อาจเผชิญกับการดำเนินคดีทางกฎหมายเพิ่มเติม

    CISPE ระบุว่าการเจรจายังดำเนินต่อไป แม้ว่า Microsoft จะพลาดกำหนดเส้นตาย
    - CISPE ยังคงเปิดรับทางเลือกอื่นที่สามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม

    https://www.techradar.com/pro/microsoft-misses-deadline-for-secure-eu-azure
    Microsoft พลาดกำหนดเส้นตายในการเปิดตัว Azure เวอร์ชันเฉพาะสำหรับ EU Microsoft ล้มเหลวในการส่งมอบ Azure เวอร์ชันเฉพาะสำหรับสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นเป้าหมายที่บริษัทตั้งไว้ให้สำเร็จภายใน กลางเดือนเมษายน 2025 โดยโครงการนี้เป็นผลมาจาก ข้อร้องเรียนด้านการต่อต้านการแข่งขันจาก CISPE ซึ่งกล่าวหาว่า Microsoft ให้สิทธิพิเศษแก่ Azure มากกว่าคู่แข่ง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับกรณีของ Microsoft และ CISPE ✅ Microsoft เคยให้คำมั่นว่าจะสร้าง Hoster Product สำหรับผู้ให้บริการคลาวด์ใน EU - ฟีเจอร์ที่สัญญาไว้ ได้แก่ การรองรับ multi-tenancy, การจำกัดการใช้งานเสมือนแบบไม่จำกัด และการให้สิทธิ์ใช้งาน SQL Server แบบจ่ายตามการใช้งาน ✅ CISPE เคยร้องเรียนว่า Microsoft ทำให้การใช้ซอฟต์แวร์ของตนบนคลาวด์คู่แข่งมีต้นทุนสูงขึ้น - ทำให้ Microsoft ต้องปรับเงื่อนไขการให้สิทธิ์ใช้งานเพื่อเปิดโอกาสให้เกิดการแข่งขันมากขึ้น ✅ European Cloud Competition Observatory (ECCO) ออกรายงานฉบับที่สองเกี่ยวกับ Microsoft - ECCO ยังคงให้คะแนน "amber" ซึ่งหมายถึงยังมีข้อกังวลอยู่ ✅ Microsoft ต้องเสนอทางเลือกใหม่ (Plan B) ภายในวันที่ 10 กรกฎาคม 2025 - หากไม่สามารถทำได้ อาจเผชิญกับการดำเนินคดีทางกฎหมายเพิ่มเติม ✅ CISPE ระบุว่าการเจรจายังดำเนินต่อไป แม้ว่า Microsoft จะพลาดกำหนดเส้นตาย - CISPE ยังคงเปิดรับทางเลือกอื่นที่สามารถแข่งขันได้อย่างเป็นธรรม https://www.techradar.com/pro/microsoft-misses-deadline-for-secure-eu-azure
    WWW.TECHRADAR.COM
    Microsoft misses deadline for secure EU Azure
    Microsoft failed to meet its agreement with CISPE
    0 Comments 0 Shares 237 Views 0 Reviews
  • ทอม โปโตการ์ ศัลยแพทย์ชาวอังกฤษ กล่าวว่าโรงพยาบาลกาซายูโรเปียน (Gaza European hospital) ในเมืองข่านยูนิส ไม่สามารถทำการผ่าตัดผู้ป่วยได้อีกต่อไป หลังถูกอิสราเอลโจมตีทำลายไปเมื่อวันก่อน
    ทอม โปโตการ์ ศัลยแพทย์ชาวอังกฤษ กล่าวว่าโรงพยาบาลกาซายูโรเปียน (Gaza European hospital) ในเมืองข่านยูนิส ไม่สามารถทำการผ่าตัดผู้ป่วยได้อีกต่อไป หลังถูกอิสราเอลโจมตีทำลายไปเมื่อวันก่อน
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 236 Views 14 0 Reviews
More Results