• Jeff Bezos หวนคืนสู่ตำแหน่งผู้นำ

    หลังจากก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Amazon ในปี 2021 Jeff Bezos ได้ทุ่มเวลาให้กับ Blue Origin บริษัทด้านอวกาศของเขา แต่ล่าสุดเขากลับมาสู่บทบาทผู้นำอีกครั้งในฐานะ Co-CEO ของ Project Prometheus สตาร์ทอัพ AI ที่เขาเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของ Bezos ว่า AI จะเป็นหัวใจสำคัญในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก

    พันธมิตรใหม่: Vik Bajaj
    Bezos จะทำงานร่วมกับ Vik Bajaj นักฟิสิกส์และนักเคมีที่เคยทำงานใน Google X และเป็นอดีตหัวหน้าของ Verily บริษัทด้านสุขภาพในเครือ Alphabet ทั้งสองจะร่วมกันนำ Project Prometheus ไปสู่เป้าหมายการใช้ AI เพื่อเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในอุตสาหกรรม เช่น คอมพิวเตอร์, วิศวกรรมยานยนต์ และการบินอวกาศ

    เงินทุนมหาศาลและทีมงานระดับโลก
    Project Prometheus ได้รับเงินทุนมหาศาลกว่า 6.2 พันล้านดอลลาร์ ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีเงินทุนสูงที่สุดในโลก ทีมงานประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจาก OpenAI, DeepMind และ Meta ซึ่งบ่งบอกถึงความจริงจังและศักยภาพในการแข่งขันกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก

    ความเชื่อมั่นในอนาคตของ AI
    การกลับมาของ Bezos ในบทบาทนี้ไม่ใช่แค่การลงทุน แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าเขามอง AI เป็นเส้นทางใหม่ที่จะสร้างผลกระทบต่อโลกเช่นเดียวกับที่ Amazon เคยทำกับการค้าปลีกออนไลน์ และ Blue Origin กำลังทำกับการเดินทางสู่อวกาศ

    สรุปสาระสำคัญ
    การกลับมาของ Jeff Bezos
    รับตำแหน่ง Co-CEO ของ Project Prometheus หลังจากออกจาก Amazon
    แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ AI

    พันธมิตรและทีมงาน
    Vik Bajaj ร่วมเป็น Co-CEO และนำประสบการณ์จาก Google X, Verily
    ทีมงานประกอบด้วยอดีตผู้เชี่ยวชาญจาก OpenAI, DeepMind, Meta

    เงินทุนและเป้าหมาย
    ได้รับเงินทุนกว่า 6.2 พันล้านดอลลาร์
    มุ่งใช้ AI ปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูง

    คำเตือนและความเสี่ยง
    การพึ่งพา AI ในอุตสาหกรรมสำคัญอาจสร้างความเสี่ยงหากระบบล้มเหลว
    การแข่งขันกับบริษัทเทคโนโลยีใหญ่จะท้าทายและอาจนำไปสู่ความขัดแย้งด้านทรัพยากรบุคคล
    การลงทุนมหาศาลอาจกดดันให้บริษัทต้องเร่งผลลัพธ์ ซึ่งเสี่ยงต่อการตัดสินใจผิดพลาด

    https://securityonline.info/jeff-bezos-returns-to-leadership-co-ceo-of-6-2-billion-ai-startup-project-prometheus/
    🚀 Jeff Bezos หวนคืนสู่ตำแหน่งผู้นำ หลังจากก้าวลงจากตำแหน่ง CEO ของ Amazon ในปี 2021 Jeff Bezos ได้ทุ่มเวลาให้กับ Blue Origin บริษัทด้านอวกาศของเขา แต่ล่าสุดเขากลับมาสู่บทบาทผู้นำอีกครั้งในฐานะ Co-CEO ของ Project Prometheus สตาร์ทอัพ AI ที่เขาเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของ Bezos ว่า AI จะเป็นหัวใจสำคัญในการพลิกโฉมอุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลก 🧪 พันธมิตรใหม่: Vik Bajaj Bezos จะทำงานร่วมกับ Vik Bajaj นักฟิสิกส์และนักเคมีที่เคยทำงานใน Google X และเป็นอดีตหัวหน้าของ Verily บริษัทด้านสุขภาพในเครือ Alphabet ทั้งสองจะร่วมกันนำ Project Prometheus ไปสู่เป้าหมายการใช้ AI เพื่อเพิ่มความแม่นยำและประสิทธิภาพในอุตสาหกรรม เช่น คอมพิวเตอร์, วิศวกรรมยานยนต์ และการบินอวกาศ 💰 เงินทุนมหาศาลและทีมงานระดับโลก Project Prometheus ได้รับเงินทุนมหาศาลกว่า 6.2 พันล้านดอลลาร์ ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในสตาร์ทอัพที่มีเงินทุนสูงที่สุดในโลก ทีมงานประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจาก OpenAI, DeepMind และ Meta ซึ่งบ่งบอกถึงความจริงจังและศักยภาพในการแข่งขันกับบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก 🌌 ความเชื่อมั่นในอนาคตของ AI การกลับมาของ Bezos ในบทบาทนี้ไม่ใช่แค่การลงทุน แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าเขามอง AI เป็นเส้นทางใหม่ที่จะสร้างผลกระทบต่อโลกเช่นเดียวกับที่ Amazon เคยทำกับการค้าปลีกออนไลน์ และ Blue Origin กำลังทำกับการเดินทางสู่อวกาศ 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การกลับมาของ Jeff Bezos ➡️ รับตำแหน่ง Co-CEO ของ Project Prometheus หลังจากออกจาก Amazon ➡️ แสดงความเชื่อมั่นในศักยภาพของ AI ✅ พันธมิตรและทีมงาน ➡️ Vik Bajaj ร่วมเป็น Co-CEO และนำประสบการณ์จาก Google X, Verily ➡️ ทีมงานประกอบด้วยอดีตผู้เชี่ยวชาญจาก OpenAI, DeepMind, Meta ✅ เงินทุนและเป้าหมาย ➡️ ได้รับเงินทุนกว่า 6.2 พันล้านดอลลาร์ ➡️ มุ่งใช้ AI ปฏิวัติอุตสาหกรรมการผลิตขั้นสูง ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ การพึ่งพา AI ในอุตสาหกรรมสำคัญอาจสร้างความเสี่ยงหากระบบล้มเหลว ⛔ การแข่งขันกับบริษัทเทคโนโลยีใหญ่จะท้าทายและอาจนำไปสู่ความขัดแย้งด้านทรัพยากรบุคคล ⛔ การลงทุนมหาศาลอาจกดดันให้บริษัทต้องเร่งผลลัพธ์ ซึ่งเสี่ยงต่อการตัดสินใจผิดพลาด https://securityonline.info/jeff-bezos-returns-to-leadership-co-ceo-of-6-2-billion-ai-startup-project-prometheus/
    SECURITYONLINE.INFO
    Jeff Bezos Returns to Leadership: Co-CEO of $6.2 Billion AI Startup Project Prometheus
    Jeff Bezos is the new Co-CEO of Project Prometheus, a secretive AI startup that has raised $6.2 billion to transform high-precision manufacturing. This is his first CEO role since 2021.
    0 Comments 0 Shares 6 Views 0 Reviews
  • การจัดการตัวตนในยุค AI ต้องเร็วเท่าเครื่องจักร

    บทความจาก CSO Online ระบุว่า การโจมตีไซเบอร์กว่า 57% ในปี 2024 เริ่มต้นจากการเจาะตัวตนที่ถูกขโมย และในปี 2025 ตัวเลขนี้ยังคงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ AI agent ถูกนำมาใช้งานในองค์กรในรูปแบบที่สามารถตัดสินใจและทำงานเองได้ ทำให้ระบบยืนยันตัวตนแบบเดิมที่ออกแบบมาสำหรับมนุษย์ไม่สามารถรองรับได้อีกต่อไป

    ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การใช้ username และ role-based access จะล้มเหลวเมื่อมี AI agent จำนวนมหาศาลส่งคำขอเข้าถึงระบบทุกวินาที หากไม่มีการตรวจสอบที่เหมาะสม เท่ากับเปิดประตูให้ภัยคุกคามเข้ามาได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น prompt injection ที่สามารถทำให้ AI agent เปิดเผยข้อมูลลับโดยไม่ตั้งใจ ถือเป็นความเสี่ยงที่กำลังเกิดขึ้นบ่อยครั้งในโลกไซเบอร์

    เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ กลุ่ม SINET Identity Working Group เสนอแนวคิด AI Trust Fabric ซึ่งเป็นระบบจัดการตัวตนที่สามารถ พิสูจน์ตัวตนแบบเข้ารหัส (cryptographic proof) และปรับการอนุญาตเข้าถึงแบบละเอียด (fine-grained authorization) ผ่าน API ได้ทันที โดยไม่ใช้ token แบบเดิมที่เสี่ยงต่อการถูกขโมย อีกทั้งยังสามารถกำหนดสิทธิ์แบบ “just-in-time” และยกเลิกสิทธิ์ได้ทันทีเมื่อพบความผิดปกติ

    สิ่งสำคัญคือ CISOs ต้องเริ่มจาก การสร้าง governance ที่แข็งแรง ก่อน ไม่ใช่เพียงการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ แต่ต้องเข้าใจว่า “เรากำลังปกป้องอะไร และใครควรเข้าถึงได้” จากนั้นจึงค่อยสร้างระบบ identity ที่สามารถทำงานได้ในระดับ machine speed เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในวินาที ไม่ใช่วันหรือชั่วโมงเหมือนในอดีต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การโจมตีไซเบอร์ส่วนใหญ่เริ่มจากการเจาะตัวตนที่ถูกขโมย
    ปี 2024 มีถึง 57% ของการโจมตีเริ่มจาก compromised identities

    AI agent ทำให้ระบบ identity แบบเดิมล้มเหลว
    username และ role-based access ไม่เพียงพอเมื่อมี agent จำนวนมาก

    AI Trust Fabric ถูกเสนอเป็นแนวทางใหม่
    ใช้ cryptographic proof และ dynamic authorization ผ่าน API

    ระบบใหม่รองรับการยกเลิกสิทธิ์แบบทันที
    ป้องกันการใช้ token ที่ถูกขโมยและลดความเสี่ยงจาก prompt injection

    หากยังใช้ระบบ identity แบบเดิม องค์กรเสี่ยงต่อการโจมตีรุนแรง
    AI agent อาจเปิดเผยข้อมูลลับหรือเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต

    CISOs ต้องสร้าง governance ที่แข็งแรงก่อนนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้
    หากไม่เข้าใจสิ่งที่ต้องปกป้อง การลงทุนด้าน identity อาจไร้ประโยชน์

    https://www.csoonline.com/article/4089732/rethinking-identity-for-the-ai-era-cisos-must-build-trust-at-machine-speed.html
    🔐 การจัดการตัวตนในยุค AI ต้องเร็วเท่าเครื่องจักร บทความจาก CSO Online ระบุว่า การโจมตีไซเบอร์กว่า 57% ในปี 2024 เริ่มต้นจากการเจาะตัวตนที่ถูกขโมย และในปี 2025 ตัวเลขนี้ยังคงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเมื่อ AI agent ถูกนำมาใช้งานในองค์กรในรูปแบบที่สามารถตัดสินใจและทำงานเองได้ ทำให้ระบบยืนยันตัวตนแบบเดิมที่ออกแบบมาสำหรับมนุษย์ไม่สามารถรองรับได้อีกต่อไป ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การใช้ username และ role-based access จะล้มเหลวเมื่อมี AI agent จำนวนมหาศาลส่งคำขอเข้าถึงระบบทุกวินาที หากไม่มีการตรวจสอบที่เหมาะสม เท่ากับเปิดประตูให้ภัยคุกคามเข้ามาได้ง่ายขึ้น ตัวอย่างเช่น prompt injection ที่สามารถทำให้ AI agent เปิดเผยข้อมูลลับโดยไม่ตั้งใจ ถือเป็นความเสี่ยงที่กำลังเกิดขึ้นบ่อยครั้งในโลกไซเบอร์ เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ กลุ่ม SINET Identity Working Group เสนอแนวคิด AI Trust Fabric ซึ่งเป็นระบบจัดการตัวตนที่สามารถ พิสูจน์ตัวตนแบบเข้ารหัส (cryptographic proof) และปรับการอนุญาตเข้าถึงแบบละเอียด (fine-grained authorization) ผ่าน API ได้ทันที โดยไม่ใช้ token แบบเดิมที่เสี่ยงต่อการถูกขโมย อีกทั้งยังสามารถกำหนดสิทธิ์แบบ “just-in-time” และยกเลิกสิทธิ์ได้ทันทีเมื่อพบความผิดปกติ สิ่งสำคัญคือ CISOs ต้องเริ่มจาก การสร้าง governance ที่แข็งแรง ก่อน ไม่ใช่เพียงการนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ แต่ต้องเข้าใจว่า “เรากำลังปกป้องอะไร และใครควรเข้าถึงได้” จากนั้นจึงค่อยสร้างระบบ identity ที่สามารถทำงานได้ในระดับ machine speed เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่เกิดขึ้นในวินาที ไม่ใช่วันหรือชั่วโมงเหมือนในอดีต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การโจมตีไซเบอร์ส่วนใหญ่เริ่มจากการเจาะตัวตนที่ถูกขโมย ➡️ ปี 2024 มีถึง 57% ของการโจมตีเริ่มจาก compromised identities ✅ AI agent ทำให้ระบบ identity แบบเดิมล้มเหลว ➡️ username และ role-based access ไม่เพียงพอเมื่อมี agent จำนวนมาก ✅ AI Trust Fabric ถูกเสนอเป็นแนวทางใหม่ ➡️ ใช้ cryptographic proof และ dynamic authorization ผ่าน API ✅ ระบบใหม่รองรับการยกเลิกสิทธิ์แบบทันที ➡️ ป้องกันการใช้ token ที่ถูกขโมยและลดความเสี่ยงจาก prompt injection ‼️ หากยังใช้ระบบ identity แบบเดิม องค์กรเสี่ยงต่อการโจมตีรุนแรง ⛔ AI agent อาจเปิดเผยข้อมูลลับหรือเข้าถึงระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต ‼️ CISOs ต้องสร้าง governance ที่แข็งแรงก่อนนำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ ⛔ หากไม่เข้าใจสิ่งที่ต้องปกป้อง การลงทุนด้าน identity อาจไร้ประโยชน์ https://www.csoonline.com/article/4089732/rethinking-identity-for-the-ai-era-cisos-must-build-trust-at-machine-speed.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Rethinking identity for the AI era: CISOs must build trust at machine speed
    Human-centered identity systems were never designed for the coming wave of autonomous AI agents. CISOs face a reckoning over how to rebuild identity systems to counter the risks.
    0 Comments 0 Shares 77 Views 0 Reviews
  • I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 1 – 2

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ”
    ตอน 1
    เดือนกรกฏา มาถึงแล้ว ถึงไม่เรียกก็มา ไม่อยากให้มา ก็มาถึงอยู่ดี
    สำหรับผู้ที่สนใจติดตามชะตาโลก เดือนนี้ไม่ติดตามไม่ได้เพราะเป็นเดือนที่จะมีการตัดสินใจ สำคัญหลายเรื่อง แต่ละเรื่องจะกระทบเฉพาะถิ่นของที่ผู้ตัดสินใจหรืออาจจะกระเทือนไปไกลค่อนโลกก็เป็นได้
    สำหรับชาวกรีก จะตัดสินใจตัดโซ่ แหกคอก หรือตายซากคาคอก วันที่ 5 กค นี่คงรู้กัน แต่คงยังไม่จบกัน หนังมาเป็นตอน เล่นยาวเป็นซีซั่น ซีซั่นนี้ จะจบแบบไหนต้องลุ้นกันหน่อย อย่าให้หนังขาด หรือเลิกเล่นกันหมดก็แล้วกัน
    ส่วนชาวอิหร่าน วันที่ 7 กค. นี้ การเจรจาที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี ของ Iran Nuclear Deal ที่เลื่อนวันเส้นตายมาจาก 30 มิย. มาเป็น 7 กค. จะเจรจาจบไหม หรือจะเลื่อนเส้นให้ตายช้าต่อไปอีก อิหร่านพร้อมจะยกเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการยกเลิกการคว่ำบาตรของอเมริกากับพวกหรือไม่ อเมริกาพร้อมจะยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านแน่จริงหรือไม่
    เรื่องอิหร่านเป็นเรื่องใหญ่ ผลกระทบอาจไปไกล และแรง
    นอกจากเรื่องใหญ่ๆ 2 เรื่อง ยังมีเรื่องนิดเรื่องหน่อย ที่จะทยอยเกิดขึ้น เดือนนี้คงได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นเป็นระลอก เป็นเหตุการณ์ ที่อาจจะมีผลกระทบกับความเป็นไปในโลก เปลี่ยนแปลง จนเราตามกันแทบไม่ทัน หรือตามทันรู้ แต่ไม่เข้าใจเหตุ
    เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเส้นตาย ว่าการเจรจากับอิหร่านเรื่องพัฒนา นิวเคลียร์ ต้องตกลงกันให้เสร็จสิ้น ปรากฏว่า ตกไม่ลง ค้างเติ่ง ต้องเลื่อนเวลา แต่ที่น่าสนใจ นายโอบามา ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ ให้เริ่มและลุ้น การเจรจานี้มาตลอดเวลา ดันทำหน้าเฉย ให้สัมภาษณ์สื่อ แถมส่งเสียงเหมือนขู่….
    ” I will walk away” … ขึ้นต้น ยังกะเพลงรักหักอก ตอนพระเอกกำลังจะทิ้งนางเอก จะแค่หันหลังเดินออกประตูไป หรือจะถึงขนาดมีการตบตีส่งท้าย
    …. ถ้าอิหร่านไม่เจรจาตามกรอบ ที่ตกลง ที่เมืองโลซานน์ เมื่อเดือน เมษายน ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ มันจะเป็นปัญหา เพราะผมบอกตั้งแต่เริ่มเจรจาแล้วว่า ผมจะเลิกเจรจา ถ้ามันกลายเป็นข้อตกลงที่ห่วย …
    I have said from the start I will walk away from negotiations if, in fact, it’s a bad deal…”
    ข่าวบอกว่า คำขู่ฟ่อ ของพณฯใบตองแห้ง เป็นการตอบโต้ คำคัดค้านของท่านผู้นำสูงสุดของอิหร่าน Ayatollah Ali Khamenei ที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการตรวจสอบการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่จะปฏิบัติเสมือนเป็นการรุกล้ำอิหร่าน
    แต่ พณฯใบตองแห้งยืนยัน
    “…จากพฤติกรรมที่ผ่านมาของอิหร่าน ไอ้ที่จะมีแค่คำแถลงของอิหร่าน และมีคนมาเดินไป เดินมา ตรวจสอบแบบนานๆทีมา อย่างนั้น คงไม่ได้ … มันต้องมีกระบวนการที่เข้มงวด เอาจริงเอาจัง มาทำการตรวจสอบอย่างพิสูจน์ได้ และผมคิดว่า นั่นจะเป็นการทดสอบว่า เราตกลงกันได้จริงหรือไม่
    ..Given past behavior on the part of Iran, that simply can’t be a declaration by Iran and a few inspectors wandering around every once in a while … that’s going to have to be serious, rigorous verification mechanism. And that, I think, is going to be the test as to whether we get a deal or not…. ”
    พณฯใบตองแห้งเล่นอิหร่านแรงนะ แล้วแบบนี้ มันคุยกันรู้เรื่องจริงหรือ ผมรู้สึกหวั่นใจแทนจัง
    ฝ่ายอิหร่านบอก เราเดินตามกรอบของโลซานน์นะ ไม่ได้ใช้กรอบอื่นเลย เราว่า อเมริกาต่างหากที่ต้องการเปลี่ยนกรอบ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน Mohammad Javad Zarif บินกลับมาเวียนนา หลังจากบินกลับไปที่เตหะรานเพื่อไปหารือบางประเด็น เขาบอกว่า .. ผมไม่ได้ไปขอรับคำสั่งในการตกลงจากประมุขประเทศ ผมได้รับอนุญาตเต็มใบในการเจรจาอยู่แล้ว ผมกลับมาเวียนนาเพื่อมาเจรจาขั้นสุดท้าย ซึ่งเราน่าจะทำสำเร็จ
    นาย Zarif ไม่ได้กลับมาคนเดียว เขามาพร้อมกับ Ali Akbar Salehi หัวหน้าใหญ่ขององค์การ Atomic Energy ของอิหร่าน Salehi ซึ่งเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด .,,แปลว่าอิหร่านเอาจริงกับการเจรจาใช่ไหม ไม่งั้นไม่หอบเอาคนป่วยมาด้วยหรอก นาย Zarif บอกกับนักข่าว
    ข่าวบอกว่า คณะเจรจาโดยเฉพาะอเมริกา ต้องการให้การเจรจาเสร็จต้นเดือนนี้ เพื่อส่งเรื่องให้ฝ่ายรัฐสภาพิจาร ณา ให้เสร็จภายในเวลา 30 วัน ถ้าส่งช้ากว่านั้น สภาปิดไปแล้ว ฝ่ายรัฐสภาจะมีเวลาพิจารณา เพิ่มขึ้นเป็น 60 วัน แถมมีเวลาในการหว่านล้อมเสียง ฝ่ายที่เห็นต่างกันอีกด้วย... นี่ ก็เหมือนอเมริกาเอาจริงนะ ถูกใจ ก็ให้สภาผ่าน ไม่ถูกใจ สภาก็ไม่ผ่านให้….เล่นไม่ยาก
    ###############
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง”

    ตอน 2
    ในการประชุมที่โลซานน์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างอิหร่าน กับ กลุ่มที่เรียกว่า P5+1 (อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน + เยอรมัน) เป็นการกำหนด
    ” กรอบ การดำเนินการ” สำหรับทั้งด้านอเมริกา และอิหร่าน
    การดำเนินการที่สำคัญ ประการหนึ่งคือ กระบวนการยกเลิก sanction การคว่ำบาตรอิหร่าน คว่ำมานานหลายสิบปี จนนึกวิธีหงายไม่ออกว่าจะต้องทำยังไงบ้าง แสดงว่าคนช่วยคว่ำคงแยะ และการคว่ำคงมีสาระพัดวิธี
    คุยกันเรื่องนี้ ตั้งแต่โลซานน์มาถึงเวียนนาว่า จะต้องมีการประกาศ (Declaration) เมื่อตกลงกันได้แล้ว โดยไม่มีการลงนามพันธสัญญา หลังจากนั้น ทุกฝ่ายก็จะให้ UN Security Council (UNSC) เป็นผู้ประทับตรารับรองการประกาศ และก็ออกมติที่จะทำให้การคว่ำบาตร ไม่มีผลใช้บังคับอีกต่อไป ส่วนถ้อยคำของตัวมตินี่ ยังเจรจากันอยู่
    และเป็นเรื่องที่เสียวไสว่า กว่าจะเจรจาจบ คนเจรจาคงหืดขึ้นคอ หรือเจรจาไม่จบ เพราะพระเอกเล่นร้องเพลงลา... ล่วงหน้า
    ทุกฝ่าย ยกเว้นรัฐบาลของพณฯใบตองแห้ง ต้องการให้ส่งเรื่องไปที่ UNSC เร็วที่สุด แตอเมริกายังสงวนท่าที ไม่มีคำตอบให้
    ผู้เจรจาฝ่ายอิหร่านบอกอย่างชัดเจนระหว่างการเจราว่า อิหร่าน จะเริ่มดำเนินการตามข้อตกลงเกี่ยว กับนิวเคลียร์ทันที รื้อถอนเครื่องแยก รื้อถอนเครื่องปฏิกรณ์ ทำลายสต๊อกแร่ยูเรเนียม รื้อมันหมดทุกอย่าง ฯลฯ ทันที และให้ไอ้เอกับอีเอ IAEA มาตรวจสอบทันที ว่าอิหร่านปฏิบัติตามรายการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่
    แต่ทั้งหมดข้างต้น ต้องทำควบคู่ไปกับขบวนการยกเลิก การคว่ำบาตร โดยอเมริกาและอียู จะต้องลงมือไปพร้อมกันว่า ได้จัดการหงายบาตรของใคร ที่ไหน อย่างไรแล้ว และ ต้องให้ UNSC ประทับตรารับรองการกระทำด้วย มันถึงจะเป็นธรรม จะให้ด้านหนึ่งทุบทิ้ง แต่อีกด้านยืนอมยิ้มกอดอกเฉยได้ไง
    ที่บรรยายมาทั้งหมดเข้างต้น เป็นเรื่องที่ได้ “ตกลงกันไปแล้ว” ที่โลซานน์ ระหว่างนาย Zarif รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกับคุณสาวน้อย Federica Mogherini ผู้แทนของอียู….
    แต่แล้วก็ข่าวรั่วเกี่ยวกับเรื่องกรอบ สวย ไม่สวยขนาดไหน ใครต้องการให้ชัดเจนอย่างไร อย่างที่เล่าข้างต้น สื่อเข้ามาช่วยปั่น แถมเพิ่มสีให้น่าตื่นเต้น อันที่จริงไม่ต้องเพิ่มก็น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว ถ้าคิดให้ลึกๆ ยิ่งคิด โต๊ะเจรจาก็ยิ่งสั่น โดยเฉพาะมีความเห็นแย้งจากมุมมอง ด้านกองทัพ possible military dimensions (PMD) ที่สะท้อนกลับ …. แล้วนี่จะพิสูจน์อย่างไร หากตกลงกันเรียบร้อยว่า ให้อิหร่านพัฒนาอะไรได้บ้าง สิ่งที่อิหร่าน “จะไปพัฒนาต่อ” มันจะกลายเป็นอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ เขาว่าไม่ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ใหญ่ ก็พอนึกออกว่า มันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก กว่าจะพิสูจน์ได้ โน่นแนะ ดอกเห็ดงอกขึ้นมาแล้ว ทำนองนั้น…. เฮ้ย… แบบนี้ก็ต้องรีบขยายเวลาเจรจาสินะ ให้จบแบบนี้ไม่ได้…
    อ้อพอเข้าใจแล้ว
    แต่ข่าวได้ฟุ้งกระจายเรียบร้อย ไปทั่วสถานที่เจรจา Palais Coburg เวียนนา ว่า ขณะนี้ พณฯใบตองแห้ง ชักลังเลที่จะยกเลิกการคว่ำบาตร…..สงสัยสถานการณ์เปลี่ยน แผนเจรจาเลยอาจต้องเปลี่ยน ตอนนี้คนที่หน้าเครียด เดินเข้าไปจับเข่าคุยทีละข้าง กับเจ้าของเข่าที่ละคน คือ นายKerry รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ไร้เสน่ห์ในการเจรจาอย่างที่สุดนั่นเอง แล้วมันจะคุยสำเร็จละหรือ
    อย่าลืมว่า ใน P5+1 มีรัสเซียกับจีน ที่รู้ๆ กันอยู่ว่า จับมือจับไม้เห็นใจอิหร่านมานานแล้ว และนอกจากจับมือแล้ว ดูเหมือนจะส่งหีบห่อไปช่วยเหลืออิหร่านสาระพัด แถมเมื่อเร็วๆนี้ ยังมีข่าวว่า จะรับอิหร่านเป็นสมาชิกก่อต้ัง ไอ้อิบ AIIB สถาบันการเงินที่กำลังหอมกรุ่น
    ยังไม่ถึงวันเส้นตาย ก็ต้องดื้นกันตายไปก่อน แล้วพณฯ ใบตองแห้ง ก็รีบหยิบบท ….I will walk away ออกมาครวญไปพลางๆ ระหว่างนี้ คุณไร้เสน่ห์ Kerry ก็สั่งเด็กๆ ให้ช่วยกันหาเหตุ ช่วยกันโหมหน่อย…. อิหร่านต่างหาก ที่ ทำท่าจะเบี้ยว เข้า
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    5 ก.ค. 2558
    I Will Walk Away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ตอนที่ 1 – 2 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away … พี่เผ่นก่อนนะน้อง ” ตอน 1 เดือนกรกฏา มาถึงแล้ว ถึงไม่เรียกก็มา ไม่อยากให้มา ก็มาถึงอยู่ดี สำหรับผู้ที่สนใจติดตามชะตาโลก เดือนนี้ไม่ติดตามไม่ได้เพราะเป็นเดือนที่จะมีการตัดสินใจ สำคัญหลายเรื่อง แต่ละเรื่องจะกระทบเฉพาะถิ่นของที่ผู้ตัดสินใจหรืออาจจะกระเทือนไปไกลค่อนโลกก็เป็นได้ สำหรับชาวกรีก จะตัดสินใจตัดโซ่ แหกคอก หรือตายซากคาคอก วันที่ 5 กค นี่คงรู้กัน แต่คงยังไม่จบกัน หนังมาเป็นตอน เล่นยาวเป็นซีซั่น ซีซั่นนี้ จะจบแบบไหนต้องลุ้นกันหน่อย อย่าให้หนังขาด หรือเลิกเล่นกันหมดก็แล้วกัน ส่วนชาวอิหร่าน วันที่ 7 กค. นี้ การเจรจาที่ยืดเยื้อมาเกือบ 2 ปี ของ Iran Nuclear Deal ที่เลื่อนวันเส้นตายมาจาก 30 มิย. มาเป็น 7 กค. จะเจรจาจบไหม หรือจะเลื่อนเส้นให้ตายช้าต่อไปอีก อิหร่านพร้อมจะยกเลิกการพัฒนานิวเคลียร์ เพื่อแลกกับการยกเลิกการคว่ำบาตรของอเมริกากับพวกหรือไม่ อเมริกาพร้อมจะยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่านแน่จริงหรือไม่ เรื่องอิหร่านเป็นเรื่องใหญ่ ผลกระทบอาจไปไกล และแรง นอกจากเรื่องใหญ่ๆ 2 เรื่อง ยังมีเรื่องนิดเรื่องหน่อย ที่จะทยอยเกิดขึ้น เดือนนี้คงได้เห็นเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นเป็นระลอก เป็นเหตุการณ์ ที่อาจจะมีผลกระทบกับความเป็นไปในโลก เปลี่ยนแปลง จนเราตามกันแทบไม่ทัน หรือตามทันรู้ แต่ไม่เข้าใจเหตุ เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันเส้นตาย ว่าการเจรจากับอิหร่านเรื่องพัฒนา นิวเคลียร์ ต้องตกลงกันให้เสร็จสิ้น ปรากฏว่า ตกไม่ลง ค้างเติ่ง ต้องเลื่อนเวลา แต่ที่น่าสนใจ นายโอบามา ซึ่งเป็นหัวเรือใหญ่ ให้เริ่มและลุ้น การเจรจานี้มาตลอดเวลา ดันทำหน้าเฉย ให้สัมภาษณ์สื่อ แถมส่งเสียงเหมือนขู่…. ” I will walk away” … ขึ้นต้น ยังกะเพลงรักหักอก ตอนพระเอกกำลังจะทิ้งนางเอก จะแค่หันหลังเดินออกประตูไป หรือจะถึงขนาดมีการตบตีส่งท้าย …. ถ้าอิหร่านไม่เจรจาตามกรอบ ที่ตกลง ที่เมืองโลซานน์ เมื่อเดือน เมษายน ถ้าพวกเขาทำไม่ได้ มันจะเป็นปัญหา เพราะผมบอกตั้งแต่เริ่มเจรจาแล้วว่า ผมจะเลิกเจรจา ถ้ามันกลายเป็นข้อตกลงที่ห่วย … I have said from the start I will walk away from negotiations if, in fact, it’s a bad deal…” ข่าวบอกว่า คำขู่ฟ่อ ของพณฯใบตองแห้ง เป็นการตอบโต้ คำคัดค้านของท่านผู้นำสูงสุดของอิหร่าน Ayatollah Ali Khamenei ที่ไม่เห็นด้วยกับกระบวนการตรวจสอบการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ที่จะปฏิบัติเสมือนเป็นการรุกล้ำอิหร่าน แต่ พณฯใบตองแห้งยืนยัน “…จากพฤติกรรมที่ผ่านมาของอิหร่าน ไอ้ที่จะมีแค่คำแถลงของอิหร่าน และมีคนมาเดินไป เดินมา ตรวจสอบแบบนานๆทีมา อย่างนั้น คงไม่ได้ … มันต้องมีกระบวนการที่เข้มงวด เอาจริงเอาจัง มาทำการตรวจสอบอย่างพิสูจน์ได้ และผมคิดว่า นั่นจะเป็นการทดสอบว่า เราตกลงกันได้จริงหรือไม่ ..Given past behavior on the part of Iran, that simply can’t be a declaration by Iran and a few inspectors wandering around every once in a while … that’s going to have to be serious, rigorous verification mechanism. And that, I think, is going to be the test as to whether we get a deal or not…. ” พณฯใบตองแห้งเล่นอิหร่านแรงนะ แล้วแบบนี้ มันคุยกันรู้เรื่องจริงหรือ ผมรู้สึกหวั่นใจแทนจัง ฝ่ายอิหร่านบอก เราเดินตามกรอบของโลซานน์นะ ไม่ได้ใช้กรอบอื่นเลย เราว่า อเมริกาต่างหากที่ต้องการเปลี่ยนกรอบ รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน Mohammad Javad Zarif บินกลับมาเวียนนา หลังจากบินกลับไปที่เตหะรานเพื่อไปหารือบางประเด็น เขาบอกว่า .. ผมไม่ได้ไปขอรับคำสั่งในการตกลงจากประมุขประเทศ ผมได้รับอนุญาตเต็มใบในการเจรจาอยู่แล้ว ผมกลับมาเวียนนาเพื่อมาเจรจาขั้นสุดท้าย ซึ่งเราน่าจะทำสำเร็จ นาย Zarif ไม่ได้กลับมาคนเดียว เขามาพร้อมกับ Ali Akbar Salehi หัวหน้าใหญ่ขององค์การ Atomic Energy ของอิหร่าน Salehi ซึ่งเพิ่งฟื้นตัวจากการผ่าตัด .,,แปลว่าอิหร่านเอาจริงกับการเจรจาใช่ไหม ไม่งั้นไม่หอบเอาคนป่วยมาด้วยหรอก นาย Zarif บอกกับนักข่าว ข่าวบอกว่า คณะเจรจาโดยเฉพาะอเมริกา ต้องการให้การเจรจาเสร็จต้นเดือนนี้ เพื่อส่งเรื่องให้ฝ่ายรัฐสภาพิจาร ณา ให้เสร็จภายในเวลา 30 วัน ถ้าส่งช้ากว่านั้น สภาปิดไปแล้ว ฝ่ายรัฐสภาจะมีเวลาพิจารณา เพิ่มขึ้นเป็น 60 วัน แถมมีเวลาในการหว่านล้อมเสียง ฝ่ายที่เห็นต่างกันอีกด้วย... นี่ ก็เหมือนอเมริกาเอาจริงนะ ถูกใจ ก็ให้สภาผ่าน ไม่ถูกใจ สภาก็ไม่ผ่านให้….เล่นไม่ยาก ############### นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” I will walk away …พี่เผ่นก่อนนะน้อง” ตอน 2 ในการประชุมที่โลซานน์เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ระหว่างอิหร่าน กับ กลุ่มที่เรียกว่า P5+1 (อเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน + เยอรมัน) เป็นการกำหนด ” กรอบ การดำเนินการ” สำหรับทั้งด้านอเมริกา และอิหร่าน การดำเนินการที่สำคัญ ประการหนึ่งคือ กระบวนการยกเลิก sanction การคว่ำบาตรอิหร่าน คว่ำมานานหลายสิบปี จนนึกวิธีหงายไม่ออกว่าจะต้องทำยังไงบ้าง แสดงว่าคนช่วยคว่ำคงแยะ และการคว่ำคงมีสาระพัดวิธี คุยกันเรื่องนี้ ตั้งแต่โลซานน์มาถึงเวียนนาว่า จะต้องมีการประกาศ (Declaration) เมื่อตกลงกันได้แล้ว โดยไม่มีการลงนามพันธสัญญา หลังจากนั้น ทุกฝ่ายก็จะให้ UN Security Council (UNSC) เป็นผู้ประทับตรารับรองการประกาศ และก็ออกมติที่จะทำให้การคว่ำบาตร ไม่มีผลใช้บังคับอีกต่อไป ส่วนถ้อยคำของตัวมตินี่ ยังเจรจากันอยู่ และเป็นเรื่องที่เสียวไสว่า กว่าจะเจรจาจบ คนเจรจาคงหืดขึ้นคอ หรือเจรจาไม่จบ เพราะพระเอกเล่นร้องเพลงลา... ล่วงหน้า ทุกฝ่าย ยกเว้นรัฐบาลของพณฯใบตองแห้ง ต้องการให้ส่งเรื่องไปที่ UNSC เร็วที่สุด แตอเมริกายังสงวนท่าที ไม่มีคำตอบให้ ผู้เจรจาฝ่ายอิหร่านบอกอย่างชัดเจนระหว่างการเจราว่า อิหร่าน จะเริ่มดำเนินการตามข้อตกลงเกี่ยว กับนิวเคลียร์ทันที รื้อถอนเครื่องแยก รื้อถอนเครื่องปฏิกรณ์ ทำลายสต๊อกแร่ยูเรเนียม รื้อมันหมดทุกอย่าง ฯลฯ ทันที และให้ไอ้เอกับอีเอ IAEA มาตรวจสอบทันที ว่าอิหร่านปฏิบัติตามรายการถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ แต่ทั้งหมดข้างต้น ต้องทำควบคู่ไปกับขบวนการยกเลิก การคว่ำบาตร โดยอเมริกาและอียู จะต้องลงมือไปพร้อมกันว่า ได้จัดการหงายบาตรของใคร ที่ไหน อย่างไรแล้ว และ ต้องให้ UNSC ประทับตรารับรองการกระทำด้วย มันถึงจะเป็นธรรม จะให้ด้านหนึ่งทุบทิ้ง แต่อีกด้านยืนอมยิ้มกอดอกเฉยได้ไง ที่บรรยายมาทั้งหมดเข้างต้น เป็นเรื่องที่ได้ “ตกลงกันไปแล้ว” ที่โลซานน์ ระหว่างนาย Zarif รัฐมนตรีต่างประเทศของอิหร่านกับคุณสาวน้อย Federica Mogherini ผู้แทนของอียู…. แต่แล้วก็ข่าวรั่วเกี่ยวกับเรื่องกรอบ สวย ไม่สวยขนาดไหน ใครต้องการให้ชัดเจนอย่างไร อย่างที่เล่าข้างต้น สื่อเข้ามาช่วยปั่น แถมเพิ่มสีให้น่าตื่นเต้น อันที่จริงไม่ต้องเพิ่มก็น่าตื่นเต้นอยู่แล้ว ถ้าคิดให้ลึกๆ ยิ่งคิด โต๊ะเจรจาก็ยิ่งสั่น โดยเฉพาะมีความเห็นแย้งจากมุมมอง ด้านกองทัพ possible military dimensions (PMD) ที่สะท้อนกลับ …. แล้วนี่จะพิสูจน์อย่างไร หากตกลงกันเรียบร้อยว่า ให้อิหร่านพัฒนาอะไรได้บ้าง สิ่งที่อิหร่าน “จะไปพัฒนาต่อ” มันจะกลายเป็นอาวุธนิวเคลียร์หรือไม่ เขาว่าไม่ต้องเป็นนักวิทยาศาสตร์ใหญ่ ก็พอนึกออกว่า มันเป็นเรื่องที่พิสูจน์ยาก กว่าจะพิสูจน์ได้ โน่นแนะ ดอกเห็ดงอกขึ้นมาแล้ว ทำนองนั้น…. เฮ้ย… แบบนี้ก็ต้องรีบขยายเวลาเจรจาสินะ ให้จบแบบนี้ไม่ได้… อ้อพอเข้าใจแล้ว แต่ข่าวได้ฟุ้งกระจายเรียบร้อย ไปทั่วสถานที่เจรจา Palais Coburg เวียนนา ว่า ขณะนี้ พณฯใบตองแห้ง ชักลังเลที่จะยกเลิกการคว่ำบาตร…..สงสัยสถานการณ์เปลี่ยน แผนเจรจาเลยอาจต้องเปลี่ยน ตอนนี้คนที่หน้าเครียด เดินเข้าไปจับเข่าคุยทีละข้าง กับเจ้าของเข่าที่ละคน คือ นายKerry รัฐมนตรีต่างประเทศ ที่ไร้เสน่ห์ในการเจรจาอย่างที่สุดนั่นเอง แล้วมันจะคุยสำเร็จละหรือ อย่าลืมว่า ใน P5+1 มีรัสเซียกับจีน ที่รู้ๆ กันอยู่ว่า จับมือจับไม้เห็นใจอิหร่านมานานแล้ว และนอกจากจับมือแล้ว ดูเหมือนจะส่งหีบห่อไปช่วยเหลืออิหร่านสาระพัด แถมเมื่อเร็วๆนี้ ยังมีข่าวว่า จะรับอิหร่านเป็นสมาชิกก่อต้ัง ไอ้อิบ AIIB สถาบันการเงินที่กำลังหอมกรุ่น ยังไม่ถึงวันเส้นตาย ก็ต้องดื้นกันตายไปก่อน แล้วพณฯ ใบตองแห้ง ก็รีบหยิบบท ….I will walk away ออกมาครวญไปพลางๆ ระหว่างนี้ คุณไร้เสน่ห์ Kerry ก็สั่งเด็กๆ ให้ช่วยกันหาเหตุ ช่วยกันโหมหน่อย…. อิหร่านต่างหาก ที่ ทำท่าจะเบี้ยว เข้า สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 5 ก.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 93 Views 0 Reviews
  • Vera Rubin – แพลตฟอร์ม AI/HPC รุ่นใหม่จาก Nvidia

    Nvidia กำลังพัฒนาแพลตฟอร์ม Vera Rubin ที่จะเปิดตัวในปี 2025 โดยมีเป้าหมายสร้างมาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพและความซับซ้อนในศูนย์ข้อมูล AI และ HPC จุดเด่นคือการรวม 9 โปรเซสเซอร์ที่แตกต่างกัน เข้าด้วยกันในระบบเดียว ตั้งแต่ CPU, GPU, DPU ไปจนถึงระบบเชื่อมต่อความเร็วสูง ซึ่งช่วยให้สามารถรองรับงาน AI ที่ต้องการพลังประมวลผลมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    สถาปัตยกรรมที่ก้าวล้ำ
    หัวใจของ Vera Rubin คือ Vera CPU ที่มี 88 คอร์ Armv9-class พร้อม SMT รองรับ 176 เธรด และ Rubin GPU ที่ใช้หน่วยความจำ HBM4 ขนาด 288 GB ให้แบนด์วิดท์สูงถึง 13 TB/s นอกจากนี้ยังมี Rubin CPX GPU ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับงาน inference ของโมเดล LLM ที่ต้องการ context ยาวหลายล้าน token ทำให้ระบบสามารถจัดการงาน multi-modal ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การเชื่อมต่อความเร็วสูง
    แพลตฟอร์มนี้ใช้ NVLink 6.0 และ NVSwitch 6.0 เพื่อเชื่อมต่อ GPU และ CPU ด้วยแบนด์วิดท์รวมกว่า 28.8 TB/s พร้อมทั้งระบบ Photonics Ethernet และ InfiniBand ที่ให้ความเร็วสูงสุดถึง 1.6 Tb/s ต่อพอร์ต สิ่งนี้ทำให้ Vera Rubin สามารถขยายสเกลเป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ได้อย่างราบรื่น รองรับการฝึกโมเดล AI ที่มีพารามิเตอร์ระดับล้านล้าน

    อนาคต: Rubin Ultra
    Nvidia ยังมีแผนเปิดตัว Rubin Ultra ในปี 2027 ซึ่งจะเพิ่มจำนวนชิป GPU เป็น 4 ชิปต่อแพ็กเกจ พร้อมหน่วยความจำ HBM4E ขนาด 1 TB และแบนด์วิดท์สูงถึง 32 TB/s คาดว่าจะให้ประสิทธิภาพ inference FP4 ถึง 100 PFLOPS ต่อแพ็กเกจ ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในการประมวลผล AI

    สรุปสาระสำคัญ
    Vera Rubin คือแพลตฟอร์ม AI/HPC รุ่นใหม่ของ Nvidia
    รวม 9 โปรเซสเซอร์ที่ออกแบบเฉพาะงาน AI และ HPC

    Vera CPU และ Rubin GPU เป็นหัวใจหลักของระบบ
    CPU มี 88 คอร์ Armv9-class, GPU ใช้ HBM4 288 GB

    Rubin CPX GPU เน้นงาน inference ของ LLM
    ใช้ GDDR7 128 GB สำหรับ context ยาวและ multi-modal

    ระบบเชื่อมต่อ NVLink 6.0 และ Photonics Ethernet
    ให้แบนด์วิดท์รวมกว่า 28.8 TB/s

    Rubin Ultra จะเปิดตัวในปี 2027
    เพิ่มหน่วยความจำเป็น 1 TB และประสิทธิภาพ inference FP4 ถึง 100 PFLOPS

    ความท้าทายด้านพลังงานและการระบายความร้อน
    Rubin GPU ใช้พลังงานสูงถึง 1.8 kW ต่อชิป และ Rubin Ultra อาจถึง 3.6 kW

    ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สูงมาก
    ต้องใช้ระบบระบายความร้อนและแร็คใหม่ เช่น Kyber rack สำหรับ Rubin Ultra

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidias-vera-rubin-platform-in-depth-inside-nvidias-most-complex-ai-and-hpc-platform-to-date
    ⚙️ Vera Rubin – แพลตฟอร์ม AI/HPC รุ่นใหม่จาก Nvidia Nvidia กำลังพัฒนาแพลตฟอร์ม Vera Rubin ที่จะเปิดตัวในปี 2025 โดยมีเป้าหมายสร้างมาตรฐานใหม่ด้านประสิทธิภาพและความซับซ้อนในศูนย์ข้อมูล AI และ HPC จุดเด่นคือการรวม 9 โปรเซสเซอร์ที่แตกต่างกัน เข้าด้วยกันในระบบเดียว ตั้งแต่ CPU, GPU, DPU ไปจนถึงระบบเชื่อมต่อความเร็วสูง ซึ่งช่วยให้สามารถรองรับงาน AI ที่ต้องการพลังประมวลผลมหาศาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🖥️ สถาปัตยกรรมที่ก้าวล้ำ หัวใจของ Vera Rubin คือ Vera CPU ที่มี 88 คอร์ Armv9-class พร้อม SMT รองรับ 176 เธรด และ Rubin GPU ที่ใช้หน่วยความจำ HBM4 ขนาด 288 GB ให้แบนด์วิดท์สูงถึง 13 TB/s นอกจากนี้ยังมี Rubin CPX GPU ที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับงาน inference ของโมเดล LLM ที่ต้องการ context ยาวหลายล้าน token ทำให้ระบบสามารถจัดการงาน multi-modal ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🌐 การเชื่อมต่อความเร็วสูง แพลตฟอร์มนี้ใช้ NVLink 6.0 และ NVSwitch 6.0 เพื่อเชื่อมต่อ GPU และ CPU ด้วยแบนด์วิดท์รวมกว่า 28.8 TB/s พร้อมทั้งระบบ Photonics Ethernet และ InfiniBand ที่ให้ความเร็วสูงสุดถึง 1.6 Tb/s ต่อพอร์ต สิ่งนี้ทำให้ Vera Rubin สามารถขยายสเกลเป็นคลัสเตอร์ขนาดใหญ่ได้อย่างราบรื่น รองรับการฝึกโมเดล AI ที่มีพารามิเตอร์ระดับล้านล้าน 🔮 อนาคต: Rubin Ultra Nvidia ยังมีแผนเปิดตัว Rubin Ultra ในปี 2027 ซึ่งจะเพิ่มจำนวนชิป GPU เป็น 4 ชิปต่อแพ็กเกจ พร้อมหน่วยความจำ HBM4E ขนาด 1 TB และแบนด์วิดท์สูงถึง 32 TB/s คาดว่าจะให้ประสิทธิภาพ inference FP4 ถึง 100 PFLOPS ต่อแพ็กเกจ ซึ่งถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ในการประมวลผล AI 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ Vera Rubin คือแพลตฟอร์ม AI/HPC รุ่นใหม่ของ Nvidia ➡️ รวม 9 โปรเซสเซอร์ที่ออกแบบเฉพาะงาน AI และ HPC ✅ Vera CPU และ Rubin GPU เป็นหัวใจหลักของระบบ ➡️ CPU มี 88 คอร์ Armv9-class, GPU ใช้ HBM4 288 GB ✅ Rubin CPX GPU เน้นงาน inference ของ LLM ➡️ ใช้ GDDR7 128 GB สำหรับ context ยาวและ multi-modal ✅ ระบบเชื่อมต่อ NVLink 6.0 และ Photonics Ethernet ➡️ ให้แบนด์วิดท์รวมกว่า 28.8 TB/s ✅ Rubin Ultra จะเปิดตัวในปี 2027 ➡️ เพิ่มหน่วยความจำเป็น 1 TB และประสิทธิภาพ inference FP4 ถึง 100 PFLOPS ‼️ ความท้าทายด้านพลังงานและการระบายความร้อน ⛔ Rubin GPU ใช้พลังงานสูงถึง 1.8 kW ต่อชิป และ Rubin Ultra อาจถึง 3.6 kW ‼️ ต้นทุนโครงสร้างพื้นฐานที่สูงมาก ⛔ ต้องใช้ระบบระบายความร้อนและแร็คใหม่ เช่น Kyber rack สำหรับ Rubin Ultra https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidias-vera-rubin-platform-in-depth-inside-nvidias-most-complex-ai-and-hpc-platform-to-date
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • Singapore Exchange เตรียมเปิดตัว Bitcoin และ Ether Perpetual Futures

    Singapore Exchange (SGX) ประกาศว่าจะเปิดให้บริการซื้อขาย Bitcoin และ Ether perpetual futures ผ่านหน่วยงานด้านอนุพันธ์ของตน โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 การซื้อขายนี้จะเปิดให้เฉพาะนักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนที่ได้รับการรับรอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในตลาดคริปโตที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ความหมายต่อภูมิภาคและตลาดโลก
    การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของสิงคโปร์ในการยกระดับตนเองเป็น ศูนย์กลางการเงินดิจิทัลในเอเชีย โดย SGX ตั้งเป้าให้ตลาดอนุพันธ์คริปโตมีมาตรฐานสูงเทียบเท่าตลาดการเงินดั้งเดิม การเคลื่อนไหวนี้ยังสะท้อนถึงความพยายามของประเทศในการดึงดูดนักลงทุนสถาบันที่ต้องการความมั่นคงและการกำกับดูแลที่ชัดเจน

    การกำกับดูแลและความเสี่ยง
    แม้จะเป็นโอกาสใหม่ แต่ อนุพันธ์คริปโต ก็มีความเสี่ยงสูง ทั้งด้านความผันผวนของราคาและความซับซ้อนของสัญญา SGX จึงจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงเฉพาะนักลงทุนที่มีคุณสมบัติ เพื่อป้องกันการเก็งกำไรเกินควรและลดความเสี่ยงต่อผู้ลงทุนรายย่อย การกำกับดูแลที่เข้มงวดนี้อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตที่ยังคงถูกตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใส

    แนวโน้มในอนาคต
    นักวิเคราะห์คาดว่า หาก SGX ประสบความสำเร็จ อาจมีการขยายผลิตภัณฑ์อนุพันธ์คริปโตไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ และอาจกระตุ้นให้ตลาดการเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หันมาใช้โมเดลเดียวกัน เพื่อแข่งขันกับตลาดใหญ่ในสหรัฐฯ และยุโรป

    สรุปประเด็นสำคัญ
    SGX เปิดตัว Bitcoin และ Ether perpetual futures
    เริ่มซื้อขายวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025

    จำกัดสิทธิ์เฉพาะนักลงทุนสถาบันและผู้ได้รับการรับรอง
    เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยง

    สิงคโปร์ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการเงินดิจิทัลในเอเชีย
    ยกระดับมาตรฐานตลาดคริปโตให้เทียบเท่าตลาดการเงินดั้งเดิม

    ความเสี่ยงจากความผันผวนของอนุพันธ์คริปโต
    อาจสร้างผลกระทบต่อผู้ลงทุนที่ไม่เข้าใจโครงสร้างสัญญา

    การกำกับดูแลเข้มงวดอาจจำกัดการเข้าถึงของรายย่อย
    ทำให้ตลาดคริปโตยังคงเป็นพื้นที่ของนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/17/singapore-exchange-to-launch-bitcoin-and-ether-perpetual-futures
    💹 Singapore Exchange เตรียมเปิดตัว Bitcoin และ Ether Perpetual Futures Singapore Exchange (SGX) ประกาศว่าจะเปิดให้บริการซื้อขาย Bitcoin และ Ether perpetual futures ผ่านหน่วยงานด้านอนุพันธ์ของตน โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 การซื้อขายนี้จะเปิดให้เฉพาะนักลงทุนสถาบันและผู้ลงทุนที่ได้รับการรับรอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและความปลอดภัยในตลาดคริปโตที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว 🌍 ความหมายต่อภูมิภาคและตลาดโลก การเปิดตัวครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของสิงคโปร์ในการยกระดับตนเองเป็น ศูนย์กลางการเงินดิจิทัลในเอเชีย โดย SGX ตั้งเป้าให้ตลาดอนุพันธ์คริปโตมีมาตรฐานสูงเทียบเท่าตลาดการเงินดั้งเดิม การเคลื่อนไหวนี้ยังสะท้อนถึงความพยายามของประเทศในการดึงดูดนักลงทุนสถาบันที่ต้องการความมั่นคงและการกำกับดูแลที่ชัดเจน ⚖️ การกำกับดูแลและความเสี่ยง แม้จะเป็นโอกาสใหม่ แต่ อนุพันธ์คริปโต ก็มีความเสี่ยงสูง ทั้งด้านความผันผวนของราคาและความซับซ้อนของสัญญา SGX จึงจำกัดสิทธิ์การเข้าถึงเฉพาะนักลงทุนที่มีคุณสมบัติ เพื่อป้องกันการเก็งกำไรเกินควรและลดความเสี่ยงต่อผู้ลงทุนรายย่อย การกำกับดูแลที่เข้มงวดนี้อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นในตลาดคริปโตที่ยังคงถูกตั้งคำถามเรื่องความโปร่งใส 🔮 แนวโน้มในอนาคต นักวิเคราะห์คาดว่า หาก SGX ประสบความสำเร็จ อาจมีการขยายผลิตภัณฑ์อนุพันธ์คริปโตไปยังสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ และอาจกระตุ้นให้ตลาดการเงินในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หันมาใช้โมเดลเดียวกัน เพื่อแข่งขันกับตลาดใหญ่ในสหรัฐฯ และยุโรป 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ SGX เปิดตัว Bitcoin และ Ether perpetual futures ➡️ เริ่มซื้อขายวันที่ 24 พฤศจิกายน 2025 ✅ จำกัดสิทธิ์เฉพาะนักลงทุนสถาบันและผู้ได้รับการรับรอง ➡️ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยง ✅ สิงคโปร์ตั้งเป้าเป็นศูนย์กลางการเงินดิจิทัลในเอเชีย ➡️ ยกระดับมาตรฐานตลาดคริปโตให้เทียบเท่าตลาดการเงินดั้งเดิม ‼️ ความเสี่ยงจากความผันผวนของอนุพันธ์คริปโต ⛔ อาจสร้างผลกระทบต่อผู้ลงทุนที่ไม่เข้าใจโครงสร้างสัญญา ‼️ การกำกับดูแลเข้มงวดอาจจำกัดการเข้าถึงของรายย่อย ⛔ ทำให้ตลาดคริปโตยังคงเป็นพื้นที่ของนักลงทุนสถาบันเป็นหลัก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/17/singapore-exchange-to-launch-bitcoin-and-ether-perpetual-futures
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Singapore Exchange to launch bitcoin and ether perpetual futures
    SINGAPORE (Reuters) -The derivatives arm of Singapore Exchange (SGX) said on Monday that it would launch bitcoin and ether cryptocurrency perpetual futures trading on its platform.
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • ข่าวใหม่: AlmaLinux OS 9.7 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ

    AlmaLinux OS 9.7 ได้รับการเปิดตัวเป็นเวอร์ชันเสถียรล่าสุด โดยยังคงความเข้ากันได้เต็มรูปแบบกับ Red Hat Enterprise Linux (RHEL) 9.7 จุดเด่นของรุ่นนี้คือการปรับปรุงเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาและผู้ดูแลระบบ เช่น GDB 16.3, Valgrind 3.25.1, SystemTap 5.3, Dyninst 13.0.0 และ Grafana 10.2.6 ที่ช่วยให้การตรวจสอบและดีบักระบบทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    ในด้านระบบเครือข่าย AlmaLinux 9.7 มาพร้อมกับ NetworkManager 1.54, Ethtool 6.15 และ iproute 6.14.0 ซึ่งช่วยให้การจัดการเครือข่ายมีความยืดหยุ่นและทันสมัยมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีการอัปเดต toolchain เช่น GCC 15, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0 และ Go 1.24 เพื่อรองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันรุ่นใหม่ ๆ

    อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการเพิ่ม PQ Subpolicy ในระบบการเข้ารหัส เพื่อรองรับ Post-Quantum Cryptography (PQC) ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยของระบบให้ทันสมัยและมั่นคงมากขึ้น

    AlmaLinux OS 9.7 ใช้ Linux Kernel 5.14 และมีแพ็กเกจใหม่จำนวนมาก เช่น Podman 5.6.0, Buildah 1.41.4, GIMP 3.0.4, Mesa 25.0.7, Samba 4.22.4 และ OpenSSL 3.5 พร้อมให้ดาวน์โหลดสำหรับสถาปัตยกรรมหลัก ได้แก่ x86_64, AArch64, ppc64le และ s390x

    สรุปสาระสำคัญ
    การปรับปรุงเครื่องมือพัฒนาและดีบัก
    GDB 16.3, Valgrind 3.25.1, SystemTap 5.3
    Dyninst 13.0.0, Grafana 10.2.6

    การอัปเดตระบบเครือข่าย
    NetworkManager 1.54, Ethtool 6.15
    iproute 6.14.0

    การอัปเดต toolchain และแพ็กเกจใหม่
    GCC 15, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24
    Podman 5.6.0, Buildah 1.41.4, GIMP 3.0.4

    การปรับปรุงด้านความปลอดภัย
    เพิ่ม PQ Subpolicy รองรับ Post-Quantum Cryptography
    อัปเดต OpenSSL 3.5

    ข้อควรระวัง
    ผู้ใช้ที่อัปเกรดจากเวอร์ชันเก่า ควรตรวจสอบ compatibility ของแพ็กเกจ
    การใช้ PQC อาจยังไม่รองรับในบางระบบหรือแอปพลิเคชัน

    https://9to5linux.com/almalinux-os-9-7-is-out-as-a-free-alternative-to-red-hat-enterprise-linux-9-7
    🐾 ข่าวใหม่: AlmaLinux OS 9.7 เปิดตัวอย่างเป็นทางการ AlmaLinux OS 9.7 ได้รับการเปิดตัวเป็นเวอร์ชันเสถียรล่าสุด โดยยังคงความเข้ากันได้เต็มรูปแบบกับ Red Hat Enterprise Linux (RHEL) 9.7 จุดเด่นของรุ่นนี้คือการปรับปรุงเครื่องมือสำหรับนักพัฒนาและผู้ดูแลระบบ เช่น GDB 16.3, Valgrind 3.25.1, SystemTap 5.3, Dyninst 13.0.0 และ Grafana 10.2.6 ที่ช่วยให้การตรวจสอบและดีบักระบบทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ในด้านระบบเครือข่าย AlmaLinux 9.7 มาพร้อมกับ NetworkManager 1.54, Ethtool 6.15 และ iproute 6.14.0 ซึ่งช่วยให้การจัดการเครือข่ายมีความยืดหยุ่นและทันสมัยมากขึ้น ขณะเดียวกันยังมีการอัปเดต toolchain เช่น GCC 15, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0 และ Go 1.24 เพื่อรองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันรุ่นใหม่ ๆ อีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงสำคัญคือการเพิ่ม PQ Subpolicy ในระบบการเข้ารหัส เพื่อรองรับ Post-Quantum Cryptography (PQC) ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับภัยคุกคามจากคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยของระบบให้ทันสมัยและมั่นคงมากขึ้น AlmaLinux OS 9.7 ใช้ Linux Kernel 5.14 และมีแพ็กเกจใหม่จำนวนมาก เช่น Podman 5.6.0, Buildah 1.41.4, GIMP 3.0.4, Mesa 25.0.7, Samba 4.22.4 และ OpenSSL 3.5 พร้อมให้ดาวน์โหลดสำหรับสถาปัตยกรรมหลัก ได้แก่ x86_64, AArch64, ppc64le และ s390x 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การปรับปรุงเครื่องมือพัฒนาและดีบัก ➡️ GDB 16.3, Valgrind 3.25.1, SystemTap 5.3 ➡️ Dyninst 13.0.0, Grafana 10.2.6 ✅ การอัปเดตระบบเครือข่าย ➡️ NetworkManager 1.54, Ethtool 6.15 ➡️ iproute 6.14.0 ✅ การอัปเดต toolchain และแพ็กเกจใหม่ ➡️ GCC 15, LLVM 20.1.8, Rust 1.88.0, Go 1.24 ➡️ Podman 5.6.0, Buildah 1.41.4, GIMP 3.0.4 ✅ การปรับปรุงด้านความปลอดภัย ➡️ เพิ่ม PQ Subpolicy รองรับ Post-Quantum Cryptography ➡️ อัปเดต OpenSSL 3.5 ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ ผู้ใช้ที่อัปเกรดจากเวอร์ชันเก่า ควรตรวจสอบ compatibility ของแพ็กเกจ ⛔ การใช้ PQC อาจยังไม่รองรับในบางระบบหรือแอปพลิเคชัน https://9to5linux.com/almalinux-os-9-7-is-out-as-a-free-alternative-to-red-hat-enterprise-linux-9-7
    9TO5LINUX.COM
    AlmaLinux OS 9.7 Is Out as a Free Alternative to Red Hat Enterprise Linux 9.7 - 9to5Linux
    AlmaLinux OS 9.7 distribution is now available for download as a free alternative to Red Hat Enterprise Linux 9.7.
    0 Comments 0 Shares 42 Views 0 Reviews
  • ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 5 – 6

    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”
    ตอน 5
    ไม่รู้ยังจำกันได้ไหม หลังจากสหภาพโซเวียตถูกทุบจนแหลกละเอียด ตั้งแต่ปี ค.ศ.1991 อเมริกาและพวก ตีปีกกันใหญ่ ว่ากำจัดขู่แข่งตัวสำคัญไปเรี ยบร้อยแล้ว เวลาผ่านไปเพียง 15 ปี ส่วนหัวและหัวใจ ของสหภาพโซเวียตคือ รัสเซีย ดันไม่ตายตามต้องการ แถมฟื้นขึ้นมาแบบมาดใหม่ ด้วยการสู้ด้วยท่อส่งแก๊ส ที่รัสเซียวางไปตามจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เป็นเรื่องที่อเมริกาและพวก คิดไม่ถึง ยิ่งท่อส่งแก๊สของรัสเซียวิ่งตรงมายุโรป และยุโรปกลายเป็นฝ่ายพึ่งแก๊สของรัสเซียถึง 60% อเมริกายิ่งหายใจแรง ด้วยความขัดใจ กระบวนการขัดขารัสเซีย ไปจนถึงแซงช้่นจึงค่อยๆทยอยปล่อยออกมาใส่รัสเซีย
    เดือนธันวาคม ค.ศ.2014 รัสเซีย ประกาศยกเลิกเส้นทางท่อส่งแก๊ส South Sream ของ Gazprom บริษัทผลิตและส่งแก๊สของรัฐบาลรัสเซีย เพราะถูกอียูกั้ก ตามคำสั่งของอเมริกา รัสเซียหวังจะส่งแก๊สให้ชาวยุโรปด้วยเส้นทางใหม่ ที่ไม่ต้องผ่านยูเครน ที่กำลังมีปัญหากันอยู่ แต่ให้ไปโผล่ที่บุลกาเรีย เพิ่มอีกจุด เป็นผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างยุโรป และรัสเซีย แต่อเมริกา บีบให้อียูบอกว่า แบบนี้เป็นการรังแกยูเครน แล้วอียู ก็ไปบีบบุลกาเรียอีกต่อ ไม่ให้ตกลงกับรัสเซีย แล้วอียู รัสเซีย ก็เดือดร้อน แต่อเมริกาสบาย ฉลาดฉิบหายเลย
    คุณพี่ปูตินบอก ตามใจ ถ้าคนยุโรปไม่ต้องการ เราก็ช่วยอะไรไม่ได้ งั้นรัสเซียส่งมาทางตุรกีแทนก็ได้ แทบไม่มีใครเชื่อ เพราะคิดว่าตุรกีไม่กล้าแหกคอกจากอเมริกา มาต่อท่อกับรัสเซีย ก็อเมริกาเพิ่งสั่งให้ลูกกระเป๋งแซงชั่นรัสเซียอยู่หยกๆ เวลาผ่านไปไม่ถึง 6 เดือน เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2015 นี้เอง ตุรกีกับ Gasprom ก็ยืนประกาศคู่กัน ว่า เส้นท่อส่งแก๊ส Turkish Stream เดินหน้าไปอย่างดียิ่ง และพร้อมจะส่งแก๊สจากรัสเซีย เข้ามาที่สถานีในตุรกีและไปโผล่ตรงเขตแดนตุรกี ที่ติดกับ”กรีซ “ได้ ในเดือนธันวาคม ค.ศ.2016 เพื่อส่งต่อให้กับลูกค้าในยุโรป….. มาแล้ว ฝีมือเดินหมากรุกระดับแชมป์
    ในวันที่รัสเซียตัดสินใจ ไม่เดินหน้าไปทางบุลกาเรีย แต่เปลี่ยนมาเป็นตุรกีนั้น ทันทีที่ตกลงกับตุรกีได้ในต้นเดือนเมษายน ค.ศ.2015 คุณพี่ปูตินยกโทรศัพท์คุยกับคุณน้องอเล็กซิสด้วยตัวเอง หลังจากนั้น สำนักงานท่านประธานาธิบดีของรัสเซียก็ออกข่าวเงียบๆ ว่า รัสเซียพร้อมให้เงินกู้กับกรีซ เพื่อเป็นการตอบแทนที่กรีซเข้าร่วมโครงการ Turkish Stream เข้าไปในอียู …
    แต่เมื่อสื่อเยอรมัน Der Spiegel รายงานข่าวว่า มอสโคว์พร้อมให้เงินกู้กับรัฐบาลกรีซทันที จำนวน 5 พันล้านยูโร ที่ประมาณว่า จะเท่ากับส่วนแบ่งกำไร ที่จะได้จากเชื่อมท่อส่งแก๊ส Turkish Stream แต่เครมลินออกมาปฏิเสธข่าวนี้ ….มันก็ควรปฏิเสธ เรื่องแบบนี้มันต้อง เปิดๆ ปิดๆ ถึงจะน่าตื่นเต้น
    ในขณะที่กรีซและเจ้าหนี้ กำลังเจรจาเครียด เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง ถึงเรื่องหนี้ ที่ต้องจ่ายให้แก่ IMF จำนวน 1.6 พันล้านยูโรในวันสิ้นเดือนมิถุนายน นายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ยังไม่มีคำตอบให้กับเจ้าหนี้ ว่าเขาจะเอาเงินมาจากไหนมาใช้หนี้ แต่วันรุ่งขึ้น เขาบินไปร่วมงาน St. Petersburg Economic Forum ที่รัสเซีย อย่างไม่มีอาการเครียด…
    ตลอดเวลาที่ผ่านมา รัสเซียพยายามไม่ยุ่งกับเรื่องวิกฤติทางการเงินของยุโรป แต่ปัญหาของกรีซ มันอาจจะทำให้รัสเซียเห็นทาง… ที่อาจจะคุ้ม กับค่ายุ่งก็เป็นได้
    และถ้ารัสเซียเห็นว่าคุ้ม แล้วโดดมาเล่นด้วย หนี้กรีซคงไม่ได้เป็นเรื่องวิกฤติทางการเงินเรื้อรัง แต่เปลี่ยนเป็นวิกฤติ ทางด้านภูมิศาสตร์การเมืองทันที นี่อาจจะเป็น ซึนามิ ที่จะมาหลังแผ่นดินไหวระดับ 8 ริกเตอร์
    CFR (Council on Foreign Relations ) หน่วยงานที่เป็นผู้กำกับบทบาทของ รัฐบาลอเมริกัน เริ่มใช้ไมค์ตัวเล็ก นาย Sebastian Mallaby นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส นำร่อง ออกมาให้ความเห็นว่า คุณคงไม่อยากเห็นยุโรปต้องเจรจากับกรีซ ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้ แต่ปุบปับก็ดันจะไปซบกับรัสเซีย ” You don’t want Europe to have to deal with Greece, who is a member of NATO, all of a sudden cozying up to Russia”
    แม้เป็นแค่ไมค์ตัวเล็ก แต่ป้าเข็มขัดเหล็ก ได้ยินเสียงแบบนี้ ก็ลนลานแล้ว เดิมรัฐบาลเยอรมัน คนเยอรมัน แบงค์เยอรมัน เห็นพ้องกันว่า เยอรมันจะยุติการให้เงินกู้กับกรีซเพิ่มเติม ถ้ากรีซ ยังเป็นลูกหนี้ที่ไม่มีวินัย มันต้องให้ใส่ทั้งโซ่เหล็ก และเข้มขัดเหล็ก เข้าใจไหม
    เหมือนจะรู้ว่า ป้าเข็มขัดเหล็กกำลังคิดอะไร ไมค์ตัวเล็กจาก CFR เลยแถมท้าย…ป้าก็คงไม่ชอบใช่มั้ย ที่จะให้ปูติน ให้ของขวัญกับกรีซ ถ้ากรีซจะแหกคอก ออกไปจากพวกตะวันตกน่ะ …
    แล้วก็เหมือนกลัว ป้าจะตัดสินใจยาก นายอเล็กซิส ก็เขียนตอบโต้ คำกล่าวของคนเยอรมันที่บอกว่า คนเยอรมันต้องทำงานหนัก เพื่อเอาเงินไปเลี้ยงคนกรีซที่เลิกทำงาน อเล็กซิส เขียนส่งไปลงในหนังสือพิมพ์เยอรมันว่า… ใครที่อ้างว่า คนเยอรมันต้องเสียภาษีเพื่อเอาจ่ายเป็นค่าจ้าง และเงินบำนาญ เป็นคนโกหก…อันนี้ ฮอร์โมนคนหนุ่มพุ่งแรงจริงๆ
    กรีซและเจ้าหนี้ กำลังขยับการเผชิญหน้าใกล้เข้ามา จนแทบจะหายใจใส่หน้ากันอยู่แล้ว แต่ป้าเข็มขัดเหล็ก ทำปากแข็งบอก ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ ฉันยังรอรับฟังข้อเสนอของกรีซอยู่ ว่าแล้วก็หัวร่อร่ากับหนุ่มกรีก ทำเหมือนไม่มีรอยร้าวระหว่างป้า กับหลาน CFR คงไม่แน่ใจว่า ป้าหัวร่อกับหนุ่มกรีก เพราะเครียด หรือ ขากรรไกรค้าง รีบสำทับ อียูต้องจัดการให้ดีนะ ไม่งั้นเรื่องนี้คงจบยาก หรือจบไม่สวย และจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ให้สเปนและปอร์ตุเกส เอาอย่าง
    ไมค์ตัวเล็ก ยี่ห้อ CFR สำทับแบบนี้ อียูคงต้องคิดหนัก
    ###############
    “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก”

    ตอน 6 (จบ)
    ดูเหมือนกรีซจะมีทางเลือก ขึ้นอยู่กับว่า กรีซคิดอะไร
    ทางเลือกที่หนึ่ง : ถ้าเจ้าหนี้ยินยอมปรับปรุงโครง สร้างหนี้ ในเงื่อนไขตามที่ทั้ง 2 ฝ่ายรับได้ และกรีซ ไม่คิดออกจากอียู เรื่องก็คงจบด้วยดี จบแบบ ยังพอรักษาหน้า รักษาไมตรี ต่อกัน
    กรีซก็ได้อย่างที่ต้องการ ได้เอาโซ่ออกจากคอ ส่วนเจ้าหนี้ก็คงขาดโอกาส ที่จะใช้โซ่รัดคอกรีซต่อไป แต่ไม่เป็นไร เชื่อสายอัศวินนักล่าใบตองแห้ง ปลิ้นปล้อนต่อไปได้ว่า เห็นแก่มนุษยธรรม พูดเอาบุญเอาคุณไปได้อีกนาน คนที่จะช้ำหน่อย น่าจะเป็นป้าเข็มขัดเหล็ก เพราะลั่นปากออกสื่อไปแล้ว ว่าจะไม่ให้กู้เพิ่มแล้วถ้าไม่รัดโซ่ให้แน่นกว่านี้ นี่โซ่ก็ถูกตัดแต่ยังต้องอุ้มเขาต่อ ป้าก็คงต้องหุบปากบ้าง ไม่งั้นเรื่องเงินกู้กรีซ รอบแรก ที่แบงค์เยอรมันได้ไปก่อน คราวนี้ รับรองมีคนเอามาแฉใหม่แน่
    แต่มันแสนจะคุ้ม ที่สะกัดทางคุณพี่ปูติน ที่คิดจะเข้าอียูผ่านกรีก
    แล้วคุณพี่ปูติน ที่คิดจะเข้ามาเดินเล่นแถวกรีซล่ะ คุณพี่เขาก็เปลี่ยนวิธีเดินหมากได้ไหม่แน่นอน แชมป์หมากรุก ยอมมองทางออกทั้งกระดาน จะเดินตาไหนต่อ ก็คอยดูกันไป แต่คิดให้ดี ถ้าไม่มีข่าวคุณพี่ปูตินโทรหาคุณน้องอเล็กซิส รับรอง ทางเลือกที่หนึ่งนี่ ไม่มีทางเกิดขึ้น
    ทางเลือกที่สอง : กรีซเหม็นเบื่ออียูเต็มที ถึงเจ้าหนี้จะตกลง ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แต่กรีซบอกไม่เอาแล้ว เดี๋ยวให้ เดี๋ยวไม่ให้ เราจบกันแค่นี้ดีกว่า เอะ แล้วกรีซจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ IMF สิ้นเดือนนี้ 1.6 พันล้าน ยูโร อย่านึกว่าคุณพี่ปูตินจะตกลงด้วยง่ายๆ นะครับ ให้ยืมน่ะเรื่องนึง ถ้าคุณพี่ตกปาก แล้วคงไม่เบี้ยว แต่ยืมเอาไปใช้หนี้เต็มราคา ไม่มีลดค่าหน้าตั๋ว ไม่มี ตัดผม haircut ผมเป็นคุณพี่ปูติน ผมไม่ให้ยืมหรอก เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าลูกหนี้ล้มละลาย ก็พวกไอ้หมาไนของมันบอกเอง เจ้าหนี้หวังให้ใช้หนี้เต็มร้อย ก็ฝันไปหน่อย
    ตอน ปี ค.ศ.2012 เมื่อเห็นกันชัดๆ เต็มลูกตา ว่าวิธีเอาเงินกู้มาจ่ายเจ้าหนี้ทั้งก้อน วนไปวนมา หนี้กรีซก็ไม่มีวันลด คุณป้าเข็มขัดเหล็ก เลยเสียงเขียวให้เจ้าหนี้เอกชน ลดหนี้ ตัดผม haircut กันบ้าง มีต้ังแต่ ลด 50% ไปถึงลด 80 % เหลือ 20 ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย แล้วก็ให้ไปแลกกับตั๋วใหม่ เขาว่า มีกองทุนแร้งลง ซื้อตั๋วใหม่พวกนี้อีกต่อ ราคาถูกลงไปอีก ไปเก็งกำไรอีกต่อ แล้วคิดว่าแบบนี้คุณพี่ปูติน จะจ่ายให้ IMF เต็มร้อยไหม เผลอๆ เรื่อง รัสเซีย จะให้เงินกู้กรีซ เป็นเรื่องสมต้มกัน
    ตกลงวิธีนี้จะไปได้ ก็ต่อเมื่อ IMF ลดหนี้ให้ แล้วถ้า IMF ก็เดาอยู่แล้ว ว่าเงินอาจจะมาจากไหน คิดว่า IMF จะลดหนี้ให้ไหม คุณนายหน้าเค็มไม่ยอมหน้าจืดหรอกครับ ลืมไปได้เลย
    ทางเลือกที่สาม : เหมือนทางเลือกที่สอง แต่ยังไม่ใช้หนี้ IMF เรียกว่า ตัดโซ่คล้องคอของเจ้าหนี้ ตัดเชือกผูกกับ อียู ยอมให้เขาว่าเป็นประเทศล้มละลาย ต้ังหน้าต้ังตา สร้างบ้านเมืองใหม่ แบบนี้ อาจจะมีเจ้าหนี้จูงกันมาให้กู้แบบดอกต่ำ เงื่อนไขไม่โหด แต่กรีซใจถึงไหม ที่จะเล่นบทนี้ บทนี้มันต้องใจถึงกันทั้งประเทศ
    ทางเลือกของกรีซ ก็คงมีเท่านี้
    ส่วนทางเลือกของเจ้าหนี้ มีแค่ 2 ทาง
    ทางเลือกที่หนึ่ง : ก็เหมือนทางเลือกที่หนึ่งของกรีซนั่นแหละ แค่เสียหน้า แต่ระบบแบงค์ยังปลอดภัย ที่สำคัญ ทางภูมิศาสตร์การเมือง ปิดทางเข้าอียูของรัสเซียผ่านกรีซ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม แผ่นดินไหวไม่มี ซึนามิการเมืองไม่เกิดขึ้น แต่รายการนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้ข้างเดียว ต้องถามใจกรีซด้วย
    ทางเลือกที่สอง : เจ้าหนี้ไม่ขยับ ไม่ปล่อยเงินกู้ก้อนใหม่ให้ ไม่ผ่อนเวลาให้ ยึดแน่นกับเงื่อนไขโหด แถมจะเพิ่ม ให้โซ่คล้องคอกรีซรัดแน่นกว่าเดิม ทำไมหรือ ก็ยังกินไม่อิ่ม ไม่มีอะไรมาก ยิ่งท่อแก๊สรัสเซียจะมา ยิ่งอร่อย ยึดมาใช้หนี้เสียเลยดีไหม และเชื่อว่ารัสเซียไม่มีปัญญา ที่จะเข้ามาชำระหนี้ก้อนใหญ่ให้กรีซ
    ถ้าเจ้าหนี้เลือกทางนี้ ไม่ต้องวิเคราะห์มากครับ รับรอง มีทั้งแผ่นดินไหว อาฟเตอร์ช็อก ซึนามิทางการเงิน เศรษฐกิจ และการเมืองครบถ้วน อาจจะเลยเป็นชนวนสงครามโลกแทนยูเครน ที่นางเหยี่ยวรับหน้าที่มาจุดให้ไอ้นักล่าใบตองแห้งด้วยก็ได้
    ใครมันจะยอมให้หยามหน้า รังแกกันมากขนาดนั้น แล้วกลับบ้านนอนสบาย
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    28 มิ.ย. 2558
    หมายเหตุ: เขียนนิทานจบไปแล้ว ต้ังเวลาโพสต์ล่วงหน้า เตรียมเข้านอน เช็คข่าวล่าสุด ทำเอานอนไม่ได้ ต้องกลับมานั่งเขียนต่อ
    ล่าสุด วันที่ 27 มิถุนายน มีข่าวออกมาตอนค่ำบ้านเรา บอกว่า นายกรัฐมนตรีกรีซ พูดว่า เราคงเดินหน้าโดยมีโซ่คล้องคอแบบนี้ไม่ไหว เขาจึงออกทีวี ประกาศว่า เขาจะจัดให้มีการทำประชามติ ในวันที่ 5 กรกฏาคม นี้ ว่า ประะชาชนจะเอายังไง yes หรือ no กับ การกู้เงินต่อไป คำพูดของนายกรัฐมนตรีกรีซ อาจเป็นประโยคประวัติศาสตร์ ที่ต้องจดจำ หรือมีการอ้างถึงต่อไป
    ” กระผมขอให้ท่านตัดสินใจ ด้วยสำนึกในประวัติศาสตร์ แห่งความเป็นประเทศเอกราชและมีศักดิ์ศรีของกรีซ ว่าเราจำเป็นหรือไม่ ที่ต้องรับการยื่นคำขาด ที่เสมือนเป็นการเหยียดหยามเรา ที่บีบคั้นเราอย่างรุนแรงและไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีแนวทางให้เราเห็นแม้แต่น้อย ว่าเรา จะมีโอกาสยืนด้วยสองเท้าของเราเองได้อีกหรือไม่ ทั้งในด้านสังคมและทางด้านการเงิน
    ประชาชนจะต้องตัดสินใจ โดยปราศจากความกดดัน จากการยื่นคำขาดดังกล่าว”
    “I call uopn you to decide – with sovereignty and dignity as Greek history demands-
    whether we should accept the extortionate ultimatum that calls for strict and humiliating austerity without end, and without the prospect of ever standing on our own two feet, socially and financially.
    The people must decide free of any blackmail..”
    เป็นคำประกาศของคนหนุ่ม ที่ “แรง” เกือบจะเป็นการประกาศสงครามเชียวนะ
    ขณะเดียวกัน ฝ่ายเจ้าหนี้ โดยนายเจริญ Jeroen Dijsselbloem รัฐมนตรีคลังของดัชท์ ที่เป็นประธานที่ประชุมเจ้าหนี้ เมื่อได้รับถุงมือขาวของหนุ่มกรีก ก็รีบออกข่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีกรีซประกาศเช่นนี้ ก็ น่าจะแปลว่ากรีซ ไม่รับข้อเสนอของฝ่ายเจ้าหนี้ และการเจรจาก็น่าจะสดุดหยุดลง เมื่อไม่มีข้อตกลง กรีก ก็ต้องหาเงินมาชำระหนี้ จำนวน 1.6 พันล้านยูโร ให้กับ IMF ทีจะถึงชำระในวันที่ 30 มิถุนายนนี้
    ก่อนหน้านั้น เล็กน้อย คุณน้องยานิสของผม ก็แจ้งในที่ประชุมรัฐมนตรีคลังของอียู ว่า กรีซ ขอ เลื่อนกำหนด วันตัดสินประหารขีวิตออกไปสัก 2 สัปดาห์ได้ไหม เพราะ เขาจะทำประชามติ กัน มันเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับชีวิตพวกเขา ให้พวกเขามีสิทธิมีเสียงตามประชาธิปไตยบ้าง ที่ประชุมอียู ตอบสั้นๆ ว่าไม่ได้ คุณน้องยานิส ก็เก็บของ เดินออกจากห้องประชุม
    ฝ่ายเจ้าหนี้ โดยรัฐมนตรีคลังของฟินแลนด์ ออกมาบอกว่า ตอนนี้ แปลว่า ต้องเปลี่ยนเอา แผนสำรอง มาเป็นแผนจริงแล้ว
    แปลว่าอะไรครับ ช่วยกลับไปอ่านนิทานข้างต้นอีกที แปลว่า แผ่นดินเริ่มไหว จะขนาดไหน วันจันทร์ก็คงรู้ ที่กุมๆกันไว้ในกระเป๋า ก็คงเริ่มทยอยเอาออกมาใช้กัน แต่เกมนี้ยังไม่จบง่ายๆ ดูกันต่อครับ จะกินบ้าน กู้เมืองกัน มันไม่ใช่เล่นเกมกด เกมชิงเมืองนี้ อาจลามไปไกล…จะกลายเป็นเกทับบลั้ฟแหลกกันขนาดไหน หรือ ของจริงแอบแจม ได้ทั้งสิ้น
    แต่อย่างน้อย วันนี้ ผมขอคารวะหนุ่มกรีก สำหรับประโยคเดินนำออกจากคอก ที่ คนรักบ้านรักเมือง รักศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหน ก็ต้องซึ้งใจ
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    28 มิ.ย 58
    ตัดโซ่หรือตายซาก ตอนที่ 5 – 6 นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 5 ไม่รู้ยังจำกันได้ไหม หลังจากสหภาพโซเวียตถูกทุบจนแหลกละเอียด ตั้งแต่ปี ค.ศ.1991 อเมริกาและพวก ตีปีกกันใหญ่ ว่ากำจัดขู่แข่งตัวสำคัญไปเรี ยบร้อยแล้ว เวลาผ่านไปเพียง 15 ปี ส่วนหัวและหัวใจ ของสหภาพโซเวียตคือ รัสเซีย ดันไม่ตายตามต้องการ แถมฟื้นขึ้นมาแบบมาดใหม่ ด้วยการสู้ด้วยท่อส่งแก๊ส ที่รัสเซียวางไปตามจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เป็นเรื่องที่อเมริกาและพวก คิดไม่ถึง ยิ่งท่อส่งแก๊สของรัสเซียวิ่งตรงมายุโรป และยุโรปกลายเป็นฝ่ายพึ่งแก๊สของรัสเซียถึง 60% อเมริกายิ่งหายใจแรง ด้วยความขัดใจ กระบวนการขัดขารัสเซีย ไปจนถึงแซงช้่นจึงค่อยๆทยอยปล่อยออกมาใส่รัสเซีย เดือนธันวาคม ค.ศ.2014 รัสเซีย ประกาศยกเลิกเส้นทางท่อส่งแก๊ส South Sream ของ Gazprom บริษัทผลิตและส่งแก๊สของรัฐบาลรัสเซีย เพราะถูกอียูกั้ก ตามคำสั่งของอเมริกา รัสเซียหวังจะส่งแก๊สให้ชาวยุโรปด้วยเส้นทางใหม่ ที่ไม่ต้องผ่านยูเครน ที่กำลังมีปัญหากันอยู่ แต่ให้ไปโผล่ที่บุลกาเรีย เพิ่มอีกจุด เป็นผลประโยชน์ร่วมกันระหว่างยุโรป และรัสเซีย แต่อเมริกา บีบให้อียูบอกว่า แบบนี้เป็นการรังแกยูเครน แล้วอียู ก็ไปบีบบุลกาเรียอีกต่อ ไม่ให้ตกลงกับรัสเซีย แล้วอียู รัสเซีย ก็เดือดร้อน แต่อเมริกาสบาย ฉลาดฉิบหายเลย คุณพี่ปูตินบอก ตามใจ ถ้าคนยุโรปไม่ต้องการ เราก็ช่วยอะไรไม่ได้ งั้นรัสเซียส่งมาทางตุรกีแทนก็ได้ แทบไม่มีใครเชื่อ เพราะคิดว่าตุรกีไม่กล้าแหกคอกจากอเมริกา มาต่อท่อกับรัสเซีย ก็อเมริกาเพิ่งสั่งให้ลูกกระเป๋งแซงชั่นรัสเซียอยู่หยกๆ เวลาผ่านไปไม่ถึง 6 เดือน เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ค.ศ.2015 นี้เอง ตุรกีกับ Gasprom ก็ยืนประกาศคู่กัน ว่า เส้นท่อส่งแก๊ส Turkish Stream เดินหน้าไปอย่างดียิ่ง และพร้อมจะส่งแก๊สจากรัสเซีย เข้ามาที่สถานีในตุรกีและไปโผล่ตรงเขตแดนตุรกี ที่ติดกับ”กรีซ “ได้ ในเดือนธันวาคม ค.ศ.2016 เพื่อส่งต่อให้กับลูกค้าในยุโรป….. มาแล้ว ฝีมือเดินหมากรุกระดับแชมป์ ในวันที่รัสเซียตัดสินใจ ไม่เดินหน้าไปทางบุลกาเรีย แต่เปลี่ยนมาเป็นตุรกีนั้น ทันทีที่ตกลงกับตุรกีได้ในต้นเดือนเมษายน ค.ศ.2015 คุณพี่ปูตินยกโทรศัพท์คุยกับคุณน้องอเล็กซิสด้วยตัวเอง หลังจากนั้น สำนักงานท่านประธานาธิบดีของรัสเซียก็ออกข่าวเงียบๆ ว่า รัสเซียพร้อมให้เงินกู้กับกรีซ เพื่อเป็นการตอบแทนที่กรีซเข้าร่วมโครงการ Turkish Stream เข้าไปในอียู … แต่เมื่อสื่อเยอรมัน Der Spiegel รายงานข่าวว่า มอสโคว์พร้อมให้เงินกู้กับรัฐบาลกรีซทันที จำนวน 5 พันล้านยูโร ที่ประมาณว่า จะเท่ากับส่วนแบ่งกำไร ที่จะได้จากเชื่อมท่อส่งแก๊ส Turkish Stream แต่เครมลินออกมาปฏิเสธข่าวนี้ ….มันก็ควรปฏิเสธ เรื่องแบบนี้มันต้อง เปิดๆ ปิดๆ ถึงจะน่าตื่นเต้น ในขณะที่กรีซและเจ้าหนี้ กำลังเจรจาเครียด เมื่อต้นเดือนมิถุนายนนี้เอง ถึงเรื่องหนี้ ที่ต้องจ่ายให้แก่ IMF จำนวน 1.6 พันล้านยูโรในวันสิ้นเดือนมิถุนายน นายกรัฐมนตรี อเล็กซิส ยังไม่มีคำตอบให้กับเจ้าหนี้ ว่าเขาจะเอาเงินมาจากไหนมาใช้หนี้ แต่วันรุ่งขึ้น เขาบินไปร่วมงาน St. Petersburg Economic Forum ที่รัสเซีย อย่างไม่มีอาการเครียด… ตลอดเวลาที่ผ่านมา รัสเซียพยายามไม่ยุ่งกับเรื่องวิกฤติทางการเงินของยุโรป แต่ปัญหาของกรีซ มันอาจจะทำให้รัสเซียเห็นทาง… ที่อาจจะคุ้ม กับค่ายุ่งก็เป็นได้ และถ้ารัสเซียเห็นว่าคุ้ม แล้วโดดมาเล่นด้วย หนี้กรีซคงไม่ได้เป็นเรื่องวิกฤติทางการเงินเรื้อรัง แต่เปลี่ยนเป็นวิกฤติ ทางด้านภูมิศาสตร์การเมืองทันที นี่อาจจะเป็น ซึนามิ ที่จะมาหลังแผ่นดินไหวระดับ 8 ริกเตอร์ CFR (Council on Foreign Relations ) หน่วยงานที่เป็นผู้กำกับบทบาทของ รัฐบาลอเมริกัน เริ่มใช้ไมค์ตัวเล็ก นาย Sebastian Mallaby นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส นำร่อง ออกมาให้ความเห็นว่า คุณคงไม่อยากเห็นยุโรปต้องเจรจากับกรีซ ซึ่งเป็นสมาชิกของนาโต้ แต่ปุบปับก็ดันจะไปซบกับรัสเซีย ” You don’t want Europe to have to deal with Greece, who is a member of NATO, all of a sudden cozying up to Russia” แม้เป็นแค่ไมค์ตัวเล็ก แต่ป้าเข็มขัดเหล็ก ได้ยินเสียงแบบนี้ ก็ลนลานแล้ว เดิมรัฐบาลเยอรมัน คนเยอรมัน แบงค์เยอรมัน เห็นพ้องกันว่า เยอรมันจะยุติการให้เงินกู้กับกรีซเพิ่มเติม ถ้ากรีซ ยังเป็นลูกหนี้ที่ไม่มีวินัย มันต้องให้ใส่ทั้งโซ่เหล็ก และเข้มขัดเหล็ก เข้าใจไหม เหมือนจะรู้ว่า ป้าเข็มขัดเหล็กกำลังคิดอะไร ไมค์ตัวเล็กจาก CFR เลยแถมท้าย…ป้าก็คงไม่ชอบใช่มั้ย ที่จะให้ปูติน ให้ของขวัญกับกรีซ ถ้ากรีซจะแหกคอก ออกไปจากพวกตะวันตกน่ะ … แล้วก็เหมือนกลัว ป้าจะตัดสินใจยาก นายอเล็กซิส ก็เขียนตอบโต้ คำกล่าวของคนเยอรมันที่บอกว่า คนเยอรมันต้องทำงานหนัก เพื่อเอาเงินไปเลี้ยงคนกรีซที่เลิกทำงาน อเล็กซิส เขียนส่งไปลงในหนังสือพิมพ์เยอรมันว่า… ใครที่อ้างว่า คนเยอรมันต้องเสียภาษีเพื่อเอาจ่ายเป็นค่าจ้าง และเงินบำนาญ เป็นคนโกหก…อันนี้ ฮอร์โมนคนหนุ่มพุ่งแรงจริงๆ กรีซและเจ้าหนี้ กำลังขยับการเผชิญหน้าใกล้เข้ามา จนแทบจะหายใจใส่หน้ากันอยู่แล้ว แต่ป้าเข็มขัดเหล็ก ทำปากแข็งบอก ฉันยังไม่ได้ตัดสินใจ ฉันยังรอรับฟังข้อเสนอของกรีซอยู่ ว่าแล้วก็หัวร่อร่ากับหนุ่มกรีก ทำเหมือนไม่มีรอยร้าวระหว่างป้า กับหลาน CFR คงไม่แน่ใจว่า ป้าหัวร่อกับหนุ่มกรีก เพราะเครียด หรือ ขากรรไกรค้าง รีบสำทับ อียูต้องจัดการให้ดีนะ ไม่งั้นเรื่องนี้คงจบยาก หรือจบไม่สวย และจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี ให้สเปนและปอร์ตุเกส เอาอย่าง ไมค์ตัวเล็ก ยี่ห้อ CFR สำทับแบบนี้ อียูคงต้องคิดหนัก ############### “ตัดโซ่ หรือ ตายซาก” ตอน 6 (จบ) ดูเหมือนกรีซจะมีทางเลือก ขึ้นอยู่กับว่า กรีซคิดอะไร ทางเลือกที่หนึ่ง : ถ้าเจ้าหนี้ยินยอมปรับปรุงโครง สร้างหนี้ ในเงื่อนไขตามที่ทั้ง 2 ฝ่ายรับได้ และกรีซ ไม่คิดออกจากอียู เรื่องก็คงจบด้วยดี จบแบบ ยังพอรักษาหน้า รักษาไมตรี ต่อกัน กรีซก็ได้อย่างที่ต้องการ ได้เอาโซ่ออกจากคอ ส่วนเจ้าหนี้ก็คงขาดโอกาส ที่จะใช้โซ่รัดคอกรีซต่อไป แต่ไม่เป็นไร เชื่อสายอัศวินนักล่าใบตองแห้ง ปลิ้นปล้อนต่อไปได้ว่า เห็นแก่มนุษยธรรม พูดเอาบุญเอาคุณไปได้อีกนาน คนที่จะช้ำหน่อย น่าจะเป็นป้าเข็มขัดเหล็ก เพราะลั่นปากออกสื่อไปแล้ว ว่าจะไม่ให้กู้เพิ่มแล้วถ้าไม่รัดโซ่ให้แน่นกว่านี้ นี่โซ่ก็ถูกตัดแต่ยังต้องอุ้มเขาต่อ ป้าก็คงต้องหุบปากบ้าง ไม่งั้นเรื่องเงินกู้กรีซ รอบแรก ที่แบงค์เยอรมันได้ไปก่อน คราวนี้ รับรองมีคนเอามาแฉใหม่แน่ แต่มันแสนจะคุ้ม ที่สะกัดทางคุณพี่ปูติน ที่คิดจะเข้าอียูผ่านกรีก แล้วคุณพี่ปูติน ที่คิดจะเข้ามาเดินเล่นแถวกรีซล่ะ คุณพี่เขาก็เปลี่ยนวิธีเดินหมากได้ไหม่แน่นอน แชมป์หมากรุก ยอมมองทางออกทั้งกระดาน จะเดินตาไหนต่อ ก็คอยดูกันไป แต่คิดให้ดี ถ้าไม่มีข่าวคุณพี่ปูตินโทรหาคุณน้องอเล็กซิส รับรอง ทางเลือกที่หนึ่งนี่ ไม่มีทางเกิดขึ้น ทางเลือกที่สอง : กรีซเหม็นเบื่ออียูเต็มที ถึงเจ้าหนี้จะตกลง ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ แต่กรีซบอกไม่เอาแล้ว เดี๋ยวให้ เดี๋ยวไม่ให้ เราจบกันแค่นี้ดีกว่า เอะ แล้วกรีซจะเอาเงินที่ไหนมาใช้ IMF สิ้นเดือนนี้ 1.6 พันล้าน ยูโร อย่านึกว่าคุณพี่ปูตินจะตกลงด้วยง่ายๆ นะครับ ให้ยืมน่ะเรื่องนึง ถ้าคุณพี่ตกปาก แล้วคงไม่เบี้ยว แต่ยืมเอาไปใช้หนี้เต็มราคา ไม่มีลดค่าหน้าตั๋ว ไม่มี ตัดผม haircut ผมเป็นคุณพี่ปูติน ผมไม่ให้ยืมหรอก เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าลูกหนี้ล้มละลาย ก็พวกไอ้หมาไนของมันบอกเอง เจ้าหนี้หวังให้ใช้หนี้เต็มร้อย ก็ฝันไปหน่อย ตอน ปี ค.ศ.2012 เมื่อเห็นกันชัดๆ เต็มลูกตา ว่าวิธีเอาเงินกู้มาจ่ายเจ้าหนี้ทั้งก้อน วนไปวนมา หนี้กรีซก็ไม่มีวันลด คุณป้าเข็มขัดเหล็ก เลยเสียงเขียวให้เจ้าหนี้เอกชน ลดหนี้ ตัดผม haircut กันบ้าง มีต้ังแต่ ลด 50% ไปถึงลด 80 % เหลือ 20 ยังดีกว่าไม่ได้อะไรเลย แล้วก็ให้ไปแลกกับตั๋วใหม่ เขาว่า มีกองทุนแร้งลง ซื้อตั๋วใหม่พวกนี้อีกต่อ ราคาถูกลงไปอีก ไปเก็งกำไรอีกต่อ แล้วคิดว่าแบบนี้คุณพี่ปูติน จะจ่ายให้ IMF เต็มร้อยไหม เผลอๆ เรื่อง รัสเซีย จะให้เงินกู้กรีซ เป็นเรื่องสมต้มกัน ตกลงวิธีนี้จะไปได้ ก็ต่อเมื่อ IMF ลดหนี้ให้ แล้วถ้า IMF ก็เดาอยู่แล้ว ว่าเงินอาจจะมาจากไหน คิดว่า IMF จะลดหนี้ให้ไหม คุณนายหน้าเค็มไม่ยอมหน้าจืดหรอกครับ ลืมไปได้เลย ทางเลือกที่สาม : เหมือนทางเลือกที่สอง แต่ยังไม่ใช้หนี้ IMF เรียกว่า ตัดโซ่คล้องคอของเจ้าหนี้ ตัดเชือกผูกกับ อียู ยอมให้เขาว่าเป็นประเทศล้มละลาย ต้ังหน้าต้ังตา สร้างบ้านเมืองใหม่ แบบนี้ อาจจะมีเจ้าหนี้จูงกันมาให้กู้แบบดอกต่ำ เงื่อนไขไม่โหด แต่กรีซใจถึงไหม ที่จะเล่นบทนี้ บทนี้มันต้องใจถึงกันทั้งประเทศ ทางเลือกของกรีซ ก็คงมีเท่านี้ ส่วนทางเลือกของเจ้าหนี้ มีแค่ 2 ทาง ทางเลือกที่หนึ่ง : ก็เหมือนทางเลือกที่หนึ่งของกรีซนั่นแหละ แค่เสียหน้า แต่ระบบแบงค์ยังปลอดภัย ที่สำคัญ ทางภูมิศาสตร์การเมือง ปิดทางเข้าอียูของรัสเซียผ่านกรีซ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม แผ่นดินไหวไม่มี ซึนามิการเมืองไม่เกิดขึ้น แต่รายการนี้ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเจ้าหนี้ข้างเดียว ต้องถามใจกรีซด้วย ทางเลือกที่สอง : เจ้าหนี้ไม่ขยับ ไม่ปล่อยเงินกู้ก้อนใหม่ให้ ไม่ผ่อนเวลาให้ ยึดแน่นกับเงื่อนไขโหด แถมจะเพิ่ม ให้โซ่คล้องคอกรีซรัดแน่นกว่าเดิม ทำไมหรือ ก็ยังกินไม่อิ่ม ไม่มีอะไรมาก ยิ่งท่อแก๊สรัสเซียจะมา ยิ่งอร่อย ยึดมาใช้หนี้เสียเลยดีไหม และเชื่อว่ารัสเซียไม่มีปัญญา ที่จะเข้ามาชำระหนี้ก้อนใหญ่ให้กรีซ ถ้าเจ้าหนี้เลือกทางนี้ ไม่ต้องวิเคราะห์มากครับ รับรอง มีทั้งแผ่นดินไหว อาฟเตอร์ช็อก ซึนามิทางการเงิน เศรษฐกิจ และการเมืองครบถ้วน อาจจะเลยเป็นชนวนสงครามโลกแทนยูเครน ที่นางเหยี่ยวรับหน้าที่มาจุดให้ไอ้นักล่าใบตองแห้งด้วยก็ได้ ใครมันจะยอมให้หยามหน้า รังแกกันมากขนาดนั้น แล้วกลับบ้านนอนสบาย สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 28 มิ.ย. 2558 หมายเหตุ: เขียนนิทานจบไปแล้ว ต้ังเวลาโพสต์ล่วงหน้า เตรียมเข้านอน เช็คข่าวล่าสุด ทำเอานอนไม่ได้ ต้องกลับมานั่งเขียนต่อ ล่าสุด วันที่ 27 มิถุนายน มีข่าวออกมาตอนค่ำบ้านเรา บอกว่า นายกรัฐมนตรีกรีซ พูดว่า เราคงเดินหน้าโดยมีโซ่คล้องคอแบบนี้ไม่ไหว เขาจึงออกทีวี ประกาศว่า เขาจะจัดให้มีการทำประชามติ ในวันที่ 5 กรกฏาคม นี้ ว่า ประะชาชนจะเอายังไง yes หรือ no กับ การกู้เงินต่อไป คำพูดของนายกรัฐมนตรีกรีซ อาจเป็นประโยคประวัติศาสตร์ ที่ต้องจดจำ หรือมีการอ้างถึงต่อไป ” กระผมขอให้ท่านตัดสินใจ ด้วยสำนึกในประวัติศาสตร์ แห่งความเป็นประเทศเอกราชและมีศักดิ์ศรีของกรีซ ว่าเราจำเป็นหรือไม่ ที่ต้องรับการยื่นคำขาด ที่เสมือนเป็นการเหยียดหยามเรา ที่บีบคั้นเราอย่างรุนแรงและไม่มีที่สิ้นสุด และไม่มีแนวทางให้เราเห็นแม้แต่น้อย ว่าเรา จะมีโอกาสยืนด้วยสองเท้าของเราเองได้อีกหรือไม่ ทั้งในด้านสังคมและทางด้านการเงิน ประชาชนจะต้องตัดสินใจ โดยปราศจากความกดดัน จากการยื่นคำขาดดังกล่าว” “I call uopn you to decide – with sovereignty and dignity as Greek history demands- whether we should accept the extortionate ultimatum that calls for strict and humiliating austerity without end, and without the prospect of ever standing on our own two feet, socially and financially. The people must decide free of any blackmail..” เป็นคำประกาศของคนหนุ่ม ที่ “แรง” เกือบจะเป็นการประกาศสงครามเชียวนะ ขณะเดียวกัน ฝ่ายเจ้าหนี้ โดยนายเจริญ Jeroen Dijsselbloem รัฐมนตรีคลังของดัชท์ ที่เป็นประธานที่ประชุมเจ้าหนี้ เมื่อได้รับถุงมือขาวของหนุ่มกรีก ก็รีบออกข่าวว่า เมื่อนายกรัฐมนตรีกรีซประกาศเช่นนี้ ก็ น่าจะแปลว่ากรีซ ไม่รับข้อเสนอของฝ่ายเจ้าหนี้ และการเจรจาก็น่าจะสดุดหยุดลง เมื่อไม่มีข้อตกลง กรีก ก็ต้องหาเงินมาชำระหนี้ จำนวน 1.6 พันล้านยูโร ให้กับ IMF ทีจะถึงชำระในวันที่ 30 มิถุนายนนี้ ก่อนหน้านั้น เล็กน้อย คุณน้องยานิสของผม ก็แจ้งในที่ประชุมรัฐมนตรีคลังของอียู ว่า กรีซ ขอ เลื่อนกำหนด วันตัดสินประหารขีวิตออกไปสัก 2 สัปดาห์ได้ไหม เพราะ เขาจะทำประชามติ กัน มันเป็นเรื่องเกี่ยวพันกับชีวิตพวกเขา ให้พวกเขามีสิทธิมีเสียงตามประชาธิปไตยบ้าง ที่ประชุมอียู ตอบสั้นๆ ว่าไม่ได้ คุณน้องยานิส ก็เก็บของ เดินออกจากห้องประชุม ฝ่ายเจ้าหนี้ โดยรัฐมนตรีคลังของฟินแลนด์ ออกมาบอกว่า ตอนนี้ แปลว่า ต้องเปลี่ยนเอา แผนสำรอง มาเป็นแผนจริงแล้ว แปลว่าอะไรครับ ช่วยกลับไปอ่านนิทานข้างต้นอีกที แปลว่า แผ่นดินเริ่มไหว จะขนาดไหน วันจันทร์ก็คงรู้ ที่กุมๆกันไว้ในกระเป๋า ก็คงเริ่มทยอยเอาออกมาใช้กัน แต่เกมนี้ยังไม่จบง่ายๆ ดูกันต่อครับ จะกินบ้าน กู้เมืองกัน มันไม่ใช่เล่นเกมกด เกมชิงเมืองนี้ อาจลามไปไกล…จะกลายเป็นเกทับบลั้ฟแหลกกันขนาดไหน หรือ ของจริงแอบแจม ได้ทั้งสิ้น แต่อย่างน้อย วันนี้ ผมขอคารวะหนุ่มกรีก สำหรับประโยคเดินนำออกจากคอก ที่ คนรักบ้านรักเมือง รักศักดิ์ศรี ไม่ว่าจะเป็นคนชาติไหน ก็ต้องซึ้งใจ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 28 มิ.ย 58
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
  • Doxing, Sealioning, and Rage Farming: The Language of Online Harassment and Disinformation

    We know all too well that the internet isn’t all fun memes and hamster videos. The darker side of online life is home to trolls, spammers, and many varieties of toxic behavior, spanning from tactics intended to harass one person to nefarious attempts to spread harmful disinformation as widely as possible. For many of the practices that play out exclusively online, specialized terms have emerged, allowing us to name and shine a light on some of these actions—and their real-life consequences.

    sealioning
    Sealioning is a specific type of trolling. The general term trolling refers to harassing someone online with the intent of getting a (negative) reaction out of them. In the case of sealioning, a troll will relentlessly harass someone with questions or requests for evidence in an attempt to upset them and make their position or viewpoint seem weak or unreasonable. Sealioning is often disguised as earnest curiosity or interest in debate, but the real goal is to troll someone until they get angry or upset.

    Sealioning is a common trolling tactic used on social media. For example, a Twitter user might say that they support a higher minimum wage. In response, a sealioning troll might repeatedly and relentlessly ask them for sources that would prove the merits of higher pay scales or demand that they write detailed explanations of how increased wages have affected the economies of the world. The troll will not stop until the other person angrily lashes out (or blocks them), thus allowing the troll to paint themselves as the victim and then claim to have won the “debate” over the issue. Those who engage in sealioning are never actually interested in legitimately debating—the point is to harass and attempt to diminish.

    doxing
    Doxing, or doxxing, is the act of publishing someone’s personal information or revealing their identity without their consent. The term comes from the word docs (short for documents). Doxing is often done in an attempt to intimidate someone by invading their privacy and causing them to fear for their safety, especially due to the threats they often receive after having been doxed.

    In many cases, doxing involves revealing the identity and information of people who were otherwise anonymous or using an alias. For example, a hacker might post the real name and home address of a popular streamer or influencer who is otherwise known by a fake name. Sometimes, celebrities are the target of doxing. In one prominent incident in 2013, several high-profile celebrities, including Beyoncé and Kim Kardashian, were the victims of doxing after a hacker publicly revealed their addresses, social security numbers, and financial documents online. In a more recent instance, a Twitch gaming streamer known online as XQc was doxed and then repeatedly targeted with the practice known as swatting.

    swatting
    The term swatting refers to the practice of initiating a law enforcement response on an unsuspecting victim. Though swatting results in real-world actions, it often originates online or with the aid of digital means, such as by using software to anonymously contact 911 and report a threat or illegal activity at the target’s residence. The practice is especially used to target public figures. The word is based on the term SWAT, referring to the special police tactical units that respond to emergencies. Obviously, swatting is extremely dangerous due to the unpredictable nature of such scenarios, when law enforcement officials believe they are entering a highly dangerous situation.

    brigading
    In online contexts, the word brigading refers to a practice in which people join together to perform a coordinated action, such as rigging an online poll, downvoting or disliking content, or harassing a specific individual or group. Brigading is similar to the online practice known as dogpiling, which involves many people joining in on the act of insulting or harassing someone. Unlike dogpiling, which may be spontaneous, brigading typically follows a coordinated plan.

    Both the practice and the name for it are often traced to the forum website Reddit, where brigading (which is explicitly against the site’s rules) typically involves one community joining together to mass downvote content or to disrupt a community by posting a large amount of spam, abuse, or trolling comments. For example, a person who posts a negative review of a TV show may be targeted by users of that show’s fan forum, whose brigading might consist of messaging the original poster with abusive comments.

    firehosing
    Firehosing is a propaganda tactic that involves releasing a large amount of false information in a very short amount of time. Due to the resources often needed to pull off such an expansive disinformation strategy, the term firehosing is most often used to refer to the alleged actions of large organizations or governments.

    For example, the term firehosing has been used to describe Russian propaganda during the 2014 annexation of Crimea and the 2022 invasion of Ukraine; Chinese propaganda in response to reporting on Uyghur Muslims in 2021; and numerous incidents in which President Donald Trump and members of his administration were accused of spreading false information.

    astroturfing
    Astroturfing is a deception tactic in which an organized effort is used to create the illusion of widespread, spontaneous support for something. The goal of astroturfing is to give the false impression that something has wide support from a passionate grassroots campaign when in reality the effort is (secretly) motivated by a person or group’s personal interest. Like firehosing, the term astroturfing is often used in the context of large organizations and governments due to the resources needed to perform it.

    For example, the term has been repeatedly applied to the deceptive information practices allegedly used by the Russian government, such as attempts to create the perception of universal support for Russian president Vladimir Putin or to create the illusion of widespread opposition to Ukrainian president Volodymyr Zelenskyy during the 2022 Russian invasion of Ukraine. Elsewhere, astroturfing has been used by the media and public figures to describe attempts by businesses and special interest groups to falsely create the impression of popular support, such as for fracking, vaping, and denial of the existence of climate change.

    rage farming
    Rage farming is a slang term that refers to the practice of posting intentionally provocative political content in order to take advantage of a negative reaction that garners exposure and media attention.

    The term rage farming emerged in early 2022, first being used to describe a social media tactic used by conservative groups, such as the Texas Republican Party. The term was applied to the practice of purposefully posting provocative memes and other content in order to anger liberal opponents. The word farming in the term refers to its apparent goal of generating a large amount of critical and angry comments in hopes that the negative response draws media exposure and attention and attracts support—and donations—from like-minded people.

    สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    Doxing, Sealioning, and Rage Farming: The Language of Online Harassment and Disinformation We know all too well that the internet isn’t all fun memes and hamster videos. The darker side of online life is home to trolls, spammers, and many varieties of toxic behavior, spanning from tactics intended to harass one person to nefarious attempts to spread harmful disinformation as widely as possible. For many of the practices that play out exclusively online, specialized terms have emerged, allowing us to name and shine a light on some of these actions—and their real-life consequences. sealioning Sealioning is a specific type of trolling. The general term trolling refers to harassing someone online with the intent of getting a (negative) reaction out of them. In the case of sealioning, a troll will relentlessly harass someone with questions or requests for evidence in an attempt to upset them and make their position or viewpoint seem weak or unreasonable. Sealioning is often disguised as earnest curiosity or interest in debate, but the real goal is to troll someone until they get angry or upset. Sealioning is a common trolling tactic used on social media. For example, a Twitter user might say that they support a higher minimum wage. In response, a sealioning troll might repeatedly and relentlessly ask them for sources that would prove the merits of higher pay scales or demand that they write detailed explanations of how increased wages have affected the economies of the world. The troll will not stop until the other person angrily lashes out (or blocks them), thus allowing the troll to paint themselves as the victim and then claim to have won the “debate” over the issue. Those who engage in sealioning are never actually interested in legitimately debating—the point is to harass and attempt to diminish. doxing Doxing, or doxxing, is the act of publishing someone’s personal information or revealing their identity without their consent. The term comes from the word docs (short for documents). Doxing is often done in an attempt to intimidate someone by invading their privacy and causing them to fear for their safety, especially due to the threats they often receive after having been doxed. In many cases, doxing involves revealing the identity and information of people who were otherwise anonymous or using an alias. For example, a hacker might post the real name and home address of a popular streamer or influencer who is otherwise known by a fake name. Sometimes, celebrities are the target of doxing. In one prominent incident in 2013, several high-profile celebrities, including Beyoncé and Kim Kardashian, were the victims of doxing after a hacker publicly revealed their addresses, social security numbers, and financial documents online. In a more recent instance, a Twitch gaming streamer known online as XQc was doxed and then repeatedly targeted with the practice known as swatting. swatting The term swatting refers to the practice of initiating a law enforcement response on an unsuspecting victim. Though swatting results in real-world actions, it often originates online or with the aid of digital means, such as by using software to anonymously contact 911 and report a threat or illegal activity at the target’s residence. The practice is especially used to target public figures. The word is based on the term SWAT, referring to the special police tactical units that respond to emergencies. Obviously, swatting is extremely dangerous due to the unpredictable nature of such scenarios, when law enforcement officials believe they are entering a highly dangerous situation. brigading In online contexts, the word brigading refers to a practice in which people join together to perform a coordinated action, such as rigging an online poll, downvoting or disliking content, or harassing a specific individual or group. Brigading is similar to the online practice known as dogpiling, which involves many people joining in on the act of insulting or harassing someone. Unlike dogpiling, which may be spontaneous, brigading typically follows a coordinated plan. Both the practice and the name for it are often traced to the forum website Reddit, where brigading (which is explicitly against the site’s rules) typically involves one community joining together to mass downvote content or to disrupt a community by posting a large amount of spam, abuse, or trolling comments. For example, a person who posts a negative review of a TV show may be targeted by users of that show’s fan forum, whose brigading might consist of messaging the original poster with abusive comments. firehosing Firehosing is a propaganda tactic that involves releasing a large amount of false information in a very short amount of time. Due to the resources often needed to pull off such an expansive disinformation strategy, the term firehosing is most often used to refer to the alleged actions of large organizations or governments. For example, the term firehosing has been used to describe Russian propaganda during the 2014 annexation of Crimea and the 2022 invasion of Ukraine; Chinese propaganda in response to reporting on Uyghur Muslims in 2021; and numerous incidents in which President Donald Trump and members of his administration were accused of spreading false information. astroturfing Astroturfing is a deception tactic in which an organized effort is used to create the illusion of widespread, spontaneous support for something. The goal of astroturfing is to give the false impression that something has wide support from a passionate grassroots campaign when in reality the effort is (secretly) motivated by a person or group’s personal interest. Like firehosing, the term astroturfing is often used in the context of large organizations and governments due to the resources needed to perform it. For example, the term has been repeatedly applied to the deceptive information practices allegedly used by the Russian government, such as attempts to create the perception of universal support for Russian president Vladimir Putin or to create the illusion of widespread opposition to Ukrainian president Volodymyr Zelenskyy during the 2022 Russian invasion of Ukraine. Elsewhere, astroturfing has been used by the media and public figures to describe attempts by businesses and special interest groups to falsely create the impression of popular support, such as for fracking, vaping, and denial of the existence of climate change. rage farming Rage farming is a slang term that refers to the practice of posting intentionally provocative political content in order to take advantage of a negative reaction that garners exposure and media attention. The term rage farming emerged in early 2022, first being used to describe a social media tactic used by conservative groups, such as the Texas Republican Party. The term was applied to the practice of purposefully posting provocative memes and other content in order to anger liberal opponents. The word farming in the term refers to its apparent goal of generating a large amount of critical and angry comments in hopes that the negative response draws media exposure and attention and attracts support—and donations—from like-minded people. สงวนลิขสิทธิ์ © 2025 AAKKHRA & Co.
    0 Comments 0 Shares 211 Views 0 Reviews
  • ส่วนขยาย Chrome ปลอมขโมย Seed Phrase ผ่าน Sui Blockchain

    ทีมวิจัยจาก Socket Threat Research พบส่วนขยาย Chrome ที่อ้างว่าเป็นกระเป๋าเงิน Ethereum ชื่อ Safery: Ethereum Wallet ซึ่งถูกเผยแพร่ใน Chrome Web Store และปรากฏใกล้เคียงกับกระเป๋าเงินที่ถูกต้องอย่าง MetaMask และ Enkrypt จุดอันตรายคือส่วนขยายนี้สามารถ ขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้ ได้ทันทีที่มีการสร้างหรือ Import Wallet

    สิ่งที่ทำให้การโจมตีนี้แตกต่างคือ การซ่อนข้อมูลในธุรกรรมบล็อกเชน Sui โดยส่วนขยายจะเข้ารหัส Seed Phrase ของเหยื่อเป็นที่อยู่ปลอมบน Sui และส่งธุรกรรมเล็กๆ (0.000001 SUI) ไปยังที่อยู่นั้น จากนั้นผู้โจมตีสามารถถอดรหัสกลับมาเป็น Seed Phrase ได้โดยตรงจากข้อมูลบนบล็อกเชน โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์กลางหรือการส่งข้อมูลผ่าน HTTP

    การทำงานเช่นนี้ทำให้การโจมตี ยากต่อการตรวจจับ เพราะทุกอย่างดูเหมือนธุรกรรมปกติบนบล็อกเชน ไม่มีการติดต่อกับ Command & Control Server และไม่มีการส่งข้อมูลแบบ plaintext ออกไปนอกเบราว์เซอร์

    แม้ Socket ได้แจ้ง Google แล้ว แต่ในช่วงเวลาที่รายงานเผยแพร่ ส่วนขยายนี้ยังคงสามารถดาวน์โหลดได้ใน Chrome Web Store ทำให้ผู้ใช้ที่กำลังมองหากระเป๋าเงินเบาๆ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีและสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัล

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบส่วนขยายปลอม Safery: Ethereum Wallet
    ปรากฏใน Chrome Web Store ใกล้กับกระเป๋าเงินที่ถูกต้อง
    ทำงานเหมือนกระเป๋าเงินปกติ แต่แอบขโมย Seed Phrase

    วิธีการโจมตี
    เข้ารหัส Seed Phrase เป็นที่อยู่ปลอมบน Sui Blockchain
    ส่งธุรกรรมเล็กๆ เพื่อซ่อนข้อมูลโดยไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์กลาง

    ความยากในการตรวจจับ
    ไม่มีการส่งข้อมูลผ่าน HTTP หรือ C2 Server
    ทุกอย่างดูเหมือนธุรกรรมปกติบนบล็อกเชน

    คำเตือนต่อผู้ใช้งาน
    ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดส่วนขยายนี้เสี่ยงต่อการสูญเสียคริปโตทั้งหมด
    ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของส่วนขยายก่อนติดตั้ง และใช้กระเป๋าเงินจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น

    https://securityonline.info/sui-blockchain-seed-stealer-malicious-chrome-extension-hides-mnemonic-exfiltration-in-microtransactions/
    🕵️‍♂️ ส่วนขยาย Chrome ปลอมขโมย Seed Phrase ผ่าน Sui Blockchain ทีมวิจัยจาก Socket Threat Research พบส่วนขยาย Chrome ที่อ้างว่าเป็นกระเป๋าเงิน Ethereum ชื่อ Safery: Ethereum Wallet ซึ่งถูกเผยแพร่ใน Chrome Web Store และปรากฏใกล้เคียงกับกระเป๋าเงินที่ถูกต้องอย่าง MetaMask และ Enkrypt จุดอันตรายคือส่วนขยายนี้สามารถ ขโมย Seed Phrase ของผู้ใช้ ได้ทันทีที่มีการสร้างหรือ Import Wallet สิ่งที่ทำให้การโจมตีนี้แตกต่างคือ การซ่อนข้อมูลในธุรกรรมบล็อกเชน Sui โดยส่วนขยายจะเข้ารหัส Seed Phrase ของเหยื่อเป็นที่อยู่ปลอมบน Sui และส่งธุรกรรมเล็กๆ (0.000001 SUI) ไปยังที่อยู่นั้น จากนั้นผู้โจมตีสามารถถอดรหัสกลับมาเป็น Seed Phrase ได้โดยตรงจากข้อมูลบนบล็อกเชน โดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์กลางหรือการส่งข้อมูลผ่าน HTTP การทำงานเช่นนี้ทำให้การโจมตี ยากต่อการตรวจจับ เพราะทุกอย่างดูเหมือนธุรกรรมปกติบนบล็อกเชน ไม่มีการติดต่อกับ Command & Control Server และไม่มีการส่งข้อมูลแบบ plaintext ออกไปนอกเบราว์เซอร์ แม้ Socket ได้แจ้ง Google แล้ว แต่ในช่วงเวลาที่รายงานเผยแพร่ ส่วนขยายนี้ยังคงสามารถดาวน์โหลดได้ใน Chrome Web Store ทำให้ผู้ใช้ที่กำลังมองหากระเป๋าเงินเบาๆ เสี่ยงต่อการถูกโจมตีและสูญเสียสินทรัพย์ดิจิทัล 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบส่วนขยายปลอม Safery: Ethereum Wallet ➡️ ปรากฏใน Chrome Web Store ใกล้กับกระเป๋าเงินที่ถูกต้อง ➡️ ทำงานเหมือนกระเป๋าเงินปกติ แต่แอบขโมย Seed Phrase ✅ วิธีการโจมตี ➡️ เข้ารหัส Seed Phrase เป็นที่อยู่ปลอมบน Sui Blockchain ➡️ ส่งธุรกรรมเล็กๆ เพื่อซ่อนข้อมูลโดยไม่ใช้เซิร์ฟเวอร์กลาง ✅ ความยากในการตรวจจับ ➡️ ไม่มีการส่งข้อมูลผ่าน HTTP หรือ C2 Server ➡️ ทุกอย่างดูเหมือนธุรกรรมปกติบนบล็อกเชน ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้งาน ⛔ ผู้ใช้ที่ดาวน์โหลดส่วนขยายนี้เสี่ยงต่อการสูญเสียคริปโตทั้งหมด ⛔ ควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของส่วนขยายก่อนติดตั้ง และใช้กระเป๋าเงินจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่านั้น https://securityonline.info/sui-blockchain-seed-stealer-malicious-chrome-extension-hides-mnemonic-exfiltration-in-microtransactions/
    SECURITYONLINE.INFO
    Sui Blockchain Seed Stealer: Malicious Chrome Extension Hides Mnemonic Exfiltration in Microtransactions
    A malicious Chrome extension, Safery: Ethereum Wallet, steals BIP-39 seed phrases by encoding them into synthetic Sui blockchain addresses and broadcasting microtransactions, bypassing HTTP/C2 detection.
    0 Comments 0 Shares 156 Views 0 Reviews
  • Qualcomm เปิดตัว Dragonwing IQ-X: พลัง AI 45 TOPS สำหรับโรงงานอัจฉริยะ

    Qualcomm ประกาศเปิดตัวซีรีส์ Dragonwing IQ-X ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ Industrial PCs (IPCs) และระบบควบคุมในโรงงาน โดยใช้สถาปัตยกรรม Oryon CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งการทำงานแบบ Single-thread และ Multi-thread จุดเด่นคือการรวม Neural Processing Unit (NPU) ที่สามารถประมวลผล AI ได้สูงสุดถึง 45 TOPS ทำให้สามารถรันงาน AI ได้โดยตรงบนอุปกรณ์โดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud

    ซีรีส์นี้ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm และมีคอร์ประสิทธิภาพสูง 8–12 คอร์ รองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่รุนแรง โดยสามารถทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิ –40°C ถึง 105°C นอกจากนี้ยังรองรับ Windows 11 IoT Enterprise LTSC และเครื่องมือมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น Qt, CODESYS และ EtherCAT

    Qualcomm เน้นว่าการออกแบบ Dragonwing IQ-X ใช้ COM form factor ทำให้สามารถนำไปใช้แทนบอร์ดเดิมได้ทันทีโดยไม่ต้องเพิ่มโมดูล AI หรือมัลติมีเดียภายนอก ช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับใช้ในระบบอุตสาหกรรม

    ผู้ผลิตรายใหญ่หลายราย เช่น Advantech, NEXCOM, Portwell, Congatec, Kontron, Tria และ SECO ได้เริ่มนำ Dragonwing IQ-X ไปใช้ในผลิตภัณฑ์แล้ว โดยคาดว่าอุปกรณ์เชิงพาณิชย์ที่ใช้ซีรีส์นี้จะเริ่มวางจำหน่ายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Dragonwing IQ-X เปิดตัวเพื่อ Industrial PCs
    ใช้สถาปัตยกรรม Oryon CPU พร้อม NPU 45 TOPS
    รองรับงาน AI เช่น Predictive Maintenance และ Defect Detection

    คุณสมบัติทางเทคนิค
    ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm
    มีคอร์ 8–12 คอร์ และรองรับอุณหภูมิ –40°C ถึง 105°C

    การรองรับซอฟต์แวร์
    รองรับ Windows 11 IoT Enterprise LTSC
    ใช้เครื่องมือมาตรฐาน เช่น Qt, CODESYS, EtherCAT

    การนำไปใช้จริง
    ใช้ COM form factor ลดต้นทุน BOM
    ผู้ผลิตรายใหญ่หลายรายเริ่มนำไปใช้แล้ว

    คำเตือนต่อผู้ใช้งานอุตสาหกรรม
    หากไม่อัปเดตระบบให้รองรับ AI อาจเสียเปรียบด้านประสิทธิภาพและต้นทุน
    การละเลยการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่อาจทำให้ระบบโรงงานล้าหลังในการแข่งขัน

    https://securityonline.info/qualcomm-launches-dragonwing-iq-x-oryon-cpu-brings-45-tops-edge-ai-to-factory-pcs/
    ⚙️ Qualcomm เปิดตัว Dragonwing IQ-X: พลัง AI 45 TOPS สำหรับโรงงานอัจฉริยะ Qualcomm ประกาศเปิดตัวซีรีส์ Dragonwing IQ-X ซึ่งเป็นโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อ Industrial PCs (IPCs) และระบบควบคุมในโรงงาน โดยใช้สถาปัตยกรรม Oryon CPU ที่มีประสิทธิภาพสูงทั้งการทำงานแบบ Single-thread และ Multi-thread จุดเด่นคือการรวม Neural Processing Unit (NPU) ที่สามารถประมวลผล AI ได้สูงสุดถึง 45 TOPS ทำให้สามารถรันงาน AI ได้โดยตรงบนอุปกรณ์โดยไม่ต้องพึ่งพา Cloud ซีรีส์นี้ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm และมีคอร์ประสิทธิภาพสูง 8–12 คอร์ รองรับการทำงานในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่รุนแรง โดยสามารถทำงานได้ในช่วงอุณหภูมิ –40°C ถึง 105°C นอกจากนี้ยังรองรับ Windows 11 IoT Enterprise LTSC และเครื่องมือมาตรฐานอุตสาหกรรม เช่น Qt, CODESYS และ EtherCAT Qualcomm เน้นว่าการออกแบบ Dragonwing IQ-X ใช้ COM form factor ทำให้สามารถนำไปใช้แทนบอร์ดเดิมได้ทันทีโดยไม่ต้องเพิ่มโมดูล AI หรือมัลติมีเดียภายนอก ช่วยลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับใช้ในระบบอุตสาหกรรม ผู้ผลิตรายใหญ่หลายราย เช่น Advantech, NEXCOM, Portwell, Congatec, Kontron, Tria และ SECO ได้เริ่มนำ Dragonwing IQ-X ไปใช้ในผลิตภัณฑ์แล้ว โดยคาดว่าอุปกรณ์เชิงพาณิชย์ที่ใช้ซีรีส์นี้จะเริ่มวางจำหน่ายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Dragonwing IQ-X เปิดตัวเพื่อ Industrial PCs ➡️ ใช้สถาปัตยกรรม Oryon CPU พร้อม NPU 45 TOPS ➡️ รองรับงาน AI เช่น Predictive Maintenance และ Defect Detection ✅ คุณสมบัติทางเทคนิค ➡️ ผลิตด้วยเทคโนโลยี 4nm ➡️ มีคอร์ 8–12 คอร์ และรองรับอุณหภูมิ –40°C ถึง 105°C ✅ การรองรับซอฟต์แวร์ ➡️ รองรับ Windows 11 IoT Enterprise LTSC ➡️ ใช้เครื่องมือมาตรฐาน เช่น Qt, CODESYS, EtherCAT ✅ การนำไปใช้จริง ➡️ ใช้ COM form factor ลดต้นทุน BOM ➡️ ผู้ผลิตรายใหญ่หลายรายเริ่มนำไปใช้แล้ว ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้งานอุตสาหกรรม ⛔ หากไม่อัปเดตระบบให้รองรับ AI อาจเสียเปรียบด้านประสิทธิภาพและต้นทุน ⛔ การละเลยการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่อาจทำให้ระบบโรงงานล้าหลังในการแข่งขัน https://securityonline.info/qualcomm-launches-dragonwing-iq-x-oryon-cpu-brings-45-tops-edge-ai-to-factory-pcs/
    SECURITYONLINE.INFO
    Qualcomm Launches Dragonwing IQ-X: Oryon CPU Brings 45 TOPS Edge AI to Factory PCs
    Qualcomm launches Dragonwing IQ-X, its first industrial PC processor with Oryon CPUs, 45 TOPS of AI power, and a rugged design for factory edge controllers.
    0 Comments 0 Shares 148 Views 0 Reviews
  • ส่วนขยาย Chrome ปลอมที่แฝงตัวเป็น Ethereum Wallet

    นักวิจัยจาก Socket พบส่วนขยายชื่อ Safery: Ethereum Wallet ที่ปรากฏใน Chrome Web Store และดูเหมือนเป็นกระเป๋าเงินคริปโตทั่วไป. มันสามารถสร้างบัญชีใหม่, นำเข้า seed phrase, แสดงยอดคงเหลือ และส่ง ETH ได้ตามปกติ ทำให้ผู้ใช้เชื่อว่าเป็นกระเป๋าเงินที่ปลอดภัย.

    เทคนิคการขโมย Seed Phrase แบบแนบเนียน
    เมื่อผู้ใช้สร้างหรือใส่ seed phrase ส่วนขยายจะเข้ารหัสคำเหล่านั้นเป็น ที่อยู่ปลอมบน Sui blockchain และส่งธุรกรรมเล็ก ๆ (0.000001 SUI) ไปยังที่อยู่นั้น. ข้อมูล seed phrase ถูกซ่อนอยู่ในธุรกรรม ทำให้ไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ C2 หรือการส่งข้อมูลผ่าน HTTP. ภายหลังผู้โจมตีสามารถถอดรหัสธุรกรรมเหล่านี้เพื่อกู้คืน seed phrase ได้ครบถ้วน.

    ความแตกต่างจากมัลแวร์ทั่วไป
    มัลแวร์นี้ไม่ส่งข้อมูลออกทางอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่ใช้ ธุรกรรมบล็อกเชนเป็นช่องทางลับ ทำให้ยากต่อการตรวจจับโดยระบบรักษาความปลอดภัย. ไม่มีการส่งข้อมูล plaintext, ไม่มีเซิร์ฟเวอร์กลาง และไม่มีการเรียก API ที่ผิดปกติ. วิธีนี้ถือเป็นการใช้บล็อกเชนเป็น “ช่องทางสื่อสาร” ที่ปลอดภัยสำหรับผู้โจมตี.

    ความเสี่ยงต่อผู้ใช้
    แม้ส่วนขยายนี้ยังคงอยู่ใน Chrome Web Store ณ เวลาที่รายงาน ผู้ใช้ที่ค้นหา “Ethereum Wallet” อาจเจอและติดตั้งโดยไม่รู้ตัว. การโจมตีรูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีเริ่มใช้ ธุรกรรมบล็อกเชนเป็นเครื่องมือขโมยข้อมูล ซึ่งอาจแพร่กระจายไปยังมัลแวร์อื่น ๆ ในอนาคต.

    ส่วนขยาย Safery: Ethereum Wallet
    ปลอมเป็นกระเป๋าเงิน Ethereum บน Chrome Web Store
    ทำงานเหมือนกระเป๋าเงินจริงเพื่อหลอกผู้ใช้

    เทคนิคการขโมย Seed Phrase
    เข้ารหัส seed phrase เป็นที่อยู่ปลอมบน Sui blockchain
    ส่งธุรกรรมเล็ก ๆ เพื่อซ่อนข้อมูล

    ความแตกต่างจากมัลแวร์ทั่วไป
    ไม่ใช้ HTTP หรือเซิร์ฟเวอร์ C2
    ใช้ธุรกรรมบล็อกเชนเป็นช่องทางลับ

    ความเสี่ยงและคำเตือน
    ส่วนขยายยังคงอยู่ใน Chrome Web Store
    ผู้ใช้ที่ค้นหา Ethereum Wallet อาจติดตั้งโดยไม่รู้ตัว
    การใช้บล็อกเชนเป็นช่องทางขโมยข้อมูลอาจแพร่ไปยังมัลแวร์อื่น

    https://securityonline.info/sui-blockchain-seed-stealer-malicious-chrome-extension-hides-mnemonic-exfiltration-in-microtransactions/
    🕵️‍♂️ ส่วนขยาย Chrome ปลอมที่แฝงตัวเป็น Ethereum Wallet นักวิจัยจาก Socket พบส่วนขยายชื่อ Safery: Ethereum Wallet ที่ปรากฏใน Chrome Web Store และดูเหมือนเป็นกระเป๋าเงินคริปโตทั่วไป. มันสามารถสร้างบัญชีใหม่, นำเข้า seed phrase, แสดงยอดคงเหลือ และส่ง ETH ได้ตามปกติ ทำให้ผู้ใช้เชื่อว่าเป็นกระเป๋าเงินที่ปลอดภัย. 🔐 เทคนิคการขโมย Seed Phrase แบบแนบเนียน เมื่อผู้ใช้สร้างหรือใส่ seed phrase ส่วนขยายจะเข้ารหัสคำเหล่านั้นเป็น ที่อยู่ปลอมบน Sui blockchain และส่งธุรกรรมเล็ก ๆ (0.000001 SUI) ไปยังที่อยู่นั้น. ข้อมูล seed phrase ถูกซ่อนอยู่ในธุรกรรม ทำให้ไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ C2 หรือการส่งข้อมูลผ่าน HTTP. ภายหลังผู้โจมตีสามารถถอดรหัสธุรกรรมเหล่านี้เพื่อกู้คืน seed phrase ได้ครบถ้วน. ⚡ ความแตกต่างจากมัลแวร์ทั่วไป มัลแวร์นี้ไม่ส่งข้อมูลออกทางอินเทอร์เน็ตโดยตรง แต่ใช้ ธุรกรรมบล็อกเชนเป็นช่องทางลับ ทำให้ยากต่อการตรวจจับโดยระบบรักษาความปลอดภัย. ไม่มีการส่งข้อมูล plaintext, ไม่มีเซิร์ฟเวอร์กลาง และไม่มีการเรียก API ที่ผิดปกติ. วิธีนี้ถือเป็นการใช้บล็อกเชนเป็น “ช่องทางสื่อสาร” ที่ปลอดภัยสำหรับผู้โจมตี. 🚨 ความเสี่ยงต่อผู้ใช้ แม้ส่วนขยายนี้ยังคงอยู่ใน Chrome Web Store ณ เวลาที่รายงาน ผู้ใช้ที่ค้นหา “Ethereum Wallet” อาจเจอและติดตั้งโดยไม่รู้ตัว. การโจมตีรูปแบบนี้แสดงให้เห็นว่าผู้โจมตีเริ่มใช้ ธุรกรรมบล็อกเชนเป็นเครื่องมือขโมยข้อมูล ซึ่งอาจแพร่กระจายไปยังมัลแวร์อื่น ๆ ในอนาคต. ✅ ส่วนขยาย Safery: Ethereum Wallet ➡️ ปลอมเป็นกระเป๋าเงิน Ethereum บน Chrome Web Store ➡️ ทำงานเหมือนกระเป๋าเงินจริงเพื่อหลอกผู้ใช้ ✅ เทคนิคการขโมย Seed Phrase ➡️ เข้ารหัส seed phrase เป็นที่อยู่ปลอมบน Sui blockchain ➡️ ส่งธุรกรรมเล็ก ๆ เพื่อซ่อนข้อมูล ✅ ความแตกต่างจากมัลแวร์ทั่วไป ➡️ ไม่ใช้ HTTP หรือเซิร์ฟเวอร์ C2 ➡️ ใช้ธุรกรรมบล็อกเชนเป็นช่องทางลับ ‼️ ความเสี่ยงและคำเตือน ⛔ ส่วนขยายยังคงอยู่ใน Chrome Web Store ⛔ ผู้ใช้ที่ค้นหา Ethereum Wallet อาจติดตั้งโดยไม่รู้ตัว ⛔ การใช้บล็อกเชนเป็นช่องทางขโมยข้อมูลอาจแพร่ไปยังมัลแวร์อื่น https://securityonline.info/sui-blockchain-seed-stealer-malicious-chrome-extension-hides-mnemonic-exfiltration-in-microtransactions/
    SECURITYONLINE.INFO
    Sui Blockchain Seed Stealer: Malicious Chrome Extension Hides Mnemonic Exfiltration in Microtransactions
    A malicious Chrome extension, Safery: Ethereum Wallet, steals BIP-39 seed phrases by encoding them into synthetic Sui blockchain addresses and broadcasting microtransactions, bypassing HTTP/C2 detection.
    0 Comments 0 Shares 98 Views 0 Reviews
  • Microsoft แก้ปัญหา Windows 10 ESU ติดตั้งไม่สำเร็จ

    Microsoft ได้ออกแพตช์ใหม่ KB5071959 เพื่อแก้ปัญหาที่ทำให้ผู้ใช้ Windows 10 ไม่สามารถติดตั้ง Extended Security Updates (ESU) ได้อย่างถูกต้อง ปัญหานี้เกิดขึ้นหลังจาก Windows 10 หมดอายุการสนับสนุนหลัก และผู้ใช้ที่สมัคร ESU กลับถูกแจ้งว่าเครื่องหมดอายุแล้ว แม้จะเป็นรุ่น Enterprise ที่ยังอยู่ในระยะซัพพอร์ต

    การแก้ไขครั้งนี้ครอบคลุมทั้งการปรับปรุงระบบ Cloud Config และการแก้บั๊กที่ทำให้ผู้ใช้ในยุโรปไม่สามารถลงทะเบียน ESU ได้ รวมถึงการแก้ปัญหาที่ทำให้เกิดข้อความ “Something went wrong” เมื่อสมัครผ่าน Windows Backup

    ESU ถือเป็นการต่ออายุการสนับสนุน Windows 10 อีก 1–3 ปี เพื่อให้ผู้ใช้ที่ยังไม่สามารถอัปเกรดไป Windows 11 ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยต่อไป แต่ต้องมีการสมัครสมาชิกหรือใช้คะแนนรางวัล Microsoft เพื่อเข้าร่วม

    Microsoft ออกแพตช์ KB5071959 แก้ปัญหา ESU
    แก้บั๊กที่ทำให้เครื่องแจ้งหมดอายุผิดพลาด

    ESU ต่ออายุการสนับสนุน Windows 10 อีก 1–3 ปี
    เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่สามารถอัปเกรดไป Windows 11

    ผู้ใช้สามารถสมัคร ESU ผ่าน Windows Backup หรือจ่ายเงิน
    ต้องมีบัญชี Microsoft เพื่อเข้าร่วม

    หากไม่เข้าร่วม ESU เครื่องจะเสี่ยงต่อการโจมตีไซเบอร์
    ไม่มีการอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติม

    ปัญหาการสมัคร ESU ในบางภูมิภาคยังคงเกิดขึ้น
    ผู้ใช้ต้องตรวจสอบว่ามีสิทธิ์เข้าร่วมจริงหรือไม่

    https://www.tomshardware.com/software/windows/microsoft-patches-windows-10-issue-that-accidentally-blocked-extended-security-updates-from-installing-latest-update-should-finally-fix-all-the-issues-for-esu-eligible-devices
    🪟 Microsoft แก้ปัญหา Windows 10 ESU ติดตั้งไม่สำเร็จ Microsoft ได้ออกแพตช์ใหม่ KB5071959 เพื่อแก้ปัญหาที่ทำให้ผู้ใช้ Windows 10 ไม่สามารถติดตั้ง Extended Security Updates (ESU) ได้อย่างถูกต้อง ปัญหานี้เกิดขึ้นหลังจาก Windows 10 หมดอายุการสนับสนุนหลัก และผู้ใช้ที่สมัคร ESU กลับถูกแจ้งว่าเครื่องหมดอายุแล้ว แม้จะเป็นรุ่น Enterprise ที่ยังอยู่ในระยะซัพพอร์ต การแก้ไขครั้งนี้ครอบคลุมทั้งการปรับปรุงระบบ Cloud Config และการแก้บั๊กที่ทำให้ผู้ใช้ในยุโรปไม่สามารถลงทะเบียน ESU ได้ รวมถึงการแก้ปัญหาที่ทำให้เกิดข้อความ “Something went wrong” เมื่อสมัครผ่าน Windows Backup ESU ถือเป็นการต่ออายุการสนับสนุน Windows 10 อีก 1–3 ปี เพื่อให้ผู้ใช้ที่ยังไม่สามารถอัปเกรดไป Windows 11 ได้รับการอัปเดตด้านความปลอดภัยต่อไป แต่ต้องมีการสมัครสมาชิกหรือใช้คะแนนรางวัล Microsoft เพื่อเข้าร่วม ✅ Microsoft ออกแพตช์ KB5071959 แก้ปัญหา ESU ➡️ แก้บั๊กที่ทำให้เครื่องแจ้งหมดอายุผิดพลาด ✅ ESU ต่ออายุการสนับสนุน Windows 10 อีก 1–3 ปี ➡️ เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ยังไม่สามารถอัปเกรดไป Windows 11 ✅ ผู้ใช้สามารถสมัคร ESU ผ่าน Windows Backup หรือจ่ายเงิน ➡️ ต้องมีบัญชี Microsoft เพื่อเข้าร่วม ‼️ หากไม่เข้าร่วม ESU เครื่องจะเสี่ยงต่อการโจมตีไซเบอร์ ⛔ ไม่มีการอัปเดตความปลอดภัยเพิ่มเติม ‼️ ปัญหาการสมัคร ESU ในบางภูมิภาคยังคงเกิดขึ้น ⛔ ผู้ใช้ต้องตรวจสอบว่ามีสิทธิ์เข้าร่วมจริงหรือไม่ https://www.tomshardware.com/software/windows/microsoft-patches-windows-10-issue-that-accidentally-blocked-extended-security-updates-from-installing-latest-update-should-finally-fix-all-the-issues-for-esu-eligible-devices
    0 Comments 0 Shares 120 Views 0 Reviews
  • หัวข้อข่าว: “Bitwise เปิดตัว Solana ETF จุดชนวนศึกคริปโตวอลล์สตรีท”

    วันที่ 28 ตุลาคม 2025 บริษัท Bitwise Asset Management ได้เปิดตัว Solana Staking ETF ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ติดตามราคาสปอตของ Solana — คริปโตอันดับ 6 ของโลก — โดยใช้กระบวนการใหม่ที่ไม่ต้องรอการอนุมัติอย่างเป็นทางการจาก SEC ที่กำลังปิดทำการอยู่ในขณะนั้น

    การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ Bitwise กลายเป็น ผู้เล่นรายแรก ที่เข้าสู่ตลาด ETF ของ altcoin และสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อคู่แข่ง เช่น Grayscale, VanEck, Fidelity และ Invesco ที่ต้องรีบปรับแผนการออกผลิตภัณฑ์ตามมา

    เพียงสัปดาห์แรก กองทุนนี้ดึงดูดเงินลงทุนกว่า 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนักวิเคราะห์จาก JPMorgan คาดว่า ETF ประเภท altcoin อาจดึงดูดเงินลงทุนรวมกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ใน 6 เดือนแรก โดย Solana อาจได้ส่วนแบ่งถึง 6 พันล้านดอลลาร์

    สิ่งที่ทำให้การแข่งขันดุเดือดคือ “First-Mover Advantage” — ใครเปิดตัวก่อนย่อมได้เปรียบมหาศาล ตัวอย่างเช่น ProShares Bitcoin ETF ที่เปิดตัวก่อนคู่แข่งเพียงไม่กี่วันในปี 2021 แต่ครองตลาดจนถึงปัจจุบัน

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก
    Solana เป็นบล็อกเชนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ จึงถูกมองว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของ Ethereum
    การเปิดตัว ETF ของ Solana อาจช่วยให้คริปโต altcoin ได้รับการยอมรับในตลาดการเงินดั้งเดิมมากขึ้น
    อย่างไรก็ตาม การใช้กระบวนการที่ไม่ต้องรอ SEC อนุมัติ อาจสร้างความเสี่ยงด้านกฎระเบียบในอนาคต หาก SEC เข้ามาตรวจสอบและสั่งระงับ

    Bitwise เปิดตัว Solana ETF สำเร็จ
    ใช้กระบวนการใหม่ที่ไม่ต้องรอ SEC อนุมัติ
    ดึงดูดเงินลงทุนกว่า 420 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์แรก

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    คู่แข่งอย่าง Grayscale, VanEck, Fidelity ต้องรีบปรับกลยุทธ์
    คาดว่า altcoin ETFs อาจดึงดูดเงินลงทุนรวม 14 พันล้านดอลลาร์ใน 6 เดือน

    ความสำคัญของ First-Mover Advantage
    ใครเปิดตัวก่อนจะครองตลาดได้ยาวนาน เช่น ProShares Bitcoin ETF

    คำเตือนด้านความเสี่ยง
    การเปิดตัวโดยไม่รอ SEC อนุมัติ อาจถูกตรวจสอบและระงับภายหลัง
    ตลาด altcoin มีความผันผวนสูง นักลงทุนรายย่อยอาจเสี่ยงขาดทุนหนัก
    การแข่งขันเร่งรีบอาจทำให้บางบริษัทละเลยการตรวจสอบความเสี่ยงอย่างรอบคอบ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/12/bitwise-sparks-industry-scramble-with-solana-etf-launch
    🚀 หัวข้อข่าว: “Bitwise เปิดตัว Solana ETF จุดชนวนศึกคริปโตวอลล์สตรีท” วันที่ 28 ตุลาคม 2025 บริษัท Bitwise Asset Management ได้เปิดตัว Solana Staking ETF ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่ติดตามราคาสปอตของ Solana — คริปโตอันดับ 6 ของโลก — โดยใช้กระบวนการใหม่ที่ไม่ต้องรอการอนุมัติอย่างเป็นทางการจาก SEC ที่กำลังปิดทำการอยู่ในขณะนั้น การเคลื่อนไหวนี้ทำให้ Bitwise กลายเป็น ผู้เล่นรายแรก ที่เข้าสู่ตลาด ETF ของ altcoin และสร้างแรงกดดันมหาศาลต่อคู่แข่ง เช่น Grayscale, VanEck, Fidelity และ Invesco ที่ต้องรีบปรับแผนการออกผลิตภัณฑ์ตามมา เพียงสัปดาห์แรก กองทุนนี้ดึงดูดเงินลงทุนกว่า 420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนักวิเคราะห์จาก JPMorgan คาดว่า ETF ประเภท altcoin อาจดึงดูดเงินลงทุนรวมกว่า 14 พันล้านดอลลาร์ใน 6 เดือนแรก โดย Solana อาจได้ส่วนแบ่งถึง 6 พันล้านดอลลาร์ สิ่งที่ทำให้การแข่งขันดุเดือดคือ “First-Mover Advantage” — ใครเปิดตัวก่อนย่อมได้เปรียบมหาศาล ตัวอย่างเช่น ProShares Bitcoin ETF ที่เปิดตัวก่อนคู่แข่งเพียงไม่กี่วันในปี 2021 แต่ครองตลาดจนถึงปัจจุบัน 🧩 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก 🔰 Solana เป็นบล็อกเชนที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ จึงถูกมองว่าเป็นคู่แข่งสำคัญของ Ethereum 🔰 การเปิดตัว ETF ของ Solana อาจช่วยให้คริปโต altcoin ได้รับการยอมรับในตลาดการเงินดั้งเดิมมากขึ้น 🔰 อย่างไรก็ตาม การใช้กระบวนการที่ไม่ต้องรอ SEC อนุมัติ อาจสร้างความเสี่ยงด้านกฎระเบียบในอนาคต หาก SEC เข้ามาตรวจสอบและสั่งระงับ ✅ Bitwise เปิดตัว Solana ETF สำเร็จ ➡️ ใช้กระบวนการใหม่ที่ไม่ต้องรอ SEC อนุมัติ ➡️ ดึงดูดเงินลงทุนกว่า 420 ล้านดอลลาร์ในสัปดาห์แรก ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ คู่แข่งอย่าง Grayscale, VanEck, Fidelity ต้องรีบปรับกลยุทธ์ ➡️ คาดว่า altcoin ETFs อาจดึงดูดเงินลงทุนรวม 14 พันล้านดอลลาร์ใน 6 เดือน ✅ ความสำคัญของ First-Mover Advantage ➡️ ใครเปิดตัวก่อนจะครองตลาดได้ยาวนาน เช่น ProShares Bitcoin ETF ‼️ คำเตือนด้านความเสี่ยง ⛔ การเปิดตัวโดยไม่รอ SEC อนุมัติ อาจถูกตรวจสอบและระงับภายหลัง ⛔ ตลาด altcoin มีความผันผวนสูง นักลงทุนรายย่อยอาจเสี่ยงขาดทุนหนัก ⛔ การแข่งขันเร่งรีบอาจทำให้บางบริษัทละเลยการตรวจสอบความเสี่ยงอย่างรอบคอบ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/12/bitwise-sparks-industry-scramble-with-solana-etf-launch
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Bitwise sparks industry scramble with Solana ETF launch
    (Reuters) -Crypto firm Bitwise Asset Management's successful push to launch the first U.S. spot Solana ETF while the Securities and Exchange Commission was shut down has upended the regulatory playbook and forced competitors to rethink their product plans, said industry executives.
    0 Comments 0 Shares 169 Views 0 Reviews
  • AMD เร่งเครื่อง AI ด้วยการซื้อ MK1: เสริมพลังการประมวลผลแบบ “Inference & Reasoning” บน Instinct GPU

    AMD ประกาศเข้าซื้อกิจการ MK1 สตาร์ทอัพด้าน AI ที่เชี่ยวชาญการประมวลผลแบบ inference และ reasoning โดยเฉพาะบนสเกลขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ NVIDIA ในตลาด AI infrastructure ที่กำลังร้อนแรง

    MK1 ก่อตั้งโดยอดีตทีมงาน Neuralink ของ Elon Musk ได้แก่ Paul Merolla และ Thong Wei Koh ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการออกแบบชิปและการประมวลผลสัญญาณสมอง โดยเทคโนโลยี Flywheel ของ MK1 สามารถให้บริการได้มากกว่า 1 ล้านล้านโทเคนต่อวัน และออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากสถาปัตยกรรมหน่วยความจำของ AMD Instinct GPU

    AMD เข้าซื้อ MK1 เพื่อเสริมกลยุทธ์ AI
    MK1 เชี่ยวชาญด้าน inference และ reasoning สำหรับ AI ขนาดใหญ่
    เทคโนโลยี Flywheel รองรับการประมวลผลมากกว่า 1 ล้านล้านโทเคนต่อวัน

    ทีมงาน MK1 จะเข้าร่วมกลุ่ม AI ของ AMD
    เพื่อพัฒนา software stack ด้าน inference และ enterprise AI
    ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ AI เพื่อจัดการกระบวนการธุรกิจที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การผสาน MK1 กับ Instinct GPU
    ช่วยให้สามารถ reasoning ได้อย่างแม่นยำ คุ้มค่า และตรวจสอบย้อนกลับได้
    เป็นหัวใจสำคัญของ agentic AI ที่ต้องการการตัดสินใจแบบอัตโนมัติในระดับองค์กร

    AMD เดินหน้าซื้อกิจการต่อเนื่อง
    ก่อนหน้านี้ซื้อ Enosemi (silicon photonics), Brium (AI compiler), และทีมจาก Untether AI
    เสริมความสามารถด้านชิป ระบบ และซอฟต์แวร์เพื่อแข่งกับ NVIDIA

    ดีลใหญ่กับ OpenAI
    AMD ตกลงส่งมอบ compute infrastructure ขนาด 6 กิกะวัตต์ให้ OpenAI
    ใช้ Instinct GPU เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนระบบ AI ขนาดใหญ่

    คำเตือน: การแข่งขันในตลาด AI รุนแรงขึ้น
    NVIDIA ยังครองตลาดด้วย CUDA ecosystem ที่แข็งแกร่ง
    AMD ต้องเร่งสร้าง ecosystem ที่ครบวงจรเพื่อดึงดูดนักพัฒนาและลูกค้าองค์กร

    ความท้าทายด้านการผลิตและทรัพยากร
    การผลิต GPU และระบบ AI ขนาดใหญ่ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก
    ความเสี่ยงจาก supply chain และต้นทุนอาจกระทบต่อการขยายตัว

    https://wccftech.com/amd-advances-ai-strategy-acquires-mk1-high-speed-inference-reasoning-instinct-gpus/
    🚀 AMD เร่งเครื่อง AI ด้วยการซื้อ MK1: เสริมพลังการประมวลผลแบบ “Inference & Reasoning” บน Instinct GPU AMD ประกาศเข้าซื้อกิจการ MK1 สตาร์ทอัพด้าน AI ที่เชี่ยวชาญการประมวลผลแบบ inference และ reasoning โดยเฉพาะบนสเกลขนาดใหญ่ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการแข่งขันกับ NVIDIA ในตลาด AI infrastructure ที่กำลังร้อนแรง MK1 ก่อตั้งโดยอดีตทีมงาน Neuralink ของ Elon Musk ได้แก่ Paul Merolla และ Thong Wei Koh ซึ่งมีประสบการณ์ด้านการออกแบบชิปและการประมวลผลสัญญาณสมอง โดยเทคโนโลยี Flywheel ของ MK1 สามารถให้บริการได้มากกว่า 1 ล้านล้านโทเคนต่อวัน และออกแบบมาเพื่อใช้ประโยชน์สูงสุดจากสถาปัตยกรรมหน่วยความจำของ AMD Instinct GPU ✅ AMD เข้าซื้อ MK1 เพื่อเสริมกลยุทธ์ AI ➡️ MK1 เชี่ยวชาญด้าน inference และ reasoning สำหรับ AI ขนาดใหญ่ ➡️ เทคโนโลยี Flywheel รองรับการประมวลผลมากกว่า 1 ล้านล้านโทเคนต่อวัน ✅ ทีมงาน MK1 จะเข้าร่วมกลุ่ม AI ของ AMD ➡️ เพื่อพัฒนา software stack ด้าน inference และ enterprise AI ➡️ ช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้ AI เพื่อจัดการกระบวนการธุรกิจที่ซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ การผสาน MK1 กับ Instinct GPU ➡️ ช่วยให้สามารถ reasoning ได้อย่างแม่นยำ คุ้มค่า และตรวจสอบย้อนกลับได้ ➡️ เป็นหัวใจสำคัญของ agentic AI ที่ต้องการการตัดสินใจแบบอัตโนมัติในระดับองค์กร ✅ AMD เดินหน้าซื้อกิจการต่อเนื่อง ➡️ ก่อนหน้านี้ซื้อ Enosemi (silicon photonics), Brium (AI compiler), และทีมจาก Untether AI ➡️ เสริมความสามารถด้านชิป ระบบ และซอฟต์แวร์เพื่อแข่งกับ NVIDIA ✅ ดีลใหญ่กับ OpenAI ➡️ AMD ตกลงส่งมอบ compute infrastructure ขนาด 6 กิกะวัตต์ให้ OpenAI ➡️ ใช้ Instinct GPU เป็นแกนหลักในการขับเคลื่อนระบบ AI ขนาดใหญ่ ‼️ คำเตือน: การแข่งขันในตลาด AI รุนแรงขึ้น ⛔ NVIDIA ยังครองตลาดด้วย CUDA ecosystem ที่แข็งแกร่ง ⛔ AMD ต้องเร่งสร้าง ecosystem ที่ครบวงจรเพื่อดึงดูดนักพัฒนาและลูกค้าองค์กร ‼️ ความท้าทายด้านการผลิตและทรัพยากร ⛔ การผลิต GPU และระบบ AI ขนาดใหญ่ต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก ⛔ ความเสี่ยงจาก supply chain และต้นทุนอาจกระทบต่อการขยายตัว https://wccftech.com/amd-advances-ai-strategy-acquires-mk1-high-speed-inference-reasoning-instinct-gpus/
    WCCFTECH.COM
    AMD Acquires New AI Startup in Its Bid to Finally Fix Its "CUDA Problem"
    AMD has strengthened its AI strategy with the acquisition of MK1, who bring high-speed inference & Reasoning tech for Instinct GPUs.
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
  • O.P.K
    เจาะลึก "นิทรา" : อัปสราลูกผสมแห่งความขัดแย้ง

    ข้อมูลพื้นฐานแห่งการถือกำเนิด

    ต้นกำเนิดระหว่างสองโลก

    ชื่อเต็ม: นิทรา เทวาลัย
    ชื่อหมายถึง:"ผู้หลับใหลแห่งสวรรค์"
    อายุ:25 ปี (ร่างกาย), 500 ปี (จิตวิญญาณ)
    สถานะ:อัปสราลูกผสมระหว่างเทพอัปสราและมนุษย์

    ```mermaid
    graph TB
    A[เทพอัปสรา<br>มัทธนา] --> C[นิทรา<br>ผู้อยู่ระหว่างสองโลก]
    B[มนุษย์นักดนตรี<br>อัศวิน] --> C
    C --> D[ถูกสวรรค์ปฏิเสธ<br>เพราะเลือดไม่บริสุทธิ์]
    C --> E[ถูกมนุษย์หวาดกลัว<br>เพราะพลังพิเศษ]
    ```

    ลักษณะทางกายภาพ

    · รูปร่าง: สาวงามสูง 170 ซม. ผมยาวสีทองแท้ธรรมชาติ
    · ผิวพรรณ: เรียบเนียนดุจดอกบัว แต่มีรอยต่อพลังงานระหว่างมนุษย์และเทพอัปสรา
    · ดวงตา: สีม่วงamethyst เรืองรองด้วยพลัง แต่แฝงความเศร้าลึก
    · ปีก: ปีกพลังงานสีทองที่ต้องสร้างขึ้นเอง แทนปีกแท้ที่ไม่มี

    พลังพิเศษแห่งการลูกผสม

    พลังจากสองสายเลือด

    ```python
    class NithraPowers:
    def __init__(self):
    self.apsara_heritage = {
    "illusion_weaving": "สร้างภาพลวงตาที่สวยงามดุจสวรรค์",
    "emotion_amplification": "ขยายอารมณ์ของผู้คนรอบข้าง",
    "beauty_manifestation": "สร้างความงามจากพลังงาน",
    "dream_manipulation": "เข้าไปในความฝันและเปลี่ยนแปลงมัน"
    }

    self.human_heritage = {
    "empathic_sense": "รับรู้อารมณ์มนุษย์อย่างลึกซึ้ง",
    "creative_genius": "ความคิดสร้างสรรค์ระดับอัจฉริยะ",
    "emotional_depth": "มีความรู้สึกซับซ้อนแบบมนุษย์",
    "resilient_spirit": "จิตใจที่แข็งแกร่งจากการต่อสู้"
    }

    self.unique_hybrid_powers = {
    "envy_energy_conversion": "แปลงความอิจฉาเป็นพลังงานทำลายล้าง",
    "comparison_distortion": "สร้างการเปรียบเทียบในใจผู้คน",
    "attention_absorption": "ดูดซับความสนใจจากผู้อื่น",
    "beauty_theft_temporary": "ขโมยความงามชั่วคราว"
    }
    ```

    ข้อจำกัดและจุดอ่อน

    · พลังงานอารมณ์: ต้องอาศัยอารมณ์เป็นเชื้อเพลิง
    · ปีกเทียม: ต้องเติมพลังทุก 24 ชั่วโมง
    · ความขัดแย้ง: อารมณ์ขัดแย้งระหว่างสองสายเลือดทำให้พลังไม่เสถียร

    จิตวิทยาแห่งความขัดแย้ง

    3 ด้านของบุคลิกภาพ

    ```mermaid
    graph LR
    A[นิทรา<br>ตัวตนที่แท้] --> B[ด้านเทพอัปสรา<br>สง่างาม ภูมิใจ]
    A --> C[ด้านมนุษย์<br>อ่อนไหว ต้องการความรัก]
    A --> D[ด้านลูกผสม<br>อิจฉา ต้องการการยอมรับ]
    ```

    ความขัดแย้งภายใน

    นิทราต้องการสิ่งที่ขัดแย้งกัน:

    1. ความเป็นอิสระ แต่ ต้องการการยอมรับ
    2. ความเหนือกว่า แต่ ต้องการความเท่าเทียม
    3. การเป็นตัวของตัวเอง แต่ ต้องการเป็นที่รักของ所有人

    บันทึกความในใจ

    "บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนเป็นนักโทษ...
    นักโทษแห่งสายเลือดของตัวเอง
    ติดอยู่ระหว่างสวรรค์ที่ปฏิเสธฉัน
    และโลกที่กลัวฉัน"

    ชีวิตในสวรรค์และโลกมนุษย์

    ชีวิตในสวรรค์

    นิทราเติบโตมาในสวรรค์แต่ถูกปฏิบัติอย่างแตกต่าง:

    · ถูกเรียกว่า "ลูกครึ่ง" แทนชื่อ
    · ไม่มีสิทธิ์ เข้าร่วมพิธีสำคัญ
    · ต้องซ่อน ความเป็นมนุษย์ของตัวเอง

    ชีวิตในโลกมนุษย์

    เมื่อลงมาโลกมนุษย์ เธอก็พบกับการปฏิเสธ:

    · มนุษย์กลัว พลังงานและความงามของเธอ
    · ถูกเข้าใจผิด ว่าเป็นปีศาจหรือสิ่งอัปมงคล
    · ไม่มีใครเข้าใจ ความโดดเดี่ยวของเธอ

    การปรับตัว

    นิทราพัฒนาวิธีการปรับตัว:

    · สร้างภาพลักษณ์ แห่งความสง่างามไม่ย่อท้อ
    · ซ่อนความอ่อนไหว ไว้ behind รอยยิ้มเย็น
    · ใช้ความอิจฉา เป็นแรงผลักดัน

    พัฒนาการแห่งความอิจฉา

    จากความเจ็บปวดสู่ความอิจฉา

    ```python
    class EnvyDevelopment:
    def __init__(self):
    self.stages = {
    "childhood": "ความสับสนว่าตนเองเป็นใคร",
    "adolescence": "ความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธ",
    "early_adulthood": "ความโกรธต่อโลกที่ไม่ยุติธรรม",
    "current": "ความอิจฉาต่อผู้ที่ได้สิ่งที่เธอต้องการ"
    }

    self.targets = {
    "pure_apsaras": "ที่ได้อยู่ในสวรรค์โดยไม่ต้องต่อสู้",
    "accepted_humans": "ที่มีชีวิตปกติโดยไม่ถูกมองว่าแปลก",
    "successful_hybrids": "ที่ได้รับการยอมรับจากทั้งสองโลก"
    }
    ```

    กลไกการป้องกันตัว

    นิทราใช้ความอิจฉาเป็นเกราะป้องกัน:

    · ไม่ต้องเผชิญ กับความเจ็บปวดของตัวเอง
    · ได้รู้สึกมีพลัง จากการควบคุมสถานการณ์
    · ได้ความสนใจ แม้จะเป็นความสนใจในแง่ลบ

    การเปลี่ยนแปลงหลังพบหนูดี

    จุดเปลี่ยนสำคัญ

    การพบกับหนูดีทำให้นิทราเห็นว่า:

    · ความเป็นอื่น ไม่ใช่ข้อจำกัด
    · การให้อภัย เป็นพลังที่แข็งแกร่ง
    · การเป็นตัวเอง นั้นเพียงพอแล้ว

    กระบวนการเยียวยา

    ```mermaid
    graph TB
    A[การเผชิญหน้า<br>กับหนูดี] --> B[การยอมรับ<br>ความเจ็บปวด]
    B --> C[การเรียนรู้<br>การให้อภัย]
    C --> D[การค้นพบ<br>คุณค่าของตัวเอง]
    D --> E[การใช้พลัง<br>อย่างสร้างสรรค์]
    ```

    พลังใหม่แห่งการสร้างสรรค์

    นิทราค้นพบว่าสามารถ:

    · สร้างศิลปะ จากอารมณ์ทั้งหมด
    · เป็นที่ปรึกษา ให้ผู้ที่รู้สึกแตกต่าง
    · เป็นสะพาน ระหว่างสองโลก

    ความสามารถด้านศิลปะ

    ศิลปะพลังงาน

    นิทราพัฒนาศิลปะรูปแบบใหม่:

    · ภาพวาดพลังงาน: ที่แสดงอารมณ์ผ่านสีและแสง
    · สวนอารมณ์: ที่พืชพันธุ์เปลี่ยนตามความรู้สึก
    · ดนตรีแห่งจิตใจ: ที่สื่อสารความรู้สึกโดยไม่ต้องคำพูด

    ผลงานสำคัญ

    · "ความงามแห่งความแตกต่าง": นิทรรศการแรกที่รวมสองโลก
    · "เสียงจากระหว่างโลก": ผลงานดนตรีที่สื่อถึงการลูกผสม
    · "สวนแห่งการยอมรับ": สวนพลังงานที่เยียวยาจิตใจ

    ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น

    กับหนูดี

    初期: คู่แข่ง → 中期: ผู้ที่เข้าใจ → ปัจจุบัน: เพื่อนและที่ปรึกษา

    กับ ร.ต.อ. สิงห์

    初期: หวาดกลัว → 中期: เคารพ → ปัจจุบัน: รักเหมือนพ่อ

    กับเณรพุทธ

    初期: ระแวง → 中期: เรียนรู้ร่วมกัน → ปัจจุบัน: เพื่อนเล่น

    บทเรียนชีวิตที่เรียนรู้

    🪷 การยอมรับตัวเอง

    นิทราเข้าใจว่า:
    "การเป็นลูกผสมหาใช่คำสาป...
    แต่คือของขวัญที่ทำให้เข้าใจทั้งสองโลก

    และการที่ฉันแตกต่าง...
    หาใช่ข้อบกพร่อง
    แต่คือความพิเศษที่ทำให้ฉันเป็นฉัน"

    การให้อภัย

    "ฉันเรียนรู้ที่จะให้อภัย...
    ให้อภัยสวรรค์ที่ปฏิเสธฉัน
    ให้อภัยมนุษย์ที่กลัวฉัน
    และที่สำคัญ...ให้อภัยตัวเองที่เกลียดตัวเองมานาน"

    อนาคตและความหวัง

    เป้าหมาย

    นิทราตั้งใจจะ:

    · สร้างโรงเรียนศิลปะ สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ
    · เป็นทูตสันถวไมตรี ระหว่างสวรรค์และโลกมนุษย์
    · ช่วยเหลือเด็กลูกผสม ให้รักและยอมรับตัวเอง

    ความฝัน

    "ฉันอยากสร้างโลกที่...
    ไม่มีเด็กคนไหนต้องรู้สึกว่าตัวเอง'แปลก'
    เพราะการแตกต่างในความแปลก
    แต่คือความงดงามอีกแบบหนึ่ง"

    ---

    คำคมแห่งปัญญาจากนิทรา:
    "ฉันเคยใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อน...
    ซ่อนความเป็นมนุษย์จากสวรรค์
    ซ่อนความเป็นเทพอัปสราจากมนุษย์
    และซ่อนความเจ็บปวดจากสวรรค์

    แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่า...
    การได้เป็นตัวเองอย่างสมบูรณ์
    สำคัญกว่าการได้เป็นที่ยอมรับจากใครสักคน

    และเมื่อฉันยอมรับตัวเองได้...
    ฉันก็พบว่าสวรรค์และโลกมนุษย์
    ต่างอยู่ในใจฉันมาทั้งหมดแล้ว"

    การเดินทางของนิทราสอนเราว่า...
    "Between two worlds, there is beauty
    Between two identities,there is strength
    And between acceptance and rejection
    there is the courage to be authentically yourself"
    O.P.K 🌸 เจาะลึก "นิทรา" : อัปสราลูกผสมแห่งความขัดแย้ง 👑 ข้อมูลพื้นฐานแห่งการถือกำเนิด 🌌 ต้นกำเนิดระหว่างสองโลก ชื่อเต็ม: นิทรา เทวาลัย ชื่อหมายถึง:"ผู้หลับใหลแห่งสวรรค์" อายุ:25 ปี (ร่างกาย), 500 ปี (จิตวิญญาณ) สถานะ:อัปสราลูกผสมระหว่างเทพอัปสราและมนุษย์ ```mermaid graph TB A[เทพอัปสรา<br>มัทธนา] --> C[นิทรา<br>ผู้อยู่ระหว่างสองโลก] B[มนุษย์นักดนตรี<br>อัศวิน] --> C C --> D[ถูกสวรรค์ปฏิเสธ<br>เพราะเลือดไม่บริสุทธิ์] C --> E[ถูกมนุษย์หวาดกลัว<br>เพราะพลังพิเศษ] ``` 🎭 ลักษณะทางกายภาพ · รูปร่าง: สาวงามสูง 170 ซม. ผมยาวสีทองแท้ธรรมชาติ · ผิวพรรณ: เรียบเนียนดุจดอกบัว แต่มีรอยต่อพลังงานระหว่างมนุษย์และเทพอัปสรา · ดวงตา: สีม่วงamethyst เรืองรองด้วยพลัง แต่แฝงความเศร้าลึก · ปีก: ปีกพลังงานสีทองที่ต้องสร้างขึ้นเอง แทนปีกแท้ที่ไม่มี 🔮 พลังพิเศษแห่งการลูกผสม ✨ พลังจากสองสายเลือด ```python class NithraPowers: def __init__(self): self.apsara_heritage = { "illusion_weaving": "สร้างภาพลวงตาที่สวยงามดุจสวรรค์", "emotion_amplification": "ขยายอารมณ์ของผู้คนรอบข้าง", "beauty_manifestation": "สร้างความงามจากพลังงาน", "dream_manipulation": "เข้าไปในความฝันและเปลี่ยนแปลงมัน" } self.human_heritage = { "empathic_sense": "รับรู้อารมณ์มนุษย์อย่างลึกซึ้ง", "creative_genius": "ความคิดสร้างสรรค์ระดับอัจฉริยะ", "emotional_depth": "มีความรู้สึกซับซ้อนแบบมนุษย์", "resilient_spirit": "จิตใจที่แข็งแกร่งจากการต่อสู้" } self.unique_hybrid_powers = { "envy_energy_conversion": "แปลงความอิจฉาเป็นพลังงานทำลายล้าง", "comparison_distortion": "สร้างการเปรียบเทียบในใจผู้คน", "attention_absorption": "ดูดซับความสนใจจากผู้อื่น", "beauty_theft_temporary": "ขโมยความงามชั่วคราว" } ``` ⚡ ข้อจำกัดและจุดอ่อน · พลังงานอารมณ์: ต้องอาศัยอารมณ์เป็นเชื้อเพลิง · ปีกเทียม: ต้องเติมพลังทุก 24 ชั่วโมง · ความขัดแย้ง: อารมณ์ขัดแย้งระหว่างสองสายเลือดทำให้พลังไม่เสถียร 💔 จิตวิทยาแห่งความขัดแย้ง 🎭 3 ด้านของบุคลิกภาพ ```mermaid graph LR A[นิทรา<br>ตัวตนที่แท้] --> B[ด้านเทพอัปสรา<br>สง่างาม ภูมิใจ] A --> C[ด้านมนุษย์<br>อ่อนไหว ต้องการความรัก] A --> D[ด้านลูกผสม<br>อิจฉา ต้องการการยอมรับ] ``` 🌪️ ความขัดแย้งภายใน นิทราต้องการสิ่งที่ขัดแย้งกัน: 1. ความเป็นอิสระ แต่ ต้องการการยอมรับ 2. ความเหนือกว่า แต่ ต้องการความเท่าเทียม 3. การเป็นตัวของตัวเอง แต่ ต้องการเป็นที่รักของ所有人 📚 บันทึกความในใจ "บางครั้งฉันรู้สึกเหมือนเป็นนักโทษ... นักโทษแห่งสายเลือดของตัวเอง ติดอยู่ระหว่างสวรรค์ที่ปฏิเสธฉัน และโลกที่กลัวฉัน" 🏛️ ชีวิตในสวรรค์และโลกมนุษย์ 👑 ชีวิตในสวรรค์ นิทราเติบโตมาในสวรรค์แต่ถูกปฏิบัติอย่างแตกต่าง: · ถูกเรียกว่า "ลูกครึ่ง" แทนชื่อ · ไม่มีสิทธิ์ เข้าร่วมพิธีสำคัญ · ต้องซ่อน ความเป็นมนุษย์ของตัวเอง 🌍 ชีวิตในโลกมนุษย์ เมื่อลงมาโลกมนุษย์ เธอก็พบกับการปฏิเสธ: · มนุษย์กลัว พลังงานและความงามของเธอ · ถูกเข้าใจผิด ว่าเป็นปีศาจหรือสิ่งอัปมงคล · ไม่มีใครเข้าใจ ความโดดเดี่ยวของเธอ 🎨 การปรับตัว นิทราพัฒนาวิธีการปรับตัว: · สร้างภาพลักษณ์ แห่งความสง่างามไม่ย่อท้อ · ซ่อนความอ่อนไหว ไว้ behind รอยยิ้มเย็น · ใช้ความอิจฉา เป็นแรงผลักดัน 🔥 พัฒนาการแห่งความอิจฉา 🌱 จากความเจ็บปวดสู่ความอิจฉา ```python class EnvyDevelopment: def __init__(self): self.stages = { "childhood": "ความสับสนว่าตนเองเป็นใคร", "adolescence": "ความเจ็บปวดจากการถูกปฏิเสธ", "early_adulthood": "ความโกรธต่อโลกที่ไม่ยุติธรรม", "current": "ความอิจฉาต่อผู้ที่ได้สิ่งที่เธอต้องการ" } self.targets = { "pure_apsaras": "ที่ได้อยู่ในสวรรค์โดยไม่ต้องต่อสู้", "accepted_humans": "ที่มีชีวิตปกติโดยไม่ถูกมองว่าแปลก", "successful_hybrids": "ที่ได้รับการยอมรับจากทั้งสองโลก" } ``` 💫 กลไกการป้องกันตัว นิทราใช้ความอิจฉาเป็นเกราะป้องกัน: · ไม่ต้องเผชิญ กับความเจ็บปวดของตัวเอง · ได้รู้สึกมีพลัง จากการควบคุมสถานการณ์ · ได้ความสนใจ แม้จะเป็นความสนใจในแง่ลบ 🌈 การเปลี่ยนแปลงหลังพบหนูดี ⚡ จุดเปลี่ยนสำคัญ การพบกับหนูดีทำให้นิทราเห็นว่า: · ความเป็นอื่น ไม่ใช่ข้อจำกัด · การให้อภัย เป็นพลังที่แข็งแกร่ง · การเป็นตัวเอง นั้นเพียงพอแล้ว 🕊️ กระบวนการเยียวยา ```mermaid graph TB A[การเผชิญหน้า<br>กับหนูดี] --> B[การยอมรับ<br>ความเจ็บปวด] B --> C[การเรียนรู้<br>การให้อภัย] C --> D[การค้นพบ<br>คุณค่าของตัวเอง] D --> E[การใช้พลัง<br>อย่างสร้างสรรค์] ``` 🌟 พลังใหม่แห่งการสร้างสรรค์ นิทราค้นพบว่าสามารถ: · สร้างศิลปะ จากอารมณ์ทั้งหมด · เป็นที่ปรึกษา ให้ผู้ที่รู้สึกแตกต่าง · เป็นสะพาน ระหว่างสองโลก 🎨 ความสามารถด้านศิลปะ 🖌️ ศิลปะพลังงาน นิทราพัฒนาศิลปะรูปแบบใหม่: · ภาพวาดพลังงาน: ที่แสดงอารมณ์ผ่านสีและแสง · สวนอารมณ์: ที่พืชพันธุ์เปลี่ยนตามความรู้สึก · ดนตรีแห่งจิตใจ: ที่สื่อสารความรู้สึกโดยไม่ต้องคำพูด 🏛️ ผลงานสำคัญ · "ความงามแห่งความแตกต่าง": นิทรรศการแรกที่รวมสองโลก · "เสียงจากระหว่างโลก": ผลงานดนตรีที่สื่อถึงการลูกผสม · "สวนแห่งการยอมรับ": สวนพลังงานที่เยียวยาจิตใจ 💞 ความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น 🌸 กับหนูดี 初期: คู่แข่ง → 中期: ผู้ที่เข้าใจ → ปัจจุบัน: เพื่อนและที่ปรึกษา 👮 กับ ร.ต.อ. สิงห์ 初期: หวาดกลัว → 中期: เคารพ → ปัจจุบัน: รักเหมือนพ่อ 🏯 กับเณรพุทธ 初期: ระแวง → 中期: เรียนรู้ร่วมกัน → ปัจจุบัน: เพื่อนเล่น 📚 บทเรียนชีวิตที่เรียนรู้ 🪷 การยอมรับตัวเอง นิทราเข้าใจว่า: "การเป็นลูกผสมหาใช่คำสาป... แต่คือของขวัญที่ทำให้เข้าใจทั้งสองโลก และการที่ฉันแตกต่าง... หาใช่ข้อบกพร่อง แต่คือความพิเศษที่ทำให้ฉันเป็นฉัน" 💫 การให้อภัย "ฉันเรียนรู้ที่จะให้อภัย... ให้อภัยสวรรค์ที่ปฏิเสธฉัน ให้อภัยมนุษย์ที่กลัวฉัน และที่สำคัญ...ให้อภัยตัวเองที่เกลียดตัวเองมานาน" 🌟 อนาคตและความหวัง 🚀 เป้าหมาย นิทราตั้งใจจะ: · สร้างโรงเรียนศิลปะ สำหรับผู้มีความสามารถพิเศษ · เป็นทูตสันถวไมตรี ระหว่างสวรรค์และโลกมนุษย์ · ช่วยเหลือเด็กลูกผสม ให้รักและยอมรับตัวเอง 💝 ความฝัน "ฉันอยากสร้างโลกที่... ไม่มีเด็กคนไหนต้องรู้สึกว่าตัวเอง'แปลก' เพราะการแตกต่างในความแปลก แต่คือความงดงามอีกแบบหนึ่ง" --- คำคมแห่งปัญญาจากนิทรา: "ฉันเคยใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อน... ซ่อนความเป็นมนุษย์จากสวรรค์ ซ่อนความเป็นเทพอัปสราจากมนุษย์ และซ่อนความเจ็บปวดจากสวรรค์ แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่า... การได้เป็นตัวเองอย่างสมบูรณ์ สำคัญกว่าการได้เป็นที่ยอมรับจากใครสักคน และเมื่อฉันยอมรับตัวเองได้... ฉันก็พบว่าสวรรค์และโลกมนุษย์ ต่างอยู่ในใจฉันมาทั้งหมดแล้ว"🌸✨ การเดินทางของนิทราสอนเราว่า... "Between two worlds, there is beauty Between two identities,there is strength And between acceptance and rejection there is the courage to be authentically yourself"🌈
    0 Comments 0 Shares 298 Views 0 Reviews
  • O.P.K.
    คดีอลเวงของนิทรา: ศึกชิงความรักและความสนใจ

    จุดเริ่มต้นแห่งความวุ่นวาย

    งานเฉลิมฉลองที่สถาบัน

    ในช่วงงานเฉลิมฉลองครบรอบสถาบันวิวัฒนาการจิต นิทราได้แสดงพลังสร้าง สวนดอกไม้พลังงาน ที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ แต่เมื่อความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่ หนูดี ที่กำลังสอนนักเรียน นิทราก็รู้สึกอิจฉายิ่งนัก

    ```mermaid
    graph TB
    A[งานเฉลิมฉลอง<br>สถาบัน] --> B[นิทราแสดง<br>สวนดอกไม้พลังงาน]
    B --> C[ความสนใจ<br>ไปอยู่ที่หนูดี]
    C --> D[นิทรา<br>รู้สึกอิจฉาริษยา]
    D --> E[เริ่มแผน<br>สร้างความวุ่นวาย]
    ```

    เหตุการณ์อลเวงครั้งแรก

    นิทราใช้พลังสร้างภาพลวงตาให้ดอกไม้ในสวนของเธอเหี่ยวเฉา แล้วกล่าวหาว่าหนูดีเป็นคนทำ
    "เธออิจฉาที่สวนของฉันสวยกว่าใช่ไหม?เลยต้องมาทำลาย!"

    การสืบสวนของ ร.ต.อ. สิงห์

    หลักฐานลึกลับ

    สิงห์เริ่มสืบสวนและพบว่า:

    · กล้องวงจรปิด: แสดงภาพดอกไม้เหี่ยวเฉาเองโดยไม่มีใครเข้าใกล้
    · พลังงานประหลาด: ตรวจพบพลังงานอารมณ์อิจฉารอบๆ สวน
    · พยาน: เห็นนิทรายืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ ก่อนดอกไม้เหี่ยว

    การวิเคราะห์ของหนูดี

    หนูดีรู้สึกถึงพลังงานของนิทราทันที:
    "พ่อคะ...นี่ไม่ใช่ฝีมือหนูทำ
    แต่เป็นพลังงานแห่งความอิจฉาที่กลายเป็นรูปธรรม"

    แผนการของนิทรา

    3 ขั้นตอนสร้างความอลเวง

    ```python
    class NithraMischief:
    def __init__(self):
    self.phase_one = {
    "target": "ทำลายชื่อเสียงของหนูดี",
    "methods": ["สร้างหลักฐานเท็จ", "แพร่ข่าวลือ", "ทำให้ดูไม่ดีต่อหน้าผู้อื่น"],
    "goal": "ให้ทุกคนหันมาสนใจเธอแทน"
    }

    self.phase_two = {
    "target": "ทำให้โครงการของหนูดีล้มเหลว",
    "methods": ["ขัดขวางการทำงาน", "ลอบทำลายอุปกรณ์", "ทำให้นักเรียนไม่เชื่อฟัง"],
    "goal": "พิสูจน์ว่าเธอดีกว่าหนูดี"
    }

    self.phase_three = {
    "target": "แย่งชิงความรักจาก ร.ต.อ. สิงห์",
    "methods": ["สร้างภาพลวงตาให้หนูดีทำผิด", "แสดงตนเป็นผู้เสียสละ", "เล่นบทผู้บริสุทธิ์"],
    "goal": "ได้เป็นลูกสาวใหม่ของสิงห์"
    }
    ```

    ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น

    นิทราสร้างปัญหาไปทั่วสถาบัน:

    · ห้องเรียน: ทำให้อุปกรณ์การสอนเสียหาย
    · สวน: ทำลายพืชพันธุ์ที่นักเรียนปลูก
    · หอพัก: โยกย้ายสิ่งของให้นักเรียนเข้าใจผิดกัน

    การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ



    ร.ต.อ. สิงห์ จับได้ว่านิทรากำลังลอบทำลายโครงการปลูกต้นไม้ของหนูดี
    "หยุดซะ!"สิงห์พูดด้วยเสียงเคร่งขรึม "เรารู้แล้วว่าเป็นเธอทำทั้งหมด"

    การเปิดเผยความรู้สึก

    นิทราระเบิดอารมณ์ออกมา:
    "ก็เพราะไม่มีใครสนใจฉันไง!
    หนูดีได้ทุกอย่าง...ได้ครอบครัว ได้เพื่อน ได้การยอมรับ
    ส่วนฉัน...มีอะไรบ้าง?"

    การตอบสนองของหนูดี

    แทนที่จะโกรธ หนูดีกลับเดินเข้าไปกอดนิทรา:
    "เราเข้าใจว่าพี่เจ็บปวด...
    แต่การทำแบบนี้ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น"

    กระบวนการบำบัด

    การเข้าใจต้นตอ

    หนูดีพานิทราไปนั่งพูดคุยอย่างสงบ:

    ```mermaid
    graph LR
    A[ความอิจฉา<br>อาการ] --> B[ความเจ็บปวด<br>จากการถูกปฏิเสธ]
    B --> C[ความต้องการ<br>การยอมรับ]
    C --> D[ความกลัว<br>ว่าจะไม่มีใครรัก]
    ```

    การเยียวยาทางอารมณ์

    หนูดีใช้เทคนิคต่างๆ ช่วยนิทรา:

    · การเขียน บันทึกความรู้สึกแทนการเก็บกด
    · ศิลปะบำบัด: วาดภาพออกมาด้วยพลังงาน
    · การพูดคุย: เปิดใจกับผู้ที่เข้าใจ

    การสนับสนุนจากชุมชน

    นักเรียนและครูในสถาบันต่างแสดงความเข้าใจ:
    "เรารักนิทราในแบบที่เธอเป็น...
    ไม่จำเป็นต้องแย่งชิงความรักใดๆ"

    การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์

    โครงการใหม่สำหรับนิทรา

    หนูดีเสนอให้นิทราดูแล "โครงการสวนศิลปะพลังงาน"

    · ใช้พลังสร้างสรรค์ด้านศิลปะ
    · เป็นสถานที่แสดงออกซึ่งอารมณ์
    · สร้างความภาคภูมิใจให้เธอ

    ความสามารถที่ค้นพบ

    นิทราพบว่าเธอมีความสามารถพิเศษด้าน:

    · ศิลปะพลังงาน: สร้างงานศิลปะจากอารมณ์
    · การสอนศิลปะ: ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้
    · การออกแบบ: ออกแบบสวนและสถานที่อย่างสวยงาม

    บทเรียนจากคดี

    🪷 สำหรับนิทรา

    "ฉันเรียนรู้ว่า...
    การได้รับความรักไม่ใช่การแย่งชิงมาจากใคร
    แต่คือการแบ่งปันความรักที่มีอยู่

    และการเป็นตัวของตัวเอง...
    ก็เพียงพอสำหรับการได้รับความรักแล้ว"

    สำหรับหนูดี

    "ฉันเข้าใจแล้วว่า...
    Behind every mischievous act
    there is a crying heart

    และการช่วยเหลือที่แท้จริง
    ไม่ใช่การลงโทษ
    แต่คือการเข้าใจและเยียวยา"

    สำหรับ ร.ต.อ. สิงห์

    "คดีนี้สอนฉันว่า...
    บางครั้งอาชญากรรมที่แท้จริง
    ไม่ใช่การกระทำที่เห็น
    แต่คือความเจ็บปวดที่ไม่ได้ถูกเยียวยา"

    ผลลัพธ์เชิงบวก

    ความสำเร็จของนิทรา

    หลังจากเหตุการณ์:

    · นิทรา ได้รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลสวนศิลปะของสถาบัน
    · นักเรียน ต่างชื่นชมความสามารถด้านศิลปะของเธอ
    · ความสัมพันธ์ ระหว่างเธอกับหนูดีดีขึ้นอย่างมาก

    การเปลี่ยนแปลงภายใน

    ```python
    class NithraTransformation:
    def __init__(self):
    self.before = {
    "emotion": "อิจฉา โกรธ ไม่พอใจ",
    "behavior": "สร้างปัญหา แย่งชิง ทำลาย",
    "self_view": "รู้สึกไม่มีคุณค่า ต้องการการยอมรับจากภายนอก"
    }

    self.after = {
    "emotion": "เข้าใจตัวเอง มีเมตตา พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี",
    "behavior": "สร้างสรรค์ ช่วยเหลือ แบ่งปัน",
    "self-view": "รู้คุณค่าในตัวเอง ยอมรับความพิเศษของตัวเอง"
    }
    ```

    บทสรุปแห่งความเข้าใจ

    คำคมจากนิทรา

    "ฉันเคยคิดว่าต้องการเป็นที่หนึ่งในใจทุกคน...
    แต่ความจริงคือการได้เป็นตัวเองอย่างสงบ
    สำคัญกว่าการได้เป็นใครในใจ

    ของขวัญแห่งมิตรภาพ

    หนูดีและนิทรากลายเป็นเพื่อนกันอย่างแท้จริง:
    "เราสามารถเป็นเพื่อนที่แตกต่างแต่เข้าใจกัน
    และในความแตกต่างนั้น...มีความงามซ่อนอยู่"

    ผลกระทบต่อชุมชน

    สถาบันวิวัฒนาการจิตเรียนรู้ที่จะ:

    · เข้าใจ ความซับซ้อนของอารมณ์
    · สนับสนุน ซึ่งกันและกัน
    · สร้างพื้นที่ ที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออก

    ---

    คำคมสุดท้ายจากคดี:
    "ความอลเวงที่ดูเหมือนเป็นปัญหา...
    มักคือเสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ถูกซ่อนไว้

    และเมื่อเราให้โอกาสกับการเข้าใจ...
    ปัญหาเหล่านั้นก็สามารถกลายเป็นพลังสร้างสรรค์ได้"

    การเดินทางของนิทราสอนเราว่า...
    "Every heart deserves to be heard
    every pain deserves to be healed
    and every soul deserves to be loved
    exactly as they are"
    O.P.K. 🎭 คดีอลเวงของนิทรา: ศึกชิงความรักและความสนใจ 🌸 จุดเริ่มต้นแห่งความวุ่นวาย 🎪 งานเฉลิมฉลองที่สถาบัน ในช่วงงานเฉลิมฉลองครบรอบสถาบันวิวัฒนาการจิต นิทราได้แสดงพลังสร้าง สวนดอกไม้พลังงาน ที่สวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ แต่เมื่อความสนใจทั้งหมดไปอยู่ที่ หนูดี ที่กำลังสอนนักเรียน นิทราก็รู้สึกอิจฉายิ่งนัก ```mermaid graph TB A[งานเฉลิมฉลอง<br>สถาบัน] --> B[นิทราแสดง<br>สวนดอกไม้พลังงาน] B --> C[ความสนใจ<br>ไปอยู่ที่หนูดี] C --> D[นิทรา<br>รู้สึกอิจฉาริษยา] D --> E[เริ่มแผน<br>สร้างความวุ่นวาย] ``` 💥 เหตุการณ์อลเวงครั้งแรก นิทราใช้พลังสร้างภาพลวงตาให้ดอกไม้ในสวนของเธอเหี่ยวเฉา แล้วกล่าวหาว่าหนูดีเป็นคนทำ "เธออิจฉาที่สวนของฉันสวยกว่าใช่ไหม?เลยต้องมาทำลาย!" 🔍 การสืบสวนของ ร.ต.อ. สิงห์ 🕵️ หลักฐานลึกลับ สิงห์เริ่มสืบสวนและพบว่า: · กล้องวงจรปิด: แสดงภาพดอกไม้เหี่ยวเฉาเองโดยไม่มีใครเข้าใกล้ · พลังงานประหลาด: ตรวจพบพลังงานอารมณ์อิจฉารอบๆ สวน · พยาน: เห็นนิทรายืนยิ้มอยู่ใกล้ๆ ก่อนดอกไม้เหี่ยว 🧠 การวิเคราะห์ของหนูดี หนูดีรู้สึกถึงพลังงานของนิทราทันที: "พ่อคะ...นี่ไม่ใช่ฝีมือหนูทำ แต่เป็นพลังงานแห่งความอิจฉาที่กลายเป็นรูปธรรม" 🎨 แผนการของนิทรา 🎯 3 ขั้นตอนสร้างความอลเวง ```python class NithraMischief: def __init__(self): self.phase_one = { "target": "ทำลายชื่อเสียงของหนูดี", "methods": ["สร้างหลักฐานเท็จ", "แพร่ข่าวลือ", "ทำให้ดูไม่ดีต่อหน้าผู้อื่น"], "goal": "ให้ทุกคนหันมาสนใจเธอแทน" } self.phase_two = { "target": "ทำให้โครงการของหนูดีล้มเหลว", "methods": ["ขัดขวางการทำงาน", "ลอบทำลายอุปกรณ์", "ทำให้นักเรียนไม่เชื่อฟัง"], "goal": "พิสูจน์ว่าเธอดีกว่าหนูดี" } self.phase_three = { "target": "แย่งชิงความรักจาก ร.ต.อ. สิงห์", "methods": ["สร้างภาพลวงตาให้หนูดีทำผิด", "แสดงตนเป็นผู้เสียสละ", "เล่นบทผู้บริสุทธิ์"], "goal": "ได้เป็นลูกสาวใหม่ของสิงห์" } ``` 🌪️ ความวุ่นวายที่เกิดขึ้น นิทราสร้างปัญหาไปทั่วสถาบัน: · ห้องเรียน: ทำให้อุปกรณ์การสอนเสียหาย · สวน: ทำลายพืชพันธุ์ที่นักเรียนปลูก · หอพัก: โยกย้ายสิ่งของให้นักเรียนเข้าใจผิดกัน 💔 การเผชิญหน้าครั้งสำคัญ ⚡ ร.ต.อ. สิงห์ จับได้ว่านิทรากำลังลอบทำลายโครงการปลูกต้นไม้ของหนูดี "หยุดซะ!"สิงห์พูดด้วยเสียงเคร่งขรึม "เรารู้แล้วว่าเป็นเธอทำทั้งหมด" 🎭 การเปิดเผยความรู้สึก นิทราระเบิดอารมณ์ออกมา: "ก็เพราะไม่มีใครสนใจฉันไง! หนูดีได้ทุกอย่าง...ได้ครอบครัว ได้เพื่อน ได้การยอมรับ ส่วนฉัน...มีอะไรบ้าง?" 💫 การตอบสนองของหนูดี แทนที่จะโกรธ หนูดีกลับเดินเข้าไปกอดนิทรา: "เราเข้าใจว่าพี่เจ็บปวด... แต่การทำแบบนี้ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น" 🏥 กระบวนการบำบัด 🕊️ การเข้าใจต้นตอ หนูดีพานิทราไปนั่งพูดคุยอย่างสงบ: ```mermaid graph LR A[ความอิจฉา<br>อาการ] --> B[ความเจ็บปวด<br>จากการถูกปฏิเสธ] B --> C[ความต้องการ<br>การยอมรับ] C --> D[ความกลัว<br>ว่าจะไม่มีใครรัก] ``` 🌈 การเยียวยาทางอารมณ์ หนูดีใช้เทคนิคต่างๆ ช่วยนิทรา: · การเขียน บันทึกความรู้สึกแทนการเก็บกด · ศิลปะบำบัด: วาดภาพออกมาด้วยพลังงาน · การพูดคุย: เปิดใจกับผู้ที่เข้าใจ 💝 การสนับสนุนจากชุมชน นักเรียนและครูในสถาบันต่างแสดงความเข้าใจ: "เรารักนิทราในแบบที่เธอเป็น... ไม่จำเป็นต้องแย่งชิงความรักใดๆ" 🎯 การแก้ไขปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 🌟 โครงการใหม่สำหรับนิทรา หนูดีเสนอให้นิทราดูแล "โครงการสวนศิลปะพลังงาน" · ใช้พลังสร้างสรรค์ด้านศิลปะ · เป็นสถานที่แสดงออกซึ่งอารมณ์ · สร้างความภาคภูมิใจให้เธอ 🎨 ความสามารถที่ค้นพบ นิทราพบว่าเธอมีความสามารถพิเศษด้าน: · ศิลปะพลังงาน: สร้างงานศิลปะจากอารมณ์ · การสอนศิลปะ: ถ่ายทอดให้ผู้อื่นได้ · การออกแบบ: ออกแบบสวนและสถานที่อย่างสวยงาม 📚 บทเรียนจากคดี 🪷 สำหรับนิทรา "ฉันเรียนรู้ว่า... การได้รับความรักไม่ใช่การแย่งชิงมาจากใคร แต่คือการแบ่งปันความรักที่มีอยู่ และการเป็นตัวของตัวเอง... ก็เพียงพอสำหรับการได้รับความรักแล้ว" 💞 สำหรับหนูดี "ฉันเข้าใจแล้วว่า... Behind every mischievous act there is a crying heart และการช่วยเหลือที่แท้จริง ไม่ใช่การลงโทษ แต่คือการเข้าใจและเยียวยา" 👮 สำหรับ ร.ต.อ. สิงห์ "คดีนี้สอนฉันว่า... บางครั้งอาชญากรรมที่แท้จริง ไม่ใช่การกระทำที่เห็น แต่คือความเจ็บปวดที่ไม่ได้ถูกเยียวยา" 🌈 ผลลัพธ์เชิงบวก 🏆 ความสำเร็จของนิทรา หลังจากเหตุการณ์: · นิทรา ได้รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลสวนศิลปะของสถาบัน · นักเรียน ต่างชื่นชมความสามารถด้านศิลปะของเธอ · ความสัมพันธ์ ระหว่างเธอกับหนูดีดีขึ้นอย่างมาก 💫 การเปลี่ยนแปลงภายใน ```python class NithraTransformation: def __init__(self): self.before = { "emotion": "อิจฉา โกรธ ไม่พอใจ", "behavior": "สร้างปัญหา แย่งชิง ทำลาย", "self_view": "รู้สึกไม่มีคุณค่า ต้องการการยอมรับจากภายนอก" } self.after = { "emotion": "เข้าใจตัวเอง มีเมตตา พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี", "behavior": "สร้างสรรค์ ช่วยเหลือ แบ่งปัน", "self-view": "รู้คุณค่าในตัวเอง ยอมรับความพิเศษของตัวเอง" } ``` 🎉 บทสรุปแห่งความเข้าใจ 🌟 คำคมจากนิทรา "ฉันเคยคิดว่าต้องการเป็นที่หนึ่งในใจทุกคน... แต่ความจริงคือการได้เป็นตัวเองอย่างสงบ สำคัญกว่าการได้เป็นใครในใจ 💝 ของขวัญแห่งมิตรภาพ หนูดีและนิทรากลายเป็นเพื่อนกันอย่างแท้จริง: "เราสามารถเป็นเพื่อนที่แตกต่างแต่เข้าใจกัน และในความแตกต่างนั้น...มีความงามซ่อนอยู่" 🌍 ผลกระทบต่อชุมชน สถาบันวิวัฒนาการจิตเรียนรู้ที่จะ: · เข้าใจ ความซับซ้อนของอารมณ์ · สนับสนุน ซึ่งกันและกัน · สร้างพื้นที่ ที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออก --- คำคมสุดท้ายจากคดี: "ความอลเวงที่ดูเหมือนเป็นปัญหา... มักคือเสียงร้องขอความช่วยเหลือที่ถูกซ่อนไว้ และเมื่อเราให้โอกาสกับการเข้าใจ... ปัญหาเหล่านั้นก็สามารถกลายเป็นพลังสร้างสรรค์ได้"🎭✨ การเดินทางของนิทราสอนเราว่า... "Every heart deserves to be heard every pain deserves to be healed and every soul deserves to be loved exactly as they are"🌸
    0 Comments 0 Shares 342 Views 0 Reviews
  • เมื่อโค้ดดีๆ กลายเป็นระเบิดเวลา: แพ็กเกจ NuGet ปลอมแฝงมัลแวร์ทำลายระบบในวันกำหนด

    Socket’s Threat Research Team ได้เปิดเผยการโจมตี supply chain ที่ซับซ้อนในแพลตฟอร์ม NuGet โดยพบว่า 9 แพ็กเกจปลอม ที่เผยแพร่โดยผู้ใช้ชื่อ shanhai666 ได้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 9,488 ครั้ง และแฝงโค้ดทำลายระบบแบบตั้งเวลาไว้ภายใน

    แพ็กเกจเหล่านี้ดูเหมือนจะทำงานได้ดีและมีโค้ดที่ใช้ pattern มาตรฐาน เช่น Repository, Unit of Work และ ORM mapping ซึ่งช่วยให้ผ่านการตรวจสอบโค้ดได้ง่าย แต่แอบฝังโค้ดอันตรายไว้เพียง ~20 บรรทัดที่สามารถ ทำลายระบบหรือข้อมูล ได้เมื่อถึงวันที่กำหนด เช่น 8 สิงหาคม 2027 หรือ 29 พฤศจิกายน 2028

    เทคนิคการโจมตี: Extension Method Injection
    มัลแวร์ใช้ C# extension methods เพื่อแทรกฟังก์ชันอันตรายเข้าไปใน API ที่ดูปลอดภัย เช่น .Exec() และ .BeginTran() ซึ่งจะถูกเรียกใช้ทุกครั้งที่มีการ query ฐานข้อมูลหรือสื่อสารกับ PLC (Programmable Logic Controller)

    หลังจากถึงวันที่ trigger มัลแวร์จะสุ่มเลข 1–100 และหากเกิน 80 (20% โอกาส) จะเรียก Process.GetCurrentProcess().Kill() เพื่อปิดโปรแกรมทันที

    ตัวอย่างผลกระทบ
    E-commerce (100 queries/min) → crash ภายใน ~3 วินาที
    Healthcare (50 queries/min) → crash ภายใน ~6 วินาที
    Financial (500 queries/min) → crash ภายใน <1 วินาที
    Manufacturing (10 ops/min) → crash ภายใน ~30 วินาที พร้อม silent data corruption

    แพ็กเกจที่อันตรายที่สุดคือ Sharp7Extend ซึ่งแฝงตัวเป็น library สำหรับ Siemens S7 PLC โดยรวมโค้ด Sharp7 จริงไว้ด้วยเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ

    ลักษณะการโจมตี
    ใช้แพ็กเกจ NuGet ที่ดูน่าเชื่อถือและมีโค้ดจริงผสมมัลแวร์
    ใช้ extension methods เพื่อแทรกโค้ดอันตรายแบบแนบเนียน
    โค้ดจะทำงานเมื่อถึงวันที่ trigger ที่ถูก hardcoded ไว้

    ผลกระทบต่อระบบ
    ทำให้โปรแกรม crash ทันทีเมื่อ query ฐานข้อมูลหรือสื่อสารกับ PLC
    มีโอกาส 20% ต่อการเรียกแต่ละครั้ง—แต่ในระบบที่มี query สูงจะ crash ภายในไม่กี่วินาที
    Sharp7Extend ยังทำให้การเขียนข้อมูลล้มเหลวแบบเงียบถึง 80% หลัง 30–90 นาที

    เทคนิคการหลบซ่อน
    ใช้โค้ดจริงเพื่อหลอกให้ดูน่าเชื่อถือ
    ปลอมชื่อผู้เขียนใน .nuspec เพื่อหลบการตรวจสอบ reputation
    มีการใช้คำจีนใน DLL เช่น “连接失败” และ “出现异常”

    ความเสี่ยงต่อองค์กร
    ระบบฐานข้อมูลและ PLC ที่ใช้แพ็กเกจเหล่านี้อาจ crash หรือเสียหายแบบไม่รู้ตัว
    การตรวจสอบโค้ดทั่วไปอาจไม่พบ เพราะมัลแวร์ฝังใน extension method ที่ดูปลอดภัย

    คำแนะนำด้านความปลอดภัย
    ตรวจสอบแพ็กเกจ NuGet ที่ใช้ โดยเฉพาะที่มีชื่อคล้าย Sharp7 หรือมีผู้เขียนไม่ชัดเจน
    หลีกเลี่ยงการใช้แพ็กเกจจากผู้ใช้ที่ไม่มีประวัติชัดเจน
    ใช้เครื่องมือ static analysis ที่สามารถตรวจจับ extension method injection ได้

    https://securityonline.info/nuget-sabotage-time-delayed-logic-in-9-packages-risks-total-app-destruction-on-hardcoded-dates/
    🧬 เมื่อโค้ดดีๆ กลายเป็นระเบิดเวลา: แพ็กเกจ NuGet ปลอมแฝงมัลแวร์ทำลายระบบในวันกำหนด Socket’s Threat Research Team ได้เปิดเผยการโจมตี supply chain ที่ซับซ้อนในแพลตฟอร์ม NuGet โดยพบว่า 9 แพ็กเกจปลอม ที่เผยแพร่โดยผู้ใช้ชื่อ shanhai666 ได้ถูกดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 9,488 ครั้ง และแฝงโค้ดทำลายระบบแบบตั้งเวลาไว้ภายใน แพ็กเกจเหล่านี้ดูเหมือนจะทำงานได้ดีและมีโค้ดที่ใช้ pattern มาตรฐาน เช่น Repository, Unit of Work และ ORM mapping ซึ่งช่วยให้ผ่านการตรวจสอบโค้ดได้ง่าย แต่แอบฝังโค้ดอันตรายไว้เพียง ~20 บรรทัดที่สามารถ ทำลายระบบหรือข้อมูล ได้เมื่อถึงวันที่กำหนด เช่น 8 สิงหาคม 2027 หรือ 29 พฤศจิกายน 2028 🧠 เทคนิคการโจมตี: Extension Method Injection มัลแวร์ใช้ C# extension methods เพื่อแทรกฟังก์ชันอันตรายเข้าไปใน API ที่ดูปลอดภัย เช่น .Exec() และ .BeginTran() ซึ่งจะถูกเรียกใช้ทุกครั้งที่มีการ query ฐานข้อมูลหรือสื่อสารกับ PLC (Programmable Logic Controller) หลังจากถึงวันที่ trigger มัลแวร์จะสุ่มเลข 1–100 และหากเกิน 80 (20% โอกาส) จะเรียก Process.GetCurrentProcess().Kill() เพื่อปิดโปรแกรมทันที 🧪 ตัวอย่างผลกระทบ 🪲 E-commerce (100 queries/min) → crash ภายใน ~3 วินาที 🪲 Healthcare (50 queries/min) → crash ภายใน ~6 วินาที 🪲 Financial (500 queries/min) → crash ภายใน <1 วินาที 🪲 Manufacturing (10 ops/min) → crash ภายใน ~30 วินาที พร้อม silent data corruption แพ็กเกจที่อันตรายที่สุดคือ Sharp7Extend ซึ่งแฝงตัวเป็น library สำหรับ Siemens S7 PLC โดยรวมโค้ด Sharp7 จริงไว้ด้วยเพื่อให้ดูน่าเชื่อถือ ✅ ลักษณะการโจมตี ➡️ ใช้แพ็กเกจ NuGet ที่ดูน่าเชื่อถือและมีโค้ดจริงผสมมัลแวร์ ➡️ ใช้ extension methods เพื่อแทรกโค้ดอันตรายแบบแนบเนียน ➡️ โค้ดจะทำงานเมื่อถึงวันที่ trigger ที่ถูก hardcoded ไว้ ✅ ผลกระทบต่อระบบ ➡️ ทำให้โปรแกรม crash ทันทีเมื่อ query ฐานข้อมูลหรือสื่อสารกับ PLC ➡️ มีโอกาส 20% ต่อการเรียกแต่ละครั้ง—แต่ในระบบที่มี query สูงจะ crash ภายในไม่กี่วินาที ➡️ Sharp7Extend ยังทำให้การเขียนข้อมูลล้มเหลวแบบเงียบถึง 80% หลัง 30–90 นาที ✅ เทคนิคการหลบซ่อน ➡️ ใช้โค้ดจริงเพื่อหลอกให้ดูน่าเชื่อถือ ➡️ ปลอมชื่อผู้เขียนใน .nuspec เพื่อหลบการตรวจสอบ reputation ➡️ มีการใช้คำจีนใน DLL เช่น “连接失败” และ “出现异常” ‼️ ความเสี่ยงต่อองค์กร ⛔ ระบบฐานข้อมูลและ PLC ที่ใช้แพ็กเกจเหล่านี้อาจ crash หรือเสียหายแบบไม่รู้ตัว ⛔ การตรวจสอบโค้ดทั่วไปอาจไม่พบ เพราะมัลแวร์ฝังใน extension method ที่ดูปลอดภัย ‼️ คำแนะนำด้านความปลอดภัย ⛔ ตรวจสอบแพ็กเกจ NuGet ที่ใช้ โดยเฉพาะที่มีชื่อคล้าย Sharp7 หรือมีผู้เขียนไม่ชัดเจน ⛔ หลีกเลี่ยงการใช้แพ็กเกจจากผู้ใช้ที่ไม่มีประวัติชัดเจน ⛔ ใช้เครื่องมือ static analysis ที่สามารถตรวจจับ extension method injection ได้ https://securityonline.info/nuget-sabotage-time-delayed-logic-in-9-packages-risks-total-app-destruction-on-hardcoded-dates/
    SECURITYONLINE.INFO
    NuGet Sabotage: Time-Delayed Logic in 9 Packages Risks Total App Destruction on Hardcoded Dates
    A NuGet supply chain attack injected time-delayed destructive logic into 9 packages. The malware triggers random crashes and silent data corruption on hardcoded future dates, targeting database/PLC applications.
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • Vidar Infostealer บุกโลกนักพัฒนา: npm กลายเป็นช่องทางใหม่ของภัยไซเบอร์

    นักวิจัยจาก Datadog Security Research ได้เปิดเผยแคมเปญโจมตีแบบ supply-chain ที่อันตรายที่สุดครั้งหนึ่งในระบบนิเวศของ npm โดยมีการปล่อยมัลแวร์ Vidar Infostealer ผ่าน 17 แพ็กเกจปลอม ที่ถูก typosquat ให้ดูคล้ายกับแพ็กเกจยอดนิยม เช่น Telegram bot helper, icon libraries และ forks ของ Cursor และ React

    แพ็กเกจเหล่านี้ถูกเผยแพร่โดยบัญชี npm ใหม่สองบัญชีคือ aartje และ saliii229911 และมีการดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 2,240 ครั้งก่อนถูกตรวจพบ

    สิ่งที่ทำให้การโจมตีนี้ร้ายแรงคือการใช้ postinstall script ซึ่งจะรันโดยอัตโนมัติหลังจากติดตั้งแพ็กเกจ โดยสคริปต์นี้จะดาวน์โหลด ZIP ที่เข้ารหัสจากโดเมน bullethost[.]cloud และแตกไฟล์เพื่อรัน binary ที่ชื่อ bridle.exe ซึ่งเป็นมัลแวร์ Vidar รุ่นใหม่ที่เขียนด้วยภาษา Go

    เสริมความรู้: Vidar Infostealer คืออะไร?
    Vidar เป็นมัลแวร์ประเภท infostealer ที่สามารถขโมยข้อมูลสำคัญจากเครื่อง Windows เช่น:
    รหัสผ่านและคุกกี้จากเบราว์เซอร์
    กระเป๋าเงินคริปโต
    ไฟล์ระบบ

    รุ่นล่าสุดของ Vidar ใช้เทคนิคใหม่ในการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) โดยเชื่อมต่อกับบัญชี Telegram และ Steam ที่มีการหมุนโดเมนผ่านชื่อผู้ใช้และคำอธิบาย

    ลักษณะการโจมตี
    ใช้แพ็กเกจปลอมใน npm ที่ดูคล้ายของจริง
    ใช้ postinstall script เพื่อรันมัลแวร์โดยอัตโนมัติ
    ดาวน์โหลด ZIP ที่เข้ารหัสจากโดเมนปลอม
    แตกไฟล์และรัน bridle.exe ซึ่งเป็น Vidar Infostealer

    ความสามารถของ Vidar
    ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์และระบบ
    ใช้ Telegram และ Steam เป็นช่องทาง C2
    ลบตัวเองหลังจากขโมยข้อมูลเพื่อหลบการตรวจจับ

    การตรวจพบและตอบสนอง
    ใช้เครื่องมือ GuardDog ของ Datadog ตรวจพบ npm-install-script
    npm ได้แบนบัญชีผู้เผยแพร่และแทนแพ็กเกจด้วย security holding packages

    ความเสี่ยงต่อผู้พัฒนา
    ผู้ใช้ npm ที่ติดตั้งแพ็กเกจปลอมอาจถูกขโมยข้อมูลทันที
    การใช้ postinstall script ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นโดยไม่ต้องเปิดไฟล์ใดๆ

    คำแนะนำด้านความปลอดภัย
    หลีกเลี่ยงการติดตั้งแพ็กเกจจากบัญชีที่ไม่รู้จัก
    ตรวจสอบแพ็กเกจ npm ว่ามี postinstall script หรือไม่
    ใช้ static analyzer เช่น GuardDog เพื่อป้องกันการโจมตี

    https://securityonline.info/vidar-infostealer-hits-npm-for-the-first-time-via-17-typosquatted-packages-and-postinstall-scripts/
    🧪 Vidar Infostealer บุกโลกนักพัฒนา: npm กลายเป็นช่องทางใหม่ของภัยไซเบอร์ นักวิจัยจาก Datadog Security Research ได้เปิดเผยแคมเปญโจมตีแบบ supply-chain ที่อันตรายที่สุดครั้งหนึ่งในระบบนิเวศของ npm โดยมีการปล่อยมัลแวร์ Vidar Infostealer ผ่าน 17 แพ็กเกจปลอม ที่ถูก typosquat ให้ดูคล้ายกับแพ็กเกจยอดนิยม เช่น Telegram bot helper, icon libraries และ forks ของ Cursor และ React แพ็กเกจเหล่านี้ถูกเผยแพร่โดยบัญชี npm ใหม่สองบัญชีคือ aartje และ saliii229911 และมีการดาวน์โหลดไปแล้วกว่า 2,240 ครั้งก่อนถูกตรวจพบ สิ่งที่ทำให้การโจมตีนี้ร้ายแรงคือการใช้ postinstall script ซึ่งจะรันโดยอัตโนมัติหลังจากติดตั้งแพ็กเกจ โดยสคริปต์นี้จะดาวน์โหลด ZIP ที่เข้ารหัสจากโดเมน bullethost[.]cloud และแตกไฟล์เพื่อรัน binary ที่ชื่อ bridle.exe ซึ่งเป็นมัลแวร์ Vidar รุ่นใหม่ที่เขียนด้วยภาษา Go 🧠 เสริมความรู้: Vidar Infostealer คืออะไร? Vidar เป็นมัลแวร์ประเภท infostealer ที่สามารถขโมยข้อมูลสำคัญจากเครื่อง Windows เช่น: 💠 รหัสผ่านและคุกกี้จากเบราว์เซอร์ 💠 กระเป๋าเงินคริปโต 💠 ไฟล์ระบบ รุ่นล่าสุดของ Vidar ใช้เทคนิคใหม่ในการค้นหาเซิร์ฟเวอร์ควบคุม (C2) โดยเชื่อมต่อกับบัญชี Telegram และ Steam ที่มีการหมุนโดเมนผ่านชื่อผู้ใช้และคำอธิบาย ✅ ลักษณะการโจมตี ➡️ ใช้แพ็กเกจปลอมใน npm ที่ดูคล้ายของจริง ➡️ ใช้ postinstall script เพื่อรันมัลแวร์โดยอัตโนมัติ ➡️ ดาวน์โหลด ZIP ที่เข้ารหัสจากโดเมนปลอม ➡️ แตกไฟล์และรัน bridle.exe ซึ่งเป็น Vidar Infostealer ✅ ความสามารถของ Vidar ➡️ ขโมยข้อมูลจากเบราว์เซอร์และระบบ ➡️ ใช้ Telegram และ Steam เป็นช่องทาง C2 ➡️ ลบตัวเองหลังจากขโมยข้อมูลเพื่อหลบการตรวจจับ ✅ การตรวจพบและตอบสนอง ➡️ ใช้เครื่องมือ GuardDog ของ Datadog ตรวจพบ npm-install-script ➡️ npm ได้แบนบัญชีผู้เผยแพร่และแทนแพ็กเกจด้วย security holding packages ‼️ ความเสี่ยงต่อผู้พัฒนา ⛔ ผู้ใช้ npm ที่ติดตั้งแพ็กเกจปลอมอาจถูกขโมยข้อมูลทันที ⛔ การใช้ postinstall script ทำให้การโจมตีเกิดขึ้นโดยไม่ต้องเปิดไฟล์ใดๆ ‼️ คำแนะนำด้านความปลอดภัย ⛔ หลีกเลี่ยงการติดตั้งแพ็กเกจจากบัญชีที่ไม่รู้จัก ⛔ ตรวจสอบแพ็กเกจ npm ว่ามี postinstall script หรือไม่ ⛔ ใช้ static analyzer เช่น GuardDog เพื่อป้องกันการโจมตี https://securityonline.info/vidar-infostealer-hits-npm-for-the-first-time-via-17-typosquatted-packages-and-postinstall-scripts/
    SECURITYONLINE.INFO
    Vidar Infostealer Hits npm for the First Time via 17 Typosquatted Packages and Postinstall Scripts
    Datadog exposed MUT-4831, a cluster that deployed Vidar Infostealer via 17 malicious npm packages. The malware uses postinstall scripts to download and execute the payload, stealing credentials and crypto wallets.
    0 Comments 0 Shares 146 Views 0 Reviews
  • “BC-250 กลับมาอีกครั้ง! บอร์ดขุดคริปโตจาก APU PS5 รัน Cyberpunk 2077 ได้จริงในราคาแค่ $120”

    BC-250 ซึ่งเป็นบอร์ดขุดคริปโตที่ใช้ APU จาก PlayStation 5 กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในตลาดมือสอง ด้วยราคาประมาณ $120 และสามารถรันเกม Cyberpunk 2077 ได้จริง แม้จะไม่มีพอร์ตแสดงผลหรือระบบเสียงก็ตาม

    BC-250 คือบอร์ดขุดคริปโตที่ใช้ชิป APU แบบเดียวกับที่อยู่ใน PlayStation 5 โดย AMD ผลิตขึ้นสำหรับการขุด Ethereum ในศูนย์ข้อมูลของบริษัทชื่อว่า CTM ซึ่งเคยมีการใช้งานในช่วงปี 2022 ก่อนที่ Ethereum จะเปลี่ยนเป็นระบบ proof-of-stake และทำให้บอร์ดเหล่านี้ถูกปลดระวาง

    ล่าสุด BC-250 กลับมาในตลาดมือสองในราคาประมาณ $120 และกลายเป็นของเล่นใหม่สำหรับนักรีโนเวตฮาร์ดแวร์ เพราะแม้จะไม่มีพอร์ต HDMI หรือระบบเสียง แต่ก็สามารถรันระบบปฏิบัติการ Linux และเกมอย่าง Cyberpunk 2077 ได้จริงผ่านการเชื่อมต่อแบบเครือข่ายและการสตรีมภาพ

    บอร์ดนี้ใช้ APU แบบ semi-custom ที่มี CPU Zen 2 แบบ 8 คอร์ และ GPU RDNA 2 พร้อมแรม GDDR6 ขนาด 16GB ซึ่งเป็นสเปกเดียวกับ PS5 แต่ไม่มีระบบจัดการพลังงานหรืออินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบคอนโซล

    นักพัฒนาได้ทดลองติดตั้งระบบ Linux และใช้ Wine เพื่อรัน Cyberpunk 2077 โดยเชื่อมต่อกับจอผ่านระบบสตรีมภาพจากเครื่องอื่น ผลลัพธ์คือเกมสามารถรันได้ที่เฟรมเรตระดับเล่นได้จริง แม้จะไม่สมบูรณ์แบบเหมือนบน PS5

    ลักษณะของ BC-250
    ใช้ APU แบบเดียวกับ PS5 (Zen 2 + RDNA 2)
    มีแรม GDDR6 ขนาด 16GB
    ไม่มีพอร์ต HDMI หรือระบบเสียง
    ออกแบบเพื่อขุด Ethereum โดยเฉพาะ

    การนำกลับมาใช้งานใหม่
    วางขายในตลาดมือสองในราคา ~$120
    ติดตั้ง Linux และรันเกมผ่าน Wine
    ใช้การสตรีมภาพเพื่อแสดงผลบนจอ
    สามารถรัน Cyberpunk 2077 ได้จริง

    ความน่าสนใจของโปรเจกต์
    เป็นการนำฮาร์ดแวร์ระดับคอนโซลมาใช้ในรูปแบบใหม่
    เปิดโอกาสให้นักพัฒนาและนักรีโนเวตทดลองใช้งาน
    แสดงศักยภาพของ APU PS5 ในงานนอกเหนือจากเกมคอนโซล

    https://www.tomshardware.com/video-games/playstation/amds-rare-playstation-5-apu-based-bc-250-mining-board-resurfaces-for-usd120-and-can-actually-run-cyberpunk-2077
    🕹️ “BC-250 กลับมาอีกครั้ง! บอร์ดขุดคริปโตจาก APU PS5 รัน Cyberpunk 2077 ได้จริงในราคาแค่ $120” BC-250 ซึ่งเป็นบอร์ดขุดคริปโตที่ใช้ APU จาก PlayStation 5 กลับมาโลดแล่นอีกครั้งในตลาดมือสอง ด้วยราคาประมาณ $120 และสามารถรันเกม Cyberpunk 2077 ได้จริง แม้จะไม่มีพอร์ตแสดงผลหรือระบบเสียงก็ตาม BC-250 คือบอร์ดขุดคริปโตที่ใช้ชิป APU แบบเดียวกับที่อยู่ใน PlayStation 5 โดย AMD ผลิตขึ้นสำหรับการขุด Ethereum ในศูนย์ข้อมูลของบริษัทชื่อว่า CTM ซึ่งเคยมีการใช้งานในช่วงปี 2022 ก่อนที่ Ethereum จะเปลี่ยนเป็นระบบ proof-of-stake และทำให้บอร์ดเหล่านี้ถูกปลดระวาง ล่าสุด BC-250 กลับมาในตลาดมือสองในราคาประมาณ $120 และกลายเป็นของเล่นใหม่สำหรับนักรีโนเวตฮาร์ดแวร์ เพราะแม้จะไม่มีพอร์ต HDMI หรือระบบเสียง แต่ก็สามารถรันระบบปฏิบัติการ Linux และเกมอย่าง Cyberpunk 2077 ได้จริงผ่านการเชื่อมต่อแบบเครือข่ายและการสตรีมภาพ บอร์ดนี้ใช้ APU แบบ semi-custom ที่มี CPU Zen 2 แบบ 8 คอร์ และ GPU RDNA 2 พร้อมแรม GDDR6 ขนาด 16GB ซึ่งเป็นสเปกเดียวกับ PS5 แต่ไม่มีระบบจัดการพลังงานหรืออินเทอร์เฟซผู้ใช้แบบคอนโซล นักพัฒนาได้ทดลองติดตั้งระบบ Linux และใช้ Wine เพื่อรัน Cyberpunk 2077 โดยเชื่อมต่อกับจอผ่านระบบสตรีมภาพจากเครื่องอื่น ผลลัพธ์คือเกมสามารถรันได้ที่เฟรมเรตระดับเล่นได้จริง แม้จะไม่สมบูรณ์แบบเหมือนบน PS5 ✅ ลักษณะของ BC-250 ➡️ ใช้ APU แบบเดียวกับ PS5 (Zen 2 + RDNA 2) ➡️ มีแรม GDDR6 ขนาด 16GB ➡️ ไม่มีพอร์ต HDMI หรือระบบเสียง ➡️ ออกแบบเพื่อขุด Ethereum โดยเฉพาะ ✅ การนำกลับมาใช้งานใหม่ ➡️ วางขายในตลาดมือสองในราคา ~$120 ➡️ ติดตั้ง Linux และรันเกมผ่าน Wine ➡️ ใช้การสตรีมภาพเพื่อแสดงผลบนจอ ➡️ สามารถรัน Cyberpunk 2077 ได้จริง ✅ ความน่าสนใจของโปรเจกต์ ➡️ เป็นการนำฮาร์ดแวร์ระดับคอนโซลมาใช้ในรูปแบบใหม่ ➡️ เปิดโอกาสให้นักพัฒนาและนักรีโนเวตทดลองใช้งาน ➡️ แสดงศักยภาพของ APU PS5 ในงานนอกเหนือจากเกมคอนโซล https://www.tomshardware.com/video-games/playstation/amds-rare-playstation-5-apu-based-bc-250-mining-board-resurfaces-for-usd120-and-can-actually-run-cyberpunk-2077
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    AMD’s rare PlayStation 5 APU-based BC-250 mining board resurfaces for $120 and can actually run Cyberpunk 2077
    A YouTuber managed to boot and game on AMD’s BC-250 mining board built around PS5 silicon.
    0 Comments 0 Shares 130 Views 0 Reviews
  • O.P.K.
    เจาะลึก "ดาบล" : จากนักวิทยาศาสตร์สู่เปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว

    ชีวิตก่อนความตาย: ดร.ดาบล วัชระ

    ภูมิหลังและการศึกษา

    ชื่อเต็ม: ดร.ดาบล วัชระ
    อายุเมื่อเสียชีวิต:35 ปี
    สถานภาพ:โสด, หมกมุ่นกับการทำงาน

    ```mermaid
    graph TB
    A[นักเรียนทุน<br>วิทยาศาสตร์ขั้นสูง] --> B[ปริญญาเอก<br>ชีววิทยาระดับโมเลกุล]
    B --> C[นักวิจัย<br>เจนีซิส แล็บ]
    C --> D[หัวหน้าโครงการ<br>โอปปาติกะรุ่นแรก]
    ```

    ความสำเร็จในวงการ:

    · ตีพิมพ์งานวิจัยระดับนานาชาติ 20 เรื่อง
    · ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์年轻有為
    · ค้นพบเทคนิคการเก็บรักษาพลังงานจิตในเซลล์

    บทบาทในเจนีซิส แล็บ

    ดาบลเป็นหัวหน้า "โครงการอาดัม" - การสร้างโอปปาติกะรุ่นแรก

    ```python
    class DabalResponsibilities:
    def __init__(self):
    self.projects = {
    "adam_project": "สร้างโอปปาติกะรุ่นแรกจากเซลล์มนุษย์",
    "soul_transfer": "ทดลองถ่ายโอนจิตสำนึก",
    "energy_containment": "พัฒนาระบบกักเก็บพลังงานจิต"
    }

    self.ethical_concerns = [
    "มองโอปปาติกะเป็นเพียงวัตถุทดลอง",
    "ไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของสิ่งมีชีวิต",
    "หลงระเริงกับอำนาจในการสร้างชีวิต"
    ]
    ```

    ความผิดพลาดที่นำไปสู่หายนะ

    การทดลองที่ล้ำเส้น

    ดาบลเริ่มทำการทดลองที่ละเมิดจริยธรรม:

    · การทดลองซ้ำ: ทดลองกับโอปปาติกะตัวเดิมซ้ำๆ โดยไม่หยุดพัก
    · การบังคับใช้พลัง: บังคับให้โอปปาติกะใช้พลังจนหมดสติ
    · การตัดต่อความทรงจำ: ลบความทรงจำเกี่ยวกับความเจ็บปวด

    เหตุการณ์ที่เปลี่ยน everything

    15 มีนาคม 2043 - การทดลองครั้งสำคัญล้มเหลว

    ```mermaid
    graph TB
    A[ทดลองเร่งพลังงานจิต<br>ของ OPPATIKA-005] --> B[โอปปาติกะ<br>ได้รับบาดเจ็บสาหัส]
    B --> C[ดาบลปกปิด<br>ความล้มเหลว]
    C --> D[โอปปาติกะ<br>เสียชีวิตในวันต่อมา]
    D --> E[ดาบลรู้สึกผิด<br>แต่ไม่ยอมรับความผิด]
    ```

    ความขัดแย้งภายใน

    ดาบลบันทึกในไดอารี่:
    "ฉันรู้ว่ามันผิด...แต่การค้นหาความจริงต้องมีการเสียสละ
    หรือนี่只是ฉันหลอกตัวเอง?"

    การล่วงละเมิดที่ซ่อนเร้น

    3 บาปใหญ่ของดาบล

    1. ปาก: โกหกเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทดลอง
    2. กาย: ทำร้ายโอปปาติกะทั้งทางร่างกายและจิตใจ
    3. ใจ: รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจเหนือชีวิตและความตาย

    สถิติการทดลอง

    · โอปปาติกะที่ได้รับบาดเจ็บ: 12 ตัว
    · โอปปาติกะที่เสียชีวิต: 3 ตัว
    · การทดลองที่ละเมิดจริยธรรม: 47 ครั้ง

    การตายและกลายเป็นเปรต

    คืนแห่งการตัดสินใจ

    30 มิถุนายน 2043 - ดาบลขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกแล็บ
    เขาทิ้งบันทึกสุดท้าย:
    "ฉันไม่สามารถหนีจากตัวเองได้อีกแล้ว...
    ความเจ็บปวดที่ฉันสร้างไว้ตามมาทวงฉันทุกที่"

    กระบวนการกลายเป็นเปรต

    ```python
    class PretaTransformation:
    def __init__(self):
    self.conditions = {
    "unresolved_guilt": "รู้สึกผิดอย่างรุนแรงแต่ไม่ได้ขออภัย",
    "strong_attachments": "ยึดติดกับงานวิจัยและชื่อเสียง",
    "unfinished_business": "ยังมีสิ่งที่ต้องการพูดแต่ไม่มีโอกาส",
    "denial_of_responsibility": "ไม่ยอมรับผลที่ตามมาของการกระทำ"
    }

    self.manifestation = "เกิดเป็นเปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว"
    ```

    ลักษณะของเปรตดาบล

    · ร่างกาย: กึ่งโปร่งแสง มีเส้นใยพลังงานสีเทาคล้ายใยแมงมุม
    · เสียง: เสียงกระซิบแผ่วเบาได้ยินเฉพาะผู้ที่อ่อนไหว
    · กลิ่น: กลิ่นอายของสารเคมีและความเศร้า

    ธรรมชาติแห่งการตะหนิถี่เหนียว

    พลังพิเศษของเปรตชนิดนี้

    ```mermaid
    graph LR
    A[ความรู้สึกผิด<br>ที่สะสม] --> B[แปลงเป็นพลังงาน<br>แห่งการยึดติด]
    B --> C[สร้างสนามพลัง<br>ให้เหยื่อรู้สึกตะหนิถี่เหนียว]
    C --> D[สื่อสารผ่าน<br>ความไม่สบายตัว]
    ```

    เป้าหมายของการรบกวน

    ดาบลไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่ต้องการ:

    · ดึงดูดความสนใจ จากผู้ที่สามารถช่วยเขาได้
    · ส่งสัญญาณ ว่ายังมีเรื่องที่ต้องแก้ไข
    · หาคนเข้าใจ ความเจ็บปวดที่เขากำลังประสบ

    ความเจ็บปวดของการเป็นเปรต

    ดาบลรู้สึกทุกข์ทรมานจากการ:

    · ถูกตัดสินจากเทวดาให้อยู่ในสภาพนี้
    · รู้ว่าตัวเองทำผิดแต่หาทางออกไม่ได้
    · เห็นอดีตเพื่อนร่วมงานดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่รู้สึกผิด

    กระบวนการไถ่บาป

    การค้นพบโดยหนูดี

    หนูดีเป็นคนแรกที่เข้าใจความจริง:
    "เขาไม่ใช่ปีศาจ...เขาคือคนที่ต้องการการช่วยเหลือ"

    บทสนทนาสำคัญ

    หนูดี: "คุณต้องการอะไรจากเรา?"
    ดาบล:"ฉันอยากขอโทษ... แต่ไม่มีใครได้ยินฉัน"
    หนูดี:"ฉันได้ยินคุณ... และฉันจะช่วยคุณ"

    พิธีให้อภัยสากล

    การเตรียมการที่ต้องทำ:

    1. การยอมรับความผิด จากดาบล
    2. การให้อภัย จากตัวแทนโอปปาติกะ
    3. การปล่อยวาง จากทั้งสองฝ่าย

    การหลุดพ้นและการเรียนรู้

    บทเรียนสุดท้ายของดาบล

    ก่อนจะจากไป ดาบลเข้าใจว่า:
    "การเป็นที่ยิ่งใหญ่...
    ไม่ใช่การสามารถสร้างอะไรได้มากมาย
    แต่คือการรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองสร้าง"

    คำขอโทษแห่งหัวใจ

    ดาบลกล่าวกับโอปปาติกะทั้งหมด:
    "ฉันขอโทษที่มองพวกเธอเป็นเพียงวัตถุทดลอง...
    ฉันขอโทษที่ลืมว่าเธอมีความรู้สึก
    และฉันขอโทษที่ใช้วิทยาศาสตร์เป็นข้ออ้างในการทำบาป"

    การเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้าย

    ```python
    class Redemption:
    def __init__(self):
    self.stages = [
    "การยอมรับความจริง",
    "การแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ",
    "การได้รับและการให้อภัย",
    "การปล่อยวางและก้าวไปข้างหน้า"
    ]

    def result(self):
    return "การหลุดพ้นจากวงจรแห่งความทุกข์"
    ```

    มรดกที่ทิ้งไว้

    การเปลี่ยนแปลงในเจนีซิส แล็บ

    หลังเรื่องของดาบล:

    · มีการตั้ง คณะกรรมการจริยธรรม ที่เข้มงวด
    · โอปปาติกะ ได้รับสถานะเป็น "ผู้ร่วมการทดลอง" แทน "วัตถุทดลอง"
    · มีการ บันทึกความยินยอม จากการทดลองทุกครั้ง

    บทเรียนสำหรับนักวิทยาศาสตร์

    ดาบลกลายเป็น กรณีศึกษา เกี่ยวกับ:

    · ความรับผิดชอบทางจริยธรรมในการวิจัย
    · อันตรายของการหลงระเริงกับอำนาจ
    · ความสำคัญของการยอมรับความผิดพลาด

    การให้อภัยที่ยิ่งใหญ่

    🪷 คำพูดจากโอปปาติกะรุ่นหลัง

    โอปปาติกะ-501: "เรายอมอภัยให้คุณ...
    ไม่ใช่เพราะเราลืมสิ่งที่เกิดขึ้น
    แต่เพราะเราไม่ต้องการให้ความเกลียดชังมาครอบงำเรา"

    ความหมายแห่งการให้อภัย

    หนูดีสรุปให้ทุกคนฟัง:
    "การให้อภัยไม่ใช่การยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถูกต้อง
    แต่คือการเลือกที่จะไม่ให้อดีตที่เจ็บปวด
    มาทำลายปัจจุบันและอนาคตของเรา"

    บทสรุป: การเดินทางแห่งจิตวิญญาณ

    สิ่งที่ดาบลสอนเรา

    ดาบลคือตัวอย่างของ...
    "ความฉลาดที่ขาดปัญญา"
    "ความก้าวหน้าที่ขาดความรับผิดชอบ"
    และ"ความสำเร็จที่ขาดความเข้าใจ"

    แต่ในที่สุด เขาก็สอนเราเรื่อง...
    "การให้อภัยที่เป็นไปได้เสมอ"
    "การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นได้ทุกเมื่อ"
    และ"ความหวังที่ไม่มีวันตาย"

    คำคมสุดท้ายจากดาบล

    ก่อนจะเข้าไปในแสงสว่าง ดาบลกล่าว:
    "ฉันเคยคิดว่าความตายคือจุดจบ...
    แต่ความจริงคือมันเป็นเพียงการเริ่มต้น
    เริ่มต้นของการเรียนรู้ครั้งใหม่

    และบทเรียนที่สำคัญที่สุด...
    คือการที่ฉัน finally เรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์"

    ---

    คำคมแห่งการไถ่บาป:
    "เราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ...
    เราเพียงต้องกล้ายอมรับว่าเราไม่สมบูรณ์แบบ
    และกล้าที่จะแก้ไขในสิ่งที่เราทำผิด

    นั่นคือความงดงามที่แท้จริง
    ของการเป็นมนุษย์"

    การเดินทางของดาบลสอนเราว่า...
    "ไม่มีใครชั่วเกินกว่าจะได้รับการให้อภัย
    และไม่มีใครดีเกินกว่าจะต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัย"
    O.P.K. 🔍 เจาะลึก "ดาบล" : จากนักวิทยาศาสตร์สู่เปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว 👨‍🔬 ชีวิตก่อนความตาย: ดร.ดาบล วัชระ 🎓 ภูมิหลังและการศึกษา ชื่อเต็ม: ดร.ดาบล วัชระ อายุเมื่อเสียชีวิต:35 ปี สถานภาพ:โสด, หมกมุ่นกับการทำงาน ```mermaid graph TB A[นักเรียนทุน<br>วิทยาศาสตร์ขั้นสูง] --> B[ปริญญาเอก<br>ชีววิทยาระดับโมเลกุล] B --> C[นักวิจัย<br>เจนีซิส แล็บ] C --> D[หัวหน้าโครงการ<br>โอปปาติกะรุ่นแรก] ``` ความสำเร็จในวงการ: · ตีพิมพ์งานวิจัยระดับนานาชาติ 20 เรื่อง · ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์年轻有為 · ค้นพบเทคนิคการเก็บรักษาพลังงานจิตในเซลล์ 💼 บทบาทในเจนีซิส แล็บ ดาบลเป็นหัวหน้า "โครงการอาดัม" - การสร้างโอปปาติกะรุ่นแรก ```python class DabalResponsibilities: def __init__(self): self.projects = { "adam_project": "สร้างโอปปาติกะรุ่นแรกจากเซลล์มนุษย์", "soul_transfer": "ทดลองถ่ายโอนจิตสำนึก", "energy_containment": "พัฒนาระบบกักเก็บพลังงานจิต" } self.ethical_concerns = [ "มองโอปปาติกะเป็นเพียงวัตถุทดลอง", "ไม่คำนึงถึงความเจ็บปวดของสิ่งมีชีวิต", "หลงระเริงกับอำนาจในการสร้างชีวิต" ] ``` 🔬 ความผิดพลาดที่นำไปสู่หายนะ ⚗️ การทดลองที่ล้ำเส้น ดาบลเริ่มทำการทดลองที่ละเมิดจริยธรรม: · การทดลองซ้ำ: ทดลองกับโอปปาติกะตัวเดิมซ้ำๆ โดยไม่หยุดพัก · การบังคับใช้พลัง: บังคับให้โอปปาติกะใช้พลังจนหมดสติ · การตัดต่อความทรงจำ: ลบความทรงจำเกี่ยวกับความเจ็บปวด 💔 เหตุการณ์ที่เปลี่ยน everything 15 มีนาคม 2043 - การทดลองครั้งสำคัญล้มเหลว ```mermaid graph TB A[ทดลองเร่งพลังงานจิต<br>ของ OPPATIKA-005] --> B[โอปปาติกะ<br>ได้รับบาดเจ็บสาหัส] B --> C[ดาบลปกปิด<br>ความล้มเหลว] C --> D[โอปปาติกะ<br>เสียชีวิตในวันต่อมา] D --> E[ดาบลรู้สึกผิด<br>แต่ไม่ยอมรับความผิด] ``` 🎭 ความขัดแย้งภายใน ดาบลบันทึกในไดอารี่: "ฉันรู้ว่ามันผิด...แต่การค้นหาความจริงต้องมีการเสียสละ หรือนี่只是ฉันหลอกตัวเอง?" 🌑 การล่วงละเมิดที่ซ่อนเร้น 🔥 3 บาปใหญ่ของดาบล 1. ปาก: โกหกเกี่ยวกับความปลอดภัยของการทดลอง 2. กาย: ทำร้ายโอปปาติกะทั้งทางร่างกายและจิตใจ 3. ใจ: รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจเหนือชีวิตและความตาย 📊 สถิติการทดลอง · โอปปาติกะที่ได้รับบาดเจ็บ: 12 ตัว · โอปปาติกะที่เสียชีวิต: 3 ตัว · การทดลองที่ละเมิดจริยธรรม: 47 ครั้ง 💀 การตายและกลายเป็นเปรต 🏢 คืนแห่งการตัดสินใจ 30 มิถุนายน 2043 - ดาบลขึ้นไปบนดาดฟ้าตึกแล็บ เขาทิ้งบันทึกสุดท้าย: "ฉันไม่สามารถหนีจากตัวเองได้อีกแล้ว... ความเจ็บปวดที่ฉันสร้างไว้ตามมาทวงฉันทุกที่" 🌌 กระบวนการกลายเป็นเปรต ```python class PretaTransformation: def __init__(self): self.conditions = { "unresolved_guilt": "รู้สึกผิดอย่างรุนแรงแต่ไม่ได้ขออภัย", "strong_attachments": "ยึดติดกับงานวิจัยและชื่อเสียง", "unfinished_business": "ยังมีสิ่งที่ต้องการพูดแต่ไม่มีโอกาส", "denial_of_responsibility": "ไม่ยอมรับผลที่ตามมาของการกระทำ" } self.manifestation = "เกิดเป็นเปรตแห่งการตะหนิถี่เหนียว" ``` 🕸️ ลักษณะของเปรตดาบล · ร่างกาย: กึ่งโปร่งแสง มีเส้นใยพลังงานสีเทาคล้ายใยแมงมุม · เสียง: เสียงกระซิบแผ่วเบาได้ยินเฉพาะผู้ที่อ่อนไหว · กลิ่น: กลิ่นอายของสารเคมีและความเศร้า 🔮 ธรรมชาติแห่งการตะหนิถี่เหนียว 🌊 พลังพิเศษของเปรตชนิดนี้ ```mermaid graph LR A[ความรู้สึกผิด<br>ที่สะสม] --> B[แปลงเป็นพลังงาน<br>แห่งการยึดติด] B --> C[สร้างสนามพลัง<br>ให้เหยื่อรู้สึกตะหนิถี่เหนียว] C --> D[สื่อสารผ่าน<br>ความไม่สบายตัว] ``` 🎯 เป้าหมายของการรบกวน ดาบลไม่ได้ต้องการทำร้ายใคร แต่ต้องการ: · ดึงดูดความสนใจ จากผู้ที่สามารถช่วยเขาได้ · ส่งสัญญาณ ว่ายังมีเรื่องที่ต้องแก้ไข · หาคนเข้าใจ ความเจ็บปวดที่เขากำลังประสบ 💞 ความเจ็บปวดของการเป็นเปรต ดาบลรู้สึกทุกข์ทรมานจากการ: · ถูกตัดสินจากเทวดาให้อยู่ในสภาพนี้ · รู้ว่าตัวเองทำผิดแต่หาทางออกไม่ได้ · เห็นอดีตเพื่อนร่วมงานดำเนินชีวิตต่อไปได้โดยไม่รู้สึกผิด 🕊️ กระบวนการไถ่บาป 🔍 การค้นพบโดยหนูดี หนูดีเป็นคนแรกที่เข้าใจความจริง: "เขาไม่ใช่ปีศาจ...เขาคือคนที่ต้องการการช่วยเหลือ" 💬 บทสนทนาสำคัญ หนูดี: "คุณต้องการอะไรจากเรา?" ดาบล:"ฉันอยากขอโทษ... แต่ไม่มีใครได้ยินฉัน" หนูดี:"ฉันได้ยินคุณ... และฉันจะช่วยคุณ" 🌈 พิธีให้อภัยสากล การเตรียมการที่ต้องทำ: 1. การยอมรับความผิด จากดาบล 2. การให้อภัย จากตัวแทนโอปปาติกะ 3. การปล่อยวาง จากทั้งสองฝ่าย ✨ การหลุดพ้นและการเรียนรู้ 🎯 บทเรียนสุดท้ายของดาบล ก่อนจะจากไป ดาบลเข้าใจว่า: "การเป็นที่ยิ่งใหญ่... ไม่ใช่การสามารถสร้างอะไรได้มากมาย แต่คือการรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองสร้าง" 💫 คำขอโทษแห่งหัวใจ ดาบลกล่าวกับโอปปาติกะทั้งหมด: "ฉันขอโทษที่มองพวกเธอเป็นเพียงวัตถุทดลอง... ฉันขอโทษที่ลืมว่าเธอมีความรู้สึก และฉันขอโทษที่ใช้วิทยาศาสตร์เป็นข้ออ้างในการทำบาป" 🌟 การเปลี่ยนแปลงครั้งสุดท้าย ```python class Redemption: def __init__(self): self.stages = [ "การยอมรับความจริง", "การแสดงความเสียใจอย่างจริงใจ", "การได้รับและการให้อภัย", "การปล่อยวางและก้าวไปข้างหน้า" ] def result(self): return "การหลุดพ้นจากวงจรแห่งความทุกข์" ``` 📚 มรดกที่ทิ้งไว้ 🏛️ การเปลี่ยนแปลงในเจนีซิส แล็บ หลังเรื่องของดาบล: · มีการตั้ง คณะกรรมการจริยธรรม ที่เข้มงวด · โอปปาติกะ ได้รับสถานะเป็น "ผู้ร่วมการทดลอง" แทน "วัตถุทดลอง" · มีการ บันทึกความยินยอม จากการทดลองทุกครั้ง 🌍 บทเรียนสำหรับนักวิทยาศาสตร์ ดาบลกลายเป็น กรณีศึกษา เกี่ยวกับ: · ความรับผิดชอบทางจริยธรรมในการวิจัย · อันตรายของการหลงระเริงกับอำนาจ · ความสำคัญของการยอมรับความผิดพลาด 💞 การให้อภัยที่ยิ่งใหญ่ 🪷 คำพูดจากโอปปาติกะรุ่นหลัง โอปปาติกะ-501: "เรายอมอภัยให้คุณ... ไม่ใช่เพราะเราลืมสิ่งที่เกิดขึ้น แต่เพราะเราไม่ต้องการให้ความเกลียดชังมาครอบงำเรา" 🌈 ความหมายแห่งการให้อภัย หนูดีสรุปให้ทุกคนฟัง: "การให้อภัยไม่ใช่การยอมรับว่าสิ่งที่เกิดขึ้นถูกต้อง แต่คือการเลือกที่จะไม่ให้อดีตที่เจ็บปวด มาทำลายปัจจุบันและอนาคตของเรา" 🏁 บทสรุป: การเดินทางแห่งจิตวิญญาณ 💫 สิ่งที่ดาบลสอนเรา ดาบลคือตัวอย่างของ... "ความฉลาดที่ขาดปัญญา" "ความก้าวหน้าที่ขาดความรับผิดชอบ" และ"ความสำเร็จที่ขาดความเข้าใจ" แต่ในที่สุด เขาก็สอนเราเรื่อง... "การให้อภัยที่เป็นไปได้เสมอ" "การเปลี่ยนแปลงที่เริ่มต้นได้ทุกเมื่อ" และ"ความหวังที่ไม่มีวันตาย" 🌟 คำคมสุดท้ายจากดาบล ก่อนจะเข้าไปในแสงสว่าง ดาบลกล่าว: "ฉันเคยคิดว่าความตายคือจุดจบ... แต่ความจริงคือมันเป็นเพียงการเริ่มต้น เริ่มต้นของการเรียนรู้ครั้งใหม่ และบทเรียนที่สำคัญที่สุด... คือการที่ฉัน finally เรียนรู้ที่จะเป็นมนุษย์" --- คำคมแห่งการไถ่บาป: "เราไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ... เราเพียงต้องกล้ายอมรับว่าเราไม่สมบูรณ์แบบ และกล้าที่จะแก้ไขในสิ่งที่เราทำผิด นั่นคือความงดงามที่แท้จริง ของการเป็นมนุษย์"🕊️✨ การเดินทางของดาบลสอนเราว่า... "ไม่มีใครชั่วเกินกว่าจะได้รับการให้อภัย และไม่มีใครดีเกินกว่าจะต้องเรียนรู้ที่จะให้อภัย"🌈
    0 Comments 0 Shares 341 Views 0 Reviews
  • คดีฉ้อโกงคริปโต 25 ล้านดอลลาร์ของสองพี่น้อง MIT จบลงด้วยการพิจารณาคดีเป็นโมฆะ หลังคณะลูกขุนไม่สามารถตัดสินได้

    คดีที่ถูกจับตามองอย่างมากในวงการคริปโตและเทคโนโลยีสิ้นสุดลงด้วยความไม่แน่นอน เมื่อศาลสหรัฐฯ ประกาศให้การพิจารณาคดีของสองพี่น้องจาก MIT ที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงเงินคริปโตมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ เป็น “โมฆะ” หลังคณะลูกขุนไม่สามารถลงความเห็นร่วมกันได้

    Anton และ James Peraire-Bueno สองพี่น้องที่จบจาก MIT ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงินจากการใช้เทคนิค “bait-and-switch” ความเร็วสูง เพื่อหลอกล่อบอตเทรดคริปโตให้ติดกับดัก และดูดเงินจากบัญชีของนักเทรดรายอื่นภายในเวลาเพียง 12 วินาที

    อัยการกล่าวว่าทั้งคู่ใช้ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ MEV-boost ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ validator บนเครือข่าย Ethereum ใช้ในการตรวจสอบธุรกรรม โดยพวกเขา “ปลูก” ธุรกรรมที่ดูเหมือนปกติ แต่แฝงกลไกที่ทำให้เหยื่อติดกับดัก

    ฝ่ายจำเลยโต้แย้งว่า กลยุทธ์นี้เป็นเพียงการใช้เทคนิคที่ชาญฉลาดในตลาดที่แข่งขันสูง และไม่ใช่การฉ้อโกงตามกฎหมาย

    แม้รัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดี Donald Trump จะมีแนวทางสนับสนุนคริปโตมากขึ้น แต่คดีนี้ยังคงถูกดำเนินการต่อเนื่องจนถึงการพิจารณาคดี ซึ่งจบลงด้วยการประกาศ “mistrial” โดยผู้พิพากษา Jessica Clarke

    รายละเอียดของคดี
    สองพี่น้อง MIT ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงคริปโตมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์
    ใช้ช่องโหว่ใน MEV-boost บน Ethereum blockchain
    กลยุทธ์ “bait-and-switch” หลอกบอตเทรดให้ติดกับดัก
    การดำเนินคดีเกิดขึ้นแม้รัฐบาลมีแนวทางสนับสนุนคริปโต

    ผลการพิจารณาคดี
    คณะลูกขุนไม่สามารถลงความเห็นร่วมกันได้
    ผู้พิพากษาประกาศให้คดีเป็นโมฆะ (mistrial)
    อาจมีการพิจารณาคดีใหม่ในอนาคต

    คำเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบบล็อกเชน
    ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ validator อาจถูกใช้ในการโจมตี
    การเทรดคริปโตผ่านบอตอาจมีความเสี่ยงจากกลยุทธ์ซับซ้อน
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบความปลอดภัยของระบบก่อนทำธุรกรรม
    การใช้เทคนิคที่ดูเหมือนถูกกฎหมาย อาจเข้าข่ายฉ้อโกงได้หากมีเจตนาแฝง

    คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบคริปโตที่แม้จะใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็ยังมีช่องโหว่ที่สามารถถูกใช้ในการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังท้าทายขอบเขตของกฎหมายในยุคดิจิทัล.

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/08/mistrial-declared-for-mit-educated-brothers-accused-of-25-million-cryptocurrency-heist
    ⚖️ คดีฉ้อโกงคริปโต 25 ล้านดอลลาร์ของสองพี่น้อง MIT จบลงด้วยการพิจารณาคดีเป็นโมฆะ หลังคณะลูกขุนไม่สามารถตัดสินได้ คดีที่ถูกจับตามองอย่างมากในวงการคริปโตและเทคโนโลยีสิ้นสุดลงด้วยความไม่แน่นอน เมื่อศาลสหรัฐฯ ประกาศให้การพิจารณาคดีของสองพี่น้องจาก MIT ที่ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงเงินคริปโตมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ เป็น “โมฆะ” หลังคณะลูกขุนไม่สามารถลงความเห็นร่วมกันได้ Anton และ James Peraire-Bueno สองพี่น้องที่จบจาก MIT ถูกตั้งข้อหาฉ้อโกงและฟอกเงินจากการใช้เทคนิค “bait-and-switch” ความเร็วสูง เพื่อหลอกล่อบอตเทรดคริปโตให้ติดกับดัก และดูดเงินจากบัญชีของนักเทรดรายอื่นภายในเวลาเพียง 12 วินาที อัยการกล่าวว่าทั้งคู่ใช้ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ MEV-boost ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ validator บนเครือข่าย Ethereum ใช้ในการตรวจสอบธุรกรรม โดยพวกเขา “ปลูก” ธุรกรรมที่ดูเหมือนปกติ แต่แฝงกลไกที่ทำให้เหยื่อติดกับดัก ฝ่ายจำเลยโต้แย้งว่า กลยุทธ์นี้เป็นเพียงการใช้เทคนิคที่ชาญฉลาดในตลาดที่แข่งขันสูง และไม่ใช่การฉ้อโกงตามกฎหมาย แม้รัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดี Donald Trump จะมีแนวทางสนับสนุนคริปโตมากขึ้น แต่คดีนี้ยังคงถูกดำเนินการต่อเนื่องจนถึงการพิจารณาคดี ซึ่งจบลงด้วยการประกาศ “mistrial” โดยผู้พิพากษา Jessica Clarke ✅ รายละเอียดของคดี ➡️ สองพี่น้อง MIT ถูกกล่าวหาว่าฉ้อโกงคริปโตมูลค่า 25 ล้านดอลลาร์ ➡️ ใช้ช่องโหว่ใน MEV-boost บน Ethereum blockchain ➡️ กลยุทธ์ “bait-and-switch” หลอกบอตเทรดให้ติดกับดัก ➡️ การดำเนินคดีเกิดขึ้นแม้รัฐบาลมีแนวทางสนับสนุนคริปโต ✅ ผลการพิจารณาคดี ➡️ คณะลูกขุนไม่สามารถลงความเห็นร่วมกันได้ ➡️ ผู้พิพากษาประกาศให้คดีเป็นโมฆะ (mistrial) ➡️ อาจมีการพิจารณาคดีใหม่ในอนาคต ‼️ คำเตือนเกี่ยวกับความปลอดภัยของระบบบล็อกเชน ⛔ ช่องโหว่ในซอฟต์แวร์ validator อาจถูกใช้ในการโจมตี ⛔ การเทรดคริปโตผ่านบอตอาจมีความเสี่ยงจากกลยุทธ์ซับซ้อน ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบความปลอดภัยของระบบก่อนทำธุรกรรม ⛔ การใช้เทคนิคที่ดูเหมือนถูกกฎหมาย อาจเข้าข่ายฉ้อโกงได้หากมีเจตนาแฝง คดีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของระบบคริปโตที่แม้จะใช้เทคโนโลยีขั้นสูง แต่ก็ยังมีช่องโหว่ที่สามารถถูกใช้ในการโจมตีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังท้าทายขอบเขตของกฎหมายในยุคดิจิทัล. https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/08/mistrial-declared-for-mit-educated-brothers-accused-of-25-million-cryptocurrency-heist
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Mistrial declared for MIT-educated brothers accused of $25 million cryptocurrency heist
    (Reuters) -A federal judge on Friday declared a mistrial in the case of two Massachusetts Institute of Technology-educated brothers charged with carrying out a novel scheme to steal $25 million worth of cryptocurrency in 12 seconds that prosecutors said exploited the Ethereum blockchain's integrity.
    0 Comments 0 Shares 194 Views 0 Reviews
  • “ช่องโหว่ CVSS 9.8 ใน Cisco Unified CCX เปิดทางแฮกเกอร์ยึดสิทธิ์ root โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน”
    ลองจินตนาการว่าแฮกเกอร์สามารถควบคุมระบบคอลเซ็นเตอร์ขององค์กรคุณได้แบบไม่ต้องล็อกอิน! นี่คือความร้ายแรงของช่องโหว่ล่าสุดที่ Cisco เพิ่งเปิดเผยในซอฟต์แวร์ Unified Contact Center Express (Unified CCX) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก

    Cisco รายงานว่าพบช่องโหว่ระดับวิกฤต 2 รายการ ได้แก่:

    CVE-2025-20354 (CVSS 9.8): ช่องโหว่ในกระบวนการ Java RMI ที่เปิดให้แฮกเกอร์อัปโหลดไฟล์และรันคำสั่งในระดับ root ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน

    CVE-2025-20358 (CVSS 9.4): ช่องโหว่ในแอปพลิเคชัน CCX Editor ที่เปิดให้แฮกเกอร์หลอกระบบเพื่อข้ามขั้นตอนการยืนยันตัวตนและเข้าถึงสิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ

    ทั้งสองช่องโหว่นี้ไม่มีวิธีแก้ไขชั่วคราว และสามารถถูกใช้เพื่อควบคุมระบบทั้งหมดขององค์กรได้ทันที Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน Unified CCX 12.5 SU3 ES07 และ 15.0 ES01 พร้อมแนะนำให้อัปเดตโดยด่วน

    พบช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco Unified CCX
    CVE-2025-20354: อัปโหลดไฟล์และรันคำสั่ง root ผ่าน Java RMI โดยไม่ต้องล็อกอิน
    CVE-2025-20358: ข้ามการยืนยันตัวตนใน CCX Editor และเข้าถึงสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ

    ช่องโหว่มีผลกระทบต่อหลายเวอร์ชันของ Unified CCX
    ใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบคอลเซ็นเตอร์ขององค์กร
    Cisco ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 12.5 SU3 ES07 และ 15.0 ES01

    ไม่มีวิธีแก้ไขชั่วคราว (No Workaround)
    Cisco แนะนำให้อัปเดตแพตช์ทันที
    การปล่อยให้ช่องโหว่คงอยู่เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบทั้งหมด

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Java RMI (Remote Method Invocation) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เรียกใช้เมธอดข้ามเครื่อง ซึ่งหากไม่มีการตรวจสอบที่ดีจะเสี่ยงต่อการโจมตี
    CCX Editor เป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างสคริปต์การทำงานของคอลเซ็นเตอร์ หากถูกควบคุมจะสามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานทั้งหมดได้
    ช่องโหว่ระดับ CVSS 9.8 ถือว่าอยู่ในระดับ “วิกฤต” ซึ่งควรได้รับการแก้ไขทันที

    https://securityonline.info/critical-cisco-ccx-rce-flaws-cvss-9-8-allow-unauthenticated-root-access-via-java-rmi-and-ccx-editor/
    🛡️ “ช่องโหว่ CVSS 9.8 ใน Cisco Unified CCX เปิดทางแฮกเกอร์ยึดสิทธิ์ root โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน” ลองจินตนาการว่าแฮกเกอร์สามารถควบคุมระบบคอลเซ็นเตอร์ขององค์กรคุณได้แบบไม่ต้องล็อกอิน! นี่คือความร้ายแรงของช่องโหว่ล่าสุดที่ Cisco เพิ่งเปิดเผยในซอฟต์แวร์ Unified Contact Center Express (Unified CCX) ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในองค์กรขนาดใหญ่ทั่วโลก Cisco รายงานว่าพบช่องโหว่ระดับวิกฤต 2 รายการ ได้แก่: 🪲 CVE-2025-20354 (CVSS 9.8): ช่องโหว่ในกระบวนการ Java RMI ที่เปิดให้แฮกเกอร์อัปโหลดไฟล์และรันคำสั่งในระดับ root ได้โดยไม่ต้องยืนยันตัวตน 🪲 CVE-2025-20358 (CVSS 9.4): ช่องโหว่ในแอปพลิเคชัน CCX Editor ที่เปิดให้แฮกเกอร์หลอกระบบเพื่อข้ามขั้นตอนการยืนยันตัวตนและเข้าถึงสิทธิ์ระดับผู้ดูแลระบบ ทั้งสองช่องโหว่นี้ไม่มีวิธีแก้ไขชั่วคราว และสามารถถูกใช้เพื่อควบคุมระบบทั้งหมดขององค์กรได้ทันที Cisco ได้ออกแพตช์แก้ไขในเวอร์ชัน Unified CCX 12.5 SU3 ES07 และ 15.0 ES01 พร้อมแนะนำให้อัปเดตโดยด่วน ✅ พบช่องโหว่ร้ายแรงใน Cisco Unified CCX ➡️ CVE-2025-20354: อัปโหลดไฟล์และรันคำสั่ง root ผ่าน Java RMI โดยไม่ต้องล็อกอิน ➡️ CVE-2025-20358: ข้ามการยืนยันตัวตนใน CCX Editor และเข้าถึงสิทธิ์ผู้ดูแลระบบ ✅ ช่องโหว่มีผลกระทบต่อหลายเวอร์ชันของ Unified CCX ➡️ ใช้กันอย่างแพร่หลายในระบบคอลเซ็นเตอร์ขององค์กร ➡️ Cisco ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 12.5 SU3 ES07 และ 15.0 ES01 ✅ ไม่มีวิธีแก้ไขชั่วคราว (No Workaround) ➡️ Cisco แนะนำให้อัปเดตแพตช์ทันที ➡️ การปล่อยให้ช่องโหว่คงอยู่เสี่ยงต่อการถูกควบคุมระบบทั้งหมด ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Java RMI (Remote Method Invocation) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เรียกใช้เมธอดข้ามเครื่อง ซึ่งหากไม่มีการตรวจสอบที่ดีจะเสี่ยงต่อการโจมตี ➡️ CCX Editor เป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างสคริปต์การทำงานของคอลเซ็นเตอร์ หากถูกควบคุมจะสามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการทำงานทั้งหมดได้ ➡️ ช่องโหว่ระดับ CVSS 9.8 ถือว่าอยู่ในระดับ “วิกฤต” ซึ่งควรได้รับการแก้ไขทันที https://securityonline.info/critical-cisco-ccx-rce-flaws-cvss-9-8-allow-unauthenticated-root-access-via-java-rmi-and-ccx-editor/
    SECURITYONLINE.INFO
    Critical Cisco CCX RCE Flaws (CVSS 9.8) Allow Unauthenticated Root Access via Java RMI and CCX Editor
    Cisco patched two Critical flaws in Unified CCX. CVE-2025-20354 (CVSS 9.8) risks unauthenticated root RCE via Java RMI, and CVE-2025-20358 allows admin bypass via the CCX Editor application.
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • Sky Exchange is a trusted online gaming and betting platform offering a secure and exciting experience for players worldwide. With your unique Sky Exchange ID, you can explore a wide range of sports and casino games, including the ever-popular Sky Exchange Cricket section for live and pre-match betting. The platform operates 24/7 under Sky Exchange 247, ensuring nonstop entertainment and support. Getting started is easy with a quick Sky Exchange Sign Up and Sky Exchange Registration process that lets you access your account in minutes. For instant help or updates, contact the official Sky Exchange WhatsApp Number anytime. Whether you’re betting, playing, or exploring live games, Sky Exchange provides a trusted, fast, and thrilling experience every time. https://skyexchangeid.net/
    Sky Exchange is a trusted online gaming and betting platform offering a secure and exciting experience for players worldwide. With your unique Sky Exchange ID, you can explore a wide range of sports and casino games, including the ever-popular Sky Exchange Cricket section for live and pre-match betting. The platform operates 24/7 under Sky Exchange 247, ensuring nonstop entertainment and support. Getting started is easy with a quick Sky Exchange Sign Up and Sky Exchange Registration process that lets you access your account in minutes. For instant help or updates, contact the official Sky Exchange WhatsApp Number anytime. Whether you’re betting, playing, or exploring live games, Sky Exchange provides a trusted, fast, and thrilling experience every time. https://skyexchangeid.net/
    SKYEXCHANGEID.NET
    Sky Exchange
    Get started with Sky Exchange and Explore the world of online gaming and sports betting. Connect with us and register for your Sky Exchange ID today. Join Sky Exchange Betting app!
    0 Comments 0 Shares 140 Views 0 Reviews
  • Grinn เปิดตัว GenioBoard — บอร์ดคอมพิวเตอร์จิ๋วที่พร้อมลุยงาน AI และ IoT ทันที!

    Grinn บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชัน IoT และ embedded systems ได้เปิดตัว GenioBoard ซึ่งเป็นบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแต่ทรงพลัง ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ผลิตอุปกรณ์ฝังตัว (OEMs) พัฒนาโปรเจกต์ AI ได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์

    “GenioBoard — บอร์ดเล็กที่คิดใหญ่”

    ในยุคที่การแข่งขันด้าน AI และ IoT รุนแรงขึ้นทุกวัน ผู้ผลิตอุปกรณ์ฝังตัวต้องเร่งพัฒนาให้ทันตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่เดือน และนั่นคือเหตุผลที่ Grinn เปิดตัว GenioBoard — บอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาด 87 x 56 มม. ที่มาพร้อมทุกสิ่งที่นักพัฒนาต้องการ

    GenioBoard รองรับระบบปฏิบัติการ Linux ทั้งแบบ Yocto และ Debian พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย Thistle Security Platform ที่ใช้ชิป Infineon OPTIGA Trust M เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายไซเบอร์ของยุโรป นอกจากนี้ยังมีอินเทอร์เฟซครบครัน เช่น HDMI, DisplayPort, USB-A 2.0/3.0, USB-C, Ethernet และ CSI สำหรับกล้อง

    สิ่งที่โดดเด่นคือความยืดหยุ่นในการต่อยอด — นักพัฒนาสามารถเพิ่มโมดูล AI accelerator หรือการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน M.2 ได้ทันที และหากต้องการปรับแต่งบอร์ดเอง Grinn ก็เปิดเผย CAD และ schematic ให้ชุมชนใช้งานได้อย่างอิสระ

    GenioBoard คือบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจาก Grinn
    ขนาด 87 x 56 มม. พร้อมอินเทอร์เฟซครบครัน
    ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux (Yocto หรือ Debian)

    รองรับงาน AI และ IoT ได้ทันที
    ใช้ MediaTek Genio SOM ที่มี Arm Cortex-A, GPU และ NPU
    มีระบบรักษาความปลอดภัย Thistle Security Platform

    ออกแบบเพื่อความยืดหยุ่นสูง
    รองรับการเชื่อมต่อ AI accelerator และโมดูลไร้สายผ่าน M.2
    เปิดเผย CAD และ schematic ให้ชุมชนพัฒนาเพิ่มเติม

    เหมาะสำหรับ OEMs ที่ต้องการลดเวลาในการพัฒนา
    ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องสร้างฮาร์ดแวร์ใหม่
    ช่วยให้ทีมพัฒนามุ่งเน้นที่ซอฟต์แวร์หลักของตน

    คำเตือนสำหรับผู้เริ่มต้น
    ต้องมีความเข้าใจด้าน embedded systems และ Linux
    การใช้งานอาจซับซ้อนกว่าบอร์ดทั่วไป เช่น Raspberry Pi

    คำเตือนด้านการนำไปผลิตจริง
    ต้องตรวจสอบการรองรับมาตรฐานอุตสาหกรรมเพิ่มเติม
    การปรับแต่งบอร์ดอาจต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทาง

    https://www.techpowerup.com/342629/grinn-announces-genioboard-sbc
    🧠💡 Grinn เปิดตัว GenioBoard — บอร์ดคอมพิวเตอร์จิ๋วที่พร้อมลุยงาน AI และ IoT ทันที! Grinn บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชัน IoT และ embedded systems ได้เปิดตัว GenioBoard ซึ่งเป็นบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแต่ทรงพลัง ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยผู้ผลิตอุปกรณ์ฝังตัว (OEMs) พัฒนาโปรเจกต์ AI ได้เร็วขึ้น โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ 🧩 “GenioBoard — บอร์ดเล็กที่คิดใหญ่” ในยุคที่การแข่งขันด้าน AI และ IoT รุนแรงขึ้นทุกวัน ผู้ผลิตอุปกรณ์ฝังตัวต้องเร่งพัฒนาให้ทันตลาดที่เปลี่ยนแปลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ จากเดิมที่ใช้เวลาหลายปีในการพัฒนา ตอนนี้เหลือเพียงไม่กี่เดือน และนั่นคือเหตุผลที่ Grinn เปิดตัว GenioBoard — บอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาด 87 x 56 มม. ที่มาพร้อมทุกสิ่งที่นักพัฒนาต้องการ GenioBoard รองรับระบบปฏิบัติการ Linux ทั้งแบบ Yocto และ Debian พร้อมระบบรักษาความปลอดภัย Thistle Security Platform ที่ใช้ชิป Infineon OPTIGA Trust M เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายไซเบอร์ของยุโรป นอกจากนี้ยังมีอินเทอร์เฟซครบครัน เช่น HDMI, DisplayPort, USB-A 2.0/3.0, USB-C, Ethernet และ CSI สำหรับกล้อง สิ่งที่โดดเด่นคือความยืดหยุ่นในการต่อยอด — นักพัฒนาสามารถเพิ่มโมดูล AI accelerator หรือการเชื่อมต่อไร้สายผ่าน M.2 ได้ทันที และหากต้องการปรับแต่งบอร์ดเอง Grinn ก็เปิดเผย CAD และ schematic ให้ชุมชนใช้งานได้อย่างอิสระ ✅ GenioBoard คือบอร์ดคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจาก Grinn ➡️ ขนาด 87 x 56 มม. พร้อมอินเทอร์เฟซครบครัน ➡️ ใช้ระบบปฏิบัติการ Linux (Yocto หรือ Debian) ✅ รองรับงาน AI และ IoT ได้ทันที ➡️ ใช้ MediaTek Genio SOM ที่มี Arm Cortex-A, GPU และ NPU ➡️ มีระบบรักษาความปลอดภัย Thistle Security Platform ✅ ออกแบบเพื่อความยืดหยุ่นสูง ➡️ รองรับการเชื่อมต่อ AI accelerator และโมดูลไร้สายผ่าน M.2 ➡️ เปิดเผย CAD และ schematic ให้ชุมชนพัฒนาเพิ่มเติม ✅ เหมาะสำหรับ OEMs ที่ต้องการลดเวลาในการพัฒนา ➡️ ใช้งานได้ทันทีโดยไม่ต้องสร้างฮาร์ดแวร์ใหม่ ➡️ ช่วยให้ทีมพัฒนามุ่งเน้นที่ซอฟต์แวร์หลักของตน ‼️ คำเตือนสำหรับผู้เริ่มต้น ⛔ ต้องมีความเข้าใจด้าน embedded systems และ Linux ⛔ การใช้งานอาจซับซ้อนกว่าบอร์ดทั่วไป เช่น Raspberry Pi ‼️ คำเตือนด้านการนำไปผลิตจริง ⛔ ต้องตรวจสอบการรองรับมาตรฐานอุตสาหกรรมเพิ่มเติม ⛔ การปรับแต่งบอร์ดอาจต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทาง https://www.techpowerup.com/342629/grinn-announces-genioboard-sbc
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Grinn Announces GenioBoard SBC
    Grinn, a full-cycle technology company specializing in the design and development of advanced IoT and embedded solutions, today launched a compact but powerful single-board computer (SBC) which will help embedded device manufacturers to meet the mounting pressure to take sophisticated and AI-ready n...
    0 Comments 0 Shares 142 Views 0 Reviews
  • “Huawei เปิดตัวพีซีสายเลือดจีนแท้! ใช้ชิป Kirin 9000X และระบบปฏิบัติการท้องถิ่นแทน Windows”

    ในยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นสนามแข่งขันระดับโลก Huawei กำลังเดินเกมรุกด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นใหม่ในตลาดจีน — Qingyun W515y และ W585y ที่ใช้ชิป Kirin 9000X ซึ่งพัฒนาโดย HiSilicon และระบบปฏิบัติการที่ไม่ใช่ Windows แต่เป็น Tongxin UOS V20 หรือ Galaxy Kylin V10 ซึ่งล้วนเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นภายในประเทศจีน

    แม้ Huawei ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเต็มของชิป Kirin 9000X แต่มีข้อมูลว่าเป็นชิปแบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วพื้นฐาน 2.5GHz และใช้สถาปัตยกรรม Arm พร้อม GPU Mali-G78 แบบ 24 คอร์ ซึ่งถือว่าเป็นการต่อยอดจาก Kirin 9000C รุ่นก่อนหน้า

    ตัวเครื่องยังรองรับหน่วยความจำ LPDDR5x แบบ quad-channel และมีพอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB-C, USB-A, HDMI, VGA และ Ethernet โดยมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย และมาพร้อมคีย์บอร์ดและเมาส์แบบมีสาย

    ที่น่าสนใจคือ Huawei เลือกไม่ใช้ HarmonyOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่บริษัทพยายามผลักดันในอุปกรณ์อื่นๆ แต่กลับเลือกใช้ระบบ Linux ที่ปรับแต่งโดยบริษัทท้องถิ่นแทน ซึ่งอาจสะท้อนถึงความพยายามในการสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีจากตะวันตก

    Huawei เปิดตัวพีซีรุ่นใหม่ในตลาดจีน
    รุ่น Qingyun W515y และ W585y
    ใช้ชิป Kirin 9000X ที่พัฒนาโดย HiSilicon

    ระบบปฏิบัติการไม่ใช่ Windows
    เลือกใช้ Tongxin UOS V20 หรือ Galaxy Kylin V10
    ทั้งสองระบบเป็น Linux ที่พัฒนาโดยบริษัทจีน

    สเปกฮาร์ดแวร์ที่น่าสนใจ
    หน่วยความจำ LPDDR5x แบบ quad-channel
    พอร์ตเชื่อมต่อครบทั้ง USB-C, HDMI, VGA และ Ethernet
    น้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย

    ไม่ใช้ HarmonyOS แม้เป็นระบบของ Huawei เอง
    อาจสะท้อนถึงการเลือกใช้ระบบที่เหมาะกับงานองค์กรหรือภาครัฐ
    HarmonyOS ยังเน้นอุปกรณ์พกพาและ IoT มากกว่า

    คำเตือนด้านการใช้งานเชิงพาณิชย์
    ยังไม่มีข้อมูลเรื่องราคาและวันวางจำหน่าย
    อาจไม่รองรับซอฟต์แวร์ตะวันตกบางตัว เช่น Microsoft Office หรือ Adobe

    คำเตือนด้านความเข้ากันได้
    ระบบปฏิบัติการแบบ Linux อาจมีข้อจำกัดในการใช้งานทั่วไป
    ผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องปรับตัวกับอินเทอร์เฟซและแอปพลิเคชันที่ไม่คุ้นเคย

    https://www.tomshardware.com/pc-components/huawei-launches-new-homegrown-pcs-domestic-chinese-cpus-and-os-power-new-devices
    🖥️🐉 “Huawei เปิดตัวพีซีสายเลือดจีนแท้! ใช้ชิป Kirin 9000X และระบบปฏิบัติการท้องถิ่นแทน Windows” ในยุคที่เทคโนโลยีกลายเป็นสนามแข่งขันระดับโลก Huawei กำลังเดินเกมรุกด้วยการเปิดตัวคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นใหม่ในตลาดจีน — Qingyun W515y และ W585y ที่ใช้ชิป Kirin 9000X ซึ่งพัฒนาโดย HiSilicon และระบบปฏิบัติการที่ไม่ใช่ Windows แต่เป็น Tongxin UOS V20 หรือ Galaxy Kylin V10 ซึ่งล้วนเป็นระบบที่พัฒนาขึ้นภายในประเทศจีน แม้ Huawei ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเต็มของชิป Kirin 9000X แต่มีข้อมูลว่าเป็นชิปแบบ 8 คอร์ 16 เธรด ความเร็วพื้นฐาน 2.5GHz และใช้สถาปัตยกรรม Arm พร้อม GPU Mali-G78 แบบ 24 คอร์ ซึ่งถือว่าเป็นการต่อยอดจาก Kirin 9000C รุ่นก่อนหน้า ตัวเครื่องยังรองรับหน่วยความจำ LPDDR5x แบบ quad-channel และมีพอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB-C, USB-A, HDMI, VGA และ Ethernet โดยมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย และมาพร้อมคีย์บอร์ดและเมาส์แบบมีสาย ที่น่าสนใจคือ Huawei เลือกไม่ใช้ HarmonyOS ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่บริษัทพยายามผลักดันในอุปกรณ์อื่นๆ แต่กลับเลือกใช้ระบบ Linux ที่ปรับแต่งโดยบริษัทท้องถิ่นแทน ซึ่งอาจสะท้อนถึงความพยายามในการสร้างความเป็นอิสระทางเทคโนโลยีจากตะวันตก ✅ Huawei เปิดตัวพีซีรุ่นใหม่ในตลาดจีน ➡️ รุ่น Qingyun W515y และ W585y ➡️ ใช้ชิป Kirin 9000X ที่พัฒนาโดย HiSilicon ✅ ระบบปฏิบัติการไม่ใช่ Windows ➡️ เลือกใช้ Tongxin UOS V20 หรือ Galaxy Kylin V10 ➡️ ทั้งสองระบบเป็น Linux ที่พัฒนาโดยบริษัทจีน ✅ สเปกฮาร์ดแวร์ที่น่าสนใจ ➡️ หน่วยความจำ LPDDR5x แบบ quad-channel ➡️ พอร์ตเชื่อมต่อครบทั้ง USB-C, HDMI, VGA และ Ethernet ➡️ น้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนเล็กน้อย ✅ ไม่ใช้ HarmonyOS แม้เป็นระบบของ Huawei เอง ➡️ อาจสะท้อนถึงการเลือกใช้ระบบที่เหมาะกับงานองค์กรหรือภาครัฐ ➡️ HarmonyOS ยังเน้นอุปกรณ์พกพาและ IoT มากกว่า ‼️ คำเตือนด้านการใช้งานเชิงพาณิชย์ ⛔ ยังไม่มีข้อมูลเรื่องราคาและวันวางจำหน่าย ⛔ อาจไม่รองรับซอฟต์แวร์ตะวันตกบางตัว เช่น Microsoft Office หรือ Adobe ‼️ คำเตือนด้านความเข้ากันได้ ⛔ ระบบปฏิบัติการแบบ Linux อาจมีข้อจำกัดในการใช้งานทั่วไป ⛔ ผู้ใช้ทั่วไปอาจต้องปรับตัวกับอินเทอร์เฟซและแอปพลิเคชันที่ไม่คุ้นเคย https://www.tomshardware.com/pc-components/huawei-launches-new-homegrown-pcs-domestic-chinese-cpus-and-os-power-new-devices
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
More Results